• 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • กองทัพเกาหลีใต้ระบุ ตรวจพบสัญญาณเกาหลีเหนือกำลังเตรียมพร้อมส่งทหารและอาวุธ ในนั้นรวมถึงโดรนพลีชีพ เข้าไปยังรัสเซียเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนมอสโกทำสงครามกับยูเครน ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวอ้างว่ามีกำลังพลโสมแดงเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บในสงครามไปแล้วกว่า 3,000 นาย
    .
    ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้มอบเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง 240 มม.และปืนใหญ่อัตตาจรฮาวอิตเซอร์ 170 มม. แก่มอสโก และดูเหมือนกำลังเตรียมการผลิตโดรนพลีชีพเพิ่มเติมสำหรับป้อนแก่รัสเซีย หลังจาก คิม จองอึน ผู้นำของประเทศเดินทางไปตรวจตราการทดสอบด้วยตนเองเมื่อเดือนที่แล้ว จากคำกล่าวอ้างของเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ (JCS)
    .
    "โดรนพลีชีพคือหนึ่งในภารกิจหลักที่ คิม จองอึน มุ่งเน้น" เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของ JCS กล่าว พร้อมระบุว่าเกาหลีเหนือแสดงความตั้งใจที่จะมอบโดรนพลีชีพเหล่านั้นให้แก่รัสเซีย
    .
    ทั้งนี้ โดรนดังกล่าวถูกใช้อย่างกว้างขวางในสงครามยูเครน และคิม ออกคำสั่งให้ดำเนินการผลิตอาวุธทางอากาศนี้เป็นจำนวนมาก รวมถึงยกระดับศึกษาทฤษฎีทางทหาร อ้างถึงการแข่งขันในระดับโลกที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ตามรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐ
    .
    ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเกาหลีเหนือตามคำกล่าวอ้างของ JCS มีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ โซล วอชิงตัน และเคียฟ ระบุว่ามีทหารเกาหลีเหนืออยู่ในรัสเซียราว 12,000 นาย และทาง JCS เชื่อว่าในนั้นมีอย่างน้อย 1,100 นาย ที่เสียชีวิตหรือไม่ก็ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นไปตามแถลงสรุปของหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่รายงานว่ามีทหารเกาหลีเหนือเสียชีวิตไปแล้ว 100 นายและบาดเจ็บอีก 1,000 นาย ในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย
    .
    อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในวันจันทร์ (23 ธ.ค.) ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวอ้างว่ามีทหารเกาหลีเหนือที่ถูกสังหารหรือไม่ก็ได้รับบาดเจ็บในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย เพิ่มเป็นมากกว่า 3,000 นายแล้ว และเตือนเช่นกันว่าเปียงยางอาจส่งบุคลากรและยุทโธปกรณ์เข้าไปเสริมกำลังแก่กองทัพรัสเซียเพิ่มเติม
    .
    "มีความเสี่ยงที่เกาหลีเหนือจะส่งทหารและยุทโธปกรณ์ป้อนเข้าสู่กองทัพรัสเซียเพิ่มเติม" เซเลนสกีเขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ หลังได้รับรายงานฉบับหนึ่งจาก โอเล็กซานด์ร ซีร์สกี ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของเขา "เราจะต้องตอบโต้อย่างเป็นรูปธรรมในเรื่องนี้"
    .
    พวกเจ้าหน้าที่บอกว่า ความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย อาจก่อภัยคุกคามสาหัสขึ้นแก่เกาหลีใต้ ในขณะที่พวกเขายกระดับความทันสมัยแก่กองกำลังตามแบบของตนเอง ที่เคยถูกมองว่าด้อยกว่าของโซล รวมถึงมีประสบการณ์ในการสู้รบในสมรภูมิจริงด้วย
    .
    ตามแนวชายแดนเกาหลีที่มีการคุ้มกันอย่างหนาแน่น เกาหลีเหนือส่งทหารมากกว่า 10,000 นาย เข้าไปปรับเปลี่ยนพื้นที่หนึ่งเป็นที่ดินเปล่า จัดตั้งแนวรั้วและขึงลวดหนามในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่จำนวนกำลังพลดังกล่าวลดลงสู่หลักหลายร้อยนายในช่วงสุดสัปดาห์ จากคำกล่าวอ้างของ JCS
    .
    JCS เผยแพร่ภาพถ่ายต่างๆ ที่เผยให้เห็นว่าทหารเกาหลีเหนือกลุ่มหนึ่งกำลังใช้แพะตัวหนึ่งทดสอบรั้วลวดหนามกระแสไฟฟ้า
    .
    นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือจะทดสอบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกพิสัยปานกลางในช่วงสิ้นปี ก่อนหน้าที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีหน้า ขณะเดียวกันก็อาจปล่อยบอลลูนขยะเข้าไปยังเกาหลีใต้เพิ่มเติม
    .
    เกาหลีเหนือปล่อยบอลลูนขยะหลายร้อยลูกเข้าไปยังเกาหลีใต้มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม อ้างว่าเพื่อเป็นการตอบโต้บอลลูนบรรทุกใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อที่พวกนักเคลื่อนไหวเกาหลีใต้ปล่อยเข้าสู่ดินแดนของพวกเขา
    .
    "ภายใต้การสนับสนุนของรัสเซีย มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาอาจดำเนินยุทธศาสตร์ยั่วยุต่างๆ ในปีหน้า อย่างเช่นยิงขีปนาวุธข้ามทวีปและทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อเสริมอำนาจของพวกเขาในการเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ" เจ้าหน้าที่ระบุ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123172
    ..............
    Sondhi X
    กองทัพเกาหลีใต้ระบุ ตรวจพบสัญญาณเกาหลีเหนือกำลังเตรียมพร้อมส่งทหารและอาวุธ ในนั้นรวมถึงโดรนพลีชีพ เข้าไปยังรัสเซียเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนมอสโกทำสงครามกับยูเครน ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวอ้างว่ามีกำลังพลโสมแดงเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บในสงครามไปแล้วกว่า 3,000 นาย . ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือได้มอบเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง 240 มม.และปืนใหญ่อัตตาจรฮาวอิตเซอร์ 170 มม. แก่มอสโก และดูเหมือนกำลังเตรียมการผลิตโดรนพลีชีพเพิ่มเติมสำหรับป้อนแก่รัสเซีย หลังจาก คิม จองอึน ผู้นำของประเทศเดินทางไปตรวจตราการทดสอบด้วยตนเองเมื่อเดือนที่แล้ว จากคำกล่าวอ้างของเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ (JCS) . "โดรนพลีชีพคือหนึ่งในภารกิจหลักที่ คิม จองอึน มุ่งเน้น" เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของ JCS กล่าว พร้อมระบุว่าเกาหลีเหนือแสดงความตั้งใจที่จะมอบโดรนพลีชีพเหล่านั้นให้แก่รัสเซีย . ทั้งนี้ โดรนดังกล่าวถูกใช้อย่างกว้างขวางในสงครามยูเครน และคิม ออกคำสั่งให้ดำเนินการผลิตอาวุธทางอากาศนี้เป็นจำนวนมาก รวมถึงยกระดับศึกษาทฤษฎีทางทหาร อ้างถึงการแข่งขันในระดับโลกที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ตามรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐ . ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเกาหลีเหนือตามคำกล่าวอ้างของ JCS มีขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ โซล วอชิงตัน และเคียฟ ระบุว่ามีทหารเกาหลีเหนืออยู่ในรัสเซียราว 12,000 นาย และทาง JCS เชื่อว่าในนั้นมีอย่างน้อย 1,100 นาย ที่เสียชีวิตหรือไม่ก็ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นไปตามแถลงสรุปของหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่รายงานว่ามีทหารเกาหลีเหนือเสียชีวิตไปแล้ว 100 นายและบาดเจ็บอีก 1,000 นาย ในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย . อย่างไรก็ตาม ล่าสุดในวันจันทร์ (23 ธ.ค.) ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวอ้างว่ามีทหารเกาหลีเหนือที่ถูกสังหารหรือไม่ก็ได้รับบาดเจ็บในแคว้นคูร์สก์ของรัสเซีย เพิ่มเป็นมากกว่า 3,000 นายแล้ว และเตือนเช่นกันว่าเปียงยางอาจส่งบุคลากรและยุทโธปกรณ์เข้าไปเสริมกำลังแก่กองทัพรัสเซียเพิ่มเติม . "มีความเสี่ยงที่เกาหลีเหนือจะส่งทหารและยุทโธปกรณ์ป้อนเข้าสู่กองทัพรัสเซียเพิ่มเติม" เซเลนสกีเขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ หลังได้รับรายงานฉบับหนึ่งจาก โอเล็กซานด์ร ซีร์สกี ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของเขา "เราจะต้องตอบโต้อย่างเป็นรูปธรรมในเรื่องนี้" . พวกเจ้าหน้าที่บอกว่า ความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซีย อาจก่อภัยคุกคามสาหัสขึ้นแก่เกาหลีใต้ ในขณะที่พวกเขายกระดับความทันสมัยแก่กองกำลังตามแบบของตนเอง ที่เคยถูกมองว่าด้อยกว่าของโซล รวมถึงมีประสบการณ์ในการสู้รบในสมรภูมิจริงด้วย . ตามแนวชายแดนเกาหลีที่มีการคุ้มกันอย่างหนาแน่น เกาหลีเหนือส่งทหารมากกว่า 10,000 นาย เข้าไปปรับเปลี่ยนพื้นที่หนึ่งเป็นที่ดินเปล่า จัดตั้งแนวรั้วและขึงลวดหนามในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่จำนวนกำลังพลดังกล่าวลดลงสู่หลักหลายร้อยนายในช่วงสุดสัปดาห์ จากคำกล่าวอ้างของ JCS . JCS เผยแพร่ภาพถ่ายต่างๆ ที่เผยให้เห็นว่าทหารเกาหลีเหนือกลุ่มหนึ่งกำลังใช้แพะตัวหนึ่งทดสอบรั้วลวดหนามกระแสไฟฟ้า . นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือจะทดสอบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกพิสัยปานกลางในช่วงสิ้นปี ก่อนหน้าที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปีหน้า ขณะเดียวกันก็อาจปล่อยบอลลูนขยะเข้าไปยังเกาหลีใต้เพิ่มเติม . เกาหลีเหนือปล่อยบอลลูนขยะหลายร้อยลูกเข้าไปยังเกาหลีใต้มาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม อ้างว่าเพื่อเป็นการตอบโต้บอลลูนบรรทุกใบปลิวโฆษณาชวนเชื่อที่พวกนักเคลื่อนไหวเกาหลีใต้ปล่อยเข้าสู่ดินแดนของพวกเขา . "ภายใต้การสนับสนุนของรัสเซีย มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาอาจดำเนินยุทธศาสตร์ยั่วยุต่างๆ ในปีหน้า อย่างเช่นยิงขีปนาวุธข้ามทวีปและทำการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อเสริมอำนาจของพวกเขาในการเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ" เจ้าหน้าที่ระบุ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123172 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1308 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • Merry Christmas
    Merry Christmas
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 489 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • ทีมเปลี่ยนผ่านของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หวังถอนอเมริกาออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ตั้งแต่วันแรกของรัฐบาลใหม่ ซึ่งจะเท่ากับเป็นการตัดกระแสเงินหลักที่ป้อนแก่หน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติแห่งนี้ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส อ้างอิงพวกผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์
    .
    รายงานของไฟแนนเชียลไทม์สที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์(22ธ.ค.) ระบุคณะทำงานของทรัมป์ บอกกับพวกผู้เชี่ยวชาญ ว่าพวกเขามีความตั้งใจแถลงถอนตัวจากองค์การอนามัยโลก ในวันสาบานตน วันที่ 20 มกราคม แม้บางส่วนในคณะทำงานอยากเห็นสหรัฐฯอยู่ในองค์การอนามัยโลกต่อไป เพื่อผลักดันการปฏิรูปในองค์กร แต่อีกส่วนหนึ่งหวังตัดความสัมพันธ์ และมีข่าวว่าฝ่ายหลังได้รับชัยชนะในประเด็นโต้เถียงดังกล่าว
    .
    ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานอ้าง อาชิช จา อดีตผู้ประสานงานรับมือโควิด-19 ของทำเนียบขาว ระบุว่าคณะทำงานต้องการเห็น ทรัมป์ ถอนสหรัฐฯออกจากองค์การอนามัยโลกตั้งแต่วันแรก เพราะมันจะได้เป็น "สัญลักษณ์" ย้อนศรความเคลื่อนไหวในวันสาบานตนของโจ ไบเดน เอง
    .
    เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2021 ไบเดน กลับมาสานสัมพันธ์ใหม่กับองค์การอนามัยโลก หลังจาก ทรัมป์ ในฐานะประธานาธิบดีคนก่อนหน้า ริเริ่มกระบวนการถอนสหรัฐฯออกจากหน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติแห่งนี้ ในกระบวนการที่เป็นไปตามเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของเขา ที่มีต่อการรับมือโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในปี 2020 ขององค์การอนามัยโลก
    .
    "อเมริกากำลังทิ้งไว้ซึ่งสุญญากาศขนาดใหญ่ในเรื่องเงินทุนและความเป็นผู้นำด้านสาธารณสุขโลก ผมไม่เห็นว่าจะมีใครเข้ามาเติมเต็มช่องโหว่นี้ได้" ลอว์เรนซ์ กอสติน ศาสตราจารย์ด้านสาธารณสุขโลก แห่งสถาบันจอร์ทาวน์ ลอว์ ให้สัมภาษณ์กับไฟแนนเชียลไทม์ส "แผนถอนตัวตั้งแต่วันแรก จะเป็นหายนะ"
    .
    องค์การอนามัยโลกเป็นหน่วยงานของสหประชาชาติ ที่ทำหน้าที่ในฐานะองค์การประสานงานในประเด็นสาธารณสุขระหว่างประเทศ หน่วยงานแห่งนี้ได้รับเงินทุนจากค่าธรรมเนียมของรัฐสมาชิก เช่นเดียวกับการสนับสนุนโดยสมัครใจ ซึ่งสหรัฐฯเป็นหนึ่งในผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดขององค์การอนามัยโลกมานานหลายทศวรรษ ทั้งนี้จากข้อมูลล่าสุด พบว่าปัจจุบัน อเมริกาเป็นผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ในหมู่มวลสมาชิก
    .
    ในปี 2020 ทรัมป์ กล่าวหาองค์การอนามัยโลกอยู่ภายใต้การควบคุมของจีนท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น กล่าวหาปักกิ่งกดดันองค์กรแห่งนี้ให้ "ชี้นำโลกผิดๆ" เกี่ยวกับไวรัส และประกาศสั่้งการให้อเมริกาหันไปมอบเงินทุนสนับนุนองค์กรการกุศลด้านสาธารณะสุขระดับโลกอื่นๆแทน
    .
    ภายใต้มติของสภาคองเกรสในปี 1948 สหรัฐฯสามารถถอนตัวจากองค์การอนามัยโลกได้ แต่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้า 1 ปี และต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียมจำนวนมาก อย่างไรก็ตามเบื้องต้น ทีมงานของทรัมป์ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นโดยตรงเกี่ยวกับรายงานข่าวความเป็นไปได้ในการถอนตัว
    .
    เมื่อเดือนพฤศจิกายน ทรัมป์ เสนอชื่อ โรเบิร์ต เอฟ.เคนเนดี ผู้เคลือบแคลงต่อวัคซีนมาช้านาน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการประชาชนสหรัฐฯ โดย เคนเนดี เป็นหนึ่งในพวกที่ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดจากคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกเกี่ยวกับมาตรการรับมือโควิด-19 ที่บังคับใช้โดยรัฐบาลทั่วโลก ที่เรียกว่า "การล็อคดาวน์" เช่นเดียวกับคำแนะนำให้ใช้วัคซีนที่พัฒนาขึ้นมาอย่างเร่งด่วน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123173
    ..............
    Sondhi X
    ทีมเปลี่ยนผ่านของ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หวังถอนอเมริกาออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ตั้งแต่วันแรกของรัฐบาลใหม่ ซึ่งจะเท่ากับเป็นการตัดกระแสเงินหลักที่ป้อนแก่หน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติแห่งนี้ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส อ้างอิงพวกผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ . รายงานของไฟแนนเชียลไทม์สที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์(22ธ.ค.) ระบุคณะทำงานของทรัมป์ บอกกับพวกผู้เชี่ยวชาญ ว่าพวกเขามีความตั้งใจแถลงถอนตัวจากองค์การอนามัยโลก ในวันสาบานตน วันที่ 20 มกราคม แม้บางส่วนในคณะทำงานอยากเห็นสหรัฐฯอยู่ในองค์การอนามัยโลกต่อไป เพื่อผลักดันการปฏิรูปในองค์กร แต่อีกส่วนหนึ่งหวังตัดความสัมพันธ์ และมีข่าวว่าฝ่ายหลังได้รับชัยชนะในประเด็นโต้เถียงดังกล่าว . ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานอ้าง อาชิช จา อดีตผู้ประสานงานรับมือโควิด-19 ของทำเนียบขาว ระบุว่าคณะทำงานต้องการเห็น ทรัมป์ ถอนสหรัฐฯออกจากองค์การอนามัยโลกตั้งแต่วันแรก เพราะมันจะได้เป็น "สัญลักษณ์" ย้อนศรความเคลื่อนไหวในวันสาบานตนของโจ ไบเดน เอง . เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2021 ไบเดน กลับมาสานสัมพันธ์ใหม่กับองค์การอนามัยโลก หลังจาก ทรัมป์ ในฐานะประธานาธิบดีคนก่อนหน้า ริเริ่มกระบวนการถอนสหรัฐฯออกจากหน่วยงานสาธารณสุขของสหประชาชาติแห่งนี้ ในกระบวนการที่เป็นไปตามเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของเขา ที่มีต่อการรับมือโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในปี 2020 ขององค์การอนามัยโลก . "อเมริกากำลังทิ้งไว้ซึ่งสุญญากาศขนาดใหญ่ในเรื่องเงินทุนและความเป็นผู้นำด้านสาธารณสุขโลก ผมไม่เห็นว่าจะมีใครเข้ามาเติมเต็มช่องโหว่นี้ได้" ลอว์เรนซ์ กอสติน ศาสตราจารย์ด้านสาธารณสุขโลก แห่งสถาบันจอร์ทาวน์ ลอว์ ให้สัมภาษณ์กับไฟแนนเชียลไทม์ส "แผนถอนตัวตั้งแต่วันแรก จะเป็นหายนะ" . องค์การอนามัยโลกเป็นหน่วยงานของสหประชาชาติ ที่ทำหน้าที่ในฐานะองค์การประสานงานในประเด็นสาธารณสุขระหว่างประเทศ หน่วยงานแห่งนี้ได้รับเงินทุนจากค่าธรรมเนียมของรัฐสมาชิก เช่นเดียวกับการสนับสนุนโดยสมัครใจ ซึ่งสหรัฐฯเป็นหนึ่งในผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดขององค์การอนามัยโลกมานานหลายทศวรรษ ทั้งนี้จากข้อมูลล่าสุด พบว่าปัจจุบัน อเมริกาเป็นผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ในหมู่มวลสมาชิก . ในปี 2020 ทรัมป์ กล่าวหาองค์การอนามัยโลกอยู่ภายใต้การควบคุมของจีนท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น กล่าวหาปักกิ่งกดดันองค์กรแห่งนี้ให้ "ชี้นำโลกผิดๆ" เกี่ยวกับไวรัส และประกาศสั่้งการให้อเมริกาหันไปมอบเงินทุนสนับนุนองค์กรการกุศลด้านสาธารณะสุขระดับโลกอื่นๆแทน . ภายใต้มติของสภาคองเกรสในปี 1948 สหรัฐฯสามารถถอนตัวจากองค์การอนามัยโลกได้ แต่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้า 1 ปี และต้องจ่ายเงินค่าธรรมเนียมจำนวนมาก อย่างไรก็ตามเบื้องต้น ทีมงานของทรัมป์ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นโดยตรงเกี่ยวกับรายงานข่าวความเป็นไปได้ในการถอนตัว . เมื่อเดือนพฤศจิกายน ทรัมป์ เสนอชื่อ โรเบิร์ต เอฟ.เคนเนดี ผู้เคลือบแคลงต่อวัคซีนมาช้านาน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและบริการประชาชนสหรัฐฯ โดย เคนเนดี เป็นหนึ่งในพวกที่ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดจากคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกเกี่ยวกับมาตรการรับมือโควิด-19 ที่บังคับใช้โดยรัฐบาลทั่วโลก ที่เรียกว่า "การล็อคดาวน์" เช่นเดียวกับคำแนะนำให้ใช้วัคซีนที่พัฒนาขึ้นมาอย่างเร่งด่วน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123173 .............. Sondhi X
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1255 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลวางแผนมา 10 ปี ในการติดตั้งระเบิดในเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่เกิดการระเบิดพร้อมกันในเลบานอนเมื่อหลายเดือนก่อน และเปรียบปฏิบัติการนี้เหมือนกับภาพยนต์ “The Truman Show (ชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมน โชว์)” ซึ่งเป็นเรื่องของชายคนหนึ่งที่ไม่รู้ตัวว่า ครอบครัวและเพื่อนฝูงที่รายล้อมล้วนแล้วเป็นนักแสดงที่ถูกจ้างมาสร้างภาพลวงตาและโลกปลอมขึ้นมา

    รายการ 60 Minutes เปิดเผยเรื่องราวรายละเอียดต่างๆ

    อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอาวุโสอิสราเอล (Mossad) 2 ราย ที่เพิ่งปลดเกษียณเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับปฏิบัติการลับที่ซุ่มวางแผนนานถึง 10 ปีเพื่อโจมตีนักรบฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนและซีเรีย ด้วยระเบิดซึ่งซุกซ่อนอยู่ในเครื่องเพจเจอร์ และวิทยุสื่อสารวอล์กกี้ทอล์กกี เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว

    หัวหน้าหน่วยข่าวกรองมอสสาดของอิสราเอลเป็นผู้ให้ไฟเขียวในการโจมตีด้วยเพจเจอร์และวิทยุสื่อสาร จนมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 30 ราย รวมถึงเด็ก 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 3,000 ราย

    เจ้าหน้าที่มอสสาดเล่าว่า ในช่วงแรกจะเป็นการติ้ดตั้งในวิทยุสื่อสาร Walkie Talkie แต่มันยังไม่ได้ถูกใช้งาน ต่อมาในระยะที่สองการติดตั้งระเบิดอย่างจริงจังเกิดขึ้นในเพจเจอร์ช่วงปี 2022 หลังจากหน่วยข่าวกรองมอสสาดของอิสราเอลรู้มาว่า ฮิซบอลเลาะห์วางแผนซื้อเพจเจอร์จากบริษัทแห่งหนึ่งในไต้หวัน

    หน่วยงานมอสสาดใช้เวลาล่อลวงฮิซบอลเลาะห์นานกว่า 2 สัปดาห์ให้ยอมซื้อเพจเจอร์เป้าหมาย ด้วยการใช้โฆษณาปลอมบนยูทูบที่โปรโมตว่า วิทยุติดตามตัวรุ่นนี้กันฝุ่นและกันน้ำ อายุใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน และอื่นๆ อีกมากมาย

    และยังมีการตั้งบริษัทขึ้นมาบังหน้าหลายชั้น เพื่อตัดความเชื่อมโยงกับมอสสาด หนึ่งในนั้นคือบริษัทที่ตั้งอยู่ในฮังการี เพื่อล่อลวง "โกลด์ อะพอลโล" บริษัทผู้ผลิตเพจเจอร์ตัวจริงของไต้หวัน ให้มาเป็นพันธมิตรโดยไม่ให้รู้ว่า พวกเขากำลังตกหลุมพลางร่วมมือกับมอสสาดไปโดยปริยาย

    เช่นเดียวกับฮิซบอลเลาะห์ที่ตกหลุมพลางสั่งซื้ออุปกรณ์สื่อสารจากบริษัทบังหน้าของมอสสาด

    เจ้าหน้าที่มอสสาดรายนี้เปรียบเทียบกลลวงนี้เหมือนกับภาพยนต์ในปี 1998 เรื่อง “The Truman Show (ชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมน โชว์)” ซึ่งเป็นเรื่องของชายคนหนึ่งที่ไม่รู้ตัวว่า ครอบครัวและเพื่อนฝูงที่รายล้อมล้วนแล้วเป็นนักแสดงที่ถูกจ้างมาสร้างภาพลวงตาและโลกปลอมขึ้นมา

    “เราสร้างทุกสิ่งขึ้นมาที่เสมือนจริง มันเปรียบเหมือนกับเราเป็นบริษัทผลิตภาพยนตร์ระดับโลก เราเขียนบทภาพยนตร์ เราเป็นผู้กำกับในทุกช่วงเหตุการณ์ เราเป็นผู้ผลิต เราเป็นนักแสดงหลัก และโลกคือเวทีของเรา” เจ้าหน้าที่สำนักข่าว Mossad ที่เกษียณอายุแล้ว กล่าวถึงภารกิจในปฏิบัติการเพจเจอร์จนฮิซบอลเลาะห์ตกหลุมพลางสั่งซื้ออุปกรณ์จำนวนมาก

    เจ้าหน้าที่มอสสาดยังกล่าวอีกว่ ขณะนี้พวกเขาได้ดำเนินการขั้นตอนต่อไปเรียบร้อยแล้ว โดยปล่อยให้ศัตรูคาดเดากันไปว่ามันคืออะไร ส่วนพวกเขาขอสนุกอยู่กับการนั่งดูศัตรูวิตกกังวลในเรื่องเหล่านี้

    https://cbsn.ws/4gMSp2F



    อิสราเอลวางแผนมา 10 ปี ในการติดตั้งระเบิดในเพจเจอร์และวิทยุสื่อสารที่เกิดการระเบิดพร้อมกันในเลบานอนเมื่อหลายเดือนก่อน และเปรียบปฏิบัติการนี้เหมือนกับภาพยนต์ “The Truman Show (ชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมน โชว์)” ซึ่งเป็นเรื่องของชายคนหนึ่งที่ไม่รู้ตัวว่า ครอบครัวและเพื่อนฝูงที่รายล้อมล้วนแล้วเป็นนักแสดงที่ถูกจ้างมาสร้างภาพลวงตาและโลกปลอมขึ้นมา รายการ 60 Minutes เปิดเผยเรื่องราวรายละเอียดต่างๆ อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอาวุโสอิสราเอล (Mossad) 2 ราย ที่เพิ่งปลดเกษียณเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับปฏิบัติการลับที่ซุ่มวางแผนนานถึง 10 ปีเพื่อโจมตีนักรบฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนและซีเรีย ด้วยระเบิดซึ่งซุกซ่อนอยู่ในเครื่องเพจเจอร์ และวิทยุสื่อสารวอล์กกี้ทอล์กกี เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว หัวหน้าหน่วยข่าวกรองมอสสาดของอิสราเอลเป็นผู้ให้ไฟเขียวในการโจมตีด้วยเพจเจอร์และวิทยุสื่อสาร จนมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 30 ราย รวมถึงเด็ก 2 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 3,000 ราย เจ้าหน้าที่มอสสาดเล่าว่า ในช่วงแรกจะเป็นการติ้ดตั้งในวิทยุสื่อสาร Walkie Talkie แต่มันยังไม่ได้ถูกใช้งาน ต่อมาในระยะที่สองการติดตั้งระเบิดอย่างจริงจังเกิดขึ้นในเพจเจอร์ช่วงปี 2022 หลังจากหน่วยข่าวกรองมอสสาดของอิสราเอลรู้มาว่า ฮิซบอลเลาะห์วางแผนซื้อเพจเจอร์จากบริษัทแห่งหนึ่งในไต้หวัน หน่วยงานมอสสาดใช้เวลาล่อลวงฮิซบอลเลาะห์นานกว่า 2 สัปดาห์ให้ยอมซื้อเพจเจอร์เป้าหมาย ด้วยการใช้โฆษณาปลอมบนยูทูบที่โปรโมตว่า วิทยุติดตามตัวรุ่นนี้กันฝุ่นและกันน้ำ อายุใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน และอื่นๆ อีกมากมาย และยังมีการตั้งบริษัทขึ้นมาบังหน้าหลายชั้น เพื่อตัดความเชื่อมโยงกับมอสสาด หนึ่งในนั้นคือบริษัทที่ตั้งอยู่ในฮังการี เพื่อล่อลวง "โกลด์ อะพอลโล" บริษัทผู้ผลิตเพจเจอร์ตัวจริงของไต้หวัน ให้มาเป็นพันธมิตรโดยไม่ให้รู้ว่า พวกเขากำลังตกหลุมพลางร่วมมือกับมอสสาดไปโดยปริยาย เช่นเดียวกับฮิซบอลเลาะห์ที่ตกหลุมพลางสั่งซื้ออุปกรณ์สื่อสารจากบริษัทบังหน้าของมอสสาด เจ้าหน้าที่มอสสาดรายนี้เปรียบเทียบกลลวงนี้เหมือนกับภาพยนต์ในปี 1998 เรื่อง “The Truman Show (ชีวิตมหัศจรรย์ ทรูแมน โชว์)” ซึ่งเป็นเรื่องของชายคนหนึ่งที่ไม่รู้ตัวว่า ครอบครัวและเพื่อนฝูงที่รายล้อมล้วนแล้วเป็นนักแสดงที่ถูกจ้างมาสร้างภาพลวงตาและโลกปลอมขึ้นมา “เราสร้างทุกสิ่งขึ้นมาที่เสมือนจริง มันเปรียบเหมือนกับเราเป็นบริษัทผลิตภาพยนตร์ระดับโลก เราเขียนบทภาพยนตร์ เราเป็นผู้กำกับในทุกช่วงเหตุการณ์ เราเป็นผู้ผลิต เราเป็นนักแสดงหลัก และโลกคือเวทีของเรา” เจ้าหน้าที่สำนักข่าว Mossad ที่เกษียณอายุแล้ว กล่าวถึงภารกิจในปฏิบัติการเพจเจอร์จนฮิซบอลเลาะห์ตกหลุมพลางสั่งซื้ออุปกรณ์จำนวนมาก เจ้าหน้าที่มอสสาดยังกล่าวอีกว่ ขณะนี้พวกเขาได้ดำเนินการขั้นตอนต่อไปเรียบร้อยแล้ว โดยปล่อยให้ศัตรูคาดเดากันไปว่ามันคืออะไร ส่วนพวกเขาขอสนุกอยู่กับการนั่งดูศัตรูวิตกกังวลในเรื่องเหล่านี้ https://cbsn.ws/4gMSp2F
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 842 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานยืนยันแล้วว่าเยเมนยิงขีปนาวุธอีกครั้ง เพื่อโจมตีเป้าหมายในเทลอาวีฟและทะเลทรายเนเกฟ
    มีรายงานยืนยันแล้วว่าเยเมนยิงขีปนาวุธอีกครั้ง เพื่อโจมตีเป้าหมายในเทลอาวีฟและทะเลทรายเนเกฟ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟิลิปปินส์แถลงแผนจะซื้อขีปนาวุธไทฟอนจากสหรัฐฯ ความเคลื่อนไหวที่กระตุ้นเสียงโวยวายจากจีน ที่บอกว่าเป็นการยั่วยุและไร้ความรับผิดชอบ และเตือนว่า "การแข่งขันสะสมอาวุธ (arms race)" ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกใกล้เข้ามาทุกขณะ
    .
    พลโทรอย กาลิโด เสนาธิการกองทัพบกของฟิลิปปินส์ แถลงในวันจันทร์ (23 ธ.ค.) ว่าประเทศของเขาจะซื้อระบบขีปนาวุธพิสัยกลาง ที่กองทัพสหรัฐฯ ส่งเข้ามาประจำการในฟิลิปปินส์อยู่ก่อนแล้ว สำหรับซ้อมรบร่วมประจำปี "เพื่อประโยชน์แห่งการปกป้องอธิปไตยของเรา"
    .
    จีน ประณามการตัดสินใจดังกล่าวของฟิลิปปินส์ ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่ยั่วยุและอันตราย "มันเป็นการเลือกที่ไร้ความรับผิดชอบอย่างที่สุดในประวัติศาสตร์ของประชาชนของพวกเขาเองและประชาชนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ มันยังเป็นการเลือกที่ไร้ความรับผิดชอบอย่างที่สุดสำหรับความมั่นคงในภูมิภาค" เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุ "ภูมิภาคแห่งนี้ต้องการสันติภาพและความรุ่งเรือง ไม่ใช่ขีปนาวุธและการเผชิญหน้า"
    .
    ปักกิ่งกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้สวนทางกับกฎหมายระหว่างประเทศ และประจำการกองทัพเรือและยามชายฝั่ง ในความเคลื่อนไหวที่ยกระดับเผชิญหน้ากับบรรดาชาติเพื่อนบ้าน ในนั้นรวมถึงฟิลิปปินส์ เกี่ยวกับประเด็นพิพาทเรื่องแนวปะการังและน่านน้ำ
    .
    พลโทกาลิโด เผยว่าการจัดซื้อนี้ยังไม่อยู่ในงบประมาณปี 2025 แต่คาดหมายว่าทางกองทัพจะใช้เวลา 2 ปีหรือมากกว่านั้น สำหรับเดินหน้าจัดซื้อระบบอาวุธใหม่นี้โดยเสร็จสมบูรณ์
    .
    แท่นยิงขีปนาวุธไทฟอน ที่ติดตั้งบนภาคพื้น เป็นยุทโธปกรณ์ที่ทางบริษัทล็อคฮีด มาร์ติน พัฒนาขึ้นเพื่อป้อนแก่กองทัพสหรัฐฯ มันมีพิสัยทำการ 480 กิโลเมตร และขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาเวอร์ชันที่มีระยะทำการไกลกว่าเดิม
    .
    ทางพลโทกาลิโด บอกว่า ระบไทฟอนจะสามารถช่วยให้กองทัพฟิลิปปินส์ ปกป้องกองกำลังที่อยู่นอกชายฝั่งได้ไกลถึง 370 กิโลเมตร ซึ่งเป็นขอบเขตไกลสุดของสิทธิทางทะเลของประเทศ ภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยกฎหมายทะเล
    .
    เขากล่าวว่าขีปนาวุธไทฟอน จะช่วยปกป้อง "ทรัพย์สินลอยน้ำของเรา" อ้างถึงเรือของกองทัพเรือ เรือยามฝั่ง และเรืออื่นๆ
    .
    ต่ง จวิน รัฐมตรีกลาโหมจีน เตือนเมื่อเดือนมิถุนายน ว่าการที่กองทัพสหรัฐฯ ประจำการระบบขีปนาวุธไทฟอนในฟิลิปปินส์ก่อนหน้านั้น "กำลังก่อความเสียหายร้ายแรงแก่ความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค"
    .
    อย่างไรก็ตาม ทางพลโทกาลิโด ปฏิเสธเสียงวิจารณ์ดังกล่าว บอกว่าประเทศของเขา "ไม่ควรสนใจประเทศอื่นๆ ที่มองว่ามันก่อความเสียหายแก่ความมั่นคง เพราะว่าเขาไม่มีแผนกระทำการใดๆ ที่เกินเลยผลประโยชน์ของประเทศของเรา"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123192
    ..............
    Sondhi X
    ฟิลิปปินส์แถลงแผนจะซื้อขีปนาวุธไทฟอนจากสหรัฐฯ ความเคลื่อนไหวที่กระตุ้นเสียงโวยวายจากจีน ที่บอกว่าเป็นการยั่วยุและไร้ความรับผิดชอบ และเตือนว่า "การแข่งขันสะสมอาวุธ (arms race)" ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกใกล้เข้ามาทุกขณะ . พลโทรอย กาลิโด เสนาธิการกองทัพบกของฟิลิปปินส์ แถลงในวันจันทร์ (23 ธ.ค.) ว่าประเทศของเขาจะซื้อระบบขีปนาวุธพิสัยกลาง ที่กองทัพสหรัฐฯ ส่งเข้ามาประจำการในฟิลิปปินส์อยู่ก่อนแล้ว สำหรับซ้อมรบร่วมประจำปี "เพื่อประโยชน์แห่งการปกป้องอธิปไตยของเรา" . จีน ประณามการตัดสินใจดังกล่าวของฟิลิปปินส์ ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่ยั่วยุและอันตราย "มันเป็นการเลือกที่ไร้ความรับผิดชอบอย่างที่สุดในประวัติศาสตร์ของประชาชนของพวกเขาเองและประชาชนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ มันยังเป็นการเลือกที่ไร้ความรับผิดชอบอย่างที่สุดสำหรับความมั่นคงในภูมิภาค" เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุ "ภูมิภาคแห่งนี้ต้องการสันติภาพและความรุ่งเรือง ไม่ใช่ขีปนาวุธและการเผชิญหน้า" . ปักกิ่งกล่าวอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่เกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้สวนทางกับกฎหมายระหว่างประเทศ และประจำการกองทัพเรือและยามชายฝั่ง ในความเคลื่อนไหวที่ยกระดับเผชิญหน้ากับบรรดาชาติเพื่อนบ้าน ในนั้นรวมถึงฟิลิปปินส์ เกี่ยวกับประเด็นพิพาทเรื่องแนวปะการังและน่านน้ำ . พลโทกาลิโด เผยว่าการจัดซื้อนี้ยังไม่อยู่ในงบประมาณปี 2025 แต่คาดหมายว่าทางกองทัพจะใช้เวลา 2 ปีหรือมากกว่านั้น สำหรับเดินหน้าจัดซื้อระบบอาวุธใหม่นี้โดยเสร็จสมบูรณ์ . แท่นยิงขีปนาวุธไทฟอน ที่ติดตั้งบนภาคพื้น เป็นยุทโธปกรณ์ที่ทางบริษัทล็อคฮีด มาร์ติน พัฒนาขึ้นเพื่อป้อนแก่กองทัพสหรัฐฯ มันมีพิสัยทำการ 480 กิโลเมตร และขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนาเวอร์ชันที่มีระยะทำการไกลกว่าเดิม . ทางพลโทกาลิโด บอกว่า ระบไทฟอนจะสามารถช่วยให้กองทัพฟิลิปปินส์ ปกป้องกองกำลังที่อยู่นอกชายฝั่งได้ไกลถึง 370 กิโลเมตร ซึ่งเป็นขอบเขตไกลสุดของสิทธิทางทะเลของประเทศ ภายใต้อนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยกฎหมายทะเล . เขากล่าวว่าขีปนาวุธไทฟอน จะช่วยปกป้อง "ทรัพย์สินลอยน้ำของเรา" อ้างถึงเรือของกองทัพเรือ เรือยามฝั่ง และเรืออื่นๆ . ต่ง จวิน รัฐมตรีกลาโหมจีน เตือนเมื่อเดือนมิถุนายน ว่าการที่กองทัพสหรัฐฯ ประจำการระบบขีปนาวุธไทฟอนในฟิลิปปินส์ก่อนหน้านั้น "กำลังก่อความเสียหายร้ายแรงแก่ความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค" . อย่างไรก็ตาม ทางพลโทกาลิโด ปฏิเสธเสียงวิจารณ์ดังกล่าว บอกว่าประเทศของเขา "ไม่ควรสนใจประเทศอื่นๆ ที่มองว่ามันก่อความเสียหายแก่ความมั่นคง เพราะว่าเขาไม่มีแผนกระทำการใดๆ ที่เกินเลยผลประโยชน์ของประเทศของเรา" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123192 .............. Sondhi X
    Like
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1351 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมืองเชียงใหม่ รถติดหนัก คริสต์มาส-ปีใหม่
    --------------------------------

    คาดว่า..ช่วงปีใหม่ จะมีรถยนต์ของนักท่องเที่ยว
    กำลังจะมาเติมเต็มถนนในตัวเมืองเชียงใหม่ อีก 3แสนคัน
    รับรอง..ความบันเทิง เกิดขึ้นแน่นอน เพราะ

    1. ถนนสุเทพ-รพ.สวนดอก-ห้วยแก้ว เปิดบ่อสายลงดิน 3 จุด
    ล่าสุด จร.เชียงใหม่สั่งแก้ไขด่วน พร้อมคืนพื้นผิวการจราจรทั้งหมดภายในเช้าวันนี้ 24-12-67
    https://maps.app.goo.gl/Uxs6tfGzDMvmEcjZ7
    ถึงแม้ว่าจะนำเหล็กมาปิดปากบ่อ รถก็ยังเคลื่อนตัวได้อย่าง ช้า..ช้า ไม่ต่างจากเดิม

    2. งานปรับปรุงผิวถนนโชตนาแยกข่วงสิงห์-ประตูช้างเผือก ระยะ 1.7 กม. (ทั้งฝั่งขาเข้า-ขาออก) วันที่ 24 ธ.ค. 67-4 ม.ค. 68 เวลา 20.00-05.00 น. รถสามารถใช้เส้นทางได้ 1 ช่องทาง
    https://maps.app.goo.gl/vB5DSQqaEYpmPRve7
    เกิดคอคอด ทางไปแม่ริม แม่แตง ทำให้รถติดพันกันทั้งเมืองแน่นอน
    ขณะนี้ เวลา 10.30 น.(24ธค.67)การจราจรติดขัดต่อเนื่องยาว 3 กิโลเมตร จากแยกศรีบุญเรือง ถนนโชตนา ท้ายถึงแมคโครแม่ริม https://maps.app.goo.gl/WWPhgZhbKJs3yBSb6
    เมืองเชียงใหม่ รถติดหนัก คริสต์มาส-ปีใหม่ -------------------------------- คาดว่า..ช่วงปีใหม่ จะมีรถยนต์ของนักท่องเที่ยว กำลังจะมาเติมเต็มถนนในตัวเมืองเชียงใหม่ อีก 3แสนคัน รับรอง..ความบันเทิง เกิดขึ้นแน่นอน เพราะ 1. ถนนสุเทพ-รพ.สวนดอก-ห้วยแก้ว เปิดบ่อสายลงดิน 3 จุด ล่าสุด จร.เชียงใหม่สั่งแก้ไขด่วน พร้อมคืนพื้นผิวการจราจรทั้งหมดภายในเช้าวันนี้ 24-12-67 https://maps.app.goo.gl/Uxs6tfGzDMvmEcjZ7 👉ถึงแม้ว่าจะนำเหล็กมาปิดปากบ่อ รถก็ยังเคลื่อนตัวได้อย่าง ช้า..ช้า ไม่ต่างจากเดิม 2. งานปรับปรุงผิวถนนโชตนาแยกข่วงสิงห์-ประตูช้างเผือก ระยะ 1.7 กม. (ทั้งฝั่งขาเข้า-ขาออก) วันที่ 24 ธ.ค. 67-4 ม.ค. 68 เวลา 20.00-05.00 น. รถสามารถใช้เส้นทางได้ 1 ช่องทาง https://maps.app.goo.gl/vB5DSQqaEYpmPRve7 👉เกิดคอคอด ทางไปแม่ริม แม่แตง ทำให้รถติดพันกันทั้งเมืองแน่นอน 👉ขณะนี้ เวลา 10.30 น.(24ธค.67)การจราจรติดขัดต่อเนื่องยาว 3 กิโลเมตร จากแยกศรีบุญเรือง ถนนโชตนา ท้ายถึงแมคโครแม่ริม https://maps.app.goo.gl/WWPhgZhbKJs3yBSb6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อในเครืออันซารุลเลาะห์แห่งเยเมนเผยแพร่ภาพถ่ายเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ดิโมนาของอิสราเอลเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา

    ศูนย์วิจัยนิวเคลียร์ชิมอน เปเรส เนเกฟเป็นโรงงานนิวเคลียร์ของอิสราเอลที่ตั้งอยู่ในทะเลทรายเนเกฟ ห่างจากเมืองดิโมนาไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 13 กิโลเมตร
    สื่อในเครืออันซารุลเลาะห์แห่งเยเมนเผยแพร่ภาพถ่ายเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ดิโมนาของอิสราเอลเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ศูนย์วิจัยนิวเคลียร์ชิมอน เปเรส เนเกฟเป็นโรงงานนิวเคลียร์ของอิสราเอลที่ตั้งอยู่ในทะเลทรายเนเกฟ ห่างจากเมืองดิโมนาไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 13 กิโลเมตร
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • Live.สด ลุงสนธิ และ อ.ปานเทพ ทวงถาม นายกรัฐมนตรี หลังครบ 15 วันให้เพิกถอน MOU2544 และ JC2544

    https://shorturl.asia/wzC9V
    Live.สด ลุงสนธิ และ อ.ปานเทพ ทวงถาม นายกรัฐมนตรี หลังครบ 15 วันให้เพิกถอน MOU2544 และ JC2544 https://shorturl.asia/wzC9V
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนสร้างแนวป้องกันในภูมิภาค Dnepropetrovsk เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการบุกของรัสเซียในอนาคต
    ยูเครนสร้างแนวป้องกันในภูมิภาค Dnepropetrovsk เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการบุกของรัสเซียในอนาคต
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP 10 Changed PCB Footprint ( เปลี่ยน PCB Footprint )
    EP 10 Changed PCB Footprint ( เปลี่ยน PCB Footprint )
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 85 0 รีวิว
  • ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับการ์ดจอ AMD Radeon RX 9070 XT ได้มีการเปิดเผยผลการทดสอบ Ray Tracing ที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของ RDNA 4 ครับ

    การทดสอบนี้ทำโดยใช้ 3DMARK Port Royal ซึ่งเป็นการทดสอบ Ray Tracing อย่างเป็นทางการครั้งแรกของ UL Benchmarks ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า RX 9070 XT มีคะแนน 14,723 ซึ่งสูงกว่า RX 7900 XT และ Nvidia RTX 4070 Ti

    นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยผลการทดสอบ 3DMARK Time Spy ที่แสดงให้เห็นว่า RX 9070 XT มีประสิทธิภาพสูงกว่า Nvidia RTX 4070 Ti แต่ต่ำกว่า RX 7900 XT

    ผลการทดสอบเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า AMD ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพ Ray Tracing ของ RDNA 4 ได้ดีมาก คาดว่า AMD จะเปิดตัว RX 9070 XT ที่งาน CES 2025 พร้อมกับเทคโนโลยี FidelityFX Super Resolution 4 AI ครับ

    https://overclock3d.net/news/gpu-displays/amd-radeon-rx-9070-xt-ray-tracing-benchmark-leaks/
    ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับการ์ดจอ AMD Radeon RX 9070 XT ได้มีการเปิดเผยผลการทดสอบ Ray Tracing ที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของ RDNA 4 ครับ การทดสอบนี้ทำโดยใช้ 3DMARK Port Royal ซึ่งเป็นการทดสอบ Ray Tracing อย่างเป็นทางการครั้งแรกของ UL Benchmarks ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า RX 9070 XT มีคะแนน 14,723 ซึ่งสูงกว่า RX 7900 XT และ Nvidia RTX 4070 Ti นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยผลการทดสอบ 3DMARK Time Spy ที่แสดงให้เห็นว่า RX 9070 XT มีประสิทธิภาพสูงกว่า Nvidia RTX 4070 Ti แต่ต่ำกว่า RX 7900 XT ผลการทดสอบเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า AMD ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพ Ray Tracing ของ RDNA 4 ได้ดีมาก คาดว่า AMD จะเปิดตัว RX 9070 XT ที่งาน CES 2025 พร้อมกับเทคโนโลยี FidelityFX Super Resolution 4 AI ครับ https://overclock3d.net/news/gpu-displays/amd-radeon-rx-9070-xt-ray-tracing-benchmark-leaks/
    OVERCLOCK3D.NET
    AMD Radeon RX 9070 XT Ray Tracing Benchmark leaks - OC3D
    Leaked benchmark shows RDNA 4's boosted performance. Let's see how AMD's RX 9070 XT performs in 3DMARK's Port Royal ray tracing benchmark
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลูกเรือบนเรือ USS Harry S. Truman (CVN 75) เตรียมอาวุธเพื่อโจมตีเป้าหมายกลุ่มฮูตีในเยเมน

    ภาพถูกโพสต์บน CENTCOM เมื่อประมาณสิบชั่วโมงที่ผ่านมา
    ลูกเรือบนเรือ USS Harry S. Truman (CVN 75) เตรียมอาวุธเพื่อโจมตีเป้าหมายกลุ่มฮูตีในเยเมน ภาพถูกโพสต์บน CENTCOM เมื่อประมาณสิบชั่วโมงที่ผ่านมา
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดหนังสือทวงถามนายกรัฐมนตรีครบ 15 วันหลังได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้เพิกถอน MOU2544 และ JC2544

    ด่วนท่ีสุด!

    ที่ กอ. ๑๙๙/๒๕๖๗

    วันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๗

    เรื่อง ​ทวงถามการดำเนินการตามหนังสือให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่กรณี MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ซึ่งมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ขัดต่อพระบรมราชโองการฯ และฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมาย อันเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียเอกราช อำนาจอธิปไตย สิทธิอธิปไตย และบูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีป ของราชอาณาจักรไทย

    กราบเรียน​ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี

    อ้างถึง (๑) หนังสือ ด่วนที่สุด ที่ กอ.๑๗๒/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๗
    (๒) หนังสือสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ นร ๐๑๐๕.๔/๑๐๖๒๔ ลงวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๗
    (๓) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หมวด ๕ หน้าที่ของรัฐ
    (๔) ประมวลกฎหมายอาญา หมวด ๓ ความผิดต่อความมั่นคงภายนอกราชอาณาจักร มาตรา ๑๑๙ – มาตรา ๑๒๙

    ตามที่พวกข้าพเจ้า นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และมวลหมู่ประชาชนจำนวนมาก ได้มีหนังสือตามที่อ้างถึง(๑) ขอให้ท่านหยุดการปฏิบัติหน้าที่กรณี MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ซึ่งมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ขัดต่อพระบรมราชโองการฯ และฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมาย อันเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียเอกราช อำนาจอธิปไตย สิทธิอธิปไตย และบูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีปของราชอาณาจักรไทย โดยขอให้ดำเนินการในประการสำคัญ คือ ขอให้ท่านและคณะรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีปซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยในการสำรวจและแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติในทะเลด้านอ่าวไทย ผลประโยชน์ของชาติและความมั่นคงแห่งรัฐในพื้นที่ทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่องรอบเกาะกูด รวมทั้งเขตไหล่ทวีปด้านอ่าวไทย และขอให้ท่านเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณามีมติให้ส่ง MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ด้วยหรือไม่ ตามมาตรา ๑๗๘ วรรคห้า ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และให้คณะรัฐมนตรีจัดให้มีการเจรจากับกัมพูชาเพื่อยกเลิก MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ระงับการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค (Joint Technical Committee: JTC) ตาม MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยและมีการดำเนินการให้ถูกต้องตามตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ รวมทั้งขอให้จัดเวทีสาธารณะให้แก่ประชาชน โดยให้มีความเห็นของผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจทั้งที่มีความเห็นต่างและที่มีความเห็นด้วยในเวทีอภิปรายสาธารณะซึ่งมีความเป็นกลางและเป็นธรรม ในสัดส่วนของเวลาที่เท่ากัน เพื่อให้ประชาชนได้มีความรู้และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญของประเทศไทยต่อไป

    ต่อมา สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือตามที่อ้างถึง (๒) แจ้งว่า ได้นำเรียนเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเพื่อโปรดทราบและนำพิจารณากราบเรียนนายกรัฐมนตรีตามที่เห็นสมควร และได้ประสานงานส่งเรื่องให้กระทรวงการต่างประเทศเพื่อพิจารณา โดยขอให้แจ้งผลให้ข้าพเจ้าทราบโดยตรงให้ข้าพเจ้าโดยตรง ความละเอียดทราบแล้วนั้น แต่หนังสือดังกล่าวไม่ได้แจ้งผลการดำเนินการใดๆ ตามข้อเรียกร้อง รวม ๖ ประการ ซึ่งข้าพเจ้ากับมวลหมู่ประชาชนได้ให้เวลาแก่ท่านดำเนินการและแจ้งตอบเป็นเวลา ๑๕ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือดังกล่าว และดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือดังกล่าว
    บัดนี้ ระยะเวลาได้ครบกำหนด ๑๕ วัน แล้ว ท่านและคณะรัฐมนตรียังไม่ได้แจ้งผลการดำเนินการตามที่ได้ร้องขอตามหนังสือที่อ้างถึง(๑) ให้แก่ข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชน อีกทั้งได้ปรากฏข้อเท็จจริงในสื่อมวลชนจำนวนมากว่า ท่านได้รับหนังสือและรับรู้
    ในข้อเรียกร้องของข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนแล้ว แต่ท่านกลับนิ่งเฉยและไม่ปรากฏคำสัมภาษณ์ว่าจะเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีหรือจัดให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ อีกทั้งยังไม่ตอบรับใดๆว่าจะจัดให้มีเวทีสาธารณะเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้ในการตัดสินใจในปัญหาสำคัญของประเทศ ตามคำร้องขอในหนังสือตามที่อ้างถึง(๑) ซึ่งเป็นการกระทำที่สวนทางและขัดแย้งกับที่ท่านได้เคยให้สัมภาษณ์ว่า พร้อมจะพูดคุยกับข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชน

    ดังนั้นการแสดงออกดังกล่าวของท่านและคณะรัฐมนตรี ทำให้ข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนเห็นประจักษ์ชัดแจ้งว่า ท่านและคณะรัฐมนตรีจงใจละเลยต่อหน้าที่ในการรักษาไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีปซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยในการสำรวจและแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติในทะเลด้านอ่าวไทย ผลประโยชน์ของชาติและความมั่นคงแห่งรัฐในพื้นที่ทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่องรอบเกาะกูด รวมทั้งเขตไหล่ทวีปด้านอ่าวไทย อันเป็นการกระทำที่ละเลยต่อหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หมวด ๕ หน้าที่ของรัฐ มาตรา ๕๑ มาตรา ๕๒ มาตรา ๕๓ และมาตรา ๕๗ ตามที่อ้างถึง (๓)

    ดังนั้นข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนจึงเห็นว่า หากท่านและคณะรัฐมนตรียังคงนิ่งเฉยต่อข้อเรียกร้องของข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนจนอาจทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีปซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย ข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนจะถือว่าท่านและคณะรัฐมนตรีได้กระทำการอันเป็นการตระเตรียมหรือสนับสนุนการกระทำความผิดที่จะทำให้ราชอาณาจักรไทยหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรไทยต้องไปอยู่ในอธิปไตยของรัฐต่างประเทศหรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป รวมทั้งเห็นว่าท่านและคณะรัฐมนตรีมีพฤติการณ์บางประการที่ทำให้เห็นว่าได้ตระเตรียมการเพื่อคบคิดกับผู้นำของประเทศกัมพูชาด้วยความประสงค์ที่จะเป็นปรปักษ์ต่อรัฐ ทำให้รัฐได้รับความเสียหาย อันอาจเป็นการกระทำความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๙
    และมาตรา ๑๒๐ ประกอบกับมาตรา ๑๒๘ และมาตรา ๑๒๙ ตามที่อ้างถึง (๔) ซึ่งข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนจะได้ดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายและตามที่เห็นสมควรเพื่อปกป้องอธิปไตยและสิทธิอธิปไตยของราชอาณาจักรไทยต่อไป

    จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
    ขอแสดงความนับถือ
    นายสนธิ ลิ้มทองกุล
    นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    เปิดหนังสือทวงถามนายกรัฐมนตรีครบ 15 วันหลังได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้เพิกถอน MOU2544 และ JC2544 ด่วนท่ีสุด! ที่ กอ. ๑๙๙/๒๕๖๗ วันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๗ เรื่อง ​ทวงถามการดำเนินการตามหนังสือให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่กรณี MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ซึ่งมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ขัดต่อพระบรมราชโองการฯ และฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมาย อันเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียเอกราช อำนาจอธิปไตย สิทธิอธิปไตย และบูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีป ของราชอาณาจักรไทย กราบเรียน​ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี อ้างถึง (๑) หนังสือ ด่วนที่สุด ที่ กอ.๑๗๒/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๗ (๒) หนังสือสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ นร ๐๑๐๕.๔/๑๐๖๒๔ ลงวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๗ (๓) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หมวด ๕ หน้าที่ของรัฐ (๔) ประมวลกฎหมายอาญา หมวด ๓ ความผิดต่อความมั่นคงภายนอกราชอาณาจักร มาตรา ๑๑๙ – มาตรา ๑๒๙ ตามที่พวกข้าพเจ้า นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และมวลหมู่ประชาชนจำนวนมาก ได้มีหนังสือตามที่อ้างถึง(๑) ขอให้ท่านหยุดการปฏิบัติหน้าที่กรณี MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ซึ่งมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ขัดต่อพระบรมราชโองการฯ และฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมาย อันเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียเอกราช อำนาจอธิปไตย สิทธิอธิปไตย และบูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีปของราชอาณาจักรไทย โดยขอให้ดำเนินการในประการสำคัญ คือ ขอให้ท่านและคณะรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีปซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยในการสำรวจและแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติในทะเลด้านอ่าวไทย ผลประโยชน์ของชาติและความมั่นคงแห่งรัฐในพื้นที่ทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่องรอบเกาะกูด รวมทั้งเขตไหล่ทวีปด้านอ่าวไทย และขอให้ท่านเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณามีมติให้ส่ง MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ด้วยหรือไม่ ตามมาตรา ๑๗๘ วรรคห้า ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และให้คณะรัฐมนตรีจัดให้มีการเจรจากับกัมพูชาเพื่อยกเลิก MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ระงับการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค (Joint Technical Committee: JTC) ตาม MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยและมีการดำเนินการให้ถูกต้องตามตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ รวมทั้งขอให้จัดเวทีสาธารณะให้แก่ประชาชน โดยให้มีความเห็นของผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจทั้งที่มีความเห็นต่างและที่มีความเห็นด้วยในเวทีอภิปรายสาธารณะซึ่งมีความเป็นกลางและเป็นธรรม ในสัดส่วนของเวลาที่เท่ากัน เพื่อให้ประชาชนได้มีความรู้และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญของประเทศไทยต่อไป ต่อมา สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือตามที่อ้างถึง (๒) แจ้งว่า ได้นำเรียนเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเพื่อโปรดทราบและนำพิจารณากราบเรียนนายกรัฐมนตรีตามที่เห็นสมควร และได้ประสานงานส่งเรื่องให้กระทรวงการต่างประเทศเพื่อพิจารณา โดยขอให้แจ้งผลให้ข้าพเจ้าทราบโดยตรงให้ข้าพเจ้าโดยตรง ความละเอียดทราบแล้วนั้น แต่หนังสือดังกล่าวไม่ได้แจ้งผลการดำเนินการใดๆ ตามข้อเรียกร้อง รวม ๖ ประการ ซึ่งข้าพเจ้ากับมวลหมู่ประชาชนได้ให้เวลาแก่ท่านดำเนินการและแจ้งตอบเป็นเวลา ๑๕ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือดังกล่าว และดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือดังกล่าว บัดนี้ ระยะเวลาได้ครบกำหนด ๑๕ วัน แล้ว ท่านและคณะรัฐมนตรียังไม่ได้แจ้งผลการดำเนินการตามที่ได้ร้องขอตามหนังสือที่อ้างถึง(๑) ให้แก่ข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชน อีกทั้งได้ปรากฏข้อเท็จจริงในสื่อมวลชนจำนวนมากว่า ท่านได้รับหนังสือและรับรู้ ในข้อเรียกร้องของข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนแล้ว แต่ท่านกลับนิ่งเฉยและไม่ปรากฏคำสัมภาษณ์ว่าจะเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีหรือจัดให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ อีกทั้งยังไม่ตอบรับใดๆว่าจะจัดให้มีเวทีสาธารณะเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้ในการตัดสินใจในปัญหาสำคัญของประเทศ ตามคำร้องขอในหนังสือตามที่อ้างถึง(๑) ซึ่งเป็นการกระทำที่สวนทางและขัดแย้งกับที่ท่านได้เคยให้สัมภาษณ์ว่า พร้อมจะพูดคุยกับข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชน ดังนั้นการแสดงออกดังกล่าวของท่านและคณะรัฐมนตรี ทำให้ข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนเห็นประจักษ์ชัดแจ้งว่า ท่านและคณะรัฐมนตรีจงใจละเลยต่อหน้าที่ในการรักษาไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีปซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยในการสำรวจและแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติในทะเลด้านอ่าวไทย ผลประโยชน์ของชาติและความมั่นคงแห่งรัฐในพื้นที่ทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่องรอบเกาะกูด รวมทั้งเขตไหล่ทวีปด้านอ่าวไทย อันเป็นการกระทำที่ละเลยต่อหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หมวด ๕ หน้าที่ของรัฐ มาตรา ๕๑ มาตรา ๕๒ มาตรา ๕๓ และมาตรา ๕๗ ตามที่อ้างถึง (๓) ดังนั้นข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนจึงเห็นว่า หากท่านและคณะรัฐมนตรียังคงนิ่งเฉยต่อข้อเรียกร้องของข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนจนอาจทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีปซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย ข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนจะถือว่าท่านและคณะรัฐมนตรีได้กระทำการอันเป็นการตระเตรียมหรือสนับสนุนการกระทำความผิดที่จะทำให้ราชอาณาจักรไทยหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรไทยต้องไปอยู่ในอธิปไตยของรัฐต่างประเทศหรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป รวมทั้งเห็นว่าท่านและคณะรัฐมนตรีมีพฤติการณ์บางประการที่ทำให้เห็นว่าได้ตระเตรียมการเพื่อคบคิดกับผู้นำของประเทศกัมพูชาด้วยความประสงค์ที่จะเป็นปรปักษ์ต่อรัฐ ทำให้รัฐได้รับความเสียหาย อันอาจเป็นการกระทำความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๙ และมาตรา ๑๒๐ ประกอบกับมาตรา ๑๒๘ และมาตรา ๑๒๙ ตามที่อ้างถึง (๔) ซึ่งข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนจะได้ดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายและตามที่เห็นสมควรเพื่อปกป้องอธิปไตยและสิทธิอธิปไตยของราชอาณาจักรไทยต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    Like
    Love
    Wow
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1208 มุมมอง 1 รีวิว
  • NVIDIA กำลังวางแผนสร้างสำนักงานใหญ่แห่งที่สองในไต้หวัน เพื่อให้ความสำคัญกับพนักงานในท้องถิ่น CEO ของ NVIDIA, Jensen Huang ได้กล่าวถึงความสำคัญของไต้หวันหลายครั้ง โดยระบุว่าเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จของบริษัท

    NVIDIA กำลังมองหาพื้นที่ประมาณ 3 เฮกตาร์เพื่อสร้างสำนักงานใหญ่ใหม่ในไทเป แต่พบว่ามีความยากลำบากในการหาพื้นที่ดังกล่าวในเมืองหลวงของไต้หวัน (มาไทยเถอะ ที่เยอะแยะ เอาคนไต้หวันมาทำงานด้วยก็ได้) แต่บริษัทก็ได้เช่าอาคารขนาด 10,000 ตารางฟุตในเขตหนานกังของไทเปเป็นสถานที่ทำงานใหม่ แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสถานที่สำนักงานแยกอิสระของตัวเอง

    https://wccf.tech/1fp4c
    NVIDIA กำลังวางแผนสร้างสำนักงานใหญ่แห่งที่สองในไต้หวัน เพื่อให้ความสำคัญกับพนักงานในท้องถิ่น CEO ของ NVIDIA, Jensen Huang ได้กล่าวถึงความสำคัญของไต้หวันหลายครั้ง โดยระบุว่าเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จของบริษัท NVIDIA กำลังมองหาพื้นที่ประมาณ 3 เฮกตาร์เพื่อสร้างสำนักงานใหญ่ใหม่ในไทเป แต่พบว่ามีความยากลำบากในการหาพื้นที่ดังกล่าวในเมืองหลวงของไต้หวัน (มาไทยเถอะ ที่เยอะแยะ เอาคนไต้หวันมาทำงานด้วยก็ได้) แต่บริษัทก็ได้เช่าอาคารขนาด 10,000 ตารางฟุตในเขตหนานกังของไทเปเป็นสถานที่ทำงานใหม่ แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างสถานที่สำนักงานแยกอิสระของตัวเอง https://wccf.tech/1fp4c
    WCCF.TECH
    NVIDIA To Reportedly Establish A "Second HQ" In Taiwan, Prioritizing Local Employees
    NVIDIA is building a "secondary" headquarters in Taiwan as Jensen looks to fulfill his promise made to local employees.
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สนธิ” ยื่นหนังสือทวงถามนายกฯ ปมยกเลิก MOU2544 และ JC2544 หลังยื่นข้อเรียกร้องครบ 15 วันแล้วยังนิ่งเฉย เสี่ยงทำให้ประเทศเสียอธิปไตยทางทะเล ผิดรัฐธรรมนูญ เตรียมดำเนินการทางกฎหมายตามที่เห็นสมควรต่อไป
    .
    วันนี้(24 ธ.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และคณะได้เดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือทวงถามกรณีให้เพิกถอน MOU 2544 และ JC 2544 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (กพร. ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล) วันอังคารที่ 24 ธันวาคม 2567 ร่วมลงนามตั้งแต่ 9.00 น. และยื่นหนังสือเวลา 10.00 น. หลังเคยยื่นหนังสือเรียกร้องเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 และครบกำหนด 15 วัน จึงมาทวงถามในวันนี้
    .
    รายละเอียดหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี
    .
    ที่ กอ. ๑๙๙/๒๕๖๗
    วันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๗
    เรื่อง ทวงถามการดำเนินการตามหนังสือให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่กรณี MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ซึ่งมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ขัดต่อพระบรมราชโองการฯ และฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมาย อันเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียเอกราช อำนาจอธิปไตย สิทธิอธิปไตย และบูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีป ของราชอาณาจักรไทย
    .
    กราบเรียนฯพณฯ นายกรัฐมนตรี
    อ้างถึง (๑) หนังสือ ด่วนที่สุด ที่ กอ.๑๗๒/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๗
    (๒) หนังสือสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ นร ๐๑๐๕.๔/๑๐๖๒๔ ลงวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๗
    (๓) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หมวด ๕ หน้าที่ของรัฐ
    (๔) ประมวลกฎหมายอาญา หมวด ๓ ความผิดต่อความมั่นคงภายนอกราชอาณาจักร มาตรา ๑๑๙ – มาตรา ๑๒๙
    .
    ตามที่พวกข้าพเจ้า นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และมวลหมู่ประชาชนจำนวนมาก ได้มีหนังสือตามที่อ้างถึง(๑) ขอให้ท่านหยุดการปฏิบัติหน้าที่กรณี MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ซึ่งมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ขัดต่อพระบรมราชโองการฯ และฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมาย อันเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียเอกราช อำนาจอธิปไตย สิทธิอธิปไตย และบูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีปของราชอาณาจักรไทย โดยขอให้ดำเนินการในประการสำคัญ คือ ขอให้ท่านและคณะรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีปซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยในการสำรวจและแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติในทะเลด้านอ่าวไทย ผลประโยชน์ของชาติและความมั่นคงแห่งรัฐในพื้นที่ทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่องรอบเกาะกูด รวมทั้งเขตไหล่ทวีปด้านอ่าวไทย และขอให้ท่านเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณามีมติให้ส่ง MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ด้วยหรือไม่ ตามมาตรา ๑๗๘ วรรคห้า ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และให้คณะรัฐมนตรีจัดให้มีการเจรจากับกัมพูชาเพื่อยกเลิก MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ระงับการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค (Joint Technical Committee: JTC) ตาม MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยและมีการดำเนินการให้ถูกต้องตามตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ รวมทั้งขอให้จัดเวทีสาธารณะให้แก่ประชาชน โดยให้มีความเห็นของผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจทั้งที่มีความเห็นต่างและที่มีความเห็นด้วยในเวทีอภิปรายสาธารณะซึ่งมีความเป็นกลางและเป็นธรรม ในสัดส่วนของเวลาที่เท่ากัน เพื่อให้ประชาชนได้มีความรู้และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญของประเทศไทยต่อไป ต่อมา สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือตามที่อ้างถึง (๒) แจ้งว่า ได้นำเรียนเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเพื่อโปรดทราบและนำพิจารณากราบเรียนนายกรัฐมนตรีตามที่เห็นสมควร และได้ประสานงานส่งเรื่องให้กระทรวงการต่างประเทศเพื่อพิจารณา โดยขอให้แจ้งผลให้ข้าพเจ้าทราบโดยตรงให้ข้าพเจ้าโดยตรง ความละเอียดทราบแล้วนั้น แต่หนังสือดังกล่าวไม่ได้แจ้งผลการดำเนินการใดๆ ตามข้อเรียกร้อง รวม ๖ ประการ ซึ่งข้าพเจ้ากับมวลหมู่ประชาชนได้ให้เวลาแก่ท่านดำเนินการและแจ้งตอบเป็นเวลา ๑๕ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือดังกล่าว และดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือดังกล่าว
    .
    บัดนี้ ระยะเวลาได้ครบกำหนด ๑๕ วัน แล้ว ท่านและคณะรัฐมนตรียังไม่ได้แจ้งผลการดำเนินการตามที่ได้ร้องขอตามหนังสือที่อ้างถึง(๑) ให้แก่ข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชน อีกทั้งได้ปรากฏข้อเท็จจริงในสื่อมวลชนจำนวนมากว่า ท่านได้รับหนังสือและรับรู้ในข้อเรียกร้องของข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนแล้ว แต่ท่านกลับนิ่งเฉยและไม่ปรากฏคำสัมภาษณ์ว่าจะเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีหรือจัดให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ อีกทั้งยังไม่ตอบรับใดๆว่าจะจัดให้มีเวทีสาธารณะเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้ในการตัดสินใจในปัญหาสำคัญของประเทศ ตามคำร้องขอในหนังสือตามที่อ้างถึง(๑) ซึ่งเป็นการกระทำที่สวนทางและขัดแย้งกับที่ท่านได้เคยให้สัมภาษณ์ว่า พร้อมจะพูดคุยกับข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชน ดังนั้น การแสดงออกดังกล่าวของท่านและคณะรัฐมนตรี ทำให้ข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนเห็นประจักษ์ชัดแจ้งว่า ท่านและคณะรัฐมนตรีจงใจละเลยต่อหน้าที่ในการรักษาไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีปซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยในการสำรวจและแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติในทะเลด้านอ่าวไทย ผลประโยชน์ของชาติและความมั่นคงแห่งรัฐในพื้นที่ทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่องรอบเกาะกูด รวมทั้งเขตไหล่ทวีปด้านอ่าวไทย อันเป็นการกระทำที่ละเลยต่อหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หมวด ๕ หน้าที่ของรัฐ มาตรา ๕๑ มาตรา ๕๒ มาตรา ๕๓ และมาตรา ๕๗ ตามที่อ้างถึง (๓) ดังนั้น ข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนจึงเห็นว่า หากท่านและคณะรัฐมนตรียังคงนิ่งเฉยต่อข้อเรียกร้องของข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนจนอาจทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีปซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย ข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนจะถือว่าท่านและคณะรัฐมนตรีได้กระทำการอันเป็นการตระเตรียมหรือสนับสนุนการกระทำความผิดที่จะทำให้ราชอาณาจักรไทยหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรไทยต้องไปอยู่ในอธิปไตยของรัฐต่างประเทศหรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป รวมทั้งเห็นว่าท่านและคณะรัฐมนตรีมีพฤติการณ์บางประการที่ทำให้เห็นว่าได้ตระเตรียมการเพื่อคบคิดกับผู้นำของประเทศกัมพูชาด้วยความประสงค์ที่จะเป็นปรปักษ์ต่อรัฐ ทำให้รัฐได้รับความเสียหาย อันอาจเป็นการกระทำความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๙ และมาตรา ๑๒๐ ประกอบกับมาตรา ๑๒๘ และมาตรา ๑๒๙ ตามที่อ้างถึง (๔) ซึ่งข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนจะได้ดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายและตามที่เห็นสมควรเพื่อปกป้องอธิปไตยและสิทธิอธิปไตยของราชอาณาจักรไทยต่อไป
    .
    จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
    ขอแสดงความนับถือ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123204
    ..............
    Sondhi X
    “สนธิ” ยื่นหนังสือทวงถามนายกฯ ปมยกเลิก MOU2544 และ JC2544 หลังยื่นข้อเรียกร้องครบ 15 วันแล้วยังนิ่งเฉย เสี่ยงทำให้ประเทศเสียอธิปไตยทางทะเล ผิดรัฐธรรมนูญ เตรียมดำเนินการทางกฎหมายตามที่เห็นสมควรต่อไป . วันนี้(24 ธ.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และคณะได้เดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือทวงถามกรณีให้เพิกถอน MOU 2544 และ JC 2544 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (กพร. ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล) วันอังคารที่ 24 ธันวาคม 2567 ร่วมลงนามตั้งแต่ 9.00 น. และยื่นหนังสือเวลา 10.00 น. หลังเคยยื่นหนังสือเรียกร้องเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2567 และครบกำหนด 15 วัน จึงมาทวงถามในวันนี้ . รายละเอียดหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี . ที่ กอ. ๑๙๙/๒๕๖๗ วันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๗ เรื่อง ทวงถามการดำเนินการตามหนังสือให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่กรณี MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ซึ่งมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ขัดต่อพระบรมราชโองการฯ และฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมาย อันเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียเอกราช อำนาจอธิปไตย สิทธิอธิปไตย และบูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีป ของราชอาณาจักรไทย . กราบเรียนฯพณฯ นายกรัฐมนตรี อ้างถึง (๑) หนังสือ ด่วนที่สุด ที่ กอ.๑๗๒/๒๕๖๗ ลงวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๗ (๒) หนังสือสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ นร ๐๑๐๕.๔/๑๐๖๒๔ ลงวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๗ (๓) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หมวด ๕ หน้าที่ของรัฐ (๔) ประมวลกฎหมายอาญา หมวด ๓ ความผิดต่อความมั่นคงภายนอกราชอาณาจักร มาตรา ๑๑๙ – มาตรา ๑๒๙ . ตามที่พวกข้าพเจ้า นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และมวลหมู่ประชาชนจำนวนมาก ได้มีหนังสือตามที่อ้างถึง(๑) ขอให้ท่านหยุดการปฏิบัติหน้าที่กรณี MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ซึ่งมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ขัดต่อพระบรมราชโองการฯ และฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมาย อันเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียเอกราช อำนาจอธิปไตย สิทธิอธิปไตย และบูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีปของราชอาณาจักรไทย โดยขอให้ดำเนินการในประการสำคัญ คือ ขอให้ท่านและคณะรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีปซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยในการสำรวจและแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติในทะเลด้านอ่าวไทย ผลประโยชน์ของชาติและความมั่นคงแห่งรัฐในพื้นที่ทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่องรอบเกาะกูด รวมทั้งเขตไหล่ทวีปด้านอ่าวไทย และขอให้ท่านเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณามีมติให้ส่ง MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ด้วยหรือไม่ ตามมาตรา ๑๗๘ วรรคห้า ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และให้คณะรัฐมนตรีจัดให้มีการเจรจากับกัมพูชาเพื่อยกเลิก MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ระงับการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค (Joint Technical Committee: JTC) ตาม MOU ๒๕๔๔ และ JC ๒๕๔๔ ไว้ก่อน จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยและมีการดำเนินการให้ถูกต้องตามตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ รวมทั้งขอให้จัดเวทีสาธารณะให้แก่ประชาชน โดยให้มีความเห็นของผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจทั้งที่มีความเห็นต่างและที่มีความเห็นด้วยในเวทีอภิปรายสาธารณะซึ่งมีความเป็นกลางและเป็นธรรม ในสัดส่วนของเวลาที่เท่ากัน เพื่อให้ประชาชนได้มีความรู้และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญของประเทศไทยต่อไป ต่อมา สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้มีหนังสือตามที่อ้างถึง (๒) แจ้งว่า ได้นำเรียนเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเพื่อโปรดทราบและนำพิจารณากราบเรียนนายกรัฐมนตรีตามที่เห็นสมควร และได้ประสานงานส่งเรื่องให้กระทรวงการต่างประเทศเพื่อพิจารณา โดยขอให้แจ้งผลให้ข้าพเจ้าทราบโดยตรงให้ข้าพเจ้าโดยตรง ความละเอียดทราบแล้วนั้น แต่หนังสือดังกล่าวไม่ได้แจ้งผลการดำเนินการใดๆ ตามข้อเรียกร้อง รวม ๖ ประการ ซึ่งข้าพเจ้ากับมวลหมู่ประชาชนได้ให้เวลาแก่ท่านดำเนินการและแจ้งตอบเป็นเวลา ๑๕ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือดังกล่าว และดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือดังกล่าว . บัดนี้ ระยะเวลาได้ครบกำหนด ๑๕ วัน แล้ว ท่านและคณะรัฐมนตรียังไม่ได้แจ้งผลการดำเนินการตามที่ได้ร้องขอตามหนังสือที่อ้างถึง(๑) ให้แก่ข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชน อีกทั้งได้ปรากฏข้อเท็จจริงในสื่อมวลชนจำนวนมากว่า ท่านได้รับหนังสือและรับรู้ในข้อเรียกร้องของข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนแล้ว แต่ท่านกลับนิ่งเฉยและไม่ปรากฏคำสัมภาษณ์ว่าจะเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีหรือจัดให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเพื่อเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ อีกทั้งยังไม่ตอบรับใดๆว่าจะจัดให้มีเวทีสาธารณะเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้ในการตัดสินใจในปัญหาสำคัญของประเทศ ตามคำร้องขอในหนังสือตามที่อ้างถึง(๑) ซึ่งเป็นการกระทำที่สวนทางและขัดแย้งกับที่ท่านได้เคยให้สัมภาษณ์ว่า พร้อมจะพูดคุยกับข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชน ดังนั้น การแสดงออกดังกล่าวของท่านและคณะรัฐมนตรี ทำให้ข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนเห็นประจักษ์ชัดแจ้งว่า ท่านและคณะรัฐมนตรีจงใจละเลยต่อหน้าที่ในการรักษาไว้ซึ่งเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีปซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยในการสำรวจและแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติในทะเลด้านอ่าวไทย ผลประโยชน์ของชาติและความมั่นคงแห่งรัฐในพื้นที่ทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่องรอบเกาะกูด รวมทั้งเขตไหล่ทวีปด้านอ่าวไทย อันเป็นการกระทำที่ละเลยต่อหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หมวด ๕ หน้าที่ของรัฐ มาตรา ๕๑ มาตรา ๕๒ มาตรา ๕๓ และมาตรา ๕๗ ตามที่อ้างถึง (๓) ดังนั้น ข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนจึงเห็นว่า หากท่านและคณะรัฐมนตรียังคงนิ่งเฉยต่อข้อเรียกร้องของข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนจนอาจทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่อง และเขตไหล่ทวีปซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตย ข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนจะถือว่าท่านและคณะรัฐมนตรีได้กระทำการอันเป็นการตระเตรียมหรือสนับสนุนการกระทำความผิดที่จะทำให้ราชอาณาจักรไทยหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรไทยต้องไปอยู่ในอธิปไตยของรัฐต่างประเทศหรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป รวมทั้งเห็นว่าท่านและคณะรัฐมนตรีมีพฤติการณ์บางประการที่ทำให้เห็นว่าได้ตระเตรียมการเพื่อคบคิดกับผู้นำของประเทศกัมพูชาด้วยความประสงค์ที่จะเป็นปรปักษ์ต่อรัฐ ทำให้รัฐได้รับความเสียหาย อันอาจเป็นการกระทำความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๙ และมาตรา ๑๒๐ ประกอบกับมาตรา ๑๒๘ และมาตรา ๑๒๙ ตามที่อ้างถึง (๔) ซึ่งข้าพเจ้าและมวลหมู่ประชาชนจะได้ดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายและตามที่เห็นสมควรเพื่อปกป้องอธิปไตยและสิทธิอธิปไตยของราชอาณาจักรไทยต่อไป . จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000123204 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    14
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1995 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • Asus ได้ประกาศจะเปิดตัวแล็ปท็อปใหม่ในงาน CES 2025 ที่ลาสเวกัส โดยแล็ปท็อปใหม่นี้ถูกกล่าวถึงว่าเป็นแล็ปท็อป Copilot+ ที่เบาที่สุดในโลก และมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้นานถึง 32 ชั่วโมง

    แล็ปท็อปใหม่นี้คาดว่าจะใช้แพลตฟอร์ม Snapdragon X ของ Qualcomm ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม อายุการใช้งานแบตเตอรี่ในโลกจริงมักจะต่ำกว่าที่ผู้ผลิตอ้างไว้เสมอๆ ครับ

    https://www.tomshardware.com/laptops/asus-claims-its-new-worlds-lightest-copilot-laptop-also-boasts-32-hours-of-battery-life-new-zenbook-launches-at-ces-2025
    Asus ได้ประกาศจะเปิดตัวแล็ปท็อปใหม่ในงาน CES 2025 ที่ลาสเวกัส โดยแล็ปท็อปใหม่นี้ถูกกล่าวถึงว่าเป็นแล็ปท็อป Copilot+ ที่เบาที่สุดในโลก และมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้นานถึง 32 ชั่วโมง แล็ปท็อปใหม่นี้คาดว่าจะใช้แพลตฟอร์ม Snapdragon X ของ Qualcomm ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตาม อายุการใช้งานแบตเตอรี่ในโลกจริงมักจะต่ำกว่าที่ผู้ผลิตอ้างไว้เสมอๆ ครับ https://www.tomshardware.com/laptops/asus-claims-its-new-worlds-lightest-copilot-laptop-also-boasts-32-hours-of-battery-life-new-zenbook-launches-at-ces-2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • Alphawave Semi ได้เปิดตัว Universal Chiplet Interconnect Express (UCIe) Die-to-Die (D2D) IP Subsystem ที่มีความเร็ว 64 Gbps สำหรับการเชื่อมต่อชิปเล็ทในเทคโนโลยี 3 นาโนเมตร ระบบนี้เป็นรุ่นที่สามที่พัฒนาจากรุ่นก่อนหน้าที่มีความเร็ว 36 Gbps และ 24 Gbps มีความหนาแน่นของแบนด์วิดท์มากกว่า 20 Tbps/mm และใช้พลังงานต่ำและมีความหน่วง (Latency) ต่ำ

    ระบบใหม่นี้สามารถปรับแต่งได้และรองรับโปรโตคอลหลายประเภท เช่น AXI-4, AXI-S, CXS, CHI และ CHI-C2C เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพสูงในระบบคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง (HPC), ศูนย์ข้อมูล, และแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ (AI) คาดว่าจะเปิดตัวระบบนี้ในปี 2025 ครับ

    https://www.techpowerup.com/330157/alphawave-semi-scales-ucie-to-64-gbps-for-3nm-die-to-die-chiplet-connectivity
    Alphawave Semi ได้เปิดตัว Universal Chiplet Interconnect Express (UCIe) Die-to-Die (D2D) IP Subsystem ที่มีความเร็ว 64 Gbps สำหรับการเชื่อมต่อชิปเล็ทในเทคโนโลยี 3 นาโนเมตร ระบบนี้เป็นรุ่นที่สามที่พัฒนาจากรุ่นก่อนหน้าที่มีความเร็ว 36 Gbps และ 24 Gbps มีความหนาแน่นของแบนด์วิดท์มากกว่า 20 Tbps/mm และใช้พลังงานต่ำและมีความหน่วง (Latency) ต่ำ ระบบใหม่นี้สามารถปรับแต่งได้และรองรับโปรโตคอลหลายประเภท เช่น AXI-4, AXI-S, CXS, CHI และ CHI-C2C เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพสูงในระบบคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง (HPC), ศูนย์ข้อมูล, และแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ (AI) คาดว่าจะเปิดตัวระบบนี้ในปี 2025 ครับ https://www.techpowerup.com/330157/alphawave-semi-scales-ucie-to-64-gbps-for-3nm-die-to-die-chiplet-connectivity
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Alphawave Semi Scales UCIe to 64 Gbps for 3nm Die-to-Die Chiplet Connectivity
    Alphawave Semi (LSE: AWE), a global leader in high-speed connectivity and compute silicon for the world's technology infrastructure, proudly introduces the industry's first 64 Gbps Universal Chiplet Interconnect Express (UCIe) Die-to-Die (D2D) IP Subsystem to deliver unprecedented chiplet interconne...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทิศทาง Toretsk
    พื้นที่ในเมือง Toretsk มากกว่า 80% ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย

    ขณะเดียวกันกองทัพรัสเซียบุกเข้าสู่ใจกลางชุมชุนเมือง Shcherbynivka ได้แล้ว และควบคุมพื้นที่ได้เกือบ 5 ตารางกิโลเมตร
    ทิศทาง Toretsk พื้นที่ในเมือง Toretsk มากกว่า 80% ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย ขณะเดียวกันกองทัพรัสเซียบุกเข้าสู่ใจกลางชุมชุนเมือง Shcherbynivka ได้แล้ว และควบคุมพื้นที่ได้เกือบ 5 ตารางกิโลเมตร
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว