• หมดกันกับ “Amazing Thailand”

    ไต้หวันจะมีคําเเจ้งเตือนบน boarding pass (ตั๋วขึ้นเครื่อง)

    ให้ผู้โดยสารระวัง 5 ประเทศที่มี ‘ความเสี่ยงสูง’ (ไทย, เวียดนาม, พม่า, ลาว, กัมพูชา) ที่เกี่ยวข้องกับสเเกม call centers!

    อ้างอิง: Taiwan News
    หมดกันกับ “Amazing Thailand” ไต้หวันจะมีคําเเจ้งเตือนบน boarding pass (ตั๋วขึ้นเครื่อง) ให้ผู้โดยสารระวัง 5 ประเทศที่มี ‘ความเสี่ยงสูง’ (ไทย, เวียดนาม, พม่า, ลาว, กัมพูชา) ที่เกี่ยวข้องกับสเเกม call centers! อ้างอิง: Taiwan News
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI (Artificial Intelligence) มีบทบาทสำคัญในการพยากรณ์อากาศของโลก โดยช่วยเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลสภาพอากาศ ซึ่งมีกระบวนการหลักๆ ดังนี้:

    ### 1. **การเก็บข้อมูล**
    AI ใช้ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น:
    - **ดาวเทียม**: ให้ข้อมูลภาพถ่ายและข้อมูลสภาพอากาศจากอวกาศ
    - **สถานีตรวจอากาศ**: วัดอุณหภูมิ, ความชื้น, ความกดอากาศ, และลม
    - **เรดาร์**: ติดตามฝนและพายุ
    - **เซ็นเซอร์อื่นๆ**: เช่น เครื่องบิน, เรือ, และอุปกรณ์ IoT

    ### 2. **การประมวลผลข้อมูล**
    AI ประมวลผลข้อมูลจำนวนมากอย่างรวดเร็วด้วยเทคนิคเช่น:
    - **Machine Learning (ML)**: วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาความสัมพันธ์และแนวโน้ม
    - **Deep Learning (DL)**: ใช้ Neural Networks ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน เช่น ภาพจากดาวเทียม

    ### 3. **การสร้างแบบจำลอง**
    AI ช่วยสร้างและปรับปรุงแบบจำลองสภาพอากาศโดย:
    - **การพยากรณ์ระยะสั้น**: คาดการณ์สภาพอากาศในชั่วโมงหรือวันถัดไป
    - **การพยากรณ์ระยะยาว**: คาดการณ์สภาพอากาศในสัปดาห์หรือเดือนถัดไป
    - **การคาดการณ์สภาพอากาศรุนแรง**: เช่น พายุ, น้ำท่วม, และคลื่นความร้อน

    ### 4. **การปรับปรุงความแม่นยำ**
    AI ช่วยปรับปรุงความแม่นยำโดย:
    - **การเรียนรู้จากข้อมูลในอดีต**: เพื่อปรับปรุงการคาดการณ์
    - **การปรับแบบจำลองแบบเรียลไทม์**: ด้วยข้อมูลล่าสุด

    ### 5. **การใช้งานจริง**
    AI ถูกใช้ในหลายด้าน เช่น:
    - **การเตือนภัยล่วงหน้า**: เตือนภัยธรรมชาติล่วงหน้า
    - **การเกษตร**: ช่วยเกษตรกรวางแผนการเพาะปลูก
    - **การขนส่ง**: ช่วยการบินและการเดินเรือ
    - **การจัดการทรัพยากรน้ำ**: จัดการน้ำในเขื่อนและแม่น้ำ

    ### 6. **ตัวอย่างการใช้ AI ในพยากรณ์อากาศ**
    - **IBM's GRAF**: ใช้ AI เพื่อพยากรณ์อากาศทั่วโลกทุกชั่วโมง
    - **Google's MetNet**: ใช้ Deep Learning เพื่อพยากรณ์ฝนในระยะสั้น
    - **The Weather Company**: ใช้ AI เพื่อปรับปรุงการพยากรณ์อากาศ

    ### 7. **ความท้าทาย**
    - **ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์**: ข้อมูลอาจขาดหายหรือไม่ถูกต้อง
    - **ความซับซ้อนของสภาพอากาศ**: สภาพอากาศมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงเร็ว
    - **การคำนวณที่ต้องการทรัพยากรสูง**: ต้องการพลังการคำนวณมาก

    ### สรุป
    AI ช่วยเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการพยากรณ์อากาศ โดยใช้ข้อมูลจากหลายแหล่งและเทคนิคต่างๆ เพื่อคาดการณ์สภาพอากาศได้ดีขึ้น ซึ่งมีประโยชน์ต่อหลายภาคส่วน เช่น การเกษตร, การขนส่ง, และการจัดการภัยพิบัติ
    AI (Artificial Intelligence) มีบทบาทสำคัญในการพยากรณ์อากาศของโลก โดยช่วยเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลสภาพอากาศ ซึ่งมีกระบวนการหลักๆ ดังนี้: ### 1. **การเก็บข้อมูล** AI ใช้ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น: - **ดาวเทียม**: ให้ข้อมูลภาพถ่ายและข้อมูลสภาพอากาศจากอวกาศ - **สถานีตรวจอากาศ**: วัดอุณหภูมิ, ความชื้น, ความกดอากาศ, และลม - **เรดาร์**: ติดตามฝนและพายุ - **เซ็นเซอร์อื่นๆ**: เช่น เครื่องบิน, เรือ, และอุปกรณ์ IoT ### 2. **การประมวลผลข้อมูล** AI ประมวลผลข้อมูลจำนวนมากอย่างรวดเร็วด้วยเทคนิคเช่น: - **Machine Learning (ML)**: วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาความสัมพันธ์และแนวโน้ม - **Deep Learning (DL)**: ใช้ Neural Networks ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน เช่น ภาพจากดาวเทียม ### 3. **การสร้างแบบจำลอง** AI ช่วยสร้างและปรับปรุงแบบจำลองสภาพอากาศโดย: - **การพยากรณ์ระยะสั้น**: คาดการณ์สภาพอากาศในชั่วโมงหรือวันถัดไป - **การพยากรณ์ระยะยาว**: คาดการณ์สภาพอากาศในสัปดาห์หรือเดือนถัดไป - **การคาดการณ์สภาพอากาศรุนแรง**: เช่น พายุ, น้ำท่วม, และคลื่นความร้อน ### 4. **การปรับปรุงความแม่นยำ** AI ช่วยปรับปรุงความแม่นยำโดย: - **การเรียนรู้จากข้อมูลในอดีต**: เพื่อปรับปรุงการคาดการณ์ - **การปรับแบบจำลองแบบเรียลไทม์**: ด้วยข้อมูลล่าสุด ### 5. **การใช้งานจริง** AI ถูกใช้ในหลายด้าน เช่น: - **การเตือนภัยล่วงหน้า**: เตือนภัยธรรมชาติล่วงหน้า - **การเกษตร**: ช่วยเกษตรกรวางแผนการเพาะปลูก - **การขนส่ง**: ช่วยการบินและการเดินเรือ - **การจัดการทรัพยากรน้ำ**: จัดการน้ำในเขื่อนและแม่น้ำ ### 6. **ตัวอย่างการใช้ AI ในพยากรณ์อากาศ** - **IBM's GRAF**: ใช้ AI เพื่อพยากรณ์อากาศทั่วโลกทุกชั่วโมง - **Google's MetNet**: ใช้ Deep Learning เพื่อพยากรณ์ฝนในระยะสั้น - **The Weather Company**: ใช้ AI เพื่อปรับปรุงการพยากรณ์อากาศ ### 7. **ความท้าทาย** - **ข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์**: ข้อมูลอาจขาดหายหรือไม่ถูกต้อง - **ความซับซ้อนของสภาพอากาศ**: สภาพอากาศมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงเร็ว - **การคำนวณที่ต้องการทรัพยากรสูง**: ต้องการพลังการคำนวณมาก ### สรุป AI ช่วยเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการพยากรณ์อากาศ โดยใช้ข้อมูลจากหลายแหล่งและเทคนิคต่างๆ เพื่อคาดการณ์สภาพอากาศได้ดีขึ้น ซึ่งมีประโยชน์ต่อหลายภาคส่วน เช่น การเกษตร, การขนส่ง, และการจัดการภัยพิบัติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใคร ได้/เสีย ‘Tariff ทรัมป์ 2.0’ : [Biz Talk]

    การกลับมาอีกครั้ง ของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ทำให้สงครามการค้า เริ่มระอุ! ‘ทรัมป์ 2.0’ ยังคงใช้ภาษีนำเข้า เป็นเครื่องมือเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสหรัฐฯ ตามนโยบาย America First /ประเทศไทย คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากการที่ไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ เป็นอันดับที่ 10 ของโลก
    ใคร ได้/เสีย ‘Tariff ทรัมป์ 2.0’ : [Biz Talk] การกลับมาอีกครั้ง ของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ทำให้สงครามการค้า เริ่มระอุ! ‘ทรัมป์ 2.0’ ยังคงใช้ภาษีนำเข้า เป็นเครื่องมือเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสหรัฐฯ ตามนโยบาย America First /ประเทศไทย คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากการที่ไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ เป็นอันดับที่ 10 ของโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • เทศบาลตำบลปาย ออกประกาศ “ห้ามสูบกัญชา” ถนนคนเดินปาย เริ่มสัปดาห์หน้า!

    ประกาศจากเทศบาลตำบลปาย เรื่อง กำหนดพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ พ.ศ. 2567 โดยห้ามมิให้ผู้ใด สูบกัญชา กัญชง ในเขตพื้นที่ถนนคนเดินปาย

    ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งป้ายรณรงค์ ขอบคุณที่ไม่สูบกัญชา ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในพื้นที่ถนนคนเดินปาย เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวเมืองปาย
    เทศบาลตำบลปาย ออกประกาศ “ห้ามสูบกัญชา” ถนนคนเดินปาย เริ่มสัปดาห์หน้า! ประกาศจากเทศบาลตำบลปาย เรื่อง กำหนดพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ พ.ศ. 2567 โดยห้ามมิให้ผู้ใด สูบกัญชา กัญชง ในเขตพื้นที่ถนนคนเดินปาย ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งป้ายรณรงค์ ขอบคุณที่ไม่สูบกัญชา ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในพื้นที่ถนนคนเดินปาย เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของการท่องเที่ยวเมืองปาย
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขย่าเพนตากอน!

    ทรัมป์มีคำสั่งปลด พลอากาศเอกซีคิว บราวน์ (General CQ Brown) ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นตำแหน่งระดับบัญชาการทหารสูงที่สุดของกองทัพสหรัฐฯ

    คำสั่งดังกล่าวประกาศออกมาในช่วงค่ำวันศุกร์ตามเวลาในสหรัฐฯ

    พลอากาศเอกบราวน์ คือนายทหารผิวดำคนที่สองในประวัติศาสตร์ที่ได้นั่งในตำแหน่งประธานผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วม โดยเขาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนี้เมื่อ 16 เดือนก่อนในสมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน หลังจากการเกษียณอายุราชการของพลเอกไมค์ ไมลีย์

    นอกจากนี้ทรัมป์ยังแต่งตั้งพลโท แดน "เรซิน" แคน (Lieutenant General Dan “Razin” Caine) ซึ่งเกษียณอายุราชการไปแล้วให้กลับมานั่งเก้าอี้ประธานคณะเสนาธิการร่วมแทน บราวน์ อีกด้วย

    สำหรับ พล.ท. แคน นั้นเป็นอดีตนักบินเครื่องบินขับไล่ F-16 และเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการทหารของสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA)

    ทรัมป์ ไม่ได้ระบุถึงสาเหตุการเปลี่ยนตัว บราวน์ และไม่ได้พูดถึงการอนุญาตให้เขาอยู่ในตำแหน่งต่อจนกว่าประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมคนใหม่จะผ่านการรับรองโดยวุฒิสภาหรือไม่

    นอกจากนี้ กลาโหมสหรัฐโดย พีท เฮกเซธ ยังประกาศปลดพลเรือเอกหญิง ลิซา ฟร็องเช็ตติ (Chief Adm. Lisa Franchetti) ผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐฯ รวมถึงพลอากาศเอกจิม สไลฟ์ (Jim Slife) รองหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการกองทัพอากาศออกด้วย



    เขย่าเพนตากอน! ทรัมป์มีคำสั่งปลด พลอากาศเอกซีคิว บราวน์ (General CQ Brown) ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นตำแหน่งระดับบัญชาการทหารสูงที่สุดของกองทัพสหรัฐฯ คำสั่งดังกล่าวประกาศออกมาในช่วงค่ำวันศุกร์ตามเวลาในสหรัฐฯ พลอากาศเอกบราวน์ คือนายทหารผิวดำคนที่สองในประวัติศาสตร์ที่ได้นั่งในตำแหน่งประธานผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วม โดยเขาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนี้เมื่อ 16 เดือนก่อนในสมัยประธานาธิบดีโจ ไบเดน หลังจากการเกษียณอายุราชการของพลเอกไมค์ ไมลีย์ นอกจากนี้ทรัมป์ยังแต่งตั้งพลโท แดน "เรซิน" แคน (Lieutenant General Dan “Razin” Caine) ซึ่งเกษียณอายุราชการไปแล้วให้กลับมานั่งเก้าอี้ประธานคณะเสนาธิการร่วมแทน บราวน์ อีกด้วย สำหรับ พล.ท. แคน นั้นเป็นอดีตนักบินเครื่องบินขับไล่ F-16 และเคยดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการทหารของสำนักงานข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA) ทรัมป์ ไม่ได้ระบุถึงสาเหตุการเปลี่ยนตัว บราวน์ และไม่ได้พูดถึงการอนุญาตให้เขาอยู่ในตำแหน่งต่อจนกว่าประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมคนใหม่จะผ่านการรับรองโดยวุฒิสภาหรือไม่ นอกจากนี้ กลาโหมสหรัฐโดย พีท เฮกเซธ ยังประกาศปลดพลเรือเอกหญิง ลิซา ฟร็องเช็ตติ (Chief Adm. Lisa Franchetti) ผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐฯ รวมถึงพลอากาศเอกจิม สไลฟ์ (Jim Slife) รองหัวหน้าฝ่ายเสนาธิการกองทัพอากาศออกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple ได้ประกาศเปิดตัว iPhone 16e รุ่นใหม่ที่เน้นความคุ้มค่า โดยมีราคาเริ่มต้นที่ $599 ซึ่งมาพร้อมกับชิป A18 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ และโมเด็ม C1 ที่เป็นชิ้นส่วน 5G ที่พัฒนาโดย Apple เอง ต่างจาก iPhone รุ่นก่อนหน้าที่ใช้โมเด็ม 5G ของ Qualcomm

    สำหรับการผลิตชิป A18 และ C1 นั้น Apple ได้ทำสัญญากับ TSMC ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ในไต้หวัน ชิป A18 ผลิตด้วยกระบวนการ 3 nm (TSMC N3E) ส่วนการออกแบบฐานของโมเด็ม C1 ใช้กระบวนการ 4 nm และตัวรับสัญญาณใช้กระบวนการ 7 nm

    จากรายงานของ Commercial Times Taiwan คาดว่า TSMC จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการทำสัญญานี้กับ Apple โดยนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมประเมินว่ายอดส่งมอบประจำปีของ iPhone 16e จะอยู่ที่ประมาณ 22 ล้านเครื่องต่อปี นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงว่าโมเด็ม C1 อาจจะถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์อื่น ๆ ของ Apple เช่น Apple Watch และ iPad ในอนาคต และยังมีการอัปเกรดไปยังผลิตภัณฑ์ Mac อีกด้วย

    นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับโปรเจกต์ "Ganymede" ที่มีการออกแบบโมเด็ม 5G รุ่น "C2" ที่อาจใช้กระบวนการ 3 nm ของ TSMC และโปรเจกต์ "Prometheus" ที่อาจเป็นรุ่นโมเด็ม "C3" ในอนาคต

    สิ่งที่น่าสนใจคือ การทำสัญญานี้ไม่เพียงแต่เพิ่มยอดขายของ TSMC แต่ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งในตลาด 5G และการผลิตชิปที่ทันสมัย ซึ่งอาจทำให้ TSMC ได้รับความสนใจมากขึ้นจากลูกค้ารายใหม่ ๆ ในอนาคต

    https://www.techpowerup.com/332924/tsmc-set-to-benefit-from-estimated-22-million-apple-iphone-16e-unit-sales
    Apple ได้ประกาศเปิดตัว iPhone 16e รุ่นใหม่ที่เน้นความคุ้มค่า โดยมีราคาเริ่มต้นที่ $599 ซึ่งมาพร้อมกับชิป A18 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ และโมเด็ม C1 ที่เป็นชิ้นส่วน 5G ที่พัฒนาโดย Apple เอง ต่างจาก iPhone รุ่นก่อนหน้าที่ใช้โมเด็ม 5G ของ Qualcomm สำหรับการผลิตชิป A18 และ C1 นั้น Apple ได้ทำสัญญากับ TSMC ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ในไต้หวัน ชิป A18 ผลิตด้วยกระบวนการ 3 nm (TSMC N3E) ส่วนการออกแบบฐานของโมเด็ม C1 ใช้กระบวนการ 4 nm และตัวรับสัญญาณใช้กระบวนการ 7 nm จากรายงานของ Commercial Times Taiwan คาดว่า TSMC จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการทำสัญญานี้กับ Apple โดยนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมประเมินว่ายอดส่งมอบประจำปีของ iPhone 16e จะอยู่ที่ประมาณ 22 ล้านเครื่องต่อปี นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงว่าโมเด็ม C1 อาจจะถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์อื่น ๆ ของ Apple เช่น Apple Watch และ iPad ในอนาคต และยังมีการอัปเกรดไปยังผลิตภัณฑ์ Mac อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับโปรเจกต์ "Ganymede" ที่มีการออกแบบโมเด็ม 5G รุ่น "C2" ที่อาจใช้กระบวนการ 3 nm ของ TSMC และโปรเจกต์ "Prometheus" ที่อาจเป็นรุ่นโมเด็ม "C3" ในอนาคต สิ่งที่น่าสนใจคือ การทำสัญญานี้ไม่เพียงแต่เพิ่มยอดขายของ TSMC แต่ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งในตลาด 5G และการผลิตชิปที่ทันสมัย ซึ่งอาจทำให้ TSMC ได้รับความสนใจมากขึ้นจากลูกค้ารายใหม่ ๆ ในอนาคต https://www.techpowerup.com/332924/tsmc-set-to-benefit-from-estimated-22-million-apple-iphone-16e-unit-sales
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    TSMC Set to Benefit from Estimated 22 Million Apple iPhone 16e Unit Sales
    On Wednesday (February 19), Apple announced the upcoming launch of its "budget-friendly" iPhone 16e smartphone model. The Cupertino, California-based company has refreshed its entry level product tier—starting at $599—with modernized internals. Apple's new design houses an A18 chipset, as well as th...
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจาก Imperial College London ได้ใช้เวลาราว 10 ปีในการแก้ไขปัญหาซูเปอร์บั๊ก (superbug) แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ปัญหานี้ถูกแก้ไขในเวลาเพียง 48 ชั่วโมงด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นโดย Google เครื่องมือนี้เรียกว่า co-scientist ซึ่งเป็นระบบ AI แบบหลายตัวแทนที่ใช้ Gemini 2.0 ในการทำงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยสร้างสมมติฐานใหม่ ๆ และข้อเสนอวิจัยใหม่ ๆ

    ซูเปอร์บั๊ก (Superbug) คือเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อยาปฏิชีวนะอย่างรุนแรง ทำให้การรักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อเหล่านี้ยากขึ้นมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นจากการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสม เช่น การใช้ยาเกินความจำเป็น การใช้ยาไม่ครบตามที่แพทย์สั่ง หรือการซื้อยามาทานเอง ซึ่งทำให้เชื้อแบคทีเรียพัฒนาความต้านทานต่อยาปฏิชีวนะ

    ปัญหาที่นักวิจัยให้เครื่องมือนี้แก้ไขคือ ทำไมซูเปอร์บั๊กบางตัวจึงต้านทานยาปฏิชีวนะได้ Professor José R Penadés บอกกับ BBC ว่า co-scientist ได้ข้อสันนิษฐานที่เหมือนกับทีมของเขา คือ ซูเปอร์บั๊กสามารถสร้างหางที่ทำให้พวกมันสามารถเคลื่อนย้ายไปยังชนิดอื่นได้ ซึ่งเปรียบเสมือนกุญแจหลักที่ช่วยให้บั๊กสามารถย้ายที่อยู่ได้

    นอกจากการยืนยันสมมติฐานเดิมแล้ว co-scientist ยังได้สร้างสมมติฐานเพิ่มเติมอีก 4 ข้อ ซึ่งทุกข้อเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลและหนึ่งในนั้นทีมวิจัยยังไม่เคยพิจารณามาก่อน ซึ่งขณะนี้ทีมวิจัยกำลังศึกษาสมมติฐานใหม่นี้เพิ่มเติม

    Penadés กล่าวเพิ่มเติมว่า เขาเชื่อว่า AI เครื่องมือนี้จะเปลี่ยนแปลงวงการวิทยาศาสตร์อย่างแน่นอน โดยเปรียบเสมือนกับการได้เล่นแมตช์ใหญ่ในแชมเปี้ยนส์ลีก

    Google กล่าวว่า co-scientist ทำงานเป็น "ผู้ร่วมงานวิจัยเสมือน" ที่สามารถช่วยเร่งการค้นพบด้านชีวการแพทย์และวิทยาศาสตร์ได้ องค์กรวิจัยที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโปรแกรมทดสอบได้

    https://www.techspot.com/news/106874-ai-accelerates-superbug-solution-completing-two-days-what.html
    นักวิจัยจาก Imperial College London ได้ใช้เวลาราว 10 ปีในการแก้ไขปัญหาซูเปอร์บั๊ก (superbug) แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ปัญหานี้ถูกแก้ไขในเวลาเพียง 48 ชั่วโมงด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นโดย Google เครื่องมือนี้เรียกว่า co-scientist ซึ่งเป็นระบบ AI แบบหลายตัวแทนที่ใช้ Gemini 2.0 ในการทำงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยสร้างสมมติฐานใหม่ ๆ และข้อเสนอวิจัยใหม่ ๆ ซูเปอร์บั๊ก (Superbug) คือเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อยาปฏิชีวนะอย่างรุนแรง ทำให้การรักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อเหล่านี้ยากขึ้นมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นจากการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสม เช่น การใช้ยาเกินความจำเป็น การใช้ยาไม่ครบตามที่แพทย์สั่ง หรือการซื้อยามาทานเอง ซึ่งทำให้เชื้อแบคทีเรียพัฒนาความต้านทานต่อยาปฏิชีวนะ ปัญหาที่นักวิจัยให้เครื่องมือนี้แก้ไขคือ ทำไมซูเปอร์บั๊กบางตัวจึงต้านทานยาปฏิชีวนะได้ Professor José R Penadés บอกกับ BBC ว่า co-scientist ได้ข้อสันนิษฐานที่เหมือนกับทีมของเขา คือ ซูเปอร์บั๊กสามารถสร้างหางที่ทำให้พวกมันสามารถเคลื่อนย้ายไปยังชนิดอื่นได้ ซึ่งเปรียบเสมือนกุญแจหลักที่ช่วยให้บั๊กสามารถย้ายที่อยู่ได้ นอกจากการยืนยันสมมติฐานเดิมแล้ว co-scientist ยังได้สร้างสมมติฐานเพิ่มเติมอีก 4 ข้อ ซึ่งทุกข้อเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลและหนึ่งในนั้นทีมวิจัยยังไม่เคยพิจารณามาก่อน ซึ่งขณะนี้ทีมวิจัยกำลังศึกษาสมมติฐานใหม่นี้เพิ่มเติม Penadés กล่าวเพิ่มเติมว่า เขาเชื่อว่า AI เครื่องมือนี้จะเปลี่ยนแปลงวงการวิทยาศาสตร์อย่างแน่นอน โดยเปรียบเสมือนกับการได้เล่นแมตช์ใหญ่ในแชมเปี้ยนส์ลีก Google กล่าวว่า co-scientist ทำงานเป็น "ผู้ร่วมงานวิจัยเสมือน" ที่สามารถช่วยเร่งการค้นพบด้านชีวการแพทย์และวิทยาศาสตร์ได้ องค์กรวิจัยที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโปรแกรมทดสอบได้ https://www.techspot.com/news/106874-ai-accelerates-superbug-solution-completing-two-days-what.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Scientists spent 10 years on a superbug mystery - Google's AI solved it in 48 hours
    Professor José R Penadés told the BBC that Google's tool reached the same hypothesis that his team had – that superbugs can create a tail that allows...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทองคำมีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลกมาอย่างยาวนาน และยังคงมีความสำคัญในปัจจุบัน ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับทองคำกับการเงินโลก:

    ### 1. **ประวัติศาสตร์ของทองคำ**
    - **มาตรฐานทองคำ (Gold Standard)**: ในอดีต หลายประเทศใช้มาตรฐานทองคำ ซึ่งหมายความว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆ ผูกติดกับปริมาณทองคำที่ประเทศนั้นถือครอง ระบบนี้ช่วยรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนและควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
    - **การยกเลิกมาตรฐานทองคำ**: ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หลายประเทศเริ่มยกเลิกมาตรฐานทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 สหรัฐอเมริกายกเลิกมาตรฐานทองคำอย่างสมบูรณ์ในปี 1971 ภายใต้การนำของประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน

    ### 2. **บทบาทของทองคำในระบบการเงินสมัยใหม่**
    - **ทุนสำรองระหว่างประเทศ**: ทองคำยังคงเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศของหลายประเทศ ทองคำช่วยเพิ่มความมั่นใจในเสถียรภาพทางการเงินของประเทศและสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ
    - **การลงทุน**: ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-Haven Asset) ที่นักลงทุนมักจะหันไปลงทุนในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินมีความไม่แน่นอน เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์
    - **เครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ**: ทองคำมักถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ เนื่องจากมูลค่าของทองคำมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อค่าของเงินกระดาษลดลง

    ### 3. **ตลาดทองคำ**
    - **ตลาดฟิสิคัล**: ตลาดทองคำฟิสิคัลมีการซื้อขายทองคำในรูปแบบของแท่งทองคำ เหรียญทองคำ และเครื่องประดับ ตลาดสำคัญได้แก่ อินเดีย จีน และตะวันออกกลาง
    - **ตลาดอนุพันธ์**: ตลาดอนุพันธ์เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) และตัวเลือก (Options) ช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ

    ### 4. **ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ**
    - **ภาวะเศรษฐกิจโลก**: ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น
    - **อัตราดอกเบี้ย**: อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนการถือครองทองคำลดลง
    - **ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ**: ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากทองคำถูกซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์
    - **ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์**: ความขัดแย้งหรือความตึงเครียดทางการเมืองมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย

    ### 5. **อนาคตของทองคำในระบบการเงินโลก**
    - **การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี**: การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนอาจส่งผลต่อบทบาทของทองคำในระบบการเงินโลก
    - **ความยั่งยืน**: การทำเหมืองทองคำและการผลิตทองคำมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจส่งผลต่อความต้องการทองคำในอนาคต

    ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความสำคัญในระบบการเงินโลก ทั้งในแง่ของการลงทุน การป้องกันความเสี่ยง และการเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ การเข้าใจบทบาทและปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำจะช่วยให้นักลงทุนและผู้กำหนดนโยบายสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    ทองคำมีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลกมาอย่างยาวนาน และยังคงมีความสำคัญในปัจจุบัน ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับทองคำกับการเงินโลก: ### 1. **ประวัติศาสตร์ของทองคำ** - **มาตรฐานทองคำ (Gold Standard)**: ในอดีต หลายประเทศใช้มาตรฐานทองคำ ซึ่งหมายความว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆ ผูกติดกับปริมาณทองคำที่ประเทศนั้นถือครอง ระบบนี้ช่วยรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนและควบคุมอัตราเงินเฟ้อ - **การยกเลิกมาตรฐานทองคำ**: ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หลายประเทศเริ่มยกเลิกมาตรฐานทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 สหรัฐอเมริกายกเลิกมาตรฐานทองคำอย่างสมบูรณ์ในปี 1971 ภายใต้การนำของประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ### 2. **บทบาทของทองคำในระบบการเงินสมัยใหม่** - **ทุนสำรองระหว่างประเทศ**: ทองคำยังคงเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศของหลายประเทศ ทองคำช่วยเพิ่มความมั่นใจในเสถียรภาพทางการเงินของประเทศและสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ - **การลงทุน**: ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-Haven Asset) ที่นักลงทุนมักจะหันไปลงทุนในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินมีความไม่แน่นอน เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ - **เครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ**: ทองคำมักถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ เนื่องจากมูลค่าของทองคำมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อค่าของเงินกระดาษลดลง ### 3. **ตลาดทองคำ** - **ตลาดฟิสิคัล**: ตลาดทองคำฟิสิคัลมีการซื้อขายทองคำในรูปแบบของแท่งทองคำ เหรียญทองคำ และเครื่องประดับ ตลาดสำคัญได้แก่ อินเดีย จีน และตะวันออกกลาง - **ตลาดอนุพันธ์**: ตลาดอนุพันธ์เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) และตัวเลือก (Options) ช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ ### 4. **ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ** - **ภาวะเศรษฐกิจโลก**: ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น - **อัตราดอกเบี้ย**: อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนการถือครองทองคำลดลง - **ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ**: ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากทองคำถูกซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์ - **ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์**: ความขัดแย้งหรือความตึงเครียดทางการเมืองมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย ### 5. **อนาคตของทองคำในระบบการเงินโลก** - **การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี**: การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนอาจส่งผลต่อบทบาทของทองคำในระบบการเงินโลก - **ความยั่งยืน**: การทำเหมืองทองคำและการผลิตทองคำมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจส่งผลต่อความต้องการทองคำในอนาคต ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความสำคัญในระบบการเงินโลก ทั้งในแง่ของการลงทุน การป้องกันความเสี่ยง และการเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ การเข้าใจบทบาทและปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำจะช่วยให้นักลงทุนและผู้กำหนดนโยบายสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • Big story [ตอนที่1] เพชรสีเลือด
    ย้อนไปดูคดีโขมยเครื่องเพชรของราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ที่เป็นชนวนให้ความสัมพันธ์ของสองประเทศร้าวลึกนานกว่า30ปี

    #Big #BigStory #ตอน1เพชรสีเลือด
    Big story [ตอนที่1] เพชรสีเลือด ย้อนไปดูคดีโขมยเครื่องเพชรของราชวงศ์ซาอุดิอาระเบียมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ที่เป็นชนวนให้ความสัมพันธ์ของสองประเทศร้าวลึกนานกว่า30ปี #Big #BigStory #ตอน1เพชรสีเลือด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • เป็นเรื่องราวของคนหนุ่มที่น่าติดตามมากครับ

    Wang Xingxing วัย 35 ปี ผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท Unitree Robotics บริษัทผู้นำในด้านหุ่นยนต์ของจีน ได้ทำให้เกิดความสนใจอย่างมากเมื่อเขาได้รับเชิญให้นั่งแถวหน้าในงานสัมมนาธุรกิจระดับสูงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดในปี 1990 Wang เป็นผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่ร่วมประชุม

    Wang กลายเป็นที่สนใจอีกครั้งหลังจากที่หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ของ Unitree ได้แสดงการเต้นฟอร์คแดนซ์ในงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ CCTV เมื่อเดือนที่แล้ว Wang บอกกับ CCTV ว่าหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์นั้นกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และเขาเชื่อว่าหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์จะก้าวขึ้นไปอีกขั้นก่อนสิ้นปีนี้

    แม้ว่า Unitree จะยังคงเป็นบริษัทเอกชน แต่นักลงทุนก็หันมาสนใจซัพพลายเออร์ของบริษัทนี้ เช่น หุ้นของ Zhejiang Changsheng Sliding Bearings ที่กระโดดขึ้น 62% ในช่วงห้าวันที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นกว่า 600% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ Ningbo Shuanglin Auto Parts ก็พุ่งขึ้น 575% จากปีที่แล้ว

    Wang มีความหลงใหลในด้านหุ่นยนต์ตั้งแต่วัยเด็ก เกิดในเมืองหนิงโป จังหวัดเจ้อเจียง เขามักใช้เวลาว่างสร้างแบบจำลองเครื่องบินและทำการทดลองเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่มัธยมต้น เขาได้สร้างเครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ตขนาดเล็ก Wang ศึกษาวิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์ที่มหาวิทยาลัย Zhejiang Sci-Tech และสร้างหุ่นยนต์เดินสองขาตัวแรกของเขาด้วยงบประมาณเพียง 200 หยวน

    หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เขาได้รับสิทธิบัตรแรกสำหรับอุปกรณ์ฟีดแบ็กหลายแรง แล้วเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ และในปี 2016 เขาได้ก่อตั้ง Unitree ด้วยเงินทุนเริ่มต้น 2 ล้านหยวน

    Unitree กลายเป็นบริษัทแรกในโลกที่ขายหุ่นยนต์ขาหนาและฮิวมานอยด์ประสิทธิภาพสูงให้กับประชาชนทั่วไป ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาได้รับการแสดงในงานใหญ่เช่นการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ที่หางโจวในปี 2023 นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังสนับสนุนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในท้องถิ่นด้วยแนวทางและเงินทุนจากรัฐ

    Wang บอกกับนักศึกษาในงานต้อนรับที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เมื่อปีที่แล้วว่า “หาสิ่งที่คุณรัก ทำงานหนัก เรียนรู้ตลอดเวลา และไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ตั้งแต่เด็กผมมีแรงบันดาลใจที่จะใช้เทคโนโลยีสร้างสิ่งมีค่าเพื่อพิสูจน์ตัวเองและเปลี่ยนแปลงโลก นั่นเป็นแรงขับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม”

    นี่คือเรื่องราวของ Wang Xingxing ที่กลายมาเป็นดาวรุ่งในวงการหุ่นยนต์ของจีน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/21/meet-wang-xingxing-the-young-chinese-robotics-star-from-unitree-at-xi-jinpings-symposium
    เป็นเรื่องราวของคนหนุ่มที่น่าติดตามมากครับ Wang Xingxing วัย 35 ปี ผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท Unitree Robotics บริษัทผู้นำในด้านหุ่นยนต์ของจีน ได้ทำให้เกิดความสนใจอย่างมากเมื่อเขาได้รับเชิญให้นั่งแถวหน้าในงานสัมมนาธุรกิจระดับสูงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดในปี 1990 Wang เป็นผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่ร่วมประชุม Wang กลายเป็นที่สนใจอีกครั้งหลังจากที่หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ของ Unitree ได้แสดงการเต้นฟอร์คแดนซ์ในงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ CCTV เมื่อเดือนที่แล้ว Wang บอกกับ CCTV ว่าหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์นั้นกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และเขาเชื่อว่าหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์จะก้าวขึ้นไปอีกขั้นก่อนสิ้นปีนี้ แม้ว่า Unitree จะยังคงเป็นบริษัทเอกชน แต่นักลงทุนก็หันมาสนใจซัพพลายเออร์ของบริษัทนี้ เช่น หุ้นของ Zhejiang Changsheng Sliding Bearings ที่กระโดดขึ้น 62% ในช่วงห้าวันที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นกว่า 600% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ Ningbo Shuanglin Auto Parts ก็พุ่งขึ้น 575% จากปีที่แล้ว Wang มีความหลงใหลในด้านหุ่นยนต์ตั้งแต่วัยเด็ก เกิดในเมืองหนิงโป จังหวัดเจ้อเจียง เขามักใช้เวลาว่างสร้างแบบจำลองเครื่องบินและทำการทดลองเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่มัธยมต้น เขาได้สร้างเครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ตขนาดเล็ก Wang ศึกษาวิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์ที่มหาวิทยาลัย Zhejiang Sci-Tech และสร้างหุ่นยนต์เดินสองขาตัวแรกของเขาด้วยงบประมาณเพียง 200 หยวน หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เขาได้รับสิทธิบัตรแรกสำหรับอุปกรณ์ฟีดแบ็กหลายแรง แล้วเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ และในปี 2016 เขาได้ก่อตั้ง Unitree ด้วยเงินทุนเริ่มต้น 2 ล้านหยวน Unitree กลายเป็นบริษัทแรกในโลกที่ขายหุ่นยนต์ขาหนาและฮิวมานอยด์ประสิทธิภาพสูงให้กับประชาชนทั่วไป ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาได้รับการแสดงในงานใหญ่เช่นการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ที่หางโจวในปี 2023 นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังสนับสนุนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในท้องถิ่นด้วยแนวทางและเงินทุนจากรัฐ Wang บอกกับนักศึกษาในงานต้อนรับที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เมื่อปีที่แล้วว่า “หาสิ่งที่คุณรัก ทำงานหนัก เรียนรู้ตลอดเวลา และไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ตั้งแต่เด็กผมมีแรงบันดาลใจที่จะใช้เทคโนโลยีสร้างสิ่งมีค่าเพื่อพิสูจน์ตัวเองและเปลี่ยนแปลงโลก นั่นเป็นแรงขับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม” นี่คือเรื่องราวของ Wang Xingxing ที่กลายมาเป็นดาวรุ่งในวงการหุ่นยนต์ของจีน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/21/meet-wang-xingxing-the-young-chinese-robotics-star-from-unitree-at-xi-jinpings-symposium
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meet Wang Xingxing, the young Chinese robotics star from Unitree at Xi Jinping’s symposium
    Wang, 35, is the founder and CEO of Unitree – one of China's top developers of quadrupedal and humanoid robots.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัดเอง3ครั้งก้อได้เครื่องนี้
    ตัดเอง3ครั้งก้อได้เครื่องนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร่างกายนี้เป็นเครื่องมือสำหรับใช้ของจิตนี้เท่านั้น #อวิชชาตัวพาให้เกิดให้ตาย
    ร่างกายนี้เป็นเครื่องมือสำหรับใช้ของจิตนี้เท่านั้น #อวิชชาตัวพาให้เกิดให้ตาย
    Love
    Like
    3
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • Kash Patel ได้รับการรับรองจากรัฐสภาสหรัฐฯให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ FBI คนใหม่แล้ว ด้วยผลโหวต 51-49 คะแนน ท่ามกลางความกังวลจากฝ่ายเดโมแครตว่าเขาอาจจะใช้ FBI เป็นเครื่องมือล้างแค้นทางการเมืองให้กับทรัมป์

    ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในแต่งตั้งอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับผู้อำนวยการคนที่ 9 ของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ หรือ FBI
    Kash Patel ได้รับการรับรองจากรัฐสภาสหรัฐฯให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ FBI คนใหม่แล้ว ด้วยผลโหวต 51-49 คะแนน ท่ามกลางความกังวลจากฝ่ายเดโมแครตว่าเขาอาจจะใช้ FBI เป็นเครื่องมือล้างแค้นทางการเมืองให้กับทรัมป์ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในแต่งตั้งอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับผู้อำนวยการคนที่ 9 ของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ หรือ FBI
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนึ่งในภาพวิดีโอที่ดีที่สุดของเครื่องบินรบรัสเซีย Su-57 ที่ได้แสดงในงาน Aero India 2025
    หนึ่งในภาพวิดีโอที่ดีที่สุดของเครื่องบินรบรัสเซีย Su-57 ที่ได้แสดงในงาน Aero India 2025
    Like
    Haha
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 444 มุมมอง 49 0 รีวิว

  • #วัดหนองป่าพง
    #อุบลราชธานี

    วัดหนองป่าพง – ย้อนรำลึกความหลัง เมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ผมได้มีโอกาสสัมผัส วัดหนองป่าพง ด้วยความไม่รู้ และไม่ลึกซึ้งถึงแวดวงพระพุทธศาสนา เลยทำให้การไปวัดหนองป่าพง ครั้งแรก ผมไม่ได้อะไรติดมือติดใจกลับมาเป็นวิทยาทานเลย จนเมื่อครั้งล่าสุดที่ไป ชีวิตมีประสบการณ์ และพอมีพื้นฐานพุทธศาสนาเพิ่มขึ้นบ้าง ครั้งนี้ เป็นการใช้เวลาอยู่ที่วัดนานขึ้น พร้อมพกพาความรู้สึก ความประทับใจที่ต่างออกไป กลับออกมาด้วยอย่างปลื้มอกปลื้มใจ ล้อมวงมาฟังกันครับ วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี (ยาวสักหน่อยนะครับ)

    คงจะไม่ถูกต้อง ถ้าจะกล่าวถึงวัดหนองป่าพง โดยไม่กล่าวถึง หลวงปู่ชา

    หลวงปู่ชา พระสำคัญผู้ก่อตั้งวัดแห่งนี้ ให้สามารถไปเผยแพร่พุทธศาสนาได้กว้างไกล ไม่เพียงแค่ในประเทศไทย หากแต่ไปไกลถึงสิบกว่าประเทศทั่วโลก หลวงปู่ชา พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ต้นแบบของพระป่าทั่วโลก ด้วยวัตรปฎิบัติที่เคร่งครัดสายวิปัสสนากรรมฐานที่มีต้นแบบจาก"พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต"

    หลวงปู่ชา หรือ พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) เกิดเมื่อ วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2461 ตรงกับ วันศุกร์ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7 ปีมะเมีย ณ บ้านจิกก่อ หมู่ที่ 9 ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี บิดาชื่อนายมา ช่วงโชติ มารดาชื่อ นางพิมพ์ ช่วงโชติ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันจำนวน 10 คน ในวัยเด็ก หลวงปู่ชาเรียนชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนบ้านก่อ ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จนจบชั้นประถม 1 จึงขอลาออกเพื่อมาบวชเรียนตามความสนใจของตนเอง โดยช่วงอายุ 13 ปี หลังจากลาออกจากโรงเรียนประถมศึกษา โยมบิดาได้นำไปฝากกับเจ้าอาวาสเพื่อเรียนรู้บุพกิจเบื้องต้นเกี่ยวกับบรรพชาวิธี จึงได้รับอนุญาตให้บรรพชาเป็น “สามเณรชา โชติช่วง” จนอยู่ปฏิบัติครูอาจารย์ เป็นเวลา 3 ปี ได้แล้วจึงได้ลาสิกขาบทมาช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนา แต่ด้วยจิตใจที่ใฝ่ในทางธรรม เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงลาพ่อแม่มาบวชเป็นพระ โดยอุปสมบทเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2482 เวลา 13.55 น. ณ พัทธสีมา วัดก่อใน ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ อุบลราชธานี พระชา สุภทฺโท ได้จำพรรษาอยู่ ณ วัดก่อนอก 2 พรรษา ตั้งใจศึกษาปริยัติธรรม ทั้งจากตำรับตำราและจากครูอาจารย์ จนสอบนักธรรมชั้นตรีได้ในสำนักวัดแห่งนี้ แต่โชคร้าย ช่วงนั้น หลวงพ่อชา ได้ว่างเว้นจากการศึกษา เพื่อไปดูแลโยมบิดาที่ป่วย แม้หลวงพ่อชา ก็เกิดความลังเลใจ พะว้าพะวง ห่วงการศึกษาก็ห่วง ห่วงโยมบิดาก็ห่วง แต่ความห่วงผู้บังเกิดเกล้ามีน้ำหนักมากกว่า เพราะโยมบิดาเป็นผู้มีพระคุณอย่างเหลือล้น หลวงปู่จึงตัดสินใจกลับไปดูแลโยมพ่อทั้งที่วันสอบนักธรรมก็ใกล้เข้ามาทุกที แต่ก็เลือกที่จะเดินในเส้นทางสายกตัญญุตา โดยที่สุด มาอยู่เฝ้าดูแลอาการป่วยของโยมพ่อนับเป็นเวลา 13 วัน โยมพ่อจึงได้ถึงแก่กรรม (ปี 2483)

    หลังจากนั้น หลวงปู่ชา ก็ได้เดินทางไปศึกษาเล่าเรียนยังที่ต่างๆ เช่น ที่สำนักของหลวงพ่อเภา วัดเขาวงกฏ จ.ลพบุรี และพระอาจารย์ชาวกัมพูชาที่เป็นพระธุดงค์ซึ่งได้พบกันที่วัดเขาวงกฏ หลวงปู่กินรี อาจารย์คำดี หลวงปู่ทองรัตน์ พระอาจารย์มั่น เป็นต้น พออินทรีย์แก่กล้าแล้วก็ออกธุดงค์ปฏิบัติธรรมต่อไปเรื่อยๆ โดยยังดำรงสมณเพศเป็นพระมหานิกายอยู่ตลอดเวลา

    กิจที่หลวงปู่ฯ โปรดปราน คือการได้ธุดงค์ไปยังที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อโปรดสานุศิษย์และเผยแพร่พุทธศาสนา จนที่สุดเมื่อคณะศิษย์ และหลวงพ่อได้เดินทางมาถึงชายดงป่าพง ตรงกับวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2497 พอเช้าวันที่ 9 มีนาคม 2497 จึงได้พากันเข้าสำรวจ สถานที่พักในดงป่านี้ และได้ช่วยกันดำเนินการสร้างวัดป่าขึ้น ซึ่งเรารู้จักในปัจจุบัน คือ “วัดหนองป่าพง”

    จนภายหลังมีสานุศิษย์มากมายทั้งไทยและเทศ ขยายไปหลายสาขา ดังที่กล่าวไปข้างต้น และท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนี้มาโดยตลอด และถึงแก่มรณภาพเมื่อ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เวลา 05.20 น. ที่ วัดหนองป่าพง อย่างสงบท่ามกลางธรรมสังเวชของศิษยานุศิษย์จากทุกสารทิศทั่วโลก ด้วยความที่วัดหนองป่าพง มีพระสงฆ์ต่างชาติ เป็นจำนวนมาก เคยมีคนไปถามหลวงปู่ว่า พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แล้วจะสอนชาวต่างชาติได้อย่างไร หลวงปู่ท่านเมตตาตอบว่า น้ำร้อน ที่ฝรั่งว่ากันว่า ฮ๊อตวอเตอร์ เอามือลงไปสัมผัส ทุกชาติก็รู้ว่าร้อน ไม่เห็นต้องรู้ภาษาก่อนเลย นัยว่า ธรรมะ เรียนรู้ได้จากการสัมผัส การปฏิบัติ มิใช่การอ่านเขียนเท่านั้น

    ปัจจุบัน แม้หลวงปู่ชาฯ จะละสังขารไปแล้วกว่าสามสิบปีกว่าปี คำสอนและวัตรปฏิบัติอันดีงาม ก็ยังอยู่ในความทรงจำสานุศิษย์ทั้งหลาย เห็นได้จากการที่กลับไปสัมผัส วัดหนองป่าพง อีกครั้ง เมื่อเร็ว ๆ นี้ ความสงบ และ ความเคร่งครัด แบบพระป่า ยังคงมีให้เห็นและสัมผัสได้ มีโอกาสได้แวะเข้าไปชม พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท) โดยจะจัดแสดงเครื่องอัฐบริขารและหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่ชา สุภัทโท มีเครื่องทองเหลือง พระพุทธรูป และ เจดีย์ศรีโพธิญาณ เป็นสถานที่พระราชทานเพลิงศพของหลวงปู่ชาอีกด้วย จุดเด่นที่ประทับใจ คือ ป้าย คำสอนต่าง ๆ ที่ติดไว้ตามต้นไม้ อ่านแล้วทำให้เราได้นึกทบทวนชีวิตเราไปด้วยขณะเดินชมไปเงียบ ๆ นอกจากนี้ ได้มีโอกาสเข้าไปที่ อุโบสถด้านใน ทางเข้าเขตสังฆาวาส ที่พระสงฆ์ใช้ทำวัด ทำให้พอนึกเห็นภาพบรรยากาศเมื่อสมัยก่อน ที่หลวงปู่ ลงมาเทศนาธรรม

    รวม ๆ แล้วประทับใจมาก ครับ ผมกราบเรียนเชิญ ท่านที่มีโอกาสไป อุบลราชธานี อยากให้ไปสัมผัส วัดหนองป่าพง สักครั้งครับ

    #ชีวิตนี้ต้องมี1000วัด #เที่ยวไทยไปกับส้มโจ #เที่ยววัด #วัด #ไหว้พระ #ทำบุญ #travel #thailand #amazingthailand #thaitour #temple #history #architecture #culture #thaitemple #ท่องเที่ยว #CultureTrip
    #วัดหนองป่าพง #อุบลราชธานี วัดหนองป่าพง – ย้อนรำลึกความหลัง เมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ผมได้มีโอกาสสัมผัส วัดหนองป่าพง ด้วยความไม่รู้ และไม่ลึกซึ้งถึงแวดวงพระพุทธศาสนา เลยทำให้การไปวัดหนองป่าพง ครั้งแรก ผมไม่ได้อะไรติดมือติดใจกลับมาเป็นวิทยาทานเลย จนเมื่อครั้งล่าสุดที่ไป ชีวิตมีประสบการณ์ และพอมีพื้นฐานพุทธศาสนาเพิ่มขึ้นบ้าง ครั้งนี้ เป็นการใช้เวลาอยู่ที่วัดนานขึ้น พร้อมพกพาความรู้สึก ความประทับใจที่ต่างออกไป กลับออกมาด้วยอย่างปลื้มอกปลื้มใจ ล้อมวงมาฟังกันครับ วัดหนองป่าพง อุบลราชธานี (ยาวสักหน่อยนะครับ) คงจะไม่ถูกต้อง ถ้าจะกล่าวถึงวัดหนองป่าพง โดยไม่กล่าวถึง หลวงปู่ชา หลวงปู่ชา พระสำคัญผู้ก่อตั้งวัดแห่งนี้ ให้สามารถไปเผยแพร่พุทธศาสนาได้กว้างไกล ไม่เพียงแค่ในประเทศไทย หากแต่ไปไกลถึงสิบกว่าประเทศทั่วโลก หลวงปู่ชา พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ต้นแบบของพระป่าทั่วโลก ด้วยวัตรปฎิบัติที่เคร่งครัดสายวิปัสสนากรรมฐานที่มีต้นแบบจาก"พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต" หลวงปู่ชา หรือ พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) เกิดเมื่อ วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2461 ตรงกับ วันศุกร์ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 7 ปีมะเมีย ณ บ้านจิกก่อ หมู่ที่ 9 ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี บิดาชื่อนายมา ช่วงโชติ มารดาชื่อ นางพิมพ์ ช่วงโชติ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันจำนวน 10 คน ในวัยเด็ก หลวงปู่ชาเรียนชั้นประถมศึกษา ที่โรงเรียนบ้านก่อ ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จนจบชั้นประถม 1 จึงขอลาออกเพื่อมาบวชเรียนตามความสนใจของตนเอง โดยช่วงอายุ 13 ปี หลังจากลาออกจากโรงเรียนประถมศึกษา โยมบิดาได้นำไปฝากกับเจ้าอาวาสเพื่อเรียนรู้บุพกิจเบื้องต้นเกี่ยวกับบรรพชาวิธี จึงได้รับอนุญาตให้บรรพชาเป็น “สามเณรชา โชติช่วง” จนอยู่ปฏิบัติครูอาจารย์ เป็นเวลา 3 ปี ได้แล้วจึงได้ลาสิกขาบทมาช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนา แต่ด้วยจิตใจที่ใฝ่ในทางธรรม เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงลาพ่อแม่มาบวชเป็นพระ โดยอุปสมบทเมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2482 เวลา 13.55 น. ณ พัทธสีมา วัดก่อใน ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ อุบลราชธานี พระชา สุภทฺโท ได้จำพรรษาอยู่ ณ วัดก่อนอก 2 พรรษา ตั้งใจศึกษาปริยัติธรรม ทั้งจากตำรับตำราและจากครูอาจารย์ จนสอบนักธรรมชั้นตรีได้ในสำนักวัดแห่งนี้ แต่โชคร้าย ช่วงนั้น หลวงพ่อชา ได้ว่างเว้นจากการศึกษา เพื่อไปดูแลโยมบิดาที่ป่วย แม้หลวงพ่อชา ก็เกิดความลังเลใจ พะว้าพะวง ห่วงการศึกษาก็ห่วง ห่วงโยมบิดาก็ห่วง แต่ความห่วงผู้บังเกิดเกล้ามีน้ำหนักมากกว่า เพราะโยมบิดาเป็นผู้มีพระคุณอย่างเหลือล้น หลวงปู่จึงตัดสินใจกลับไปดูแลโยมพ่อทั้งที่วันสอบนักธรรมก็ใกล้เข้ามาทุกที แต่ก็เลือกที่จะเดินในเส้นทางสายกตัญญุตา โดยที่สุด มาอยู่เฝ้าดูแลอาการป่วยของโยมพ่อนับเป็นเวลา 13 วัน โยมพ่อจึงได้ถึงแก่กรรม (ปี 2483) หลังจากนั้น หลวงปู่ชา ก็ได้เดินทางไปศึกษาเล่าเรียนยังที่ต่างๆ เช่น ที่สำนักของหลวงพ่อเภา วัดเขาวงกฏ จ.ลพบุรี และพระอาจารย์ชาวกัมพูชาที่เป็นพระธุดงค์ซึ่งได้พบกันที่วัดเขาวงกฏ หลวงปู่กินรี อาจารย์คำดี หลวงปู่ทองรัตน์ พระอาจารย์มั่น เป็นต้น พออินทรีย์แก่กล้าแล้วก็ออกธุดงค์ปฏิบัติธรรมต่อไปเรื่อยๆ โดยยังดำรงสมณเพศเป็นพระมหานิกายอยู่ตลอดเวลา กิจที่หลวงปู่ฯ โปรดปราน คือการได้ธุดงค์ไปยังที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อโปรดสานุศิษย์และเผยแพร่พุทธศาสนา จนที่สุดเมื่อคณะศิษย์ และหลวงพ่อได้เดินทางมาถึงชายดงป่าพง ตรงกับวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2497 พอเช้าวันที่ 9 มีนาคม 2497 จึงได้พากันเข้าสำรวจ สถานที่พักในดงป่านี้ และได้ช่วยกันดำเนินการสร้างวัดป่าขึ้น ซึ่งเรารู้จักในปัจจุบัน คือ “วัดหนองป่าพง” จนภายหลังมีสานุศิษย์มากมายทั้งไทยและเทศ ขยายไปหลายสาขา ดังที่กล่าวไปข้างต้น และท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนี้มาโดยตลอด และถึงแก่มรณภาพเมื่อ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เวลา 05.20 น. ที่ วัดหนองป่าพง อย่างสงบท่ามกลางธรรมสังเวชของศิษยานุศิษย์จากทุกสารทิศทั่วโลก ด้วยความที่วัดหนองป่าพง มีพระสงฆ์ต่างชาติ เป็นจำนวนมาก เคยมีคนไปถามหลวงปู่ว่า พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แล้วจะสอนชาวต่างชาติได้อย่างไร หลวงปู่ท่านเมตตาตอบว่า น้ำร้อน ที่ฝรั่งว่ากันว่า ฮ๊อตวอเตอร์ เอามือลงไปสัมผัส ทุกชาติก็รู้ว่าร้อน ไม่เห็นต้องรู้ภาษาก่อนเลย นัยว่า ธรรมะ เรียนรู้ได้จากการสัมผัส การปฏิบัติ มิใช่การอ่านเขียนเท่านั้น ปัจจุบัน แม้หลวงปู่ชาฯ จะละสังขารไปแล้วกว่าสามสิบปีกว่าปี คำสอนและวัตรปฏิบัติอันดีงาม ก็ยังอยู่ในความทรงจำสานุศิษย์ทั้งหลาย เห็นได้จากการที่กลับไปสัมผัส วัดหนองป่าพง อีกครั้ง เมื่อเร็ว ๆ นี้ ความสงบ และ ความเคร่งครัด แบบพระป่า ยังคงมีให้เห็นและสัมผัสได้ มีโอกาสได้แวะเข้าไปชม พิพิธภัณฑ์พระโพธิญาณเถร (ชา สุภัทโท) โดยจะจัดแสดงเครื่องอัฐบริขารและหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่ชา สุภัทโท มีเครื่องทองเหลือง พระพุทธรูป และ เจดีย์ศรีโพธิญาณ เป็นสถานที่พระราชทานเพลิงศพของหลวงปู่ชาอีกด้วย จุดเด่นที่ประทับใจ คือ ป้าย คำสอนต่าง ๆ ที่ติดไว้ตามต้นไม้ อ่านแล้วทำให้เราได้นึกทบทวนชีวิตเราไปด้วยขณะเดินชมไปเงียบ ๆ นอกจากนี้ ได้มีโอกาสเข้าไปที่ อุโบสถด้านใน ทางเข้าเขตสังฆาวาส ที่พระสงฆ์ใช้ทำวัด ทำให้พอนึกเห็นภาพบรรยากาศเมื่อสมัยก่อน ที่หลวงปู่ ลงมาเทศนาธรรม รวม ๆ แล้วประทับใจมาก ครับ ผมกราบเรียนเชิญ ท่านที่มีโอกาสไป อุบลราชธานี อยากให้ไปสัมผัส วัดหนองป่าพง สักครั้งครับ #ชีวิตนี้ต้องมี1000วัด #เที่ยวไทยไปกับส้มโจ #เที่ยววัด #วัด #ไหว้พระ #ทำบุญ #travel #thailand #amazingthailand #thaitour #temple #history #architecture #culture #thaitemple #ท่องเที่ยว #CultureTrip
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 356 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมัครสอบ อปท. 2568 ทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับ การสอบแข่งขันเป็นข้าราชการท้องถิ่น

    📢 ข่าวดีสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)! กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (กสถ.) ได้ออกประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยเปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ผ่านระบบออนไลน์ 🖥️

    การสอบครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญ สำหรับผู้ที่สนใจทำงาน ในหน่วยงานท้องถิ่นทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดังนั้นผู้สมัคร ควรศึกษาข้อมูลรายละเอียด ให้ครบถ้วนก่อนทำการสมัคร ✍️

    🔎 คุณสมบัติของผู้สมัครสอบ อปท. 2568
    การสมัครสอบแข่งขันครั้งนี้ มีกฎเกณฑ์และคุณสมบัติ ที่ต้องพิจารณาอย่างเคร่งครัด มาดูกันว่า มีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่

    ✅ คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร
    - มีสัญชาติไทย 🇹🇭
    - อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ณ วันที่สมัครสอบ
    - ไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 🏥
    - ไม่เป็นผู้ต้องหาคดีอาญา หรือถูกตัดสิทธิ์สอบราชการมาก่อน
    - ต้องจบการศึกษาภายในวันปิดรับสมัคร 28 มีนาคม 2568 🎓

    🚨 ข้อกำหนดพิเศษ
    - ผู้สมัครจะต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษ ไม่น้อยกว่า 10 ข้อจาก 20 ข้อ ✨
    - บัญชีรายชื่อผู้สอบผ่านมีอายุ 2 ปี และสามารถขยายได้ไม่เกิน 30 วัน

    📌 ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร
    การสอบ อปท. 2568 แบ่งออกเป็น 10 กลุ่มภาค/เขต ทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละกลุ่มภาค จะมีตำแหน่งที่เปิดรับแตกต่างกันไป

    🔸 กลุ่มภาคที่เปิดรับสมัคร
    ภาคเหนือ เขต 1 เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, พะเยา, แพร่, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง, และลำพูน
    ภาคเหนือ เขต 2 กำแพงเพชร, ตาก, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, สุโขทัย, อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี
    ภาคกลาง เขต 1 ชัยนาท, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, สระบุรี, สิงห์บุรี และอ่างทอง
    ภาคกลาง เขต 2 จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ตราด, นครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง, สมุทรปราการ และสระแก้ว
    ภาคกลาง เขต 3 กาญจนบุรี, นครปฐม, ประจวบคีรีขันธ์ , เพชรบุรี, ราชบุรี, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร และสุพรรณบุรี
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1 กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์ และมหาสารคาม
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 3 นครพนม, บึงกาฬ, เลย, สกลนคร, หนองคาย, หนองบัวลำภู และอุดรธานี
    ภาคใต้ เขต 1 กระบี่, ชุมพร, นครศรีธรรมราช, พังงา , ภูเก็ต, ระนอง และสุราษฎร์ธานี
    ภาคใต้ เขต 2 ตรัง, นราธิวาส, ปัตตานี, พัทลุง, ยะลา, สงขลา และสตูล

    📋 ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร
    🔹 ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปริญาญาตรี 4 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 16,560 บาท ปริญญาตรี 5 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 17,380 บาท

    🔹 ประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน ปวช. เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 บาท ปวท. เงินเดือนเริ่มต้น 11,960 บาท ปวส. เงินเดือนเริ่มต้น 12,730 บาท เช่น เจ้าพนักงานธุรการ เจ้าพนักงานทะเบียน เจ้าพนักงานการคลัง เจ้าพนักงานพัสดุ เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ เจ้าพนักงานประชาสัมพันธ์ เจ้าพนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว เจ้าพนักงานการเกษตร เจ้าพนักงานสวนสาธารณะ เจ้าพนักงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานสุขาภิบาล สัตวแพทย์ เจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ นายช่างโยธา นายช่างเขียนแบบ นายช่างสำรวจ นายช่างผังเมือง นายช่างเครื่องกล นายช่างไฟฟ้า เจ้าพนักงานพัฒนาชุมชน เจ้าพนักงานเทศกิจ เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ฯลฯ

    🔹 ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ปริญญาตรี เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท เช่น นักจัดการงานทั่วไป นักทรัพยากรบุคคล นักวิเคราะห์นโยบายและแผน นักจัดการงานทะเบียนและบัตร นิคิกร นักวิชาการคอมพิวเตอร์ นักวิชาการศึกษา นักวิชาการเงินและบัญชี นักวิชาการคลัง นักวิชาการจัดเก็บรายได้ นักวิชาการพัสดุ นักวิชาการตรวจสอบภายใน นักประชาสัมพันธ์ นักพัฒนาการท่องเที่ยว นักวิชาการเกษตร นักวิชาการสวนสาธารณะ นักวิชาการสาธารณสุข นักวิชาการสิ่งแวดล้อม นายสัตวแพทย์ นักฉุกเฉินการแพทย์ สถาปนิก วิศวกรโยธา วิศวกรเครื่องกล วิศวกรไฟฟ้า วิทศวกรสุขาภิบาล นักจัดการงานช่าง นักสังคมสงเคราะห์ นักวิชาการศึกษา นักพัฒนาชุมชน บรรณารักษ์ นักสันทนาการ นักพัฒนาการกีฬา นักจัดการงานเทศกิจ นักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฯลฯ

    📖 รายละเอียดการสอบ อปท. 2568
    การสอบแข่งขัน จะแบ่งออกเป็น 3 ภาคหลัก ได้แก่
    📝 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน
    - ความสามารถด้านการวิเคราะห์ และสรุปเหตุผล 30 คะแนน
    - ความรู้พื้นฐาน เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการ และกฎหมายท้องถิ่น 30 คะแนน
    - ความสามารถด้านภาษาไทย 20 คะแนน
    - ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องผ่านอย่างน้อย 10 ข้อจาก 20 ข้อ!

    📚 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน
    -เป็นข้อสอบเกี่ยวกับความรู้ ที่ใช้เฉพาะในตำแหน่งที่สมัคร

    🗣️ ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน
    เป็นการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง เช่น ทัศนคติ บุคลิกภาพ และความสามารถในการสื่อสาร

    📝 วิธีสมัครสอบ อปท. 2568
    🔹 สมัครผ่านทางออนไลน์ 📱 ที่เว็บไซต์:
    ➡️ https://dla-local2568.thaijobjob.com
    📅 เปิดรับสมัครตั้งแต่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ตลอด 24 ชั่วโมง

    🗂️ เอกสารที่ต้องใช้สมัคร
    ✅ รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 1 นิ้ว 📸
    ✅ สำเนาบัตรประชาชน 🆔
    ✅ สำเนาทะเบียนบ้าน 🏠
    ✅ สำเนาวุฒิการศึกษา Transcript 🎓
    ✅ สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ สำหรับบางตำแหน่ง
    ✅ เอกสารทางทหาร สด.8 หรือ สด.9 🪖

    📌 อัปโหลดไฟล์ PDF เท่านั้น! ไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 1 MB

    💰 ค่าธรรมเนียมการสมัครสอบ
    - ค่าธรรมเนียมสอบ 400 บาท
    - ค่าธรรมเนียมธนาคาร และค่าบริการ 30 บาท
    📌 รวมทั้งสิ้น 430 บาท ไม่สามารถขอคืนเงินได้

    📍 ช่องทางชำระเงิน:
    - เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย 🏦
    - แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT หรือ เป๋าตัง 📲
    - ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย
    🛑 ชำระเงินภายในวันที่ 7 - 29 มีนาคม 2568 เท่านั้น!

    📢 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ
    📆 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ก และ ข พร้อมวัน-เวลา-สถานที่สอบ ได้ที่
    📌 เว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com

    🔑 เคล็ดลับเตรียมสอบ อปท. ให้สอบผ่าน!
    🔥 ศึกษาหลักสูตรการสอบ ให้ครบถ้วน
    📖 อ่านแนวข้อสอบ และทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    🔥 ฝึกทำข้อสอบเก่า
    🔍 ฝึกทำข้อสอบปีที่ผ่านมา เพื่อจับแนวทางที่ออกบ่อย

    🔥 ฝึกภาษาอังกฤษให้คล่อง
    ✅ ท่องศัพท์
    ✅ ฝึกทำข้อสอบแกรมม่า
    ✅ อ่านบทความภาษาอังกฤษ

    🔥 จัดตารางอ่านหนังสือ
    🗓️ แบ่งเวลาอ่านหนังสือทุกวัน วันละ 2-3 ชั่วโมง

    🔥 พักผ่อนให้เพียงพอ
    😴 นอนให้ครบ 6-8 ชั่วโมงก่อนสอบ

    🔚 📍 การสอบ อปท. 2568 เป็นโอกาสดี สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อย่าพลาด! สมัครสอบได้ระหว่าง 7 - 28 มีนาคม 2568 ทางออนไลน์เท่านั้น 🚀

    📌 ติดตามข่าวสาร และอัปเดตข้อมูลการสอบได้ที่
    🔗 https://dla-local2568.thaijobjob.com

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 202022 ก.พ. 2568

    📢 #สอบอปท2568 #สมัครสอบราชการ #งานราชการ #สอบท้องถิ่น #เตรียมสอบอปท #DLA #สมัครสอบออนไลน์ #งานข้าราชการ #สอบราชการ2025 #สอบภาษาอังกฤษอปท
    สมัครสอบ อปท. 2568 ทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับ การสอบแข่งขันเป็นข้าราชการท้องถิ่น 📢 ข่าวดีสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)! กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (กสถ.) ได้ออกประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยเปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ผ่านระบบออนไลน์ 🖥️ การสอบครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญ สำหรับผู้ที่สนใจทำงาน ในหน่วยงานท้องถิ่นทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดังนั้นผู้สมัคร ควรศึกษาข้อมูลรายละเอียด ให้ครบถ้วนก่อนทำการสมัคร ✍️ 🔎 คุณสมบัติของผู้สมัครสอบ อปท. 2568 การสมัครสอบแข่งขันครั้งนี้ มีกฎเกณฑ์และคุณสมบัติ ที่ต้องพิจารณาอย่างเคร่งครัด มาดูกันว่า มีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ ✅ คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร - มีสัญชาติไทย 🇹🇭 - อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ณ วันที่สมัครสอบ - ไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 🏥 - ไม่เป็นผู้ต้องหาคดีอาญา หรือถูกตัดสิทธิ์สอบราชการมาก่อน - ต้องจบการศึกษาภายในวันปิดรับสมัคร 28 มีนาคม 2568 🎓 🚨 ข้อกำหนดพิเศษ - ผู้สมัครจะต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษ ไม่น้อยกว่า 10 ข้อจาก 20 ข้อ ✨ - บัญชีรายชื่อผู้สอบผ่านมีอายุ 2 ปี และสามารถขยายได้ไม่เกิน 30 วัน 📌 ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร การสอบ อปท. 2568 แบ่งออกเป็น 10 กลุ่มภาค/เขต ทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละกลุ่มภาค จะมีตำแหน่งที่เปิดรับแตกต่างกันไป 🔸 กลุ่มภาคที่เปิดรับสมัคร ภาคเหนือ เขต 1 เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, พะเยา, แพร่, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง, และลำพูน ภาคเหนือ เขต 2 กำแพงเพชร, ตาก, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, สุโขทัย, อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี ภาคกลาง เขต 1 ชัยนาท, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, สระบุรี, สิงห์บุรี และอ่างทอง ภาคกลาง เขต 2 จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ตราด, นครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง, สมุทรปราการ และสระแก้ว ภาคกลาง เขต 3 กาญจนบุรี, นครปฐม, ประจวบคีรีขันธ์ , เพชรบุรี, ราชบุรี, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร และสุพรรณบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1 กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์ และมหาสารคาม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 3 นครพนม, บึงกาฬ, เลย, สกลนคร, หนองคาย, หนองบัวลำภู และอุดรธานี ภาคใต้ เขต 1 กระบี่, ชุมพร, นครศรีธรรมราช, พังงา , ภูเก็ต, ระนอง และสุราษฎร์ธานี ภาคใต้ เขต 2 ตรัง, นราธิวาส, ปัตตานี, พัทลุง, ยะลา, สงขลา และสตูล 📋 ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร 🔹 ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปริญาญาตรี 4 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 16,560 บาท ปริญญาตรี 5 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 17,380 บาท 🔹 ประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน ปวช. เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 บาท ปวท. เงินเดือนเริ่มต้น 11,960 บาท ปวส. เงินเดือนเริ่มต้น 12,730 บาท เช่น เจ้าพนักงานธุรการ เจ้าพนักงานทะเบียน เจ้าพนักงานการคลัง เจ้าพนักงานพัสดุ เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ เจ้าพนักงานประชาสัมพันธ์ เจ้าพนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว เจ้าพนักงานการเกษตร เจ้าพนักงานสวนสาธารณะ เจ้าพนักงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานสุขาภิบาล สัตวแพทย์ เจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ นายช่างโยธา นายช่างเขียนแบบ นายช่างสำรวจ นายช่างผังเมือง นายช่างเครื่องกล นายช่างไฟฟ้า เจ้าพนักงานพัฒนาชุมชน เจ้าพนักงานเทศกิจ เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ฯลฯ 🔹 ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ปริญญาตรี เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท เช่น นักจัดการงานทั่วไป นักทรัพยากรบุคคล นักวิเคราะห์นโยบายและแผน นักจัดการงานทะเบียนและบัตร นิคิกร นักวิชาการคอมพิวเตอร์ นักวิชาการศึกษา นักวิชาการเงินและบัญชี นักวิชาการคลัง นักวิชาการจัดเก็บรายได้ นักวิชาการพัสดุ นักวิชาการตรวจสอบภายใน นักประชาสัมพันธ์ นักพัฒนาการท่องเที่ยว นักวิชาการเกษตร นักวิชาการสวนสาธารณะ นักวิชาการสาธารณสุข นักวิชาการสิ่งแวดล้อม นายสัตวแพทย์ นักฉุกเฉินการแพทย์ สถาปนิก วิศวกรโยธา วิศวกรเครื่องกล วิศวกรไฟฟ้า วิทศวกรสุขาภิบาล นักจัดการงานช่าง นักสังคมสงเคราะห์ นักวิชาการศึกษา นักพัฒนาชุมชน บรรณารักษ์ นักสันทนาการ นักพัฒนาการกีฬา นักจัดการงานเทศกิจ นักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฯลฯ 📖 รายละเอียดการสอบ อปท. 2568 การสอบแข่งขัน จะแบ่งออกเป็น 3 ภาคหลัก ได้แก่ 📝 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน - ความสามารถด้านการวิเคราะห์ และสรุปเหตุผล 30 คะแนน - ความรู้พื้นฐาน เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการ และกฎหมายท้องถิ่น 30 คะแนน - ความสามารถด้านภาษาไทย 20 คะแนน - ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องผ่านอย่างน้อย 10 ข้อจาก 20 ข้อ! 📚 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน -เป็นข้อสอบเกี่ยวกับความรู้ ที่ใช้เฉพาะในตำแหน่งที่สมัคร 🗣️ ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน เป็นการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง เช่น ทัศนคติ บุคลิกภาพ และความสามารถในการสื่อสาร 📝 วิธีสมัครสอบ อปท. 2568 🔹 สมัครผ่านทางออนไลน์ 📱 ที่เว็บไซต์: ➡️ https://dla-local2568.thaijobjob.com 📅 เปิดรับสมัครตั้งแต่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ตลอด 24 ชั่วโมง 🗂️ เอกสารที่ต้องใช้สมัคร ✅ รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 1 นิ้ว 📸 ✅ สำเนาบัตรประชาชน 🆔 ✅ สำเนาทะเบียนบ้าน 🏠 ✅ สำเนาวุฒิการศึกษา Transcript 🎓 ✅ สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ สำหรับบางตำแหน่ง ✅ เอกสารทางทหาร สด.8 หรือ สด.9 🪖 📌 อัปโหลดไฟล์ PDF เท่านั้น! ไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 1 MB 💰 ค่าธรรมเนียมการสมัครสอบ - ค่าธรรมเนียมสอบ 400 บาท - ค่าธรรมเนียมธนาคาร และค่าบริการ 30 บาท 📌 รวมทั้งสิ้น 430 บาท ไม่สามารถขอคืนเงินได้ 📍 ช่องทางชำระเงิน: - เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย 🏦 - แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT หรือ เป๋าตัง 📲 - ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย 🛑 ชำระเงินภายในวันที่ 7 - 29 มีนาคม 2568 เท่านั้น! 📢 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ 📆 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ก และ ข พร้อมวัน-เวลา-สถานที่สอบ ได้ที่ 📌 เว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com 🔑 เคล็ดลับเตรียมสอบ อปท. ให้สอบผ่าน! 🔥 ศึกษาหลักสูตรการสอบ ให้ครบถ้วน 📖 อ่านแนวข้อสอบ และทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 🔥 ฝึกทำข้อสอบเก่า 🔍 ฝึกทำข้อสอบปีที่ผ่านมา เพื่อจับแนวทางที่ออกบ่อย 🔥 ฝึกภาษาอังกฤษให้คล่อง ✅ ท่องศัพท์ ✅ ฝึกทำข้อสอบแกรมม่า ✅ อ่านบทความภาษาอังกฤษ 🔥 จัดตารางอ่านหนังสือ 🗓️ แบ่งเวลาอ่านหนังสือทุกวัน วันละ 2-3 ชั่วโมง 🔥 พักผ่อนให้เพียงพอ 😴 นอนให้ครบ 6-8 ชั่วโมงก่อนสอบ 🔚 📍 การสอบ อปท. 2568 เป็นโอกาสดี สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อย่าพลาด! สมัครสอบได้ระหว่าง 7 - 28 มีนาคม 2568 ทางออนไลน์เท่านั้น 🚀 📌 ติดตามข่าวสาร และอัปเดตข้อมูลการสอบได้ที่ 🔗 https://dla-local2568.thaijobjob.com ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 202022 ก.พ. 2568 📢 #สอบอปท2568 #สมัครสอบราชการ #งานราชการ #สอบท้องถิ่น #เตรียมสอบอปท #DLA #สมัครสอบออนไลน์ #งานข้าราชการ #สอบราชการ2025 #สอบภาษาอังกฤษอปท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 482 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปธ.กมธ.มั่นคง ลั่น เป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัย-ไม่รู้ใครต้องรับผิดชอบ หลัง กมธ.คอนเฟิร์มระบบ 'ไบโอเมตริกซ์' ไทย หมดอายุ 3 ปีแล้ว เผย ต้องใช้วิธีโบราณถ่ายภาพ-ปั๊มนิ้วคนผ่านเข้าออก คนจีนในเมียวดีไม่ถูกจำแนกเหยื่อ-อาชญากร อาจทำให้ประเทศอื่นได้รับการปฏิบัติไม่เท่าเทียม ไทยอยู่ภายใต้อิทธิพล

    เมื่อวันที่ (20 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงความคืบหน้าภายหลังการประชุม กมธ.ถึงแนวทางการจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีหลายส่วนเข้าไปพัวพันเกี่ยวข้องกับข้อมูลอัตลักษณ์ และเกี่ยวกับอาชญากรข้ามชาติและยาเสพติด

    โดยนายรังสิมันต์ ระบุว่า ประเทศไทยไม่มีการใช้ระบบไบโอเมตริกซ์อีกแล้ว ซึ่งแปลว่าเวลา 3 ปีเต็มนี้ ไม่มีเครื่องมือในการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์นักท่องเที่ยว ทำให้มีโอกาสผิดพลาด จากการที่นักท่องเที่ยวใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการก่ออาชญากรรม โดยที่ตัวเขาเองมีสัญชาติที่แตกต่างกัน

    นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า แม้วันนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) จะใช้วิธีการถ่ายรูปและพิมพ์ลายนิ้วมือ แต่ข้อมูลที่ได้นั้น ชัดเจนว่าไม่เพียงพอ และกลายเป็นช่องว่างสำคัญ ในการที่จะทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในภายใต้ความอันตรายของปัญหาอาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000016989

    #MGROnline #ไบโอเมตริกซ์
    ปธ.กมธ.มั่นคง ลั่น เป็นความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัย-ไม่รู้ใครต้องรับผิดชอบ หลัง กมธ.คอนเฟิร์มระบบ 'ไบโอเมตริกซ์' ไทย หมดอายุ 3 ปีแล้ว เผย ต้องใช้วิธีโบราณถ่ายภาพ-ปั๊มนิ้วคนผ่านเข้าออก คนจีนในเมียวดีไม่ถูกจำแนกเหยื่อ-อาชญากร อาจทำให้ประเทศอื่นได้รับการปฏิบัติไม่เท่าเทียม ไทยอยู่ภายใต้อิทธิพล • เมื่อวันที่ (20 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงความคืบหน้าภายหลังการประชุม กมธ.ถึงแนวทางการจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีหลายส่วนเข้าไปพัวพันเกี่ยวข้องกับข้อมูลอัตลักษณ์ และเกี่ยวกับอาชญากรข้ามชาติและยาเสพติด • โดยนายรังสิมันต์ ระบุว่า ประเทศไทยไม่มีการใช้ระบบไบโอเมตริกซ์อีกแล้ว ซึ่งแปลว่าเวลา 3 ปีเต็มนี้ ไม่มีเครื่องมือในการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์นักท่องเที่ยว ทำให้มีโอกาสผิดพลาด จากการที่นักท่องเที่ยวใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการก่ออาชญากรรม โดยที่ตัวเขาเองมีสัญชาติที่แตกต่างกัน • นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า แม้วันนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) จะใช้วิธีการถ่ายรูปและพิมพ์ลายนิ้วมือ แต่ข้อมูลที่ได้นั้น ชัดเจนว่าไม่เพียงพอ และกลายเป็นช่องว่างสำคัญ ในการที่จะทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในภายใต้ความอันตรายของปัญหาอาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000016989 • #MGROnline #ไบโอเมตริกซ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมเด็จวัดเกศไชโย 9 ชั้น
    สมเด็จวัดเกศไชโย 9 ชั้น หลังเรียบ เนื้อผงน้ำมัน (พระมีซ่อม)..// ของแท้หรือป่าวนั้นต้องลองดูกันเองนะคับ //พระสถาพสวย (พระมีซ่อม) เนื้อแห้ง ผิวหิ้ง หายากกครับ

    ** พุทธคุณเมตตา มหานิยม มหาโชค มหาลาภ คุ้มครองป้องกันให้แคล้วคลาดภัย คงกระพันชาตรี >>

    ** พระสมเด็จวัดเกศไชโย เป็น 1 ใน 3 ตระกูลพระสมเด็จที่สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี ) ซึ่งเป็นพระสมเด็จที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร นั่นคือจะต้องมีลักษณะของ อกร่อง หูบายศรี มีขอบกระจก เกือบทุกพิมพ์ทรง วงการพระเครื่องในปัจจุบันให้ความนิยมเป็นอย่างสูงและจัดรวมพระสมเด็จวัดเกศไชโยให้อยู่ในชุด เบญจภาคี เช่นเดียวกับพระสมเด็จวัดระฆัง และพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม>>

    ** พระสถาพสวย (พระมีซ่อม) เนื้อแห้ง ผิวหิ้ง หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131

    สมเด็จวัดเกศไชโย 9 ชั้น สมเด็จวัดเกศไชโย 9 ชั้น หลังเรียบ เนื้อผงน้ำมัน (พระมีซ่อม)..// ของแท้หรือป่าวนั้นต้องลองดูกันเองนะคับ //พระสถาพสวย (พระมีซ่อม) เนื้อแห้ง ผิวหิ้ง หายากกครับ ** พุทธคุณเมตตา มหานิยม มหาโชค มหาลาภ คุ้มครองป้องกันให้แคล้วคลาดภัย คงกระพันชาตรี >> ** พระสมเด็จวัดเกศไชโย เป็น 1 ใน 3 ตระกูลพระสมเด็จที่สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี ) ซึ่งเป็นพระสมเด็จที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร นั่นคือจะต้องมีลักษณะของ อกร่อง หูบายศรี มีขอบกระจก เกือบทุกพิมพ์ทรง วงการพระเครื่องในปัจจุบันให้ความนิยมเป็นอย่างสูงและจัดรวมพระสมเด็จวัดเกศไชโยให้อยู่ในชุด เบญจภาคี เช่นเดียวกับพระสมเด็จวัดระฆัง และพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม>> ** พระสถาพสวย (พระมีซ่อม) เนื้อแห้ง ผิวหิ้ง หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาตุ๋ยน่วม โดนสทร.บีบลดค่าไฟ โดนกกพ.วางยาแก้สัญญาที่ทำไม่ได้ แถมโดนข่าวลือโดนเด้งย้ายกระทรวง ไอ้ปอ 10วิ เกาะช้างเครื่อง ไม่มาช่วยอาเลย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    #หลานปออาตุ๋ย
    อาตุ๋ยน่วม โดนสทร.บีบลดค่าไฟ โดนกกพ.วางยาแก้สัญญาที่ทำไม่ได้ แถมโดนข่าวลือโดนเด้งย้ายกระทรวง ไอ้ปอ 10วิ เกาะช้างเครื่อง ไม่มาช่วยอาเลย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3 #หลานปออาตุ๋ย
    Like
    Haha
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตาก – รัฐบาลจีนนำเครื่องบินลงแม่สอด รับชาวจีนที่ถูกช่วยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทุนเทาเมียวดี บินกลับระลอกแรก 100 คน

    วันนี้(20 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีทางการจีน ได้จัดเที่ยวบิน China Southern Airlines รับตัวชาวจีนทั้งที่เป็นเหยื่อ-ผู้ร่วมขบวนการ หรือเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ แก๊งอาชญากรรมออนไลน์ ที่ถูกกองกำลังพิทักษ์ชายแดนเมียวดี (BGF)-ทางการเมียนมา จับกุม/ช่วยเหลือออกมาได้ และจะส่งตัวข้ามแดนจากเมียวดีเข้าแม่สอด เพื่อส่งตัวกลับ สป.จีน

    ซึ่ง สป.จีน ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบข้อมูล และขนย้ายจากเมียนมา ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 ตรงเข้าท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด วันนี้(20 ก.พ.) จำนวน 4 เที่ยวบิน , 21 และ 22 ก.พ. วันละ 6 เที่ยวบิน รวม 3 วัน 16 เที่ยวบิน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000016867

    #MGROnline #ตาก #รัฐบาลจีน #แม่สอด #ชาวจีน #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ทุนเทาเมียวดี
    ตาก – รัฐบาลจีนนำเครื่องบินลงแม่สอด รับชาวจีนที่ถูกช่วยจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทุนเทาเมียวดี บินกลับระลอกแรก 100 คน • วันนี้(20 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีทางการจีน ได้จัดเที่ยวบิน China Southern Airlines รับตัวชาวจีนทั้งที่เป็นเหยื่อ-ผู้ร่วมขบวนการ หรือเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ แก๊งอาชญากรรมออนไลน์ ที่ถูกกองกำลังพิทักษ์ชายแดนเมียวดี (BGF)-ทางการเมียนมา จับกุม/ช่วยเหลือออกมาได้ และจะส่งตัวข้ามแดนจากเมียวดีเข้าแม่สอด เพื่อส่งตัวกลับ สป.จีน • ซึ่ง สป.จีน ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบข้อมูล และขนย้ายจากเมียนมา ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 ตรงเข้าท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด วันนี้(20 ก.พ.) จำนวน 4 เที่ยวบิน , 21 และ 22 ก.พ. วันละ 6 เที่ยวบิน รวม 3 วัน 16 เที่ยวบิน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000016867 • #MGROnline #ตาก #รัฐบาลจีน #แม่สอด #ชาวจีน #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ทุนเทาเมียวดี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • กาญจนบุรี - จ.กาญจน์ พบจุดความร้อนทั้งจังหวัดลดเหลือแค่ 4 จุด หลังกรมฝนหลวงและการบินเกษตร บินทำฝนหลวงระหว่าง 18-19 ก.พ.หลายพื้นที่ฝนตกชุ่มฉ่ำ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีสถานการณ์ไฟป่าในกลุ่มป่าตะวันตกvรือกลุ่มป่าที่ 12 รอบเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี มีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เดินเท้าเข้าไปดับไฟป่าที่เกิดขึ้นบนยอดเขาที่สูงชัน บางพื้นที่มีหน้าผาที่ค่อนข้างอันตราย อีกทั้งต้องสุ่มเสี่ยงต่อการเผชิญกับสัตว์ป่าที่ดุร้าย โดยเฉพาะช้างป่า จากสถานการณ์การเกิดไฟป่า จึงจำเป็นที่จะต้องพึ่งพากรมฝนหลวงและการบินเกษตร นำเครื่องบินมาทำฝนเทียมหรือฝนหลวงขึ้นในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยเฉพาะในพื้นที่กลุ่มป่าที่ 12 รอบเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ที่กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000016874

    #MGROnline #กาญจนบุรี #จุดความร้อน #กรมฝนหลวงและการบินเกษตร #ฝนหลวง
    กาญจนบุรี - จ.กาญจน์ พบจุดความร้อนทั้งจังหวัดลดเหลือแค่ 4 จุด หลังกรมฝนหลวงและการบินเกษตร บินทำฝนหลวงระหว่าง 18-19 ก.พ.หลายพื้นที่ฝนตกชุ่มฉ่ำ • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีสถานการณ์ไฟป่าในกลุ่มป่าตะวันตกvรือกลุ่มป่าที่ 12 รอบเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี มีแนวโน้มรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เดินเท้าเข้าไปดับไฟป่าที่เกิดขึ้นบนยอดเขาที่สูงชัน บางพื้นที่มีหน้าผาที่ค่อนข้างอันตราย อีกทั้งต้องสุ่มเสี่ยงต่อการเผชิญกับสัตว์ป่าที่ดุร้าย โดยเฉพาะช้างป่า จากสถานการณ์การเกิดไฟป่า จึงจำเป็นที่จะต้องพึ่งพากรมฝนหลวงและการบินเกษตร นำเครื่องบินมาทำฝนเทียมหรือฝนหลวงขึ้นในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยเฉพาะในพื้นที่กลุ่มป่าที่ 12 รอบเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ที่กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000016874 • #MGROnline #กาญจนบุรี #จุดความร้อน #กรมฝนหลวงและการบินเกษตร #ฝนหลวง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องหั่นมันฝรั่ง FRUIT CUTTER #ทดลองหั่นหน่อไม้ #หั่นหน่อไม้ #ขูดหน่อไม้
    - สามารถหั่นแบบบาง หรือ เป็นแท่งสำหรับทำเฟรนฟราย
    - สามารถปรับความหนาบางได้
    - ตัวเครื่องผลิตจากสแตนเลสมาตราฐานสากล
    - เหมาะกับการที่ใช้งานที่หลากหลาย ทั้งในครัวเรือน และโรงงานอุตสาหกรรม
    - มีความปลอดภัยในการใช้

    📌 กำลังการผลิต 50-100 กิโลกรัม/ชั่วโมง
    📌 มอเตอร์ 1 แรงม้า
    📌 ไฟบ้าน 220V
    📌 รับประกันสินค้า 1 ปี

    ราคา 35,000 บาท 😍😍😍
    จากปกติ 43,000 บาท จ้า

    สามารถเข้ามาดูสินค้าจริงที่หน้าร้านได้เลยนะคะ
    เวลาเปิดทำการ :
    จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00
    และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00
    แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7

    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY
    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน
    m.me/yonghahheng 👈👈 แชทเลย
    LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า)
    หรือ https://lin.ee/HV4lSKp
    02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    www.yoryonghahheng.com
    E-mail : sales@yoryonghahheng.com
    yonghahheng@gmail.com

    #หั่นมันฝรั่ง #หั่นหน่อไม้เป็นเส้น #หั่นฟัก
    #สไลซ์พูทุเรียนดิบ #ขอดเกล็ดปลา #ลอกหนังปลา
    #ผ่าซีกปลา #เครื่องทำน้ำจิ้ม #ทำเครื่องปรุงรส
    #ทำเครื่องสำอาง #เครื่องแกะเม็ดข้าวโพด
    #แกะเมล็ดข้าวโพด #เครื่องย่อย #เครื่องซอยขิง
    #ย่อยกากอาหาร #ทำเครื่องสำอาง #น้ำจิ้มข้าวมันไก่
    #แกะเมล็ดข้าวโพด #เครื่องทำลาย #เครื่องบดไม้
    #เครื่องบดกิ่งไม้ #เครื่องบดผง #บดพริกไทย
    เครื่องหั่นมันฝรั่ง FRUIT CUTTER #ทดลองหั่นหน่อไม้ #หั่นหน่อไม้ #ขูดหน่อไม้ - สามารถหั่นแบบบาง หรือ เป็นแท่งสำหรับทำเฟรนฟราย - สามารถปรับความหนาบางได้ - ตัวเครื่องผลิตจากสแตนเลสมาตราฐานสากล - เหมาะกับการที่ใช้งานที่หลากหลาย ทั้งในครัวเรือน และโรงงานอุตสาหกรรม - มีความปลอดภัยในการใช้ 📌 กำลังการผลิต 50-100 กิโลกรัม/ชั่วโมง 📌 มอเตอร์ 1 แรงม้า 📌 ไฟบ้าน 220V 📌 รับประกันสินค้า 1 ปี ราคา 35,000 บาท 😍😍😍 จากปกติ 43,000 บาท จ้า สามารถเข้ามาดูสินค้าจริงที่หน้าร้านได้เลยนะคะ เวลาเปิดทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00 แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน m.me/yonghahheng 👈👈 แชทเลย LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/HV4lSKp 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 www.yoryonghahheng.com E-mail : sales@yoryonghahheng.com yonghahheng@gmail.com #หั่นมันฝรั่ง #หั่นหน่อไม้เป็นเส้น #หั่นฟัก #สไลซ์พูทุเรียนดิบ #ขอดเกล็ดปลา #ลอกหนังปลา #ผ่าซีกปลา #เครื่องทำน้ำจิ้ม #ทำเครื่องปรุงรส #ทำเครื่องสำอาง #เครื่องแกะเม็ดข้าวโพด #แกะเมล็ดข้าวโพด #เครื่องย่อย #เครื่องซอยขิง #ย่อยกากอาหาร #ทำเครื่องสำอาง #น้ำจิ้มข้าวมันไก่ #แกะเมล็ดข้าวโพด #เครื่องทำลาย #เครื่องบดไม้ #เครื่องบดกิ่งไม้ #เครื่องบดผง #บดพริกไทย
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 285 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## รู้จัก NCDs โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง...ก่อนสายเกินไป!

    รู้หรือไม่? โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) กำลังเป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพของคนไทยและทั่วโลก! อย่ามองข้าม เพราะมันอาจใกล้ตัวคุณมากกว่าที่คิด

    **NCDs คืออะไร?** รวมโรคเรื้อรังที่เกิดจากหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดี ได้แก่

    * **โรคหัวใจและหลอดเลือด:** อันตรายถึงชีวิต! อาการเริ่มต้นอาจไม่ชัดเจน ต้องหมั่นตรวจเช็กสุขภาพเป็นประจำ
    * **โรคมะเร็ง:** ตัวร้ายที่คร่าชีวิตคนเป็นอันดับต้นๆ การป้องกันที่ดีที่สุดคือการตรวจสุขภาพและดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี
    * **โรคเบาหวาน:** ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ควบคุมได้ด้วยการรับประทานอาหารและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
    * **โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD):** หายใจลำบาก มักเกิดจากการสูบบุหรี่ เลิกบุหรี่เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า

    **ป้องกันได้นะ! ด้วยวิธีง่ายๆเหล่านี้**

    * **กินดีอยู่ดี:** เน้นผักผลไม้ ลดอาหารมัน เค็ม หวาน
    * **ออกกำลังกายสม่ำเสมอ:** อย่างน้อย 30 นาที ต่อวัน
    * **หลีกเลี่ยงอบายมุข:** เลิกบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    * **ตรวจสุขภาพประจำปี:** รู้เท่าทันสุขภาพตัวเอง

    **อย่าปล่อยให้ NCDs มาทำลายสุขภาพของคุณ!** เริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อชีวิตที่มีสุขภาพดีและยืนยาว

    #NCDs #โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง #สุขภาพดี #สุขภาพ #ดูแลตัวเอง

    #พลังZeeds
    ## รู้จัก NCDs โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง...ก่อนสายเกินไป! รู้หรือไม่? โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) กำลังเป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพของคนไทยและทั่วโลก! อย่ามองข้าม เพราะมันอาจใกล้ตัวคุณมากกว่าที่คิด **NCDs คืออะไร?** รวมโรคเรื้อรังที่เกิดจากหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดี ได้แก่ * **โรคหัวใจและหลอดเลือด:** อันตรายถึงชีวิต! อาการเริ่มต้นอาจไม่ชัดเจน ต้องหมั่นตรวจเช็กสุขภาพเป็นประจำ * **โรคมะเร็ง:** ตัวร้ายที่คร่าชีวิตคนเป็นอันดับต้นๆ การป้องกันที่ดีที่สุดคือการตรวจสุขภาพและดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี * **โรคเบาหวาน:** ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ควบคุมได้ด้วยการรับประทานอาหารและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม * **โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD):** หายใจลำบาก มักเกิดจากการสูบบุหรี่ เลิกบุหรี่เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า **ป้องกันได้นะ! ด้วยวิธีง่ายๆเหล่านี้** * **กินดีอยู่ดี:** เน้นผักผลไม้ ลดอาหารมัน เค็ม หวาน * **ออกกำลังกายสม่ำเสมอ:** อย่างน้อย 30 นาที ต่อวัน * **หลีกเลี่ยงอบายมุข:** เลิกบุหรี่ งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ * **ตรวจสุขภาพประจำปี:** รู้เท่าทันสุขภาพตัวเอง **อย่าปล่อยให้ NCDs มาทำลายสุขภาพของคุณ!** เริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อชีวิตที่มีสุขภาพดีและยืนยาว #NCDs #โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง #สุขภาพดี #สุขภาพ #ดูแลตัวเอง #พลังZeeds
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความอาย: ด่านสำคัญของจิตที่กำหนดเส้นทางกรรม

    "ความอาย" เป็นสิ่งที่ติดตัวมนุษย์มาแต่เกิด เป็นกลไกทางจิตใจที่ช่วยกำกับพฤติกรรม แต่ในขณะเดียวกัน ความอายก็สามารถเป็นทั้งตัวฉุดรั้งและตัวผลักดันให้คนเราเดินไปในเส้นทางกรรมที่แตกต่างกัน


    ---

    🔹 ประเภทของความอายและผลกระทบต่อชีวิต

    1️⃣ ความอายเรื่องรูปลักษณ์: เปลี่ยนไปตามกาลเวลา

    ✅ บางช่วงชีวิต คนเราอาจรู้สึกอายกับหน้าตา รูปร่าง หรือการแต่งกาย

    บางวันไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเอง

    บางช่วงชีวิตรู้สึกว่าต้องสวย ต้องดูดี เพื่อให้ได้รับการยอมรับ

    แต่เมื่อโตขึ้น โฟกัสจะเปลี่ยนไปจากรูปลักษณ์เป็น “ผลงาน” หรือ “การกระทำ”

    สุดท้ายคนเรามักเลิกสนใจว่าตัวเองดูเป็นอย่างไร และสนใจว่าตัวเอง “เป็นคนอย่างไร” แทน


    💡 ความอายเรื่องรูปลักษณ์จึงเป็นเพียงอารมณ์ชั่วคราว และสามารถเปลี่ยนแปลงได้


    ---

    2️⃣ ความอายเรื่องร่างกาย: สัญชาตญาณ vs. ค่านิยม

    ✅ มนุษย์มีสัญชาตญาณในการปกปิดร่างกายโดยธรรมชาติ

    การไม่เปิดเผยของลับเป็นสัญชาตญาณปกติของมนุษย์

    แต่เมื่อค่านิยมของสังคมเปลี่ยนไป ความรู้สึกอายนี้ก็ถูกลดทอนลง

    เมื่อค่านิยมทางสังคมผลักดันให้ “ความไม่อาย” กลายเป็นแฟชั่น → จิตใจจะหยาบขึ้นโดยไม่รู้ตัว

    และนี่เองคือสาเหตุที่เมื่อค่านิยมเปลี่ยนไป → ศีลธรรมก็เปลี่ยนตาม


    💡 ถ้าสัญชาตญาณการอายที่สุกงอมถูกกดทับ ความหยาบจะเข้ามาแทนที่ และเปิดโอกาสให้บาปกรรมเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น


    ---

    3️⃣ ความอายบาป: เส้นกั้นระหว่างมนุษย์กับอบายภูมิ

    ✅ ความอายต่อบาปเป็นธรรมชาติของมนุษย์ เพราะมนุษย์มีบุญหนุนนำให้เกิดมา

    ความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นหลังทำสิ่งไม่ดี → เป็นเครื่องยืนยันว่าจิตยังมี “ศีลธรรม” อยู่

    แต่ถ้าครั้งหนึ่งเคยทำบาปแล้วไม่รู้สึกผิด → ครั้งต่อไปจะทำได้ง่ายขึ้น

    ตัวอย่างเช่น:

    ยืมเงินคนอื่นแล้วไม่คืน → ถ้ารู้สึกผิด อาจหาโอกาสคืน

    แต่ถ้าไม่รู้สึกผิด → จะทำอีกได้โดยไม่ลังเล

    และหากทำซ้ำๆ → อาจพัฒนาไปสู่พฤติกรรมทุจริตที่ร้ายแรงขึ้น



    💡 หากชนะความละอายต่อบาปได้ครั้งหนึ่ง → บาปจะเกิดง่ายขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นธรรมชาติของจิต


    ---

    4️⃣ ความอายบุญ: อุปสรรคของการทำดี

    ✅ แปลกแต่จริง: คนเรามักรู้สึกอายเมื่อต้องทำบุญหรือทำความดีต่อหน้าคนอื่น

    เช่น เห็นคนตาบอดกำลังข้ามถนน → อยากช่วยแต่รู้สึกกระดาก

    เห็นคนมอเตอร์ไซค์ล้ม → อยากช่วยพยุงแต่ก็ลังเล

    อยากพูดเรื่องธรรมะ → แต่กลัวเพื่อนล้อ


    💡 ความอายประเภทนี้ ทำให้พลาดโอกาสสร้างบุญไปอย่างน่าเสียดาย

    💭 หากพิจารณาดีๆ จะพบว่าความอายที่แท้จริง คือ "อายต่อการทำดี" ต่างหากที่ควรปล่อยวาง


    ---

    🔹 วิธีบริหารความอายให้เป็นประโยชน์

    ✅ 1️⃣ ความอายเรื่องรูปลักษณ์ → เปลี่ยนโฟกัสจาก “ภายนอก” เป็น “ภายใน”

    ฝึกมองตัวเองจากมุมมองของคุณค่าที่แท้จริง → เช่น เราเป็นคนมีน้ำใจไหม? เราเป็นคนขยันไหม?

    ฝึกมองคนอื่นจากผลงาน มากกว่ารูปลักษณ์


    ✅ 2️⃣ ความอายเรื่องร่างกาย → ตระหนักว่าสังคมอาจมีอิทธิพลต่อจิตใจเรา

    เลือกเสพสื่อที่ไม่บิดเบือนจิตใจให้หยาบลง

    ฝึกสังเกตความรู้สึกตัวเองว่าอะไรคือ “ธรรมชาติของจิต” และอะไรคือ “สิ่งที่สังคมปลูกฝัง”


    ✅ 3️⃣ ความอายบาป → ใช้เป็นตัววัดจิตใจตนเอง

    ถ้าเคยทำผิดแล้วรู้สึกผิด → นั่นคือสัญญาณที่ดี แสดงว่าจิตยังมีศีลธรรม

    หากรู้สึกผิดแต่แก้ไขไม่ได้ทันที → ให้ตั้งใจแก้ไขเมื่อมีโอกาส


    ✅ 4️⃣ ความอายบุญ → ฝึกทำความดีอย่างมั่นใจ

    ถ้าอยากช่วยคน แต่รู้สึกอาย → ให้ลองนึกว่า "ถ้าเราเป็นคนที่ต้องการความช่วยเหลือล่ะ?"

    ถ้ากลัวคนล้อเรื่องทำดี → ให้ยึดมั่นว่า "ดีคือดี" ไม่จำเป็นต้องอาย



    ---

    🔹 สรุป: บริหารความอายให้ถูกทาง

    💡 ความอายที่ดี → ทำให้เรารู้จักปกป้องศีลธรรม
    💡 ความอายที่ไม่ดี → ทำให้เราพลาดโอกาสทำความดี
    💡 หากฝึกสติให้มากพอ จะสามารถแยกแยะได้ว่า "ความอายแบบไหน ควรรักษา" และ "ความอายแบบไหน ควรปล่อยวาง"

    📌 สุดท้ายแล้ว จิตใจที่พัฒนา คือจิตที่รู้ว่าอะไรควรอาย และอะไรไม่ควรอาย!

    ความอาย: ด่านสำคัญของจิตที่กำหนดเส้นทางกรรม "ความอาย" เป็นสิ่งที่ติดตัวมนุษย์มาแต่เกิด เป็นกลไกทางจิตใจที่ช่วยกำกับพฤติกรรม แต่ในขณะเดียวกัน ความอายก็สามารถเป็นทั้งตัวฉุดรั้งและตัวผลักดันให้คนเราเดินไปในเส้นทางกรรมที่แตกต่างกัน --- 🔹 ประเภทของความอายและผลกระทบต่อชีวิต 1️⃣ ความอายเรื่องรูปลักษณ์: เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ✅ บางช่วงชีวิต คนเราอาจรู้สึกอายกับหน้าตา รูปร่าง หรือการแต่งกาย บางวันไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเอง บางช่วงชีวิตรู้สึกว่าต้องสวย ต้องดูดี เพื่อให้ได้รับการยอมรับ แต่เมื่อโตขึ้น โฟกัสจะเปลี่ยนไปจากรูปลักษณ์เป็น “ผลงาน” หรือ “การกระทำ” สุดท้ายคนเรามักเลิกสนใจว่าตัวเองดูเป็นอย่างไร และสนใจว่าตัวเอง “เป็นคนอย่างไร” แทน 💡 ความอายเรื่องรูปลักษณ์จึงเป็นเพียงอารมณ์ชั่วคราว และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ --- 2️⃣ ความอายเรื่องร่างกาย: สัญชาตญาณ vs. ค่านิยม ✅ มนุษย์มีสัญชาตญาณในการปกปิดร่างกายโดยธรรมชาติ การไม่เปิดเผยของลับเป็นสัญชาตญาณปกติของมนุษย์ แต่เมื่อค่านิยมของสังคมเปลี่ยนไป ความรู้สึกอายนี้ก็ถูกลดทอนลง เมื่อค่านิยมทางสังคมผลักดันให้ “ความไม่อาย” กลายเป็นแฟชั่น → จิตใจจะหยาบขึ้นโดยไม่รู้ตัว และนี่เองคือสาเหตุที่เมื่อค่านิยมเปลี่ยนไป → ศีลธรรมก็เปลี่ยนตาม 💡 ถ้าสัญชาตญาณการอายที่สุกงอมถูกกดทับ ความหยาบจะเข้ามาแทนที่ และเปิดโอกาสให้บาปกรรมเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น --- 3️⃣ ความอายบาป: เส้นกั้นระหว่างมนุษย์กับอบายภูมิ ✅ ความอายต่อบาปเป็นธรรมชาติของมนุษย์ เพราะมนุษย์มีบุญหนุนนำให้เกิดมา ความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นหลังทำสิ่งไม่ดี → เป็นเครื่องยืนยันว่าจิตยังมี “ศีลธรรม” อยู่ แต่ถ้าครั้งหนึ่งเคยทำบาปแล้วไม่รู้สึกผิด → ครั้งต่อไปจะทำได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น: ยืมเงินคนอื่นแล้วไม่คืน → ถ้ารู้สึกผิด อาจหาโอกาสคืน แต่ถ้าไม่รู้สึกผิด → จะทำอีกได้โดยไม่ลังเล และหากทำซ้ำๆ → อาจพัฒนาไปสู่พฤติกรรมทุจริตที่ร้ายแรงขึ้น 💡 หากชนะความละอายต่อบาปได้ครั้งหนึ่ง → บาปจะเกิดง่ายขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นธรรมชาติของจิต --- 4️⃣ ความอายบุญ: อุปสรรคของการทำดี ✅ แปลกแต่จริง: คนเรามักรู้สึกอายเมื่อต้องทำบุญหรือทำความดีต่อหน้าคนอื่น เช่น เห็นคนตาบอดกำลังข้ามถนน → อยากช่วยแต่รู้สึกกระดาก เห็นคนมอเตอร์ไซค์ล้ม → อยากช่วยพยุงแต่ก็ลังเล อยากพูดเรื่องธรรมะ → แต่กลัวเพื่อนล้อ 💡 ความอายประเภทนี้ ทำให้พลาดโอกาสสร้างบุญไปอย่างน่าเสียดาย 💭 หากพิจารณาดีๆ จะพบว่าความอายที่แท้จริง คือ "อายต่อการทำดี" ต่างหากที่ควรปล่อยวาง --- 🔹 วิธีบริหารความอายให้เป็นประโยชน์ ✅ 1️⃣ ความอายเรื่องรูปลักษณ์ → เปลี่ยนโฟกัสจาก “ภายนอก” เป็น “ภายใน” ฝึกมองตัวเองจากมุมมองของคุณค่าที่แท้จริง → เช่น เราเป็นคนมีน้ำใจไหม? เราเป็นคนขยันไหม? ฝึกมองคนอื่นจากผลงาน มากกว่ารูปลักษณ์ ✅ 2️⃣ ความอายเรื่องร่างกาย → ตระหนักว่าสังคมอาจมีอิทธิพลต่อจิตใจเรา เลือกเสพสื่อที่ไม่บิดเบือนจิตใจให้หยาบลง ฝึกสังเกตความรู้สึกตัวเองว่าอะไรคือ “ธรรมชาติของจิต” และอะไรคือ “สิ่งที่สังคมปลูกฝัง” ✅ 3️⃣ ความอายบาป → ใช้เป็นตัววัดจิตใจตนเอง ถ้าเคยทำผิดแล้วรู้สึกผิด → นั่นคือสัญญาณที่ดี แสดงว่าจิตยังมีศีลธรรม หากรู้สึกผิดแต่แก้ไขไม่ได้ทันที → ให้ตั้งใจแก้ไขเมื่อมีโอกาส ✅ 4️⃣ ความอายบุญ → ฝึกทำความดีอย่างมั่นใจ ถ้าอยากช่วยคน แต่รู้สึกอาย → ให้ลองนึกว่า "ถ้าเราเป็นคนที่ต้องการความช่วยเหลือล่ะ?" ถ้ากลัวคนล้อเรื่องทำดี → ให้ยึดมั่นว่า "ดีคือดี" ไม่จำเป็นต้องอาย --- 🔹 สรุป: บริหารความอายให้ถูกทาง 💡 ความอายที่ดี → ทำให้เรารู้จักปกป้องศีลธรรม 💡 ความอายที่ไม่ดี → ทำให้เราพลาดโอกาสทำความดี 💡 หากฝึกสติให้มากพอ จะสามารถแยกแยะได้ว่า "ความอายแบบไหน ควรรักษา" และ "ความอายแบบไหน ควรปล่อยวาง" 📌 สุดท้ายแล้ว จิตใจที่พัฒนา คือจิตที่รู้ว่าอะไรควรอาย และอะไรไม่ควรอาย!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • สองแถวแปลงร่าง พลิกโฉมขนส่งท้องถิ่น

    เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568 หรือ Bangkok Design Week 2025 ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร หนึ่งในนิทรรศการที่น่าสนใจ คือ สองแถวแปลงร่าง จัดแสดงรถสองแถวต้นแบบ ที่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท บัสซิ่ง ทรานสิท จำกัด ผู้ให้บริการขอนแก่นซิตี้บัส จังหวัดขอนแก่น และเมย์เดย์ กลุ่มนักออกแบบนวัตกรรมเกี่ยวกับการเดินทาง ร่วมกันออกแบบและพัฒนาขึ้น โดยใช้ระยะเวลาเกือบ 1 ปี

    จากการสอบถามทีมงานที่ร่วมพัฒนารถสองแถว ระบุว่า ต้นทุนในการประกอบรถสองแถว รวมระบบต่างๆ เช่น GPS และระบบจัดเก็บค่าโดยสาร รวมกันโดยประมาณไม่ถึง 1 ล้านบาท

    รถสองแถวแปลงร่าง ออกแบบภายใต้แนวคิดที่มุ่งเน้นความปลอดภัย ความสะดวกในการเดินทาง และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร พร้อมแอปพลิเคชัน ที่สามารถระบุตำแหน่งของรถโดยสาร และเวลาที่รถจะมาถึง ณ จุดจอด โดยตัวรถโดยสารมีขนาดเล็ก ทำให้คล่องตัวในการขับขี่และจอดรับส่ง ทางขึ้น-ลง 2 ทางเพื่อความคล่องตัว บันไดทางขึ้นเฉพาะด้านข้างตัวรถ เพื่อความปลอดภัย ส่วนภายในรถโดยสารมีระบบหมุนเวียนอากาศ ให้อากาศถ่ายเทได้ แม้ปิดหน้าต่างเวลาฝนตก

    ระบบแจ้งจุดจอดถัดไป รูปแบบจอภาพและเสียง พัฒนาระบบโดย บัสซิ่ง ทรานสิท และระบบการจ่ายเงิน ที่รองรับสังคมไร้เงินสด เช่น จ่ายผ่านคิวอาร์โค้ด แตะบัตรโดยสาร และเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติ รองรับธนบัตรและเหรียญ ที่นั่งมีทั้งหมด 10 ที่นั่ง พร้อมเข็มขัดนิรภัย โดยมีที่นั่งสีแดง เป็นที่นั่งสำรองสำหรับบุคคลพิเศษ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ไว-ไฟ ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ และช่องทางการติดต่อกับคนขับภายในห้องโดยสาร ผ่านระบบอินเตอร์คอมอีกด้วย

    แต่เนื่องจากข้อจำกัดของรถกระบะ ทำให้ไม่สามารถทำเป็นรถชานต่ำได้ แต่ได้ออกแบบให้ขึ้น-ลงง่าย มีราวจับมั่นคงแทน รวมทั้งการที่ยังคงเปิดท้ายด้านหลัง เพราะตามกฎหมายการขนส่งทางบก รถโดยสารมาตรฐาน 3 ฉ ไม่มีเครื่องปรับอากาศ จำนวนที่นั่งผู้โดยสารไม่เกิน 12 ที่นั่ง กำหนดให้ประตูทางขึ้น-ลงต้องเป็นด้านข้างหรือด้านท้ายของรถ แต่ได้เปลี่ยนให้ขึ้นรถจากด้านข้างแล้วลงทางด้านหลังแทน

    สำหรับนิทรรศการรถสองแถวแปลงร่าง จะจัดแสดงถึงวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. 2568 และทดลองให้บริการในเส้นทางวงกลม เสาชิงช้า เอ็มอาร์ทีสามยอด ประตูผี ถนนราชดำเนินกลาง และถนนดินสอ ในวันเสาร์ที่ 22 และวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. 2568 ตั้งแต่เวลา 15.00-20.00 น. หลังจากนั้น บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มีแผนจะนำมาให้บริการในเส้นทางหมู่บ้านทิพวัล จ.สมุทรปราการ ซึ่งใกล้กับโรงงานโตโยต้าสำโรง กลางปี 2568 ต่อไป

    #Newskit
    สองแถวแปลงร่าง พลิกโฉมขนส่งท้องถิ่น เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568 หรือ Bangkok Design Week 2025 ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร หนึ่งในนิทรรศการที่น่าสนใจ คือ สองแถวแปลงร่าง จัดแสดงรถสองแถวต้นแบบ ที่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท บัสซิ่ง ทรานสิท จำกัด ผู้ให้บริการขอนแก่นซิตี้บัส จังหวัดขอนแก่น และเมย์เดย์ กลุ่มนักออกแบบนวัตกรรมเกี่ยวกับการเดินทาง ร่วมกันออกแบบและพัฒนาขึ้น โดยใช้ระยะเวลาเกือบ 1 ปี จากการสอบถามทีมงานที่ร่วมพัฒนารถสองแถว ระบุว่า ต้นทุนในการประกอบรถสองแถว รวมระบบต่างๆ เช่น GPS และระบบจัดเก็บค่าโดยสาร รวมกันโดยประมาณไม่ถึง 1 ล้านบาท รถสองแถวแปลงร่าง ออกแบบภายใต้แนวคิดที่มุ่งเน้นความปลอดภัย ความสะดวกในการเดินทาง และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร พร้อมแอปพลิเคชัน ที่สามารถระบุตำแหน่งของรถโดยสาร และเวลาที่รถจะมาถึง ณ จุดจอด โดยตัวรถโดยสารมีขนาดเล็ก ทำให้คล่องตัวในการขับขี่และจอดรับส่ง ทางขึ้น-ลง 2 ทางเพื่อความคล่องตัว บันไดทางขึ้นเฉพาะด้านข้างตัวรถ เพื่อความปลอดภัย ส่วนภายในรถโดยสารมีระบบหมุนเวียนอากาศ ให้อากาศถ่ายเทได้ แม้ปิดหน้าต่างเวลาฝนตก ระบบแจ้งจุดจอดถัดไป รูปแบบจอภาพและเสียง พัฒนาระบบโดย บัสซิ่ง ทรานสิท และระบบการจ่ายเงิน ที่รองรับสังคมไร้เงินสด เช่น จ่ายผ่านคิวอาร์โค้ด แตะบัตรโดยสาร และเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติ รองรับธนบัตรและเหรียญ ที่นั่งมีทั้งหมด 10 ที่นั่ง พร้อมเข็มขัดนิรภัย โดยมีที่นั่งสีแดง เป็นที่นั่งสำรองสำหรับบุคคลพิเศษ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ไว-ไฟ ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ และช่องทางการติดต่อกับคนขับภายในห้องโดยสาร ผ่านระบบอินเตอร์คอมอีกด้วย แต่เนื่องจากข้อจำกัดของรถกระบะ ทำให้ไม่สามารถทำเป็นรถชานต่ำได้ แต่ได้ออกแบบให้ขึ้น-ลงง่าย มีราวจับมั่นคงแทน รวมทั้งการที่ยังคงเปิดท้ายด้านหลัง เพราะตามกฎหมายการขนส่งทางบก รถโดยสารมาตรฐาน 3 ฉ ไม่มีเครื่องปรับอากาศ จำนวนที่นั่งผู้โดยสารไม่เกิน 12 ที่นั่ง กำหนดให้ประตูทางขึ้น-ลงต้องเป็นด้านข้างหรือด้านท้ายของรถ แต่ได้เปลี่ยนให้ขึ้นรถจากด้านข้างแล้วลงทางด้านหลังแทน สำหรับนิทรรศการรถสองแถวแปลงร่าง จะจัดแสดงถึงวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. 2568 และทดลองให้บริการในเส้นทางวงกลม เสาชิงช้า เอ็มอาร์ทีสามยอด ประตูผี ถนนราชดำเนินกลาง และถนนดินสอ ในวันเสาร์ที่ 22 และวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. 2568 ตั้งแต่เวลา 15.00-20.00 น. หลังจากนั้น บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มีแผนจะนำมาให้บริการในเส้นทางหมู่บ้านทิพวัล จ.สมุทรปราการ ซึ่งใกล้กับโรงงานโตโยต้าสำโรง กลางปี 2568 ต่อไป #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts