• “จรยุทธ” ร่อนคำขอโทษ กรณีสูบบุหรี่ไฟฟ้าในอาคารรัฐสภา ทำประชาชนไม่สบายใจ ยันพร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ สร้างบรรทัดฐานที่ดี บอกเข้าใจ-ซาบซึ้งทุกความเห็นที่คาดหวัง

    วันนี้ (12 มี.ค.) นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ถึงกรณีสูบบุหรี่ไฟฟ้าในอาคารรัฐสภา ว่า จากกระแสข่าวที่มีการเผยแพร่ออกมา ผมทราบดีว่าทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความกังวลและมีข้อสงสัย ผมจึงอยากขอโทษจากใจจริงที่ทำให้พี่น้องประชาชนไม่สบายใจ ผมเข้าใจถึงความคาดหวังที่พี่น้องประชาชนมีต่อตัวผมในฐานะผู้แทนและผมเองก็ซาบซึ้งกับทุกความคิดเห็นที่ส่งมา

    ผมให้ความสำคัญกับบทบาทหน้าที่ของตัวเองในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ในขณะเดียวกัน ผมพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบจากทางรัฐสภา เพื่อเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ดีของการเป็นผู้แทนราษฎร

    สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณทุกเสียงสะท้อนจากพี่น้องประชาชน และขอยืนยันว่า ผมยังคงมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000023904

    #MGROnline #พรรคประชาชน #สูบบุหรี่ไฟฟ้า #อาคารรัฐสภา
    “จรยุทธ” ร่อนคำขอโทษ กรณีสูบบุหรี่ไฟฟ้าในอาคารรัฐสภา ทำประชาชนไม่สบายใจ ยันพร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ สร้างบรรทัดฐานที่ดี บอกเข้าใจ-ซาบซึ้งทุกความเห็นที่คาดหวัง • วันนี้ (12 มี.ค.) นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ถึงกรณีสูบบุหรี่ไฟฟ้าในอาคารรัฐสภา ว่า จากกระแสข่าวที่มีการเผยแพร่ออกมา ผมทราบดีว่าทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความกังวลและมีข้อสงสัย ผมจึงอยากขอโทษจากใจจริงที่ทำให้พี่น้องประชาชนไม่สบายใจ ผมเข้าใจถึงความคาดหวังที่พี่น้องประชาชนมีต่อตัวผมในฐานะผู้แทนและผมเองก็ซาบซึ้งกับทุกความคิดเห็นที่ส่งมา • ผมให้ความสำคัญกับบทบาทหน้าที่ของตัวเองในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ในขณะเดียวกัน ผมพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบจากทางรัฐสภา เพื่อเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ดีของการเป็นผู้แทนราษฎร • สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณทุกเสียงสะท้อนจากพี่น้องประชาชน และขอยืนยันว่า ผมยังคงมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000023904 • #MGROnline #พรรคประชาชน #สูบบุหรี่ไฟฟ้า #อาคารรัฐสภา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถกเดือดพิมพ์แบบเรียน สกสค. ส่อกีดกัน บ.รุ่งศิลป์ เสนอราคาต่ำสุด ไม่ได้สักรายการ
    .
    “กมธ.ป.ป.ช. สภาฯ” ถกเดือดโครงการพิมพ์แบบเรียนปี 68 งบฯพันล้าน “ก.บัญชีกลาง” จัดหนัก “องค์การค้าของ สกสค.” เจตนากีดกันแข่งขัน แถมส่อล็อกสเปกกระดาษ ส่อปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ทั้งที่เคยแจ้งว่าขัด กม.จัดซื้อฯ “รุ่งศิลป์ฯ” โอดไม่ได้งานแม้แต่รายการเดียว ทั้งที่เสนอราคาต่ำกว่าอื้อ “องค์การค้าฯ” ขยี้เหตุส่งหนังสือปี 67 ไม่ทัน จนถูกบอกเลิกสัญญา เจองัดหนังสือฝ่ายผลิต องค์การค้าฯ เซ็นยอมรับส่งปกไม่ครบสวน
    .
    เมื่อวันที่ 6 มี.ค.68 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ.ป.ป.ช.เป็นประธานในที่ประชุม มีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนขอให้ตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างโครงการจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ งบประมาณ 1,060 ล้านบาท ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (องค์การค้าของ สกสค.) ที่มีลักษณะกีดกันการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ซึ่ง บริษัท รุ่งศิลป์การพิมพ์ (1997) จำกัด (บจ.รุ่งศิลป์ฯ) ที่เป็นผู้ร่วมเสนอราคายื่นร้องเรียนต่อ กมธ.ฯ
    .
    ในการประชุมได้เชิญ ผู้แทน บจ.รุ่งศิลป์ฯ หรือโรงพิมพ์รุ่งศิลป์ ในฐานะผู้ร้อง, ผู้แทนองค์การค้าของ สกสค. ในฐานะผู้ถูกร้อง และผู้แทนจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ในฐานะกำกับดูแลระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เข้าร่วมชี้แจง
    .
    นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธาน กมธ.ฯ คนที่ 1 ได้สอบถามถึงประเด็นที่ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ได้ร้องเรียนว่า ในขอบเขตงาน (ทีโออาร์) ของโครงการฯ ทั้งครั้งที่เปิดประกวดราคาโดยวิธี e-bidding ซึ่งยกเลิกไปแล้ว และการประกวดราคาโดยวิธีคัดเลือก มีการระบุถึงคุณสมบัติผู้เข้าร่วมเสนอราคาว่า ต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกองค์การค้าของ สกสค.บอกเลิกสัญญาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง บจ.รุ่งศิลป์ฯ ระบุว่า ถูก องค์การค้าของ สกสค.บอกเลิกสัญญาบางรายการของโครงการจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปีการศึกษา 2567 อย่างไม่เป็นธรรม และมีการเรียกร้องค่าเสียจากทางองค์การค้าของ สกสค. รวมทั้งคดีที่ฟ้องร้องต่อศาลปกครองก็ยังไม่สิ้นสุด จึงมองว่าเป็นการกีดกัน บจ.รุ่งศิลป์ฯ ในแข่งขันโครงการฯ ปี 2568 ซึ่ง บจ.รุ่งศิลป์ฯ ก็ได้ร้องเรียนไปยัง กรมบัญชีกลาง รวมถึงยื่นคำร้องต่อ ศาลปกครองกลาง และอยู่ระหว่างการไต่สวนด้วย
    .
    ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ชี้แจงว่า กรณีกีดกันนี้ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ได้ร้องเรียนมายังกรมฯ 2 ครั้ง คือเมื่อวันที่ 2 ม.ค.68 ขณะมีการประกวดราคาโดยวิธี e-bidding ที่ได้ยกเลิกไปแล้ว ถือว่าคำร้องสิ้นสุด และเมื่อวันที่ 27 ก.พ.68 ช่วงประกวดราคาโดยวิธีการคัดเลือก ซึ่งอยู่ในระหว่างหาข้อมูลประกอบเพื่อพิจารณา จึงยังไม่ได้ตอบกลับข้อร้องเรียนกับทาง บจ.รุ่งศิลป์ฯ อย่างไรก็ตามเมื่อโครงการฯปี 2567 ทาง บจ.รุ่งศิลป์ฯ ก็เคยได้หารือในกรณีถูกกีดกันมาเช่นกัน กรมฯ ก็เคยตอบกลับแล้วว่า การกำหนดคุณสมบัติผู้เสนอราคาว่า ต้องไม่เคยถูกบอกเลิกสัญญา หรือเคยทำให้หน่วยงานเสียหาย ไม่สามารถกำหนดในทีโออาร์ได้ เพราะขัดกับมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 (พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ)
    .
    “โดยหลักการ ไม่ว่าจะประกวดราคาด้วยวิธีการใด หากระบุในทีโออาร์เกี่ยวกับคุณสมบัติการถูกบอกเลิกสัญญา หรือทำให้หน่วยงานเสียหายในลักษณะนี้ ถือเป็นการกีดกันทั้งสิ้น ซึ่งกรมฯ ได้เคยตอบข้อหารือไปหมดแล้วว่าขัดกฎหมาย แต่หน่วยงานจะปรับแก้ไข หรือนำไปดำเนินการอย่างไร กรมฯ ไม่อาจรับรู้ได้ทุกรายการ แต่ยืนยันว่าการระบุคุณสมบัติเช่นนี้ไม่เป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย” ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ระบุ
    .
    ถึงช่วงนี้ นายธีรัจชัย ที่ผลัดทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมกล่าวสรุปว่า “กรณีที่ กรมบัญชีกลาง มีความเห็น หรือเคยเตือนแล้วว่า ขัดต่อกฎหมาย แต่หน่วยงานยังดำเนินการต่ออีก ก็ถือว่าเจตนาที่จะกีดกัน เข้าข่ายการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” ซึ่งในที่ประชุมไม่มีผู้คัดค้านถ้อยคำดังกล่าว
    .
    อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ ผู้แทนองค์การค้าของ สกสค. รวมถึงผู้แทนหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ยังไม่ได้รับเชิญเข้าห้องประชุม
    .
    นายนัทธพลพงศ์ จิวัจฉรานุกูล รองกรรมการผู้จัดการ บจ.รุ่งศิลป์ฯ กล่าวต่อประชุมเสริมว่า ในการประกวดราคาโครงการฯ ปี 2568 โดยวิธีการคัดเลือก บริษัทฯก็ได้เข้าร่วมเสนอราคาด้วย และหลังจากมีการประกาศผลการประกวดราคา ปรากฎว่า บริษัทฯ ไม่ได้รับการคัดเลือกแม้แต่รายการเดียว ทั้งที่มีอย่างน้อย 30 จาก 145 รายการ ที่บริษัทฯเสนอราคาต่ำกว่าผู้ชนะการประกวดราคาค่อนข้างมาก จึงเชื่อว่ามีการใช้เงื่อนไขที่ระบุในทีโออาร์ในเรื่องการถูกบอกเลิกสัญญา รวมถึงต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยทำให้ องค์การค้าของ สกสค.เสียหาย มากีดกันโดยตัดคะแนน หรือตัดคุณสมบัติบริษัทฯ อย่างไม่เป็นธรรม
    .
    “เรายังไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงว่า เหตุใดที่เราซึ่งเสนอราคาต่ำกว่าผู้ชนะในหลายรายการ แล้วแต่ละรายการก็ต่ำกว่าค่อนข้างมาก แต่กลับไม่ได้คัดเลือกเป็นผู้รับจ้างแม้แต่รายการเดียว เพราะประกาศของ องค์การค้าของ สกสค.มีเฉพาะรายชื่อผู้ชนะการประกวดราคา 145 รายการของโครงการฯ แต่ไม่ได้แนบแบบฟอร์มรายละเอียดการให้คะแนนแต่ละรายการตามที่ กรมบัญชีกลาง กำหนด อีกทั้งการประกวดราคาโดยการคัดเลือกครั้งนี้เลือกใช้ข้อ (ค.) ที่ใช้เหตุความจำเป็นเร่งด่วน ทำให้ไม่สามารถอุทธรณ์ผลการประกวดราคาได้ และทำได้เพียงร้องเรียนต่อ กรมบัญชีกลาง รวมถึงอาจจะยื่นฟ้องต่อศาลเท่านั้น“ นายนัทธพลพงศ์ กล่าว
    .
    นอกจากนี้ที่ประชุม กมธ.ฯ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การที่หน่วยงานใช้เกณฑ์การประเมินค่าประสิทธิภาพต่อราคา (Price Performance) ในการประกวดราคาอาจเปิดช่องให้มีการกำหนดคุณสมบัติส่อไปในทางล็อกสเปกได้ โดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้างที่มีความซับซ้อนทางเทคนิค อย่างโครงการจัดพิมพ์หนังสือแบบเรียนขององค์การค้าของ สกสค.ในช่วงหลัง ก็มีการกำหนดคุณสมบัติกระดาษ ที่มีข้อร้องเรียนว่า ไปตรงกับคุณสมบัติกระดาษของผู้นำเข้าเพียงรายเดียวในประเทศไทย
    .
    ผู้แทนกรมบัญชีกลาง กล่าวตอบว่า เป็นดุลพินิจของแต่ละหน่วยงานที่จะกำหนดใช้เกณฑ์ Price Performance หรือไม่ แต่เมื่อนำมาใช้ หน่วยงานต้องกำหนดเกณฑ์ให้ชัดเจนเพื่อให้มีการแข่งขันในด้านคุณภาพอย่างแท้จริง ซึ่งบางกรณี กรมบัญชีกลาง ก็ไม่อาจล่วงรู้ถึงเหตุผลความจำเป็นจริงๆ
    .
    “แต่ถ้าเป็นไปตามที่ กมธ.ระบุว่า กำหนดคุณสมบัติกระดาษแล้วไปตรงกับของรายใดรายหนึ่งในประเทศก็แบบนี้ถือว่า ล็อกสเปก เพราะตามกฎหมายต้องมีผู้ค้าอย่างน้อย 3 ราย” ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ระบุ
    .
    ขณะที่ ผู้แทนองค์การค้าของ สกสค.ซึ่งเข้าร่วมชี้แจงในช่วงท้าย ได้เน้นประเด็นคุณสมบัติของ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ว่า ในการรับจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปี 2567 นั้น บจ.รุ่งศิลป์ฯ ส่งหนังสือบางรายการไม่ทันตามกำหนดโดยอ้างว่าได้รับปกหนังสือจากองค์การค้าฯ ไม่ครบ ตามกระบวนการ องค์การค้าฯ ก็จำเป็นต้องบอกเลิกสัญญา และเรียกค่าเสียหายตามสัญญา เนื่องจากในความเป็นจริง องค์การค้าฯ ได้ส่งปกหนังสือให้ตามกำหนด และมีเกินจำนวนสำรองไปด้วย ทาง บจ.รุ่งศิลป์ฯ ก็ลงนามรับปกหนังสือไปเป็นที่เรียบร้อย แต่กลับทำหนังสือโต้แย้งหลังผ่านไปเกินกว่า 20 วันว่า ได้รับปกหนังสือไม่ครบ จึงไม่ถือเป็นความผิดพลาดองค์การค้าฯ แต่เป็นความไม่พร้อมของ บจ.รุ่งศิลป์ฯ เอง อีกทั้ง องค์การค้าฯ ก็ได้สั่งผลิตปกหนังสือเพิ่มกลับไปให้ เพราะต้องการหนังสือให้กับเด็กนักเรียนทันเปิดเทอม นอกจากนี้ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ก็ได้ขอขยายระยะเวลาสัญญา เนื่องจากจัดส่งหนังสือได้ไม่ทันตามกำหนดด้วย
    .
    ด้าน ผู้แทน บจ.รุ่งศิลป์ฯ ชี้แจงว่า ปกหนังสือทั้งหมดตามรายการที่บริษัทฯ ได้รับว่าจ้างมีจำนวนมาก และแพ็คส่งมาในพาเลท มีการทยอยส่งมาเป็นระยะ คละกันหลายรายการ บริษัทฯ จึงไม่ได้ตรวจนับขณะได้รับจริงๆ ว่าครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ ก่อนมาพบภายหลังว่าไม่ครบตามจำนวน และบางส่วนยังชำรุดด้วย เมื่อพบปัญหาก็ได้ทำการโต้แย้งไปยังองค์การค้าของ สกสค. และก็มีผู้รับผิดชอบขององค์การค้าของ สกสค.ลงนามรับทราบว่า ส่งปกหนังสือไม่ครบจริงๆ โดยจะขอนำส่งเอกสารดังกล่าวให้กับ กมธ.ฯ เพื่อรปะกอบการพิจารณากรณีนี้
    .
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเอกสารที่ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ยื่นเพิ่มเติมให้แก่ กมธ.ฯนั้น เป็นบันทึกข้อความที่ สำนักบริหารการผลิต ฝ่ายการผลิต องค์การค้าของ สกสค. ลงวันที่ 11 เม.ย.67 ลงนามโดย หัวหน้าฝ่ายการผลิต องค์การค้าของ สกสค. ทำถึง บจ.รุ่งศิลป์ฯ เรื่อง ขอยืนยันจะส่งปกเพิ่มให้ครบจำนวนสั่งผลิต โดยระบุข้อความตอนหนึ่งว่า ”ได้มีการตรวจนับปกแต่ละรายการ พบว่าจำนวนใบพิมพ์ในแต่ละพาเลทมีจำนวนน้อยกว่าในใบแจ้งสถานะ องค์การค้าฯ จึงขอแจ้งกับทางบริษัทฯ ว่า ทางองค์การค้าฯ จะติดตาม ประสานงาน นำปกที่ทางบริษัทฯ แจ้งขาดจำนวน ส่งเพิ่มให้ตามจำนวนที่ทางบริษัทฯ แจ้งมา”.
    ............
    Sondhi X
    ถกเดือดพิมพ์แบบเรียน สกสค. ส่อกีดกัน บ.รุ่งศิลป์ เสนอราคาต่ำสุด ไม่ได้สักรายการ . “กมธ.ป.ป.ช. สภาฯ” ถกเดือดโครงการพิมพ์แบบเรียนปี 68 งบฯพันล้าน “ก.บัญชีกลาง” จัดหนัก “องค์การค้าของ สกสค.” เจตนากีดกันแข่งขัน แถมส่อล็อกสเปกกระดาษ ส่อปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ทั้งที่เคยแจ้งว่าขัด กม.จัดซื้อฯ “รุ่งศิลป์ฯ” โอดไม่ได้งานแม้แต่รายการเดียว ทั้งที่เสนอราคาต่ำกว่าอื้อ “องค์การค้าฯ” ขยี้เหตุส่งหนังสือปี 67 ไม่ทัน จนถูกบอกเลิกสัญญา เจองัดหนังสือฝ่ายผลิต องค์การค้าฯ เซ็นยอมรับส่งปกไม่ครบสวน . เมื่อวันที่ 6 มี.ค.68 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ.ป.ป.ช.เป็นประธานในที่ประชุม มีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนขอให้ตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างโครงการจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปีการศึกษา 2568 จำนวน 145 รายการ งบประมาณ 1,060 ล้านบาท ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (องค์การค้าของ สกสค.) ที่มีลักษณะกีดกันการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ซึ่ง บริษัท รุ่งศิลป์การพิมพ์ (1997) จำกัด (บจ.รุ่งศิลป์ฯ) ที่เป็นผู้ร่วมเสนอราคายื่นร้องเรียนต่อ กมธ.ฯ . ในการประชุมได้เชิญ ผู้แทน บจ.รุ่งศิลป์ฯ หรือโรงพิมพ์รุ่งศิลป์ ในฐานะผู้ร้อง, ผู้แทนองค์การค้าของ สกสค. ในฐานะผู้ถูกร้อง และผู้แทนจากหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการที่เกี่ยวข้อง รวมถึง ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ในฐานะกำกับดูแลระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เข้าร่วมชี้แจง . นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธาน กมธ.ฯ คนที่ 1 ได้สอบถามถึงประเด็นที่ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ได้ร้องเรียนว่า ในขอบเขตงาน (ทีโออาร์) ของโครงการฯ ทั้งครั้งที่เปิดประกวดราคาโดยวิธี e-bidding ซึ่งยกเลิกไปแล้ว และการประกวดราคาโดยวิธีคัดเลือก มีการระบุถึงคุณสมบัติผู้เข้าร่วมเสนอราคาว่า ต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกองค์การค้าของ สกสค.บอกเลิกสัญญาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง บจ.รุ่งศิลป์ฯ ระบุว่า ถูก องค์การค้าของ สกสค.บอกเลิกสัญญาบางรายการของโครงการจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปีการศึกษา 2567 อย่างไม่เป็นธรรม และมีการเรียกร้องค่าเสียจากทางองค์การค้าของ สกสค. รวมทั้งคดีที่ฟ้องร้องต่อศาลปกครองก็ยังไม่สิ้นสุด จึงมองว่าเป็นการกีดกัน บจ.รุ่งศิลป์ฯ ในแข่งขันโครงการฯ ปี 2568 ซึ่ง บจ.รุ่งศิลป์ฯ ก็ได้ร้องเรียนไปยัง กรมบัญชีกลาง รวมถึงยื่นคำร้องต่อ ศาลปกครองกลาง และอยู่ระหว่างการไต่สวนด้วย . ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ชี้แจงว่า กรณีกีดกันนี้ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ได้ร้องเรียนมายังกรมฯ 2 ครั้ง คือเมื่อวันที่ 2 ม.ค.68 ขณะมีการประกวดราคาโดยวิธี e-bidding ที่ได้ยกเลิกไปแล้ว ถือว่าคำร้องสิ้นสุด และเมื่อวันที่ 27 ก.พ.68 ช่วงประกวดราคาโดยวิธีการคัดเลือก ซึ่งอยู่ในระหว่างหาข้อมูลประกอบเพื่อพิจารณา จึงยังไม่ได้ตอบกลับข้อร้องเรียนกับทาง บจ.รุ่งศิลป์ฯ อย่างไรก็ตามเมื่อโครงการฯปี 2567 ทาง บจ.รุ่งศิลป์ฯ ก็เคยได้หารือในกรณีถูกกีดกันมาเช่นกัน กรมฯ ก็เคยตอบกลับแล้วว่า การกำหนดคุณสมบัติผู้เสนอราคาว่า ต้องไม่เคยถูกบอกเลิกสัญญา หรือเคยทำให้หน่วยงานเสียหาย ไม่สามารถกำหนดในทีโออาร์ได้ เพราะขัดกับมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 (พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ) . “โดยหลักการ ไม่ว่าจะประกวดราคาด้วยวิธีการใด หากระบุในทีโออาร์เกี่ยวกับคุณสมบัติการถูกบอกเลิกสัญญา หรือทำให้หน่วยงานเสียหายในลักษณะนี้ ถือเป็นการกีดกันทั้งสิ้น ซึ่งกรมฯ ได้เคยตอบข้อหารือไปหมดแล้วว่าขัดกฎหมาย แต่หน่วยงานจะปรับแก้ไข หรือนำไปดำเนินการอย่างไร กรมฯ ไม่อาจรับรู้ได้ทุกรายการ แต่ยืนยันว่าการระบุคุณสมบัติเช่นนี้ไม่เป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย” ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ระบุ . ถึงช่วงนี้ นายธีรัจชัย ที่ผลัดทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมกล่าวสรุปว่า “กรณีที่ กรมบัญชีกลาง มีความเห็น หรือเคยเตือนแล้วว่า ขัดต่อกฎหมาย แต่หน่วยงานยังดำเนินการต่ออีก ก็ถือว่าเจตนาที่จะกีดกัน เข้าข่ายการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” ซึ่งในที่ประชุมไม่มีผู้คัดค้านถ้อยคำดังกล่าว . อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ ผู้แทนองค์การค้าของ สกสค. รวมถึงผู้แทนหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ยังไม่ได้รับเชิญเข้าห้องประชุม . นายนัทธพลพงศ์ จิวัจฉรานุกูล รองกรรมการผู้จัดการ บจ.รุ่งศิลป์ฯ กล่าวต่อประชุมเสริมว่า ในการประกวดราคาโครงการฯ ปี 2568 โดยวิธีการคัดเลือก บริษัทฯก็ได้เข้าร่วมเสนอราคาด้วย และหลังจากมีการประกาศผลการประกวดราคา ปรากฎว่า บริษัทฯ ไม่ได้รับการคัดเลือกแม้แต่รายการเดียว ทั้งที่มีอย่างน้อย 30 จาก 145 รายการ ที่บริษัทฯเสนอราคาต่ำกว่าผู้ชนะการประกวดราคาค่อนข้างมาก จึงเชื่อว่ามีการใช้เงื่อนไขที่ระบุในทีโออาร์ในเรื่องการถูกบอกเลิกสัญญา รวมถึงต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยทำให้ องค์การค้าของ สกสค.เสียหาย มากีดกันโดยตัดคะแนน หรือตัดคุณสมบัติบริษัทฯ อย่างไม่เป็นธรรม . “เรายังไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงว่า เหตุใดที่เราซึ่งเสนอราคาต่ำกว่าผู้ชนะในหลายรายการ แล้วแต่ละรายการก็ต่ำกว่าค่อนข้างมาก แต่กลับไม่ได้คัดเลือกเป็นผู้รับจ้างแม้แต่รายการเดียว เพราะประกาศของ องค์การค้าของ สกสค.มีเฉพาะรายชื่อผู้ชนะการประกวดราคา 145 รายการของโครงการฯ แต่ไม่ได้แนบแบบฟอร์มรายละเอียดการให้คะแนนแต่ละรายการตามที่ กรมบัญชีกลาง กำหนด อีกทั้งการประกวดราคาโดยการคัดเลือกครั้งนี้เลือกใช้ข้อ (ค.) ที่ใช้เหตุความจำเป็นเร่งด่วน ทำให้ไม่สามารถอุทธรณ์ผลการประกวดราคาได้ และทำได้เพียงร้องเรียนต่อ กรมบัญชีกลาง รวมถึงอาจจะยื่นฟ้องต่อศาลเท่านั้น“ นายนัทธพลพงศ์ กล่าว . นอกจากนี้ที่ประชุม กมธ.ฯ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การที่หน่วยงานใช้เกณฑ์การประเมินค่าประสิทธิภาพต่อราคา (Price Performance) ในการประกวดราคาอาจเปิดช่องให้มีการกำหนดคุณสมบัติส่อไปในทางล็อกสเปกได้ โดยเฉพาะการจัดซื้อจัดจ้างที่มีความซับซ้อนทางเทคนิค อย่างโครงการจัดพิมพ์หนังสือแบบเรียนขององค์การค้าของ สกสค.ในช่วงหลัง ก็มีการกำหนดคุณสมบัติกระดาษ ที่มีข้อร้องเรียนว่า ไปตรงกับคุณสมบัติกระดาษของผู้นำเข้าเพียงรายเดียวในประเทศไทย . ผู้แทนกรมบัญชีกลาง กล่าวตอบว่า เป็นดุลพินิจของแต่ละหน่วยงานที่จะกำหนดใช้เกณฑ์ Price Performance หรือไม่ แต่เมื่อนำมาใช้ หน่วยงานต้องกำหนดเกณฑ์ให้ชัดเจนเพื่อให้มีการแข่งขันในด้านคุณภาพอย่างแท้จริง ซึ่งบางกรณี กรมบัญชีกลาง ก็ไม่อาจล่วงรู้ถึงเหตุผลความจำเป็นจริงๆ . “แต่ถ้าเป็นไปตามที่ กมธ.ระบุว่า กำหนดคุณสมบัติกระดาษแล้วไปตรงกับของรายใดรายหนึ่งในประเทศก็แบบนี้ถือว่า ล็อกสเปก เพราะตามกฎหมายต้องมีผู้ค้าอย่างน้อย 3 ราย” ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ระบุ . ขณะที่ ผู้แทนองค์การค้าของ สกสค.ซึ่งเข้าร่วมชี้แจงในช่วงท้าย ได้เน้นประเด็นคุณสมบัติของ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ว่า ในการรับจ้างพิมพ์หนังสือแบบเรียนปี 2567 นั้น บจ.รุ่งศิลป์ฯ ส่งหนังสือบางรายการไม่ทันตามกำหนดโดยอ้างว่าได้รับปกหนังสือจากองค์การค้าฯ ไม่ครบ ตามกระบวนการ องค์การค้าฯ ก็จำเป็นต้องบอกเลิกสัญญา และเรียกค่าเสียหายตามสัญญา เนื่องจากในความเป็นจริง องค์การค้าฯ ได้ส่งปกหนังสือให้ตามกำหนด และมีเกินจำนวนสำรองไปด้วย ทาง บจ.รุ่งศิลป์ฯ ก็ลงนามรับปกหนังสือไปเป็นที่เรียบร้อย แต่กลับทำหนังสือโต้แย้งหลังผ่านไปเกินกว่า 20 วันว่า ได้รับปกหนังสือไม่ครบ จึงไม่ถือเป็นความผิดพลาดองค์การค้าฯ แต่เป็นความไม่พร้อมของ บจ.รุ่งศิลป์ฯ เอง อีกทั้ง องค์การค้าฯ ก็ได้สั่งผลิตปกหนังสือเพิ่มกลับไปให้ เพราะต้องการหนังสือให้กับเด็กนักเรียนทันเปิดเทอม นอกจากนี้ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ก็ได้ขอขยายระยะเวลาสัญญา เนื่องจากจัดส่งหนังสือได้ไม่ทันตามกำหนดด้วย . ด้าน ผู้แทน บจ.รุ่งศิลป์ฯ ชี้แจงว่า ปกหนังสือทั้งหมดตามรายการที่บริษัทฯ ได้รับว่าจ้างมีจำนวนมาก และแพ็คส่งมาในพาเลท มีการทยอยส่งมาเป็นระยะ คละกันหลายรายการ บริษัทฯ จึงไม่ได้ตรวจนับขณะได้รับจริงๆ ว่าครบถ้วนถูกต้องหรือไม่ ก่อนมาพบภายหลังว่าไม่ครบตามจำนวน และบางส่วนยังชำรุดด้วย เมื่อพบปัญหาก็ได้ทำการโต้แย้งไปยังองค์การค้าของ สกสค. และก็มีผู้รับผิดชอบขององค์การค้าของ สกสค.ลงนามรับทราบว่า ส่งปกหนังสือไม่ครบจริงๆ โดยจะขอนำส่งเอกสารดังกล่าวให้กับ กมธ.ฯ เพื่อรปะกอบการพิจารณากรณีนี้ . ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเอกสารที่ บจ.รุ่งศิลป์ฯ ยื่นเพิ่มเติมให้แก่ กมธ.ฯนั้น เป็นบันทึกข้อความที่ สำนักบริหารการผลิต ฝ่ายการผลิต องค์การค้าของ สกสค. ลงวันที่ 11 เม.ย.67 ลงนามโดย หัวหน้าฝ่ายการผลิต องค์การค้าของ สกสค. ทำถึง บจ.รุ่งศิลป์ฯ เรื่อง ขอยืนยันจะส่งปกเพิ่มให้ครบจำนวนสั่งผลิต โดยระบุข้อความตอนหนึ่งว่า ”ได้มีการตรวจนับปกแต่ละรายการ พบว่าจำนวนใบพิมพ์ในแต่ละพาเลทมีจำนวนน้อยกว่าในใบแจ้งสถานะ องค์การค้าฯ จึงขอแจ้งกับทางบริษัทฯ ว่า ทางองค์การค้าฯ จะติดตาม ประสานงาน นำปกที่ทางบริษัทฯ แจ้งขาดจำนวน ส่งเพิ่มให้ตามจำนวนที่ทางบริษัทฯ แจ้งมา”. ............ Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1848 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ประธานาธิบดีปูตินประกาศให้เป็น "วันปฏิบัติการพิเศษ" (День сил специальных операций / Special Operations Forces Day) ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษรัสเซีย (Си́лы специа́льных опера́ций - ССО) นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา

    - ภาพวิดีโอเพื่อร่วมยินดีในวันปฏิบัติการพิเศษ เกี่ยวกับการทำงานของกองกำลังปฏิบัติการพิเศษของรัสเซีย ที่แนวหลังของแนวรบ: การซุ่มโจมตี การโจมตี การกำจัด และการจับกุมใหม่

    หน่วยปฏิบัติการพิเศษรัสเซีย ถูกจัดตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 2009 โดยการโอนย้ายมาจากหน่วยข่าวกรองทางทหารของรัสเซีย (GRU)

    เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2015 ประธานาธิบดีปูตินได้ออกคำสั่งให้วันที่ 27 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันปฏิบัติการพิเศษ เพื่อเป็นเกียรติให้กับภารกิจที่สร้างชื่อเสียงให้กับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (SOF) ในไครเมียเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2014 ซึ่งในภารกิจครั้งนั้นนำปฏิบัติการโดยเจ้าหน้าที่ SOF ร่วมกับหน่วยอื่นของกองทัพรัสเซียปลอมตัวบุกเข้าแคว้นไครเมียของยูเครน แล้วยึดอาคารรัฐสภาไครเมียได้สำเร็จ รวมทั้งปิดกั้นสถานที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ เช่น สนามบินซิมเฟอโรปอล
    วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ประธานาธิบดีปูตินประกาศให้เป็น "วันปฏิบัติการพิเศษ" (День сил специальных операций / Special Operations Forces Day) ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษรัสเซีย (Си́лы специа́льных опера́ций - ССО) นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา - ภาพวิดีโอเพื่อร่วมยินดีในวันปฏิบัติการพิเศษ เกี่ยวกับการทำงานของกองกำลังปฏิบัติการพิเศษของรัสเซีย ที่แนวหลังของแนวรบ: การซุ่มโจมตี การโจมตี การกำจัด และการจับกุมใหม่ หน่วยปฏิบัติการพิเศษรัสเซีย ถูกจัดตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 2009 โดยการโอนย้ายมาจากหน่วยข่าวกรองทางทหารของรัสเซีย (GRU) เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2015 ประธานาธิบดีปูตินได้ออกคำสั่งให้วันที่ 27 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันปฏิบัติการพิเศษ เพื่อเป็นเกียรติให้กับภารกิจที่สร้างชื่อเสียงให้กับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (SOF) ในไครเมียเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2014 ซึ่งในภารกิจครั้งนั้นนำปฏิบัติการโดยเจ้าหน้าที่ SOF ร่วมกับหน่วยอื่นของกองทัพรัสเซียปลอมตัวบุกเข้าแคว้นไครเมียของยูเครน แล้วยึดอาคารรัฐสภาไครเมียได้สำเร็จ รวมทั้งปิดกั้นสถานที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ เช่น สนามบินซิมเฟอโรปอล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 285 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ กระรอก ญาติเสี่ยหนู สัตว์ตระกูลฟันแทะเหมือนกัน โผล่ห้องประชุมอาคารรัฐสภา เชื่อแล้วว่า ซิโนไทย ผู้ก่อสร้างสภาฯ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ถึงขั้นฝนตกกลางสภาฯ กระรอก หนู มาวิ่งเล่น
    #7ดอกจิก
    ♣ กระรอก ญาติเสี่ยหนู สัตว์ตระกูลฟันแทะเหมือนกัน โผล่ห้องประชุมอาคารรัฐสภา เชื่อแล้วว่า ซิโนไทย ผู้ก่อสร้างสภาฯ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ถึงขั้นฝนตกกลางสภาฯ กระรอก หนู มาวิ่งเล่น #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไซด์ ซาดีค นักการเมือง ที่เป็นนายแบบได้นิดหน่อย

    เป็นอีกนักการเมืองคนรุ่นใหม่ ที่สร้างสีสันการเมืองในมาเลเซีย สำหรับไซด์ ซาดีค (Syed Saddiq) วัย 32 ปี สส.อำเภอมัวร์ รัฐยะโฮร์ สังกัดพรรคฝ่ายค้าน มูดา (MUDA) และอดีต รมว.เยาวชนและกีฬามาเลเซีย ล่าสุดเขาออกมายอมรับว่า ต้องจำยอมไปเป็นนายแบบเสื้อผ้าชุดรายอให้กับแบรนด์แฟชั่นแบรนด์หนึ่ง คู่กับ เบลลา อัสติลลาห์ (Bella Astillah) นักร้องและนักแสดงสาวชื่อดัง เพราะรัฐบาลนายอันวาร์ อิบราฮิม จากกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน (PH) ไม่ยอมจัดสรรเงินช่วยเหลือประชาชนในเขตเลือกตั้งของตนเอง

    ซาดีค กล่าวกลางรัฐสภามาเลเซียว่า ได้พยายามเจรจากับรัฐบาลอันวาร์มาหลายครั้งแล้ว ทำตามคำแนะนำนายอันวาร์ เจรจากับนายฟาดิลลาห์ ยูโซฟ รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียไปแล้ว 5 ครั้ง ส่งจดหมายไปแล้ว ฉบับแล้วฉบับเล่านานกว่า 400 วัน แต่ความช่วยเหลือจากรัฐบาลต่อรัฐสภาเมืองมัวร์ยังเป็น 0 ริงกิต ถ้าไม่อยากให้งบประมาณก็พูดในรัฐสภาแห่งนี้ไปเลย อย่าพูดเล่นๆ แบบข้างนอกพูดอย่างหนึ่ง แต่ข้างในกลับพูดอีกอย่างหนึ่ง ผมพยายามหลายครั้งแล้วแต่ไม่สำเร็จ ก็เลยหนีมาเป็นนายแบบ สส.บางคนโกรธที่ผมเป็นนายแบบ ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดผมก็ได้รับเงินบริจาค 1 ล้านริงกิตให้กับรัฐสภาเมืองมัวร์

    ขณะเดียวกัน ซาดีค ได้ขอให้รัฐบาลอันวาร์ทำการเมืองแบบมีวุฒิภาวะ เพราะไม่ว่ารัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ชะตากรรมของประชาชนในพื้นที่จะได้รับการปกป้อง และให้ความช่วยเหลือโดยไม่คำนึงถึงสังกัดทางการเมือง มาเลเซียจะกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้อย่างไร แม้แต่เรื่องพื้นฐานก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ เราส่งเสียงเรื่องนี้มาหลายสิบปีแล้วเมื่อเป็นฝ่ายค้าน

    ก่อนหน้านี้ เซียร์ลีนา อับดุล ราชิด (Syerleena Abdul Rashid) สมาชิกรัฐสภาของกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน กลุ่มเดียวกับนายกรัฐมนตรีอันวาร์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ซาดีคว่า ละเลยประชาชนในเขตเลือกตั้งตนเอง เพราะเขามักจะร่วมงานกับอัสติลลาห์โปรโมตเสื้อผ้ารายอแบรนด์หนึ่ง กระทั่งซาดีคต้องออกมาตอบโต้ดังกล่าว

    ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ซาดีคตัดสินใจวิ่งจากอำเภอมัวร์ รัฐยะโฮร์ ไปยังอาคารรัฐสภามาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร โดยใช้เวลา 4 วัน เพื่อระดมทุนรับบริจาคภายใต้แคมเปญ Langkah Muar (ก้าวเพื่อมัวร์) โดยครั้งนั้นได้เงินบริจาคกว่า 1 แสนริงกิต หรือประมาณ 7.7 แสนบาทในเวลา 48 ชั่วโมง

    #Newskit
    ไซด์ ซาดีค นักการเมือง ที่เป็นนายแบบได้นิดหน่อย เป็นอีกนักการเมืองคนรุ่นใหม่ ที่สร้างสีสันการเมืองในมาเลเซีย สำหรับไซด์ ซาดีค (Syed Saddiq) วัย 32 ปี สส.อำเภอมัวร์ รัฐยะโฮร์ สังกัดพรรคฝ่ายค้าน มูดา (MUDA) และอดีต รมว.เยาวชนและกีฬามาเลเซีย ล่าสุดเขาออกมายอมรับว่า ต้องจำยอมไปเป็นนายแบบเสื้อผ้าชุดรายอให้กับแบรนด์แฟชั่นแบรนด์หนึ่ง คู่กับ เบลลา อัสติลลาห์ (Bella Astillah) นักร้องและนักแสดงสาวชื่อดัง เพราะรัฐบาลนายอันวาร์ อิบราฮิม จากกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน (PH) ไม่ยอมจัดสรรเงินช่วยเหลือประชาชนในเขตเลือกตั้งของตนเอง ซาดีค กล่าวกลางรัฐสภามาเลเซียว่า ได้พยายามเจรจากับรัฐบาลอันวาร์มาหลายครั้งแล้ว ทำตามคำแนะนำนายอันวาร์ เจรจากับนายฟาดิลลาห์ ยูโซฟ รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียไปแล้ว 5 ครั้ง ส่งจดหมายไปแล้ว ฉบับแล้วฉบับเล่านานกว่า 400 วัน แต่ความช่วยเหลือจากรัฐบาลต่อรัฐสภาเมืองมัวร์ยังเป็น 0 ริงกิต ถ้าไม่อยากให้งบประมาณก็พูดในรัฐสภาแห่งนี้ไปเลย อย่าพูดเล่นๆ แบบข้างนอกพูดอย่างหนึ่ง แต่ข้างในกลับพูดอีกอย่างหนึ่ง ผมพยายามหลายครั้งแล้วแต่ไม่สำเร็จ ก็เลยหนีมาเป็นนายแบบ สส.บางคนโกรธที่ผมเป็นนายแบบ ขอบคุณพระเจ้า ในที่สุดผมก็ได้รับเงินบริจาค 1 ล้านริงกิตให้กับรัฐสภาเมืองมัวร์ ขณะเดียวกัน ซาดีค ได้ขอให้รัฐบาลอันวาร์ทำการเมืองแบบมีวุฒิภาวะ เพราะไม่ว่ารัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ชะตากรรมของประชาชนในพื้นที่จะได้รับการปกป้อง และให้ความช่วยเหลือโดยไม่คำนึงถึงสังกัดทางการเมือง มาเลเซียจะกลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้อย่างไร แม้แต่เรื่องพื้นฐานก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ เราส่งเสียงเรื่องนี้มาหลายสิบปีแล้วเมื่อเป็นฝ่ายค้าน ก่อนหน้านี้ เซียร์ลีนา อับดุล ราชิด (Syerleena Abdul Rashid) สมาชิกรัฐสภาของกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน กลุ่มเดียวกับนายกรัฐมนตรีอันวาร์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ซาดีคว่า ละเลยประชาชนในเขตเลือกตั้งตนเอง เพราะเขามักจะร่วมงานกับอัสติลลาห์โปรโมตเสื้อผ้ารายอแบรนด์หนึ่ง กระทั่งซาดีคต้องออกมาตอบโต้ดังกล่าว ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ซาดีคตัดสินใจวิ่งจากอำเภอมัวร์ รัฐยะโฮร์ ไปยังอาคารรัฐสภามาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร โดยใช้เวลา 4 วัน เพื่อระดมทุนรับบริจาคภายใต้แคมเปญ Langkah Muar (ก้าวเพื่อมัวร์) โดยครั้งนั้นได้เงินบริจาคกว่า 1 แสนริงกิต หรือประมาณ 7.7 แสนบาทในเวลา 48 ชั่วโมง #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 481 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ดีเอสไอ” ใช้เครื่องเลเซอร์สแกนนิ่ง สแกน ภูมิประเทศบริเวณวัดค้างคาวนำไปประมวลผลเป็นภาพ 3 มิติเทียบเคียงข้อมูลจำลองเหตุการณ์วันเกิดเหตุ เทียบ GPS เรือ-โทรศัพท์ พบจอดเรือ บริเวณวัดค้างคาว กว่า 1 ชั่วโมง

    วันนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 9.30 น. พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม พร้อมคณะพนักงานสอบสวน พาตัวแทนสื่อมวลชนลงเรือสปีดโบ๊ท โดยวันนี้ได้มีการเตรียมเรือ ที่จะใช้ในการตรวจสอบจุดต่างๆ ตลอดลำน้ำเจ้าพระยาทั้งหมด 5 ลำ

    โดยเรือทั้งหมดเคลื่อนตัวออกจากท่าเรือบ้านเรือเล็ก มุ่งหน้าทางทิศใต้ ลอดใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรนุสรณ์ ผ่านสะพานพระราม 5 มุ่งหน้าไปจุดแรกที่เจ้าหน้าที่จะเริ่มทำการสแกนพื้นที่ คือ บริเวณท่าทรายใกล้เคียงกับ บริษัท พูนพิพัฒน์ จำกัด โดยจุดนี้ได้นำโดรนบินสำรวจสแกนเหนือลำน้ำเจ้าพระยา เพื่อนำภาพมุมสูงไปประกอบประมวลเป็นภาพสามมิติเส้นทางที่เรือลำเกิดเหตุแล่น ตามข้อมูล GPS เรือ

    จากนั้นเรือได้และมุ่งหน้าต่อไปทางทิศใต้ลอดใต้สะพาน พระราม 7 มาจอดบริเวณกลางลำน้ำเจ้าพระยา บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 ตรงข้ามกับหน้าอาคารรัฐสภา โดยบริเวณจุดนี้เจ้าหน้าที่ได้จอดให้คณะพนักงานสอบสวนและสื่อมวลชนบันทึกภาพและใช้เครื่องมือสแกนบริเวณโดยรอบพื้นที่รวมถึงสแกนหาวัตถุใต้ผิวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยบริเวณจุดนี้เรือชะลอความเร็วเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือที่เตรียมมาสแกน ทั้งทางอากาศและทางน้ำ รวมถึงมาจำลองตามคำกล่าวอ้างที่มีภาพถ่ายปรากฏอยู่ในโทรศัพท์ของแตงโม (นิดา) โดยบริเวณจุดที่ตรงกับปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 เรือลำของนายแพทย์ธวัชชัยให้ความสนใจ และใช้เวลาลอยลำอยู่ตรงจุดนี้ประมาณ 15 นาที ส่วนทางคณะพนักงานสอบสวนกลุ่มสอบสวนคดีพิเศษได้นำเรือลอยลำสำรวจตามจุดต่างๆ ล่วงหน้า ทั้งหมด 8 จุดตามที่แจ้งกับสื่อมวลชนไว้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015736

    #MGROnline #ดีเอสไอ
    “ดีเอสไอ” ใช้เครื่องเลเซอร์สแกนนิ่ง สแกน ภูมิประเทศบริเวณวัดค้างคาวนำไปประมวลผลเป็นภาพ 3 มิติเทียบเคียงข้อมูลจำลองเหตุการณ์วันเกิดเหตุ เทียบ GPS เรือ-โทรศัพท์ พบจอดเรือ บริเวณวัดค้างคาว กว่า 1 ชั่วโมง • วันนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 9.30 น. พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม พร้อมคณะพนักงานสอบสวน พาตัวแทนสื่อมวลชนลงเรือสปีดโบ๊ท โดยวันนี้ได้มีการเตรียมเรือ ที่จะใช้ในการตรวจสอบจุดต่างๆ ตลอดลำน้ำเจ้าพระยาทั้งหมด 5 ลำ • โดยเรือทั้งหมดเคลื่อนตัวออกจากท่าเรือบ้านเรือเล็ก มุ่งหน้าทางทิศใต้ ลอดใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรนุสรณ์ ผ่านสะพานพระราม 5 มุ่งหน้าไปจุดแรกที่เจ้าหน้าที่จะเริ่มทำการสแกนพื้นที่ คือ บริเวณท่าทรายใกล้เคียงกับ บริษัท พูนพิพัฒน์ จำกัด โดยจุดนี้ได้นำโดรนบินสำรวจสแกนเหนือลำน้ำเจ้าพระยา เพื่อนำภาพมุมสูงไปประกอบประมวลเป็นภาพสามมิติเส้นทางที่เรือลำเกิดเหตุแล่น ตามข้อมูล GPS เรือ • จากนั้นเรือได้และมุ่งหน้าต่อไปทางทิศใต้ลอดใต้สะพาน พระราม 7 มาจอดบริเวณกลางลำน้ำเจ้าพระยา บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 ตรงข้ามกับหน้าอาคารรัฐสภา โดยบริเวณจุดนี้เจ้าหน้าที่ได้จอดให้คณะพนักงานสอบสวนและสื่อมวลชนบันทึกภาพและใช้เครื่องมือสแกนบริเวณโดยรอบพื้นที่รวมถึงสแกนหาวัตถุใต้ผิวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยบริเวณจุดนี้เรือชะลอความเร็วเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือที่เตรียมมาสแกน ทั้งทางอากาศและทางน้ำ รวมถึงมาจำลองตามคำกล่าวอ้างที่มีภาพถ่ายปรากฏอยู่ในโทรศัพท์ของแตงโม (นิดา) โดยบริเวณจุดที่ตรงกับปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 เรือลำของนายแพทย์ธวัชชัยให้ความสนใจ และใช้เวลาลอยลำอยู่ตรงจุดนี้ประมาณ 15 นาที ส่วนทางคณะพนักงานสอบสวนกลุ่มสอบสวนคดีพิเศษได้นำเรือลอยลำสำรวจตามจุดต่างๆ ล่วงหน้า ทั้งหมด 8 จุดตามที่แจ้งกับสื่อมวลชนไว้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015736 • #MGROnline #ดีเอสไอ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 333 มุมมอง 0 รีวิว
  • อัยการเกาหลีใต้ สั่งฟ้อง ยุน ซ็อกยอล ประธานาธิบดีผู้ถูกถอดถอน ในข้อหาเป็นผู้นำในการก่อกบฏ ด้วยการประกาศกฎอัยการศึกที่มีผลบังคับใช้ช่วงสั้นๆ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม จากการเปิดเผยของทนายความของยุนและพรรคฝ่ายค้านหลัก
    .
    ทนายความของยุน วิพากษ์วิจารณ์การสั่งฟ้องครั้งนี้ว่า "เป็นตัวเลือกที่เลวร้าย" ที่ดำเนินการโดยสำนักงานอัยการ แต่ทางพรรคฝ่ายค้านหลักขานรับด้วยความยินดีต่อการตัดสินใจดังกล่าว
    .
    การสั่งฟ้องครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับประธานาธิบดีรายหนึ่งรายใดของเกาหลีใต้ และถ้าถูกตัดสินว่ามีความผิด ยุน อาจต้องเผชิญโทษจำคุกสำหรับการประกาศกฎอัยการศึกที่ก่อความตกตะลึงของเขา ในความพยายามหาทางห้ามกิจกรรมทางการเมืองและรัฐสภา รวมถึงควบคุมสื่อมวลชน
    .
    ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเขา นำมาซึ่งความอลหม่านทางการเมืองในชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของเอเชีย และพันธมิตรหลักของสหรัฐฯ ในขณะที่นายกรัฐมนตรีก็ถูกถอดถอนเช่นกันและถูกพักอำนาจ นอกจากนี้แล้วยังเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงจำนวนหนึ่งถูกสั่งฟ้องจากบทบาทของพวกเขาในคำกล่าวหาก่อกบฏ
    .
    "ประกาศอัยการศึกฉุกเฉินของประธานาธิบดี เป็นคำวิงวอนที่สิ้นหวังที่มีถึงประชาชน ว่าวิกฤตระดับชาติหนึ่งๆ ที่ก่อโดยพวกฝ่ายค้าน กำลังหลุดจากการควบคุม" ทนายความของยุนระบุในถ้อยแถลง
    .
    สำนักงานอัยการยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น แต่ข่าวคราวเกี่ยวกับการสั่งฟ้องถูกรายงานโดยสื่อมวลชนเกาหลีใต้เช่นกัน
    .
    ทีมสืบสวนต่อต้านคอร์รัปชัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เสนอให้ตั้งข้อหายุน ที่อยู่ภายใต้การคุมขัง หลังจากถูกถอดถอนโดยรัฐสภาและพักจากการทำหน้าที่เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม
    .
    ยุน ซึ่งตัวเองเคยเป็นอัยการสูงสุด ถูกคุมขังเดี่ยวอยู่ที่ทัณฑสถาน ชานกรุงโซล มาตั้งแต่กลายเป็นประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่ง คนแรกที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 15 มกราคม การจับกุมที่มีขึ้นตามหลังหลายวันของการขัดขืน และการเผชิญหน้าติดอาวุธระหว่างทีมรักษาความปลอดภัยของเขากับเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่จับกุมตัว
    .
    เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลปฏิเสธอัยการถึง 2 รอบในคำร้องขอขยายเวลาควบคุมตัวเขาระหว่างการสืบสวนเพิ่มเติม แต่ด้วยคำสั่งฟ้อง อัยการจึงร้องขออีกครั้งให้คุมขังเขาต่อไป ตามรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่น
    .
    การก่อกบฏเป็นหนึ่งในข้อกล่าวหาทางอาญาไม่กี่ข้อกล่าวหา ที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้รายหนึ่งๆ ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง และมันมีบทลงโทษหนักจำคุกตลอดชีวิตหรือถึงขั้นประหาร แม้เกาหลีใต้ไม่ได้ประหารชีวิตใครมานานหลายทศวรรษแล้วก็ตาม
    .
    "อัยการตัดสินใจสั่งฟ้องยุน ซ็อกยอล ผู้ซึ่งเผชิญข้อกล่าวหาเป็นหัวหน้าแก๊งก่อกบฏ" ฮัน มิน-ซู โฆษกพรรคเดโมแครต ปาร์ตี กล่าวระหว่างแถลงข่าว "เวลานี้การลงโทษหัวหน้าแก๊งก่อกบฏเริ่มต้นขึ้นได้เสียที"
    .
    ยุนและทนายความของเขา โต้แย้ง ณ ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างการพิจารณาการถอดถอน ว่าเขาไม่เคยมีความตั้งใจบังคับใช้อัยการศึกเต็มรูปแบบ แต่มีเจตนาใช้เป็นแค่มาตรการเตือนเพื่อทลายทางตันทางการเมืองเท่านั้น
    .
    ในความเคลื่อนไหวคู่ขนานกับกระบวนการทางอาญา ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ตัดสินรับรองการถอดถอนยุนพ้นจากตำแหน่ง หรือคืนอำนาจประธานาธิบดีแก่เขา โดยศาลมีเวลา 180 วัน สำหรับการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว
    .
    รัฐสภาที่นำโดยฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ ลงมติถอดถอน ยุน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ส่งผลให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีสายอนุรักษนิยมรายที่ 2 ของประเทศ ที่ถูกถอดถอนพ้นจากตำแหน่ง
    .
    ยุน ถอนประกาศอัยการศึกหลังจากบังคับใช้ไปราวๆ 6 ชั่วโมง หลังบรรดาสมาชิกรัฐสภา ที่เผชิญหน้ากับทหารในรัฐสภา ลงมติคว่ำประกาศดังกล่าว
    .
    ระหว่างการเผชิญหน้าอันน่าตกอกตกใจ ทหารพร้อมปืนไรเฟิล เสื้อกันกระสุนและยุทโธปกรณ์สำหรับปฏิบัติการตอนกลางคืน กำลังทุบบานกระจก ในความพยายามเข้าไปยังอาคารรัฐสภา
    .
    ทั้งนี้ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญรับรองการถอดถอน ยุน พ้นจากตำแหน่ง ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีจะถูกจัดขึ้นภายใน 60 วัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008311
    ..............
    Sondhi X
    อัยการเกาหลีใต้ สั่งฟ้อง ยุน ซ็อกยอล ประธานาธิบดีผู้ถูกถอดถอน ในข้อหาเป็นผู้นำในการก่อกบฏ ด้วยการประกาศกฎอัยการศึกที่มีผลบังคับใช้ช่วงสั้นๆ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม จากการเปิดเผยของทนายความของยุนและพรรคฝ่ายค้านหลัก . ทนายความของยุน วิพากษ์วิจารณ์การสั่งฟ้องครั้งนี้ว่า "เป็นตัวเลือกที่เลวร้าย" ที่ดำเนินการโดยสำนักงานอัยการ แต่ทางพรรคฝ่ายค้านหลักขานรับด้วยความยินดีต่อการตัดสินใจดังกล่าว . การสั่งฟ้องครั้งนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับประธานาธิบดีรายหนึ่งรายใดของเกาหลีใต้ และถ้าถูกตัดสินว่ามีความผิด ยุน อาจต้องเผชิญโทษจำคุกสำหรับการประกาศกฎอัยการศึกที่ก่อความตกตะลึงของเขา ในความพยายามหาทางห้ามกิจกรรมทางการเมืองและรัฐสภา รวมถึงควบคุมสื่อมวลชน . ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของเขา นำมาซึ่งความอลหม่านทางการเมืองในชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของเอเชีย และพันธมิตรหลักของสหรัฐฯ ในขณะที่นายกรัฐมนตรีก็ถูกถอดถอนเช่นกันและถูกพักอำนาจ นอกจากนี้แล้วยังเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงจำนวนหนึ่งถูกสั่งฟ้องจากบทบาทของพวกเขาในคำกล่าวหาก่อกบฏ . "ประกาศอัยการศึกฉุกเฉินของประธานาธิบดี เป็นคำวิงวอนที่สิ้นหวังที่มีถึงประชาชน ว่าวิกฤตระดับชาติหนึ่งๆ ที่ก่อโดยพวกฝ่ายค้าน กำลังหลุดจากการควบคุม" ทนายความของยุนระบุในถ้อยแถลง . สำนักงานอัยการยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น แต่ข่าวคราวเกี่ยวกับการสั่งฟ้องถูกรายงานโดยสื่อมวลชนเกาหลีใต้เช่นกัน . ทีมสืบสวนต่อต้านคอร์รัปชัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เสนอให้ตั้งข้อหายุน ที่อยู่ภายใต้การคุมขัง หลังจากถูกถอดถอนโดยรัฐสภาและพักจากการทำหน้าที่เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม . ยุน ซึ่งตัวเองเคยเป็นอัยการสูงสุด ถูกคุมขังเดี่ยวอยู่ที่ทัณฑสถาน ชานกรุงโซล มาตั้งแต่กลายเป็นประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่ง คนแรกที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 15 มกราคม การจับกุมที่มีขึ้นตามหลังหลายวันของการขัดขืน และการเผชิญหน้าติดอาวุธระหว่างทีมรักษาความปลอดภัยของเขากับเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่จับกุมตัว . เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลปฏิเสธอัยการถึง 2 รอบในคำร้องขอขยายเวลาควบคุมตัวเขาระหว่างการสืบสวนเพิ่มเติม แต่ด้วยคำสั่งฟ้อง อัยการจึงร้องขออีกครั้งให้คุมขังเขาต่อไป ตามรายงานของสื่อมวลชนท้องถิ่น . การก่อกบฏเป็นหนึ่งในข้อกล่าวหาทางอาญาไม่กี่ข้อกล่าวหา ที่ประธานาธิบดีเกาหลีใต้รายหนึ่งๆ ไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง และมันมีบทลงโทษหนักจำคุกตลอดชีวิตหรือถึงขั้นประหาร แม้เกาหลีใต้ไม่ได้ประหารชีวิตใครมานานหลายทศวรรษแล้วก็ตาม . "อัยการตัดสินใจสั่งฟ้องยุน ซ็อกยอล ผู้ซึ่งเผชิญข้อกล่าวหาเป็นหัวหน้าแก๊งก่อกบฏ" ฮัน มิน-ซู โฆษกพรรคเดโมแครต ปาร์ตี กล่าวระหว่างแถลงข่าว "เวลานี้การลงโทษหัวหน้าแก๊งก่อกบฏเริ่มต้นขึ้นได้เสียที" . ยุนและทนายความของเขา โต้แย้ง ณ ศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างการพิจารณาการถอดถอน ว่าเขาไม่เคยมีความตั้งใจบังคับใช้อัยการศึกเต็มรูปแบบ แต่มีเจตนาใช้เป็นแค่มาตรการเตือนเพื่อทลายทางตันทางการเมืองเท่านั้น . ในความเคลื่อนไหวคู่ขนานกับกระบวนการทางอาญา ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ตัดสินรับรองการถอดถอนยุนพ้นจากตำแหน่ง หรือคืนอำนาจประธานาธิบดีแก่เขา โดยศาลมีเวลา 180 วัน สำหรับการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว . รัฐสภาที่นำโดยฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ ลงมติถอดถอน ยุน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ส่งผลให้เขากลายเป็นประธานาธิบดีสายอนุรักษนิยมรายที่ 2 ของประเทศ ที่ถูกถอดถอนพ้นจากตำแหน่ง . ยุน ถอนประกาศอัยการศึกหลังจากบังคับใช้ไปราวๆ 6 ชั่วโมง หลังบรรดาสมาชิกรัฐสภา ที่เผชิญหน้ากับทหารในรัฐสภา ลงมติคว่ำประกาศดังกล่าว . ระหว่างการเผชิญหน้าอันน่าตกอกตกใจ ทหารพร้อมปืนไรเฟิล เสื้อกันกระสุนและยุทโธปกรณ์สำหรับปฏิบัติการตอนกลางคืน กำลังทุบบานกระจก ในความพยายามเข้าไปยังอาคารรัฐสภา . ทั้งนี้ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญรับรองการถอดถอน ยุน พ้นจากตำแหน่ง ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีจะถูกจัดขึ้นภายใน 60 วัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008311 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Wow
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1383 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีอเมริกันชนราว 47% ที่เห็นชอบการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของทรัมป์ หลังจากเขาคืนสู่เก้าอี้ทำเนียบขาวเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาณบ่งชี้ว่าประเทศแห่งนี้ยังคงเต็มไปด้วยการแบ่งขั้ว หลังตัวแทนจากรีพับลิกันคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน จากผลโพลของรอยเตอร์/อิปซอส ที่ปิดการสำรวจในวันอังคาร (21 ม.ค.)
    .
    ผลสำรวจที่ดำเนินการในวันจันทร์ (20 ม.ค.) และวันอังคาร (21 ม.ค.) ตามหลัง ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี แสดงให้เห็นว่าคะแนนนิยมของเขาสูงกว่าตลอดช่วงเวลาเกือบทั้งหมดในช่วงดำรงตำแหน่งสมัยแรกในปี 2017-2021
    .
    อย่างไรก็ตาม ผลโพลพบด้วยว่าชาวอเมริกาพากันขุ่นเคืองต่อความเคลื่อนไหวแรกๆ บางอย่างของประธานาธิบดีรายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผู้ตอบแบบสอบถามราว 58% บอกว่า ทรัมป์ ไม่ควรนิรโทษกรรมทุกคนที่ถูกพิพากษาว่ามีความผิดทางอาญา ระหว่างเหตุจลาจลบุกจู่โจมอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021
    .
    ทรัมป์ ดำเนินการดังกล่าว นิรโทษกรรมเหล่าผู้สนับสนุนเกือบ 1,600 ราย ที่ถูกดำเนินคดีตามข้อกล่าวหา ร่วมกันปิดล้อมอาคารรัฐสภา ไม่กี่ชั่วโมงหลังดำรงตำแหน่งสมัย 2 อย่างเป็นทางการ ในระหว่างที่กำลังจัดทำโพล
    .
    มีผู้ตอบแบบสอบถามเพียงแค่ 29% ที่เห็นชอบแนวทางของทรัมป์ ในการจัดการกับสิ่งที่รับรู้กันว่าเป็นระบบตุลาการเชิงการเมือง ทรัมป์กล่าวหา โจ ไบเดน ผู้นำคนก่อนก่อความบิดเบี้ยวแก่กระบวนการยุติธรรม ด้วยความพยายามดำเนินคดีต่างๆ กับเขา ในเจตนาขัดขวางเขาจากการดำรงตำแหน่ง ข้อกล่าวหาที่ทางฝั่งเดโมแครตปฏิเสธ นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังบอกว่าเขาอาจใช้ระบบยุติธรรมหาทางแก้แค้นคู่ปรับทางการเมืองด้วย
    .
    พวกผู้ตอบแบบสอบถามให้การสนับสนุนแนวทางทรัมป์ มากกว่าในการจัดการกับประเด็นอื่นๆ โดยมี 46% ที่เห็นชอบแนวทางการรับมือพวกผู้อพยพของทรัมป์ ประเด็นที่อเมริกันชนจำนวนมากอยากเห็นมันเป็นประเด็นที่รัฐบาลใหม่ให้ความสำคัญในลำดับสูงสุด
    .
    ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้ง 2024 เหนือ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากเดโมแครต ด้วยคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 312 ต่อ 226 เสียง แต่ในส่วนของคะแนนป็อบปูลาร์โหวตนั้น เขาได้คะแนนเสียงแค่ 49.8% เฉือน แฮร์ริส ที่ได้ไป 48.3%
    .
    ผลสำรวจเท่ากับเป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับทรัมป์ ผู้ซึ่งเริ่มต้นวาระดำรงตำแหน่งสมัยแรกในปี 2017 ด้วยคะแนนนิยม 43% ก่อนคะแนนนิยมจะดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 49% ในช่วงปลายเดือนมกราคมปีเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ปิดฉากการเป็นประธานาธิบดี ด้วยคะแนนนิยม 34% ตามหลังเหตุปิดล้อมอาคารรัฐสภา พยายามโค่นล้มผลเลือกตั้งปี 2020 ที่เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
    .
    คล้ายกับ ไบเดน ซึ่งพ้นจากตำแหน่งในวันจันทร์ (20 ม.ค.) คะแนนนิยมของทรัมป์ ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำกว่า 45% ในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของการดำรงตำแหน่งสมัยแรก และเคยดำดิ่งลงไปในระดับต่ำสุดเหลือแค่ 33% ในเดือนธันวาคม 2017
    .
    ไบเดน เริ่มต้นทำหน้าที่ประธานาธิบดี ด้วยคะแนนนิยม 55% แต่เรตติ้งของเขาปักหัวลงอย่างรวดเร็ว และเคยดำดิ่งแตะระดับแค่ 35% ในช่วงก่อนหน้าศึกเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน ทั้งนี้ภาวะที่ไม่ได้รับความนิยมของตัวแทนจากพรรคเดโมแครตรายนี้ ถูกมองอย่างกว้างขวางว่ากลายเป็นตัวส่งเสริมคะแนนนิยมของทรัมป์ ระหว่างรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
    .
    การคืนสู่อำนาจของทรัมป์ เพิ่มความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาชาติเพื่อนบ้านและทั่วโลก แต่ผลสำรวจพบว่ามีอเมริกันชนเพียงเล็กน้อยที่สนับสนุนแผนขยายเขตแดนอเมริกาของทรัมป์ เช่นเดียวกับมาตรการรีดภาษีที่อาจทำให้ราคาเชื้อเพลิงดีดตัวสูงขึ้น
    .
    ผลสำรวจพบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามเพียงแค่ 16% ที่เห็นด้วยกับถ้อยแถลงของทรัมป์ที่ว่า สหรัฐฯ ควรกดดันให้เดนมาร์ก ยอมขายเกาะกรีนแลนด์แก่อเมริกา
    .
    เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ กล่าวว่าสหรัฐฯ มีความจำเป็นต้องควบคุมเกาะกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก เพื่อรับประกันความมั่นคงระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เดนมาร์ก และ กรีนแลนด์ บอกว่าเกาะยักษ์แห่งนี้ไม่ได้มีไว้ขาย
    .
    ขณะเดียวกัน มีเพียงราว 29% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ที่บอกว่าสหรัฐฯ ควรทวงคืนการควบคุมคลองปานามา มาจากปานามา อีกหนึ่งเป้าหมายระหว่างประเทศของทรัมป์ อเมริกายอมปล่อยมือการควบคุมน่านน้ำยุทธศาสตร์แห่งนี้ให้แก่แคนาดาในปี 1999 แต่ ทรัมป์ กล่าวหา ปานามา ยกให้จีนดูแลปฏิบัติการต่างๆ ของคลองแห่งนี้ คำกล่าวหาที่ทางรัฐบาลปานามาปฏิเสธโดยสิ้นเชิงเช่นกัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006615
    ..............
    Sondhi X
    มีอเมริกันชนราว 47% ที่เห็นชอบการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของทรัมป์ หลังจากเขาคืนสู่เก้าอี้ทำเนียบขาวเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สัญญาณบ่งชี้ว่าประเทศแห่งนี้ยังคงเต็มไปด้วยการแบ่งขั้ว หลังตัวแทนจากรีพับลิกันคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน จากผลโพลของรอยเตอร์/อิปซอส ที่ปิดการสำรวจในวันอังคาร (21 ม.ค.) . ผลสำรวจที่ดำเนินการในวันจันทร์ (20 ม.ค.) และวันอังคาร (21 ม.ค.) ตามหลัง ทรัมป์ สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดี แสดงให้เห็นว่าคะแนนนิยมของเขาสูงกว่าตลอดช่วงเวลาเกือบทั้งหมดในช่วงดำรงตำแหน่งสมัยแรกในปี 2017-2021 . อย่างไรก็ตาม ผลโพลพบด้วยว่าชาวอเมริกาพากันขุ่นเคืองต่อความเคลื่อนไหวแรกๆ บางอย่างของประธานาธิบดีรายนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผู้ตอบแบบสอบถามราว 58% บอกว่า ทรัมป์ ไม่ควรนิรโทษกรรมทุกคนที่ถูกพิพากษาว่ามีความผิดทางอาญา ระหว่างเหตุจลาจลบุกจู่โจมอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 . ทรัมป์ ดำเนินการดังกล่าว นิรโทษกรรมเหล่าผู้สนับสนุนเกือบ 1,600 ราย ที่ถูกดำเนินคดีตามข้อกล่าวหา ร่วมกันปิดล้อมอาคารรัฐสภา ไม่กี่ชั่วโมงหลังดำรงตำแหน่งสมัย 2 อย่างเป็นทางการ ในระหว่างที่กำลังจัดทำโพล . มีผู้ตอบแบบสอบถามเพียงแค่ 29% ที่เห็นชอบแนวทางของทรัมป์ ในการจัดการกับสิ่งที่รับรู้กันว่าเป็นระบบตุลาการเชิงการเมือง ทรัมป์กล่าวหา โจ ไบเดน ผู้นำคนก่อนก่อความบิดเบี้ยวแก่กระบวนการยุติธรรม ด้วยความพยายามดำเนินคดีต่างๆ กับเขา ในเจตนาขัดขวางเขาจากการดำรงตำแหน่ง ข้อกล่าวหาที่ทางฝั่งเดโมแครตปฏิเสธ นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังบอกว่าเขาอาจใช้ระบบยุติธรรมหาทางแก้แค้นคู่ปรับทางการเมืองด้วย . พวกผู้ตอบแบบสอบถามให้การสนับสนุนแนวทางทรัมป์ มากกว่าในการจัดการกับประเด็นอื่นๆ โดยมี 46% ที่เห็นชอบแนวทางการรับมือพวกผู้อพยพของทรัมป์ ประเด็นที่อเมริกันชนจำนวนมากอยากเห็นมันเป็นประเด็นที่รัฐบาลใหม่ให้ความสำคัญในลำดับสูงสุด . ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้ง 2024 เหนือ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากเดโมแครต ด้วยคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง 312 ต่อ 226 เสียง แต่ในส่วนของคะแนนป็อบปูลาร์โหวตนั้น เขาได้คะแนนเสียงแค่ 49.8% เฉือน แฮร์ริส ที่ได้ไป 48.3% . ผลสำรวจเท่ากับเป็นการเริ่มต้นใหม่สำหรับทรัมป์ ผู้ซึ่งเริ่มต้นวาระดำรงตำแหน่งสมัยแรกในปี 2017 ด้วยคะแนนนิยม 43% ก่อนคะแนนนิยมจะดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 49% ในช่วงปลายเดือนมกราคมปีเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ปิดฉากการเป็นประธานาธิบดี ด้วยคะแนนนิยม 34% ตามหลังเหตุปิดล้อมอาคารรัฐสภา พยายามโค่นล้มผลเลือกตั้งปี 2020 ที่เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ . คล้ายกับ ไบเดน ซึ่งพ้นจากตำแหน่งในวันจันทร์ (20 ม.ค.) คะแนนนิยมของทรัมป์ ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำกว่า 45% ในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของการดำรงตำแหน่งสมัยแรก และเคยดำดิ่งลงไปในระดับต่ำสุดเหลือแค่ 33% ในเดือนธันวาคม 2017 . ไบเดน เริ่มต้นทำหน้าที่ประธานาธิบดี ด้วยคะแนนนิยม 55% แต่เรตติ้งของเขาปักหัวลงอย่างรวดเร็ว และเคยดำดิ่งแตะระดับแค่ 35% ในช่วงก่อนหน้าศึกเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน ทั้งนี้ภาวะที่ไม่ได้รับความนิยมของตัวแทนจากพรรคเดโมแครตรายนี้ ถูกมองอย่างกว้างขวางว่ากลายเป็นตัวส่งเสริมคะแนนนิยมของทรัมป์ ระหว่างรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง . การคืนสู่อำนาจของทรัมป์ เพิ่มความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาชาติเพื่อนบ้านและทั่วโลก แต่ผลสำรวจพบว่ามีอเมริกันชนเพียงเล็กน้อยที่สนับสนุนแผนขยายเขตแดนอเมริกาของทรัมป์ เช่นเดียวกับมาตรการรีดภาษีที่อาจทำให้ราคาเชื้อเพลิงดีดตัวสูงขึ้น . ผลสำรวจพบว่ามีผู้ตอบแบบสอบถามเพียงแค่ 16% ที่เห็นด้วยกับถ้อยแถลงของทรัมป์ที่ว่า สหรัฐฯ ควรกดดันให้เดนมาร์ก ยอมขายเกาะกรีนแลนด์แก่อเมริกา . เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ กล่าวว่าสหรัฐฯ มีความจำเป็นต้องควบคุมเกาะกรีนแลนด์ ดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก เพื่อรับประกันความมั่นคงระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เดนมาร์ก และ กรีนแลนด์ บอกว่าเกาะยักษ์แห่งนี้ไม่ได้มีไว้ขาย . ขณะเดียวกัน มีเพียงราว 29% ของผู้ตอบแบบสอบถาม ที่บอกว่าสหรัฐฯ ควรทวงคืนการควบคุมคลองปานามา มาจากปานามา อีกหนึ่งเป้าหมายระหว่างประเทศของทรัมป์ อเมริกายอมปล่อยมือการควบคุมน่านน้ำยุทธศาสตร์แห่งนี้ให้แก่แคนาดาในปี 1999 แต่ ทรัมป์ กล่าวหา ปานามา ยกให้จีนดูแลปฏิบัติการต่างๆ ของคลองแห่งนี้ คำกล่าวหาที่ทางรัฐบาลปานามาปฏิเสธโดยสิ้นเชิงเช่นกัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006615 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1648 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ลงนามคำสั่งนับสิบครอบคลุมประเด็นโลกร้อนไปจนถึงคนเข้าเมือง ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งตามที่ลั่นวาจาไว้
    .
    คำสั่งฝ่ายบริหารบางส่วนที่โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามหลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (20 ม.ค.) เป็นคำสัญญาที่ให้ไว้ระหว่างหาเสียงเมื่อปีที่แล้ว เช่น การอภัยโทษผู้ประท้วงจำนวนมากที่บุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2021 เพื่อขัดขวางการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต แต่ยังมีคำสั่งอีกจำนวนหนึ่งที่ถือว่าเกินคาด เช่น การนำอเมริกาถอนตัวจากองค์การอนามัยโลก (WHO)
    .
    ต่อไปนี้คือสรุปคำสั่งที่ทรัมป์ลงนามในสนามกีฬาที่วอชิงตันท่ามกลางผู้สนับสนุนจำนวนมาก และที่ทำเนียบขาวในเวลาต่อมาภายหลังสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง
    .
    คนเข้าเมือง
    .
    ทรัมป์เซ็นคำสั่งหลายฉบับเพื่อปรับเปลี่ยนวิธีที่อเมริกาจัดการปัญหาคนเข้าเมืองและความเป็นพลเมือง ซึ่งรวมถึงการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินบริเวณชายแดนทางใต้
    ประมุขทำเนียบขาวคนใหม่ยังสัญญาว่า จะจัดการเนรเทศครั้งใหญ่ซึ่งจะมีกองทัพร่วมปฏิบัติการด้วย โดยเป้าหมายอยู่ที่ “อาชญากรต่างด้าว”
    .
    ที่ห้องทำงานรูปไข่ ทรัมป์ลงนามคำสั่งยกเลิกการให้สัญชาติจากการเกิดในประเทศ อย่างไรก็ดี ทรัมป์อาจเผชิญการท้าทายทางกฎหมายเนื่องจากการให้สัญชาติอเมริกันโดยอัตโนมัตินี้กำหนดอยู่ในรัฐธรรมนูญ
    .
    ม็อบบุกสภา 6 มกราคม
    .
    ทรัมป์ลงนามอภัยโทษผู้สนับสนุนตนเองบางส่วนจากทั้งหมด 1,500 คนที่บุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 เพื่อล้มล้างผลการเลือกตั้งปี 2020 โดยเรียกคนเหล่านั้นที่ถูกตัดสินความผิดหรือยอมรับผิดในการก่อจลาจลว่าเป็น “ตัวประกัน”
    .
    ความหลากหลาย ความเท่าเทียม การยอมรับความแตกต่าง
    .
    ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของอเมริกายกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารหลายฉบับที่ส่งเสริมโครงการความหลากหลายและความเท่าเทียมของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ในหน่วยงานรัฐบาล ภาคธุรกิจ และบริการสาธารณสุข รวมถึงสิทธิของคนอเมริกันกลุ่ม LGBTQ ตามที่สัญญาไว้ว่าจะจัดการวัฒนธรรม “การตื่นรู้”
    .
    ทรัมป์ยังประกาศว่า ต่อไปรัฐบาลสหรัฐฯ จะยอมรับคนเพียงสองเพศคือชายกับหญิงเท่านั้น
    .
    ข้อตกลงโลกร้อนปารีส
    .
    ผู้นำใหม่ของสหรัฐฯ นำอเมริกาถอนตัวจากข้อตกลงโลกร้อนปารีสเหมือนที่เคยทำมาตอนรับตำแหน่งสมัยแรก ตอกย้ำการปฏิเสธความพยายามของทั่วโลกในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน ขณะที่ภัยพิบติธรรมชาติรุนแรงขึ้นทั่วโลก
    .
    อย่างไรก็ดี ต้องใช้เวลา 1 ปีหลังจากยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการต่อกรอบข้อตกลงของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ฉบับนี้ อเมริกาจึงจะสามารถถอนตัวได้
    .
    การขุดเจาะน้ำมัน
    .
    ทรัมป์ลงนามคำสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อขยายการขุดเจาะในอเมริกาซึ่งเป็นผู้นำการผลิตก๊าซและน้ำมันของโลก
    .
    เวิร์ก ฟอร์ม โฮม
    .
    นอกจากนั้น ทรัมป์ยังลงนามคำสั่งกำหนดให้ลูกจ้างรัฐบาลกลางกลับไปทำงานในสำนักงานเต็มเวลา เพื่อยุติการอนุญาตการทำงานจากที่บ้านส่วนใหญ่ที่ริเริ่มขึ้นในช่วงที่โควิด-19 ระบาด
    .
    ถอนตัวจาก WHO
    .
    ทรัมป์เซ็นคำสั่งให้อเมริกาถอนตัวจากองค์การอนามัยโลก โดยยืนยันว่า ไม่เป็นธรรมที่สหรัฐฯ จ่ายเงินสมทบองค์กรนี้มากกว่าที่จีนจ่าย
    .
    ติ๊กต็อก Tiktok
    .
    ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้สั่งระงับการบังคับใช้กฎหมายแบนติ๊กต็อกออกไป 75 วัน ซึ่งเท่ากับเป็นการชะลอการดำเนินการห้ามการเผยแพร่และอัปเดตแพลตฟอร์มติ๊กต็อกในอเมริกาที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 ม.ค.)
    .
    ทรัมป์ระบุว่า ต้องการให้ ไบต์แดนซ์ บริษัทแม่ของติ๊กต็อกที่อยู่ในจีน ตกลงขายหุ้นติ๊กต็อก 50% ให้นักลงทุนในอเมริกา
    .
    ผู้ตั้งถิ่นฐานในเวสต์แบงก์
    .
    ทรัมป์ยกเลิกมาตรการแซงก์ชันของคณะบริหารของไบเดนต่อผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวที่ใช้ความรุนแรงกับชาวปาเลสไตน์ในเขตยึดครองเวสต์แบงก์
    .
    คิวบา
    .
    ทรัมป์ล้มล้างอีกหนึ่งคำสั่งของไบเดนที่เพิ่งประกาศเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ในการถอดคิวบาออกจากบัญชีดำประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้าย เพื่อแลกเปลี่ยนกับการปล่อยนักโทษ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006613
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์ลงนามคำสั่งนับสิบครอบคลุมประเด็นโลกร้อนไปจนถึงคนเข้าเมือง ตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งตามที่ลั่นวาจาไว้ . คำสั่งฝ่ายบริหารบางส่วนที่โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามหลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (20 ม.ค.) เป็นคำสัญญาที่ให้ไว้ระหว่างหาเสียงเมื่อปีที่แล้ว เช่น การอภัยโทษผู้ประท้วงจำนวนมากที่บุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2021 เพื่อขัดขวางการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต แต่ยังมีคำสั่งอีกจำนวนหนึ่งที่ถือว่าเกินคาด เช่น การนำอเมริกาถอนตัวจากองค์การอนามัยโลก (WHO) . ต่อไปนี้คือสรุปคำสั่งที่ทรัมป์ลงนามในสนามกีฬาที่วอชิงตันท่ามกลางผู้สนับสนุนจำนวนมาก และที่ทำเนียบขาวในเวลาต่อมาภายหลังสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง . คนเข้าเมือง . ทรัมป์เซ็นคำสั่งหลายฉบับเพื่อปรับเปลี่ยนวิธีที่อเมริกาจัดการปัญหาคนเข้าเมืองและความเป็นพลเมือง ซึ่งรวมถึงการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินบริเวณชายแดนทางใต้ ประมุขทำเนียบขาวคนใหม่ยังสัญญาว่า จะจัดการเนรเทศครั้งใหญ่ซึ่งจะมีกองทัพร่วมปฏิบัติการด้วย โดยเป้าหมายอยู่ที่ “อาชญากรต่างด้าว” . ที่ห้องทำงานรูปไข่ ทรัมป์ลงนามคำสั่งยกเลิกการให้สัญชาติจากการเกิดในประเทศ อย่างไรก็ดี ทรัมป์อาจเผชิญการท้าทายทางกฎหมายเนื่องจากการให้สัญชาติอเมริกันโดยอัตโนมัตินี้กำหนดอยู่ในรัฐธรรมนูญ . ม็อบบุกสภา 6 มกราคม . ทรัมป์ลงนามอภัยโทษผู้สนับสนุนตนเองบางส่วนจากทั้งหมด 1,500 คนที่บุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 เพื่อล้มล้างผลการเลือกตั้งปี 2020 โดยเรียกคนเหล่านั้นที่ถูกตัดสินความผิดหรือยอมรับผิดในการก่อจลาจลว่าเป็น “ตัวประกัน” . ความหลากหลาย ความเท่าเทียม การยอมรับความแตกต่าง . ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของอเมริกายกเลิกคำสั่งฝ่ายบริหารหลายฉบับที่ส่งเสริมโครงการความหลากหลายและความเท่าเทียมของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) ในหน่วยงานรัฐบาล ภาคธุรกิจ และบริการสาธารณสุข รวมถึงสิทธิของคนอเมริกันกลุ่ม LGBTQ ตามที่สัญญาไว้ว่าจะจัดการวัฒนธรรม “การตื่นรู้” . ทรัมป์ยังประกาศว่า ต่อไปรัฐบาลสหรัฐฯ จะยอมรับคนเพียงสองเพศคือชายกับหญิงเท่านั้น . ข้อตกลงโลกร้อนปารีส . ผู้นำใหม่ของสหรัฐฯ นำอเมริกาถอนตัวจากข้อตกลงโลกร้อนปารีสเหมือนที่เคยทำมาตอนรับตำแหน่งสมัยแรก ตอกย้ำการปฏิเสธความพยายามของทั่วโลกในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน ขณะที่ภัยพิบติธรรมชาติรุนแรงขึ้นทั่วโลก . อย่างไรก็ดี ต้องใช้เวลา 1 ปีหลังจากยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการต่อกรอบข้อตกลงของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ฉบับนี้ อเมริกาจึงจะสามารถถอนตัวได้ . การขุดเจาะน้ำมัน . ทรัมป์ลงนามคำสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อขยายการขุดเจาะในอเมริกาซึ่งเป็นผู้นำการผลิตก๊าซและน้ำมันของโลก . เวิร์ก ฟอร์ม โฮม . นอกจากนั้น ทรัมป์ยังลงนามคำสั่งกำหนดให้ลูกจ้างรัฐบาลกลางกลับไปทำงานในสำนักงานเต็มเวลา เพื่อยุติการอนุญาตการทำงานจากที่บ้านส่วนใหญ่ที่ริเริ่มขึ้นในช่วงที่โควิด-19 ระบาด . ถอนตัวจาก WHO . ทรัมป์เซ็นคำสั่งให้อเมริกาถอนตัวจากองค์การอนามัยโลก โดยยืนยันว่า ไม่เป็นธรรมที่สหรัฐฯ จ่ายเงินสมทบองค์กรนี้มากกว่าที่จีนจ่าย . ติ๊กต็อก Tiktok . ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้สั่งระงับการบังคับใช้กฎหมายแบนติ๊กต็อกออกไป 75 วัน ซึ่งเท่ากับเป็นการชะลอการดำเนินการห้ามการเผยแพร่และอัปเดตแพลตฟอร์มติ๊กต็อกในอเมริกาที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 ม.ค.) . ทรัมป์ระบุว่า ต้องการให้ ไบต์แดนซ์ บริษัทแม่ของติ๊กต็อกที่อยู่ในจีน ตกลงขายหุ้นติ๊กต็อก 50% ให้นักลงทุนในอเมริกา . ผู้ตั้งถิ่นฐานในเวสต์แบงก์ . ทรัมป์ยกเลิกมาตรการแซงก์ชันของคณะบริหารของไบเดนต่อผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวที่ใช้ความรุนแรงกับชาวปาเลสไตน์ในเขตยึดครองเวสต์แบงก์ . คิวบา . ทรัมป์ล้มล้างอีกหนึ่งคำสั่งของไบเดนที่เพิ่งประกาศเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ในการถอดคิวบาออกจากบัญชีดำประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้าย เพื่อแลกเปลี่ยนกับการปล่อยนักโทษ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006613 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1731 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตัวเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยสองอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ (20 ม.ค.) โดยกล่าวปราศรัยประกาศว่า “ยุคทอง” ของอเมริกาเริ่มต้นขึ้นแล้ว จากนั้นก็ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่มีเนื้อหาสร้างความแตกแยกจำนวนหลายสิบฉบับ ซึ่งมีทั้งการให้อภัยโทษพวกผู้สนับสนุนเขาที่ใช้ความรุนแรงบุกโจมตีอาคารรัฐสภา ไปจนถึงการออกมาตรการคุมเข้มผู้อพยพ และการยุตินโยบายรับมือปัญหาโลกร้อน และถึงแม้ยังไม่มีการขึ้นภาษีศุลกากรใดๆ ในวันแรกของการครองตำแหน่งคราวนี้ แต่เขาก็ขู่รีดภาษีแคนาดาและเม็กซิโก 25% ตั้งแต่ 1 ก.พ.ขณะที่แสดงท่าทีแปลกกรณีสงครามยูเครน โดยหันมาวิพากษ์วลาดิมีร์ ปูติน ว่ากำลังทำลายรัสเซียจากการไม่ยอมทำข้อตกลงยุติศึก
    .
    ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวปราศรัยหลังทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งต้องจัดขึ้นภายในอาคารรัฐสภา เนื่องจากอากาศข้างนอกหนาวจัด โดยบอกว่า การตกต่ำของอเมริกายุติลงแล้ว ซึ่งหมายถึงช่วงเวลา 4 ปีภายใต้คณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครต และประกาศการเริ่มต้นยุคทองของอเมริกาซึ่งจะมีความมั่งคั่งรุ่งเรืองและเป็นที่เคารพของทั่วโลกอีกครั้ง
    .
    จากนั้น ทรัมป์ซึ่งอยู่ในวัย 78 ปี จึงสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดขณะสาบานตนรับตำแหน่ง ได้เดินทางไปยังที่ชุมนุมของพวกผู้สนับสนุนเขา ณ สนามกีฬาในร่มแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน ซึ่งเขาได้กล่าวปราศรัยในสไตล์หาเสียง ก่อนโยนปากกาที่ใช้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารหลายฉบับในรอบแรกไปแล้วหมาดๆ ให้ฝูงชนที่อัดแน่นคอยต้อนรับเขา
    .
    ถัดมา ทรัมป์จึงได้เดินทางกลับไปยังทำเนียบในแบบผู้พิชิต 4 ปีหลังจากที่เขาต้องจากไปด้วยความเสื่อมเสียเกียรติ เป็นการเสร็จสิ้นครบถ้วนการหวนกลับคืนมาได้อย่างโดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของสหรัฐฯ
    .
    ณ ห้องทำงานรูปไข่ ของทำเนียบขาว ทรัมป์จัดให้มีการแถลงข่าวเป็นเวลาราว 50 นาทีโดยไม่มีการเตรียมการล่วงหน้า พร้อมกับลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพิ่ม ซึ่งรวมถึงการอภัยโทษผู้ก่อจลาจลราว 1,500 คนที่บุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2021 เพื่อพยายามขัดขวางการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดน
    .
    ทรัมป์ยังลงนามคำสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติบริเวณชายแดนติดกับเม็กซิโก และระบุว่า จะส่งทหารไปจัดการการลักลอบเข้าเมือง ซึ่งเป็นประเด็นหาเสียงสำคัญที่ทำให้เขาชนะอดีตรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต
    .
    ทรัมป์ยังไฟเขียวให้ขยายการขุดเจาะน้ำมัน รวมทั้งยกเลิกกฎระเบียบที่ต้องการโน้มน้าวให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า
    .
    นอกจากนั้น เขาประกาศนำสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก และข้อตกลงปารีสที่นานาประเทศรวมทั้งอเมริกาให้สัญญาระบุเป้าหมายของตนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
    .
    ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันผู้นี้แสดงการเชิดชูลัทธิชาตินิยม ด้วยการประกาศเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา และขู่ยึดคลองปานานาคืนหลังจากยกสิทธิการควบคุมให้ปานามาตั้งแต่ปี 1999 โดยอ้างว่า จีนเป็นผู้ควบคุมคลองปานามาตัวจริง ทั้งที่ในความเป็นจริงคือ บริษัทที่จดทะเบียนในฮ่องกงซึ่งชนะการประมูล ได้สิทธิเข้าบริหารดำเนินงานคลองสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้
    .
    ทรัมป์ยังประกาศว่าไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเข้ายึดเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์กที่เป็นสมาชิกนาโตเช่นเดียวกับอเมริกา ขณะที่รัสเซียเข้าไปดำเนินการในบริเวณดังกล่าวมากขึ้นหลังจากน้ำแข็งละลายอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    .
    อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ลดความขึงขังเรื่องยูเครนจากที่เคยสัญญาว่า จะผลักดันข้อตกลงสันติภาพให้ลุล่วงก่อนเข้ารับตำแหน่ง และเปลี่ยนท่าทีจากที่เคยชื่นชมก็มาวิจารณ์ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียว่า กำลังทำลายรัสเซียด้วยการไม่ยอมทำข้อตกลงยุติสงครามในยูเครน โดยเขาอ้างอิงสถานะเศรษฐกิจและการสูญเสียในสนามรบของรัสเซีย แต่ยังคงยืนยันว่า จะพบปะหารือกับปูตินโดยเร็ว
    .
    ขณะเดียวกัน เมื่อผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวถามว่า จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากทุกประเทศอย่างที่ประกาศเอาไว้หรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า อาจจะ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ และเมื่อถามถึงการขึ้นภาษีศุลกากรจากสินค้าของแคนาดาและเม็กซิโก ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ ตอบว่า เล็งเรียกเก็บภาษีราว 25% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. เนื่องจากสองประเทศนี้ปล่อยให้มีผู้อพยพผิดกฎหมายจำนวนมากแอบเดินทางเข้าสหรัฐฯ รวมทั้งปล่อยให้มีการการขนส่งยาเสพติดเฟนทานิล เข้าสู่อเมริกา
    .
    ทั้งนี้ ตามรายละเอียดในบันทึกช่วยจำของประธานาธิบดีนั้น ทรัมป์สั่งให้กระทรวงการคลังและพาณิชย์ รวมถึงสำนักงานการค้าสหรัฐฯ ตรวจสอบความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติจากการขาดดุลการค้าจำนวนมหาศาล พร้อมเสนอแนะมาตรการที่เหมาะสม เช่น การเรียกเก็บภาษีศุลกากรทั่วโลกหรือนโยบายอื่นๆ เพื่อแก้ไขการขาดดุลการค้า
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006612
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตัวเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยสองอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ (20 ม.ค.) โดยกล่าวปราศรัยประกาศว่า “ยุคทอง” ของอเมริกาเริ่มต้นขึ้นแล้ว จากนั้นก็ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่มีเนื้อหาสร้างความแตกแยกจำนวนหลายสิบฉบับ ซึ่งมีทั้งการให้อภัยโทษพวกผู้สนับสนุนเขาที่ใช้ความรุนแรงบุกโจมตีอาคารรัฐสภา ไปจนถึงการออกมาตรการคุมเข้มผู้อพยพ และการยุตินโยบายรับมือปัญหาโลกร้อน และถึงแม้ยังไม่มีการขึ้นภาษีศุลกากรใดๆ ในวันแรกของการครองตำแหน่งคราวนี้ แต่เขาก็ขู่รีดภาษีแคนาดาและเม็กซิโก 25% ตั้งแต่ 1 ก.พ.ขณะที่แสดงท่าทีแปลกกรณีสงครามยูเครน โดยหันมาวิพากษ์วลาดิมีร์ ปูติน ว่ากำลังทำลายรัสเซียจากการไม่ยอมทำข้อตกลงยุติศึก . ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวปราศรัยหลังทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งต้องจัดขึ้นภายในอาคารรัฐสภา เนื่องจากอากาศข้างนอกหนาวจัด โดยบอกว่า การตกต่ำของอเมริกายุติลงแล้ว ซึ่งหมายถึงช่วงเวลา 4 ปีภายใต้คณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครต และประกาศการเริ่มต้นยุคทองของอเมริกาซึ่งจะมีความมั่งคั่งรุ่งเรืองและเป็นที่เคารพของทั่วโลกอีกครั้ง . จากนั้น ทรัมป์ซึ่งอยู่ในวัย 78 ปี จึงสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดขณะสาบานตนรับตำแหน่ง ได้เดินทางไปยังที่ชุมนุมของพวกผู้สนับสนุนเขา ณ สนามกีฬาในร่มแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน ซึ่งเขาได้กล่าวปราศรัยในสไตล์หาเสียง ก่อนโยนปากกาที่ใช้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารหลายฉบับในรอบแรกไปแล้วหมาดๆ ให้ฝูงชนที่อัดแน่นคอยต้อนรับเขา . ถัดมา ทรัมป์จึงได้เดินทางกลับไปยังทำเนียบในแบบผู้พิชิต 4 ปีหลังจากที่เขาต้องจากไปด้วยความเสื่อมเสียเกียรติ เป็นการเสร็จสิ้นครบถ้วนการหวนกลับคืนมาได้อย่างโดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของสหรัฐฯ . ณ ห้องทำงานรูปไข่ ของทำเนียบขาว ทรัมป์จัดให้มีการแถลงข่าวเป็นเวลาราว 50 นาทีโดยไม่มีการเตรียมการล่วงหน้า พร้อมกับลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพิ่ม ซึ่งรวมถึงการอภัยโทษผู้ก่อจลาจลราว 1,500 คนที่บุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2021 เพื่อพยายามขัดขวางการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดน . ทรัมป์ยังลงนามคำสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติบริเวณชายแดนติดกับเม็กซิโก และระบุว่า จะส่งทหารไปจัดการการลักลอบเข้าเมือง ซึ่งเป็นประเด็นหาเสียงสำคัญที่ทำให้เขาชนะอดีตรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต . ทรัมป์ยังไฟเขียวให้ขยายการขุดเจาะน้ำมัน รวมทั้งยกเลิกกฎระเบียบที่ต้องการโน้มน้าวให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า . นอกจากนั้น เขาประกาศนำสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก และข้อตกลงปารีสที่นานาประเทศรวมทั้งอเมริกาให้สัญญาระบุเป้าหมายของตนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ . ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันผู้นี้แสดงการเชิดชูลัทธิชาตินิยม ด้วยการประกาศเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา และขู่ยึดคลองปานานาคืนหลังจากยกสิทธิการควบคุมให้ปานามาตั้งแต่ปี 1999 โดยอ้างว่า จีนเป็นผู้ควบคุมคลองปานามาตัวจริง ทั้งที่ในความเป็นจริงคือ บริษัทที่จดทะเบียนในฮ่องกงซึ่งชนะการประมูล ได้สิทธิเข้าบริหารดำเนินงานคลองสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้ . ทรัมป์ยังประกาศว่าไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเข้ายึดเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์กที่เป็นสมาชิกนาโตเช่นเดียวกับอเมริกา ขณะที่รัสเซียเข้าไปดำเนินการในบริเวณดังกล่าวมากขึ้นหลังจากน้ำแข็งละลายอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ . อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ลดความขึงขังเรื่องยูเครนจากที่เคยสัญญาว่า จะผลักดันข้อตกลงสันติภาพให้ลุล่วงก่อนเข้ารับตำแหน่ง และเปลี่ยนท่าทีจากที่เคยชื่นชมก็มาวิจารณ์ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียว่า กำลังทำลายรัสเซียด้วยการไม่ยอมทำข้อตกลงยุติสงครามในยูเครน โดยเขาอ้างอิงสถานะเศรษฐกิจและการสูญเสียในสนามรบของรัสเซีย แต่ยังคงยืนยันว่า จะพบปะหารือกับปูตินโดยเร็ว . ขณะเดียวกัน เมื่อผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวถามว่า จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากทุกประเทศอย่างที่ประกาศเอาไว้หรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า อาจจะ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ และเมื่อถามถึงการขึ้นภาษีศุลกากรจากสินค้าของแคนาดาและเม็กซิโก ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ ตอบว่า เล็งเรียกเก็บภาษีราว 25% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. เนื่องจากสองประเทศนี้ปล่อยให้มีผู้อพยพผิดกฎหมายจำนวนมากแอบเดินทางเข้าสหรัฐฯ รวมทั้งปล่อยให้มีการการขนส่งยาเสพติดเฟนทานิล เข้าสู่อเมริกา . ทั้งนี้ ตามรายละเอียดในบันทึกช่วยจำของประธานาธิบดีนั้น ทรัมป์สั่งให้กระทรวงการคลังและพาณิชย์ รวมถึงสำนักงานการค้าสหรัฐฯ ตรวจสอบความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติจากการขาดดุลการค้าจำนวนมหาศาล พร้อมเสนอแนะมาตรการที่เหมาะสม เช่น การเรียกเก็บภาษีศุลกากรทั่วโลกหรือนโยบายอื่นๆ เพื่อแก้ไขการขาดดุลการค้า . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006612 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1687 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ลงนามยกเลิกคำสั่งไบเดนแล้ว 78 ฉบับ เผยเริ่มเก็บภาษีสินค้านำเข้าแคนาดา-เม็กซิโก 1 กุมภาพันธ์นี้

    บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานความเคลื่อนไหววันแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) หลังเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม 2025 ว่า ทรัมป์ยังดำเนินแผนการอันทะเยอทะยานของเขาต่อไป โดยลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมาก

    บลูมเบิร์กระบุว่า ณ เวลาประมาณ 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐ (ช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง) โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งในนั้นเป็นการเพิกถอนคำสั่งหรือแผนริเริ่มต่าง ๆ ในยุคของประธานาธิบดี โจ ไบเดน (Joe Biden) ถึง 78 ฉบับ ต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากที่สนามกีฬาแคปิตอลวัน (Capital One Arena)

    บรรดาคำสั่งที่ทรัมป์ยกเลิกคำสั่งของไบเดนนั้น รวมถึงการถอนตัวจากความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Paris Agreement), คำสั่งให้ทุกกระทรวงจัดการกับภาวะเงินเฟ้อ, การดำเนินการเรียกพนักงานของรัฐบาลกลางกลับเข้าทำงาน และคำสั่งคืนเสรีภาพในการพูดและป้องกันไม่ให้รัฐบาลเซ็นเซอร์เสรีภาพในการพูดในอนาคต

    ต่อจากนั้นทรัมป์ย้ายไปที่ห้องทำงานรูปไข่ (The Oval Office) ในทำเนียบขาว แล้วลงนามคำสั่งต่อไป ซึ่งคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับแรกที่ทรัมป์ลงนามในห้องทำงานรูปไข่ คือการอภัยโทษให้กับผู้คนจำนวน 1,500 คน ที่ได้รับโทษจากการปิดล้อมอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021

    จากนั้นในเวลาประมาณ 19.50 น. บลูมเบิร์กรายงานว่า ทรัมป์ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามถึงเรื่องภาษีศุลกากรว่า “เราคิดอัตราภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาจะอยู่ที่ 25% ผมคิดว่าเราจะดำเนินการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์”

    ในเวลาเดียวกัน ทรัมป์กล่าวถึงจีนว่า จะประชุมและโทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ของจีน

    นอกจากนั้น ทรัมป์กล่าวว่าประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ต้องใช้จ่ายงบประมาณ 5% ของจีดีพี สำหรับการป้องกันประเทศ

    ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ทำเนียบขาว (The White House) หรือสำนักงานประธานาธิบดีสหหรัฐ พบว่า ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมากที่จะส่งผลกระทบต่อต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น

    -ถอนสหรัฐออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ยุติรายจ่ายที่เป็นภาระและไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐอเมริกา ยกเลิกการเจรจาข้อตกลงว่าด้วยโรคระบาด (Pandemic Agreement) และการแปรญัตติกฎอนามัยระหว่างประเทศ (International Health Regulations)

    -ประกาศใช้นโยบายการค้าที่ให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรก (America First Trade Policy) หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องกำหนดนโยบายการค้าที่ส่งเสริมการลงทุนในประเทศ แก้ไขการค้าที่ไม่เป็นธรรมและไม่สมดุล โดยใช้มาตรการที่เหมาะสม อย่างเช่น ภาษีศุลกากร

    -ปรับโครงสร้างโครงการรับผู้ลี้ภัยของสหรัฐ (USRAP) ใหม่ และระงับการรับผู้ลี้ภัยผ่าน USRAP จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าการเข้าสู่สหรัฐอเมริกาของผู้ลี้ภัยจะสอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐ

    -ยกเลิกการให้สถานะพลเมืองอเมริกันโดยกำเนิด เด็กที่เกิดในสหรัฐอเมริกาแต่เกิดจากพ่อและแม่ที่ไม่ใช่พลเมืองอเมริกัน จะไม่ได้สถานะพลเมืองโดยกำเนิดอีกต่อไป

    -เพิ่มการรักษาความปลอดภัยชายแดน โดยสร้างกำแพงและสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ที่มีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่และการใช้เทคโนโลยี เพื่อขัดขวางและป้องกันการเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย และดำเนินการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยมีกระบวนการคุมขังระหว่างรอส่งตัวออกจากประเทศ

    -ลดการให้ความช่วยเหลือต่างประเทศ โดยจะหยุดให้ความช่วยเหลือต่างประเทศที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีสหรัฐ 90 วันเพื่อประเมินประสิทธิภาพโครงการและความสอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐว่าควรได้รับการช่วยเหลือต่อไปหรือไม่

    ​ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
    โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ลงนามยกเลิกคำสั่งไบเดนแล้ว 78 ฉบับ เผยเริ่มเก็บภาษีสินค้านำเข้าแคนาดา-เม็กซิโก 1 กุมภาพันธ์นี้ บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานความเคลื่อนไหววันแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) หลังเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม 2025 ว่า ทรัมป์ยังดำเนินแผนการอันทะเยอทะยานของเขาต่อไป โดยลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมาก บลูมเบิร์กระบุว่า ณ เวลาประมาณ 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐ (ช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง) โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งในนั้นเป็นการเพิกถอนคำสั่งหรือแผนริเริ่มต่าง ๆ ในยุคของประธานาธิบดี โจ ไบเดน (Joe Biden) ถึง 78 ฉบับ ต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากที่สนามกีฬาแคปิตอลวัน (Capital One Arena) บรรดาคำสั่งที่ทรัมป์ยกเลิกคำสั่งของไบเดนนั้น รวมถึงการถอนตัวจากความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Paris Agreement), คำสั่งให้ทุกกระทรวงจัดการกับภาวะเงินเฟ้อ, การดำเนินการเรียกพนักงานของรัฐบาลกลางกลับเข้าทำงาน และคำสั่งคืนเสรีภาพในการพูดและป้องกันไม่ให้รัฐบาลเซ็นเซอร์เสรีภาพในการพูดในอนาคต ต่อจากนั้นทรัมป์ย้ายไปที่ห้องทำงานรูปไข่ (The Oval Office) ในทำเนียบขาว แล้วลงนามคำสั่งต่อไป ซึ่งคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับแรกที่ทรัมป์ลงนามในห้องทำงานรูปไข่ คือการอภัยโทษให้กับผู้คนจำนวน 1,500 คน ที่ได้รับโทษจากการปิดล้อมอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 จากนั้นในเวลาประมาณ 19.50 น. บลูมเบิร์กรายงานว่า ทรัมป์ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามถึงเรื่องภาษีศุลกากรว่า “เราคิดอัตราภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาจะอยู่ที่ 25% ผมคิดว่าเราจะดำเนินการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์” ในเวลาเดียวกัน ทรัมป์กล่าวถึงจีนว่า จะประชุมและโทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ของจีน นอกจากนั้น ทรัมป์กล่าวว่าประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ต้องใช้จ่ายงบประมาณ 5% ของจีดีพี สำหรับการป้องกันประเทศ ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ทำเนียบขาว (The White House) หรือสำนักงานประธานาธิบดีสหหรัฐ พบว่า ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมากที่จะส่งผลกระทบต่อต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น -ถอนสหรัฐออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ยุติรายจ่ายที่เป็นภาระและไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐอเมริกา ยกเลิกการเจรจาข้อตกลงว่าด้วยโรคระบาด (Pandemic Agreement) และการแปรญัตติกฎอนามัยระหว่างประเทศ (International Health Regulations) -ประกาศใช้นโยบายการค้าที่ให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรก (America First Trade Policy) หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องกำหนดนโยบายการค้าที่ส่งเสริมการลงทุนในประเทศ แก้ไขการค้าที่ไม่เป็นธรรมและไม่สมดุล โดยใช้มาตรการที่เหมาะสม อย่างเช่น ภาษีศุลกากร -ปรับโครงสร้างโครงการรับผู้ลี้ภัยของสหรัฐ (USRAP) ใหม่ และระงับการรับผู้ลี้ภัยผ่าน USRAP จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าการเข้าสู่สหรัฐอเมริกาของผู้ลี้ภัยจะสอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐ -ยกเลิกการให้สถานะพลเมืองอเมริกันโดยกำเนิด เด็กที่เกิดในสหรัฐอเมริกาแต่เกิดจากพ่อและแม่ที่ไม่ใช่พลเมืองอเมริกัน จะไม่ได้สถานะพลเมืองโดยกำเนิดอีกต่อไป -เพิ่มการรักษาความปลอดภัยชายแดน โดยสร้างกำแพงและสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ที่มีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่และการใช้เทคโนโลยี เพื่อขัดขวางและป้องกันการเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย และดำเนินการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยมีกระบวนการคุมขังระหว่างรอส่งตัวออกจากประเทศ -ลดการให้ความช่วยเหลือต่างประเทศ โดยจะหยุดให้ความช่วยเหลือต่างประเทศที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีสหรัฐ 90 วันเพื่อประเมินประสิทธิภาพโครงการและความสอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐว่าควรได้รับการช่วยเหลือต่อไปหรือไม่ ​ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 513 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ ลงนามนิรโทษกรรมแก่บุคคล 1,500 ราย ที่ก่อเหตุบุกจู่โจมอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 ในระหว่างพยายามขัดขวางสมาชิกสภาคองเกรสให้การรับรองผลการเลือกตั้งปี 2020 ที่เขาพ่ายแพ้แก่ โจ ไบเดน อดีตผู้นำที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่ง
    ทรัมป์ ลงนามนิรโทษกรรมแก่บุคคล 1,500 ราย ที่ก่อเหตุบุกจู่โจมอาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 ในระหว่างพยายามขัดขวางสมาชิกสภาคองเกรสให้การรับรองผลการเลือกตั้งปี 2020 ที่เขาพ่ายแพ้แก่ โจ ไบเดน อดีตผู้นำที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่ง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจุด "ยุคทองใหม่ ในสหรัฐฯ เริ่มขึ้นแล้ว" หลังเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัย 2 ในวันจันทร์ (20 ม.ค.) แต่โฟกัสเกือบทั้งหมดจับตาไปที่คำกล่าวสุนทรพจน์อันเข้มข้นของเขา ที่อวดอ้างจะใช้นโยบายแข็งกร้าวต่างๆ ในการกอบกู้สิ่งที่เขาเรียกว่า "การเสื่อมถอยของสังคมอเมริกา"
    .
    ในคำกล่าวสุนทรพจน์ ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ยังได้กล่าวโจมตีพวกผู้อพยพผิดกฎหมาย และวัฒนธรรมสงคราม "ยุคทองของอเมริกาได้เริ่มขึ้นแล้วในเวลานี้ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประเทศของเราจะมีแต่ความรุ่งเรืองและได้รับความเคารพจากทั่วโลกอีกครั้ง "ทรัมป์ กล่าวในอาคารรัฐสภา บริเวณที่พิธีสาบานตนของเขาถูกจัดขึ้นในร่มเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ สืบเนื่องจากอากาศหนาวจัด
    .
    ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้ยังพาดพิงถึงกรณีที่กระสุนของมือสังหารที่เฉียดเข้าไป ระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ที่เขาได้รับชัยชนะ ว่า "ผมได้รับการปกป้องจากพระเจ้า ให้ทำอเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง"
    .
    นอกจากเน้นย้ำคำสัญญาต่างๆ แล้ว ทรัมป์ได้ประณามอย่างดุเดือดต่อสิ่งที่เขาเรียกว่า "การทรยศหักหลังอเมริกา โดยสถาบันหัวรุนแรงและคอร์รัปชัน" ภายใต้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง "การเสื่อมถอยของอเมริกาจบลงแล้ว"
    .
    ไบเดน ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงน้ำชาต้อนรับ ทรัมป์ และเมลาเนีย ภรรยา ที่ทำเนียบขาว เฝ้ามองพิธีด้วยใบหน้าเรียบเฉย ระหว่างที่ศัตรูทางการเมืองของเขา กล่าวสุนทรพจน์โจมตียุคสมัยการดำรงตำแหน่งสมัยเดียวของเขา
    .
    นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังวางกรอบนโยบายต่างประเทศ บอกว่าเขาต้องการเป็นผู้สร้างสันติภาพและความเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่จากนั้นกลับบอกว่าสหรัฐฯ จะทวงคืนคลองปานามา และเตือนว่าจะใช้สงครามการค้าโดยอิสระเสรี พร้อมประกาศปักธงชาติอเมริกา บนดาวอังคาร
    .
    มหาเศรษฐีวัย 78 ปีรายนี้ ซึ่งกลายมาเป็นบุคคลมีอายุมากที่สุดที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี เตรียมเริ่มต้นวาระการดำรงตำแหน่งสมัยล่าสุด ด้วยการเซ็นคำสั่งพิเศษต่างๆ "ผมจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ ณ ชายแดนทางใต้ของเรา" ติดกับเม็กซิโก ทรัมป์กล่าวท่ามกลางเสียงเชียร์ดังสนั่นหวั่นไหวในห้องประชุม Rotunda พร้อมประกาศขับไล่พวกผู้อพยพผิดกฎหมายหลายล้านคน
    .
    ทรัมป์ บอกว่ารัฐบาลของเขาจะยอมรับเพียง "2 เพศ เพศชายและเพศหญิง" ยุติแนวทางปฏิบัติในปัจจุบันที่มองทางเลือกแก่เพศที่ 3 ในทางออกบางอย่าง ขณะเดียวกัน เขาจะถอนวอชิงตันออกจากข้อตกลงโลกร้อนปารีส ที่มีเป้าหมายหยุดภาวะโลกร้อน
    .
    ในขณะที่ ทรัมป์ เป็นเพียงคนวงนอกทางการเมืองครั้งที่สาบานตนรับตำแหน่งสมัยแรกในปี 2017 ในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ แต่คราวนี้เขาถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มคนมั่งมีและเหล่าคนทรงอิทธิพลของอเมริกา
    .
    อีลอน มัสก์ ชายผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก บอสของเมตา เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งแอมะซอน และซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของกูเกิล ทั้งหมดล้วนแต่ได้นั่งในเก้าอี้แถวหน้าในอาคารรัฐสภา เคียงข้างครอบครัวของทรัมป์และเหล่าคณะรัฐมนตรี ในขณะที่ มัสก์ จะเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนลดค่าใช้จ่ายในรัฐบาลใหม่
    .
    อดีตประธานาธิบดีอย่าง บารัค โอบามา จอร์จ ดับเบิลยู.บุช และ บิล คลินตัน ต่างเข้าร่วมพิธีพร้อมกับภริยา ยกเว้น มิเชล โอบามา อดีตสุภาพสตรีหมายเลย 1 ที่ไม่ได้เข้าร่วม
    .
    กลุ่มกองเชียร์เฝ้ามองพิธีสาบานตน ผ่านโทรศัพท์มือถือด้านนอกของอาคารัฐสภา จากปกติแล้วจะมีผู้คนหลายหมื่นคนเข้ามาร่วมพิธีทอดยาวไปจนถึงอุทยานเนชั่นแนล มอลล์
    .
    หลังจาก ทรัมป์ เคยไม่ยอมเข้าร่วมพิธีสาบานตนของ ไบเดน ในปี 2021 อ้างว่ามีการโกงเลือกตั้ง จนกระทั่งปลุกปั่นให้พวกผู้สนับสนุนบุกจู่โจมอาคารรัฐสภา แต่คราวนี้ ไบเดน เลือกที่จะกลับคืนสู่บรรยากาศดั้งเดิม "ยินดีต้อนรับกลับบ้าน" ไบเดน บอกกับ ทรัมป์ ตอนที่เขาเดินทางมายังทำเนียบขาว เพื่อดื่มชา
    .
    ในช่วงท้ายๆ ก่อนอำลาตำแหน่งในวันจันทร์ (20 ม.ค.) ไบเดน ได้เซ็นคำสั่งนิรโทษกรรมล่วงหน้าเป็นชุดๆ ให้แก่พวกลูกน้องและคู่สมรสของพวกเขา เพื่อปกป้องคนเหลานี้จากการถูกสืบสวนที่มีแรงจูงใจทางการเมือง
    .
    นอกจากนี้แล้ว เขายังนิรโทษกรรมให้แก่ แอนโทนี เฟาซี อดีตที่ปรึกษาโควิด-19 มาร์ค มิลลีย์ นายพลปลดเกษียณ และสมาชิกคณะกรรมาธิการชุดหนึ่งที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเหตุจลาจลโมตีอาคารรัฐสภา 6 มกราคม 2021 โดยฝีมือของพวกผู้สนับสนุนทรัมป์
    .
    ทรัมป์ โจมตีในเรื่องดังกล่าวไม่นานหลังจากสาบานตนรับตำแหน่ง กล่าวอ้างว่า ไบเดน นิรโทษกรรมให้บุคคล "ที่มีความผิดในคดีอาญาที่ร้ายแรงมาก"
    .
    มหาเศรษฐีรายนี้กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่สามารถกลับมาครองอำนาจได้อีกสมัย หลังจากตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสมัยก่อนหน้านั้น โดยคนแรกได้แก่ โกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ในปี 1893
    .
    สำหรับทั่วทั้งโลกแล้ว การกลับคืนสู่ตำแหน่งของ ทรัมป์ นั่นหมายความว่า พวกเขาคาดหมายได้เลยว่า ต้องเจอกับสิ่งที่ไม่อาจคาดการณ์ได้
    .
    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ก่อนสาบานตน และบอกในวันจันทร์ (20 ม.ค.) ว่าเขาเปิดกว้างสำหรับพูดคุยเกี่ยวกับความขัดแย้งยูเครน ซึ่ง ทรัมป์ ไม่ได้พาดพิงระหว่างกล่าวสุนทรพจน์
    .
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ก็แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ เช่นกัน โดยบอกว่า "วันที่ดีที่สุดของความเป็นพันธมิตรระหว่างเรายังมาไม่ถึง" หลังจากก่อนหน้านี้ไม่นาน ทีมงานของทรัมป์ เพิ่งช่วยเป็นคนกลางบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ระหว่างอิสราเอลกับฮามาส
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006232
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจุด "ยุคทองใหม่ ในสหรัฐฯ เริ่มขึ้นแล้ว" หลังเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัย 2 ในวันจันทร์ (20 ม.ค.) แต่โฟกัสเกือบทั้งหมดจับตาไปที่คำกล่าวสุนทรพจน์อันเข้มข้นของเขา ที่อวดอ้างจะใช้นโยบายแข็งกร้าวต่างๆ ในการกอบกู้สิ่งที่เขาเรียกว่า "การเสื่อมถอยของสังคมอเมริกา" . ในคำกล่าวสุนทรพจน์ ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ยังได้กล่าวโจมตีพวกผู้อพยพผิดกฎหมาย และวัฒนธรรมสงคราม "ยุคทองของอเมริกาได้เริ่มขึ้นแล้วในเวลานี้ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ประเทศของเราจะมีแต่ความรุ่งเรืองและได้รับความเคารพจากทั่วโลกอีกครั้ง "ทรัมป์ กล่าวในอาคารรัฐสภา บริเวณที่พิธีสาบานตนของเขาถูกจัดขึ้นในร่มเป็นครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ สืบเนื่องจากอากาศหนาวจัด . ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันรายนี้ยังพาดพิงถึงกรณีที่กระสุนของมือสังหารที่เฉียดเข้าไป ระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ที่เขาได้รับชัยชนะ ว่า "ผมได้รับการปกป้องจากพระเจ้า ให้ทำอเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง" . นอกจากเน้นย้ำคำสัญญาต่างๆ แล้ว ทรัมป์ได้ประณามอย่างดุเดือดต่อสิ่งที่เขาเรียกว่า "การทรยศหักหลังอเมริกา โดยสถาบันหัวรุนแรงและคอร์รัปชัน" ภายใต้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง "การเสื่อมถอยของอเมริกาจบลงแล้ว" . ไบเดน ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงน้ำชาต้อนรับ ทรัมป์ และเมลาเนีย ภรรยา ที่ทำเนียบขาว เฝ้ามองพิธีด้วยใบหน้าเรียบเฉย ระหว่างที่ศัตรูทางการเมืองของเขา กล่าวสุนทรพจน์โจมตียุคสมัยการดำรงตำแหน่งสมัยเดียวของเขา . นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังวางกรอบนโยบายต่างประเทศ บอกว่าเขาต้องการเป็นผู้สร้างสันติภาพและความเป็นหนึ่งเดียวกัน แต่จากนั้นกลับบอกว่าสหรัฐฯ จะทวงคืนคลองปานามา และเตือนว่าจะใช้สงครามการค้าโดยอิสระเสรี พร้อมประกาศปักธงชาติอเมริกา บนดาวอังคาร . มหาเศรษฐีวัย 78 ปีรายนี้ ซึ่งกลายมาเป็นบุคคลมีอายุมากที่สุดที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี เตรียมเริ่มต้นวาระการดำรงตำแหน่งสมัยล่าสุด ด้วยการเซ็นคำสั่งพิเศษต่างๆ "ผมจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ ณ ชายแดนทางใต้ของเรา" ติดกับเม็กซิโก ทรัมป์กล่าวท่ามกลางเสียงเชียร์ดังสนั่นหวั่นไหวในห้องประชุม Rotunda พร้อมประกาศขับไล่พวกผู้อพยพผิดกฎหมายหลายล้านคน . ทรัมป์ บอกว่ารัฐบาลของเขาจะยอมรับเพียง "2 เพศ เพศชายและเพศหญิง" ยุติแนวทางปฏิบัติในปัจจุบันที่มองทางเลือกแก่เพศที่ 3 ในทางออกบางอย่าง ขณะเดียวกัน เขาจะถอนวอชิงตันออกจากข้อตกลงโลกร้อนปารีส ที่มีเป้าหมายหยุดภาวะโลกร้อน . ในขณะที่ ทรัมป์ เป็นเพียงคนวงนอกทางการเมืองครั้งที่สาบานตนรับตำแหน่งสมัยแรกในปี 2017 ในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ แต่คราวนี้เขาถูกล้อมรอบด้วยกลุ่มคนมั่งมีและเหล่าคนทรงอิทธิพลของอเมริกา . อีลอน มัสก์ ชายผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก บอสของเมตา เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งแอมะซอน และซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของกูเกิล ทั้งหมดล้วนแต่ได้นั่งในเก้าอี้แถวหน้าในอาคารรัฐสภา เคียงข้างครอบครัวของทรัมป์และเหล่าคณะรัฐมนตรี ในขณะที่ มัสก์ จะเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนลดค่าใช้จ่ายในรัฐบาลใหม่ . อดีตประธานาธิบดีอย่าง บารัค โอบามา จอร์จ ดับเบิลยู.บุช และ บิล คลินตัน ต่างเข้าร่วมพิธีพร้อมกับภริยา ยกเว้น มิเชล โอบามา อดีตสุภาพสตรีหมายเลย 1 ที่ไม่ได้เข้าร่วม . กลุ่มกองเชียร์เฝ้ามองพิธีสาบานตน ผ่านโทรศัพท์มือถือด้านนอกของอาคารัฐสภา จากปกติแล้วจะมีผู้คนหลายหมื่นคนเข้ามาร่วมพิธีทอดยาวไปจนถึงอุทยานเนชั่นแนล มอลล์ . หลังจาก ทรัมป์ เคยไม่ยอมเข้าร่วมพิธีสาบานตนของ ไบเดน ในปี 2021 อ้างว่ามีการโกงเลือกตั้ง จนกระทั่งปลุกปั่นให้พวกผู้สนับสนุนบุกจู่โจมอาคารรัฐสภา แต่คราวนี้ ไบเดน เลือกที่จะกลับคืนสู่บรรยากาศดั้งเดิม "ยินดีต้อนรับกลับบ้าน" ไบเดน บอกกับ ทรัมป์ ตอนที่เขาเดินทางมายังทำเนียบขาว เพื่อดื่มชา . ในช่วงท้ายๆ ก่อนอำลาตำแหน่งในวันจันทร์ (20 ม.ค.) ไบเดน ได้เซ็นคำสั่งนิรโทษกรรมล่วงหน้าเป็นชุดๆ ให้แก่พวกลูกน้องและคู่สมรสของพวกเขา เพื่อปกป้องคนเหลานี้จากการถูกสืบสวนที่มีแรงจูงใจทางการเมือง . นอกจากนี้แล้ว เขายังนิรโทษกรรมให้แก่ แอนโทนี เฟาซี อดีตที่ปรึกษาโควิด-19 มาร์ค มิลลีย์ นายพลปลดเกษียณ และสมาชิกคณะกรรมาธิการชุดหนึ่งที่ทำหน้าที่ตรวจสอบเหตุจลาจลโมตีอาคารรัฐสภา 6 มกราคม 2021 โดยฝีมือของพวกผู้สนับสนุนทรัมป์ . ทรัมป์ โจมตีในเรื่องดังกล่าวไม่นานหลังจากสาบานตนรับตำแหน่ง กล่าวอ้างว่า ไบเดน นิรโทษกรรมให้บุคคล "ที่มีความผิดในคดีอาญาที่ร้ายแรงมาก" . มหาเศรษฐีรายนี้กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่สามารถกลับมาครองอำนาจได้อีกสมัย หลังจากตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสมัยก่อนหน้านั้น โดยคนแรกได้แก่ โกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ในปี 1893 . สำหรับทั่วทั้งโลกแล้ว การกลับคืนสู่ตำแหน่งของ ทรัมป์ นั่นหมายความว่า พวกเขาคาดหมายได้เลยว่า ต้องเจอกับสิ่งที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ . ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ก่อนสาบานตน และบอกในวันจันทร์ (20 ม.ค.) ว่าเขาเปิดกว้างสำหรับพูดคุยเกี่ยวกับความขัดแย้งยูเครน ซึ่ง ทรัมป์ ไม่ได้พาดพิงระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ . เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ก็แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ เช่นกัน โดยบอกว่า "วันที่ดีที่สุดของความเป็นพันธมิตรระหว่างเรายังมาไม่ถึง" หลังจากก่อนหน้านี้ไม่นาน ทีมงานของทรัมป์ เพิ่งช่วยเป็นคนกลางบรรลุข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ระหว่างอิสราเอลกับฮามาส . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006232 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1221 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์เตรียมสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ให้สัญญาปิดฉากความตกต่ำนาน 4 ปีและนำอเมริกาสู่ยุคทอง ลั่นพร้อมเริ่มทำงาน “รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์” เพื่อแก้ไขทุกวิกฤตที่ประเทศชาติกำลังเผชิญอยู่นับจากวันแรกที่กลับสู่ทำเนียบขาว ซึ่งรวมถึงการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองนับล้าน และการปรับบทบาทใหม่ของอเมริกาในเวทีโลก
    .
    การสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของโดนัลด์ ทรัมป์ ถือเป็นการกลับมาอย่างผู้ชนะเต็มตัวของ “ดิสรัปเตอร์ทางการเมือง” ที่รอดจากการถูกรัฐสภาไต่สวนเพื่อถอดถอนถึงสองครั้ง รวมถึงการถูกศาลตัดสินว่ากระทำความผิดทางอาญาร้ายแรงหนึ่งครั้ง นอกจากนั้นยังเผชิญความพยายามในการลอบสังหารสองครั้ง และการถูกฟ้องร้องจากความพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ที่ตนเองเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
    .
    ทรัมป์ วัย 78 ปี สร้างประวัติศาสตร์ใหม่แทนที่ โจ ไบเดน ในการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯอายุมากที่สุดขณะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ขณะที่เป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์อเมริกัน ถัดจากโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ (ปี 1885-1889 และปี1893-1897) ที่ดำรงตำแหน่งสองวาระแบบไม่ต่อเนื่อง
    .
    พิธีสาบานตนกำหนดเริ่มต้นขึ้นเวลา 12.00 น. วันจันทร์ตามเวลาในกรุงวอชิงตัน (ตรงกับเวลา เที่ยงคืน คืนวันจันทร์ ตามเวลาเมืองไทย) ภายในอาคารรัฐสภา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีที่มีการจัดพิธีภายในอาคาร ทั้งนี้ เนื่องจากพยากรณ์อากาศระบุว่าสภาพอากาศจะหนาวเย็นจัด
    .
    ก่อนหน้าที่พิธีจะเริ่มต้นหนึ่งวัน ทรัมป์ได้ไปกล่าวปราศรัยท่ามกลางผู้สนับสนุนที่อัดแน่นในสนามกีฬาแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน โดยให้สัญญาว่า จะปิดฉากความตกต่ำที่ดำเนินมานาน 4 ปี ซึ่งก็คือหมายถึงสมัยการเป็นประธานาธิบดีของโจ ไบเดน และเริ่มต้นอเมริกายุคใหม่ที่เข้มแข็งและมั่งคั่ง รวมทั้งเริ่มทำงาน “รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์” เพื่อแก้ไขทุกวิกฤตที่ประเทศชาติกำลังเผชิญอยู่นับจากวันแรกที่กลับสู่ทำเนียบขาว
    .
    ทรัมป์ใช้เวลาจำนวนมากในการปราศรัยนานหนึ่งชั่วโมงคราวนี้โฟกัสที่ปัญหาผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยประธานาธิบดีคนที่ 45 และ 47 ของอเมริกาผู้นี้ ประกาศว่า จะหยุดยั้งการบุกรุกข้ามแดนและจัดการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองทันที
    .
    ทรัมป์สัญญาว่า จะใช้อำนาจฝ่ายบริหารตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงาน ซึ่งรวมถึงการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติบริเวณชายแดนทางใต้ติดกับเม็กซิโก ยกเลิกนโยบาย “การตื่นรู้” ที่รวมถึง “ความบ้าคลั่งของการยอมรับคนข้ามเพศ” ในโรงเรียน ทั้งนี้รอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เขาจะเซ็นประกาศใช้อำนาจฝ่ายบริหารถึงราว 200 ฉบับ
    .
    เขายังย้ำคำสัญญาในการเผยแพร่ไฟล์ข้อมูลการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ และน้องชาย บ็อบบี้ เคนเนดี้ รวมทั้งมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ผู้นำขบวนการเคลื่อนไหวสิทธิพลเมือง
    .
    ทรัมป์สำทับว่า จะอภัยโทษผู้ต้องหาจำนวนมาก จากกว่า 1,500 คนที่เกี่ยวข้องกับการบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021 เพื่อขัดขวางการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดน
    .
    สำหรับทางด้านไบเดนเดินทางไปรัฐเซาท์แคโรไลนาเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา และกล่าวเรียกร้องให้คนอเมริกันเชื่อมั่นว่า วันที่ดีกว่านี้กำลังจะมาถึง พร้อมให้สัญญา “จะไม่ไปไหน” โดยไบเดนมีกำหนดกลับไปกรุงวอชิงตันเพื่อร่วมพิธีส่งมอบตำแหน่งให้ทรัมป์ที่เขาเคยตราหน้าว่า เป็นภัยคุกคามประชาธิปไตย อีกทั้งยังถือเป็นการ “ตบหน้า” ทรัมป์กลายๆ เนื่องจาก ทรัมป์นั้นไม่ยอมรับเลยว่าพ่ายแพ้แก่ไบเดนในการเลือกตั้งปี 2020 และไม่ยอมร่วมพิธีสาบานตนของไบเดนในเดือนมกราคม 2021
    .
    ตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเสียอีก ทรัมป์ก็แสดงบทบาทเข้าสู่กรณีระดับโลก หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ ติ๊กต็อก แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยม ยกความดีความชอบว่า “ความชัดเจน” ของทรัมป์ทำให้ติ๊กต็อกกลับมาให้บริการอีกครั้งในอเมริกา หลังขึ้นจอดำนานหลายชั่วโมง
    .
    วันเดียวกันนั้น ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอล 3 คนภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงในกาซาที่ทีมงานของทรัมป์มีส่วนร่วมผลักดันโดยทำงานร่วมกับคณะเจ้าหน้าที่ในคณะบริหารของไบเดน
    .
    ขณะเดียวกัน ทั่วโลกต่างมองการกลับมาของทรัมป์ ว่าจะต้องเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ โดยที่ทรัมป์ประกาศเอาไว้แล้วว่าเตรียมเขย่าระเบียบโลกอีกคำรบหนึ่ง ด้วยการให้สัญญาเก็บภาษีศุลกากรแบบเหวี่ยงแหจากทั้งประเทศอริอย่างเช่นจีน และประเทศที่เป็นมิตรอย่างแคนาดาและเม็กซิโก นอกจากนั้นเขายังข่มขู่เข้ายึดคลองปานานา กดดันให้แคนาดายอมถูกผนวกเข้าเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐอเมริกา และบีบคั้นให้เดนมาร์กยอมขายเกาะกรีนแลนด์แก่สหรัฐฯ ตลอดจนตั้งข้อสงสัยในการให้ความช่วยเหลือยูเครนของอเมริกา โดยที่มีแผนจะทำให้เกิดสันติภาพขึ้นอย่างรวดเร็ว และบีบให้ยูเครนยอมสละดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006227
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์เตรียมสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ให้สัญญาปิดฉากความตกต่ำนาน 4 ปีและนำอเมริกาสู่ยุคทอง ลั่นพร้อมเริ่มทำงาน “รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์” เพื่อแก้ไขทุกวิกฤตที่ประเทศชาติกำลังเผชิญอยู่นับจากวันแรกที่กลับสู่ทำเนียบขาว ซึ่งรวมถึงการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองนับล้าน และการปรับบทบาทใหม่ของอเมริกาในเวทีโลก . การสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของโดนัลด์ ทรัมป์ ถือเป็นการกลับมาอย่างผู้ชนะเต็มตัวของ “ดิสรัปเตอร์ทางการเมือง” ที่รอดจากการถูกรัฐสภาไต่สวนเพื่อถอดถอนถึงสองครั้ง รวมถึงการถูกศาลตัดสินว่ากระทำความผิดทางอาญาร้ายแรงหนึ่งครั้ง นอกจากนั้นยังเผชิญความพยายามในการลอบสังหารสองครั้ง และการถูกฟ้องร้องจากความพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ที่ตนเองเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ . ทรัมป์ วัย 78 ปี สร้างประวัติศาสตร์ใหม่แทนที่ โจ ไบเดน ในการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯอายุมากที่สุดขณะสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ขณะที่เป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์อเมริกัน ถัดจากโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ (ปี 1885-1889 และปี1893-1897) ที่ดำรงตำแหน่งสองวาระแบบไม่ต่อเนื่อง . พิธีสาบานตนกำหนดเริ่มต้นขึ้นเวลา 12.00 น. วันจันทร์ตามเวลาในกรุงวอชิงตัน (ตรงกับเวลา เที่ยงคืน คืนวันจันทร์ ตามเวลาเมืองไทย) ภายในอาคารรัฐสภา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปีที่มีการจัดพิธีภายในอาคาร ทั้งนี้ เนื่องจากพยากรณ์อากาศระบุว่าสภาพอากาศจะหนาวเย็นจัด . ก่อนหน้าที่พิธีจะเริ่มต้นหนึ่งวัน ทรัมป์ได้ไปกล่าวปราศรัยท่ามกลางผู้สนับสนุนที่อัดแน่นในสนามกีฬาแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน โดยให้สัญญาว่า จะปิดฉากความตกต่ำที่ดำเนินมานาน 4 ปี ซึ่งก็คือหมายถึงสมัยการเป็นประธานาธิบดีของโจ ไบเดน และเริ่มต้นอเมริกายุคใหม่ที่เข้มแข็งและมั่งคั่ง รวมทั้งเริ่มทำงาน “รวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์” เพื่อแก้ไขทุกวิกฤตที่ประเทศชาติกำลังเผชิญอยู่นับจากวันแรกที่กลับสู่ทำเนียบขาว . ทรัมป์ใช้เวลาจำนวนมากในการปราศรัยนานหนึ่งชั่วโมงคราวนี้โฟกัสที่ปัญหาผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยประธานาธิบดีคนที่ 45 และ 47 ของอเมริกาผู้นี้ ประกาศว่า จะหยุดยั้งการบุกรุกข้ามแดนและจัดการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าเมืองทันที . ทรัมป์สัญญาว่า จะใช้อำนาจฝ่ายบริหารตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงาน ซึ่งรวมถึงการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติบริเวณชายแดนทางใต้ติดกับเม็กซิโก ยกเลิกนโยบาย “การตื่นรู้” ที่รวมถึง “ความบ้าคลั่งของการยอมรับคนข้ามเพศ” ในโรงเรียน ทั้งนี้รอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เขาจะเซ็นประกาศใช้อำนาจฝ่ายบริหารถึงราว 200 ฉบับ . เขายังย้ำคำสัญญาในการเผยแพร่ไฟล์ข้อมูลการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ และน้องชาย บ็อบบี้ เคนเนดี้ รวมทั้งมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ผู้นำขบวนการเคลื่อนไหวสิทธิพลเมือง . ทรัมป์สำทับว่า จะอภัยโทษผู้ต้องหาจำนวนมาก จากกว่า 1,500 คนที่เกี่ยวข้องกับการบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021 เพื่อขัดขวางการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดน . สำหรับทางด้านไบเดนเดินทางไปรัฐเซาท์แคโรไลนาเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในตำแหน่งประธานาธิบดีของเขา และกล่าวเรียกร้องให้คนอเมริกันเชื่อมั่นว่า วันที่ดีกว่านี้กำลังจะมาถึง พร้อมให้สัญญา “จะไม่ไปไหน” โดยไบเดนมีกำหนดกลับไปกรุงวอชิงตันเพื่อร่วมพิธีส่งมอบตำแหน่งให้ทรัมป์ที่เขาเคยตราหน้าว่า เป็นภัยคุกคามประชาธิปไตย อีกทั้งยังถือเป็นการ “ตบหน้า” ทรัมป์กลายๆ เนื่องจาก ทรัมป์นั้นไม่ยอมรับเลยว่าพ่ายแพ้แก่ไบเดนในการเลือกตั้งปี 2020 และไม่ยอมร่วมพิธีสาบานตนของไบเดนในเดือนมกราคม 2021 . ตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเสียอีก ทรัมป์ก็แสดงบทบาทเข้าสู่กรณีระดับโลก หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ ติ๊กต็อก แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นยอดนิยม ยกความดีความชอบว่า “ความชัดเจน” ของทรัมป์ทำให้ติ๊กต็อกกลับมาให้บริการอีกครั้งในอเมริกา หลังขึ้นจอดำนานหลายชั่วโมง . วันเดียวกันนั้น ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอล 3 คนภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงในกาซาที่ทีมงานของทรัมป์มีส่วนร่วมผลักดันโดยทำงานร่วมกับคณะเจ้าหน้าที่ในคณะบริหารของไบเดน . ขณะเดียวกัน ทั่วโลกต่างมองการกลับมาของทรัมป์ ว่าจะต้องเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ โดยที่ทรัมป์ประกาศเอาไว้แล้วว่าเตรียมเขย่าระเบียบโลกอีกคำรบหนึ่ง ด้วยการให้สัญญาเก็บภาษีศุลกากรแบบเหวี่ยงแหจากทั้งประเทศอริอย่างเช่นจีน และประเทศที่เป็นมิตรอย่างแคนาดาและเม็กซิโก นอกจากนั้นเขายังข่มขู่เข้ายึดคลองปานานา กดดันให้แคนาดายอมถูกผนวกเข้าเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐอเมริกา และบีบคั้นให้เดนมาร์กยอมขายเกาะกรีนแลนด์แก่สหรัฐฯ ตลอดจนตั้งข้อสงสัยในการให้ความช่วยเหลือยูเครนของอเมริกา โดยที่มีแผนจะทำให้เกิดสันติภาพขึ้นอย่างรวดเร็ว และบีบให้ยูเครนยอมสละดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดไป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006227 .............. Sondhi X
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1229 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขบวนแถวคณะรัฐมนตรีของทรัมป์ กำลังเดินเข้าภายในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง
    ขบวนแถวคณะรัฐมนตรีของทรัมป์ กำลังเดินเข้าภายในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 16 0 รีวิว
  • ผู้สนับสนุนยุน ซอก-ยอลบุกเข้าทำลายทรัพย์สินในศาลกรุงโซล หลังผู้พิพากษาตกลงขยายเวลาการควบคุมตัวประธานาธิบดีที่กำลังถูกดำเนินการถอดถอนจากการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อปลายปีที่แล้ว
    .
    วันเสาร์ (18 ม.ค) ประชาชนหลายหมื่นคนรวมตัวหน้าศาลแขวงโซลตะวันตกเพื่อให้กำลังใจยุนที่เป็นประธานาธิบดีคนแรกของเกาหลีใต้ที่ถูกจับกุมระหว่างดำรงตำแหน่ง
    .
    หลังจากศาลประกาศคำวินิจฉัยเมื่อราว 3.00 น. ของวันอาทิตย์ โดยอนุมัติการควบคุมตัวยุนต่ออีก 20 วัน เนื่องจากมีความกังวลว่า เขาอาจทำลายหลักฐานถ้าได้รับการปล่อยตัวออกไปนั้น บรรดาผู้สนับสนุนประธานาธิบดีผู้นี้ได้ใช้อุปกรณ์ดับเพลิงพ่นใส่แถวตำรวจที่ควบคุมสถานการณ์อยู่หน้าทางเข้าศาล ก่อนกรูกันเข้าไปในศาล ทำลายอุปกรณ์สำนักงานและเฟอร์นิเจอร์
    .
    ตำรวจใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงจึงสามารถฟื้นความสงบเรียบร้อย และจับกุมผู้ประท้วงได้ 46 คน รวมทั้งประกาศว่า จะตามจับตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงคนอื่นๆ มาดำเนินคดี และมีรายงานว่า ตำรวจ 9 นาย และประชาชน 40 คนได้รับบาดเจ็บ
    .
    ชอย ซัง-ม็อก รักษาการประธานาธิบดี แถลงแสดงความเสียใจอย่างมากต่อการก่อความรุนแรงนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่คาดฝันในสังคมประชาธิปไตย และเสริมว่า เจ้าหน้าที่จะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตามพื้นที่ต่างๆ ที่มีการชุมนุม
    .
    ด้านยุนเผยว่า ตกใจและเสียใจมากกับการจู่โจมศาล และประกาศว่า จะยืนหยัดแก้ไขความอยุติธรรม ไม่ว่าจะใช้เวลานานเพียงใดก็ตาม
    .
    เหตุการณ์นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิกฤตการเมืองเกาหลีใต้ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ยุนประกาศกฎอัยการศึกและส่งทหารไปควบคุมรัฐสภา อย่างไรก็ดี คำสั่งดังกล่าวบังคับใช้ได้เพียง 6 ชั่วโมง จนกระทั่งสมาชิกรัฐสภาสามารถฝ่าแนวล้อมของทหารและเข้าสู่สภาเพื่อลงมติล้มล้างการประกาศกฎอัยการศึกสำเร็จ
    .
    หลังจากนั้น ยุนถูกลงมติให้ดำเนินการถอดถอนและต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเสร็จสิ้นการวินิจฉัยว่าจะถอดถอนหรือคืนตำแหน่งให้ นอกจากนั้น เขายังถูกสอบสวนคดีอาญาจากการประกาศกฎอัยการศึก
    .
    ผู้สนับสนุนยืนยันว่า การตัดสินใจประกาศกฎอัยการศึกของยุนเป็นสิ่งถูกต้อง โดยอ้างทั้งที่ไม่มีหลักฐานว่า มีการโกงการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้วที่ฝ่ายค้านคว้าชัยชนะ
    .
    ม็อบเหล่านี้มักโบกธงอเมริกันและใช้คำว่า “หยุดปล้นชัยชนะ” ซึ่งเชื่อมโยงกับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ที่เหล่าผู้สนับสนุนบุกอาคารรัฐสภาเพื่อพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งที่ทรัมป์เป็นฝ่ายแพ้เมื่อหลายปีก่อน
    .
    ลี โฮ-ยอง รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแถลงว่า จะสอบสวนว่า ยูทูบเบอร์ฝ่ายขวาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์รุนแรงล่าสุดนี้หรือไม่ หลังจากมีการไลฟ์สดเหตุการณ์โจมตีศาล
    .
    ซอก ดง-ฮยอน ทนายความของยุน ประณามการวินิจฉัยของศาล พร้อมเตือนผู้สนับสนุนว่า การใช้ความรุนแรงจะสร้างภาระให้การไต่สวนยุนที่กำลังจะเกิดขึ้น
    .
    ทั้งนี้ ขณะที่ยุนต้องกลับเข้าสู่ห้องขังเดี่ยวภายหลังเดินทางไปปรากฏตัวที่ศาลในวันเสาร์นั้น อัยการเผยว่า เตรียมฟ้องร้องยุนในคดีอาญาข้อหาก่อกบฏอย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจทำให้ประธานาธิบดีผู้นี้ถูกจำคุกตลอดชีวิตหรือรับโทษประหาร หากถูกตัดสินว่าผิดจริง
    .
    ขณะเดียวกัน สำนักงานสอบสวนการทุจริตเผยว่าจะส่งหมายเรียกอีกครั้งในวันจันทร์ (20 ม.ค.) หลังจากยุนปฏิเสธไปให้ปากคำในวันอาทิตย์
    .
    นอกจากนั้น ยุนยังไม่ไปปรากฏตัวที่ศาลรัฐธรรมนูญที่กำลังพิจารณาว่า จะถอดถอนหรือคืนตำแหน่งให้เขา ซึ่งหากศาลลงความเห็นให้ถอดถอน ยุนจะพ้นจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการและต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 60 วัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005825
    ..............
    Sondhi X
    ผู้สนับสนุนยุน ซอก-ยอลบุกเข้าทำลายทรัพย์สินในศาลกรุงโซล หลังผู้พิพากษาตกลงขยายเวลาการควบคุมตัวประธานาธิบดีที่กำลังถูกดำเนินการถอดถอนจากการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อปลายปีที่แล้ว . วันเสาร์ (18 ม.ค) ประชาชนหลายหมื่นคนรวมตัวหน้าศาลแขวงโซลตะวันตกเพื่อให้กำลังใจยุนที่เป็นประธานาธิบดีคนแรกของเกาหลีใต้ที่ถูกจับกุมระหว่างดำรงตำแหน่ง . หลังจากศาลประกาศคำวินิจฉัยเมื่อราว 3.00 น. ของวันอาทิตย์ โดยอนุมัติการควบคุมตัวยุนต่ออีก 20 วัน เนื่องจากมีความกังวลว่า เขาอาจทำลายหลักฐานถ้าได้รับการปล่อยตัวออกไปนั้น บรรดาผู้สนับสนุนประธานาธิบดีผู้นี้ได้ใช้อุปกรณ์ดับเพลิงพ่นใส่แถวตำรวจที่ควบคุมสถานการณ์อยู่หน้าทางเข้าศาล ก่อนกรูกันเข้าไปในศาล ทำลายอุปกรณ์สำนักงานและเฟอร์นิเจอร์ . ตำรวจใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงจึงสามารถฟื้นความสงบเรียบร้อย และจับกุมผู้ประท้วงได้ 46 คน รวมทั้งประกาศว่า จะตามจับตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงคนอื่นๆ มาดำเนินคดี และมีรายงานว่า ตำรวจ 9 นาย และประชาชน 40 คนได้รับบาดเจ็บ . ชอย ซัง-ม็อก รักษาการประธานาธิบดี แถลงแสดงความเสียใจอย่างมากต่อการก่อความรุนแรงนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่คาดฝันในสังคมประชาธิปไตย และเสริมว่า เจ้าหน้าที่จะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยตามพื้นที่ต่างๆ ที่มีการชุมนุม . ด้านยุนเผยว่า ตกใจและเสียใจมากกับการจู่โจมศาล และประกาศว่า จะยืนหยัดแก้ไขความอยุติธรรม ไม่ว่าจะใช้เวลานานเพียงใดก็ตาม . เหตุการณ์นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของวิกฤตการเมืองเกาหลีใต้ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ยุนประกาศกฎอัยการศึกและส่งทหารไปควบคุมรัฐสภา อย่างไรก็ดี คำสั่งดังกล่าวบังคับใช้ได้เพียง 6 ชั่วโมง จนกระทั่งสมาชิกรัฐสภาสามารถฝ่าแนวล้อมของทหารและเข้าสู่สภาเพื่อลงมติล้มล้างการประกาศกฎอัยการศึกสำเร็จ . หลังจากนั้น ยุนถูกลงมติให้ดำเนินการถอดถอนและต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเสร็จสิ้นการวินิจฉัยว่าจะถอดถอนหรือคืนตำแหน่งให้ นอกจากนั้น เขายังถูกสอบสวนคดีอาญาจากการประกาศกฎอัยการศึก . ผู้สนับสนุนยืนยันว่า การตัดสินใจประกาศกฎอัยการศึกของยุนเป็นสิ่งถูกต้อง โดยอ้างทั้งที่ไม่มีหลักฐานว่า มีการโกงการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้วที่ฝ่ายค้านคว้าชัยชนะ . ม็อบเหล่านี้มักโบกธงอเมริกันและใช้คำว่า “หยุดปล้นชัยชนะ” ซึ่งเชื่อมโยงกับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ที่เหล่าผู้สนับสนุนบุกอาคารรัฐสภาเพื่อพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งที่ทรัมป์เป็นฝ่ายแพ้เมื่อหลายปีก่อน . ลี โฮ-ยอง รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแถลงว่า จะสอบสวนว่า ยูทูบเบอร์ฝ่ายขวาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์รุนแรงล่าสุดนี้หรือไม่ หลังจากมีการไลฟ์สดเหตุการณ์โจมตีศาล . ซอก ดง-ฮยอน ทนายความของยุน ประณามการวินิจฉัยของศาล พร้อมเตือนผู้สนับสนุนว่า การใช้ความรุนแรงจะสร้างภาระให้การไต่สวนยุนที่กำลังจะเกิดขึ้น . ทั้งนี้ ขณะที่ยุนต้องกลับเข้าสู่ห้องขังเดี่ยวภายหลังเดินทางไปปรากฏตัวที่ศาลในวันเสาร์นั้น อัยการเผยว่า เตรียมฟ้องร้องยุนในคดีอาญาข้อหาก่อกบฏอย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจทำให้ประธานาธิบดีผู้นี้ถูกจำคุกตลอดชีวิตหรือรับโทษประหาร หากถูกตัดสินว่าผิดจริง . ขณะเดียวกัน สำนักงานสอบสวนการทุจริตเผยว่าจะส่งหมายเรียกอีกครั้งในวันจันทร์ (20 ม.ค.) หลังจากยุนปฏิเสธไปให้ปากคำในวันอาทิตย์ . นอกจากนั้น ยุนยังไม่ไปปรากฏตัวที่ศาลรัฐธรรมนูญที่กำลังพิจารณาว่า จะถอดถอนหรือคืนตำแหน่งให้เขา ซึ่งหากศาลลงความเห็นให้ถอดถอน ยุนจะพ้นจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการและต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 60 วัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005825 .............. Sondhi X
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1267 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมาชิกระดับสูงของรีพับลิกันในสภาคองเกรส กำลังพิจารณากำหนดเงื่อนไขต่างๆสำหรับงบช่วยเหลือด้านภัยพิบัติ ที่จะมอบแก่ชุมชนต่างๆของลอสแองเจลิสที่ถูกทำลายล้างจากไฟป่าหายนะ หลังว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาพวกเจ้าหน้าที่ระดับรัฐและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น บริหารจัดการสถานการณ์ผิดพลาด
    .
    ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันจันทร์(13ม.ค.) ตำหนิพวกเจ้าหน้าระดับแกนนำในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่นำโดยเดโมแครต บริหารจัดการทรัพยากรน้ำและผืนป่าผิดพลาดในพื้นที่ลองแองเจลิส ก่อนเกิดไฟไหม้ในเวลาไล่เลี่ยกัน 6 จุด โหมกระพือทำลายล้าวทั่วเมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของสหรัฐฯ คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 24 ราย
    .
    "สำหรับเราแล้ว มันดูเหมือนว่าพวกผู้นำในระดับรัฐและท้องถิ่น จะละทิ้งหน้าที่ในหลายๆเรื่อง ดังนั้นจึงมีบางอย่างจำเป็นต้องนับรวมเข้าไป" จอห์นสัน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่อาคารรัฐสภา "บางทีอาจต้องมีเงื่อนไขต่างๆสำหรับความช่วยเหลือ นั่นคือมุมมองส่วนตัวของผม เราจะได้เห็นกันว่าฉันทามติจะออกมาแบบไหน"
    .
    จอห์นสัน บอกต่อว่าสมาชิกรีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฏรยังไม่ได้หารือเกี่ยวกับความช่วยเหลือภัยพิบัติที่จะมอบแก่ภาคส่วนต่างๆของแคลิฟอร์เนียที่ทุกข์ทรมานจากไฟป่า และบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรมีกำหนดประชุมลับกันในช่วงเช้าวันอังคาร(14ม.ค.)
    .
    ด้วยที่ ทรัมป์ มีกำหนดเข้ารับตำแหน่งในช่วงต้นสัปดาห์หน้า และรีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฏรและวุฒิสภา มันจึงเปิดทางให้พรรครีพับลิกันสามารถควบคุมการใช้จ่ายได้อย่างเต็มที่ ในนั้นรวมถึงทั้งรูปแบบและปริมาณความช่วยเหลือบรรเทาภัยหายนะ
    .
    ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โวยวายใส่พวกผู้นำเดโมแครตทั้งในแคลิฟอร์เนียและลอสแองเจลิส ว่าเป็นพวกหัวหลักหัวตอที่ไร้ความสามารถ โดยเขาโพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับไฟป่า อ้างว่าพวกผู้นำเดโมแครตในแคลิฟอร์เนียและลอสแองเจลิส "ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะดับไฟอย่างไร"
    .
    จอห์น บาร์รัสโซ แกนนำหมายเลข 2 ของรีพับลิกันในวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์กับรายงาน "เฟซออฟเนชัน" ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสเมื่อวันอาทิตย์(12ม.ค.) คาดหมายว่า "จะมีเงื่อนไขต่างๆที่แนบไปกับเงินช่วยเหลือ ที่ท้ายที่สุดแล้วจะได้รับการอนุมัติ และมันจำเป็นต้องทำพร้อมๆกับเตรียมพร้อมสำหรับคราวต่อไป เพราะว่าในครั้งนี้ มันล้มเหลวโดยสิ้นเชิง"
    .
    จอห์นสัน กล่าวว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจากรีพับลิกัน กำลังหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะผูกโยงเงินช่วยเหลือแคลิฟอร์เนีย เข้ากับความพยายามเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ จากระดับปัจจุบัน 36 ล้านล้านดอลลาร์
    .
    หนึ่งในอุปสรรคขัดขวางงบประมาณบรรเทาภัยหายนะในสภาคองเกรส ก็คือกลุ่มก้อนพวกอนุรักษ์นิยมหัวแข็งกร้าวที่หาทางกัดเซาะการใช้จ่ายใหม่ๆใดๆ
    .
    เมื่อเดือนที่แล้ว สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมาก และวุฒิสภาที่นำโดยเดโมแครต อนุมัติวงเงิน 100,000 ล้านดอลาร์ ในงบประมาณฉุกเฉินรอบใหม่ สำหรับช่วยฟื้นฟูรัฐต่างๆในนั้นรวมถึงนอร์ทแคโรไลนาแลฟลอริดา ที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติเฮอร์ริเคน
    .
    แม้ผู้รับความช่วยเหลือจำนวนมากพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ของรีพับลิกัน แต่สมาชิกบางส่วนของพรรคในทั้ง 2 สภา ได้พยายามจำกัดงบประมาณความช่วยเหลือ ให้เหลือเพียงแค่ 40,000 ล้านดอลลาร์ ทว่าไม่ประสบความสำเร็จ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003919
    ..............
    Sondhi X
    สมาชิกระดับสูงของรีพับลิกันในสภาคองเกรส กำลังพิจารณากำหนดเงื่อนไขต่างๆสำหรับงบช่วยเหลือด้านภัยพิบัติ ที่จะมอบแก่ชุมชนต่างๆของลอสแองเจลิสที่ถูกทำลายล้างจากไฟป่าหายนะ หลังว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาพวกเจ้าหน้าที่ระดับรัฐและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น บริหารจัดการสถานการณ์ผิดพลาด . ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันจันทร์(13ม.ค.) ตำหนิพวกเจ้าหน้าระดับแกนนำในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่นำโดยเดโมแครต บริหารจัดการทรัพยากรน้ำและผืนป่าผิดพลาดในพื้นที่ลองแองเจลิส ก่อนเกิดไฟไหม้ในเวลาไล่เลี่ยกัน 6 จุด โหมกระพือทำลายล้าวทั่วเมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของสหรัฐฯ คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 24 ราย . "สำหรับเราแล้ว มันดูเหมือนว่าพวกผู้นำในระดับรัฐและท้องถิ่น จะละทิ้งหน้าที่ในหลายๆเรื่อง ดังนั้นจึงมีบางอย่างจำเป็นต้องนับรวมเข้าไป" จอห์นสัน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่อาคารรัฐสภา "บางทีอาจต้องมีเงื่อนไขต่างๆสำหรับความช่วยเหลือ นั่นคือมุมมองส่วนตัวของผม เราจะได้เห็นกันว่าฉันทามติจะออกมาแบบไหน" . จอห์นสัน บอกต่อว่าสมาชิกรีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฏรยังไม่ได้หารือเกี่ยวกับความช่วยเหลือภัยพิบัติที่จะมอบแก่ภาคส่วนต่างๆของแคลิฟอร์เนียที่ทุกข์ทรมานจากไฟป่า และบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรมีกำหนดประชุมลับกันในช่วงเช้าวันอังคาร(14ม.ค.) . ด้วยที่ ทรัมป์ มีกำหนดเข้ารับตำแหน่งในช่วงต้นสัปดาห์หน้า และรีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้งในสภาผู้แทนราษฏรและวุฒิสภา มันจึงเปิดทางให้พรรครีพับลิกันสามารถควบคุมการใช้จ่ายได้อย่างเต็มที่ ในนั้นรวมถึงทั้งรูปแบบและปริมาณความช่วยเหลือบรรเทาภัยหายนะ . ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โวยวายใส่พวกผู้นำเดโมแครตทั้งในแคลิฟอร์เนียและลอสแองเจลิส ว่าเป็นพวกหัวหลักหัวตอที่ไร้ความสามารถ โดยเขาโพสต์ข้อความบนสื่อสังคมออนไลน์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับไฟป่า อ้างว่าพวกผู้นำเดโมแครตในแคลิฟอร์เนียและลอสแองเจลิส "ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะดับไฟอย่างไร" . จอห์น บาร์รัสโซ แกนนำหมายเลข 2 ของรีพับลิกันในวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์กับรายงาน "เฟซออฟเนชัน" ของสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสเมื่อวันอาทิตย์(12ม.ค.) คาดหมายว่า "จะมีเงื่อนไขต่างๆที่แนบไปกับเงินช่วยเหลือ ที่ท้ายที่สุดแล้วจะได้รับการอนุมัติ และมันจำเป็นต้องทำพร้อมๆกับเตรียมพร้อมสำหรับคราวต่อไป เพราะว่าในครั้งนี้ มันล้มเหลวโดยสิ้นเชิง" . จอห์นสัน กล่าวว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจากรีพับลิกัน กำลังหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะผูกโยงเงินช่วยเหลือแคลิฟอร์เนีย เข้ากับความพยายามเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐฯ จากระดับปัจจุบัน 36 ล้านล้านดอลลาร์ . หนึ่งในอุปสรรคขัดขวางงบประมาณบรรเทาภัยหายนะในสภาคองเกรส ก็คือกลุ่มก้อนพวกอนุรักษ์นิยมหัวแข็งกร้าวที่หาทางกัดเซาะการใช้จ่ายใหม่ๆใดๆ . เมื่อเดือนที่แล้ว สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมาก และวุฒิสภาที่นำโดยเดโมแครต อนุมัติวงเงิน 100,000 ล้านดอลาร์ ในงบประมาณฉุกเฉินรอบใหม่ สำหรับช่วยฟื้นฟูรัฐต่างๆในนั้นรวมถึงนอร์ทแคโรไลนาแลฟลอริดา ที่ได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติเฮอร์ริเคน . แม้ผู้รับความช่วยเหลือจำนวนมากพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ของรีพับลิกัน แต่สมาชิกบางส่วนของพรรคในทั้ง 2 สภา ได้พยายามจำกัดงบประมาณความช่วยเหลือ ให้เหลือเพียงแค่ 40,000 ล้านดอลลาร์ ทว่าไม่ประสบความสำเร็จ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003919 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1651 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการลาออกของ สมิธ ถูกระบุเอาไว้ในฟุตโน้ตของเอกสารดังกล่าว โดยบอกว่า สมิธ ได้ทำงานเสร็จสมบูรณ์แล้ว และส่งรายงานชั้นความลับฉบับสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 7 ม.ค. ก่อนที่จะ "แยกทาง" กับกระทรวงยุติธรรมสกรัฐฯ ในวันที่ 10 ม.ค.

    อดีตอัยการคดีอาชญากรรมสงครามผู้นี้ได้เป็นผู้สั่งฟ้อง ทรัมป์ ในคดีอาญา 2 จาก 4 คดีที่ ทรัมป์ ตกเป็นจำเลยหลังพ้นตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในปี 2021 ทว่าคดีทั้งสองก็ต้องหยุดชะงักไปหลังผู้พิพากษาฟลอริดาที่ได้รับการแต่งตั้งโดย ทรัมป์ ตัดสินยกฟ้องไปหนึ่ง และศาลสูงสุดสหรัฐฯ ที่มีผู้พิพากษา 3 คนที่ถูกแต่งตั้งโดย ทรัมป์ วินิจฉัยว่าอดีตผู้นำสหรัฐฯ ทุกคนมีสิทธิคุ้มกันจากการถูกดำเนินคดีในการกระทำภายใต้อำนาจหน้าที่ (official acts) ทำให้ทั้ง 2 คดีนี้ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการไต่สวนเลย

    หลังจากที่ ทรัมป์ เอาชนะรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ปีที่แล้ว สมิธ ได้ประกาศยกฟ้อง ทรัมป์ ทั้ง 2 คดี โดยอ้างถึงจุดยืนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่ปฏิเสธการดำเนินคดีกับประธานาธิบดีในตำแหน่ง

    ในเอกสารคำร้องขอให้ศาลยกฟ้อง ทีมงานของ สมิธ ยังคงยืนยันว่าคดีเหล่านี้มีคุณค่า (merits) สมควรแก่การไต่สวน ทว่าการกลับขึ้นมามีอำนาจของ ทรัมป์ เท่านั้นที่ทำให้คดีไปต่อไม่ได้

    ด้านว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงความยินดีกับข่าวการลาออกของ สมิธ ในวันอาทิตย์ (12) โดยโพสต์ Truth Social ว่า สมิธ ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง และยังกล่าวหาอัยการผู้นี้ว่า "ทำลายชีวิตของผู้คนและครอบครัวจำนวนมากมาย"

    ทั้งนี้ การลาออกของ สมิธ จากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่หลายคนคาดหมายอยู่แล้ว เนื่องจาก ทรัมป์ ซึ่งออกมาด่าอัยการพิเศษผู้นี้ว่าเป็นพวก "วิกลจริต" (deranged) ประกาศชัดเจนว่าจะไล่ สมิธ ออกทันทีที่สาบานตนเป็นประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค. แถมยังขู่จะไล่เบี้ยแก้แค้นทั้ง สมิธ และบุคคลอื่นๆ ที่มีส่วนในการสอบสวนตนด้วย

    เมื่อปี 2023 ทรัมป์ กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งอดีตและในตำแหน่งคนแรกที่ถูกฟ้องคดีอาญา เริ่มจากคดีที่นิวยอร์กซึ่งเขาถูกตั้งข้อหาพยายามปกปิดเรื่องการจ่ายเงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่ในช่วงก่อนศึกเลือกตั้งปี 2016 จากนั้นก็ตามมาด้วยคำสั่งฟ้องของอัยการ สมิธ จากกรณีที่ ทรัมป์ เก็บเอกสารชั้นความลับไว้กับตัวอย่างผิดกฎหมายหลังพ้นตำแหน่งประธานาธิบดี และพยายามล้มผลเลือกตั้งปี 2020 ซึ่งเป็นชนวนนำมาสู่เหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาในวันที่ 6 ม.ค. ปี 2021

    อัยการในรัฐจอร์เจียยังมีการตั้งข้อหาเอาผิด ทรัมป์ ฐานพยายามล้มผลเลือกตั้งในรัฐดังกล่าวที่เขาเป็นฝ่ายแพ้ด้วย

    ที่มา : รอยเตอร์
    https://mgronline.com/around/detail/9680000003502?tbref=hp
    ข้อมูลเกี่ยวกับการลาออกของ สมิธ ถูกระบุเอาไว้ในฟุตโน้ตของเอกสารดังกล่าว โดยบอกว่า สมิธ ได้ทำงานเสร็จสมบูรณ์แล้ว และส่งรายงานชั้นความลับฉบับสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 7 ม.ค. ก่อนที่จะ "แยกทาง" กับกระทรวงยุติธรรมสกรัฐฯ ในวันที่ 10 ม.ค. อดีตอัยการคดีอาชญากรรมสงครามผู้นี้ได้เป็นผู้สั่งฟ้อง ทรัมป์ ในคดีอาญา 2 จาก 4 คดีที่ ทรัมป์ ตกเป็นจำเลยหลังพ้นตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในปี 2021 ทว่าคดีทั้งสองก็ต้องหยุดชะงักไปหลังผู้พิพากษาฟลอริดาที่ได้รับการแต่งตั้งโดย ทรัมป์ ตัดสินยกฟ้องไปหนึ่ง และศาลสูงสุดสหรัฐฯ ที่มีผู้พิพากษา 3 คนที่ถูกแต่งตั้งโดย ทรัมป์ วินิจฉัยว่าอดีตผู้นำสหรัฐฯ ทุกคนมีสิทธิคุ้มกันจากการถูกดำเนินคดีในการกระทำภายใต้อำนาจหน้าที่ (official acts) ทำให้ทั้ง 2 คดีนี้ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการไต่สวนเลย หลังจากที่ ทรัมป์ เอาชนะรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ปีที่แล้ว สมิธ ได้ประกาศยกฟ้อง ทรัมป์ ทั้ง 2 คดี โดยอ้างถึงจุดยืนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่ปฏิเสธการดำเนินคดีกับประธานาธิบดีในตำแหน่ง ในเอกสารคำร้องขอให้ศาลยกฟ้อง ทีมงานของ สมิธ ยังคงยืนยันว่าคดีเหล่านี้มีคุณค่า (merits) สมควรแก่การไต่สวน ทว่าการกลับขึ้นมามีอำนาจของ ทรัมป์ เท่านั้นที่ทำให้คดีไปต่อไม่ได้ ด้านว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงความยินดีกับข่าวการลาออกของ สมิธ ในวันอาทิตย์ (12) โดยโพสต์ Truth Social ว่า สมิธ ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง และยังกล่าวหาอัยการผู้นี้ว่า "ทำลายชีวิตของผู้คนและครอบครัวจำนวนมากมาย" ทั้งนี้ การลาออกของ สมิธ จากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่หลายคนคาดหมายอยู่แล้ว เนื่องจาก ทรัมป์ ซึ่งออกมาด่าอัยการพิเศษผู้นี้ว่าเป็นพวก "วิกลจริต" (deranged) ประกาศชัดเจนว่าจะไล่ สมิธ ออกทันทีที่สาบานตนเป็นประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค. แถมยังขู่จะไล่เบี้ยแก้แค้นทั้ง สมิธ และบุคคลอื่นๆ ที่มีส่วนในการสอบสวนตนด้วย เมื่อปี 2023 ทรัมป์ กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งอดีตและในตำแหน่งคนแรกที่ถูกฟ้องคดีอาญา เริ่มจากคดีที่นิวยอร์กซึ่งเขาถูกตั้งข้อหาพยายามปกปิดเรื่องการจ่ายเงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่ในช่วงก่อนศึกเลือกตั้งปี 2016 จากนั้นก็ตามมาด้วยคำสั่งฟ้องของอัยการ สมิธ จากกรณีที่ ทรัมป์ เก็บเอกสารชั้นความลับไว้กับตัวอย่างผิดกฎหมายหลังพ้นตำแหน่งประธานาธิบดี และพยายามล้มผลเลือกตั้งปี 2020 ซึ่งเป็นชนวนนำมาสู่เหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาในวันที่ 6 ม.ค. ปี 2021 อัยการในรัฐจอร์เจียยังมีการตั้งข้อหาเอาผิด ทรัมป์ ฐานพยายามล้มผลเลือกตั้งในรัฐดังกล่าวที่เขาเป็นฝ่ายแพ้ด้วย ที่มา : รอยเตอร์ https://mgronline.com/around/detail/9680000003502?tbref=hp
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 598 มุมมอง 0 รีวิว
  • โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังพิจารณาประกาศนิรโทษกรรมล่วงหน้าให้บุคคลต่างๆ ที่อาจตกเป็นเป้าหมายของรัฐบาลว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
    .
    ทรัมป์ ซึ่งเอาชนะ กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน จากพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 เตรียมหวนคืนสู่เก้าอี้ทำเนียบขาวในวันที่ 20 มกราคมนี้
    .
    "มันยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ยังไม่มีการตัดสินใจ" ไบเดน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (10 ม.ค.) ตอบคำถามหนึ่งในเรื่องเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะนิรโทษกรรมล่วงหน้า
    .
    ไบเดน ถอนตัวจากศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 ในเดือนกรกฎาคม ท่ามกลางความกังวลที่โผล่ขึ้นมาภายในพรรคเดโมแครต ตามหลังผลงานการดีเบตกับทรัมป์ ที่ก่อความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนพรรค ท้ายที่สุดแล้วเขาก็หันไปรับรองแฮร์ริส แต่ว่าเธอก็พ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งให้ทรัมป์
    .
    ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงถึงเจตนาจะเอาผิดกับทุกคนที่เขามองเป็นศัตรู "ในนั้นรวมถึงแฮร์ริส และโจ ไบเดน บุคคลที่เขามองว่าเป็นประธานาธิบดีคอร์รัปชันเลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา รวมถึงครอบครัวอาชญากรของเขาด้วย"
    .
    นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังวิพากษ์วิจารณ์ไบเดน สำหรับกรณีนิรโทษกรรมให้ ฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายตนเองในเดือนธันวาคม กลับลำจากที่เคยประกาศไว้ว่าจะไม่ทำเช่นนนั้น ทั้งนี้ ไบเดน อภัยโทษให้ ฮันเตอร์ แม้ถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษีและความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน และศาลมีกำหนดตัดสินระวางโทษในเดือนธันวาคม
    .
    ทรัมป์ เรียกการตัดสินใจดังกล่าวว่าเป็น "การบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม" และหยิบยกเรื่องนี้พาดพิงถึงบรรดาผู้สนับสนุนของเขาที่ถูกจำคุกฐานก่อจลาจลบุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 "การนิรโทษกรรมที่ไบเดนมอบให้ฮันเตอร์ ได้นับรวมกลุ่ม J-6 Hostages ด้วยหรือเปล่า เวลานี้พวกเขาถูกคุมขังมานานหลายปีแล้ว มันเป็นการละเมิดและบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม!" ทรัมป์เขียนบนทรัสต์โซเชียล
    .
    นอกจากนี้ ว่าที่ประธานาธิบดียังเรียกร้องให้สืบสวนอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา และลิซ เชนีย์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกัน ที่ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์มาตลอด
    .
    ก่อนหน้าศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 ทรัมป์ขู่ดำเนินคดีอย่างที่ไม่มีมาก่อน กับบุคคลต่างๆ ที่เขากล่าวหาว่าโกงเลือกตั้ง "ขอให้ทราบว่าความเสี่ยงถูกดำเนินการทางกฎหมายนี้ ครอบคลุมถึงพวกทนายความ พวกผู้ใช้อุบายในทางการเมือง บรรดาผู้บริจาค ผู้ใช้สิทธิใช้เสียงแบบผิดกฎหมายและพวกเจ้าหน้าที่เลือกตั้งที่คอร์รัปชัน" ทรัมป์โพสต์บนทรัสต์โซเชียล หลังจากก่อนหน้านี้เขาเคยกล่าวอ้างว่ามีการโกงเลือกตั้งอย่างกว้างขวางในปี 2020
    .
    ทรัมป์ ยังได้เน้นย้ำเมื่อปีที่แล้ว ว่าเขาจะไล่ออก แจ็ค สมิธ ที่ปรึกษาพิเศษของกระทรวงยุติธรรม ที่กำกับดูแลการสืบสวนว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากรีพับลิกันรายนี้ จนกระทั่ง สมิธ ตัดสินใจลาออกเมื่อวันศุกร์ (10 ม.ค.)
    .
    เมื่อถามว่าเขาจะนิรโทษกรรมให้ตนเองหรือไม่ ทาง ไบเดน ปฏิเสธความคิดนี้ โดยบอกว่า "ผมไม่ได้ทำอะไรผิด"
    .
    มีความเป็นไปได้ว่าประธานาธิบดีอาจมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญที่จะประกาศนิรโทษกรรมล่วงหน้าอย่างกว้างขวาง ต่อการกระทำผิดใดๆ ตามกฎหมายรัฐบาลกลางในอดีตที่ผ่านมา แม้กระทั่งยังไม่ถูกยื่นฟ้องดำเนินคดีก็ตาม อย่างไรก็ตาม อำนาจนี้ไม่สามารถใช้กับความผิดทางอาญาตามกฎหมายในแต่ละรัฐหรือความผิดใดๆ ในอนาคต
    .
    ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่ารูปแบบการนิรโทษกรรมที่ไบเดนกำลังพิจารณาอยู่นั้น น่าจะเป็นการนิรโทษกรรมภายใต้ขอบเขตอำนาจพิเศษของประธานาธิบดี
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003513
    ..............
    Sondhi X
    โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังพิจารณาประกาศนิรโทษกรรมล่วงหน้าให้บุคคลต่างๆ ที่อาจตกเป็นเป้าหมายของรัฐบาลว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ . ทรัมป์ ซึ่งเอาชนะ กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน จากพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2024 เตรียมหวนคืนสู่เก้าอี้ทำเนียบขาวในวันที่ 20 มกราคมนี้ . "มันยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ยังไม่มีการตัดสินใจ" ไบเดน บอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ (10 ม.ค.) ตอบคำถามหนึ่งในเรื่องเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะนิรโทษกรรมล่วงหน้า . ไบเดน ถอนตัวจากศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 ในเดือนกรกฎาคม ท่ามกลางความกังวลที่โผล่ขึ้นมาภายในพรรคเดโมแครต ตามหลังผลงานการดีเบตกับทรัมป์ ที่ก่อความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนพรรค ท้ายที่สุดแล้วเขาก็หันไปรับรองแฮร์ริส แต่ว่าเธอก็พ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งให้ทรัมป์ . ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แสดงถึงเจตนาจะเอาผิดกับทุกคนที่เขามองเป็นศัตรู "ในนั้นรวมถึงแฮร์ริส และโจ ไบเดน บุคคลที่เขามองว่าเป็นประธานาธิบดีคอร์รัปชันเลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกา รวมถึงครอบครัวอาชญากรของเขาด้วย" . นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังวิพากษ์วิจารณ์ไบเดน สำหรับกรณีนิรโทษกรรมให้ ฮันเตอร์ ไบเดน ลูกชายตนเองในเดือนธันวาคม กลับลำจากที่เคยประกาศไว้ว่าจะไม่ทำเช่นนนั้น ทั้งนี้ ไบเดน อภัยโทษให้ ฮันเตอร์ แม้ถูกพิพากษาว่ามีความผิดฐานหลีกเลี่ยงภาษีและความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน และศาลมีกำหนดตัดสินระวางโทษในเดือนธันวาคม . ทรัมป์ เรียกการตัดสินใจดังกล่าวว่าเป็น "การบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม" และหยิบยกเรื่องนี้พาดพิงถึงบรรดาผู้สนับสนุนของเขาที่ถูกจำคุกฐานก่อจลาจลบุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 "การนิรโทษกรรมที่ไบเดนมอบให้ฮันเตอร์ ได้นับรวมกลุ่ม J-6 Hostages ด้วยหรือเปล่า เวลานี้พวกเขาถูกคุมขังมานานหลายปีแล้ว มันเป็นการละเมิดและบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม!" ทรัมป์เขียนบนทรัสต์โซเชียล . นอกจากนี้ ว่าที่ประธานาธิบดียังเรียกร้องให้สืบสวนอดีตประธานาธิบดี บารัค โอบามา และลิซ เชนีย์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกัน ที่ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์มาตลอด . ก่อนหน้าศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 ทรัมป์ขู่ดำเนินคดีอย่างที่ไม่มีมาก่อน กับบุคคลต่างๆ ที่เขากล่าวหาว่าโกงเลือกตั้ง "ขอให้ทราบว่าความเสี่ยงถูกดำเนินการทางกฎหมายนี้ ครอบคลุมถึงพวกทนายความ พวกผู้ใช้อุบายในทางการเมือง บรรดาผู้บริจาค ผู้ใช้สิทธิใช้เสียงแบบผิดกฎหมายและพวกเจ้าหน้าที่เลือกตั้งที่คอร์รัปชัน" ทรัมป์โพสต์บนทรัสต์โซเชียล หลังจากก่อนหน้านี้เขาเคยกล่าวอ้างว่ามีการโกงเลือกตั้งอย่างกว้างขวางในปี 2020 . ทรัมป์ ยังได้เน้นย้ำเมื่อปีที่แล้ว ว่าเขาจะไล่ออก แจ็ค สมิธ ที่ปรึกษาพิเศษของกระทรวงยุติธรรม ที่กำกับดูแลการสืบสวนว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากรีพับลิกันรายนี้ จนกระทั่ง สมิธ ตัดสินใจลาออกเมื่อวันศุกร์ (10 ม.ค.) . เมื่อถามว่าเขาจะนิรโทษกรรมให้ตนเองหรือไม่ ทาง ไบเดน ปฏิเสธความคิดนี้ โดยบอกว่า "ผมไม่ได้ทำอะไรผิด" . มีความเป็นไปได้ว่าประธานาธิบดีอาจมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญที่จะประกาศนิรโทษกรรมล่วงหน้าอย่างกว้างขวาง ต่อการกระทำผิดใดๆ ตามกฎหมายรัฐบาลกลางในอดีตที่ผ่านมา แม้กระทั่งยังไม่ถูกยื่นฟ้องดำเนินคดีก็ตาม อย่างไรก็ตาม อำนาจนี้ไม่สามารถใช้กับความผิดทางอาญาตามกฎหมายในแต่ละรัฐหรือความผิดใดๆ ในอนาคต . ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่ารูปแบบการนิรโทษกรรมที่ไบเดนกำลังพิจารณาอยู่นั้น น่าจะเป็นการนิรโทษกรรมภายใต้ขอบเขตอำนาจพิเศษของประธานาธิบดี . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003513 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Angry
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1500 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกผ่านไปยังประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ว่าควรเตรียมพร้อมสำหรับทำข้อตกลงกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในการยุติสงครามในยูเครนที่ลากยาวมานานเกือบ 3 ปี
    .
    "ต้องทำข้อตกลง" ทรัมป์ กล่าวระหว่างแถลงข่าว ณ สโมสรมาร์อาลาโกของเขา ในปาล์มบีช รัฐฟลอริดา พร้อมบอกต่อว่าเขาจะพูดคุยกับปูตินและเซเลนกสกี เกี่ยวกับการนำพาสงครามในยูเครนไปสู่จุดจบ และบอกว่าเขารู้สึกเป็นทุกข์กับภาพแห่งการสังหารหมู่จากความขัดแย้งนี้ "มันต้องหยุดลง"
    .
    ทรัมป์ ไม่ได้ตอบตรงๆ เมื่อถูกถามว่า เขาเชื่อหรือไม่ว่ายูเครนควรยอมสละดินแดนให้รัสเซีย ส่วนหนึ่งในเจรจาต่อรองเพื่อยุติสงคราม โดยว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รายนี้บอกแต่เพียงว่าดินแดนส่วนใหญ่ในความขัดแย้ง เหลือแต่ซากปรักหักพังและมันจะต้องใช้เวลาในการบูรณะฟื้นูนานกว่า 1 ศตวรรษ "ที่ผมหมายถึงคือ เมืองต่างๆ ไม่เหลืออาคารยืนตระหง่านอีกแล้ว มันเป็นสถานที่ที่ถูกทำลายล้าง"
    .
    นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังกล่าวด้วยว่าเขาได้เห็นภาพถ่ายในสมรภูมิรบที่มีศพเกลื่อนไปหมด ซึ่งมันทำให้เขาย้อนนึกถึงภาพถ่ายอันน่าสยดสยองของสงครามกลางเมืองอเมริการะหว่างปี 1861-1865
    .
    ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยบอกว่าเขาอยากให้สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนจบลงอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เขาบอกกับนิตยสารไทม์ในบทสัมภาษณ์ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าตนเอง "มีแผนที่ดีมากๆ" ที่จะช่วยให้ความขัดแย้งยุติลง แต่หากเขาเผยแพร่มันในตอนนี้ "มันจะกลายเป็นแผนที่เกือบจะไร้ค่า"
    .
    ท่าทีของทรัมป์ต่อสงครามในยูเครน มีขึ้นในขณะที่ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รายนี้ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันเดียวกัน ว่าประธานาธิบดีเซเลนสกี จะไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในเดือนหน้า ส่งสัญญาณถึงแนวโน้มตีตัวออกห่างจากผู้นำยูเครน
    .
    ทรัมป์ ซึ่งเอาชนะ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต เมื่อเดือนที่แล้ว จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ในวันที่ 20 มกราคม ณ พิธี ซึ่งจะจัดขึ้นที่อาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
    .
    ในวันจันทร์ (16 ธ.ค.) ทรัมป์ จัดการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่ชนะการเลือกตั้ง และระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวถามว่าเขาจะเชิญเซเลนสกี ร่วมพิธีสาบานตนหรือไม่ ทรัมป์ ตอบว่า "ไม่ ผมไม่ได้เชิญเขา อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาอยากมา ผมก็อยากมีเขาอยู่ร่วมด้วย"
    .
    ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนรายงานว่า ทรัมป์ ได้เชิญ สี จิ้นผิง ผู้นำจีน เข้าร่วมพิธีสาบานตนด้วย ทั้งนี้มีข่าวว่ามีการเชื้อเชิญตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ไม่นานหลังจาก ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามไม่เป็นที่ชัดเจนว่า สี จะตอบรับคำเชิญหรือไม่
    .
    กระนั้นก็ตาม สำนักข่าวซีบีเอสรายงานว่า ในเบื้องต้นเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯพร้อมด้วยคู่สมรส คาดหมายว่าจะเข้าร่วมพิธีสาบานตนของทรัมป์ ในแนวทางปฏิบัติตามมาตรฐาน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000120828
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกผ่านไปยังประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ว่าควรเตรียมพร้อมสำหรับทำข้อตกลงกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในการยุติสงครามในยูเครนที่ลากยาวมานานเกือบ 3 ปี . "ต้องทำข้อตกลง" ทรัมป์ กล่าวระหว่างแถลงข่าว ณ สโมสรมาร์อาลาโกของเขา ในปาล์มบีช รัฐฟลอริดา พร้อมบอกต่อว่าเขาจะพูดคุยกับปูตินและเซเลนกสกี เกี่ยวกับการนำพาสงครามในยูเครนไปสู่จุดจบ และบอกว่าเขารู้สึกเป็นทุกข์กับภาพแห่งการสังหารหมู่จากความขัดแย้งนี้ "มันต้องหยุดลง" . ทรัมป์ ไม่ได้ตอบตรงๆ เมื่อถูกถามว่า เขาเชื่อหรือไม่ว่ายูเครนควรยอมสละดินแดนให้รัสเซีย ส่วนหนึ่งในเจรจาต่อรองเพื่อยุติสงคราม โดยว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รายนี้บอกแต่เพียงว่าดินแดนส่วนใหญ่ในความขัดแย้ง เหลือแต่ซากปรักหักพังและมันจะต้องใช้เวลาในการบูรณะฟื้นูนานกว่า 1 ศตวรรษ "ที่ผมหมายถึงคือ เมืองต่างๆ ไม่เหลืออาคารยืนตระหง่านอีกแล้ว มันเป็นสถานที่ที่ถูกทำลายล้าง" . นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังกล่าวด้วยว่าเขาได้เห็นภาพถ่ายในสมรภูมิรบที่มีศพเกลื่อนไปหมด ซึ่งมันทำให้เขาย้อนนึกถึงภาพถ่ายอันน่าสยดสยองของสงครามกลางเมืองอเมริการะหว่างปี 1861-1865 . ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยบอกว่าเขาอยากให้สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนจบลงอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เขาบอกกับนิตยสารไทม์ในบทสัมภาษณ์ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าตนเอง "มีแผนที่ดีมากๆ" ที่จะช่วยให้ความขัดแย้งยุติลง แต่หากเขาเผยแพร่มันในตอนนี้ "มันจะกลายเป็นแผนที่เกือบจะไร้ค่า" . ท่าทีของทรัมป์ต่อสงครามในยูเครน มีขึ้นในขณะที่ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รายนี้ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันเดียวกัน ว่าประธานาธิบดีเซเลนสกี จะไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งในเดือนหน้า ส่งสัญญาณถึงแนวโน้มตีตัวออกห่างจากผู้นำยูเครน . ทรัมป์ ซึ่งเอาชนะ กมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต เมื่อเดือนที่แล้ว จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ในวันที่ 20 มกราคม ณ พิธี ซึ่งจะจัดขึ้นที่อาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. . ในวันจันทร์ (16 ธ.ค.) ทรัมป์ จัดการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่ชนะการเลือกตั้ง และระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวถามว่าเขาจะเชิญเซเลนสกี ร่วมพิธีสาบานตนหรือไม่ ทรัมป์ ตอบว่า "ไม่ ผมไม่ได้เชิญเขา อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาอยากมา ผมก็อยากมีเขาอยู่ร่วมด้วย" . ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนรายงานว่า ทรัมป์ ได้เชิญ สี จิ้นผิง ผู้นำจีน เข้าร่วมพิธีสาบานตนด้วย ทั้งนี้มีข่าวว่ามีการเชื้อเชิญตั้งแต่เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ไม่นานหลังจาก ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามไม่เป็นที่ชัดเจนว่า สี จะตอบรับคำเชิญหรือไม่ . กระนั้นก็ตาม สำนักข่าวซีบีเอสรายงานว่า ในเบื้องต้นเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯพร้อมด้วยคู่สมรส คาดหมายว่าจะเข้าร่วมพิธีสาบานตนของทรัมป์ ในแนวทางปฏิบัติตามมาตรฐาน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000120828 .............. Sondhi X
    Like
    Yay
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 897 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล แห่งเกาหลีใต้ ประกาศว่าจะต่อสู้เพื่ออนาคตทางการเมือง หลังเขาถูกถอดถอนพ้นจากตำแหน่ง ในการโหวตครั้งที่ 2 ของรัฐสภาที่นำโดยฝ่ายค้าน ต่อการประกาศกฎอัยการศึกที่มีผลบังคับในช่วงสั้นๆ ความเคลื่อนไหวที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศ
    .
    ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินใจว่าจะรับรองการถอดถอนยุนพ้นจากเก้าอี้หรือไม่ ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งใน 6 เดือนข้างหน้า และถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเห็นชอบมติถอดถอน เมื่อนั้นก็จะมีการเลือกตั้งใหม่
    .
    นายกรัฐมนตรีนายฮัน ด็อก-ซู ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากยุน ก้าวมาเป็นรักษาการประธานาธิบดี ในระหว่างที่ ยุน ยังคงอยู่ในตำแหน่ง แต่อำนาจประธานาธิบดีของเขาถูกพักเอาไว้ ในขณะที่วาระการดำรงตำแหน่งของเขาเพิ่งผ่านมาได้แค่ครึ่งทาง
    .
    "ผมจะใช้ทุกความเข้มแข็งที่ผมมีและทุกความพยายามในการรักษาเสถียรภาพแก่รัฐบาล" ฮันบอกกับผู้สื่อข่าวหลังการโหวต
    .
    วิกฤตการเมืองครั้งนี้ อันนำมาซึ่งการลาออกและการจับกุมเจ้าหน้าที่กลาโหมและเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงหลายรายก่อความกังวลเกี่ยวกับศักยภาพของเกาหลีใต้ในการป้องปรามเกาหลีเหนือ ชาติติดอาวุธนิวเคลียร์ ในช่วงเวลาที่ เปียงยาง กำลังยกระดับคลังแสงและกระชับความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้นกับรัสเซีย
    .
    ยุน ถือเป็นประธานาธิบดีอนุรักษนิยมคนที่ 2 ติดต่อกันที่ถูกถอดถอนในเกาหลีใต้ หลังจากพัค กึน-ฮเย ถูกเขี่ยพ้นจากตำแหน่งในปี 2017 ทั้งนี้ ยุน ถูกยื่นถอดถอนครั้งแรกเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว แต่รอดพ้นมาได้สืบเนื่องจากสมาชิกพรรคของเขาส่วนใหญ่บอตคอตการลงมติ ส่งผลให้องค์ประชุมไม่ครบ อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว ก็เขาถูกถอดถอนในการลงมติรอบ 2
    .
    "แม้ว่าผมจะหยุดแล้วในตอนนี้ แต่การเดินทางเคียงข้างประชาชนของผมในช่วง 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา ในการมุ่งหน้าสู่อนาคต จะไม่มีวันหยุดลง ผมจะไม่มีวันยอมแพ้" ยุนกล่าว
    .
    บรรดาผู้ประท้วงใกล้อาคารรัฐสภาที่สนับสนุนการถอดถอนยุน ส่งเสียงยินดีอย่างกึกก้องขานรับข่าวการลงมติถอดถอน สวนทางกับบรรยากาศของที่ชุมนุมของฝ่ายสนับสนุนยุน
    .
    ญัตติถอดถอนประธานาธิบดีครั้งนี้มี ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลร่วมกันโหวตเห็นชอบ 204 เสียง คัดค้าน 85 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง และมีคะแนนโหวตที่เป็นโมฆะ (nullified) อีก 8 เสียง
    .
    ส.ส.พรรคพลังประชาชน (PPP) ที่เป็นฝั่งรัฐบาลประกาศไม่บอยคอตการโหวตเหมือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมี ส.ส.อย่างน้อย 12 คนที่ช่วยโหวตสนับสนุนญัตติถอดถอนของฝ่ายค้าน เปิดทางสำหรับการได้คะแนนเสียง 2 ใน 3 ที่จำเป็นสำหรับการถอดถอน ในสมัชชาที่มีทั้งหมด 300 ที่นั่ง และมีพรรค PPP ครองเสียงข้างมากด้วยจำนวน 192 เสียง
    .
    ยุน สร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม เมื่อเขาประกาศกฎอัยการศึก ให้อำนาจฉุกเฉินอย่างกว้างขวางแก่กองทัพในการขุดรากถอนโคนในสิ่งที่เขาเรียกว่า "กองกำลังต่อต้านรัฐ" และพิชิตการทำตัวเป็นอุปสรรคขัดขวางของฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
    .
    อย่างไรก็ตาม เขายกเลิกประกาศดังกล่าวเพียงแค่อีก 6 ชั่วโมงต่อมา หลังจากรัฐสภาขัดขืนทหารและตำรวจ ลงมติคัดค้านอัยการศึก แต่มันฉุดให้ประเทศแห่งนี้ดำดิ่งสู่วิกฤตรัฐธรรมนูญและโหมกระพือเสียงเรียกร้องอย่างกว้างขวางให้เขาลาออกจากตำแหน่ง ในเหตุผลที่ว่าเขาละเมิดกฎหมาย
    .
    ต่อมา ยุน ออกมาขอโทษ แต่ปกป้องการตัดสินใจของตนเอง แต่เมินเสียงเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง กระตุ้นให้บรรดาพรรคฝ่ายค้ายยื่นถอดถอน ภายใต้การสนับสนุนของผู้ชุมนุมจำนวนมาก
    .
    นอกจากนี้ ยุน ยังอยู่ภายใต้การสืบสวนทางอาญา ตามคำกล่าวหาก่อกบฏจากการประกาศอัยการศึก และเจ้าหน้าที่สั่งห้ามเขาเดินทางออกนอกประเทศ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000120164
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล แห่งเกาหลีใต้ ประกาศว่าจะต่อสู้เพื่ออนาคตทางการเมือง หลังเขาถูกถอดถอนพ้นจากตำแหน่ง ในการโหวตครั้งที่ 2 ของรัฐสภาที่นำโดยฝ่ายค้าน ต่อการประกาศกฎอัยการศึกที่มีผลบังคับในช่วงสั้นๆ ความเคลื่อนไหวที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศ . ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินใจว่าจะรับรองการถอดถอนยุนพ้นจากเก้าอี้หรือไม่ ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งใน 6 เดือนข้างหน้า และถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเห็นชอบมติถอดถอน เมื่อนั้นก็จะมีการเลือกตั้งใหม่ . นายกรัฐมนตรีนายฮัน ด็อก-ซู ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากยุน ก้าวมาเป็นรักษาการประธานาธิบดี ในระหว่างที่ ยุน ยังคงอยู่ในตำแหน่ง แต่อำนาจประธานาธิบดีของเขาถูกพักเอาไว้ ในขณะที่วาระการดำรงตำแหน่งของเขาเพิ่งผ่านมาได้แค่ครึ่งทาง . "ผมจะใช้ทุกความเข้มแข็งที่ผมมีและทุกความพยายามในการรักษาเสถียรภาพแก่รัฐบาล" ฮันบอกกับผู้สื่อข่าวหลังการโหวต . วิกฤตการเมืองครั้งนี้ อันนำมาซึ่งการลาออกและการจับกุมเจ้าหน้าที่กลาโหมและเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงหลายรายก่อความกังวลเกี่ยวกับศักยภาพของเกาหลีใต้ในการป้องปรามเกาหลีเหนือ ชาติติดอาวุธนิวเคลียร์ ในช่วงเวลาที่ เปียงยาง กำลังยกระดับคลังแสงและกระชับความสัมพันธ์แน่นแฟ้นขึ้นกับรัสเซีย . ยุน ถือเป็นประธานาธิบดีอนุรักษนิยมคนที่ 2 ติดต่อกันที่ถูกถอดถอนในเกาหลีใต้ หลังจากพัค กึน-ฮเย ถูกเขี่ยพ้นจากตำแหน่งในปี 2017 ทั้งนี้ ยุน ถูกยื่นถอดถอนครั้งแรกเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว แต่รอดพ้นมาได้สืบเนื่องจากสมาชิกพรรคของเขาส่วนใหญ่บอตคอตการลงมติ ส่งผลให้องค์ประชุมไม่ครบ อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว ก็เขาถูกถอดถอนในการลงมติรอบ 2 . "แม้ว่าผมจะหยุดแล้วในตอนนี้ แต่การเดินทางเคียงข้างประชาชนของผมในช่วง 2 ปีครึ่งที่ผ่านมา ในการมุ่งหน้าสู่อนาคต จะไม่มีวันหยุดลง ผมจะไม่มีวันยอมแพ้" ยุนกล่าว . บรรดาผู้ประท้วงใกล้อาคารรัฐสภาที่สนับสนุนการถอดถอนยุน ส่งเสียงยินดีอย่างกึกก้องขานรับข่าวการลงมติถอดถอน สวนทางกับบรรยากาศของที่ชุมนุมของฝ่ายสนับสนุนยุน . ญัตติถอดถอนประธานาธิบดีครั้งนี้มี ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลร่วมกันโหวตเห็นชอบ 204 เสียง คัดค้าน 85 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง และมีคะแนนโหวตที่เป็นโมฆะ (nullified) อีก 8 เสียง . ส.ส.พรรคพลังประชาชน (PPP) ที่เป็นฝั่งรัฐบาลประกาศไม่บอยคอตการโหวตเหมือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมี ส.ส.อย่างน้อย 12 คนที่ช่วยโหวตสนับสนุนญัตติถอดถอนของฝ่ายค้าน เปิดทางสำหรับการได้คะแนนเสียง 2 ใน 3 ที่จำเป็นสำหรับการถอดถอน ในสมัชชาที่มีทั้งหมด 300 ที่นั่ง และมีพรรค PPP ครองเสียงข้างมากด้วยจำนวน 192 เสียง . ยุน สร้างความตกตะลึงไปทั่วประเทศเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม เมื่อเขาประกาศกฎอัยการศึก ให้อำนาจฉุกเฉินอย่างกว้างขวางแก่กองทัพในการขุดรากถอนโคนในสิ่งที่เขาเรียกว่า "กองกำลังต่อต้านรัฐ" และพิชิตการทำตัวเป็นอุปสรรคขัดขวางของฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง . อย่างไรก็ตาม เขายกเลิกประกาศดังกล่าวเพียงแค่อีก 6 ชั่วโมงต่อมา หลังจากรัฐสภาขัดขืนทหารและตำรวจ ลงมติคัดค้านอัยการศึก แต่มันฉุดให้ประเทศแห่งนี้ดำดิ่งสู่วิกฤตรัฐธรรมนูญและโหมกระพือเสียงเรียกร้องอย่างกว้างขวางให้เขาลาออกจากตำแหน่ง ในเหตุผลที่ว่าเขาละเมิดกฎหมาย . ต่อมา ยุน ออกมาขอโทษ แต่ปกป้องการตัดสินใจของตนเอง แต่เมินเสียงเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง กระตุ้นให้บรรดาพรรคฝ่ายค้ายยื่นถอดถอน ภายใต้การสนับสนุนของผู้ชุมนุมจำนวนมาก . นอกจากนี้ ยุน ยังอยู่ภายใต้การสืบสวนทางอาญา ตามคำกล่าวหาก่อกบฏจากการประกาศอัยการศึก และเจ้าหน้าที่สั่งห้ามเขาเดินทางออกนอกประเทศ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000120164 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1037 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกาหลีใต้ตกอยู่ในภาวะ "ยุ่งเหยิง" หลังจากประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล ประกาศกฎอัยการศึกช่วงสั้นๆ สื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันพุธ(11ธ.ค.) ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในชาติคู่อริ พร้อมชี้ว่าการกระทำดังกล่าวไม่ต่างจากพวกเผด็จการฟาสซิสต์ ขณะที่รอยเตอร์ระบุคำสั่งส่งโดรนไปยังกรุงเปียงยางเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เป็นความพยายามยั่วยุความขัดแย้ง โดยมีเป้าหมายประกาศอัยการศึกนั่นเอง
    .
    ประธานาธิบดียุน ประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันอังคารที่แล้ว(3ธ.ค.) ส่งกองกำลังพิเศษและเฮลิคอปเตอร์ไปยังอาคารรัฐสภา ก่อนถูกสมาชิกสมัชชาแห่งชาติบีบให้ถอนประกาศดังกล่าาว สถานการณ์ความโกลาหลที่เกิดขึ้นในประเทศหนึ่งๆที่เชื่อว่ามีเสถียรภาพในประชาธิปไตย
    .
    "มีเหตุการณ์อันน่าช็อค หุ่นเชิดยุน ซ็อกยอล ซึ่งกำลังเผชิญกับการถอดถอนและวิกฤตการปกครอง ประกาศอัยการศึกอย่างกะทันหัน กวัดแกว่งปืนและมีดของเผด็จการฟาสซิสต์ ก่อความยุ่งเหยิงทั่วเกาหลีใต้" สื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือรายงาน "ประชาคมนานาชาติกำลังจับตาอย่างเคร่งเครียด ด้วยคำประเมินว่าเหตุการณ์อัยการศึกเผยให้เห็นถึงความอ่อนแอในสังคมเกาหลีใต้"
    .
    นอกจากนี้แล้วรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือยังได้อ้างผู้สัดทัดกรณี ให้คำจำกัดความการประกาศอัยการศึกอย่างฉับพลันของยุน ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่จนตรอก และบอกว่าชีวิตทางการเมืองของยุน ซ็อกยอล คงพบจุดจบเร็ววันนี้
    .
    ในประกาศอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ยุนอ้างว่าเพื่อปกป้องเกาหลีใต้ "จากภัยคุกคามโดยกองกำลังคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ และกำจัดเครือข่ายต่อต้านรัฐที่ปล้นสะดมเสรีภาพและความผาสุกของประชาชน"
    .
    ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติเกาหลี ดำดิ่งสู่ระดับต่ำที่สุดหนหน่งในรอบหลายปี ด้วยเกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธเป็นชัดๆ ที่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ
    .
    นอกจากนี้แล้วเกาหลีเหนือยังเล่นงานเกาหลีใต้ด้วยบอลลูนขยะมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ในสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็นการแก้แค้นกรณีที่บรรดานักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้ ทำการโฆษณาชวนเชื่อครั้งใหญ่ต่อต้านเปียงยาง
    .
    เกาหลีเหนือ กลายเป็นหนึ่งในผู้ส่งเสียงสนับสนุนและหนุนหลังรายสำคัญของรัสเซีย ในปฏิบัติการรุกรานยูเครน โดยสหรัฐฯและเกาหลีใต้กล่าวหาเปียงยาง ส่งทหารมากกว่า 10,000 นาย เข้าช่วยมอสโกสู้รบกับเคียฟ
    .
    คิม ยอง-ฮยุน อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งถูกจับในวันอังคาร(10ธ.ค.) เคยถูกพวกสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านกล่าวหาว่า เรียกร้องให้โจมตีที่ตั้งต่างๆที่เกาหลีเหนือปล่อยบอลลูนบรรทุกขยะออกมา และมีข่าวว่าคำสั่งดังกล่าวในตอนนั้นของ ยอง-ฮยุน ถูกปฏิเสธโดยบรรดาผู้บังคับบัญชาของเขาเอง
    .
    นอกจากนี้แล้วยังมีคำกล่าวหาว่าเขาออกคำสั่งให้ส่งโดรนไปยังกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ ดูเหมือนเป็นความพยายามยั่วยุความขัดแย้ง เพื่อเป็นข้ออ้างในการประกาศกฎอัยการศึก ตามรายงานของรอยเตอร์
    .
    ประธานาธิบดียุน รอดมติถอดถอนในรัฐสภาเมื่อวันเสาร์(7ธ.ค.) แม้มีเกาหลีใต้หลายหมื่นคนฝ่าอากาศเย็น ออกมาชุมนุมประท้วงบนท้องถนนเรียกร้องให้เขาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ฝ่ายค้านมีแผนผลักดันให้มีการลงมติในญัตติถอดถอนยุนอีกรอบในวันเสาร์นี้(14ธ.ค.)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000119175
    ..............
    Sondhi X
    เกาหลีใต้ตกอยู่ในภาวะ "ยุ่งเหยิง" หลังจากประธานาธิบดียุน ซ็อกยอล ประกาศกฎอัยการศึกช่วงสั้นๆ สื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือรายงานเมื่อวันพุธ(11ธ.ค.) ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในชาติคู่อริ พร้อมชี้ว่าการกระทำดังกล่าวไม่ต่างจากพวกเผด็จการฟาสซิสต์ ขณะที่รอยเตอร์ระบุคำสั่งส่งโดรนไปยังกรุงเปียงยางเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เป็นความพยายามยั่วยุความขัดแย้ง โดยมีเป้าหมายประกาศอัยการศึกนั่นเอง . ประธานาธิบดียุน ประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันอังคารที่แล้ว(3ธ.ค.) ส่งกองกำลังพิเศษและเฮลิคอปเตอร์ไปยังอาคารรัฐสภา ก่อนถูกสมาชิกสมัชชาแห่งชาติบีบให้ถอนประกาศดังกล่าาว สถานการณ์ความโกลาหลที่เกิดขึ้นในประเทศหนึ่งๆที่เชื่อว่ามีเสถียรภาพในประชาธิปไตย . "มีเหตุการณ์อันน่าช็อค หุ่นเชิดยุน ซ็อกยอล ซึ่งกำลังเผชิญกับการถอดถอนและวิกฤตการปกครอง ประกาศอัยการศึกอย่างกะทันหัน กวัดแกว่งปืนและมีดของเผด็จการฟาสซิสต์ ก่อความยุ่งเหยิงทั่วเกาหลีใต้" สื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือรายงาน "ประชาคมนานาชาติกำลังจับตาอย่างเคร่งเครียด ด้วยคำประเมินว่าเหตุการณ์อัยการศึกเผยให้เห็นถึงความอ่อนแอในสังคมเกาหลีใต้" . นอกจากนี้แล้วรายงานของสื่อมวลชนแห่งรัฐเกาหลีเหนือยังได้อ้างผู้สัดทัดกรณี ให้คำจำกัดความการประกาศอัยการศึกอย่างฉับพลันของยุน ว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่จนตรอก และบอกว่าชีวิตทางการเมืองของยุน ซ็อกยอล คงพบจุดจบเร็ววันนี้ . ในประกาศอัยการศึกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ยุนอ้างว่าเพื่อปกป้องเกาหลีใต้ "จากภัยคุกคามโดยกองกำลังคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ และกำจัดเครือข่ายต่อต้านรัฐที่ปล้นสะดมเสรีภาพและความผาสุกของประชาชน" . ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติเกาหลี ดำดิ่งสู่ระดับต่ำที่สุดหนหน่งในรอบหลายปี ด้วยเกาหลีเหนือทำการทดสอบขีปนาวุธเป็นชัดๆ ที่ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ . นอกจากนี้แล้วเกาหลีเหนือยังเล่นงานเกาหลีใต้ด้วยบอลลูนขยะมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ในสิ่งที่พวกเขาอ้างว่าเป็นการแก้แค้นกรณีที่บรรดานักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้ ทำการโฆษณาชวนเชื่อครั้งใหญ่ต่อต้านเปียงยาง . เกาหลีเหนือ กลายเป็นหนึ่งในผู้ส่งเสียงสนับสนุนและหนุนหลังรายสำคัญของรัสเซีย ในปฏิบัติการรุกรานยูเครน โดยสหรัฐฯและเกาหลีใต้กล่าวหาเปียงยาง ส่งทหารมากกว่า 10,000 นาย เข้าช่วยมอสโกสู้รบกับเคียฟ . คิม ยอง-ฮยุน อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งถูกจับในวันอังคาร(10ธ.ค.) เคยถูกพวกสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านกล่าวหาว่า เรียกร้องให้โจมตีที่ตั้งต่างๆที่เกาหลีเหนือปล่อยบอลลูนบรรทุกขยะออกมา และมีข่าวว่าคำสั่งดังกล่าวในตอนนั้นของ ยอง-ฮยุน ถูกปฏิเสธโดยบรรดาผู้บังคับบัญชาของเขาเอง . นอกจากนี้แล้วยังมีคำกล่าวหาว่าเขาออกคำสั่งให้ส่งโดรนไปยังกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือ ดูเหมือนเป็นความพยายามยั่วยุความขัดแย้ง เพื่อเป็นข้ออ้างในการประกาศกฎอัยการศึก ตามรายงานของรอยเตอร์ . ประธานาธิบดียุน รอดมติถอดถอนในรัฐสภาเมื่อวันเสาร์(7ธ.ค.) แม้มีเกาหลีใต้หลายหมื่นคนฝ่าอากาศเย็น ออกมาชุมนุมประท้วงบนท้องถนนเรียกร้องให้เขาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ฝ่ายค้านมีแผนผลักดันให้มีการลงมติในญัตติถอดถอนยุนอีกรอบในวันเสาร์นี้(14ธ.ค.) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000119175 .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1011 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทรัมป์” ย้ำเดินหน้าแผนรีดภาษีศุลกากร เนรเทศผู้อพยพครั้งใหญ่ ส่งสัญญาณอาจใช้ตำแหน่ง “ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบังคับใช้กฎหมาย” ของตัวเอง ล้างแค้นศัตรูทางการเมือง นอกจากนั้น ยังขู่ถอนตัวจากนาโต และเตือนยูเครนเตรียมพร้อมถูก “ตัด” ความช่วยเหลือสำหรับการทำศึกกับรัสเซีย
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์รายการ “มีต เดอะ เพรสส์ วิธ คริสเตน เวลเกอร์” ของเครือข่ายโทรทัศน์เอ็นบีซีที่บันทึกเทปเมื่อวันศุกร์ (6 ธ.ค.) และออกอากาศในวันอาทิตย์ (8 ) โดยถือเป็นการให้สัมภาษณ์ทางทีวีครั้งแรกนับจากการเลือกตั้งนั้น โดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในอีก 6 สัปดาห์ข้างหน้า ย้ำคำขู่นำอเมริกาถอนตัวจากองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ถ้าชาติสมาชิกไม่รับผิดชอบต้นทุนการปกป้องตนเองอย่างเหมาะสม
    .
    ทรัมป์เสริมว่า ยูเครนควรเตรียมตัวที่จะได้รับความช่วยเหลือจากอเมริกาในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซียลดน้อยลง รวมทั้งยังเรียกร้องการหยุดยิงทันที
    .
    เกี่ยวกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินนั้น แรกทีเดียวทรัมป์บอกว่า ไม่ได้คุยกับผู้นำรัสเซียตั้งแต่วันเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้ว ก่อนเปลี่ยนมาใช้คำว่า ช่วงหลังมานี้ไม่ได้คุยกับปูตินเลย และเมื่อถูกจี้ถามหนักเข้า เขาก็บอกเพียงว่า ไม่ต้องการทำอะไรที่อาจเป็นการขัดขวางการเจรจา
    .
    เขายังย้ำคำสัญญาระหว่างหาเสียงเรื่องการรีดภาษีศุลกากรจากสินค้านำเข้า ซึ่งรวมถึงสินค้าของพวกคู่ค้าสำคัญอย่างแคนาดา เม็กซิโก และจีน และสำทับว่า การใช้มาตรการภาษีศุลกากรอย่างเหมาะสมจะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังอย่างยิ่ง และเขาจะใช้เครื่องมือนี้นอกเหนือจากความุ่งหมายในทางเศรษฐกิจด้วย
    .
    สำหรับข้อสงสัยว่า ภาษีดังกล่าวจะทำให้คนอเมริกันต้องจ่ายแพงขึ้นหรือไม่นั้น ทรัมป์ตอบแบ่งรับแบ่งสู้ว่า ไม่สามารถรับประกันอะไรได้ ทั้งที่ตอนหาเสียงเคยโฆษณาว่า หากได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี จะแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งก็คือปัญหาข้าวของแพง
    .
    เนรเทศครั้งใหญ่
    .
    ว่าที่ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ยังบอกว่า จะเดินหน้าสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า เป็นการเนรเทศคนเข้าเมืองผิดกฎหมายครั้งใหญ่ในอเมริกา รวมทั้งอาจใช้อำนาจฝ่ายบริหารเพื่อยุติการได้เป็นพลเมืองอเมริกัน โดยอาศัย “สิทธิโดยกำเนิด” ถึงแม้เขายอมรับว่า เรื่องนี้อาจหมายถึงต้องหาทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งรับรองสิทธินี้สำหรับทุกคนที่เกิดในอเมริกา
    .
    ทรัมป์บอกว่า จะทำงานร่วมกับเดโมแครตเกี่ยวกับพวก “ดรีมเมอร์” หรือคนที่เติบโตในอเมริกาหลังจากเดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายขณะเป็นเด็ก และช่วงหลายปีมานี้ได้รับการคุ้มครองจากการถูกเนรเทศ กระนั้น เขาชี้ว่า แม้แต่ “พลเมืองอเมริกัน” ก็อาจถูกเนรเทศได้ถ้ามีสมาชิกครอบครัวที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพราะทางเดียวที่จะไม่ทำให้ครอบครัวแตกแยกคือ การเนรเทศออกจากอเมริกาทั้งครอบครัว
    .
    ชำระแค้นศัตรูทางการเมือง
    .
    ทรัมป์ที่ถูกรัฐสภาไต่สวนเพื่อถอดถอนถึง 2 ครั้ง และถูกตั้งข้อหาคดีอาญาจากการพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ยังคงไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ของตัวเองในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 รวมถึงขู่ว่า สมาชิกรัฐสภาที่สอบสวนตนเรื่องม็อบบุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2021 ต่างหากที่ควรเข้าคุก ส่วนพวกผู้สนับสนุนตนที่ถูกจับจากคดีดังกล่าวจะได้รับการอภัยโทษ “อย่างรวดเร็วมาก”
    .
    เมื่อถูกถามว่า แคช พาเทล ที่ได้รับเสนอชื่อจากทรัมป์ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) สหรัฐฯ จะสนองตอบคำขู่ตามล่าศัตรูทางการเมืองของเขาหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า เขาคิดว่า พาเทลมีหน้าที่ในการจัดการนักการเมืองที่ทุจริตคดโกง
    .
    ทรัมป์ยังบอกว่า ตนมีอำนาจสูงสุดในฐานะ “ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบังคับใช้กฎหมาย” ในการดำเนินคดีกับศัตรูในประเทศ แต่ “ไม่สนใจ” จะใช้อำนาจนั้น และจะมุ่งทำงานเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและหยุดยั้งการลักลอบเข้าเมืองมากกว่า
    .
    อย่างไรก็ตาม สมาชิกชั้นนำของพรรคเดโมแครตต่างกังวลกับคำขู่ดังกล่าว กระทั่งมีรายงานว่า โจ ไบเดน ที่กำลังจะอำลาตำแหน่งประธานาธิบดี กำลังพิจารณาประกาศอภัยโทษล่วงหน้าเพื่อปกป้องสมาชิกสำคัญในคณะบริหารของตน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118427
    ..............
    Sondhi X
    “ทรัมป์” ย้ำเดินหน้าแผนรีดภาษีศุลกากร เนรเทศผู้อพยพครั้งใหญ่ ส่งสัญญาณอาจใช้ตำแหน่ง “ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบังคับใช้กฎหมาย” ของตัวเอง ล้างแค้นศัตรูทางการเมือง นอกจากนั้น ยังขู่ถอนตัวจากนาโต และเตือนยูเครนเตรียมพร้อมถูก “ตัด” ความช่วยเหลือสำหรับการทำศึกกับรัสเซีย . ระหว่างให้สัมภาษณ์รายการ “มีต เดอะ เพรสส์ วิธ คริสเตน เวลเกอร์” ของเครือข่ายโทรทัศน์เอ็นบีซีที่บันทึกเทปเมื่อวันศุกร์ (6 ธ.ค.) และออกอากาศในวันอาทิตย์ (8 ) โดยถือเป็นการให้สัมภาษณ์ทางทีวีครั้งแรกนับจากการเลือกตั้งนั้น โดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในอีก 6 สัปดาห์ข้างหน้า ย้ำคำขู่นำอเมริกาถอนตัวจากองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ถ้าชาติสมาชิกไม่รับผิดชอบต้นทุนการปกป้องตนเองอย่างเหมาะสม . ทรัมป์เสริมว่า ยูเครนควรเตรียมตัวที่จะได้รับความช่วยเหลือจากอเมริกาในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซียลดน้อยลง รวมทั้งยังเรียกร้องการหยุดยิงทันที . เกี่ยวกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินนั้น แรกทีเดียวทรัมป์บอกว่า ไม่ได้คุยกับผู้นำรัสเซียตั้งแต่วันเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้ว ก่อนเปลี่ยนมาใช้คำว่า ช่วงหลังมานี้ไม่ได้คุยกับปูตินเลย และเมื่อถูกจี้ถามหนักเข้า เขาก็บอกเพียงว่า ไม่ต้องการทำอะไรที่อาจเป็นการขัดขวางการเจรจา . เขายังย้ำคำสัญญาระหว่างหาเสียงเรื่องการรีดภาษีศุลกากรจากสินค้านำเข้า ซึ่งรวมถึงสินค้าของพวกคู่ค้าสำคัญอย่างแคนาดา เม็กซิโก และจีน และสำทับว่า การใช้มาตรการภาษีศุลกากรอย่างเหมาะสมจะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังอย่างยิ่ง และเขาจะใช้เครื่องมือนี้นอกเหนือจากความุ่งหมายในทางเศรษฐกิจด้วย . สำหรับข้อสงสัยว่า ภาษีดังกล่าวจะทำให้คนอเมริกันต้องจ่ายแพงขึ้นหรือไม่นั้น ทรัมป์ตอบแบ่งรับแบ่งสู้ว่า ไม่สามารถรับประกันอะไรได้ ทั้งที่ตอนหาเสียงเคยโฆษณาว่า หากได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี จะแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งก็คือปัญหาข้าวของแพง . เนรเทศครั้งใหญ่ . ว่าที่ประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ยังบอกว่า จะเดินหน้าสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า เป็นการเนรเทศคนเข้าเมืองผิดกฎหมายครั้งใหญ่ในอเมริกา รวมทั้งอาจใช้อำนาจฝ่ายบริหารเพื่อยุติการได้เป็นพลเมืองอเมริกัน โดยอาศัย “สิทธิโดยกำเนิด” ถึงแม้เขายอมรับว่า เรื่องนี้อาจหมายถึงต้องหาทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งรับรองสิทธินี้สำหรับทุกคนที่เกิดในอเมริกา . ทรัมป์บอกว่า จะทำงานร่วมกับเดโมแครตเกี่ยวกับพวก “ดรีมเมอร์” หรือคนที่เติบโตในอเมริกาหลังจากเดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายขณะเป็นเด็ก และช่วงหลายปีมานี้ได้รับการคุ้มครองจากการถูกเนรเทศ กระนั้น เขาชี้ว่า แม้แต่ “พลเมืองอเมริกัน” ก็อาจถูกเนรเทศได้ถ้ามีสมาชิกครอบครัวที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย เพราะทางเดียวที่จะไม่ทำให้ครอบครัวแตกแยกคือ การเนรเทศออกจากอเมริกาทั้งครอบครัว . ชำระแค้นศัตรูทางการเมือง . ทรัมป์ที่ถูกรัฐสภาไต่สวนเพื่อถอดถอนถึง 2 ครั้ง และถูกตั้งข้อหาคดีอาญาจากการพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 ยังคงไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ของตัวเองในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 รวมถึงขู่ว่า สมาชิกรัฐสภาที่สอบสวนตนเรื่องม็อบบุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2021 ต่างหากที่ควรเข้าคุก ส่วนพวกผู้สนับสนุนตนที่ถูกจับจากคดีดังกล่าวจะได้รับการอภัยโทษ “อย่างรวดเร็วมาก” . เมื่อถูกถามว่า แคช พาเทล ที่ได้รับเสนอชื่อจากทรัมป์ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) สหรัฐฯ จะสนองตอบคำขู่ตามล่าศัตรูทางการเมืองของเขาหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า เขาคิดว่า พาเทลมีหน้าที่ในการจัดการนักการเมืองที่ทุจริตคดโกง . ทรัมป์ยังบอกว่า ตนมีอำนาจสูงสุดในฐานะ “ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบังคับใช้กฎหมาย” ในการดำเนินคดีกับศัตรูในประเทศ แต่ “ไม่สนใจ” จะใช้อำนาจนั้น และจะมุ่งทำงานเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและหยุดยั้งการลักลอบเข้าเมืองมากกว่า . อย่างไรก็ตาม สมาชิกชั้นนำของพรรคเดโมแครตต่างกังวลกับคำขู่ดังกล่าว กระทั่งมีรายงานว่า โจ ไบเดน ที่กำลังจะอำลาตำแหน่งประธานาธิบดี กำลังพิจารณาประกาศอภัยโทษล่วงหน้าเพื่อปกป้องสมาชิกสำคัญในคณะบริหารของตน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118427 .............. Sondhi X
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1046 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ที่ออกอากาศ ว่าจะดำเนินการตั้งแต่วันแรกของการดำรงตำแหน่ง ในการอภัยโทษแก่พวกผู้ก่อจลาจลที่เกี่ยวกับเหตุจู่โจมอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 โหมกระพือความคาดการณ์มากยิ่งขึ้น เกี่ยวกับการอนุมัติอภัยโทษอย่างกว้างขวางในสมัยของเขา
    .
    "ผมจะดำเนินการอย่างรวดเร็วที่สุด ตั้งแต่วันแรกเลย" ทรัมป์กล่าวกับสำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์ ในรายงาน "มีตเดอะเพรส กับคริสเทน เวลเกอร์" เมื่อถูกถามว่าเขามีแผนอภัยโทษหรือไม่ ให้แก่บรรดาผู้สนับสนุนที่ถูกดำเนินคดีในเหตุโจมตีที่มีเป้าหมายล้มผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2020 ที่เขาตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
    .
    ทรัมป์ บอกกับเวลเกอร์ ว่าการนิโทษกรรมของเขา "อาจมีข้อยกเว้นบางอย่าง หากบุคคลนั้นๆ กระทำรุนแรงหรือทำเรื่องบ้าๆ ระหว่างการจู่โจม" ซึ่งทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บมากกว่า 140 นาย และมีหลายคนเสียชีวิต
    .
    อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ให้คำจำกัดความการดำเนินคดีกับบรรดาผู้สนับสนุนของเขา ว่าเป็นการคอร์รัปชันโดยเนื้อแท้ และไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการอภัยโทษจำเลยมากกว่า 900 คน ที่ยอมรับสารภาพผิดแล้ว ในนั้นรวมถึงบรรดาผู้ถูกล่าวหากระทำการรุนแรงในการโจมตี "ผมจะตรวจสอบทุกๆ อย่าง เราจะพิจารณาเป็นรายบุคคล"
    .
    ความเห็นครั้งนี้ของทรัมป์ ถือเป็นการให้รายละเอียดมากที่สุดในประเด็นการอภัยโทษ นับตั้งแต่ที่เขาเอาชนะรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และดูเหมือนเพิ่มการคาดการณ์ที่สูงลิ่วอยู่ก่อนแล้ว ว่าเขาจะดำเนินการอภัยโทษอย่างครอบคลุม ครั้งที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม
    .
    ความหวังในบรรดาจำเลยเหตุการณ์วันที่ 6 มกราคมและเหล่าผู้สนับสนุน สำหรับการได้รับอภัยโทษอย่างครอบคลุม เริ่มสูงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว หลังตัวประธานาธิบดีโจ ไบเดน เอง อภัยโทษให้ ฮันเตอร์ ไบเดน ผู้เป็นลูกชาย กลับลำคำประกาศกร้าวก่อนหน้านี้ ว่าจะไม่แทรกแซงคดีอาญาของบุตรชาย
    .
    ไบเดน อ้างว่า ฮันเตอร์ ควรได้รับการอภัยโทษ เพราะว่าเขาเป็นเหยื่อของการตามประหัตประหารทางการเมือง ข้อโต้แย้งที่ดูเหมือน ทรัมป์ จะใช้อ้างความชอบธรรมในการอภัยโทษหมู่เช่นกัน กระตุ้นให้บางส่วนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ไบเดน โดยบอกว่าการตัดสินใจของประธานาธิบดีรายนี้ กลับกลายเป็นการช่วย ทรัมป์ ให้ได้รับความเสียหายทางการเมืองน้อยลงกว่าเดิม
    .
    คิมเบอร์ลี เวช์ล ศาสตราจารย์จากสถาบันกฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยบัลติมอร์ กล่าวว่าเธอกังวลว่าการนิรโทษกรรมอย่างกว้างขวางให้แก่เหล่าจำเลยในคดี 6 มกราคม จะถูกใช้เป็นแรงจูงใจในทางที่ผิด กระพือความไม่สงบหรือแม้แต่ก่อความรุนแรงในนามของประธานาธิบดี
    .
    "มันเป็นแนวคิดที่เหมือนกับว่าเขากำลังตบรางวัลแก่พวกที่ละเมิดกฎหมายในนามของเขา ในความเกี่ยวข้องกับความพยายามล้มผลการเลือกตั้งที่ถูกต้องตามกฎหมาย มันเป็นอะไรที่ไม่เคยมีมาก่อน" เวช์ลกล่าว
    .
    ในสิ่งที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นการสืบสวนทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา มีจำเลยอย่างน้อย 1,572 คน ถูกตั้งข้อหาในเหตุจู่โจมอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 โดยคำฟ้องทางอาญาเหล่านั้น ไล่ตั้งแต่เข้าไปในพื้นที่หวงห้ามโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไปจนถึงสมคบคิดยุยงปลุกปั่นความไม่สงบ และประทุษร้ายรุนแรง
    .
    จากจำเลยทั้งหมด มีอยู่ 1,251 ราย ที่ถูกพิพากษาว่ามีความผิดหรือยอมรับสารภาพผิด และมีอยู่ 645 ราย ที่ถูกลงโทษจำคุก ไล่ตั้งแต่ไม่กี่วันไปจนถึงสูงสุด 22 ปี
    .
    จอห์น เพียร์ซ ทนายความที่เป็นตัวแทนของจำเลยเหตุการณ์ 6 มกราคม เรียกร้องให้ ทรัมป์ ออกคำสั่งอภัยโทษครอบคลุมทุกคนที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีเข้าร่วมในเหตุจลาจล "ผมคิดว่าคุณ จะเห็นผู้คนในหมู่ประชาคม 6 มกราคม ไม่พอใจมากมาย ถ้าการอนุมัติอภัยโทษดำเนินการบนพื้นฐานเป็นรายกรณี"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118050
    ..................
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ที่ออกอากาศ ว่าจะดำเนินการตั้งแต่วันแรกของการดำรงตำแหน่ง ในการอภัยโทษแก่พวกผู้ก่อจลาจลที่เกี่ยวกับเหตุจู่โจมอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 โหมกระพือความคาดการณ์มากยิ่งขึ้น เกี่ยวกับการอนุมัติอภัยโทษอย่างกว้างขวางในสมัยของเขา . "ผมจะดำเนินการอย่างรวดเร็วที่สุด ตั้งแต่วันแรกเลย" ทรัมป์กล่าวกับสำนักข่าวเอ็นบีซีนิวส์ ในรายงาน "มีตเดอะเพรส กับคริสเทน เวลเกอร์" เมื่อถูกถามว่าเขามีแผนอภัยโทษหรือไม่ ให้แก่บรรดาผู้สนับสนุนที่ถูกดำเนินคดีในเหตุโจมตีที่มีเป้าหมายล้มผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2020 ที่เขาตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ . ทรัมป์ บอกกับเวลเกอร์ ว่าการนิโทษกรรมของเขา "อาจมีข้อยกเว้นบางอย่าง หากบุคคลนั้นๆ กระทำรุนแรงหรือทำเรื่องบ้าๆ ระหว่างการจู่โจม" ซึ่งทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บมากกว่า 140 นาย และมีหลายคนเสียชีวิต . อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ให้คำจำกัดความการดำเนินคดีกับบรรดาผู้สนับสนุนของเขา ว่าเป็นการคอร์รัปชันโดยเนื้อแท้ และไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ในการอภัยโทษจำเลยมากกว่า 900 คน ที่ยอมรับสารภาพผิดแล้ว ในนั้นรวมถึงบรรดาผู้ถูกล่าวหากระทำการรุนแรงในการโจมตี "ผมจะตรวจสอบทุกๆ อย่าง เราจะพิจารณาเป็นรายบุคคล" . ความเห็นครั้งนี้ของทรัมป์ ถือเป็นการให้รายละเอียดมากที่สุดในประเด็นการอภัยโทษ นับตั้งแต่ที่เขาเอาชนะรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต ในศึกเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และดูเหมือนเพิ่มการคาดการณ์ที่สูงลิ่วอยู่ก่อนแล้ว ว่าเขาจะดำเนินการอภัยโทษอย่างครอบคลุม ครั้งที่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม . ความหวังในบรรดาจำเลยเหตุการณ์วันที่ 6 มกราคมและเหล่าผู้สนับสนุน สำหรับการได้รับอภัยโทษอย่างครอบคลุม เริ่มสูงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว หลังตัวประธานาธิบดีโจ ไบเดน เอง อภัยโทษให้ ฮันเตอร์ ไบเดน ผู้เป็นลูกชาย กลับลำคำประกาศกร้าวก่อนหน้านี้ ว่าจะไม่แทรกแซงคดีอาญาของบุตรชาย . ไบเดน อ้างว่า ฮันเตอร์ ควรได้รับการอภัยโทษ เพราะว่าเขาเป็นเหยื่อของการตามประหัตประหารทางการเมือง ข้อโต้แย้งที่ดูเหมือน ทรัมป์ จะใช้อ้างความชอบธรรมในการอภัยโทษหมู่เช่นกัน กระตุ้นให้บางส่วนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ไบเดน โดยบอกว่าการตัดสินใจของประธานาธิบดีรายนี้ กลับกลายเป็นการช่วย ทรัมป์ ให้ได้รับความเสียหายทางการเมืองน้อยลงกว่าเดิม . คิมเบอร์ลี เวช์ล ศาสตราจารย์จากสถาบันกฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยบัลติมอร์ กล่าวว่าเธอกังวลว่าการนิรโทษกรรมอย่างกว้างขวางให้แก่เหล่าจำเลยในคดี 6 มกราคม จะถูกใช้เป็นแรงจูงใจในทางที่ผิด กระพือความไม่สงบหรือแม้แต่ก่อความรุนแรงในนามของประธานาธิบดี . "มันเป็นแนวคิดที่เหมือนกับว่าเขากำลังตบรางวัลแก่พวกที่ละเมิดกฎหมายในนามของเขา ในความเกี่ยวข้องกับความพยายามล้มผลการเลือกตั้งที่ถูกต้องตามกฎหมาย มันเป็นอะไรที่ไม่เคยมีมาก่อน" เวช์ลกล่าว . ในสิ่งที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นการสืบสวนทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา มีจำเลยอย่างน้อย 1,572 คน ถูกตั้งข้อหาในเหตุจู่โจมอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 โดยคำฟ้องทางอาญาเหล่านั้น ไล่ตั้งแต่เข้าไปในพื้นที่หวงห้ามโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไปจนถึงสมคบคิดยุยงปลุกปั่นความไม่สงบ และประทุษร้ายรุนแรง . จากจำเลยทั้งหมด มีอยู่ 1,251 ราย ที่ถูกพิพากษาว่ามีความผิดหรือยอมรับสารภาพผิด และมีอยู่ 645 ราย ที่ถูกลงโทษจำคุก ไล่ตั้งแต่ไม่กี่วันไปจนถึงสูงสุด 22 ปี . จอห์น เพียร์ซ ทนายความที่เป็นตัวแทนของจำเลยเหตุการณ์ 6 มกราคม เรียกร้องให้ ทรัมป์ ออกคำสั่งอภัยโทษครอบคลุมทุกคนที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีเข้าร่วมในเหตุจลาจล "ผมคิดว่าคุณ จะเห็นผู้คนในหมู่ประชาคม 6 มกราคม ไม่พอใจมากมาย ถ้าการอนุมัติอภัยโทษดำเนินการบนพื้นฐานเป็นรายกรณี" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118050 .................. Sondhi X
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 996 มุมมอง 0 รีวิว
  • โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่กำลังพ้นตำแหน่ง มีข่าวว่ากำลังพูดคุยในความเป็นไปได้ในการอภัยโทษอย่างครอบคลุมให้พวกคนดังทั้งหลายที่เคยวิพากษ์วิจารณ์ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อปกป้องคนเหล่านี้ จากความเป็นไปได้ที่จะถูกตามประหัตประหารในอนาคต ตามรายงานข่าวของโพลิติโก เว็บไซต์ข่าวการเมืองอเมริกาและซีบีเอสนิวส์
    .
    เมื่อเร็วๆนี้ ไบเดน เพิ่งอภัยโทษให้ลูกชาย ไม่ใช่แค่ที่ถูกพิพากษาว่ามีความผิดในคดีอาญาต่างๆนานา แต่ยังรวมทุกๆอย่างที่เขาอาจกระทำผิดมาตั้งแต่ปี 2014 ทั้งนี้ขอบเขตการอภัยโทษอย่างกว้างขวางที่ไม่ปกติดังกล่าว เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง แม้กระทั่งจากคนในพรรคของประธานาธิบดีเอง
    .
    เว็บไซต์ข่าวโพลิติโก รายงานอ้างแหล่งข่าวคนวงในภายในพรรค ว่าพรรคเดโมแครตต้องการปกป้องคนกลุ่มหนึ่งจากการถูก ทรัมป์ แก้แค้น ครั้งที่เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม โดยเวลานี้ เจฟฟรีย์ ไซอ็องส์ หัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาวและ เอ็ด ซิสเคิล หัวหน้าที่ปรึกษา กำลังหารือเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม และบรรดาบุคคลที่อาจอยู่ในรายชื่อดังกล่าว ตามรายงานของซีบีเอสเมื่อวันศุกร์(6ธ.ค.)
    .
    ในบรรดาชื่อที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงคือนายแพทย์แอนโทนี เฟาซี อดีตเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงของสหรัฐฯ ผู้ซึ่งช่วยวางแผนมาตรการล็อคดาวน์โควิด-19 และบังคับสวมหน้ากาก ครั้งที่ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งสมัยแรก และหลังจากนั้นก็ช่วยวางแผนบังคับฉีดวัคซีน ในฐานะที่ปรึกษาทางการแพทย์ระดับสูงของไบเดน
    .
    รายงานของสภาคองเกรสเมื่อเร็วๆนี้ เกี่ยวกับแหล่งต้นกำเนิดของโควิด-19 ได้กล่าวหา เฟาซี ปกปิดบทบาทของเขา ในการให้เงินสนับสนุนห้องปฏิบัติการในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน บริเวณที่เชื่อว่าเป็นบ่อเกิดของไวรัส โดยดำเนินการผ่านมือที่ 3
    .
    ส่วนอีกคนที่อาจได้รับการอภัยโทษคือ มาร์ค มิลลีย์ นายพลปลดเกษียณ ที่เคยเรียกทรัมป์ว่า "พวกฟาสซิสต์" และ "พวกกระสันเป็นเผด็จการ" โดยอดีตประธานเสนาธิการทหารร่วมรายนี้ เคยพูดระหว่างให้สัมภาษณ์ว่า เขาต่อสายหาประธานเสนาธิการทหารร่วมของจีน ก่อนหน้าศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2020 และอีกครั้งหลังจากเหตุจลาจลจู่โจมอาคารรัฐสภาอเมริกา วันที่ 6 มกราคม 2021 เรียกร้องให้ทำงานร่วมกับพรรคเดโมโครต เพราะเขาคิดว่า ทรัมป์ "เป็นคนบ้า"
    .
    ทรัมป์ ประณามการออกมาเปิดเผยดังกล่าว โดยชี้ว่าพฤติกรรมของมิลลีย์ ควรถูกดำเนินคดีในข้อหาก่อกบฏ "เขาจะเริ่มโยนผู้คนเข้าห้องขัง และผมจะมีชื่ออยู่ในลำดับต้นๆในบัญชีดังกล่าว" มิลลีย์ ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ดิ แอตแลนติก ในเดือนกันยายน 202 เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการในการหวนคืนสู่อำนาจของทรัมป์
    .
    ลิซ เชนีย์ อดีตสมาชิกสภาคองเกรสหญิงจากรีพับลิกัน จากรัฐไวโอมิง ซึ่งหันมาเข้าร่วมกับพรรคเดโมแครต ในคณะกรรมการสืบสวนเหตุการณ์ 6 มกราคม และร่วมรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งให้ กมลา แฮร์ริส ในปีนี้ ก็มีข่าวลือว่าจะอยู่ในรายชื่อได้รับการอภัยโทษเช่นกัน เช่นเดียวกับ อดัม ชิฟฟ์ ว่าที่วุฒิสภาจากแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นแกนนำในการยื่นถอดถอน ทรัมป์ 2 รอบ ครั้งที่ดำรงตำแหน่งสมัยแรก
    .
    ภายใต้รัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ ประธานาธิบดีมีอำนาจอภัยโทษผู้คนที่ถูกพิพากษาว่ากระทำผิดตามกฎหมายรัฐบาลกลาง แต่ไม่ใช่กับข้อกล่าวหาในระดับรัฐหรือระดับท้องถิ่น ส่วนรูปแบบการอภัยโทษล่วงหน้าที่กล่าวอ้างว่ากำลังมีการพูดคุยกันอยู่นี้ เป็นสิ่งที่ไม่พบเห็นบ่อยนัก แต่ไม่ใช่สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
    .
    ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ซึ่งลาออกจากตำแหน่งในปี 1974 ก่อนหน้าการลงมติถอดถอนในวุฒิสภา ได้รับการอภัยโทษจากประธานาธิบดีเจรัลด์ ฟอร์ด ผู้สืบทอดตำแหน่งจากเขา ในคดีวอเตอร์เกต ดักฟังฝ่ายตรงข้าม
    .
    จากนั้นอีก 3 ปีต่อมา ประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ ให้อภัยโทษอย่างครอบคลุมต่อทุกคนที่หลบหนีการเกณฑ์ทหารระหว่างสงครามเวียดนาม และในปี 1992 ประธานาธิบดีจอร์จ เอช.ดับเบิลยู. บุช อภัยโทษให้ แคสปาร์ ไวน์เบอร์เกอร์ ก่อนที่เขาอาจถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับกรณีอื้อฉาว "อิหร่าน-คอนทรา" (Iran-Contra)
    .
    กรณีอื้อฉาวดังกล่าวเป็นเรื่องเกี่ยวกับรัฐบาลสหรัฐสมัย ประธนาธิบดีโรัลด์ เรแกน ลักลอบขายอาวุธให้กับอิหร่าน แล้วนำเงินที่ได้จากอิหร่านส่งไปช่วยกลุ่มกบฏคอนทราที่ต่อสู้กับรัฐบาลสังคมนิยมในนิคารากัว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000117847
    ..................
    Sondhi X
    โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่กำลังพ้นตำแหน่ง มีข่าวว่ากำลังพูดคุยในความเป็นไปได้ในการอภัยโทษอย่างครอบคลุมให้พวกคนดังทั้งหลายที่เคยวิพากษ์วิจารณ์ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อปกป้องคนเหล่านี้ จากความเป็นไปได้ที่จะถูกตามประหัตประหารในอนาคต ตามรายงานข่าวของโพลิติโก เว็บไซต์ข่าวการเมืองอเมริกาและซีบีเอสนิวส์ . เมื่อเร็วๆนี้ ไบเดน เพิ่งอภัยโทษให้ลูกชาย ไม่ใช่แค่ที่ถูกพิพากษาว่ามีความผิดในคดีอาญาต่างๆนานา แต่ยังรวมทุกๆอย่างที่เขาอาจกระทำผิดมาตั้งแต่ปี 2014 ทั้งนี้ขอบเขตการอภัยโทษอย่างกว้างขวางที่ไม่ปกติดังกล่าว เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วง แม้กระทั่งจากคนในพรรคของประธานาธิบดีเอง . เว็บไซต์ข่าวโพลิติโก รายงานอ้างแหล่งข่าวคนวงในภายในพรรค ว่าพรรคเดโมแครตต้องการปกป้องคนกลุ่มหนึ่งจากการถูก ทรัมป์ แก้แค้น ครั้งที่เข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม โดยเวลานี้ เจฟฟรีย์ ไซอ็องส์ หัวหน้าคณะทำงานทำเนียบขาวและ เอ็ด ซิสเคิล หัวหน้าที่ปรึกษา กำลังหารือเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม และบรรดาบุคคลที่อาจอยู่ในรายชื่อดังกล่าว ตามรายงานของซีบีเอสเมื่อวันศุกร์(6ธ.ค.) . ในบรรดาชื่อที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงคือนายแพทย์แอนโทนี เฟาซี อดีตเจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงของสหรัฐฯ ผู้ซึ่งช่วยวางแผนมาตรการล็อคดาวน์โควิด-19 และบังคับสวมหน้ากาก ครั้งที่ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งสมัยแรก และหลังจากนั้นก็ช่วยวางแผนบังคับฉีดวัคซีน ในฐานะที่ปรึกษาทางการแพทย์ระดับสูงของไบเดน . รายงานของสภาคองเกรสเมื่อเร็วๆนี้ เกี่ยวกับแหล่งต้นกำเนิดของโควิด-19 ได้กล่าวหา เฟาซี ปกปิดบทบาทของเขา ในการให้เงินสนับสนุนห้องปฏิบัติการในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน บริเวณที่เชื่อว่าเป็นบ่อเกิดของไวรัส โดยดำเนินการผ่านมือที่ 3 . ส่วนอีกคนที่อาจได้รับการอภัยโทษคือ มาร์ค มิลลีย์ นายพลปลดเกษียณ ที่เคยเรียกทรัมป์ว่า "พวกฟาสซิสต์" และ "พวกกระสันเป็นเผด็จการ" โดยอดีตประธานเสนาธิการทหารร่วมรายนี้ เคยพูดระหว่างให้สัมภาษณ์ว่า เขาต่อสายหาประธานเสนาธิการทหารร่วมของจีน ก่อนหน้าศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2020 และอีกครั้งหลังจากเหตุจลาจลจู่โจมอาคารรัฐสภาอเมริกา วันที่ 6 มกราคม 2021 เรียกร้องให้ทำงานร่วมกับพรรคเดโมโครต เพราะเขาคิดว่า ทรัมป์ "เป็นคนบ้า" . ทรัมป์ ประณามการออกมาเปิดเผยดังกล่าว โดยชี้ว่าพฤติกรรมของมิลลีย์ ควรถูกดำเนินคดีในข้อหาก่อกบฏ "เขาจะเริ่มโยนผู้คนเข้าห้องขัง และผมจะมีชื่ออยู่ในลำดับต้นๆในบัญชีดังกล่าว" มิลลีย์ ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ดิ แอตแลนติก ในเดือนกันยายน 202 เมื่อถูกถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการในการหวนคืนสู่อำนาจของทรัมป์ . ลิซ เชนีย์ อดีตสมาชิกสภาคองเกรสหญิงจากรีพับลิกัน จากรัฐไวโอมิง ซึ่งหันมาเข้าร่วมกับพรรคเดโมแครต ในคณะกรรมการสืบสวนเหตุการณ์ 6 มกราคม และร่วมรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งให้ กมลา แฮร์ริส ในปีนี้ ก็มีข่าวลือว่าจะอยู่ในรายชื่อได้รับการอภัยโทษเช่นกัน เช่นเดียวกับ อดัม ชิฟฟ์ ว่าที่วุฒิสภาจากแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นแกนนำในการยื่นถอดถอน ทรัมป์ 2 รอบ ครั้งที่ดำรงตำแหน่งสมัยแรก . ภายใต้รัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ ประธานาธิบดีมีอำนาจอภัยโทษผู้คนที่ถูกพิพากษาว่ากระทำผิดตามกฎหมายรัฐบาลกลาง แต่ไม่ใช่กับข้อกล่าวหาในระดับรัฐหรือระดับท้องถิ่น ส่วนรูปแบบการอภัยโทษล่วงหน้าที่กล่าวอ้างว่ากำลังมีการพูดคุยกันอยู่นี้ เป็นสิ่งที่ไม่พบเห็นบ่อยนัก แต่ไม่ใช่สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน . ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ซึ่งลาออกจากตำแหน่งในปี 1974 ก่อนหน้าการลงมติถอดถอนในวุฒิสภา ได้รับการอภัยโทษจากประธานาธิบดีเจรัลด์ ฟอร์ด ผู้สืบทอดตำแหน่งจากเขา ในคดีวอเตอร์เกต ดักฟังฝ่ายตรงข้าม . จากนั้นอีก 3 ปีต่อมา ประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ ให้อภัยโทษอย่างครอบคลุมต่อทุกคนที่หลบหนีการเกณฑ์ทหารระหว่างสงครามเวียดนาม และในปี 1992 ประธานาธิบดีจอร์จ เอช.ดับเบิลยู. บุช อภัยโทษให้ แคสปาร์ ไวน์เบอร์เกอร์ ก่อนที่เขาอาจถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับกรณีอื้อฉาว "อิหร่าน-คอนทรา" (Iran-Contra) . กรณีอื้อฉาวดังกล่าวเป็นเรื่องเกี่ยวกับรัฐบาลสหรัฐสมัย ประธนาธิบดีโรัลด์ เรแกน ลักลอบขายอาวุธให้กับอิหร่าน แล้วนำเงินที่ได้จากอิหร่านส่งไปช่วยกลุ่มกบฏคอนทราที่ต่อสู้กับรัฐบาลสังคมนิยมในนิคารากัว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000117847 .................. Sondhi X
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1155 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts