• “ศูนย์ข้อมูล AI นอกโลก: ทางเลือกต้นทุนต่ำหรือแค่ภาพฝัน?”

    Elon Musk เชื่อว่าในอีก 4–5 ปีข้างหน้า การประมวลผล AI ในอวกาศจะมีต้นทุนต่ำที่สุด ขณะที่ Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia มองว่านี่เป็นเพียง “ความฝัน” เพราะยังมีอุปสรรคด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานมากมาย

    มุมมองของ Elon Musk
    Elon Musk กล่าวในงานประชุมการลงทุนว่า AI Compute ในอวกาศจะมีต้นทุนต่ำกว่าโลก เนื่องจากสามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์ฟรีและการระบายความร้อนด้วยการแผ่รังสีในสุญญากาศโดยตรง เขาเชื่อว่าในอีกไม่เกิน 5 ปี การสร้างศูนย์ข้อมูล AI บนอวกาศจะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุด โดยชี้ว่าบนโลก การสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่เพื่อรองรับความต้องการระดับเทรา-วัตต์นั้นแทบเป็นไปไม่ได้

    ความท้าทายด้านเทคนิค
    แม้แนวคิดจะน่าสนใจ แต่การสร้างศูนย์ข้อมูล AI ในอวกาศยังมีอุปสรรคมากมาย เช่น
    การควบคุมอุณหภูมิ: แม้ในอวกาศจะเย็น แต่การอยู่ในวงโคจรทำให้เกิดการแกว่งอุณหภูมิสูงถึง -65°C ถึง +125°C
    การระบายความร้อน: ต้องใช้โครงสร้างขนาดมหึมาเพื่อแผ่รังสีความร้อนออกไป ซึ่งยังไม่เคยมีการสร้างในระดับนี้มาก่อน
    การทนต่อรังสี: GPU และฮาร์ดแวร์ขั้นสูงยังไม่สามารถทนต่อรังสีในวงโคจร GEO ได้โดยไม่ใช้การป้องกันขั้นสูง ซึ่งจะลดประสิทธิภาพลง
    การขนส่งและบำรุงรักษา: ต้องใช้การปล่อยจรวดหลายพันเที่ยวเพื่อส่งอุปกรณ์ขึ้นไป และยังไม่มีระบบซ่อมบำรุงอัตโนมัติที่รองรับ

    มุมมองของ Jensen Huang
    Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia ยอมรับว่าปัญหาพลังงานและความเย็นเป็นความท้าทายใหญ่ แต่เขามองว่า ศูนย์ข้อมูล AI ในอวกาศยังเป็นเพียง “ความฝัน” เพราะเทคโนโลยีที่จำเป็น เช่น การเชื่อมต่อความเร็วสูงกับโลก การบำรุงรักษาด้วยหุ่นยนต์ และการสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ในอวกาศ ยังไม่พร้อมในช่วงเวลา 5 ปีตามที่ Musk คาดการณ์

    ผลกระทบต่ออนาคต AI
    แนวคิดนี้สะท้อนถึงความกังวลว่า โลกอาจไม่สามารถรองรับความต้องการพลังงานมหาศาลของ AI ได้ หากต้องการศูนย์ข้อมูลระดับเทรา-วัตต์ การหาทางเลือกใหม่ เช่น อวกาศ อาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคต แต่ในปัจจุบันยังคงต้องพึ่งพาโครงสร้างบนโลกและการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีอยู่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    มุมมองของ Elon Musk
    AI Compute ในอวกาศจะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ฟรีและระบายความร้อนง่าย
    คาดว่าจะเป็นต้นทุนต่ำที่สุดใน 4–5 ปี

    ความท้าทายด้านเทคนิค
    อุณหภูมิแกว่งแรงในวงโคจร
    ต้องใช้โครงสร้างขนาดใหญ่เพื่อระบายความร้อน
    GPU ยังไม่ทนรังสี
    ต้องใช้การขนส่งและบำรุงรักษามหาศาล

    มุมมองของ Jensen Huang
    มองว่าเป็น “ความฝัน” เพราะเทคโนโลยียังไม่พร้อม
    ปัญหาการเชื่อมต่อและบำรุงรักษายังไม่แก้ไข

    คำเตือนสำหรับอนาคต
    ความต้องการพลังงาน AI อาจเกินขีดความสามารถของโลก
    การสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศยังไม่เป็นไปได้จริงในระยะสั้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/spacex-ceo-elon-musk-says-ai-compute-in-space-will-be-the-lowest-cost-option-in-5-years-but-nvidias-jensen-huang-says-its-a-dream
    🛰️ “ศูนย์ข้อมูล AI นอกโลก: ทางเลือกต้นทุนต่ำหรือแค่ภาพฝัน?” Elon Musk เชื่อว่าในอีก 4–5 ปีข้างหน้า การประมวลผล AI ในอวกาศจะมีต้นทุนต่ำที่สุด ขณะที่ Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia มองว่านี่เป็นเพียง “ความฝัน” เพราะยังมีอุปสรรคด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานมากมาย 🚀 มุมมองของ Elon Musk Elon Musk กล่าวในงานประชุมการลงทุนว่า AI Compute ในอวกาศจะมีต้นทุนต่ำกว่าโลก เนื่องจากสามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์ฟรีและการระบายความร้อนด้วยการแผ่รังสีในสุญญากาศโดยตรง เขาเชื่อว่าในอีกไม่เกิน 5 ปี การสร้างศูนย์ข้อมูล AI บนอวกาศจะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุด โดยชี้ว่าบนโลก การสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่เพื่อรองรับความต้องการระดับเทรา-วัตต์นั้นแทบเป็นไปไม่ได้ 🌌 ความท้าทายด้านเทคนิค แม้แนวคิดจะน่าสนใจ แต่การสร้างศูนย์ข้อมูล AI ในอวกาศยังมีอุปสรรคมากมาย เช่น 🎗️ การควบคุมอุณหภูมิ: แม้ในอวกาศจะเย็น แต่การอยู่ในวงโคจรทำให้เกิดการแกว่งอุณหภูมิสูงถึง -65°C ถึง +125°C 🎗️ การระบายความร้อน: ต้องใช้โครงสร้างขนาดมหึมาเพื่อแผ่รังสีความร้อนออกไป ซึ่งยังไม่เคยมีการสร้างในระดับนี้มาก่อน 🎗️ การทนต่อรังสี: GPU และฮาร์ดแวร์ขั้นสูงยังไม่สามารถทนต่อรังสีในวงโคจร GEO ได้โดยไม่ใช้การป้องกันขั้นสูง ซึ่งจะลดประสิทธิภาพลง 🎗️ การขนส่งและบำรุงรักษา: ต้องใช้การปล่อยจรวดหลายพันเที่ยวเพื่อส่งอุปกรณ์ขึ้นไป และยังไม่มีระบบซ่อมบำรุงอัตโนมัติที่รองรับ 💡 มุมมองของ Jensen Huang Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia ยอมรับว่าปัญหาพลังงานและความเย็นเป็นความท้าทายใหญ่ แต่เขามองว่า ศูนย์ข้อมูล AI ในอวกาศยังเป็นเพียง “ความฝัน” เพราะเทคโนโลยีที่จำเป็น เช่น การเชื่อมต่อความเร็วสูงกับโลก การบำรุงรักษาด้วยหุ่นยนต์ และการสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ในอวกาศ ยังไม่พร้อมในช่วงเวลา 5 ปีตามที่ Musk คาดการณ์ 🌐 ผลกระทบต่ออนาคต AI แนวคิดนี้สะท้อนถึงความกังวลว่า โลกอาจไม่สามารถรองรับความต้องการพลังงานมหาศาลของ AI ได้ หากต้องการศูนย์ข้อมูลระดับเทรา-วัตต์ การหาทางเลือกใหม่ เช่น อวกาศ อาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคต แต่ในปัจจุบันยังคงต้องพึ่งพาโครงสร้างบนโลกและการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีอยู่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ มุมมองของ Elon Musk ➡️ AI Compute ในอวกาศจะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ฟรีและระบายความร้อนง่าย ➡️ คาดว่าจะเป็นต้นทุนต่ำที่สุดใน 4–5 ปี ✅ ความท้าทายด้านเทคนิค ➡️ อุณหภูมิแกว่งแรงในวงโคจร ➡️ ต้องใช้โครงสร้างขนาดใหญ่เพื่อระบายความร้อน ➡️ GPU ยังไม่ทนรังสี ➡️ ต้องใช้การขนส่งและบำรุงรักษามหาศาล ✅ มุมมองของ Jensen Huang ➡️ มองว่าเป็น “ความฝัน” เพราะเทคโนโลยียังไม่พร้อม ➡️ ปัญหาการเชื่อมต่อและบำรุงรักษายังไม่แก้ไข ‼️ คำเตือนสำหรับอนาคต ⛔ ความต้องการพลังงาน AI อาจเกินขีดความสามารถของโลก ⛔ การสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศยังไม่เป็นไปได้จริงในระยะสั้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/spacex-ceo-elon-musk-says-ai-compute-in-space-will-be-the-lowest-cost-option-in-5-years-but-nvidias-jensen-huang-says-its-a-dream
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนเธอร์แลนด์ระงับคำสั่งควบคุม Nexperia

    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้ตัดสินใจ ระงับคำสั่งฉุกเฉินที่บังคับควบคุมการดำเนินงานของ Nexperia ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปที่อยู่ภายใต้การถือครองของ Wingtech จากจีน หลังจากการเจรจาระหว่างหลายประเทศ รวมถึงจีน สหภาพยุโรป เยอรมนี และสหรัฐฯ มีความคืบหน้า โดยรัฐบาลระบุว่า Nexperia “ไม่มีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของซัพพลายเชน” ในช่วงนี้

    ผลกระทบต่อซัพพลายเชนโลก
    ก่อนหน้านี้ การบังคับควบคุมทำให้จีนตอบโต้ด้วยการจำกัดการส่งออกชิ้นส่วนจากโรงงาน Guangdong ซึ่งกระทบต่อการผลิตชิปที่จำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น Honda และ Volkswagen ต้องปรับการจัดหาชิ้นส่วนทันที การระงับคำสั่งครั้งนี้จึงช่วย ลดแรงกดดันต่อซัพพลายเชนโลก และเป็นสัญญาณว่าความร่วมมือระหว่างจีนและยุโรปอาจกลับมาดีขึ้น

    เงื่อนไขและข้อควรระวัง
    แม้คำสั่งจะถูกระงับ แต่ยังไม่ถูกยกเลิกอย่างถาวร Nexperia ยังต้องรายงานต่อรัฐบาลหากมีการโอนสินทรัพย์หรือทรัพย์สินทางปัญญา ขณะที่จีนมองว่านี่เป็น “ก้าวที่ถูกต้อง” แต่ยังย้ำว่าต้นเหตุของความขัดแย้งยังไม่ถูกแก้ไขทั้งหมด นั่นหมายความว่า ความเสี่ยงด้านการเมืองและการค้า ยังคงอยู่

    ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์
    กรณีนี้สะท้อนให้เห็นว่าแม้โลกจะจับตามองชิปประสิทธิภาพสูง แต่ ชิปที่ใช้ในยานยนต์และระบบพื้นฐานก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การหยุดชะงักเพียงเล็กน้อยสามารถสร้างผลกระทบใหญ่ต่อการผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง การผ่อนคลายข้อจำกัดครั้งนี้จึงถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การระงับคำสั่งควบคุม Nexperia
    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์คืนสิทธิการดำเนินงานให้กับ Wingtech จากจีน

    ผลกระทบต่อซัพพลายเชน
    จีนผ่อนคลายการส่งออกจาก Guangdong
    Honda และ Volkswagen ได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้

    เงื่อนไขที่ยังคงอยู่
    Nexperia ต้องรายงานการโอนสินทรัพย์หรือ IP ต่อรัฐบาล
    จีนยังมองว่าต้นเหตุความขัดแย้งยังไม่ถูกแก้ไข

    ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์
    ชิปพื้นฐานมีผลต่อการผลิตรถยนต์อย่างมาก

    คำเตือนสำหรับอนาคต
    ความเสี่ยงทางการเมืองและการค้าอาจกลับมาอีก
    คำสั่งถูก “ระงับ” ไม่ใช่ “ยกเลิกถาวร”

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/netherlands-suspends-nexperia-takeover-order-as-china-eases-export-curbs
    🇳🇱 เนเธอร์แลนด์ระงับคำสั่งควบคุม Nexperia รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้ตัดสินใจ ระงับคำสั่งฉุกเฉินที่บังคับควบคุมการดำเนินงานของ Nexperia ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปที่อยู่ภายใต้การถือครองของ Wingtech จากจีน หลังจากการเจรจาระหว่างหลายประเทศ รวมถึงจีน สหภาพยุโรป เยอรมนี และสหรัฐฯ มีความคืบหน้า โดยรัฐบาลระบุว่า Nexperia “ไม่มีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของซัพพลายเชน” ในช่วงนี้ 🌏 ผลกระทบต่อซัพพลายเชนโลก ก่อนหน้านี้ การบังคับควบคุมทำให้จีนตอบโต้ด้วยการจำกัดการส่งออกชิ้นส่วนจากโรงงาน Guangdong ซึ่งกระทบต่อการผลิตชิปที่จำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น Honda และ Volkswagen ต้องปรับการจัดหาชิ้นส่วนทันที การระงับคำสั่งครั้งนี้จึงช่วย ลดแรงกดดันต่อซัพพลายเชนโลก และเป็นสัญญาณว่าความร่วมมือระหว่างจีนและยุโรปอาจกลับมาดีขึ้น ⚖️ เงื่อนไขและข้อควรระวัง แม้คำสั่งจะถูกระงับ แต่ยังไม่ถูกยกเลิกอย่างถาวร Nexperia ยังต้องรายงานต่อรัฐบาลหากมีการโอนสินทรัพย์หรือทรัพย์สินทางปัญญา ขณะที่จีนมองว่านี่เป็น “ก้าวที่ถูกต้อง” แต่ยังย้ำว่าต้นเหตุของความขัดแย้งยังไม่ถูกแก้ไขทั้งหมด นั่นหมายความว่า ความเสี่ยงด้านการเมืองและการค้า ยังคงอยู่ 🚗 ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ กรณีนี้สะท้อนให้เห็นว่าแม้โลกจะจับตามองชิปประสิทธิภาพสูง แต่ ชิปที่ใช้ในยานยนต์และระบบพื้นฐานก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน การหยุดชะงักเพียงเล็กน้อยสามารถสร้างผลกระทบใหญ่ต่อการผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง การผ่อนคลายข้อจำกัดครั้งนี้จึงถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การระงับคำสั่งควบคุม Nexperia ➡️ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์คืนสิทธิการดำเนินงานให้กับ Wingtech จากจีน ✅ ผลกระทบต่อซัพพลายเชน ➡️ จีนผ่อนคลายการส่งออกจาก Guangdong ➡️ Honda และ Volkswagen ได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้ ✅ เงื่อนไขที่ยังคงอยู่ ➡️ Nexperia ต้องรายงานการโอนสินทรัพย์หรือ IP ต่อรัฐบาล ➡️ จีนยังมองว่าต้นเหตุความขัดแย้งยังไม่ถูกแก้ไข ✅ ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ ➡️ ชิปพื้นฐานมีผลต่อการผลิตรถยนต์อย่างมาก ‼️ คำเตือนสำหรับอนาคต ⛔ ความเสี่ยงทางการเมืองและการค้าอาจกลับมาอีก ⛔ คำสั่งถูก “ระงับ” ไม่ใช่ “ยกเลิกถาวร” https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/netherlands-suspends-nexperia-takeover-order-as-china-eases-export-curbs
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Netherlands suspends Nexperia takeover order as China eases export curbs — de-escalation could be welcome break for automotive industry
    The Hague hands operational control back to Wingtech-owned chipmaker after talks with Beijing, but warns powers could return if supplies falter.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • Foxconn เร่งผลิต AI Racks 1,000 ชุดต่อสัปดาห์

    Foxconn ประกาศว่าสามารถผลิต AI server racks ได้มากกว่า 1,000 ชุดต่อสัปดาห์ และมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตในปีหน้า เพื่อรองรับความต้องการที่พุ่งสูงจากบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกที่กำลังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI

    รายละเอียดจาก Chairman Liu Young-way
    Liu Young-way ประธาน Foxconn เปิดเผยว่า ความต้องการ AI server racks มาจากการขยายตัวของ ศูนย์ข้อมูล (datacenter) ที่ใช้สำหรับการประมวลผลโมเดล AI ขนาดใหญ่ โดย Foxconn ได้ลงทุนในสายการผลิตและการจัดหาชิ้นส่วนสำคัญ เช่น GPU และระบบระบายความร้อน เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

    บริบทตลาดโลก
    การเติบโตของ AI ทำให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Google, Microsoft และ Amazon ต้องเร่งสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่ ส่งผลให้ซัพพลายเชนของอุปกรณ์ AI server racks มีความสำคัญมากขึ้น Foxconn ในฐานะผู้ผลิตรายใหญ่จึงกลายเป็นผู้เล่นหลักที่ช่วยผลักดันการขยายตัวของตลาดนี้ โดยเฉพาะในเอเชียที่มีฐานการผลิตและแรงงานจำนวนมาก

    ความท้าทายและความเสี่ยง
    แม้ Foxconn จะเร่งผลิต แต่ก็ยังเผชิญกับความท้าทาย เช่น การขาดแคลน GPU, ต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น และแรงกดดันจากคู่แข่งรายอื่นในตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI หากไม่สามารถจัดการซัพพลายเชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจกระทบต่อการส่งมอบและความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    กำลังการผลิตของ Foxconn
    ผลิต AI racks ได้มากกว่า 1,000 ชุดต่อสัปดาห์
    มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตในปีหน้า

    แรงผลักดันจากตลาด
    ความต้องการสูงจากการสร้างศูนย์ข้อมูล AI
    บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    การขาดแคลน GPU และต้นทุนพลังงานสูง
    แรงกดดันจากคู่แข่งในตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/21/foxconn-can-make-1000-ai-racks-a-week-to-increase-next-year-chairman-says
    🏭 Foxconn เร่งผลิต AI Racks 1,000 ชุดต่อสัปดาห์ Foxconn ประกาศว่าสามารถผลิต AI server racks ได้มากกว่า 1,000 ชุดต่อสัปดาห์ และมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตในปีหน้า เพื่อรองรับความต้องการที่พุ่งสูงจากบริษัทเทคโนโลยีทั่วโลกที่กำลังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ⚙️ รายละเอียดจาก Chairman Liu Young-way Liu Young-way ประธาน Foxconn เปิดเผยว่า ความต้องการ AI server racks มาจากการขยายตัวของ ศูนย์ข้อมูล (datacenter) ที่ใช้สำหรับการประมวลผลโมเดล AI ขนาดใหญ่ โดย Foxconn ได้ลงทุนในสายการผลิตและการจัดหาชิ้นส่วนสำคัญ เช่น GPU และระบบระบายความร้อน เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 🌍 บริบทตลาดโลก การเติบโตของ AI ทำให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Google, Microsoft และ Amazon ต้องเร่งสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่ ส่งผลให้ซัพพลายเชนของอุปกรณ์ AI server racks มีความสำคัญมากขึ้น Foxconn ในฐานะผู้ผลิตรายใหญ่จึงกลายเป็นผู้เล่นหลักที่ช่วยผลักดันการขยายตัวของตลาดนี้ โดยเฉพาะในเอเชียที่มีฐานการผลิตและแรงงานจำนวนมาก ⚠️ ความท้าทายและความเสี่ยง แม้ Foxconn จะเร่งผลิต แต่ก็ยังเผชิญกับความท้าทาย เช่น การขาดแคลน GPU, ต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น และแรงกดดันจากคู่แข่งรายอื่นในตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI หากไม่สามารถจัดการซัพพลายเชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจกระทบต่อการส่งมอบและความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ กำลังการผลิตของ Foxconn ➡️ ผลิต AI racks ได้มากกว่า 1,000 ชุดต่อสัปดาห์ ➡️ มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตในปีหน้า ✅ แรงผลักดันจากตลาด ➡️ ความต้องการสูงจากการสร้างศูนย์ข้อมูล AI ➡️ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐาน ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ การขาดแคลน GPU และต้นทุนพลังงานสูง ⛔ แรงกดดันจากคู่แข่งในตลาดเซิร์ฟเวอร์ AI https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/21/foxconn-can-make-1000-ai-racks-a-week-to-increase-next-year-chairman-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Foxconn can make 1,000 AI racks a week, to increase next year, chairman says
    TAIPEI (Reuters) -Foxconn Chairman Young Liu said on Friday the company now had the capability to manufacture 1,000 artificial intelligence racks per week, and it expected that rate to increase next year.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • ออสเตรเลียเพิ่ม Twitch ในบัญชีห้ามใช้โซเชียลสำหรับวัยรุ่น

    รัฐบาลออสเตรเลียประกาศว่าจะเพิ่ม Twitch แพลตฟอร์มสตรีมมิงของ Amazon เข้าไปในรายชื่อโซเชียลมีเดียที่ห้ามใช้สำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีหรือต่ำกว่า โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2025 ขณะที่ Pinterest จะไม่ถูกเพิ่มในบัญชีห้ามครั้งนี้

    รายละเอียดของมาตรการ
    สำนักงานกำกับดูแลอินเทอร์เน็ตของออสเตรเลียระบุว่า การห้ามใช้โซเชียลสำหรับวัยรุ่นเป็นมาตรการเชิงป้องกัน เพื่อรับมือกับความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตและความปลอดภัยออนไลน์ โดยบริษัทที่ไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับสูงสุดถึง 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

    ทำไม Twitch ถูกแบน แต่ Pinterest รอด
    Twitch ถูกมองว่ามีความเสี่ยงสูงต่อเยาวชน เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการสตรีมสดและมีการโต้ตอบแบบเรียลไทม์ ซึ่งอาจเปิดช่องให้เกิดการล่วงละเมิดหรือการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ขณะที่ Pinterest ถูกพิจารณาว่ามีความเสี่ยงต่ำกว่า เนื่องจากเน้นการแชร์ภาพและไอเดียเชิงสร้างสรรค์

    ผลกระทบและเสียงสะท้อน
    มาตรการนี้ทำให้ออสเตรเลียกลายเป็นประเทศแรกในโลกที่ห้ามวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดียทั้งหมด การตัดสินใจดังกล่าวสร้างการถกเถียงทั้งในด้านการคุ้มครองเยาวชนและสิทธิในการเข้าถึงเทคโนโลยี หลายฝ่ายสนับสนุนว่าเป็นการป้องกันที่จำเป็น ขณะที่บางฝ่ายกังวลว่าจะกระทบต่อเสรีภาพและการมีส่วนร่วมทางดิจิทัลของเยาวชน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    มาตรการใหม่ของออสเตรเลีย
    ห้ามผู้ที่อายุ 16 ปีหรือต่ำกว่าใช้โซเชียลมีเดียตั้งแต่ 10 ธันวาคม 2025
    บริษัทที่ไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับสูงสุด 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย

    Twitch ถูกเพิ่มในบัญชีห้าม
    เน้นการสตรีมสดและโต้ตอบแบบเรียลไทม์
    เสี่ยงต่อการล่วงละเมิดและการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม

    Pinterest ไม่ถูกแบน
    เน้นการแชร์ภาพและไอเดียเชิงสร้างสรรค์
    ถูกมองว่ามีความเสี่ยงต่ำกว่า

    คำเตือนต่อผลกระทบ
    อาจกระทบเสรีภาพและการเข้าถึงเทคโนโลยีของเยาวชน
    สร้างข้อถกเถียงระหว่างการคุ้มครองสุขภาพจิตกับสิทธิพลเมือง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/21/australia-adds-amazon039s-twitch-to-teen-social-media-ban-spares-pinterest
    🚫 ออสเตรเลียเพิ่ม Twitch ในบัญชีห้ามใช้โซเชียลสำหรับวัยรุ่น รัฐบาลออสเตรเลียประกาศว่าจะเพิ่ม Twitch แพลตฟอร์มสตรีมมิงของ Amazon เข้าไปในรายชื่อโซเชียลมีเดียที่ห้ามใช้สำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีหรือต่ำกว่า โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2025 ขณะที่ Pinterest จะไม่ถูกเพิ่มในบัญชีห้ามครั้งนี้ ⚖️ รายละเอียดของมาตรการ สำนักงานกำกับดูแลอินเทอร์เน็ตของออสเตรเลียระบุว่า การห้ามใช้โซเชียลสำหรับวัยรุ่นเป็นมาตรการเชิงป้องกัน เพื่อรับมือกับความเสี่ยงด้านสุขภาพจิตและความปลอดภัยออนไลน์ โดยบริษัทที่ไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับสูงสุดถึง 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) 🎮 ทำไม Twitch ถูกแบน แต่ Pinterest รอด Twitch ถูกมองว่ามีความเสี่ยงสูงต่อเยาวชน เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการสตรีมสดและมีการโต้ตอบแบบเรียลไทม์ ซึ่งอาจเปิดช่องให้เกิดการล่วงละเมิดหรือการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ขณะที่ Pinterest ถูกพิจารณาว่ามีความเสี่ยงต่ำกว่า เนื่องจากเน้นการแชร์ภาพและไอเดียเชิงสร้างสรรค์ 🌍 ผลกระทบและเสียงสะท้อน มาตรการนี้ทำให้ออสเตรเลียกลายเป็นประเทศแรกในโลกที่ห้ามวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดียทั้งหมด การตัดสินใจดังกล่าวสร้างการถกเถียงทั้งในด้านการคุ้มครองเยาวชนและสิทธิในการเข้าถึงเทคโนโลยี หลายฝ่ายสนับสนุนว่าเป็นการป้องกันที่จำเป็น ขณะที่บางฝ่ายกังวลว่าจะกระทบต่อเสรีภาพและการมีส่วนร่วมทางดิจิทัลของเยาวชน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ มาตรการใหม่ของออสเตรเลีย ➡️ ห้ามผู้ที่อายุ 16 ปีหรือต่ำกว่าใช้โซเชียลมีเดียตั้งแต่ 10 ธันวาคม 2025 ➡️ บริษัทที่ไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับสูงสุด 49.5 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ✅ Twitch ถูกเพิ่มในบัญชีห้าม ➡️ เน้นการสตรีมสดและโต้ตอบแบบเรียลไทม์ ➡️ เสี่ยงต่อการล่วงละเมิดและการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ✅ Pinterest ไม่ถูกแบน ➡️ เน้นการแชร์ภาพและไอเดียเชิงสร้างสรรค์ ➡️ ถูกมองว่ามีความเสี่ยงต่ำกว่า ‼️ คำเตือนต่อผลกระทบ ⛔ อาจกระทบเสรีภาพและการเข้าถึงเทคโนโลยีของเยาวชน ⛔ สร้างข้อถกเถียงระหว่างการคุ้มครองสุขภาพจิตกับสิทธิพลเมือง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/21/australia-adds-amazon039s-twitch-to-teen-social-media-ban-spares-pinterest
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Australia adds Amazon's Twitch to teen social media ban, spares Pinterest
    SYDNEY (Reuters) -Australia's internet watchdog on Friday said it would include Amazon.com-owned live streaming service Twitch in its upcoming teen social media ban, but will not add image-sharing platform Pinterest to the list.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung Electronics แต่งตั้ง TM Roh เป็น Co-CEO คนใหม่

    Samsung Electronics ประกาศแต่งตั้ง TM Roh หัวหน้าธุรกิจมือถือ (Mobile eXperience – MX) ขึ้นเป็น Co-CEO และหัวหน้าฝ่าย Device Experience (DX) ซึ่งดูแลธุรกิจมือถือ ทีวี และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน การแต่งตั้งครั้งนี้ถือเป็นการกลับสู่โครงสร้าง Co-CEO แบบดั้งเดิม หลังจากบริษัทดำเนินงานภายใต้โครงสร้าง CEO เดียวชั่วคราว

    เหตุผลและบริบทการเปลี่ยนแปลง
    ก่อนหน้านี้ Samsung ใช้โครงสร้าง CEO เดียวหลังการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของ Han Jong-Hee ในเดือนมีนาคม 2025 การแต่งตั้ง TM Roh จึงเป็นการฟื้นฟูรูปแบบการบริหารที่แบ่งความรับผิดชอบระหว่าง ธุรกิจชิป และ ธุรกิจผู้บริโภค (Consumer Devices) เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและความชัดเจนในการบริหารจัดการ

    บทบาทของ TM Roh
    TM Roh เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดัน Galaxy Series โดยเฉพาะการเปิดตัว Galaxy S24 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ AI ในงาน Galaxy Unpacked ที่ซานโฮเซ สหรัฐฯ เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำที่ผลักดันนวัตกรรมมือถือและสร้างความแข็งแกร่งให้ Samsung ในการแข่งขันกับ Apple และผู้ผลิตจีน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การแต่งตั้งใหม่
    TM Roh ขึ้นเป็น Co-CEO และหัวหน้าฝ่าย Device Experience
    ฟื้นโครงสร้าง Co-CEO หลังการเสียชีวิตของ Han Jong-Hee

    โครงสร้างการบริหาร
    แบ่งความรับผิดชอบระหว่างธุรกิจชิปและธุรกิจผู้บริโภค
    เพิ่มความคล่องตัวและความชัดเจนในการบริหาร

    บทบาทของ TM Roh
    ผลักดัน Galaxy Series และนวัตกรรมมือถือ
    เปิดตัว Galaxy S24 พร้อมฟีเจอร์ AI

    คำเตือนต่อการแข่งขันในตลาด
    Samsung ต้องเผชิญแรงกดดันจาก Apple และผู้ผลิตจีน
    ความท้าทายในการรักษาความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและตลาดโลก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/21/samsung-elec-names-mobile-chief-as-new-co-ceo
    📱 Samsung Electronics แต่งตั้ง TM Roh เป็น Co-CEO คนใหม่ Samsung Electronics ประกาศแต่งตั้ง TM Roh หัวหน้าธุรกิจมือถือ (Mobile eXperience – MX) ขึ้นเป็น Co-CEO และหัวหน้าฝ่าย Device Experience (DX) ซึ่งดูแลธุรกิจมือถือ ทีวี และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน การแต่งตั้งครั้งนี้ถือเป็นการกลับสู่โครงสร้าง Co-CEO แบบดั้งเดิม หลังจากบริษัทดำเนินงานภายใต้โครงสร้าง CEO เดียวชั่วคราว ⚙️ เหตุผลและบริบทการเปลี่ยนแปลง ก่อนหน้านี้ Samsung ใช้โครงสร้าง CEO เดียวหลังการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของ Han Jong-Hee ในเดือนมีนาคม 2025 การแต่งตั้ง TM Roh จึงเป็นการฟื้นฟูรูปแบบการบริหารที่แบ่งความรับผิดชอบระหว่าง ธุรกิจชิป และ ธุรกิจผู้บริโภค (Consumer Devices) เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและความชัดเจนในการบริหารจัดการ 🌍 บทบาทของ TM Roh TM Roh เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดัน Galaxy Series โดยเฉพาะการเปิดตัว Galaxy S24 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ AI ในงาน Galaxy Unpacked ที่ซานโฮเซ สหรัฐฯ เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำที่ผลักดันนวัตกรรมมือถือและสร้างความแข็งแกร่งให้ Samsung ในการแข่งขันกับ Apple และผู้ผลิตจีน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การแต่งตั้งใหม่ ➡️ TM Roh ขึ้นเป็น Co-CEO และหัวหน้าฝ่าย Device Experience ➡️ ฟื้นโครงสร้าง Co-CEO หลังการเสียชีวิตของ Han Jong-Hee ✅ โครงสร้างการบริหาร ➡️ แบ่งความรับผิดชอบระหว่างธุรกิจชิปและธุรกิจผู้บริโภค ➡️ เพิ่มความคล่องตัวและความชัดเจนในการบริหาร ✅ บทบาทของ TM Roh ➡️ ผลักดัน Galaxy Series และนวัตกรรมมือถือ ➡️ เปิดตัว Galaxy S24 พร้อมฟีเจอร์ AI ‼️ คำเตือนต่อการแข่งขันในตลาด ⛔ Samsung ต้องเผชิญแรงกดดันจาก Apple และผู้ผลิตจีน ⛔ ความท้าทายในการรักษาความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและตลาดโลก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/21/samsung-elec-names-mobile-chief-as-new-co-ceo
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Samsung Elec names mobile chief as new co-CEO
    SEOUL (Reuters) -Samsung Electronics said on Friday it has named its mobile chief TM Roh as a new co-CEO and head of its device experience division, which oversees the company's mobile phone, TV and home appliance devisions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • คริปโตเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลกมากขึ้น

    รายงานจาก Reuters ที่เผยแพร่โดย The Star ระบุว่า ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ และปริมาณการซื้อขายรายวันราว 197 พันล้านดอลลาร์ กำลังมีความเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายที่สนับสนุนคริปโตของรัฐบาลสหรัฐฯ

    การเติบโตและการยอมรับจากสถาบันการเงิน
    การสนับสนุนคริปโตจากรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้สถาบันการเงินรายใหญ่เริ่มยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น ทั้งในรูปแบบการลงทุน การจัดการกองทุน และการใช้เป็นสินทรัพย์ค้ำประกัน ขณะเดียวกันบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพก็เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น กระเป๋าเงินดิจิทัลและระบบชำระเงิน เพื่อรองรับการใช้งานในวงกว้าง

    ความเสี่ยงที่มากับการเชื่อมโยง
    แม้คริปโตจะถูกยอมรับมากขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ความผันผวนสูงและการขาดการกำกับดูแลที่ชัดเจน อาจสร้างความเสี่ยงต่อระบบการเงินโลก หากเกิดการปรับฐานครั้งใหญ่ นักลงทุนและสถาบันที่ถือครองคริปโตจำนวนมากอาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากการฟอกเงิน การโจมตีทางไซเบอร์ และการใช้คริปโตในกิจกรรมผิดกฎหมาย

    บริบทโลกและทิศทางในอนาคต
    หลายประเทศกำลังพิจารณากฎระเบียบใหม่เพื่อควบคุมคริปโต เช่น การออก CBDC (Central Bank Digital Currency) เพื่อสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและความมั่นคงทางการเงิน หากคริปโตยังคงเติบโตและเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลกมากขึ้น การกำกับดูแลที่เข้มงวดจะเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเติบโตของคริปโต
    มูลค่าตลาดรวมกว่า 3.2 ล้านล้านดอลลาร์
    ปริมาณการซื้อขายรายวันราว 197 พันล้านดอลลาร์

    การยอมรับจากสถาบันการเงิน
    ใช้คริปโตเป็นสินทรัพย์ลงทุนและค้ำประกัน
    บริษัทเทคโนโลยีพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการใช้งาน

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    ความผันผวนสูงและการขาดการกำกับดูแลอาจกระทบระบบการเงินโลก
    เสี่ยงต่อการฟอกเงิน การโจมตีไซเบอร์ และการใช้ในกิจกรรมผิดกฎหมาย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/21/crypto039s-connections-to-the-rest-of-the-financial-system
    💱 คริปโตเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลกมากขึ้น รายงานจาก Reuters ที่เผยแพร่โดย The Star ระบุว่า ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ และปริมาณการซื้อขายรายวันราว 197 พันล้านดอลลาร์ กำลังมีความเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายที่สนับสนุนคริปโตของรัฐบาลสหรัฐฯ 📊 การเติบโตและการยอมรับจากสถาบันการเงิน การสนับสนุนคริปโตจากรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้สถาบันการเงินรายใหญ่เริ่มยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น ทั้งในรูปแบบการลงทุน การจัดการกองทุน และการใช้เป็นสินทรัพย์ค้ำประกัน ขณะเดียวกันบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพก็เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น กระเป๋าเงินดิจิทัลและระบบชำระเงิน เพื่อรองรับการใช้งานในวงกว้าง ⚠️ ความเสี่ยงที่มากับการเชื่อมโยง แม้คริปโตจะถูกยอมรับมากขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ความผันผวนสูงและการขาดการกำกับดูแลที่ชัดเจน อาจสร้างความเสี่ยงต่อระบบการเงินโลก หากเกิดการปรับฐานครั้งใหญ่ นักลงทุนและสถาบันที่ถือครองคริปโตจำนวนมากอาจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงจากการฟอกเงิน การโจมตีทางไซเบอร์ และการใช้คริปโตในกิจกรรมผิดกฎหมาย 🌍 บริบทโลกและทิศทางในอนาคต หลายประเทศกำลังพิจารณากฎระเบียบใหม่เพื่อควบคุมคริปโต เช่น การออก CBDC (Central Bank Digital Currency) เพื่อสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและความมั่นคงทางการเงิน หากคริปโตยังคงเติบโตและเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลกมากขึ้น การกำกับดูแลที่เข้มงวดจะเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเติบโตของคริปโต ➡️ มูลค่าตลาดรวมกว่า 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ ➡️ ปริมาณการซื้อขายรายวันราว 197 พันล้านดอลลาร์ ✅ การยอมรับจากสถาบันการเงิน ➡️ ใช้คริปโตเป็นสินทรัพย์ลงทุนและค้ำประกัน ➡️ บริษัทเทคโนโลยีพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการใช้งาน ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ ความผันผวนสูงและการขาดการกำกับดูแลอาจกระทบระบบการเงินโลก ⛔ เสี่ยงต่อการฟอกเงิน การโจมตีไซเบอร์ และการใช้ในกิจกรรมผิดกฎหมาย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/21/crypto039s-connections-to-the-rest-of-the-financial-system
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Crypto's connections to the rest of the financial system
    PARIS (Reuters) -Cryptocurrency markets have surged in recent years, in part fuelled by the Trump administration's pro-crypto stance which has encouraged wider acceptance among financial institutions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI Boom: ความร้อนแรงในตลาดการเงิน

    การประชุม Reuters Momentum AI 2026 ที่นิวยอร์กเผยว่า AI กลายเป็น “หัวข้ออันดับหนึ่ง” ของทั้งนักลงทุนและผู้บริหารบริษัท หลายองค์กรเร่งสร้างกลยุทธ์ AI โดยเลือกซื้อกิจการหรือฐานข้อมูลเฉพาะทางแทนการพัฒนาเอง ส่งผลให้การประเมินมูลค่าบริษัทพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ นักลงทุนจำนวนมากยอมจ่ายเพื่อ “อนาคต” มากกว่าพื้นฐานทางการเงินในปัจจุบัน

    เงินทุนมหาศาลและการเติบโตของ Nvidia
    McKinsey คาดว่าอุตสาหกรรม AI จะต้องใช้เงินทุนกว่า 7 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลเพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกัน Nvidia ซึ่งเป็นผู้นำด้านชิป AI รายงานรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 65% เมื่อเทียบปีต่อปี ทำให้หุ้นพุ่งขึ้นกว่า 5% ในการซื้อขายก่อนตลาดเปิด

    ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่
    Joanna Welsh จาก Citadel เตือนว่า ตลาดสมัยใหม่ขยายแรงกระแทกเร็วและแรงขึ้น ความเสี่ยงในตลาดเครดิตเริ่ม “ซ้อนทับกัน” เช่น การออกพันธบัตรระยะยาว 30-40 ปี เพื่อซื้อสินทรัพย์ที่มีอายุใช้งานเพียง 4 ปี ทำให้บริษัทต้องแบกรับหนี้นานกว่าสินทรัพย์ที่ใช้จริง นอกจากนี้ยังมีการออกพันธบัตรแบบ zero-coupon convertible bonds โดยบริษัทเทคโนโลยีที่มีเครดิตต่ำ ซึ่งเป็นสัญญาณคล้ายกับช่วงก่อนฟองสบู่ปี 2001 และ 2021

    สรุปประเด็นสำคัญ
    AI เป็นหัวข้อร้อนแรงในตลาด
    นักลงทุนและผู้บริหารเร่งหากลยุทธ์ AI
    การประเมินมูลค่าพุ่งสูงเกินพื้นฐานจริง

    เงินทุนและการเติบโต
    อุตสาหกรรมต้องใช้เงินกว่า 7 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030
    Nvidia รายงานกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 65% และหุ้นพุ่งกว่า 5%

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    พันธบัตรระยะยาวไม่สอดคล้องกับอายุสินทรัพย์
    การออก zero-coupon bonds โดยบริษัทเครดิตต่ำอาจนำไปสู่ความเปราะบาง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/20/ai-boom-brings-fresh-risks-to-us-markets-and-more-money-to-ma
    📈 AI Boom: ความร้อนแรงในตลาดการเงิน การประชุม Reuters Momentum AI 2026 ที่นิวยอร์กเผยว่า AI กลายเป็น “หัวข้ออันดับหนึ่ง” ของทั้งนักลงทุนและผู้บริหารบริษัท หลายองค์กรเร่งสร้างกลยุทธ์ AI โดยเลือกซื้อกิจการหรือฐานข้อมูลเฉพาะทางแทนการพัฒนาเอง ส่งผลให้การประเมินมูลค่าบริษัทพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ นักลงทุนจำนวนมากยอมจ่ายเพื่อ “อนาคต” มากกว่าพื้นฐานทางการเงินในปัจจุบัน 💰 เงินทุนมหาศาลและการเติบโตของ Nvidia McKinsey คาดว่าอุตสาหกรรม AI จะต้องใช้เงินทุนกว่า 7 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลเพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกัน Nvidia ซึ่งเป็นผู้นำด้านชิป AI รายงานรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 65% เมื่อเทียบปีต่อปี ทำให้หุ้นพุ่งขึ้นกว่า 5% ในการซื้อขายก่อนตลาดเปิด ⚠️ ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ Joanna Welsh จาก Citadel เตือนว่า ตลาดสมัยใหม่ขยายแรงกระแทกเร็วและแรงขึ้น ความเสี่ยงในตลาดเครดิตเริ่ม “ซ้อนทับกัน” เช่น การออกพันธบัตรระยะยาว 30-40 ปี เพื่อซื้อสินทรัพย์ที่มีอายุใช้งานเพียง 4 ปี ทำให้บริษัทต้องแบกรับหนี้นานกว่าสินทรัพย์ที่ใช้จริง นอกจากนี้ยังมีการออกพันธบัตรแบบ zero-coupon convertible bonds โดยบริษัทเทคโนโลยีที่มีเครดิตต่ำ ซึ่งเป็นสัญญาณคล้ายกับช่วงก่อนฟองสบู่ปี 2001 และ 2021 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ AI เป็นหัวข้อร้อนแรงในตลาด ➡️ นักลงทุนและผู้บริหารเร่งหากลยุทธ์ AI ➡️ การประเมินมูลค่าพุ่งสูงเกินพื้นฐานจริง ✅ เงินทุนและการเติบโต ➡️ อุตสาหกรรมต้องใช้เงินกว่า 7 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ➡️ Nvidia รายงานกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 65% และหุ้นพุ่งกว่า 5% ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ พันธบัตรระยะยาวไม่สอดคล้องกับอายุสินทรัพย์ ⛔ การออก zero-coupon bonds โดยบริษัทเครดิตต่ำอาจนำไปสู่ความเปราะบาง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/20/ai-boom-brings-fresh-risks-to-us-markets-and-more-money-to-ma
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI boom brings fresh risks to US markets, and more money to M&A
    NEW YORK (Reuters) -The AI boom is bringing new risks to the financial markets as investors flock to tech stocks and executives pay steep premiums to buy AI technology they cannot build in-house, warned two top finance executives.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • Verizon ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่

    Verizon ผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายรายใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศว่าจะปลดพนักงานมากกว่า 13,000 คนทั่วทั้งองค์กร ถือเป็นการเลิกจ้างครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นภายใต้การนำของ Dan Schulman ซีอีโอคนใหม่ที่เข้ามารับตำแหน่งในเดือนตุลาคม 2025 หลังจากเคยเป็นหัวหน้า PayPal

    นอกจากการปลดพนักงานแล้ว Verizon ยังวางแผน เปลี่ยนร้านค้าของบริษัท 179 แห่งเป็นแฟรนไชส์ และปิดร้านหนึ่งแห่ง เพื่อปรับโครงสร้างการดำเนินงานให้มีความคล่องตัวมากขึ้น

    เหตุผลเบื้องหลังการปรับโครงสร้าง
    Schulman ระบุว่า โครงสร้างต้นทุนปัจจุบันของ Verizon จำกัดความสามารถในการลงทุนเพื่อสร้างคุณค่าให้ลูกค้า บริษัทจึงจำเป็นต้องลดความซับซ้อนของการดำเนินงานและลดการพึ่งพาแรงงานภายนอก เพื่อแก้ไขความล่าช้าและความยุ่งยากที่สร้างความไม่พอใจให้ลูกค้า

    Verizon ยังตั้งกองทุนมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือพนักงานที่ถูกเลิกจ้างในการเปลี่ยนสายอาชีพ โดยเน้นทักษะที่จำเป็นในยุค AI และดิจิทัล

    สถานการณ์การแข่งขันในตลาด
    การปรับโครงสร้างครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากคู่แข่งอย่าง AT&T และ T-Mobile ที่ใช้กลยุทธ์ส่วนลดและโปรโมชันแรง ๆ ในการดึงลูกค้า Verizon เพิ่มผู้ใช้รายใหม่เพียง 44,000 ราย ในไตรมาส 3 ปี 2025 ซึ่งน้อยกว่า AT&T และห่างไกลจาก T-Mobile ที่เพิ่มผู้ใช้กว่า 1 ล้านราย

    นอกจากนี้ Verizon ยังลงทุนมหาศาลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่น 52 พันล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อคลื่น midband spectrum สำหรับ 5G และ 20 พันล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อกิจการ Frontier Communications รวมถึง 6 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ TracFone Wireless ซึ่งเพิ่มแรงกดดันด้านการเงินต่อบริษัท

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเลิกจ้างครั้งใหญ่
    ปลดพนักงานกว่า 13,000 คน ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดของ Verizon
    เปลี่ยนร้านค้าบริษัท 179 แห่งเป็นแฟรนไชส์

    เหตุผลการปรับโครงสร้าง
    ลดต้นทุนและความซับซ้อนในการดำเนินงาน
    ตั้งกองทุน 20 ล้านดอลลาร์ช่วยพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง

    แรงกดดันจากตลาด
    Verizon เพิ่มผู้ใช้รายใหม่เพียง 44,000 รายใน Q3
    คู่แข่ง AT&T และ T-Mobile ใช้ส่วนลดและโปรโมชันดึงลูกค้าได้มากกว่า

    คำเตือนต่ออนาคต Verizon
    การลงทุนมหาศาลใน spectrum และการซื้อกิจการเพิ่มภาระทางการเงิน
    หากไม่สามารถฟื้นฟูความสามารถในการแข่งขัน อาจสูญเสียตำแหน่งผู้นำตลาด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/20/verizon-cutting-more-than-13000-jobs-as-it-restructures
    📉 Verizon ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ Verizon ผู้ให้บริการเครือข่ายไร้สายรายใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศว่าจะปลดพนักงานมากกว่า 13,000 คนทั่วทั้งองค์กร ถือเป็นการเลิกจ้างครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์บริษัท การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นภายใต้การนำของ Dan Schulman ซีอีโอคนใหม่ที่เข้ามารับตำแหน่งในเดือนตุลาคม 2025 หลังจากเคยเป็นหัวหน้า PayPal นอกจากการปลดพนักงานแล้ว Verizon ยังวางแผน เปลี่ยนร้านค้าของบริษัท 179 แห่งเป็นแฟรนไชส์ และปิดร้านหนึ่งแห่ง เพื่อปรับโครงสร้างการดำเนินงานให้มีความคล่องตัวมากขึ้น ⚙️ เหตุผลเบื้องหลังการปรับโครงสร้าง Schulman ระบุว่า โครงสร้างต้นทุนปัจจุบันของ Verizon จำกัดความสามารถในการลงทุนเพื่อสร้างคุณค่าให้ลูกค้า บริษัทจึงจำเป็นต้องลดความซับซ้อนของการดำเนินงานและลดการพึ่งพาแรงงานภายนอก เพื่อแก้ไขความล่าช้าและความยุ่งยากที่สร้างความไม่พอใจให้ลูกค้า Verizon ยังตั้งกองทุนมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือพนักงานที่ถูกเลิกจ้างในการเปลี่ยนสายอาชีพ โดยเน้นทักษะที่จำเป็นในยุค AI และดิจิทัล 📊 สถานการณ์การแข่งขันในตลาด การปรับโครงสร้างครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากคู่แข่งอย่าง AT&T และ T-Mobile ที่ใช้กลยุทธ์ส่วนลดและโปรโมชันแรง ๆ ในการดึงลูกค้า Verizon เพิ่มผู้ใช้รายใหม่เพียง 44,000 ราย ในไตรมาส 3 ปี 2025 ซึ่งน้อยกว่า AT&T และห่างไกลจาก T-Mobile ที่เพิ่มผู้ใช้กว่า 1 ล้านราย นอกจากนี้ Verizon ยังลงทุนมหาศาลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่น 52 พันล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อคลื่น midband spectrum สำหรับ 5G และ 20 พันล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อกิจการ Frontier Communications รวมถึง 6 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ TracFone Wireless ซึ่งเพิ่มแรงกดดันด้านการเงินต่อบริษัท 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเลิกจ้างครั้งใหญ่ ➡️ ปลดพนักงานกว่า 13,000 คน ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดของ Verizon ➡️ เปลี่ยนร้านค้าบริษัท 179 แห่งเป็นแฟรนไชส์ ✅ เหตุผลการปรับโครงสร้าง ➡️ ลดต้นทุนและความซับซ้อนในการดำเนินงาน ➡️ ตั้งกองทุน 20 ล้านดอลลาร์ช่วยพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง ✅ แรงกดดันจากตลาด ➡️ Verizon เพิ่มผู้ใช้รายใหม่เพียง 44,000 รายใน Q3 ➡️ คู่แข่ง AT&T และ T-Mobile ใช้ส่วนลดและโปรโมชันดึงลูกค้าได้มากกว่า ‼️ คำเตือนต่ออนาคต Verizon ⛔ การลงทุนมหาศาลใน spectrum และการซื้อกิจการเพิ่มภาระทางการเงิน ⛔ หากไม่สามารถฟื้นฟูความสามารถในการแข่งขัน อาจสูญเสียตำแหน่งผู้นำตลาด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/20/verizon-cutting-more-than-13000-jobs-as-it-restructures
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Verizon cutting more than 13,000 jobs as it restructures
    WASHINGTON (Reuters) -U.S. wireless carrier Verizon on Thursday said it will cut more than 13,000 jobs in its largest single layoff as it works to shrink costs and restructure operations.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • “จาก Hype สู่ความจริง: คำแนะนำถึงผู้ขายโซลูชันไซเบอร์”

    บทความ Selling to the CISO: An open letter to the cybersecurity industry โดย Tyler Farrar (CISO ของ Nextracker) วิจารณ์ว่าอุตสาหกรรมไซเบอร์เต็มไปด้วย “เสียงรบกวน” และการขายที่เน้นการตลาดมากกว่าการแก้ปัญหาจริง เขาเรียกร้องให้ผู้ขายกลับไปสู่พื้นฐานที่พิสูจน์แล้ว เช่น การจัดการแพตช์ การควบคุมสิทธิ์ และการแบ่งเครือข่าย

    อุตสาหกรรมไซเบอร์: เสียงดังแต่ไร้สาระ
    Tyler Farrar ระบุว่า ตลาดไซเบอร์เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นเพื่อการระดมทุนมากกว่าการใช้งานจริง หลายโซลูชันสัญญาว่าจะ “ปฏิวัติความปลอดภัย” แต่ไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจนว่ากำลังแก้ปัญหาอะไร ผลลัพธ์คือ CISO ต้องเผชิญกับการนำเสนอที่ไม่ตอบโจทย์ ขณะที่ช่องโหว่พื้นฐานยังคงถูกละเลย

    บทบาทของ CISO: การเล่นเกมที่ไม่มีวันชนะ
    เขาเปรียบงานของ CISO ว่าเป็น เกมที่ไม่มีวันชนะ เพราะแม้จะปิดช่องโหว่ทั้งหมด ค่าใช้จ่ายก็สูงจนทำให้ธุรกิจหยุดชะงัก ดังนั้นหน้าที่ของ CISO ไม่ใช่การสร้างระบบที่ “ปลอดภัยสมบูรณ์” แต่คือการ หาสมดุลระหว่างความเสี่ยงและการดำเนินธุรกิจ โดยเลือกลงทุนในสิ่งที่ลดความเสี่ยงได้จริง เช่น การมองเห็นระบบ (visibility), การจัดการสิทธิ์ (identity), และการทำงานอัตโนมัติที่ช่วยทีมทำงานเร็วขึ้น

    กลับสู่พื้นฐานที่พิสูจน์แล้ว
    Farrar ย้ำว่า องค์กรส่วนใหญ่ไม่ต้องการเครื่องมือใหม่ แต่ต้องการทำพื้นฐานให้ถูกต้อง เช่น:
    การแพตช์ระบบอย่างสม่ำเสมอ
    การควบคุมสิทธิ์การเข้าถึง
    การแบ่งเครือข่ายเพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ด้านข้างของผู้โจมตี

    เขาเตือนว่าการละเลยพื้นฐานเพราะ “ไม่ตื่นเต้นพอสำหรับนักลงทุน” เป็นสาเหตุที่ทำให้ช่องโหว่เดิม ๆ ยังคงสร้างความเสียหายซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ปัญหาในตลาดไซเบอร์
    ผลิตภัณฑ์จำนวนมากถูกสร้างเพื่อการตลาด ไม่ใช่การแก้ปัญหาจริง
    CISO ต้องเผชิญกับการขายที่เต็มไปด้วย hype

    บทบาทของ CISO
    ไม่ใช่การสร้างระบบที่ปลอดภัยสมบูรณ์ แต่คือการหาสมดุลระหว่างความเสี่ยงและธุรกิจ
    ลงทุนใน visibility, identity, automation ที่ช่วยลดความเสี่ยงจริง

    พื้นฐานที่สำคัญ
    การแพตช์ การควบคุมสิทธิ์ และการแบ่งเครือข่าย
    สิ่งเหล่านี้ลดพื้นที่โจมตีได้มากกว่าซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ

    คำเตือนต่ออุตสาหกรรม
    การไล่ตาม hype ทำให้ละเลยพื้นฐานที่พิสูจน์แล้ว
    หากไม่เปลี่ยนแนวทาง การโจมตีเดิม ๆ จะยังคงสร้างความเสียหายต่อไป

    https://www.csoonline.com/article/4089738/selling-to-the-ciso-an-open-letter-to-the-cybersecurity-industry.html
    📧 “จาก Hype สู่ความจริง: คำแนะนำถึงผู้ขายโซลูชันไซเบอร์” บทความ Selling to the CISO: An open letter to the cybersecurity industry โดย Tyler Farrar (CISO ของ Nextracker) วิจารณ์ว่าอุตสาหกรรมไซเบอร์เต็มไปด้วย “เสียงรบกวน” และการขายที่เน้นการตลาดมากกว่าการแก้ปัญหาจริง เขาเรียกร้องให้ผู้ขายกลับไปสู่พื้นฐานที่พิสูจน์แล้ว เช่น การจัดการแพตช์ การควบคุมสิทธิ์ และการแบ่งเครือข่าย 📢 อุตสาหกรรมไซเบอร์: เสียงดังแต่ไร้สาระ Tyler Farrar ระบุว่า ตลาดไซเบอร์เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นเพื่อการระดมทุนมากกว่าการใช้งานจริง หลายโซลูชันสัญญาว่าจะ “ปฏิวัติความปลอดภัย” แต่ไม่สามารถอธิบายได้ชัดเจนว่ากำลังแก้ปัญหาอะไร ผลลัพธ์คือ CISO ต้องเผชิญกับการนำเสนอที่ไม่ตอบโจทย์ ขณะที่ช่องโหว่พื้นฐานยังคงถูกละเลย ⚖️ บทบาทของ CISO: การเล่นเกมที่ไม่มีวันชนะ เขาเปรียบงานของ CISO ว่าเป็น เกมที่ไม่มีวันชนะ เพราะแม้จะปิดช่องโหว่ทั้งหมด ค่าใช้จ่ายก็สูงจนทำให้ธุรกิจหยุดชะงัก ดังนั้นหน้าที่ของ CISO ไม่ใช่การสร้างระบบที่ “ปลอดภัยสมบูรณ์” แต่คือการ หาสมดุลระหว่างความเสี่ยงและการดำเนินธุรกิจ โดยเลือกลงทุนในสิ่งที่ลดความเสี่ยงได้จริง เช่น การมองเห็นระบบ (visibility), การจัดการสิทธิ์ (identity), และการทำงานอัตโนมัติที่ช่วยทีมทำงานเร็วขึ้น 🔑 กลับสู่พื้นฐานที่พิสูจน์แล้ว Farrar ย้ำว่า องค์กรส่วนใหญ่ไม่ต้องการเครื่องมือใหม่ แต่ต้องการทำพื้นฐานให้ถูกต้อง เช่น: 🎗️ การแพตช์ระบบอย่างสม่ำเสมอ 🎗️ การควบคุมสิทธิ์การเข้าถึง 🎗️ การแบ่งเครือข่ายเพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ด้านข้างของผู้โจมตี เขาเตือนว่าการละเลยพื้นฐานเพราะ “ไม่ตื่นเต้นพอสำหรับนักลงทุน” เป็นสาเหตุที่ทำให้ช่องโหว่เดิม ๆ ยังคงสร้างความเสียหายซ้ำแล้วซ้ำเล่า 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ปัญหาในตลาดไซเบอร์ ➡️ ผลิตภัณฑ์จำนวนมากถูกสร้างเพื่อการตลาด ไม่ใช่การแก้ปัญหาจริง ➡️ CISO ต้องเผชิญกับการขายที่เต็มไปด้วย hype ✅ บทบาทของ CISO ➡️ ไม่ใช่การสร้างระบบที่ปลอดภัยสมบูรณ์ แต่คือการหาสมดุลระหว่างความเสี่ยงและธุรกิจ ➡️ ลงทุนใน visibility, identity, automation ที่ช่วยลดความเสี่ยงจริง ✅ พื้นฐานที่สำคัญ ➡️ การแพตช์ การควบคุมสิทธิ์ และการแบ่งเครือข่าย ➡️ สิ่งเหล่านี้ลดพื้นที่โจมตีได้มากกว่าซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ ‼️ คำเตือนต่ออุตสาหกรรม ⛔ การไล่ตาม hype ทำให้ละเลยพื้นฐานที่พิสูจน์แล้ว ⛔ หากไม่เปลี่ยนแนวทาง การโจมตีเดิม ๆ จะยังคงสร้างความเสียหายต่อไป https://www.csoonline.com/article/4089738/selling-to-the-ciso-an-open-letter-to-the-cybersecurity-industry.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Selling to the CISO: An open letter to the cybersecurity industry
    The industry has stopped rewarding what works in favor of what sells. But as security leaders with very real risks on the line, we need reliable solutions more than we need revolutionary sales pitches.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบื้องหลังไฟร์วอลล์: ความท้าทายของผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์ที่มีความพิการ

    บทความจาก CSO Online เปิดเผยเรื่องราวของผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ที่มีความพิการหรือภาวะทางระบบประสาท (neurodivergent) ซึ่งยังคงเผชิญกับอคติและอุปสรรคในที่ทำงาน แม้ว่าอุตสาหกรรมจะพูดถึงความหลากหลายและการมีส่วนร่วมมากขึ้นก็ตาม

    เรื่องราวของ Daisy Wong
    Daisy Wong หัวหน้าฝ่าย Security Awareness ที่ Medibank เล่าว่าเมื่อเริ่มต้นในสายงาน เธอถูกตั้งคำถามเรื่องความสามารถทางกายภาพมากกว่าประสบการณ์จริง เช่น ผู้จัดการสนใจว่าเธอสามารถ “ชงชาแล้วเดินกลับโต๊ะได้หรือไม่” มากกว่าทักษะด้านไซเบอร์ ความไม่เข้าใจนี้ทำให้เธอต้องสร้าง personal brand เพื่อพิสูจน์ตัวเอง และปัจจุบันเธอกลายเป็นผู้นำที่ผลักดันการสร้างวัฒนธรรมการเข้าถึง (Accessibility) ในองค์กร

    ประสบการณ์ของ Jacob Griffiths
    Jacob Griffiths นักวิเคราะห์ความเสี่ยงไซเบอร์ที่ Procare Cyber ต้องจัดการกับโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งส่งผลต่อสมาธิและพลังงาน เขาเล่าว่าการทำงานในอุตสาหกรรมที่แข่งขันสูงทำให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องยาก แต่โชคดีที่มีผู้จัดการที่เข้าใจและให้ความยืดหยุ่น อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าระบบทุนนิยมยังคงกดดันให้คนทำงานต้องผลิตผลงานโดยไม่คำนึงถึงข้อจำกัดด้านสุขภาพ

    จุดแข็งของ Angelina Liu
    Angelina Liu ผู้จัดการฝ่ายขายเชิงพาณิชย์ที่ SentinelOne พบว่า ADHD กลายเป็น “ซูเปอร์พาวเวอร์” ของเธอ เพราะช่วยให้คิดเร็ว มองเห็นรูปแบบที่คนอื่นอาจพลาด และปรับตัวได้ไวในสถานการณ์วิกฤติ แม้จะเคยเผชิญกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เป็นมิตร แต่เธอใช้ประสบการณ์นั้นมาเป็นแรงผลักดันในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางจิตใจให้กับทีม และสนับสนุนการมีส่วนร่วมของผู้หญิงและผู้ที่มีความแตกต่างทางระบบประสาทในวงการไซเบอร์

    สรุปประเด็นสำคัญ
    อุปสรรคที่พบในอุตสาหกรรมไซเบอร์
    ผู้เชี่ยวชาญที่มีความพิการยังถูกตั้งคำถามเรื่องความสามารถทางกายภาพมากกว่าทักษะจริง
    การขาดความเข้าใจทำให้โอกาสความก้าวหน้าถูกจำกัด

    ตัวอย่างแรงบันดาลใจ
    Daisy Wong ใช้ personal brand สร้างความน่าเชื่อถือและผลักดัน Accessibility
    Jacob Griffiths แสดงให้เห็นความสำคัญของผู้จัดการที่มี empathy
    Angelina Liu ใช้ ADHD เป็นจุดแข็งในการทำงานและสนับสนุนทีม

    คำเตือนต่อองค์กร
    หากไม่สร้างวัฒนธรรมที่ยืดหยุ่นและปลอดภัย อาจสูญเสียบุคลากรที่มีศักยภาพสูง
    การละเลยความหลากหลายทำให้ทีมขาดมุมมองที่สำคัญต่อการแก้ปัญหาซับซ้อน

    https://www.csoonline.com/article/4089055/behind-the-firewall-the-hidden-struggles-of-cyber-professionals-with-a-disability.html
    🛡️ เบื้องหลังไฟร์วอลล์: ความท้าทายของผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์ที่มีความพิการ บทความจาก CSO Online เปิดเผยเรื่องราวของผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ที่มีความพิการหรือภาวะทางระบบประสาท (neurodivergent) ซึ่งยังคงเผชิญกับอคติและอุปสรรคในที่ทำงาน แม้ว่าอุตสาหกรรมจะพูดถึงความหลากหลายและการมีส่วนร่วมมากขึ้นก็ตาม 👩‍💻 เรื่องราวของ Daisy Wong Daisy Wong หัวหน้าฝ่าย Security Awareness ที่ Medibank เล่าว่าเมื่อเริ่มต้นในสายงาน เธอถูกตั้งคำถามเรื่องความสามารถทางกายภาพมากกว่าประสบการณ์จริง เช่น ผู้จัดการสนใจว่าเธอสามารถ “ชงชาแล้วเดินกลับโต๊ะได้หรือไม่” มากกว่าทักษะด้านไซเบอร์ ความไม่เข้าใจนี้ทำให้เธอต้องสร้าง personal brand เพื่อพิสูจน์ตัวเอง และปัจจุบันเธอกลายเป็นผู้นำที่ผลักดันการสร้างวัฒนธรรมการเข้าถึง (Accessibility) ในองค์กร 💉 ประสบการณ์ของ Jacob Griffiths Jacob Griffiths นักวิเคราะห์ความเสี่ยงไซเบอร์ที่ Procare Cyber ต้องจัดการกับโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งส่งผลต่อสมาธิและพลังงาน เขาเล่าว่าการทำงานในอุตสาหกรรมที่แข่งขันสูงทำให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องยาก แต่โชคดีที่มีผู้จัดการที่เข้าใจและให้ความยืดหยุ่น อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าระบบทุนนิยมยังคงกดดันให้คนทำงานต้องผลิตผลงานโดยไม่คำนึงถึงข้อจำกัดด้านสุขภาพ ⚡ จุดแข็งของ Angelina Liu Angelina Liu ผู้จัดการฝ่ายขายเชิงพาณิชย์ที่ SentinelOne พบว่า ADHD กลายเป็น “ซูเปอร์พาวเวอร์” ของเธอ เพราะช่วยให้คิดเร็ว มองเห็นรูปแบบที่คนอื่นอาจพลาด และปรับตัวได้ไวในสถานการณ์วิกฤติ แม้จะเคยเผชิญกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เป็นมิตร แต่เธอใช้ประสบการณ์นั้นมาเป็นแรงผลักดันในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางจิตใจให้กับทีม และสนับสนุนการมีส่วนร่วมของผู้หญิงและผู้ที่มีความแตกต่างทางระบบประสาทในวงการไซเบอร์ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ อุปสรรคที่พบในอุตสาหกรรมไซเบอร์ ➡️ ผู้เชี่ยวชาญที่มีความพิการยังถูกตั้งคำถามเรื่องความสามารถทางกายภาพมากกว่าทักษะจริง ➡️ การขาดความเข้าใจทำให้โอกาสความก้าวหน้าถูกจำกัด ✅ ตัวอย่างแรงบันดาลใจ ➡️ Daisy Wong ใช้ personal brand สร้างความน่าเชื่อถือและผลักดัน Accessibility ➡️ Jacob Griffiths แสดงให้เห็นความสำคัญของผู้จัดการที่มี empathy ➡️ Angelina Liu ใช้ ADHD เป็นจุดแข็งในการทำงานและสนับสนุนทีม ‼️ คำเตือนต่อองค์กร ⛔ หากไม่สร้างวัฒนธรรมที่ยืดหยุ่นและปลอดภัย อาจสูญเสียบุคลากรที่มีศักยภาพสูง ⛔ การละเลยความหลากหลายทำให้ทีมขาดมุมมองที่สำคัญต่อการแก้ปัญหาซับซ้อน https://www.csoonline.com/article/4089055/behind-the-firewall-the-hidden-struggles-of-cyber-professionals-with-a-disability.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Behind the firewall: The hidden struggles of cyber professionals with a disability
    Three cybersecurity professionals share how they’ve navigated bias, built resilience, and found belonging in an industry still learning what true inclusion means.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปลี่ยนมาใช้ Linux Gaming Desktop: CachyOS

    ผู้เขียนบทความทดลองเปลี่ยนจาก Windows มาใช้ CachyOS ซึ่งเป็นดิสโทร Linux ที่ปรับแต่งมาเพื่อการเล่นเกม จุดเด่นคือการใช้ kernel ที่ปรับแต่งพิเศษ และการตั้งค่าที่เน้นประสิทธิภาพ ทำให้เกมหลายเกมทำงานได้ลื่นไหลขึ้นเมื่อเทียบกับ Windows โดยเฉพาะเกมที่รองรับ Proton หรือ Steam Play

    นอกจากนี้ CachyOS ยังมีเครื่องมือช่วยจัดการไดรเวอร์และการตั้งค่ากราฟิก ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งระบบได้ละเอียด เช่น การเลือก scheduler, การปรับแต่ง I/O, และการจัดการหน่วยความจำ เพื่อให้เหมาะสมกับการเล่นเกมแต่ละประเภท

    ข้อดีและความท้าทาย
    ข้อดีที่เห็นได้ชัดคือ ประสิทธิภาพและความเสถียร ของระบบ รวมถึงความยืดหยุ่นในการปรับแต่งที่ Windows ไม่สามารถทำได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทาย เช่น:
    เกมบางเกมที่ใช้ anti-cheat ไม่รองรับ Linux ทำให้ไม่สามารถเล่นได้
    การตั้งค่าบางอย่างต้องใช้ความรู้เชิงเทคนิคมากกว่าปกติ
    เครื่องมือเสริม เช่น Discord หรือแอปสตรีมมิ่ง อาจมีฟีเจอร์ไม่ครบเท่าบน Windows

    บริบทที่กว้างขึ้น
    การเปลี่ยนมาใช้ Linux สำหรับเล่นเกมไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นหลังจากความสำเร็จของ Steam Deck และการพัฒนา Proton ที่ทำให้เกม Windows เล่นได้บน Linux โดยตรง CachyOS เป็นหนึ่งในดิสโทรที่พยายามผลักดันแนวคิดนี้ให้ไปไกลกว่าเดสก์ท็อปทั่วไป ด้วยการปรับแต่งเชิงลึกเพื่อให้ผู้เล่นได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    CachyOS สำหรับเกมเมอร์
    ดิสโทร Linux ที่ปรับแต่ง kernel และระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม
    รองรับ Proton และ Steam Play ทำให้เล่นเกม Windows ได้จำนวนมาก

    ข้อดีที่พบ
    ประสิทธิภาพสูงขึ้นและเสถียรกว่า Windows ในบางเกม
    ความยืดหยุ่นในการปรับแต่งระบบ

    ข้อจำกัดและความเสี่ยง
    เกมที่ใช้ anti-cheat บางเกมไม่สามารถเล่นบน Linux ได้
    ต้องใช้ความรู้เชิงเทคนิคในการปรับแต่งและแก้ปัญหา
    แอปพลิเคชันเสริมบางตัวมีฟีเจอร์ไม่ครบเท่าบน Windows

    https://www.theverge.com/tech/823337/switching-linux-gaming-desktop-cachyos
    🎮 เปลี่ยนมาใช้ Linux Gaming Desktop: CachyOS ผู้เขียนบทความทดลองเปลี่ยนจาก Windows มาใช้ CachyOS ซึ่งเป็นดิสโทร Linux ที่ปรับแต่งมาเพื่อการเล่นเกม จุดเด่นคือการใช้ kernel ที่ปรับแต่งพิเศษ และการตั้งค่าที่เน้นประสิทธิภาพ ทำให้เกมหลายเกมทำงานได้ลื่นไหลขึ้นเมื่อเทียบกับ Windows โดยเฉพาะเกมที่รองรับ Proton หรือ Steam Play นอกจากนี้ CachyOS ยังมีเครื่องมือช่วยจัดการไดรเวอร์และการตั้งค่ากราฟิก ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งระบบได้ละเอียด เช่น การเลือก scheduler, การปรับแต่ง I/O, และการจัดการหน่วยความจำ เพื่อให้เหมาะสมกับการเล่นเกมแต่ละประเภท ⚙️ ข้อดีและความท้าทาย ข้อดีที่เห็นได้ชัดคือ ประสิทธิภาพและความเสถียร ของระบบ รวมถึงความยืดหยุ่นในการปรับแต่งที่ Windows ไม่สามารถทำได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทาย เช่น: 🎗️ เกมบางเกมที่ใช้ anti-cheat ไม่รองรับ Linux ทำให้ไม่สามารถเล่นได้ 🎗️ การตั้งค่าบางอย่างต้องใช้ความรู้เชิงเทคนิคมากกว่าปกติ 🎗️ เครื่องมือเสริม เช่น Discord หรือแอปสตรีมมิ่ง อาจมีฟีเจอร์ไม่ครบเท่าบน Windows 🌐 บริบทที่กว้างขึ้น การเปลี่ยนมาใช้ Linux สำหรับเล่นเกมไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นหลังจากความสำเร็จของ Steam Deck และการพัฒนา Proton ที่ทำให้เกม Windows เล่นได้บน Linux โดยตรง CachyOS เป็นหนึ่งในดิสโทรที่พยายามผลักดันแนวคิดนี้ให้ไปไกลกว่าเดสก์ท็อปทั่วไป ด้วยการปรับแต่งเชิงลึกเพื่อให้ผู้เล่นได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ CachyOS สำหรับเกมเมอร์ ➡️ ดิสโทร Linux ที่ปรับแต่ง kernel และระบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม ➡️ รองรับ Proton และ Steam Play ทำให้เล่นเกม Windows ได้จำนวนมาก ✅ ข้อดีที่พบ ➡️ ประสิทธิภาพสูงขึ้นและเสถียรกว่า Windows ในบางเกม ➡️ ความยืดหยุ่นในการปรับแต่งระบบ ‼️ ข้อจำกัดและความเสี่ยง ⛔ เกมที่ใช้ anti-cheat บางเกมไม่สามารถเล่นบน Linux ได้ ⛔ ต้องใช้ความรู้เชิงเทคนิคในการปรับแต่งและแก้ปัญหา ⛔ แอปพลิเคชันเสริมบางตัวมีฟีเจอร์ไม่ครบเท่าบน Windows https://www.theverge.com/tech/823337/switching-linux-gaming-desktop-cachyos
    WWW.THEVERGE.COM
    Screw it, I’m installing Linux
    It’s the year of Linux on my desktop.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: SonicWall เตือนช่องโหว่ SSLVPN ใหม่ CVE-2025-40601

    SonicWall ได้เผยแพร่คำเตือนด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับช่องโหว่ Pre-authentication Stack-based Buffer Overflow ในบริการ SSLVPN ของ SonicOS โดยผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อทำให้ไฟร์วอลล์ที่เปิดใช้งาน SSLVPN ล่มทันที (Denial of Service) โดยไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบหรือมีสิทธิ์ใด ๆ

    ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อทั้ง Gen7 และ Gen8 Firewalls รวมถึงรุ่น Virtual (NSv) ที่ทำงานบน ESX, KVM, Hyper-V, AWS และ Azure โดยมีเวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ เช่น 7.3.0-7012 และเก่ากว่า (สำหรับ Gen7) และ 8.0.2-8011 และเก่ากว่า (สำหรับ Gen8) ขณะที่สาขา 7.0.1 ไม่ได้รับผลกระทบ

    เพื่อแก้ไขปัญหา SonicWall ได้ออกแพตช์สำหรับทุกแพลตฟอร์มที่ได้รับผลกระทบ พร้อมแนะนำวิธีการป้องกันชั่วคราว เช่น จำกัดการเข้าถึง SSLVPN เฉพาะจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือ ปิดการใช้งาน SSLVPN จากอินเทอร์เน็ตที่ไม่ปลอดภัย โดยปรับแต่งกฎการเข้าถึงใน SonicOS

    การค้นพบนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่องค์กรต้องเผชิญ เนื่องจาก SSLVPN เป็นช่องทางสำคัญในการเชื่อมต่อระยะไกล หากถูกโจมตีจนไฟร์วอลล์ล่ม อาจทำให้ธุรกิจหยุดชะงักและสูญเสียการเข้าถึงระบบเครือข่ายที่สำคัญ

    สรุปสาระสำคัญ
    รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-40601
    เป็น Pre-authentication Buffer Overflow ใน SonicOS SSLVPN
    คะแนน CVSS 7.5 (High Severity)

    ระบบที่ได้รับผลกระทบ
    Gen7 Firewalls (TZ270, TZ370, TZ470, TZ570, TZ670, NSa series, NSsp series)
    Gen8 Firewalls (TZ80–TZ680, NSa 2800–5800)
    Gen7 Virtual Firewalls (NSv270, NSv470, NSv870 บน ESX, KVM, Hyper-V, AWS, Azure)

    ความเสี่ยงต่อองค์กร
    ผู้โจมตีสามารถทำให้ไฟร์วอลล์ล่มโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน
    อาจทำให้ธุรกิจหยุดชะงักและสูญเสียการเชื่อมต่อเครือข่ายสำคัญ

    ข้อควรระวังและการป้องกัน
    รีบอัปเดตแพตช์ที่ SonicWall ปล่อยออกมา
    จำกัดการเข้าถึง SSLVPN เฉพาะจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือปิดการใช้งานจากอินเทอร์เน็ตที่ไม่ปลอดภัย

    https://securityonline.info/sonicwall-warns-of-new-sonicos-sslvpn-pre-auth-buffer-overflow-vulnerability-cve-2025-40601/
    🔐 ข่าวใหญ่: SonicWall เตือนช่องโหว่ SSLVPN ใหม่ CVE-2025-40601 SonicWall ได้เผยแพร่คำเตือนด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับช่องโหว่ Pre-authentication Stack-based Buffer Overflow ในบริการ SSLVPN ของ SonicOS โดยผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อทำให้ไฟร์วอลล์ที่เปิดใช้งาน SSLVPN ล่มทันที (Denial of Service) โดยไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบหรือมีสิทธิ์ใด ๆ ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อทั้ง Gen7 และ Gen8 Firewalls รวมถึงรุ่น Virtual (NSv) ที่ทำงานบน ESX, KVM, Hyper-V, AWS และ Azure โดยมีเวอร์ชันที่ได้รับผลกระทบ เช่น 7.3.0-7012 และเก่ากว่า (สำหรับ Gen7) และ 8.0.2-8011 และเก่ากว่า (สำหรับ Gen8) ขณะที่สาขา 7.0.1 ไม่ได้รับผลกระทบ เพื่อแก้ไขปัญหา SonicWall ได้ออกแพตช์สำหรับทุกแพลตฟอร์มที่ได้รับผลกระทบ พร้อมแนะนำวิธีการป้องกันชั่วคราว เช่น จำกัดการเข้าถึง SSLVPN เฉพาะจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือ ปิดการใช้งาน SSLVPN จากอินเทอร์เน็ตที่ไม่ปลอดภัย โดยปรับแต่งกฎการเข้าถึงใน SonicOS การค้นพบนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่องค์กรต้องเผชิญ เนื่องจาก SSLVPN เป็นช่องทางสำคัญในการเชื่อมต่อระยะไกล หากถูกโจมตีจนไฟร์วอลล์ล่ม อาจทำให้ธุรกิจหยุดชะงักและสูญเสียการเข้าถึงระบบเครือข่ายที่สำคัญ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-40601 ➡️ เป็น Pre-authentication Buffer Overflow ใน SonicOS SSLVPN ➡️ คะแนน CVSS 7.5 (High Severity) ✅ ระบบที่ได้รับผลกระทบ ➡️ Gen7 Firewalls (TZ270, TZ370, TZ470, TZ570, TZ670, NSa series, NSsp series) ➡️ Gen8 Firewalls (TZ80–TZ680, NSa 2800–5800) ➡️ Gen7 Virtual Firewalls (NSv270, NSv470, NSv870 บน ESX, KVM, Hyper-V, AWS, Azure) ‼️ ความเสี่ยงต่อองค์กร ⛔ ผู้โจมตีสามารถทำให้ไฟร์วอลล์ล่มโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ⛔ อาจทำให้ธุรกิจหยุดชะงักและสูญเสียการเชื่อมต่อเครือข่ายสำคัญ ‼️ ข้อควรระวังและการป้องกัน ⛔ รีบอัปเดตแพตช์ที่ SonicWall ปล่อยออกมา ⛔ จำกัดการเข้าถึง SSLVPN เฉพาะจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หรือปิดการใช้งานจากอินเทอร์เน็ตที่ไม่ปลอดภัย https://securityonline.info/sonicwall-warns-of-new-sonicos-sslvpn-pre-auth-buffer-overflow-vulnerability-cve-2025-40601/
    SECURITYONLINE.INFO
    SonicWall Warns of New SonicOS SSLVPN Pre-Auth Buffer Overflow Vulnerability (CVE-2025-40601)
    SonicWall reports a pre-auth stack-based buffer overflow flaw (CVE-2025-40601) in SonicOS SSLVPN, allowing remote DoS attacks. Patches and mitigation are available.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขยับหมาก ตอนที่ 3

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก”
    ตอน 3
    อยู่ๆ ทำไม Chatham House ถึงลุกขึ้นมาเล่นรัสเซียเสียแรง ยังกะตั้งใจจะแยกอยู่กันคนละโลกขนาดนั้น มันไม่น่าจะเป็นการโชว์กระเดือกเดี่ยว อย่างนั้นมันไม่ใช่รูปแบบของฝั่งตะวันตก ที่ชอบทาสี ตีปิ๊บ และรุมกันทึ้งตามสันดานนักล่าทั้งเก่าทั้งใหม่
    ย้อนไปดูความเคลื่อนไหวของโรงงานใบตองแห้งเสียหน่อย ไม่ต้องย้อนไปไกล เอาแค่ระยะใกล้ในเดือนมิถุนายน มีรายงายข่าวว่า เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน นาย Ashton Carter รัฐมนตรีกลาโหมของอเมริกา ที่มีสีหน้า เหมือนกินเต้าหู้บูดเข้าไปตลอดเวลา ได้เดินทางไปที่กองบัญชาการของกองทัพ US Eurpoean Commander ที่เมือง Stuttgart ของเยอรมัน และประชุมกับหัวกะทิของทหารอเมริกันประมาณ 2 โหล กับนักการทูตอีกหลายคน เพื่อหารือว่า จะยกระดับการจัดการทั้งในด้านเศรษฐกิจ และการทหาร กับรัสเซียอย่างไรดี เนื่องจากสัมพันธภาพกับรัสเซียตอนนี้ กำลังเปลี่ยนเป็นทางดิ่งลง sad turn และสถานการณ์ในยุโรป ก็ไม่ได้สวยหวานอย่างเมื่อก่อนแล้ว
    ในวันเดียวกันนั้น ส่วนหนึ่งของรายงานของนายพล Martin Demsey ประธานคณะทำงาน Chairman of the US Joint Chief of Staffs ที่ไม่รู้ว่าใครมืออ่อน ทำหลุดไปถึงสื่อ รายงานนั้นระบุว่า วอชิงตันกำลังคิดจะติดหัวรบนิวเคลียร์ใส่จรวดแถวยุโรป เป็นการตอบโต้รัสเซีย ที่ถูกกล่าวหาว่า กำลังทำผิดสัญญาเรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ระยะกลาง Intermediate-range Nuclear Forces (INF) ซึ่งรัสเซียบอกว่า เปล่าผิด จรวดที่ใช้ไม่อยู่ในข้อห้ามของสัญญา อเมริกาก็ใช้แบบนี้ในอิรัคไม่ใช่หรือ ประโยคหลัง ลุงนิทานถามแทน
    Pentagon กำลังคิดว่าจะติดตั้งจรวดยิงใส่รัสเซียที่ไหนดี ระหว่างยิงสวนใส่กลับไปที่จรวดรัสเซีย ที่กำลังลอยฟ้า หรือยิงใส่ฐานที่ตั้งกองกำลังของรัสเซีย จะยิงไปที่ไหนยังไม่ตัดสินใจ แต่นาย Robert Scher ผู้ช่วยคุณเต้าหูบูด ด้านนโยบายการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ได้แจ้งรัฐสภาเมื่อเมษายนนี้ว่า มีแผนเเช่นนั้นจริง ฮั่นแน่ จับได้แล้ว คิดรุกเขาแล้วซินะ
    หลังจากนั้นคุณเต้าหู้บูด ก็ไปประชุมกับหัวกะทิของนาโต้ที่ Brussels ตกลงจะเพิ่มกองกำลังรถถัง อาวุธหนัก อาวุธเบา เต็มอัตรา ให้กับฐานทัพนาโต้ที่อยู่แถวบอลติก รวมทั้งโปแลนด์ โรมาเนีย และบุลกาเรีย พวก (ที่เคยเป็น) เพื่อนรักคุณพี่ปูตินทั้งนั้น เปลี่ยนใจจากที่ว่า จะลดกำลังฝั่งแอตแลนติกไปเรียบร้อยแล้ว
    นอกจากนี้ ที่สำคัญ อเมริกาเพิ่งออกรายงาน US National Military Strategy (US NMS) 2015 เมื่อปลายเดือนมิถุนายนนี้เอง ประเทศที่อเมริกาจับตามองเป็นพิเศษมีอยู่ 4 ประเทศ คือ รัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ และจีน
    วิธีที่อเมริกาเขียนถึง 4 ประเทศ แม้ไม่ประกาศชัดเจนว่าเป็นศัตรู แต่การบรรยายสรรพคุณแต่ละประเทศ ก็ทำให้เห็นว่ายากจะเป็นมิตรต่อกัน ถึงว่า มันน่าจะเป็นปาหี่
    ไอ้เรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์น่ะ
    เมื่อย้อนมาดูช่วงเวลาของการอ อก Grand Strategy แผนสอยมังกร สำหรับจีน ที่ออกมาในเดือนเมษายน เรื่อง Russia Challenge กูไม่คบมึง ในเดือนมิถุนายน ยุทธศาสตร์ USNMS 2015 ในเดือนมิถุนายน เรื่องอิหร่านดีล ที่ควรจะจบตั้งแต่ 30 มิถุนายน แต่ลากยาวมาถึงกรกฏาคม และญี่ปุ่น ที่กำลังเตรียมแบกถาด เมื่อสภาญี่ปุ่นอนุมัติให้แก้รัฐธรรมนูญ ให้แบกถาดร่อนไปทั่วได้ ซึ่งญี่ปุ่นคาดว่า ภายในกรกฏาคมนี้ คงผ่านสภา
    ดูเหมือนอเมริกาน่าจะเลือกเล่นเกมหมากล้อม ล้อม 4 ประเทศ ที่จับตาจ้องเขม็งนั่นแหละ และเตรียมเดินหมากไว้แล้วด้วย
    อเมริกาอาจจะเริ่มขยับหมาก เมื่อเรื่องกรีซ กับเรื่องอิหร่านจบตอนหนึ่ง หมากชื่อกรีก เหมือนจะไม่เกี่ยวกัน แต่จริงๆ อาจจะเกี่ยว ส่วนอิหร่านนั้น เป็นหมากที่สำคัญยิ่ง ไม่ว่าเรื่องอิหร่านจะจบอย่างไร ผลกระทบมีสูงทุกทาง
    ถ้าอเมริกา ใช้ยุทธศาตร์หมากล้อม ตามแนวที่วิเคราะห์ เรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ และเรื่องกรีซ เราคงต้องตามดู แต่ดูการพัฒนาการของเรื่อง และระยะเวลาของแต่ละเรื่อง อย่าไปหลงทางตามรายละเอียดที่เขาตั้งใจสร้างให้เรางง การพัฒนาของทั้ง 2 เรื่อง จะทำให้เราเห็นว่า อเมริกาขยับหมากอย่างไร และจะมีเรื่องยาวตามมาหรือไม่ หรือการเดินหมากของอเมริกาล้มเหลว หรือแค่ชลอ รอเวลา…
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    17 ก.ค. 2558
    ขยับหมาก ตอนที่ 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก” ตอน 3 อยู่ๆ ทำไม Chatham House ถึงลุกขึ้นมาเล่นรัสเซียเสียแรง ยังกะตั้งใจจะแยกอยู่กันคนละโลกขนาดนั้น มันไม่น่าจะเป็นการโชว์กระเดือกเดี่ยว อย่างนั้นมันไม่ใช่รูปแบบของฝั่งตะวันตก ที่ชอบทาสี ตีปิ๊บ และรุมกันทึ้งตามสันดานนักล่าทั้งเก่าทั้งใหม่ ย้อนไปดูความเคลื่อนไหวของโรงงานใบตองแห้งเสียหน่อย ไม่ต้องย้อนไปไกล เอาแค่ระยะใกล้ในเดือนมิถุนายน มีรายงายข่าวว่า เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน นาย Ashton Carter รัฐมนตรีกลาโหมของอเมริกา ที่มีสีหน้า เหมือนกินเต้าหู้บูดเข้าไปตลอดเวลา ได้เดินทางไปที่กองบัญชาการของกองทัพ US Eurpoean Commander ที่เมือง Stuttgart ของเยอรมัน และประชุมกับหัวกะทิของทหารอเมริกันประมาณ 2 โหล กับนักการทูตอีกหลายคน เพื่อหารือว่า จะยกระดับการจัดการทั้งในด้านเศรษฐกิจ และการทหาร กับรัสเซียอย่างไรดี เนื่องจากสัมพันธภาพกับรัสเซียตอนนี้ กำลังเปลี่ยนเป็นทางดิ่งลง sad turn และสถานการณ์ในยุโรป ก็ไม่ได้สวยหวานอย่างเมื่อก่อนแล้ว ในวันเดียวกันนั้น ส่วนหนึ่งของรายงานของนายพล Martin Demsey ประธานคณะทำงาน Chairman of the US Joint Chief of Staffs ที่ไม่รู้ว่าใครมืออ่อน ทำหลุดไปถึงสื่อ รายงานนั้นระบุว่า วอชิงตันกำลังคิดจะติดหัวรบนิวเคลียร์ใส่จรวดแถวยุโรป เป็นการตอบโต้รัสเซีย ที่ถูกกล่าวหาว่า กำลังทำผิดสัญญาเรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ระยะกลาง Intermediate-range Nuclear Forces (INF) ซึ่งรัสเซียบอกว่า เปล่าผิด จรวดที่ใช้ไม่อยู่ในข้อห้ามของสัญญา อเมริกาก็ใช้แบบนี้ในอิรัคไม่ใช่หรือ ประโยคหลัง ลุงนิทานถามแทน Pentagon กำลังคิดว่าจะติดตั้งจรวดยิงใส่รัสเซียที่ไหนดี ระหว่างยิงสวนใส่กลับไปที่จรวดรัสเซีย ที่กำลังลอยฟ้า หรือยิงใส่ฐานที่ตั้งกองกำลังของรัสเซีย จะยิงไปที่ไหนยังไม่ตัดสินใจ แต่นาย Robert Scher ผู้ช่วยคุณเต้าหูบูด ด้านนโยบายการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ได้แจ้งรัฐสภาเมื่อเมษายนนี้ว่า มีแผนเเช่นนั้นจริง ฮั่นแน่ จับได้แล้ว คิดรุกเขาแล้วซินะ หลังจากนั้นคุณเต้าหู้บูด ก็ไปประชุมกับหัวกะทิของนาโต้ที่ Brussels ตกลงจะเพิ่มกองกำลังรถถัง อาวุธหนัก อาวุธเบา เต็มอัตรา ให้กับฐานทัพนาโต้ที่อยู่แถวบอลติก รวมทั้งโปแลนด์ โรมาเนีย และบุลกาเรีย พวก (ที่เคยเป็น) เพื่อนรักคุณพี่ปูตินทั้งนั้น เปลี่ยนใจจากที่ว่า จะลดกำลังฝั่งแอตแลนติกไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ที่สำคัญ อเมริกาเพิ่งออกรายงาน US National Military Strategy (US NMS) 2015 เมื่อปลายเดือนมิถุนายนนี้เอง ประเทศที่อเมริกาจับตามองเป็นพิเศษมีอยู่ 4 ประเทศ คือ รัสเซีย อิหร่าน เกาหลีเหนือ และจีน วิธีที่อเมริกาเขียนถึง 4 ประเทศ แม้ไม่ประกาศชัดเจนว่าเป็นศัตรู แต่การบรรยายสรรพคุณแต่ละประเทศ ก็ทำให้เห็นว่ายากจะเป็นมิตรต่อกัน ถึงว่า มันน่าจะเป็นปาหี่ ไอ้เรื่องข้อตกลงนิวเคลียร์น่ะ เมื่อย้อนมาดูช่วงเวลาของการอ อก Grand Strategy แผนสอยมังกร สำหรับจีน ที่ออกมาในเดือนเมษายน เรื่อง Russia Challenge กูไม่คบมึง ในเดือนมิถุนายน ยุทธศาสตร์ USNMS 2015 ในเดือนมิถุนายน เรื่องอิหร่านดีล ที่ควรจะจบตั้งแต่ 30 มิถุนายน แต่ลากยาวมาถึงกรกฏาคม และญี่ปุ่น ที่กำลังเตรียมแบกถาด เมื่อสภาญี่ปุ่นอนุมัติให้แก้รัฐธรรมนูญ ให้แบกถาดร่อนไปทั่วได้ ซึ่งญี่ปุ่นคาดว่า ภายในกรกฏาคมนี้ คงผ่านสภา ดูเหมือนอเมริกาน่าจะเลือกเล่นเกมหมากล้อม ล้อม 4 ประเทศ ที่จับตาจ้องเขม็งนั่นแหละ และเตรียมเดินหมากไว้แล้วด้วย อเมริกาอาจจะเริ่มขยับหมาก เมื่อเรื่องกรีซ กับเรื่องอิหร่านจบตอนหนึ่ง หมากชื่อกรีก เหมือนจะไม่เกี่ยวกัน แต่จริงๆ อาจจะเกี่ยว ส่วนอิหร่านนั้น เป็นหมากที่สำคัญยิ่ง ไม่ว่าเรื่องอิหร่านจะจบอย่างไร ผลกระทบมีสูงทุกทาง ถ้าอเมริกา ใช้ยุทธศาตร์หมากล้อม ตามแนวที่วิเคราะห์ เรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ และเรื่องกรีซ เราคงต้องตามดู แต่ดูการพัฒนาการของเรื่อง และระยะเวลาของแต่ละเรื่อง อย่าไปหลงทางตามรายละเอียดที่เขาตั้งใจสร้างให้เรางง การพัฒนาของทั้ง 2 เรื่อง จะทำให้เราเห็นว่า อเมริกาขยับหมากอย่างไร และจะมีเรื่องยาวตามมาหรือไม่ หรือการเดินหมากของอเมริกาล้มเหลว หรือแค่ชลอ รอเวลา… สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 17 ก.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลักฐานเส้นเงินชัด 2 อดีตรมต.พันสแกมเมอร์ : [THE MESSAGE]

    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ยื่นหลักฐานเส้นทางธุรกรรมการเงินของขบวนการสแกมเมอร์ ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) พบธุรกรรมผิดปกติชัดเจน เริ่มต้นแค่ 10 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 330 บาท ซึ่งเป็นทุนจดทะเบียนของบริษัทที่มีอดีตรัฐมนตรีเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่สามารถเข้าซื้อกิจการมูลค่าสูงกว่าเป็นล้านเท่า เชื่อมโยงกับบุคคลที่มีรายชื่อในสหรัฐฯ มีปลายทางเชื่อมโยงถึงบริษัทพลังงานของไทยที่เคยเป็นข่าวว่า อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยรายชื่อที่ส่งให้ ปปง.เป็นเอกสารสาธารณะที่มีชื่อบุคคล สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากหลายธุรกรรมต้องดำเนินการผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ มีระดับรัฐมนตรีเกี่ยวข้อง 2 คน ทั้งอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ และอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดที่แล้ว ขอฝ่ายการเมืองไม่เข้าไปเป็นอุปสรรค ฝากนายกรัฐมนตรีพิสูจน์ความจริงใจปราบปรามสแกมเมอร์
    หลักฐานเส้นเงินชัด 2 อดีตรมต.พันสแกมเมอร์ : [THE MESSAGE] นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ยื่นหลักฐานเส้นทางธุรกรรมการเงินของขบวนการสแกมเมอร์ ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) พบธุรกรรมผิดปกติชัดเจน เริ่มต้นแค่ 10 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 330 บาท ซึ่งเป็นทุนจดทะเบียนของบริษัทที่มีอดีตรัฐมนตรีเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่สามารถเข้าซื้อกิจการมูลค่าสูงกว่าเป็นล้านเท่า เชื่อมโยงกับบุคคลที่มีรายชื่อในสหรัฐฯ มีปลายทางเชื่อมโยงถึงบริษัทพลังงานของไทยที่เคยเป็นข่าวว่า อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยรายชื่อที่ส่งให้ ปปง.เป็นเอกสารสาธารณะที่มีชื่อบุคคล สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากหลายธุรกรรมต้องดำเนินการผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ มีระดับรัฐมนตรีเกี่ยวข้อง 2 คน ทั้งอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ และอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดที่แล้ว ขอฝ่ายการเมืองไม่เข้าไปเป็นอุปสรรค ฝากนายกรัฐมนตรีพิสูจน์ความจริงใจปราบปรามสแกมเมอร์
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251120 #TechRadar

    Garmin อัปเดตสมาร์ทวอทช์ จับสัญญาณความเครียดได้
    Garmin ปล่อยอัปเดตใหญ่ให้สมาร์ทวอทช์รุ่นดังอย่าง Vivoactive 6, Forerunner 570 และ Venu X1 รวมถึงคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge 540 และ 1050 จุดเด่นคือฟีเจอร์ Health Status ที่ช่วยดูแนวโน้มสุขภาพระยะยาว เช่น อัตราการเต้นหัวใจ, HRV, การหายใจ, อุณหภูมิผิว และค่าออกซิเจนในเลือดตอนนอน หากค่าผิดปกติอาจบอกได้ว่าร่างกายกำลังเครียดหรือเจ็บป่วย นอกจากนี้ยังมีแผนที่ 3D (สำหรับผู้ใช้แบบพรีเมียม) และฟีเจอร์ใหม่ ๆ สำหรับนักปั่น เช่น เตือนให้ดื่มน้ำ, เช็กสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ และวิเคราะห์อัตราทดเกียร์
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/garmins-latest-smartwatch-update-helps-catch-signs-of-stress-in-one-key-way

    AMD เปิดตัว FSR Redstone แต่ใช้ได้เฉพาะ RX 9000
    AMD ประกาศเปิดตัว FSR Redstone วันที่ 10 ธันวาคมนี้ เป็นชุดเทคโนโลยี AI ที่ช่วยเร่งเฟรมเรตและปรับปรุงคุณภาพภาพกราฟิก แต่ข่าวร้ายคือใช้ได้เฉพาะการ์ดจอรุ่น RX 9000 เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้ RX 7000 และรุ่นก่อนหน้าไม่พอใจ เพราะยังถือว่าเป็นการ์ดจอใหม่อยู่ ฟีเจอร์ที่มาพร้อม Redstone เช่น Ray Regeneration (ปรับปรุงภาพ Ray Tracing), Radiance Caching (ปรับแสงให้สมจริง) และ Frame Generation ที่สร้างเฟรมเสริมเพื่อให้ภาพลื่นขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/gpu/amds-fsr-redstone-for-supercharged-gaming-debuts-on-december-10-but-its-rx-9000-only-leaving-older-radeon-gpus-in-the-cold

    รหัสผ่านธีมเทศกาล เสี่ยงโดนเจาะง่าย
    มีการวิเคราะห์รหัสผ่านที่รั่วไหลกว่า 800 ล้านรายการ พบว่ามีจำนวนมากที่ใช้คำเกี่ยวกับเทศกาล เช่น Christmas, Santa, หรือการดัดแปลงด้วยตัวเลข/สัญลักษณ์ แม้ดูซับซ้อน แต่จริง ๆ แล้วเครื่องมือเจาะรหัสสมัยใหม่สามารถเดาได้ง่าย เพราะรูปแบบซ้ำ ๆ และคาดเดาได้ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าช่วงสิ้นปีที่หลายองค์กรบังคับเปลี่ยนรหัสผ่าน มักเป็นจังหวะที่แฮกเกอร์ใช้ประโยชน์จากพฤติกรรมนี้
    https://www.techradar.com/pro/this-company-analyzed-800-million-breached-passwords-and-found-a-surprising-amount-of-festive-themes-so-maybe-choose-a-better-password-please

    โรงเก็บของกลายเป็น Data Center ช่วยลดค่าไฟ
    คู่รักใน Essex, UK ทดลองติดตั้ง HeatHub ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กในโรงเก็บของ ใช้ Raspberry Pi กว่า 500 เครื่องในการประมวลผล และนำความร้อนที่เกิดขึ้นไปใช้ทำความร้อนในบ้าน ผลคือค่าไฟลดจาก £375 เหลือเพียง £40 ต่อเดือน โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองระดับประเทศ เพื่อหาทางใช้พลังงานจากการประมวลผลคอมพิวเตอร์มาเป็นพลังงานความร้อนในครัวเรือน
    https://www.techradar.com/pro/looking-to-lower-your-energy-bills-this-winter-how-about-hosting-a-data-center-in-your-garden-shed-to-help-heat-your-home

    เครื่องมือ Unix เก่ากลับมาพร้อมภัยใหม่
    คำสั่ง finger ที่เคยใช้ในระบบ Unix เพื่อตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้ ถูกนำกลับมาใช้ในทางร้าย โดยแฮกเกอร์ใช้สคริปต์ดึงคำสั่งจากเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลแล้วรันใน Windows ทำให้สามารถแอบติดตั้งโปรแกรม Python ที่ขโมยข้อมูลได้โดยผู้ใช้ไม่รู้ตัว เทคนิคนี้ยังสามารถเลี่ยงการตรวจจับจากเครื่องมือวิเคราะห์ได้ ถือเป็นการฟื้นคืนชีพของภัยคุกคามเก่าที่อันตรายมาก
    https://www.techradar.com/pro/a-decades-old-threat-command-is-making-a-comeback-so-dont-let-the-finger-of-doom-affect-you

    Meta ทุ่มงบเพิ่มความปลอดภัย WhatsApp
    Meta ลงทุนหลายล้านดอลลาร์ในโครงการ Bug Bounty และเครื่องมือใหม่ ๆ เพื่อเสริมความปลอดภัยของ WhatsApp เป้าหมายคือป้องกันการโจมตีและหาช่องโหว่ก่อนที่แฮกเกอร์จะใช้ประโยชน์ การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความจริงจังของ Meta ที่ต้องการให้ WhatsApp เป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้ใช้ทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/security/meta-is-spending-millions-on-bug-bounties-and-security-tools-to-boost-whatsapp-security

    Google Maps เพิ่ม 4 ฟีเจอร์ใหม่รับเทศกาล
    Google Maps อัปเดตครั้งใหญ่เพื่อช่วยผู้ใช้ช่วงเทศกาลปลายปี ฟีเจอร์ใหม่ประกอบด้วยการแสดงข้อมูลการจราจรที่ละเอียดขึ้น, การแจ้งเตือนเส้นทางที่หนาแน่น, การแนะนำเส้นทางทางเลือก และการปรับปรุงการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว/ร้านค้าให้ตรงใจมากขึ้น เหมาะกับการเดินทางในช่วงวันหยุดที่ผู้คนออกเดินทางจำนวนมาก
    https://www.techradar.com/computing/websites-apps/google-maps-is-adding-4-new-features-to-help-you-navigate-the-holiday-season

    LG Battery โดนโจมตี Ransomware
    บริษัทลูกของ LG ที่ทำธุรกิจแบตเตอรี่ถูกโจมตีด้วย Ransomware ส่งผลให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลถูกเข้ารหัส ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการโจมตีลักษณะนี้กำลังเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมพลังงาน เพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่แฮกเกอร์เล็งเป้าเพื่อเรียกค่าไถ่สูง
    https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-attack-hits-lg-battery-subsidiary

    Asus Router ถูกโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่
    มีรายงานว่า Router ของ Asus ทั่วโลกถูกโจมตีจากกลุ่มที่เชื่อมโยงกับจีน ทำให้ผู้ใช้งานหลายรายประสบปัญหาเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้ การโจมตีครั้งนี้ถูกจับตามองว่าอาจเป็นการแสดงศักยภาพด้านไซเบอร์ของรัฐชาติ และยังสร้างความกังวลต่อความปลอดภัยของอุปกรณ์เครือข่ายที่ใช้กันแพร่หลาย
    https://www.techradar.com/pro/security/asus-routers-across-the-globe-hit-by-suspected-chinese-cyberattack-heres-what-we-know

    ข่าวสด VPN และสิทธิด้านดิจิทัล
    TechRadar เปิดหน้า VPN News Live อัปเดตสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์, สิทธิด้านดิจิทัล และความเป็นส่วนตัวออนไลน์ เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาเทคโนโลยี VPN ใหม่ ๆ ไปจนถึงการเคลื่อนไหวด้านสิทธิผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก
    https://www.techradar.com/live/news/latest-vpn-news-wednesday-19-november

    Porsche Cayenne Turbo Electric แรงที่สุดที่เคยมี
    Porsche ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Cayenne Turbo Electric จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุดที่บริษัทเคยผลิต กำลังสูงสุดมากกว่า 1,000 แรงม้า ทำให้เป็น SUV ที่เร็วและแรงที่สุดในสายการผลิตของ Porsche ถือเป็นการยกระดับตลาดรถไฟฟ้าไปอีกขั้น
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/its-official-the-porsche-cayenne-turbo-electric-will-be-the-most-powerful-production-porsche-ever-made

    Chrome เจอช่องโหว่ Zero-Day อันตราย
    Google ออกแพตช์เร่งด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ Zero-Day ใน Chrome ที่ถูกโจมตีจริงแล้ว ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบโดยไม่รู้ตัว ผู้ใช้ถูกแนะนำให้อัปเดต Chrome ทันทีเพื่อความปลอดภัย
    https://www.techradar.com/pro/security/google-patches-worrying-chrome-zero-day-flaw-being-exploited-in-the-wild-heres-how-to-stay-safe

    Botnet ใหม่แอบใช้ Ray Cluster ขุดคริปโต
    มีการค้นพบ Botnet ลึกลับที่แอบเข้ายึด Ray Clusters แล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องขุดคริปโตโดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว การโจมตีนี้ทำให้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ถูกใช้ไปอย่างมหาศาล และยังเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลอีกด้วย
    https://www.techradar.com/pro/security/ray-clusters-hijacked-and-turned-into-crypto-miners-by-shadowy-new-botnet

    iOS 26 Autocorrect พังหนัก
    ผู้ใช้ iPhone หลายรายบ่นว่า Autocorrect ใน iOS 26 ทำงานผิดพลาดอย่างมาก พิมพ์ผิดบ่อยและแก้คำไม่ตรงใจ แม้ Apple จะออก iOS 26.2 แล้ว แต่ปัญหายังไม่ถูกแก้ไข ทำให้ผู้ใช้รู้สึกหงุดหงิดและรอการแก้ไขจริงจังจาก Apple
    https://www.techradar.com/phones/ios/youre-not-bad-at-typing-ios-26s-autocorrect-is-broken-and-theres-still-no-fix-in-ios-26-2

    NordVPN เปิดฟีเจอร์กันสแกมโทรศัพท์
    NordVPN เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Call Protection สำหรับผู้ใช้ใน UK และแคนาดา ช่วยตรวจจับและบล็อกสายโทรศัพท์ที่เป็นสแกมก่อนถึงผู้ใช้ ถือเป็นการขยายบทบาทของ VPN จากการป้องกันออนไลน์ไปสู่การป้องกันการสื่อสารโทรศัพท์ด้วย
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-takes-on-phone-scammers-with-new-call-protection-feature-for-the-uk-and-canada

    Xiaomi เตือนราคาสมาร์ทโฟนจะพุ่งขึ้น
    Xiaomi ออกมาเตือนว่าปีหน้าราคาสมาร์ทโฟนจะปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุหลักมาจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งชิป, วัสดุ และค่าแรง ทำให้ผู้บริโภคอาจต้องเตรียมรับมือกับมือถือที่แพงกว่าเดิม
    https://www.techradar.com/phones/brace-yourself-xiaomi-warns-of-a-sizeable-rise-in-smartphone-prices-next-year

    VMware ยอมรับข้อมูลสเปกเซิร์ฟเวอร์ผิดพลาด
    VMware ยืนยันว่าคู่มือสเปกสำหรับเซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูลที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้มีความคลาดเคลื่อน ทำให้ผู้ใช้บางรายอาจเข้าใจผิดในการเลือกใช้งาน แม้จะเป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้กระทบต่อระบบโดยตรง แต่ก็สร้างความสับสนและทำให้บริษัทต้องรีบแก้ไขข้อมูลใหม่
    https://www.techradar.com/pro/vmware-confirms-its-spec-guidance-on-storage-servers-was-rather-inaccurate
    📌📰🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📰📌 #รวมข่าวIT #20251120 #TechRadar ⌚ Garmin อัปเดตสมาร์ทวอทช์ จับสัญญาณความเครียดได้ Garmin ปล่อยอัปเดตใหญ่ให้สมาร์ทวอทช์รุ่นดังอย่าง Vivoactive 6, Forerunner 570 และ Venu X1 รวมถึงคอมพิวเตอร์จักรยาน Edge 540 และ 1050 จุดเด่นคือฟีเจอร์ Health Status ที่ช่วยดูแนวโน้มสุขภาพระยะยาว เช่น อัตราการเต้นหัวใจ, HRV, การหายใจ, อุณหภูมิผิว และค่าออกซิเจนในเลือดตอนนอน หากค่าผิดปกติอาจบอกได้ว่าร่างกายกำลังเครียดหรือเจ็บป่วย นอกจากนี้ยังมีแผนที่ 3D (สำหรับผู้ใช้แบบพรีเมียม) และฟีเจอร์ใหม่ ๆ สำหรับนักปั่น เช่น เตือนให้ดื่มน้ำ, เช็กสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ และวิเคราะห์อัตราทดเกียร์ 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/garmins-latest-smartwatch-update-helps-catch-signs-of-stress-in-one-key-way 🎮 AMD เปิดตัว FSR Redstone แต่ใช้ได้เฉพาะ RX 9000 AMD ประกาศเปิดตัว FSR Redstone วันที่ 10 ธันวาคมนี้ เป็นชุดเทคโนโลยี AI ที่ช่วยเร่งเฟรมเรตและปรับปรุงคุณภาพภาพกราฟิก แต่ข่าวร้ายคือใช้ได้เฉพาะการ์ดจอรุ่น RX 9000 เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้ RX 7000 และรุ่นก่อนหน้าไม่พอใจ เพราะยังถือว่าเป็นการ์ดจอใหม่อยู่ ฟีเจอร์ที่มาพร้อม Redstone เช่น Ray Regeneration (ปรับปรุงภาพ Ray Tracing), Radiance Caching (ปรับแสงให้สมจริง) และ Frame Generation ที่สร้างเฟรมเสริมเพื่อให้ภาพลื่นขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/amds-fsr-redstone-for-supercharged-gaming-debuts-on-december-10-but-its-rx-9000-only-leaving-older-radeon-gpus-in-the-cold 🎄 รหัสผ่านธีมเทศกาล เสี่ยงโดนเจาะง่าย มีการวิเคราะห์รหัสผ่านที่รั่วไหลกว่า 800 ล้านรายการ พบว่ามีจำนวนมากที่ใช้คำเกี่ยวกับเทศกาล เช่น Christmas, Santa, หรือการดัดแปลงด้วยตัวเลข/สัญลักษณ์ แม้ดูซับซ้อน แต่จริง ๆ แล้วเครื่องมือเจาะรหัสสมัยใหม่สามารถเดาได้ง่าย เพราะรูปแบบซ้ำ ๆ และคาดเดาได้ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าช่วงสิ้นปีที่หลายองค์กรบังคับเปลี่ยนรหัสผ่าน มักเป็นจังหวะที่แฮกเกอร์ใช้ประโยชน์จากพฤติกรรมนี้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-company-analyzed-800-million-breached-passwords-and-found-a-surprising-amount-of-festive-themes-so-maybe-choose-a-better-password-please 🏠 โรงเก็บของกลายเป็น Data Center ช่วยลดค่าไฟ คู่รักใน Essex, UK ทดลองติดตั้ง HeatHub ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กในโรงเก็บของ ใช้ Raspberry Pi กว่า 500 เครื่องในการประมวลผล และนำความร้อนที่เกิดขึ้นไปใช้ทำความร้อนในบ้าน ผลคือค่าไฟลดจาก £375 เหลือเพียง £40 ต่อเดือน โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทดลองระดับประเทศ เพื่อหาทางใช้พลังงานจากการประมวลผลคอมพิวเตอร์มาเป็นพลังงานความร้อนในครัวเรือน 🔗 https://www.techradar.com/pro/looking-to-lower-your-energy-bills-this-winter-how-about-hosting-a-data-center-in-your-garden-shed-to-help-heat-your-home 💻 เครื่องมือ Unix เก่ากลับมาพร้อมภัยใหม่ คำสั่ง finger ที่เคยใช้ในระบบ Unix เพื่อตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้ ถูกนำกลับมาใช้ในทางร้าย โดยแฮกเกอร์ใช้สคริปต์ดึงคำสั่งจากเซิร์ฟเวอร์ระยะไกลแล้วรันใน Windows ทำให้สามารถแอบติดตั้งโปรแกรม Python ที่ขโมยข้อมูลได้โดยผู้ใช้ไม่รู้ตัว เทคนิคนี้ยังสามารถเลี่ยงการตรวจจับจากเครื่องมือวิเคราะห์ได้ ถือเป็นการฟื้นคืนชีพของภัยคุกคามเก่าที่อันตรายมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/a-decades-old-threat-command-is-making-a-comeback-so-dont-let-the-finger-of-doom-affect-you 🔒 Meta ทุ่มงบเพิ่มความปลอดภัย WhatsApp Meta ลงทุนหลายล้านดอลลาร์ในโครงการ Bug Bounty และเครื่องมือใหม่ ๆ เพื่อเสริมความปลอดภัยของ WhatsApp เป้าหมายคือป้องกันการโจมตีและหาช่องโหว่ก่อนที่แฮกเกอร์จะใช้ประโยชน์ การลงทุนครั้งนี้สะท้อนถึงความจริงจังของ Meta ที่ต้องการให้ WhatsApp เป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้ใช้ทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/meta-is-spending-millions-on-bug-bounties-and-security-tools-to-boost-whatsapp-security 🗺️ Google Maps เพิ่ม 4 ฟีเจอร์ใหม่รับเทศกาล Google Maps อัปเดตครั้งใหญ่เพื่อช่วยผู้ใช้ช่วงเทศกาลปลายปี ฟีเจอร์ใหม่ประกอบด้วยการแสดงข้อมูลการจราจรที่ละเอียดขึ้น, การแจ้งเตือนเส้นทางที่หนาแน่น, การแนะนำเส้นทางทางเลือก และการปรับปรุงการค้นหาสถานที่ท่องเที่ยว/ร้านค้าให้ตรงใจมากขึ้น เหมาะกับการเดินทางในช่วงวันหยุดที่ผู้คนออกเดินทางจำนวนมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/websites-apps/google-maps-is-adding-4-new-features-to-help-you-navigate-the-holiday-season 🔋 LG Battery โดนโจมตี Ransomware บริษัทลูกของ LG ที่ทำธุรกิจแบตเตอรี่ถูกโจมตีด้วย Ransomware ส่งผลให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลถูกเข้ารหัส ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการโจมตีลักษณะนี้กำลังเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมพลังงาน เพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่แฮกเกอร์เล็งเป้าเพื่อเรียกค่าไถ่สูง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ransomware-attack-hits-lg-battery-subsidiary 📡 Asus Router ถูกโจมตีไซเบอร์ครั้งใหญ่ มีรายงานว่า Router ของ Asus ทั่วโลกถูกโจมตีจากกลุ่มที่เชื่อมโยงกับจีน ทำให้ผู้ใช้งานหลายรายประสบปัญหาเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไม่ได้ การโจมตีครั้งนี้ถูกจับตามองว่าอาจเป็นการแสดงศักยภาพด้านไซเบอร์ของรัฐชาติ และยังสร้างความกังวลต่อความปลอดภัยของอุปกรณ์เครือข่ายที่ใช้กันแพร่หลาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/asus-routers-across-the-globe-hit-by-suspected-chinese-cyberattack-heres-what-we-know 🌐 ข่าวสด VPN และสิทธิด้านดิจิทัล TechRadar เปิดหน้า VPN News Live อัปเดตสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์, สิทธิด้านดิจิทัล และความเป็นส่วนตัวออนไลน์ เนื้อหาครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนาเทคโนโลยี VPN ใหม่ ๆ ไปจนถึงการเคลื่อนไหวด้านสิทธิผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/live/news/latest-vpn-news-wednesday-19-november 🚗 Porsche Cayenne Turbo Electric แรงที่สุดที่เคยมี Porsche ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Cayenne Turbo Electric จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ทรงพลังที่สุดที่บริษัทเคยผลิต กำลังสูงสุดมากกว่า 1,000 แรงม้า ทำให้เป็น SUV ที่เร็วและแรงที่สุดในสายการผลิตของ Porsche ถือเป็นการยกระดับตลาดรถไฟฟ้าไปอีกขั้น 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/its-official-the-porsche-cayenne-turbo-electric-will-be-the-most-powerful-production-porsche-ever-made 🌐 Chrome เจอช่องโหว่ Zero-Day อันตราย Google ออกแพตช์เร่งด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ Zero-Day ใน Chrome ที่ถูกโจมตีจริงแล้ว ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบโดยไม่รู้ตัว ผู้ใช้ถูกแนะนำให้อัปเดต Chrome ทันทีเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/google-patches-worrying-chrome-zero-day-flaw-being-exploited-in-the-wild-heres-how-to-stay-safe 🪙 Botnet ใหม่แอบใช้ Ray Cluster ขุดคริปโต มีการค้นพบ Botnet ลึกลับที่แอบเข้ายึด Ray Clusters แล้วเปลี่ยนเป็นเครื่องขุดคริปโตโดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว การโจมตีนี้ทำให้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์ถูกใช้ไปอย่างมหาศาล และยังเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลอีกด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ray-clusters-hijacked-and-turned-into-crypto-miners-by-shadowy-new-botnet 📱 iOS 26 Autocorrect พังหนัก ผู้ใช้ iPhone หลายรายบ่นว่า Autocorrect ใน iOS 26 ทำงานผิดพลาดอย่างมาก พิมพ์ผิดบ่อยและแก้คำไม่ตรงใจ แม้ Apple จะออก iOS 26.2 แล้ว แต่ปัญหายังไม่ถูกแก้ไข ทำให้ผู้ใช้รู้สึกหงุดหงิดและรอการแก้ไขจริงจังจาก Apple 🔗 https://www.techradar.com/phones/ios/youre-not-bad-at-typing-ios-26s-autocorrect-is-broken-and-theres-still-no-fix-in-ios-26-2 📞 NordVPN เปิดฟีเจอร์กันสแกมโทรศัพท์ NordVPN เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Call Protection สำหรับผู้ใช้ใน UK และแคนาดา ช่วยตรวจจับและบล็อกสายโทรศัพท์ที่เป็นสแกมก่อนถึงผู้ใช้ ถือเป็นการขยายบทบาทของ VPN จากการป้องกันออนไลน์ไปสู่การป้องกันการสื่อสารโทรศัพท์ด้วย 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-takes-on-phone-scammers-with-new-call-protection-feature-for-the-uk-and-canada 📱 Xiaomi เตือนราคาสมาร์ทโฟนจะพุ่งขึ้น Xiaomi ออกมาเตือนว่าปีหน้าราคาสมาร์ทโฟนจะปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุหลักมาจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทั้งชิป, วัสดุ และค่าแรง ทำให้ผู้บริโภคอาจต้องเตรียมรับมือกับมือถือที่แพงกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/phones/brace-yourself-xiaomi-warns-of-a-sizeable-rise-in-smartphone-prices-next-year 💾 VMware ยอมรับข้อมูลสเปกเซิร์ฟเวอร์ผิดพลาด VMware ยืนยันว่าคู่มือสเปกสำหรับเซิร์ฟเวอร์จัดเก็บข้อมูลที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้มีความคลาดเคลื่อน ทำให้ผู้ใช้บางรายอาจเข้าใจผิดในการเลือกใช้งาน แม้จะเป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้กระทบต่อระบบโดยตรง แต่ก็สร้างความสับสนและทำให้บริษัทต้องรีบแก้ไขข้อมูลใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/vmware-confirms-its-spec-guidance-on-storage-servers-was-rather-inaccurate
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD เปิดตัว Instinct MI430X

    AMD ได้เผยโฉม Instinct MI430X ซึ่งเป็นรุ่นต่อยอดจาก MI300A โดยใช้สถาปัตยกรรม CDNA รุ่นใหม่ (คาดว่า CDNA 5) จุดเด่นคือการใช้หน่วยความจำ HBM4 ขนาด 432GB และแบนด์วิดท์สูงถึง 19.6TB/s ถือเป็นการยกระดับครั้งใหญ่จากรุ่นก่อนหน้า ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่นการประมวลผล FP64 และการฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่

    การใช้งานในซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับโลก
    MI430X จะถูกนำไปใช้ในระบบ HPC และ AI หลายแห่ง เช่น
    Discovery ที่ Oak Ridge National Laboratory (สหรัฐฯ) ซึ่งเป็นหนึ่งใน “AI Factory” แรกของประเทศ
    Alice Recoque ระบบ Exascale-class ในยุโรป ที่ใช้แพลตฟอร์ม BullSequana XH3500 ของ Eviden เพื่อรองรับงาน HPC และ AI พร้อมเป้าหมายด้านประสิทธิภาพพลังงาน

    การแข่งขันกับ NVIDIA
    AMD ยังเตรียมเปิดตัวรุ่น Instinct MI455X ที่ตั้งเป้าแข่งกับ NVIDIA Rubin AI lineup โดยเน้น disrupt ตลาด AI compute ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ AMD ที่จะเป็นผู้นำในตลาด AI และ HPC ที่กำลังขยายตัว

    ผลกระทบต่ออนาคต AI และ HPC
    การเปิดตัว MI430X ไม่เพียงแต่เพิ่มขีดความสามารถด้านการประมวลผล แต่ยังช่วยให้ยุโรปและสหรัฐฯ มีเครื่องมือใหม่ในการแข่งขันกับจีนในด้านซูเปอร์คอมพิวเตอร์และ AI การใช้หน่วยความจำ HBM4 ที่มีแบนด์วิดท์สูงยังเป็นการปูทางไปสู่การพัฒนาโมเดล AI ที่ซับซ้อนและใหญ่ขึ้นในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Instinct MI430X ใช้สถาปัตยกรรม CDNA รุ่นใหม่
    หน่วยความจำ HBM4 ขนาด 432GB และแบนด์วิดท์ 19.6TB/s

    การใช้งานในระบบ HPC และ AI
    Discovery (สหรัฐฯ) และ Alice Recoque (ยุโรป)

    AMD เตรียมเปิดตัว MI455X
    ตั้งเป้า disrupt ตลาดแข่งกับ NVIDIA Rubin AI

    ความท้าทายด้านการแข่งขัน
    ตลาด AI compute กำลังร้อนแรง ทำให้ AMD ต้องเร่งพัฒนาเพื่อตามทัน NVIDIA

    ความเสี่ยงด้านพลังงานและซัพพลายเชน
    การใช้หน่วยความจำ HBM4 ขนาดใหญ่ต้องการการผลิตที่มีต้นทุนสูงและอาจกระทบต่อราคาในตลาด

    https://wccftech.com/amd-unveils-the-instinct-mi430x-ai-chip-for-leadership-performance/
    🖥️ AMD เปิดตัว Instinct MI430X AMD ได้เผยโฉม Instinct MI430X ซึ่งเป็นรุ่นต่อยอดจาก MI300A โดยใช้สถาปัตยกรรม CDNA รุ่นใหม่ (คาดว่า CDNA 5) จุดเด่นคือการใช้หน่วยความจำ HBM4 ขนาด 432GB และแบนด์วิดท์สูงถึง 19.6TB/s ถือเป็นการยกระดับครั้งใหญ่จากรุ่นก่อนหน้า ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่นการประมวลผล FP64 และการฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่ ⚡ การใช้งานในซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับโลก MI430X จะถูกนำไปใช้ในระบบ HPC และ AI หลายแห่ง เช่น 🎗️ Discovery ที่ Oak Ridge National Laboratory (สหรัฐฯ) ซึ่งเป็นหนึ่งใน “AI Factory” แรกของประเทศ 🎗️ Alice Recoque ระบบ Exascale-class ในยุโรป ที่ใช้แพลตฟอร์ม BullSequana XH3500 ของ Eviden เพื่อรองรับงาน HPC และ AI พร้อมเป้าหมายด้านประสิทธิภาพพลังงาน 🔍 การแข่งขันกับ NVIDIA AMD ยังเตรียมเปิดตัวรุ่น Instinct MI455X ที่ตั้งเป้าแข่งกับ NVIDIA Rubin AI lineup โดยเน้น disrupt ตลาด AI compute ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความตั้งใจของ AMD ที่จะเป็นผู้นำในตลาด AI และ HPC ที่กำลังขยายตัว 🌐 ผลกระทบต่ออนาคต AI และ HPC การเปิดตัว MI430X ไม่เพียงแต่เพิ่มขีดความสามารถด้านการประมวลผล แต่ยังช่วยให้ยุโรปและสหรัฐฯ มีเครื่องมือใหม่ในการแข่งขันกับจีนในด้านซูเปอร์คอมพิวเตอร์และ AI การใช้หน่วยความจำ HBM4 ที่มีแบนด์วิดท์สูงยังเป็นการปูทางไปสู่การพัฒนาโมเดล AI ที่ซับซ้อนและใหญ่ขึ้นในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Instinct MI430X ใช้สถาปัตยกรรม CDNA รุ่นใหม่ ➡️ หน่วยความจำ HBM4 ขนาด 432GB และแบนด์วิดท์ 19.6TB/s ✅ การใช้งานในระบบ HPC และ AI ➡️ Discovery (สหรัฐฯ) และ Alice Recoque (ยุโรป) ✅ AMD เตรียมเปิดตัว MI455X ➡️ ตั้งเป้า disrupt ตลาดแข่งกับ NVIDIA Rubin AI ‼️ ความท้าทายด้านการแข่งขัน ⛔ ตลาด AI compute กำลังร้อนแรง ทำให้ AMD ต้องเร่งพัฒนาเพื่อตามทัน NVIDIA ‼️ ความเสี่ยงด้านพลังงานและซัพพลายเชน ⛔ การใช้หน่วยความจำ HBM4 ขนาดใหญ่ต้องการการผลิตที่มีต้นทุนสูงและอาจกระทบต่อราคาในตลาด https://wccftech.com/amd-unveils-the-instinct-mi430x-ai-chip-for-leadership-performance/
    WCCFTECH.COM
    AMD Unveils the Instinct MI430X AI Chip For "Leadership Performance" On AI Systems, Featuring HBM4 Memory & Next-Gen CDNA Architecture
    AMD has unveiled one of its first models in the Instinct MI400 lineup, the MI430X, which is built specifically for HPC system buildouts.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • Windows 11 เปิดตัว Digital Signage Mode

    ในงาน Ignite 2025 Microsoft ได้ประกาศฟีเจอร์ Digital Signage Mode สำหรับ Windows 11 โดยออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่หลายคนเคยเห็น BSOD โผล่บนป้ายโฆษณา LED หรือจอแสดงผลสาธารณะ ฟีเจอร์นี้จะทำให้หน้าจอ BSOD หายไปภายใน 15 วินาทีโดยไม่ต้องมีการแทรกแซงจากผู้ดูแลระบบ

    ลดความเสี่ยงต่อการเสียภาพลักษณ์องค์กร
    การที่จอสาธารณะโชว์ BSOD เป็นเวลานานมักสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อองค์กรหรือแบรนด์ ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยให้ป้ายโฆษณาและจอแสดงผลกลับมาทำงานได้เร็วขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเสียโอกาสทางธุรกิจและความน่าเชื่อถือ

    ความแตกต่างจาก Kiosk Mode
    แม้จะคล้ายกับ Kiosk Mode ที่ใช้ในเครื่องบริการตั๋วหรือเคาน์เตอร์สั่งอาหาร แต่ Digital Signage Mode ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับจอที่แสดงผลโฆษณาหรือข้อมูลแบบไม่โต้ตอบ โดยจะไม่กระทบกับระบบที่ต้องการการทำงานเชิงโต้ตอบ เช่น ตู้บริการอัตโนมัติ

    ฟีเจอร์เสริมด้านความเสถียร
    นอกจาก Digital Signage Mode Microsoft ยังเปิดตัวระบบ Point-in-time Restore ที่ช่วยให้ผู้ดูแล IT สามารถกู้คืนระบบได้ละเอียดขึ้น และเพิ่มความสามารถในการจัดการผ่าน Intune เพื่อให้การดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์ในองค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Digital Signage Mode ใน Windows 11
    BSOD จะหายไปภายใน 15 วินาทีโดยอัตโนมัติ

    ลดผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กร
    ป้องกันไม่ให้จอสาธารณะโชว์ข้อผิดพลาดนานเกินไป

    แตกต่างจาก Kiosk Mode
    ใช้กับจอแสดงผลโฆษณา ไม่ใช่ระบบโต้ตอบ

    ฟีเจอร์เสริมด้านความเสถียร
    มี Point-in-time Restore และการจัดการผ่าน Intune

    ข้อควรระวังสำหรับผู้ดูแลระบบ
    หากระบบไม่ได้ตั้งค่าอย่างเหมาะสม อาจยังเกิดการหยุดชะงักแม้ BSOD จะหายไปเร็ว

    การใช้งานในจอที่ต้องโต้ตอบ
    Digital Signage Mode ไม่เหมาะกับเครื่องบริการอัตโนมัติหรือระบบที่ต้องการการโต้ตอบ

    https://www.tomshardware.com/software/windows/youre-about-to-see-even-fewer-bsods-in-public-with-windows-11s-new-digital-signage-mode-every-public-blue-screen-will-wither-away-within-15-seconds-of-the-crash
    💻 Windows 11 เปิดตัว Digital Signage Mode ในงาน Ignite 2025 Microsoft ได้ประกาศฟีเจอร์ Digital Signage Mode สำหรับ Windows 11 โดยออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่หลายคนเคยเห็น BSOD โผล่บนป้ายโฆษณา LED หรือจอแสดงผลสาธารณะ ฟีเจอร์นี้จะทำให้หน้าจอ BSOD หายไปภายใน 15 วินาทีโดยไม่ต้องมีการแทรกแซงจากผู้ดูแลระบบ ⚡ ลดความเสี่ยงต่อการเสียภาพลักษณ์องค์กร การที่จอสาธารณะโชว์ BSOD เป็นเวลานานมักสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อองค์กรหรือแบรนด์ ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยให้ป้ายโฆษณาและจอแสดงผลกลับมาทำงานได้เร็วขึ้น ลดความเสี่ยงต่อการเสียโอกาสทางธุรกิจและความน่าเชื่อถือ 🔍 ความแตกต่างจาก Kiosk Mode แม้จะคล้ายกับ Kiosk Mode ที่ใช้ในเครื่องบริการตั๋วหรือเคาน์เตอร์สั่งอาหาร แต่ Digital Signage Mode ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับจอที่แสดงผลโฆษณาหรือข้อมูลแบบไม่โต้ตอบ โดยจะไม่กระทบกับระบบที่ต้องการการทำงานเชิงโต้ตอบ เช่น ตู้บริการอัตโนมัติ 🌐 ฟีเจอร์เสริมด้านความเสถียร นอกจาก Digital Signage Mode Microsoft ยังเปิดตัวระบบ Point-in-time Restore ที่ช่วยให้ผู้ดูแล IT สามารถกู้คืนระบบได้ละเอียดขึ้น และเพิ่มความสามารถในการจัดการผ่าน Intune เพื่อให้การดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์ในองค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Digital Signage Mode ใน Windows 11 ➡️ BSOD จะหายไปภายใน 15 วินาทีโดยอัตโนมัติ ✅ ลดผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กร ➡️ ป้องกันไม่ให้จอสาธารณะโชว์ข้อผิดพลาดนานเกินไป ✅ แตกต่างจาก Kiosk Mode ➡️ ใช้กับจอแสดงผลโฆษณา ไม่ใช่ระบบโต้ตอบ ✅ ฟีเจอร์เสริมด้านความเสถียร ➡️ มี Point-in-time Restore และการจัดการผ่าน Intune ‼️ ข้อควรระวังสำหรับผู้ดูแลระบบ ⛔ หากระบบไม่ได้ตั้งค่าอย่างเหมาะสม อาจยังเกิดการหยุดชะงักแม้ BSOD จะหายไปเร็ว ‼️ การใช้งานในจอที่ต้องโต้ตอบ ⛔ Digital Signage Mode ไม่เหมาะกับเครื่องบริการอัตโนมัติหรือระบบที่ต้องการการโต้ตอบ https://www.tomshardware.com/software/windows/youre-about-to-see-even-fewer-bsods-in-public-with-windows-11s-new-digital-signage-mode-every-public-blue-screen-will-wither-away-within-15-seconds-of-the-crash
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุโรปผ่อนปรนกฎหมายความเป็นส่วนตัวและ AI

    หลังจากหลายปีที่สหภาพยุโรป (EU) ยืนหยัดในฐานะผู้นำด้านการคุ้มครองข้อมูลและการกำกับดูแล AI ล่าสุดคณะกรรมาธิการยุโรปได้เสนอการปรับแก้กฎหมายสำคัญอย่าง GDPR และ AI Act ภายใต้แพ็กเกจ “Digital Omnibus” โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความซับซ้อนของกฎเกณฑ์และกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การเปลี่ยนแปลงนี้รวมถึงการลดจำนวนป๊อปอัพคุกกี้ที่ผู้ใช้ต้องเผชิญ และการอนุญาตให้บริษัทสามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้โดยตรงในการฝึก AI ได้

    แรงกดดันจาก Big Tech และสหรัฐฯ
    การผ่อนปรนครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Google, Meta และ OpenAI รวมถึงรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มองว่ากฎเข้มงวดของยุโรปเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันในตลาดโลก รายงานจาก Mario Draghi อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี ก็ชี้ว่ากฎหมายเข้มงวดทำให้ยุโรปเสียเปรียบในการแข่งขันกับสหรัฐฯ และจีน

    ความกังวลจากนักเคลื่อนไหวและนักการเมือง
    แม้การปรับลดกฎจะถูกนำเสนอว่าเป็นการ “ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น” แต่หลายฝ่าย เช่น กลุ่มสิทธิพลเมืองและนักการเมืองยุโรป เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้คือการลดมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลลงอย่างมาก โดยเฉพาะการเปิดช่องให้บริษัทอ้าง “ผลประโยชน์โดยชอบ” (legitimate interest) เพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ต้องขอความยินยอมอย่างเข้มงวดเหมือนเดิม

    ผลกระทบต่ออนาคตการแข่งขันและสิทธิพลเมือง
    หากข้อเสนอได้รับการอนุมัติ กฎหมายใหม่จะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพทำงานง่ายขึ้น แต่ก็เสี่ยงต่อการทำให้สิทธิของประชาชนในการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนแอลง นักเคลื่อนไหวเตือนว่าอาจเป็น “การตัดทอนทีละน้อย” ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นในยุโรปในฐานะผู้นำด้านสิทธิข้อมูลและความเป็นส่วนตัว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย GDPR และ AI Act
    ลดจำนวนคุกกี้ป๊อปอัพ และอนุญาตให้ใช้ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในการฝึก AI

    แรงกดดันจาก Big Tech และสหรัฐฯ
    บริษัทเทคโนโลยีและรัฐบาลสหรัฐฯ มองว่ากฎเข้มงวดเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขัน

    เป้าหมายของ EU
    ลดขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อช่วยธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพให้แข่งขันได้ง่ายขึ้น

    ความเสี่ยงต่อสิทธิพลเมือง
    การใช้ข้ออ้าง “ผลประโยชน์โดยชอบ” อาจทำให้บริษัทเก็บข้อมูลโดยไม่ต้องขอความยินยอม

    การลดมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูล
    นักเคลื่อนไหวเตือนว่าอาจเป็น “death by a thousand cuts” ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นใน GDPR

    ผลกระทบต่อการแข่งขันระดับโลก
    ยุโรปอาจสูญเสียจุดยืนในฐานะผู้นำด้านสิทธิข้อมูลและความเป็นส่วนตัว หากกฎหมายอ่อนตัวลง

    https://www.theverge.com/news/823750/european-union-ai-act-gdpr-changes
    📰 ยุโรปผ่อนปรนกฎหมายความเป็นส่วนตัวและ AI หลังจากหลายปีที่สหภาพยุโรป (EU) ยืนหยัดในฐานะผู้นำด้านการคุ้มครองข้อมูลและการกำกับดูแล AI ล่าสุดคณะกรรมาธิการยุโรปได้เสนอการปรับแก้กฎหมายสำคัญอย่าง GDPR และ AI Act ภายใต้แพ็กเกจ “Digital Omnibus” โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความซับซ้อนของกฎเกณฑ์และกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัว การเปลี่ยนแปลงนี้รวมถึงการลดจำนวนป๊อปอัพคุกกี้ที่ผู้ใช้ต้องเผชิญ และการอนุญาตให้บริษัทสามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้โดยตรงในการฝึก AI ได้ ⚖️ แรงกดดันจาก Big Tech และสหรัฐฯ การผ่อนปรนครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Google, Meta และ OpenAI รวมถึงรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มองว่ากฎเข้มงวดของยุโรปเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขันในตลาดโลก รายงานจาก Mario Draghi อดีตนายกรัฐมนตรีอิตาลี ก็ชี้ว่ากฎหมายเข้มงวดทำให้ยุโรปเสียเปรียบในการแข่งขันกับสหรัฐฯ และจีน 🔍 ความกังวลจากนักเคลื่อนไหวและนักการเมือง แม้การปรับลดกฎจะถูกนำเสนอว่าเป็นการ “ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น” แต่หลายฝ่าย เช่น กลุ่มสิทธิพลเมืองและนักการเมืองยุโรป เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้คือการลดมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลลงอย่างมาก โดยเฉพาะการเปิดช่องให้บริษัทอ้าง “ผลประโยชน์โดยชอบ” (legitimate interest) เพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ต้องขอความยินยอมอย่างเข้มงวดเหมือนเดิม 🌐 ผลกระทบต่ออนาคตการแข่งขันและสิทธิพลเมือง หากข้อเสนอได้รับการอนุมัติ กฎหมายใหม่จะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพทำงานง่ายขึ้น แต่ก็เสี่ยงต่อการทำให้สิทธิของประชาชนในการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนแอลง นักเคลื่อนไหวเตือนว่าอาจเป็น “การตัดทอนทีละน้อย” ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นในยุโรปในฐานะผู้นำด้านสิทธิข้อมูลและความเป็นส่วนตัว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย GDPR และ AI Act ➡️ ลดจำนวนคุกกี้ป๊อปอัพ และอนุญาตให้ใช้ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในการฝึก AI ✅ แรงกดดันจาก Big Tech และสหรัฐฯ ➡️ บริษัทเทคโนโลยีและรัฐบาลสหรัฐฯ มองว่ากฎเข้มงวดเป็นอุปสรรคต่อการแข่งขัน ✅ เป้าหมายของ EU ➡️ ลดขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อช่วยธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพให้แข่งขันได้ง่ายขึ้น ‼️ ความเสี่ยงต่อสิทธิพลเมือง ⛔ การใช้ข้ออ้าง “ผลประโยชน์โดยชอบ” อาจทำให้บริษัทเก็บข้อมูลโดยไม่ต้องขอความยินยอม ‼️ การลดมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูล ⛔ นักเคลื่อนไหวเตือนว่าอาจเป็น “death by a thousand cuts” ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นใน GDPR ‼️ ผลกระทบต่อการแข่งขันระดับโลก ⛔ ยุโรปอาจสูญเสียจุดยืนในฐานะผู้นำด้านสิทธิข้อมูลและความเป็นส่วนตัว หากกฎหมายอ่อนตัวลง https://www.theverge.com/news/823750/european-union-ai-act-gdpr-changes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมกล้องถ่ายภาพความร้อนถึงเป็นอุปกรณ์เสริมที่ดีที่สุดสำหรับสมาร์ทโฟน

    กล้องถ่ายภาพความร้อนที่เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C เช่น Thermal Master P1 กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นเครื่องมือวิเคราะห์อุณหภูมิได้ทันที โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เฉพาะทางราคาแพง จุดเด่นคือพกพาสะดวก ใช้งานง่าย และมีแอปพลิเคชันที่ช่วยวัดค่าอุณหภูมิได้อย่างละเอียด

    รายการ 10 การใช้งาน Thermal Camera
    ตรวจสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
    หาจุดร้อนในคอมพิวเตอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อปรับปรุงการระบายความร้อน

    ตรวจสอบเครื่องยนต์รถยนต์
    ดูอุณหภูมิที่ผิดปกติในเครื่องยนต์ เพื่อช่วยวิเคราะห์ปัญหา

    ตรวจสอบการรั่วไหลของความร้อนในบ้าน
    หาจุดที่มีอากาศเย็นรั่วเข้ามา ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน

    ตรวจสอบระบบทำความร้อน (Heating System)
    หาจุดรั่วหรือท่อที่มีปัญหาในระบบทำความร้อน

    ตรวจสอบการรั่วซึมของน้ำและความชื้น
    หาความชื้นสะสมหลังผนังหรือเพดาน ป้องกันเชื้อรา

    ใช้ในการทำอาหารและเบเกอรี่
    ตรวจสอบอุณหภูมิผิวอาหาร น้ำมัน หรือเตาอบ

    ตรวจจับสัตว์และคนในความมืด
    ใช้ดูสัตว์กลางคืน หรือเล่นเกมซ่อนหาในที่มืด

    ใช้ถ่ายภาพเชิงสร้างสรรค์
    ถ่ายภาพวิว เมือง หรือวัตถุในมุมมองความร้อนที่แปลกใหม่

    ใช้เป็นเครื่องมือการศึกษา
    กระตุ้นความสนใจเด็ก ๆ ในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

    ใช้ในงานมืออาชีพ
    ตรวจสอบอาคาร เครื่องจักร หรือระบบไฟฟ้า พร้อมสร้างรายงานจากแอป

    https://www.slashgear.com/2026375/thermal-camera-best-phone-accessory-reasons-why/
    🔥 ทำไมกล้องถ่ายภาพความร้อนถึงเป็นอุปกรณ์เสริมที่ดีที่สุดสำหรับสมาร์ทโฟน กล้องถ่ายภาพความร้อนที่เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C เช่น Thermal Master P1 กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสามารถเปลี่ยนสมาร์ทโฟนให้กลายเป็นเครื่องมือวิเคราะห์อุณหภูมิได้ทันที โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เฉพาะทางราคาแพง จุดเด่นคือพกพาสะดวก ใช้งานง่าย และมีแอปพลิเคชันที่ช่วยวัดค่าอุณหภูมิได้อย่างละเอียด 📋 รายการ 10 การใช้งาน Thermal Camera ✅ ตรวจสอบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ➡️ หาจุดร้อนในคอมพิวเตอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อปรับปรุงการระบายความร้อน ✅ ตรวจสอบเครื่องยนต์รถยนต์ ➡️ ดูอุณหภูมิที่ผิดปกติในเครื่องยนต์ เพื่อช่วยวิเคราะห์ปัญหา ✅ ตรวจสอบการรั่วไหลของความร้อนในบ้าน ➡️ หาจุดที่มีอากาศเย็นรั่วเข้ามา ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ✅ ตรวจสอบระบบทำความร้อน (Heating System) ➡️ หาจุดรั่วหรือท่อที่มีปัญหาในระบบทำความร้อน ✅ ตรวจสอบการรั่วซึมของน้ำและความชื้น ➡️ หาความชื้นสะสมหลังผนังหรือเพดาน ป้องกันเชื้อรา ✅ ใช้ในการทำอาหารและเบเกอรี่ ➡️ ตรวจสอบอุณหภูมิผิวอาหาร น้ำมัน หรือเตาอบ ✅ ตรวจจับสัตว์และคนในความมืด ➡️ ใช้ดูสัตว์กลางคืน หรือเล่นเกมซ่อนหาในที่มืด ✅ ใช้ถ่ายภาพเชิงสร้างสรรค์ ➡️ ถ่ายภาพวิว เมือง หรือวัตถุในมุมมองความร้อนที่แปลกใหม่ ✅ ใช้เป็นเครื่องมือการศึกษา ➡️ กระตุ้นความสนใจเด็ก ๆ ในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ✅ ใช้ในงานมืออาชีพ ➡️ ตรวจสอบอาคาร เครื่องจักร หรือระบบไฟฟ้า พร้อมสร้างรายงานจากแอป https://www.slashgear.com/2026375/thermal-camera-best-phone-accessory-reasons-why/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    10 Reasons Why A Thermal Camera Is The Best Accessory For Your Smartphone - SlashGear
    Curious what thermal imaging can actually do on a phone? This guide breaks down the surprising ways a small add-on becomes genuinely practical.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251120 #securityonline

    Lazarus Group เปิดตัว RAT ใหม่ชื่อ ScoringMathTea
    กลุ่มแฮกเกอร์ Lazarus จากเกาหลีเหนือถูกเปิดโปงว่าได้พัฒนาเครื่องมือสอดแนมใหม่ชื่อ ScoringMathTea RAT ซึ่งมีความสามารถซับซ้อนมาก ใช้เทคนิคการโหลดปลั๊กอินแบบสะท้อน (Reflective Plugin Loader) และเข้ารหัสด้วยวิธีเฉพาะที่ยากต่อการตรวจจับ เครื่องมือนี้สามารถควบคุมเครื่องเป้าหมายจากระยะไกลได้เต็มรูปแบบ ทั้งการรันคำสั่งและโหลดปลั๊กอินในหน่วยความจำ จุดเด่นคือการซ่อนร่องรอยการสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ นักวิจัยพบว่า RAT นี้ถูกใช้ในปฏิบัติการโจมตีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี UAV ของยูเครน

    https://securityonline.info/lazarus-groups-new-scoringmathtea-rat-uses-reflective-plugin-loader-and-custom-polyalphabetic-crypto-for-espionage

    Akira Ransomware ใช้ CAPTCHA หลอกลวงจนบริษัทใหญ่ล่มใน 42 วัน
    มีรายงานว่าเพียงการคลิก CAPTCHA ปลอมครั้งเดียวของพนักงานบริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้เกิดการโจมตีที่ยืดเยื้อถึง 42 วัน กลุ่มแฮกเกอร์ Howling Scorpius ใช้เทคนิคนี้เพื่อติดตั้ง SectopRAT และค่อย ๆ ยึดระบบทีละขั้น จนสามารถลบข้อมูลสำรองบนคลาวด์และปล่อย Akira ransomware ทำให้บริษัทหยุดทำงานเกือบทั้งหมด แม้บริษัทจะมีระบบ EDR แต่กลับไม่สามารถตรวจจับได้ทันเวลา

    https://securityonline.info/one-click-42-days-akira-ransomware-used-captcha-decoy-to-destroy-cloud-backups-and-cripple-storage-firm

    “The Gentlemen” Ransomware RaaS โผล่ใหม่ โจมตี 48 เหยื่อใน 3 เดือน
    กลุ่มใหม่ชื่อ The Gentlemen เปิดตัวแพลตฟอร์ม Ransomware-as-a-Service (RaaS) ที่มีความซับซ้อนสูง ใช้การเข้ารหัสแบบ XChaCha20 และกลยุทธ์ “สองชั้น” คือทั้งเข้ารหัสไฟล์และขู่เปิดเผยข้อมูลที่ขโมยมา ภายในเวลาเพียง 3 เดือน พวกเขามีเหยื่อถึง 48 ราย จุดเด่นคือการพัฒนาอย่างรวดเร็ว รองรับทั้ง Windows, Linux และ ESXi พร้อมเทคนิคการแพร่กระจายที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ถูกจับตามองว่าอาจกลายเป็นภัยคุกคามระดับท็อปในวงการ https://securityonline.info/sophisticated-the-gentlemen-ransomware-raas-emerges-with-xchacha20-encryption-and-48-victims-in-3-months

    มัลแวร์ยุคใหม่ซ่อนการสื่อสารเป็น API ของ LLM บน Tencent Cloud
    นักวิจัยจาก Akamai พบมัลแวร์ที่มีวิธีพรางตัวแปลกใหม่ โดยมันซ่อนการสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) ให้ดูเหมือนการเรียกใช้งาน API ของ Large Language Model (LLM) บน Tencent Cloud ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก เพราะทราฟฟิกดูเหมือนการใช้งาน AI ปกติจริง ๆ เมื่อถอดรหัสแล้วพบว่าเป็นคำสั่งควบคุมเครื่องแบบ RAT เต็มรูปแบบ พร้อมเครื่องมือ Proxy ที่ช่วยให้แฮกเกอร์ใช้เครื่องเหยื่อเป็นจุดผ่านในการโจมตีต่อ

    https://securityonline.info/next-gen-stealth-malware-hides-c2-traffic-as-fake-llm-api-requests-on-tencent-cloud

    Ransomware เจาะ AWS S3 ผ่านการตั้งค่าผิดพลาด ทำลบข้อมูลถาวร
    รายงานจาก Trend Research เตือนว่ามีการพัฒนา ransomware รุ่นใหม่ที่มุ่งเป้าไปยัง Amazon S3 โดยอาศัยการตั้งค่าที่ผิดพลาด เช่น ไม่มีการเปิด versioning หรือ object lock ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ารหัสหรือลบข้อมูลได้แบบถาวรโดยไม่สามารถกู้คืนได้ มีการระบุถึง 5 วิธีการโจมตีที่อันตราย เช่น การลบ KMS key ที่ใช้เข้ารหัสไฟล์ ซึ่งจะทำให้ข้อมูลสูญหายไปตลอดกาล

    https://securityonline.info/next-gen-ransomware-targets-aws-s3-five-cloud-native-variants-exploit-misconfigurations-for-irreversible-data-destruction

    Windows 11 เตรียมซ่อนหน้าจอ BSOD บนจอสาธารณะ

    Microsoft ประกาศว่าจะปรับปรุง Windows 11 โดย ซ่อนหน้าจอ Blue Screen of Death (BSOD) บนจอที่ใช้ในที่สาธารณะ เช่นสนามบินหรือห้างสรรพสินค้า เพื่อไม่ให้ผู้ใช้ทั่วไปเห็นภาพระบบล่มที่อาจสร้างความตื่นตระหนก การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น โดยยังคงบันทึกข้อมูลการ crash ไว้ให้ผู้ดูแลระบบตรวจสอบได้ตามปกติ

    https://securityonline.info/no-more-public-bsods-windows-11-will-hide-crash-screens-on-public-displays

    Microsoft เตรียมยกเลิกสิทธิ์ OEM Driver ระดับ Kernel
    หลังเหตุการณ์ CrowdStrike ที่ทำให้ระบบล่มทั่วโลก Microsoft วางแผนจะ ยกเลิกสิทธิ์พิเศษของ OEM driver ที่ทำงานในระดับ Kernel เพื่อลดความเสี่ยงจากการที่ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ใช้สิทธิ์สูงเกินไป การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยของระบบ Windows โดยบังคับให้ผู้ผลิตใช้วิธีที่ปลอดภัยกว่าในการเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการ

    https://securityonline.info/post-crowdstrike-microsoft-to-phase-out-oem-kernel-level-driver-privileges

    Seraphic เปิดตัว Browser Security สำหรับแอป Electron
    บริษัท Seraphic เปิดตัวโซลูชันใหม่ที่เป็น Secure Enterprise Browser ตัวแรกที่สามารถปกป้องแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron ได้ จุดเด่นคือการเพิ่มชั้นความปลอดภัยให้กับแอปที่มักถูกใช้ในองค์กร เช่น Slack หรือ Teams ซึ่งเดิมที Electron มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอยู่บ่อยครั้ง การแก้ปัญหานี้ช่วยให้องค์กรมั่นใจมากขึ้นในการใช้งานแอป Electron

    https://securityonline.info/seraphic-becomes-the-first-and-only-secure-enterprise-browser-solution-to-protect-electron-based-applications

    Comet Browser ถูกวิจารณ์หนัก หลังพบ API ลับ MCP
    มีการค้นพบว่า Comet Browser มี API ที่ชื่อ MCP ซึ่งเปิดช่องให้ผู้พัฒนา AI browser สามารถเข้าถึงและควบคุมอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้เต็มรูปแบบโดยไม่แจ้งเตือน ทำให้เกิดการละเมิดความเชื่อมั่นของผู้ใช้ นักวิจัยเตือนว่าช่องโหว่นี้อาจถูกใช้เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกลโดยไม่ได้รับอนุญาต

    https://securityonline.info/obscure-mcp-api-in-comet-browser-breaches-user-trust-enabling-full-device-control-via-ai-browsers

    CredShields จับมือ Checkmarx เสริมความปลอดภัย Smart Contract
    บริษัท CredShields ประกาศความร่วมมือกับ Checkmarx เพื่อนำเทคโนโลยีตรวจสอบความปลอดภัยของ Smart Contract เข้าสู่โปรแกรม AppSec ขององค์กร จุดมุ่งหมายคือช่วยให้องค์กรที่ใช้ blockchain และ smart contract สามารถตรวจสอบช่องโหว่ได้อย่างเป็นระบบ ลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่อาจทำให้สูญเสียทรัพย์สินดิจิทัล

    https://securityonline.info/credshields-joins-forces-with-checkmarx-to-bring-smart-contract-security-to-enterprise-appsec-programs

    Windows 11 เพิ่มเครื่องมือใหม่ Point-in-Time Restore

    Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ได้แก่ Point-in-Time Restore และ Network-Enabled Recovery Environment เพื่อช่วยผู้ใช้กู้คืนระบบได้ง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้ทำให้สามารถย้อนกลับไปยังสถานะก่อนหน้าที่กำหนดไว้ได้ทันที และยังรองรับการกู้คืนผ่านเครือข่าย ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถซ่อมแซมเครื่องจากระยะไกลได้สะดวกขึ้น

    https://securityonline.info/new-windows-11-tools-point-in-time-restore-network-enabled-recovery-environment

    ความกังวลฟองสบู่ AI: Microsoft & NVIDIA ลงทุนหนักใน Anthropic
    มีรายงานว่าทั้ง Microsoft และ NVIDIA ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในบริษัท AI อย่าง Anthropic จนเกิดความกังวลว่าการลงทุนแบบหมุนเวียนระหว่างบริษัทใหญ่ ๆ อาจสร้าง “ฟองสบู่ AI” ที่ไม่ยั่งยืน การทุ่มเงินจำนวนมหาศาลนี้ถูกมองว่าอาจทำให้ตลาด AI เติบโตเกินจริงและเสี่ยงต่อการแตกในอนาคต

    https://securityonline.info/ai-bubble-fear-microsoft-nvidia-pour-billions-into-anthropic-fueling-circular-investment

    Google ทุ่ม 78 พันล้านดอลลาร์สร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ในสหรัฐฯ
    Google ประกาศโครงการ Investing in America 2025 ด้วยงบประมาณมหาศาลถึง 78 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูล AI และโครงสร้างพื้นฐานทั่วสหรัฐฯ รวมถึงการลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์ 600 MW ที่ Arkansas โครงการนี้สะท้อนถึงการเร่งขยายกำลังการผลิต AI และการสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศ https://securityonline.info/google-pledges-78-billion-for-investing-in-america-2025-ai-infrastructure

    Grok 4.1 แซง Google Gemini 2.5 Pro บน LMArena
    แพลตฟอร์มทดสอบ AI LMArena รายงานว่า Grok 4.1 Thinking ได้คะแนนสูงสุด แซงหน้า Google Gemini 2.5 Pro ในการจัดอันดับล่าสุด จุดเด่นของ Grok คือความสามารถในการใช้เหตุผลเชิงลึกและการตอบสนองที่แม่นยำ ทำให้มันถูกจับตามองว่าอาจเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดโมเดล AI ระดับสูง

    https://securityonline.info/grok-4-1-thinking-steals-1-spot-on-lmarena-surpassing-google-gemini-2-5-pro

    Google เปิดตัว Canvas และ Agentic Booking ใน AI Mode
    Google อัปเกรด AI Mode โดยเพิ่มฟีเจอร์ Canvas สำหรับการวางแผน และ Agentic Booking สำหรับการจองที่พักหรือร้านอาหารแบบอัตโนมัติ ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ AI ในการจัดการงานประจำวันได้สะดวกขึ้น เช่น วางแผนทริปหรือจองโต๊ะอาหารโดยไม่ต้องทำเอง

    https://securityonline.info/ai-mode-upgraded-google-launches-canvas-for-planning-and-agentic-booking-for-reservations

    เราเตอร์ D-Link DIR-878 หมดอายุการสนับสนุน พร้อมช่องโหว่ RCE ร้ายแรง

    D-Link ประกาศว่าเราเตอร์รุ่น DIR-878 เข้าสู่สถานะ End-of-Life (EOL) และจะไม่ได้รับการอัปเดตอีกต่อไป ทั้งที่ยังมีช่องโหว่ร้ายแรงถึง 3 จุดซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ทำให้ผู้ใช้ที่ยังใช้อุปกรณ์รุ่นนี้เสี่ยงต่อการถูกยึดระบบอย่างมาก

    https://securityonline.info/d-link-dir-878-reaches-eol-3-unpatched-rce-flaws-allow-unauthenticated-remote-command-execution

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน METZ CONNECT Controller เปิดทาง RCE และยึดระบบ
    มีการค้นพบช่องโหว่ในอุปกรณ์ควบคุมอุตสาหกรรมของ METZ CONNECT ที่มีคะแนน CVSS สูงถึง 9.8 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งจากระยะไกลและเข้ายึดสิทธิ์ผู้ดูแลระบบได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ถือเป็นภัยคุกคามต่อระบบควบคุมอุตสาหกรรมที่ใช้กันในโรงงานและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ

    https://securityonline.info/critical-metz-connect-flaws-cvss-9-8-allow-unauthenticated-rce-and-admin-takeover-on-industrial-controllers

    SolarWinds Serv-U พบช่องโหว่ใหม่ เปิดทาง RCE และ Path Bypass
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยรายงานช่องโหว่ร้ายแรงใน SolarWinds Serv-U ที่ทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบสามารถรันคำสั่งจากระยะไกลและเลี่ยงการตรวจสอบเส้นทางไฟล์ได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS 9.1 และถูกจัดว่าเป็นภัยคุกคามระดับสูงต่อองค์กรที่ใช้ Serv-U ในการจัดการไฟล์และระบบเครือข่าย

    https://securityonline.info/critical-solarwinds-serv-u-flaws-cvss-9-1-allow-authenticated-admin-rce-and-path-bypass

    การโจมตีซัพพลายเชน npm ด้วย CAPTCHA ปลอมและ Adspect Cloaking
    มีการตรวจพบการโจมตีซัพพลายเชนใน npm โดยแฮกเกอร์ใช้เทคนิค Adspect Cloaking และ CAPTCHA ปลอมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเพื่อหลอกนักพัฒนาและผู้ใช้ให้ดาวน์โหลดแพ็กเกจอันตราย การโจมตีนี้ทำให้ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักวิจัยด้านความปลอดภัยถูกหลอกได้ง่ายขึ้น และเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงในระบบซัพพลายเชนโอเพนซอร์ส

    https://securityonline.info/npm-supply-chain-attack-hackers-use-adspect-cloaking-and-fake-crypto-captcha-to-deceive-victims-and-researchers

    ASUSTOR พบช่องโหว่ DLL Hijacking ร้ายแรง (CVE-2025-13051)
    ASUSTOR ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ DLL hijacking ในซอฟต์แวร์ Backup Plan (ABP) และ EZSync (AES) บน Windows ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีในเครื่องสามารถแทนที่ DLL และรันโค้ดด้วยสิทธิ์ SYSTEM ได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS 9.3 และถูกจัดว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อทั้งผู้ใช้บ้านและองค์กร โดยมีการออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชันใหม่

    https://securityonline.info/critical-asustor-flaw-cve-2025-13051-allows-local-dll-hijacking-for-system-privilege-escalation

    ช่องโหว่ joserfc (CVE-2025-65015) ทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มด้วย JWT ขนาดใหญ่

    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในไลบรารี joserfc ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ JSON Web Token (JWT) โดยหากผู้โจมตีส่ง JWT ที่มีขนาดใหญ่ผิดปกติ จะทำให้เซิร์ฟเวอร์ใช้ทรัพยากรมากเกินไปจนล่มได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดว่าเป็นการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) และมีผลกระทบต่อระบบที่ใช้ joserfc ในการตรวจสอบสิทธิ์หรือการเข้ารหัสข้อมูล

    https://securityonline.info/critical-cve-2025-65015-vulnerability-in-joserfc-could-let-attackers-exhaust-server-resources-via-oversized-jwt-tokens

    หน่วยงาน CISA/FBI/NSA ร่วมกันจัดการโครงสร้าง Bulletproof Hosting
    สามหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ได้แก่ CISA, FBI และ NSA ได้ร่วมมือกันออกคู่มือใหม่เพื่อจัดการกับโครงสร้าง Bulletproof Hosting ที่ถูกใช้โดยอาชญากรไซเบอร์ทั่วโลก Bulletproof Hosting คือบริการโฮสติ้งที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้โจมตีจากการถูกปิดกั้นหรือสืบสวน การร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างแนวทางป้องกันภัยไซเบอร์ระดับโลก

    https://securityonline.info/cisa-fbi-nsa-unite-to-dismantle-bulletproof-hosting-ecosystem-with-new-global-defense-guide

    📌📰🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠📰📌 #รวมข่าวIT #20251120 #securityonline 🕵️‍♂️ Lazarus Group เปิดตัว RAT ใหม่ชื่อ ScoringMathTea กลุ่มแฮกเกอร์ Lazarus จากเกาหลีเหนือถูกเปิดโปงว่าได้พัฒนาเครื่องมือสอดแนมใหม่ชื่อ ScoringMathTea RAT ซึ่งมีความสามารถซับซ้อนมาก ใช้เทคนิคการโหลดปลั๊กอินแบบสะท้อน (Reflective Plugin Loader) และเข้ารหัสด้วยวิธีเฉพาะที่ยากต่อการตรวจจับ เครื่องมือนี้สามารถควบคุมเครื่องเป้าหมายจากระยะไกลได้เต็มรูปแบบ ทั้งการรันคำสั่งและโหลดปลั๊กอินในหน่วยความจำ จุดเด่นคือการซ่อนร่องรอยการสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ นักวิจัยพบว่า RAT นี้ถูกใช้ในปฏิบัติการโจมตีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี UAV ของยูเครน 🔗 https://securityonline.info/lazarus-groups-new-scoringmathtea-rat-uses-reflective-plugin-loader-and-custom-polyalphabetic-crypto-for-espionage 💻 Akira Ransomware ใช้ CAPTCHA หลอกลวงจนบริษัทใหญ่ล่มใน 42 วัน มีรายงานว่าเพียงการคลิก CAPTCHA ปลอมครั้งเดียวของพนักงานบริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้เกิดการโจมตีที่ยืดเยื้อถึง 42 วัน กลุ่มแฮกเกอร์ Howling Scorpius ใช้เทคนิคนี้เพื่อติดตั้ง SectopRAT และค่อย ๆ ยึดระบบทีละขั้น จนสามารถลบข้อมูลสำรองบนคลาวด์และปล่อย Akira ransomware ทำให้บริษัทหยุดทำงานเกือบทั้งหมด แม้บริษัทจะมีระบบ EDR แต่กลับไม่สามารถตรวจจับได้ทันเวลา 🔗 https://securityonline.info/one-click-42-days-akira-ransomware-used-captcha-decoy-to-destroy-cloud-backups-and-cripple-storage-firm 🎩 “The Gentlemen” Ransomware RaaS โผล่ใหม่ โจมตี 48 เหยื่อใน 3 เดือน กลุ่มใหม่ชื่อ The Gentlemen เปิดตัวแพลตฟอร์ม Ransomware-as-a-Service (RaaS) ที่มีความซับซ้อนสูง ใช้การเข้ารหัสแบบ XChaCha20 และกลยุทธ์ “สองชั้น” คือทั้งเข้ารหัสไฟล์และขู่เปิดเผยข้อมูลที่ขโมยมา ภายในเวลาเพียง 3 เดือน พวกเขามีเหยื่อถึง 48 ราย จุดเด่นคือการพัฒนาอย่างรวดเร็ว รองรับทั้ง Windows, Linux และ ESXi พร้อมเทคนิคการแพร่กระจายที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ถูกจับตามองว่าอาจกลายเป็นภัยคุกคามระดับท็อปในวงการ 🔗 https://securityonline.info/sophisticated-the-gentlemen-ransomware-raas-emerges-with-xchacha20-encryption-and-48-victims-in-3-months ☁️ มัลแวร์ยุคใหม่ซ่อนการสื่อสารเป็น API ของ LLM บน Tencent Cloud นักวิจัยจาก Akamai พบมัลแวร์ที่มีวิธีพรางตัวแปลกใหม่ โดยมันซ่อนการสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) ให้ดูเหมือนการเรียกใช้งาน API ของ Large Language Model (LLM) บน Tencent Cloud ทำให้การตรวจจับยากขึ้นมาก เพราะทราฟฟิกดูเหมือนการใช้งาน AI ปกติจริง ๆ เมื่อถอดรหัสแล้วพบว่าเป็นคำสั่งควบคุมเครื่องแบบ RAT เต็มรูปแบบ พร้อมเครื่องมือ Proxy ที่ช่วยให้แฮกเกอร์ใช้เครื่องเหยื่อเป็นจุดผ่านในการโจมตีต่อ 🔗 https://securityonline.info/next-gen-stealth-malware-hides-c2-traffic-as-fake-llm-api-requests-on-tencent-cloud 🗄️ Ransomware เจาะ AWS S3 ผ่านการตั้งค่าผิดพลาด ทำลบข้อมูลถาวร รายงานจาก Trend Research เตือนว่ามีการพัฒนา ransomware รุ่นใหม่ที่มุ่งเป้าไปยัง Amazon S3 โดยอาศัยการตั้งค่าที่ผิดพลาด เช่น ไม่มีการเปิด versioning หรือ object lock ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้ารหัสหรือลบข้อมูลได้แบบถาวรโดยไม่สามารถกู้คืนได้ มีการระบุถึง 5 วิธีการโจมตีที่อันตราย เช่น การลบ KMS key ที่ใช้เข้ารหัสไฟล์ ซึ่งจะทำให้ข้อมูลสูญหายไปตลอดกาล 🔗 https://securityonline.info/next-gen-ransomware-targets-aws-s3-five-cloud-native-variants-exploit-misconfigurations-for-irreversible-data-destruction 💻 Windows 11 เตรียมซ่อนหน้าจอ BSOD บนจอสาธารณะ Microsoft ประกาศว่าจะปรับปรุง Windows 11 โดย ซ่อนหน้าจอ Blue Screen of Death (BSOD) บนจอที่ใช้ในที่สาธารณะ เช่นสนามบินหรือห้างสรรพสินค้า เพื่อไม่ให้ผู้ใช้ทั่วไปเห็นภาพระบบล่มที่อาจสร้างความตื่นตระหนก การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น โดยยังคงบันทึกข้อมูลการ crash ไว้ให้ผู้ดูแลระบบตรวจสอบได้ตามปกติ 🔗 https://securityonline.info/no-more-public-bsods-windows-11-will-hide-crash-screens-on-public-displays 🛡️ Microsoft เตรียมยกเลิกสิทธิ์ OEM Driver ระดับ Kernel หลังเหตุการณ์ CrowdStrike ที่ทำให้ระบบล่มทั่วโลก Microsoft วางแผนจะ ยกเลิกสิทธิ์พิเศษของ OEM driver ที่ทำงานในระดับ Kernel เพื่อลดความเสี่ยงจากการที่ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ใช้สิทธิ์สูงเกินไป การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยของระบบ Windows โดยบังคับให้ผู้ผลิตใช้วิธีที่ปลอดภัยกว่าในการเชื่อมต่อกับระบบปฏิบัติการ 🔗 https://securityonline.info/post-crowdstrike-microsoft-to-phase-out-oem-kernel-level-driver-privileges 🌐 Seraphic เปิดตัว Browser Security สำหรับแอป Electron บริษัท Seraphic เปิดตัวโซลูชันใหม่ที่เป็น Secure Enterprise Browser ตัวแรกที่สามารถปกป้องแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron ได้ จุดเด่นคือการเพิ่มชั้นความปลอดภัยให้กับแอปที่มักถูกใช้ในองค์กร เช่น Slack หรือ Teams ซึ่งเดิมที Electron มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยอยู่บ่อยครั้ง การแก้ปัญหานี้ช่วยให้องค์กรมั่นใจมากขึ้นในการใช้งานแอป Electron 🔗 https://securityonline.info/seraphic-becomes-the-first-and-only-secure-enterprise-browser-solution-to-protect-electron-based-applications 🔒 Comet Browser ถูกวิจารณ์หนัก หลังพบ API ลับ MCP มีการค้นพบว่า Comet Browser มี API ที่ชื่อ MCP ซึ่งเปิดช่องให้ผู้พัฒนา AI browser สามารถเข้าถึงและควบคุมอุปกรณ์ของผู้ใช้ได้เต็มรูปแบบโดยไม่แจ้งเตือน ทำให้เกิดการละเมิดความเชื่อมั่นของผู้ใช้ นักวิจัยเตือนว่าช่องโหว่นี้อาจถูกใช้เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกลโดยไม่ได้รับอนุญาต 🔗 https://securityonline.info/obscure-mcp-api-in-comet-browser-breaches-user-trust-enabling-full-device-control-via-ai-browsers 📜 CredShields จับมือ Checkmarx เสริมความปลอดภัย Smart Contract บริษัท CredShields ประกาศความร่วมมือกับ Checkmarx เพื่อนำเทคโนโลยีตรวจสอบความปลอดภัยของ Smart Contract เข้าสู่โปรแกรม AppSec ขององค์กร จุดมุ่งหมายคือช่วยให้องค์กรที่ใช้ blockchain และ smart contract สามารถตรวจสอบช่องโหว่ได้อย่างเป็นระบบ ลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่อาจทำให้สูญเสียทรัพย์สินดิจิทัล 🔗 https://securityonline.info/credshields-joins-forces-with-checkmarx-to-bring-smart-contract-security-to-enterprise-appsec-programs 🛠️ Windows 11 เพิ่มเครื่องมือใหม่ Point-in-Time Restore Microsoft เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ได้แก่ Point-in-Time Restore และ Network-Enabled Recovery Environment เพื่อช่วยผู้ใช้กู้คืนระบบได้ง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้ทำให้สามารถย้อนกลับไปยังสถานะก่อนหน้าที่กำหนดไว้ได้ทันที และยังรองรับการกู้คืนผ่านเครือข่าย ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถซ่อมแซมเครื่องจากระยะไกลได้สะดวกขึ้น 🔗 https://securityonline.info/new-windows-11-tools-point-in-time-restore-network-enabled-recovery-environment 💰 ความกังวลฟองสบู่ AI: Microsoft & NVIDIA ลงทุนหนักใน Anthropic มีรายงานว่าทั้ง Microsoft และ NVIDIA ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในบริษัท AI อย่าง Anthropic จนเกิดความกังวลว่าการลงทุนแบบหมุนเวียนระหว่างบริษัทใหญ่ ๆ อาจสร้าง “ฟองสบู่ AI” ที่ไม่ยั่งยืน การทุ่มเงินจำนวนมหาศาลนี้ถูกมองว่าอาจทำให้ตลาด AI เติบโตเกินจริงและเสี่ยงต่อการแตกในอนาคต 🔗 https://securityonline.info/ai-bubble-fear-microsoft-nvidia-pour-billions-into-anthropic-fueling-circular-investment 🇺🇸 Google ทุ่ม 78 พันล้านดอลลาร์สร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ในสหรัฐฯ Google ประกาศโครงการ Investing in America 2025 ด้วยงบประมาณมหาศาลถึง 78 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างศูนย์ข้อมูล AI และโครงสร้างพื้นฐานทั่วสหรัฐฯ รวมถึงการลงทุนในพลังงานแสงอาทิตย์ 600 MW ที่ Arkansas โครงการนี้สะท้อนถึงการเร่งขยายกำลังการผลิต AI และการสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศ 🔗 https://securityonline.info/google-pledges-78-billion-for-investing-in-america-2025-ai-infrastructure 🧠 Grok 4.1 แซง Google Gemini 2.5 Pro บน LMArena แพลตฟอร์มทดสอบ AI LMArena รายงานว่า Grok 4.1 Thinking ได้คะแนนสูงสุด แซงหน้า Google Gemini 2.5 Pro ในการจัดอันดับล่าสุด จุดเด่นของ Grok คือความสามารถในการใช้เหตุผลเชิงลึกและการตอบสนองที่แม่นยำ ทำให้มันถูกจับตามองว่าอาจเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดโมเดล AI ระดับสูง 🔗 https://securityonline.info/grok-4-1-thinking-steals-1-spot-on-lmarena-surpassing-google-gemini-2-5-pro 🎨 Google เปิดตัว Canvas และ Agentic Booking ใน AI Mode Google อัปเกรด AI Mode โดยเพิ่มฟีเจอร์ Canvas สำหรับการวางแผน และ Agentic Booking สำหรับการจองที่พักหรือร้านอาหารแบบอัตโนมัติ ฟีเจอร์เหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ AI ในการจัดการงานประจำวันได้สะดวกขึ้น เช่น วางแผนทริปหรือจองโต๊ะอาหารโดยไม่ต้องทำเอง 🔗 https://securityonline.info/ai-mode-upgraded-google-launches-canvas-for-planning-and-agentic-booking-for-reservations 📡 เราเตอร์ D-Link DIR-878 หมดอายุการสนับสนุน พร้อมช่องโหว่ RCE ร้ายแรง D-Link ประกาศว่าเราเตอร์รุ่น DIR-878 เข้าสู่สถานะ End-of-Life (EOL) และจะไม่ได้รับการอัปเดตอีกต่อไป ทั้งที่ยังมีช่องโหว่ร้ายแรงถึง 3 จุดซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ทำให้ผู้ใช้ที่ยังใช้อุปกรณ์รุ่นนี้เสี่ยงต่อการถูกยึดระบบอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/d-link-dir-878-reaches-eol-3-unpatched-rce-flaws-allow-unauthenticated-remote-command-execution ⚙️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน METZ CONNECT Controller เปิดทาง RCE และยึดระบบ มีการค้นพบช่องโหว่ในอุปกรณ์ควบคุมอุตสาหกรรมของ METZ CONNECT ที่มีคะแนน CVSS สูงถึง 9.8 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันคำสั่งจากระยะไกลและเข้ายึดสิทธิ์ผู้ดูแลระบบได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ถือเป็นภัยคุกคามต่อระบบควบคุมอุตสาหกรรมที่ใช้กันในโรงงานและโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ 🔗 https://securityonline.info/critical-metz-connect-flaws-cvss-9-8-allow-unauthenticated-rce-and-admin-takeover-on-industrial-controllers 🖥️ SolarWinds Serv-U พบช่องโหว่ใหม่ เปิดทาง RCE และ Path Bypass นักวิจัยด้านความปลอดภัยรายงานช่องโหว่ร้ายแรงใน SolarWinds Serv-U ที่ทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบสามารถรันคำสั่งจากระยะไกลและเลี่ยงการตรวจสอบเส้นทางไฟล์ได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS 9.1 และถูกจัดว่าเป็นภัยคุกคามระดับสูงต่อองค์กรที่ใช้ Serv-U ในการจัดการไฟล์และระบบเครือข่าย 🔗 https://securityonline.info/critical-solarwinds-serv-u-flaws-cvss-9-1-allow-authenticated-admin-rce-and-path-bypass 🪙 การโจมตีซัพพลายเชน npm ด้วย CAPTCHA ปลอมและ Adspect Cloaking มีการตรวจพบการโจมตีซัพพลายเชนใน npm โดยแฮกเกอร์ใช้เทคนิค Adspect Cloaking และ CAPTCHA ปลอมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเพื่อหลอกนักพัฒนาและผู้ใช้ให้ดาวน์โหลดแพ็กเกจอันตราย การโจมตีนี้ทำให้ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักวิจัยด้านความปลอดภัยถูกหลอกได้ง่ายขึ้น และเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงในระบบซัพพลายเชนโอเพนซอร์ส 🔗 https://securityonline.info/npm-supply-chain-attack-hackers-use-adspect-cloaking-and-fake-crypto-captcha-to-deceive-victims-and-researchers 🖥️ ASUSTOR พบช่องโหว่ DLL Hijacking ร้ายแรง (CVE-2025-13051) ASUSTOR ออกประกาศเตือนถึงช่องโหว่ DLL hijacking ในซอฟต์แวร์ Backup Plan (ABP) และ EZSync (AES) บน Windows ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีในเครื่องสามารถแทนที่ DLL และรันโค้ดด้วยสิทธิ์ SYSTEM ได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS 9.3 และถูกจัดว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อทั้งผู้ใช้บ้านและองค์กร โดยมีการออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชันใหม่ 🔗 https://securityonline.info/critical-asustor-flaw-cve-2025-13051-allows-local-dll-hijacking-for-system-privilege-escalation ⚠️ ช่องโหว่ joserfc (CVE-2025-65015) ทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มด้วย JWT ขนาดใหญ่ มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในไลบรารี joserfc ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ JSON Web Token (JWT) โดยหากผู้โจมตีส่ง JWT ที่มีขนาดใหญ่ผิดปกติ จะทำให้เซิร์ฟเวอร์ใช้ทรัพยากรมากเกินไปจนล่มได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดว่าเป็นการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) และมีผลกระทบต่อระบบที่ใช้ joserfc ในการตรวจสอบสิทธิ์หรือการเข้ารหัสข้อมูล 🔗 https://securityonline.info/critical-cve-2025-65015-vulnerability-in-joserfc-could-let-attackers-exhaust-server-resources-via-oversized-jwt-tokens 🌍 หน่วยงาน CISA/FBI/NSA ร่วมกันจัดการโครงสร้าง Bulletproof Hosting สามหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ได้แก่ CISA, FBI และ NSA ได้ร่วมมือกันออกคู่มือใหม่เพื่อจัดการกับโครงสร้าง Bulletproof Hosting ที่ถูกใช้โดยอาชญากรไซเบอร์ทั่วโลก Bulletproof Hosting คือบริการโฮสติ้งที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้โจมตีจากการถูกปิดกั้นหรือสืบสวน การร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างแนวทางป้องกันภัยไซเบอร์ระดับโลก 🔗 https://securityonline.info/cisa-fbi-nsa-unite-to-dismantle-bulletproof-hosting-ecosystem-with-new-global-defense-guide
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ RCE ใน Apache Causeway

    Apache Causeway ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันเชิงโดเมนด้วย Java ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-64408 ที่อนุญาตให้ผู้โจมตีที่ล็อกอินแล้วสามารถส่ง payload ผ่าน URL parameters เพื่อให้ระบบทำการ deserialize ข้อมูลที่ควบคุมได้ และนำไปสู่การรันโค้ดอันตรายบนเซิร์ฟเวอร์

    รายละเอียดช่องโหว่
    ช่องโหว่นี้เกิดขึ้นในฟีเจอร์ ViewModel ของ Causeway ซึ่งใช้ในการสร้าง web interface และ REST API แบบไดนามิก โดยผู้โจมตีสามารถฝัง object ที่มีโค้ดอันตรายลงใน serialized data และเมื่อระบบทำการ deserialize จะทำให้โค้ดนั้นถูกรันในสิทธิ์ของแอปพลิเคชันทันที ส่งผลให้เกิด Remote Code Execution (RCE)

    การแก้ไขและแพตช์
    ทีม Apache Causeway ได้ออกเวอร์ชัน 3.5.0 เพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยแนะนำให้ผู้ใช้ที่ยังอยู่ในเวอร์ชัน 2.0.0 ถึง 3.4.0 และ 4.0.0-M1 รีบอัปเดตทันที เนื่องจากช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับ Critical Severity และอาจถูกนำไปใช้โจมตีในระบบ production ได้

    แนวโน้มและคำแนะนำ
    การโจมตีแบบ Java Deserialization เป็นหนึ่งในช่องโหว่ที่พบได้บ่อยในเฟรมเวิร์ก Java หลายตัว และมักถูกใช้ในการโจมตีจริงในองค์กร ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ ตรวจสอบการใช้ serialized objects ในระบบทั้งหมด และใช้วิธีการ serialize ที่ปลอดภัย เช่น JSON หรือ Protocol Buffers แทน

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    ช่องโหว่ CVE-2025-64408 พบใน Apache Causeway
    เกิดจากการ deserialize ข้อมูลที่ควบคุมได้ผ่าน URL parameters
    ส่งผลให้ผู้โจมตีที่ล็อกอินแล้วสามารถทำ RCE ได้
    แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 3.5.0

    คำเตือนจากข่าว
    ผู้ใช้ที่ยังใช้เวอร์ชัน 2.0.0 → 3.4.0 และ 4.0.0-M1 เสี่ยงต่อการถูกโจมตี
    หากไม่อัปเดตแพตช์ อาจทำให้ระบบ production ถูกเข้าควบคุมได้
    การใช้ Java Deserialization โดยไม่ตรวจสอบความปลอดภัยเป็นช่องโหว่ที่อันตรายมาก

    https://securityonline.info/critical-apache-causeway-rce-flaw-cve-2025-64408-allows-authenticated-code-execution-via-java-deserialization/
    🛡️ ช่องโหว่ RCE ใน Apache Causeway Apache Causeway ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันเชิงโดเมนด้วย Java ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-64408 ที่อนุญาตให้ผู้โจมตีที่ล็อกอินแล้วสามารถส่ง payload ผ่าน URL parameters เพื่อให้ระบบทำการ deserialize ข้อมูลที่ควบคุมได้ และนำไปสู่การรันโค้ดอันตรายบนเซิร์ฟเวอร์ ⚙️ รายละเอียดช่องโหว่ ช่องโหว่นี้เกิดขึ้นในฟีเจอร์ ViewModel ของ Causeway ซึ่งใช้ในการสร้าง web interface และ REST API แบบไดนามิก โดยผู้โจมตีสามารถฝัง object ที่มีโค้ดอันตรายลงใน serialized data และเมื่อระบบทำการ deserialize จะทำให้โค้ดนั้นถูกรันในสิทธิ์ของแอปพลิเคชันทันที ส่งผลให้เกิด Remote Code Execution (RCE) 🔒 การแก้ไขและแพตช์ ทีม Apache Causeway ได้ออกเวอร์ชัน 3.5.0 เพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยแนะนำให้ผู้ใช้ที่ยังอยู่ในเวอร์ชัน 2.0.0 ถึง 3.4.0 และ 4.0.0-M1 รีบอัปเดตทันที เนื่องจากช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับ Critical Severity และอาจถูกนำไปใช้โจมตีในระบบ production ได้ 🔮 แนวโน้มและคำแนะนำ การโจมตีแบบ Java Deserialization เป็นหนึ่งในช่องโหว่ที่พบได้บ่อยในเฟรมเวิร์ก Java หลายตัว และมักถูกใช้ในการโจมตีจริงในองค์กร ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ ตรวจสอบการใช้ serialized objects ในระบบทั้งหมด และใช้วิธีการ serialize ที่ปลอดภัย เช่น JSON หรือ Protocol Buffers แทน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-64408 พบใน Apache Causeway ➡️ เกิดจากการ deserialize ข้อมูลที่ควบคุมได้ผ่าน URL parameters ➡️ ส่งผลให้ผู้โจมตีที่ล็อกอินแล้วสามารถทำ RCE ได้ ➡️ แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 3.5.0 ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ ผู้ใช้ที่ยังใช้เวอร์ชัน 2.0.0 → 3.4.0 และ 4.0.0-M1 เสี่ยงต่อการถูกโจมตี ⛔ หากไม่อัปเดตแพตช์ อาจทำให้ระบบ production ถูกเข้าควบคุมได้ ⛔ การใช้ Java Deserialization โดยไม่ตรวจสอบความปลอดภัยเป็นช่องโหว่ที่อันตรายมาก https://securityonline.info/critical-apache-causeway-rce-flaw-cve-2025-64408-allows-authenticated-code-execution-via-java-deserialization/
    SECURITYONLINE.INFO
    Critical Apache Causeway RCE Flaw (CVE-2025-64408) Allows Authenticated Code Execution via Java Deserialization
    Apache patched a Critical RCE flaw (CVE-2025-64408) in Causeway allowing authenticated attackers to execute arbitrary code via Java deserialization in the ViewModel component. Update to v3.5.0.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • Windows 11 เพิ่มฟีเจอร์ Point-in-Time Restore

    Microsoft ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Point-in-Time Restore ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถย้อนระบบกลับไปยังสถานะก่อนหน้าที่บันทึกไว้ทุก 24 ชั่วโมง โดย snapshot จะถูกเก็บไว้ 72 ชั่วโมง ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดจาก อัปเดตผิดพลาด, ไดรเวอร์มีปัญหา, หรือการตั้งค่าที่ผิดพลาด ได้อย่างรวดเร็ว ฟีเจอร์นี้คล้ายกับ System Restore แต่ทำงานอัตโนมัติและมีความแม่นยำมากกว่า

    WinRE รองรับเครือข่ายอัตโนมัติ
    อีกหนึ่งการปรับปรุงคือ WinRE (Windows Recovery Environment) ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์เองเหมือนเดิม ระบบจะดึงไดรเวอร์จาก Windows หลักมาใช้ ทำให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแพตช์หรือแก้ไขปัญหาออนไลน์ได้สะดวกขึ้น โดยเริ่มจากการรองรับ Ethernet และจะขยายไปยัง Wi-Fi WPA2/3 ในอนาคต

    Cloud Rebuild สำหรับองค์กร
    Microsoft ยังเปิดตัว Cloud Rebuild ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถติดตั้ง Windows ใหม่โดยไม่สูญเสียข้อมูลผู้ใช้ ผ่านการเชื่อมต่อกับ OneDrive for Business ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อองค์กรที่ต้องการความต่อเนื่องในการทำงาน แม้เครื่องจะต้องถูกติดตั้งระบบใหม่ทั้งหมด

    ฟีเจอร์ซ่อนหน้าจอ Error บนจอแสดงผลสาธารณะ
    นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Commercial Display Devices ที่จะซ่อนข้อความ error บนหน้าจอสาธารณะ โดยจะแสดงเพียง 15 วินาทีแล้วหายไป เพื่อไม่ให้ผู้ชมเห็นข้อความผิดพลาดที่อาจสร้างความไม่เชื่อมั่น

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    ฟีเจอร์ Point-in-Time Restore บันทึก snapshot ทุก 24 ชั่วโมง และเก็บไว้ 72 ชั่วโมง
    WinRE รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายอัตโนมัติ เริ่มจาก Ethernet และจะเพิ่ม Wi-Fi WPA2/3
    Cloud Rebuild ช่วยติดตั้ง Windows ใหม่โดยไม่สูญเสียข้อมูลผู้ใช้ ผ่าน OneDrive for Business
    ฟีเจอร์ซ่อน error บนจอแสดงผลสาธารณะ แสดงเพียง 15 วินาทีแล้วหายไป

    คำเตือนจากข่าว
    Snapshot มีอายุเพียง 72 ชั่วโมง หากไม่กู้คืนทันเวลาอาจสูญเสียโอกาสแก้ไข
    การเชื่อมต่อ WinRE ผ่านเครือข่ายอาจเสี่ยงต่อการโจมตีหากไม่มีการป้องกันที่ดี
    Cloud Rebuild ต้องพึ่งพา OneDrive for Business หากระบบคลาวด์มีปัญหาอาจกระทบต่อการกู้คืน

    https://securityonline.info/new-windows-11-tools-point-in-time-restore-network-enabled-recovery-environment/
    🖥️ Windows 11 เพิ่มฟีเจอร์ Point-in-Time Restore Microsoft ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ Point-in-Time Restore ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถย้อนระบบกลับไปยังสถานะก่อนหน้าที่บันทึกไว้ทุก 24 ชั่วโมง โดย snapshot จะถูกเก็บไว้ 72 ชั่วโมง ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดจาก อัปเดตผิดพลาด, ไดรเวอร์มีปัญหา, หรือการตั้งค่าที่ผิดพลาด ได้อย่างรวดเร็ว ฟีเจอร์นี้คล้ายกับ System Restore แต่ทำงานอัตโนมัติและมีความแม่นยำมากกว่า 🌐 WinRE รองรับเครือข่ายอัตโนมัติ อีกหนึ่งการปรับปรุงคือ WinRE (Windows Recovery Environment) ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งไดรเวอร์เองเหมือนเดิม ระบบจะดึงไดรเวอร์จาก Windows หลักมาใช้ ทำให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแพตช์หรือแก้ไขปัญหาออนไลน์ได้สะดวกขึ้น โดยเริ่มจากการรองรับ Ethernet และจะขยายไปยัง Wi-Fi WPA2/3 ในอนาคต ☁️ Cloud Rebuild สำหรับองค์กร Microsoft ยังเปิดตัว Cloud Rebuild ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถติดตั้ง Windows ใหม่โดยไม่สูญเสียข้อมูลผู้ใช้ ผ่านการเชื่อมต่อกับ OneDrive for Business ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อองค์กรที่ต้องการความต่อเนื่องในการทำงาน แม้เครื่องจะต้องถูกติดตั้งระบบใหม่ทั้งหมด 📺 ฟีเจอร์ซ่อนหน้าจอ Error บนจอแสดงผลสาธารณะ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Commercial Display Devices ที่จะซ่อนข้อความ error บนหน้าจอสาธารณะ โดยจะแสดงเพียง 15 วินาทีแล้วหายไป เพื่อไม่ให้ผู้ชมเห็นข้อความผิดพลาดที่อาจสร้างความไม่เชื่อมั่น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ ฟีเจอร์ Point-in-Time Restore บันทึก snapshot ทุก 24 ชั่วโมง และเก็บไว้ 72 ชั่วโมง ➡️ WinRE รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายอัตโนมัติ เริ่มจาก Ethernet และจะเพิ่ม Wi-Fi WPA2/3 ➡️ Cloud Rebuild ช่วยติดตั้ง Windows ใหม่โดยไม่สูญเสียข้อมูลผู้ใช้ ผ่าน OneDrive for Business ➡️ ฟีเจอร์ซ่อน error บนจอแสดงผลสาธารณะ แสดงเพียง 15 วินาทีแล้วหายไป ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ Snapshot มีอายุเพียง 72 ชั่วโมง หากไม่กู้คืนทันเวลาอาจสูญเสียโอกาสแก้ไข ⛔ การเชื่อมต่อ WinRE ผ่านเครือข่ายอาจเสี่ยงต่อการโจมตีหากไม่มีการป้องกันที่ดี ⛔ Cloud Rebuild ต้องพึ่งพา OneDrive for Business หากระบบคลาวด์มีปัญหาอาจกระทบต่อการกู้คืน https://securityonline.info/new-windows-11-tools-point-in-time-restore-network-enabled-recovery-environment/
    SECURITYONLINE.INFO
    New Windows 11 Tools: Point-in-Time Restore & Network-Enabled Recovery Environment
    Windows 11 is getting new recovery tools: Point-in-Time Restore (default 24-hr snapshots) and Network-Enabled WinRE for automatic driver and internet access.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link DIR-878 ที่หมดอายุการสนับสนุน

    D-Link ได้ออกประกาศเตือนผู้ใช้เราเตอร์รุ่น DIR-878 ว่าพบช่องโหว่ร้ายแรงถึง 4 จุด ซึ่งรวมถึงการ Remote Command Execution (RCE) โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งเข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ทันที หากเราเตอร์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตโดยตรง ความเสี่ยงนี้ถือว่าสูงมาก เพราะผู้ใช้ไม่สามารถอัปเดตแพตช์แก้ไขได้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ถูกจัดอยู่ในสถานะ End-of-Life (EOL) ตั้งแต่ปี 2021

    มุมมองจากวงการไซเบอร์
    รายงานจากหลายสำนักข่าวด้านความปลอดภัยระบุว่า ช่องโหว่เหล่านี้ครอบคลุมทั้งการ Command Injection ผ่าน Dynamic DNS และ DMZ Settings รวมถึง Buffer Overflow จาก USB Serial Number และการ QoS Rule Injection ซึ่งทั้งหมดสามารถนำไปสู่การเข้าควบคุมระบบได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยเตือนว่าหากผู้ใช้ยังคงใช้งานอุปกรณ์นี้ อาจถูกใช้เป็นฐานโจมตีเพื่อแพร่มัลแวร์หรือบอทเน็ตได้

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้และองค์กร
    สิ่งที่น่ากังวลคือการโจมตีสามารถทำได้จากระยะไกลโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ซึ่งหมายความว่าแม้ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ใช่เป้าหมายโดยตรงก็อาจถูกโจมตีได้ หากอุปกรณ์ยังเปิดใช้งานอยู่ในบ้านหรือสำนักงาน การปล่อยให้เราเตอร์ที่หมดอายุการสนับสนุนเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจึงเท่ากับเปิดประตูให้แฮกเกอร์เข้ามาในเครือข่ายโดยตรง

    แนวโน้มและคำแนะนำ
    ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยแนะนำให้ผู้ใช้ เปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์รุ่นใหม่ที่ยังได้รับการสนับสนุน และควรตรวจสอบอุปกรณ์เครือข่ายอื่น ๆ ที่อาจหมดอายุการสนับสนุนแล้วเช่นกัน แนวโน้มในอนาคตคือการโจมตีอุปกรณ์ IoT และเราเตอร์ที่ไม่ได้รับการอัปเดตจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นจุดอ่อนที่เข้าถึงง่ายและมักถูกละเลย

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    D-Link DIR-878 หมดอายุการสนับสนุนตั้งแต่ปี 2021
    พบช่องโหว่ร้ายแรง 4 จุด (Dynamic DNS, DMZ, USB Buffer Overflow, QoS Injection)
    ช่องโหว่เปิดโอกาสให้โจมตีแบบ Remote Command Execution โดยไม่ต้องล็อกอิน

    คำเตือนจากข่าว
    ผู้ใช้ที่ยังใช้งานเราเตอร์รุ่นนี้เสี่ยงถูกโจมตีและควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ
    อุปกรณ์ที่หมดอายุการสนับสนุนไม่สามารถอัปเดตแพตช์แก้ไขได้
    การปล่อยให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอาจทำให้เครือข่ายบ้านหรือองค์กรถูกเจาะทะลวง

    https://securityonline.info/d-link-dir-878-reaches-eol-3-unpatched-rce-flaws-allow-unauthenticated-remote-command-execution/
    🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link DIR-878 ที่หมดอายุการสนับสนุน D-Link ได้ออกประกาศเตือนผู้ใช้เราเตอร์รุ่น DIR-878 ว่าพบช่องโหว่ร้ายแรงถึง 4 จุด ซึ่งรวมถึงการ Remote Command Execution (RCE) โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่งเข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ทันที หากเราเตอร์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตโดยตรง ความเสี่ยงนี้ถือว่าสูงมาก เพราะผู้ใช้ไม่สามารถอัปเดตแพตช์แก้ไขได้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ถูกจัดอยู่ในสถานะ End-of-Life (EOL) ตั้งแต่ปี 2021 🌐 มุมมองจากวงการไซเบอร์ รายงานจากหลายสำนักข่าวด้านความปลอดภัยระบุว่า ช่องโหว่เหล่านี้ครอบคลุมทั้งการ Command Injection ผ่าน Dynamic DNS และ DMZ Settings รวมถึง Buffer Overflow จาก USB Serial Number และการ QoS Rule Injection ซึ่งทั้งหมดสามารถนำไปสู่การเข้าควบคุมระบบได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยเตือนว่าหากผู้ใช้ยังคงใช้งานอุปกรณ์นี้ อาจถูกใช้เป็นฐานโจมตีเพื่อแพร่มัลแวร์หรือบอทเน็ตได้ ⚠️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้และองค์กร สิ่งที่น่ากังวลคือการโจมตีสามารถทำได้จากระยะไกลโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ซึ่งหมายความว่าแม้ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ใช่เป้าหมายโดยตรงก็อาจถูกโจมตีได้ หากอุปกรณ์ยังเปิดใช้งานอยู่ในบ้านหรือสำนักงาน การปล่อยให้เราเตอร์ที่หมดอายุการสนับสนุนเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจึงเท่ากับเปิดประตูให้แฮกเกอร์เข้ามาในเครือข่ายโดยตรง 🔮 แนวโน้มและคำแนะนำ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยแนะนำให้ผู้ใช้ เปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์รุ่นใหม่ที่ยังได้รับการสนับสนุน และควรตรวจสอบอุปกรณ์เครือข่ายอื่น ๆ ที่อาจหมดอายุการสนับสนุนแล้วเช่นกัน แนวโน้มในอนาคตคือการโจมตีอุปกรณ์ IoT และเราเตอร์ที่ไม่ได้รับการอัปเดตจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นจุดอ่อนที่เข้าถึงง่ายและมักถูกละเลย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ D-Link DIR-878 หมดอายุการสนับสนุนตั้งแต่ปี 2021 ➡️ พบช่องโหว่ร้ายแรง 4 จุด (Dynamic DNS, DMZ, USB Buffer Overflow, QoS Injection) ➡️ ช่องโหว่เปิดโอกาสให้โจมตีแบบ Remote Command Execution โดยไม่ต้องล็อกอิน ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ ผู้ใช้ที่ยังใช้งานเราเตอร์รุ่นนี้เสี่ยงถูกโจมตีและควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ⛔ อุปกรณ์ที่หมดอายุการสนับสนุนไม่สามารถอัปเดตแพตช์แก้ไขได้ ⛔ การปล่อยให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอาจทำให้เครือข่ายบ้านหรือองค์กรถูกเจาะทะลวง https://securityonline.info/d-link-dir-878-reaches-eol-3-unpatched-rce-flaws-allow-unauthenticated-remote-command-execution/
    SECURITYONLINE.INFO
    D-Link DIR-878 Reaches EOL: 3 Unpatched RCE Flaws Allow Unauthenticated Remote Command Execution
    D-Link warned that DIR-878 has reached EOL with three unpatched RCE flaws. Unauthenticated remote attackers can execute arbitrary commands via Dynamic DNS and DMZ settings due to insecure CGI parameters.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขยับหมาก ตอนที่ 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก”
    ตอน 2
    อังกฤษไม่มีวันทำใจได้ที่เห็นรัส เซียยังคงอยู่ได้ และยังอยู่ดี ทฤษฏีครูMac เกี่ยวกับ Eurasia มันยังหลอนอยู่ ผมไม่เล่าซ้ำแล้ว หาอ่านเอาแล้วกัน อยู่ในนิทานสาระพัดเรื่อง
    รายงานการวิเคราะห์ของ Chatham House เรื่อง Russia Challenge รัสเซียกำเริบ ที่เพิ่งออกมานี่ แทบจะเดาได้ว่า เขียนว่าอะไร มันเหมือนกับเขียนวิเคราะห์จิตใต้สำนึกของอังกฤษมากกว่าการเขียนวิเคราะห์รัสเซีย
    ถังขยะ Chatham House บรรยายสรุปว่า
    ” บทวิเคราะห์เรื่อง Russia Challenge นี้ ทำขึ้นจากการเฝ้ามองพฤติกรรมของรัสเซียตั้งแต่หลังสงครามเย็นจนถึงปี ค.ศ.2003 ซึ่งประเทศต่างๆคิดว่า รัสเซียใหม่อาจเข้ามาอยู่ในระบบของยุโรปได้ ในฐานะตัวเแสดงที่สร้างสรร และไม่เป็นอันตราย แต่หลังจากนั้น ความเห็นดังกล่าวค่อยๆเปลี่ยนไป และในที่สุดก็มีความเห็นพ้อง สรุปกันว่า จากพฤติกรรมต่างๆของรัสเซียเอง ทำให้เห็นว่า รัสเซียไม่เหมาะที่จะเป็นหุ้นส่วนและมิตรด้วยเลย partner and ally ความแตกต่างของรัสเซียมีมากเกินกว่าที่จะสามารถมีผลประโยชน์ร่วมกัน… ”
    เขียนแบบนี้ แถวบ้านผมเขาแปลสั้นๆ ว่า “กูไม่คบมึง กูไม่ชอบมึง”
    “ความแตกต่างที่พวกตะวันตก “ทน” รัสเซียไม่ได้ที่สำคัญ คือ :
    1. นโยบาย ” new model Russia” ของปูติน เป็นนโยบายที่ตั้งใจเป็นอิสระ ที่จะไม่เข้ากับใคร และไม่ขึ้นกับใคร
    2. ปูตินไม่เปิดทางเลือกให้กับผู้อื่น หรือเปิดอย่างแคบมาก
    3. ปูติน ใช้พรรคพวกในการควบคุม ทั้งด้านเศรษฐกิจ และความมั่นคง ทำให้ใครแทรกยาก
    4. รัสเซีย ยากจน และเศรษฐกิจกำลังถดถอย แต่ยังดันเพิ่มงบประมาณด้านกำลังอาวุธ
    5. การคว่ำบาตรรัสเซีย จากเรื่องยูเครน ไม่เพียงพอให้รัสเซียถอยจากยูเครน ตรงกันข้าม กลับเป็นทางออกให้รัสเซียนำมาอ้างว่า เรื่องคว่ำบาตร เป็นต้นเหตุของความล้มเหลวทางเศรษฐกิจของรัสเซีย แต่เรื่องคว่ำบาตรก็ยังเลิกไม่ได้ และการเผชิญหน้าก็ยังมีอยู่ต่อไป
    6. เทคนิคที่รัสเซียใช้คือ สร้างความไม่เป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน การขู่ว่าจะตัดการส่งพลังงาน การทำสงครามไซเบอร์ในรูปแบบต่างๆ และที่รัสเซียใช้บ่อยที่สุดคือ ทำให้ข้อขัดแย้งยืดเยื้อ เป็นปัญหาอยู่ตลอดเวลา หรือแช่แข็งไว้ เพื่อหวังผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
    7. รัสเซียพยายามอย่างยิ่งยวด ที่จะสร้างให้ตัวเอง “เท่าเทียม” กับอเมริกา และทำทุกอย่างเพื่อให้ถึงเป้าหมายนั้น โดยไม่คำนึงว่า จะสร้างผลกระทบกับใคร อย่างไรบ้าง …”
    ตกลงเรื่องต่างๆ ที่อังกฤษบอกว่า “ทน” รัสเซียไม่ได้นี่ แปลง่ายๆว่า เพราะ “สั่ง” รัสเซียไม่ได้ และเป็นเรื่องที่พวกตะวันตกยัง แก้ลำรัสเซียไม่ได้ จึง”ทน” รัสเซียไม่ได้ใช่ไหม สำหรับผม หัวข้อทนไม่ได้ นี่น่าจะถือเป็นคำชมนะ น่าจะทำให้รัสเซียชอบใจ เหมือนได้ยินคำสารภาพ ของฝ่ายที่กำลังเสียแต้ม ฮา
    “ข้อเสนอแนะ ของถังขยะ :
    แม้ว่าพวกตะวันตกจะประเมินรัสเซียในบางเรื่องต่างกันบ้าง แต่ทั้งหมดเห็นพ้องกันว่า รัสเซียไม่มีทางมาเป็นส่วนหนึ่งยุโรป ตามกฏเกณท์ กติกาที่ยุโรปใช้อยู่ ยกเว้นแต่ รัสเซียจะมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของประเทศ ตั้งแต่พื้นฐาน และการเปลี่ยนแปลงต้องมาจากภายในรัสเซียเอง ดังนั้น พวกตะวันตกจะต้องร่วมมือกันคิดอย่างจริงจัง ถึงยุทธศาสตร์ที่จะใช้กับรัสเซีย ซึ่งจะต้องใช้มุมมองเดียวกันทั้งทรานสแอตแลนติกและยุโรป โดยเฉพาะ ต้องมองรัสเซียจากพฤติกรรมของรัส เซียเอง ไม่ใช่มองแบบง่ายๆ หรือจากการเล่ากันต่อๆมา policy must be based on the evidence of Russia’s behaviour, not on convenience or fashionable narratives…
    การร่วมมือของพวกตะวันตก อย่างเข้มงวดจริงจัง เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จ ผู้ที่จะเป็นตัวหลัก ในการทำงาน จะต้องมีแนวทางเดียวกัน และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด……”
    โอ้โห อันนี้ มันฟ้องตัวเองว่า ไม่มีเอกภาพเท่าไหร่ในพวกตะวันตก แถมแดกใครครับ ที่มองรัสเซียแบบง่าย สงสัยจะเป็นฝรั่งเศส ลุงโอลอง เพื่อนผมมังนะ เห็นแอบไปจี๋จ๋ากับคุณน้องปูตินบ่อยๆ
    เป้าหมายทางยุทธศาสตร์สำหรับตะวันตก ที่ถังขยะเสนอ :
    “1. ยับยั้งการรุกรานของรัสเซียกับประเทศเพื่อนบ้านในยุโรป แต่อย่าทำ โดยไม่มีทางออกเผื่อไว้ หากสถานการณ์เปลี่ยน เช่น ปูตินร่วงไป หรืออาจมีหัวหน้าคนใหม่ของรัสเซียที่อยากคบกับตะวันตกก็ได้ ถ้าเศรษฐกิจของรัสเซียไปไม่รอด และการคบกับจีนอาจมีต้นทุนสูงเกินไป ถ้าจีนโตขึ้นเรื่อยๆ รัสเซียอาจอยากกลับมาอยู่กับยุโรปอีกก็เป็นได้”
    …. แปลว่า มีแผนจะจัดการเอาคุณพี่ปูตินของผมเก็บลงกล่อง.. ขณะเดียวกันก็เสี้ยมเรื่องอาเฮียเสียหน่อย…..
    “2. ต้องเสริมสร้างเกียรติภูมิของยุโรป ด้านการรักษาความมั่นคงใหม่ โดยเฉพาะแต่ละประเทศต้องดูแลรักษาเขตแดนของตัวเองได้ และตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของประเทศตัวเองได้ ”
    ….. แปลว่า ยุโรปอ่อนระทวย ดูแลตัวเองไม่ได้ แหม ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯนี่เก่งนะ เรือดำน้ำรัสเซียโผล่ใกล้บ้านหลายที ทำอะไรเขาไม่ได้ เลยแต่ด่าคนอื่นแทน….
    “3. ต้องพยายามหาทางที่จะสื่อสารกับคนรัสเซียว่า ในระยะไกล การอยู่ร่วมกับยุโรปเป็นผลดีกับรัสเซียมากกว่า”
    …. มาแล้ว โรงงานฟอกย้อม….
    “4. หาทางที่จะหารือกับจีน และประเทศที่เป็นอดีตรัฐของรัสเซีย ให้พิจารณานโยบายของรัสเซีย ว่าจะเป็นปัญหาต่อไปอย่างไร บางประเทศมีปัญหาในการมองรัสเซียด้านเดียว”
    ….. อันนี้ เป็นรายการ เสี้ยม…..
    “5. ให้เตรียมพร้อม สำหรับความวุ่นวาย และโอกาสที่จะเกิดขึ้น จากการเปลี่ยนตัวผู้นำของรัสเซีย”
    …..ข้อนี้น่าสนใจมาก …. คิดจะทำอะไรหรือครับ ..
    “6. ต้องพยายามแย่งรัสเซีย และชาวรัสเซียมาจากปูติน สิ่งที่พวกตะวันตกกำลังทำอยู่โดยการไม่สนใจ ไม่ยุ่งกับรัสเซีย กลายเป็นการส่งเสริมให้รัสเซียตกอยู่ในมือปูตินหนักขึ้น”
    …..สร้างกระบวนการแย่งประชาชน แผนมาตรฐาน ใช้มันทุกที่….
    นโยบาย ที่ถังขยะเสนอว่า ต้องทำอย่างเฉพาะเจาะจง :
    “1. สร้างยูเครนให้เข้มแข็ง ดูแลตัวเองได้ ถ้าเอายูเครนไม่อยู่ ยุโรปตะวันออกเซหมด และเพิ่มความผยองให้กับรัสเซีย ทำให้โอกาสที่จะ “เปลี่ยน” รัสเซียริบหรี่ลงไปด้วย”
    “2. ประเทศที่เป็นอียูตะวันออก ต้องปรับปรุงให้เป็นเครื่องมือสำคัญของอียู และต้องพร้อมที่จะมีการปฏิรูปทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจอย่างจริงจัง”
    “3. การคว่ำบาตรรัสเซียจะมีผลต่อเมื่อคว่ำ “นาน “และ “แรง” การคว่ำบาตรจากกรณียูเครน ปลดให้ง่ายๆไม่ได้ และการจะยกเลิกการคว่ำบาตรโดยเอาไปโยงกับการทำ Minsk Accord เป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่าที่สุด”
    “4. พวกตะวันตก ต้องไม่กลับไปทำการค้ากับรัสเซียอย่างเดิม do business as usual จนกว่าเรื่องยูเครนจะจบ ด้วยการที่รัสเซียยอมทำตามภาระ ความรับผิดชอบ ตามกฏหมายสากล international legal obligations”
    “5. นโยบายด้านพลังงานของอียู ต้องมีเป้าหมายที่จะตัดอำนาจการต่อรองของรัสเซีย ออกไปจากตลาดพลังงาน ไม่ใช่แค่ตัดการส่งพลังงานให้ยุโรป ดังนั้นการยกเลิกโครงการ South Stream pipeline เป็นเรื่องต้องทำ และแผนการที่รัสเสียกำลังสร้าง “energy island” ในยุโรป ต้องไม่ให้สำเร็จ”
    …. มาแล้ว เรื่องกรีซ/ตุรกี…..
    “6. พวกตะวันตก ต้องลงทุนในการใช้สื่อเป็นยุทธศาสตร์ตอบโต้กับการอวดอ้างที่ผิดๆของเครมลิน ต้องทำทั้งระดับประเทศ ผ่านอียูและนาโต้ ร่วมมือกัน ต้องสร้างช่องทางที่จะเข้าถึงชาวรัสเซียทั่วไป โดยผ่านการศึกษา และสัมพันธ์ด้านบุคคลอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน”
    …..โรงงานฟอกย้อม เตรียมหาสีได้แล้ว……
    “7. นาโต้ ต้องสร้างผลงานว่า สามารถยับยั้งการรุกรานได้ โดยเฉพาะต้องแสดงให้เห็นว่า การจำกัดรุกราน ที่ยังคลุมเคลือ หรือมาหลายรูปแบบ เป็นเรื่องที่นาโต้จัดการได้อย่างไม่มีปัญหา”
    …….อายแทน นาโต้จัง อย่าด่าตรงนักซิพี่….
    “8. นาโต้ ต้องซ่อมชื่อเสียงที่เคยมีว่า สามารถยับยั้งการรุกราน ที่มาในรูปแบบธรรมดา ให้ได้อย่างเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นจะทำให้รัสเซียฉวยโอกาส สร้าง และซ้อมเป้ามากขึ้น”
    ….. แสดงว่า นาโต้ ลุ้นไม่ขึ้นแล้ว….
    “9. แต่ละประเทศในอียู อียูเอง รวมทั้งกองกำลังเสริมจากภายนอก External Action Service จำเป็นที่จะต้องกลับมาวิเคราะห์ และทำความเข้าใจ กับความเป็นไปของรัสเซีย และประเทศเพื่อนบ้านเสียใหม่ ความเข้าใจที่ถูกต้อง จะช่วยนำมาใช้เป็นข้อมูลให้การวางนโยบาย”
    ……นโยบาย 9 ข้อ นี่ ผมชอบจัง เหมือนคำสารภาพอีกแล้ว คุณพี่ปูติน อ่านแล้วก็คงหัวร่อในคอ นี่เจาะจงไปที่อียู โดยเฉพาะอียูตะวันออก กับนาโต้ ล้วนๆ ให้เห็นว่า “ถ้า” รบกัน อียูกับนาโต้ ไม่มีทางต้านรัสเซียอยู่หรอก การบ้านเพียบเลย จะทำทันไหมครับ…
    ” …การดำเนินการตามเป้าหมายดังกล่าวข้างต้น จะทำให้พวกตะวันตก เตรียมตัวในการรับมือ กับสัมพันธภาพกับรัสเซีย ที่นับวันมีแต่จะเลวลง และใครที่คิดว่าคุยกับปูตินก็ยังดีกว่า เพราะผู้นำรัสเซียคนใหม่อาจแย่กว่า นั้น คิดแบบนั้น มีแต่จะนำแต่ความล้มเหลวมาให้ตัว ไม่ว่าผู้นำรัสเซียคนใหม่จะเป็นใคร ปูตินจะอยู่ต่อไปอีก หรือ “ไปก่อนเวลา” prematurely replaced มันก็สร้างความกระทบกระเทือนไปทั่วทั้งนั้นแหละ
    18 เดือนที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นข้อสรุปว่า การมองรัสเซียในแง่ดี ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ที่ถูกต้อง…”
    จบได้แรงนะ น่าสงสัยว่า ไม่ใช่แค่ อียู นาโต้ ที่ต้องปรับปรุง ผู้รับตัวจริง ที่การวิเคราะห์นี้ ต้องการจะส่งไปถึง น่าจะเป็น พณฯใบตองแห้งของอเมริกา เสียมากกว่า ที่มีแนวคิดว่า รัสเซียอยู่ไกลบ้านอเมริกา เกิดอะไรขึ้นมา นาโต้และยุโรป รับไปก่อน แถม พณฯใบตองแห้ง ยังเปลี่ยนนโยบาย โยกกำลัง จากแอตแลนติก ไปเพิ่มให้ทางแปซิฟิกมากกว่า เพราะตอนนั้นเริ่มปอดแหกอาเฮีย และแม้อเมริกาจะใช้วิธีการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างเต็มพิกัดแล้ว แต่ในสายตาของอังกฤษ การดำเนินการของอเมริกาต่อรัสเซีย โดยเฉพาะการประเมินปูตินเบาไปนั้น น่าจะไม่พอรับมือรัสเซีย ยังไม่ถึงใจอังกฤษ ที่มองเห็นและประทับตราให้รัสเซียเป็นศัตรูถาวร
    แล้วจริงๆ อเมริกามีแผนอะไรเตรียมไว้ให้รัสเซียอีกหรือไม่ หรือประเมินคุณพี่ปูตินของผมเบาเท่าปุยนุ่น
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    16 ก.ค. 2558
    ขยับหมาก ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก” ตอน 2 อังกฤษไม่มีวันทำใจได้ที่เห็นรัส เซียยังคงอยู่ได้ และยังอยู่ดี ทฤษฏีครูMac เกี่ยวกับ Eurasia มันยังหลอนอยู่ ผมไม่เล่าซ้ำแล้ว หาอ่านเอาแล้วกัน อยู่ในนิทานสาระพัดเรื่อง รายงานการวิเคราะห์ของ Chatham House เรื่อง Russia Challenge รัสเซียกำเริบ ที่เพิ่งออกมานี่ แทบจะเดาได้ว่า เขียนว่าอะไร มันเหมือนกับเขียนวิเคราะห์จิตใต้สำนึกของอังกฤษมากกว่าการเขียนวิเคราะห์รัสเซีย ถังขยะ Chatham House บรรยายสรุปว่า ” บทวิเคราะห์เรื่อง Russia Challenge นี้ ทำขึ้นจากการเฝ้ามองพฤติกรรมของรัสเซียตั้งแต่หลังสงครามเย็นจนถึงปี ค.ศ.2003 ซึ่งประเทศต่างๆคิดว่า รัสเซียใหม่อาจเข้ามาอยู่ในระบบของยุโรปได้ ในฐานะตัวเแสดงที่สร้างสรร และไม่เป็นอันตราย แต่หลังจากนั้น ความเห็นดังกล่าวค่อยๆเปลี่ยนไป และในที่สุดก็มีความเห็นพ้อง สรุปกันว่า จากพฤติกรรมต่างๆของรัสเซียเอง ทำให้เห็นว่า รัสเซียไม่เหมาะที่จะเป็นหุ้นส่วนและมิตรด้วยเลย partner and ally ความแตกต่างของรัสเซียมีมากเกินกว่าที่จะสามารถมีผลประโยชน์ร่วมกัน… ” เขียนแบบนี้ แถวบ้านผมเขาแปลสั้นๆ ว่า “กูไม่คบมึง กูไม่ชอบมึง” “ความแตกต่างที่พวกตะวันตก “ทน” รัสเซียไม่ได้ที่สำคัญ คือ : 1. นโยบาย ” new model Russia” ของปูติน เป็นนโยบายที่ตั้งใจเป็นอิสระ ที่จะไม่เข้ากับใคร และไม่ขึ้นกับใคร 2. ปูตินไม่เปิดทางเลือกให้กับผู้อื่น หรือเปิดอย่างแคบมาก 3. ปูติน ใช้พรรคพวกในการควบคุม ทั้งด้านเศรษฐกิจ และความมั่นคง ทำให้ใครแทรกยาก 4. รัสเซีย ยากจน และเศรษฐกิจกำลังถดถอย แต่ยังดันเพิ่มงบประมาณด้านกำลังอาวุธ 5. การคว่ำบาตรรัสเซีย จากเรื่องยูเครน ไม่เพียงพอให้รัสเซียถอยจากยูเครน ตรงกันข้าม กลับเป็นทางออกให้รัสเซียนำมาอ้างว่า เรื่องคว่ำบาตร เป็นต้นเหตุของความล้มเหลวทางเศรษฐกิจของรัสเซีย แต่เรื่องคว่ำบาตรก็ยังเลิกไม่ได้ และการเผชิญหน้าก็ยังมีอยู่ต่อไป 6. เทคนิคที่รัสเซียใช้คือ สร้างความไม่เป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน การขู่ว่าจะตัดการส่งพลังงาน การทำสงครามไซเบอร์ในรูปแบบต่างๆ และที่รัสเซียใช้บ่อยที่สุดคือ ทำให้ข้อขัดแย้งยืดเยื้อ เป็นปัญหาอยู่ตลอดเวลา หรือแช่แข็งไว้ เพื่อหวังผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต 7. รัสเซียพยายามอย่างยิ่งยวด ที่จะสร้างให้ตัวเอง “เท่าเทียม” กับอเมริกา และทำทุกอย่างเพื่อให้ถึงเป้าหมายนั้น โดยไม่คำนึงว่า จะสร้างผลกระทบกับใคร อย่างไรบ้าง …” ตกลงเรื่องต่างๆ ที่อังกฤษบอกว่า “ทน” รัสเซียไม่ได้นี่ แปลง่ายๆว่า เพราะ “สั่ง” รัสเซียไม่ได้ และเป็นเรื่องที่พวกตะวันตกยัง แก้ลำรัสเซียไม่ได้ จึง”ทน” รัสเซียไม่ได้ใช่ไหม สำหรับผม หัวข้อทนไม่ได้ นี่น่าจะถือเป็นคำชมนะ น่าจะทำให้รัสเซียชอบใจ เหมือนได้ยินคำสารภาพ ของฝ่ายที่กำลังเสียแต้ม ฮา “ข้อเสนอแนะ ของถังขยะ : แม้ว่าพวกตะวันตกจะประเมินรัสเซียในบางเรื่องต่างกันบ้าง แต่ทั้งหมดเห็นพ้องกันว่า รัสเซียไม่มีทางมาเป็นส่วนหนึ่งยุโรป ตามกฏเกณท์ กติกาที่ยุโรปใช้อยู่ ยกเว้นแต่ รัสเซียจะมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของประเทศ ตั้งแต่พื้นฐาน และการเปลี่ยนแปลงต้องมาจากภายในรัสเซียเอง ดังนั้น พวกตะวันตกจะต้องร่วมมือกันคิดอย่างจริงจัง ถึงยุทธศาสตร์ที่จะใช้กับรัสเซีย ซึ่งจะต้องใช้มุมมองเดียวกันทั้งทรานสแอตแลนติกและยุโรป โดยเฉพาะ ต้องมองรัสเซียจากพฤติกรรมของรัส เซียเอง ไม่ใช่มองแบบง่ายๆ หรือจากการเล่ากันต่อๆมา policy must be based on the evidence of Russia’s behaviour, not on convenience or fashionable narratives… การร่วมมือของพวกตะวันตก อย่างเข้มงวดจริงจัง เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จ ผู้ที่จะเป็นตัวหลัก ในการทำงาน จะต้องมีแนวทางเดียวกัน และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด……” โอ้โห อันนี้ มันฟ้องตัวเองว่า ไม่มีเอกภาพเท่าไหร่ในพวกตะวันตก แถมแดกใครครับ ที่มองรัสเซียแบบง่าย สงสัยจะเป็นฝรั่งเศส ลุงโอลอง เพื่อนผมมังนะ เห็นแอบไปจี๋จ๋ากับคุณน้องปูตินบ่อยๆ เป้าหมายทางยุทธศาสตร์สำหรับตะวันตก ที่ถังขยะเสนอ : “1. ยับยั้งการรุกรานของรัสเซียกับประเทศเพื่อนบ้านในยุโรป แต่อย่าทำ โดยไม่มีทางออกเผื่อไว้ หากสถานการณ์เปลี่ยน เช่น ปูตินร่วงไป หรืออาจมีหัวหน้าคนใหม่ของรัสเซียที่อยากคบกับตะวันตกก็ได้ ถ้าเศรษฐกิจของรัสเซียไปไม่รอด และการคบกับจีนอาจมีต้นทุนสูงเกินไป ถ้าจีนโตขึ้นเรื่อยๆ รัสเซียอาจอยากกลับมาอยู่กับยุโรปอีกก็เป็นได้” …. แปลว่า มีแผนจะจัดการเอาคุณพี่ปูตินของผมเก็บลงกล่อง.. ขณะเดียวกันก็เสี้ยมเรื่องอาเฮียเสียหน่อย….. “2. ต้องเสริมสร้างเกียรติภูมิของยุโรป ด้านการรักษาความมั่นคงใหม่ โดยเฉพาะแต่ละประเทศต้องดูแลรักษาเขตแดนของตัวเองได้ และตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของประเทศตัวเองได้ ” ….. แปลว่า ยุโรปอ่อนระทวย ดูแลตัวเองไม่ได้ แหม ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯนี่เก่งนะ เรือดำน้ำรัสเซียโผล่ใกล้บ้านหลายที ทำอะไรเขาไม่ได้ เลยแต่ด่าคนอื่นแทน…. “3. ต้องพยายามหาทางที่จะสื่อสารกับคนรัสเซียว่า ในระยะไกล การอยู่ร่วมกับยุโรปเป็นผลดีกับรัสเซียมากกว่า” …. มาแล้ว โรงงานฟอกย้อม…. “4. หาทางที่จะหารือกับจีน และประเทศที่เป็นอดีตรัฐของรัสเซีย ให้พิจารณานโยบายของรัสเซีย ว่าจะเป็นปัญหาต่อไปอย่างไร บางประเทศมีปัญหาในการมองรัสเซียด้านเดียว” ….. อันนี้ เป็นรายการ เสี้ยม….. “5. ให้เตรียมพร้อม สำหรับความวุ่นวาย และโอกาสที่จะเกิดขึ้น จากการเปลี่ยนตัวผู้นำของรัสเซีย” …..ข้อนี้น่าสนใจมาก …. คิดจะทำอะไรหรือครับ .. “6. ต้องพยายามแย่งรัสเซีย และชาวรัสเซียมาจากปูติน สิ่งที่พวกตะวันตกกำลังทำอยู่โดยการไม่สนใจ ไม่ยุ่งกับรัสเซีย กลายเป็นการส่งเสริมให้รัสเซียตกอยู่ในมือปูตินหนักขึ้น” …..สร้างกระบวนการแย่งประชาชน แผนมาตรฐาน ใช้มันทุกที่…. นโยบาย ที่ถังขยะเสนอว่า ต้องทำอย่างเฉพาะเจาะจง : “1. สร้างยูเครนให้เข้มแข็ง ดูแลตัวเองได้ ถ้าเอายูเครนไม่อยู่ ยุโรปตะวันออกเซหมด และเพิ่มความผยองให้กับรัสเซีย ทำให้โอกาสที่จะ “เปลี่ยน” รัสเซียริบหรี่ลงไปด้วย” “2. ประเทศที่เป็นอียูตะวันออก ต้องปรับปรุงให้เป็นเครื่องมือสำคัญของอียู และต้องพร้อมที่จะมีการปฏิรูปทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจอย่างจริงจัง” “3. การคว่ำบาตรรัสเซียจะมีผลต่อเมื่อคว่ำ “นาน “และ “แรง” การคว่ำบาตรจากกรณียูเครน ปลดให้ง่ายๆไม่ได้ และการจะยกเลิกการคว่ำบาตรโดยเอาไปโยงกับการทำ Minsk Accord เป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่าที่สุด” “4. พวกตะวันตก ต้องไม่กลับไปทำการค้ากับรัสเซียอย่างเดิม do business as usual จนกว่าเรื่องยูเครนจะจบ ด้วยการที่รัสเซียยอมทำตามภาระ ความรับผิดชอบ ตามกฏหมายสากล international legal obligations” “5. นโยบายด้านพลังงานของอียู ต้องมีเป้าหมายที่จะตัดอำนาจการต่อรองของรัสเซีย ออกไปจากตลาดพลังงาน ไม่ใช่แค่ตัดการส่งพลังงานให้ยุโรป ดังนั้นการยกเลิกโครงการ South Stream pipeline เป็นเรื่องต้องทำ และแผนการที่รัสเสียกำลังสร้าง “energy island” ในยุโรป ต้องไม่ให้สำเร็จ” …. มาแล้ว เรื่องกรีซ/ตุรกี….. “6. พวกตะวันตก ต้องลงทุนในการใช้สื่อเป็นยุทธศาสตร์ตอบโต้กับการอวดอ้างที่ผิดๆของเครมลิน ต้องทำทั้งระดับประเทศ ผ่านอียูและนาโต้ ร่วมมือกัน ต้องสร้างช่องทางที่จะเข้าถึงชาวรัสเซียทั่วไป โดยผ่านการศึกษา และสัมพันธ์ด้านบุคคลอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน” …..โรงงานฟอกย้อม เตรียมหาสีได้แล้ว…… “7. นาโต้ ต้องสร้างผลงานว่า สามารถยับยั้งการรุกรานได้ โดยเฉพาะต้องแสดงให้เห็นว่า การจำกัดรุกราน ที่ยังคลุมเคลือ หรือมาหลายรูปแบบ เป็นเรื่องที่นาโต้จัดการได้อย่างไม่มีปัญหา” …….อายแทน นาโต้จัง อย่าด่าตรงนักซิพี่…. “8. นาโต้ ต้องซ่อมชื่อเสียงที่เคยมีว่า สามารถยับยั้งการรุกราน ที่มาในรูปแบบธรรมดา ให้ได้อย่างเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นจะทำให้รัสเซียฉวยโอกาส สร้าง และซ้อมเป้ามากขึ้น” ….. แสดงว่า นาโต้ ลุ้นไม่ขึ้นแล้ว…. “9. แต่ละประเทศในอียู อียูเอง รวมทั้งกองกำลังเสริมจากภายนอก External Action Service จำเป็นที่จะต้องกลับมาวิเคราะห์ และทำความเข้าใจ กับความเป็นไปของรัสเซีย และประเทศเพื่อนบ้านเสียใหม่ ความเข้าใจที่ถูกต้อง จะช่วยนำมาใช้เป็นข้อมูลให้การวางนโยบาย” ……นโยบาย 9 ข้อ นี่ ผมชอบจัง เหมือนคำสารภาพอีกแล้ว คุณพี่ปูติน อ่านแล้วก็คงหัวร่อในคอ นี่เจาะจงไปที่อียู โดยเฉพาะอียูตะวันออก กับนาโต้ ล้วนๆ ให้เห็นว่า “ถ้า” รบกัน อียูกับนาโต้ ไม่มีทางต้านรัสเซียอยู่หรอก การบ้านเพียบเลย จะทำทันไหมครับ… ” …การดำเนินการตามเป้าหมายดังกล่าวข้างต้น จะทำให้พวกตะวันตก เตรียมตัวในการรับมือ กับสัมพันธภาพกับรัสเซีย ที่นับวันมีแต่จะเลวลง และใครที่คิดว่าคุยกับปูตินก็ยังดีกว่า เพราะผู้นำรัสเซียคนใหม่อาจแย่กว่า นั้น คิดแบบนั้น มีแต่จะนำแต่ความล้มเหลวมาให้ตัว ไม่ว่าผู้นำรัสเซียคนใหม่จะเป็นใคร ปูตินจะอยู่ต่อไปอีก หรือ “ไปก่อนเวลา” prematurely replaced มันก็สร้างความกระทบกระเทือนไปทั่วทั้งนั้นแหละ 18 เดือนที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นข้อสรุปว่า การมองรัสเซียในแง่ดี ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ที่ถูกต้อง…” จบได้แรงนะ น่าสงสัยว่า ไม่ใช่แค่ อียู นาโต้ ที่ต้องปรับปรุง ผู้รับตัวจริง ที่การวิเคราะห์นี้ ต้องการจะส่งไปถึง น่าจะเป็น พณฯใบตองแห้งของอเมริกา เสียมากกว่า ที่มีแนวคิดว่า รัสเซียอยู่ไกลบ้านอเมริกา เกิดอะไรขึ้นมา นาโต้และยุโรป รับไปก่อน แถม พณฯใบตองแห้ง ยังเปลี่ยนนโยบาย โยกกำลัง จากแอตแลนติก ไปเพิ่มให้ทางแปซิฟิกมากกว่า เพราะตอนนั้นเริ่มปอดแหกอาเฮีย และแม้อเมริกาจะใช้วิธีการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างเต็มพิกัดแล้ว แต่ในสายตาของอังกฤษ การดำเนินการของอเมริกาต่อรัสเซีย โดยเฉพาะการประเมินปูตินเบาไปนั้น น่าจะไม่พอรับมือรัสเซีย ยังไม่ถึงใจอังกฤษ ที่มองเห็นและประทับตราให้รัสเซียเป็นศัตรูถาวร แล้วจริงๆ อเมริกามีแผนอะไรเตรียมไว้ให้รัสเซียอีกหรือไม่ หรือประเมินคุณพี่ปูตินของผมเบาเท่าปุยนุ่น สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 16 ก.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขยับหมาก ตอนที่ 1

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก”
    ตอน 1
    เดือนกรกฏา ผ่านไปแค่ครึ่งเดือน เหตุการณ์ต่างๆทยอยกันมาเหมือน น้ำหลาก ทั้งๆที่ฝนแล้ง ผมตามอ่าน ตามขุด จนมึนหัวไปหมดยังไม่ทันการ เหตุการณ์พลิกผันสาระพัด แถมมีทั้งแผนล่อแผนลวง ข้อมูลบางแหล่งที่เคยเชื่อได้ ก็ชักจะต้องชั่งหลายหนว่าให้น้ำ หนักเก๊หรือเปล่า ผมไม่ได้รู้ไปหมด มีผิดพลาดได้ ผิดก็ขออภัย ท้วงมาแล้วกันครับ แล้วก็ช่วยกันหาที่ถูก เอามาแลกเปลี่ยนความคิดกัน หรือถ้า ผมเจอข้อมูลใหม่ ที่ทันสมัย หักล้าง น่าเชื่อถือ หรือลึกกว่าที่เคยขุดได้มา ผมก็จะมาขยายต่อ การศึกษา ค้นหา เรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด
    ดูซิ อย่างเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ที่เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 13 มิย เพิ่งออกข่าวว่า ตกลงเขายังไม่ตกลงกัน ยืดแล้วยืดอีก เหมือนหนังสติ๊กหมดอายุ จนนักข่าวที่ไปนั่งรอทำข่าว หน้าเหี่ยวเหงื่อตกกันหมด เขาบอกว่ายุโรปปีนี้ร้อนอร่อย เบียร์ยังอุ่นเลย นั่งรอการแถลงข่าวมาตั้งกะหัวค่ำ เปรี้ยวปากกันเป็นแถว พอตกดึก 2 ยามกว่าบ้านเรา CNN ก็ออกข่าว โดยโฆษกรูปหล่อประจำทำเนียบขาว ออกมาแถลงข่าวว่า ยัง…ยังไม่มีข้อตกลง นักข่าวถามว่า แล้วจะมีเมื่อไหร่ 1 วัน 2 วัน 2 อาทิตย์ รูปหล่อบอก เราไม่ได้เน้นเรื่องกำหนดเวลา เราต้องการให้ เป็นการตกลงที่ไม่มีปัญหา ไม่สร้างปัญหามากกว่า นักข่าวถามอีกว่า แล้วมีปัญหาอะไร ปัญหามาจากฝ่ายไหน …. ถามมากจัง ใครจะไปตอบได้ รูปหล่อชักเลิกลั่ก ….. ว่าแล้ว CNN ก็ตัดข่าวไปเรื่องสำคัญกว่า เกี่ยวกับเรื่องไอ้พวกค้ายา 46 คนแทน โอ้ย… ฮาจริง
    แต่แล้ววันรุ่งขึ้น คือวันอังคารที่ 14 มิย ผมเปิดทีวี ตอนบ่ายแก่ๆ เย็นอ่อนๆ ประมาณ 4โมงเย็น ก็เห็น CNN ขึ้นหัวข่าวไว้แล้วว่า อิหร่านตกลงได้แล้ว อ้าว เมื่อคืนยังบอกไม่รู้เลยไอ้เบื้อก ผู้ประกาศทำเสียงตื่นเต้น จนผมไม่กล้านอนดูอย่างเคย หลังจากนั้น ก็มีการไปสัมภาษณ์ผู้ชำนาญการต่างๆ ซึ่งสรุปว่า ตกลงกันได้เสียที เสียเวลารอมานาน แต่ไม่มีใครเห็นด้วยเท่าไหร่ว่า เป็นข้อตกลงที่ดี และไม่มีใครเชื่อขี้หน้าอิหร่านว่าจะทำตามที่ตกลงได้ สัมภาษณ์วน พูดซ้ำ จนค่ำ พณฯ ใบตองแห้ง ถึงได้ออกมาทำหน้าเครียดตาแข็ง แถลงเอง
    “….เราตกลงกับอิหร่านแล้ว ใครว่าไม่สมควร เราว่าสมควร เราต้องแสดงให้เห็นว่า เรา ที่เป็นชาติที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่สุด ไม่จำเป็นต้องจัดการกับปัญหาด้วยการใช้กำลังเสมอไป เราใช้วิธีทางการทูตได้ … การที่เราทำเช่นนี้ ทำให้อิหร่านหมดทางที่จะผลิตนิวเคลียร์ไป 15 ปี อิหร่านเป็นประเทศที่ความสำคัญที่สุด ต่อผลประโยชน์ของอเมริกา……”
    หลังจากนั้น ผมก็ต้องขออนุญาตพณฯท่าน ปิดเสียง ขืนฟังต่อ เปลืองยาแย่ ฝ่ายอิหร่าน ก็มีการแถลงข่าวที่กรุงเตหะรานว่า ข้อตกลงบรรลุถึงวัตถุประสงค์ reached all objectives ส่วนอิสราเอล ออกมาบอกว่า เป็นการตกลงที่เลวร้ายที่สุดในโลก
    อืม… ปาหี่นี้ เขาเล่นกันได้น่าตื่นเต้น...สมจริงกันดี คงเข้าใจนะครับว่า มันมีความหมายว่าอย่างไร ก็แค่ไม่มีใครอยากออกมาโดนประทับหน้า ว่าเป็นคนทำให้งานล่ม
    เอาเป็นว่า เขาว่า เขาตกลงกันได้แล้ว แต่มีขั้นตอนการทำงานอีกมากมายที่ต้องไปทำต่อจะทำได้แค่ไหน อย่างไร นานเท่าไหน ก็ดูกันต่อไป อย่างน้อยรัฐสภาอเมริกัน ก็มีเวลาประมาญ 60 วัน ในการตรวจสอบข้อตกลง ก่อนที่จะไปลงความเห็นในรัฐสภา ระหว่างนี้ จะเติมสี ตีไข่ยังก็ได้ ต้ัง 60 วัน
    เรามาดูภาพใหญ่ ทำความเข้าใจภาพรวมให้มากที่สุดกันดีกว่า ขืนตามข่าวทุกวันที่เขาเอามาเล่นหลอกเรา มึนหัวตายทั้งคนเขียนคนอ่าน ก่อนจะเดินหน้าเล่าเรื่อง เพื่อให้เห็นภาพใหญ่ ขอถอยหลังทบทวนของเก่ากันหน่อย
    คงจำกันได้ เมื่อเดือนมีนาคม ถังขยะความคิดหมายเลขหนึ่ง ของบ้านไอ้นักล่าใบตองแห้ง Council on Foreign Relations หรือ CFR ผู้กำกับรัฐบาลอเมริกัน ได้ออกแผนสอยมังกร Grand Strategy สำหรับสยบจีน ที่แสดงถึงความกร่าง ดูถูก ปรามาส และประมาทใส่จีน มาให้เราฮือฮาไปแล้ว แต่ไอ้นักล่าใบตองแห้งคงจะเห็นว่า ชาวโลกคงตกใจไม่พอ หรือยังไม่แน่ใจกับความยิ่งใหญ่ อย่างชนิดไม่มีผู้ใด บังอาจจะกล้าทาบรัศมีของอเมริกา มันเป็นความต้ังใจของอเมริกา ที่จะใหญ่อย่างนี้แต่ผู้เดียวตลอดกาลนาน อย่างที่อังกฤษ ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เคยคิดมาเป็นศตวรรษ แต่บัดนี้ ความคิดนั้นกลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว ชาวเกาะใหญ่ทำได้เพียงแค่ “นึกถึง” ความคิดนั้น อย่างขมขื่นอยู่ในอกฟีบและซีด แหม แดกซะยาวเลยนะลุง กว่าจะเลี้ยวกลับไปเข้าเรื่อง
    อเมริกาด่าจีนแค่นั้น เกรงจะไม่พอให้โลกตื่นเต้น อเมริกาเพิ่มแรงอัด เอาญี่ปุ่น มาอาบน้ำแต่งตัว เตรียมพร้อมที่จะไปแบกถาดรับใช้อเมริกา ถึงขนาดเตรียมการที่จะแก้การตีความกฏหมายรัฐธรรมนูญของประเทศ ที่กำหนดให้ญี่ปุ่นมีกองกำลัง เพียงเพื่อดูแลป้องกันตัวเองเท่า นั้น Self Defence Force (SDF) มาถึงวันนี้ แม้การขอให้สภาอนุมัติ ยอมให้ตีความใหม่ ให้กองกำลังญี่ปุ่น SDF แบกถาดไปได้ทั่วโลก ยังไม่สำเร็จ แต่ญี่ปุ่นก็เดินหน้าไปไกล โดยไม่รอสภา ก็นายท่านสั่งมา…
    SDF ของญี่ปุ่น เพิ่งไปทำการฝึกร่วมที่แดนจิ้งโจ้กับพวกจิงโจ้ และลูกพี่ใหญ่จากค่ายใบตองแห้ง แต่ฝึกเสร็จแล้วดูเหมือน จะแบกถาดหายวับไปกับตา ไม่รู้ไปซ่อนอยู่ตามเกาะไหนในมหาสมุทรแปซิฟิก กองทัพหายตัว แต่ตัวนายอาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลานรักของอดีตหัวหน้าใหญ่ยากูซ่า ก็ออกมาประกาศอย่างเข้มแข็งว่า ญี่ปุ่นพร้อมรบจีน นับว่าฝึกแบกถาดได้รวดเร็ว มีอนาคต แต่อนาคตไปทางไหน ก็อดใจรอดูกันหน่อย ส่วนนายกจิ้งโจ้ก็ออกมาบอกว่า กำลังรักกันจังกับคนแบกถาด และว่ามีเพื่อนซี้แถบเอเซียแยะ ไล่ชื่อให้นักข่าวฟัง โปรดจำกันไว้ด้วยว่า ไม่มีชื่อแดนสยามของสมันน้อย ว่าเป็นเพื่อน แต่มีชื่อเวียตนาม จำไว้นะ จำไว้ให้ดี
    อ้าว แล้วนี่จะปล่อยให้อเมริกา ทำตัวเป็นฝรั่งออกแขก เต้นอยู่หน้าโรงลิเกเจ้าเดียวได้ยังไง ว่าแล้วคู่หู หรือลูกพี่ ก็ต้องรีบแต่งตัว มาโชว์ลีลาด้วย กลัวไม่ได้ส่วนแบ่ง
    Chatham House หรือชื่อเต็มว่า The Royal Institute of International Affairs ถังขยะความคิด ฝาแฝดผู้พี่ ของ CFR ก็เพิ่งออกรายงานล่าสุด เมื่อเดือนมิถุนายนนี้ ตั้งชื่อรายงานได้สยองไม่แพ้แฝด น้อง “The Russian Challenge” รัสเซียกำเริบ (แปลภาษาลุงนิทาน) เรียกว่าแฝดแต่ละฝา ต่างออกมาประกบ คู่รัก กันคนละราย รายการแบ่งข้าง ศึกชิงแชมป์คราวนี้ คงมันยกร่อง สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 โปรดหลบไปห่างๆ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    15 ก.ค. 2558
    ขยับหมาก ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก” ตอน 1 เดือนกรกฏา ผ่านไปแค่ครึ่งเดือน เหตุการณ์ต่างๆทยอยกันมาเหมือน น้ำหลาก ทั้งๆที่ฝนแล้ง ผมตามอ่าน ตามขุด จนมึนหัวไปหมดยังไม่ทันการ เหตุการณ์พลิกผันสาระพัด แถมมีทั้งแผนล่อแผนลวง ข้อมูลบางแหล่งที่เคยเชื่อได้ ก็ชักจะต้องชั่งหลายหนว่าให้น้ำ หนักเก๊หรือเปล่า ผมไม่ได้รู้ไปหมด มีผิดพลาดได้ ผิดก็ขออภัย ท้วงมาแล้วกันครับ แล้วก็ช่วยกันหาที่ถูก เอามาแลกเปลี่ยนความคิดกัน หรือถ้า ผมเจอข้อมูลใหม่ ที่ทันสมัย หักล้าง น่าเชื่อถือ หรือลึกกว่าที่เคยขุดได้มา ผมก็จะมาขยายต่อ การศึกษา ค้นหา เรียนรู้ ไม่มีที่สิ้นสุด ดูซิ อย่างเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ที่เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 13 มิย เพิ่งออกข่าวว่า ตกลงเขายังไม่ตกลงกัน ยืดแล้วยืดอีก เหมือนหนังสติ๊กหมดอายุ จนนักข่าวที่ไปนั่งรอทำข่าว หน้าเหี่ยวเหงื่อตกกันหมด เขาบอกว่ายุโรปปีนี้ร้อนอร่อย เบียร์ยังอุ่นเลย นั่งรอการแถลงข่าวมาตั้งกะหัวค่ำ เปรี้ยวปากกันเป็นแถว พอตกดึก 2 ยามกว่าบ้านเรา CNN ก็ออกข่าว โดยโฆษกรูปหล่อประจำทำเนียบขาว ออกมาแถลงข่าวว่า ยัง…ยังไม่มีข้อตกลง นักข่าวถามว่า แล้วจะมีเมื่อไหร่ 1 วัน 2 วัน 2 อาทิตย์ รูปหล่อบอก เราไม่ได้เน้นเรื่องกำหนดเวลา เราต้องการให้ เป็นการตกลงที่ไม่มีปัญหา ไม่สร้างปัญหามากกว่า นักข่าวถามอีกว่า แล้วมีปัญหาอะไร ปัญหามาจากฝ่ายไหน …. ถามมากจัง ใครจะไปตอบได้ รูปหล่อชักเลิกลั่ก ….. ว่าแล้ว CNN ก็ตัดข่าวไปเรื่องสำคัญกว่า เกี่ยวกับเรื่องไอ้พวกค้ายา 46 คนแทน โอ้ย… ฮาจริง แต่แล้ววันรุ่งขึ้น คือวันอังคารที่ 14 มิย ผมเปิดทีวี ตอนบ่ายแก่ๆ เย็นอ่อนๆ ประมาณ 4โมงเย็น ก็เห็น CNN ขึ้นหัวข่าวไว้แล้วว่า อิหร่านตกลงได้แล้ว อ้าว เมื่อคืนยังบอกไม่รู้เลยไอ้เบื้อก ผู้ประกาศทำเสียงตื่นเต้น จนผมไม่กล้านอนดูอย่างเคย หลังจากนั้น ก็มีการไปสัมภาษณ์ผู้ชำนาญการต่างๆ ซึ่งสรุปว่า ตกลงกันได้เสียที เสียเวลารอมานาน แต่ไม่มีใครเห็นด้วยเท่าไหร่ว่า เป็นข้อตกลงที่ดี และไม่มีใครเชื่อขี้หน้าอิหร่านว่าจะทำตามที่ตกลงได้ สัมภาษณ์วน พูดซ้ำ จนค่ำ พณฯ ใบตองแห้ง ถึงได้ออกมาทำหน้าเครียดตาแข็ง แถลงเอง “….เราตกลงกับอิหร่านแล้ว ใครว่าไม่สมควร เราว่าสมควร เราต้องแสดงให้เห็นว่า เรา ที่เป็นชาติที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่สุด ไม่จำเป็นต้องจัดการกับปัญหาด้วยการใช้กำลังเสมอไป เราใช้วิธีทางการทูตได้ … การที่เราทำเช่นนี้ ทำให้อิหร่านหมดทางที่จะผลิตนิวเคลียร์ไป 15 ปี อิหร่านเป็นประเทศที่ความสำคัญที่สุด ต่อผลประโยชน์ของอเมริกา……” หลังจากนั้น ผมก็ต้องขออนุญาตพณฯท่าน ปิดเสียง ขืนฟังต่อ เปลืองยาแย่ ฝ่ายอิหร่าน ก็มีการแถลงข่าวที่กรุงเตหะรานว่า ข้อตกลงบรรลุถึงวัตถุประสงค์ reached all objectives ส่วนอิสราเอล ออกมาบอกว่า เป็นการตกลงที่เลวร้ายที่สุดในโลก อืม… ปาหี่นี้ เขาเล่นกันได้น่าตื่นเต้น...สมจริงกันดี คงเข้าใจนะครับว่า มันมีความหมายว่าอย่างไร ก็แค่ไม่มีใครอยากออกมาโดนประทับหน้า ว่าเป็นคนทำให้งานล่ม เอาเป็นว่า เขาว่า เขาตกลงกันได้แล้ว แต่มีขั้นตอนการทำงานอีกมากมายที่ต้องไปทำต่อจะทำได้แค่ไหน อย่างไร นานเท่าไหน ก็ดูกันต่อไป อย่างน้อยรัฐสภาอเมริกัน ก็มีเวลาประมาญ 60 วัน ในการตรวจสอบข้อตกลง ก่อนที่จะไปลงความเห็นในรัฐสภา ระหว่างนี้ จะเติมสี ตีไข่ยังก็ได้ ต้ัง 60 วัน เรามาดูภาพใหญ่ ทำความเข้าใจภาพรวมให้มากที่สุดกันดีกว่า ขืนตามข่าวทุกวันที่เขาเอามาเล่นหลอกเรา มึนหัวตายทั้งคนเขียนคนอ่าน ก่อนจะเดินหน้าเล่าเรื่อง เพื่อให้เห็นภาพใหญ่ ขอถอยหลังทบทวนของเก่ากันหน่อย คงจำกันได้ เมื่อเดือนมีนาคม ถังขยะความคิดหมายเลขหนึ่ง ของบ้านไอ้นักล่าใบตองแห้ง Council on Foreign Relations หรือ CFR ผู้กำกับรัฐบาลอเมริกัน ได้ออกแผนสอยมังกร Grand Strategy สำหรับสยบจีน ที่แสดงถึงความกร่าง ดูถูก ปรามาส และประมาทใส่จีน มาให้เราฮือฮาไปแล้ว แต่ไอ้นักล่าใบตองแห้งคงจะเห็นว่า ชาวโลกคงตกใจไม่พอ หรือยังไม่แน่ใจกับความยิ่งใหญ่ อย่างชนิดไม่มีผู้ใด บังอาจจะกล้าทาบรัศมีของอเมริกา มันเป็นความต้ังใจของอเมริกา ที่จะใหญ่อย่างนี้แต่ผู้เดียวตลอดกาลนาน อย่างที่อังกฤษ ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เคยคิดมาเป็นศตวรรษ แต่บัดนี้ ความคิดนั้นกลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว ชาวเกาะใหญ่ทำได้เพียงแค่ “นึกถึง” ความคิดนั้น อย่างขมขื่นอยู่ในอกฟีบและซีด แหม แดกซะยาวเลยนะลุง กว่าจะเลี้ยวกลับไปเข้าเรื่อง อเมริกาด่าจีนแค่นั้น เกรงจะไม่พอให้โลกตื่นเต้น อเมริกาเพิ่มแรงอัด เอาญี่ปุ่น มาอาบน้ำแต่งตัว เตรียมพร้อมที่จะไปแบกถาดรับใช้อเมริกา ถึงขนาดเตรียมการที่จะแก้การตีความกฏหมายรัฐธรรมนูญของประเทศ ที่กำหนดให้ญี่ปุ่นมีกองกำลัง เพียงเพื่อดูแลป้องกันตัวเองเท่า นั้น Self Defence Force (SDF) มาถึงวันนี้ แม้การขอให้สภาอนุมัติ ยอมให้ตีความใหม่ ให้กองกำลังญี่ปุ่น SDF แบกถาดไปได้ทั่วโลก ยังไม่สำเร็จ แต่ญี่ปุ่นก็เดินหน้าไปไกล โดยไม่รอสภา ก็นายท่านสั่งมา… SDF ของญี่ปุ่น เพิ่งไปทำการฝึกร่วมที่แดนจิ้งโจ้กับพวกจิงโจ้ และลูกพี่ใหญ่จากค่ายใบตองแห้ง แต่ฝึกเสร็จแล้วดูเหมือน จะแบกถาดหายวับไปกับตา ไม่รู้ไปซ่อนอยู่ตามเกาะไหนในมหาสมุทรแปซิฟิก กองทัพหายตัว แต่ตัวนายอาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น หลานรักของอดีตหัวหน้าใหญ่ยากูซ่า ก็ออกมาประกาศอย่างเข้มแข็งว่า ญี่ปุ่นพร้อมรบจีน นับว่าฝึกแบกถาดได้รวดเร็ว มีอนาคต แต่อนาคตไปทางไหน ก็อดใจรอดูกันหน่อย ส่วนนายกจิ้งโจ้ก็ออกมาบอกว่า กำลังรักกันจังกับคนแบกถาด และว่ามีเพื่อนซี้แถบเอเซียแยะ ไล่ชื่อให้นักข่าวฟัง โปรดจำกันไว้ด้วยว่า ไม่มีชื่อแดนสยามของสมันน้อย ว่าเป็นเพื่อน แต่มีชื่อเวียตนาม จำไว้นะ จำไว้ให้ดี อ้าว แล้วนี่จะปล่อยให้อเมริกา ทำตัวเป็นฝรั่งออกแขก เต้นอยู่หน้าโรงลิเกเจ้าเดียวได้ยังไง ว่าแล้วคู่หู หรือลูกพี่ ก็ต้องรีบแต่งตัว มาโชว์ลีลาด้วย กลัวไม่ได้ส่วนแบ่ง Chatham House หรือชื่อเต็มว่า The Royal Institute of International Affairs ถังขยะความคิด ฝาแฝดผู้พี่ ของ CFR ก็เพิ่งออกรายงานล่าสุด เมื่อเดือนมิถุนายนนี้ ตั้งชื่อรายงานได้สยองไม่แพ้แฝด น้อง “The Russian Challenge” รัสเซียกำเริบ (แปลภาษาลุงนิทาน) เรียกว่าแฝดแต่ละฝา ต่างออกมาประกบ คู่รัก กันคนละราย รายการแบ่งข้าง ศึกชิงแชมป์คราวนี้ คงมันยกร่อง สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 โปรดหลบไปห่างๆ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 15 ก.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts