“Apple เปิดตัว Memory Integrity Enforcement บน iPhone 17 — ป้องกันมัลแวร์ระดับรัฐด้วยระบบความปลอดภัยหน่วยความจำที่ไม่เคยมีมาก่อน”
Apple ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า Memory Integrity Enforcement (MIE) บน iPhone 17 และ iPhone Air ซึ่งถือเป็นการอัปเกรดด้านความปลอดภัยของหน่วยความจำครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ระบบปฏิบัติการสำหรับผู้บริโภค โดยใช้เวลาพัฒนานานกว่า 5 ปี และผสานการทำงานระหว่างฮาร์ดแวร์ Apple Silicon กับระบบปฏิบัติการ iOS อย่างลึกซึ้ง
เป้าหมายของ MIE คือการป้องกันการโจมตีจากมัลแวร์ระดับสูง โดยเฉพาะ “mercenary spyware” เช่น Pegasus ที่มักถูกใช้โดยรัฐหรือองค์กรเพื่อเจาะระบบของบุคคลเป้าหมาย เช่น นักข่าว นักสิทธิมนุษยชน หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งการโจมตีเหล่านี้มักใช้ช่องโหว่ด้าน memory corruption เป็นหลัก
หัวใจของ MIE คือการใช้ Enhanced Memory Tagging Extension (EMTE) ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกับ Arm โดยทุกบล็อกหน่วยความจำจะถูกติด “แท็กลับ” และฮาร์ดแวร์จะตรวจสอบว่าโปรแกรมที่เข้าถึงหน่วยความจำนั้นมีแท็กตรงกันหรือไม่ ถ้าไม่ตรง ระบบจะบล็อกทันทีและปิดโปรเซส — ทำให้การโจมตีแบบ buffer overflow และ use-after-free แทบเป็นไปไม่ได้
Apple ยังเสริมระบบด้วย Tag Confidentiality Enforcement เพื่อป้องกันการเจาะแท็กผ่าน side-channel และ speculative execution เช่น Spectre V1 โดยใช้เทคนิคใหม่ที่ลดผลกระทบต่อประสิทธิภาพแทบเป็นศูนย์
นอกจากฮาร์ดแวร์ A19 และ A19 Pro ที่รองรับ MIE แล้ว Apple ยังเปิดให้ผู้พัฒนาใช้งาน EMTE ผ่าน Xcode เพื่อทดสอบแอปของตนภายใต้ระบบความปลอดภัยใหม่นี้ โดยครอบคลุมมากกว่า 70 โปรเซสในระดับผู้ใช้และเคอร์เนล
ฟีเจอร์ Memory Integrity Enforcement (MIE)
ป้องกันช่องโหว่ memory corruption เช่น buffer overflow และ use-after-free
ใช้ Enhanced Memory Tagging Extension (EMTE) แบบ synchronous
ทุกบล็อกหน่วยความจำมีแท็กลับที่ต้องตรงกันก่อนเข้าถึง
ระบบจะบล็อกทันทีหากแท็กไม่ตรง และปิดโปรเซสเพื่อความปลอดภัย
การออกแบบร่วมระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
ใช้ Apple Silicon A19 และ A19 Pro ที่มีพื้นที่เฉพาะสำหรับ MIE
ผสานกับ secure memory allocators เช่น kalloc_type, xzone malloc และ libpas
ป้องกันการโจมตีภายใน bucket หน่วยความจำที่ software ปกติป้องกันไม่ได้
ลด overhead ของการตรวจสอบแท็กให้เหลือน้อยที่สุด
การป้องกันขั้นสูง
ใช้ Tag Confidentiality Enforcement ป้องกันการเจาะแท็กผ่าน side-channel
มี mitigation สำหรับ Spectre V1 ที่แทบไม่มีผลต่อ CPU
ป้องกันการเข้าถึงหน่วยความจำที่ไม่มีแท็ก เช่น global variables
ใช้ Secure Page Table Monitor เพื่อป้องกันการเจาะเคอร์เนล
การใช้งานจริงและผลการทดสอบ
ทดสอบกับ exploit chains จริงจากมัลแวร์ระดับรัฐในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
พบว่า MIE ตัดขาดขั้นตอนสำคัญของการโจมตี ทำให้ไม่สามารถสร้าง chain ใหม่ได้
ระบบสามารถป้องกันได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการโจมตี
เปิดให้ผู้พัฒนาใช้งาน EMTE ผ่าน Enhanced Security ใน Xcode
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
Google เริ่มใช้ MTE ใน Pixel 8 แต่ยังไม่ใช่แบบ always-on และไม่ผสาน OS ลึกเท่า Apple
Microsoft มีระบบคล้ายกันใน Windows 11 แต่ยังไม่ครอบคลุมระดับเคอร์เนล
Apple เป็นรายแรกที่ใช้ PAC ใน A12 และพัฒนา EMTE ต่อเนื่อง
MIE ครอบคลุมมากกว่า 70 โปรเซสใน iOS 26 และ iPhone 17
https://security.apple.com/blog/memory-integrity-enforcement/
Apple ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า Memory Integrity Enforcement (MIE) บน iPhone 17 และ iPhone Air ซึ่งถือเป็นการอัปเกรดด้านความปลอดภัยของหน่วยความจำครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ระบบปฏิบัติการสำหรับผู้บริโภค โดยใช้เวลาพัฒนานานกว่า 5 ปี และผสานการทำงานระหว่างฮาร์ดแวร์ Apple Silicon กับระบบปฏิบัติการ iOS อย่างลึกซึ้ง
เป้าหมายของ MIE คือการป้องกันการโจมตีจากมัลแวร์ระดับสูง โดยเฉพาะ “mercenary spyware” เช่น Pegasus ที่มักถูกใช้โดยรัฐหรือองค์กรเพื่อเจาะระบบของบุคคลเป้าหมาย เช่น นักข่าว นักสิทธิมนุษยชน หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งการโจมตีเหล่านี้มักใช้ช่องโหว่ด้าน memory corruption เป็นหลัก
หัวใจของ MIE คือการใช้ Enhanced Memory Tagging Extension (EMTE) ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกับ Arm โดยทุกบล็อกหน่วยความจำจะถูกติด “แท็กลับ” และฮาร์ดแวร์จะตรวจสอบว่าโปรแกรมที่เข้าถึงหน่วยความจำนั้นมีแท็กตรงกันหรือไม่ ถ้าไม่ตรง ระบบจะบล็อกทันทีและปิดโปรเซส — ทำให้การโจมตีแบบ buffer overflow และ use-after-free แทบเป็นไปไม่ได้
Apple ยังเสริมระบบด้วย Tag Confidentiality Enforcement เพื่อป้องกันการเจาะแท็กผ่าน side-channel และ speculative execution เช่น Spectre V1 โดยใช้เทคนิคใหม่ที่ลดผลกระทบต่อประสิทธิภาพแทบเป็นศูนย์
นอกจากฮาร์ดแวร์ A19 และ A19 Pro ที่รองรับ MIE แล้ว Apple ยังเปิดให้ผู้พัฒนาใช้งาน EMTE ผ่าน Xcode เพื่อทดสอบแอปของตนภายใต้ระบบความปลอดภัยใหม่นี้ โดยครอบคลุมมากกว่า 70 โปรเซสในระดับผู้ใช้และเคอร์เนล
ฟีเจอร์ Memory Integrity Enforcement (MIE)
ป้องกันช่องโหว่ memory corruption เช่น buffer overflow และ use-after-free
ใช้ Enhanced Memory Tagging Extension (EMTE) แบบ synchronous
ทุกบล็อกหน่วยความจำมีแท็กลับที่ต้องตรงกันก่อนเข้าถึง
ระบบจะบล็อกทันทีหากแท็กไม่ตรง และปิดโปรเซสเพื่อความปลอดภัย
การออกแบบร่วมระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
ใช้ Apple Silicon A19 และ A19 Pro ที่มีพื้นที่เฉพาะสำหรับ MIE
ผสานกับ secure memory allocators เช่น kalloc_type, xzone malloc และ libpas
ป้องกันการโจมตีภายใน bucket หน่วยความจำที่ software ปกติป้องกันไม่ได้
ลด overhead ของการตรวจสอบแท็กให้เหลือน้อยที่สุด
การป้องกันขั้นสูง
ใช้ Tag Confidentiality Enforcement ป้องกันการเจาะแท็กผ่าน side-channel
มี mitigation สำหรับ Spectre V1 ที่แทบไม่มีผลต่อ CPU
ป้องกันการเข้าถึงหน่วยความจำที่ไม่มีแท็ก เช่น global variables
ใช้ Secure Page Table Monitor เพื่อป้องกันการเจาะเคอร์เนล
การใช้งานจริงและผลการทดสอบ
ทดสอบกับ exploit chains จริงจากมัลแวร์ระดับรัฐในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
พบว่า MIE ตัดขาดขั้นตอนสำคัญของการโจมตี ทำให้ไม่สามารถสร้าง chain ใหม่ได้
ระบบสามารถป้องกันได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการโจมตี
เปิดให้ผู้พัฒนาใช้งาน EMTE ผ่าน Enhanced Security ใน Xcode
ข้อมูลเสริมจากภายนอก
Google เริ่มใช้ MTE ใน Pixel 8 แต่ยังไม่ใช่แบบ always-on และไม่ผสาน OS ลึกเท่า Apple
Microsoft มีระบบคล้ายกันใน Windows 11 แต่ยังไม่ครอบคลุมระดับเคอร์เนล
Apple เป็นรายแรกที่ใช้ PAC ใน A12 และพัฒนา EMTE ต่อเนื่อง
MIE ครอบคลุมมากกว่า 70 โปรเซสใน iOS 26 และ iPhone 17
https://security.apple.com/blog/memory-integrity-enforcement/
🛡️ “Apple เปิดตัว Memory Integrity Enforcement บน iPhone 17 — ป้องกันมัลแวร์ระดับรัฐด้วยระบบความปลอดภัยหน่วยความจำที่ไม่เคยมีมาก่อน”
Apple ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า Memory Integrity Enforcement (MIE) บน iPhone 17 และ iPhone Air ซึ่งถือเป็นการอัปเกรดด้านความปลอดภัยของหน่วยความจำครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ระบบปฏิบัติการสำหรับผู้บริโภค โดยใช้เวลาพัฒนานานกว่า 5 ปี และผสานการทำงานระหว่างฮาร์ดแวร์ Apple Silicon กับระบบปฏิบัติการ iOS อย่างลึกซึ้ง
เป้าหมายของ MIE คือการป้องกันการโจมตีจากมัลแวร์ระดับสูง โดยเฉพาะ “mercenary spyware” เช่น Pegasus ที่มักถูกใช้โดยรัฐหรือองค์กรเพื่อเจาะระบบของบุคคลเป้าหมาย เช่น นักข่าว นักสิทธิมนุษยชน หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งการโจมตีเหล่านี้มักใช้ช่องโหว่ด้าน memory corruption เป็นหลัก
หัวใจของ MIE คือการใช้ Enhanced Memory Tagging Extension (EMTE) ซึ่งเป็นการพัฒนาร่วมกับ Arm โดยทุกบล็อกหน่วยความจำจะถูกติด “แท็กลับ” และฮาร์ดแวร์จะตรวจสอบว่าโปรแกรมที่เข้าถึงหน่วยความจำนั้นมีแท็กตรงกันหรือไม่ ถ้าไม่ตรง ระบบจะบล็อกทันทีและปิดโปรเซส — ทำให้การโจมตีแบบ buffer overflow และ use-after-free แทบเป็นไปไม่ได้
Apple ยังเสริมระบบด้วย Tag Confidentiality Enforcement เพื่อป้องกันการเจาะแท็กผ่าน side-channel และ speculative execution เช่น Spectre V1 โดยใช้เทคนิคใหม่ที่ลดผลกระทบต่อประสิทธิภาพแทบเป็นศูนย์
นอกจากฮาร์ดแวร์ A19 และ A19 Pro ที่รองรับ MIE แล้ว Apple ยังเปิดให้ผู้พัฒนาใช้งาน EMTE ผ่าน Xcode เพื่อทดสอบแอปของตนภายใต้ระบบความปลอดภัยใหม่นี้ โดยครอบคลุมมากกว่า 70 โปรเซสในระดับผู้ใช้และเคอร์เนล
✅ ฟีเจอร์ Memory Integrity Enforcement (MIE)
➡️ ป้องกันช่องโหว่ memory corruption เช่น buffer overflow และ use-after-free
➡️ ใช้ Enhanced Memory Tagging Extension (EMTE) แบบ synchronous
➡️ ทุกบล็อกหน่วยความจำมีแท็กลับที่ต้องตรงกันก่อนเข้าถึง
➡️ ระบบจะบล็อกทันทีหากแท็กไม่ตรง และปิดโปรเซสเพื่อความปลอดภัย
✅ การออกแบบร่วมระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
➡️ ใช้ Apple Silicon A19 และ A19 Pro ที่มีพื้นที่เฉพาะสำหรับ MIE
➡️ ผสานกับ secure memory allocators เช่น kalloc_type, xzone malloc และ libpas
➡️ ป้องกันการโจมตีภายใน bucket หน่วยความจำที่ software ปกติป้องกันไม่ได้
➡️ ลด overhead ของการตรวจสอบแท็กให้เหลือน้อยที่สุด
✅ การป้องกันขั้นสูง
➡️ ใช้ Tag Confidentiality Enforcement ป้องกันการเจาะแท็กผ่าน side-channel
➡️ มี mitigation สำหรับ Spectre V1 ที่แทบไม่มีผลต่อ CPU
➡️ ป้องกันการเข้าถึงหน่วยความจำที่ไม่มีแท็ก เช่น global variables
➡️ ใช้ Secure Page Table Monitor เพื่อป้องกันการเจาะเคอร์เนล
✅ การใช้งานจริงและผลการทดสอบ
➡️ ทดสอบกับ exploit chains จริงจากมัลแวร์ระดับรัฐในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
➡️ พบว่า MIE ตัดขาดขั้นตอนสำคัญของการโจมตี ทำให้ไม่สามารถสร้าง chain ใหม่ได้
➡️ ระบบสามารถป้องกันได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการโจมตี
➡️ เปิดให้ผู้พัฒนาใช้งาน EMTE ผ่าน Enhanced Security ใน Xcode
✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก
➡️ Google เริ่มใช้ MTE ใน Pixel 8 แต่ยังไม่ใช่แบบ always-on และไม่ผสาน OS ลึกเท่า Apple
➡️ Microsoft มีระบบคล้ายกันใน Windows 11 แต่ยังไม่ครอบคลุมระดับเคอร์เนล
➡️ Apple เป็นรายแรกที่ใช้ PAC ใน A12 และพัฒนา EMTE ต่อเนื่อง
➡️ MIE ครอบคลุมมากกว่า 70 โปรเซสใน iOS 26 และ iPhone 17
https://security.apple.com/blog/memory-integrity-enforcement/
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
66 มุมมอง
0 รีวิว