• SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep316 (live)
    จากปายสู่พะงัน เกาะพะงัน กำลังจะถูกยึดโดยชาวยิว ใช้นอมินีฮุบธุรกิจ สร้างชุมชน
    เกิดอะไรขึ้นต้องติดตาม

    สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube : / @sondhitalk
    • ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk

    https://www.youtube.com/watch?v=jRQqf-8F7Ts
    🔴 SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep316 (live) จากปายสู่พะงัน เกาะพะงัน กำลังจะถูกยึดโดยชาวยิว ใช้นอมินีฮุบธุรกิจ สร้างชุมชน เกิดอะไรขึ้นต้องติดตาม • สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube : / @sondhitalk • ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk • https://www.youtube.com/watch?v=jRQqf-8F7Ts
    Like
    Angry
    10
    7 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 301 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง เตียงหัก
    ” เตียงหัก !”

    (1)

    หลังจากที่กษัตริย์อับดุลลาแห่งซาอุดิอารเบีย สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 23 มกราคม ค.ศ.2015
    มงกุฏราชกุมาร เจ้าชายซาลมาน ซึ่งเป็นน้องชายก็ขึ้นครองบัลลังก์ต่อ เป็นช่วงที่ตะวันออกกลางกำลังแดดร้อน ลมพัดแรง จะถึงกับมีพายุทะเลทรายหรือไม่ น่าเป็นห่วง

    เยเมน ที่อยู่ทางใต้ของซาอุดิ กำลังวุ่นวายเกิดศึกชิงเก้าอี้กัน ทางเหนือหน่อไอซิสยังไม่หยุดงอกทั้งพันธุ์แท้ พันธุ์เทียม และกลายพันธุ์ ทั้งที่อิรัคและที่ซีเรีย ส่วนความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านชื่ออิสราเอล ก็ยังบูดเหมือนเดิม ไม่มีทีท่าว่าจะมองหน้าและยิ้มให้กันได้ แต่ที่น่าเป็นห่วงกว่าเพื่อน น่าจะเป็นเรื่องอิหร่าน ซึ่งถึงจะอยู่ห่างกันคนละฟาก แต่ซาอุดิก็เห็นอิหร่านเป็นคู่แข่งรัศมี ชิงความเป็นพี่ใหญ่ในตะวันออกกลางกันมาตลอด

    อิหร่านกำลังก้มหน้าก้มตาพัฒนาระบบนิวเคลียร์ ที่อ้างว่าไม่ไช่เป็นอาวุธนะ อย่าเข้าใจผิด แต่ถึงอย่างนั้น ซาอุดิก็หงุดหงิด ไม่พอใจ จะพอใจได้ยังไง ก็ตัวเองยังไม่มีนิวเคลียร์กับ เขาสักลูก แถมอาวุธที่มีอยู่ ยังต้องกัดฟันซื้อ โดยเฉพาะจากอเมริกา นึกว่าเขาให้ฟรีๆหรือ เปล่าหรอก แค่ลดราคาให้เท่านั้นเอง เค็มชะมัด แบบนี้ไม่หงุดหงิดได้ไง

    แต่ที่ไม่พอใจมากที่สุด คือไม่พอใจในอากัปกริยา ท่าทีของอเมริกา มากกว่า

    ซาอุดิอารเบียกับอเมริกา มีความสัมพันธ์ยาวนาน และแข็งแรงอย่างเป็นทางการมาประมาณ 70 ปีแล้ว ตั้งแต่ประธานาธิบดี Franklin D Roosevelt กับกษัตริย์ Abd al-Aziz ibn Sa’ud ผู้ก่อตั้งราชอาณาจักรซาอุดิอารเบีย นั่งจับมือกันบนเรือรบ USS Quincy เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1945

    แต่ในความเป็นจริง ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ จะแข็งแรงมากน้อยขนาดไหนไม่มีใครรู้ดี มีนักวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ ทั้ง 2 ประเทศ อุปมาไว้น่าฟังว่า มันเหมือนการแต่งงาน เพื่อความเหมาะสม a marriage for convenience ไม่ใช่มาจากรักแรกพบ หรือรักแบบดูดดื่มฝังใจ เพาะบ่มรอกันมา 20 ปี

    เมื่อเป็นการแต่งงาน เพื่อความเหมาะสม จะให้หวือหวา หวานชื่นกันตลอด คงเป็นไปไม่ได้ มันคงจะเป็นประเภท ต่างก็ยี่ต๊อกใส่กันว่า ฉันได้มากกว่าเสีย หรือเธอได้มากกว่าฉันหรือเปล่า ทำนองนั้น เรื่องอะไรที่ไม่พอใจ ตราบใดที่บัญชีของทั้ง 2 ฝ่าย ยังไม่เป็นตัวแดง ก็ยังคงกล้อมแกล้ม กัดฟันอยู่กันต่อไป

    ตลอดการอยู่ร่วมกันของคู่แต่งงาน ซาอุดิฉุนจัดครั้งแรก ก็เมื่ออเมริกามีทีท่าว่าจะมีใจให้กับอิสราเอล สาวข้างบ้าน ที่อเมริกาให้การรับรองเมื่อปี ค.ศ.1948 แต่มันเป็นช่วงระหว่างการก่อร่างสร้างเมืองของซาอุดิ กษัตริย์ Abd al-Aziz จึงต้องกัดฟันมองไปทางอื่นแทน ขณะที่รอบข้างกดดันให้ยกเลิกสัมปทาน ที่ซาอุดิให้แก่ Aramco ของอเมริกาตั้งแต่ ค.ศ.1933
    หลังจากนั้น ก็มีเรื่องการสั่งห้ามซื้อขายน้ำมัน Oil Embargo ระหว่างกลุ่มค้าน้ำมันชาติอาหรับ กับกลุ่มตะวันตกในปี ค.ศ.1973-74 ซึ่งเป็นการเล่นกล หลอกต้มทั้งคนขายน้ำมันและคนใช้ น้ำมัน โดยพวกนักการเงินวอลสตรีท ที่จัดฉากโดยนาย Henry Kissinger ตัวแสบ ภายใต้การชักใยของ พวกโคตรรวย Rockefeller แต่เรื่องนี้มันก็ลงความเห็นยากว่า ฝ่ายไหนเสียมากกว่า ดูเหมือนจะเป็นมวยล้มต้มคนดู พวกที่เสียหายจริงๆ น่าจะเป็นพวกซื้อน้ำมัน จนแล้วยังทำซ่า อยากเป็นเสือตัวที่ห้ามากกว่า ไปอ่านรายละเอียดได้ จากนิทานเรื่องมายากลยุทธนะครับ

    ซาอุดิ เริ่มขัดใจจริงๆ น่าจะเป็นเรื่องการบุกเข้าไปขยี้อิรัคของอเมริกา ไม่ใช่เพราะซาอุดิใจอ่อนสงสารอิรัคหรอก อย่าเข้าใจผิด แต่ซาอุดิเห็นว่า เป็นการทำให้ดุลยอำนาจในภูมิภาคเอียง ไปเข้าทางอิหร่านมากกว่า เพราะเป็นการเปิดทางให้อิหร่าน เข้าไปสนับสนุนกลุ่ม Nouri al-Maliki ขึ้นมามีอำนาจในอิรัค หลังจากซัดดัมถูกโค่น และทำให้อิรัคกับอิหร่าน ก็ใกล้เคียงกับการเป็นคอหอยกับลูกกระเดือกกันตั้งแต่บัดนั้น มันเป็นการเสริมบารมี เสริมกำลัง ให้กับอิหร่านมากขึ้น เกินกว่าที่ซาอุดิ จะไม่สนใจ

    แต่ที่เป็นหนามตำใจมาตลอด คือเรื่องสาวข้างบ้าน อิสราเอลนั่นแหละ ที่ทำให้ซาอุดิเห็นว่า อเมริกา ตาชั่งเอียงจนน่าเกลียด เรื่องนี้ไม่มีทางแก้แน่นอน ซาอุดิรู้ดีอยู่แก่ใจ มีแต่ทางเดินออก ซาอุดิจะกล้าเดินออกไหมเท่านั้น

    พอไปรวมกับเรื่องอียิปต์ ซึ่งซาอุดิเห็นว่า ขนาด Hosni Mubarak ผู้ซึ่งเป็นลูกหาบที่ซื่อสัตย์มาให้อเมริกา 30 กว่าปี อเมริกายังโยนทิ้งเฉย ปล่อยให้ Muslim Brotherhood มุสลิมหัวรุนแรงที่ไม่เอาพวกตะวัน ตก ขึ้นมาปกครองอียิปต์แทน แน่นอน ซาอุดิต้องหงุดหงิด กลุ้มใจ จนหน้าคล้ำหนักไปกว่าเดิม แบบนี้แปลว่าอะไร อเมริกาไม่สนใจหรือว่า มันจะยิ่งสร้างความไม่มั่นคงในตะวันออกกลางมากขึ้น เผลอๆ เรื่องแบบนี้อาจจะเกิดที่ซาอุดิก็ได้ อเมริกาปล่อยให้เป็นอย่านี้ได้อย่างไร

    เรื่องอิสราเอลยังแก้ไม่ออก เรื่องอียิปต์ดันมาเกิดขึ้นต่อ บวกกับเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่านที่ยังค้างคา นี่ยังมามีเรื่องซีเรียอีก เรื่องซีเรียที่ซาอุดิก็ไม่รัก เอะ เสี่ยซาอุรักใครมั่งนะ ชักสงสัย สู้กันมา3 ปีกว่าแล้ว เรื่องยังไม่จบเสียที ไอ้เจ้า Assad นี่มันทนทายาด แล้วอเมริกาก็ดันประกาศ (ในปี ค.ศ. 2013) ว่าจะไม่ใช้กองกำลังจัดการเรื่องซีเรีย โอ้ย กลุ้มใจโว้ย ยังถอนใจไม่หายเหนื่อย หน่อไอซิสก็ทะลี่งได้ปุ๋ยดี บานเต็มท้องทุ่งซีเรีย อิรัค นี่ถ้ามันดันชอบอากาศแถวซาอุดิ มางอกต่อแถวนี้ พวกซาอุดิจะเอาอยู่ไหม

    หงุดหงิดแล้ว ก็เลยพาลน้อยใจต่อ ซาอุดิน้อยใจ คิดหนัก คิดจริงจังคือ เรื่องอิหร่าน (อีกแล้ว) การเจรจา ระหว่างพวกตะวันตกกับอิหร่าน เรื่องการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ซาอุดิมองว่า ถ้าการเจรจาเข้าทางอิหร่าน ตะวันออกกลาง โดยเฉพาะฝ่ายของซาอุดิจะเสียเปรียบ และอาจจะถึงเสียหายเลยทีเดียว ฝ่ายที่มีนิวเคลียร์ในตะวันออกกลาง คือฝ่ายที่มีอำนาจควบคุมอ่าวเปอร์เซีย รวมไปทั้งตะวันออกกลาง ที่สำคัญ ซาอุดิมองว่า การใช้วิธีเจรจากับอิหร่าน ดูเหมือนเป็นการเริ่มกลับมาสานสัมพันธ์ใหม่ระหว่างอเมริกากับอิหร่าน อย่าลืมว่าคู่นี้ เขาเคยเป็นคู่รัก คู่แค้นกันมาก่อน หรือถ่านไฟเก่ามันจะคุขึ้นมาใหม่ ?!?!

    (2)
    ตกลงอเมริกากำลัง “shifting away” หันเหไปจากสัมพันธ์พิเศษกับซาอุดิหรือ มันดูเหมือนมีอาการของการนอกใจ ที่มองเห็นได้จากทั้งฝ่ายซาอุดิและฝ่ายอเมริกาเอง

    ทางฝ่ายซาอุดินั้น อดีตหัวหน้าหน่วยงานข่าวกรอง และอดีตฑูตซาอุดิประจำอเมริกา Prince Bandar bin Sultan พูดตั้งแต่ปลายปี 2013 แล้วว่า ทางซาอุดิอาจจะมีการเปลี่ยนแนวทางของความสัมพันธ์ ระหว่างซาอุดิกับอเมริกา เป็นการประท้วงอเมริกาที่ไม่ขยับอะไรเลย เกี่ยวกับเรื่องการรบในซีเรีย รวมทั้งการที่อเมริกามีท่าที เหมือนจะไปสานสัมพันธ์ใหม่กับอิหร่าน อ้อ เรื่องนี้เอง ที่มันคาใจคนนอนเตียงเดียวกัน

    คำพูดของ Prince Bandar คนเดียวคงไม่พอ Prince Turki al-Faisal อดีตหัวหน้าสายลับ และฑูตซาอุดิประจำสหประชาชาติ ออกมาทำเสียงเข้มว่า นโยบายเกี่ยวกับซีเรีย ของนายโอบามา ฟังแล้วน่าเศร้าใจ พร้อมกับบอกว่า ข้อตกลงระหว่างรัสเซียกับอเมริกา เรื่องการห้ามมิให้ Assad ใช้อาวุธเคมี เป็นหลุมพรางล่อให้อเมริกาตกพลั่ก เขวไปจากการใช้กำลังทหารจัดการในซีเรีย

    เขาต่อว่ากันแรงดีนะครับ ไม่เหมือนสมันน้อย คำน้อยคำ ก็ไม่ค่อยจะกล้าออกมาพาดพิงถึงลูกพี่ เชื่องดีจัง ( ช ช้างสะกดนะครับ ไม่ใช่ ข ไข่ เดี๋ยวจะเข้าใจกันผิด ฮา)

    นักจัดรายการทีวีชาวอเมริกัน Fred Kaplan วิจารณ์ว่า คำพูดของฝ่ายซาอุดิในเรื่องนี้ เหมือน “game of high-way chicken” เขาเตือนนายโอบามาว่า ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไก่อาจหลุดมือ วิ่งหายไปได้ หรือโอบามาไม่สนใจ เพราะอเมริกากำลังตื่นเต้นกับการค้นพบพลังงานใหม่ ที่จะไม่ต้องพึ่งจมูกคนอื่นหายใจแล้ว หรือปล่อยให้ไก่วิ่งจนเหนื่อยก่อน

    หลังจากนั้น ขบวนการกดดันอเมริกาโดยกลุ่ม Gulf Cooperation Council (GCC) ลูกน้องคุณพี่ซาอุก็เกิดขึ้น นำโดยอาหรับอามิเรต และกาต้าร์เศรษฐีใหญ่ทั้งคู่ ออกโรงเดินสายคุยกับพวกถังความคิด Think Tank ของอเมริกา พร้อมเอาเงินบริจาคกล่องใหญ่ไปฝาก การลงทุนได้ผล ถังความคิดรีบออกรายงานทันที อเมริกาจะปล่อยให้พรรคพวกในตะวันออกกลาง แก้ไขปัญหาเรื่องซีเรียกับไอซิส โดยลำพังหรือ มันดูเหมือนอเมริกากำลังทิ้งเพื่อนที่มีความสัมพันธ์พิเศษนะ เพราะถ้าพวกเขาจัดการไม่ได้ คนที่จะตกที่นั่งลำบากคืออเมริกา แหม! นึกว่าถังความคิดชั้นนำระดับโลกจะสั่งไม่ได้ มีเงินจ่ายก็ใช้ได้ทั้งนั่นแหละครับ

    อเมริกา ถึงยังทิ้งกระบองยอดเพชร ที่อยู่ด้วยกันมานานถึง 70 ปี ไม่ลง

    นายโอบามา ทำหน้าชื่นไปหากษัตริย์ Abdullah เมื่อประมาณเดือนมีนาคมปีที่แล้ว หลังจากนั่งปรับความไม่เข้าใจกัน การแถลงข่าวภายหลังการปรับคลื่น สรุปว่าทั้ง 2 ฝ่าย มีการหารือกัน เรื่องซีเรีย เรื่องการป้องกันไม่ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ การร่วมกันต่อต้านการก่อการร้าย และสนับสนุนการเจรจา เพื่อให้มีสันติภาพเกิดขึ้นในตะวันออกกลาง (จากการแถลงข่าวของ ทำเนียบขาว เมื่อ 28 มีนาคม 2014)
    เอกสารที่แจกในการแถลงข่าว บอกด้วยว่าซาอุดิอารเบีย เป็นลูกค้าต่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ที่ซื้ออาวุธของอเมริกา U S Foreign Military Sales (FMS) คือประมาณ 97 พันล้านเหรียญ และอเมริกา ส่งสินค้าออกไปยังซาอุดิอารเบียในปี 2013 จำนวน 35 พันล้านเหรียญ และขณะนี้มีชาวซาอุดิ ประมาณ 8 หมื่นคน เรียนหนังสืออยู่ในอเมริกา

    อืม ดูเหมือนจะเป็นรายงาน ที่แปลงความสัมพันธ์เป็นตัวเงิน (รายได้) ของอเมริกา มากกว่าจะเป็นการให้ข้อมูล ที่ทำให้เกิดความเข้าใจกันมากขึ้น

    นอกจากนี้ การรายงานข่าวของสื่อในช่วงนั้น ยังสรุปไปทิศทางเดียวกันว่า แม้จะมีความเห็นไม่สอดคล้องกันทุกเรื่อง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับซาอุดิอารเบีย ก็ยังไม่ถึงขั้นแตกหัก not broken เตียงยังไม่หัก ไม่ชำรุดขาเตียงยังอยู่ครบดี ไม่ว่าจะเป็น การร่วมมือทางการต่อต้านผู้ก่อการร้าย การทหาร การธุรกิจและด้านยุทธศาสตร์ อู้ย พูดกันรู้เรื่องดีคร้าบ

    แต่ก็คงจะเร็วไป ที่จะสรุปว่าคู่นี่เขาจะยังมั่นคงกันดีตลอดไป เพราะมันก็ยังเห็นรอยร้าวค้างอยู่ และแม้จะยังไม่ถึงกับทำให้ซาอุดิอารเบีย แยกทางกับอเมริกา แต่ซาอุดิอารเบียก็บอกว่า ไม่ปิดทางตัวเองที่จะมองหาหุ้นส่วนรายใหม่เช่นเดียวกัน นโยบายไม่แทงม้าตัวเดียว ไม่ใช่มีแต่อเมริกาเท่านั้นที่เล่นเป็น เอะ แล้วใครนะที่ซาอุดิอารเบีย เริ่มเจรจาต้าอวยไว้

    (3)

    ถังความคิดตัวแสบ CSIS Think Tank ได้ออกรายงานการวิเคราะห์ The True Nature of the Saudi Succession “Crisis” วิกฤติตามธรรมชาติของการสืบสันตติวงศ์ของ Saudi เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2015 นี้ก่อนการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์ Abdullah ไม่นานนัก

    รายงานสรุปว่า กษัตริย์ Abdullah ได้เตรียมการล่วงหน้ามานานแล้วอย่างเรียบร้อยดี ทั้งเรื่องในพระราชวงศ์ เรื่องในประเทศ ทั้งด้านศาสนา และรัฐบาล รวมทั้งเรื่องการต่างประเทศ เท่าที่จะทำได้ แน่นอนหลายปัจจัย ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูความเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะต้องมีตามสภาพ….รายงานแจงค่อนข้างละเอียดว่า เตรียมการอะไร ใครเป็นใคร ตามประสา นิสัยเสือกทุกเรื่องของอเมริกา

    แต่ที่น่าจะสนใจคือ บางส่วนที่รายงานการวิคราะห์ดังกล่าวระบุถึง ซึ่งไม่ได้เกี่ยว หรือมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนกษัตริย์ผู้ปกครอง แต่เป็นเรื่องที่รายงานการวิเคราะห์ ระบุถึงสภาพสังคมของซาอุดิอารเบีย
    เป็นส่วนของรายงานที่บอกว่า ปี 2015 ซาอุดิจะมีประชากรประมาณ 27.8 ล้านคน ปี 2025 จะมี 31.9 ล้านคน และปี 2050 จะมีประชากร 40.3 ล้านคน ปัจจุบัน ซาอุดิอารเบียเป็นสังคมที่มีวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ และอยู่ในวัยที่ต้องทำงานแต่ไม่ทำงาน โดยอยู่ด้วยสวัสดิการของรัฐ มีตลาดแรงงานประมาณ 8.4 ล้านคน แต่เป็นชาวซาอุดิเพียง 1.7 ล้านคน ที่ผ่านมา ซาอุดิรับมือกับวัยรุ่นจำนวนมากที่ไม่ทำงานได้พอสมควร เพราะที่ผ่านมา ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่สูงกว่าปัจจุบันมากมาย

    ขณะที่อัตราประชากรเพิ่ม และมีคนไม่ยอมทำงาน แต่รายรับของประเทศ ซึ่งมาจากน้ำมันอย่างเดียว ลดลง ตามราคาน้ำมันโลก (หรือจากการร่วมมือกันกดราคาน้ำมันก็ตาม) ขณะเดียวกัน ซาอุดิก็มีรายจ่ายเกี่ยวกับความ มั่นคงของรัฐ สูงที่สุดในโลก ซาอุดิ มีสตรูมากหน้า ทั้งที่เป็นรัฐ และไม่ใช่รัฐ รวมทั้งมีก่อการร้ายเสมอ จากการที่เป็นผู้ดูแลสถานที่
    เรื่อง เตียงหัก ” เตียงหัก !” (1) หลังจากที่กษัตริย์อับดุลลาแห่งซาอุดิอารเบีย สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 23 มกราคม ค.ศ.2015 มงกุฏราชกุมาร เจ้าชายซาลมาน ซึ่งเป็นน้องชายก็ขึ้นครองบัลลังก์ต่อ เป็นช่วงที่ตะวันออกกลางกำลังแดดร้อน ลมพัดแรง จะถึงกับมีพายุทะเลทรายหรือไม่ น่าเป็นห่วง เยเมน ที่อยู่ทางใต้ของซาอุดิ กำลังวุ่นวายเกิดศึกชิงเก้าอี้กัน ทางเหนือหน่อไอซิสยังไม่หยุดงอกทั้งพันธุ์แท้ พันธุ์เทียม และกลายพันธุ์ ทั้งที่อิรัคและที่ซีเรีย ส่วนความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านชื่ออิสราเอล ก็ยังบูดเหมือนเดิม ไม่มีทีท่าว่าจะมองหน้าและยิ้มให้กันได้ แต่ที่น่าเป็นห่วงกว่าเพื่อน น่าจะเป็นเรื่องอิหร่าน ซึ่งถึงจะอยู่ห่างกันคนละฟาก แต่ซาอุดิก็เห็นอิหร่านเป็นคู่แข่งรัศมี ชิงความเป็นพี่ใหญ่ในตะวันออกกลางกันมาตลอด อิหร่านกำลังก้มหน้าก้มตาพัฒนาระบบนิวเคลียร์ ที่อ้างว่าไม่ไช่เป็นอาวุธนะ อย่าเข้าใจผิด แต่ถึงอย่างนั้น ซาอุดิก็หงุดหงิด ไม่พอใจ จะพอใจได้ยังไง ก็ตัวเองยังไม่มีนิวเคลียร์กับ เขาสักลูก แถมอาวุธที่มีอยู่ ยังต้องกัดฟันซื้อ โดยเฉพาะจากอเมริกา นึกว่าเขาให้ฟรีๆหรือ เปล่าหรอก แค่ลดราคาให้เท่านั้นเอง เค็มชะมัด แบบนี้ไม่หงุดหงิดได้ไง แต่ที่ไม่พอใจมากที่สุด คือไม่พอใจในอากัปกริยา ท่าทีของอเมริกา มากกว่า ซาอุดิอารเบียกับอเมริกา มีความสัมพันธ์ยาวนาน และแข็งแรงอย่างเป็นทางการมาประมาณ 70 ปีแล้ว ตั้งแต่ประธานาธิบดี Franklin D Roosevelt กับกษัตริย์ Abd al-Aziz ibn Sa’ud ผู้ก่อตั้งราชอาณาจักรซาอุดิอารเบีย นั่งจับมือกันบนเรือรบ USS Quincy เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1945 แต่ในความเป็นจริง ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ จะแข็งแรงมากน้อยขนาดไหนไม่มีใครรู้ดี มีนักวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ ทั้ง 2 ประเทศ อุปมาไว้น่าฟังว่า มันเหมือนการแต่งงาน เพื่อความเหมาะสม a marriage for convenience ไม่ใช่มาจากรักแรกพบ หรือรักแบบดูดดื่มฝังใจ เพาะบ่มรอกันมา 20 ปี เมื่อเป็นการแต่งงาน เพื่อความเหมาะสม จะให้หวือหวา หวานชื่นกันตลอด คงเป็นไปไม่ได้ มันคงจะเป็นประเภท ต่างก็ยี่ต๊อกใส่กันว่า ฉันได้มากกว่าเสีย หรือเธอได้มากกว่าฉันหรือเปล่า ทำนองนั้น เรื่องอะไรที่ไม่พอใจ ตราบใดที่บัญชีของทั้ง 2 ฝ่าย ยังไม่เป็นตัวแดง ก็ยังคงกล้อมแกล้ม กัดฟันอยู่กันต่อไป ตลอดการอยู่ร่วมกันของคู่แต่งงาน ซาอุดิฉุนจัดครั้งแรก ก็เมื่ออเมริกามีทีท่าว่าจะมีใจให้กับอิสราเอล สาวข้างบ้าน ที่อเมริกาให้การรับรองเมื่อปี ค.ศ.1948 แต่มันเป็นช่วงระหว่างการก่อร่างสร้างเมืองของซาอุดิ กษัตริย์ Abd al-Aziz จึงต้องกัดฟันมองไปทางอื่นแทน ขณะที่รอบข้างกดดันให้ยกเลิกสัมปทาน ที่ซาอุดิให้แก่ Aramco ของอเมริกาตั้งแต่ ค.ศ.1933 หลังจากนั้น ก็มีเรื่องการสั่งห้ามซื้อขายน้ำมัน Oil Embargo ระหว่างกลุ่มค้าน้ำมันชาติอาหรับ กับกลุ่มตะวันตกในปี ค.ศ.1973-74 ซึ่งเป็นการเล่นกล หลอกต้มทั้งคนขายน้ำมันและคนใช้ น้ำมัน โดยพวกนักการเงินวอลสตรีท ที่จัดฉากโดยนาย Henry Kissinger ตัวแสบ ภายใต้การชักใยของ พวกโคตรรวย Rockefeller แต่เรื่องนี้มันก็ลงความเห็นยากว่า ฝ่ายไหนเสียมากกว่า ดูเหมือนจะเป็นมวยล้มต้มคนดู พวกที่เสียหายจริงๆ น่าจะเป็นพวกซื้อน้ำมัน จนแล้วยังทำซ่า อยากเป็นเสือตัวที่ห้ามากกว่า ไปอ่านรายละเอียดได้ จากนิทานเรื่องมายากลยุทธนะครับ ซาอุดิ เริ่มขัดใจจริงๆ น่าจะเป็นเรื่องการบุกเข้าไปขยี้อิรัคของอเมริกา ไม่ใช่เพราะซาอุดิใจอ่อนสงสารอิรัคหรอก อย่าเข้าใจผิด แต่ซาอุดิเห็นว่า เป็นการทำให้ดุลยอำนาจในภูมิภาคเอียง ไปเข้าทางอิหร่านมากกว่า เพราะเป็นการเปิดทางให้อิหร่าน เข้าไปสนับสนุนกลุ่ม Nouri al-Maliki ขึ้นมามีอำนาจในอิรัค หลังจากซัดดัมถูกโค่น และทำให้อิรัคกับอิหร่าน ก็ใกล้เคียงกับการเป็นคอหอยกับลูกกระเดือกกันตั้งแต่บัดนั้น มันเป็นการเสริมบารมี เสริมกำลัง ให้กับอิหร่านมากขึ้น เกินกว่าที่ซาอุดิ จะไม่สนใจ แต่ที่เป็นหนามตำใจมาตลอด คือเรื่องสาวข้างบ้าน อิสราเอลนั่นแหละ ที่ทำให้ซาอุดิเห็นว่า อเมริกา ตาชั่งเอียงจนน่าเกลียด เรื่องนี้ไม่มีทางแก้แน่นอน ซาอุดิรู้ดีอยู่แก่ใจ มีแต่ทางเดินออก ซาอุดิจะกล้าเดินออกไหมเท่านั้น พอไปรวมกับเรื่องอียิปต์ ซึ่งซาอุดิเห็นว่า ขนาด Hosni Mubarak ผู้ซึ่งเป็นลูกหาบที่ซื่อสัตย์มาให้อเมริกา 30 กว่าปี อเมริกายังโยนทิ้งเฉย ปล่อยให้ Muslim Brotherhood มุสลิมหัวรุนแรงที่ไม่เอาพวกตะวัน ตก ขึ้นมาปกครองอียิปต์แทน แน่นอน ซาอุดิต้องหงุดหงิด กลุ้มใจ จนหน้าคล้ำหนักไปกว่าเดิม แบบนี้แปลว่าอะไร อเมริกาไม่สนใจหรือว่า มันจะยิ่งสร้างความไม่มั่นคงในตะวันออกกลางมากขึ้น เผลอๆ เรื่องแบบนี้อาจจะเกิดที่ซาอุดิก็ได้ อเมริกาปล่อยให้เป็นอย่านี้ได้อย่างไร เรื่องอิสราเอลยังแก้ไม่ออก เรื่องอียิปต์ดันมาเกิดขึ้นต่อ บวกกับเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่านที่ยังค้างคา นี่ยังมามีเรื่องซีเรียอีก เรื่องซีเรียที่ซาอุดิก็ไม่รัก เอะ เสี่ยซาอุรักใครมั่งนะ ชักสงสัย สู้กันมา3 ปีกว่าแล้ว เรื่องยังไม่จบเสียที ไอ้เจ้า Assad นี่มันทนทายาด แล้วอเมริกาก็ดันประกาศ (ในปี ค.ศ. 2013) ว่าจะไม่ใช้กองกำลังจัดการเรื่องซีเรีย โอ้ย กลุ้มใจโว้ย ยังถอนใจไม่หายเหนื่อย หน่อไอซิสก็ทะลี่งได้ปุ๋ยดี บานเต็มท้องทุ่งซีเรีย อิรัค นี่ถ้ามันดันชอบอากาศแถวซาอุดิ มางอกต่อแถวนี้ พวกซาอุดิจะเอาอยู่ไหม หงุดหงิดแล้ว ก็เลยพาลน้อยใจต่อ ซาอุดิน้อยใจ คิดหนัก คิดจริงจังคือ เรื่องอิหร่าน (อีกแล้ว) การเจรจา ระหว่างพวกตะวันตกกับอิหร่าน เรื่องการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ซาอุดิมองว่า ถ้าการเจรจาเข้าทางอิหร่าน ตะวันออกกลาง โดยเฉพาะฝ่ายของซาอุดิจะเสียเปรียบ และอาจจะถึงเสียหายเลยทีเดียว ฝ่ายที่มีนิวเคลียร์ในตะวันออกกลาง คือฝ่ายที่มีอำนาจควบคุมอ่าวเปอร์เซีย รวมไปทั้งตะวันออกกลาง ที่สำคัญ ซาอุดิมองว่า การใช้วิธีเจรจากับอิหร่าน ดูเหมือนเป็นการเริ่มกลับมาสานสัมพันธ์ใหม่ระหว่างอเมริกากับอิหร่าน อย่าลืมว่าคู่นี้ เขาเคยเป็นคู่รัก คู่แค้นกันมาก่อน หรือถ่านไฟเก่ามันจะคุขึ้นมาใหม่ ?!?! (2) ตกลงอเมริกากำลัง “shifting away” หันเหไปจากสัมพันธ์พิเศษกับซาอุดิหรือ มันดูเหมือนมีอาการของการนอกใจ ที่มองเห็นได้จากทั้งฝ่ายซาอุดิและฝ่ายอเมริกาเอง ทางฝ่ายซาอุดินั้น อดีตหัวหน้าหน่วยงานข่าวกรอง และอดีตฑูตซาอุดิประจำอเมริกา Prince Bandar bin Sultan พูดตั้งแต่ปลายปี 2013 แล้วว่า ทางซาอุดิอาจจะมีการเปลี่ยนแนวทางของความสัมพันธ์ ระหว่างซาอุดิกับอเมริกา เป็นการประท้วงอเมริกาที่ไม่ขยับอะไรเลย เกี่ยวกับเรื่องการรบในซีเรีย รวมทั้งการที่อเมริกามีท่าที เหมือนจะไปสานสัมพันธ์ใหม่กับอิหร่าน อ้อ เรื่องนี้เอง ที่มันคาใจคนนอนเตียงเดียวกัน คำพูดของ Prince Bandar คนเดียวคงไม่พอ Prince Turki al-Faisal อดีตหัวหน้าสายลับ และฑูตซาอุดิประจำสหประชาชาติ ออกมาทำเสียงเข้มว่า นโยบายเกี่ยวกับซีเรีย ของนายโอบามา ฟังแล้วน่าเศร้าใจ พร้อมกับบอกว่า ข้อตกลงระหว่างรัสเซียกับอเมริกา เรื่องการห้ามมิให้ Assad ใช้อาวุธเคมี เป็นหลุมพรางล่อให้อเมริกาตกพลั่ก เขวไปจากการใช้กำลังทหารจัดการในซีเรีย เขาต่อว่ากันแรงดีนะครับ ไม่เหมือนสมันน้อย คำน้อยคำ ก็ไม่ค่อยจะกล้าออกมาพาดพิงถึงลูกพี่ เชื่องดีจัง ( ช ช้างสะกดนะครับ ไม่ใช่ ข ไข่ เดี๋ยวจะเข้าใจกันผิด ฮา) นักจัดรายการทีวีชาวอเมริกัน Fred Kaplan วิจารณ์ว่า คำพูดของฝ่ายซาอุดิในเรื่องนี้ เหมือน “game of high-way chicken” เขาเตือนนายโอบามาว่า ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไก่อาจหลุดมือ วิ่งหายไปได้ หรือโอบามาไม่สนใจ เพราะอเมริกากำลังตื่นเต้นกับการค้นพบพลังงานใหม่ ที่จะไม่ต้องพึ่งจมูกคนอื่นหายใจแล้ว หรือปล่อยให้ไก่วิ่งจนเหนื่อยก่อน หลังจากนั้น ขบวนการกดดันอเมริกาโดยกลุ่ม Gulf Cooperation Council (GCC) ลูกน้องคุณพี่ซาอุก็เกิดขึ้น นำโดยอาหรับอามิเรต และกาต้าร์เศรษฐีใหญ่ทั้งคู่ ออกโรงเดินสายคุยกับพวกถังความคิด Think Tank ของอเมริกา พร้อมเอาเงินบริจาคกล่องใหญ่ไปฝาก การลงทุนได้ผล ถังความคิดรีบออกรายงานทันที อเมริกาจะปล่อยให้พรรคพวกในตะวันออกกลาง แก้ไขปัญหาเรื่องซีเรียกับไอซิส โดยลำพังหรือ มันดูเหมือนอเมริกากำลังทิ้งเพื่อนที่มีความสัมพันธ์พิเศษนะ เพราะถ้าพวกเขาจัดการไม่ได้ คนที่จะตกที่นั่งลำบากคืออเมริกา แหม! นึกว่าถังความคิดชั้นนำระดับโลกจะสั่งไม่ได้ มีเงินจ่ายก็ใช้ได้ทั้งนั่นแหละครับ อเมริกา ถึงยังทิ้งกระบองยอดเพชร ที่อยู่ด้วยกันมานานถึง 70 ปี ไม่ลง นายโอบามา ทำหน้าชื่นไปหากษัตริย์ Abdullah เมื่อประมาณเดือนมีนาคมปีที่แล้ว หลังจากนั่งปรับความไม่เข้าใจกัน การแถลงข่าวภายหลังการปรับคลื่น สรุปว่าทั้ง 2 ฝ่าย มีการหารือกัน เรื่องซีเรีย เรื่องการป้องกันไม่ให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ การร่วมกันต่อต้านการก่อการร้าย และสนับสนุนการเจรจา เพื่อให้มีสันติภาพเกิดขึ้นในตะวันออกกลาง (จากการแถลงข่าวของ ทำเนียบขาว เมื่อ 28 มีนาคม 2014) เอกสารที่แจกในการแถลงข่าว บอกด้วยว่าซาอุดิอารเบีย เป็นลูกค้าต่างประเทศรายใหญ่ที่สุด ที่ซื้ออาวุธของอเมริกา U S Foreign Military Sales (FMS) คือประมาณ 97 พันล้านเหรียญ และอเมริกา ส่งสินค้าออกไปยังซาอุดิอารเบียในปี 2013 จำนวน 35 พันล้านเหรียญ และขณะนี้มีชาวซาอุดิ ประมาณ 8 หมื่นคน เรียนหนังสืออยู่ในอเมริกา อืม ดูเหมือนจะเป็นรายงาน ที่แปลงความสัมพันธ์เป็นตัวเงิน (รายได้) ของอเมริกา มากกว่าจะเป็นการให้ข้อมูล ที่ทำให้เกิดความเข้าใจกันมากขึ้น นอกจากนี้ การรายงานข่าวของสื่อในช่วงนั้น ยังสรุปไปทิศทางเดียวกันว่า แม้จะมีความเห็นไม่สอดคล้องกันทุกเรื่อง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับซาอุดิอารเบีย ก็ยังไม่ถึงขั้นแตกหัก not broken เตียงยังไม่หัก ไม่ชำรุดขาเตียงยังอยู่ครบดี ไม่ว่าจะเป็น การร่วมมือทางการต่อต้านผู้ก่อการร้าย การทหาร การธุรกิจและด้านยุทธศาสตร์ อู้ย พูดกันรู้เรื่องดีคร้าบ แต่ก็คงจะเร็วไป ที่จะสรุปว่าคู่นี่เขาจะยังมั่นคงกันดีตลอดไป เพราะมันก็ยังเห็นรอยร้าวค้างอยู่ และแม้จะยังไม่ถึงกับทำให้ซาอุดิอารเบีย แยกทางกับอเมริกา แต่ซาอุดิอารเบียก็บอกว่า ไม่ปิดทางตัวเองที่จะมองหาหุ้นส่วนรายใหม่เช่นเดียวกัน นโยบายไม่แทงม้าตัวเดียว ไม่ใช่มีแต่อเมริกาเท่านั้นที่เล่นเป็น เอะ แล้วใครนะที่ซาอุดิอารเบีย เริ่มเจรจาต้าอวยไว้ (3) ถังความคิดตัวแสบ CSIS Think Tank ได้ออกรายงานการวิเคราะห์ The True Nature of the Saudi Succession “Crisis” วิกฤติตามธรรมชาติของการสืบสันตติวงศ์ของ Saudi เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2015 นี้ก่อนการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์ Abdullah ไม่นานนัก รายงานสรุปว่า กษัตริย์ Abdullah ได้เตรียมการล่วงหน้ามานานแล้วอย่างเรียบร้อยดี ทั้งเรื่องในพระราชวงศ์ เรื่องในประเทศ ทั้งด้านศาสนา และรัฐบาล รวมทั้งเรื่องการต่างประเทศ เท่าที่จะทำได้ แน่นอนหลายปัจจัย ยังเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูความเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะต้องมีตามสภาพ….รายงานแจงค่อนข้างละเอียดว่า เตรียมการอะไร ใครเป็นใคร ตามประสา นิสัยเสือกทุกเรื่องของอเมริกา แต่ที่น่าจะสนใจคือ บางส่วนที่รายงานการวิคราะห์ดังกล่าวระบุถึง ซึ่งไม่ได้เกี่ยว หรือมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนกษัตริย์ผู้ปกครอง แต่เป็นเรื่องที่รายงานการวิเคราะห์ ระบุถึงสภาพสังคมของซาอุดิอารเบีย เป็นส่วนของรายงานที่บอกว่า ปี 2015 ซาอุดิจะมีประชากรประมาณ 27.8 ล้านคน ปี 2025 จะมี 31.9 ล้านคน และปี 2050 จะมีประชากร 40.3 ล้านคน ปัจจุบัน ซาอุดิอารเบียเป็นสังคมที่มีวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ และอยู่ในวัยที่ต้องทำงานแต่ไม่ทำงาน โดยอยู่ด้วยสวัสดิการของรัฐ มีตลาดแรงงานประมาณ 8.4 ล้านคน แต่เป็นชาวซาอุดิเพียง 1.7 ล้านคน ที่ผ่านมา ซาอุดิรับมือกับวัยรุ่นจำนวนมากที่ไม่ทำงานได้พอสมควร เพราะที่ผ่านมา ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่สูงกว่าปัจจุบันมากมาย ขณะที่อัตราประชากรเพิ่ม และมีคนไม่ยอมทำงาน แต่รายรับของประเทศ ซึ่งมาจากน้ำมันอย่างเดียว ลดลง ตามราคาน้ำมันโลก (หรือจากการร่วมมือกันกดราคาน้ำมันก็ตาม) ขณะเดียวกัน ซาอุดิก็มีรายจ่ายเกี่ยวกับความ มั่นคงของรัฐ สูงที่สุดในโลก ซาอุดิ มีสตรูมากหน้า ทั้งที่เป็นรัฐ และไม่ใช่รัฐ รวมทั้งมีก่อการร้ายเสมอ จากการที่เป็นผู้ดูแลสถานที่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 20-10-68
    .
    เช้าวันจันทร์หลังจากประชุม และรับประทานอาหารกับทีมงานบ้านพระอาทิตย์ เมนูเป็นข้าวผัดปลาเค็ม กับไข่ดาว คุณสนธิจะมาเล่าเรื่อง และฉายภาพว่า "รายชื่อนักการเมืองไทยจำนวน 7 คน" ที่ร่ำลือกันว่าเกี่ยวพันกับคาสิโน และขบวนการสแกมเมอร์ในเขมรว่ามีจริงหรือไม่? ฮุนเซนกำลังแบล็กเมลนักการเมืองไทยใครบ้าง ? และสิ่งที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับ MOU 2543-2544 และ การประชุม JBC ที่รัฐบาลรวมถึงกระทรวงต่างประเทศดึงดันว่าจะประชุมให้ได้ ทั้ง ๆ ที่ อ.ปานเทพ และหลายคนก็ทักท้วงว่า จะส่งผลต่อการยกเลิก MOU ... ที่สำคัญคือ เรื่องเหล่านี้เกี่ยวพันกับสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ระดับโลกอย่างไร ... ต้องติดตาม
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=0iL6u9s683o
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #MOU2543 #JBC #ฮุนเซน
    สนธิเล่าเรื่อง 20-10-68 . เช้าวันจันทร์หลังจากประชุม และรับประทานอาหารกับทีมงานบ้านพระอาทิตย์ เมนูเป็นข้าวผัดปลาเค็ม กับไข่ดาว คุณสนธิจะมาเล่าเรื่อง และฉายภาพว่า "รายชื่อนักการเมืองไทยจำนวน 7 คน" ที่ร่ำลือกันว่าเกี่ยวพันกับคาสิโน และขบวนการสแกมเมอร์ในเขมรว่ามีจริงหรือไม่? ฮุนเซนกำลังแบล็กเมลนักการเมืองไทยใครบ้าง ? และสิ่งที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับ MOU 2543-2544 และ การประชุม JBC ที่รัฐบาลรวมถึงกระทรวงต่างประเทศดึงดันว่าจะประชุมให้ได้ ทั้ง ๆ ที่ อ.ปานเทพ และหลายคนก็ทักท้วงว่า จะส่งผลต่อการยกเลิก MOU ... ที่สำคัญคือ เรื่องเหล่านี้เกี่ยวพันกับสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ระดับโลกอย่างไร ... ต้องติดตาม . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=0iL6u9s683o . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #MOU2543 #JBC #ฮุนเซน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • MOU43-44 END GAME Ep315(live)

    SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep315 (live)
    มหากาพย์ MOU43-44 จุดเริ่มต้นของการเสียดินแดนไทย ใครเป็นคนเริ่ม ใครได้-ใครเสีย ต้องติดตาม

    สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube : https://www.youtube.com/@sondhitalk/join
    • ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk

    คลิก https://www.youtube.com/watch?v=l1-898FrpWw
    MOU43-44 END GAME Ep315(live) • SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep315 (live) มหากาพย์ MOU43-44 จุดเริ่มต้นของการเสียดินแดนไทย ใครเป็นคนเริ่ม ใครได้-ใครเสีย ต้องติดตาม • สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube : https://www.youtube.com/@sondhitalk/join • ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk • คลิก https://www.youtube.com/watch?v=l1-898FrpWw
    Like
    Love
    Angry
    14
    12 ความคิดเห็น 4 การแบ่งปัน 639 มุมมอง 1 รีวิว
  • “รักษามะเร็งโดยไม่ต้องผ่าตัด — เมื่อคลื่นเสียงกลายเป็นอาวุธใหม่ที่แม่นยำและไร้แผล”

    ในอดีต การรักษามะเร็งมักหมายถึงการผ่าตัด เคมีบำบัด หรือฉายรังสี ซึ่งล้วนมีผลข้างเคียงและความเสี่ยงสูง แต่วันนี้ นักวิทยาศาสตร์กำลังเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของการรักษาแบบ “ไร้แผล” ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า “Focused Ultrasound” หรือคลื่นเสียงความเข้มสูงแบบเจาะจง

    เทคโนโลยีนี้ใช้คลื่นเสียงที่แม่นยำในการทำลายเนื้อเยื่อมะเร็งโดยไม่ต้องเปิดผิวหนังหรือแทรกแซงอวัยวะใด ๆ คล้ายกับการใช้แว่นขยายรวมแสงอาทิตย์เพื่อเผาจุดเล็ก ๆ — แต่แทนที่จะใช้แสง ใช้คลื่นเสียงที่สามารถเจาะลึกถึงอวัยวะภายในได้อย่างปลอดภัย

    การทดลองล่าสุดในสหรัฐฯ และยุโรปแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีนี้สามารถใช้รักษามะเร็งตับ, ต่อมลูกหมาก, สมอง และแม้แต่มะเร็งเต้านมบางชนิดได้ โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน ผู้ป่วยบางรายสามารถกลับบ้านได้ภายในวันเดียว

    นอกจากการทำลายเนื้อเยื่อมะเร็งโดยตรงแล้ว คลื่นเสียงยังสามารถ “เปิดช่อง” ให้ยาเคมีบำบัดหรือภูมิคุ้มกันบำบัดเข้าสู่เนื้อเยื่อได้ดีขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาแบบผสม

    “Focused Ultrasound” คือการใช้คลื่นเสียงความเข้มสูงแบบเจาะจง
    ทำลายเนื้อเยื่อมะเร็งโดยไม่ต้องผ่าตัด

    คลื่นเสียงสามารถเจาะลึกถึงอวัยวะภายในโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง
    คล้ายการใช้แว่นขยายรวมแสง แต่ปลอดภัยกว่า

    ใช้รักษามะเร็งหลายชนิด เช่น ตับ, ต่อมลูกหมาก, สมอง, เต้านม
    ผู้ป่วยบางรายกลับบ้านได้ภายในวันเดียว

    คลื่นเสียงสามารถช่วยให้ยาเข้าสู่เนื้อเยื่อได้ดีขึ้น
    เพิ่มประสิทธิภาพของเคมีบำบัดหรือภูมิคุ้มกันบำบัด

    การรักษาแบบนี้ไม่ต้องใช้มีดผ่าตัดหรือการฉายรังสี
    ลดผลข้างเคียงและความเสี่ยงจากการรักษาแบบเดิม

    มีการทดลองในหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ, อังกฤษ, เยอรมนี
    ผลลัพธ์เบื้องต้นเป็นบวกและปลอดภัย

    เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นทดลองสำหรับบางชนิดของมะเร็ง
    ยังไม่สามารถใช้แทนการรักษาแบบเดิมได้ทั้งหมด

    ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะและทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
    ไม่สามารถใช้ได้ในโรงพยาบาลทั่วไปทุกแห่ง

    การรักษาอาจไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่มีเนื้องอกในตำแหน่งลึกหรือใกล้โครงสร้างสำคัญ
    เช่น ใกล้เส้นเลือดใหญ่หรือเส้นประสาท

    ยังไม่มีข้อมูลระยะยาวเกี่ยวกับประสิทธิภาพและผลข้างเคียง
    ต้องติดตามผลการทดลองเพิ่มเติมในอนาคต

    https://www.bbc.com/future/article/20251007-how-ultrasound-is-ushering-a-new-era-of-surgery-free-cancer-treatment
    🩺 “รักษามะเร็งโดยไม่ต้องผ่าตัด — เมื่อคลื่นเสียงกลายเป็นอาวุธใหม่ที่แม่นยำและไร้แผล” ในอดีต การรักษามะเร็งมักหมายถึงการผ่าตัด เคมีบำบัด หรือฉายรังสี ซึ่งล้วนมีผลข้างเคียงและความเสี่ยงสูง แต่วันนี้ นักวิทยาศาสตร์กำลังเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของการรักษาแบบ “ไร้แผล” ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า “Focused Ultrasound” หรือคลื่นเสียงความเข้มสูงแบบเจาะจง เทคโนโลยีนี้ใช้คลื่นเสียงที่แม่นยำในการทำลายเนื้อเยื่อมะเร็งโดยไม่ต้องเปิดผิวหนังหรือแทรกแซงอวัยวะใด ๆ คล้ายกับการใช้แว่นขยายรวมแสงอาทิตย์เพื่อเผาจุดเล็ก ๆ — แต่แทนที่จะใช้แสง ใช้คลื่นเสียงที่สามารถเจาะลึกถึงอวัยวะภายในได้อย่างปลอดภัย การทดลองล่าสุดในสหรัฐฯ และยุโรปแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีนี้สามารถใช้รักษามะเร็งตับ, ต่อมลูกหมาก, สมอง และแม้แต่มะเร็งเต้านมบางชนิดได้ โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน ผู้ป่วยบางรายสามารถกลับบ้านได้ภายในวันเดียว นอกจากการทำลายเนื้อเยื่อมะเร็งโดยตรงแล้ว คลื่นเสียงยังสามารถ “เปิดช่อง” ให้ยาเคมีบำบัดหรือภูมิคุ้มกันบำบัดเข้าสู่เนื้อเยื่อได้ดีขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาแบบผสม ✅ “Focused Ultrasound” คือการใช้คลื่นเสียงความเข้มสูงแบบเจาะจง ➡️ ทำลายเนื้อเยื่อมะเร็งโดยไม่ต้องผ่าตัด ✅ คลื่นเสียงสามารถเจาะลึกถึงอวัยวะภายในโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง ➡️ คล้ายการใช้แว่นขยายรวมแสง แต่ปลอดภัยกว่า ✅ ใช้รักษามะเร็งหลายชนิด เช่น ตับ, ต่อมลูกหมาก, สมอง, เต้านม ➡️ ผู้ป่วยบางรายกลับบ้านได้ภายในวันเดียว ✅ คลื่นเสียงสามารถช่วยให้ยาเข้าสู่เนื้อเยื่อได้ดีขึ้น ➡️ เพิ่มประสิทธิภาพของเคมีบำบัดหรือภูมิคุ้มกันบำบัด ✅ การรักษาแบบนี้ไม่ต้องใช้มีดผ่าตัดหรือการฉายรังสี ➡️ ลดผลข้างเคียงและความเสี่ยงจากการรักษาแบบเดิม ✅ มีการทดลองในหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ, อังกฤษ, เยอรมนี ➡️ ผลลัพธ์เบื้องต้นเป็นบวกและปลอดภัย ‼️ เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นทดลองสำหรับบางชนิดของมะเร็ง ⛔ ยังไม่สามารถใช้แทนการรักษาแบบเดิมได้ทั้งหมด ‼️ ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะและทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ⛔ ไม่สามารถใช้ได้ในโรงพยาบาลทั่วไปทุกแห่ง ‼️ การรักษาอาจไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่มีเนื้องอกในตำแหน่งลึกหรือใกล้โครงสร้างสำคัญ ⛔ เช่น ใกล้เส้นเลือดใหญ่หรือเส้นประสาท ‼️ ยังไม่มีข้อมูลระยะยาวเกี่ยวกับประสิทธิภาพและผลข้างเคียง ⛔ ต้องติดตามผลการทดลองเพิ่มเติมในอนาคต https://www.bbc.com/future/article/20251007-how-ultrasound-is-ushering-a-new-era-of-surgery-free-cancer-treatment
    WWW.BBC.COM
    How ultrasound is ushering a new era of surgery-free cancer treatment
    Ultrasound has long been used for helping doctors see inside the body, but focused high frequency sound waves are offering new ways of targeting cancer.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีเวลา ก็ต้องติดตามดูข่าว ช่วงนี้มีประเด็นต่อเนื่อง หลายเรื่องเลยนะ
    สั่งออนไลน์ ลิงค์อยู่ในช่องแสดงความคิดเห็น
    มีเวลา ก็ต้องติดตามดูข่าว ช่วงนี้มีประเด็นต่อเนื่อง หลายเรื่องเลยนะ สั่งออนไลน์ ลิงค์อยู่ในช่องแสดงความคิดเห็น
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพเปิดแผนที่ 17 จุดตลอดแนวชายแดนจังหวัดตราด พบฐานทหารกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยไทย ละเมิดเอ็มโอยู 43 เจรจาให้ถอนออกไปแล้ว ฝ่ายกัมพูชารับปาก เริ่ม 3 จุดบ้านชำรากก่อน และต้องติดตามผลต่อไป

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000089056

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    กองทัพเปิดแผนที่ 17 จุดตลอดแนวชายแดนจังหวัดตราด พบฐานทหารกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยไทย ละเมิดเอ็มโอยู 43 เจรจาให้ถอนออกไปแล้ว ฝ่ายกัมพูชารับปาก เริ่ม 3 จุดบ้านชำรากก่อน และต้องติดตามผลต่อไป อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000089056 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    Haha
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 352 มุมมอง 0 รีวิว
  • แหกคอก ตอนที่ 4 – ทองห่อผ้าขี้ริ้ว
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 4 : ทองห่อผ้าขี้ริ้ว
    อำนาจคือทุน ทุนคืออำนาจ คาถาง่ายๆ สั้นๆ ท่องให้ฟังอยู่ในนิทานเกือบทุกเรื่อง โลกใบนี้ไม่ได้ซับซ้อนเกินเข้าใจ ความซับซ้อนถูกสร้างขึ้นมา เพื่อให้เหยื่อสับสนมึนงง แล้วจะได้ถูกล่าง่ายขึ้นต่างหาก
    การจะสร้างนักล่าหมายเลขหนึ่งขึ้นมาครองโลก แบบไม่มีใครกล้ามาท้าทาย ไม่ใช่ทำได้ง่ายๆ มันออกจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ และเพ้อฝันเสียด้วยซ้ำ แต่มันมีคนคิดจริง ขบวนการสร้างนักล่า ใช้เวลาทั้งหมดกว่า 100 ปี เริ่มตั้งแต่ประมาณ ปี ค.ศ.1890 คนคิดสร้างไม่ได้คิดเล่นๆ เขาคิดจริง ทำจริง อดทน วางแผน เป็นขั้นเป็นตอน และที่สำคัญคนคิดนอกจากมีทุนหนามหึมาแล้ว มันต้องมีความบ้าเต็มขั้น มีความอยากทะเยอทะยานเต็มร้อย บวกกับความเหี้ยมโหด อีกไม่รู้กี่พันเท่า มันถึงจะทำได้
    มันเป็นความคิดของพวกนายทุนที่เป็นเจ้าของ และมีอำนาจเหนือธนาคารกลาง และตลาดหุ้น ตลาดทุนที่ Wall Street และ London ไม่กี่ตระกูล ที่หวังจะจัดระเบียบโลกใหม่อย่างที่เขาต้องการ เป็นโลกที่ควบคุมด้วยเงิน ด้วยระบบการเงินที่พวกเขาวางแผนคิดสร้างมานั้น จะทำให้พวกเขาเป็นผู้ควบคุมชักใย รัฐบาล กองทัพ และประชาชนอีกต่อหนึ่งไม่ว่าเป็นชนชาติใด โดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือการครองโลก และจัดระเบียบโลกใหม่
    มันไม่ง่ายนักหรอก แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของพวกเขา พวกเขาคิดว่าถ้าเราสามารถสร้างระบบที่ให้เราเป็นผู้ สร้าง เงินได้ การควบคุมปริมาณและกระแสเงินของโลกนี้ ก็อยู่ในมือพวกเรา ระบบนี้จะทำงานไม่ต่างกับการควบคุมด้วยอาวุธ แต่มันเป็นอาวุธทางการเงิน
    New World Order จัดระเบียบโลกใหม่ Globalization โลกาภิวัฒน์เป็นหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์ประมาณ 500 ปี มาแล้ว (นานแล้วครับ แต่ใช้เวลานานมาก กว่าสมันน้อยจะรู้เรื่อง) เรื่องราวมันย้อนไปตั้งแต่สมัยอเมริกายังถูกนับเป็นอาณานิคม อยู่ในอำนาจของอังกฤษ ตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1600 กว่าประมาณนั้น อิทธิพลของอังกฤษครอบงำอเมริกาจนถึงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้อเมริกาจะทำสงครามกลางเมืองเหนือใต้เมื่อ ค.ศ.1861 – 1865 โดยฝ่ายเหนือมีอังกฤษสนับสนุน ฝ่ายใต้มีฝรั่งเศสสนับสนุน และอ้างว่าอังกฤษไม่สามารถจะกระทืบอเมริกาซ้ำได้ ต้องถอยกองทัพกลับไปก็ตาม แต่คราบของอังกฤษก็ยังคงครอบอเมริกาอยู่อย่างที่อเมริกาไม่รู้ตัวหรือแกล้งไม่รู้ตัว
    อิทธิพลของอังกฤษ ระบบของอังกฤษในด้านการค้าครอบงำอเมริกามาตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1700 แล้ว ก็พวกที่อพยพมาอยู่อเมริกาส่วนหนึ่ง (ไม่น้อย) ก็มาจากอังกฤษนั่นแหละ นอกจากพูดภาษาเดียวกันแล้ว อิทธิพลและวัฒนธรรม ผู้อพยพก็เก็บใส่กระเป๋าเอาติดมาด้วย
    ประมาณปี ค.ศ.1890 หลังอเมริกาปฏิวัติอุตสาหกรรม เกิดเศรษฐีใหม่ขึ้นมาหลายตระกูล ในอเมริกา เช่น Rockefeller, J.P Morgan, Astors, Vanderbits, Carnegies ฯลฯ
    อเมริกาจะเป็นคนรวยแบบไหนล่ะ แบบอินเดียนแดงเจ้าของถิ่นที่อเมริกาไล่ล่าเขา แล้วยึดเอาดินแดนเขามาหรือ ถ้างั้นก็ต้องเดินห้อยลูกปัด เอาขนนกติดหัว แน่นอนอเมริกาไม่เอาหรอกอเมริกาต้องเลือกเป็นคนรวยแบบที่ผู้ดีอังกฤษเขาเป็นกัน แบบที่อเมริกาแอบนับถือปนเกรงกลัวและอิจฉา เพราะรู้สึกด้อยกว่าเขา จึงต้องอพยพมาก่อร่างสร้างตัวในดินแดนใหม่นั่นแหละ ระบบอังกฤษจึงยังครอบงำอเมริกาในหลายๆ รูปแบบ ไม่มากก็น้อย จนถึงทุกวันนี้
    เมื่อคนอเมริกันเริ่มรวย รวยพอที่จะเดินเชิดหน้าในสังคมโลก ก็เริ่มทำการค้าแบบคนอังกฤษ ในระบบอังกฤษ โดยเฉพาะด้านการเงิน และการอุตสาหกรรม ประมาณปี ค.ศ.1890 การร่วมมือ รวมลงทุนระหว่างคนรวยฝั่งอเมริกากับฝั่งอังกฤษก็เริ่มเพิ่มขึ้น Anglo American Establishment ก็เกิดขึ้น แนวคิดที่จะครองโลกร่วมกัน จึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้น
    อังกฤษรู้อยู่แก่ใจว่า วันหนึ่งดวงอาทิตย์ต้องตกดินในดินแดนที่ เคย เป็นอาณานิคมของตัว จะอุ้มจะแบกอาณานิคมไปตลอดกาล เป็นไปไม่ได้ อังกฤษเองไม่มีทรัพยากรของตัวเอง เกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อย ที่แผ่ไพศาลมาได้ขนาดนี้ ก็ต้องชื่นชมในความตะกรามทยานอยากได้อย่างสุดขีด แล้วจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นประวัติศาสตร์ หลุดมือไปหมดกระนั้นหรือ อังกฤษเป็นนักล่ารุ่นเก๋า ย่อมมองเห็น ใครจะขึ้นมาเป็นนักล่ารุ่นใหม่ ดูท่วงทีลีลาของนักล่ารุ่นใหม่แล้ว แยกกันเดินคงเหนื่อย ร่วมกันเดินหลอกชาวบ้านน่าจะรุ่งกว่า ว่าแล้วคนรวย 2 ฝากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกก็จับมือกัน แท้จริงแล้วใครนำใคร ใครหลอกใคร เป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูไปอีกนาน น่าสนใจอย่างยิ่งจนถึงทุกวันนี้ ย้ำ จนถึงทุกวันนี้ !
    คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 4 – ทองห่อผ้าขี้ริ้ว นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 4 : ทองห่อผ้าขี้ริ้ว อำนาจคือทุน ทุนคืออำนาจ คาถาง่ายๆ สั้นๆ ท่องให้ฟังอยู่ในนิทานเกือบทุกเรื่อง โลกใบนี้ไม่ได้ซับซ้อนเกินเข้าใจ ความซับซ้อนถูกสร้างขึ้นมา เพื่อให้เหยื่อสับสนมึนงง แล้วจะได้ถูกล่าง่ายขึ้นต่างหาก การจะสร้างนักล่าหมายเลขหนึ่งขึ้นมาครองโลก แบบไม่มีใครกล้ามาท้าทาย ไม่ใช่ทำได้ง่ายๆ มันออกจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ และเพ้อฝันเสียด้วยซ้ำ แต่มันมีคนคิดจริง ขบวนการสร้างนักล่า ใช้เวลาทั้งหมดกว่า 100 ปี เริ่มตั้งแต่ประมาณ ปี ค.ศ.1890 คนคิดสร้างไม่ได้คิดเล่นๆ เขาคิดจริง ทำจริง อดทน วางแผน เป็นขั้นเป็นตอน และที่สำคัญคนคิดนอกจากมีทุนหนามหึมาแล้ว มันต้องมีความบ้าเต็มขั้น มีความอยากทะเยอทะยานเต็มร้อย บวกกับความเหี้ยมโหด อีกไม่รู้กี่พันเท่า มันถึงจะทำได้ มันเป็นความคิดของพวกนายทุนที่เป็นเจ้าของ และมีอำนาจเหนือธนาคารกลาง และตลาดหุ้น ตลาดทุนที่ Wall Street และ London ไม่กี่ตระกูล ที่หวังจะจัดระเบียบโลกใหม่อย่างที่เขาต้องการ เป็นโลกที่ควบคุมด้วยเงิน ด้วยระบบการเงินที่พวกเขาวางแผนคิดสร้างมานั้น จะทำให้พวกเขาเป็นผู้ควบคุมชักใย รัฐบาล กองทัพ และประชาชนอีกต่อหนึ่งไม่ว่าเป็นชนชาติใด โดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือการครองโลก และจัดระเบียบโลกใหม่ มันไม่ง่ายนักหรอก แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของพวกเขา พวกเขาคิดว่าถ้าเราสามารถสร้างระบบที่ให้เราเป็นผู้ สร้าง เงินได้ การควบคุมปริมาณและกระแสเงินของโลกนี้ ก็อยู่ในมือพวกเรา ระบบนี้จะทำงานไม่ต่างกับการควบคุมด้วยอาวุธ แต่มันเป็นอาวุธทางการเงิน New World Order จัดระเบียบโลกใหม่ Globalization โลกาภิวัฒน์เป็นหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์ประมาณ 500 ปี มาแล้ว (นานแล้วครับ แต่ใช้เวลานานมาก กว่าสมันน้อยจะรู้เรื่อง) เรื่องราวมันย้อนไปตั้งแต่สมัยอเมริกายังถูกนับเป็นอาณานิคม อยู่ในอำนาจของอังกฤษ ตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1600 กว่าประมาณนั้น อิทธิพลของอังกฤษครอบงำอเมริกาจนถึงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้อเมริกาจะทำสงครามกลางเมืองเหนือใต้เมื่อ ค.ศ.1861 – 1865 โดยฝ่ายเหนือมีอังกฤษสนับสนุน ฝ่ายใต้มีฝรั่งเศสสนับสนุน และอ้างว่าอังกฤษไม่สามารถจะกระทืบอเมริกาซ้ำได้ ต้องถอยกองทัพกลับไปก็ตาม แต่คราบของอังกฤษก็ยังคงครอบอเมริกาอยู่อย่างที่อเมริกาไม่รู้ตัวหรือแกล้งไม่รู้ตัว อิทธิพลของอังกฤษ ระบบของอังกฤษในด้านการค้าครอบงำอเมริกามาตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1700 แล้ว ก็พวกที่อพยพมาอยู่อเมริกาส่วนหนึ่ง (ไม่น้อย) ก็มาจากอังกฤษนั่นแหละ นอกจากพูดภาษาเดียวกันแล้ว อิทธิพลและวัฒนธรรม ผู้อพยพก็เก็บใส่กระเป๋าเอาติดมาด้วย ประมาณปี ค.ศ.1890 หลังอเมริกาปฏิวัติอุตสาหกรรม เกิดเศรษฐีใหม่ขึ้นมาหลายตระกูล ในอเมริกา เช่น Rockefeller, J.P Morgan, Astors, Vanderbits, Carnegies ฯลฯ อเมริกาจะเป็นคนรวยแบบไหนล่ะ แบบอินเดียนแดงเจ้าของถิ่นที่อเมริกาไล่ล่าเขา แล้วยึดเอาดินแดนเขามาหรือ ถ้างั้นก็ต้องเดินห้อยลูกปัด เอาขนนกติดหัว แน่นอนอเมริกาไม่เอาหรอกอเมริกาต้องเลือกเป็นคนรวยแบบที่ผู้ดีอังกฤษเขาเป็นกัน แบบที่อเมริกาแอบนับถือปนเกรงกลัวและอิจฉา เพราะรู้สึกด้อยกว่าเขา จึงต้องอพยพมาก่อร่างสร้างตัวในดินแดนใหม่นั่นแหละ ระบบอังกฤษจึงยังครอบงำอเมริกาในหลายๆ รูปแบบ ไม่มากก็น้อย จนถึงทุกวันนี้ เมื่อคนอเมริกันเริ่มรวย รวยพอที่จะเดินเชิดหน้าในสังคมโลก ก็เริ่มทำการค้าแบบคนอังกฤษ ในระบบอังกฤษ โดยเฉพาะด้านการเงิน และการอุตสาหกรรม ประมาณปี ค.ศ.1890 การร่วมมือ รวมลงทุนระหว่างคนรวยฝั่งอเมริกากับฝั่งอังกฤษก็เริ่มเพิ่มขึ้น Anglo American Establishment ก็เกิดขึ้น แนวคิดที่จะครองโลกร่วมกัน จึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้น อังกฤษรู้อยู่แก่ใจว่า วันหนึ่งดวงอาทิตย์ต้องตกดินในดินแดนที่ เคย เป็นอาณานิคมของตัว จะอุ้มจะแบกอาณานิคมไปตลอดกาล เป็นไปไม่ได้ อังกฤษเองไม่มีทรัพยากรของตัวเอง เกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อย ที่แผ่ไพศาลมาได้ขนาดนี้ ก็ต้องชื่นชมในความตะกรามทยานอยากได้อย่างสุดขีด แล้วจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นประวัติศาสตร์ หลุดมือไปหมดกระนั้นหรือ อังกฤษเป็นนักล่ารุ่นเก๋า ย่อมมองเห็น ใครจะขึ้นมาเป็นนักล่ารุ่นใหม่ ดูท่วงทีลีลาของนักล่ารุ่นใหม่แล้ว แยกกันเดินคงเหนื่อย ร่วมกันเดินหลอกชาวบ้านน่าจะรุ่งกว่า ว่าแล้วคนรวย 2 ฝากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกก็จับมือกัน แท้จริงแล้วใครนำใคร ใครหลอกใคร เป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูไปอีกนาน น่าสนใจอย่างยิ่งจนถึงทุกวันนี้ ย้ำ จนถึงทุกวันนี้ ! คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 361 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้องติดตามดูค่าจริงกันต่อไป.

    https://youtube.com/shorts/v2yW3jBaLkM?si=UJbSSEHweTB0fmDc
    ต้องติดตามดูค่าจริงกันต่อไป. https://youtube.com/shorts/v2yW3jBaLkM?si=UJbSSEHweTB0fmDc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 8-9-68
    .
    สวัสดีเช้าวันจันทร์ที่ วันนี้บ้านพระอาทิตย์มีเมนูอาหารเช้าเป็นโกยซีหมี่ไก่เส้นกรอบ โดยหลังจากที่คุณสนธิร่วมประชุม และรับประทานอาหารเช้ากับทีมงานแล้ว ก็ได้ถกเถียงกันในหลายประเด็น หนึ่งคือ กรณีที่คุณทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีกำหนดจะต้องนัดฟังคำสั่งศาลกรณีชั้น 14 ในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ย.) ซึ่งหลายคนสงสัยว่าคุณทักษิณจะกลับมาประเทศไทยไหม? ถ้ากลับจะเป็นอย่างไร และถ้าไม่กลับจะส่งผลกระทบอะไรบ้าง? นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องของนายกฯ คนใหม่ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล กับรัฐบาลใหม่ และคณะรัฐมนตรีใหม่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปัญหาเรื่องชายแดน และการยกเลิก MOU43-44
    .
    คุณสนธิคิดและมองอย่างไรกับการเมืองไทย ณ เวลานี้ ต้องติดตาม !
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=9tFRd3ycq28
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #ทักษิณ #ชั้น14 #ทักษิณ #รัฐบาล #นายกหนู #อนุทินชาญวีรกูล #คณะรัฐมนตรี #รัฐบาลอนุทิน
    สนธิเล่าเรื่อง 8-9-68 . สวัสดีเช้าวันจันทร์ที่ วันนี้บ้านพระอาทิตย์มีเมนูอาหารเช้าเป็นโกยซีหมี่ไก่เส้นกรอบ โดยหลังจากที่คุณสนธิร่วมประชุม และรับประทานอาหารเช้ากับทีมงานแล้ว ก็ได้ถกเถียงกันในหลายประเด็น หนึ่งคือ กรณีที่คุณทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีกำหนดจะต้องนัดฟังคำสั่งศาลกรณีชั้น 14 ในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ย.) ซึ่งหลายคนสงสัยว่าคุณทักษิณจะกลับมาประเทศไทยไหม? ถ้ากลับจะเป็นอย่างไร และถ้าไม่กลับจะส่งผลกระทบอะไรบ้าง? นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องของนายกฯ คนใหม่ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล กับรัฐบาลใหม่ และคณะรัฐมนตรีใหม่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปัญหาเรื่องชายแดน และการยกเลิก MOU43-44 . คุณสนธิคิดและมองอย่างไรกับการเมืองไทย ณ เวลานี้ ต้องติดตาม ! . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=9tFRd3ycq28 . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #ทักษิณ #ชั้น14 #ทักษิณ #รัฐบาล #นายกหนู #อนุทินชาญวีรกูล #คณะรัฐมนตรี #รัฐบาลอนุทิน
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 402 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 1-9-68
    .
    สวัสดีวันแรกของเดือนกันยายน 2568 เช้านี้หลังจากที่คุณสนธิร่วมประชุม และรับประทานอาหารเช้ากับทีมงาน โดยเมนูเป็น ข้าวเปล่ากับเกาเหลาหมูตุ๋น ประเด็นที่ฮอตที่สุด ณ เวลานี้หนีไม่พ้นเรื่องความเป็นไปทางการเมือง และสถานการณ์บ้านเมืองของเรา ณ เวลานี้ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดีคลิปลับฮุนเซน "อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร" ว่าผิดจริยธรรมร้ายแรง ขาดคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้ต้องมีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จัดตั้งรัฐบาลกันใหม่ เวลานี้จึงเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองอย่างรุนแรง
    .
    คุณสนธิคิดและมองอย่างไรกับความเป็นอยู่ และเป็นไปของบ้านเมือง ณ เวลานี้ ? ... ต้องติดตาม !
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=8K_5ZnKnZbA
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #รัฐบาล #นายกคนใหม่ #เพื่อไทย #ภูมิใจไทย #ประชาชน #ทักษิณ #อนุทิน #ชัยเกษม
    สนธิเล่าเรื่อง 1-9-68 . สวัสดีวันแรกของเดือนกันยายน 2568 เช้านี้หลังจากที่คุณสนธิร่วมประชุม และรับประทานอาหารเช้ากับทีมงาน โดยเมนูเป็น ข้าวเปล่ากับเกาเหลาหมูตุ๋น ประเด็นที่ฮอตที่สุด ณ เวลานี้หนีไม่พ้นเรื่องความเป็นไปทางการเมือง และสถานการณ์บ้านเมืองของเรา ณ เวลานี้ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดีคลิปลับฮุนเซน "อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร" ว่าผิดจริยธรรมร้ายแรง ขาดคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้ต้องมีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จัดตั้งรัฐบาลกันใหม่ เวลานี้จึงเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองอย่างรุนแรง . คุณสนธิคิดและมองอย่างไรกับความเป็นอยู่ และเป็นไปของบ้านเมือง ณ เวลานี้ ? ... ต้องติดตาม ! . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=8K_5ZnKnZbA . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #รัฐบาล #นายกคนใหม่ #เพื่อไทย #ภูมิใจไทย #ประชาชน #ทักษิณ #อนุทิน #ชัยเกษม
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 457 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์ข้อมูลอังกฤษไม่กินน้ำอย่างที่คิด – พลิกภาพจำของเทคโนโลยีที่กระหายน้ำ

    ในยุคที่ AI และคลาวด์กลายเป็นหัวใจของเศรษฐกิจดิจิทัล หลายคนอาจนึกถึงศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่กินไฟมหาศาลและใช้น้ำจำนวนมากเพื่อระบายความร้อน แต่รายงานล่าสุดจาก techUK กลับพลิกภาพนั้นอย่างสิ้นเชิง

    จากการสำรวจศูนย์ข้อมูล 73 แห่งทั่วอังกฤษ พบว่า 64% ใช้น้ำไม่ถึง 10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี ซึ่งน้อยกว่าศูนย์กีฬา Leisure Center ทั่วไป และใกล้เคียงกับการใช้น้ำของสโมสรฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

    ที่สำคัญคือกว่า 51% ของศูนย์ข้อมูลเหล่านี้ใช้ระบบระบายความร้อนแบบไม่ใช้น้ำ (waterless cooling) และอีกจำนวนมากใช้ระบบ closed-loop ที่รีไซเคิลน้ำภายในวงจรปิด ทำให้ 89% ของผู้ให้บริการไม่จำเป็นต้องติดตามการใช้น้ำอีกต่อไป

    แม้จะมีข้อสงสัยว่าตัวเลขเหล่านี้อาจไม่รวมการใช้น้ำทางอ้อม เช่น จากการผลิตไฟฟ้า แต่รายงานก็ชี้ให้เห็นถึงความพยายามของอุตสาหกรรมในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเสนอให้มีการจัดทำ “ดัชนีการใช้ประโยชน์น้ำ” เพื่อวัดความเครียดของแหล่งน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ

    ในขณะที่รัฐบาลอังกฤษตั้งเป้าเพิ่มขีดความสามารถด้านการประมวลผล 20 เท่าภายในปี 2030 การออกแบบศูนย์ข้อมูลให้ใช้น้ำน้อยลงจึงเป็นกุญแจสำคัญในการเติบโตอย่างยั่งยืน

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    รายงานจาก techUK พบว่า 64% ของศูนย์ข้อมูลในอังกฤษใช้น้ำต่ำกว่า 10,000 ลบ.ม./ปี
    ปริมาณนี้น้อยกว่าศูนย์กีฬา Leisure Center และใกล้เคียงกับสโมสรฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
    51% ของศูนย์ข้อมูลใช้ระบบระบายความร้อนแบบไม่ใช้น้ำ (waterless cooling)
    หลายแห่งใช้ระบบ closed-loop ที่รีไซเคิลน้ำภายในวงจร
    89% ของผู้ให้บริการไม่จำเป็นต้องติดตามการใช้น้ำอีกต่อไป
    การระบายความร้อนเป็นปัจจัยหลักที่เคยทำให้ศูนย์ข้อมูลใช้น้ำมาก
    รายงานเสนอให้มีการจัดทำ “ดัชนีการใช้ประโยชน์น้ำ” เพื่อวัดความเครียดของแหล่งน้ำ
    ศูนย์ข้อมูลมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจดิจิทัลและเป้าหมายด้าน AI ของอังกฤษ
    รัฐบาลตั้งเป้าเพิ่มขีดความสามารถด้านการประมวลผล 20 เท่าภายในปี 2030
    ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนช่วยผลักดันการออกแบบที่ยั่งยืน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ระบบ waterless cooling เช่น immersion cooling และ direct-to-chip กำลังได้รับความนิยม
    Closed-loop systems ใช้ของเหลวพิเศษที่มีจุดเดือดต่ำและหมุนเวียนภายในระบบ
    การใช้พลังงานหมุนเวียนช่วยลดการใช้น้ำทางอ้อมจากการผลิตไฟฟ้า
    ศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ที่มีความเครียดด้านน้ำ เช่นลอนดอนและแมนเชสเตอร์ มีแนวโน้มใช้ระบบแห้งมากขึ้น
    การออกแบบศูนย์ข้อมูลแบบ modular ช่วยลด footprint และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ
    หลายบริษัทเริ่มใช้ AI เพื่อควบคุมระบบระบายความร้อนแบบเรียลไทม์

    https://www.techradar.com/pro/not-as-thirsty-as-we-thought-average-data-center-uses-less-water-than-a-typical-leisure-center-study-claims
    🎙️ ศูนย์ข้อมูลอังกฤษไม่กินน้ำอย่างที่คิด – พลิกภาพจำของเทคโนโลยีที่กระหายน้ำ ในยุคที่ AI และคลาวด์กลายเป็นหัวใจของเศรษฐกิจดิจิทัล หลายคนอาจนึกถึงศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่กินไฟมหาศาลและใช้น้ำจำนวนมากเพื่อระบายความร้อน แต่รายงานล่าสุดจาก techUK กลับพลิกภาพนั้นอย่างสิ้นเชิง จากการสำรวจศูนย์ข้อมูล 73 แห่งทั่วอังกฤษ พบว่า 64% ใช้น้ำไม่ถึง 10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี ซึ่งน้อยกว่าศูนย์กีฬา Leisure Center ทั่วไป และใกล้เคียงกับการใช้น้ำของสโมสรฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ที่สำคัญคือกว่า 51% ของศูนย์ข้อมูลเหล่านี้ใช้ระบบระบายความร้อนแบบไม่ใช้น้ำ (waterless cooling) และอีกจำนวนมากใช้ระบบ closed-loop ที่รีไซเคิลน้ำภายในวงจรปิด ทำให้ 89% ของผู้ให้บริการไม่จำเป็นต้องติดตามการใช้น้ำอีกต่อไป แม้จะมีข้อสงสัยว่าตัวเลขเหล่านี้อาจไม่รวมการใช้น้ำทางอ้อม เช่น จากการผลิตไฟฟ้า แต่รายงานก็ชี้ให้เห็นถึงความพยายามของอุตสาหกรรมในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเสนอให้มีการจัดทำ “ดัชนีการใช้ประโยชน์น้ำ” เพื่อวัดความเครียดของแหล่งน้ำในพื้นที่ต่าง ๆ ในขณะที่รัฐบาลอังกฤษตั้งเป้าเพิ่มขีดความสามารถด้านการประมวลผล 20 เท่าภายในปี 2030 การออกแบบศูนย์ข้อมูลให้ใช้น้ำน้อยลงจึงเป็นกุญแจสำคัญในการเติบโตอย่างยั่งยืน 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ รายงานจาก techUK พบว่า 64% ของศูนย์ข้อมูลในอังกฤษใช้น้ำต่ำกว่า 10,000 ลบ.ม./ปี ➡️ ปริมาณนี้น้อยกว่าศูนย์กีฬา Leisure Center และใกล้เคียงกับสโมสรฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ➡️ 51% ของศูนย์ข้อมูลใช้ระบบระบายความร้อนแบบไม่ใช้น้ำ (waterless cooling) ➡️ หลายแห่งใช้ระบบ closed-loop ที่รีไซเคิลน้ำภายในวงจร ➡️ 89% ของผู้ให้บริการไม่จำเป็นต้องติดตามการใช้น้ำอีกต่อไป ➡️ การระบายความร้อนเป็นปัจจัยหลักที่เคยทำให้ศูนย์ข้อมูลใช้น้ำมาก ➡️ รายงานเสนอให้มีการจัดทำ “ดัชนีการใช้ประโยชน์น้ำ” เพื่อวัดความเครียดของแหล่งน้ำ ➡️ ศูนย์ข้อมูลมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจดิจิทัลและเป้าหมายด้าน AI ของอังกฤษ ➡️ รัฐบาลตั้งเป้าเพิ่มขีดความสามารถด้านการประมวลผล 20 เท่าภายในปี 2030 ➡️ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนช่วยผลักดันการออกแบบที่ยั่งยืน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ระบบ waterless cooling เช่น immersion cooling และ direct-to-chip กำลังได้รับความนิยม ➡️ Closed-loop systems ใช้ของเหลวพิเศษที่มีจุดเดือดต่ำและหมุนเวียนภายในระบบ ➡️ การใช้พลังงานหมุนเวียนช่วยลดการใช้น้ำทางอ้อมจากการผลิตไฟฟ้า ➡️ ศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ที่มีความเครียดด้านน้ำ เช่นลอนดอนและแมนเชสเตอร์ มีแนวโน้มใช้ระบบแห้งมากขึ้น ➡️ การออกแบบศูนย์ข้อมูลแบบ modular ช่วยลด footprint และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ➡️ หลายบริษัทเริ่มใช้ AI เพื่อควบคุมระบบระบายความร้อนแบบเรียลไทม์ https://www.techradar.com/pro/not-as-thirsty-as-we-thought-average-data-center-uses-less-water-than-a-typical-leisure-center-study-claims
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 346 มุมมอง 0 รีวิว
  • SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep306 (Live )
    ขอเรียกร้องให้ ต่ออายุราชการท่านแม่ทัพภาคที่ 2 หรือเขิญมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแต่ปัญหาคือ “เก้าอี้ตัวนี้มีคนจองแล้ว” จะเป็นใครต้องติดตาม

    https://www.youtube.com/watch?v=v0nTnPtjxqA

    #Sondhi #Sondhitalk #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #Live
    🔴 SONDHITALK : ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง Ep306 (Live ) ขอเรียกร้องให้ ต่ออายุราชการท่านแม่ทัพภาคที่ 2 หรือเขิญมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแต่ปัญหาคือ “เก้าอี้ตัวนี้มีคนจองแล้ว” จะเป็นใครต้องติดตาม https://www.youtube.com/watch?v=v0nTnPtjxqA #Sondhi #Sondhitalk #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #Live
    Like
    Love
    Yay
    31
    11 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1932 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ.

    ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล
    BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม!

    ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน

    แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต

    BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ!

    คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้

    NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ

    BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว!

    ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง

    “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์

    BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา!
    จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ

    ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป

    BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม!

    ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง

    ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น

    BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ!

    บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว!

    นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น

    BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย!

    นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์

    นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม

    BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก!

    ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา

    นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน

    BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม!

    NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา

    และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่

    BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้!

    ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง

    ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด

    บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก

    1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่

    2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์

    3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง

    4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น

    5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต

    6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ

    7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ

    8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต

    9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส

    11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน

    12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร

    13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ

    15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย

    17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง

    18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก

    19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ

    20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง

    21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป

    22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด

    24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น


    25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว
    26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม

    27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA

    28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง

    29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย
    30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม

    ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่

    31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง

    บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ. ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม! ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ! คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้ NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว! ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์ BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา! จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม! ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ! บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว! นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย! นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์ นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก! ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม! NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่ BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้! ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก 1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่ 2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์ 3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง 4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น 5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต 6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ 7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ 8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต 9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ 10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส 11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน 12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร 13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ 14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ 15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ 16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย 17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง 18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก 19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ 20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง 21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป 22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ 23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด 24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น 25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว 26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม 27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA 28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง 29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย 30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่ 31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1246 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงหลังมีงานวิจัยหลายชิ้นเตือนเรื่อง “เวลาอยู่หน้าจอมากเกินไป” ว่าทำให้เด็กเศร้า หวาดระแวง หรือเสี่ยงคิดสั้น แต่การศึกษาใหม่ในวารสาร JAMA ชี้ว่า เวลาอาจไม่ใช่ตัวการหลัก เพราะเด็กที่ใช้มือถือหรือโซเชียลแค่วันละนิด แต่ใช้แบบ “เลิกไม่ได้” ก็เสี่ยงสูงเช่นกัน

    ทีมนักวิจัยจาก Weill Cornell Medical College ตามข้อมูลเด็กกว่า 4,000 คน ตั้งแต่อายุ 10–14 ปี พบว่าเด็กที่มีพฤติกรรม “เสพติดมือถือ” (เช่น วางไม่ลง ขาดแล้วกระวนกระวาย หรือใช้เพิ่มเรื่อย ๆ) มีโอกาสคิดสั้นหรือทำร้ายตัวเองเพิ่มขึ้น 2–3 เท่า แม้จะไม่ได้ใช้หน้าจอนานมาก

    กลุ่มเสี่ยงมากที่สุดคือเด็กที่เริ่มติดตั้งแต่อายุ 11 ปี และยิ่งแย่ขึ้นในช่วงวัย 14 ปี ซึ่งสมองยังพัฒนาไม่เต็มที่ โดยเฉพาะส่วน prefrontal cortex ที่คุมการหักห้ามใจ

    และที่น่าคิดคือ…การเอามือถือออกจากมือลูกแบบหักดิบ อาจไม่ได้ช่วย แถมสร้างความขัดแย้งในบ้านอีกต่างหาก นักวิจัยแนะนำให้เน้น “บำบัดพฤติกรรมเสพติด” เช่น Cognitive Behavioral Therapy (CBT) แทนการห้ามใช้อย่างเดียว

    งานวิจัยใหญ่ชี้ว่า “พฤติกรรมเสพติด” ไม่ใช่ “เวลาอยู่หน้าจอ” คือปัจจัยเสี่ยงหลักของสุขภาพจิตเด็ก  
    • การวางไม่ลง / ต้องใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นสัญญาณอันตราย  
    • เด็กที่มีพฤติกรรมนี้เสี่ยงคิดสั้นมากขึ้น 2–3 เท่า

    เกือบครึ่งของเด็กในงานวิจัยมีพฤติกรรมติดมือถือระดับสูงตั้งแต่อายุ 11  
    • อีก 25% เริ่มติดภายหลังและพุ่งขึ้นเร็วในช่วงวัยรุ่น

    การวัด screen time อย่างเดียวอาจพลาดกลุ่มเสี่ยงที่ใช้ “น้อยแต่ติด”  
    • ต้องติดตามพฤติกรรมแบบ “ต่อเนื่อง” เพื่อจับสัญญาณก่อนสาย

    ทีมวิจัยแนะนำให้เน้นการบำบัดพฤติกรรมแทนการยึดมือถือ  
    • เช่น การใช้ CBT เพื่อช่วยเด็กควบคุมการใช้งาน  
    • พ่อแม่ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่จัดการเองอย่างหักดิบ

    มีการเรียกร้องให้ผู้ให้บริการออกแบบแอป/อุปกรณ์ให้เหมาะกับวัย (Age-Appropriate Design)  
    • ลดกลไกดึงดูดแบบ loop ไม่มีที่สิ้นสุด เช่น infinite scroll  
    • อังกฤษมีการออกโค้ดแนวทางนี้แล้วตั้งแต่ปี 2020

    ความเสี่ยงติดมือถือพบบ่อยในกลุ่มครอบครัวยากจนหรือพ่อแม่ไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย  
    • เป็นภาระซ้อนของสภาพแวดล้อมทางสังคม

    ผลวิจัยยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่า “ติดมือถือทำให้คิดสั้น” หรือไม่  
    • เพราะเป็นงานแบบสังเกต ไม่ใช่ทดลองควบคุม  • แต่พบว่าพฤติกรรมเสพติดมาก่อนอาการทางจิตชัดเจน

    การจำกัด screen time โดยไม่เข้าใจ “เหตุผลที่เด็กใช้งาน” อาจไม่แก้ปัญหา  
    • ต้องดูว่าเด็กใช้เพื่อหนีปัญหาในชีวิตจริงหรือไม่

    การพูดเรื่อง screen time อย่างเดียว อาจโยนภาระทั้งหมดให้พ่อแม่  
    • ทั้งที่ส่วนหนึ่งเกิดจากการออกแบบแอปให้ดึงดูดเกินพอดี

    การตัดสินจากแค่ “ชั่วโมงหน้าจอ” อาจพลาดกลุ่มเด็กที่เสพติดเชิงพฤติกรรมแบบลึก ๆ  
    • เช่น ใช้น้อยแต่รู้สึกหงุดหงิดมากถ้าขาดมือถือ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/real-risk-to-youth-mental-health-is-addictive-use-not-screen-time-alone-study-finds
    ช่วงหลังมีงานวิจัยหลายชิ้นเตือนเรื่อง “เวลาอยู่หน้าจอมากเกินไป” ว่าทำให้เด็กเศร้า หวาดระแวง หรือเสี่ยงคิดสั้น แต่การศึกษาใหม่ในวารสาร JAMA ชี้ว่า เวลาอาจไม่ใช่ตัวการหลัก เพราะเด็กที่ใช้มือถือหรือโซเชียลแค่วันละนิด แต่ใช้แบบ “เลิกไม่ได้” ก็เสี่ยงสูงเช่นกัน ทีมนักวิจัยจาก Weill Cornell Medical College ตามข้อมูลเด็กกว่า 4,000 คน ตั้งแต่อายุ 10–14 ปี พบว่าเด็กที่มีพฤติกรรม “เสพติดมือถือ” (เช่น วางไม่ลง ขาดแล้วกระวนกระวาย หรือใช้เพิ่มเรื่อย ๆ) มีโอกาสคิดสั้นหรือทำร้ายตัวเองเพิ่มขึ้น 2–3 เท่า แม้จะไม่ได้ใช้หน้าจอนานมาก กลุ่มเสี่ยงมากที่สุดคือเด็กที่เริ่มติดตั้งแต่อายุ 11 ปี และยิ่งแย่ขึ้นในช่วงวัย 14 ปี ซึ่งสมองยังพัฒนาไม่เต็มที่ โดยเฉพาะส่วน prefrontal cortex ที่คุมการหักห้ามใจ และที่น่าคิดคือ…การเอามือถือออกจากมือลูกแบบหักดิบ อาจไม่ได้ช่วย แถมสร้างความขัดแย้งในบ้านอีกต่างหาก นักวิจัยแนะนำให้เน้น “บำบัดพฤติกรรมเสพติด” เช่น Cognitive Behavioral Therapy (CBT) แทนการห้ามใช้อย่างเดียว ✅ งานวิจัยใหญ่ชี้ว่า “พฤติกรรมเสพติด” ไม่ใช่ “เวลาอยู่หน้าจอ” คือปัจจัยเสี่ยงหลักของสุขภาพจิตเด็ก   • การวางไม่ลง / ต้องใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นสัญญาณอันตราย   • เด็กที่มีพฤติกรรมนี้เสี่ยงคิดสั้นมากขึ้น 2–3 เท่า ✅ เกือบครึ่งของเด็กในงานวิจัยมีพฤติกรรมติดมือถือระดับสูงตั้งแต่อายุ 11   • อีก 25% เริ่มติดภายหลังและพุ่งขึ้นเร็วในช่วงวัยรุ่น ✅ การวัด screen time อย่างเดียวอาจพลาดกลุ่มเสี่ยงที่ใช้ “น้อยแต่ติด”   • ต้องติดตามพฤติกรรมแบบ “ต่อเนื่อง” เพื่อจับสัญญาณก่อนสาย ✅ ทีมวิจัยแนะนำให้เน้นการบำบัดพฤติกรรมแทนการยึดมือถือ   • เช่น การใช้ CBT เพื่อช่วยเด็กควบคุมการใช้งาน   • พ่อแม่ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่จัดการเองอย่างหักดิบ ✅ มีการเรียกร้องให้ผู้ให้บริการออกแบบแอป/อุปกรณ์ให้เหมาะกับวัย (Age-Appropriate Design)   • ลดกลไกดึงดูดแบบ loop ไม่มีที่สิ้นสุด เช่น infinite scroll   • อังกฤษมีการออกโค้ดแนวทางนี้แล้วตั้งแต่ปี 2020 ✅ ความเสี่ยงติดมือถือพบบ่อยในกลุ่มครอบครัวยากจนหรือพ่อแม่ไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย   • เป็นภาระซ้อนของสภาพแวดล้อมทางสังคม ‼️ ผลวิจัยยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่า “ติดมือถือทำให้คิดสั้น” หรือไม่   • เพราะเป็นงานแบบสังเกต ไม่ใช่ทดลองควบคุม  • แต่พบว่าพฤติกรรมเสพติดมาก่อนอาการทางจิตชัดเจน ‼️ การจำกัด screen time โดยไม่เข้าใจ “เหตุผลที่เด็กใช้งาน” อาจไม่แก้ปัญหา   • ต้องดูว่าเด็กใช้เพื่อหนีปัญหาในชีวิตจริงหรือไม่ ‼️ การพูดเรื่อง screen time อย่างเดียว อาจโยนภาระทั้งหมดให้พ่อแม่   • ทั้งที่ส่วนหนึ่งเกิดจากการออกแบบแอปให้ดึงดูดเกินพอดี ‼️ การตัดสินจากแค่ “ชั่วโมงหน้าจอ” อาจพลาดกลุ่มเด็กที่เสพติดเชิงพฤติกรรมแบบลึก ๆ   • เช่น ใช้น้อยแต่รู้สึกหงุดหงิดมากถ้าขาดมือถือ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/real-risk-to-youth-mental-health-is-addictive-use-not-screen-time-alone-study-finds
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Real risk to youth mental health is ‘addictive use’, not screen time alone, study finds
    Researchers found children with highly addictive use of phones, video games or social media were two to three times as likely to have thoughts of suicide or to harm themselves.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 378 มุมมอง 0 รีวิว
  • SSD MonTitan: ประสิทธิภาพสูงสำหรับ AI และ HPC
    Silicon Motion ได้เปิดตัว SSD MonTitan ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อรองรับ AI, Edge Computing และ HPC โดยใช้ คอนโทรลเลอร์ SM8366 PCIe Gen5 ที่มีประสิทธิภาพสูง

    คุณสมบัติเด่นของ MonTitan SSD
    - ความจุ 7.68TB รองรับ TLC และ QLC
    - ความเร็ว 3.4 ล้าน IOPS และ 14.2GB/s
    - ใช้ NVMe 2.0b และรองรับ OCP Data Center specs
    - มี PerformaShape Algorithm ที่ช่วยปรับแต่ง QoS ตามการใช้งาน
    - ใช้พลังงานต่ำ ต่ำกว่า 5W ขณะ idle
    - รองรับ 1 DWPD ซึ่งสามารถเขียนข้อมูลใหม่ได้เกือบ 2,000 ครั้ง ตลอดอายุการใช้งาน

    ข้อควรระวัง
    - การแข่งขันกับผู้ผลิต NAND รายใหญ่ เช่น Samsung และ SK Hynix อาจทำให้ MonTitan ต้องดิ้นรนเพื่อหาตลาด
    - การเปิดตัวล่าช้าอาจทำให้เสียโอกาสในตลาด AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
    - ต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อดูว่าประสิทธิภาพจริงตรงกับที่โฆษณาหรือไม่

    แนวโน้มตลาด SSD และการแข่งขัน
    การพัฒนา SSD ในตลาด
    - Western Digital และ Teamgroup กำลังเปิดตัว PCIe Gen5 SSD ความจุ 64TB
    - Intel SSD รุ่นเก่า 4 ปี ยังคงเป็นหนึ่งใน SSD ที่เร็วที่สุดในตลาด
    - Kioxia เปิดตัว SSD 61.44TB ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเขียนข้อมูล

    ข้อควรระวังเกี่ยวกับตลาด SSD
    - ต้องจับตาดูการพัฒนาเทคโนโลยี NAND เพราะอาจส่งผลต่อราคาของ SSD รุ่นใหม่
    - การเปลี่ยนไปใช้ PCIe Gen5 อาจต้องอัปเกรดฮาร์ดแวร์ เพื่อให้รองรับมาตรฐานใหม่
    - ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของ SSD กับระบบที่ใช้งาน เพื่อป้องกันปัญหาด้านประสิทธิภาพ

    อนาคตของ SSD และเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูล
    แนวโน้มการพัฒนา
    - SSD ความจุสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการพัฒนา 128TB SSD ที่กำลังเข้าสู่ตลาด
    - AI และ HPC กำลังผลักดันให้ SSD มีความเร็วสูงขึ้น เพื่อรองรับการประมวลผลที่ซับซ้อน
    - เทคโนโลยีใหม่ เช่น Computational Storage อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ SSD ในอนาคต

    ข้อควรระวังเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่
    - ต้องมีการทดสอบความเสถียรของ SSD รุ่นใหม่ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาด้านความเข้ากันได้
    - ต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดระบบ เนื่องจาก SSD รุ่นใหม่อาจมีราคาสูง
    - ต้องติดตามการพัฒนาเทคโนโลยี NAND เพื่อให้แน่ใจว่า SSD มีความทนทานและประสิทธิภาพสูง

    https://www.techradar.com/pro/silicon-motion-montitan-ssd-can-be-rewritten-over-almost-2000-times-but-i-fear-that-in-the-battle-against-nand-vendors-like-samsung-its-just-too-little-too-late
    🚀 SSD MonTitan: ประสิทธิภาพสูงสำหรับ AI และ HPC Silicon Motion ได้เปิดตัว SSD MonTitan ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อรองรับ AI, Edge Computing และ HPC โดยใช้ คอนโทรลเลอร์ SM8366 PCIe Gen5 ที่มีประสิทธิภาพสูง ✅ คุณสมบัติเด่นของ MonTitan SSD - ความจุ 7.68TB รองรับ TLC และ QLC - ความเร็ว 3.4 ล้าน IOPS และ 14.2GB/s - ใช้ NVMe 2.0b และรองรับ OCP Data Center specs - มี PerformaShape Algorithm ที่ช่วยปรับแต่ง QoS ตามการใช้งาน - ใช้พลังงานต่ำ ต่ำกว่า 5W ขณะ idle - รองรับ 1 DWPD ซึ่งสามารถเขียนข้อมูลใหม่ได้เกือบ 2,000 ครั้ง ตลอดอายุการใช้งาน ‼️ ข้อควรระวัง - การแข่งขันกับผู้ผลิต NAND รายใหญ่ เช่น Samsung และ SK Hynix อาจทำให้ MonTitan ต้องดิ้นรนเพื่อหาตลาด - การเปิดตัวล่าช้าอาจทำให้เสียโอกาสในตลาด AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว - ต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อดูว่าประสิทธิภาพจริงตรงกับที่โฆษณาหรือไม่ 🔍 แนวโน้มตลาด SSD และการแข่งขัน ✅ การพัฒนา SSD ในตลาด - Western Digital และ Teamgroup กำลังเปิดตัว PCIe Gen5 SSD ความจุ 64TB - Intel SSD รุ่นเก่า 4 ปี ยังคงเป็นหนึ่งใน SSD ที่เร็วที่สุดในตลาด - Kioxia เปิดตัว SSD 61.44TB ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเขียนข้อมูล ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับตลาด SSD - ต้องจับตาดูการพัฒนาเทคโนโลยี NAND เพราะอาจส่งผลต่อราคาของ SSD รุ่นใหม่ - การเปลี่ยนไปใช้ PCIe Gen5 อาจต้องอัปเกรดฮาร์ดแวร์ เพื่อให้รองรับมาตรฐานใหม่ - ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของ SSD กับระบบที่ใช้งาน เพื่อป้องกันปัญหาด้านประสิทธิภาพ 🌍 อนาคตของ SSD และเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูล ✅ แนวโน้มการพัฒนา - SSD ความจุสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการพัฒนา 128TB SSD ที่กำลังเข้าสู่ตลาด - AI และ HPC กำลังผลักดันให้ SSD มีความเร็วสูงขึ้น เพื่อรองรับการประมวลผลที่ซับซ้อน - เทคโนโลยีใหม่ เช่น Computational Storage อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ SSD ในอนาคต ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ - ต้องมีการทดสอบความเสถียรของ SSD รุ่นใหม่ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาด้านความเข้ากันได้ - ต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดระบบ เนื่องจาก SSD รุ่นใหม่อาจมีราคาสูง - ต้องติดตามการพัฒนาเทคโนโลยี NAND เพื่อให้แน่ใจว่า SSD มีความทนทานและประสิทธิภาพสูง https://www.techradar.com/pro/silicon-motion-montitan-ssd-can-be-rewritten-over-almost-2000-times-but-i-fear-that-in-the-battle-against-nand-vendors-like-samsung-its-just-too-little-too-late
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ออก BIOS ใหม่เพื่อแก้ไขช่องโหว่ TPM
    AMD ได้ปล่อย BIOS อัปเดตใหม่ ที่ใช้เฟิร์มแวร์ AGESA 1.2.0.3e เพื่อแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับ Trusted Platform Module (TPM) ซึ่งอาจถูกแฮกเกอร์ใช้เพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญ

    รายละเอียดช่องโหว่ TPM
    - ช่องโหว่ CVE-2025-2884 มีคะแนนความรุนแรง 6.6 (ระดับกลาง)
    - แฮกเกอร์สามารถใช้ out-of-bounds read เพื่อเข้าถึงข้อมูลที่เก็บอยู่ใน TPM
    - ช่องโหว่นี้สามารถถูกใช้ได้โดย สิทธิ์ระดับผู้ใช้ทั่วไป ไม่ต้องใช้สิทธิ์ระดับ kernel
    - ส่งผลกระทบต่อ CPU AMD ตั้งแต่ Zen+ ถึง Zen 5 รวมถึง Ryzen 3000 ถึง Ryzen 9000

    ข้อควรระวัง
    - BIOS อัปเดตใหม่ไม่สามารถย้อนกลับไปใช้เวอร์ชันเก่าได้ หลังจากติดตั้ง
    - ต้องตรวจสอบว่าเมนบอร์ดรองรับ BIOS ใหม่ ก่อนทำการอัปเดต
    - การอัปเดต BIOS อาจมีผลต่อการทำงานของระบบ ควรสำรองข้อมูลก่อนดำเนินการ

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และแนวทางแก้ไข
    การอัปเดต BIOS จากผู้ผลิตเมนบอร์ด
    - ผู้ผลิตเมนบอร์ด เช่น Asus และ MSI ได้เริ่มปล่อย BIOS ใหม่ที่ใช้ AGESA 1.2.0.3e
    - BIOS ใหม่ยังเพิ่มการรองรับ Ryzen 9000F series ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว
    - ผู้ใช้ควรตรวจสอบ เว็บไซต์ของผู้ผลิตเมนบอร์ด เพื่อดูว่ามีอัปเดตสำหรับรุ่นของตนหรือไม่

    ข้อควรระวังในการอัปเดต BIOS
    - หากอัปเดตผิดพลาด อาจทำให้ระบบไม่สามารถบูตได้ ต้องใช้วิธีรีเซ็ต BIOS
    - ต้องใช้ไฟล์ BIOS ที่ตรงกับรุ่นเมนบอร์ด เพื่อป้องกันปัญหาความเข้ากันได้
    - ควรใช้เครื่องมืออัปเดต BIOS ที่แนะนำโดยผู้ผลิต เพื่อความปลอดภัย

    แนวโน้มด้านความปลอดภัยของ CPU
    ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ AMD
    - AMD Zen 5 ยังได้รับผลกระทบจากช่องโหว่ microcode ที่อาจถูกใช้เพื่อรันโค้ดที่ไม่ได้รับอนุญาต
    - Gigabyte ได้ปล่อย BIOS อัปเดตสำหรับ TRX50 เพื่อแก้ไขปัญหาความเข้ากันได้
    - AMD แนะนำให้ผู้ใช้ Ryzen 9000 อัปเดต BIOS เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการบูตเครื่อง

    ข้อควรระวังเกี่ยวกับความปลอดภัยของ CPU
    - ต้องติดตามการอัปเดต BIOS อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันช่องโหว่ใหม่ที่อาจถูกค้นพบ
    - ควรใช้ TPM อย่างระมัดระวัง โดยตั้งค่าความปลอดภัยให้เหมาะสมกับการใช้งาน
    - ต้องมีมาตรการป้องกันเพิ่มเติม เช่น การใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยร่วมกับ TPM

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-partners-roll-out-new-bios-updates-to-patch-tpm-vulnerability-error-with-amd-cpus-addressed-with-agesa-1-2-0-3e
    🔧 AMD ออก BIOS ใหม่เพื่อแก้ไขช่องโหว่ TPM AMD ได้ปล่อย BIOS อัปเดตใหม่ ที่ใช้เฟิร์มแวร์ AGESA 1.2.0.3e เพื่อแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับ Trusted Platform Module (TPM) ซึ่งอาจถูกแฮกเกอร์ใช้เพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญ ✅ รายละเอียดช่องโหว่ TPM - ช่องโหว่ CVE-2025-2884 มีคะแนนความรุนแรง 6.6 (ระดับกลาง) - แฮกเกอร์สามารถใช้ out-of-bounds read เพื่อเข้าถึงข้อมูลที่เก็บอยู่ใน TPM - ช่องโหว่นี้สามารถถูกใช้ได้โดย สิทธิ์ระดับผู้ใช้ทั่วไป ไม่ต้องใช้สิทธิ์ระดับ kernel - ส่งผลกระทบต่อ CPU AMD ตั้งแต่ Zen+ ถึง Zen 5 รวมถึง Ryzen 3000 ถึง Ryzen 9000 ‼️ ข้อควรระวัง - BIOS อัปเดตใหม่ไม่สามารถย้อนกลับไปใช้เวอร์ชันเก่าได้ หลังจากติดตั้ง - ต้องตรวจสอบว่าเมนบอร์ดรองรับ BIOS ใหม่ ก่อนทำการอัปเดต - การอัปเดต BIOS อาจมีผลต่อการทำงานของระบบ ควรสำรองข้อมูลก่อนดำเนินการ 🔍 ผลกระทบต่อผู้ใช้และแนวทางแก้ไข ✅ การอัปเดต BIOS จากผู้ผลิตเมนบอร์ด - ผู้ผลิตเมนบอร์ด เช่น Asus และ MSI ได้เริ่มปล่อย BIOS ใหม่ที่ใช้ AGESA 1.2.0.3e - BIOS ใหม่ยังเพิ่มการรองรับ Ryzen 9000F series ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว - ผู้ใช้ควรตรวจสอบ เว็บไซต์ของผู้ผลิตเมนบอร์ด เพื่อดูว่ามีอัปเดตสำหรับรุ่นของตนหรือไม่ ‼️ ข้อควรระวังในการอัปเดต BIOS - หากอัปเดตผิดพลาด อาจทำให้ระบบไม่สามารถบูตได้ ต้องใช้วิธีรีเซ็ต BIOS - ต้องใช้ไฟล์ BIOS ที่ตรงกับรุ่นเมนบอร์ด เพื่อป้องกันปัญหาความเข้ากันได้ - ควรใช้เครื่องมืออัปเดต BIOS ที่แนะนำโดยผู้ผลิต เพื่อความปลอดภัย 🌍 แนวโน้มด้านความปลอดภัยของ CPU ✅ ช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ AMD - AMD Zen 5 ยังได้รับผลกระทบจากช่องโหว่ microcode ที่อาจถูกใช้เพื่อรันโค้ดที่ไม่ได้รับอนุญาต - Gigabyte ได้ปล่อย BIOS อัปเดตสำหรับ TRX50 เพื่อแก้ไขปัญหาความเข้ากันได้ - AMD แนะนำให้ผู้ใช้ Ryzen 9000 อัปเดต BIOS เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการบูตเครื่อง ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับความปลอดภัยของ CPU - ต้องติดตามการอัปเดต BIOS อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันช่องโหว่ใหม่ที่อาจถูกค้นพบ - ควรใช้ TPM อย่างระมัดระวัง โดยตั้งค่าความปลอดภัยให้เหมาะสมกับการใช้งาน - ต้องมีมาตรการป้องกันเพิ่มเติม เช่น การใช้ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยร่วมกับ TPM https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amd-partners-roll-out-new-bios-updates-to-patch-tpm-vulnerability-error-with-amd-cpus-addressed-with-agesa-1-2-0-3e
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องบินบรรทุกน้ำมันของสหรัฐฯ 24 ลำกำลังมุ่งหน้าไปทางตะวันออกจากสหรัฐฯ สู่ยุโรป ถือเป็นจำนวนมากผิดปกติ

    บางแหล่งข่าวอ้างว่าการเคลื่อนย้ายเครื่องบินบรรทุกน้ำมันของสหรัฐฯ จำนวน 24 ลำไปยังยุโรปน่าจะสนับสนุนการซ้อมรบแอตแลนติก ไทรเดนต์ 25 ของนาโต้ในฟินแลนด์ ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 16-27 มิถุนายน 2025

    อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
    เครื่องบินบรรทุกน้ำมันของสหรัฐฯ 24 ลำกำลังมุ่งหน้าไปทางตะวันออกจากสหรัฐฯ สู่ยุโรป ถือเป็นจำนวนมากผิดปกติ บางแหล่งข่าวอ้างว่าการเคลื่อนย้ายเครื่องบินบรรทุกน้ำมันของสหรัฐฯ จำนวน 24 ลำไปยังยุโรปน่าจะสนับสนุนการซ้อมรบแอตแลนติก ไทรเดนต์ 25 ของนาโต้ในฟินแลนด์ ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 16-27 มิถุนายน 2025 อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 0 รีวิว
  • Peugeot เปิดตัว E-208 GTi: รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ Hot Hatch
    Peugeot เผยโฉม E-208 GTi ที่งาน 24h of Le Mans โดยออกแบบให้ สืบทอด DNA ของ GTi รุ่นก่อนหน้า พร้อม สมรรถนะระดับแนวหน้า

    รายละเอียดของ E-208 GTi
    ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า M4+ ให้กำลัง 280 แรงม้า
    - มอเตอร์ติดตั้งที่ล้อหน้า ทำให้สามารถ เร่ง 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 5.7 วินาที
    - ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 112 ไมล์ต่อชั่วโมง

    แบตเตอรี่ 54kWh ให้ระยะทาง 217 ไมล์ต่อการชาร์จ
    - ระยะทางต่ำกว่าคู่แข่ง เช่น Renault 5 E-Tech และ Cupra Born VZ
    - ระบบจัดการความร้อนและการกู้คืนพลังงานช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่

    ดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจจาก Peugeot 205 GTi
    - สีตัวถังสดใส, พรมและเข็มขัดนิรภัยสีแดง
    - เบาะนั่งออกแบบใหม่พร้อมที่รองศีรษะในตัว

    โครงสร้างตัวถังปรับปรุงใหม่เพื่อเพิ่มความคล่องตัว
    - ซุ้มล้อกว้างขึ้น, ช่วงล่างเตี้ยลง และระยะยื่นสั้นลง
    - ล้ออัลลอย “Hole” และสปอยเลอร์ช่วยเพิ่มความสปอร์ต

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า
    ระยะทางต่อการชาร์จอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้บางกลุ่ม
    - 217 ไมล์ต่อการชาร์จอาจไม่เพียงพอสำหรับการเดินทางไกล

    น้ำหนักตัวรถเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากรุ่น 205 GTi
    - E-208 GTi มีน้ำหนัก 1,596 กิโลกรัม เทียบกับ 848 กิโลกรัมของ 205 GTi

    ต้องติดตามว่าราคาจะอยู่ในระดับที่แข่งขันได้หรือไม่
    - Abarth 600e Scorpionisma มีราคาประมาณ £40,000 ซึ่งอาจเป็นตัวชี้วัดราคาของ E-208 GTi

    อนาคตของ Hot Hatch ไฟฟ้า
    Peugeot Sport ปรับแต่งระบบกันสะเทือนและเบรกเพื่อเพิ่มความสนุกในการขับขี่
    E-208 GTi อาจช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ Hot Hatch กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง

    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/peugeot-reinvents-its-gti-badge-for-the-ev-age-and-the-e-208-is-the-best-looking-electric-hot-hatch-so-far
    🚗 Peugeot เปิดตัว E-208 GTi: รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ Hot Hatch Peugeot เผยโฉม E-208 GTi ที่งาน 24h of Le Mans โดยออกแบบให้ สืบทอด DNA ของ GTi รุ่นก่อนหน้า พร้อม สมรรถนะระดับแนวหน้า 🔍 รายละเอียดของ E-208 GTi ✅ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า M4+ ให้กำลัง 280 แรงม้า - มอเตอร์ติดตั้งที่ล้อหน้า ทำให้สามารถ เร่ง 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 5.7 วินาที - ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 112 ไมล์ต่อชั่วโมง ✅ แบตเตอรี่ 54kWh ให้ระยะทาง 217 ไมล์ต่อการชาร์จ - ระยะทางต่ำกว่าคู่แข่ง เช่น Renault 5 E-Tech และ Cupra Born VZ - ระบบจัดการความร้อนและการกู้คืนพลังงานช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่ ✅ ดีไซน์ได้รับแรงบันดาลใจจาก Peugeot 205 GTi - สีตัวถังสดใส, พรมและเข็มขัดนิรภัยสีแดง - เบาะนั่งออกแบบใหม่พร้อมที่รองศีรษะในตัว ✅ โครงสร้างตัวถังปรับปรุงใหม่เพื่อเพิ่มความคล่องตัว - ซุ้มล้อกว้างขึ้น, ช่วงล่างเตี้ยลง และระยะยื่นสั้นลง - ล้ออัลลอย “Hole” และสปอยเลอร์ช่วยเพิ่มความสปอร์ต 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ‼️ ระยะทางต่อการชาร์จอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้บางกลุ่ม - 217 ไมล์ต่อการชาร์จอาจไม่เพียงพอสำหรับการเดินทางไกล ‼️ น้ำหนักตัวรถเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากรุ่น 205 GTi - E-208 GTi มีน้ำหนัก 1,596 กิโลกรัม เทียบกับ 848 กิโลกรัมของ 205 GTi ‼️ ต้องติดตามว่าราคาจะอยู่ในระดับที่แข่งขันได้หรือไม่ - Abarth 600e Scorpionisma มีราคาประมาณ £40,000 ซึ่งอาจเป็นตัวชี้วัดราคาของ E-208 GTi 🚀 อนาคตของ Hot Hatch ไฟฟ้า ✅ Peugeot Sport ปรับแต่งระบบกันสะเทือนและเบรกเพื่อเพิ่มความสนุกในการขับขี่ ✅ E-208 GTi อาจช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าสไตล์ Hot Hatch กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/peugeot-reinvents-its-gti-badge-for-the-ev-age-and-the-e-208-is-the-best-looking-electric-hot-hatch-so-far
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 361 มุมมอง 0 รีวิว
  • Micron ผนึกกำลัง AMD พัฒนา HBM3E สำหรับ AI และ HPC
    Micron ประกาศการบูรณาการ HBM3E 36 GB 12-high เข้ากับ AMD Instinct MI350 Series ซึ่งเป็น แพลตฟอร์ม AI และ HPC รุ่นใหม่ โดยเน้น ประสิทธิภาพสูงและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

    รายละเอียดของความร่วมมือ
    HBM3E 36 GB 12-high ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ AMD Instinct MI350
    - AMD Instinct MI350 Series ใช้สถาปัตยกรรม CDNA 4 พร้อม หน่วยความจำ HBM3E ขนาด 288 GB
    - ให้แบนด์วิดท์สูงสุด 8 TB/s รองรับ AI models ขนาด 520 พันล้านพารามิเตอร์

    การออกแบบที่เน้นประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน
    - HBM3E ช่วยลดการใช้พลังงาน และ เพิ่ม throughput สำหรับงาน AI และ HPC
    - แพลตฟอร์มเต็มรูปแบบมีหน่วยความจำ HBM3E สูงสุด 2.3 TB และ ประสิทธิภาพสูงสุด 161 PFLOPS ที่ FP4 precision

    Micron และ AMD เร่งพัฒนา AI solutions ให้เข้าสู่ตลาดเร็วขึ้น
    - Micron ทำงานร่วมกับ AMD เพื่อปรับแต่ง HBM3E ให้เข้ากับ Instinct MI350 Series
    - ช่วยให้ศูนย์ข้อมูลสามารถขยายขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และ HPC
    ต้องติดตามว่า HBM3E จะสามารถแข่งขันกับ HBM4 ได้หรือไม่
    - Micron เพิ่งเริ่มจัดส่งตัวอย่าง HBM4 ซึ่งมีแบนด์วิดท์สูงกว่า

    การใช้พลังงานของ Instinct MI350 อาจเป็นปัจจัยสำคัญในการนำไปใช้งาน
    - ต้องดูว่าแพลตฟอร์มนี้จะสามารถรักษาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและการใช้พลังงานได้ดีแค่ไหน

    การแข่งขันระหว่าง AMD และ Nvidia ในตลาด AI accelerators ยังคงเข้มข้น
    - Nvidia อาจเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบโต้ Instinct MI350 Series

    อนาคตของ HBM และ AI accelerators
    Micron อาจขยายการพัฒนา HBM4 เพื่อรองรับ AI workloads ที่ใหญ่ขึ้น AMD อาจเปิดตัว Instinct MI355X และ MI400 Series ในอนาคต

    https://www.techpowerup.com/337991/micron-hbm-designed-into-leading-amd-ai-platform
    🚀 Micron ผนึกกำลัง AMD พัฒนา HBM3E สำหรับ AI และ HPC Micron ประกาศการบูรณาการ HBM3E 36 GB 12-high เข้ากับ AMD Instinct MI350 Series ซึ่งเป็น แพลตฟอร์ม AI และ HPC รุ่นใหม่ โดยเน้น ประสิทธิภาพสูงและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ 🔍 รายละเอียดของความร่วมมือ ✅ HBM3E 36 GB 12-high ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ AMD Instinct MI350 - AMD Instinct MI350 Series ใช้สถาปัตยกรรม CDNA 4 พร้อม หน่วยความจำ HBM3E ขนาด 288 GB - ให้แบนด์วิดท์สูงสุด 8 TB/s รองรับ AI models ขนาด 520 พันล้านพารามิเตอร์ ✅ การออกแบบที่เน้นประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน - HBM3E ช่วยลดการใช้พลังงาน และ เพิ่ม throughput สำหรับงาน AI และ HPC - แพลตฟอร์มเต็มรูปแบบมีหน่วยความจำ HBM3E สูงสุด 2.3 TB และ ประสิทธิภาพสูงสุด 161 PFLOPS ที่ FP4 precision ✅ Micron และ AMD เร่งพัฒนา AI solutions ให้เข้าสู่ตลาดเร็วขึ้น - Micron ทำงานร่วมกับ AMD เพื่อปรับแต่ง HBM3E ให้เข้ากับ Instinct MI350 Series - ช่วยให้ศูนย์ข้อมูลสามารถขยายขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และ HPC ‼️ ต้องติดตามว่า HBM3E จะสามารถแข่งขันกับ HBM4 ได้หรือไม่ - Micron เพิ่งเริ่มจัดส่งตัวอย่าง HBM4 ซึ่งมีแบนด์วิดท์สูงกว่า ‼️ การใช้พลังงานของ Instinct MI350 อาจเป็นปัจจัยสำคัญในการนำไปใช้งาน - ต้องดูว่าแพลตฟอร์มนี้จะสามารถรักษาสมดุลระหว่างประสิทธิภาพและการใช้พลังงานได้ดีแค่ไหน ‼️ การแข่งขันระหว่าง AMD และ Nvidia ในตลาด AI accelerators ยังคงเข้มข้น - Nvidia อาจเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบโต้ Instinct MI350 Series 🚀 อนาคตของ HBM และ AI accelerators ✅ Micron อาจขยายการพัฒนา HBM4 เพื่อรองรับ AI workloads ที่ใหญ่ขึ้น ✅ AMD อาจเปิดตัว Instinct MI355X และ MI400 Series ในอนาคต https://www.techpowerup.com/337991/micron-hbm-designed-into-leading-amd-ai-platform
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Micron HBM Designed into Leading AMD AI Platform
    Micron Technology, Inc. today announced the integration of its HBM3E 36 GB 12-high offering into the upcoming AMD Instinct MI350 Series solutions. This collaboration highlights the critical role of power efficiency and performance in training large AI models, delivering high-throughput inference and...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel เตรียมปลดพนักงานฝ่ายผลิตชิปกลางเดือนกรกฎาคม
    Intel ประกาศแผนปลดพนักงานฝ่ายผลิตชิปที่โรงงาน Silicon Forest ในรัฐโอเรกอน ตั้งแต่ กลางเดือนกรกฎาคม 2025 โดยมีเป้าหมาย ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพด้านวิศวกรรม

    รายละเอียดของการปรับโครงสร้าง
    Intel ปรับโครงสร้างกลุ่มผลิตชิปให้เน้นด้านวิศวกรรมมากขึ้น
    - ลดจำนวนพนักงานระดับกลาง เพื่อให้ การดำเนินงานมีความคล่องตัวขึ้น
    - เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิป เช่น EUV และ High-NA EUV lithography

    การปลดพนักงานอาจมีหลายรอบ
    - รอบแรกจะสิ้นสุดภายในเดือนกรกฎาคม
    - อาจมีการปลดพนักงานเพิ่มเติมหากจำเป็น

    Intel ต้องการลดต้นทุนเพื่อปรับปรุงสถานะทางการเงิน
    - บริษัทต้องการเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - การลดต้นทุนช่วยให้สามารถแข่งขันกับ TSMC และ Samsung ได้ดีขึ้น

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    การลดจำนวนพนักงานอาจส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่
    - หากลดจำนวนวิศวกรมากเกินไป อาจทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีล่าช้า

    การปลดพนักงานอาจลดความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน
    - การลดจำนวนพนักงานระดับปฏิบัติการอาจทำให้การตอบสนองต่อปัญหาช้าลง

    ต้องติดตามว่า Intel จะสามารถรักษากำลังการผลิตได้หรือไม่
    - หากการลดพนักงานส่งผลต่อการผลิต อาจทำให้เกิดปัญหาด้านซัพพลายเชน

    อนาคตของ Intel และการผลิตชิป
    Intel อาจต้องปรับกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับ TSMC และ Samsung
    ต้องติดตามว่าการปรับโครงสร้างนี้จะช่วยให้ Intel มีความคล่องตัวมากขึ้นหรือไม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-to-begin-fab-personnel-layoffs-in-mid-july-company-to-reduce-costs-and-refocus-on-engineering-talent
    🏭 Intel เตรียมปลดพนักงานฝ่ายผลิตชิปกลางเดือนกรกฎาคม Intel ประกาศแผนปลดพนักงานฝ่ายผลิตชิปที่โรงงาน Silicon Forest ในรัฐโอเรกอน ตั้งแต่ กลางเดือนกรกฎาคม 2025 โดยมีเป้าหมาย ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพด้านวิศวกรรม 🔍 รายละเอียดของการปรับโครงสร้าง ✅ Intel ปรับโครงสร้างกลุ่มผลิตชิปให้เน้นด้านวิศวกรรมมากขึ้น - ลดจำนวนพนักงานระดับกลาง เพื่อให้ การดำเนินงานมีความคล่องตัวขึ้น - เน้นการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิป เช่น EUV และ High-NA EUV lithography ✅ การปลดพนักงานอาจมีหลายรอบ - รอบแรกจะสิ้นสุดภายในเดือนกรกฎาคม - อาจมีการปลดพนักงานเพิ่มเติมหากจำเป็น ✅ Intel ต้องการลดต้นทุนเพื่อปรับปรุงสถานะทางการเงิน - บริษัทต้องการเป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น - การลดต้นทุนช่วยให้สามารถแข่งขันกับ TSMC และ Samsung ได้ดีขึ้น 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ‼️ การลดจำนวนพนักงานอาจส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ - หากลดจำนวนวิศวกรมากเกินไป อาจทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีล่าช้า ‼️ การปลดพนักงานอาจลดความยืดหยุ่นในการดำเนินงาน - การลดจำนวนพนักงานระดับปฏิบัติการอาจทำให้การตอบสนองต่อปัญหาช้าลง ‼️ ต้องติดตามว่า Intel จะสามารถรักษากำลังการผลิตได้หรือไม่ - หากการลดพนักงานส่งผลต่อการผลิต อาจทำให้เกิดปัญหาด้านซัพพลายเชน 🚀 อนาคตของ Intel และการผลิตชิป ✅ Intel อาจต้องปรับกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับ TSMC และ Samsung ✅ ต้องติดตามว่าการปรับโครงสร้างนี้จะช่วยให้ Intel มีความคล่องตัวมากขึ้นหรือไม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-to-begin-fab-personnel-layoffs-in-mid-july-company-to-reduce-costs-and-refocus-on-engineering-talent
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD เปิดตัว Pensando Pollara 400GbE NIC พร้อมรองรับ Ultra Ethernet
    AMD เปิดตัวการ์ดเครือข่าย Pensando Pollara 400GbE ซึ่งเป็น NIC ตัวแรกที่รองรับมาตรฐาน Ultra Ethernet โดยออกแบบมาเพื่อ ศูนย์ข้อมูล AI และ HPC ขนาดใหญ่

    รายละเอียดของ Pensando Pollara 400GbE
    รองรับ Ultra Ethernet และเพิ่มประสิทธิภาพ RDMA
    - Ultra Ethernet Consortium เพิ่งเผยแพร่สเปค 1.0 ซึ่งออกแบบมาเพื่อ ศูนย์ข้อมูล AI ขนาดใหญ่
    - Pollara 400GbE มีประสิทธิภาพ RDMA สูงกว่า Nvidia CX7 ถึง 10% และสูงกว่า Broadcom Thor2 ถึง 20%

    ช่วยให้สามารถสร้าง AI cluster ขนาดใหญ่
    - Oracle Cloud Infrastructure จะเป็นผู้ใช้รายแรก โดยวางแผนสร้าง AI cluster ขนาด zettascale
    - Cluster นี้จะใช้ AMD Instinct MI355X GPUs จำนวน 131,072 ตัว

    ออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาคอขวดของเครือข่าย
    - NIC สามารถแบ่งข้อมูลออกเป็นหลายเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงการติดขัด
    - มีระบบ failover ที่ช่วยรักษาการเชื่อมต่อ GPU-to-GPU

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และ HPC
    ต้องติดตามว่า Ultra Ethernet จะได้รับการยอมรับในวงกว้างหรือไม่
    - มาตรฐานนี้ยังใหม่ และต้องแข่งขันกับเทคโนโลยีที่มีอยู่ เช่น NVLink และ RoCEv2

    การ์ดเครือข่ายต้องมีการปรับแต่งเพื่อให้ทำงานร่วมกับระบบที่มีอยู่
    - องค์กรที่ใช้ RDMA อาจต้องปรับแต่งซอฟต์แวร์เพื่อรองรับ Ultra Ethernet

    ต้องรอดูว่า Nvidia และ Broadcom จะตอบสนองต่อการแข่งขันนี้อย่างไร
    - หาก Ultra Ethernet ได้รับความนิยม อาจส่งผลต่อกลยุทธ์ของผู้ผลิตเครือข่ายรายอื่น

    อนาคตของ Ultra Ethernet และเครือข่าย AI
    Ultra Ethernet อาจช่วยให้สามารถสร้าง AI cluster ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น AMD อาจขยายการพัฒนา NIC รุ่นใหม่เพื่อรองรับการเติบโตของ AI และ HPC

    https://www.tomshardware.com/networking/amd-deploys-its-first-ultra-ethernet-ready-network-card-pensando-pollara-provides-up-to-400-gbps-performance
    🚀 AMD เปิดตัว Pensando Pollara 400GbE NIC พร้อมรองรับ Ultra Ethernet AMD เปิดตัวการ์ดเครือข่าย Pensando Pollara 400GbE ซึ่งเป็น NIC ตัวแรกที่รองรับมาตรฐาน Ultra Ethernet โดยออกแบบมาเพื่อ ศูนย์ข้อมูล AI และ HPC ขนาดใหญ่ 🔍 รายละเอียดของ Pensando Pollara 400GbE ✅ รองรับ Ultra Ethernet และเพิ่มประสิทธิภาพ RDMA - Ultra Ethernet Consortium เพิ่งเผยแพร่สเปค 1.0 ซึ่งออกแบบมาเพื่อ ศูนย์ข้อมูล AI ขนาดใหญ่ - Pollara 400GbE มีประสิทธิภาพ RDMA สูงกว่า Nvidia CX7 ถึง 10% และสูงกว่า Broadcom Thor2 ถึง 20% ✅ ช่วยให้สามารถสร้าง AI cluster ขนาดใหญ่ - Oracle Cloud Infrastructure จะเป็นผู้ใช้รายแรก โดยวางแผนสร้าง AI cluster ขนาด zettascale - Cluster นี้จะใช้ AMD Instinct MI355X GPUs จำนวน 131,072 ตัว ✅ ออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาคอขวดของเครือข่าย - NIC สามารถแบ่งข้อมูลออกเป็นหลายเส้นทางเพื่อหลีกเลี่ยงการติดขัด - มีระบบ failover ที่ช่วยรักษาการเชื่อมต่อ GPU-to-GPU 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และ HPC ‼️ ต้องติดตามว่า Ultra Ethernet จะได้รับการยอมรับในวงกว้างหรือไม่ - มาตรฐานนี้ยังใหม่ และต้องแข่งขันกับเทคโนโลยีที่มีอยู่ เช่น NVLink และ RoCEv2 ‼️ การ์ดเครือข่ายต้องมีการปรับแต่งเพื่อให้ทำงานร่วมกับระบบที่มีอยู่ - องค์กรที่ใช้ RDMA อาจต้องปรับแต่งซอฟต์แวร์เพื่อรองรับ Ultra Ethernet ‼️ ต้องรอดูว่า Nvidia และ Broadcom จะตอบสนองต่อการแข่งขันนี้อย่างไร - หาก Ultra Ethernet ได้รับความนิยม อาจส่งผลต่อกลยุทธ์ของผู้ผลิตเครือข่ายรายอื่น 🚀 อนาคตของ Ultra Ethernet และเครือข่าย AI ✅ Ultra Ethernet อาจช่วยให้สามารถสร้าง AI cluster ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ✅ AMD อาจขยายการพัฒนา NIC รุ่นใหม่เพื่อรองรับการเติบโตของ AI และ HPC https://www.tomshardware.com/networking/amd-deploys-its-first-ultra-ethernet-ready-network-card-pensando-pollara-provides-up-to-400-gbps-performance
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 0 รีวิว
  • Pirelli เปิดตัว Cyber Tyre: ยางอัจฉริยะที่ตรวจสอบสภาพถนนแบบเรียลไทม์
    Pirelli ร่วมมือกับรัฐบาลภูมิภาค Apulia ในอิตาลี เพื่อเปิดตัว โครงการนำร่องที่ใช้ยางอัจฉริยะ Cyber Tyre ซึ่งสามารถ ตรวจสอบสภาพถนนแบบเรียลไทม์ โดยใช้ เซ็นเซอร์ในตัวยางและกล้องวิเคราะห์ภาพ

    เซ็นเซอร์ในตัวยางช่วยตรวจสอบสภาพถนน
    - Cyber Tyre มีเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งภายในยาง ซึ่งสามารถ วัดอุณหภูมิและแรงดันลมยาง
    - เซ็นเซอร์สามารถทนต่อแรงกระแทกสูงถึง 3,500G และใช้ แบตเตอรี่ขนาดเล็กที่มีอายุการใช้งานเท่ากับอายุของยาง

    ระบบวิเคราะห์ภาพช่วยตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐาน
    - ใช้กล้องจาก Univrses บริษัทเทคโนโลยีจากสวีเดน เพื่อ ตรวจสอบพื้นผิวถนนและป้ายจราจร
    - ข้อมูลทั้งหมดถูกส่งไปยังระบบคลาวด์เพื่อให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ได้

    ใช้รถยนต์เฉพาะทางเพื่อเก็บข้อมูล
    - โครงการนำร่องใช้รถยนต์จาก Ayvens ซึ่งเป็นบริษัทจัดการรถเช่าในยุโรป
    - การใช้รถเฉพาะทางช่วยลดปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลจากรถยนต์ส่วนบุคคล

    ผลกระทบต่อการบำรุงรักษาถนนและความปลอดภัย
    ช่วยให้หน่วยงานสามารถซ่อมแซมถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - ข้อมูลจาก Cyber Tyre ช่วยให้สามารถระบุจุดที่ต้องซ่อมแซมได้อย่างแม่นยำ

    ลดต้นทุนการบำรุงรักษาถนนในระยะยาว
    - การตรวจสอบสภาพถนนแบบเรียลไทม์ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบและซ่อมแซม

    ต้องติดตามว่าระบบนี้จะสามารถนำไปใช้ในประเทศอื่น ๆ ได้หรือไม่
    - หากโครงการนำร่องประสบความสำเร็จ อาจมีการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในระดับสากล

    อนาคตของ Cyber Tyre และเทคโนโลยียางอัจฉริยะ
    Pirelli กำลังพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับ Bosch เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเซ็นเซอร์ในยาง Cyber Tyre อาจถูกนำไปใช้ในรถยนต์ระดับหรู เช่น Pagani Utopia Roadster

    https://www.techspot.com/news/108301-pirelli-new-sensor-equipped-tires-monitor-road-conditions.html
    🚗 Pirelli เปิดตัว Cyber Tyre: ยางอัจฉริยะที่ตรวจสอบสภาพถนนแบบเรียลไทม์ Pirelli ร่วมมือกับรัฐบาลภูมิภาค Apulia ในอิตาลี เพื่อเปิดตัว โครงการนำร่องที่ใช้ยางอัจฉริยะ Cyber Tyre ซึ่งสามารถ ตรวจสอบสภาพถนนแบบเรียลไทม์ โดยใช้ เซ็นเซอร์ในตัวยางและกล้องวิเคราะห์ภาพ ✅ เซ็นเซอร์ในตัวยางช่วยตรวจสอบสภาพถนน - Cyber Tyre มีเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งภายในยาง ซึ่งสามารถ วัดอุณหภูมิและแรงดันลมยาง - เซ็นเซอร์สามารถทนต่อแรงกระแทกสูงถึง 3,500G และใช้ แบตเตอรี่ขนาดเล็กที่มีอายุการใช้งานเท่ากับอายุของยาง ✅ ระบบวิเคราะห์ภาพช่วยตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐาน - ใช้กล้องจาก Univrses บริษัทเทคโนโลยีจากสวีเดน เพื่อ ตรวจสอบพื้นผิวถนนและป้ายจราจร - ข้อมูลทั้งหมดถูกส่งไปยังระบบคลาวด์เพื่อให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ได้ ✅ ใช้รถยนต์เฉพาะทางเพื่อเก็บข้อมูล - โครงการนำร่องใช้รถยนต์จาก Ayvens ซึ่งเป็นบริษัทจัดการรถเช่าในยุโรป - การใช้รถเฉพาะทางช่วยลดปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลจากรถยนต์ส่วนบุคคล 🔥 ผลกระทบต่อการบำรุงรักษาถนนและความปลอดภัย ‼️ ช่วยให้หน่วยงานสามารถซ่อมแซมถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น - ข้อมูลจาก Cyber Tyre ช่วยให้สามารถระบุจุดที่ต้องซ่อมแซมได้อย่างแม่นยำ ‼️ ลดต้นทุนการบำรุงรักษาถนนในระยะยาว - การตรวจสอบสภาพถนนแบบเรียลไทม์ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบและซ่อมแซม ‼️ ต้องติดตามว่าระบบนี้จะสามารถนำไปใช้ในประเทศอื่น ๆ ได้หรือไม่ - หากโครงการนำร่องประสบความสำเร็จ อาจมีการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในระดับสากล 🚀 อนาคตของ Cyber Tyre และเทคโนโลยียางอัจฉริยะ ✅ Pirelli กำลังพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับ Bosch เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเซ็นเซอร์ในยาง ✅ Cyber Tyre อาจถูกนำไปใช้ในรถยนต์ระดับหรู เช่น Pagani Utopia Roadster https://www.techspot.com/news/108301-pirelli-new-sensor-equipped-tires-monitor-road-conditions.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Pirelli's new sensor-equipped tires to monitor road conditions in real time
    At the heart of the project is Pirelli's Cyber Tyre, a high-tech solution that embeds sensors within the tire itself. These sensors track a range of critical...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเติบโตของการใช้งานเว็บบนมือถือแตะระดับสูงสุดที่ 64%
    การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด คิดเป็น 64% ของทราฟฟิกเว็บทั้งหมด ซึ่งเป็น การเติบโตติดต่อกันเป็นไตรมาสที่แปด

    ปัจจัยที่ทำให้การใช้งานเว็บบนมือถือเพิ่มขึ้น
    การเติบโตของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในเอเชีย
    - ในเอเชีย การใช้งานเว็บผ่านมือถือคิดเป็น 71.3% ของทราฟฟิกทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 7%
    - ยุโรปและอเมริกามีสัดส่วนการใช้งานมือถืออยู่ที่ประมาณ 50%

    Android ครองตลาดการใช้งานเว็บบนมือถือ
    - Android มีส่วนแบ่งตลาด 72.72% ในการเข้าถึงเว็บผ่านมือถือ
    - iOS มีส่วนแบ่ง 26.92% โดยได้รับความนิยมมากกว่าในสหรัฐฯ
    - Android ครองตลาดในประเทศที่มีประชากรสูง เช่น อินเดียและจีน

    การพัฒนาเทคโนโลยีมือถือช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น
    - สมาร์ทโฟนระดับกลางและราคาประหยัดรองรับ 4G/5G และโหมดประหยัดข้อมูล
    - Cloudflare รายงานว่า Android มีส่วนแบ่งมากกว่า 90% ของทราฟฟิกมือถือในกว่า 25 ประเทศ

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต
    การพึ่งพาอุปกรณ์มือถืออาจทำให้การพัฒนาเว็บต้องปรับตัว
    - เว็บไซต์ต้องออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานบนมือถือมากขึ้น

    การแข่งขันระหว่าง Android และ iOS ยังคงดำเนินต่อไป
    - Apple อาจต้องพัฒนา iOS ให้สามารถแข่งขันกับ Android ในตลาดโลกได้ดีขึ้น

    ต้องติดตามว่าแนวโน้มนี้จะส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตอย่างไร
    - การเพิ่มขึ้นของทราฟฟิกมือถืออาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต

    อนาคตของการใช้งานเว็บบนมือถือ
    การพัฒนาเทคโนโลยี 5G และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในประเทศกำลังพัฒนา แนวโน้มการใช้งานมือถืออาจทำให้บริษัทเทคโนโลยีต้องปรับกลยุทธ์การตลาดและพัฒนาแอปพลิเคชันให้เหมาะสมกับมือถือมากขึ้น

    https://www.techspot.com/news/108305-global-mobile-web-traffic-hits-record-high-64.html
    📱 การเติบโตของการใช้งานเว็บบนมือถือแตะระดับสูงสุดที่ 64% การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด คิดเป็น 64% ของทราฟฟิกเว็บทั้งหมด ซึ่งเป็น การเติบโตติดต่อกันเป็นไตรมาสที่แปด 🔍 ปัจจัยที่ทำให้การใช้งานเว็บบนมือถือเพิ่มขึ้น ✅ การเติบโตของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในเอเชีย - ในเอเชีย การใช้งานเว็บผ่านมือถือคิดเป็น 71.3% ของทราฟฟิกทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 7% - ยุโรปและอเมริกามีสัดส่วนการใช้งานมือถืออยู่ที่ประมาณ 50% ✅ Android ครองตลาดการใช้งานเว็บบนมือถือ - Android มีส่วนแบ่งตลาด 72.72% ในการเข้าถึงเว็บผ่านมือถือ - iOS มีส่วนแบ่ง 26.92% โดยได้รับความนิยมมากกว่าในสหรัฐฯ - Android ครองตลาดในประเทศที่มีประชากรสูง เช่น อินเดียและจีน ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีมือถือช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น - สมาร์ทโฟนระดับกลางและราคาประหยัดรองรับ 4G/5G และโหมดประหยัดข้อมูล - Cloudflare รายงานว่า Android มีส่วนแบ่งมากกว่า 90% ของทราฟฟิกมือถือในกว่า 25 ประเทศ 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต ‼️ การพึ่งพาอุปกรณ์มือถืออาจทำให้การพัฒนาเว็บต้องปรับตัว - เว็บไซต์ต้องออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานบนมือถือมากขึ้น ‼️ การแข่งขันระหว่าง Android และ iOS ยังคงดำเนินต่อไป - Apple อาจต้องพัฒนา iOS ให้สามารถแข่งขันกับ Android ในตลาดโลกได้ดีขึ้น ‼️ ต้องติดตามว่าแนวโน้มนี้จะส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตอย่างไร - การเพิ่มขึ้นของทราฟฟิกมือถืออาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต 🚀 อนาคตของการใช้งานเว็บบนมือถือ ✅ การพัฒนาเทคโนโลยี 5G และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในประเทศกำลังพัฒนา ✅ แนวโน้มการใช้งานมือถืออาจทำให้บริษัทเทคโนโลยีต้องปรับกลยุทธ์การตลาดและพัฒนาแอปพลิเคชันให้เหมาะสมกับมือถือมากขึ้น https://www.techspot.com/news/108305-global-mobile-web-traffic-hits-record-high-64.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Mobile web traffic hits record 64%, with Android leading the way
    Since 2015, the amount of web traffic to come from smartphones has more than doubled from 31.16% to 64%. There have been quarters during the decade when...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักศึกษามหาวิทยาลัย Rice พัฒนาเสื้อกั๊กไฮเทคช่วยสุนัขตาบอด
    กลุ่มนักศึกษาวิศวกรรมจาก มหาวิทยาลัย Rice ได้ออกแบบ เสื้อกั๊กไฮเทคที่ช่วยให้สุนัขตาบอดสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย โดยใช้ ระบบสั่นสะเทือนและกล้องสเตอริโอ เพื่อแจ้งเตือนสิ่งกีดขวาง

    วิธีการทำงานของเสื้อกั๊ก
    ใช้มอเตอร์สั่นสะเทือนเพื่อแจ้งเตือนสุนัข
    - มอเตอร์สั่นสะเทือนแบบเดียวกับที่ใช้ในสมาร์ทโฟน จะทำงานเมื่อมีสิ่งกีดขวาง
    - ความแรงและตำแหน่งของการสั่นสะเทือนขึ้นอยู่กับระยะห่างของสิ่งกีดขวาง

    ติดตั้งกล้องสเตอริโอเพื่อจับภาพแบบ 3 มิติ
    - กล้องสเตอริโอที่ติดตั้งใกล้หัวสุนัข จะสร้างแผนที่ความลึกของพื้นที่
    - ข้อมูลถูกประมวลผลโดยคอมพิวเตอร์และแผงวงจรเฉพาะทาง

    ออกแบบให้สวมใส่สบายและทนทาน
    - ต้องทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้นของเมืองฮิวสตัน
    - ต้องมีน้ำหนักเบาและไม่รบกวนการเคลื่อนไหวของสุนัข

    ผลกระทบต่อการพัฒนาเทคโนโลยีช่วยเหลือสัตว์
    ต้องทดสอบเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าใช้งานได้จริง
    - ทีมพัฒนากำลังทดสอบเสื้อกั๊กกับสุนัขชื่อ Kunde เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ

    อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยังค่อนข้างสั้น
    - ปัจจุบันแบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 2 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

    ต้องติดตามว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถนำไปใช้กับสัตว์อื่น ๆ ได้หรือไม่
    - อาจมีการพัฒนาเพื่อช่วยสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว

    อนาคตของเทคโนโลยีสวมใส่สำหรับสัตว์
    สามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์ช่วยเหลือมนุษย์ได้
    - เทคโนโลยีนี้อาจถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์ฟื้นฟูสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว

    การใช้ส่วนประกอบโอเพ่นซอร์สช่วยให้สามารถพัฒนาได้ง่ายขึ้น
    - นักพัฒนาสามารถนำแนวคิดนี้ไปต่อยอดเพื่อสร้างอุปกรณ์ช่วยเหลืออื่น ๆ

    https://www.techspot.com/news/108300-rice-university-students-design-high-tech-vest-help.html
    🦮 นักศึกษามหาวิทยาลัย Rice พัฒนาเสื้อกั๊กไฮเทคช่วยสุนัขตาบอด กลุ่มนักศึกษาวิศวกรรมจาก มหาวิทยาลัย Rice ได้ออกแบบ เสื้อกั๊กไฮเทคที่ช่วยให้สุนัขตาบอดสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย โดยใช้ ระบบสั่นสะเทือนและกล้องสเตอริโอ เพื่อแจ้งเตือนสิ่งกีดขวาง 🔍 วิธีการทำงานของเสื้อกั๊ก ✅ ใช้มอเตอร์สั่นสะเทือนเพื่อแจ้งเตือนสุนัข - มอเตอร์สั่นสะเทือนแบบเดียวกับที่ใช้ในสมาร์ทโฟน จะทำงานเมื่อมีสิ่งกีดขวาง - ความแรงและตำแหน่งของการสั่นสะเทือนขึ้นอยู่กับระยะห่างของสิ่งกีดขวาง ✅ ติดตั้งกล้องสเตอริโอเพื่อจับภาพแบบ 3 มิติ - กล้องสเตอริโอที่ติดตั้งใกล้หัวสุนัข จะสร้างแผนที่ความลึกของพื้นที่ - ข้อมูลถูกประมวลผลโดยคอมพิวเตอร์และแผงวงจรเฉพาะทาง ✅ ออกแบบให้สวมใส่สบายและทนทาน - ต้องทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้นของเมืองฮิวสตัน - ต้องมีน้ำหนักเบาและไม่รบกวนการเคลื่อนไหวของสุนัข 🔥 ผลกระทบต่อการพัฒนาเทคโนโลยีช่วยเหลือสัตว์ ‼️ ต้องทดสอบเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าใช้งานได้จริง - ทีมพัฒนากำลังทดสอบเสื้อกั๊กกับสุนัขชื่อ Kunde เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ‼️ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยังค่อนข้างสั้น - ปัจจุบันแบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 2 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ‼️ ต้องติดตามว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถนำไปใช้กับสัตว์อื่น ๆ ได้หรือไม่ - อาจมีการพัฒนาเพื่อช่วยสัตว์เลี้ยงที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว 🚀 อนาคตของเทคโนโลยีสวมใส่สำหรับสัตว์ ✅ สามารถนำไปใช้กับอุปกรณ์ช่วยเหลือมนุษย์ได้ - เทคโนโลยีนี้อาจถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์ฟื้นฟูสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว ✅ การใช้ส่วนประกอบโอเพ่นซอร์สช่วยให้สามารถพัฒนาได้ง่ายขึ้น - นักพัฒนาสามารถนำแนวคิดนี้ไปต่อยอดเพื่อสร้างอุปกรณ์ช่วยเหลืออื่น ๆ https://www.techspot.com/news/108300-rice-university-students-design-high-tech-vest-help.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Rice University students design high-tech vest to help blind dogs navigate
    The project began when Kunde's owners, Grant Belton and AJ Price, reached out to Rice University's Oshman Engineering Design Kitchen, hoping for a solution that would let...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts