• เรื่องงาน World Expo ที่โอซาก้า มี feedback หลากหลาย เด่นสุดของคนที่เข้าชมให้ความเห็นตรงกันว่า มีความสวยด้านสถาปัตยกรรม แต่การสื่อสาร เมสเสจที่อยากจะสื่อกลับเป็นในรูปแบบ "เปลือกเอกชน เนื้อในข้าราชการ" การนำเสนอไม่เชื่อมโยง และหน่วยงานนั้นคือกระทรวงสาธารณสุขที่ใช้งบประมาณไปทำกว่า 1,000 ล้าน!เหตุผลที่บอกว่าต้องเป็นสธ. เพื่อไปโฆษณา medical hub, wellness ในขณะที่ไทยตอนนี้ข่าวที่ลุกโชนที่สุดคือข่าวบุคลากรทางการแพทย์แห่กันลาออกรัฐมนตรีของสวีเดนเคยพูดว่า หมอ 1 คนที่ออกไปรักษาคนไข้เอกชน-wellness คือหมอ 1 คนที่สูญเสียไปจากการรักษาคนไข้ในระบบรัฐ ในขณะที่ไทยโหมโฆษณาเรื่อง medical hub ได้มองเรื่องการโยกย้ายของแรงงานภาคสุขภาพหรือไม่? โรงพยาบาลภาครัฐปัจจุบันนี้ คนไข้คนไทยอาการหนักยังหาเตียงแทบไม่ได้ OPD ยังต้องต่อคิวเกือบทั้งวัน ในขณะที่โรงพยาบาลเอกชนที่รัฐพยายามพาไปโฆษณา กำไรปีละ 4,000 ล้านต่อปี และผู้ถือหุ้น ก็แทบจะต่างประเทศเกือบหมดงบ 1,000 ล้านนี้ เราทำอะไรได้บ้าง- งบ 1,000 ล้านนี้ คืองบประมาณคนไข้ล้างไตเกือบปีของประกันสังคม- 55 เท่าของงบประมาณดูแลสุขภาพจิตของเด็กในโรงเรียนทั้งประเทศ- เกือบ 1,000 เท่า ของงบที่ไว้รับมือ PM2.5 ของสธ.- งบประมาณที่จ้างหมอเต็มเวลาได้อีก 1,660 คน/ปี- เป็นค่าแรงที่กดขี่จนแย่กว่าค่าแรงขั้นต่ำตามพรบ.คุ้มครองแรงงานของพี่ๆผู้ช่วยพยาบาลมากถึง 7,200 คนต่อปีการลงทุนในการโปรโมทประเทศไทยเป็นเรื่องดี แต่ต้องระวังในการสื่อสารและใช้งบประมาณให้เหมาะสม ท่ามกลางข่าววิกฤตศรัทธาในรัฐข้าราชการ การใช้งบประมาณระดับพันล้านเพื่อโปรโมทในเรื่องที่อนาคตจะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพไปอีก ต้องทำอย่างระมัดระวังและไม่เหยียบหัวคนทำงานหน้างานจนรู้สึกว่า เงินเดือนจากงานที่เขาทำจนเผาเวลาชีวิต ร่างกายไป เป็นเพียงเศษเงินเมื่อเทียบกับโครงการใช้ครั้งเดียวจบของกระทรวงเพิ่มเติม: มีเรื่องที่มาบริษัทที่รับทำ เป็นการสรรหาแบบจำเพาะเจาะจง ต้องติดตามว่า บริษัทที่รับจัดงาน 800 ล้านจากภาษีเราเป็นใคร———— ขอขอบคุณ คุณหมอนิรนามที่ส่งมาให้ครับ
    เรื่องงาน World Expo ที่โอซาก้า มี feedback หลากหลาย เด่นสุดของคนที่เข้าชมให้ความเห็นตรงกันว่า มีความสวยด้านสถาปัตยกรรม แต่การสื่อสาร เมสเสจที่อยากจะสื่อกลับเป็นในรูปแบบ "เปลือกเอกชน เนื้อในข้าราชการ" การนำเสนอไม่เชื่อมโยง และหน่วยงานนั้นคือกระทรวงสาธารณสุขที่ใช้งบประมาณไปทำกว่า 1,000 ล้าน!เหตุผลที่บอกว่าต้องเป็นสธ. เพื่อไปโฆษณา medical hub, wellness ในขณะที่ไทยตอนนี้ข่าวที่ลุกโชนที่สุดคือข่าวบุคลากรทางการแพทย์แห่กันลาออกรัฐมนตรีของสวีเดนเคยพูดว่า หมอ 1 คนที่ออกไปรักษาคนไข้เอกชน-wellness คือหมอ 1 คนที่สูญเสียไปจากการรักษาคนไข้ในระบบรัฐ ในขณะที่ไทยโหมโฆษณาเรื่อง medical hub ได้มองเรื่องการโยกย้ายของแรงงานภาคสุขภาพหรือไม่? โรงพยาบาลภาครัฐปัจจุบันนี้ คนไข้คนไทยอาการหนักยังหาเตียงแทบไม่ได้ OPD ยังต้องต่อคิวเกือบทั้งวัน ในขณะที่โรงพยาบาลเอกชนที่รัฐพยายามพาไปโฆษณา กำไรปีละ 4,000 ล้านต่อปี และผู้ถือหุ้น ก็แทบจะต่างประเทศเกือบหมดงบ 1,000 ล้านนี้ เราทำอะไรได้บ้าง- งบ 1,000 ล้านนี้ คืองบประมาณคนไข้ล้างไตเกือบปีของประกันสังคม- 55 เท่าของงบประมาณดูแลสุขภาพจิตของเด็กในโรงเรียนทั้งประเทศ- เกือบ 1,000 เท่า ของงบที่ไว้รับมือ PM2.5 ของสธ.- งบประมาณที่จ้างหมอเต็มเวลาได้อีก 1,660 คน/ปี- เป็นค่าแรงที่กดขี่จนแย่กว่าค่าแรงขั้นต่ำตามพรบ.คุ้มครองแรงงานของพี่ๆผู้ช่วยพยาบาลมากถึง 7,200 คนต่อปีการลงทุนในการโปรโมทประเทศไทยเป็นเรื่องดี แต่ต้องระวังในการสื่อสารและใช้งบประมาณให้เหมาะสม ท่ามกลางข่าววิกฤตศรัทธาในรัฐข้าราชการ การใช้งบประมาณระดับพันล้านเพื่อโปรโมทในเรื่องที่อนาคตจะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพไปอีก ต้องทำอย่างระมัดระวังและไม่เหยียบหัวคนทำงานหน้างานจนรู้สึกว่า เงินเดือนจากงานที่เขาทำจนเผาเวลาชีวิต ร่างกายไป เป็นเพียงเศษเงินเมื่อเทียบกับโครงการใช้ครั้งเดียวจบของกระทรวงเพิ่มเติม: มีเรื่องที่มาบริษัทที่รับทำ เป็นการสรรหาแบบจำเพาะเจาะจง ต้องติดตามว่า บริษัทที่รับจัดงาน 800 ล้านจากภาษีเราเป็นใคร———— ขอขอบคุณ คุณหมอนิรนามที่ส่งมาให้ครับ
    0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews
  • สนง.ปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวง อว. สร้างความปลอดภัยให้ประชาชน ด้วยระบบเฝ้าระวังภัยทางนิวเคลียร์ เชื่อมโยงเครือข่ายโลก
    https://www.thai-tai.tv/news/18214/
    สนง.ปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวง อว. สร้างความปลอดภัยให้ประชาชน ด้วยระบบเฝ้าระวังภัยทางนิวเคลียร์ เชื่อมโยงเครือข่ายโลก https://www.thai-tai.tv/news/18214/
    0 Comments 0 Shares 29 Views 0 Reviews
  • บทความจาก TechRadar รายงานเกี่ยวกับ NotebookLM ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI ของ Google ที่สามารถ สรุปและวิเคราะห์เอกสารขนาดใหญ่ โดยผู้เขียนได้ทดลองใช้กับ งานวิจัยเกี่ยวกับ String Theory และพบว่า AI สามารถ สร้างพอดแคสต์ที่มีเนื้อหาลึกซึ้งและเข้าใจง่าย

    ✅ NotebookLM สามารถสรุปและวิเคราะห์เอกสารขนาดใหญ่
    - ผู้ใช้สามารถ อัปโหลดเอกสารและให้ AI สร้างสรุปหรือพอดแคสต์
    - AI สามารถ จัดทำแผนภาพแนวคิด (Mind Maps) เพื่อช่วยให้เข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น

    ✅ NotebookLM สามารถสร้างพอดแคสต์ที่อธิบายเนื้อหาทางวิทยาศาสตร์
    - AI สร้างพอดแคสต์ที่มี รูปแบบการสนทนา ทำให้เนื้อหาซับซ้อนเข้าใจง่ายขึ้น
    - ผู้ทดลองใช้พบว่า AI สามารถอธิบาย String Theory ได้อย่างมีโครงสร้าง

    ✅ AI ใช้เทคนิคการนำเสนอที่ช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น
    - ใช้ การเปรียบเทียบและการสรุปซ้ำ เพื่อช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจแนวคิดที่ซับซ้อน
    - มีการใช้ ตัวอย่างจากชีวิตประจำวัน เพื่อเชื่อมโยงกับแนวคิดทางฟิสิกส์

    ✅ NotebookLM สามารถรวมแหล่งข้อมูลหลายแหล่งเพื่อสร้างเนื้อหาที่สมบูรณ์ขึ้น
    - ผู้ใช้สามารถ เพิ่มเอกสารเพิ่มเติมเพื่อให้ AI วิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่ง
    - AI สามารถ ปรับปรุงพอดแคสต์และแผนภาพแนวคิดตามข้อมูลใหม่

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/i-fed-notebooklm-a-218-page-research-paper-on-string-theory-and-the-podcast-results-were-mind-blowing
    บทความจาก TechRadar รายงานเกี่ยวกับ NotebookLM ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI ของ Google ที่สามารถ สรุปและวิเคราะห์เอกสารขนาดใหญ่ โดยผู้เขียนได้ทดลองใช้กับ งานวิจัยเกี่ยวกับ String Theory และพบว่า AI สามารถ สร้างพอดแคสต์ที่มีเนื้อหาลึกซึ้งและเข้าใจง่าย ✅ NotebookLM สามารถสรุปและวิเคราะห์เอกสารขนาดใหญ่ - ผู้ใช้สามารถ อัปโหลดเอกสารและให้ AI สร้างสรุปหรือพอดแคสต์ - AI สามารถ จัดทำแผนภาพแนวคิด (Mind Maps) เพื่อช่วยให้เข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น ✅ NotebookLM สามารถสร้างพอดแคสต์ที่อธิบายเนื้อหาทางวิทยาศาสตร์ - AI สร้างพอดแคสต์ที่มี รูปแบบการสนทนา ทำให้เนื้อหาซับซ้อนเข้าใจง่ายขึ้น - ผู้ทดลองใช้พบว่า AI สามารถอธิบาย String Theory ได้อย่างมีโครงสร้าง ✅ AI ใช้เทคนิคการนำเสนอที่ช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้น - ใช้ การเปรียบเทียบและการสรุปซ้ำ เพื่อช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจแนวคิดที่ซับซ้อน - มีการใช้ ตัวอย่างจากชีวิตประจำวัน เพื่อเชื่อมโยงกับแนวคิดทางฟิสิกส์ ✅ NotebookLM สามารถรวมแหล่งข้อมูลหลายแหล่งเพื่อสร้างเนื้อหาที่สมบูรณ์ขึ้น - ผู้ใช้สามารถ เพิ่มเอกสารเพิ่มเติมเพื่อให้ AI วิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่ง - AI สามารถ ปรับปรุงพอดแคสต์และแผนภาพแนวคิดตามข้อมูลใหม่ https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/i-fed-notebooklm-a-218-page-research-paper-on-string-theory-and-the-podcast-results-were-mind-blowing
    0 Comments 0 Shares 48 Views 0 Reviews
  • Atomic Keyboard ได้เปิดตัว MDR Dasher ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากซีรีส์ Severance บน Apple TV+ โดยออกแบบให้มีรูปลักษณ์แบบเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติก พร้อม trackball ในตัว และการจัดวางปุ่มที่แตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไป

    ✅ MDR Dasher ได้รับแรงบันดาลใจจากคีย์บอร์ดในซีรีส์ Severance
    - คีย์บอร์ดนี้ออกแบบให้คล้ายกับ Data General Dasher terminals ที่ได้รับความนิยมในช่วงปลายยุค 70 และต้นยุค 80
    - มี ดีไซน์แบบเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติก พร้อมกรอบสีขาวหม่นและปุ่มสีน้ำเงิน

    ✅ การจัดวางปุ่มแตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไป
    - ไม่มีปุ่ม Escape, Control และ Option เพื่อสะท้อนธีมของซีรีส์ที่เน้นความเป็นระบบปิด
    - มี 73 ปุ่ม และใช้ เลย์เอาต์แบบ 70%

    ✅ MDR Dasher มาพร้อม trackball ในตัว
    - แทนที่จะใช้เมาส์แบบทั่วไป คีย์บอร์ดนี้มี trackball ทางด้านขวา
    - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเคอร์เซอร์ได้โดยไม่ต้องใช้เมาส์แยก

    ✅ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C และใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการหลัก
    - สามารถใช้กับ Windows, macOS และ Linux
    - ตัวเคสทำจาก อะลูมิเนียม เพื่อเพิ่มความทนทาน

    ✅ ราคายังไม่ถูกยืนยัน แต่คาดว่าอยู่ที่ประมาณ $399
    - Atomic Keyboard ยังไม่ได้ประกาศราคาสุดท้าย เนื่องจากมี ปัญหาด้านภาษีนำเข้า
    - เปิดให้ลงทะเบียนสำหรับ การสั่งจองล่วงหน้าแบบจำนวนจำกัด

    https://www.techspot.com/news/107593-real-life-severance-keyboard-here-complete-built-trackball.html
    Atomic Keyboard ได้เปิดตัว MDR Dasher ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่ได้รับแรงบันดาลใจจากซีรีส์ Severance บน Apple TV+ โดยออกแบบให้มีรูปลักษณ์แบบเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติก พร้อม trackball ในตัว และการจัดวางปุ่มที่แตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไป ✅ MDR Dasher ได้รับแรงบันดาลใจจากคีย์บอร์ดในซีรีส์ Severance - คีย์บอร์ดนี้ออกแบบให้คล้ายกับ Data General Dasher terminals ที่ได้รับความนิยมในช่วงปลายยุค 70 และต้นยุค 80 - มี ดีไซน์แบบเรโทร-ฟิวเจอร์ริสติก พร้อมกรอบสีขาวหม่นและปุ่มสีน้ำเงิน ✅ การจัดวางปุ่มแตกต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไป - ไม่มีปุ่ม Escape, Control และ Option เพื่อสะท้อนธีมของซีรีส์ที่เน้นความเป็นระบบปิด - มี 73 ปุ่ม และใช้ เลย์เอาต์แบบ 70% ✅ MDR Dasher มาพร้อม trackball ในตัว - แทนที่จะใช้เมาส์แบบทั่วไป คีย์บอร์ดนี้มี trackball ทางด้านขวา - ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเคอร์เซอร์ได้โดยไม่ต้องใช้เมาส์แยก ✅ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-C และใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการหลัก - สามารถใช้กับ Windows, macOS และ Linux - ตัวเคสทำจาก อะลูมิเนียม เพื่อเพิ่มความทนทาน ✅ ราคายังไม่ถูกยืนยัน แต่คาดว่าอยู่ที่ประมาณ $399 - Atomic Keyboard ยังไม่ได้ประกาศราคาสุดท้าย เนื่องจากมี ปัญหาด้านภาษีนำเข้า - เปิดให้ลงทะเบียนสำหรับ การสั่งจองล่วงหน้าแบบจำนวนจำกัด https://www.techspot.com/news/107593-real-life-severance-keyboard-here-complete-built-trackball.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    A real-life Severance keyboard is here, complete with built-in trackball
    In Severance, the keyboards used by Macrodata Refinement – the department where the protagonists work – appear to draw inspiration from Data General's vintage Dasher terminals, popular...
    0 Comments 0 Shares 42 Views 0 Reviews
  • รายงานล่าสุดจาก CSO Online ระบุว่า การเมืองกำลังส่งผลกระทบต่อกระบวนการอนุมัติใบรับรองความปลอดภัยทางไซเบอร์ในสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้บริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของอเมริกาสูญเสียความน่าเชื่อถือในระดับสากล

    ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเชื่อมโยงใบรับรองความปลอดภัยกับจุดยืนทางการเมือง
    - คำสั่งของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเซ็นเซอร์ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งปี 2020 และ COVID-19 จะถูกเพิกถอนใบรับรองความปลอดภัย
    - Chris Krebs อดีตหัวหน้า CISA ถูกเพิกถอนใบรับรอง และบริษัท SentinelOne ที่เขาเกี่ยวข้องก็ได้รับผลกระทบ

    ✅ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยกังวลว่าการเมืองจะทำให้ข้อมูลภัยคุกคามขาดความน่าเชื่อถือ
    - CISOs อาจต้องพิจารณาว่าข้อมูลจากบริษัทอเมริกัน ได้รับอิทธิพลจากรัฐบาลหรือไม่
    - มีความกังวลว่าบริษัทอาจถูกกดดันให้ ละเว้นข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามจากบางประเทศ

    ✅ บริษัทด้านความปลอดภัยจากประเทศอื่นอาจได้รับประโยชน์จากสถานการณ์นี้
    - บริษัทจาก แคนาดา, ออสเตรเลีย, อิสราเอล, อินเดีย, เยอรมนี และญี่ปุ่น อาจได้รับความไว้วางใจมากขึ้น
    - CISOs อาจต้องพิจารณา เปลี่ยนไปใช้บริการจากบริษัทที่ไม่ได้รับอิทธิพลทางการเมือง

    ✅ การเพิกถอนใบรับรองของ SentinelOne อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้น
    - หากรัฐบาลสหรัฐฯ ใช้มาตรการนี้กับบริษัทอื่น อาจทำให้ อุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ของอเมริกาสูญเสียความน่าเชื่อถือ

    https://www.csoonline.com/article/3965056/will-politicization-of-security-clearances-make-us-cybersecurity-firms-radioactive.html
    รายงานล่าสุดจาก CSO Online ระบุว่า การเมืองกำลังส่งผลกระทบต่อกระบวนการอนุมัติใบรับรองความปลอดภัยทางไซเบอร์ในสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้บริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของอเมริกาสูญเสียความน่าเชื่อถือในระดับสากล ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังเชื่อมโยงใบรับรองความปลอดภัยกับจุดยืนทางการเมือง - คำสั่งของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเซ็นเซอร์ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งปี 2020 และ COVID-19 จะถูกเพิกถอนใบรับรองความปลอดภัย - Chris Krebs อดีตหัวหน้า CISA ถูกเพิกถอนใบรับรอง และบริษัท SentinelOne ที่เขาเกี่ยวข้องก็ได้รับผลกระทบ ✅ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยกังวลว่าการเมืองจะทำให้ข้อมูลภัยคุกคามขาดความน่าเชื่อถือ - CISOs อาจต้องพิจารณาว่าข้อมูลจากบริษัทอเมริกัน ได้รับอิทธิพลจากรัฐบาลหรือไม่ - มีความกังวลว่าบริษัทอาจถูกกดดันให้ ละเว้นข้อมูลเกี่ยวกับภัยคุกคามจากบางประเทศ ✅ บริษัทด้านความปลอดภัยจากประเทศอื่นอาจได้รับประโยชน์จากสถานการณ์นี้ - บริษัทจาก แคนาดา, ออสเตรเลีย, อิสราเอล, อินเดีย, เยอรมนี และญี่ปุ่น อาจได้รับความไว้วางใจมากขึ้น - CISOs อาจต้องพิจารณา เปลี่ยนไปใช้บริการจากบริษัทที่ไม่ได้รับอิทธิพลทางการเมือง ✅ การเพิกถอนใบรับรองของ SentinelOne อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้น - หากรัฐบาลสหรัฐฯ ใช้มาตรการนี้กับบริษัทอื่น อาจทำให้ อุตสาหกรรมความปลอดภัยทางไซเบอร์ของอเมริกาสูญเสียความน่าเชื่อถือ https://www.csoonline.com/article/3965056/will-politicization-of-security-clearances-make-us-cybersecurity-firms-radioactive.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Will politicization of security clearances make US cybersecurity firms radioactive?
    Following Trump's executive order to strip SentinelOne of its security clearances, many wonder if CISOs will soon put American security firms in the same bad light as Russia’s Kaspersky and China’s Nuctech.
    0 Comments 0 Shares 44 Views 0 Reviews

  • Airstrikes สงคราม ทองคำ และคนลุ่มน้ำโขง (ตอนที่ 4)
    *****************
    เสียงเครื่องบินกระหึ่มสัญชาติรัสเซีย และจีน ทั้งรุ่น MiG-29 -Yak-130 - K-8, F-7 และเฮลิคอปเตอร์โจมตี Mi-35 Mi-17 เทคออฟขึ้นน่านฟ้าเมียนมา สร้างความหวาดวิตกกับพลเรือนในพื้นที่เสี่ยง ความถี่มิได้เป็นปกป้องอธิปไตยเหนือน่านฟ้า บางครั้งก็ถลำรุกน่านฟ้าของไทย และถูกต้อนกลับ
    เสียงอากาศยานของเมียนมาทำให้ประชาชน พลเรือนระส่ำระสาย บาดเจ็บล้มตายกัน ในพื้นที่พลเรือนและกลุ่มต่อต้าน ปี 2023-24 กระทรวงกลาโหมใช้งบประมาณเพื่อภารกิจ Aistrike กว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ อาวุธ ส่วนใหญ่มาจากรัสเซียและจีน
    กองทัพเผด็จการเมียนมาได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศประมาณ 30 ครั้งในรัฐฉาน รัฐกะเหรี่ยงนี และรัฐกะฉิ่นในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา โดยทิ้งระเบิดเกือบ 100 ลูก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20 ราย ตามข้อมูลที่ Shan Herald Agency for News (SHAN) ได้รับ
    ระหว่างปลายปีที่ผ่าน ถึงวันที่ 30 มกราคม 2025 การโจมตีทางอากาศเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่พื้นที่พลเรือนเป็นหลัก สร้างความเสียหายและการสูญเสียอย่างหนัก โดยเฉพาะเขตเมืองนองคิโอ รัฐฉาน ซึ่งระเบิดตกใส่ร้านน้ำชา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย
    มีการประเมินว่านับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อเกือบสี่ปีที่แล้ว โดยบันทึกการโจมตีทางอากาศทั้งหมด 1,767 ครั้ง ซึ่งน่าตกใจว่าร้อยละ 47 ของการโจมตีเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่พื้นที่พลเรือน ทำให้วิกฤตด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ขัดแย้งรุนแรงขึ้น
    พื้นที่ ที่เป็นเป้าหมายคือพื้นที่ที่มีผลประโยชน์เหมืองแร่ และแร่ธาตุสูง โดยเฉพาะใน รัฐฉาน (Shan State), รัฐกะเหรี่ยงนี-คะยา (Karenni/Kayah State), รัฐกะฉิ่น (Kachin State), รัฐระแหง (Rakhine State) และพื้นที่อื่นๆ เช่น ภูมิภาคสกาย (Sagaing Region) เป็นต้น
    *****************
    USGS (United States Geological Survey) ได้ ประมาณการไว้ว่า ยังคงเหลือทองคำอยู่ใต้ดินที่ยังไม่ได้ผลิตออกมาอีกประมาณ 50,000 ตัน คาดกันว่าปริมาณทองคำที่ขุดขึ้นมา และมีการใช้ประโยชน์กันแล้วกว่า 190,000 ตัน และโดยเฉลี่ยในปัจจุบันมีการผลิตออกจากเหมืองประมาณปีละ 2,500 ถึง 3,000 ตัน มีการทำเหมืองทองคำทั่วโลกอยู่ใน 82 ประเทศ
    สแกนใต้ดินแอฟริกาใต้ มีทรัพยากรแร่ทองคำมากที่สุดในโลก และเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก จนถึงปัจจุบันราว 31,000 ตัน รองลงมา คือ รัสเซีย ประมาณ 7,000 ตัน และ จีนเป็นอันดับ 3 ที่ผลิตประมาณ 6,328 ตัน ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย แคนาดา และ เปรู
    ทว่าในปี 2564 จีนขึ้นแป้นครองแชมป์ประเทศที่ผลิตทองคำจากเหมืองทองคำในประเทศมากที่สุด คิดเป็น 11% ของการผลิต ทั่วโลก ซึ่งจากฐานข้อมูล Global Data’s mines and projects ที่ได้ติดตามการพัฒนาและปฏิบัติการของเหมืองแร่ และโครงการทั่วโลก โดยเก็บข้อมูลจากบริษัทยักษ์ใหญ่กว่า 4,000 บริษัท ได้สรุป 5 อันดับ เหมืองทองคำในจีนที่ผลิตทองคำได้มากที่สุดในปี 2563 ดังนี้
    1.Shaxi Copper Mine เป็นเหมืองใต้ดินในมณฑลอานฮุย (Anhui) ของกลุ่มบริษัท Togling Nonferrous Metal Group ซึ่งผลิตทองคำได้ประมาณ 730,000 ounces of gold ในปี 2563
    2.Jiaojia Gold Mine ของกลุ่มบริษัท Shandong Gold Group ในมณฑลซานตง (Shandong) ผลิตทองคำได้ประมาณ 230,000 ounces of gold ในปี 2563 และกำลังจะปิดตัวลงในปี 2566
    3.Dayingezhuang Gold Mine เป็นเหมืองทองคำในมณฑลซานตงเช่นกัน อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท Zhaojin Mining Industry และผลิตทองคำประมาณ 228,000 ounces of gold ในปี 2563
    4.Sanshandao Gold Mine เป็นเหมืองใต้ดินของกลุ่มบริษัท Shandong Gold Group ในมณฑลซานตง ผลิตทองคำได้ ประมาณ 218,000 ounces of gold ในปี 2563 และจะผลิตตามแผนงานไปจนถึงปี 2571
    5.Zaozigou Gold Mine เป็นเหมืองทองคำของบริษัท Zhaojin Mining Industy ในมณฑลกานซู (Gansu) ผลิตทองคำได้ ประมาณ 207,000 ounces of gold

    *****************
    รายงานจาก มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ และ สหภาพนักศึกษาไทใหญ่ เกี่ยวกับเหมืองแร่ทองคำขยายวงกว้างทำให้เกิดดินโคลนถล่มท่วมชุมชนทางตะวันออกท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ระบุว่าบริษัทเหมืองแร่ได้เข้ามาในพื้นที่เมื่อปี 2550 ที่บริเวณต้นน้ำแม่น้ำคำ ตอนใต้ของบ้านนาโฮหลงในตำบลเมืองเลน ในปัจจุบันเหมืองทองคำแบบเปิดได้ขยายตัวไปกว่า 10 กิโลเมตรตลอดทั่วเทือกเขาดอยค้า ตามริมฝั่งน้ำด้านตะวันตกของแม่น้ำโขง การปล่อยน้ำจาจากการทำเหมืองแร่ทองแร่ทองคำที่ขาดการควบคุม รวมทั้งน้ำที่ไหลมาจากากอำบน้ำที่เจือด้วยสารไชยาไนด์ทำให้ลำน้ำน้ำอุดตัน และมักทำให้เกิดการกัดเซาะอย่างรุนแรงที่ริมฝั่งน้ำในช่วงฤดูฝน
    การขยายตัวของเหมืองทองคำในเมืองเลน ยังทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้นทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม และในปัจจุบัน มีบริษัท 12 แห่งที่เชื่อมโยงกับนายทหารพม่าระดับสูงได้รับประทานบัตรอายุ 11 ปี เพื่อการทำเหมืองแร่ทองคำ
    ในบรรดาประทานบัตร มีการให้ประทานบัตร 13 ฉบับแก่ (8 บริษัท) เมื่อกลางปี 2563 และอีก 7 ฉบับให้แก่ (5 บริษัท) ในปี 2564 ภายหลังการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ประทานบัตรแต่ละฉบับครอบคลุมพื้นที่ 50 ไร่บริษัทส่วนใหญ่ที่ได้รับประทานบัตรจด ทะเบียนในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ยกเว้นเพียงเมย์ฟลาวเวอร์ไมนิ่ง เอนเตอร์ไพรส์(Maylower Mining Enterprises) ที่จัดตั้งขึ้นโดยนายจ่อวิน ซึ่งเป็นพันธมิตรกับกองทัพพม่า และตั้งอยู่ที่เมืองย่างกุ้ง
    การขุดทองที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในรัฐกะฉิ่น ประเทศเมียนมา ซึ่งเกิดขึ้นโดยขาดการควบคุมและก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนท้องถิ่น
    *****************
    EarthRights.org รายงานว่า นับตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2021 การขุดทองในรัฐกะฉิ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ควบคุมโดยกองทัพกะฉิ่น (Kachin Independence Army: KIA) และกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ เช่น กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) การขุดทองนี้ส่วนใหญ่เป็นการขุดแบบไม่มีการควบคุม (unregulated) และใช้สารเคมี เช่น ปรอทและไซยาไนด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดมลพิษในแม่น้ำและแหล่งน้ำ เช่น แม่น้ำอิรวดี (Irrawaddy River) และแม่น้ำชินดวิน (Chindwin River) ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเกิดจากการใช้สารเคมีในการสกัดทองทำให้ดินและน้ำปนเปื้อน ส่งผลกระทบต่อการเกษตรและสุขภาพของประชาชน นอกจากนั้นคือการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อขุดทองทำให้เกิดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและเพิ่มความเสี่ยงต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น ดินถล่ม
    ผลกระทบต่อชุมชน ชาวบ้านในพื้นที่ เช่น ในเมืองตานาย (Tanai) และเมืองชิปวี (Chipwi) เผชิญกับการสูญเสียที่ดินทำกินและแหล่งน้ำสะอาดการขุดทองดึงดูดแรงงานจากพื้นที่อื่น ทำให้เกิดความตึงเครียดในชุมชนและเพิ่มความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคเด็กและเยาวชนในพื้นที่ถูกดึงเข้าสู่อุตสาหกรรมการขุดทอง ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัยและการละเมิดสิทธิมนุษยชน
    และพื้นที่นี้ เหมืองทองในเมืองตานายถูกโจมตีทางอากาศโดยกองทัพเมียนมาในเดือนมกราคม 2025 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย การโจมตีนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามของกองทัพในการขัดขวางแหล่งรายได้ของ KIA
    *****************
    ดร.สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการในพื้นที่เชียงราย พื้นที่ประสบภัยพิบัติทางแม่น้ำ จากประเทศเพื่อนบ้านที่ทำเหมืองทองคำ และแร่ธาตุเผยแพรข้อเสนอในเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า ปัญหาสารโลหะหนักปนเปื้อนในน้ำกกและสายซึ่งเป็นปัญหามลพิษข้ามพรมแดนแล้ว เป็นสถานการณ์ความซับซ้อนของปัญหามลพิษข้ามแดนที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาจากรัฐส่วนกลางที่จะแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ได้คล้ายกับปัญหาฝุ่นควันข้ามแดน
    พร้อมกับอ้างอิงงานศึกษาว่าบทบาทของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาสารโลหะหนักในแม่น้ำระหว่างประเทศดังเช่นแม่น้ำโขง Ding (2019) ที่วิพากษ์แนวคิด traditional state-centric governance เกี่ยวกับปัญหาสารโลหะหนักที่เกิดขึ้นในกลุ่มประเทศแม่น้ำโขงตอนล่าง อันประกอบด้วย ไทย ลาว เวียนดนาม และกัมพูชา การแก้ไขภายใต้อาเซียนและ MRC (Mekong River Commission มีข้อจำกัดในแง่ที่ 1) รายงานมิได้ครอบคลุมรายละเอียดของปัญหามลพิษ 2) รายงานมิได้สนับสนุนการสื่อสารกันระหว่างองคกรที่แตกต่างกัน เช่น สถาบันการวิจัย 3) ขาดกลไกเชิงกฎหมายระดับภูมิภาคและการบังคับใช้กฎหมายในควบคุมมลพิษในน้ำข้ามพรมแดน 4) รายงานไม่ได้รับความสนใจจากสาธารณชน
    สรุปคือกลกลไกระหว่างประเทศแบบที่ สทนช.เสนอให้ MRC ทำ น่าจะไม่สามารถแก้ไขปัญหามลพิษข้ามแดนในบริบทอาเซียนได้ เมื่อพิจารณาความซับซ้อนของปัญหาในต้นน้ำกกและสาย จำเป็นต้องแกะปมตั้งแต่ บริษัทจีน กองกำลังติดอาวุธ ชาติพันธ์ และประเทศจีน ชุมชนในตลอดลำน้ำกกและสาย สถาบันการศึกษา ภาคธุรกิจ ปละภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาด้วย
    เสียงคำรามของเครื่องบินพร้อมลูกระเบิดภารกิจ Airstrikes ก่อสงครามแย่งชิงขุมทรัพย์ทองคำสีเลือด และคนลุ่มน้ำโขงกำลังเผชิญภัยวิกฤติจากสารพิษ ที่เจือปนในแม่น้ำ รวมถึงการสลายความเป็นมนุษย์ในดินแดนขุมเมืองแห่งลุ่มแม่น้ำแห่งชีวิตสายนี้
    *****************
    อ้างอิง :
    • สำนักข่าว Shan Herald Agency for News, Burma News International, Human Rights Watch, The Irrawaddy Radio Free Asia Al Jazeera, Amnesty International, Justice For Myanmar, และ Wikipedia
    • World Gold Council https://www.gold.org/
    • EarthRights International
    Airstrikes สงคราม ทองคำ และคนลุ่มน้ำโขง (ตอนที่ 4) ***************** เสียงเครื่องบินกระหึ่มสัญชาติรัสเซีย และจีน ทั้งรุ่น MiG-29 -Yak-130 - K-8, F-7 และเฮลิคอปเตอร์โจมตี Mi-35 Mi-17 เทคออฟขึ้นน่านฟ้าเมียนมา สร้างความหวาดวิตกกับพลเรือนในพื้นที่เสี่ยง ความถี่มิได้เป็นปกป้องอธิปไตยเหนือน่านฟ้า บางครั้งก็ถลำรุกน่านฟ้าของไทย และถูกต้อนกลับ เสียงอากาศยานของเมียนมาทำให้ประชาชน พลเรือนระส่ำระสาย บาดเจ็บล้มตายกัน ในพื้นที่พลเรือนและกลุ่มต่อต้าน ปี 2023-24 กระทรวงกลาโหมใช้งบประมาณเพื่อภารกิจ Aistrike กว่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ อาวุธ ส่วนใหญ่มาจากรัสเซียและจีน กองทัพเผด็จการเมียนมาได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศประมาณ 30 ครั้งในรัฐฉาน รัฐกะเหรี่ยงนี และรัฐกะฉิ่นในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา โดยทิ้งระเบิดเกือบ 100 ลูก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20 ราย ตามข้อมูลที่ Shan Herald Agency for News (SHAN) ได้รับ ระหว่างปลายปีที่ผ่าน ถึงวันที่ 30 มกราคม 2025 การโจมตีทางอากาศเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่พื้นที่พลเรือนเป็นหลัก สร้างความเสียหายและการสูญเสียอย่างหนัก โดยเฉพาะเขตเมืองนองคิโอ รัฐฉาน ซึ่งระเบิดตกใส่ร้านน้ำชา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย มีการประเมินว่านับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อเกือบสี่ปีที่แล้ว โดยบันทึกการโจมตีทางอากาศทั้งหมด 1,767 ครั้ง ซึ่งน่าตกใจว่าร้อยละ 47 ของการโจมตีเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่พื้นที่พลเรือน ทำให้วิกฤตด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ขัดแย้งรุนแรงขึ้น พื้นที่ ที่เป็นเป้าหมายคือพื้นที่ที่มีผลประโยชน์เหมืองแร่ และแร่ธาตุสูง โดยเฉพาะใน รัฐฉาน (Shan State), รัฐกะเหรี่ยงนี-คะยา (Karenni/Kayah State), รัฐกะฉิ่น (Kachin State), รัฐระแหง (Rakhine State) และพื้นที่อื่นๆ เช่น ภูมิภาคสกาย (Sagaing Region) เป็นต้น ***************** USGS (United States Geological Survey) ได้ ประมาณการไว้ว่า ยังคงเหลือทองคำอยู่ใต้ดินที่ยังไม่ได้ผลิตออกมาอีกประมาณ 50,000 ตัน คาดกันว่าปริมาณทองคำที่ขุดขึ้นมา และมีการใช้ประโยชน์กันแล้วกว่า 190,000 ตัน และโดยเฉลี่ยในปัจจุบันมีการผลิตออกจากเหมืองประมาณปีละ 2,500 ถึง 3,000 ตัน มีการทำเหมืองทองคำทั่วโลกอยู่ใน 82 ประเทศ สแกนใต้ดินแอฟริกาใต้ มีทรัพยากรแร่ทองคำมากที่สุดในโลก และเป็นผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก จนถึงปัจจุบันราว 31,000 ตัน รองลงมา คือ รัสเซีย ประมาณ 7,000 ตัน และ จีนเป็นอันดับ 3 ที่ผลิตประมาณ 6,328 ตัน ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย แคนาดา และ เปรู ทว่าในปี 2564 จีนขึ้นแป้นครองแชมป์ประเทศที่ผลิตทองคำจากเหมืองทองคำในประเทศมากที่สุด คิดเป็น 11% ของการผลิต ทั่วโลก ซึ่งจากฐานข้อมูล Global Data’s mines and projects ที่ได้ติดตามการพัฒนาและปฏิบัติการของเหมืองแร่ และโครงการทั่วโลก โดยเก็บข้อมูลจากบริษัทยักษ์ใหญ่กว่า 4,000 บริษัท ได้สรุป 5 อันดับ เหมืองทองคำในจีนที่ผลิตทองคำได้มากที่สุดในปี 2563 ดังนี้ 1.Shaxi Copper Mine เป็นเหมืองใต้ดินในมณฑลอานฮุย (Anhui) ของกลุ่มบริษัท Togling Nonferrous Metal Group ซึ่งผลิตทองคำได้ประมาณ 730,000 ounces of gold ในปี 2563 2.Jiaojia Gold Mine ของกลุ่มบริษัท Shandong Gold Group ในมณฑลซานตง (Shandong) ผลิตทองคำได้ประมาณ 230,000 ounces of gold ในปี 2563 และกำลังจะปิดตัวลงในปี 2566 3.Dayingezhuang Gold Mine เป็นเหมืองทองคำในมณฑลซานตงเช่นกัน อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท Zhaojin Mining Industry และผลิตทองคำประมาณ 228,000 ounces of gold ในปี 2563 4.Sanshandao Gold Mine เป็นเหมืองใต้ดินของกลุ่มบริษัท Shandong Gold Group ในมณฑลซานตง ผลิตทองคำได้ ประมาณ 218,000 ounces of gold ในปี 2563 และจะผลิตตามแผนงานไปจนถึงปี 2571 5.Zaozigou Gold Mine เป็นเหมืองทองคำของบริษัท Zhaojin Mining Industy ในมณฑลกานซู (Gansu) ผลิตทองคำได้ ประมาณ 207,000 ounces of gold ***************** รายงานจาก มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ และ สหภาพนักศึกษาไทใหญ่ เกี่ยวกับเหมืองแร่ทองคำขยายวงกว้างทำให้เกิดดินโคลนถล่มท่วมชุมชนทางตะวันออกท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน ระบุว่าบริษัทเหมืองแร่ได้เข้ามาในพื้นที่เมื่อปี 2550 ที่บริเวณต้นน้ำแม่น้ำคำ ตอนใต้ของบ้านนาโฮหลงในตำบลเมืองเลน ในปัจจุบันเหมืองทองคำแบบเปิดได้ขยายตัวไปกว่า 10 กิโลเมตรตลอดทั่วเทือกเขาดอยค้า ตามริมฝั่งน้ำด้านตะวันตกของแม่น้ำโขง การปล่อยน้ำจาจากการทำเหมืองแร่ทองแร่ทองคำที่ขาดการควบคุม รวมทั้งน้ำที่ไหลมาจากากอำบน้ำที่เจือด้วยสารไชยาไนด์ทำให้ลำน้ำน้ำอุดตัน และมักทำให้เกิดการกัดเซาะอย่างรุนแรงที่ริมฝั่งน้ำในช่วงฤดูฝน การขยายตัวของเหมืองทองคำในเมืองเลน ยังทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้นทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม และในปัจจุบัน มีบริษัท 12 แห่งที่เชื่อมโยงกับนายทหารพม่าระดับสูงได้รับประทานบัตรอายุ 11 ปี เพื่อการทำเหมืองแร่ทองคำ ในบรรดาประทานบัตร มีการให้ประทานบัตร 13 ฉบับแก่ (8 บริษัท) เมื่อกลางปี 2563 และอีก 7 ฉบับให้แก่ (5 บริษัท) ในปี 2564 ภายหลังการทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ประทานบัตรแต่ละฉบับครอบคลุมพื้นที่ 50 ไร่บริษัทส่วนใหญ่ที่ได้รับประทานบัตรจด ทะเบียนในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ยกเว้นเพียงเมย์ฟลาวเวอร์ไมนิ่ง เอนเตอร์ไพรส์(Maylower Mining Enterprises) ที่จัดตั้งขึ้นโดยนายจ่อวิน ซึ่งเป็นพันธมิตรกับกองทัพพม่า และตั้งอยู่ที่เมืองย่างกุ้ง การขุดทองที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในรัฐกะฉิ่น ประเทศเมียนมา ซึ่งเกิดขึ้นโดยขาดการควบคุมและก่อให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนท้องถิ่น ***************** EarthRights.org รายงานว่า นับตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2021 การขุดทองในรัฐกะฉิ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ควบคุมโดยกองทัพกะฉิ่น (Kachin Independence Army: KIA) และกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ เช่น กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) การขุดทองนี้ส่วนใหญ่เป็นการขุดแบบไม่มีการควบคุม (unregulated) และใช้สารเคมี เช่น ปรอทและไซยาไนด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดมลพิษในแม่น้ำและแหล่งน้ำ เช่น แม่น้ำอิรวดี (Irrawaddy River) และแม่น้ำชินดวิน (Chindwin River) ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของชุมชนท้องถิ่น ซึ่งเกิดจากการใช้สารเคมีในการสกัดทองทำให้ดินและน้ำปนเปื้อน ส่งผลกระทบต่อการเกษตรและสุขภาพของประชาชน นอกจากนั้นคือการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อขุดทองทำให้เกิดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและเพิ่มความเสี่ยงต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น ดินถล่ม ผลกระทบต่อชุมชน ชาวบ้านในพื้นที่ เช่น ในเมืองตานาย (Tanai) และเมืองชิปวี (Chipwi) เผชิญกับการสูญเสียที่ดินทำกินและแหล่งน้ำสะอาดการขุดทองดึงดูดแรงงานจากพื้นที่อื่น ทำให้เกิดความตึงเครียดในชุมชนและเพิ่มความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคเด็กและเยาวชนในพื้นที่ถูกดึงเข้าสู่อุตสาหกรรมการขุดทอง ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับสภาพการทำงานที่ไม่ปลอดภัยและการละเมิดสิทธิมนุษยชน และพื้นที่นี้ เหมืองทองในเมืองตานายถูกโจมตีทางอากาศโดยกองทัพเมียนมาในเดือนมกราคม 2025 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย การโจมตีนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามของกองทัพในการขัดขวางแหล่งรายได้ของ KIA ***************** ดร.สืบสกุล กิจนุกร นักวิชาการในพื้นที่เชียงราย พื้นที่ประสบภัยพิบัติทางแม่น้ำ จากประเทศเพื่อนบ้านที่ทำเหมืองทองคำ และแร่ธาตุเผยแพรข้อเสนอในเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า ปัญหาสารโลหะหนักปนเปื้อนในน้ำกกและสายซึ่งเป็นปัญหามลพิษข้ามพรมแดนแล้ว เป็นสถานการณ์ความซับซ้อนของปัญหามลพิษข้ามแดนที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาจากรัฐส่วนกลางที่จะแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ได้คล้ายกับปัญหาฝุ่นควันข้ามแดน พร้อมกับอ้างอิงงานศึกษาว่าบทบาทของอาเซียนในการแก้ไขปัญหาสารโลหะหนักในแม่น้ำระหว่างประเทศดังเช่นแม่น้ำโขง Ding (2019) ที่วิพากษ์แนวคิด traditional state-centric governance เกี่ยวกับปัญหาสารโลหะหนักที่เกิดขึ้นในกลุ่มประเทศแม่น้ำโขงตอนล่าง อันประกอบด้วย ไทย ลาว เวียนดนาม และกัมพูชา การแก้ไขภายใต้อาเซียนและ MRC (Mekong River Commission มีข้อจำกัดในแง่ที่ 1) รายงานมิได้ครอบคลุมรายละเอียดของปัญหามลพิษ 2) รายงานมิได้สนับสนุนการสื่อสารกันระหว่างองคกรที่แตกต่างกัน เช่น สถาบันการวิจัย 3) ขาดกลไกเชิงกฎหมายระดับภูมิภาคและการบังคับใช้กฎหมายในควบคุมมลพิษในน้ำข้ามพรมแดน 4) รายงานไม่ได้รับความสนใจจากสาธารณชน สรุปคือกลกลไกระหว่างประเทศแบบที่ สทนช.เสนอให้ MRC ทำ น่าจะไม่สามารถแก้ไขปัญหามลพิษข้ามแดนในบริบทอาเซียนได้ เมื่อพิจารณาความซับซ้อนของปัญหาในต้นน้ำกกและสาย จำเป็นต้องแกะปมตั้งแต่ บริษัทจีน กองกำลังติดอาวุธ ชาติพันธ์ และประเทศจีน ชุมชนในตลอดลำน้ำกกและสาย สถาบันการศึกษา ภาคธุรกิจ ปละภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาด้วย เสียงคำรามของเครื่องบินพร้อมลูกระเบิดภารกิจ Airstrikes ก่อสงครามแย่งชิงขุมทรัพย์ทองคำสีเลือด และคนลุ่มน้ำโขงกำลังเผชิญภัยวิกฤติจากสารพิษ ที่เจือปนในแม่น้ำ รวมถึงการสลายความเป็นมนุษย์ในดินแดนขุมเมืองแห่งลุ่มแม่น้ำแห่งชีวิตสายนี้ ***************** อ้างอิง : • สำนักข่าว Shan Herald Agency for News, Burma News International, Human Rights Watch, The Irrawaddy Radio Free Asia Al Jazeera, Amnesty International, Justice For Myanmar, และ Wikipedia • World Gold Council https://www.gold.org/ • EarthRights International
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • ปมร้อนข่าวลึก : ภายใต้ซากตึก สตง. ผู้บริหารแถ ลอยตัว จับตาหาแพะรับบาป
    .
    ชั่วโมงนี้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เป็นหน่วยงานที่กำลังเผชิญกับวิกฤติศรัทธาและความเชื่อมั่นของประชาชนอย่างรุนแรง ภายหลังเกิดเหตุการณ์อาคารสำนักงานแห่งใหม่ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างถล่มเมื่อวันที่28 มีนาคมที่ผ่านมา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000036112

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ปมร้อนข่าวลึก : ภายใต้ซากตึก สตง. ผู้บริหารแถ ลอยตัว จับตาหาแพะรับบาป . ชั่วโมงนี้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เป็นหน่วยงานที่กำลังเผชิญกับวิกฤติศรัทธาและความเชื่อมั่นของประชาชนอย่างรุนแรง ภายหลังเกิดเหตุการณ์อาคารสำนักงานแห่งใหม่ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างถล่มเมื่อวันที่28 มีนาคมที่ผ่านมา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000036112 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 517 Views 0 Reviews
  • Notion ได้เปิดตัว Notion Mail ซึ่งเป็นแอปอีเมลที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ผู้ใช้จัดการอีเมลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ Notion Mail ใช้ AI เพื่อช่วยจัดการอีเมล
    - ระบบสามารถ จัดเรียง, ติดป้ายกำกับ และกรองอีเมล ตามความสำคัญของผู้ใช้
    - ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้ AI จัดลำดับความสำคัญของอีเมล เช่น อีเมลเกี่ยวกับการจ้างงานสำหรับฝ่ายสรรหาบุคลากร

    ✅ อินเทอร์เฟซของ Notion Mail สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการของผู้ใช้
    - ผู้ใช้สามารถ สร้างมุมมองแบบกำหนดเอง เพื่อให้โฟกัสกับอีเมลที่สำคัญ
    - หมวดหมู่เช่น โปรโมชั่น, ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า และการเดินทาง ช่วยให้การจัดการอีเมลเป็นระเบียบมากขึ้น

    ✅ Notion Mail มีฟีเจอร์ Snippets เพื่อช่วยให้การเขียนอีเมลเร็วขึ้น
    - ผู้ใช้สามารถ บันทึกเทมเพลตอีเมล และให้ AI ช่วยเขียนข้อความเปิด, คำตอบ และอื่นๆ
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยลดเวลาที่ใช้ในการตอบอีเมลที่มีเนื้อหาคล้ายกัน

    ✅ Notion Mail เชื่อมต่อกับ Notion Calendar เพื่อช่วยจัดตารางเวลาการประชุม
    - ผู้ส่งสามารถ แชร์ช่วงเวลาที่ว่าง เพื่อให้การนัดหมายเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

    ✅ Notion Mail เปิดให้ใช้งานฟรี
    - รวมอยู่ใน แพ็กเกจฟรีของ Notion ซึ่งมี Notion Calendar และการเชื่อมต่อกับ Slack และ GitHub
    - รองรับ Gmail

    https://www.techradar.com/pro/notion-launches-ai-powered-email-app-to-give-busy-users-a-productivity-boost
    Notion ได้เปิดตัว Notion Mail ซึ่งเป็นแอปอีเมลที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ผู้ใช้จัดการอีเมลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ Notion Mail ใช้ AI เพื่อช่วยจัดการอีเมล - ระบบสามารถ จัดเรียง, ติดป้ายกำกับ และกรองอีเมล ตามความสำคัญของผู้ใช้ - ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้ AI จัดลำดับความสำคัญของอีเมล เช่น อีเมลเกี่ยวกับการจ้างงานสำหรับฝ่ายสรรหาบุคลากร ✅ อินเทอร์เฟซของ Notion Mail สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการของผู้ใช้ - ผู้ใช้สามารถ สร้างมุมมองแบบกำหนดเอง เพื่อให้โฟกัสกับอีเมลที่สำคัญ - หมวดหมู่เช่น โปรโมชั่น, ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า และการเดินทาง ช่วยให้การจัดการอีเมลเป็นระเบียบมากขึ้น ✅ Notion Mail มีฟีเจอร์ Snippets เพื่อช่วยให้การเขียนอีเมลเร็วขึ้น - ผู้ใช้สามารถ บันทึกเทมเพลตอีเมล และให้ AI ช่วยเขียนข้อความเปิด, คำตอบ และอื่นๆ - ฟีเจอร์นี้ช่วยลดเวลาที่ใช้ในการตอบอีเมลที่มีเนื้อหาคล้ายกัน ✅ Notion Mail เชื่อมต่อกับ Notion Calendar เพื่อช่วยจัดตารางเวลาการประชุม - ผู้ส่งสามารถ แชร์ช่วงเวลาที่ว่าง เพื่อให้การนัดหมายเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ✅ Notion Mail เปิดให้ใช้งานฟรี - รวมอยู่ใน แพ็กเกจฟรีของ Notion ซึ่งมี Notion Calendar และการเชื่อมต่อกับ Slack และ GitHub - รองรับ Gmail https://www.techradar.com/pro/notion-launches-ai-powered-email-app-to-give-busy-users-a-productivity-boost
    0 Comments 0 Shares 51 Views 0 Reviews
  • HighPoint Technologies ได้เปิดตัว PCIe Gen 5 และ Gen 4 x16 adapters ที่ใช้ MCIO (Mini Cool Edge IO) และ SlimSAS (Serial Attached SCSI) connectors เพื่อเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อของ GPU และ NVMe SSD ในระบบที่มีข้อจำกัดด้าน PCIe lanes

    ✅ HighPoint เปิดตัว PCIe Gen 5 และ Gen 4 x16 adapters เพื่อเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อ
    - อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยให้สามารถ แบ่ง PCIe x16 slot ออกเป็นหลายช่องทางความเร็วสูง
    - รองรับ MCIO x4 และ SlimSAS x4 channels ซึ่งช่วยให้สามารถเชื่อมต่อ NVMe SSDs และ GPUs ได้หลายตัว

    ✅ Rocket 1628A และ Rocket 1528D เป็นรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานระดับสูง
    - Rocket 1628A รองรับ PCIe Gen 5 x16 และเหมาะสำหรับ AI workloads และระบบที่ใช้ GPU หนัก
    - Rocket 1528D รองรับ PCIe Gen 4 x16 และเหมาะสำหรับ ระบบที่ยังไม่ได้อัปเกรดเป็น Gen 5

    ✅ MCIO connectors เป็นมาตรฐานใหม่ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อ PCIe มีความหนาแน่นสูงขึ้น
    - ออกแบบมาเพื่อ รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลและระบบเดสก์ท็อปประสิทธิภาพสูง
    - ลดการสูญเสียสัญญาณและเพิ่มความเสถียรในการเชื่อมต่อ

    ✅ HighPoint เคยเปิดตัว SSD7540 RAID card ที่รองรับ NVMe SSDs ถึง 8 ตัว
    - อุปกรณ์นี้สามารถ ส่งข้อมูลได้เร็วถึง 56 GB/s
    - Rocket 1628A และ 1528D สืบทอดแนวคิดนี้โดยเพิ่มความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อ

    ✅ การเปิดตัวและแนวโน้มของตลาด
    - HighPoint จะวางจำหน่ายอุปกรณ์เหล่านี้ผ่าน ช่องทางจัดจำหน่ายของบริษัท
    - เมื่อ PCIe Gen 5 motherboard และ processors เริ่มแพร่หลาย อุปกรณ์เหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/new-pcie-adapters-turn-your-x16-slot-into-a-clown-car-of-gpu-and-ssd-connectivity
    HighPoint Technologies ได้เปิดตัว PCIe Gen 5 และ Gen 4 x16 adapters ที่ใช้ MCIO (Mini Cool Edge IO) และ SlimSAS (Serial Attached SCSI) connectors เพื่อเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อของ GPU และ NVMe SSD ในระบบที่มีข้อจำกัดด้าน PCIe lanes ✅ HighPoint เปิดตัว PCIe Gen 5 และ Gen 4 x16 adapters เพื่อเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อ - อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยให้สามารถ แบ่ง PCIe x16 slot ออกเป็นหลายช่องทางความเร็วสูง - รองรับ MCIO x4 และ SlimSAS x4 channels ซึ่งช่วยให้สามารถเชื่อมต่อ NVMe SSDs และ GPUs ได้หลายตัว ✅ Rocket 1628A และ Rocket 1528D เป็นรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานระดับสูง - Rocket 1628A รองรับ PCIe Gen 5 x16 และเหมาะสำหรับ AI workloads และระบบที่ใช้ GPU หนัก - Rocket 1528D รองรับ PCIe Gen 4 x16 และเหมาะสำหรับ ระบบที่ยังไม่ได้อัปเกรดเป็น Gen 5 ✅ MCIO connectors เป็นมาตรฐานใหม่ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อ PCIe มีความหนาแน่นสูงขึ้น - ออกแบบมาเพื่อ รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลและระบบเดสก์ท็อปประสิทธิภาพสูง - ลดการสูญเสียสัญญาณและเพิ่มความเสถียรในการเชื่อมต่อ ✅ HighPoint เคยเปิดตัว SSD7540 RAID card ที่รองรับ NVMe SSDs ถึง 8 ตัว - อุปกรณ์นี้สามารถ ส่งข้อมูลได้เร็วถึง 56 GB/s - Rocket 1628A และ 1528D สืบทอดแนวคิดนี้โดยเพิ่มความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อ ✅ การเปิดตัวและแนวโน้มของตลาด - HighPoint จะวางจำหน่ายอุปกรณ์เหล่านี้ผ่าน ช่องทางจัดจำหน่ายของบริษัท - เมื่อ PCIe Gen 5 motherboard และ processors เริ่มแพร่หลาย อุปกรณ์เหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/new-pcie-adapters-turn-your-x16-slot-into-a-clown-car-of-gpu-and-ssd-connectivity
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    New PCIe adapters turn your x16 slot into a clown car of GPU and SSD connectivity
    High-bandwidth connectivity for enterprise and enthusiast platforms alike
    0 Comments 0 Shares 58 Views 0 Reviews
  • นักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีไอนด์โฮเวน (TU/e) ได้สร้างสถิติใหม่ในการส่งข้อมูลแบบไร้สายด้วย แสงอินฟราเรด โดยสามารถส่งข้อมูลได้เร็วถึง 5.7 เทราบิตต่อวินาที (Tb/s) ในระยะทาง 4.6 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นอัตราการส่งข้อมูลที่เร็วที่สุดสำหรับการสื่อสารไร้สายในสภาพแวดล้อมเมือง

    ✅ นักวิจัยจาก TU/e สามารถส่งข้อมูลไร้สายด้วยความเร็ว 5.7 Tb/s
    - ใช้ แสงอินฟราเรดที่มองไม่เห็น เพื่อส่งข้อมูลระหว่าง มหาวิทยาลัย TU/e และ High Tech Campus (HTC) ในไอนด์โฮเวน
    - ถือเป็นอัตราการส่งข้อมูลที่เร็วที่สุดสำหรับการสื่อสารไร้สายในสภาพแวดล้อมเมือง

    ✅ เทคโนโลยีนี้ใช้ระบบ Free-Space Optical (FSO) Communication
    - ใช้ เสาอากาศออปติคอลขั้นสูง ที่พัฒนาโดย Aircision ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมในท้องถิ่น
    - ระบบนี้ช่วยให้สามารถส่งข้อมูลได้โดยไม่ต้องใช้ สายเคเบิลหรือคลื่นวิทยุ

    ✅ ข้อดีของการส่งข้อมูลด้วยแสงอินฟราเรด
    - ความเร็วสูงมาก เทียบเท่ากับการส่งข้อมูลผ่านไฟเบอร์ออปติก
    - ไม่มีการรบกวนจากสัญญาณวิทยุ ทำให้สามารถใช้ร่วมกับเครือข่ายไร้สายอื่นๆ ได้

    ✅ ข้อจำกัดของเทคโนโลยีนี้
    - ต้องมี เส้นทางสายตาที่ชัดเจน ระหว่างจุดส่งและรับข้อมูล
    - มีความไวต่อ สภาพอากาศ เช่น หมอกหรือฝน ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพการส่งข้อมูล

    ✅ แนวทางการพัฒนาในอนาคต
    - นักวิจัยกำลังพัฒนา ระบบที่สามารถทำงานได้ในทุกสภาพอากาศ
    - Aircision กำลังสำรวจการใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อ เชื่อมต่อเสาสัญญาณ 5G และ 6G ในพื้นที่ที่ติดตั้งไฟเบอร์ออปติกได้ยาก

    https://www.tomshardware.com/networking/eindhoven-researchers-achieve-5-7-tb-s-data-transfer-speeds-using-highly-focused-infrared-light
    นักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีไอนด์โฮเวน (TU/e) ได้สร้างสถิติใหม่ในการส่งข้อมูลแบบไร้สายด้วย แสงอินฟราเรด โดยสามารถส่งข้อมูลได้เร็วถึง 5.7 เทราบิตต่อวินาที (Tb/s) ในระยะทาง 4.6 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นอัตราการส่งข้อมูลที่เร็วที่สุดสำหรับการสื่อสารไร้สายในสภาพแวดล้อมเมือง ✅ นักวิจัยจาก TU/e สามารถส่งข้อมูลไร้สายด้วยความเร็ว 5.7 Tb/s - ใช้ แสงอินฟราเรดที่มองไม่เห็น เพื่อส่งข้อมูลระหว่าง มหาวิทยาลัย TU/e และ High Tech Campus (HTC) ในไอนด์โฮเวน - ถือเป็นอัตราการส่งข้อมูลที่เร็วที่สุดสำหรับการสื่อสารไร้สายในสภาพแวดล้อมเมือง ✅ เทคโนโลยีนี้ใช้ระบบ Free-Space Optical (FSO) Communication - ใช้ เสาอากาศออปติคอลขั้นสูง ที่พัฒนาโดย Aircision ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมในท้องถิ่น - ระบบนี้ช่วยให้สามารถส่งข้อมูลได้โดยไม่ต้องใช้ สายเคเบิลหรือคลื่นวิทยุ ✅ ข้อดีของการส่งข้อมูลด้วยแสงอินฟราเรด - ความเร็วสูงมาก เทียบเท่ากับการส่งข้อมูลผ่านไฟเบอร์ออปติก - ไม่มีการรบกวนจากสัญญาณวิทยุ ทำให้สามารถใช้ร่วมกับเครือข่ายไร้สายอื่นๆ ได้ ✅ ข้อจำกัดของเทคโนโลยีนี้ - ต้องมี เส้นทางสายตาที่ชัดเจน ระหว่างจุดส่งและรับข้อมูล - มีความไวต่อ สภาพอากาศ เช่น หมอกหรือฝน ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพการส่งข้อมูล ✅ แนวทางการพัฒนาในอนาคต - นักวิจัยกำลังพัฒนา ระบบที่สามารถทำงานได้ในทุกสภาพอากาศ - Aircision กำลังสำรวจการใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อ เชื่อมต่อเสาสัญญาณ 5G และ 6G ในพื้นที่ที่ติดตั้งไฟเบอร์ออปติกได้ยาก https://www.tomshardware.com/networking/eindhoven-researchers-achieve-5-7-tb-s-data-transfer-speeds-using-highly-focused-infrared-light
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • กลุ่ม APT29 ซึ่งเชื่อมโยงกับหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย (SVR) ได้เปิดตัว มัลแวร์ตัวใหม่ GRAPELOADER เพื่อใช้ในการโจมตีทางไซเบอร์ต่อ นักการทูตยุโรป โดยใช้เทคนิค ฟิชชิงผ่านคำเชิญงานชิมไวน์

    ✅ APT29 ใช้ GRAPELOADER เพื่อเจาะระบบของนักการทูตยุโรป
    - กลุ่มแฮกเกอร์ปลอมตัวเป็น กระทรวงการต่างประเทศยุโรป และส่งคำเชิญงานชิมไวน์
    - เมื่อเป้าหมายคลิกลิงก์ จะถูกนำไปสู่การติดตั้ง GRAPELOADER ซึ่งเป็นมัลแวร์ใหม่

    ✅ GRAPELOADER ใช้เทคนิค DLL side-loading เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ
    - มัลแวร์ถูกซ่อนอยู่ในไฟล์ wine.zip ซึ่งมีไฟล์ wine.exe และ DLL ที่ถูกดัดแปลง
    - เมื่อถูกโหลดเข้าสู่ระบบ GRAPELOADER จะ ตั้งค่าความคงอยู่และส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ควบคุม

    ✅ APT29 เคยใช้มัลแวร์ WINELOADER ในการโจมตีมาก่อน
    - WINELOADER ถูกใช้ในปี 2024 เพื่อโจมตี พรรคการเมืองเยอรมัน
    - ในการโจมตีครั้งนี้ WINELOADER อาจถูกใช้เป็น payload ขั้นสุดท้าย

    ✅ เทคนิคการหลบเลี่ยงการตรวจจับของ GRAPELOADER
    - ใช้ การเข้ารหัส HTTPS เพื่อสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุม
    - ใช้ เทคนิคป้องกันการวิเคราะห์ เพื่อทำให้การตรวจสอบโค้ดยากขึ้น

    ✅ Check Point เผยแพร่ Indicators of Compromise (IoC) เพื่อช่วยป้องกันการโจมตี
    - รายงานประกอบด้วย ชื่อไฟล์, ค่าแฮช และ URL ของเซิร์ฟเวอร์ควบคุม
    - องค์กรสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อ สร้างระบบตรวจจับและป้องกันภัยคุกคาม

    https://www.csoonline.com/article/3964203/russia-linked-apt29-targets-european-diplomats-with-new-malware.html
    กลุ่ม APT29 ซึ่งเชื่อมโยงกับหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย (SVR) ได้เปิดตัว มัลแวร์ตัวใหม่ GRAPELOADER เพื่อใช้ในการโจมตีทางไซเบอร์ต่อ นักการทูตยุโรป โดยใช้เทคนิค ฟิชชิงผ่านคำเชิญงานชิมไวน์ ✅ APT29 ใช้ GRAPELOADER เพื่อเจาะระบบของนักการทูตยุโรป - กลุ่มแฮกเกอร์ปลอมตัวเป็น กระทรวงการต่างประเทศยุโรป และส่งคำเชิญงานชิมไวน์ - เมื่อเป้าหมายคลิกลิงก์ จะถูกนำไปสู่การติดตั้ง GRAPELOADER ซึ่งเป็นมัลแวร์ใหม่ ✅ GRAPELOADER ใช้เทคนิค DLL side-loading เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ - มัลแวร์ถูกซ่อนอยู่ในไฟล์ wine.zip ซึ่งมีไฟล์ wine.exe และ DLL ที่ถูกดัดแปลง - เมื่อถูกโหลดเข้าสู่ระบบ GRAPELOADER จะ ตั้งค่าความคงอยู่และส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ควบคุม ✅ APT29 เคยใช้มัลแวร์ WINELOADER ในการโจมตีมาก่อน - WINELOADER ถูกใช้ในปี 2024 เพื่อโจมตี พรรคการเมืองเยอรมัน - ในการโจมตีครั้งนี้ WINELOADER อาจถูกใช้เป็น payload ขั้นสุดท้าย ✅ เทคนิคการหลบเลี่ยงการตรวจจับของ GRAPELOADER - ใช้ การเข้ารหัส HTTPS เพื่อสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุม - ใช้ เทคนิคป้องกันการวิเคราะห์ เพื่อทำให้การตรวจสอบโค้ดยากขึ้น ✅ Check Point เผยแพร่ Indicators of Compromise (IoC) เพื่อช่วยป้องกันการโจมตี - รายงานประกอบด้วย ชื่อไฟล์, ค่าแฮช และ URL ของเซิร์ฟเวอร์ควบคุม - องค์กรสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อ สร้างระบบตรวจจับและป้องกันภัยคุกคาม https://www.csoonline.com/article/3964203/russia-linked-apt29-targets-european-diplomats-with-new-malware.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Russia-linked APT29 targets European diplomats with new malware
    The phishing campaign impersonates ambassadors by sending out invitations to wine tastings.
    0 Comments 0 Shares 51 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้เผยแพร่ Cyber Signals Report ฉบับล่าสุด ซึ่งเน้นถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ใช้ AI ในการสร้างเนื้อหาหลอกลวง โดยอาชญากรไซเบอร์สามารถใช้ deepfakes, voice cloning และเว็บไซต์ปลอม

    ✅ AI ช่วยให้อาชญากรไซเบอร์สามารถสร้างเนื้อหาหลอกลวงได้ง่ายขึ้น
    - ใช้ deepfakes และ voice cloning เพื่อแอบอ้างเป็นบุคคลจริง
    - สร้าง เว็บไซต์ปลอมและรีวิวสินค้า AI-generated เพื่อหลอกลวงผู้บริโภค

    ✅ Microsoft เตือนเกี่ยวกับการฉ้อโกงที่ใช้ AI
    - อาชญากรสามารถใช้ AI เพื่อสแกนข้อมูลบริษัทและสร้างโปรไฟล์ปลอมของพนักงาน
    - ใช้ AI-generated storefronts เพื่อสร้างแบรนด์ปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ

    ✅ มาตรการป้องกันที่ Microsoft แนะนำ
    - เพิ่มการตรวจสอบตัวตนของนายจ้าง โดยใช้ Microsoft Entra ID และ multifactor authentication
    - ใช้ deepfake detection algorithms เพื่อตรวจจับการสัมภาษณ์งานที่ใช้ AI-generated faces
    - ตรวจสอบเว็บไซต์และโฆษณาที่ดูดีเกินจริง โดยใช้ Microsoft Edge typo protection

    ✅ การปรับปรุง Quick Assist เพื่อป้องกันการฉ้อโกง
    - Microsoft ได้เพิ่ม ข้อความเตือนเกี่ยวกับ tech support scams ใน Quick Assist
    - ระบบสามารถ บล็อกการเชื่อมต่อที่น่าสงสัยกว่า 4,415 ครั้งต่อวัน

    https://www.neowin.net/news/microsoft-shares-detailed-guidance-for-ai-scams-that-are-nearly-impossible-to-not-fall-for/
    Microsoft ได้เผยแพร่ Cyber Signals Report ฉบับล่าสุด ซึ่งเน้นถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ใช้ AI ในการสร้างเนื้อหาหลอกลวง โดยอาชญากรไซเบอร์สามารถใช้ deepfakes, voice cloning และเว็บไซต์ปลอม ✅ AI ช่วยให้อาชญากรไซเบอร์สามารถสร้างเนื้อหาหลอกลวงได้ง่ายขึ้น - ใช้ deepfakes และ voice cloning เพื่อแอบอ้างเป็นบุคคลจริง - สร้าง เว็บไซต์ปลอมและรีวิวสินค้า AI-generated เพื่อหลอกลวงผู้บริโภค ✅ Microsoft เตือนเกี่ยวกับการฉ้อโกงที่ใช้ AI - อาชญากรสามารถใช้ AI เพื่อสแกนข้อมูลบริษัทและสร้างโปรไฟล์ปลอมของพนักงาน - ใช้ AI-generated storefronts เพื่อสร้างแบรนด์ปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ ✅ มาตรการป้องกันที่ Microsoft แนะนำ - เพิ่มการตรวจสอบตัวตนของนายจ้าง โดยใช้ Microsoft Entra ID และ multifactor authentication - ใช้ deepfake detection algorithms เพื่อตรวจจับการสัมภาษณ์งานที่ใช้ AI-generated faces - ตรวจสอบเว็บไซต์และโฆษณาที่ดูดีเกินจริง โดยใช้ Microsoft Edge typo protection ✅ การปรับปรุง Quick Assist เพื่อป้องกันการฉ้อโกง - Microsoft ได้เพิ่ม ข้อความเตือนเกี่ยวกับ tech support scams ใน Quick Assist - ระบบสามารถ บล็อกการเชื่อมต่อที่น่าสงสัยกว่า 4,415 ครั้งต่อวัน https://www.neowin.net/news/microsoft-shares-detailed-guidance-for-ai-scams-that-are-nearly-impossible-to-not-fall-for/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft shares detailed guidance for AI scams that are nearly impossible to not fall for
    Microsoft has published a detailed guidance on ways to deal with modern AI-powered scams that are really difficult to detect.
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้เปิดตัว เครื่องมือใหม่ใน Copilot Studio ที่ชื่อว่า “Computer Use” ซึ่งช่วยให้ AI สามารถ โต้ตอบกับเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนเดสก์ท็อป ได้โดยตรง โดยไม่ต้องใช้ API

    ✅ Copilot Studio เพิ่มเครื่องมือ “Computer Use” สำหรับการโต้ตอบกับแอปและเว็บไซต์
    - AI สามารถ คลิกปุ่ม, เลือกเมนู และพิมพ์ข้อความ ในแอปพลิเคชันต่างๆ
    - ทำงานได้แม้ใน สภาพแวดล้อมที่ไม่มี API สำหรับการเชื่อมต่อ

    ✅ ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) เพื่อปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของ UI
    - สามารถ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของปุ่มและหน้าจอแบบเรียลไทม์
    - มี ระบบเหตุผลในตัว ที่ช่วยให้ AI สามารถแก้ไขปัญหาได้เอง

    ✅ ทำงานบนโครงสร้างพื้นฐานของ Microsoft เพื่อความปลอดภัย
    - ข้อมูลของลูกค้าจะถูกเก็บไว้ใน Microsoft Cloud และ ไม่ถูกนำไปใช้ฝึกโมเดล AI
    - องค์กรสามารถใช้เครื่องมือนี้โดยไม่ต้องจัดการเซิร์ฟเวอร์เอง

    ✅ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Robotic Process Automation (RPA)
    - ใช้งานง่าย: ผู้ใช้สามารถอธิบายสิ่งที่ต้องการเป็นภาษาธรรมชาติ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด
    - มีความฉลาด: AI สามารถมองเห็นหน้าจอและตัดสินใจได้แบบเรียลไทม์
    - มีประวัติการใช้งาน: ผู้ใช้สามารถดู ภาพหน้าจอและขั้นตอนการทำงานย้อนหลัง

    ✅ Microsoft อาจใช้เทคโนโลยีเดียวกับ OpenAI Operator
    - OpenAI เปิดตัว Operator ซึ่งใช้โมเดล Computer-Using Agent (CUA) ที่รวม GPT-4o กับ Reinforcement Learning
    - Microsoft อาจนำเทคโนโลยีเดียวกันมาใช้ใน “Computer Use”

    ℹ️ ผลกระทบต่อการทำงานของ AI ในองค์กร
    - AI ที่สามารถโต้ตอบกับแอปพลิเคชันโดยตรงอาจ ลดความจำเป็นในการพัฒนา API เฉพาะทาง

    ℹ️ ความท้าทายในการรักษาความปลอดภัย
    - แม้ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ใน Microsoft Cloud แต่ต้องติดตามว่า มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่

    ℹ️ แนวโน้มของ AI ที่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้เหมือนมนุษย์
    - หากเทคโนโลยีนี้พัฒนาไปไกล อาจนำไปสู่ AI ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ในระบบที่ซับซ้อนมากขึ้น

    https://www.neowin.net/news/microsofts-copilot-studio-gets-a-boost-with-computer-use-tool/
    Microsoft ได้เปิดตัว เครื่องมือใหม่ใน Copilot Studio ที่ชื่อว่า “Computer Use” ซึ่งช่วยให้ AI สามารถ โต้ตอบกับเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนเดสก์ท็อป ได้โดยตรง โดยไม่ต้องใช้ API ✅ Copilot Studio เพิ่มเครื่องมือ “Computer Use” สำหรับการโต้ตอบกับแอปและเว็บไซต์ - AI สามารถ คลิกปุ่ม, เลือกเมนู และพิมพ์ข้อความ ในแอปพลิเคชันต่างๆ - ทำงานได้แม้ใน สภาพแวดล้อมที่ไม่มี API สำหรับการเชื่อมต่อ ✅ ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) เพื่อปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของ UI - สามารถ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของปุ่มและหน้าจอแบบเรียลไทม์ - มี ระบบเหตุผลในตัว ที่ช่วยให้ AI สามารถแก้ไขปัญหาได้เอง ✅ ทำงานบนโครงสร้างพื้นฐานของ Microsoft เพื่อความปลอดภัย - ข้อมูลของลูกค้าจะถูกเก็บไว้ใน Microsoft Cloud และ ไม่ถูกนำไปใช้ฝึกโมเดล AI - องค์กรสามารถใช้เครื่องมือนี้โดยไม่ต้องจัดการเซิร์ฟเวอร์เอง ✅ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Robotic Process Automation (RPA) - ใช้งานง่าย: ผู้ใช้สามารถอธิบายสิ่งที่ต้องการเป็นภาษาธรรมชาติ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด - มีความฉลาด: AI สามารถมองเห็นหน้าจอและตัดสินใจได้แบบเรียลไทม์ - มีประวัติการใช้งาน: ผู้ใช้สามารถดู ภาพหน้าจอและขั้นตอนการทำงานย้อนหลัง ✅ Microsoft อาจใช้เทคโนโลยีเดียวกับ OpenAI Operator - OpenAI เปิดตัว Operator ซึ่งใช้โมเดล Computer-Using Agent (CUA) ที่รวม GPT-4o กับ Reinforcement Learning - Microsoft อาจนำเทคโนโลยีเดียวกันมาใช้ใน “Computer Use” ℹ️ ผลกระทบต่อการทำงานของ AI ในองค์กร - AI ที่สามารถโต้ตอบกับแอปพลิเคชันโดยตรงอาจ ลดความจำเป็นในการพัฒนา API เฉพาะทาง ℹ️ ความท้าทายในการรักษาความปลอดภัย - แม้ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ใน Microsoft Cloud แต่ต้องติดตามว่า มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ ℹ️ แนวโน้มของ AI ที่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้เหมือนมนุษย์ - หากเทคโนโลยีนี้พัฒนาไปไกล อาจนำไปสู่ AI ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ในระบบที่ซับซ้อนมากขึ้น https://www.neowin.net/news/microsofts-copilot-studio-gets-a-boost-with-computer-use-tool/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft's Copilot Studio gets a boost with “Computer use” tool
    Microsoft has introduced a research preview tool called "Computer use" within Copilot Studio. This LLM-powered feature enables AI agents to interact directly with any website or app.
    0 Comments 0 Shares 34 Views 0 Reviews
  • 82 ปี ยิงเป้าประหาร! "ตุง แซ่หว่อง" คดีขวานจามคาบ้านสุดอุกอาจ ตำนานแรงอาฆาตฆ่าญาติกลางเมืองเลย 🔥

    📌 คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญกลางเมืองเลย “ตุง แซ่หว่อง” ช่างไม้ผู้กลายเป็นนักโทษประหาร จากแรงอาฆาตเรื่องการงาน สู่การฆ่าญาติข้างห้องอย่างอุกอาจ อ่านเรื่องจริง ที่ลงเอยด้วยการยิงเป้าอย่างเย็นชา 🕵️‍♂️

    📚 คดีที่โลกไม่ลืม 82 ปีผ่านไป ยังสะเทือนใจ 💔 ถ้าพูดถึงคดีฆาตกรรมที่โหดเหี้ยม และกลายเป็นข่าวใหญ่ ในประวัติศาสตร์ไทย หนึ่งในนั้นคือคดีของ “ตุง แซ่หว่อง” ช่างไม้หนุ่มเชื้อสายจีน ที่ก่อเหตุฆ่าญาติเชื้อสายจีน อย่างโหดเหี้ยมกลางเมืองเลย 🪓

    คดีนี้ไม่ใช่เพียงแค่การฆ่าคน แต่คือเรื่องของความอาฆาต ริษยา การวางแผนอย่างแยบยล การฝังศพในบ้าน และการเบี่ยงเบนความผิดด้วยคำโกหก… จนต้องจบชีวิตลงด้วยโทษประหาร ด้วยการยิงเป้า 😨

    👤 จากช่างไม้สู่ฆาตกร 🧰 “ตุง แซ่หว่อง” เป็นชายหนุ่มเชื้อสายจีนอายุเพียง 25 ปี ณ เวลาที่ก่อเหตุ อาศัยอยู่กับญาติ “ยิด แซ่อึ๊ง” ซึ่งก็เป็นช่างไม้เช่นกัน ทั้งสองมาเช่าบ้านอยู่ที่หน้าเรือนจำจังหวัดเลย ชีวิตประจำวันของทั้งคู่ดูเรียบง่าย ทำงาน หาเงิน แล้วกลับบ้าน

    แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ความเรียบง่ายนั้นคือ ความอิจฉาริษยา และความเครียดจากการเป็น “คู่แข่งกันเอง” ทางอาชีพ ยิ่งเมื่อยิดมีงานเยอะกว่า มีคนจ้างมากกว่า ก็ยิ่งทำให้ตุง สะสมความไม่พอใจไว้ในใจ 😤

    📩 จดหมายปลอม จุดเริ่มต้นของความตาย 🧨 ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2483 เมื่อยิดได้รับจดหมาย 2 ฉบับจากญาติในกรุงเทพฯ ชวนให้ไปทำงาน แต่เนื้อหาจดหมาย กลับมีความผิดปกติหลายจุด จนเจ้าตัวเริ่มสงสัยว่า เป็นของปลอม ❗

    ภายหลังเมื่อตรวจสอบ ตุงยอมรับว่าเป็นคนเขียนขึ้นเอง “เพื่อแกล้งเล่น” แต่ในความจริงแล้ว เจตนาอาจลึกซึ้งกว่านั้น เพื่อ “ลวง” ให้ยิดออกจากพื้นที่ หรือสร้างเหตุให้ทะเลาะ แล้วใช้เป็นข้ออ้างสังหาร ❓

    การทะเลาะรุนแรงจึงเกิดขึ้น จนมีเสียงดังไปถึงป้อมตำรวจหน้าคุก และเป็นเหตุการณ์นำไปสู่เรื่องสยอง ที่ไม่มีใครคาดคิด…

    🕵️‍♂️ จากการหายตัว…สู่การพบศพในสวนหลังบ้าน 🪦 วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2483 นายยิดหายตัวไป ไม่มีใครพบเห็นอีกเลย ตุงอ้างว่า “ไปบ้านก้างปลา” แต่พยานหลายปากเห็นว่า เขาอยู่คนเดียว เด็กหญิงกุ๊ก ลูกสาวยิด ปีนเข้าไปนอนรอพ่อ แต่พ่อก็ไม่กลับมา...

    15 ตุลาคม ตำรวจพบกลิ่นเหม็นเน่าคลุ้งจากหลังบ้าน ขุดดินดูจึงพบว่า... ศพของยิดถูกฝังไว้ในหลุมตื้น ๆ มีรอยของมีคมฟันท้ายทอย 2 แผล 🪓 พบขวานเปื้อนเลือดในกล่องเครื่องมือตุง และผ้าขาวม้าตุงเปื้อนเลือด ไม้พื้นห้องนอนยิด มีรอยกบไสใหม่ ทุกอย่างบ่งบอกถึง การพยายามกลบเกลื่อนหลักฐาน อย่างมีแบบแผน

    🔬 หลักฐาน พยานเด็ด มัดตัวแน่น! 🧾 🔪 ขวานที่พบในบ้าน มีเลือดของยิด 🩸 ไม้พื้นและผนัง มีรอยเลือดกระเซ็น 🔑 ลูกกุญแจห้องยิดอยู่กับตุง แต่อ้างว่า ยืมจากเด็กหญิงกุ๊ก ซึ่งเด็กหญิงปฏิเสธว่าไม่เคยให้

    🕯️ พยานตำรวจ ได้ยินเสียงร้อง “โอ้ย ๆ” กลางดึก 🚲 รถจักรยานและรองเท้ายยิด ถูกซ่อนไว้ห่างบ้านประมาณ 800 เมตร

    หลักฐานทั้งหมดนี้ ทำให้ตำรวจเชื่อมั่นว่า ตุงคือฆาตกรแน่นอน 💯

    ⚖️ เส้นทางสู่ศาล คำพิพากษาประหารชีวิต 🧑‍⚖️ ศาลชั้นต้น พิจารณาหลักฐาน พยานแวดล้อม และพบว่า การฆ่ามีแรงจูงใจชัดเจน คือ “ความอาฆาตส่วนตัว” และความพยายาม “ซ่อนเร้นศพ”

    ✒️ คำพิพากษา “จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ด้วยความพยาบาทมาดหมาย ให้ประหารชีวิตโดยไม่ลดหย่อนโทษ”

    แม้ตุงจะยื่นอุทธรณ์และฎีกา แต่ศาลทุกชั้นยืนตามคำพิพากษาเดิม ไม่มีการลดโทษใด ๆ ทั้งสิ้น ❌

    🔫 วันสุดท้ายของ “ตุง แซ่หว่อง” กับการประหารโดยยิงเป้า ⛓️ เช้าวันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2486 เวลา 04.30 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง นายตุงถูกเบิกตัวออกจากแดนควบคุม เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ห้องประหาร 😔

    ✅ รับฟังคำสั่งปฏิเสธฎีกา

    ✍️ เขียนพินัยกรรม

    🍱 ทานอาหารมื้อสุดท้าย

    🛐 ฟังธรรมเทศนา

    เวลา 6.07 น. ธงแดงสะบัดลง… เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ❗ ชีวิตของ “ตุง แซ่หว่อง” จบสิ้น ณ จุดนั้น

    🧠 ฆาตกรรมที่ไม่ใช่แค่ “อารมณ์ชั่ววูบ” 😢 เรื่องราวของตุง คือเครื่องเตือนใจ ถึงอันตรายของอารมณ์ริษยา ความอาฆาต และความไม่ยอมรับความจริง ความขัดแย้งที่เริ่มต้นจากเรื่องเล็กน้อยอย่าง “จำนวนงานที่ได้รับ” กลับจบลงด้วย การฆ่าญาติ และสูญเสียชีวิตทั้งสองฝ่าย

    หากเราปล่อยให้ความอิจฉาเข้าครอบงำ อาจกลายเป็นไฟที่เผาผลาญทุกสิ่ง 🧨🔥

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161444 เม.ย. 2568

    📲 #ตุงแซ่หว่อง #คดีฆ่าญาติ #ยิงเป้าประหาร #คดีสะเทือนขวัญ #ฆาตกรรมไทย #ประหารชีวิต #เรื่องจริงจากคุก #ขวานฆ่าคน #คดีอาฆาต #ย้อนคดีดัง
    82 ปี ยิงเป้าประหาร! "ตุง แซ่หว่อง" คดีขวานจามคาบ้านสุดอุกอาจ ตำนานแรงอาฆาตฆ่าญาติกลางเมืองเลย 🔥 📌 คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญกลางเมืองเลย “ตุง แซ่หว่อง” ช่างไม้ผู้กลายเป็นนักโทษประหาร จากแรงอาฆาตเรื่องการงาน สู่การฆ่าญาติข้างห้องอย่างอุกอาจ อ่านเรื่องจริง ที่ลงเอยด้วยการยิงเป้าอย่างเย็นชา 🕵️‍♂️ 📚 คดีที่โลกไม่ลืม 82 ปีผ่านไป ยังสะเทือนใจ 💔 ถ้าพูดถึงคดีฆาตกรรมที่โหดเหี้ยม และกลายเป็นข่าวใหญ่ ในประวัติศาสตร์ไทย หนึ่งในนั้นคือคดีของ “ตุง แซ่หว่อง” ช่างไม้หนุ่มเชื้อสายจีน ที่ก่อเหตุฆ่าญาติเชื้อสายจีน อย่างโหดเหี้ยมกลางเมืองเลย 🪓 คดีนี้ไม่ใช่เพียงแค่การฆ่าคน แต่คือเรื่องของความอาฆาต ริษยา การวางแผนอย่างแยบยล การฝังศพในบ้าน และการเบี่ยงเบนความผิดด้วยคำโกหก… จนต้องจบชีวิตลงด้วยโทษประหาร ด้วยการยิงเป้า 😨 👤 จากช่างไม้สู่ฆาตกร 🧰 “ตุง แซ่หว่อง” เป็นชายหนุ่มเชื้อสายจีนอายุเพียง 25 ปี ณ เวลาที่ก่อเหตุ อาศัยอยู่กับญาติ “ยิด แซ่อึ๊ง” ซึ่งก็เป็นช่างไม้เช่นกัน ทั้งสองมาเช่าบ้านอยู่ที่หน้าเรือนจำจังหวัดเลย ชีวิตประจำวันของทั้งคู่ดูเรียบง่าย ทำงาน หาเงิน แล้วกลับบ้าน แต่สิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ความเรียบง่ายนั้นคือ ความอิจฉาริษยา และความเครียดจากการเป็น “คู่แข่งกันเอง” ทางอาชีพ ยิ่งเมื่อยิดมีงานเยอะกว่า มีคนจ้างมากกว่า ก็ยิ่งทำให้ตุง สะสมความไม่พอใจไว้ในใจ 😤 📩 จดหมายปลอม จุดเริ่มต้นของความตาย 🧨 ทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2483 เมื่อยิดได้รับจดหมาย 2 ฉบับจากญาติในกรุงเทพฯ ชวนให้ไปทำงาน แต่เนื้อหาจดหมาย กลับมีความผิดปกติหลายจุด จนเจ้าตัวเริ่มสงสัยว่า เป็นของปลอม ❗ ภายหลังเมื่อตรวจสอบ ตุงยอมรับว่าเป็นคนเขียนขึ้นเอง “เพื่อแกล้งเล่น” แต่ในความจริงแล้ว เจตนาอาจลึกซึ้งกว่านั้น เพื่อ “ลวง” ให้ยิดออกจากพื้นที่ หรือสร้างเหตุให้ทะเลาะ แล้วใช้เป็นข้ออ้างสังหาร ❓ การทะเลาะรุนแรงจึงเกิดขึ้น จนมีเสียงดังไปถึงป้อมตำรวจหน้าคุก และเป็นเหตุการณ์นำไปสู่เรื่องสยอง ที่ไม่มีใครคาดคิด… 🕵️‍♂️ จากการหายตัว…สู่การพบศพในสวนหลังบ้าน 🪦 วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2483 นายยิดหายตัวไป ไม่มีใครพบเห็นอีกเลย ตุงอ้างว่า “ไปบ้านก้างปลา” แต่พยานหลายปากเห็นว่า เขาอยู่คนเดียว เด็กหญิงกุ๊ก ลูกสาวยิด ปีนเข้าไปนอนรอพ่อ แต่พ่อก็ไม่กลับมา... 15 ตุลาคม ตำรวจพบกลิ่นเหม็นเน่าคลุ้งจากหลังบ้าน ขุดดินดูจึงพบว่า... ศพของยิดถูกฝังไว้ในหลุมตื้น ๆ มีรอยของมีคมฟันท้ายทอย 2 แผล 🪓 พบขวานเปื้อนเลือดในกล่องเครื่องมือตุง และผ้าขาวม้าตุงเปื้อนเลือด ไม้พื้นห้องนอนยิด มีรอยกบไสใหม่ ทุกอย่างบ่งบอกถึง การพยายามกลบเกลื่อนหลักฐาน อย่างมีแบบแผน 🔬 หลักฐาน พยานเด็ด มัดตัวแน่น! 🧾 🔪 ขวานที่พบในบ้าน มีเลือดของยิด 🩸 ไม้พื้นและผนัง มีรอยเลือดกระเซ็น 🔑 ลูกกุญแจห้องยิดอยู่กับตุง แต่อ้างว่า ยืมจากเด็กหญิงกุ๊ก ซึ่งเด็กหญิงปฏิเสธว่าไม่เคยให้ 🕯️ พยานตำรวจ ได้ยินเสียงร้อง “โอ้ย ๆ” กลางดึก 🚲 รถจักรยานและรองเท้ายยิด ถูกซ่อนไว้ห่างบ้านประมาณ 800 เมตร หลักฐานทั้งหมดนี้ ทำให้ตำรวจเชื่อมั่นว่า ตุงคือฆาตกรแน่นอน 💯 ⚖️ เส้นทางสู่ศาล คำพิพากษาประหารชีวิต 🧑‍⚖️ ศาลชั้นต้น พิจารณาหลักฐาน พยานแวดล้อม และพบว่า การฆ่ามีแรงจูงใจชัดเจน คือ “ความอาฆาตส่วนตัว” และความพยายาม “ซ่อนเร้นศพ” ✒️ คำพิพากษา “จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ด้วยความพยาบาทมาดหมาย ให้ประหารชีวิตโดยไม่ลดหย่อนโทษ” แม้ตุงจะยื่นอุทธรณ์และฎีกา แต่ศาลทุกชั้นยืนตามคำพิพากษาเดิม ไม่มีการลดโทษใด ๆ ทั้งสิ้น ❌ 🔫 วันสุดท้ายของ “ตุง แซ่หว่อง” กับการประหารโดยยิงเป้า ⛓️ เช้าวันพฤหัสบดีที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2486 เวลา 04.30 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง นายตุงถูกเบิกตัวออกจากแดนควบคุม เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ห้องประหาร 😔 ✅ รับฟังคำสั่งปฏิเสธฎีกา ✍️ เขียนพินัยกรรม 🍱 ทานอาหารมื้อสุดท้าย 🛐 ฟังธรรมเทศนา เวลา 6.07 น. ธงแดงสะบัดลง… เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ❗ ชีวิตของ “ตุง แซ่หว่อง” จบสิ้น ณ จุดนั้น 🧠 ฆาตกรรมที่ไม่ใช่แค่ “อารมณ์ชั่ววูบ” 😢 เรื่องราวของตุง คือเครื่องเตือนใจ ถึงอันตรายของอารมณ์ริษยา ความอาฆาต และความไม่ยอมรับความจริง ความขัดแย้งที่เริ่มต้นจากเรื่องเล็กน้อยอย่าง “จำนวนงานที่ได้รับ” กลับจบลงด้วย การฆ่าญาติ และสูญเสียชีวิตทั้งสองฝ่าย หากเราปล่อยให้ความอิจฉาเข้าครอบงำ อาจกลายเป็นไฟที่เผาผลาญทุกสิ่ง 🧨🔥 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161444 เม.ย. 2568 📲 #ตุงแซ่หว่อง #คดีฆ่าญาติ #ยิงเป้าประหาร #คดีสะเทือนขวัญ #ฆาตกรรมไทย #ประหารชีวิต #เรื่องจริงจากคุก #ขวานฆ่าคน #คดีอาฆาต #ย้อนคดีดัง
    0 Comments 0 Shares 221 Views 0 Reviews

  • ตามรอยย้อนกลับ Supply Chain แร่หายากจากพม่ามหาศาลสู่จีน
    ______________________________
    23 ธันวาคม พ.ศ. 2564 บริษัท China Rare Earth Group Co., Ltd. ก่อตัวขึ้นอย่างเป็นทางการ จากการควบรวมของ 3 กิจการด้านอุตสาหกรรมแร่หายากในจีน China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. เป้าคือพัฒนาอุตสาหกรรมแร่หายาก วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี
    China Rare Earth Group อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของรัฐ-คณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์ที่เป็นเจ้าของของสภาแห่งรัฐ ถือหุ้นร้อยละ 31.21 China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. แต่ละบริษัทถือหุ้นร้อยละ 20.33; China Iron and Steel Research Technology Group Co., Ltd. และ Youyan Technology Group Co., Ltd. ถือหุ้นร้อยละ 3.90
    ปัจจุบันจีนมีปริมาณการผลิตแร่ธาตุ หายากสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกอยู่ที่ 132,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 63 ของปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 210,000 ตัน โดยประเทศอื่น ๆ ที่มีปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากในลำดับถัดมา ได้แก่ สหรัฐฯ (26,000 ตัน) เมียนมา (22,000 ตัน) ออสเตรเลีย (21,000 ตัน) อินเดีย (3,000 ตัน) รัสเซีย (2,700 ตัน) มาดากัสการ์ (2,000 ตัน) ไทย (1,800 ตัน) บราซิล (1,000 ตัน) เวียดนาม (900 ตัน) และบุรุนดี (600 ตัน)
    ______________________________
    ระฆังกำแพงภาษีลั่นขึ้นห้วงเมษายน 2568 โดยสหรัฐอเมริกา การตอบโต้กลับของจีนเปิดหน้าชก สวนกลับทุกเม็ด รวมถึงได้ขยายการใช้ "แร่หายาก" (rare earths) เป็นเครื่องมือตอบโต้ทางการค้า โดยประกาศจำกัดการส่งออกแร่หายาก 7 ชนิด ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญในอุดสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเป็นการตอบโต้ต่อมาดรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ
    สำหรับแร่หายาก 7 ชนิดได้แก่ ชามาเรียม (Samarium) แกโดลิเนียม (Gadolinium) เทอร์เมียม (Terbium) ดิสโพรเซียม (Dysprosium) ลูทีเซียม (Lutetium) สแกนเดียม (Scandium) และอิดเทรียม (Yttrium) สำหรับแร่หายากยอดนิยมอย่าง นี่โอไดเมียม (Neodymium) และ พราเชโอไดเมียม (Praseodymium) ซึ่งใช้ผลิตแม่เหล็กประสิทธิภาพสูง ยังไม่อยู่ในรายชื่อควบคุม
    หลังการรัฐประหารปี 2021 การส่งออกแร่ธาตุหายากจากพม่าไปจีนเพิ่มขึ้น 5 เท่า สูงถึง 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการการพึ่งพาจีน 90% ของการแปรรูปแร่หายากโลกอยู่ในจีน แบ่งเป็น แร่กลุ่มหายาก (Rare Earth Elements) มูลค่า: 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2025) ส่วนแบ่งการนำเข้า: กว่า 50% ของการนำเข้าแร่หายากทั้งหมดของจีน ชนิดแร่หลัก: เทอร์เบียม (Terbium) และดีสโพรเซียม (Dysprosium) ในกลุ่ม Heavy Rare Earth Elements (HREE) พื้นที่ทำเหมืองหลักที่คะฉิ่น ที่เหมือง Chipwi และ Momauk: มีบ่อแร่มากกว่า 2,700 บ่อ เมือง Panwa: แหล่งผลิตหลักภายใต้การควบคุมของ Kachin Independence Army (KIA) การขยายตัว: จำนวนไซต์ทำเหมืองเพิ่มขึ้น 40% นับตั้งแต่ปี 2021 โดยพื้นที่ KIA: เก็บภาษี 35,000 หยวน/ตัน (ประมาณ 4,800 ดอลลาร์สหรัฐ)
    บริษัทจีนผู้รับซื้อหลัก คือ China Rare Earths Group (REGCC) ควบคุมการประมูลแร่กว่า 80% China Northern Rare Earth Group ผู้ประมูลแร่รายใหญ่ของโลก และ JL Mag Rare-Earth: ผู้ผลิตแม่เหล็กถาวรรายใหญ่ ใช้แร่จากพม่าในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และยังมีบริษัท Rising Nonferrous บริษัทที่ได้รับอนุมัติให้นำเข้าแร่หายากจากเมียนมาโดยตรง
    นอกจากนั้นก็จะมี China Nonferrous Metal Mining Group (CNMC) รับซื้อ: ทองแดง, นิกเกิล พื้นที่รับซื้อคือเหมือง Monywa ในเขตสะกาย บริษัท China Minmetals Corporation: รับซื้อ: แร่หายาก, ดีบุก, ทังสเตน Aluminum Corporation of China (CHINALCO): รับซื้อ: แร่ที่เกี่ยวข้องกับอะลูมิเนียมและโลหะผสม Yunnan Tin Company: รับซื้อ: ดีบุก เพราะเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่ของจีน Pangang Group: รับซื้อ: ทังสเตน, พลวง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโลหะหนัก
    ______________________________
    การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนมีป้อนอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้จีน และแน่นอนต้องใช้ฐานของกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นตลาดหลักและบายพาสไปยังกลุ่มประเทศที่มีกำแพงภาษีสูงไม่ว่าจะเป็น
    • อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles)แร่ธาตุหายาก เช่น ดิสโพรเซียม (Dysprosium) และเทอร์เบียม (Terbium) ที่นำเข้าจากพม่าใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับมอเตอร์ในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจีนมีความต้องการสูงมากในช่วงหลังเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด EV
    • อุตสาหกรรมพลังงานลม (Wind Power)แม่เหล็กถาวรที่ผลิตจากแร่ธาตุหายากเหล่านี้ยังถูกใช้ในกังหันลมเพื่อผลิตพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายพลังงานทดแทนของจีน
    • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics)แร่ธาตุหายากจากพม่าถูกนำไปใช้ในชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่ต้องการแม่เหล็กและวัสดุพิเศษ
    • อุตสาหกรรมแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets) บริษัทจีนใหญ่ เช่น China Southern Rare Earth ใช้แร่ธาตุจากพม่าในการผลิตแม่เหล็กถาวรที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในหลายอุตสาหกรรม
    • อาวุธยุทโธปกรณ์ (Defence Industry) และอุตสาหกรรมอวกาศ และอากาศยาน (Aerospace Industry)
    สถานการณ์ความต้องการแร่ธาตุหายากงวดขึ้นเพราะนับวันแร่ธาตุเหล่านั้นย่อมลดลง ตามชื่อเพราะยิ่งหายากขึ้น โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 จีนเพิ่มการนำเข้าแร่หายากจากพม่าเกิน 9 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และคิดเป็นกว่า 70% ของแร่ธาตุหายากที่จีนใช้ทั้งหมด ซึ่งทำให้พม่าเป็นแหล่งผลิตแร่หายากที่ใหญ่ที่สุดของจีนในปัจจุบัน
    ______________________________
    ความต้องการสูงและความไม่แน่นอนของซัพพลายเชน โดยเฉพาะในช่วงที่มีความขัดข้องจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้จีนพึ่งพาแหล่งแร่จากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะพม่าเป็นสัดส่วนถึง 70% ของวัตถุดิบที่ใช้ เนื่องจากเหมืองในจีนผลิตไม่เพียงพอและมีข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมและนโยบาย
    ปัญหาจึงอยู่ที่แร่ธาตุหายากจากพม่าส่วนใหญ่ถูกขุดอย่างผิดกฎหมายและผ่านช่องทางที่ไม่โปร่งใส ทำให้บริษัทจีนที่แปรรูปแร่ไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ชัดเจน ส่งผลต่อความยั่งยืนและความน่าเชื่อถือของตลาด รวมถึงสร้างปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมต่อพม่าอย่างมหาศาล
    หากเจาะพื้นที่การทำเหมืองในรัฐต่าง ๆ การทำเหมืองในเมียนมามักอยู่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งหรือควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งมีผลต่อการส่งออกและการจัดการทรัพยากร ดังนี้:
    • รัฐคะฉิ่น (Kachin State): แร่หลัก: แร่หายาก (REEs), พลวง, ทองคำ, อิตเทรียม พื้นที่ป่าทางตอนเหนือ อุดมไปด้วยแร่หายาก แต่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างกองทัพเมียนมาและกองทัพปลดปล่อยคะฉิ่น (KIA) ส่วนใหญ่ทำลายสิ่งแวดล้อม น้ำกลายเป็นโคลน และสัตว์ป่าลดลง
    • รัฐฉาน (Shan State): แร่หลัก: ดีบุก, ตะกั่ว, สังกะสี, ทังสเตน,ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ เช่น เหมือง Man Maw การควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธที่เชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา ทำให้เงินจากเหมือง สนับสนุนกองทัพ สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมหาศาลเช่นกันและลุกลามไปยังประเทศเพื่อนบ้านคือประเทศไทย
    • เขตสะกาย (Sagaing Region): แร่หลัก: ทองแดง, นิกเกิล, ทองคำพื้นที่ที่มีการสู้รบหนักระหว่างกองทัพเมียนมาและกองกำลัง PDF
    • เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region): แร่หลัก: แร่หายาก, พลวง, อิตเทรียม, ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองขนาดเล็กกระจายอยู่
    • เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region): แร่หลัก: ดีบุก เป็นเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ใกล้ชายฝั่ง
    • รัฐมอญ (Mon State): แร่หลัก: ทองแดง เป็นเหมืองขนาดเล็กถึงปานกลาง
    • รัฐกะยา (Kayah State): แร่หลัก: ตะกั่ว พื้นที่ที่มีความขัดแย้งสูง
    ______________________________
    สอบทานต้นทาง-ย้อนกลับห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของแร่ธาตุจากเมียนมาไปจีนมีลักษณะดังนี้ เริ่มต้นสำรวจแหล่ง แน่นอนฐานข้อมูลมีอยู่แล้วในมือรัฐบาลทหารพม่า และในกำมือเทคโนโลยีจีน ก่อนจะให้บริษัทเอกชนในแต่ละความถนัดของจีน และของพม่าเอง ขุดและแปรรูปเบื้องต้น เหมืองส่วนใหญ่ในพม่าดำเนินการโดยบริษัทท้องถิ่นหรือบริษัทจีนร่วมทุน การแปรรูปขั้นต้น (เช่น การถลุงแร่ดีบุก) มักทำในเมียนมาก่อนส่งออก ส่วนใหญ่ในพื้นที่ขัดแย้งทำให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและการละเมิดสิทธิมนุษยชน
    การขนส่ง เส้นทางหลัก: จากเหมืองในรัฐคะฉิ่นและฉานไปยังชายแดนจีน (มณฑลยูนนาน) ผ่านทางรถไฟหรือถนน เช่น เส้นทางรถไฟเจ้าผิ่ว-มูเซ บางส่วนส่งออกผ่านท่าเรือในเขตตะนาวศรีและย่างกุ้ง
    การแปรรูปขั้นสูงในจีน ปลายทางคือโรงงานแปรรูปอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง, เจียงซู, และแถบเศรษฐกิจแยงซีเกียง โดยแร่หายากถูกกลั่นเป็นโลหะบริสุทธิ์หรือสารประกอบ เช่น นีโอดิเมียมสำหรับแม่เหล็ก หรืออิตเทรียมสำหรับ LED
    สายพานอุตสาหกรรมที่ใช้งานแบ่งตามแร่ธาตุอุตสาหกรรมเทคโนโลยี: แร่หายาก (REEs) และดีบุกใช้ในสมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์, เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า: แร่หายาก (นีโอดิเมียม, ดิสโพรเซียม) และนิกเกิลใช้ในมอเตอร์และแบตเตอรี่ พลังงานสะอาด: ทังสเตนและพลวงใช้ในกังหันลมและแผงโซลาร์ อุตสาหกรรมทหาร: แร่หายากและพลวงใช้ในขีปนาวุธ, เรดาร์, และเลเซอร์ การก่อสร้างและเครื่องจักร: ทองแดงและสังกะสีใช้ในสายไฟและโครงสร้าง
    ความท้าทายในระบบ Supply Chain ส่วนใหญ่คือความขัดแย้งในเมียนมาอาจขัดขวางการขนส่ง จากผลประโยชน์มหาศาลเพื่อนำมาเป็นอาวุธและจุนเจือเสบียงในการรบ ขณะที่นานาชาติได้เรียกร้องให้ตรวจสอบแร่จากพื้นที่ขัดแย้ง แต่จีนเป็นประเทศเดียวที่บังคับให้แยกแร่จากเมียนมาและจีน
    ______________________________
    ล่าสุด กองกำลังเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independent Organization, Kachin Independent Army- KIA) ซึ่งได้เป็นเจ้าของใหม่ของเหมืองแร่หายาก หรือแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน (ราว 160,000 บาท) พื้นที่แหล่งแร่หายากที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในเขตปางวาและชิพเว (Pang Wa, Chi Pwi) ในรัฐคะฉิ่น ซึ่งกลุ่ม KIA เข้ายึดครองในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 ได้รับอนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังจีนหลังจากควบคุมพื้นที่มาได้ 6 เดือน
    สำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 KIO/KIA ได้อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน อย่างไรก็ตาม รายละเอียดอื่น ๆ ในหนังสืออนุญาตของ KIO ยังไม่ได้รับการเปิดเผย เจ้าหน้าที่ KIA เขตปางวาให้ข้อมูลว่าKIO/KIA และรัฐบาลจีน ยังคงเจรจาเกี่ยวกับการใช้จุดผ่านแดนเดียวในการส่งออกแร่หายาก และจนถึงสัปดาห์ที่สองของเดือนเมษายน ยังไม่มีการส่งออกอย่างเป็นทางการ
    KIA สามารถควบคุมจุดผ่านแดนทางการค้าระหว่างจีน-พม่าในรัฐคะฉิ่นทั้งหมด ได้แก่ กานปายตี Kan Pai Ti, ล่วยเจ Loi Je และปางวา ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าจะใช้จุดผ่านแดนใดในการส่งออก หลังจากที่ KIA ควบคุมพื้นที่ปางวาและชิพเว รัฐบาลจีนได้มีคำสั่งปิดจุดผ่านแดนทั้งหมด ทำให้บริษัทเหมืองแร่ส่วนใหญ่หยุดดำเนินการ มีเพียงบางบริษัทที่ยังคงขุดแร่ต่อไป เนื่องจากยังมีวัตถุดิบหลงเหลืออยู่
    รายงานของ Global Witness ระบุว่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาเริ่มขึ้นในปี 2016 โดยนักธุรกิจชาวจีน ซึ่งส่งออกแร่ไปยังจีนเป็นหลัก ตามข้อมูลปัจจุบัน พม่าติดอันดับ 3 ของประเทศผู้ผลิตแร่แรร์เอิร์ท และคิดเป็น 50% ของการส่งออกแร่หายากทั่วโลก หลังจากการรัฐประหารของกองทัพพม่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาและชิพเวเพิ่มขึ้น 40% และจำนวนเหมืองแร่เพิ่มขึ้นกว่า 300 แห่ง ในปี 2566 เพียงปีเดียว มีการส่งออกแร่หายากไปยังจีนมากถึง 41,700 ตัน สร้างรายได้ถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
    ______________________________
    สรุปขมวดปม การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนช่วยเสริมความมั่นคงของซัพพลายเชนแร่หายากในจีน ลดภาวะขาดแคลนและสนับสนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้านความโปร่งใสและความยั่งยืนในตลาดแร่ธาตุของจีน แร่ธาตุหายากจากพม่ามีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของจีน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูงและพลังงานสะอาด ซึ่งจีนพึ่งพาการนำเข้าแร่จากพม่าเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของแร่หายากที่ใช้ในประเทศ เหมืองแร่หายากเหล่านี้ทั้งหมด รวมถึงแร่ทองคำ และอื่น ๆ ที่ปักหมุดขุดหลุมร่อนตระแกรง ทุกรัฐในเมียนมาก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ป่าเขา แม่น้ำ ลำธาร โดยคนงานบางรายถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างโหดร้าย หญิงคนงานถูกล่วงละเมิดทางเพศ และหลายคนได้รับอันตรายทางสุขภาพอย่างร้ายแรงจากสารเคมีที่ใช้ในเหมือง และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ที่กว้างขวางขึ้นรวมถึงประเทศไทย และลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน คำถามคือจีนมีส่วนสำคัญในการสร้างมลภาวะในพื้นที่ ควรจะร่วมรับผิดชอบหรือไม่ ไม่ใช่การสูบทรัพยากรในพื้นที่แต่ไม่ได้เหลียวแลผลกระทบที่จะตามมา อันจะกลายเป็นการสร้างปัญหาใหญ่ให้กับจีนในอนาคต
    อ้างอิง : https://www.facebook.com/GlobalWitness/ และสำนักข่าวชายขอบ
    https://shorturl.asia/6GnqX
    ประชาไท https://prachatai.com/journal/2025/01/111942
    ______________________________

    10 อันดับแร่ธาตุที่ส่งออกจากเมียนมาไปจีน (เรียงตามมูลค่าประเมิน)
    1. แร่ดีบุก (Tin)
    o มูลค่า: สูงสุด เนื่องจากเมียนมาเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และจีนนำเข้า 95% ของหัวแร่ดีบุกจากเมียนมาในปี 2563
    o การใช้งาน: ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (บัดกรีแผงวงจร), การผลิตโลหะผสม
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน (Shan State), เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region)
    2. แร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs)
    o มูลค่า: สูง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน
    o การใช้งาน: ผลิตแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets), แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า, อุปกรณ์เลเซอร์, เซมิคอนดักเตอร์
    o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น (Kachin State), เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region)
    3. ทองแดง (Copper)
    o มูลค่า: สูง เนื่องจากราคาทองแดงในตลาดโลกพุ่งสูงหลังรัฐประหาร
    o การใช้งาน: สายไฟ, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, การก่อสร้าง
    o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย (Sagaing Region), รัฐมอญ (Mon State)
    4. ตะกั่ว (Lead)
    o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ใช้ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่
    o การใช้งาน: แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด, อุตสาหกรรมยานยนต์
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐกะยา (Kayah State)
    5. สังกะสี (Zinc)
    o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมเคลือบโลหะ
    o การใช้งาน: การชุบกัลวาไนซ์, โลหะผสม
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, เขตย่างกุ้ง (Yangon Region)
    6. นิกเกิล (Nickel)
    o มูลค่า: ปานกลาง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่
    o การใช้งาน: แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน, สแตนเลส
    o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย, รัฐฉาน
    7. พลวง (Antimony)
    o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมทหารและพลังงาน
    o การใช้งาน: สารหน่วงไฟ, โลหะผสม, อุปกรณ์ทหาร
    o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์
    8. ทังสเตน (Tungsten)
    o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมที่มีความแข็งสูง
    o การใช้งาน: โลหะผสม, เครื่องมือตัด, อุปกรณ์ทหาร
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐคะฉิ่น
    9. ทองคำ (Gold)
    o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลก
    o การใช้งาน: อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องประดับ
    o พื้นที่เหมือง: เขตมัณฑะเลย์, รัฐคะฉิ่น, เขตสะกาย
    10. อิตเทรียม (Yttrium)
    o มูลค่า: ต่ำถึงปานกลาง แต่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมเฉพาะ
    o การใช้งาน: สารเรืองแสงใน LED, อุปกรณ์ MRI, เซรามิก
    o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์
    หมายเหตุ: มูลค่าที่ระบุเป็นการประเมินจากความสำคัญในห่วงโซ่อุปทานและปริมาณการส่งออก เนื่องจากไม่มีข้อมูลตัวเลขที่แน่นอนหลังรัฐประหาร
    ______________________________
    ตามรอยย้อนกลับ Supply Chain แร่หายากจากพม่ามหาศาลสู่จีน ______________________________ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2564 บริษัท China Rare Earth Group Co., Ltd. ก่อตัวขึ้นอย่างเป็นทางการ จากการควบรวมของ 3 กิจการด้านอุตสาหกรรมแร่หายากในจีน China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. เป้าคือพัฒนาอุตสาหกรรมแร่หายาก วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี China Rare Earth Group อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของรัฐ-คณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์ที่เป็นเจ้าของของสภาแห่งรัฐ ถือหุ้นร้อยละ 31.21 China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. แต่ละบริษัทถือหุ้นร้อยละ 20.33; China Iron and Steel Research Technology Group Co., Ltd. และ Youyan Technology Group Co., Ltd. ถือหุ้นร้อยละ 3.90 ปัจจุบันจีนมีปริมาณการผลิตแร่ธาตุ หายากสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกอยู่ที่ 132,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 63 ของปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 210,000 ตัน โดยประเทศอื่น ๆ ที่มีปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากในลำดับถัดมา ได้แก่ สหรัฐฯ (26,000 ตัน) เมียนมา (22,000 ตัน) ออสเตรเลีย (21,000 ตัน) อินเดีย (3,000 ตัน) รัสเซีย (2,700 ตัน) มาดากัสการ์ (2,000 ตัน) ไทย (1,800 ตัน) บราซิล (1,000 ตัน) เวียดนาม (900 ตัน) และบุรุนดี (600 ตัน) ______________________________ ระฆังกำแพงภาษีลั่นขึ้นห้วงเมษายน 2568 โดยสหรัฐอเมริกา การตอบโต้กลับของจีนเปิดหน้าชก สวนกลับทุกเม็ด รวมถึงได้ขยายการใช้ "แร่หายาก" (rare earths) เป็นเครื่องมือตอบโต้ทางการค้า โดยประกาศจำกัดการส่งออกแร่หายาก 7 ชนิด ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญในอุดสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเป็นการตอบโต้ต่อมาดรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ สำหรับแร่หายาก 7 ชนิดได้แก่ ชามาเรียม (Samarium) แกโดลิเนียม (Gadolinium) เทอร์เมียม (Terbium) ดิสโพรเซียม (Dysprosium) ลูทีเซียม (Lutetium) สแกนเดียม (Scandium) และอิดเทรียม (Yttrium) สำหรับแร่หายากยอดนิยมอย่าง นี่โอไดเมียม (Neodymium) และ พราเชโอไดเมียม (Praseodymium) ซึ่งใช้ผลิตแม่เหล็กประสิทธิภาพสูง ยังไม่อยู่ในรายชื่อควบคุม หลังการรัฐประหารปี 2021 การส่งออกแร่ธาตุหายากจากพม่าไปจีนเพิ่มขึ้น 5 เท่า สูงถึง 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการการพึ่งพาจีน 90% ของการแปรรูปแร่หายากโลกอยู่ในจีน แบ่งเป็น แร่กลุ่มหายาก (Rare Earth Elements) มูลค่า: 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2025) ส่วนแบ่งการนำเข้า: กว่า 50% ของการนำเข้าแร่หายากทั้งหมดของจีน ชนิดแร่หลัก: เทอร์เบียม (Terbium) และดีสโพรเซียม (Dysprosium) ในกลุ่ม Heavy Rare Earth Elements (HREE) พื้นที่ทำเหมืองหลักที่คะฉิ่น ที่เหมือง Chipwi และ Momauk: มีบ่อแร่มากกว่า 2,700 บ่อ เมือง Panwa: แหล่งผลิตหลักภายใต้การควบคุมของ Kachin Independence Army (KIA) การขยายตัว: จำนวนไซต์ทำเหมืองเพิ่มขึ้น 40% นับตั้งแต่ปี 2021 โดยพื้นที่ KIA: เก็บภาษี 35,000 หยวน/ตัน (ประมาณ 4,800 ดอลลาร์สหรัฐ) บริษัทจีนผู้รับซื้อหลัก คือ China Rare Earths Group (REGCC) ควบคุมการประมูลแร่กว่า 80% China Northern Rare Earth Group ผู้ประมูลแร่รายใหญ่ของโลก และ JL Mag Rare-Earth: ผู้ผลิตแม่เหล็กถาวรรายใหญ่ ใช้แร่จากพม่าในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และยังมีบริษัท Rising Nonferrous บริษัทที่ได้รับอนุมัติให้นำเข้าแร่หายากจากเมียนมาโดยตรง นอกจากนั้นก็จะมี China Nonferrous Metal Mining Group (CNMC) รับซื้อ: ทองแดง, นิกเกิล พื้นที่รับซื้อคือเหมือง Monywa ในเขตสะกาย บริษัท China Minmetals Corporation: รับซื้อ: แร่หายาก, ดีบุก, ทังสเตน Aluminum Corporation of China (CHINALCO): รับซื้อ: แร่ที่เกี่ยวข้องกับอะลูมิเนียมและโลหะผสม Yunnan Tin Company: รับซื้อ: ดีบุก เพราะเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่ของจีน Pangang Group: รับซื้อ: ทังสเตน, พลวง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโลหะหนัก ______________________________ การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนมีป้อนอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้จีน และแน่นอนต้องใช้ฐานของกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นตลาดหลักและบายพาสไปยังกลุ่มประเทศที่มีกำแพงภาษีสูงไม่ว่าจะเป็น • อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles)แร่ธาตุหายาก เช่น ดิสโพรเซียม (Dysprosium) และเทอร์เบียม (Terbium) ที่นำเข้าจากพม่าใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับมอเตอร์ในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจีนมีความต้องการสูงมากในช่วงหลังเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด EV • อุตสาหกรรมพลังงานลม (Wind Power)แม่เหล็กถาวรที่ผลิตจากแร่ธาตุหายากเหล่านี้ยังถูกใช้ในกังหันลมเพื่อผลิตพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายพลังงานทดแทนของจีน • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics)แร่ธาตุหายากจากพม่าถูกนำไปใช้ในชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่ต้องการแม่เหล็กและวัสดุพิเศษ • อุตสาหกรรมแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets) บริษัทจีนใหญ่ เช่น China Southern Rare Earth ใช้แร่ธาตุจากพม่าในการผลิตแม่เหล็กถาวรที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในหลายอุตสาหกรรม • อาวุธยุทโธปกรณ์ (Defence Industry) และอุตสาหกรรมอวกาศ และอากาศยาน (Aerospace Industry) สถานการณ์ความต้องการแร่ธาตุหายากงวดขึ้นเพราะนับวันแร่ธาตุเหล่านั้นย่อมลดลง ตามชื่อเพราะยิ่งหายากขึ้น โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 จีนเพิ่มการนำเข้าแร่หายากจากพม่าเกิน 9 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และคิดเป็นกว่า 70% ของแร่ธาตุหายากที่จีนใช้ทั้งหมด ซึ่งทำให้พม่าเป็นแหล่งผลิตแร่หายากที่ใหญ่ที่สุดของจีนในปัจจุบัน ______________________________ ความต้องการสูงและความไม่แน่นอนของซัพพลายเชน โดยเฉพาะในช่วงที่มีความขัดข้องจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้จีนพึ่งพาแหล่งแร่จากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะพม่าเป็นสัดส่วนถึง 70% ของวัตถุดิบที่ใช้ เนื่องจากเหมืองในจีนผลิตไม่เพียงพอและมีข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมและนโยบาย ปัญหาจึงอยู่ที่แร่ธาตุหายากจากพม่าส่วนใหญ่ถูกขุดอย่างผิดกฎหมายและผ่านช่องทางที่ไม่โปร่งใส ทำให้บริษัทจีนที่แปรรูปแร่ไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ชัดเจน ส่งผลต่อความยั่งยืนและความน่าเชื่อถือของตลาด รวมถึงสร้างปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมต่อพม่าอย่างมหาศาล หากเจาะพื้นที่การทำเหมืองในรัฐต่าง ๆ การทำเหมืองในเมียนมามักอยู่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งหรือควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งมีผลต่อการส่งออกและการจัดการทรัพยากร ดังนี้: • รัฐคะฉิ่น (Kachin State): แร่หลัก: แร่หายาก (REEs), พลวง, ทองคำ, อิตเทรียม พื้นที่ป่าทางตอนเหนือ อุดมไปด้วยแร่หายาก แต่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างกองทัพเมียนมาและกองทัพปลดปล่อยคะฉิ่น (KIA) ส่วนใหญ่ทำลายสิ่งแวดล้อม น้ำกลายเป็นโคลน และสัตว์ป่าลดลง • รัฐฉาน (Shan State): แร่หลัก: ดีบุก, ตะกั่ว, สังกะสี, ทังสเตน,ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ เช่น เหมือง Man Maw การควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธที่เชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา ทำให้เงินจากเหมือง สนับสนุนกองทัพ สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมหาศาลเช่นกันและลุกลามไปยังประเทศเพื่อนบ้านคือประเทศไทย • เขตสะกาย (Sagaing Region): แร่หลัก: ทองแดง, นิกเกิล, ทองคำพื้นที่ที่มีการสู้รบหนักระหว่างกองทัพเมียนมาและกองกำลัง PDF • เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region): แร่หลัก: แร่หายาก, พลวง, อิตเทรียม, ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองขนาดเล็กกระจายอยู่ • เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region): แร่หลัก: ดีบุก เป็นเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ใกล้ชายฝั่ง • รัฐมอญ (Mon State): แร่หลัก: ทองแดง เป็นเหมืองขนาดเล็กถึงปานกลาง • รัฐกะยา (Kayah State): แร่หลัก: ตะกั่ว พื้นที่ที่มีความขัดแย้งสูง ______________________________ สอบทานต้นทาง-ย้อนกลับห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของแร่ธาตุจากเมียนมาไปจีนมีลักษณะดังนี้ เริ่มต้นสำรวจแหล่ง แน่นอนฐานข้อมูลมีอยู่แล้วในมือรัฐบาลทหารพม่า และในกำมือเทคโนโลยีจีน ก่อนจะให้บริษัทเอกชนในแต่ละความถนัดของจีน และของพม่าเอง ขุดและแปรรูปเบื้องต้น เหมืองส่วนใหญ่ในพม่าดำเนินการโดยบริษัทท้องถิ่นหรือบริษัทจีนร่วมทุน การแปรรูปขั้นต้น (เช่น การถลุงแร่ดีบุก) มักทำในเมียนมาก่อนส่งออก ส่วนใหญ่ในพื้นที่ขัดแย้งทำให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและการละเมิดสิทธิมนุษยชน การขนส่ง เส้นทางหลัก: จากเหมืองในรัฐคะฉิ่นและฉานไปยังชายแดนจีน (มณฑลยูนนาน) ผ่านทางรถไฟหรือถนน เช่น เส้นทางรถไฟเจ้าผิ่ว-มูเซ บางส่วนส่งออกผ่านท่าเรือในเขตตะนาวศรีและย่างกุ้ง การแปรรูปขั้นสูงในจีน ปลายทางคือโรงงานแปรรูปอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง, เจียงซู, และแถบเศรษฐกิจแยงซีเกียง โดยแร่หายากถูกกลั่นเป็นโลหะบริสุทธิ์หรือสารประกอบ เช่น นีโอดิเมียมสำหรับแม่เหล็ก หรืออิตเทรียมสำหรับ LED สายพานอุตสาหกรรมที่ใช้งานแบ่งตามแร่ธาตุอุตสาหกรรมเทคโนโลยี: แร่หายาก (REEs) และดีบุกใช้ในสมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์, เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า: แร่หายาก (นีโอดิเมียม, ดิสโพรเซียม) และนิกเกิลใช้ในมอเตอร์และแบตเตอรี่ พลังงานสะอาด: ทังสเตนและพลวงใช้ในกังหันลมและแผงโซลาร์ อุตสาหกรรมทหาร: แร่หายากและพลวงใช้ในขีปนาวุธ, เรดาร์, และเลเซอร์ การก่อสร้างและเครื่องจักร: ทองแดงและสังกะสีใช้ในสายไฟและโครงสร้าง ความท้าทายในระบบ Supply Chain ส่วนใหญ่คือความขัดแย้งในเมียนมาอาจขัดขวางการขนส่ง จากผลประโยชน์มหาศาลเพื่อนำมาเป็นอาวุธและจุนเจือเสบียงในการรบ ขณะที่นานาชาติได้เรียกร้องให้ตรวจสอบแร่จากพื้นที่ขัดแย้ง แต่จีนเป็นประเทศเดียวที่บังคับให้แยกแร่จากเมียนมาและจีน ______________________________ ล่าสุด กองกำลังเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independent Organization, Kachin Independent Army- KIA) ซึ่งได้เป็นเจ้าของใหม่ของเหมืองแร่หายาก หรือแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน (ราว 160,000 บาท) พื้นที่แหล่งแร่หายากที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในเขตปางวาและชิพเว (Pang Wa, Chi Pwi) ในรัฐคะฉิ่น ซึ่งกลุ่ม KIA เข้ายึดครองในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 ได้รับอนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังจีนหลังจากควบคุมพื้นที่มาได้ 6 เดือน สำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 KIO/KIA ได้อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน อย่างไรก็ตาม รายละเอียดอื่น ๆ ในหนังสืออนุญาตของ KIO ยังไม่ได้รับการเปิดเผย เจ้าหน้าที่ KIA เขตปางวาให้ข้อมูลว่าKIO/KIA และรัฐบาลจีน ยังคงเจรจาเกี่ยวกับการใช้จุดผ่านแดนเดียวในการส่งออกแร่หายาก และจนถึงสัปดาห์ที่สองของเดือนเมษายน ยังไม่มีการส่งออกอย่างเป็นทางการ KIA สามารถควบคุมจุดผ่านแดนทางการค้าระหว่างจีน-พม่าในรัฐคะฉิ่นทั้งหมด ได้แก่ กานปายตี Kan Pai Ti, ล่วยเจ Loi Je และปางวา ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าจะใช้จุดผ่านแดนใดในการส่งออก หลังจากที่ KIA ควบคุมพื้นที่ปางวาและชิพเว รัฐบาลจีนได้มีคำสั่งปิดจุดผ่านแดนทั้งหมด ทำให้บริษัทเหมืองแร่ส่วนใหญ่หยุดดำเนินการ มีเพียงบางบริษัทที่ยังคงขุดแร่ต่อไป เนื่องจากยังมีวัตถุดิบหลงเหลืออยู่ รายงานของ Global Witness ระบุว่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาเริ่มขึ้นในปี 2016 โดยนักธุรกิจชาวจีน ซึ่งส่งออกแร่ไปยังจีนเป็นหลัก ตามข้อมูลปัจจุบัน พม่าติดอันดับ 3 ของประเทศผู้ผลิตแร่แรร์เอิร์ท และคิดเป็น 50% ของการส่งออกแร่หายากทั่วโลก หลังจากการรัฐประหารของกองทัพพม่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาและชิพเวเพิ่มขึ้น 40% และจำนวนเหมืองแร่เพิ่มขึ้นกว่า 300 แห่ง ในปี 2566 เพียงปีเดียว มีการส่งออกแร่หายากไปยังจีนมากถึง 41,700 ตัน สร้างรายได้ถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ______________________________ สรุปขมวดปม การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนช่วยเสริมความมั่นคงของซัพพลายเชนแร่หายากในจีน ลดภาวะขาดแคลนและสนับสนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้านความโปร่งใสและความยั่งยืนในตลาดแร่ธาตุของจีน แร่ธาตุหายากจากพม่ามีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของจีน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูงและพลังงานสะอาด ซึ่งจีนพึ่งพาการนำเข้าแร่จากพม่าเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของแร่หายากที่ใช้ในประเทศ เหมืองแร่หายากเหล่านี้ทั้งหมด รวมถึงแร่ทองคำ และอื่น ๆ ที่ปักหมุดขุดหลุมร่อนตระแกรง ทุกรัฐในเมียนมาก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ป่าเขา แม่น้ำ ลำธาร โดยคนงานบางรายถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างโหดร้าย หญิงคนงานถูกล่วงละเมิดทางเพศ และหลายคนได้รับอันตรายทางสุขภาพอย่างร้ายแรงจากสารเคมีที่ใช้ในเหมือง และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ที่กว้างขวางขึ้นรวมถึงประเทศไทย และลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน คำถามคือจีนมีส่วนสำคัญในการสร้างมลภาวะในพื้นที่ ควรจะร่วมรับผิดชอบหรือไม่ ไม่ใช่การสูบทรัพยากรในพื้นที่แต่ไม่ได้เหลียวแลผลกระทบที่จะตามมา อันจะกลายเป็นการสร้างปัญหาใหญ่ให้กับจีนในอนาคต อ้างอิง : https://www.facebook.com/GlobalWitness/ และสำนักข่าวชายขอบ https://shorturl.asia/6GnqX ประชาไท https://prachatai.com/journal/2025/01/111942 ______________________________ 10 อันดับแร่ธาตุที่ส่งออกจากเมียนมาไปจีน (เรียงตามมูลค่าประเมิน) 1. แร่ดีบุก (Tin) o มูลค่า: สูงสุด เนื่องจากเมียนมาเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และจีนนำเข้า 95% ของหัวแร่ดีบุกจากเมียนมาในปี 2563 o การใช้งาน: ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (บัดกรีแผงวงจร), การผลิตโลหะผสม o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน (Shan State), เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region) 2. แร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs) o มูลค่า: สูง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน o การใช้งาน: ผลิตแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets), แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า, อุปกรณ์เลเซอร์, เซมิคอนดักเตอร์ o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น (Kachin State), เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region) 3. ทองแดง (Copper) o มูลค่า: สูง เนื่องจากราคาทองแดงในตลาดโลกพุ่งสูงหลังรัฐประหาร o การใช้งาน: สายไฟ, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, การก่อสร้าง o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย (Sagaing Region), รัฐมอญ (Mon State) 4. ตะกั่ว (Lead) o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ใช้ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ o การใช้งาน: แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด, อุตสาหกรรมยานยนต์ o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐกะยา (Kayah State) 5. สังกะสี (Zinc) o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมเคลือบโลหะ o การใช้งาน: การชุบกัลวาไนซ์, โลหะผสม o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, เขตย่างกุ้ง (Yangon Region) 6. นิกเกิล (Nickel) o มูลค่า: ปานกลาง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ o การใช้งาน: แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน, สแตนเลส o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย, รัฐฉาน 7. พลวง (Antimony) o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมทหารและพลังงาน o การใช้งาน: สารหน่วงไฟ, โลหะผสม, อุปกรณ์ทหาร o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์ 8. ทังสเตน (Tungsten) o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมที่มีความแข็งสูง o การใช้งาน: โลหะผสม, เครื่องมือตัด, อุปกรณ์ทหาร o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐคะฉิ่น 9. ทองคำ (Gold) o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลก o การใช้งาน: อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องประดับ o พื้นที่เหมือง: เขตมัณฑะเลย์, รัฐคะฉิ่น, เขตสะกาย 10. อิตเทรียม (Yttrium) o มูลค่า: ต่ำถึงปานกลาง แต่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมเฉพาะ o การใช้งาน: สารเรืองแสงใน LED, อุปกรณ์ MRI, เซรามิก o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์ หมายเหตุ: มูลค่าที่ระบุเป็นการประเมินจากความสำคัญในห่วงโซ่อุปทานและปริมาณการส่งออก เนื่องจากไม่มีข้อมูลตัวเลขที่แน่นอนหลังรัฐประหาร ______________________________
    0 Comments 0 Shares 365 Views 0 Reviews
  • TechTuber Necroware ได้ทำการซ่อมแซม Sound Blaster 16 สองตัวจากยุค 90 ซึ่งเป็นการบูรณะฮาร์ดแวร์คลาสสิกที่ท้าทาย โดยการซ่อมแซมนี้แสดงให้เห็นถึงความหลงใหลของนักเทคโนโลยีที่ยังคงให้ความสำคัญกับอุปกรณ์วินเทจ

    https://youtu.be/J4djhBXUQ1I?si=8JATotr_6l9lcbK0

    ✅ Necroware ซ่อมแซม Sound Blaster 16 รุ่น CT2230 และ CT2290
    - CT2230 มี รอยขีดข่วนและขาดชิ้นส่วน แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการเชื่อมต่อสายไฟใหม่
    - CT2290 มีปัญหาหนักกว่า โดยเริ่มต้น ไม่สามารถตรวจพบการ์ดได้เลย

    ✅ การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการซ่อมแซม
    - Necroware ใช้ กล้องดิจิทัลและสถานีบัดกรี เพื่อค้นหาและแก้ไขรอยแตกบน PCB
    - ใช้ 3D printing เพื่อสร้าง bracket ใหม่ สำหรับการ์ดที่ขาดชิ้นส่วน

    ✅ การแก้ไขปัญหาชิป CT1748A
    - CT2290 มีปัญหาด้านเสียง เนื่องจาก ขาดชิป CT1748A ซึ่งเคยถูกถอดออกไปใช้ในโปรเจคอื่น
    - Necroware ติดตั้ง socket เพื่อให้สามารถเปลี่ยนชิปได้ง่ายขึ้นในอนาคต

    ✅ ข้อเสนอแนะจากผู้ชม
    - มีผู้ชมแนะนำว่า สามารถตั้งค่า jumper บน PCB เพื่อแก้ไขปัญหาเสียงโดยไม่ต้องใช้ CT1748A
    - แสดงให้เห็นว่าการซ่อมแซมฮาร์ดแวร์วินเทจยังคงมี ชุมชนที่ช่วยกันแก้ไขปัญหา

    https://www.techspot.com/news/107549-enthusiast-restores-two-sound-blaster-16-cards-documenting.html
    TechTuber Necroware ได้ทำการซ่อมแซม Sound Blaster 16 สองตัวจากยุค 90 ซึ่งเป็นการบูรณะฮาร์ดแวร์คลาสสิกที่ท้าทาย โดยการซ่อมแซมนี้แสดงให้เห็นถึงความหลงใหลของนักเทคโนโลยีที่ยังคงให้ความสำคัญกับอุปกรณ์วินเทจ https://youtu.be/J4djhBXUQ1I?si=8JATotr_6l9lcbK0 ✅ Necroware ซ่อมแซม Sound Blaster 16 รุ่น CT2230 และ CT2290 - CT2230 มี รอยขีดข่วนและขาดชิ้นส่วน แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการเชื่อมต่อสายไฟใหม่ - CT2290 มีปัญหาหนักกว่า โดยเริ่มต้น ไม่สามารถตรวจพบการ์ดได้เลย ✅ การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการซ่อมแซม - Necroware ใช้ กล้องดิจิทัลและสถานีบัดกรี เพื่อค้นหาและแก้ไขรอยแตกบน PCB - ใช้ 3D printing เพื่อสร้าง bracket ใหม่ สำหรับการ์ดที่ขาดชิ้นส่วน ✅ การแก้ไขปัญหาชิป CT1748A - CT2290 มีปัญหาด้านเสียง เนื่องจาก ขาดชิป CT1748A ซึ่งเคยถูกถอดออกไปใช้ในโปรเจคอื่น - Necroware ติดตั้ง socket เพื่อให้สามารถเปลี่ยนชิปได้ง่ายขึ้นในอนาคต ✅ ข้อเสนอแนะจากผู้ชม - มีผู้ชมแนะนำว่า สามารถตั้งค่า jumper บน PCB เพื่อแก้ไขปัญหาเสียงโดยไม่ต้องใช้ CT1748A - แสดงให้เห็นว่าการซ่อมแซมฮาร์ดแวร์วินเทจยังคงมี ชุมชนที่ช่วยกันแก้ไขปัญหา https://www.techspot.com/news/107549-enthusiast-restores-two-sound-blaster-16-cards-documenting.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Enthusiast restores two Sound Blaster 16 cards documenting the challenges of vintage hardware repair
    If you're old enough, you will be familiar with the iconic Sound Blaster bundle boxes as shown above (credit). A legendary setup for any '90s PC gamer...
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • Anthropic ได้เปิดตัว Claude Research และการผสานรวมกับ Google Workspace เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย Claude Research จะทำการค้นหาหลายครั้งเพื่อให้ได้คำตอบที่ครอบคลุมและมีการอ้างอิงแหล่งข้อมูล

    ✅ Claude Research: ฟีเจอร์ใหม่สำหรับการค้นหาข้อมูล
    - คล้ายกับ Deep Research ของ ChatGPT แต่เน้นให้คำตอบที่กระชับและมีคุณภาพสูง
    - ทำการค้นหาหลายครั้งเพื่อสำรวจมุมมองต่างๆ ของคำถาม
    - ให้คำตอบพร้อม การอ้างอิงแหล่งข้อมูล เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบความถูกต้อง

    ✅ การผสานรวมกับ Google Workspace
    - Claude สามารถเข้าถึง Gmail และ Calendar เพื่อให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานของผู้ใช้
    - ผู้ใช้สามารถขอให้ Claude ตรวจสอบ บันทึกการประชุม และค้นหาเอกสารที่เกี่ยวข้อง
    - Claude สามารถให้ การอ้างอิงเนื้อหาแบบอินไลน์ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบแหล่งข้อมูลได้ง่ายขึ้น

    ✅ การปรับปรุงการค้นหาสำหรับองค์กร
    - ผู้ดูแลระบบสามารถเปิดใช้งาน cataloging เพื่อให้ Claude ค้นหาข้อมูลจากเอกสารภายในองค์กรได้ดีขึ้น
    - ใช้เทคนิค Retrieval-Augmented Generation (RAG) เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการค้นหา

    ✅ การเปิดใช้งานและการเข้าถึง
    - Claude Research เปิดให้ใช้งานใน Max, Team และ Enterprise plans ในสหรัฐฯ, ญี่ปุ่น และบราซิล
    - การผสานรวมกับ Google Workspace เปิดให้ใช้งานสำหรับ ผู้ใช้ที่สมัครแพ็กเกจแบบชำระเงิน
    - ผู้ดูแลระบบต้องเปิดใช้งาน Google Workspace integration ก่อนที่ผู้ใช้จะสามารถเชื่อมต่อบัญชีได้

    https://www.neowin.net/news/anthropic-claude-announces-google-workspace-integration-and-new-research-tool/
    Anthropic ได้เปิดตัว Claude Research และการผสานรวมกับ Google Workspace เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย Claude Research จะทำการค้นหาหลายครั้งเพื่อให้ได้คำตอบที่ครอบคลุมและมีการอ้างอิงแหล่งข้อมูล ✅ Claude Research: ฟีเจอร์ใหม่สำหรับการค้นหาข้อมูล - คล้ายกับ Deep Research ของ ChatGPT แต่เน้นให้คำตอบที่กระชับและมีคุณภาพสูง - ทำการค้นหาหลายครั้งเพื่อสำรวจมุมมองต่างๆ ของคำถาม - ให้คำตอบพร้อม การอ้างอิงแหล่งข้อมูล เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบความถูกต้อง ✅ การผสานรวมกับ Google Workspace - Claude สามารถเข้าถึง Gmail และ Calendar เพื่อให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานของผู้ใช้ - ผู้ใช้สามารถขอให้ Claude ตรวจสอบ บันทึกการประชุม และค้นหาเอกสารที่เกี่ยวข้อง - Claude สามารถให้ การอ้างอิงเนื้อหาแบบอินไลน์ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ตรวจสอบแหล่งข้อมูลได้ง่ายขึ้น ✅ การปรับปรุงการค้นหาสำหรับองค์กร - ผู้ดูแลระบบสามารถเปิดใช้งาน cataloging เพื่อให้ Claude ค้นหาข้อมูลจากเอกสารภายในองค์กรได้ดีขึ้น - ใช้เทคนิค Retrieval-Augmented Generation (RAG) เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการค้นหา ✅ การเปิดใช้งานและการเข้าถึง - Claude Research เปิดให้ใช้งานใน Max, Team และ Enterprise plans ในสหรัฐฯ, ญี่ปุ่น และบราซิล - การผสานรวมกับ Google Workspace เปิดให้ใช้งานสำหรับ ผู้ใช้ที่สมัครแพ็กเกจแบบชำระเงิน - ผู้ดูแลระบบต้องเปิดใช้งาน Google Workspace integration ก่อนที่ผู้ใช้จะสามารถเชื่อมต่อบัญชีได้ https://www.neowin.net/news/anthropic-claude-announces-google-workspace-integration-and-new-research-tool/
    WWW.NEOWIN.NET
    Anthropic Claude announces Google Workspace integration and new Research tool
    Anthropic has launched two new features for its AI assistant, Claude, aimed at enterprise users. The 'Research' feature performs multi-faceted searches for cited answers.
    0 Comments 0 Shares 91 Views 0 Reviews
  • พ่อเมืองน่านเปิดงาน “น่าน นันทบุรี สุขสะหรีปี๋ใหม่เมือง 2568” สืบสานสงกรานต์วิถีไทย ยกระดับสู่เวทีโลก

    วันที่ 15 เมษายน 2568 เวลา 12.30 น. ณ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร อ.เมืองน่าน จ.น่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดงานประเพณีสงกรานต์ “น่าน นันทบุรี สุขสะหรีปี๋ใหม่เมือง 2568” โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด ประธานสภาวัฒนธรรม ผู้นำท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชน เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก
    งานนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือของจังหวัดน่านและกระทรวงวัฒนธรรม ผ่านกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่ผลักดันให้น่านเป็นหนึ่งใน 12 จังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยวสงกรานต์ สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น สืบสานวิถีไทย พร้อมต่อยอดเทศกาลสงกรานต์ไทยสู่ระดับโลก ภายใต้แนวคิด “Festival Hub of Asia” เพื่อสร้างสังคมแห่งความผูกพัน และเชื่อมโยงความสัมพันธ์ในครอบครัว ชุมชน และสังคม
    พระวชิราภินันท์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร ได้เมตตาเอื้อเฟื้อสถานที่จัด

    @@@@@@@@

    กัลยา สองเมืองแก่น น่าน
    พ่อเมืองน่านเปิดงาน “น่าน นันทบุรี สุขสะหรีปี๋ใหม่เมือง 2568” สืบสานสงกรานต์วิถีไทย ยกระดับสู่เวทีโลก วันที่ 15 เมษายน 2568 เวลา 12.30 น. ณ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร อ.เมืองน่าน จ.น่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดงานประเพณีสงกรานต์ “น่าน นันทบุรี สุขสะหรีปี๋ใหม่เมือง 2568” โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด ประธานสภาวัฒนธรรม ผู้นำท้องถิ่น หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชน เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก งานนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือของจังหวัดน่านและกระทรวงวัฒนธรรม ผ่านกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ที่ผลักดันให้น่านเป็นหนึ่งใน 12 จังหวัดนำร่องด้านการท่องเที่ยวสงกรานต์ สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น สืบสานวิถีไทย พร้อมต่อยอดเทศกาลสงกรานต์ไทยสู่ระดับโลก ภายใต้แนวคิด “Festival Hub of Asia” เพื่อสร้างสังคมแห่งความผูกพัน และเชื่อมโยงความสัมพันธ์ในครอบครัว ชุมชน และสังคม พระวชิราภินันท์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร ได้เมตตาเอื้อเฟื้อสถานที่จัด @@@@@@@@ กัลยา สองเมืองแก่น น่าน
    0 Comments 0 Shares 153 Views 0 Reviews
  • **นิยายเรื่อง *The Seven Heirs: Bonds of the Compass*

    ### **Prologue: เงามรณะบนพิธีกรรม
    **สถานที่ : วิหารลับใต้ภูเขาหลวงพระบาง, ลาว**
    **เวลา : 1632 ปีก่อน**

    หมอกควันพิษสีม่วงคลุ้งรอบแท่นบูชาหิน บรรพบุรุษแห่ง 7 ตระกูลยืนเป็นวงกลมรอบ **"ดวงแก้วจตุรภุช"** แสงแก้วสะท้อนภาพหญิงสาวในชุดขาวถูกมัดไว้กลางแท่น—เธอคือ **หยวนเยี่ยน** หญิงร่างวิญญาณอมตะ

    **"เลือดบริสุทธิ์ของเธอจะผนึกคำสาปให้เราชั่วนิรันดร์!"** หัวหน้าตระกูลหลงร้องประกาศ แต่แล้วดวงแก้วก็ระเบิดเป็นแสงวาบวับ ภาพสุดท้ายที่ทุกคนเห็นคือหยวนเยี่ยนยิ้มอย่างเศร้าสร้อย ก่อนวิญญาณทั้งหมดถูกดูดเข้าไปในประตูมิติ...

    ---

    ### **ตอนที่ 1 : เสี้ยวผลึกแก้วแห่งโชคชะตา**
    **สถานที่ : ปักกิ่ง, จีน**
    **เวลา : ปัจจุบัน - 3 วันหลังพิธีล่มสลาย**

    **หลงเหมย** ฝันเห็นแม่ตาบอดส่งเสียงร้องในความมืด เธอตื่นขึ้นมาในห้องแล็บใต้ดินของตระกูลหลง ที่แขนขวาถูกติดตั้งท่อส่งเลือดสีม่วงเชื่อมกับ **หลงเจี้ยน**

    **"เลือดของฉันมีพิษ...พี่จะตายเพราะช่วยฉัน!"** เหมยพยายามดึงสายยางออก
    เจี้ยนจับมือเธอไว้แน่น : **"นี่คือคำขอโทษ...สำหรับเรื่องที่พี่ทำกับหยวนเยี่ยน"**

    บนจอคอมพิวเตอร์ ภาพแผนที่ 7 ทิศเริ่มเชื่อมโยงกัน แสดงตำแหน่ง **"ผอบศิลาทิศเหนือ"** ซ่อนอยู่ใน **ห้องอ่านหนังสือต้องห้าม** ของพระราชวังโบราณ แต่แล้วสัญญาณก็ถูกขัดจังหวะด้วยข้อความจาก **อสรพิษดำ*(blakeMemba)
    *"ม้ามืดคือผู้อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง...และเธอไว้ใจเขา!"*

    ---

    ### **ตอนที่ 2 : ดาบสลักรักที่เกียวโต**
    **สถานที่ : ปราสาทนินจาลับ, เกียวโต**
    **เวลา : ฤดูร้อนคืนจันทร์เสี้ยว**

    **ทาเคดะ ฮารุโตะ** ฝึกดาบกับเงาสีแดงที่ปรากฏในกระจก ทุกครั้งที่ฟันถูกต้อง เงาจะกลายเป็นภาพ **ซากุระ** น้องสาวตัวเองที่ถูกแทงกลางใจ

    **"หยุดเล่นละครเสียที!"** ซากุระกระโจนเข้ามาหยุดพี่ชาย พร้อมชูสมุดภาพวาดโบราณที่เพิ่งขโมยมาได้ : **"ดูสิ...ราชปุตกับทาเคดะเคยเป็นพันธมิตร!"**

    ภาพในสมุดแสดงพิธี **"สละสายเลือด"** เมื่อ 500 ปีก่อน หญิงชาวอินเดียในชุดกิโมโนกำลังตัดเส้นเลือดบนแขนสองเด็กชาย—ฮารุโตะจำได้ทันทีว่านั้นคือแม่ของเขา!

    ทันใดนั้น กระจกทุกบานในห้องแตกเป็นเสี่ยงๆ **วีร ราชปุต** ปรากฏตัวพร้อมปืนจ่อมาที่หัวฮารุโตะ :
    *"ยอมแพ้...หรืออยากรู้ความจริงว่าทำไมเลือดเราจึงดึงดูดกัน?"*

    ---

    ### **ตอนที่ 3 : ไฟใต้ธุลีวงเวียน**
    **สถานที่ : ตลาดเครื่องเทศมุมไบ, อินเดีย**
    **เวลา : ตอนเที่ยงวันที่แดดร้อนแรงที่สุด**

    **เดีย วิชายา** ซ่อนตัวอยู่หลังรถบรรทุกเครื่องเทศ ตามหาพยานหลักฐานที่เชื่อมโยง **อานยา** น้องสาวกับองค์กรอสรพิษดำ(blakeMemba) เธอใช้กล้องส่องเห็น **อานยา** กำลังเจาะห้องนิรภัยในตึกระฟ้า

    **"นั่นไม่ใช่น้องฉัน..."** เดียกระซิบด้วยความหวาดหวั่นเมื่อเห็นอานยาฉีดสารสีดำเข้าหลอดเลือดตัวเอง ก่อนที่ร่างเธอจะบิดเบี้ยวเหมือนงูยักษ์

    เดียรีบส่งข้อมูลให้ **อาริ** พี่ชายในบาหลี แต่กลับถูกจับกุมโดย **เหงียนล็อง** สถาปนิกหนุ่มผู้ถือพิมพ์เขียวประหลาด :
    *"คุณคือตัวเชื่อม...แผนที่ทุกอันชี้มาที่คุณ!"*

    ---

    ### **ตอนที่ 4 : ศึกสายฟ้าในสายฝน**
    **สถานที่ : เกาะภูเขาไฟบาหลี, อินโดนีเซีย**
    **เวลา : ขณะภูเขาไฟเริ่มคำรามปะทุ**

    **อาริ วิชายา** ต่อสู้กับปีศาจุตนุคลายเต่าตัวขนาดใหญ่มีเกล็ดแขงปกคลุมทั่วตัวที่หลุดมาจากพิธีกรรมโบราณ เขาใช้มีดกรีดแขนตัวเองให้เลือดไหลลงลาวา :
    *"กินฉันไป...แต่ปล่อยน้องสาวฉันด้วย!"*

    ปีศาจตนุหัวเราะคราง : *"มนุษย์จอมปลอม...เจ้าคือลูกหลานของข้าเอง!"*
    ภาพหลอนแสดงให้อาริเห็นว่า เขาคือทายาทรุ่นที่ 100 ของการผสมพันธุ์ระหว่างมนุษย์กับปีศาจ

    ท่ามกลางความสับสน **เหงียนลาน** ปรากฏตัวพร้อมกระทะไฟ :
    *"ช่วยกันทำอาหารปราบปีศาจศักดิ์สิทธิ์ไหม? สูตรนี้ต้องใช้เลือดคนรักแท้...ซึ่งเราทั้งคู่ไม่มี!"*

    ---

    ### **ตอนที่ 5 : เพลงคำสาปในวงวัตธจักรโคจร**
    **สถานที่ : ห้องสตูดิโอใต้ดินโซล, เกาหลีใต้**
    **เวลา : ตอนเที่ยงคืนตรง**

    **คิมจีอู** กำลังอัดเพลงลับ *"Starlight Requiem"** ในห้องซาวด์พรูฟที่เต็มไปด้วยเครื่องมือแพทย์ **แทฮยอน** นั่งเฝ้าอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แฮ็กข้อมูลจากดาวเทียม

    **"Oppa...ฉันได้ยินเสียงแม่ในไมโครโฟน"** จีอูสะอื้นขณะเสียงประสานหลอนเริ่มดังขึ้น
    แทฮยอนสแกนคลื่นเสียงแล้วตกใจ : **"นี่ไม่ใช่เสียงแม่...มันเป็นคำสาปจากผลึกดวงแก้ว!"**

    จอคอมพิวเตอร์ระเบิดเป็นไฟสีคราม **อสรพิษดำ**(bmb) บุกเข้ามาพร้อมประกาศ :
    *"เราจะใช้เพลงนี้เปิดประตูมิติ...และนางจะตายในวันที่เสียงเพลงจบลง!"*

    ---

    ### **ตอนที่ 6 : ระบำไฟแห่งอาถรรพณ์**
    **สถานที่ : เรือนแพกลางแม่น้ำเจ้าพระยา, ไทย**
    **เวลา : งานสงกรานต์**

    **ณัฐ ศรีสุวรรณ** ต่อสู้กับนักมวยปริศนาบนสะพานเรือ ทุกหมัดที่ต่อยโดนทำให้เขามองเห็นภาพ **พิมพ์ลดา** น้องสาวกำลังเต้นระบำหน้ากากกลางไฟ

    **"นี่ไม่ใช่การต่อสู้...แต่เป็นการเซ่นสังเวย!"** ณัฐตะโกนขณะรอยสักนาคราชลุกเป็นไฟ
    เขาใช้หมัดสุดท้ายทุบแท่นบูชา จนชิ้นแก้วทิศใต้หลุดออกมา—แต่กลับพบศพ **เดีย วิชายา** ถูกมัดไว้ใต้แท่น!

    พิมพ์ลดาปรากฏตัวในร่างเทพธิดา :
    *"เลือกเถิด...ระหว่างชีวิตนาง กับพลังปราบอสรพิษ?"*

    ---

    ### **ตอนที่ 7 : จุดชนวนอรุณกรรม**
    **สถานที่ : ยอดเขาหลวงพระบาง**
    **เวลา : รุ่งสางวันที่ดวงอาทิตย์อ่อนแสง

    ทุกตระกูลมาบรรจบกันที่ปล่องไฟโบราณ **เหงียนล็อง** ต่อจิ๊กซอว์ชิ้นผลึกแก้วจนสมบูรณ์ แต่กลับพบว่าต้องการ **"เลือดบริสุทธิ์ 7 หยดจากผู้มีรักแท้"**

    - **เจี้ยนกับหยวนเยี่ยน** : แม้เป็นศัตรูแต่เลือดกลับเข้ากัน
    - **ฮารุโตะกับวีร** : พี่น้องต่างมารดาที่เกลียดชังกัน
    - **จีอูกับแทฮยอน** : ความรักพี่น้องที่เกินขอบเขต
    - **ณัฐกับพิมพ์ลดา** : รักที่ถูกสาปให้เป็นสายเลือด
    - **ล็องกับลาน** : ผู้เห็นความฝันร้ายของกันและกัน

    เมื่อเลือดหยดสุดท้ายถูกเติมเต็ม **ประตูมิติวิญญาณ** เปิดออก เผยให้เห็น **หยวนเยี่ยนตัวจริง** ที่ถูกกักขังมานับพันปี :
    *"ขอบคุณ...ที่ทำให้ฉันได้ตายอย่างมนุษย์คนหนึ่งเสียที*

    ---

    ### **Epilogue: สายลมใหม่แห่งเอเชีย**
    **1 ปีต่อมา**
    - **เจี้ยน** เปิดโรงเรียนสอนแพทย์แผนโบราณที่ปักกิ่ง โดยมี **เหมย** เป็นผู้ช่วย
    - **ฮารุโตะกับวีร** ร่วมกันสร้างพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ตระกูลที่เกียวโต
    - **จีอู** กลายเป็นครูสอนดนตรีให้เด็กด้อยโอกาส โดยมี **แทฮยอน** คอยปกป้อง
    - **ณัฐ** สร้างคณะระบำหน้ากากที่ใช้การเต้นรักษาคำสาป
    - **ล็องกับลาน** ค้นพบสูตรอาหารที่ช่วยลบความฝันร้าย

    บนยอดเขาหลวงพระบาง **ดวงแก้วจตุรภุช** ถูกแปรสภาพเป็นอนุสาวรีย์แก้วสีรุ้ง ที่ฐานเขียนไว้ว่า :
    *"ชะตากรรมไม่ใช่สิ่งที่กำหนดไว้...แต่คือสิ่งที่เราเลือกจะเชื่อ"*

    ---

    **Preview ตอนต่อไป :**
    - ความลับสุดท้ายของ "ม้ามืด" ที่แฝงตัวใน 7 ตระกูล
    - การกลับมาของพลังปีศาจตนุในร่างใหม่
    - ความสัมพันธ์ลึกลับระหว่างพิมพ์ลดากับจีอูข้ามชาติภพ...
    **นิยายเรื่อง *The Seven Heirs: Bonds of the Compass* ### **Prologue: เงามรณะบนพิธีกรรม **สถานที่ : วิหารลับใต้ภูเขาหลวงพระบาง, ลาว** **เวลา : 1632 ปีก่อน** หมอกควันพิษสีม่วงคลุ้งรอบแท่นบูชาหิน บรรพบุรุษแห่ง 7 ตระกูลยืนเป็นวงกลมรอบ **"ดวงแก้วจตุรภุช"** แสงแก้วสะท้อนภาพหญิงสาวในชุดขาวถูกมัดไว้กลางแท่น—เธอคือ **หยวนเยี่ยน** หญิงร่างวิญญาณอมตะ **"เลือดบริสุทธิ์ของเธอจะผนึกคำสาปให้เราชั่วนิรันดร์!"** หัวหน้าตระกูลหลงร้องประกาศ แต่แล้วดวงแก้วก็ระเบิดเป็นแสงวาบวับ ภาพสุดท้ายที่ทุกคนเห็นคือหยวนเยี่ยนยิ้มอย่างเศร้าสร้อย ก่อนวิญญาณทั้งหมดถูกดูดเข้าไปในประตูมิติ... --- ### **ตอนที่ 1 : เสี้ยวผลึกแก้วแห่งโชคชะตา** **สถานที่ : ปักกิ่ง, จีน** **เวลา : ปัจจุบัน - 3 วันหลังพิธีล่มสลาย** **หลงเหมย** ฝันเห็นแม่ตาบอดส่งเสียงร้องในความมืด เธอตื่นขึ้นมาในห้องแล็บใต้ดินของตระกูลหลง ที่แขนขวาถูกติดตั้งท่อส่งเลือดสีม่วงเชื่อมกับ **หลงเจี้ยน** **"เลือดของฉันมีพิษ...พี่จะตายเพราะช่วยฉัน!"** เหมยพยายามดึงสายยางออก เจี้ยนจับมือเธอไว้แน่น : **"นี่คือคำขอโทษ...สำหรับเรื่องที่พี่ทำกับหยวนเยี่ยน"** บนจอคอมพิวเตอร์ ภาพแผนที่ 7 ทิศเริ่มเชื่อมโยงกัน แสดงตำแหน่ง **"ผอบศิลาทิศเหนือ"** ซ่อนอยู่ใน **ห้องอ่านหนังสือต้องห้าม** ของพระราชวังโบราณ แต่แล้วสัญญาณก็ถูกขัดจังหวะด้วยข้อความจาก **อสรพิษดำ*(blakeMemba) *"ม้ามืดคือผู้อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง...และเธอไว้ใจเขา!"* --- ### **ตอนที่ 2 : ดาบสลักรักที่เกียวโต** **สถานที่ : ปราสาทนินจาลับ, เกียวโต** **เวลา : ฤดูร้อนคืนจันทร์เสี้ยว** **ทาเคดะ ฮารุโตะ** ฝึกดาบกับเงาสีแดงที่ปรากฏในกระจก ทุกครั้งที่ฟันถูกต้อง เงาจะกลายเป็นภาพ **ซากุระ** น้องสาวตัวเองที่ถูกแทงกลางใจ **"หยุดเล่นละครเสียที!"** ซากุระกระโจนเข้ามาหยุดพี่ชาย พร้อมชูสมุดภาพวาดโบราณที่เพิ่งขโมยมาได้ : **"ดูสิ...ราชปุตกับทาเคดะเคยเป็นพันธมิตร!"** ภาพในสมุดแสดงพิธี **"สละสายเลือด"** เมื่อ 500 ปีก่อน หญิงชาวอินเดียในชุดกิโมโนกำลังตัดเส้นเลือดบนแขนสองเด็กชาย—ฮารุโตะจำได้ทันทีว่านั้นคือแม่ของเขา! ทันใดนั้น กระจกทุกบานในห้องแตกเป็นเสี่ยงๆ **วีร ราชปุต** ปรากฏตัวพร้อมปืนจ่อมาที่หัวฮารุโตะ : *"ยอมแพ้...หรืออยากรู้ความจริงว่าทำไมเลือดเราจึงดึงดูดกัน?"* --- ### **ตอนที่ 3 : ไฟใต้ธุลีวงเวียน** **สถานที่ : ตลาดเครื่องเทศมุมไบ, อินเดีย** **เวลา : ตอนเที่ยงวันที่แดดร้อนแรงที่สุด** **เดีย วิชายา** ซ่อนตัวอยู่หลังรถบรรทุกเครื่องเทศ ตามหาพยานหลักฐานที่เชื่อมโยง **อานยา** น้องสาวกับองค์กรอสรพิษดำ(blakeMemba) เธอใช้กล้องส่องเห็น **อานยา** กำลังเจาะห้องนิรภัยในตึกระฟ้า **"นั่นไม่ใช่น้องฉัน..."** เดียกระซิบด้วยความหวาดหวั่นเมื่อเห็นอานยาฉีดสารสีดำเข้าหลอดเลือดตัวเอง ก่อนที่ร่างเธอจะบิดเบี้ยวเหมือนงูยักษ์ เดียรีบส่งข้อมูลให้ **อาริ** พี่ชายในบาหลี แต่กลับถูกจับกุมโดย **เหงียนล็อง** สถาปนิกหนุ่มผู้ถือพิมพ์เขียวประหลาด : *"คุณคือตัวเชื่อม...แผนที่ทุกอันชี้มาที่คุณ!"* --- ### **ตอนที่ 4 : ศึกสายฟ้าในสายฝน** **สถานที่ : เกาะภูเขาไฟบาหลี, อินโดนีเซีย** **เวลา : ขณะภูเขาไฟเริ่มคำรามปะทุ** **อาริ วิชายา** ต่อสู้กับปีศาจุตนุคลายเต่าตัวขนาดใหญ่มีเกล็ดแขงปกคลุมทั่วตัวที่หลุดมาจากพิธีกรรมโบราณ เขาใช้มีดกรีดแขนตัวเองให้เลือดไหลลงลาวา : *"กินฉันไป...แต่ปล่อยน้องสาวฉันด้วย!"* ปีศาจตนุหัวเราะคราง : *"มนุษย์จอมปลอม...เจ้าคือลูกหลานของข้าเอง!"* ภาพหลอนแสดงให้อาริเห็นว่า เขาคือทายาทรุ่นที่ 100 ของการผสมพันธุ์ระหว่างมนุษย์กับปีศาจ ท่ามกลางความสับสน **เหงียนลาน** ปรากฏตัวพร้อมกระทะไฟ : *"ช่วยกันทำอาหารปราบปีศาจศักดิ์สิทธิ์ไหม? สูตรนี้ต้องใช้เลือดคนรักแท้...ซึ่งเราทั้งคู่ไม่มี!"* --- ### **ตอนที่ 5 : เพลงคำสาปในวงวัตธจักรโคจร** **สถานที่ : ห้องสตูดิโอใต้ดินโซล, เกาหลีใต้** **เวลา : ตอนเที่ยงคืนตรง** **คิมจีอู** กำลังอัดเพลงลับ *"Starlight Requiem"** ในห้องซาวด์พรูฟที่เต็มไปด้วยเครื่องมือแพทย์ **แทฮยอน** นั่งเฝ้าอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แฮ็กข้อมูลจากดาวเทียม **"Oppa...ฉันได้ยินเสียงแม่ในไมโครโฟน"** จีอูสะอื้นขณะเสียงประสานหลอนเริ่มดังขึ้น แทฮยอนสแกนคลื่นเสียงแล้วตกใจ : **"นี่ไม่ใช่เสียงแม่...มันเป็นคำสาปจากผลึกดวงแก้ว!"** จอคอมพิวเตอร์ระเบิดเป็นไฟสีคราม **อสรพิษดำ**(bmb) บุกเข้ามาพร้อมประกาศ : *"เราจะใช้เพลงนี้เปิดประตูมิติ...และนางจะตายในวันที่เสียงเพลงจบลง!"* --- ### **ตอนที่ 6 : ระบำไฟแห่งอาถรรพณ์** **สถานที่ : เรือนแพกลางแม่น้ำเจ้าพระยา, ไทย** **เวลา : งานสงกรานต์** **ณัฐ ศรีสุวรรณ** ต่อสู้กับนักมวยปริศนาบนสะพานเรือ ทุกหมัดที่ต่อยโดนทำให้เขามองเห็นภาพ **พิมพ์ลดา** น้องสาวกำลังเต้นระบำหน้ากากกลางไฟ **"นี่ไม่ใช่การต่อสู้...แต่เป็นการเซ่นสังเวย!"** ณัฐตะโกนขณะรอยสักนาคราชลุกเป็นไฟ เขาใช้หมัดสุดท้ายทุบแท่นบูชา จนชิ้นแก้วทิศใต้หลุดออกมา—แต่กลับพบศพ **เดีย วิชายา** ถูกมัดไว้ใต้แท่น! พิมพ์ลดาปรากฏตัวในร่างเทพธิดา : *"เลือกเถิด...ระหว่างชีวิตนาง กับพลังปราบอสรพิษ?"* --- ### **ตอนที่ 7 : จุดชนวนอรุณกรรม** **สถานที่ : ยอดเขาหลวงพระบาง** **เวลา : รุ่งสางวันที่ดวงอาทิตย์อ่อนแสง ทุกตระกูลมาบรรจบกันที่ปล่องไฟโบราณ **เหงียนล็อง** ต่อจิ๊กซอว์ชิ้นผลึกแก้วจนสมบูรณ์ แต่กลับพบว่าต้องการ **"เลือดบริสุทธิ์ 7 หยดจากผู้มีรักแท้"** - **เจี้ยนกับหยวนเยี่ยน** : แม้เป็นศัตรูแต่เลือดกลับเข้ากัน - **ฮารุโตะกับวีร** : พี่น้องต่างมารดาที่เกลียดชังกัน - **จีอูกับแทฮยอน** : ความรักพี่น้องที่เกินขอบเขต - **ณัฐกับพิมพ์ลดา** : รักที่ถูกสาปให้เป็นสายเลือด - **ล็องกับลาน** : ผู้เห็นความฝันร้ายของกันและกัน เมื่อเลือดหยดสุดท้ายถูกเติมเต็ม **ประตูมิติวิญญาณ** เปิดออก เผยให้เห็น **หยวนเยี่ยนตัวจริง** ที่ถูกกักขังมานับพันปี : *"ขอบคุณ...ที่ทำให้ฉันได้ตายอย่างมนุษย์คนหนึ่งเสียที* --- ### **Epilogue: สายลมใหม่แห่งเอเชีย** **1 ปีต่อมา** - **เจี้ยน** เปิดโรงเรียนสอนแพทย์แผนโบราณที่ปักกิ่ง โดยมี **เหมย** เป็นผู้ช่วย - **ฮารุโตะกับวีร** ร่วมกันสร้างพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ตระกูลที่เกียวโต - **จีอู** กลายเป็นครูสอนดนตรีให้เด็กด้อยโอกาส โดยมี **แทฮยอน** คอยปกป้อง - **ณัฐ** สร้างคณะระบำหน้ากากที่ใช้การเต้นรักษาคำสาป - **ล็องกับลาน** ค้นพบสูตรอาหารที่ช่วยลบความฝันร้าย บนยอดเขาหลวงพระบาง **ดวงแก้วจตุรภุช** ถูกแปรสภาพเป็นอนุสาวรีย์แก้วสีรุ้ง ที่ฐานเขียนไว้ว่า : *"ชะตากรรมไม่ใช่สิ่งที่กำหนดไว้...แต่คือสิ่งที่เราเลือกจะเชื่อ"* --- **Preview ตอนต่อไป :** - ความลับสุดท้ายของ "ม้ามืด" ที่แฝงตัวใน 7 ตระกูล - การกลับมาของพลังปีศาจตนุในร่างใหม่ - ความสัมพันธ์ลึกลับระหว่างพิมพ์ลดากับจีอูข้ามชาติภพ...
    Yay
    1
    0 Comments 0 Shares 216 Views 0 Reviews
  • รอง ผู้ว่าฯ กทม.เผยความคืบหน้าเหตุตึก สตง.พังถล่ม พบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 44 ราย เตรียมจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือรายละ 1 แสนบาท 18 เม.ย.นี้

    วันนี้ (15 เม.ย.) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าปฏิบัติการรื้อซากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พังถล่ม และการค้นหาผู้ประสบภัยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามลดความสูงของซากอาคารโดยการเข้ารื้อถอนเข้าจากทุกด้าน ทำให้เมื่อคืนนี้ สามารถนำร่างออกมาได้เพิ่มเติมรวมทั้งหมดตอนนี้พบร่างผู้เสียชีวิต 44 ราย และยังค้นหาผู้สูญหายตามรายชื่ออีก 50 ราย ซึ่งพบว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ที่ร่างส่วนใหญ่อยู่บริเวณบันไดหนีไฟ ในโซน C เชื่อมต่อโซน B

    ทั้งนี้ยืนยันว่า ปฏิบัติการทั้งหมดยังคงเป็นไปตามแผน แต่มีอุปสรรคสำคัญคือ พบขดลวดเป็นจำนวนมากในซากอาคารจึงจำเป็นต้องใช้ รถตัดเหล็กเส้นแบบแก๊ส ซึ่งตอนนี้มีประจำอยู่หน้างานแล้ว 1 คันแต่วันนี้จะนำมาเพิ่มอีก 1 คันเพื่อให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้น ก่อนที่จะให้รถใหญ่เข้าไปรื้อถอนลดความสูงของซากอาคารให้ได้มากที่สุด ปัจจุบันความสูงของซากอาคารเหลือ 19 เมตร โดยในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่จะนำรถเครนขนาดเล็กออกจากพื้นที่ เพื่อเปิดทางให้รถเครนขนาดกลางและขนาดใหญ่ได้สามารถเข้าหน้างานได้สะดวกมากขึ้น เพราะเป็นช่วงที่ต้องใช้เครื่องจักรใหญ่ที่หน้างาน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000035674

    #MGROnline #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง.
    รอง ผู้ว่าฯ กทม.เผยความคืบหน้าเหตุตึก สตง.พังถล่ม พบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 44 ราย เตรียมจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือรายละ 1 แสนบาท 18 เม.ย.นี้ • วันนี้ (15 เม.ย.) รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงความคืบหน้าปฏิบัติการรื้อซากอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) พังถล่ม และการค้นหาผู้ประสบภัยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามลดความสูงของซากอาคารโดยการเข้ารื้อถอนเข้าจากทุกด้าน ทำให้เมื่อคืนนี้ สามารถนำร่างออกมาได้เพิ่มเติมรวมทั้งหมดตอนนี้พบร่างผู้เสียชีวิต 44 ราย และยังค้นหาผู้สูญหายตามรายชื่ออีก 50 ราย ซึ่งพบว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ที่ร่างส่วนใหญ่อยู่บริเวณบันไดหนีไฟ ในโซน C เชื่อมต่อโซน B • ทั้งนี้ยืนยันว่า ปฏิบัติการทั้งหมดยังคงเป็นไปตามแผน แต่มีอุปสรรคสำคัญคือ พบขดลวดเป็นจำนวนมากในซากอาคารจึงจำเป็นต้องใช้ รถตัดเหล็กเส้นแบบแก๊ส ซึ่งตอนนี้มีประจำอยู่หน้างานแล้ว 1 คันแต่วันนี้จะนำมาเพิ่มอีก 1 คันเพื่อให้สามารถทำงานได้เร็วขึ้น ก่อนที่จะให้รถใหญ่เข้าไปรื้อถอนลดความสูงของซากอาคารให้ได้มากที่สุด ปัจจุบันความสูงของซากอาคารเหลือ 19 เมตร โดยในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่จะนำรถเครนขนาดเล็กออกจากพื้นที่ เพื่อเปิดทางให้รถเครนขนาดกลางและขนาดใหญ่ได้สามารถเข้าหน้างานได้สะดวกมากขึ้น เพราะเป็นช่วงที่ต้องใช้เครื่องจักรใหญ่ที่หน้างาน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000035674 • #MGROnline #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง.
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • เจเน็ต เยลเลน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (14 เม.ย.) ว่ารู้สึกกังวลอย่างยิ่งว่ามาตรการรีดภาษีคู่ค้าและนโยบายอื่นๆ ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังกัดเซาะความเชื่อถือศรัทธาที่ชาติพันธมิตรมีต่ออเมริกา และนักลงทุนบางส่วนเริ่มเทขายสินทรัพย์ของสหรัฐฯ

    เยลเลน ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นกำลังเป็นปัญหาใหญ่ เพราะทำให้โลก “ตั้งคำถามถึงความปลอดภัยในสินทรัพย์ของสิ่งซึ่งเคยเป็นรากฐานของระบบการเงินโลก ซึ่งก็คือกระทรวงการคลังสหรัฐฯ”

    “ดิฉันไม่ได้มองว่า เรากำลังเห็นความผิดปกติในแง่ของการสูญเสียสภาพคล่องในตลาดไปอย่างสิ้นเชิง แต่สัญญาณที่เตือนว่าทั่วโลกกำลังสูญเสียความเชื่อมั่นในนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความปลอดภัยของสินทรัพย์อันเป็นรากฐาน คือสิ่งที่น่ากังวลมากกว่า”

    อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวลดลงในวันจันทร์ (14) หลังจากที่รัฐบาล ทรัมป์ ประกาศระงับการรีดภาษีสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และเซมิคอนดักเตอร์ที่นำเข้าจากจีนอย่างน้อยก็ชั่วคราว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปีลดลง 8 จุดตั้งแต่วันศุกร์ (11) ลงมาอยู่ที่ 4.41% แต่ก็ยังสูงกว่าตัวเลข 3.99% ณ วันที่ 4 เม.ย.

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000035641

    #MGROnline #เจเน็ตเยลเลน
    เจเน็ต เยลเลน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (14 เม.ย.) ว่ารู้สึกกังวลอย่างยิ่งว่ามาตรการรีดภาษีคู่ค้าและนโยบายอื่นๆ ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังกัดเซาะความเชื่อถือศรัทธาที่ชาติพันธมิตรมีต่ออเมริกา และนักลงทุนบางส่วนเริ่มเทขายสินทรัพย์ของสหรัฐฯ • เยลเลน ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นกำลังเป็นปัญหาใหญ่ เพราะทำให้โลก “ตั้งคำถามถึงความปลอดภัยในสินทรัพย์ของสิ่งซึ่งเคยเป็นรากฐานของระบบการเงินโลก ซึ่งก็คือกระทรวงการคลังสหรัฐฯ” • “ดิฉันไม่ได้มองว่า เรากำลังเห็นความผิดปกติในแง่ของการสูญเสียสภาพคล่องในตลาดไปอย่างสิ้นเชิง แต่สัญญาณที่เตือนว่าทั่วโลกกำลังสูญเสียความเชื่อมั่นในนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความปลอดภัยของสินทรัพย์อันเป็นรากฐาน คือสิ่งที่น่ากังวลมากกว่า” • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวลดลงในวันจันทร์ (14) หลังจากที่รัฐบาล ทรัมป์ ประกาศระงับการรีดภาษีสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และเซมิคอนดักเตอร์ที่นำเข้าจากจีนอย่างน้อยก็ชั่วคราว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปีลดลง 8 จุดตั้งแต่วันศุกร์ (11) ลงมาอยู่ที่ 4.41% แต่ก็ยังสูงกว่าตัวเลข 3.99% ณ วันที่ 4 เม.ย. • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000035641 • #MGROnline #เจเน็ตเยลเลน
    0 Comments 0 Shares 191 Views 0 Reviews
  • Blood Gold เจาะขุมทรัพย์ใต้ภิภพเมียนมาร์ความมั่งคั่งที่มืดมนอนธการ
    .
    ใต้ภิภพเมียนมาร์ นับเป็นรัฐที่มีทรัพยากรมูลค่าสูงฝังอยู่มหาศาล ที่สามารถแปลงเป็นสินทรัพย์ในการพัฒนาประเทศได้อันดับต้น ๆ ของอาเซียน
    ทว่า รัฐสภาพแห่งนี้เหมือนถูกครอบงำ และตกอยู่ภายใต้ความลำบาก ความขัดแย้งไม่ลงรอย ในประวัติศาสตร์การเมืองที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศโดยตรง
    รอยเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) “ยักษ์หลับแห่งเมียนมา” ที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ตื่นขึ้น 28 มีนาคม 2568 ที่ ขนาด 8.2 แมกนิจูด ได้ส่งพลังพาดผ่านเมืองหลวงสำคัญของพม่า ตั้งแต่มัณฑะเลย์ เนปิดอว์ ย่างกุ้ง ดูเหมือนว่าเมืองแห่งอารยธรรมและศูนย์กลางอำนาจ ตั้งอยู่บนหลังมังกรที่หลับ ขยับทีก็ทำให้เมืองศูนย์กลางสำคัญได้ได้ผลกระทบสูงการฟื้นตัวครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนสถานการณ์เริ่มต้นใหม่หลายรอบ หมุนวน
    โครงสร้างทางธรณีวิทยาของเมียนมาร์ค่อนข้างซับซ้อน ภูมิสัณฐานและธรณีโครงสร้างได้เป็น 4 ส่วนใหญ่ๆ คือพื้นที่ราบสูงตะวันออก (Sino Burman Ranges) พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง (Inner Burman Tertiary Zone) ดินแดนเทือกเขาตะวันตก (Indo Burman Ranges) และ ที่ราบฝั่งยะไข่ - คะฉิ่น Rakhine (Arakan) Coastal Plain
    ชั้นหินที่มีอายุอ่อนที่สุดจะอยู่ใน พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง ไล่ถัดไปทางด้านตะวันตกของประเทศ จะเป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงที่ราบแถบยะไข่ ด้านตะวันออกของประเทศ ส่วนของ Sino Burman เป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ที่สุด มีรอยเลื่อนรัฐฉาน แนวรอยต่อเชื่อมรอยเลื่อนสะกาย
    อุตสาหกรรมเหมืองแร่ในเมียนมาร์ มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงหลังรัฐประหารปี 2021 ซึ่งมีการขยายตัวของการทำเหมืองแร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs) อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การเติบโตนี้มาพร้อมกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อน มีมูลค่าสูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023
    นับว่าแร่หายากกลุ่มหนัก heavy rare earth elements: HREE คิดเป็นสัดส่วนหลักของมูลค่าการส่งออกของเมียนมาร์ โดยส่วนใหญ่ส่งไปจีนเพื่อผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับรถไฟฟ้าและกังหันลมการส่งออก อัตราเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2021 จาก 19,500 ตัน เป็น 41,700 ตัน
    แน่นอนแร่หายากกลุ่ม China Rare Earths Group (REGCC) เป็นผู้ลงทุนหลัก ควบคุมทั้งเทคโนโลยี การประมวลผล และห่วงโซ่อุปทาน ภายใต้การดูแลพื้นที่ของกองทัพเมียนมาร์ (SAC) และมิลิเชียพันธมิตรควบคุมพื้นที่พิเศษ Kachin 1 และกองกำลัง Kachin Independence Army (KIA) ควบคุมพื้นที่ Momauk และแนวชายแดน
    แร่หายากเป็นแหล่งเงินสำคัญสำหรับทั้งรัฐบาลทหารและกลุ่มกบฎ แต่ 70% ของประชากรในพื้นที่ยังพึ่งพาการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ขณะที่ค่าแรงงานในเหมืองสูงถึง 600 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน (สูงกว่าเฉลี่ยประเทศ 2 เท่า) แต่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ โรคปอด ปัญหาหายใจลำบาก โรคผิวหนัง และไตวายจากสารเคมี เช่น แอมโมเนียมซัลเฟตและออกซาลิกแอซิด
    ไม่รวมถึงมลพิษน้ำ 96% ของครัวเรือนในเขต Chipwi ไม่มีน้ำดื่มสะอาดเนื่องจากสารเคมีปนเปื้อน ดวงตาสวรรค์ได้ส่องพื้นที่การขยายตัวของเหมืองกว่า 40% ใน Kachin Special Region 1 และ Momauk ระหว่างปี 2021-2023 ที่สลายระบบนิเวศในพื้นที่ยากจะทวงคืนสภาพเดิมกลับมาในอนาคต
    อีกแร่ธาตุหนึ่งคือเหล็กที่เมียนมาร์ เป็นเบอร์หนึ่งของโลก ที่แหล่ง Pong Pet ซึ่งอยู่ห่างจาก Taunggyi ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร ปรากฏเป็นแหล่งเฮมาไทต์ (Hematite) และยังพบแหล่งแร่เหล็ก 393 แหล่ง ปริมาณสารองทรัพยากรแร่ประมาณ 495 ล้านตัน และพบแหล่งแร่เหล็กที่มีศักยภาพ 14 แหล่ง ในรัฐ Kachin, Mandalay, Bago, Tanintharyi และรัฐShan ได้แก่ แหล่งแร่เหล็กสำคัญพบที่รัฐ Tanintharyi บริเวณตอนเหนือของรัฐ Shan
    โดยในรัฐคะฉิ่น คือศูนย์รวมแร่ธาตุความมั่งคั่งสมบูรณ์อุตสาหกรรมเหมืองแร่ นอกจากหยกแล้วยังมีแหล่งแร่เหล็กในรัฐ Kachin มีปริมาณสารองประมาณ 223 ล้านตันที่ 50.56%Fe องค์ประกอบหลักของแร่ คือ Goethite/Limonite 75%, Hematite 15% และ Magnetite 2%
    แน่นอนเมียนมาร์เป็นผู้ผลิตหยกรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในประเทศเดียวที่ผลิตหยกเจไดต์คุณภาพสูง อุตสาหกรรมหยกมีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของ GDP ของประเทศ โดยเมืองผะกัน (Hpakan) เป็นที่ตั้งของเหมืองหยกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองที่มีข่าวของเหมืองถล่ม ดินโคลนโถมทับหมู่บ้านถี่มากและต้นปี 2568 ก็ได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่ซ้ำซาก สูญเสียชีวิตของผู้คนไปอย่างมาก
    Global Witness ประเมินไว้ว่ารายได้จากหยกได้เข้าพกเข้าห่อของผู้นำของเมียนมาไปแล้วราว 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา
    หากประมวลประเทศที่มีบริษัทลงทุนในเหมืองแร่ในภาพรวมในเมียนมาร์ ได้แก่
    1.) จีน: เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเหมืองแร่เมียนมาร์ โดยเฉพาะในเหมืองทองแดง (เช่น โครงการ Letpadaung, S&K, Tagaung Taung) และแร่หายาก มีทั้งบริษัทขนาดใหญ่ของรัฐ เช่น China Nonferrous Metal Mining (CNMC), Wanbao Mining Co., Ltd. รวมถึงนักลงทุนรายย่อยจากมณฑลยูนนานและเสฉวน
    2.) ไทย: มีบริษัท Myanmar-Pongpipat Co., Ltd. ร่วมลงทุนในเหมืองดีบุกและโลหะอื่น
    3.) เวียดนาม: บริษัท Simco Songda มีการลงทุนในเหมืองแร่ร่วมกับเมียนมาร์
    4.) ออสเตรเลีย: บริษัท PanAust ได้รับอนุญาตให้ศึกษาความเป็นไปได้ในพื้นที่เหมือง Wuntho
    5.) ญี่ปุ่น: มีบริษัทญี่ปุ่นบางแห่งยื่นขออนุญาตลงทุนในเหมืองแร่เมียนมาร์
    6.) สิงคโปร์: แม้จะเน้นลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และพลังงาน แต่ก็มีการลงทุนในเหมืองแร่บางส่วน
    7.) มาเลเซีย, เกาหลีใต้, เนเธอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร: มีการลงทุนในเมียนมาร์ในหลายภาคส่วน รวมถึงเหมืองแร่ในบางโครงการ
    ในส่วนแร่ทองคำ Blood Gold บริบทไม่แตกต่างจากพื้นที่คะฉิ่น แต่รายงานจาก EarthRights International (2567) ระบุว่าในรัฐกะฉิ่นมีการขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีจุดขุดนับร้อยแห่ง ส่วนใหญ่เป็นการขุดขนาดเล็กและใช้เครื่องจักรหนัก
    ผู้สัมปทาน ก่อนการรัฐประหาร (2564): เหมืองทองคำขนาดใหญ่บางแห่ง เช่น ในเขตเบ็งเมาก์ (Bemauk), กานิ (Kani), และเคาก์ปาดอง (Kyaukpadaung) ดำเนินการโดยบริษัทร่วมทุนระหว่างกองทัพเมียนมาร์และบริษัทต่างชาติ เช่น บริษัทจากจีนและไทย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเฉพาะเจาะจงในปัจจุบันหายาก
    พื้นที่การขุดทองคำในรัฐกะฉิ่นส่วนใหญ่ควบคุมโดย Kachin Independence Army (KIA) และกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งเก็บค่าธรรมเนียมจากบริษัทหรือนักขุดท้องถิ่น บริษัทจีน มีรายงานว่าได้รับสัมปทานในพื้นที่ เช่น บริเวณแม่น้ำโขงและแม่น้ำกก โดยได้รับการอนุมัติจาก United Wa State Army (UWSA) บริษัทท้องถิ่นและกองทัพเมียนมาร์: Myanmar Economic Holdings Limited (MEHL) และ Myanmar Economic Corporation (MEC) ยังคงมีส่วนในเหมืองบางแห่ง
    ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ไม่มีการออกใบอนุญาตขุดอย่างเป็นทางการในหลายพื้นที่ เช่น Hpakant แต่การขุดยังดำเนินต่อไปโดยผิดกฎหมาย
    ปัจจุบันหลังจาก การรัฐประหารในปี 2564 ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจและกฎหมาย ส่งผลให้การขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีการควบคุม โดยเฉพาะในรัฐกะฉิ่นและสะกาย เพิ่มขึ้น 10 เท่าหลังการรัฐประหาร ซึ่งเป็นแหล่งทองคำสำคัญ เรียกว่าเกิดการขุดแบบทำลายล้าง ใช้เครื่องจักรกลหนักและการขุดในแม่น้ำในพื้นที่ และลุกลามขยายยังพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำกก และแม่น้ำสายใกล้ชายแดนไทย
    แน่นอนความระส่ำระสายในพื้นที่คือการกอบโกยความมั่งคั่งในพื้นที่ที่ไม่ได้มองไกลถึงอนาคตว่าผลกระทบของผู้คน ประชาชนจะเป็นอย่างไร ระยะเวลาการฟื้นตัวความอ่อนเปียกของรัฐชาติที่ถูกสูบทรัพยากรที่มีความมั่งคั่งออกไปอย่างไร้ข้อจำกัด โดยมีอำนาจภายในควบคุม กองทัพเมียนมาร์ ควบคุมเหมืองขนาดใหญ่บางแห่งเพื่อหารายได้ กลุ่มชาติพันธุ์ เช่น KIA เก็บส่วนแบ่งจากเหมืองในพื้นที่ของตน บริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน มีบทบาทในพื้นที่รัฐที่อุดมด้วยแร่ธาตุโดยเฉพาะฉาน และพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงที่สัญญาณได้ส่งผลแล้วกรณีที่แม่สาย ลุ่มแม่น้ำกก เชียงราย ที่ต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิด


    อ้างอิง :
    • โครงการ การส่งเสริมการจัดหาวัตถุดิบและการลงทุนด้านเหมืองแร่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
    https://www.bbc.com/thai/international-53264790
    • EarthRights International, Global Witness
    Blood Gold เจาะขุมทรัพย์ใต้ภิภพเมียนมาร์ความมั่งคั่งที่มืดมนอนธการ . ใต้ภิภพเมียนมาร์ นับเป็นรัฐที่มีทรัพยากรมูลค่าสูงฝังอยู่มหาศาล ที่สามารถแปลงเป็นสินทรัพย์ในการพัฒนาประเทศได้อันดับต้น ๆ ของอาเซียน ทว่า รัฐสภาพแห่งนี้เหมือนถูกครอบงำ และตกอยู่ภายใต้ความลำบาก ความขัดแย้งไม่ลงรอย ในประวัติศาสตร์การเมืองที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศโดยตรง รอยเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) “ยักษ์หลับแห่งเมียนมา” ที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ตื่นขึ้น 28 มีนาคม 2568 ที่ ขนาด 8.2 แมกนิจูด ได้ส่งพลังพาดผ่านเมืองหลวงสำคัญของพม่า ตั้งแต่มัณฑะเลย์ เนปิดอว์ ย่างกุ้ง ดูเหมือนว่าเมืองแห่งอารยธรรมและศูนย์กลางอำนาจ ตั้งอยู่บนหลังมังกรที่หลับ ขยับทีก็ทำให้เมืองศูนย์กลางสำคัญได้ได้ผลกระทบสูงการฟื้นตัวครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนสถานการณ์เริ่มต้นใหม่หลายรอบ หมุนวน โครงสร้างทางธรณีวิทยาของเมียนมาร์ค่อนข้างซับซ้อน ภูมิสัณฐานและธรณีโครงสร้างได้เป็น 4 ส่วนใหญ่ๆ คือพื้นที่ราบสูงตะวันออก (Sino Burman Ranges) พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง (Inner Burman Tertiary Zone) ดินแดนเทือกเขาตะวันตก (Indo Burman Ranges) และ ที่ราบฝั่งยะไข่ - คะฉิ่น Rakhine (Arakan) Coastal Plain ชั้นหินที่มีอายุอ่อนที่สุดจะอยู่ใน พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง ไล่ถัดไปทางด้านตะวันตกของประเทศ จะเป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงที่ราบแถบยะไข่ ด้านตะวันออกของประเทศ ส่วนของ Sino Burman เป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ที่สุด มีรอยเลื่อนรัฐฉาน แนวรอยต่อเชื่อมรอยเลื่อนสะกาย อุตสาหกรรมเหมืองแร่ในเมียนมาร์ มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงหลังรัฐประหารปี 2021 ซึ่งมีการขยายตัวของการทำเหมืองแร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs) อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การเติบโตนี้มาพร้อมกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อน มีมูลค่าสูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 นับว่าแร่หายากกลุ่มหนัก heavy rare earth elements: HREE คิดเป็นสัดส่วนหลักของมูลค่าการส่งออกของเมียนมาร์ โดยส่วนใหญ่ส่งไปจีนเพื่อผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับรถไฟฟ้าและกังหันลมการส่งออก อัตราเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2021 จาก 19,500 ตัน เป็น 41,700 ตัน แน่นอนแร่หายากกลุ่ม China Rare Earths Group (REGCC) เป็นผู้ลงทุนหลัก ควบคุมทั้งเทคโนโลยี การประมวลผล และห่วงโซ่อุปทาน ภายใต้การดูแลพื้นที่ของกองทัพเมียนมาร์ (SAC) และมิลิเชียพันธมิตรควบคุมพื้นที่พิเศษ Kachin 1 และกองกำลัง Kachin Independence Army (KIA) ควบคุมพื้นที่ Momauk และแนวชายแดน แร่หายากเป็นแหล่งเงินสำคัญสำหรับทั้งรัฐบาลทหารและกลุ่มกบฎ แต่ 70% ของประชากรในพื้นที่ยังพึ่งพาการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ขณะที่ค่าแรงงานในเหมืองสูงถึง 600 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน (สูงกว่าเฉลี่ยประเทศ 2 เท่า) แต่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ โรคปอด ปัญหาหายใจลำบาก โรคผิวหนัง และไตวายจากสารเคมี เช่น แอมโมเนียมซัลเฟตและออกซาลิกแอซิด ไม่รวมถึงมลพิษน้ำ 96% ของครัวเรือนในเขต Chipwi ไม่มีน้ำดื่มสะอาดเนื่องจากสารเคมีปนเปื้อน ดวงตาสวรรค์ได้ส่องพื้นที่การขยายตัวของเหมืองกว่า 40% ใน Kachin Special Region 1 และ Momauk ระหว่างปี 2021-2023 ที่สลายระบบนิเวศในพื้นที่ยากจะทวงคืนสภาพเดิมกลับมาในอนาคต อีกแร่ธาตุหนึ่งคือเหล็กที่เมียนมาร์ เป็นเบอร์หนึ่งของโลก ที่แหล่ง Pong Pet ซึ่งอยู่ห่างจาก Taunggyi ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร ปรากฏเป็นแหล่งเฮมาไทต์ (Hematite) และยังพบแหล่งแร่เหล็ก 393 แหล่ง ปริมาณสารองทรัพยากรแร่ประมาณ 495 ล้านตัน และพบแหล่งแร่เหล็กที่มีศักยภาพ 14 แหล่ง ในรัฐ Kachin, Mandalay, Bago, Tanintharyi และรัฐShan ได้แก่ แหล่งแร่เหล็กสำคัญพบที่รัฐ Tanintharyi บริเวณตอนเหนือของรัฐ Shan โดยในรัฐคะฉิ่น คือศูนย์รวมแร่ธาตุความมั่งคั่งสมบูรณ์อุตสาหกรรมเหมืองแร่ นอกจากหยกแล้วยังมีแหล่งแร่เหล็กในรัฐ Kachin มีปริมาณสารองประมาณ 223 ล้านตันที่ 50.56%Fe องค์ประกอบหลักของแร่ คือ Goethite/Limonite 75%, Hematite 15% และ Magnetite 2% แน่นอนเมียนมาร์เป็นผู้ผลิตหยกรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในประเทศเดียวที่ผลิตหยกเจไดต์คุณภาพสูง อุตสาหกรรมหยกมีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของ GDP ของประเทศ โดยเมืองผะกัน (Hpakan) เป็นที่ตั้งของเหมืองหยกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองที่มีข่าวของเหมืองถล่ม ดินโคลนโถมทับหมู่บ้านถี่มากและต้นปี 2568 ก็ได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่ซ้ำซาก สูญเสียชีวิตของผู้คนไปอย่างมาก Global Witness ประเมินไว้ว่ารายได้จากหยกได้เข้าพกเข้าห่อของผู้นำของเมียนมาไปแล้วราว 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา หากประมวลประเทศที่มีบริษัทลงทุนในเหมืองแร่ในภาพรวมในเมียนมาร์ ได้แก่ 1.) จีน: เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเหมืองแร่เมียนมาร์ โดยเฉพาะในเหมืองทองแดง (เช่น โครงการ Letpadaung, S&K, Tagaung Taung) และแร่หายาก มีทั้งบริษัทขนาดใหญ่ของรัฐ เช่น China Nonferrous Metal Mining (CNMC), Wanbao Mining Co., Ltd. รวมถึงนักลงทุนรายย่อยจากมณฑลยูนนานและเสฉวน 2.) ไทย: มีบริษัท Myanmar-Pongpipat Co., Ltd. ร่วมลงทุนในเหมืองดีบุกและโลหะอื่น 3.) เวียดนาม: บริษัท Simco Songda มีการลงทุนในเหมืองแร่ร่วมกับเมียนมาร์ 4.) ออสเตรเลีย: บริษัท PanAust ได้รับอนุญาตให้ศึกษาความเป็นไปได้ในพื้นที่เหมือง Wuntho 5.) ญี่ปุ่น: มีบริษัทญี่ปุ่นบางแห่งยื่นขออนุญาตลงทุนในเหมืองแร่เมียนมาร์ 6.) สิงคโปร์: แม้จะเน้นลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และพลังงาน แต่ก็มีการลงทุนในเหมืองแร่บางส่วน 7.) มาเลเซีย, เกาหลีใต้, เนเธอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร: มีการลงทุนในเมียนมาร์ในหลายภาคส่วน รวมถึงเหมืองแร่ในบางโครงการ ในส่วนแร่ทองคำ Blood Gold บริบทไม่แตกต่างจากพื้นที่คะฉิ่น แต่รายงานจาก EarthRights International (2567) ระบุว่าในรัฐกะฉิ่นมีการขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีจุดขุดนับร้อยแห่ง ส่วนใหญ่เป็นการขุดขนาดเล็กและใช้เครื่องจักรหนัก ผู้สัมปทาน ก่อนการรัฐประหาร (2564): เหมืองทองคำขนาดใหญ่บางแห่ง เช่น ในเขตเบ็งเมาก์ (Bemauk), กานิ (Kani), และเคาก์ปาดอง (Kyaukpadaung) ดำเนินการโดยบริษัทร่วมทุนระหว่างกองทัพเมียนมาร์และบริษัทต่างชาติ เช่น บริษัทจากจีนและไทย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเฉพาะเจาะจงในปัจจุบันหายาก พื้นที่การขุดทองคำในรัฐกะฉิ่นส่วนใหญ่ควบคุมโดย Kachin Independence Army (KIA) และกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งเก็บค่าธรรมเนียมจากบริษัทหรือนักขุดท้องถิ่น บริษัทจีน มีรายงานว่าได้รับสัมปทานในพื้นที่ เช่น บริเวณแม่น้ำโขงและแม่น้ำกก โดยได้รับการอนุมัติจาก United Wa State Army (UWSA) บริษัทท้องถิ่นและกองทัพเมียนมาร์: Myanmar Economic Holdings Limited (MEHL) และ Myanmar Economic Corporation (MEC) ยังคงมีส่วนในเหมืองบางแห่ง ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ไม่มีการออกใบอนุญาตขุดอย่างเป็นทางการในหลายพื้นที่ เช่น Hpakant แต่การขุดยังดำเนินต่อไปโดยผิดกฎหมาย ปัจจุบันหลังจาก การรัฐประหารในปี 2564 ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจและกฎหมาย ส่งผลให้การขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีการควบคุม โดยเฉพาะในรัฐกะฉิ่นและสะกาย เพิ่มขึ้น 10 เท่าหลังการรัฐประหาร ซึ่งเป็นแหล่งทองคำสำคัญ เรียกว่าเกิดการขุดแบบทำลายล้าง ใช้เครื่องจักรกลหนักและการขุดในแม่น้ำในพื้นที่ และลุกลามขยายยังพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำกก และแม่น้ำสายใกล้ชายแดนไทย แน่นอนความระส่ำระสายในพื้นที่คือการกอบโกยความมั่งคั่งในพื้นที่ที่ไม่ได้มองไกลถึงอนาคตว่าผลกระทบของผู้คน ประชาชนจะเป็นอย่างไร ระยะเวลาการฟื้นตัวความอ่อนเปียกของรัฐชาติที่ถูกสูบทรัพยากรที่มีความมั่งคั่งออกไปอย่างไร้ข้อจำกัด โดยมีอำนาจภายในควบคุม กองทัพเมียนมาร์ ควบคุมเหมืองขนาดใหญ่บางแห่งเพื่อหารายได้ กลุ่มชาติพันธุ์ เช่น KIA เก็บส่วนแบ่งจากเหมืองในพื้นที่ของตน บริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน มีบทบาทในพื้นที่รัฐที่อุดมด้วยแร่ธาตุโดยเฉพาะฉาน และพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงที่สัญญาณได้ส่งผลแล้วกรณีที่แม่สาย ลุ่มแม่น้ำกก เชียงราย ที่ต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิด อ้างอิง : • โครงการ การส่งเสริมการจัดหาวัตถุดิบและการลงทุนด้านเหมืองแร่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ • https://www.bbc.com/thai/international-53264790 • EarthRights International, Global Witness
    0 Comments 0 Shares 367 Views 0 Reviews
  • Microsoft กำลังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Defender for Endpoint เพื่อช่วยป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ โดยจะมีการ บล็อกการรับส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ที่ยังไม่ได้รับการตรวจพบ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีแบบ lateral movement

    ✅ การบล็อกอุปกรณ์ที่ยังไม่ได้รับการตรวจพบ
    - ระบบจะ บล็อกการรับส่งข้อมูลจากและไปยังอุปกรณ์ที่ไม่ได้ onboarded
    - ลดความเสี่ยงจากอุปกรณ์ที่ไม่มีการควบคุมด้านความปลอดภัย

    ✅ การทำงานของฟีเจอร์ "Contain IP"
    - ระบบจะ ตรวจจับ IP ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการ onboarded และบล็อกโดยอัตโนมัติ
    - ใช้ automatic attack disruption เพื่อระบุและจำกัดอุปกรณ์ที่อาจเป็นภัยคุกคาม

    ✅ การรองรับระบบปฏิบัติการ
    - ฟีเจอร์นี้จะพร้อมใช้งานบน Windows 10, Windows Server 2012 R2, Windows Server 2016 และ Windows Server 2019+

    ✅ การยกเลิกการบล็อก
    - ผู้ใช้สามารถ ยกเลิกการบล็อก IP ได้ผ่านเมนู "Contain IP" ใน Action Center

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่ออุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการ onboarded
    - อุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการ onboarded อาจถูกบล็อกโดยไม่ตั้งใจ ทำให้เกิดปัญหาในการเชื่อมต่อ

    ℹ️ ความท้าทายในการใช้งานจริง
    - ผู้ดูแลระบบต้องตรวจสอบว่าอุปกรณ์ทั้งหมดได้รับการ onboarded เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการบล็อกโดยไม่จำเป็น

    ℹ️ แนวโน้มของการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์
    - Microsoft กำลังพัฒนา Security Copilot Agents เพื่อช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถรับมือกับภัยคุกคามได้ดีขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-defender-is-getting-a-useful-upgrade-to-help-stop-endpoint-attacks
    Microsoft กำลังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้กับ Defender for Endpoint เพื่อช่วยป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ โดยจะมีการ บล็อกการรับส่งข้อมูลจากอุปกรณ์ที่ยังไม่ได้รับการตรวจพบ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีแบบ lateral movement ✅ การบล็อกอุปกรณ์ที่ยังไม่ได้รับการตรวจพบ - ระบบจะ บล็อกการรับส่งข้อมูลจากและไปยังอุปกรณ์ที่ไม่ได้ onboarded - ลดความเสี่ยงจากอุปกรณ์ที่ไม่มีการควบคุมด้านความปลอดภัย ✅ การทำงานของฟีเจอร์ "Contain IP" - ระบบจะ ตรวจจับ IP ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการ onboarded และบล็อกโดยอัตโนมัติ - ใช้ automatic attack disruption เพื่อระบุและจำกัดอุปกรณ์ที่อาจเป็นภัยคุกคาม ✅ การรองรับระบบปฏิบัติการ - ฟีเจอร์นี้จะพร้อมใช้งานบน Windows 10, Windows Server 2012 R2, Windows Server 2016 และ Windows Server 2019+ ✅ การยกเลิกการบล็อก - ผู้ใช้สามารถ ยกเลิกการบล็อก IP ได้ผ่านเมนู "Contain IP" ใน Action Center ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่ออุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการ onboarded - อุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการ onboarded อาจถูกบล็อกโดยไม่ตั้งใจ ทำให้เกิดปัญหาในการเชื่อมต่อ ℹ️ ความท้าทายในการใช้งานจริง - ผู้ดูแลระบบต้องตรวจสอบว่าอุปกรณ์ทั้งหมดได้รับการ onboarded เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการบล็อกโดยไม่จำเป็น ℹ️ แนวโน้มของการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ - Microsoft กำลังพัฒนา Security Copilot Agents เพื่อช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถรับมือกับภัยคุกคามได้ดีขึ้น https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-defender-is-getting-a-useful-upgrade-to-help-stop-endpoint-attacks
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 Reviews
  • รองนายกฯ พิชัย หัวหน้า ”ทีมไทยแลนด์ ” เจรจาสหรัฐฯ เรียกประชุมถกเข้มกับทีมที่ปรึกษา ฯ ก่อนเดินทางไปเจรจา ย้ำข้อมูลพร้อมเกือบร้อยเปอร์เซนต์ เชื่อมั่นจะลดแรงกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้ได้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035534

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รองนายกฯ พิชัย หัวหน้า ”ทีมไทยแลนด์ ” เจรจาสหรัฐฯ เรียกประชุมถกเข้มกับทีมที่ปรึกษา ฯ ก่อนเดินทางไปเจรจา ย้ำข้อมูลพร้อมเกือบร้อยเปอร์เซนต์ เชื่อมั่นจะลดแรงกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้ได้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035534 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    3
    0 Comments 1 Shares 730 Views 0 Reviews
  • ราคาทอง (96.5%) ขายปลีกในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) ตามสถานการณ์ราคาทองในตลาดโลก โดยสมาคมค้าทองคำ รายงานว่า เปิดตลาดเช้านี้เมื่อเวลา 09.05 น. ราคาทองแท่งรับซื้อบาททองคำละ 51,250 ขายออกบาททองคำละ 51,350 ส่วนทองรูปพรรณรับซื้อบาททองคำละ 50,331.20 ขายออกทองคำละ 52,150 โดยราคาขายปลีกปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันศุกร์ (11 เม.ย.) อีกบาททองคำละ 150

    บทวเคราะห์ของบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ระบุว่า เมื่อวันศุกร์ราคาทองในตลาดโลกปิดทะยานอีก 61.31 ดอลลาร์ หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.93% โดยทำ New All Time High ใหม่ที่ที่ระดับ 3,245 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์อ่อนค่า หลังสหรัฐฯ เผยดัชนี PPI และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจาก ม.มิชิแกนที่ออกมาแย่กว่าคาด ด้านสงครามการค้าระหว่าสหรัฐฯ กับจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น หลังจีนเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% กระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอย หนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000035464

    #MGROnline #สมาคมค้าทองคำ
    ราคาทอง (96.5%) ขายปลีกในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) ตามสถานการณ์ราคาทองในตลาดโลก โดยสมาคมค้าทองคำ รายงานว่า เปิดตลาดเช้านี้เมื่อเวลา 09.05 น. ราคาทองแท่งรับซื้อบาททองคำละ 51,250 ขายออกบาททองคำละ 51,350 ส่วนทองรูปพรรณรับซื้อบาททองคำละ 50,331.20 ขายออกทองคำละ 52,150 โดยราคาขายปลีกปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันศุกร์ (11 เม.ย.) อีกบาททองคำละ 150 • บทวเคราะห์ของบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ระบุว่า เมื่อวันศุกร์ราคาทองในตลาดโลกปิดทะยานอีก 61.31 ดอลลาร์ หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.93% โดยทำ New All Time High ใหม่ที่ที่ระดับ 3,245 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์อ่อนค่า หลังสหรัฐฯ เผยดัชนี PPI และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจาก ม.มิชิแกนที่ออกมาแย่กว่าคาด ด้านสงครามการค้าระหว่าสหรัฐฯ กับจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น หลังจีนเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% กระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจถดถอย หนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000035464 • #MGROnline #สมาคมค้าทองคำ
    Like
    1
    0 Comments 1 Shares 180 Views 0 Reviews
More Results