• ภาพเหตุการณ์รถถังของอิสราเอลกำลังยิงทำลายบ้านพักพลเรือนของชาวปาเลสไตน์ในเจนิน เวสต์แบงก์ โดยอ้างว่าเป็นที่หลบซ่อนของกงสมาชิกกลุ่มฮามาส
    ภาพเหตุการณ์รถถังของอิสราเอลกำลังยิงทำลายบ้านพักพลเรือนของชาวปาเลสไตน์ในเจนิน เวสต์แบงก์ โดยอ้างว่าเป็นที่หลบซ่อนของกงสมาชิกกลุ่มฮามาส
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 22 0 รีวิว
  • อิสราเอลประกาศยุติการจ่ายไฟฟ้าทั้งหมดให้กาซา!!

    เอลี โคเฮน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของอิสราเอล ประกาศอย่างไม่สะทกสะท้านว่า เพิ่งลงนามในคำสั่งเพื่อยุติการจ่ายกระแสไฟฟ้าทั้งหมดไปยังฉนวนกาซาทันที

    โดยให้เหตุผลว่า จะใช้ทุกเครื่องมือที่มีเพื่อนำตัวประกันทั้งหมดกลับคืน และเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีกลุ่มฮามาสอยู่ในฉนวนกาซาอีกต่อไป

    - การประกาศครั้งนี้มีขึ้นหลังจากเนทันยาฮูประกาศยุติส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั้งหมดเข้าสู่ฉนวนกาซามานานกว่า 7 วันแล้ว
    อิสราเอลประกาศยุติการจ่ายไฟฟ้าทั้งหมดให้กาซา!! เอลี โคเฮน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของอิสราเอล ประกาศอย่างไม่สะทกสะท้านว่า เพิ่งลงนามในคำสั่งเพื่อยุติการจ่ายกระแสไฟฟ้าทั้งหมดไปยังฉนวนกาซาทันที โดยให้เหตุผลว่า จะใช้ทุกเครื่องมือที่มีเพื่อนำตัวประกันทั้งหมดกลับคืน และเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีกลุ่มฮามาสอยู่ในฉนวนกาซาอีกต่อไป - การประกาศครั้งนี้มีขึ้นหลังจากเนทันยาฮูประกาศยุติส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั้งหมดเข้าสู่ฉนวนกาซามานานกว่า 7 วันแล้ว
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • ทรัมป์ ยื่นคำขาดถึงกลุ่มฮามาส ให้ปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมดทันที ทั้งที่ยังมีชีวิตและเสียชีวิต โดยเขาสัญญาว่าจะส่ง "ทุกสิ่งที่จำเป็นให้กับอิสราเอล เพื่อทำงานให้เสร็จสิ้น"

    ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวออกมายอมรับว่าสหรัฐมีการติดต่อฮามาสเพื่อขอเจรจาโดยตรงเกี่ยวกับตัวประกันที่เหลือ ซึ่งมีรายงานว่ายังมีตัวประกันที่มีสัญชาติอเมริกันอยู่ด้วย โดยอ้างเหตุผลว่า ทูตพิเศษของสหรัฐมีอำนาจตัดสินใจอย่างอิสราะในการคุยกับกลุ่มใดก็ได้

    ทั้งนี้สหรัฐมีนโยบายที่แข็งกร้าวมาอย่างยาวนานว่าจะไม่มีการเจรจาโดยตรงกับองค์กรก่อการร้ายต่างประเทศ ซึ่ง "ฮามาส" คือหนึ่งในกลุ่มก่อการร้าย ที่ถูกประกาศโดยรัฐบาลสหรัฐในปี 1997 และนี่ถือเป็นการละเมิดนโยบายของสหรัฐเป็นครั้งแรก

    “ทูตพิเศษมีอำนาจที่จะพูดคุยกับใครก็ได้...อิสราเอลได้รับการปรึกษาหารือ...การเจรจาและการพูดคุยกับผู้คนทั่วโลกเป็นความพยายามอย่างจริงใจที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องสำหรับชาวอเมริกัน” โฆษกทำเนียบขาว กล่าว
    ทรัมป์ ยื่นคำขาดถึงกลุ่มฮามาส ให้ปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมดทันที ทั้งที่ยังมีชีวิตและเสียชีวิต โดยเขาสัญญาว่าจะส่ง "ทุกสิ่งที่จำเป็นให้กับอิสราเอล เพื่อทำงานให้เสร็จสิ้น" ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวออกมายอมรับว่าสหรัฐมีการติดต่อฮามาสเพื่อขอเจรจาโดยตรงเกี่ยวกับตัวประกันที่เหลือ ซึ่งมีรายงานว่ายังมีตัวประกันที่มีสัญชาติอเมริกันอยู่ด้วย โดยอ้างเหตุผลว่า ทูตพิเศษของสหรัฐมีอำนาจตัดสินใจอย่างอิสราะในการคุยกับกลุ่มใดก็ได้ ทั้งนี้สหรัฐมีนโยบายที่แข็งกร้าวมาอย่างยาวนานว่าจะไม่มีการเจรจาโดยตรงกับองค์กรก่อการร้ายต่างประเทศ ซึ่ง "ฮามาส" คือหนึ่งในกลุ่มก่อการร้าย ที่ถูกประกาศโดยรัฐบาลสหรัฐในปี 1997 และนี่ถือเป็นการละเมิดนโยบายของสหรัฐเป็นครั้งแรก “ทูตพิเศษมีอำนาจที่จะพูดคุยกับใครก็ได้...อิสราเอลได้รับการปรึกษาหารือ...การเจรจาและการพูดคุยกับผู้คนทั่วโลกเป็นความพยายามอย่างจริงใจที่จะทำสิ่งที่ถูกต้องสำหรับชาวอเมริกัน” โฆษกทำเนียบขาว กล่าว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • บรรดาผู้นำอาหรับให้การรับรองแผนการที่ฟื้นฟูบูรณะดินแดนฉนวนกาซาขึ้นมาใหม่ โดยที่จะอยู่ใต้การบริหารปกครองของคณะรัฐบาลในอนาคตขององค์การบริหารปาเลสไตน์ (Palestinian Authority หรือ PA) เป็นการเสนอหนทางเลือกอีกทางหนึ่งขึ้นมาประชันกับข้อเสนอซึ่งถูกประณามอย่างกว้างขวางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ประกาศจะเข้าครอบครองดินแดนแห่งนี้ และโยกย้ายประชาชนที่นั่นออกไปอยู่ที่อื่น
    .
    อย่างไรก็ดี ลู่ทางความเป็นไปได้ที่ PA จะได้เข้าปกครองกาซายังคงห่างไกลจากความแน่นอน จากการที่อิสราเอลซึ่งเป็นผู้ทำลายล้างผลาญและยังคงมีกำลังทหารยึดครองดินแดนแห่งนี้อยู่ ยังคงปฏิเสธไม่ยอมให้องค์การบริหารปาเลสไตน์มีบทบาทใดๆ ในอนาคต ขณะเดียวกันก็ยากที่จะได้รับความเห็นชอบจากสหรัฐฯ เนื่องจากทรัมป์ก็คือผู้ที่สั่งปิดสำนักงานติดต่อขององค์การปลดแอกปาเลสไตน์ (PLO) ในกรุงวอชิงตัน ระหว่างสมัยแรกแห่งการเป็นประธานาธิบดีของเขา ขณะเดียวกับที่ยกระดับเพิ่มการสนับสนุนอิสราเอล
    .
    ทรัมป์จุดชนวนให้เกิดความโกรธเกรี้ยวกันทั่วโลก จากการเสนอแนะว่าสหรัฐฯ จะเข้าเทกโอเวอร์ฉนวนกาซา และเปลี่ยนให้กลายเป็น “หาดริเวียร่าของตะวันออกกลาง” เวลาเดียวกันนั้นก็จะบังคับให้ประชากรชาวปาเลสไตน์ที่นั่นต้องอพยพไปตั้งถิ่นฐานที่อียิปต์ หรือจอร์แดน
    .
    ที่ประชุมซัมมิตในกรุงไคโรของสันนิบาตอาหรับ เมื่อวันอังคาร (4) – หรือ 1 วันหลังจากนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล แถลงย้ำว่าเขายังคงสนับสนุนข้อเสนอของทรัมป์ — เสนอทางเลือกอีกทางหนึ่ง ด้วยการลงมติรับรอง “แผนการของอาหรับที่มีเนื้อหาครอบคลุมรอบด้าน”
    .
    ตามแผนการดังกล่าว กำหนดให้จัดตั้งกองทุนทรัสต์ฟันด์ขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายการฟื้นฟูบูรณะฉนวนกาซา โดยเรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติสนับสนุน
    .
    “ความพยายามทั้งหมดเหล่านี้จะเดินหน้าอย่างคู่ขนานไปกับการเปิดเส้นทางในทางการเมือง” ซึ่งมุ่งไปสู่การจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ แผนการนี้ระบุ โดยที่เรื่องหลังนี้เป็นสิ่งที่พวกผู้นำอิสราเอลคัดค้านหัวชนฝา
    .
    คำแถลงของที่ประชุมซัมมิตสันนิบาตอาหรับ ยังแสดงความยินดีต้อนรับ “การตัดสินใจของชาวปาเลสไตน์ที่จะจัดตั้งคณะกรรมการบริหารกาซาขึ้นมา ซึ่งจะอยู่ภายใต้ร่มธงของรัฐบาลปาเลสไตน์”
    .
    ที่ประชุมยังเรียกร้องให้ยอมรับว่า ฐานะความเป็นตัวแทนของชาวปาเลสไตน์จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้ PLO ซึ่งในตัวมันเองก็เป็นองค์การที่ประกอบด้วยชาวปาเลสไตน์หลายๆ กลุ่ม และเป็นกลุ่มพลังทางการเมืองสำคัญซึ่งมีฐานะครอบงำอยู่ภายใน PA ทว่าไม่ได้รวมกลุ่มฮามาสเข้ามาด้วย
    .
    ในอดีต PA เคยเป็นผู้บริหารปกครองกาซา ก่อนสูญเสียอำนาจไปให้แก่กลุ่มฮามาสเมื่อปี 2007
    .
    ทางด้านฮามาส แถลงว่ายินดีต้อนรับแผนการของที่ประชุมซัมมิตไคโรครั้งนี้ และกล่าวว่าการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารกาซาชั่วคราวตามที่มีการเสนอกัน จะทำหน้าที่เป็น “ผู้กำกับตรวจสอบความพยายามในการบรรเทาทุกข์ การฟื้นฟูบูรณะ และการบริหารการปกครอง”
    .
    อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ากลุ่มฮามาสมีความเต็มใจแค่ไหนที่จะสละอำนาจในการควบคุมกาซาเอาไว้
    .
    ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างฮามาสกับอิสราเอลกำลังถึงทางตัน
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง ข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางระหว่างกลุ่มฮามาสกับอิสราเอล ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม และทำให้มีความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมไหลทะลักเข้าสู่กาซานั้น กำลังทำท่าจะไปไม่รอดอีกแล้ว เมื่ออิสราเอลประเกาศในวันอาทิตย์ (2) ว่าตนเองกำลังเข้าสกัดกั้นขัดขวางการจัดส่งความช่วยเหลือ และจะยอมเปิดทางให้ใหม่ต่อเมื่อกลุ่มฮามาสยอมรับเงื่อนไขต่างๆ ของฝ่ายอิสราเอลในการขยายระยะเวลาบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงเฟส 1 ต่อไปอีก
    .
    เฟสแรกของข้อตกลงดังกล่าวนี้สิ้นสุดลงแล้วในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากก่อให้เกิดระยะเวลาที่ค่อนข้างเงียบสงบเป็นเวลา 6 สัปดาห์ และมีการแลกเปลี่ยนตัวประกันชาวอิสราเอลกับพวกนักโทษชาวปาเลสไตน์อยู่หลายระลอก
    .
    ทว่ามาถึงเวลานี้ อิสราเอลระบุว่าต้องการให้ขยายเวลาบังคับใช้เฟส 1 ออกไปอึกจนกระทั่งถึงกลางเดือนเมษายน ขณะที่ฮามาสยืนกรานให้เปลี่ยนไปสู่การบังคับใช้เฟส 2 ซึ่งมีการระบุถึงการเดินหน้าสู่การยุติสงครามคราวนี้อย่างถาวร
    .
    ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าการประชุมซัมมิตของสันนิบาตอาหรับเปิดขึ้นในวันอังคาร รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล กีเดียน ซาร์ ออกมาแถลงเรียกร้องต้องการให้ “กาซากลายเป็นพื้นที่ปราศจากกำลังทหารอย่างสิ้นเชิง” รวมทั้งเอากลุ่มฮามาสออกไปด้วย ก่อนที่จะเดินหน้าสู่เฟส 2 ของข้อตกลงหยุดยิง
    .
    ด้าน ซามี อะบู ซูฮรี ผู้นำฮามาส ได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021622
    ..............
    Sondhi X
    บรรดาผู้นำอาหรับให้การรับรองแผนการที่ฟื้นฟูบูรณะดินแดนฉนวนกาซาขึ้นมาใหม่ โดยที่จะอยู่ใต้การบริหารปกครองของคณะรัฐบาลในอนาคตขององค์การบริหารปาเลสไตน์ (Palestinian Authority หรือ PA) เป็นการเสนอหนทางเลือกอีกทางหนึ่งขึ้นมาประชันกับข้อเสนอซึ่งถูกประณามอย่างกว้างขวางของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ประกาศจะเข้าครอบครองดินแดนแห่งนี้ และโยกย้ายประชาชนที่นั่นออกไปอยู่ที่อื่น . อย่างไรก็ดี ลู่ทางความเป็นไปได้ที่ PA จะได้เข้าปกครองกาซายังคงห่างไกลจากความแน่นอน จากการที่อิสราเอลซึ่งเป็นผู้ทำลายล้างผลาญและยังคงมีกำลังทหารยึดครองดินแดนแห่งนี้อยู่ ยังคงปฏิเสธไม่ยอมให้องค์การบริหารปาเลสไตน์มีบทบาทใดๆ ในอนาคต ขณะเดียวกันก็ยากที่จะได้รับความเห็นชอบจากสหรัฐฯ เนื่องจากทรัมป์ก็คือผู้ที่สั่งปิดสำนักงานติดต่อขององค์การปลดแอกปาเลสไตน์ (PLO) ในกรุงวอชิงตัน ระหว่างสมัยแรกแห่งการเป็นประธานาธิบดีของเขา ขณะเดียวกับที่ยกระดับเพิ่มการสนับสนุนอิสราเอล . ทรัมป์จุดชนวนให้เกิดความโกรธเกรี้ยวกันทั่วโลก จากการเสนอแนะว่าสหรัฐฯ จะเข้าเทกโอเวอร์ฉนวนกาซา และเปลี่ยนให้กลายเป็น “หาดริเวียร่าของตะวันออกกลาง” เวลาเดียวกันนั้นก็จะบังคับให้ประชากรชาวปาเลสไตน์ที่นั่นต้องอพยพไปตั้งถิ่นฐานที่อียิปต์ หรือจอร์แดน . ที่ประชุมซัมมิตในกรุงไคโรของสันนิบาตอาหรับ เมื่อวันอังคาร (4) – หรือ 1 วันหลังจากนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล แถลงย้ำว่าเขายังคงสนับสนุนข้อเสนอของทรัมป์ — เสนอทางเลือกอีกทางหนึ่ง ด้วยการลงมติรับรอง “แผนการของอาหรับที่มีเนื้อหาครอบคลุมรอบด้าน” . ตามแผนการดังกล่าว กำหนดให้จัดตั้งกองทุนทรัสต์ฟันด์ขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายการฟื้นฟูบูรณะฉนวนกาซา โดยเรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติสนับสนุน . “ความพยายามทั้งหมดเหล่านี้จะเดินหน้าอย่างคู่ขนานไปกับการเปิดเส้นทางในทางการเมือง” ซึ่งมุ่งไปสู่การจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ แผนการนี้ระบุ โดยที่เรื่องหลังนี้เป็นสิ่งที่พวกผู้นำอิสราเอลคัดค้านหัวชนฝา . คำแถลงของที่ประชุมซัมมิตสันนิบาตอาหรับ ยังแสดงความยินดีต้อนรับ “การตัดสินใจของชาวปาเลสไตน์ที่จะจัดตั้งคณะกรรมการบริหารกาซาขึ้นมา ซึ่งจะอยู่ภายใต้ร่มธงของรัฐบาลปาเลสไตน์” . ที่ประชุมยังเรียกร้องให้ยอมรับว่า ฐานะความเป็นตัวแทนของชาวปาเลสไตน์จะรวมเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้ PLO ซึ่งในตัวมันเองก็เป็นองค์การที่ประกอบด้วยชาวปาเลสไตน์หลายๆ กลุ่ม และเป็นกลุ่มพลังทางการเมืองสำคัญซึ่งมีฐานะครอบงำอยู่ภายใน PA ทว่าไม่ได้รวมกลุ่มฮามาสเข้ามาด้วย . ในอดีต PA เคยเป็นผู้บริหารปกครองกาซา ก่อนสูญเสียอำนาจไปให้แก่กลุ่มฮามาสเมื่อปี 2007 . ทางด้านฮามาส แถลงว่ายินดีต้อนรับแผนการของที่ประชุมซัมมิตไคโรครั้งนี้ และกล่าวว่าการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารกาซาชั่วคราวตามที่มีการเสนอกัน จะทำหน้าที่เป็น “ผู้กำกับตรวจสอบความพยายามในการบรรเทาทุกข์ การฟื้นฟูบูรณะ และการบริหารการปกครอง” . อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ากลุ่มฮามาสมีความเต็มใจแค่ไหนที่จะสละอำนาจในการควบคุมกาซาเอาไว้ . ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างฮามาสกับอิสราเอลกำลังถึงทางตัน . ในอีกด้านหนึ่ง ข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางระหว่างกลุ่มฮามาสกับอิสราเอล ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมกราคม และทำให้มีความช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมไหลทะลักเข้าสู่กาซานั้น กำลังทำท่าจะไปไม่รอดอีกแล้ว เมื่ออิสราเอลประเกาศในวันอาทิตย์ (2) ว่าตนเองกำลังเข้าสกัดกั้นขัดขวางการจัดส่งความช่วยเหลือ และจะยอมเปิดทางให้ใหม่ต่อเมื่อกลุ่มฮามาสยอมรับเงื่อนไขต่างๆ ของฝ่ายอิสราเอลในการขยายระยะเวลาบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงเฟส 1 ต่อไปอีก . เฟสแรกของข้อตกลงดังกล่าวนี้สิ้นสุดลงแล้วในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากก่อให้เกิดระยะเวลาที่ค่อนข้างเงียบสงบเป็นเวลา 6 สัปดาห์ และมีการแลกเปลี่ยนตัวประกันชาวอิสราเอลกับพวกนักโทษชาวปาเลสไตน์อยู่หลายระลอก . ทว่ามาถึงเวลานี้ อิสราเอลระบุว่าต้องการให้ขยายเวลาบังคับใช้เฟส 1 ออกไปอึกจนกระทั่งถึงกลางเดือนเมษายน ขณะที่ฮามาสยืนกรานให้เปลี่ยนไปสู่การบังคับใช้เฟส 2 ซึ่งมีการระบุถึงการเดินหน้าสู่การยุติสงครามคราวนี้อย่างถาวร . ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าการประชุมซัมมิตของสันนิบาตอาหรับเปิดขึ้นในวันอังคาร รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล กีเดียน ซาร์ ออกมาแถลงเรียกร้องต้องการให้ “กาซากลายเป็นพื้นที่ปราศจากกำลังทหารอย่างสิ้นเชิง” รวมทั้งเอากลุ่มฮามาสออกไปด้วย ก่อนที่จะเดินหน้าสู่เฟส 2 ของข้อตกลงหยุดยิง . ด้าน ซามี อะบู ซูฮรี ผู้นำฮามาส ได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021622 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    13
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1977 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่ละยิวจอมทรยศและเนรคุณ..#เมื่อยิวถามจีนว่า
    ทำไมไม่ช่วยอิสรา.เอล​รบกับ ฮามา.ส
    ลองฟังคับตอบ ประชาชนจีนที่รู้ประวัติศาสตร์​อ่านแล้วถึงกับอึง ยาวหน่อย แต่เป็นความรู้ระดับ #พันปี

    “เมื่อ Ross อเมริกันเชื้อสายยิวกล่าวโจมตี ทำไม จีน ไม่สนับสนุนอิสราเอลโจมตี ฮามาส“

    นี่คือคำตอบ
    ประวัติศาสตร์อีกมุมหนึ่งของชนชาติยิว...

    สองวันที่ผ่านมา
    Ross อดีตประธานภาคพื้นเอเซียแปซิฟิคของ พรรครีพับริกัน
    ได้สร้างข่าวพาดหัวด้วยการ กล่าวหา ชาวจีน ที่เล่นอินเตอร์เนต ว่า ไม่มีความเห็นอกเห็นใจชาวยิว อันเนื่องจากเหตุการณ์ความขัดแย้งที่กาซ่า..

    ต่อมา มีชาวเนตจีนรายหนึ่ง เข้ามาเห็น จึงเขียนบทความอย่างยืดยาว เพื่อสอนบทเรียนทาง ประวัติศาสตร์ แก่ชาวอเมริกันยิวคนนี้..
    สรุปว่า ต่อมา Ross ได้แอบลบบทวิจารณ์นี้ทิ้งไป...

    ไม่มีใครรู้ว่าผู้เขียนบทความโต้แย้งชายจีนผู้นี้เป็นใคร
    แต่ อย่างไรก็ตาม ข้อเขียนของเขาได้หลุดรอดออกมา และ ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง!

    เป็นข้อเขียนที่ทุกคนต้องอ่าน!

    เพราะเป็นการตอบโต้ที่แข็งกร้าวของชาวเนตจีน..( 11 กค. 2024 )

    สวัสดีครับคุณ Enge...
    ผมรู้สึกช๊อคไปกับคำพูดของคุณที่ว่า
    "หากโลกจะสนใจช่วยชาวยิวในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 (WW II)ืชาวยิวหกล้านคนก็คงไม่ถูกสังหาร"...

    แต่นี่ คงมิใช่ เหตุผล หรือ ทำให้กองทัพยิว มีสิทธิที่จะก่อสงครามล้างเผ่าพันธุ์ต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่าแต่อย่างใด...

    ยิ่งไปกว่า มันไม่เป็นความจริงด้วย..

    ในระหว่าง WW II นั้น ชาวจีนในเซี่ยงไฮ้ และ นานจิง กำลังถูกรุกราน และ ถูกสังหารหมู่ โดยกองทัพญี่ปุ่น
    ในขณะที่ชาวยิวถูกฆ่าโดยนาซี..

    แต่กระนั้นก็ดี แม้ชาวจีนจะประสบเคราะห์กรรมขนาดนั้น ก็ยังยินดีรับเอาชาวยิวกว่า 50,000 คน ที่อพยพไปยังประเทศจีนเพื่อหนีภัยจากนาซี...

    แต่วิธีตอบแทนแบบยิวก็คือ การร่วมมือกับญี่ปุ่น เพื่อสร้างทรัฐชาวยิว ขึ้นในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน!
    แผนงานนี้เป็นที่เลื่องลือในนามของ Pufferfish Plan..
    แต่ก็โชคร้าย ซึ่งในที่สุดแผนการณ์นี้ล้มเหลว..
    ทำให้นิทานเรื่องชาวนาและงูเห่า ไม่อาจเกิดเป็นจริงได้ในแผ่นดินจีน...

    แต่ที่เหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นคือ เมื่อราวสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
    เจ้าหน้าที่คนของสถานทูตอิสราเอล ได้กล่าวอ้างอย่างเปิดเผยผ่านทางรูปถ่ายว่า ที่ตั้งของสถานทูตที่อยู่บนถนนในเซี่ยงไฮ้ เกิดจากการยินยอมให้ใช้ของฝรั่งเศส!(ทั้งที่เรื่องกฏหมายสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ถูกยกเลิกไปนานแล้ว)

    แต่แน่นอน
    หากพูดถึงสัมพันธภาพระหว่างจีน กับ ชาวยิว ย่อมมีอะไรที่มากไปกว่านั้นมากมาย

    ชาวยิวได้ร่อนเร่มายังประเทศจีนตั้งแต่สมัย ราชวงศ์ซ่ง
    หรือ ราวพันปีที่ผ่านมา และ ได้ตั้งถิ่นฐานในจีนตั้งแต่นั้นมา

    ราชวงศ์ซ่ง ปกครองอาณาจักรจีนโบราณ ที่ถือกันว่าสมบูรณ์พูนสุขิและ ร่ำรวยที่สุดราชวงศ์หนึ่ง

    อย่างไรก็ดี
    ในกาลต่อมา เมื่อราชวงศ์ซ่งล่มสลาย ผู้คนอพยพหนีภัยไปทางทิศใต้
    นักธุรกิจชาวยิว ที่มีชื่อสกุล Pu ได้ใช้กำลังทหารส่วนตัว เข่นฆ่าชาวเมืองจำนวนมากที่เคยเป็นราษฎรภายใต้การปกครองของราชวงศ์ซ่ง แล้วนำศพไปให้กองทัพของราชวงศ์ หยวน
    เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ของการยอมรับในอำนาจของผู้ปกครองชาว มงโกล รายใหม่

    ในหลายสิบปีหลังจากนั้น ราชวงศ์ จูหยวนจาง ได้โค่นราชวงศ์หยวนลง และ จัดตั้งราชวงศ์หมิงขึ้น
    คนจีนที่สืบเชื้อสายจากชาวฮั่น จึงกลับขึ้นมามีอำนาจอีกครั้ง
    แต่ก็มิได้ขับไล่ชุมชนชาวยิวกลุ่มทรยศเหล่านี้ออกไป (ทั้งที่ได้เข่นฆ่าชาวจีนไปมากก่อนหน้านั้น)

    ต่อมา ในสมัยประวัติศาสตร์ช่วงการเกิดสงครามฝิ่น
    มีนักธุรกิจชาวยิว ตระกูล Sassoon ได้นำฝิ่นจำนวนมากมาจำหน่ายเพื่อหวังผลกำไร
    ทำให้ชาวจีนติดฝิ่นกันงอมแงม ประชากรชาวจีน อ่อนแอ และ ล้มตายกันเป็นจำนวนมาก.. คุณ (Mr Ross)เคยใช้ชีวิตอยู่ในเอเซียมาหลายปี น่าจะคุ้นเคยกับเรื่องนี้ดี

    เหตุการณ์ สงครามฉนวนกาซ่าในครั้งนี้
    ชาวจีน มิได้รู้สึกเห็นใจ ชาวยิว เพราะชาวจีน มีการศึกษาเรื่องคุณธรรม ร่วมสามพันปีมาแล้ว

    "Shangshu" วรรณกรรมคลาสิกที่ยังเหลืออยู่ของจีน ที่เขียนขึ้นมาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 10 ก่อนคริสตกาลหรือราว 3,000 ปีพอดี ซึ่งคงเป็นระยะเวลาเดียวกับที่ชาวยิวถูกขับไล่ออกจากดินแดนแห่งพันธสัญญา (Promised Land) และเป็นชนชาติเร่ร่อนตั้งแต่นั้นมา

    ถ้าคุณ( Mr. Ross )คุ้นเคย กับอดีต และ ประวัติศาสตร์ ชาวยิว ของคุณ คุณก็ควรรับรู้และตระหนักถึงมันด้วย

    ชาวอียิปต์ ยอมรับ ชาวยิว เข้าไปในดินแดนของตน
    แต่ ชาวยิว กลับทรยศ ต่อชาวอียิปต์ หลายต่อหลายครั้ง
    จนในที่สุด ชาวยิว ก็ถูกเข่นฆ่าและ ขับไล่ออกไปจากดินแดนอียิปต์โดย กษัตริย์ฟาโรห์

    อาณาจักรโรมัน ยอมรับ ชาวยิว เป็นส่วนหนึ่งของโรมัน ถึงขนาดจัดตั้งชุมชนให้เป็น กลุ่มก้อน โดยเฉพาะ
    แต่ ชาวยิว กลับถือโอกาสก่อการกบฎ ในช่วงเวลาที่กษัตริย์ Trajan มุ่งขยายดินแดนไปทางตะวันออก และ กองกำลังความมั่นคงในโรมันอ่อนแอลง

    หลังจาก ชาวยิว สังหารกองกำลังโรมัน ที่มีอยู่น้อยนิด
    ชาวยิว ก็บุกสังหาร พลเรือนชาวโรมัน อย่างบ้าคลั่ง
    ถึงขนาด เฉือนเอาผิวหนังมาทำเสื้อผ้า กินเนื้อเป็นอาหาร และ โยนซากศพไปเป็นอาหารของสัตว์ดุร้าย..

    ในเมือง Cyprus Salamis และ Libya พลเรือนชาวโรมันราว 220,000 คน ถูกสังหารโดย ชาวยิว

    แม้ต่อหน้าพลเรือนชาวโรมัน
    ชาวยิวดูจะทารุณโหดร้ายมาก
    แต่ในที่สุดกษัตริย์ Trajan ใช้กำลังทหารเพียงสองชุด ก็สามารถทวงคืนอำนาจจากชาวยิวได้อย่างสมบูรณ์

    กองทัพโรมันที่โกรธแค้นได้เคลื่อนทัพจากดินแดนเมโสโปเตเมีย ไปตามฝั่ง ตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน..จนทำให้ชาวยิวที่อาศัยในพื้นที่เหล่านี้ถูกเข่นฆ่าจนเกือบหมด
    ต่อมา ชาวยิว ก็ก่อกบฎอีกครั้ง ครววนี้ มุ่งสังหารผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ โดยเฉพาะ

    แต่ครั้งนี้ โชคไม่เข้าข้างชาวยิว เมื่อต้องพบกับกษัตริย์ Hadrian ผู้ได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ที่เฉลียวฉลาดที่สุดคนหนึ่งของกรุงโรม ผู้ที่ได้ระดมกำลังทหาร 120,000 นาย เข้าจัดการสังหาร ชาวยิว ที่ก่อการกบฎได้อย่างเบ็ดเสร็จ

    กษัตริย์ Hadrian ได้ศึกษาบทเรียนจากยุคสมัยของกษัตริย์ Trajan
    จึงได้ยกเลิก ชุมชนชาวยิว เสียทั้งหมด
    ทำให้ชาวยิวต้องอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย และ แตกกระสานซ่านเซ็นไปทั่วโลก

    นอกจากนั้น ยังมีจักรพรรดิ Titus ผู้บุกทำลาย และ สังหาร ชาวยิวในกรุงเยลูซาเล็ม
    ที่เคยเป็น Second Temple จนปัจจุบันเหลือเพียง Western Wall (หรือที่เรียกว่า กำแพงร้องไห้)ที่ชาวยิวใช้เป็นที่สวดมนต์ไปติดต่อพระเจ้าฯ

    เป็นเวลานับพันปี ที่ชาวยิว ต้องถูก เข่นฆ่า และ ขับออกนอกประเทศต่างๆนับครั้งไม่ถ้วน
    แต่ พวกคุณ ชาวยิว ก็ได้ทรยศต่อ ชาติต่างๆ จำนวนไม่น้อย ที่เห็นอกเห็นใจต่อความยากลำบากของพวกคุณ

    กระนั้นก็ดี
    พวกคุณ ก็ยังคงโอหัง เชื่อว่า ชนชาติตน เป็นชนชาติอภิสิทธิ์ ที่เหนือกว่าคนชาติอื่นๆ และ เชื่อว่า เป็น ชนชาติ ที่พระเจ้าเลือกสรรไว้ ให้เป็นใหญ่กว่าชนชาติอื่นใด

    ทำให้ ชาวไซออนนิสยิว ไม่เคยตระหนักถึงอดีตของตน..
    จนเป็นที่สรุปกันแล้วว่า วัฒนธรรมของชนชาติยิว มีลักษณะที่เข้ากับใครยาก และ ไม่ยอมปรับตัวเข้าหาวัฒนธรรมอื่น

    ความเชื่อของชาวยิวเหล่านี้ จะใช้กับคนจีนไม่ได้
    เพราะ คนจีนมีหลักการด้านคุณธรรมของตนเอง และ ไม่เคยคิดว่าชนชาติตนเหนือกว่าคนชนะชาติอื่น
    แต่จะปฏิบัติต่อคนชาติอื่น อย่างเท่าเทียมกัน และ ไม่เกรงกลัวต่อชนชาติอื่น ที่คิดว่าเหนือกว่าชาวจีน

    คนจีน จะมีความ อดทน อดกลั้น มีความละอายใจ มีความกตัญญูรู้คุณ และ รู้จักตอบแทนบุญคุณคน

    John Rabe อดีตนาซี ผู้ที่ครั้งหนึ่ง เคยช่วยชีวิตชาวจีนที่นานจิง คนจีนที่รู้เรื่องนี้ จะนึกถึงบุญคุณของเขาเสมอ

    จากเหตุการณ์ เมื่อสองปีที่แล้ว ที่โรงพยาบาล สถานที่ที่หลานของ John Rabe ทำงานอยู่ เกิดการขาดแคลนยารักษาโรค
    จึงร้องขอความช่วยเหลือไปยังสถานทูตจีนในเยอรมัน
    ปรากฏว่า ชาวจีนต่างช่วยกันบริจาคเงินและสิ่งของให้กันอย่างแข็งขัน ด้วยความสำนึกในพระคุณในอดีต ของ John Rabe

    ในช่วง WW II ประธานของสภากาชาดแห่งสวีเดน เคยช่วยเหลือเชลยถึง 35,000 คน จากค่ายกักกันของนาซี
    โดยในจำนวนนี้เป็นชาวยิวถึง 6,000 คน..

    ต่อมา เมื่อเขาถูกยูเอ็น ส่งไปเป็นผู้แทน เพื่อยืนยันประเด็นที่เกี่ยวกับขอบเขตดินแดนในกรุงเยรูซาเล็ม ที่กำหนดขึ้นใหม่ระหว่างอิสราเอล กับ ปาเลสไตน์

    ปรากฏว่าเขาถูกยิงถึงหกนัดและเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ จากมือสังหารชาวยิว..
    เพียงเพราะ เขาพูดถึง "ความยุติธรรม" เพียงไม่กี่คำ

    ในระหว่าง WW II เช่นเดียวกัน
    ประเทศยูโกสลาเวีย เคยช่วยชีวิตเด็กผู้หญิงชาวยิวไว้คนหนึ่ง..
    แต่ 50 ปีต่อมา เธอกลับเป็นคนสั่งให้ทิ้งระเบิดยูโกสลาเวียอย่างไม่เลือกหน้า...

    หลายปีต่อมา
    เมื่อเธอ ถูกผู้สื่อข่าวถามในระหว่างการให้สัมภาษณ์ว่า เธอรู้สึกเสียใจบ้างหรือไม่ กับการสั่งทิ้งระเบิดยูโกสลาเวีย..
    เธอตอบว่า.."ไม่เลย"..

    เธอผู้นั้น คือ อดีตสตรีที่เป็น รัฐมนตรีต่างประเทศ คนแรกของสหรัฐ..Madeleine Albright!

    ในการให้สัมภาษณ์ในรายการ 60 Minutes ในปี1996..
    M. Albright กล่าวว่า
    การที่สหรัฐแซงชั่นอิรัค(สมัยซัดดัม) ซึ่งได้สังหารเด็กชาวอิรัคไปกว่าครึ่งล้าน (เพราะขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค)นั้น
    เป็นสิ่งที่คุ้มค่า!
    ทั้งๆที่ การบุกเข้ายึดครองอิรัคเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ
    เพราะสหรัฐอ้างว่า อิรัคกำลังผลิตอาวุธทำลายล้าง
    ด้วยการนำเสนอเพียงภาพ “ผงซักฟอก” ในสื่อ ว่าคือ “สารเคมี” ที่ใช้สร้างอาวุธชีวภาพ

    นาง M. Albright กล่าวอย่างโจ่งแจ้งท้าทายว่า..
    การเข่นฆ่าเด็กนับล้าน เป็นสิ่งที่คุ้มค่าแล้ว!

    ในปี 1947 เมื่อชาวยิว อพยพทางเรือมายังดินแดนปาเลสไตน์
    มีการเขียนข้างลำเรือไว้ว่า..
    "คนเยอรมันได้ทำลายบ้านเรือนของเรา โปรดอย่าทำลายความหวังของเราอีก"...

    ด้วยความเมตตา ชาวปาเลสไตน์ยอมรับชาวยิวอพยพเข้าสู่ดินแดนของตน..
    ในที่สุด ชาวยิว อ้างในภายหลังว่า ดินแดน ปาเลสไตน์ นี้ เป็นดินแดนแห่งพันธสัญญา- Promised Land ของพวกเราชนชาติยิว!

    ตลอดเวลากว่า 70 ปี ที่ชาวไซออนนิสต์ยิว ได้สังหารชาวปาเลสไตน์ ผู้ที่เมตตา และ ยินยอมให้ชาวยิวเข้ามาตั้งถิ่นฐานต่อเนื่องยาวนาน

    แต่ ชาวยิว กลับมาเนรคุณ สร้างอาณาจักรแห่งการเหยียดผิว ที่เปรียบเสมือนเรือนจำกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก..
    และ ยังปฏิบัติ ต่อชาวปาเลสไตน์เยี่ยงสัตว์ (subhumans)

    พวกคุณชาวยิว
    ยังจะต้องการความเห็นอกเห็นใจอีกมากแค่ไหน คุณจึงจะพอใจ

    สำหรับการไม่รู้จักบุญคุณคน และ จากข้อมูลใน ประวัติศาสตร์ที่พวกคุณตอบแทนความเมตตา และ ตอบแทนการยอมรับของคนชาติอื่นด้วยการทรยศ ด้วยการพร้อมที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาติอื่นที่เคยช่วยเหลือพวกคุณ ชาวยิว อีกหรือ!

    ประโยคหนึ่ง ที่เขียนในวรรณกรรมคลาสสิก ของจีน ที่ชื่อว่า..“การเดินหน้าเข้าสู่ตวามตาย” (The Death March)...กล่าวว่า

    "ประเทศเล็ก ที่ไม่ตระหนักในตนเอง ไม่เคารพต่อประเทศอื่นๆ แสดงความหยาบช้า ดูถูกดูแคลน ประเทศเพื่อนบ้านอันมั่นคงที่ตั้งอยู่ก่อน
    พลันแต่มี ความโลภ ไม่อินังขังขอบต่อ มิตรภาพ และ ความเป็นเพื่อน..
    ก็ย่อมจะนำพาตนเอง เดินทางไปสู่ความพินาศย่อยยับอย่างไม่ต้องสงสัย“

    บทความนี้น่าสนใจมาก
    เป็นประวัติศาสตร์ ที่ชาวโลกอีกหลายล้านอาจจะยังไม่เคยได้รับรู้

    ซึ่ง อาจจะมีคนตั้งกระทู้ ตั้งข้อโต้แย้ง ขึ้นมาได้

    อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครทราบความเป็นจริง
    อยู่ที่ คนตั้งกระทู้ จะหาหลักฐานมาโต้แย้งทางประวัติศาสตร์ ได้ หรือ ไม่ได้

    ซึ่งหากมีข้อมูลทางประวัติศาสตร์มาโต้แย้งได้
    ก็จะยิ่งน่าศึกษา น่าติดตาม
    เพื่อให้ความจริงกระจ่างยิ่งขึ้น
    และ นับเป็นเรื่องดี ที่จะได้ทราบกันจริงๆว่า
    “ ยิว เป็นชนชาติประเภทใด?“
    ดีจริงแท้ หรือ ซาตานลวงโลก กันแน่ ?
    ......
    (แปลโดย : SB-22/07/24)
    ส่งต่อจาก วิชา มหาคุณ
    นี่ละยิวจอมทรยศและเนรคุณ..#เมื่อยิวถามจีนว่า ทำไมไม่ช่วยอิสรา.เอล​รบกับ ฮามา.ส ลองฟังคับตอบ ประชาชนจีนที่รู้ประวัติศาสตร์​อ่านแล้วถึงกับอึง ยาวหน่อย แต่เป็นความรู้ระดับ #พันปี “เมื่อ Ross อเมริกันเชื้อสายยิวกล่าวโจมตี ทำไม จีน ไม่สนับสนุนอิสราเอลโจมตี ฮามาส“ นี่คือคำตอบ ประวัติศาสตร์อีกมุมหนึ่งของชนชาติยิว... สองวันที่ผ่านมา Ross อดีตประธานภาคพื้นเอเซียแปซิฟิคของ พรรครีพับริกัน ได้สร้างข่าวพาดหัวด้วยการ กล่าวหา ชาวจีน ที่เล่นอินเตอร์เนต ว่า ไม่มีความเห็นอกเห็นใจชาวยิว อันเนื่องจากเหตุการณ์ความขัดแย้งที่กาซ่า.. ต่อมา มีชาวเนตจีนรายหนึ่ง เข้ามาเห็น จึงเขียนบทความอย่างยืดยาว เพื่อสอนบทเรียนทาง ประวัติศาสตร์ แก่ชาวอเมริกันยิวคนนี้.. สรุปว่า ต่อมา Ross ได้แอบลบบทวิจารณ์นี้ทิ้งไป... ไม่มีใครรู้ว่าผู้เขียนบทความโต้แย้งชายจีนผู้นี้เป็นใคร แต่ อย่างไรก็ตาม ข้อเขียนของเขาได้หลุดรอดออกมา และ ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง! เป็นข้อเขียนที่ทุกคนต้องอ่าน! เพราะเป็นการตอบโต้ที่แข็งกร้าวของชาวเนตจีน..( 11 กค. 2024 ) สวัสดีครับคุณ Enge... ผมรู้สึกช๊อคไปกับคำพูดของคุณที่ว่า "หากโลกจะสนใจช่วยชาวยิวในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 (WW II)ืชาวยิวหกล้านคนก็คงไม่ถูกสังหาร"... แต่นี่ คงมิใช่ เหตุผล หรือ ทำให้กองทัพยิว มีสิทธิที่จะก่อสงครามล้างเผ่าพันธุ์ต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่าแต่อย่างใด... ยิ่งไปกว่า มันไม่เป็นความจริงด้วย.. ในระหว่าง WW II นั้น ชาวจีนในเซี่ยงไฮ้ และ นานจิง กำลังถูกรุกราน และ ถูกสังหารหมู่ โดยกองทัพญี่ปุ่น ในขณะที่ชาวยิวถูกฆ่าโดยนาซี.. แต่กระนั้นก็ดี แม้ชาวจีนจะประสบเคราะห์กรรมขนาดนั้น ก็ยังยินดีรับเอาชาวยิวกว่า 50,000 คน ที่อพยพไปยังประเทศจีนเพื่อหนีภัยจากนาซี... แต่วิธีตอบแทนแบบยิวก็คือ การร่วมมือกับญี่ปุ่น เพื่อสร้างทรัฐชาวยิว ขึ้นในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน! แผนงานนี้เป็นที่เลื่องลือในนามของ Pufferfish Plan.. แต่ก็โชคร้าย ซึ่งในที่สุดแผนการณ์นี้ล้มเหลว.. ทำให้นิทานเรื่องชาวนาและงูเห่า ไม่อาจเกิดเป็นจริงได้ในแผ่นดินจีน... แต่ที่เหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นคือ เมื่อราวสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่คนของสถานทูตอิสราเอล ได้กล่าวอ้างอย่างเปิดเผยผ่านทางรูปถ่ายว่า ที่ตั้งของสถานทูตที่อยู่บนถนนในเซี่ยงไฮ้ เกิดจากการยินยอมให้ใช้ของฝรั่งเศส!(ทั้งที่เรื่องกฏหมายสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ถูกยกเลิกไปนานแล้ว) แต่แน่นอน หากพูดถึงสัมพันธภาพระหว่างจีน กับ ชาวยิว ย่อมมีอะไรที่มากไปกว่านั้นมากมาย ชาวยิวได้ร่อนเร่มายังประเทศจีนตั้งแต่สมัย ราชวงศ์ซ่ง หรือ ราวพันปีที่ผ่านมา และ ได้ตั้งถิ่นฐานในจีนตั้งแต่นั้นมา ราชวงศ์ซ่ง ปกครองอาณาจักรจีนโบราณ ที่ถือกันว่าสมบูรณ์พูนสุขิและ ร่ำรวยที่สุดราชวงศ์หนึ่ง อย่างไรก็ดี ในกาลต่อมา เมื่อราชวงศ์ซ่งล่มสลาย ผู้คนอพยพหนีภัยไปทางทิศใต้ นักธุรกิจชาวยิว ที่มีชื่อสกุล Pu ได้ใช้กำลังทหารส่วนตัว เข่นฆ่าชาวเมืองจำนวนมากที่เคยเป็นราษฎรภายใต้การปกครองของราชวงศ์ซ่ง แล้วนำศพไปให้กองทัพของราชวงศ์ หยวน เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ของการยอมรับในอำนาจของผู้ปกครองชาว มงโกล รายใหม่ ในหลายสิบปีหลังจากนั้น ราชวงศ์ จูหยวนจาง ได้โค่นราชวงศ์หยวนลง และ จัดตั้งราชวงศ์หมิงขึ้น คนจีนที่สืบเชื้อสายจากชาวฮั่น จึงกลับขึ้นมามีอำนาจอีกครั้ง แต่ก็มิได้ขับไล่ชุมชนชาวยิวกลุ่มทรยศเหล่านี้ออกไป (ทั้งที่ได้เข่นฆ่าชาวจีนไปมากก่อนหน้านั้น) ต่อมา ในสมัยประวัติศาสตร์ช่วงการเกิดสงครามฝิ่น มีนักธุรกิจชาวยิว ตระกูล Sassoon ได้นำฝิ่นจำนวนมากมาจำหน่ายเพื่อหวังผลกำไร ทำให้ชาวจีนติดฝิ่นกันงอมแงม ประชากรชาวจีน อ่อนแอ และ ล้มตายกันเป็นจำนวนมาก.. คุณ (Mr Ross)เคยใช้ชีวิตอยู่ในเอเซียมาหลายปี น่าจะคุ้นเคยกับเรื่องนี้ดี เหตุการณ์ สงครามฉนวนกาซ่าในครั้งนี้ ชาวจีน มิได้รู้สึกเห็นใจ ชาวยิว เพราะชาวจีน มีการศึกษาเรื่องคุณธรรม ร่วมสามพันปีมาแล้ว "Shangshu" วรรณกรรมคลาสิกที่ยังเหลืออยู่ของจีน ที่เขียนขึ้นมาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 10 ก่อนคริสตกาลหรือราว 3,000 ปีพอดี ซึ่งคงเป็นระยะเวลาเดียวกับที่ชาวยิวถูกขับไล่ออกจากดินแดนแห่งพันธสัญญา (Promised Land) และเป็นชนชาติเร่ร่อนตั้งแต่นั้นมา ถ้าคุณ( Mr. Ross )คุ้นเคย กับอดีต และ ประวัติศาสตร์ ชาวยิว ของคุณ คุณก็ควรรับรู้และตระหนักถึงมันด้วย ชาวอียิปต์ ยอมรับ ชาวยิว เข้าไปในดินแดนของตน แต่ ชาวยิว กลับทรยศ ต่อชาวอียิปต์ หลายต่อหลายครั้ง จนในที่สุด ชาวยิว ก็ถูกเข่นฆ่าและ ขับไล่ออกไปจากดินแดนอียิปต์โดย กษัตริย์ฟาโรห์ อาณาจักรโรมัน ยอมรับ ชาวยิว เป็นส่วนหนึ่งของโรมัน ถึงขนาดจัดตั้งชุมชนให้เป็น กลุ่มก้อน โดยเฉพาะ แต่ ชาวยิว กลับถือโอกาสก่อการกบฎ ในช่วงเวลาที่กษัตริย์ Trajan มุ่งขยายดินแดนไปทางตะวันออก และ กองกำลังความมั่นคงในโรมันอ่อนแอลง หลังจาก ชาวยิว สังหารกองกำลังโรมัน ที่มีอยู่น้อยนิด ชาวยิว ก็บุกสังหาร พลเรือนชาวโรมัน อย่างบ้าคลั่ง ถึงขนาด เฉือนเอาผิวหนังมาทำเสื้อผ้า กินเนื้อเป็นอาหาร และ โยนซากศพไปเป็นอาหารของสัตว์ดุร้าย.. ในเมือง Cyprus Salamis และ Libya พลเรือนชาวโรมันราว 220,000 คน ถูกสังหารโดย ชาวยิว แม้ต่อหน้าพลเรือนชาวโรมัน ชาวยิวดูจะทารุณโหดร้ายมาก แต่ในที่สุดกษัตริย์ Trajan ใช้กำลังทหารเพียงสองชุด ก็สามารถทวงคืนอำนาจจากชาวยิวได้อย่างสมบูรณ์ กองทัพโรมันที่โกรธแค้นได้เคลื่อนทัพจากดินแดนเมโสโปเตเมีย ไปตามฝั่ง ตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน..จนทำให้ชาวยิวที่อาศัยในพื้นที่เหล่านี้ถูกเข่นฆ่าจนเกือบหมด ต่อมา ชาวยิว ก็ก่อกบฎอีกครั้ง ครววนี้ มุ่งสังหารผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ โดยเฉพาะ แต่ครั้งนี้ โชคไม่เข้าข้างชาวยิว เมื่อต้องพบกับกษัตริย์ Hadrian ผู้ได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ที่เฉลียวฉลาดที่สุดคนหนึ่งของกรุงโรม ผู้ที่ได้ระดมกำลังทหาร 120,000 นาย เข้าจัดการสังหาร ชาวยิว ที่ก่อการกบฎได้อย่างเบ็ดเสร็จ กษัตริย์ Hadrian ได้ศึกษาบทเรียนจากยุคสมัยของกษัตริย์ Trajan จึงได้ยกเลิก ชุมชนชาวยิว เสียทั้งหมด ทำให้ชาวยิวต้องอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย และ แตกกระสานซ่านเซ็นไปทั่วโลก นอกจากนั้น ยังมีจักรพรรดิ Titus ผู้บุกทำลาย และ สังหาร ชาวยิวในกรุงเยลูซาเล็ม ที่เคยเป็น Second Temple จนปัจจุบันเหลือเพียง Western Wall (หรือที่เรียกว่า กำแพงร้องไห้)ที่ชาวยิวใช้เป็นที่สวดมนต์ไปติดต่อพระเจ้าฯ เป็นเวลานับพันปี ที่ชาวยิว ต้องถูก เข่นฆ่า และ ขับออกนอกประเทศต่างๆนับครั้งไม่ถ้วน แต่ พวกคุณ ชาวยิว ก็ได้ทรยศต่อ ชาติต่างๆ จำนวนไม่น้อย ที่เห็นอกเห็นใจต่อความยากลำบากของพวกคุณ กระนั้นก็ดี พวกคุณ ก็ยังคงโอหัง เชื่อว่า ชนชาติตน เป็นชนชาติอภิสิทธิ์ ที่เหนือกว่าคนชาติอื่นๆ และ เชื่อว่า เป็น ชนชาติ ที่พระเจ้าเลือกสรรไว้ ให้เป็นใหญ่กว่าชนชาติอื่นใด ทำให้ ชาวไซออนนิสยิว ไม่เคยตระหนักถึงอดีตของตน.. จนเป็นที่สรุปกันแล้วว่า วัฒนธรรมของชนชาติยิว มีลักษณะที่เข้ากับใครยาก และ ไม่ยอมปรับตัวเข้าหาวัฒนธรรมอื่น ความเชื่อของชาวยิวเหล่านี้ จะใช้กับคนจีนไม่ได้ เพราะ คนจีนมีหลักการด้านคุณธรรมของตนเอง และ ไม่เคยคิดว่าชนชาติตนเหนือกว่าคนชนะชาติอื่น แต่จะปฏิบัติต่อคนชาติอื่น อย่างเท่าเทียมกัน และ ไม่เกรงกลัวต่อชนชาติอื่น ที่คิดว่าเหนือกว่าชาวจีน คนจีน จะมีความ อดทน อดกลั้น มีความละอายใจ มีความกตัญญูรู้คุณ และ รู้จักตอบแทนบุญคุณคน John Rabe อดีตนาซี ผู้ที่ครั้งหนึ่ง เคยช่วยชีวิตชาวจีนที่นานจิง คนจีนที่รู้เรื่องนี้ จะนึกถึงบุญคุณของเขาเสมอ จากเหตุการณ์ เมื่อสองปีที่แล้ว ที่โรงพยาบาล สถานที่ที่หลานของ John Rabe ทำงานอยู่ เกิดการขาดแคลนยารักษาโรค จึงร้องขอความช่วยเหลือไปยังสถานทูตจีนในเยอรมัน ปรากฏว่า ชาวจีนต่างช่วยกันบริจาคเงินและสิ่งของให้กันอย่างแข็งขัน ด้วยความสำนึกในพระคุณในอดีต ของ John Rabe ในช่วง WW II ประธานของสภากาชาดแห่งสวีเดน เคยช่วยเหลือเชลยถึง 35,000 คน จากค่ายกักกันของนาซี โดยในจำนวนนี้เป็นชาวยิวถึง 6,000 คน.. ต่อมา เมื่อเขาถูกยูเอ็น ส่งไปเป็นผู้แทน เพื่อยืนยันประเด็นที่เกี่ยวกับขอบเขตดินแดนในกรุงเยรูซาเล็ม ที่กำหนดขึ้นใหม่ระหว่างอิสราเอล กับ ปาเลสไตน์ ปรากฏว่าเขาถูกยิงถึงหกนัดและเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ จากมือสังหารชาวยิว.. เพียงเพราะ เขาพูดถึง "ความยุติธรรม" เพียงไม่กี่คำ ในระหว่าง WW II เช่นเดียวกัน ประเทศยูโกสลาเวีย เคยช่วยชีวิตเด็กผู้หญิงชาวยิวไว้คนหนึ่ง.. แต่ 50 ปีต่อมา เธอกลับเป็นคนสั่งให้ทิ้งระเบิดยูโกสลาเวียอย่างไม่เลือกหน้า... หลายปีต่อมา เมื่อเธอ ถูกผู้สื่อข่าวถามในระหว่างการให้สัมภาษณ์ว่า เธอรู้สึกเสียใจบ้างหรือไม่ กับการสั่งทิ้งระเบิดยูโกสลาเวีย.. เธอตอบว่า.."ไม่เลย".. เธอผู้นั้น คือ อดีตสตรีที่เป็น รัฐมนตรีต่างประเทศ คนแรกของสหรัฐ..Madeleine Albright! ในการให้สัมภาษณ์ในรายการ 60 Minutes ในปี1996.. M. Albright กล่าวว่า การที่สหรัฐแซงชั่นอิรัค(สมัยซัดดัม) ซึ่งได้สังหารเด็กชาวอิรัคไปกว่าครึ่งล้าน (เพราะขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค)นั้น เป็นสิ่งที่คุ้มค่า! ทั้งๆที่ การบุกเข้ายึดครองอิรัคเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะสหรัฐอ้างว่า อิรัคกำลังผลิตอาวุธทำลายล้าง ด้วยการนำเสนอเพียงภาพ “ผงซักฟอก” ในสื่อ ว่าคือ “สารเคมี” ที่ใช้สร้างอาวุธชีวภาพ นาง M. Albright กล่าวอย่างโจ่งแจ้งท้าทายว่า.. การเข่นฆ่าเด็กนับล้าน เป็นสิ่งที่คุ้มค่าแล้ว! ในปี 1947 เมื่อชาวยิว อพยพทางเรือมายังดินแดนปาเลสไตน์ มีการเขียนข้างลำเรือไว้ว่า.. "คนเยอรมันได้ทำลายบ้านเรือนของเรา โปรดอย่าทำลายความหวังของเราอีก"... ด้วยความเมตตา ชาวปาเลสไตน์ยอมรับชาวยิวอพยพเข้าสู่ดินแดนของตน.. ในที่สุด ชาวยิว อ้างในภายหลังว่า ดินแดน ปาเลสไตน์ นี้ เป็นดินแดนแห่งพันธสัญญา- Promised Land ของพวกเราชนชาติยิว! ตลอดเวลากว่า 70 ปี ที่ชาวไซออนนิสต์ยิว ได้สังหารชาวปาเลสไตน์ ผู้ที่เมตตา และ ยินยอมให้ชาวยิวเข้ามาตั้งถิ่นฐานต่อเนื่องยาวนาน แต่ ชาวยิว กลับมาเนรคุณ สร้างอาณาจักรแห่งการเหยียดผิว ที่เปรียบเสมือนเรือนจำกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก.. และ ยังปฏิบัติ ต่อชาวปาเลสไตน์เยี่ยงสัตว์ (subhumans) พวกคุณชาวยิว ยังจะต้องการความเห็นอกเห็นใจอีกมากแค่ไหน คุณจึงจะพอใจ สำหรับการไม่รู้จักบุญคุณคน และ จากข้อมูลใน ประวัติศาสตร์ที่พวกคุณตอบแทนความเมตตา และ ตอบแทนการยอมรับของคนชาติอื่นด้วยการทรยศ ด้วยการพร้อมที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาติอื่นที่เคยช่วยเหลือพวกคุณ ชาวยิว อีกหรือ! ประโยคหนึ่ง ที่เขียนในวรรณกรรมคลาสสิก ของจีน ที่ชื่อว่า..“การเดินหน้าเข้าสู่ตวามตาย” (The Death March)...กล่าวว่า "ประเทศเล็ก ที่ไม่ตระหนักในตนเอง ไม่เคารพต่อประเทศอื่นๆ แสดงความหยาบช้า ดูถูกดูแคลน ประเทศเพื่อนบ้านอันมั่นคงที่ตั้งอยู่ก่อน พลันแต่มี ความโลภ ไม่อินังขังขอบต่อ มิตรภาพ และ ความเป็นเพื่อน.. ก็ย่อมจะนำพาตนเอง เดินทางไปสู่ความพินาศย่อยยับอย่างไม่ต้องสงสัย“ บทความนี้น่าสนใจมาก เป็นประวัติศาสตร์ ที่ชาวโลกอีกหลายล้านอาจจะยังไม่เคยได้รับรู้ ซึ่ง อาจจะมีคนตั้งกระทู้ ตั้งข้อโต้แย้ง ขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครทราบความเป็นจริง อยู่ที่ คนตั้งกระทู้ จะหาหลักฐานมาโต้แย้งทางประวัติศาสตร์ ได้ หรือ ไม่ได้ ซึ่งหากมีข้อมูลทางประวัติศาสตร์มาโต้แย้งได้ ก็จะยิ่งน่าศึกษา น่าติดตาม เพื่อให้ความจริงกระจ่างยิ่งขึ้น และ นับเป็นเรื่องดี ที่จะได้ทราบกันจริงๆว่า “ ยิว เป็นชนชาติประเภทใด?“ ดีจริงแท้ หรือ ซาตานลวงโลก กันแน่ ? ...... (แปลโดย : SB-22/07/24) ส่งต่อจาก วิชา มหาคุณ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 362 มุมมอง 0 รีวิว
  • "มีใครประณามหรือยัง!?!" "มีใครเห็นผู้นำยุโรปหรืออเมริกาคนใดพูดถึงเรื่องนี้ หรือสื่อตะวันตกนำเสนอข่าวนี้หรือยัง!?!"

    เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศปิดล้อมกาซาเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการ โดยอ้างว่าฮามาสไม่ยอมรับการขยายเวลาหยุดยิงในเฟสที่หนึ่งออกไปอีก 50 วัน นอกจากนี้ยังกล่าวหาฮามาสว่าแอบกักตุนความช่วยเหลือไว้แค่สมาชิกพวกเขา โดยไม่แบ่งปันให้ประชาชน

    “อิสราเอลตัดสินใจยุติการอนุญาตส่งความช่วยเหลือและเสบียงเข้าไปในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำมาตลอด 42 วันที่ผ่านมา เราต้องทำเช่นนั้นเพราะฮามาสขโมยเสบียง โดยที่ชาวฉนวนกาซาไม่ได้รับเสบียงเหล่านั้น ฮามาสใช้เสบียงเหล่านี้เพื่อระดมทุนให้กับเครื่องจักรก่อการร้ายที่มุ่งเป้าไปที่อิสราเอลและพลเรือนของเราโดยตรง ซึ่งเราไม่สามารถยอมรับสิ่งนี้ได้”

    "อิสราเอลยอมรับแผนของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่จะขยายเวลาหยุดยิงชั่วคราวออกไปอีก 50 วัน ในช่วงเวลาดังกล่าว เราจะหารือเกี่ยวกับเงื่อนไขสำหรับการหยุดยิงถาวรที่จะยุติสงครามในฉนวนกาซาได้

    ตามแผนของวิทคอฟฟ์ (ตัวแทนของทรัมป์) ตัวประกันครึ่งหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวทันที และอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือจะได้รับการปล่อยตัวหากเราบรรลุข้อตกลงหยุดยิงถาวร

    อิสราเอลยอมรับแผนนี้ แต่ฮามาสปฏิเสธ และยืนยันข้อตกลงเดิม เพื่อการหยุดยิงถาวรซึ่งเราไม่สามารถยอมรับได้อย่างสิ้นเชิง"

    "เราจะมีปฏิบัติการเพิ่มเติม หากฮามาสยังคงจับตัวประกันของเราต่อไป และอิสราเอลทราบดีว่าอเมริกาและประธานาธิบดีทรัมป์จะสนับสนุนเราตลอด ขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์!"

    ทางด้านรองประธานรัฐสภาอิสราเอลและสมาชิกชั้นนำของพรรคของเนทันยาฮู ออกมาเรียกร้องให้ทิ้งระเบิดลงไปที่คลังเสบียงในกาซาทันที หลังการประกาศของเนทันยาฮู

    "มีใครประณามหรือยัง!?!" "มีใครเห็นผู้นำยุโรปหรืออเมริกาคนใดพูดถึงเรื่องนี้ หรือสื่อตะวันตกนำเสนอข่าวนี้หรือยัง!?!" เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศปิดล้อมกาซาเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการ โดยอ้างว่าฮามาสไม่ยอมรับการขยายเวลาหยุดยิงในเฟสที่หนึ่งออกไปอีก 50 วัน นอกจากนี้ยังกล่าวหาฮามาสว่าแอบกักตุนความช่วยเหลือไว้แค่สมาชิกพวกเขา โดยไม่แบ่งปันให้ประชาชน “อิสราเอลตัดสินใจยุติการอนุญาตส่งความช่วยเหลือและเสบียงเข้าไปในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำมาตลอด 42 วันที่ผ่านมา เราต้องทำเช่นนั้นเพราะฮามาสขโมยเสบียง โดยที่ชาวฉนวนกาซาไม่ได้รับเสบียงเหล่านั้น ฮามาสใช้เสบียงเหล่านี้เพื่อระดมทุนให้กับเครื่องจักรก่อการร้ายที่มุ่งเป้าไปที่อิสราเอลและพลเรือนของเราโดยตรง ซึ่งเราไม่สามารถยอมรับสิ่งนี้ได้” "อิสราเอลยอมรับแผนของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่จะขยายเวลาหยุดยิงชั่วคราวออกไปอีก 50 วัน ในช่วงเวลาดังกล่าว เราจะหารือเกี่ยวกับเงื่อนไขสำหรับการหยุดยิงถาวรที่จะยุติสงครามในฉนวนกาซาได้ ตามแผนของวิทคอฟฟ์ (ตัวแทนของทรัมป์) ตัวประกันครึ่งหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวทันที และอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือจะได้รับการปล่อยตัวหากเราบรรลุข้อตกลงหยุดยิงถาวร อิสราเอลยอมรับแผนนี้ แต่ฮามาสปฏิเสธ และยืนยันข้อตกลงเดิม เพื่อการหยุดยิงถาวรซึ่งเราไม่สามารถยอมรับได้อย่างสิ้นเชิง" "เราจะมีปฏิบัติการเพิ่มเติม หากฮามาสยังคงจับตัวประกันของเราต่อไป และอิสราเอลทราบดีว่าอเมริกาและประธานาธิบดีทรัมป์จะสนับสนุนเราตลอด ขอบคุณประธานาธิบดีทรัมป์!" ทางด้านรองประธานรัฐสภาอิสราเอลและสมาชิกชั้นนำของพรรคของเนทันยาฮู ออกมาเรียกร้องให้ทิ้งระเบิดลงไปที่คลังเสบียงในกาซาทันที หลังการประกาศของเนทันยาฮู
    Sad
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลอิสราเอลแถลง ออกคำสั่งปิดตายห้ามรถบรรเทาทุกข์ทั้งหมดส่งเข้าเขตฉนวนกาซา อ้างได้ไฟเขียวจากรัฐบาลสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เล็งบีบฮามาสยอมตกลงดีลใหม่เพื่อขยายระยะเวลาหยุดยิงออกไป
    .
    เอบีซีนิวส์รายงานวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) ว่า สำนักงานนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน ออกแถลงการณ์วันอาทิตย์ (2) ว่า อิสราเอลได้สั่งการห้ามการส่งบรรเทาทุกข์ทั้งหมดเข้าไปในเขตฉนวนกาซาเกิดขึ้นหลังข้อตกลงหยุดยิงเฟส 1 ที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลสหรัฐญ ของอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้สิ้นสุดลงในวันเสาร์ (1)
    .
    “นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ตัดสินใจเช้านี้ว่า สิ่งของทั้งหมดและปัจจัยส่งเข้าเขตฉนวนกาซาจะต้องหยุดลง” รายงานจากแถลงการณ์
    .
    พร้อมกันนี้ยังกล่าวหาว่ากลุ่มฮามาสปฏิเสธไม่ยอมรับร่างสำหรับการเจรจาที่จะเกิดขึ้นที่ออกมาจาก สตีฟ วิตค็อฟฟ์ (Steve Witkoff) ทูตตะวันออกกลางของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์
    .
    และในแถลงการณ์ของสำนักงานเนทันยาฮูยังยืนยันว่า ฝ่ายเทลอาวีฟจะไม่ให้มีการหยุดยิงเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีการปล่อยตัวประกัน พร้อมข่มขู่ต่อว่า หากฮามาสยังคงปฏิเสธไม่ร่วมเจรจาจะมีผลกระทบอื่นตามมา
    .
    อ้างอิงจากแอกซิออส (axios) ของสหรัฐฯ พบว่า ยังมีตัวประกันอยู่ในมือฮามาสอีก 59 คนในกาซา ซึ่งทั้งสหรัฐฯ และอิสราเอลเชื่อว่า 22 คนจากทั้งหมดยังคงมีชีวิตอยู่รวมถึงพลเมืองสหรัฐฯ 1 คน ส่วนอีก 37 คนนั้นเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว
    .
    แหล่งข่าวเทลอาวีฟเปิดเผยกับเอบีซีนิวส์ว่า “การตัดสินใจของอิสราเอลในการปิดกั้นสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้ากาซาทั้งหมดนั้นมีการประสานกับรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์”
    .
    ขณะที่ฮามาสได้ออกแถลงการณ์วันอาทิตย์ (2) ออกมาตอบโต้การปิดกั้นสิ่งของบรรเทาทุกข์ทั้งหมดเพื่อประชาชนปาเลสไตน์ที่อยู่ด้านในนั้นเป็น “แบล็กเมล์สกปรก” และเป็น “สงครามอาชญากรรม” และเป็นการละเมิดในสิ่งได้ตกลงไว้ก่อนหน้า
    .
    “หนทางเดียวในการที่จะปลดปล่อยตัวประกันคือการบังคับใช้ข้อตกลงและเริ่มต้นการเจรจาสำหรับข้อตกลงเฟส 2”อ้างอิงจากแถลงการณ์ของฮามาส เอบีซีนิวส์รายงาน
    .
    เอพีรายงานว่า เทลอาวีฟใช้วิธีปิดกั้นการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ทั้งหมดเพื่อต้องการให้ฝ่ายฮามาสยอมรับข้อเสนอใหม่เพื่อขยายเวลาการหยุดยิงออกไป ขณะที่ตัวกลางเช่น อียิปต์ กล่าวหาเทลอาวีฟว่า ใช้การขาดอาหารเป็นอาวุธ”
    .
    นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.และสิ้นสุดลงในวันเสาร์ (1 ) มีรถบรรเทาทุกข์หลายร้อยคันผ่านเข้าเขตฉนวนกาซาเพื่อทำให้ภาวะการขาดอาหารที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญวิตกบรรเทาลง
    .
    แต่ทว่าประชาชนกาซาต่างกล่าวว่า ราคาสินค้าเพิ่มเป็น 2 เท่าในทันทีที่ข่าวปิดด่านห้ามรถบรรเทาทุกข์เข้านั้นลามไปทั่ว
    .
    หนึ่งในประชาชนปาเลสไตน์คือ ซาอิด อัล-ดาอิรี (Sayed al-Dairi) อาศัยในกาซา ซิตี แสดงความเห็นว่า "ทุกคนพากันวิตก" และเสริมต่อว่า "นี่ไม่ใช่ชีวิตแม้แต่น้อย"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020419
    ..............
    Sondhi X
    รัฐบาลอิสราเอลแถลง ออกคำสั่งปิดตายห้ามรถบรรเทาทุกข์ทั้งหมดส่งเข้าเขตฉนวนกาซา อ้างได้ไฟเขียวจากรัฐบาลสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เล็งบีบฮามาสยอมตกลงดีลใหม่เพื่อขยายระยะเวลาหยุดยิงออกไป . เอบีซีนิวส์รายงานวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) ว่า สำนักงานนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน ออกแถลงการณ์วันอาทิตย์ (2) ว่า อิสราเอลได้สั่งการห้ามการส่งบรรเทาทุกข์ทั้งหมดเข้าไปในเขตฉนวนกาซาเกิดขึ้นหลังข้อตกลงหยุดยิงเฟส 1 ที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลสหรัฐญ ของอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้สิ้นสุดลงในวันเสาร์ (1) . “นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ตัดสินใจเช้านี้ว่า สิ่งของทั้งหมดและปัจจัยส่งเข้าเขตฉนวนกาซาจะต้องหยุดลง” รายงานจากแถลงการณ์ . พร้อมกันนี้ยังกล่าวหาว่ากลุ่มฮามาสปฏิเสธไม่ยอมรับร่างสำหรับการเจรจาที่จะเกิดขึ้นที่ออกมาจาก สตีฟ วิตค็อฟฟ์ (Steve Witkoff) ทูตตะวันออกกลางของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ . และในแถลงการณ์ของสำนักงานเนทันยาฮูยังยืนยันว่า ฝ่ายเทลอาวีฟจะไม่ให้มีการหยุดยิงเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีการปล่อยตัวประกัน พร้อมข่มขู่ต่อว่า หากฮามาสยังคงปฏิเสธไม่ร่วมเจรจาจะมีผลกระทบอื่นตามมา . อ้างอิงจากแอกซิออส (axios) ของสหรัฐฯ พบว่า ยังมีตัวประกันอยู่ในมือฮามาสอีก 59 คนในกาซา ซึ่งทั้งสหรัฐฯ และอิสราเอลเชื่อว่า 22 คนจากทั้งหมดยังคงมีชีวิตอยู่รวมถึงพลเมืองสหรัฐฯ 1 คน ส่วนอีก 37 คนนั้นเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว . แหล่งข่าวเทลอาวีฟเปิดเผยกับเอบีซีนิวส์ว่า “การตัดสินใจของอิสราเอลในการปิดกั้นสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้ากาซาทั้งหมดนั้นมีการประสานกับรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์” . ขณะที่ฮามาสได้ออกแถลงการณ์วันอาทิตย์ (2) ออกมาตอบโต้การปิดกั้นสิ่งของบรรเทาทุกข์ทั้งหมดเพื่อประชาชนปาเลสไตน์ที่อยู่ด้านในนั้นเป็น “แบล็กเมล์สกปรก” และเป็น “สงครามอาชญากรรม” และเป็นการละเมิดในสิ่งได้ตกลงไว้ก่อนหน้า . “หนทางเดียวในการที่จะปลดปล่อยตัวประกันคือการบังคับใช้ข้อตกลงและเริ่มต้นการเจรจาสำหรับข้อตกลงเฟส 2”อ้างอิงจากแถลงการณ์ของฮามาส เอบีซีนิวส์รายงาน . เอพีรายงานว่า เทลอาวีฟใช้วิธีปิดกั้นการช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ทั้งหมดเพื่อต้องการให้ฝ่ายฮามาสยอมรับข้อเสนอใหม่เพื่อขยายเวลาการหยุดยิงออกไป ขณะที่ตัวกลางเช่น อียิปต์ กล่าวหาเทลอาวีฟว่า ใช้การขาดอาหารเป็นอาวุธ” . นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.และสิ้นสุดลงในวันเสาร์ (1 ) มีรถบรรเทาทุกข์หลายร้อยคันผ่านเข้าเขตฉนวนกาซาเพื่อทำให้ภาวะการขาดอาหารที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญวิตกบรรเทาลง . แต่ทว่าประชาชนกาซาต่างกล่าวว่า ราคาสินค้าเพิ่มเป็น 2 เท่าในทันทีที่ข่าวปิดด่านห้ามรถบรรเทาทุกข์เข้านั้นลามไปทั่ว . หนึ่งในประชาชนปาเลสไตน์คือ ซาอิด อัล-ดาอิรี (Sayed al-Dairi) อาศัยในกาซา ซิตี แสดงความเห็นว่า "ทุกคนพากันวิตก" และเสริมต่อว่า "นี่ไม่ใช่ชีวิตแม้แต่น้อย" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020419 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1061 มุมมอง 0 รีวิว

  • อิสราเอลประกาศปิดพรมแดนกาซา ห้ามส่งความช่วยเหลือ ชี้ฮามาสไม่ยอมเจรจาตามเงื่อนไขสหรัฐฯ หลังสิ้นสุดหยุดยิงระยะแรกแล้ว

    มีรายงานการโจมตี การยิงปืน และการเคลื่อนตัวของยานพาหนะของอิสราเอลในเบตฮานูน ทางเหนือของกาซา

    มีชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 1 รายเสียชีวิต และอีกหลายคนได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่เนทันยาฮูประกาศยุติการให้ความช่วยเหลือทั้งหมดแก่กาซาและปิดพรมแดน
    อิสราเอลประกาศปิดพรมแดนกาซา ห้ามส่งความช่วยเหลือ ชี้ฮามาสไม่ยอมเจรจาตามเงื่อนไขสหรัฐฯ หลังสิ้นสุดหยุดยิงระยะแรกแล้ว มีรายงานการโจมตี การยิงปืน และการเคลื่อนตัวของยานพาหนะของอิสราเอลในเบตฮานูน ทางเหนือของกาซา มีชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 1 รายเสียชีวิต และอีกหลายคนได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่เนทันยาฮูประกาศยุติการให้ความช่วยเหลือทั้งหมดแก่กาซาและปิดพรมแดน
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เมื่อยิวถามจีนว่า
    ทำไมไม่ช่วยอิสรา.เอล​รบกับ ฮามา.ส
    ลองฟังคับตอบ ประชาชนจีนที่รู้ประวัติศาสตร์​อ่านแล้วถึงกับอึง ยาวหน่อย แต่เป็นความรู้ระดับ #พันปี

    “เมื่อ Ross อเมริกันเชื้อสายยิวกล่าวโจมตี ทำไม จีน ไม่สนับสนุนอิสราเอลโจมตี ฮามาส“

    นี่คือคำตอบ

    (แปลโดย SB-22/07/24)
    ส่งต่อจาก วิชา มหาคุณ

    ประวัติศาสตร์อีกมุมหนึ่งของชนชาติยิว...

    สองวันที่ผ่านมา
    Ross อดีตประธานภาคพื้นเอเซียแปซิฟิคของ พรรครีพับริกัน
    ได้สร้างข่าวพาดหัวด้วยการ กล่าวหา ชาวจีน ที่เล่นอินเตอร์เนต ว่า ไม่มีความเห็นอกเห็นใจชาวยิว อันเนื่องจากเหตุการณ์ความขัดแย้งที่กาซ่า..

    ต่อมา มีชาวเนตจีนรายหนึ่ง เข้ามาเห็น จึงเขียนบทความอย่างยืดยาว เพื่อสอนบทเรียนทาง ประวัติศาสตร์ แก่ชาวอเมริกันยิวคนนี้..
    สรุปว่า ต่อมา Ross ได้แอบลบบทวิจารณ์นี้ทิ้งไป...

    ไม่มีใครรู้ว่าผู้เขียนบทความโต้แย้งชายจีนผู้นี้เป็นใคร
    แต่ อย่างไรก็ตาม ข้อเขียนของเขาได้หลุดรอดออกมา และ ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง!

    เป็นข้อเขียนที่ทุกคนต้องอ่าน!

    เพราะเป็นการตอบโต้ที่แข็งกร้าวของชาวเนตจีน..( 11 กค. 2024 )

    สวัสดีครับคุณ Enge...
    ผมรู้สึกช๊อคไปกับคำพูดของคุณที่ว่า
    "หากโลกจะสนใจช่วยชาวยิวในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 (WW II)ืชาวยิวหกล้านคนก็คงไม่ถูกสังหาร"...

    แต่นี่ คงมิใช่ เหตุผล หรือ ทำให้กองทัพยิว มีสิทธิที่จะก่อสงครามล้างเผ่าพันธุ์ต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่าแต่อย่างใด...

    ยิ่งไปกว่า มันไม่เป็นความจริงด้วย..

    ในระหว่าง WW II นั้น ชาวจีนในเซี่ยงไฮ้ และ นานจิง กำลังถูกรุกราน และ ถูกสังหารหมู่ โดยกองทัพญี่ปุ่น
    ในขณะที่ชาวยิวถูกฆ่าโดยนาซี..

    แต่กระนั้นก็ดี แม้ชาวจีนจะประสบเคราะห์กรรมขนาดนั้น ก็ยังยินดีรับเอาชาวยิวกว่า 50,000 คน ที่อพยพไปยังประเทศจีนเพื่อหนีภัยจากนาซี...

    แต่วิธีตอบแทนแบบยิวก็คือ การร่วมมือกับญี่ปุ่น เพื่อสร้างทรัฐชาวยิว ขึ้นในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน!
    แผนงานนี้เป็นที่เลื่องลือในนามของ Pufferfish Plan..
    แต่ก็โชคร้าย ซึ่งในที่สุดแผนการณ์นี้ล้มเหลว..
    ทำให้นิทานเรื่องชาวนาและงูเห่า ไม่อาจเกิดเป็นจริงได้ในแผ่นดินจีน...

    แต่ที่เหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นคือ เมื่อราวสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
    เจ้าหน้าที่คนของสถานทูตอิสราเอล ได้กล่าวอ้างอย่างเปิดเผยผ่านทางรูปถ่ายว่า ที่ตั้งของสถานทูตที่อยู่บนถนนในเซี่ยงไฮ้ เกิดจากการยินยอมให้ใช้ของฝรั่งเศส!(ทั้งที่เรื่องกฏหมายสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ถูกยกเลิกไปนานแล้ว)

    แต่แน่นอน
    หากพูดถึงสัมพันธภาพระหว่างจีน กับ ชาวยิว ย่อมมีอะไรที่มากไปกว่านั้นมากมาย

    ชาวยิวได้ร่อนเร่มายังประเทศจีนตั้งแต่สมัย ราชวงศ์ซ่ง
    หรือ ราวพันปีที่ผ่านมา และ ได้ตั้งถิ่นฐานในจีนตั้งแต่นั้นมา

    ราชวงศ์ซ่ง ปกครองอาณาจักรจีนโบราณ ที่ถือกันว่าสมบูรณ์พูนสุขิและ ร่ำรวยที่สุดราชวงศ์หนึ่ง

    อย่างไรก็ดี
    ในกาลต่อมา เมื่อราชวงศ์ซ่งล่มสลาย ผู้คนอพยพหนีภัยไปทางทิศใต้
    นักธุรกิจชาวยิว ที่มีชื่อสกุล Pu ได้ใช้กำลังทหารส่วนตัว เข่นฆ่าชาวเมืองจำนวนมากที่เคยเป็นราษฎรภายใต้การปกครองของราชวงศ์ซ่ง แล้วนำศพไปให้กองทัพของราชวงศ์ หยวน
    เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ของการยอมรับในอำนาจของผู้ปกครองชาว มงโกล รายใหม่

    ในหลายสิบปีหลังจากนั้น ราชวงศ์ จูหยวนจาง ได้โค่นราชวงศ์หยวนลง และ จัดตั้งราชวงศ์หมิงขึ้น
    คนจีนที่สืบเชื้อสายจากชาวฮั่น จึงกลับขึ้นมามีอำนาจอีกครั้ง
    แต่ก็มิได้ขับไล่ชุมชนชาวยิวกลุ่มทรยศเหล่านี้ออกไป (ทั้งที่ได้เข่นฆ่าชาวจีนไปมากก่อนหน้านั้น)

    ต่อมา ในสมัยประวัติศาสตร์ช่วงการเกิดสงครามฝิ่น
    มีนักธุรกิจชาวยิว ตระกูล Sassoon ได้นำฝิ่นจำนวนมากมาจำหน่ายเพื่อหวังผลกำไร
    ทำให้ชาวจีนติดฝิ่นกันงอมแงม ประชากรชาวจีน อ่อนแอ และ ล้มตายกันเป็นจำนวนมาก.. คุณ (Mr Ross)เคยใช้ชีวิตอยู่ในเอเซียมาหลายปี น่าจะคุ้นเคยกับเรื่องนี้ดี

    เหตุการณ์ สงครามฉนวนกาซ่าในครั้งนี้
    ชาวจีน มิได้รู้สึกเห็นใจ ชาวยิว เพราะชาวจีน มีการศึกษาเรื่องคุณธรรม ร่วมสามพันปีมาแล้ว

    "Shangshu" วรรณกรรมคลาสิกที่ยังเหลืออยู่ของจีน ที่เขียนขึ้นมาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 10 ก่อนคริสตกาลหรือราว 3,000 ปีพอดี ซึ่งคงเป็นระยะเวลาเดียวกับที่ชาวยิวถูกขับไล่ออกจากดินแดนแห่งพันธสัญญา (Promised Land) และเป็นชนชาติเร่ร่อนตั้งแต่นั้นมา

    ถ้าคุณ( Mr. Ross )คุ้นเคย กับอดีต และ ประวัติศาสตร์ ชาวยิว ของคุณ คุณก็ควรรับรู้และตระหนักถึงมันด้วย

    ชาวอียิปต์ ยอมรับ ชาวยิว เข้าไปในดินแดนของตน
    แต่ ชาวยิว กลับทรยศ ต่อชาวอียิปต์ หลายต่อหลายครั้ง
    จนในที่สุด ชาวยิว ก็ถูกเข่นฆ่าและ ขับไล่ออกไปจากดินแดนอียิปต์โดย กษัตริย์ฟาโรห์

    อาณาจักรโรมัน ยอมรับ ชาวยิว เป็นส่วนหนึ่งของโรมัน ถึงขนาดจัดตั้งชุมชนให้เป็น กลุ่มก้อน โดยเฉพาะ
    แต่ ชาวยิว กลับถือโอกาสก่อการกบฎ ในช่วงเวลาที่กษัตริย์ Trajan มุ่งขยายดินแดนไปทางตะวันออก และ กองกำลังความมั่นคงในโรมันอ่อนแอลง

    หลังจาก ชาวยิว สังหารกองกำลังโรมัน ที่มีอยู่น้อยนิด
    ชาวยิว ก็บุกสังหาร พลเรือนชาวโรมัน อย่างบ้าคลั่ง
    ถึงขนาด เฉือนเอาผิวหนังมาทำเสื้อผ้า กินเนื้อเป็นอาหาร และ โยนซากศพไปเป็นอาหารของสัตว์ดุร้าย..

    ในเมือง Cyprus Salamis และ Libya พลเรือนชาวโรมันราว 220,000 คน ถูกสังหารโดย ชาวยิว

    แม้ต่อหน้าพลเรือนชาวโรมัน
    ชาวยิวดูจะทารุณโหดร้ายมาก
    แต่ในที่สุดกษัตริย์ Trajan ใช้กำลังทหารเพียงสองชุด ก็สามารถทวงคืนอำนาจจากชาวยิวได้อย่างสมบูรณ์

    กองทัพโรมันที่โกรธแค้นได้เคลื่อนทัพจากดินแดนเมโสโปเตเมีย ไปตามฝั่ง ตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน..จนทำให้ชาวยิวที่อาศัยในพื้นที่เหล่านี้ถูกเข่นฆ่าจนเกือบหมด
    ต่อมา ชาวยิว ก็ก่อกบฎอีกครั้ง ครววนี้ มุ่งสังหารผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ โดยเฉพาะ

    แต่ครั้งนี้ โชคไม่เข้าข้างชาวยิว เมื่อต้องพบกับกษัตริย์ Hadrian ผู้ได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ที่เฉลียวฉลาดที่สุดคนหนึ่งของกรุงโรม ผู้ที่ได้ระดมกำลังทหาร 120,000 นาย เข้าจัดการสังหาร ชาวยิว ที่ก่อการกบฎได้อย่างเบ็ดเสร็จ

    กษัตริย์ Hadrian ได้ศึกษาบทเรียนจากยุคสมัยของกษัตริย์ Trajan
    จึงได้ยกเลิก ชุมชนชาวยิว เสียทั้งหมด
    ทำให้ชาวยิวต้องอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย และ แตกกระสานซ่านเซ็นไปทั่วโลก

    นอกจากนั้น ยังมีจักรพรรดิ Titus ผู้บุกทำลาย และ สังหาร ชาวยิวในกรุงเยลูซาเล็ม
    ที่เคยเป็น Second Temple จนปัจจุบันเหลือเพียง Western Wall (หรือที่เรียกว่า กำแพงร้องไห้)ที่ชาวยิวใช้เป็นที่สวดมนต์ไปติดต่อพระเจ้าฯ

    เป็นเวลานับพันปี ที่ชาวยิว ต้องถูก เข่นฆ่า และ ขับออกนอกประเทศต่างๆนับครั้งไม่ถ้วน
    แต่ พวกคุณ ชาวยิว ก็ได้ทรยศต่อ ชาติต่างๆ จำนวนไม่น้อย ที่เห็นอกเห็นใจต่อความยากลำบากของพวกคุณ

    กระนั้นก็ดี
    พวกคุณ ก็ยังคงโอหัง เชื่อว่า ชนชาติตน เป็นชนชาติอภิสิทธิ์ ที่เหนือกว่าคนชาติอื่นๆ และ เชื่อว่า เป็น ชนชาติ ที่พระเจ้าเลือกสรรไว้ ให้เป็นใหญ่กว่าชนชาติอื่นใด

    ทำให้ ชาวไซออนนิสยิว ไม่เคยตระหนักถึงอดีตของตน..
    จนเป็นที่สรุปกันแล้วว่า วัฒนธรรมของชนชาติยิว มีลักษณะที่เข้ากับใครยาก และ ไม่ยอมปรับตัวเข้าหาวัฒนธรรมอื่น

    ความเชื่อของชาวยิวเหล่านี้ จะใช้กับคนจีนไม่ได้
    เพราะ คนจีนมีหลักการด้านคุณธรรมของตนเอง และ ไม่เคยคิดว่าชนชาติตนเหนือกว่าคนชนะชาติอื่น
    แต่จะปฏิบัติต่อคนชาติอื่น อย่างเท่าเทียมกัน และ ไม่เกรงกลัวต่อชนชาติอื่น ที่คิดว่าเหนือกว่าชาวจีน

    คนจีน จะมีความ อดทน อดกลั้น มีความละอายใจ มีความกตัญญูรู้คุณ และ รู้จักตอบแทนบุญคุณคน

    John Rabe อดีตนาซี ผู้ที่ครั้งหนึ่ง เคยช่วยชีวิตชาวจีนที่นานจิง คนจีนที่รู้เรื่องนี้ จะนึกถึงบุญคุณของเขาเสมอ

    จากเหตุการณ์ เมื่อสองปีที่แล้ว ที่โรงพยาบาล สถานที่ที่หลานของ John Rabe ทำงานอยู่ เกิดการขาดแคลนยารักษาโรค
    จึงร้องขอความช่วยเหลือไปยังสถานทูตจีนในเยอรมัน
    ปรากฏว่า ชาวจีนต่างช่วยกันบริจาคเงินและสิ่งของให้กันอย่างแข็งขัน ด้วยความสำนึกในพระคุณในอดีต ของ John Rabe

    ในช่วง WW II ประธานของสภากาชาดแห่งสวีเดน เคยช่วยเหลือเชลยถึง 35,000 คน จากค่ายกักกันของนาซี
    โดยในจำนวนนี้เป็นชาวยิวถึง 6,000 คน..

    ต่อมา เมื่อเขาถูกยูเอ็น ส่งไปเป็นผู้แทน เพื่อยืนยันประเด็นที่เกี่ยวกับขอบเขตดินแดนในกรุงเยรูซาเล็ม ที่กำหนดขึ้นใหม่ระหว่างอิสราเอล กับ ปาเลสไตน์

    ปรากฏว่าเขาถูกยิงถึงหกนัดและเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ จากมือสังหารชาวยิว..
    เพียงเพราะ เขาพูดถึง "ความยุติธรรม" เพียงไม่กี่คำ

    ในระหว่าง WW II เช่นเดียวกัน
    ประเทศยูโกสลาเวีย เคยช่วยชีวิตเด็กผู้หญิงชาวยิวไว้คนหนึ่ง..
    แต่ 50 ปีต่อมา เธอกลับเป็นคนสั่งให้ทิ้งระเบิดยูโกสลาเวียอย่างไม่เลือกหน้า...

    หลายปีต่อมา
    เมื่อเธอ ถูกผู้สื่อข่าวถามในระหว่างการให้สัมภาษณ์ว่า เธอรู้สึกเสียใจบ้างหรือไม่ กับการสั่งทิ้งระเบิดยูโกสลาเวีย..
    เธอตอบว่า.."ไม่เลย"..

    เธอผู้นั้น คือ อดีตสตรีที่เป็น รัฐมนตรีต่างประเทศ คนแรกของสหรัฐ..Madeleine Albright!

    ในการให้สัมภาษณ์ในรายการ 60 Minutes ในปี1996..
    M. Albright กล่าวว่า
    การที่สหรัฐแซงชั่นอิรัค(สมัยซัดดัม) ซึ่งได้สังหารเด็กชาวอิรัคไปกว่าครึ่งล้าน (เพราะขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค)นั้น
    เป็นสิ่งที่คุ้มค่า!
    ทั้งๆที่ การบุกเข้ายึดครองอิรัคเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ
    เพราะสหรัฐอ้างว่า อิรัคกำลังผลิตอาวุธทำลายล้าง
    ด้วยการนำเสนอเพียงภาพ “ผงซักฟอก” ในสื่อ ว่าคือ “สารเคมี” ที่ใช้สร้างอาวุธชีวภาพ

    นาง M. Albright กล่าวอย่างโจ่งแจ้งท้าทายว่า..
    การเข่นฆ่าเด็กนับล้าน เป็นสิ่งที่คุ้มค่าแล้ว!

    ในปี 1947 เมื่อชาวยิว อพยพทางเรือมายังดินแดนปาเลสไตน์
    มีการเขียนข้างลำเรือไว้ว่า..
    "คนเยอรมันได้ทำลายบ้านเรือนของเรา โปรดอย่าทำลายความหวังของเราอีก"...

    ด้วยความเมตตา ชาวปาเลสไตน์ยอมรับชาวยิวอพยพเข้าสู่ดินแดนของตน..
    ในที่สุด ชาวยิว อ้างในภายหลังว่า ดินแดน ปาเลสไตน์ นี้ เป็นดินแดนแห่งพันธสัญญา- Promised Land ของพวกเราชนชาติยิว!

    ตลอดเวลากว่า 70 ปี ที่ชาวไซออนนิสต์ยิว ได้สังหารชาวปาเลสไตน์ ผู้ที่เมตตา และ ยินยอมให้ชาวยิวเข้ามาตั้งถิ่นฐานต่อเนื่องยาวนาน

    แต่ ชาวยิว กลับมาเนรคุณ สร้างอาณาจักรแห่งการเหยียดผิว ที่เปรียบเสมือนเรือนจำกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก..
    และ ยังปฏิบัติ ต่อชาวปาเลสไตน์เยี่ยงสัตว์ (subhumans)

    พวกคุณชาวยิว
    ยังจะต้องการความเห็นอกเห็นใจอีกมากแค่ไหน คุณจึงจะพอใจ

    สำหรับการไม่รู้จักบุญคุณคน และ จากข้อมูลใน ประวัติศาสตร์ที่พวกคุณตอบแทนความเมตตา และ ตอบแทนการยอมรับของคนชาติอื่นด้วยการทรยศ ด้วยการพร้อมที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาติอื่นที่เคยช่วยเหลือพวกคุณ ชาวยิว อีกหรือ!

    ประโยคหนึ่ง ที่เขียนในวรรณกรรมคลาสสิก ของจีน ที่ชื่อว่า..“การเดินหน้าเข้าสู่ตวามตาย” (The Death March)...กล่าวว่า

    "ประเทศเล็ก ที่ไม่ตระหนักในตนเอง ไม่เคารพต่อประเทศอื่นๆ แสดงความหยาบช้า ดูถูกดูแคลน ประเทศเพื่อนบ้านอันมั่นคงที่ตั้งอยู่ก่อน
    พลันแต่มี ความโลภ ไม่อินังขังขอบต่อ มิตรภาพ และ ความเป็นเพื่อน..
    ก็ย่อมจะนำพาตนเอง เดินทางไปสู่ความพินาศย่อยยับอย่างไม่ต้องสงสัย“

    บทความนี้น่าสนใจมาก
    เป็นประวัติศาสตร์ ที่ชาวโลกอีกหลายล้านอาจจะยังไม่เคยได้รับรู้

    ซึ่ง อาจจะมีคนตั้งกระทู้ ตั้งข้อโต้แย้ง ขึ้นมาได้

    อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครทราบความเป็นจริง
    อยู่ที่ คนตั้งกระทู้ จะหาหลักฐานมาโต้แย้งทางประวัติศาสตร์ ได้ หรือ ไม่ได้

    ซึ่งหากมีข้อมูลทางประวัติศาสตร์มาโต้แย้งได้
    ก็จะยิ่งน่าศึกษา น่าติดตาม
    เพื่อให้ความจริงกระจ่างยิ่งขึ้น
    และ นับเป็นเรื่องดี ที่จะได้ทราบกันจริงๆว่า
    “ ยิว เป็นชนชาติประเภทใด?“
    ดีจริงแท้ หรือ ซาตานลวงโลก กันแน่ ?
    ......
    (แปลโดย : SB-22/07/24)
    ส่งต่อจาก วิชา มหาคุณ
    #เมื่อยิวถามจีนว่า ทำไมไม่ช่วยอิสรา.เอล​รบกับ ฮามา.ส ลองฟังคับตอบ ประชาชนจีนที่รู้ประวัติศาสตร์​อ่านแล้วถึงกับอึง ยาวหน่อย แต่เป็นความรู้ระดับ #พันปี “เมื่อ Ross อเมริกันเชื้อสายยิวกล่าวโจมตี ทำไม จีน ไม่สนับสนุนอิสราเอลโจมตี ฮามาส“ นี่คือคำตอบ (แปลโดย SB-22/07/24) ส่งต่อจาก วิชา มหาคุณ ประวัติศาสตร์อีกมุมหนึ่งของชนชาติยิว... สองวันที่ผ่านมา Ross อดีตประธานภาคพื้นเอเซียแปซิฟิคของ พรรครีพับริกัน ได้สร้างข่าวพาดหัวด้วยการ กล่าวหา ชาวจีน ที่เล่นอินเตอร์เนต ว่า ไม่มีความเห็นอกเห็นใจชาวยิว อันเนื่องจากเหตุการณ์ความขัดแย้งที่กาซ่า.. ต่อมา มีชาวเนตจีนรายหนึ่ง เข้ามาเห็น จึงเขียนบทความอย่างยืดยาว เพื่อสอนบทเรียนทาง ประวัติศาสตร์ แก่ชาวอเมริกันยิวคนนี้.. สรุปว่า ต่อมา Ross ได้แอบลบบทวิจารณ์นี้ทิ้งไป... ไม่มีใครรู้ว่าผู้เขียนบทความโต้แย้งชายจีนผู้นี้เป็นใคร แต่ อย่างไรก็ตาม ข้อเขียนของเขาได้หลุดรอดออกมา และ ถูกเผยแพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง! เป็นข้อเขียนที่ทุกคนต้องอ่าน! เพราะเป็นการตอบโต้ที่แข็งกร้าวของชาวเนตจีน..( 11 กค. 2024 ) สวัสดีครับคุณ Enge... ผมรู้สึกช๊อคไปกับคำพูดของคุณที่ว่า "หากโลกจะสนใจช่วยชาวยิวในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 (WW II)ืชาวยิวหกล้านคนก็คงไม่ถูกสังหาร"... แต่นี่ คงมิใช่ เหตุผล หรือ ทำให้กองทัพยิว มีสิทธิที่จะก่อสงครามล้างเผ่าพันธุ์ต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่าแต่อย่างใด... ยิ่งไปกว่า มันไม่เป็นความจริงด้วย.. ในระหว่าง WW II นั้น ชาวจีนในเซี่ยงไฮ้ และ นานจิง กำลังถูกรุกราน และ ถูกสังหารหมู่ โดยกองทัพญี่ปุ่น ในขณะที่ชาวยิวถูกฆ่าโดยนาซี.. แต่กระนั้นก็ดี แม้ชาวจีนจะประสบเคราะห์กรรมขนาดนั้น ก็ยังยินดีรับเอาชาวยิวกว่า 50,000 คน ที่อพยพไปยังประเทศจีนเพื่อหนีภัยจากนาซี... แต่วิธีตอบแทนแบบยิวก็คือ การร่วมมือกับญี่ปุ่น เพื่อสร้างทรัฐชาวยิว ขึ้นในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน! แผนงานนี้เป็นที่เลื่องลือในนามของ Pufferfish Plan.. แต่ก็โชคร้าย ซึ่งในที่สุดแผนการณ์นี้ล้มเหลว.. ทำให้นิทานเรื่องชาวนาและงูเห่า ไม่อาจเกิดเป็นจริงได้ในแผ่นดินจีน... แต่ที่เหลือเชื่อยิ่งกว่านั้นคือ เมื่อราวสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่คนของสถานทูตอิสราเอล ได้กล่าวอ้างอย่างเปิดเผยผ่านทางรูปถ่ายว่า ที่ตั้งของสถานทูตที่อยู่บนถนนในเซี่ยงไฮ้ เกิดจากการยินยอมให้ใช้ของฝรั่งเศส!(ทั้งที่เรื่องกฏหมายสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ถูกยกเลิกไปนานแล้ว) แต่แน่นอน หากพูดถึงสัมพันธภาพระหว่างจีน กับ ชาวยิว ย่อมมีอะไรที่มากไปกว่านั้นมากมาย ชาวยิวได้ร่อนเร่มายังประเทศจีนตั้งแต่สมัย ราชวงศ์ซ่ง หรือ ราวพันปีที่ผ่านมา และ ได้ตั้งถิ่นฐานในจีนตั้งแต่นั้นมา ราชวงศ์ซ่ง ปกครองอาณาจักรจีนโบราณ ที่ถือกันว่าสมบูรณ์พูนสุขิและ ร่ำรวยที่สุดราชวงศ์หนึ่ง อย่างไรก็ดี ในกาลต่อมา เมื่อราชวงศ์ซ่งล่มสลาย ผู้คนอพยพหนีภัยไปทางทิศใต้ นักธุรกิจชาวยิว ที่มีชื่อสกุล Pu ได้ใช้กำลังทหารส่วนตัว เข่นฆ่าชาวเมืองจำนวนมากที่เคยเป็นราษฎรภายใต้การปกครองของราชวงศ์ซ่ง แล้วนำศพไปให้กองทัพของราชวงศ์ หยวน เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ของการยอมรับในอำนาจของผู้ปกครองชาว มงโกล รายใหม่ ในหลายสิบปีหลังจากนั้น ราชวงศ์ จูหยวนจาง ได้โค่นราชวงศ์หยวนลง และ จัดตั้งราชวงศ์หมิงขึ้น คนจีนที่สืบเชื้อสายจากชาวฮั่น จึงกลับขึ้นมามีอำนาจอีกครั้ง แต่ก็มิได้ขับไล่ชุมชนชาวยิวกลุ่มทรยศเหล่านี้ออกไป (ทั้งที่ได้เข่นฆ่าชาวจีนไปมากก่อนหน้านั้น) ต่อมา ในสมัยประวัติศาสตร์ช่วงการเกิดสงครามฝิ่น มีนักธุรกิจชาวยิว ตระกูล Sassoon ได้นำฝิ่นจำนวนมากมาจำหน่ายเพื่อหวังผลกำไร ทำให้ชาวจีนติดฝิ่นกันงอมแงม ประชากรชาวจีน อ่อนแอ และ ล้มตายกันเป็นจำนวนมาก.. คุณ (Mr Ross)เคยใช้ชีวิตอยู่ในเอเซียมาหลายปี น่าจะคุ้นเคยกับเรื่องนี้ดี เหตุการณ์ สงครามฉนวนกาซ่าในครั้งนี้ ชาวจีน มิได้รู้สึกเห็นใจ ชาวยิว เพราะชาวจีน มีการศึกษาเรื่องคุณธรรม ร่วมสามพันปีมาแล้ว "Shangshu" วรรณกรรมคลาสิกที่ยังเหลืออยู่ของจีน ที่เขียนขึ้นมาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 10 ก่อนคริสตกาลหรือราว 3,000 ปีพอดี ซึ่งคงเป็นระยะเวลาเดียวกับที่ชาวยิวถูกขับไล่ออกจากดินแดนแห่งพันธสัญญา (Promised Land) และเป็นชนชาติเร่ร่อนตั้งแต่นั้นมา ถ้าคุณ( Mr. Ross )คุ้นเคย กับอดีต และ ประวัติศาสตร์ ชาวยิว ของคุณ คุณก็ควรรับรู้และตระหนักถึงมันด้วย ชาวอียิปต์ ยอมรับ ชาวยิว เข้าไปในดินแดนของตน แต่ ชาวยิว กลับทรยศ ต่อชาวอียิปต์ หลายต่อหลายครั้ง จนในที่สุด ชาวยิว ก็ถูกเข่นฆ่าและ ขับไล่ออกไปจากดินแดนอียิปต์โดย กษัตริย์ฟาโรห์ อาณาจักรโรมัน ยอมรับ ชาวยิว เป็นส่วนหนึ่งของโรมัน ถึงขนาดจัดตั้งชุมชนให้เป็น กลุ่มก้อน โดยเฉพาะ แต่ ชาวยิว กลับถือโอกาสก่อการกบฎ ในช่วงเวลาที่กษัตริย์ Trajan มุ่งขยายดินแดนไปทางตะวันออก และ กองกำลังความมั่นคงในโรมันอ่อนแอลง หลังจาก ชาวยิว สังหารกองกำลังโรมัน ที่มีอยู่น้อยนิด ชาวยิว ก็บุกสังหาร พลเรือนชาวโรมัน อย่างบ้าคลั่ง ถึงขนาด เฉือนเอาผิวหนังมาทำเสื้อผ้า กินเนื้อเป็นอาหาร และ โยนซากศพไปเป็นอาหารของสัตว์ดุร้าย.. ในเมือง Cyprus Salamis และ Libya พลเรือนชาวโรมันราว 220,000 คน ถูกสังหารโดย ชาวยิว แม้ต่อหน้าพลเรือนชาวโรมัน ชาวยิวดูจะทารุณโหดร้ายมาก แต่ในที่สุดกษัตริย์ Trajan ใช้กำลังทหารเพียงสองชุด ก็สามารถทวงคืนอำนาจจากชาวยิวได้อย่างสมบูรณ์ กองทัพโรมันที่โกรธแค้นได้เคลื่อนทัพจากดินแดนเมโสโปเตเมีย ไปตามฝั่ง ตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน..จนทำให้ชาวยิวที่อาศัยในพื้นที่เหล่านี้ถูกเข่นฆ่าจนเกือบหมด ต่อมา ชาวยิว ก็ก่อกบฎอีกครั้ง ครววนี้ มุ่งสังหารผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ โดยเฉพาะ แต่ครั้งนี้ โชคไม่เข้าข้างชาวยิว เมื่อต้องพบกับกษัตริย์ Hadrian ผู้ได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ที่เฉลียวฉลาดที่สุดคนหนึ่งของกรุงโรม ผู้ที่ได้ระดมกำลังทหาร 120,000 นาย เข้าจัดการสังหาร ชาวยิว ที่ก่อการกบฎได้อย่างเบ็ดเสร็จ กษัตริย์ Hadrian ได้ศึกษาบทเรียนจากยุคสมัยของกษัตริย์ Trajan จึงได้ยกเลิก ชุมชนชาวยิว เสียทั้งหมด ทำให้ชาวยิวต้องอยู่กันอย่างกระจัดกระจาย และ แตกกระสานซ่านเซ็นไปทั่วโลก นอกจากนั้น ยังมีจักรพรรดิ Titus ผู้บุกทำลาย และ สังหาร ชาวยิวในกรุงเยลูซาเล็ม ที่เคยเป็น Second Temple จนปัจจุบันเหลือเพียง Western Wall (หรือที่เรียกว่า กำแพงร้องไห้)ที่ชาวยิวใช้เป็นที่สวดมนต์ไปติดต่อพระเจ้าฯ เป็นเวลานับพันปี ที่ชาวยิว ต้องถูก เข่นฆ่า และ ขับออกนอกประเทศต่างๆนับครั้งไม่ถ้วน แต่ พวกคุณ ชาวยิว ก็ได้ทรยศต่อ ชาติต่างๆ จำนวนไม่น้อย ที่เห็นอกเห็นใจต่อความยากลำบากของพวกคุณ กระนั้นก็ดี พวกคุณ ก็ยังคงโอหัง เชื่อว่า ชนชาติตน เป็นชนชาติอภิสิทธิ์ ที่เหนือกว่าคนชาติอื่นๆ และ เชื่อว่า เป็น ชนชาติ ที่พระเจ้าเลือกสรรไว้ ให้เป็นใหญ่กว่าชนชาติอื่นใด ทำให้ ชาวไซออนนิสยิว ไม่เคยตระหนักถึงอดีตของตน.. จนเป็นที่สรุปกันแล้วว่า วัฒนธรรมของชนชาติยิว มีลักษณะที่เข้ากับใครยาก และ ไม่ยอมปรับตัวเข้าหาวัฒนธรรมอื่น ความเชื่อของชาวยิวเหล่านี้ จะใช้กับคนจีนไม่ได้ เพราะ คนจีนมีหลักการด้านคุณธรรมของตนเอง และ ไม่เคยคิดว่าชนชาติตนเหนือกว่าคนชนะชาติอื่น แต่จะปฏิบัติต่อคนชาติอื่น อย่างเท่าเทียมกัน และ ไม่เกรงกลัวต่อชนชาติอื่น ที่คิดว่าเหนือกว่าชาวจีน คนจีน จะมีความ อดทน อดกลั้น มีความละอายใจ มีความกตัญญูรู้คุณ และ รู้จักตอบแทนบุญคุณคน John Rabe อดีตนาซี ผู้ที่ครั้งหนึ่ง เคยช่วยชีวิตชาวจีนที่นานจิง คนจีนที่รู้เรื่องนี้ จะนึกถึงบุญคุณของเขาเสมอ จากเหตุการณ์ เมื่อสองปีที่แล้ว ที่โรงพยาบาล สถานที่ที่หลานของ John Rabe ทำงานอยู่ เกิดการขาดแคลนยารักษาโรค จึงร้องขอความช่วยเหลือไปยังสถานทูตจีนในเยอรมัน ปรากฏว่า ชาวจีนต่างช่วยกันบริจาคเงินและสิ่งของให้กันอย่างแข็งขัน ด้วยความสำนึกในพระคุณในอดีต ของ John Rabe ในช่วง WW II ประธานของสภากาชาดแห่งสวีเดน เคยช่วยเหลือเชลยถึง 35,000 คน จากค่ายกักกันของนาซี โดยในจำนวนนี้เป็นชาวยิวถึง 6,000 คน.. ต่อมา เมื่อเขาถูกยูเอ็น ส่งไปเป็นผู้แทน เพื่อยืนยันประเด็นที่เกี่ยวกับขอบเขตดินแดนในกรุงเยรูซาเล็ม ที่กำหนดขึ้นใหม่ระหว่างอิสราเอล กับ ปาเลสไตน์ ปรากฏว่าเขาถูกยิงถึงหกนัดและเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ จากมือสังหารชาวยิว.. เพียงเพราะ เขาพูดถึง "ความยุติธรรม" เพียงไม่กี่คำ ในระหว่าง WW II เช่นเดียวกัน ประเทศยูโกสลาเวีย เคยช่วยชีวิตเด็กผู้หญิงชาวยิวไว้คนหนึ่ง.. แต่ 50 ปีต่อมา เธอกลับเป็นคนสั่งให้ทิ้งระเบิดยูโกสลาเวียอย่างไม่เลือกหน้า... หลายปีต่อมา เมื่อเธอ ถูกผู้สื่อข่าวถามในระหว่างการให้สัมภาษณ์ว่า เธอรู้สึกเสียใจบ้างหรือไม่ กับการสั่งทิ้งระเบิดยูโกสลาเวีย.. เธอตอบว่า.."ไม่เลย".. เธอผู้นั้น คือ อดีตสตรีที่เป็น รัฐมนตรีต่างประเทศ คนแรกของสหรัฐ..Madeleine Albright! ในการให้สัมภาษณ์ในรายการ 60 Minutes ในปี1996.. M. Albright กล่าวว่า การที่สหรัฐแซงชั่นอิรัค(สมัยซัดดัม) ซึ่งได้สังหารเด็กชาวอิรัคไปกว่าครึ่งล้าน (เพราะขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค)นั้น เป็นสิ่งที่คุ้มค่า! ทั้งๆที่ การบุกเข้ายึดครองอิรัคเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะสหรัฐอ้างว่า อิรัคกำลังผลิตอาวุธทำลายล้าง ด้วยการนำเสนอเพียงภาพ “ผงซักฟอก” ในสื่อ ว่าคือ “สารเคมี” ที่ใช้สร้างอาวุธชีวภาพ นาง M. Albright กล่าวอย่างโจ่งแจ้งท้าทายว่า.. การเข่นฆ่าเด็กนับล้าน เป็นสิ่งที่คุ้มค่าแล้ว! ในปี 1947 เมื่อชาวยิว อพยพทางเรือมายังดินแดนปาเลสไตน์ มีการเขียนข้างลำเรือไว้ว่า.. "คนเยอรมันได้ทำลายบ้านเรือนของเรา โปรดอย่าทำลายความหวังของเราอีก"... ด้วยความเมตตา ชาวปาเลสไตน์ยอมรับชาวยิวอพยพเข้าสู่ดินแดนของตน.. ในที่สุด ชาวยิว อ้างในภายหลังว่า ดินแดน ปาเลสไตน์ นี้ เป็นดินแดนแห่งพันธสัญญา- Promised Land ของพวกเราชนชาติยิว! ตลอดเวลากว่า 70 ปี ที่ชาวไซออนนิสต์ยิว ได้สังหารชาวปาเลสไตน์ ผู้ที่เมตตา และ ยินยอมให้ชาวยิวเข้ามาตั้งถิ่นฐานต่อเนื่องยาวนาน แต่ ชาวยิว กลับมาเนรคุณ สร้างอาณาจักรแห่งการเหยียดผิว ที่เปรียบเสมือนเรือนจำกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก.. และ ยังปฏิบัติ ต่อชาวปาเลสไตน์เยี่ยงสัตว์ (subhumans) พวกคุณชาวยิว ยังจะต้องการความเห็นอกเห็นใจอีกมากแค่ไหน คุณจึงจะพอใจ สำหรับการไม่รู้จักบุญคุณคน และ จากข้อมูลใน ประวัติศาสตร์ที่พวกคุณตอบแทนความเมตตา และ ตอบแทนการยอมรับของคนชาติอื่นด้วยการทรยศ ด้วยการพร้อมที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาติอื่นที่เคยช่วยเหลือพวกคุณ ชาวยิว อีกหรือ! ประโยคหนึ่ง ที่เขียนในวรรณกรรมคลาสสิก ของจีน ที่ชื่อว่า..“การเดินหน้าเข้าสู่ตวามตาย” (The Death March)...กล่าวว่า "ประเทศเล็ก ที่ไม่ตระหนักในตนเอง ไม่เคารพต่อประเทศอื่นๆ แสดงความหยาบช้า ดูถูกดูแคลน ประเทศเพื่อนบ้านอันมั่นคงที่ตั้งอยู่ก่อน พลันแต่มี ความโลภ ไม่อินังขังขอบต่อ มิตรภาพ และ ความเป็นเพื่อน.. ก็ย่อมจะนำพาตนเอง เดินทางไปสู่ความพินาศย่อยยับอย่างไม่ต้องสงสัย“ บทความนี้น่าสนใจมาก เป็นประวัติศาสตร์ ที่ชาวโลกอีกหลายล้านอาจจะยังไม่เคยได้รับรู้ ซึ่ง อาจจะมีคนตั้งกระทู้ ตั้งข้อโต้แย้ง ขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครทราบความเป็นจริง อยู่ที่ คนตั้งกระทู้ จะหาหลักฐานมาโต้แย้งทางประวัติศาสตร์ ได้ หรือ ไม่ได้ ซึ่งหากมีข้อมูลทางประวัติศาสตร์มาโต้แย้งได้ ก็จะยิ่งน่าศึกษา น่าติดตาม เพื่อให้ความจริงกระจ่างยิ่งขึ้น และ นับเป็นเรื่องดี ที่จะได้ทราบกันจริงๆว่า “ ยิว เป็นชนชาติประเภทใด?“ ดีจริงแท้ หรือ ซาตานลวงโลก กันแน่ ? ...... (แปลโดย : SB-22/07/24) ส่งต่อจาก วิชา มหาคุณ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 410 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองกำลังอิสราเอลยังคงทำลายโครงสร้างพื้นฐาน ถนน ที่อยู่อาศัย และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ในค่ายผู้ลี้ภัยเจนินในเขตเวสต์แบงก์ โดยอ้างว่าเพื่อต้องกำจัดที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายฮามาสที่เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอล

    เจ้าหน้าที่ของกองกำลังอิสราเอลกล่าวว่า ปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ไม่ได้ถูกกำหนดจากเงื่อนไขระยะเวลา แต่ถูกกำหนดจากสถานการณ์ ซึ่งอิสราเอลจะเป็นฝ่ายตัดสินใจถึงการยุติปฏิบัติการครั้งนี้

    การโจมตีทำลายในเขตเวสต์แบงก์ของอิสราเอลเกิดขึ้นทันทีหลังจากข้อตกลงหยุดยิงในกาซามีผลบังคับใช้เพียงหนึ่งวัน ซึ่งกินระยะเวลามากกว่าหนึ่งเดือนมาแล้ว

    มีรายงานการต่อต้านจากกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ไม่ได้ตอบโต้กองกำลังอิสราเอลมาหลายวันแล้ว
    กองกำลังอิสราเอลยังคงทำลายโครงสร้างพื้นฐาน ถนน ที่อยู่อาศัย และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ในค่ายผู้ลี้ภัยเจนินในเขตเวสต์แบงก์ โดยอ้างว่าเพื่อต้องกำจัดที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายฮามาสที่เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอล เจ้าหน้าที่ของกองกำลังอิสราเอลกล่าวว่า ปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ไม่ได้ถูกกำหนดจากเงื่อนไขระยะเวลา แต่ถูกกำหนดจากสถานการณ์ ซึ่งอิสราเอลจะเป็นฝ่ายตัดสินใจถึงการยุติปฏิบัติการครั้งนี้ การโจมตีทำลายในเขตเวสต์แบงก์ของอิสราเอลเกิดขึ้นทันทีหลังจากข้อตกลงหยุดยิงในกาซามีผลบังคับใช้เพียงหนึ่งวัน ซึ่งกินระยะเวลามากกว่าหนึ่งเดือนมาแล้ว มีรายงานการต่อต้านจากกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ไม่ได้ตอบโต้กองกำลังอิสราเอลมาหลายวันแล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเด็นสำคัญจากแถลงการณ์ของนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียในงานแถลงข่าวเกี่ยวกับผลการเยือนกาตาร์:

    - รัสเซียและสหรัฐฯ จะพบกันเป็นครั้งที่สองที่อิสตันบูล ประเทศตุรกี ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เพื่อหารือเกี่ยวกับการดำเนินงานของสถานทูตของทั้งสองประเทศ

    - ไม่มีการยุติการสู้รบในยูเครนตามแนวชายแดนระหว่างการเจรจา "เรามีกฎของเรา"

    - การเสนอให้แบ่งดินแดนของยูเครนออกเป็นสองส่วนนั้นไม่เป็นความจริง

    - ยูเครนในส่วนที่เหลือ ควรได้รับการปลดปล่อยจากกฎหมายเหยียดเชื้อชาติเช่นกัน เพราะมีผู้คนที่ต้องการพูดภาษารัสเซียอยู่ที่นั่นด้วย

    - รัสเซียเรียกร้องให้ยุโรปหยุดโกหกว่ามอสโกปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการเจรจาเกี่ยวกับยูเครน

    - การส่งกองกำลังรักษาสันติภาพไปในยูเครนนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเรา - และถ้าหากมันจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อต้องได้รับความยินยอมทั้งสองฝ่าย "รัสเซียและยูเครน"

    - ยังไม่ใช่เวลาในการหารือเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัด

    - ความพยายามผลักดันกองกำลังรักษาสันติภาพเข้ามาในยูเครนของมาครง - เป็นสิ่งหลอกลวงที่มุ่งหวัง 'เพียงเพื่อส่งอาวุธเข้าไปในยูเครนมากขึ้นเรื่อยๆ'

    - รัสเซียและกาตาร์กังวลเกี่ยวกับการกระทำของกองทัพอิสราเอลที่ขัดแย้งกับมติและข้อตกลงของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกับกลุ่มฮามาสปาเลสไตน์และเลบานอน


    ประเด็นสำคัญจากแถลงการณ์ของนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียในงานแถลงข่าวเกี่ยวกับผลการเยือนกาตาร์: - รัสเซียและสหรัฐฯ จะพบกันเป็นครั้งที่สองที่อิสตันบูล ประเทศตุรกี ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เพื่อหารือเกี่ยวกับการดำเนินงานของสถานทูตของทั้งสองประเทศ - ไม่มีการยุติการสู้รบในยูเครนตามแนวชายแดนระหว่างการเจรจา "เรามีกฎของเรา" - การเสนอให้แบ่งดินแดนของยูเครนออกเป็นสองส่วนนั้นไม่เป็นความจริง - ยูเครนในส่วนที่เหลือ ควรได้รับการปลดปล่อยจากกฎหมายเหยียดเชื้อชาติเช่นกัน เพราะมีผู้คนที่ต้องการพูดภาษารัสเซียอยู่ที่นั่นด้วย - รัสเซียเรียกร้องให้ยุโรปหยุดโกหกว่ามอสโกปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการเจรจาเกี่ยวกับยูเครน - การส่งกองกำลังรักษาสันติภาพไปในยูเครนนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเรา - และถ้าหากมันจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อต้องได้รับความยินยอมทั้งสองฝ่าย "รัสเซียและยูเครน" - ยังไม่ใช่เวลาในการหารือเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัด - ความพยายามผลักดันกองกำลังรักษาสันติภาพเข้ามาในยูเครนของมาครง - เป็นสิ่งหลอกลวงที่มุ่งหวัง 'เพียงเพื่อส่งอาวุธเข้าไปในยูเครนมากขึ้นเรื่อยๆ' - รัสเซียและกาตาร์กังวลเกี่ยวกับการกระทำของกองทัพอิสราเอลที่ขัดแย้งกับมติและข้อตกลงของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกับกลุ่มฮามาสปาเลสไตน์และเลบานอน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • โนอา อาร์กามานี (Noa Argamani) อดีตตัวประกันชาวอิสราเอล ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวเมื่อครั้งเหตุการณ์ 7 ตุลาคม มาบรรยายที่สหประชาชาติว่าการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลสังหารโยสซี ชาราบี เพื่อนของเธอที่ถูกจับ และเกือบจะสังหารเธอด้วย

    ส่วนหนึ่งของการบรรยายครั้งนี้ เธอเล่าย้อนไปถึงช่วงเวลาที่กองกำลังอิสราเอลทำการโจมตีทางอากาศไปที่อาคารแห่งหนึ่งซึ่งเธอและ อิไต สวิร์สกี รวมทั้ง โยสซี ชาราบี เพื่อนตัวประกันอีกสองคนพักอยู่ถล่มลงมา ทำให้พวกเขาติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ทั้งคู่เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล

    “ฉันขยับตัวไม่ได้... หายใจไม่ออก แล้วฉันก็กรีดร้องออกมาเพื่อให้ใครสักคนได้ยิน ฉันได้ยินโยสซีกรีดร้องด้วย แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ฉันก็ไม่ได้ยินเสียงโยสซีอีกเลย”

    จากคำพูดของเธอ กองกำลังอิสราเอลต้องการเพียงทำลายสมาชิกฮามาส โดยไม่สนใจว่าจะมีใคร หรือตัวประกันรวมอยู่ด้วยก็ตาม หลังการเสียชีวิตของตัวประกันจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล สื่อต่างๆ พากันกล่าวหาว่าฮามาสคือผู้สังหาร
    โนอา อาร์กามานี (Noa Argamani) อดีตตัวประกันชาวอิสราเอล ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวเมื่อครั้งเหตุการณ์ 7 ตุลาคม มาบรรยายที่สหประชาชาติว่าการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลสังหารโยสซี ชาราบี เพื่อนของเธอที่ถูกจับ และเกือบจะสังหารเธอด้วย ส่วนหนึ่งของการบรรยายครั้งนี้ เธอเล่าย้อนไปถึงช่วงเวลาที่กองกำลังอิสราเอลทำการโจมตีทางอากาศไปที่อาคารแห่งหนึ่งซึ่งเธอและ อิไต สวิร์สกี รวมทั้ง โยสซี ชาราบี เพื่อนตัวประกันอีกสองคนพักอยู่ถล่มลงมา ทำให้พวกเขาติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ทั้งคู่เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล “ฉันขยับตัวไม่ได้... หายใจไม่ออก แล้วฉันก็กรีดร้องออกมาเพื่อให้ใครสักคนได้ยิน ฉันได้ยินโยสซีกรีดร้องด้วย แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ฉันก็ไม่ได้ยินเสียงโยสซีอีกเลย” จากคำพูดของเธอ กองกำลังอิสราเอลต้องการเพียงทำลายสมาชิกฮามาส โดยไม่สนใจว่าจะมีใคร หรือตัวประกันรวมอยู่ด้วยก็ตาม หลังการเสียชีวิตของตัวประกันจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล สื่อต่างๆ พากันกล่าวหาว่าฮามาสคือผู้สังหาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูซา อาบู มาร์ซุก เจ้าหน้าที่อาวุโสของกลุ่มฮามาส กล่าวกับนิวยอร์กไทมส์ว่า หากเขารู้ล่วงหน้าเกี่ยวกับความเสียหายทั้งหมดที่จะตามมาหลังจากการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เขาจะไม่สนับสนุนให้เกิดเหตุการณ์นี้ เขาไม่คาดคิดว่าจะเกิดหายนะในระดับนี้
    มูซา อาบู มาร์ซุก เจ้าหน้าที่อาวุโสของกลุ่มฮามาส กล่าวกับนิวยอร์กไทมส์ว่า หากเขารู้ล่วงหน้าเกี่ยวกับความเสียหายทั้งหมดที่จะตามมาหลังจากการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม เขาจะไม่สนับสนุนให้เกิดเหตุการณ์นี้ เขาไม่คาดคิดว่าจะเกิดหายนะในระดับนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล มีคำสั่ง เลื่อนการปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์กว่า 600 คน ออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังจากฮามาสเพิ่งปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล 6 นาย เมื่อวันก่อน

    เนทันยาฮู ให้เหตุผลว่า จะปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ก่ต่อเมื่อกลุ่มฮามาสจะรับประกันการส่งมอบตัวประกันครั้งต่อไป และจะต้อง "ยกเลิก" พิธีการส่งมอบตัวประกันที่ฮามาสจัดขึ้นทุกสัปดาห์ ซึ่งเนทันยาฮูอ้างว่าเป็นพิธีที่ย่ำยีศักดิ์ศรีชาวอิสราเอล

    เมื่อวันก่อน มีภาพตัวประกันชาวอิสราเอลที่ได้รับการปล่อยตัวจากฮามาส ก้าวขึ้นเวทีที่ฮามาสจัดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข นอกจากนี้ยังมีการจูบไปบนหน้าผากของสมาชิกกลุ่มฮามาสออกสู่สายตาชาวโลกอีกด้วย
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล มีคำสั่ง เลื่อนการปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์กว่า 600 คน ออกไปอย่างไม่มีกำหนด หลังจากฮามาสเพิ่งปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล 6 นาย เมื่อวันก่อน เนทันยาฮู ให้เหตุผลว่า จะปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ก่ต่อเมื่อกลุ่มฮามาสจะรับประกันการส่งมอบตัวประกันครั้งต่อไป และจะต้อง "ยกเลิก" พิธีการส่งมอบตัวประกันที่ฮามาสจัดขึ้นทุกสัปดาห์ ซึ่งเนทันยาฮูอ้างว่าเป็นพิธีที่ย่ำยีศักดิ์ศรีชาวอิสราเอล เมื่อวันก่อน มีภาพตัวประกันชาวอิสราเอลที่ได้รับการปล่อยตัวจากฮามาส ก้าวขึ้นเวทีที่ฮามาสจัดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข นอกจากนี้ยังมีการจูบไปบนหน้าผากของสมาชิกกลุ่มฮามาสออกสู่สายตาชาวโลกอีกด้วย
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัวประกันที่ฮามาสปล่อยตัวเพิ่มเติมวันนี้ "หน้าตายิ้มแย้มมีความสุข"
    แตกต่างจากชาวกาซาที่ฝ่ายอิสราเอลปล่อยตัวออกมา ทุกคนล้วนผ่านการทรมานมาอย่างแสนสาหัส
    ตัวประกันที่ฮามาสปล่อยตัวเพิ่มเติมวันนี้ "หน้าตายิ้มแย้มมีความสุข" แตกต่างจากชาวกาซาที่ฝ่ายอิสราเอลปล่อยตัวออกมา ทุกคนล้วนผ่านการทรมานมาอย่างแสนสาหัส
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 13 0 รีวิว
  • อิหร่านระบุคำขู่ของสหรัฐฯ และอิสราเอลที่มีกับเตหะราน ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง พร้อมเตือนทั้ง 2 ชาติ อย่าได้ทำสิ่งที่น่ารังเกียจกับอิหร่าน
    .
    ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นหลังจาก เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล พบปะกับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในเยรูซาเลม เมื่อวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) และบอกว่าทั้ง 2 ประเทศ มีความมั่งมุ่นทำลายความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน และอิทธิพลของเตหะรานในตะวันออกกลาง
    .
    เนทันยาฮู อวดอ้างว่าอิสราเอลก่อความเสียหายอย่างหนักแก่อิหร่าน นับตั้งแต่สงครามในกาซาเริ่มต้นขึ้น และบอกว่าภายใต้แรงสนับสนุนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ "ผมไม่สงสัยเลยว่าเราสามารถและจะปิดฉากงานนี้"
    .
    ระหว่างแถลงข่าวกับสื่อมวลชนรายสัปดาห์เมื่อวันจันทร์ (17 ก.พ.) เอสมาอิล เบกาอี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ตอบโต้ว่า "เมื่อเป็นเรื่องของประเทศหนึ่งๆ อย่างอิหร่าน พวกเขาไม่อาจทำในสิ่งที่น่ารังเกียจ คุณไม่อาจข่มขู่อิหร่านด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วอีกข้างหนึ่งอวดอ้างสนับสนุนการเจรจา"
    .
    ทรัมป์ แสดงออกเปิดกว้างสำหรับเจรจาตกลงกับเตหะราน แต่ขณะเดียวก็คืนสถานะยุทธการ "กดดันขั้นสูงสุด" ต่ออิหร่าน นโยบายที่เขาเคยใช้ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรก เพื่อหยุดเตหะรานจากการมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง
    .
    เมื่อช่วงต้นที่ผ่านมา อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน บอกว่าไม่ควรมีการเจรจากับสหรัฐฯ ไม่กี่วันหลังจาก ทรัมป์ เรียกร้องให้มีข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ ขณะที่ผู้นำสูงสุดของอิหร่านรายนี้เคยวิพากษ์รัฐบาลทรัมป์ชุดก่อน ว่าไม่ยึดถือคำมั่นสัญญา
    .
    "คุณไม่ควรเจรจากับรัฐบาลแบบนั้น มันไม่ฉลาด ไม่ชาญฉลาด ไม่เป็นเกียรติที่จะเจรจา" คาเมเนอีกล่าวระหว่างการประชุมกับผู้บัญชาการกองทัพ "สหรัฐฯ เคยทำลาย ละเมิด และฉีกข้อตกลงนิวเคลียร์มาก่อน และบุคคลเดียวกันที่อยู่ในอำนาจในตอนนี้ คือคนที่ฉีกสัญญา”
    .
    ในปี 2018 ทรัมป์ถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ที่ทางเตหะรานทำไว้กับบรรดามหาอำนาจโลกในปี 2015 และกลับมากำหนดมาตรการคว่ำบาตรอีกรอบ เพื่อฉีกเศรษฐกิจอิหร่านเป็นชิ้นๆ
    .
    หนึ่งปีหลังจากนั้น อิหร่านตอบโต้การละเมิดข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ ด้วยการเร่งเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้มีความบริสุทธิ์ 60% เข้าใกล้ระดับราว 90% ที่จำเป็นสำหรับเกรดผลิตอาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม เตหะรานยืนกรานว่าโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขามีจุดประสงค์ทางสันติแต่เพียงอย่างเดียว
    .
    แม้ถ้อยแถลงของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ใช้ถ้อยคำที่แข็งกร้าว แต่ดูเหมือนอิทธิพลของเตหะรานทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางจะอ่อนแอลงอย่างมาก ในขณะที่พันธมิตรต่างๆ ของพวกเขาในภูมิภาค ที่รู้จักกันในฐานะ "อักษะแห่งการต่อต้าน" ทั้งถูกถอนรากถอนโคนหรือไม่ก็ได้รับความเสียหายร้ายแรง นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างฮามาส-อิสราเอลเริ่มต้นขึ้นในกาซา และการล่มสลายของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ในซีเรีย เมื่อเดือนธันวาคม
    .
    อักษะแห่งการต่อต้านนี้ ไม่ได้มีเฉพาะแค่ฮามาส แต่ยังรวมไปถึงพวกฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน กบฏฮูตีในเยเมน และกลุ่มติดอาวุธชีอะห์ต่างๆ ในอิรักและซีเรีย
    .
    ตลอด 16 เดือนนับตั้งแต่สงครามกาซาปะทุขึ้น อิสราเอลได้ลอบสังหารพวกผู้นำของฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ไปแล้วหลายคน ในขณะที่อิหร่านและอิหร่านปฏิบัติการโจมตีอย่างจำกัด ตอบโต้กันไปมาแล้วหลายรอบ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015978
    ..............
    Sondhi X
    อิหร่านระบุคำขู่ของสหรัฐฯ และอิสราเอลที่มีกับเตหะราน ถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างโจ่งแจ้ง พร้อมเตือนทั้ง 2 ชาติ อย่าได้ทำสิ่งที่น่ารังเกียจกับอิหร่าน . ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นหลังจาก เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล พบปะกับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในเยรูซาเลม เมื่อวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) และบอกว่าทั้ง 2 ประเทศ มีความมั่งมุ่นทำลายความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน และอิทธิพลของเตหะรานในตะวันออกกลาง . เนทันยาฮู อวดอ้างว่าอิสราเอลก่อความเสียหายอย่างหนักแก่อิหร่าน นับตั้งแต่สงครามในกาซาเริ่มต้นขึ้น และบอกว่าภายใต้แรงสนับสนุนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ "ผมไม่สงสัยเลยว่าเราสามารถและจะปิดฉากงานนี้" . ระหว่างแถลงข่าวกับสื่อมวลชนรายสัปดาห์เมื่อวันจันทร์ (17 ก.พ.) เอสมาอิล เบกาอี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ตอบโต้ว่า "เมื่อเป็นเรื่องของประเทศหนึ่งๆ อย่างอิหร่าน พวกเขาไม่อาจทำในสิ่งที่น่ารังเกียจ คุณไม่อาจข่มขู่อิหร่านด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วอีกข้างหนึ่งอวดอ้างสนับสนุนการเจรจา" . ทรัมป์ แสดงออกเปิดกว้างสำหรับเจรจาตกลงกับเตหะราน แต่ขณะเดียวก็คืนสถานะยุทธการ "กดดันขั้นสูงสุด" ต่ออิหร่าน นโยบายที่เขาเคยใช้ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรก เพื่อหยุดเตหะรานจากการมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง . เมื่อช่วงต้นที่ผ่านมา อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน บอกว่าไม่ควรมีการเจรจากับสหรัฐฯ ไม่กี่วันหลังจาก ทรัมป์ เรียกร้องให้มีข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่ ขณะที่ผู้นำสูงสุดของอิหร่านรายนี้เคยวิพากษ์รัฐบาลทรัมป์ชุดก่อน ว่าไม่ยึดถือคำมั่นสัญญา . "คุณไม่ควรเจรจากับรัฐบาลแบบนั้น มันไม่ฉลาด ไม่ชาญฉลาด ไม่เป็นเกียรติที่จะเจรจา" คาเมเนอีกล่าวระหว่างการประชุมกับผู้บัญชาการกองทัพ "สหรัฐฯ เคยทำลาย ละเมิด และฉีกข้อตกลงนิวเคลียร์มาก่อน และบุคคลเดียวกันที่อยู่ในอำนาจในตอนนี้ คือคนที่ฉีกสัญญา” . ในปี 2018 ทรัมป์ถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ที่ทางเตหะรานทำไว้กับบรรดามหาอำนาจโลกในปี 2015 และกลับมากำหนดมาตรการคว่ำบาตรอีกรอบ เพื่อฉีกเศรษฐกิจอิหร่านเป็นชิ้นๆ . หนึ่งปีหลังจากนั้น อิหร่านตอบโต้การละเมิดข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ ด้วยการเร่งเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้มีความบริสุทธิ์ 60% เข้าใกล้ระดับราว 90% ที่จำเป็นสำหรับเกรดผลิตอาวุธนิวเคลียร์ อย่างไรก็ตาม เตหะรานยืนกรานว่าโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขามีจุดประสงค์ทางสันติแต่เพียงอย่างเดียว . แม้ถ้อยแถลงของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ใช้ถ้อยคำที่แข็งกร้าว แต่ดูเหมือนอิทธิพลของเตหะรานทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางจะอ่อนแอลงอย่างมาก ในขณะที่พันธมิตรต่างๆ ของพวกเขาในภูมิภาค ที่รู้จักกันในฐานะ "อักษะแห่งการต่อต้าน" ทั้งถูกถอนรากถอนโคนหรือไม่ก็ได้รับความเสียหายร้ายแรง นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างฮามาส-อิสราเอลเริ่มต้นขึ้นในกาซา และการล่มสลายของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ในซีเรีย เมื่อเดือนธันวาคม . อักษะแห่งการต่อต้านนี้ ไม่ได้มีเฉพาะแค่ฮามาส แต่ยังรวมไปถึงพวกฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน กบฏฮูตีในเยเมน และกลุ่มติดอาวุธชีอะห์ต่างๆ ในอิรักและซีเรีย . ตลอด 16 เดือนนับตั้งแต่สงครามกาซาปะทุขึ้น อิสราเอลได้ลอบสังหารพวกผู้นำของฮามาสและฮิซบอลเลาะห์ไปแล้วหลายคน ในขณะที่อิหร่านและอิหร่านปฏิบัติการโจมตีอย่างจำกัด ตอบโต้กันไปมาแล้วหลายรอบ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015978 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    Haha
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2022 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ มีความเห็นร่วมกันว่า:

    - อิสราเอลจะต้องบรรลุเป้าหมายสงครามทั้งหมดที่กำหนดไว้หลังจากการโจมตีของฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567

    - เลบานอนต้องกำจัดฮิซบอลเลาะห์ให้สิ้นซาก หากไม่ทำเช่นนั้น เราจะเป็นผู้ดำเนินการเอง!

    - อิสราเอลมีส่วนสำคัญของสถานการณ์ในซีเรีย ที่ทำให้เกิดการล่มสลายของระบอบการปกครองของอัสซาด เนื่องจากอิสราเอลคือผู้ทำให้แกนการก่อการร้ายของอิหร่านอ่อนแอลง โดยเฉพาะฮิซบอลเลาะห์ และการโค่นล้มนาสรัลเลาะห์ผู้นำของพวกเขา

    - เราจะไม่ยอมให้ซีเรียถูกใช้เป็นสถานที่โจมตีอิสราเอลอย่างเด็ดขาด!

    - เราให้คำมั่นว่า จะทำทุกวิธีการเพื่อไม่ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์!

    - ชาวกาซาตอนนี้ยังมีทางเลือกในการออกจากดินแดนของพวกเขา

    - "จะมีการจัดการบางอย่าง" เกี่ยวกับองค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง ที่ถูกใช้เป็นเวทีในการต่อต้านอเมริกาและอิสราเอล เราเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นในสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ในคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ซึ่งการต่อต้านอเมริกาแพร่หลายและมีการลงมติเกี่ยวกับอิสราเอลมากกว่าที่ใดๆ ในโลกรวมกัน และเราเห็นสิ่งนี้โดยเฉพาะในกระบวนการทางกฎหมายที่กำลังดำเนินการกับอเมริกาและอิสราเอลที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) และที่อื่นๆ

    - ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ใส่ร้ายอิสราเอลอย่างร้ายแรง และการออกหมายจับโดยอาศัยเพียงคำโกหกอย่างเลวร้าย

    - อเมริกาและอิสราเอล ไม่ได้อยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลของศาลอาญาระหว่างประเทศและไม่ยอมรับอำนาจของศาล

    - อิสราเอลขอชื่นชมสหรัฐ ที่มีคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อลงโทษคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ เรากำลังหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดกลยุทธ์ในการรับมือกับภัยคุกคามของกระบวนการทางกฎหมายและขจัดภัยคุกคามนี้ให้สิ้นซากไป!
    เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ มีความเห็นร่วมกันว่า: - อิสราเอลจะต้องบรรลุเป้าหมายสงครามทั้งหมดที่กำหนดไว้หลังจากการโจมตีของฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2567 - เลบานอนต้องกำจัดฮิซบอลเลาะห์ให้สิ้นซาก หากไม่ทำเช่นนั้น เราจะเป็นผู้ดำเนินการเอง! - อิสราเอลมีส่วนสำคัญของสถานการณ์ในซีเรีย ที่ทำให้เกิดการล่มสลายของระบอบการปกครองของอัสซาด เนื่องจากอิสราเอลคือผู้ทำให้แกนการก่อการร้ายของอิหร่านอ่อนแอลง โดยเฉพาะฮิซบอลเลาะห์ และการโค่นล้มนาสรัลเลาะห์ผู้นำของพวกเขา - เราจะไม่ยอมให้ซีเรียถูกใช้เป็นสถานที่โจมตีอิสราเอลอย่างเด็ดขาด! - เราให้คำมั่นว่า จะทำทุกวิธีการเพื่อไม่ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์! - ชาวกาซาตอนนี้ยังมีทางเลือกในการออกจากดินแดนของพวกเขา - "จะมีการจัดการบางอย่าง" เกี่ยวกับองค์กรระหว่างประเทศหลายแห่ง ที่ถูกใช้เป็นเวทีในการต่อต้านอเมริกาและอิสราเอล เราเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นในสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ในคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ซึ่งการต่อต้านอเมริกาแพร่หลายและมีการลงมติเกี่ยวกับอิสราเอลมากกว่าที่ใดๆ ในโลกรวมกัน และเราเห็นสิ่งนี้โดยเฉพาะในกระบวนการทางกฎหมายที่กำลังดำเนินการกับอเมริกาและอิสราเอลที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) และที่อื่นๆ - ศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ใส่ร้ายอิสราเอลอย่างร้ายแรง และการออกหมายจับโดยอาศัยเพียงคำโกหกอย่างเลวร้าย - อเมริกาและอิสราเอล ไม่ได้อยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลของศาลอาญาระหว่างประเทศและไม่ยอมรับอำนาจของศาล - อิสราเอลขอชื่นชมสหรัฐ ที่มีคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อลงโทษคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ เรากำลังหารือร่วมกัน เพื่อกำหนดกลยุทธ์ในการรับมือกับภัยคุกคามของกระบวนการทางกฎหมายและขจัดภัยคุกคามนี้ให้สิ้นซากไป!
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 382 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ระบุว่าอิสราเอลจะสามารถ "จบงาน" กับอิหร่าน ภายใต้แรงสนับสนุนของสหรัฐฯ ระหว่างแถลงข่าวในเยรูซาเลม ร่วมกับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกาผู้มาเยือน
    .
    "ช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา อิสราเอลก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่อักษะก่อการร้ายของอิหร่าน ภายใต้ผู้นำที่เข้มแข็งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และภายใต้การสนับสนุนอย่างไม่ย่อท้อของคุณ ผมไม่สงสัยเลยว่าเราสามารถและจะจบงานนี้" เนทันยาฮูระบุ
    .
    ตามหลังเหตุการณ์พวกนักรบฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 อิสราเอลสู้รบทำสงครามกับนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ในกาซา และพวกฮิซบอลเลาะห์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเตหะราน ในเลบานอน
    .
    นอกจากนี้ อิสราเอลยังเผชิญการโจมตีจากบรรดากลุ่มติดอาวุธทั้งหลายในเยเมนและอิรัก ที่อิหร่านสนับสนุน สำหรับแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ "อิสราเอลและอเมริกา ยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่กันในการตอบโต้ภัยคุกคามจากอิหร่าน" นายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุ
    .
    เนทันยาฮู แสดงความยินดีต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ซึ่งหวนคืนสถานะนโยบาย "กดดันขั้นสูงสุด" กับอิหร่านทันทีทันใด แบบเดียวกับที่เคยใช้ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก จากคำกล่าวหาประเทศแห่งนี้กำลังแสวงหาศักยภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์
    .
    มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) ว่าอิหร่านจะไม่มีวันได้กลายมาเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ และเรียกสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้ว่าเป็นต้นตอสำคัญที่บั่นทอนเสถียรภาพในตะวันออกกลาง
    .
    "จะไม่มีทางมีนิวเคลียร์อิหร่าน หากมีนิวเคลียร์อิหร่าน เมื่อนั้นพวกเขาจะได้รับภูมิคุ้มกันจากแรงกดดันและการกระทำต่างๆ ซึ่งไม่มีทางปล่อยให้เกิดขึ้นได้" รูบิโอแถลงกับผู้สื่อข่าวร่วมกับเนทันยาฮู "ไม่ว่าเราจะพูดถึงฮามาสหรือพูดถึงฮิซบอลเลาะห์ พูดถึงความรุนแรงในเวสต์แบงก์ พูดถึงภาวะไร้เสถียรภาพในซีเรีย หรือพูดเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ พวกติดอาวุธในอิรัก ผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดทั้งมวลคือ อิหร่าน"
    .
    อิหร่านและอิสราเอลโจมตีกันโดยตรงกันไปมาเมื่อปีที่แล้ว ถือเป็นการโจมตีกันโดยตรงเป็นครั้งแรก ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาค ที่โหมกระพือขึ้นจากสงครามกาซา
    .
    เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม อิสราเอลทิ้งบอมบ์ใส่ที่ตั้งทางทหารในอิหร่าน สังหารกำลังพลไป 4 ราย ตอบโต้กรณีที่เตหะรานรัวยิงห่าขีปนาวุธกว่า 200 ลูก เข้าใส่
    .
    ก่อนหน้านั้นในวันที่ 13 เมษายน อิหร่านปล่อยโดรนและยิงขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอล แก้แค้นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศนองเลือดถล่มสถานทูตอิหร่านประจำกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เมษายน ซึ่งทางเตหะรานกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015546
    ..............
    Sondhi X
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ระบุว่าอิสราเอลจะสามารถ "จบงาน" กับอิหร่าน ภายใต้แรงสนับสนุนของสหรัฐฯ ระหว่างแถลงข่าวในเยรูซาเลม ร่วมกับ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกาผู้มาเยือน . "ช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา อิสราเอลก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่อักษะก่อการร้ายของอิหร่าน ภายใต้ผู้นำที่เข้มแข็งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และภายใต้การสนับสนุนอย่างไม่ย่อท้อของคุณ ผมไม่สงสัยเลยว่าเราสามารถและจะจบงานนี้" เนทันยาฮูระบุ . ตามหลังเหตุการณ์พวกนักรบฮามาสบุกจู่โจมเล่นงานอิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 อิสราเอลสู้รบทำสงครามกับนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ในกาซา และพวกฮิซบอลเลาะห์ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเตหะราน ในเลบานอน . นอกจากนี้ อิสราเอลยังเผชิญการโจมตีจากบรรดากลุ่มติดอาวุธทั้งหลายในเยเมนและอิรัก ที่อิหร่านสนับสนุน สำหรับแสดงความเป็นหนึ่งเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์ "อิสราเอลและอเมริกา ยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่กันในการตอบโต้ภัยคุกคามจากอิหร่าน" นายกรัฐมนตรีอิสราเอลระบุ . เนทันยาฮู แสดงความยินดีต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ซึ่งหวนคืนสถานะนโยบาย "กดดันขั้นสูงสุด" กับอิหร่านทันทีทันใด แบบเดียวกับที่เคยใช้ครั้งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก จากคำกล่าวหาประเทศแห่งนี้กำลังแสวงหาศักยภาพด้านอาวุธนิวเคลียร์ . มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในวันอาทิตย์ (16 ก.พ.) ว่าอิหร่านจะไม่มีวันได้กลายมาเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ และเรียกสาธารณรัฐอิสลามแห่งนี้ว่าเป็นต้นตอสำคัญที่บั่นทอนเสถียรภาพในตะวันออกกลาง . "จะไม่มีทางมีนิวเคลียร์อิหร่าน หากมีนิวเคลียร์อิหร่าน เมื่อนั้นพวกเขาจะได้รับภูมิคุ้มกันจากแรงกดดันและการกระทำต่างๆ ซึ่งไม่มีทางปล่อยให้เกิดขึ้นได้" รูบิโอแถลงกับผู้สื่อข่าวร่วมกับเนทันยาฮู "ไม่ว่าเราจะพูดถึงฮามาสหรือพูดถึงฮิซบอลเลาะห์ พูดถึงความรุนแรงในเวสต์แบงก์ พูดถึงภาวะไร้เสถียรภาพในซีเรีย หรือพูดเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ พวกติดอาวุธในอิรัก ผู้อยู่เบื้องหลังทั้งหมดทั้งมวลคือ อิหร่าน" . อิหร่านและอิสราเอลโจมตีกันโดยตรงกันไปมาเมื่อปีที่แล้ว ถือเป็นการโจมตีกันโดยตรงเป็นครั้งแรก ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในภูมิภาค ที่โหมกระพือขึ้นจากสงครามกาซา . เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม อิสราเอลทิ้งบอมบ์ใส่ที่ตั้งทางทหารในอิหร่าน สังหารกำลังพลไป 4 ราย ตอบโต้กรณีที่เตหะรานรัวยิงห่าขีปนาวุธกว่า 200 ลูก เข้าใส่ . ก่อนหน้านั้นในวันที่ 13 เมษายน อิหร่านปล่อยโดรนและยิงขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอล แก้แค้นปฏิบัติการโจมตีทางอากาศนองเลือดถล่มสถานทูตอิหร่านประจำกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เมื่อวันที่ 1 เมษายน ซึ่งทางเตหะรานกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015546 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1443 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลาโหมอิสราเอลประกาศ ได้รับระเบิดทำลายล้างสูง MK-84 จำนวน 2,000 ลูก จากสหรัฐแล้ว

    ขณะที่ฮามาสประณามอิสราเอล จากการสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจของฮามาส 3 นาย ในเมืองราฟาห์ ทางกาซาตอนใต้ ถือเป็นการระเมิดหยุดยิงอย่างร้ายแรง
    กลาโหมอิสราเอลประกาศ ได้รับระเบิดทำลายล้างสูง MK-84 จำนวน 2,000 ลูก จากสหรัฐแล้ว ขณะที่ฮามาสประณามอิสราเอล จากการสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจของฮามาส 3 นาย ในเมืองราฟาห์ ทางกาซาตอนใต้ ถือเป็นการระเมิดหยุดยิงอย่างร้ายแรง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอลอีก 3 รายในวันเสาร์ (15 ก.พ.) แลกกับการที่อิสราเอลปล่อยตัวผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์ราวๆ 369 คน เสร็จสิ้นการแลกตัวรอบที่ 6 แม้มีความกังวลว่าข้อตกลงหยุดยิงกาซาที่เปราะบางอย่างมาก ใกล้พังครืนลง ท่ามกลางเส้นตายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เตือน "นรกแตก" หากไม่ปล่อยตัวประกันทั้งหมด
    .
    ผู้สื่อข่าวพบเห็นกลุ่มมือปืนฮามาสที่สวมหน้ากาก พาตัวประกันขึ้นไปบนเวทีหนึ่ง ในเมืองข่าน ยูนิส ทางใต้ของกาซา หลังจากนั้นตัวประกันทั้ง 3 คน ที่ประกอบด้วย ซากุย เดเคล-เชิน ชาวอเมริกันเชื้อสายอิสราเอล ชาซา ทรูปานอฟ ชาวรัสเซียเชื้อสายอิสราเอล และยาอีร์ ฮอร์น ชาวอาร์เจนตินาเชื้อสายอิสราเอล ได้ทำการแถลงผ่านไมโครโฟน ก่อนมีการส่งมอบตัวแก่สภากาชาดและจากนั้นก็ถูกนำกลับสู่ดินแดนอิสราเอล หลังถูกควบคุมตัวนานกว่า 16 เดือน
    .
    ตัวประกันชายทั้ง 3 คน ในมือกุมถุงของขวัญที่ได้รับจากพวกที่ควบคุมตัวและขนาบข้างด้วยพวกนักรบ ได้เรียกร้องให้เดินหน้าการแลกตัวประกันเพิ่มเติมให้เสร็จสมบูรณ์ ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง
    .
    ไม่นานหลังจากนั้น อีกด้านหนึ่งรถบัสขนผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์ ก็ออกจากเรือนจำโอเฟอร์ของอิสราเอล และได้รับเสียงเชียร์ต้อนรับจากฝูงชน หลังเดินทางมาถึงเมืองรามัลเลาะห์ ในเขตยึดครองเวสต์แบงก์ ตามรายงานของเอเอฟพี ขณะเดียวกันรถบัสบางส่วนได้นำพานักโทษจากเรือนจำแห่งหนึ่งของอิสราเอล ในทะเลทรายเนเกฟ ไปยังฉนวนกาซา
    .
    การแลกเปลี่ยนในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ถือเป็นครั้งที่ 6 นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 มกราคม ขณะที่มันเกิดขึ้นหลังจากฮามาสขู่ระงับการปล่อยตัวประกัน จากคำกล่าวหาอิสราเอลละเมิดข้อตกลง กระตุ้นให้ทางอิสราเอลขู่ว่าจะกลับมาทำสงครามหากว่าฮามาสทำเช่นนั้น
    .
    ในบรรดาตัวประกัน 251 คน ที่ถูกพวกฮามาสจับตัวไประหว่างปฏิบัติการจู่โจมเล่นงานอิสราเอลสายฟ้าแลบ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 โหมกระพือสงคราม เหลืออีก 70 คนที่ยังอยู่ในกาซา ในนั้นรวมถึง 35 ราย ที่ทางกองทัพอิสราเอลเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว
    .
    ความเคลื่อนไหวปล่อยตัวล่าสุด นำมาเสียงน้ำตาแห่งความยินดีของเพื่อนๆ และสมาชิกในครอบครัวของตัวประกัน
    .
    หลังจากนั้นในวันเดียวกัน ชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนที่ได้รับการปล่อยตัวจากอิสราเอล ได้เดินทางถึงข่าน ยูนิส ทางใต้ของกาซา ระหว่างนั้นพวกเขาชู 2 นิ้วและโบกไม้โบกมือให้ฝูงชนที่ออกมารอต้อนรับด้วยความยินดี
    .
    อ้างอิงข้อมูลจากกลุ่มทนายความองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Palestinian Prisoners' Club พบว่าในบรรดาผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวนั้น มีอยู่ 36 คน ที่โดนลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ในนั้น 24 คน จะถูกเนรเทศภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิง
    .
    คาดหมายว่าการเจรจาในขั้นที่ 2 ของข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งมีเจตนาวางกรอบก้าวย่างต่างๆ สำหรับหยุดสงครามอย่างถาวร จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า
    .
    มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ชาติผู้สนับสนุนรายสำคัญของอิสราเอลและหนึ่งในชาติคนกลางการเจรจา ได้เดินทางถึงอิสราเอลในช่วงค่ำวันเสาร์ (15 ก.พ.) ก่อนมีกำหนดเข้าพบปะหารือกับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง
    .
    เนทันยาฮู ขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันเสาร์ (15 ก.พ.) สำหรับแรงสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง ท่ามกลางการเผชิญหน้ากับฮามาส ในสัปดาห์นี้
    .
    คำขอบคุณนี้มีขึ้นหลังจาก ทรัมป์ เตือนว่าทุกขุมนรกจะแตกออกหากว่าตัวประกันอิสราเอลทุกคนไม่ได้รับการปล่อยตัวออกจากกาซา ภยในเที่ยงวันของวันเสาร์ (15 ก.พ.)
    .
    "จุดยืนหนักแน่นของประธานาธิบดีทรัมป์ นำมาซึ่งการปล่อยตัวประกันของเรา 3 คนในวันนี้ แม้ก่อนหน้านี้ ฮามาส เคยปฏิเสธปล่อยตัวพวกเขา" ทำเนียบนายกรัฐมนตรีของเนทันยาฮูกล่าว ในขณะที่ ฮาเซม กัสเซม โฆษกของพวกฮามาส บอกว่าอเมริกา "ต้องบีบบังคับ" ให้อิสราเอลยึดถือข้อตกลงหยุดยิง "หากว่าพวกเขาแคร์อย่างแท้จริงเกี่ยวกับชีวิตของนักโทษ (ตัวประกัน)"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015319
    ..................
    Sondhi X
    ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอลอีก 3 รายในวันเสาร์ (15 ก.พ.) แลกกับการที่อิสราเอลปล่อยตัวผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์ราวๆ 369 คน เสร็จสิ้นการแลกตัวรอบที่ 6 แม้มีความกังวลว่าข้อตกลงหยุดยิงกาซาที่เปราะบางอย่างมาก ใกล้พังครืนลง ท่ามกลางเส้นตายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เตือน "นรกแตก" หากไม่ปล่อยตัวประกันทั้งหมด . ผู้สื่อข่าวพบเห็นกลุ่มมือปืนฮามาสที่สวมหน้ากาก พาตัวประกันขึ้นไปบนเวทีหนึ่ง ในเมืองข่าน ยูนิส ทางใต้ของกาซา หลังจากนั้นตัวประกันทั้ง 3 คน ที่ประกอบด้วย ซากุย เดเคล-เชิน ชาวอเมริกันเชื้อสายอิสราเอล ชาซา ทรูปานอฟ ชาวรัสเซียเชื้อสายอิสราเอล และยาอีร์ ฮอร์น ชาวอาร์เจนตินาเชื้อสายอิสราเอล ได้ทำการแถลงผ่านไมโครโฟน ก่อนมีการส่งมอบตัวแก่สภากาชาดและจากนั้นก็ถูกนำกลับสู่ดินแดนอิสราเอล หลังถูกควบคุมตัวนานกว่า 16 เดือน . ตัวประกันชายทั้ง 3 คน ในมือกุมถุงของขวัญที่ได้รับจากพวกที่ควบคุมตัวและขนาบข้างด้วยพวกนักรบ ได้เรียกร้องให้เดินหน้าการแลกตัวประกันเพิ่มเติมให้เสร็จสมบูรณ์ ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง . ไม่นานหลังจากนั้น อีกด้านหนึ่งรถบัสขนผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์ ก็ออกจากเรือนจำโอเฟอร์ของอิสราเอล และได้รับเสียงเชียร์ต้อนรับจากฝูงชน หลังเดินทางมาถึงเมืองรามัลเลาะห์ ในเขตยึดครองเวสต์แบงก์ ตามรายงานของเอเอฟพี ขณะเดียวกันรถบัสบางส่วนได้นำพานักโทษจากเรือนจำแห่งหนึ่งของอิสราเอล ในทะเลทรายเนเกฟ ไปยังฉนวนกาซา . การแลกเปลี่ยนในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ถือเป็นครั้งที่ 6 นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 มกราคม ขณะที่มันเกิดขึ้นหลังจากฮามาสขู่ระงับการปล่อยตัวประกัน จากคำกล่าวหาอิสราเอลละเมิดข้อตกลง กระตุ้นให้ทางอิสราเอลขู่ว่าจะกลับมาทำสงครามหากว่าฮามาสทำเช่นนั้น . ในบรรดาตัวประกัน 251 คน ที่ถูกพวกฮามาสจับตัวไประหว่างปฏิบัติการจู่โจมเล่นงานอิสราเอลสายฟ้าแลบ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 โหมกระพือสงคราม เหลืออีก 70 คนที่ยังอยู่ในกาซา ในนั้นรวมถึง 35 ราย ที่ทางกองทัพอิสราเอลเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว . ความเคลื่อนไหวปล่อยตัวล่าสุด นำมาเสียงน้ำตาแห่งความยินดีของเพื่อนๆ และสมาชิกในครอบครัวของตัวประกัน . หลังจากนั้นในวันเดียวกัน ชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนที่ได้รับการปล่อยตัวจากอิสราเอล ได้เดินทางถึงข่าน ยูนิส ทางใต้ของกาซา ระหว่างนั้นพวกเขาชู 2 นิ้วและโบกไม้โบกมือให้ฝูงชนที่ออกมารอต้อนรับด้วยความยินดี . อ้างอิงข้อมูลจากกลุ่มทนายความองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Palestinian Prisoners' Club พบว่าในบรรดาผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวนั้น มีอยู่ 36 คน ที่โดนลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ในนั้น 24 คน จะถูกเนรเทศภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิง . คาดหมายว่าการเจรจาในขั้นที่ 2 ของข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งมีเจตนาวางกรอบก้าวย่างต่างๆ สำหรับหยุดสงครามอย่างถาวร จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า . มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ชาติผู้สนับสนุนรายสำคัญของอิสราเอลและหนึ่งในชาติคนกลางการเจรจา ได้เดินทางถึงอิสราเอลในช่วงค่ำวันเสาร์ (15 ก.พ.) ก่อนมีกำหนดเข้าพบปะหารือกับ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง . เนทันยาฮู ขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในวันเสาร์ (15 ก.พ.) สำหรับแรงสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง ท่ามกลางการเผชิญหน้ากับฮามาส ในสัปดาห์นี้ . คำขอบคุณนี้มีขึ้นหลังจาก ทรัมป์ เตือนว่าทุกขุมนรกจะแตกออกหากว่าตัวประกันอิสราเอลทุกคนไม่ได้รับการปล่อยตัวออกจากกาซา ภยในเที่ยงวันของวันเสาร์ (15 ก.พ.) . "จุดยืนหนักแน่นของประธานาธิบดีทรัมป์ นำมาซึ่งการปล่อยตัวประกันของเรา 3 คนในวันนี้ แม้ก่อนหน้านี้ ฮามาส เคยปฏิเสธปล่อยตัวพวกเขา" ทำเนียบนายกรัฐมนตรีของเนทันยาฮูกล่าว ในขณะที่ ฮาเซม กัสเซม โฆษกของพวกฮามาส บอกว่าอเมริกา "ต้องบีบบังคับ" ให้อิสราเอลยึดถือข้อตกลงหยุดยิง "หากว่าพวกเขาแคร์อย่างแท้จริงเกี่ยวกับชีวิตของนักโทษ (ตัวประกัน)" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015319 .................. Sondhi X
    Like
    Love
    Wow
    16
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1713 มุมมอง 0 รีวิว
  • สรุปข่าวรัสเซีย-ยูเครน:

    - เซเลนสกีกล่าวกับ The Guardian ว่า ยินดีแลกเปลี่ยนดินแดนส่วนหนึ่งในภูมิภาคเคิร์สก์ (Kursk) ที่ยูเครนยึดครองอยู่ กับภูมิภาคที่รัสเซียยึดได้ แต่เซเลนสกียังไม่ได้ระบุว่าจะเป็นภูมิภาคใด คือ โดเนตสก์(Donetsk) ลูฮันสก์(Luhansk) ซาโปริซเซีย(Zaporozhye) และเคอร์ซอน (Kherson)

    - ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเซเลนสกีให้สัมภาษณ์ The Guardian กองทัพรัสเซียโจมตียูเครนอย่างหนักด้วยขีปนาวุธหลายสิบลูก รวมทั้งโดรนอีกหลายสิบลำ สร้างความเสียหายอย่างมาก บ่งชี้ว่ารัสเซียไม่สนใจข้อเสนอการแลกเปลี่ยนดินแดนของเซเลนสกีแต่อย่างใด

    - "ดมิทรี เปสคอฟ" (Dmitry Peskov) โฆษกทำเนียบเครมลิน ออกมาตอบโต้เซเลนสกีทันทีว่า ให้เลิกพูดถึงการแลกเปลี่ยนดังกล่าว เพราะรัสเซียจะไม่มีทางคุยเรื่องนี้ และจะไม่พูดถึงประเด็นการแลกเปลี่ยนดินแดนอย่างเด็ดขาด ซึ่งมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้

    - ประธานาธิบดีทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความระบุว่าเขาได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีปูตินนานกว่า 90 นาที และทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าควรยุติการสูญเสียชีวิตผู้คนที่กำลังเกิดขึ้นในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่าการเจรจายุติสงครามอาจเกิดขึ้นในประเทศซาอุดีอาระเบีย นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองยังมีการตกลงกันว่าจะมีการเยือนกันระหว่างสองประเทศ แต่ยังไม่ระบุช่วงเวลา

    - หลังจากนั้น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ต่อสายโทรศัพท์หาเซเลนสกี เพื่อบอกรายละเอียดที่จำเป็นให้เขาทราบ และเน้นไปที่การประชุมในมิวนิกที่ประเทศเยอรมันที่จะจัดขึ้นในวันศุกร์นี้ ซึ่งรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ และรัฐมนตรีต่างประเทศมาร์โก รูบิโอ จะเป็นผู้นำคณะผู้แทน เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดของสงครามยูเครน-รัสเซีย

    - ก่อนหน้านี้ เซเลนสกีต้องการให้ทรัมป์ต่อสายคุยกับเขาก่อน แล้วจึงคุยกับประธานาธิบดีปูติน แต่ทรัมป์กลับทำในสิ่งตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

    - อังกฤษประกาศมอบเงินช่วยเหลือทางทหาร 150 ล้านปอนด์แก่ยูเครน ซึ่งประกอบด้วยโดรนหลายพันลำ รถถังรบหลายสิบคัน ยานเกราะ และระบบป้องกันภัยทางอากาศ

    - รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีต เฮกเซธ กล่าวในการประชุมกลาโหมที่สำนักงานใหญ่นาโต้ กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของประเทศเบลเยียม : "สหรัฐไม่เชื่อว่าการเป็นสมาชิกนาโตของยูเครนจะเป็นไปได้จากการเจรจาที่กำลังจะมีขึ้น"



    ข่าวอื่นๆ:
    - โฆษกฮามาสออกมาประกาศจะไม่ปล่อยตัวประกันในวันเสาร์นี้ หลังประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่าในกาซา "นรกจะแตก" หากฮามาสละเมิดข้อตกลง

    - เนทันยาฮู เตรียมประกาศยุติข้อตกลงหยุดยิง และสั่งกองกำลังอิสราเอลปิดล้อมกาซา โดยเฉพาะทางเหนือ เพื่อเตรียมตัวบุก หากพ้นกำหนดเส้นตายเที่ยงวันเสาร์ ที่ฮามาสต้องส่งมอบตัวประกันตามกำหนด

    - วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติรับรอง “ทัลซี แกบบาร์ด” (Tulsi Gabbard) เป็นผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (Director of National Intelligence) เมื่อปี 2020 ฮิลลารี คลินตัน ได้กล่าวหา Tulsi Gabbard ว่าเป็นผู้ปกป้องเผด็จการและเป็นหุ่นเชิดของรัสเซีย หลังจากนั้น 4 ปีต่อมา วุฒิสภาสหรัฐได้แต่งตั้งคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหุ่นเชิดของปูตินให้รับผิดชอบหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ

    - The Wall Street Journal รายงานว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐมีข้อมูลว่าอิสราเอลกำลังวางแผนโจมตีสถานที่นิวเคลียร์ของอิหร่านครั้งใหญ่ในปีนี้ (อิหร่านและรัสเซียเพิ่งลงนามข้อตกลงความร่วมมือที่ครอบคลุมรอบด้าน รวมทั้งความมั่นคงและการทหาร เปรียบได้กับมาตรา 5 ของนาโต้)

    - กองทัพอียิปต์สั่งการให้ในภูมิภาคไซนาย(ติดกับอิสราเอล)ยกระดับความพร้อมรบขั้นสูงสุด

    - จีนจัดการซ้อมรบทางทะเลและทางอากาศรอบเกาะไต้หวันครั้งใหญ่ หลังจากสหรัฐส่งเรือรบ 2 ลำ ผ่านช่องแคบไต้หวันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
    สรุปข่าวรัสเซีย-ยูเครน: - เซเลนสกีกล่าวกับ The Guardian ว่า ยินดีแลกเปลี่ยนดินแดนส่วนหนึ่งในภูมิภาคเคิร์สก์ (Kursk) ที่ยูเครนยึดครองอยู่ กับภูมิภาคที่รัสเซียยึดได้ แต่เซเลนสกียังไม่ได้ระบุว่าจะเป็นภูมิภาคใด คือ โดเนตสก์(Donetsk) ลูฮันสก์(Luhansk) ซาโปริซเซีย(Zaporozhye) และเคอร์ซอน (Kherson) - ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเซเลนสกีให้สัมภาษณ์ The Guardian กองทัพรัสเซียโจมตียูเครนอย่างหนักด้วยขีปนาวุธหลายสิบลูก รวมทั้งโดรนอีกหลายสิบลำ สร้างความเสียหายอย่างมาก บ่งชี้ว่ารัสเซียไม่สนใจข้อเสนอการแลกเปลี่ยนดินแดนของเซเลนสกีแต่อย่างใด - "ดมิทรี เปสคอฟ" (Dmitry Peskov) โฆษกทำเนียบเครมลิน ออกมาตอบโต้เซเลนสกีทันทีว่า ให้เลิกพูดถึงการแลกเปลี่ยนดังกล่าว เพราะรัสเซียจะไม่มีทางคุยเรื่องนี้ และจะไม่พูดถึงประเด็นการแลกเปลี่ยนดินแดนอย่างเด็ดขาด ซึ่งมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นได้ - ประธานาธิบดีทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา โพสต์ข้อความระบุว่าเขาได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีปูตินนานกว่า 90 นาที และทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันว่าควรยุติการสูญเสียชีวิตผู้คนที่กำลังเกิดขึ้นในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทรัมป์ยังกล่าวอีกว่าการเจรจายุติสงครามอาจเกิดขึ้นในประเทศซาอุดีอาระเบีย นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองยังมีการตกลงกันว่าจะมีการเยือนกันระหว่างสองประเทศ แต่ยังไม่ระบุช่วงเวลา - หลังจากนั้น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ต่อสายโทรศัพท์หาเซเลนสกี เพื่อบอกรายละเอียดที่จำเป็นให้เขาทราบ และเน้นไปที่การประชุมในมิวนิกที่ประเทศเยอรมันที่จะจัดขึ้นในวันศุกร์นี้ ซึ่งรองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ และรัฐมนตรีต่างประเทศมาร์โก รูบิโอ จะเป็นผู้นำคณะผู้แทน เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดของสงครามยูเครน-รัสเซีย - ก่อนหน้านี้ เซเลนสกีต้องการให้ทรัมป์ต่อสายคุยกับเขาก่อน แล้วจึงคุยกับประธานาธิบดีปูติน แต่ทรัมป์กลับทำในสิ่งตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง - อังกฤษประกาศมอบเงินช่วยเหลือทางทหาร 150 ล้านปอนด์แก่ยูเครน ซึ่งประกอบด้วยโดรนหลายพันลำ รถถังรบหลายสิบคัน ยานเกราะ และระบบป้องกันภัยทางอากาศ - รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีต เฮกเซธ กล่าวในการประชุมกลาโหมที่สำนักงานใหญ่นาโต้ กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของประเทศเบลเยียม : "สหรัฐไม่เชื่อว่าการเป็นสมาชิกนาโตของยูเครนจะเป็นไปได้จากการเจรจาที่กำลังจะมีขึ้น" ข่าวอื่นๆ: - โฆษกฮามาสออกมาประกาศจะไม่ปล่อยตัวประกันในวันเสาร์นี้ หลังประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่าในกาซา "นรกจะแตก" หากฮามาสละเมิดข้อตกลง - เนทันยาฮู เตรียมประกาศยุติข้อตกลงหยุดยิง และสั่งกองกำลังอิสราเอลปิดล้อมกาซา โดยเฉพาะทางเหนือ เพื่อเตรียมตัวบุก หากพ้นกำหนดเส้นตายเที่ยงวันเสาร์ ที่ฮามาสต้องส่งมอบตัวประกันตามกำหนด - วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติรับรอง “ทัลซี แกบบาร์ด” (Tulsi Gabbard) เป็นผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (Director of National Intelligence) เมื่อปี 2020 ฮิลลารี คลินตัน ได้กล่าวหา Tulsi Gabbard ว่าเป็นผู้ปกป้องเผด็จการและเป็นหุ่นเชิดของรัสเซีย หลังจากนั้น 4 ปีต่อมา วุฒิสภาสหรัฐได้แต่งตั้งคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหุ่นเชิดของปูตินให้รับผิดชอบหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ - The Wall Street Journal รายงานว่า หน่วยข่าวกรองของสหรัฐมีข้อมูลว่าอิสราเอลกำลังวางแผนโจมตีสถานที่นิวเคลียร์ของอิหร่านครั้งใหญ่ในปีนี้ (อิหร่านและรัสเซียเพิ่งลงนามข้อตกลงความร่วมมือที่ครอบคลุมรอบด้าน รวมทั้งความมั่นคงและการทหาร เปรียบได้กับมาตรา 5 ของนาโต้) - กองทัพอียิปต์สั่งการให้ในภูมิภาคไซนาย(ติดกับอิสราเอล)ยกระดับความพร้อมรบขั้นสูงสุด - จีนจัดการซ้อมรบทางทะเลและทางอากาศรอบเกาะไต้หวันครั้งใหญ่ หลังจากสหรัฐส่งเรือรบ 2 ลำ ผ่านช่องแคบไต้หวันเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 419 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลขู่เปิดการถล่มโจมตีขึ้นใหม่ในกาซา หากไม่มีการปล่อยตัวประกันภายในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ขณะที่ฮามาสยันยังยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง และโทษรัฐยิวเป็นฝ่ายบ่อนทำลายข้อตกลง ขณะในอีกด้านหนึ่ง ทรัมป์ยังคงยืนกรานอ้างลอยๆ ว่า อเมริกามีอำนาจและจะเข้ายึดครองฉนวนกาซา รวมทั้งย้ายชาวปาเลสไตน์ออกไปเป็นการถาวร แม้ล่าสุดถูกคัดค้านจากกษัตริย์จอร์แดนซึ่งเดินทางไปเยือนทำเนียบขาว ส่วนอียิปต์เตรียมเสนอแผนระดมพันธมิตรในตะวันออกกลางฟื้นฟูกาซาร่วมกับวอชิงตัน โดยที่ไม่มีการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์หนีไปไหน
    .
    ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงล่าสุดที่ดำเนินมาหลายอาทิตย์แล้ว ตัวประกันอิสราเอลจะได้รับการปล่อยตัวทุกสัปดาห์ แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ โดยนับจากวันที่ 19 ม.ค. มีการปล่อยตัวประกันแล้ว 16 คน จาก 33 คนตามข้อตกลงหยุดยิงเฟสแรกที่กินเวลา 42 วัน และอิสราเอลปล่อยนักโทษปาเลสไตน์หลายร้อยคนเป็นการแลกเปลี่ยน ทว่า ข้อตกลงนี้กำลังสั่นคลอนอย่างหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
    .
    เมื่อวันอังคาร (11) นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ยื่นคำขาดว่า ถ้าฮามาสไม่ปล่อยตัวประกันภายในเที่ยงวันเสาร์ จะถือว่าข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุดลง และกองทัพอิสราเอลจะกลับไปโจมตีกาซาอย่างหนักหน่วงจนกว่าฮามาสแพ้ราบคาบ
    .
    เนทันยาฮูเสริมว่า สั่งการให้กองทัพระดมทหารเตรียมพร้อมทั้งภายในและรอบๆ กาซาแล้ว และหลังจากนั้นไม่นานกองทัพอิสราเอลแถลงว่า ได้ส่งกำลังไปเพิ่มทางใต้ของประเทศ ซึ่งรวมถึงการเรียกทหารกองหนุนเข้าประจำการ ขณะที่ครอบครัวตัวประกันพากันชุมนุมหน้าสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง
    .
    ก่อนหน้านี้ เมื่อวันจันทร์ (10) กองกำลัง เอซเซดีน อัล-กัสซัม ซึ่งเป็นส่วนกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮามาส ประกาศจะเลื่อนการปล่อยตัวประกันชุดต่อไปที่เดิมกำหนดไว้ในวันเสาร์นี้ โดยกล่าวหาอิสราเอลละเมิดข้อตกลงทั้งในส่วนความช่วยเหลือ และการเสียชีวิตของชาวกาซา 3 คนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่สำทับว่า พร้อมปล่อยตัวประกันตามกำหนด หากอิสราเอลปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิง
    .
    ทว่า อิสราเอลยืนยันว่า ไม่ได้ขัดขวางการให้ความช่วยเหลือ และที่ต้องยิงชาวกาซาทั้งสามคน เนื่องจากคนเหล่านั้นละเมิดคำเตือนไม่ให้เข้าใกล้กองทหารอิสราเอล
    .
    ด้าน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้ฮามาสปล่อยตัวประกันตามแผน และหลีกเลี่ยงการฟื้นการสู้รบในกาซา
    .
    ทว่า กบฏฮูตีที่เป็นพันธมิตรของฮามาส และโจมตีอิสราเอลหลายครั้งเพื่อแสดงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์นั้น ประกาศว่า พร้อมเข้าแทรกแซงทางทหารทุกเมื่อหากกาซาถูกโจมตีอีก
    .
    ขณะเดียวกัน แม้เนทันยาฮูไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ฮามาสต้องปล่อยตัวประกันทั้งหมด 76 คนที่ยังถูกคุมขังอยู่ในกาซา หรือแค่ 3 คนภายใต้ข้อตกลงเดิม แต่เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังสายเหยี่ยว เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี “เปิดขุมนรก” ถ้าตัวประกันอิสราเอลทั้งหมดไม่ได้รับอิสรภาพภายในวันเสาร์ รวมทั้งให้อิสราเอลเข้ายึดครองฉนวนกาซาเบ็ดเสร็จ และยุติการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั้งหมด
    .
    ภายหลังการยื่นคำขาดของเนทันยาฮู ทางฮามาสได้ออกคำแถลงยืนยันว่า ยังคงยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิง และกล่าวหาอิสราเอลเป็นฝ่ายบ่อนทำลายข้อตกลง
    .
    การขู่ยุติการหยุดยิงของเนทันยาฮู เป็นการตอกย้ำคำแถลงก่อนหน้านี้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ให้ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอลทั้งหมดภายในเที่ยงวันเสาร์ ไม่เช่นนั้นจะประกาศให้ยุติข้อตกลงหยุดยิง และฮามาสจะต้องเผชิญ “นรก” ที่เลวร้ายกว่าที่เคยเป็นมา
    .
    ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำคำขู่นี้อีก ระหว่างให้การต้อนรับกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดนเมื่อวันอังคาร รวมทั้งอ้างอีกครั้งหนึ่งว่า อเมริกามีอำนาจและจะเข้าครอบครองและฟื้นฟูฉนวนกาซา และอพยพชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคนออกจากดินแดนดังกล่าวเป็นการถาวร พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า จะมีดินแดนบางส่วนในจอร์แดน อียิปต์ และประเทศอื่นๆ ที่พร้อมให้ชาวปาเลสไตน์เหล่านั้นย้ายไปตั้งถิ่นฐาน
    .
    ทว่า กษัตริย์อับดุลเลาะห์ย้ำจุดยืนของจอร์แดนและชาติอาหรับทั้งหมดในการคัดค้านการบังคับย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ และเสริมว่า อียิปต์กำลังร่างแผนการที่ประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลางจะร่วมฟื้นฟูกาซากับอเมริกา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศอียิปต์แถลงในเวลาต่อมาว่า ไคโรจะเสนอวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมสำหรับการฟื้นฟูกาซาโดยที่รับประกันว่า ชาวปาเลสไตน์จะได้อยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนต่อไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000014305
    ..............
    Sondhi X
    อิสราเอลขู่เปิดการถล่มโจมตีขึ้นใหม่ในกาซา หากไม่มีการปล่อยตัวประกันภายในวันเสาร์ (15 ก.พ.) ขณะที่ฮามาสยันยังยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง และโทษรัฐยิวเป็นฝ่ายบ่อนทำลายข้อตกลง ขณะในอีกด้านหนึ่ง ทรัมป์ยังคงยืนกรานอ้างลอยๆ ว่า อเมริกามีอำนาจและจะเข้ายึดครองฉนวนกาซา รวมทั้งย้ายชาวปาเลสไตน์ออกไปเป็นการถาวร แม้ล่าสุดถูกคัดค้านจากกษัตริย์จอร์แดนซึ่งเดินทางไปเยือนทำเนียบขาว ส่วนอียิปต์เตรียมเสนอแผนระดมพันธมิตรในตะวันออกกลางฟื้นฟูกาซาร่วมกับวอชิงตัน โดยที่ไม่มีการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์หนีไปไหน . ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงล่าสุดที่ดำเนินมาหลายอาทิตย์แล้ว ตัวประกันอิสราเอลจะได้รับการปล่อยตัวทุกสัปดาห์ แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ โดยนับจากวันที่ 19 ม.ค. มีการปล่อยตัวประกันแล้ว 16 คน จาก 33 คนตามข้อตกลงหยุดยิงเฟสแรกที่กินเวลา 42 วัน และอิสราเอลปล่อยนักโทษปาเลสไตน์หลายร้อยคนเป็นการแลกเปลี่ยน ทว่า ข้อตกลงนี้กำลังสั่นคลอนอย่างหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา . เมื่อวันอังคาร (11) นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ยื่นคำขาดว่า ถ้าฮามาสไม่ปล่อยตัวประกันภายในเที่ยงวันเสาร์ จะถือว่าข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุดลง และกองทัพอิสราเอลจะกลับไปโจมตีกาซาอย่างหนักหน่วงจนกว่าฮามาสแพ้ราบคาบ . เนทันยาฮูเสริมว่า สั่งการให้กองทัพระดมทหารเตรียมพร้อมทั้งภายในและรอบๆ กาซาแล้ว และหลังจากนั้นไม่นานกองทัพอิสราเอลแถลงว่า ได้ส่งกำลังไปเพิ่มทางใต้ของประเทศ ซึ่งรวมถึงการเรียกทหารกองหนุนเข้าประจำการ ขณะที่ครอบครัวตัวประกันพากันชุมนุมหน้าสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยึดมั่นข้อตกลงหยุดยิง . ก่อนหน้านี้ เมื่อวันจันทร์ (10) กองกำลัง เอซเซดีน อัล-กัสซัม ซึ่งเป็นส่วนกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฮามาส ประกาศจะเลื่อนการปล่อยตัวประกันชุดต่อไปที่เดิมกำหนดไว้ในวันเสาร์นี้ โดยกล่าวหาอิสราเอลละเมิดข้อตกลงทั้งในส่วนความช่วยเหลือ และการเสียชีวิตของชาวกาซา 3 คนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่สำทับว่า พร้อมปล่อยตัวประกันตามกำหนด หากอิสราเอลปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิง . ทว่า อิสราเอลยืนยันว่า ไม่ได้ขัดขวางการให้ความช่วยเหลือ และที่ต้องยิงชาวกาซาทั้งสามคน เนื่องจากคนเหล่านั้นละเมิดคำเตือนไม่ให้เข้าใกล้กองทหารอิสราเอล . ด้าน อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้ฮามาสปล่อยตัวประกันตามแผน และหลีกเลี่ยงการฟื้นการสู้รบในกาซา . ทว่า กบฏฮูตีที่เป็นพันธมิตรของฮามาส และโจมตีอิสราเอลหลายครั้งเพื่อแสดงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์นั้น ประกาศว่า พร้อมเข้าแทรกแซงทางทหารทุกเมื่อหากกาซาถูกโจมตีอีก . ขณะเดียวกัน แม้เนทันยาฮูไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ฮามาสต้องปล่อยตัวประกันทั้งหมด 76 คนที่ยังถูกคุมขังอยู่ในกาซา หรือแค่ 3 คนภายใต้ข้อตกลงเดิม แต่เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังสายเหยี่ยว เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี “เปิดขุมนรก” ถ้าตัวประกันอิสราเอลทั้งหมดไม่ได้รับอิสรภาพภายในวันเสาร์ รวมทั้งให้อิสราเอลเข้ายึดครองฉนวนกาซาเบ็ดเสร็จ และยุติการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั้งหมด . ภายหลังการยื่นคำขาดของเนทันยาฮู ทางฮามาสได้ออกคำแถลงยืนยันว่า ยังคงยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิง และกล่าวหาอิสราเอลเป็นฝ่ายบ่อนทำลายข้อตกลง . การขู่ยุติการหยุดยิงของเนทันยาฮู เป็นการตอกย้ำคำแถลงก่อนหน้านี้ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ให้ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอลทั้งหมดภายในเที่ยงวันเสาร์ ไม่เช่นนั้นจะประกาศให้ยุติข้อตกลงหยุดยิง และฮามาสจะต้องเผชิญ “นรก” ที่เลวร้ายกว่าที่เคยเป็นมา . ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำคำขู่นี้อีก ระหว่างให้การต้อนรับกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดนเมื่อวันอังคาร รวมทั้งอ้างอีกครั้งหนึ่งว่า อเมริกามีอำนาจและจะเข้าครอบครองและฟื้นฟูฉนวนกาซา และอพยพชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคนออกจากดินแดนดังกล่าวเป็นการถาวร พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า จะมีดินแดนบางส่วนในจอร์แดน อียิปต์ และประเทศอื่นๆ ที่พร้อมให้ชาวปาเลสไตน์เหล่านั้นย้ายไปตั้งถิ่นฐาน . ทว่า กษัตริย์อับดุลเลาะห์ย้ำจุดยืนของจอร์แดนและชาติอาหรับทั้งหมดในการคัดค้านการบังคับย้ายถิ่นฐานชาวปาเลสไตน์ และเสริมว่า อียิปต์กำลังร่างแผนการที่ประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลางจะร่วมฟื้นฟูกาซากับอเมริกา ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศอียิปต์แถลงในเวลาต่อมาว่า ไคโรจะเสนอวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมสำหรับการฟื้นฟูกาซาโดยที่รับประกันว่า ชาวปาเลสไตน์จะได้อยู่ในบ้านเกิดเมืองนอนต่อไป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000014305 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    Love
    Haha
    Yay
    Sad
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2195 มุมมอง 0 รีวิว
  • "จะไม่มีสันติภาพในตะวันออกกลางตราบใดที่กลุ่มฮามาสยังควบคุมดินแดนทางกายภาพและเป็นมหาอำนาจที่มีอำนาจสูงสุดในฉนวนกาซาหรือที่ใดก็ตามในตะวันออกกลาง "

    กระทรวงต่างประเทศสหรัฐโพสต์ข้อความบน "X" โจมตีกลุ่มฮามาส ซึ่งอาจบ่งบอกถึงบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นบนดินแดนกาซา

    ข้อความถูกโพสต์ขึ้น หลังจากที่ฮามาสออกมาประกาศยุติการแลกเปลี่ยนตัวประกันในวันเสาร์นี้ โดยกล่าวหาอิสราเอลละเมิดข้อตกลงหยุดยิงก่อน

    ต่อมาโดนัล ทรัมป์ออกมาประกาศกร้าว หากฮามาสไม่ยอมส่งตัวประกันตามกำหนดในเที่ยงวันเสาร์ "ประตูนรกจะเปิดออก" โดยไม่สนใจข้อกล่าวหาของฮามาสแต่อย่างใด และไม่คิดจะสอบถามไปยังอิสราเอล

    ขณะเดียวกัน เนทันยาฮู ประกาศส่งกองกำลังเข้ากาซาตอนเหนืออีกอีกครั้ง และจะยุติข้อตกลงหยุดยิงทันทีในเที่ยงวันเสาร์ หากฮามาสไม่ส่งตัวประกัน


    "จะไม่มีสันติภาพในตะวันออกกลางตราบใดที่กลุ่มฮามาสยังควบคุมดินแดนทางกายภาพและเป็นมหาอำนาจที่มีอำนาจสูงสุดในฉนวนกาซาหรือที่ใดก็ตามในตะวันออกกลาง " กระทรวงต่างประเทศสหรัฐโพสต์ข้อความบน "X" โจมตีกลุ่มฮามาส ซึ่งอาจบ่งบอกถึงบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นบนดินแดนกาซา ข้อความถูกโพสต์ขึ้น หลังจากที่ฮามาสออกมาประกาศยุติการแลกเปลี่ยนตัวประกันในวันเสาร์นี้ โดยกล่าวหาอิสราเอลละเมิดข้อตกลงหยุดยิงก่อน ต่อมาโดนัล ทรัมป์ออกมาประกาศกร้าว หากฮามาสไม่ยอมส่งตัวประกันตามกำหนดในเที่ยงวันเสาร์ "ประตูนรกจะเปิดออก" โดยไม่สนใจข้อกล่าวหาของฮามาสแต่อย่างใด และไม่คิดจะสอบถามไปยังอิสราเอล ขณะเดียวกัน เนทันยาฮู ประกาศส่งกองกำลังเข้ากาซาตอนเหนืออีกอีกครั้ง และจะยุติข้อตกลงหยุดยิงทันทีในเที่ยงวันเสาร์ หากฮามาสไม่ส่งตัวประกัน
    Like
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เนทันยาฮู ประกาศจะกลับมาทำสงครามอีกครั้ง:

    “ผมเพิ่งจะเสร็จสิ้นการหารือเชิงลึกนาน 4 ชั่วโมงกับคณะรัฐมนตรีความมั่นคง พวกเราทุกคนต่างแสดงความไม่พอใจต่อสภาพที่น่าตกใจของนักโทษทั้งสามคนของเราที่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

    เมื่อวานนี้ ผมสั่งให้กองทัพอิสราเอลระดมกำลังเข้าไปยังฉนวนกาซาและบริเวณชายแดน ปฏิบัติการนี้กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ และจะเสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด

    มติเอกฉันท์ที่ผมผ่านในคณะรัฐมนตรีมีดังนี้: หากฮามาสไม่ส่งนักโทษของเรากลับคืนภายในเที่ยงวันเสาร์ การหยุดยิงจะสิ้นสุดลง และกองทัพอิสราเอลจะกลับมาสู้รบอย่างเข้มข้นอีกครั้ง จนกว่าฮามาสจะพ่ายแพ้อย่างเด็ดขาด”
    นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เนทันยาฮู ประกาศจะกลับมาทำสงครามอีกครั้ง: “ผมเพิ่งจะเสร็จสิ้นการหารือเชิงลึกนาน 4 ชั่วโมงกับคณะรัฐมนตรีความมั่นคง พวกเราทุกคนต่างแสดงความไม่พอใจต่อสภาพที่น่าตกใจของนักโทษทั้งสามคนของเราที่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เมื่อวานนี้ ผมสั่งให้กองทัพอิสราเอลระดมกำลังเข้าไปยังฉนวนกาซาและบริเวณชายแดน ปฏิบัติการนี้กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ และจะเสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด มติเอกฉันท์ที่ผมผ่านในคณะรัฐมนตรีมีดังนี้: หากฮามาสไม่ส่งนักโทษของเรากลับคืนภายในเที่ยงวันเสาร์ การหยุดยิงจะสิ้นสุดลง และกองทัพอิสราเอลจะกลับมาสู้รบอย่างเข้มข้นอีกครั้ง จนกว่าฮามาสจะพ่ายแพ้อย่างเด็ดขาด”
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • สื่อหลักของโลกพากันรายงานว่าฮามาสเป็นฝ่ายเริ่มผิดข้อตกลงหยุดยิงที่ทำกับอิสราเอล "สื่อกำลังสร้างความชอบธรรมให้กับอิสราเอลในการทำลายกาซาต่อไป!"

    นี่คือสิ่งที่ฮามาสระบุว่าอิสราเอลละเมิดข้อตกลงหยุดยิง:
    ❌ มีรถบรรทุกความช่วยเหลือที่สำคัญ เช่น อาหาร น้ำ เวชภัณฑ์ เพียง 8,500 คัน จากข้อตกลงทั้งหมด 12,000 คัน ที่ได้เข้าสู่ฉนวนกาซา
    ❌ มีรถบรรทุกน้ำมันเพียง 15 คัน เท่านั้น จากข้อตกลงวันละ 50 คัน ที่ต้องเข้าสู่ฉนวนกาซาทุกวัน
    ❌ ไม่มีการสร้างยูนิตที่พักชั่วคราว หรือเท่ากับ 0 หลัง จากทั้งหมด 60,000 ยูนิต ที่อิสราเอลต้องส่งไปที่ฉนวนกาซา
    ❌ จำนวนเต็นท์ที่ตกลงกันไว้ 200,000 หลัง แต่มีเพียง 20,000 หลังเท่านั้น ที่ถูกส่งไปที่ฉนวนกาซา
    - มีรายงานชาวปาเลสไตน์ถูกสังหารในข่าน ยูนิส ทางตอนใต้ของกาซา
    - อิสราเอลเปิดฉากโจมตีเวสต์แบงก์อย่างต่อเนื่องหลังข้อตกลงหยุดยิงในกาซามีผลบังคับใช้ แม้ว่ามันจะไม่ได้อยู่ในข้อตกลง แต่นี่คือการยั่วยุอย่างชัดเจนจากอิสราเอล

    ทั้งหมดนี่ไม่ใช่การผิดพลาดทางด้านการจัดการ แต่เป็นความตั้งใจที่เนทันยาฮูและทรัมป์ต้องการให้ข้อตกลงนี้ล้มเหลว เพราะพวกเขาไม่ต้องการสันติภาพ พวกเขาต้องการการกวาดล้างชาติพันธุ์ และยึดครองดินแดนกาซา

    "แต่สหรัฐและอิสราเอลกลับประณามฮามาสว่าเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่าวร้ายแรง!"

    สื่อหลักของโลกพากันรายงานว่าฮามาสเป็นฝ่ายเริ่มผิดข้อตกลงหยุดยิงที่ทำกับอิสราเอล "สื่อกำลังสร้างความชอบธรรมให้กับอิสราเอลในการทำลายกาซาต่อไป!" นี่คือสิ่งที่ฮามาสระบุว่าอิสราเอลละเมิดข้อตกลงหยุดยิง: ❌ มีรถบรรทุกความช่วยเหลือที่สำคัญ เช่น อาหาร น้ำ เวชภัณฑ์ เพียง 8,500 คัน จากข้อตกลงทั้งหมด 12,000 คัน ที่ได้เข้าสู่ฉนวนกาซา ❌ มีรถบรรทุกน้ำมันเพียง 15 คัน เท่านั้น จากข้อตกลงวันละ 50 คัน ที่ต้องเข้าสู่ฉนวนกาซาทุกวัน ❌ ไม่มีการสร้างยูนิตที่พักชั่วคราว หรือเท่ากับ 0 หลัง จากทั้งหมด 60,000 ยูนิต ที่อิสราเอลต้องส่งไปที่ฉนวนกาซา ❌ จำนวนเต็นท์ที่ตกลงกันไว้ 200,000 หลัง แต่มีเพียง 20,000 หลังเท่านั้น ที่ถูกส่งไปที่ฉนวนกาซา - มีรายงานชาวปาเลสไตน์ถูกสังหารในข่าน ยูนิส ทางตอนใต้ของกาซา - อิสราเอลเปิดฉากโจมตีเวสต์แบงก์อย่างต่อเนื่องหลังข้อตกลงหยุดยิงในกาซามีผลบังคับใช้ แม้ว่ามันจะไม่ได้อยู่ในข้อตกลง แต่นี่คือการยั่วยุอย่างชัดเจนจากอิสราเอล ทั้งหมดนี่ไม่ใช่การผิดพลาดทางด้านการจัดการ แต่เป็นความตั้งใจที่เนทันยาฮูและทรัมป์ต้องการให้ข้อตกลงนี้ล้มเหลว เพราะพวกเขาไม่ต้องการสันติภาพ พวกเขาต้องการการกวาดล้างชาติพันธุ์ และยึดครองดินแดนกาซา "แต่สหรัฐและอิสราเอลกลับประณามฮามาสว่าเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่าวร้ายแรง!"
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts