• 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทักษิณ กลับลำหลอกประชาชน จุดจบสุดท้ายคงไม่สวย
    การพูดเอามัน ตามสไตล์ทักษิณ อาจมีปัญหาตามมาอย่างที่ไม่อาจปฏิเสธได้ การพูดของทักษิณดังกล่าวจะถูกนําเข้ามาพิจารณาในคดียุบพรรคเพื่อไทย ในข้อหาครอบงําพรรคการเมือง
    ในที่สุด ทักษิณ ชินวัตร ก็เผยธาตุแท้ออกมาให้คนไทยได้เห็นกัน จากที่ต้องการกลับประเทศไทยเพื่อมาเลี้ยงหลาน ในฐานะอากงคนหนึ่ง แต่ทุกวันนี้คงเห็นแล้วนอกจากเลี้ยงหลานแล้วยังกลับมาเลี้ยงลูกสาวคนเล็ก แพทองทาน นายกรัฐมนตรีอีกด้วย หลังจากเข้าร่วมสัมมนากับพรรคเพื่อไทยพร้อมกับประกาศไล่แกนนําพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่จริงใจออกจากการเป็นรัฐบาล การประกาศเช่นนั้นด้านหนึ่งก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า
    ทักษิณกําลังออกมาปกป้องลูกสาวตัวเอง ซึ่งถ้าเป็นเรื่องครอบครัวปกติทั่วไป ก็คงไม่ผิด แต่พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกิจการบ้านเมืองปฏิเสธไม่ได้ว่าหมิ่นเหม่ และท้าทายความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายพอสมควร
    เดิมทีการแสดงความคิดเห็นต่อการบริหารประเทศหรือการแสดงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาประเทศแม้บางเรื่องที่รัฐบาลดําเนินการในปัจจุบัน จะดันไปสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของทักษิณแต่ด้วยความบังเอิญหรือจงใจ
    ก็ยังพอเข้าใจได้ว่า ถ้าจะเอาผิดตามกฎหมายจากเรื่องทํานองนี้อาจเป็นการบังคับใช้กฎหมาย ที่ดูจะเกินเลยไปหน่อย เช่นเดียวกับการเปิดบ้านจันทร์ส่องล่า ให้แกนนําพรรคร่วมรัฐบาลมากินมาม่าด้วยกัน ก็ยังมีช่องทางที่รอดจากคมหอกของกฎหมายไปได้
    แต่การที่ทักษิณออกมาพูดล้วงลึกไปถึงเรื่องภายในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนั้น ถือว่าเป็นการล้ําเส้นพอสมควร กล่าวก็คือโดยหลักการแล้วการประชุมคณะรัฐมนตรีไม่ได้เป็นการจัดการประชุมที่เปิดเผยต่อสาธารณะ
    เหมือนกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภาพูดง่ายๆ คือการประชุมคณะรัฐมนตรีจะเป็นการประชุมภายในเฉพาะรัฐมนตรี
    นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่า นายใหญ่รู้เห็นทุกอย่าง แต่อีกมุมในแง่ทางกฎหมายที่ว่าด้วยการยุบพรรคการเมืองนั้น ก็นับว่าเป็นการพาพรรคเพื่อไทยเข้าสู่กองไฟอย่างเห็นได้ชัด ใน เวลานี้ กกต ได้เห็นไพ่ในมือของพรรคเพื่อไทยเกือบหมดแล้วแต่พรรคเพื่อไทยกลับยังไม่เห็นของในมือกกต เลยแม้แต่น้อย ว่ากกต จะมีทีเด็ดอะไรมาเอาผิดกับพรรคเพื่อไทยดังนั้นคําพูดของนายใหญ่ที่ออกมาจึงเป็นการทําให้พรรคเพื่อไทยเข้าใกล้ศาลรัฐธรรมนูญเข้าไปอีกก้าว
    ติดตามเจาะลึกแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ทักษิณ กลับลำหลอกประชาชน จุดจบสุดท้ายคงไม่สวย การพูดเอามัน ตามสไตล์ทักษิณ อาจมีปัญหาตามมาอย่างที่ไม่อาจปฏิเสธได้ การพูดของทักษิณดังกล่าวจะถูกนําเข้ามาพิจารณาในคดียุบพรรคเพื่อไทย ในข้อหาครอบงําพรรคการเมือง ในที่สุด ทักษิณ ชินวัตร ก็เผยธาตุแท้ออกมาให้คนไทยได้เห็นกัน จากที่ต้องการกลับประเทศไทยเพื่อมาเลี้ยงหลาน ในฐานะอากงคนหนึ่ง แต่ทุกวันนี้คงเห็นแล้วนอกจากเลี้ยงหลานแล้วยังกลับมาเลี้ยงลูกสาวคนเล็ก แพทองทาน นายกรัฐมนตรีอีกด้วย หลังจากเข้าร่วมสัมมนากับพรรคเพื่อไทยพร้อมกับประกาศไล่แกนนําพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่จริงใจออกจากการเป็นรัฐบาล การประกาศเช่นนั้นด้านหนึ่งก็เป็นการแสดงให้เห็นว่า ทักษิณกําลังออกมาปกป้องลูกสาวตัวเอง ซึ่งถ้าเป็นเรื่องครอบครัวปกติทั่วไป ก็คงไม่ผิด แต่พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกิจการบ้านเมืองปฏิเสธไม่ได้ว่าหมิ่นเหม่ และท้าทายความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายพอสมควร เดิมทีการแสดงความคิดเห็นต่อการบริหารประเทศหรือการแสดงวิสัยทัศน์ในการพัฒนาประเทศแม้บางเรื่องที่รัฐบาลดําเนินการในปัจจุบัน จะดันไปสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของทักษิณแต่ด้วยความบังเอิญหรือจงใจ ก็ยังพอเข้าใจได้ว่า ถ้าจะเอาผิดตามกฎหมายจากเรื่องทํานองนี้อาจเป็นการบังคับใช้กฎหมาย ที่ดูจะเกินเลยไปหน่อย เช่นเดียวกับการเปิดบ้านจันทร์ส่องล่า ให้แกนนําพรรคร่วมรัฐบาลมากินมาม่าด้วยกัน ก็ยังมีช่องทางที่รอดจากคมหอกของกฎหมายไปได้ แต่การที่ทักษิณออกมาพูดล้วงลึกไปถึงเรื่องภายในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนั้น ถือว่าเป็นการล้ําเส้นพอสมควร กล่าวก็คือโดยหลักการแล้วการประชุมคณะรัฐมนตรีไม่ได้เป็นการจัดการประชุมที่เปิดเผยต่อสาธารณะ เหมือนกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรหรือวุฒิสภาพูดง่ายๆ คือการประชุมคณะรัฐมนตรีจะเป็นการประชุมภายในเฉพาะรัฐมนตรี นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่า นายใหญ่รู้เห็นทุกอย่าง แต่อีกมุมในแง่ทางกฎหมายที่ว่าด้วยการยุบพรรคการเมืองนั้น ก็นับว่าเป็นการพาพรรคเพื่อไทยเข้าสู่กองไฟอย่างเห็นได้ชัด ใน เวลานี้ กกต ได้เห็นไพ่ในมือของพรรคเพื่อไทยเกือบหมดแล้วแต่พรรคเพื่อไทยกลับยังไม่เห็นของในมือกกต เลยแม้แต่น้อย ว่ากกต จะมีทีเด็ดอะไรมาเอาผิดกับพรรคเพื่อไทยดังนั้นคําพูดของนายใหญ่ที่ออกมาจึงเป็นการทําให้พรรคเพื่อไทยเข้าใกล้ศาลรัฐธรรมนูญเข้าไปอีกก้าว ติดตามเจาะลึกแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1456 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • 19 ธันวาคม 2567-รายการNewsHourhttps://www.youtube.com/live/IEeK18uunbo?si=KrSFx5OskqCGuXsk
    19 ธันวาคม 2567-รายการNewsHourhttps://www.youtube.com/live/IEeK18uunbo?si=KrSFx5OskqCGuXsk
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 563 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานการณ์ทิศทาง Kurakhove

    จากรูปที่1 - กองทัพรัสเซียปลดปล่อยพื้นที่บ้านพักทั้งหมดของประชาชนใน Kurakhove ได้แล้ว ขณะนี้กำลังรุกเข้าสู่พื้นที่ของโรงไฟฟ้าพลังความร้อน (TPP)

    จากรูปที่2 - ดูเหมือนว่าทิศทางการบุกของรัสเซีย ที่มุ่งหน้าสู่ Uspenivka จะเป็นการหลีกเลี่ยงแนวป้องกันใหญ่ของยูเครน (กรอบสี่เหลี่ยมสีฟ้า) โดยการโอบล้อมจากทางด้านหลัง หากเป็นเช่นนั้นจริง นี่อาจเป็นครั้งแรกที่กองทัพรัสเซียบุกเข้าสู่พื้นที่ของภูมิภาค Dnipro
    สถานการณ์ทิศทาง Kurakhove จากรูปที่1 - กองทัพรัสเซียปลดปล่อยพื้นที่บ้านพักทั้งหมดของประชาชนใน Kurakhove ได้แล้ว ขณะนี้กำลังรุกเข้าสู่พื้นที่ของโรงไฟฟ้าพลังความร้อน (TPP) จากรูปที่2 - ดูเหมือนว่าทิศทางการบุกของรัสเซีย ที่มุ่งหน้าสู่ Uspenivka จะเป็นการหลีกเลี่ยงแนวป้องกันใหญ่ของยูเครน (กรอบสี่เหลี่ยมสีฟ้า) โดยการโอบล้อมจากทางด้านหลัง หากเป็นเช่นนั้นจริง นี่อาจเป็นครั้งแรกที่กองทัพรัสเซียบุกเข้าสู่พื้นที่ของภูมิภาค Dnipro
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรรคประชาชน ทนพ่ายแพ้ไม่ไหว ขอเป็นบ้านใหญ่ มีอิทธิพลซะเอง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    พรรคประชาชน ทนพ่ายแพ้ไม่ไหว ขอเป็นบ้านใหญ่ มีอิทธิพลซะเอง #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 410 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศตำรวจชั้นนายพล 19 ราย พร้อมแต่งตั้งให้ข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งต่างๆ จำนวน 41 ราย มีผล 16 ธันวาคม นี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121966

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศตำรวจชั้นนายพล 19 ราย พร้อมแต่งตั้งให้ข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งต่างๆ จำนวน 41 ราย มีผล 16 ธันวาคม นี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121966 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1198 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักข่าวจาก TASS ถามปธน.ปูติน เกี่ยวกับปฏิบัติการพิเศษทางทหาร ว่าอยู่ใกล้ชัยชนะหรือยัง คาดหวังความคืบหน้าไว้ขนาดไหน

    ประธานาธิบดีปูตินไม่ตอบโดยตรง แต่ประกาศยังยึดมั่นเป้าหมายเดิมของปฏิบัติการพิเศษทางทหาร นั่นหมายถึงต้องปลดปล่อยดินแดนทั้งสี่ภูมิภาค

    “ผมมีคำถามประเภทนี้อยู่ตลอดเวลา ผมขอบอกแบบนี้ว่า สถานการณ์กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การเคลื่อนไหวกำลังดำเนินไปตลอดแนวหน้า ทุกวันนักรบของเรากำลังยึดคืนพื้นที่ได้เป็นตารางกิโลเมตร

    เรากำลังมุ่งหน้าสู่การแก้ปัญหาภารกิจหลักของเรา ซึ่งเราได้กำหนดไว้ในช่วงเริ่มต้นของปฏิบัติการพิเศษทางทหาร พวกเขากำลังดำเนินการอย่างกล้าหาญ ขีดความสามารถของกองกำลังติดอาวุธของสหพันธรัฐรัสเซียกำลังเติบโตขึ้น

    ขณะนี้มีการสู้รบเกิดขึ้น ขอให้พวกเขาโชคดี มีชัยชนะ และกลับบ้านกันทุกคน”
    นักข่าวจาก TASS ถามปธน.ปูติน เกี่ยวกับปฏิบัติการพิเศษทางทหาร ว่าอยู่ใกล้ชัยชนะหรือยัง คาดหวังความคืบหน้าไว้ขนาดไหน ประธานาธิบดีปูตินไม่ตอบโดยตรง แต่ประกาศยังยึดมั่นเป้าหมายเดิมของปฏิบัติการพิเศษทางทหาร นั่นหมายถึงต้องปลดปล่อยดินแดนทั้งสี่ภูมิภาค “ผมมีคำถามประเภทนี้อยู่ตลอดเวลา ผมขอบอกแบบนี้ว่า สถานการณ์กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก การเคลื่อนไหวกำลังดำเนินไปตลอดแนวหน้า ทุกวันนักรบของเรากำลังยึดคืนพื้นที่ได้เป็นตารางกิโลเมตร เรากำลังมุ่งหน้าสู่การแก้ปัญหาภารกิจหลักของเรา ซึ่งเราได้กำหนดไว้ในช่วงเริ่มต้นของปฏิบัติการพิเศษทางทหาร พวกเขากำลังดำเนินการอย่างกล้าหาญ ขีดความสามารถของกองกำลังติดอาวุธของสหพันธรัฐรัสเซียกำลังเติบโตขึ้น ขณะนี้มีการสู้รบเกิดขึ้น ขอให้พวกเขาโชคดี มีชัยชนะ และกลับบ้านกันทุกคน”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 328 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมอเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ โวย “แอ๊ด คาราบาว” เบี้ยวสร้างโรงพยาบาลทางเลือก โทรไปไม่รับตัดสายทิ้ง ส่งจดหมายไปก็ไม่ตอบ แถมเงินในบัญชีรับบริจาคก็ไม่เคลียร์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121992

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    หมอเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ โวย “แอ๊ด คาราบาว” เบี้ยวสร้างโรงพยาบาลทางเลือก โทรไปไม่รับตัดสายทิ้ง ส่งจดหมายไปก็ไม่ตอบ แถมเงินในบัญชีรับบริจาคก็ไม่เคลียร์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121992 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Sad
    Love
    Angry
    Wow
    27
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1767 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิธีออมเงินให้ถึงเป้าหมาย
    วิธีออมเงินให้ถึงเป้าหมาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 308 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • เวลาประหารยามอู่สามเค่อสวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับอีกเกร็ดเล็กๆ จาก เรื่อง <ดรุณควบม้าขาวเมามายลมวสันต์>ในฉากที่เริ่มการสอบชิงเข้าเป็นศิษย์ของหลี่ฉางเซิงนั้น มีการโยนป้ายคำสั่งให้เริ่มแข่ง ทำให้เยี่ยติ่งจือถึงกับหลุดปากออกมาว่าได้อารมณ์เหมือนตอนลงทัณฑ์นักโทษยามอู่สามเค่อ เลยเป็นที่มาของความ ‘เอ๊ะ’ ของ Storyฯ ว่า ในหลายซีรีส์เรามักเห็นเขานั่งรอเวลาประหารนักโทษกัน มันมีความนัยอย่างไรหรือไม่? Storyฯ ไปทำการบ้านมาพบว่าในสมัยจีนโบราณมีหลักเกณฑ์การเลือกเวลาประหารนักโทษค่ะยามอู่สามเค่อคือกี่โมง? ยามอู่คือช่วงเวลาระหว่าง 11.00 – 12.59น. และหนึ่งเค่อคือระยะเวลาประมาณ 15 นาที ส่วนยามอู่ที่ถูกกล่าวถึงใน ‘ยามอู่สามเค่อ’นั้น เป็นที่ถกเถียงกันไม่น้อยว่าหมายถึง ‘เข้ายามอู่’ (คือ 11.00น.) หรือ ‘ยามอู่หลัก’ (12.00น.) แต่ด้วยความนัยของเวลาประหารนักโทษ หลายข้อมูลที่หาพบจึงกล่าวว่า ‘ยามอู่สามเค่อ’ ก็คือเวลา 11.45น. นั่นเอง ถามว่าทำไมต้องเลือกเวลานี้เพื่อทำการประหารนักโทษ? เรื่องนี้เกี่ยวพันกับความเชื่อเรื่องพลังแห่งหยางและดวงวิญญาณในวัฒนธรรมจีนโบราณมีความเชื่อเรื่องตายแล้วเกิดใหม่ และก่อนจะได้ไปเกิดใหม่วิญญาณอาจวนเวียนอยู่ใกล้สถานที่ตายหรือผู้ที่สังหารตนได้ และในส่วนนักโทษที่มีโทษหนักนั้น ก็จะมีความเชื่อว่าวิญญาณเหล่านั้นจะมีแรงอาฆาตสูง ดังนั้น การเลือกเวลาประหารควรเลือกเวลาที่มีพลังหยางสูงสุดเพื่อลดทอนพลังหยินและแรงอาฆาตของวิญญาณเหล่านี้ และเวลา 11.45น. นี้เป็นเวลาที่คนโบราณเชื่อว่าแสงแดดแรงสุด พลังหยางสูงสุด คนที่ถูกฆ่าในเวลานี้ดวงวิญญาณจะถูกทำลายสิ้นไม่สามารถไปเกิดใหม่ได้และแน่นอนว่าไม่สามารถมาวนเวียนก่อกวนความสงบสุขของใครได้ นับว่าเป็นการลงทัณฑ์ที่ร้ายแรงที่สุดแล้วแต่เวลาประหารนักโทษนี้ เดิมไม่ได้เลือกเวลา 11.45น. เสมอไป ในสมัยถังและซ่งนั้น เวลาประหารนักโทษคือเวลาตะวันคล้อยก่อนเลิกงานซึ่งก็คือช่วงยามเซิน (15.00-16.59น.) เป็นนัยว่าเพื่อส่งให้เขาเหล่านั้นไปยังปรโลกได้โดยเร็ว เว้นแต่นักโทษประหารที่ก่อคดีร้ายแรงมาก จึงจะเลือกเวลา 11.45น. เพื่อไม่ให้ได้ไปผุดไปเกิด แต่ต่อมาในช่วงปลายหมิงและชิงได้เปลี่ยนแนวปฏิบัติมาใช้เวลา 11.45น. สำหรับโทษประหารทุกคน บางคนวิเคราะห์เหตุผลว่า นอกจากความเชื่อเรื่องแรงอาฆาตของดวงวิญญาณแล้ว เวลาใกล้เที่ยงนี้ยังเป็นเวลาที่เรียกคนมาชมการประหารได้มาก ยิ่งส่งเสริมการ ‘เชือดไก่ให้ลิงดู’ เพื่อให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวต่อการถูกประหารจนไม่กล้าทำความผิดทั้งนี้ ไม่ใช่ทุกวันที่จะทำการประหารนักโทษได้ ในแต่ละยุคสมัยยังมีการระบุว่าวันใดที่ห้ามทำการประหารนักโทษ อย่างเช่นในสมัยถัง ห้ามประหารนักโทษในวันขึ้น 1, 8, 14, 15 ค่ำของทุกเดือน ฯลฯ (ซึ่ง Storyฯ ก็ไม่ทราบความนัย) อีกทั้งไม่ให้ทำการประหารในยามฝนตกอีกด้วย ดังนั้น เอาจริงๆ แล้วในหนึ่งปีก็มีไม่กี่วันหรอกค่ะ ที่สามารถทำการประหารนักโทษได้ในไทยโบราณมีเลือกเวลาอย่างนี้ไหมคะ มีใครทราบบ้าง? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://news.qq.com/rain/a/20240724A06SDS00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:https://www.sohu.com/a/565335367_121249220 https://www.163.com/dy/article/J5AAPH670543LPNW.html https://www.sohu.com/a/820535074_121629584 https://www.zxls.com/Item/5992.aspx #ดรุณควบม้าขาวเมามายลมวสันต์ #ยามอู่สามเค่อ #เวลาประหารนักโทษ #สาระจีน
    เวลาประหารยามอู่สามเค่อสวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับอีกเกร็ดเล็กๆ จาก เรื่อง <ดรุณควบม้าขาวเมามายลมวสันต์>ในฉากที่เริ่มการสอบชิงเข้าเป็นศิษย์ของหลี่ฉางเซิงนั้น มีการโยนป้ายคำสั่งให้เริ่มแข่ง ทำให้เยี่ยติ่งจือถึงกับหลุดปากออกมาว่าได้อารมณ์เหมือนตอนลงทัณฑ์นักโทษยามอู่สามเค่อ เลยเป็นที่มาของความ ‘เอ๊ะ’ ของ Storyฯ ว่า ในหลายซีรีส์เรามักเห็นเขานั่งรอเวลาประหารนักโทษกัน มันมีความนัยอย่างไรหรือไม่? Storyฯ ไปทำการบ้านมาพบว่าในสมัยจีนโบราณมีหลักเกณฑ์การเลือกเวลาประหารนักโทษค่ะยามอู่สามเค่อคือกี่โมง? ยามอู่คือช่วงเวลาระหว่าง 11.00 – 12.59น. และหนึ่งเค่อคือระยะเวลาประมาณ 15 นาที ส่วนยามอู่ที่ถูกกล่าวถึงใน ‘ยามอู่สามเค่อ’นั้น เป็นที่ถกเถียงกันไม่น้อยว่าหมายถึง ‘เข้ายามอู่’ (คือ 11.00น.) หรือ ‘ยามอู่หลัก’ (12.00น.) แต่ด้วยความนัยของเวลาประหารนักโทษ หลายข้อมูลที่หาพบจึงกล่าวว่า ‘ยามอู่สามเค่อ’ ก็คือเวลา 11.45น. นั่นเอง ถามว่าทำไมต้องเลือกเวลานี้เพื่อทำการประหารนักโทษ? เรื่องนี้เกี่ยวพันกับความเชื่อเรื่องพลังแห่งหยางและดวงวิญญาณในวัฒนธรรมจีนโบราณมีความเชื่อเรื่องตายแล้วเกิดใหม่ และก่อนจะได้ไปเกิดใหม่วิญญาณอาจวนเวียนอยู่ใกล้สถานที่ตายหรือผู้ที่สังหารตนได้ และในส่วนนักโทษที่มีโทษหนักนั้น ก็จะมีความเชื่อว่าวิญญาณเหล่านั้นจะมีแรงอาฆาตสูง ดังนั้น การเลือกเวลาประหารควรเลือกเวลาที่มีพลังหยางสูงสุดเพื่อลดทอนพลังหยินและแรงอาฆาตของวิญญาณเหล่านี้ และเวลา 11.45น. นี้เป็นเวลาที่คนโบราณเชื่อว่าแสงแดดแรงสุด พลังหยางสูงสุด คนที่ถูกฆ่าในเวลานี้ดวงวิญญาณจะถูกทำลายสิ้นไม่สามารถไปเกิดใหม่ได้และแน่นอนว่าไม่สามารถมาวนเวียนก่อกวนความสงบสุขของใครได้ นับว่าเป็นการลงทัณฑ์ที่ร้ายแรงที่สุดแล้วแต่เวลาประหารนักโทษนี้ เดิมไม่ได้เลือกเวลา 11.45น. เสมอไป ในสมัยถังและซ่งนั้น เวลาประหารนักโทษคือเวลาตะวันคล้อยก่อนเลิกงานซึ่งก็คือช่วงยามเซิน (15.00-16.59น.) เป็นนัยว่าเพื่อส่งให้เขาเหล่านั้นไปยังปรโลกได้โดยเร็ว เว้นแต่นักโทษประหารที่ก่อคดีร้ายแรงมาก จึงจะเลือกเวลา 11.45น. เพื่อไม่ให้ได้ไปผุดไปเกิด แต่ต่อมาในช่วงปลายหมิงและชิงได้เปลี่ยนแนวปฏิบัติมาใช้เวลา 11.45น. สำหรับโทษประหารทุกคน บางคนวิเคราะห์เหตุผลว่า นอกจากความเชื่อเรื่องแรงอาฆาตของดวงวิญญาณแล้ว เวลาใกล้เที่ยงนี้ยังเป็นเวลาที่เรียกคนมาชมการประหารได้มาก ยิ่งส่งเสริมการ ‘เชือดไก่ให้ลิงดู’ เพื่อให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวต่อการถูกประหารจนไม่กล้าทำความผิดทั้งนี้ ไม่ใช่ทุกวันที่จะทำการประหารนักโทษได้ ในแต่ละยุคสมัยยังมีการระบุว่าวันใดที่ห้ามทำการประหารนักโทษ อย่างเช่นในสมัยถัง ห้ามประหารนักโทษในวันขึ้น 1, 8, 14, 15 ค่ำของทุกเดือน ฯลฯ (ซึ่ง Storyฯ ก็ไม่ทราบความนัย) อีกทั้งไม่ให้ทำการประหารในยามฝนตกอีกด้วย ดังนั้น เอาจริงๆ แล้วในหนึ่งปีก็มีไม่กี่วันหรอกค่ะ ที่สามารถทำการประหารนักโทษได้ในไทยโบราณมีเลือกเวลาอย่างนี้ไหมคะ มีใครทราบบ้าง? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://news.qq.com/rain/a/20240724A06SDS00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:https://www.sohu.com/a/565335367_121249220 https://www.163.com/dy/article/J5AAPH670543LPNW.html https://www.sohu.com/a/820535074_121629584 https://www.zxls.com/Item/5992.aspx #ดรุณควบม้าขาวเมามายลมวสันต์ #ยามอู่สามเค่อ #เวลาประหารนักโทษ #สาระจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 906 มุมมอง 0 รีวิว
  • MooDeng หมูเด้ง ( English Special Version ) Ver. Pop Dance | Ter Chahcanok | เต๋อพาเที่ยว | TerOfficial
    Lyrics : Ton TerOfficial
    #moodeng #Hippo #หมูเด้ง #TerChatchanok #popdance
    MooDeng หมูเด้ง ( English Special Version ) Ver. Pop Dance | Ter Chahcanok | เต๋อพาเที่ยว | TerOfficial Lyrics : Ton TerOfficial #moodeng #Hippo #หมูเด้ง #TerChatchanok #popdance
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2096 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • นรก สวรรค์ ไม่มีใครพาไป ใครอยากไปทำเอง ชอบทางนรกก็ทำไป ชอบทางสวรรค์ก็ทำไป ทำเอาเอง
    นรก สวรรค์ ไม่มีใครพาไป ใครอยากไปทำเอง ชอบทางนรกก็ทำไป ชอบทางสวรรค์ก็ทำไป ทำเอาเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดอะ สเตรท์สไทม์ส รายงานเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม นางรอสมาห์ มันซอร์ ภรรยา วัย 72 ปีของนายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งกำลังรับโทษในคดีทุจริตอยู่นั้น ถูกศาลสูงของมาเลเซียตัดสินให้พ้นผิดจากข้อหารวม 12 กระทงในคดีฟอกเงิน มูลค่า 7 ล้านริงกิต (ราว 53.8 ล้านบาท) และอีก 5 กระทงฐานไม่แจ้งรายได้ของตนเองต่อสรรพากร
    เดอะ สเตรท์สไทม์ส รายงานเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม นางรอสมาห์ มันซอร์ ภรรยา วัย 72 ปีของนายนาจิบ ราซัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งกำลังรับโทษในคดีทุจริตอยู่นั้น ถูกศาลสูงของมาเลเซียตัดสินให้พ้นผิดจากข้อหารวม 12 กระทงในคดีฟอกเงิน มูลค่า 7 ล้านริงกิต (ราว 53.8 ล้านบาท) และอีก 5 กระทงฐานไม่แจ้งรายได้ของตนเองต่อสรรพากร
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว