• 2/
    กิตติ เชี่ยววงศ์กุล หรือ "เกลือ" โดนทัวร์ลง หลังจากโพสต์เตือนสติ เห็นความสำคัญของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงหรือยัง หลังช่วงนี้มีข่าวโด่งดัง ปมดาราใช้เงินเกินตัว และกำลังดำเนินการฟ้องกลุ่มคนที่แสดงความเห็นรุนแรงจนเกินรับได้

    วันนี้เลยขอโพสต์เกี่ยวกับพระราชดำรัสในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่อง "พอเพียง" เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 4 ธันวาคม 2541

    วิดีโอ1 - ในหลวงรัชากาลที่ 9 ไม่เคยมีรับสั่งเกี่ยวกับความพอเพียงว่า "ห้ามรวย"
    "บางอย่างอาจจะดูฟุ่มเฟือย แต่ก็ทำให้มีความสุข ถ้าทำได้ ก็สมควรที่จะทำ สมควรที่จะปฏิบัติ อันนี้ก็อีกความหมายของเศรษฐกิจ หรือระบบ "พอเพียง"

    "พอเพียง" นี้อาจจะมีมาก อาจจะมีของหรูหราก็ได้ แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น"

    วิดีโอ2 - ความยาวเต็ม 15 นาที
    2/ กิตติ เชี่ยววงศ์กุล หรือ "เกลือ" โดนทัวร์ลง หลังจากโพสต์เตือนสติ เห็นความสำคัญของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงหรือยัง หลังช่วงนี้มีข่าวโด่งดัง ปมดาราใช้เงินเกินตัว และกำลังดำเนินการฟ้องกลุ่มคนที่แสดงความเห็นรุนแรงจนเกินรับได้ วันนี้เลยขอโพสต์เกี่ยวกับพระราชดำรัสในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่อง "พอเพียง" เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 4 ธันวาคม 2541 วิดีโอ1 - ในหลวงรัชากาลที่ 9 ไม่เคยมีรับสั่งเกี่ยวกับความพอเพียงว่า "ห้ามรวย" "บางอย่างอาจจะดูฟุ่มเฟือย แต่ก็ทำให้มีความสุข ถ้าทำได้ ก็สมควรที่จะทำ สมควรที่จะปฏิบัติ อันนี้ก็อีกความหมายของเศรษฐกิจ หรือระบบ "พอเพียง" "พอเพียง" นี้อาจจะมีมาก อาจจะมีของหรูหราก็ได้ แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น" วิดีโอ2 - ความยาวเต็ม 15 นาที
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 22 0 รีวิว
  • 1/
    กิตติ เชี่ยววงศ์กุล หรือ "เกลือ" โดนทัวร์ลง หลังจากโพสต์เตือนสติ เห็นความสำคัญของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงหรือยัง หลังช่วงนี้มีข่าวโด่งดัง ปมดาราใช้เงินเกินตัว และกำลังดำเนินการฟ้องกลุ่มคนที่แสดงความเห็นรุนแรงจนเกินรับได้

    วันนี้เลยขอโพสต์เกี่ยวกับพระราชดำรัสในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่อง "พอเพียง" เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 4 ธันวาคม 2541

    วิดีโอ1 - ในหลวงรัชากาลที่ 9 ไม่เคยมีรับสั่งเกี่ยวกับความพอเพียงว่า "ห้ามรวย"
    "บางอย่างอาจจะดูฟุ่มเฟือย แต่ก็ทำให้มีความสุข ถ้าทำได้ ก็สมควรที่จะทำ สมควรที่จะปฏิบัติ อันนี้ก็อีกความหมายของเศรษฐกิจ หรือระบบ "พอเพียง"
    "พอเพียง" นี้อาจจะมีมาก อาจจะมีของหรูหราก็ได้ แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น"

    วิดีโอ2 - ความยาวเต็ม 15 นาที
    1/ กิตติ เชี่ยววงศ์กุล หรือ "เกลือ" โดนทัวร์ลง หลังจากโพสต์เตือนสติ เห็นความสำคัญของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงหรือยัง หลังช่วงนี้มีข่าวโด่งดัง ปมดาราใช้เงินเกินตัว และกำลังดำเนินการฟ้องกลุ่มคนที่แสดงความเห็นรุนแรงจนเกินรับได้ วันนี้เลยขอโพสต์เกี่ยวกับพระราชดำรัสในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่อง "พอเพียง" เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 4 ธันวาคม 2541 วิดีโอ1 - ในหลวงรัชากาลที่ 9 ไม่เคยมีรับสั่งเกี่ยวกับความพอเพียงว่า "ห้ามรวย" "บางอย่างอาจจะดูฟุ่มเฟือย แต่ก็ทำให้มีความสุข ถ้าทำได้ ก็สมควรที่จะทำ สมควรที่จะปฏิบัติ อันนี้ก็อีกความหมายของเศรษฐกิจ หรือระบบ "พอเพียง" "พอเพียง" นี้อาจจะมีมาก อาจจะมีของหรูหราก็ได้ แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น" วิดีโอ2 - ความยาวเต็ม 15 นาที
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • และแล้วเราก็คุยกันมาถึงภาพสุดท้ายของสิบสองภาพวาดกงซวิ่นถู (宫训图) ที่ในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฮ่องเต้เฉียนหลงได้ทรงพระราชทานให้บรรดาพระภรรยาแห่งสิบสองตำหนัก โดยเป็นภาพที่เล่าเรื่องราวของพระภรรยาในประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกไว้ซึ่งคุณงามความดี

    ภาพที่จะกล่าวถึงในวันนี้เป็นภาพที่ถูกพระราชทานไปยังพระตำหนักจิ่งเหรินกง ดูจากไทม์ไลน์แล้วน่าจะเป็นที่ประทับของฉุนเฟย แต่ในเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฉุนเฟยประทับที่พระตำหนักจงชุ่ยกง ภาพนี้มีชื่อว่า ‘เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน’ (燕姞梦兰图) หน้าตาแท้จริงเป็นอย่างไรไม่ทราบได้ เพราะว่าสูญหายไปแล้ว ภาพที่แปะมาให้ดูเป็นภาพวาดโดยจิตรกรญี่ปุ่น

    เรื่องราวของภาพคือเรื่องของเยี่ยนจี๋ อนุภรรยาของเจิ้งเหวินกง เจ้าผู้ปกครองแคว้นเจิ้งในยุคสมัยชุนชิว (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์ในบทความ) นางฝันว่ามีเทพธิดานำดอกหลันฮวามามอบให้และบอกว่าดอกไม้นี้จะทำให้นางได้รับความรักจากเจิ้งเหวินกงและจะได้บุตรที่โดดเด่นมาเป็นผู้สืบทอดแผ่นดินต่อไป และวลี ‘เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน’ ต่อมาถูกใช้เปรียบเปรยถึงความรักที่ออกดอกออกผลเป็นลูกหลาน และสะท้อนความนัยว่า ฝันที่ดีนำมาซึ่งเรื่องราวดีๆ และภาพนี้ถูกตีความว่า หมายถึงการทำสิ่งที่ฝันให้เป็นจริง

    เรื่องนี้คุ้นหูกันบ้างไหม? Storyฯ เคยเล่าถึงเรื่องนี้แล้วตอนที่คุยถึงวลี ‘หลันอินซวี่กั่ว’ ลองกลับไปอ่านดูกันนะคะ (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/731814662280162)

    ป้ายที่พระราชทานคู่กับภาพนี้คือ ‘จ้านเต๋อกงเหวย’ (赞德宫闱) แปลได้ประมาณว่า ศีลธรรมดีงามได้รับการยกย่องไปทั่วพระราชฐานนางใน

    จบแล้วกับสิบสองภาพวาด Storyฯ นำมาเรียบเรียงอีกครั้ง โดยเรียงลำดับจากพระตำหนักที่อยู่ใกล้พระที่นั่งหยั่งซินเตี้ยน (ที่ประทับฮ่องเต้) ตามนี้ค่ะ

    1. ตำหนักฉี่เสียงกง หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ไท่จี๋เตี้ยน (Hall of Supreme Principle) ภาพ ‘เจียงโฮ่วทัวจาน’ (姜后脱簪 / มเหสีเจียงปลดปิ่น) ความหมายคือคล้อยตามสามี ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/791887496272878)
    2. ตำหนักฉางชุนกง (Palace of Eternal Spring) ภาพ ‘ไท่ซึฮุ่ยจื่อ’ (太姒诲子/ไท่ซึสอนบุตร) ความหมายคือ สั่งสอนบุตร ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/746257530835875)
    3. ตำหนักหย่งโซ่วกง (Palace of Eternal Longevity) ภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ (班姬辞辇图 / ปันจีผู้งามมารยาท) ความหมายคือ รู้มารยาทและพิธีการ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/750792533715708)
    4. ตำหนักอี้คุนกง (Palace of Earthly Honor) ภาพ ‘จาวหรงผิงซือ’ (昭容评诗图 / จาวหรงตัดสินบทกวี) ความหมายคือ การศึกษา ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/764297899031838)
    5. ตำหนักเสียนฝูกง (Palace of Universal Happiness) ภาพ ‘เจี๋ยอวี๋ตั่งสยง’ (婕妤当熊图 / เจี๋ยอวี๋ขวางหมี) ความหมายคือ กล้าหาญ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/768864935241801)
    6. ตำหนักฉู่ซิ่วกง (Palace of Gathered Elegance) ภาพ ‘ซีหลิงเจียวฉาน’ (西陵教蚕图 /ซีหลิงสอนเลี้ยงไหม) ความหมายคือ นวัตกรรม ภาพจริงสูญหายไปแล้ว(https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/754042176724077)
    7. ตำหนักจิ่งเหรินกง (Palace of Great Benevolence) ภาพ ‘เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน’ (燕姞梦兰 / เยี่ยนจี๋ฝันถึงหลันฮวา) ความหมายคือ วิสัยทัศน์ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว ก็คือบทความที่เล่าถึงข้างต้นในวันนี้
    8. ตำหนักเฉินเฉียนกง (Palace of Celestial Favor) ภาพ ‘สวีเฟยจื๋อเจี้ยน’ (徐妃直谏 / สวีเฟยวิพากษ์) ความหมายคือ จงรักภักดีตรงไปตรงมา ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/759313216196973)
    9. ตำหนักจงชุ่ยกง (Palace of Accumulated Purity) ภาพ ‘สวี่โฮ่วเฟิ่งอ้าน’ (许后奉案/ สวี่ฮองเฮาถวายพระกระยาหาร) ความหมายคือ เคารพผู้อาวุโส ภาพจริงเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กู้พระราชวังต้องห้าม (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/773395164788778)
    10. ตำหนักจิ่งหยางกง (Palace of Great Brilliance) ภาพ ‘หม่าโฮ่วเลี่ยนอี’ (马后练衣图 / หม่าฮองเฮาสวมผ้า) ความหมายคือ มัธยัสถ์ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://web.facebook.com/StoryfromStory/posts/797174585744169)
    11. ตำหนักหย่งเหอกง (Palace of Eternal Harmony) ภาพ ‘ฝานจีเจี้ยนเลี่ย’ (樊姬谏猎 / ฝานจีเตือนสติให้หยุดล่าสัตว์) ความหมายคือเตือนสติ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/786677160127245)
    12. ตำหนักเหยียนสี่กง (Palace of Prolonging Happiness) ภาพ ‘เฉาโฮ่วจ้งหนง’ (曹后重农图 / เฉาฮองเฮาให้ความสำคัญกับการเกษตร) ความหมายคือ ขยันขันแข็ง ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/777707414357553)

    สรุปว่าในบรรดาสิบสองภาพวาดนี้ เหลือของจริงอยู่เพียงภาพเดียวคือ ‘สวี่โฮ่วเฟิ่งอ้าน’ ภาพจริงเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กู้กง Storyฯ อาจเล่าสะเปะสะปะไปหน่อยและใช้เวลาเล่านานกว่าจะจบครบสิบสองภาพ หวังว่าเรื่องราวในภาพวาดกงซวิ่นถูจะเป็นที่เพลิดเพลินของเพื่อนเพจไม่มากก็น้อย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)
    (ป.ล. 2 ชื่อพระตำหนัก Storyฯ แปลเป็นไทยแล้วรู้สึกว่าจั๊กจี้ เลยเอาเป็นคำแปลภาษาอังกฤษมาฝากแทน)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.baike.com/wikiid/2576687878101900972?view_id=y3t51nqv02o00
    Metropolitan Museum of Arts
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.163.com/dy/article/G0GD3GUH0537ML11.html
    https://www.xiumu.cn/ts/2018/0824/4278239.html
    https://www.travelchinaguide.com/attraction/beijing/forbidden/six_eastern.htm
    https://www.travelchinaguide.com/attraction/beijing/forbidden/six_western.htm

    #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #เยี่ยนจี๋ #เจิ้งเหวินกง #เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน #หลันอินซวี่กั่ว #กงซวิ่นถู #เฉียนหลงสิบสองภาพวาด
    และแล้วเราก็คุยกันมาถึงภาพสุดท้ายของสิบสองภาพวาดกงซวิ่นถู (宫训图) ที่ในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฮ่องเต้เฉียนหลงได้ทรงพระราชทานให้บรรดาพระภรรยาแห่งสิบสองตำหนัก โดยเป็นภาพที่เล่าเรื่องราวของพระภรรยาในประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกไว้ซึ่งคุณงามความดี ภาพที่จะกล่าวถึงในวันนี้เป็นภาพที่ถูกพระราชทานไปยังพระตำหนักจิ่งเหรินกง ดูจากไทม์ไลน์แล้วน่าจะเป็นที่ประทับของฉุนเฟย แต่ในเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฉุนเฟยประทับที่พระตำหนักจงชุ่ยกง ภาพนี้มีชื่อว่า ‘เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน’ (燕姞梦兰图) หน้าตาแท้จริงเป็นอย่างไรไม่ทราบได้ เพราะว่าสูญหายไปแล้ว ภาพที่แปะมาให้ดูเป็นภาพวาดโดยจิตรกรญี่ปุ่น เรื่องราวของภาพคือเรื่องของเยี่ยนจี๋ อนุภรรยาของเจิ้งเหวินกง เจ้าผู้ปกครองแคว้นเจิ้งในยุคสมัยชุนชิว (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์ในบทความ) นางฝันว่ามีเทพธิดานำดอกหลันฮวามามอบให้และบอกว่าดอกไม้นี้จะทำให้นางได้รับความรักจากเจิ้งเหวินกงและจะได้บุตรที่โดดเด่นมาเป็นผู้สืบทอดแผ่นดินต่อไป และวลี ‘เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน’ ต่อมาถูกใช้เปรียบเปรยถึงความรักที่ออกดอกออกผลเป็นลูกหลาน และสะท้อนความนัยว่า ฝันที่ดีนำมาซึ่งเรื่องราวดีๆ และภาพนี้ถูกตีความว่า หมายถึงการทำสิ่งที่ฝันให้เป็นจริง เรื่องนี้คุ้นหูกันบ้างไหม? Storyฯ เคยเล่าถึงเรื่องนี้แล้วตอนที่คุยถึงวลี ‘หลันอินซวี่กั่ว’ ลองกลับไปอ่านดูกันนะคะ (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/731814662280162) ป้ายที่พระราชทานคู่กับภาพนี้คือ ‘จ้านเต๋อกงเหวย’ (赞德宫闱) แปลได้ประมาณว่า ศีลธรรมดีงามได้รับการยกย่องไปทั่วพระราชฐานนางใน จบแล้วกับสิบสองภาพวาด Storyฯ นำมาเรียบเรียงอีกครั้ง โดยเรียงลำดับจากพระตำหนักที่อยู่ใกล้พระที่นั่งหยั่งซินเตี้ยน (ที่ประทับฮ่องเต้) ตามนี้ค่ะ 1. ตำหนักฉี่เสียงกง หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ไท่จี๋เตี้ยน (Hall of Supreme Principle) ภาพ ‘เจียงโฮ่วทัวจาน’ (姜后脱簪 / มเหสีเจียงปลดปิ่น) ความหมายคือคล้อยตามสามี ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/791887496272878) 2. ตำหนักฉางชุนกง (Palace of Eternal Spring) ภาพ ‘ไท่ซึฮุ่ยจื่อ’ (太姒诲子/ไท่ซึสอนบุตร) ความหมายคือ สั่งสอนบุตร ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/746257530835875) 3. ตำหนักหย่งโซ่วกง (Palace of Eternal Longevity) ภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ (班姬辞辇图 / ปันจีผู้งามมารยาท) ความหมายคือ รู้มารยาทและพิธีการ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/750792533715708) 4. ตำหนักอี้คุนกง (Palace of Earthly Honor) ภาพ ‘จาวหรงผิงซือ’ (昭容评诗图 / จาวหรงตัดสินบทกวี) ความหมายคือ การศึกษา ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/764297899031838) 5. ตำหนักเสียนฝูกง (Palace of Universal Happiness) ภาพ ‘เจี๋ยอวี๋ตั่งสยง’ (婕妤当熊图 / เจี๋ยอวี๋ขวางหมี) ความหมายคือ กล้าหาญ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/768864935241801) 6. ตำหนักฉู่ซิ่วกง (Palace of Gathered Elegance) ภาพ ‘ซีหลิงเจียวฉาน’ (西陵教蚕图 /ซีหลิงสอนเลี้ยงไหม) ความหมายคือ นวัตกรรม ภาพจริงสูญหายไปแล้ว(https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/754042176724077) 7. ตำหนักจิ่งเหรินกง (Palace of Great Benevolence) ภาพ ‘เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน’ (燕姞梦兰 / เยี่ยนจี๋ฝันถึงหลันฮวา) ความหมายคือ วิสัยทัศน์ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว ก็คือบทความที่เล่าถึงข้างต้นในวันนี้ 8. ตำหนักเฉินเฉียนกง (Palace of Celestial Favor) ภาพ ‘สวีเฟยจื๋อเจี้ยน’ (徐妃直谏 / สวีเฟยวิพากษ์) ความหมายคือ จงรักภักดีตรงไปตรงมา ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/759313216196973) 9. ตำหนักจงชุ่ยกง (Palace of Accumulated Purity) ภาพ ‘สวี่โฮ่วเฟิ่งอ้าน’ (许后奉案/ สวี่ฮองเฮาถวายพระกระยาหาร) ความหมายคือ เคารพผู้อาวุโส ภาพจริงเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กู้พระราชวังต้องห้าม (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/773395164788778) 10. ตำหนักจิ่งหยางกง (Palace of Great Brilliance) ภาพ ‘หม่าโฮ่วเลี่ยนอี’ (马后练衣图 / หม่าฮองเฮาสวมผ้า) ความหมายคือ มัธยัสถ์ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://web.facebook.com/StoryfromStory/posts/797174585744169) 11. ตำหนักหย่งเหอกง (Palace of Eternal Harmony) ภาพ ‘ฝานจีเจี้ยนเลี่ย’ (樊姬谏猎 / ฝานจีเตือนสติให้หยุดล่าสัตว์) ความหมายคือเตือนสติ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/786677160127245) 12. ตำหนักเหยียนสี่กง (Palace of Prolonging Happiness) ภาพ ‘เฉาโฮ่วจ้งหนง’ (曹后重农图 / เฉาฮองเฮาให้ความสำคัญกับการเกษตร) ความหมายคือ ขยันขันแข็ง ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/777707414357553) สรุปว่าในบรรดาสิบสองภาพวาดนี้ เหลือของจริงอยู่เพียงภาพเดียวคือ ‘สวี่โฮ่วเฟิ่งอ้าน’ ภาพจริงเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กู้กง Storyฯ อาจเล่าสะเปะสะปะไปหน่อยและใช้เวลาเล่านานกว่าจะจบครบสิบสองภาพ หวังว่าเรื่องราวในภาพวาดกงซวิ่นถูจะเป็นที่เพลิดเพลินของเพื่อนเพจไม่มากก็น้อย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) (ป.ล. 2 ชื่อพระตำหนัก Storyฯ แปลเป็นไทยแล้วรู้สึกว่าจั๊กจี้ เลยเอาเป็นคำแปลภาษาอังกฤษมาฝากแทน) Credit รูปภาพจาก: https://www.baike.com/wikiid/2576687878101900972?view_id=y3t51nqv02o00 Metropolitan Museum of Arts Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.163.com/dy/article/G0GD3GUH0537ML11.html https://www.xiumu.cn/ts/2018/0824/4278239.html https://www.travelchinaguide.com/attraction/beijing/forbidden/six_eastern.htm https://www.travelchinaguide.com/attraction/beijing/forbidden/six_western.htm #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #เยี่ยนจี๋ #เจิ้งเหวินกง #เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน #หลันอินซวี่กั่ว #กงซวิ่นถู #เฉียนหลงสิบสองภาพวาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 524 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้มาคุยต่อกับสิบสองภาพวาดกงซวิ่นถู (宫训图) ที่ในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฮ่องเต้เฉียนหลงได้ทรงพระราชทานให้บรรดาพระภรรยาแห่งสิบสองตำหนัก โดยเป็นภาพที่เล่าเรื่องราวของพระภรรยาในประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกไว้ซึ่งคุณงามความดี

    ภาพที่สิบเอ็ดที่จะคุยกันวันนี้คือภาพ ‘หม่าโฮ่วเลี่ยนอี’ (马后练衣 / หม่าฮองเฮาสวมผ้า) เป็นภาพที่ถูกพระราชทานไปที่ตำหนักจิ่งหยางกง ซึ่งในสมัยราชวงศ์ชิงภายหลังจากการซ่อมแซมปรับปรุงสถานที่โดยองค์คังซีแล้ว ถูกใช้เป็นที่เก็บงานศิลปะ ไม่เคยเป็นที่ประทับของพระสนมหรือมเหสี

    หม่าฮองเฮาที่กล่าวถึงนี้คือ ฮองเฮาหมิงเต๋อ พระมเหสีในองค์หมิงตี้ (ค.ศ. 26-75) แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันออก บิดาของพระนางคือแม่ทัพหม่าหยวน หนึ่งในเรี่ยวแรงสำคัญในการก่อตั้งราชวงศ์ฮั่นตะวันออกในรัชสมัยของกวงอู่ตี้ พระราชบิดาขององค์หมิงตี้

    ไม่ปรากฏนามเดิมของหม่าฮองเฮาในบันทึกประวัติศาสตร์ มีเพียงกล่าวถึงว่า นางเสียบิดาและพี่ชายไปเมื่อยังเยาว์วัยในรัชสมัยของกวงอู่ตี้ มารดาตรอมใจจนป่วยหนัก นางดูแลเรือนตระกูลหม่าแทนแม่ตั้งแต่อายุได้เพียงสิบขวบ (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์ในบทความนี้)

    พ่อของหม่าฮองเฮาถูกใส่ร้ายป้ายสีหลังจากเสียชีวิตกลางสนามรบ ตระกูลของนางตกต่ำ แต่สุดท้ายพี่ชายของนาง (ลูกของน้าชายของนาง) อาศัยผลงานความดีความชอบและความสัมพันธ์ด้านฝ่ายในของตระกูลหม่าที่มีมาหลายชั่วอายุคน ขอให้กวงอู่ตี้รับหนึ่งในลูกสาวสามคนของแม่ทัพหม่าหยวนเข้าวัง สุดท้ายเป็นลูกสาวคนเล็กที่ได้รับเลือกเข้าไปรับใช้ในพระตำหนักขององค์ชายรัชทายาทโดยไม่ได้มีการแต่งตั้งยศศักดิ์อะไร นางปรนนิบัติหลิวจวงอีกทั้งฮองเฮาและเหล่าพระภรรยาอย่างใกล้ชิดจนได้รับความเอ็นดูเป็นอย่างดี

    เมื่อองค์หลิวจวงขึ้นครองราชย์ นางได้รับการแต่งตั้งเป็นกุ้ยเหริน นางไม่มีบุตร แต่เพราะเป็นคนที่นิสัยอ่อนโยนมีการศึกษาดี ไม่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น นางจึงได้รับมอบหมายให้เลี้ยงดูลูกชายจากภรรยาอื่นของฮั่นหมิงตี้คือเด็กชายหลิวต๋า (ต่อมาได้ขึ้นครองราชย์เป็นฮั่นจางตี้) จวบจนสามปีให้หลังจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮาภายใต้การเสนอชื่อของไทเฮา

    เป็นที่กล่าวขานว่านางมีความรู้ความรอบคอบ หลายครั้งที่ฮั่นหมิงตี้ให้นางช่วยดูและให้ความเห็นต่อฎีกา นางก็ได้ให้ข้อเสนอแนะที่ดี จึงเป็นที่ชื่นชมและโปรดปรานของฮั่นหมิงตี้ ต่อมาในรัชสมัยของฮั่นจางตี้ นางยังคงช่วยให้คำปรึกษาที่ดีต่อฮั่นจางตี้ในเรื่องการบริหารบ้านเมือง

    นางขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในฮองเฮาที่วางตัวได้ดีที่สุดในประวัติศาสตร์จีน และไม่เคยใช้อิทธิพลเกื้อหนุนตระกูลหม่า มีตัวอย่างว่า นางได้เสนอให้ลบชื่อพี่ชายของตนออกจากบันทึกคุณงามความดีของข้าราชสำนักเดิมตอนสมัยผัดเปลี่ยนรัชสมัยมาเป็นฮั่นจางตี้ อีกทั้งคัดค้านไม่ให้คนในตระกูลหม่ารับอิสริยยศ โดยให้เหตุผลต่อฮั่นจางตี้ว่า ไม่ต้องการให้ชนรุ่นหลังมองว่าเหล่าขุนนางสูงศักดิ์ที่ล้อมรอบฮั่นจางตี้ล้วนเป็นคนที่เกี่ยวดองกันในวังหลัง นางเตือนสติฮั่นจางตี้ว่า การให้อิสริยยศกับคนต่างสกุลต้องทำด้วยความรอบคอบ ผลงานของเหล่าข้าราชสำนักล้วนเป็นหน้าที่ที่พึงปฏิบัติ ไม่ควรนำมาเป็นเหตุผลให้มีอภิสิทธิ์เหนือผู้อื่น

    เพราะนาง คนในตระกูลหม่าปฏิเสธที่จะรับยศโหว แม้ที่ได้รับการแต่งตั้งก็ปฏิเสธไม่รับพื้นที่การปกครอง และสุดท้ายก็ลาออกจากตำแหน่งในที่สุด

    หม่าฮองเฮาริเริ่มให้มีการจัดทำบันทึกที่เรียกว่า ‘ฉี่จวีจู้’ (起居注) ซึ่งจริงๆ ก็คือไดอารี่บันทึกกิจวัตรประจำวันของฮ่องเต้ ซึ่งต่อมากลายเป็นต้นแบบหนึ่งของวิธีบันทึกประวัติศาสตร์ในวัง และเป็นเอกสารสำคัญให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษา นางจึงถูกยกย่องให้เป็นนักประวัติศาสตร์หญิงคนแรกของจีน

    นอกจากนี้นางยังขึ้นชื่อว่าเป็นคนประหยัด ในบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์ฮั่นเขียนไว้ว่า เสื้อผ้าของนางล้วนตัดเย็บจากผ้าเนื้อหยาบต้มจนนิ่ม กระโปรงไม่เย็บแถบชาย เป็นการแต่งกายที่ไม่แตกต่างจากชาวบ้านธรรมดา เมื่อสนมนางในถาม นางให้เหตุผลว่าผ้าเนื้อหยาบที่หาได้ง่ายกว่าผ้าไหมและย้อมสีได้ดีกว่า ว่ากันว่า นางคือฮองเฮาคนแรกที่แต่งกายอย่างนี้ และนี่คือเรื่องราวหลังภาพ ‘หม่าโฮ่วเลี่ยนอี’ (หมายเหตุ ‘เลี่ยนอี’ คือการทำเสื้อผ้าจากผ้าเนื้อหยาบ)

    ภาพนี้ถูกตีความว่าหมายถึง มัธยัสถ์ และป้ายอักษรที่ถูกพระราชทานไปคู่กันเขียนว่า ‘โหรวเจียซู่จิ้ง’ (柔嘉肃静) แปลได้ประมาณว่า อ่อนโยนอ่อนหวาน สุขุมเงียบสงบ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/43223996
    https://www.sohu.com/a/279050528_100018792
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/明德皇后/29800
    https://www.gugong.net/wenhua/40018.html
    http://www.qulishi.com/renwu/mingdemahuanghou/
    https://www.163.com/dy/article/G087N9E10541M2R8.html
    https://k.sina.cn/article_6482315882_182604a6a00100loe0.html

    #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #หม่าโฮ่ว #ฮั่นหมิงตี้ #หมิงเต๋อหวงโฮ่ว #กงซวิ่นถู
    วันนี้มาคุยต่อกับสิบสองภาพวาดกงซวิ่นถู (宫训图) ที่ในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฮ่องเต้เฉียนหลงได้ทรงพระราชทานให้บรรดาพระภรรยาแห่งสิบสองตำหนัก โดยเป็นภาพที่เล่าเรื่องราวของพระภรรยาในประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกไว้ซึ่งคุณงามความดี ภาพที่สิบเอ็ดที่จะคุยกันวันนี้คือภาพ ‘หม่าโฮ่วเลี่ยนอี’ (马后练衣 / หม่าฮองเฮาสวมผ้า) เป็นภาพที่ถูกพระราชทานไปที่ตำหนักจิ่งหยางกง ซึ่งในสมัยราชวงศ์ชิงภายหลังจากการซ่อมแซมปรับปรุงสถานที่โดยองค์คังซีแล้ว ถูกใช้เป็นที่เก็บงานศิลปะ ไม่เคยเป็นที่ประทับของพระสนมหรือมเหสี หม่าฮองเฮาที่กล่าวถึงนี้คือ ฮองเฮาหมิงเต๋อ พระมเหสีในองค์หมิงตี้ (ค.ศ. 26-75) แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันออก บิดาของพระนางคือแม่ทัพหม่าหยวน หนึ่งในเรี่ยวแรงสำคัญในการก่อตั้งราชวงศ์ฮั่นตะวันออกในรัชสมัยของกวงอู่ตี้ พระราชบิดาขององค์หมิงตี้ ไม่ปรากฏนามเดิมของหม่าฮองเฮาในบันทึกประวัติศาสตร์ มีเพียงกล่าวถึงว่า นางเสียบิดาและพี่ชายไปเมื่อยังเยาว์วัยในรัชสมัยของกวงอู่ตี้ มารดาตรอมใจจนป่วยหนัก นางดูแลเรือนตระกูลหม่าแทนแม่ตั้งแต่อายุได้เพียงสิบขวบ (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์ในบทความนี้) พ่อของหม่าฮองเฮาถูกใส่ร้ายป้ายสีหลังจากเสียชีวิตกลางสนามรบ ตระกูลของนางตกต่ำ แต่สุดท้ายพี่ชายของนาง (ลูกของน้าชายของนาง) อาศัยผลงานความดีความชอบและความสัมพันธ์ด้านฝ่ายในของตระกูลหม่าที่มีมาหลายชั่วอายุคน ขอให้กวงอู่ตี้รับหนึ่งในลูกสาวสามคนของแม่ทัพหม่าหยวนเข้าวัง สุดท้ายเป็นลูกสาวคนเล็กที่ได้รับเลือกเข้าไปรับใช้ในพระตำหนักขององค์ชายรัชทายาทโดยไม่ได้มีการแต่งตั้งยศศักดิ์อะไร นางปรนนิบัติหลิวจวงอีกทั้งฮองเฮาและเหล่าพระภรรยาอย่างใกล้ชิดจนได้รับความเอ็นดูเป็นอย่างดี เมื่อองค์หลิวจวงขึ้นครองราชย์ นางได้รับการแต่งตั้งเป็นกุ้ยเหริน นางไม่มีบุตร แต่เพราะเป็นคนที่นิสัยอ่อนโยนมีการศึกษาดี ไม่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น นางจึงได้รับมอบหมายให้เลี้ยงดูลูกชายจากภรรยาอื่นของฮั่นหมิงตี้คือเด็กชายหลิวต๋า (ต่อมาได้ขึ้นครองราชย์เป็นฮั่นจางตี้) จวบจนสามปีให้หลังจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮาภายใต้การเสนอชื่อของไทเฮา เป็นที่กล่าวขานว่านางมีความรู้ความรอบคอบ หลายครั้งที่ฮั่นหมิงตี้ให้นางช่วยดูและให้ความเห็นต่อฎีกา นางก็ได้ให้ข้อเสนอแนะที่ดี จึงเป็นที่ชื่นชมและโปรดปรานของฮั่นหมิงตี้ ต่อมาในรัชสมัยของฮั่นจางตี้ นางยังคงช่วยให้คำปรึกษาที่ดีต่อฮั่นจางตี้ในเรื่องการบริหารบ้านเมือง นางขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในฮองเฮาที่วางตัวได้ดีที่สุดในประวัติศาสตร์จีน และไม่เคยใช้อิทธิพลเกื้อหนุนตระกูลหม่า มีตัวอย่างว่า นางได้เสนอให้ลบชื่อพี่ชายของตนออกจากบันทึกคุณงามความดีของข้าราชสำนักเดิมตอนสมัยผัดเปลี่ยนรัชสมัยมาเป็นฮั่นจางตี้ อีกทั้งคัดค้านไม่ให้คนในตระกูลหม่ารับอิสริยยศ โดยให้เหตุผลต่อฮั่นจางตี้ว่า ไม่ต้องการให้ชนรุ่นหลังมองว่าเหล่าขุนนางสูงศักดิ์ที่ล้อมรอบฮั่นจางตี้ล้วนเป็นคนที่เกี่ยวดองกันในวังหลัง นางเตือนสติฮั่นจางตี้ว่า การให้อิสริยยศกับคนต่างสกุลต้องทำด้วยความรอบคอบ ผลงานของเหล่าข้าราชสำนักล้วนเป็นหน้าที่ที่พึงปฏิบัติ ไม่ควรนำมาเป็นเหตุผลให้มีอภิสิทธิ์เหนือผู้อื่น เพราะนาง คนในตระกูลหม่าปฏิเสธที่จะรับยศโหว แม้ที่ได้รับการแต่งตั้งก็ปฏิเสธไม่รับพื้นที่การปกครอง และสุดท้ายก็ลาออกจากตำแหน่งในที่สุด หม่าฮองเฮาริเริ่มให้มีการจัดทำบันทึกที่เรียกว่า ‘ฉี่จวีจู้’ (起居注) ซึ่งจริงๆ ก็คือไดอารี่บันทึกกิจวัตรประจำวันของฮ่องเต้ ซึ่งต่อมากลายเป็นต้นแบบหนึ่งของวิธีบันทึกประวัติศาสตร์ในวัง และเป็นเอกสารสำคัญให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษา นางจึงถูกยกย่องให้เป็นนักประวัติศาสตร์หญิงคนแรกของจีน นอกจากนี้นางยังขึ้นชื่อว่าเป็นคนประหยัด ในบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์ฮั่นเขียนไว้ว่า เสื้อผ้าของนางล้วนตัดเย็บจากผ้าเนื้อหยาบต้มจนนิ่ม กระโปรงไม่เย็บแถบชาย เป็นการแต่งกายที่ไม่แตกต่างจากชาวบ้านธรรมดา เมื่อสนมนางในถาม นางให้เหตุผลว่าผ้าเนื้อหยาบที่หาได้ง่ายกว่าผ้าไหมและย้อมสีได้ดีกว่า ว่ากันว่า นางคือฮองเฮาคนแรกที่แต่งกายอย่างนี้ และนี่คือเรื่องราวหลังภาพ ‘หม่าโฮ่วเลี่ยนอี’ (หมายเหตุ ‘เลี่ยนอี’ คือการทำเสื้อผ้าจากผ้าเนื้อหยาบ) ภาพนี้ถูกตีความว่าหมายถึง มัธยัสถ์ และป้ายอักษรที่ถูกพระราชทานไปคู่กันเขียนว่า ‘โหรวเจียซู่จิ้ง’ (柔嘉肃静) แปลได้ประมาณว่า อ่อนโยนอ่อนหวาน สุขุมเงียบสงบ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://zhuanlan.zhihu.com/p/43223996 https://www.sohu.com/a/279050528_100018792 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/明德皇后/29800 https://www.gugong.net/wenhua/40018.html http://www.qulishi.com/renwu/mingdemahuanghou/ https://www.163.com/dy/article/G087N9E10541M2R8.html https://k.sina.cn/article_6482315882_182604a6a00100loe0.html #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #หม่าโฮ่ว #ฮั่นหมิงตี้ #หมิงเต๋อหวงโฮ่ว #กงซวิ่นถู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 443 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลับมาคุยกันต่อถึงภาพที่ 9 ของ 12 กงซวิ่นถู (宫训图) ที่ในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฮ่องเต้เฉียนหลงได้ทรงพระราชทานให้บรรดาพระภรรยาแห่งสิบสองตำหนัก โดยเป็นภาพที่เล่าเรื่องราวของพระภรรยาในประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกไว้ซึ่งคุณงามความดี

    ภาพที่เราจะคุยกันในวันนี้มีชื่อว่า ‘ฝานจีเจี้ยนเลี่ย’ (樊姬谏猎 / ฝานจีเตือนสติให้หยุดล่าสัตว์) ถูกพระราชทานไปที่พระตำหนักหย่งเหอกง ภาพจริงหน้าตาอย่างไร Storyฯ หาไม่พบเพราะมันสูญหายไปแล้ว ภาพที่นำมาให้ดูเป็นภาพเรื่องราวเดียวกัน แต่มีชื่อเรียกว่า ‘ฝานจีก่านจวง’ (ฝานจีดลใจจวงหวาง) ซึ่งเป็นตอนหนึ่งของภาพม้วนยาว ‘หนีว์สื่อเจิน’ (女史箴图 / ข้าราชสำนักหญิงเตือนสติ) ผลงานของกู้ข่ายจือ ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงฉบับคัดลอกที่มี 9 ตอนจากเดิม 12 ตอน

    Storyฯ เคยกล่าวถึงภาพ ‘หนีว์สื่อเจิน’ นี้มาบ้างแล้วในบทความก่อนๆ เกี่ยวกับกงซวิ่นถู แต่ไม่ได้เล่าว่า ภาพทั้ง 12 ตอนของ ‘หนีว์สื่อเจิน’ นี้วาดขึ้นตามเนื้อหาจากบันทึก ‘เลี่ยหนี่ว์จ้วน’ (列女传 / บันทึกเรื่องราวสตรีตัวอย่าง) ที่จัดทำขึ้นในสมัยฮั่นตะวันตกโดยหลี่เซี่ยง แบ่งเป็น 7 หมวดรวมเหตุการณ์ที่ถูกยกมาเป็นตัวอย่างของจรรยาที่สตรีพึงมี จัดเป็นงานวรรณกรรมจำพวก ‘เหวินเหยียนเหวิน’ หรืองานวรรณกรรมภาษาโบราณ ปัจจุบันเป็นเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ทำให้ชนรุ่นหลังเข้าใจมากขึ้นถึงมุมมองของสังคมในสมัยนั้น

    ‘ฝานจี’ ที่กล่าวถึงในภาพ ‘ฝานจีเจี้ยนเลี่ย’ นี้ก็เป็นพระธิดาของกษัตริย์ผู้ครองแคว้นฝานและเป็นพระภรรยาของฉู่จวงหวาง (จวงอ๋อง) กษัตริย์แห่งแคว้นฉู่ในสมัยชุนชิว (ประมาณ 613-691 ปีก่อนคริสตกาล) จวงหวางแห่งแคว้นฉู่นี้ต่อมาถูกยกย่องเป็นหนึ่งในห้าของผู้ครองแคว้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคสมัยชุนชิว หรือที่เรียกว่า ‘ชุนชิวอู่ป้า’ (霸 /ป้า แปลได้ประมาณว่า เจ้าผู้ครองโลก)

    หลี่เซี่ยงเคยเขียนถึงจวงหวางไว้ว่า “ความยิ่งใหญ่ของฉู่จวงหวาง คือผลงานของฝานจี”

    ฝานจีไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไรที่จะช่วยจวงหวางยึดครองอาณาจักร ที่นางได้รับการยกย่องอย่างนี้เป็นเพราะนางคอยเตือนสติให้จวงหวางใส่ใจการบริหารบ้านเมือง ไม่หลงไหลเคลิบเคลิ้มไปกับเรื่องใดหรือใครจนทำให้ละเลยการบริหารบ้านเมือง แม้แต่สนมนางในฝานจีก็เป็นคนคัดเลือกเอง เพราะต้องการให้คนใกล้ชิดจวงหวางล้วนเป็นคนที่มีจรรยาและวางตัวได้ดี ไม่ยั่วยวนฉู่จวงหวางให้ลุ่มหลงมัวเมา (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์ในบทความนี้)

    มีหลายเหตุการณ์เกี่ยวกับการเตือนสติของฝานจีได้รับการบันทึกไว้และเล่ากันต่อมา แต่ ‘ผลงานสำคัญ’ เป็นเรื่องเกี่ยวกับอัครมหาเสนาบดีอวี๋ชิวจื่อ เขาเป็นขุนนางที่มีฝีมือและจงรักภักดี เป็นที่เคารพยกย่องและมีอิทธิพลมากในราชสำนัก... ว่ากันว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งจวงหวางโปรดปรานอวี๋ชิวจื่อมากจนเสวนาด้วยจนดึกดื่นทุกวัน อยู่มาวันหนึ่งฝานจีเห็นจวงหวางกลับดึกมากจึงถามไถ่สาเหตุ จวงหวางตอบว่าอวี๋ซิวจื่อคนนี้มิเพียงฉลาดปราดเปรื่อง หากยังจงรักภักดี จึงชอบเสวนาด้วย แต่ฝานจีกลับหัวเราะขบขันแล้วยกตัวอย่างว่า ตัวนางเองก็เป็นที่โปรดปรานของจวงหวาง แต่ยังไม่คิดจะเหนี่ยวรั้งจวงหวางไว้กับตนเพียงผู้เดียว หากแต่ยังช่วยสรรหาหญิงที่งามพร้อมจรรยามาช่วยดูแลปรนนิบัติ อวี๋ซิวจื่อผู้นี้แม้ฉลาดปราดเปรื่อง แต่สิบปีที่ผ่านมาไม่เปิดโอกาสให้คนดีมีฝีมือนอกแวดวงของเขาเข้ามารับราชการ เสนอชื่อแต่เพียงคนใกล้ชิดและลูกศิษย์ให้เจริญก้าวหน้าไม่ลงโทษหนักแม้ทำผิด จะเรียกว่าจงรักภักดีทำเพื่อคุณประโยชน์ของประเทศได้อย่างไร?

    เป็นเรื่องเล่าต่อมาอีกว่า วันรุ่งขึ้นจวงหวางเล่าให้อวี๋ซิวจื่อฟังถึงคำพูดของฝานจี อวี๋ซิวจื่อได้ยินก็ฉุกใจคิดคล้อยตาม รู้สึกละอายใจจนเก็บตัวเงียบหลายวัน หลังจากนั้นเขาสรรหาและคัดเลือกคนดีมีฝีมือใหม่ๆ เข้าราชสำนัก สุดท้ายค้นพบและเสนอชื่อซุนซูเอ้าให้มารับหน้าที่อัครมหาเสนาบดีแทนตน จากนั้นก็ขอเกษียณจากราชการ

    เหตุการณ์นี้อาจเรียกได้ว่าเป็นจุดสำคัญของการเปลี่ยนโฉมแคว้นฉู่ ซุนซูเอ้าผู้นี้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นหนึ่งในนักการเมืองและอัครมหาเสนาบดีที่เก่งกาจที่สุดในยุคสมัยนั้น เขาวางตนสมถะ ชี้นำให้จวงหวางยึดถือความสุขของประชาชนเป็นที่ตั้ง ให้คำปรึกษาที่ดีทั้งด้านเศรษฐกิจการเมืองและการทหาร กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้แคว้นฉู่เจริญยิ่งใหญ่จนกลายเป็นหนึ่งในห้าแคว้นที่เข้มแข็งที่สุดในสมัยนั้น

    จึงเป็นที่มาของวลีที่ว่า “ความยิ่งใหญ่ของฉู่จวงหวาง คือผลงานของฝานจี”

    เหตุการณ์ที่เล่าถึงในภาพกงซวิ่นถูนี้ เป็นการกล่าวถึงสมัยที่ฉู่จวงหวางขึ้นครองราชย์แคว้นฉู่ใหม่ๆ หลงรักการล่าสัตว์จนละเลยกิจการบ้านเมือง ฝานจีทั้งเตือนทั้งหว่านล้อมให้รามือหันมาดูแลบ้านเมืองเท่าไหร่ก็ไม่ใส่ใจ สุดท้ายนางจึงงดกินเนื้อสัตว์เป็นการประท้วงจนจวงหวางได้คิด เลิกเห็นการล่าสัตว์เป็นเรื่องบันเทิงและหันกลับมาให้เวลากับการบริหารบ้านเมือง

    ส่วนป้ายที่องค์เฉียนหลงพระราชทานไปคู่กับภาพนี้เขียนไว้ว่า ‘อี๋เจาซูเจิ้น’ (仪昭淑慎) แปลได้ประมาณว่า โอบอ้อมอารีมีสติ รักษาไว้ซึ่งจรรยาและพิธีการอันดีงาม Storyฯ เหมือนผ่านตาว่าวรรคนี้มีการพูดถึงและอธิบายไว้ในละครเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> ด้วย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/40578846
    https://kknews.cc/zh-hk/news/m6lqj5g.html#google_vignette
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/列女传/869659
    http://www.guoxue.com/?people=fanji
    https://baike.baidu.com/item/樊姬/10584406
    http://dzrb.dzng.com/articleContent/17_1032125.html
    https://hk.epochtimes.com/news/2018-05-29/28583343
    https://baike.baidu.com/item/孙叔敖/669927

    #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #ฝานจี #ฉู่จวงหวาง #ชุนชิวอู่ป้า #ฝานจีเจี้ยนเลี่ย #หนีว์สื่อเจิน #เลี่ยหนี่ว์จ้วน #หลี่เซี่ยง #กงซวิ่นถู #เฉียนหลงสิบสองภาพวาด
    กลับมาคุยกันต่อถึงภาพที่ 9 ของ 12 กงซวิ่นถู (宫训图) ที่ในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฮ่องเต้เฉียนหลงได้ทรงพระราชทานให้บรรดาพระภรรยาแห่งสิบสองตำหนัก โดยเป็นภาพที่เล่าเรื่องราวของพระภรรยาในประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกไว้ซึ่งคุณงามความดี ภาพที่เราจะคุยกันในวันนี้มีชื่อว่า ‘ฝานจีเจี้ยนเลี่ย’ (樊姬谏猎 / ฝานจีเตือนสติให้หยุดล่าสัตว์) ถูกพระราชทานไปที่พระตำหนักหย่งเหอกง ภาพจริงหน้าตาอย่างไร Storyฯ หาไม่พบเพราะมันสูญหายไปแล้ว ภาพที่นำมาให้ดูเป็นภาพเรื่องราวเดียวกัน แต่มีชื่อเรียกว่า ‘ฝานจีก่านจวง’ (ฝานจีดลใจจวงหวาง) ซึ่งเป็นตอนหนึ่งของภาพม้วนยาว ‘หนีว์สื่อเจิน’ (女史箴图 / ข้าราชสำนักหญิงเตือนสติ) ผลงานของกู้ข่ายจือ ซึ่งปัจจุบันเหลือเพียงฉบับคัดลอกที่มี 9 ตอนจากเดิม 12 ตอน Storyฯ เคยกล่าวถึงภาพ ‘หนีว์สื่อเจิน’ นี้มาบ้างแล้วในบทความก่อนๆ เกี่ยวกับกงซวิ่นถู แต่ไม่ได้เล่าว่า ภาพทั้ง 12 ตอนของ ‘หนีว์สื่อเจิน’ นี้วาดขึ้นตามเนื้อหาจากบันทึก ‘เลี่ยหนี่ว์จ้วน’ (列女传 / บันทึกเรื่องราวสตรีตัวอย่าง) ที่จัดทำขึ้นในสมัยฮั่นตะวันตกโดยหลี่เซี่ยง แบ่งเป็น 7 หมวดรวมเหตุการณ์ที่ถูกยกมาเป็นตัวอย่างของจรรยาที่สตรีพึงมี จัดเป็นงานวรรณกรรมจำพวก ‘เหวินเหยียนเหวิน’ หรืองานวรรณกรรมภาษาโบราณ ปัจจุบันเป็นเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ทำให้ชนรุ่นหลังเข้าใจมากขึ้นถึงมุมมองของสังคมในสมัยนั้น ‘ฝานจี’ ที่กล่าวถึงในภาพ ‘ฝานจีเจี้ยนเลี่ย’ นี้ก็เป็นพระธิดาของกษัตริย์ผู้ครองแคว้นฝานและเป็นพระภรรยาของฉู่จวงหวาง (จวงอ๋อง) กษัตริย์แห่งแคว้นฉู่ในสมัยชุนชิว (ประมาณ 613-691 ปีก่อนคริสตกาล) จวงหวางแห่งแคว้นฉู่นี้ต่อมาถูกยกย่องเป็นหนึ่งในห้าของผู้ครองแคว้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งยุคสมัยชุนชิว หรือที่เรียกว่า ‘ชุนชิวอู่ป้า’ (霸 /ป้า แปลได้ประมาณว่า เจ้าผู้ครองโลก) หลี่เซี่ยงเคยเขียนถึงจวงหวางไว้ว่า “ความยิ่งใหญ่ของฉู่จวงหวาง คือผลงานของฝานจี” ฝานจีไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไรที่จะช่วยจวงหวางยึดครองอาณาจักร ที่นางได้รับการยกย่องอย่างนี้เป็นเพราะนางคอยเตือนสติให้จวงหวางใส่ใจการบริหารบ้านเมือง ไม่หลงไหลเคลิบเคลิ้มไปกับเรื่องใดหรือใครจนทำให้ละเลยการบริหารบ้านเมือง แม้แต่สนมนางในฝานจีก็เป็นคนคัดเลือกเอง เพราะต้องการให้คนใกล้ชิดจวงหวางล้วนเป็นคนที่มีจรรยาและวางตัวได้ดี ไม่ยั่วยวนฉู่จวงหวางให้ลุ่มหลงมัวเมา (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์ในบทความนี้) มีหลายเหตุการณ์เกี่ยวกับการเตือนสติของฝานจีได้รับการบันทึกไว้และเล่ากันต่อมา แต่ ‘ผลงานสำคัญ’ เป็นเรื่องเกี่ยวกับอัครมหาเสนาบดีอวี๋ชิวจื่อ เขาเป็นขุนนางที่มีฝีมือและจงรักภักดี เป็นที่เคารพยกย่องและมีอิทธิพลมากในราชสำนัก... ว่ากันว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งจวงหวางโปรดปรานอวี๋ชิวจื่อมากจนเสวนาด้วยจนดึกดื่นทุกวัน อยู่มาวันหนึ่งฝานจีเห็นจวงหวางกลับดึกมากจึงถามไถ่สาเหตุ จวงหวางตอบว่าอวี๋ซิวจื่อคนนี้มิเพียงฉลาดปราดเปรื่อง หากยังจงรักภักดี จึงชอบเสวนาด้วย แต่ฝานจีกลับหัวเราะขบขันแล้วยกตัวอย่างว่า ตัวนางเองก็เป็นที่โปรดปรานของจวงหวาง แต่ยังไม่คิดจะเหนี่ยวรั้งจวงหวางไว้กับตนเพียงผู้เดียว หากแต่ยังช่วยสรรหาหญิงที่งามพร้อมจรรยามาช่วยดูแลปรนนิบัติ อวี๋ซิวจื่อผู้นี้แม้ฉลาดปราดเปรื่อง แต่สิบปีที่ผ่านมาไม่เปิดโอกาสให้คนดีมีฝีมือนอกแวดวงของเขาเข้ามารับราชการ เสนอชื่อแต่เพียงคนใกล้ชิดและลูกศิษย์ให้เจริญก้าวหน้าไม่ลงโทษหนักแม้ทำผิด จะเรียกว่าจงรักภักดีทำเพื่อคุณประโยชน์ของประเทศได้อย่างไร? เป็นเรื่องเล่าต่อมาอีกว่า วันรุ่งขึ้นจวงหวางเล่าให้อวี๋ซิวจื่อฟังถึงคำพูดของฝานจี อวี๋ซิวจื่อได้ยินก็ฉุกใจคิดคล้อยตาม รู้สึกละอายใจจนเก็บตัวเงียบหลายวัน หลังจากนั้นเขาสรรหาและคัดเลือกคนดีมีฝีมือใหม่ๆ เข้าราชสำนัก สุดท้ายค้นพบและเสนอชื่อซุนซูเอ้าให้มารับหน้าที่อัครมหาเสนาบดีแทนตน จากนั้นก็ขอเกษียณจากราชการ เหตุการณ์นี้อาจเรียกได้ว่าเป็นจุดสำคัญของการเปลี่ยนโฉมแคว้นฉู่ ซุนซูเอ้าผู้นี้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นหนึ่งในนักการเมืองและอัครมหาเสนาบดีที่เก่งกาจที่สุดในยุคสมัยนั้น เขาวางตนสมถะ ชี้นำให้จวงหวางยึดถือความสุขของประชาชนเป็นที่ตั้ง ให้คำปรึกษาที่ดีทั้งด้านเศรษฐกิจการเมืองและการทหาร กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้แคว้นฉู่เจริญยิ่งใหญ่จนกลายเป็นหนึ่งในห้าแคว้นที่เข้มแข็งที่สุดในสมัยนั้น จึงเป็นที่มาของวลีที่ว่า “ความยิ่งใหญ่ของฉู่จวงหวาง คือผลงานของฝานจี” เหตุการณ์ที่เล่าถึงในภาพกงซวิ่นถูนี้ เป็นการกล่าวถึงสมัยที่ฉู่จวงหวางขึ้นครองราชย์แคว้นฉู่ใหม่ๆ หลงรักการล่าสัตว์จนละเลยกิจการบ้านเมือง ฝานจีทั้งเตือนทั้งหว่านล้อมให้รามือหันมาดูแลบ้านเมืองเท่าไหร่ก็ไม่ใส่ใจ สุดท้ายนางจึงงดกินเนื้อสัตว์เป็นการประท้วงจนจวงหวางได้คิด เลิกเห็นการล่าสัตว์เป็นเรื่องบันเทิงและหันกลับมาให้เวลากับการบริหารบ้านเมือง ส่วนป้ายที่องค์เฉียนหลงพระราชทานไปคู่กับภาพนี้เขียนไว้ว่า ‘อี๋เจาซูเจิ้น’ (仪昭淑慎) แปลได้ประมาณว่า โอบอ้อมอารีมีสติ รักษาไว้ซึ่งจรรยาและพิธีการอันดีงาม Storyฯ เหมือนผ่านตาว่าวรรคนี้มีการพูดถึงและอธิบายไว้ในละครเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> ด้วย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://zhuanlan.zhihu.com/p/40578846 https://kknews.cc/zh-hk/news/m6lqj5g.html#google_vignette Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/列女传/869659 http://www.guoxue.com/?people=fanji https://baike.baidu.com/item/樊姬/10584406 http://dzrb.dzng.com/articleContent/17_1032125.html https://hk.epochtimes.com/news/2018-05-29/28583343 https://baike.baidu.com/item/孙叔敖/669927 #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #ฝานจี #ฉู่จวงหวาง #ชุนชิวอู่ป้า #ฝานจีเจี้ยนเลี่ย #หนีว์สื่อเจิน #เลี่ยหนี่ว์จ้วน #หลี่เซี่ยง #กงซวิ่นถู #เฉียนหลงสิบสองภาพวาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 551 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับตา“ชาวยิวในปาย” เบื้องหลัง นักท่องเที่ยว หรือแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว? โดย ผศ.ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
    3 มีนาคม 2568 #อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน กลายเป็นจุดสนใจ เมื่อมีรายงานถึงจำนวน #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดสังเกต จุดนี้เชื่อมโยงกับข้อกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับบทบาทของ #กลุ่มทุนไซออนิสต์ หลายฝ่ายมองว่าอาจไม่ได้เป็นเพียงการท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งของ #ยุทธศาสตร์ขยายอิทธิพลในภูมิภาค
    .
    ปัญหาของชาวยิว ตนต้องการ *เตือนสติ* ชาวไทยเอาไว้ว่ากรณีชาวยิวที่อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน ควรจะมองภาพรวมใหญ่ไว้บ้างว่า...
    .
    1. ประเทศไทย เป็นเป้าหมายหนึ่งของ 'กลุ่มทุนยิวไซออนิสต์' ซึ่งอยู่เบื้องหลัง #รัฐบาลอเมริกา ที่จะยึดครอง คนพวกนี้ต้องการ #สร้างฐานทัพในประเทศไทย และใช้ประเทศไทยเป็นที่ #ตั้งอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อจ่อจี #นอีกแห่ง
    .
    2. รัฐบาลอเมริกาซึ่งมีกลุ่มทุนยิวไซออนิสต์อยู่เบื้องหลังเคย #ขอใช้สนามบินอู่ตะเภา เป็นฐานทัพ แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ให้มาแล้ว
    .
    3. ในเวลาเดียวกัน อเมริกาก็หันไปสนับสนุนนาง #อองซานซูจี โดยทุ่มเงินจาก #USAID เข้าไปช่วยหาเสียงและซื้อเสียง #กองทัพเมียนมา จับทางได้ว่าอเมริกาต้องการเข้ามามีอิทธิพลในเมียนมาและกำลังใช้เงินจาก USAID ซื้อเสียง จึงยึดอำนาจเสีย รัฐบาลอเมริกาจึงหันไป #ติดอาวุธชนกลุ่มน้อย ให้รบกบกองทัพรัฐบาลพม่าแทน จึงเกิดมีปัญหาสู้รบกันและทำให้มีผู้อพยพเข้าสู่ประเทศไทยมากจนถึงเดี๋ยวนี้
    .
    4. สำหรับประเทศไทย อเมริกาเดินเกมขยาย #สถานกงสุลในเชียงใหม่ ให้ใหญ่โตขึ้น เพื่อรองรับคนทำงานเข้ามาใหม่ให้ได้จำนวนมากขึ้น
    .
    ผมสงสัยว่ากลุ่มคนที่จะเพิ่มเข้ามาทำงานในสถานกงสุล ก็น่าจะเป็น #เครือข่ายซีไอเอ ที่จะมาปฏิบัติการในไทยและเมียนมา ซึ่งอเมริกาต้องการจำนวนคนมากขึ้นกับภารกิจเชิงรุก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล เดินทางเข้ามาไทยมากยิ่งขึ้นตามมาในอนาคต
    ต้องไม่ลืมว่าหนังสือพิมพ์ #Haarets ของอิสราเอลรายงานชัดเจนว่าขณะนี้ ชาวยิวกำลังหันมาสนใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
    .
    5. ความจริงประการหนึ่งก็คือขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและ #อังกฤษ ทำงานรับใช้ #ยิว อย่างเต็มที่ อเมริกาทุ่มให้เครือข่ายซีไอเอไปรับใช้ ส่วนอังกฤษทุ่มเครือข่าย #MI6 ให้ทำงานรับใช้ยิวในประเทศต่างๆ มาก
    .
    จึงไม่น่าแปลกอะไรที่จะมีนักท่องเที่ยวอิสราเอล อังกฤษและอเมริกาในอำเภอปายมากกว่าในที่อื่นๆ โดยที่นักท่องเที่ยวเหล่านี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็น #สายลับ ที่เข้ามาสังเกตการณ์และทำงานร่วมกันเพื่อหาทางวางรากฐานให้ชาวยิวอพยพมาอยู่เมืองไทยอย่างถาวรก็ได้ เพราะการว่าจ้างคนไทยให้เป็นนอมินีซื้อที่ดินให้คนเหล่านี้ยึดครอง ทำได้ง่ายอยู่แล้ว
    .
    6. อเมริกายังเดินเกม จัดตั้ง #ศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อีกแห่ง
    ข้อมูลระดับพื้นฐานที่คนไทยควรจะรู้ ก็คือ #กูเกิล เกิดมาจากหน่วยงาน #ซีไอเอ (ตามข่าวในภาพประกอบ) ขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและอิสราเอลใช้กูเกิลเป็นเครื่องมือช่วยกวาดล้างชาวปาเลสไตน์และปล้นแผ่นดินปาเลสไตน์อยู่
    .
    เมื่อมีการขอจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิล ไม่มีเสียงทักท้วงหรือคัดค้านใดๆ จากเลขาธิการ #สมช. ของไทย #กระทรวงมหาดไทย และ #กระทรวงการต่างประเทศเลย แสดงให้เห็นว่าสามองค์กรหลักนี้ไม่ระแวงหรือสงสัยอะไรเลยเพราะข้อมูลเกี่ยวกับกูเกิลไม่มีมากพอ
    .
    การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อาจเป็นไปได้ว่าเป็นการจัดตั้งเครือข่ายซีไอเอและ #มอสสาด (#Mossad หน่วยงานข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอล) ในประเทศไทย เพื่อรวบรวม #BigData คนในแถบ #ตะวันออกเฉียงใต้ เอาไว้ด้วยจุดประสงค์บางอย่างนั่นเอง
    .
    อย่าลืมความจริงที่คนไทยก็รู้มานานแล้วว่า ประเทศนักล่าอาณานิคมตะวันตก กำลังวางยุทธศาสตร์แบ่งแยกประเทศไทย ทั้งที่ #สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งใน #ภาคอีสาน และทั้งในพื้นที่ภาคเหนือเพื่อตนเองจะได้เข้ามามีบทบาทควบคุมประเทศแถบนี้มากยิ่งขึ้น
    .
    ประเทศเล็กๆ หลายประเทศในขณะนี้ตกเป็นอาณานิคมของอเมริกาและอิสราเอล ซึ่งมียิวอยู่เบื้องหลังก็เพราะมีหน่วยงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและมีนักการเมืองที่ดูแลผลประโยชน์ประเทศชาติพากัน *โง่* และตั้งตนในความประมาทนี่แหละ!
    .
    จับตา“ชาวยิวในปาย” เบื้องหลัง นักท่องเที่ยว หรือแผนยุทธศาสตร์ระยะยาว? โดย ผศ.ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล 3 มีนาคม 2568 #อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน กลายเป็นจุดสนใจ เมื่อมีรายงานถึงจำนวน #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดสังเกต จุดนี้เชื่อมโยงกับข้อกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับบทบาทของ #กลุ่มทุนไซออนิสต์ หลายฝ่ายมองว่าอาจไม่ได้เป็นเพียงการท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งของ #ยุทธศาสตร์ขยายอิทธิพลในภูมิภาค . ปัญหาของชาวยิว ตนต้องการ *เตือนสติ* ชาวไทยเอาไว้ว่ากรณีชาวยิวที่อำเภอปาย แม่ฮ่องสอน ควรจะมองภาพรวมใหญ่ไว้บ้างว่า... . 1. ประเทศไทย เป็นเป้าหมายหนึ่งของ 'กลุ่มทุนยิวไซออนิสต์' ซึ่งอยู่เบื้องหลัง #รัฐบาลอเมริกา ที่จะยึดครอง คนพวกนี้ต้องการ #สร้างฐานทัพในประเทศไทย และใช้ประเทศไทยเป็นที่ #ตั้งอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อจ่อจี #นอีกแห่ง . 2. รัฐบาลอเมริกาซึ่งมีกลุ่มทุนยิวไซออนิสต์อยู่เบื้องหลังเคย #ขอใช้สนามบินอู่ตะเภา เป็นฐานทัพ แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ให้มาแล้ว . 3. ในเวลาเดียวกัน อเมริกาก็หันไปสนับสนุนนาง #อองซานซูจี โดยทุ่มเงินจาก #USAID เข้าไปช่วยหาเสียงและซื้อเสียง #กองทัพเมียนมา จับทางได้ว่าอเมริกาต้องการเข้ามามีอิทธิพลในเมียนมาและกำลังใช้เงินจาก USAID ซื้อเสียง จึงยึดอำนาจเสีย รัฐบาลอเมริกาจึงหันไป #ติดอาวุธชนกลุ่มน้อย ให้รบกบกองทัพรัฐบาลพม่าแทน จึงเกิดมีปัญหาสู้รบกันและทำให้มีผู้อพยพเข้าสู่ประเทศไทยมากจนถึงเดี๋ยวนี้ . 4. สำหรับประเทศไทย อเมริกาเดินเกมขยาย #สถานกงสุลในเชียงใหม่ ให้ใหญ่โตขึ้น เพื่อรองรับคนทำงานเข้ามาใหม่ให้ได้จำนวนมากขึ้น . ผมสงสัยว่ากลุ่มคนที่จะเพิ่มเข้ามาทำงานในสถานกงสุล ก็น่าจะเป็น #เครือข่ายซีไอเอ ที่จะมาปฏิบัติการในไทยและเมียนมา ซึ่งอเมริกาต้องการจำนวนคนมากขึ้นกับภารกิจเชิงรุก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้ #นักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล เดินทางเข้ามาไทยมากยิ่งขึ้นตามมาในอนาคต ต้องไม่ลืมว่าหนังสือพิมพ์ #Haarets ของอิสราเอลรายงานชัดเจนว่าขณะนี้ ชาวยิวกำลังหันมาสนใจประเทศไทยมากยิ่งขึ้น . 5. ความจริงประการหนึ่งก็คือขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและ #อังกฤษ ทำงานรับใช้ #ยิว อย่างเต็มที่ อเมริกาทุ่มให้เครือข่ายซีไอเอไปรับใช้ ส่วนอังกฤษทุ่มเครือข่าย #MI6 ให้ทำงานรับใช้ยิวในประเทศต่างๆ มาก . จึงไม่น่าแปลกอะไรที่จะมีนักท่องเที่ยวอิสราเอล อังกฤษและอเมริกาในอำเภอปายมากกว่าในที่อื่นๆ โดยที่นักท่องเที่ยวเหล่านี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็น #สายลับ ที่เข้ามาสังเกตการณ์และทำงานร่วมกันเพื่อหาทางวางรากฐานให้ชาวยิวอพยพมาอยู่เมืองไทยอย่างถาวรก็ได้ เพราะการว่าจ้างคนไทยให้เป็นนอมินีซื้อที่ดินให้คนเหล่านี้ยึดครอง ทำได้ง่ายอยู่แล้ว . 6. อเมริกายังเดินเกม จัดตั้ง #ศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อีกแห่ง ข้อมูลระดับพื้นฐานที่คนไทยควรจะรู้ ก็คือ #กูเกิล เกิดมาจากหน่วยงาน #ซีไอเอ (ตามข่าวในภาพประกอบ) ขณะนี้ รัฐบาลอเมริกาและอิสราเอลใช้กูเกิลเป็นเครื่องมือช่วยกวาดล้างชาวปาเลสไตน์และปล้นแผ่นดินปาเลสไตน์อยู่ . เมื่อมีการขอจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิล ไม่มีเสียงทักท้วงหรือคัดค้านใดๆ จากเลขาธิการ #สมช. ของไทย #กระทรวงมหาดไทย และ #กระทรวงการต่างประเทศเลย แสดงให้เห็นว่าสามองค์กรหลักนี้ไม่ระแวงหรือสงสัยอะไรเลยเพราะข้อมูลเกี่ยวกับกูเกิลไม่มีมากพอ . การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลกูเกิลในจังหวัดชลบุรี อาจเป็นไปได้ว่าเป็นการจัดตั้งเครือข่ายซีไอเอและ #มอสสาด (#Mossad หน่วยงานข่าวกรองและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอล) ในประเทศไทย เพื่อรวบรวม #BigData คนในแถบ #ตะวันออกเฉียงใต้ เอาไว้ด้วยจุดประสงค์บางอย่างนั่นเอง . อย่าลืมความจริงที่คนไทยก็รู้มานานแล้วว่า ประเทศนักล่าอาณานิคมตะวันตก กำลังวางยุทธศาสตร์แบ่งแยกประเทศไทย ทั้งที่ #สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งใน #ภาคอีสาน และทั้งในพื้นที่ภาคเหนือเพื่อตนเองจะได้เข้ามามีบทบาทควบคุมประเทศแถบนี้มากยิ่งขึ้น . ประเทศเล็กๆ หลายประเทศในขณะนี้ตกเป็นอาณานิคมของอเมริกาและอิสราเอล ซึ่งมียิวอยู่เบื้องหลังก็เพราะมีหน่วยงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและมีนักการเมืองที่ดูแลผลประโยชน์ประเทศชาติพากัน *โง่* และตั้งตนในความประมาทนี่แหละ! .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 939 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ รีโพสต์ข้อความหนึ่งบนทรัตช์ โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง ที่ระบุว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน "ไม่มีทางเลือก" ยกเว้นแต่ยอมตามเงื่อนไขต่างๆ ของวอชิงตัน ในข้อตกลงแร่ เนื่องจากเคียฟไม่อาจอยู่รอดได้ในสงคราม หากปราศจากการสนับสนุนของอเมริกา
    .
    การรีโพสต์ความเห็นของ ไมเคิล แมคคูน มีขึ้นหลังจาก ทรัมป์ เปิดศึกโต้เถียงกับ เซเลนสกี ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว เมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.) ทำให้แผนลงนามในข้อตกลงทรัพยากรแร่ระหว่างทั้ง 2 ประเทศพังครืนลง
    .
    "ทรัมป์เล่นเกมกับ 2 ฝ่าย ราวกับผู้เล่นหมากรุกชั้นเซียน ในท้ายที่สุดแล้ว เซเลนสกี จะไม่มีทางเลือกอื่น ยกเว้นแต่ยอมอ่อนข้อ หากปราศจากการสนับสนุนของสหรัฐฯ ยูเครนไม่อาจชนะในสงครามยืดเยื้อกับรัสเซีย" ทัมป์ รีโพสต์ข้อความนี้ บนทรัสต์โซเชียล "จริงๆ แล้ว ทรัมป์ กำลังปกป้องยูเครน โดยไม่จำเป็นต้องลากสหรัฐฯ เข้าสู่สงคราม นำเสนอข้อตกลงที่ฉลาดเป็นเลิศ"
    .
    ศึกโต้เถียงกันระหว่าง ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ กับ เซเลนสกี ปะทะขึ้นหลังจากประธานาธิบดียูเครน เน้นย้ำถึงความจำเป็นสำหรับการรับประกันความมั่นคง และบอกว่า เครมลิน ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงซ้ำแล้วซ้ำเล่า กระตุ้นให้ฝ่ายสหรัฐฯ ตอบโต้เขาว่าไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ และเตือนสติให้เห็นว่าเขาอยู่ในสถานะที่อ่อนแอ
    .
    ตามหลังศึกวิวาทะอันเผ็ดร้อน ทรัมป์ บอกว่า เซเลนสกี ไม่ใช่คนที่ต้องการสร้างสันติภาพ "ประธานาธิบดียูเครน กำลังมองหาอะไรบางอย่างที่ผมไม่ได้เสาะหา" พร้อมกล่าวอ้างอีกครั้งว่า เซเลนสกี "ต้องการ สู้ สู้ สู้ เพียงเท่านั้น"
    .
    เซเลนสกี ตอบโต้กลับความเห็นของทรัมป์ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ อ้างว่ายูเครน พร้อมสำหรับสันติภาพ "แต่เราจำเป็นต้องอยู่ในสถานะที่ดี เราต้องการสันติภาพ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงมาพบประธานาธิบดีทรัมป์"
    .
    ในข้อความที่โพสต์ ทรัมป์ อ้างว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจของสหรัฐฯ ในยูเครน เพียงพอแล้วที่จะเป็นเครื่องรับประกันความมั่นคง เนื่องจากรัสเซียจะไม่สามารถคุกคามผลประโยชน์ทางธุรกิจเหล่านั้น "โดยปราศจากกระตุ้นการตอบโต้กลับครั้งใหญ่ในระดับนานาชาติ" ทรัมป์กล่าว "เพราะว่าการโจมตียูเครน จะหมายถึงการก่ออันตรายแก่ชีวิตชาวอเมริกา บางอย่างที่จะบีบให้สหรัฐฯ จำเป็นต้องตอบโต้"
    .
    พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จำนวนหนึ่งและสมาชิกสภาคองเกรสจากรีพับลิกัน ยังคงดาหน้ากันออกมาปกป้องทรัมป์ พร้อมกับส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์เซเลนสกี ตามหลังการโต้เถียงในห้องทำงานรูปไข่ โดยบางส่วนถึงขั้นชี้แนะว่า เซเลนสกี อาจจำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่ง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020444
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ รีโพสต์ข้อความหนึ่งบนทรัตช์ โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเอง ที่ระบุว่าประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน "ไม่มีทางเลือก" ยกเว้นแต่ยอมตามเงื่อนไขต่างๆ ของวอชิงตัน ในข้อตกลงแร่ เนื่องจากเคียฟไม่อาจอยู่รอดได้ในสงคราม หากปราศจากการสนับสนุนของอเมริกา . การรีโพสต์ความเห็นของ ไมเคิล แมคคูน มีขึ้นหลังจาก ทรัมป์ เปิดศึกโต้เถียงกับ เซเลนสกี ในห้องทำงานรูปไข่ของทำเนียบขาว เมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.) ทำให้แผนลงนามในข้อตกลงทรัพยากรแร่ระหว่างทั้ง 2 ประเทศพังครืนลง . "ทรัมป์เล่นเกมกับ 2 ฝ่าย ราวกับผู้เล่นหมากรุกชั้นเซียน ในท้ายที่สุดแล้ว เซเลนสกี จะไม่มีทางเลือกอื่น ยกเว้นแต่ยอมอ่อนข้อ หากปราศจากการสนับสนุนของสหรัฐฯ ยูเครนไม่อาจชนะในสงครามยืดเยื้อกับรัสเซีย" ทัมป์ รีโพสต์ข้อความนี้ บนทรัสต์โซเชียล "จริงๆ แล้ว ทรัมป์ กำลังปกป้องยูเครน โดยไม่จำเป็นต้องลากสหรัฐฯ เข้าสู่สงคราม นำเสนอข้อตกลงที่ฉลาดเป็นเลิศ" . ศึกโต้เถียงกันระหว่าง ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ กับ เซเลนสกี ปะทะขึ้นหลังจากประธานาธิบดียูเครน เน้นย้ำถึงความจำเป็นสำหรับการรับประกันความมั่นคง และบอกว่า เครมลิน ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงซ้ำแล้วซ้ำเล่า กระตุ้นให้ฝ่ายสหรัฐฯ ตอบโต้เขาว่าไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ และเตือนสติให้เห็นว่าเขาอยู่ในสถานะที่อ่อนแอ . ตามหลังศึกวิวาทะอันเผ็ดร้อน ทรัมป์ บอกว่า เซเลนสกี ไม่ใช่คนที่ต้องการสร้างสันติภาพ "ประธานาธิบดียูเครน กำลังมองหาอะไรบางอย่างที่ผมไม่ได้เสาะหา" พร้อมกล่าวอ้างอีกครั้งว่า เซเลนสกี "ต้องการ สู้ สู้ สู้ เพียงเท่านั้น" . เซเลนสกี ตอบโต้กลับความเห็นของทรัมป์ ระหว่างให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ อ้างว่ายูเครน พร้อมสำหรับสันติภาพ "แต่เราจำเป็นต้องอยู่ในสถานะที่ดี เราต้องการสันติภาพ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงมาพบประธานาธิบดีทรัมป์" . ในข้อความที่โพสต์ ทรัมป์ อ้างว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจของสหรัฐฯ ในยูเครน เพียงพอแล้วที่จะเป็นเครื่องรับประกันความมั่นคง เนื่องจากรัสเซียจะไม่สามารถคุกคามผลประโยชน์ทางธุรกิจเหล่านั้น "โดยปราศจากกระตุ้นการตอบโต้กลับครั้งใหญ่ในระดับนานาชาติ" ทรัมป์กล่าว "เพราะว่าการโจมตียูเครน จะหมายถึงการก่ออันตรายแก่ชีวิตชาวอเมริกา บางอย่างที่จะบีบให้สหรัฐฯ จำเป็นต้องตอบโต้" . พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จำนวนหนึ่งและสมาชิกสภาคองเกรสจากรีพับลิกัน ยังคงดาหน้ากันออกมาปกป้องทรัมป์ พร้อมกับส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์เซเลนสกี ตามหลังการโต้เถียงในห้องทำงานรูปไข่ โดยบางส่วนถึงขั้นชี้แนะว่า เซเลนสกี อาจจำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่ง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020444 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1256 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ยังคงคุยกันเรื่องสิบสองภาพวาด ‘กงซวิ่นถู’ (宫训图 แปลตรงตัวว่า พระราชวัง+คำสอน+ภาพ) ที่ในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ซึ่งก่อนหน้านี้ Storyฯ เคยคุยถึงภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ แห่งพระตำหนักหย่งโซ่วกงว่าเป็นภาพตอนหนึ่งของภาพม้วนยาวที่มีชื่อเรียกว่าภาพ ‘หนีว์สื่อเจิน’ (女史箴图 / ข้าราชสำนักหญิงเตือนสติ)

    ภาพ ‘หนีว์สื่อเจิน’ เป็นผลงานของกู้ข่ายจือ ซึ่งเดิมมี 12 ตอนแต่สูญหายไปแล้ว ปัจจุบันเหลือเพียงฉบับคัดลอก 9 ตอน มีความยาวเกือบ 3.5 เมตร มีเนื้อหาเป็นเรื่องเล่าในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (ปี 52-7 ก่อนคริสตกาล) โดยภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ นั้นกล่าวถึงเมื่อครั้งฮั่นเฉิงตี้เสด็จประพาสทอดพระเนตรสัตว์สู้กัน โดยมีนางในและพระโอรสตามเสด็จ (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/750792533715708)

    วันนี้คุยกันถึงอีกภาพที่เกี่ยวข้องกัน คือภาพ ‘เจี๋ยอวี๋ตั่งสยง’ (婕妤当熊图 / เจี๋ยอวี๋ขวางหมี) เป็นภาพที่แขวนไว้ที่พระตำหนักเสียนฝูกง ดูเหมือนในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> จะไม่ได้บอกไว้ว่าใครประทับอยู่ที่พระตำหนักนี้ แต่ในประวัติศาสตร์จริง สมัยองค์เฉียนหลงนั้น พระตำหนักเสียนฝูกงนี้เคยถูกใช้เป็นที่ประทับขององค์เฉียนหลงก่อนที่ต่อมาจะย้ายไปประทับที่พระที่นั่งหยั่งซินเตี้ยน

    หน้าตาของภาพนี้เป็นอย่างไร Storyฯ ก็หาไม่พบ ภาพที่นำมาให้ดูในรูปประกอบ 1(กลาง) เป็นภาพที่วาดขึ้นในสมัยองค์คังซีโดยช่างวาดหลวงจินคุน ส่วนภาพที่วาดขึ้นในสมัยขององค์เฉียนหลงนั้น คือรูปประกอบ 1(ขวา) ซึ่งทรงให้ช่างวาดหลวงวาดขึ้นใหม่เมื่อปีรัชศกเฉียนหลงปีที่ 30 ภายหลังจากเกิดเรื่องราวของฮองเฮาอูลาน่าลาตัดผม (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์)

    แต่ก่อนจะคุยเรื่องภาพวาด ‘เจี๋ยอวี๋ตั่งสยง’ สองภาพในสมัยเฉียนหลง คงต้องคุยเกี่ยวกับเรื่องราวที่กล่าวถึงในภาพเสียก่อน ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวมีต้นตอมาจากอีกตอนหนึ่งของภาพ ‘หนีว์สื่อเจิน’ (ดูรูปประกอบ 2)

    เจี๋ยอวี๋เป็นตำแหน่งพระสนม แล้วเจี๋ยอวี๋ที่กล่าวถึงในภาพคือใคร?

    นางคือเฝิงเจี๋ยอวี๋ เป็นพระสนมในองค์ฮั่นหยวนตี้ (ครองราชย์ปี 48-33 ก่อนคริสตกาล คือพระบิดาขององค์ฮั่นเฉิงตี้ที่กล่าวถึงในภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’) นามเดิมว่าเฝิงเยวี่ยน ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นจาวอี๋ บันทึกเกี่ยวกับฮั่นหยวนตี้มีไม่มากเพราะไม่ได้มีผลงานสร้างชื่ออะไรมาก ที่เพื่อนเพจอาจเคยได้ยินถึงก็คือทรงส่งหวางเจาจวินไปแต่งงานเพื่อผูกมิตรกับเผ่าซวงหนู และชีวประวัติเกี่ยวกับเฝิงเจี๋ยอวี๋เองก็มีไม่มาก นอกจากกล่าวไว้ว่ามาจากตระกูลเฝิงซึ่งเป็นตระกูลขุนนางที่มากด้วยความสามารถและอำนาจ ตัวพระนางเองก็เป็นที่โปรดปรานนักขององค์ฮั่นหยวนตี้ ต่อมาบุตรชายเป็นอ๋องครองแคว้นจงซาน พระนางดำรงพระยศไทเฮาแห่งแคว้นจงซาน

    เรื่องราวที่กล่าวถึงในภาพนั้น คือเหตุการณ์ที่ฮั่นหยวนตี้ไปดูสัตว์สู้กัน (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์) จู่ๆ มีหมีดำโผล่มาและทำท่าว่าจะจู่โจมถึงที่ประทับของฮั่นหยวนตี้ นอกเหนือจากราชองครักษ์แล้ว ผู้ที่ตามเสด็จล้วนพยายามหนีตาย แต่เฝิงเจี๋ยอวี๋กลับถลันขึ้นหน้าเอาตัวเองไปขวางไว้ระหว่างองค์ฮั่นหยวนตี้กับหมีดำ สุดท้ายนางไม่ได้รับอันตรายใดๆ เพราะว่าราชองครักษ์ฆ่าหมีได้สำเร็จ ครั้นฮั่นหยวนตี้ถามว่าทำไมนางถึงไม่กลัวหมี นางตอบว่า หมีเมื่อจับได้คนหนึ่งคนก็จะไม่จู่โจมคนอื่น นางกลัวว่าหมีจะจู่โจมถึงตัวฮั่นหยวนตี้ จึงคิดพลีชีพเป็นเหยื่อล่อหมีแทน เรื่องนี้ทำให้ฮั่นหยวนตี้รักนางมากขึ้นกว่าเดิมและยิ่งทำให้นางเป็นที่เกลียดชังของคู่แข่งในวังหลังยิ่งขึ้นไปอีก กลายเป็นเรื่องราวความกล้าหาญและความจงรักภักดีที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์

    ความนัยที่แฝงไว้ในภาพ ‘เจี๋ยอวี๋ตั่งสยง’ ขององค์เฉียนหลงนี้ก็คือความกล้าหาญ และป้ายอักษรที่คู่กันกับภาพนี้คือ ‘เน่ยจื๋อชินเฟิ่ง’ (内职钦奉) แปลได้ประมาณว่า ชื่นชมยกย่องฝ่ายใน

    แต่... อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เมื่อปีรัชศกเฉียนหลงปีที่ 30 ภายหลังจากเหตุการณ์ฮองเฮาสกุลอูลาน่าลาตัดผม องค์เฉียนหลงได้ให้ช่างวาดหลวงจินถิงเปียววาดภาพ ‘เจี๋ยอวี๋ตั่งสยง’ ขึ้นอีกภาพหนึ่ง มีการเล่าขานกันต่อมาว่า จากที่เดิมองค์เฉียนหลงยกย่องเฝิงเจี๋ยอวี๋ว่ากล้าหาญ กลับกลายเป็นดูถูกเสียดสีว่า เฝิงเจี๋ยอวี๋ไม่เจียมตัว ไม่มีความสามารถก็ยังจะรนหาที่ตาย เป็นการเสียสละแบบโง่ๆ เพื่อสร้างความเด่นความดีให้กับตนเอง ควรเป็นที่น่าละอายของราชสกุล โดยประพันธ์ขึ้นเป็นบทกวีและให้ช่างวาดวาดขึ้นใหม่ให้ได้อารมณ์ตามบทกวีนี้

    ว่ากันว่าภาพเดิมที่วาดขึ้นในรัชศกเฉียนหลงปีที่ 6 พร้อมกับภาพกงซวิ่นถูอื่นนั้น สะท้อนความองอาจกล้าหาญของเฝิงเยวี่ยน (ให้อารมณ์คล้ายคลึงกับภาพ ‘เฝิงเยวี่ยนขวางหมี’ ที่เป็นผลงานเก่าในสมัยองค์คังซีที่ Storyฯ แปะมาให้ดู) แต่ภาพใหม่ให้ความรู้สึกว่าเฝิงเยวี่ยนดูบอบบางไร้ความน่าเกรงขาม สะท้อนถึงความรนหาที่ตายอย่างโง่ๆ ตามบทกวี ภาพใหม่นี้วาดเสร็จในปีรัชศกเฉียนหลงปีที่ 31 ปัจจุบันเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้าม

    ข้อเท็จจริงเบื้องหลังภาพที่วาดขึ้นใหม่เป็นเช่นนี้หรือไม่ Storyฯ ก็ไม่ทราบแน่ชัด แต่เรื่องของเฝิงเยวี่ยนที่ใช้ตัวเองมาขวางหมีไว้ยังคงเป็นเรื่องเล่าขานกันต่อมาในแง่ความกล้าหาญและความจงรักภักดี

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    http://ent.sina.com.cn/v/m/2018-08-10/doc-ihhnunsq6262060.shtml
    https://topimage.design/images/5f2ec355ccb56d496c4eeaa4.html
    https://baike.baidu.com/item/女史箴图
    https://www.tongyangapp.com/standard/sdetail?id=7056912
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/冯媛/3311193
    https://new.qq.com/rain/a/20210618A034TY00
    https://www.youtube.com/watch?v=SsSfNW9c2mM

    #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #เฝิงเจี๋ยอวี๋ #เฝิงเยวี่ยน #ฮั่นหยวนตี้ #เฝิงเจี๋ยอวี๋ขวางหมี #กงซวิ่นถู #เฉียนหลงสิบสองภาพวาด
    วันนี้ยังคงคุยกันเรื่องสิบสองภาพวาด ‘กงซวิ่นถู’ (宫训图 แปลตรงตัวว่า พระราชวัง+คำสอน+ภาพ) ที่ในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ซึ่งก่อนหน้านี้ Storyฯ เคยคุยถึงภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ แห่งพระตำหนักหย่งโซ่วกงว่าเป็นภาพตอนหนึ่งของภาพม้วนยาวที่มีชื่อเรียกว่าภาพ ‘หนีว์สื่อเจิน’ (女史箴图 / ข้าราชสำนักหญิงเตือนสติ) ภาพ ‘หนีว์สื่อเจิน’ เป็นผลงานของกู้ข่ายจือ ซึ่งเดิมมี 12 ตอนแต่สูญหายไปแล้ว ปัจจุบันเหลือเพียงฉบับคัดลอก 9 ตอน มีความยาวเกือบ 3.5 เมตร มีเนื้อหาเป็นเรื่องเล่าในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (ปี 52-7 ก่อนคริสตกาล) โดยภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ นั้นกล่าวถึงเมื่อครั้งฮั่นเฉิงตี้เสด็จประพาสทอดพระเนตรสัตว์สู้กัน โดยมีนางในและพระโอรสตามเสด็จ (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/750792533715708) วันนี้คุยกันถึงอีกภาพที่เกี่ยวข้องกัน คือภาพ ‘เจี๋ยอวี๋ตั่งสยง’ (婕妤当熊图 / เจี๋ยอวี๋ขวางหมี) เป็นภาพที่แขวนไว้ที่พระตำหนักเสียนฝูกง ดูเหมือนในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> จะไม่ได้บอกไว้ว่าใครประทับอยู่ที่พระตำหนักนี้ แต่ในประวัติศาสตร์จริง สมัยองค์เฉียนหลงนั้น พระตำหนักเสียนฝูกงนี้เคยถูกใช้เป็นที่ประทับขององค์เฉียนหลงก่อนที่ต่อมาจะย้ายไปประทับที่พระที่นั่งหยั่งซินเตี้ยน หน้าตาของภาพนี้เป็นอย่างไร Storyฯ ก็หาไม่พบ ภาพที่นำมาให้ดูในรูปประกอบ 1(กลาง) เป็นภาพที่วาดขึ้นในสมัยองค์คังซีโดยช่างวาดหลวงจินคุน ส่วนภาพที่วาดขึ้นในสมัยขององค์เฉียนหลงนั้น คือรูปประกอบ 1(ขวา) ซึ่งทรงให้ช่างวาดหลวงวาดขึ้นใหม่เมื่อปีรัชศกเฉียนหลงปีที่ 30 ภายหลังจากเกิดเรื่องราวของฮองเฮาอูลาน่าลาตัดผม (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์) แต่ก่อนจะคุยเรื่องภาพวาด ‘เจี๋ยอวี๋ตั่งสยง’ สองภาพในสมัยเฉียนหลง คงต้องคุยเกี่ยวกับเรื่องราวที่กล่าวถึงในภาพเสียก่อน ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวมีต้นตอมาจากอีกตอนหนึ่งของภาพ ‘หนีว์สื่อเจิน’ (ดูรูปประกอบ 2) เจี๋ยอวี๋เป็นตำแหน่งพระสนม แล้วเจี๋ยอวี๋ที่กล่าวถึงในภาพคือใคร? นางคือเฝิงเจี๋ยอวี๋ เป็นพระสนมในองค์ฮั่นหยวนตี้ (ครองราชย์ปี 48-33 ก่อนคริสตกาล คือพระบิดาขององค์ฮั่นเฉิงตี้ที่กล่าวถึงในภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’) นามเดิมว่าเฝิงเยวี่ยน ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นจาวอี๋ บันทึกเกี่ยวกับฮั่นหยวนตี้มีไม่มากเพราะไม่ได้มีผลงานสร้างชื่ออะไรมาก ที่เพื่อนเพจอาจเคยได้ยินถึงก็คือทรงส่งหวางเจาจวินไปแต่งงานเพื่อผูกมิตรกับเผ่าซวงหนู และชีวประวัติเกี่ยวกับเฝิงเจี๋ยอวี๋เองก็มีไม่มาก นอกจากกล่าวไว้ว่ามาจากตระกูลเฝิงซึ่งเป็นตระกูลขุนนางที่มากด้วยความสามารถและอำนาจ ตัวพระนางเองก็เป็นที่โปรดปรานนักขององค์ฮั่นหยวนตี้ ต่อมาบุตรชายเป็นอ๋องครองแคว้นจงซาน พระนางดำรงพระยศไทเฮาแห่งแคว้นจงซาน เรื่องราวที่กล่าวถึงในภาพนั้น คือเหตุการณ์ที่ฮั่นหยวนตี้ไปดูสัตว์สู้กัน (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์) จู่ๆ มีหมีดำโผล่มาและทำท่าว่าจะจู่โจมถึงที่ประทับของฮั่นหยวนตี้ นอกเหนือจากราชองครักษ์แล้ว ผู้ที่ตามเสด็จล้วนพยายามหนีตาย แต่เฝิงเจี๋ยอวี๋กลับถลันขึ้นหน้าเอาตัวเองไปขวางไว้ระหว่างองค์ฮั่นหยวนตี้กับหมีดำ สุดท้ายนางไม่ได้รับอันตรายใดๆ เพราะว่าราชองครักษ์ฆ่าหมีได้สำเร็จ ครั้นฮั่นหยวนตี้ถามว่าทำไมนางถึงไม่กลัวหมี นางตอบว่า หมีเมื่อจับได้คนหนึ่งคนก็จะไม่จู่โจมคนอื่น นางกลัวว่าหมีจะจู่โจมถึงตัวฮั่นหยวนตี้ จึงคิดพลีชีพเป็นเหยื่อล่อหมีแทน เรื่องนี้ทำให้ฮั่นหยวนตี้รักนางมากขึ้นกว่าเดิมและยิ่งทำให้นางเป็นที่เกลียดชังของคู่แข่งในวังหลังยิ่งขึ้นไปอีก กลายเป็นเรื่องราวความกล้าหาญและความจงรักภักดีที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ความนัยที่แฝงไว้ในภาพ ‘เจี๋ยอวี๋ตั่งสยง’ ขององค์เฉียนหลงนี้ก็คือความกล้าหาญ และป้ายอักษรที่คู่กันกับภาพนี้คือ ‘เน่ยจื๋อชินเฟิ่ง’ (内职钦奉) แปลได้ประมาณว่า ชื่นชมยกย่องฝ่ายใน แต่... อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เมื่อปีรัชศกเฉียนหลงปีที่ 30 ภายหลังจากเหตุการณ์ฮองเฮาสกุลอูลาน่าลาตัดผม องค์เฉียนหลงได้ให้ช่างวาดหลวงจินถิงเปียววาดภาพ ‘เจี๋ยอวี๋ตั่งสยง’ ขึ้นอีกภาพหนึ่ง มีการเล่าขานกันต่อมาว่า จากที่เดิมองค์เฉียนหลงยกย่องเฝิงเจี๋ยอวี๋ว่ากล้าหาญ กลับกลายเป็นดูถูกเสียดสีว่า เฝิงเจี๋ยอวี๋ไม่เจียมตัว ไม่มีความสามารถก็ยังจะรนหาที่ตาย เป็นการเสียสละแบบโง่ๆ เพื่อสร้างความเด่นความดีให้กับตนเอง ควรเป็นที่น่าละอายของราชสกุล โดยประพันธ์ขึ้นเป็นบทกวีและให้ช่างวาดวาดขึ้นใหม่ให้ได้อารมณ์ตามบทกวีนี้ ว่ากันว่าภาพเดิมที่วาดขึ้นในรัชศกเฉียนหลงปีที่ 6 พร้อมกับภาพกงซวิ่นถูอื่นนั้น สะท้อนความองอาจกล้าหาญของเฝิงเยวี่ยน (ให้อารมณ์คล้ายคลึงกับภาพ ‘เฝิงเยวี่ยนขวางหมี’ ที่เป็นผลงานเก่าในสมัยองค์คังซีที่ Storyฯ แปะมาให้ดู) แต่ภาพใหม่ให้ความรู้สึกว่าเฝิงเยวี่ยนดูบอบบางไร้ความน่าเกรงขาม สะท้อนถึงความรนหาที่ตายอย่างโง่ๆ ตามบทกวี ภาพใหม่นี้วาดเสร็จในปีรัชศกเฉียนหลงปีที่ 31 ปัจจุบันเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้าม ข้อเท็จจริงเบื้องหลังภาพที่วาดขึ้นใหม่เป็นเช่นนี้หรือไม่ Storyฯ ก็ไม่ทราบแน่ชัด แต่เรื่องของเฝิงเยวี่ยนที่ใช้ตัวเองมาขวางหมีไว้ยังคงเป็นเรื่องเล่าขานกันต่อมาในแง่ความกล้าหาญและความจงรักภักดี (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: http://ent.sina.com.cn/v/m/2018-08-10/doc-ihhnunsq6262060.shtml https://topimage.design/images/5f2ec355ccb56d496c4eeaa4.html https://baike.baidu.com/item/女史箴图 https://www.tongyangapp.com/standard/sdetail?id=7056912 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/冯媛/3311193 https://new.qq.com/rain/a/20210618A034TY00 https://www.youtube.com/watch?v=SsSfNW9c2mM #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #เฝิงเจี๋ยอวี๋ #เฝิงเยวี่ยน #ฮั่นหยวนตี้ #เฝิงเจี๋ยอวี๋ขวางหมี #กงซวิ่นถู #เฉียนหลงสิบสองภาพวาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 465 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้มาคุยกันต่อถึงสิบสองภาพวาดที่ในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฮ่องเต้เฉียนหลงได้ทรงพระราชทานให้บรรดามเหสี เรียกรวมว่า ‘กงซวิ่นถู’ (宫训图 แปลตรงตัวว่า พระราชวัง+คำสอน+ภาพ) พร้อมป้ายอักษรอันเป็นตัวแทนของบทกวี ‘กงซวิ่นซือ’ (宫训诗 แปลตรงตัวว่า พระราชวัง+คำสอน+บทกวี) ภาพเหล่านี้ล้วนเป็นภาพฮองเฮา / มเหสี / พระชายาที่มีชื่อในประวัติศาสตร์ว่ามีคุณงามความดี

    สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึงภาพแรกคือภาพ ‘ไท่ซึฮุ่ยจื่อ’ ที่ทรงพระราชทานให้ฮองเฮาเซี่ยวเสียนฉุน (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid0Ery63dJM9QctgcUQWchqzEPMugvq12HANhduAUpojWfR2GjQctaJRpxAjBzsD6NWl)

    แต่พอ Storyฯ จะเขียนถึงภาพถัดไปก็เริ่มเกิดความยาก... ปัญหาคือว่า ละครเรื่องนี้แม้อ้างอิงจากเรื่องจริงแต่ตัวละครและชื่อตำหนักที่ประทับได้ถูกปรับเปลี่ยนไปบ้าง และข้อมูลเกี่ยวกับภาพวาดที่ Storyฯ หาเจอจะอิงตามชื่อตำหนัก

    Storyฯ เลยคิดว่า ก่อนจะไปกันต่อ เอาภาพมาให้เพื่อนเพจดูกันก่อนว่าพระราชวังต่างๆ ตั้งอยู่ที่ไหนกันบ้าง (ดูรูปประกอบ3) ซึ่งที่บอกว่าฮองเฮากุมอำนาจหกวังหรือ ‘ลิ่วกง’ แห่งวังหลังนั้น ‘หกวัง’ นั้นจริงๆ หมายถึงสิบสองวังหรือตำหนัก แบ่งเป็นหกตำหนักฝั่งตะวันออกและหกตำหนักตะวันตก ตรงกลางของวังหลังคือพระตำหนักเฉียนชิงกง ซึ่งเป็นที่ประทับและทรงงานของฮ่องเต้ (แต่ตั้งแต่รัชสมัยของยงเจิ้งเป็นต้นมา ฮ่องเต้จะเสด็จไปบรรทมที่พระที่นั่งหยั่งซินแทน) ตำหนักไหนอยู่ตรงไหนดูจากภาพประกอบกันได้เลยนะคะ

    วันนี้คุยกันเรื่องภาพที่สอง คือภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ (班姬辞辇图 ) แปลได้ว่าประมาณว่า ปันจีผู้งามมารยาท ภาพนี้ในนิยายต้นฉบับของ <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ได้ถูกพระราชทานไปให้เกากุ้ยเฟย (ในนิยายคือฮุ่ยกุ้ยเฟย) ที่พระตำหนักฉู่ซิ่วกง (ในซีรีย์บอกเป็นอีกภาพหนึ่ง) แต่ในเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> เกากุ้ยเฟยประทับที่พระตำหนักเสียนฝูกง ท่ามกลางความสับสนของชื่อภาพและชื่อพระตำหนักนี้ Storyฯ ยึดตามที่มีกล่าวถึงจากข้อมูลที่หาได้ว่า ภาพนี้ถูกแขวนไว้ที่พระตำหนักหย่งโซ่วกง (พระตำหนักของพระนางฮุ่ยเสียนหวงกุ้ยเฟย ผู้ซึ่งว่ากันว่าเป็นต้นแบบของเกากุ้ยเฟยในละคร)

    ภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ ที่องค์เฉียนหลงทรงให้จัดวาดขึ้นนั้นหน้าตาที่แท้จริงเป็นอย่างไร Storyฯ ก็หาไม่พบ พบแต่ภาพดั้งเดิมของเรื่อง ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ (ดูรูปประกอบ1) ซึ่งเป็นตอนหนึ่งของภาพม้วนยาวที่มีชื่อเรียกว่าภาพ ‘หนีว์สื่อเจิน’ (女史箴图 / ข้าราชสำนักหญิงเตือนสติ ดูรูปประกอบ2) อันเป็นผลงานของกู้ข่ายจือ ซึ่งเดิมมี 12 ตอนแต่สูญหายไปแล้ว ปัจจุบันเหลือเพียงฉบับคัดลอก 9 ตอนสองชุด ชุดหนึ่งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์วังต้องห้าม เป็นภาพที่จัดทำขึ้นสมัยซ่ง และอีกชุดหนึ่งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์บริติช (British Museum) เป็นภาพที่จัดทำในสมัยถัง ภาพทั้งสองมีความยาวเกือบ 3.5 เมตร เป็นภาพที่ถูกยกย่องว่านำเสนอวิถีชีวิตเหล่านางในตำแหน่งต่างๆ ออกมาได้ดี ไม่ว่าจะการวางตัวหรือสีหน้าสีตา

    ทั้งนี้ ภาพเต็ม ‘หนีว์สื่อเจิน’ เป็นภาพที่วาดขึ้นในสมัยราชวงศ์จิ้น โดยมีเนื้อหาเป็นเรื่องเล่าในรัชสมัยฮั่นเฉิงตี้แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (ปี 52-7 ก่อนคริสตกาล) กล่าวถึงเมื่อครั้งฮั่นเฉิงตี้เสด็จประพาสทอดพระเนตรสัตว์สู้กัน โดยมีนางในและพระโอรสตามเสด็จ

    ‘ปันจี’ คือใคร? นางคือพระนางปันเจี๋ยอวี๋ (หมายเหตุ ตำแหน่งเจี๋ยอวี๋นี้ บางคนเคยแปลว่าอัครเทวี บางคนแปลว่าราชเทวี Storyฯ ก็ไม่สันทัดว่าควรเรียกว่าอย่างไรจึงจะถูกต้อง) ชื่อเดิมว่า ‘ปันเถียน’ เริ่มเข้าวังทำหน้าที่เป็นข้าราชสำนักหญิงหรือที่เรียกว่าตำแหน่ง ‘หนีว์สื่อ’ มีหน้าที่ถวายงานด้านอักษรให้แก่ฮองเฮา รวมถึงงานบันทึกผลงานและความผิดของสตรีฝ่ายในและงานด้านพิธีการฝ่ายใน ต่อมาได้เป็นสนมรับใช้ฮั่นเฉิงตี้และสุดท้ายได้รับตำแหน่งเจี๋ยอวี๋ นางถูกจารึกไว้ว่าเป็นกวีและนักอักษรศาสตร์ที่เลื่องชื่อ มีผลงานตกทอดมาจนปัจจุบันหลายชิ้น

    ภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ นี้เป็นตอนที่สองของภาพ ‘หนีว์สื่อเจิน’ เป็นเรื่องราวสมัยที่พระนางยังเป็นที่โปรดปรานของฮั่นเฉิงตี้ ใจความคือองค์ฮั่นเฉิงตี้ทรงโปรดให้ใช้พระราชรถม้าขนาดใหญ่มากในการประพาสครั้งนี้เพื่อจะได้ให้พระนางปันโดยเสด็จด้วยบนรถ แต่พระนางทรงปฏิเสธ โดยอธิบายว่าแต่ไหนแต่ไรมา คนอื่นๆ ต้องเดินตามเสด็จอยู่ด้านข้างขบวน และในประวัติศาสตร์แม้มีกษัตริย์บางพระองค์ที่ให้พระภรรยาหรือสนมประทับร่วมบนพระราชรถ แต่กษัตริย์เหล่านั้นสุดท้ายล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ทำให้ราชวงศ์ล่มสลาย พระนางทรงไม่ต้องการให้ผู้ใดไปเล่ากันต่อในทางที่ไม่ดีว่าองค์ฮั่นเฉิงตี้มัวเมาในสตรีจนอาจเป็นเหตุให้บ้านเมืองต้องอับจนในอนาคต เหตุการณ์นี้ทำให้พระนางถูกยกย่องว่าเป็นคนที่สงบเสงี่ยมแม้จะได้รับความโปรดปรานจากองค์ฮ่องเต้ วางพระองค์ได้ดี รู้ขนบทำเนียมหน้าที่และรู้ว่าอะไรควรไม่ควร

    ภาพนี้ถูกชื่นชมว่าสามารถบรรยายความรู้สึกหลากหลายออกมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็นความไม่พอพระทัยแต่จำยอมขององค์ฮั่นเฉิงตี้หรือการเบือนพักตร์ลอบไม่พอพระทัยของฮองเฮา โดยฉพาะภาพลักษณ์ของปันเจี๋ยอวี๋ในภาพนี้ ดูสูงส่งเรียบร้อย สมกับที่พระนางถูกยกย่องให้เป็นแบบอย่างแห่งสตรีผู้มีจริยวัตรงดงาม

    ส่วนป้ายอักษรที่องค์เฉียนหลงทรงพระราชทานคู่กับป้ายนี้คือ ‘ลิ่งอี๋ซูเต๋อ’ (令仪淑德) แปลได้ประมาณว่า เคารพพิธีการและวางตนให้ดีมีจริยวัตรงดงาม

    ในเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> นี้ เกากุ้ยเฟยตีความจากภาพนี้ว่า เฉียนหลงฮ่องเต้ทรงตำหนิที่นางวางองค์ไม่ดีจึงทรงพระราชทานภาพนี้มาเตือนสติ แต่เจียผินปลอบพระนางว่า จริงๆ แล้วภาพทั้งสิบสองสะท้อนถึงคุณสมบัติที่เฉียนหลงฮ่องเต้ทรงคาดหวังจากเหล่ามเหสีและสนมทั้งหมด เพื่อนเพจคิดว่าไงคะ?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.sohu.com/a/242329927_100034915
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/44523682
    https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=5c29a1b9368965f14d877c95
    http://www.obj.cc/thread-69013-1-1.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://www.takungpao.com/culture/237140/2019/1207/387125.html
    https://baike.baidu.com/item/女史箴图
    https://baike.baidu.com/item/班姬辞辇/360901

    #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #เกากุ้ยเฟย #ปันจีฉือเหนี่ยน #ปันเจวี๋ยอี๋ #กงซวิ่นถู #หกตำหนักวังหลัง #เฉียนหลงสิบสองภาพวาด
    วันนี้มาคุยกันต่อถึงสิบสองภาพวาดที่ในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฮ่องเต้เฉียนหลงได้ทรงพระราชทานให้บรรดามเหสี เรียกรวมว่า ‘กงซวิ่นถู’ (宫训图 แปลตรงตัวว่า พระราชวัง+คำสอน+ภาพ) พร้อมป้ายอักษรอันเป็นตัวแทนของบทกวี ‘กงซวิ่นซือ’ (宫训诗 แปลตรงตัวว่า พระราชวัง+คำสอน+บทกวี) ภาพเหล่านี้ล้วนเป็นภาพฮองเฮา / มเหสี / พระชายาที่มีชื่อในประวัติศาสตร์ว่ามีคุณงามความดี สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึงภาพแรกคือภาพ ‘ไท่ซึฮุ่ยจื่อ’ ที่ทรงพระราชทานให้ฮองเฮาเซี่ยวเสียนฉุน (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid0Ery63dJM9QctgcUQWchqzEPMugvq12HANhduAUpojWfR2GjQctaJRpxAjBzsD6NWl) แต่พอ Storyฯ จะเขียนถึงภาพถัดไปก็เริ่มเกิดความยาก... ปัญหาคือว่า ละครเรื่องนี้แม้อ้างอิงจากเรื่องจริงแต่ตัวละครและชื่อตำหนักที่ประทับได้ถูกปรับเปลี่ยนไปบ้าง และข้อมูลเกี่ยวกับภาพวาดที่ Storyฯ หาเจอจะอิงตามชื่อตำหนัก Storyฯ เลยคิดว่า ก่อนจะไปกันต่อ เอาภาพมาให้เพื่อนเพจดูกันก่อนว่าพระราชวังต่างๆ ตั้งอยู่ที่ไหนกันบ้าง (ดูรูปประกอบ3) ซึ่งที่บอกว่าฮองเฮากุมอำนาจหกวังหรือ ‘ลิ่วกง’ แห่งวังหลังนั้น ‘หกวัง’ นั้นจริงๆ หมายถึงสิบสองวังหรือตำหนัก แบ่งเป็นหกตำหนักฝั่งตะวันออกและหกตำหนักตะวันตก ตรงกลางของวังหลังคือพระตำหนักเฉียนชิงกง ซึ่งเป็นที่ประทับและทรงงานของฮ่องเต้ (แต่ตั้งแต่รัชสมัยของยงเจิ้งเป็นต้นมา ฮ่องเต้จะเสด็จไปบรรทมที่พระที่นั่งหยั่งซินแทน) ตำหนักไหนอยู่ตรงไหนดูจากภาพประกอบกันได้เลยนะคะ วันนี้คุยกันเรื่องภาพที่สอง คือภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ (班姬辞辇图 ) แปลได้ว่าประมาณว่า ปันจีผู้งามมารยาท ภาพนี้ในนิยายต้นฉบับของ <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ได้ถูกพระราชทานไปให้เกากุ้ยเฟย (ในนิยายคือฮุ่ยกุ้ยเฟย) ที่พระตำหนักฉู่ซิ่วกง (ในซีรีย์บอกเป็นอีกภาพหนึ่ง) แต่ในเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> เกากุ้ยเฟยประทับที่พระตำหนักเสียนฝูกง ท่ามกลางความสับสนของชื่อภาพและชื่อพระตำหนักนี้ Storyฯ ยึดตามที่มีกล่าวถึงจากข้อมูลที่หาได้ว่า ภาพนี้ถูกแขวนไว้ที่พระตำหนักหย่งโซ่วกง (พระตำหนักของพระนางฮุ่ยเสียนหวงกุ้ยเฟย ผู้ซึ่งว่ากันว่าเป็นต้นแบบของเกากุ้ยเฟยในละคร) ภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ ที่องค์เฉียนหลงทรงให้จัดวาดขึ้นนั้นหน้าตาที่แท้จริงเป็นอย่างไร Storyฯ ก็หาไม่พบ พบแต่ภาพดั้งเดิมของเรื่อง ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ (ดูรูปประกอบ1) ซึ่งเป็นตอนหนึ่งของภาพม้วนยาวที่มีชื่อเรียกว่าภาพ ‘หนีว์สื่อเจิน’ (女史箴图 / ข้าราชสำนักหญิงเตือนสติ ดูรูปประกอบ2) อันเป็นผลงานของกู้ข่ายจือ ซึ่งเดิมมี 12 ตอนแต่สูญหายไปแล้ว ปัจจุบันเหลือเพียงฉบับคัดลอก 9 ตอนสองชุด ชุดหนึ่งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์วังต้องห้าม เป็นภาพที่จัดทำขึ้นสมัยซ่ง และอีกชุดหนึ่งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์บริติช (British Museum) เป็นภาพที่จัดทำในสมัยถัง ภาพทั้งสองมีความยาวเกือบ 3.5 เมตร เป็นภาพที่ถูกยกย่องว่านำเสนอวิถีชีวิตเหล่านางในตำแหน่งต่างๆ ออกมาได้ดี ไม่ว่าจะการวางตัวหรือสีหน้าสีตา ทั้งนี้ ภาพเต็ม ‘หนีว์สื่อเจิน’ เป็นภาพที่วาดขึ้นในสมัยราชวงศ์จิ้น โดยมีเนื้อหาเป็นเรื่องเล่าในรัชสมัยฮั่นเฉิงตี้แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (ปี 52-7 ก่อนคริสตกาล) กล่าวถึงเมื่อครั้งฮั่นเฉิงตี้เสด็จประพาสทอดพระเนตรสัตว์สู้กัน โดยมีนางในและพระโอรสตามเสด็จ ‘ปันจี’ คือใคร? นางคือพระนางปันเจี๋ยอวี๋ (หมายเหตุ ตำแหน่งเจี๋ยอวี๋นี้ บางคนเคยแปลว่าอัครเทวี บางคนแปลว่าราชเทวี Storyฯ ก็ไม่สันทัดว่าควรเรียกว่าอย่างไรจึงจะถูกต้อง) ชื่อเดิมว่า ‘ปันเถียน’ เริ่มเข้าวังทำหน้าที่เป็นข้าราชสำนักหญิงหรือที่เรียกว่าตำแหน่ง ‘หนีว์สื่อ’ มีหน้าที่ถวายงานด้านอักษรให้แก่ฮองเฮา รวมถึงงานบันทึกผลงานและความผิดของสตรีฝ่ายในและงานด้านพิธีการฝ่ายใน ต่อมาได้เป็นสนมรับใช้ฮั่นเฉิงตี้และสุดท้ายได้รับตำแหน่งเจี๋ยอวี๋ นางถูกจารึกไว้ว่าเป็นกวีและนักอักษรศาสตร์ที่เลื่องชื่อ มีผลงานตกทอดมาจนปัจจุบันหลายชิ้น ภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ นี้เป็นตอนที่สองของภาพ ‘หนีว์สื่อเจิน’ เป็นเรื่องราวสมัยที่พระนางยังเป็นที่โปรดปรานของฮั่นเฉิงตี้ ใจความคือองค์ฮั่นเฉิงตี้ทรงโปรดให้ใช้พระราชรถม้าขนาดใหญ่มากในการประพาสครั้งนี้เพื่อจะได้ให้พระนางปันโดยเสด็จด้วยบนรถ แต่พระนางทรงปฏิเสธ โดยอธิบายว่าแต่ไหนแต่ไรมา คนอื่นๆ ต้องเดินตามเสด็จอยู่ด้านข้างขบวน และในประวัติศาสตร์แม้มีกษัตริย์บางพระองค์ที่ให้พระภรรยาหรือสนมประทับร่วมบนพระราชรถ แต่กษัตริย์เหล่านั้นสุดท้ายล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ทำให้ราชวงศ์ล่มสลาย พระนางทรงไม่ต้องการให้ผู้ใดไปเล่ากันต่อในทางที่ไม่ดีว่าองค์ฮั่นเฉิงตี้มัวเมาในสตรีจนอาจเป็นเหตุให้บ้านเมืองต้องอับจนในอนาคต เหตุการณ์นี้ทำให้พระนางถูกยกย่องว่าเป็นคนที่สงบเสงี่ยมแม้จะได้รับความโปรดปรานจากองค์ฮ่องเต้ วางพระองค์ได้ดี รู้ขนบทำเนียมหน้าที่และรู้ว่าอะไรควรไม่ควร ภาพนี้ถูกชื่นชมว่าสามารถบรรยายความรู้สึกหลากหลายออกมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็นความไม่พอพระทัยแต่จำยอมขององค์ฮั่นเฉิงตี้หรือการเบือนพักตร์ลอบไม่พอพระทัยของฮองเฮา โดยฉพาะภาพลักษณ์ของปันเจี๋ยอวี๋ในภาพนี้ ดูสูงส่งเรียบร้อย สมกับที่พระนางถูกยกย่องให้เป็นแบบอย่างแห่งสตรีผู้มีจริยวัตรงดงาม ส่วนป้ายอักษรที่องค์เฉียนหลงทรงพระราชทานคู่กับป้ายนี้คือ ‘ลิ่งอี๋ซูเต๋อ’ (令仪淑德) แปลได้ประมาณว่า เคารพพิธีการและวางตนให้ดีมีจริยวัตรงดงาม ในเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> นี้ เกากุ้ยเฟยตีความจากภาพนี้ว่า เฉียนหลงฮ่องเต้ทรงตำหนิที่นางวางองค์ไม่ดีจึงทรงพระราชทานภาพนี้มาเตือนสติ แต่เจียผินปลอบพระนางว่า จริงๆ แล้วภาพทั้งสิบสองสะท้อนถึงคุณสมบัติที่เฉียนหลงฮ่องเต้ทรงคาดหวังจากเหล่ามเหสีและสนมทั้งหมด เพื่อนเพจคิดว่าไงคะ? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.sohu.com/a/242329927_100034915 https://zhuanlan.zhihu.com/p/44523682 https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=5c29a1b9368965f14d877c95 http://www.obj.cc/thread-69013-1-1.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: http://www.takungpao.com/culture/237140/2019/1207/387125.html https://baike.baidu.com/item/女史箴图 https://baike.baidu.com/item/班姬辞辇/360901 #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #เกากุ้ยเฟย #ปันจีฉือเหนี่ยน #ปันเจวี๋ยอี๋ #กงซวิ่นถู #หกตำหนักวังหลัง #เฉียนหลงสิบสองภาพวาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 614 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🧐ในที่สุด ฉันก็ได้รับคำตอบเกี่ยวกับไพ่พญายมราช (หมายเลข 31) ที่ฉันกังวล ในตำแหน่ง <สรุป>
    ซึ่งหมายความว่า "ฉันจะได้เรียนรู้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการทำ CPR กับบริษัทนี้นี่เอง"
    .
    📌การดูไพ่พรหมญาณ ไม่ใช่เรื่องของความงมงายหรือโชคลาง แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เรา เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง เหมือนเป็นการเตือนสติ เพื่อให้เราระมัดระวัง และเตรียมตัวให้พร้อม กับทุกเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นโอกาสหรืออุปสรรค
    .
    📌การดูไพ่จึงเป็นเสมือนแนวทางในการพิจารณา ให้เรารู้เท่าทันทุกการเดินทาง ไม่ปล่อยให้ความประมาททำให้เราเสียโอกาส หรือผิดพลาดโดยไม่รู้ตัว ขอให้ทุกคนมีสติ และใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังที่สุดในทุกช่วงเวลา
    .
    ❤️ลองเปิดใจ มาพูดคุย แลกเปลี่ยนบทสนทนา ผ่านสื่อกลางด้วยไพ่พรหมญาณ สามารถติดต่อ สอบถาม ได้ที่
    FB: Nataphat Jacky Promayarn
    FB Fanpage: พรหมอ่านไพ่
    หรือ
    Line OA: 874idjbu
    คลิ๊ก 👉 https://lin.ee/Te57Hii
    .
    #ใดใดในโลกล้วนสายมู #พรหมอ่านไพ่ #พรหมญาณพยากรณ์ #พรหมญาณ๗๔ #ไพ่พรหมญาณ #เคียงข้างทุกปัญหาให้คุณค่าทุกการตัดสินใจ
    🧐ในที่สุด ฉันก็ได้รับคำตอบเกี่ยวกับไพ่พญายมราช (หมายเลข 31) ที่ฉันกังวล ในตำแหน่ง <สรุป> ซึ่งหมายความว่า "ฉันจะได้เรียนรู้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นและการทำ CPR กับบริษัทนี้นี่เอง" . 📌การดูไพ่พรหมญาณ ไม่ใช่เรื่องของความงมงายหรือโชคลาง แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เรา เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง เหมือนเป็นการเตือนสติ เพื่อให้เราระมัดระวัง และเตรียมตัวให้พร้อม กับทุกเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นโอกาสหรืออุปสรรค . 📌การดูไพ่จึงเป็นเสมือนแนวทางในการพิจารณา ให้เรารู้เท่าทันทุกการเดินทาง ไม่ปล่อยให้ความประมาททำให้เราเสียโอกาส หรือผิดพลาดโดยไม่รู้ตัว ขอให้ทุกคนมีสติ และใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังที่สุดในทุกช่วงเวลา . ❤️ลองเปิดใจ มาพูดคุย แลกเปลี่ยนบทสนทนา ผ่านสื่อกลางด้วยไพ่พรหมญาณ สามารถติดต่อ สอบถาม ได้ที่ FB: Nataphat Jacky Promayarn FB Fanpage: พรหมอ่านไพ่ หรือ Line OA: 874idjbu คลิ๊ก 👉 https://lin.ee/Te57Hii . #ใดใดในโลกล้วนสายมู #พรหมอ่านไพ่ #พรหมญาณพยากรณ์ #พรหมญาณ๗๔ #ไพ่พรหมญาณ #เคียงข้างทุกปัญหาให้คุณค่าทุกการตัดสินใจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 396 มุมมอง 0 รีวิว
  • รบเถิดอรชุน

    นั่งดูข่าวสารบ้านเมืองแล้ว อยู่ๆผมก็นึกถึงเนื้อหาเล็กๆในตอนหนึ่งของ “ภควัทคีตา” ในมหากาพย์มหาภารตะครับ

    สำหรับท่านที่ไม่รู้จักภควัทคีตา ก็ขออธิบายสั้นๆว่าเป็นบทคำพูดโต้ตอบระหว่างเจ้าชายอรชุนกับกฤษณะในสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร อันเป็นสงครามใหญ่ระหว่างกองทัพสองฝ่ายคือฝ่ายเการพและฝ่ายปาณฑพ

    และผู้นำนักรบของทั้งสองฝ่ายนั้นล้วนเป็นพี่น้องเครือญาติกันทั้งสิ้น

    เจ้าชายอรชุนนั้นเป็นนักรบที่มีฝีมือยิงธนูเป็นเลิศของฝ่ายปาณฑพ (อ่านว่า ปาน-ดบ)

    ส่วนกฤษณะนั้น คือ สารถีคนขับรถม้าให้อรชุนในสนามรบ ซึ่งอันที่จริงกฤษณะนั้นคือพระนารายณ์อวตารลงมาบนโลกมนุษย์อีกทีครับ

    เหตุที่สองคนนี้เขาต้องโต้เถียงพูดคุยกันยาวเหยียดนั้น ก็เพราะเจ้าชายอรชุนเกิดความเวทนาและหดหู่ใจที่เห็นญาติพี่น้องทั้งกษัตริย์และเจ้าชายทั้งหลายยกทัพมาเข่นฆ่ากันเองจนเลือดนองแผ่นดินเพื่อแย่งชิงอำนาจ

    อรชุนตัดสินใจผละออกจากการรบ กฤษณะจึงได้เข้าทัดทาน พร้อมกับยกหลักเหตุผลต่างๆนานาเพื่อให้อรชุนกลับเข้าสู่สนามรบ

    กฤษณะได้สอนอรชุนว่า “การหลีกเลี่ยงหน้าที่นั้นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เกิดในวรรณะกษัตริย์และนักรบเช่นอรชุน“

    ”หากท่านละทิ้งการรบแล้ว นอกจากจะเสียชื่อเสื่อมเกียรติแล้ว ยังถือเป็นการทำผิดต่อหน้าที่ของตนเอง“

    ”เมื่อท่านกลับเข้าสนามรบ ก็ขอให้ทำหน้าที่นักรบโดยไม่ยึดติดกับความสำเร็จหรือความล้มเหลว จะแพ้หรือชนะนั้นไม่สำคัญ เพราะเมื่อท่านได้ทำหน้าที่นักรบของตนเองอย่างเต็มที่และไม่คิดถึงผลประโยชน์ส่วนตนแล้ว นั่นแหละคือหนทางสู่ความสงบอย่างแท้จริง“

    ผมชอบตรงที่พระกฤษณะบอกว่า ”ชนะก็ได้เป็นใหญ่ในปฐพี แต่ถ้าแพ้ก็ได้ขึ้นสวรรค์เพราะได้ทำหน้าที่ของตนแล้ว“

    ด้วยคำว่า “ธรรมะ” ของพระกฤษณะคือ “หน้าที่”

    เช่นเดียวกับหลักการบูชิโดของซามูไร ที่ยึดถือในคุณธรรมสองประการ คือ จิริกิ (ความยุติธรรม) และกิริ (ความรับผิดชอบในหน้าที่)

    คนเราต้องรู้จักหน้าที่

    เมื่อเกิดมาชาติหนึ่งแล้ว เมื่อได้อยู่ฐานะหรือตำแหน่งอะไร ก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองให้สุดความสามารถ

    เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี

    เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ต้องทำหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัด

    อะไรที่ไม่ใช่หน้าที่ เช่น จัดสัมมนาหรือไปออกงานอีเว้นท์น่ะ ไม่ต้องไปทำ

    หวังว่าคงจะเตือนสติใครได้บ้าง เพราะถ้าท่านทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถแล้ว ชาวบ้านเขาจะรู้เองแหละ

    …รบเถิดอรชุน…


    นัทแนะ
    รบเถิดอรชุน นั่งดูข่าวสารบ้านเมืองแล้ว อยู่ๆผมก็นึกถึงเนื้อหาเล็กๆในตอนหนึ่งของ “ภควัทคีตา” ในมหากาพย์มหาภารตะครับ สำหรับท่านที่ไม่รู้จักภควัทคีตา ก็ขออธิบายสั้นๆว่าเป็นบทคำพูดโต้ตอบระหว่างเจ้าชายอรชุนกับกฤษณะในสงครามที่ทุ่งกุรุเกษตร อันเป็นสงครามใหญ่ระหว่างกองทัพสองฝ่ายคือฝ่ายเการพและฝ่ายปาณฑพ และผู้นำนักรบของทั้งสองฝ่ายนั้นล้วนเป็นพี่น้องเครือญาติกันทั้งสิ้น เจ้าชายอรชุนนั้นเป็นนักรบที่มีฝีมือยิงธนูเป็นเลิศของฝ่ายปาณฑพ (อ่านว่า ปาน-ดบ) ส่วนกฤษณะนั้น คือ สารถีคนขับรถม้าให้อรชุนในสนามรบ ซึ่งอันที่จริงกฤษณะนั้นคือพระนารายณ์อวตารลงมาบนโลกมนุษย์อีกทีครับ เหตุที่สองคนนี้เขาต้องโต้เถียงพูดคุยกันยาวเหยียดนั้น ก็เพราะเจ้าชายอรชุนเกิดความเวทนาและหดหู่ใจที่เห็นญาติพี่น้องทั้งกษัตริย์และเจ้าชายทั้งหลายยกทัพมาเข่นฆ่ากันเองจนเลือดนองแผ่นดินเพื่อแย่งชิงอำนาจ อรชุนตัดสินใจผละออกจากการรบ กฤษณะจึงได้เข้าทัดทาน พร้อมกับยกหลักเหตุผลต่างๆนานาเพื่อให้อรชุนกลับเข้าสู่สนามรบ กฤษณะได้สอนอรชุนว่า “การหลีกเลี่ยงหน้าที่นั้นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่เกิดในวรรณะกษัตริย์และนักรบเช่นอรชุน“ ”หากท่านละทิ้งการรบแล้ว นอกจากจะเสียชื่อเสื่อมเกียรติแล้ว ยังถือเป็นการทำผิดต่อหน้าที่ของตนเอง“ ”เมื่อท่านกลับเข้าสนามรบ ก็ขอให้ทำหน้าที่นักรบโดยไม่ยึดติดกับความสำเร็จหรือความล้มเหลว จะแพ้หรือชนะนั้นไม่สำคัญ เพราะเมื่อท่านได้ทำหน้าที่นักรบของตนเองอย่างเต็มที่และไม่คิดถึงผลประโยชน์ส่วนตนแล้ว นั่นแหละคือหนทางสู่ความสงบอย่างแท้จริง“ ผมชอบตรงที่พระกฤษณะบอกว่า ”ชนะก็ได้เป็นใหญ่ในปฐพี แต่ถ้าแพ้ก็ได้ขึ้นสวรรค์เพราะได้ทำหน้าที่ของตนแล้ว“ ด้วยคำว่า “ธรรมะ” ของพระกฤษณะคือ “หน้าที่” เช่นเดียวกับหลักการบูชิโดของซามูไร ที่ยึดถือในคุณธรรมสองประการ คือ จิริกิ (ความยุติธรรม) และกิริ (ความรับผิดชอบในหน้าที่) คนเราต้องรู้จักหน้าที่ เมื่อเกิดมาชาติหนึ่งแล้ว เมื่อได้อยู่ฐานะหรือตำแหน่งอะไร ก็ต้องทำหน้าที่ของตนเองให้สุดความสามารถ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องทำหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ต้องทำหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัด อะไรที่ไม่ใช่หน้าที่ เช่น จัดสัมมนาหรือไปออกงานอีเว้นท์น่ะ ไม่ต้องไปทำ หวังว่าคงจะเตือนสติใครได้บ้าง เพราะถ้าท่านทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถแล้ว ชาวบ้านเขาจะรู้เองแหละ …รบเถิดอรชุน… นัทแนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 403 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📌ขอแสดงความเสียใจจากใจจริงต่อการจากไปของญาติผู้ใหญ่ของลูกดวง ขอให้ดวงวิญญาณของท่านไปสู่ภพภูมิที่ดี ปราศจากทุกข์โศก และสงบสุขตลอดไป
    .
    📌การดูไพ่พรหมญาณ ไม่ใช่เรื่องของความงมงายหรือโชคลาง แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เรา เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง เหมือนเป็นการเตือนสติ เพื่อให้เราระมัดระวัง และเตรียมตัวให้พร้อม กับทุกเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นโอกาสหรืออุปสรรค
    .
    📌การดูไพ่จึงเป็นเสมือนแนวทางในการพิจารณา ให้เรารู้เท่าทันทุกการเดินทาง ไม่ปล่อยให้ความประมาททำให้เราเสียโอกาส หรือผิดพลาดโดยไม่รู้ตัว ขอให้ทุกคนมีสติ และใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังที่สุดในทุกช่วงเวลา
    .
    ❤️ลองเปิดใจ มาพูดคุย แลกเปลี่ยนบทสนทนา ผ่านสื่อกลางด้วยไพ่พรหมญาณ สามารถติดต่อ สอบถาม ได้ที่
    FB: Nataphat Jacky Promayarn
    FB Fanpage: พรหมอ่านไพ่
    หรือ
    Line OA: 874idjbu
    คลิ๊ก 👉 https://lin.ee/Te57Hii
    .
    #ใดใดในโลกล้วนสายมู #พรหมอ่านไพ่ #พรหมญาณพยากรณ์ #พรหมญาณ๗๔ #ไพ่พรหมญาณ #เคียงข้างทุกปัญหาให้คุณค่าทุกการตัดสินใจ
    📌ขอแสดงความเสียใจจากใจจริงต่อการจากไปของญาติผู้ใหญ่ของลูกดวง ขอให้ดวงวิญญาณของท่านไปสู่ภพภูมิที่ดี ปราศจากทุกข์โศก และสงบสุขตลอดไป . 📌การดูไพ่พรหมญาณ ไม่ใช่เรื่องของความงมงายหรือโชคลาง แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เรา เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง เหมือนเป็นการเตือนสติ เพื่อให้เราระมัดระวัง และเตรียมตัวให้พร้อม กับทุกเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นโอกาสหรืออุปสรรค . 📌การดูไพ่จึงเป็นเสมือนแนวทางในการพิจารณา ให้เรารู้เท่าทันทุกการเดินทาง ไม่ปล่อยให้ความประมาททำให้เราเสียโอกาส หรือผิดพลาดโดยไม่รู้ตัว ขอให้ทุกคนมีสติ และใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังที่สุดในทุกช่วงเวลา . ❤️ลองเปิดใจ มาพูดคุย แลกเปลี่ยนบทสนทนา ผ่านสื่อกลางด้วยไพ่พรหมญาณ สามารถติดต่อ สอบถาม ได้ที่ FB: Nataphat Jacky Promayarn FB Fanpage: พรหมอ่านไพ่ หรือ Line OA: 874idjbu คลิ๊ก 👉 https://lin.ee/Te57Hii . #ใดใดในโลกล้วนสายมู #พรหมอ่านไพ่ #พรหมญาณพยากรณ์ #พรหมญาณ๗๔ #ไพ่พรหมญาณ #เคียงข้างทุกปัญหาให้คุณค่าทุกการตัดสินใจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 429 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📌ขอแสดงความเสียใจจากใจจริงต่อการจากไปของญาติผู้ใหญ่ของลูกดวง ขอให้ดวงวิญญาณของท่านไปสู่ภพภูมิที่ดี ปราศจากทุกข์โศก และสงบสุขตลอดไป
    .
    📌การดูไพ่พรหมญาณ ไม่ใช่เรื่องของความงมงายหรือโชคลาง แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เรา เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง เหมือนเป็นการเตือนสติ เพื่อให้เราระมัดระวัง และเตรียมตัวให้พร้อม กับทุกเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นโอกาสหรืออุปสรรค
    .
    📌การดูไพ่จึงเป็นเสมือนแนวทางในการพิจารณา ให้เรารู้เท่าทันทุกการเดินทาง ไม่ปล่อยให้ความประมาททำให้เราเสียโอกาส หรือผิดพลาดโดยไม่รู้ตัว ขอให้ทุกคนมีสติ และใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังที่สุดในทุกช่วงเวลา
    .
    ❤️ลองเปิดใจ มาพูดคุย แลกเปลี่ยนบทสนทนา ผ่านสื่อกลางด้วยไพ่พรหมญาณ สามารถติดต่อ สอบถาม ได้ที่
    FB: Nataphat Jacky Promayarn
    FB Fanpage: พรหมอ่านไพ่
    หรือ
    Line OA: 874idjbu
    คลิ๊ก 👉 https://lin.ee/Te57Hii
    .
    #ใดใดในโลกล้วนสายมู #พรหมอ่านไพ่ #พรหมญาณพยากรณ์ #พรหมญาณ๗๔ #ไพ่พรหมญาณ #เคียงข้างทุกปัญหาให้คุณค่าทุกการตัดสินใจ
    📌ขอแสดงความเสียใจจากใจจริงต่อการจากไปของญาติผู้ใหญ่ของลูกดวง ขอให้ดวงวิญญาณของท่านไปสู่ภพภูมิที่ดี ปราศจากทุกข์โศก และสงบสุขตลอดไป . 📌การดูไพ่พรหมญาณ ไม่ใช่เรื่องของความงมงายหรือโชคลาง แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เรา เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง เหมือนเป็นการเตือนสติ เพื่อให้เราระมัดระวัง และเตรียมตัวให้พร้อม กับทุกเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นโอกาสหรืออุปสรรค . 📌การดูไพ่จึงเป็นเสมือนแนวทางในการพิจารณา ให้เรารู้เท่าทันทุกการเดินทาง ไม่ปล่อยให้ความประมาททำให้เราเสียโอกาส หรือผิดพลาดโดยไม่รู้ตัว ขอให้ทุกคนมีสติ และใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังที่สุดในทุกช่วงเวลา . ❤️ลองเปิดใจ มาพูดคุย แลกเปลี่ยนบทสนทนา ผ่านสื่อกลางด้วยไพ่พรหมญาณ สามารถติดต่อ สอบถาม ได้ที่ FB: Nataphat Jacky Promayarn FB Fanpage: พรหมอ่านไพ่ หรือ Line OA: 874idjbu คลิ๊ก 👉 https://lin.ee/Te57Hii . #ใดใดในโลกล้วนสายมู #พรหมอ่านไพ่ #พรหมญาณพยากรณ์ #พรหมญาณ๗๔ #ไพ่พรหมญาณ #เคียงข้างทุกปัญหาให้คุณค่าทุกการตัดสินใจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 0 รีวิว
  • 04-04-62/14 : หมี CNN / ระบอบกษัตริย์ชาติอื่นเป็นยังไง? กูไม่รู้ กูไม่สนใจ? แต่ระบบกษัตริย์ไทย หล่อมว๊าก! หัวใจล้วนๆ เทใจให้ราษฎรแบบที่ไหนในโลกก็ไม่มี? อย่าคิดว่าเหี้ยโปรยเศษเงินมาให้ แล้วพวกมรึงคิดจะล้มล้างสถาบัน ตราบใดที่ยังมีคนไทยหัวใจหล่อมว๊ากอยู่อีกมหาศาลเกลื่อนแผ่นดิน?

    พ่อสู้เรื่องระบบน้ำชลประทาน ให้น้ำหมุนเวียนไปทั่ว
    พ่อสู้เรื่องเขื่อน เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้ง ยามท่วม
    พ่อสู้เรื่องฝนเทียม ให้ชาวนา ชาวไร่ มีน้ำใช้ยามแล้งหนัก
    พ่อสู้เรื่องความยากจน กระจายรายได้ โครงการท้องถิ่น
    พ่อสู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเอง สอนช่วยตัวเอง
    พ่อสู้เรื่องความช่วยเหลือ อุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว
    พ่อสู้เรื่องการเกษตร การใช้พื้นที่ การพัฒนายั่งยืน
    พ่อสู้เรื่องความเท่าเทียม แบ่งปัน และยกระดับการศึกษา
    พ่อสู้เรื่องการดนตรี ศิลปะ รากเหง้า อนุรักษ์ประเพณีไทย
    พ่อสู้เรื่องแนวคิด ปรัชญา สติ ปัญญา เหตุและผล สั่งสอน
    พ่อสู้เรื่องความประหยัด อดออมคุ้มค่า รีไซเคิล กลับมาใช้
    พ่อสู้เรื่องป่าไม้ สัตว์ป่า สมดุลธรรมชาติ พันธุ์ไทย ปลูกป่า
    พ่อสู้เรื่องสินค้าไทย แปรรูป อาหาร ทะเล ผ้าไหม ผ้าฝ้าย
    พ่อสู้เรื่องความสามัคคี ปองครอง ยุติความขัดแย้งภายใน
    พ่อสู้เรื่องความเป็นชาตินิยม ภูมิใจความเป็นไทย ชื่อเสียง
    พ่อปกป้องแผ่นดินไทย การรุกรานจากต่างชาติ และมั่นคง
    พ่อเสียสละตนเอง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย
    พ่อเตือนสติ ให้ปัญญา พระบรมราโชวาททุกปี ตื่นคิด มีสติ
    พ่อแบ่งปันความรัก ความรู้ ไปยังเพื่อนบ้านรอบข้างด้วย
    พ่อสร้างมิตร เป็นที่รักชื่นชอบของทุกราชวงศ์ทั่วโลก
    พ่อไม่เคยโอ้อวดตนเอง และไม่ใช้อำนาจที่มี เพื่อแสดง
    พ่อทำนุบำรุงทุกศาสนาในชาติ อยู่ร่วมกันอย่างสันติได้
    พ่อเยี่ยมเยียนชาวบ้านทุกพื้นที่ทั้งแผ่นดิน ไปเยี่ยมเสมอ
    พ่อยึดถือทศพิษราชธรรมได้อย่างสมบูรณ์ จนวันสุดท้าย
    พ่อรู้ทุกอย่าง เข้าใจ เข้าถึง แก้ปัญหา พระบารมีเปี่ยมล้น

    มีอีกมากมายมหาศาล จนระลึกถึงน้ำพระคุณได้ไม่หมดสิ้น เป็นบุญของปวงชนชาวไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ที่หัวใจหล่อมว๊ากที่สุดใน 3 โลก ไม่มีพ่อ ก็คงไม่มีวันนี้ ไม่มีบรรพกษัตริย์ไทย ก็คงไม่มีวันนี้เช่นกัน "ราชวงศ์จักรี" จงเจริญยิ่งยืนนาน ตราบชั่วฟ้าดินสลาย!

    หมี CNN(ด้วยจิตสำนึกรักพ่อ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์)
    04 เม.ย. 62
    16.53 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    Jeerachart Jongsomchai / “ปฏิวัติฝรั่งเศส ของใคร โดยใคร เพื่อใคร ?”

    ... “สาเหตุของการปฏิวัติฝรั่งเศส” มีหลายแนวคิดหลักๆคือ

    ... มูลเหตุของการปฏิวัติมีความซับซ้อนและยังเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักประวัติศาสตร์ เช่นปัจจัยภายในต่าง ๆ ของระบอบเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจัยทางเศรษฐกิจรวมถึงความหิวโหยและทุพโภชนาการในประชากรกลุ่มที่ยากแค้นที่สุด ซึ่งบางส่วนเกิดจากสภาพอากาศผิดปกติจาก “สภาพอากาศ” ความหนาวเย็นผิดฤดู ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากกิจกรรมของภูเขาไฟที่ลากีและกริมสวอทน์

    ... ใน ค.ศ. 1783-1784 ประกอบกับ “ราคาอาหารที่สูงขึ้น” และ “ระบบการขนส่งที่ไม่เพียงพอ” ซึ่งขัดขวาง “การส่งสินค้าอาหารปริมาณมากจากพื้นที่ชนบทไปยังศูนย์กลางประชากรขนาดใหญ่” ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนทำให้สังคมฝรั่งเศสขาดเสถียรภาพในช่วงก่อนการปฏิวัติอย่างยิ่ง

    ... สาเหตุอีกประการหนึ่งคือ “ภาวะใกล้จะล้มละลายของรัฐบาลจากค่าใช้จ่ายในสงครามที่ฝรั่งเศสเข้าร่วมรบจำนวนมหาศาล” โดยเฉพาะอย่างยิ่งสงครามเจ็ดปี (1756 จนถึง 1763 หรือ “สงครามโลกครั้งที่ศูนย์” โดยเกี่ยวข้องกับทุกประเทศมหาอำนาจในยุโรป มีการสู้รบเกิดขึ้นในห้าทวีป สงครามเจ็ดปีเป็นสงครามระหว่างสองข้างด้วยกัน ข้างหนึ่งนำโดยบริเตนใหญ่ พร้อมด้วยปรัสเซียและกลุ่มนครรัฐเล็กในเยอรมัน กับอีกข้างหนึ่งที่นำด้วยฝรั่งเศส พร้อมด้วยออสเตรีย, รัสเซีย, สวีเดน และซัคเซิน โดยรัสเซียเปลี่ยนข้างอยู่ระยะหนึ่งในช่วงปลายของสงคราม ) และ “สงครามปฏิวัติอเมริกา” สงครามใหญ่เหล่านี้ก่อหนี้จำนวนมหาศาลให้แก่รัฐบาลฝรั่งเศส ซึ่งสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงจากการสูญเสียการครอบครองพื้นที่อาณานิคมของฝรั่งเศสในทวีปอเมริกาเหนือ และการครอบงำทางพาณิชย์ของ “บริเตนใหญ่”ที่เพิ่มขึ้น ทั้ง “ระบบการเงิน” ที่ไม่มีประสิทธิภาพและล้าสมัยของฝรั่งเศสก็ไม่สามารถจัดการกับหนี้สาธารณะได้ ทางรัฐบาลพยายามจะแก้ไขสถานการณ์ทางการเงินด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม

    … การที่ฝรั่งเศส ช่วย “อเมริกา” รบกับ “อังกฤษ” นั้น ไม่ได้ต้องการให้เอกราช กับอเมริกาแต่เพราะต้องการตัดกำลังของอังกฤษคู่แข่งอาณานิคมของตัวเอง ( เหมือนตอนที่ อเมริกา หลังได้เอกราช ก็ได้ช่วย “ฟิลิปปินส์” กับ “คิวบา” เป็นเอกราชจากสเปนนั้น ไม่ได้ต้องการให้ทั้งสองชาติสัมผัสกับอิสรภาพ หรือตัวเองซาบซึ้งกับระบอบปประชาธิปไตย แต่ต้องการจะเป็นเจ้าอาณานิคมแทนเจ้าเดิม )

    ... หลังการปฏิวัติมีการ ยกเลิกระบบศักดินา ยุบมณฑลต่าง ๆ แบ่งประเทศออกเป็น 83 จังหวัด มีการพยายาม “รวมศูนย์อำนาจ” เข้าสู่ศูนย์เดียวที่ปารีส ไม่ยินยอมให้เป็นเอกเทศ จึงมีการต่อต้านขัดขืน

    ... กระแสความตื่นตัวและอารมณ์ของประชาชนได้เปลี่ยนทิศทางของการปฏิวัติจนลึกลงไปถึงรากฐาน ซึ่งปูทางให้กับการขึ้นสู่อำนาจของ “มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์” ที่เป็นนักกฎหมาย นักการเมือง และ “กลุ่มฌากอแบ็ง” และกลายมาเป็น “เผด็จการโดยแท้” ภายใต้ “สมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว” ในระหว่างปี ค.ศ. 1793 ถึง 1794 มีผู้ต่อต้านพวกเขาถูกสังหารถึงระหว่าง 16,000 ถึง 40,000 คน ( ในตอนนั้นมันคือการเปลี่ยนจาก “ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช” ไปสู่ระบอบ “เผด็จการ” )

    ... สโมสรฌากอแบ็ง Club des Jacobins เป็นสโมสรทางการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ก่อตั้งในช่วงการประชุมสภาฐานันดร ค.ศ. 1789 จากการรวมกลุ่มของ “พวกผู้แทน” จากแคว้น “ดัชชีเบรอตาญ” ที่เป็นแคว้นศักดินาแห่งหนึ่งนัฝรั่งเศส ที่เน้นการ “ต่อต้านราชวงศ์” หรือ “ล้มเจ้า” อันเป็นพวกต่อต้านระบอบกษัตริย์ เริ่มแรกมีสมาชิกไม่กี่คนและเป็นการรวมตัวอย่างลับ ๆ ก่อนที่ต่อมาได้พัฒนากลายเป็นขบวนการระดับชาติที่เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้จัดตั้งสาธารณรัฐซึ่งมีสมาชิกมากกว่าครึ่งล้านคน อย่างไรก็ตาม หลังจากโค่นล้มระบบกษัตริย์สำเร็จและจัดตั&#3657
    04-04-62/14 : หมี CNN / ระบอบกษัตริย์ชาติอื่นเป็นยังไง? กูไม่รู้ กูไม่สนใจ? แต่ระบบกษัตริย์ไทย หล่อมว๊าก! หัวใจล้วนๆ เทใจให้ราษฎรแบบที่ไหนในโลกก็ไม่มี? อย่าคิดว่าเหี้ยโปรยเศษเงินมาให้ แล้วพวกมรึงคิดจะล้มล้างสถาบัน ตราบใดที่ยังมีคนไทยหัวใจหล่อมว๊ากอยู่อีกมหาศาลเกลื่อนแผ่นดิน? พ่อสู้เรื่องระบบน้ำชลประทาน ให้น้ำหมุนเวียนไปทั่ว พ่อสู้เรื่องเขื่อน เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้ง ยามท่วม พ่อสู้เรื่องฝนเทียม ให้ชาวนา ชาวไร่ มีน้ำใช้ยามแล้งหนัก พ่อสู้เรื่องความยากจน กระจายรายได้ โครงการท้องถิ่น พ่อสู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเอง สอนช่วยตัวเอง พ่อสู้เรื่องความช่วยเหลือ อุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว พ่อสู้เรื่องการเกษตร การใช้พื้นที่ การพัฒนายั่งยืน พ่อสู้เรื่องความเท่าเทียม แบ่งปัน และยกระดับการศึกษา พ่อสู้เรื่องการดนตรี ศิลปะ รากเหง้า อนุรักษ์ประเพณีไทย พ่อสู้เรื่องแนวคิด ปรัชญา สติ ปัญญา เหตุและผล สั่งสอน พ่อสู้เรื่องความประหยัด อดออมคุ้มค่า รีไซเคิล กลับมาใช้ พ่อสู้เรื่องป่าไม้ สัตว์ป่า สมดุลธรรมชาติ พันธุ์ไทย ปลูกป่า พ่อสู้เรื่องสินค้าไทย แปรรูป อาหาร ทะเล ผ้าไหม ผ้าฝ้าย พ่อสู้เรื่องความสามัคคี ปองครอง ยุติความขัดแย้งภายใน พ่อสู้เรื่องความเป็นชาตินิยม ภูมิใจความเป็นไทย ชื่อเสียง พ่อปกป้องแผ่นดินไทย การรุกรานจากต่างชาติ และมั่นคง พ่อเสียสละตนเอง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย พ่อเตือนสติ ให้ปัญญา พระบรมราโชวาททุกปี ตื่นคิด มีสติ พ่อแบ่งปันความรัก ความรู้ ไปยังเพื่อนบ้านรอบข้างด้วย พ่อสร้างมิตร เป็นที่รักชื่นชอบของทุกราชวงศ์ทั่วโลก พ่อไม่เคยโอ้อวดตนเอง และไม่ใช้อำนาจที่มี เพื่อแสดง พ่อทำนุบำรุงทุกศาสนาในชาติ อยู่ร่วมกันอย่างสันติได้ พ่อเยี่ยมเยียนชาวบ้านทุกพื้นที่ทั้งแผ่นดิน ไปเยี่ยมเสมอ พ่อยึดถือทศพิษราชธรรมได้อย่างสมบูรณ์ จนวันสุดท้าย พ่อรู้ทุกอย่าง เข้าใจ เข้าถึง แก้ปัญหา พระบารมีเปี่ยมล้น มีอีกมากมายมหาศาล จนระลึกถึงน้ำพระคุณได้ไม่หมดสิ้น เป็นบุญของปวงชนชาวไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ที่หัวใจหล่อมว๊ากที่สุดใน 3 โลก ไม่มีพ่อ ก็คงไม่มีวันนี้ ไม่มีบรรพกษัตริย์ไทย ก็คงไม่มีวันนี้เช่นกัน "ราชวงศ์จักรี" จงเจริญยิ่งยืนนาน ตราบชั่วฟ้าดินสลาย! หมี CNN(ด้วยจิตสำนึกรักพ่อ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์) 04 เม.ย. 62 16.53 น. ------------------------------------------------------------------------— Jeerachart Jongsomchai / “ปฏิวัติฝรั่งเศส ของใคร โดยใคร เพื่อใคร ?” ... “สาเหตุของการปฏิวัติฝรั่งเศส” มีหลายแนวคิดหลักๆคือ ... มูลเหตุของการปฏิวัติมีความซับซ้อนและยังเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักประวัติศาสตร์ เช่นปัจจัยภายในต่าง ๆ ของระบอบเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจัยทางเศรษฐกิจรวมถึงความหิวโหยและทุพโภชนาการในประชากรกลุ่มที่ยากแค้นที่สุด ซึ่งบางส่วนเกิดจากสภาพอากาศผิดปกติจาก “สภาพอากาศ” ความหนาวเย็นผิดฤดู ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากกิจกรรมของภูเขาไฟที่ลากีและกริมสวอทน์ ... ใน ค.ศ. 1783-1784 ประกอบกับ “ราคาอาหารที่สูงขึ้น” และ “ระบบการขนส่งที่ไม่เพียงพอ” ซึ่งขัดขวาง “การส่งสินค้าอาหารปริมาณมากจากพื้นที่ชนบทไปยังศูนย์กลางประชากรขนาดใหญ่” ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนทำให้สังคมฝรั่งเศสขาดเสถียรภาพในช่วงก่อนการปฏิวัติอย่างยิ่ง ... สาเหตุอีกประการหนึ่งคือ “ภาวะใกล้จะล้มละลายของรัฐบาลจากค่าใช้จ่ายในสงครามที่ฝรั่งเศสเข้าร่วมรบจำนวนมหาศาล” โดยเฉพาะอย่างยิ่งสงครามเจ็ดปี (1756 จนถึง 1763 หรือ “สงครามโลกครั้งที่ศูนย์” โดยเกี่ยวข้องกับทุกประเทศมหาอำนาจในยุโรป มีการสู้รบเกิดขึ้นในห้าทวีป สงครามเจ็ดปีเป็นสงครามระหว่างสองข้างด้วยกัน ข้างหนึ่งนำโดยบริเตนใหญ่ พร้อมด้วยปรัสเซียและกลุ่มนครรัฐเล็กในเยอรมัน กับอีกข้างหนึ่งที่นำด้วยฝรั่งเศส พร้อมด้วยออสเตรีย, รัสเซีย, สวีเดน และซัคเซิน โดยรัสเซียเปลี่ยนข้างอยู่ระยะหนึ่งในช่วงปลายของสงคราม ) และ “สงครามปฏิวัติอเมริกา” สงครามใหญ่เหล่านี้ก่อหนี้จำนวนมหาศาลให้แก่รัฐบาลฝรั่งเศส ซึ่งสถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงจากการสูญเสียการครอบครองพื้นที่อาณานิคมของฝรั่งเศสในทวีปอเมริกาเหนือ และการครอบงำทางพาณิชย์ของ “บริเตนใหญ่”ที่เพิ่มขึ้น ทั้ง “ระบบการเงิน” ที่ไม่มีประสิทธิภาพและล้าสมัยของฝรั่งเศสก็ไม่สามารถจัดการกับหนี้สาธารณะได้ ทางรัฐบาลพยายามจะแก้ไขสถานการณ์ทางการเงินด้วยการเก็บภาษีเพิ่ม … การที่ฝรั่งเศส ช่วย “อเมริกา” รบกับ “อังกฤษ” นั้น ไม่ได้ต้องการให้เอกราช กับอเมริกาแต่เพราะต้องการตัดกำลังของอังกฤษคู่แข่งอาณานิคมของตัวเอง ( เหมือนตอนที่ อเมริกา หลังได้เอกราช ก็ได้ช่วย “ฟิลิปปินส์” กับ “คิวบา” เป็นเอกราชจากสเปนนั้น ไม่ได้ต้องการให้ทั้งสองชาติสัมผัสกับอิสรภาพ หรือตัวเองซาบซึ้งกับระบอบปประชาธิปไตย แต่ต้องการจะเป็นเจ้าอาณานิคมแทนเจ้าเดิม ) ... หลังการปฏิวัติมีการ ยกเลิกระบบศักดินา ยุบมณฑลต่าง ๆ แบ่งประเทศออกเป็น 83 จังหวัด มีการพยายาม “รวมศูนย์อำนาจ” เข้าสู่ศูนย์เดียวที่ปารีส ไม่ยินยอมให้เป็นเอกเทศ จึงมีการต่อต้านขัดขืน ... กระแสความตื่นตัวและอารมณ์ของประชาชนได้เปลี่ยนทิศทางของการปฏิวัติจนลึกลงไปถึงรากฐาน ซึ่งปูทางให้กับการขึ้นสู่อำนาจของ “มักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์” ที่เป็นนักกฎหมาย นักการเมือง และ “กลุ่มฌากอแบ็ง” และกลายมาเป็น “เผด็จการโดยแท้” ภายใต้ “สมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว” ในระหว่างปี ค.ศ. 1793 ถึง 1794 มีผู้ต่อต้านพวกเขาถูกสังหารถึงระหว่าง 16,000 ถึง 40,000 คน ( ในตอนนั้นมันคือการเปลี่ยนจาก “ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช” ไปสู่ระบอบ “เผด็จการ” ) ... สโมสรฌากอแบ็ง Club des Jacobins เป็นสโมสรทางการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ก่อตั้งในช่วงการประชุมสภาฐานันดร ค.ศ. 1789 จากการรวมกลุ่มของ “พวกผู้แทน” จากแคว้น “ดัชชีเบรอตาญ” ที่เป็นแคว้นศักดินาแห่งหนึ่งนัฝรั่งเศส ที่เน้นการ “ต่อต้านราชวงศ์” หรือ “ล้มเจ้า” อันเป็นพวกต่อต้านระบอบกษัตริย์ เริ่มแรกมีสมาชิกไม่กี่คนและเป็นการรวมตัวอย่างลับ ๆ ก่อนที่ต่อมาได้พัฒนากลายเป็นขบวนการระดับชาติที่เคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้จัดตั้งสาธารณรัฐซึ่งมีสมาชิกมากกว่าครึ่งล้านคน อย่างไรก็ตาม หลังจากโค่นล้มระบบกษัตริย์สำเร็จและจัดตั&#3657
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1193 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารกองกำลังพิเศษกรีนเบเรต์ ผู้ต้องสงสัยจุดชนวนระเบิดรถกระบะไฟฟ้าไซเบอร์ทรัค บริเวณด้านหน้าโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนชัลแนล โฮเท็ล ในลาสเวกัส ในวันขึ้นปีใหม่ อ้างว่าปฏิบัติการของเขานั้นไม่ใช่การโจมตีก่อการร้าย แต่เป็นการเตือนสติถึงอเมริกันชนทุกคน ตามรายงานของอาร์ทนิวส์อ้างอิงข้อความและบันทึกต่างๆที่พบในสมาร์ทโฟนของเขา
    .
    ในวันที่ 1 มกราคม 2025 รถกระบะไซเบอร์ทรัคของเทสลา บรรทุกพลุไฟ ถังแก๊สและเชื้อเพลิง เกิดระเบิดบริเวณด้านนอกโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนเชันแนล โฮเท็ล ในลาสเวกัส คนขับที่ถูกระบะตัวตนว่าได้แก่จ่าสิบเอกแมทธิว อลัน ลิเวลส์เบอร์เกอร์ สมาชิกหน่วยรบพิเศษกรีนเบเรต์ ถูกพบเสียชีวิตในรถคันดังกล่าว แรงระเบิดทำให้ผู้สัญจรผ่านไปมาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 7 คน โรงแรมได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย และเบื้องต้นพวกเจ้าหน้าที่สืบสวนจากรัฐบาลกลาง เกรงว่ามันมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นการลงมือโจมตีก่อการร้าย
    .
    อย่างไรก็ตามในข้อความต่างๆ ซึ่งตำรวจลาสเวกัสเผยแพร่เมื่อวันศุกร์(3ม.ค.) เผยให้เห็นว่า ลิเวลส์เบอร์เกอร์ มีความผิดหวังอย่างมากเกี่ยวกับประเด็นในสังคมต่างๆนานาและมีปมขัดแย้งภายใน โดยข้อความหนึ่ง เขาเขียนว่า "ผมต้องการชำระล้างจิตใจพวกพี่น้อง ที่ผมสูญเสียไป และปล่อยวางตัวเอง จากภาระการใช้ชีวิตที่ผมต้องแบกรับ"
    .
    "นี่ไม่ใช่ก่อการร้าย แต่เป็นสัญญาณเตือนสติ อเมริกันชนใส่ใจแต่เพียงเรื่องน่าตื่นเต้นและความรุนแรง มันอาจเป็นเรื่องดีกว่าที่ผมจะสื่อสารให้พวกเขาเข้าใจประเด็นของผม ด้วยพลุไฟและระเบิด"ลิเวลส์เบอร์เกอร์เขียน
    .
    เขาได้ระบุถึงประเด็นทางสังคมต่างๆนานา ที่เขาบอกว่าอยากให้จัดการ ในนั้นรวมถึงแปรรูปอาหาร โรคอ้วน ความไม่เท่าเทียมทางรายได้ คนเร่ร่อน ผู้นำอ่อนแอ และคอรัปชันอย่างโจ่งแจ้ง
    .
    "หยุดหมกหมุ่นกับหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับความแตกต่าง (DEI) เราทุกคนล้วนแตกต่างกันอยู่แล้ว DEI คือมะเร็ง" เขาเขียน พร้อมระบุว่า "ขอบคุณ ที่พวกเราปฏิเสธผู้สมัครจาก DEI และเราจะมีประธานาธิบดีจริงๆ ไม่ใช่จากหนังตลก" เขาเขียน
    .
    "เราต้องหยุดสงครามในยูเครนด้วยการเจรจาหาทางออก มันเป็นหนทางเดียว" เขาระบุ พร้อมบอกว่า "ประชากรของเราอ้วนเกินไปที่จะเข้าร่วมกองทัพ และเรากำลังเผชิญการทำสงครามกับจีน รัสเซีย เกาหลีเหนือและอิหร่าน ก่อนปี 2030"
    .
    ในบันทึกฉบับที่ 2 ของเขา จ่าหน้าถึงเพื่อนสมาชิกหน่วยรบพิเศษกรีนเบเรต์ นายทหารผ่านศึก พวกนักรบและชาวอเมริกันชนทุกคน ในสิ่งที่ดูเหมือนเป็นการเรียกร้องให้คนเหล่านี้รับประกันว่าพวกเดโมแครต จะไม่ขัดขวาง ทรัมป์ จากการเข้ารับอำนาจและกวาดล้างอาการป่วยต่างๆนานาของประเทศ
    .
    "เรากำลังอยู่ภายใต้ผู้นำที่อ่อนแอและปวกเปียก ที่ทำหน้าที่เพียงเพื่อความมั่งคั่งของตนเอง" เขาเขียน "พยายามด้วยวิธีสันติก่อน แต่ก็เตรียมพร้อมสู้เอาพวกเดโมแครตออกจากรัฐบาลกลางและกองทัพในทุกหนทางที่จำเป็น พวกเขาต้องไปและจำเป็นต้องมีการรีเซ็ตประเทศของเราครั้งใหญ่ เพื่อหลีกเลี่ยงการล่มสลาย"
    .
    ลิเวลส์เบอร์เกอร์ เป็นสมาชิกของกองกำลังพิเศษ ที่ถึงขั้นได้รับเหรียญกล้าหาญ เขาเคยถูกส่งเข้าประจำการทั้งในอัฟกานิสถาน ทาจิกิสถาน จอร์เจีย คองโก และแม้รายงานข่าวอาจรวมถึงยูเครนด้วย อ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ระบุว่าเขากำลังต่อสู้กับความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตหลายเหตุการณ์ ในนั้นรวมถึงการเพิ่งหย่าขาดกับภรรยาเมื่อเร็วๆนี้
    .
    รายงานข่าวระบุว่า ลิเวลส์เบอร์เกอร์ ใช้ปืนสั้นยิงตัวเอง ก่อนจุดชนวนระเบิด และบันทึกต่างๆของเขาบ่งชี้ว่าเขาเต็มไปด้วยแรงกดดันชีวิตส่วนตัวและอาชีพการงาน แม้ขณะเดียวกันทีมสืบสวนมีความระมัดระวังในการตีความบันทึกเหล่านี้ ในขณะที่พวกเขากำลังแกะรอยหาแรงจูงใจในการก่อเหตุ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001229
    ..............
    Sondhi X
    ทหารกองกำลังพิเศษกรีนเบเรต์ ผู้ต้องสงสัยจุดชนวนระเบิดรถกระบะไฟฟ้าไซเบอร์ทรัค บริเวณด้านหน้าโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนชัลแนล โฮเท็ล ในลาสเวกัส ในวันขึ้นปีใหม่ อ้างว่าปฏิบัติการของเขานั้นไม่ใช่การโจมตีก่อการร้าย แต่เป็นการเตือนสติถึงอเมริกันชนทุกคน ตามรายงานของอาร์ทนิวส์อ้างอิงข้อความและบันทึกต่างๆที่พบในสมาร์ทโฟนของเขา . ในวันที่ 1 มกราคม 2025 รถกระบะไซเบอร์ทรัคของเทสลา บรรทุกพลุไฟ ถังแก๊สและเชื้อเพลิง เกิดระเบิดบริเวณด้านนอกโรงแรมทรัมป์ อินเตอร์เนเชันแนล โฮเท็ล ในลาสเวกัส คนขับที่ถูกระบะตัวตนว่าได้แก่จ่าสิบเอกแมทธิว อลัน ลิเวลส์เบอร์เกอร์ สมาชิกหน่วยรบพิเศษกรีนเบเรต์ ถูกพบเสียชีวิตในรถคันดังกล่าว แรงระเบิดทำให้ผู้สัญจรผ่านไปมาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 7 คน โรงแรมได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย และเบื้องต้นพวกเจ้าหน้าที่สืบสวนจากรัฐบาลกลาง เกรงว่ามันมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นการลงมือโจมตีก่อการร้าย . อย่างไรก็ตามในข้อความต่างๆ ซึ่งตำรวจลาสเวกัสเผยแพร่เมื่อวันศุกร์(3ม.ค.) เผยให้เห็นว่า ลิเวลส์เบอร์เกอร์ มีความผิดหวังอย่างมากเกี่ยวกับประเด็นในสังคมต่างๆนานาและมีปมขัดแย้งภายใน โดยข้อความหนึ่ง เขาเขียนว่า "ผมต้องการชำระล้างจิตใจพวกพี่น้อง ที่ผมสูญเสียไป และปล่อยวางตัวเอง จากภาระการใช้ชีวิตที่ผมต้องแบกรับ" . "นี่ไม่ใช่ก่อการร้าย แต่เป็นสัญญาณเตือนสติ อเมริกันชนใส่ใจแต่เพียงเรื่องน่าตื่นเต้นและความรุนแรง มันอาจเป็นเรื่องดีกว่าที่ผมจะสื่อสารให้พวกเขาเข้าใจประเด็นของผม ด้วยพลุไฟและระเบิด"ลิเวลส์เบอร์เกอร์เขียน . เขาได้ระบุถึงประเด็นทางสังคมต่างๆนานา ที่เขาบอกว่าอยากให้จัดการ ในนั้นรวมถึงแปรรูปอาหาร โรคอ้วน ความไม่เท่าเทียมทางรายได้ คนเร่ร่อน ผู้นำอ่อนแอ และคอรัปชันอย่างโจ่งแจ้ง . "หยุดหมกหมุ่นกับหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับความแตกต่าง (DEI) เราทุกคนล้วนแตกต่างกันอยู่แล้ว DEI คือมะเร็ง" เขาเขียน พร้อมระบุว่า "ขอบคุณ ที่พวกเราปฏิเสธผู้สมัครจาก DEI และเราจะมีประธานาธิบดีจริงๆ ไม่ใช่จากหนังตลก" เขาเขียน . "เราต้องหยุดสงครามในยูเครนด้วยการเจรจาหาทางออก มันเป็นหนทางเดียว" เขาระบุ พร้อมบอกว่า "ประชากรของเราอ้วนเกินไปที่จะเข้าร่วมกองทัพ และเรากำลังเผชิญการทำสงครามกับจีน รัสเซีย เกาหลีเหนือและอิหร่าน ก่อนปี 2030" . ในบันทึกฉบับที่ 2 ของเขา จ่าหน้าถึงเพื่อนสมาชิกหน่วยรบพิเศษกรีนเบเรต์ นายทหารผ่านศึก พวกนักรบและชาวอเมริกันชนทุกคน ในสิ่งที่ดูเหมือนเป็นการเรียกร้องให้คนเหล่านี้รับประกันว่าพวกเดโมแครต จะไม่ขัดขวาง ทรัมป์ จากการเข้ารับอำนาจและกวาดล้างอาการป่วยต่างๆนานาของประเทศ . "เรากำลังอยู่ภายใต้ผู้นำที่อ่อนแอและปวกเปียก ที่ทำหน้าที่เพียงเพื่อความมั่งคั่งของตนเอง" เขาเขียน "พยายามด้วยวิธีสันติก่อน แต่ก็เตรียมพร้อมสู้เอาพวกเดโมแครตออกจากรัฐบาลกลางและกองทัพในทุกหนทางที่จำเป็น พวกเขาต้องไปและจำเป็นต้องมีการรีเซ็ตประเทศของเราครั้งใหญ่ เพื่อหลีกเลี่ยงการล่มสลาย" . ลิเวลส์เบอร์เกอร์ เป็นสมาชิกของกองกำลังพิเศษ ที่ถึงขั้นได้รับเหรียญกล้าหาญ เขาเคยถูกส่งเข้าประจำการทั้งในอัฟกานิสถาน ทาจิกิสถาน จอร์เจีย คองโก และแม้รายงานข่าวอาจรวมถึงยูเครนด้วย อ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ระบุว่าเขากำลังต่อสู้กับความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตหลายเหตุการณ์ ในนั้นรวมถึงการเพิ่งหย่าขาดกับภรรยาเมื่อเร็วๆนี้ . รายงานข่าวระบุว่า ลิเวลส์เบอร์เกอร์ ใช้ปืนสั้นยิงตัวเอง ก่อนจุดชนวนระเบิด และบันทึกต่างๆของเขาบ่งชี้ว่าเขาเต็มไปด้วยแรงกดดันชีวิตส่วนตัวและอาชีพการงาน แม้ขณะเดียวกันทีมสืบสวนมีความระมัดระวังในการตีความบันทึกเหล่านี้ ในขณะที่พวกเขากำลังแกะรอยหาแรงจูงใจในการก่อเหตุ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000001229 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1452 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2568 ปีมะเส็งไม้ ธาตุไฟ
    ใคร...ทัวร์ลง...ชงเต็ม...

    ในปีพ.ศ.2568 นี้เป็นปีมะเส็งไม้“乙巳”(อิกจี๋) ธาตุไฟ มีองค์เทพเจ้า “太歲爺”(ไท๊ส่วยเอี๊ย) คอยเฝ้าดูดวงชะตาที่ทรงพระนามว่า “吳遂大星軍”(โง้วซุ้ยไต่แชกุง) ส่งผลกระทบโดยตรงต่อชะตาชีวิตของ 4 นักษัตรมากหรือน้อยตามลำดับ ดังต่อไปนี้

    - นักษัตรกุน“亥”(ไห) จะปะทะ “沖”(ชง) กับปีจรมะเส็งไม้ “乙巳”(อิกจี๋) ธาตุไฟ
    ส่งผลให้ได้รับบาปเคราะห์เต็มๆ หากชะตาตกอาจถึงแก่ชีวิต มีเกณฑ์ประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บถึงเลือดตกยางออก ร่างกายจะเจ็บป่วย ถูกคนปองร้าย จิตใจว้าวุ่น กลุ้มวุ่นวาย ธุรกิจมีอุปสรรค เสียทรัพย์อย่างไม่จำเป็น

    - นักษัตรมะเส็ง“巳”(จี๋) จะถูกกดทับ “壓”(เอี๊ยบ) จากปีจรมะเส็งไม้ “乙巳”(อิกจี๋) ธาตุไฟ
    ทำให้ได้เกณฑ์เกิดเหตุประสบเภทภัยจึงไม่ควรเดินทางไกล มีโอกาสได้ทุกขลาภเสียทรัพย์ เงินทองรั่วไหล เพื่อนฝูงคนสนิทจะเอารัดเอาเปรียบเบียดเบียนให้เดือดร้อน อีกทั้งตัวเราเองจะสร้างปัญหาให้วุ่นวาย

    - นักษัตรวอก“申”(ซิม) จะแตกหัก “破”(ผั่ว) กับปีจรมะเส็งไม้ “乙巳”(อิกจี๋) ธาตุไฟ
    ส่งผลให้มีแต่คนคอยกลั่นแกล้งจนเกิดการแตกหัก ทำให้ชีวิตพบแต่เรื่องวุ่นวายรำคาญใจ ถูกเบียดเบียนให้เดือดร้อนเสียหาย

    - นักษัตรขาล“寅”(เอี๊ยง) จะถูกให้ร้าย “害”(ไห่) และวุ่นวาย “刑”(เฮ้ง) จากปีจรมะเส็งไม้ “乙巳”(อิกจี๋) ธาตุไฟ
    ควรระวังจะถูกคู่ศัตรูแทงหลังส่งผลให้ความมั่นคงในชีวิตเริ่มมีความเปราะบางเพิ่มขึ้น
    จนยากที่จะก้าวข้ามอุปสรรคปัญหาเกิดคดีความที่วุ่นวาย

    ทั้ง 4 นักษัตรที่ถูกกระทบในชะตาชีวิต ไม่ว่าจะเป็นฐานปี ฐานเดือน ฐานวัน และฐานเวลาเกิด ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพเจ้า “太歲爺” (ไท๊ส่วยเอี๊ย)“吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) หลังจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น.เป็นต้นไป เพื่อเตือนสติในการดำเนินชีวิตให้เป็นไปอย่างรอบคอบรอบด้าน
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    2568 ปีมะเส็งไม้ ธาตุไฟ ใคร...ทัวร์ลง...ชงเต็ม... ในปีพ.ศ.2568 นี้เป็นปีมะเส็งไม้“乙巳”(อิกจี๋) ธาตุไฟ มีองค์เทพเจ้า “太歲爺”(ไท๊ส่วยเอี๊ย) คอยเฝ้าดูดวงชะตาที่ทรงพระนามว่า “吳遂大星軍”(โง้วซุ้ยไต่แชกุง) ส่งผลกระทบโดยตรงต่อชะตาชีวิตของ 4 นักษัตรมากหรือน้อยตามลำดับ ดังต่อไปนี้ - นักษัตรกุน“亥”(ไห) จะปะทะ “沖”(ชง) กับปีจรมะเส็งไม้ “乙巳”(อิกจี๋) ธาตุไฟ ส่งผลให้ได้รับบาปเคราะห์เต็มๆ หากชะตาตกอาจถึงแก่ชีวิต มีเกณฑ์ประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บถึงเลือดตกยางออก ร่างกายจะเจ็บป่วย ถูกคนปองร้าย จิตใจว้าวุ่น กลุ้มวุ่นวาย ธุรกิจมีอุปสรรค เสียทรัพย์อย่างไม่จำเป็น - นักษัตรมะเส็ง“巳”(จี๋) จะถูกกดทับ “壓”(เอี๊ยบ) จากปีจรมะเส็งไม้ “乙巳”(อิกจี๋) ธาตุไฟ ทำให้ได้เกณฑ์เกิดเหตุประสบเภทภัยจึงไม่ควรเดินทางไกล มีโอกาสได้ทุกขลาภเสียทรัพย์ เงินทองรั่วไหล เพื่อนฝูงคนสนิทจะเอารัดเอาเปรียบเบียดเบียนให้เดือดร้อน อีกทั้งตัวเราเองจะสร้างปัญหาให้วุ่นวาย - นักษัตรวอก“申”(ซิม) จะแตกหัก “破”(ผั่ว) กับปีจรมะเส็งไม้ “乙巳”(อิกจี๋) ธาตุไฟ ส่งผลให้มีแต่คนคอยกลั่นแกล้งจนเกิดการแตกหัก ทำให้ชีวิตพบแต่เรื่องวุ่นวายรำคาญใจ ถูกเบียดเบียนให้เดือดร้อนเสียหาย - นักษัตรขาล“寅”(เอี๊ยง) จะถูกให้ร้าย “害”(ไห่) และวุ่นวาย “刑”(เฮ้ง) จากปีจรมะเส็งไม้ “乙巳”(อิกจี๋) ธาตุไฟ ควรระวังจะถูกคู่ศัตรูแทงหลังส่งผลให้ความมั่นคงในชีวิตเริ่มมีความเปราะบางเพิ่มขึ้น จนยากที่จะก้าวข้ามอุปสรรคปัญหาเกิดคดีความที่วุ่นวาย ทั้ง 4 นักษัตรที่ถูกกระทบในชะตาชีวิต ไม่ว่าจะเป็นฐานปี ฐานเดือน ฐานวัน และฐานเวลาเกิด ควรกราบสักการะบูชาต่อองค์เทพเจ้า “太歲爺” (ไท๊ส่วยเอี๊ย)“吳遂大星軍” (โง้วซุ้ยไต่แชกุง) หลังจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 22:10 น.เป็นต้นไป เพื่อเตือนสติในการดำเนินชีวิตให้เป็นไปอย่างรอบคอบรอบด้าน ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • 12-12-67/01 : หมี CNN / แผนซ้อน 3 ชั้นครึ่ง บวกเกลียวอีกครึ่งรอบ ไอ้สัส! จะเยอะไปไหน? นี่กะ ให้อเมริกา อิสราเอล อังกฤษ สิ้นเนื้อประดาตัวกันเลยชิมิ? จากมหาอำนาจกลายร่างเป็นขอทาน ในช่วงไม่กี่ปี? โหดสลัดรัสเซียของจริง!"แผนเมืองร้าง" ชั้นที่ 1 ไม่ได้แค่ล่อให้เข้ามาติดกับดักตายอย่างเดียว"แผนเมืองร้าง" ชั้นที่ 2 ดูดเงิน ทรัพยากรเหี้ย กำลังพล มากกว่าเก่าเยอะ"แผนเมืองร้าง" ชั้นที่ 3 ปลดแอกตะวันออกกลาง ยุโรป แปซิฟิค ทีเดียวหากเริ่มดูตั้งแต่แรก ที่ปูตินยกพลบุกยูเครน เพื่อทำลายแนวกันชนเก่า ขยายพื้นที่ กินทรัพยากรสำคัญทั้งหมดที่ยูเครนมี แล้วขยายต่อไปยังใจกลางยุโรป ทั้งหมดคือแผนเดินสู่ท่อแก็สอาร์คติค จากนั้น ขยายแนวรบ หันมาขยี้อียิว นายใหญ่เหี้ยไอ้อีตะวันตก เพราะรู้ดีว่า ขี้ข้าต้องแห่กันมาช่วยอุ้ม แล้วเป็นยังไง หมดตูดตามกัน หลัง 2.5 ปี แห่งศึกยูเครน EU NATO ถังแตก หมดตูด เศรษฐกิจพังยับ เพราะไม่มีพลังงานรัสเซียราคาถูกมาใช้ เกือบ 3 ปี ที่ต้องจ่ายแพง เจ๊งสิจ๊ะ อุตสาหกรรมหลัก อุตสาหกรรมใหญ่ ปิดกิจการเพราะแบกต้นทุนไม่ไหว เกณฑ์ทหารเพิ่มเป็นรอบที่ 10 กลับมาเป็นถุงดำเพี๊ยบ หมดทั้งเงิน อำนาจ กำลังพล ทำให้ต้องถอย ตีตัวห่างจากอียิว ดาบหนักสุดคือ "ดอกนี้" ล่ออียิวให้เข้ามาซีเรีย มันต้องใช้กำลังพลมากเท่าไหร่ มันต้องใช้อาวุธอีกเท่าไหร่ มันต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่ แล้วจะไปเอามาจากไหน หากไม่ใช่ขี้ข้าไงล่ะ? ที่มาว่าทำไม หุ่นเชิดผู้นำทั่วยุโรป ถูกเช็คบิล เก้าอี้ร่วงกันหมด เพราะประจักษ์ชัดแล้วว่า มรึงไม่ได้ทำเพื่อประชาชน แต่ทำเพื่อยิว อ๋อ..ควายเพิ่งจะตื่น เป็นไง ประชาธิปไตยแดร๊กได้มั้ยล่ะ? การที่ปูตินเดินแผน ย้ายอัสซาดออกไป ใช้หุ่นเชิดแทน เอาอีไก่งวงที่เสี้ยนอยากจะฆ่าล้างโคตรอีเคิร์กกบฎ เอามาเสียบ ดอกนี้ ยิงปืนนัดเดียว เหี้ยตายทั้งฝูง เพราะอีไก่งวงมันเป็นชาติสมาชิกนาโต้ นาโต้มีกฎจะไม่รบกันเอง นี่คือเงื่อนไข ช่องโหว่ ให้ไอ้อีขี้ข้ายิวที่เตรียมย้ายขั้ว ใช้เป็นข้ออ้างไม่เดินหน้าต่อ ไม่ช่วยอียิวไงล่ะ และเป็นเหตุให้อีไก่งวงประกาศถอนตัวออกจาก NATO แล้วจะมีตามมาอีกเพี๊ยบ แค่รอมรึงเปิดฟลอร์เท่านั้นเอง แตกทั้ง NATO แตกทั้ง EU ไม่งั้น อีลูคาเชนโก คงไม่ยิ้มแก้มหุบดอก ว่าของดี ของหนัก อยู่ในมือกู WAGNER อยู่เป็นกองทัพ กูจะไล่ฆ่าใครก็ได้ เสร็จกูล่ะ? ลูคาเชนโกซี้ปูติน ย่อมรู้ดีว่า เพื่อนรักต้องการอะไร เดี๋ยวเปิดพรมแดงปูทางสู่ลอนดอนให้จ๊ะ ไล่กวาดทั้งอีโปล อี 3 เสือก อีสวิงกิ้ง อีฟินน์ให้ฟรีฟรี ไม่คิดตังค์ แค่เติมของดี ของหนักให้ก็พอแล้ว? อาร์คติคมาชัวร์ ใครก็หยุดไม่ได้! เมื่อตะวันออกกลางแพ้ยับ เมื่อยุโรปเละเทะ เหี้ยยิวจะหนีไปไหนได้อีก นอกจากโดนตรีนผู้นำโลกคนใหม่จากจีน ตบหัวคว่ำคะมำ แค่อีปินส์ แค่อีไต้หวัน แค่ที่รองตรีนจีนเท่านั้น อยากหยุดกูมรึงต้องมาเอง มาตายห่าที่นี่ นั่นแหละแผนกู เมื่อสงครามเดินหน้าไป แต่อีกฝ่ายขั้วใหม่ การค้ารุ่งเรือง ต่อยอดโลกเชื่อมหากันสำเร็จ จะกลายเป็นว่า มรึงรบไป ผลาญคลังจนถังแตก แต่ขั้วใหม่ เงินเติมทุกวันไม่มีหมด เหตุเพราะ BRICS แลกเปลี่ยน ซื้อขาย กันในกลุ่ม ไม่ต้องอาศัยอัตราแลกเปลี่ยนเหี้ย ที่กดควายโลกมาโดยตลอด ดังนั้น ทรัพยากรขั้วใหม่ จึงไม่มีหมด มีเติมทุกวัน แต่เหี้ยใช้ออกทุกวัน นี่คือความแตกต่างของผู้ชนะ กับผู้แพ้ราบคาบ มีที่ไหน รัสเซียทำสงครามยูเครนเกือบ 3 ปี แต่เงินยังอยู่ครบ แถมมีเพิ่มขึ้น ขายน้ำมันน้อยกว่าเดิม แต่กำไรเพิ่มขึ้น 2 เท่า ไม่อัจฉริยะ ทำไม่ได้ดอก ที่มาว่าทำไมเปลี่ยนขุนคลัง มาเป็นแม่ทัพซะงั้น เพราะทุกการรบ มีรายจ่ายที่ต้องจ่าย อ่านขาด ปล่อยให้คลังเหี้ยเจ๊งตามกันไป เพราะควบคุมการเงินไม่ได้ เมื่อคลังแตก แผ่นดินก็ล่มสลาย ฆ่าที่ปากท้องมรึง น่ากลัวกว่าตายในสมรภูมิซะอีก เพราะมันฆ่าถึงคนข้างหลัง ครอบครัวลูกหลานมรึงทั้งหมดด้วย จะไม่มีแดร๊กอีกนานสิ่งที่ปูตินทำอยู่ตอนนี้ แค่เอาตัวปัญหาที่เหี้ยอ้างมาโดยตลอดออกไป(อัสซาด) ยามเมื่อเคลียร์เหี้ยตายห่าเกลื่อนแผ่นดินสำเร็จ อัสซาดจะกลับมาอย่างวีรบุรุษก็ได้ หรืออยู่ยาวที่มอสโคว์ก็ได้ ใช้หุ่นเชิดต่อไป แผนนี้ เรียกใช้บริการอีไก่งวง เพราะจัดการปัญหาคาบสมุทรไซนาย ที่คาราคาซังมาช้านาน เอาให้จบเสียที เพื่อเดินหน้าสิ่งใหม่กว่า ดีกว่า และแบ่งปันเท่าเทียม เหมาะแล้วที่ใช้อีเติร์กมหาภัย เพราะมันเสี้ยนจัดปลัดบอก แค่ได้ยินชื่อเคิร์ด ฆ่าให้ฟรี ไม่มีชาร์ต แล้วอียิวมันส่งกองทัพแห่เข้ามาซีเรีย อ้างยึดที่ราบสูงโกลาน ถามคำเดียว มรึงเข้ามาแล้วยังไงต่อ จะอยู่ต่อยังไง ต้องใช้อะไรเพิ่ม ต้องจ่ายอะไรบ้าง ต้องสร้างอะไรเพิ่มอีก อ้าว..แล้วหลังบ้านมรึง ที่ถูกถล่มยับทุกวันเนี่ย ใครจะดูแล มันคือแผนบีบขยายกองกำลังอียิว สหรัฐ NATO ให้แตก LINE ไปเรื่อยๆ ยิ่งทำให้อ่อนแอ เพราะกำลังพลไม่พอ เทียบโลกอาหรับไม่ได้ แถมยิ่งใช้พลังงานมากขึ้นไม่สังเกตุเหรอ? ทำไม ปูตินต้องใช้แผนนี้ ในฤดูหนาว คิดสิจ๊ะ? หนาวมาอะไรแพง? หนาวมาอะไรขาด? หนาวมาอะไรสำคัญที่สุด ทั้งอาวุธ เงิน อาหาร พลังงาน กำลังพล จะถูกใช้มากที่สุดก็หนาวนี้แหละ เอาอียิวมาติดหล่มสงครามต่อในตะวันออกกลาง ด้านยุโรปยิ่งฉลุย เพราะจะไม่มีใครมาช่วยอีเสี้ยนยาต่อ แปลว่ารัสเซียไม่เหนื่อย ยึดยูเครนเบ็ดเสร็จ ตบอีโปล ล่ออีฟินน์ ขยี้อีสวิงกิ้ง และตบท้ายด้วยเขมือบอีลอนดอน แค่นี้ ท่อแก็สอาร์คติค ก็ผ่านฉลุย สวยเก๋ ยิ่งกว่าออด๊าส! คำถามที่ทุกคนรอดคอย? ปล่อยอียิวยึดซีเรียแล้วจะยึดคืนยังไง? ระดับปูติน ไม่มั่นใจ 1000% ไม่เดินแผนนี้ ก็โง่! เพราะอ่านขาด ทุกอย่างเป็นต่อ และได้เปรียบอย่างมหาศาล ไม่ใช้แผนนี้ มันจะไม่จบน่ะสิ นี่คือ "ปิดเกมส์" ไบ้ให้ ต่อให้มรึงยึดซีเรียไป แต่เยรูซาเล็มแตก แล้วมรึงอยู่วงล้อมชาติอริทั่วตะวันออกกลาง จะไปรอดมั้ย? 3 ฮอ ซีเรีย อิรัก เลบานอน เยเมน ยึดแผ่นดินคานาอันได้ชัวร์ เค้าถึงปล่อยให้มรึงย้ายฐานมาซีเรีย เพราะยิ่งปิดง่ายขึ้น เมื่อบ้านไม่มีอยู่ ไอ้ที่มรึงยึดได้คือเมืองร้าง มีประโยชน์อะไร? แถมอีไก่งวงอยู่เต็มพื้นที่ไปหมด ใครจะแพ้กันล่ะ? สรุปคือ "แผนเมืองร้าง" คือยาเร่งผลลัพธ์แพ้ชนะทันควันปล.ปูตินไม่ได้คุยแค่กับโลกอาหรับ แต่คุยกับอีทรัมปป์ด้วย หากเป็นไปตามที่หมีคิด เดี๋ยวมรึงดู ศึกในอเมริกาให้ดีดี อีทรัมปป์จะทำอะไรช็อคโลกให้มรึงได้เห็นแน่ เพราะเป้าหมายเดียวกัน คือ "กำจัด DEEP STATE" งานนี้ หากไม่มีขั้วใหม่ช่วย อีทรัมปป์ทำคนเดียวไม่ได้ดอก เพราะอีลา ยังคงเป็นขวากหนาม ดูทรงให้ดี ที่ผ่านมา ขั้วใหม่ ตัดแหล่งรายได้เหี้ยยิว ตัดแหล่งเงินฟอก ตัดโลจิสติคขนส่ง ตัดอิทธิพลเหี้ยในทุกภูมิภาคโลก ทั้งหมดเพื่ออะไร? ย่อส่วนอเมริกาให้เล็กลง เป็นไปตามแผนที่อีทรัมปป์ต้องการ แตกอเมริกา อียิวได้บ้าน อีทรัมปป์ได้แผ่นดินตัวเอง ปาเลสไตน์ได้แผ่นดินคืน ตะวันออกกลางรวมกันเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง ยุโรปหมดสภาพ นี่คือภาพรวมที่มรึงจะได้เห็นอีกไม่ช้า บอกเลยว่า..ทุกอย่างถูกกำหนดมาตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะมาคิด? การล่อให้ศัตรูเข้ามาในแผ่นดินที่มรึงคุ้นเคย กับดักวางไว้เพี๊ยบ กองทัพไก่งวง ได้ถ่ายเทอาวุธ โยกย้าย ของหนักเข้ามาเติม มรึงคิดว่าซีเรียจะไม่ปึ๊กได้อย่างไร เพราะทุกอย่างอยู่ครบ แค่เปลี่ยนหัว เปลี่ยนมือที่มองไม่เห็น เข้ามาจัดการแทนข้ามวิกแป๊บ มีคนถาม กองเรือรัสเซียที่อยู่อ่าวไทย เรือสหรัฐอยู่ใต้ แปลว่าอะไร? แปลว่า "มรึงเขยิบ กูขยับ" รัสเซียไม่จำเป็นต้องรีบแสดงความเป็นเจ้าของภูมิภาค แค่สะกดให้มรึงนิ่งก็ชนะแล้ว กองเรือจีนยิ่งใหญ่มหาศาล แค่แห่ส่งมาเติม มรึงคิดว่าเหี้ยมันจะอยู่ต่อมุย? เกาะแสปรดลี่ย์ ทุกวันนี้คือ ฐานทัพจีนที่ทรงพลังมากที่สุดแห่งนึง เค้าดักทางรอเหี้ยโผล่นานแล้ว อาเซียนจับมือกันมั่น อีปินส์ยังไงก็แหกมติอาเซียนไม่ได้ ถูกถีบทันที อยากออกก็เชิญ มรึงจะหมาหัวเน่าทันที ทำไม อเมริกาไม่กล้าเปิดหน้ากับจีน เพราะศักยภาพเป็นรอง หมายังรู้ แต่ควายไม่รู้ ถึงได้แต่เปิดสงครามการค้าแก้เกี้ยว มรึงคิดว่าอีทรัมปป์มันสนเหรอ? มันแค่ต้องการเป็น KING มีแผ่นดินของตัวเอง แผ่นดินอื่นจะต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงตายเพื่อไอ้อีที่จ้องจะฆ่ากูไปทำไมกันล่ะ? ใช่ อีทรัมปป์มันทิ้งอียิวเหี้ยไซออนนิสต์นานแล้ว ถึงได้โดนไป 200 กว่าคดีไงล่ะ โคตรพ่อง โคตรแม่ ทำอย่างกะขายถั่วต้ม ฟ้องแหลก ขนาดแอบตดยังโดน! แล้วทำไม อีทรัมปป์ ถึงไม่อยากจะเอาคืนบ้างล่ะ? เรื่องบ้านเรา ปล่อยศรีธนญชัย เค้าเล่นแร่แปรวิญญานไป สนุกเค้าล่ะ แค่เหลืองสยองออกมาลงชื่อ สื่อยังตีอย่างกะล้มรัฐบาล กลัวขี้หดตดหายกันใหญ่ ยามใหญ่บอก ยังไม่ต้องรีบกลัว เพราะมรึงยังต้องมีอะไรให้กลัวอีกเยอะ เหี้ัยแบบนี้ กูชอบ! อ่านเกมส์ให้ขาด ทำไม ยามใหญ่ถึงดึงประเด็น "พระบรมราชโองการ" ออกมา ชูแผนที่สคส.ในหลวงร.9 มันชัดซะยิ่งกว่าชัด พ่อยืนยันขอบเขตพื้นที่ด้วยตัวเอง ใครหน้าไหน กล้าขัดราชโองการ โทษ "ประหารชีวิต" มรึงกล้ามั้ยล่ะ? ศาลรอ ปล.2 พระราชโองการ อยู่เหนือกว่ากฎหมาย ซะอีก โปรดเกล้าต้องมีตราตั้ง มรึงไม่ต้องแปล จะแถยังไงดูรากเหง้ามรึงด้วย ใครคือ พระเจ้าแผ่นดิน ชื่อก็บอก ว่าทุกอย่างในแผ่นดินนี้ เป็นของพระเจ้าอยู่หัว แม้แต่ชีวิตมรึง! เชิญเอาประชาธิปไตยไปแดร๊กแถวอเมริกา ยุโรป ที่กำลังจะบ้าคลั่งไล่ฆ่า แย่งกันแดร๊กอยู่ตอนนี้เหอะ ยังไง กูเอาหัวเป็นประกันได้เลย ในรัชสมัยตั้งแต่พ่อร.10 ขึ้นไป จะมีแต่จะเพิ่มพูลแผ่นดินขยายเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่มีลด ไม่มีเสียดินแดน มีแต่เพิ่ม เพิ่ม และเพิ่ม รวมทั้งประชากรโลก ที่จะขอเข้ามาอาศัยใต้ร่มไพธิ์พ่อท่าน แค่ตอนนี้ ชาวโลกแห่กันเข้ามาขออยู่อาศัยแล้วเท่าไหร่รู้มั้ย? ไม่มีที่ไหน อุ่นใจ สบายใจ เท่าเมืองไทย เราถึงได้เป็นแบบนี้ ทุกวันนี้ไงล่ะ "หยวนๆ อะไรก็ได้ รักสงบ ยิ้มสิจ๊ะ อยากได้อะไรมีหมด แสง สี เสียง แหล่งโลกีย์ ไม่ต้องไปหาที่ไหน ที่นี่คือจบ"ปล.3 ช่วงนี้ จะยังไม่โพสอี FCUK BOOK เพราะมันเพิ่งจะล็อคบัญชีหมี "สัประยุทธ ทะลุฟ้า" ไปหมาดๆ ใครมี FB เอาโพสหมีไปโพสแทนได้เลย นั่นทำให้คนที่ติดตามแต่ใน FB ยังจะพอเห็นหมี CNN ยังอยู่ เห็นใจสว. แต่หากเข้า LINE ได้ เล่น LINE เป็น ก็ไม่จำเป็นต้องมี FB อีกต่อไป กูต่อยอดไปนานแล้ว คนตามหมีใน FB ก็ติดตามนานแล้ว ทำไม เค้าจะไม่รู้ว่ามีช่องทางอื่นให้เลือก หมีจะไม่ลบเพจ มหากาพย์สุดยอด เพราะมันแจ้งมาว่า รออีก 175 วัน ถึงจะกลับมาใช้ใหม่ได้ แปลว่า อีก 6 เดือน ค่อยเจอหมีใหม่ใน FB แต่ตอนนี้ ตามที่อื่นแทนไปก่อนน่ะจ๊ะหมี CNN(มันยากที่จะอธิบายหมากบนกระดานให้ผู้ที่ไม่เข้าใจฟัง เพราะตาดู หูฟัง แต่ละวัน เสพแต่สิ่งที่เหี้ยให้มา ปัญญาจะเกิดได้ ต้องหลุดพ้นจากบ่วงกรรมเหี้ยก่อน การมาเสพเพจหมี ก็เป็น 1 ในเครื่องมือเตือนสติของแสง เพราะกูเน้นปัญญา เอามันส์ เอาฮา และแฝงคติธรรมเสมอ ไม่ได้หวังว่าทุกคนจะเข้าใจ แค่ 1 คนที่ GET หมดที่กูพูด คือกูได้สร้างหมี CNN ตัวที่ 2 ขึ้นมาสำเร็จแล้ว เพราะกูจะเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย วันที่กูไม่อยู่ จะมีหมี CNN เกลื่อนสยามประเทศ เหมือนที่พ่อครูสอนให้มา กูรับมาแล้วต่อยอด ส่งต่อให้ผู้มีปัญญา แต่ละคน ต่างมีของของตัวเอง ใช้แนวที่ถนัด ต่อยอดปัญญาให้ลูกหลาน แล้วอีก 100 ปี ค่อยเจอกันใหม่)12 ธันวาคม 6711.20 น.------------------------------------------------------------------------—เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnnหรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNThttps://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u**เพจหลักของหมี CNN คือ**https://www.minds.com/mheecnn2/เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnnwww.vk.com/id448335733**เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**https://twitter.com/CnnMhee**เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    12-12-67/01 : หมี CNN / แผนซ้อน 3 ชั้นครึ่ง บวกเกลียวอีกครึ่งรอบ ไอ้สัส! จะเยอะไปไหน? นี่กะ ให้อเมริกา อิสราเอล อังกฤษ สิ้นเนื้อประดาตัวกันเลยชิมิ? จากมหาอำนาจกลายร่างเป็นขอทาน ในช่วงไม่กี่ปี? โหดสลัดรัสเซียของจริง!"แผนเมืองร้าง" ชั้นที่ 1 ไม่ได้แค่ล่อให้เข้ามาติดกับดักตายอย่างเดียว"แผนเมืองร้าง" ชั้นที่ 2 ดูดเงิน ทรัพยากรเหี้ย กำลังพล มากกว่าเก่าเยอะ"แผนเมืองร้าง" ชั้นที่ 3 ปลดแอกตะวันออกกลาง ยุโรป แปซิฟิค ทีเดียวหากเริ่มดูตั้งแต่แรก ที่ปูตินยกพลบุกยูเครน เพื่อทำลายแนวกันชนเก่า ขยายพื้นที่ กินทรัพยากรสำคัญทั้งหมดที่ยูเครนมี แล้วขยายต่อไปยังใจกลางยุโรป ทั้งหมดคือแผนเดินสู่ท่อแก็สอาร์คติค จากนั้น ขยายแนวรบ หันมาขยี้อียิว นายใหญ่เหี้ยไอ้อีตะวันตก เพราะรู้ดีว่า ขี้ข้าต้องแห่กันมาช่วยอุ้ม แล้วเป็นยังไง หมดตูดตามกัน หลัง 2.5 ปี แห่งศึกยูเครน EU NATO ถังแตก หมดตูด เศรษฐกิจพังยับ เพราะไม่มีพลังงานรัสเซียราคาถูกมาใช้ เกือบ 3 ปี ที่ต้องจ่ายแพง เจ๊งสิจ๊ะ อุตสาหกรรมหลัก อุตสาหกรรมใหญ่ ปิดกิจการเพราะแบกต้นทุนไม่ไหว เกณฑ์ทหารเพิ่มเป็นรอบที่ 10 กลับมาเป็นถุงดำเพี๊ยบ หมดทั้งเงิน อำนาจ กำลังพล ทำให้ต้องถอย ตีตัวห่างจากอียิว ดาบหนักสุดคือ "ดอกนี้" ล่ออียิวให้เข้ามาซีเรีย มันต้องใช้กำลังพลมากเท่าไหร่ มันต้องใช้อาวุธอีกเท่าไหร่ มันต้องใช้เงินอีกเท่าไหร่ แล้วจะไปเอามาจากไหน หากไม่ใช่ขี้ข้าไงล่ะ? ที่มาว่าทำไม หุ่นเชิดผู้นำทั่วยุโรป ถูกเช็คบิล เก้าอี้ร่วงกันหมด เพราะประจักษ์ชัดแล้วว่า มรึงไม่ได้ทำเพื่อประชาชน แต่ทำเพื่อยิว อ๋อ..ควายเพิ่งจะตื่น เป็นไง ประชาธิปไตยแดร๊กได้มั้ยล่ะ? การที่ปูตินเดินแผน ย้ายอัสซาดออกไป ใช้หุ่นเชิดแทน เอาอีไก่งวงที่เสี้ยนอยากจะฆ่าล้างโคตรอีเคิร์กกบฎ เอามาเสียบ ดอกนี้ ยิงปืนนัดเดียว เหี้ยตายทั้งฝูง เพราะอีไก่งวงมันเป็นชาติสมาชิกนาโต้ นาโต้มีกฎจะไม่รบกันเอง นี่คือเงื่อนไข ช่องโหว่ ให้ไอ้อีขี้ข้ายิวที่เตรียมย้ายขั้ว ใช้เป็นข้ออ้างไม่เดินหน้าต่อ ไม่ช่วยอียิวไงล่ะ และเป็นเหตุให้อีไก่งวงประกาศถอนตัวออกจาก NATO แล้วจะมีตามมาอีกเพี๊ยบ แค่รอมรึงเปิดฟลอร์เท่านั้นเอง แตกทั้ง NATO แตกทั้ง EU ไม่งั้น อีลูคาเชนโก คงไม่ยิ้มแก้มหุบดอก ว่าของดี ของหนัก อยู่ในมือกู WAGNER อยู่เป็นกองทัพ กูจะไล่ฆ่าใครก็ได้ เสร็จกูล่ะ? ลูคาเชนโกซี้ปูติน ย่อมรู้ดีว่า เพื่อนรักต้องการอะไร เดี๋ยวเปิดพรมแดงปูทางสู่ลอนดอนให้จ๊ะ ไล่กวาดทั้งอีโปล อี 3 เสือก อีสวิงกิ้ง อีฟินน์ให้ฟรีฟรี ไม่คิดตังค์ แค่เติมของดี ของหนักให้ก็พอแล้ว? อาร์คติคมาชัวร์ ใครก็หยุดไม่ได้! เมื่อตะวันออกกลางแพ้ยับ เมื่อยุโรปเละเทะ เหี้ยยิวจะหนีไปไหนได้อีก นอกจากโดนตรีนผู้นำโลกคนใหม่จากจีน ตบหัวคว่ำคะมำ แค่อีปินส์ แค่อีไต้หวัน แค่ที่รองตรีนจีนเท่านั้น อยากหยุดกูมรึงต้องมาเอง มาตายห่าที่นี่ นั่นแหละแผนกู เมื่อสงครามเดินหน้าไป แต่อีกฝ่ายขั้วใหม่ การค้ารุ่งเรือง ต่อยอดโลกเชื่อมหากันสำเร็จ จะกลายเป็นว่า มรึงรบไป ผลาญคลังจนถังแตก แต่ขั้วใหม่ เงินเติมทุกวันไม่มีหมด เหตุเพราะ BRICS แลกเปลี่ยน ซื้อขาย กันในกลุ่ม ไม่ต้องอาศัยอัตราแลกเปลี่ยนเหี้ย ที่กดควายโลกมาโดยตลอด ดังนั้น ทรัพยากรขั้วใหม่ จึงไม่มีหมด มีเติมทุกวัน แต่เหี้ยใช้ออกทุกวัน นี่คือความแตกต่างของผู้ชนะ กับผู้แพ้ราบคาบ มีที่ไหน รัสเซียทำสงครามยูเครนเกือบ 3 ปี แต่เงินยังอยู่ครบ แถมมีเพิ่มขึ้น ขายน้ำมันน้อยกว่าเดิม แต่กำไรเพิ่มขึ้น 2 เท่า ไม่อัจฉริยะ ทำไม่ได้ดอก ที่มาว่าทำไมเปลี่ยนขุนคลัง มาเป็นแม่ทัพซะงั้น เพราะทุกการรบ มีรายจ่ายที่ต้องจ่าย อ่านขาด ปล่อยให้คลังเหี้ยเจ๊งตามกันไป เพราะควบคุมการเงินไม่ได้ เมื่อคลังแตก แผ่นดินก็ล่มสลาย ฆ่าที่ปากท้องมรึง น่ากลัวกว่าตายในสมรภูมิซะอีก เพราะมันฆ่าถึงคนข้างหลัง ครอบครัวลูกหลานมรึงทั้งหมดด้วย จะไม่มีแดร๊กอีกนานสิ่งที่ปูตินทำอยู่ตอนนี้ แค่เอาตัวปัญหาที่เหี้ยอ้างมาโดยตลอดออกไป(อัสซาด) ยามเมื่อเคลียร์เหี้ยตายห่าเกลื่อนแผ่นดินสำเร็จ อัสซาดจะกลับมาอย่างวีรบุรุษก็ได้ หรืออยู่ยาวที่มอสโคว์ก็ได้ ใช้หุ่นเชิดต่อไป แผนนี้ เรียกใช้บริการอีไก่งวง เพราะจัดการปัญหาคาบสมุทรไซนาย ที่คาราคาซังมาช้านาน เอาให้จบเสียที เพื่อเดินหน้าสิ่งใหม่กว่า ดีกว่า และแบ่งปันเท่าเทียม เหมาะแล้วที่ใช้อีเติร์กมหาภัย เพราะมันเสี้ยนจัดปลัดบอก แค่ได้ยินชื่อเคิร์ด ฆ่าให้ฟรี ไม่มีชาร์ต แล้วอียิวมันส่งกองทัพแห่เข้ามาซีเรีย อ้างยึดที่ราบสูงโกลาน ถามคำเดียว มรึงเข้ามาแล้วยังไงต่อ จะอยู่ต่อยังไง ต้องใช้อะไรเพิ่ม ต้องจ่ายอะไรบ้าง ต้องสร้างอะไรเพิ่มอีก อ้าว..แล้วหลังบ้านมรึง ที่ถูกถล่มยับทุกวันเนี่ย ใครจะดูแล มันคือแผนบีบขยายกองกำลังอียิว สหรัฐ NATO ให้แตก LINE ไปเรื่อยๆ ยิ่งทำให้อ่อนแอ เพราะกำลังพลไม่พอ เทียบโลกอาหรับไม่ได้ แถมยิ่งใช้พลังงานมากขึ้นไม่สังเกตุเหรอ? ทำไม ปูตินต้องใช้แผนนี้ ในฤดูหนาว คิดสิจ๊ะ? หนาวมาอะไรแพง? หนาวมาอะไรขาด? หนาวมาอะไรสำคัญที่สุด ทั้งอาวุธ เงิน อาหาร พลังงาน กำลังพล จะถูกใช้มากที่สุดก็หนาวนี้แหละ เอาอียิวมาติดหล่มสงครามต่อในตะวันออกกลาง ด้านยุโรปยิ่งฉลุย เพราะจะไม่มีใครมาช่วยอีเสี้ยนยาต่อ แปลว่ารัสเซียไม่เหนื่อย ยึดยูเครนเบ็ดเสร็จ ตบอีโปล ล่ออีฟินน์ ขยี้อีสวิงกิ้ง และตบท้ายด้วยเขมือบอีลอนดอน แค่นี้ ท่อแก็สอาร์คติค ก็ผ่านฉลุย สวยเก๋ ยิ่งกว่าออด๊าส! คำถามที่ทุกคนรอดคอย? ปล่อยอียิวยึดซีเรียแล้วจะยึดคืนยังไง? ระดับปูติน ไม่มั่นใจ 1000% ไม่เดินแผนนี้ ก็โง่! เพราะอ่านขาด ทุกอย่างเป็นต่อ และได้เปรียบอย่างมหาศาล ไม่ใช้แผนนี้ มันจะไม่จบน่ะสิ นี่คือ "ปิดเกมส์" ไบ้ให้ ต่อให้มรึงยึดซีเรียไป แต่เยรูซาเล็มแตก แล้วมรึงอยู่วงล้อมชาติอริทั่วตะวันออกกลาง จะไปรอดมั้ย? 3 ฮอ ซีเรีย อิรัก เลบานอน เยเมน ยึดแผ่นดินคานาอันได้ชัวร์ เค้าถึงปล่อยให้มรึงย้ายฐานมาซีเรีย เพราะยิ่งปิดง่ายขึ้น เมื่อบ้านไม่มีอยู่ ไอ้ที่มรึงยึดได้คือเมืองร้าง มีประโยชน์อะไร? แถมอีไก่งวงอยู่เต็มพื้นที่ไปหมด ใครจะแพ้กันล่ะ? สรุปคือ "แผนเมืองร้าง" คือยาเร่งผลลัพธ์แพ้ชนะทันควันปล.ปูตินไม่ได้คุยแค่กับโลกอาหรับ แต่คุยกับอีทรัมปป์ด้วย หากเป็นไปตามที่หมีคิด เดี๋ยวมรึงดู ศึกในอเมริกาให้ดีดี อีทรัมปป์จะทำอะไรช็อคโลกให้มรึงได้เห็นแน่ เพราะเป้าหมายเดียวกัน คือ "กำจัด DEEP STATE" งานนี้ หากไม่มีขั้วใหม่ช่วย อีทรัมปป์ทำคนเดียวไม่ได้ดอก เพราะอีลา ยังคงเป็นขวากหนาม ดูทรงให้ดี ที่ผ่านมา ขั้วใหม่ ตัดแหล่งรายได้เหี้ยยิว ตัดแหล่งเงินฟอก ตัดโลจิสติคขนส่ง ตัดอิทธิพลเหี้ยในทุกภูมิภาคโลก ทั้งหมดเพื่ออะไร? ย่อส่วนอเมริกาให้เล็กลง เป็นไปตามแผนที่อีทรัมปป์ต้องการ แตกอเมริกา อียิวได้บ้าน อีทรัมปป์ได้แผ่นดินตัวเอง ปาเลสไตน์ได้แผ่นดินคืน ตะวันออกกลางรวมกันเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง ยุโรปหมดสภาพ นี่คือภาพรวมที่มรึงจะได้เห็นอีกไม่ช้า บอกเลยว่า..ทุกอย่างถูกกำหนดมาตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะมาคิด? การล่อให้ศัตรูเข้ามาในแผ่นดินที่มรึงคุ้นเคย กับดักวางไว้เพี๊ยบ กองทัพไก่งวง ได้ถ่ายเทอาวุธ โยกย้าย ของหนักเข้ามาเติม มรึงคิดว่าซีเรียจะไม่ปึ๊กได้อย่างไร เพราะทุกอย่างอยู่ครบ แค่เปลี่ยนหัว เปลี่ยนมือที่มองไม่เห็น เข้ามาจัดการแทนข้ามวิกแป๊บ มีคนถาม กองเรือรัสเซียที่อยู่อ่าวไทย เรือสหรัฐอยู่ใต้ แปลว่าอะไร? แปลว่า "มรึงเขยิบ กูขยับ" รัสเซียไม่จำเป็นต้องรีบแสดงความเป็นเจ้าของภูมิภาค แค่สะกดให้มรึงนิ่งก็ชนะแล้ว กองเรือจีนยิ่งใหญ่มหาศาล แค่แห่ส่งมาเติม มรึงคิดว่าเหี้ยมันจะอยู่ต่อมุย? เกาะแสปรดลี่ย์ ทุกวันนี้คือ ฐานทัพจีนที่ทรงพลังมากที่สุดแห่งนึง เค้าดักทางรอเหี้ยโผล่นานแล้ว อาเซียนจับมือกันมั่น อีปินส์ยังไงก็แหกมติอาเซียนไม่ได้ ถูกถีบทันที อยากออกก็เชิญ มรึงจะหมาหัวเน่าทันที ทำไม อเมริกาไม่กล้าเปิดหน้ากับจีน เพราะศักยภาพเป็นรอง หมายังรู้ แต่ควายไม่รู้ ถึงได้แต่เปิดสงครามการค้าแก้เกี้ยว มรึงคิดว่าอีทรัมปป์มันสนเหรอ? มันแค่ต้องการเป็น KING มีแผ่นดินของตัวเอง แผ่นดินอื่นจะต้องเอาตัวเองไปเสี่ยงตายเพื่อไอ้อีที่จ้องจะฆ่ากูไปทำไมกันล่ะ? ใช่ อีทรัมปป์มันทิ้งอียิวเหี้ยไซออนนิสต์นานแล้ว ถึงได้โดนไป 200 กว่าคดีไงล่ะ โคตรพ่อง โคตรแม่ ทำอย่างกะขายถั่วต้ม ฟ้องแหลก ขนาดแอบตดยังโดน! แล้วทำไม อีทรัมปป์ ถึงไม่อยากจะเอาคืนบ้างล่ะ? เรื่องบ้านเรา ปล่อยศรีธนญชัย เค้าเล่นแร่แปรวิญญานไป สนุกเค้าล่ะ แค่เหลืองสยองออกมาลงชื่อ สื่อยังตีอย่างกะล้มรัฐบาล กลัวขี้หดตดหายกันใหญ่ ยามใหญ่บอก ยังไม่ต้องรีบกลัว เพราะมรึงยังต้องมีอะไรให้กลัวอีกเยอะ เหี้ัยแบบนี้ กูชอบ! อ่านเกมส์ให้ขาด ทำไม ยามใหญ่ถึงดึงประเด็น "พระบรมราชโองการ" ออกมา ชูแผนที่สคส.ในหลวงร.9 มันชัดซะยิ่งกว่าชัด พ่อยืนยันขอบเขตพื้นที่ด้วยตัวเอง ใครหน้าไหน กล้าขัดราชโองการ โทษ "ประหารชีวิต" มรึงกล้ามั้ยล่ะ? ศาลรอ ปล.2 พระราชโองการ อยู่เหนือกว่ากฎหมาย ซะอีก โปรดเกล้าต้องมีตราตั้ง มรึงไม่ต้องแปล จะแถยังไงดูรากเหง้ามรึงด้วย ใครคือ พระเจ้าแผ่นดิน ชื่อก็บอก ว่าทุกอย่างในแผ่นดินนี้ เป็นของพระเจ้าอยู่หัว แม้แต่ชีวิตมรึง! เชิญเอาประชาธิปไตยไปแดร๊กแถวอเมริกา ยุโรป ที่กำลังจะบ้าคลั่งไล่ฆ่า แย่งกันแดร๊กอยู่ตอนนี้เหอะ ยังไง กูเอาหัวเป็นประกันได้เลย ในรัชสมัยตั้งแต่พ่อร.10 ขึ้นไป จะมีแต่จะเพิ่มพูลแผ่นดินขยายเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่มีลด ไม่มีเสียดินแดน มีแต่เพิ่ม เพิ่ม และเพิ่ม รวมทั้งประชากรโลก ที่จะขอเข้ามาอาศัยใต้ร่มไพธิ์พ่อท่าน แค่ตอนนี้ ชาวโลกแห่กันเข้ามาขออยู่อาศัยแล้วเท่าไหร่รู้มั้ย? ไม่มีที่ไหน อุ่นใจ สบายใจ เท่าเมืองไทย เราถึงได้เป็นแบบนี้ ทุกวันนี้ไงล่ะ "หยวนๆ อะไรก็ได้ รักสงบ ยิ้มสิจ๊ะ อยากได้อะไรมีหมด แสง สี เสียง แหล่งโลกีย์ ไม่ต้องไปหาที่ไหน ที่นี่คือจบ"ปล.3 ช่วงนี้ จะยังไม่โพสอี FCUK BOOK เพราะมันเพิ่งจะล็อคบัญชีหมี "สัประยุทธ ทะลุฟ้า" ไปหมาดๆ ใครมี FB เอาโพสหมีไปโพสแทนได้เลย นั่นทำให้คนที่ติดตามแต่ใน FB ยังจะพอเห็นหมี CNN ยังอยู่ เห็นใจสว. แต่หากเข้า LINE ได้ เล่น LINE เป็น ก็ไม่จำเป็นต้องมี FB อีกต่อไป กูต่อยอดไปนานแล้ว คนตามหมีใน FB ก็ติดตามนานแล้ว ทำไม เค้าจะไม่รู้ว่ามีช่องทางอื่นให้เลือก หมีจะไม่ลบเพจ มหากาพย์สุดยอด เพราะมันแจ้งมาว่า รออีก 175 วัน ถึงจะกลับมาใช้ใหม่ได้ แปลว่า อีก 6 เดือน ค่อยเจอหมีใหม่ใน FB แต่ตอนนี้ ตามที่อื่นแทนไปก่อนน่ะจ๊ะหมี CNN(มันยากที่จะอธิบายหมากบนกระดานให้ผู้ที่ไม่เข้าใจฟัง เพราะตาดู หูฟัง แต่ละวัน เสพแต่สิ่งที่เหี้ยให้มา ปัญญาจะเกิดได้ ต้องหลุดพ้นจากบ่วงกรรมเหี้ยก่อน การมาเสพเพจหมี ก็เป็น 1 ในเครื่องมือเตือนสติของแสง เพราะกูเน้นปัญญา เอามันส์ เอาฮา และแฝงคติธรรมเสมอ ไม่ได้หวังว่าทุกคนจะเข้าใจ แค่ 1 คนที่ GET หมดที่กูพูด คือกูได้สร้างหมี CNN ตัวที่ 2 ขึ้นมาสำเร็จแล้ว เพราะกูจะเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย วันที่กูไม่อยู่ จะมีหมี CNN เกลื่อนสยามประเทศ เหมือนที่พ่อครูสอนให้มา กูรับมาแล้วต่อยอด ส่งต่อให้ผู้มีปัญญา แต่ละคน ต่างมีของของตัวเอง ใช้แนวที่ถนัด ต่อยอดปัญญาให้ลูกหลาน แล้วอีก 100 ปี ค่อยเจอกันใหม่)12 ธันวาคม 6711.20 น.------------------------------------------------------------------------—เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnnหรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNThttps://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u**เพจหลักของหมี CNN คือ**https://www.minds.com/mheecnn2/เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnnwww.vk.com/id448335733**เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**https://twitter.com/CnnMhee**เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1131 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนวนจีนจาก <หาญท้าฯ 2>สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยเกี่ยวกับความ ‘เอ๊ะ’ ของ Storyฯ เกี่ยวกับสำนวนจีนจากซีรีส์เรื่อง <หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร ภาค 2> เพื่อนเพจที่ได้ดูแล้วอาจจำได้ว่าฮ่องเต้จัดงานชมบุปผาบนเขาและต่อมามีคนลอบปลงพระชนม์จนทำให้ฟ่านเสียนได้รับบาดเจ็บสาหัส ในช่วงตอนเตรียมงานนั้น แม่ทัพเย่มาขอให้ฟ่านเสียนช่วยสอดส่องดูแลความปลอดภัยของฮ่องเต้ โดยให้เหตุผลว่า ถ้ามีอะไรผิดพลาดเขาจะต้องรับความผิดและลูกน้องจะซวยหนักกว่า ในเวอร์ชั่นซับไทยตอนที่แม่ทัพเย่ให้เหตุผลนี้ เขาอ้ำอึ้งใช้ประโยคว่า “หญ้า... อะไรแหลกๆ… ลมพัดแรงมักพัดถึงพวกตำแหน่งล่าง” ซึ่งฟ่านเสียนเลยต่อให้จบว่า “ช้างสารชนกันหญ้าแพรกก็แหลกลาญ... ประโยคนี้ไม่ได้ใช้อย่างนี้” เพื่อนเพจที่ดูซับหรือพากย์ไทยอาจไม่สะดุดตาสะดุดหู แต่จริงๆ แล้วในเวอร์ชั่นภาษาจีนใช้อีกประโยคหนึ่ง ซึ่งสะดุดหู Storyฯ ไม่น้อยประโยคที่กล่าวถึงนี้ ในภาษาจีนก็คือ ‘เฟิงฉี่ชิงผิงจือม่อ’ (风起青萍之末) Storyฯ ขอแปลว่า ‘ลมเกิดเหนือยอดแหน’ ซึ่งเป็นสำนวนจีน เป็นวรรคต้นของประโยคที่ว่า ‘ลมเกิดเหนือยอดแหน สิ้นสุดกลางทุ่งหญ้า’ (风起于青萍之末,止于草莽之间) ฟังดูไพเราะ แต่มันแปลว่าอะไร?ก่อนอื่นขอเกริ่นถึงที่มาว่า สำนวนนี้ดัดแปลงมาจากบทประพันธ์โบราณสมัยจ้านกั๋วชื่อว่า ‘เฟิงฟู่’ (风赋 / บทประพันธ์แห่งสายลม)ของกวีนามว่าซ่งอวี้ (宋玉 ประมาณปี 290 – 222 ก่อนคริสตกาล) จากแคว้นฉู่ ซึ่งเป็นหนึ่งในแปดบทประพันธ์ชนิด ‘ฟู่’ ของจีนที่ได้รับการยกย่องมากที่สุด โดย ‘ฟู่’ เป็นวรรณกรรมร้อยแก้วที่มีภาษาสวยงามผสมผสานคำคล้องจองลงไปเป็นช่วงๆเฟิงฟู่ ใช้สายลมเป็นตัวดำเนินเรื่อง กล่าวถึงอ๋องฉู่เซียงไปชมวิวบนหอสูง (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์) รู้สึกชื่นมื่นกับลมเย็นสบายและคิดว่านี่เป็นความเย็นสบายที่ชาวบ้านสามารถร่วมสัมผัสได้เหมือนกัน ไม่แบ่งแยกชนชั้นหรือความร่ำรวยแต่ซ่งอวี้ที่ติดตามไปด้วยกลับบอกว่า ลมที่อ๋องฉู่เซียงสัมผัส ย่อมไม่เหมือนกับลมที่ชาวประชาสัมผัส นั่นเป็นเพราะว่า แม้ลมเป็นอากาศที่ไหลเวียนไปได้หลายพื้นที่ แต่เพราะภูมิประเทศและสิ่งปลูกสร้างที่แตกต่าง แรงลมที่สัมผัสได้ในแต่ละพื้นที่ย่อมแตกต่างกันซ่งอวี้บอกว่า ลมที่อ๋องฉู่เซียงสัมผัส สร้างตัวจากคลื่นอากาศแผ่วเบาเหนือจอกแหน ค่อยๆ ขยายไปยังหุบเขา ก่อเกิดเป็นลมแรงพัดผ่านภูเขา โถมกระหน่ำเข้าใส่หินผาและป่าไม้ จนผ่านพ้นถึงทุ่งหญ้าแล้วจึงสงบลงกลายเป็นสายลมที่สร้างความเย็นใจ และสำนวน ‘ลมเกิดเหนือยอดแหน สิ้นสุดกลางทุ่งหญ้า’ นี้จึงเป็นการนำข้อความท่อนนี้มากลั่นย่อลงเป็นสำนวนสั้นๆ ซ่งอวี้ยังบอกต่ออีกว่า ลมที่ชาวบ้านทั่วไปสัมผัสนั้นเกิดจากตรอกเล็กซอกซอย เมื่อก่อตัวแรงขึ้นก็พัดพาเอาฝุ่นทรายและของสกปรกคลุ้งกระจายเข้าสู่บ้านเรือน ลมนั้นเมื่อชาวบ้านได้สัมผัสย่อมไม่ทำให้รู้สึกสบายตัวและอาจทำให้ล้มป่วยลงได้บทประพันธ์เฟิงฟู่นี้ไพเราะสวยงามด้วยคำบรรยายถึงลักษณะของสายลมภายใต้สภาวะต่างๆ และแฝงไว้ซึ่งข้อคิดเตือนสติ เฟิงฟู่ใช้สายลมเป็นตัวเปรียบเทียบระหว่างความเกรียงไกรของกษัตริย์และความแร้นแค้นของชาวบ้านธรรมดา สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างทางสังคมและความไม่เท่าเทียมกัน เพื่อเป็นการเตือนใจต่ออ๋องฉู่เซียงว่าอย่าได้นิ่งนอนใจกับความสบายที่ได้รับเพราะในขณะเดียวกันยังมีชาวบ้านที่ลำบากอยู่ต่อมาสำนวน ‘ลมเกิดเหนือยอดแหน’ ถูกใช้เป็นการอุปมาอุปไมยว่า คลื่นอากาศแผ่วเบาเหนือจอกแหนสามารถก่อตัวขึ้นเป็นคลื่นลมแรงที่กวาดไปทั่วพื้นที่อันกว้างใหญ่ ก่อเกิดผลกระทบได้มากมาย และแน่นอนว่าสำนวนนี้ไม่ได้แปลว่า ถ้าผู้มีอำนาจล้มแล้วคนที่อยู่เบื้องล่างจะซวยได้อย่างที่แม่ทัพเย่ในซีรีส์ต้องการหมายถึง และ Storyฯ คิดว่าความหมายก็เปรียบไม่ได้กับ ‘ช้างสารชนกันหญ้าแพรกก็แหลกลาญ’ เพราะจริงๆ แล้วความหมายของสำนวนนี้พูดสั้นๆ ก็คือ Butterfly Effect --- สิ่งเล็กๆ ที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์หรือการเปลี่ยนแปลงตามมาได้มากมาย(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://m.mp.oeeee.com/a/BAAFRD000020240519954909.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:https://baike.baidu.com/item/风起于青萍之末/5876137 https://www.sohu.com/a/395149302_120482984 https://baike.baidu.com/item/风赋/2482215 https://zhsc.org/work/work-58b83fd9570c350062072623.htm #หาญท้าชะตาฟ้า #บทประพันธ์จีน #ButterflyEffect #เฟิงฟู่
    สำนวนจีนจาก <หาญท้าฯ 2>สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยเกี่ยวกับความ ‘เอ๊ะ’ ของ Storyฯ เกี่ยวกับสำนวนจีนจากซีรีส์เรื่อง <หาญท้าชะตาฟ้า ปริศนายุทธจักร ภาค 2> เพื่อนเพจที่ได้ดูแล้วอาจจำได้ว่าฮ่องเต้จัดงานชมบุปผาบนเขาและต่อมามีคนลอบปลงพระชนม์จนทำให้ฟ่านเสียนได้รับบาดเจ็บสาหัส ในช่วงตอนเตรียมงานนั้น แม่ทัพเย่มาขอให้ฟ่านเสียนช่วยสอดส่องดูแลความปลอดภัยของฮ่องเต้ โดยให้เหตุผลว่า ถ้ามีอะไรผิดพลาดเขาจะต้องรับความผิดและลูกน้องจะซวยหนักกว่า ในเวอร์ชั่นซับไทยตอนที่แม่ทัพเย่ให้เหตุผลนี้ เขาอ้ำอึ้งใช้ประโยคว่า “หญ้า... อะไรแหลกๆ… ลมพัดแรงมักพัดถึงพวกตำแหน่งล่าง” ซึ่งฟ่านเสียนเลยต่อให้จบว่า “ช้างสารชนกันหญ้าแพรกก็แหลกลาญ... ประโยคนี้ไม่ได้ใช้อย่างนี้” เพื่อนเพจที่ดูซับหรือพากย์ไทยอาจไม่สะดุดตาสะดุดหู แต่จริงๆ แล้วในเวอร์ชั่นภาษาจีนใช้อีกประโยคหนึ่ง ซึ่งสะดุดหู Storyฯ ไม่น้อยประโยคที่กล่าวถึงนี้ ในภาษาจีนก็คือ ‘เฟิงฉี่ชิงผิงจือม่อ’ (风起青萍之末) Storyฯ ขอแปลว่า ‘ลมเกิดเหนือยอดแหน’ ซึ่งเป็นสำนวนจีน เป็นวรรคต้นของประโยคที่ว่า ‘ลมเกิดเหนือยอดแหน สิ้นสุดกลางทุ่งหญ้า’ (风起于青萍之末,止于草莽之间) ฟังดูไพเราะ แต่มันแปลว่าอะไร?ก่อนอื่นขอเกริ่นถึงที่มาว่า สำนวนนี้ดัดแปลงมาจากบทประพันธ์โบราณสมัยจ้านกั๋วชื่อว่า ‘เฟิงฟู่’ (风赋 / บทประพันธ์แห่งสายลม)ของกวีนามว่าซ่งอวี้ (宋玉 ประมาณปี 290 – 222 ก่อนคริสตกาล) จากแคว้นฉู่ ซึ่งเป็นหนึ่งในแปดบทประพันธ์ชนิด ‘ฟู่’ ของจีนที่ได้รับการยกย่องมากที่สุด โดย ‘ฟู่’ เป็นวรรณกรรมร้อยแก้วที่มีภาษาสวยงามผสมผสานคำคล้องจองลงไปเป็นช่วงๆเฟิงฟู่ ใช้สายลมเป็นตัวดำเนินเรื่อง กล่าวถึงอ๋องฉู่เซียงไปชมวิวบนหอสูง (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์) รู้สึกชื่นมื่นกับลมเย็นสบายและคิดว่านี่เป็นความเย็นสบายที่ชาวบ้านสามารถร่วมสัมผัสได้เหมือนกัน ไม่แบ่งแยกชนชั้นหรือความร่ำรวยแต่ซ่งอวี้ที่ติดตามไปด้วยกลับบอกว่า ลมที่อ๋องฉู่เซียงสัมผัส ย่อมไม่เหมือนกับลมที่ชาวประชาสัมผัส นั่นเป็นเพราะว่า แม้ลมเป็นอากาศที่ไหลเวียนไปได้หลายพื้นที่ แต่เพราะภูมิประเทศและสิ่งปลูกสร้างที่แตกต่าง แรงลมที่สัมผัสได้ในแต่ละพื้นที่ย่อมแตกต่างกันซ่งอวี้บอกว่า ลมที่อ๋องฉู่เซียงสัมผัส สร้างตัวจากคลื่นอากาศแผ่วเบาเหนือจอกแหน ค่อยๆ ขยายไปยังหุบเขา ก่อเกิดเป็นลมแรงพัดผ่านภูเขา โถมกระหน่ำเข้าใส่หินผาและป่าไม้ จนผ่านพ้นถึงทุ่งหญ้าแล้วจึงสงบลงกลายเป็นสายลมที่สร้างความเย็นใจ และสำนวน ‘ลมเกิดเหนือยอดแหน สิ้นสุดกลางทุ่งหญ้า’ นี้จึงเป็นการนำข้อความท่อนนี้มากลั่นย่อลงเป็นสำนวนสั้นๆ ซ่งอวี้ยังบอกต่ออีกว่า ลมที่ชาวบ้านทั่วไปสัมผัสนั้นเกิดจากตรอกเล็กซอกซอย เมื่อก่อตัวแรงขึ้นก็พัดพาเอาฝุ่นทรายและของสกปรกคลุ้งกระจายเข้าสู่บ้านเรือน ลมนั้นเมื่อชาวบ้านได้สัมผัสย่อมไม่ทำให้รู้สึกสบายตัวและอาจทำให้ล้มป่วยลงได้บทประพันธ์เฟิงฟู่นี้ไพเราะสวยงามด้วยคำบรรยายถึงลักษณะของสายลมภายใต้สภาวะต่างๆ และแฝงไว้ซึ่งข้อคิดเตือนสติ เฟิงฟู่ใช้สายลมเป็นตัวเปรียบเทียบระหว่างความเกรียงไกรของกษัตริย์และความแร้นแค้นของชาวบ้านธรรมดา สะท้อนให้เห็นถึงช่องว่างทางสังคมและความไม่เท่าเทียมกัน เพื่อเป็นการเตือนใจต่ออ๋องฉู่เซียงว่าอย่าได้นิ่งนอนใจกับความสบายที่ได้รับเพราะในขณะเดียวกันยังมีชาวบ้านที่ลำบากอยู่ต่อมาสำนวน ‘ลมเกิดเหนือยอดแหน’ ถูกใช้เป็นการอุปมาอุปไมยว่า คลื่นอากาศแผ่วเบาเหนือจอกแหนสามารถก่อตัวขึ้นเป็นคลื่นลมแรงที่กวาดไปทั่วพื้นที่อันกว้างใหญ่ ก่อเกิดผลกระทบได้มากมาย และแน่นอนว่าสำนวนนี้ไม่ได้แปลว่า ถ้าผู้มีอำนาจล้มแล้วคนที่อยู่เบื้องล่างจะซวยได้อย่างที่แม่ทัพเย่ในซีรีส์ต้องการหมายถึง และ Storyฯ คิดว่าความหมายก็เปรียบไม่ได้กับ ‘ช้างสารชนกันหญ้าแพรกก็แหลกลาญ’ เพราะจริงๆ แล้วความหมายของสำนวนนี้พูดสั้นๆ ก็คือ Butterfly Effect --- สิ่งเล็กๆ ที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์หรือการเปลี่ยนแปลงตามมาได้มากมาย(ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://m.mp.oeeee.com/a/BAAFRD000020240519954909.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:https://baike.baidu.com/item/风起于青萍之末/5876137 https://www.sohu.com/a/395149302_120482984 https://baike.baidu.com/item/风赋/2482215 https://zhsc.org/work/work-58b83fd9570c350062072623.htm #หาญท้าชะตาฟ้า #บทประพันธ์จีน #ButterflyEffect #เฟิงฟู่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 627 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ มท.1 เตือนสตินักปกครอง แต่ไม่เคยชะโงกดูตัวเองเลย พูดแล้วทำตรงข้าม
    #7ดอกจิก
    ♣ มท.1 เตือนสตินักปกครอง แต่ไม่เคยชะโงกดูตัวเองเลย พูดแล้วทำตรงข้าม #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • Between The Line สี จิ้นผิงถึงโดนัลด์ ทรัมป์.สารที่สี จิ้นผิง ส่งให้กับโดนัลด์ ทรัมป์ นั้น มีความสำคัญอยู่ 4 ข้อความ ผมเชื่อว่าไม่ค่อยมีใครมานั่งวิเคราะห์เรื่องนี้ ผมน่าจะเป็นคนเดียวที่นั่งวิเคราะห์สารของสี จิ้นผิงที่มีนัยลึกซึ้งมาก และ สี จิ้นผิง พูดถึงสายสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ว่าควรมีลักษณะ 3 อย่าง เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และ ยั่งยืน นัยของคำพูดนี้คือการเตือนสตินายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ควรจะมีความสม่ำเสมอในนโยบาย ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานะอารมณ์ของผู้นำ พรรคการเมือง หรือกลุ่มผลประโยชน์ .สี จิ้นผิง กล่าวว่า ประวัติศาสตร์สอนว่าจีนและสหรัฐฯ จะได้ประโยชน์จากความร่วมมือ และจะสูญเสียจากการเผชิญหน้า.ถ้าหากนายทรัมป์ ใช้นโยบาย 'Make America Great Again' คือทำให้อเมริกายิ่งใหญ่กลับมาเหมือนเดิม ด้วยการโดดเดี่ยวและทอดทิ้งชาติพันธมิตร ก็ยิ่งเปิดโอกาสให้จีนหาเพื่อนเพิ่มได้มากขึ้น และจีนก็จะเป็นผู้นำในด้านที่นายทรัมป์ ทอดทิ้ง เช่น พลังงานใหม่ เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือระดับพหุภาคี รวมทั้งการสร้างสันติภาพในภูมิภาคต่างๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นในระดับอาเซียน ตะวันออกกลาง แอฟริกา ลาตินอเมริกา อาจจะรวมถึงยุโรป เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นด้วย เสียด้วยซ้ำ.ข้อสุดท้ายคือการเตรียมทางหนีทีไล่ แม้ว่าจีนคาดหวังจะเจรจานายโดนัลด์ ทรัมป์ แต่จีนก็ได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้เช่นกัน โดยเฉพาะมาตรการการขึ้นภาษี ถ้าสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้าจากจีน ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าจีนจะทำอย่างไร ? ถ้าเป็นภาษาแถวบ้านผม วัยรุ่นสมัยนี้ ก็คือ แค่ยักไหล่แล้วก็เดินหน้าต่อ เพราะจีนเตรียมการย้ายการผลิตไปยังภูมิภาคอื่นไว้ล่วงหน้าแล้ว จีนไม่ได้แค่เตรียมจะทำ แต่ได้ทำแล้ว บริษัทต่างๆ ของประเทศจีนที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรมานานกว่า 8 ปี ไม่มีใครล้มหายตายจาก แต่กลับมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อพึ่งพาตัวเองมากขึ้น จนวันหนึ่งสามารถตัดขาดการใช้เทคโนโลยีต่างชาติได้ เหมือนกับที่หัวเว่ยประกาศ.จะเห็นได้ชัดว่าช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ยุคนายทรัมป์สมัยแรก มาถึงนายโจ ไบเดน เมื่ออเมริกาจุดประเด็นเรื่องสงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี จีนก็เริ่มสร้างตลาดอันใหม่เพื่อมุ่งไปยังตลาดกลุ่มประเทศโลกใต้ที่สามารถทดแทน ชดเชยรายได้จากการส่งออกไปอเมริกาเป็นจำนวนมหาศาล.สรุป ถึงแม้ว่าที่ผ่านๆ มา นายทรัมป์ จะแสดงท่าทีต่อต้านจีนอย่างมาก แต่ว่าเมื่อพูดถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แล้ว นายทรัมป์ กลับมีความเคารพอยู่มาก เคยบอกว่า สี จิ้นผิง เป็นผู้นำที่ชาญฉลาด มีความสามารถในการปกครองประชาชน 1,400 ล้านคน .แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เพิ่งตระหนักว่า ในภาษาจีนยังมีภาษิตอีกสำนวนหนึ่ง ชื่อ เซี่ยนหลี่โฮ่วปิง มีความหมายว่า ใช้ความสุภาพก่อน หากไม่ได้ผลค่อยใช้ไม้แข็งหรือใช้กำลัง.นี่คือบทวิเคราะห์ของผม สนธิ ลิ้มทองกุล ถึงสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างสองมหาอำนาจ ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่กำลังจะดำเนินต่อไปในอนาคต
    Between The Line สี จิ้นผิงถึงโดนัลด์ ทรัมป์.สารที่สี จิ้นผิง ส่งให้กับโดนัลด์ ทรัมป์ นั้น มีความสำคัญอยู่ 4 ข้อความ ผมเชื่อว่าไม่ค่อยมีใครมานั่งวิเคราะห์เรื่องนี้ ผมน่าจะเป็นคนเดียวที่นั่งวิเคราะห์สารของสี จิ้นผิงที่มีนัยลึกซึ้งมาก และ สี จิ้นผิง พูดถึงสายสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ว่าควรมีลักษณะ 3 อย่าง เข้มแข็ง มีเสถียรภาพ และ ยั่งยืน นัยของคำพูดนี้คือการเตือนสตินายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ควรจะมีความสม่ำเสมอในนโยบาย ไม่ใช่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานะอารมณ์ของผู้นำ พรรคการเมือง หรือกลุ่มผลประโยชน์ .สี จิ้นผิง กล่าวว่า ประวัติศาสตร์สอนว่าจีนและสหรัฐฯ จะได้ประโยชน์จากความร่วมมือ และจะสูญเสียจากการเผชิญหน้า.ถ้าหากนายทรัมป์ ใช้นโยบาย 'Make America Great Again' คือทำให้อเมริกายิ่งใหญ่กลับมาเหมือนเดิม ด้วยการโดดเดี่ยวและทอดทิ้งชาติพันธมิตร ก็ยิ่งเปิดโอกาสให้จีนหาเพื่อนเพิ่มได้มากขึ้น และจีนก็จะเป็นผู้นำในด้านที่นายทรัมป์ ทอดทิ้ง เช่น พลังงานใหม่ เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือระดับพหุภาคี รวมทั้งการสร้างสันติภาพในภูมิภาคต่างๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นในระดับอาเซียน ตะวันออกกลาง แอฟริกา ลาตินอเมริกา อาจจะรวมถึงยุโรป เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นด้วย เสียด้วยซ้ำ.ข้อสุดท้ายคือการเตรียมทางหนีทีไล่ แม้ว่าจีนคาดหวังจะเจรจานายโดนัลด์ ทรัมป์ แต่จีนก็ได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้เช่นกัน โดยเฉพาะมาตรการการขึ้นภาษี ถ้าสหรัฐฯ ขึ้นภาษีสินค้าจากจีน ท่านผู้ชมรู้ไหมว่าจีนจะทำอย่างไร ? ถ้าเป็นภาษาแถวบ้านผม วัยรุ่นสมัยนี้ ก็คือ แค่ยักไหล่แล้วก็เดินหน้าต่อ เพราะจีนเตรียมการย้ายการผลิตไปยังภูมิภาคอื่นไว้ล่วงหน้าแล้ว จีนไม่ได้แค่เตรียมจะทำ แต่ได้ทำแล้ว บริษัทต่างๆ ของประเทศจีนที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรมานานกว่า 8 ปี ไม่มีใครล้มหายตายจาก แต่กลับมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อพึ่งพาตัวเองมากขึ้น จนวันหนึ่งสามารถตัดขาดการใช้เทคโนโลยีต่างชาติได้ เหมือนกับที่หัวเว่ยประกาศ.จะเห็นได้ชัดว่าช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ยุคนายทรัมป์สมัยแรก มาถึงนายโจ ไบเดน เมื่ออเมริกาจุดประเด็นเรื่องสงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี จีนก็เริ่มสร้างตลาดอันใหม่เพื่อมุ่งไปยังตลาดกลุ่มประเทศโลกใต้ที่สามารถทดแทน ชดเชยรายได้จากการส่งออกไปอเมริกาเป็นจำนวนมหาศาล.สรุป ถึงแม้ว่าที่ผ่านๆ มา นายทรัมป์ จะแสดงท่าทีต่อต้านจีนอย่างมาก แต่ว่าเมื่อพูดถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แล้ว นายทรัมป์ กลับมีความเคารพอยู่มาก เคยบอกว่า สี จิ้นผิง เป็นผู้นำที่ชาญฉลาด มีความสามารถในการปกครองประชาชน 1,400 ล้านคน .แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็เพิ่งตระหนักว่า ในภาษาจีนยังมีภาษิตอีกสำนวนหนึ่ง ชื่อ เซี่ยนหลี่โฮ่วปิง มีความหมายว่า ใช้ความสุภาพก่อน หากไม่ได้ผลค่อยใช้ไม้แข็งหรือใช้กำลัง.นี่คือบทวิเคราะห์ของผม สนธิ ลิ้มทองกุล ถึงสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างสองมหาอำนาจ ระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่กำลังจะดำเนินต่อไปในอนาคต
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 805 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สี" คำราม "ทรัมป์" : Sondhitalk EP268 VDO
    ประธานสีจิ้นผิง เตือนสติ ทรัมป์ ความสัมพันธ์ “จีน - อเมริกา”
    #sondhi #sondhiapp #sondhitalk #สนธิ #สนธิทอล์ค #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #sondhiX #สนธิเล่าเรื่อง
    "สี" คำราม "ทรัมป์" : Sondhitalk EP268 VDO ประธานสีจิ้นผิง เตือนสติ ทรัมป์ ความสัมพันธ์ “จีน - อเมริกา” #sondhi #sondhiapp #sondhitalk #สนธิ #สนธิทอล์ค #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #sondhiX #สนธิเล่าเรื่อง
    Like
    Love
    Wow
    22
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6219 มุมมอง 458 2 รีวิว
  • ในขณะที่ละครระยะหลังของช่องหนึ่งกำลังมาแรง ทำท่าจะแซงโค้งช่องยักษ์ใหญ่ในอดีตทั้งหลาย ทว่าในความรู้สึกส่วนลึกของข้าพเจ้าเห็นว่า ไม่ใช่แซงแล้วขึ้นหน้า แต่น่าจะแซงและแหกโค้งหลุดไปนอกวิถี ที่แท้แล้วไม่ใช่พัฒนาขึ้นไปจากละครช่องอื่น แต่คือคลื่นลูกหลังที่เปรียบดังทายาทอสูร รับช่วงต่อขยะปฏิกูลที่มีมานานนม และใส่สีตีไข่ผสมให้ถูกใจคนชม มอมเมาให้หลงติดหนักมากขึ้นไปอีก

    กระแสแรงนั้นน่ากลัว เพราะคนมัวแต่บ้าตามกันไป ไหลไปไหนก็ยังไม่รู้ ที่แน่ ๆ ไปสู่ความเสื่อม ความทราม และห่างไกลความเจริญงอกงามทางจิตใจ

    #ข้อคิด
    #เตือนสติ
    #ละคร
    #thaitimes
    ในขณะที่ละครระยะหลังของช่องหนึ่งกำลังมาแรง ทำท่าจะแซงโค้งช่องยักษ์ใหญ่ในอดีตทั้งหลาย ทว่าในความรู้สึกส่วนลึกของข้าพเจ้าเห็นว่า ไม่ใช่แซงแล้วขึ้นหน้า แต่น่าจะแซงและแหกโค้งหลุดไปนอกวิถี ที่แท้แล้วไม่ใช่พัฒนาขึ้นไปจากละครช่องอื่น แต่คือคลื่นลูกหลังที่เปรียบดังทายาทอสูร รับช่วงต่อขยะปฏิกูลที่มีมานานนม และใส่สีตีไข่ผสมให้ถูกใจคนชม มอมเมาให้หลงติดหนักมากขึ้นไปอีก กระแสแรงนั้นน่ากลัว เพราะคนมัวแต่บ้าตามกันไป ไหลไปไหนก็ยังไม่รู้ ที่แน่ ๆ ไปสู่ความเสื่อม ความทราม และห่างไกลความเจริญงอกงามทางจิตใจ #ข้อคิด #เตือนสติ #ละคร #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 574 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปากบอกแค่ให้ความรู้ด้านกฎหมาย แต่ไฉนทนายจุ๊กกรู้ เดชา ดันสอดแทรกการเชียร์ ทนายตั้ม สวนกระแส ไม่แคร์สื่ออยู่คนเดียว
    กระแสเสียงในโลกโซเชียลจึงเริ่มก่อตัวเข้าไปตั้งคําถามกับจุดยืนของนายเดชาทําไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ คนหนึ่งที่สุดจะทนกับลีลาของนายเดชาที่ให้ความรู้ข้อกฎหมายแบบมีเหลี่ยมซ่อนเร้น จนต้องออกโรงมาวิพากษ์วิจารณ์ตรงตรงก็คือ สื่อใหญ่สนธิลิ้มทองกุล
    เพราะสนธิเห็นว่าทนายเดชาเหมือนพยายามช่วยเหลือทนายตั้มในคดีฉ้อโกงพี่อ้อยจตุพรอุบลเลิศนางฟ้าเดินดิน แม้จะมาในรูปแบบอีแอบ ก็เป็นเรื่องที่สนธิ ลิ้มทองกุล ไม่อาจรับได้อีกต่อไปจึงพูดเตือนสติทนายเดชาว่าคนเป็นทนายความควรจะเห็นใจผู้เสียหายที่ถูกกระทํา มากกว่าไปเห็นใจคนกระทํา
    ที่ผ่านมาทนายจุ๊กกรู้พูดแก้ต่างให้ทนายตั้มเพื่อนต่างวัยในหลายประเด็นอย่างเรื่องอายุความคดีฉ้อโกง นายเดชาถึงกับปั่นแรงๆว่าคดีนี้หมดอายุความแล้ว อ้างว่าเจ้าทุกข์ต้องแจ้งความภายในสามเดือนขณะที่คดีนี้พี่อ้อยโอนเงินให้ทนายตั้มไปตั้งแต่ต้นปี 2566
    เท่ากับขาดอายุความทั้งที่ความรู้ทางกฎหมายระดับเบสิกใครก็รู้ทั้งนั้นว่าภายในสามเดือนที่ว่านั้นคือสามเดือนนับจากรู้ตัวว่าถูกโกง ไม่ใช่สามเดือนนับจากวันโอนเงิน จึงเป็นเรื่องที่น่างุนงงทําไมคนจบเนติบัณฑิตถึงตีความกฏหมายออกมาเช่นนี้
    นอกจากนี้ นายเดชายังชี้ว่าการที่กองปราบปรามสอบแล้วสอบอีกนานขนาดนี้อาจหมายถึงคดีไม่มีน้ําหนักเอาผิดทนายตั้มไม่ได้
    ทางด้านสนธิลิ้มทองกุลชี้ว่าคําพูดนี้ของนายเดชาเป็นการตีความที่ผิดเพราะที่จริงแล้วการสอบแล้วสอบอีกมันหมายถึงกองปราบ กําลังทําคดีให้รัดกุมที่สุดต่างหากและกองปราบก็คงไม่รับทําคดีที่หมดอายุความแล้วจะเห็นว่ามุมมองของสนธิ เป็นคนละเรื่องกับที่ทนายเดชาพยายามสื่อให้สังคมสับสน สนธิลิ้มทองกุลยังฝากไปถึงนายเดชาว่า แม้ว่ายังรบไม่จบกับทนายตั้ม แต่ถ้านายเดชาต้องการก็พร้อมจะรบกับนายเดชาอีกคนไปพร้อมกันและท้าว่าหากนายเดชาไม่พอใจ จะฟ้องหมิ่นประมาทอะไรก็เอาเลยเชิญตามสบายปรากฏว่านายเดชาตอบคําถามเรื่องนี้ในรายการหนึ่งว่า
    เขาไม่คิดจะฟ้องสนธิหรือใครๆเขาแค่แสดงความเห็นต่างจากคนอื่นเพราะเขาเป็นคนเล่นพวก ไม่กระทืบพวกเดียวกันคําตอบนี้ของนายเดชาตอกย้ําจุดยืนชัดเจนเลยว่า พวกพ้องของเขาต้องมาก่อนความถูกต้องชอบธรรม
    ตอนนี้คนทั้งประเทศมองเห็นถึงเล่ห์ฉ้อฉลของโจรที่เป็นทนายแต่ทนายเดชา กิตติวิทยานันกลับขยันตีความกฎหมายให้เข้าทางโจรซะอย่างนั้นนะจ๊ะ
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ปากบอกแค่ให้ความรู้ด้านกฎหมาย แต่ไฉนทนายจุ๊กกรู้ เดชา ดันสอดแทรกการเชียร์ ทนายตั้ม สวนกระแส ไม่แคร์สื่ออยู่คนเดียว กระแสเสียงในโลกโซเชียลจึงเริ่มก่อตัวเข้าไปตั้งคําถามกับจุดยืนของนายเดชาทําไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ คนหนึ่งที่สุดจะทนกับลีลาของนายเดชาที่ให้ความรู้ข้อกฎหมายแบบมีเหลี่ยมซ่อนเร้น จนต้องออกโรงมาวิพากษ์วิจารณ์ตรงตรงก็คือ สื่อใหญ่สนธิลิ้มทองกุล เพราะสนธิเห็นว่าทนายเดชาเหมือนพยายามช่วยเหลือทนายตั้มในคดีฉ้อโกงพี่อ้อยจตุพรอุบลเลิศนางฟ้าเดินดิน แม้จะมาในรูปแบบอีแอบ ก็เป็นเรื่องที่สนธิ ลิ้มทองกุล ไม่อาจรับได้อีกต่อไปจึงพูดเตือนสติทนายเดชาว่าคนเป็นทนายความควรจะเห็นใจผู้เสียหายที่ถูกกระทํา มากกว่าไปเห็นใจคนกระทํา ที่ผ่านมาทนายจุ๊กกรู้พูดแก้ต่างให้ทนายตั้มเพื่อนต่างวัยในหลายประเด็นอย่างเรื่องอายุความคดีฉ้อโกง นายเดชาถึงกับปั่นแรงๆว่าคดีนี้หมดอายุความแล้ว อ้างว่าเจ้าทุกข์ต้องแจ้งความภายในสามเดือนขณะที่คดีนี้พี่อ้อยโอนเงินให้ทนายตั้มไปตั้งแต่ต้นปี 2566 เท่ากับขาดอายุความทั้งที่ความรู้ทางกฎหมายระดับเบสิกใครก็รู้ทั้งนั้นว่าภายในสามเดือนที่ว่านั้นคือสามเดือนนับจากรู้ตัวว่าถูกโกง ไม่ใช่สามเดือนนับจากวันโอนเงิน จึงเป็นเรื่องที่น่างุนงงทําไมคนจบเนติบัณฑิตถึงตีความกฏหมายออกมาเช่นนี้ นอกจากนี้ นายเดชายังชี้ว่าการที่กองปราบปรามสอบแล้วสอบอีกนานขนาดนี้อาจหมายถึงคดีไม่มีน้ําหนักเอาผิดทนายตั้มไม่ได้ ทางด้านสนธิลิ้มทองกุลชี้ว่าคําพูดนี้ของนายเดชาเป็นการตีความที่ผิดเพราะที่จริงแล้วการสอบแล้วสอบอีกมันหมายถึงกองปราบ กําลังทําคดีให้รัดกุมที่สุดต่างหากและกองปราบก็คงไม่รับทําคดีที่หมดอายุความแล้วจะเห็นว่ามุมมองของสนธิ เป็นคนละเรื่องกับที่ทนายเดชาพยายามสื่อให้สังคมสับสน สนธิลิ้มทองกุลยังฝากไปถึงนายเดชาว่า แม้ว่ายังรบไม่จบกับทนายตั้ม แต่ถ้านายเดชาต้องการก็พร้อมจะรบกับนายเดชาอีกคนไปพร้อมกันและท้าว่าหากนายเดชาไม่พอใจ จะฟ้องหมิ่นประมาทอะไรก็เอาเลยเชิญตามสบายปรากฏว่านายเดชาตอบคําถามเรื่องนี้ในรายการหนึ่งว่า เขาไม่คิดจะฟ้องสนธิหรือใครๆเขาแค่แสดงความเห็นต่างจากคนอื่นเพราะเขาเป็นคนเล่นพวก ไม่กระทืบพวกเดียวกันคําตอบนี้ของนายเดชาตอกย้ําจุดยืนชัดเจนเลยว่า พวกพ้องของเขาต้องมาก่อนความถูกต้องชอบธรรม ตอนนี้คนทั้งประเทศมองเห็นถึงเล่ห์ฉ้อฉลของโจรที่เป็นทนายแต่ทนายเดชา กิตติวิทยานันกลับขยันตีความกฎหมายให้เข้าทางโจรซะอย่างนั้นนะจ๊ะ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 982 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 6-11-67
    .
    คุณสนธิอยากพูดถึงเรื่อง "ทนายตั้มษิทรา" ที่ไปแถลงข่าวที่หน้ากองปราบเมื่อวานนี้ พูดเตือนสติ "ทนายเดชา" และพูดถึงคุณชูวิทย์ที่เดินทางมาเมืองไทย
    สนธิเล่าเรื่อง 6-11-67 . คุณสนธิอยากพูดถึงเรื่อง "ทนายตั้มษิทรา" ที่ไปแถลงข่าวที่หน้ากองปราบเมื่อวานนี้ พูดเตือนสติ "ทนายเดชา" และพูดถึงคุณชูวิทย์ที่เดินทางมาเมืองไทย
    Like
    Love
    Haha
    Yay
    Wow
    52
    4 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4723 มุมมอง 1 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 6-11-67
    .
    วันนี้ (6 พ.ย.) คุณสนธิอยากพูดถึงเรื่อง "ทนายตั้มษิทรา" ที่ไปแถลงข่าวที่หน้ากองปราบเมื่อวานนี้ (5 พ.ย.) พูดเตือนสติ "ทนายเดชา" และพูดถึงคุณชูวิทย์ที่เดินทางมาเมืองไทยเพื่อขึ้นศาลเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
    .
    คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=yJvvAkCuYrQ
    สนธิเล่าเรื่อง 6-11-67 . วันนี้ (6 พ.ย.) คุณสนธิอยากพูดถึงเรื่อง "ทนายตั้มษิทรา" ที่ไปแถลงข่าวที่หน้ากองปราบเมื่อวานนี้ (5 พ.ย.) พูดเตือนสติ "ทนายเดชา" และพูดถึงคุณชูวิทย์ที่เดินทางมาเมืองไทยเพื่อขึ้นศาลเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา . คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=yJvvAkCuYrQ
    Like
    Haha
    Yay
    9
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 804 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts