• 'ปานเทพ' ชวนจับตา ‘สนธิ‘ ปราศรัย ลั่นรอดูจบคืนนี้แล้วรัฐบาลมีสำนึกหรือไม่ ชี้ยอดเงินบริจาค 24 ล้าน สะท้อนการชุมนุมไม่มีนายทุน จะยกระดับการชุมนุมหรือไม่ ให้รอฟัง 'จตุพร-ทนายนกเขา' กล่าวปิด

    วันนี้ (28 มิ.ย. 68) ที่เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ปละประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นปราศรัยถึงการประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคณะรวมพลังแผ่นดินในวันนี้ ว่า มีประชาชน เดินทางมาตั้งแต่ช่วง 12:00 น. เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา วันนี้ก็เดินทางกันมาตั้งแต่ช่วงเช้า ถือว่ามาก่อนกำหนดเวลาที่คิดเอาไว้เยอะมาก ส่วนหนึ่งทยอยมาจากต่างจังหวัด ซึ่งหลายจังหวัดรายงานว่าอยู่ระหว่างการเดินทาง บางส่วนจะมาให้ทันก่อนการเคารพธงชาติร่วมกันในเวลา 18:00 น. เชื่อว่าสถานการณ์ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า มีประชาชนให้การสนับสนุนการชุมนุมครั้งนี้ ด้วยความหลากหลายของผู้คนมากสีเสื้อ

    ตอนนี้ไม่ใช่แค่เพียงในกรุงเทพมหานครอย่างเดียวแล้ว เหล่าทราบว่าหลายจังหวัดมีการจัดกิจกรรมบริเวณหน้าศาลาการจังหวัดด้วย ภาพรวมถือว่าน่าพอใจ วันนี้ไม่มีอะไรกังวล ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ส่วนการขึ้นปราศรัยของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ก็ขอให้รอติดตามว่า นายสนธิจะส่งสารอย่างไร เพราะนายสนธิไม่ได้ขึ้นเวทีปราศรัยมานานมากแล้ว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000060960

    #Thaitimes #MGROnline #ปานเทพ #สนธิ #ม็อบ28มิถุนา #รวมพลังแผ่นดิน #อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ #คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย #แพทองธารชินวัตร
    'ปานเทพ' ชวนจับตา ‘สนธิ‘ ปราศรัย ลั่นรอดูจบคืนนี้แล้วรัฐบาลมีสำนึกหรือไม่ ชี้ยอดเงินบริจาค 24 ล้าน สะท้อนการชุมนุมไม่มีนายทุน จะยกระดับการชุมนุมหรือไม่ ให้รอฟัง 'จตุพร-ทนายนกเขา' กล่าวปิด • วันนี้ (28 มิ.ย. 68) ที่เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ปละประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นปราศรัยถึงการประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคณะรวมพลังแผ่นดินในวันนี้ ว่า มีประชาชน เดินทางมาตั้งแต่ช่วง 12:00 น. เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา วันนี้ก็เดินทางกันมาตั้งแต่ช่วงเช้า ถือว่ามาก่อนกำหนดเวลาที่คิดเอาไว้เยอะมาก ส่วนหนึ่งทยอยมาจากต่างจังหวัด ซึ่งหลายจังหวัดรายงานว่าอยู่ระหว่างการเดินทาง บางส่วนจะมาให้ทันก่อนการเคารพธงชาติร่วมกันในเวลา 18:00 น. เชื่อว่าสถานการณ์ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า มีประชาชนให้การสนับสนุนการชุมนุมครั้งนี้ ด้วยความหลากหลายของผู้คนมากสีเสื้อ • ตอนนี้ไม่ใช่แค่เพียงในกรุงเทพมหานครอย่างเดียวแล้ว เหล่าทราบว่าหลายจังหวัดมีการจัดกิจกรรมบริเวณหน้าศาลาการจังหวัดด้วย ภาพรวมถือว่าน่าพอใจ วันนี้ไม่มีอะไรกังวล ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ส่วนการขึ้นปราศรัยของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ก็ขอให้รอติดตามว่า นายสนธิจะส่งสารอย่างไร เพราะนายสนธิไม่ได้ขึ้นเวทีปราศรัยมานานมากแล้ว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000060960 • #Thaitimes #MGROnline #ปานเทพ #สนธิ #ม็อบ28มิถุนา #รวมพลังแผ่นดิน #อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ #คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย #แพทองธารชินวัตร
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 266 Views 0 Reviews
  • ‘จตุพร’ จี้นายกฯ ลาออก – พรรคร่วมฯ ถอนตัว ลั่น รัฐบาลรู้อนาคตตัวเองดี เพียงแค่ยื้อความตาย มั่นใจจะตายไปตามกฎหใสย-รัฐธรรมนูญ

    วันนี้(28 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ไล่รัฐบาล ว่า สำหรับแนวทางในวันนี้ภายหลังร้องเพลงชาติในเวลา 18.00 น. แล้วจะมีแถลงการณ์ ก่อนขึ้นปราศรัยใหญ่ โดยตนจะขึ้นปราศรัยเป็นคนสุดท้าย

    นายจตุพร กล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางหลังจากนี้เหลือเพียงแค่ข้อเดียว คือการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก และพรรคร่วมรัฐบาลต้องถอนตัว ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นวาระของบ้านเมือง และการชุมนุมในวันนี้เป็นการแสดงพลัง ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าชาวกัมพูชา ซึ่งเราถูกปรามาสมาโดยตลอดว่าจะมาเพียงไม่กี่คน และคาดว่าจะมีคนเดินทางมาร่วมชุมนุมมากกว่านี้ ทั้งจากในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยครั้งแรกพวกเรานับได้ว่าจะมีมวลชนมาร่วมชุมนุมประมาณ 3 พันคน ซึ่งในขณะนี้เราปิดเส้นทางการจราจรที่ฝั่งเกาะพหลโยธิน และดินแดง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000060964

    #MGROnline #จตุพร #ม็อบ28มิถุนา #ม็อบไล่นายก #อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
    ‘จตุพร’ จี้นายกฯ ลาออก – พรรคร่วมฯ ถอนตัว ลั่น รัฐบาลรู้อนาคตตัวเองดี เพียงแค่ยื้อความตาย มั่นใจจะตายไปตามกฎหใสย-รัฐธรรมนูญ • วันนี้(28 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ไล่รัฐบาล ว่า สำหรับแนวทางในวันนี้ภายหลังร้องเพลงชาติในเวลา 18.00 น. แล้วจะมีแถลงการณ์ ก่อนขึ้นปราศรัยใหญ่ โดยตนจะขึ้นปราศรัยเป็นคนสุดท้าย • นายจตุพร กล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางหลังจากนี้เหลือเพียงแค่ข้อเดียว คือการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก และพรรคร่วมรัฐบาลต้องถอนตัว ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นวาระของบ้านเมือง และการชุมนุมในวันนี้เป็นการแสดงพลัง ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าชาวกัมพูชา ซึ่งเราถูกปรามาสมาโดยตลอดว่าจะมาเพียงไม่กี่คน และคาดว่าจะมีคนเดินทางมาร่วมชุมนุมมากกว่านี้ ทั้งจากในกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยครั้งแรกพวกเรานับได้ว่าจะมีมวลชนมาร่วมชุมนุมประมาณ 3 พันคน ซึ่งในขณะนี้เราปิดเส้นทางการจราจรที่ฝั่งเกาะพหลโยธิน และดินแดง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000060964 • #MGROnline #จตุพร #ม็อบ28มิถุนา #ม็อบไล่นายก #อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 212 Views 0 Reviews
  • ศาลอาญายกฟ้องคดี "บิ๊กอ๊อด" ฟ้องหมิ่น "สนธิ ลิ้มทองกุล" พาดพิงในรายการสนธิทอล์ก ชี้แสดงความเห็นโดยสุจริต ด้านเจ้าตัวระบุสู้คดีด้วยหลักฐานและความจริง พร้อมยืนยันไปขึ้นเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 28 มิ.ย.นี้แน่นอน

    เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 809 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีอ.2708/2566 ที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.และนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นโจทก์ฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งเครือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และบริษัทผู้จัดการ 360 องศา เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาและนำข้อความเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เรียกค่าเสียหาย จำนวน 50 ล้านบาท

    คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า นายสนธิ จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของช่องยูทูป และรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ หรือ รายการ Sonthi Talk โดยเมื่อวันที่ 6-7 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา นายสนธิ ได้พูดในรายการ Sonthi Talk พาดพิงให้เกิดความเสียหายด้วยข้อความว่า “จริงๆแล้วสมาคมฟุตบอลไทยนั้นทำงานเละเทะมานานแล้ว ตั้งแต่คุณสมยศขึ้นมาเป็นนายกสมาคม...” และข้อความ “คุณไม่รู้หรอกว่าชีวิตคุณเนี่ย ตั้งแต่เป็นผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุณได้สร้างวีรกรรมมาเยอะไปหมดเลย หลายอย่าง ไม่ว่าเป็นคดีบอส อยู่วิทยาโน่นนี่นั่น ซึ่งผมได้เคยพูดเรื่องนี้ไปแล้ว อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแฟนบอลไทยก็ต้องดีใจเก้อ เพราะล่าสุดประชุมสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งคนของคุณสมยศทั้งนั้น นี่ต้องยืนยันเป็นคนของคุณสมยศทั้งนั้น มีมติเป็นเอกฉันท์ยับยั้งการลาออก ให้ทำหน้าที่ไปจนครบวาระ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 โดยอ้างตามเกมที่คุณสมยศวางหมากไว้ว่า ไม่ให้ไทยต้องเสี่ยงการโดนฟีฟ่าลงดาบ ซึ่งจะถูกห้ามยุ่งกับการแข่งขันระดับนานาชาติทั้งหมด รวมทั้งกิจกรรมของฟีฟ่าประเด็นครับ ในวันลงมติมีคนในที่ประชุมกระซิบผมมาว่าก่อนลงมติบอร์ดสภากรรมการวงแตก หลายคน WORK OUT ขอลาออกรับไม่ได้ที่มีคนชงมติไว้ให้คุณสมยศอยู่ต่อ คนที่ชงมติไว้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย ก็พี่นวยของผมนั่นเองอดีตมิตรตำรวจด้วยกันคือ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน…” ข้อความต่อมา “ท่านผู้ชมอย่าลืมนะว่าคนคนนี้เป็นคนที่พูดว่า อาชีพตำรวจถือว่าเป็นไซต์ไลน์ อาชีพหลักๆ คือเป็นนักธุรกิจ คุณสมยศคือเสี่ยงิ้วราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในปี 2558... ยังมีอีกประเด็นหนึ่งไปยืมเงินเสี่ยกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าพ่ออาบอบนวด ซึ่งต้องคดีค้ามนุษย์ถึงสี่ครั้ง ไปยืมมา 300 ล้านบาท จนเป็นข่าวฉาวโฉ่ในช่วงนั้น สมยศระบุมาตลอดชีวิตรับราชการเกือบจะเรียกได้ว่า อาชีพตำรวจเป็นไซต์ไลน์ แต่หลักๆ แล้วเค้าทำเรื่องหุ้น พฤศจิกายน 2564 สองปีที่แล้ว กฤษฎีกาตีความว่า พล.ต.อ.สมยศ ได้รับเงินเดือนในตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลโดยมิชอบ เพราะตำแหน่งรวมทั้งกรรมการสมาคมฟุตบอล เป็นงานอาสา งานเสียสละไม่ใช่งานลูกจ้าง จึงไม่สามารถเรียกรับเงินค่าตอบแทนได้แม้แต่บาทเดียว...พอเป็นข่าวก็ออกมาชี้แจง รับเงินเดือนจริงแต่บริจาคกลับไปที่สมาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประเด็นนี้คือว่ามันผิดกฎหมาย คุณจะบริจาคให้ใครไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะตั้งเงินเดือนคุณเอง เพราะงานนี้เป็นงานที่เสียสละ”



    นอกจากนี้ข้อความ “ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์สมาคมฟุตบอล มีบริษัทหนึ่งชนะการประมูลจนได้เข้ามาดูแลนั้น บริษัทดังกล่าว แวดวงในบอกว่าเป็นลูกรักของบิ๊กอ็อด ที่เข้ามาอุ้มชู ปลุกปั้นมาตั้งแต่สมัยเป็นตำรวจ หลายฝ่ายจึงมองว่าการประมูลในครั้งนี้มีการเอื้อประโยชน์แก่กัน ดูตัวอย่าง ตัวอย่างหนึ่ง เราย้อนกลับไปปี 2563 ได้บริษัทเซ้นส์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ไม่มีประสบการในการทำคอนเทนต์เกี่ยวกับกีฬามาก่อน แต่ดันชนะการประมูล ถือครองลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก มูลค่า 12,000 ล้านบาท ตกปีละ 1,500 ล้านบาท สุดท้ายไปไม่รอด ผู้บริหารขาดทุนแบบย่อยยับ ต้องเปลี่ยนผู้ถือครองมาเป็น AIS ทำให้มูลค่าลิขสิทธิ์ตกลงมาเกือบ 4 เท่า เหลือแค่ 400 ล้านบาท ตัดภาพมาตอนปัจจุบันเลย ในเรื่องดราม่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลไทย ที่มีข่าวว่ามูลค่าลดฮวบ จาก 1,000 ล้านบาท เหลือเพียง 50 ล้านบาท ถ้าเราย้อนอดีตไป ลิขสิทธิ์บอลไทยเคยมีรายได้อู้ฟู่ โดยที่กระฉูดที่สุดในช่วงปี 2560-2563 ที่ทรูวิชั่น ประมูลค่าลิขสิทธิ์ 4,200 ล้านบาท แบ่งเป็นปี 60 900 ล้านบาท 61 1,000 ล้านบาท 62 1,100 ล้านบาท 63 1,200 ล้านบาท ในช่วงปี 2563 มีปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดโรคโควิด ทรูวิชั่นก็ไม่มี ไม่สามารถจะจ่ายเต็มจำนวนได้ ฤดูกาล 2564-65 ค่าลิขสิทธิ์จาก AIS ก็ลดลงเหลือ 800 ล้านบาท ผ่านมาถึงฤดูกาล 2565-66 มีรายงานว่าเหลือแค่ราวๆ 300 ล้านบาท”และข้อความอื่น ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ๆทั้งนี้จำเลยทั้งสองร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อันมีข้อความหมิ่นประมาทและดูหมิ่นโจทก์โดยการโฆษณา ขอให้ลงโทษตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 แก้ไข ฉบับที่ 2 มาตรา 16 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328,332,393, 91 เหตุเกิดทั่วราชอาณาจักร

    โดยช่วงเช้าวันนี้ นายสนธิ จำเลย เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมน.ส.อัจฉรา แสงขาว ทนายความ ส่วนโจทก์มีผู้รับมอบอำนาจมาฟังคำพิพากษา

    ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นและติชมโดยสุจริต พิพากษายกฟ้อง

    ภายหลังนายสนธิ กล่าวเพียงว่า ศาลพิพากษายกฟ้องในคดีที่ พล.ต.อ.สมยศ ฟ้องหมิ่นประมาท โดยตนสู้คดีด้วยหลักฐาน ความจริง และมีพยานมายืนยันข้อเท็จจริงทุกคดี ซึ่งพอใจผลคำพิพากษา เพราะชนะคดีก็ต้องพอใจ ยืนยันว่าไม่ใช่คดีแรกในชีวิต ตนเองทำงานสื่อมวลชนมา 50 ปี มีคดีทั้งหมด 246 คดี

    ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย.นี้ จะไปขึ้นเวทีปราศรัยหรือไม่

    นายสนธิ กล่าวว่า ไปแน่นอน และให้สื่อมวลชนคอยฟังให้ดี เพราะตนจะมีทีเด็ดในการพูดบนเวทีการชุมนุมแน่นอน โดยการชุมนุมจะเริ่มตั้งแต่ บ่าย 3 โมงเย็น ถึงเวลา 2 ทุ่มของวันเสาร์

    เมื่อถามว่า การพูดทีเด็ดบนเวที จะทำให้รัฐบาลสะเทือนหรือไม่ นายสนธิกล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลชุดนี้พูดอะไรไปก็ไม่สะเทือนหรอก"

    https://sondhitalk.com/photo-gallery/9680000059229?fbclid=IwQ0xDSwLHDOBleHRuA2FlbQIxMQABHjn6VGI0tuOTxS9x_CkwyfHJV-yBaFUZuPKiJhpkpFj61C6LFET_1vKF_qsn_aem_sKwXdW8qRXGV0NWL3DHNAQ
    ศาลอาญายกฟ้องคดี "บิ๊กอ๊อด" ฟ้องหมิ่น "สนธิ ลิ้มทองกุล" พาดพิงในรายการสนธิทอล์ก ชี้แสดงความเห็นโดยสุจริต ด้านเจ้าตัวระบุสู้คดีด้วยหลักฐานและความจริง พร้อมยืนยันไปขึ้นเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 28 มิ.ย.นี้แน่นอน เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 809 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีอ.2708/2566 ที่พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร.และนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นโจทก์ฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งเครือหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และบริษัทผู้จัดการ 360 องศา เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาและนำข้อความเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เรียกค่าเสียหาย จำนวน 50 ล้านบาท คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า นายสนธิ จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของช่องยูทูป และรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ หรือ รายการ Sonthi Talk โดยเมื่อวันที่ 6-7 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา นายสนธิ ได้พูดในรายการ Sonthi Talk พาดพิงให้เกิดความเสียหายด้วยข้อความว่า “จริงๆแล้วสมาคมฟุตบอลไทยนั้นทำงานเละเทะมานานแล้ว ตั้งแต่คุณสมยศขึ้นมาเป็นนายกสมาคม...” และข้อความ “คุณไม่รู้หรอกว่าชีวิตคุณเนี่ย ตั้งแต่เป็นผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คุณได้สร้างวีรกรรมมาเยอะไปหมดเลย หลายอย่าง ไม่ว่าเป็นคดีบอส อยู่วิทยาโน่นนี่นั่น ซึ่งผมได้เคยพูดเรื่องนี้ไปแล้ว อย่างไรก็ตามท้ายที่สุดแฟนบอลไทยก็ต้องดีใจเก้อ เพราะล่าสุดประชุมสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งคนของคุณสมยศทั้งนั้น นี่ต้องยืนยันเป็นคนของคุณสมยศทั้งนั้น มีมติเป็นเอกฉันท์ยับยั้งการลาออก ให้ทำหน้าที่ไปจนครบวาระ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2567 โดยอ้างตามเกมที่คุณสมยศวางหมากไว้ว่า ไม่ให้ไทยต้องเสี่ยงการโดนฟีฟ่าลงดาบ ซึ่งจะถูกห้ามยุ่งกับการแข่งขันระดับนานาชาติทั้งหมด รวมทั้งกิจกรรมของฟีฟ่าประเด็นครับ ในวันลงมติมีคนในที่ประชุมกระซิบผมมาว่าก่อนลงมติบอร์ดสภากรรมการวงแตก หลายคน WORK OUT ขอลาออกรับไม่ได้ที่มีคนชงมติไว้ให้คุณสมยศอยู่ต่อ คนที่ชงมติไว้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย ก็พี่นวยของผมนั่นเองอดีตมิตรตำรวจด้วยกันคือ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน…” ข้อความต่อมา “ท่านผู้ชมอย่าลืมนะว่าคนคนนี้เป็นคนที่พูดว่า อาชีพตำรวจถือว่าเป็นไซต์ไลน์ อาชีพหลักๆ คือเป็นนักธุรกิจ คุณสมยศคือเสี่ยงิ้วราชการในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในปี 2558... ยังมีอีกประเด็นหนึ่งไปยืมเงินเสี่ยกำพล วิระเทพสุภรณ์ เจ้าพ่ออาบอบนวด ซึ่งต้องคดีค้ามนุษย์ถึงสี่ครั้ง ไปยืมมา 300 ล้านบาท จนเป็นข่าวฉาวโฉ่ในช่วงนั้น สมยศระบุมาตลอดชีวิตรับราชการเกือบจะเรียกได้ว่า อาชีพตำรวจเป็นไซต์ไลน์ แต่หลักๆ แล้วเค้าทำเรื่องหุ้น พฤศจิกายน 2564 สองปีที่แล้ว กฤษฎีกาตีความว่า พล.ต.อ.สมยศ ได้รับเงินเดือนในตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลโดยมิชอบ เพราะตำแหน่งรวมทั้งกรรมการสมาคมฟุตบอล เป็นงานอาสา งานเสียสละไม่ใช่งานลูกจ้าง จึงไม่สามารถเรียกรับเงินค่าตอบแทนได้แม้แต่บาทเดียว...พอเป็นข่าวก็ออกมาชี้แจง รับเงินเดือนจริงแต่บริจาคกลับไปที่สมาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประเด็นนี้คือว่ามันผิดกฎหมาย คุณจะบริจาคให้ใครไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะตั้งเงินเดือนคุณเอง เพราะงานนี้เป็นงานที่เสียสละ” นอกจากนี้ข้อความ “ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์สมาคมฟุตบอล มีบริษัทหนึ่งชนะการประมูลจนได้เข้ามาดูแลนั้น บริษัทดังกล่าว แวดวงในบอกว่าเป็นลูกรักของบิ๊กอ็อด ที่เข้ามาอุ้มชู ปลุกปั้นมาตั้งแต่สมัยเป็นตำรวจ หลายฝ่ายจึงมองว่าการประมูลในครั้งนี้มีการเอื้อประโยชน์แก่กัน ดูตัวอย่าง ตัวอย่างหนึ่ง เราย้อนกลับไปปี 2563 ได้บริษัทเซ้นส์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ไม่มีประสบการในการทำคอนเทนต์เกี่ยวกับกีฬามาก่อน แต่ดันชนะการประมูล ถือครองลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไทยลีก มูลค่า 12,000 ล้านบาท ตกปีละ 1,500 ล้านบาท สุดท้ายไปไม่รอด ผู้บริหารขาดทุนแบบย่อยยับ ต้องเปลี่ยนผู้ถือครองมาเป็น AIS ทำให้มูลค่าลิขสิทธิ์ตกลงมาเกือบ 4 เท่า เหลือแค่ 400 ล้านบาท ตัดภาพมาตอนปัจจุบันเลย ในเรื่องดราม่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดฟุตบอลไทย ที่มีข่าวว่ามูลค่าลดฮวบ จาก 1,000 ล้านบาท เหลือเพียง 50 ล้านบาท ถ้าเราย้อนอดีตไป ลิขสิทธิ์บอลไทยเคยมีรายได้อู้ฟู่ โดยที่กระฉูดที่สุดในช่วงปี 2560-2563 ที่ทรูวิชั่น ประมูลค่าลิขสิทธิ์ 4,200 ล้านบาท แบ่งเป็นปี 60 900 ล้านบาท 61 1,000 ล้านบาท 62 1,100 ล้านบาท 63 1,200 ล้านบาท ในช่วงปี 2563 มีปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดโรคโควิด ทรูวิชั่นก็ไม่มี ไม่สามารถจะจ่ายเต็มจำนวนได้ ฤดูกาล 2564-65 ค่าลิขสิทธิ์จาก AIS ก็ลดลงเหลือ 800 ล้านบาท ผ่านมาถึงฤดูกาล 2565-66 มีรายงานว่าเหลือแค่ราวๆ 300 ล้านบาท”และข้อความอื่น ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ๆทั้งนี้จำเลยทั้งสองร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อันมีข้อความหมิ่นประมาทและดูหมิ่นโจทก์โดยการโฆษณา ขอให้ลงโทษตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 แก้ไข ฉบับที่ 2 มาตรา 16 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328,332,393, 91 เหตุเกิดทั่วราชอาณาจักร โดยช่วงเช้าวันนี้ นายสนธิ จำเลย เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมน.ส.อัจฉรา แสงขาว ทนายความ ส่วนโจทก์มีผู้รับมอบอำนาจมาฟังคำพิพากษา ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นและติชมโดยสุจริต พิพากษายกฟ้อง ภายหลังนายสนธิ กล่าวเพียงว่า ศาลพิพากษายกฟ้องในคดีที่ พล.ต.อ.สมยศ ฟ้องหมิ่นประมาท โดยตนสู้คดีด้วยหลักฐาน ความจริง และมีพยานมายืนยันข้อเท็จจริงทุกคดี ซึ่งพอใจผลคำพิพากษา เพราะชนะคดีก็ต้องพอใจ ยืนยันว่าไม่ใช่คดีแรกในชีวิต ตนเองทำงานสื่อมวลชนมา 50 ปี มีคดีทั้งหมด 246 คดี ผู้สื่อข่าวถามว่า การชุมนุมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย.นี้ จะไปขึ้นเวทีปราศรัยหรือไม่ นายสนธิ กล่าวว่า ไปแน่นอน และให้สื่อมวลชนคอยฟังให้ดี เพราะตนจะมีทีเด็ดในการพูดบนเวทีการชุมนุมแน่นอน โดยการชุมนุมจะเริ่มตั้งแต่ บ่าย 3 โมงเย็น ถึงเวลา 2 ทุ่มของวันเสาร์ เมื่อถามว่า การพูดทีเด็ดบนเวที จะทำให้รัฐบาลสะเทือนหรือไม่ นายสนธิกล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลชุดนี้พูดอะไรไปก็ไม่สะเทือนหรอก" https://sondhitalk.com/photo-gallery/9680000059229?fbclid=IwQ0xDSwLHDOBleHRuA2FlbQIxMQABHjn6VGI0tuOTxS9x_CkwyfHJV-yBaFUZuPKiJhpkpFj61C6LFET_1vKF_qsn_aem_sKwXdW8qRXGV0NWL3DHNAQ
    SONDHITALK.COM
    Photo Gallery ศาลอาญายกฟ้อง "บิ๊กอ๊อด" ฟ้องหมิ่น "สนธิ ลิ้มทองกุล" พูดพาดพิงในรายการสนธิทอล์ก ชี้แสดงความเห็นโดยสุจริต
    Photo Gallery ศาลอาญายกฟ้อง บิ๊กอ็อด ฟ้องหมิ่น สนธิ ลิ้มทองกุล พาดพิงในรายการสนธิทอร์ค ชี้แสดงความเห็นโดยสุจริต ด้านเจ้าตัวระบุสู้คดีด้วยหลักฐานและความจริง พร้อมยืนยันไปขึ้นเวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 28 มิ.ย.นี้แน่นอน
    0 Comments 0 Shares 297 Views 0 Reviews
  • "ทักษิณ" ให้คนเชียงใหม่ รดน้ำขอพร 26 เม.ย. จ่อขึ้นเวทีปราศรัยช่วยหาเสียงเลือกตั้ง "นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่" 27 เม.ย.
    https://www.thai-tai.tv/news/18179/
    "ทักษิณ" ให้คนเชียงใหม่ รดน้ำขอพร 26 เม.ย. จ่อขึ้นเวทีปราศรัยช่วยหาเสียงเลือกตั้ง "นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่" 27 เม.ย. https://www.thai-tai.tv/news/18179/
    0 Comments 0 Shares 242 Views 0 Reviews
  • ทักษิณหมดสเน่ห์ ภูมิใจไทย ประชาชน ได้ส่วนแบ่งการตลาดเกินครึ่ง
    ผลการเลือกตั้ง นายก อบจ. ที่เสร็จสิ้นแล้ว ต้องยอมรับว่าเป็นสัญญาณที่ทําให้ภาพการเมืองของประเทศไทยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว มีความชัดเจนระดับหนึ่งโดยเฉพาะขั้วการเมืองสามสี แดง ส้ม น้ําเงิน แม้ว่าถ้ามองในตัวเลขของจํานวนเก้าอี้ที่เพื่อไทยได้มาถึง 10 เก้าอี้นั้น เมื่อพิจารณาถึงจุดคุ้มทุนแล้วต้องยอมรับว่าด้านหนึ่งพรรคเพื่อไทยก็ขาดทุนไปไม่น้อยเช่นกัน
    เพราะแต่ละสนามที่เพื่อไทยลงแข่งขันนั้นทักษิณชินวัตรนายใหญ่ผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้กับพรรคเพื่อไทยได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับปราศรัยด้วยท่าทีดุดัน แต่ก็สามารถชนะคู่แข่งได้เพียงหนึ่งที่นั่งเท่านั้น
    โดยอันดับสองอย่างภาคภูมิใจไทยที่ไม่ได้ประกาศส่งผู้สมัครอย่างเป็นทางการแต่ใช้วิธีกาสนับสนุนอยู่แบบห่างห่างอย่างห่วงห่วงกลับได้เก้าอี้มาถึงเก้าที่นั่ง ด้วยเหตุนี้เองจึงกลายเป็นคําถามตัวใหญ่ขึ้นมาว่าทักษิณเสื่อมมนต์ขลังแล้วหรือไม่
    ย้อนกลับไปที่เป้าหมายของพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมามักจะประกาศว่าต้องการชนะในทุกพื้นที่ที่ได้ส่งผู้สมัครเพื่อจะประกาศชัยชนะ แบบแลนด์สไลด์ก่อนไปศึกใหญ่อย่างการเลือกตั้งระดับประเทศ จึงเป็นที่มาที่ทําให้ครอบครัวชินวัตรต้องลงแรงหาเสียงให้สมศักดิ์ศรีกับการกลับมาประเทศไทยของทักษิณ เพราะหากทักษิณลงสนามแล้วแพ้ แน่นอนว่าขวัญและกําลังใจของเหล่าสาวกในพรรคเพื่อไทยน่าจะกระเจิง
    แต่ดูเหมือนที่ผ่านมาทักษิณและพรรคเพื่อไทยเองก็เดินเกมผิดพลาดมาตลอดเพราะแต่ละเวทีปราศรัยของทักษิณมักจะเน้นไปที่นโยบายของรัฐบาล
    เพื่ออวยแพทองธารชินวัตร มากกว่าการช่วยโปรโมทสรรพคุณผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยและนโยบายการทํางานเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งเป็นหัวใจของการเลือกตั้งท้องถิ่น
    ก่อนเข้าสู่ศึกใหญ่ในปี ๒๕๗๐การเมืองไทยนับจากนี้จะเป็นลักษณะของ ๓ ขั้วใหญ่แดง ส้ม น้ําเงิน ถึงผลการเลือกตั้งท้องถิ่น อาจจะไม่ได้เป็นตัวชี้วัดอนาคตทางการเมืองอย่างเด็ดขาด แต่ทุกขั้วการเมือง มีการบ้านที่ต้องรับไปทําอย่างลึกซึ้ง แน่นอน
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ทักษิณหมดสเน่ห์ ภูมิใจไทย ประชาชน ได้ส่วนแบ่งการตลาดเกินครึ่ง ผลการเลือกตั้ง นายก อบจ. ที่เสร็จสิ้นแล้ว ต้องยอมรับว่าเป็นสัญญาณที่ทําให้ภาพการเมืองของประเทศไทยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว มีความชัดเจนระดับหนึ่งโดยเฉพาะขั้วการเมืองสามสี แดง ส้ม น้ําเงิน แม้ว่าถ้ามองในตัวเลขของจํานวนเก้าอี้ที่เพื่อไทยได้มาถึง 10 เก้าอี้นั้น เมื่อพิจารณาถึงจุดคุ้มทุนแล้วต้องยอมรับว่าด้านหนึ่งพรรคเพื่อไทยก็ขาดทุนไปไม่น้อยเช่นกัน เพราะแต่ละสนามที่เพื่อไทยลงแข่งขันนั้นทักษิณชินวัตรนายใหญ่ผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้กับพรรคเพื่อไทยได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับปราศรัยด้วยท่าทีดุดัน แต่ก็สามารถชนะคู่แข่งได้เพียงหนึ่งที่นั่งเท่านั้น โดยอันดับสองอย่างภาคภูมิใจไทยที่ไม่ได้ประกาศส่งผู้สมัครอย่างเป็นทางการแต่ใช้วิธีกาสนับสนุนอยู่แบบห่างห่างอย่างห่วงห่วงกลับได้เก้าอี้มาถึงเก้าที่นั่ง ด้วยเหตุนี้เองจึงกลายเป็นคําถามตัวใหญ่ขึ้นมาว่าทักษิณเสื่อมมนต์ขลังแล้วหรือไม่ ย้อนกลับไปที่เป้าหมายของพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมามักจะประกาศว่าต้องการชนะในทุกพื้นที่ที่ได้ส่งผู้สมัครเพื่อจะประกาศชัยชนะ แบบแลนด์สไลด์ก่อนไปศึกใหญ่อย่างการเลือกตั้งระดับประเทศ จึงเป็นที่มาที่ทําให้ครอบครัวชินวัตรต้องลงแรงหาเสียงให้สมศักดิ์ศรีกับการกลับมาประเทศไทยของทักษิณ เพราะหากทักษิณลงสนามแล้วแพ้ แน่นอนว่าขวัญและกําลังใจของเหล่าสาวกในพรรคเพื่อไทยน่าจะกระเจิง แต่ดูเหมือนที่ผ่านมาทักษิณและพรรคเพื่อไทยเองก็เดินเกมผิดพลาดมาตลอดเพราะแต่ละเวทีปราศรัยของทักษิณมักจะเน้นไปที่นโยบายของรัฐบาล เพื่ออวยแพทองธารชินวัตร มากกว่าการช่วยโปรโมทสรรพคุณผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยและนโยบายการทํางานเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งเป็นหัวใจของการเลือกตั้งท้องถิ่น ก่อนเข้าสู่ศึกใหญ่ในปี ๒๕๗๐การเมืองไทยนับจากนี้จะเป็นลักษณะของ ๓ ขั้วใหญ่แดง ส้ม น้ําเงิน ถึงผลการเลือกตั้งท้องถิ่น อาจจะไม่ได้เป็นตัวชี้วัดอนาคตทางการเมืองอย่างเด็ดขาด แต่ทุกขั้วการเมือง มีการบ้านที่ต้องรับไปทําอย่างลึกซึ้ง แน่นอน ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 Comments 0 Shares 943 Views 0 Reviews
  • “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยหาเสียงให้ “สาโรจน์ สามารถ” ผู้สมัครนายก อบจ. วิจารณ์กันหนัก อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ช่วยหาเสียงให้คนของพรรคภูมิใจไทยไม่เหมาะสม ด้าน “อภิสิทธิ์” แจงบนเวทีวันนี้ไม่ได้เป็นคนของพรรคไหน มีอิสระจะช่วยใครก็ได้ ไม่เคยมีความแค้นกับใคร ชี้ “สาโรจน์” เคยทำงานมาด้วยกัน มีนโยบายที่ดี จึงมาช่วยหาเสียง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000009643

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยหาเสียงให้ “สาโรจน์ สามารถ” ผู้สมัครนายก อบจ. วิจารณ์กันหนัก อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ช่วยหาเสียงให้คนของพรรคภูมิใจไทยไม่เหมาะสม ด้าน “อภิสิทธิ์” แจงบนเวทีวันนี้ไม่ได้เป็นคนของพรรคไหน มีอิสระจะช่วยใครก็ได้ ไม่เคยมีความแค้นกับใคร ชี้ “สาโรจน์” เคยทำงานมาด้วยกัน มีนโยบายที่ดี จึงมาช่วยหาเสียง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000009643 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    6
    0 Comments 0 Shares 1212 Views 0 Reviews
  • เผยหลักฐานในอดีต ทักษิณและครอบครัวไม่ได้มีทรัพย์สิน 60,000 ล้านตามที่โม้ไว้ แต่ทั้งครอบครัวมีแค่ 21,069 ล้าน บุญยอด สุขถิ่นไทย ระบุเคยโฟนอินโกหกคนเสื้อแดงมาแล้ว ยังโกหกซ้ำบนเวทีหาเสียง อบจ.อีก

    วันนี้ (21 ม.ค.) กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวทีปราศรัยที่จังหวัดมหาสารคามเมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) ว่า โกงพ่อมึงสิ ผมเข้ามาการเมืองเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตอนนั้นประกาศทรัพย์สินทั้งที่ ป.ป.ช.ไม่บังคับ ผมประกาศมีทรัพย์สินกว่า 60,000 ล้าน เพราะทำธุรกิจมา สร้างเนื้อสร้างตัวมา วันนี้โดนยึดไป 46,000 ล้าน ยังไม่ร้องสักคำเลย ทั้งๆ ที่เป็นเงินที่ทำมาหากินแท้ๆ คำก็โกง สองคำก็โกง ก็มึงตั้งคณะกรรมการเฮงซวยมาสอบกู ตอนที่กูรวย มึงยังเพิ่งขอตังค์พ่อใช้อยู่เลย วันนี้ผมไม่เดือดร้อน แม้มีเงิน 700 บาท กับลำไพ่วันละ 300 บาทก็ไม่เดือดร้อน เพราะความสุขคือการทำให้บ้านเมือง และพี่น้องพ้นทุกข์

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000006330

    #MGROnline #ทักษิณชินวัตร #อดีตนายกรัฐมนตรี #เวทีปราศรัย #จังหวัดมหาสารคาม #โกงพ่อมึงสิ #ทรัพย์สิน
    เผยหลักฐานในอดีต ทักษิณและครอบครัวไม่ได้มีทรัพย์สิน 60,000 ล้านตามที่โม้ไว้ แต่ทั้งครอบครัวมีแค่ 21,069 ล้าน บุญยอด สุขถิ่นไทย ระบุเคยโฟนอินโกหกคนเสื้อแดงมาแล้ว ยังโกหกซ้ำบนเวทีหาเสียง อบจ.อีก • วันนี้ (21 ม.ค.) กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวทีปราศรัยที่จังหวัดมหาสารคามเมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) ว่า โกงพ่อมึงสิ ผมเข้ามาการเมืองเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตอนนั้นประกาศทรัพย์สินทั้งที่ ป.ป.ช.ไม่บังคับ ผมประกาศมีทรัพย์สินกว่า 60,000 ล้าน เพราะทำธุรกิจมา สร้างเนื้อสร้างตัวมา วันนี้โดนยึดไป 46,000 ล้าน ยังไม่ร้องสักคำเลย ทั้งๆ ที่เป็นเงินที่ทำมาหากินแท้ๆ คำก็โกง สองคำก็โกง ก็มึงตั้งคณะกรรมการเฮงซวยมาสอบกู ตอนที่กูรวย มึงยังเพิ่งขอตังค์พ่อใช้อยู่เลย วันนี้ผมไม่เดือดร้อน แม้มีเงิน 700 บาท กับลำไพ่วันละ 300 บาทก็ไม่เดือดร้อน เพราะความสุขคือการทำให้บ้านเมือง และพี่น้องพ้นทุกข์ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000006330 • #MGROnline #ทักษิณชินวัตร #อดีตนายกรัฐมนตรี #เวทีปราศรัย #จังหวัดมหาสารคาม #โกงพ่อมึงสิ #ทรัพย์สิน
    0 Comments 0 Shares 674 Views 0 Reviews
  • ระทึก ! สาวใหญ่ปาถุงขยะใส่ทักษิณกลางเวทีปราศรัย (20/01/68) #news1 #สาวใหญ่ปาถุงขยะ #ทักษิณ
    ระทึก ! สาวใหญ่ปาถุงขยะใส่ทักษิณกลางเวทีปราศรัย (20/01/68) #news1 #สาวใหญ่ปาถุงขยะ #ทักษิณ
    Like
    Haha
    Wow
    Love
    14
    4 Comments 1 Shares 1099 Views 61 0 Reviews
  • ทักษิณเหวอถูกขวดน้ำบินกลางเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครนายก อบจ.มหาสารคาม ก่อนทำใจดีสู้เสือบอกคนไทยด้วยกัน ให้อภัยกัน เคยโดนลอบฆ่ามา 4 หน เฉยๆ ด้านผู้ก่อเหตุสาวเสื้อแดง อ้างมาจากอีกอำเภอ เคยเป็นเสื้อแดงแต่เลิกแล้ว ครอบครัวฉิบหายตั้งแต่ปี 52 ค้าขายไม่ดี ไม่ได้ตั้งใจโยนแต่ฟังปราศรัยแล้วไม่ใช่จึงสุดทน ระบุ "มานี่ 200 ก็ไม่ได้"

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000006083

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ทักษิณเหวอถูกขวดน้ำบินกลางเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครนายก อบจ.มหาสารคาม ก่อนทำใจดีสู้เสือบอกคนไทยด้วยกัน ให้อภัยกัน เคยโดนลอบฆ่ามา 4 หน เฉยๆ ด้านผู้ก่อเหตุสาวเสื้อแดง อ้างมาจากอีกอำเภอ เคยเป็นเสื้อแดงแต่เลิกแล้ว ครอบครัวฉิบหายตั้งแต่ปี 52 ค้าขายไม่ดี ไม่ได้ตั้งใจโยนแต่ฟังปราศรัยแล้วไม่ใช่จึงสุดทน ระบุ "มานี่ 200 ก็ไม่ได้" อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000006083 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Wow
    Sad
    16
    1 Comments 0 Shares 945 Views 0 Reviews
  • “ทักษิณ” ไปโพนพิสัย ปราศรัยช่วยลูกพรรคหาเสียง อบจ.หนองคาย วอนเลือกให้ถล่มทลาย ถ้าไม่ชนะ มาคราวหน้าต้องเอาปี๊บคลุมหัว โวยังมีแนวคิดดีๆ ให้ “นายกฯ อิ๊งค์” เลือกเอาไปใช้ พล่ามสูตรเดิม เพื่อไทยกลับมาปี 70 คนไทยเงินเต็มกระเป๋า

    วันนี้(19 ม.ค.) ที่พุทธอุทยานนานาชาติ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.หนองคาย ช่วยนายวุฒิไกร ช่างเหล็ก ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย โดยนายทักษิณ กล่าวตอนหนึ่งถึงการแก้ไขปัญหาคอลเซนเตอร์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ประกาศแล้วว่าปีนี้จะจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ภายในสิ้นปีนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติดต้องหมดไป เราต้องร่วมมือร่วมใจกันทำให้บ้านเมืองเจริญขึ้น และในปี 70 รัฐบาลเพื่อไทยกลับมาอีกรอบ จะเอามือล้วงกระเป๋าไม่ได้เพราะมีเงินอยู่เต็ม

    นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ตนไปอยู่เมืองนอก 17 ปี เหงา คิดถึงบ้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ไปเยี่ยมทุกเดือน ก็คุยกันแต่เรื่องบ้านเมือง เรื่องครอบครัว

    นายทักษิณอ้างว่าหลังจากถูกปฏิวัติไปก็ได้รับการบริหารประเทศแบบไม่บริหารประเทศ อยู่ไปเรื่อยๆ แบบไม่มีแบบแผน ไม่มีเป้าหมาย ทำให้คนไทยแย่ โอกาสดีๆ ที่ถูกทำลาย วันนี้กลับมาแล้ว หนึ่งทุนหนึ่งอำเภอไปเรียนเมืองนอกกลับมา นายกฯ อิ๊งค์ จะเดินหน้าโครงการซัมเมอร์แคมป์ไปที่ต่างประเทศ จ้างครูจากต่างประเทศมาสอนภาษา มาสอนเรื่อง AI ปีนี้จะเริ่มทำและสร้างโรงเรียนหนึ่งตัวอย่างหนึ่งอำเภอในฝันต่อไป ให้เด็กไทยมีความรู้มากๆ จะได้ฉลาด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000005729

    #MGROnline #ทักษิณชินวัตร
    “ทักษิณ” ไปโพนพิสัย ปราศรัยช่วยลูกพรรคหาเสียง อบจ.หนองคาย วอนเลือกให้ถล่มทลาย ถ้าไม่ชนะ มาคราวหน้าต้องเอาปี๊บคลุมหัว โวยังมีแนวคิดดีๆ ให้ “นายกฯ อิ๊งค์” เลือกเอาไปใช้ พล่ามสูตรเดิม เพื่อไทยกลับมาปี 70 คนไทยเงินเต็มกระเป๋า • วันนี้(19 ม.ค.) ที่พุทธอุทยานนานาชาติ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.หนองคาย ช่วยนายวุฒิไกร ช่างเหล็ก ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย โดยนายทักษิณ กล่าวตอนหนึ่งถึงการแก้ไขปัญหาคอลเซนเตอร์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ประกาศแล้วว่าปีนี้จะจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ภายในสิ้นปีนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติดต้องหมดไป เราต้องร่วมมือร่วมใจกันทำให้บ้านเมืองเจริญขึ้น และในปี 70 รัฐบาลเพื่อไทยกลับมาอีกรอบ จะเอามือล้วงกระเป๋าไม่ได้เพราะมีเงินอยู่เต็ม • นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ตนไปอยู่เมืองนอก 17 ปี เหงา คิดถึงบ้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ไปเยี่ยมทุกเดือน ก็คุยกันแต่เรื่องบ้านเมือง เรื่องครอบครัว • นายทักษิณอ้างว่าหลังจากถูกปฏิวัติไปก็ได้รับการบริหารประเทศแบบไม่บริหารประเทศ อยู่ไปเรื่อยๆ แบบไม่มีแบบแผน ไม่มีเป้าหมาย ทำให้คนไทยแย่ โอกาสดีๆ ที่ถูกทำลาย วันนี้กลับมาแล้ว หนึ่งทุนหนึ่งอำเภอไปเรียนเมืองนอกกลับมา นายกฯ อิ๊งค์ จะเดินหน้าโครงการซัมเมอร์แคมป์ไปที่ต่างประเทศ จ้างครูจากต่างประเทศมาสอนภาษา มาสอนเรื่อง AI ปีนี้จะเริ่มทำและสร้างโรงเรียนหนึ่งตัวอย่างหนึ่งอำเภอในฝันต่อไป ให้เด็กไทยมีความรู้มากๆ จะได้ฉลาด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000005729 • #MGROnline #ทักษิณชินวัตร
    0 Comments 0 Shares 870 Views 0 Reviews
  • “ทักษิณ" ลุยขึ้นเวทีปราศรัยช่วย "สลักจิฤฎดิ์ คนใกล้ชิด ย.ย.-ทีมเพื่อไทย" ชิงเก้าอี้นายกฯ-ส.อบจ.เชียงราย เหน็บพวกขาประจำเข้าโซเชียลฯ ด่าเช้าด่าเย็น สงสัยอยากได้เชือก จวกพวกควาย พ่อมึงไม่รู้หรือไง ตนรวยมาตั้งแต่ปี 36 จ้อชัดส่อเปิดพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000001089

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ทักษิณ" ลุยขึ้นเวทีปราศรัยช่วย "สลักจิฤฎดิ์ คนใกล้ชิด ย.ย.-ทีมเพื่อไทย" ชิงเก้าอี้นายกฯ-ส.อบจ.เชียงราย เหน็บพวกขาประจำเข้าโซเชียลฯ ด่าเช้าด่าเย็น สงสัยอยากได้เชือก จวกพวกควาย พ่อมึงไม่รู้หรือไง ตนรวยมาตั้งแต่ปี 36 จ้อชัดส่อเปิดพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000001089 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Angry
    Sad
    6
    0 Comments 0 Shares 1436 Views 0 Reviews
  • "ทักษิณ"ควงทีมงานพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ช่วย "สว.ก๊อง" หาเสียงเลือกตั้งป้องกันเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เผยรอบก่อนแค่ส่งจดหมายน้อยยังได้ 4 แสนคะแนน แต่รอบนี้มาด้วยตัวเองขอเทคะแนนให้ทะลุ 6 แสน ส่วนเลือกตั้ง สส.ครั้งหน้า อ้อนขอให้เลือกเพื่อไทยทั้งจังหวัด พร้อมเหน็บนักการเมืองคนรุ่นใหม่จากบางพรรคที่ดีแต่พูดเก่งแต่ทำงานไม่เป็น

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000123417

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ทักษิณ"ควงทีมงานพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ช่วย "สว.ก๊อง" หาเสียงเลือกตั้งป้องกันเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เผยรอบก่อนแค่ส่งจดหมายน้อยยังได้ 4 แสนคะแนน แต่รอบนี้มาด้วยตัวเองขอเทคะแนนให้ทะลุ 6 แสน ส่วนเลือกตั้ง สส.ครั้งหน้า อ้อนขอให้เลือกเพื่อไทยทั้งจังหวัด พร้อมเหน็บนักการเมืองคนรุ่นใหม่จากบางพรรคที่ดีแต่พูดเก่งแต่ทำงานไม่เป็น อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000123417 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    4
    0 Comments 0 Shares 1332 Views 0 Reviews
  • "ทักษิณ" ถึงบ้านเกิดเชียงใหม่ขึ้นเวทีปราศรัยช่วย "สว.ก๊อง" ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่และ ผู้สมัคร ส.อบจ.เชียงใหม่ ในนามพรรคเพื่อไทยหาเสียง ท่ามกลางแฟนคลับนับหมื่นต้อนรับอบอุ่น อ้อนขอเทคะแนนให้ 100% ชูอดีตนายก อบจ.ขยันทำงานและเห็นผลชัดเจนเป็นที่ประจักษ์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000123066

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ทักษิณ" ถึงบ้านเกิดเชียงใหม่ขึ้นเวทีปราศรัยช่วย "สว.ก๊อง" ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่และ ผู้สมัคร ส.อบจ.เชียงใหม่ ในนามพรรคเพื่อไทยหาเสียง ท่ามกลางแฟนคลับนับหมื่นต้อนรับอบอุ่น อ้อนขอเทคะแนนให้ 100% ชูอดีตนายก อบจ.ขยันทำงานและเห็นผลชัดเจนเป็นที่ประจักษ์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000123066 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Angry
    Like
    Sad
    4
    1 Comments 0 Shares 1174 Views 0 Reviews
  • ## เมื่อนายใหญ่ "ไม่อยากติดคุกแม้แต่วันเดียว" ข้ารับใข้ก็ต้อง เข้าไปติดคุกแทน...!!! ##
    ..
    ..
    มติเอกฉันท์...!!!
    .
    ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวน อธิบดี-หมอ-ผบ.คุก-จนท.12ราย เอื้อ "ทักษิณ" ชั้น 14
    ....
    ....
    เมื่อนายใหญ่เคยลั่นวาจาว่า จะกลับบ้านแบบเท่ๆ โดยไม่ต้องติดคุกเลยแม้แต่วันเดียว...!!!
    .
    ข้ารับใช้ก็ต้อง สรรหาวิธีการ...
    .
    เมื่อไอเดียบรรเจิด งั้นสลับที่กันก็ได้นี่หว่า...!!!
    .
    การหาคนไปติดคุกแทน สไตล์คนมีอำนาจ จำเริ่มต้นขึ้น...
    .
    ผลก็ออกมาอย่างที่เรารับรู้กัน...
    .
    อ้างว่าป่วยใกล้จะตาย จะออกจากโรงพยาบาลชั้น 14 ไม่ได้ ไม่งั้นตายแน่...!!!
    .
    พอถามว่าเป็นอะไร 5 คนตอบ ก็ 5 โรค ไม่ซ้ำกัน ทั้ง เอ็นขาด เอ็นเปื่อยยุ่ย ก็ว่ากันไป...
    .
    ตอนพาออกมากระบวนการขั้นตอนรวดเร็วปาน เดอะแฟรช รับลูกไหลลื่นต่อกันเป็นทอดๆ...
    .
    วันนี้พอถูกสอบสวน...
    .
    เกษียณแล้ว มั่งหละ
    ไม่รู้เรื่องมั่งหละ
    ไม่เคยเห็นมั่งหละ
    เวชระเบียนไม่มีมั่งหละ
    .
    ทุกวันนี้ เห็นแต่เดินทาง ออนทัวร์ทางการเมือง...
    .
    ไปขึ้นเวทีปราศรัย
    ไปหาเสียง
    ไปปาถกฐาที่ประชุมพรรค
    ไม่พอใจ ไล่คนนั้นไล่คนนี้
    .
    คนไทยไม่ได้โง่ทุกคนหรอกครับ...
    ...
    ...
    นิทานเรื่องแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง ไม่ได้อ้างอิงบุคคลที่มีอยู่จริงแต่อย่างใด...
    ...
    ...

    .
    https://www.isranews.org/article/isranews/134249-invessssss-4.html
    ## เมื่อนายใหญ่ "ไม่อยากติดคุกแม้แต่วันเดียว" ข้ารับใข้ก็ต้อง เข้าไปติดคุกแทน...!!! ## .. .. มติเอกฉันท์...!!! . ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวน อธิบดี-หมอ-ผบ.คุก-จนท.12ราย เอื้อ "ทักษิณ" ชั้น 14 .... .... เมื่อนายใหญ่เคยลั่นวาจาว่า จะกลับบ้านแบบเท่ๆ โดยไม่ต้องติดคุกเลยแม้แต่วันเดียว...!!! . ข้ารับใช้ก็ต้อง สรรหาวิธีการ... . เมื่อไอเดียบรรเจิด งั้นสลับที่กันก็ได้นี่หว่า...!!! . การหาคนไปติดคุกแทน สไตล์คนมีอำนาจ จำเริ่มต้นขึ้น... . ผลก็ออกมาอย่างที่เรารับรู้กัน... . อ้างว่าป่วยใกล้จะตาย จะออกจากโรงพยาบาลชั้น 14 ไม่ได้ ไม่งั้นตายแน่...!!! . พอถามว่าเป็นอะไร 5 คนตอบ ก็ 5 โรค ไม่ซ้ำกัน ทั้ง เอ็นขาด เอ็นเปื่อยยุ่ย ก็ว่ากันไป... . ตอนพาออกมากระบวนการขั้นตอนรวดเร็วปาน เดอะแฟรช รับลูกไหลลื่นต่อกันเป็นทอดๆ... . วันนี้พอถูกสอบสวน... . เกษียณแล้ว มั่งหละ ไม่รู้เรื่องมั่งหละ ไม่เคยเห็นมั่งหละ เวชระเบียนไม่มีมั่งหละ . ทุกวันนี้ เห็นแต่เดินทาง ออนทัวร์ทางการเมือง... . ไปขึ้นเวทีปราศรัย ไปหาเสียง ไปปาถกฐาที่ประชุมพรรค ไม่พอใจ ไล่คนนั้นไล่คนนี้ . คนไทยไม่ได้โง่ทุกคนหรอกครับ... ... ... นิทานเรื่องแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง ไม่ได้อ้างอิงบุคคลที่มีอยู่จริงแต่อย่างใด... ... ... 🤣🤣🤣🤣🤣🤣 . https://www.isranews.org/article/isranews/134249-invessssss-4.html
    WWW.ISRANEWS.ORG
    มติเอกฉันท์! ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวน อธิบดี-หมอ-ผบ.คุก-จนท.12ราย เอื้อ 'ทักษิณ' ชั้น 14
    ป.ป.ช.มติเอกฉันท์ตั้งองค์คณะไต่สวนชุดใหญ่ ขรก.-เจ้าหน้าที่รัฐ 12 ราย กรมราชทัณฑ์ เรือนจำพิเศษกทม. โรงพยาบาลตำรวจ กรณีเอื้อประโยชน์ 'ทักษิณ ชินวัตร' เข้ารักษาตัวห้องพิเศษชั้น 14 เผยชื่อ 'อธิบดี - รองฯ -ผู้บัญชาการเรือนจำ-แพทย์ -พัศดี- พยาบาล' โดนหมด
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 392 Views 0 Reviews
  • 5/
    ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    5/ ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    0 Comments 0 Shares 338 Views 1 0 Reviews
  • 4/
    ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    4/ ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    0 Comments 0 Shares 320 Views 2 0 Reviews
  • 3/
    ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    3/ ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    0 Comments 0 Shares 313 Views 3 0 Reviews
  • 2/
    ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    2/ ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    0 Comments 0 Shares 301 Views 3 0 Reviews
  • 1/
    ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    1/ ย้อนดูเจ้าหน้าที่ตัวแทนจากประเทศยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส โปแลนด์ เอสโตเนีย ลิทัวเนีย ลัตเวีย สวีเดน และฟินแลนด์ ที่พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของจอร์เจีย โดยเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างเปิดเผย ซึ่งหมายถึงขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลจอร์เจีย และถ่ายรูปร่วมกับนักการเมืองจอร์เจียที่ฝักใฝ่ยุโรปและอเมริกา
    0 Comments 0 Shares 241 Views 0 Reviews
  • รองเลขานายกฯ เผย ”ทักษิณ“ บินอุบลฯ ในรอบ 17 ปี พบแกนนำเพื่อไทย หาเสียง นายก อบจ. แต่ไม่เปิดเวทีปราศรัย เหตุมีเวลาน้อยต้องไปสัมมนาพท.ต่อ โวผู้สมัครกระแสตอบรับดี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000115866

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รองเลขานายกฯ เผย ”ทักษิณ“ บินอุบลฯ ในรอบ 17 ปี พบแกนนำเพื่อไทย หาเสียง นายก อบจ. แต่ไม่เปิดเวทีปราศรัย เหตุมีเวลาน้อยต้องไปสัมมนาพท.ต่อ โวผู้สมัครกระแสตอบรับดี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000115866 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Angry
    Sad
    5
    0 Comments 0 Shares 1012 Views 0 Reviews
  • 'พิธา' โต้เดือด 'ทักษิณ' เกลียดรัฐประหาร แต่จับมือลุง
    .
    ช่วงนี้อุดรธานีต้องคอยต้อนรับผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองไม่เว้นแต่ละวัน เมื่อไม่นานมานี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพิ่งลงทุนลงแรงช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยทิ้งวาทกรรมให้มากมายก่อนจากไป มาคราวนี้ถึงคิว 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' อดีตแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ช่วยผู้สมัครของพรรคประชาชนบ้าง พร้อมกับประกาศว่าอีก 9 ปีจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี
    .
    ประโยคเด็ดที่ว่านี้เกิดระหว่าง 'พิธา' เดินหาเสียงที่ตลาดนิยม อ.บ้านผือ อุดรธานี และได้พบกับนางสวาท วังดู่ อายุ 86 ปี ที่เดินทางมาให้กำลังใจ โดยพิธาบอกว่า "ขอให้คุณยายอายุมั่นขวัญยืนนะครับคุณยาย รออีก 9 ปี กลับมาจะเป็นนายกฯ ให้ดีกว่านี้"
    .
    จากนั้นอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ขึ้นเวทีปราศรัย ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการตอบโต้พรรคเพื่อไทยและนายทักษิณ
    .
    “คุณทักษิณ บอกว่าประชาชนยังไม่หายจน เพราะถูกยึดอำนาจไป 2 ครั้ง คุณทักษิณพูดถูก แต่ทำไมไปจับมือกับพรรคจากรัฐประหาร อันนี้ตนเองไม่เข้าใจจริงๆ พี่น้องเข้าใจหรือเปล่า คุณทักษิณก็บอกว่ารู้อยู่แล้วปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาความยากจนประชาชนตลอด 18 ปีที่ผ่านมา มาจากการทำรัฐประหาร เสร็จแล้วสละมือกับฝ่ายประชาธิปไตย ไปจับมือกับพรรค 2 ลุง ไปจับทำไม แบบนี้ไม่อยากจะบอกว่า เกลียดตัวกินไข่ เกียดปลาไหลกินน้ำแกง หรือเปล่า"
    ...............
    Sondhi X
    'พิธา' โต้เดือด 'ทักษิณ' เกลียดรัฐประหาร แต่จับมือลุง . ช่วงนี้อุดรธานีต้องคอยต้อนรับผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองไม่เว้นแต่ละวัน เมื่อไม่นานมานี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพิ่งลงทุนลงแรงช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยทิ้งวาทกรรมให้มากมายก่อนจากไป มาคราวนี้ถึงคิว 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' อดีตแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ช่วยผู้สมัครของพรรคประชาชนบ้าง พร้อมกับประกาศว่าอีก 9 ปีจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี . ประโยคเด็ดที่ว่านี้เกิดระหว่าง 'พิธา' เดินหาเสียงที่ตลาดนิยม อ.บ้านผือ อุดรธานี และได้พบกับนางสวาท วังดู่ อายุ 86 ปี ที่เดินทางมาให้กำลังใจ โดยพิธาบอกว่า "ขอให้คุณยายอายุมั่นขวัญยืนนะครับคุณยาย รออีก 9 ปี กลับมาจะเป็นนายกฯ ให้ดีกว่านี้" . จากนั้นอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลได้ขึ้นเวทีปราศรัย ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นการตอบโต้พรรคเพื่อไทยและนายทักษิณ . “คุณทักษิณ บอกว่าประชาชนยังไม่หายจน เพราะถูกยึดอำนาจไป 2 ครั้ง คุณทักษิณพูดถูก แต่ทำไมไปจับมือกับพรรคจากรัฐประหาร อันนี้ตนเองไม่เข้าใจจริงๆ พี่น้องเข้าใจหรือเปล่า คุณทักษิณก็บอกว่ารู้อยู่แล้วปัญหาความเหลื่อมล้ำ ปัญหาความยากจนประชาชนตลอด 18 ปีที่ผ่านมา มาจากการทำรัฐประหาร เสร็จแล้วสละมือกับฝ่ายประชาธิปไตย ไปจับมือกับพรรค 2 ลุง ไปจับทำไม แบบนี้ไม่อยากจะบอกว่า เกลียดตัวกินไข่ เกียดปลาไหลกินน้ำแกง หรือเปล่า" ............... Sondhi X
    Haha
    4
    1 Comments 0 Shares 1529 Views 1 Reviews
  • จาก ธรรมะคืออะไร ก็มาถึง ตบทรัพย์คืออะไร
    โอ๊ย...ป้าปวดหัวแล้วค่ะ แต่ละวัน มีเรื่องอะไรนักก็ไม่รู้ คิดคำตอบไม่ทันแล้วค่ะ

    พอมาเห็นข่าว ตาแก่ปากเสียไปพูดอะไรบนเวที ยิ่งหงุดหงิด ชื่นชมแต่ลูกสาวตัวเอง
    เชอะ...เก่งตายละ คนอื่นโง่หมด เก่งแต่ตระกูลตัวเองล่ะนะ

    ไม่ได้ขึ้นเวทีปราศรัยหลายปี คงจะอัดอั้นสินะ พอได้จังหวะเลยโม้ไม่หยุด ปากจัดซะด้วย
    ด่าไปทั่ว เรื่องชั้น 14 ล่ะว่าไง จะได้เข้าไปคุยกับบอสพอล เพื่อช่วยกันหาวิธีทำให้ชาวบ้านมีรายได้ง่ายๆ บ้างมั้ย
    รอลุ้นอยู่นะ คุกๆ (เสียงตาแก่ไอ)
    #วิถีคนแก่ #หาเรื่องมาคุย #บ่นยามเย็น
    จาก ธรรมะคืออะไร ก็มาถึง ตบทรัพย์คืออะไร โอ๊ย...ป้าปวดหัวแล้วค่ะ แต่ละวัน มีเรื่องอะไรนักก็ไม่รู้ คิดคำตอบไม่ทันแล้วค่ะ พอมาเห็นข่าว ตาแก่ปากเสียไปพูดอะไรบนเวที ยิ่งหงุดหงิด ชื่นชมแต่ลูกสาวตัวเอง เชอะ...เก่งตายละ คนอื่นโง่หมด เก่งแต่ตระกูลตัวเองล่ะนะ ไม่ได้ขึ้นเวทีปราศรัยหลายปี คงจะอัดอั้นสินะ พอได้จังหวะเลยโม้ไม่หยุด ปากจัดซะด้วย ด่าไปทั่ว เรื่องชั้น 14 ล่ะว่าไง จะได้เข้าไปคุยกับบอสพอล เพื่อช่วยกันหาวิธีทำให้ชาวบ้านมีรายได้ง่ายๆ บ้างมั้ย รอลุ้นอยู่นะ คุกๆ (เสียงตาแก่ไอ) #วิถีคนแก่ #หาเรื่องมาคุย #บ่นยามเย็น
    0 Comments 0 Shares 761 Views 0 Reviews
  • "ทักษิณ"โวลั่น"ถ้าไม่ปฏิวัติผม ป่านนี้หายจนแล้ว" 15/11/67 #ทักษิณ #พรรคเพื่อไทย #เวทีปราศรัย #การเมือง #รัฐบาล
    "ทักษิณ"โวลั่น"ถ้าไม่ปฏิวัติผม ป่านนี้หายจนแล้ว" 15/11/67 #ทักษิณ #พรรคเพื่อไทย #เวทีปราศรัย #การเมือง #รัฐบาล
    Haha
    Angry
    Like
    Sad
    20
    4 Comments 0 Shares 1883 Views 122 0 Reviews
  • 'ทักษิณ' ตั้งตัวเอง ตำแหน่ง สทร. เสือกทุกเรื่อง
    .
    เวทีปราศรัยหาเสียงของพรรคเพื่อไทยที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อช่วยนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ในนามพรรคเพื่อไทย ถือเป็นเวทีแรกในรอบ 17 ปีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งระหว่างการปราศรัยของนายใหญ่รายนี้แวดล้อมไปด้วยขุนพลรู้ใจแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ, นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีต รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นต้น
    .
    โดยก่อนขึ้นเวทีปราศรัยนั้น ได้มีมวลชนคนเสื้อแดงมารอรับนำโดยนายขวัญชัย ไพรพนา อดีตประธานชมรมคนรักอุดร โดยมีการชูป้ายข้อความ คิดฮอดพ่อใหญ่ทักษิณ, ฮักเพื่อไทย ฮักทักษิณ…อุดรยังฮัก รวมถึงป้ายผ้าที่ระบุข้อความว่า 18 ปีที่รอคอยท่านทักษิณ, ด้วยรักและคิดถึงท่านทักษิณ และเราชาวอุดร คิดถึงท่านทักษิณ ขณะที่บางคนนำภาพที่เคยถ่ายกับนายทักษิณมาด้วย
    .
    ส่วนเนื้อหาสาระของปราศรัยนั้นเป็นการยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้จะทำให้ประชาชนกินดีอยู่ดีมากว่าที่เป็นอยู่ และไม่เคยครอบงำใครมีแต่เพียงลูกสาวครอบงำพ่อ โดยทักษิณ ระบุว่า "อยู่เมืองนอก 17 ปี ที่อยู่ได้เพราะยึดหลักธรรมคำสั่งสอนพระพุทธเจ้า รู้จักจิตปล่อยวางและไม่ไปลุ่มหลง แต่เมื่อไปเห็นอะไร ก็จะพยายามนึกถึงประเทศไทยและคนไทยตลอด 17 ปีไม่รู้ว่าได้กลับเมื่อไหร่ แต่ในใจคิดอย่างเดียวว่ากูต้องกลับ กลับยังไงหรือกลับเมื่อไหร่ ไม่รู้ ก็สู้ไปเรื่อยๆ แล้ววันนี้ได้กลับมา ได้กราบพระเจ้าอยู่หัว ได้กราบพระพุทธศาสนา และได้กลับมาเจอพี่น้องคนไทยทั้งหมดเป็นความสุขของชีวิต
    .
    "ผมไม่มีสิทธิ์ครอบงำลูก เพราะผมรักลูกแบบเกรงใจมาก เพราะฉะนั้นต้องให้ลูกครอบงำแทน บางทีลูกนั่งปรึกษาผม แต่สั่งผม ซึ่งสิ่งที่นายกฯ เป็นห่วงคือหนี้สินของชาวบ้านและเรื่องของรายได้ ซึ่งเบื้องต้นการให้เงินคนละหมื่นเป็นสิ่งจำเป็น ให้เริ่มต้น ให้ตั้งหลักก่อน และพร้อมกันนั้นก็ลดหนี้ และจะพยายามเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นรายได้ทางการเกษตร หรือโอกาสของประชาชน"
    .
    นายทักษิณ กล่าวอีกว่า "พี่น้องจำได้หรือไม่ว่าผมให้ทำบัญชีครัวเรือน อยากให้ทำต่อไป แล้วเราจะเห็นชัดไม่มีใครมาหลอกเราได้ว่าเรามีหรือไม่มีเงิน และตอนเลือกตั้งปี 70 ผมมาอีกทีจะเห็นพี่น้องอุดรฯ หน้าตาผ่อง เพราะตังค์มีใช้แล้ว ไม่แห้งแบบนี้ ยิ้มไม่ค่อยหวาน และตอนเลือกตั้งปี 70 ต้องยิ้มหวาน อย่าลืมผม ผมกลับมาแล้ว แล้วอย่าลืมกาเบอร์สอง หากไม่รู้ว่าเบอร์สองชื่ออะไร ชื่อทักษิณแล้วกัน กาทักษิณแล้วกัน"
    .
    "ตอนนี้พรรคร่วมรัฐบาลก็สามัคคีกันดีอยู่ ขอให้เบาใจได้ว่าผมกลับมาแล้ว ผมอยู่ทั้งคน ทนเห็นพี่น้องลำบากไม่ได้ ซึ่งวันนี้ผมได้ตั้งตำแหน่งให้ตัวเองหลังจากที่ได้เงินเดือนเดือนละ 700 คือ สทร. แปลว่า เสือก ทุก เรื่อง ที่เห็นอะไร น่ารำคาญก็ต้องตะโกนโวยวายในฐานะประชาชนคนชรา คนแก่ขี้บ่น ไม่มีใครฟังก็บ่นให้ลูกสาวฟังก็ได้" นายทักษิณกล่าว
    ..............
    Sondhi X
    'ทักษิณ' ตั้งตัวเอง ตำแหน่ง สทร. เสือกทุกเรื่อง . เวทีปราศรัยหาเสียงของพรรคเพื่อไทยที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อช่วยนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ในนามพรรคเพื่อไทย ถือเป็นเวทีแรกในรอบ 17 ปีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งระหว่างการปราศรัยของนายใหญ่รายนี้แวดล้อมไปด้วยขุนพลรู้ใจแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวนายทักษิณ, นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีต รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เป็นต้น . โดยก่อนขึ้นเวทีปราศรัยนั้น ได้มีมวลชนคนเสื้อแดงมารอรับนำโดยนายขวัญชัย ไพรพนา อดีตประธานชมรมคนรักอุดร โดยมีการชูป้ายข้อความ คิดฮอดพ่อใหญ่ทักษิณ, ฮักเพื่อไทย ฮักทักษิณ…อุดรยังฮัก รวมถึงป้ายผ้าที่ระบุข้อความว่า 18 ปีที่รอคอยท่านทักษิณ, ด้วยรักและคิดถึงท่านทักษิณ และเราชาวอุดร คิดถึงท่านทักษิณ ขณะที่บางคนนำภาพที่เคยถ่ายกับนายทักษิณมาด้วย . ส่วนเนื้อหาสาระของปราศรัยนั้นเป็นการยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้จะทำให้ประชาชนกินดีอยู่ดีมากว่าที่เป็นอยู่ และไม่เคยครอบงำใครมีแต่เพียงลูกสาวครอบงำพ่อ โดยทักษิณ ระบุว่า "อยู่เมืองนอก 17 ปี ที่อยู่ได้เพราะยึดหลักธรรมคำสั่งสอนพระพุทธเจ้า รู้จักจิตปล่อยวางและไม่ไปลุ่มหลง แต่เมื่อไปเห็นอะไร ก็จะพยายามนึกถึงประเทศไทยและคนไทยตลอด 17 ปีไม่รู้ว่าได้กลับเมื่อไหร่ แต่ในใจคิดอย่างเดียวว่ากูต้องกลับ กลับยังไงหรือกลับเมื่อไหร่ ไม่รู้ ก็สู้ไปเรื่อยๆ แล้ววันนี้ได้กลับมา ได้กราบพระเจ้าอยู่หัว ได้กราบพระพุทธศาสนา และได้กลับมาเจอพี่น้องคนไทยทั้งหมดเป็นความสุขของชีวิต . "ผมไม่มีสิทธิ์ครอบงำลูก เพราะผมรักลูกแบบเกรงใจมาก เพราะฉะนั้นต้องให้ลูกครอบงำแทน บางทีลูกนั่งปรึกษาผม แต่สั่งผม ซึ่งสิ่งที่นายกฯ เป็นห่วงคือหนี้สินของชาวบ้านและเรื่องของรายได้ ซึ่งเบื้องต้นการให้เงินคนละหมื่นเป็นสิ่งจำเป็น ให้เริ่มต้น ให้ตั้งหลักก่อน และพร้อมกันนั้นก็ลดหนี้ และจะพยายามเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นรายได้ทางการเกษตร หรือโอกาสของประชาชน" . นายทักษิณ กล่าวอีกว่า "พี่น้องจำได้หรือไม่ว่าผมให้ทำบัญชีครัวเรือน อยากให้ทำต่อไป แล้วเราจะเห็นชัดไม่มีใครมาหลอกเราได้ว่าเรามีหรือไม่มีเงิน และตอนเลือกตั้งปี 70 ผมมาอีกทีจะเห็นพี่น้องอุดรฯ หน้าตาผ่อง เพราะตังค์มีใช้แล้ว ไม่แห้งแบบนี้ ยิ้มไม่ค่อยหวาน และตอนเลือกตั้งปี 70 ต้องยิ้มหวาน อย่าลืมผม ผมกลับมาแล้ว แล้วอย่าลืมกาเบอร์สอง หากไม่รู้ว่าเบอร์สองชื่ออะไร ชื่อทักษิณแล้วกัน กาทักษิณแล้วกัน" . "ตอนนี้พรรคร่วมรัฐบาลก็สามัคคีกันดีอยู่ ขอให้เบาใจได้ว่าผมกลับมาแล้ว ผมอยู่ทั้งคน ทนเห็นพี่น้องลำบากไม่ได้ ซึ่งวันนี้ผมได้ตั้งตำแหน่งให้ตัวเองหลังจากที่ได้เงินเดือนเดือนละ 700 คือ สทร. แปลว่า เสือก ทุก เรื่อง ที่เห็นอะไร น่ารำคาญก็ต้องตะโกนโวยวายในฐานะประชาชนคนชรา คนแก่ขี้บ่น ไม่มีใครฟังก็บ่นให้ลูกสาวฟังก็ได้" นายทักษิณกล่าว .............. Sondhi X
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 1839 Views 0 Reviews
  • ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่าง “ทรัมป์บ้า” ได้ประกาศตอกย้ำเอาไว้อีกครั้ง ว่าภายใต้การนำของประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่างคุณปู่ “โจ ซึมเซา” กำลังใกล้นำพาประเทศอเมริกาเข้าสู่ “สงครามโลกครั้งที่ 3” อีกแค่ไม่กี่เดือนข้างหน้า ถ้าว่ากันโดยคำพูดแบบ “คำต่อคำ” ที่ถูกถ่ายทอดผ่านสำนักข่าวต่างๆ ก็คือ... “เรากำลังมีปัญหา ที่ทำให้ผมรู้สึกวิตกกังวลเอาจริงๆ ต่อเหตุการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ผมกังวลว่าเราอาจต้องจบลงด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3 ด้วยเหตุเพราะรัฐบาลที่กำลังเป็นอยู่” หรือถึงขั้นถ้าตัวเองเกิดชนะเลือกตั้งขึ้นมา มีแต่ต้อง “ลงมืออย่างเร่งด่วนและด้วยความรวดเร็ว...ถึงจะช่วยปกปักรักษาประเทศอเมริกา ช่วยกอบกู้ประชาชนชาวแคลิฟอร์เนียให้พ้นไปจากเงื้อมมือของพรรคการเมืองตรงกันข้าม ด้วยการหยุดสงครามยูเครน ยุติความสับสนอลหม่านในตะวันออกกลาง และป้องกันไม่ให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ให้จงได้!!!” นี่...เป็นเรื่อง-เป็นราว เป็นจริง-เป็นจัง ไปได้ถึงขั้นนั้น...

    เหตุที่ “ทรัมป์บ้า” ต้องนำเอาเรื่องราวเหล่านี้มาพูดจาหาเสียงกันอีกครั้ง แม้ว่าเคยพูดจาทำนองนี้มาแล้วหลายครั้งหลายหน มันออกจะเป็นอะไรที่น่าคิด น่าสะกิดใจ อยู่พอสมควรเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านั้น...หนังสือพิมพ์ “The Washington Post” เขาได้นำเสนอรายงานข่าวเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 ต.ค.) ว่าประธานาธิบดีอเมริกันอย่าง “โจ ซึมเซา” ได้บอกกับที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาว ให้ไป “เตือนอิหร่าน” ว่าความพยายามลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” นั้น เท่ากับเป็นการ “ประกาศสงคราม” กับอเมริกา อันอาจถือเป็นการแสดงความห่วงใย ความต้องการปกป้องชาวอเมริกัน แม้จะเป็นคู่แข่งทางการเมืองของตัวเองก็ตาม แต่ปัญหามีอยู่ว่า...ทำไมการคิดลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” มันดันถูกโยงไปยังคู่กัด-คู่อาฆาตของอเมริกาและพันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์อย่างอิสราเอล เช่นประเทศอิหร่านจนได้??? ทั้งที่น่าจะเป็น “คนละเรื่อง” แท้ๆ...

    ส่วนที่อาจเกี่ยวข้องอยู่บ้างนิดๆ ก็คือ...กรณีเกิดการลอบสังหารผู้นำทางทหารอิหร่าน อย่าง “พลเอกQassem Soleimani” เมื่อช่วงเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2020 อันเป็นช่วงเดียวกับที่ “ทรัมป์บ้า” ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และอาจมีส่วนรับทราบ รู้เห็นต่อการกระทำเช่นนี้ แต่นั่นก็ยากที่จะนำมาเกี่ยวข้องโยงใยกับบรรดา “ผู้ต้องหา” หรือ “มือปืน” ที่พยายามลอบฆ่า ลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” คราวแล้ว คราวเล่า ซึ่งออกจะหนักไปทางพวก “สาวกเดโมแครต” นั่นแหละเป็นหลัก ไม่ได้เกี่ยวกับมุสลิม อิสลาม หรือกับอิหร่านด้วยเลย อีกทั้งในคำประกาศแก้แค้น-เอาคืนของอิหร่านต่อกรณีดังกล่าว ก็ดูจะเน้นหนักไปในทาง “ยุทธศาสตร์” ไม่ได้คิดจะอาศัยเพียงแค่ “ยุทธวิธี” แบบโง่ๆ-ง่ายๆ หรือมุ่งที่คิดจะเสือกไสไล่ส่ง บรรดาทหารอเมริกาทั้งมวลไม่ให้เหลือติดอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลางแม้แต่รายเดียว...อะไรประมาณนั้น...

    และก็แน่ล่ะว่า...ทางการอิหร่านเขาได้ออกมาปฏิเสธแบบหัวเด็ด-ตีนขาด ต่อ “ข้อกล่าวหา” เรื่องคิดจะลอบฆ่า ลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” มาแล้วตั้งแต่ต้น หรือตั้งแต่ถูก “ยิงเฉี่ยวหู” เมื่อช่วงกรกฎาคมที่ผ่านมา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน “นายNasser Kanaani” ได้ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการว่าอิหร่านไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย และ “สิ่งที่อิหร่านต้องการก็คือการอาศัยการกระทำที่ถูกต้องตามตัวบทกฎหมายต่อผู้ที่มีส่วนรู้เห็น รับผิดชอบ การลอบสังหารพลเอกSoleimani” ด้วยเหตุนี้การนำเอาเรื่องการลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” มาเกี่ยวโยงกับอิหร่าน หรือมาใช้เป็น “ข้ออ้าง” ในการ “ประกาศสงคราม” ของอเมริกา มันเลยออกจะคล้ายๆ การประกาศสงครามกับ “ซัดดัม ฮุสเซน” แห่งอิรัก อันเนื่องมาจากมี “อาวุธทำลายล้าง” อยู่ในครอบครอง อะไรทำนองนั้น คือแม้จะมาจาก “การข่าว” ใดๆ ก็เถอะ แต่หนักไปทาง “ข่าวลวง-ข่าวลือ” ที่หาหลักฐาน-ข้อพิสูจน์ใดๆ แทบไม่ได้ ชนิดเผลอๆ... “ทรัมป์บ้า” อาจต้อง “ตายฟรี” พร้อมๆ กับการเปิดฉากสงครามกับอิหร่าน แบบยิงปืนนัดเดียวนกหล่นลงมาทั้งพวง เอาเลยก็ไม่แน่!!!

    การโยงเอาอิหร่านกับการลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” ให้กลายเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” ถึงขั้นที่ประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่าง “โจ ซึมเซา” ถึงกับออกมาประกาศว่าเป็นการ “ประกาศสงครามโดยตรงกับอเมริกา” ขณะที่พันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์อย่างอิสราเอลก็กำลังกระเหี้ยนกระหือรือ อยากจะแก้แค้น-เอาคืนกับอิหร่านเต็มที โดยหวังจะฉุดกระชากลากถูให้อเมริกาเข้ามาร่วมรุมถล่มอิหร่านอีกด้วยต่างหาก อันอาจนำไปสู่ฉากเหตุการณ์ “สงครามโลกครั้งที่ 3” อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ดังที่ “ทรัมป์บ้า” ออกมาแสดงความวิตกกังวลในเวทีปราศรัยคราวล่าสุด อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยชักจะเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” อย่างแทบไม่น่าเชื่อแต่ก็คงต้องเชื่อจนได้...

    เพราะแม้ว่าอเมริกาภายใต้การนำของ “โจ ซึมเซา” หรือ “โจ ล้างเผ่าพันธุ์” ก็แล้วแต่จะเรียก พยายามแสดงท่าทีภายนอกว่าไม่อยากเห็นสงครามในตะวันออกกลาง ไม่ว่าอิสราเอลกับฮามาส กับเฮซบอลเลาะห์หรือกับอิหร่านก็ตามที แต่โดยความเคลื่อนไหวลึกๆ ลงไปแล้ว มันออกจะขัดแย้งและสวนทางกับการแสดงออกภายนอกอย่างเห็นได้โดยชัดเจน ไม่ว่าการมุ่ง “เติมเงิน-เติมอาวุธ” ให้กับรัฐบาลและกองทัพอิสราเอลแบบไม่ได้คิดยับยั้งชั่งใจใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย แม้บรรดาประเทศต่างๆ นับเป็นร้อยๆ ต่างออกมาตำหนิประณามอิสราเอล คราวแล้ว-คราวเล่า ไม่ว่าเรื่องการประกาศให้เลขาธิการยูเอ็นเป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนา” การโจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติโดยใคร่ครวญเอาไว้ก่อน รวมทั้งการมุ่งหน้า “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ชาวปาเลสไตน์อย่างไม่คิดจะยั้งมือ ฯลฯ แต่บรรดาสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลให้ผู้สนับสนุนอิสราเอลแบบ “มากกว่าประธานาธิบดีอเมริกันรายใดเท่าที่เคยมีมา” ดังที่ผู้ประกาศตัวเป็น “Zionist” อย่างคุณปู่ “โจ ซึมเซา” ได้ออกมาอวดโชว์คุณสมบัติของตัวเอง เกิดอาการคิดหน้า-คิดหลังต่อการสนับสนุนอิสราเอลแต่อย่างใด แต่กลับพร้อมที่จะกระพือฮือโหม “ไฟสงคราม”

    ไม่ว่าในแนวรบยุโรปตะวันออก หรือตะวันออกกลาง อย่างเป็นระบบและกิจการ...

    ล่าสุด...เห็นว่ากำลังคิดจะส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ “THAAD” ที่ว่ากันว่าสามารถสกัดกั้นการโจมตีจากจรวดที่มีความเร็วระดับ Mach 7.5 ไปให้กับอิสราเอล แถม “พลตรีPat Ryder” โฆษกเพนตากอนแสดงท่าทีว่าคิดจะส่งกำลังทหารอเมริกาและอังกฤษเพิ่มเติมเข้าไปในตะวันออกกลาง ช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (13 ต.ค.) รวมทั้งผู้บัญชาการ “CENTCOM” (The Commander of the US Central Command) “พลเอกMichale Kurilla” ยังอุตส่าห์ถ่อไปถึงประเทศอิสราเอลเพื่อแสดงออกถึงความร่วมมือกับกองทัพอิสราเอลในการวางแผนโจมตีอิหร่านอีกต่างหาก อันนี้นี่แหละ...เลยทำให้สิ่งที่เรียกว่า “สงครามโลกครั้งที่ 3” อาจระเบิดเถิดเทิงขึ้นในอีก “ไม่กี่เดือนข้างหน้า” จนส่งผลให้ “ทรัมป์บ้า” อดไม่ได้ต้องออกมาแสดงความวิตกกังวล ขณะปราศรัยหาเสียง ณ เวทีแคลิฟอร์เนีย...

    โดยเฉพาะสำหรับใครก็ตาม ที่มีโอกาสได้อ่านข้อเขียนบทความชิ้นล่าสุด ของอดีตทูตอินเดีย “M.K. Bhadrakumar” เรื่อง “Russia aligns with Iran, war cloud scatter” ที่สำนักข่าว “ผู้จัดการ” ของหมู่เฮานำมาแปลและถ่ายทอดไปเมื่อวัน-สองวันมานี้ ก็น่าจะพอมองเห็นถึง “ความเป็นไปได้” ของ “อภิมหาสงคราม” อันเนื่องมาจากการบ่งชี้ถึงการบรรลุข้อตกลงความร่วมมือทางความมั่นคงระหว่าง “อิหร่าน-รัสเซีย” หรือที่เรียกๆ กันว่า “The Big Treaty” ที่อาจทำให้การโจมตีอิหร่านย่อมหมายถึงการเผชิญหน้าโดยตรงกับคุณน้ารัสเซียควบคู่ไปด้วย และคงไม่ต่างอะไรไปจากคุณพี่จีนที่นักยุทธศาสตร์การทหารของจีนเขาเคยพูดๆ เอาไว้ตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ว่าจีนพร้อมที่จะปกป้องอิหร่าน...แม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ก็ตามที...

    ภายใต้บรรยากาศเช่นนี้...เลยคงต้องขออนุญาตแนะนำให้ลองไปหาอ่านข้อเขียน บทความชิ้นล่าสุดของ “นายRon Paul” อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐเท็กซัส และผู้เคยลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกามาแล้ว 3 ครั้ง ว่าด้วยเรื่อง “American Neocons Get Their Iran War as Congress Sleeps” หรือในขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสอเมริกันกำลังนอนหลับคร่อกฟี้ๆ อยู่นั้น พวก “ขวาใหม่” หรือพวก “Neoconservative” ในอเมริกา อันเต็มไปด้วยลูกหลานชาวยิวยุ่มย่ามยั้วเยี้ยไปหมด อีกทั้งยังมีบทบาทอิทธิพลต่อรัฐบาลอเมริกันในแทบทุกยุค-ทุกสมัยกำลังประสบความสำเร็จในการฉุดกระชากลากถูให้อเมริกาต้องเปิดศึกสงครามกับอิหร่านจนได้ โดยย้ำให้เห็นว่า...สงครามเช่นนี้แทบไม่ก่อให้เกิดประโยชน์โพดผลใดๆ ต่อชาวอเมริกันและประเทศอเมริกาเอาเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยเหตุเพราะ... “เรา(ชาวอเมริกัน)กำลังเดินละเมอไปสู่สงครามแห่งกลียุค ที่ถูกกล่อมเกลาโดยการโฆษณาของบรรดาสื่อมวลชน อันจะมีผลให้ผู้คนนับพันๆ ล้านต้องประสบกับความยากลำบากทางเศรษฐกิจ และผู้บริสุทธิ์อีกมากกว่านั้นจะต้องสูญเสียชีวิตไปกับความบ้าคลั่งแห่งสงคราม...”

    ในบทความชิ้นนี้ยังได้สรุปไว้ในตอนท้ายอย่างน่าคิดสะกิดใจเอามากๆ ด้วยข้อความที่ว่า... “มากกว่าครึ่งศตวรรษมาแล้วที่เรายังคงไม่ได้เรียนรู้จากบทเรียนแห่งเหตุการณ์ 9/11 เมื่อเราออกไปสร้างความฉิบหายวายวอดให้กับผู้คนนอกประเทศที่ไม่เคยทำร้ายอะไรเราเลย นั่นก็คือเราได้สร้าง...ศัตรู ผู้ที่คิดจะแก้แค้น-เอาคืน หรือนั่นก็คือเราได้ทำร้ายตัวเราเอง เราสร้างความเสี่ยงให้กับการโต้กลับ ด้วยเหตุนี้...ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องลุกขึ้นมาคัดค้านและปฏิเสธสงครามที่กำลังใกล้เข้ามา นับตั้งแต่...เดี๋ยวนี้!!!” นี่...เป็นไปได้-เป็นไปไม่ได้ อันนี้คงต้องขึ้นอยู่กับบรรดาอเมริกันชนทั้งหลาย ว่าจะ “ฟัง...แล้วได้ยิน” ต่อคำเตือนของอดีตนักการเมืองรายนี้หรือไม่? อย่างไร? นั่นแล...

    ที่มา ผู้จัดการออนไลน์ https://mgronline.com/daily/detail/9670000100145

    #Thaitimes
    ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่าง “ทรัมป์บ้า” ได้ประกาศตอกย้ำเอาไว้อีกครั้ง ว่าภายใต้การนำของประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่างคุณปู่ “โจ ซึมเซา” กำลังใกล้นำพาประเทศอเมริกาเข้าสู่ “สงครามโลกครั้งที่ 3” อีกแค่ไม่กี่เดือนข้างหน้า ถ้าว่ากันโดยคำพูดแบบ “คำต่อคำ” ที่ถูกถ่ายทอดผ่านสำนักข่าวต่างๆ ก็คือ... “เรากำลังมีปัญหา ที่ทำให้ผมรู้สึกวิตกกังวลเอาจริงๆ ต่อเหตุการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ผมกังวลว่าเราอาจต้องจบลงด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3 ด้วยเหตุเพราะรัฐบาลที่กำลังเป็นอยู่” หรือถึงขั้นถ้าตัวเองเกิดชนะเลือกตั้งขึ้นมา มีแต่ต้อง “ลงมืออย่างเร่งด่วนและด้วยความรวดเร็ว...ถึงจะช่วยปกปักรักษาประเทศอเมริกา ช่วยกอบกู้ประชาชนชาวแคลิฟอร์เนียให้พ้นไปจากเงื้อมมือของพรรคการเมืองตรงกันข้าม ด้วยการหยุดสงครามยูเครน ยุติความสับสนอลหม่านในตะวันออกกลาง และป้องกันไม่ให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ให้จงได้!!!” นี่...เป็นเรื่อง-เป็นราว เป็นจริง-เป็นจัง ไปได้ถึงขั้นนั้น... เหตุที่ “ทรัมป์บ้า” ต้องนำเอาเรื่องราวเหล่านี้มาพูดจาหาเสียงกันอีกครั้ง แม้ว่าเคยพูดจาทำนองนี้มาแล้วหลายครั้งหลายหน มันออกจะเป็นอะไรที่น่าคิด น่าสะกิดใจ อยู่พอสมควรเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านั้น...หนังสือพิมพ์ “The Washington Post” เขาได้นำเสนอรายงานข่าวเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 ต.ค.) ว่าประธานาธิบดีอเมริกันอย่าง “โจ ซึมเซา” ได้บอกกับที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาว ให้ไป “เตือนอิหร่าน” ว่าความพยายามลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” นั้น เท่ากับเป็นการ “ประกาศสงคราม” กับอเมริกา อันอาจถือเป็นการแสดงความห่วงใย ความต้องการปกป้องชาวอเมริกัน แม้จะเป็นคู่แข่งทางการเมืองของตัวเองก็ตาม แต่ปัญหามีอยู่ว่า...ทำไมการคิดลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” มันดันถูกโยงไปยังคู่กัด-คู่อาฆาตของอเมริกาและพันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์อย่างอิสราเอล เช่นประเทศอิหร่านจนได้??? ทั้งที่น่าจะเป็น “คนละเรื่อง” แท้ๆ... ส่วนที่อาจเกี่ยวข้องอยู่บ้างนิดๆ ก็คือ...กรณีเกิดการลอบสังหารผู้นำทางทหารอิหร่าน อย่าง “พลเอกQassem Soleimani” เมื่อช่วงเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2020 อันเป็นช่วงเดียวกับที่ “ทรัมป์บ้า” ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และอาจมีส่วนรับทราบ รู้เห็นต่อการกระทำเช่นนี้ แต่นั่นก็ยากที่จะนำมาเกี่ยวข้องโยงใยกับบรรดา “ผู้ต้องหา” หรือ “มือปืน” ที่พยายามลอบฆ่า ลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” คราวแล้ว คราวเล่า ซึ่งออกจะหนักไปทางพวก “สาวกเดโมแครต” นั่นแหละเป็นหลัก ไม่ได้เกี่ยวกับมุสลิม อิสลาม หรือกับอิหร่านด้วยเลย อีกทั้งในคำประกาศแก้แค้น-เอาคืนของอิหร่านต่อกรณีดังกล่าว ก็ดูจะเน้นหนักไปในทาง “ยุทธศาสตร์” ไม่ได้คิดจะอาศัยเพียงแค่ “ยุทธวิธี” แบบโง่ๆ-ง่ายๆ หรือมุ่งที่คิดจะเสือกไสไล่ส่ง บรรดาทหารอเมริกาทั้งมวลไม่ให้เหลือติดอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลางแม้แต่รายเดียว...อะไรประมาณนั้น... และก็แน่ล่ะว่า...ทางการอิหร่านเขาได้ออกมาปฏิเสธแบบหัวเด็ด-ตีนขาด ต่อ “ข้อกล่าวหา” เรื่องคิดจะลอบฆ่า ลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” มาแล้วตั้งแต่ต้น หรือตั้งแต่ถูก “ยิงเฉี่ยวหู” เมื่อช่วงกรกฎาคมที่ผ่านมา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน “นายNasser Kanaani” ได้ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการว่าอิหร่านไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย และ “สิ่งที่อิหร่านต้องการก็คือการอาศัยการกระทำที่ถูกต้องตามตัวบทกฎหมายต่อผู้ที่มีส่วนรู้เห็น รับผิดชอบ การลอบสังหารพลเอกSoleimani” ด้วยเหตุนี้การนำเอาเรื่องการลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” มาเกี่ยวโยงกับอิหร่าน หรือมาใช้เป็น “ข้ออ้าง” ในการ “ประกาศสงคราม” ของอเมริกา มันเลยออกจะคล้ายๆ การประกาศสงครามกับ “ซัดดัม ฮุสเซน” แห่งอิรัก อันเนื่องมาจากมี “อาวุธทำลายล้าง” อยู่ในครอบครอง อะไรทำนองนั้น คือแม้จะมาจาก “การข่าว” ใดๆ ก็เถอะ แต่หนักไปทาง “ข่าวลวง-ข่าวลือ” ที่หาหลักฐาน-ข้อพิสูจน์ใดๆ แทบไม่ได้ ชนิดเผลอๆ... “ทรัมป์บ้า” อาจต้อง “ตายฟรี” พร้อมๆ กับการเปิดฉากสงครามกับอิหร่าน แบบยิงปืนนัดเดียวนกหล่นลงมาทั้งพวง เอาเลยก็ไม่แน่!!! การโยงเอาอิหร่านกับการลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” ให้กลายเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” ถึงขั้นที่ประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่าง “โจ ซึมเซา” ถึงกับออกมาประกาศว่าเป็นการ “ประกาศสงครามโดยตรงกับอเมริกา” ขณะที่พันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์อย่างอิสราเอลก็กำลังกระเหี้ยนกระหือรือ อยากจะแก้แค้น-เอาคืนกับอิหร่านเต็มที โดยหวังจะฉุดกระชากลากถูให้อเมริกาเข้ามาร่วมรุมถล่มอิหร่านอีกด้วยต่างหาก อันอาจนำไปสู่ฉากเหตุการณ์ “สงครามโลกครั้งที่ 3” อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ดังที่ “ทรัมป์บ้า” ออกมาแสดงความวิตกกังวลในเวทีปราศรัยคราวล่าสุด อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยชักจะเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” อย่างแทบไม่น่าเชื่อแต่ก็คงต้องเชื่อจนได้... เพราะแม้ว่าอเมริกาภายใต้การนำของ “โจ ซึมเซา” หรือ “โจ ล้างเผ่าพันธุ์” ก็แล้วแต่จะเรียก พยายามแสดงท่าทีภายนอกว่าไม่อยากเห็นสงครามในตะวันออกกลาง ไม่ว่าอิสราเอลกับฮามาส กับเฮซบอลเลาะห์หรือกับอิหร่านก็ตามที แต่โดยความเคลื่อนไหวลึกๆ ลงไปแล้ว มันออกจะขัดแย้งและสวนทางกับการแสดงออกภายนอกอย่างเห็นได้โดยชัดเจน ไม่ว่าการมุ่ง “เติมเงิน-เติมอาวุธ” ให้กับรัฐบาลและกองทัพอิสราเอลแบบไม่ได้คิดยับยั้งชั่งใจใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย แม้บรรดาประเทศต่างๆ นับเป็นร้อยๆ ต่างออกมาตำหนิประณามอิสราเอล คราวแล้ว-คราวเล่า ไม่ว่าเรื่องการประกาศให้เลขาธิการยูเอ็นเป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนา” การโจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติโดยใคร่ครวญเอาไว้ก่อน รวมทั้งการมุ่งหน้า “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ชาวปาเลสไตน์อย่างไม่คิดจะยั้งมือ ฯลฯ แต่บรรดาสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลให้ผู้สนับสนุนอิสราเอลแบบ “มากกว่าประธานาธิบดีอเมริกันรายใดเท่าที่เคยมีมา” ดังที่ผู้ประกาศตัวเป็น “Zionist” อย่างคุณปู่ “โจ ซึมเซา” ได้ออกมาอวดโชว์คุณสมบัติของตัวเอง เกิดอาการคิดหน้า-คิดหลังต่อการสนับสนุนอิสราเอลแต่อย่างใด แต่กลับพร้อมที่จะกระพือฮือโหม “ไฟสงคราม” ไม่ว่าในแนวรบยุโรปตะวันออก หรือตะวันออกกลาง อย่างเป็นระบบและกิจการ... ล่าสุด...เห็นว่ากำลังคิดจะส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ “THAAD” ที่ว่ากันว่าสามารถสกัดกั้นการโจมตีจากจรวดที่มีความเร็วระดับ Mach 7.5 ไปให้กับอิสราเอล แถม “พลตรีPat Ryder” โฆษกเพนตากอนแสดงท่าทีว่าคิดจะส่งกำลังทหารอเมริกาและอังกฤษเพิ่มเติมเข้าไปในตะวันออกกลาง ช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (13 ต.ค.) รวมทั้งผู้บัญชาการ “CENTCOM” (The Commander of the US Central Command) “พลเอกMichale Kurilla” ยังอุตส่าห์ถ่อไปถึงประเทศอิสราเอลเพื่อแสดงออกถึงความร่วมมือกับกองทัพอิสราเอลในการวางแผนโจมตีอิหร่านอีกต่างหาก อันนี้นี่แหละ...เลยทำให้สิ่งที่เรียกว่า “สงครามโลกครั้งที่ 3” อาจระเบิดเถิดเทิงขึ้นในอีก “ไม่กี่เดือนข้างหน้า” จนส่งผลให้ “ทรัมป์บ้า” อดไม่ได้ต้องออกมาแสดงความวิตกกังวล ขณะปราศรัยหาเสียง ณ เวทีแคลิฟอร์เนีย... โดยเฉพาะสำหรับใครก็ตาม ที่มีโอกาสได้อ่านข้อเขียนบทความชิ้นล่าสุด ของอดีตทูตอินเดีย “M.K. Bhadrakumar” เรื่อง “Russia aligns with Iran, war cloud scatter” ที่สำนักข่าว “ผู้จัดการ” ของหมู่เฮานำมาแปลและถ่ายทอดไปเมื่อวัน-สองวันมานี้ ก็น่าจะพอมองเห็นถึง “ความเป็นไปได้” ของ “อภิมหาสงคราม” อันเนื่องมาจากการบ่งชี้ถึงการบรรลุข้อตกลงความร่วมมือทางความมั่นคงระหว่าง “อิหร่าน-รัสเซีย” หรือที่เรียกๆ กันว่า “The Big Treaty” ที่อาจทำให้การโจมตีอิหร่านย่อมหมายถึงการเผชิญหน้าโดยตรงกับคุณน้ารัสเซียควบคู่ไปด้วย และคงไม่ต่างอะไรไปจากคุณพี่จีนที่นักยุทธศาสตร์การทหารของจีนเขาเคยพูดๆ เอาไว้ตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ว่าจีนพร้อมที่จะปกป้องอิหร่าน...แม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ก็ตามที... ภายใต้บรรยากาศเช่นนี้...เลยคงต้องขออนุญาตแนะนำให้ลองไปหาอ่านข้อเขียน บทความชิ้นล่าสุดของ “นายRon Paul” อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐเท็กซัส และผู้เคยลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกามาแล้ว 3 ครั้ง ว่าด้วยเรื่อง “American Neocons Get Their Iran War as Congress Sleeps” หรือในขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสอเมริกันกำลังนอนหลับคร่อกฟี้ๆ อยู่นั้น พวก “ขวาใหม่” หรือพวก “Neoconservative” ในอเมริกา อันเต็มไปด้วยลูกหลานชาวยิวยุ่มย่ามยั้วเยี้ยไปหมด อีกทั้งยังมีบทบาทอิทธิพลต่อรัฐบาลอเมริกันในแทบทุกยุค-ทุกสมัยกำลังประสบความสำเร็จในการฉุดกระชากลากถูให้อเมริกาต้องเปิดศึกสงครามกับอิหร่านจนได้ โดยย้ำให้เห็นว่า...สงครามเช่นนี้แทบไม่ก่อให้เกิดประโยชน์โพดผลใดๆ ต่อชาวอเมริกันและประเทศอเมริกาเอาเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยเหตุเพราะ... “เรา(ชาวอเมริกัน)กำลังเดินละเมอไปสู่สงครามแห่งกลียุค ที่ถูกกล่อมเกลาโดยการโฆษณาของบรรดาสื่อมวลชน อันจะมีผลให้ผู้คนนับพันๆ ล้านต้องประสบกับความยากลำบากทางเศรษฐกิจ และผู้บริสุทธิ์อีกมากกว่านั้นจะต้องสูญเสียชีวิตไปกับความบ้าคลั่งแห่งสงคราม...” ในบทความชิ้นนี้ยังได้สรุปไว้ในตอนท้ายอย่างน่าคิดสะกิดใจเอามากๆ ด้วยข้อความที่ว่า... “มากกว่าครึ่งศตวรรษมาแล้วที่เรายังคงไม่ได้เรียนรู้จากบทเรียนแห่งเหตุการณ์ 9/11 เมื่อเราออกไปสร้างความฉิบหายวายวอดให้กับผู้คนนอกประเทศที่ไม่เคยทำร้ายอะไรเราเลย นั่นก็คือเราได้สร้าง...ศัตรู ผู้ที่คิดจะแก้แค้น-เอาคืน หรือนั่นก็คือเราได้ทำร้ายตัวเราเอง เราสร้างความเสี่ยงให้กับการโต้กลับ ด้วยเหตุนี้...ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องลุกขึ้นมาคัดค้านและปฏิเสธสงครามที่กำลังใกล้เข้ามา นับตั้งแต่...เดี๋ยวนี้!!!” นี่...เป็นไปได้-เป็นไปไม่ได้ อันนี้คงต้องขึ้นอยู่กับบรรดาอเมริกันชนทั้งหลาย ว่าจะ “ฟัง...แล้วได้ยิน” ต่อคำเตือนของอดีตนักการเมืองรายนี้หรือไม่? อย่างไร? นั่นแล... ที่มา ผู้จัดการออนไลน์ https://mgronline.com/daily/detail/9670000100145 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    อีกไม่เกิน 3 เดือน...สงครามโลกครั้งที่ 3???
    ปิดท้ายสัปดาห์นี้...คงต้องแวะไปดู “เลือกตั้งอเมริกา” ไว้สักหน่อยแล้วล่ะทั่น!!! เพราะไม่เพียงเขาจะเลือกกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า (5 พ.ย.) แต่เห็นว่าผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งพรรครีพับลิกัน อย่าง “ทรัมป์บ้า”
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 1092 Views 0 Reviews
More Results