• Samsung เริ่มผลิตชิปหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 24Gb อย่างเป็นทางการ

    รายงานจาก Wccftech ระบุว่า Samsung ได้เข้าสู่ขั้นตอน mass production ของชิปหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 24Gb (3GB ต่อชิป) ที่มีความเร็ว 28Gbps โดยชิปนี้ถูกคาดว่าจะถูกใช้ใน NVIDIA GeForce RTX 50 series รุ่นใหม่ ยกเว้น RTX 5080 ที่จะใช้ชิปความเร็ว 30Gbps

    รายละเอียดทางเทคนิค
    ขนาดชิป: 24Gb (3GB ต่อชิป)
    ความเร็ว: 28Gbps (รุ่นที่ผลิตจริง), มีรุ่นทดสอบที่ 32Gbps และ 36Gbps
    รหัสชิป: K4vcf325zc-sc28 สำหรับรุ่น 28Gbps, และ sc32 / sc36 สำหรับรุ่นที่เร็วกว่า
    การใช้งาน: คาดว่าจะถูกใช้ใน RTX 5090, RTX 5070 Super และรุ่นอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความจุ VRAM และแบนด์วิดท์

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม GPU
    การผลิตชิป GDDR7 รุ่นใหม่เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาหน่วยความจำ DRAM กำลังพุ่งสูง ทำให้การเปิดตัว RTX 50 Super series อาจถูกเลื่อนออกไปถึงไตรมาส 3 ปี 2026 อย่างไรก็ตาม การมาถึงของ GDDR7 ความเร็วสูงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมและงาน AI ที่ต้องการแบนด์วิดท์สูงมาก

    สิ่งที่ต้องจับตา
    NVIDIA จะเลือกใช้ชิป 28Gbps หรือรุ่นที่เร็วกว่าในซีรีส์ Super
    ผลกระทบจากราคาหน่วยความจำที่สูง อาจทำให้การเปิดตัว GPU รุ่นใหม่ล่าช้า
    การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง SK hynix ที่เตรียมเปิดตัวชิป GDDR7 ความเร็ว 48Gbps ในปี 2026

    สรุปสาระสำคัญ
    Samsung เริ่มผลิต GDDR7 24Gb (28Gbps) อย่างเป็นทางการ
    มีรุ่นทดสอบที่เร็วกว่า (32Gbps และ 36Gbps)
    ใช้ใน RTX 50 series เพื่อเพิ่ม VRAM และแบนด์วิดท์
    ราคาหน่วยความจำสูงอาจทำให้การเปิดตัว RTX 50 Super series ล่าช้า
    ความเสี่ยง: การแข่งขันกับ SK hynix และผลกระทบจากต้นทุน DRAM
    สิ่งที่ต้องจับตา: NVIDIA จะเลือกใช้ชิปความเร็วใดในรุ่น Super

    https://wccftech.com/samsung-officially-starts-mass-producing-24-gb-gddr7/
    🏭 Samsung เริ่มผลิตชิปหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 24Gb อย่างเป็นทางการ รายงานจาก Wccftech ระบุว่า Samsung ได้เข้าสู่ขั้นตอน mass production ของชิปหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 24Gb (3GB ต่อชิป) ที่มีความเร็ว 28Gbps โดยชิปนี้ถูกคาดว่าจะถูกใช้ใน NVIDIA GeForce RTX 50 series รุ่นใหม่ ยกเว้น RTX 5080 ที่จะใช้ชิปความเร็ว 30Gbps ⚙️ รายละเอียดทางเทคนิค 🔷 ขนาดชิป: 24Gb (3GB ต่อชิป) 🔷 ความเร็ว: 28Gbps (รุ่นที่ผลิตจริง), มีรุ่นทดสอบที่ 32Gbps และ 36Gbps 🔷 รหัสชิป: K4vcf325zc-sc28 สำหรับรุ่น 28Gbps, และ sc32 / sc36 สำหรับรุ่นที่เร็วกว่า 🔷 การใช้งาน: คาดว่าจะถูกใช้ใน RTX 5090, RTX 5070 Super และรุ่นอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความจุ VRAM และแบนด์วิดท์ 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม GPU การผลิตชิป GDDR7 รุ่นใหม่เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาหน่วยความจำ DRAM กำลังพุ่งสูง ทำให้การเปิดตัว RTX 50 Super series อาจถูกเลื่อนออกไปถึงไตรมาส 3 ปี 2026 อย่างไรก็ตาม การมาถึงของ GDDR7 ความเร็วสูงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมและงาน AI ที่ต้องการแบนด์วิดท์สูงมาก 🛡️ สิ่งที่ต้องจับตา 🔷 NVIDIA จะเลือกใช้ชิป 28Gbps หรือรุ่นที่เร็วกว่าในซีรีส์ Super 🔷 ผลกระทบจากราคาหน่วยความจำที่สูง อาจทำให้การเปิดตัว GPU รุ่นใหม่ล่าช้า 🔷 การแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง SK hynix ที่เตรียมเปิดตัวชิป GDDR7 ความเร็ว 48Gbps ในปี 2026 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Samsung เริ่มผลิต GDDR7 24Gb (28Gbps) อย่างเป็นทางการ ✅ มีรุ่นทดสอบที่เร็วกว่า (32Gbps และ 36Gbps) ✅ ใช้ใน RTX 50 series เพื่อเพิ่ม VRAM และแบนด์วิดท์ ✅ ราคาหน่วยความจำสูงอาจทำให้การเปิดตัว RTX 50 Super series ล่าช้า ‼️ ความเสี่ยง: การแข่งขันกับ SK hynix และผลกระทบจากต้นทุน DRAM ‼️ สิ่งที่ต้องจับตา: NVIDIA จะเลือกใช้ชิปความเร็วใดในรุ่น Super https://wccftech.com/samsung-officially-starts-mass-producing-24-gb-gddr7/
    WCCFTECH.COM
    Samsung Officially Starts Mass Producing 24 Gb GDDR7 Memory Chips; 36 Gbps Chips Enters Sampling
    Samsung has initiated the mass production of its new 24 Gb aka 3 GB GDDR7 memory chips for higher video memory in GPUs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • Amazon เปิดตัว Leo Ultra: ดาวเทียมอินเทอร์เน็ตแรงสุด 1Gbps

    Amazon ประกาศเปิดตัว Leo Ultra ซึ่งเป็นเทอร์มินัลดาวเทียมอินเทอร์เน็ตระดับองค์กรที่สามารถให้ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดถึง 1Gbps และอัปโหลด 400Mbps โดยอุปกรณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Amazon Leo (ชื่อใหม่ของ Project Kuiper) ที่ตั้งเป้าให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมทั่วโลกภายในปี 2026

    คุณสมบัติและการออกแบบ
    Leo Ultra มีขนาดประมาณ 20x30 นิ้ว หนา 1.9 นิ้ว ออกแบบให้ติดตั้งกลางแจ้งบนเสา โดยใช้เทคโนโลยี full-duplex phased-array ที่สามารถรับ–ส่งข้อมูลพร้อมกันได้ ตัวเครื่องยังมีระบบระบายความร้อนในตัวและทนต่อสภาพอากาศ ทำให้เหมาะกับการใช้งานในองค์กรที่ต้องการความเสถียรสูง

    การแข่งขันกับ Starlink และตลาดโลก
    Amazon ได้ปล่อยดาวเทียมกว่า 150 ดวงแล้ว และตั้งเป้าจะปล่อยหลายพันดวงเพื่อครอบคลุมทั่วโลก Leo Ultra ถูกวางตัวเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Starlink ของ SpaceX แต่เน้นตลาดองค์กรและการเชื่อมต่อกับ AWS Cloud โดยตรง (Direct-to-AWS) ซึ่งช่วยให้ข้อมูลจากดาวเทียมเข้าสู่ระบบคลาวด์ได้ทันทีโดยไม่ผ่านอินเทอร์เน็ตสาธารณะ

    ความหมายต่ออนาคตการเชื่อมต่อ
    การเปิดตัว Leo Ultra แสดงให้เห็นว่า Amazon ต้องการสร้างโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารที่ผสานกับบริการคลาวด์ของตนเอง ซึ่งอาจเปลี่ยนวิธีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในองค์กรและศูนย์ข้อมูลทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ราคาของบริการและอุปกรณ์ยังไม่ถูกเปิดเผย ทำให้ตลาดยังคงจับตาดูว่า Amazon จะสามารถแข่งขันกับ Starlink ได้จริงหรือไม่

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปิดตัว Leo Ultra
    ความเร็วดาวน์โหลด 1Gbps และอัปโหลด 400Mbps

    คุณสมบัติหลัก
    ใช้ full-duplex phased-array, ทนสภาพอากาศ, ติดตั้งกลางแจ้ง

    การแข่งขันในตลาด
    แข่งกับ Starlink โดยเน้นตลาดองค์กรและเชื่อมต่อ AWS Cloud

    แผนการปล่อยดาวเทียม
    ปล่อยแล้วกว่า 150 ดวง ตั้งเป้าหลายพันดวงเพื่อครอบคลุมทั่วโลก

    คำเตือนจากนักวิเคราะห์
    ราคายังไม่ถูกเปิดเผย อาจเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึง

    ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน
    ต้องเผชิญกับ Starlink ที่ครองตลาดผู้ใช้ทั่วไปอยู่แล้ว

    https://www.tomshardware.com/networking/amazon-leo-ultra-enterprise-grade-terminal-targets-up-to-1gbps-satellite-internet
    🛰️ Amazon เปิดตัว Leo Ultra: ดาวเทียมอินเทอร์เน็ตแรงสุด 1Gbps Amazon ประกาศเปิดตัว Leo Ultra ซึ่งเป็นเทอร์มินัลดาวเทียมอินเทอร์เน็ตระดับองค์กรที่สามารถให้ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดถึง 1Gbps และอัปโหลด 400Mbps โดยอุปกรณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Amazon Leo (ชื่อใหม่ของ Project Kuiper) ที่ตั้งเป้าให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมทั่วโลกภายในปี 2026 ⚙️ คุณสมบัติและการออกแบบ Leo Ultra มีขนาดประมาณ 20x30 นิ้ว หนา 1.9 นิ้ว ออกแบบให้ติดตั้งกลางแจ้งบนเสา โดยใช้เทคโนโลยี full-duplex phased-array ที่สามารถรับ–ส่งข้อมูลพร้อมกันได้ ตัวเครื่องยังมีระบบระบายความร้อนในตัวและทนต่อสภาพอากาศ ทำให้เหมาะกับการใช้งานในองค์กรที่ต้องการความเสถียรสูง 🌍 การแข่งขันกับ Starlink และตลาดโลก Amazon ได้ปล่อยดาวเทียมกว่า 150 ดวงแล้ว และตั้งเป้าจะปล่อยหลายพันดวงเพื่อครอบคลุมทั่วโลก Leo Ultra ถูกวางตัวเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Starlink ของ SpaceX แต่เน้นตลาดองค์กรและการเชื่อมต่อกับ AWS Cloud โดยตรง (Direct-to-AWS) ซึ่งช่วยให้ข้อมูลจากดาวเทียมเข้าสู่ระบบคลาวด์ได้ทันทีโดยไม่ผ่านอินเทอร์เน็ตสาธารณะ 🛡️ ความหมายต่ออนาคตการเชื่อมต่อ การเปิดตัว Leo Ultra แสดงให้เห็นว่า Amazon ต้องการสร้างโครงสร้างพื้นฐานการสื่อสารที่ผสานกับบริการคลาวด์ของตนเอง ซึ่งอาจเปลี่ยนวิธีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในองค์กรและศูนย์ข้อมูลทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ราคาของบริการและอุปกรณ์ยังไม่ถูกเปิดเผย ทำให้ตลาดยังคงจับตาดูว่า Amazon จะสามารถแข่งขันกับ Starlink ได้จริงหรือไม่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปิดตัว Leo Ultra ➡️ ความเร็วดาวน์โหลด 1Gbps และอัปโหลด 400Mbps ✅ คุณสมบัติหลัก ➡️ ใช้ full-duplex phased-array, ทนสภาพอากาศ, ติดตั้งกลางแจ้ง ✅ การแข่งขันในตลาด ➡️ แข่งกับ Starlink โดยเน้นตลาดองค์กรและเชื่อมต่อ AWS Cloud ✅ แผนการปล่อยดาวเทียม ➡️ ปล่อยแล้วกว่า 150 ดวง ตั้งเป้าหลายพันดวงเพื่อครอบคลุมทั่วโลก ‼️ คำเตือนจากนักวิเคราะห์ ⛔ ราคายังไม่ถูกเปิดเผย อาจเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึง ‼️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน ⛔ ต้องเผชิญกับ Starlink ที่ครองตลาดผู้ใช้ทั่วไปอยู่แล้ว https://www.tomshardware.com/networking/amazon-leo-ultra-enterprise-grade-terminal-targets-up-to-1gbps-satellite-internet
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Amazon unveils Starlink rival capable of up to 1 Gbps satellite internet — Leo Ultra is an enterprise-grade terminal with 400 Mbps upload speeds
    Amazon’s rebranded satellite internet service launches the Leo Ultra phased‑array antenna and begins enterprise preview ahead of 2026 rollout.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดีลพันล้าน: Google และ Meta อาจร่วมมือด้านชิป AI

    รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่า Meta กำลังเจรจากับ Google เพื่อเช่าชิป Cloud TPU ในปี 2026 และซื้อขาดในปี 2027 ดีลนี้มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์ของ Google ที่ก่อนหน้านี้ใช้ TPU ส่วนใหญ่เพื่อการพัฒนาภายในเท่านั้น
    รายละเอียดการเจรจา
    ตามรายงานจาก Reuters ดีลนี้จะทำให้ Meta สามารถเข้าถึงพลังการประมวลผลของ TPU เพื่อรองรับการพัฒนา AI ในอนาคต ขณะที่ Google จะได้โอกาสเจาะตลาดชิป AI ที่ Nvidia ครองอยู่ โดยบางฝ่ายคาดว่า Google อาจสามารถแย่งส่วนแบ่งรายได้จากศูนย์ข้อมูลของ Nvidia ได้ถึง 10% ซึ่งคิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและตลาดหุ้น
    ข่าวการเจรจาทำให้หุ้นของ Alphabet (Google) และ Meta ปรับตัวขึ้น ขณะที่ Nvidia ตกลงราว 3% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแข่งขันจะรุนแรงขึ้น หาก Google สามารถผลักดัน TPU ให้เป็นทางเลือกแทน GPU ของ Nvidia ได้จริง จะเป็นการเปลี่ยนสมดุลในตลาด AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    ความท้าทายและสิ่งที่ต้องจับตา
    แม้ดีลนี้จะสร้างความตื่นเต้น แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากอุตสาหกรรม AI กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านความต้องการพลังประมวลผลและราคาหน่วยความจำที่พุ่งสูงขึ้น นักวิเคราะห์เตือนว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI อาจเสี่ยงหาก “ฟองสบู่ AI” แตกในอนาคต แต่หากดีลนี้สำเร็จ Google จะกลายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งของ Nvidia ในตลาดชิป

    สรุปสาระสำคัญ
    รายละเอียดดีล Google–Meta
    Meta จะเช่า TPU ในปี 2026 และซื้อขาดในปี 2027

    ผลประโยชน์ของ Google
    อาจแย่งส่วนแบ่งรายได้ศูนย์ข้อมูล Nvidia ได้ถึง 10%

    ผลกระทบต่อตลาดหุ้น
    หุ้น Alphabet และ Meta ขึ้น ขณะที่ Nvidia ลดลง 3%

    ความหมายต่ออุตสาหกรรม
    ดีลนี้อาจเปลี่ยนสมดุลการแข่งขันในตลาดชิป AI

    คำเตือนจากนักวิเคราะห์
    อุตสาหกรรม AI มีความไม่แน่นอนสูงและอาจเจอฟองสบู่แตก

    ความเสี่ยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน
    ราคาหน่วยความจำและการผลิตอาจเป็นอุปสรรคต่อการขยายตลาด

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/billion-dollar-ai-chip-deal-between-google-and-meta-could-be-on-the-cards-would-involve-renting-google-cloud-tpus-next-year-outright-purchases-in-2027
    💰 ดีลพันล้าน: Google และ Meta อาจร่วมมือด้านชิป AI รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่า Meta กำลังเจรจากับ Google เพื่อเช่าชิป Cloud TPU ในปี 2026 และซื้อขาดในปี 2027 ดีลนี้มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์ของ Google ที่ก่อนหน้านี้ใช้ TPU ส่วนใหญ่เพื่อการพัฒนาภายในเท่านั้น ⚙️ รายละเอียดการเจรจา ตามรายงานจาก Reuters ดีลนี้จะทำให้ Meta สามารถเข้าถึงพลังการประมวลผลของ TPU เพื่อรองรับการพัฒนา AI ในอนาคต ขณะที่ Google จะได้โอกาสเจาะตลาดชิป AI ที่ Nvidia ครองอยู่ โดยบางฝ่ายคาดว่า Google อาจสามารถแย่งส่วนแบ่งรายได้จากศูนย์ข้อมูลของ Nvidia ได้ถึง 10% ซึ่งคิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ 📈 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและตลาดหุ้น ข่าวการเจรจาทำให้หุ้นของ Alphabet (Google) และ Meta ปรับตัวขึ้น ขณะที่ Nvidia ตกลงราว 3% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแข่งขันจะรุนแรงขึ้น หาก Google สามารถผลักดัน TPU ให้เป็นทางเลือกแทน GPU ของ Nvidia ได้จริง จะเป็นการเปลี่ยนสมดุลในตลาด AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว 🌍 ความท้าทายและสิ่งที่ต้องจับตา แม้ดีลนี้จะสร้างความตื่นเต้น แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากอุตสาหกรรม AI กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านความต้องการพลังประมวลผลและราคาหน่วยความจำที่พุ่งสูงขึ้น นักวิเคราะห์เตือนว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI อาจเสี่ยงหาก “ฟองสบู่ AI” แตกในอนาคต แต่หากดีลนี้สำเร็จ Google จะกลายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งของ Nvidia ในตลาดชิป 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ รายละเอียดดีล Google–Meta ➡️ Meta จะเช่า TPU ในปี 2026 และซื้อขาดในปี 2027 ✅ ผลประโยชน์ของ Google ➡️ อาจแย่งส่วนแบ่งรายได้ศูนย์ข้อมูล Nvidia ได้ถึง 10% ✅ ผลกระทบต่อตลาดหุ้น ➡️ หุ้น Alphabet และ Meta ขึ้น ขณะที่ Nvidia ลดลง 3% ✅ ความหมายต่ออุตสาหกรรม ➡️ ดีลนี้อาจเปลี่ยนสมดุลการแข่งขันในตลาดชิป AI ‼️ คำเตือนจากนักวิเคราะห์ ⛔ อุตสาหกรรม AI มีความไม่แน่นอนสูงและอาจเจอฟองสบู่แตก ‼️ ความเสี่ยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน ⛔ ราคาหน่วยความจำและการผลิตอาจเป็นอุปสรรคต่อการขยายตลาด https://www.tomshardware.com/tech-industry/billion-dollar-ai-chip-deal-between-google-and-meta-could-be-on-the-cards-would-involve-renting-google-cloud-tpus-next-year-outright-purchases-in-2027
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Billion-dollar AI chip deal between Google and Meta could be on the cards — would involve renting Google Cloud TPUs next year, outright purchases in 2027
    The deal is said to be worth billions to both firms, and has already helped boost Google's parent company to a near $4 trillion valuation
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • Tim Sweeney เตือน: วิกฤตราคา RAM จะกระทบเกมมิ่งหลายปี

    Tim Sweeney ซีอีโอของ Epic Games ออกมาเตือนว่าราคาหน่วยความจำ RAM ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจะเป็น “ปัญหาใหญ่สำหรับเกมมิ่งระดับสูงไปอีกหลายปี” โดยสาเหตุหลักมาจากความต้องการมหาศาลจาก ศูนย์ข้อมูล AI ที่ยอมจ่ายแพงกว่าผู้ผลิตพีซีทั่วไป ทำให้กำลังการผลิต DRAM ถูกเบี่ยงไปยังตลาด AI

    ราคาที่พุ่งทะยานจนผู้ใช้สะเทือน
    ตัวอย่างเช่น ชุด RAM Crucial Pro DDR5-6000 ที่เคยขายราว 260 ดอลลาร์ในเดือนตุลาคม กลับพุ่งขึ้นเป็น 498 ดอลลาร์ภายในเวลาเพียงเดือนเดียว แม้จะอยู่ในช่วงเทศกาลลดราคาก็ตาม สถานการณ์นี้สะท้อนว่าตลาดผู้บริโภคกำลังถูกบีบให้จ่ายแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาจทำให้การอัปเกรดหรือประกอบเครื่องใหม่ต้องเลื่อนออกไป

    ผลกระทบต่อวงการเกมและผู้ผลิต
    การที่ราคาหน่วยความจำสูงขึ้นไม่เพียงกระทบผู้เล่นเกม แต่ยังส่งผลต่อผู้ผลิตพีซีและโน้ตบุ๊กที่ต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น Asus และ MSI ก็เริ่มกักตุน RAM เพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่บางร้านค้าปลีกในสหรัฐฯ ถึงขั้นเปลี่ยนไปใช้ระบบ “spot pricing” แทนการตั้งราคาคงที่

    แนวโน้มและสิ่งที่ต้องจับตา
    แม้บางนักวิเคราะห์คาดว่า “ฟองสบู่ AI” อาจแตกในอนาคต แต่ Sweeney เชื่อว่าความต้องการ RAM จากตลาด AI จะยังคงสูงต่อไปอีกหลายปี ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปต้องเตรียมรับมือกับราคาที่ไม่ลดลงง่าย ๆ และอาจต้องปรับแผนการอัปเกรดเครื่องระยะยาว

    สรุปสาระสำคัญ
    คำเตือนจาก Tim Sweeney
    ราคาหน่วยความจำ RAM จะเป็นปัญหาสำหรับเกมมิ่งหลายปี

    ราคาที่พุ่งสูง
    ชุด Crucial DDR5-6000 ขึ้นจาก 260 → 498 ดอลลาร์ในเวลาเดือนเดียว

    ผลกระทบต่อวงการ
    ผู้ผลิตพีซีและร้านค้าปลีกต้องปรับตัว เช่น กักตุนหรือใช้ spot pricing

    แนวโน้มอนาคต
    ความต้องการจาก AI จะยังคงสูง ทำให้ราคายังไม่ลดลงง่าย

    คำเตือนจากนักวิเคราะห์
    แม้บางคนคาดว่า “ฟองสบู่ AI” อาจแตก แต่ยังไม่เกิดขึ้นเร็ว

    ความเสี่ยงต่อผู้บริโภค
    ผู้ใช้ทั่วไปอาจต้องเลื่อนการอัปเกรดหรือแบกรับต้นทุนสูงขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/epic-games-ceo-tim-sweeney-says-ram-pricing-crisis-isnt-going-away-anytime-soon-fortnite-boss-says-crunch-will-be-a-real-problem-for-high-end-gaming-for-several-years
    💾 Tim Sweeney เตือน: วิกฤตราคา RAM จะกระทบเกมมิ่งหลายปี Tim Sweeney ซีอีโอของ Epic Games ออกมาเตือนว่าราคาหน่วยความจำ RAM ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจะเป็น “ปัญหาใหญ่สำหรับเกมมิ่งระดับสูงไปอีกหลายปี” โดยสาเหตุหลักมาจากความต้องการมหาศาลจาก ศูนย์ข้อมูล AI ที่ยอมจ่ายแพงกว่าผู้ผลิตพีซีทั่วไป ทำให้กำลังการผลิต DRAM ถูกเบี่ยงไปยังตลาด AI 📈 ราคาที่พุ่งทะยานจนผู้ใช้สะเทือน ตัวอย่างเช่น ชุด RAM Crucial Pro DDR5-6000 ที่เคยขายราว 260 ดอลลาร์ในเดือนตุลาคม กลับพุ่งขึ้นเป็น 498 ดอลลาร์ภายในเวลาเพียงเดือนเดียว แม้จะอยู่ในช่วงเทศกาลลดราคาก็ตาม สถานการณ์นี้สะท้อนว่าตลาดผู้บริโภคกำลังถูกบีบให้จ่ายแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอาจทำให้การอัปเกรดหรือประกอบเครื่องใหม่ต้องเลื่อนออกไป 🌍 ผลกระทบต่อวงการเกมและผู้ผลิต การที่ราคาหน่วยความจำสูงขึ้นไม่เพียงกระทบผู้เล่นเกม แต่ยังส่งผลต่อผู้ผลิตพีซีและโน้ตบุ๊กที่ต้องแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น Asus และ MSI ก็เริ่มกักตุน RAM เพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่บางร้านค้าปลีกในสหรัฐฯ ถึงขั้นเปลี่ยนไปใช้ระบบ “spot pricing” แทนการตั้งราคาคงที่ 🛡️ แนวโน้มและสิ่งที่ต้องจับตา แม้บางนักวิเคราะห์คาดว่า “ฟองสบู่ AI” อาจแตกในอนาคต แต่ Sweeney เชื่อว่าความต้องการ RAM จากตลาด AI จะยังคงสูงต่อไปอีกหลายปี ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปต้องเตรียมรับมือกับราคาที่ไม่ลดลงง่าย ๆ และอาจต้องปรับแผนการอัปเกรดเครื่องระยะยาว 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ คำเตือนจาก Tim Sweeney ➡️ ราคาหน่วยความจำ RAM จะเป็นปัญหาสำหรับเกมมิ่งหลายปี ✅ ราคาที่พุ่งสูง ➡️ ชุด Crucial DDR5-6000 ขึ้นจาก 260 → 498 ดอลลาร์ในเวลาเดือนเดียว ✅ ผลกระทบต่อวงการ ➡️ ผู้ผลิตพีซีและร้านค้าปลีกต้องปรับตัว เช่น กักตุนหรือใช้ spot pricing ✅ แนวโน้มอนาคต ➡️ ความต้องการจาก AI จะยังคงสูง ทำให้ราคายังไม่ลดลงง่าย ‼️ คำเตือนจากนักวิเคราะห์ ⛔ แม้บางคนคาดว่า “ฟองสบู่ AI” อาจแตก แต่ยังไม่เกิดขึ้นเร็ว ‼️ ความเสี่ยงต่อผู้บริโภค ⛔ ผู้ใช้ทั่วไปอาจต้องเลื่อนการอัปเกรดหรือแบกรับต้นทุนสูงขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/epic-games-ceo-tim-sweeney-says-ram-pricing-crisis-isnt-going-away-anytime-soon-fortnite-boss-says-crunch-will-be-a-real-problem-for-high-end-gaming-for-several-years
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • Huawei เปิดตัว Flex:ai ยกระดับการใช้ชิป AI

    Huawei เปิดตัว Flex:ai ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ชิป AI ในคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ โดยสามารถรวมการทำงานของ GPU และ NPU เข้าด้วยกัน และเพิ่มอัตราการใช้งานเฉลี่ยได้ราว 30%

    กลไกการทำงานของ Flex:ai
    Flex:ai สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Kubernetes แต่เพิ่มความสามารถที่ยังไม่แพร่หลาย เช่น การแบ่งการ์ด GPU/NPU ออกเป็นหลายอินสแตนซ์เสมือน และการจัดการงานที่หลากหลายพร้อมกัน นอกจากนี้ยังมี Hi Scheduler ที่สามารถจัดสรรทรัพยากรที่ว่างอยู่ไปยังงานที่รอคิวแบบเรียลไทม์ ทำให้การใช้ทรัพยากรมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

    ความหมายต่ออุตสาหกรรม AI
    การเปิดตัว Flex:ai เกิดขึ้นท่ามกลางข้อจำกัดการนำเข้าชิปขั้นสูงจากสหรัฐฯ ทำให้จีนต้องหันมาเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพทางซอฟต์แวร์แทนการพึ่งพาฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในจีนมีส่วนร่วมในการพัฒนา ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามสร้างระบบนิเวศ AI ที่พึ่งพาตนเองได้มากขึ้น

    ความท้าทายและสิ่งที่ต้องจับตา
    แม้ Flex:ai จะมีศักยภาพสูง แต่ยังไม่มีการเผยแพร่โค้ดโอเพ่นซอร์สหรือเอกสารทางเทคนิคอย่างเป็นทางการ ทำให้ยังไม่ชัดเจนว่าระบบจะรองรับ GPU ที่ใช้กันแพร่หลายทั่วโลกได้หรือไม่ และจะสามารถแข่งขันกับแพลตฟอร์มที่มีอยู่แล้ว เช่น Run:ai ของ Nvidia ได้จริงหรือไม่

    สรุปสาระสำคัญ
    Huawei เปิดตัว Flex:ai
    เพิ่มการใช้ชิป AI เฉลี่ยได้ราว 30%

    กลไกการทำงาน
    ใช้ Kubernetes, Hi Scheduler และการแบ่งการ์ด GPU/NPU เป็นหลายอินสแตนซ์

    ความหมายต่ออุตสาหกรรม
    ช่วยจีนลดการพึ่งพาการนำเข้าชิปขั้นสูงจากสหรัฐฯ

    ความร่วมมือ
    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในจีนมีส่วนร่วมในการพัฒนา

    คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ
    ยังไม่มีโค้ดโอเพ่นซอร์สหรือเอกสารทางเทคนิคที่ชัดเจน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/huawei-introduces-flex-ai-to-boost-ai-chip-utilization
    🏭 Huawei เปิดตัว Flex:ai ยกระดับการใช้ชิป AI Huawei เปิดตัว Flex:ai ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ชิป AI ในคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ โดยสามารถรวมการทำงานของ GPU และ NPU เข้าด้วยกัน และเพิ่มอัตราการใช้งานเฉลี่ยได้ราว 30% ⚙️ กลไกการทำงานของ Flex:ai Flex:ai สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Kubernetes แต่เพิ่มความสามารถที่ยังไม่แพร่หลาย เช่น การแบ่งการ์ด GPU/NPU ออกเป็นหลายอินสแตนซ์เสมือน และการจัดการงานที่หลากหลายพร้อมกัน นอกจากนี้ยังมี Hi Scheduler ที่สามารถจัดสรรทรัพยากรที่ว่างอยู่ไปยังงานที่รอคิวแบบเรียลไทม์ ทำให้การใช้ทรัพยากรมีประสิทธิภาพสูงขึ้น 🌍 ความหมายต่ออุตสาหกรรม AI การเปิดตัว Flex:ai เกิดขึ้นท่ามกลางข้อจำกัดการนำเข้าชิปขั้นสูงจากสหรัฐฯ ทำให้จีนต้องหันมาเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพทางซอฟต์แวร์แทนการพึ่งพาฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในจีนมีส่วนร่วมในการพัฒนา ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามสร้างระบบนิเวศ AI ที่พึ่งพาตนเองได้มากขึ้น 🛡️ ความท้าทายและสิ่งที่ต้องจับตา แม้ Flex:ai จะมีศักยภาพสูง แต่ยังไม่มีการเผยแพร่โค้ดโอเพ่นซอร์สหรือเอกสารทางเทคนิคอย่างเป็นทางการ ทำให้ยังไม่ชัดเจนว่าระบบจะรองรับ GPU ที่ใช้กันแพร่หลายทั่วโลกได้หรือไม่ และจะสามารถแข่งขันกับแพลตฟอร์มที่มีอยู่แล้ว เช่น Run:ai ของ Nvidia ได้จริงหรือไม่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Huawei เปิดตัว Flex:ai ➡️ เพิ่มการใช้ชิป AI เฉลี่ยได้ราว 30% ✅ กลไกการทำงาน ➡️ ใช้ Kubernetes, Hi Scheduler และการแบ่งการ์ด GPU/NPU เป็นหลายอินสแตนซ์ ✅ ความหมายต่ออุตสาหกรรม ➡️ ช่วยจีนลดการพึ่งพาการนำเข้าชิปขั้นสูงจากสหรัฐฯ ✅ ความร่วมมือ ➡️ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในจีนมีส่วนร่วมในการพัฒนา ‼️ คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ ⛔ ยังไม่มีโค้ดโอเพ่นซอร์สหรือเอกสารทางเทคนิคที่ชัดเจน https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/huawei-introduces-flex-ai-to-boost-ai-chip-utilization
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google เตรียมเปิดตัว Universal Clipboard บน Android และ Chromebook

    Google วางแผนเพิ่มฟีเจอร์ ซิงก์คลิปบอร์ดแบบเนทีฟ ระหว่างอุปกรณ์ Android และ Chromebook โดยอาจทำงานผ่าน Google Play Services ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถคัดลอกข้อความหรือข้อมูลจากมือถือ แล้วนำไปวางบน Chromebook ได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งพาแอปเสริม เช่น SwiftKey หรือ Microsoft Phone Link

    ความเป็นมาของข้อจำกัดด้าน Clipboard บน Android
    ตั้งแต่ Android 10 เป็นต้นมา Google ได้จำกัดการเข้าถึงคลิปบอร์ดเพื่อป้องกันการเก็บข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยอนุญาตเฉพาะคีย์บอร์ดเริ่มต้นและแอปที่ใช้งานอยู่เท่านั้นที่จะอ่านข้อมูลได้ ต่อมาใน Android 13 มีการเพิ่มระบบล้างประวัติคลิปบอร์ดอัตโนมัติภายใน 1 ชั่วโมง และแจ้งเตือนทุกครั้งเมื่อมีการเข้าถึงข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของผู้ใช้

    การเชื่อมต่อข้ามแพลตฟอร์มที่สะดวกขึ้น
    ก่อนหน้านี้ Google ได้เปิดตัว Quick Share ที่สามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ทำให้การส่งไฟล์ระหว่าง Android และ iOS สะดวกขึ้น การเพิ่ม Universal Clipboard จะเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ Android ecosystem มีประสบการณ์ใกล้เคียงกับ Apple ecosystem ที่มีการซิงก์คลิปบอร์ดและแท็บ Safari ข้ามอุปกรณ์

    แนวโน้มการใช้งานและผลกระทบ
    หากฟีเจอร์นี้เปิดตัวจริง จะช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ต่อเนื่องมากขึ้น เช่น คัดลอกข้อความจากมือถือไปวางในเอกสารบน Chromebook หรือแชร์รหัส OTP ได้สะดวกขึ้น แต่ก็ต้องจับตาด้าน ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ว่าจะมีมาตรการป้องกันการโจมตีหรือการดักจับข้อมูลอย่างไร

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Google พัฒนา Universal Clipboard สำหรับ Android และ Chromebook
    ใช้งานผ่าน Google Play Services เพื่อซิงก์ข้อมูลข้ามอุปกรณ์

    ข้อจำกัดเดิมของ Android Clipboard
    เข้าถึงได้เฉพาะคีย์บอร์ดหลักและแอปที่ใช้งานอยู่, ล้างข้อมูลอัตโนมัติใน 1 ชั่วโมง

    การเชื่อมต่อข้ามแพลตฟอร์มที่ดีขึ้น
    Quick Share ทำงานร่วมกับ AirDrop, Universal Clipboard จะเพิ่มความสะดวกอีกขั้น

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
    หากไม่มีมาตรการเข้มงวด อาจถูกใช้เพื่อดักจับข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือ OTP

    https://securityonline.info/android-getting-native-universal-clipboard-seamless-sync-coming-to-phones-chromebooks/
    📱 Google เตรียมเปิดตัว Universal Clipboard บน Android และ Chromebook Google วางแผนเพิ่มฟีเจอร์ ซิงก์คลิปบอร์ดแบบเนทีฟ ระหว่างอุปกรณ์ Android และ Chromebook โดยอาจทำงานผ่าน Google Play Services ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถคัดลอกข้อความหรือข้อมูลจากมือถือ แล้วนำไปวางบน Chromebook ได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งพาแอปเสริม เช่น SwiftKey หรือ Microsoft Phone Link 🔒 ความเป็นมาของข้อจำกัดด้าน Clipboard บน Android ตั้งแต่ Android 10 เป็นต้นมา Google ได้จำกัดการเข้าถึงคลิปบอร์ดเพื่อป้องกันการเก็บข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยอนุญาตเฉพาะคีย์บอร์ดเริ่มต้นและแอปที่ใช้งานอยู่เท่านั้นที่จะอ่านข้อมูลได้ ต่อมาใน Android 13 มีการเพิ่มระบบล้างประวัติคลิปบอร์ดอัตโนมัติภายใน 1 ชั่วโมง และแจ้งเตือนทุกครั้งเมื่อมีการเข้าถึงข้อมูล เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของผู้ใช้ ⚡ การเชื่อมต่อข้ามแพลตฟอร์มที่สะดวกขึ้น ก่อนหน้านี้ Google ได้เปิดตัว Quick Share ที่สามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ทำให้การส่งไฟล์ระหว่าง Android และ iOS สะดวกขึ้น การเพิ่ม Universal Clipboard จะเป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้ Android ecosystem มีประสบการณ์ใกล้เคียงกับ Apple ecosystem ที่มีการซิงก์คลิปบอร์ดและแท็บ Safari ข้ามอุปกรณ์ 🤖 แนวโน้มการใช้งานและผลกระทบ หากฟีเจอร์นี้เปิดตัวจริง จะช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ต่อเนื่องมากขึ้น เช่น คัดลอกข้อความจากมือถือไปวางในเอกสารบน Chromebook หรือแชร์รหัส OTP ได้สะดวกขึ้น แต่ก็ต้องจับตาด้าน ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ว่าจะมีมาตรการป้องกันการโจมตีหรือการดักจับข้อมูลอย่างไร 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Google พัฒนา Universal Clipboard สำหรับ Android และ Chromebook ➡️ ใช้งานผ่าน Google Play Services เพื่อซิงก์ข้อมูลข้ามอุปกรณ์ ✅ ข้อจำกัดเดิมของ Android Clipboard ➡️ เข้าถึงได้เฉพาะคีย์บอร์ดหลักและแอปที่ใช้งานอยู่, ล้างข้อมูลอัตโนมัติใน 1 ชั่วโมง ✅ การเชื่อมต่อข้ามแพลตฟอร์มที่ดีขึ้น ➡️ Quick Share ทำงานร่วมกับ AirDrop, Universal Clipboard จะเพิ่มความสะดวกอีกขั้น ‼️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ⛔ หากไม่มีมาตรการเข้มงวด อาจถูกใช้เพื่อดักจับข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือ OTP https://securityonline.info/android-getting-native-universal-clipboard-seamless-sync-coming-to-phones-chromebooks/
    SECURITYONLINE.INFO
    Android Getting Native Universal Clipboard: Seamless Sync Coming to Phones & Chromebooks
    Google is preparing a native Universal Clipboard feature for Android and Chromebooks to allow seamless copy-paste across devices, expected to debut in Android 17.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัญญาณแรงยุบสภา จับตาเทกระจาดงบประมาณ ทิ้งทวนก่อนเลือกตั้ง : ข่าวลึกปมลับ 25-11-68
    สัญญาณแรงยุบสภา จับตาเทกระจาดงบประมาณ ทิ้งทวนก่อนเลือกตั้ง : ข่าวลึกปมลับ 25-11-68
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ศาลแขวงพระนครใต้มีคำพิพากษาจำคุก “ปู มัณฑนา หิมะทองคำ” เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีฉ้อโกงหลอกร่วมลงทุน หลังคู่กรณีฟ้องร้องจากเหตุการณ์ที่สร้างกระแสใหญ่ในโซเชียลและสื่อมวลชนตั้งแต่ปี 2567
    - ทนายความเตรียมหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัว ขณะนี้ศาลกำลังพิจารณา
    - คดีนี้ถูกจับตาอย่างหนัก เพราะเริ่มต้นจากข้อกล่าวหาเรื่อง “กู้ยืมเงิน” ก่อนเปลี่ยนรูปคดีเป็น “ฉ้อโกงร่วมลงทุน”
    - ฝ่ายจำเลยยืนยันเคยได้รับผลกระทบจากการนำเสนอในรายการโทรทัศน์ชื่อดัง จนเกิดความเข้าใจผิดในสังคม

    ศึกคดีดังที่หลายสำนักข่าวเกาะติด รอดูทิศทางหลังศาลมีคำพิพากษาในวันนี้

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000112666

    #ปูมัณฑนา #คดีฉ้อโกง #ศาลแขวงพระนครใต้ #โหนกระแส #ดารา #ข่าวบันเทิง #คดีดัง #News1live #News1
    ศาลแขวงพระนครใต้มีคำพิพากษาจำคุก “ปู มัณฑนา หิมะทองคำ” เป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีฉ้อโกงหลอกร่วมลงทุน หลังคู่กรณีฟ้องร้องจากเหตุการณ์ที่สร้างกระแสใหญ่ในโซเชียลและสื่อมวลชนตั้งแต่ปี 2567 - ทนายความเตรียมหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัว ขณะนี้ศาลกำลังพิจารณา - คดีนี้ถูกจับตาอย่างหนัก เพราะเริ่มต้นจากข้อกล่าวหาเรื่อง “กู้ยืมเงิน” ก่อนเปลี่ยนรูปคดีเป็น “ฉ้อโกงร่วมลงทุน” - ฝ่ายจำเลยยืนยันเคยได้รับผลกระทบจากการนำเสนอในรายการโทรทัศน์ชื่อดัง จนเกิดความเข้าใจผิดในสังคม • ศึกคดีดังที่หลายสำนักข่าวเกาะติด รอดูทิศทางหลังศาลมีคำพิพากษาในวันนี้ • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000112666 • #ปูมัณฑนา #คดีฉ้อโกง #ศาลแขวงพระนครใต้ #โหนกระแส #ดารา #ข่าวบันเทิง #คดีดัง #News1live #News1
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Tools for Humanity: สตาร์ทอัพสแกนม่านตา กับวัฒนธรรมการทำงานสุดโหดใน Silicon Valley”

    บริษัท Tools for Humanity ที่ก่อตั้งโดย Sam Altman และ Alex Blania กำลังเป็นที่จับตามองใน Silicon Valley เพราะนอกจากเทคโนโลยี “Orb” ที่ใช้สแกนม่านตาเพื่อสร้าง World ID แล้ว ยังมีวัฒนธรรมการทำงานที่เข้มข้นอย่างมาก พนักงานถูกคาดหวังให้ทำงานตลอดเวลา รวมถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยผู้บริหารย้ำว่าภารกิจนี้คือ “เพื่อมนุษยชาติ” และใครที่ไม่ทุ่มเทเต็มที่ก็ไม่ควรอยู่ในทีม

    ในด้านเทคโนโลยี Orb ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหายุค AI ที่ข้อมูลปลอมและบอทกำลังแพร่หลาย การสแกนม่านตาจะสร้างรหัสเฉพาะบุคคลเพื่อยืนยันว่าเป็นมนุษย์จริง ๆ พร้อมให้สิทธิ์เข้าถึงระบบนิเวศ World App และรับโทเคนสกุลเงินดิจิทัล WLD เป็นรางวัล อย่างไรก็ตาม แม้ตั้งเป้าหมายผู้ใช้ถึง 1 พันล้านคน แต่ปัจจุบันมีเพียงราว 17.5 ล้านคน หรือไม่ถึง 2% ของเป้าหมาย

    สิ่งที่น่ากังวลคือหลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ โคลอมเบีย และไทย ได้สั่งระงับหรือสอบสวนการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูลชีวมิติ ขณะที่บางประเทศถึงขั้นมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง เพราะการเก็บข้อมูลม่านตาอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด

    แม้จะมีเสียงวิจารณ์ แต่บริษัทก็ยังได้รับเงินลงทุนกว่า 240 ล้านดอลลาร์จากบริษัทรายใหญ่ และยังคงผลักดันโครงการต่อไป โดยมองว่านี่คือโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของโลกอินเทอร์เน็ตในยุค AI ที่ต้องมี “Proof of Humanity” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าผู้ใช้งานคือมนุษย์จริง ๆ

    สรุปเป็นหัวข้อ
    วัฒนธรรมการทำงานสุดโหดของ Tools for Humanity
    พนักงานถูกคาดหวังให้ทำงานตลอดเวลา รวมถึงวันหยุด
    ผู้บริหารย้ำว่าใครไม่ทุ่มเทเต็มที่ “ไม่ควรอยู่ที่นี่”

    เทคโนโลยี Orb และ World ID
    ใช้สแกนม่านตาเพื่อสร้างรหัสเฉพาะบุคคล
    ผู้ใช้ได้รับโทเคน WLD เป็นรางวัลหลังการสแกน

    เป้าหมายและความคืบหน้า
    ตั้งเป้าหมายผู้ใช้ 1 พันล้านคน
    ปัจจุบันมีเพียง 17.5 ล้านคน หรือไม่ถึง 2%

    การสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่
    ได้เงินลงทุนกว่า 240 ล้านดอลลาร์
    มีพันธมิตรกับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก

    ข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและกฎหมาย
    หลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ โคลอมเบีย และไทย สั่งระงับหรือสอบสวน
    มีความเสี่ยงข้อมูลชีวมิติถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์

    ความท้าทายต่อการยอมรับระดับโลก
    ผู้ใช้ยังมีจำนวนต่ำมากเมื่อเทียบกับเป้าหมาย
    ถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงในบางประเทศ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/24/this-sam-altman-startup-might-have-the-most-butal-work-culture-in-silicon-valley
    📰 “Tools for Humanity: สตาร์ทอัพสแกนม่านตา กับวัฒนธรรมการทำงานสุดโหดใน Silicon Valley” บริษัท Tools for Humanity ที่ก่อตั้งโดย Sam Altman และ Alex Blania กำลังเป็นที่จับตามองใน Silicon Valley เพราะนอกจากเทคโนโลยี “Orb” ที่ใช้สแกนม่านตาเพื่อสร้าง World ID แล้ว ยังมีวัฒนธรรมการทำงานที่เข้มข้นอย่างมาก พนักงานถูกคาดหวังให้ทำงานตลอดเวลา รวมถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยผู้บริหารย้ำว่าภารกิจนี้คือ “เพื่อมนุษยชาติ” และใครที่ไม่ทุ่มเทเต็มที่ก็ไม่ควรอยู่ในทีม ในด้านเทคโนโลยี Orb ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหายุค AI ที่ข้อมูลปลอมและบอทกำลังแพร่หลาย การสแกนม่านตาจะสร้างรหัสเฉพาะบุคคลเพื่อยืนยันว่าเป็นมนุษย์จริง ๆ พร้อมให้สิทธิ์เข้าถึงระบบนิเวศ World App และรับโทเคนสกุลเงินดิจิทัล WLD เป็นรางวัล อย่างไรก็ตาม แม้ตั้งเป้าหมายผู้ใช้ถึง 1 พันล้านคน แต่ปัจจุบันมีเพียงราว 17.5 ล้านคน หรือไม่ถึง 2% ของเป้าหมาย สิ่งที่น่ากังวลคือหลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ โคลอมเบีย และไทย ได้สั่งระงับหรือสอบสวนการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูลชีวมิติ ขณะที่บางประเทศถึงขั้นมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง เพราะการเก็บข้อมูลม่านตาอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด แม้จะมีเสียงวิจารณ์ แต่บริษัทก็ยังได้รับเงินลงทุนกว่า 240 ล้านดอลลาร์จากบริษัทรายใหญ่ และยังคงผลักดันโครงการต่อไป โดยมองว่านี่คือโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของโลกอินเทอร์เน็ตในยุค AI ที่ต้องมี “Proof of Humanity” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าผู้ใช้งานคือมนุษย์จริง ๆ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ วัฒนธรรมการทำงานสุดโหดของ Tools for Humanity ➡️ พนักงานถูกคาดหวังให้ทำงานตลอดเวลา รวมถึงวันหยุด ➡️ ผู้บริหารย้ำว่าใครไม่ทุ่มเทเต็มที่ “ไม่ควรอยู่ที่นี่” ✅ เทคโนโลยี Orb และ World ID ➡️ ใช้สแกนม่านตาเพื่อสร้างรหัสเฉพาะบุคคล ➡️ ผู้ใช้ได้รับโทเคน WLD เป็นรางวัลหลังการสแกน ✅ เป้าหมายและความคืบหน้า ➡️ ตั้งเป้าหมายผู้ใช้ 1 พันล้านคน ➡️ ปัจจุบันมีเพียง 17.5 ล้านคน หรือไม่ถึง 2% ✅ การสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ ➡️ ได้เงินลงทุนกว่า 240 ล้านดอลลาร์ ➡️ มีพันธมิตรกับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก ‼️ ข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและกฎหมาย ⛔ หลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ โคลอมเบีย และไทย สั่งระงับหรือสอบสวน ⛔ มีความเสี่ยงข้อมูลชีวมิติถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ‼️ ความท้าทายต่อการยอมรับระดับโลก ⛔ ผู้ใช้ยังมีจำนวนต่ำมากเมื่อเทียบกับเป้าหมาย ⛔ ถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงในบางประเทศ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/24/this-sam-altman-startup-might-have-the-most-butal-work-culture-in-silicon-valley
    WWW.THESTAR.COM.MY
    This Sam Altman startup might have the most brutal work culture in Silicon Valley
    Altman's biometrics startup, Tools for Humanity, told employees that they're 'always on call.'
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับตา หุ้นเลือกตั้ง! (24/11/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #หุ้นไทย #หุ้นเลือกตั้ง #ยุบสภา
    จับตา หุ้นเลือกตั้ง! (24/11/68) #news1 #กะเทาะหุ้น #หุ้นไทย #หุ้นเลือกตั้ง #ยุบสภา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline
    #รวมข่าวIT #20251124 #securityonline

    PyPI ปลอมแพ็กเกจ Python แฝง RAT หลายชั้น
    นักวิจัยจาก HelixGuard พบแพ็กเกจอันตรายบน PyPI ที่ชื่อว่า spellcheckers ซึ่งพยายามเลียนแบบไลบรารีจริง “pyspellchecker” ที่มีคนใช้มากกว่า 18 ล้านครั้ง แต่ตัวปลอมนี้แอบซ่อน Remote Access Trojan (RAT) หลายชั้นไว้ภายใน นี่เป็นการโจมตี supply chain ที่อันตราย เพราะนักพัฒนาที่ติดตั้งแพ็กเกจนี้อาจถูกเจาะระบบโดยไม่รู้ตัว และมีการเชื่อมโยงกับกลุ่มที่เคยใช้วิธีหลอกเป็น “Recruiter” เพื่อขโมยคริปโตมาก่อน
    url: https://securityonline.info/pypi-typosquat-delivers-multi-layer-python-rat-bypassing-scanners-with-xor-encryption

    Tsundere Botnet: Node.js + Blockchain C2
    นักวิจัยจาก Kaspersky พบ บอทเน็ตใหม่ชื่อ Tsundere ที่เติบโตเร็วมากและมีลูกเล่นแปลกใหม่ ใช้ Node.js implants และดึงที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) จาก Ethereum smart contract ทำให้แทบจะ “ฆ่าไม่ตาย” เพราะข้อมูลบนบล็อกเชนลบไม่ได้ กระจายตัวผ่าน เกมเถื่อน และการใช้ Remote Monitoring & Management (RMM) และที่น่ากลัวคือมันสามารถรันโค้ด JavaScript จากระยะไกล ทำให้แฮกเกอร์สั่งขโมยข้อมูล, ติดตั้งมัลแวร์เพิ่ม, หรือใช้เครื่องเหยื่อเป็น proxy ได้
    url: https://securityonline.info/tsundere-botnet-uncovered-node-js-malware-uses-ethereum-smart-contract-for-unkillable-c2-and-runs-cybercrime-marketplace

    ความโปร่งใสบนโลกโซเชียล แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เพิ่มเครื่องมือใหม่ชื่อว่า “About This Account” เพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบัญชีต่าง ๆ โดยจะแสดงข้อมูลเบื้องหลัง เช่น ประเทศที่สร้างบัญชี, วิธีการเข้าถึง (ผ่านเว็บหรือแอป), และจำนวนครั้งที่เปลี่ยนชื่อบัญชี ฟีเจอร์นี้ยังมีระบบตรวจจับ VPN เพื่อแจ้งเตือนว่าข้อมูลประเทศอาจไม่ถูกต้อง จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นว่าเนื้อหาที่เห็นมาจากใครจริง ๆ
    https://securityonline.info/x-launches-about-this-account-tool-to-boost-transparency-and-fight-fakes

    Apple ยังอยู่ภายใต้การนำของ Cook มีรายงานจาก Financial Times ว่า Tim Cook อาจก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Apple ในปี 2026 แต่ Mark Gurman จาก Bloomberg ออกมายืนยันว่าไม่จริง และไม่มีสัญญาณใด ๆ จากภายในบริษัท Cook ซึ่งเข้ามาเป็น CEO ตั้งแต่ปี 2011 ได้พา Apple เติบโตจากมูลค่า 350 พันล้านดอลลาร์ ไปสู่กว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ เขายังมีสิทธิ์ที่จะเลือกอนาคตของตัวเอง โดยผู้สืบทอดที่ถูกจับตามองคือ John Ternus หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์
    https://securityonline.info/tim-cook-stepping-down-next-year-rumors-firmly-dismissed-by-mark-gurman

    การต่อสู้ด้านกฎหมายครั้งใหญ่ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) และ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของคดีผูกขาดธุรกิจโฆษณาออนไลน์ ผู้พิพากษา Leonie Brinkema แสดงท่าทีว่าจะตัดสินเร็ว โดย DOJ กล่าวหาว่า Google ครองตลาดอย่างไม่เป็นธรรม ขณะที่ Google โต้ว่า การบังคับให้ขายธุรกิจโฆษณาออกไปเป็นการแก้ไขที่รุนแรงเกินไป นอกจากนี้ Google ยังถูกปรับกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ในยุโรปจากคดีคล้ายกัน ทำให้บริษัทเผชิญแรงกดดันจากหลายประเทศพร้อมกัน
    https://securityonline.info/doj-vs-google-ad-tech-antitrust-battle-enters-final-stage-with-quick-ruling-expected

    ปีแห่งการบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ หลังจาก iOS 26 เปิดตัวดีไซน์ “Liquid Glass” ที่หวือหวา Apple ตัดสินใจเปลี่ยนแนวทาง โดย iOS 27 และ macOS 27 ที่จะออกในปี 2026 จะเน้นการแก้บั๊ก ปรับปรุงประสิทธิภาพ และทำให้ระบบเสถียรมากขึ้น คล้ายกับการอัปเดต Snow Leopard ในอดีต อย่างไรก็ตาม Apple ยังเตรียมเพิ่มฟีเจอร์ด้าน AI เช่น Health Agent และระบบค้นหาใหม่ รวมถึงปรับปรุงเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ Liquid Glass ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
    https://securityonline.info/ios-27-macos-27-apple-shifts-to-stability-and-performance-over-new-features

    มัลแวร์ปลอมตัวเป็นแอปจริง หน่วยวิจัยของ Acronis พบการโจมตีครั้งใหญ่ชื่อว่า “TamperedChef” ที่ใช้โฆษณาและ SEO หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปปลอม เช่น โปรแกรมอ่านคู่มือหรือเกมง่าย ๆ แอปเหล่านี้ถูกเซ็นด้วยใบรับรองจริงที่ซื้อผ่านบริษัทเชลล์ในสหรัฐฯ ทำให้ดูน่าเชื่อถือ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง แอปจะสร้างงานตามเวลาและฝัง backdoor ที่ซ่อนตัวอย่างแนบเนียนเพื่อควบคุมเครื่องระยะยาว เหยื่อส่วนใหญ่พบในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสุขภาพ ก่อสร้าง และการผลิต
    https://securityonline.info/tamperedchef-malvertising-uses-us-shell-companies-to-sign-trojanized-apps-with-valid-certificates-deploying-stealth-backdoor

    AI Framework เจอช่องโหว่ร้ายแรง มีการค้นพบช่องโหว่ใน vLLM ซึ่งเป็น framework สำหรับการทำงานของโมเดลภาษา ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่ง prompt embeddings ที่ถูกปรับแต่งมาเพื่อรันโค้ดอันตรายบนระบบ (Remote Code Execution) โดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษ ทำให้เสี่ยงต่อการถูกควบคุมระบบจากภายนอก นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้งานควรอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/vllm-flaw-cve-2025-62164-risks-remote-code-execution-via-malicious-prompt-embeddings

    การโจมตีไซเบอร์ข้ามพรมแดน กลุ่มแฮกเกอร์ APT24 จากจีนถูกเปิดโปงว่าใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ “BADAUDIO” แฝงตัวผ่านซัพพลายเชนของไต้หวัน ส่งผลกระทบต่อกว่า 1,000 โดเมน มัลแวร์นี้มีความสามารถในการซ่อนตัวและควบคุมระบบจากระยะไกล ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อธุรกิจที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของไต้หวันอย่างมาก
    https://securityonline.info/chinas-apt24-launches-stealth-badaudio-malware-hitting-1000-domains-via-taiwanese-supply-chain-hack

    มัลแวร์แพร่กระจายผ่านแชท มีการค้นพบ worm ที่แพร่กระจายบน WhatsApp โดยใช้ข้อความหลอกว่าเป็น “View Once” เพื่อให้ผู้ใช้เปิดดู เมื่อเหยื่อคลิก มัลแวร์จะขโมย session และติดตั้ง Astaroth Banking Trojan เพื่อเจาะข้อมูลทางการเงิน จุดเด่นคือ worm นี้สามารถส่งต่อไปยังรายชื่อผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ ทำให้แพร่กระจายได้รวดเร็ว
    https://securityonline.info/sophisticated-whatsapp-worm-uses-fake-view-once-lure-to-hijack-sessions-and-deploy-astaroth-banking-trojan

    ภัยคุกคามต่ออุปกรณ์เครือข่ายบ้านและองค์กร CERT/CC ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ command injection ในเราเตอร์ Tenda รุ่น 4G03 Pro และ N300 (CVE-2025-13207, CVE-2024-24481) ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าถึงระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผู้ใช้ถูกแนะนำให้ปิดการใช้งาน remote management และติดตามการอัปเดต firmware อย่างใกล้ชิด
    https://securityonline.info/cert-cc-warns-of-unpatched-root-level-command-injection-flaws-in-tenda-4g03-pro-and-n300-routers-cve-2025-13207-cve-2024-24481

    ภัยต่อระบบอุตสาหกรรม ABB แจ้งเตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน Edgenius Management Portal (เวอร์ชัน 3.2.0.0 และ 3.2.1.1) ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่งข้อความพิเศษเพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน สามารถติดตั้ง/ถอนการติดตั้งแอป และแก้ไขการตั้งค่าได้เต็มที่ ถือเป็นภัยใหญ่ต่อระบบ OT ในโรงงานและอุตสาหกรรม ABB ได้ออกแพตช์เวอร์ชัน 3.2.2.0 และแนะนำให้ผู้ใช้ที่ยังอัปเดตไม่ได้ปิดการใช้งาน Portal ชั่วคราว
    https://securityonline.info/critical-abb-flaw-cve-2025-10571-cvss-9-6-allows-unauthenticated-rce-and-admin-takeover-on-edgenius



    📌🔒🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔒📌 #รวมข่าวIT #20251124 #securityonline 🐍 PyPI ปลอมแพ็กเกจ Python แฝง RAT หลายชั้น นักวิจัยจาก HelixGuard พบแพ็กเกจอันตรายบน PyPI ที่ชื่อว่า spellcheckers ซึ่งพยายามเลียนแบบไลบรารีจริง “pyspellchecker” ที่มีคนใช้มากกว่า 18 ล้านครั้ง แต่ตัวปลอมนี้แอบซ่อน Remote Access Trojan (RAT) หลายชั้นไว้ภายใน นี่เป็นการโจมตี supply chain ที่อันตราย เพราะนักพัฒนาที่ติดตั้งแพ็กเกจนี้อาจถูกเจาะระบบโดยไม่รู้ตัว และมีการเชื่อมโยงกับกลุ่มที่เคยใช้วิธีหลอกเป็น “Recruiter” เพื่อขโมยคริปโตมาก่อน 🔗 url: https://securityonline.info/pypi-typosquat-delivers-multi-layer-python-rat-bypassing-scanners-with-xor-encryption 💻 Tsundere Botnet: Node.js + Blockchain C2 นักวิจัยจาก Kaspersky พบ บอทเน็ตใหม่ชื่อ Tsundere ที่เติบโตเร็วมากและมีลูกเล่นแปลกใหม่ ใช้ Node.js implants และดึงที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) จาก Ethereum smart contract ทำให้แทบจะ “ฆ่าไม่ตาย” เพราะข้อมูลบนบล็อกเชนลบไม่ได้ กระจายตัวผ่าน เกมเถื่อน และการใช้ Remote Monitoring & Management (RMM) และที่น่ากลัวคือมันสามารถรันโค้ด JavaScript จากระยะไกล ทำให้แฮกเกอร์สั่งขโมยข้อมูล, ติดตั้งมัลแวร์เพิ่ม, หรือใช้เครื่องเหยื่อเป็น proxy ได้ 🔗 url: https://securityonline.info/tsundere-botnet-uncovered-node-js-malware-uses-ethereum-smart-contract-for-unkillable-c2-and-runs-cybercrime-marketplace 🛡️ ความโปร่งใสบนโลกโซเชียล แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เพิ่มเครื่องมือใหม่ชื่อว่า “About This Account” เพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบัญชีต่าง ๆ โดยจะแสดงข้อมูลเบื้องหลัง เช่น ประเทศที่สร้างบัญชี, วิธีการเข้าถึง (ผ่านเว็บหรือแอป), และจำนวนครั้งที่เปลี่ยนชื่อบัญชี ฟีเจอร์นี้ยังมีระบบตรวจจับ VPN เพื่อแจ้งเตือนว่าข้อมูลประเทศอาจไม่ถูกต้อง จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นว่าเนื้อหาที่เห็นมาจากใครจริง ๆ 🔗 https://securityonline.info/x-launches-about-this-account-tool-to-boost-transparency-and-fight-fakes 🍏 Apple ยังอยู่ภายใต้การนำของ Cook มีรายงานจาก Financial Times ว่า Tim Cook อาจก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Apple ในปี 2026 แต่ Mark Gurman จาก Bloomberg ออกมายืนยันว่าไม่จริง และไม่มีสัญญาณใด ๆ จากภายในบริษัท Cook ซึ่งเข้ามาเป็น CEO ตั้งแต่ปี 2011 ได้พา Apple เติบโตจากมูลค่า 350 พันล้านดอลลาร์ ไปสู่กว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ เขายังมีสิทธิ์ที่จะเลือกอนาคตของตัวเอง โดยผู้สืบทอดที่ถูกจับตามองคือ John Ternus หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ 🔗 https://securityonline.info/tim-cook-stepping-down-next-year-rumors-firmly-dismissed-by-mark-gurman ⚖️ การต่อสู้ด้านกฎหมายครั้งใหญ่ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ (DOJ) และ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของคดีผูกขาดธุรกิจโฆษณาออนไลน์ ผู้พิพากษา Leonie Brinkema แสดงท่าทีว่าจะตัดสินเร็ว โดย DOJ กล่าวหาว่า Google ครองตลาดอย่างไม่เป็นธรรม ขณะที่ Google โต้ว่า การบังคับให้ขายธุรกิจโฆษณาออกไปเป็นการแก้ไขที่รุนแรงเกินไป นอกจากนี้ Google ยังถูกปรับกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ในยุโรปจากคดีคล้ายกัน ทำให้บริษัทเผชิญแรงกดดันจากหลายประเทศพร้อมกัน 🔗 https://securityonline.info/doj-vs-google-ad-tech-antitrust-battle-enters-final-stage-with-quick-ruling-expected 📱💻 ปีแห่งการบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ หลังจาก iOS 26 เปิดตัวดีไซน์ “Liquid Glass” ที่หวือหวา Apple ตัดสินใจเปลี่ยนแนวทาง โดย iOS 27 และ macOS 27 ที่จะออกในปี 2026 จะเน้นการแก้บั๊ก ปรับปรุงประสิทธิภาพ และทำให้ระบบเสถียรมากขึ้น คล้ายกับการอัปเดต Snow Leopard ในอดีต อย่างไรก็ตาม Apple ยังเตรียมเพิ่มฟีเจอร์ด้าน AI เช่น Health Agent และระบบค้นหาใหม่ รวมถึงปรับปรุงเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ Liquid Glass ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น 🔗 https://securityonline.info/ios-27-macos-27-apple-shifts-to-stability-and-performance-over-new-features 🕵️ มัลแวร์ปลอมตัวเป็นแอปจริง หน่วยวิจัยของ Acronis พบการโจมตีครั้งใหญ่ชื่อว่า “TamperedChef” ที่ใช้โฆษณาและ SEO หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปปลอม เช่น โปรแกรมอ่านคู่มือหรือเกมง่าย ๆ แอปเหล่านี้ถูกเซ็นด้วยใบรับรองจริงที่ซื้อผ่านบริษัทเชลล์ในสหรัฐฯ ทำให้ดูน่าเชื่อถือ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง แอปจะสร้างงานตามเวลาและฝัง backdoor ที่ซ่อนตัวอย่างแนบเนียนเพื่อควบคุมเครื่องระยะยาว เหยื่อส่วนใหญ่พบในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสุขภาพ ก่อสร้าง และการผลิต 🔗 https://securityonline.info/tamperedchef-malvertising-uses-us-shell-companies-to-sign-trojanized-apps-with-valid-certificates-deploying-stealth-backdoor ⚙️ AI Framework เจอช่องโหว่ร้ายแรง มีการค้นพบช่องโหว่ใน vLLM ซึ่งเป็น framework สำหรับการทำงานของโมเดลภาษา ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่ง prompt embeddings ที่ถูกปรับแต่งมาเพื่อรันโค้ดอันตรายบนระบบ (Remote Code Execution) โดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษ ทำให้เสี่ยงต่อการถูกควบคุมระบบจากภายนอก นักวิจัยเตือนว่าผู้ใช้งานควรอัปเดตเวอร์ชันล่าสุดทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/vllm-flaw-cve-2025-62164-risks-remote-code-execution-via-malicious-prompt-embeddings 🐉 การโจมตีไซเบอร์ข้ามพรมแดน กลุ่มแฮกเกอร์ APT24 จากจีนถูกเปิดโปงว่าใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ “BADAUDIO” แฝงตัวผ่านซัพพลายเชนของไต้หวัน ส่งผลกระทบต่อกว่า 1,000 โดเมน มัลแวร์นี้มีความสามารถในการซ่อนตัวและควบคุมระบบจากระยะไกล ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อธุรกิจที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของไต้หวันอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/chinas-apt24-launches-stealth-badaudio-malware-hitting-1000-domains-via-taiwanese-supply-chain-hack 📲 มัลแวร์แพร่กระจายผ่านแชท มีการค้นพบ worm ที่แพร่กระจายบน WhatsApp โดยใช้ข้อความหลอกว่าเป็น “View Once” เพื่อให้ผู้ใช้เปิดดู เมื่อเหยื่อคลิก มัลแวร์จะขโมย session และติดตั้ง Astaroth Banking Trojan เพื่อเจาะข้อมูลทางการเงิน จุดเด่นคือ worm นี้สามารถส่งต่อไปยังรายชื่อผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ ทำให้แพร่กระจายได้รวดเร็ว 🔗 https://securityonline.info/sophisticated-whatsapp-worm-uses-fake-view-once-lure-to-hijack-sessions-and-deploy-astaroth-banking-trojan 📡 ภัยคุกคามต่ออุปกรณ์เครือข่ายบ้านและองค์กร CERT/CC ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ command injection ในเราเตอร์ Tenda รุ่น 4G03 Pro และ N300 (CVE-2025-13207, CVE-2024-24481) ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าถึงระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผู้ใช้ถูกแนะนำให้ปิดการใช้งาน remote management และติดตามการอัปเดต firmware อย่างใกล้ชิด 🔗 https://securityonline.info/cert-cc-warns-of-unpatched-root-level-command-injection-flaws-in-tenda-4g03-pro-and-n300-routers-cve-2025-13207-cve-2024-24481 🏭 ภัยต่อระบบอุตสาหกรรม ABB แจ้งเตือนช่องโหว่ร้ายแรงใน Edgenius Management Portal (เวอร์ชัน 3.2.0.0 และ 3.2.1.1) ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีส่งข้อความพิเศษเพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน สามารถติดตั้ง/ถอนการติดตั้งแอป และแก้ไขการตั้งค่าได้เต็มที่ ถือเป็นภัยใหญ่ต่อระบบ OT ในโรงงานและอุตสาหกรรม ABB ได้ออกแพตช์เวอร์ชัน 3.2.2.0 และแนะนำให้ผู้ใช้ที่ยังอัปเดตไม่ได้ปิดการใช้งาน Portal ชั่วคราว 🔗 https://securityonline.info/critical-abb-flaw-cve-2025-10571-cvss-9-6-allows-unauthenticated-rce-and-admin-takeover-on-edgenius
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251124 #TechRadar

    รีวิวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายสำหรับพื้นแข็ง
    ใครที่บ้านมีพื้นแข็งเยอะ เช่นไม้หรือกระเบื้อง จะรู้ว่าการเลือกเครื่องดูดฝุ่นไม่ง่ายอย่างที่คิด ล่าสุดมีการทดสอบเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย 8 รุ่น ผลปรากฏว่า Shark PowerDetect Cordless ทำคะแนนสูงสุด ทั้งดูดฝุ่นละเอียดและเศษใหญ่ได้ดี จุดเด่นคือสามารถดูดได้ทั้งขณะดันไปข้างหน้าและดึงกลับ ทำให้ไม่เหลือเศษสะสมด้านหลังหัวดูด นอกจากนี้ยังมีระบบปรับแรงดูดอัตโนมัติและฟีเจอร์ตรวจจับขอบห้อง รุ่นอื่นที่น่าสนใจคือ Dyson Gen5detect และ Dreame R20 แต่ Shark ถือว่าครองแชมป์เรื่องประสิทธิภาพ
    https://www.techradar.com/home/vacuums/i-tested-a-load-of-cordless-vacuums-to-find-the-best-option-for-hard-floor-heres-the-vac-that-came-out-on-top

    ทำไม ICQ ถึงล้มเหลว
    ย้อนกลับไปยุค 90s ICQ คือหนึ่งในโปรแกรมแชทที่บุกเบิกวงการ มีผู้ใช้ทะลุ 100 ล้านราย และถูก AOL ซื้อไปในปี 1998 แต่เมื่อคู่แข่งใหม่ ๆ อย่าง MSN, Yahoo Messenger และต่อมาคือ WhatsApp, Telegram เข้ามา ICQ ก็เริ่มเสื่อมความนิยม แม้จะพยายามปรับตัวเข้าสู่ยุคมือถือ แต่ก็ไม่สามารถกลับมาครองตลาดได้ สุดท้ายในปี 2024 ICQ ประกาศปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการปิดฉากตำนานโปรแกรมแชทที่ครั้งหนึ่งเคยครองโลกออนไลน์
    https://www.techradar.com/pro/this-pioneering-instant-messaging-platform-tried-to-keep-up-with-the-times-it-failed

    ดราม่าเรื่องช่องโหว่ Comet Browser
    บริษัท SquareX ออกมาแฉว่า Comet Browser ของ Perplexity มี API ซ่อนที่อาจถูกใช้สั่งรันคำสั่งบนเครื่องผู้ใช้ได้ ซึ่งถือว่าอันตรายมาก แต่ทาง Perplexity รีบออกมาปฏิเสธทันที บอกว่าข้อมูลนี้ “ไม่จริง” เพราะต้องเปิดโหมดนักพัฒนาและผู้ใช้ต้องยินยอมเองถึงจะทำได้ อย่างไรก็ตาม SquareX ยืนยันว่ามีการทดสอบซ้ำจากนักวิจัยภายนอกและพบว่าช่องโหว่นี้มีจริง ก่อนที่ Comet จะอัปเดตแก้ไขแบบเงียบ ๆ เรื่องนี้สะท้อนว่าการแข่งขันด้านเบราว์เซอร์ AI กำลังร้อนแรง และความปลอดภัยยังเป็นประเด็นใหญ่ที่ต้องจับตา
    https://www.techradar.com/pro/security/perplexity-responds-to-comet-browser-vulnerability-claims-argues-fake-news

    AI พลิกโฉมการจัดการค่าใช้จ่ายธุรกิจ
    การเบิกค่าใช้จ่ายและการเดินทางของพนักงานเคยเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่ตอนนี้ AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนเกม ระบบใหม่ช่วยให้พนักงานสามารถส่งค่าใช้จ่ายได้ทันที เช่นถ่ายใบเสร็จแล้วระบบบันทึกอัตโนมัติ ลดงานเอกสารและความผิดพลาด ฝั่งฝ่ายการเงินก็ได้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ สามารถตรวจสอบความเสี่ยงและควบคุมงบประมาณได้ดีกว่าเดิม จุดสำคัญคือ AI ไม่ได้แค่ทำงานอัตโนมัติ แต่ยังเรียนรู้พฤติกรรมและช่วยคาดการณ์ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ทำให้การจัดการค่าใช้จ่ายกลายเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่แค่ภาระงานอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/pro/how-ai-is-turning-travel-and-expense-into-a-strategic-advantage

    ยุโรปเสี่ยงเสียความได้เปรียบด้าน AI
    บทความนี้พูดถึงความท้าทายของยุโรปในการรักษาความได้เปรียบด้าน AI หากไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ปัจจุบันสหรัฐฯ และจีนกำลังลงทุนมหาศาลในระบบคลาวด์และศูนย์ข้อมูล ทำให้ยุโรปอาจเสียตำแหน่งผู้นำหากไม่เร่งพัฒนา การสร้างระบบที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจและรัฐบาลมั่นใจในการใช้ AI อย่างเต็มที่
    https://www.techradar.com/pro/europes-ai-advantage-at-risk-without-secure-and-private-infrastructure

    Quantum Computer กำลังจะมาเร็วเกินคาด
    มีการเตือนจาก CEO ของ Palo Alto Networks ว่า ภายในปี 2029 หรืออาจเร็วกว่านั้น รัฐที่ไม่เป็นมิตรอาจมี "Quantum Computer" ที่ทรงพลังพอจะทำลายระบบเข้ารหัสที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ได้ ซึ่งหมายความว่า firewall และอุปกรณ์ความปลอดภัยที่พึ่งพาการเข้ารหัสอาจต้องถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด บริษัทจึงเตรียมออกผลิตภัณฑ์ "Quantum-safe" เพื่อรับมือ และยังชี้ว่าการผสมผสาน AI ใน browser ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการโจมตี ทำให้อนาคตของการป้องกันภัยไซเบอร์ต้องเข้มข้นกว่าเดิม
    https://www.techradar.com/pro/security/security-firm-ceo-thinks-nation-states-will-have-weaponized-quantum-computers-within-the-next-five-years

    Nvidia ปฏิเสธกระแส "AI Bubble"
    Jensen Huang CEO ของ Nvidia ออกมายืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับ AI ไม่ใช่ฟองสบู่ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานการคอมพิวเตอร์อย่างแท้จริง เขาอธิบายว่า GPU กำลังเข้ามาแทนที่ CPU ในงานที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูง และยังพูดถึงการเกิดขึ้นของ "Agentic AI" ที่สามารถคิดและทำงานเองได้โดยแทบไม่ต้องมีมนุษย์สั่ง เขามองว่านี่คือการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่การเก็งกำไรชั่วคราว
    https://www.techradar.com/pro/we-see-something-very-different-nvidia-ceo-jensen-huang-dismisses-ai-bubble-talk-and-i-guess-he-should-know

    ไฟรถยนต์ยุคใหม่: Pixel, Matrix, OLED
    เทคโนโลยีไฟรถยนต์พัฒนาไปไกลมาก โดยเฉพาะใน EV ที่ต้องการประหยัดพลังงาน ตอนนี้มีทั้ง pixel grille ที่สามารถแสดงข้อความหรือ emoji, matrix headlights ที่ปรับแสงอัตโนมัติไม่ให้แยงตาคนอื่น และ OLED taillights ที่บางและออกแบบได้อิสระมากขึ้น บางรุ่นถึงขั้นใช้ไฟหน้าเป็น "โปรเจคเตอร์" ฉายภาพนำทางหรือแม้แต่หนังกลางแปลงได้เลย!
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/pixel-arrays-matrix-headlights-oled-taillights-new-lighting-tech-is-bedazzling-evs

    ChatGPT ฟรีสำหรับครู
    OpenAI เปิดตัว ChatGPT เวอร์ชันพิเศษสำหรับครู K–12 ในสหรัฐ ใช้งาน GPT-5.1 ได้ไม่จำกัด พร้อมฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์, สร้างภาพ, เชื่อมต่อกับ Google Drive และ Microsoft 365 ทั้งหมดนี้ฟรีจนถึงปี 2027 ระบบยังถูกออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมาย FERPA เพื่อปกป้องข้อมูลนักเรียน และช่วยครูวางแผนการสอน ทำงานร่วมกัน และสร้างบทเรียนได้ง่ายขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/free-chatgpt-is-coming-for-teachers-openai-looks-to-spread-influence-of-its-chatbot-into-schools

    แอป Elfster ช่วยจัด Secret Santa
    ผู้เขียนเล่าว่าการแลกของขวัญในครอบครัวเคยยุ่งยาก แต่พอใช้แอป Elfster ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก แอปนี้ช่วยสุ่มจับชื่อ, ตั้งกติกา เช่นไม่ให้คู่รักจับกันเอง, สร้าง wish list และแชร์กับเพื่อนหรือครอบครัวได้ นอกจากนี้ยังมีไกด์ของขวัญตามเทรนด์ เช่น "TikTok Finds" หรือ "Gifts Under $10" ทำให้การเลือกของขวัญสนุกและไม่เครียดอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/computing/websites-apps/elfster

    DJI เตรียมเปิดตัวโดรน 360 องศา
    มีข่าวลือว่า DJI กำลังจะเปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ที่สามารถถ่ายภาพและวิดีโอแบบ 360 องศาได้ หลังจากมีภาพหลุดออกมาอีกครั้ง ทำให้คาดการณ์ว่าอาจมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะเป็นการยกระดับการถ่ายทำทั้งงานภาพยนตร์และคอนเทนต์โซเชียล
    https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-first-360-degree-drone-leaks-again-and-an-official-launch-could-be-very-soon

    Galaxy S26 Ultra อาจได้แบตใหญ่ขึ้น
    มีข่าวลือเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S26 Ultra ว่าจะมาพร้อมการอัปเกรดแบตเตอรี่ให้มีความจุสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม ถือเป็นการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้ที่ผู้ใช้คาดหวังเรื่องความทนทานและประสิทธิภาพ ,
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-samsung-galaxy-s26-ultra-rumor-hints-at-a-battery-upgrade-for-the-premium-flagship-phone

    รัสเซียตั้งทีมชาติ AI
    รัสเซียประกาศตั้ง "National AI Taskforce" เพื่อสร้างความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี โดยตั้งเป้าหมายให้มี AI และโดรนที่พัฒนาเองภายในประเทศภายในปี 2030 นี่ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ และลดการพึ่งพาต่างชาติ
    https://www.techradar.com/pro/did-the-ai-war-just-get-one-step-closer-putin-confirms-russia-is-planning-its-own-national-ai-taskforce

    ศึก Router: TP-Link vs Netgear
    TP-Link ฟ้อง Netgear โดยกล่าวหาว่ามีการให้ข้อมูลที่ทำให้ TP-Link ดูเหมือนเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ และมีการโยงไปถึงการโจมตีไซเบอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐ ซึ่ง TP-Link มองว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงและสร้างความเข้าใจผิดในตลาด
    https://www.techradar.com/pro/the-router-wars-are-kicking-off-tp-link-says-smear-campaign-by-netgear-made-it-seem-to-be-a-us-national-security-risk

    AI ต้องบาลานซ์: นวัตกรรม vs ความเสี่ยง
    บทความนี้พูดถึงการสร้างสมดุลระหว่างการลงทุนใน AI กับต้นทุน ความเสี่ยง และผลตอบแทน (ROI) โดยชี้ว่าบริษัทต่าง ๆ ต้องหาวิธีใช้ AI อย่างชาญฉลาด ไม่ใช่แค่เพื่อความล้ำสมัย แต่ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าและความปลอดภัยด้วย
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/harmonizing-ai-innovation-with-cost-risk-and-roi
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251124 #TechRadar 🧹 รีวิวเครื่องดูดฝุ่นไร้สายสำหรับพื้นแข็ง ใครที่บ้านมีพื้นแข็งเยอะ เช่นไม้หรือกระเบื้อง จะรู้ว่าการเลือกเครื่องดูดฝุ่นไม่ง่ายอย่างที่คิด ล่าสุดมีการทดสอบเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย 8 รุ่น ผลปรากฏว่า Shark PowerDetect Cordless ทำคะแนนสูงสุด ทั้งดูดฝุ่นละเอียดและเศษใหญ่ได้ดี จุดเด่นคือสามารถดูดได้ทั้งขณะดันไปข้างหน้าและดึงกลับ ทำให้ไม่เหลือเศษสะสมด้านหลังหัวดูด นอกจากนี้ยังมีระบบปรับแรงดูดอัตโนมัติและฟีเจอร์ตรวจจับขอบห้อง รุ่นอื่นที่น่าสนใจคือ Dyson Gen5detect และ Dreame R20 แต่ Shark ถือว่าครองแชมป์เรื่องประสิทธิภาพ 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/i-tested-a-load-of-cordless-vacuums-to-find-the-best-option-for-hard-floor-heres-the-vac-that-came-out-on-top 💬 ทำไม ICQ ถึงล้มเหลว ย้อนกลับไปยุค 90s ICQ คือหนึ่งในโปรแกรมแชทที่บุกเบิกวงการ มีผู้ใช้ทะลุ 100 ล้านราย และถูก AOL ซื้อไปในปี 1998 แต่เมื่อคู่แข่งใหม่ ๆ อย่าง MSN, Yahoo Messenger และต่อมาคือ WhatsApp, Telegram เข้ามา ICQ ก็เริ่มเสื่อมความนิยม แม้จะพยายามปรับตัวเข้าสู่ยุคมือถือ แต่ก็ไม่สามารถกลับมาครองตลาดได้ สุดท้ายในปี 2024 ICQ ประกาศปิดตัวลงอย่างเป็นทางการ ถือเป็นการปิดฉากตำนานโปรแกรมแชทที่ครั้งหนึ่งเคยครองโลกออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-pioneering-instant-messaging-platform-tried-to-keep-up-with-the-times-it-failed 🔒 ดราม่าเรื่องช่องโหว่ Comet Browser บริษัท SquareX ออกมาแฉว่า Comet Browser ของ Perplexity มี API ซ่อนที่อาจถูกใช้สั่งรันคำสั่งบนเครื่องผู้ใช้ได้ ซึ่งถือว่าอันตรายมาก แต่ทาง Perplexity รีบออกมาปฏิเสธทันที บอกว่าข้อมูลนี้ “ไม่จริง” เพราะต้องเปิดโหมดนักพัฒนาและผู้ใช้ต้องยินยอมเองถึงจะทำได้ อย่างไรก็ตาม SquareX ยืนยันว่ามีการทดสอบซ้ำจากนักวิจัยภายนอกและพบว่าช่องโหว่นี้มีจริง ก่อนที่ Comet จะอัปเดตแก้ไขแบบเงียบ ๆ เรื่องนี้สะท้อนว่าการแข่งขันด้านเบราว์เซอร์ AI กำลังร้อนแรง และความปลอดภัยยังเป็นประเด็นใหญ่ที่ต้องจับตา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/perplexity-responds-to-comet-browser-vulnerability-claims-argues-fake-news 🧳 AI พลิกโฉมการจัดการค่าใช้จ่ายธุรกิจ การเบิกค่าใช้จ่ายและการเดินทางของพนักงานเคยเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่ตอนนี้ AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนเกม ระบบใหม่ช่วยให้พนักงานสามารถส่งค่าใช้จ่ายได้ทันที เช่นถ่ายใบเสร็จแล้วระบบบันทึกอัตโนมัติ ลดงานเอกสารและความผิดพลาด ฝั่งฝ่ายการเงินก็ได้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ สามารถตรวจสอบความเสี่ยงและควบคุมงบประมาณได้ดีกว่าเดิม จุดสำคัญคือ AI ไม่ได้แค่ทำงานอัตโนมัติ แต่ยังเรียนรู้พฤติกรรมและช่วยคาดการณ์ค่าใช้จ่ายล่วงหน้า ทำให้การจัดการค่าใช้จ่ายกลายเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ ไม่ใช่แค่ภาระงานอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/how-ai-is-turning-travel-and-expense-into-a-strategic-advantage 🌐 ยุโรปเสี่ยงเสียความได้เปรียบด้าน AI บทความนี้พูดถึงความท้าทายของยุโรปในการรักษาความได้เปรียบด้าน AI หากไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ปัจจุบันสหรัฐฯ และจีนกำลังลงทุนมหาศาลในระบบคลาวด์และศูนย์ข้อมูล ทำให้ยุโรปอาจเสียตำแหน่งผู้นำหากไม่เร่งพัฒนา การสร้างระบบที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวจึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจและรัฐบาลมั่นใจในการใช้ AI อย่างเต็มที่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/europes-ai-advantage-at-risk-without-secure-and-private-infrastructure 🧮 Quantum Computer กำลังจะมาเร็วเกินคาด มีการเตือนจาก CEO ของ Palo Alto Networks ว่า ภายในปี 2029 หรืออาจเร็วกว่านั้น รัฐที่ไม่เป็นมิตรอาจมี "Quantum Computer" ที่ทรงพลังพอจะทำลายระบบเข้ารหัสที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ได้ ซึ่งหมายความว่า firewall และอุปกรณ์ความปลอดภัยที่พึ่งพาการเข้ารหัสอาจต้องถูกเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด บริษัทจึงเตรียมออกผลิตภัณฑ์ "Quantum-safe" เพื่อรับมือ และยังชี้ว่าการผสมผสาน AI ใน browser ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการโจมตี ทำให้อนาคตของการป้องกันภัยไซเบอร์ต้องเข้มข้นกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/security-firm-ceo-thinks-nation-states-will-have-weaponized-quantum-computers-within-the-next-five-years 💻 Nvidia ปฏิเสธกระแส "AI Bubble" Jensen Huang CEO ของ Nvidia ออกมายืนยันว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับ AI ไม่ใช่ฟองสบู่ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานการคอมพิวเตอร์อย่างแท้จริง เขาอธิบายว่า GPU กำลังเข้ามาแทนที่ CPU ในงานที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูง และยังพูดถึงการเกิดขึ้นของ "Agentic AI" ที่สามารถคิดและทำงานเองได้โดยแทบไม่ต้องมีมนุษย์สั่ง เขามองว่านี่คือการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่การเก็งกำไรชั่วคราว 🔗 https://www.techradar.com/pro/we-see-something-very-different-nvidia-ceo-jensen-huang-dismisses-ai-bubble-talk-and-i-guess-he-should-know 🚗 ไฟรถยนต์ยุคใหม่: Pixel, Matrix, OLED เทคโนโลยีไฟรถยนต์พัฒนาไปไกลมาก โดยเฉพาะใน EV ที่ต้องการประหยัดพลังงาน ตอนนี้มีทั้ง pixel grille ที่สามารถแสดงข้อความหรือ emoji, matrix headlights ที่ปรับแสงอัตโนมัติไม่ให้แยงตาคนอื่น และ OLED taillights ที่บางและออกแบบได้อิสระมากขึ้น บางรุ่นถึงขั้นใช้ไฟหน้าเป็น "โปรเจคเตอร์" ฉายภาพนำทางหรือแม้แต่หนังกลางแปลงได้เลย! 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/pixel-arrays-matrix-headlights-oled-taillights-new-lighting-tech-is-bedazzling-evs 🎓 ChatGPT ฟรีสำหรับครู OpenAI เปิดตัว ChatGPT เวอร์ชันพิเศษสำหรับครู K–12 ในสหรัฐ ใช้งาน GPT-5.1 ได้ไม่จำกัด พร้อมฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์, สร้างภาพ, เชื่อมต่อกับ Google Drive และ Microsoft 365 ทั้งหมดนี้ฟรีจนถึงปี 2027 ระบบยังถูกออกแบบให้สอดคล้องกับกฎหมาย FERPA เพื่อปกป้องข้อมูลนักเรียน และช่วยครูวางแผนการสอน ทำงานร่วมกัน และสร้างบทเรียนได้ง่ายขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/free-chatgpt-is-coming-for-teachers-openai-looks-to-spread-influence-of-its-chatbot-into-schools 🎁 แอป Elfster ช่วยจัด Secret Santa ผู้เขียนเล่าว่าการแลกของขวัญในครอบครัวเคยยุ่งยาก แต่พอใช้แอป Elfster ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก แอปนี้ช่วยสุ่มจับชื่อ, ตั้งกติกา เช่นไม่ให้คู่รักจับกันเอง, สร้าง wish list และแชร์กับเพื่อนหรือครอบครัวได้ นอกจากนี้ยังมีไกด์ของขวัญตามเทรนด์ เช่น "TikTok Finds" หรือ "Gifts Under $10" ทำให้การเลือกของขวัญสนุกและไม่เครียดอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/computing/websites-apps/elfster 🚁 DJI เตรียมเปิดตัวโดรน 360 องศา มีข่าวลือว่า DJI กำลังจะเปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ที่สามารถถ่ายภาพและวิดีโอแบบ 360 องศาได้ หลังจากมีภาพหลุดออกมาอีกครั้ง ทำให้คาดการณ์ว่าอาจมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะเป็นการยกระดับการถ่ายทำทั้งงานภาพยนตร์และคอนเทนต์โซเชียล 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-first-360-degree-drone-leaks-again-and-an-official-launch-could-be-very-soon 📱 Galaxy S26 Ultra อาจได้แบตใหญ่ขึ้น มีข่าวลือเกี่ยวกับ Samsung Galaxy S26 Ultra ว่าจะมาพร้อมการอัปเกรดแบตเตอรี่ให้มีความจุสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าเดิม ถือเป็นการปรับปรุงที่สำคัญสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นนี้ที่ผู้ใช้คาดหวังเรื่องความทนทานและประสิทธิภาพ , 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-samsung-galaxy-s26-ultra-rumor-hints-at-a-battery-upgrade-for-the-premium-flagship-phone 🤖 รัสเซียตั้งทีมชาติ AI รัสเซียประกาศตั้ง "National AI Taskforce" เพื่อสร้างความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี โดยตั้งเป้าหมายให้มี AI และโดรนที่พัฒนาเองภายในประเทศภายในปี 2030 นี่ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพื่อแข่งขันกับมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีอื่น ๆ และลดการพึ่งพาต่างชาติ 🔗 https://www.techradar.com/pro/did-the-ai-war-just-get-one-step-closer-putin-confirms-russia-is-planning-its-own-national-ai-taskforce 📡 ศึก Router: TP-Link vs Netgear TP-Link ฟ้อง Netgear โดยกล่าวหาว่ามีการให้ข้อมูลที่ทำให้ TP-Link ดูเหมือนเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ และมีการโยงไปถึงการโจมตีไซเบอร์ที่สนับสนุนโดยรัฐ ซึ่ง TP-Link มองว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงและสร้างความเข้าใจผิดในตลาด 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-router-wars-are-kicking-off-tp-link-says-smear-campaign-by-netgear-made-it-seem-to-be-a-us-national-security-risk 📊 AI ต้องบาลานซ์: นวัตกรรม vs ความเสี่ยง บทความนี้พูดถึงการสร้างสมดุลระหว่างการลงทุนใน AI กับต้นทุน ความเสี่ยง และผลตอบแทน (ROI) โดยชี้ว่าบริษัทต่าง ๆ ต้องหาวิธีใช้ AI อย่างชาญฉลาด ไม่ใช่แค่เพื่อความล้ำสมัย แต่ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าและความปลอดภัยด้วย ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/harmonizing-ai-innovation-with-cost-risk-and-roi
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 349 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวธุรกิจ: Tim Cook ยังไม่วางมือ

    Tim Cook จะยังคงดำรงตำแหน่ง CEO ของ Apple ไปจนถึงอย่างน้อยปี 2028 แต่ในขณะเดียวกัน Apple กำลังเผชิญกับการสูญเสียบุคลากรสำคัญจำนวนมาก โดยเฉพาะทีมออกแบบ iPhone ที่ย้ายไปทำงานกับ OpenAI และสตาร์ทอัพของ Jony Ive

    แม้ก่อนหน้านี้มีรายงานจาก Reuters และ Financial Times ว่า Tim Cook อาจจะก้าวลงจากตำแหน่งในปี 2026 แต่ล่าสุด Mark Gurman จาก Bloomberg ยืนยันว่า Cook จะยังคงดำรงตำแหน่ง CEO ของ Apple อย่างน้อยจนถึงสิ้นสุดวาระประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปัจจุบัน ซึ่งหมายถึง ปี 2028 โดยตอนนั้น Cook จะมีอายุครบ 70 ปี และได้กลายเป็น CEO ที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple

    ผู้สืบทอดที่ถูกจับตามอง
    แม้ Cook จะยังไม่วางมือ แต่บอร์ดของ Apple ได้เริ่มกระบวนการค้นหาผู้สืบทอดแล้ว โดยมีชื่อของ John Ternus – VP of Hardware Engineering ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งที่จะขึ้นมาแทนที่ Cook เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

    การสูญเสียบุคลากรสำคัญ
    ในขณะที่ Cook ยังอยู่ในตำแหน่ง Apple กลับเผชิญกับปัญหาใหญ่คือ การสูญเสียบุคลากรระดับสูง โดยเฉพาะทีมออกแบบ iPhone ที่ทยอยลาออกไปทำงานกับ OpenAI และสตาร์ทอัพของ Jony Ive ซึ่งถูก OpenAI ซื้อกิจการไปเพื่อพัฒนา “iPhone Killer” แบบไร้หน้าจอ ล่าสุดมีการยืนยันว่า OpenAI ได้จ้างวิศวกรจาก Apple ไปแล้วกว่า 40 คนภายในเดือนเดียว รวมถึงบุคคลสำคัญอย่าง Matt Theobald (ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบการผลิต) และ Cyrus Daniel Irani (หัวหน้าด้าน human interface design)

    ผลกระทบต่ออนาคตของ Apple
    การสูญเสียบุคลากรเช่นนี้อาจกระทบต่อความสามารถในการสร้างนวัตกรรมของ Apple ในระยะยาว แม้ Cook จะยังคงเป็นผู้นำ แต่การรักษาและดึงดูดบุคลากรใหม่ ๆ จะเป็นความท้าทายสำคัญ หาก Apple ไม่สามารถหยุดการ “talent bleed” ได้ อาจทำให้บริษัทเสียเปรียบในการแข่งขันกับคู่แข่งที่กำลังรุกหนักในตลาด AI และอุปกรณ์ใหม่

    สรุปสาระสำคัญ
    Tim Cook จะยังคงดำรงตำแหน่ง CEO จนถึงอย่างน้อยปี 2028
    กลายเป็น CEO ที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของ Apple

    ผู้สืบทอดที่ถูกจับตามอง
    John Ternus (VP Hardware Engineering) ถูกมองว่าเป็นตัวเต็ง

    Apple สูญเสียบุคลากรสำคัญ
    ทีมออกแบบ iPhone ย้ายไปทำงานกับ OpenAI และ Jony Ive
    OpenAI จ้างวิศวกรจาก Apple ไปกว่า 40 คนในเดือนเดียว

    ผลกระทบต่ออนาคตของ Apple
    ความท้าทายในการรักษาและดึงดูดบุคลากรใหม่
    อาจเสียเปรียบในการแข่งขันด้าน AI และอุปกรณ์ใหม่

    คำเตือนด้านข้อมูล
    การสูญเสียบุคลากรต่อเนื่องอาจทำให้ Apple ขาดนวัตกรรม
    หากไม่สามารถหยุด talent bleed ได้ อาจกระทบต่อความแข็งแกร่งในตลาดโลก

    https://wccftech.com/tim-cook-isnt-going-away-anytime-soon-but-apples-talent-is/
    🍏 ข่าวธุรกิจ: Tim Cook ยังไม่วางมือ Tim Cook จะยังคงดำรงตำแหน่ง CEO ของ Apple ไปจนถึงอย่างน้อยปี 2028 แต่ในขณะเดียวกัน Apple กำลังเผชิญกับการสูญเสียบุคลากรสำคัญจำนวนมาก โดยเฉพาะทีมออกแบบ iPhone ที่ย้ายไปทำงานกับ OpenAI และสตาร์ทอัพของ Jony Ive แม้ก่อนหน้านี้มีรายงานจาก Reuters และ Financial Times ว่า Tim Cook อาจจะก้าวลงจากตำแหน่งในปี 2026 แต่ล่าสุด Mark Gurman จาก Bloomberg ยืนยันว่า Cook จะยังคงดำรงตำแหน่ง CEO ของ Apple อย่างน้อยจนถึงสิ้นสุดวาระประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปัจจุบัน ซึ่งหมายถึง ปี 2028 โดยตอนนั้น Cook จะมีอายุครบ 70 ปี และได้กลายเป็น CEO ที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple 👔 ผู้สืบทอดที่ถูกจับตามอง แม้ Cook จะยังไม่วางมือ แต่บอร์ดของ Apple ได้เริ่มกระบวนการค้นหาผู้สืบทอดแล้ว โดยมีชื่อของ John Ternus – VP of Hardware Engineering ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งที่จะขึ้นมาแทนที่ Cook เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม 🚪 การสูญเสียบุคลากรสำคัญ ในขณะที่ Cook ยังอยู่ในตำแหน่ง Apple กลับเผชิญกับปัญหาใหญ่คือ การสูญเสียบุคลากรระดับสูง โดยเฉพาะทีมออกแบบ iPhone ที่ทยอยลาออกไปทำงานกับ OpenAI และสตาร์ทอัพของ Jony Ive ซึ่งถูก OpenAI ซื้อกิจการไปเพื่อพัฒนา “iPhone Killer” แบบไร้หน้าจอ ล่าสุดมีการยืนยันว่า OpenAI ได้จ้างวิศวกรจาก Apple ไปแล้วกว่า 40 คนภายในเดือนเดียว รวมถึงบุคคลสำคัญอย่าง Matt Theobald (ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบการผลิต) และ Cyrus Daniel Irani (หัวหน้าด้าน human interface design) 🌍 ผลกระทบต่ออนาคตของ Apple การสูญเสียบุคลากรเช่นนี้อาจกระทบต่อความสามารถในการสร้างนวัตกรรมของ Apple ในระยะยาว แม้ Cook จะยังคงเป็นผู้นำ แต่การรักษาและดึงดูดบุคลากรใหม่ ๆ จะเป็นความท้าทายสำคัญ หาก Apple ไม่สามารถหยุดการ “talent bleed” ได้ อาจทำให้บริษัทเสียเปรียบในการแข่งขันกับคู่แข่งที่กำลังรุกหนักในตลาด AI และอุปกรณ์ใหม่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Tim Cook จะยังคงดำรงตำแหน่ง CEO จนถึงอย่างน้อยปี 2028 ➡️ กลายเป็น CEO ที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของ Apple ✅ ผู้สืบทอดที่ถูกจับตามอง ➡️ John Ternus (VP Hardware Engineering) ถูกมองว่าเป็นตัวเต็ง ✅ Apple สูญเสียบุคลากรสำคัญ ➡️ ทีมออกแบบ iPhone ย้ายไปทำงานกับ OpenAI และ Jony Ive ➡️ OpenAI จ้างวิศวกรจาก Apple ไปกว่า 40 คนในเดือนเดียว ✅ ผลกระทบต่ออนาคตของ Apple ➡️ ความท้าทายในการรักษาและดึงดูดบุคลากรใหม่ ➡️ อาจเสียเปรียบในการแข่งขันด้าน AI และอุปกรณ์ใหม่ ‼️ คำเตือนด้านข้อมูล ⛔ การสูญเสียบุคลากรต่อเนื่องอาจทำให้ Apple ขาดนวัตกรรม ⛔ หากไม่สามารถหยุด talent bleed ได้ อาจกระทบต่อความแข็งแกร่งในตลาดโลก https://wccftech.com/tim-cook-isnt-going-away-anytime-soon-but-apples-talent-is/
    WCCFTECH.COM
    Tim Cook Isn't Going Away Anytime Soon, But Apple's Talent Is
    According to Gurman, Tim Cook might stick around until 2028, and OpenAI has hired around 40 Apple engineers in the last month or so alone!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับตายุบสภา! “อนุทิน” สั่งสมาชิกพรรครอฟังสัญญาณ 12 ธ.ค., หลังประชุมใหญ่วิสามัญเลือกคณะกรรมการสรรหา เตรียมพร้อมทำไพรมารีโหวต รองรับการเลือกตั้งที่อาจมาถึงเร็วกว่าคาด ขณะเดียวกันยังขับเคลื่อนประเด็นประชามติแก้รัฐธรรมนูญ และเตรียมขอเปิดประชุมวิสามัญวันที่ 10–11 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000112046

    #การเมืองไทย #อนุทิน #ภูมิใจไทย #เลือกตั้ง #News1live #News1
    จับตายุบสภา! “อนุทิน” สั่งสมาชิกพรรครอฟังสัญญาณ 12 ธ.ค., หลังประชุมใหญ่วิสามัญเลือกคณะกรรมการสรรหา เตรียมพร้อมทำไพรมารีโหวต รองรับการเลือกตั้งที่อาจมาถึงเร็วกว่าคาด ขณะเดียวกันยังขับเคลื่อนประเด็นประชามติแก้รัฐธรรมนูญ และเตรียมขอเปิดประชุมวิสามัญวันที่ 10–11 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 2 • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000112046 • #การเมืองไทย #อนุทิน #ภูมิใจไทย #เลือกตั้ง #News1live #News1
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 1 รีวิว
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 2
    จะเท่าเทียมชาติตะวันตกในสมัยศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นยุคล่าอาณานิคมของยุโรป หมายความว่าญี่ปุ่นก็ต้องฝึกหัด เป็นนักล่ากับเขาด้วย จะนั่งตกปลา แต่งสวน มองก้อนหิน อย่างเดิมๆ มันจะไปล่าอะไรได้ แล้วจะไปเริ่มล่าใครดีล่ะ ก็ต้องเริ่มทดสอบกับพวกอยู่ใกล้ๆตัว แล้ว เกาหลี ที่อยู่คนละฟากฝั่งทะเล ก็เป็นเป้าหมายแรก สำหรับนักล่าหน้าใหม่ จากรักสันโดษ เปลี่ยนไปสร้างสันดานใหม่
    ปี ค.ศ.1876 เกาหลี ยังทำตัวตามสบาย ไม่คิดฝันว่าจะไปผ่าตัดเปลี่ยนหน้าใคร จะคิดปฏิรูปประเทศตามก้นตะวันตกแบบญี่ปุ่น ยิ่งนึกไม่ออกใหญ่ และก็ (ยัง) ไม่เป็นเป้าหมายที่ตะวันตกสาระพัดชาติเล็งจนน้ำลายหก แบบที่ทำกับจีน แต่ที่สำคัญ เกาหลี อุดมไปด้วยเหล็ก และถ่านหิน ญี่ปุ่นคิดว่า ถ้าจะเปลี่ยนประเทศจากกสิกรรม เป็นอุตสาหกรรม มันก็ต้องหาทรัพยากรพวกนี้ไว้ เพราะญี่ปุ่นเอง มีแต่ปลากับสาหร่าย พวกแร่เหล็ก ถ่านหินหาไม่ค่อยเจอ คิดแล้ว เป้าซ้อมการล่า ชื่อเกาหลี นี่น่าจะเหมาะเจาะกว่าเพื่อน
    ปัญหาอยู่ที่ว่า เกาหลี เป็นเมืองที่ต้องส่งเครื่องบรรณาการ หรือ ส่งส่วยให้กับจีนทุกปี กษัตริย์เกาหลี ต้องแต่งตัวเต็มยศ ไปโค้งคำนับคารวะฮ่องเต้จีน ญี่ปุ่นรู้เรื่องนี้ดี แต่ก็เดินหน้า ไม่ลองไม่รู้ ฉวยโอกาสตอนจีนกำลังมึน จากการถูกกลุ่มนักล่าตะวันตก รุมสกรัม นั่นแหละเหมาะที่สุด แล้วญี่ปุ่นก็ยกกองทัพไปบุกเกาหลี แล้วก็บังคับให้เกาหลีทำข้อตกลง ยกเลิกอำนาจจีน ที่มีเหนือเกาหลี เกาหลี ตกใจ เลย ตกลง นับว่า นักล่าหน้าใหม่สอบผ่าน เรียนได้เร็ว สงสัยมีครูดี
    ปี ค.ศ.1894 เกาหลีเกิดตะลุมบอนกันเอง จีนยังมองเกาหลี เป็นเด็กในปกครอง จึงส่งกองกำลังมาห้ามมวย ส่วนญี่ปุ่น นักล่าหน้าใหม่ เห็นเกาหลีเหยื่อหมาดๆ มีเรื่องวุ่นวาย ก็ต้องโชว์มาดลูกพี่ ส่งกองกำลังไปเกาหลีด้วยเหมือนกัน เลยจ้ะเอ๋กับกองกำลังของจีน ก็เป็นเรื่องธรรมดา ที่กองกำลังของทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องแสดงความเก่งกล้า ให้ปรากฏแก่สายตาของชาวเกาหลี ก็เลยเป็นสาเหตุของสงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 1 ในปี ค.ศ.1894-1895
    ผลการรบปรากฏว่า จีน แพ้ ญี่ปุ่น อย่างหมดรูป จีนถอยทัพหงอยๆ ออกไปจากเกาหลี แต่ญี่ปุ่นไม่ถอยกลับ ยิ่งฮึกเหิมกว่าเดิม ล่าครั้งแรกก็ได้ผลแล้ว แถม นายเก่าของเหยื่อ ยังมาแพ้ต่อหน้าลูกกระเป๋งแบบไม่ เหลือรัศมี ญี่ปุ่นเลยจับมือเกาหลี ทำสัญญาใหม่ คราวนี้เอาให้ชัดๆ เกาหลี เจ้าตกเป็นเมืองขึ้นของเรา ญี่ปุ่น แล้วนะ ส่วย บรรณาการอะไร ที่เคยส่งให้แก่จีน ก็จงเลิกส่งเสีย และส่งมาให้เราแทน นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยัง ยึดหมู่เกาะต่างๆ ที่เป็นของจีน ติดไม้ติดมือไปด้วย เกาะสำคัญที่ติดมือมาก็คือ เกาะไต้หวัน นั่นแหละ
    แค่นั้น ยังไม่หน่ำใจ ญี่ปุ่นไปยึดเอาแหลมเลี่ยวตง Liaodong Penninsula ที่บรรดาชาติตะวันตก ต่างก็เล็งจะฮุบมาจากจีน แต่จีนดันเอาแหลมเลี่ยวตง ให้รัสเซียเช่าไปนานแล้ว คราวนี้ก็สนุกซิครับ ญี่ปุ่นยิ่งเบ่งพองขึ้นไปใหญ่ เกาหลีและจีน ได้เห็นอานุภาพกองทัพของญี่ปุ่นรุ่นใหม่แล้ว คราวนี้ อิทธิพลของรัสเซียในเกาหลี และที่แมนจูเรีย กำลังจะถูกท้าทายเป็นลำดับต่อไป สันดานใหม่นี่มันโตไวจัง
    แล้วรัสเซียก็ถูกญี่ปุ่นท้าทายจริงๆ รัสเซียเป็นฝ่ายแพ้อย่างหมดท่า อีกราย ในการรบกับญี่ปุ่น Russo-Japan War ในปี ค.ศ.1904-1905 ทำให้ญี่ปุ่นขึ้นชั้น เป็นชาติมหาอำนาจทันที ญี่ปุ่นยึดแหลมเลี่ยวตง หรือแคว้นกวางตุ้ง นั่นแหละ ที่รัสเซียเช่ามาจากจีน แถมยึดลามไปเอาสมบัตืของแมนจูเรีย คือทางรถไฟ สายแมนจูเรียอีกด้วย อืม..เรื่องทางรถไฟมาอีกแล้ว จำไว้นะครับ สมัยก่อน ทางรถไฟคือเส้นเลือดใหญ่ของประเทศ
    ลำพังญี่ปุ่นเอง เป็นนักล่าหน้าใหม่ ไม่น่าจะขวัญกล้าสามารถ เดินหน้าไปท้ารบรัสเซีย ที่รุ่นใหญ่กว่าแยะนัก และรบชนะเสียด้วย ถ้ายังจำกันได้ (สำหรับท่าน ที่อ่านนิทานเรื่อง ต้มข้ามศตวรรษมาแล้ว) ญี่ปุ่น มีคนชักใย และช่วยหาทุนก้อนมหึมาให้ไปรบรัสเซีย เรื่องนี้ ลืมไม่ได้ เดี๋ยวจะเข้าใจญี่ปุ่นไขว้เข้ว เหมือนที่ญี่ปุ่นเอง อาจจะกำลังเขว้อยู่
    หลังสงครามญี่ปุ่นรัสเซียจบลง ญี่ปุ่น ประกาศผนวกเกาหลี เป็นของตัวในปี ค.ศ.1910 ญี่ปุ่นชักเชื่อว่า แนวทางปฏิรูปประเทศ ที่เอาอย่างตะวันตก ขยายกองทัพเพื่อไปล่าเหยื่อ นี่ มันถูกทาง และมันอร่อยถูกปากจริงๆ
    สงครามโลกครั้งที่ 1 ญี่ปุ่นไปเข้าร่วมสงครามกับเขาด้วย โดยอยู่ฝ่ายพวกอังกฤษ Allied Powers ไม่ได้ไปรบอะไรกับเขาในยุโรปหรอก แค่ เตรียมไล่ เก็บเล็กเก็บน้อย พวกอาณานิคมของเยอรมัน ที่อยู่แถวแปซิฟิก ญี่ปุ่นกำลังเดินตามรอยตีนนักล่ารุ่นใหญ่ อย่างขมักเขม้น และดูเหมือนนักล่ารุ่นใหญ่ ก็ไม่ได้ขัดขวาง หรือขัดคอ เพราะกำลังไม่ว่างมือว่างปาก
    ญี่ปุ่นเลยกำแหงได้ใจ ส่งหนังสือเรียกร้อง 21 ข้อ ไปถึงจีน ที่เรียกว่า The Twenty-One Demands ในปี ค.ศ.1915 ข้อเรียกร้องที่เป็นที่ฮือฮา คือ ญี่ปุ่นต้องการให้จีนส่งมอบการครอบครอง ท่าเรือ ทางรถไฟ เหมืองแร่ ฯลฯ ที่เป็นของเยอรมัน หรือที่เยอรมันเช่าไปจากจีน ให้ญี่ปุ่น แต่ข้อเรียกร้องสุดท้ายของญี่ปุ น นี่สุดยอดที่สุด คือ ให้จีน แต่งตั้งญี่ปุ่นเป็น ที่ปรึกษา การบริหารบ้านเมือง ทั้งในด้านการทหาร การค้า การปกครอง และ ขอเป็นตำรวจร่วมด้วย สรุป แปลความหนังสือเรียกร้อง 21ข้อ สั้นๆของญี่ปุ่น ถึงจีน ว่า กูจะกินมึงแล้วนะ นั่นแหละ มีปัญหาไหม
    จีนเอง กำลังมีเรื่องวุ่นวาย หลังจาก ซุนยัดเซ็น ทำการปฏิวัติล้มราชวงศ์ชิง เมื่อปี ค.ศ.1911 ปฏิวัติสำเร็จ แต่ปกครองไม่ได้ จีนแบ่งเป็นก๊กเป็นพวก แย่งชิงอำนาจ หักเหลี่ยม หักหลังกันเองอยู่หลายปี มันเป็นจังหวะเหมาะแก่การ ปีนบ้านเข้าไปตีหัวเขา ระหว่างที่เขากำลังชุลมุนกัน จีนหมดทางสู้ญี่ปุ่น ทำท่าจะยอม แต่จีนเป็นเหยื่อรายใหญ่ คิดว่า นักล่ารุ่นใหญ่ เขาจะปล่อยให้นักล่าหน้าใหม่ ฉวยโอกาสคาบเอาไปง่ายๆหรือ การแย่งชามข้าวกับแบบเอิกเกริก ก็สามารถทำใ้ห้ชามกลิ้งคว่ำข้าวหก พากันอดแดกกันหมดได้ ขบวนการขัดคอ ขวางทาง ญี่ปุ่น จึงมาจากทุกทิศ ข้อเรียกร้อง 21 ข้อ แบบด้านๆ ของญี่ปุ่น
    ก็เลยฝ่อไปดื้อๆ
    แล้วบรรยากาศความเป็นมิตร ก็เรื่มเปลี่ยน เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 จบไม่เหมือนแผนที่วางไว้ หลายประเทศในยุโรป จบแบบช้ำชอกฉิบหาย แม้ว่าจะเป็นฝ่ายชนะสงคราม เช่น อังกฤษตัวตั้งตัวตี หรือฝรั่งเศส หรือเบลเยี่ยม ที่อ้างว่าเป็นกลาง แต่ญี่ปุ่น มาร่วมสงครามแบบเสมอนอก นอกจากไม่ช้ำ เพราะไม่ได้ไปร่วมรบกับเขา แต่ดันฉวยโอกาส ไปอมของคนอื่นเขามาเสียเต็มปาก แบบนี้ ลูกพี่นักล่ารุ่นใหญ่ก็คงไม่เอ็นดูน้องใหม่เท่าไหร่ แม้จะเคยบอกรับให้เป็นสมาชิกใหม่อนาคตรุ่ง แต่เรื่องตัดหน้าคาบเหยื่อไปนี่ มันยอมให้กันไม่ได้ มันเป็นเรื่องเสียทั้งหน้า เสียทั้งเหยื่อ
    หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง ฝ่ายนิยมการสร้างกองทัพ เป็นผู้มีอำนาจบริหารญี่ปุ่น ญี่ปุ่นจึงยิ่งเหมือนว่าวติดลมบน หมายมั่นจะแผ่อำนาจของตน ไปครอบคลุมจีนให้ได้ เพราะช่วงระหว่างสงครามนั้น จีนกำลังอ่อนแอ เหมาะสำหรับที่จะงับทีละคำๆ แต่หลังจากสงครามโลกจบ จีนที่แตกเป็นหลายก๊ก กลับมีการเคลื่อนไหว โดยกลุ่มก๊กมินตั๋ง รวมตัวกันได้ และยึดส่วนใต้ของจีน เป็นเขตของตัว ตั้งรัฐบาลฝ่าย Nationalist government และตั้งเมืองนานกิง Nanking หรือบ้างก็เรียก นานจิง Nanjing เป็นเมืองหลวงของตัว ส่วนฝ่ายฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสม์ ขึ้นไปยึดทางตะวันออกเฉียงเหนือ แม้ระหว่างก๊ก จะยังมีสู้กันเองบ้าง แต่ก็เริ่มมีทั้งกวาดล้างและกวาดมารวมกัน ปี ค.ศ. 1928 จีนจึงเริ่มกลับมาแข็งแรงขึ้น
    ญี่ปุ่นจับตาดูการเคลื่อนไหวของจีนอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เห็นจีนกำลังแก้แหที่ถูกโยนมาคลุมประเทศอย่างน่าสนใจ นี่ถ้าจีนฟื้น ทางรถไฟแมนจูเรีย และแคว้นกวางตุ้ง ที่เราไปจิกมาก็น่าจะไม่ปลอดภัย ญี่ปุ่นพยายามมาเกือบ 50 ปี ที่จะไม่ต้องมีชะตากรรมอย่างจีน มาบัดนี้ จีนดันจะฟื้น ญี่ปุ่นทนไม่ไหว รีบเปลี่ยนยุทธศาสตร์
    ปี ค.ศ.1931 ญี่ปุ่น ตัดสินใจบุกแมนจูเรีย เพื่อดูแลผลประโยชน์ (ที่ตัวเองไปยึดมา) ในแมนจูเรีย และกวางตุ้ง ญี่ปุ่นตั้งรัฐแมนจูกัวขึ้นมา เหมือนเป็นรัฐเถื่อน เพราะไม่มีใครรับรอง ญี่ปุ่นไม่มีพวกสนับสนุนในเรื่องนี้ แถมทำให้จีนหันกลับมาสู้กับญี่ปุ่นต่อ การปะทะกัน เริ่มกลับมาใหม่
    ในที่สุด ญี่ปุ่นก็ยั่วยุสำเร็จ สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่นรอบ 2 ที่ สะพาน มาร์โคโปโลก็เกิดขึ้น ในปีค.ศ.1937 สงครามระหว่างจีน กับญี่ปุ่นครั้งนี้ ไม่ได้จบเร็วอย่าง สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่นครั้งที่ 1 ครั้งนี้ พวกก๊กต่างๆ ของจีนสงบศึกกันเองชั่วคราว จับมือกันสู้ยิบตากับญี่ปุ่น แต่ไม่ยอมสงบศึกกับญี่ปุ่น ที่เสนอเงื่อนไข หลอกให้จีนรับ เพื่อที่จะให้จีนอดตาย การรบยือเยื้อไปถึงปี ค.ศ.1941 และในที่สุด ก็เลิกรบกันไป เพราะญี่ปุ่น เปลี่ยนไปรบสนามใหญ่เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2
    แต่การรบกับจีนครั้งนี้ แม้จะเหมือนชนะ แต่ญี่ปุ่นก็ยับเยิน มันเป็นการประเมินผิด ของญี่ปุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ
    การรบยืดเยื้อกับจีนครั้งนี้ ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่น และกองทัพระเนระนาด ยาง เหล็ก น้ำมัน ร่อยหรอ และญี่ปุ่นไม่มีเพื่อนเหลือเลยในภูมืภาค นอกจากนั้น ในสายตาของนักล่านานาชาติ ยังรุมกันประณามญี่ปุ่นอีกว่า เป็นนักรุกราน ไม่มีใครคิดยื่นมือมาช่วยญี่ปุ่นรบจีน ภาพพจน์ของญี่ปุ่น กลายเป็นชาติโหดร้าย ชอบรุกราน และในที่สุดอเมริกาก็ประกาศคว่ำบาตรญี่ปุ่นด้านการค้า
    มาถึงตอนนี้ เหมือนญี่ปุ่นตัดสินใจผิดพลาด สู้อุตส่าห์ปฏิรูปประเทศ เดินตามหมากฝรั่งเพี้ยบเลย แต่ทำไม พอญี่ปุ่นทำเหมือนตะวันตก แต่ตะวันตกกลับไม่พอใจ เอะ จะเอายังไงกันแน่
    ญี่ปุ่นเดืนตามก้นตะวันตกมาถึงกลางทาง แต่ญี่ปุ่นไม่มีทรัพยากรเหลือแล้ว มีแต่จะต้องเดินหน้าไปเอาของคนอื่น ญี่ปุ่นมีของคนอื่นให้เลือก 2 แห่ง แห่งหนึ่ง คือ ขึ้นเหนือไปไซบีเรีย ไปเอาของรัสเซีย อีกแห่งคือ ลงใต้ มาเอาแถบแปซิฟิก แต่ แปซืฟิกใต้ ส่วนใหญ่ ก็เป็น อาณานิคม ของอังกฤษ ในที่สุด ญี่ปุ่นก็เลือกลงใต้บุกแปซิฟิก !?!
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    14 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 2 จะเท่าเทียมชาติตะวันตกในสมัยศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นยุคล่าอาณานิคมของยุโรป หมายความว่าญี่ปุ่นก็ต้องฝึกหัด เป็นนักล่ากับเขาด้วย จะนั่งตกปลา แต่งสวน มองก้อนหิน อย่างเดิมๆ มันจะไปล่าอะไรได้ แล้วจะไปเริ่มล่าใครดีล่ะ ก็ต้องเริ่มทดสอบกับพวกอยู่ใกล้ๆตัว แล้ว เกาหลี ที่อยู่คนละฟากฝั่งทะเล ก็เป็นเป้าหมายแรก สำหรับนักล่าหน้าใหม่ จากรักสันโดษ เปลี่ยนไปสร้างสันดานใหม่ ปี ค.ศ.1876 เกาหลี ยังทำตัวตามสบาย ไม่คิดฝันว่าจะไปผ่าตัดเปลี่ยนหน้าใคร จะคิดปฏิรูปประเทศตามก้นตะวันตกแบบญี่ปุ่น ยิ่งนึกไม่ออกใหญ่ และก็ (ยัง) ไม่เป็นเป้าหมายที่ตะวันตกสาระพัดชาติเล็งจนน้ำลายหก แบบที่ทำกับจีน แต่ที่สำคัญ เกาหลี อุดมไปด้วยเหล็ก และถ่านหิน ญี่ปุ่นคิดว่า ถ้าจะเปลี่ยนประเทศจากกสิกรรม เป็นอุตสาหกรรม มันก็ต้องหาทรัพยากรพวกนี้ไว้ เพราะญี่ปุ่นเอง มีแต่ปลากับสาหร่าย พวกแร่เหล็ก ถ่านหินหาไม่ค่อยเจอ คิดแล้ว เป้าซ้อมการล่า ชื่อเกาหลี นี่น่าจะเหมาะเจาะกว่าเพื่อน ปัญหาอยู่ที่ว่า เกาหลี เป็นเมืองที่ต้องส่งเครื่องบรรณาการ หรือ ส่งส่วยให้กับจีนทุกปี กษัตริย์เกาหลี ต้องแต่งตัวเต็มยศ ไปโค้งคำนับคารวะฮ่องเต้จีน ญี่ปุ่นรู้เรื่องนี้ดี แต่ก็เดินหน้า ไม่ลองไม่รู้ ฉวยโอกาสตอนจีนกำลังมึน จากการถูกกลุ่มนักล่าตะวันตก รุมสกรัม นั่นแหละเหมาะที่สุด แล้วญี่ปุ่นก็ยกกองทัพไปบุกเกาหลี แล้วก็บังคับให้เกาหลีทำข้อตกลง ยกเลิกอำนาจจีน ที่มีเหนือเกาหลี เกาหลี ตกใจ เลย ตกลง นับว่า นักล่าหน้าใหม่สอบผ่าน เรียนได้เร็ว สงสัยมีครูดี ปี ค.ศ.1894 เกาหลีเกิดตะลุมบอนกันเอง จีนยังมองเกาหลี เป็นเด็กในปกครอง จึงส่งกองกำลังมาห้ามมวย ส่วนญี่ปุ่น นักล่าหน้าใหม่ เห็นเกาหลีเหยื่อหมาดๆ มีเรื่องวุ่นวาย ก็ต้องโชว์มาดลูกพี่ ส่งกองกำลังไปเกาหลีด้วยเหมือนกัน เลยจ้ะเอ๋กับกองกำลังของจีน ก็เป็นเรื่องธรรมดา ที่กองกำลังของทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องแสดงความเก่งกล้า ให้ปรากฏแก่สายตาของชาวเกาหลี ก็เลยเป็นสาเหตุของสงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 1 ในปี ค.ศ.1894-1895 ผลการรบปรากฏว่า จีน แพ้ ญี่ปุ่น อย่างหมดรูป จีนถอยทัพหงอยๆ ออกไปจากเกาหลี แต่ญี่ปุ่นไม่ถอยกลับ ยิ่งฮึกเหิมกว่าเดิม ล่าครั้งแรกก็ได้ผลแล้ว แถม นายเก่าของเหยื่อ ยังมาแพ้ต่อหน้าลูกกระเป๋งแบบไม่ เหลือรัศมี ญี่ปุ่นเลยจับมือเกาหลี ทำสัญญาใหม่ คราวนี้เอาให้ชัดๆ เกาหลี เจ้าตกเป็นเมืองขึ้นของเรา ญี่ปุ่น แล้วนะ ส่วย บรรณาการอะไร ที่เคยส่งให้แก่จีน ก็จงเลิกส่งเสีย และส่งมาให้เราแทน นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยัง ยึดหมู่เกาะต่างๆ ที่เป็นของจีน ติดไม้ติดมือไปด้วย เกาะสำคัญที่ติดมือมาก็คือ เกาะไต้หวัน นั่นแหละ แค่นั้น ยังไม่หน่ำใจ ญี่ปุ่นไปยึดเอาแหลมเลี่ยวตง Liaodong Penninsula ที่บรรดาชาติตะวันตก ต่างก็เล็งจะฮุบมาจากจีน แต่จีนดันเอาแหลมเลี่ยวตง ให้รัสเซียเช่าไปนานแล้ว คราวนี้ก็สนุกซิครับ ญี่ปุ่นยิ่งเบ่งพองขึ้นไปใหญ่ เกาหลีและจีน ได้เห็นอานุภาพกองทัพของญี่ปุ่นรุ่นใหม่แล้ว คราวนี้ อิทธิพลของรัสเซียในเกาหลี และที่แมนจูเรีย กำลังจะถูกท้าทายเป็นลำดับต่อไป สันดานใหม่นี่มันโตไวจัง แล้วรัสเซียก็ถูกญี่ปุ่นท้าทายจริงๆ รัสเซียเป็นฝ่ายแพ้อย่างหมดท่า อีกราย ในการรบกับญี่ปุ่น Russo-Japan War ในปี ค.ศ.1904-1905 ทำให้ญี่ปุ่นขึ้นชั้น เป็นชาติมหาอำนาจทันที ญี่ปุ่นยึดแหลมเลี่ยวตง หรือแคว้นกวางตุ้ง นั่นแหละ ที่รัสเซียเช่ามาจากจีน แถมยึดลามไปเอาสมบัตืของแมนจูเรีย คือทางรถไฟ สายแมนจูเรียอีกด้วย อืม..เรื่องทางรถไฟมาอีกแล้ว จำไว้นะครับ สมัยก่อน ทางรถไฟคือเส้นเลือดใหญ่ของประเทศ ลำพังญี่ปุ่นเอง เป็นนักล่าหน้าใหม่ ไม่น่าจะขวัญกล้าสามารถ เดินหน้าไปท้ารบรัสเซีย ที่รุ่นใหญ่กว่าแยะนัก และรบชนะเสียด้วย ถ้ายังจำกันได้ (สำหรับท่าน ที่อ่านนิทานเรื่อง ต้มข้ามศตวรรษมาแล้ว) ญี่ปุ่น มีคนชักใย และช่วยหาทุนก้อนมหึมาให้ไปรบรัสเซีย เรื่องนี้ ลืมไม่ได้ เดี๋ยวจะเข้าใจญี่ปุ่นไขว้เข้ว เหมือนที่ญี่ปุ่นเอง อาจจะกำลังเขว้อยู่ หลังสงครามญี่ปุ่นรัสเซียจบลง ญี่ปุ่น ประกาศผนวกเกาหลี เป็นของตัวในปี ค.ศ.1910 ญี่ปุ่นชักเชื่อว่า แนวทางปฏิรูปประเทศ ที่เอาอย่างตะวันตก ขยายกองทัพเพื่อไปล่าเหยื่อ นี่ มันถูกทาง และมันอร่อยถูกปากจริงๆ สงครามโลกครั้งที่ 1 ญี่ปุ่นไปเข้าร่วมสงครามกับเขาด้วย โดยอยู่ฝ่ายพวกอังกฤษ Allied Powers ไม่ได้ไปรบอะไรกับเขาในยุโรปหรอก แค่ เตรียมไล่ เก็บเล็กเก็บน้อย พวกอาณานิคมของเยอรมัน ที่อยู่แถวแปซิฟิก ญี่ปุ่นกำลังเดินตามรอยตีนนักล่ารุ่นใหญ่ อย่างขมักเขม้น และดูเหมือนนักล่ารุ่นใหญ่ ก็ไม่ได้ขัดขวาง หรือขัดคอ เพราะกำลังไม่ว่างมือว่างปาก ญี่ปุ่นเลยกำแหงได้ใจ ส่งหนังสือเรียกร้อง 21 ข้อ ไปถึงจีน ที่เรียกว่า The Twenty-One Demands ในปี ค.ศ.1915 ข้อเรียกร้องที่เป็นที่ฮือฮา คือ ญี่ปุ่นต้องการให้จีนส่งมอบการครอบครอง ท่าเรือ ทางรถไฟ เหมืองแร่ ฯลฯ ที่เป็นของเยอรมัน หรือที่เยอรมันเช่าไปจากจีน ให้ญี่ปุ่น แต่ข้อเรียกร้องสุดท้ายของญี่ปุ น นี่สุดยอดที่สุด คือ ให้จีน แต่งตั้งญี่ปุ่นเป็น ที่ปรึกษา การบริหารบ้านเมือง ทั้งในด้านการทหาร การค้า การปกครอง และ ขอเป็นตำรวจร่วมด้วย สรุป แปลความหนังสือเรียกร้อง 21ข้อ สั้นๆของญี่ปุ่น ถึงจีน ว่า กูจะกินมึงแล้วนะ นั่นแหละ มีปัญหาไหม จีนเอง กำลังมีเรื่องวุ่นวาย หลังจาก ซุนยัดเซ็น ทำการปฏิวัติล้มราชวงศ์ชิง เมื่อปี ค.ศ.1911 ปฏิวัติสำเร็จ แต่ปกครองไม่ได้ จีนแบ่งเป็นก๊กเป็นพวก แย่งชิงอำนาจ หักเหลี่ยม หักหลังกันเองอยู่หลายปี มันเป็นจังหวะเหมาะแก่การ ปีนบ้านเข้าไปตีหัวเขา ระหว่างที่เขากำลังชุลมุนกัน จีนหมดทางสู้ญี่ปุ่น ทำท่าจะยอม แต่จีนเป็นเหยื่อรายใหญ่ คิดว่า นักล่ารุ่นใหญ่ เขาจะปล่อยให้นักล่าหน้าใหม่ ฉวยโอกาสคาบเอาไปง่ายๆหรือ การแย่งชามข้าวกับแบบเอิกเกริก ก็สามารถทำใ้ห้ชามกลิ้งคว่ำข้าวหก พากันอดแดกกันหมดได้ ขบวนการขัดคอ ขวางทาง ญี่ปุ่น จึงมาจากทุกทิศ ข้อเรียกร้อง 21 ข้อ แบบด้านๆ ของญี่ปุ่น ก็เลยฝ่อไปดื้อๆ แล้วบรรยากาศความเป็นมิตร ก็เรื่มเปลี่ยน เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 จบไม่เหมือนแผนที่วางไว้ หลายประเทศในยุโรป จบแบบช้ำชอกฉิบหาย แม้ว่าจะเป็นฝ่ายชนะสงคราม เช่น อังกฤษตัวตั้งตัวตี หรือฝรั่งเศส หรือเบลเยี่ยม ที่อ้างว่าเป็นกลาง แต่ญี่ปุ่น มาร่วมสงครามแบบเสมอนอก นอกจากไม่ช้ำ เพราะไม่ได้ไปร่วมรบกับเขา แต่ดันฉวยโอกาส ไปอมของคนอื่นเขามาเสียเต็มปาก แบบนี้ ลูกพี่นักล่ารุ่นใหญ่ก็คงไม่เอ็นดูน้องใหม่เท่าไหร่ แม้จะเคยบอกรับให้เป็นสมาชิกใหม่อนาคตรุ่ง แต่เรื่องตัดหน้าคาบเหยื่อไปนี่ มันยอมให้กันไม่ได้ มันเป็นเรื่องเสียทั้งหน้า เสียทั้งเหยื่อ หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง ฝ่ายนิยมการสร้างกองทัพ เป็นผู้มีอำนาจบริหารญี่ปุ่น ญี่ปุ่นจึงยิ่งเหมือนว่าวติดลมบน หมายมั่นจะแผ่อำนาจของตน ไปครอบคลุมจีนให้ได้ เพราะช่วงระหว่างสงครามนั้น จีนกำลังอ่อนแอ เหมาะสำหรับที่จะงับทีละคำๆ แต่หลังจากสงครามโลกจบ จีนที่แตกเป็นหลายก๊ก กลับมีการเคลื่อนไหว โดยกลุ่มก๊กมินตั๋ง รวมตัวกันได้ และยึดส่วนใต้ของจีน เป็นเขตของตัว ตั้งรัฐบาลฝ่าย Nationalist government และตั้งเมืองนานกิง Nanking หรือบ้างก็เรียก นานจิง Nanjing เป็นเมืองหลวงของตัว ส่วนฝ่ายฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสม์ ขึ้นไปยึดทางตะวันออกเฉียงเหนือ แม้ระหว่างก๊ก จะยังมีสู้กันเองบ้าง แต่ก็เริ่มมีทั้งกวาดล้างและกวาดมารวมกัน ปี ค.ศ. 1928 จีนจึงเริ่มกลับมาแข็งแรงขึ้น ญี่ปุ่นจับตาดูการเคลื่อนไหวของจีนอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เห็นจีนกำลังแก้แหที่ถูกโยนมาคลุมประเทศอย่างน่าสนใจ นี่ถ้าจีนฟื้น ทางรถไฟแมนจูเรีย และแคว้นกวางตุ้ง ที่เราไปจิกมาก็น่าจะไม่ปลอดภัย ญี่ปุ่นพยายามมาเกือบ 50 ปี ที่จะไม่ต้องมีชะตากรรมอย่างจีน มาบัดนี้ จีนดันจะฟื้น ญี่ปุ่นทนไม่ไหว รีบเปลี่ยนยุทธศาสตร์ ปี ค.ศ.1931 ญี่ปุ่น ตัดสินใจบุกแมนจูเรีย เพื่อดูแลผลประโยชน์ (ที่ตัวเองไปยึดมา) ในแมนจูเรีย และกวางตุ้ง ญี่ปุ่นตั้งรัฐแมนจูกัวขึ้นมา เหมือนเป็นรัฐเถื่อน เพราะไม่มีใครรับรอง ญี่ปุ่นไม่มีพวกสนับสนุนในเรื่องนี้ แถมทำให้จีนหันกลับมาสู้กับญี่ปุ่นต่อ การปะทะกัน เริ่มกลับมาใหม่ ในที่สุด ญี่ปุ่นก็ยั่วยุสำเร็จ สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่นรอบ 2 ที่ สะพาน มาร์โคโปโลก็เกิดขึ้น ในปีค.ศ.1937 สงครามระหว่างจีน กับญี่ปุ่นครั้งนี้ ไม่ได้จบเร็วอย่าง สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่นครั้งที่ 1 ครั้งนี้ พวกก๊กต่างๆ ของจีนสงบศึกกันเองชั่วคราว จับมือกันสู้ยิบตากับญี่ปุ่น แต่ไม่ยอมสงบศึกกับญี่ปุ่น ที่เสนอเงื่อนไข หลอกให้จีนรับ เพื่อที่จะให้จีนอดตาย การรบยือเยื้อไปถึงปี ค.ศ.1941 และในที่สุด ก็เลิกรบกันไป เพราะญี่ปุ่น เปลี่ยนไปรบสนามใหญ่เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่การรบกับจีนครั้งนี้ แม้จะเหมือนชนะ แต่ญี่ปุ่นก็ยับเยิน มันเป็นการประเมินผิด ของญี่ปุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ การรบยืดเยื้อกับจีนครั้งนี้ ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่น และกองทัพระเนระนาด ยาง เหล็ก น้ำมัน ร่อยหรอ และญี่ปุ่นไม่มีเพื่อนเหลือเลยในภูมืภาค นอกจากนั้น ในสายตาของนักล่านานาชาติ ยังรุมกันประณามญี่ปุ่นอีกว่า เป็นนักรุกราน ไม่มีใครคิดยื่นมือมาช่วยญี่ปุ่นรบจีน ภาพพจน์ของญี่ปุ่น กลายเป็นชาติโหดร้าย ชอบรุกราน และในที่สุดอเมริกาก็ประกาศคว่ำบาตรญี่ปุ่นด้านการค้า มาถึงตอนนี้ เหมือนญี่ปุ่นตัดสินใจผิดพลาด สู้อุตส่าห์ปฏิรูปประเทศ เดินตามหมากฝรั่งเพี้ยบเลย แต่ทำไม พอญี่ปุ่นทำเหมือนตะวันตก แต่ตะวันตกกลับไม่พอใจ เอะ จะเอายังไงกันแน่ ญี่ปุ่นเดืนตามก้นตะวันตกมาถึงกลางทาง แต่ญี่ปุ่นไม่มีทรัพยากรเหลือแล้ว มีแต่จะต้องเดินหน้าไปเอาของคนอื่น ญี่ปุ่นมีของคนอื่นให้เลือก 2 แห่ง แห่งหนึ่ง คือ ขึ้นเหนือไปไซบีเรีย ไปเอาของรัสเซีย อีกแห่งคือ ลงใต้ มาเอาแถบแปซิฟิก แต่ แปซืฟิกใต้ ส่วนใหญ่ ก็เป็น อาณานิคม ของอังกฤษ ในที่สุด ญี่ปุ่นก็เลือกลงใต้บุกแปซิฟิก !?! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 14 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: Qualcomm เริ่มบีบ Arduino หลังการเข้าซื้อกิจการ

    เมื่อ Qualcomm ประกาศเข้าซื้อ Arduino ในเดือนตุลาคม 2025 ชุมชน maker และนักพัฒนาต่างจับตามองด้วยความกังวล เพราะการเข้าซื้อโดยบริษัทยักษ์ใหญ่มักนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ และล่าสุดสิ่งที่หลายคนกลัวก็เกิดขึ้นจริง

    Adafruit Industries ซึ่งเป็นผู้ผลิตบอร์ดพัฒนาและมีบทบาทสำคัญในวงการ open hardware ได้ออกมาเตือนว่า Qualcomm ได้ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการใช้งานและนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Arduino อย่างมาก โดยเฉพาะการให้สิทธิ์ถาวรแก่บริษัทในการใช้เนื้อหาที่ผู้ใช้อัปโหลด ไม่ว่าจะเป็นโค้ด โปรเจกต์ หรือโพสต์ในฟอรั่ม แม้ผู้ใช้งานจะลบแอคเคานต์ไปแล้วก็ตาม

    สิทธิ์ผู้ใช้ที่ถูกจำกัดและการเก็บข้อมูล
    ใน Section 7.1 ของ Terms of Service ระบุว่า Arduino มีสิทธิ์แบบถาวรและไม่สามารถเพิกถอนได้ต่อทุกสิ่งที่ผู้ใช้อัปโหลด โดยสิทธิ์นี้ยังเป็นแบบ royalty-free และสามารถนำไป sublicensing ต่อได้ ซึ่งหมายความว่า Qualcomm สามารถนำเนื้อหาของผู้ใช้ไปใช้ แจกจ่าย หรือแก้ไขได้ตามต้องการ

    นอกจากนี้ยังมีการห้ามไม่ให้ผู้ใช้ทำการ reverse-engineering หรือพยายามเข้าใจการทำงานของแพลตฟอร์มโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งขัดกับหลักการเปิดกว้างที่ทำให้ Arduino ได้รับความนิยมในหมู่นักวิจัยและนักการศึกษา

    ด้าน Privacy Policy ก็ระบุชัดว่า Arduino เป็นบริษัทในเครือ Qualcomm Technologies และข้อมูลผู้ใช้ รวมถึงข้อมูลของผู้เยาว์ จะถูกแชร์ไปยังบริษัทในเครือ Qualcomm อื่น ๆ

    ผลกระทบต่อชุมชนและอนาคตของ Arduino
    แม้ Qualcomm และ Arduino จะยืนยันว่าการเข้าซื้อครั้งนี้จะไม่กระทบต่อ “จิตวิญญาณหลัก” ของแพลตฟอร์ม และยังคงสนับสนุนบอร์ดที่ใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ไม่ใช่ของ Qualcomm แต่ชุมชนผู้ใช้ยังคงกังวลว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ Arduino สูญเสียความโปร่งใสและความเปิดกว้างที่เคยเป็นจุดแข็ง

    ในระยะสั้น ฮาร์ดแวร์ของ Arduino ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ในระยะยาว การตอบสนองของ Qualcomm ต่อเสียงวิจารณ์จากชุมชนจะเป็นตัวกำหนดว่า Arduino จะยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่นักพัฒนารัก หรือจะกลายเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ “enshittification” ที่เกิดขึ้นหลังการเข้าซื้อกิจการโดยบริษัทยักษ์ใหญ่

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปลี่ยนแปลง Terms of Service
    Section 7.1 ให้สิทธิ์ถาวรแก่ Arduino/Qualcomm ในการใช้เนื้อหาผู้ใช้
    สิทธิ์เป็นแบบ royalty-free และสามารถ sublicensing ได้

    การจำกัดสิทธิ์ผู้ใช้
    ห้าม reverse-engineering โดยไม่ได้รับอนุญาต
    ขัดกับหลักการ openness ที่ Arduino เคยยึดถือ

    การเก็บข้อมูลผู้ใช้
    ข้อมูลผู้ใช้ รวมถึงผู้เยาว์ ถูกแชร์ไปยังบริษัทในเครือ Qualcomm
    มีการเก็บข้อมูลระยะยาวและเชื่อมโยงกับ ecosystem ของ Qualcomm

    คำเตือนต่อชุมชนผู้ใช้
    เสี่ยงที่เนื้อหาของผู้ใช้จะถูกนำไปใช้โดยไม่สามารถควบคุมได้
    ความโปร่งใสและ openness ของ Arduino อาจถูกลดทอน
    การเข้าซื้อโดยบริษัทยักษ์ใหญ่อาจนำไปสู่การ “enshittification” ของแพลตฟอร์ม

    https://itsfoss.com/news/enshittification-of-arduino-begins/
    ⚙️ ข่าวใหญ่: Qualcomm เริ่มบีบ Arduino หลังการเข้าซื้อกิจการ เมื่อ Qualcomm ประกาศเข้าซื้อ Arduino ในเดือนตุลาคม 2025 ชุมชน maker และนักพัฒนาต่างจับตามองด้วยความกังวล เพราะการเข้าซื้อโดยบริษัทยักษ์ใหญ่มักนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ไม่เป็นมิตรต่อผู้ใช้ และล่าสุดสิ่งที่หลายคนกลัวก็เกิดขึ้นจริง Adafruit Industries ซึ่งเป็นผู้ผลิตบอร์ดพัฒนาและมีบทบาทสำคัญในวงการ open hardware ได้ออกมาเตือนว่า Qualcomm ได้ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการใช้งานและนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Arduino อย่างมาก โดยเฉพาะการให้สิทธิ์ถาวรแก่บริษัทในการใช้เนื้อหาที่ผู้ใช้อัปโหลด ไม่ว่าจะเป็นโค้ด โปรเจกต์ หรือโพสต์ในฟอรั่ม แม้ผู้ใช้งานจะลบแอคเคานต์ไปแล้วก็ตาม 🔒 สิทธิ์ผู้ใช้ที่ถูกจำกัดและการเก็บข้อมูล ใน Section 7.1 ของ Terms of Service ระบุว่า Arduino มีสิทธิ์แบบถาวรและไม่สามารถเพิกถอนได้ต่อทุกสิ่งที่ผู้ใช้อัปโหลด โดยสิทธิ์นี้ยังเป็นแบบ royalty-free และสามารถนำไป sublicensing ต่อได้ ซึ่งหมายความว่า Qualcomm สามารถนำเนื้อหาของผู้ใช้ไปใช้ แจกจ่าย หรือแก้ไขได้ตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีการห้ามไม่ให้ผู้ใช้ทำการ reverse-engineering หรือพยายามเข้าใจการทำงานของแพลตฟอร์มโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งขัดกับหลักการเปิดกว้างที่ทำให้ Arduino ได้รับความนิยมในหมู่นักวิจัยและนักการศึกษา ด้าน Privacy Policy ก็ระบุชัดว่า Arduino เป็นบริษัทในเครือ Qualcomm Technologies และข้อมูลผู้ใช้ รวมถึงข้อมูลของผู้เยาว์ จะถูกแชร์ไปยังบริษัทในเครือ Qualcomm อื่น ๆ 🌍 ผลกระทบต่อชุมชนและอนาคตของ Arduino แม้ Qualcomm และ Arduino จะยืนยันว่าการเข้าซื้อครั้งนี้จะไม่กระทบต่อ “จิตวิญญาณหลัก” ของแพลตฟอร์ม และยังคงสนับสนุนบอร์ดที่ใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ไม่ใช่ของ Qualcomm แต่ชุมชนผู้ใช้ยังคงกังวลว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ Arduino สูญเสียความโปร่งใสและความเปิดกว้างที่เคยเป็นจุดแข็ง ในระยะสั้น ฮาร์ดแวร์ของ Arduino ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก แต่ในระยะยาว การตอบสนองของ Qualcomm ต่อเสียงวิจารณ์จากชุมชนจะเป็นตัวกำหนดว่า Arduino จะยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่นักพัฒนารัก หรือจะกลายเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ “enshittification” ที่เกิดขึ้นหลังการเข้าซื้อกิจการโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปลี่ยนแปลง Terms of Service ➡️ Section 7.1 ให้สิทธิ์ถาวรแก่ Arduino/Qualcomm ในการใช้เนื้อหาผู้ใช้ ➡️ สิทธิ์เป็นแบบ royalty-free และสามารถ sublicensing ได้ ✅ การจำกัดสิทธิ์ผู้ใช้ ➡️ ห้าม reverse-engineering โดยไม่ได้รับอนุญาต ➡️ ขัดกับหลักการ openness ที่ Arduino เคยยึดถือ ✅ การเก็บข้อมูลผู้ใช้ ➡️ ข้อมูลผู้ใช้ รวมถึงผู้เยาว์ ถูกแชร์ไปยังบริษัทในเครือ Qualcomm ➡️ มีการเก็บข้อมูลระยะยาวและเชื่อมโยงกับ ecosystem ของ Qualcomm ‼️ คำเตือนต่อชุมชนผู้ใช้ ⛔ เสี่ยงที่เนื้อหาของผู้ใช้จะถูกนำไปใช้โดยไม่สามารถควบคุมได้ ⛔ ความโปร่งใสและ openness ของ Arduino อาจถูกลดทอน ⛔ การเข้าซื้อโดยบริษัทยักษ์ใหญ่อาจนำไปสู่การ “enshittification” ของแพลตฟอร์ม https://itsfoss.com/news/enshittification-of-arduino-begins/
    ITSFOSS.COM
    Enshittification of Arduino Begins? Qualcomm Starts Clamping Down
    New Terms of Service introduce perpetual content licenses, reverse-engineering bans, and widespread data collection.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง สู่ทางน้ำเชี่ยว 1 – 2

    “สู่ทางน้ำเชี่ยว”
    (1)
    วันนี้ขอคุยกับท่านผู้อ่าน แบบตรงไปตรงมา จากความรู้สึกในใจของผมหน่อยเถิด ไม่ชอบใจ ก็ปิดเครื่อง หรือเปลี่ยนไปอ่านเพจอื่น ไม่พอใจ อยากจะด่า ก็เชิญตามสบาย
    แต่อย่าแรงนักแล้วกัน คนแก่ตกใจง่าย
    ผมเขียนนิทานเรื่องจริงให้อ่านกันมาเกือบ 2 ปีแล้ว เอาข้อมูลเรื่องราวที่มองมาจากอีกมุมหนึ่ง รวมทั้งที่มองจากมุมเดิม ที่เห็นๆกันอยู่ซ้ำซาก แต่ผมมองลึกไปอีกแบบ มาเล่าสู่กันฟัง เป็นเรื่องราวที่สื่อฟอกย้อม ทั้งในบ้านและนอกบ้าน แทบไม่เคยพูดถึง หรือพูดแบบใส่สีเข้มตามใบสั่งของ เจ้าของสื่อ จนไม่รู้ว่า มีความจริงน้อยมากแค่ไหน หรือพูดแบบ มั่ว คลุมเคลือ ไม่รู้ที่มาและที่จะไปต่อ หรือพูดแบบครึ่งใบ ที่เหลือให้เดาเอา หรือแต่งกันเองสนุกดี
    จากการอ่านและการวิเคราะห์ของผมเอง ผมเชื่อว่า อีกไม่เกิน 2 ถึง 3 ปี จากที่ผมเริ่มเขียนนิทานเรื่อง แรก เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2556 ก็แปลว่า จากนี้ไป ไม่เกิน 1 ปี โลกเราจะเริ่มเข้าสู่อาการ ถ้าเปรียบกันคน ก็เป็นคนต้องเกณท์เปลี่ยนชะตานั่นแหละ มันจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงจากสิ่งเล็ก สิ่งน้อย ซึ่งถ้าเราไม่ทันสังเกต หรือไม่สนใจติดตาม เราก็จะไม่รู้ว่า มันมีการเปลี่ยนไปแล้ว และการเปลี่ยนนั้น จะเปลี่ยนมากขึ้น ด้วยอัตราที่เร็วขึ้น จนเราเริ่มรู้สึก แต่ก็อาจจะยังไม่รู้เรื่อง รู้เหตุ รู้ผล อยู่ดี กว่าจะรู้เรื่อง ก็อาจจะทำอะไรไม่ทันแล้ว
    เราเคยชินกับการมีอเมริกา ที่ทำตัวเหมือนเป็นจิ๊กโก๋ปากซอยตัวแสบ เบ่งกล้าม คุมทั้งซอยอยู่คนเดียว มาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นานถึง 70 ปี เชียวนะครับ ที่ไอ้จิ๊กโก๋มันคุมโลก จนตัวมันก็ “ชิน” กับการที่ไม่ใครมากล้าหือกับมัน และเราๆ ก็ดัน “ชิน” กับการคุมของมัน แถมบางพวก ก็ชอบที่จะอยู่ใต้อุ้งมืออุ้งตีนของไอ้จิ๊กโก๋ ก็ของมันเคย มันชิน แต่สำหรับพวกที่ไม่ชอบ ก็ต้องทนยอมมันไป (ก่อน) ก็มันวางกฏเกณท์ของทั้งโลกทั้ง ใบ หันไปทางไหน จะทำอะไร ก็เจอกฏ เจอระบบ ที่มันวางไว้ทั้งนั้น ขนาดจะแต่งตัว ตัดผม ดูหนัง ฟังเพลง บันเทิงใจ ชอบ ไม่ชอบอะไร ยังต้องเป็นแบบที่มันจัดยัดใส่หัวมาให้เลย ใครที่ไม่อยู่ในระบบ ในรูปแบบที่มันเห็นชอบ มันก็จัดการเก็บกวาดจนเหี้ยน ในที่สุด ชาวโลกส่วนใหญ่ ก็เลยจำยอมอยู่ในกำมือ ในกฏ กติกา ความเห็น ที่ไอ้จิ๊กโก๋มันสร้าง มันวางเอาไว้ น่าสมเพชไหมครับ ที่ต้องมีใครมาจูงเราทุกเรื่อง หรือชอบใจกัน ที่ไม่ต้องคิดมาก จูงไปทางไหน ก็ไปทางนั้น…
    แต่ประมาณ 15 ปี มานี้ เริ่มมีพวกที่อยากดำเนินชีวิต ตามระบบ ตามแบบของตัวเอง อยากกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองบ้าง ไม่ใช่ทุกอย่างต้องขึ้นกับจิ๊กโก๋ปากซอยสั่ง กูจะหิว กูจะกิน กูจะนอน ฯลฯ ให้มันเป็นไปตามใจกูบ้างได้มั้ย กูเบื่อที่จะถูกจูงแล้ว….
    จิ๊กโก๋ บอก ไม่ได้ กูไม่เชื่อว่าพวกมึงตัดสินใจเป็น และตัดสินใจถูก ขอโทษนะครับ ต้องเขียนด้วยสรรพนาม เช่นนี้ เพราะลักษณะที่เขาออกอาการกัน มันดูจะไม่ใช่เป็นการพูดแบบคุณครับขอรับกระผมกัน ที่นี้ เรื่องมันก็เลยเริ่มวุ่น และบานไปเรื่อยๆ
    มาถึงวันนี้ โลกแบ่งชัดเจนแล้ว อำนาจของโลก ที่เคยมีขั้วอำนาจขั้วเดียว ที่คุมโดย ไอ้จิ๊กโก๋ปากซอย อเมริกาและพวกลูกกระเป๋ง กำลังเปลี่ยนไป ขั้วอำนาจอีกขั้ว ที่นำโดยรัสเซียและจีน กำลังรวมตัว และปรากฏตัวชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีจำนวนประเทศน้อยกว่า แต่ถ้านับเนื้อที่ของประเทศ กับจำนวนรวมของพลเมือง คงไม่ต่างกันมาก และขณะนี้ ทั้งสองขั้ว ต่างกำลังจ้องตาใส่กันอย่างไม่กระพริบ เพื่อค้นหา รวมไปถึงทดสอบ ศักยภาพทางเศรษฐกิจ และศักยภาพทางอาวุธ ของขั้วที่ต่างกัน ว่าใครจะเหนือกว่าใคร
    เศรษฐกิจเป็นเกมที่ทางขั้วอำนา จอเมริกาถนัดนัก เล่นกลอยู่เสมอ เล่นมา 100 ปีแล้วนี่ ปั่นขึ้น ปั่นลง ได้ทุกอย่าง ก็เป็นคนคุมระบบทั้งหมด มันก็เหมือนเป็นเจ้ามือคุมบ่อน นั่นแหล่ะ แจกไพ่เอง ทำเครื่องหมายไพ่ ให้ยืมเงินมาเล่น ใครทำอะไรไม่ถูกใจ ก็ไล่ออกจากวง คว่ำบาตรเสีย แบบนี้ เจ้ามือก็ไม่มีทางแพ้อยู่แล้ว (มีแต่ถูกเผาบ่อน หรือถูกยิง) เรื่องเศรษฐกิจ จึงเป็นเหมือนตัววัดตัวหนึ่ง เมื่อไหร่ที่เจ้ามือออกอาการ มีการใกล้จะล้มโต๊ะ เพราะเจ้ามือเล่นกลไม่ออก จะเพราะลูกมือเกิดดวงดี ดวงแข็ง หรือถูกลูกมือจับกลโกงของเจ้ามือได้ นั่นก็เป็นอาการที่เราๆ จะต้องระวัง แปลว่า เรื่องใหญ่ใกล้จะมา ดวงชะตาของโลกใกล้จะมีการเปลี่ยน
    เหตุการณ์ตลาดหุ้นจีน ที่เริ่มถูกปั่นลงดิ่ง ตั้งแต่เดือนมิถุนา กรกฏาคม จนแมงเม่าตาตี่ปีกหัก ร่วงผล่อยหล่นลงพื้นเต็มไปหมด แต่จีนก็ปล่อยให้เจ้ามือตาน้ำข้าวเล่นให้เพลิน ด้วยการปล่อยให้หล่นถึงพื้น และจีนก็ซื้อกลับ ส่วนเงินกองทุนของเจ้ามือตาน้ำข้าว รวมทั้งกำไรที่รวยมาจากเด็ดปีกแมงเม่าตาตี่ เจ้ามือตาน้ำข้าวเตรียมโอนกลับ บ้าน แต่จีนบอกรอแป๊บนึง อย่าเพิ่งใจร้อน รีบโอนกลับ ขอเราตรวจสอบก่อนว่า ทำผิดกฏอะไรบ้างหรือเปล่า ทำได้ไม่ไม่ใช่หรือ ก็ดันไปเปิดบ่อนเต๋าถ่วงที่บ้านคนอื่น โง่หรือฉลาด(วะ) ทุนก้อนใหญ่ เอาออกมาไม่ได้ ตลาดอื่นๆ ก็ค่อยๆร่วง ชาวบ้านนึกว่าร่วงเรื่องกรีซ ก็เพราะสื่อย้อมสีกับกองทุนตาน้ำข้าว มันบอกอย่างนั้น ก็เลยเชื่อกันอย่างนั้น…นี่การตรวจสอบจะนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้…. สื่อฟอกย้อม เรื่องนี้ ไม่ออกข่าวเลยนะ
    อเมริกาบอก โลกนี้หมุนด้วยน้ำมัน และมันต้องเป็นน้ำมัน ที่ค้าขายกันด้วยดอลล่าร์ (เปโตรดอลล่าร์) เท่านั้น โลกถึงจะหมุน วันนี้ จีนกับรัสเซียบอก ไม่จำเป็นนะ เปโตรหยวน หรือเปโตรรูเบิล ก็หมุนโลกได้เหมือนกัน
    อเมริกาบอก ระบบการเงินในโลก ต้องคุมด้วยระบบธนาคารกลางของอเมริกา จีนกับรัสเซียบอก ไม่จำเป็นนะ ถ้าเราสร้างระบบที่พวกเราเห็นพ้องกันว่ามันยุติธรรมได้ และตอนนี้ จีนกับรัสเซีย ก็กำลังค้าขายกันด้วยการแลกเปลี่ยนเงินสกุลของพวกเขา ตามค่าของเงินที่พวกเขาตกลงกันเอง อ้าว พวกเอ็งตกลงกันเองได้ พวกผมก็ตกลงกันได้เหมือนกัน มีปัญหาไหม
    อเมริกากับพวกสร้าง World Bank, IMF มาเป็นกลไกด้านการเงิน คุมโลกจนกระดิกแทบไม่ออก วันนี้ จีนกับรัสเซียและพวกสร้าง AIIB ขึ้นมาเป็นทางเลือก
    อเมริกาสร้างใอ้ 3 หมาไน เป็นตัววัดเครดิตเรตติ้งของธุรกิจ ของประเทศต่างๆ ตามหลักเกณท์ที่มีผู้ค้านมากมาย ว่าไม่เป็นธรรม วันนี้ จีนกับรัสเซีย ก็กำลังสร้างบริษัทวัดเครดิตเช่นนั้นเหมือนกัน และบอกว่าเป็นธรรมกว่า
    เราจะได้ยินเรื่องทำนองนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อันที่จริง มันควรจะเป็นเรื่องน่ายินดี ที่มีการเพิ่มทางเลือกให้แก่มนุษยชาติ แต่ดูเหมือนอเมริกาไม่ยินดี นอกจากไม่ยินดีแล้ว อเมริกายังแสดงอาการ ทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกด้วยว่า อเมริกาไม่พอใจอย่างยิ่ง อเมริกามองว่า การที่อีกฝ่าย และมนุษยชาติ มีทางเลือก มันเป็นการคุกคาม การเป็นผู้ครอบครองโลกใบนี้แต่ผู้เดียวของอเมริกา( America World Dominence) และ อเมริกาเท่านั้นนะ ที่จะเป็นผู้กำหนดชะตาของโลก มันต้องเป็นไปตามเส้นทาง วิธีการ ระบบ ที่อเมริกาเลือก และเห็นชอบสิ เข้าใจไหม
    และเพราะอเมริกา มีแนวคิด และแนวปฏิบัติเข่นนี้ โลกนี้ถึงได้ยุ่งเหยิงอย่างไม่ควรจะเป็น เมื่อใดที่เรื่องอะไร ที่ไหน ที่ไม่เป็นไปตามแนวที่อเมริกาเห็นชอบ หรือเมื่ออเมริกาอยากได้สมบัติของเขา ประเทศเหล่านั้นก็ถูกสื่อที่เป็นมือตีนของอเมริกา ฟอกย้อมให้เป็นคนเลว เป็นเผด็จการ เป็นผู้ร้าย เป็นโจร เมื่อสื่อย้อมจนได้ที่ อเมริกาก็ยาตราใช้อำนาจของอาวุธของตัวเองเข้าไปตัดสิน และประเทศเหล่านั้น ก็ถึงแก่การกาลวิบัติ ฉิบหาย จนถึงสิ้นชาติ โลกนี้จึงอยู่ในกำมือของอเมริกา ที่ใช้มาตรฐานของตน ที่มีหลายระดับ หลายแบบ ตามสันดานจิ๊กโก๋เป็นเครื่องตัดสิน

    (2)
    แดนสยามของสมันน้อย กำลังถูกอเมริกาจับตามองอย่างไม่พอใจอย่างยิ่ง ตั้งแต่สมันน้อยเริ่มไม่ว่าง่าย เมื่อสมันน้อยทนมีรัฐบาลโคตรโกง ไม่ไหว ออกมาขับไล่ อเมริกายื่นหน้ามาถาม ไล่เขาทำไม เขามาจากการเลือกตั้ง เสือกไหม เสือกสิ ในความเห็นของผม ทำไมเอ็งต้องมาออกความเห็นเรื่องบ้านผมทุกเรื่อง วันนี้แดนสยาม มีทหารเป็นผู้ใช้อำนาจในการบริหาร โดยยังไม่มีการลือกตั้ง อเมริกาจะลงแดงตายเสียให้ได้ เมื่อไหร่ ไทยแลนด์จะมีการเลือกตั้ง อเมริการับไม่ได้กับการปฏิวัติ รับไม่ได้กับการไม่เลือกตั้ง รับไม่ได้กับการไม่เป็นประชาธิปไตย อเมริกาไม่ชอบ ไม่ชอบ และไม่ชอบ ทำไมไม่ลงไปดื้นเร่าๆกลิ้งกับพื้น ตอนด่าไทยแลนด์เลยละ (วะ) จะได้สมกับเป็นชาติมหาอำนาจใหญ่ยิ่งที่สุดในโลก
    Wall Street Journal ลงบทความ เมื่อวันที่ 23 กรกฏาคมนี้ เขียนโดย นาย Desmond Dalton ซึ่งเป็นนายทหารอเมริกัน ที่เกษียณแล้ว และเคยเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของอเมริกาในประเทศไทย บทความนั้นชื่อว่า ” Saving America’s Ties With Thailand” หลายท่านคงเห็นแล้ว และเข้าใจว่าสื่อไทยก็น่าจะลงแล้ว แต่ผมมีมุมมองของผม ที่อาจจะต่างไปบ้าง
    บทความดังกล่าว สรุปว่า อเมริกาไม่พอใจไทย ตั้งแต่มีการปฏิวัติเมื่อปี ค.ศ.2014 (ก็ปฏิวัติของลุงตู่นั่นแหละ) และความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับไทย ก็เสื่อมลงมากมายอย่างน่าใจหาย อเมริกาหันหลังให้กับรัฐบาลทหาร อย่างไม่ไว้หน้า แถมขู่ให้ไทยรีบมีการเลือกตั้งอย่างรวดเร็ว มิฉะนั้น สัมพันธ์อเมริกาไทยก็จะยิ่งเสื่อมลงไปอีกเรื่อยๆ (จะให้เสื่อมลงถึงไหน นี่ยังไม่ถึงดินหรือไง สงสัยอยากได้สัมพันธ์แบบใต้ดิน แบบนั้น ต้องไปแถวประเทศที่ถนัดแบกถาด ฮา)
    คุณทหารอดีตที่ปรึกษา บอกว่า การที่อเมริกาปฏิบัติต่อไทยเช่นนี้ ทำให้อเมริกาเสียโอกาสในไทยอย่างยิ่ง และทำให้นโยบายของรัฐบาลโอบามา ที่คิดจะมาถ่วงดุลอำนาจ ในเอเซียแปซิฟิกจะกลายเป็นแค่ราคาคุย ไม่ใช่ว่า อเมริกาควรจะหลับหู หลับตา กับสิ่งที่ไทยทำ แต่เพื่อรักษาโอกาสของอเมริกา อเมริกาก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่สร้างศัตรูกับไทย ด้วยการด่าว่าทหารไทยอย่างเอิกเกริก ไปพูด (ด่า) กันเงียบๆก็ได้นะ แถมการที่อเมริกาตัดงบอาวุธ ตัดงบการอบรม สาระพัดกับไทย กลายเป็นการผลักให้ไทยหันไปสร้างสัมพันธ์กับชาติอื่น เช่นจีนแทน…
    ….และไทย ก็เลยปิดประตูทางเข้า ที่อเมริกาเคยเข้ามาใช้ไทยอย่างอิสระ สะดวกสบายไปเรียบร้อย และจากการตัดสินใจซื้ออาวุธล่าสุดของไทย แสดงให้เห็นว่า ไทยไม่คิดจะพึ่งพาอเมริกาด้านอาวุธเพียงรายเดียว นี่เป็นก้าวที่พลาดอย่างยิ่งของอเมริกา แม้ไทยจะเป็นเพียงประเทศขนาดกลาง มีพลเมือง ประมาณ 70 ล้านคน มีเศรษฐกิจเพียงอันดับที่ 22 ของโลก … แต่ไทย มีความหมายในเชิงยุทธศาสตร์อย่างยิ่งกับอเมริกา ……
    ….เส้นทางจากไทย เป็นเส้นทางเดียว ที่กองทัพอเมริกันเชื่อถือ ที่จะใช้เป็นจุดผ่านเข้าไปสู่แผ่นดินใหญ่ของเอเซีย…
    …It offers U.S forces the only reliable access point to mainland Asia…
    นอกจากนี้ อุตสาหกรรมด้านการผลิตอาวุธของอเมริกา ได้รับการอุดหนุนจากงบประมาณด้านความมั่นคงก้อนใหญ่ ของไทยทุกปี
    บทความที่เหลือ ก็เป็นการสรรเสริญ ถึงความเก่งกล้าสามารถด้านการทหารของไทย รวมทั้งด้านการเป็นผู้นำในภูมิภาคของไทย พร้อมทั้งข้อเสนอแนะ ให้อเมริกากลับมาเจรจาโดยใช้คำหวานกับไทยเสียใหม่ ให้ไทยกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย และเพื่อที่อเมริกาจะได้ใช้ประโยชน์จากการมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันให้มากที่สุด…โดยทำผ่านการพูดคุยกับผู้นำทหาร นักวิชาการ และราษฎรที่มีชื่อเสียง….อืม..
    พอเห็นไหมครับ ว่าบทความนี้มันสื่ออะไรกับเราบ้าง
    มันไม่มีส่วนไหนเลย ที่แสดงถึงความเข้าใจ และเห็นใจประเทศไทย มันมีแต่ว่า เขาจะใช้ประโยชน์จากเราได้อย่างไรบ้าง และจะ “ทำอย่างไร” ที่จะกลับมาจิกหัวเรา ได้อย่างเดิม
    บทความนี้ เป็นการโยนหินถามทางที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะ คำแนะนำ ว่า อเมริกาควร “ทำอย่างไร” เพื่อจะกลับมา
    อเมริกา น่าจะรู้ตัวแล้วว่า อเมริกากำลังเดินหมากผิดจนน่าโขกหัวตัวเอง ในยามที่โลกแบ่งชัดเป็น 2 ขั้ว เมื่อจีนและรัสเซียอยู่คนละขั้วกับอเมริกา แต่อเมริกาดันถีบหมากชื่อไทยแลนด์ กระเด็นออกไปนอกกระดานของอเมริกา และก็เป็นการถีบทิ้งอย่างเอิกเกริก เล่นงานกันทุกทาง ไม่ว่าจะโดยแสดงด้วยกริยา อาการ หรือการแสดงด้วยวาจา การด่า การเขียน ทั้งทางตรง ทางอ้อม แม้กระทั่งในบทความของถังขยะความคิด ไม่ว่าถังไหน เมื่อพูดถึงอเมริกาและพวก จะไม่ปรากฏชื่อไทยแลนด์ แดนสยามของสมันน้อยแม้แต่ครั้งเดียว คบกันมา กว่า 70 ปี บทจะถีบทิ้ง ก็ไม่เหลือใย เหลือหน้ากันไว้ อย่างนี้จะกลับมาเป็นเพื่อนกันใหม่ จะให้มองกันติดสนิทใจ จะใช้กาวยี่ห้อไหนดี(วะ)
    อเมริกา กำลังทดสอบไทย ตามสันดานจิ๊กโก๋ปากซอย ด้วยการบีบคั้นทุกรูปแบบ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาใช้ hard power (อาวุธ) อเมริกาจึงใช้ soft power (อำนาจที่ไม่ต้องใช้อาวุธ เช่น การคว่ำบาตร การกีดกัน การระงับ โดยอ้างว่าไม่ได้มาตรฐานการ และใช้มากที่สุดคือ ใช้สื่อโจมตี) เราจึงได้เห็นตั้งแต่ การโจมตีเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ การเลื่อนการเลือกตั้ง เรื่องการไม่มีมนุษยธรรม ตั้งแต่โรฮิงญา มาจนถึงอุยกูร์ การที่บริษักการบินไทยไม่ได้มาตรฐาน เรื่องส่งออกอาหารไม่ผ่านมาตรฐาน ใช้แรงงานผิดมาตรฐาน ข่าวเรื่องอียู คว่ำบาตรไทย การจ่าหน้าซองผิด ฯลฯ ยังจะมีสาระพัด ตะหวักตะบวยเลวไปกว่านี้อีกมากมาย ที่มันจะสรรหา ยกขึ้นตามมาอีก การก่อกวนในรูปแบบต่างๆ ก็ยังจะเกิดขึ้นอีก และอาจจะรุนแรงขึ้น เป้าหมายก็เพื่อสั่นคลอนเรา พยายามทุกอย่างให้สมันน้อยปอดแหก จะได้ไม่กล้า แหกคอก
    มาถึงวันนี้ วันที่ต่างก็เริ่มเห็นชัดแล้ว ว่าอะไรคอยอยู่ข้างหน้า อเมริกา คิดตกหรือยัง ว่า จะตบหน้าเพื่อนเก่า 70 ปีต่อไปอีก โทษฐานคิดแหกคอก หรือ อเมริกาจะทำไม่รู้ไม่ชี้ เดินกลับมา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะชักสำนึกได้ว่า ถ้าจะใช้ไอ้พวกลูกกระเป๋ง มาแบกถาดถือปืน อาจจะไม่ได้ผลอย่างที่คิด
    จิ๊กโก๋ทำได้ไหม ทำได้สบายมาก ถ้าจำเป็นจริงๆ อเมริกาก็หาวิธีกลับเข้ามาตบหลังลูบหัวไทยได้ ถ้าเดินเข้ามาตรงๆไม่ได้ หนอนในบ้าน ที่ยังเห็นอเมริกาเป็นพ่อ ยังมีอีกแยะ คงหาทางให้ สมันน้อยเดินจ๋อยๆกลับเข้าคอกเอง โดยนึกว่าอเมริกาไม่เกี่ยว แล้วเราจะว่ายังไงครับ….
    ตอนนี้ ลุงตู่กำลังทำหน้าที่เป็นกัปตัน พาเรือใหญ่ขนาดกลาง ขนคนประมาณ 70 ล้านคน มุ่งหน้าไปตามลำน้ำใหญ่ สายน้ำเริ่มเชี่ยวขึ้นทุกที แถมข้างหน้า มีวังน้ำวนเห็นอยู่ชัดๆ เรือจะผ่านวังน้ำวน ไปได้หรือเปล่ายังไม่รู้ ลุงตู่จะคัดท้าย นำเรือขนาดกลางนี้ ไปรอดไหม ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับฝีมือคัด ท้ายของลุงตู่เอง แต่อีกส่วน ก็ขึ้นอยู่กับผู้โดยสาร 70 ล้านคนนั่นด้วย จะเอาอย่างไรล่ะ จะให้กัปตันพาเรือเดินหน้า หรือเปลี่ยนใจ ไม่ไปต่อแล้ว กลัวน้ำวน กลัวโจรปล้น กลัวจิ๊กโก๋ขู่ ให้กัปตันทิ้งสมอ จอดมันริมฝั่งนั่นแหละ ใครจะมาเอาเรือก็เอาไป แล้วจะจอดฝั่งไหนล่ะ ฝั่งที่คุ้นๆกันมา 70 ปี เดี๋ยวดี เดียวด่า ทำเหมือนสมันน้อยเป็นขี้ข้า หรือจะจอดอีกฝั่ง จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ แต่เท่าที่ดู เขาว่าเป็นประเภทไม่ชอบเป็นขี้ข้าใคร แต่จะทิ้งสมอจอดเรือ ยามน้ำเชี่ยว ก็ใช่ว่าจะทำง่าย เผลอๆ ล่มตอนจอดนี่แหละ สมันน้อย ได้เป็นสมันน้ำ ลอยคอกันเป็นแถว
    เออ..แล้ว อยู่ๆ จะจอดเรือ ยกประเทศให้เขาเลยงั้นหรือ จะมีคนไม่ยอม หรือ จะมีคนอยากให้เขาจูงกลับเข้าคอก ผมตอบไม่ได้ รู้แต่ว่า หนอนในที่ชอบอยู่คอก และชอบถูกจูงยังมีอยู่
    แต่ถ้าเราจะเลือกเดินหน้า ผู้โดยสารก็ต้องทำความเข้าใจ และปรับชีวิตตัวเองบ้าง ต้องรับรู้ว่า กำลังนั่งเรือไปในทางน้ำเชี่ยว ก็ต้องนั่งให้มีสติ เตรียมอุปกรณ์ทั้งด้านส่วนตัวและ ด้านสติปัญญาให้พร้อม เริ่มฝึกตัวเองให้มีวินัย ช่วยเหลือตัวเองได้ นั่งเรือไป ไม่ใช่วีดว้าย กระตู้วู้ ไปตลอดทาง อะไรนิดก็โวย อะไรหน่อยก็ด่า ฟังอะไรมาไม่ได้ยังไม่ทันกรอง ก็แชร์กัน ไลน์กัน เหมือนคนมีแต่นิ้ว แต่ไม่มีสมอง เป็นมนุษย์พันธ์ใหม่ และอย่าเป็นประเภทชอบเอามือราน้ำ แบบนี้ ต่อให้กัปตันเก่งยังไง เรือก็อาจล่ม…
    บ้านเมืองมาถึงจุดสำคัญ ตื่นกันได้แล้วครับ ลดเรื่องไร้สาระลงเสียบ้าง เอาใจใส่บ้านเมืองกันหน่อย อย่างที่ผมเคยบอก ความเข้าใจและเห็นพ้องกัน ระหว่างผู้บริหารบ้านเมืองกับพลเมือง เป็นความมั่นคงของชาติอย่างหนึ่ง ปิดทางไม่ให้ศัตรูทั้งภายนอกและภายในเข้ามาทำร้าย และทำลายบ้านเมืองเราได้ เราจะได้ช่วยกัน พาเรือผ่านน้ำเชี่ยวไปได้ เป็นสิ่งที่เราทำให้บ้านเมืองของเราได้นะครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    29 ก.ค. 2558
    เรื่อง สู่ทางน้ำเชี่ยว 1 – 2 “สู่ทางน้ำเชี่ยว” (1) วันนี้ขอคุยกับท่านผู้อ่าน แบบตรงไปตรงมา จากความรู้สึกในใจของผมหน่อยเถิด ไม่ชอบใจ ก็ปิดเครื่อง หรือเปลี่ยนไปอ่านเพจอื่น ไม่พอใจ อยากจะด่า ก็เชิญตามสบาย แต่อย่าแรงนักแล้วกัน คนแก่ตกใจง่าย ผมเขียนนิทานเรื่องจริงให้อ่านกันมาเกือบ 2 ปีแล้ว เอาข้อมูลเรื่องราวที่มองมาจากอีกมุมหนึ่ง รวมทั้งที่มองจากมุมเดิม ที่เห็นๆกันอยู่ซ้ำซาก แต่ผมมองลึกไปอีกแบบ มาเล่าสู่กันฟัง เป็นเรื่องราวที่สื่อฟอกย้อม ทั้งในบ้านและนอกบ้าน แทบไม่เคยพูดถึง หรือพูดแบบใส่สีเข้มตามใบสั่งของ เจ้าของสื่อ จนไม่รู้ว่า มีความจริงน้อยมากแค่ไหน หรือพูดแบบ มั่ว คลุมเคลือ ไม่รู้ที่มาและที่จะไปต่อ หรือพูดแบบครึ่งใบ ที่เหลือให้เดาเอา หรือแต่งกันเองสนุกดี จากการอ่านและการวิเคราะห์ของผมเอง ผมเชื่อว่า อีกไม่เกิน 2 ถึง 3 ปี จากที่ผมเริ่มเขียนนิทานเรื่อง แรก เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2556 ก็แปลว่า จากนี้ไป ไม่เกิน 1 ปี โลกเราจะเริ่มเข้าสู่อาการ ถ้าเปรียบกันคน ก็เป็นคนต้องเกณท์เปลี่ยนชะตานั่นแหละ มันจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงจากสิ่งเล็ก สิ่งน้อย ซึ่งถ้าเราไม่ทันสังเกต หรือไม่สนใจติดตาม เราก็จะไม่รู้ว่า มันมีการเปลี่ยนไปแล้ว และการเปลี่ยนนั้น จะเปลี่ยนมากขึ้น ด้วยอัตราที่เร็วขึ้น จนเราเริ่มรู้สึก แต่ก็อาจจะยังไม่รู้เรื่อง รู้เหตุ รู้ผล อยู่ดี กว่าจะรู้เรื่อง ก็อาจจะทำอะไรไม่ทันแล้ว เราเคยชินกับการมีอเมริกา ที่ทำตัวเหมือนเป็นจิ๊กโก๋ปากซอยตัวแสบ เบ่งกล้าม คุมทั้งซอยอยู่คนเดียว มาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นานถึง 70 ปี เชียวนะครับ ที่ไอ้จิ๊กโก๋มันคุมโลก จนตัวมันก็ “ชิน” กับการที่ไม่ใครมากล้าหือกับมัน และเราๆ ก็ดัน “ชิน” กับการคุมของมัน แถมบางพวก ก็ชอบที่จะอยู่ใต้อุ้งมืออุ้งตีนของไอ้จิ๊กโก๋ ก็ของมันเคย มันชิน แต่สำหรับพวกที่ไม่ชอบ ก็ต้องทนยอมมันไป (ก่อน) ก็มันวางกฏเกณท์ของทั้งโลกทั้ง ใบ หันไปทางไหน จะทำอะไร ก็เจอกฏ เจอระบบ ที่มันวางไว้ทั้งนั้น ขนาดจะแต่งตัว ตัดผม ดูหนัง ฟังเพลง บันเทิงใจ ชอบ ไม่ชอบอะไร ยังต้องเป็นแบบที่มันจัดยัดใส่หัวมาให้เลย ใครที่ไม่อยู่ในระบบ ในรูปแบบที่มันเห็นชอบ มันก็จัดการเก็บกวาดจนเหี้ยน ในที่สุด ชาวโลกส่วนใหญ่ ก็เลยจำยอมอยู่ในกำมือ ในกฏ กติกา ความเห็น ที่ไอ้จิ๊กโก๋มันสร้าง มันวางเอาไว้ น่าสมเพชไหมครับ ที่ต้องมีใครมาจูงเราทุกเรื่อง หรือชอบใจกัน ที่ไม่ต้องคิดมาก จูงไปทางไหน ก็ไปทางนั้น… แต่ประมาณ 15 ปี มานี้ เริ่มมีพวกที่อยากดำเนินชีวิต ตามระบบ ตามแบบของตัวเอง อยากกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองบ้าง ไม่ใช่ทุกอย่างต้องขึ้นกับจิ๊กโก๋ปากซอยสั่ง กูจะหิว กูจะกิน กูจะนอน ฯลฯ ให้มันเป็นไปตามใจกูบ้างได้มั้ย กูเบื่อที่จะถูกจูงแล้ว…. จิ๊กโก๋ บอก ไม่ได้ กูไม่เชื่อว่าพวกมึงตัดสินใจเป็น และตัดสินใจถูก ขอโทษนะครับ ต้องเขียนด้วยสรรพนาม เช่นนี้ เพราะลักษณะที่เขาออกอาการกัน มันดูจะไม่ใช่เป็นการพูดแบบคุณครับขอรับกระผมกัน ที่นี้ เรื่องมันก็เลยเริ่มวุ่น และบานไปเรื่อยๆ มาถึงวันนี้ โลกแบ่งชัดเจนแล้ว อำนาจของโลก ที่เคยมีขั้วอำนาจขั้วเดียว ที่คุมโดย ไอ้จิ๊กโก๋ปากซอย อเมริกาและพวกลูกกระเป๋ง กำลังเปลี่ยนไป ขั้วอำนาจอีกขั้ว ที่นำโดยรัสเซียและจีน กำลังรวมตัว และปรากฏตัวชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีจำนวนประเทศน้อยกว่า แต่ถ้านับเนื้อที่ของประเทศ กับจำนวนรวมของพลเมือง คงไม่ต่างกันมาก และขณะนี้ ทั้งสองขั้ว ต่างกำลังจ้องตาใส่กันอย่างไม่กระพริบ เพื่อค้นหา รวมไปถึงทดสอบ ศักยภาพทางเศรษฐกิจ และศักยภาพทางอาวุธ ของขั้วที่ต่างกัน ว่าใครจะเหนือกว่าใคร เศรษฐกิจเป็นเกมที่ทางขั้วอำนา จอเมริกาถนัดนัก เล่นกลอยู่เสมอ เล่นมา 100 ปีแล้วนี่ ปั่นขึ้น ปั่นลง ได้ทุกอย่าง ก็เป็นคนคุมระบบทั้งหมด มันก็เหมือนเป็นเจ้ามือคุมบ่อน นั่นแหล่ะ แจกไพ่เอง ทำเครื่องหมายไพ่ ให้ยืมเงินมาเล่น ใครทำอะไรไม่ถูกใจ ก็ไล่ออกจากวง คว่ำบาตรเสีย แบบนี้ เจ้ามือก็ไม่มีทางแพ้อยู่แล้ว (มีแต่ถูกเผาบ่อน หรือถูกยิง) เรื่องเศรษฐกิจ จึงเป็นเหมือนตัววัดตัวหนึ่ง เมื่อไหร่ที่เจ้ามือออกอาการ มีการใกล้จะล้มโต๊ะ เพราะเจ้ามือเล่นกลไม่ออก จะเพราะลูกมือเกิดดวงดี ดวงแข็ง หรือถูกลูกมือจับกลโกงของเจ้ามือได้ นั่นก็เป็นอาการที่เราๆ จะต้องระวัง แปลว่า เรื่องใหญ่ใกล้จะมา ดวงชะตาของโลกใกล้จะมีการเปลี่ยน เหตุการณ์ตลาดหุ้นจีน ที่เริ่มถูกปั่นลงดิ่ง ตั้งแต่เดือนมิถุนา กรกฏาคม จนแมงเม่าตาตี่ปีกหัก ร่วงผล่อยหล่นลงพื้นเต็มไปหมด แต่จีนก็ปล่อยให้เจ้ามือตาน้ำข้าวเล่นให้เพลิน ด้วยการปล่อยให้หล่นถึงพื้น และจีนก็ซื้อกลับ ส่วนเงินกองทุนของเจ้ามือตาน้ำข้าว รวมทั้งกำไรที่รวยมาจากเด็ดปีกแมงเม่าตาตี่ เจ้ามือตาน้ำข้าวเตรียมโอนกลับ บ้าน แต่จีนบอกรอแป๊บนึง อย่าเพิ่งใจร้อน รีบโอนกลับ ขอเราตรวจสอบก่อนว่า ทำผิดกฏอะไรบ้างหรือเปล่า ทำได้ไม่ไม่ใช่หรือ ก็ดันไปเปิดบ่อนเต๋าถ่วงที่บ้านคนอื่น โง่หรือฉลาด(วะ) ทุนก้อนใหญ่ เอาออกมาไม่ได้ ตลาดอื่นๆ ก็ค่อยๆร่วง ชาวบ้านนึกว่าร่วงเรื่องกรีซ ก็เพราะสื่อย้อมสีกับกองทุนตาน้ำข้าว มันบอกอย่างนั้น ก็เลยเชื่อกันอย่างนั้น…นี่การตรวจสอบจะนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้…. สื่อฟอกย้อม เรื่องนี้ ไม่ออกข่าวเลยนะ อเมริกาบอก โลกนี้หมุนด้วยน้ำมัน และมันต้องเป็นน้ำมัน ที่ค้าขายกันด้วยดอลล่าร์ (เปโตรดอลล่าร์) เท่านั้น โลกถึงจะหมุน วันนี้ จีนกับรัสเซียบอก ไม่จำเป็นนะ เปโตรหยวน หรือเปโตรรูเบิล ก็หมุนโลกได้เหมือนกัน อเมริกาบอก ระบบการเงินในโลก ต้องคุมด้วยระบบธนาคารกลางของอเมริกา จีนกับรัสเซียบอก ไม่จำเป็นนะ ถ้าเราสร้างระบบที่พวกเราเห็นพ้องกันว่ามันยุติธรรมได้ และตอนนี้ จีนกับรัสเซีย ก็กำลังค้าขายกันด้วยการแลกเปลี่ยนเงินสกุลของพวกเขา ตามค่าของเงินที่พวกเขาตกลงกันเอง อ้าว พวกเอ็งตกลงกันเองได้ พวกผมก็ตกลงกันได้เหมือนกัน มีปัญหาไหม อเมริกากับพวกสร้าง World Bank, IMF มาเป็นกลไกด้านการเงิน คุมโลกจนกระดิกแทบไม่ออก วันนี้ จีนกับรัสเซียและพวกสร้าง AIIB ขึ้นมาเป็นทางเลือก อเมริกาสร้างใอ้ 3 หมาไน เป็นตัววัดเครดิตเรตติ้งของธุรกิจ ของประเทศต่างๆ ตามหลักเกณท์ที่มีผู้ค้านมากมาย ว่าไม่เป็นธรรม วันนี้ จีนกับรัสเซีย ก็กำลังสร้างบริษัทวัดเครดิตเช่นนั้นเหมือนกัน และบอกว่าเป็นธรรมกว่า เราจะได้ยินเรื่องทำนองนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อันที่จริง มันควรจะเป็นเรื่องน่ายินดี ที่มีการเพิ่มทางเลือกให้แก่มนุษยชาติ แต่ดูเหมือนอเมริกาไม่ยินดี นอกจากไม่ยินดีแล้ว อเมริกายังแสดงอาการ ทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกด้วยว่า อเมริกาไม่พอใจอย่างยิ่ง อเมริกามองว่า การที่อีกฝ่าย และมนุษยชาติ มีทางเลือก มันเป็นการคุกคาม การเป็นผู้ครอบครองโลกใบนี้แต่ผู้เดียวของอเมริกา( America World Dominence) และ อเมริกาเท่านั้นนะ ที่จะเป็นผู้กำหนดชะตาของโลก มันต้องเป็นไปตามเส้นทาง วิธีการ ระบบ ที่อเมริกาเลือก และเห็นชอบสิ เข้าใจไหม และเพราะอเมริกา มีแนวคิด และแนวปฏิบัติเข่นนี้ โลกนี้ถึงได้ยุ่งเหยิงอย่างไม่ควรจะเป็น เมื่อใดที่เรื่องอะไร ที่ไหน ที่ไม่เป็นไปตามแนวที่อเมริกาเห็นชอบ หรือเมื่ออเมริกาอยากได้สมบัติของเขา ประเทศเหล่านั้นก็ถูกสื่อที่เป็นมือตีนของอเมริกา ฟอกย้อมให้เป็นคนเลว เป็นเผด็จการ เป็นผู้ร้าย เป็นโจร เมื่อสื่อย้อมจนได้ที่ อเมริกาก็ยาตราใช้อำนาจของอาวุธของตัวเองเข้าไปตัดสิน และประเทศเหล่านั้น ก็ถึงแก่การกาลวิบัติ ฉิบหาย จนถึงสิ้นชาติ โลกนี้จึงอยู่ในกำมือของอเมริกา ที่ใช้มาตรฐานของตน ที่มีหลายระดับ หลายแบบ ตามสันดานจิ๊กโก๋เป็นเครื่องตัดสิน (2) แดนสยามของสมันน้อย กำลังถูกอเมริกาจับตามองอย่างไม่พอใจอย่างยิ่ง ตั้งแต่สมันน้อยเริ่มไม่ว่าง่าย เมื่อสมันน้อยทนมีรัฐบาลโคตรโกง ไม่ไหว ออกมาขับไล่ อเมริกายื่นหน้ามาถาม ไล่เขาทำไม เขามาจากการเลือกตั้ง เสือกไหม เสือกสิ ในความเห็นของผม ทำไมเอ็งต้องมาออกความเห็นเรื่องบ้านผมทุกเรื่อง วันนี้แดนสยาม มีทหารเป็นผู้ใช้อำนาจในการบริหาร โดยยังไม่มีการลือกตั้ง อเมริกาจะลงแดงตายเสียให้ได้ เมื่อไหร่ ไทยแลนด์จะมีการเลือกตั้ง อเมริการับไม่ได้กับการปฏิวัติ รับไม่ได้กับการไม่เลือกตั้ง รับไม่ได้กับการไม่เป็นประชาธิปไตย อเมริกาไม่ชอบ ไม่ชอบ และไม่ชอบ ทำไมไม่ลงไปดื้นเร่าๆกลิ้งกับพื้น ตอนด่าไทยแลนด์เลยละ (วะ) จะได้สมกับเป็นชาติมหาอำนาจใหญ่ยิ่งที่สุดในโลก Wall Street Journal ลงบทความ เมื่อวันที่ 23 กรกฏาคมนี้ เขียนโดย นาย Desmond Dalton ซึ่งเป็นนายทหารอเมริกัน ที่เกษียณแล้ว และเคยเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของอเมริกาในประเทศไทย บทความนั้นชื่อว่า ” Saving America’s Ties With Thailand” หลายท่านคงเห็นแล้ว และเข้าใจว่าสื่อไทยก็น่าจะลงแล้ว แต่ผมมีมุมมองของผม ที่อาจจะต่างไปบ้าง บทความดังกล่าว สรุปว่า อเมริกาไม่พอใจไทย ตั้งแต่มีการปฏิวัติเมื่อปี ค.ศ.2014 (ก็ปฏิวัติของลุงตู่นั่นแหละ) และความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับไทย ก็เสื่อมลงมากมายอย่างน่าใจหาย อเมริกาหันหลังให้กับรัฐบาลทหาร อย่างไม่ไว้หน้า แถมขู่ให้ไทยรีบมีการเลือกตั้งอย่างรวดเร็ว มิฉะนั้น สัมพันธ์อเมริกาไทยก็จะยิ่งเสื่อมลงไปอีกเรื่อยๆ (จะให้เสื่อมลงถึงไหน นี่ยังไม่ถึงดินหรือไง สงสัยอยากได้สัมพันธ์แบบใต้ดิน แบบนั้น ต้องไปแถวประเทศที่ถนัดแบกถาด ฮา) คุณทหารอดีตที่ปรึกษา บอกว่า การที่อเมริกาปฏิบัติต่อไทยเช่นนี้ ทำให้อเมริกาเสียโอกาสในไทยอย่างยิ่ง และทำให้นโยบายของรัฐบาลโอบามา ที่คิดจะมาถ่วงดุลอำนาจ ในเอเซียแปซิฟิกจะกลายเป็นแค่ราคาคุย ไม่ใช่ว่า อเมริกาควรจะหลับหู หลับตา กับสิ่งที่ไทยทำ แต่เพื่อรักษาโอกาสของอเมริกา อเมริกาก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่สร้างศัตรูกับไทย ด้วยการด่าว่าทหารไทยอย่างเอิกเกริก ไปพูด (ด่า) กันเงียบๆก็ได้นะ แถมการที่อเมริกาตัดงบอาวุธ ตัดงบการอบรม สาระพัดกับไทย กลายเป็นการผลักให้ไทยหันไปสร้างสัมพันธ์กับชาติอื่น เช่นจีนแทน… ….และไทย ก็เลยปิดประตูทางเข้า ที่อเมริกาเคยเข้ามาใช้ไทยอย่างอิสระ สะดวกสบายไปเรียบร้อย และจากการตัดสินใจซื้ออาวุธล่าสุดของไทย แสดงให้เห็นว่า ไทยไม่คิดจะพึ่งพาอเมริกาด้านอาวุธเพียงรายเดียว นี่เป็นก้าวที่พลาดอย่างยิ่งของอเมริกา แม้ไทยจะเป็นเพียงประเทศขนาดกลาง มีพลเมือง ประมาณ 70 ล้านคน มีเศรษฐกิจเพียงอันดับที่ 22 ของโลก … แต่ไทย มีความหมายในเชิงยุทธศาสตร์อย่างยิ่งกับอเมริกา …… ….เส้นทางจากไทย เป็นเส้นทางเดียว ที่กองทัพอเมริกันเชื่อถือ ที่จะใช้เป็นจุดผ่านเข้าไปสู่แผ่นดินใหญ่ของเอเซีย… …It offers U.S forces the only reliable access point to mainland Asia… นอกจากนี้ อุตสาหกรรมด้านการผลิตอาวุธของอเมริกา ได้รับการอุดหนุนจากงบประมาณด้านความมั่นคงก้อนใหญ่ ของไทยทุกปี บทความที่เหลือ ก็เป็นการสรรเสริญ ถึงความเก่งกล้าสามารถด้านการทหารของไทย รวมทั้งด้านการเป็นผู้นำในภูมิภาคของไทย พร้อมทั้งข้อเสนอแนะ ให้อเมริกากลับมาเจรจาโดยใช้คำหวานกับไทยเสียใหม่ ให้ไทยกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย และเพื่อที่อเมริกาจะได้ใช้ประโยชน์จากการมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันให้มากที่สุด…โดยทำผ่านการพูดคุยกับผู้นำทหาร นักวิชาการ และราษฎรที่มีชื่อเสียง….อืม.. พอเห็นไหมครับ ว่าบทความนี้มันสื่ออะไรกับเราบ้าง มันไม่มีส่วนไหนเลย ที่แสดงถึงความเข้าใจ และเห็นใจประเทศไทย มันมีแต่ว่า เขาจะใช้ประโยชน์จากเราได้อย่างไรบ้าง และจะ “ทำอย่างไร” ที่จะกลับมาจิกหัวเรา ได้อย่างเดิม บทความนี้ เป็นการโยนหินถามทางที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะ คำแนะนำ ว่า อเมริกาควร “ทำอย่างไร” เพื่อจะกลับมา อเมริกา น่าจะรู้ตัวแล้วว่า อเมริกากำลังเดินหมากผิดจนน่าโขกหัวตัวเอง ในยามที่โลกแบ่งชัดเป็น 2 ขั้ว เมื่อจีนและรัสเซียอยู่คนละขั้วกับอเมริกา แต่อเมริกาดันถีบหมากชื่อไทยแลนด์ กระเด็นออกไปนอกกระดานของอเมริกา และก็เป็นการถีบทิ้งอย่างเอิกเกริก เล่นงานกันทุกทาง ไม่ว่าจะโดยแสดงด้วยกริยา อาการ หรือการแสดงด้วยวาจา การด่า การเขียน ทั้งทางตรง ทางอ้อม แม้กระทั่งในบทความของถังขยะความคิด ไม่ว่าถังไหน เมื่อพูดถึงอเมริกาและพวก จะไม่ปรากฏชื่อไทยแลนด์ แดนสยามของสมันน้อยแม้แต่ครั้งเดียว คบกันมา กว่า 70 ปี บทจะถีบทิ้ง ก็ไม่เหลือใย เหลือหน้ากันไว้ อย่างนี้จะกลับมาเป็นเพื่อนกันใหม่ จะให้มองกันติดสนิทใจ จะใช้กาวยี่ห้อไหนดี(วะ) อเมริกา กำลังทดสอบไทย ตามสันดานจิ๊กโก๋ปากซอย ด้วยการบีบคั้นทุกรูปแบบ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาใช้ hard power (อาวุธ) อเมริกาจึงใช้ soft power (อำนาจที่ไม่ต้องใช้อาวุธ เช่น การคว่ำบาตร การกีดกัน การระงับ โดยอ้างว่าไม่ได้มาตรฐานการ และใช้มากที่สุดคือ ใช้สื่อโจมตี) เราจึงได้เห็นตั้งแต่ การโจมตีเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ การเลื่อนการเลือกตั้ง เรื่องการไม่มีมนุษยธรรม ตั้งแต่โรฮิงญา มาจนถึงอุยกูร์ การที่บริษักการบินไทยไม่ได้มาตรฐาน เรื่องส่งออกอาหารไม่ผ่านมาตรฐาน ใช้แรงงานผิดมาตรฐาน ข่าวเรื่องอียู คว่ำบาตรไทย การจ่าหน้าซองผิด ฯลฯ ยังจะมีสาระพัด ตะหวักตะบวยเลวไปกว่านี้อีกมากมาย ที่มันจะสรรหา ยกขึ้นตามมาอีก การก่อกวนในรูปแบบต่างๆ ก็ยังจะเกิดขึ้นอีก และอาจจะรุนแรงขึ้น เป้าหมายก็เพื่อสั่นคลอนเรา พยายามทุกอย่างให้สมันน้อยปอดแหก จะได้ไม่กล้า แหกคอก มาถึงวันนี้ วันที่ต่างก็เริ่มเห็นชัดแล้ว ว่าอะไรคอยอยู่ข้างหน้า อเมริกา คิดตกหรือยัง ว่า จะตบหน้าเพื่อนเก่า 70 ปีต่อไปอีก โทษฐานคิดแหกคอก หรือ อเมริกาจะทำไม่รู้ไม่ชี้ เดินกลับมา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะชักสำนึกได้ว่า ถ้าจะใช้ไอ้พวกลูกกระเป๋ง มาแบกถาดถือปืน อาจจะไม่ได้ผลอย่างที่คิด จิ๊กโก๋ทำได้ไหม ทำได้สบายมาก ถ้าจำเป็นจริงๆ อเมริกาก็หาวิธีกลับเข้ามาตบหลังลูบหัวไทยได้ ถ้าเดินเข้ามาตรงๆไม่ได้ หนอนในบ้าน ที่ยังเห็นอเมริกาเป็นพ่อ ยังมีอีกแยะ คงหาทางให้ สมันน้อยเดินจ๋อยๆกลับเข้าคอกเอง โดยนึกว่าอเมริกาไม่เกี่ยว แล้วเราจะว่ายังไงครับ…. ตอนนี้ ลุงตู่กำลังทำหน้าที่เป็นกัปตัน พาเรือใหญ่ขนาดกลาง ขนคนประมาณ 70 ล้านคน มุ่งหน้าไปตามลำน้ำใหญ่ สายน้ำเริ่มเชี่ยวขึ้นทุกที แถมข้างหน้า มีวังน้ำวนเห็นอยู่ชัดๆ เรือจะผ่านวังน้ำวน ไปได้หรือเปล่ายังไม่รู้ ลุงตู่จะคัดท้าย นำเรือขนาดกลางนี้ ไปรอดไหม ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับฝีมือคัด ท้ายของลุงตู่เอง แต่อีกส่วน ก็ขึ้นอยู่กับผู้โดยสาร 70 ล้านคนนั่นด้วย จะเอาอย่างไรล่ะ จะให้กัปตันพาเรือเดินหน้า หรือเปลี่ยนใจ ไม่ไปต่อแล้ว กลัวน้ำวน กลัวโจรปล้น กลัวจิ๊กโก๋ขู่ ให้กัปตันทิ้งสมอ จอดมันริมฝั่งนั่นแหละ ใครจะมาเอาเรือก็เอาไป แล้วจะจอดฝั่งไหนล่ะ ฝั่งที่คุ้นๆกันมา 70 ปี เดี๋ยวดี เดียวด่า ทำเหมือนสมันน้อยเป็นขี้ข้า หรือจะจอดอีกฝั่ง จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ แต่เท่าที่ดู เขาว่าเป็นประเภทไม่ชอบเป็นขี้ข้าใคร แต่จะทิ้งสมอจอดเรือ ยามน้ำเชี่ยว ก็ใช่ว่าจะทำง่าย เผลอๆ ล่มตอนจอดนี่แหละ สมันน้อย ได้เป็นสมันน้ำ ลอยคอกันเป็นแถว เออ..แล้ว อยู่ๆ จะจอดเรือ ยกประเทศให้เขาเลยงั้นหรือ จะมีคนไม่ยอม หรือ จะมีคนอยากให้เขาจูงกลับเข้าคอก ผมตอบไม่ได้ รู้แต่ว่า หนอนในที่ชอบอยู่คอก และชอบถูกจูงยังมีอยู่ แต่ถ้าเราจะเลือกเดินหน้า ผู้โดยสารก็ต้องทำความเข้าใจ และปรับชีวิตตัวเองบ้าง ต้องรับรู้ว่า กำลังนั่งเรือไปในทางน้ำเชี่ยว ก็ต้องนั่งให้มีสติ เตรียมอุปกรณ์ทั้งด้านส่วนตัวและ ด้านสติปัญญาให้พร้อม เริ่มฝึกตัวเองให้มีวินัย ช่วยเหลือตัวเองได้ นั่งเรือไป ไม่ใช่วีดว้าย กระตู้วู้ ไปตลอดทาง อะไรนิดก็โวย อะไรหน่อยก็ด่า ฟังอะไรมาไม่ได้ยังไม่ทันกรอง ก็แชร์กัน ไลน์กัน เหมือนคนมีแต่นิ้ว แต่ไม่มีสมอง เป็นมนุษย์พันธ์ใหม่ และอย่าเป็นประเภทชอบเอามือราน้ำ แบบนี้ ต่อให้กัปตันเก่งยังไง เรือก็อาจล่ม… บ้านเมืองมาถึงจุดสำคัญ ตื่นกันได้แล้วครับ ลดเรื่องไร้สาระลงเสียบ้าง เอาใจใส่บ้านเมืองกันหน่อย อย่างที่ผมเคยบอก ความเข้าใจและเห็นพ้องกัน ระหว่างผู้บริหารบ้านเมืองกับพลเมือง เป็นความมั่นคงของชาติอย่างหนึ่ง ปิดทางไม่ให้ศัตรูทั้งภายนอกและภายในเข้ามาทำร้าย และทำลายบ้านเมืองเราได้ เราจะได้ช่วยกัน พาเรือผ่านน้ำเชี่ยวไปได้ เป็นสิ่งที่เราทำให้บ้านเมืองของเราได้นะครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 29 ก.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 472 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP 81
    BITcoin อาจลงมาเล่น 7x,xxx USD คืนนี้ต้องจับตา indicator มันบ่งบอก
    EP 81 BITcoin อาจลงมาเล่น 7x,xxx USD คืนนี้ต้องจับตา indicator มันบ่งบอก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • DJI หันมาลงทุนใน 3D Printing

    DJI ได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัทแม่ของ Elegoo ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3D ราคาประหยัด โดยมีการปรับทะเบียนธุรกิจในจีนเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา การลงทุนครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการ กระจายความเสี่ยง จากธุรกิจโดรนที่กำลังถูกจับตามองด้านความมั่นคงในสหรัฐฯ

    แรงกดดันจากสหรัฐฯ
    ตั้งแต่ปี 2016 สหรัฐฯ มีความกังวลด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับโดรนของ DJI และในปี 2020 บริษัทถูกขึ้นบัญชี Entity List ของกระทรวงพาณิชย์ ทำให้ไม่สามารถซื้อชิ้นส่วนจากบริษัทอเมริกันได้ แม้ยังขายโดรนให้ประชาชนทั่วไป แต่ในปี 2024 สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เคยเสนอร่างกฎหมายแบน DJI โดยให้เวลาหนึ่งปีพิสูจน์ว่าไม่เป็นภัยต่อความมั่นคง

    Elegoo และตลาด 3D Printing
    Elegoo เป็นแบรนด์ที่โด่งดังในตลาดเครื่องพิมพ์ 3D ราคาประหยัด เช่น Elegoo Centauri Carbon และมีฐานลูกค้าทั่วโลก การที่ DJI เข้ามาลงทุนจึงถูกมองว่าเป็นการเข้าสู่ตลาดที่กำลังเติบโต และอาจใช้เทคโนโลยี 3D Printing เพื่อสนับสนุนการผลิตชิ้นส่วนโดรนในอนาคต

    ความเสี่ยงและความเป็นไปได้
    แม้การลงทุนครั้งนี้จะช่วยลดความเสี่ยง แต่ DJI ยังต้องเผชิญกับการตรวจสอบจากสหรัฐฯ ที่มองว่าบริษัทมีความเชื่อมโยงกับกฎหมายข่าวกรองของจีน ซึ่งบังคับให้บริษัทต้องให้ความร่วมมือกับรัฐหากถูกขอข้อมูล ทำให้อนาคตของ DJI ในตลาดสหรัฐฯ ยังคงไม่แน่นอน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    DJI ลงทุนใน Elegoo
    กระจายธุรกิจจากโดรนไปสู่ 3D Printing

    แรงกดดันจากสหรัฐฯ
    ถูกขึ้นบัญชี Entity List ปี 2020
    สภาสหรัฐฯ เคยเสนอร่างกฎหมายแบน DJI

    จุดแข็งของ Elegoo
    ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3D ราคาประหยัด
    มีฐานลูกค้าทั่วโลก

    คำเตือนสำหรับอนาคต
    DJI ยังถูกจับตามองด้านความมั่นคง
    ความเสี่ยงจากกฎหมายข่าวกรองจีนยังคงอยู่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/dronemaker-dji-buys-into-3d-printer-manufacturer-elegoo-move-seen-as-way-to-diversify-away-from-drones-amid-worries-of-u-s-ban
    🚁 DJI หันมาลงทุนใน 3D Printing DJI ได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัทแม่ของ Elegoo ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3D ราคาประหยัด โดยมีการปรับทะเบียนธุรกิจในจีนเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา การลงทุนครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการ กระจายความเสี่ยง จากธุรกิจโดรนที่กำลังถูกจับตามองด้านความมั่นคงในสหรัฐฯ 🇺🇸 แรงกดดันจากสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2016 สหรัฐฯ มีความกังวลด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับโดรนของ DJI และในปี 2020 บริษัทถูกขึ้นบัญชี Entity List ของกระทรวงพาณิชย์ ทำให้ไม่สามารถซื้อชิ้นส่วนจากบริษัทอเมริกันได้ แม้ยังขายโดรนให้ประชาชนทั่วไป แต่ในปี 2024 สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เคยเสนอร่างกฎหมายแบน DJI โดยให้เวลาหนึ่งปีพิสูจน์ว่าไม่เป็นภัยต่อความมั่นคง 🖨️ Elegoo และตลาด 3D Printing Elegoo เป็นแบรนด์ที่โด่งดังในตลาดเครื่องพิมพ์ 3D ราคาประหยัด เช่น Elegoo Centauri Carbon และมีฐานลูกค้าทั่วโลก การที่ DJI เข้ามาลงทุนจึงถูกมองว่าเป็นการเข้าสู่ตลาดที่กำลังเติบโต และอาจใช้เทคโนโลยี 3D Printing เพื่อสนับสนุนการผลิตชิ้นส่วนโดรนในอนาคต ⚠️ ความเสี่ยงและความเป็นไปได้ แม้การลงทุนครั้งนี้จะช่วยลดความเสี่ยง แต่ DJI ยังต้องเผชิญกับการตรวจสอบจากสหรัฐฯ ที่มองว่าบริษัทมีความเชื่อมโยงกับกฎหมายข่าวกรองของจีน ซึ่งบังคับให้บริษัทต้องให้ความร่วมมือกับรัฐหากถูกขอข้อมูล ทำให้อนาคตของ DJI ในตลาดสหรัฐฯ ยังคงไม่แน่นอน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ DJI ลงทุนใน Elegoo ➡️ กระจายธุรกิจจากโดรนไปสู่ 3D Printing ✅ แรงกดดันจากสหรัฐฯ ➡️ ถูกขึ้นบัญชี Entity List ปี 2020 ➡️ สภาสหรัฐฯ เคยเสนอร่างกฎหมายแบน DJI ✅ จุดแข็งของ Elegoo ➡️ ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3D ราคาประหยัด ➡️ มีฐานลูกค้าทั่วโลก ‼️ คำเตือนสำหรับอนาคต ⛔ DJI ยังถูกจับตามองด้านความมั่นคง ⛔ ความเสี่ยงจากกฎหมายข่าวกรองจีนยังคงอยู่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/dronemaker-dji-buys-into-3d-printer-manufacturer-elegoo-move-seen-as-way-to-diversify-away-from-drones-amid-worries-of-u-s-ban
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนเธอร์แลนด์ระงับคำสั่งควบคุม Nexperia

    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้ตัดสินใจ ระงับคำสั่งฉุกเฉินที่บังคับควบคุมการดำเนินงานของ Nexperia ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปที่อยู่ภายใต้การถือครองของ Wingtech จากจีน หลังจากการเจรจาระหว่างหลายประเทศ รวมถึงจีน สหภาพยุโรป เยอรมนี และสหรัฐฯ มีความคืบหน้า โดยรัฐบาลระบุว่า Nexperia “ไม่มีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของซัพพลายเชน” ในช่วงนี้

    ผลกระทบต่อซัพพลายเชนโลก
    ก่อนหน้านี้ การบังคับควบคุมทำให้จีนตอบโต้ด้วยการจำกัดการส่งออกชิ้นส่วนจากโรงงาน Guangdong ซึ่งกระทบต่อการผลิตชิปที่จำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น Honda และ Volkswagen ต้องปรับการจัดหาชิ้นส่วนทันที การระงับคำสั่งครั้งนี้จึงช่วย ลดแรงกดดันต่อซัพพลายเชนโลก และเป็นสัญญาณว่าความร่วมมือระหว่างจีนและยุโรปอาจกลับมาดีขึ้น

    เงื่อนไขและข้อควรระวัง
    แม้คำสั่งจะถูกระงับ แต่ยังไม่ถูกยกเลิกอย่างถาวร Nexperia ยังต้องรายงานต่อรัฐบาลหากมีการโอนสินทรัพย์หรือทรัพย์สินทางปัญญา ขณะที่จีนมองว่านี่เป็น “ก้าวที่ถูกต้อง” แต่ยังย้ำว่าต้นเหตุของความขัดแย้งยังไม่ถูกแก้ไขทั้งหมด นั่นหมายความว่า ความเสี่ยงด้านการเมืองและการค้า ยังคงอยู่

    ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์
    กรณีนี้สะท้อนให้เห็นว่าแม้โลกจะจับตามองชิปประสิทธิภาพสูง แต่ ชิปที่ใช้ในยานยนต์และระบบพื้นฐานก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การหยุดชะงักเพียงเล็กน้อยสามารถสร้างผลกระทบใหญ่ต่อการผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง การผ่อนคลายข้อจำกัดครั้งนี้จึงถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การระงับคำสั่งควบคุม Nexperia
    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์คืนสิทธิการดำเนินงานให้กับ Wingtech จากจีน

    ผลกระทบต่อซัพพลายเชน
    จีนผ่อนคลายการส่งออกจาก Guangdong
    Honda และ Volkswagen ได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้

    เงื่อนไขที่ยังคงอยู่
    Nexperia ต้องรายงานการโอนสินทรัพย์หรือ IP ต่อรัฐบาล
    จีนยังมองว่าต้นเหตุความขัดแย้งยังไม่ถูกแก้ไข

    ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์
    ชิปพื้นฐานมีผลต่อการผลิตรถยนต์อย่างมาก

    คำเตือนสำหรับอนาคต
    ความเสี่ยงทางการเมืองและการค้าอาจกลับมาอีก
    คำสั่งถูก “ระงับ” ไม่ใช่ “ยกเลิกถาวร”

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/netherlands-suspends-nexperia-takeover-order-as-china-eases-export-curbs
    🇳🇱 เนเธอร์แลนด์ระงับคำสั่งควบคุม Nexperia รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้ตัดสินใจ ระงับคำสั่งฉุกเฉินที่บังคับควบคุมการดำเนินงานของ Nexperia ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปที่อยู่ภายใต้การถือครองของ Wingtech จากจีน หลังจากการเจรจาระหว่างหลายประเทศ รวมถึงจีน สหภาพยุโรป เยอรมนี และสหรัฐฯ มีความคืบหน้า โดยรัฐบาลระบุว่า Nexperia “ไม่มีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของซัพพลายเชน” ในช่วงนี้ 🌏 ผลกระทบต่อซัพพลายเชนโลก ก่อนหน้านี้ การบังคับควบคุมทำให้จีนตอบโต้ด้วยการจำกัดการส่งออกชิ้นส่วนจากโรงงาน Guangdong ซึ่งกระทบต่อการผลิตชิปที่จำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น Honda และ Volkswagen ต้องปรับการจัดหาชิ้นส่วนทันที การระงับคำสั่งครั้งนี้จึงช่วย ลดแรงกดดันต่อซัพพลายเชนโลก และเป็นสัญญาณว่าความร่วมมือระหว่างจีนและยุโรปอาจกลับมาดีขึ้น ⚖️ เงื่อนไขและข้อควรระวัง แม้คำสั่งจะถูกระงับ แต่ยังไม่ถูกยกเลิกอย่างถาวร Nexperia ยังต้องรายงานต่อรัฐบาลหากมีการโอนสินทรัพย์หรือทรัพย์สินทางปัญญา ขณะที่จีนมองว่านี่เป็น “ก้าวที่ถูกต้อง” แต่ยังย้ำว่าต้นเหตุของความขัดแย้งยังไม่ถูกแก้ไขทั้งหมด นั่นหมายความว่า ความเสี่ยงด้านการเมืองและการค้า ยังคงอยู่ 🚗 ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ กรณีนี้สะท้อนให้เห็นว่าแม้โลกจะจับตามองชิปประสิทธิภาพสูง แต่ ชิปที่ใช้ในยานยนต์และระบบพื้นฐานก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การหยุดชะงักเพียงเล็กน้อยสามารถสร้างผลกระทบใหญ่ต่อการผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง การผ่อนคลายข้อจำกัดครั้งนี้จึงถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การระงับคำสั่งควบคุม Nexperia ➡️ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์คืนสิทธิการดำเนินงานให้กับ Wingtech จากจีน ✅ ผลกระทบต่อซัพพลายเชน ➡️ จีนผ่อนคลายการส่งออกจาก Guangdong ➡️ Honda และ Volkswagen ได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้ ✅ เงื่อนไขที่ยังคงอยู่ ➡️ Nexperia ต้องรายงานการโอนสินทรัพย์หรือ IP ต่อรัฐบาล ➡️ จีนยังมองว่าต้นเหตุความขัดแย้งยังไม่ถูกแก้ไข ✅ ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ ➡️ ชิปพื้นฐานมีผลต่อการผลิตรถยนต์อย่างมาก ‼️ คำเตือนสำหรับอนาคต ⛔ ความเสี่ยงทางการเมืองและการค้าอาจกลับมาอีก ⛔ คำสั่งถูก “ระงับ” ไม่ใช่ “ยกเลิกถาวร” https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/netherlands-suspends-nexperia-takeover-order-as-china-eases-export-curbs
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Netherlands suspends Nexperia takeover order as China eases export curbs — de-escalation could be welcome break for automotive industry
    The Hague hands operational control back to Wingtech-owned chipmaker after talks with Beijing, but warns powers could return if supplies falter.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขยับหมาก ตอนที่ 5

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก”
    ตอน 5 (จบ)
    ใน 4 ประเทศ ที่ US National Military Strategy 2015 ระบุไว้ว่า ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด คือ ไม่ไว้วางใจว่างั้นเถอะ คือ รัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ และจีน นั้น อเมริกาอาจจะใช้วิธีจัดการกับ 4 ประเทศต่างกัน และเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะมันอาจกระทบเราได้อย่างนึกไม่ถึง นี่ก็เจอไปหลายดอกแล้ว รู้หรือไม่รู้เท่านั้น ว่าเป็นฝีมืออเมริกา
    อเมริกาจะจัดการกับรัสเซียอย่างไร ก็น่าจะเป็นการโหมโรงด้วยการเขย่า ยุโรป ทั้ง 2 จุด อย่างที่วิเคราะห์มาแล้ว หลังจากนั้นก็ดูว่ารัสเซีย จะเล่นแบบไหนกลับมา ใกล้กับรัสเซีย คืออิหร่าน แต่อเมริกา คงตัดสินใจลำบากในการจัดการอิหร่าน อิหร่านกลายเป็นหมากมีพิษร้าย ที่อเมริกายังหาเซรุ่มที่ช็อตเดียวอยู่หมัดไม่ได้
    สำหรับรัสเซีย เป็นเรื่องความไม่พอใจอย่างที่ สุดของอเมริกา ที่สั่งรัสเซียไม่ได้ พูดง่ายๆว่า เพราะรัสเซียไม่ยอมอ่อนข้อ เป็นขี้ข้า กินน้ำใต้ศอก ใต้เข่าอเมริกานั่นแหละ เพราะฉนั้น อเมริกาพร้อมที่จะจัดการกับรัสเซีย โดยไม่ต้องคิดมาก ไม่ยอม ก็ต้องบี้ ขยี้ให้แหลก ทำนองนั้น อีกอย่างที่สำคัญ บริเวณที่ตั้งของรัสเซียอันกว้างใหญ่ไพศาล แม้จะเต็มไปด้วยแหล่งพลังงาน และแร่มีค่า แต่มันยังไม่ใช่ของอเมริกา มีที่อเมริกาไปหลอกปล้นแถบนั้น บ้าง แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ เพราะฉนั้น อเมริกา จะส่งของขวัญ ชนิดใกล้ ชนิดไกล อเมริกา ไม่มีอะไรเสียหาย ไม่กระทบกับผลประโยชน์โดยตรงของอเมริกา แค่เสียดายที่ยังปล้นไม่หมดเท่านั้น
    แต่สำหรับอิหร่าน อิหร่านตั้งอยู่ในตะวันออกกลาง แวดล้อมไปด้วย ปั้มน้ำมันยี่ห้อนักล่าตราใบตองแห้ง ขืนส่งของขวัญให้อิหร่านผิดท่า ปั้มน้ำมันฉิบหายหมดไม่เหลือ ปวดหัวแทนครับ อย่ามาตอแหลว่า คิดน้ำมัน shale oil คุณภาพดี ราคาถูกได้แล้ว แต่เมื่อไหร่ถึงจะผลิตพอใช้พอขาย ที่สำคัญจะเล่นสงครามน่ะ ใช้น้ำมันแยะ จะเอามาจากไหน ส่งทางไหน
    น้ำมันของพวกเสี่ยปั้ม ส่งมาทางเอเซีย แปซิฟิกที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ ส่งได้ 2 ทาง ทางหนึ่งลงล่าง ผ่านจิบูติ เพื่อออกอ่าวเอเดน มามหาสมุทรอินเดีย ยังอยากจะรบกับเยเมนต่อไหม ไปเอาแผนที่มาดูนะครับ จะได้เห็นว่าใครเป็นต่อ ใครเป็นรอง อีกทางก็คือนู่น ไปออกอ่าวโอมาน ที่ต้องผ่านอิหร่าน ถ้าทั้ง 2 ทางถูกปิด จะส่งน้ำมันทางไหนครับพวกเสี่ยปั้ม คงเข้าใจแล้วนะครับ ว่าทำไมองค์ชายน้อยของซาอุดิ ถึงรีบไปนั่งคุยกับคุณอาปูตินถึงเครมลินเมื่อเดือนที่แล้ว หัดเหยียบเรือหลายแคมต้ังแต่ยังหนุ่ม
    เฉพาะเรื่องบริเวณที่ตั้งของอืห ร่าน ก็อาจทำให้อเมริกาขยับหมาก ไม่ได้อย่างใจแล้ว อเมริกาจะแก้อย่างไร ส่งของขวัญไปให้อิหร่าน ก็กลัวผิดท่า เกิดอิหร่านอยากส่งของขวัญ เป็นการตอบแทนที่อุตส่าห์เจรจานิวเคลียร์ แบบเจรจาไปด่าไปให้มั่ง อเมริกาจะทำอย่างไร มองไปทั่วทั่งตะวันออกกลาง มีแต่เสี่ยปั้มกับคุณหนูลูกหลาน จะรบอะไรเป็น ก็เห็นมีแต่อิสราเอล ที่พอจะรับมือกับอิหร่านได้สักแป๊บหนึ่ง อิสราเอลถึงออกอาการหนัก เกี่ยวกับเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ไม่น้อยกว่าเสี่ยปั้มใหญ่ซาอุ แต่คนละสาเหตุกัน เขาตกลงกันสำเร็จ ก็เหนื่อยแบบนึง เขาตกลงกันไม่สำเร็จก็เหนื่อยอีกแบบนึง และถึงมีข่าวว่าอเมริกานั่นแหละ เป็นผู้เพาะพันธ์ไอซิส เตรียมเอาไว้มาโซ้ย
    อิหร่าน ไม่ให้มาแตะต้องพวกเสี่ยปั้ม คนเพาะพันธ์ก็เรื่องนึง คนสนับสนุนจ่ายเงินก็อีกเรื่องนึง
    อิหร่านจึงกลายเป็นหมากตัวสำคัญ ทางด้านภูมิศาสตร์การเมือง อิหร่านสามารถทำให้เส้นทางเดินน้ำมันของตะวันออกกลางชะงัก หรือเส้นทางขาด แบบต่อไม่ติดได้ง่ายๆ และเมื่ออิหร่านมีความหมายกับตะวันออกกลางถึงขนาดนี้ อเมริกาจึงต้องทำทุกวิธี ที่ไม่ให้รัสเซียเข้ามาจับมือช่วยให้อิหร่านแข็งแรงขึ้นอีก แม้จะอยู่ใกล้กันแค่นั้น ยุโรปถึงน่าห่วง ที่อาจจะต้องมีเรื่องวุ่นวายเจียนตาย เพื่อเป็นหลุมล่อ หลุมดัก กักไม่ให้รัสเซียข้ามมาจับมือกับอิหร่านได้สดวก
    แล้วถ้าอเมริกาคิดจะรบกับจีน จะทำอย่างไร อุตส่าห์จัดซามูไรมาแบกถาด ไว้ช่วยรบ ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 รบเก่งนักนี่ มารบซ้ำอีกทีเป็นไง เป็นเรื่องของการเล่นซ้ำ เพราะยังฝันค้างกันทั้งนั้น
    เกาะญี่ปุ่น ไม่แน่ว่าจะรอดปลอดภัยแล้ว จากเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมา ส่วนรัฐธรรมนูญก็ยังแก้ไม่ออก (ออกแค่เปลาะแรกสภาร่าง สภาบนยังไปไม่ถึง) แต่กองทัพออกไปซุ่มอยู่แล้ว ตามฐานลับ แบบใบบัว กบกระโดด Lily pad ที่อเมริกาแอบสร้างกระจาย ไว้ตามเกาะลับตาในมหาสมุทรอินเดีย และ แปซิฟิก รอสัญญาน (รายละเอียดอยู่ในนิทานเรื่อง ยุทธการกบกระโดด) ให้เคลื่อนพลใหญ่จากมหาสมุทรอินเดีย และแปซิฟิก แต่ถ้าเกิดไม่มีน้ำมันให้เรือวิ่ง คงสนุก แถมถ้าจะวิ่งขึ้นมาจ่อจ้องอาเฮีย ถ้ามาจากมหาสมุทรอินเดีย ทางสดวก ใกล้ ก็ต้องผ่านช่องแคบมะละกา เรื่องนี้แหละ ที่สมันน้อยมีเสียว
    ความเดิม มิตรรักสัมพันธ์นานกว่า 70 ปี อยากจะกลับมาใช้ฐานทัพในบ้านสมันน้อย เป็นที่จอดนอนหลับ พักเครื่อง พักคนเสียหน่อย ฐานก็มีตั้งแยะ เงยหน้าขึ้นไปไม่ต้องใช้ดาวเทียม แค่ส่องกล้องเล็กๆ ก็เห็นอาเฮียกะอาซ้อจุ๋มจิ๋มกัน แล้ว ทะลึ่งไปทำปฏิวัติทำไม(วะ) แถมคนไทยเกิดอะไรขึ้น เคยสอนให้นั่งให้นอนง่าย เดียวนี้ทำไมดื้อจัง จะมาใช้ฐานแค่เนี้ยะ เอะอะโวยวายไปได้ ทีเมื่อก่อนอ้อนให้อยู่นานๆ ไอ้ไมเคิล ยอน นักข่าวไอ้กันตัวดี สืบข่าวในแดนสยาม แล้วขอให้พวกโลกสวยช่วยเงินสนับสนุน โลกสวยก็ใจดีส่งเงินเลี้ยงฝรั่ง ที่มาสืบข่าวบ้านเรา น่ารักดีนะครับ แต่ไอ้ยอนกลับบอกน่าสงสัย ว่า มีขบวนการปลุกปั่น ให้ชาวไทยแอนตี้อเมริกา อักลี่อเมริกัน ไม่เคยปรากฏให้เห็นตั้งแต่สงคราม เวียตนาม อยู่ดีๆก็โผล่ขี้นมา ไอ้ยอนครับ อย่าพูดมาก ถ้าอยู่กันดีๆ ไม่โผล่หรอกครับ แต่พวกเอ็งมันอยู่ไม่ดี คอยเสี้ยมคอยเสือก ก็เลยต้องถูกด่า ถูกต้าน เอ้า ลุง ด่าจบแล้วเข้าเรื่องต่อ
    ตามแผน อเมริกาต้องการคุมช่องแคบมะละกาเอง เพราะเรือขนน้ำมันที่ผ่านช่องแคบ มีผ่านเลยไปให้จีนด้วย แบบนี้ก็ต้องกัก แล้วไงล่ะ ตอนนี้จะกักยังไง ไอ้ที่ไปซ่อนไว้ตามใบบัว วิ่งมาตั้งไกลกว่าจะมาถึง จอดทิ้งค้างกลางทาง ก็อร่อยแน่ แบบนี้สมันน้อยจะไม่โดนทำโทษยังไง ให้ยืนขาเดียวคาบไม้บันทัดคงไม่ พอ เรื่องโรหิงญา อุยกูร์ จึงทยอยโผล่ และจะมีไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะทางใต้ ข้าเข้ามาอยู่ไม่ได้ เอ็งก็อย่าอยู่สบาย และ operation nemesis ไม่ใช่มีได้แต่ในกรีซ เมื่อเดือนกุมภา มีนา นางเหยี่ยวเดินสายแวะไปทุกแห่ง รวมทั้ง โครเอเซีย มอนเตเนโกร คุยเรื่องกองกำลังที่เลี้ยงไว้แถวนั้นอยู่หลายวัน และนางเหยี่ยว เพิ่งไปแถวนั้นอีก เมื่อ 3 กรกฏาคมนี้เอง น่าคิด…
    ประวัติของนางเหยี่ยวน่าสนใจอย่างยิ่ง ผัวเป็น (สาย) เหยี่ยวตัวจริง เป็นคนเขียนแผนบุกอิรัคให้คาวบอย Bush (รายละเอียดอยู่ในนิทาน เรื่องหักหน้าหักหลัง) ตอนนี้ก็อาจกำลังเขียนแผน เตรียมให้เมีย ปฏิบัติการที่ไหนบ้างไม่รู้
    แต่ก่อนจะมาถึงช่องแคบมะละกา ก็ต้องผ่านด่านอิหร่านให้ได้ก่อน ถ้าผ่านไม่พ้นอิหร่าน ก็มาไม่ถึงช่องแคบมะละกา ไอ้ที่วางแผน จะกักนำ้มันไม่ให้ถึงอาเฮีย ก็กลายเป็นฝันค้าง นี่จึงทำให้อิหร่านมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการเดินหมากการเมืองของนักล่าใบตองแห้ง ตามแนวทางนี้ ที่ต้องการจะตัดการเชื่อมเส้นทางโยงกัน ระหว่างรัสเซีย อิหร่าน และจีน
    เขียนมาถึงตอนนี้ ยังไม่ได้เอ่ยถึงน้องคิมของผมเลย น้องคิม แห่งเกาหลีเหนือ ที่อเมริกาบอกหมดปัญญาที่จะสร้างมิตรภาพด้วย เลยเตรียมจัดส่งนักการทูต ที่สร้างมิตรภาพในเกาหลีเหนือไม่สำเร็จ มาให้แดนสยามของสมันน้อยแทน แปลว่า เดี๋ยวนี้ อเมริกาจัดระดับความสัมพันธ์ กับแดนสยาม ลำดับเดียวกับเกาหลืเหนือหรือไง อย่าลืมเพิ่มชื่อเป็นประเทศที่ 5 ที่ต้องจับตามองด้วยแล้วกัน หรือเพิ่มชื่อแล้ว แต่ใช้หมึกแบบมองไม่เห็น เห็นเฉพาะกันเองวงใน
    ผมไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ แต่ผมมีความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่า น้องคิมของผม น่าจะพร้อมทุกรูปแบบ ในการต่อกรกับอเมริกา สามารถจัดส่งของขวัญ ทั้งระยะใกล้ไกลถึงหน้าบ้าน ไม่ด้อยกว่า ไปรษณีย์เฟดเด็กซ์ และน่าจะเป็นเหตุหนึ่ง ที่ทำให้อเมริกาต้องมาบัญชาการเองในแปซิฟิก และเมื่อจะแสดงบทเอง อเมริกาก็ต้องรีบจัดแถวลูกหาบ และคนรับใช้ หรือขี้ข้า ให้อยู่ในโอวาททั้งหมด
    สมันน้อยในแดนสยาม ก็อย่าลืมอ่านทวนแล้วกัน ว่าใครเขาทำอะไร เดินสายไปไหนบ้าง operation ต่างๆ ไม่ยากที่อเมริกาจะคิดขึ้นมาได้ทุกวันนะครับ
    แค่เรื่องจ่าหน้าซองผิด คิดว่าอเมริกาทำงานชุ่ยขนาดนั้นหรือ เปล่าหรอก มันเป็นการตรวจสอบปฏิกริยาต่างหาก ว่า สมันน้อยกลับไปเพลินดูละครน้ำเน่า เหมือนเดิมหรือเปล่า เดี๋ยวคนรับของขวัญมีน้อย....
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    19 ก.ค. 2558
    ขยับหมาก ตอนที่ 5 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก” ตอน 5 (จบ) ใน 4 ประเทศ ที่ US National Military Strategy 2015 ระบุไว้ว่า ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด คือ ไม่ไว้วางใจว่างั้นเถอะ คือ รัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ และจีน นั้น อเมริกาอาจจะใช้วิธีจัดการกับ 4 ประเทศต่างกัน และเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะมันอาจกระทบเราได้อย่างนึกไม่ถึง นี่ก็เจอไปหลายดอกแล้ว รู้หรือไม่รู้เท่านั้น ว่าเป็นฝีมืออเมริกา อเมริกาจะจัดการกับรัสเซียอย่างไร ก็น่าจะเป็นการโหมโรงด้วยการเขย่า ยุโรป ทั้ง 2 จุด อย่างที่วิเคราะห์มาแล้ว หลังจากนั้นก็ดูว่ารัสเซีย จะเล่นแบบไหนกลับมา ใกล้กับรัสเซีย คืออิหร่าน แต่อเมริกา คงตัดสินใจลำบากในการจัดการอิหร่าน อิหร่านกลายเป็นหมากมีพิษร้าย ที่อเมริกายังหาเซรุ่มที่ช็อตเดียวอยู่หมัดไม่ได้ สำหรับรัสเซีย เป็นเรื่องความไม่พอใจอย่างที่ สุดของอเมริกา ที่สั่งรัสเซียไม่ได้ พูดง่ายๆว่า เพราะรัสเซียไม่ยอมอ่อนข้อ เป็นขี้ข้า กินน้ำใต้ศอก ใต้เข่าอเมริกานั่นแหละ เพราะฉนั้น อเมริกาพร้อมที่จะจัดการกับรัสเซีย โดยไม่ต้องคิดมาก ไม่ยอม ก็ต้องบี้ ขยี้ให้แหลก ทำนองนั้น อีกอย่างที่สำคัญ บริเวณที่ตั้งของรัสเซียอันกว้างใหญ่ไพศาล แม้จะเต็มไปด้วยแหล่งพลังงาน และแร่มีค่า แต่มันยังไม่ใช่ของอเมริกา มีที่อเมริกาไปหลอกปล้นแถบนั้น บ้าง แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ เพราะฉนั้น อเมริกา จะส่งของขวัญ ชนิดใกล้ ชนิดไกล อเมริกา ไม่มีอะไรเสียหาย ไม่กระทบกับผลประโยชน์โดยตรงของอเมริกา แค่เสียดายที่ยังปล้นไม่หมดเท่านั้น แต่สำหรับอิหร่าน อิหร่านตั้งอยู่ในตะวันออกกลาง แวดล้อมไปด้วย ปั้มน้ำมันยี่ห้อนักล่าตราใบตองแห้ง ขืนส่งของขวัญให้อิหร่านผิดท่า ปั้มน้ำมันฉิบหายหมดไม่เหลือ ปวดหัวแทนครับ อย่ามาตอแหลว่า คิดน้ำมัน shale oil คุณภาพดี ราคาถูกได้แล้ว แต่เมื่อไหร่ถึงจะผลิตพอใช้พอขาย ที่สำคัญจะเล่นสงครามน่ะ ใช้น้ำมันแยะ จะเอามาจากไหน ส่งทางไหน น้ำมันของพวกเสี่ยปั้ม ส่งมาทางเอเซีย แปซิฟิกที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ ส่งได้ 2 ทาง ทางหนึ่งลงล่าง ผ่านจิบูติ เพื่อออกอ่าวเอเดน มามหาสมุทรอินเดีย ยังอยากจะรบกับเยเมนต่อไหม ไปเอาแผนที่มาดูนะครับ จะได้เห็นว่าใครเป็นต่อ ใครเป็นรอง อีกทางก็คือนู่น ไปออกอ่าวโอมาน ที่ต้องผ่านอิหร่าน ถ้าทั้ง 2 ทางถูกปิด จะส่งน้ำมันทางไหนครับพวกเสี่ยปั้ม คงเข้าใจแล้วนะครับ ว่าทำไมองค์ชายน้อยของซาอุดิ ถึงรีบไปนั่งคุยกับคุณอาปูตินถึงเครมลินเมื่อเดือนที่แล้ว หัดเหยียบเรือหลายแคมต้ังแต่ยังหนุ่ม เฉพาะเรื่องบริเวณที่ตั้งของอืห ร่าน ก็อาจทำให้อเมริกาขยับหมาก ไม่ได้อย่างใจแล้ว อเมริกาจะแก้อย่างไร ส่งของขวัญไปให้อิหร่าน ก็กลัวผิดท่า เกิดอิหร่านอยากส่งของขวัญ เป็นการตอบแทนที่อุตส่าห์เจรจานิวเคลียร์ แบบเจรจาไปด่าไปให้มั่ง อเมริกาจะทำอย่างไร มองไปทั่วทั่งตะวันออกกลาง มีแต่เสี่ยปั้มกับคุณหนูลูกหลาน จะรบอะไรเป็น ก็เห็นมีแต่อิสราเอล ที่พอจะรับมือกับอิหร่านได้สักแป๊บหนึ่ง อิสราเอลถึงออกอาการหนัก เกี่ยวกับเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ไม่น้อยกว่าเสี่ยปั้มใหญ่ซาอุ แต่คนละสาเหตุกัน เขาตกลงกันสำเร็จ ก็เหนื่อยแบบนึง เขาตกลงกันไม่สำเร็จก็เหนื่อยอีกแบบนึง และถึงมีข่าวว่าอเมริกานั่นแหละ เป็นผู้เพาะพันธ์ไอซิส เตรียมเอาไว้มาโซ้ย อิหร่าน ไม่ให้มาแตะต้องพวกเสี่ยปั้ม คนเพาะพันธ์ก็เรื่องนึง คนสนับสนุนจ่ายเงินก็อีกเรื่องนึง อิหร่านจึงกลายเป็นหมากตัวสำคัญ ทางด้านภูมิศาสตร์การเมือง อิหร่านสามารถทำให้เส้นทางเดินน้ำมันของตะวันออกกลางชะงัก หรือเส้นทางขาด แบบต่อไม่ติดได้ง่ายๆ และเมื่ออิหร่านมีความหมายกับตะวันออกกลางถึงขนาดนี้ อเมริกาจึงต้องทำทุกวิธี ที่ไม่ให้รัสเซียเข้ามาจับมือช่วยให้อิหร่านแข็งแรงขึ้นอีก แม้จะอยู่ใกล้กันแค่นั้น ยุโรปถึงน่าห่วง ที่อาจจะต้องมีเรื่องวุ่นวายเจียนตาย เพื่อเป็นหลุมล่อ หลุมดัก กักไม่ให้รัสเซียข้ามมาจับมือกับอิหร่านได้สดวก แล้วถ้าอเมริกาคิดจะรบกับจีน จะทำอย่างไร อุตส่าห์จัดซามูไรมาแบกถาด ไว้ช่วยรบ ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 รบเก่งนักนี่ มารบซ้ำอีกทีเป็นไง เป็นเรื่องของการเล่นซ้ำ เพราะยังฝันค้างกันทั้งนั้น เกาะญี่ปุ่น ไม่แน่ว่าจะรอดปลอดภัยแล้ว จากเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมา ส่วนรัฐธรรมนูญก็ยังแก้ไม่ออก (ออกแค่เปลาะแรกสภาร่าง สภาบนยังไปไม่ถึง) แต่กองทัพออกไปซุ่มอยู่แล้ว ตามฐานลับ แบบใบบัว กบกระโดด Lily pad ที่อเมริกาแอบสร้างกระจาย ไว้ตามเกาะลับตาในมหาสมุทรอินเดีย และ แปซิฟิก รอสัญญาน (รายละเอียดอยู่ในนิทานเรื่อง ยุทธการกบกระโดด) ให้เคลื่อนพลใหญ่จากมหาสมุทรอินเดีย และแปซิฟิก แต่ถ้าเกิดไม่มีน้ำมันให้เรือวิ่ง คงสนุก แถมถ้าจะวิ่งขึ้นมาจ่อจ้องอาเฮีย ถ้ามาจากมหาสมุทรอินเดีย ทางสดวก ใกล้ ก็ต้องผ่านช่องแคบมะละกา เรื่องนี้แหละ ที่สมันน้อยมีเสียว ความเดิม มิตรรักสัมพันธ์นานกว่า 70 ปี อยากจะกลับมาใช้ฐานทัพในบ้านสมันน้อย เป็นที่จอดนอนหลับ พักเครื่อง พักคนเสียหน่อย ฐานก็มีตั้งแยะ เงยหน้าขึ้นไปไม่ต้องใช้ดาวเทียม แค่ส่องกล้องเล็กๆ ก็เห็นอาเฮียกะอาซ้อจุ๋มจิ๋มกัน แล้ว ทะลึ่งไปทำปฏิวัติทำไม(วะ) แถมคนไทยเกิดอะไรขึ้น เคยสอนให้นั่งให้นอนง่าย เดียวนี้ทำไมดื้อจัง จะมาใช้ฐานแค่เนี้ยะ เอะอะโวยวายไปได้ ทีเมื่อก่อนอ้อนให้อยู่นานๆ ไอ้ไมเคิล ยอน นักข่าวไอ้กันตัวดี สืบข่าวในแดนสยาม แล้วขอให้พวกโลกสวยช่วยเงินสนับสนุน โลกสวยก็ใจดีส่งเงินเลี้ยงฝรั่ง ที่มาสืบข่าวบ้านเรา น่ารักดีนะครับ แต่ไอ้ยอนกลับบอกน่าสงสัย ว่า มีขบวนการปลุกปั่น ให้ชาวไทยแอนตี้อเมริกา อักลี่อเมริกัน ไม่เคยปรากฏให้เห็นตั้งแต่สงคราม เวียตนาม อยู่ดีๆก็โผล่ขี้นมา ไอ้ยอนครับ อย่าพูดมาก ถ้าอยู่กันดีๆ ไม่โผล่หรอกครับ แต่พวกเอ็งมันอยู่ไม่ดี คอยเสี้ยมคอยเสือก ก็เลยต้องถูกด่า ถูกต้าน เอ้า ลุง ด่าจบแล้วเข้าเรื่องต่อ ตามแผน อเมริกาต้องการคุมช่องแคบมะละกาเอง เพราะเรือขนน้ำมันที่ผ่านช่องแคบ มีผ่านเลยไปให้จีนด้วย แบบนี้ก็ต้องกัก แล้วไงล่ะ ตอนนี้จะกักยังไง ไอ้ที่ไปซ่อนไว้ตามใบบัว วิ่งมาตั้งไกลกว่าจะมาถึง จอดทิ้งค้างกลางทาง ก็อร่อยแน่ แบบนี้สมันน้อยจะไม่โดนทำโทษยังไง ให้ยืนขาเดียวคาบไม้บันทัดคงไม่ พอ เรื่องโรหิงญา อุยกูร์ จึงทยอยโผล่ และจะมีไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะทางใต้ ข้าเข้ามาอยู่ไม่ได้ เอ็งก็อย่าอยู่สบาย และ operation nemesis ไม่ใช่มีได้แต่ในกรีซ เมื่อเดือนกุมภา มีนา นางเหยี่ยวเดินสายแวะไปทุกแห่ง รวมทั้ง โครเอเซีย มอนเตเนโกร คุยเรื่องกองกำลังที่เลี้ยงไว้แถวนั้นอยู่หลายวัน และนางเหยี่ยว เพิ่งไปแถวนั้นอีก เมื่อ 3 กรกฏาคมนี้เอง น่าคิด… ประวัติของนางเหยี่ยวน่าสนใจอย่างยิ่ง ผัวเป็น (สาย) เหยี่ยวตัวจริง เป็นคนเขียนแผนบุกอิรัคให้คาวบอย Bush (รายละเอียดอยู่ในนิทาน เรื่องหักหน้าหักหลัง) ตอนนี้ก็อาจกำลังเขียนแผน เตรียมให้เมีย ปฏิบัติการที่ไหนบ้างไม่รู้ แต่ก่อนจะมาถึงช่องแคบมะละกา ก็ต้องผ่านด่านอิหร่านให้ได้ก่อน ถ้าผ่านไม่พ้นอิหร่าน ก็มาไม่ถึงช่องแคบมะละกา ไอ้ที่วางแผน จะกักนำ้มันไม่ให้ถึงอาเฮีย ก็กลายเป็นฝันค้าง นี่จึงทำให้อิหร่านมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการเดินหมากการเมืองของนักล่าใบตองแห้ง ตามแนวทางนี้ ที่ต้องการจะตัดการเชื่อมเส้นทางโยงกัน ระหว่างรัสเซีย อิหร่าน และจีน เขียนมาถึงตอนนี้ ยังไม่ได้เอ่ยถึงน้องคิมของผมเลย น้องคิม แห่งเกาหลีเหนือ ที่อเมริกาบอกหมดปัญญาที่จะสร้างมิตรภาพด้วย เลยเตรียมจัดส่งนักการทูต ที่สร้างมิตรภาพในเกาหลีเหนือไม่สำเร็จ มาให้แดนสยามของสมันน้อยแทน แปลว่า เดี๋ยวนี้ อเมริกาจัดระดับความสัมพันธ์ กับแดนสยาม ลำดับเดียวกับเกาหลืเหนือหรือไง อย่าลืมเพิ่มชื่อเป็นประเทศที่ 5 ที่ต้องจับตามองด้วยแล้วกัน หรือเพิ่มชื่อแล้ว แต่ใช้หมึกแบบมองไม่เห็น เห็นเฉพาะกันเองวงใน ผมไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ แต่ผมมีความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่า น้องคิมของผม น่าจะพร้อมทุกรูปแบบ ในการต่อกรกับอเมริกา สามารถจัดส่งของขวัญ ทั้งระยะใกล้ไกลถึงหน้าบ้าน ไม่ด้อยกว่า ไปรษณีย์เฟดเด็กซ์ และน่าจะเป็นเหตุหนึ่ง ที่ทำให้อเมริกาต้องมาบัญชาการเองในแปซิฟิก และเมื่อจะแสดงบทเอง อเมริกาก็ต้องรีบจัดแถวลูกหาบ และคนรับใช้ หรือขี้ข้า ให้อยู่ในโอวาททั้งหมด สมันน้อยในแดนสยาม ก็อย่าลืมอ่านทวนแล้วกัน ว่าใครเขาทำอะไร เดินสายไปไหนบ้าง operation ต่างๆ ไม่ยากที่อเมริกาจะคิดขึ้นมาได้ทุกวันนะครับ แค่เรื่องจ่าหน้าซองผิด คิดว่าอเมริกาทำงานชุ่ยขนาดนั้นหรือ เปล่าหรอก มันเป็นการตรวจสอบปฏิกริยาต่างหาก ว่า สมันน้อยกลับไปเพลินดูละครน้ำเน่า เหมือนเดิมหรือเปล่า เดี๋ยวคนรับของขวัญมีน้อย.... สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 19 ก.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 364 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขยับหมาก ตอนที่ 3

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก”
    ตอน 3
    อยู่ๆ ทำไม Chatham House ถึงลุกขึ้นมาเล่นรัสเซียเสียแรง ยังกะตั้งใจจะแยกอยู่กันคนละโลกขนาดนั้น มันไม่น่าจะเป็นการโชว์กระเดือกเดี่ยว อย่างนั้นมันไม่ใช่รูปแบบของฝั่งตะวันตก ที่ชอบทาสี ตีปิ๊บ และรุมกันทึ้งตามสันดานนักล่าทั้งเก่าทั้งใหม่
    ย้อนไปดูความเคลื่อนไหวของโรงงานใบตองแห้งเสียหน่อย ไม่ต้องย้อนไปไกล เอาแค่ระยะใกล้ในเดือนมิถุนายน มีรายงายข่าวว่า เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน นาย Ashton Carter รัฐมนตรีกลาโหมของอเมริกา ที่มีสีหน้า เหมือนกินเต้าหู้บูดเข้าไปตลอดเวลา ได้เดินทางไปที่กองบัญชาการของกองทัพ US Eurpoean Commander ที่เมือง Stuttgart ของเยอรมัน และประชุมกับหัวกะทิของทหารอเมริกันประมาณ 2 โหล กับนักการทูตอีกหลายคน เพื่อหารือว่า จะยกระดับการจัดการทั้งในด้านเศรษฐกิจ และการทหาร กับรัสเซียอย่างไรดี เนื่องจากสัมพันธภาพกับรัสเซียตอนนี้ กำลังเปลี่ยนเป็นทางดิ่งลง sad turn และสถานการณ์ในยุโรป ก็ไม่ได้สวยหวานอย่างเมื่อก่อนแล้ว
    ในวันเดียวกันนั้น ส่วนหนึ่งของรายงานของนายพล Martin Demsey ประธานคณะทำงาน Chairman of the US Joint Chief of Staffs ที่ไม่รู้ว่าใครมืออ่อน ทำหลุดไปถึงสื่อ รายงานนั้นระบุว่า วอชิงตันกำลังคิดจะติดหัวรบนิวเคลียร์ใส่จรวดแถวยุโรป เป็นการตอบโต้รัสเซีย ที่ถูกกล่าวหาว่า กำลังทำผิดสัญญาเรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ระยะกลาง Intermediate-range Nuclear Forces (INF) ซึ่งรัสเซียบอกว่า เปล่าผิด จรวดที่ใช้ไม่อยู่ในข้อห้ามของสัญญา อเมริกาก็ใช้แบบนี้ในอิรัคไม่ใช่หรือ ประโยคหลัง ลุงนิทานถามแทน
    Pentagon กำลังคิดว่าจะติดตั้งจรวดยิงใส่รัสเซียที่ไหนดี ระหว่างยิงสวนใส่กลับไปที่จรวดรัสเซีย ที่กำลังลอยฟ้า หรือยิงใส่ฐานที่ตั้งกองกำลังของรัสเซีย จะยิงไปที่ไหนยังไม่ตัดสินใจ แต่นาย Robert Scher ผู้ช่วยคุณเต้าหูบูด ด้านนโยบายการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ได้แจ้งรัฐสภาเมื่อเมษายนนี้ว่า มีแผนเเช่นนั้นจริง ฮั่นแน่ จับได้แล้ว คิดรุกเขาแล้วซินะ
    หลังจากนั้นคุณเต้าหู้บูด ก็ไปประชุมกับหัวกะทิของนาโต้ที่ Brussels ตกลงจะเพิ่มกองกำลังรถถัง อาวุธหนัก อาวุธเบา เต็มอัตรา ให้กับฐานทัพนาโต้ที่อยู่แถวบอลติก รวมทั้งโปแลนด์ โรมาเนีย และบุลกาเรีย พวก (ที่เคยเป็น) เพื่อนรักคุณพี่ปูตินทั้งนั้น เปลี่ยนใจจากที่ว่า จะลดกำลังฝั่งแอตแลนติกไปเรียบร้อยแล้ว
    นอกจากนี้ ที่สำคัญ อเมริกาเพิ่งออกรายงาน US National Military Strategy (US NMS) 2015 เมื่อปลายเดือนมิถุนายนนี้เอง ประเทศที่อเมริกาจับตามองเป็นพิเศษมีอยู่ 4 ประเทศ คือ รัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ และจีน
    วิธีที่อเมริกาเขียนถึง 4 ประเทศ แม้ไม่ประกาศชัดเจนว่าเป็นศัตรู แต่การบรรยายสรรพคุณแต่ละประเทศ ก็ทำให้เห็นว่ายากจะเป็นมิตรต่อกัน ถึงว่า มันน่าจะเป็นปาหี่
    ไอ้เรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์น่ะ
    เมื่อย้อนมาดูช่วงเวลาของการอ อก Grand Strategy แผนสอยมังกร สำหรับจีน ที่ออกมาในเดือนเมษายน เรื่อง Russia Challenge กูไม่คบมึง ในเดือนมิถุนายน ยุทธศาสตร์ USNMS 2015 ในเดือนมิถุนายน เรื่องอิหร่านดีล ที่ควรจะจบตั้งแต่ 30 มิถุนายน แต่ลากยาวมาถึงกรกฏาคม และญี่ปุ่น ที่กำลังเตรียมแบกถาด เมื่อสภาญี่ปุ่นอนุมัติให้แก้รัฐธรรมนูญ ให้แบกถาดร่อนไปทั่วได้ ซึ่งญี่ปุ่นคาดว่า ภายในกรกฏาคมนี้ คงผ่านสภา
    ดูเหมือนอเมริกาน่าจะเลือกเล่นเกมหมากล้อม ล้อม 4 ประเทศ ที่จับตาจ้องเขม็งนั่นแหละ และเตรียมเดินหมากไว้แล้วด้วย
    อเมริกาอาจจะเริ่มขยับหมาก เมื่อเรื่องกรีซ กับเรื่องอิหร่านจบตอนหนึ่ง หมากชื่อกรีก เหมือนจะไม่เกี่ยวกัน แต่จริงๆ อาจจะเกี่ยว ส่วนอิหร่านนั้น เป็นหมากที่สำคัญยิ่ง ไม่ว่าเรื่องอิหร่านจะจบอย่างไร ผลกระทบมีสูงทุกทาง
    ถ้าอเมริกา ใช้ยุทธศาตร์หมากล้อม ตามแนวที่วิเคราะห์ เรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ และเรื่องกรีซ เราคงต้องตามดู แต่ดูการพัฒนาการของเรื่อง และระยะเวลาของแต่ละเรื่อง อย่าไปหลงทางตามรายละเอียดที่เขาตั้งใจสร้างให้เรางง การพัฒนาของทั้ง 2 เรื่อง จะทำให้เราเห็นว่า อเมริกาขยับหมากอย่างไร และจะมีเรื่องยาวตามมาหรือไม่ หรือการเดินหมากของอเมริกาล้มเหลว หรือแค่ชลอ รอเวลา…
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    17 ก.ค. 2558
    ขยับหมาก ตอนที่ 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก” ตอน 3 อยู่ๆ ทำไม Chatham House ถึงลุกขึ้นมาเล่นรัสเซียเสียแรง ยังกะตั้งใจจะแยกอยู่กันคนละโลกขนาดนั้น มันไม่น่าจะเป็นการโชว์กระเดือกเดี่ยว อย่างนั้นมันไม่ใช่รูปแบบของฝั่งตะวันตก ที่ชอบทาสี ตีปิ๊บ และรุมกันทึ้งตามสันดานนักล่าทั้งเก่าทั้งใหม่ ย้อนไปดูความเคลื่อนไหวของโรงงานใบตองแห้งเสียหน่อย ไม่ต้องย้อนไปไกล เอาแค่ระยะใกล้ในเดือนมิถุนายน มีรายงายข่าวว่า เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน นาย Ashton Carter รัฐมนตรีกลาโหมของอเมริกา ที่มีสีหน้า เหมือนกินเต้าหู้บูดเข้าไปตลอดเวลา ได้เดินทางไปที่กองบัญชาการของกองทัพ US Eurpoean Commander ที่เมือง Stuttgart ของเยอรมัน และประชุมกับหัวกะทิของทหารอเมริกันประมาณ 2 โหล กับนักการทูตอีกหลายคน เพื่อหารือว่า จะยกระดับการจัดการทั้งในด้านเศรษฐกิจ และการทหาร กับรัสเซียอย่างไรดี เนื่องจากสัมพันธภาพกับรัสเซียตอนนี้ กำลังเปลี่ยนเป็นทางดิ่งลง sad turn และสถานการณ์ในยุโรป ก็ไม่ได้สวยหวานอย่างเมื่อก่อนแล้ว ในวันเดียวกันนั้น ส่วนหนึ่งของรายงานของนายพล Martin Demsey ประธานคณะทำงาน Chairman of the US Joint Chief of Staffs ที่ไม่รู้ว่าใครมืออ่อน ทำหลุดไปถึงสื่อ รายงานนั้นระบุว่า วอชิงตันกำลังคิดจะติดหัวรบนิวเคลียร์ใส่จรวดแถวยุโรป เป็นการตอบโต้รัสเซีย ที่ถูกกล่าวหาว่า กำลังทำผิดสัญญาเรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ระยะกลาง Intermediate-range Nuclear Forces (INF) ซึ่งรัสเซียบอกว่า เปล่าผิด จรวดที่ใช้ไม่อยู่ในข้อห้ามของสัญญา อเมริกาก็ใช้แบบนี้ในอิรัคไม่ใช่หรือ ประโยคหลัง ลุงนิทานถามแทน Pentagon กำลังคิดว่าจะติดตั้งจรวดยิงใส่รัสเซียที่ไหนดี ระหว่างยิงสวนใส่กลับไปที่จรวดรัสเซีย ที่กำลังลอยฟ้า หรือยิงใส่ฐานที่ตั้งกองกำลังของรัสเซีย จะยิงไปที่ไหนยังไม่ตัดสินใจ แต่นาย Robert Scher ผู้ช่วยคุณเต้าหูบูด ด้านนโยบายการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ได้แจ้งรัฐสภาเมื่อเมษายนนี้ว่า มีแผนเเช่นนั้นจริง ฮั่นแน่ จับได้แล้ว คิดรุกเขาแล้วซินะ หลังจากนั้นคุณเต้าหู้บูด ก็ไปประชุมกับหัวกะทิของนาโต้ที่ Brussels ตกลงจะเพิ่มกองกำลังรถถัง อาวุธหนัก อาวุธเบา เต็มอัตรา ให้กับฐานทัพนาโต้ที่อยู่แถวบอลติก รวมทั้งโปแลนด์ โรมาเนีย และบุลกาเรีย พวก (ที่เคยเป็น) เพื่อนรักคุณพี่ปูตินทั้งนั้น เปลี่ยนใจจากที่ว่า จะลดกำลังฝั่งแอตแลนติกไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ที่สำคัญ อเมริกาเพิ่งออกรายงาน US National Military Strategy (US NMS) 2015 เมื่อปลายเดือนมิถุนายนนี้เอง ประเทศที่อเมริกาจับตามองเป็นพิเศษมีอยู่ 4 ประเทศ คือ รัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ และจีน วิธีที่อเมริกาเขียนถึง 4 ประเทศ แม้ไม่ประกาศชัดเจนว่าเป็นศัตรู แต่การบรรยายสรรพคุณแต่ละประเทศ ก็ทำให้เห็นว่ายากจะเป็นมิตรต่อกัน ถึงว่า มันน่าจะเป็นปาหี่ ไอ้เรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์น่ะ เมื่อย้อนมาดูช่วงเวลาของการอ อก Grand Strategy แผนสอยมังกร สำหรับจีน ที่ออกมาในเดือนเมษายน เรื่อง Russia Challenge กูไม่คบมึง ในเดือนมิถุนายน ยุทธศาสตร์ USNMS 2015 ในเดือนมิถุนายน เรื่องอิหร่านดีล ที่ควรจะจบตั้งแต่ 30 มิถุนายน แต่ลากยาวมาถึงกรกฏาคม และญี่ปุ่น ที่กำลังเตรียมแบกถาด เมื่อสภาญี่ปุ่นอนุมัติให้แก้รัฐธรรมนูญ ให้แบกถาดร่อนไปทั่วได้ ซึ่งญี่ปุ่นคาดว่า ภายในกรกฏาคมนี้ คงผ่านสภา ดูเหมือนอเมริกาน่าจะเลือกเล่นเกมหมากล้อม ล้อม 4 ประเทศ ที่จับตาจ้องเขม็งนั่นแหละ และเตรียมเดินหมากไว้แล้วด้วย อเมริกาอาจจะเริ่มขยับหมาก เมื่อเรื่องกรีซ กับเรื่องอิหร่านจบตอนหนึ่ง หมากชื่อกรีก เหมือนจะไม่เกี่ยวกัน แต่จริงๆ อาจจะเกี่ยว ส่วนอิหร่านนั้น เป็นหมากที่สำคัญยิ่ง ไม่ว่าเรื่องอิหร่านจะจบอย่างไร ผลกระทบมีสูงทุกทาง ถ้าอเมริกา ใช้ยุทธศาตร์หมากล้อม ตามแนวที่วิเคราะห์ เรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ และเรื่องกรีซ เราคงต้องตามดู แต่ดูการพัฒนาการของเรื่อง และระยะเวลาของแต่ละเรื่อง อย่าไปหลงทางตามรายละเอียดที่เขาตั้งใจสร้างให้เรางง การพัฒนาของทั้ง 2 เรื่อง จะทำให้เราเห็นว่า อเมริกาขยับหมากอย่างไร และจะมีเรื่องยาวตามมาหรือไม่ หรือการเดินหมากของอเมริกาล้มเหลว หรือแค่ชลอ รอเวลา… สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 17 ก.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 299 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251120 #TechRadar

    Garmin อัปเดตสมาร์ทวอทช์ จับสัญญาณความเครียดได้
    Garmin ปล่อยอัปเดตใหญ่ให้สมาร์ทวอทช์รุ่นดังอย่าง Vivoactive 6, Forerunner 570 และ Venu X1 รวมถึงคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge 540 และ 1050 จุดเด่นคือฟีเจอร์ Health Status ที่ช่วยดูแนวโน้มสุขภาพระยะยาว เช่น อัตราการเต้นหัวใจ, HRV, การหายใจ, อุณหภูมิผิว และค่าออกซิเจนในเลือดตอนนอน หากค่าผิดปกติอาจบอกได้ว่าร่างกายกำลังเครียดหรือเจ็บป่วย นอกจากนี้ยังมีแผนที่ 3D (สำหรับผู้ใช้แบบพรีเมียม) และฟีเจอร์ใหม่ ๆ สำหรับนักปั่น เช่น เตือนให้ดื่มน้ำ, เช็กสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ และวิเคราะห์อัตราทดเกียร์
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/garmins-latest-smartwatch-update-helps-catch-signs-of-stress-in-one-key-way

    AMD เปิดตัว FSR Redstone แต่ใช้ได้เฉพาะ RX 9000
    AMD ประกาศเปิดตัว FSR Redstone วันที่ 10 ธันวาคมนี้ เป็นชุดเทคโนโลยี AI ที่ช่วยเร่งเฟรมเรตและปรับปรุงคุณภาพภาพกราฟิก แต่ข่าวร้ายคือใช้ได้เฉพาะการ์ดจอรุ่น RX 9000 เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้ RX 7000 และรุ่นก่อนหน้าไม่พอใจ เพราะยังถือว่าเป็นการ์ดจอใหม่อยู่ ฟีเจอร์ที่มาพร้อม Redstone เช่น Ray Regeneration (ปรับปรุงภาพ Ray Tracing), Radiance Caching (ปรับแสงให้สมจริง) และ Frame Generation ที่สร้างเฟรมเสริมเพื่อให้ภาพลื่นขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/gpu/amds-fsr-redstone-for-supercharged-gaming-debuts-on-december-10-but-its-rx-9000-only-leaving-older-radeon-gpus-in-the-cold

    รหัสผ่านธีมเทศกาล เสี่ยงโดนเจาะง่าย
    มีการวิเคราะห์รหัสผ่านที่รั่วไหลกว่า 800 ล้านรายการ พบว่ามีจำนวนมากที่ใช้คำเกี่ยวกับเทศกาล เช่น Christmas, Santa, หรือการดัดแปลงด้วยตัวเลข/สัญลักษณ์ แม้ดูซับซ้อน แต่จริง ๆ แล้วเครื่องมือเจาะรหัสสมัยใหม่สามารถเดาได้ง่าย เพราะรูปแบบซ้ำ ๆ และคาดเดาได้ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าช่วงสิ้นปีที่หลายองค์กรบังคับเปลี่ยนรหัสผ่าน มักเป็นจังหวะที่แฮกเกอร์ใช้ประโยชน์จากพฤติกรรมนี้
    https://www.techradar.com/pro/this-company-analyzed-800-million-breached-passwords-and-found-a-surprising-amount-of-festive-themes-so-maybe-choose-a-better-password-please

    โรงเก็บของกลายเป็น Data Center ช่วยลดค่าไฟ
    คู่รักใน Essex, UK ทดลองติดตั้ง HeatHub ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กในโรงเก็บของ ใช้ Raspberry Pi กว่า 500 เครื่องในการประมวลผล และนำความร้อนที่เกิดขึ้นไปใช้ทำความร้อนในบ้าน ผลคือค่าไฟลดจาก £375 เหลือเพียง £40 ต่อเดือน โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองระดับประเทศ เพื่อหาทางใช้พลังงานจากการประมวลผลคอมพิวเตอร์มาเป็นพลังงานความร้อนในครัวเรือน
    https://www.techradar.com/pro/looking-to-lower-your-energy-bills-this-winter-how-about-hosting-a-data-center-in-your-garden-shed-to-help-heat-your-home

    เครื่องมือ Unix เก่ากลับมาพร้อมภัยใหม่
    คำสั่ง finger ที่เคยใช้ในระบบ Unix เพื่อตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้ ถูกนำกลับมาใช้ในทางร้าย โดยแฮกเกอร์ใช้สคริปต์ดึงคำสั่งจากเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลแล้วรันใน Windows ทำให้สามารถแอบติดตั้งโปรแกรม Python ที่ขโมยข้อมูลได้โดยผู้ใช้ไม่รู้ตัว เทคนิคนี้ยังสามารถเลี่ยงการตรวจจับจากเครื่องมือวิเคราะห์ได้ ถือเป็นการฟื้นคืนชีพของภัยคุกคามเก่าที่อันตรายมาก
    https://www.techradar.com/pro/a-decades-old-threat-command-is-making-a-comeback-so-dont-let-the-finger-of-doom-affect-you

    Meta ทุ่มงบเพิ่มความปลอดภัย WhatsApp
    Meta ลงทุนหลายล้านดอลลาร์ในโครงการ Bug Bounty และเครื่องมือใหม่ ๆ เพื่อเสริมความปลอดภัยของ WhatsApp เป้าหมายคือป้องกันการโจมตีและหาช่องโหว่ก่อนที่แฮกเกอร์จะใช้ประโยชน์ การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความจริงจังของ Meta ที่ต้องการให้ WhatsApp เป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้ใช้ทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/security/meta-is-spending-millions-on-bug-bounties-and-security-tools-to-boost-whatsapp-security

    Google Maps เพิ่ม 4 ฟีเจอร์ใหม่รับเทศกาล
    Google Maps อัปเดตครั้งใหญ่เพื่อช่วยผู้ใช้ช่วงเทศกาลปลายปี ฟีเจอร์ใหม่ประกอบด้วยการแสดงข้อมูลการจราจรที่ละเอียดขึ้น, การแจ้งเตือนเส้นทางที่หนาแน่น, การแนะนำเส้นทางทางเลือก และการปรับปรุงการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว/ร้านค้าให้ตรงใจมากขึ้น เหมาะกับการเดินทางในช่วงวันหยุดที่ผู้คนออกเดินทางจำนวนมาก
    https://www.techradar.com/computing/websites-apps/google-maps-is-adding-4-new-features-to-help-you-navigate-the-holiday-season

    LG Battery โดนโจมตี Ransomware
    บริษัทลูกของ LG ที่ทำธุรกิจแบตเตอรี่ถูกโจมตีด้วย Ransomware ส่งผลให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลถูกเข้ารหัส ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการโจมตีลักษณะนี้กำลังเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมพลังงาน เพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่แฮกเกอร์เล็งเป้าเพื่อเรียกค่าไถ่สูง
    https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-attack-hits-lg-battery-subsidiary

    Asus Router ถูกโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่
    มีรายงานว่า Router ของ Asus ทั่วโลกถูกโจมตีจากกลุ่มที่เชื่อมโยงกับจีน ทำให้ผู้ใช้งานหลายรายประสบปัญหาเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้ การโจมตีครั้งนี้ถูกจับตามองว่าอาจเป็นการแสดงศักยภาพด้านไซเบอร์ของรัฐชาติ และยังสร้างความกังวลต่อความปลอดภัยของอุปกรณ์เครือข่ายที่ใช้กันแพร่หลาย
    https://www.techradar.com/pro/security/asus-routers-across-the-globe-hit-by-suspected-chinese-cyberattack-heres-what-we-know

    ข่าวสด VPN และสิทธิด้านดิจิทัล
    TechRadar เปิดหน้า VPN News Live อัปเดตสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์, สิทธิด้านดิจิทัล และความเป็นส่วนตัวออนไลน์ เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาเทคโนโลยี VPN ใหม่ ๆ ไปจนถึงการเคลื่อนไหวด้านสิทธิผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก
    https://www.techradar.com/live/news/latest-vpn-news-wednesday-19-november

    Porsche Cayenne Turbo Electric แรงที่สุดที่เคยมี
    Porsche ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Cayenne Turbo Electric จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุดที่บริษัทเคยผลิต กำลังสูงสุดมากกว่า 1,000 แรงม้า ทำให้เป็น SUV ที่เร็วและแรงที่สุดในสายการผลิตของ Porsche ถือเป็นการยกระดับตลาดรถไฟฟ้าไปอีกขั้น
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/its-official-the-porsche-cayenne-turbo-electric-will-be-the-most-powerful-production-porsche-ever-made

    Chrome เจอช่องโหว่ Zero-Day อันตราย
    Google ออกแพตช์เร่งด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ Zero-Day ใน Chrome ที่ถูกโจมตีจริงแล้ว ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบโดยไม่รู้ตัว ผู้ใช้ถูกแนะนำให้อัปเดต Chrome ทันทีเพื่อความปลอดภัย
    https://www.techradar.com/pro/security/google-patches-worrying-chrome-zero-day-flaw-being-exploited-in-the-wild-heres-how-to-stay-safe

    Botnet ใหม่แอบใช้ Ray Cluster ขุดคริปโต
    มีการค้นพบ Botnet ลึกลับที่แอบเข้ายึด Ray Clusters แล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องขุดคริปโตโดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว การโจมตีนี้ทำให้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ถูกใช้ไปอย่างมหาศาล และยังเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลอีกด้วย
    https://www.techradar.com/pro/security/ray-clusters-hijacked-and-turned-into-crypto-miners-by-shadowy-new-botnet

    iOS 26 Autocorrect พังหนัก
    ผู้ใช้ iPhone หลายรายบ่นว่า Autocorrect ใน iOS 26 ทำงานผิดพลาดอย่างมาก พิมพ์ผิดบ่อยและแก้คำไม่ตรงใจ แม้ Apple จะออก iOS 26.2 แล้ว แต่ปัญหายังไม่ถูกแก้ไข ทำให้ผู้ใช้รู้สึกหงุดหงิดและรอการแก้ไขจริงจังจาก Apple
    https://www.techradar.com/phones/ios/youre-not-bad-at-typing-ios-26s-autocorrect-is-broken-and-theres-still-no-fix-in-ios-26-2

    NordVPN เปิดฟีเจอร์กันสแกมโทรศัพท์
    NordVPN เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Call Protection สำหรับผู้ใช้ใน UK และแคนาดา ช่วยตรวจจับและบล็อกสายโทรศัพท์ที่เป็นสแกมก่อนถึงผู้ใช้ ถือเป็นการขยายบทบาทของ VPN จากการป้องกันออนไลน์ไปสู่การป้องกันการสื่อสารโทรศัพท์ด้วย
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-takes-on-phone-scammers-with-new-call-protection-feature-for-the-uk-and-canada

    Xiaomi เตือนราคาสมาร์ทโฟนจะพุ่งขึ้น
    Xiaomi ออกมาเตือนว่าปีหน้าราคาสมาร์ทโฟนจะปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุหลักมาจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งชิป, วัสดุ และค่าแรง ทำให้ผู้บริโภคอาจต้องเตรียมรับมือกับมือถือที่แพงกว่าเดิม
    https://www.techradar.com/phones/brace-yourself-xiaomi-warns-of-a-sizeable-rise-in-smartphone-prices-next-year

    VMware ยอมรับข้อมูลสเปกเซิร์ฟเวอร์ผิดพลาด
    VMware ยืนยันว่าคู่มือสเปกสำหรับเซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูลที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้มีความคลาดเคลื่อน ทำให้ผู้ใช้บางรายอาจเข้าใจผิดในการเลือกใช้งาน แม้จะเป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้กระทบต่อระบบโดยตรง แต่ก็สร้างความสับสนและทำให้บริษัทต้องรีบแก้ไขข้อมูลใหม่
    https://www.techradar.com/pro/vmware-confirms-its-spec-guidance-on-storage-servers-was-rather-inaccurate
    📌📰🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📰📌 #รวมข่าวIT #20251120 #TechRadar ⌚ Garmin อัปเดตสมาร์ทวอทช์ จับสัญญาณความเครียดได้ Garmin ปล่อยอัปเดตใหญ่ให้สมาร์ทวอทช์รุ่นดังอย่าง Vivoactive 6, Forerunner 570 และ Venu X1 รวมถึงคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge 540 และ 1050 จุดเด่นคือฟีเจอร์ Health Status ที่ช่วยดูแนวโน้มสุขภาพระยะยาว เช่น อัตราการเต้นหัวใจ, HRV, การหายใจ, อุณหภูมิผิว และค่าออกซิเจนในเลือดตอนนอน หากค่าผิดปกติอาจบอกได้ว่าร่างกายกำลังเครียดหรือเจ็บป่วย นอกจากนี้ยังมีแผนที่ 3D (สำหรับผู้ใช้แบบพรีเมียม) และฟีเจอร์ใหม่ ๆ สำหรับนักปั่น เช่น เตือนให้ดื่มน้ำ, เช็กสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ และวิเคราะห์อัตราทดเกียร์ 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/garmins-latest-smartwatch-update-helps-catch-signs-of-stress-in-one-key-way 🎮 AMD เปิดตัว FSR Redstone แต่ใช้ได้เฉพาะ RX 9000 AMD ประกาศเปิดตัว FSR Redstone วันที่ 10 ธันวาคมนี้ เป็นชุดเทคโนโลยี AI ที่ช่วยเร่งเฟรมเรตและปรับปรุงคุณภาพภาพกราฟิก แต่ข่าวร้ายคือใช้ได้เฉพาะการ์ดจอรุ่น RX 9000 เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้ RX 7000 และรุ่นก่อนหน้าไม่พอใจ เพราะยังถือว่าเป็นการ์ดจอใหม่อยู่ ฟีเจอร์ที่มาพร้อม Redstone เช่น Ray Regeneration (ปรับปรุงภาพ Ray Tracing), Radiance Caching (ปรับแสงให้สมจริง) และ Frame Generation ที่สร้างเฟรมเสริมเพื่อให้ภาพลื่นขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/amds-fsr-redstone-for-supercharged-gaming-debuts-on-december-10-but-its-rx-9000-only-leaving-older-radeon-gpus-in-the-cold 🎄 รหัสผ่านธีมเทศกาล เสี่ยงโดนเจาะง่าย มีการวิเคราะห์รหัสผ่านที่รั่วไหลกว่า 800 ล้านรายการ พบว่ามีจำนวนมากที่ใช้คำเกี่ยวกับเทศกาล เช่น Christmas, Santa, หรือการดัดแปลงด้วยตัวเลข/สัญลักษณ์ แม้ดูซับซ้อน แต่จริง ๆ แล้วเครื่องมือเจาะรหัสสมัยใหม่สามารถเดาได้ง่าย เพราะรูปแบบซ้ำ ๆ และคาดเดาได้ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าช่วงสิ้นปีที่หลายองค์กรบังคับเปลี่ยนรหัสผ่าน มักเป็นจังหวะที่แฮกเกอร์ใช้ประโยชน์จากพฤติกรรมนี้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-company-analyzed-800-million-breached-passwords-and-found-a-surprising-amount-of-festive-themes-so-maybe-choose-a-better-password-please 🏠 โรงเก็บของกลายเป็น Data Center ช่วยลดค่าไฟ คู่รักใน Essex, UK ทดลองติดตั้ง HeatHub ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กในโรงเก็บของ ใช้ Raspberry Pi กว่า 500 เครื่องในการประมวลผล และนำความร้อนที่เกิดขึ้นไปใช้ทำความร้อนในบ้าน ผลคือค่าไฟลดจาก £375 เหลือเพียง £40 ต่อเดือน โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองระดับประเทศ เพื่อหาทางใช้พลังงานจากการประมวลผลคอมพิวเตอร์มาเป็นพลังงานความร้อนในครัวเรือน 🔗 https://www.techradar.com/pro/looking-to-lower-your-energy-bills-this-winter-how-about-hosting-a-data-center-in-your-garden-shed-to-help-heat-your-home 💻 เครื่องมือ Unix เก่ากลับมาพร้อมภัยใหม่ คำสั่ง finger ที่เคยใช้ในระบบ Unix เพื่อตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้ ถูกนำกลับมาใช้ในทางร้าย โดยแฮกเกอร์ใช้สคริปต์ดึงคำสั่งจากเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลแล้วรันใน Windows ทำให้สามารถแอบติดตั้งโปรแกรม Python ที่ขโมยข้อมูลได้โดยผู้ใช้ไม่รู้ตัว เทคนิคนี้ยังสามารถเลี่ยงการตรวจจับจากเครื่องมือวิเคราะห์ได้ ถือเป็นการฟื้นคืนชีพของภัยคุกคามเก่าที่อันตรายมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/a-decades-old-threat-command-is-making-a-comeback-so-dont-let-the-finger-of-doom-affect-you 🔒 Meta ทุ่มงบเพิ่มความปลอดภัย WhatsApp Meta ลงทุนหลายล้านดอลลาร์ในโครงการ Bug Bounty และเครื่องมือใหม่ ๆ เพื่อเสริมความปลอดภัยของ WhatsApp เป้าหมายคือป้องกันการโจมตีและหาช่องโหว่ก่อนที่แฮกเกอร์จะใช้ประโยชน์ การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความจริงจังของ Meta ที่ต้องการให้ WhatsApp เป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้ใช้ทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/meta-is-spending-millions-on-bug-bounties-and-security-tools-to-boost-whatsapp-security 🗺️ Google Maps เพิ่ม 4 ฟีเจอร์ใหม่รับเทศกาล Google Maps อัปเดตครั้งใหญ่เพื่อช่วยผู้ใช้ช่วงเทศกาลปลายปี ฟีเจอร์ใหม่ประกอบด้วยการแสดงข้อมูลการจราจรที่ละเอียดขึ้น, การแจ้งเตือนเส้นทางที่หนาแน่น, การแนะนำเส้นทางทางเลือก และการปรับปรุงการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว/ร้านค้าให้ตรงใจมากขึ้น เหมาะกับการเดินทางในช่วงวันหยุดที่ผู้คนออกเดินทางจำนวนมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/websites-apps/google-maps-is-adding-4-new-features-to-help-you-navigate-the-holiday-season 🔋 LG Battery โดนโจมตี Ransomware บริษัทลูกของ LG ที่ทำธุรกิจแบตเตอรี่ถูกโจมตีด้วย Ransomware ส่งผลให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลถูกเข้ารหัส ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการโจมตีลักษณะนี้กำลังเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมพลังงาน เพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่แฮกเกอร์เล็งเป้าเพื่อเรียกค่าไถ่สูง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-attack-hits-lg-battery-subsidiary 📡 Asus Router ถูกโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ มีรายงานว่า Router ของ Asus ทั่วโลกถูกโจมตีจากกลุ่มที่เชื่อมโยงกับจีน ทำให้ผู้ใช้งานหลายรายประสบปัญหาเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้ การโจมตีครั้งนี้ถูกจับตามองว่าอาจเป็นการแสดงศักยภาพด้านไซเบอร์ของรัฐชาติ และยังสร้างความกังวลต่อความปลอดภัยของอุปกรณ์เครือข่ายที่ใช้กันแพร่หลาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/asus-routers-across-the-globe-hit-by-suspected-chinese-cyberattack-heres-what-we-know 🌐 ข่าวสด VPN และสิทธิด้านดิจิทัล TechRadar เปิดหน้า VPN News Live อัปเดตสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์, สิทธิด้านดิจิทัล และความเป็นส่วนตัวออนไลน์ เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาเทคโนโลยี VPN ใหม่ ๆ ไปจนถึงการเคลื่อนไหวด้านสิทธิผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/live/news/latest-vpn-news-wednesday-19-november 🚗 Porsche Cayenne Turbo Electric แรงที่สุดที่เคยมี Porsche ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Cayenne Turbo Electric จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุดที่บริษัทเคยผลิต กำลังสูงสุดมากกว่า 1,000 แรงม้า ทำให้เป็น SUV ที่เร็วและแรงที่สุดในสายการผลิตของ Porsche ถือเป็นการยกระดับตลาดรถไฟฟ้าไปอีกขั้น 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/its-official-the-porsche-cayenne-turbo-electric-will-be-the-most-powerful-production-porsche-ever-made 🌐 Chrome เจอช่องโหว่ Zero-Day อันตราย Google ออกแพตช์เร่งด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ Zero-Day ใน Chrome ที่ถูกโจมตีจริงแล้ว ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบโดยไม่รู้ตัว ผู้ใช้ถูกแนะนำให้อัปเดต Chrome ทันทีเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/google-patches-worrying-chrome-zero-day-flaw-being-exploited-in-the-wild-heres-how-to-stay-safe 🪙 Botnet ใหม่แอบใช้ Ray Cluster ขุดคริปโต มีการค้นพบ Botnet ลึกลับที่แอบเข้ายึด Ray Clusters แล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องขุดคริปโตโดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว การโจมตีนี้ทำให้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ถูกใช้ไปอย่างมหาศาล และยังเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลอีกด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ray-clusters-hijacked-and-turned-into-crypto-miners-by-shadowy-new-botnet 📱 iOS 26 Autocorrect พังหนัก ผู้ใช้ iPhone หลายรายบ่นว่า Autocorrect ใน iOS 26 ทำงานผิดพลาดอย่างมาก พิมพ์ผิดบ่อยและแก้คำไม่ตรงใจ แม้ Apple จะออก iOS 26.2 แล้ว แต่ปัญหายังไม่ถูกแก้ไข ทำให้ผู้ใช้รู้สึกหงุดหงิดและรอการแก้ไขจริงจังจาก Apple 🔗 https://www.techradar.com/phones/ios/youre-not-bad-at-typing-ios-26s-autocorrect-is-broken-and-theres-still-no-fix-in-ios-26-2 📞 NordVPN เปิดฟีเจอร์กันสแกมโทรศัพท์ NordVPN เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Call Protection สำหรับผู้ใช้ใน UK และแคนาดา ช่วยตรวจจับและบล็อกสายโทรศัพท์ที่เป็นสแกมก่อนถึงผู้ใช้ ถือเป็นการขยายบทบาทของ VPN จากการป้องกันออนไลน์ไปสู่การป้องกันการสื่อสารโทรศัพท์ด้วย 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-takes-on-phone-scammers-with-new-call-protection-feature-for-the-uk-and-canada 📱 Xiaomi เตือนราคาสมาร์ทโฟนจะพุ่งขึ้น Xiaomi ออกมาเตือนว่าปีหน้าราคาสมาร์ทโฟนจะปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุหลักมาจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งชิป, วัสดุ และค่าแรง ทำให้ผู้บริโภคอาจต้องเตรียมรับมือกับมือถือที่แพงกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/phones/brace-yourself-xiaomi-warns-of-a-sizeable-rise-in-smartphone-prices-next-year 💾 VMware ยอมรับข้อมูลสเปกเซิร์ฟเวอร์ผิดพลาด VMware ยืนยันว่าคู่มือสเปกสำหรับเซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูลที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้มีความคลาดเคลื่อน ทำให้ผู้ใช้บางรายอาจเข้าใจผิดในการเลือกใช้งาน แม้จะเป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้กระทบต่อระบบโดยตรง แต่ก็สร้างความสับสนและทำให้บริษัทต้องรีบแก้ไขข้อมูลใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/vmware-confirms-its-spec-guidance-on-storage-servers-was-rather-inaccurate
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 589 มุมมอง 0 รีวิว
  • PCIe Finger ของ Nvidia โผล่ขายในจีน

    รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่า ชิ้นส่วนเชื่อมต่อ PCIe ของการ์ดจอ Nvidia GeForce RTX 5090 และ RTX Pro 6000 Blackwell ที่เคยถูกมองว่าเป็นชิ้นส่วนหายาก ตอนนี้สามารถหาซื้อได้ในแพลตฟอร์ม e-commerce ของจีน เช่น Goofish และ Xianyu ในราคาประมาณ $19–$25 เท่านั้น

    เหตุการณ์ที่ทำให้ชิ้นส่วนนี้เป็นที่จับตามอง
    ก่อนหน้านี้มีกรณีการ์ดจอราคาแพงถึง $10,000 เสียหายเพราะตัวเชื่อมต่อ PCIe หักจากการขนส่ง และอีกกรณีเกิดจากการติดตั้งระบบระบายความร้อนผิดพลาด Nvidia ถึงกับยอมเปลี่ยนการ์ดใหม่ทั้งใบให้ลูกค้า แม้จะเป็นความผิดพลาดจากผู้ใช้เอง ทำให้หลายคนสงสัยว่าชิ้นส่วนนี้ทำไมถึงไม่สามารถหาซื้อได้อย่างเป็นทางการ

    ความกังวลของช่างซ่อมและผู้ใช้
    ช่างซ่อมการ์ดจอหลายรายบ่นว่าการหาชิ้นส่วน PCIe connector จาก Nvidia เป็นไปไม่ได้เลย ทั้งที่มันเป็นเพียงชิ้นส่วนพื้นฐาน การที่ Nvidia ไม่ขายอะไหล่แยกทำให้ผู้ใช้ทั่วไปและร้านซ่อมต้องพึ่งพาตลาดมือสองหรือชิ้นส่วนที่ถูกถอดออกมา

    มิติทางธุรกิจและภาพลักษณ์
    แม้ Nvidia จะยอมเปลี่ยนการ์ดให้ลูกค้ารายใหญ่ แต่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าบริษัทอาจทำเช่นนี้เพื่อหลีกเลี่ยงกระแสลบจากสื่อและผู้ใช้ที่มีชื่อเสียง การที่ชิ้นส่วนราคาถูกนี้สามารถซ่อมการ์ดราคาแพงได้สะท้อนถึงความไม่สมดุลในนโยบายการจัดจำหน่ายอะไหล่ของ Nvidia

    สรุปประเด็นสำคัญ
    PCIe Finger ของ Nvidia มีขายในจีน
    ราคาเพียง $19–$25 บนแพลตฟอร์ม Goofish และ Xianyu

    กรณีการ์ดจอเสียหายราคา $10,000
    เกิดจากการขนส่งและการติดตั้งระบบระบายความร้อนผิดพลาด

    Nvidia ยอมเปลี่ยนการ์ดใหม่ให้ลูกค้า
    แม้จะเป็นความผิดพลาดจากผู้ใช้เอง

    การไม่ขายอะไหล่แยกอย่างเป็นทางการ
    ทำให้ผู้ใช้และช่างซ่อมต้องพึ่งพาตลาดมือสอง

    ข้อสงสัยด้านภาพลักษณ์และธุรกิจ
    Nvidia อาจเลือกเปลี่ยนการ์ดเพื่อหลีกเลี่ยงกระแสลบจากผู้ใช้ที่มีชื่อเสียง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidias-fabled-pcie-finger-sells-for-under-usd25-in-china-should-you-happen-to-break-it-resuscitate-your-usd10-000-gpu-for-less-than-a-pair-of-fuzzy-socks
    🖥️ PCIe Finger ของ Nvidia โผล่ขายในจีน รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่า ชิ้นส่วนเชื่อมต่อ PCIe ของการ์ดจอ Nvidia GeForce RTX 5090 และ RTX Pro 6000 Blackwell ที่เคยถูกมองว่าเป็นชิ้นส่วนหายาก ตอนนี้สามารถหาซื้อได้ในแพลตฟอร์ม e-commerce ของจีน เช่น Goofish และ Xianyu ในราคาประมาณ $19–$25 เท่านั้น ⚡ เหตุการณ์ที่ทำให้ชิ้นส่วนนี้เป็นที่จับตามอง ก่อนหน้านี้มีกรณีการ์ดจอราคาแพงถึง $10,000 เสียหายเพราะตัวเชื่อมต่อ PCIe หักจากการขนส่ง และอีกกรณีเกิดจากการติดตั้งระบบระบายความร้อนผิดพลาด Nvidia ถึงกับยอมเปลี่ยนการ์ดใหม่ทั้งใบให้ลูกค้า แม้จะเป็นความผิดพลาดจากผู้ใช้เอง ทำให้หลายคนสงสัยว่าชิ้นส่วนนี้ทำไมถึงไม่สามารถหาซื้อได้อย่างเป็นทางการ 🔍 ความกังวลของช่างซ่อมและผู้ใช้ ช่างซ่อมการ์ดจอหลายรายบ่นว่าการหาชิ้นส่วน PCIe connector จาก Nvidia เป็นไปไม่ได้เลย ทั้งที่มันเป็นเพียงชิ้นส่วนพื้นฐาน การที่ Nvidia ไม่ขายอะไหล่แยกทำให้ผู้ใช้ทั่วไปและร้านซ่อมต้องพึ่งพาตลาดมือสองหรือชิ้นส่วนที่ถูกถอดออกมา 🌐 มิติทางธุรกิจและภาพลักษณ์ แม้ Nvidia จะยอมเปลี่ยนการ์ดให้ลูกค้ารายใหญ่ แต่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าบริษัทอาจทำเช่นนี้เพื่อหลีกเลี่ยงกระแสลบจากสื่อและผู้ใช้ที่มีชื่อเสียง การที่ชิ้นส่วนราคาถูกนี้สามารถซ่อมการ์ดราคาแพงได้สะท้อนถึงความไม่สมดุลในนโยบายการจัดจำหน่ายอะไหล่ของ Nvidia 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ PCIe Finger ของ Nvidia มีขายในจีน ➡️ ราคาเพียง $19–$25 บนแพลตฟอร์ม Goofish และ Xianyu ✅ กรณีการ์ดจอเสียหายราคา $10,000 ➡️ เกิดจากการขนส่งและการติดตั้งระบบระบายความร้อนผิดพลาด ✅ Nvidia ยอมเปลี่ยนการ์ดใหม่ให้ลูกค้า ➡️ แม้จะเป็นความผิดพลาดจากผู้ใช้เอง ‼️ การไม่ขายอะไหล่แยกอย่างเป็นทางการ ⛔ ทำให้ผู้ใช้และช่างซ่อมต้องพึ่งพาตลาดมือสอง ‼️ ข้อสงสัยด้านภาพลักษณ์และธุรกิจ ⛔ Nvidia อาจเลือกเปลี่ยนการ์ดเพื่อหลีกเลี่ยงกระแสลบจากผู้ใช้ที่มีชื่อเสียง https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidias-fabled-pcie-finger-sells-for-under-usd25-in-china-should-you-happen-to-break-it-resuscitate-your-usd10-000-gpu-for-less-than-a-pair-of-fuzzy-socks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • Mastodon เปลี่ยนผ่านสู่โครงสร้างใหม่ หลังผู้ก่อตั้งก้าวลงจากตำแหน่ง

    Mastodon ซึ่งเป็นเครือข่ายสังคมแบบกระจายศูนย์ (decentralized) ที่สร้างขึ้นบนโปรโตคอล ActivityPub ได้รับความนิยมในฐานะทางเลือกที่ไม่ขึ้นกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี จุดเด่นคือผู้ใช้สามารถเลือกหรือสร้างเซิร์ฟเวอร์ของตนเองได้ ทำให้ไม่มีองค์กรใดควบคุมข้อมูลหรือเนื้อหาของผู้ใช้โดยตรง

    หลังจากเกือบสิบปีในการนำพาโครงการนี้ Eugen Rochko ประกาศก้าวลงจากตำแหน่ง CEO และโอนทรัพย์สินทั้งหมดให้กับองค์กรไม่แสวงหากำไร เขาอธิบายว่าการเป็นผู้นำแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์นั้นเต็มไปด้วยความเครียด ทั้งจากการถูกจับตามอง การเปรียบเทียบกับมหาเศรษฐีเทคโนโลยี และแรงกดดันจากชุมชน จนไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพและชีวิตส่วนตัวอีกต่อไป

    เพื่อให้ Mastodon เดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง ได้มีการจัดตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไรในเบลเยียม (AISBL) เพื่อแทนที่โครงสร้างเดิมในเยอรมนีที่สูญเสียสถานะไม่แสวงหากำไรไปก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน องค์กร 501(c)(3) ในสหรัฐฯ ถือครองทรัพย์สินและเครื่องหมายการค้าชั่วคราวจนกว่าโครงสร้างใหม่จะเสร็จสมบูรณ์

    คณะกรรมการใหม่ประกอบด้วยบุคคลสำคัญ เช่น Biz Stone ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter, Karien Bezuidenhout และ Esra’a Al Shafei พร้อมด้วยทีมผู้บริหารใหม่ เช่น Felix Hlatky ในตำแหน่ง Executive Director และ Renaud Chaput ในตำแหน่ง Technical Director นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนด้านเงินทุนจากบุคคลและองค์กรต่าง ๆ รวมกว่า €2.5 ล้าน เพื่อเสริมความมั่นคงทางการเงินของโครงการ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้นำ
    Eugen Rochko ก้าวลงจากตำแหน่ง CEO หลังนำโครงการมากว่า 10 ปี
    ส่งต่อทรัพย์สินและเครื่องหมายการค้าให้แก่องค์กรไม่แสวงหากำไร

    เหตุผลในการก้าวลง
    ความเครียดจากการเป็นผู้นำแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์
    การถูกจับตามองและแรงกดดันจากชุมชน

    โครงสร้างใหม่ของ Mastodon
    จัดตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไรในเบลเยียม (AISBL)
    องค์กร 501(c)(3) ในสหรัฐฯ ถือครองทรัพย์สินชั่วคราว

    ทีมบริหารและคณะกรรมการใหม่
    Felix Hlatky เป็น Executive Director
    Biz Stone และบุคคลสำคัญร่วมเป็นกรรมการ
    สนับสนุนเงินทุนรวมกว่า €2.5 ล้าน

    คำเตือนและความท้าทาย
    การเปลี่ยนผ่านอาจสร้างความไม่แน่นอนในระยะสั้น
    ความคาดหวังจากชุมชนยังคงสูง อาจกดดันทีมใหม่
    ต้องรักษาความเป็นอิสระและคุณค่าของแพลตฟอร์มท่ามกลางการแข่งขันกับ Big Tech

    https://itsfoss.com/news/mastodon-ceo-steps-down/
    🌐 Mastodon เปลี่ยนผ่านสู่โครงสร้างใหม่ หลังผู้ก่อตั้งก้าวลงจากตำแหน่ง Mastodon ซึ่งเป็นเครือข่ายสังคมแบบกระจายศูนย์ (decentralized) ที่สร้างขึ้นบนโปรโตคอล ActivityPub ได้รับความนิยมในฐานะทางเลือกที่ไม่ขึ้นกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี จุดเด่นคือผู้ใช้สามารถเลือกหรือสร้างเซิร์ฟเวอร์ของตนเองได้ ทำให้ไม่มีองค์กรใดควบคุมข้อมูลหรือเนื้อหาของผู้ใช้โดยตรง หลังจากเกือบสิบปีในการนำพาโครงการนี้ Eugen Rochko ประกาศก้าวลงจากตำแหน่ง CEO และโอนทรัพย์สินทั้งหมดให้กับองค์กรไม่แสวงหากำไร เขาอธิบายว่าการเป็นผู้นำแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์นั้นเต็มไปด้วยความเครียด ทั้งจากการถูกจับตามอง การเปรียบเทียบกับมหาเศรษฐีเทคโนโลยี และแรงกดดันจากชุมชน จนไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพและชีวิตส่วนตัวอีกต่อไป เพื่อให้ Mastodon เดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง ได้มีการจัดตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไรในเบลเยียม (AISBL) เพื่อแทนที่โครงสร้างเดิมในเยอรมนีที่สูญเสียสถานะไม่แสวงหากำไรไปก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน องค์กร 501(c)(3) ในสหรัฐฯ ถือครองทรัพย์สินและเครื่องหมายการค้าชั่วคราวจนกว่าโครงสร้างใหม่จะเสร็จสมบูรณ์ คณะกรรมการใหม่ประกอบด้วยบุคคลสำคัญ เช่น Biz Stone ผู้ร่วมก่อตั้ง Twitter, Karien Bezuidenhout และ Esra’a Al Shafei พร้อมด้วยทีมผู้บริหารใหม่ เช่น Felix Hlatky ในตำแหน่ง Executive Director และ Renaud Chaput ในตำแหน่ง Technical Director นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนด้านเงินทุนจากบุคคลและองค์กรต่าง ๆ รวมกว่า €2.5 ล้าน เพื่อเสริมความมั่นคงทางการเงินของโครงการ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้นำ ➡️ Eugen Rochko ก้าวลงจากตำแหน่ง CEO หลังนำโครงการมากว่า 10 ปี ➡️ ส่งต่อทรัพย์สินและเครื่องหมายการค้าให้แก่องค์กรไม่แสวงหากำไร ✅ เหตุผลในการก้าวลง ➡️ ความเครียดจากการเป็นผู้นำแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ ➡️ การถูกจับตามองและแรงกดดันจากชุมชน ✅ โครงสร้างใหม่ของ Mastodon ➡️ จัดตั้งองค์กรไม่แสวงหากำไรในเบลเยียม (AISBL) ➡️ องค์กร 501(c)(3) ในสหรัฐฯ ถือครองทรัพย์สินชั่วคราว ✅ ทีมบริหารและคณะกรรมการใหม่ ➡️ Felix Hlatky เป็น Executive Director ➡️ Biz Stone และบุคคลสำคัญร่วมเป็นกรรมการ ➡️ สนับสนุนเงินทุนรวมกว่า €2.5 ล้าน ‼️ คำเตือนและความท้าทาย ⛔ การเปลี่ยนผ่านอาจสร้างความไม่แน่นอนในระยะสั้น ⛔ ความคาดหวังจากชุมชนยังคงสูง อาจกดดันทีมใหม่ ⛔ ต้องรักษาความเป็นอิสระและคุณค่าของแพลตฟอร์มท่ามกลางการแข่งขันกับ Big Tech https://itsfoss.com/news/mastodon-ceo-steps-down/
    ITSFOSS.COM
    After Nearly 10 Years of Building Mastodon, Eugen Rochko Steps Into Advisory Role
    Mastodon's creator steps back from CEO role, transfers assets to non-profit organization.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts