• เขมรปั้นหน้าเล่นบทเหยื่อ ประณามไทยกลาง IPU : [NEWS UPDATE]
    นาย อุช โบฤทธิ์ รองประธานวุฒิสภา ในฐานะผู้แทนรัฐสภากัมพูชา กล่าวในการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา(IPU) ที่สวิตเซอร์แลนด์ จากก่อนหน้านี้ไม่ปรากฏตัวในห้องประชุมต่างๆ ตลอด 2 วัน โดยกล่าวถึงปัญหาพิพาทไทย-กัมพูชา อ้างถูกละเมิดมนุษยธรรมรุนแรง กัมพูชาไม่คิดเป็นศัตรูกับใคร ขอประเทศไทยทราบเรื่องนี้ มี MOU 2543 เรื่องเขตแดน แต่ชาวบ้านกัมพูชาถูกปิดล้อม ถูกดดันให้ออกจากพื้นที่ ทหารกัมพูชา 18 คน ยังถูกคุมตัว ปฏิบัติการจิตวิทยาปล่อยเสียงแหลมดังเวลากลางคืน ทำให้ชาวกัมพูชาหวาดกลัว ย้ำ กัมพูชาเคารพข้อตกลงหยุดยิง กฎหมายระหว่างประเทศ และสนธิสัญญาทุกฉบับ ทั้งนี้ รองประธานวุฒิสภากัมพูชาพูดเกินเวลามาก ทั้งที่มีแสงไฟเตือนถี่ๆ หลายรอบ ประธานการประชุมเตือนหลายครั้ง แต่ไม่สนใจพูดจนจบเนื้อหาที่เตรียมมา จนสมาชิกชาติอื่นส่งเสียงไม่พอใจ ประธานควบคุมเวทีตำหนิไม่เคารพเวลากระทบชาติอื่น


    จับมือสหรัฐฯปราบสแกมเมอร์

    รื้อโกดัง"กำนันลี"

    เร่งเบิกจ่ายงบ 4.37 ล้านล้าน
    เขมรปั้นหน้าเล่นบทเหยื่อ ประณามไทยกลาง IPU : [NEWS UPDATE] นาย อุช โบฤทธิ์ รองประธานวุฒิสภา ในฐานะผู้แทนรัฐสภากัมพูชา กล่าวในการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา(IPU) ที่สวิตเซอร์แลนด์ จากก่อนหน้านี้ไม่ปรากฏตัวในห้องประชุมต่างๆ ตลอด 2 วัน โดยกล่าวถึงปัญหาพิพาทไทย-กัมพูชา อ้างถูกละเมิดมนุษยธรรมรุนแรง กัมพูชาไม่คิดเป็นศัตรูกับใคร ขอประเทศไทยทราบเรื่องนี้ มี MOU 2543 เรื่องเขตแดน แต่ชาวบ้านกัมพูชาถูกปิดล้อม ถูกดดันให้ออกจากพื้นที่ ทหารกัมพูชา 18 คน ยังถูกคุมตัว ปฏิบัติการจิตวิทยาปล่อยเสียงแหลมดังเวลากลางคืน ทำให้ชาวกัมพูชาหวาดกลัว ย้ำ กัมพูชาเคารพข้อตกลงหยุดยิง กฎหมายระหว่างประเทศ และสนธิสัญญาทุกฉบับ ทั้งนี้ รองประธานวุฒิสภากัมพูชาพูดเกินเวลามาก ทั้งที่มีแสงไฟเตือนถี่ๆ หลายรอบ ประธานการประชุมเตือนหลายครั้ง แต่ไม่สนใจพูดจนจบเนื้อหาที่เตรียมมา จนสมาชิกชาติอื่นส่งเสียงไม่พอใจ ประธานควบคุมเวทีตำหนิไม่เคารพเวลากระทบชาติอื่น จับมือสหรัฐฯปราบสแกมเมอร์ รื้อโกดัง"กำนันลี" เร่งเบิกจ่ายงบ 4.37 ล้านล้าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • “Nvidia จับมือ ABB” — เปิดตัวระบบไฟฟ้า 800V DC สำหรับศูนย์ข้อมูลยุคใหม่ระดับกิกะวัตต์

    Nvidia ประกาศความร่วมมือกับ ABB บริษัทอุตสาหกรรมระดับโลกจากสวีเดน-สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบไฟฟ้า 800V DC สำหรับแร็คเซิร์ฟเวอร์ขนาด 1 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญของศูนย์ข้อมูล AI ขนาดใหญ่ในอนาคต

    การใช้ระบบไฟฟ้า 800V DC ถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนวัสดุ และรองรับการจ่ายไฟในระดับสูงได้มากขึ้น โดย Nvidia ตั้งเป้าสร้างศูนย์ข้อมูลระดับกิกะวัตต์ ซึ่งต้องใช้แร็คเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากที่กินไฟระดับเมกะวัตต์ต่อแร็ค

    ABB ระบุว่าได้พัฒนาอุปกรณ์รองรับระบบ 800V DC สำหรับศูนย์ข้อมูล AI รุ่นใหม่แล้ว และยกตัวอย่างจากระบบไฟฟ้าในเรือเดินสมุทรที่ใช้ 1,000V DC ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 20–40% และลดค่าบำรุงรักษา 30%

    ระบบใหม่นี้จะเปลี่ยนจากการใช้ไฟฟ้า AC ที่ต้องแปลงหลายขั้นตอน มาเป็นการจ่ายไฟ DC โดยตรงจากห้องจ่ายไฟไปยังแร็คเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งช่วยลดการสูญเสียพลังงานและลดขนาดอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในระบบเดิม

    การเปลี่ยนไปใช้ไฟฟ้าแรงดันสูงแบบ DC ยังช่วยลดขนาดสายไฟและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ทำให้การออกแบบศูนย์ข้อมูลมีความยืดหยุ่นและประหยัดมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ศูนย์ข้อมูล AI ต้องรองรับการประมวลผลมหาศาล

    ข้อมูลในข่าว
    Nvidia ร่วมมือกับ ABB พัฒนาโครงสร้างไฟฟ้า 800V DC สำหรับแร็คเซิร์ฟเวอร์ขนาด 1 เมกะวัตต์
    ระบบใหม่นี้จะใช้ในศูนย์ข้อมูล AI ขนาดกิกะวัตต์ในอนาคต
    ABB พัฒนาอุปกรณ์รองรับระบบ 800V DC แล้ว
    ระบบ DC ช่วยลดการสูญเสียพลังงานและลดต้นทุนวัสดุ
    ตัวอย่างจากเรือเดินสมุทรที่ใช้ 1,000V DC ลดพลังงาน 20–40% และค่าบำรุงรักษา 30%
    การจ่ายไฟ DC โดยตรงช่วยลดขั้นตอนการแปลงไฟฟ้าและขนาดอุปกรณ์
    การใช้แรงดันสูงช่วยลดขนาดสายไฟและอุปกรณ์ ทำให้ศูนย์ข้อมูลออกแบบได้ง่ายขึ้น

    คำเตือนจากข้อมูลข่าว
    การเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบไฟฟ้า DC ต้องใช้การออกแบบใหม่และอุปกรณ์เฉพาะ
    หากไม่มีการป้องกันกระแสไฟฟ้าอย่างเหมาะสม อาจเกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์
    ศูนย์ข้อมูลที่ยังใช้ระบบเดิมอาจเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นและประสิทธิภาพต่ำกว่า
    การเปลี่ยนระบบไฟฟ้าในระดับเมกะวัตต์ต้องผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/nvidia-800-vdc-power-rollout-for-1-megawatt-server-racks-to-be-supported-by-abb-company-says-collaboration-will-create-new-power-solutions-for-future-gigawatt-scale-data-centers
    ⚡ “Nvidia จับมือ ABB” — เปิดตัวระบบไฟฟ้า 800V DC สำหรับศูนย์ข้อมูลยุคใหม่ระดับกิกะวัตต์ Nvidia ประกาศความร่วมมือกับ ABB บริษัทอุตสาหกรรมระดับโลกจากสวีเดน-สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบไฟฟ้า 800V DC สำหรับแร็คเซิร์ฟเวอร์ขนาด 1 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญของศูนย์ข้อมูล AI ขนาดใหญ่ในอนาคต การใช้ระบบไฟฟ้า 800V DC ถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนวัสดุ และรองรับการจ่ายไฟในระดับสูงได้มากขึ้น โดย Nvidia ตั้งเป้าสร้างศูนย์ข้อมูลระดับกิกะวัตต์ ซึ่งต้องใช้แร็คเซิร์ฟเวอร์จำนวนมากที่กินไฟระดับเมกะวัตต์ต่อแร็ค ABB ระบุว่าได้พัฒนาอุปกรณ์รองรับระบบ 800V DC สำหรับศูนย์ข้อมูล AI รุ่นใหม่แล้ว และยกตัวอย่างจากระบบไฟฟ้าในเรือเดินสมุทรที่ใช้ 1,000V DC ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานได้ถึง 20–40% และลดค่าบำรุงรักษา 30% ระบบใหม่นี้จะเปลี่ยนจากการใช้ไฟฟ้า AC ที่ต้องแปลงหลายขั้นตอน มาเป็นการจ่ายไฟ DC โดยตรงจากห้องจ่ายไฟไปยังแร็คเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งช่วยลดการสูญเสียพลังงานและลดขนาดอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในระบบเดิม การเปลี่ยนไปใช้ไฟฟ้าแรงดันสูงแบบ DC ยังช่วยลดขนาดสายไฟและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ทำให้การออกแบบศูนย์ข้อมูลมีความยืดหยุ่นและประหยัดมากขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ศูนย์ข้อมูล AI ต้องรองรับการประมวลผลมหาศาล ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Nvidia ร่วมมือกับ ABB พัฒนาโครงสร้างไฟฟ้า 800V DC สำหรับแร็คเซิร์ฟเวอร์ขนาด 1 เมกะวัตต์ ➡️ ระบบใหม่นี้จะใช้ในศูนย์ข้อมูล AI ขนาดกิกะวัตต์ในอนาคต ➡️ ABB พัฒนาอุปกรณ์รองรับระบบ 800V DC แล้ว ➡️ ระบบ DC ช่วยลดการสูญเสียพลังงานและลดต้นทุนวัสดุ ➡️ ตัวอย่างจากเรือเดินสมุทรที่ใช้ 1,000V DC ลดพลังงาน 20–40% และค่าบำรุงรักษา 30% ➡️ การจ่ายไฟ DC โดยตรงช่วยลดขั้นตอนการแปลงไฟฟ้าและขนาดอุปกรณ์ ➡️ การใช้แรงดันสูงช่วยลดขนาดสายไฟและอุปกรณ์ ทำให้ศูนย์ข้อมูลออกแบบได้ง่ายขึ้น ‼️ คำเตือนจากข้อมูลข่าว ⛔ การเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบไฟฟ้า DC ต้องใช้การออกแบบใหม่และอุปกรณ์เฉพาะ ⛔ หากไม่มีการป้องกันกระแสไฟฟ้าอย่างเหมาะสม อาจเกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ ⛔ ศูนย์ข้อมูลที่ยังใช้ระบบเดิมอาจเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นและประสิทธิภาพต่ำกว่า ⛔ การเปลี่ยนระบบไฟฟ้าในระดับเมกะวัตต์ต้องผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างเข้มงวด https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/nvidia-800-vdc-power-rollout-for-1-megawatt-server-racks-to-be-supported-by-abb-company-says-collaboration-will-create-new-power-solutions-for-future-gigawatt-scale-data-centers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แผงโซลาร์เซลล์อายุยืนกว่าที่คิด! งานวิจัยใหม่เผยอายุการใช้งานทะลุ 30 ปี”

    หากคุณกำลังลังเลว่าจะติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ดีหรือไม่ หนึ่งในคำถามสำคัญคือ “มันจะอยู่ได้นานแค่ไหน?” ล่าสุดมีงานวิจัยจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่อาจเปลี่ยนความคิดคุณไปเลย เพราะผลการศึกษาพบว่า แผงโซลาร์เซลล์สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าที่อุตสาหกรรมเคยประเมินไว้มาก

    งานวิจัยนี้ตีพิมพ์ในวารสาร EES Solar โดยติดตามประสิทธิภาพของแผงโซลาร์เซลล์ 6 ระบบในพื้นที่ต่างกันทั่วสวิตเซอร์แลนด์เป็นเวลากว่า 30 ปี พบว่าอัตราการเสื่อมสภาพเฉลี่ยเพียง 0.24% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าค่าประมาณเดิมที่อยู่ระหว่าง 0.75%-1% ต่อปีอย่างมาก นั่นหมายความว่าแผงส่วนใหญ่ยังคงรักษาประสิทธิภาพได้มากกว่า 80% แม้ผ่านไป 3 ทศวรรษ

    ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานไม่ใช่แค่สภาพแวดล้อม แต่คือคุณภาพวัสดุที่ใช้ผลิต หรือที่เรียกว่า BOM (Bill of Materials) โดยแผงที่ใช้วัสดุคุณภาพสูงแม้จะมีต้นทุนติดตั้งสูง แต่กลับให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าในระยะยาว

    อย่างไรก็ตาม งานวิจัยยังเตือนว่าแผงรุ่นใหม่ในตลาดปัจจุบันอาจไม่ได้ใช้วัสดุคุณภาพสูงเท่าเดิม เพราะผู้ผลิตเน้นลดต้นทุนมากกว่าความทนทาน และยังไม่มีข้อมูลระยะยาวเพียงพอที่จะประเมินอายุการใช้งานของแผงรุ่นใหม่เหล่านี้

    ผลการศึกษาจากสวิตเซอร์แลนด์
    ติดตามแผงโซลาร์เซลล์ 6 ระบบนานกว่า 30 ปี
    อัตราการเสื่อมสภาพเฉลี่ยเพียง 0.24% ต่อปี
    แผงยังคงประสิทธิภาพมากกว่า 80% หลังใช้งาน 30-35 ปี

    ปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุการใช้งาน
    แผงในพื้นที่สูงเสื่อมช้ากว่าพื้นที่ต่ำ เพราะความเครียดจากความร้อนน้อยกว่า
    คุณภาพวัสดุ (BOM) เป็นตัวแปรสำคัญที่สุด
    แผงที่ใช้วัสดุคุณภาพสูงมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    BOM คือรายการวัสดุทั้งหมดที่ใช้ในการผลิตสินค้า
    แผงโซลาร์เซลล์ทั่วไปมีอายุการรับประกันประมาณ 25 ปี
    การเสื่อมสภาพของแผงเกิดจากความร้อน, รังสี UV, ความชื้น และแรงดันไฟฟ้า

    คำเตือนจากงานวิจัย
    แผงรุ่นใหม่อาจมีอายุการใช้งานสั้นกว่ารุ่นเก่า เพราะเน้นลดต้นทุน
    ยังไม่มีข้อมูลระยะยาวเพียงพอสำหรับแผงรุ่นใหม่
    ปัจจัยภายนอก เช่น สภาพอากาศรุนแรงหรือเศษวัสดุตกใส่ อาจทำให้แผงเสียหายก่อนเวลา
    ไม่สามารถให้คำตอบชัดเจนว่าแผงรุ่นใหม่จะอยู่ได้นานแค่ไหน

    https://www.slashgear.com/1989112/solar-panel-lifespan-longer-new-study/
    🌞 “แผงโซลาร์เซลล์อายุยืนกว่าที่คิด! งานวิจัยใหม่เผยอายุการใช้งานทะลุ 30 ปี” หากคุณกำลังลังเลว่าจะติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ดีหรือไม่ หนึ่งในคำถามสำคัญคือ “มันจะอยู่ได้นานแค่ไหน?” ล่าสุดมีงานวิจัยจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่อาจเปลี่ยนความคิดคุณไปเลย เพราะผลการศึกษาพบว่า แผงโซลาร์เซลล์สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าที่อุตสาหกรรมเคยประเมินไว้มาก งานวิจัยนี้ตีพิมพ์ในวารสาร EES Solar โดยติดตามประสิทธิภาพของแผงโซลาร์เซลล์ 6 ระบบในพื้นที่ต่างกันทั่วสวิตเซอร์แลนด์เป็นเวลากว่า 30 ปี พบว่าอัตราการเสื่อมสภาพเฉลี่ยเพียง 0.24% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าค่าประมาณเดิมที่อยู่ระหว่าง 0.75%-1% ต่อปีอย่างมาก นั่นหมายความว่าแผงส่วนใหญ่ยังคงรักษาประสิทธิภาพได้มากกว่า 80% แม้ผ่านไป 3 ทศวรรษ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานไม่ใช่แค่สภาพแวดล้อม แต่คือคุณภาพวัสดุที่ใช้ผลิต หรือที่เรียกว่า BOM (Bill of Materials) โดยแผงที่ใช้วัสดุคุณภาพสูงแม้จะมีต้นทุนติดตั้งสูง แต่กลับให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าในระยะยาว อย่างไรก็ตาม งานวิจัยยังเตือนว่าแผงรุ่นใหม่ในตลาดปัจจุบันอาจไม่ได้ใช้วัสดุคุณภาพสูงเท่าเดิม เพราะผู้ผลิตเน้นลดต้นทุนมากกว่าความทนทาน และยังไม่มีข้อมูลระยะยาวเพียงพอที่จะประเมินอายุการใช้งานของแผงรุ่นใหม่เหล่านี้ ✅ ผลการศึกษาจากสวิตเซอร์แลนด์ ➡️ ติดตามแผงโซลาร์เซลล์ 6 ระบบนานกว่า 30 ปี ➡️ อัตราการเสื่อมสภาพเฉลี่ยเพียง 0.24% ต่อปี ➡️ แผงยังคงประสิทธิภาพมากกว่า 80% หลังใช้งาน 30-35 ปี ✅ ปัจจัยที่ส่งผลต่ออายุการใช้งาน ➡️ แผงในพื้นที่สูงเสื่อมช้ากว่าพื้นที่ต่ำ เพราะความเครียดจากความร้อนน้อยกว่า ➡️ คุณภาพวัสดุ (BOM) เป็นตัวแปรสำคัญที่สุด ➡️ แผงที่ใช้วัสดุคุณภาพสูงมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ BOM คือรายการวัสดุทั้งหมดที่ใช้ในการผลิตสินค้า ➡️ แผงโซลาร์เซลล์ทั่วไปมีอายุการรับประกันประมาณ 25 ปี ➡️ การเสื่อมสภาพของแผงเกิดจากความร้อน, รังสี UV, ความชื้น และแรงดันไฟฟ้า ‼️ คำเตือนจากงานวิจัย ⛔ แผงรุ่นใหม่อาจมีอายุการใช้งานสั้นกว่ารุ่นเก่า เพราะเน้นลดต้นทุน ⛔ ยังไม่มีข้อมูลระยะยาวเพียงพอสำหรับแผงรุ่นใหม่ ⛔ ปัจจัยภายนอก เช่น สภาพอากาศรุนแรงหรือเศษวัสดุตกใส่ อาจทำให้แผงเสียหายก่อนเวลา ⛔ ไม่สามารถให้คำตอบชัดเจนว่าแผงรุ่นใหม่จะอยู่ได้นานแค่ไหน https://www.slashgear.com/1989112/solar-panel-lifespan-longer-new-study/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    New Study Suggests Solar Panels Could Last Even Longer Than We Thought - SlashGear
    The latest research from Switzerland show that high-quality solar panels constructed in the 1980s and 1990s are still performing well today.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: “แดเนียล คาห์เนมัน” นักจิตวิทยาเจ้าของรางวัลโนเบล เลือกจบชีวิตอย่างสงบในสวิตเซอร์แลนด์

    ในวันที่ 27 มีนาคม 2024 โลกต้องสูญเสียหนึ่งในนักคิดผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในยุคสมัย ดร.แดเนียล คาห์เนมัน นักจิตวิทยาเชิงพฤติกรรมและเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ปี 2002 ได้เลือกจบชีวิตด้วยการทำการุณยฆาตในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขณะมีอายุ 90 ปี

    เรื่องราวของเขาไม่ได้จบลงด้วยความเศร้า หากแต่เป็นการตัดสินใจที่สะท้อนถึงความเข้าใจชีวิตอย่างลึกซึ้ง เขาใช้เวลาช่วงสุดท้ายในกรุงปารีสกับครอบครัว เดินเล่น ชมบัลเลต์ และลิ้มรสช็อกโกแลตมูสอย่างมีความสุข ก่อนจะส่งอีเมลอำลาเพื่อนสนิท แล้วเดินทางไปซูริกเพื่อจบชีวิตอย่างสงบ

    แม้เขาจะไม่ได้ป่วยหนักหรือเป็นโรคร้ายแรง แต่เขาเริ่มรู้สึกถึงความเสื่อมถอยของร่างกายและจิตใจ และไม่ต้องการเผชิญกับความทรมานหรือการสูญเสียอัตลักษณ์แบบที่คนใกล้ตัวเคยประสบ เขาเลือกที่จะรักษาความเป็นตัวเองไว้จนวาระสุดท้าย

    การตัดสินใจของคาห์เนมันจุดประกายให้สังคมหันกลับมาคิดถึงเรื่องสิทธิในการเลือกจบชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี ซึ่งเป็นประเด็นที่ยังถกเถียงกันในหลายประเทศ โดยเฉพาะในแง่จริยธรรม กฎหมาย และความเชื่อทางศาสนา

    สรุปเนื้อหาจากข่าวและข้อมูลเพิ่มเติม
    ชีวิตและการตัดสินใจของแดเนียล คาห์เนมัน
    เขาเป็นนักจิตวิทยาเชิงพฤติกรรมที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 2002
    เลือกจบชีวิตด้วยการทำการุณยฆาตในสวิตเซอร์แลนด์เมื่ออายุ 90 ปี
    ใช้เวลาสุดท้ายในปารีสกับครอบครัวอย่างสงบและมีความสุข
    ส่งอีเมลอำลาเพื่อนสนิทก่อนเดินทางไปซูริก
    ต้องการหลีกเลี่ยงความเสื่อมถอยทางร่างกายและจิตใจ
    เคยสูญเสียคนใกล้ตัวจากภาวะสมองเสื่อมและโรคร้ายแรง
    ต้องการรักษาความเป็นตัวเองและความสง่างามจนวาระสุดท้าย
    ไม่ต้องการให้การตัดสินใจของเขากลายเป็นประเด็นถกเถียงในสาธารณะ

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการุณยฆาต
    สวิตเซอร์แลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่อนุญาตให้ทำการุณยฆาตอย่างถูกกฎหมาย
    ต้องผ่านการประเมินจากแพทย์และจิตแพทย์อย่างเข้มงวด
    ผู้ป่วยต้องมีสติสัมปชัญญะและตัดสินใจด้วยตัวเอง
    มีองค์กรเช่น Dignitas และ Exit ที่ให้บริการด้านนี้
    หลายประเทศยังคงห้ามหรือจำกัดการทำการุณยฆาต เช่น สหรัฐอเมริกา (บางรัฐ), ญี่ปุ่น, ไทย

    คำเตือนเกี่ยวกับการตัดสินใจจบชีวิต
    การทำการุณยฆาตไม่ใช่ทางออกสำหรับภาวะซึมเศร้าหรือความสิ้นหวัง
    ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตก่อนตัดสินใจใดๆ
    การสูญเสียคนรักอาจกระทบจิตใจอย่างรุนแรง ต้องได้รับการดูแล
    การตัดสินใจจบชีวิตควรเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ควรถูกกดดันจากสังคมหรือครอบครัว
    มีบริการสายด่วนและองค์กรช่วยเหลือผู้ที่มีความคิดฆ่าตัวตาย เช่น สายด่วน 143 และ 147 ในสวิตเซอร์แลนด์

    หากคุณหรือคนใกล้ตัวกำลังเผชิญกับความทุกข์ใจ โปรดอย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญหรือองค์กรที่พร้อมรับฟังและช่วยเหลือคุณอย่างจริงใจ.

    https://www.bluewin.ch/en/entertainment/nobel-prize-winner-opts-for-suicide-in-switzerland-2619460.html
    หัวข้อข่าว: “แดเนียล คาห์เนมัน” นักจิตวิทยาเจ้าของรางวัลโนเบล เลือกจบชีวิตอย่างสงบในสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 27 มีนาคม 2024 โลกต้องสูญเสียหนึ่งในนักคิดผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในยุคสมัย ดร.แดเนียล คาห์เนมัน นักจิตวิทยาเชิงพฤติกรรมและเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ปี 2002 ได้เลือกจบชีวิตด้วยการทำการุณยฆาตในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ขณะมีอายุ 90 ปี เรื่องราวของเขาไม่ได้จบลงด้วยความเศร้า หากแต่เป็นการตัดสินใจที่สะท้อนถึงความเข้าใจชีวิตอย่างลึกซึ้ง เขาใช้เวลาช่วงสุดท้ายในกรุงปารีสกับครอบครัว เดินเล่น ชมบัลเลต์ และลิ้มรสช็อกโกแลตมูสอย่างมีความสุข ก่อนจะส่งอีเมลอำลาเพื่อนสนิท แล้วเดินทางไปซูริกเพื่อจบชีวิตอย่างสงบ แม้เขาจะไม่ได้ป่วยหนักหรือเป็นโรคร้ายแรง แต่เขาเริ่มรู้สึกถึงความเสื่อมถอยของร่างกายและจิตใจ และไม่ต้องการเผชิญกับความทรมานหรือการสูญเสียอัตลักษณ์แบบที่คนใกล้ตัวเคยประสบ เขาเลือกที่จะรักษาความเป็นตัวเองไว้จนวาระสุดท้าย การตัดสินใจของคาห์เนมันจุดประกายให้สังคมหันกลับมาคิดถึงเรื่องสิทธิในการเลือกจบชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี ซึ่งเป็นประเด็นที่ยังถกเถียงกันในหลายประเทศ โดยเฉพาะในแง่จริยธรรม กฎหมาย และความเชื่อทางศาสนา สรุปเนื้อหาจากข่าวและข้อมูลเพิ่มเติม ✅ ชีวิตและการตัดสินใจของแดเนียล คาห์เนมัน ➡️ เขาเป็นนักจิตวิทยาเชิงพฤติกรรมที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 2002 ➡️ เลือกจบชีวิตด้วยการทำการุณยฆาตในสวิตเซอร์แลนด์เมื่ออายุ 90 ปี ➡️ ใช้เวลาสุดท้ายในปารีสกับครอบครัวอย่างสงบและมีความสุข ➡️ ส่งอีเมลอำลาเพื่อนสนิทก่อนเดินทางไปซูริก ➡️ ต้องการหลีกเลี่ยงความเสื่อมถอยทางร่างกายและจิตใจ ➡️ เคยสูญเสียคนใกล้ตัวจากภาวะสมองเสื่อมและโรคร้ายแรง ➡️ ต้องการรักษาความเป็นตัวเองและความสง่างามจนวาระสุดท้าย ➡️ ไม่ต้องการให้การตัดสินใจของเขากลายเป็นประเด็นถกเถียงในสาธารณะ ✅ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการุณยฆาต ➡️ สวิตเซอร์แลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่อนุญาตให้ทำการุณยฆาตอย่างถูกกฎหมาย ➡️ ต้องผ่านการประเมินจากแพทย์และจิตแพทย์อย่างเข้มงวด ➡️ ผู้ป่วยต้องมีสติสัมปชัญญะและตัดสินใจด้วยตัวเอง ➡️ มีองค์กรเช่น Dignitas และ Exit ที่ให้บริการด้านนี้ ➡️ หลายประเทศยังคงห้ามหรือจำกัดการทำการุณยฆาต เช่น สหรัฐอเมริกา (บางรัฐ), ญี่ปุ่น, ไทย ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับการตัดสินใจจบชีวิต ⛔ การทำการุณยฆาตไม่ใช่ทางออกสำหรับภาวะซึมเศร้าหรือความสิ้นหวัง ⛔ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตก่อนตัดสินใจใดๆ ⛔ การสูญเสียคนรักอาจกระทบจิตใจอย่างรุนแรง ต้องได้รับการดูแล ⛔ การตัดสินใจจบชีวิตควรเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ควรถูกกดดันจากสังคมหรือครอบครัว ⛔ มีบริการสายด่วนและองค์กรช่วยเหลือผู้ที่มีความคิดฆ่าตัวตาย เช่น สายด่วน 143 และ 147 ในสวิตเซอร์แลนด์ หากคุณหรือคนใกล้ตัวกำลังเผชิญกับความทุกข์ใจ โปรดอย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญหรือองค์กรที่พร้อมรับฟังและช่วยเหลือคุณอย่างจริงใจ. https://www.bluewin.ch/en/entertainment/nobel-prize-winner-opts-for-suicide-in-switzerland-2619460.html
    WWW.BLUEWIN.CH
    Nobel Prize winner opts for suicide in Switzerland
    At the age of 90, Nobel Prize winner Daniel Kahneman has decided to die by his own hand in Switzerland. He spent his last days in Paris - conscious, fulfilled and quiet.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • “FinalSpark เปิดห้องแล็บในสวิตเซอร์แลนด์ พัฒนาคอมพิวเตอร์จากสมองมนุษย์จิ๋ว — เมื่อชีววิทยากลายเป็นฮาร์ดแวร์แห่งอนาคต”

    BBC ได้เปิดเผยรายงานพิเศษจากห้องแล็บของ FinalSpark บริษัทสตาร์ทอัพในสวิตเซอร์แลนด์ที่กำลังพัฒนา “biocomputer” หรือคอมพิวเตอร์ที่ใช้สมองมนุษย์ขนาดจิ๋วเป็นหน่วยประมวลผล โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า “wetware” ซึ่งต่างจากฮาร์ดแวร์ทั่วไปตรงที่ใช้เซลล์ประสาทจริง ๆ ในการทำงาน

    นักวิจัยของ FinalSpark ได้สร้าง “organoids” หรือสมองจิ๋วจากเซลล์ผิวหนังที่ถูกเปลี่ยนเป็นเซลล์ต้นกำเนิด (stem cells) แล้วนำไปเพาะเลี้ยงให้กลายเป็นกลุ่มเซลล์ประสาทที่มีโครงสร้างคล้ายสมองมนุษย์ โดยวางไว้บนแผงอิเล็กโทรดที่สามารถส่งสัญญาณไฟฟ้าเข้าไป และตรวจจับการตอบสนองของเซลล์ได้แบบ EEG

    แม้จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ระบบนี้สามารถตอบสนองต่อคำสั่งง่าย ๆ เช่นการกดปุ่มบนคีย์บอร์ด แล้วดูการตอบสนองของสมองจิ๋วผ่านกราฟไฟฟ้า ซึ่งบางครั้งมีการตอบสนองแบบ “ระเบิดพลัง” ก่อนที่เซลล์จะตายลงในเวลาไม่กี่วินาที

    นักวิจัยยืนยันว่า organoids เหล่านี้ไม่ใช่สมองที่มีจิตสำนึก แต่เป็นเพียงโครงสร้างเซลล์ที่ใช้ในการทดลอง โดยมีอายุการใช้งานประมาณ 4 เดือน และยังไม่สามารถเลียนแบบระบบหล่อเลี้ยงด้วยเลือดแบบสมองจริงได้

    FinalSpark เปิดให้เข้าถึงระบบ bioprocessor แบบออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยคิดค่าบริการเริ่มต้นที่ $500 ต่อเดือน เพื่อให้นักวิจัยทั่วโลกสามารถทดลองและพัฒนาเทคโนโลยี biocomputing ได้จากระยะไกล

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    FinalSpark พัฒนาคอมพิวเตอร์จากสมองมนุษย์จิ๋วในห้องแล็บสวิตเซอร์แลนด์
    ใช้ organoids ที่สร้างจากเซลล์ผิวหนังเปลี่ยนเป็น stem cells แล้วเพาะเลี้ยงเป็นเซลล์ประสาท
    วาง organoids บนแผงอิเล็กโทรดเพื่อส่งสัญญาณและตรวจจับการตอบสนอง
    ระบบสามารถตอบสนองต่อคำสั่งง่าย ๆ เช่นการกดปุ่มบนคีย์บอร์ด
    อายุการใช้งานของ organoids อยู่ที่ประมาณ 4 เดือน
    FinalSpark เปิดให้เข้าถึง bioprocessor แบบออนไลน์ในราคาเริ่มต้น $500/เดือน
    นักวิจัยสามารถทดลองผ่านระบบระยะไกลได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า organoids ไม่มีจิตสำนึกหรือความรู้สึก

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Biocomputing เป็นแนวคิดที่ใช้ระบบชีวภาพแทนชิปซิลิคอนในการประมวลผล
    สมองมนุษย์ใช้พลังงานเพียง 20 วัตต์ในการควบคุมเซลล์ประสาทกว่า 86 พันล้านเซลล์
    Bioprocessor ของ FinalSpark ใช้พลังงานน้อยกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปถึงล้านเท่า
    นักวิจัยจาก Johns Hopkins และ Imperial College ก็พัฒนา organoids เพื่อศึกษาการเรียนรู้
    ระบบ wetware อาจช่วยลดการใช้พลังงานของอุตสาหกรรม AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/swiss-lab-where-researchers-are-working-to-create-computers-powered-by-mini-human-brains-revealed-in-new-report-mini-brain-organoids-revealed-developers-say-we-shouldnt-be-scared-of-them
    🧠 “FinalSpark เปิดห้องแล็บในสวิตเซอร์แลนด์ พัฒนาคอมพิวเตอร์จากสมองมนุษย์จิ๋ว — เมื่อชีววิทยากลายเป็นฮาร์ดแวร์แห่งอนาคต” BBC ได้เปิดเผยรายงานพิเศษจากห้องแล็บของ FinalSpark บริษัทสตาร์ทอัพในสวิตเซอร์แลนด์ที่กำลังพัฒนา “biocomputer” หรือคอมพิวเตอร์ที่ใช้สมองมนุษย์ขนาดจิ๋วเป็นหน่วยประมวลผล โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า “wetware” ซึ่งต่างจากฮาร์ดแวร์ทั่วไปตรงที่ใช้เซลล์ประสาทจริง ๆ ในการทำงาน นักวิจัยของ FinalSpark ได้สร้าง “organoids” หรือสมองจิ๋วจากเซลล์ผิวหนังที่ถูกเปลี่ยนเป็นเซลล์ต้นกำเนิด (stem cells) แล้วนำไปเพาะเลี้ยงให้กลายเป็นกลุ่มเซลล์ประสาทที่มีโครงสร้างคล้ายสมองมนุษย์ โดยวางไว้บนแผงอิเล็กโทรดที่สามารถส่งสัญญาณไฟฟ้าเข้าไป และตรวจจับการตอบสนองของเซลล์ได้แบบ EEG แม้จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ระบบนี้สามารถตอบสนองต่อคำสั่งง่าย ๆ เช่นการกดปุ่มบนคีย์บอร์ด แล้วดูการตอบสนองของสมองจิ๋วผ่านกราฟไฟฟ้า ซึ่งบางครั้งมีการตอบสนองแบบ “ระเบิดพลัง” ก่อนที่เซลล์จะตายลงในเวลาไม่กี่วินาที นักวิจัยยืนยันว่า organoids เหล่านี้ไม่ใช่สมองที่มีจิตสำนึก แต่เป็นเพียงโครงสร้างเซลล์ที่ใช้ในการทดลอง โดยมีอายุการใช้งานประมาณ 4 เดือน และยังไม่สามารถเลียนแบบระบบหล่อเลี้ยงด้วยเลือดแบบสมองจริงได้ FinalSpark เปิดให้เข้าถึงระบบ bioprocessor แบบออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยคิดค่าบริการเริ่มต้นที่ $500 ต่อเดือน เพื่อให้นักวิจัยทั่วโลกสามารถทดลองและพัฒนาเทคโนโลยี biocomputing ได้จากระยะไกล ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ FinalSpark พัฒนาคอมพิวเตอร์จากสมองมนุษย์จิ๋วในห้องแล็บสวิตเซอร์แลนด์ ➡️ ใช้ organoids ที่สร้างจากเซลล์ผิวหนังเปลี่ยนเป็น stem cells แล้วเพาะเลี้ยงเป็นเซลล์ประสาท ➡️ วาง organoids บนแผงอิเล็กโทรดเพื่อส่งสัญญาณและตรวจจับการตอบสนอง ➡️ ระบบสามารถตอบสนองต่อคำสั่งง่าย ๆ เช่นการกดปุ่มบนคีย์บอร์ด ➡️ อายุการใช้งานของ organoids อยู่ที่ประมาณ 4 เดือน ➡️ FinalSpark เปิดให้เข้าถึง bioprocessor แบบออนไลน์ในราคาเริ่มต้น $500/เดือน ➡️ นักวิจัยสามารถทดลองผ่านระบบระยะไกลได้ตลอด 24 ชั่วโมง ➡️ นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า organoids ไม่มีจิตสำนึกหรือความรู้สึก ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Biocomputing เป็นแนวคิดที่ใช้ระบบชีวภาพแทนชิปซิลิคอนในการประมวลผล ➡️ สมองมนุษย์ใช้พลังงานเพียง 20 วัตต์ในการควบคุมเซลล์ประสาทกว่า 86 พันล้านเซลล์ ➡️ Bioprocessor ของ FinalSpark ใช้พลังงานน้อยกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไปถึงล้านเท่า ➡️ นักวิจัยจาก Johns Hopkins และ Imperial College ก็พัฒนา organoids เพื่อศึกษาการเรียนรู้ ➡️ ระบบ wetware อาจช่วยลดการใช้พลังงานของอุตสาหกรรม AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/swiss-lab-where-researchers-are-working-to-create-computers-powered-by-mini-human-brains-revealed-in-new-report-mini-brain-organoids-revealed-developers-say-we-shouldnt-be-scared-of-them
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Microsoft ร่วมทดสอบระบบระบายความร้อนแบบไมโครฟลูอิดิก — เตรียมรับยุค GPU 10kW ที่เปลี่ยนโฉมศูนย์ข้อมูล”

    ในยุคที่ AI กลายเป็นหัวใจของการประมวลผลระดับโลก ความร้อนจากชิปประสิทธิภาพสูงกลายเป็นอุปสรรคสำคัญ ล่าสุด Microsoft ได้ร่วมมือกับสตาร์ทอัพจากสวิตเซอร์แลนด์ชื่อ Corintis เพื่อทดสอบระบบระบายความร้อนแบบ “ไมโครฟลูอิดิก” (microfluidic cooling) ที่สามารถจัดการกับ GPU ที่ใช้พลังงานสูงถึง 10kW — มากกว่าระดับปัจจุบันถึงสิบเท่า

    GPU ที่ใช้ในศูนย์ข้อมูล AI เช่น Nvidia H100 ปัจจุบันมีการใช้พลังงานประมาณ 700–800W และรุ่นใหม่อย่าง GB200 คาดว่าจะทะลุ 1kW ซึ่งทำให้การระบายความร้อนแบบเดิมเริ่มไม่เพียงพอ Corintis จึงพัฒนาเทคโนโลยีที่ฝังระบบระบายความร้อนไว้ “ในตัวชิป” โดยใช้ช่องทางของเหลวขนาดเล็กที่ออกแบบเฉพาะให้ตรงกับโครงสร้างของแต่ละชิป

    Microsoft ยืนยันว่าได้ทดสอบระบบนี้บนเซิร์ฟเวอร์จริงที่รันบริการหลักแล้ว และพบว่า “ขอบเขตความร้อน” ที่ลดลงสามารถแปลเป็นประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและความสามารถในการโอเวอร์คล็อกที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังเปิดทางให้สร้างชิปแบบ 3D ที่ซ้อนกันได้โดยไม่เกิดความร้อนสะสม

    Corintis ได้รับเงินลงทุนรอบ Series A จำนวน $24 ล้านจาก BlueYard Capital และนักลงทุนรายใหญ่ เช่น Lip-Bu Tan (อดีต CEO ของ Cadence และกรรมการ Intel) และ Geoff Lyon (อดีตผู้ก่อตั้ง CoolIT) โดยตั้งเป้าผลิต cold plate แบบไมโครฟลูอิดิกได้มากกว่า 1 ล้านชุดต่อปีภายในปี 2026

    แม้เทคโนโลยีนี้จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่การที่ Microsoft นำไปใช้จริงในเซิร์ฟเวอร์ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจเปลี่ยนวิธีการออกแบบศูนย์ข้อมูลในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อความต้องการพลังงานของ AI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Microsoft ร่วมมือกับ Corintis ทดสอบระบบระบายความร้อนแบบไมโครฟลูอิดิกในเซิร์ฟเวอร์จริง
    ระบบนี้สามารถรองรับ GPU ที่ใช้พลังงานสูงถึง 10kW
    GPU ปัจจุบัน เช่น Nvidia H100 ใช้พลังงานประมาณ 700–800W
    ระบบระบายความร้อนฝังในชิปช่วยลดความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพ
    เปิดทางให้สร้างชิปแบบ 3D ที่ซ้อนกันได้โดยไม่เกิดความร้อนสะสม
    Corintis ได้รับเงินลงทุน $24 ล้านจากนักลงทุนรายใหญ่
    ตั้งเป้าผลิต cold plate แบบไมโครฟลูอิดิกได้มากกว่า 1 ล้านชุดต่อปีภายในปี 2026
    Microsoft ยืนยันว่าการลดความร้อนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและโอเวอร์คล็อกได้มากขึ้น

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Microfluidic cooling คือการระบายความร้อนด้วยของเหลวผ่านช่องทางขนาดเล็กที่ออกแบบเฉพาะ
    การฝังระบบระบายความร้อนในชิปช่วยลดการใช้พลังงานในการทำความเย็น
    ความร้อนที่ถูกระบายออกมาสามารถนำไปใช้ซ้ำ เช่น ระบบทำความร้อนในอาคาร
    การออกแบบชิปแบบ 3D ต้องการระบบระบายความร้อนที่ฝังในชั้นกลางของชิป
    ตลาดศูนย์ข้อมูล AI คาดว่าจะเติบโตเกิน $1 ล้านล้านภายในปี 2030

    https://www.techradar.com/pro/4kw-is-certainly-possible-but-it-can-go-much-higher-microsoft-backed-startup-could-dissipate-10kw-gpus-its-founder-confirms
    💧 “Microsoft ร่วมทดสอบระบบระบายความร้อนแบบไมโครฟลูอิดิก — เตรียมรับยุค GPU 10kW ที่เปลี่ยนโฉมศูนย์ข้อมูล” ในยุคที่ AI กลายเป็นหัวใจของการประมวลผลระดับโลก ความร้อนจากชิปประสิทธิภาพสูงกลายเป็นอุปสรรคสำคัญ ล่าสุด Microsoft ได้ร่วมมือกับสตาร์ทอัพจากสวิตเซอร์แลนด์ชื่อ Corintis เพื่อทดสอบระบบระบายความร้อนแบบ “ไมโครฟลูอิดิก” (microfluidic cooling) ที่สามารถจัดการกับ GPU ที่ใช้พลังงานสูงถึง 10kW — มากกว่าระดับปัจจุบันถึงสิบเท่า GPU ที่ใช้ในศูนย์ข้อมูล AI เช่น Nvidia H100 ปัจจุบันมีการใช้พลังงานประมาณ 700–800W และรุ่นใหม่อย่าง GB200 คาดว่าจะทะลุ 1kW ซึ่งทำให้การระบายความร้อนแบบเดิมเริ่มไม่เพียงพอ Corintis จึงพัฒนาเทคโนโลยีที่ฝังระบบระบายความร้อนไว้ “ในตัวชิป” โดยใช้ช่องทางของเหลวขนาดเล็กที่ออกแบบเฉพาะให้ตรงกับโครงสร้างของแต่ละชิป Microsoft ยืนยันว่าได้ทดสอบระบบนี้บนเซิร์ฟเวอร์จริงที่รันบริการหลักแล้ว และพบว่า “ขอบเขตความร้อน” ที่ลดลงสามารถแปลเป็นประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและความสามารถในการโอเวอร์คล็อกที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังเปิดทางให้สร้างชิปแบบ 3D ที่ซ้อนกันได้โดยไม่เกิดความร้อนสะสม Corintis ได้รับเงินลงทุนรอบ Series A จำนวน $24 ล้านจาก BlueYard Capital และนักลงทุนรายใหญ่ เช่น Lip-Bu Tan (อดีต CEO ของ Cadence และกรรมการ Intel) และ Geoff Lyon (อดีตผู้ก่อตั้ง CoolIT) โดยตั้งเป้าผลิต cold plate แบบไมโครฟลูอิดิกได้มากกว่า 1 ล้านชุดต่อปีภายในปี 2026 แม้เทคโนโลยีนี้จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่การที่ Microsoft นำไปใช้จริงในเซิร์ฟเวอร์ถือเป็นก้าวสำคัญที่อาจเปลี่ยนวิธีการออกแบบศูนย์ข้อมูลในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อความต้องการพลังงานของ AI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Microsoft ร่วมมือกับ Corintis ทดสอบระบบระบายความร้อนแบบไมโครฟลูอิดิกในเซิร์ฟเวอร์จริง ➡️ ระบบนี้สามารถรองรับ GPU ที่ใช้พลังงานสูงถึง 10kW ➡️ GPU ปัจจุบัน เช่น Nvidia H100 ใช้พลังงานประมาณ 700–800W ➡️ ระบบระบายความร้อนฝังในชิปช่วยลดความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพ ➡️ เปิดทางให้สร้างชิปแบบ 3D ที่ซ้อนกันได้โดยไม่เกิดความร้อนสะสม ➡️ Corintis ได้รับเงินลงทุน $24 ล้านจากนักลงทุนรายใหญ่ ➡️ ตั้งเป้าผลิต cold plate แบบไมโครฟลูอิดิกได้มากกว่า 1 ล้านชุดต่อปีภายในปี 2026 ➡️ Microsoft ยืนยันว่าการลดความร้อนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและโอเวอร์คล็อกได้มากขึ้น ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Microfluidic cooling คือการระบายความร้อนด้วยของเหลวผ่านช่องทางขนาดเล็กที่ออกแบบเฉพาะ ➡️ การฝังระบบระบายความร้อนในชิปช่วยลดการใช้พลังงานในการทำความเย็น ➡️ ความร้อนที่ถูกระบายออกมาสามารถนำไปใช้ซ้ำ เช่น ระบบทำความร้อนในอาคาร ➡️ การออกแบบชิปแบบ 3D ต้องการระบบระบายความร้อนที่ฝังในชั้นกลางของชิป ➡️ ตลาดศูนย์ข้อมูล AI คาดว่าจะเติบโตเกิน $1 ล้านล้านภายในปี 2030 https://www.techradar.com/pro/4kw-is-certainly-possible-but-it-can-go-much-higher-microsoft-backed-startup-could-dissipate-10kw-gpus-its-founder-confirms
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดรน Geran ของรัสเซียเลิกเป็น "เด็กแว๊นซ์" แล้ว

    หน่วยข่าวกรองของยูเครนรายงานว่าโดรน “Geran-3” รุ่นใหม่ของรัสเซีย พัฒนาเครื่องยนต์ใหม่เป็นเครื่องยนต์มินิเจ็ต

    ที่บินได้เร็วถึง 230 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 370 กม./ชั่วโมง)
    และมีระยะบินไกลกว่า 620 ไมล์ (ประมาณ 997 กิโลเมตร)
    ซึ่งมาพร้อมระบบต่อต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบ สามารถหลบเลี่ยงการดักจับและการรบกวนสัญญาณของยูเครนได้
    และบินได้นานถึง 6 ชั่วโมง
    ติดตั้งหัวรบระเบิดแรงสูงได้มากถึง 198 ปอนด์ (ประมาณ 90 กิโลกรัม)
    หัวรบที่ติดตั้งมีทั้งแบบคลัสเตอร์บอม์และหัวรบแบบเทอร์โมบาริก ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการทำลายเป้าหมายที่มีการป้องกันแน่นหนา
    .
    ทางหน่วยข่าวกรองของยูเครนออกมาวิจารณ์ว่า ส่วนประกอบของโดรนรุ่นใหม่ ใช้ชิ้นส่วนจากต่างประเทศซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นพันธมิตรกับยูเครนทั้งสิ้น โดยที่ครึ่งหนึ่งมาจากผู้ผลิตในอเมริกา และ 8 ชิ้นมาจากจีน อีก 7 ชิ้นส่วนมาจากสวิตเซอร์แลนด์ และ 3 ชิ้นส่วนจากเยอรมนี อีก 2 ชิ้นจากอังกฤษ และ 1 ชิ้นจากผู้ผลิตในญี่ปุ่น
    .
    วิดีโอ 1 เสียงของเครื่องยนต์จากโดรน Geran-3 เปลี่ยนไป
    โดรน Geran ของรัสเซียเลิกเป็น "เด็กแว๊นซ์" แล้ว หน่วยข่าวกรองของยูเครนรายงานว่าโดรน “Geran-3” รุ่นใหม่ของรัสเซีย พัฒนาเครื่องยนต์ใหม่เป็นเครื่องยนต์มินิเจ็ต 👉ที่บินได้เร็วถึง 230 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 370 กม./ชั่วโมง) 👉และมีระยะบินไกลกว่า 620 ไมล์ (ประมาณ 997 กิโลเมตร) ซึ่งมาพร้อมระบบต่อต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบ สามารถหลบเลี่ยงการดักจับและการรบกวนสัญญาณของยูเครนได้ 👉และบินได้นานถึง 6 ชั่วโมง 👉ติดตั้งหัวรบระเบิดแรงสูงได้มากถึง 198 ปอนด์ (ประมาณ 90 กิโลกรัม) 👉หัวรบที่ติดตั้งมีทั้งแบบคลัสเตอร์บอม์และหัวรบแบบเทอร์โมบาริก ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงในการทำลายเป้าหมายที่มีการป้องกันแน่นหนา . ทางหน่วยข่าวกรองของยูเครนออกมาวิจารณ์ว่า ส่วนประกอบของโดรนรุ่นใหม่ ใช้ชิ้นส่วนจากต่างประเทศซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นพันธมิตรกับยูเครนทั้งสิ้น โดยที่ครึ่งหนึ่งมาจากผู้ผลิตในอเมริกา และ 8 ชิ้นมาจากจีน อีก 7 ชิ้นส่วนมาจากสวิตเซอร์แลนด์ และ 3 ชิ้นส่วนจากเยอรมนี อีก 2 ชิ้นจากอังกฤษ และ 1 ชิ้นจากผู้ผลิตในญี่ปุ่น . วิดีโอ 1 เสียงของเครื่องยนต์จากโดรน Geran-3 เปลี่ยนไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Geran-3: โดรนเจ็ตรัสเซียที่ต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ — เมื่อความเร็วและความฉลาดกลายเป็นอาวุธใหม่ในสนามรบยูเครน”

    ในสงครามรัสเซีย–ยูเครนที่ยังคงดำเนินต่อเนื่องอย่างดุเดือด โดรนกลายเป็นอาวุธหลักที่ทั้งสองฝ่ายใช้โจมตีและป้องกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดรัสเซียได้เปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ชื่อว่า “Geran-3” ซึ่งเป็นเวอร์ชันอัปเกรดของ Shahed-238 จากอิหร่าน โดยมีจุดเด่นคือ “เครื่องยนต์เจ็ท” และ “ระบบต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์” ที่ทำให้ยูเครนรับมือได้ยากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

    Geran-3 มีความเร็วสูงถึง 600 กม./ชม. และบินได้สูงถึง 9,000 เมตร ทำให้หลุดพ้นจากการตรวจจับด้วยอาวุธพื้นฐานหรือระบบเสียงแบบเดิมที่ใช้กับ Shahed รุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ยังติดตั้งหัวรบระเบิดแรงสูง (HE-FRAG-I) และบางรุ่นใช้หัวรบแบบ thermobaric ที่สามารถเจาะเป้าหมายที่มีการป้องกันแน่นหนาได้

    สิ่งที่ทำให้ Geran-3 น่ากลัวยิ่งขึ้นคือระบบต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW countermeasures) ที่สามารถตรวจจับพื้นที่ที่มีการรบกวนสัญญาณดาวเทียม และหลีกเลี่ยงเส้นทางเหล่านั้นได้โดยอัตโนมัติ ทำให้การใช้ระบบรบกวนสัญญาณของยูเครนไม่สามารถหยุดยั้งโดรนรุ่นนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ยูเครนได้ตอบโต้ด้วยการพัฒนา “โดรนสกัดกั้น” ที่สามารถไล่ล่าและทำลาย Geran-3 ได้โดยเฉพาะ พร้อมเสริมกำลังด้วยทีมยิงเคลื่อนที่และขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน อย่างไรก็ตาม การโจมตีล่าสุดในเดือนกรกฎาคม 2025 ที่ใช้ Geran-3 จำนวนมากพร้อมกับขีปนาวุธ Iskander-K ทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิต 13 รายและบาดเจ็บกว่า 130 คน

    การวิเคราะห์ซากโดรนที่ตกในยูเครนพบว่า Geran-3 ใช้ชิ้นส่วนจากต่างประเทศกว่า 50 รายการ รวมถึงจากสหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และจีน ซึ่งสะท้อนถึงความซับซ้อนของห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมอาวุธ แม้รัสเซียจะถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Geran-3 เป็นโดรนโจมตีแบบเจ็ทที่พัฒนาจาก Shahed-238 ของอิหร่าน
    ความเร็วสูงสุดประมาณ 600 กม./ชม. และบินได้สูงถึง 9,000 เมตร
    ติดตั้งหัวรบ HE-FRAG-I และบางรุ่นใช้หัวรบ thermobaric
    มีระบบต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่หลีกเลี่ยงพื้นที่รบกวนสัญญาณดาวเทียม
    ใช้เครื่องยนต์ Tolou-10 หรือ Tolou-13 ซึ่งเป็นรุ่นลอกแบบจาก PBS TJ100 ของเช็ก
    ขนาดลำตัวประมาณ 3.5 เมตร ปีกกว้าง 3 เมตร น้ำหนักรวมประมาณ 380 กก.
    มีชิ้นส่วนจากต่างประเทศกว่า 50 รายการ รวมถึงจากชาติตะวันตกและจีน
    การโจมตีล่าสุดในยูเครนใช้ Geran-3 ร่วมกับ Iskander-K ทำให้เกิดความเสียหายหนัก
    ยูเครนตอบโต้ด้วยโดรนสกัดกั้นและระบบยิงเคลื่อนที่

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Shahed-238 ถูกเปิดตัวครั้งแรกในอิหร่านเมื่อปลายปี 2023
    โดรนเจ็ทมีข้อได้เปรียบด้านความเร็วและการหลบหลีก แต่มีข้อจำกัดด้านระยะทาง
    Thermobaric warhead สร้างแรงระเบิดจากแรงดันอากาศ เหมาะกับการเจาะเป้าหมายในอาคาร
    ระบบ Sky Fortress ของยูเครนใช้เสียงในการตรวจจับโดรน แต่ Geran-3 มีเสียงต่างจากรุ่นก่อน
    การใช้ชิ้นส่วนจากต่างประเทศสะท้อนถึงช่องโหว่ในการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยี

    https://www.slashgear.com/1979250/russia-jet-powered-attack-drone-electronic-warfare-immunity/
    ✈️ “Geran-3: โดรนเจ็ตรัสเซียที่ต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ — เมื่อความเร็วและความฉลาดกลายเป็นอาวุธใหม่ในสนามรบยูเครน” ในสงครามรัสเซีย–ยูเครนที่ยังคงดำเนินต่อเนื่องอย่างดุเดือด โดรนกลายเป็นอาวุธหลักที่ทั้งสองฝ่ายใช้โจมตีและป้องกันอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดรัสเซียได้เปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ชื่อว่า “Geran-3” ซึ่งเป็นเวอร์ชันอัปเกรดของ Shahed-238 จากอิหร่าน โดยมีจุดเด่นคือ “เครื่องยนต์เจ็ท” และ “ระบบต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์” ที่ทำให้ยูเครนรับมือได้ยากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด Geran-3 มีความเร็วสูงถึง 600 กม./ชม. และบินได้สูงถึง 9,000 เมตร ทำให้หลุดพ้นจากการตรวจจับด้วยอาวุธพื้นฐานหรือระบบเสียงแบบเดิมที่ใช้กับ Shahed รุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ยังติดตั้งหัวรบระเบิดแรงสูง (HE-FRAG-I) และบางรุ่นใช้หัวรบแบบ thermobaric ที่สามารถเจาะเป้าหมายที่มีการป้องกันแน่นหนาได้ สิ่งที่ทำให้ Geran-3 น่ากลัวยิ่งขึ้นคือระบบต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW countermeasures) ที่สามารถตรวจจับพื้นที่ที่มีการรบกวนสัญญาณดาวเทียม และหลีกเลี่ยงเส้นทางเหล่านั้นได้โดยอัตโนมัติ ทำให้การใช้ระบบรบกวนสัญญาณของยูเครนไม่สามารถหยุดยั้งโดรนรุ่นนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยูเครนได้ตอบโต้ด้วยการพัฒนา “โดรนสกัดกั้น” ที่สามารถไล่ล่าและทำลาย Geran-3 ได้โดยเฉพาะ พร้อมเสริมกำลังด้วยทีมยิงเคลื่อนที่และขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน อย่างไรก็ตาม การโจมตีล่าสุดในเดือนกรกฎาคม 2025 ที่ใช้ Geran-3 จำนวนมากพร้อมกับขีปนาวุธ Iskander-K ทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิต 13 รายและบาดเจ็บกว่า 130 คน การวิเคราะห์ซากโดรนที่ตกในยูเครนพบว่า Geran-3 ใช้ชิ้นส่วนจากต่างประเทศกว่า 50 รายการ รวมถึงจากสหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และจีน ซึ่งสะท้อนถึงความซับซ้อนของห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมอาวุธ แม้รัสเซียจะถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Geran-3 เป็นโดรนโจมตีแบบเจ็ทที่พัฒนาจาก Shahed-238 ของอิหร่าน ➡️ ความเร็วสูงสุดประมาณ 600 กม./ชม. และบินได้สูงถึง 9,000 เมตร ➡️ ติดตั้งหัวรบ HE-FRAG-I และบางรุ่นใช้หัวรบ thermobaric ➡️ มีระบบต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่หลีกเลี่ยงพื้นที่รบกวนสัญญาณดาวเทียม ➡️ ใช้เครื่องยนต์ Tolou-10 หรือ Tolou-13 ซึ่งเป็นรุ่นลอกแบบจาก PBS TJ100 ของเช็ก ➡️ ขนาดลำตัวประมาณ 3.5 เมตร ปีกกว้าง 3 เมตร น้ำหนักรวมประมาณ 380 กก. ➡️ มีชิ้นส่วนจากต่างประเทศกว่า 50 รายการ รวมถึงจากชาติตะวันตกและจีน ➡️ การโจมตีล่าสุดในยูเครนใช้ Geran-3 ร่วมกับ Iskander-K ทำให้เกิดความเสียหายหนัก ➡️ ยูเครนตอบโต้ด้วยโดรนสกัดกั้นและระบบยิงเคลื่อนที่ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Shahed-238 ถูกเปิดตัวครั้งแรกในอิหร่านเมื่อปลายปี 2023 ➡️ โดรนเจ็ทมีข้อได้เปรียบด้านความเร็วและการหลบหลีก แต่มีข้อจำกัดด้านระยะทาง ➡️ Thermobaric warhead สร้างแรงระเบิดจากแรงดันอากาศ เหมาะกับการเจาะเป้าหมายในอาคาร ➡️ ระบบ Sky Fortress ของยูเครนใช้เสียงในการตรวจจับโดรน แต่ Geran-3 มีเสียงต่างจากรุ่นก่อน ➡️ การใช้ชิ้นส่วนจากต่างประเทศสะท้อนถึงช่องโหว่ในการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยี https://www.slashgear.com/1979250/russia-jet-powered-attack-drone-electronic-warfare-immunity/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Russia Now Has Jet-Powered Attack Drones Immune To Electronic Warfare - SlashGear
    Jet propulsion drones, similar to the Shahed ones used in Iran, are being deployed by Russia against Ukraine. However, Ukraine may already have an answer.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Proton Mail ปรับโฉมแอปมือถือใหม่หมด — เร็วขึ้น ลื่นขึ้น และปลอดภัยกว่าเดิม พร้อมโหมดออฟไลน์เต็มรูปแบบ”

    Proton Mail ผู้ให้บริการอีเมลที่เน้นความเป็นส่วนตัวจากสวิตเซอร์แลนด์ ได้เปิดตัวแอปมือถือเวอร์ชันใหม่ทั้งบน Android และ iOS โดยปรับปรุงตั้งแต่โครงสร้างภายในจนถึงหน้าตา เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่เร็วขึ้น ลื่นไหลขึ้น และปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม

    สิ่งแรกที่ผู้ใช้จะสัมผัสได้คือ “ความเร็ว” — การเปิดข้อความ การเลื่อนดูอีเมล และการจัดการกล่องจดหมายเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า การออกแบบใหม่ยังเน้นความเรียบง่าย โดยย้ายปุ่มสำคัญอย่าง “เขียนอีเมล” ไปไว้ในตำแหน่งที่ใช้งานสะดวกขึ้น เช่น ด้านล่างของหน้าจอ เพื่อรองรับการใช้งานมือเดียว

    อีกหนึ่งฟีเจอร์เด่นคือ “โหมดออฟไลน์” ที่ให้ผู้ใช้สามารถอ่าน เขียน และจัดการอีเมลได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต โดยระบบจะซิงก์ข้อมูลให้อัตโนมัติเมื่อกลับมาออนไลน์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับผู้ใช้ที่ต้องเดินทางหรืออยู่ในพื้นที่สัญญาณอ่อน

    เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงนี้คือการรวมโค้ดของแอปทั้งสองแพลตฟอร์มให้เหมือนกันถึง 80% ทำให้การพัฒนาเร็วขึ้น ลดบั๊ก และสามารถปล่อยฟีเจอร์ใหม่พร้อมกันทั้ง Android และ iOS ได้ในอนาคต

    แม้ในขณะที่ iOS ได้รับอัปเดตแล้วทันที แต่ฝั่ง Android ยังอยู่ระหว่างการทยอยปล่อยผ่าน Play Store ซึ่ง Proton ยืนยันว่าจะตามมาในเร็ว ๆ นี้

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Proton Mail เปิดตัวแอปมือถือเวอร์ชันใหม่ทั้ง Android และ iOS
    ความเร็วในการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า เช่น การเปิดข้อความและเลื่อนดูอีเมล
    ปรับดีไซน์ใหม่ให้เรียบง่ายและใช้งานสะดวกขึ้น โดยเฉพาะปุ่มเขียนอีเมล
    เพิ่มฟีเจอร์ “โหมดออฟไลน์” สำหรับอ่าน เขียน และจัดการอีเมลโดยไม่ต้องต่อเน็ต
    แอปทั้งสองแพลตฟอร์มมีโค้ดร่วมกันถึง 80% เพื่อการพัฒนาและอัปเดตที่รวดเร็ว
    ฟีเจอร์ใหม่จะปล่อยพร้อมกันทั้ง Android และ iOS ในอนาคต
    iOS ได้รับอัปเดตแล้ว ส่วน Android จะทยอยปล่อยเร็ว ๆ นี้
    Proton ยืนยันว่าไม่ใช้โมเดลโฆษณา และเน้นความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เป็นหลัก

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Proton Mail ใช้การเข้ารหัสแบบ end-to-end และไม่มีการติดตามผู้ใช้
    แอปเวอร์ชันใหม่ช่วยลดการพึ่งพา Gmail หรือ Outlook สำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
    โหมดออฟไลน์เป็นฟีเจอร์ที่หาได้ยากในแอปอีเมลที่เน้นความปลอดภัย
    การรวมโค้ดช่วยให้ทีมพัฒนาไม่ต้องดูแลแยกสองระบบ ลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความเสถียร
    Proton ยังมีบริการอื่น เช่น Proton Calendar และ Proton Drive ที่กำลังพัฒนาให้มี UX ใกล้เคียงกัน

    https://news.itsfoss.com/proton-mail-android-ios-app-revamp/
    📬 “Proton Mail ปรับโฉมแอปมือถือใหม่หมด — เร็วขึ้น ลื่นขึ้น และปลอดภัยกว่าเดิม พร้อมโหมดออฟไลน์เต็มรูปแบบ” Proton Mail ผู้ให้บริการอีเมลที่เน้นความเป็นส่วนตัวจากสวิตเซอร์แลนด์ ได้เปิดตัวแอปมือถือเวอร์ชันใหม่ทั้งบน Android และ iOS โดยปรับปรุงตั้งแต่โครงสร้างภายในจนถึงหน้าตา เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่เร็วขึ้น ลื่นไหลขึ้น และปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม สิ่งแรกที่ผู้ใช้จะสัมผัสได้คือ “ความเร็ว” — การเปิดข้อความ การเลื่อนดูอีเมล และการจัดการกล่องจดหมายเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 2 เท่า การออกแบบใหม่ยังเน้นความเรียบง่าย โดยย้ายปุ่มสำคัญอย่าง “เขียนอีเมล” ไปไว้ในตำแหน่งที่ใช้งานสะดวกขึ้น เช่น ด้านล่างของหน้าจอ เพื่อรองรับการใช้งานมือเดียว อีกหนึ่งฟีเจอร์เด่นคือ “โหมดออฟไลน์” ที่ให้ผู้ใช้สามารถอ่าน เขียน และจัดการอีเมลได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต โดยระบบจะซิงก์ข้อมูลให้อัตโนมัติเมื่อกลับมาออนไลน์ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับผู้ใช้ที่ต้องเดินทางหรืออยู่ในพื้นที่สัญญาณอ่อน เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงนี้คือการรวมโค้ดของแอปทั้งสองแพลตฟอร์มให้เหมือนกันถึง 80% ทำให้การพัฒนาเร็วขึ้น ลดบั๊ก และสามารถปล่อยฟีเจอร์ใหม่พร้อมกันทั้ง Android และ iOS ได้ในอนาคต แม้ในขณะที่ iOS ได้รับอัปเดตแล้วทันที แต่ฝั่ง Android ยังอยู่ระหว่างการทยอยปล่อยผ่าน Play Store ซึ่ง Proton ยืนยันว่าจะตามมาในเร็ว ๆ นี้ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Proton Mail เปิดตัวแอปมือถือเวอร์ชันใหม่ทั้ง Android และ iOS ➡️ ความเร็วในการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า เช่น การเปิดข้อความและเลื่อนดูอีเมล ➡️ ปรับดีไซน์ใหม่ให้เรียบง่ายและใช้งานสะดวกขึ้น โดยเฉพาะปุ่มเขียนอีเมล ➡️ เพิ่มฟีเจอร์ “โหมดออฟไลน์” สำหรับอ่าน เขียน และจัดการอีเมลโดยไม่ต้องต่อเน็ต ➡️ แอปทั้งสองแพลตฟอร์มมีโค้ดร่วมกันถึง 80% เพื่อการพัฒนาและอัปเดตที่รวดเร็ว ➡️ ฟีเจอร์ใหม่จะปล่อยพร้อมกันทั้ง Android และ iOS ในอนาคต ➡️ iOS ได้รับอัปเดตแล้ว ส่วน Android จะทยอยปล่อยเร็ว ๆ นี้ ➡️ Proton ยืนยันว่าไม่ใช้โมเดลโฆษณา และเน้นความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เป็นหลัก ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Proton Mail ใช้การเข้ารหัสแบบ end-to-end และไม่มีการติดตามผู้ใช้ ➡️ แอปเวอร์ชันใหม่ช่วยลดการพึ่งพา Gmail หรือ Outlook สำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ➡️ โหมดออฟไลน์เป็นฟีเจอร์ที่หาได้ยากในแอปอีเมลที่เน้นความปลอดภัย ➡️ การรวมโค้ดช่วยให้ทีมพัฒนาไม่ต้องดูแลแยกสองระบบ ลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความเสถียร ➡️ Proton ยังมีบริการอื่น เช่น Proton Calendar และ Proton Drive ที่กำลังพัฒนาให้มี UX ใกล้เคียงกัน https://news.itsfoss.com/proton-mail-android-ios-app-revamp/
    NEWS.ITSFOSS.COM
    Proton Mail on Android and iOS is Now Faster and More Beautiful
    Proton has revamped the Android and iOS apps for Proton Mail.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ฮุนเซนฮุนมาเนตคืออาชญากรสงครามชาติใดก็สามารถฟ้องดำเนินคดีมันได้จึงสมควรที่สุด.

    ..ศาลอาญาระหว่างประเทศ

    ศาลซึ่งจัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2545 เพื่อดำเนินคดีบุคคลในข้อหาอาชญากรรมร้ายแรงที่สุดภายใต้ธรรมนูญกรุงโรม มีประเทศสมาชิก 125 ประเทศที่ให้สัตยาบันสนธิสัญญาดังกล่าว ณ เดือนเมษายน พ.ศ. 2568

    ศาลอาญาระหว่างประเทศ (อังกฤษ: International Criminal Court; ย่อ: ICC) เป็นศาลระหว่างประเทศซึ่งมีที่ทำการอยู่ในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีเขตอำนาจดำเนินคดีผู้กระทำความผิดอาญาระหว่างประเทศ 4 ฐาน คือ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ อาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมอันเป็นการรุกราน ก่อตั้งขึ้นโดยประสงค์จะให้เป็นส่วนเสริมของระบบยุติธรรมที่แต่ละประเทศมีอยู่ จึงมีเขตอำนาจเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขเท่านั้น เช่น เมื่อศาลระดับประเทศไม่สามารถหรือไม่ประสงค์จะดำเนินคดีแล้ว หรือเมื่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือรัฐหนึ่ง ๆ เสนอคดีมาให้พิจารณา ศาลนี้เริ่มปฏิบัติงานในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2002 อันเป็นวันที่ธรรมนูญกรุงโรมเริ่มใช้บังคับ ธรรมนูญดังกล่าวเป็นสนธิสัญญาพหุภาคีซึ่งวางรากฐานและกำหนดการบริหารจัดการของศาล รัฐที่เข้าเป็นภาคีแห่งธรรมนูญจะนับเป็นรัฐสมาชิกของศาล ปัจจุบันมีรัฐภาคี 125 รัฐ

    องค์กรหลักของศาลมี 4 องค์กร คือ คณะประธาน แผนกตุลาการ สำนักงานอัยการ และสำนักงานทะเบียน ประธานศาลเป็นตุลาการที่ได้รับเลือกมาจากตุลาการคนอื่นในแผนกตุลาการ สำนักงานอัยการมีอัยการเป็นหัวหน้า ทำหน้าที่สืบสวนคดีและส่งฟ้องต่อแผนกตุลาการ ส่วนสำนักงานทะเบียนมีนายทะเบียนเป็นหัวหน้า รับผิดชอบงานธุรการทั้งปวงของศาล ซึ่งรวมถึงการบริหารสำนักงานใหญ่ของศาล หน่วยขัง และสำนักงานทนายจำเลย


    ประเทศที่เป็นสมาชิกของ ICC

    ณ เดือนเมษายน พ.ศ. 2568 มีประเทศต่างๆ 137 ประเทศลงนามในธรรมนูญกรุงโรม ซึ่งแสดงถึงเจตนาที่จะเข้าร่วม ในขณะที่ 125 ประเทศได้ให้สัตยาบันอย่างเป็นทางการ และกลายเป็นรัฐสมาชิกเต็มตัวของ ICC

    ประเทศต่างๆ ที่ได้ลงนามหรือให้สัตยาบันธรรมนูญกรุงโรมแสดงอยู่ในแผนที่ด้านล่าง


    ปี1999
    ฟิจิ กานา อิตาลี ซานมารีโน เซเนกัล ตรินิแดดและโตเบโก

    2000
    ออสเตรีย เบลเยียม บอตสวานา แคนาดา ฝรั่งเศส กาบอง เยอรมนี ไอซ์แลนด์ เลโซโท ลักเซมเบิร์ก มาลี หมู่เกาะมาร์แชลล์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ เซียร์ราลีโอน แอฟริกาใต้ สเปน ทาจิกิสถาน เวเนซุเอลา

    2001
    อันดอร์รา แอนติกาและบาร์บูดา อาร์เจนตินา สาธารณรัฐแอฟริกากลาง คอสตาริกา โครเอเชีย เดนมาร์ก โดมินิกา ฮังการี ลิกเตนสไตน์ เนเธอร์แลนด์ ไนจีเรีย ปารากวัย เปรู โปแลนด์ เซอร์เบีย สโลวีเนีย สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร

    2002
    บาร์เบโดส, เบนิน, โบลิเวีย, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, บราซิล, บัลแกเรีย, กัมพูชา, โคลอมเบีย, สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, จิบูตี, เอกวาดอร์, เอสโตเนีย, แกมเบีย, กรีซ, ฮอนดูรัส, ไอร์แลนด์, จอร์แดน, ลัตเวีย, มาลาวี, มอลตา, มอริเชียส, มองโกเลีย, นามิเบีย, ไนเจอร์, มาซิโดเนียเหนือ, ปานามา, โปรตุเกส, สาธารณรัฐเกาหลี, โรมาเนีย, เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์, ซามัว, สโลวาเกีย, สโลวีเนีย, แทนซาเนีย, ติมอร์-เลสเต, ยูกันดา, อุรุกวัย, แซมเบีย

    2003
    อัฟกานิสถาน, แอลเบเนีย, จอร์เจีย, กินี, ลิทัวเนีย

    2004
    บูร์กินาฟาโซ กายอานา ไลบีเรีย สาธารณรัฐคองโก

    2005
    สาธารณรัฐโดมินิกัน เคนยา เม็กซิโก

    ปี 2549
    คอโมโรส มอนเตเนโกร เซนต์คิตส์และเนวิส

    2007
    ชาด ประเทศญี่ปุ่น

    2008
    หมู่เกาะคุก มาดากัสการ์ ซูรินาม

    ปี 2009
    ชิลี สาธารณรัฐเช็ก

    2010
    บังกลาเทศ มอลโดวา เซนต์ลูเซีย เซเชลส์

    ปี 2011
    กาบูเวร์ดี, เกรเนดา, มัลดีฟส์, ตูนิเซีย

    2012
    กัวเตมาลา วานูอาตู

    ปี 2013
    ไอวอรีโคสต์

    ปี 2558
    ปาเลสไตน์

    ปี 2559
    เอลซัลวาดอร์

    ปี 2019
    คิริบาติ

    2023
    อาร์เมเนีย

    2024
    ยูเครน




    #ฮุนเซนฮุนมาเนตคืออาชญากรสงครามชาติใดก็สามารถฟ้องดำเนินคดีมันได้จึงสมควรที่สุด. ..ศาลอาญาระหว่างประเทศ ศาลซึ่งจัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2545 เพื่อดำเนินคดีบุคคลในข้อหาอาชญากรรมร้ายแรงที่สุดภายใต้ธรรมนูญกรุงโรม มีประเทศสมาชิก 125 ประเทศที่ให้สัตยาบันสนธิสัญญาดังกล่าว ณ เดือนเมษายน พ.ศ. 2568 ศาลอาญาระหว่างประเทศ (อังกฤษ: International Criminal Court; ย่อ: ICC) เป็นศาลระหว่างประเทศซึ่งมีที่ทำการอยู่ในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีเขตอำนาจดำเนินคดีผู้กระทำความผิดอาญาระหว่างประเทศ 4 ฐาน คือ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ อาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมอันเป็นการรุกราน ก่อตั้งขึ้นโดยประสงค์จะให้เป็นส่วนเสริมของระบบยุติธรรมที่แต่ละประเทศมีอยู่ จึงมีเขตอำนาจเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขเท่านั้น เช่น เมื่อศาลระดับประเทศไม่สามารถหรือไม่ประสงค์จะดำเนินคดีแล้ว หรือเมื่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือรัฐหนึ่ง ๆ เสนอคดีมาให้พิจารณา ศาลนี้เริ่มปฏิบัติงานในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2002 อันเป็นวันที่ธรรมนูญกรุงโรมเริ่มใช้บังคับ ธรรมนูญดังกล่าวเป็นสนธิสัญญาพหุภาคีซึ่งวางรากฐานและกำหนดการบริหารจัดการของศาล รัฐที่เข้าเป็นภาคีแห่งธรรมนูญจะนับเป็นรัฐสมาชิกของศาล ปัจจุบันมีรัฐภาคี 125 รัฐ องค์กรหลักของศาลมี 4 องค์กร คือ คณะประธาน แผนกตุลาการ สำนักงานอัยการ และสำนักงานทะเบียน ประธานศาลเป็นตุลาการที่ได้รับเลือกมาจากตุลาการคนอื่นในแผนกตุลาการ สำนักงานอัยการมีอัยการเป็นหัวหน้า ทำหน้าที่สืบสวนคดีและส่งฟ้องต่อแผนกตุลาการ ส่วนสำนักงานทะเบียนมีนายทะเบียนเป็นหัวหน้า รับผิดชอบงานธุรการทั้งปวงของศาล ซึ่งรวมถึงการบริหารสำนักงานใหญ่ของศาล หน่วยขัง และสำนักงานทนายจำเลย ประเทศที่เป็นสมาชิกของ ICC ณ เดือนเมษายน พ.ศ. 2568 มีประเทศต่างๆ 137 ประเทศลงนามในธรรมนูญกรุงโรม ซึ่งแสดงถึงเจตนาที่จะเข้าร่วม ในขณะที่ 125 ประเทศได้ให้สัตยาบันอย่างเป็นทางการ และกลายเป็นรัฐสมาชิกเต็มตัวของ ICC ประเทศต่างๆ ที่ได้ลงนามหรือให้สัตยาบันธรรมนูญกรุงโรมแสดงอยู่ในแผนที่ด้านล่าง ปี1999 ฟิจิ กานา อิตาลี ซานมารีโน เซเนกัล ตรินิแดดและโตเบโก 2000 ออสเตรีย เบลเยียม บอตสวานา แคนาดา ฝรั่งเศส กาบอง เยอรมนี ไอซ์แลนด์ เลโซโท ลักเซมเบิร์ก มาลี หมู่เกาะมาร์แชลล์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ เซียร์ราลีโอน แอฟริกาใต้ สเปน ทาจิกิสถาน เวเนซุเอลา 2001 อันดอร์รา แอนติกาและบาร์บูดา อาร์เจนตินา สาธารณรัฐแอฟริกากลาง คอสตาริกา โครเอเชีย เดนมาร์ก โดมินิกา ฮังการี ลิกเตนสไตน์ เนเธอร์แลนด์ ไนจีเรีย ปารากวัย เปรู โปแลนด์ เซอร์เบีย สโลวีเนีย สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร 2002 บาร์เบโดส, เบนิน, โบลิเวีย, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, บราซิล, บัลแกเรีย, กัมพูชา, โคลอมเบีย, สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, จิบูตี, เอกวาดอร์, เอสโตเนีย, แกมเบีย, กรีซ, ฮอนดูรัส, ไอร์แลนด์, จอร์แดน, ลัตเวีย, มาลาวี, มอลตา, มอริเชียส, มองโกเลีย, นามิเบีย, ไนเจอร์, มาซิโดเนียเหนือ, ปานามา, โปรตุเกส, สาธารณรัฐเกาหลี, โรมาเนีย, เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์, ซามัว, สโลวาเกีย, สโลวีเนีย, แทนซาเนีย, ติมอร์-เลสเต, ยูกันดา, อุรุกวัย, แซมเบีย 2003 อัฟกานิสถาน, แอลเบเนีย, จอร์เจีย, กินี, ลิทัวเนีย 2004 บูร์กินาฟาโซ กายอานา ไลบีเรีย สาธารณรัฐคองโก 2005 สาธารณรัฐโดมินิกัน เคนยา เม็กซิโก ปี 2549 คอโมโรส มอนเตเนโกร เซนต์คิตส์และเนวิส 2007 ชาด ประเทศญี่ปุ่น 2008 หมู่เกาะคุก มาดากัสการ์ ซูรินาม ปี 2009 ชิลี สาธารณรัฐเช็ก 2010 บังกลาเทศ มอลโดวา เซนต์ลูเซีย เซเชลส์ ปี 2011 กาบูเวร์ดี, เกรเนดา, มัลดีฟส์, ตูนิเซีย 2012 กัวเตมาลา วานูอาตู ปี 2013 ไอวอรีโคสต์ ปี 2558 ปาเลสไตน์ ปี 2559 เอลซัลวาดอร์ ปี 2019 คิริบาติ 2023 อาร์เมเนีย 2024 ยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 486 มุมมอง 0 รีวิว
  • สเปน ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี "เปโดร ซานเชซ" ประกาศยกเลิกสัญญาด้านกลาโหมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านยูโร (ประมาณ 3.76 หมื่นล้านบาท) ที่ทำกับบริษัทต่างๆของอิสราเอล เพื่อตอบโต้ฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซา ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตใกล้แตะเจ็ดหมื่นราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง และยังมีผู้สูญหายอีกประมาณสามแสนราย
    .
    นับเป็นมาตรการที่เข้มข้นที่สุดจากความเคลื่อนไหวของสเปนที่มีต่ออิสราเอล
    .
    สัญญาที่รัฐบาลสเปนยกเลิก เกี่ยวข้องกับระบบยิงจรวด SILAM ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม Elbit PULS ของอิสราเอล และสัญญาสำหรับขีปนาวุธต่อต้านรถถัง Spike L.R. ซึ่งเดิมจะผลิตโดยกลุ่มบริษัทสเปนภายใต้ใบอนุญาตจากอิสราเอล
    .
    ขณะที่อิสราเอลเริ่มเดินหน้าปฏิบัติการยึดเมือง "กาซา ซิตี้" เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อครอบครองเป็นของตนเอง โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาส และกดดันฮามาสให้ปล่อยตัวประกัน ซึ่งอิสราเอลคาดว่ายังมีอยู่อีกประมาณ 40 ราย แต่คาดว่ายังมีชีวิตเพียง 20 รายเท่านั้น

    ด้านคณะกรรมการสอบสวนอิสระแห่งสหประชาชาติ ยอมรับที่เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่างเป็นทางการครั้งแรกว่า การโจมตีของอิสราเอลเป็น “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ตามอนุสัญญาปี 1948

    นอกจากนี้ หลายประเทศในยุโรป เช่น อิตาลี เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ญี่ปุ่น และสโลวีเนีย ต่างประกาศระงับหรือจำกัดการส่งออกอาวุธไปยังอิสราเอลเช่นกัน
    สเปน ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี "เปโดร ซานเชซ" ประกาศยกเลิกสัญญาด้านกลาโหมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านยูโร (ประมาณ 3.76 หมื่นล้านบาท) ที่ทำกับบริษัทต่างๆของอิสราเอล เพื่อตอบโต้ฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซา ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตใกล้แตะเจ็ดหมื่นราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง และยังมีผู้สูญหายอีกประมาณสามแสนราย . นับเป็นมาตรการที่เข้มข้นที่สุดจากความเคลื่อนไหวของสเปนที่มีต่ออิสราเอล . สัญญาที่รัฐบาลสเปนยกเลิก เกี่ยวข้องกับระบบยิงจรวด SILAM ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม Elbit PULS ของอิสราเอล และสัญญาสำหรับขีปนาวุธต่อต้านรถถัง Spike L.R. ซึ่งเดิมจะผลิตโดยกลุ่มบริษัทสเปนภายใต้ใบอนุญาตจากอิสราเอล . 👉ขณะที่อิสราเอลเริ่มเดินหน้าปฏิบัติการยึดเมือง "กาซา ซิตี้" เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อครอบครองเป็นของตนเอง โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาส และกดดันฮามาสให้ปล่อยตัวประกัน ซึ่งอิสราเอลคาดว่ายังมีอยู่อีกประมาณ 40 ราย แต่คาดว่ายังมีชีวิตเพียง 20 รายเท่านั้น 👉ด้านคณะกรรมการสอบสวนอิสระแห่งสหประชาชาติ ยอมรับที่เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่างเป็นทางการครั้งแรกว่า การโจมตีของอิสราเอลเป็น “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ตามอนุสัญญาปี 1948 👉นอกจากนี้ หลายประเทศในยุโรป เช่น อิตาลี เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี ญี่ปุ่น และสโลวีเนีย ต่างประกาศระงับหรือจำกัดการส่งออกอาวุธไปยังอิสราเอลเช่นกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 403 มุมมอง 0 รีวิว
  • “SOC ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือร่มชูชีพ — ถ้าไม่ออกแบบดีพอ วันตกอาจไม่มีโอกาสแก้ตัว”

    Dan Haagman ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ได้เขียนบทความที่สะท้อนความจริงอันเจ็บปวดของ Security Operations Center (SOC) ในองค์กรยุคใหม่ว่า “เราเชื่อว่า SOC จะช่วยป้องกันทุกอย่างได้ — แต่ความจริงคือมันพังบ่อย และพังเงียบ ๆ”

    เขาเปรียบ SOC กับร่มชูชีพที่องค์กรหวังพึ่งในยามเกิดเหตุ แต่ปัญหาคือ SOC ส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาให้ “ตอบสนอง” มากกว่าคาดการณ์ล่วงหน้า เต็มไปด้วยเครื่องมือที่ซับซ้อน แดชบอร์ดที่ล้น และการแจ้งเตือนที่มากเกินไปจนเกิด “alert fatigue” ซึ่งทำให้ทีมงานมองข้ามสัญญาณสำคัญไปโดยไม่รู้ตัว

    Haagman เสนอว่า SOC ต้องเปลี่ยนจากการ “โยนเครื่องมือใส่ปัญหา” มาเป็นการ “ออกแบบระบบให้เรียบง่ายแต่แข็งแรง” เหมือนระบบรถไฟของสวิตเซอร์แลนด์ที่ไม่ใช่แค่ดูดี แต่ผ่านการทดสอบและฝึกซ้อมอย่างหนัก เขาเน้นว่า “ความซับซ้อนคือศัตรูของความยืดหยุ่น” และการพึ่งพา AI โดยไม่เข้าใจบริบทของระบบก็เป็นความเสี่ยงเช่นกัน

    เขายังเตือนว่า “คุณไม่สามารถเอาความคิดไปจ้างคนอื่นได้” — หมายถึงองค์กรต้องเข้าใจระบบของตัวเองอย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่หวังให้ vendor หรือ AI มาช่วยคิดแทน เพราะการตอบสนองต่อเหตุการณ์ต้องอาศัยความเข้าใจบริบท ความรู้ภายใน และการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง

    สุดท้าย Haagman เสนอว่า SOC ที่ดีต้องมี “muscle memory” เหมือนนักบินที่ฝึกซ้อมการรับมือเหตุฉุกเฉินจนกลายเป็นสัญชาตญาณ ไม่ใช่รอเปิดคู่มือเมื่อเครื่องยนต์ดับกลางอากาศ

    ปัญหาและข้อเสนอจากบทความ
    SOC ส่วนใหญ่ยังเน้นการตอบสนองมากกว่าการคาดการณ์ล่วงหน้า
    Alert fatigue ทำให้ทีมงานมองข้ามสัญญาณสำคัญ
    การออกแบบระบบที่ซับซ้อนเกินไปทำให้ความยืดหยุ่นลดลง
    SOC ต้องเปลี่ยนจากการใช้เครื่องมือมากมาย มาเป็นการออกแบบที่เรียบง่ายแต่แข็งแรง

    แนวคิด “Swiss Engineering” และการฝึกซ้อม
    ระบบที่ดีไม่ใช่แค่มีเครื่องมือเยอะ แต่ต้องผ่านการทดสอบและฝึกซ้อม
    SOC ควรมี “muscle memory” เหมือนนักบิน — ฝึกซ้อมจนตอบสนองได้ทันที
    การตอบสนองต้องมี flow ที่ชัดเจน เช่น “aviate, navigate, communicate”
    การฝึกซ้อมช่วยให้ทีมงานตอบสนองได้แม่นยำในสถานการณ์จริง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Generative AI เริ่มถูกใช้เพื่อช่วยลด alert fatigue โดยคัดกรองข้อมูลก่อนส่งถึงมนุษย์
    SOC ที่ใช้ AI อย่างมีโครงสร้างสามารถลดเวลาในการตรวจจับจาก 1 วันเหลือเพียง 10 วินาที
    การออกแบบระบบที่เน้น context-aware detection ช่วยให้มองเห็นภัยคุกคามที่ซ่อนอยู่ในข้อมูลเล็ก ๆ
    การฝึกซ้อมแบบ live-fire exercise ช่วยให้ทีม SOC เข้าใจช่องโหว่ของตัวเองและปรับปรุงได้จริง



    https://www.csoonline.com/article/4056178/your-soc-is-the-parachute-will-it-open.html
    🪂 “SOC ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่คือร่มชูชีพ — ถ้าไม่ออกแบบดีพอ วันตกอาจไม่มีโอกาสแก้ตัว” Dan Haagman ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ได้เขียนบทความที่สะท้อนความจริงอันเจ็บปวดของ Security Operations Center (SOC) ในองค์กรยุคใหม่ว่า “เราเชื่อว่า SOC จะช่วยป้องกันทุกอย่างได้ — แต่ความจริงคือมันพังบ่อย และพังเงียบ ๆ” เขาเปรียบ SOC กับร่มชูชีพที่องค์กรหวังพึ่งในยามเกิดเหตุ แต่ปัญหาคือ SOC ส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาให้ “ตอบสนอง” มากกว่าคาดการณ์ล่วงหน้า เต็มไปด้วยเครื่องมือที่ซับซ้อน แดชบอร์ดที่ล้น และการแจ้งเตือนที่มากเกินไปจนเกิด “alert fatigue” ซึ่งทำให้ทีมงานมองข้ามสัญญาณสำคัญไปโดยไม่รู้ตัว Haagman เสนอว่า SOC ต้องเปลี่ยนจากการ “โยนเครื่องมือใส่ปัญหา” มาเป็นการ “ออกแบบระบบให้เรียบง่ายแต่แข็งแรง” เหมือนระบบรถไฟของสวิตเซอร์แลนด์ที่ไม่ใช่แค่ดูดี แต่ผ่านการทดสอบและฝึกซ้อมอย่างหนัก เขาเน้นว่า “ความซับซ้อนคือศัตรูของความยืดหยุ่น” และการพึ่งพา AI โดยไม่เข้าใจบริบทของระบบก็เป็นความเสี่ยงเช่นกัน เขายังเตือนว่า “คุณไม่สามารถเอาความคิดไปจ้างคนอื่นได้” — หมายถึงองค์กรต้องเข้าใจระบบของตัวเองอย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่หวังให้ vendor หรือ AI มาช่วยคิดแทน เพราะการตอบสนองต่อเหตุการณ์ต้องอาศัยความเข้าใจบริบท ความรู้ภายใน และการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง สุดท้าย Haagman เสนอว่า SOC ที่ดีต้องมี “muscle memory” เหมือนนักบินที่ฝึกซ้อมการรับมือเหตุฉุกเฉินจนกลายเป็นสัญชาตญาณ ไม่ใช่รอเปิดคู่มือเมื่อเครื่องยนต์ดับกลางอากาศ ✅ ปัญหาและข้อเสนอจากบทความ ➡️ SOC ส่วนใหญ่ยังเน้นการตอบสนองมากกว่าการคาดการณ์ล่วงหน้า ➡️ Alert fatigue ทำให้ทีมงานมองข้ามสัญญาณสำคัญ ➡️ การออกแบบระบบที่ซับซ้อนเกินไปทำให้ความยืดหยุ่นลดลง ➡️ SOC ต้องเปลี่ยนจากการใช้เครื่องมือมากมาย มาเป็นการออกแบบที่เรียบง่ายแต่แข็งแรง ✅ แนวคิด “Swiss Engineering” และการฝึกซ้อม ➡️ ระบบที่ดีไม่ใช่แค่มีเครื่องมือเยอะ แต่ต้องผ่านการทดสอบและฝึกซ้อม ➡️ SOC ควรมี “muscle memory” เหมือนนักบิน — ฝึกซ้อมจนตอบสนองได้ทันที ➡️ การตอบสนองต้องมี flow ที่ชัดเจน เช่น “aviate, navigate, communicate” ➡️ การฝึกซ้อมช่วยให้ทีมงานตอบสนองได้แม่นยำในสถานการณ์จริง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Generative AI เริ่มถูกใช้เพื่อช่วยลด alert fatigue โดยคัดกรองข้อมูลก่อนส่งถึงมนุษย์ ➡️ SOC ที่ใช้ AI อย่างมีโครงสร้างสามารถลดเวลาในการตรวจจับจาก 1 วันเหลือเพียง 10 วินาที ➡️ การออกแบบระบบที่เน้น context-aware detection ช่วยให้มองเห็นภัยคุกคามที่ซ่อนอยู่ในข้อมูลเล็ก ๆ ➡️ การฝึกซ้อมแบบ live-fire exercise ช่วยให้ทีม SOC เข้าใจช่องโหว่ของตัวเองและปรับปรุงได้จริง https://www.csoonline.com/article/4056178/your-soc-is-the-parachute-will-it-open.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Your SOC is the parachute — Will it open?
    From alert fatigue to not relying on AI to know your systems, how to ensure your SOC is ready for current threats.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • ล่องเรือแม่น้ำไรน์ ท่ามกลางบรรยากาศตลาดคริสต์มาสสุดคลาสสิก!
    สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งฤดูหนาวผ่านแสงไฟระยิบระยับ กลิ่นไวน์หอมหวาน และสินค้าแฮนด์เมดที่บอกเล่าเอกลักษณ์ของแต่ละเมือง

    🛳 Rhine Holiday Markets – เรือสำราญระดับ 6 ดาว

    ระยะเวลา 8 วัน 7 คืน

    เดินทาง พฤศจิกายน – ธันวาคม 2568–2569

    เส้นทางคริสต์มาสสุดโรแมนติก : บาเซิล (สวิตเซอร์แลนด์) – คีล (สตราสบูร์ก) – มานน์ไฮม์ (บาเดิน-บาเดิน) – ไมนซ์ – รูเดสไฮม์ – ล่องแม่น้ำไรน์ – โคเบลนซ์ – โคโลญ (เยอรมนี)

    ราคาเริ่มต้น: USD 4,199 ต่อท่าน

    รวมอาหารทุกมื้อบนเรือสำราญ
    กิจกรรมและความบันเทิงครบตลอดทริป
    บริการรถรับ-ส่งระหว่างสนามบินและท่าเรือ

    รหัสแพ็คเกจ : UNIP-8D7N-BSL-CGN-2612161
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/eafac4

    ดูเรือ Uniworld River Cruise ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/2d5491

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696 (Auto)

    #เรือUniworldRiverCruise #Uniworld #RhineRiver #UniworldRiverCruise #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #แม่น้ำไรน์ #Cologne #Germany #Mainz #Basel #CruiseDomain
    🎄 ล่องเรือแม่น้ำไรน์ ท่ามกลางบรรยากาศตลาดคริสต์มาสสุดคลาสสิก! สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งฤดูหนาวผ่านแสงไฟระยิบระยับ กลิ่นไวน์หอมหวาน และสินค้าแฮนด์เมดที่บอกเล่าเอกลักษณ์ของแต่ละเมือง 🎁✨ 🛳 Rhine Holiday Markets – เรือสำราญระดับ 6 ดาว ⏳ ระยะเวลา 8 วัน 7 คืน 📆 เดินทาง พฤศจิกายน – ธันวาคม 2568–2569 📍 เส้นทางคริสต์มาสสุดโรแมนติก : บาเซิล (สวิตเซอร์แลนด์) – คีล (สตราสบูร์ก) – มานน์ไฮม์ (บาเดิน-บาเดิน) – ไมนซ์ – รูเดสไฮม์ – ล่องแม่น้ำไรน์ – โคเบลนซ์ – โคโลญ (เยอรมนี) 💰 ราคาเริ่มต้น: USD 4,199 ต่อท่าน ✅ รวมอาหารทุกมื้อบนเรือสำราญ ✅ กิจกรรมและความบันเทิงครบตลอดทริป ✅ บริการรถรับ-ส่งระหว่างสนามบินและท่าเรือ ➡️ รหัสแพ็คเกจ : UNIP-8D7N-BSL-CGN-2612161 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/eafac4 ดูเรือ Uniworld River Cruise ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/2d5491 ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #เรือUniworldRiverCruise #Uniworld #RhineRiver #UniworldRiverCruise #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #แม่น้ำไรน์ #Cologne #Germany #Mainz #Basel #CruiseDomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 409 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส่งทองไปกัมพูชาพุ่ง ส่อพิรุธพัวพันสแกมเมอร์ : [NEWS UPDATE]

    นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เผย ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ตั้งข้อสังเกตสาเหตุเงินบาทแข็งค่าเร็วและรุนแรง ส่วนหนึ่งมาจากความผิดปกติในการส่งออกทองคำไปกัมพูชา ซึ่งเดือน ม.ค.-ก.ค. 2568 ไทยส่งออกทองคำไปกัมพูชา เป็นอันดับ 2 รองจากสวิตเซอร์แลนด์ มูลค่ากว่า 2,149 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 68,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.3% คิดเป็น 28.2% เมื่อเทียบกับการส่งออกทองคำทั้งหมด ถือเป็นอัตราที่สูงมาก ทั้งที่กัมพูชาเป็นประเทศเล็กๆ โดยกัมพูชามีปัญหาเรื่องสแกมเมอร์ จึงกังวลว่าจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจใต้ดินหรือไม่ อาจเป็นปัจจัยที่คาดไม่ถึง เพราะเป็นเศรษฐกิจนอกระบบ การส่งออกทองคำไปกัมพูชา อาจมีทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ซึ่งเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ต้องหารือกับรัฐบาลใหม่

    -ต้องถอนกำลังก่อนเปิดด่าน

    -นิยามที่คุมขังต้องชัดเจน

    -แก้หมวด 15 ก่อนประชามติ

    -หวังคนละครึ่งหมุนเงินแสนล้าน
    ส่งทองไปกัมพูชาพุ่ง ส่อพิรุธพัวพันสแกมเมอร์ : [NEWS UPDATE] นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เผย ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ตั้งข้อสังเกตสาเหตุเงินบาทแข็งค่าเร็วและรุนแรง ส่วนหนึ่งมาจากความผิดปกติในการส่งออกทองคำไปกัมพูชา ซึ่งเดือน ม.ค.-ก.ค. 2568 ไทยส่งออกทองคำไปกัมพูชา เป็นอันดับ 2 รองจากสวิตเซอร์แลนด์ มูลค่ากว่า 2,149 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 68,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.3% คิดเป็น 28.2% เมื่อเทียบกับการส่งออกทองคำทั้งหมด ถือเป็นอัตราที่สูงมาก ทั้งที่กัมพูชาเป็นประเทศเล็กๆ โดยกัมพูชามีปัญหาเรื่องสแกมเมอร์ จึงกังวลว่าจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจใต้ดินหรือไม่ อาจเป็นปัจจัยที่คาดไม่ถึง เพราะเป็นเศรษฐกิจนอกระบบ การส่งออกทองคำไปกัมพูชา อาจมีทั้งถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมาย อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ซึ่งเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ต้องหารือกับรัฐบาลใหม่ -ต้องถอนกำลังก่อนเปิดด่าน -นิยามที่คุมขังต้องชัดเจน -แก้หมวด 15 ก่อนประชามติ -หวังคนละครึ่งหมุนเงินแสนล้าน
    Like
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 612 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากความไม่เชื่อใจ : กฎหมาย Chat Control เปิดช่องทางให้รัฐบาลเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว

    ลองจินตนาการว่า ทุกข้อความที่คุณส่ง ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกับคนรัก การปรึกษาแพทย์ หรือแม้แต่การแชร์ภาพลูกน้อยในอ่างอาบน้ำ—ถูกสแกนโดยระบบอัตโนมัติของรัฐบาล แล้วถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลที่อาจถูกแฮกได้ทุกเมื่อ นี่คือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในยุโรป หากกฎหมาย “Chat Control” ผ่านการอนุมัติในเดือนตุลาคมนี้

    กฎหมายนี้เสนอให้ผู้ให้บริการแชท อีเมล โซเชียลมีเดีย และคลาวด์ ต้องสแกนทุกข้อความและไฟล์ของผู้ใช้ แม้แต่ข้อความที่เข้ารหัสแบบ end-to-end ก็ไม่รอดพ้นจากการตรวจสอบ โดยอ้างว่าเป็นการป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก แต่ในความเป็นจริง มันอาจกลายเป็นเครื่องมือเฝ้าระวังที่ทำลายสิทธิส่วนบุคคลของทุกคน

    สิ่งที่น่ากังวลคือ ระบบนี้มีอัตราการแจ้งเตือนผิดพลาดสูงถึง 80% จากข้อมูลของตำรวจสวิตเซอร์แลนด์ และในเยอรมนี กว่า 40% ของคดีที่เกิดจากการแจ้งเตือนนั้น กลับเป็นการสอบสวนเด็กที่ส่งภาพกันเองโดยสมัครใจ ซึ่งอาจกลายเป็นการตีตราเด็กว่าเป็นอาชญากรโดยไม่ตั้งใจ

    นอกจากนี้ การบังคับให้เปิดช่องทางให้รัฐบาลเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว ยังเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์และรัฐบาลเผด็จการสามารถใช้ช่องโหว่เหล่านี้ในการสอดแนมประชาชนทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในยุโรปเท่านั้น เพราะหากคุณติดต่อกับคนในยุโรป ข้อมูลของคุณก็จะถูกสแกนไปด้วย

    สิ่งที่ควรทำคือการสนับสนุนการเข้ารหัสแบบ end-to-end อย่างแท้จริง การเพิ่มทรัพยากรให้กับองค์กรที่ทำงานด้านการปกป้องเด็ก และการให้ความรู้แก่เด็กและผู้ปกครองเกี่ยวกับความปลอดภัยทางดิจิทัล ไม่ใช่การสอดแนมทุกคนอย่างไร้ขอบเขต

    https://www.privacyguides.org/articles/2025/09/08/chat-control-must-be-stopped/
    🎙️ เรื่องเล่าจากความไม่เชื่อใจ : กฎหมาย Chat Control เปิดช่องทางให้รัฐบาลเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว ลองจินตนาการว่า ทุกข้อความที่คุณส่ง ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกับคนรัก การปรึกษาแพทย์ หรือแม้แต่การแชร์ภาพลูกน้อยในอ่างอาบน้ำ—ถูกสแกนโดยระบบอัตโนมัติของรัฐบาล แล้วถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลที่อาจถูกแฮกได้ทุกเมื่อ นี่คือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในยุโรป หากกฎหมาย “Chat Control” ผ่านการอนุมัติในเดือนตุลาคมนี้ กฎหมายนี้เสนอให้ผู้ให้บริการแชท อีเมล โซเชียลมีเดีย และคลาวด์ ต้องสแกนทุกข้อความและไฟล์ของผู้ใช้ แม้แต่ข้อความที่เข้ารหัสแบบ end-to-end ก็ไม่รอดพ้นจากการตรวจสอบ โดยอ้างว่าเป็นการป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก แต่ในความเป็นจริง มันอาจกลายเป็นเครื่องมือเฝ้าระวังที่ทำลายสิทธิส่วนบุคคลของทุกคน สิ่งที่น่ากังวลคือ ระบบนี้มีอัตราการแจ้งเตือนผิดพลาดสูงถึง 80% จากข้อมูลของตำรวจสวิตเซอร์แลนด์ และในเยอรมนี กว่า 40% ของคดีที่เกิดจากการแจ้งเตือนนั้น กลับเป็นการสอบสวนเด็กที่ส่งภาพกันเองโดยสมัครใจ ซึ่งอาจกลายเป็นการตีตราเด็กว่าเป็นอาชญากรโดยไม่ตั้งใจ นอกจากนี้ การบังคับให้เปิดช่องทางให้รัฐบาลเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว ยังเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์และรัฐบาลเผด็จการสามารถใช้ช่องโหว่เหล่านี้ในการสอดแนมประชาชนทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในยุโรปเท่านั้น เพราะหากคุณติดต่อกับคนในยุโรป ข้อมูลของคุณก็จะถูกสแกนไปด้วย สิ่งที่ควรทำคือการสนับสนุนการเข้ารหัสแบบ end-to-end อย่างแท้จริง การเพิ่มทรัพยากรให้กับองค์กรที่ทำงานด้านการปกป้องเด็ก และการให้ความรู้แก่เด็กและผู้ปกครองเกี่ยวกับความปลอดภัยทางดิจิทัล ไม่ใช่การสอดแนมทุกคนอย่างไร้ขอบเขต https://www.privacyguides.org/articles/2025/09/08/chat-control-must-be-stopped/
    WWW.PRIVACYGUIDES.ORG
    Chat Control Must Be Stopped, Act Now!
    Chat Control is back to undermine everyone's privacy. There's an important deadline this Friday on September 12th. We must act now to stop it!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก ETH Zurich ถึง 1811 ภาษา: เมื่อโมเดลภาษาไม่ได้ถูกสร้างเพื่อแข่งขัน แต่เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้

    Apertus เป็นโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ที่พัฒนาโดย Swiss National AI Institute (SNAI) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ETH Zurich และ EPFL โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโมเดลที่เปิดทุกส่วน—ตั้งแต่โค้ด, น้ำหนักโมเดล, ข้อมูลเทรน, ไปจนถึงสูตรการเทรนเอง

    โมเดลมีสองขนาดคือ 8B และ 70B พารามิเตอร์ โดยเวอร์ชัน 70B ถูกเทรนด้วยข้อมูล 15 ล้านล้าน token จากเว็บ, โค้ด, และคณิตศาสตร์ ผ่านกระบวนการ curriculum learning ที่จัดลำดับเนื้อหาอย่างเป็นระบบ

    Apertus รองรับภาษามากถึง 1811 ภาษา โดย 40% ของข้อมูลเทรนเป็นภาษาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เช่น Swiss German, Romansh และภาษาอื่น ๆ ที่มักถูกละเลยในโมเดลทั่วไป

    โมเดลใช้สถาปัตยกรรม decoder-only transformer พร้อมฟังก์ชัน activation ใหม่ชื่อ xIELU และ optimizer แบบ AdEMAMix ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเทรนในระดับ bfloat16 บน GPU GH200 จำนวน 4096 ตัว

    หลังการเทรน โมเดลยังผ่านการ fine-tune แบบมีผู้ดูแล และ alignment ด้วยเทคนิค QRPO เพื่อให้ตอบสนองต่อผู้ใช้ได้ดีขึ้น โดยไม่ละเมิดความเป็นกลางหรือความปลอดภัย

    สิ่งที่โดดเด่นคือ Apertus เคารพสิทธิ์ของเจ้าของข้อมูลอย่างเข้มงวด โดยใช้ระบบ opt-out ที่สามารถย้อนกลับได้ และมีระบบ output filter ที่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดทุก 6 เดือน เพื่อกรองข้อมูลส่วนบุคคลออกจากผลลัพธ์ของโมเดล

    นอกจากนี้ Apertus ยังถูกออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมายความโปร่งใสของ EU AI Act และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลของสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีเอกสารสาธารณะและโค้ดการเทรนให้ตรวจสอบได้ทั้งหมด

    ข้อมูลพื้นฐานของ Apertus
    พัฒนาโดย SNAI ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ETH Zurich และ EPFL
    มีสองขนาด: 8B และ 70B พารามิเตอร์
    เทรนด้วยข้อมูล 15T token จากเว็บ, โค้ด, และคณิตศาสตร์

    สถาปัตยกรรมและเทคนิคการเทรน
    ใช้ decoder-only transformer พร้อมฟังก์ชัน xIELU
    ใช้ optimizer AdEMAMix และ precision แบบ bfloat16
    เทรนบน GPU GH200 จำนวน 4096 ตัว

    ความสามารถด้านภาษาและความโปร่งใส
    รองรับ 1811 ภาษา โดย 40% เป็นภาษาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ
    ใช้ข้อมูลที่เปิดและเคารพ opt-out ของเจ้าของข้อมูล
    มีระบบ output filter สำหรับลบข้อมูลส่วนบุคคลจากผลลัพธ์

    การใช้งานและการ deploy
    รองรับ context ยาวถึง 65,536 token
    ใช้งานผ่าน Transformers v4.56.0, vLLM, SGLang และ MLX
    มีอินเทอร์เฟซผ่าน Swisscom และ PublicAI สำหรับผู้ใช้ทั่วไป

    การปฏิบัติตามกฎหมายและจริยธรรม
    สอดคล้องกับ EU AI Act และกฎหมายสวิตเซอร์แลนด์
    มีเอกสารสาธารณะและโค้ดการเทรนให้ตรวจสอบได้
    ไม่ใช้ข้อมูลที่ละเมิดสิทธิ์หรือมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม

    https://huggingface.co/swiss-ai/Apertus-70B-2509
    🎙️ เรื่องเล่าจาก ETH Zurich ถึง 1811 ภาษา: เมื่อโมเดลภาษาไม่ได้ถูกสร้างเพื่อแข่งขัน แต่เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงได้ Apertus เป็นโมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ที่พัฒนาโดย Swiss National AI Institute (SNAI) ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ETH Zurich และ EPFL โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างโมเดลที่เปิดทุกส่วน—ตั้งแต่โค้ด, น้ำหนักโมเดล, ข้อมูลเทรน, ไปจนถึงสูตรการเทรนเอง โมเดลมีสองขนาดคือ 8B และ 70B พารามิเตอร์ โดยเวอร์ชัน 70B ถูกเทรนด้วยข้อมูล 15 ล้านล้าน token จากเว็บ, โค้ด, และคณิตศาสตร์ ผ่านกระบวนการ curriculum learning ที่จัดลำดับเนื้อหาอย่างเป็นระบบ Apertus รองรับภาษามากถึง 1811 ภาษา โดย 40% ของข้อมูลเทรนเป็นภาษาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เช่น Swiss German, Romansh และภาษาอื่น ๆ ที่มักถูกละเลยในโมเดลทั่วไป โมเดลใช้สถาปัตยกรรม decoder-only transformer พร้อมฟังก์ชัน activation ใหม่ชื่อ xIELU และ optimizer แบบ AdEMAMix ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเทรนในระดับ bfloat16 บน GPU GH200 จำนวน 4096 ตัว หลังการเทรน โมเดลยังผ่านการ fine-tune แบบมีผู้ดูแล และ alignment ด้วยเทคนิค QRPO เพื่อให้ตอบสนองต่อผู้ใช้ได้ดีขึ้น โดยไม่ละเมิดความเป็นกลางหรือความปลอดภัย สิ่งที่โดดเด่นคือ Apertus เคารพสิทธิ์ของเจ้าของข้อมูลอย่างเข้มงวด โดยใช้ระบบ opt-out ที่สามารถย้อนกลับได้ และมีระบบ output filter ที่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดทุก 6 เดือน เพื่อกรองข้อมูลส่วนบุคคลออกจากผลลัพธ์ของโมเดล นอกจากนี้ Apertus ยังถูกออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมายความโปร่งใสของ EU AI Act และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลของสวิตเซอร์แลนด์ โดยมีเอกสารสาธารณะและโค้ดการเทรนให้ตรวจสอบได้ทั้งหมด ✅ ข้อมูลพื้นฐานของ Apertus ➡️ พัฒนาโดย SNAI ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ETH Zurich และ EPFL ➡️ มีสองขนาด: 8B และ 70B พารามิเตอร์ ➡️ เทรนด้วยข้อมูล 15T token จากเว็บ, โค้ด, และคณิตศาสตร์ ✅ สถาปัตยกรรมและเทคนิคการเทรน ➡️ ใช้ decoder-only transformer พร้อมฟังก์ชัน xIELU ➡️ ใช้ optimizer AdEMAMix และ precision แบบ bfloat16 ➡️ เทรนบน GPU GH200 จำนวน 4096 ตัว ✅ ความสามารถด้านภาษาและความโปร่งใส ➡️ รองรับ 1811 ภาษา โดย 40% เป็นภาษาที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ➡️ ใช้ข้อมูลที่เปิดและเคารพ opt-out ของเจ้าของข้อมูล ➡️ มีระบบ output filter สำหรับลบข้อมูลส่วนบุคคลจากผลลัพธ์ ✅ การใช้งานและการ deploy ➡️ รองรับ context ยาวถึง 65,536 token ➡️ ใช้งานผ่าน Transformers v4.56.0, vLLM, SGLang และ MLX ➡️ มีอินเทอร์เฟซผ่าน Swisscom และ PublicAI สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ✅ การปฏิบัติตามกฎหมายและจริยธรรม ➡️ สอดคล้องกับ EU AI Act และกฎหมายสวิตเซอร์แลนด์ ➡️ มีเอกสารสาธารณะและโค้ดการเทรนให้ตรวจสอบได้ ➡️ ไม่ใช้ข้อมูลที่ละเมิดสิทธิ์หรือมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม https://huggingface.co/swiss-ai/Apertus-70B-2509
    HUGGINGFACE.CO
    swiss-ai/Apertus-70B-2509 · Hugging Face
    We’re on a journey to advance and democratize artificial intelligence through open source and open science.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • บันทึกวันแรกของลูกสาวที่ Pfizer (01-09-2025)

    วันนี้เป็นวันแรกของลูกสาวที่เริ่มงานกับ Pfizer
    บรรยากาศวันแรกเป็นไปอย่างเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

    เพื่อนร่วมรุ่นที่เข้ามาพร้อมกันมีจากหลายประเทศ ทั้งฮ่องกงและอินโดนีเซีย ส่วนใหญ่พนักงานในบริษัทเป็นชาวตะวันตก มีเพื่อนร่วมทีมที่เป็นหญิงผิวสีชื่อ “โซมโทว” ที่ดูเป็นกันเองดี

    วันแรกเน้นการ ตั้งระบบและแนะนำสถานที่ทำงาน — ได้รับ Laptop, iPad และหูฟังจากบริษัทไว้ใช้ในการทำงาน ที่นี่สามารถ Work from home ได้สัปดาห์ละ 2 วัน แต่ก็อู้งานไม่ได้นะ เพราะบริษัทมีระบบตรวจจับการทำงานแบบเรียลไทม์

    ที่ Pfizer พนักงานสามารถเลือกที่นั่งทำงานตรงไหนก็ได้ มีส่วนลดค่าอาหารสำหรับพนักงานด้วย
    ลูกเล่าว่าได้เจอคนไทยอยู่หนึ่งคน อายุราว 40 กว่า ๆ เป็นพี่ที่ช่วยถ่ายรูปทำบัตรพนักงานให้ แถมพูดว่า “หนึ่ง สอง สาม ยิ้ม” เป็นภาษาไทยด้วย เพราะเห็นชื่อลูกเป็นชื่อไทย พี่เขายังบอกขำ ๆ ว่า “ถ่ายไม่สวย ถ่ายใหม่นะ — พิเศษเฉพาะคนไทย!”

    ปีนี้ Pfizer รับเด็กฝึกงานเข้ามาทั้งหมด 76 คน และจะคัดเลือก 6 คนให้เข้าทำงานต่อหลังเรียนจบ ถ้าทำผลงานดี มีโอกาสได้ไปประชุม (conference) ที่อเมริกา หรือสวิตเซอร์แลนด์ด้วย

    เวลางานเริ่ม 08.30 - 17.30 น.
    แต่ต้องออกจากที่พักเช้าหน่อยเพื่อให้ทันรถบัสของ Pfizer ซึ่งมารอบเดียวตอน 07.40 น. ใช้บัตรพนักงานแตะขึ้นรถได้ฟรี ถ้าพลาดรอบนี้ต้องเรียก Uber ซึ่งราคาค่อนข้างแรง

    ตอนเลิกงานสบายหน่อย มีรถบัสกลับหลายรอบ — 15.30, 16.30, 17.30 และ 18.00 ถ้าไม่อู้หลังเลิกงาน จะทันรถรอบ 17.30 พอดี

    สรุป… วันแรกผ่านไปด้วยดี
    บันทึกไว้เป็นความทรงจำอีกหนึ่งก้าวสำคัญในชีวิตลูกสาว
    📖 บันทึกวันแรกของลูกสาวที่ Pfizer (01-09-2025) วันนี้เป็นวันแรกของลูกสาวที่เริ่มงานกับ Pfizer บรรยากาศวันแรกเป็นไปอย่างเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น 😊 เพื่อนร่วมรุ่นที่เข้ามาพร้อมกันมีจากหลายประเทศ ทั้งฮ่องกงและอินโดนีเซีย ส่วนใหญ่พนักงานในบริษัทเป็นชาวตะวันตก มีเพื่อนร่วมทีมที่เป็นหญิงผิวสีชื่อ “โซมโทว” ที่ดูเป็นกันเองดี วันแรกเน้นการ ตั้งระบบและแนะนำสถานที่ทำงาน — ได้รับ Laptop, iPad และหูฟังจากบริษัทไว้ใช้ในการทำงาน ที่นี่สามารถ Work from home ได้สัปดาห์ละ 2 วัน แต่ก็อู้งานไม่ได้นะ เพราะบริษัทมีระบบตรวจจับการทำงานแบบเรียลไทม์ 😅 ที่ Pfizer พนักงานสามารถเลือกที่นั่งทำงานตรงไหนก็ได้ มีส่วนลดค่าอาหารสำหรับพนักงานด้วย ลูกเล่าว่าได้เจอคนไทยอยู่หนึ่งคน อายุราว 40 กว่า ๆ เป็นพี่ที่ช่วยถ่ายรูปทำบัตรพนักงานให้ แถมพูดว่า “หนึ่ง สอง สาม ยิ้ม” เป็นภาษาไทยด้วย เพราะเห็นชื่อลูกเป็นชื่อไทย 😊 พี่เขายังบอกขำ ๆ ว่า “ถ่ายไม่สวย ถ่ายใหม่นะ — พิเศษเฉพาะคนไทย!” ปีนี้ Pfizer รับเด็กฝึกงานเข้ามาทั้งหมด 76 คน และจะคัดเลือก 6 คนให้เข้าทำงานต่อหลังเรียนจบ ถ้าทำผลงานดี มีโอกาสได้ไปประชุม (conference) ที่อเมริกา หรือสวิตเซอร์แลนด์ด้วย เวลางานเริ่ม 08.30 - 17.30 น. แต่ต้องออกจากที่พักเช้าหน่อยเพื่อให้ทันรถบัสของ Pfizer ซึ่งมารอบเดียวตอน 07.40 น. ใช้บัตรพนักงานแตะขึ้นรถได้ฟรี ถ้าพลาดรอบนี้ต้องเรียก Uber ซึ่งราคาค่อนข้างแรง 🚌 ตอนเลิกงานสบายหน่อย มีรถบัสกลับหลายรอบ — 15.30, 16.30, 17.30 และ 18.00 ถ้าไม่อู้หลังเลิกงาน จะทันรถรอบ 17.30 พอดี สรุป… วันแรกผ่านไปด้วยดี 😊 บันทึกไว้เป็นความทรงจำอีกหนึ่งก้าวสำคัญในชีวิตลูกสาว ❤️
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัมผัสยุโรปคลาสสิกผ่านสายน้ำไรน์บนเรือ Viking River Cruise 5 ดาว 8 วัน 7 คืน
    ล่องผ่าน 4 ประเทศ ไฮไลต์ครบทั้งธรรมชาติ เมืองเก่า มรดกโลก แวะเที่ยวเมืองดังอย่างสตราสบูร์ก โคโลญจน์ อัมสเตอร์ดัม

    เส้นทาง บาเซิล, สวิตเซอร์แลนด์ - ไบรซัค, เยอรมนี - สตราสบูร์ก, ฝรั่งเศส - ชไปเออร์, เยอรมนี - รืเดสไฮม์, เยอรมนี - โคเบลนซ์, เยอรมนี - โคโลญจน์, เยอรมนี - คินเดอร์ไดค์, เนเธอร์แลนด์ - อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์

    วันที่ มี.ค. - ต.ค. 2569

    ⭕️ ราคาเริ่มต้น 6,195AUD
    โปรโมชั่น รับส่วนลดสูงสุดถึง 4,000AUD ต่อห้องพักคู่ เมื่อจองภายใน 1 ก.ย. 2568 หรือ จนกว่าห้องจะเต็ม

    All inclusive
    โรงแรมที่พักในเบอร์ลิน 2 คืน
    ทัวร์ชายฝั่งฟรี 1 รายการในทุกเมืองที่เรือจอด
    ฟรี Wi-Fi
    เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ เสริ์ฟพร้อมมื้อกลางวัน และมื้อเย็นบนเรือ

    รหัสแพคเกจทัวร์ : VKRP-8D7N-BSL-AMS-2611211
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e3ccf4

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #VikingRiverCruise #ElegantElbe #Switzerland #Germany #France #Netherland #Cologne #KinderdijkWindmills #Speyer #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #CruiseDomain
    🚢 สัมผัสยุโรปคลาสสิกผ่านสายน้ำไรน์บนเรือ Viking River Cruise 5 ดาว 8 วัน 7 คืน ล่องผ่าน 4 ประเทศ ไฮไลต์ครบทั้งธรรมชาติ เมืองเก่า มรดกโลก แวะเที่ยวเมืองดังอย่างสตราสบูร์ก โคโลญจน์ อัมสเตอร์ดัม ➡️ เส้นทาง บาเซิล, สวิตเซอร์แลนด์ - ไบรซัค, เยอรมนี - สตราสบูร์ก, ฝรั่งเศส - ชไปเออร์, เยอรมนี - รืเดสไฮม์, เยอรมนี - โคเบลนซ์, เยอรมนี - โคโลญจน์, เยอรมนี - คินเดอร์ไดค์, เนเธอร์แลนด์ - อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์ 📅 วันที่ มี.ค. - ต.ค. 2569 ⭕️ ราคาเริ่มต้น 6,195AUD โปรโมชั่น รับส่วนลดสูงสุดถึง 4,000AUD ต่อห้องพักคู่ เมื่อจองภายใน 1 ก.ย. 2568 หรือ จนกว่าห้องจะเต็ม 💥 ✨ All inclusive ✅ โรงแรมที่พักในเบอร์ลิน 2 คืน ✅ ทัวร์ชายฝั่งฟรี 1 รายการในทุกเมืองที่เรือจอด ✅ ฟรี Wi-Fi ✅ เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ เสริ์ฟพร้อมมื้อกลางวัน และมื้อเย็นบนเรือ ➡️ รหัสแพคเกจทัวร์ : VKRP-8D7N-BSL-AMS-2611211 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e3ccf4 ✅ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #VikingRiverCruise #ElegantElbe #Switzerland #Germany #France #Netherland #Cologne #KinderdijkWindmills #Speyer #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #CruiseDomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 616 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรือ Viking Cruise Only, 10 วัน 9 คืน – สัมผัสความหรูหราอย่างมีระดับบนแม่น้ำเอลเบ
    ทริปเดียวเที่ยว 2 ประเทศ! เยอรมนี-เช็ก
    พร้อมวิวธรรมชาติสุดโรแมนติก เมืองเก่าริมแม่น้ำ ปราสาทหินผาสุดอลัง และบรรยากาศคลาสสิกตลอดเส้นทาง

    เส้นทาง : เบอร์ลิน, เยอรมนี - พอทสดัม, เยอรมนี - วิตเทนเบิร์ก, เยอรมนี - ไมเซิน - เดรสเดน, เยอรมนี - ล่องเรือชมวิวแซกซอน, สวิตเซอร์แลนด์ - บาดชานเดา, เยอรมนี - เมืองเดชิน, เข็ก - ปราก, เช็ก

    วันที่ มี.ค. - พ.ย. 2568

    ⭕️ ราคาเริ่มต้น : AUD7,695 ต่อท่าน
    โปรโมชั่น รับส่วนลดสูงสุดถึง 4,000AUD ต่อห้องพักคู่ เมื่อจองภายใน 1 ก.ย. 2568 หรือ จนกว่าห้องจะเต็ม

    ราคานี้รวมครบ
    โรงแรมที่พักในเบอร์ลิน 2 คืน
    ทัวร์ชายฝั่งฟรี 1 รายการในทุกเมืองที่เรือจอด
    ฟรี Wi-Fi
    เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ เสริ์ฟพร้อมมื้อกลางวัน และมื้อเย็นบนเรือ

    รหัสแพคเกจทัวร์ : VKRP-10D9N-BER-PRG-2611211
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/edb0ca

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696 (Auto)

    #VikingRiverCruise #เรือVikingAstrild #เรือVikingBeyla #ElegantElbe #VltavaRiver #Czech #Prague #Saxon #Switzerland #Wittenberg #Germany #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #CruiseDomain
    🚢 เรือ Viking Cruise Only, 10 วัน 9 คืน – สัมผัสความหรูหราอย่างมีระดับบนแม่น้ำเอลเบ ทริปเดียวเที่ยว 2 ประเทศ! เยอรมนี-เช็ก พร้อมวิวธรรมชาติสุดโรแมนติก เมืองเก่าริมแม่น้ำ ปราสาทหินผาสุดอลัง และบรรยากาศคลาสสิกตลอดเส้นทาง ➡️ เส้นทาง : เบอร์ลิน, เยอรมนี - พอทสดัม, เยอรมนี - วิตเทนเบิร์ก, เยอรมนี - ไมเซิน - เดรสเดน, เยอรมนี - ล่องเรือชมวิวแซกซอน, สวิตเซอร์แลนด์ - บาดชานเดา, เยอรมนี - เมืองเดชิน, เข็ก - ปราก, เช็ก 📅 วันที่ มี.ค. - พ.ย. 2568 ⭕️ ราคาเริ่มต้น : AUD7,695 ต่อท่าน โปรโมชั่น รับส่วนลดสูงสุดถึง 4,000AUD ต่อห้องพักคู่ เมื่อจองภายใน 1 ก.ย. 2568 หรือ จนกว่าห้องจะเต็ม 💥 ✨ ราคานี้รวมครบ ✅ โรงแรมที่พักในเบอร์ลิน 2 คืน ✅ ทัวร์ชายฝั่งฟรี 1 รายการในทุกเมืองที่เรือจอด ✅ ฟรี Wi-Fi ✅ เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ เสริ์ฟพร้อมมื้อกลางวัน และมื้อเย็นบนเรือ ➡️ รหัสแพคเกจทัวร์ : VKRP-10D9N-BER-PRG-2611211 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/edb0ca ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #VikingRiverCruise #เรือVikingAstrild #เรือVikingBeyla #ElegantElbe #VltavaRiver #Czech #Prague #Saxon #Switzerland #Wittenberg #Germany #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #CruiseDomain
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 618 มุมมอง 0 รีวิว
  • #สวิตเซอร์แลนด์ #อิตาลี จัดไป 59,900

    🗓 จำนวนวัน 7วัน 4คืน
    ✈ EK-เอมิเรตส์แอร์ไลน์
    พักโรงแรม &

    หมู่บ้านเซอร์แมท
    ศาลาไทย - เมืองโลซาน
    รูปปั้น ชาร์ลี แชปลิน
    จัตุรัสซานมาร์โค
    เกาะเวนิส
    สะพานริอัลโต
    โบสถ์เซนต์มาร์ก

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ #ทัวร์อิตาลี #switzerland #italy #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #สวิตเซอร์แลนด์ #อิตาลี จัดไป 59,900 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 7วัน 4คืน ✈ EK-เอมิเรตส์แอร์ไลน์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ & ⭐⭐⭐⭐ 📍 หมู่บ้านเซอร์แมท 📍 ศาลาไทย - เมืองโลซาน 📍 รูปปั้น ชาร์ลี แชปลิน 📍 จัตุรัสซานมาร์โค 📍 เกาะเวนิส 📍 สะพานริอัลโต 📍 โบสถ์เซนต์มาร์ก รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์ #ทัวร์อิตาลี #switzerland #italy #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 563 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • GRAND SWITZERLAND TOUR
    เดินทางโดย: QR-กาตาร์แอร์เวย์
    จำนวนวัน: 8 วัน 5 คืน
    เดินทาง: ต.ค. 68 - มี.ค. 69
    ราคาเริ่มต้น: 97,900 บาท

    รายละเอียดทัวร์:
    * บริการอาหารครบทุกมื้อ (อาหารไทยรสจัดจ้าน , พิซซ่าอิตาเลียนต้นตำรับ )
    * คณะออกเดินทาง 20 ท่านขึ้นไป

    สถานที่ท่องเที่ยว:
    * โลซานน์
    * ปราสาทชิลลอง
    * เซอร์แมท
    * นั่งรถไฟไต่เขาสู่กอนเนอร์แกต
    * ปราสาทเบลลินโซนา
    * รถไฟสายโรแมนติก เบอร์นิน่าเอกซ์เพรส
    * เมืองเก่าวาดุซ
    * กรุงเบิร์น
    * นั่งรถไฟชมวิวพิชิตยอดเขาจุงเฟรา
    * นั่งกระเช้า THE V-CABLEWAY

    ข้อมูลเพิ่มเติม:
    * ทัวร์เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติและการผจญภัย
    * ราคาไม่รวมค่าธรรมเนียมวีซ่าและค่าใช้จ่ายส่วนตัว

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e31759

    ดูทัวร์สวิตเซอร์แลนด์|สวิสทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/fd5054

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์|สวิส #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #SwitzerlandTour #GrandSwitzerland #TravelWithQR #RomanticTrain #SwissAdventure #ทัวร์สวิสเซอร์แลนด์ #ท่องเที่ยว #ทัวร์ยุโรป
    GRAND SWITZERLAND TOUR 🇨🇭✨ เดินทางโดย: QR-กาตาร์แอร์เวย์ ✈️ จำนวนวัน: 8 วัน 5 คืน ⏳ เดินทาง: ต.ค. 68 - มี.ค. 69 🗓️ ราคาเริ่มต้น: 97,900 บาท 💸 รายละเอียดทัวร์: * บริการอาหารครบทุกมื้อ 🍽️ (อาหารไทยรสจัดจ้าน 🌶️, พิซซ่าอิตาเลียนต้นตำรับ 🍕) * คณะออกเดินทาง 20 ท่านขึ้นไป 👥 สถานที่ท่องเที่ยว: * โลซานน์ 🏙️ * ปราสาทชิลลอง 🏰 * เซอร์แมท 🏔️ * นั่งรถไฟไต่เขาสู่กอนเนอร์แกต 🚂 * ปราสาทเบลลินโซนา 🏰 * รถไฟสายโรแมนติก เบอร์นิน่าเอกซ์เพรส 🚞 * เมืองเก่าวาดุซ 🏛️ * กรุงเบิร์น 🏙️ * นั่งรถไฟชมวิวพิชิตยอดเขาจุงเฟรา 🚆 * นั่งกระเช้า THE V-CABLEWAY 🚠 ข้อมูลเพิ่มเติม: * ทัวร์เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติและการผจญภัย 🌲 * ราคาไม่รวมค่าธรรมเนียมวีซ่าและค่าใช้จ่ายส่วนตัว ✨ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e31759 ดูทัวร์สวิตเซอร์แลนด์|สวิสทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/fd5054 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์สวิตเซอร์แลนด์|สวิส #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #SwitzerlandTour #GrandSwitzerland #TravelWithQR #RomanticTrain #SwissAdventure #ทัวร์สวิสเซอร์แลนด์ #ท่องเที่ยว #ทัวร์ยุโรป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 628 มุมมอง 0 รีวิว
  • ล่องเรือสัมผัสเสน่ห์แห่งแม่น้ำไรน์ตอนใต้ บนเรือ A-ROSA
    ดื่มด่ำบรรยากาศสุดโรแมนติกของเมืองเลียบแม่น้ำ พร้อมชมศิลปะ
    สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลอมรวมระหว่างเยอรมัน ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์

    🛳 A-ROSA CLEA – Southern Rhine Experience 2025

    🗓 เดินทาง: เม.ย. – ต.ค. 2568

    เส้นทาง : แฟรงก์เฟิร์ต – สเปเยอร์ – สตราสบูร์ก – บาเซิล – ไบรซาค – ไมนซ์ – แฟรงก์เฟิร์ต

    ราคาเริ่มต้นเพียง EUR 1,398 / ท่าน

    แพ็กเกจ Premium All Inclusive ครบจบบนเรือ
    อาหารทุกมื้อ
    ห้องพักบนเรือสุดหรู
    กิจกรรมและความบันเทิงจัดเต็ม

    รหัสแพคเกจทัวร์ : AROP-8D7N-FRA-FRA-2504251
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e85d44

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696 (Auto)

    #เรือArosaClea #Arosarivercruise #เรือล่องแม่น้ำ #แม่น้ำไรน์ #Mainz #Germany #Speyer #Breisach #Basel #CruiseDomain #thaitimes #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #เที่ยว
    🌊 ล่องเรือสัมผัสเสน่ห์แห่งแม่น้ำไรน์ตอนใต้ บนเรือ A-ROSA 🚢 ดื่มด่ำบรรยากาศสุดโรแมนติกของเมืองเลียบแม่น้ำ พร้อมชมศิลปะ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมที่หลอมรวมระหว่างเยอรมัน ฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์ 🇩🇪🇫🇷🇨🇭 🛳 A-ROSA CLEA – Southern Rhine Experience 2025 🗓 เดินทาง: เม.ย. – ต.ค. 2568 📍 เส้นทาง : แฟรงก์เฟิร์ต – สเปเยอร์ – สตราสบูร์ก – บาเซิล – ไบรซาค – ไมนซ์ – แฟรงก์เฟิร์ต 💰 ราคาเริ่มต้นเพียง EUR 1,398 / ท่าน ✨ แพ็กเกจ Premium All Inclusive ครบจบบนเรือ ✅ อาหารทุกมื้อ ✅ ห้องพักบนเรือสุดหรู ✅ กิจกรรมและความบันเทิงจัดเต็ม ➡️ รหัสแพคเกจทัวร์ : AROP-8D7N-FRA-FRA-2504251 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e85d44 ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #เรือArosaClea #Arosarivercruise #เรือล่องแม่น้ำ #แม่น้ำไรน์ #Mainz #Germany #Speyer #Breisach #Basel #CruiseDomain #thaitimes #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #เที่ยว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 561 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สุชาติ” นำทัพพาณิชย์รุกสวิส! จับมือบิ๊กนำเข้า Stutzer ดันสินค้าไทยขึ้นเชลล์เพิ่ม ชวนใช้ FTA ไทย–EFTA หนุนการค้าไร้ภาษี
    https://www.thai-tai.tv/news/20850/
    .
    #FTAไทยEFTA #กระทรวงพาณิชย์ #สุชาติชมกลิ่น #ส่งออกอาหารไทย #สวิตเซอร์แลนด์ #ไทยไท
    “สุชาติ” นำทัพพาณิชย์รุกสวิส! จับมือบิ๊กนำเข้า Stutzer ดันสินค้าไทยขึ้นเชลล์เพิ่ม ชวนใช้ FTA ไทย–EFTA หนุนการค้าไร้ภาษี https://www.thai-tai.tv/news/20850/ . #FTAไทยEFTA #กระทรวงพาณิชย์ #สุชาติชมกลิ่น #ส่งออกอาหารไทย #สวิตเซอร์แลนด์ #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สุชาติ" ลุยสวิตเซอร์แลนด์! นำทีมพาณิชย์หาตลาดใหม่...ใช้ประโยชน์ FTA ไทย-EFTA ดันสินค้าไทย
    https://www.thai-tai.tv/news/20799/
    .
    #สุชาติชมกลิ่น #กระทรวงพาณิชย์ #สวิตเซอร์แลนด์ #FTAไทยEFTA #ThaiSELECT #การค้าระหว่างประเทศ #ไทยไท
    "สุชาติ" ลุยสวิตเซอร์แลนด์! นำทีมพาณิชย์หาตลาดใหม่...ใช้ประโยชน์ FTA ไทย-EFTA ดันสินค้าไทย https://www.thai-tai.tv/news/20799/ . #สุชาติชมกลิ่น #กระทรวงพาณิชย์ #สวิตเซอร์แลนด์ #FTAไทยEFTA #ThaiSELECT #การค้าระหว่างประเทศ #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กำหนดเพดานภาษีสูงลิ่วกับคู่หูการค้าหลายสิบชาติ ก่อนหน้าเส้นตายเจรจาการค้าที่กำหนดไว้ในวันศุกร์(1ส.ค.) ในนั้นรวมถึงแคนาดา 50%, บราซิล 25%, อินเดีย 20%, ไต้หวันกับสวิตเซอร์แลนด์ 39% ขณะที่ ไทย และ กัมพูชา 2 ชาติที่ถูกขู่ไม่เจรจาการค้าหากไม่ยุติการสู้รบ ได้รับการปรับลดเพดานภาษีเหลือ 19% เท่ากัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000072685

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กำหนดเพดานภาษีสูงลิ่วกับคู่หูการค้าหลายสิบชาติ ก่อนหน้าเส้นตายเจรจาการค้าที่กำหนดไว้ในวันศุกร์(1ส.ค.) ในนั้นรวมถึงแคนาดา 50%, บราซิล 25%, อินเดีย 20%, ไต้หวันกับสวิตเซอร์แลนด์ 39% ขณะที่ ไทย และ กัมพูชา 2 ชาติที่ถูกขู่ไม่เจรจาการค้าหากไม่ยุติการสู้รบ ได้รับการปรับลดเพดานภาษีเหลือ 19% เท่ากัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000072685 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 533 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts