• การทานอาหารตามธาตุเจ้าเรือน เป็นศาสตร์แห่งการรักษาสุขภาพด้วยการทานอาหาร ซึ่งตามทฤษฎีการแพทย์แผนไทยได้กล่าวว่า ร่างกายของคนเรานั้นล้วนประกอบขึ้นด้วยธาตุต่างๆ ได้แก่ธาตุไฟ ธาตุลม ธาตุน้ำ ธาตุดิน เมื่อธาตุทั้งสี่ในร่างกายสมดุลแล้ว จะไม่ค่อยเจ็บป่วย แต่หากขาดสมดุลแล้วจะเกิดการเจ็บป่วยจากจุดอ่อนด้านสุขภาพของคนตามธาตุเจ้าเรือน
    ธาตุไฟ คือ ผู้ที่เกิด (เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์-มีนาคม)
    ผู้ที่เกิดธาตุนี้ขี้ร้อน หงุดหงิดง่าย เป็นลมพิษ ปวดหัวบ่อย ผิวแห้งและท้องผูกบ่อย
    ดังนั้นควรรับประทานควรเป็นรสเย็น รสขม รสจืด เพื่อช่วยลดความร้อนในร่างกาย โดยเมนูตัวอย่างที่แนะนำ เช่น ต้มจืดฟักหมู ต้มจืดตำลึง แตงกวาผัดไข่ น้ำเก๊กฮวย เป็นต้น
    ธาตุลม คือ ผู้ที่เกิด (เดือนเมษายน-พฤษภาคม-มิถุนายน)
    ผู้ที่เกิดธาตุลม มักมีลมอยู่ภายในร่างกายค่อนข้างมาก ก็จะส่งผลให้มีอาการท้องอืด ปวดเส้น หน้ามืด วิงเวียน ปวดหัว นอนไม่หลับ
    ดังนั้นควรรับประทานควรเป็นรสเผ็ดร้อน เพื่อกระจายและลดธาตุลม ได้แก่ ต้มยำกุ้ง ไก่ผัดขิง ต้มข่าไก่ บัวลอยน้ำขิง เป็นต้น
    ธาตุน้ำ คือ ผู้ที่เกิด (เดือนกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน)
    ผู้ที่เกิดธาตุน้ำจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก โรคที่พบได้ค่อนข้างบ่อยสำหรับผู้ที่เกิดธาตุน้ำได้แก่ โรคภูมิแพ้ น้ำเหลืองเสีย ขาบวม อ้วน โรคเนื้องอก ซีสต์
    ดังนั้นควรรับประทานควรเป็นรสเปรี้ยว รสขม เพื่อปรับสมดุลน้ำในร่างกาย ได้แก่ ต้มจืดมะระ แกงส้มดอกแค ห่อหมกใบยอ น้ำใบบัวบก เป็นต้น
    ธาตุดิน คือ ผู้ที่เกิด (ตุลาคม-พฤศจิกายน-ธันวาคม)
    ผู้ที่เกิดธาตุดินควรรับประทานอาหารรส ฝาด หวาน มัน เค็ม เพื่อบำรุงกำลัง ได้แก่ แกงคั่วขนุน สะตอผัดกุ้ง ผัดฟัดทอง ผัดผักหวาน น้ำอ้อย เป็นต้น
    ----
    สนใจผลิตภัณฑ์และขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่…
    Line OA : https://lin.ee/MOFhjQs
    Facebook : https://www.facebook.com/qr?id=100090076934583
    #โปรโมชั่นสุดคุ้ม #ผลิตภัณฑ์สมุนไพร #ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม #สยามไภษัชย์ #วิลิตา #เฮอร์บาติก้า #Siamphaisat #Vilita #Herbatika #thaitimes
    การทานอาหารตามธาตุเจ้าเรือน เป็นศาสตร์แห่งการรักษาสุขภาพด้วยการทานอาหาร ซึ่งตามทฤษฎีการแพทย์แผนไทยได้กล่าวว่า ร่างกายของคนเรานั้นล้วนประกอบขึ้นด้วยธาตุต่างๆ ได้แก่ธาตุไฟ ธาตุลม ธาตุน้ำ ธาตุดิน เมื่อธาตุทั้งสี่ในร่างกายสมดุลแล้ว จะไม่ค่อยเจ็บป่วย แต่หากขาดสมดุลแล้วจะเกิดการเจ็บป่วยจากจุดอ่อนด้านสุขภาพของคนตามธาตุเจ้าเรือน ธาตุไฟ คือ ผู้ที่เกิด (เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์-มีนาคม) ผู้ที่เกิดธาตุนี้ขี้ร้อน หงุดหงิดง่าย เป็นลมพิษ ปวดหัวบ่อย ผิวแห้งและท้องผูกบ่อย ดังนั้นควรรับประทานควรเป็นรสเย็น รสขม รสจืด เพื่อช่วยลดความร้อนในร่างกาย โดยเมนูตัวอย่างที่แนะนำ เช่น ต้มจืดฟักหมู ต้มจืดตำลึง แตงกวาผัดไข่ น้ำเก๊กฮวย เป็นต้น ธาตุลม คือ ผู้ที่เกิด (เดือนเมษายน-พฤษภาคม-มิถุนายน) ผู้ที่เกิดธาตุลม มักมีลมอยู่ภายในร่างกายค่อนข้างมาก ก็จะส่งผลให้มีอาการท้องอืด ปวดเส้น หน้ามืด วิงเวียน ปวดหัว นอนไม่หลับ ดังนั้นควรรับประทานควรเป็นรสเผ็ดร้อน เพื่อกระจายและลดธาตุลม ได้แก่ ต้มยำกุ้ง ไก่ผัดขิง ต้มข่าไก่ บัวลอยน้ำขิง เป็นต้น ธาตุน้ำ คือ ผู้ที่เกิด (เดือนกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน) ผู้ที่เกิดธาตุน้ำจะมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก โรคที่พบได้ค่อนข้างบ่อยสำหรับผู้ที่เกิดธาตุน้ำได้แก่ โรคภูมิแพ้ น้ำเหลืองเสีย ขาบวม อ้วน โรคเนื้องอก ซีสต์ ดังนั้นควรรับประทานควรเป็นรสเปรี้ยว รสขม เพื่อปรับสมดุลน้ำในร่างกาย ได้แก่ ต้มจืดมะระ แกงส้มดอกแค ห่อหมกใบยอ น้ำใบบัวบก เป็นต้น ธาตุดิน คือ ผู้ที่เกิด (ตุลาคม-พฤศจิกายน-ธันวาคม) ผู้ที่เกิดธาตุดินควรรับประทานอาหารรส ฝาด หวาน มัน เค็ม เพื่อบำรุงกำลัง ได้แก่ แกงคั่วขนุน สะตอผัดกุ้ง ผัดฟัดทอง ผัดผักหวาน น้ำอ้อย เป็นต้น ---- สนใจผลิตภัณฑ์และขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่… Line OA : https://lin.ee/MOFhjQs Facebook : https://www.facebook.com/qr?id=100090076934583 #โปรโมชั่นสุดคุ้ม #ผลิตภัณฑ์สมุนไพร #ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม #สยามไภษัชย์ #วิลิตา #เฮอร์บาติก้า #Siamphaisat #Vilita #Herbatika #thaitimes
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 436 มุมมอง 0 รีวิว
  • แถลงการณ์วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    ฉบับที่ 001/2567
    เรื่อง ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง

    ​จากสถานการณ์โรคระบาดฝีดาษลิงในต่างประเทศซึ่งมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยองค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ซึ่งในเวลาต่อมาอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่าได้พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงคนแรกในประเทศไทยแล้ว โดยผู้ติดเชื้อดังกล่าวได้เดินทางมาจากประเทศแถบทวีปแอฟริกา ข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนคนไทยโดยทั่วไป เกิดความสับสนในข่าวสารและแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต จึงเห็นสมควรให้ชี้แจงกับประชาชน ให้ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง ดังต่อไปนี้

    ​​ประการแรก ตามรายงานในต่างประเทศซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Lancet ฉบับเผยแพร่เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 พบว่ามีผู้ป่วยส่วนใหญ่กักตัวที่บ้าน มีเพียงไม่เกินร้อยละ 13 ที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาลเพราะต้องการแยกตัว หรือมีอาการรุนแรง โดยมีอัตราการตายน้อยกว่าร้อยละ 0.1 แต่สำหรับประเทศไทย ปรากฏเป็นข้อมูลที่เคยแถลงข่าวโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 รายงานว่า ประเทศไทยเคยมีผู้ป่วยฝีดาษลิงอยู่แล้วตั้งแต่กรกฏาคม 2565 ถึง 2 มิถุนายน 2567 จำนวน 794 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากฝีดาษลิง 11 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยในประเทศไทยอยู่เพียงร้อยละ 1.38 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเสียชีวิตในระดับต่ำ

    ประการที่สอง สำหรับกรณีการกลายพันธุ์เป็นชนิด เคลด วันบี (Clade Ib ) เกิดขึ้นประมาณ กันยายน 2566 ซึ่งมีอัตราการแพร่กระจายและความรุนแรงมากขึ้น ทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเท่าที่มีข้อมูลในประเทศแถบแอฟริกาพบว่า ผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้ใหญ่มีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 4 ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่ามีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงชนิด เคลด วันบี แล้ว 1 ราย ซึ่งเดินทางมาจากประเทศหนึ่งในแถบแอฟริกา ดังนั้นกรมควบคุมโรคควรมีมาตรการในการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด
    ​​
    ทั้งนี้ผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงจะมีระยะเวลาฟักตัวภายใน 21 วัน และสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่เริ่มมีอาการก่อนจะมีผื่นขึ้น กล่าวคือ มีไข้พบได้ร้อยละ 62 ปวดกล้ามเนื้อพบได้ร้อยละ 31 ปวดหัวพบได้ร้อยละ 27 ต่อมน้ำเหลืองโตพบได้ร้อยละ 56 เซื่องซึมพบได้ร้อยละ 41 หลังจากนั้นจะมีโอกาสผื่นขึ้นต่อมาร้อยละ 95 ทั้งนี้อาจเกิดตุ่มในปาก อวัยวะเพศชายและหญิง ช่องคลอด หรือรูทวารหนักได้ด้วย ผู้ป่วยจะถูกแยกกักกันนานประมาณ 21 วัน หรือจนพ้นระยะเวลาแพร่เชื้อคือ ทุกรอยโรคหายไป ตกสะเก็ดและสะเก็ดหลุดจนมีผิวหนังปกติ โดยหลังจากหายป่วยแล้วควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะใช้ถุงยางอนามัยหรือไม่ก็ตามเป็นเวลาหนึ่งเดือน
    ​​
    อย่างไรก็ตามผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงส่วนใหญ่สามารถหายเองได้โดยรักษาตามอาการ เพราะยังไม่พบยาต้านไวรัสชนิดนี้ โดยแม้แต่ยา Tecovirimat ที่องค์การอนามัยโลกประกาศใช้รักษาฝีดาษลิงชนิดเคลด วันบี ก็ยังไม่ได้ผลในการรักษาแต่ประการใด เพราะตามประกาศของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 พบรายงานการวิจัยในมนุษย์ว่ายา Tecovirimat ไม่ได้ลดระยะผื่นของฝีดาษลิงในผู้ติดเชื้อทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ประเทศคองโก รวมทั้งมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 1.7 ไม่ว่าจะใช้ยา Tecovirimat หรือไม่ใช้ก็ตาม
    ​​
    ประการที่สาม กลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงหากติดเชื้อ ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี สตรีมีครรภ์ ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczema) ตุ่มพุพอง ตกสะเก็ด คัน แสบ สะเก็ดเงิน โดยจากข้อมูลในทวีปแอฟริกา พบว่ากลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงมีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 10 กลุ่มเหล่านี้จะต้องมีความระมัดระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง เลือด หนอง สิ่งคัดหลั่งของผู้ป่วยหรือผู้ต้องสงสัยติดเชื้อฝีดาษลิง รวมถึงควรล้างมือเป็นประจำและไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น

    ประการที่สี่ สำหรับผู้มีอาชีพหรือผู้รับบริการที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ควรต้องสอบถามผู้ที่จะมาสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ว่ามีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่หรือไม่ เช่น ปวดตามร่างกายแบบลักษณะมีไข้ หรือมีไข้ ปวดหัว ต่อมน้ำเหลืองโต เซื่องซึม มีตุ่มหรือผื่นตามร่างกาย หากมีอาการดังกล่าวควรแนะนำให้ไปพบแพทย์

    ประการที่ห้า อาการที่เสี่ยงเสียชีวิตหลังจากติดเชื้อแล้ว ได้แก่ มีตุ่มแผลบริเวณเยื่อบุตา ผื่นตุ่มที่แพร่กระจายทั่วตัว หรือผื่นขึ้นแบบกระจุกตัว (Cluster) มีตกเลือดในบริเวณผื่นตุ่ม อาการไข้และอาการทางร่างกายที่หนักขึ้น รวมทั้งหายใจเหนื่อย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
    ​​
    ประการที่หก ที่ผ่านมายังไม่มีวัคซีนสำหรับการป้องกันการติดเชื้อโรคฝีดาษลิงโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามวันที่ 24 กรกฏาคม 2565 สหภาพยุโรปได้อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ (JYNNEOS) เพื่อประยุกต์ใช้ในการป้องกันโรคฝีดาษลิง

    ทั้งนี้ผลสำรวจงานวิจัยในวารสาร New England ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 รายงานว่าทหารอเมริกันผู้เคยได้รับวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษชนิดเดียวกันกับที่ประเทศไทยเคยใช้ในอดีต หรือวัคซีน ACAM2000 หรือวัคซีน JYNNEOS ในปัจจุบัน ในระหว่างปี 2545 ถึง 2560 จำนวน 2.6 ล้านคนพบว่ามีโอกาสติดเชื้อฝีดาษทุกชนิดลดลง
    ​​
    สำหรับประเทศไทยผู้ที่เกิดก่อนปี 2523 หรืออายุตั้งแต่ 44 ปีขึ้นไป น่าจะได้รับการปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษไข้ทรพิษ (Smallpox) โดยทั่วไปแล้ว โดยสามารถสังเกตแผลเป็นที่บริเวณหัวไหล่ของผู้ที่เคยได้รับการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ซึ่งทำให้ช่วยลดอัตราการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคฝีดาษลิงได้ และกลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนแล้ว

    สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีอายุน้อยกว่า 44 ปี หรือไม่เคยปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ยังไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนในขณะนี้ เพราะยังสามารถใช้มาตราการป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ติดเชื้อหรือผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อฝีดาษลิง

    ​​เพราะตามข้อมูลของบริษัทผู้ผลิตวัคซีน JYNNEOS รายงานว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 8 ต่อ10,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าการฉีดวัควัคซีนจริงปรากฏตามรายงานในวารสาร Vaccine ฉบับเผยแพร่ออนไลน์เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ซึ่งรายงานว่าการฉีดวัคซีน JYNNEOS อย่างน้อย 1 เข็ม มีโอกาสได้รับผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 3.1 ต่อ 1,000 โดส อีกทั้งยังไม่เคยมีการวิจัยผลข้างเคียงการฉีดวัคซีนชนิดนี้สำหรับประชากรไทยมาก่อนด้วย

    ดังนั้นผู้ที่สมควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง จึงควรเป็นกลุ่มประชากรที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น ได้แก่ ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงและบุคลากรสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงมากที่สุด รวมทั้งผู้มีอาชีพที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนังกับผู้อื่น

    ประการที่เจ็ด สำหรับผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงแล้ว ให้กักตัวเองและรักษาตามอาการ ทั้งนี้ในกรรมวิธีของการแพทย์แผนไทยในการรักษาโรคระบาดที่มีผื่นหรือตุ่มตามผิวหนังนั้น มีหลักฐานปรากฏชัดเจนและได้ถูกรับรองตามกฏหมายในฐานะเป็นตำรับยาและตำรายาแผนไทยของชาติในการรับมือกับโรคระบาด ได้แก่
    ​​
    พระคัมภีร์ตักกะศิลาตามตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งสืบทอดภูมิปัญญามาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยมีขั้นตอนการรักษา 3 ขั้นตอน คือ ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการกระทุ้งพิษไข้ด้วยยาห้าราก ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการแปรไข้ภายในและรักษาผิวภายนอก และตำรับยาเพื่อขั้นตอนการครอบไข้ ซึ่งมีตำรับยาใน 3 ขั้นตอนนี้ รวม 7 ขนาน
    ​​
    นอกจากนี้ยังมีตำรับยาขาว ซึ่งเป็นยาขนานเดียวตามตำรายาของศิลาจารึกวัดเชตุพนวิมลมังคราราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่ามีสรรพคุณรักษาโรคระบาดได้หลายชนิด อีกทั้งยังมีตำรับยาหลายขนานสำหรับรักษาโรคฝีดาษโดยเฉพาะ ตามคัมภีร์แพทย์แผนไทยโบราณ เล่ม 3 ของขุนโสภิตบรรณลักษณ์ (อำพัน กิตติขจร)

    สำหรับการแพทย์แผนจีนมีหลักการรักษาโรคตามภาวะร่างกายโดยมีพื้นฐานการขับพิษ-ขับร้อน การปรับความร้อนระดับเลือด การขับความชื้น การปรับสมดุลของม้าม กระเพาะอาหาร การบำรุงเลือดและพลัง เพื่อขับพิษและเสริมพลังพื้นฐานในการต่อสู้กับโรคฝีดาษลิง
    ​​
    สำหรับงานวิจัยเภสัชสมุนไพรปรากฏในวารสาร Frontiers in cellular and infection Microbiology เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ซึ่งวิเคราะห์ด้วยกระบวนการทางโมเลกุล พบว่า ขมิ้นชันมีปฏิกริยาต่อต้านไวรัสฝีดาษลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกลไกการขัดขวางยับยั้งไวรัส ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรนำมาศึกษาและวิจัยการใช้ขมิ้นชันในผู้ป่วยโรคฝีดาษของมนุษย์ต่อไป เพราะเป็นสมุนไพรที่มีราคาถูก เข้าถึงได้ทั่วไป คนไทยสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ซึ่งมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าขมิ้นชันมีประสิทธิภาพในการยับยั้งกลไกในหลายขั้นตอนของไวรัสอีกหลายชนิด
    ​​
    นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรเดี่ยวที่มีศักยภาพในการต้านไวรัสหลายชนิด เช่น ฟ้าทะลายโจร มะขามป้อม เสลดพังพอนตัวเมีย กัญชา กัญชง ฯลฯ ซึ่งจะต้องมีการวิจัยเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงว่าจะมีศักยภาพและสามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงต่อไปได้หรือไม่
    ​​
    อย่างไรก็ตามผู้ป่วยฝีดาษลิงที่เลือกกักตัวเองอยู่ที่บ้าน สามารถขอรับคำปรึกษาและรับตำรับยากับคลินิกการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ การแพทย์แผนจีน ทั่วประเทศ รวมถึงสหคลินิการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-791-6000 ต่อ 4406 หรือ 089-770-5862 อย่างไรก็ตามจะต้องมีการเก็บข้อมูลติดตามผลและทำการศึกษาวิจัยผลการรักษาภายหลังต่อไป
    ​​
    จากข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่าประชาชนไทยต้องตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก แต่ให้มีความตระหนักในการป้องกันและระวังตัว และเตรียมความพร้อมในการวางแผนและกำหนดมาตรการอย่างรอบด้าน รวมทั้งประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความรู้และภูมิปัญญาที่จะสามารถรับมือกับโรคฝีดาษลิงได้อย่างแน่นอน

    ด้วยความปรารถนาดี
    วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    23 สิงหาคม 2567

    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid0v8ELDqDcnAZ2MgmuoGJU9Faxw4irDyQS7guRbaDmfwTqhy4QJCrTF8j4YHLVjGexl/?
    วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027
    แถลงการณ์วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ฉบับที่ 001/2567 เรื่อง ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง ​จากสถานการณ์โรคระบาดฝีดาษลิงในต่างประเทศซึ่งมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยองค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ซึ่งในเวลาต่อมาอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่าได้พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงคนแรกในประเทศไทยแล้ว โดยผู้ติดเชื้อดังกล่าวได้เดินทางมาจากประเทศแถบทวีปแอฟริกา ข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนคนไทยโดยทั่วไป เกิดความสับสนในข่าวสารและแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต จึงเห็นสมควรให้ชี้แจงกับประชาชน ให้ตั้งสติ อย่าตื่นตระหนก เตรียมรับมือฝีดาษลิง ดังต่อไปนี้ ​​ประการแรก ตามรายงานในต่างประเทศซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Lancet ฉบับเผยแพร่เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 พบว่ามีผู้ป่วยส่วนใหญ่กักตัวที่บ้าน มีเพียงไม่เกินร้อยละ 13 ที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาลเพราะต้องการแยกตัว หรือมีอาการรุนแรง โดยมีอัตราการตายน้อยกว่าร้อยละ 0.1 แต่สำหรับประเทศไทย ปรากฏเป็นข้อมูลที่เคยแถลงข่าวโดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2567 รายงานว่า ประเทศไทยเคยมีผู้ป่วยฝีดาษลิงอยู่แล้วตั้งแต่กรกฏาคม 2565 ถึง 2 มิถุนายน 2567 จำนวน 794 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากฝีดาษลิง 11 ราย คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยในประเทศไทยอยู่เพียงร้อยละ 1.38 ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเสียชีวิตในระดับต่ำ ประการที่สอง สำหรับกรณีการกลายพันธุ์เป็นชนิด เคลด วันบี (Clade Ib ) เกิดขึ้นประมาณ กันยายน 2566 ซึ่งมีอัตราการแพร่กระจายและความรุนแรงมากขึ้น ทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเท่าที่มีข้อมูลในประเทศแถบแอฟริกาพบว่า ผู้ติดเชื้อที่เป็นผู้ใหญ่มีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 4 ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ว่ามีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงชนิด เคลด วันบี แล้ว 1 ราย ซึ่งเดินทางมาจากประเทศหนึ่งในแถบแอฟริกา ดังนั้นกรมควบคุมโรคควรมีมาตรการในการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด ​​ ทั้งนี้ผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงจะมีระยะเวลาฟักตัวภายใน 21 วัน และสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่เริ่มมีอาการก่อนจะมีผื่นขึ้น กล่าวคือ มีไข้พบได้ร้อยละ 62 ปวดกล้ามเนื้อพบได้ร้อยละ 31 ปวดหัวพบได้ร้อยละ 27 ต่อมน้ำเหลืองโตพบได้ร้อยละ 56 เซื่องซึมพบได้ร้อยละ 41 หลังจากนั้นจะมีโอกาสผื่นขึ้นต่อมาร้อยละ 95 ทั้งนี้อาจเกิดตุ่มในปาก อวัยวะเพศชายและหญิง ช่องคลอด หรือรูทวารหนักได้ด้วย ผู้ป่วยจะถูกแยกกักกันนานประมาณ 21 วัน หรือจนพ้นระยะเวลาแพร่เชื้อคือ ทุกรอยโรคหายไป ตกสะเก็ดและสะเก็ดหลุดจนมีผิวหนังปกติ โดยหลังจากหายป่วยแล้วควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะใช้ถุงยางอนามัยหรือไม่ก็ตามเป็นเวลาหนึ่งเดือน ​​ อย่างไรก็ตามผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงส่วนใหญ่สามารถหายเองได้โดยรักษาตามอาการ เพราะยังไม่พบยาต้านไวรัสชนิดนี้ โดยแม้แต่ยา Tecovirimat ที่องค์การอนามัยโลกประกาศใช้รักษาฝีดาษลิงชนิดเคลด วันบี ก็ยังไม่ได้ผลในการรักษาแต่ประการใด เพราะตามประกาศของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2567 พบรายงานการวิจัยในมนุษย์ว่ายา Tecovirimat ไม่ได้ลดระยะผื่นของฝีดาษลิงในผู้ติดเชื้อทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ประเทศคองโก รวมทั้งมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ร้อยละ 1.7 ไม่ว่าจะใช้ยา Tecovirimat หรือไม่ใช้ก็ตาม ​​ ประการที่สาม กลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงหากติดเชื้อ ได้แก่ เด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี สตรีมีครรภ์ ผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือมีโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczema) ตุ่มพุพอง ตกสะเก็ด คัน แสบ สะเก็ดเงิน โดยจากข้อมูลในทวีปแอฟริกา พบว่ากลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงมีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 10 กลุ่มเหล่านี้จะต้องมีความระมัดระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะ หลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง เลือด หนอง สิ่งคัดหลั่งของผู้ป่วยหรือผู้ต้องสงสัยติดเชื้อฝีดาษลิง รวมถึงควรล้างมือเป็นประจำและไม่ใช้ของร่วมกับผู้อื่น ประการที่สี่ สำหรับผู้มีอาชีพหรือผู้รับบริการที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ควรต้องสอบถามผู้ที่จะมาสัมผัสแนบชิดทางผิวหนัง ว่ามีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่หรือไม่ เช่น ปวดตามร่างกายแบบลักษณะมีไข้ หรือมีไข้ ปวดหัว ต่อมน้ำเหลืองโต เซื่องซึม มีตุ่มหรือผื่นตามร่างกาย หากมีอาการดังกล่าวควรแนะนำให้ไปพบแพทย์ ประการที่ห้า อาการที่เสี่ยงเสียชีวิตหลังจากติดเชื้อแล้ว ได้แก่ มีตุ่มแผลบริเวณเยื่อบุตา ผื่นตุ่มที่แพร่กระจายทั่วตัว หรือผื่นขึ้นแบบกระจุกตัว (Cluster) มีตกเลือดในบริเวณผื่นตุ่ม อาการไข้และอาการทางร่างกายที่หนักขึ้น รวมทั้งหายใจเหนื่อย ควรรีบไปพบแพทย์ทันที ​​ ประการที่หก ที่ผ่านมายังไม่มีวัคซีนสำหรับการป้องกันการติดเชื้อโรคฝีดาษลิงโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามวันที่ 24 กรกฏาคม 2565 สหภาพยุโรปได้อนุมัติการใช้วัคซีนป้องกันโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ (JYNNEOS) เพื่อประยุกต์ใช้ในการป้องกันโรคฝีดาษลิง ทั้งนี้ผลสำรวจงานวิจัยในวารสาร New England ตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2566 รายงานว่าทหารอเมริกันผู้เคยได้รับวัคซีนป้องกันไข้ทรพิษชนิดเดียวกันกับที่ประเทศไทยเคยใช้ในอดีต หรือวัคซีน ACAM2000 หรือวัคซีน JYNNEOS ในปัจจุบัน ในระหว่างปี 2545 ถึง 2560 จำนวน 2.6 ล้านคนพบว่ามีโอกาสติดเชื้อฝีดาษทุกชนิดลดลง ​​ สำหรับประเทศไทยผู้ที่เกิดก่อนปี 2523 หรืออายุตั้งแต่ 44 ปีขึ้นไป น่าจะได้รับการปลูกฝีป้องกันโรคฝีดาษไข้ทรพิษ (Smallpox) โดยทั่วไปแล้ว โดยสามารถสังเกตแผลเป็นที่บริเวณหัวไหล่ของผู้ที่เคยได้รับการปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ซึ่งทำให้ช่วยลดอัตราการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคฝีดาษลิงได้ และกลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนแล้ว สำหรับประชาชนทั่วไปที่มีอายุน้อยกว่า 44 ปี หรือไม่เคยปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ ยังไม่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีนในขณะนี้ เพราะยังสามารถใช้มาตราการป้องกันด้วยการหลีกเลี่ยงการสัมผัสแนบชิดกับผู้ติดเชื้อหรือผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อฝีดาษลิง ​​เพราะตามข้อมูลของบริษัทผู้ผลิตวัคซีน JYNNEOS รายงานว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 8 ต่อ10,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าการฉีดวัควัคซีนจริงปรากฏตามรายงานในวารสาร Vaccine ฉบับเผยแพร่ออนไลน์เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 ซึ่งรายงานว่าการฉีดวัคซีน JYNNEOS อย่างน้อย 1 เข็ม มีโอกาสได้รับผลข้างเคียงต่อหัวใจในอัตรา 3.1 ต่อ 1,000 โดส อีกทั้งยังไม่เคยมีการวิจัยผลข้างเคียงการฉีดวัคซีนชนิดนี้สำหรับประชากรไทยมาก่อนด้วย ดังนั้นผู้ที่สมควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง จึงควรเป็นกลุ่มประชากรที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น ได้แก่ ผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงและบุคลากรสาธารณสุขที่มีความเสี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงมากที่สุด รวมทั้งผู้มีอาชีพที่ต้องมีการสัมผัสแนบชิดทางผิวหนังกับผู้อื่น ประการที่เจ็ด สำหรับผู้ที่ติดเชื้อฝีดาษลิงแล้ว ให้กักตัวเองและรักษาตามอาการ ทั้งนี้ในกรรมวิธีของการแพทย์แผนไทยในการรักษาโรคระบาดที่มีผื่นหรือตุ่มตามผิวหนังนั้น มีหลักฐานปรากฏชัดเจนและได้ถูกรับรองตามกฏหมายในฐานะเป็นตำรับยาและตำรายาแผนไทยของชาติในการรับมือกับโรคระบาด ได้แก่ ​​ พระคัมภีร์ตักกะศิลาตามตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งสืบทอดภูมิปัญญามาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยมีขั้นตอนการรักษา 3 ขั้นตอน คือ ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการกระทุ้งพิษไข้ด้วยยาห้าราก ตำรับยาเพื่อขั้นตอนการแปรไข้ภายในและรักษาผิวภายนอก และตำรับยาเพื่อขั้นตอนการครอบไข้ ซึ่งมีตำรับยาใน 3 ขั้นตอนนี้ รวม 7 ขนาน ​​ นอกจากนี้ยังมีตำรับยาขาว ซึ่งเป็นยาขนานเดียวตามตำรายาของศิลาจารึกวัดเชตุพนวิมลมังคราราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่ามีสรรพคุณรักษาโรคระบาดได้หลายชนิด อีกทั้งยังมีตำรับยาหลายขนานสำหรับรักษาโรคฝีดาษโดยเฉพาะ ตามคัมภีร์แพทย์แผนไทยโบราณ เล่ม 3 ของขุนโสภิตบรรณลักษณ์ (อำพัน กิตติขจร) สำหรับการแพทย์แผนจีนมีหลักการรักษาโรคตามภาวะร่างกายโดยมีพื้นฐานการขับพิษ-ขับร้อน การปรับความร้อนระดับเลือด การขับความชื้น การปรับสมดุลของม้าม กระเพาะอาหาร การบำรุงเลือดและพลัง เพื่อขับพิษและเสริมพลังพื้นฐานในการต่อสู้กับโรคฝีดาษลิง ​​ สำหรับงานวิจัยเภสัชสมุนไพรปรากฏในวารสาร Frontiers in cellular and infection Microbiology เผยแพร่เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 ซึ่งวิเคราะห์ด้วยกระบวนการทางโมเลกุล พบว่า ขมิ้นชันมีปฏิกริยาต่อต้านไวรัสฝีดาษลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกลไกการขัดขวางยับยั้งไวรัส ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรนำมาศึกษาและวิจัยการใช้ขมิ้นชันในผู้ป่วยโรคฝีดาษของมนุษย์ต่อไป เพราะเป็นสมุนไพรที่มีราคาถูก เข้าถึงได้ทั่วไป คนไทยสามารถพึ่งพาตัวเองได้ ซึ่งมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าขมิ้นชันมีประสิทธิภาพในการยับยั้งกลไกในหลายขั้นตอนของไวรัสอีกหลายชนิด ​​ นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรเดี่ยวที่มีศักยภาพในการต้านไวรัสหลายชนิด เช่น ฟ้าทะลายโจร มะขามป้อม เสลดพังพอนตัวเมีย กัญชา กัญชง ฯลฯ ซึ่งจะต้องมีการวิจัยเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงว่าจะมีศักยภาพและสามารถนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงต่อไปได้หรือไม่ ​​ อย่างไรก็ตามผู้ป่วยฝีดาษลิงที่เลือกกักตัวเองอยู่ที่บ้าน สามารถขอรับคำปรึกษาและรับตำรับยากับคลินิกการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ การแพทย์แผนจีน ทั่วประเทศ รวมถึงสหคลินิการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-791-6000 ต่อ 4406 หรือ 089-770-5862 อย่างไรก็ตามจะต้องมีการเก็บข้อมูลติดตามผลและทำการศึกษาวิจัยผลการรักษาภายหลังต่อไป ​​ จากข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่าประชาชนไทยต้องตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก แต่ให้มีความตระหนักในการป้องกันและระวังตัว และเตรียมความพร้อมในการวางแผนและกำหนดมาตรการอย่างรอบด้าน รวมทั้งประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความรู้และภูมิปัญญาที่จะสามารถรับมือกับโรคฝีดาษลิงได้อย่างแน่นอน ด้วยความปรารถนาดี วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 23 สิงหาคม 2567 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/pfbid0v8ELDqDcnAZ2MgmuoGJU9Faxw4irDyQS7guRbaDmfwTqhy4QJCrTF8j4YHLVjGexl/? วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 610 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนังสือ กินอยู่อย่างไร ห่างไกลมะเร็ง
    โดย คลินิกแพทย์แผนไทยพิทักษ์รักษ์สุขภาพ
    https://kanchanadul.in.th/pat
    หนังสือ กินอยู่อย่างไร ห่างไกลมะเร็ง โดย คลินิกแพทย์แผนไทยพิทักษ์รักษ์สุขภาพ https://kanchanadul.in.th/pat
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมอนุช ครูแพทย์แผนไทย หมอยาไทย อยู่ไฟเดลิเวอร์รี่ รวมศาสตร์การแพทย์แผนไทย
    หมอนุช ครูแพทย์แผนไทย หมอยาไทย อยู่ไฟเดลิเวอร์รี่ รวมศาสตร์การแพทย์แผนไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กฤษณาคลินิกการแพทย์แผนไทย #แพทย์แผนไทย #ยาสมุนไพร #ยาอายุวัฒนะ #พุทธวจน #สุขภาพ #ล้างพิษ #กระทุ้งพิษ #เลือดลม #น้ำเหลืองเสีย #ฟอกเลือด #บำรุงเลือด #ชะลอวัย #เวชศาสตร์ชะลอวัย #ผู้สูงวัย #ผู้สูงอายุ
    #กฤษณาคลินิกการแพทย์แผนไทย #แพทย์แผนไทย #ยาสมุนไพร #ยาอายุวัฒนะ #พุทธวจน #สุขภาพ #ล้างพิษ #กระทุ้งพิษ #เลือดลม #น้ำเหลืองเสีย #ฟอกเลือด #บำรุงเลือด #ชะลอวัย #เวชศาสตร์ชะลอวัย #ผู้สูงวัย #ผู้สูงอายุ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ภูมิปัญญา #แพทย์แผนไทย #สุขภาพ
    #ภูมิปัญญา #แพทย์แผนไทย #สุขภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ไฟ3กอง #ชะลอวัย #สุขภาพ #แพทย์แผนไทย #หมอที่ดีที่สุดคือตัวเราเอง
    https://youtu.be/NgqFM_fvui8
    #ไฟ3กอง #ชะลอวัย #สุขภาพ #แพทย์แผนไทย #หมอที่ดีที่สุดคือตัวเราเอง https://youtu.be/NgqFM_fvui8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุคนี้.....กัญชามาแรงแซงโค้ง....!!!

    คือเมื่อคืนนะคะ ดิฉันดูละครโทรทัศน์ เรื่อง ทองเอก หมอยา
    ทุ่งโฉลง เพราะได้ดูตัวอย่างนิดนึงแล้วติดใจ อยากติดตาม เพราะเป็นของใหม่ที่จะให้การศึกษากับคนไทยแบบเนียนด้วยการแพทย์แผนไทย โดยเฉพาะพืชสมุนไพร..

    อันว่าดิฉันเนี่ยยย เป็นคนที่ค่อนข้างต่อต้านยาฝรั่ง คือพยายามใช้ให้น้อยที่สุด เช่น เฉพาะไมเกรนเจ้าประจำ กับฉีดวัคซีนต่างๆ
    แต่ไม่พยายามพร่ำเพรื่อ อย่างที่น้องมาแวะเยี่ยม ก็ได้ขอให้ติด”ยาน้ำระดมพล” มาให้ด้วย ขอบคุณน้องหลายๆเด้อ
    เพราะสรรพคุณของยาน้ำนี้ คือการ”รุ” เพื่อระบบไฟธาตุในร่างกายได้ทำงานสะดวก (ตามคำของผู้ใหญ่ที่สั่งสอนมา)
    ดิฉันก็ถือมาเป็นวิถีปฏิบัติมาสามสิบปีนี่แล้วค่ะ อาทิตย์ละจอก..
    ที่เห็นๆคือ ไมเกรนห่างหายไปมาก และ สบายตัว

    เลยเถิดไปได้ยังไงเนี่ยยย ว่าจะพูดถึงกัญชา...!!!

    เอาว่าเริ่มจากกัญชาฝรั่งก่อนนะคะ กัญชาไทย หรือ Thai stick เราก็รู้ๆกันอยู่แล้วว่าเป็นสุดยอด....ที่ฝรั่งหลงไหลถึงขนาดจับเครื่องบินมาเพื่อเชยชม ดูดดมเจ้า...
    ตอนนี้ “กัญชา” เป็นที่หอมหวนในวงการธุรกิจ เพราะมันหมายถึงเงินจำนวนแสนล้าน...
    ในปี 2014 อุรุกวัย เป็นประเทศแรกที่ประกาศตัวใช้กัญชาได้
    ตามกฏหมายกำหนด
    ตามด้วย แคนาดา เมื่อเดือนตุลาคม 2018
    ตั้งแต่อุรุกวัย เปิดเสรีเรื่องกัญชาขึ้นมา พลอยสร้างกระแสแรงกระเพื่อมในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประชาชนเหล่านิยมกัญชา เขาคือ กลุ่ม AUMA (Adult Use of Marijuana Act)
    พากันเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณากฏหมายผ่อนปรนด้วยเรื่องสารเสพติด โดยมีการวิจัยออกมาว่า กัญชามีโทษต่อร่างกายน้อยมาก
    น้อยกว่าเหล้า บุหรี่ และยารักษาโรคอื่นๆ
    อีกทั้งช่วยรักษาได้อีกสารพัดโรค

    ในความจริงคือ ตั้งแต่ปี 2003 บริษัท Bayer AG ได้แอบทุ่มทุนร่วมกับ GW Pharmaceuticals ในการทำวิจัยเรื่องกัญชาในการรักษาโรคมาแล้ว

    ปี 2007 Bayer เป็นบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ ประเทศเยอรมัน ได้ร่วมมือร่วมทุนกันกับ Monsanto (อเมริกา) เป็นบริษัทที่ทุกคนรู้ๆกันว่า ยิ่งใหญ่มากทางด้านเคมีเกษตร และผันตัวมาทำเรื่อง GMO ในพืชทุกชนิด รวมทั้งเมล็ดพันธุ์ผัก ผลไม้ จากในอดีตที่เคยเป็นผู้ผลิต “ฝนเหลือง” ที่คร่าชีวิตชาวเวียดนามไปมากมาย...และผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ George Soros

    แต่ในขณะเดียวกันนั้น ประชาชนผู้บริโภคได้ตื่นตัวต่อวิธีการปรับเปลี่ยนพันธุกรรมในพืชผักของมอนซานโตที่มีข้อเสียซ่อนไว้มากมาย
    และเริ่มมีการต่อต้านกันไปอย่างแพร่หลาย
    มอนซานโตมาถึงจุดตกต่ำ ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยที่ได้ถูกฟ้องร้องว่าเป็นเหตุให้เกิดมะเร็ง
    รายที่ฟ้องได้ค่าเสียหายมากสุด คือ 289 ล้านยูเอส ในเดือนสิงหาคม 2018
    คือคนสวน Dewayne Johnson อายุ 46 ปี ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าหญ้าของมอนซานโตในชื่อว่า Roundup

    แต่คนอย่าง โซรอส เขามีทางออกที่สวยสุด คือ รีบเทขาย Monsanto ให้กับ Bayer อย่างว่องไว เพราะไหนๆก็ร่วมมือกันทำวิจัยเรื่อง “กัญชา” มาตั้งแต่ 2007 แล้ว ด้วยจำนวนเงิน หกหมื่นล้านยูเอส
    เท่ากับเป็นการล้างชื่อ มอนซานโต ออกไปจากตำแหน่งของบริษัทที่ชั่วช้าที่สุดในโลกไปได้...

    จากนี้ไป เราไม่มีมอนซานโตก็จริง แต่...ใครจะรู้ว่าจะอวตารขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ เพราะสูตรเคมีล้างโลก และ พันธุ์พืชที่ได้แต่งเปลี่ยนนั้น
    อยู่ที่ไหน...?

    และ ที่ Bayer ซื้ออะไรไปด้วยเงินจำนวนขนาดนั้น ในเมื่อไม่มีใครได้เห็นสัญญาซื้อขาย ไม่มีสื่อไหนกล้าหาข้อมูลมาตีแผ่
    เพราะในอดีตของ Bayer ก็ถือว่า ไม่ได้ด้อยไปกว่ามอนซานโตเลย

    Bayer ก็เคยเปลี่ยนชื่อเพราะความฉาวโฉ่มาแล้ว จากชื่อเก่า คือ
    IG Farben เป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ที่ผลิตยาให้กับนาซี ตั้งแต่แอสไพรินจนถึงไซยาไนด์
    รวมทั้ง Zyklon B คือแก๊สที่ใช้รมเชลยยิวในค่ายนรก ซึ่งบริษัทนี้ได้เกณฑ์แรงงานยิวมาใช้ตั้งแต่ต้นสงครามจนถึงวันสุดท้ายที่ปราชัย
    พอสงครามเลิก IG Farben ก็ยุบไป และเจ้าหน้าที่ พนักงาน ได้ถูกเป็นจำเลยในศาลกันพร้อมหน้า ติดคุกกันไม่กี่ปีก็ออกมาเดินปร๋อ
    และต่อมาได้มีอวตารบริษัทเกิดขึ้นใหม่ ในนาม Bayer ที่ผู้บริหารตัวบิ๊กๆนั้น มาจาก IG Farben ทั้งแผง

    ในปี 1995 Bayer ได้ออกมาขอโทษกับชาวยิวที่มีส่วนในการผลิตแก๊สทำลายล้างเผ่าพันธุ์

    ส่วน จอร์จ โซรอส นั้น เกิดในฮังการีในปี 1930 และเติบโตมาในช่วงของสงครามโลกครั้งที่สอง ที่นาซีได้แผ่เข้ามาในฮังการี และได้ฆ่ายิวไปกว่าห้าแสนคน
    ครอบครัวของเขาต้องอยู่ในสถานะปลอมๆ ต้องแอ๊บเป็นอารยัน
    แถมได้ทำงานในออฟฟิศให้กับหน่วยงานของนาซี หน้าที่ของเขาคือ
    นำคนไปตามจับและยึดทรัพย์ชาวยิว...จนถึงสงครามเลิก

    แต่ฮังการี...ต้องไปสู่เขตการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์
    ครอบครัวเขาจึงอพยพมุ่งหน้าไปสู่ลอนดอน เขาได้เข้าเรียนระดับวิทยาลัย ในสาขาเศรษฐศาสตร์ ในปี 1947
    จากนั้น เขาจึงไปเริ่มชีวิตใหม่ที่อเมริกา ในปี 1956 โดยเริ่มจากเซลส์แมนกิ๊กก๊อก นักเก็งกำไรหุ้น ค้าอสังหาฯ
    และเพียง สิบกว่าปี เขาก็ก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐี...

    เรื่องที่เขาขายมอนซานโตออกไปอย่างไม่เสียดมเสียดายเพราะสิ่งที่น่าสนใจกว่า และจะเป็นที่รักใคร่ของประชาชนนั้นคือ
    “กัญชา”
    เขาทุ่มเงินสนับสนุนโอบามา จนได้เป็นประธานาธิบดี เพื่อสนองนโยบายได้เร็วทันใจ เพราะ กัญชาได้เปลี่ยนมาเป็นสารเสพติดร้ายแรงประเภทที่หนึ่ง มาเป็นประเภทที่สอง คือ สารเสพติดที่ใช้ทางการแพทย์
    จากนั้นก็คือหน้าที่ของกลุ่ม AUMA ในรัฐต่างๆที่จะเคลื่อนไหวกันเอง...
    ส่วนโซรอส (ในนามของมอนซานโต) ได้เข้าไปยึดครองการเพาะปลูกกัญชาในอุรุกวัย อันว่ากันว่าเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดในโลกต่อเกษตรกรรมกัญชา ตั้งแต่ 2003 และเขาคือแรงผลักดันให้อุรุกวัยประกาศตนเป็นประเทศที่กัญชาค้าขายได้ถูกกฎหมาย
    รวมทั้งการครอบคลุมเมล็ดพันธุ์

    และที่สำคัญสุดคือ จอร์จ โซรอส ได้มีตำแหน่งเป็นหนึ่งในบอร์ดของ DPA (Drug Policy Alliance) สำนักงานตั้งอยู่ในนิวยอร์ค
    ประมาณว่า เป็นกลุ่มดูแลนโยบายสิ่งเสพติดในการรักษาโรค
    ที่มีข้อปฎิบัติละเอียดยิบย่อย
    และ DPA นี้ ไม่ใช่ครอบคลุมในเพียงสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
    เขาได้กระจายไปในอุรุกวัยและประเทศอื่นในแถบลาตินด้วย

    นั่นหมายถึงว่า ถ้าจะมีสมาชิกใหม่ในกลุ่ม ก็ต้องปฏิบัติตามนโยบายของเขา ปลูกได้ตามที่เขาสั่ง ขายได้ในราคาตามที่เขากำหนด ใช้ได้ตามจำนวนที่เขาจะพิจารณา
    และ ถ้าไม่เป็นสมาชิก...แต่จะมาค้าขายกัญชาตามใจชอบ
    ก็อาจจะมี “สงครามกัญชา”เกิดขึ้น

    เงินไม่เข้าใครออกใคร...
    ถ้าจำนวนมหาศาลพอ ...ยิวกับนาซี ยังจูบปากกันได้เลย...!!!

    Wiwanda W. Vichit
    ยุคนี้.....กัญชามาแรงแซงโค้ง....!!! คือเมื่อคืนนะคะ ดิฉันดูละครโทรทัศน์ เรื่อง ทองเอก หมอยา ทุ่งโฉลง เพราะได้ดูตัวอย่างนิดนึงแล้วติดใจ อยากติดตาม เพราะเป็นของใหม่ที่จะให้การศึกษากับคนไทยแบบเนียนด้วยการแพทย์แผนไทย โดยเฉพาะพืชสมุนไพร.. อันว่าดิฉันเนี่ยยย เป็นคนที่ค่อนข้างต่อต้านยาฝรั่ง คือพยายามใช้ให้น้อยที่สุด เช่น เฉพาะไมเกรนเจ้าประจำ กับฉีดวัคซีนต่างๆ แต่ไม่พยายามพร่ำเพรื่อ อย่างที่น้องมาแวะเยี่ยม ก็ได้ขอให้ติด”ยาน้ำระดมพล” มาให้ด้วย ขอบคุณน้องหลายๆเด้อ เพราะสรรพคุณของยาน้ำนี้ คือการ”รุ” เพื่อระบบไฟธาตุในร่างกายได้ทำงานสะดวก (ตามคำของผู้ใหญ่ที่สั่งสอนมา) ดิฉันก็ถือมาเป็นวิถีปฏิบัติมาสามสิบปีนี่แล้วค่ะ อาทิตย์ละจอก.. ที่เห็นๆคือ ไมเกรนห่างหายไปมาก และ สบายตัว เลยเถิดไปได้ยังไงเนี่ยยย ว่าจะพูดถึงกัญชา...!!! เอาว่าเริ่มจากกัญชาฝรั่งก่อนนะคะ กัญชาไทย หรือ Thai stick เราก็รู้ๆกันอยู่แล้วว่าเป็นสุดยอด....ที่ฝรั่งหลงไหลถึงขนาดจับเครื่องบินมาเพื่อเชยชม ดูดดมเจ้า... ตอนนี้ “กัญชา” เป็นที่หอมหวนในวงการธุรกิจ เพราะมันหมายถึงเงินจำนวนแสนล้าน... ในปี 2014 อุรุกวัย เป็นประเทศแรกที่ประกาศตัวใช้กัญชาได้ ตามกฏหมายกำหนด ตามด้วย แคนาดา เมื่อเดือนตุลาคม 2018 ตั้งแต่อุรุกวัย เปิดเสรีเรื่องกัญชาขึ้นมา พลอยสร้างกระแสแรงกระเพื่อมในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประชาชนเหล่านิยมกัญชา เขาคือ กลุ่ม AUMA (Adult Use of Marijuana Act) พากันเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณากฏหมายผ่อนปรนด้วยเรื่องสารเสพติด โดยมีการวิจัยออกมาว่า กัญชามีโทษต่อร่างกายน้อยมาก น้อยกว่าเหล้า บุหรี่ และยารักษาโรคอื่นๆ อีกทั้งช่วยรักษาได้อีกสารพัดโรค ในความจริงคือ ตั้งแต่ปี 2003 บริษัท Bayer AG ได้แอบทุ่มทุนร่วมกับ GW Pharmaceuticals ในการทำวิจัยเรื่องกัญชาในการรักษาโรคมาแล้ว ปี 2007 Bayer เป็นบริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ ประเทศเยอรมัน ได้ร่วมมือร่วมทุนกันกับ Monsanto (อเมริกา) เป็นบริษัทที่ทุกคนรู้ๆกันว่า ยิ่งใหญ่มากทางด้านเคมีเกษตร และผันตัวมาทำเรื่อง GMO ในพืชทุกชนิด รวมทั้งเมล็ดพันธุ์ผัก ผลไม้ จากในอดีตที่เคยเป็นผู้ผลิต “ฝนเหลือง” ที่คร่าชีวิตชาวเวียดนามไปมากมาย...และผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ George Soros แต่ในขณะเดียวกันนั้น ประชาชนผู้บริโภคได้ตื่นตัวต่อวิธีการปรับเปลี่ยนพันธุกรรมในพืชผักของมอนซานโตที่มีข้อเสียซ่อนไว้มากมาย และเริ่มมีการต่อต้านกันไปอย่างแพร่หลาย มอนซานโตมาถึงจุดตกต่ำ ผลิตภัณฑ์ปุ๋ยที่ได้ถูกฟ้องร้องว่าเป็นเหตุให้เกิดมะเร็ง รายที่ฟ้องได้ค่าเสียหายมากสุด คือ 289 ล้านยูเอส ในเดือนสิงหาคม 2018 คือคนสวน Dewayne Johnson อายุ 46 ปี ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าหญ้าของมอนซานโตในชื่อว่า Roundup แต่คนอย่าง โซรอส เขามีทางออกที่สวยสุด คือ รีบเทขาย Monsanto ให้กับ Bayer อย่างว่องไว เพราะไหนๆก็ร่วมมือกันทำวิจัยเรื่อง “กัญชา” มาตั้งแต่ 2007 แล้ว ด้วยจำนวนเงิน หกหมื่นล้านยูเอส เท่ากับเป็นการล้างชื่อ มอนซานโต ออกไปจากตำแหน่งของบริษัทที่ชั่วช้าที่สุดในโลกไปได้... จากนี้ไป เราไม่มีมอนซานโตก็จริง แต่...ใครจะรู้ว่าจะอวตารขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ เพราะสูตรเคมีล้างโลก และ พันธุ์พืชที่ได้แต่งเปลี่ยนนั้น อยู่ที่ไหน...? และ ที่ Bayer ซื้ออะไรไปด้วยเงินจำนวนขนาดนั้น ในเมื่อไม่มีใครได้เห็นสัญญาซื้อขาย ไม่มีสื่อไหนกล้าหาข้อมูลมาตีแผ่ เพราะในอดีตของ Bayer ก็ถือว่า ไม่ได้ด้อยไปกว่ามอนซานโตเลย Bayer ก็เคยเปลี่ยนชื่อเพราะความฉาวโฉ่มาแล้ว จากชื่อเก่า คือ IG Farben เป็นบริษัทเคมีภัณฑ์ที่ผลิตยาให้กับนาซี ตั้งแต่แอสไพรินจนถึงไซยาไนด์ รวมทั้ง Zyklon B คือแก๊สที่ใช้รมเชลยยิวในค่ายนรก ซึ่งบริษัทนี้ได้เกณฑ์แรงงานยิวมาใช้ตั้งแต่ต้นสงครามจนถึงวันสุดท้ายที่ปราชัย พอสงครามเลิก IG Farben ก็ยุบไป และเจ้าหน้าที่ พนักงาน ได้ถูกเป็นจำเลยในศาลกันพร้อมหน้า ติดคุกกันไม่กี่ปีก็ออกมาเดินปร๋อ และต่อมาได้มีอวตารบริษัทเกิดขึ้นใหม่ ในนาม Bayer ที่ผู้บริหารตัวบิ๊กๆนั้น มาจาก IG Farben ทั้งแผง ในปี 1995 Bayer ได้ออกมาขอโทษกับชาวยิวที่มีส่วนในการผลิตแก๊สทำลายล้างเผ่าพันธุ์ ส่วน จอร์จ โซรอส นั้น เกิดในฮังการีในปี 1930 และเติบโตมาในช่วงของสงครามโลกครั้งที่สอง ที่นาซีได้แผ่เข้ามาในฮังการี และได้ฆ่ายิวไปกว่าห้าแสนคน ครอบครัวของเขาต้องอยู่ในสถานะปลอมๆ ต้องแอ๊บเป็นอารยัน แถมได้ทำงานในออฟฟิศให้กับหน่วยงานของนาซี หน้าที่ของเขาคือ นำคนไปตามจับและยึดทรัพย์ชาวยิว...จนถึงสงครามเลิก แต่ฮังการี...ต้องไปสู่เขตการปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ ครอบครัวเขาจึงอพยพมุ่งหน้าไปสู่ลอนดอน เขาได้เข้าเรียนระดับวิทยาลัย ในสาขาเศรษฐศาสตร์ ในปี 1947 จากนั้น เขาจึงไปเริ่มชีวิตใหม่ที่อเมริกา ในปี 1956 โดยเริ่มจากเซลส์แมนกิ๊กก๊อก นักเก็งกำไรหุ้น ค้าอสังหาฯ และเพียง สิบกว่าปี เขาก็ก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐี... เรื่องที่เขาขายมอนซานโตออกไปอย่างไม่เสียดมเสียดายเพราะสิ่งที่น่าสนใจกว่า และจะเป็นที่รักใคร่ของประชาชนนั้นคือ “กัญชา” เขาทุ่มเงินสนับสนุนโอบามา จนได้เป็นประธานาธิบดี เพื่อสนองนโยบายได้เร็วทันใจ เพราะ กัญชาได้เปลี่ยนมาเป็นสารเสพติดร้ายแรงประเภทที่หนึ่ง มาเป็นประเภทที่สอง คือ สารเสพติดที่ใช้ทางการแพทย์ จากนั้นก็คือหน้าที่ของกลุ่ม AUMA ในรัฐต่างๆที่จะเคลื่อนไหวกันเอง... ส่วนโซรอส (ในนามของมอนซานโต) ได้เข้าไปยึดครองการเพาะปลูกกัญชาในอุรุกวัย อันว่ากันว่าเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดในโลกต่อเกษตรกรรมกัญชา ตั้งแต่ 2003 และเขาคือแรงผลักดันให้อุรุกวัยประกาศตนเป็นประเทศที่กัญชาค้าขายได้ถูกกฎหมาย รวมทั้งการครอบคลุมเมล็ดพันธุ์ และที่สำคัญสุดคือ จอร์จ โซรอส ได้มีตำแหน่งเป็นหนึ่งในบอร์ดของ DPA (Drug Policy Alliance) สำนักงานตั้งอยู่ในนิวยอร์ค ประมาณว่า เป็นกลุ่มดูแลนโยบายสิ่งเสพติดในการรักษาโรค ที่มีข้อปฎิบัติละเอียดยิบย่อย และ DPA นี้ ไม่ใช่ครอบคลุมในเพียงสหรัฐอเมริกาเท่านั้น เขาได้กระจายไปในอุรุกวัยและประเทศอื่นในแถบลาตินด้วย นั่นหมายถึงว่า ถ้าจะมีสมาชิกใหม่ในกลุ่ม ก็ต้องปฏิบัติตามนโยบายของเขา ปลูกได้ตามที่เขาสั่ง ขายได้ในราคาตามที่เขากำหนด ใช้ได้ตามจำนวนที่เขาจะพิจารณา และ ถ้าไม่เป็นสมาชิก...แต่จะมาค้าขายกัญชาตามใจชอบ ก็อาจจะมี “สงครามกัญชา”เกิดขึ้น เงินไม่เข้าใครออกใคร... ถ้าจำนวนมหาศาลพอ ...ยิวกับนาซี ยังจูบปากกันได้เลย...!!! Wiwanda W. Vichit
    Like
    Yay
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 670 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรับยารักษา “โรคฝีดาษ” จากศิลาจารึก/ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    สำหรับตำรับยาโรคระบาดในประเทศไทยนั้น ได้ยึดถึอเอาพระคัมภีร์ตักกะศิลาเป็นกระบวนการรักษาโรค โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอนด้วยยา 7 ขนาน กล่าวคือ

    ขั้นตอนแรก ตำรับยาสำหรับกระทุ้งพิษไข้ โดยใช้ตำรับยาห้าราก

    ขั้นตอนที่สอง ตำรับยาสำหรับแปรไข้ภายในและรักษาผิวภายนอก มีตำรับยา 5 ขนาน คือ ตำรับยาประสระผิว ตำรับยาพ่นผิวภายนอก ตำรับยาพ่นและยากิน และตำรับยาแปรไข้จากร้ายให้เป็นดี และตำรับยาพ่นแปรผิวภายนอก

    ขั้นตอนสุดท้าย ตำรับยาครอบไข้[1]

    ขั้นตอนดังกล่าวข้างต้นอยู่ในตำรายาหลวง ชื่อตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ สมัยรัชกาลที่ 5 โดยในตำราดังกล่าวได้กล่าวถึงพระคัมภีร์ฉันทศาสตร์ ซึ่งประพันธ์โดยเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ตั้งแต่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา และยังเป็นตำราสำหรับการเรียนการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนไทยประยุกต์มาจนถึงปัจจุบัน

    ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้ทรงมีพระบรมราโชบายให้มีตำรายาจารึกเอาไว้ในแผ่นศิลาประดับอยู่ตามผนังและเสาของวัดเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) พระราชทานเป็นมรดกให้กับประชาชนชาวสยามสืบไปตราบนานเท่านาน รวมถึงวิวัฒนาการที่ลดทอนยา 7 ขนาน 3 ขั้นตอน มาเหลือ “ตำรับยาเดียว” ในการรับมือโรคระบาดหลายชนิดด้วย ซึ่งปัจจุบันคนในวงการแพทย์แผนไทยเรียกว่า “ยาขาว”

    ตำรับยาขาวของวัดโพธิ์นี้ได้ระบุเอาไว้ในตำราว่าแผ่นศิลาแผ่นนี้ได้ถูกรื้อออกมาจากศาลาต่างๆ แต่โชคดีได้บันทึกตำรับยาสำคัญนี้เอาไว้ในตำรายาของวัดโพธิ์ จึงทำให้สามารถตกทอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ โดยตำรายาวัดเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ฉบับเก่า 51 ปีที่แล้ว คือ พ.ศ. 2516 ได้บันทึกตำรับยานี้เอาไว้อยู่ที่หน้า 62-64[2]

    ตำรับยาขนานนี้ได้บรรยายสรรพคุณว่า เพียงตำรับยาเดียวสามารถ “แก้สรรพไข้จากโรคระบาด” โดยตำรายาศิลาจารึกบันทึกว่าตำรับยานี้ใช้สมุนไพร 15 ตัวและมีสรรพคุณแก้สรรพไข้จากโรคระบาดหลายชนิด โดยระบุในบันทึกของแผ่นศิลาความตอนนี้ว่า

    “ขนาน 1 เอา กระเช้าผีมด หัวคล้า รากทองพันชั่ง รากชา รากง้วนหมู รากส้มเส็ด รากข้าวไหม้ รากจิงจ้อ รากสวาด รากสะแก รากมะนาว รากหญ้านาง รากฟักข้าว รากผักสาบ รากผักหวานบ้าน เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดทำแท่ง ไว้ละลายน้ำซาวข้าวกินแก้ไข้รากสาด ออกดำ แดง ขาว และแก้ไข้ประกายดาษ ไข้หงษ์ระทด และแก้ไข้ไฟเดือนห้า ไข้ละอองไฟฟ้า และแก้ไข้มหาเมฆ มหานิล ซึ่งกล่าวมาแล้วนั้น และยาขนานนี้แก้ได้ทุกประการ ตามอาจารย์กล่าวไว้ ให้แพทย์ทั้งหลายรู้ว่าเปน มหาวิเศษนัก“[2]

    แม้ในความจริงแล้วจะมีขั้นตอนและวิวัฒนาการในการรักษาโรคระบาดหลายชนิดในภาพรวม แต่ภายใต้พระคัมภีร์ตักกะศิลา ได้วางหลักถึง “รสยา” สำหรับรับมือโรคระบาดว่ามีข้อห้ามและสิ่งที่ควรจะลองดูในเวลาติดเชื้ออันจากเกิดโรคระบาดเอาไว้ความว่า

    ห้ามใช้ยาหรือการกระทำที่มีรสกระตุ้นธาตุไฟหรือระบบความร้อน (ปิตตะ) แต่ให้ยาที่มีลดธาตุไฟหรือระบบความร้อน หากไม่ฟังตามนี้อาจจะถึงแก่ความตายได้ ความว่า

    “ไข้จำพวกนี้ย่อมห้ามมิให้วางยาร้อนเผ็ดเปรี้ยว อย่าให้ประคบนวด อย่าปล่อยปลิง อย่าให้กอกเอาโลหิตออก อย่าให้ถูกน้ำมัน เหล้าก็อย่าให้ถูก น้ำร้อนก็อย่าให้อาบ อย่าให้กิน ส้มมีควันมีผิวกะทิน้ำมันห้ามิให้กิน ถ้าใครไม่รู้ทำผิดดังกล่าวมานี้ ก็ถึงความตายดังนี้แล”[3]

    ต่อมาเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ได้เรียบเรียงเอาไว้ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในเรื่อง “ว่าด้วยคัมภีร์ตักกะศิลา” ว่าช่วงเวลาที่มีกำเดาหรือเปลวแห่งความร้อนนี้ ไม่ว่าจะวัดว่ามีไข้จากภายนอก หรือรู้สึกครั่นเนื้อตัวอยู่ภายใน ปวดเมื่อยเนื้อตัว หรือมีผื่นขึ้น จะไม่ใช้ยารสร้อน ห้ามเหล้า น้ำมัน กอกเลือด นวด หรือปล่อยปลิงเพื่อเอาเลือดออก หากไม่ฟังให้ยาหรือการดำเนินการเช่นดังกล่าวนี้ อาจแก้กันไม่ทัน ความว่า

    “ถ้าแรกล้มไข้ ท่านมากล่าวไว้ ให้พิจารณา ภายนอกภายใน ให้ร้อนหนักหนา เมื่อยขบกายา ตาแดงเป็นสาย บ้างเย็นบ้างร้อน เปนบั้นเป็นท่อน ไปทั่วทั้งกาย ขึ้นมาให้เห็น เปนวงเปนสาย เปนริ้วยาวรี ลางบางไม่ขึ้น เปนวงฟกลื่น กายหมดดิบดี หมอมักว่าเปนสันนิบาติก็มี ให้ยาผิดที แก้กันไม่ทัน อย่าเพ่อกินยา ร้อนแรงแขงกล้า ส้มเหล้าน้ำมัน เอาโลหิตออก กอกเลือดนวดฟั้น ปล่อยปลิงมิทัน แก้กันเลยนา” [4]

    ด้วยประสบการณ์ของเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ที่เกิดมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ จึงได้รวบยอดสรุปถ่ายทอดมาเป็นความรู้ว่า ในยามที่ยังต้องถกเถียงกันว่าโรคระบาดที่ทำให้เกิดคนตายมากเป็นโรคประเภทใดกันแน่ ในยามที่ยังไม่แน่ใจหรือไม่รู้จึงให้ใช้รสยาแรกไปในทางรสขม เย็นอย่างยิ่ง หรือฝาดจืด ซึ่งเป็นรสยาที่ไม่มีธาตุไฟมาปน ดังความว่า

    “ถ้ายังไม่รู้ให้แก้กันดู แต่พรรณฝูงยา เย็นเปนอย่างยิ่ง ขมจริงโอชา ฝาดจืดพืชน์ยา ตามอาจารย์สอน”[4]

    แต่ถึงแม้จะมีหลักการและขั้นตอนต่างๆในการวางรสยาเพื่อรับมือกับโรคระบาด แต่เนื่องจากโรคฝีดาษและไข้ทรพิษนั้น อาจมีลักษณะจำเพาะที่มีการระบาดมาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนกว่าจะได้หมดสิ้นจากประเทศไทยได้นั้นต้องใช้เวลาหลายร้อยปีจนมาถึงในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ปี พ.ศ. 2523

    การเอาชนะโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ นอกจากการรับมือกับโรคระบาดในเรื่องตำรับยาต่างๆแล้ว ความรู้เรื่องการปลูกฝีตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่ง เพราะได้เป็นรากฐานที่ทำให้ประเทศไทยสามารถเอาชนะโรคฝีดาษได้ด้วย

    โดยในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้มีการตราพระราชบัญญัติจัดการปลูกฝีไข้ทรพิษ และพระราชบัญญัติระงับโรคระบาทว์ พ.ศ.​2456 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บังคับใช้กฎหมายควบคุมโรคแก่ประชาชน

    ต่อมาในปี 2504 กระทรวงสาธารณสุขเริ่มโครงการกำจัดไข้ทรพิษครั้งแรกในประเทศไทย โดยตั้งเป้า 3 ปี (พ.ศ.2504-2506) คือคนไทยอย่างน้อย 80% ต้องได้รับการปลูกฝี ภายหลังขยายเวลาเป็น 5 ปี (พ.ศ.2504-2508) ซึ่งเป็นช่วงเวลาระดมการปลูกฝีทั่วประเทศไทย

    โดยประเทศไทยได้พบผู้ป่วยโรคฝีดาษรายสุดท้ายในปี พ.ศ. 2505 เป็นแขกชื่อ ยาริดาเนา ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร

    เมื่อสิ้นสุดโครงการการระดมปลูกฝี ถึงปี พ.ศ. 2508 ก็เป็นผลทำให้ฝีดาษหรือไข้ทรพิษหายไปจากประเทศไทยติดต่อกันถึง 3 ปีติดต่อกันแล้ว จนกระทั่งวันที่ 8 พฤษภาคม 2523 องค์การอนามัยโลก ได้ประกาศรับรองว่าฝีดาษหรือไข้ทรพิษได้สูญพันธุ์ไปจากโลกแล้ว[5]

    นี่คือเหตุผลว่าผู้ที่เกิดก่อนปี 2523 หรืออายุมากกว่า 44 ปีขึ้นไปส่วนใหญ่น่าจะได้รับการปลูกฝีแล้ว(โดยดูได้จากแผลเป็นบนหัวไหล่) แต่ถึงกระนั้นก็ยังพบผู้ที่มีอายุมากกว่า 44 ปีติดโรคฝีดาษลิงได้ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง เช่นผู้ป่วยโรคเอดส์เป็นต้น

    อย่างไรก็ตามเนื่องจากฝีดาษที่ได้สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ปี 2523 หรือเป็นเวลา 44 ปี ทำให้ภูมิปัญญาที่เคยรับมือในการรักษาโรคฝีดาษขาดความต่อเนื่อง โดยเฉพาะขั้นตอนการรับมือด้วยสมุนไพร ตำรับยาไทย และกรรมวิธีต่างๆในการรักษา

    ดังนั้นความรู้ที่ว่าคนไทยควรจะรับมือในการรักษาโรคฝีดาษลิงอย่างไร ส่วนใหญ่ก็จะอ้างอิงไปตามพระคัมภีร์ตักกะศิลาในการใช้ยา 3 ขั้นตอนด้วยยา 7 ขนาน หรือยาขาวตามตำรับยาของวัดศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) บ้าง แต่ก็ไม่ใช่กล่าวถึงโรคฝีดาษ หรือฝีดาษลิงเป็นการเฉพาะ

    ทำให้หลายคนสงสัยว่าในเมื่อโรคฝีดาษ เป็นโรคที่ประเทศไทยเคยมีประสบการณ์ในการเกิดโรคระบาดมาหลายร้อยปี ควรจะต้องมี “ตำรับยา“ สำหรับโรคฝีดาษเป็นการเฉพาะหรือไม่

    เมื่อทบทวนข้อมูลตามตำราและคัมภีร์ทั้งหมดพบ ”การรักษาโรคฝีดาษ“ เป็นการเฉพาะจารึกเป็นตำรายาที่ปรากฏในแผ่นศิลาของวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

    โดย ศิลาจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เป็นมรดกที่แสดงถึงภูมิปัญญาของแพทย์แผนโบราณในสมัยรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 3 ที่จารึกยาขนานต่างๆ ลักษณะของแผ่นศิลาจารึกเป็นหินอ่อนสีเทา สี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้างด้านละ 33 เซนติเมตร จัดเรียงบรรทัดในมุมแหลม จำนวน 17 บรรทัด เหมือนกันทุกแผ่น ติดตามผนังด้านนอกของระเบียงพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ 42 แผ่น และผนังศาลารายหน้าพระอุโบสถวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร 8 แผ่น เชื่อว่าในอดีตมีแผ่นศิลาจารึก 92 แผ่น แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 50 แผ่น

    และนับว่าเป็นความโชคดีของคนไทย เพราะแผ่นศิลาที่กล่าวถึงการรักษาโรคฝีดาษ ยังไม่สูญหายและข้อความที่ปรากฏก็ยังไม่เลือนหายไปด้วย จึงนับว่าเป็นบุญของประเทศที่มีภูมิปัญญาและมีคุณค่ายิ่งในสถานการณ์ที่โรคฝีดาษลิงกลับมาเริ่มระบาดในบางประเทศ และเริ่มเข้ามาในประเทศไทย

    โดยแผ่นศิลาที่กล่าวถึงฝีดาษนั้น เป็นแผนที่ 18 ของศิลาจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ปรากฏข้อความดังนี้

    “๏ สิทธิการิยะ จะกล่าวฝีดาษเกิดในเดือน 11 เดือน 12 เดือน 1 ทั้ง 3 เดือนนี้ เกิดเพื่ออาโปธาตุ มักให้เย็นในอกแลมักตกมูกตกเลือด ให้เสียแม่แสลงพ่อแสลง นุ่งขาวห่มขาว แล้วทำบัตรไปส่งทิศอุดรแลอีสาร จึ่งจะดี๚

    ถ้าจะแก้ให้เอาใบมะอึก ใบผักบุ้งร้วม ใบผักบุ้งขัน ใบก้างปลาทั้งสอง ใบพุงดา ใบผักขวง ใบหมาก ใบทองพันชั่ง เอาเสมอภาคตำเอาน้ำพ่น ดับฝี เพื่อเสมหะหาย ๚

    ขนานหนึ่ง เอากะทิมะพร้าว น้ำคาวปลาไหล ไข่เป็ดลูกหนึ่ง มูลโคดำ แก่นประดู่ เอาเสมอภาคบด พ่นฝีเพื่อเสมหะที่ด้านอยู่นั้นขึ้นแลแปรฝีร้ายให้เป็นดี ๚

    ขนานหนึ่ง เอาน้ำลูกตำลึง น้ำมันงา น้ำมันหัวกุ้ง น้ำรากถั่วพู เอาเสมอภาค พ่นฝีเพื่อเสมหะให้ยอดขึ้น หนองงามดีนัก๚

    ขนานหนึ่ง เอาเห็ดมูลโค ว่านกีบแรด ว่านร่อนทอง สังกรณี ชะเอม ลูกประคำดีควาย หวายตะค้า เขากวางเผา กระดูกเสือเผา มะกล่ำเครือ ขันฑสกร มะขามเปียก เอาเสมอภาคบดทคำเป็นจุณ บดด้วยน้ำมะนาวทำแท่งไว้ละลายสุรา ดีงูเหลือม รำหัด กินแก้คอแหบแห้ง แก้คอเครือ หายดีนัก๚

    ขนานหนึ่ง เอาใบหิ่งหาย ใบโหระพา ใบผักคราด ใบมะนาว พันงูแดง เอาเสมอภาค บดทำแท่งไว้ละลายสุรากิน แก้พิษฝี เพื่อเสมหะให้คลั่งให้สลบไปก็ดี หายวิเศษแล๚[6]

    ในตำรับยาขนานต่างๆข้างต้นนั้น เป็นยาพ่นภายนอกเสียส่วนใหญ่ ตำรับยาเพื่อการรับประทานที่พอาจะหาได้โดยไม่ต้องอาศัยสัตว์วัตถุคือตำรับยาขนานสุดท้ายที่น่าจะนำไปวิจัยต่อที่ว่า

    ”ขนานหนึ่ง เอาใบหิ่งหาย ใบโหระพา ใบผักคราด ใบมะนาว พันงูแดง เอาเสมอภาค บดทำแท่งไว้ละลายสุรากิน แก้พิษฝี เพื่อเสมหะให้คลั่งให้สลบไปก็ดี หายวิเศษแล๚“ [6]

    นอกจากนั้นจากจารึกวัดราชโอรสราชวรมหาวิหารยังปรากฏในแผ่นที่ 46 ทำให้เห็นว่ายังมีตำรับยาอีกขนานหนึ่งสำหรับโรคฝีดาษที่เป็นไข้หนักเข้าขั้นไข้สันนิบาตแล้วโดยใช้ ”ยาผายเลือด“ ความว่า

    “๏ สิทธิการิยะ ยาผายเลือดเอารากขี้กาแดง 1 เบญจาขี้เหล็ก ใบมะกา ใบมะขาม ใบส้มป่อย หญ้าไซ ลูกคัดเค้า ต้มให้งวดแล้วกรอง เอาน้ำขยำใส่ลงอีกเคี่ยวให้ข้น ปรุงยาดำ 1 สลึง 1 เฟื้อง ดีเกลือ 1 บาท กินประจุเลือดร้ายทั้งปวง แก้ไขสันนิบาตฝีดาษด้วย๚“[7]

    แต่สำหรับศิลาจารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ก็ได้กล่าวถึงโรคฝีดาษที่มีรายละเอียดในบางอาการเพิ่มเติมอีก เช่น อาการฝีดาษขึ้นตา ปรากฏในศิลาจารึกว่าด้วยตำรายาวิเศษสรรพคุณสำเร็จแก้สรรพโรคทั้งปวงแผ่นที่ 22 ความว่า

    “ยาชื่อ สังขรัศมี เอาชะมดสด พิมเสน สิ่งละส่วน ลิ้นทะเลแช่น้ำมะนาวไว้ยังรุ่งแล้วล้างเสีย จึงเอามาแช่น้ำท่าไว้แต่เช้าถึงเที่ยง แล้วเอาตากให้แห้ง 3 ส่วน รากช้าแป้น ดินถนำสุทธิ สังข์สุทธิ สิ่งละ 4 ส่วน ทำเป็นจุณบดทำแท่งไว้ ฝนป้ายจักษุแก้สรรพต้อให้ปวดเคืองต่างๆ แก้ฝีดาษขึ้นจักษุก็ได้หายวิเศษนักฯ”[8]

    อย่างไรก็ตามการบันทึกในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ยังให้เบาะแสเกี่ยวกับ “สมุนไพรเดี่ยว” ที่เป็นเบาะแสว่าอาจจะมีสรรพคุณในการลดฝีดาษได้ ได้แก่ ข่าลิง บอระเพ็ด ชิงช้าชาลี ฯลฯ[8]

    ดังปรากฏตัวอย่างในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศและสมุนไพรแผ่นที่ 7 ที่กล่าวถึง “ต้นข่าลิง”แก้พิษฝีดาษ ความว่า

    “อันว่าคุณแห่งข่าลิงนั้น ต้นรู้แก้พิษฝีดาษ และรู้แก้ไข้เหนืออันบังเกิดเพื่อโลหิต รู้แก้ฝีกาฬ อันบังเกิดเพื่อฝีดาษ รู้แก้ไข้ตรีโทษ รู้กระทำให้เกิดกำลัง รู้กระทำเพลิงธาตุให้บริบูรณ์ รู้แก้กระหายน้ำ อันเป็นเพื่อโลหิตและลม รู้แก้สะอึก แก้สมุฏฐานกำเริบ ใบรู้ฆ่าพยาธิ์คือมะเร็ง ดอกรู้ฆ่าพยาธิ์ในอุทรและฟันในหูให้ตก ผลรู้แก้เสมหะอันเป็นพิษ รากรู้แก้โลหิตอันเป็นพิษไข้เหนือสันนิบาตฯ”[9]

    นอกจากนั้นยังปรากฏในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 14 ซึ่งกล่าวถึง “บอระเพ็ด” และ “ชิงช้าชาลี” ความว่า

    “อันว่าคุณแห่งบอระเพ็ดและชิงช้าชาลีนั้นคุณดุจกัน ต้นรู้แก้ฝีดาษ และรู้แก้ไข้เหนืออันบังเกิดโลหิต รู้แก้ฝีกาฬอันบังเกิดฝีดาษ รู้แก้ไข้ตรีโทษ รู้กระทำให้เกิดกำลัง รู้กระทำเพลิงธาตุให้บริบูรณ์ รู้แก้กระหายน้ำ อันเป็นเพื่อโลหิตและลม รู้แก้สะอึก แก้สมุฏฐานกำเริบ ใบรู้ฆ่าพยาธิ์คือมะเร็ง ดอกรู้ฆ่าพยาธิ์ในอุทรและในฟันในหูให้ตก ผลรู้แก้เสมหะอันเป็นพิษ รากรู้แก้โลหิตอันเป็นพิษเพื่อไข้สันนิบาตฯ”[10]

    นอกจากนั้นสมุนไพรที่มีการวิจัยที่ออกฤทธิ์ต้านไวรัสหลายชนิดในยุคปัจจุบัน ก็ควรจะนำมาสู่การวิจัยกับฝีดาษลิงต่อไป เช่น ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร ใบสะเดา กัญชา กัญชง ฝีหมอบ เสลดพังพอนตัวเมีย ฯลฯ

    ดังนั้นการกลับมาของโรคฝีดาษลิง จึงควรให้ความสำคัญกับภูมิปัญญาในการรักษาที่มีมาแต่ในอดีตรวมถึงความรู้จากการวิจัยในสมุนไพรต่างๆที่มีมากขึ้น ซึ่งควรจะนำมาวิจัยกับไวรัสฝีดาษลิงเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อเตรียมประยุกต์ให้เหมาะสมใช้ในสถานการณ์ปัจจุบันและต่อไปในกาลข้างหน้าด้วยความไม่ประมาท

    ด้วยความปรารถนาดี
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    5 กันยายน 2567
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1045825823577784/?

    อ้างอิง
    [1] พิชชานันท์ เธียรทองอินทร์ และ รัชฎาพร พิสัยพันธุ์, การวิเคราะห์องค์ความรู้ไข้ตามคัมภีร์ตักศิลา: คัมภีร์ว่าด้วยโรคระบาด, วารสารหมอยาไทยวิจัย, ปีที่ 9 ฉบับที่ 1 (มกราคม - มิถุนายน 2566), หน้า 131-152
    https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ttm/article/view/258845/180094

    [2] โรงเรียนแพทย์แผนโบราณ วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์), ตำรายา ศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) พระนคร พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จารึกไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๕ ฉบับสมบูรณ์ ฉบับ พ.ศ.​๒๕๑๖ หน้า ๖๒ - ๖๔

    [3] สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ, หนังสือชุดวรรณกรรมหายาก แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ :ภูมิปัญญาการแพทย์และมรดกทางวรรณกรรมของชาติ, องค์การการค้าของ สกสค. จัดพิมพ์จำหน่าย พิมพ์ครั้งที่ 4, พ.ศ. 2554 จำนวน 3,000 เล่ม ISBN 978-947-01-9742-3 หน้า 694

    [4] เรื่องเดียวกัน, หน้า 37

    [5] เว็บไซต์กองนวัตกรรมและวิจัย กรมควบคุมโรค, การปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ จุดเริ่มงานควบคุมโรคติดต่อในประเทศไทย
    https://ddc.moph.go.th/uploads/ckeditor2//files/การปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ.pdf

    [6] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน,จารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร แผ่นที่ 18 ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2557( อัพเดทเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2567)
    https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/image_detail/14798

    [7] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน,จารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร แผ่นที่ 46 (ยาผายเลือด) ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อ โพสต์เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558
    https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/image_detail/16335

    [8] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(ว่าด้วยตำรายาวิเศษสรรพคุณสำเร็จแก้สรรพโรคทั้งปวง แผ่นที่ 22 ยาแก้จักษุโรคคือต้อ(5), จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2560
    https://db.sac.or.th/inscriptions/uploads/file/22-chaksurok-to5-tr2.pdf

    [9] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 7 ท้าวยายม่อม ข่าใหญ่ ข่าลิง กระทือ ไพล กระชาย หอม และกระเทียม) ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564
    https://db.sac.or.th/inscriptions/uploads/file/7-thaoyaimom-khayai-khaling-tr1.pdf

    [10] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม, จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 14 แตงหนู ชิงชี่ บอระเพ็ด ชิงช้าชาลี บอระเพ็ดพุงช้าง ผักปอดตัวเมีย ผักปอดตัวผู้ และพลูแก), จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567
    https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/detail/17723
    ตำรับยารักษา “โรคฝีดาษ” จากศิลาจารึก/ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ สำหรับตำรับยาโรคระบาดในประเทศไทยนั้น ได้ยึดถึอเอาพระคัมภีร์ตักกะศิลาเป็นกระบวนการรักษาโรค โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอนด้วยยา 7 ขนาน กล่าวคือ ขั้นตอนแรก ตำรับยาสำหรับกระทุ้งพิษไข้ โดยใช้ตำรับยาห้าราก ขั้นตอนที่สอง ตำรับยาสำหรับแปรไข้ภายในและรักษาผิวภายนอก มีตำรับยา 5 ขนาน คือ ตำรับยาประสระผิว ตำรับยาพ่นผิวภายนอก ตำรับยาพ่นและยากิน และตำรับยาแปรไข้จากร้ายให้เป็นดี และตำรับยาพ่นแปรผิวภายนอก ขั้นตอนสุดท้าย ตำรับยาครอบไข้[1] ขั้นตอนดังกล่าวข้างต้นอยู่ในตำรายาหลวง ชื่อตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ สมัยรัชกาลที่ 5 โดยในตำราดังกล่าวได้กล่าวถึงพระคัมภีร์ฉันทศาสตร์ ซึ่งประพันธ์โดยเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ตั้งแต่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่ 1 ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่ตกทอดมาตั้งแต่สมัยอยุธยา และยังเป็นตำราสำหรับการเรียนการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนไทยประยุกต์มาจนถึงปัจจุบัน ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้ทรงมีพระบรมราโชบายให้มีตำรายาจารึกเอาไว้ในแผ่นศิลาประดับอยู่ตามผนังและเสาของวัดเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) พระราชทานเป็นมรดกให้กับประชาชนชาวสยามสืบไปตราบนานเท่านาน รวมถึงวิวัฒนาการที่ลดทอนยา 7 ขนาน 3 ขั้นตอน มาเหลือ “ตำรับยาเดียว” ในการรับมือโรคระบาดหลายชนิดด้วย ซึ่งปัจจุบันคนในวงการแพทย์แผนไทยเรียกว่า “ยาขาว” ตำรับยาขาวของวัดโพธิ์นี้ได้ระบุเอาไว้ในตำราว่าแผ่นศิลาแผ่นนี้ได้ถูกรื้อออกมาจากศาลาต่างๆ แต่โชคดีได้บันทึกตำรับยาสำคัญนี้เอาไว้ในตำรายาของวัดโพธิ์ จึงทำให้สามารถตกทอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ โดยตำรายาวัดเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ฉบับเก่า 51 ปีที่แล้ว คือ พ.ศ. 2516 ได้บันทึกตำรับยานี้เอาไว้อยู่ที่หน้า 62-64[2] ตำรับยาขนานนี้ได้บรรยายสรรพคุณว่า เพียงตำรับยาเดียวสามารถ “แก้สรรพไข้จากโรคระบาด” โดยตำรายาศิลาจารึกบันทึกว่าตำรับยานี้ใช้สมุนไพร 15 ตัวและมีสรรพคุณแก้สรรพไข้จากโรคระบาดหลายชนิด โดยระบุในบันทึกของแผ่นศิลาความตอนนี้ว่า “ขนาน 1 เอา กระเช้าผีมด หัวคล้า รากทองพันชั่ง รากชา รากง้วนหมู รากส้มเส็ด รากข้าวไหม้ รากจิงจ้อ รากสวาด รากสะแก รากมะนาว รากหญ้านาง รากฟักข้าว รากผักสาบ รากผักหวานบ้าน เอาเสมอภาคทำเปนจุณ บดทำแท่ง ไว้ละลายน้ำซาวข้าวกินแก้ไข้รากสาด ออกดำ แดง ขาว และแก้ไข้ประกายดาษ ไข้หงษ์ระทด และแก้ไข้ไฟเดือนห้า ไข้ละอองไฟฟ้า และแก้ไข้มหาเมฆ มหานิล ซึ่งกล่าวมาแล้วนั้น และยาขนานนี้แก้ได้ทุกประการ ตามอาจารย์กล่าวไว้ ให้แพทย์ทั้งหลายรู้ว่าเปน มหาวิเศษนัก“[2] แม้ในความจริงแล้วจะมีขั้นตอนและวิวัฒนาการในการรักษาโรคระบาดหลายชนิดในภาพรวม แต่ภายใต้พระคัมภีร์ตักกะศิลา ได้วางหลักถึง “รสยา” สำหรับรับมือโรคระบาดว่ามีข้อห้ามและสิ่งที่ควรจะลองดูในเวลาติดเชื้ออันจากเกิดโรคระบาดเอาไว้ความว่า ห้ามใช้ยาหรือการกระทำที่มีรสกระตุ้นธาตุไฟหรือระบบความร้อน (ปิตตะ) แต่ให้ยาที่มีลดธาตุไฟหรือระบบความร้อน หากไม่ฟังตามนี้อาจจะถึงแก่ความตายได้ ความว่า “ไข้จำพวกนี้ย่อมห้ามมิให้วางยาร้อนเผ็ดเปรี้ยว อย่าให้ประคบนวด อย่าปล่อยปลิง อย่าให้กอกเอาโลหิตออก อย่าให้ถูกน้ำมัน เหล้าก็อย่าให้ถูก น้ำร้อนก็อย่าให้อาบ อย่าให้กิน ส้มมีควันมีผิวกะทิน้ำมันห้ามิให้กิน ถ้าใครไม่รู้ทำผิดดังกล่าวมานี้ ก็ถึงความตายดังนี้แล”[3] ต่อมาเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ได้เรียบเรียงเอาไว้ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ในเรื่อง “ว่าด้วยคัมภีร์ตักกะศิลา” ว่าช่วงเวลาที่มีกำเดาหรือเปลวแห่งความร้อนนี้ ไม่ว่าจะวัดว่ามีไข้จากภายนอก หรือรู้สึกครั่นเนื้อตัวอยู่ภายใน ปวดเมื่อยเนื้อตัว หรือมีผื่นขึ้น จะไม่ใช้ยารสร้อน ห้ามเหล้า น้ำมัน กอกเลือด นวด หรือปล่อยปลิงเพื่อเอาเลือดออก หากไม่ฟังให้ยาหรือการดำเนินการเช่นดังกล่าวนี้ อาจแก้กันไม่ทัน ความว่า “ถ้าแรกล้มไข้ ท่านมากล่าวไว้ ให้พิจารณา ภายนอกภายใน ให้ร้อนหนักหนา เมื่อยขบกายา ตาแดงเป็นสาย บ้างเย็นบ้างร้อน เปนบั้นเป็นท่อน ไปทั่วทั้งกาย ขึ้นมาให้เห็น เปนวงเปนสาย เปนริ้วยาวรี ลางบางไม่ขึ้น เปนวงฟกลื่น กายหมดดิบดี หมอมักว่าเปนสันนิบาติก็มี ให้ยาผิดที แก้กันไม่ทัน อย่าเพ่อกินยา ร้อนแรงแขงกล้า ส้มเหล้าน้ำมัน เอาโลหิตออก กอกเลือดนวดฟั้น ปล่อยปลิงมิทัน แก้กันเลยนา” [4] ด้วยประสบการณ์ของเจ้าพระยาวิชยาธิบดี (กล่อม) เจ้าเมืองจันทบูร ที่เกิดมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ จึงได้รวบยอดสรุปถ่ายทอดมาเป็นความรู้ว่า ในยามที่ยังต้องถกเถียงกันว่าโรคระบาดที่ทำให้เกิดคนตายมากเป็นโรคประเภทใดกันแน่ ในยามที่ยังไม่แน่ใจหรือไม่รู้จึงให้ใช้รสยาแรกไปในทางรสขม เย็นอย่างยิ่ง หรือฝาดจืด ซึ่งเป็นรสยาที่ไม่มีธาตุไฟมาปน ดังความว่า “ถ้ายังไม่รู้ให้แก้กันดู แต่พรรณฝูงยา เย็นเปนอย่างยิ่ง ขมจริงโอชา ฝาดจืดพืชน์ยา ตามอาจารย์สอน”[4] แต่ถึงแม้จะมีหลักการและขั้นตอนต่างๆในการวางรสยาเพื่อรับมือกับโรคระบาด แต่เนื่องจากโรคฝีดาษและไข้ทรพิษนั้น อาจมีลักษณะจำเพาะที่มีการระบาดมาตั้งแต่สมัยอยุธยาจนกว่าจะได้หมดสิ้นจากประเทศไทยได้นั้นต้องใช้เวลาหลายร้อยปีจนมาถึงในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ปี พ.ศ. 2523 การเอาชนะโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ นอกจากการรับมือกับโรคระบาดในเรื่องตำรับยาต่างๆแล้ว ความรู้เรื่องการปลูกฝีตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 ก็เป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่ง เพราะได้เป็นรากฐานที่ทำให้ประเทศไทยสามารถเอาชนะโรคฝีดาษได้ด้วย โดยในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้มีการตราพระราชบัญญัติจัดการปลูกฝีไข้ทรพิษ และพระราชบัญญัติระงับโรคระบาทว์ พ.ศ.​2456 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่บังคับใช้กฎหมายควบคุมโรคแก่ประชาชน ต่อมาในปี 2504 กระทรวงสาธารณสุขเริ่มโครงการกำจัดไข้ทรพิษครั้งแรกในประเทศไทย โดยตั้งเป้า 3 ปี (พ.ศ.2504-2506) คือคนไทยอย่างน้อย 80% ต้องได้รับการปลูกฝี ภายหลังขยายเวลาเป็น 5 ปี (พ.ศ.2504-2508) ซึ่งเป็นช่วงเวลาระดมการปลูกฝีทั่วประเทศไทย โดยประเทศไทยได้พบผู้ป่วยโรคฝีดาษรายสุดท้ายในปี พ.ศ. 2505 เป็นแขกชื่อ ยาริดาเนา ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร เมื่อสิ้นสุดโครงการการระดมปลูกฝี ถึงปี พ.ศ. 2508 ก็เป็นผลทำให้ฝีดาษหรือไข้ทรพิษหายไปจากประเทศไทยติดต่อกันถึง 3 ปีติดต่อกันแล้ว จนกระทั่งวันที่ 8 พฤษภาคม 2523 องค์การอนามัยโลก ได้ประกาศรับรองว่าฝีดาษหรือไข้ทรพิษได้สูญพันธุ์ไปจากโลกแล้ว[5] นี่คือเหตุผลว่าผู้ที่เกิดก่อนปี 2523 หรืออายุมากกว่า 44 ปีขึ้นไปส่วนใหญ่น่าจะได้รับการปลูกฝีแล้ว(โดยดูได้จากแผลเป็นบนหัวไหล่) แต่ถึงกระนั้นก็ยังพบผู้ที่มีอายุมากกว่า 44 ปีติดโรคฝีดาษลิงได้ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่อง เช่นผู้ป่วยโรคเอดส์เป็นต้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากฝีดาษที่ได้สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ปี 2523 หรือเป็นเวลา 44 ปี ทำให้ภูมิปัญญาที่เคยรับมือในการรักษาโรคฝีดาษขาดความต่อเนื่อง โดยเฉพาะขั้นตอนการรับมือด้วยสมุนไพร ตำรับยาไทย และกรรมวิธีต่างๆในการรักษา ดังนั้นความรู้ที่ว่าคนไทยควรจะรับมือในการรักษาโรคฝีดาษลิงอย่างไร ส่วนใหญ่ก็จะอ้างอิงไปตามพระคัมภีร์ตักกะศิลาในการใช้ยา 3 ขั้นตอนด้วยยา 7 ขนาน หรือยาขาวตามตำรับยาของวัดศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) บ้าง แต่ก็ไม่ใช่กล่าวถึงโรคฝีดาษ หรือฝีดาษลิงเป็นการเฉพาะ ทำให้หลายคนสงสัยว่าในเมื่อโรคฝีดาษ เป็นโรคที่ประเทศไทยเคยมีประสบการณ์ในการเกิดโรคระบาดมาหลายร้อยปี ควรจะต้องมี “ตำรับยา“ สำหรับโรคฝีดาษเป็นการเฉพาะหรือไม่ เมื่อทบทวนข้อมูลตามตำราและคัมภีร์ทั้งหมดพบ ”การรักษาโรคฝีดาษ“ เป็นการเฉพาะจารึกเป็นตำรายาที่ปรากฏในแผ่นศิลาของวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร โดย ศิลาจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร เป็นมรดกที่แสดงถึงภูมิปัญญาของแพทย์แผนโบราณในสมัยรัชกาลที่ 2 และรัชกาลที่ 3 ที่จารึกยาขนานต่างๆ ลักษณะของแผ่นศิลาจารึกเป็นหินอ่อนสีเทา สี่เหลี่ยมจัตุรัส ขนาดกว้างด้านละ 33 เซนติเมตร จัดเรียงบรรทัดในมุมแหลม จำนวน 17 บรรทัด เหมือนกันทุกแผ่น ติดตามผนังด้านนอกของระเบียงพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ 42 แผ่น และผนังศาลารายหน้าพระอุโบสถวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร 8 แผ่น เชื่อว่าในอดีตมีแผ่นศิลาจารึก 92 แผ่น แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 50 แผ่น และนับว่าเป็นความโชคดีของคนไทย เพราะแผ่นศิลาที่กล่าวถึงการรักษาโรคฝีดาษ ยังไม่สูญหายและข้อความที่ปรากฏก็ยังไม่เลือนหายไปด้วย จึงนับว่าเป็นบุญของประเทศที่มีภูมิปัญญาและมีคุณค่ายิ่งในสถานการณ์ที่โรคฝีดาษลิงกลับมาเริ่มระบาดในบางประเทศ และเริ่มเข้ามาในประเทศไทย โดยแผ่นศิลาที่กล่าวถึงฝีดาษนั้น เป็นแผนที่ 18 ของศิลาจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ปรากฏข้อความดังนี้ “๏ สิทธิการิยะ จะกล่าวฝีดาษเกิดในเดือน 11 เดือน 12 เดือน 1 ทั้ง 3 เดือนนี้ เกิดเพื่ออาโปธาตุ มักให้เย็นในอกแลมักตกมูกตกเลือด ให้เสียแม่แสลงพ่อแสลง นุ่งขาวห่มขาว แล้วทำบัตรไปส่งทิศอุดรแลอีสาร จึ่งจะดี๚ ถ้าจะแก้ให้เอาใบมะอึก ใบผักบุ้งร้วม ใบผักบุ้งขัน ใบก้างปลาทั้งสอง ใบพุงดา ใบผักขวง ใบหมาก ใบทองพันชั่ง เอาเสมอภาคตำเอาน้ำพ่น ดับฝี เพื่อเสมหะหาย ๚ ขนานหนึ่ง เอากะทิมะพร้าว น้ำคาวปลาไหล ไข่เป็ดลูกหนึ่ง มูลโคดำ แก่นประดู่ เอาเสมอภาคบด พ่นฝีเพื่อเสมหะที่ด้านอยู่นั้นขึ้นแลแปรฝีร้ายให้เป็นดี ๚ ขนานหนึ่ง เอาน้ำลูกตำลึง น้ำมันงา น้ำมันหัวกุ้ง น้ำรากถั่วพู เอาเสมอภาค พ่นฝีเพื่อเสมหะให้ยอดขึ้น หนองงามดีนัก๚ ขนานหนึ่ง เอาเห็ดมูลโค ว่านกีบแรด ว่านร่อนทอง สังกรณี ชะเอม ลูกประคำดีควาย หวายตะค้า เขากวางเผา กระดูกเสือเผา มะกล่ำเครือ ขันฑสกร มะขามเปียก เอาเสมอภาคบดทคำเป็นจุณ บดด้วยน้ำมะนาวทำแท่งไว้ละลายสุรา ดีงูเหลือม รำหัด กินแก้คอแหบแห้ง แก้คอเครือ หายดีนัก๚ ขนานหนึ่ง เอาใบหิ่งหาย ใบโหระพา ใบผักคราด ใบมะนาว พันงูแดง เอาเสมอภาค บดทำแท่งไว้ละลายสุรากิน แก้พิษฝี เพื่อเสมหะให้คลั่งให้สลบไปก็ดี หายวิเศษแล๚[6] ในตำรับยาขนานต่างๆข้างต้นนั้น เป็นยาพ่นภายนอกเสียส่วนใหญ่ ตำรับยาเพื่อการรับประทานที่พอาจะหาได้โดยไม่ต้องอาศัยสัตว์วัตถุคือตำรับยาขนานสุดท้ายที่น่าจะนำไปวิจัยต่อที่ว่า ”ขนานหนึ่ง เอาใบหิ่งหาย ใบโหระพา ใบผักคราด ใบมะนาว พันงูแดง เอาเสมอภาค บดทำแท่งไว้ละลายสุรากิน แก้พิษฝี เพื่อเสมหะให้คลั่งให้สลบไปก็ดี หายวิเศษแล๚“ [6] นอกจากนั้นจากจารึกวัดราชโอรสราชวรมหาวิหารยังปรากฏในแผ่นที่ 46 ทำให้เห็นว่ายังมีตำรับยาอีกขนานหนึ่งสำหรับโรคฝีดาษที่เป็นไข้หนักเข้าขั้นไข้สันนิบาตแล้วโดยใช้ ”ยาผายเลือด“ ความว่า “๏ สิทธิการิยะ ยาผายเลือดเอารากขี้กาแดง 1 เบญจาขี้เหล็ก ใบมะกา ใบมะขาม ใบส้มป่อย หญ้าไซ ลูกคัดเค้า ต้มให้งวดแล้วกรอง เอาน้ำขยำใส่ลงอีกเคี่ยวให้ข้น ปรุงยาดำ 1 สลึง 1 เฟื้อง ดีเกลือ 1 บาท กินประจุเลือดร้ายทั้งปวง แก้ไขสันนิบาตฝีดาษด้วย๚“[7] แต่สำหรับศิลาจารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ก็ได้กล่าวถึงโรคฝีดาษที่มีรายละเอียดในบางอาการเพิ่มเติมอีก เช่น อาการฝีดาษขึ้นตา ปรากฏในศิลาจารึกว่าด้วยตำรายาวิเศษสรรพคุณสำเร็จแก้สรรพโรคทั้งปวงแผ่นที่ 22 ความว่า “ยาชื่อ สังขรัศมี เอาชะมดสด พิมเสน สิ่งละส่วน ลิ้นทะเลแช่น้ำมะนาวไว้ยังรุ่งแล้วล้างเสีย จึงเอามาแช่น้ำท่าไว้แต่เช้าถึงเที่ยง แล้วเอาตากให้แห้ง 3 ส่วน รากช้าแป้น ดินถนำสุทธิ สังข์สุทธิ สิ่งละ 4 ส่วน ทำเป็นจุณบดทำแท่งไว้ ฝนป้ายจักษุแก้สรรพต้อให้ปวดเคืองต่างๆ แก้ฝีดาษขึ้นจักษุก็ได้หายวิเศษนักฯ”[8] อย่างไรก็ตามการบันทึกในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ในสมัยรัชกาลที่ 3 ยังให้เบาะแสเกี่ยวกับ “สมุนไพรเดี่ยว” ที่เป็นเบาะแสว่าอาจจะมีสรรพคุณในการลดฝีดาษได้ ได้แก่ ข่าลิง บอระเพ็ด ชิงช้าชาลี ฯลฯ[8] ดังปรากฏตัวอย่างในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศและสมุนไพรแผ่นที่ 7 ที่กล่าวถึง “ต้นข่าลิง”แก้พิษฝีดาษ ความว่า “อันว่าคุณแห่งข่าลิงนั้น ต้นรู้แก้พิษฝีดาษ และรู้แก้ไข้เหนืออันบังเกิดเพื่อโลหิต รู้แก้ฝีกาฬ อันบังเกิดเพื่อฝีดาษ รู้แก้ไข้ตรีโทษ รู้กระทำให้เกิดกำลัง รู้กระทำเพลิงธาตุให้บริบูรณ์ รู้แก้กระหายน้ำ อันเป็นเพื่อโลหิตและลม รู้แก้สะอึก แก้สมุฏฐานกำเริบ ใบรู้ฆ่าพยาธิ์คือมะเร็ง ดอกรู้ฆ่าพยาธิ์ในอุทรและฟันในหูให้ตก ผลรู้แก้เสมหะอันเป็นพิษ รากรู้แก้โลหิตอันเป็นพิษไข้เหนือสันนิบาตฯ”[9] นอกจากนั้นยังปรากฏในศิลาจารึกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)ในสมัยรัชกาลที่ 3 ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 14 ซึ่งกล่าวถึง “บอระเพ็ด” และ “ชิงช้าชาลี” ความว่า “อันว่าคุณแห่งบอระเพ็ดและชิงช้าชาลีนั้นคุณดุจกัน ต้นรู้แก้ฝีดาษ และรู้แก้ไข้เหนืออันบังเกิดโลหิต รู้แก้ฝีกาฬอันบังเกิดฝีดาษ รู้แก้ไข้ตรีโทษ รู้กระทำให้เกิดกำลัง รู้กระทำเพลิงธาตุให้บริบูรณ์ รู้แก้กระหายน้ำ อันเป็นเพื่อโลหิตและลม รู้แก้สะอึก แก้สมุฏฐานกำเริบ ใบรู้ฆ่าพยาธิ์คือมะเร็ง ดอกรู้ฆ่าพยาธิ์ในอุทรและในฟันในหูให้ตก ผลรู้แก้เสมหะอันเป็นพิษ รากรู้แก้โลหิตอันเป็นพิษเพื่อไข้สันนิบาตฯ”[10] นอกจากนั้นสมุนไพรที่มีการวิจัยที่ออกฤทธิ์ต้านไวรัสหลายชนิดในยุคปัจจุบัน ก็ควรจะนำมาสู่การวิจัยกับฝีดาษลิงต่อไป เช่น ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร ใบสะเดา กัญชา กัญชง ฝีหมอบ เสลดพังพอนตัวเมีย ฯลฯ ดังนั้นการกลับมาของโรคฝีดาษลิง จึงควรให้ความสำคัญกับภูมิปัญญาในการรักษาที่มีมาแต่ในอดีตรวมถึงความรู้จากการวิจัยในสมุนไพรต่างๆที่มีมากขึ้น ซึ่งควรจะนำมาวิจัยกับไวรัสฝีดาษลิงเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อเตรียมประยุกต์ให้เหมาะสมใช้ในสถานการณ์ปัจจุบันและต่อไปในกาลข้างหน้าด้วยความไม่ประมาท ด้วยความปรารถนาดี ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 5 กันยายน 2567 https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1045825823577784/? อ้างอิง [1] พิชชานันท์ เธียรทองอินทร์ และ รัชฎาพร พิสัยพันธุ์, การวิเคราะห์องค์ความรู้ไข้ตามคัมภีร์ตักศิลา: คัมภีร์ว่าด้วยโรคระบาด, วารสารหมอยาไทยวิจัย, ปีที่ 9 ฉบับที่ 1 (มกราคม - มิถุนายน 2566), หน้า 131-152 https://he02.tci-thaijo.org/index.php/ttm/article/view/258845/180094 [2] โรงเรียนแพทย์แผนโบราณ วัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์), ตำรายา ศิลาจารึกในวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) พระนคร พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จารึกไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๕ ฉบับสมบูรณ์ ฉบับ พ.ศ.​๒๕๑๖ หน้า ๖๒ - ๖๔ [3] สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ, หนังสือชุดวรรณกรรมหายาก แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ :ภูมิปัญญาการแพทย์และมรดกทางวรรณกรรมของชาติ, องค์การการค้าของ สกสค. จัดพิมพ์จำหน่าย พิมพ์ครั้งที่ 4, พ.ศ. 2554 จำนวน 3,000 เล่ม ISBN 978-947-01-9742-3 หน้า 694 [4] เรื่องเดียวกัน, หน้า 37 [5] เว็บไซต์กองนวัตกรรมและวิจัย กรมควบคุมโรค, การปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ จุดเริ่มงานควบคุมโรคติดต่อในประเทศไทย https://ddc.moph.go.th/uploads/ckeditor2//files/การปลูกฝีป้องกันไข้ทรพิษ.pdf [6] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน,จารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร แผ่นที่ 18 ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2557( อัพเดทเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2567) https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/image_detail/14798 [7] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน,จารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร แผ่นที่ 46 (ยาผายเลือด) ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อ โพสต์เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/image_detail/16335 [8] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม(ว่าด้วยตำรายาวิเศษสรรพคุณสำเร็จแก้สรรพโรคทั้งปวง แผ่นที่ 22 ยาแก้จักษุโรคคือต้อ(5), จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2560 https://db.sac.or.th/inscriptions/uploads/file/22-chaksurok-to5-tr2.pdf [9] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 7 ท้าวยายม่อม ข่าใหญ่ ข่าลิง กระทือ ไพล กระชาย หอม และกระเทียม) ด้านที่ 1, จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2564 https://db.sac.or.th/inscriptions/uploads/file/7-thaoyaimom-khayai-khaling-tr1.pdf [10] เว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร(องค์การมหาชน), จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม, จารึกตำรายาวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (ว่าด้วยสรรพคุณยา เครื่องเทศ และสมุนไพร แผ่นที่ 14 แตงหนู ชิงชี่ บอระเพ็ด ชิงช้าชาลี บอระเพ็ดพุงช้าง ผักปอดตัวเมีย ผักปอดตัวผู้ และพลูแก), จารึกในประเทศไทย, โพสต์เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567 https://db.sac.or.th/inscriptions/inscribe/detail/17723
    Like
    Love
    Yay
    57
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 3374 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชมคลิปวีดีโอที่ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน เบื้องหลังการเจรจา “ก่อนจะทวงคืนฟ้าทะลายโจรสำเร็จ” ให้ กลับคืนมาใน คู่มือแนวเวชปฏิบัติ ในการรักษาโรคโควิด-19 ทุกโรงพยาบาล ระหว่าง ตัวแทนภาคประชาชน คือ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนไทยตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต, ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต คุณรสนา โตสิตระกูล กรรมการมูนิธิสุขภาพไทย กับ คณะผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข วันที่ 16 กรกฎาคม 2567
    ชมคลิปวีดีโอที่ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อน เบื้องหลังการเจรจา “ก่อนจะทวงคืนฟ้าทะลายโจรสำเร็จ” ให้ กลับคืนมาใน คู่มือแนวเวชปฏิบัติ ในการรักษาโรคโควิด-19 ทุกโรงพยาบาล ระหว่าง ตัวแทนภาคประชาชน คือ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนไทยตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต, ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต คุณรสนา โตสิตระกูล กรรมการมูนิธิสุขภาพไทย กับ คณะผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข วันที่ 16 กรกฎาคม 2567
    Like
    Love
    Wow
    128
    11 ความคิดเห็น 13 การแบ่งปัน 10934 มุมมอง 3381 7 รีวิว
  • ลิงก์รวมยาและการดูแลสุขภาพที่ได้ผลดี
    🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝
    เทเลแกรม “รวมศาสตร์การป้องกันและรักษาผลกระทบจากยาฉีด”
    https://t.me/Covidtreatment_th
    กลุ่มไลน์ “ล้างพิษ ยาฉีด”
    https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝

    ✅ศาสตร์แพทย์แผนไทย
    ✍️สมุนไพรรางจืด
    https://youtu.be/cZz-njYEOT0
    ✍️ยาห้าราก (ยาเบญจโลกวิเชียร ยาแก้วห้าดวง หรือยาเพชรสว่าง)
    https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/427/ยาห้าราก-แก้ไข้/
    https://fb.watch/ltfGrggPPh/?mibextid=VUMmCQ
    ✍️ฟ้าทะลายโจรวาระแห่งชาติ และตำรับยาขาว(นาทีที่ 30) และมหาพิกัดตรีผลา (นาทีที่ 44) โดย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://youtu.be/HUw5rKnEB-A
    https://t.me/Covidtreatment_th/163
    ✍️ตำรับป้องกัน(ยาใบมะขาม) และรักษา(ยาขาว) โดย บรมครูแพทย์แผนไทย ครูชุบ แป้นคุ้มญาติ
    https://t.me/Covidtreatment_th/110
    https://youtu.be/PNs04g4pIys
    https://youtu.be/oku1qXZ9YUw
    ✍️ตำรับยาตรีผลา (มหาพิกัด) โดย อาจารย์แพทย์แผนไทยคมสัน ทินกร ณ อยุธยา
    https://www.facebook.com/228893067300037/posts/1363509777171688/
    https://t.me/Covidtreatment_th/276
    ✍️มาทำความรู้จักโกฐจุฬาลัมพา และตำรับยาแก้ไข้จันทน์ลีลา
    https://youtu.be/CFv-8cW_8fo
    ✍️การสุมยาสมุนไพร โดย รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
    https://youtu.be/nf_hPZGG1fU
    ✍️ ตัวอย่างเกร็ดยาต่างๆ วัดคีรีวงก์ จ.ชุมพร https://t.me/Covidtreatment_th/235
    ✍️สมุนไพรต้านมะเร็ง สูตรหมอสมหมาย: https://youtu.be/EhinXIYrEok โทร.0826528992
    ✍️ยาลม 300 จำพวก
    https://youtu.be/dv_Dz-Dkyt4
    https://youtu.be/ivO-KrSLDCg
    https://youtu.be/gzY-SbZnou0
    ✍️พลูคาวหรือผักคาวตอง https://youtu.be/y9Xee_Iopmg
    กลุ่มไลน์ "โลกของผักคาวตอง The World Under QuawTong"
    https://line.me/ti/g2/3HtIskAzcnB88VCmqR6RfleKsUwNq2yo9hzqHw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    ✍️สมุนไพรแก้หวัด,บำรุงปอด
    https://t.me/Covidtreatment_th/311
    ✍️ยาไทยได้ผลจริง
    https://www.thethaipress.com/202
    #ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญและจิตอาสาจากกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ลิงก์รวมยาและการดูแลสุขภาพที่ได้ผลดี 🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝 เทเลแกรม “รวมศาสตร์การป้องกันและรักษาผลกระทบจากยาฉีด” https://t.me/Covidtreatment_th กลุ่มไลน์ “ล้างพิษ ยาฉีด” https://line.me/ti/g2/wTvY1gxHGpGKCt15sQN1jMHw02XoSC1uXsjUsQ?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default 🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝🇹🇭🤝 ✅ศาสตร์แพทย์แผนไทย ✍️สมุนไพรรางจืด https://youtu.be/cZz-njYEOT0 ✍️ยาห้าราก (ยาเบญจโลกวิเชียร ยาแก้วห้าดวง หรือยาเพชรสว่าง) https://pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/427/ยาห้าราก-แก้ไข้/ https://fb.watch/ltfGrggPPh/?mibextid=VUMmCQ ✍️ฟ้าทะลายโจรวาระแห่งชาติ และตำรับยาขาว(นาทีที่ 30) และมหาพิกัดตรีผลา (นาทีที่ 44) โดย อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://youtu.be/HUw5rKnEB-A https://t.me/Covidtreatment_th/163 ✍️ตำรับป้องกัน(ยาใบมะขาม) และรักษา(ยาขาว) โดย บรมครูแพทย์แผนไทย ครูชุบ แป้นคุ้มญาติ https://t.me/Covidtreatment_th/110 https://youtu.be/PNs04g4pIys https://youtu.be/oku1qXZ9YUw ✍️ตำรับยาตรีผลา (มหาพิกัด) โดย อาจารย์แพทย์แผนไทยคมสัน ทินกร ณ อยุธยา https://www.facebook.com/228893067300037/posts/1363509777171688/ https://t.me/Covidtreatment_th/276 ✍️มาทำความรู้จักโกฐจุฬาลัมพา และตำรับยาแก้ไข้จันทน์ลีลา https://youtu.be/CFv-8cW_8fo ✍️การสุมยาสมุนไพร โดย รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร https://youtu.be/nf_hPZGG1fU ✍️ ตัวอย่างเกร็ดยาต่างๆ วัดคีรีวงก์ จ.ชุมพร https://t.me/Covidtreatment_th/235 ✍️สมุนไพรต้านมะเร็ง สูตรหมอสมหมาย: https://youtu.be/EhinXIYrEok โทร.0826528992 ✍️ยาลม 300 จำพวก https://youtu.be/dv_Dz-Dkyt4 https://youtu.be/ivO-KrSLDCg https://youtu.be/gzY-SbZnou0 ✍️พลูคาวหรือผักคาวตอง https://youtu.be/y9Xee_Iopmg กลุ่มไลน์ "โลกของผักคาวตอง The World Under QuawTong" https://line.me/ti/g2/3HtIskAzcnB88VCmqR6RfleKsUwNq2yo9hzqHw?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default ✍️สมุนไพรแก้หวัด,บำรุงปอด https://t.me/Covidtreatment_th/311 ✍️ยาไทยได้ผลจริง https://www.thethaipress.com/202 #ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญและจิตอาสาจากกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2511 มุมมอง 0 รีวิว
  • กัญชาถึงฟ้าทะลายโจร เมื่อการสาธารณสุขถูกครอบงำ แต่ความจริงก็ไม่อาจปกปิด

    🌿กัญชา

    ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้เรื่องกัญชา สะท้อนความนิ่งเฉย เสื่อมน้ำใจและความเมตตา ลั่นถอยไม่ได้แล้ว
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000039410#google_vignette
    ✍️“กัญชา-บุหรี่และแอลกอฮอล์” ควรนำสิ่งใดกลับสู่ยาเสพติด?
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000042065
    ✍️กัญชา กัญชง ลดการอักเสบ
    https://youtu.be/-j9HYHTUugU?si=E3RbUpfpJRmspEXX
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยใช้สารเดี่ยว CBD รักษาลมชักให้ทำให้โรคดื้อยา ทำไมไม่ใช้ตำรับบ้านๆ ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผล กลับชง “กัญชา” เป็นยาเสพติด
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000047356
    ✍️หมอธวัชชัย” ชี้ดึงกัญชากลับสู่ยาเสพติดวุ่นวายแน่ ยันก่อนปลดล็อกผ่านการศึกษาข้อมูลมากแล้ว เริ่มจากยุค “หมอปิยะสกล” ไม่ใช่การเมือง
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000049253
    ✍️“ปานเทพ” แฉ 5 ประเด็นบิดเบือนข้อมูลกัญชา ดึงกลับเป็นยาเสพติด ไม่นำไปสู่การแก้ปัญหา
    https://mgronline.com/politics/detail/9670000050912
    ✍️เผยงานวิจัย ยากัญชาไทยรักษาเด็กโรคลมชักดื้อยา ได้ผลดีกว่ายาฝรั่ง จะช่วยประหยัดเงินได้สูงถึง 7.3 หมื่นล้านบาท
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000055043
    ✍️วันที่ 5 ก.ค.2567 รายการสภากาแฟ ช่อง News1 สัมภาษณ์ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร และคุณประสิทธิชัย หนูนวล หัวข้อ ฟังความเป็นจริงของสถานการณ์ กัญชา และ ระบบทรราชทางการแพทย์ (Medical Tyranny)
    https://www.youtube.com/live/kBdl3ud3RDE
    ✍️“อ.ปานเทพ”ค้านนำช่อดอกกัญชากัญชงเป็นยาเสพติด บังคับใช้ กม.ไม่ได้ ปฏิบัติไม่ได้ กระทบผู้ป่วย เกษตรกร แพทย์แผนไทย
    https://mgronline.com/politics/detail/9670000057536?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR2n0WMI0yEvvFrhmDEvvIYDVFiFmi74wgnBcb-NGMeeRL3peNb34PE72t0_aem_RLFy41fdTyNwRVhW-BqJDA
    ✍️“อ.ปานเทพ” ยื่นหนังสือ 12 ก.ค.2567
    จี้ รมว.สธ.ทบทวนประกาศกัญชาเป็นยาเสพติด พร้อมแถลงแนวทางใหม่แก้ปัญหา
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000059092
    ✍️มหัศจรรย์กัญชา เด็กหนุ่มเลือดออกในสมอง หมอบอกจะเสียชีวิต แต่กลับคืนมาใช้ชีวิตตามปกติได้
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000059188
    ✍️ อ.ปานเทพ ยื่นหนังสือให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เหตุที่ต้องทบทวนมติ ช่อดอกกัญชา ช่อดอกกันชงยาเสพติด 12 ก.ค.2567 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
    https://youtu.be/F9Llyj2B5PE?si=uFlm9ovYpEfhH28-
    ✍️วันที่ 8 ก.ค.2567 ประชาชนและเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ร่วมชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ที่สะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อทวงสิทธิทางกัญชาเพื่อประชาชน
    https://www.amarintv.com/news/detail/224142
    https://ch3plus.com/news/social/morning/407582
    รวมภาพ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0SsB5c3wJo44TqTkXmo5TqC9iEEuNat8Wt8gTNuvj8RiKfikXAZcLZa36vYfdfKUkl&id=100002610663072
    คลิปอาจารย์เดชา ศิริภัทร และม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0hC9uN9iSm2444FgBUbyBcGnNc91Ef4txT4YcnTSnzZiWCv16o98eAD9odrT6Zfcxl&id=100007418351447
    ✍️“อ.ปานเทพ” เปิดหลักฐานกลุ่มผลประโยชน์ ล็อกสเปกกัญชาเป็นยาเสพติด เอื้อทุนใหญ่- กีดกันแพทย์แผนไทย
    https://mgronline.com/politics/detail/9670000061226
    ✍️วันที่ 23 ก.ค.2567 แหล่งข่าวจากคณะรัฐมนตรี เรื่องกัญชา สรุป คณะรัฐมนตรีวันนี้ นายกรัฐมนตรีให้นำเรื่องกัญชา กัญชงตราเป็นพระราชบัญญัติ ทุกพรรค ทุกกลุ่มสามารถเสนอร่างของตัวเองต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาต่อไป
    แปลว่าไม่ใช่นำกัญชา กัญชงเข้าสู่บัญชียาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด แต่ให้มีกฎหมายเฉพาะสำหรับใช้ประโยชน์และควบคุมกัญชา กัญชง
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1017634479730252/?
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000062202

    🌿ฟ้าทะลายโจร

    ✍️แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง วันที่ 5 มิถุนายน 2567
    ได้ถอดฟ้าทะลายโจรออกจากการรักษาแล้ว
    https://eid.dms.go.th/Content/Select_Eid_Landding_page?contentId=182&bannerId=1
    ✍️คำถามกรณีการตัดฟ้าทะลายโจรออกจากเวชปฏิบัติการรักษาโควิด-19 ในโรงพยาบาล เพื่อผลประโยชน์ของใครกันแน่ ?/ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/990160812477619/?
    ✍️“ปานเทพ” ถาม ตัด “ฟ้าทะลายโจร” ออกจากแนวทางรักษาโควิด เอื้อประโยชน์ใครหรือไม่
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000048616
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้ผลศึกษา “ฟ้าทะลายโจร” เป็นที่ตื่นเต้นทั่วโลก รักษาโควิด-โรคไวรัสทางระบบหายใจได้ผล
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000059905
    https://youtu.be/4N7GL1BbcH4?si=1aov92cn7xEXWSuV
    ✍️วันที่ 16 กรกฎาคม 67 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้เชี่ยวชาญทางอายุรกรรม และระบบประสาท ในฐานะที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก และ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา เข้ายื่นหนังสือถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เพื่อยื่นข้อเสนอกรณีถอด “ฟ้าทะลายโจร” ออกจากแนวทางรักษา ทั้งที่มีประสิทธิภาพ พร้อมนำข้อมูลตีแผ่ต่อสาธารณะ ถึงสาเหตุถอดสมุนไพรไทยดังกล่าว ทั้งที่ช่วงโควิดเป็นสมุนไพรรักษาที่ดี ช่วยชีวิตผู้คนจำนวนมาก
    https://www.hfocus.org/content/2024/07/31098?
    https://www.hfocus.org/content/2024/07/31097
    https://youtu.be/rjUdN1cFr7I?si=p8Pl1398CpXUjpJQ
    ✍️กรมการแพทย์ยอมใช้ฟ้าทะลายโจรกลับมารักษาโควิดได้แล้ว รวมทั้งแพทย์จ่ายได้และรักษาไม่คิดค่าใช้จ่าย 23 ก.ค.2567
    https://www.hfocus.org/content/2024/07/31153?
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” ทวง รมว.สธ.แจงเบื้องหลังถอดฟ้าทะลายโจรพ้นเวชปฏิบัติรักษาโควิด ชี้คนไทยเสียประโยชน์ต้องมีผู้รับผิดชอบ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000067814
    ✍️ “ปานเทพ” ถาม “สมศักดิ์” ทวงคืนฟ้าทะลายโจรให้ผู้ป่วยกี่โมง
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000067977
    ✅หัวข้อ : 3 หมอ กอบกู้"โลก" รักษา"โรค" ด้วยสมุนไพร
    ระดมพลังบรรยายโดย 1. นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง 2.พญ. สุภาพร มีลาภ และ 3. นพ. พงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา
    ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ 3 พฤษภาคม 2567 👇คลิกชม👇
    https://www.facebook.com/share/v/K8yDn5N29sbiaqVm/?mibextid=oFDknk
    กัญชาถึงฟ้าทะลายโจร เมื่อการสาธารณสุขถูกครอบงำ แต่ความจริงก็ไม่อาจปกปิด 🌿กัญชา ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้เรื่องกัญชา สะท้อนความนิ่งเฉย เสื่อมน้ำใจและความเมตตา ลั่นถอยไม่ได้แล้ว https://mgronline.com/qol/detail/9670000039410#google_vignette ✍️“กัญชา-บุหรี่และแอลกอฮอล์” ควรนำสิ่งใดกลับสู่ยาเสพติด? https://mgronline.com/daily/detail/9670000042065 ✍️กัญชา กัญชง ลดการอักเสบ https://youtu.be/-j9HYHTUugU?si=E3RbUpfpJRmspEXX ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยใช้สารเดี่ยว CBD รักษาลมชักให้ทำให้โรคดื้อยา ทำไมไม่ใช้ตำรับบ้านๆ ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผล กลับชง “กัญชา” เป็นยาเสพติด https://mgronline.com/qol/detail/9670000047356 ✍️หมอธวัชชัย” ชี้ดึงกัญชากลับสู่ยาเสพติดวุ่นวายแน่ ยันก่อนปลดล็อกผ่านการศึกษาข้อมูลมากแล้ว เริ่มจากยุค “หมอปิยะสกล” ไม่ใช่การเมือง https://mgronline.com/qol/detail/9670000049253 ✍️“ปานเทพ” แฉ 5 ประเด็นบิดเบือนข้อมูลกัญชา ดึงกลับเป็นยาเสพติด ไม่นำไปสู่การแก้ปัญหา https://mgronline.com/politics/detail/9670000050912 ✍️เผยงานวิจัย ยากัญชาไทยรักษาเด็กโรคลมชักดื้อยา ได้ผลดีกว่ายาฝรั่ง จะช่วยประหยัดเงินได้สูงถึง 7.3 หมื่นล้านบาท https://mgronline.com/qol/detail/9670000055043 ✍️วันที่ 5 ก.ค.2567 รายการสภากาแฟ ช่อง News1 สัมภาษณ์ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร และคุณประสิทธิชัย หนูนวล หัวข้อ ฟังความเป็นจริงของสถานการณ์ กัญชา และ ระบบทรราชทางการแพทย์ (Medical Tyranny) https://www.youtube.com/live/kBdl3ud3RDE ✍️“อ.ปานเทพ”ค้านนำช่อดอกกัญชากัญชงเป็นยาเสพติด บังคับใช้ กม.ไม่ได้ ปฏิบัติไม่ได้ กระทบผู้ป่วย เกษตรกร แพทย์แผนไทย https://mgronline.com/politics/detail/9670000057536?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR2n0WMI0yEvvFrhmDEvvIYDVFiFmi74wgnBcb-NGMeeRL3peNb34PE72t0_aem_RLFy41fdTyNwRVhW-BqJDA ✍️“อ.ปานเทพ” ยื่นหนังสือ 12 ก.ค.2567 จี้ รมว.สธ.ทบทวนประกาศกัญชาเป็นยาเสพติด พร้อมแถลงแนวทางใหม่แก้ปัญหา https://mgronline.com/qol/detail/9670000059092 ✍️มหัศจรรย์กัญชา เด็กหนุ่มเลือดออกในสมอง หมอบอกจะเสียชีวิต แต่กลับคืนมาใช้ชีวิตตามปกติได้ https://mgronline.com/qol/detail/9670000059188 ✍️ อ.ปานเทพ ยื่นหนังสือให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เหตุที่ต้องทบทวนมติ ช่อดอกกัญชา ช่อดอกกันชงยาเสพติด 12 ก.ค.2567 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข https://youtu.be/F9Llyj2B5PE?si=uFlm9ovYpEfhH28- ✍️วันที่ 8 ก.ค.2567 ประชาชนและเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ร่วมชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ที่สะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อทวงสิทธิทางกัญชาเพื่อประชาชน https://www.amarintv.com/news/detail/224142 https://ch3plus.com/news/social/morning/407582 รวมภาพ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0SsB5c3wJo44TqTkXmo5TqC9iEEuNat8Wt8gTNuvj8RiKfikXAZcLZa36vYfdfKUkl&id=100002610663072 คลิปอาจารย์เดชา ศิริภัทร และม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0hC9uN9iSm2444FgBUbyBcGnNc91Ef4txT4YcnTSnzZiWCv16o98eAD9odrT6Zfcxl&id=100007418351447 ✍️“อ.ปานเทพ” เปิดหลักฐานกลุ่มผลประโยชน์ ล็อกสเปกกัญชาเป็นยาเสพติด เอื้อทุนใหญ่- กีดกันแพทย์แผนไทย https://mgronline.com/politics/detail/9670000061226 ✍️วันที่ 23 ก.ค.2567 แหล่งข่าวจากคณะรัฐมนตรี เรื่องกัญชา สรุป คณะรัฐมนตรีวันนี้ นายกรัฐมนตรีให้นำเรื่องกัญชา กัญชงตราเป็นพระราชบัญญัติ ทุกพรรค ทุกกลุ่มสามารถเสนอร่างของตัวเองต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาต่อไป แปลว่าไม่ใช่นำกัญชา กัญชงเข้าสู่บัญชียาเสพติดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด แต่ให้มีกฎหมายเฉพาะสำหรับใช้ประโยชน์และควบคุมกัญชา กัญชง https://www.facebook.com/100044511276276/posts/1017634479730252/? https://mgronline.com/qol/detail/9670000062202 🌿ฟ้าทะลายโจร ✍️แนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข ฉบับปรับปรุง วันที่ 5 มิถุนายน 2567 ได้ถอดฟ้าทะลายโจรออกจากการรักษาแล้ว https://eid.dms.go.th/Content/Select_Eid_Landding_page?contentId=182&bannerId=1 ✍️คำถามกรณีการตัดฟ้าทะลายโจรออกจากเวชปฏิบัติการรักษาโควิด-19 ในโรงพยาบาล เพื่อผลประโยชน์ของใครกันแน่ ?/ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://www.facebook.com/100044511276276/posts/990160812477619/? ✍️“ปานเทพ” ถาม ตัด “ฟ้าทะลายโจร” ออกจากแนวทางรักษาโควิด เอื้อประโยชน์ใครหรือไม่ https://mgronline.com/qol/detail/9670000048616 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้ผลศึกษา “ฟ้าทะลายโจร” เป็นที่ตื่นเต้นทั่วโลก รักษาโควิด-โรคไวรัสทางระบบหายใจได้ผล https://mgronline.com/qol/detail/9670000059905 https://youtu.be/4N7GL1BbcH4?si=1aov92cn7xEXWSuV ✍️วันที่ 16 กรกฎาคม 67 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้เชี่ยวชาญทางอายุรกรรม และระบบประสาท ในฐานะที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก และ น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา เข้ายื่นหนังสือถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) เพื่อยื่นข้อเสนอกรณีถอด “ฟ้าทะลายโจร” ออกจากแนวทางรักษา ทั้งที่มีประสิทธิภาพ พร้อมนำข้อมูลตีแผ่ต่อสาธารณะ ถึงสาเหตุถอดสมุนไพรไทยดังกล่าว ทั้งที่ช่วงโควิดเป็นสมุนไพรรักษาที่ดี ช่วยชีวิตผู้คนจำนวนมาก https://www.hfocus.org/content/2024/07/31098? https://www.hfocus.org/content/2024/07/31097 https://youtu.be/rjUdN1cFr7I?si=p8Pl1398CpXUjpJQ ✍️กรมการแพทย์ยอมใช้ฟ้าทะลายโจรกลับมารักษาโควิดได้แล้ว รวมทั้งแพทย์จ่ายได้และรักษาไม่คิดค่าใช้จ่าย 23 ก.ค.2567 https://www.hfocus.org/content/2024/07/31153? ✍️“หมอธีระวัฒน์” ทวง รมว.สธ.แจงเบื้องหลังถอดฟ้าทะลายโจรพ้นเวชปฏิบัติรักษาโควิด ชี้คนไทยเสียประโยชน์ต้องมีผู้รับผิดชอบ https://mgronline.com/qol/detail/9670000067814 ✍️ “ปานเทพ” ถาม “สมศักดิ์” ทวงคืนฟ้าทะลายโจรให้ผู้ป่วยกี่โมง https://mgronline.com/qol/detail/9670000067977 ✅หัวข้อ : 3 หมอ กอบกู้"โลก" รักษา"โรค" ด้วยสมุนไพร ระดมพลังบรรยายโดย 1. นพ. อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง 2.พญ. สุภาพร มีลาภ และ 3. นพ. พงษ์ศักดิ์ ตั้งคณา ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ 3 พฤษภาคม 2567 👇คลิกชม👇 https://www.facebook.com/share/v/K8yDn5N29sbiaqVm/?mibextid=oFDknk
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2950 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇹🇭61.วันที่ 23 ก.พ. 2567
    รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิเปิดโปงเบื้องหลัง ธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม ทำไมคนไทยต้อง Save หมอธีระวัฒน์ เพื่อ Save ประชาชน
    https://fb.watch/qpJFWeLSO0/?
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000017172
    🇹🇭62.วันที่ 24 ก.พ.2567 CMUL Live สด อ.ทีน่า อ.เกรซ ครูหนึ่ง จาก สถาบัน CMUL สัมภาษณ์อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://fb.watch/qHUSo1JsoU/?
    🇹🇭63.วันที่ 29 ก.พ. 2567 อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เปิด 7 ประเด็นสำคัญในผลกระทบจากวัคซีน อันตรายและอำมหิตกว่าที่คิด!!
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/934445731382461/?
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5093
    🇹🇭64.วันที่ 1 มี.ค. 2567 ตัวแทนกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นหนังสือที่แพทยสภาขอทวงถามการสอบสวนจรรยาบรรณปลัดกระทรวงสาธารณสุข
    ในกรณีให้ข้อมูลอันเป็นเท็จในใบยินยอม
    โดยเสนอต่อนายกแพทยสภา พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ และเลขาธิการแพทยสภา พล.อ.ต. นพ.อิทธพร คณะเจริญ
    รับเรื่องร้องเรียนโดย นักกฎหมาย ๒คน นาย พชร ศรีพน,นาย เชิดธวัช ชัยปัน ซึ่งจะนำไปดำเนินการตามขั้นตอน
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5040
    🇹🇭65.วันที่ 3 มี.ค. 2567 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เผยข้อมูลผลชันสูตรศพผู้ตายจากวัคซีนโควิด 326 ราย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000019343
    🇹🇭66.วันที่ 4 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึก ขอให้ชี้แจงกับสังคมว่ายาฉีด mRNA เป็นวัคซีนหรือพันธุกรรมบำบัด (gene therapy)
    เรียน นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว,ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช,อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร
    https://www.facebook.com/share/p/KeWvtFzf97iegnXt/?mibextid=A7sQZp
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5060
    🇹🇭67.วันที่ 4 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
    ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ
    เรื่อง ขอให้ดำเนินการสอบสวนการกระทำผิดตามมาตรา ๑๔ (๑) (๒) ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พุทธศักราช ๒๕๕๐
    สิ่งที่ส่งมาด้วย
    ๑. เมื่อศูนย์ต้านข่าวปลอมปล่อยข่าวปลอมซะเอง
    https://drive.google.com/file/d/1i9sbg-QYtz6FThsC6fF3I11cZAGEob4a/view?usp=drivesdk
    ๒. จดหมายเปิดผนึกถึงกรมควบคุมโรค
    https://drive.google.com/file/d/1XH99tQSkWEYfNzkndd2F641pTSyGZEVW/view?usp=drivesdk
    ภาพหน้าจอของลิงก์ https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=24829
    บันทึกเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๒๐.๕๖ น.

    ภาพหน้าจอของลิงก์ “ข่าวปลอม อย่าแชร์! อย. แพ้คดี หลังไฟเซอร์ถูกบังคับให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีน” บันทึกเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๒๐.๔๓ น.
    https://www.facebook.com/share/p/gRACNPyjcYW2L2cF/?mibextid=A7sQZp
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5058
    🇹🇭68.วันที่ 4 มี.ค. 2567 คุยกับอ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    CDC Webinar Live Talk หัวข้อ ภัยของ Covid Vaccine
    https://rumble.com/v4hcoae--covid-vaccine.html
    🇹🇭69.วันที่ 8 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึกถึงเลขาธิการแพทยสภา นพ.อิทธิพร คณะเจริญ
    ขอข้อมูลข่าวสารผลพิจารณา, ความเห็นแย้งและคำสั่งที่เกี่ยวข้องในการลงมติของคณะกรรมการแพทยสภา
    กรณีร้องเรียนแพทยสภา ให้ตรวจสอบจรรยาบรรณทางการแพทย์กับปลัดกระทรวงสาธารณสุขและผู้บริหารระดับสูง
    ที่รณรงค์ให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก แต่ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จในใบยินยอมฉีดวัคซีน
    แต่ทางมติแพทยสภาไม่สามารถรับคำร้องไว้พิจารณาได้
    https://www.facebook.com/share/p/P96Z7cAkerZWkSnr/?mibextid=A7sQZp
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5140
    🇹🇭70.วันที่ 9 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้ยื่นหนังสือ ให้อธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง เรียบร้อย (จนท.ขอไม่ให้ถ่ายภาพตอนยื่น) ลงวันที่ 9/3/67เรื่อง ขอให้ทบทวนยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากอนามัยในงานรับปริญญาของมหาวิทยาลัยรามคำแหง และทั่วไป
    เรียน ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาราชการแทน อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5202
    🇹🇭71.วันที่ 11 มี.ค. 2567 นายสมัครสุนทรเวช ปรีชาชัยวัฒน์ ยื่นหนังสือ ขอให้ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ชี้แจงข้อคำถามต่อไปนี้กับสังคม
    เรียน ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย/นายกสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย
    นายแพทย์สมศักดิ์ โล่ห์เลขา
    สำเนาเรียน อุปนายกคนที่ ๑ นายยง ภู่วรวรรณ
    เลขาธิการ ศาสตราจารย์นายแพทย์วิฐารณ บุญสิทธิ
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5204
    https://drive.google.com/drive/mobile/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna?sort=13&direction=a
    🇹🇭72.วันที่ 12 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้ทำหนังสือ ขอให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ ดำเนินการสอบสวนพฤติกรรมของบุคลากรในสังกัด
    ว่าการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทยากรณีปัญหาผลกระทบ จากวัคซีนโคเมอร์เนตี (Comirnaty)
    https://www.facebook.com/share/p/YW3rYQBZAr4cw6iE/?mibextid=xfxF2i
    เรียน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์
    https://drive.google.com/drive/mobile/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna?sort=15&direction=
    🇹🇭73.วันที่ 14 มี.ค.2567 กลุ่มฯได้ยื่นหนังสือ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งหน่วยราชการในจังหวัดของท่าน ระงับการฉีดวัคซีนโควิดชนิด mRNA
    เรื่อง ขอให้แจ้งหน่วยราชการในจังหวัดระงับการฉีดวัคซีนโควิดชนิด mRNA ให้กับเด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไปในจังหวัดของท่าน
    เรียน ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย สำเนาเรียน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย,ศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย,นายอำเภอทุกอำเภอในประเทศไทย
    https://www.facebook.com/share/p/B56DSSQvcwuQR27C/?mibextid=A7sQZp
    ลิงค์เอกสารที่ส่งมาด้วย
    ๑. https://drive.google.com/file/d/17-QJnIzFImsBVN2ELU_3NxOIQxo5pzW3/view?usp=drivesdk
    ๒. https://drive.google.com/file/d/13c5JdUlMtDcgySLZcJza-B9-Ggz7O631/view?usp=drivesdk
    ๓. https://drive.google.com/file/d/1yRQbr1wo8rKGHuZ-aVcbkJ6HIAj7FFG8/view?usp=drivesdk
    ๔. https://drive.google.com/file/d/1ylQPQt7tqlMRxy9Vw7LDR37mFshpr8uQ/view?usp =drivesdk
    ๕. https://drive.google.com/file/d/1ywJleVBY-n4azNvy-Vq8VZXkX16J8gP2/view?usp =drivesdk
    ๖. https://drive.google.com/file/d/1IY7VTDFMvnHpdBwfjH4f-1CVTnSnomzq/view?usp =drivesdk
    🇹🇭74.วันที่ 17 มีนาคม 2567 ที่หอประชุมเล็กมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ได้เปิดเผยความจริงจากแท่ง มหัศจรรย์นวัตกรรมสูงสุดก่อให้เกิดความเจ็บป่วยและเสียชีวิต ตอบทุกประเด็นที่มีการโต้แย้งหรือบิดเบือนกลบเกลื่อนความจริงทั้งหมดก่อนหน้านี้ ในงาน ”ความจริงมีหนึ่งเดียว“
    และผู้คนที่ออกมาต่อต้านควรจะได้รับการเปิดเผยว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างใดกับธุรกิจข้ามชาติ ตั้งแต่การ ได้รับทุนจากต่างประเทศ (ข้อมูลมีชัดเจน)
    สร้างความจริงเป็นเท็จ โดย ทั้งๆที่ไวรัสเป็นสิ่งประดิษฐ์หลุดออกมา
    และปัจจุบัน ยังหาไวรัสที่ใกล้ตัวร้ายแรงที่เคยระบาด ทั้งโควิด อีโบลา นิปาห์
    มาถอดรหัสพันธุกรรม และเพื่อสร้างไวรัสใหม่ในห้องทดลอง ที่ร้ายแรงกว่าเก่า เพื่อทำ ผลิตภัณฑ์ป้องกันและรักษา ด้วยนวัตกรรมเลื้อยดุ ขายต่อไม่จบไม่สิ้น ต่อยอดไปเรื่อยๆ
    รวยบนซากศพ ชีวิตและน้ำตา
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=809100071258309&id=100064749694453
    🇹🇭75.วันที่ 20 มีนาคม 2567 กลุ่มฯทำหนังสือ ขอให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ ทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ค่านิยมองค์กร ตลอดจนแนวนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเสียใหม่
    https://www.facebook.com/share/p/R8VqhhGLe7Vi2DoS/?mibextid=A7sQZp
    🇹🇭76.วันที่ 26 มีนาคม 2567 กลุ่มฯได้ทำหนังสือถึงประธานบริหารราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่ง
    ประเทศไทย ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ เรื่อง ขอให้ประธานบริหารราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย
    ทบทวนการฉีดวัคซีน mRNA ในสตรีมีครรภ์
    https://www.facebook.com/share/p/WUvcdygvepHAxDrZ/?mibextid=A7sQZp
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5358
    🇹🇭77.วันที่ 27 มีนาคม 2567 กลุ่มฯ ได้ทำหนังสือถึง นายกสภาเภสัชกรรม รศ.(พิเศษ) เภสัชกร กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ ขอให้ควบคุมดูแลให้เภสัชกรปฎิบิติตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพเภสัชกรรม ในกรณีของวัคซีน mRNA
    https://www.facebook.com/share/p/VgRv8wCW9BMVt3Js/?mibextid=A7sQZp
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5379
    🇹🇭78.วันที่ 17 เมษายน 2567 กลุ่มฯ ได้ทำหนังสือถึง นายกแพทยสภา ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ขอให้นายกแพทยสภาดำเนินการสอบสวนจริยธรรม น.พ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข
    https://www.facebook.com/share/p/aCwfr47a3tHBkbuk/?mibextid=A7sQZp
    ตามที่กรมควบคุมโรคโดย อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ (ตำแหน่งในขณะนั้น) ได้ออก “แนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด 19 (ไฟเซอร์ฝาสีส้มสูตรสำหรับเด็ก) สำหรับเด็กอายุ 5-11ปี” นั้น
    ( https://ddc.moph.go.th/vaccine-covid19/getFiles/11/1645689088942.pdf )
    ข้อบังคับแพทยสภา​ พ.ศ.2563
    https://www.tmc.or.th/download/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%202563.PDF
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5528
    🇹🇭79.วันที่ 25 เมษายน 2567 รายการ สภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1 พูดคุยกับ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวข้อ ทำไม พระสงฆ์ คนหนุ่มสาว ป่วยทรุดตัวไว?
    [https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x](https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x)
    🇹🇭80.วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพจัดเสวนาครั้งที่ 2 แฉความจริง*อันตรายจากวัคซีนCovid-19 ร้ายแรงกว่าที่คิด ณ หอศิลป์ฯ กทม. โดยมีวิทยากรรับเชิญ อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง พญ.สุภาพร มีลาภ นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา คลิปไลฟ์4 ชม.เต็มถูกแบนทุกช่องทางต้องตามไปเทเลแกรมครับ [https://t.me/goodthaidoctorclip/1399](https://t.me/goodthaidoctorclip/1399) [https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647](https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647) [https://t.me/ThaiPitaksithData/5579](https://t.me/ThaiPitaksithData/5579)
    🇹🇭81.วันที่ 4 พฤษภาคม 2567 ตัวแทนกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ร่วมกันนำฎีกาและรายชื่อประชาชนผู้ร่วมลงนามจำนวนร่วม ๑,๕๐๐ คน ยื่นให้กับ ผู้แทนสำนักตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ สถาบันดำรงราชานุภาพ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ขอพึ่งพระบารมี ในการจัดให้มีเวทีสาธารณะรับฟังความเดือนร้อนของพสกนิกรเกี่ยวกับปัญหาจากผลกระทบของวัคซีนโควิด ฎีกาที่กราบบังคมทูล
    [https://drive.google.com/drive/folders/1yUMGln9Bx7hOaQsXYvIA9usarjHcr_Cu](https://drive.google.com/drive/folders/1yUMGln9Bx7hOaQsXYvIA9usarjHcr_Cu)
    [https://www.facebook.com/share/p/XehnjRn5DqBw3uzb/?mibextid=qi2Omg](https://www.facebook.com/share/p/XehnjRn5DqBw3uzb/?mibextid=qi2Omg)
    🇹🇭82.วันที่ 6 พ.ค.2567 รายการปากซอย105 เปิดโปง ขบวนการโควิด 19 กับไวรัสตัดต่อพันธุกรรม ตัวช่วยและวิธีป้องกันความอันตรายจากพิษของวัคซีน สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา โดย คุณวาสนพงศ์ วิชัยยะ ติดตามฟังได้ที่ FB,YT,TT 105smilethailand หรือ 105mhz
    https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=_qNy29hSXEYptH4g
    🇹🇭83.วันที่ 24 พ.ค.2567 ตัวแทนกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ร่วมประชุมสภาทนายความ ตอนบ่าย ไปทำเนียบรัฐบาล ยื่นค้านwho และไปรัฐสภาในโอกาสต่อไป
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7531694456949258&id=100003263348565
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7535672753182589&id=100002198164704
    https://mgronline.com/crime/photo-gallery/9670000044933?fbclid=IwY2xjawC_U5RleHRuA2FlbQIxMQABHUz8F-utRjLEufLzGYWsV7sN98bG0g78Psib91ZaadfaoEvffsoz1tLqKA_aem_ATUQHMX3GIFwGyexSg6SGw_xxNJIZvmoOoUKM88jenPe7LvAYyRUuR7L0Mg7zICDnwEBBAGT8ZeAOzm9kCIh9qd4
    🇹🇭84.วันที่ 30 พ.ค.2567 รายการสภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1 สัมภาษณ์คุณอดิเทพ จาวลาห์ นักวิชาการอิสระ หัวข้อ “โลกใช้เชื้อโรคเป็นอาวุธ..แผ่นดินเรามีโอสถภูมิปัญญา WHO..อย่ายุ่งมาก!”
    เข้าใจ สนธิสัญญาโรคระบาดและการแก้ไข IHR ( International Health Regulation หรือ กฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ ) ของ WHO (องค์การอนามัยโลก) https://youtu.be/Cvml6w6c5WI? si=UL81i3lAOVL9872W
    https://www.rookon.com/?p=1176 หมอดื้อแฉ https://mgronline.com/qol/detail/9670000045489 วันที่ 1 มิ.ย.2567 การประชุมสมัชชาอนามัยโลกได้สิ้นสุดลงแล้ว สรุปการเปลี่ยนแปลง IHR และ Pandemic Treaty https://www.rookon.com/?p=1180
    🇹🇭85.วันที่ 1 มิ.ย.2567 ประชาชนที่รับความเสียหายจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด- 19สามารถดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสภาทนายความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ ดังนั้น สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความได้โดยการแจ้งหรือให้มาพบทนายความอาสาที่มีประสบการณ์ดำเนินคดีทางการแพทย์ ณ ที่ทำการสภาทนายความ เลขที่ 249 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร หรือหมายเลขโทรศัพท์ 02-522-7124 -28 ต่อ 135 หรืออีเมล president@lawyerscouncil.or.th
    https://www.facebook.com/share/p/dtVBu5V6cvyC3kuc/?mibextid=WaXdOe
    🇹🇭86.วันที่ 4 มิ.ย. 2567 หลักฐาน เฟาซี ถูกสอบสวนที่รัฐสภา พูดว่า ต้องทำให้ประชาชนดำเนินชีวิตด้วยความยากลำบากถ้าไม่ฉีดวัคซีน Making life difficult for unvaccinated ต้องจัดการประชาชนที่มีอุดมการณ์ขี้หมาออกไป Ideological bullshit
    https://youtu.be/b9MRAtY1zpM?si=Id3YmJDIxAW1P_RR
    🇹🇭87.วันที่ 5 มิ.ย. 2567 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธ์ ยื่นเรื่อง ที่รัฐสภา ขอให้สอบสวนกรณีพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ให้บริษัทยาในการแก้ปัญหาการระบาดของโรคโควิด 19
    ทั้งนี้จะมีการส่งเรื่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสอบสวนร่วมกับกระทรวงยุติธรรม
    https://www.facebook.com/share/p/RpqysNHgAzmKqt35/?mibextid=A7sQZp
    🇹🇭88.วันที่ 5 มิ.ย.2567 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ พร้อมด้วย สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์
    ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ นายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย
    ร่วมแถลงเรียกร้องให้สภาทนายความดำเนินคดีเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะเกี่ยวกับการอนุญาตผลิตยาในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยการนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 จนเป็นเหตุให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้รับผลกระทบเสียชีวิตพิการและเจ็บป่วยจำนวนมาก
    https://rumble.com/v4zrij6--05-06-2024.html
    🇹🇭89.วันที่ 19 มิ.ย.2567 นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา และ นพ.มนตรี เศรษฐบุตร ยื่นหนังสือถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่รัฐสภา ยื่นหนังสือที่ทางกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ผู้ป่วย และญาติของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนป้องกันโควิด รวมทั้ง เครือข่ายพันธมิตร เช่น สมาพันธ์เครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย,ตัวแทน สภาทนายความแห่งประเทศไทย ,ตัวแทน สมาคมแพทย์ทางร่วมนานาชาติ ,สมาคมแพทย์แผนไทย ส่งให้ทางรัฐมนตรีว่าการสธ. และขอให้สอบสวนการกระทำผิดสัญญาของบริษัทวัคซีน
    https://www.hfocus.org/content/2024/06/30839
    https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/466060772776252/?
    🇹🇭90.วันที่ 5 ก.ค.2567 รายการสภากาแฟ ช่อง News1 สัมภาษณ์ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร และคุณประสิทธิชัย หนูนวล หัวข้อ ฟังความเป็นจริงของสถานการณ์ กัญชา และ ระบบทรราชทางการแพทย์ (Medical Tyranny)
    https://www.youtube.com/live/kBdl3ud3RDE
    🇹🇭61.วันที่ 23 ก.พ. 2567 รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิเปิดโปงเบื้องหลัง ธุรกิจไวรัสตัดต่อพันธุกรรม ทำไมคนไทยต้อง Save หมอธีระวัฒน์ เพื่อ Save ประชาชน https://fb.watch/qpJFWeLSO0/? https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000017172 🇹🇭62.วันที่ 24 ก.พ.2567 CMUL Live สด อ.ทีน่า อ.เกรซ ครูหนึ่ง จาก สถาบัน CMUL สัมภาษณ์อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://fb.watch/qHUSo1JsoU/? 🇹🇭63.วันที่ 29 ก.พ. 2567 อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เปิด 7 ประเด็นสำคัญในผลกระทบจากวัคซีน อันตรายและอำมหิตกว่าที่คิด!! https://www.facebook.com/100044511276276/posts/934445731382461/? https://t.me/ThaiPitaksithData/5093 🇹🇭64.วันที่ 1 มี.ค. 2567 ตัวแทนกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นหนังสือที่แพทยสภาขอทวงถามการสอบสวนจรรยาบรรณปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในกรณีให้ข้อมูลอันเป็นเท็จในใบยินยอม โดยเสนอต่อนายกแพทยสภา พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ และเลขาธิการแพทยสภา พล.อ.ต. นพ.อิทธพร คณะเจริญ รับเรื่องร้องเรียนโดย นักกฎหมาย ๒คน นาย พชร ศรีพน,นาย เชิดธวัช ชัยปัน ซึ่งจะนำไปดำเนินการตามขั้นตอน https://t.me/ThaiPitaksithData/5040 🇹🇭65.วันที่ 3 มี.ค. 2567 ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เผยข้อมูลผลชันสูตรศพผู้ตายจากวัคซีนโควิด 326 ราย https://mgronline.com/qol/detail/9670000019343 🇹🇭66.วันที่ 4 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึก ขอให้ชี้แจงกับสังคมว่ายาฉีด mRNA เป็นวัคซีนหรือพันธุกรรมบำบัด (gene therapy) เรียน นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว,ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช,อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร https://www.facebook.com/share/p/KeWvtFzf97iegnXt/?mibextid=A7sQZp https://t.me/ThaiPitaksithData/5060 🇹🇭67.วันที่ 4 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ เรื่อง ขอให้ดำเนินการสอบสวนการกระทำผิดตามมาตรา ๑๔ (๑) (๒) ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พุทธศักราช ๒๕๕๐ สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑. เมื่อศูนย์ต้านข่าวปลอมปล่อยข่าวปลอมซะเอง https://drive.google.com/file/d/1i9sbg-QYtz6FThsC6fF3I11cZAGEob4a/view?usp=drivesdk ๒. จดหมายเปิดผนึกถึงกรมควบคุมโรค https://drive.google.com/file/d/1XH99tQSkWEYfNzkndd2F641pTSyGZEVW/view?usp=drivesdk ภาพหน้าจอของลิงก์ https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=24829 บันทึกเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๒๐.๕๖ น. ภาพหน้าจอของลิงก์ “ข่าวปลอม อย่าแชร์! อย. แพ้คดี หลังไฟเซอร์ถูกบังคับให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีน” บันทึกเมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๒๐.๔๓ น. https://www.facebook.com/share/p/gRACNPyjcYW2L2cF/?mibextid=A7sQZp https://t.me/ThaiPitaksithData/5058 🇹🇭68.วันที่ 4 มี.ค. 2567 คุยกับอ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง CDC Webinar Live Talk หัวข้อ ภัยของ Covid Vaccine https://rumble.com/v4hcoae--covid-vaccine.html 🇹🇭69.วันที่ 8 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึกถึงเลขาธิการแพทยสภา นพ.อิทธิพร คณะเจริญ ขอข้อมูลข่าวสารผลพิจารณา, ความเห็นแย้งและคำสั่งที่เกี่ยวข้องในการลงมติของคณะกรรมการแพทยสภา กรณีร้องเรียนแพทยสภา ให้ตรวจสอบจรรยาบรรณทางการแพทย์กับปลัดกระทรวงสาธารณสุขและผู้บริหารระดับสูง ที่รณรงค์ให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็ก แต่ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จในใบยินยอมฉีดวัคซีน แต่ทางมติแพทยสภาไม่สามารถรับคำร้องไว้พิจารณาได้ https://www.facebook.com/share/p/P96Z7cAkerZWkSnr/?mibextid=A7sQZp https://t.me/ThaiPitaksithData/5140 🇹🇭70.วันที่ 9 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้ยื่นหนังสือ ให้อธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง เรียบร้อย (จนท.ขอไม่ให้ถ่ายภาพตอนยื่น) ลงวันที่ 9/3/67เรื่อง ขอให้ทบทวนยกเลิกมาตรการสวมหน้ากากอนามัยในงานรับปริญญาของมหาวิทยาลัยรามคำแหง และทั่วไป เรียน ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาราชการแทน อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง https://t.me/ThaiPitaksithData/5202 🇹🇭71.วันที่ 11 มี.ค. 2567 นายสมัครสุนทรเวช ปรีชาชัยวัฒน์ ยื่นหนังสือ ขอให้ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ชี้แจงข้อคำถามต่อไปนี้กับสังคม เรียน ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย/นายกสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย นายแพทย์สมศักดิ์ โล่ห์เลขา สำเนาเรียน อุปนายกคนที่ ๑ นายยง ภู่วรวรรณ เลขาธิการ ศาสตราจารย์นายแพทย์วิฐารณ บุญสิทธิ https://t.me/ThaiPitaksithData/5204 https://drive.google.com/drive/mobile/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna?sort=13&direction=a 🇹🇭72.วันที่ 12 มี.ค. 2567 กลุ่มฯได้ทำหนังสือ ขอให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ ดำเนินการสอบสวนพฤติกรรมของบุคลากรในสังกัด ว่าการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทยากรณีปัญหาผลกระทบ จากวัคซีนโคเมอร์เนตี (Comirnaty) https://www.facebook.com/share/p/YW3rYQBZAr4cw6iE/?mibextid=xfxF2i เรียน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ https://drive.google.com/drive/mobile/folders/1xAV-r3WhU5mt1WvTp8DBZktDPRatYrna?sort=15&direction= 🇹🇭73.วันที่ 14 มี.ค.2567 กลุ่มฯได้ยื่นหนังสือ ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด แจ้งหน่วยราชการในจังหวัดของท่าน ระงับการฉีดวัคซีนโควิดชนิด mRNA เรื่อง ขอให้แจ้งหน่วยราชการในจังหวัดระงับการฉีดวัคซีนโควิดชนิด mRNA ให้กับเด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไปในจังหวัดของท่าน เรียน ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย สำเนาเรียน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย,ศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย,นายอำเภอทุกอำเภอในประเทศไทย https://www.facebook.com/share/p/B56DSSQvcwuQR27C/?mibextid=A7sQZp ลิงค์เอกสารที่ส่งมาด้วย ๑. https://drive.google.com/file/d/17-QJnIzFImsBVN2ELU_3NxOIQxo5pzW3/view?usp=drivesdk ๒. https://drive.google.com/file/d/13c5JdUlMtDcgySLZcJza-B9-Ggz7O631/view?usp=drivesdk ๓. https://drive.google.com/file/d/1yRQbr1wo8rKGHuZ-aVcbkJ6HIAj7FFG8/view?usp=drivesdk ๔. https://drive.google.com/file/d/1ylQPQt7tqlMRxy9Vw7LDR37mFshpr8uQ/view?usp =drivesdk ๕. https://drive.google.com/file/d/1ywJleVBY-n4azNvy-Vq8VZXkX16J8gP2/view?usp =drivesdk ๖. https://drive.google.com/file/d/1IY7VTDFMvnHpdBwfjH4f-1CVTnSnomzq/view?usp =drivesdk 🇹🇭74.วันที่ 17 มีนาคม 2567 ที่หอประชุมเล็กมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ได้เปิดเผยความจริงจากแท่ง มหัศจรรย์นวัตกรรมสูงสุดก่อให้เกิดความเจ็บป่วยและเสียชีวิต ตอบทุกประเด็นที่มีการโต้แย้งหรือบิดเบือนกลบเกลื่อนความจริงทั้งหมดก่อนหน้านี้ ในงาน ”ความจริงมีหนึ่งเดียว“ และผู้คนที่ออกมาต่อต้านควรจะได้รับการเปิดเผยว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างใดกับธุรกิจข้ามชาติ ตั้งแต่การ ได้รับทุนจากต่างประเทศ (ข้อมูลมีชัดเจน) สร้างความจริงเป็นเท็จ โดย ทั้งๆที่ไวรัสเป็นสิ่งประดิษฐ์หลุดออกมา และปัจจุบัน ยังหาไวรัสที่ใกล้ตัวร้ายแรงที่เคยระบาด ทั้งโควิด อีโบลา นิปาห์ มาถอดรหัสพันธุกรรม และเพื่อสร้างไวรัสใหม่ในห้องทดลอง ที่ร้ายแรงกว่าเก่า เพื่อทำ ผลิตภัณฑ์ป้องกันและรักษา ด้วยนวัตกรรมเลื้อยดุ ขายต่อไม่จบไม่สิ้น ต่อยอดไปเรื่อยๆ รวยบนซากศพ ชีวิตและน้ำตา https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=809100071258309&id=100064749694453 🇹🇭75.วันที่ 20 มีนาคม 2567 กลุ่มฯทำหนังสือ ขอให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอภาส การย์กวินพงศ์ ทบทวนวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ค่านิยมองค์กร ตลอดจนแนวนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขเสียใหม่ https://www.facebook.com/share/p/R8VqhhGLe7Vi2DoS/?mibextid=A7sQZp 🇹🇭76.วันที่ 26 มีนาคม 2567 กลุ่มฯได้ทำหนังสือถึงประธานบริหารราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่ง ประเทศไทย ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ เรื่อง ขอให้ประธานบริหารราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ทบทวนการฉีดวัคซีน mRNA ในสตรีมีครรภ์ https://www.facebook.com/share/p/WUvcdygvepHAxDrZ/?mibextid=A7sQZp https://t.me/ThaiPitaksithData/5358 🇹🇭77.วันที่ 27 มีนาคม 2567 กลุ่มฯ ได้ทำหนังสือถึง นายกสภาเภสัชกรรม รศ.(พิเศษ) เภสัชกร กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ ขอให้ควบคุมดูแลให้เภสัชกรปฎิบิติตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพเภสัชกรรม ในกรณีของวัคซีน mRNA https://www.facebook.com/share/p/VgRv8wCW9BMVt3Js/?mibextid=A7sQZp https://t.me/ThaiPitaksithData/5379 🇹🇭78.วันที่ 17 เมษายน 2567 กลุ่มฯ ได้ทำหนังสือถึง นายกแพทยสภา ศ.เกียรติคุณ พญ.สมศรี เผ่าสวัสดิ์ ขอให้นายกแพทยสภาดำเนินการสอบสวนจริยธรรม น.พ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข https://www.facebook.com/share/p/aCwfr47a3tHBkbuk/?mibextid=A7sQZp ตามที่กรมควบคุมโรคโดย อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ (ตำแหน่งในขณะนั้น) ได้ออก “แนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด 19 (ไฟเซอร์ฝาสีส้มสูตรสำหรับเด็ก) สำหรับเด็กอายุ 5-11ปี” นั้น ( https://ddc.moph.go.th/vaccine-covid19/getFiles/11/1645689088942.pdf ) ข้อบังคับแพทยสภา​ พ.ศ.2563 https://www.tmc.or.th/download/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%202563.PDF https://t.me/ThaiPitaksithData/5528 🇹🇭79.วันที่ 25 เมษายน 2567 รายการ สภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1 พูดคุยกับ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวข้อ ทำไม พระสงฆ์ คนหนุ่มสาว ป่วยทรุดตัวไว? [https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x](https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x) 🇹🇭80.วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพจัดเสวนาครั้งที่ 2 แฉความจริง*อันตรายจากวัคซีนCovid-19 ร้ายแรงกว่าที่คิด ณ หอศิลป์ฯ กทม. โดยมีวิทยากรรับเชิญ อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง พญ.สุภาพร มีลาภ นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา คลิปไลฟ์4 ชม.เต็มถูกแบนทุกช่องทางต้องตามไปเทเลแกรมครับ [https://t.me/goodthaidoctorclip/1399](https://t.me/goodthaidoctorclip/1399) [https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647](https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647) [https://t.me/ThaiPitaksithData/5579](https://t.me/ThaiPitaksithData/5579) 🇹🇭81.วันที่ 4 พฤษภาคม 2567 ตัวแทนกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ร่วมกันนำฎีกาและรายชื่อประชาชนผู้ร่วมลงนามจำนวนร่วม ๑,๕๐๐ คน ยื่นให้กับ ผู้แทนสำนักตรวจราชการและเรื่องราวร้องทุกข์ สถาบันดำรงราชานุภาพ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ขอพึ่งพระบารมี ในการจัดให้มีเวทีสาธารณะรับฟังความเดือนร้อนของพสกนิกรเกี่ยวกับปัญหาจากผลกระทบของวัคซีนโควิด ฎีกาที่กราบบังคมทูล [https://drive.google.com/drive/folders/1yUMGln9Bx7hOaQsXYvIA9usarjHcr_Cu](https://drive.google.com/drive/folders/1yUMGln9Bx7hOaQsXYvIA9usarjHcr_Cu) [https://www.facebook.com/share/p/XehnjRn5DqBw3uzb/?mibextid=qi2Omg](https://www.facebook.com/share/p/XehnjRn5DqBw3uzb/?mibextid=qi2Omg) 🇹🇭82.วันที่ 6 พ.ค.2567 รายการปากซอย105 เปิดโปง ขบวนการโควิด 19 กับไวรัสตัดต่อพันธุกรรม ตัวช่วยและวิธีป้องกันความอันตรายจากพิษของวัคซีน สัมภาษณ์ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา โดย คุณวาสนพงศ์ วิชัยยะ ติดตามฟังได้ที่ FB,YT,TT 105smilethailand หรือ 105mhz https://youtu.be/44uwz3X0Gh4?si=_qNy29hSXEYptH4g 🇹🇭83.วันที่ 24 พ.ค.2567 ตัวแทนกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ร่วมประชุมสภาทนายความ ตอนบ่าย ไปทำเนียบรัฐบาล ยื่นค้านwho และไปรัฐสภาในโอกาสต่อไป https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7531694456949258&id=100003263348565 https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=7535672753182589&id=100002198164704 https://mgronline.com/crime/photo-gallery/9670000044933?fbclid=IwY2xjawC_U5RleHRuA2FlbQIxMQABHUz8F-utRjLEufLzGYWsV7sN98bG0g78Psib91ZaadfaoEvffsoz1tLqKA_aem_ATUQHMX3GIFwGyexSg6SGw_xxNJIZvmoOoUKM88jenPe7LvAYyRUuR7L0Mg7zICDnwEBBAGT8ZeAOzm9kCIh9qd4 🇹🇭84.วันที่ 30 พ.ค.2567 รายการสภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1 สัมภาษณ์คุณอดิเทพ จาวลาห์ นักวิชาการอิสระ หัวข้อ “โลกใช้เชื้อโรคเป็นอาวุธ..แผ่นดินเรามีโอสถภูมิปัญญา WHO..อย่ายุ่งมาก!” เข้าใจ สนธิสัญญาโรคระบาดและการแก้ไข IHR ( International Health Regulation หรือ กฎระเบียบด้านสุขภาพระหว่างประเทศ ) ของ WHO (องค์การอนามัยโลก) https://youtu.be/Cvml6w6c5WI? si=UL81i3lAOVL9872W https://www.rookon.com/?p=1176 หมอดื้อแฉ https://mgronline.com/qol/detail/9670000045489 วันที่ 1 มิ.ย.2567 การประชุมสมัชชาอนามัยโลกได้สิ้นสุดลงแล้ว สรุปการเปลี่ยนแปลง IHR และ Pandemic Treaty https://www.rookon.com/?p=1180 🇹🇭85.วันที่ 1 มิ.ย.2567 ประชาชนที่รับความเสียหายจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด- 19สามารถดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสภาทนายความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ ดังนั้น สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจากสภาทนายความได้โดยการแจ้งหรือให้มาพบทนายความอาสาที่มีประสบการณ์ดำเนินคดีทางการแพทย์ ณ ที่ทำการสภาทนายความ เลขที่ 249 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร หรือหมายเลขโทรศัพท์ 02-522-7124 -28 ต่อ 135 หรืออีเมล president@lawyerscouncil.or.th https://www.facebook.com/share/p/dtVBu5V6cvyC3kuc/?mibextid=WaXdOe 🇹🇭86.วันที่ 4 มิ.ย. 2567 หลักฐาน เฟาซี ถูกสอบสวนที่รัฐสภา พูดว่า ต้องทำให้ประชาชนดำเนินชีวิตด้วยความยากลำบากถ้าไม่ฉีดวัคซีน Making life difficult for unvaccinated ต้องจัดการประชาชนที่มีอุดมการณ์ขี้หมาออกไป Ideological bullshit https://youtu.be/b9MRAtY1zpM?si=Id3YmJDIxAW1P_RR 🇹🇭87.วันที่ 5 มิ.ย. 2567 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธ์ ยื่นเรื่อง ที่รัฐสภา ขอให้สอบสวนกรณีพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ให้บริษัทยาในการแก้ปัญหาการระบาดของโรคโควิด 19 ทั้งนี้จะมีการส่งเรื่องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสอบสวนร่วมกับกระทรวงยุติธรรม https://www.facebook.com/share/p/RpqysNHgAzmKqt35/?mibextid=A7sQZp 🇹🇭88.วันที่ 5 มิ.ย.2567 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ พร้อมด้วย สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ นายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ร่วมแถลงเรียกร้องให้สภาทนายความดำเนินคดีเพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะเกี่ยวกับการอนุญาตผลิตยาในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยการนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 จนเป็นเหตุให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้รับผลกระทบเสียชีวิตพิการและเจ็บป่วยจำนวนมาก https://rumble.com/v4zrij6--05-06-2024.html 🇹🇭89.วันที่ 19 มิ.ย.2567 นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา และ นพ.มนตรี เศรษฐบุตร ยื่นหนังสือถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่รัฐสภา ยื่นหนังสือที่ทางกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ผู้ป่วย และญาติของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนป้องกันโควิด รวมทั้ง เครือข่ายพันธมิตร เช่น สมาพันธ์เครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย,ตัวแทน สภาทนายความแห่งประเทศไทย ,ตัวแทน สมาคมแพทย์ทางร่วมนานาชาติ ,สมาคมแพทย์แผนไทย ส่งให้ทางรัฐมนตรีว่าการสธ. และขอให้สอบสวนการกระทำผิดสัญญาของบริษัทวัคซีน https://www.hfocus.org/content/2024/06/30839 https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/466060772776252/? 🇹🇭90.วันที่ 5 ก.ค.2567 รายการสภากาแฟ ช่อง News1 สัมภาษณ์ ม.ล.รุ่งคุณ กิติยากร และคุณประสิทธิชัย หนูนวล หัวข้อ ฟังความเป็นจริงของสถานการณ์ กัญชา และ ระบบทรราชทางการแพทย์ (Medical Tyranny) https://www.youtube.com/live/kBdl3ud3RDE
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4135 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇹🇭31.วันที่ 17 เม.ย. 2566 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ยื่นหนังสือเรื่อง “ขอให้เพิกถอนการอนุญาตวัคซีน mRNA ในเด็ก” ให้กับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อ อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบดีกรมอนามัย เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และคณะกรรมการยา https://drive.google.com/drive/folders/1M3faHy7ViNiWaa95SVyQa1IFFpa3JjHZ?usp=sharing
    🇹🇭32.วันที่ 20 เม.ย. 2566 นายแพทย์อรรถพร สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ร่วมรายการสภากาแฟเวทีชาวบ้าน 200466 ช่อง News1 เกี่ยวกับความจริงของโควิดระลอกใหม่ เพื่อให้คนไทยไม่ต้องตื่นกล้ว และ การยื่นหนังสือถึงกรรมการยา และผู้มีส่วนรับผิดชอบต่าง ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่นำมาฉีดให้คนไทย เกี่ยวกับการระงับการอนุมัติฉุกเฉินของ วัคซีน mRna https://www.youtube.com/live/T0COteCvRRQ?feature=share
    🇹🇭33.วันที่ 20 เม.ย. 2566 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ และทุกทุกท่านที่ให้ความอนุเคราะห์สนับสนุน งบประมาณในการยังชีพและค่าทนาย กรณีถูกเลิกจ้างเพราะไม่ฉีดวัคซีน นายจ้างต้องชดใช้ค่าเสียหาย จนเราได้มีคดีตัวอย่างเป็นเคสแรกของประเทศไทย เพื่อให้คนที่ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมลุกขึ้นมาต่อสู้เอาผิด และเตือนให้นายจ้างไม่เอาเป็นเยี่ยงอย่าง รายละเอียดอ่านได้ในลิ้งค์นี้ https://drive.google.com/drive/folders/1moLQyREcKJoE0YYLZ6vOA20EGQuLPUSl?usp=share_link
    🇹🇭34.วันที่ 6 มิ.ย.2566 รายการสยามไทยอัปเดต ช่อง 13 สยามไทย สถานีข่าว ได้จัดเสวนาหัวข้อ “ล้างสุขภาพ : ผลข้างเคียงวัคซีนโควิด" โดยมีวิทยากรดังรายนามต่อไปนี้
    •• พระมหาขวัญชัย อคฺคชโย เจ้าอาวาส วัดคีรีวงก์ จ.ชุมพร
    •• นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง จิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    •• แพทย์แผนไทย(เวชกรรมไทย) เกริกพันธ์ นิลประกอบกุล ประจำคลินิกแพทย์แผนไทย หทัยนเรศวร์ จ.ราชบุรี / ทีมพอรักษา เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ
    >>ผู้ดำเนินรายการ ขจรศักดิ์ เชาว์เจริญรัตน์
    ช่วงที่ 1 https://fb.watch/k-6IORwHvd/
    ช่วงที่ 2 https://fb.watch/k-6NKAbcjN/
    🇹🇭35.คุณอดิเทพ จาวลาห์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Rookon.com ซึ่งเป็นสื่ออิสระ ได้นำข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสนธิสัญญาที่ประเทศไทยได้ลงนามไว้กับทาง WHO โดยรายละเอียดของสนธิสัญญาเป็นไปในทิศทางที่ลดทอน อิสรภาพ เสรีภาพ และอธิปไตยของประชาชนและของประเทศ ทางคุณอดิเทพ และกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์จึงได้มีการรวบรวมรายชื่อผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ได้อย่างน้อย 50,000 รายชื่อ ก่อนเดือนสิงหาคม เพื่อคัดค้านสนธิสัญญาดังกล่าว
    คลิปเข้าใจ สนธิสัญญา องค์การอนามัยโลก ใน 8 นาที
    https://fb.watch/kRJLJeFkz8/
    ร่วมลงนามหยุดสนธิสัญญา Pandemic Treaty และ IHR (International Health Regulations) ที่นี่ครับ https://www.rookon.com/?p=696
    🇹🇭36.วันที่ 14 ก.ค.2566 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ได้เชิญ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง นพ.มนตรี เศรษฐบุตร ทพญ.เพ็ญนภา คณิตจินดา คุณอดิเทพ จาวลาห์ ดร.ศรีวิชัย ศรีสุวรรณ ดร.ธิดารัตน์ เอกศิรินิมิตร พท.อภิชาติ กาญจนาพงศาเวช และผู้กล้าหาญมากมายร่วมกันจัดงานเสวนา เรื่อง “คนไทยขอคัดค้านสนธิสัญญาทาส WHO Treaty” เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสนธิสัญญาดังกล่าว และรวมตัวกันมอบรายชื่อคนไทยที่คัดค้านสนธิสัญญา WHO Treaty นี้ โดยมีการจัดกิจกรรมแบ่งเป็น 2 ภาค คือ
    ภาคเช้า งานสัมนาจัดที่วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี
    ภาคบ่าย ร่วมกันยื่นรายชื่อเพื่อหยุดสนธิสัญญาทาสของ WHO ที่กระทรวงสาธารณสุข
    https://t.me/stopWHOTreatyinthai
    🇹🇭37.วันที่ 13 ก.ย. 2566 กิจกรรมไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนโควิด และต่อต้านความร่วมมือหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่รพ.ศิริราชได้เชิญ ดร.เฟาชี่ร่วมสัมนา กลุ่มได้ยื่นหนังสือ https://drive.google.com/drive/folders/1alpuUfmLh6EG4oLRUGbuDlpCC35EGu_m ถึงคณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยมีตัวแทนผู้มารับมอบคือ รองผู้อำนวยการรพ.ศิริราช ผศ.นพ.ธารา วงศ์วิริยางกูร ณ ห้องประขุมสิรินธร ตึกเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช
    https://vt.tiktok.com/ZSLwn8Akr/
    https://vt.tiktok.com/ZSLw3WccE/
    https://fb.watch/n0-scBmcCC/?mibextid=Gd9JSz
    https://youtu.be/77ds82Szows?si=SkbEi4GPBqhjbBLc
    https://fb.watch/n36sx6Eqys/
    https://fb.watch/n37Z0FHPth/
    https://t.me/ThaiPitaksithData/3445
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5005
    🇹🇭38.วันที่ 17 ต.ค.2566 กลุ่ม คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ นำโดยคุณหมอมนตรี เศรษฐบุตร แพทย์จุฬารุ่น 15 อดีต นายกสมาคมศิษย์เก่า แพทย์จุฬา ยื่นหนังสือถึง คณบดีคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ ⭐️รูปแบบการจัดกิจกรรม รวมกลุ่มสุภาพชน
    ทีมชุดเสื้อขาว แจกใบปลิวแนะนำช่องทางเข้าถึงความรู้ ทางรอด และกิจกรรมไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากยาฉีด
    https://drive.google.com/drive/folders/1lvLuluTfYOYG0F7VXDZ8KOmM2OHNyNgo
    https://t.me/ThaiPitaksithData/3840
    🇹🇭39.วันที่ 18 ต.ค.2566 กลุ่ม คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ นำโดย นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง แพทย์และอาจารย์แพทย์จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แพทย์แผนไทย พท.อภิชาติ กาญจนาพงศาเวช และ พท.ปภาน ชัยเกษมวรากุล และประชาชนกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ #ยนหนังสือ ถึงประธานรัฐสภา และ ส.ส สิริลภัส กองตระการ เรื่องข้อเท็จจริงของวัคซีนโควิด และ นำผู้เสียหายจากการฉีดวัคซีนมายืนยันว่าวัคซีนไม่ปลอดภัย ให้ช่วยประสานงานดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและตรวจสอบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป
    https://t.me/ThaiPitaksithData/3912
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4123
    https://www.tpchannel.org/news/23148
    https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parliament_parcy/ewt_news.php?nid=108684&filename=The_House_of_Representatives
    https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parliament_parcy/ewt_news.php?nid=108683&filename=The_House_of_Representatives
    🇹🇭40.วันที่ 1 พ.ย.2566 ที่คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    ช่วงเช้ากลุ่มฯมาร่วมให้กำลังใจคุณหมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผอ.ศูนย์​โรคอุบัติ​ใหม่​ สภากาชาด​ไทย
    ตามที่ท่านได้ออกมา​เผยแพร่ข้อมูล​เกี่ยวกับ​พฤติกรรม​ของ​องค์กร​ Ecohealth​ ​alliance​ ที่มีส่วนสำคัญ​ในการสนับสนุน​ทุนวิจัย​เพื่อ​ ดัดแปลง​เชื้อโคโรนาไวรัสในค้างคาว​ ให้สามารถ​ติดต่อในมนุษย์​ได้​อันเป็น​ที่มาของ​โรคโควิด​ 19​ นั้น​ ทาง​กลุ่ม​ของแสดง​ความชื่นชม​ในความกล้าหาญ​ทางวิชาการ​ของท่าน​ และขอสนับสนุน​ให้​เกิดกระบวนการ​ทางวิทยาศาสตร์​ โดย​เปิดโอกาสให้นำเสนอข้อมูลทางวิชาการ​อย่างรอบด้าน​กับสังคม​ ดังที่มีการดำเนินการ​ในอารยะ​ประเทศ​หลายประเทศ​ทั่วโลก​ อนึ่ง​ทางกลุ่ม​ ขอประนาม​การกระทำใดๆ​ ของหน่วยงาน​ภาครัฐ​ สถาบันการศึกษา​ในความพยายามที่จะให้ร้ายป้ายสี​ ทำลายความน่า​เชื่อถือ​ ของผู้ที่นำเสนอข้อมูล​ ดังที่มีความพยายาม​กระทำกับท่านอาจารย์​อยู่ใน​ปัจจุบัน​ และขอให้องค์กรวิชาการดังกล่าว​ เปิดเวทีวิชาการ​ตามพิสัยที่ควรกระทำของนักวิชาการ​ ทั้งนี้​หากยังมีมาตรการ​ใดๆ​ เพื่อปิดบัง​ เซ็นเซอร์​ ข้อเท็จจริง​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​เรื่อง​นี้​ ทางกลุ่ม​จะดำเนินมาตรการ​ทั้งในทางกฎหมาย​และ​ การสื่อสาร​สังคม​เพื่อยับยั้ง​การกระทำ​ดังกล่าว​ต่อไป ขอแสดงความชื่นชม​และให้กำลังใจ​ให้ท่านอาจารย์​กระทำในสิ่ง​ที่​ถูกต้อง​เพื่อปกป้อง​ผลประโยชน์​ของส่วนรวมต่อไป
    ⭐️งานนี้มีสื่อมวลชนมาทำข่าวจำนวนมาก ซึ่งทางกลุ่มหวังว่าจะช่วยให้สังคมได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกปิดกั้นมาตลอด 3 ปี
    https://drive.google.com/drive/folders/1-HmCKOyvE4415in3Lso7tE-QybucpSFv
    https://mgronline.com/qol/detail/9660000098275เหตุผลที่ถูกสั่งสอบสวนเพราะยุติ การเอาไวรัสจากค้างคาวมาศึกษาและการทำลายตัวอย่าง
    ประชาชาติธุรกิจ 30 ต.ค. 2566
    ย้อนกลับไปที่หมอธีระวัฒน์เตือน
    https://www.prachachat.net/general/news-1426137

    ช่วงบ่าย คุณหมอมนตรี เศรษฐบุตร แพทย์จุฬารุ่น 15 อดีต นายกสมาคมศิษย์เก่า แพทย์จุฬา ตัวแทนกลุ่มฯยื่นหนังสือ(ข้อมูลต่างๆ) ถึง รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
    โพสของคุณหมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10212579857448066&id=1732997516&sfnsn=mo&mibextid=RUbZ1f
    รวมภาพและคลิปกิจกรรม 1 พ.ย.2566
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4006
    🇹🇭41.วันที่ 11 ธันวาคม 2566 สัมภาษณ์นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในรายการข่าว วิทยุจุฬาฯ FM 101.5 MHz หัวข้อ “ผลกระทบของวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอที่มีต่อมนุษย์ : ก่อให้เกิดโรคร้ายและอันตรายต่อชีวิตจริงหรือไม่” ดำเนินรายการโดย ดร.ธีรารัตน์ พันทวี
    https://curadio.chula.ac.th/Radio-Demand.php?program=202312110730
    🇹🇭42.วันที่ 9 ม.ค. 2567 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ได้ยื่นหนังสือถึง ท่านประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์
    สำเนาเรียน กรรมาธิการสาธารณสุข และผู้แทนสื่อมวลชนทุกแขนง
    เรื่อง ขอให้มีการสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย
    https://www.tpchannel.org/news/24200
    https://www.hfocus.org/content/2024/01/29456
    https://fb.watch/psuPJe2ieg/?mibextid=Nif5oz
    https://youtu.be/m-9_I7UQF94?si=CuO_XYyxeWbyr8Ot
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4400
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4450
    🇹🇭43.วันที่ 15 ม.ค. 2567 แถลงการณ์โดย อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต
    และ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑาหัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ โรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมคณะ
    https://m.youtube.com/live/NZWNHxOHKyg?si=7a3W8IRItQxI5be2&fbclid=IwAR0FAN18l_BNF-QVRHiQPMmaBeBK6LRoJQezAFlZ3ckNAu2e-c3atVwR0K4_aem_Ac8StbQ-QdDOIyXHSwgqYUD_LPOW5f4yPJZXKG8Da8bb675gJvpBwoxE_KVWB_sT0LCcUkdG5gTsozYMKyeTrpE-
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/909121587248209/?
    🇹🇭44.วันที่ 25 ม.ค. 2567 ผู้แทนกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร รัฐสภา กำหนดให้มีการประชุมเพื่อพิจารณาประเด็นเกี่ยวกับวัคชีน mRNA ในข้อเท็จจริงด้านความโปร่งใสของการนำเข้า ความปลอดภัยและคุณภาพของวัคซีน
    เอกสารการประชุม https://drive.google.com/drive/folders/1ZLJQk7PFLi_AYIhEym2tn7XPQKjNQ-91
    🇹🇭45.วันที่ 29 ม.ค. 2567 จดหมายเปิด​ผนึก​ถึง​รองอธิบดี​ กรมควบคุม​โรค นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวรและปลัดกระทรวงสาธารณสุข
    เรื่อง ขอเข้าไปนำเสนอข้อมูลและรับฟังคำชี้แจงข้อสงสัยที่ท่านยังมิได้ชี้แจงในการประชุมของกรรมาธิการ สาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗ https://t.me/ThaiPitaksithData/4593
    🇹🇭46.วันที่ 1 ก.พ. 2567
    จดหมายเปิดผนึกถึงผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ นายแพทย์นคร เปรมศรี
    เรื่อง ขอเข้าไปนำเสนอข้อมูลและรับฟังคำชี้แจงข้อคำถามที่ท่านยังมิได้ชี้แจงในการประชุมของกรรมาธิการ การสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗
    https://drive.google.com/drive/folders/18oilc3VwHhayBBdNM8ZMQubk1mOicRMC
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4632
    🇹🇭47.วันที่ 2 ก.พ. 2567 สำนักข่าวผู้จัดการออนไลน์ อ้างอิงบทความพร้อมข้อมูลจาก ‘กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์’ กล่าวถึงผลการศึกษา การวิจัย และสิ่งที่น่าสงสัยในหลาย ๆ ประเด็น เกี่ยวกับยาฉีดที่อ้างว่าเป็นวัคซีนโควิด
    https://mgronline.com/qolฐ/detail/9670000009954
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4647
    🇹🇭48.วันที่ 6 ก.พ. 2567 จดหมายเปิดผนึกถึง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช
    เรื่อง ขอให้ทบทวนการอนุญาตให้ใช้วัคซีนโควิด ๑๙ ชนิด mRNA vaccine
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4686
    🇹🇭49.วันที่ 8 ก.พ. 2567 ในที่สุด กระทรวงสาธารณสุข ก็ออกมายืนยันสิ่งที่ข้องใจ ไฟเซอร์ หักคอให้รัฐบาลไทย เซ็น”สัญญาทาส“ ไม่อนุญาตให้ ตรวจสอบ
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4864
    อ้างติดเงื่อนไข
    สธ.ปฏิเสธเปิดสัญญา“ไฟเซอร์” คนไทยพิทักษ์สิทธิ์จวกยับ น่าเศร้า ขรก.ไทยกลัวบริษัทยา
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000014134
    และมีการโครงการจัดเสวนาและหน่วยแพทย์เคลื่อนที่สำหรับภาวะ Long Covid-19 และผลกระทบจากวัคซีน ณ หอศิลป์แห่งวัฒนธรรมกรุงเทพ จาก 9 วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ คุณรสนา โตสิตระกูล, นายแพทย์ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ, นายแพทย์อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง, อาจารย์สันติสุข โสภณสิริ , นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์, ศาสตราจารย์คลินิกแพทย์จีน นายแพทย์ภาสกิจ วัณนาวิบูล, แพทย์หญิงสุภาพร มีลาภ, แพทย์แผนไทยประยุกต์แวสะมิง แวหมะ, พันเอก นายแพทย์พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา https://youtu.be/KuhFBFDIFPo
    https://rumble.com/v4bmro6-title-health-uncensored-by-dr.atapol-test-draft-1-.html?fbclid=IwAR3KiMhm_Jj--rzxsevf2gWazMP-1SdFHD1XDb0GY3Rw0MMu8-Lk-mGY1g0
    https://t.me/injuryjabthaiseminar
    🇹🇭50.วันที่ 12 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึกถึงอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร
    เรื่อง ขอให้กรมควบคุมโรคเปิดเผย “สัญญาทาส” ที่ทำไว้กับบริษัทไฟเซอร์
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4841
    🇹🇭51.วันที่ 12 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึกถึงเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
    นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี
    https://www.facebook.com/share/p/wFViacXLo6JoUFo4/?mibextid=A7sQZp
    เรื่อง ขอให้ชี้แจงข้อสงสัยเกี่ยวกับการจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด
    https://healthserv.net/healthupdate/89
    🇹🇭52.วันที่ 13 ก.พ. 2567 หมอธีระวัฒน์ เผยรายงานผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯ ชี้ชัดวัคซีนโควิดส่งผลหัวใจอักเสบ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000013428
    🇹🇭53.วันที่ 14 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข นพ.ทศพร เสรีรักษ์
    เรื่อง ขอติดตามการดำเนินการเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างผิดปกติของคนไทยตามที่นำเสนอต่อคณะกรรมาธิการ การสาธารณสุข https://t.me/ThaiPitaksithData/4854
    และช่องข่าว News1 สัมภาษณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง เอาวัคซีนอะไรมาฉีดคนไทย ทำไมคนป่วยมากขึ้นและตายเพิ่มขึ้น???
    https://www.youtube.com/live/SPtFadcLmzo?si=NQq4S31aLOfGGxQQ
    https://news1live.com/watch/SPtFadcLmzo
    https://www.facebook.com/share/v/5KT7njxNwKvHC95z/?mibextid=oFDknk
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000013738
    https://www.thaipithaksith.com/
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4878
    🇹🇭54.วันที่ 15 ก.พ. 2567 กรมควบคุมโรค เชิญ กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ไปให้ข้อมูล นำโดยนพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    เข้าร่วมประชุม เพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการตายเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ(Excess Death) ของคนไทย และข้อมูลเกี่ยวกับ ความฉ้อฉลของบริษัทยา ที่ขายวัคซีน mRNA ให้รัฐ
    โดยมี นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร
    รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ร่วมรับฟังข้อมูลร่วมกับข้าราชการในสังกัดกรมควบคุมโรคหลายท่าน
    https://dailyclout.io/product/war-room-dailyclout-pfizer-documents-analysis-volunteers-reports-book-paperback/
    และยื่นหนังสือ ถึงอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร
    เรื่อง ขอให้กรมควบคุมโรคเปิดเผย “สัญญาทาส” ที่ทำไว้กับบริษัทไฟเซอร์ เลขรับหนังสือ ๑๔๕๙
    https://www.facebook.com/share/p/2MPYJ33WfefmcVig/?mibextid=xfxF2i
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4888
    🇹🇭55.วันที่ 16 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี
    เรื่อง ขอบพระคุณที่กรุณาเปิดเผยความจริงเรื่อง “สัญญาทาส” ที่กรมควบคุมโรคได้ทำไว้กับบริษัทยา
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4874
    🇹🇭56.วันที่ 19 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงรองอธิบดี กรมควบคุมโรค นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร,
    อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร,ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ นพ.นคร เปรมศรี
    เรื่อง ขอขอบพระคุณที่จัดเวทีเสวนาวิชาการในหัวข้อ การเสียชีวิตอย่างผิดปกติของคนไทย กับ mRNA vaccine
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4914
    🇹🇭57.วันที่ 20 ก.พ.2567 “หมอธีระวัฒน์” เผยข้อมูลการแพทย์ พบสิ่งไม่เคยปรากฎในคน หลังมีวัคซีนโควิด
    https://www.nationtv.tv/health/378940487
    https://www.facebook.com/share/1pjhGQ6FnicMrTnU/?mibextid=WC7FNe
    คุณสรยุทธสัมภาษณ์เรื่องปรากฏการณ์นี้ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ช่องสามอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงซึ่งได้ให้ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเรื่องผลข้างเคียงของวัคซีนโควิดทั้งการอักเสบของหัวใจและการตันของเส้นเลือดที่เกิดจากก้อนเลือดและก้อนสีขาวตรงนี้อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งซึ่งไม่มีใครทราบกันดีเพราะมีการเซ็นเซอร์และปกปิดมาตลอดจนกระทั่งปรากฏการณ์นี้เจอในหลายประเทศทั่วไปตั้งแต่เยอรมันอังกฤษและประเทศสหรัฐอเมริกาเอง
    🇹🇭58.วันที่ 21 ก.พ. 2567 สัมภาษณ์สด นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    รายการทัวร์มาลงทางช่องโมโน29
    mRNA ไม่ใช่วัคซีนแต่เป็นยีนเทอราปี gene therapy
    https://www.facebook.com/share/v/ENS2BTLH5oxkuGKD/?mibextid=A7sQZp
    🇹🇭59.วันที่ 22 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช,อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร
    เรื่อง ขอให้นำส่งเอกสารกำกับยาของวัคซีนโคเมอร์เนตีให้กับกรมควบคุมโรค
    https://www.facebook.com/share/p/htqXEB1QWE3uATDP/?mibextid=xfxF2i
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4962 และอ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เขียนบทความ “เสียดายที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้อ่าน งานวิจัยผลกระทบจากวัคซีนต่อเด็กและเยาวชนไทย”
    https://www.facebook.com/100044511276276/posts/930738298419871/
    https://t.me/ThaiPitaksithData/5082
    🇹🇭60.วันที่ 23 ก.พ. 2567 จดหมายเปิดผนึกถึงอธิบดีกรมการแพทย์ พญ. อัมพร เบญจพลพิทักษ์
    เรื่อง ขอให้ปรับแก้แนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับแพทย์และบุคลากร สาธารณสุข
    https://www.facebook.com/share/p/pLvCKVbwswSXvBHK/?mibextid=xfxF2i
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4963
    🇹🇭31.วันที่ 17 เม.ย. 2566 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ยื่นหนังสือเรื่อง “ขอให้เพิกถอนการอนุญาตวัคซีน mRNA ในเด็ก” ให้กับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธาณสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมควบคุมโรคติดต่อ อธิบดีกรมการแพทย์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อธิบดีกรมอนามัย เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และคณะกรรมการยา https://drive.google.com/drive/folders/1M3faHy7ViNiWaa95SVyQa1IFFpa3JjHZ?usp=sharing 🇹🇭32.วันที่ 20 เม.ย. 2566 นายแพทย์อรรถพร สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ร่วมรายการสภากาแฟเวทีชาวบ้าน 200466 ช่อง News1 เกี่ยวกับความจริงของโควิดระลอกใหม่ เพื่อให้คนไทยไม่ต้องตื่นกล้ว และ การยื่นหนังสือถึงกรรมการยา และผู้มีส่วนรับผิดชอบต่าง ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่นำมาฉีดให้คนไทย เกี่ยวกับการระงับการอนุมัติฉุกเฉินของ วัคซีน mRna https://www.youtube.com/live/T0COteCvRRQ?feature=share 🇹🇭33.วันที่ 20 เม.ย. 2566 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ และทุกทุกท่านที่ให้ความอนุเคราะห์สนับสนุน งบประมาณในการยังชีพและค่าทนาย กรณีถูกเลิกจ้างเพราะไม่ฉีดวัคซีน นายจ้างต้องชดใช้ค่าเสียหาย จนเราได้มีคดีตัวอย่างเป็นเคสแรกของประเทศไทย เพื่อให้คนที่ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมลุกขึ้นมาต่อสู้เอาผิด และเตือนให้นายจ้างไม่เอาเป็นเยี่ยงอย่าง รายละเอียดอ่านได้ในลิ้งค์นี้ https://drive.google.com/drive/folders/1moLQyREcKJoE0YYLZ6vOA20EGQuLPUSl?usp=share_link 🇹🇭34.วันที่ 6 มิ.ย.2566 รายการสยามไทยอัปเดต ช่อง 13 สยามไทย สถานีข่าว ได้จัดเสวนาหัวข้อ “ล้างสุขภาพ : ผลข้างเคียงวัคซีนโควิด" โดยมีวิทยากรดังรายนามต่อไปนี้ •• พระมหาขวัญชัย อคฺคชโย เจ้าอาวาส วัดคีรีวงก์ จ.ชุมพร •• นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง จิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย •• แพทย์แผนไทย(เวชกรรมไทย) เกริกพันธ์ นิลประกอบกุล ประจำคลินิกแพทย์แผนไทย หทัยนเรศวร์ จ.ราชบุรี / ทีมพอรักษา เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ >>ผู้ดำเนินรายการ ขจรศักดิ์ เชาว์เจริญรัตน์ ช่วงที่ 1 https://fb.watch/k-6IORwHvd/ ช่วงที่ 2 https://fb.watch/k-6NKAbcjN/ 🇹🇭35.คุณอดิเทพ จาวลาห์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Rookon.com ซึ่งเป็นสื่ออิสระ ได้นำข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสนธิสัญญาที่ประเทศไทยได้ลงนามไว้กับทาง WHO โดยรายละเอียดของสนธิสัญญาเป็นไปในทิศทางที่ลดทอน อิสรภาพ เสรีภาพ และอธิปไตยของประชาชนและของประเทศ ทางคุณอดิเทพ และกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์จึงได้มีการรวบรวมรายชื่อผ่านช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ได้อย่างน้อย 50,000 รายชื่อ ก่อนเดือนสิงหาคม เพื่อคัดค้านสนธิสัญญาดังกล่าว คลิปเข้าใจ สนธิสัญญา องค์การอนามัยโลก ใน 8 นาที https://fb.watch/kRJLJeFkz8/ ร่วมลงนามหยุดสนธิสัญญา Pandemic Treaty และ IHR (International Health Regulations) ที่นี่ครับ https://www.rookon.com/?p=696 🇹🇭36.วันที่ 14 ก.ค.2566 กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ได้เชิญ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง นพ.มนตรี เศรษฐบุตร ทพญ.เพ็ญนภา คณิตจินดา คุณอดิเทพ จาวลาห์ ดร.ศรีวิชัย ศรีสุวรรณ ดร.ธิดารัตน์ เอกศิรินิมิตร พท.อภิชาติ กาญจนาพงศาเวช และผู้กล้าหาญมากมายร่วมกันจัดงานเสวนา เรื่อง “คนไทยขอคัดค้านสนธิสัญญาทาส WHO Treaty” เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสนธิสัญญาดังกล่าว และรวมตัวกันมอบรายชื่อคนไทยที่คัดค้านสนธิสัญญา WHO Treaty นี้ โดยมีการจัดกิจกรรมแบ่งเป็น 2 ภาค คือ ภาคเช้า งานสัมนาจัดที่วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ภาคบ่าย ร่วมกันยื่นรายชื่อเพื่อหยุดสนธิสัญญาทาสของ WHO ที่กระทรวงสาธารณสุข https://t.me/stopWHOTreatyinthai 🇹🇭37.วันที่ 13 ก.ย. 2566 กิจกรรมไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนโควิด และต่อต้านความร่วมมือหรือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากที่รพ.ศิริราชได้เชิญ ดร.เฟาชี่ร่วมสัมนา กลุ่มได้ยื่นหนังสือ https://drive.google.com/drive/folders/1alpuUfmLh6EG4oLRUGbuDlpCC35EGu_m ถึงคณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยมีตัวแทนผู้มารับมอบคือ รองผู้อำนวยการรพ.ศิริราช ผศ.นพ.ธารา วงศ์วิริยางกูร ณ ห้องประขุมสิรินธร ตึกเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช https://vt.tiktok.com/ZSLwn8Akr/ https://vt.tiktok.com/ZSLw3WccE/ https://fb.watch/n0-scBmcCC/?mibextid=Gd9JSz https://youtu.be/77ds82Szows?si=SkbEi4GPBqhjbBLc https://fb.watch/n36sx6Eqys/ https://fb.watch/n37Z0FHPth/ https://t.me/ThaiPitaksithData/3445 https://t.me/ThaiPitaksithData/5005 🇹🇭38.วันที่ 17 ต.ค.2566 กลุ่ม คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ นำโดยคุณหมอมนตรี เศรษฐบุตร แพทย์จุฬารุ่น 15 อดีต นายกสมาคมศิษย์เก่า แพทย์จุฬา ยื่นหนังสือถึง คณบดีคณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ ⭐️รูปแบบการจัดกิจกรรม รวมกลุ่มสุภาพชน ทีมชุดเสื้อขาว แจกใบปลิวแนะนำช่องทางเข้าถึงความรู้ ทางรอด และกิจกรรมไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากยาฉีด https://drive.google.com/drive/folders/1lvLuluTfYOYG0F7VXDZ8KOmM2OHNyNgo https://t.me/ThaiPitaksithData/3840 🇹🇭39.วันที่ 18 ต.ค.2566 กลุ่ม คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ นำโดย นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง แพทย์และอาจารย์แพทย์จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แพทย์แผนไทย พท.อภิชาติ กาญจนาพงศาเวช และ พท.ปภาน ชัยเกษมวรากุล และประชาชนกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ #ยนหนังสือ ถึงประธานรัฐสภา และ ส.ส สิริลภัส กองตระการ เรื่องข้อเท็จจริงของวัคซีนโควิด และ นำผู้เสียหายจากการฉีดวัคซีนมายืนยันว่าวัคซีนไม่ปลอดภัย ให้ช่วยประสานงานดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและตรวจสอบผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป https://t.me/ThaiPitaksithData/3912 https://t.me/ThaiPitaksithData/4123 https://www.tpchannel.org/news/23148 https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parliament_parcy/ewt_news.php?nid=108684&filename=The_House_of_Representatives https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/parliament_parcy/ewt_news.php?nid=108683&filename=The_House_of_Representatives 🇹🇭40.วันที่ 1 พ.ย.2566 ที่คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ช่วงเช้ากลุ่มฯมาร่วมให้กำลังใจคุณหมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผอ.ศูนย์​โรคอุบัติ​ใหม่​ สภากาชาด​ไทย ตามที่ท่านได้ออกมา​เผยแพร่ข้อมูล​เกี่ยวกับ​พฤติกรรม​ของ​องค์กร​ Ecohealth​ ​alliance​ ที่มีส่วนสำคัญ​ในการสนับสนุน​ทุนวิจัย​เพื่อ​ ดัดแปลง​เชื้อโคโรนาไวรัสในค้างคาว​ ให้สามารถ​ติดต่อในมนุษย์​ได้​อันเป็น​ที่มาของ​โรคโควิด​ 19​ นั้น​ ทาง​กลุ่ม​ของแสดง​ความชื่นชม​ในความกล้าหาญ​ทางวิชาการ​ของท่าน​ และขอสนับสนุน​ให้​เกิดกระบวนการ​ทางวิทยาศาสตร์​ โดย​เปิดโอกาสให้นำเสนอข้อมูลทางวิชาการ​อย่างรอบด้าน​กับสังคม​ ดังที่มีการดำเนินการ​ในอารยะ​ประเทศ​หลายประเทศ​ทั่วโลก​ อนึ่ง​ทางกลุ่ม​ ขอประนาม​การกระทำใดๆ​ ของหน่วยงาน​ภาครัฐ​ สถาบันการศึกษา​ในความพยายามที่จะให้ร้ายป้ายสี​ ทำลายความน่า​เชื่อถือ​ ของผู้ที่นำเสนอข้อมูล​ ดังที่มีความพยายาม​กระทำกับท่านอาจารย์​อยู่ใน​ปัจจุบัน​ และขอให้องค์กรวิชาการดังกล่าว​ เปิดเวทีวิชาการ​ตามพิสัยที่ควรกระทำของนักวิชาการ​ ทั้งนี้​หากยังมีมาตรการ​ใดๆ​ เพื่อปิดบัง​ เซ็นเซอร์​ ข้อเท็จจริง​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​เรื่อง​นี้​ ทางกลุ่ม​จะดำเนินมาตรการ​ทั้งในทางกฎหมาย​และ​ การสื่อสาร​สังคม​เพื่อยับยั้ง​การกระทำ​ดังกล่าว​ต่อไป ขอแสดงความชื่นชม​และให้กำลังใจ​ให้ท่านอาจารย์​กระทำในสิ่ง​ที่​ถูกต้อง​เพื่อปกป้อง​ผลประโยชน์​ของส่วนรวมต่อไป ⭐️งานนี้มีสื่อมวลชนมาทำข่าวจำนวนมาก ซึ่งทางกลุ่มหวังว่าจะช่วยให้สังคมได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกปิดกั้นมาตลอด 3 ปี https://drive.google.com/drive/folders/1-HmCKOyvE4415in3Lso7tE-QybucpSFv https://mgronline.com/qol/detail/9660000098275เหตุผลที่ถูกสั่งสอบสวนเพราะยุติ การเอาไวรัสจากค้างคาวมาศึกษาและการทำลายตัวอย่าง ประชาชาติธุรกิจ 30 ต.ค. 2566 ย้อนกลับไปที่หมอธีระวัฒน์เตือน https://www.prachachat.net/general/news-1426137 ช่วงบ่าย คุณหมอมนตรี เศรษฐบุตร แพทย์จุฬารุ่น 15 อดีต นายกสมาคมศิษย์เก่า แพทย์จุฬา ตัวแทนกลุ่มฯยื่นหนังสือ(ข้อมูลต่างๆ) ถึง รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสของคุณหมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10212579857448066&id=1732997516&sfnsn=mo&mibextid=RUbZ1f รวมภาพและคลิปกิจกรรม 1 พ.ย.2566 https://t.me/ThaiPitaksithData/4006 🇹🇭41.วันที่ 11 ธันวาคม 2566 สัมภาษณ์นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในรายการข่าว วิทยุจุฬาฯ FM 101.5 MHz หัวข้อ “ผลกระทบของวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอที่มีต่อมนุษย์ : ก่อให้เกิดโรคร้ายและอันตรายต่อชีวิตจริงหรือไม่” ดำเนินรายการโดย ดร.ธีรารัตน์ พันทวี https://curadio.chula.ac.th/Radio-Demand.php?program=202312110730 🇹🇭42.วันที่ 9 ม.ค. 2567 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ได้ยื่นหนังสือถึง ท่านประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ สำเนาเรียน กรรมาธิการสาธารณสุข และผู้แทนสื่อมวลชนทุกแขนง เรื่อง ขอให้มีการสืบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย https://www.tpchannel.org/news/24200 https://www.hfocus.org/content/2024/01/29456 https://fb.watch/psuPJe2ieg/?mibextid=Nif5oz https://youtu.be/m-9_I7UQF94?si=CuO_XYyxeWbyr8Ot https://t.me/ThaiPitaksithData/4400 https://t.me/ThaiPitaksithData/4450 🇹🇭43.วันที่ 15 ม.ค. 2567 แถลงการณ์โดย อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต และ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑาหัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ โรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมคณะ https://m.youtube.com/live/NZWNHxOHKyg?si=7a3W8IRItQxI5be2&fbclid=IwAR0FAN18l_BNF-QVRHiQPMmaBeBK6LRoJQezAFlZ3ckNAu2e-c3atVwR0K4_aem_Ac8StbQ-QdDOIyXHSwgqYUD_LPOW5f4yPJZXKG8Da8bb675gJvpBwoxE_KVWB_sT0LCcUkdG5gTsozYMKyeTrpE- https://www.facebook.com/100044511276276/posts/909121587248209/? 🇹🇭44.วันที่ 25 ม.ค. 2567 ผู้แทนกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร รัฐสภา กำหนดให้มีการประชุมเพื่อพิจารณาประเด็นเกี่ยวกับวัคชีน mRNA ในข้อเท็จจริงด้านความโปร่งใสของการนำเข้า ความปลอดภัยและคุณภาพของวัคซีน เอกสารการประชุม https://drive.google.com/drive/folders/1ZLJQk7PFLi_AYIhEym2tn7XPQKjNQ-91 🇹🇭45.วันที่ 29 ม.ค. 2567 จดหมายเปิด​ผนึก​ถึง​รองอธิบดี​ กรมควบคุม​โรค นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวรและปลัดกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ขอเข้าไปนำเสนอข้อมูลและรับฟังคำชี้แจงข้อสงสัยที่ท่านยังมิได้ชี้แจงในการประชุมของกรรมาธิการ สาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗ https://t.me/ThaiPitaksithData/4593 🇹🇭46.วันที่ 1 ก.พ. 2567 จดหมายเปิดผนึกถึงผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ นายแพทย์นคร เปรมศรี เรื่อง ขอเข้าไปนำเสนอข้อมูลและรับฟังคำชี้แจงข้อคำถามที่ท่านยังมิได้ชี้แจงในการประชุมของกรรมาธิการ การสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗ https://drive.google.com/drive/folders/18oilc3VwHhayBBdNM8ZMQubk1mOicRMC https://t.me/ThaiPitaksithData/4632 🇹🇭47.วันที่ 2 ก.พ. 2567 สำนักข่าวผู้จัดการออนไลน์ อ้างอิงบทความพร้อมข้อมูลจาก ‘กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์’ กล่าวถึงผลการศึกษา การวิจัย และสิ่งที่น่าสงสัยในหลาย ๆ ประเด็น เกี่ยวกับยาฉีดที่อ้างว่าเป็นวัคซีนโควิด https://mgronline.com/qolฐ/detail/9670000009954 https://t.me/ThaiPitaksithData/4647 🇹🇭48.วันที่ 6 ก.พ. 2567 จดหมายเปิดผนึกถึง เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช เรื่อง ขอให้ทบทวนการอนุญาตให้ใช้วัคซีนโควิด ๑๙ ชนิด mRNA vaccine https://t.me/ThaiPitaksithData/4686 🇹🇭49.วันที่ 8 ก.พ. 2567 ในที่สุด กระทรวงสาธารณสุข ก็ออกมายืนยันสิ่งที่ข้องใจ ไฟเซอร์ หักคอให้รัฐบาลไทย เซ็น”สัญญาทาส“ ไม่อนุญาตให้ ตรวจสอบ https://t.me/ThaiPitaksithData/4864 อ้างติดเงื่อนไข สธ.ปฏิเสธเปิดสัญญา“ไฟเซอร์” คนไทยพิทักษ์สิทธิ์จวกยับ น่าเศร้า ขรก.ไทยกลัวบริษัทยา https://mgronline.com/qol/detail/9670000014134 และมีการโครงการจัดเสวนาและหน่วยแพทย์เคลื่อนที่สำหรับภาวะ Long Covid-19 และผลกระทบจากวัคซีน ณ หอศิลป์แห่งวัฒนธรรมกรุงเทพ จาก 9 วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ คุณรสนา โตสิตระกูล, นายแพทย์ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ, นายแพทย์อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง, อาจารย์สันติสุข โสภณสิริ , นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์, ศาสตราจารย์คลินิกแพทย์จีน นายแพทย์ภาสกิจ วัณนาวิบูล, แพทย์หญิงสุภาพร มีลาภ, แพทย์แผนไทยประยุกต์แวสะมิง แวหมะ, พันเอก นายแพทย์พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา https://youtu.be/KuhFBFDIFPo https://rumble.com/v4bmro6-title-health-uncensored-by-dr.atapol-test-draft-1-.html?fbclid=IwAR3KiMhm_Jj--rzxsevf2gWazMP-1SdFHD1XDb0GY3Rw0MMu8-Lk-mGY1g0 https://t.me/injuryjabthaiseminar 🇹🇭50.วันที่ 12 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึกถึงอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร เรื่อง ขอให้กรมควบคุมโรคเปิดเผย “สัญญาทาส” ที่ทำไว้กับบริษัทไฟเซอร์ https://t.me/ThaiPitaksithData/4841 🇹🇭51.วันที่ 12 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้จัดทำจดหมายเปิดผนึกถึงเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี https://www.facebook.com/share/p/wFViacXLo6JoUFo4/?mibextid=A7sQZp เรื่อง ขอให้ชี้แจงข้อสงสัยเกี่ยวกับการจ่ายเงินชดเชยให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด https://healthserv.net/healthupdate/89 🇹🇭52.วันที่ 13 ก.พ. 2567 หมอธีระวัฒน์ เผยรายงานผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯ ชี้ชัดวัคซีนโควิดส่งผลหัวใจอักเสบ https://mgronline.com/qol/detail/9670000013428 🇹🇭53.วันที่ 14 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข นพ.ทศพร เสรีรักษ์ เรื่อง ขอติดตามการดำเนินการเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างผิดปกติของคนไทยตามที่นำเสนอต่อคณะกรรมาธิการ การสาธารณสุข https://t.me/ThaiPitaksithData/4854 และช่องข่าว News1 สัมภาษณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง เอาวัคซีนอะไรมาฉีดคนไทย ทำไมคนป่วยมากขึ้นและตายเพิ่มขึ้น??? https://www.youtube.com/live/SPtFadcLmzo?si=NQq4S31aLOfGGxQQ https://news1live.com/watch/SPtFadcLmzo https://www.facebook.com/share/v/5KT7njxNwKvHC95z/?mibextid=oFDknk https://mgronline.com/qol/detail/9670000013738 https://www.thaipithaksith.com/ https://t.me/ThaiPitaksithData/4878 🇹🇭54.วันที่ 15 ก.พ. 2567 กรมควบคุมโรค เชิญ กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ไปให้ข้อมูล นำโดยนพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง เข้าร่วมประชุม เพื่อนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการตายเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ(Excess Death) ของคนไทย และข้อมูลเกี่ยวกับ ความฉ้อฉลของบริษัทยา ที่ขายวัคซีน mRNA ให้รัฐ โดยมี นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ร่วมรับฟังข้อมูลร่วมกับข้าราชการในสังกัดกรมควบคุมโรคหลายท่าน https://dailyclout.io/product/war-room-dailyclout-pfizer-documents-analysis-volunteers-reports-book-paperback/ และยื่นหนังสือ ถึงอธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร เรื่อง ขอให้กรมควบคุมโรคเปิดเผย “สัญญาทาส” ที่ทำไว้กับบริษัทไฟเซอร์ เลขรับหนังสือ ๑๔๕๙ https://www.facebook.com/share/p/2MPYJ33WfefmcVig/?mibextid=xfxF2i https://t.me/ThaiPitaksithData/4888 🇹🇭55.วันที่ 16 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี เรื่อง ขอบพระคุณที่กรุณาเปิดเผยความจริงเรื่อง “สัญญาทาส” ที่กรมควบคุมโรคได้ทำไว้กับบริษัทยา https://t.me/ThaiPitaksithData/4874 🇹🇭56.วันที่ 19 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงรองอธิบดี กรมควบคุมโรค นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร, อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร,ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ นพ.นคร เปรมศรี เรื่อง ขอขอบพระคุณที่จัดเวทีเสวนาวิชาการในหัวข้อ การเสียชีวิตอย่างผิดปกติของคนไทย กับ mRNA vaccine https://t.me/ThaiPitaksithData/4914 🇹🇭57.วันที่ 20 ก.พ.2567 “หมอธีระวัฒน์” เผยข้อมูลการแพทย์ พบสิ่งไม่เคยปรากฎในคน หลังมีวัคซีนโควิด https://www.nationtv.tv/health/378940487 https://www.facebook.com/share/1pjhGQ6FnicMrTnU/?mibextid=WC7FNe คุณสรยุทธสัมภาษณ์เรื่องปรากฏการณ์นี้ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ช่องสามอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงซึ่งได้ให้ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเรื่องผลข้างเคียงของวัคซีนโควิดทั้งการอักเสบของหัวใจและการตันของเส้นเลือดที่เกิดจากก้อนเลือดและก้อนสีขาวตรงนี้อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งซึ่งไม่มีใครทราบกันดีเพราะมีการเซ็นเซอร์และปกปิดมาตลอดจนกระทั่งปรากฏการณ์นี้เจอในหลายประเทศทั่วไปตั้งแต่เยอรมันอังกฤษและประเทศสหรัฐอเมริกาเอง 🇹🇭58.วันที่ 21 ก.พ. 2567 สัมภาษณ์สด นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง รายการทัวร์มาลงทางช่องโมโน29 mRNA ไม่ใช่วัคซีนแต่เป็นยีนเทอราปี gene therapy https://www.facebook.com/share/v/ENS2BTLH5oxkuGKD/?mibextid=A7sQZp 🇹🇭59.วันที่ 22 ก.พ. 2567 กลุ่มฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช,อธิบดีกรมควบคุมโรค นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร เรื่อง ขอให้นำส่งเอกสารกำกับยาของวัคซีนโคเมอร์เนตีให้กับกรมควบคุมโรค https://www.facebook.com/share/p/htqXEB1QWE3uATDP/?mibextid=xfxF2i https://t.me/ThaiPitaksithData/4962 และอ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เขียนบทความ “เสียดายที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้อ่าน งานวิจัยผลกระทบจากวัคซีนต่อเด็กและเยาวชนไทย” https://www.facebook.com/100044511276276/posts/930738298419871/ https://t.me/ThaiPitaksithData/5082 🇹🇭60.วันที่ 23 ก.พ. 2567 จดหมายเปิดผนึกถึงอธิบดีกรมการแพทย์ พญ. อัมพร เบญจพลพิทักษ์ เรื่อง ขอให้ปรับแก้แนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับแพทย์และบุคลากร สาธารณสุข https://www.facebook.com/share/p/pLvCKVbwswSXvBHK/?mibextid=xfxF2i https://t.me/ThaiPitaksithData/4963
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3565 มุมมอง 0 รีวิว
  • น้ำกระสายยา มหาพิกัด-ตรีผลา โฮมบรูว์ HomeBrew สูตรเข้มข้น แก้ตรีธาตุกำเริบ ตำรับปรับสมดุลเสริมภูมิคุ้มกัน 500 ml.

    น้ำกระสายยา มหาพิกัด-ตรีผลา โฮมบรูว์ ( HomeBrew )
    สูตรเข้มข้น แก้ตรีธาตุกำเริบ ( วาตะ,ปิตตะ,เสมหะ ) + ตำรับปรับสมดุลเสริมภูมิคุ้มกัน ดื่มได้ทุกเพศทุกวัย ขนาด 500 ml.

    ตรีผลา คือ ตำรับยาแผนโบราณ ที่มีการใช้ทั้งทางการแพทย์อายุรเวทของอินเดียและการแพทย์แผนไทย มาเป็นเวลานานนับพันปี

    ตรีผลา มาจากคำว่า “ตรี” ซึ่งแปลว่า สาม (3) และคำว่า “ผลา” แปลว่า ผลไม้
    ดังนั้นตรีผลาจึงเป็นตำรับยาที่ประกอบด้วย ผลไม้ 3 ชนิด คือ

    1 มะขามป้อม (Phyllanthus emblica Linn.)
    2 สมอไทย (Terminalia chebula Retz.)
    3 สมอพิเภก (Terminalia belerica (Gaertn.) Roxb.)

    ใช้เครื่องดื่มมหาพิกัดตรีผลา โฮมบรูว์ ( HomeBrew ) เป็นยาปรับสมดุลของธาตุทั้ง ๔ ในร่างกาย ช่วยไม่ให้ร่างกายร้อนเกินไป เช่น ในผู้ที่เป็นไข้ มีการอักเสบ เช่น โรคกระเพาะ,โรคริดสีดวงทวาร ,โรคที่เกิดจากความผิดปกติ ของตับ ,โรคความดันโลหิตสูง หรือในผู้ที่มีความเครียด พักผ่อนน้อย ช่วยล้างพิษโดยเฉพาะระบบทางเดินอาหาร, ระบบเลือด และน้ำเหลือง มีฤทธิ์ระบายอ่อนๆ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน มีความปลอดภัยสูง สามารถใช้ได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย

    #สุขภาพ
    #ตรีผลา

    https://s.shopee.co.th/9pKEWrMOIj
    น้ำกระสายยา มหาพิกัด-ตรีผลา โฮมบรูว์ HomeBrew สูตรเข้มข้น แก้ตรีธาตุกำเริบ ตำรับปรับสมดุลเสริมภูมิคุ้มกัน 500 ml. น้ำกระสายยา มหาพิกัด-ตรีผลา โฮมบรูว์ ( HomeBrew ) สูตรเข้มข้น แก้ตรีธาตุกำเริบ ( วาตะ,ปิตตะ,เสมหะ ) + ตำรับปรับสมดุลเสริมภูมิคุ้มกัน ดื่มได้ทุกเพศทุกวัย ขนาด 500 ml. ตรีผลา คือ ตำรับยาแผนโบราณ ที่มีการใช้ทั้งทางการแพทย์อายุรเวทของอินเดียและการแพทย์แผนไทย มาเป็นเวลานานนับพันปี ตรีผลา มาจากคำว่า “ตรี” ซึ่งแปลว่า สาม (3) และคำว่า “ผลา” แปลว่า ผลไม้ ดังนั้นตรีผลาจึงเป็นตำรับยาที่ประกอบด้วย ผลไม้ 3 ชนิด คือ 1 มะขามป้อม (Phyllanthus emblica Linn.) 2 สมอไทย (Terminalia chebula Retz.) 3 สมอพิเภก (Terminalia belerica (Gaertn.) Roxb.) ใช้เครื่องดื่มมหาพิกัดตรีผลา โฮมบรูว์ ( HomeBrew ) เป็นยาปรับสมดุลของธาตุทั้ง ๔ ในร่างกาย ช่วยไม่ให้ร่างกายร้อนเกินไป เช่น ในผู้ที่เป็นไข้ มีการอักเสบ เช่น โรคกระเพาะ,โรคริดสีดวงทวาร ,โรคที่เกิดจากความผิดปกติ ของตับ ,โรคความดันโลหิตสูง หรือในผู้ที่มีความเครียด พักผ่อนน้อย ช่วยล้างพิษโดยเฉพาะระบบทางเดินอาหาร, ระบบเลือด และน้ำเหลือง มีฤทธิ์ระบายอ่อนๆ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน มีความปลอดภัยสูง สามารถใช้ได้กับคนทุกเพศ ทุกวัย #สุขภาพ #ตรีผลา https://s.shopee.co.th/9pKEWrMOIj
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 513 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ตำรับยา #กัญชา #รักษาโรค
    #หมอที่ดีที่สุดคือตัวเราเอง #แพทย์แผนไทย #ความมั่นคงทางยา
    #ตำรับยา #กัญชา #รักษาโรค #หมอที่ดีที่สุดคือตัวเราเอง #แพทย์แผนไทย #ความมั่นคงทางยา
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 604 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร่างประกาศ สธ.ฉบับ อ.ปานเทพ ปมกัญชากลับเป็นยาเสพติด 12/07/67
    #อ.ปานเทพ #กัญชา #ยาเสพติด #สาธารณสุข #แพทย์แผนไทย #สมุนไพร #ตำรับยา #ความมั่นคงทางยา #พึ่งตนเอง
    https://youtu.be/Aa-O3ywVhIk?si=gKZRxOIOg5s8TFts
    ร่างประกาศ สธ.ฉบับ อ.ปานเทพ ปมกัญชากลับเป็นยาเสพติด 12/07/67 #อ.ปานเทพ #กัญชา #ยาเสพติด #สาธารณสุข #แพทย์แผนไทย #สมุนไพร #ตำรับยา #ความมั่นคงทางยา #พึ่งตนเอง https://youtu.be/Aa-O3ywVhIk?si=gKZRxOIOg5s8TFts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1747 มุมมอง 0 รีวิว