• ภาพขบวนรถของหน่วยกาชาดสากลกำลังเข้าสู่ใจกลางเมืองคาน ยูนิส ทางใต้ของกาซา ซึ่งได้รับรายงานว่าจะเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนตัวประกันชาวอิสราเอล 2 ราย รวมทั้งชาวไทยอีก 5 ราย

    สำหรับชาวไทยทั้ง 5 รายนั้น ได้รับการปล่อยตัวโดยไม่มีการแลกเปลี่ยนเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้นจากอิสราเอลและฮามาส
    ภาพขบวนรถของหน่วยกาชาดสากลกำลังเข้าสู่ใจกลางเมืองคาน ยูนิส ทางใต้ของกาซา ซึ่งได้รับรายงานว่าจะเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนตัวประกันชาวอิสราเอล 2 ราย รวมทั้งชาวไทยอีก 5 ราย สำหรับชาวไทยทั้ง 5 รายนั้น ได้รับการปล่อยตัวโดยไม่มีการแลกเปลี่ยนเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้นจากอิสราเอลและฮามาส
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงเวลาการแลกเปลี่ยนตัวประกันในกาซากำลังจะเริ่มขึ้น

    เบื้องต้นหน่วยรบอัลกัสซัมของฮามาส จะเป็นผู้นำในการส่งมอบและแลกเปลี่ยนในพื้นที่จาบาเลีย ทางตอนเหนือของกาซา
    ช่วงเวลาการแลกเปลี่ยนตัวประกันในกาซากำลังจะเริ่มขึ้น เบื้องต้นหน่วยรบอัลกัสซัมของฮามาส จะเป็นผู้นำในการส่งมอบและแลกเปลี่ยนในพื้นที่จาบาเลีย ทางตอนเหนือของกาซา
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามใน "คำสั่งฝ่ายบริหาร" ที่สั่งให้หน่วยงานต่างๆ ปราบปรามการต่อต้านชาวยิวเพื่อตอบสนองต่อการประท้วงสงครามในฉนวนกาซา

    คำสั่งดังกล่าวกำหนดให้มหาวิทยาลัยต้องรายงานพฤติกรรมนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ต่างชาติที่แสดงความเห็นต่อต้านชาวยิว รวมถึงแสดงความเห็นใจและสนับสนุนต่อกลุ่มฮามาส และต้องแน่ใจว่าการรายงานดังกล่าวจะสามารถนำไปสู่การสืบสวนและการเนรเทศเมื่อจำเป็น

    ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ อย่างแข็งกร้าว โดยอ้างถึงความล้มเหลวในการปกป้องนักศึกษาชาวยิวหลังวันที่ 7 ตุลาคม และสั่งให้หน่วยงานต่างๆ ใช้ทุกวิถีทางทางกฎหมายเพื่อปราบปรามการต่อต้านชาวยิว
    ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามใน "คำสั่งฝ่ายบริหาร" ที่สั่งให้หน่วยงานต่างๆ ปราบปรามการต่อต้านชาวยิวเพื่อตอบสนองต่อการประท้วงสงครามในฉนวนกาซา คำสั่งดังกล่าวกำหนดให้มหาวิทยาลัยต้องรายงานพฤติกรรมนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ต่างชาติที่แสดงความเห็นต่อต้านชาวยิว รวมถึงแสดงความเห็นใจและสนับสนุนต่อกลุ่มฮามาส และต้องแน่ใจว่าการรายงานดังกล่าวจะสามารถนำไปสู่การสืบสวนและการเนรเทศเมื่อจำเป็น ทรัมป์ให้คำมั่นว่าจะบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ อย่างแข็งกร้าว โดยอ้างถึงความล้มเหลวในการปกป้องนักศึกษาชาวยิวหลังวันที่ 7 ตุลาคม และสั่งให้หน่วยงานต่างๆ ใช้ทุกวิถีทางทางกฎหมายเพื่อปราบปรามการต่อต้านชาวยิว
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 8 ราย ประกอบด้วยชาวอิสราเอล 3 คน และคนไทย 5 ราย หลังถูกกักขังในกาซานานกว่า 1 ปี จากการเปิดเผยของรัฐบาลอิสราเอล ในขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายยังคงยึดถือข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว
    .
    เจ้าหน้าที่อิสราเอล ระบุว่าตัวประกันอิสราเอลที่จะได้รับการปล่อยตัวประกอบด้วย กาดี โมเซส วัย 80ปี, อาร์เบล เยฮุด วัย 29 ปี และอากัม เบอร์เกอร์ วัย 20 ปี ในขณะที่ฮามาสก็ยืนยันเกี่ยวกับการปล่อยตัวชาวอิสราเอลทั้ง 3 รายเช่นกัน อย่างไรก็ตามทั้งอิสราเอลและฮามาส ไม่ได้เปิดเผยชื่อพลเมืองไทย 5 คน ที่จะได้รับการปล่อยตัวออกมา
    .
    ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิง คาดหมายว่าอิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์มากกว่า 100 คน แลกกับตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) ในนั้นรวมถึงพวกที่ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต โทษฐานเกี่ยวกับกับเหตุโจมตีนองเลือดเล่นงานชาวอิสราเอล
    .
    การปล่อยตัวครั้งนี้ ถือเป็นหนที่ 3 แล้ว นับตั้งแต่อิสราเอลและฮามาสปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง 6 สัปดาห์ ส่วนหนึ่งในข้อตกลงหลายขั้นที่พวกคนกลางการเจรจาหวังว่าจะนำมาซึ่งการยุติสงครามในกาซา ในขณะที่มีผู้คนมากกว่า 45,000 นาย ที่ต้องเสียชีวิตในฉนวนแห่งนี้ ระหว่างปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลเล่นงานแก้แค้นพวกฮามาส
    .
    ระหว่างการหยุดยิงเบื้องต้น 42 วัน ฮามาส รับปากว่าจะปล่อยตัวประกันอย่างน้อย 33 คน จาก 97 คนที่เหลืออยู่ในกาซา แลกกับการที่อิสราเอลถอนกำลังบางส่วนและปล่อยชาวปาเลสไตน์กว่า 1,500 คน ที่ถูกจองจำโดยอิสราเอล ภายใต้ข้อตกลงนี้ มีการเสนอให้ปล่อยตัวนางสาวเยฮุด หนึ่งในตัวประกันหญิงคนท้ายๆที่ยังมีชีวิตอยู่ ในสัปดาห์ที่แล้ว
    .
    แต่หลังจากที่เธอไม่ได้รับการปล่อยตัวในตอนนั้น อิสราเอลตอบโต้ด้วยการเลื่อนไม่เปิดเส้นทางผ่านให้พวกชาวปาเลสไตน์ผู้ไร้ถิ่นฐานหลายแสนคนเดินทางกลับสู่มาตุภูมิทางเหนือของกาซา ตามเงื่อนไขของข้อตกลง ก่อนสุดท้ายกองทัพอิสราเอลจะยอมเปิดทาง หลังบรรดาชาติคนกลางแถลงในวันอาทิตย์(25ม.ค. )ว่าพวกเขาได้รับคำสัญญาแล้วว่านางสาวเยฮุด จะได้รับการปล่อยตัว
    .
    ตัวประกันทั้ง 8 คน ที่ได้รับคาดหมายว่าจะได้รับการปล่อยตัวเป็นกลุ่มถัดไป ทั้งหมดถูกลักพาตัวระหว่างที่พวกฮามาสปฏิบัติการจู่โจมสายฟ้าแลบเล่นงานทางใต้ของอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 อันเป็นจุดเริ่มต้นของสงคราม มีผู้เสียชีวิตราวๆ 1,200 คน ในเหตุจู่โจมดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนและอีก 250 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน
    .
    มูซา อาบู มาร์ซูค เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส ยืนยันระหว่างให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับนิวยอร์กไทม์ส ว่าแรงงานไทย 5 คนจะได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) พร้อมเผยว่าคนงานไทยเหล่านี้ถูกควบคุมตัวโดยกลุ่มญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์ (Palestinian Islamic Jihad) อ้างถึงกลุ่มนักรบเล็กๆในกาซา ที่ใกล้ชิดกับฮามาส แต่มีความแตกต่างกันทั้งเชิงกลยุทธ์และอุดมการณ์
    .
    นางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล ยืนยันเช่นกันว่าตัวประกันคนไทย 5 คน จากทั้งหมด 8 คน จะได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) แต่ไม่ชัดเจนว่าผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวนั้นมีใครบ้าง
    .
    รายงานของนิวยอร์กไทม์อ้างคำกล่าวของนางสาวพรรณนภา ระบุด้วยว่ายังมีตัวประกันไทยอยู่ในกาซาอีก 8 ราย แบ่งเป็นยังมีชีวิตอยู่ 6 รายและเสียชีวิตแล้ว 2 คน ทั้งหมดอายุระหว่าง 28 ปี ถึง 42 ปี โดยทั้งหมดเป็นแรงงานภาคการเกษตร ณ ฟาร์ม 4 แห่งใกล้ชายแดนกาซา และถูกลักพาตัวระหว่างการโจมตีที่นำโดยพวกฮามาสในเดือนตุลาคม 2023
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009508
    ..............
    Sondhi X
    ฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 8 ราย ประกอบด้วยชาวอิสราเอล 3 คน และคนไทย 5 ราย หลังถูกกักขังในกาซานานกว่า 1 ปี จากการเปิดเผยของรัฐบาลอิสราเอล ในขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายยังคงยึดถือข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว . เจ้าหน้าที่อิสราเอล ระบุว่าตัวประกันอิสราเอลที่จะได้รับการปล่อยตัวประกอบด้วย กาดี โมเซส วัย 80ปี, อาร์เบล เยฮุด วัย 29 ปี และอากัม เบอร์เกอร์ วัย 20 ปี ในขณะที่ฮามาสก็ยืนยันเกี่ยวกับการปล่อยตัวชาวอิสราเอลทั้ง 3 รายเช่นกัน อย่างไรก็ตามทั้งอิสราเอลและฮามาส ไม่ได้เปิดเผยชื่อพลเมืองไทย 5 คน ที่จะได้รับการปล่อยตัวออกมา . ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิง คาดหมายว่าอิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์มากกว่า 100 คน แลกกับตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) ในนั้นรวมถึงพวกที่ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต โทษฐานเกี่ยวกับกับเหตุโจมตีนองเลือดเล่นงานชาวอิสราเอล . การปล่อยตัวครั้งนี้ ถือเป็นหนที่ 3 แล้ว นับตั้งแต่อิสราเอลและฮามาสปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง 6 สัปดาห์ ส่วนหนึ่งในข้อตกลงหลายขั้นที่พวกคนกลางการเจรจาหวังว่าจะนำมาซึ่งการยุติสงครามในกาซา ในขณะที่มีผู้คนมากกว่า 45,000 นาย ที่ต้องเสียชีวิตในฉนวนแห่งนี้ ระหว่างปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลเล่นงานแก้แค้นพวกฮามาส . ระหว่างการหยุดยิงเบื้องต้น 42 วัน ฮามาส รับปากว่าจะปล่อยตัวประกันอย่างน้อย 33 คน จาก 97 คนที่เหลืออยู่ในกาซา แลกกับการที่อิสราเอลถอนกำลังบางส่วนและปล่อยชาวปาเลสไตน์กว่า 1,500 คน ที่ถูกจองจำโดยอิสราเอล ภายใต้ข้อตกลงนี้ มีการเสนอให้ปล่อยตัวนางสาวเยฮุด หนึ่งในตัวประกันหญิงคนท้ายๆที่ยังมีชีวิตอยู่ ในสัปดาห์ที่แล้ว . แต่หลังจากที่เธอไม่ได้รับการปล่อยตัวในตอนนั้น อิสราเอลตอบโต้ด้วยการเลื่อนไม่เปิดเส้นทางผ่านให้พวกชาวปาเลสไตน์ผู้ไร้ถิ่นฐานหลายแสนคนเดินทางกลับสู่มาตุภูมิทางเหนือของกาซา ตามเงื่อนไขของข้อตกลง ก่อนสุดท้ายกองทัพอิสราเอลจะยอมเปิดทาง หลังบรรดาชาติคนกลางแถลงในวันอาทิตย์(25ม.ค. )ว่าพวกเขาได้รับคำสัญญาแล้วว่านางสาวเยฮุด จะได้รับการปล่อยตัว . ตัวประกันทั้ง 8 คน ที่ได้รับคาดหมายว่าจะได้รับการปล่อยตัวเป็นกลุ่มถัดไป ทั้งหมดถูกลักพาตัวระหว่างที่พวกฮามาสปฏิบัติการจู่โจมสายฟ้าแลบเล่นงานทางใต้ของอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 อันเป็นจุดเริ่มต้นของสงคราม มีผู้เสียชีวิตราวๆ 1,200 คน ในเหตุจู่โจมดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนและอีก 250 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน . มูซา อาบู มาร์ซูค เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส ยืนยันระหว่างให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับนิวยอร์กไทม์ส ว่าแรงงานไทย 5 คนจะได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) พร้อมเผยว่าคนงานไทยเหล่านี้ถูกควบคุมตัวโดยกลุ่มญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์ (Palestinian Islamic Jihad) อ้างถึงกลุ่มนักรบเล็กๆในกาซา ที่ใกล้ชิดกับฮามาส แต่มีความแตกต่างกันทั้งเชิงกลยุทธ์และอุดมการณ์ . นางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล ยืนยันเช่นกันว่าตัวประกันคนไทย 5 คน จากทั้งหมด 8 คน จะได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) แต่ไม่ชัดเจนว่าผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวนั้นมีใครบ้าง . รายงานของนิวยอร์กไทม์อ้างคำกล่าวของนางสาวพรรณนภา ระบุด้วยว่ายังมีตัวประกันไทยอยู่ในกาซาอีก 8 ราย แบ่งเป็นยังมีชีวิตอยู่ 6 รายและเสียชีวิตแล้ว 2 คน ทั้งหมดอายุระหว่าง 28 ปี ถึง 42 ปี โดยทั้งหมดเป็นแรงงานภาคการเกษตร ณ ฟาร์ม 4 แห่งใกล้ชายแดนกาซา และถูกลักพาตัวระหว่างการโจมตีที่นำโดยพวกฮามาสในเดือนตุลาคม 2023 . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009508 .............. Sondhi X
    Like
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์สั่งตรวจสอบเพื่อหาทางกำหนดบทลงโทษ และเนรเทศ ลัทธิต่อต้านชาวยิว รวมถึงนักศึกษาที่ถือวีซ่า

    คาดว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารในวันพุธ เพื่อสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางทั้งหมดระบุหน่วยงานแพ่งและอาญาที่มีอยู่ ปราบปรามการต่อต้านชาวยิว รวมถึงหาวิธีเนรเทศนักเคลื่อนไหวต่อต้านชาวยิวที่ละเมิดกฎหมาย

    คาดว่าคำสั่งดังกล่าว จะกำหนดให้ผู้นำหน่วยงานและกระทรวงต่างๆ จัดเตรียมคำแนะนำให้กับทำเนียบขาวภายใน 60 วัน และระบุแผนในการสืบสวนการพ่นสีและการข่มขู่ที่สนับสนุนกลุ่มฮามาส รวมถึงในมหาวิทยาลัย
    ทรัมป์สั่งตรวจสอบเพื่อหาทางกำหนดบทลงโทษ และเนรเทศ ลัทธิต่อต้านชาวยิว รวมถึงนักศึกษาที่ถือวีซ่า คาดว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารในวันพุธ เพื่อสั่งให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางทั้งหมดระบุหน่วยงานแพ่งและอาญาที่มีอยู่ ปราบปรามการต่อต้านชาวยิว รวมถึงหาวิธีเนรเทศนักเคลื่อนไหวต่อต้านชาวยิวที่ละเมิดกฎหมาย คาดว่าคำสั่งดังกล่าว จะกำหนดให้ผู้นำหน่วยงานและกระทรวงต่างๆ จัดเตรียมคำแนะนำให้กับทำเนียบขาวภายใน 60 วัน และระบุแผนในการสืบสวนการพ่นสีและการข่มขู่ที่สนับสนุนกลุ่มฮามาส รวมถึงในมหาวิทยาลัย
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นจำนวนเรือนหมื่นเรือนแสน หลั่งไหลกันเดินทางไปตามถนนสายหลัก เพื่อมุ่งหน้ากลับสู่ตอนเหนือของฉนวนกาซาแล้วเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) หลังจากกลุ่มฮามาสตกลงส่งมอบตัวประกันชาวอิสราเอลอีก 3 คนในช่วงต่อไปของสัปดาห์นี้ และกองทหารรัฐยิวก็เริ่มถอนกำลังออกจากการปิดกั้นช่องทางซึ่งสกัดไม่ให้ผู้พลัดถิ่นเหล่านี้ได้เดินทาง
    .
    ประชาชนจำนวนมากมาย บางคนอุ้มทารกเอาไว้ในอ้อมแขน หรือไม่แบกสมบัติข้าวของที่ยังเหลืออยู่เอาไว้บนบ่า มุ่งหน้าเดินเท้าขึ้นเหนือ ไปตามถนนสายที่ทอดยาวเลียบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
    .
    “มันเหมือนกับฉันเกิดใหม่ขึ้นครั้ง และเราได้รับชัยชนะอีกครั้ง” เป็นคำกล่าวของ อุมม์ โมฮัมเหม็ด อาลี คุณแม่ชาวปาเลสไตน์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของฝูงชนซึ่งเดินตามกันไปอย่างช้าๆ เป็นแถวยาวเหยียดหลายกิโลเมตรบนถนนเลียบทะเลสายดังกล่าว
    .
    พวกผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ชาวบ้านคนแรกเดินมาถึงเมืองกาซาซิตี้ในตอนเช้าตรู่ หลังจากจุดข้ามจากตอนใต้ของกาซา เปิดขึ้นเมื่อเวลา 7 โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเที่ยงวัน เวลาเมืองไทย) สำหรับจุดข้ามอีกจุดหนึ่งเปิดขึ้นในอีก 3 ชั่วโมงถัดมา โดยเป็นทางสำหรับยวดยานต่างๆ
    .
    “หัวใจผมกำลังเต้นแรง ผมคิดว่าผมจะไม่ได้กลับมาอีกแล้ว” เป็นคำพูดของ โอซามา วัย 50 ปี ซึ่งเป็นข้าราชการพลเรือนและเป็นคุณพ่อของลูก 5 คน ขณะที่เขาเดินทางถึงกาซาซิตี้ “ไม่ว่าการหยุดยิงนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เราก็จะไม่ยอมออกจากกาซาซิตี้และทางตอนเหนือนี่อีกแล้ว ถึงแม้อิสราเอลจะส่งรถถังมาเล่นงานพวกเราแต่ละคนก็ตาม ไม่มีการพลัดถิ่นที่อยู่กันอีกแล้ว”
    .
    หลังจากถูกสั่งให้ออกจากที่พำนักชั่วคราวซ้ำแล้วซ้ำอีกตลอดระยะเวลา 15 เดือนของสงครามครั้งนี้ ก็มีเสียงเชียร์เสียงโห่ร้องยินดีปะทุขึ้นจากที่พักพิงหลบภัยและเต็นท์ค่ายพักต่างๆ เมื่อครอบครัวชาวปาเลสไตน์ได้ยินข่าวที่ว่าจุดข้ามจะเปิดให้เดินทางผ่านแล้ว
    .
    “นอนไม่หลับเลย ฉันเก็บข้าวของทุกอย่างและพร้อมเดินทางตั้งแต่แสงตะวันแรกของวันแล้ว” เป็นคำกล่าวของ กอดา คุณแม่ลูก 5 “อย่างน้อยที่สุดเราก็กำลังจะกลับบ้าน ตอนนี้ฉันพูดได้แล้วว่าสงครามยุติแล้ว และฉันหวังว่ามันจะอยู่ในความสงบต่อไปอีก” เธอบอกกับรอยเตอร์ผ่านแอปแชต
    .
    ทั้งพวกเจ้าหน้าที่ฮามาสและชาวกาซาที่เป็นประชาชนธรรมดา ต่างปฏิเสธไม่เอาด้วยกับคำแนะนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่เรียกร้องให้จอร์แดนและอียิปต์ รับชาวปาเลไสตน์จากดินแดนที่พินาศยับเยินจากสงครามแห่งนี้ อพยพเข้าไปพำนักอาศัยให้มากขึ้น มิหนำซ้ำยังเป็นการกระตุ้นความหวาดกลัวซึ่งมีมายาวนานของชาวปาเลสไตน์ที่ว่า พวกเขากำลังจะถูกผลักไสให้ออกจากบ้านของพวกเขาไปตลอดกาล
    .
    ตามเงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิงที่กระทำกันคราวนี้ ผู้ที่พำนักอาศัยในตอนเหนือกาซา จะได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้ตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ท่ผ่านมา ทว่าในวันอาทิตย์ (26 ) อิสราเอลขัดขวางเรื่องนี้ โดยกล่าวหาฮามาสละเมิดเงื่อนไขในข้อตกลง
    .
    อย่างไรก็ดี ถึงตอนค่ำวันเดียวกัน สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลแถลงว่า สามารถตกลงกับฮามาสได้แล้ว โดยฮามาสจะปล่อย อาร์เบล เยฮุด ตัวประกันที่เป็นพลเรือนหญิงที่เดิมคาดว่า จะได้รับการปล่อยตัวตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมกับตัวประกันอีก 3 คนในวันพฤหัสฯ (30) และปล่อยเพิ่มอีก 3 คนในวันเสาร์ (1 ก.พ.)
    .
    คำแถลงยังระบุว่า อิสราเอลจะอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์เดินทางได้ตั้งแต่เช้าวันจันทร์ ซึ่งฮามาสระบุว่าเป็น “ชัยชนะสำหรับชาวปาเลสไตน์ และสัญญาณความล้มเหลวของแผนการยึดครองและบังคับย้ายถิ่นฐาน”
    .
    สำหรับคำแนะนำของทรัมป์นั้น อยู่ในลักษณะของการที่เขาเสนอไอเดียกับพวกผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางบนเครื่องบินประจำตำแหน่งแอร์ฟอร์ซ วัน เมื่อวันเสาร์ (25) ว่า จอร์แดนและอียิปต์ ควรอ้าแขนรับชาวปาเลสไตน์ราว 2.4 ล้านคนจากกาซาที่พังพินาศจากสงครามที่ทำให้ประชาชนนับหมื่นเสียชีวิตและนำไปสู่วิกฤตมนุษยธรรมเลวร้าย
    .
    ประมุขทำเนียบขาวเสริมว่า จะดึงชาติอาหรับบางชาติเข้ามามีส่วนร่วม และสร้างที่พักอาศัยเพื่อให้ชาวปาเลสไตน์ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ ก่อนสำทับว่า แนวทางนี้อาจเป็นได้ทั้งแนวทางชั่วคราวหรือถาวร
    .
    ปัจจุบัน จอร์แดนรองรับชาวปาเลสไตน์หลายล้านคนอยู่แล้ว ขณะที่มีชาวปาเลสไตน์อีกหลายหมื่นคนอาศัยอยู่ในอียิปต์ อย่างไรก็ดี ทั้งสองประเทศรวมถึงชาติอาหรับอื่นๆ ต่างปฏิเสธแนวคิดในการย้ายชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซาไปยังประเทศอื่นๆ ขณะเดียวกันชาวปาเลสไตน์ก็ต้องการให้กาซาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต
    .
    ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ก็แสดงท่าทีคัดค้านแนวคิดดังกล่าว ทางด้าน เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังอิสราเอลที่สังกัดพรรคขวาจัด บอกว่า “การคิดนอกกรอบ” เท่านั้นที่จะทำให้เกิดสันติภาพได้จริง และกล่าวยกย่องข้อเสนอของทรัมป์เป็น “ไอเดียเยี่ยมยอด” ซึ่งจะทำให้ชาวปาเลสไตน์มีโอกาสสร้างชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นในประเทศอื่น พร้อมเสริมว่า จะวางแผนเพื่อดำเนินการตามข้อเสนอนี้
    .
    สำหรับ ฟรานเชสกา อัลบานีส ผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การกวาดล้างเผ่าพันธุ์ก็เป็นการคิดนอกกรอบ ซึ่งไม่ว่าจะด้วยรูปแบบไหนก็ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม และไร้ความรับผิดชอบ
    .
    บาเซม นาอิม สมาชิกกลุ่มการเมืองของฮามาส ยืนกรานว่า ชาวปาเลสไตน์ไม่มีวันยอมรับข้อเสนอของทรัมป์ที่ดูเหมือนเจตนาดีภายใต้ข้ออ้างในการฟื้นฟูกาซา ขณะที่ซามี อาบู ซูฮ์รี เจ้าหน้าที่อีกคน เรียกร้องทรัมป์ไม่ให้เสนอไอเดียผิดพลาดแบบที่อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน เคยพยายามมาก่อน
    .
    สันนิบาตอาหรับคัดค้านไอเดียของทรัมป์เช่นเดียวกัน โดยเตือนว่า ความพยายามบังคับให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากถิ่นฐานเท่ากับเป็นการกวาดล้างเผ่าพันธุ์
    .
    อัยมาน ซาฟาดี รัฐมนตรีต่างประเทศจอร์แดน รวมทั้งกระทรวงต่างประเทศอียิปต์ ยืนยันจุดยืนในการต่อต้านการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาไม่ว่าระยะยาวหรือระยะสั้น
    .
    ประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาสของปาเลสไตน์ที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก ประณามไอเดียของทรัมป์ และประกาศว่า ชาวปาเลสไตน์จะไม่ยอมทิ้งบ้านเกิดอย่างแน่นอน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008688
    ..............
    Sondhi X
    ชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นจำนวนเรือนหมื่นเรือนแสน หลั่งไหลกันเดินทางไปตามถนนสายหลัก เพื่อมุ่งหน้ากลับสู่ตอนเหนือของฉนวนกาซาแล้วเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) หลังจากกลุ่มฮามาสตกลงส่งมอบตัวประกันชาวอิสราเอลอีก 3 คนในช่วงต่อไปของสัปดาห์นี้ และกองทหารรัฐยิวก็เริ่มถอนกำลังออกจากการปิดกั้นช่องทางซึ่งสกัดไม่ให้ผู้พลัดถิ่นเหล่านี้ได้เดินทาง . ประชาชนจำนวนมากมาย บางคนอุ้มทารกเอาไว้ในอ้อมแขน หรือไม่แบกสมบัติข้าวของที่ยังเหลืออยู่เอาไว้บนบ่า มุ่งหน้าเดินเท้าขึ้นเหนือ ไปตามถนนสายที่ทอดยาวเลียบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน . “มันเหมือนกับฉันเกิดใหม่ขึ้นครั้ง และเราได้รับชัยชนะอีกครั้ง” เป็นคำกล่าวของ อุมม์ โมฮัมเหม็ด อาลี คุณแม่ชาวปาเลสไตน์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของฝูงชนซึ่งเดินตามกันไปอย่างช้าๆ เป็นแถวยาวเหยียดหลายกิโลเมตรบนถนนเลียบทะเลสายดังกล่าว . พวกผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ชาวบ้านคนแรกเดินมาถึงเมืองกาซาซิตี้ในตอนเช้าตรู่ หลังจากจุดข้ามจากตอนใต้ของกาซา เปิดขึ้นเมื่อเวลา 7 โมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเที่ยงวัน เวลาเมืองไทย) สำหรับจุดข้ามอีกจุดหนึ่งเปิดขึ้นในอีก 3 ชั่วโมงถัดมา โดยเป็นทางสำหรับยวดยานต่างๆ . “หัวใจผมกำลังเต้นแรง ผมคิดว่าผมจะไม่ได้กลับมาอีกแล้ว” เป็นคำพูดของ โอซามา วัย 50 ปี ซึ่งเป็นข้าราชการพลเรือนและเป็นคุณพ่อของลูก 5 คน ขณะที่เขาเดินทางถึงกาซาซิตี้ “ไม่ว่าการหยุดยิงนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ เราก็จะไม่ยอมออกจากกาซาซิตี้และทางตอนเหนือนี่อีกแล้ว ถึงแม้อิสราเอลจะส่งรถถังมาเล่นงานพวกเราแต่ละคนก็ตาม ไม่มีการพลัดถิ่นที่อยู่กันอีกแล้ว” . หลังจากถูกสั่งให้ออกจากที่พำนักชั่วคราวซ้ำแล้วซ้ำอีกตลอดระยะเวลา 15 เดือนของสงครามครั้งนี้ ก็มีเสียงเชียร์เสียงโห่ร้องยินดีปะทุขึ้นจากที่พักพิงหลบภัยและเต็นท์ค่ายพักต่างๆ เมื่อครอบครัวชาวปาเลสไตน์ได้ยินข่าวที่ว่าจุดข้ามจะเปิดให้เดินทางผ่านแล้ว . “นอนไม่หลับเลย ฉันเก็บข้าวของทุกอย่างและพร้อมเดินทางตั้งแต่แสงตะวันแรกของวันแล้ว” เป็นคำกล่าวของ กอดา คุณแม่ลูก 5 “อย่างน้อยที่สุดเราก็กำลังจะกลับบ้าน ตอนนี้ฉันพูดได้แล้วว่าสงครามยุติแล้ว และฉันหวังว่ามันจะอยู่ในความสงบต่อไปอีก” เธอบอกกับรอยเตอร์ผ่านแอปแชต . ทั้งพวกเจ้าหน้าที่ฮามาสและชาวกาซาที่เป็นประชาชนธรรมดา ต่างปฏิเสธไม่เอาด้วยกับคำแนะนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่เรียกร้องให้จอร์แดนและอียิปต์ รับชาวปาเลไสตน์จากดินแดนที่พินาศยับเยินจากสงครามแห่งนี้ อพยพเข้าไปพำนักอาศัยให้มากขึ้น มิหนำซ้ำยังเป็นการกระตุ้นความหวาดกลัวซึ่งมีมายาวนานของชาวปาเลสไตน์ที่ว่า พวกเขากำลังจะถูกผลักไสให้ออกจากบ้านของพวกเขาไปตลอดกาล . ตามเงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิงที่กระทำกันคราวนี้ ผู้ที่พำนักอาศัยในตอนเหนือกาซา จะได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านได้ตั้งแต่ช่วงสุดสัปดาห์ท่ผ่านมา ทว่าในวันอาทิตย์ (26 ) อิสราเอลขัดขวางเรื่องนี้ โดยกล่าวหาฮามาสละเมิดเงื่อนไขในข้อตกลง . อย่างไรก็ดี ถึงตอนค่ำวันเดียวกัน สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลแถลงว่า สามารถตกลงกับฮามาสได้แล้ว โดยฮามาสจะปล่อย อาร์เบล เยฮุด ตัวประกันที่เป็นพลเรือนหญิงที่เดิมคาดว่า จะได้รับการปล่อยตัวตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมกับตัวประกันอีก 3 คนในวันพฤหัสฯ (30) และปล่อยเพิ่มอีก 3 คนในวันเสาร์ (1 ก.พ.) . คำแถลงยังระบุว่า อิสราเอลจะอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์เดินทางได้ตั้งแต่เช้าวันจันทร์ ซึ่งฮามาสระบุว่าเป็น “ชัยชนะสำหรับชาวปาเลสไตน์ และสัญญาณความล้มเหลวของแผนการยึดครองและบังคับย้ายถิ่นฐาน” . สำหรับคำแนะนำของทรัมป์นั้น อยู่ในลักษณะของการที่เขาเสนอไอเดียกับพวกผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางบนเครื่องบินประจำตำแหน่งแอร์ฟอร์ซ วัน เมื่อวันเสาร์ (25) ว่า จอร์แดนและอียิปต์ ควรอ้าแขนรับชาวปาเลสไตน์ราว 2.4 ล้านคนจากกาซาที่พังพินาศจากสงครามที่ทำให้ประชาชนนับหมื่นเสียชีวิตและนำไปสู่วิกฤตมนุษยธรรมเลวร้าย . ประมุขทำเนียบขาวเสริมว่า จะดึงชาติอาหรับบางชาติเข้ามามีส่วนร่วม และสร้างที่พักอาศัยเพื่อให้ชาวปาเลสไตน์ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ ก่อนสำทับว่า แนวทางนี้อาจเป็นได้ทั้งแนวทางชั่วคราวหรือถาวร . ปัจจุบัน จอร์แดนรองรับชาวปาเลสไตน์หลายล้านคนอยู่แล้ว ขณะที่มีชาวปาเลสไตน์อีกหลายหมื่นคนอาศัยอยู่ในอียิปต์ อย่างไรก็ดี ทั้งสองประเทศรวมถึงชาติอาหรับอื่นๆ ต่างปฏิเสธแนวคิดในการย้ายชาวปาเลสไตน์จากฉนวนกาซาไปยังประเทศอื่นๆ ขณะเดียวกันชาวปาเลสไตน์ก็ต้องการให้กาซาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต . ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ก็แสดงท่าทีคัดค้านแนวคิดดังกล่าว ทางด้าน เบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลังอิสราเอลที่สังกัดพรรคขวาจัด บอกว่า “การคิดนอกกรอบ” เท่านั้นที่จะทำให้เกิดสันติภาพได้จริง และกล่าวยกย่องข้อเสนอของทรัมป์เป็น “ไอเดียเยี่ยมยอด” ซึ่งจะทำให้ชาวปาเลสไตน์มีโอกาสสร้างชีวิตใหม่ที่ดีขึ้นในประเทศอื่น พร้อมเสริมว่า จะวางแผนเพื่อดำเนินการตามข้อเสนอนี้ . สำหรับ ฟรานเชสกา อัลบานีส ผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ว่า การกวาดล้างเผ่าพันธุ์ก็เป็นการคิดนอกกรอบ ซึ่งไม่ว่าจะด้วยรูปแบบไหนก็ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม และไร้ความรับผิดชอบ . บาเซม นาอิม สมาชิกกลุ่มการเมืองของฮามาส ยืนกรานว่า ชาวปาเลสไตน์ไม่มีวันยอมรับข้อเสนอของทรัมป์ที่ดูเหมือนเจตนาดีภายใต้ข้ออ้างในการฟื้นฟูกาซา ขณะที่ซามี อาบู ซูฮ์รี เจ้าหน้าที่อีกคน เรียกร้องทรัมป์ไม่ให้เสนอไอเดียผิดพลาดแบบที่อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน เคยพยายามมาก่อน . สันนิบาตอาหรับคัดค้านไอเดียของทรัมป์เช่นเดียวกัน โดยเตือนว่า ความพยายามบังคับให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกจากถิ่นฐานเท่ากับเป็นการกวาดล้างเผ่าพันธุ์ . อัยมาน ซาฟาดี รัฐมนตรีต่างประเทศจอร์แดน รวมทั้งกระทรวงต่างประเทศอียิปต์ ยืนยันจุดยืนในการต่อต้านการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาไม่ว่าระยะยาวหรือระยะสั้น . ประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาสของปาเลสไตน์ที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก ประณามไอเดียของทรัมป์ และประกาศว่า ชาวปาเลสไตน์จะไม่ยอมทิ้งบ้านเกิดอย่างแน่นอน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008688 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 759 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอิสราเอล "เบซาเลล สโมทริช" เรียกร้องให้มีการแต่งตั้งผู้ที่จะเข้าดำเนินการบุกยึดฉนวนกาซาอย่างเปบ็ดเสร็จเด็ดขาด แลำกำจัดฮามาสให้สิ้นซาก!

    “ตอนนี้เราต้องแต่งตั้งเสนาธิการฝ่ายรุกซึ่งจะปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้อย่างชัดเจนและครบถ้วนโดยไม่ลังเลในภารกิจที่จะได้รับการกำหนดใหม่โดยผู้นำทางการเมือง นั่นคือการยึดครองฉนวนกาซาและป้องกันไม่ให้ฮามาสควบคุมความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม”
    รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอิสราเอล "เบซาเลล สโมทริช" เรียกร้องให้มีการแต่งตั้งผู้ที่จะเข้าดำเนินการบุกยึดฉนวนกาซาอย่างเปบ็ดเสร็จเด็ดขาด แลำกำจัดฮามาสให้สิ้นซาก! “ตอนนี้เราต้องแต่งตั้งเสนาธิการฝ่ายรุกซึ่งจะปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้อย่างชัดเจนและครบถ้วนโดยไม่ลังเลในภารกิจที่จะได้รับการกำหนดใหม่โดยผู้นำทางการเมือง นั่นคือการยึดครองฉนวนกาซาและป้องกันไม่ให้ฮามาสควบคุมความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม”
    Like
    1
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ทะยอยเดินทางกลับบ้านของตนเอง แม้ว่าปลายทางจะไม่มีแม้เศษซากของที่พักพวกเขา ซึ่งเป็นผลจากการทำลายอย่างบ้าคลั่งของกองกำลังอิสราเอล

    นักข่าวถามชาวปาเลสไตน์ที่กำลังอพยพกลับไปยังถิ่นฐานตนเองว่า สิ่งแรกที่พวกเขาจะทำเมื่อไปถึงคืออะไร

    ชาวปาเลสไตน์รายหนึ่งกล่าวว่า เขาจะก้มลงจูบพื้นดินและมองหาบ้านของตัวเอง ส่วนอีกคนหนึ่งกล่าวว่า จะตะโกนร้องด้วยความดีใจอย่างหนัก แท้มันจะไม่เหลืออะไรแล้ว จากนั้นจะกางเต็นท์บนซากปรักหักพังของบ้านของตนเอง

    ทางด้าน อิตามาร์ เบน-กวีร์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอล กล่าวว่า

    “นี่ไม่ใช่ชัยชนะของอิสราเอล แต่เป็นพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง การเปิดทางเดินเนทซาริม (Netzarim) เมื่อเช้านี้ และการที่ชาวกาซาหลายหมื่นคนเข้าไปในฉนวนกาซาทางตอนเหนือเป็นภาพแห่งชัยชนะของกลุ่มฮามาส และเป็นสิ่งที่น่าอับอายอีกส่วนหนึ่งของการยอมรับข้อตกลงหยุดยิง”
    ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ทะยอยเดินทางกลับบ้านของตนเอง แม้ว่าปลายทางจะไม่มีแม้เศษซากของที่พักพวกเขา ซึ่งเป็นผลจากการทำลายอย่างบ้าคลั่งของกองกำลังอิสราเอล นักข่าวถามชาวปาเลสไตน์ที่กำลังอพยพกลับไปยังถิ่นฐานตนเองว่า สิ่งแรกที่พวกเขาจะทำเมื่อไปถึงคืออะไร ชาวปาเลสไตน์รายหนึ่งกล่าวว่า เขาจะก้มลงจูบพื้นดินและมองหาบ้านของตัวเอง ส่วนอีกคนหนึ่งกล่าวว่า จะตะโกนร้องด้วยความดีใจอย่างหนัก แท้มันจะไม่เหลืออะไรแล้ว จากนั้นจะกางเต็นท์บนซากปรักหักพังของบ้านของตนเอง ทางด้าน อิตามาร์ เบน-กวีร์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอล กล่าวว่า “นี่ไม่ใช่ชัยชนะของอิสราเอล แต่เป็นพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง การเปิดทางเดินเนทซาริม (Netzarim) เมื่อเช้านี้ และการที่ชาวกาซาหลายหมื่นคนเข้าไปในฉนวนกาซาทางตอนเหนือเป็นภาพแห่งชัยชนะของกลุ่มฮามาส และเป็นสิ่งที่น่าอับอายอีกส่วนหนึ่งของการยอมรับข้อตกลงหยุดยิง”
    Like
    2
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซามิ อาบู ซูห์รี (Sami Abu Zuhri) ผู้นำกลุ่มฮามาส ตอบโต้ทรัมป์กรณีแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกนอกกาซา

    "ชาวกาซาต้องทนทุกข์ทรมานจากความตายหลังจากพวกเขาถูกกดันให้ย้ายถิ่นฐานออกจากบ้านเกิดเมืองนอน พวกเขาจะไม่จากไปไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด

    ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปกับโครงการต่างๆ เพราะไบเดนเคยพยายามทำมาหมดแล้ว และนั่นมีแต่จะทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อออกไปอีก

    การปฏิบัติตามและรักษาข้อตกลงก็เพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาของกาซาได้แล้ว ส่วนความพยายามอื่นๆไม่มีค่าอะไรทั้งสิ้น"
    ซามิ อาบู ซูห์รี (Sami Abu Zuhri) ผู้นำกลุ่มฮามาส ตอบโต้ทรัมป์กรณีแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกนอกกาซา "ชาวกาซาต้องทนทุกข์ทรมานจากความตายหลังจากพวกเขาถูกกดันให้ย้ายถิ่นฐานออกจากบ้านเกิดเมืองนอน พวกเขาจะไม่จากไปไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปกับโครงการต่างๆ เพราะไบเดนเคยพยายามทำมาหมดแล้ว และนั่นมีแต่จะทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อออกไปอีก การปฏิบัติตามและรักษาข้อตกลงก็เพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาของกาซาได้แล้ว ส่วนความพยายามอื่นๆไม่มีค่าอะไรทั้งสิ้น"
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารหญิงอิสราเอลทั้งสี่รายที่ได้รับการปล่อยตัวจากกลุ่มฮามาสในวันนี้ซึ่งประกอบไปด้วย :
    - Karina Araiv
    - Daniella Gilboa
    - Naama Levy
    - Liri Albag

    พวกเธอพูดเป็นภาษาอาหรับเพื่อขอบคุณกลุ่มฮามาสที่ปกป้องพวกเธอจากการโจมตีของอิสราเอล และยังบอกอีกว่าพวกเธอได้รับการปฏิบัติอย่างดี มีอาหาร น้ำ และเสื้อผ้าให้ด้วย

    “ขอสันติภาพจงมีแด่คุณ สวัสดี ขอบคุณกองพลกัสซัมที่ปฏิบัติต่อเราอย่างดี”

    “ขอบคุณสำหรับอาหาร น้ำ และเสื้อผ้า”

    “ขอบคุณสำหรับผู้ชายที่ปกป้องและดูแลเราในระหว่างการโจมตี”

    “ฉันหวังว่าวันนี้จะเป็นวันที่ดีสำหรับคุณ และเป็นวันที่ดีที่สุด”
    ทหารหญิงอิสราเอลทั้งสี่รายที่ได้รับการปล่อยตัวจากกลุ่มฮามาสในวันนี้ซึ่งประกอบไปด้วย : - Karina Araiv - Daniella Gilboa - Naama Levy - Liri Albag พวกเธอพูดเป็นภาษาอาหรับเพื่อขอบคุณกลุ่มฮามาสที่ปกป้องพวกเธอจากการโจมตีของอิสราเอล และยังบอกอีกว่าพวกเธอได้รับการปฏิบัติอย่างดี มีอาหาร น้ำ และเสื้อผ้าให้ด้วย “ขอสันติภาพจงมีแด่คุณ สวัสดี ขอบคุณกองพลกัสซัมที่ปฏิบัติต่อเราอย่างดี” “ขอบคุณสำหรับอาหาร น้ำ และเสื้อผ้า” “ขอบคุณสำหรับผู้ชายที่ปกป้องและดูแลเราในระหว่างการโจมตี” “ฉันหวังว่าวันนี้จะเป็นวันที่ดีสำหรับคุณ และเป็นวันที่ดีที่สุด”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 37 0 รีวิว
  • หลังการแลกเปลี่ยนตัวประกัน กองกำลังอิสราเอลออกมากล่าวหาฮามาสว่า ละเมิดข้อตกลงโดยการปล่อยทหารหญิงก่อนผู้หญิงพลเรือน

    ‘ฮามาสไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีในข้อตกลงที่ต้องปล่อยผู้หญิงพลเรือนก่อน’ — โฆษกกองกำลังอิสราเอล
    หลังการแลกเปลี่ยนตัวประกัน กองกำลังอิสราเอลออกมากล่าวหาฮามาสว่า ละเมิดข้อตกลงโดยการปล่อยทหารหญิงก่อนผู้หญิงพลเรือน ‘ฮามาสไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีในข้อตกลงที่ต้องปล่อยผู้หญิงพลเรือนก่อน’ — โฆษกกองกำลังอิสราเอล
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้มีการแลกเปลี่ยนตัวประกันครั้งที่ 2 จากกลุ่มฮามาส โดยการปล่อยตัวทหารหญิงอิสราเอล 4 ราย ที่ถูกจับกุมตัวได้ในกาซา แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ 120 ราย ที่อิสราเอลต้องปล่อยตัวผ่านกาชาดสากล
    แบ่งเป็น:
    - นักโทษจำคุกตลอดชีวิตของกลุ่มฮามาส 81 ราย
    - นักโทษจำคุกตลอดชีวิตของกลุ่ม PIJ 23 ราย
    - นักโทษจำคุกตลอดชีวิตของกลุ่ม Fatah 13 ราย
    - นักโทษจำคุกตลอดชีวิตของกลุ่ม PFLP 2 ราย
    - นักโทษจำคุกตลอดชีวิตของกลุ่ม DFLP 1 ราย

    แต่การส่งมอบตัวประกันครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนคือ:
    กลุ่มฮามาสมีการจัดเตรียมเวทีพร้อมป้ายเป็นภาษาฮีบรู "הציונות לא תנציח" ที่แปลว่า "ลัทธิไซออนิสต์จะไม่คงอยู่ตลอดไป" และยังนำรูปภาพของผู้นำอิสราเอลไปวางบนพื้นด้านล่างเวทีอีกด้วย
    วันนี้มีการแลกเปลี่ยนตัวประกันครั้งที่ 2 จากกลุ่มฮามาส โดยการปล่อยตัวทหารหญิงอิสราเอล 4 ราย ที่ถูกจับกุมตัวได้ในกาซา แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ 120 ราย ที่อิสราเอลต้องปล่อยตัวผ่านกาชาดสากล แบ่งเป็น: - นักโทษจำคุกตลอดชีวิตของกลุ่มฮามาส 81 ราย - นักโทษจำคุกตลอดชีวิตของกลุ่ม PIJ 23 ราย - นักโทษจำคุกตลอดชีวิตของกลุ่ม Fatah 13 ราย - นักโทษจำคุกตลอดชีวิตของกลุ่ม PFLP 2 ราย - นักโทษจำคุกตลอดชีวิตของกลุ่ม DFLP 1 ราย แต่การส่งมอบตัวประกันครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนคือ: กลุ่มฮามาสมีการจัดเตรียมเวทีพร้อมป้ายเป็นภาษาฮีบรู "הציונות לא תנציח" ที่แปลว่า "ลัทธิไซออนิสต์จะไม่คงอยู่ตลอดไป" และยังนำรูปภาพของผู้นำอิสราเอลไปวางบนพื้นด้านล่างเวทีอีกด้วย
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพความย่อยยับในพื้นที่ค่ายผู้ลี้ภัย Jabaliya ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ที่เกิดจากฝีมือการทำลายล้างของอิสราเอล

    อิสราเอลอ้างว่าการทิ้งระเบิดในพื้นที่แห่งนี้ เพื่อทำลายสมาชิกฮามาส แต่จากสภาพที่เห็น นี่คือการทิ้งระเบิดปูพรมเพื่อไม่ต้องการให้สิ่งใดหลงเหลืออีกต่อไป เกินกว่าข้ออ้างการทำลายกลุ่มฮามาส
    ภาพความย่อยยับในพื้นที่ค่ายผู้ลี้ภัย Jabaliya ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา ที่เกิดจากฝีมือการทำลายล้างของอิสราเอล อิสราเอลอ้างว่าการทิ้งระเบิดในพื้นที่แห่งนี้ เพื่อทำลายสมาชิกฮามาส แต่จากสภาพที่เห็น นี่คือการทิ้งระเบิดปูพรมเพื่อไม่ต้องการให้สิ่งใดหลงเหลืออีกต่อไป เกินกว่าข้ออ้างการทำลายกลุ่มฮามาส
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 287 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • 2/
    มีรายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์ มอบหมายให้ "สตีฟ วิทคอฟฟ์" (Steve Witkoff) ผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของเขา เข้าทำหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงเพื่อเจรจาด้านการทูตกับอิหร่าน "เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจอย่างมากต่ออิสราเอล!"

    ตำแหน่งผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของ สตีฟ วิทคอฟฟ์ นับว่าสำคัญที่สุด เนื่องจากเป็นผู้กำหนดและดำเนินการตามนโยบายของทรัมป์ในภูมิภาคนี้

    คาดว่าทรัมป์จะมอบความรับผิดชอบให้กับสตีฟ วิทคอฟฟ์ในการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน

    เป็นที่ทราบกันดีว่าวิทคอฟฟ์ เน้นเรื่องการเจรจาทางการทูต มากกว่าการใช้กำลังทางทหาร นี่จึงเป็นสาเหตุที่อิสราเอลไม่พอใจ เพราะหากไม่มีความขัดแย้ง เป้าหมายของแอสราเอลจะไม่มีทางบรรลุผล

    ที่ผ่านมาวิทคอฟฟ์เป็นตัวแทนของทรัมป์เข้าทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเจาจาข้อตกลงหยุดยิงในกาซา รวมทั้งติดตามผลของข้อตกลงหยุดยิงนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้อิสราเอลทำตามอย่างแข็งขันอีกด้วย

    เขาเป็นคนเดียวที่คัดค้านนโยบายการแทรกแซงอิหร่านเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง

    (วิดีโอ1) สตีฟ วิทคอฟฟ์ เคยพูดถึงหลักการ 4 ประการเพื่อเป็นแนวทางให้รัฐบาลของทรัมป์ปฏิบัติต่อตะวันออกกลาง:
    1. เคารพในอำนาจอธิปไตย
    2. ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจเป็นสะพานเชื่อมสู่เสถียรภาพ
    3. เน้นดำเนินโยบายทางด้านการทูต
    4. “การตอบสนองและความรับผิดชอบ” สหรัฐอเมริกาต้องการเห็นการตอบสนองจากพันธมิตร หลังจากแสวงหาผลประโยชน์จากสหรัฐมาอย่างยาวนาน ยุคของเช็คเปล่าสิ้นสุดลงแล้ว ความร่วมมือต้องยุติธรรม และการสนับสนุนต้องสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันต่อเป้าหมายของทุกฝ่าย

    หลายฝ่ายเชื่อว่า สิ่งที่วิทคอฟฟ์พูดนี้ เป็นการส่งข้อความถึงอิสราเอล

    (วิดีโอ2) ล่าสุด สตีฟ วิทคอฟฟ์ เพิ่งให้สัมภาษณกับ Fox News เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นของเขาที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระยะที่สองในกาซา และเปิดกว้างในการบรรลุ "ความเข้าใจในทุกเรื่อง" กับกลุ่มฮามาส (แน่นอนว่าเพิ่มความไม่พอใจให้กับอิสราเอล)
    บางส่วนในการสัมภาษณ์:
    🔸 “เราต้องแน่ใจว่าข้อตกลงหยุดยิงดำเนินการไปด้วยดี เพราะมันจะทำให้เราจะเข้าสู่ระยะที่สอง ซึ่งมันจะช่วยรักษาชีวิตผู้คนอีกมาก
    🔸 “ผมกำลังจะไปอิสราเอล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทีมตรวจสอบทางเดินเน็ตซาริม (Netzarim corridor) และที่ทางเดินฟิลาเดลเฟีย (Philadelphi corridor) ด้วย”
    🔸 มูซา อาบู มาร์ซุก เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาส กล่าวกับนิวยอร์กไทมส์เมื่อไม่นานนี้ว่า กลุ่มฮามาสพร้อมที่จะเจรจากับรัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่ หากเรื่องนี้เป็นความจริง ถือเป็นเรื่อง “ดี”
    🔸 วิตคอฟฟ์เชื่อว่าทุกประเทศในภูมิภาคนี้สามารถตกลงเจรจาพูดคุยกันได้
    2/ มีรายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์ มอบหมายให้ "สตีฟ วิทคอฟฟ์" (Steve Witkoff) ผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของเขา เข้าทำหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงเพื่อเจรจาด้านการทูตกับอิหร่าน "เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจอย่างมากต่ออิสราเอล!" ตำแหน่งผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของ สตีฟ วิทคอฟฟ์ นับว่าสำคัญที่สุด เนื่องจากเป็นผู้กำหนดและดำเนินการตามนโยบายของทรัมป์ในภูมิภาคนี้ คาดว่าทรัมป์จะมอบความรับผิดชอบให้กับสตีฟ วิทคอฟฟ์ในการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน เป็นที่ทราบกันดีว่าวิทคอฟฟ์ เน้นเรื่องการเจรจาทางการทูต มากกว่าการใช้กำลังทางทหาร นี่จึงเป็นสาเหตุที่อิสราเอลไม่พอใจ เพราะหากไม่มีความขัดแย้ง เป้าหมายของแอสราเอลจะไม่มีทางบรรลุผล ที่ผ่านมาวิทคอฟฟ์เป็นตัวแทนของทรัมป์เข้าทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเจาจาข้อตกลงหยุดยิงในกาซา รวมทั้งติดตามผลของข้อตกลงหยุดยิงนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้อิสราเอลทำตามอย่างแข็งขันอีกด้วย เขาเป็นคนเดียวที่คัดค้านนโยบายการแทรกแซงอิหร่านเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง (วิดีโอ1) สตีฟ วิทคอฟฟ์ เคยพูดถึงหลักการ 4 ประการเพื่อเป็นแนวทางให้รัฐบาลของทรัมป์ปฏิบัติต่อตะวันออกกลาง: 1. เคารพในอำนาจอธิปไตย 2. ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจเป็นสะพานเชื่อมสู่เสถียรภาพ 3. เน้นดำเนินโยบายทางด้านการทูต 4. “การตอบสนองและความรับผิดชอบ” สหรัฐอเมริกาต้องการเห็นการตอบสนองจากพันธมิตร หลังจากแสวงหาผลประโยชน์จากสหรัฐมาอย่างยาวนาน ยุคของเช็คเปล่าสิ้นสุดลงแล้ว ความร่วมมือต้องยุติธรรม และการสนับสนุนต้องสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันต่อเป้าหมายของทุกฝ่าย หลายฝ่ายเชื่อว่า สิ่งที่วิทคอฟฟ์พูดนี้ เป็นการส่งข้อความถึงอิสราเอล (วิดีโอ2) ล่าสุด สตีฟ วิทคอฟฟ์ เพิ่งให้สัมภาษณกับ Fox News เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นของเขาที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระยะที่สองในกาซา และเปิดกว้างในการบรรลุ "ความเข้าใจในทุกเรื่อง" กับกลุ่มฮามาส (แน่นอนว่าเพิ่มความไม่พอใจให้กับอิสราเอล) บางส่วนในการสัมภาษณ์: 🔸 “เราต้องแน่ใจว่าข้อตกลงหยุดยิงดำเนินการไปด้วยดี เพราะมันจะทำให้เราจะเข้าสู่ระยะที่สอง ซึ่งมันจะช่วยรักษาชีวิตผู้คนอีกมาก 🔸 “ผมกำลังจะไปอิสราเอล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทีมตรวจสอบทางเดินเน็ตซาริม (Netzarim corridor) และที่ทางเดินฟิลาเดลเฟีย (Philadelphi corridor) ด้วย” 🔸 มูซา อาบู มาร์ซุก เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาส กล่าวกับนิวยอร์กไทมส์เมื่อไม่นานนี้ว่า กลุ่มฮามาสพร้อมที่จะเจรจากับรัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่ หากเรื่องนี้เป็นความจริง ถือเป็นเรื่อง “ดี” 🔸 วิตคอฟฟ์เชื่อว่าทุกประเทศในภูมิภาคนี้สามารถตกลงเจรจาพูดคุยกันได้
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 344 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • 1/
    มีรายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์ มอบหมายให้ "สตีฟ วิทคอฟฟ์" (Steve Witkoff) ผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของเขา เข้าทำหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงเพื่อเจรจาด้านการทูตกับอิหร่าน "เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจอย่างมากต่ออิสราเอล!"

    ตำแหน่งผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของ สตีฟ วิทคอฟฟ์ นับว่าสำคัญที่สุด เนื่องจากเป็นผู้กำหนดและดำเนินการตามนโยบายของทรัมป์ในภูมิภาคนี้

    คาดว่าทรัมป์จะมอบความรับผิดชอบให้กับสตีฟ วิทคอฟฟ์ในการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน

    เป็นที่ทราบกันดีว่าวิทคอฟฟ์ เน้นเรื่องการเจรจาทางการทูต มากกว่าการใช้กำลังทางทหาร นี่จึงเป็นสาเหตุที่อิสราเอลไม่พอใจ เพราะหากไม่มีความขัดแย้ง เป้าหมายของแอสราเอลจะไม่มีทางบรรลุผล

    ที่ผ่านมาวิทคอฟฟ์เป็นตัวแทนของทรัมป์เข้าทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเจาจาข้อตกลงหยุดยิงในกาซา รวมทั้งติดตามผลของข้อตกลงหยุดยิงนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้อิสราเอลทำตามอย่างแข็งขันอีกด้วย

    เขาเป็นคนเดียวที่คัดค้านนโยบายการแทรกแซงอิหร่านเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง

    (วิดีโอ1) สตีฟ วิทคอฟฟ์ เคยพูดถึงหลักการ 4 ประการเพื่อเป็นแนวทางให้รัฐบาลของทรัมป์ปฏิบัติต่อตะวันออกกลาง:
    1. เคารพในอำนาจอธิปไตย
    2. ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจเป็นสะพานเชื่อมสู่เสถียรภาพ
    3. เน้นดำเนินโยบายทางด้านการทูต
    4. “การตอบสนองและความรับผิดชอบ” สหรัฐอเมริกาต้องการเห็นการตอบสนองจากพันธมิตร หลังจากแสวงหาผลประโยชน์จากสหรัฐมาอย่างยาวนาน ยุคของเช็คเปล่าสิ้นสุดลงแล้ว ความร่วมมือต้องยุติธรรม และการสนับสนุนต้องสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันต่อเป้าหมายของทุกฝ่าย

    หลายฝ่ายเชื่อว่า สิ่งที่วิทคอฟฟ์พูดนี้ เป็นการส่งข้อความถึงอิสราเอล

    (วิดีโอ2) ล่าสุด สตีฟ วิทคอฟฟ์ เพิ่งให้สัมภาษณกับ Fox News เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นของเขาที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระยะที่สองในกาซา และเปิดกว้างในการบรรลุ "ความเข้าใจในทุกเรื่อง" กับกลุ่มฮามาส (แน่นอนว่าเพิ่มความไม่พอใจให้กับอิสราเอล)
    บางส่วนในการสัมภาษณ์:
    🔸 “เราต้องแน่ใจว่าข้อตกลงหยุดยิงดำเนินการไปด้วยดี เพราะมันจะทำให้เราจะเข้าสู่ระยะที่สอง ซึ่งมันจะช่วยรักษาชีวิตผู้คนอีกมาก
    🔸 “ผมกำลังจะไปอิสราเอล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทีมตรวจสอบทางเดินเน็ตซาริม (Netzarim corridor) และที่ทางเดินฟิลาเดลเฟีย (Philadelphi corridor) ด้วย”
    🔸 มูซา อาบู มาร์ซุก เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาส กล่าวกับนิวยอร์กไทมส์เมื่อไม่นานนี้ว่า กลุ่มฮามาสพร้อมที่จะเจรจากับรัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่ หากเรื่องนี้เป็นความจริง ถือเป็นเรื่อง “ดี”
    🔸 วิตคอฟฟ์เชื่อว่าทุกประเทศในภูมิภาคนี้สามารถตกลงเจรจาพูดคุยกันได้
    1/ มีรายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์ มอบหมายให้ "สตีฟ วิทคอฟฟ์" (Steve Witkoff) ผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของเขา เข้าทำหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงเพื่อเจรจาด้านการทูตกับอิหร่าน "เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจอย่างมากต่ออิสราเอล!" ตำแหน่งผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของ สตีฟ วิทคอฟฟ์ นับว่าสำคัญที่สุด เนื่องจากเป็นผู้กำหนดและดำเนินการตามนโยบายของทรัมป์ในภูมิภาคนี้ คาดว่าทรัมป์จะมอบความรับผิดชอบให้กับสตีฟ วิทคอฟฟ์ในการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน เป็นที่ทราบกันดีว่าวิทคอฟฟ์ เน้นเรื่องการเจรจาทางการทูต มากกว่าการใช้กำลังทางทหาร นี่จึงเป็นสาเหตุที่อิสราเอลไม่พอใจ เพราะหากไม่มีความขัดแย้ง เป้าหมายของแอสราเอลจะไม่มีทางบรรลุผล ที่ผ่านมาวิทคอฟฟ์เป็นตัวแทนของทรัมป์เข้าทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเจาจาข้อตกลงหยุดยิงในกาซา รวมทั้งติดตามผลของข้อตกลงหยุดยิงนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้อิสราเอลทำตามอย่างแข็งขันอีกด้วย เขาเป็นคนเดียวที่คัดค้านนโยบายการแทรกแซงอิหร่านเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง (วิดีโอ1) สตีฟ วิทคอฟฟ์ เคยพูดถึงหลักการ 4 ประการเพื่อเป็นแนวทางให้รัฐบาลของทรัมป์ปฏิบัติต่อตะวันออกกลาง: 1. เคารพในอำนาจอธิปไตย 2. ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจเป็นสะพานเชื่อมสู่เสถียรภาพ 3. เน้นดำเนินโยบายทางด้านการทูต 4. “การตอบสนองและความรับผิดชอบ” สหรัฐอเมริกาต้องการเห็นการตอบสนองจากพันธมิตร หลังจากแสวงหาผลประโยชน์จากสหรัฐมาอย่างยาวนาน ยุคของเช็คเปล่าสิ้นสุดลงแล้ว ความร่วมมือต้องยุติธรรม และการสนับสนุนต้องสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันต่อเป้าหมายของทุกฝ่าย หลายฝ่ายเชื่อว่า สิ่งที่วิทคอฟฟ์พูดนี้ เป็นการส่งข้อความถึงอิสราเอล (วิดีโอ2) ล่าสุด สตีฟ วิทคอฟฟ์ เพิ่งให้สัมภาษณกับ Fox News เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นของเขาที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระยะที่สองในกาซา และเปิดกว้างในการบรรลุ "ความเข้าใจในทุกเรื่อง" กับกลุ่มฮามาส (แน่นอนว่าเพิ่มความไม่พอใจให้กับอิสราเอล) บางส่วนในการสัมภาษณ์: 🔸 “เราต้องแน่ใจว่าข้อตกลงหยุดยิงดำเนินการไปด้วยดี เพราะมันจะทำให้เราจะเข้าสู่ระยะที่สอง ซึ่งมันจะช่วยรักษาชีวิตผู้คนอีกมาก 🔸 “ผมกำลังจะไปอิสราเอล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทีมตรวจสอบทางเดินเน็ตซาริม (Netzarim corridor) และที่ทางเดินฟิลาเดลเฟีย (Philadelphi corridor) ด้วย” 🔸 มูซา อาบู มาร์ซุก เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาส กล่าวกับนิวยอร์กไทมส์เมื่อไม่นานนี้ว่า กลุ่มฮามาสพร้อมที่จะเจรจากับรัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่ หากเรื่องนี้เป็นความจริง ถือเป็นเรื่อง “ดี” 🔸 วิตคอฟฟ์เชื่อว่าทุกประเทศในภูมิภาคนี้สามารถตกลงเจรจาพูดคุยกันได้
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานไปทั่วว่าทีมของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังวางแผนย้ายชาวปาเลสไตน์ร่วม 2 ล้านคนไปที่ “อินโดนีเซีย” ชั่วคราวระหว่างเขตฉนวนกาซากำลังซ่อมใหม่เพื่อบูรณะ ส.ส. อินโดนีเซียวันอังคาร (21 ม.ค.) ไม่พอใจชี้ ไม่ใช่ธุระของทรัมป์แต่เป็นของประชาชนปาเลสไตน์ หลังรัฐบาลนายกรัฐมนตรีปราโบโว ซูเบียนโต เพิ่งออกมารับรอง จากาตาร์จะไม่ทอดทิ้งปาเลสไตน์
    .
    มิดเดิลอีสต์มอนิเตอร์รายงานวันจันทร์ (20 ม.ค.) ว่า มีรายงานออกมาจากสื่อ NBC News ของสหรัฐฯ ในวันเสาร์ (18) ว่า ทีมของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เพิ่งเข้าพิธีสาบานตัวในวันจันทร์ (20) และกลายเป็นผู้นำคนที่ 47 ของอเมริกา กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาในการย้ายประชาชนปาเลสไตน์รวม 2 ล้านคนจากเขตฉนวนกาซาในตะวันออกกลางมาที่ “อินโดนีเซีย” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระหว่างที่กาซากำลังอยู่ระหว่างการบูรณะสร้างใหม่
    .
    ทั้งนี้ สื่ออเมริกันได้อ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ทีมเปลี่ยนผ่านอำนาจของทรัมป์ที่ไม่เปิดเผยชื่อกล่าวว่า “อินโดนีเซีย” ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกพิจารณาในการเป็นที่พักพิงของผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ร่วม 2 ล้านคน
    .
    และนอกจากนี้ NBC News ยังรายงานว่า ทูตพิเศษตะวันออกกลางของทรัมป์ สตีฟ วิตต์คอฟฟ์ (Steve Witkoff) กำลังพิจารณาการเดินทางไปเยือนกาซา เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการรักษาข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอล-ฮามาสให้ยังคงอยู่
    .
    แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ทีมทรัมป์กล่าวว่า “คุณต้องเห็นมัน คุณต้องรู้สึกมัน” และชี้ว่า
    .
    “การทำเช่นนั้นจะเปิดโอกาสให้ทูตพิเศษของทรัมป์สามารถเห็นไดนามิกความเคลื่อนไหวในพื้นที่ด้วยตาตัวเองมากกว่าได้มาจากคำพูดของอิสราเอล”
    .
    ทั้งนี้ วิตต์คอฟฟ์กำลังทำงานเพื่อทำให้ประสบสำเร็จต่อเสถียรภาพระยะยาวของชาวอิสราเอลและประชาชนปาเลสไตน์อีก 2 ล้านคน ซึ่งเขาได้พบกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ถือเป็นจุดสำคัญทำให้ข้อตกลงหยุดยิงสามารถบรรลุ
    .
    อย่างไรก็ตาม ข่าวการย้ายชาวปาเลสไตน์ร่วม 2 ล้านคนมาที่อินโดนีเซียตามข้อเสนอของทีมทรัมป์ทำให้นักการเมืองอิเหนาไม่พอใจ
    .
    เรดิโอรีพับลิกอินโดนีเซียรายงานว่า ส.ส. มาร์ดานี อาลี ซีรา (Mardani Ali Sera) ได้ออกมาตอบโต้ข่าวข้อเสนอย้ายว่า การโยกย้ายชาวปาเลสไตน์ไม่ใช่กิจธุระของทรัมป์ แต่เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของชาวปาเลสไตน์ในการตัดสินอนาคตตัวเอง
    .
    “มันขึ้นอยู่กับประชาชนกาซา มันไม่ใช่กิจธุระของทรัมป์” เขากล่าว
    .
    มาร์ดานีซึ่งดำรงตำแหน่งผู้นำองค์กรความร่วมมือระหว่างรัฐสภา BKSAP กล่าวเสริมว่า ชาวปาเลสไตน์นั้นไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์ที่จะสามารถย้ายไปง่ายๆ ได้
    .
    และยังย้ำต่อพันธสัญญาของอินโดนีเซียในการสนับสนุนการเป็นอิสรภาพของปาเลสไตน์จากอิสราเอลผู้ยึดครอง สอดคล้องกับการออกมายืนยันของรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียที่ก่อนหน้ายืนยัน อ้างอิงจาก อันตาราของอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ว่ารัฐบาลจากาตาร์จะไม่มีวันทอดทิ้งชาวปาเลสไตน์ไว้เบื้องหลัง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006998
    ..............
    Sondhi X
    มีรายงานไปทั่วว่าทีมของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังวางแผนย้ายชาวปาเลสไตน์ร่วม 2 ล้านคนไปที่ “อินโดนีเซีย” ชั่วคราวระหว่างเขตฉนวนกาซากำลังซ่อมใหม่เพื่อบูรณะ ส.ส. อินโดนีเซียวันอังคาร (21 ม.ค.) ไม่พอใจชี้ ไม่ใช่ธุระของทรัมป์แต่เป็นของประชาชนปาเลสไตน์ หลังรัฐบาลนายกรัฐมนตรีปราโบโว ซูเบียนโต เพิ่งออกมารับรอง จากาตาร์จะไม่ทอดทิ้งปาเลสไตน์ . มิดเดิลอีสต์มอนิเตอร์รายงานวันจันทร์ (20 ม.ค.) ว่า มีรายงานออกมาจากสื่อ NBC News ของสหรัฐฯ ในวันเสาร์ (18) ว่า ทีมของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เพิ่งเข้าพิธีสาบานตัวในวันจันทร์ (20) และกลายเป็นผู้นำคนที่ 47 ของอเมริกา กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาในการย้ายประชาชนปาเลสไตน์รวม 2 ล้านคนจากเขตฉนวนกาซาในตะวันออกกลางมาที่ “อินโดนีเซีย” ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระหว่างที่กาซากำลังอยู่ระหว่างการบูรณะสร้างใหม่ . ทั้งนี้ สื่ออเมริกันได้อ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ทีมเปลี่ยนผ่านอำนาจของทรัมป์ที่ไม่เปิดเผยชื่อกล่าวว่า “อินโดนีเซีย” ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกพิจารณาในการเป็นที่พักพิงของผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ร่วม 2 ล้านคน . และนอกจากนี้ NBC News ยังรายงานว่า ทูตพิเศษตะวันออกกลางของทรัมป์ สตีฟ วิตต์คอฟฟ์ (Steve Witkoff) กำลังพิจารณาการเดินทางไปเยือนกาซา เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการรักษาข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอล-ฮามาสให้ยังคงอยู่ . แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ทีมทรัมป์กล่าวว่า “คุณต้องเห็นมัน คุณต้องรู้สึกมัน” และชี้ว่า . “การทำเช่นนั้นจะเปิดโอกาสให้ทูตพิเศษของทรัมป์สามารถเห็นไดนามิกความเคลื่อนไหวในพื้นที่ด้วยตาตัวเองมากกว่าได้มาจากคำพูดของอิสราเอล” . ทั้งนี้ วิตต์คอฟฟ์กำลังทำงานเพื่อทำให้ประสบสำเร็จต่อเสถียรภาพระยะยาวของชาวอิสราเอลและประชาชนปาเลสไตน์อีก 2 ล้านคน ซึ่งเขาได้พบกับนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ถือเป็นจุดสำคัญทำให้ข้อตกลงหยุดยิงสามารถบรรลุ . อย่างไรก็ตาม ข่าวการย้ายชาวปาเลสไตน์ร่วม 2 ล้านคนมาที่อินโดนีเซียตามข้อเสนอของทีมทรัมป์ทำให้นักการเมืองอิเหนาไม่พอใจ . เรดิโอรีพับลิกอินโดนีเซียรายงานว่า ส.ส. มาร์ดานี อาลี ซีรา (Mardani Ali Sera) ได้ออกมาตอบโต้ข่าวข้อเสนอย้ายว่า การโยกย้ายชาวปาเลสไตน์ไม่ใช่กิจธุระของทรัมป์ แต่เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของชาวปาเลสไตน์ในการตัดสินอนาคตตัวเอง . “มันขึ้นอยู่กับประชาชนกาซา มันไม่ใช่กิจธุระของทรัมป์” เขากล่าว . มาร์ดานีซึ่งดำรงตำแหน่งผู้นำองค์กรความร่วมมือระหว่างรัฐสภา BKSAP กล่าวเสริมว่า ชาวปาเลสไตน์นั้นไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์ที่จะสามารถย้ายไปง่ายๆ ได้ . และยังย้ำต่อพันธสัญญาของอินโดนีเซียในการสนับสนุนการเป็นอิสรภาพของปาเลสไตน์จากอิสราเอลผู้ยึดครอง สอดคล้องกับการออกมายืนยันของรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียที่ก่อนหน้ายืนยัน อ้างอิงจาก อันตาราของอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ว่ารัฐบาลจากาตาร์จะไม่มีวันทอดทิ้งชาวปาเลสไตน์ไว้เบื้องหลัง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006998 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Yay
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1406 มุมมอง 0 รีวิว
  • เฮอร์ซี ฮาเลวี บัญชาการกองกำลังป้องกันอิสราเอลประกาศลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 6 มีนาคม 2025 นี้ เพื่อรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่กลุ่มฮามาสโจมตีดินแดนอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปี 2023
    เฮอร์ซี ฮาเลวี บัญชาการกองกำลังป้องกันอิสราเอลประกาศลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 6 มีนาคม 2025 นี้ เพื่อรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่กลุ่มฮามาสโจมตีดินแดนอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมปี 2023
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • มารดาของเอมิลี่ ดามารี (Emily Damari) ตัวประกันหญิงวัย 28 ปี ที่ฮามาสคุมตัวไว้ 471 วัน กล่าวด้วยความทึ่งว่าสุขภาพของลูกสาวเธอดีกว่าที่คาดไว้มาก

    "ร่างกายของเอมิลี่ดูดีกว่าที่เราคาดไว้มาก เธอดูเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก"

    "ฉันรู้สึกดีมากที่ได้เห็นความเข้มแข็ง ความมุ่งมั่น และเสน่ห์ของเอมิลี่อีกครั้ง หลังจากเธอได้รับการปล่อยตัว" แมนดี้ ดามารี ซึ่งผู้แม่กล่าวกับสื่อ

    แม่ของเอมิลี่ ยังกล่าวขอบคุณทรัมป์ที่ทำให้ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาสบรรลุผลอีกด้วย

    ก่อนหน้านี้สื่อต่างๆทั้งของอิสราเอลและตะวันตก รวมทั้งรัฐบาลอิสราเอลต่างพากันกล่าวหาฮามาสมาตลอดว่าตัวประกันชาวอิสราเอลถูกทรมาน ทำร้ายร่างกาย และถูกข่มขืนจนตั้งท้อง
    แต่เราได้พิสูจน์กันด้วยสายตาของทุกคนแล้วว่า ในแต่ละครั้งที่ตัวประกันเหล่านี้ถูกปล่อยตัว สุขภาพพวกเขาเป็นปกติทุกอย่าง ซึ่งยืนยันได้ถึงการปฏิบัติที่ดีในระหว่างถูกควบคุมตัว
    มารดาของเอมิลี่ ดามารี (Emily Damari) ตัวประกันหญิงวัย 28 ปี ที่ฮามาสคุมตัวไว้ 471 วัน กล่าวด้วยความทึ่งว่าสุขภาพของลูกสาวเธอดีกว่าที่คาดไว้มาก "ร่างกายของเอมิลี่ดูดีกว่าที่เราคาดไว้มาก เธอดูเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก" "ฉันรู้สึกดีมากที่ได้เห็นความเข้มแข็ง ความมุ่งมั่น และเสน่ห์ของเอมิลี่อีกครั้ง หลังจากเธอได้รับการปล่อยตัว" แมนดี้ ดามารี ซึ่งผู้แม่กล่าวกับสื่อ แม่ของเอมิลี่ ยังกล่าวขอบคุณทรัมป์ที่ทำให้ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาสบรรลุผลอีกด้วย ก่อนหน้านี้สื่อต่างๆทั้งของอิสราเอลและตะวันตก รวมทั้งรัฐบาลอิสราเอลต่างพากันกล่าวหาฮามาสมาตลอดว่าตัวประกันชาวอิสราเอลถูกทรมาน ทำร้ายร่างกาย และถูกข่มขืนจนตั้งท้อง แต่เราได้พิสูจน์กันด้วยสายตาของทุกคนแล้วว่า ในแต่ละครั้งที่ตัวประกันเหล่านี้ถูกปล่อยตัว สุขภาพพวกเขาเป็นปกติทุกอย่าง ซึ่งยืนยันได้ถึงการปฏิบัติที่ดีในระหว่างถูกควบคุมตัว
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจุด "ยุคทองใหม่ ในสหรัฐฯ เริ่มขึ้นแล้ว" หลังเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัย 2 ในวันจันทร์ (20 ม.ค.) แต่โฟกัสเกือบทั้งหมดจับตาไปที่คำกล่าวสุนทรพจน์อันเข้มข้นของเขา ที่อวดอ้างจะใช้นโยบายแข็งกร้าวต่างๆ ในการกอบกู้สิ่งที่เขาเรียกว่า "การเสื่อมถอยของสังคมอเมริกา"
    .
    ในคำกล่าวสุนทรพจน์ ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ยังได้กล่าวโจมตีพวกผู้อพยพผิดกฎหมาย และวัฒนธรรมสงคราม "ยุคทองของอเมริกาได้เริ่มขึ้นแล้วในเวลานี้ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประเทศของเราจะมีแต่ความรุ่งเรืองและได้รับความเคารพจากทั่วโลกอีกครั้ง "ทรัมป์ กล่าวในอาคารรัฐสภา บริเวณที่พิธีสาบานตนของเขาถูกจัดขึ้นในร่มเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ สืบเนื่องจากอากาศหนาวจัด
    .
    ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้ยังพาดพิงถึงกรณีที่กระสุนของมือสังหารที่เฉียดเข้าไป ระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ที่เขาได้รับชัยชนะ ว่า "ผมได้รับการปกป้องจากพระเจ้า ให้ทำอเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง"
    .
    นอกจากเน้นย้ำคำสัญญาต่างๆ แล้ว ทรัมป์ได้ประณามอย่างดุเดือดต่อสิ่งที่เขาเรียกว่า "การทรยศหักหลังอเมริกา โดยสถาบันหัวรุนแรงและคอร์รัปชัน" ภายใต้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง "การเสื่อมถอยของอเมริกาจบลงแล้ว"
    .
    ไบเดน ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงน้ำชาต้อนรับ ทรัมป์ และเมลาเนีย ภรรยา ที่ทำเนียบขาว เฝ้ามองพิธีด้วยใบหน้าเรียบเฉย ระหว่างที่ศัตรูทางการเมืองของเขา กล่าวสุนทรพจน์โจมตียุคสมัยการดำรงตำแหน่งสมัยเดียวของเขา
    .
    นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังวางกรอบนโยบายต่างประเทศ บอกว่าเขาต้องการเป็นผู้สร้างสันติภาพและความเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่จากนั้นกลับบอกว่าสหรัฐฯ จะทวงคืนคลองปานามา และเตือนว่าจะใช้สงครามการค้าโดยอิสระเสรี พร้อมประกาศปักธงชาติอเมริกา บนดาวอังคาร
    .
    มหาเศรษฐีวัย 78 ปีรายนี้ ซึ่งกลายมาเป็นบุคคลมีอายุมากที่สุดที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี เตรียมเริ่มต้นวาระการดำรงตำแหน่งสมัยล่าสุด ด้วยการเซ็นคำสั่งพิเศษต่างๆ "ผมจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ ณ ชายแดนทางใต้ของเรา" ติดกับเม็กซิโก ทรัมป์กล่าวท่ามกลางเสียงเชียร์ดังสนั่นหวั่นไหวในห้องประชุม Rotunda พร้อมประกาศขับไล่พวกผู้อพยพผิดกฎหมายหลายล้านคน
    .
    ทรัมป์ บอกว่ารัฐบาลของเขาจะยอมรับเพียง "2 เพศ เพศชายและเพศหญิง" ยุติแนวทางปฏิบัติในปัจจุบันที่มองทางเลือกแก่เพศที่ 3 ในทางออกบางอย่าง ขณะเดียวกัน เขาจะถอนวอชิงตันออกจากข้อตกลงโลกร้อนปารีส ที่มีเป้าหมายหยุดภาวะโลกร้อน
    .
    ในขณะที่ ทรัมป์ เป็นเพียงคนวงนอกทางการเมืองครั้งที่สาบานตนรับตำแหน่งสมัยแรกในปี 2017 ในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ แต่คราวนี้เขาถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มคนมั่งมีและเหล่าคนทรงอิทธิพลของอเมริกา
    .
    อีลอน มัสก์ ชายผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก บอสของเมตา เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งแอมะซอน และซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของกูเกิล ทั้งหมดล้วนแต่ได้นั่งในเก้าอี้แถวหน้าในอาคารรัฐสภา เคียงข้างครอบครัวของทรัมป์และเหล่าคณะรัฐมนตรี ในขณะที่ มัสก์ จะเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนลดค่าใช้จ่ายในรัฐบาลใหม่
    .
    อดีตประธานาธิบดีอย่าง บารัค โอบามา จอร์จ ดับเบิลยู.บุช และ บิล คลินตัน ต่างเข้าร่วมพิธีพร้อมกับภริยา ยกเว้น มิเชล โอบามา อดีตสุภาพสตรีหมายเลย 1 ที่ไม่ได้เข้าร่วม
    .
    กลุ่มกองเชียร์เฝ้ามองพิธีสาบานตน ผ่านโทรศัพท์มือถือด้านนอกของอาคารัฐสภา จากปกติแล้วจะมีผู้คนหลายหมื่นคนเข้ามาร่วมพิธีทอดยาวไปจนถึงอุทยานเนชั่นแนล มอลล์
    .
    หลังจาก ทรัมป์ เคยไม่ยอมเข้าร่วมพิธีสาบานตนของ ไบเดน ในปี 2021 อ้างว่ามีการโกงเลือกตั้ง จนกระทั่งปลุกปั่นให้พวกผู้สนับสนุนบุกจู่โจมอาคารรัฐสภา แต่คราวนี้ ไบเดน เลือกที่จะกลับคืนสู่บรรยากาศดั้งเดิม "ยินดีต้อนรับกลับบ้าน" ไบเดน บอกกับ ทรัมป์ ตอนที่เขาเดินทางมายังทำเนียบขาว เพื่อดื่มชา
    .
    ในช่วงท้ายๆ ก่อนอำลาตำแหน่งในวันจันทร์ (20 ม.ค.) ไบเดน ได้เซ็นคำสั่งนิรโทษกรรมล่วงหน้าเป็นชุดๆ ให้แก่พวกลูกน้องและคู่สมรสของพวกเขา เพื่อปกป้องคนเหลานี้จากการถูกสืบสวนที่มีแรงจูงใจทางการเมือง
    .
    นอกจากนี้แล้ว เขายังนิรโทษกรรมให้แก่ แอนโทนี เฟาซี อดีตที่ปรึกษาโควิด-19 มาร์ค มิลลีย์ นายพลปลดเกษียณ และสมาชิกคณะกรรมาธิการชุดหนึ่งที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเหตุจลาจลโมตีอาคารรัฐสภา 6 มกราคม 2021 โดยฝีมือของพวกผู้สนับสนุนทรัมป์
    .
    ทรัมป์ โจมตีในเรื่องดังกล่าวไม่นานหลังจากสาบานตนรับตำแหน่ง กล่าวอ้างว่า ไบเดน นิรโทษกรรมให้บุคคล "ที่มีความผิดในคดีอาญาที่ร้ายแรงมาก"
    .
    มหาเศรษฐีรายนี้กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่สามารถกลับมาครองอำนาจได้อีกสมัย หลังจากตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสมัยก่อนหน้านั้น โดยคนแรกได้แก่ โกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ในปี 1893
    .
    สำหรับทั่วทั้งโลกแล้ว การกลับคืนสู่ตำแหน่งของ ทรัมป์ นั่นหมายความว่า พวกเขาคาดหมายได้เลยว่า ต้องเจอกับสิ่งที่ไม่อาจคาดการณ์ได้
    .
    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ก่อนสาบานตน และบอกในวันจันทร์ (20 ม.ค.) ว่าเขาเปิดกว้างสำหรับพูดคุยเกี่ยวกับความขัดแย้งยูเครน ซึ่ง ทรัมป์ ไม่ได้พาดพิงระหว่างกล่าวสุนทรพจน์
    .
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ก็แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ เช่นกัน โดยบอกว่า "วันที่ดีที่สุดของความเป็นพันธมิตรระหว่างเรายังมาไม่ถึง" หลังจากก่อนหน้านี้ไม่นาน ทีมงานของทรัมป์ เพิ่งช่วยเป็นคนกลางบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ระหว่างอิสราเอลกับฮามาส
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006232
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจุด "ยุคทองใหม่ ในสหรัฐฯ เริ่มขึ้นแล้ว" หลังเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัย 2 ในวันจันทร์ (20 ม.ค.) แต่โฟกัสเกือบทั้งหมดจับตาไปที่คำกล่าวสุนทรพจน์อันเข้มข้นของเขา ที่อวดอ้างจะใช้นโยบายแข็งกร้าวต่างๆ ในการกอบกู้สิ่งที่เขาเรียกว่า "การเสื่อมถอยของสังคมอเมริกา" . ในคำกล่าวสุนทรพจน์ ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ยังได้กล่าวโจมตีพวกผู้อพยพผิดกฎหมาย และวัฒนธรรมสงคราม "ยุคทองของอเมริกาได้เริ่มขึ้นแล้วในเวลานี้ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประเทศของเราจะมีแต่ความรุ่งเรืองและได้รับความเคารพจากทั่วโลกอีกครั้ง "ทรัมป์ กล่าวในอาคารรัฐสภา บริเวณที่พิธีสาบานตนของเขาถูกจัดขึ้นในร่มเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ สืบเนื่องจากอากาศหนาวจัด . ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้ยังพาดพิงถึงกรณีที่กระสุนของมือสังหารที่เฉียดเข้าไป ระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ที่เขาได้รับชัยชนะ ว่า "ผมได้รับการปกป้องจากพระเจ้า ให้ทำอเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง" . นอกจากเน้นย้ำคำสัญญาต่างๆ แล้ว ทรัมป์ได้ประณามอย่างดุเดือดต่อสิ่งที่เขาเรียกว่า "การทรยศหักหลังอเมริกา โดยสถาบันหัวรุนแรงและคอร์รัปชัน" ภายใต้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง "การเสื่อมถอยของอเมริกาจบลงแล้ว" . ไบเดน ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงน้ำชาต้อนรับ ทรัมป์ และเมลาเนีย ภรรยา ที่ทำเนียบขาว เฝ้ามองพิธีด้วยใบหน้าเรียบเฉย ระหว่างที่ศัตรูทางการเมืองของเขา กล่าวสุนทรพจน์โจมตียุคสมัยการดำรงตำแหน่งสมัยเดียวของเขา . นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังวางกรอบนโยบายต่างประเทศ บอกว่าเขาต้องการเป็นผู้สร้างสันติภาพและความเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่จากนั้นกลับบอกว่าสหรัฐฯ จะทวงคืนคลองปานามา และเตือนว่าจะใช้สงครามการค้าโดยอิสระเสรี พร้อมประกาศปักธงชาติอเมริกา บนดาวอังคาร . มหาเศรษฐีวัย 78 ปีรายนี้ ซึ่งกลายมาเป็นบุคคลมีอายุมากที่สุดที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี เตรียมเริ่มต้นวาระการดำรงตำแหน่งสมัยล่าสุด ด้วยการเซ็นคำสั่งพิเศษต่างๆ "ผมจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ ณ ชายแดนทางใต้ของเรา" ติดกับเม็กซิโก ทรัมป์กล่าวท่ามกลางเสียงเชียร์ดังสนั่นหวั่นไหวในห้องประชุม Rotunda พร้อมประกาศขับไล่พวกผู้อพยพผิดกฎหมายหลายล้านคน . ทรัมป์ บอกว่ารัฐบาลของเขาจะยอมรับเพียง "2 เพศ เพศชายและเพศหญิง" ยุติแนวทางปฏิบัติในปัจจุบันที่มองทางเลือกแก่เพศที่ 3 ในทางออกบางอย่าง ขณะเดียวกัน เขาจะถอนวอชิงตันออกจากข้อตกลงโลกร้อนปารีส ที่มีเป้าหมายหยุดภาวะโลกร้อน . ในขณะที่ ทรัมป์ เป็นเพียงคนวงนอกทางการเมืองครั้งที่สาบานตนรับตำแหน่งสมัยแรกในปี 2017 ในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ แต่คราวนี้เขาถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มคนมั่งมีและเหล่าคนทรงอิทธิพลของอเมริกา . อีลอน มัสก์ ชายผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก บอสของเมตา เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งแอมะซอน และซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของกูเกิล ทั้งหมดล้วนแต่ได้นั่งในเก้าอี้แถวหน้าในอาคารรัฐสภา เคียงข้างครอบครัวของทรัมป์และเหล่าคณะรัฐมนตรี ในขณะที่ มัสก์ จะเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนลดค่าใช้จ่ายในรัฐบาลใหม่ . อดีตประธานาธิบดีอย่าง บารัค โอบามา จอร์จ ดับเบิลยู.บุช และ บิล คลินตัน ต่างเข้าร่วมพิธีพร้อมกับภริยา ยกเว้น มิเชล โอบามา อดีตสุภาพสตรีหมายเลย 1 ที่ไม่ได้เข้าร่วม . กลุ่มกองเชียร์เฝ้ามองพิธีสาบานตน ผ่านโทรศัพท์มือถือด้านนอกของอาคารัฐสภา จากปกติแล้วจะมีผู้คนหลายหมื่นคนเข้ามาร่วมพิธีทอดยาวไปจนถึงอุทยานเนชั่นแนล มอลล์ . หลังจาก ทรัมป์ เคยไม่ยอมเข้าร่วมพิธีสาบานตนของ ไบเดน ในปี 2021 อ้างว่ามีการโกงเลือกตั้ง จนกระทั่งปลุกปั่นให้พวกผู้สนับสนุนบุกจู่โจมอาคารรัฐสภา แต่คราวนี้ ไบเดน เลือกที่จะกลับคืนสู่บรรยากาศดั้งเดิม "ยินดีต้อนรับกลับบ้าน" ไบเดน บอกกับ ทรัมป์ ตอนที่เขาเดินทางมายังทำเนียบขาว เพื่อดื่มชา . ในช่วงท้ายๆ ก่อนอำลาตำแหน่งในวันจันทร์ (20 ม.ค.) ไบเดน ได้เซ็นคำสั่งนิรโทษกรรมล่วงหน้าเป็นชุดๆ ให้แก่พวกลูกน้องและคู่สมรสของพวกเขา เพื่อปกป้องคนเหลานี้จากการถูกสืบสวนที่มีแรงจูงใจทางการเมือง . นอกจากนี้แล้ว เขายังนิรโทษกรรมให้แก่ แอนโทนี เฟาซี อดีตที่ปรึกษาโควิด-19 มาร์ค มิลลีย์ นายพลปลดเกษียณ และสมาชิกคณะกรรมาธิการชุดหนึ่งที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเหตุจลาจลโมตีอาคารรัฐสภา 6 มกราคม 2021 โดยฝีมือของพวกผู้สนับสนุนทรัมป์ . ทรัมป์ โจมตีในเรื่องดังกล่าวไม่นานหลังจากสาบานตนรับตำแหน่ง กล่าวอ้างว่า ไบเดน นิรโทษกรรมให้บุคคล "ที่มีความผิดในคดีอาญาที่ร้ายแรงมาก" . มหาเศรษฐีรายนี้กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่สามารถกลับมาครองอำนาจได้อีกสมัย หลังจากตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสมัยก่อนหน้านั้น โดยคนแรกได้แก่ โกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ในปี 1893 . สำหรับทั่วทั้งโลกแล้ว การกลับคืนสู่ตำแหน่งของ ทรัมป์ นั่นหมายความว่า พวกเขาคาดหมายได้เลยว่า ต้องเจอกับสิ่งที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ . ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ก่อนสาบานตน และบอกในวันจันทร์ (20 ม.ค.) ว่าเขาเปิดกว้างสำหรับพูดคุยเกี่ยวกับความขัดแย้งยูเครน ซึ่ง ทรัมป์ ไม่ได้พาดพิงระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ . เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ก็แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ เช่นกัน โดยบอกว่า "วันที่ดีที่สุดของความเป็นพันธมิตรระหว่างเรายังมาไม่ถึง" หลังจากก่อนหน้านี้ไม่นาน ทีมงานของทรัมป์ เพิ่งช่วยเป็นคนกลางบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ระหว่างอิสราเอลกับฮามาส . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006232 .............. Sondhi X
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 861 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์เตรียมสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ให้สัญญาปิดฉากความตกต่ำนาน 4 ปีและนำอเมริกาสู่ยุคทอง ลั่นพร้อมเริ่มทำงาน “รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์” เพื่อแก้ไขทุกวิกฤตที่ประเทศชาติกำลังเผชิญอยู่นับจากวันแรกที่กลับสู่ทำเนียบขาว ซึ่งรวมถึงการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองนับล้าน และการปรับบทบาทใหม่ของอเมริกาในเวทีโลก
    .
    การสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของโดนัลด์ ทรัมป์ ถือเป็นการกลับมาอย่างผู้ชนะเต็มตัวของ “ดิสรัปเตอร์ทางการเมือง” ที่รอดจากการถูกรัฐสภาไต่สวนเพื่อถอดถอนถึงสองครั้ง รวมถึงการถูกศาลตัดสินว่ากระทำความผิดทางอาญาร้ายแรงหนึ่งครั้ง นอกจากนั้นยังเผชิญความพยายามในการลอบสังหารสองครั้ง และการถูกฟ้องร้องจากความพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ที่ตนเองเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
    .
    ทรัมป์ วัย 78 ปี สร้างประวัติศาสตร์ใหม่แทนที่ โจ ไบเดน ในการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯอายุมากที่สุดขณะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ขณะที่เป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์อเมริกัน ถัดจากโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ (ปี 1885-1889 และปี1893-1897) ที่ดำรงตำแหน่งสองวาระแบบไม่ต่อเนื่อง
    .
    พิธีสาบานตนกำหนดเริ่มต้นขึ้นเวลา 12.00 น. วันจันทร์ตามเวลาในกรุงวอชิงตัน (ตรงกับเวลา เที่ยงคืน คืนวันจันทร์ ตามเวลาเมืองไทย) ภายในอาคารรัฐสภา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีที่มีการจัดพิธีภายในอาคาร ทั้งนี้ เนื่องจากพยากรณ์อากาศระบุว่าสภาพอากาศจะหนาวเย็นจัด
    .
    ก่อนหน้าที่พิธีจะเริ่มต้นหนึ่งวัน ทรัมป์ได้ไปกล่าวปราศรัยท่ามกลางผู้สนับสนุนที่อัดแน่นในสนามกีฬาแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน โดยให้สัญญาว่า จะปิดฉากความตกต่ำที่ดำเนินมานาน 4 ปี ซึ่งก็คือหมายถึงสมัยการเป็นประธานาธิบดีของโจ ไบเดน และเริ่มต้นอเมริกายุคใหม่ที่เข้มแข็งและมั่งคั่ง รวมทั้งเริ่มทำงาน “รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์” เพื่อแก้ไขทุกวิกฤตที่ประเทศชาติกำลังเผชิญอยู่นับจากวันแรกที่กลับสู่ทำเนียบขาว
    .
    ทรัมป์ใช้เวลาจำนวนมากในการปราศรัยนานหนึ่งชั่วโมงคราวนี้โฟกัสที่ปัญหาผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยประธานาธิบดีคนที่ 45 และ 47 ของอเมริกาผู้นี้ ประกาศว่า จะหยุดยั้งการบุกรุกข้ามแดนและจัดการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองทันที
    .
    ทรัมป์สัญญาว่า จะใช้อำนาจฝ่ายบริหารตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงาน ซึ่งรวมถึงการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติบริเวณชายแดนทางใต้ติดกับเม็กซิโก ยกเลิกนโยบาย “การตื่นรู้” ที่รวมถึง “ความบ้าคลั่งของการยอมรับคนข้ามเพศ” ในโรงเรียน ทั้งนี้รอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เขาจะเซ็นประกาศใช้อำนาจฝ่ายบริหารถึงราว 200 ฉบับ
    .
    เขายังย้ำคำสัญญาในการเผยแพร่ไฟล์ข้อมูลการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ และน้องชาย บ็อบบี้ เคนเนดี้ รวมทั้งมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ผู้นำขบวนการเคลื่อนไหวสิทธิพลเมือง
    .
    ทรัมป์สำทับว่า จะอภัยโทษผู้ต้องหาจำนวนมาก จากกว่า 1,500 คนที่เกี่ยวข้องกับการบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021 เพื่อขัดขวางการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดน
    .
    สำหรับทางด้านไบเดนเดินทางไปรัฐเซาท์แคโรไลนาเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา และกล่าวเรียกร้องให้คนอเมริกันเชื่อมั่นว่า วันที่ดีกว่านี้กำลังจะมาถึง พร้อมให้สัญญา “จะไม่ไปไหน” โดยไบเดนมีกำหนดกลับไปกรุงวอชิงตันเพื่อร่วมพิธีส่งมอบตำแหน่งให้ทรัมป์ที่เขาเคยตราหน้าว่า เป็นภัยคุกคามประชาธิปไตย อีกทั้งยังถือเป็นการ “ตบหน้า” ทรัมป์กลายๆ เนื่องจาก ทรัมป์นั้นไม่ยอมรับเลยว่าพ่ายแพ้แก่ไบเดนในการเลือกตั้งปี 2020 และไม่ยอมร่วมพิธีสาบานตนของไบเดนในเดือนมกราคม 2021
    .
    ตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเสียอีก ทรัมป์ก็แสดงบทบาทเข้าสู่กรณีระดับโลก หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ ติ๊กต็อก แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยม ยกความดีความชอบว่า “ความชัดเจน” ของทรัมป์ทำให้ติ๊กต็อกกลับมาให้บริการอีกครั้งในอเมริกา หลังขึ้นจอดำนานหลายชั่วโมง
    .
    วันเดียวกันนั้น ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอล 3 คนภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงในกาซาที่ทีมงานของทรัมป์มีส่วนร่วมผลักดันโดยทำงานร่วมกับคณะเจ้าหน้าที่ในคณะบริหารของไบเดน
    .
    ขณะเดียวกัน ทั่วโลกต่างมองการกลับมาของทรัมป์ ว่าจะต้องเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ โดยที่ทรัมป์ประกาศเอาไว้แล้วว่าเตรียมเขย่าระเบียบโลกอีกคำรบหนึ่ง ด้วยการให้สัญญาเก็บภาษีศุลกากรแบบเหวี่ยงแหจากทั้งประเทศอริอย่างเช่นจีน และประเทศที่เป็นมิตรอย่างแคนาดาและเม็กซิโก นอกจากนั้นเขายังข่มขู่เข้ายึดคลองปานานา กดดันให้แคนาดายอมถูกผนวกเข้าเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐอเมริกา และบีบคั้นให้เดนมาร์กยอมขายเกาะกรีนแลนด์แก่สหรัฐฯ ตลอดจนตั้งข้อสงสัยในการให้ความช่วยเหลือยูเครนของอเมริกา โดยที่มีแผนจะทำให้เกิดสันติภาพขึ้นอย่างรวดเร็ว และบีบให้ยูเครนยอมสละดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006227
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์เตรียมสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ให้สัญญาปิดฉากความตกต่ำนาน 4 ปีและนำอเมริกาสู่ยุคทอง ลั่นพร้อมเริ่มทำงาน “รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์” เพื่อแก้ไขทุกวิกฤตที่ประเทศชาติกำลังเผชิญอยู่นับจากวันแรกที่กลับสู่ทำเนียบขาว ซึ่งรวมถึงการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองนับล้าน และการปรับบทบาทใหม่ของอเมริกาในเวทีโลก . การสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของโดนัลด์ ทรัมป์ ถือเป็นการกลับมาอย่างผู้ชนะเต็มตัวของ “ดิสรัปเตอร์ทางการเมือง” ที่รอดจากการถูกรัฐสภาไต่สวนเพื่อถอดถอนถึงสองครั้ง รวมถึงการถูกศาลตัดสินว่ากระทำความผิดทางอาญาร้ายแรงหนึ่งครั้ง นอกจากนั้นยังเผชิญความพยายามในการลอบสังหารสองครั้ง และการถูกฟ้องร้องจากความพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ที่ตนเองเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ . ทรัมป์ วัย 78 ปี สร้างประวัติศาสตร์ใหม่แทนที่ โจ ไบเดน ในการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯอายุมากที่สุดขณะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ขณะที่เป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์อเมริกัน ถัดจากโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ (ปี 1885-1889 และปี1893-1897) ที่ดำรงตำแหน่งสองวาระแบบไม่ต่อเนื่อง . พิธีสาบานตนกำหนดเริ่มต้นขึ้นเวลา 12.00 น. วันจันทร์ตามเวลาในกรุงวอชิงตัน (ตรงกับเวลา เที่ยงคืน คืนวันจันทร์ ตามเวลาเมืองไทย) ภายในอาคารรัฐสภา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีที่มีการจัดพิธีภายในอาคาร ทั้งนี้ เนื่องจากพยากรณ์อากาศระบุว่าสภาพอากาศจะหนาวเย็นจัด . ก่อนหน้าที่พิธีจะเริ่มต้นหนึ่งวัน ทรัมป์ได้ไปกล่าวปราศรัยท่ามกลางผู้สนับสนุนที่อัดแน่นในสนามกีฬาแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน โดยให้สัญญาว่า จะปิดฉากความตกต่ำที่ดำเนินมานาน 4 ปี ซึ่งก็คือหมายถึงสมัยการเป็นประธานาธิบดีของโจ ไบเดน และเริ่มต้นอเมริกายุคใหม่ที่เข้มแข็งและมั่งคั่ง รวมทั้งเริ่มทำงาน “รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์” เพื่อแก้ไขทุกวิกฤตที่ประเทศชาติกำลังเผชิญอยู่นับจากวันแรกที่กลับสู่ทำเนียบขาว . ทรัมป์ใช้เวลาจำนวนมากในการปราศรัยนานหนึ่งชั่วโมงคราวนี้โฟกัสที่ปัญหาผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยประธานาธิบดีคนที่ 45 และ 47 ของอเมริกาผู้นี้ ประกาศว่า จะหยุดยั้งการบุกรุกข้ามแดนและจัดการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองทันที . ทรัมป์สัญญาว่า จะใช้อำนาจฝ่ายบริหารตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงาน ซึ่งรวมถึงการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติบริเวณชายแดนทางใต้ติดกับเม็กซิโก ยกเลิกนโยบาย “การตื่นรู้” ที่รวมถึง “ความบ้าคลั่งของการยอมรับคนข้ามเพศ” ในโรงเรียน ทั้งนี้รอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เขาจะเซ็นประกาศใช้อำนาจฝ่ายบริหารถึงราว 200 ฉบับ . เขายังย้ำคำสัญญาในการเผยแพร่ไฟล์ข้อมูลการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ และน้องชาย บ็อบบี้ เคนเนดี้ รวมทั้งมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ผู้นำขบวนการเคลื่อนไหวสิทธิพลเมือง . ทรัมป์สำทับว่า จะอภัยโทษผู้ต้องหาจำนวนมาก จากกว่า 1,500 คนที่เกี่ยวข้องกับการบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021 เพื่อขัดขวางการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดน . สำหรับทางด้านไบเดนเดินทางไปรัฐเซาท์แคโรไลนาเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา และกล่าวเรียกร้องให้คนอเมริกันเชื่อมั่นว่า วันที่ดีกว่านี้กำลังจะมาถึง พร้อมให้สัญญา “จะไม่ไปไหน” โดยไบเดนมีกำหนดกลับไปกรุงวอชิงตันเพื่อร่วมพิธีส่งมอบตำแหน่งให้ทรัมป์ที่เขาเคยตราหน้าว่า เป็นภัยคุกคามประชาธิปไตย อีกทั้งยังถือเป็นการ “ตบหน้า” ทรัมป์กลายๆ เนื่องจาก ทรัมป์นั้นไม่ยอมรับเลยว่าพ่ายแพ้แก่ไบเดนในการเลือกตั้งปี 2020 และไม่ยอมร่วมพิธีสาบานตนของไบเดนในเดือนมกราคม 2021 . ตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเสียอีก ทรัมป์ก็แสดงบทบาทเข้าสู่กรณีระดับโลก หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ ติ๊กต็อก แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยม ยกความดีความชอบว่า “ความชัดเจน” ของทรัมป์ทำให้ติ๊กต็อกกลับมาให้บริการอีกครั้งในอเมริกา หลังขึ้นจอดำนานหลายชั่วโมง . วันเดียวกันนั้น ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอล 3 คนภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงในกาซาที่ทีมงานของทรัมป์มีส่วนร่วมผลักดันโดยทำงานร่วมกับคณะเจ้าหน้าที่ในคณะบริหารของไบเดน . ขณะเดียวกัน ทั่วโลกต่างมองการกลับมาของทรัมป์ ว่าจะต้องเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ โดยที่ทรัมป์ประกาศเอาไว้แล้วว่าเตรียมเขย่าระเบียบโลกอีกคำรบหนึ่ง ด้วยการให้สัญญาเก็บภาษีศุลกากรแบบเหวี่ยงแหจากทั้งประเทศอริอย่างเช่นจีน และประเทศที่เป็นมิตรอย่างแคนาดาและเม็กซิโก นอกจากนั้นเขายังข่มขู่เข้ายึดคลองปานานา กดดันให้แคนาดายอมถูกผนวกเข้าเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐอเมริกา และบีบคั้นให้เดนมาร์กยอมขายเกาะกรีนแลนด์แก่สหรัฐฯ ตลอดจนตั้งข้อสงสัยในการให้ความช่วยเหลือยูเครนของอเมริกา โดยที่มีแผนจะทำให้เกิดสันติภาพขึ้นอย่างรวดเร็ว และบีบให้ยูเครนยอมสละดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดไป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006227 .............. Sondhi X
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 816 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ความแตกต่าง"

    รูปบนตัวประกันชาวอิสราเอลที่ฮามาสคุมตัวไว้ และได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้

    รูปล่างคือ "คาลิดา จาร์ราร์" ชาวปาเลสไตน์ที่ถูกกองกำลังอิสราเอลควบคุมตัวไว้และได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน

    คาลิดา จาร์ราร์ เธอถูกคุมขังครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2019 ในข้อกล่าวหาที่เธอสารภาพคือเป็นแนวร่วมกลุ่มประชาชนเพื่อการปลดปล่อยปาเลสไตน์ (PFLP)

    จาร์ราร์ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติปาเลสไตน์ในปี 2006 และมีบทบาทในการสมัครเข้าร่วมศาลอาญาระหว่างประเทศของปาเลสไตน์ และเป็นหัวหน้าคณะกรรมการนักโทษ เธอเคยถูกจับกุมหลายครั้งโดยไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาจากฝ่ายอิสราเอล

    จาร์ราร์มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูงและเบาหวาน ซึ่งแย่ลงเนื่องจากมีรายงานการละเลยทางการแพทย์และสภาพแวดล้อมในเรือนจำที่ย่ำแย่ ในปี 2021 เธอไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมงานศพของลูกสาวขณะถูกคุมขัง
    "ความแตกต่าง" รูปบนตัวประกันชาวอิสราเอลที่ฮามาสคุมตัวไว้ และได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้ รูปล่างคือ "คาลิดา จาร์ราร์" ชาวปาเลสไตน์ที่ถูกกองกำลังอิสราเอลควบคุมตัวไว้และได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน คาลิดา จาร์ราร์ เธอถูกคุมขังครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2019 ในข้อกล่าวหาที่เธอสารภาพคือเป็นแนวร่วมกลุ่มประชาชนเพื่อการปลดปล่อยปาเลสไตน์ (PFLP) จาร์ราร์ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติปาเลสไตน์ในปี 2006 และมีบทบาทในการสมัครเข้าร่วมศาลอาญาระหว่างประเทศของปาเลสไตน์ และเป็นหัวหน้าคณะกรรมการนักโทษ เธอเคยถูกจับกุมหลายครั้งโดยไม่มีการตั้งข้อกล่าวหาจากฝ่ายอิสราเอล จาร์ราร์มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เช่น ความดันโลหิตสูงและเบาหวาน ซึ่งแย่ลงเนื่องจากมีรายงานการละเลยทางการแพทย์และสภาพแวดล้อมในเรือนจำที่ย่ำแย่ ในปี 2021 เธอไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมงานศพของลูกสาวขณะถูกคุมขัง
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อตกลงหยุดยิงในกาซาที่รอคอยกันมายาวนานมีอันต้องเลื่อนออกไปในนาทีสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ (19 ม.ค.) หลังเนทันยาฮูประกาศว่า กองทัพอิสราเอลจะไม่หยุดโจมตีจนกว่าฮามาสจะส่งรายชื่อตัวประกันชุดแรกที่จะได้รับการปล่อยตัว ขณะที่ฮามาสอ้างเหตุผลด้านเทคนิคทำให้แจ้งชื่อล่าช้า
    .
    สำนักงานนายกรัฐมนตรีอิสราเอลออกแถลงการณ์ราว 1 ชั่วโมงก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงจะเริ่มบังคับใช้ในเวลา 8.30 น. วันอาทิตย์ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู มีคำสั่งถึงกองทัพว่า การหยุดยิงจะยังไม่เริ่มต้นจนกว่าอิสราเอลจะได้รับรายชื่อตัวประกันชุดแรกที่จะได้รับอิสรภาพ
    .
    หลังจากนั้นไม่นานโฆษกกองทัพอิสราเอลแถลงว่า อิสราเอลจะโจมตีในกาซาต่อจนกว่าฮามาสจะปฏิบัติตามข้อเรียกร้อง และสำทับว่า กองทัพพร้อมปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มที่ แต่ก็พร้อมตอบโต้หากฮามาสละเมิดข้อตกลง
    .
    ทางด้านฮามาสที่ยืนยันจะปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิงนั้น ระบุว่า ความล่าช้าในการแจ้งรายชื่อตัวประกันเกิดจากปัจจัยทางเทคนิค
    .
    ก่อนหน้านี้คาดกันว่า จะมีการปล่อยตัวประกันหลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งอาจปูทางสู่การยุติสงครามที่ดำเนินมา 15 เดือน และสร้างความปั่นป่วนทั่วตะวันออกกลาง
    .
    ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นภายหลังการเจรจาที่ชะงักงันมาหลายครั้งภายใต้การประสานงานของอียิปต์ กาตาร์ และอเมริกา รวมทั้งเกิดขึ้นก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (20 มี.ค.)
    .
    ทรัมป์ที่อ้างความดีความชอบในการผลักดันข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ให้สัมภาษณ์เอ็นบีซีเมื่อวันเสาร์ (18 ม.ค.) ว่าได้บอกกับเนทันยาฮูว่า ต้องการให้สงครามยุติ แต่ยังต้องทำสิ่งที่ต้องทำต่อไป
    .
    วันเดียวกันนั้น เนทันยาฮูระบุระหว่างปราศรัยทางทีวีว่า อิสราเอลได้รับการสนับสนุนจากอเมริกาในการกลับสู่สงครามหากจำเป็น
    .
    เนทันยาฮูยังกล่าวถึงช่วง 42 วันซึ่งเป็นเฟสแรกของ “การหยุดยิงชั่วคราว” ว่า ถ้าถูกบีบให้ต้องกลับเข้าสงคราม อิสราเอลจะลงมืออย่างหนักหน่วง
    .
    หน่วยงานป้องกันภัยพลเรือนในกาซาเผยว่า ยังคงมีการสู้รบก่อนถึงกำหนดบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิง และมีครอบครัวหนึ่งสูญเสียสมาชิกอย่างน้อย 5 คนจากการโจมตีของอิสราเอลในเมืองข่านยูนิส
    .
    ข้อตกลงหยุดยิงที่ตกลงกันครั้งนี้ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน โดยในขั้นตอนแรกที่กินเวลา 6 สัปดาห์ จะมีการปล่อยตัวประกันที่ฮามาสจับไปจากอิสราเอลเมื่อเดือนตุลาคม 2023 จำนวน 33 คนจากที่ยังเหลืออยู่ 99 คน ประกอบด้วยเด็ก ผู้หญิง และผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป ผู้ที่เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ
    .
    ในทางกลับกัน อิสราเอลจะปล่อยนักโทษและผู้ถูกคุมขังชาวปาเลสไตน์เกือบ 2,000 คนที่รวมถึงนักโทษชาย หญิง และวัยรุ่น 737 คน ซึ่งบางคนเป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธที่ต้องโทษจากการโจมตีที่ทำให้ชาวอิสราเอลเสียชีวิตหลายสิบคน ตลอดทั้งชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนที่ถูกจับจากกาซานับจากที่สงครามปะทุขึ้นเมื่อเดือน ต.ค.2023
    .
    ตัวประกันหญิง 3 คนถูกคาดหมายว่าจะได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ผ่านทางสภากาชาด แลกกับนักโทษ 30 คนต่อตัวประกัน 1 คน
    .
    เบร็ตต์ แม็กเกิร์ค ผู้นำคณะเจรจาของอเมริกา เผยว่า จะมีการปล่อยตัวประกันหญิงเพิ่ม 4 คนในอีก 7 วันหลังการปล่อยตัวประกันในวันอาทิตย์ และปล่อยตัวประกันเพิ่มอีก 3 คนทุก 7 วันหลังจากนั้น
    .
    ขณะเดียวกัน ระหว่างเฟสแรกของข้อตกลง กองทัพอิสราเอลจะถอนกำลังจากที่มั่นบางแห่งในกาซา และชาวปาเลสไตน์จะได้รับอนุญาตให้กลับสู่ถิ่นฐานทางตอนเหนือของกาซา
    .
    รายงานระบุว่า ทีมเจรจาของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทำงานอย่างใกล้ชิดกับสตีฟ วิตคอฟฟ์ ตัวแทนภาคพื้นตะวันออกกลางของทรัมป์ในการผลักดันข้อตกลงหยุดยิงนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005826
    ..............
    Sondhi X
    ข้อตกลงหยุดยิงในกาซาที่รอคอยกันมายาวนานมีอันต้องเลื่อนออกไปในนาทีสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ (19 ม.ค.) หลังเนทันยาฮูประกาศว่า กองทัพอิสราเอลจะไม่หยุดโจมตีจนกว่าฮามาสจะส่งรายชื่อตัวประกันชุดแรกที่จะได้รับการปล่อยตัว ขณะที่ฮามาสอ้างเหตุผลด้านเทคนิคทำให้แจ้งชื่อล่าช้า . สำนักงานนายกรัฐมนตรีอิสราเอลออกแถลงการณ์ราว 1 ชั่วโมงก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงจะเริ่มบังคับใช้ในเวลา 8.30 น. วันอาทิตย์ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู มีคำสั่งถึงกองทัพว่า การหยุดยิงจะยังไม่เริ่มต้นจนกว่าอิสราเอลจะได้รับรายชื่อตัวประกันชุดแรกที่จะได้รับอิสรภาพ . หลังจากนั้นไม่นานโฆษกกองทัพอิสราเอลแถลงว่า อิสราเอลจะโจมตีในกาซาต่อจนกว่าฮามาสจะปฏิบัติตามข้อเรียกร้อง และสำทับว่า กองทัพพร้อมปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มที่ แต่ก็พร้อมตอบโต้หากฮามาสละเมิดข้อตกลง . ทางด้านฮามาสที่ยืนยันจะปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงหยุดยิงนั้น ระบุว่า ความล่าช้าในการแจ้งรายชื่อตัวประกันเกิดจากปัจจัยทางเทคนิค . ก่อนหน้านี้คาดกันว่า จะมีการปล่อยตัวประกันหลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งอาจปูทางสู่การยุติสงครามที่ดำเนินมา 15 เดือน และสร้างความปั่นป่วนทั่วตะวันออกกลาง . ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นภายหลังการเจรจาที่ชะงักงันมาหลายครั้งภายใต้การประสานงานของอียิปต์ กาตาร์ และอเมริกา รวมทั้งเกิดขึ้นก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (20 มี.ค.) . ทรัมป์ที่อ้างความดีความชอบในการผลักดันข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ให้สัมภาษณ์เอ็นบีซีเมื่อวันเสาร์ (18 ม.ค.) ว่าได้บอกกับเนทันยาฮูว่า ต้องการให้สงครามยุติ แต่ยังต้องทำสิ่งที่ต้องทำต่อไป . วันเดียวกันนั้น เนทันยาฮูระบุระหว่างปราศรัยทางทีวีว่า อิสราเอลได้รับการสนับสนุนจากอเมริกาในการกลับสู่สงครามหากจำเป็น . เนทันยาฮูยังกล่าวถึงช่วง 42 วันซึ่งเป็นเฟสแรกของ “การหยุดยิงชั่วคราว” ว่า ถ้าถูกบีบให้ต้องกลับเข้าสงคราม อิสราเอลจะลงมืออย่างหนักหน่วง . หน่วยงานป้องกันภัยพลเรือนในกาซาเผยว่า ยังคงมีการสู้รบก่อนถึงกำหนดบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิง และมีครอบครัวหนึ่งสูญเสียสมาชิกอย่างน้อย 5 คนจากการโจมตีของอิสราเอลในเมืองข่านยูนิส . ข้อตกลงหยุดยิงที่ตกลงกันครั้งนี้ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน โดยในขั้นตอนแรกที่กินเวลา 6 สัปดาห์ จะมีการปล่อยตัวประกันที่ฮามาสจับไปจากอิสราเอลเมื่อเดือนตุลาคม 2023 จำนวน 33 คนจากที่ยังเหลืออยู่ 99 คน ประกอบด้วยเด็ก ผู้หญิง และผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป ผู้ที่เจ็บป่วยหรือได้รับบาดเจ็บ . ในทางกลับกัน อิสราเอลจะปล่อยนักโทษและผู้ถูกคุมขังชาวปาเลสไตน์เกือบ 2,000 คนที่รวมถึงนักโทษชาย หญิง และวัยรุ่น 737 คน ซึ่งบางคนเป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธที่ต้องโทษจากการโจมตีที่ทำให้ชาวอิสราเอลเสียชีวิตหลายสิบคน ตลอดทั้งชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนที่ถูกจับจากกาซานับจากที่สงครามปะทุขึ้นเมื่อเดือน ต.ค.2023 . ตัวประกันหญิง 3 คนถูกคาดหมายว่าจะได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ผ่านทางสภากาชาด แลกกับนักโทษ 30 คนต่อตัวประกัน 1 คน . เบร็ตต์ แม็กเกิร์ค ผู้นำคณะเจรจาของอเมริกา เผยว่า จะมีการปล่อยตัวประกันหญิงเพิ่ม 4 คนในอีก 7 วันหลังการปล่อยตัวประกันในวันอาทิตย์ และปล่อยตัวประกันเพิ่มอีก 3 คนทุก 7 วันหลังจากนั้น . ขณะเดียวกัน ระหว่างเฟสแรกของข้อตกลง กองทัพอิสราเอลจะถอนกำลังจากที่มั่นบางแห่งในกาซา และชาวปาเลสไตน์จะได้รับอนุญาตให้กลับสู่ถิ่นฐานทางตอนเหนือของกาซา . รายงานระบุว่า ทีมเจรจาของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทำงานอย่างใกล้ชิดกับสตีฟ วิตคอฟฟ์ ตัวแทนภาคพื้นตะวันออกกลางของทรัมป์ในการผลักดันข้อตกลงหยุดยิงนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005826 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 848 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพถ่ายตัวประกันทั้ง 33 ราย ที่ฮามาสควบคุมตัวไว้ ทั้งหมดนี้จะทะยอยปล่อยตัวภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อแลกกับนักโทษปาเลสไตน์ที่อิสราเอลคุมขังไว้จำนวน 1,890 คน

    จากข้อมูล วันนี้ฮามาสจะปล่อย 3 ตัวประกัน ได้แก่
    1. โรมี โกเนน (Romi Gonen) วัย 24 ปี ถูกจับตัวไปจากเทศกาลดนตรีโนวา
    2. เอมิลี่ ดามารี (Emily Damari) วัย 28 ปี สัญชาติอังกฤษ-อิสราเอล ถูกจับตัวไปจากบ้านของเธอในคฟาร์อาซา
    3. โดรอน สไตน์เบรเชอร์ (Doron Steinbrecher) วัย 31 ปี ถูกจับตัวไปจากบ้านของเธอในคฟาร์อาซา

    ตัวประกันทั้งสามจะถูกแลกเปลี่ยนกับนักโทษปาเลสไตน์ในอัตราส่วน 1 คน ต่อ 30 คน

    สำหรับตัวประกันชาวอิสราเอลที่ฮามาสจะปล่อยตัวตามข้อตกลงหยุดยิงระยะแรกนั้นรวมถึงตัวประกันที่อายุน้อยที่สุดคือ เคฟีร์ บิบาส (Kfir Bibas) ที่มีอายุเพียง 9 เดือนตอนที่เขาถูกพาตัวไป และตอนนี้มีอายุครบ 2 ขวบแล้ว ส่วนตัวประกันที่มีอายุมากที่สุดคือ ชโลโม มานต์ซูร์ (Shlomo Mantzur) อายุ 86 ปี ที่ถูกฮามาสจับตัวไปเมื่อ 7 ต.ค. 2023 ด้วย
    ภาพถ่ายตัวประกันทั้ง 33 ราย ที่ฮามาสควบคุมตัวไว้ ทั้งหมดนี้จะทะยอยปล่อยตัวภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อแลกกับนักโทษปาเลสไตน์ที่อิสราเอลคุมขังไว้จำนวน 1,890 คน จากข้อมูล วันนี้ฮามาสจะปล่อย 3 ตัวประกัน ได้แก่ 1. โรมี โกเนน (Romi Gonen) วัย 24 ปี ถูกจับตัวไปจากเทศกาลดนตรีโนวา 2. เอมิลี่ ดามารี (Emily Damari) วัย 28 ปี สัญชาติอังกฤษ-อิสราเอล ถูกจับตัวไปจากบ้านของเธอในคฟาร์อาซา 3. โดรอน สไตน์เบรเชอร์ (Doron Steinbrecher) วัย 31 ปี ถูกจับตัวไปจากบ้านของเธอในคฟาร์อาซา ตัวประกันทั้งสามจะถูกแลกเปลี่ยนกับนักโทษปาเลสไตน์ในอัตราส่วน 1 คน ต่อ 30 คน สำหรับตัวประกันชาวอิสราเอลที่ฮามาสจะปล่อยตัวตามข้อตกลงหยุดยิงระยะแรกนั้นรวมถึงตัวประกันที่อายุน้อยที่สุดคือ เคฟีร์ บิบาส (Kfir Bibas) ที่มีอายุเพียง 9 เดือนตอนที่เขาถูกพาตัวไป และตอนนี้มีอายุครบ 2 ขวบแล้ว ส่วนตัวประกันที่มีอายุมากที่สุดคือ ชโลโม มานต์ซูร์ (Shlomo Mantzur) อายุ 86 ปี ที่ถูกฮามาสจับตัวไปเมื่อ 7 ต.ค. 2023 ด้วย
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/
    การแลกเปลี่ยนตัวประกันในกาซากำลังเริ่มขึ้น ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด

    นี่คือภาพตัวประกันที่กลุ่มฮามาสควบคุมตัวไว้จำนวนสามคน ซึ่งนั่งมาในรถกาชาดสากล

    จากข้อมูล ตัวประกันทั้งสามถูกคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซาตอนเหนือมาตลอด ที่ผ่านมาพื้นที่แห่งนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพอิสราเอลตลอดเวลา นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่เคยพบเบาะแสแม้แต่น้อยถึงตำแหน่งที่ซ่อนตัวของตัวประกันนี้

    นี่เป็นการตอกย้ำถึงความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดของอิสราเอล ถ้าไม่มีการหยุดยิง พวกเขาจะไม่มีวันได้พบหน้าตัวประกัน
    2/ การแลกเปลี่ยนตัวประกันในกาซากำลังเริ่มขึ้น ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด นี่คือภาพตัวประกันที่กลุ่มฮามาสควบคุมตัวไว้จำนวนสามคน ซึ่งนั่งมาในรถกาชาดสากล จากข้อมูล ตัวประกันทั้งสามถูกคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซาตอนเหนือมาตลอด ที่ผ่านมาพื้นที่แห่งนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพอิสราเอลตลอดเวลา นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่เคยพบเบาะแสแม้แต่น้อยถึงตำแหน่งที่ซ่อนตัวของตัวประกันนี้ นี่เป็นการตอกย้ำถึงความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดของอิสราเอล ถ้าไม่มีการหยุดยิง พวกเขาจะไม่มีวันได้พบหน้าตัวประกัน
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • 1/
    การแลกเปลี่ยนตัวประกันในกาซากำลังเริ่มขึ้น ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด

    นี่คือภาพตัวประกันที่กลุ่มฮามาสควบคุมตัวไว้จำนวนสามคน ซึ่งนั่งมาในรถกาชาดสากล

    จากข้อมูล ตัวประกันทั้งสามถูกคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซาตอนเหนือมาตลอด ที่ผ่านมาพื้นที่แห่งนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพอิสราเอลตลอดเวลา นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่เคยพบเบาะแสแม้แต่น้อยถึงตำแหน่งที่ซ่อนตัวของตัวประกันนี้

    นี่เป็นการตอกย้ำถึงความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดของอิสราเอล ถ้าไม่มีการหยุดยิง พวกเขาจะไม่มีวันได้พบหน้าตัวประกัน
    1/ การแลกเปลี่ยนตัวประกันในกาซากำลังเริ่มขึ้น ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด นี่คือภาพตัวประกันที่กลุ่มฮามาสควบคุมตัวไว้จำนวนสามคน ซึ่งนั่งมาในรถกาชาดสากล จากข้อมูล ตัวประกันทั้งสามถูกคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซาตอนเหนือมาตลอด ที่ผ่านมาพื้นที่แห่งนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพอิสราเอลตลอดเวลา นั่นหมายความว่าพวกเขาไม่เคยพบเบาะแสแม้แต่น้อยถึงตำแหน่งที่ซ่อนตัวของตัวประกันนี้ นี่เป็นการตอกย้ำถึงความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดของอิสราเอล ถ้าไม่มีการหยุดยิง พวกเขาจะไม่มีวันได้พบหน้าตัวประกัน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts