• ไนเจอร์ (Niger) ประเทศในทวีปแอฟริกามีคำสั่งขับผู้บริหารจีนของบริษัทน้ำมันจีนสามแห่งในไนเจอร์ออกจากประเทศ สาเหตุเพราะละเมิดกฎระเบียบภายในของไนเจอร์

    ผู้บริหารบริษัทน้ำมันของจีน 3 แห่ง ที่ถูกให้ออกจากประเทศ ได้แก่บริษัท SORAZ (Société de Raffinage de Zinder), CNPC (China National Petroleum Corporation) และ WAPCO

    รัฐบาลไนเจอร์ต้องการให้บริษัทที่เข้ามาทำกิจการในประเทศ รวมทั้งบริษัทน้ำมันจากจีนทั้งสามแห่งนี้ ต้องกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม โดยจ่ายค่าแรงคนงานจีนและไนเจอร์อย่างเท่าเทียม ปฎิบัติตามกฎหมายแรงงานของไนเจอร์ และต้องการเข้าถึงบัญชีของบริษัทเพื่อให้แน่ใจว่าได้ชำระภาษีอย่างโปร่งใส

    รัฐบาลไนเจอร์กำหนดเงื่อนไขเหล่านี้กับบริษัทต่างชาติทั้งหมด หากจีนต้องการให้บริษัทน้ำมันของพวกเขาดำเนินการต่อในประเทศ จะต้องปฏิบัติตามกฎและพันธกรณีของประเทศ

    ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงปิโตรเลียมของไนเจอร์ ดร. ซาฮาบี โอมารู ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไนเจอร์และจีน - ไม่มีการแตกหัก แต่เป็นการปรับเปลี่ยนที่จำเป็น "นี่ไม่ใช่การแตกหักด้านความร่วมมือทางเทคนิคระหว่างรัฐบาลไนเจอร์และรัฐบาลจีน หรือเป็นการประณามสัญญาที่ทำกับบริษัทของจีน" แต่เป็นความพยายามแก้ไขความไม่สมดุลที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในการกระจายความมั่งคั่งอย่างทั่วถึงทั้งประชาชนไนเจอร์และบริษัทรับเหมาขุดเจาะน้ำมัน ของจีน
    "ความแข็งแกร่งของความร่วมมืออยู่ที่การเคารพกฎหมายและคำมั่นสัญญาของทั้งสองฝ่ายเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตาม เราเพียงแค่ต้องการกระจายความมั่งคั่งของบริษัทจีนทั้งสาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากเงินเดือนของชาวไนเจอร์เมื่อเทียบกับพนักงานของจีน ตำแหน่งสำคัญบางอย่างควรเป็นชาวไนเจอร์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และส่วนแบ่งการตลาดที่จัดสรรให้กับประชาชนในพื้นที่"

    ที่ผ่านมารัฐบาลจีนให้ความสำคัญประเทศในแอฟริกามาตลอดหลายสิบปี มีการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานแบบให้เปล่าหลายแห่งในประเทศแอฟริกา รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุน มีการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ บางกรณีก็ไม่มีดอกเบี้ย บางครั้งยกหนี้ให้ประเทศเหล่านั้น


    ผลจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในช่วงหลังหลายปี บ่งบอกได้ชัดเจนว่าคนรุ่นใหม่ทวีปแอฟริกามีความคิดแง่บวกกับจีนมากกว่าสหรัฐ


    รัฐบาลจีนอาจต้องเร่งมือกับรัฐบาลในแต่ละประเทศ เพื่อร่วมมือปราบปรามผู้บริหาร เจ้าของวิสาหกิจ บริษัทห้างร้านเอกชนที่เอาเปรียบและมุ่งหาผลประโยชน์ ก่อนที่ภาพลักษณ์ของรัฐบาลจีนจะตกต่ำลงไป ซึ่งจะทำให้สิ่งที่จีนลงทุนไว้สูญเปล่า
    ไนเจอร์ (Niger) ประเทศในทวีปแอฟริกามีคำสั่งขับผู้บริหารจีนของบริษัทน้ำมันจีนสามแห่งในไนเจอร์ออกจากประเทศ สาเหตุเพราะละเมิดกฎระเบียบภายในของไนเจอร์ ผู้บริหารบริษัทน้ำมันของจีน 3 แห่ง ที่ถูกให้ออกจากประเทศ ได้แก่บริษัท SORAZ (Société de Raffinage de Zinder), CNPC (China National Petroleum Corporation) และ WAPCO รัฐบาลไนเจอร์ต้องการให้บริษัทที่เข้ามาทำกิจการในประเทศ รวมทั้งบริษัทน้ำมันจากจีนทั้งสามแห่งนี้ ต้องกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม โดยจ่ายค่าแรงคนงานจีนและไนเจอร์อย่างเท่าเทียม ปฎิบัติตามกฎหมายแรงงานของไนเจอร์ และต้องการเข้าถึงบัญชีของบริษัทเพื่อให้แน่ใจว่าได้ชำระภาษีอย่างโปร่งใส รัฐบาลไนเจอร์กำหนดเงื่อนไขเหล่านี้กับบริษัทต่างชาติทั้งหมด หากจีนต้องการให้บริษัทน้ำมันของพวกเขาดำเนินการต่อในประเทศ จะต้องปฏิบัติตามกฎและพันธกรณีของประเทศ ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงปิโตรเลียมของไนเจอร์ ดร. ซาฮาบี โอมารู ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไนเจอร์และจีน - ไม่มีการแตกหัก แต่เป็นการปรับเปลี่ยนที่จำเป็น "นี่ไม่ใช่การแตกหักด้านความร่วมมือทางเทคนิคระหว่างรัฐบาลไนเจอร์และรัฐบาลจีน หรือเป็นการประณามสัญญาที่ทำกับบริษัทของจีน" แต่เป็นความพยายามแก้ไขความไม่สมดุลที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในการกระจายความมั่งคั่งอย่างทั่วถึงทั้งประชาชนไนเจอร์และบริษัทรับเหมาขุดเจาะน้ำมัน ของจีน "ความแข็งแกร่งของความร่วมมืออยู่ที่การเคารพกฎหมายและคำมั่นสัญญาของทั้งสองฝ่ายเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตาม เราเพียงแค่ต้องการกระจายความมั่งคั่งของบริษัทจีนทั้งสาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากเงินเดือนของชาวไนเจอร์เมื่อเทียบกับพนักงานของจีน ตำแหน่งสำคัญบางอย่างควรเป็นชาวไนเจอร์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และส่วนแบ่งการตลาดที่จัดสรรให้กับประชาชนในพื้นที่" ที่ผ่านมารัฐบาลจีนให้ความสำคัญประเทศในแอฟริกามาตลอดหลายสิบปี มีการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานแบบให้เปล่าหลายแห่งในประเทศแอฟริกา รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุน มีการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ บางกรณีก็ไม่มีดอกเบี้ย บางครั้งยกหนี้ให้ประเทศเหล่านั้น ผลจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในช่วงหลังหลายปี บ่งบอกได้ชัดเจนว่าคนรุ่นใหม่ทวีปแอฟริกามีความคิดแง่บวกกับจีนมากกว่าสหรัฐ รัฐบาลจีนอาจต้องเร่งมือกับรัฐบาลในแต่ละประเทศ เพื่อร่วมมือปราบปรามผู้บริหาร เจ้าของวิสาหกิจ บริษัทห้างร้านเอกชนที่เอาเปรียบและมุ่งหาผลประโยชน์ ก่อนที่ภาพลักษณ์ของรัฐบาลจีนจะตกต่ำลงไป ซึ่งจะทำให้สิ่งที่จีนลงทุนไว้สูญเปล่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google Cloud ประสบปัญหา ไฟฟ้าขัดข้อง ส่งผลให้เกิด ระบบล่มนานกว่า 6 ชั่วโมง ในศูนย์ข้อมูล us-east5-c ที่ตั้งอยู่ใน Columbus, Ohio โดยสาเหตุหลักมาจาก ความล้มเหลวของระบบสำรองไฟ (UPS) ซึ่งควรจะช่วยรักษาการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ในกรณีที่ไฟฟ้าหลักดับ

    ✅ ไฟฟ้าขัดข้องทำให้ระบบล่มในศูนย์ข้อมูลของ Google Cloud
    - เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2025 และกินเวลานาน 6 ชั่วโมง 10 นาที
    - ศูนย์ข้อมูลที่ได้รับผลกระทบใช้ AMD EPYC และ Intel Xeon processors

    ✅ สาเหตุของปัญหา
    - ระบบสำรองไฟ UPS ควรจะช่วยรักษาการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ แต่เกิด ความล้มเหลวของแบตเตอรี่
    - ส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ในโซน us-east5-c ดับลง และเกิด packet loss ในเครือข่าย

    ✅ ผลกระทบต่อบริการของ Google Cloud
    - ลูกค้าหลายรายพบว่า VM instances ในโซนนี้ไม่สามารถใช้งานได้
    - มี ดิสก์บางส่วน ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในช่วงที่เกิดเหตุ

    ✅ การแก้ไขปัญหา
    - วิศวกรของ Google เปลี่ยนเส้นทางทราฟฟิก ไปยังโซนอื่นเพื่อลดผลกระทบ
    - ระบบถูกกู้คืนโดยใช้ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และกลับมาออนไลน์เมื่อเวลา 14:49 น. ตามเวลาสหรัฐฯ แปซิฟิก

    ✅ มาตรการป้องกันในอนาคต
    - Google จะ ปรับปรุงระบบสำรองไฟ เพื่อให้สามารถกู้คืนได้เร็วขึ้น
    - มีการตรวจสอบ ระบบ failover เพื่อปิดช่องโหว่ที่ทำให้เกิดปัญหา
    - Google จะทำงานร่วมกับ ผู้ผลิต UPS เพื่อแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่อธุรกิจที่ใช้ Google Cloud
    - บริษัทที่พึ่งพา Google Cloud อาจต้องพิจารณา กลยุทธ์สำรองข้อมูล เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ลักษณะนี้

    ℹ️ ความเสี่ยงของระบบสำรองไฟ
    - แม้ UPS จะถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไฟฟ้าดับ แต่ ความล้มเหลวของแบตเตอรี่ อาจทำให้ระบบล่มได้
    - ควรมี ระบบสำรองเพิ่มเติม เช่น การใช้ multi-zone redundancy

    ℹ️ แนวโน้มของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์
    - บริษัทเทคโนโลยีอาจต้องลงทุนใน ระบบสำรองไฟที่มีความเสถียรสูงขึ้น
    - อาจมีการพัฒนา AI-based monitoring เพื่อช่วยตรวจจับปัญหาก่อนเกิดเหตุ

    https://www.neowin.net/news/googles-uninterruptible-power-supply-ironically-interrupted-cloud-with-a-six-hour-outage/
    Google Cloud ประสบปัญหา ไฟฟ้าขัดข้อง ส่งผลให้เกิด ระบบล่มนานกว่า 6 ชั่วโมง ในศูนย์ข้อมูล us-east5-c ที่ตั้งอยู่ใน Columbus, Ohio โดยสาเหตุหลักมาจาก ความล้มเหลวของระบบสำรองไฟ (UPS) ซึ่งควรจะช่วยรักษาการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ในกรณีที่ไฟฟ้าหลักดับ ✅ ไฟฟ้าขัดข้องทำให้ระบบล่มในศูนย์ข้อมูลของ Google Cloud - เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2025 และกินเวลานาน 6 ชั่วโมง 10 นาที - ศูนย์ข้อมูลที่ได้รับผลกระทบใช้ AMD EPYC และ Intel Xeon processors ✅ สาเหตุของปัญหา - ระบบสำรองไฟ UPS ควรจะช่วยรักษาการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ แต่เกิด ความล้มเหลวของแบตเตอรี่ - ส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ในโซน us-east5-c ดับลง และเกิด packet loss ในเครือข่าย ✅ ผลกระทบต่อบริการของ Google Cloud - ลูกค้าหลายรายพบว่า VM instances ในโซนนี้ไม่สามารถใช้งานได้ - มี ดิสก์บางส่วน ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในช่วงที่เกิดเหตุ ✅ การแก้ไขปัญหา - วิศวกรของ Google เปลี่ยนเส้นทางทราฟฟิก ไปยังโซนอื่นเพื่อลดผลกระทบ - ระบบถูกกู้คืนโดยใช้ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และกลับมาออนไลน์เมื่อเวลา 14:49 น. ตามเวลาสหรัฐฯ แปซิฟิก ✅ มาตรการป้องกันในอนาคต - Google จะ ปรับปรุงระบบสำรองไฟ เพื่อให้สามารถกู้คืนได้เร็วขึ้น - มีการตรวจสอบ ระบบ failover เพื่อปิดช่องโหว่ที่ทำให้เกิดปัญหา - Google จะทำงานร่วมกับ ผู้ผลิต UPS เพื่อแก้ไขปัญหาแบตเตอรี่ ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่อธุรกิจที่ใช้ Google Cloud - บริษัทที่พึ่งพา Google Cloud อาจต้องพิจารณา กลยุทธ์สำรองข้อมูล เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ ℹ️ ความเสี่ยงของระบบสำรองไฟ - แม้ UPS จะถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไฟฟ้าดับ แต่ ความล้มเหลวของแบตเตอรี่ อาจทำให้ระบบล่มได้ - ควรมี ระบบสำรองเพิ่มเติม เช่น การใช้ multi-zone redundancy ℹ️ แนวโน้มของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ - บริษัทเทคโนโลยีอาจต้องลงทุนใน ระบบสำรองไฟที่มีความเสถียรสูงขึ้น - อาจมีการพัฒนา AI-based monitoring เพื่อช่วยตรวจจับปัญหาก่อนเกิดเหตุ https://www.neowin.net/news/googles-uninterruptible-power-supply-ironically-interrupted-cloud-with-a-six-hour-outage/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google's 'uninterruptible' power supply ironically interrupted Cloud with a six hour outage
    Google Cloud was hit with a six-hour-long outage at the end of the last month when its uninterruptible power supply system failed.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพระแก่หลังหลวงพ่อเลียบ วัดก้างปลา จ.นครศรีธรรมราช ปี2536
    เหรียญพระแก่หลังหลวงพ่อเลียบ วัดก้างปลา ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ปี2536 //“ขอได้ ไหว้รับ” แม่แก่ หรือ พระแก่ หรือ หลวงพ่อแก่ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ อายุกว่า 700ปี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    **** พุทธคุณ “ขอได้ ไหว้รับ” เมตตามหานิยม โชคลาภและแคล้วคลาด เสริมศิริมงคล ทำมาหากินรุ่งเรือง มีแต่ความร่ำรวย ประกอบธุรกิจ เงินๆทองๆ จะเจริญขึ้น มีเงินใหลมาเทมา การงานรับราชการ จะได้เลื่อนตำแหน่ง คุ้มครองป้องกัน แคล้วคลาดปลอดภัย >>

    ** ที่เรียกกันไปหลายชื่อก็เพราะสาเหตุดังนี้
    ** แม่แก่ เรียกตามสมัยโบราณ เพราะเมื่อมีคนบนบานศาลกล่าวขอพรเมื่อได้สำเร็จสมตามปรารถนาก็เรียกตามความ รู้สึกของตนด้วยความเคารพ ว่าแม่แก่ ( แม่เฒ่า )เพราะอยู่มานานไม่มีใครรู้จักชื่อ

    ** พระแก่ เรียกว่าพระแก่เพราะนั้นเพราะชาวบ้านมีความรู้สึกว่าท่านเป็นผู้ทรงศีลทรง ธรรมมีความบริสุทธิ์เช่นเดียวกับพระ เป็นที่พึ่งได้ในยามเขามีทุกข์ จึงเรียกว่าพระแก่

    ** หลวงพ่อแก่ ที่เรียกว่าหลวงพ่อแก่นั้นเป็นชื่อที่เรียกกันในสมัยที่พระครูวิฑิตธรรมโสภณ ( มหาเลียบ ฐิตธมฺโม ) อดีตเจ้าอาวาสชึ่งเป็นพระที่เก่งในทางไสยศาสตร์วิชาอาคมมีคนมาสักการะท่าน มากและก็ถามถึงเรื่องพระแก่ แม่แก่ ท่านจึงสร้างวิหารและเขียนไว้ที่หน้าวิหารว่า วิหารหลวงพ่อแก่ เพื่อให้เป็นสากลเพราะเป็นชื่อที่เรียกง่ายและเป็นคำพูดที่ไพเราะ คนสมัยปัจจุบันจึงเรียกว่า หลวงพ่อแก่ กันทั่วหน้า
    ของแก้บนในสมัยก่อน ใช้เผือก มัน กล้วย ปิดทอง ถ้าบนหนัก ๆ และสำเร็จส่วนใหญ่ก็จะเป็นมโนราห์ ปิดทอง สตางค์ใส่ตู้
    ปัจจุบันของแก้บน ประทัด บนบวช >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระแก่หลังหลวงพ่อเลียบ วัดก้างปลา จ.นครศรีธรรมราช ปี2536 เหรียญพระแก่หลังหลวงพ่อเลียบ วัดก้างปลา ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ปี2536 //“ขอได้ ไหว้รับ” แม่แก่ หรือ พระแก่ หรือ หลวงพ่อแก่ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ อายุกว่า 700ปี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> **** พุทธคุณ “ขอได้ ไหว้รับ” เมตตามหานิยม โชคลาภและแคล้วคลาด เสริมศิริมงคล ทำมาหากินรุ่งเรือง มีแต่ความร่ำรวย ประกอบธุรกิจ เงินๆทองๆ จะเจริญขึ้น มีเงินใหลมาเทมา การงานรับราชการ จะได้เลื่อนตำแหน่ง คุ้มครองป้องกัน แคล้วคลาดปลอดภัย >> ** ที่เรียกกันไปหลายชื่อก็เพราะสาเหตุดังนี้ ** แม่แก่ เรียกตามสมัยโบราณ เพราะเมื่อมีคนบนบานศาลกล่าวขอพรเมื่อได้สำเร็จสมตามปรารถนาก็เรียกตามความ รู้สึกของตนด้วยความเคารพ ว่าแม่แก่ ( แม่เฒ่า )เพราะอยู่มานานไม่มีใครรู้จักชื่อ ** พระแก่ เรียกว่าพระแก่เพราะนั้นเพราะชาวบ้านมีความรู้สึกว่าท่านเป็นผู้ทรงศีลทรง ธรรมมีความบริสุทธิ์เช่นเดียวกับพระ เป็นที่พึ่งได้ในยามเขามีทุกข์ จึงเรียกว่าพระแก่ ** หลวงพ่อแก่ ที่เรียกว่าหลวงพ่อแก่นั้นเป็นชื่อที่เรียกกันในสมัยที่พระครูวิฑิตธรรมโสภณ ( มหาเลียบ ฐิตธมฺโม ) อดีตเจ้าอาวาสชึ่งเป็นพระที่เก่งในทางไสยศาสตร์วิชาอาคมมีคนมาสักการะท่าน มากและก็ถามถึงเรื่องพระแก่ แม่แก่ ท่านจึงสร้างวิหารและเขียนไว้ที่หน้าวิหารว่า วิหารหลวงพ่อแก่ เพื่อให้เป็นสากลเพราะเป็นชื่อที่เรียกง่ายและเป็นคำพูดที่ไพเราะ คนสมัยปัจจุบันจึงเรียกว่า หลวงพ่อแก่ กันทั่วหน้า ของแก้บนในสมัยก่อน ใช้เผือก มัน กล้วย ปิดทอง ถ้าบนหนัก ๆ และสำเร็จส่วนใหญ่ก็จะเป็นมโนราห์ ปิดทอง สตางค์ใส่ตู้ ปัจจุบันของแก้บน ประทัด บนบวช >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌊 113 ปี “เรือไททานิค” ล่ม! 🚢 โศกนาฏกรรมกลางมหาสมุทรจาก “ความประมาท” ไม่ใช่ภัยธรรมชาติ ปิดตำนาน "เรือที่ไม่มีวันจม

    💡 ย้อนรอยโศกนาฏกรรม "RMS Titanic" ความทรงจำล่มกลางมหาสมุทร จาก "เรือที่ไม่มีวันจม" สู่บทเรียนครั้งใหญ่ของโลก ✍️

    📌 เรือไททานิคที่ถูกขนานนามว่า “เรือที่ไม่มีวันจม” ได้กลายเป็นโศกนาฏกรรมทางมหาสมุทร ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 ศพ จะพาย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ในคืนนั้น พร้อมไขทุกข้อเท็จจริง ที่ถูกซ่อนไว้ ทั้งเรื่องความประมาท การจัดการผิดพลาด และผลกระทบต่อโลกใบนี้จนถึงทุกวันนี้ 🔗

    🧭 จากความยิ่งใหญ่ สู่ความอับปางกลางมหาสมุทร ในโลกนี้มีเรื่องเล่ามากมาย เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ "มนุษย์" สร้างขึ้นด้วยความมั่นใจสุดขีดว่า "ไม่มีทางพัง" และในบรรดาเรื่องราวเหล่านั้น "ไททานิค" คือหนึ่งในตำนาน ที่ยังคงตราตรึงใจผู้คนทั่วโลก แม้ผ่านมาแล้ว 113 ปี

    "เรือที่ไม่มีวันจม" กลายเป็น ซากใต้น้ำลึกกว่า 3,800 เมตร ภายในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง หลังจากชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง กลางมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ 💥

    คำถามที่ยังคงหลอกหลอนประวัติศาสตร์คือ... เรือใหญ่ขนาดนี้จมได้ยังไง? เป็นเพราะโชคร้าย หรือเป็นเพราะความประมาท?

    🚢 "ไททานิค" สุดยอดเรือเดินสมุทรที่โลกเคยรู้จัก จุดเริ่มต้นของความทะเยอทะยาน "อาร์เอ็มเอส ไททานิค" (RMS Titanic ) สร้างโดยบริษัท Harland and Wolff ในเมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ และเป็นเรือของสายการเดินเรือ White Star Line เปิดตัวในปี 1912 ด้วยความตั้งใจให้เป็นเรือเดินสมุทรที่ "หรูหราและปลอดภัยที่สุดในโลก" ✨

    เรือมีความยาวถึง 882.5 ฟุต หรือประมาณ 269 เมตร น้ำหนักมากกว่า 46,000 ตัน และสามารถรองรับผู้โดยสาร และลูกเรือได้ถึง 3,547 คน

    ✅ เครื่องยนต์ใหญ่ที่สุดในยุคนั้น สูงกว่า 4 ชั้น

    ✅ ระบบผนังกันน้ำในห้องใต้ท้องเรือ

    ✅ ระบบขับเคลื่อนด้วยกังหัน และใบจักรขนาดยักษ์

    ✅ ห้องโดยสารเฟิร์สต์คลาส หรูหราระดับพระราชวัง

    ✅ มีห้องอ่านหนังสือ, ห้องยิม, ร้านตัดผม, ห้องอาบน้ำตุรกี และลิฟต์ไฟฟ้า

    🛳️ แต่สิ่งที่ผู้คนจดจำ ไม่ใช่ความอลังการ แต่คือ "จุดจบ" ของไททานิค…

    🧊 ชนกับภูเขาน้ำแข็ง จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์

    🚨 คำเตือนที่ถูกมองข้าม ตลอดวันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2455 ไททานิคได้รับ 6 คำเตือน เรื่องภูเขาน้ำแข็งลอยทะเล จากเรือลำอื่น

    แต่คำเตือนเหล่านั้น...
    ❌ บางข้อความไม่ได้ถูกส่งถึงกัปตัน
    ❌ บางข้อความถูกพนักงานวิทยุละเลย เพราะมัวส่งข้อความส่วนตัวของผู้โดยสาร
    ❌ ความเร็วของเรือยังคงอยู่ที่ 22 นอต หรือ 41 กม./ชม. ใกล้ความเร็วสูงสุดที่ 24 นอต

    “แล่นไปข้างหน้า และไว้ใจคนเฝ้าระวัง” แนวคิดของการเดินเรือในยุคนั้น

    🕰️ 23.40 น. คืนวันอาทิตย์ เวลาแห่งหายนะ เมื่อพนักงานเฝ้าระวังเห็นภูเขาน้ำแข็ง ก็สายเกินไปแล้ว... ต้นเรือสั่ง "หักหลบขวาเต็มที่ และถอยเครื่อง" แต่กลไกเรือ และขนาดของไททานิค ทำให้ไม่ทัน ⛔️

    เรือไถลเฉี่ยวภูเขาน้ำแข็งทางกราบขวา ก่อให้เกิดรอยรั่วใน 5 ห้องใต้ท้องเรือ ทั้งที่ไททานิครองรับน้ำได้เพียง 4 ห้องเท่านั้น! 😨

    🧱 ความผิดพลาดในการออกแบบ และการตัดสินใจ 📉 ผนังกันน้ำที่ "ไม่กันจริง" แม้มีห้องผนังกั้นน้ำ 16 ห้อง แต่ผนังสูงไม่พอ เมื่อห้องแรกเต็ม น้ำก็ไหลล้นไปห้องต่อไป… 📌 คล้ายกับน้ำในถาดน้ำแข็งเมื่อเอียง ค่อย ๆ ล้นทีละช่อง

    🪓 เหล็กและหมุดตอกตัวเรือ การวิจัยพบว่า เหล็กที่ใช้ในบางจุดเปราะแตกง่าย หมุดบางตัวไม่ได้มาตรฐาน แผ่นเหล็กในบริเวณหัวเรือ หลุดออกเมื่อชน ทำให้น้ำทะลัก

    🆘 เรือชูชีพไม่พอ การอพยพที่โกลาหล 🚤 เรือลำใหญ่แต่เรือชูชีพมีแค่ 20 ลำ ไททานิคออกแบบให้ติดตั้งเรือชูชีพได้ถึง 68 ลำ แต่เพื่อความ “สวยงาม” ของดาดฟ้า ผู้บริหารสั่งให้ติดแค่ 20 ลำ รองรับคนได้เพียง 1,178 คน จาก 2,224 คน ทั้งที่ต้นทุนเรือชูชีพ แค่เศษเสี้ยวของมูลค่าทั้งเรือ!

    💔 การอพยพที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ บางลำปล่อยทั้งที่ยังไม่เต็มคน ผู้โดยสารชั้นสามเข้าไม่ถึงจุดรวมพล เจ้าหน้าที่ไม่มีการฝึกซ้อมมาก่อน ผู้หญิงและเด็กบางคน ไม่ได้รับแจ้งว่าควรขึ้นเรือชูชีพ และ... หลายคน “ปฏิเสธ” ที่จะลงเรือ เพราะไม่เชื่อว่าเรือจะจมจริง 😔

    ❄️ น้ำเย็น = ความตายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 🌡️ อุณหภูมิน้ำทะเลในคืนนั้นคือ -2°C ภายในไม่กี่นาทีหลังจากตกน้ำ ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะ Hypothermia กล้ามเนื้อหยุดทำงาน หัวใจเต้นช้าลง หมดสติและเสียชีวิตภายใน 15-20 นาที เสียงกรีดร้องของผู้คนค่อย ๆ เบาลง… จนกระทั่ง เงียบสงัด 🕯️

    🧑‍✈️ เสียงจากผู้รอดชีวิต เรื่องเล่าจากคืนที่โลกเปลี่ยนไป แม้จะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,500 คน แต่ยังมีผู้รอดชีวิตราว 700 คน ที่รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ หลายคนได้ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมา พร้อมเล่าประสบการณ์ตรงสุดสะเทือนใจ...

    “การตกลงไปในน้ำเย็น มันเหมือนถูกมีดนับพันเล่มแทงเข้าใส่” : "ชาร์ล ไลท์โทลเลอร์" (Charles Lightoller) ผู้ช่วยต้นเรือคนที่ 2

    บางคนรอดเพราะโชคช่วย บางคนรอดเพราะสัญชาตญาณ แต่...คนส่วนใหญ่รอดเพราะอยู่ในชั้นหนึ่ง ซึ่งเข้าถึงเรือชูชีพได้ก่อน 😢

    ⚖️ ความเหลื่อมล้ำที่ฆ่าคน เด็กและผู้หญิงชั้นหนึ่ง รอดมากกว่า 90% เด็กชั้นสาม เสียชีวิตมากกว่า 66% ผู้ชายชั้นสอง เสียชีวิตถึง 92% ลูกเรือเกือบ 80% เสียชีวิต

    🚸 มีแม้กระทั่งแม่ชาวไอริชที่เล่านิทานให้ลูกฟัง ก่อนจะจมน้ำไปพร้อมกันทั้งครอบครัว

    🎬 Titanic (2540) จากเรือที่จม สู่หนังที่ตราตรึง แม้โศกนาฏกรรมจะผ่านไปกว่าศตวรรษ แต่ชื่อ "Titanic" กลับดังขึ้นอีกครั้งในปี 2540 จากภาพยนตร์โดย "เจมส์ คาเมรอน" (James Cameron) ที่ทำให้โลกทั้งใบสะเทือนใจ 😭🌍

    🎥 หนังทำรายได้ทะลุ 1.8 พันล้านเหรียญ คว้า 11 รางวัลออสการ์ รวมทั้ง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยม เพลงประกอบ "My Heart Will Go On" กลายเป็นตำนาน ผู้ชมจดจำฉาก “I'm the king of the world!” และ “You jump, I jump” อย่างไม่มีวันลืม

    🤔 ความจริงกับสิ่งแต่งเติม เรือไททานิคล่มเวลา 02.20 น. ของเช้าตรู่วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2455 ตัวละครแจ็ค ดอว์สัน ไม่มีอยู่จริง มีคู่สามีภรรยานอนกอดกันในห้อง โรสเป็นการรวมคาแรกเตอร์จากหลายบุคคล พ่อครัว Charles Joughin รอดจากการจมน้ำ ฉากโรแมนติกบนกระดานไม้ ถูกสร้างเพิ่ม

    🤯 จริง ๆ แล้วภาพวาดโรส "สวมแต่สร้อย" นั้น "เจมส์ คาเมรอน" เป็นคนวาดเอง!

    🕵️‍♂️ 25 เกร็ดลับเบื้องหลังหนัง Titanic ที่อาจไม่เคยรู้

    1. ภาพวาดโรส เป็นฝีมือของเจมส์ คาเมรอน ✍️
    2. ฉากที่โรสถ่มน้ำลายใส่คาล...เคต วินสเล็ต ด้นสดเอง 😆
    3. น้ำที่ใช้ถ่ายฉากท้ายเรื่อง เย็นจนทำให้นักแสดงป่วย Hypothermia ❄️
    4. พรมในหนัง ทอจากโรงงานเดียวกับพรมเรือจริง 🧶
    5. ฉากบันไดหลักถ่ายได้เพียงครั้งเดียว 💦
    6. ฉากเด็กเล่นลูกข่าง อ้างอิงจากภาพถ่ายจริง 👦🏻
    4. แจ็คพูดว่า "น้ำเย็นเหมือนโดนแทงด้วยมีดพันเล่ม" มาจากคำบอกเล่าจริงของผู้รอดชีวิต
    8. รถเรโนลต์ในหนังคือรถจริงที่อยู่บนไททานิค 🚗
    9. หมาของโรสพันธุ์พอเมอเรเนียน — รอดจริงในเหตุการณ์ 🐶
    10. มีดพับของฟาบริซิโอใช้ตัดเชือกเรือชูชีพจริง 🗡️
    11. มาดอนนา เคยเกือบได้เล่นเป็นโรส
    12. พ่อครัวที่เมาเหล้ารอดชีวิตเพราะ “แอลกอฮอล์” 🔥
    13. ดวงดาวบนฟ้าผิด คาเมรอนจึงแก้ไขในเวอร์ชัน 3D 🌌
    14. กล้อง Close-Up มือที่วาดโรส คือมือของคาเมรอนเอง
    15. กลับซ้ายเป็นขวาในฉากเรือออกจากท่า 🔄
    16. โรสขี่ม้าที่ซานตาโมนิกา ตามสัญญาของแจ็ค 🐎
    17. มีการใช้คาเวียร์ของจริงในการถ่ายฉากดินเนอร์ 🥂
    18. เสื้อโค้ตของเคต วินสเล็ตเคยติดประตูเกือบจมน้ำ
    19. ซากเรือจริงในหนัง คาเมรอนดำน้ำไปถ่ายเอง 🛥️
    20. แจ็คพูดถึงทะเลสาบที่ยังไม่สร้างตอนปี 2455 ❌
    21. ปล่องไฟที่ 4 ของเรือ ไม่มีควันเพราะไม่ต่อกับเตาไฟ
    22. เรือพับได้ในหนังมีจริง และถูกใช้จริง
    23. ชุดที่โรสใส่ขณะหนีไฟไหม้ ทำซ้ำกว่า 30 ชุด
    24. ทรายใต้กระดานไม้ฉากสุดท้าย เป็นทรายจริง
    25. แฟนหนังจำนวนมากไปเยี่ยม “หลุมศพ J. Dawson” จริง 🪦

    📜 มรดกจากโศกนาฏกรรม บทเรียนราคาแพง 🚢 SOLAS กฎแห่งท้องทะเล หลังโศกนาฏกรรมไททานิค โลกทั้งใบตื่นรู้ว่า "ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ" และได้นำไปสู่การจัดตั้ง อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล (SOLAS) ปี 2457

    SOLAS กำหนดให้เรือทุกลำต้องมีเรือชูชีพเพียงพอ ระบบวิทยุต้องเปิดตลอด 24 ชั่วโมง มีการซ้อมหนีภัยจริงจัง ปรับปรุงการออกแบบเรือให้รัดกุมยิ่งขึ้น

    ✨ 113 ปี แห่งการเตือนใจ เรือไททานิคคือเครื่องเตือนใจของโลก ว่า “ความมั่นใจมากเกินไป” นั้นอันตราย “ความประมาท” สามารถพรากชีวิตผู้คนได้เกินพัน ภายในไม่กี่ชั่วโมง แม้จะใช้เทคโนโลยีล้ำหน้า แต่หากไร้การวางแผน และความระมัดระวัง ก็อาจนำสู่หายนะ ไททานิคจม แต่บทเรียน… ยังคงลอยอยู่เหนือผิวน้ำเสมอ

    📌 เรื่องราวของไททานิค ไม่ใช่เพียงตำนานเรือใหญ่ล่ม แต่คือสัญลักษณ์ของ “ความมั่นใจเกินขีดจำกัด” ของมนุษย์ ที่นำมาซึ่งโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ความประมาท ความละเลย และระบบที่ไม่พร้อม คือสาเหตุหลักของการสูญเสียชีวิตนับพัน ในเช้าตรู่วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2455 และยังคงเตือนใจมนุษย์ในทุกยุคว่า “ไม่มีสิ่งใดในโลกที่ไม่มีวันจม” 🌊🕯️

    🔚 เมื่อ “ไม่มีวันจม” กลายเป็น “จมจริง” 🚢 จุดจบของเรือที่เคยถูกยกย่องว่า “ไม่มีวันจม”

    ...แต่คือจุดเริ่มต้นของกฎหมายความปลอดภัยทางทะเล ที่ช่วยชีวิตผู้คนนับล้านในศตวรรษต่อมา 🌍

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 151322 เม.ย. 2568

    📲 #ไททานิค #Titanic #เรือไททานิคล่ม #เรื่องจริงไททานิค #แจ็คโรส #โศกนาฏกรรมไททานิค #TitanicFacts #ไททานิค113ปี #หนังTitanic #MyHeartWillGoOn

    🌊 113 ปี “เรือไททานิค” ล่ม! 🚢 โศกนาฏกรรมกลางมหาสมุทรจาก “ความประมาท” ไม่ใช่ภัยธรรมชาติ ปิดตำนาน "เรือที่ไม่มีวันจม 💡 ย้อนรอยโศกนาฏกรรม "RMS Titanic" ความทรงจำล่มกลางมหาสมุทร จาก "เรือที่ไม่มีวันจม" สู่บทเรียนครั้งใหญ่ของโลก ✍️ 📌 เรือไททานิคที่ถูกขนานนามว่า “เรือที่ไม่มีวันจม” ได้กลายเป็นโศกนาฏกรรมทางมหาสมุทร ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 ศพ จะพาย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ในคืนนั้น พร้อมไขทุกข้อเท็จจริง ที่ถูกซ่อนไว้ ทั้งเรื่องความประมาท การจัดการผิดพลาด และผลกระทบต่อโลกใบนี้จนถึงทุกวันนี้ 🔗 🧭 จากความยิ่งใหญ่ สู่ความอับปางกลางมหาสมุทร ในโลกนี้มีเรื่องเล่ามากมาย เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ "มนุษย์" สร้างขึ้นด้วยความมั่นใจสุดขีดว่า "ไม่มีทางพัง" และในบรรดาเรื่องราวเหล่านั้น "ไททานิค" คือหนึ่งในตำนาน ที่ยังคงตราตรึงใจผู้คนทั่วโลก แม้ผ่านมาแล้ว 113 ปี "เรือที่ไม่มีวันจม" กลายเป็น ซากใต้น้ำลึกกว่า 3,800 เมตร ภายในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง หลังจากชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง กลางมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ 💥 คำถามที่ยังคงหลอกหลอนประวัติศาสตร์คือ... เรือใหญ่ขนาดนี้จมได้ยังไง? เป็นเพราะโชคร้าย หรือเป็นเพราะความประมาท? 🚢 "ไททานิค" สุดยอดเรือเดินสมุทรที่โลกเคยรู้จัก จุดเริ่มต้นของความทะเยอทะยาน "อาร์เอ็มเอส ไททานิค" (RMS Titanic ) สร้างโดยบริษัท Harland and Wolff ในเมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ และเป็นเรือของสายการเดินเรือ White Star Line เปิดตัวในปี 1912 ด้วยความตั้งใจให้เป็นเรือเดินสมุทรที่ "หรูหราและปลอดภัยที่สุดในโลก" ✨ เรือมีความยาวถึง 882.5 ฟุต หรือประมาณ 269 เมตร น้ำหนักมากกว่า 46,000 ตัน และสามารถรองรับผู้โดยสาร และลูกเรือได้ถึง 3,547 คน ✅ เครื่องยนต์ใหญ่ที่สุดในยุคนั้น สูงกว่า 4 ชั้น ✅ ระบบผนังกันน้ำในห้องใต้ท้องเรือ ✅ ระบบขับเคลื่อนด้วยกังหัน และใบจักรขนาดยักษ์ ✅ ห้องโดยสารเฟิร์สต์คลาส หรูหราระดับพระราชวัง ✅ มีห้องอ่านหนังสือ, ห้องยิม, ร้านตัดผม, ห้องอาบน้ำตุรกี และลิฟต์ไฟฟ้า 🛳️ แต่สิ่งที่ผู้คนจดจำ ไม่ใช่ความอลังการ แต่คือ "จุดจบ" ของไททานิค… 🧊 ชนกับภูเขาน้ำแข็ง จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์ 🚨 คำเตือนที่ถูกมองข้าม ตลอดวันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2455 ไททานิคได้รับ 6 คำเตือน เรื่องภูเขาน้ำแข็งลอยทะเล จากเรือลำอื่น แต่คำเตือนเหล่านั้น... ❌ บางข้อความไม่ได้ถูกส่งถึงกัปตัน ❌ บางข้อความถูกพนักงานวิทยุละเลย เพราะมัวส่งข้อความส่วนตัวของผู้โดยสาร ❌ ความเร็วของเรือยังคงอยู่ที่ 22 นอต หรือ 41 กม./ชม. ใกล้ความเร็วสูงสุดที่ 24 นอต “แล่นไปข้างหน้า และไว้ใจคนเฝ้าระวัง” แนวคิดของการเดินเรือในยุคนั้น 🕰️ 23.40 น. คืนวันอาทิตย์ เวลาแห่งหายนะ เมื่อพนักงานเฝ้าระวังเห็นภูเขาน้ำแข็ง ก็สายเกินไปแล้ว... ต้นเรือสั่ง "หักหลบขวาเต็มที่ และถอยเครื่อง" แต่กลไกเรือ และขนาดของไททานิค ทำให้ไม่ทัน ⛔️ เรือไถลเฉี่ยวภูเขาน้ำแข็งทางกราบขวา ก่อให้เกิดรอยรั่วใน 5 ห้องใต้ท้องเรือ ทั้งที่ไททานิครองรับน้ำได้เพียง 4 ห้องเท่านั้น! 😨 🧱 ความผิดพลาดในการออกแบบ และการตัดสินใจ 📉 ผนังกันน้ำที่ "ไม่กันจริง" แม้มีห้องผนังกั้นน้ำ 16 ห้อง แต่ผนังสูงไม่พอ เมื่อห้องแรกเต็ม น้ำก็ไหลล้นไปห้องต่อไป… 📌 คล้ายกับน้ำในถาดน้ำแข็งเมื่อเอียง ค่อย ๆ ล้นทีละช่อง 🪓 เหล็กและหมุดตอกตัวเรือ การวิจัยพบว่า เหล็กที่ใช้ในบางจุดเปราะแตกง่าย หมุดบางตัวไม่ได้มาตรฐาน แผ่นเหล็กในบริเวณหัวเรือ หลุดออกเมื่อชน ทำให้น้ำทะลัก 🆘 เรือชูชีพไม่พอ การอพยพที่โกลาหล 🚤 เรือลำใหญ่แต่เรือชูชีพมีแค่ 20 ลำ ไททานิคออกแบบให้ติดตั้งเรือชูชีพได้ถึง 68 ลำ แต่เพื่อความ “สวยงาม” ของดาดฟ้า ผู้บริหารสั่งให้ติดแค่ 20 ลำ รองรับคนได้เพียง 1,178 คน จาก 2,224 คน ทั้งที่ต้นทุนเรือชูชีพ แค่เศษเสี้ยวของมูลค่าทั้งเรือ! 💔 การอพยพที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ บางลำปล่อยทั้งที่ยังไม่เต็มคน ผู้โดยสารชั้นสามเข้าไม่ถึงจุดรวมพล เจ้าหน้าที่ไม่มีการฝึกซ้อมมาก่อน ผู้หญิงและเด็กบางคน ไม่ได้รับแจ้งว่าควรขึ้นเรือชูชีพ และ... หลายคน “ปฏิเสธ” ที่จะลงเรือ เพราะไม่เชื่อว่าเรือจะจมจริง 😔 ❄️ น้ำเย็น = ความตายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 🌡️ อุณหภูมิน้ำทะเลในคืนนั้นคือ -2°C ภายในไม่กี่นาทีหลังจากตกน้ำ ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะ Hypothermia กล้ามเนื้อหยุดทำงาน หัวใจเต้นช้าลง หมดสติและเสียชีวิตภายใน 15-20 นาที เสียงกรีดร้องของผู้คนค่อย ๆ เบาลง… จนกระทั่ง เงียบสงัด 🕯️ 🧑‍✈️ เสียงจากผู้รอดชีวิต เรื่องเล่าจากคืนที่โลกเปลี่ยนไป แม้จะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,500 คน แต่ยังมีผู้รอดชีวิตราว 700 คน ที่รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ หลายคนได้ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมา พร้อมเล่าประสบการณ์ตรงสุดสะเทือนใจ... “การตกลงไปในน้ำเย็น มันเหมือนถูกมีดนับพันเล่มแทงเข้าใส่” : "ชาร์ล ไลท์โทลเลอร์" (Charles Lightoller) ผู้ช่วยต้นเรือคนที่ 2 บางคนรอดเพราะโชคช่วย บางคนรอดเพราะสัญชาตญาณ แต่...คนส่วนใหญ่รอดเพราะอยู่ในชั้นหนึ่ง ซึ่งเข้าถึงเรือชูชีพได้ก่อน 😢 ⚖️ ความเหลื่อมล้ำที่ฆ่าคน เด็กและผู้หญิงชั้นหนึ่ง รอดมากกว่า 90% เด็กชั้นสาม เสียชีวิตมากกว่า 66% ผู้ชายชั้นสอง เสียชีวิตถึง 92% ลูกเรือเกือบ 80% เสียชีวิต 🚸 มีแม้กระทั่งแม่ชาวไอริชที่เล่านิทานให้ลูกฟัง ก่อนจะจมน้ำไปพร้อมกันทั้งครอบครัว 🎬 Titanic (2540) จากเรือที่จม สู่หนังที่ตราตรึง แม้โศกนาฏกรรมจะผ่านไปกว่าศตวรรษ แต่ชื่อ "Titanic" กลับดังขึ้นอีกครั้งในปี 2540 จากภาพยนตร์โดย "เจมส์ คาเมรอน" (James Cameron) ที่ทำให้โลกทั้งใบสะเทือนใจ 😭🌍 🎥 หนังทำรายได้ทะลุ 1.8 พันล้านเหรียญ คว้า 11 รางวัลออสการ์ รวมทั้ง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยม เพลงประกอบ "My Heart Will Go On" กลายเป็นตำนาน ผู้ชมจดจำฉาก “I'm the king of the world!” และ “You jump, I jump” อย่างไม่มีวันลืม 🤔 ความจริงกับสิ่งแต่งเติม เรือไททานิคล่มเวลา 02.20 น. ของเช้าตรู่วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2455 ตัวละครแจ็ค ดอว์สัน ไม่มีอยู่จริง มีคู่สามีภรรยานอนกอดกันในห้อง โรสเป็นการรวมคาแรกเตอร์จากหลายบุคคล พ่อครัว Charles Joughin รอดจากการจมน้ำ ฉากโรแมนติกบนกระดานไม้ ถูกสร้างเพิ่ม 🤯 จริง ๆ แล้วภาพวาดโรส "สวมแต่สร้อย" นั้น "เจมส์ คาเมรอน" เป็นคนวาดเอง! 🕵️‍♂️ 25 เกร็ดลับเบื้องหลังหนัง Titanic ที่อาจไม่เคยรู้ 1. ภาพวาดโรส เป็นฝีมือของเจมส์ คาเมรอน ✍️ 2. ฉากที่โรสถ่มน้ำลายใส่คาล...เคต วินสเล็ต ด้นสดเอง 😆 3. น้ำที่ใช้ถ่ายฉากท้ายเรื่อง เย็นจนทำให้นักแสดงป่วย Hypothermia ❄️ 4. พรมในหนัง ทอจากโรงงานเดียวกับพรมเรือจริง 🧶 5. ฉากบันไดหลักถ่ายได้เพียงครั้งเดียว 💦 6. ฉากเด็กเล่นลูกข่าง อ้างอิงจากภาพถ่ายจริง 👦🏻 4. แจ็คพูดว่า "น้ำเย็นเหมือนโดนแทงด้วยมีดพันเล่ม" มาจากคำบอกเล่าจริงของผู้รอดชีวิต 8. รถเรโนลต์ในหนังคือรถจริงที่อยู่บนไททานิค 🚗 9. หมาของโรสพันธุ์พอเมอเรเนียน — รอดจริงในเหตุการณ์ 🐶 10. มีดพับของฟาบริซิโอใช้ตัดเชือกเรือชูชีพจริง 🗡️ 11. มาดอนนา เคยเกือบได้เล่นเป็นโรส 12. พ่อครัวที่เมาเหล้ารอดชีวิตเพราะ “แอลกอฮอล์” 🔥 13. ดวงดาวบนฟ้าผิด คาเมรอนจึงแก้ไขในเวอร์ชัน 3D 🌌 14. กล้อง Close-Up มือที่วาดโรส คือมือของคาเมรอนเอง 15. กลับซ้ายเป็นขวาในฉากเรือออกจากท่า 🔄 16. โรสขี่ม้าที่ซานตาโมนิกา ตามสัญญาของแจ็ค 🐎 17. มีการใช้คาเวียร์ของจริงในการถ่ายฉากดินเนอร์ 🥂 18. เสื้อโค้ตของเคต วินสเล็ตเคยติดประตูเกือบจมน้ำ 19. ซากเรือจริงในหนัง คาเมรอนดำน้ำไปถ่ายเอง 🛥️ 20. แจ็คพูดถึงทะเลสาบที่ยังไม่สร้างตอนปี 2455 ❌ 21. ปล่องไฟที่ 4 ของเรือ ไม่มีควันเพราะไม่ต่อกับเตาไฟ 22. เรือพับได้ในหนังมีจริง และถูกใช้จริง 23. ชุดที่โรสใส่ขณะหนีไฟไหม้ ทำซ้ำกว่า 30 ชุด 24. ทรายใต้กระดานไม้ฉากสุดท้าย เป็นทรายจริง 25. แฟนหนังจำนวนมากไปเยี่ยม “หลุมศพ J. Dawson” จริง 🪦 📜 มรดกจากโศกนาฏกรรม บทเรียนราคาแพง 🚢 SOLAS กฎแห่งท้องทะเล หลังโศกนาฏกรรมไททานิค โลกทั้งใบตื่นรู้ว่า "ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ" และได้นำไปสู่การจัดตั้ง อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล (SOLAS) ปี 2457 SOLAS กำหนดให้เรือทุกลำต้องมีเรือชูชีพเพียงพอ ระบบวิทยุต้องเปิดตลอด 24 ชั่วโมง มีการซ้อมหนีภัยจริงจัง ปรับปรุงการออกแบบเรือให้รัดกุมยิ่งขึ้น ✨ 113 ปี แห่งการเตือนใจ เรือไททานิคคือเครื่องเตือนใจของโลก ว่า “ความมั่นใจมากเกินไป” นั้นอันตราย “ความประมาท” สามารถพรากชีวิตผู้คนได้เกินพัน ภายในไม่กี่ชั่วโมง แม้จะใช้เทคโนโลยีล้ำหน้า แต่หากไร้การวางแผน และความระมัดระวัง ก็อาจนำสู่หายนะ ไททานิคจม แต่บทเรียน… ยังคงลอยอยู่เหนือผิวน้ำเสมอ 📌 เรื่องราวของไททานิค ไม่ใช่เพียงตำนานเรือใหญ่ล่ม แต่คือสัญลักษณ์ของ “ความมั่นใจเกินขีดจำกัด” ของมนุษย์ ที่นำมาซึ่งโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ความประมาท ความละเลย และระบบที่ไม่พร้อม คือสาเหตุหลักของการสูญเสียชีวิตนับพัน ในเช้าตรู่วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2455 และยังคงเตือนใจมนุษย์ในทุกยุคว่า “ไม่มีสิ่งใดในโลกที่ไม่มีวันจม” 🌊🕯️ 🔚 เมื่อ “ไม่มีวันจม” กลายเป็น “จมจริง” 🚢 จุดจบของเรือที่เคยถูกยกย่องว่า “ไม่มีวันจม” ...แต่คือจุดเริ่มต้นของกฎหมายความปลอดภัยทางทะเล ที่ช่วยชีวิตผู้คนนับล้านในศตวรรษต่อมา 🌍 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 151322 เม.ย. 2568 📲 #ไททานิค #Titanic #เรือไททานิคล่ม #เรื่องจริงไททานิค #แจ็คโรส #โศกนาฏกรรมไททานิค #TitanicFacts #ไททานิค113ปี #หนังTitanic #MyHeartWillGoOn
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงผลการวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า การฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของโมเดล โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐฯ เช่น Carnegie Mellon, Stanford, Harvard และ Princeton ได้ค้นพบปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Catastrophic Overtraining”

    นักวิจัยพบว่าเมื่อโมเดล AI ถูกฝึกอบรมด้วยข้อมูลจำนวนมากเกินไป เช่น การเพิ่มจำนวนโทเค็นจาก 2.3 ล้านล้านเป็น 3 ล้านล้านในโมเดล OLMo-1B ประสิทธิภาพของโมเดลกลับลดลงถึง 3% ในการทดสอบมาตรฐาน เช่น AlpacaEval และ ARC สาเหตุหลักมาจาก “Progressive Sensitivity” ซึ่งทำให้โมเดลมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น การปรับแต่งหรือการเพิ่มเสียงรบกวน

    นักวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า “Inflection Point” หรือจุดที่การฝึกอบรมเพิ่มเติมเริ่มส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพ มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้านในโมเดลขนาดเล็ก การค้นพบนี้เรียกร้องให้มีการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการปรับขนาดโมเดล AI โดยเน้นที่กระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนที่จะมุ่งเน้นที่การเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว

    ✅ การค้นพบปรากฏการณ์ Catastrophic Overtraining
    - การฝึกอบรม AI มากเกินไปอาจลดประสิทธิภาพของโมเดล
    - Progressive Sensitivity ทำให้โมเดลเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

    ✅ ผลกระทบของการฝึกอบรมเพิ่มเติม
    - โมเดล OLMo-1B ที่ฝึกอบรมด้วยข้อมูล 3 ล้านล้านโทเค็นมีประสิทธิภาพลดลงถึง 3%
    - Inflection Point มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้าน

    ✅ ข้อเสนอแนะจากนักวิจัย
    - ควรพิจารณากระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนการเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว
    - การปรับขนาดโมเดล AI ควรคำนึงถึงความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร

    ℹ️ ความเสี่ยงจากการฝึกอบรมมากเกินไป
    - การฝึกอบรมมากเกินไปอาจทำให้โมเดลเปราะบางและลดประสิทธิภาพ
    - การเพิ่มเสียงรบกวนหรือการปรับแต่งอาจส่งผลเสียต่อโมเดลที่ฝึกอบรมมากเกินไป

    ℹ️ คำแนะนำสำหรับนักพัฒนา AI
    - ควรพิจารณาจำนวนข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการฝึกอบรม
    - การพัฒนาโมเดล AI ควรเน้นที่ความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร

    https://www.techradar.com/pro/catastrophic-overtraining-could-harm-large-language-ai-models-that-are-trained-on-more-data-for-the-sake-of-training
    ข่าวนี้เล่าถึงผลการวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า การฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของโมเดล โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐฯ เช่น Carnegie Mellon, Stanford, Harvard และ Princeton ได้ค้นพบปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Catastrophic Overtraining” นักวิจัยพบว่าเมื่อโมเดล AI ถูกฝึกอบรมด้วยข้อมูลจำนวนมากเกินไป เช่น การเพิ่มจำนวนโทเค็นจาก 2.3 ล้านล้านเป็น 3 ล้านล้านในโมเดล OLMo-1B ประสิทธิภาพของโมเดลกลับลดลงถึง 3% ในการทดสอบมาตรฐาน เช่น AlpacaEval และ ARC สาเหตุหลักมาจาก “Progressive Sensitivity” ซึ่งทำให้โมเดลมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น การปรับแต่งหรือการเพิ่มเสียงรบกวน นักวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า “Inflection Point” หรือจุดที่การฝึกอบรมเพิ่มเติมเริ่มส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพ มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้านในโมเดลขนาดเล็ก การค้นพบนี้เรียกร้องให้มีการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการปรับขนาดโมเดล AI โดยเน้นที่กระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนที่จะมุ่งเน้นที่การเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว ✅ การค้นพบปรากฏการณ์ Catastrophic Overtraining - การฝึกอบรม AI มากเกินไปอาจลดประสิทธิภาพของโมเดล - Progressive Sensitivity ทำให้โมเดลเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ✅ ผลกระทบของการฝึกอบรมเพิ่มเติม - โมเดล OLMo-1B ที่ฝึกอบรมด้วยข้อมูล 3 ล้านล้านโทเค็นมีประสิทธิภาพลดลงถึง 3% - Inflection Point มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้าน ✅ ข้อเสนอแนะจากนักวิจัย - ควรพิจารณากระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนการเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว - การปรับขนาดโมเดล AI ควรคำนึงถึงความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร ℹ️ ความเสี่ยงจากการฝึกอบรมมากเกินไป - การฝึกอบรมมากเกินไปอาจทำให้โมเดลเปราะบางและลดประสิทธิภาพ - การเพิ่มเสียงรบกวนหรือการปรับแต่งอาจส่งผลเสียต่อโมเดลที่ฝึกอบรมมากเกินไป ℹ️ คำแนะนำสำหรับนักพัฒนา AI - ควรพิจารณาจำนวนข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการฝึกอบรม - การพัฒนาโมเดล AI ควรเน้นที่ความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร https://www.techradar.com/pro/catastrophic-overtraining-could-harm-large-language-ai-models-that-are-trained-on-more-data-for-the-sake-of-training
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงความท้าทายของ Meta ในการพัฒนาโครงการ Metaverse ซึ่งใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 45 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าพอใจได้

    Meta ซึ่งนำโดย Mark Zuckerberg ได้เปลี่ยนชื่อจาก Facebook เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนา Metaverse แต่โครงการนี้กลับกลายเป็นปัญหาทางการเงินที่ใหญ่หลวง โดยมีการสูญเสียเงินถึง 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 และอีก 3.8 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2024 สาเหตุหลักมาจากการขาดความชัดเจนในกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และการบริหารที่ไม่เหมาะสม เช่น การแต่งตั้งผู้บริหารที่ไม่มีประสบการณ์ในด้าน AR และ VR

    นอกจากนี้ รายได้ประจำปีของ Reality Labs ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการ Metaverse ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2021 เนื่องจากยอดขายที่อ่อนแอและการไม่สามารถเข้าถึงตลาดหลักได้

    ✅ การลงทุนในโครงการ Metaverse
    - Meta ใช้เงินลงทุนกว่า 45 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
    - สูญเสียเงินถึง 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 และอีก 3.8 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2024

    ✅ ปัญหาด้านการบริหารและกลยุทธ์
    - การแต่งตั้งผู้บริหารที่ไม่มีประสบการณ์ในด้าน AR และ VR
    - ขาดความชัดเจนในกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์

    ✅ ผลกระทบต่อรายได้ของ Reality Labs
    - รายได้ประจำปีลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2021
    - ยอดขายอ่อนแอและไม่สามารถเข้าถึงตลาดหลักได้

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อความยั่งยืนของโครงการ
    - การสูญเสียเงินจำนวนมากอาจทำให้โครงการ Metaverse ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้
    - ความล้มเหลวในการเข้าถึงตลาดหลักอาจลดความเชื่อมั่นของนักลงทุน

    ℹ️ คำแนะนำสำหรับการปรับปรุง
    - Meta ควรพัฒนากลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนและตอบสนองความต้องการของตลาด
    - การแต่งตั้งผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในด้าน AR และ VR เป็นสิ่งสำคัญ

    https://www.techspot.com/news/107530-four-years-meta-has-burned-through-45-billion.html
    ข่าวนี้เล่าถึงความท้าทายของ Meta ในการพัฒนาโครงการ Metaverse ซึ่งใช้เงินลงทุนไปแล้วกว่า 45 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าพอใจได้ Meta ซึ่งนำโดย Mark Zuckerberg ได้เปลี่ยนชื่อจาก Facebook เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนา Metaverse แต่โครงการนี้กลับกลายเป็นปัญหาทางการเงินที่ใหญ่หลวง โดยมีการสูญเสียเงินถึง 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 และอีก 3.8 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2024 สาเหตุหลักมาจากการขาดความชัดเจนในกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์และการบริหารที่ไม่เหมาะสม เช่น การแต่งตั้งผู้บริหารที่ไม่มีประสบการณ์ในด้าน AR และ VR นอกจากนี้ รายได้ประจำปีของ Reality Labs ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการ Metaverse ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2021 เนื่องจากยอดขายที่อ่อนแอและการไม่สามารถเข้าถึงตลาดหลักได้ ✅ การลงทุนในโครงการ Metaverse - Meta ใช้เงินลงทุนกว่า 45 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา - สูญเสียเงินถึง 16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 และอีก 3.8 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2024 ✅ ปัญหาด้านการบริหารและกลยุทธ์ - การแต่งตั้งผู้บริหารที่ไม่มีประสบการณ์ในด้าน AR และ VR - ขาดความชัดเจนในกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ ✅ ผลกระทบต่อรายได้ของ Reality Labs - รายได้ประจำปีลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2021 - ยอดขายอ่อนแอและไม่สามารถเข้าถึงตลาดหลักได้ ℹ️ ความเสี่ยงต่อความยั่งยืนของโครงการ - การสูญเสียเงินจำนวนมากอาจทำให้โครงการ Metaverse ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ - ความล้มเหลวในการเข้าถึงตลาดหลักอาจลดความเชื่อมั่นของนักลงทุน ℹ️ คำแนะนำสำหรับการปรับปรุง - Meta ควรพัฒนากลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนและตอบสนองความต้องการของตลาด - การแต่งตั้งผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในด้าน AR และ VR เป็นสิ่งสำคัญ https://www.techspot.com/news/107530-four-years-meta-has-burned-through-45-billion.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Four years in, Meta has burned through $45 billion chasing its metaverse dream
    Insiders say the metaverse project has become a financial sinkhole, consuming $45 billion by early 2025. That's nearly equal to the combined market caps of social media...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📌แผ่นดินไหวบนบกขนาด 5.9 บริเวณประเทศเมียนมา🔸13 เม.ย. 68 เวลา 09.24 น. (ตามเวลาในประเทศไทย) เกิดแผ่นดินไหวบนบกขนาด 5.9 ที่ระดับความลึก 10 กิโลเมตร จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวบริเวณด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเมะทีลา ประเทศเมียนมา ห่างจากอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 271 กิโลเมตร 🔸สาเหตุเกิดจากการเลื่อนตัวของรอยเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) ในแนวระนาบเหลื่อมขวา (right-lateral strike-slip fault) 🔸เบื้องต้นประชาชนที่อาศัยอยู่บนอาคารสูงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เเละเชียงราย สามารถรับรู้ถึงเเรงสั่นสะเทือน ยังไม่มีรายงานความเสียหาย (ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา และกรมทรัพยากรธรณี)
    📌แผ่นดินไหวบนบกขนาด 5.9 บริเวณประเทศเมียนมา🔸13 เม.ย. 68 เวลา 09.24 น. (ตามเวลาในประเทศไทย) เกิดแผ่นดินไหวบนบกขนาด 5.9 ที่ระดับความลึก 10 กิโลเมตร จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหวบริเวณด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเมะทีลา ประเทศเมียนมา ห่างจากอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 271 กิโลเมตร 🔸สาเหตุเกิดจากการเลื่อนตัวของรอยเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) ในแนวระนาบเหลื่อมขวา (right-lateral strike-slip fault) 🔸เบื้องต้นประชาชนที่อาศัยอยู่บนอาคารสูงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เเละเชียงราย สามารถรับรู้ถึงเเรงสั่นสะเทือน ยังไม่มีรายงานความเสียหาย (ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา และกรมทรัพยากรธรณี)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐจบลงแล้ว ทั้งสองฝ่ายตกลงจะมีการเจรจาเพิ่มเติมกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้าที่โอมานเช่นเดิม

    มีรายงานว่า การเจรจาครั้งนี้เป็นไปในเชิงบวก ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดการเจรจาครั้งที่สองต่อไป

    หลายฝ่ายกำลังเฝ้ารอแถลงการณ์ของทั้งสอง หลังการเจรจาครั้งนี้
    การเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐจบลงแล้ว ทั้งสองฝ่ายตกลงจะมีการเจรจาเพิ่มเติมกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้าที่โอมานเช่นเดิม มีรายงานว่า การเจรจาครั้งนี้เป็นไปในเชิงบวก ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดการเจรจาครั้งที่สองต่อไป หลายฝ่ายกำลังเฝ้ารอแถลงการณ์ของทั้งสอง หลังการเจรจาครั้งนี้
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อเวลา 0.42 น. ของวันที่ 12 เมษายน ทางกลุ่มบริษัทบางจากได้มีการส่ง SMS แจ้งเตือนสมาชิกซึ่งเป็นลูกค้าของทางบริษัทฯ เกี่ยวกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ดังรายละเอียดใน SMS ดังนี้"บริษัทขอแจ้งว่าได้ตรวจพบการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ดีไม่มีข้อมูลอ่อนไหว ข้อมูลธุรกรรมการเงินถูกละเมิด จากเหตุดังกล่าวบริษัทได้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูล ทั้งนี้โปรดหลีกเลี่ยงการกดลิงก์ที่ไม่น่าไว้ใจ ไม่ส่ง OTP ให้บุคคลอื่นและระวังการแอบอ้างบริษัทในการทำธุรกรรมต่างๆ หากมีข้อสอบถามโปรดติดต่อ 1651 กด4(08.00-21.00น.) บริษัทขออภัยอย่างสูงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าความปลอดภัยของข้อมูลของท่านถือเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด"โดยทีมงานได้ติดต่อแหล่งข่าว (ไม่เปิดเผยนาม) ถึงสาเหตุการรั่วไหลครั้งนี้ โดยได้รับการชี้แจ้งว่า ทางบริษัทได้ทราบถึงข้อมูลรั่วไหลตั้งเมื่อคืนวันที่ 11 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา แต่ข้อมูลดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นข้อมูลที่สำคัญ แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้เป็นไปตามกฏเกณฑ์ ทางทีมงาน IT จำเป็นต้องส่ง SMS ให้แก่ลูกค้าสมาชิกต่างๆ พร้อมกับอาจจะต้องทำรายงานเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งกระทรวงดีอีต่อไป
    เมื่อเวลา 0.42 น. ของวันที่ 12 เมษายน ทางกลุ่มบริษัทบางจากได้มีการส่ง SMS แจ้งเตือนสมาชิกซึ่งเป็นลูกค้าของทางบริษัทฯ เกี่ยวกับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล ดังรายละเอียดใน SMS ดังนี้"บริษัทขอแจ้งว่าได้ตรวจพบการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ดีไม่มีข้อมูลอ่อนไหว ข้อมูลธุรกรรมการเงินถูกละเมิด จากเหตุดังกล่าวบริษัทได้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูล ทั้งนี้โปรดหลีกเลี่ยงการกดลิงก์ที่ไม่น่าไว้ใจ ไม่ส่ง OTP ให้บุคคลอื่นและระวังการแอบอ้างบริษัทในการทำธุรกรรมต่างๆ หากมีข้อสอบถามโปรดติดต่อ 1651 กด4(08.00-21.00น.) บริษัทขออภัยอย่างสูงในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าความปลอดภัยของข้อมูลของท่านถือเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด"โดยทีมงานได้ติดต่อแหล่งข่าว (ไม่เปิดเผยนาม) ถึงสาเหตุการรั่วไหลครั้งนี้ โดยได้รับการชี้แจ้งว่า ทางบริษัทได้ทราบถึงข้อมูลรั่วไหลตั้งเมื่อคืนวันที่ 11 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา แต่ข้อมูลดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นข้อมูลที่สำคัญ แต่อย่างไรก็ตามเพื่อให้เป็นไปตามกฏเกณฑ์ ทางทีมงาน IT จำเป็นต้องส่ง SMS ให้แก่ลูกค้าสมาชิกต่างๆ พร้อมกับอาจจะต้องทำรายงานเหตุการณ์ครั้งนี้ส่งกระทรวงดีอีต่อไป
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพอากาศยูเครนยอมรับเครื่องบินรบ F-16 ถูกยิงตก พร้อมกับนักบินเสียชีวิต 1 ราย ขณะออกปฏิบัติการรบเมื่อคืนนี้ (12 เมษายน 2025)

    แต่กองทัพอากาศไม่ได้ระบุถึงสาเหตุการตก

    นักบินที่เสียชีวิตรายนี้ชื่อว่า Pavlo Ivanov อายุ 26 ปี เคยเป็นนักบิน Su-25 แล้วเปลี่ยนไปใช้เครื่อง F-16

    เซเลนสกีโพสต์ข้อความยืนยันแล้วเช่นกัน


    บางแหล่งระบุว่า เครื่องบิน F-16 ปฏิบัติการทิ้งระเบิดแถวภูมิภาค Sumy อาจโดนระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียบิงตก

    กองทัพอากาศยูเครนยอมรับเครื่องบินรบ F-16 ถูกยิงตก พร้อมกับนักบินเสียชีวิต 1 ราย ขณะออกปฏิบัติการรบเมื่อคืนนี้ (12 เมษายน 2025) แต่กองทัพอากาศไม่ได้ระบุถึงสาเหตุการตก นักบินที่เสียชีวิตรายนี้ชื่อว่า Pavlo Ivanov อายุ 26 ปี เคยเป็นนักบิน Su-25 แล้วเปลี่ยนไปใช้เครื่อง F-16 เซเลนสกีโพสต์ข้อความยืนยันแล้วเช่นกัน บางแหล่งระบุว่า เครื่องบิน F-16 ปฏิบัติการทิ้งระเบิดแถวภูมิภาค Sumy อาจโดนระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียบิงตก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • Corsair ออกมาชี้แจงถึงประเด็นที่ได้รับการพูดถึงในกลุ่มผู้ใช้เกี่ยวกับ 12V-2x6 connectors ที่มีการ "ขยับตัว" ได้เล็กน้อย โดยทางบริษัทระบุว่านี่เป็นการออกแบบที่ตั้งใจไว้ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อให้เหมาะสม และลดการสึกหรอของขั้วต่อในระยะยาว

    ✅ ลดปัญหาขั้วต่อเสียหาย:
    - Corsair ระบุว่า การที่ขั้วต่อสามารถขยับได้เล็กน้อย (ประมาณ 0.25mm ถึง 0.55mm) ช่วยให้การจัดวางขั้วต่อกับพินใน GPU ทำได้แม่นยำขึ้น
    - การออกแบบนี้ยังช่วยลดแรงที่เกิดจากการเสียบและถอดซ้ำ ๆ ซึ่งปกติอาจทำให้ขั้วต่อเสียหายได้

    ✅ ความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว:
    - การขยับเล็กน้อยในขั้วต่อไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานแต่อย่างใด เนื่องจาก Corsair ได้ทดสอบอย่างละเอียดแล้วว่าขั้วต่อต่าง ๆ ยังคงสามารถส่งไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์

    ✅ ตัวเลือกที่รองรับมาตรฐาน:
    - Corsair ใช้ผู้ผลิตหลายรายในการผลิตสายไฟที่รองรับมาตรฐานนี้ รวมถึงสายที่ถูกหุ้มอย่างดีและมีความหนากว่าปกติ

    == ความสำคัญสำหรับผู้ใช้งาน Nvidia RTX ==
    ✅ ปัญหาการหลอมละลายของสายไฟใน GPU ซีรีส์ RTX 50 เป็นเรื่องที่ผู้ใช้งานกังวล แต่ Corsair ชี้แจงว่าการออกแบบขั้วต่อที่มีช่องว่างนี้ไม่ใช่สาเหตุของปัญหา

    ✅ ขณะเดียวกัน Corsair ยืนยันว่า หากผู้ใช้งานพบปัญหาการหลวมมากเกินไป ควรติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าทันที

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/corsair-confirms-the-slight-wiggle-room-in-its-16-pin-connectors-for-nvidia-gpus-is-by-design
    Corsair ออกมาชี้แจงถึงประเด็นที่ได้รับการพูดถึงในกลุ่มผู้ใช้เกี่ยวกับ 12V-2x6 connectors ที่มีการ "ขยับตัว" ได้เล็กน้อย โดยทางบริษัทระบุว่านี่เป็นการออกแบบที่ตั้งใจไว้ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อให้เหมาะสม และลดการสึกหรอของขั้วต่อในระยะยาว ✅ ลดปัญหาขั้วต่อเสียหาย: - Corsair ระบุว่า การที่ขั้วต่อสามารถขยับได้เล็กน้อย (ประมาณ 0.25mm ถึง 0.55mm) ช่วยให้การจัดวางขั้วต่อกับพินใน GPU ทำได้แม่นยำขึ้น - การออกแบบนี้ยังช่วยลดแรงที่เกิดจากการเสียบและถอดซ้ำ ๆ ซึ่งปกติอาจทำให้ขั้วต่อเสียหายได้ ✅ ความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว: - การขยับเล็กน้อยในขั้วต่อไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานแต่อย่างใด เนื่องจาก Corsair ได้ทดสอบอย่างละเอียดแล้วว่าขั้วต่อต่าง ๆ ยังคงสามารถส่งไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์ ✅ ตัวเลือกที่รองรับมาตรฐาน: - Corsair ใช้ผู้ผลิตหลายรายในการผลิตสายไฟที่รองรับมาตรฐานนี้ รวมถึงสายที่ถูกหุ้มอย่างดีและมีความหนากว่าปกติ == ความสำคัญสำหรับผู้ใช้งาน Nvidia RTX == ✅ ปัญหาการหลอมละลายของสายไฟใน GPU ซีรีส์ RTX 50 เป็นเรื่องที่ผู้ใช้งานกังวล แต่ Corsair ชี้แจงว่าการออกแบบขั้วต่อที่มีช่องว่างนี้ไม่ใช่สาเหตุของปัญหา ✅ ขณะเดียวกัน Corsair ยืนยันว่า หากผู้ใช้งานพบปัญหาการหลวมมากเกินไป ควรติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าทันที https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/corsair-confirms-the-slight-wiggle-room-in-its-16-pin-connectors-for-nvidia-gpus-is-by-design
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

    เดือนนี้ หากเปิดประตูหน้าต่างทิ้งไว้จะมีโจรขโมยขึ้นบ้านเป็นผลให้ต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทองโดยไม่ได้คาดการณ์ล่วงหน้ามาก่อน หรืออาจจะถูกอิทธิพลมืดกลั่นแกล้งให้ร้าย หรืออาจจะถูกนินทาใส่ร้ายป้ายสี หรือจะเกิดการแข่งขันแย่งชิงอำนาจกันตลอดเวลา จึงควรงดการจัดงานประชุมเพื่อหาผลมติหรือจัดงานพบปะงานเลี้ยงสังสรรค์เพราะมีโอกาสจะเกิดความขัดแย้งแตกแยกไม่ลงรอยต่อกันเป็นสาเหตุให้กระทำผิดกฎหมายจนถูกลงโทษจับกุมคุมขังเกิดคดีความต้องขึ้นโรงขึ้นศาลแก้ต่างวุ่นวายโดยมีอาวุธปืนเข้ามาเกี่ยวข้องพัวพันทำให้จิตใจไม่สงบจนขาดสติยั้งคิดเกิดอารมณ์ฉุนเฉียววู่วามอย่างรุนแรง ควรนำธรรมะเข้าข่มสกดกิเลสต้นเหตุแห่งอารมณ์ชีวิตถึงจะผ่อนคลายสงบร่มเย็น

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เดือนนี้ หากเปิดประตูหน้าต่างทิ้งไว้จะมีโจรขโมยขึ้นบ้านเป็นผลให้ต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทองโดยไม่ได้คาดการณ์ล่วงหน้ามาก่อน หรืออาจจะถูกอิทธิพลมืดกลั่นแกล้งให้ร้าย หรืออาจจะถูกนินทาใส่ร้ายป้ายสี หรือจะเกิดการแข่งขันแย่งชิงอำนาจกันตลอดเวลา จึงควรงดการจัดงานประชุมเพื่อหาผลมติหรือจัดงานพบปะงานเลี้ยงสังสรรค์เพราะมีโอกาสจะเกิดความขัดแย้งแตกแยกไม่ลงรอยต่อกันเป็นสาเหตุให้กระทำผิดกฎหมายจนถูกลงโทษจับกุมคุมขังเกิดคดีความต้องขึ้นโรงขึ้นศาลแก้ต่างวุ่นวายโดยมีอาวุธปืนเข้ามาเกี่ยวข้องพัวพันทำให้จิตใจไม่สงบจนขาดสติยั้งคิดเกิดอารมณ์ฉุนเฉียววู่วามอย่างรุนแรง ควรนำธรรมะเข้าข่มสกดกิเลสต้นเหตุแห่งอารมณ์ชีวิตถึงจะผ่อนคลายสงบร่มเย็น ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 9-4-68
    .
    สวัสดีวันพุธ รายการวันนี้เป็นเมดเลย์ระหว่าง 2 สำคัญในประเทศไทย และในโลก ณ เวลานี้ คือ สาเหตุที่แท้จริงของการถล่ม "ตึก สตง. ถล่ม" หลังจากแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อวันศกุร์ที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา และอีกเรื่องคือ สงครามภาษี-สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพิ่งประกาศขยับภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 105% ... จะเข้มข้นขนาดไหนไปติดตามกัน
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=5byvvkDMnJk
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #ตึกสตงถล่ม #สงครามการค้า
    สนธิเล่าเรื่อง 9-4-68 . สวัสดีวันพุธ รายการวันนี้เป็นเมดเลย์ระหว่าง 2 สำคัญในประเทศไทย และในโลก ณ เวลานี้ คือ สาเหตุที่แท้จริงของการถล่ม "ตึก สตง. ถล่ม" หลังจากแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อวันศกุร์ที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา และอีกเรื่องคือ สงครามภาษี-สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับ จีน หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพิ่งประกาศขยับภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 105% ... จะเข้มข้นขนาดไหนไปติดตามกัน . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=5byvvkDMnJk . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #ตึกสตงถล่ม #สงครามการค้า
    Love
    Like
    3
    3 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตรวจตึกเอกชน-ราชการ ทำโมเดลตึก สตง.ถล่ม : [THE MESSAGE]
    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยถึงการตรวจสอบอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) จากคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงการก่อสร้างโดยข้อสงสัยเรื่องคุณภาพเหล็กมีสถาบันต่างๆ มาช่วยดูว่า สิ่งใดบ้างที่ทำให้เกิดเหตุ ผลการตรวจสอบสาเหตุจะต้องมีผู้รับผิดชอบแน่นอน และจะทำโมเดลจำลองเหตุการณ์ตึกถล่มที่เกิดขึ้นจริง เพื่อทราบเหตุผลที่ทำให้ตึกถล่ม โดยใช้วิศวกรจาก 4 สถาบันการศึกษา ทำแยกกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนและมั่นใจได้ คาดใช้เวลา 90 วัน และต้องทบทวนกระบวนการตรวจสอบเรื่องตึกและอาคารใหม่ทั้งหมด ทั้งของเอกชนและราชการ ว่าการอนุมัตินั้นปลอดภัยเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ ซึ่งจะเพิ่มมาตรการรองรับแผ่นดินไหวเข้าไปด้วย ส่วนที่มีการข่มขู่ย้ายรมว. อุตสาหกรรม เป็นเรื่องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่มีใครโอเคกับการวิ่งเต้น ไม่สนับสนุนเรื่องนี้ ถ้าเกี่ยวข้องกับกระบวนการก็ต้องพูดคุยกัน
    ตรวจตึกเอกชน-ราชการ ทำโมเดลตึก สตง.ถล่ม : [THE MESSAGE] น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยถึงการตรวจสอบอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) จากคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงการก่อสร้างโดยข้อสงสัยเรื่องคุณภาพเหล็กมีสถาบันต่างๆ มาช่วยดูว่า สิ่งใดบ้างที่ทำให้เกิดเหตุ ผลการตรวจสอบสาเหตุจะต้องมีผู้รับผิดชอบแน่นอน และจะทำโมเดลจำลองเหตุการณ์ตึกถล่มที่เกิดขึ้นจริง เพื่อทราบเหตุผลที่ทำให้ตึกถล่ม โดยใช้วิศวกรจาก 4 สถาบันการศึกษา ทำแยกกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนและมั่นใจได้ คาดใช้เวลา 90 วัน และต้องทบทวนกระบวนการตรวจสอบเรื่องตึกและอาคารใหม่ทั้งหมด ทั้งของเอกชนและราชการ ว่าการอนุมัตินั้นปลอดภัยเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ ซึ่งจะเพิ่มมาตรการรองรับแผ่นดินไหวเข้าไปด้วย ส่วนที่มีการข่มขู่ย้ายรมว. อุตสาหกรรม เป็นเรื่องไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่มีใครโอเคกับการวิ่งเต้น ไม่สนับสนุนเรื่องนี้ ถ้าเกี่ยวข้องกับกระบวนการก็ต้องพูดคุยกัน
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 501 มุมมอง 56 0 รีวิว
  • ♣ ยืดเยื้อเรื้อรัง ต้องรออีก 90 วัน กว่าจะรู้สาเหตุ ต้องรออีกกี่วันถึงหาผู้รับผิดชอบได้ ทำบุญครบร้อยวันให้แรงงานผู้เสียชีวิต ก็ยังไม่สามารถเอาผิดใครได้
    #7ดอกจิก
    ♣ ยืดเยื้อเรื้อรัง ต้องรออีก 90 วัน กว่าจะรู้สาเหตุ ต้องรออีกกี่วันถึงหาผู้รับผิดชอบได้ ทำบุญครบร้อยวันให้แรงงานผู้เสียชีวิต ก็ยังไม่สามารถเอาผิดใครได้ #7ดอกจิก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • #นายกฯ ดึง 4 สถาบันวิศวะ จับมือกรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมทำโมเดลเหตุตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม ขีดเส้น 90 วัน ลั่นต้องมีผู้รับผิดชอบแน่นอน พร้อมฟันระหว่างทางถ้าพบทำผิดกฎหมาย สั่งตรวจตึกทั้งรัฐและเอกชนใหม่ทั้งหมดให้พร้อมรับแผ่นดินไหว

    วันนี้(8 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริงอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ถล่มนานกว่า 1 ชั่วโมงว่า การประชุมวันนี้ได้ข้อสรุปหลายข้อ เรื่องแรกขอให้ความมั่นใจกับประชาชนก่อนว่า กฎหมายที่ออกมาใช้ควบคุมการก่อสร้างอาคาร สร้างตึก เพื่อให้สามารถรองรับ กับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ถ้าเกิดแผ่นดินไหวเท่าเดิม จะไม่ทำให้ตึกถล่มมากขึ้น แต่ทุกตึกต้องทำตามที่กฎหมายกำหนดด้วย และเท่าที่เห็นยังไม่เห็นว่ามีตึกไหนที่ได้รับความเสียหายมาก มีปัญหาบ้างเช่นการกระเทาะ แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ส่วนตึก สตง.ที่ถล่มเป็นตึกเดียวที่เราเอามาดู ในข้อเท็จจริงว่า เกิดอะไรขึ้น

    จากการพูดคุยพบข้อสงสัยหลายเรื่อง ที่เป็นเรื่องสำคัญอย่างมากตั้งแต่เริ่มต้น และในกระบวนการก่อสร้าง แต่ประเด็นคือต้องใช้เวลาในการเคลียร์ไซส์งานที่เกิดเหตุ ซึ่งได้รับรายงานว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน นับจากวันที่เกิดเหตุเพื่อเคลียร์สถานที่ ซึ่งที่ประชุมมีข้อสรุปว่าจะใช้ 4 สถาบัน เข้ามาศึกษา บวกกับกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยแต่ละคนจะจัดทำโมเดลแยกกันเพื่อจำลอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของตึกที่ถล่ม เพื่อจะได้ทราบสาเหตุว่ามีอะไรที่ทำให้ถล่ม และการที่จะวิเคราะห์ทำโมเดลของแต่ละสถาบัน จะใช้เวลาประมาณ 90 วัน ตนจึงบอกว่าขอให้ทำเร็วกว่านี้ได้หรือไม่ ได้รับคำตอบว่าเป็นเรื่องของรายละเอียดว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้ตึกถล่ม ไม่สามารถสรุป หรือชี้ได้เลยในวันนี้ว่าเป็นเพราะสาเหตุนี้หนึ่ง หัวข้อทำให้ถล่ม เพราะสาเหตุประกอบจากหลายหัวข้อ จึงต้องใช้เวลาเพื่อให้เกิดความชัดเจน ทั้งนี้การใช้ 4 สถาบันเพื่อให้เกิดความร่วมมือ มีความโปร่งใส ทำให้ประชาชนเข้าใจว่า เราใช้คณะวิศวะจาก 4 สถาบัน เพื่อให้ข้อสรุปที่ชัดเจนและเกิดความมั่นใจได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9680000033313

    #MGROnline #สถาบันวิศวะ #กรมโยธาธิการและผังเมือง #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง.
    #นายกฯ ดึง 4 สถาบันวิศวะ จับมือกรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมทำโมเดลเหตุตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม ขีดเส้น 90 วัน ลั่นต้องมีผู้รับผิดชอบแน่นอน พร้อมฟันระหว่างทางถ้าพบทำผิดกฎหมาย สั่งตรวจตึกทั้งรัฐและเอกชนใหม่ทั้งหมดให้พร้อมรับแผ่นดินไหว • วันนี้(8 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมติดตามผลการสืบสวนข้อเท็จจริงอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ถล่มนานกว่า 1 ชั่วโมงว่า การประชุมวันนี้ได้ข้อสรุปหลายข้อ เรื่องแรกขอให้ความมั่นใจกับประชาชนก่อนว่า กฎหมายที่ออกมาใช้ควบคุมการก่อสร้างอาคาร สร้างตึก เพื่อให้สามารถรองรับ กับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ถ้าเกิดแผ่นดินไหวเท่าเดิม จะไม่ทำให้ตึกถล่มมากขึ้น แต่ทุกตึกต้องทำตามที่กฎหมายกำหนดด้วย และเท่าที่เห็นยังไม่เห็นว่ามีตึกไหนที่ได้รับความเสียหายมาก มีปัญหาบ้างเช่นการกระเทาะ แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ส่วนตึก สตง.ที่ถล่มเป็นตึกเดียวที่เราเอามาดู ในข้อเท็จจริงว่า เกิดอะไรขึ้น • จากการพูดคุยพบข้อสงสัยหลายเรื่อง ที่เป็นเรื่องสำคัญอย่างมากตั้งแต่เริ่มต้น และในกระบวนการก่อสร้าง แต่ประเด็นคือต้องใช้เวลาในการเคลียร์ไซส์งานที่เกิดเหตุ ซึ่งได้รับรายงานว่าต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน นับจากวันที่เกิดเหตุเพื่อเคลียร์สถานที่ ซึ่งที่ประชุมมีข้อสรุปว่าจะใช้ 4 สถาบัน เข้ามาศึกษา บวกกับกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยแต่ละคนจะจัดทำโมเดลแยกกันเพื่อจำลอง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของตึกที่ถล่ม เพื่อจะได้ทราบสาเหตุว่ามีอะไรที่ทำให้ถล่ม และการที่จะวิเคราะห์ทำโมเดลของแต่ละสถาบัน จะใช้เวลาประมาณ 90 วัน ตนจึงบอกว่าขอให้ทำเร็วกว่านี้ได้หรือไม่ ได้รับคำตอบว่าเป็นเรื่องของรายละเอียดว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้ตึกถล่ม ไม่สามารถสรุป หรือชี้ได้เลยในวันนี้ว่าเป็นเพราะสาเหตุนี้หนึ่ง หัวข้อทำให้ถล่ม เพราะสาเหตุประกอบจากหลายหัวข้อ จึงต้องใช้เวลาเพื่อให้เกิดความชัดเจน ทั้งนี้การใช้ 4 สถาบันเพื่อให้เกิดความร่วมมือ มีความโปร่งใส ทำให้ประชาชนเข้าใจว่า เราใช้คณะวิศวะจาก 4 สถาบัน เพื่อให้ข้อสรุปที่ชัดเจนและเกิดความมั่นใจได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9680000033313 • #MGROnline #สถาบันวิศวะ #กรมโยธาธิการและผังเมือง #แผ่นดินไหว #ตึกถล่ม #สตง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • การปรับใช้ Cloud Computing ได้กลายมาเป็นแกนหลักสำคัญของธุรกิจในยุคปัจจุบัน โดยช่วยปรับปรุงการทำงาน ลดต้นทุน และเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการข้อมูลและแอปพลิเคชัน อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยของระบบคลาวด์ยังคงเป็นความท้าทายที่ธุรกิจต้องให้ความสำคัญ

    == ความนิยมของ Cloud Computing และความซับซ้อนด้านความปลอดภัย ==
    ✅ การเติบโตของระบบคลาวด์:
    - การใช้ Infrastructure as a Service (IaaS) เติบโตขึ้นกว่า 40% ในปีที่ผ่านมา และกลายเป็นรากฐานสำหรับการดำเนินธุรกิจยุคใหม่

    ✅ ระบบคลาวด์แบบไฮบริด:
    - องค์กรต่าง ๆ ใช้ระบบคลาวด์แบบผสม (Hybrid Cloud) ซึ่งรวม Private Cloud และ Public Cloud เข้าด้วยกันเพื่อปรับสมดุลระหว่างความปลอดภัยและการประหยัดต้นทุน
    - แต่การใช้ผู้ให้บริการหลายรายอาจเพิ่มความซับซ้อนและโอกาสในการเกิด Misconfiguration ทำให้ข้อมูลหลุดรั่วหรือถูกโจมตี

    == ความท้าทายด้านความปลอดภัยที่พบ ==
    ✅ ปัญหาในระบบที่ตั้งค่าไม่ถูกต้อง:
    - การตั้งค่าที่ผิดพลาดในระบบคลาวด์เป็นสาเหตุหลักของ Cloud Security Breaches รวมถึงการใช้รหัสผ่านที่ไม่รัดกุมและขาดการควบคุมการเข้าถึง

    ✅ การพัฒนาภัยคุกคามใหม่ ๆ:
    - การเพิ่มขึ้นของภัยคุกคามทำให้บริษัทต้องพิจารณาใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น Cloud Security Posture Management (CSPM) และ Cloud Access Security Brokers (CASBs) ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยและตรวจจับจุดอ่อนในระบบ

    ✅ การพัฒนามาตรฐานความปลอดภัย:
    - National Cyber Security Centre (NCSC) แนะนำให้ตรวจสอบระบบคลาวด์ด้วยมาตรฐานที่เข้มงวด เช่น การป้องกันการดักฟังข้อมูลและการจัดการการเปลี่ยนแปลงที่ปลอดภัย

    https://www.zdnet.com/article/cloud-computing-security-where-it-is-where-its-going/
    การปรับใช้ Cloud Computing ได้กลายมาเป็นแกนหลักสำคัญของธุรกิจในยุคปัจจุบัน โดยช่วยปรับปรุงการทำงาน ลดต้นทุน และเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการข้อมูลและแอปพลิเคชัน อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยของระบบคลาวด์ยังคงเป็นความท้าทายที่ธุรกิจต้องให้ความสำคัญ == ความนิยมของ Cloud Computing และความซับซ้อนด้านความปลอดภัย == ✅ การเติบโตของระบบคลาวด์: - การใช้ Infrastructure as a Service (IaaS) เติบโตขึ้นกว่า 40% ในปีที่ผ่านมา และกลายเป็นรากฐานสำหรับการดำเนินธุรกิจยุคใหม่ ✅ ระบบคลาวด์แบบไฮบริด: - องค์กรต่าง ๆ ใช้ระบบคลาวด์แบบผสม (Hybrid Cloud) ซึ่งรวม Private Cloud และ Public Cloud เข้าด้วยกันเพื่อปรับสมดุลระหว่างความปลอดภัยและการประหยัดต้นทุน - แต่การใช้ผู้ให้บริการหลายรายอาจเพิ่มความซับซ้อนและโอกาสในการเกิด Misconfiguration ทำให้ข้อมูลหลุดรั่วหรือถูกโจมตี == ความท้าทายด้านความปลอดภัยที่พบ == ✅ ปัญหาในระบบที่ตั้งค่าไม่ถูกต้อง: - การตั้งค่าที่ผิดพลาดในระบบคลาวด์เป็นสาเหตุหลักของ Cloud Security Breaches รวมถึงการใช้รหัสผ่านที่ไม่รัดกุมและขาดการควบคุมการเข้าถึง ✅ การพัฒนาภัยคุกคามใหม่ ๆ: - การเพิ่มขึ้นของภัยคุกคามทำให้บริษัทต้องพิจารณาใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น Cloud Security Posture Management (CSPM) และ Cloud Access Security Brokers (CASBs) ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยและตรวจจับจุดอ่อนในระบบ ✅ การพัฒนามาตรฐานความปลอดภัย: - National Cyber Security Centre (NCSC) แนะนำให้ตรวจสอบระบบคลาวด์ด้วยมาตรฐานที่เข้มงวด เช่น การป้องกันการดักฟังข้อมูลและการจัดการการเปลี่ยนแปลงที่ปลอดภัย https://www.zdnet.com/article/cloud-computing-security-where-it-is-where-its-going/
    WWW.ZDNET.COM
    Cloud computing means big opportunities - and big threats
    Making sure that cloud services are secure is more complicated than you might think.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • วรรณกรรมประเภทหนึ่งที่ตอนนี้มีเยอะมากโดยเฉพาะจากฝั่งตะวันออก (จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี) แต่ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไร คือเรื่องแนวฟีลกู๊ดประเภทสถานที่เยียวยาจิตใจ ไม่ใช่เพราะผมเป็นพวกจิตใจหยาบกระด้างหรือชอบเสพแต่ความดาร์กและความสยอง แต่เพราะผมมองว่าตัวเองพอดักทางได้ว่าเรื่องพวกนั้นมี "สาร" อย่างไร ต้องการสอนผู้อ่านอย่างไร ทั้งนี้ก็จะมีบางเรื่องที่เป็นข้อยกเว้น หนึ่งในนั้นคือคาเฟ่ของแม่หมอมานูล

    'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' โดย อัตสึกิ โอโตะ เป็นนิยายแบบที่ผมคงไม่สนใจในแวบแรก ถ้าไม่ใช่เพราะโดนล่อตาล่อใจจากของแถมที่ทาง สนพ. บอกว่ามีเฉพาะในรอบพิมพ์ครั้งแรกเท่านั้น นั่นคือ ไพ่ทาโรต์ขนาดเล็ก ๆ 5 ใบที่เป็นภาพคุณมานูล แมวหมอดูตัวเอกประจำเรื่อง ข้อนี้เลยเป็นตัวแปรสำคัญให้ผมเปิดใจรับหนังสือเล่มนี้มาบรรจุเข้าชั้นที่บ้าน

    ไหน ๆ ก็พูดถึงหนังสือเล่มนี้แล้ว ผมก็เห็นว่ามันควรค่าแก่การรีวิวในแบบของไพ่เราเผาเรื่อง แต่รอบนี้จะต่างจากครั้งอื่น ๆ ตรงที่ผมจะไม่ใช้ไพ่ทาโรต์หรือไพ่พยากรณ์สำรับใด ๆ ในคลัง แต่จะใช้ไพ่แถม 5 ใบที่มากับหนังสือเล่มนี้เป็นเครื่องมือประกอบการ "เผาเรื่อง" โดยสับไพ่แล้วสุ่มหยิบตามลำดับ

    ขอเชิญรับชม #ไพ่เราเผาหนังสือ 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' ด้วยไพ่แถมสุดน่ารักทั้ง 5 ใบ ได้ ณ บัดนี้ครับ

    ----------

    "เรื่องจบในตอนพร้อมข้อคิดดี ๆ"
    🃏The Sun + 🃏The World

    ในไพ่ทาโรต์ 78 ใบ The Sun เป็นไพ่ที่ความหมายดีรอบด้านในอันดับต้น ๆ แต่ไพ่ใบนี้ยังสื่อถึง "ความจริง" และ "ข้อคิดที่เป็นประโยชน์" ได้ด้วย ส่วน The World ในฐานะไพ่ใบสุดท้ายของไพ่ชุดหลัก (Major Arcana) จึงมักสื่อความถึง "จุดสิ้นสุด" และ "ความสมบูรณ์" แต่มันไม่ใช่การตัดจบแบบบริบูรณ์หรือ Happily Ever After ทว่าเป็นการจบลงของบทหนึ่งเพื่อที่จะเข้าสู่บทถัดไป

    'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' มีลักษณะการเขียนแบบที่มักเจอใน Fiction ประเภทสถานที่ที่ช่วยให้ผู้คนได้ฮีลใจ นั่นคือเป็นนวนิยายแบบเนื้อเรื่องจบในตอน (Episodic novel) โดยแต่ละตอนมักจะมีข้อคิดจรรโลงใจหรือมุมมองที่น่าสนใจแตกต่างกัน บางครั้งต่างตอนก็มีสารหรือข้อคิดสำหรับคนต่างกลุ่มต่างจำพวก

    หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยเนื้อเรื่อง 5 บท แต่ละบทสามารถอ่านแยกในฐานะเรื่องสั้นที่จบสมบูรณ์ในตัวเองได้ แต่ตอนหลัง ๆ ก็จะมีรายละเอียดบางอย่างที่ต่อเนื่องจากตอนก่อน ๆ ตัวละครดำเนินเรื่องในแต่ละตอนมีช่วงอายุ บทบาท และปัญหาคาใจแตกต่างกัน มีทั้งเด็กมัธยมที่หาทาง fit in ในสังคมห้องเรียน อินฟลูเอนเซอร์สาว ซิงเกิลมัม ไปจนถึงวัยกลางคนที่กำลังสับสนกับทิศทางชีวิตและหน้าที่การงานของตัวเอง จากนั้นโชคชะตาหรือพล็อตเรื่องก็จะพาตัวละครไปเจอกับคุณมานูลและคาเฟมาร์เนิล

    คุณมานูล ศูนย์กลางของเรื่อง เดิมเคยเป็นมนุษย์ชื่อ คาวาตานิ ไอซาวะ แต่ด้วยสาเหตุบางอย่าง นางเลือก 'ลาออก' จากการเป็นมนุษย์ มาอยู่ในร่างของแมวมานูล (Manul) หรืออีกชื่อคือแมวพัลลาส (Pallas's cat) และรับดูดวงด้วยสารพัดวิธี ไม่ว่าจะใช้ไพ่ ลูกแก้ว หรือเครื่องเสี่ยงเซียมซีรูเลตต์ พร้อมทั้งเปิดคาเฟ่ร่วมกับคนที่น่าจะเป็นสามีและลูกสาว (ส่วนชื่อคาเฟ่ ทำไมถึงชื่อ "มาร์เนิล" แทนที่จะเป็น "มานูล" ตรงนี้ในหนังสือมีอธิบายไว้ แต่สั้น ๆ คือเป็นมุกที่เล่นกับตัวเขียนญี่ปุ่นแบบคาตาคานะ ซึ่งต้องขอชื่นชมผู้แปลที่พยายามเรียบเรียงเป็นไทยให้ใกล้เคียงโดยไม่เสียอรรถรสของต้นฉบับ)

    เนื้อเรื่องแต่ละตอนดำเนินไปอย่างค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จ เริ่มจากแนะนำตัวละครและชีวิตประจำวันที่เจ้าตัวไม่พึงพอใจเท่าไร จากนั้นตัวละครก็จะได้เจอคุณมานูลช่วยทำนายดวงชะตาพร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบคร่าว ๆ เพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งตัวละครจะทำตามและอะไร ๆ ก็ดูจะดีขึ้นจริง ๆ แต่แล้วก็จะมีเหตุสักอย่างให้ชีวิตตัวละครกลับไปเป็นแบบตอนต้นเรื่องหรือเผลอ ๆ เหมือนจะดูแย่ลง และทำให้ตัวละครได้รับการชี้แนะจากคุณมานูลเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งคราวนี้เรื่องก็จะดูจบตอนแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ชวนให้นึกถึงโดราเอมอนแแบบอนิเมะในทีวีที่ฉายเป็นตอน ๆ หรือการ์ตูนต่อสู้อย่างเซเลอร์มูนช่วงแรก ๆ ที่จะมีตัวร้ายประจำสัปดาห์ (Monster of the week) มาให้ตัวเอกปราบ

    นิยายประเภทสถานที่ฮีลใจมักมีตัวละครประจำตอนที่แแตกต่างกันทั้งช่วงอายุและอาชีพ เพื่อจะได้เป็นตัวแทนของคนอ่านในกลุ่มต่าง ๆ นิยายเล่มนี้ก็เช่นกัน ทั้ง 5 ตอนมีตัวละครตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยกลางคน ซึ่งก็น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ผู้เขียนคคาดหวังว่าจะรวมอยู่ในหมู่คนอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วย และถึงแม้ปัญหาที่ตัวละครในเรื่องเผชิญอาจไม่ตรงกับเรื่องที่คนอ่านในช่วงวัยเดียวกันเจอในชีวิตจริงทั้งหมด แต่ข้อคิดและคำแนะนำจากคุณมานููลในแต่ละตอนก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เช่นกัน

    ----------

    "เยียวยาจิตใจในสถานที่ที่มอบความสุข"
    🃏The Star + 🃏Ten of Cups

    The Star คือดวงดาว จึงเป็นไพ่ตัวแทนหลายสิ่งหลายอย่างที่คนเรามักเชื่อมโยงกับดาว ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง ความโด่งดัง หรือความหวัง แต่มันก็มีอีกความหมายหนึ่ง นั่นคือ "การเยียวยา" ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ส่วนไพ่ 10 ถ้วย โดยทั่วไปมักหมายถึงบ้านหรือครอบครัว แต่บางกรณีก็สื่อถึง "ความสุขอย่างเต็มเปี่ยม" โดยเป็นความสุขที่มาจากกลุ่มคนที่อยู่กันสนิทชิดเชื้อเหมือนเป็นครอบครัว (แบบใน "แฟ้มเมอะหลี่" ของพี่ดอม ทอร์เรตโต แห่งซีรีส์ Fast & Furious) หรือจากาสถานที่มีผู้พร้อมจะส่งมอบความสุขให้ผู้อื่น

    คาเฟ่มาร์เนิลของคุณมานูลลงล็อกพอดีกับคำจำกัดความของสถานที่แบบที่ว่า แต่ก็อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ข้างบน ๆ นิยายเรื่องนี้ผลิตซ้ำ Trope ของสถานที่ที่ให้ความช่วยเหลือผู้คนในการแก้ปัญหาและเยียวยาจิตใจ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังนิยมกันในวงการวรรณกรรมฝั่งเอเชียตะวันออก แต่ละเรื่องอาจมีสถานที่ต่างกันไป บางเรื่องเป็นคาเฟ่ บางเรื่องเป็นร้านเบเกอรี่ บ้างเรื่องเป็นร้านหนังสือหรือห้องสมุด แต่ทุกเรื่องจบลงที่ตัวละครซึ่งไปเยือนสถานที่นั้น ๆ ได้เยียวยาบาดแผลหรือปมปัญหาในใจ หรือได้ปลดล็อกอะไรสักอย่างที่ติดค้างอยู่

    น่าสังเกตอย่างหนึ่งว่า ในชีวิตจริงซึ่งไม่ได้มีมนตร์วิเศษอยู่ (อย่างน้อยก็ในแบบที่มักเกิลอย่างเรา ๆ จับต้องและพิสูจน์ได้) คนเราก็มีสถานที่สำหรับเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำและแตกร้าว นอกจากกลับบ้านไปหาครอบครัวแล้ว ที่อื่นที่คนมักไปเพื่อฮีลใจตัวเอง เช่น คาเฟ่ ซุ้มหมอดู (หรือบางคนก็ทักไปหาหมอดูทางออนไลน์) และที่ใดก็ตามที่มีแมวอยู่ กล่าวอีกอย่างคือ คาเฟ่ การดูดวง และแมว คือ Top 3 แห่งเครื่องเยียวยาจิตใจของมนุษย์ในปัจจุบัน (ซึ่งจะเรียกว่าเป็นยุคทุนนิยมหรือยุคโพสต์โมเดิร์นก็ตามแต่)

    และสามอย่างที่ว่านี้ นอกจากในนิยายซีรีส์ "ร้านกาแฟจันทร์เต็มดวง" แล้ว ก็มีคุณมานูลในนิยายเรื่องนี้ที่รวมทุกอย่างไว้ในตัว เหมือนผู้เขียนจงใจ หรือไม่ก็สร้างไว้ให้คนอ่านที่ชอบ Overanalyze ได้สังเกตและทึกทักเอา

    ----------

    "โชคชะตาไม่สำคัญเมื่อเธอนั้นกลายเป็นแมว"
    🃏Wheel of Fortune

    ไพ่วงล้อแห่งโชคชะตาเป็นใบหนึ่งที่ท้าทายสกิลการอ่านและตีความไพ่ของผู้อ่านไพ่มากที่สุด บางบริบท มันสื่อถึงการที่โชคชะตากำลังดำเนินไปในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าช่วงนั้นดวงกกำลังดี ๆ อยู่ มันก็อาจเป็นคำเตือนในระวังถึงขาลงของชีวิตที่ส่อแววมาแต่ไกล โดยรวมแล้ว ไพ่ใบนี้สื่อถึง "โชคชะตา" ในภาพรวม ซึ่งโดยตัวมันเองไม่มีดีหรือร้าย แต่ที่เรามองว่าดีหรือร้ายก็เพราะเรามองจากมุมมองของตัวเรา ถ้าเรามองเรื่องที่เกิดกับคนอื่น หรือมองตัวเองอย่างเป็นภววิสัย เราก็คงมองว่าททุกอย่างเป็นเรื่องของธรรมชาติ เดี๋ยวมีดี เดี๋ยวมีร้าย ไม่แน่ไม่นอน เผลอ ๆ คาดเดาไม่ได้ (หากเราเชื่อตาม Chaos Theory) และด้วยเหตุนี้ ไพ่ใบนี้จึงหมายรวมถึงการพยากรณ์ การดูดวง หรือการตรวจสอบดวงชะตาเช่นกัน

    ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนผมไหม ตอนเห็นชื่อหนังสือฉบับแปลไทยครั้งแรก ก็คิดว่าคุณมานูลน่าจะเป็นตัวละครประเภทกวน ๆ ที่ทำนายดวงตรงมั่งมั่วมั่ง (แต่สุดท้ายก็ช่วยให้ตัวละครในแต่ละตอนได้มีความสุขอยู่ดี ตามแนวทางของนิยายฮีลใจแบบนี้) แต่พอได้อ่านจริงก็พบว่านางเป็นคาแรกเตอร์ประเภทกวน ๆ จริง กวนแบบน่ารัก ๆ ชนิดที่เชื่อว่าทุกคนน่าจะอยากมีเพื่อนสนิทแบบนี้สักคนสองคน ทว่าสิ่งที่ดูเหมือนจะหายไปคือการทำนายแบบมั่ว ๆ เพราะเท่าที่อ่านเจอในเรื่อง คุณมานูลไม่เคยทำนายดวงชะตาให้ตัวละครไหนแบบมั่ว ๆ เลย อย่างมากคือทำนายแบบส่งเดช พอให้เห็นว่ามีการใช้อุปกรณ์ทำนาย (อันนี้พูดในฐานะคนที่ทุกวันนี้รายรอบด้วยคนในวงการนักพยากรณ์ และเคยเจอหมอดูที่ทำนายแบบมั่วซั่วมาจนมากเกินจะนับด้วยนิ้วมือรวมนิ้วเท้าได้) อันที่จริงชื่อต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นของนิยายเรื่องนี้แปลตรงตัวแค่ว่า "คุณมานูลผู้ลาออกจากการเป็นมนุษย์จะทำนายดวงชะตาให้คุณ" ด้วยซ้ำ

    อย่างไรก็ตาม คุณมานูลตลอดทั้งเรื่องจะเล่นอีกบทบาทหนึ่ง ซึ่งเป็นบทบาทที่หมอดูทุกศาสตร์ทุกแขนงควรเป็นในตัว (ถ้ายังไม่เป็นก็ควรฝึกตัวเองให้เป็น หรือไป take course เสียโดยด่วน โปรดรู้ว่าสังคมทุกวันนี้กำลังต้องการมาก) นั่นคือการเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านจิตใจและสังคม เนื้อเรื่องไม่เคยฟันธงว่าคุณมานูลดูดวงเป็นจริง ๆ หรือไม่ แต่เรื่องแสดงให้เห็นว่านางดูคนเป็น เข้าใจว่าแต่ละคนกำลังขาดหรือล้นเกินในเรื่องอะไร ซึ่งก็น่าจะเป็นทักษะที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยนางยังเป็นมนุษย์ และจากตรงนี้ นางจึงให้คำแนะนำแบบแมว ๆ ให้แต่ละตัวละครรับไปหาทางแก้ปัญหาของตัวเองอย่างตรงจุด

    เนื้อเรื่องไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้คุณไอซาวะลาออกจากการเป็นมนุษย์แล้วผันตัวมาเป็นแมวมานูล แต่เมื่อดูจากคำใบ้ในแต่ละตอน (โดยเฉพาะตอนสุดท้าย) ผมมองว่านางคงเบื่อชีวิตมนุษย์ที่วัน ๆ ได้แต่ไหลไปตามสิ่งรอบข้างอย่างกระแสสังคม ความควาดหวังและแรงกดดันจากคนรอบข้าง (ซึ่งไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นสิ่งที่เรารับมากระทำกับตัวเราเอง) ตลอดจนการยอมจำนนต่อ "โชคชะตา" เดี๋ยวดวงดี เดี๋ยวดวงซวย ช่วงนี้ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อหลีกเลี่ยงกาลกิณี ฯลฯ

    ในเมื่อมีแต่มนุษย์ที่ปวดหัววุ่นวายกับเรื่องเหล่านี้ แต่แมวใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องนำพาต่อสิ่งเหล่านี้ นางก็เลยเลิกเป็นมนุษย์แล้วเป็นแมวซะดื้อ ๆ แต่ครั้นจะเป็นแมวพันธุ์ธรรมดา ๆ พื้น ๆ ก็ไม่เอา เลยขอเป็นพันธุ์หายากอย่างแมวมานูล และพอเป็นแมวแล้ว นางเลยสามารถมองเรื่องราววุ่น ๆ ของมนุษย์ได้อย่างเป็นกลาง พร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบชิล ๆ แต่ตรงประเด็นได้

    ถึงแม้นิยายเรื่องนี้จะขึ้นชื่อว่ามีหมอดูอยู่ แต่เนื้อเรื่องแทบไม่เกี่ยวกับการทำนายดวงชะตา (จริง ๆ) เลย กลับกัน มันแนะแนววิธีการใช้ชีวิตแบบไม่แคร์ดวง เหมือนที่แมวไม่แคร์วิถีชีวิตของมนุษย์ แต่พร้อมกันนั้น มันก็ให้คำแนะนำที่ดีอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นหมอดูและอยากเป็นหมอดูครับ

    ----------

    Final Verdict: 🃏The Sun + 🃏The World + 🃏The Star + 🃏Ten of Cups + 🃏Wheel of Fortune

    'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' จะช่วยให้คุณเข้าใจความจริงว่า ต่อให้โลกนี้จะหมุนไปและชีวิตนำพาอะไรมาให้คุณ แต่คุณก็สามารถเฉิดฉายในแบบของตัวเองและมีความสุขทุกวันได้ ขอแค่คุณปล่อยจอยกับชีวิต คิดเสียว่าลาออกจากการมนุษย์แล้วทำตัวเหมือนเป็นแมวเสีย เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้แค่เวลาจำกัด แล้วทำไม เราต้องปล่อยให้เรื่องชั่วประเดี๋ยวประด๋าว (เมื่อเทียบกับเวลาของจักรวาล) มาขัดจังหวะการเก็บเกี่ยวความสุขในแต่ละวันของเราด้วย จริงไหม?

    🃏🃏🃏🃏🃏
    แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่งคาเฟมาร์เนิล (2025)
    • แปลจาก: 人間やめたマヌルさんが、あなたの人生占います (2023)
    • ผู้เขียน: ฮัตสึกิ โอโตะ
    • ผู้แปล: วิลาสินี จงสถิตวัฒนา
    • สำนักพิมพ์: Lumi (ในเครือนานมีบุ๊คส์)
    ไพ่ที่ใช้: ไพ่ทาโรต์แถมพิเศษเฉพาะฉบับพิมพ์ครั้งแรกของนิยายเรื่องนี้
    วรรณกรรมประเภทหนึ่งที่ตอนนี้มีเยอะมากโดยเฉพาะจากฝั่งตะวันออก (จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี) แต่ผมไม่ค่อยสนใจเท่าไร คือเรื่องแนวฟีลกู๊ดประเภทสถานที่เยียวยาจิตใจ ไม่ใช่เพราะผมเป็นพวกจิตใจหยาบกระด้างหรือชอบเสพแต่ความดาร์กและความสยอง แต่เพราะผมมองว่าตัวเองพอดักทางได้ว่าเรื่องพวกนั้นมี "สาร" อย่างไร ต้องการสอนผู้อ่านอย่างไร ทั้งนี้ก็จะมีบางเรื่องที่เป็นข้อยกเว้น หนึ่งในนั้นคือคาเฟ่ของแม่หมอมานูล 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' โดย อัตสึกิ โอโตะ เป็นนิยายแบบที่ผมคงไม่สนใจในแวบแรก ถ้าไม่ใช่เพราะโดนล่อตาล่อใจจากของแถมที่ทาง สนพ. บอกว่ามีเฉพาะในรอบพิมพ์ครั้งแรกเท่านั้น นั่นคือ ไพ่ทาโรต์ขนาดเล็ก ๆ 5 ใบที่เป็นภาพคุณมานูล แมวหมอดูตัวเอกประจำเรื่อง ข้อนี้เลยเป็นตัวแปรสำคัญให้ผมเปิดใจรับหนังสือเล่มนี้มาบรรจุเข้าชั้นที่บ้าน ไหน ๆ ก็พูดถึงหนังสือเล่มนี้แล้ว ผมก็เห็นว่ามันควรค่าแก่การรีวิวในแบบของไพ่เราเผาเรื่อง แต่รอบนี้จะต่างจากครั้งอื่น ๆ ตรงที่ผมจะไม่ใช้ไพ่ทาโรต์หรือไพ่พยากรณ์สำรับใด ๆ ในคลัง แต่จะใช้ไพ่แถม 5 ใบที่มากับหนังสือเล่มนี้เป็นเครื่องมือประกอบการ "เผาเรื่อง" โดยสับไพ่แล้วสุ่มหยิบตามลำดับ ขอเชิญรับชม #ไพ่เราเผาหนังสือ 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' ด้วยไพ่แถมสุดน่ารักทั้ง 5 ใบ ได้ ณ บัดนี้ครับ ---------- "เรื่องจบในตอนพร้อมข้อคิดดี ๆ" 🃏The Sun + 🃏The World ในไพ่ทาโรต์ 78 ใบ The Sun เป็นไพ่ที่ความหมายดีรอบด้านในอันดับต้น ๆ แต่ไพ่ใบนี้ยังสื่อถึง "ความจริง" และ "ข้อคิดที่เป็นประโยชน์" ได้ด้วย ส่วน The World ในฐานะไพ่ใบสุดท้ายของไพ่ชุดหลัก (Major Arcana) จึงมักสื่อความถึง "จุดสิ้นสุด" และ "ความสมบูรณ์" แต่มันไม่ใช่การตัดจบแบบบริบูรณ์หรือ Happily Ever After ทว่าเป็นการจบลงของบทหนึ่งเพื่อที่จะเข้าสู่บทถัดไป 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' มีลักษณะการเขียนแบบที่มักเจอใน Fiction ประเภทสถานที่ที่ช่วยให้ผู้คนได้ฮีลใจ นั่นคือเป็นนวนิยายแบบเนื้อเรื่องจบในตอน (Episodic novel) โดยแต่ละตอนมักจะมีข้อคิดจรรโลงใจหรือมุมมองที่น่าสนใจแตกต่างกัน บางครั้งต่างตอนก็มีสารหรือข้อคิดสำหรับคนต่างกลุ่มต่างจำพวก หนังสือเล่มนี้ประกอบด้วยเนื้อเรื่อง 5 บท แต่ละบทสามารถอ่านแยกในฐานะเรื่องสั้นที่จบสมบูรณ์ในตัวเองได้ แต่ตอนหลัง ๆ ก็จะมีรายละเอียดบางอย่างที่ต่อเนื่องจากตอนก่อน ๆ ตัวละครดำเนินเรื่องในแต่ละตอนมีช่วงอายุ บทบาท และปัญหาคาใจแตกต่างกัน มีทั้งเด็กมัธยมที่หาทาง fit in ในสังคมห้องเรียน อินฟลูเอนเซอร์สาว ซิงเกิลมัม ไปจนถึงวัยกลางคนที่กำลังสับสนกับทิศทางชีวิตและหน้าที่การงานของตัวเอง จากนั้นโชคชะตาหรือพล็อตเรื่องก็จะพาตัวละครไปเจอกับคุณมานูลและคาเฟมาร์เนิล คุณมานูล ศูนย์กลางของเรื่อง เดิมเคยเป็นมนุษย์ชื่อ คาวาตานิ ไอซาวะ แต่ด้วยสาเหตุบางอย่าง นางเลือก 'ลาออก' จากการเป็นมนุษย์ มาอยู่ในร่างของแมวมานูล (Manul) หรืออีกชื่อคือแมวพัลลาส (Pallas's cat) และรับดูดวงด้วยสารพัดวิธี ไม่ว่าจะใช้ไพ่ ลูกแก้ว หรือเครื่องเสี่ยงเซียมซีรูเลตต์ พร้อมทั้งเปิดคาเฟ่ร่วมกับคนที่น่าจะเป็นสามีและลูกสาว (ส่วนชื่อคาเฟ่ ทำไมถึงชื่อ "มาร์เนิล" แทนที่จะเป็น "มานูล" ตรงนี้ในหนังสือมีอธิบายไว้ แต่สั้น ๆ คือเป็นมุกที่เล่นกับตัวเขียนญี่ปุ่นแบบคาตาคานะ ซึ่งต้องขอชื่นชมผู้แปลที่พยายามเรียบเรียงเป็นไทยให้ใกล้เคียงโดยไม่เสียอรรถรสของต้นฉบับ) เนื้อเรื่องแต่ละตอนดำเนินไปอย่างค่อนข้างเป็นสูตรสำเร็จ เริ่มจากแนะนำตัวละครและชีวิตประจำวันที่เจ้าตัวไม่พึงพอใจเท่าไร จากนั้นตัวละครก็จะได้เจอคุณมานูลช่วยทำนายดวงชะตาพร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบคร่าว ๆ เพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น ซึ่งตัวละครจะทำตามและอะไร ๆ ก็ดูจะดีขึ้นจริง ๆ แต่แล้วก็จะมีเหตุสักอย่างให้ชีวิตตัวละครกลับไปเป็นแบบตอนต้นเรื่องหรือเผลอ ๆ เหมือนจะดูแย่ลง และทำให้ตัวละครได้รับการชี้แนะจากคุณมานูลเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งคราวนี้เรื่องก็จะดูจบตอนแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ชวนให้นึกถึงโดราเอมอนแแบบอนิเมะในทีวีที่ฉายเป็นตอน ๆ หรือการ์ตูนต่อสู้อย่างเซเลอร์มูนช่วงแรก ๆ ที่จะมีตัวร้ายประจำสัปดาห์ (Monster of the week) มาให้ตัวเอกปราบ นิยายประเภทสถานที่ฮีลใจมักมีตัวละครประจำตอนที่แแตกต่างกันทั้งช่วงอายุและอาชีพ เพื่อจะได้เป็นตัวแทนของคนอ่านในกลุ่มต่าง ๆ นิยายเล่มนี้ก็เช่นกัน ทั้ง 5 ตอนมีตัวละครตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยกลางคน ซึ่งก็น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ผู้เขียนคคาดหวังว่าจะรวมอยู่ในหมู่คนอ่านหนังสือเล่มนี้ด้วย และถึงแม้ปัญหาที่ตัวละครในเรื่องเผชิญอาจไม่ตรงกับเรื่องที่คนอ่านในช่วงวัยเดียวกันเจอในชีวิตจริงทั้งหมด แต่ข้อคิดและคำแนะนำจากคุณมานููลในแต่ละตอนก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้เช่นกัน ---------- "เยียวยาจิตใจในสถานที่ที่มอบความสุข" 🃏The Star + 🃏Ten of Cups The Star คือดวงดาว จึงเป็นไพ่ตัวแทนหลายสิ่งหลายอย่างที่คนเรามักเชื่อมโยงกับดาว ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียง ความโด่งดัง หรือความหวัง แต่มันก็มีอีกความหมายหนึ่ง นั่นคือ "การเยียวยา" ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ส่วนไพ่ 10 ถ้วย โดยทั่วไปมักหมายถึงบ้านหรือครอบครัว แต่บางกรณีก็สื่อถึง "ความสุขอย่างเต็มเปี่ยม" โดยเป็นความสุขที่มาจากกลุ่มคนที่อยู่กันสนิทชิดเชื้อเหมือนเป็นครอบครัว (แบบใน "แฟ้มเมอะหลี่" ของพี่ดอม ทอร์เรตโต แห่งซีรีส์ Fast & Furious) หรือจากาสถานที่มีผู้พร้อมจะส่งมอบความสุขให้ผู้อื่น คาเฟ่มาร์เนิลของคุณมานูลลงล็อกพอดีกับคำจำกัดความของสถานที่แบบที่ว่า แต่ก็อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ข้างบน ๆ นิยายเรื่องนี้ผลิตซ้ำ Trope ของสถานที่ที่ให้ความช่วยเหลือผู้คนในการแก้ปัญหาและเยียวยาจิตใจ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังนิยมกันในวงการวรรณกรรมฝั่งเอเชียตะวันออก แต่ละเรื่องอาจมีสถานที่ต่างกันไป บางเรื่องเป็นคาเฟ่ บางเรื่องเป็นร้านเบเกอรี่ บ้างเรื่องเป็นร้านหนังสือหรือห้องสมุด แต่ทุกเรื่องจบลงที่ตัวละครซึ่งไปเยือนสถานที่นั้น ๆ ได้เยียวยาบาดแผลหรือปมปัญหาในใจ หรือได้ปลดล็อกอะไรสักอย่างที่ติดค้างอยู่ น่าสังเกตอย่างหนึ่งว่า ในชีวิตจริงซึ่งไม่ได้มีมนตร์วิเศษอยู่ (อย่างน้อยก็ในแบบที่มักเกิลอย่างเรา ๆ จับต้องและพิสูจน์ได้) คนเราก็มีสถานที่สำหรับเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำและแตกร้าว นอกจากกลับบ้านไปหาครอบครัวแล้ว ที่อื่นที่คนมักไปเพื่อฮีลใจตัวเอง เช่น คาเฟ่ ซุ้มหมอดู (หรือบางคนก็ทักไปหาหมอดูทางออนไลน์) และที่ใดก็ตามที่มีแมวอยู่ กล่าวอีกอย่างคือ คาเฟ่ การดูดวง และแมว คือ Top 3 แห่งเครื่องเยียวยาจิตใจของมนุษย์ในปัจจุบัน (ซึ่งจะเรียกว่าเป็นยุคทุนนิยมหรือยุคโพสต์โมเดิร์นก็ตามแต่) และสามอย่างที่ว่านี้ นอกจากในนิยายซีรีส์ "ร้านกาแฟจันทร์เต็มดวง" แล้ว ก็มีคุณมานูลในนิยายเรื่องนี้ที่รวมทุกอย่างไว้ในตัว เหมือนผู้เขียนจงใจ หรือไม่ก็สร้างไว้ให้คนอ่านที่ชอบ Overanalyze ได้สังเกตและทึกทักเอา ---------- "โชคชะตาไม่สำคัญเมื่อเธอนั้นกลายเป็นแมว" 🃏Wheel of Fortune ไพ่วงล้อแห่งโชคชะตาเป็นใบหนึ่งที่ท้าทายสกิลการอ่านและตีความไพ่ของผู้อ่านไพ่มากที่สุด บางบริบท มันสื่อถึงการที่โชคชะตากำลังดำเนินไปในทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าช่วงนั้นดวงกกำลังดี ๆ อยู่ มันก็อาจเป็นคำเตือนในระวังถึงขาลงของชีวิตที่ส่อแววมาแต่ไกล โดยรวมแล้ว ไพ่ใบนี้สื่อถึง "โชคชะตา" ในภาพรวม ซึ่งโดยตัวมันเองไม่มีดีหรือร้าย แต่ที่เรามองว่าดีหรือร้ายก็เพราะเรามองจากมุมมองของตัวเรา ถ้าเรามองเรื่องที่เกิดกับคนอื่น หรือมองตัวเองอย่างเป็นภววิสัย เราก็คงมองว่าททุกอย่างเป็นเรื่องของธรรมชาติ เดี๋ยวมีดี เดี๋ยวมีร้าย ไม่แน่ไม่นอน เผลอ ๆ คาดเดาไม่ได้ (หากเราเชื่อตาม Chaos Theory) และด้วยเหตุนี้ ไพ่ใบนี้จึงหมายรวมถึงการพยากรณ์ การดูดวง หรือการตรวจสอบดวงชะตาเช่นกัน ไม่รู้มีใครเป็นเหมือนผมไหม ตอนเห็นชื่อหนังสือฉบับแปลไทยครั้งแรก ก็คิดว่าคุณมานูลน่าจะเป็นตัวละครประเภทกวน ๆ ที่ทำนายดวงตรงมั่งมั่วมั่ง (แต่สุดท้ายก็ช่วยให้ตัวละครในแต่ละตอนได้มีความสุขอยู่ดี ตามแนวทางของนิยายฮีลใจแบบนี้) แต่พอได้อ่านจริงก็พบว่านางเป็นคาแรกเตอร์ประเภทกวน ๆ จริง กวนแบบน่ารัก ๆ ชนิดที่เชื่อว่าทุกคนน่าจะอยากมีเพื่อนสนิทแบบนี้สักคนสองคน ทว่าสิ่งที่ดูเหมือนจะหายไปคือการทำนายแบบมั่ว ๆ เพราะเท่าที่อ่านเจอในเรื่อง คุณมานูลไม่เคยทำนายดวงชะตาให้ตัวละครไหนแบบมั่ว ๆ เลย อย่างมากคือทำนายแบบส่งเดช พอให้เห็นว่ามีการใช้อุปกรณ์ทำนาย (อันนี้พูดในฐานะคนที่ทุกวันนี้รายรอบด้วยคนในวงการนักพยากรณ์ และเคยเจอหมอดูที่ทำนายแบบมั่วซั่วมาจนมากเกินจะนับด้วยนิ้วมือรวมนิ้วเท้าได้) อันที่จริงชื่อต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นของนิยายเรื่องนี้แปลตรงตัวแค่ว่า "คุณมานูลผู้ลาออกจากการเป็นมนุษย์จะทำนายดวงชะตาให้คุณ" ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม คุณมานูลตลอดทั้งเรื่องจะเล่นอีกบทบาทหนึ่ง ซึ่งเป็นบทบาทที่หมอดูทุกศาสตร์ทุกแขนงควรเป็นในตัว (ถ้ายังไม่เป็นก็ควรฝึกตัวเองให้เป็น หรือไป take course เสียโดยด่วน โปรดรู้ว่าสังคมทุกวันนี้กำลังต้องการมาก) นั่นคือการเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านจิตใจและสังคม เนื้อเรื่องไม่เคยฟันธงว่าคุณมานูลดูดวงเป็นจริง ๆ หรือไม่ แต่เรื่องแสดงให้เห็นว่านางดูคนเป็น เข้าใจว่าแต่ละคนกำลังขาดหรือล้นเกินในเรื่องอะไร ซึ่งก็น่าจะเป็นทักษะที่ติดตัวมาตั้งแต่สมัยนางยังเป็นมนุษย์ และจากตรงนี้ นางจึงให้คำแนะนำแบบแมว ๆ ให้แต่ละตัวละครรับไปหาทางแก้ปัญหาของตัวเองอย่างตรงจุด เนื้อเรื่องไม่ได้บอกว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้คุณไอซาวะลาออกจากการเป็นมนุษย์แล้วผันตัวมาเป็นแมวมานูล แต่เมื่อดูจากคำใบ้ในแต่ละตอน (โดยเฉพาะตอนสุดท้าย) ผมมองว่านางคงเบื่อชีวิตมนุษย์ที่วัน ๆ ได้แต่ไหลไปตามสิ่งรอบข้างอย่างกระแสสังคม ความควาดหวังและแรงกดดันจากคนรอบข้าง (ซึ่งไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นสิ่งที่เรารับมากระทำกับตัวเราเอง) ตลอดจนการยอมจำนนต่อ "โชคชะตา" เดี๋ยวดวงดี เดี๋ยวดวงซวย ช่วงนี้ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อหลีกเลี่ยงกาลกิณี ฯลฯ ในเมื่อมีแต่มนุษย์ที่ปวดหัววุ่นวายกับเรื่องเหล่านี้ แต่แมวใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องนำพาต่อสิ่งเหล่านี้ นางก็เลยเลิกเป็นมนุษย์แล้วเป็นแมวซะดื้อ ๆ แต่ครั้นจะเป็นแมวพันธุ์ธรรมดา ๆ พื้น ๆ ก็ไม่เอา เลยขอเป็นพันธุ์หายากอย่างแมวมานูล และพอเป็นแมวแล้ว นางเลยสามารถมองเรื่องราววุ่น ๆ ของมนุษย์ได้อย่างเป็นกลาง พร้อมทั้งให้คำแนะนำแบบชิล ๆ แต่ตรงประเด็นได้ ถึงแม้นิยายเรื่องนี้จะขึ้นชื่อว่ามีหมอดูอยู่ แต่เนื้อเรื่องแทบไม่เกี่ยวกับการทำนายดวงชะตา (จริง ๆ) เลย กลับกัน มันแนะแนววิธีการใช้ชีวิตแบบไม่แคร์ดวง เหมือนที่แมวไม่แคร์วิถีชีวิตของมนุษย์ แต่พร้อมกันนั้น มันก็ให้คำแนะนำที่ดีอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นหมอดูและอยากเป็นหมอดูครับ ---------- Final Verdict: 🃏The Sun + 🃏The World + 🃏The Star + 🃏Ten of Cups + 🃏Wheel of Fortune 'แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่คาเฟมาร์เนิล' จะช่วยให้คุณเข้าใจความจริงว่า ต่อให้โลกนี้จะหมุนไปและชีวิตนำพาอะไรมาให้คุณ แต่คุณก็สามารถเฉิดฉายในแบบของตัวเองและมีความสุขทุกวันได้ ขอแค่คุณปล่อยจอยกับชีวิต คิดเสียว่าลาออกจากการมนุษย์แล้วทำตัวเหมือนเป็นแมวเสีย เรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้แค่เวลาจำกัด แล้วทำไม เราต้องปล่อยให้เรื่องชั่วประเดี๋ยวประด๋าว (เมื่อเทียบกับเวลาของจักรวาล) มาขัดจังหวะการเก็บเกี่ยวความสุขในแต่ละวันของเราด้วย จริงไหม? 🃏🃏🃏🃏🃏 แมวหมอดูผู้ทำนายมั่ว ๆ แห่งคาเฟมาร์เนิล (2025) • แปลจาก: 人間やめたマヌルさんが、あなたの人生占います (2023) • ผู้เขียน: ฮัตสึกิ โอโตะ • ผู้แปล: วิลาสินี จงสถิตวัฒนา • สำนักพิมพ์: Lumi (ในเครือนานมีบุ๊คส์) ไพ่ที่ใช้: ไพ่ทาโรต์แถมพิเศษเฉพาะฉบับพิมพ์ครั้งแรกของนิยายเรื่องนี้
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีมีคำสั่งให้เปิดการสอบสวนถึงสาเหตุรายละเอียดของข้อตกลงแร่หายากระหว่างสหรัฐฯ กับยูเครนที่รั่วไปถึงมือสื่อ

    หลายฝ่ายเชื่อว่า เซเลนสกีกำลังพยายามเบี่ยงเบนประเด็น เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ใช่ตัวเขาและทีมงานที่เป็นฝ่ายปล่อยข้อมูล แต่เป็นจากฝ่ายสหรัฐที่เผยข้อมูลให้สื่อรู้เอง


    หน่วยงานความมั่นคงของยูเครนทำการทดสอบเจ้าหน้าที่รัฐบาลเซเลนสกีด้วยเครื่องจับเท็จ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่เซเลนสกีมักใช้อ้างอิงในการพิสูจน์ความจริง

    เมื่อวันที่ 26 มีนาคม นักการเมืองฝ่ายค้าน "ยาโรสลาฟ เซเลซเนียก" ได้เผยแพร่รายละเอียดบางส่วนของข้อตกลงแร่ธาตุ

    ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มีนาคมสำนักข่าว FT ได้เผยแพร่ร่างข้อตกลงฉบับเต็ม


    เซเลนสกี ไม่พอใจและตกใจมากเกี่ยวกับการรั่วไหลของรายละเอียดครั้งนี้และพยายามตามหาว่าใครอยู่เบื้องหลัง


    ในความเป็นจริง ข้อเสนอใหม่ของสหรัฐไม่ได้มีอะไรใหม่จนสร้างความฮือฮาได้มากนัก ส่วนใหญ่สับสนกับท่าทีของเซเลนสกี ว่าตั้งทีมสอบสวนขึ้นมาเพื่ออะไร


    แต่มีบางความคิดเห็นคาดเดาว่า การที่เซเลนสกีตั้งทีมงานเพื่อมาสอบสวนเรื่องนี้ เพื่อต้องการเรียกร้องให้มีการเจรจากับสหรัฐใหม่อีกครั้ง เพื่อเป็นการซื้อเวลาการหยุดยิงจากรัสเซีย

    เนื่องจากที่ผ่านมา เซเลนสกีไม่เคยแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาเพื่อยอมรับข้อตกลง แม้จะมีท่าทียอมรับในช่วงแรกของการเจรจาแต่ละครั้ง แต่สุดท้ายก็จะหาข้ออ้างบิดพริ้วตลอดเวลา


    ส่วนหนึ่งของร่างข้อตกลงล่าสุด ที่หลุดออกมาคือ สหรัฐยังคงไม่ให้การรับประกันความปลอดภัยต่อเคียฟ ซึ่งเซเลนสกีถือว่าเป็นเงื่อนไขที่มีความสำคัญ

    ทางด้าน Scott Bessent รัฐมนตรีคลังของสหรัฐกล่าวว่า การเข้าไปลงทุนของสหรัฐเพียงพอแล้วที่จะยับยั้งการโจมตีจากรัสเซียได้ เนื่องจากถ้ารัสเซียโจมตี นั่นเท่ากับพวกเขาโจมตีสหรัฐด้วย

    แต่เซเลนสกียืนกรานไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดนี้
    เซเลนสกีมีคำสั่งให้เปิดการสอบสวนถึงสาเหตุรายละเอียดของข้อตกลงแร่หายากระหว่างสหรัฐฯ กับยูเครนที่รั่วไปถึงมือสื่อ หลายฝ่ายเชื่อว่า เซเลนสกีกำลังพยายามเบี่ยงเบนประเด็น เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ใช่ตัวเขาและทีมงานที่เป็นฝ่ายปล่อยข้อมูล แต่เป็นจากฝ่ายสหรัฐที่เผยข้อมูลให้สื่อรู้เอง หน่วยงานความมั่นคงของยูเครนทำการทดสอบเจ้าหน้าที่รัฐบาลเซเลนสกีด้วยเครื่องจับเท็จ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่เซเลนสกีมักใช้อ้างอิงในการพิสูจน์ความจริง เมื่อวันที่ 26 มีนาคม นักการเมืองฝ่ายค้าน "ยาโรสลาฟ เซเลซเนียก" ได้เผยแพร่รายละเอียดบางส่วนของข้อตกลงแร่ธาตุ ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มีนาคมสำนักข่าว FT ได้เผยแพร่ร่างข้อตกลงฉบับเต็ม เซเลนสกี ไม่พอใจและตกใจมากเกี่ยวกับการรั่วไหลของรายละเอียดครั้งนี้และพยายามตามหาว่าใครอยู่เบื้องหลัง ในความเป็นจริง ข้อเสนอใหม่ของสหรัฐไม่ได้มีอะไรใหม่จนสร้างความฮือฮาได้มากนัก ส่วนใหญ่สับสนกับท่าทีของเซเลนสกี ว่าตั้งทีมสอบสวนขึ้นมาเพื่ออะไร แต่มีบางความคิดเห็นคาดเดาว่า การที่เซเลนสกีตั้งทีมงานเพื่อมาสอบสวนเรื่องนี้ เพื่อต้องการเรียกร้องให้มีการเจรจากับสหรัฐใหม่อีกครั้ง เพื่อเป็นการซื้อเวลาการหยุดยิงจากรัสเซีย เนื่องจากที่ผ่านมา เซเลนสกีไม่เคยแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาเพื่อยอมรับข้อตกลง แม้จะมีท่าทียอมรับในช่วงแรกของการเจรจาแต่ละครั้ง แต่สุดท้ายก็จะหาข้ออ้างบิดพริ้วตลอดเวลา ส่วนหนึ่งของร่างข้อตกลงล่าสุด ที่หลุดออกมาคือ สหรัฐยังคงไม่ให้การรับประกันความปลอดภัยต่อเคียฟ ซึ่งเซเลนสกีถือว่าเป็นเงื่อนไขที่มีความสำคัญ ทางด้าน Scott Bessent รัฐมนตรีคลังของสหรัฐกล่าวว่า การเข้าไปลงทุนของสหรัฐเพียงพอแล้วที่จะยับยั้งการโจมตีจากรัสเซียได้ เนื่องจากถ้ารัสเซียโจมตี นั่นเท่ากับพวกเขาโจมตีสหรัฐด้วย แต่เซเลนสกียืนกรานไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัญหาใต้ตึก สตง.เพียบ ค้างค่าแรงผู้รับเหมา เคลียร์ยังไม่ลงตัว
    .
    ซากปรักหักพังของอาคารสำนักงานตรวจเงินผแผ่นดินแห่งใหม่ที่พังลงมาที่ยากต่อการรื้อถอนแล้ว ปรากฎว่าปัญหาแวดล้อมอื่นๆ นั้นกลับเป็นเรื่องยากต่อการแก้ไขยิ่งกว่า โดยเฉพาะเริ่มมีการเรียกร้องให้มีการจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารดังกล่าวตามสัญญา
    .
    ทั้งนี้ มีการเจรจาระหว่างตัวแทนบริษัท 9PK จำกัด กับตัวแทนกิจการร่วมค้าบริษัท ไชน่าเรลเวย์ นัมเบอร์ 10 และบริษัท อิตาเลียนไทยฯ พร้อมตัวแทนผู้รับเหมาช่วงถูกเบี้ยวค่าแรง โดยพบว่าสาเหตุหนึ่งมาจากการที่ต้องรอสตง.ตรวจงานและแก้ไขสัญญาบางส่วนก่อน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000033059
    ปัญหาใต้ตึก สตง.เพียบ ค้างค่าแรงผู้รับเหมา เคลียร์ยังไม่ลงตัว . ซากปรักหักพังของอาคารสำนักงานตรวจเงินผแผ่นดินแห่งใหม่ที่พังลงมาที่ยากต่อการรื้อถอนแล้ว ปรากฎว่าปัญหาแวดล้อมอื่นๆ นั้นกลับเป็นเรื่องยากต่อการแก้ไขยิ่งกว่า โดยเฉพาะเริ่มมีการเรียกร้องให้มีการจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารดังกล่าวตามสัญญา . ทั้งนี้ มีการเจรจาระหว่างตัวแทนบริษัท 9PK จำกัด กับตัวแทนกิจการร่วมค้าบริษัท ไชน่าเรลเวย์ นัมเบอร์ 10 และบริษัท อิตาเลียนไทยฯ พร้อมตัวแทนผู้รับเหมาช่วงถูกเบี้ยวค่าแรง โดยพบว่าสาเหตุหนึ่งมาจากการที่ต้องรอสตง.ตรวจงานและแก้ไขสัญญาบางส่วนก่อน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000033059
    Like
    Love
    Sad
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 919 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อผิดพลาดใน Google Assistant ทำให้โหมด Do Not Disturb ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้ ส่งผลให้พลาดสายสำคัญและการปลุก ผู้ใช้ควรตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android เพื่อความมั่นใจว่าการแจ้งเตือนสำคัญจะไม่ถูกปิดเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจ ในขณะที่ Google ยังไม่ได้ออกมาแก้ไขปัญหา ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของ Assistant กับ Gemini อาจเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูต่อไป

    ✅ DND ผ่าน Google Assistant ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้
    - การสั่งเปิดโหมด Do Not Disturb ผ่านคำสั่งเสียงของ Google Assistant อาจ ปิดเสียงทุกการแจ้งเตือนและสายเรียกเข้าทั้งหมด
    - การตั้งค่าส่วนบุคคล เช่น การอนุญาตให้สายเรียกเข้าจากบุคคลสำคัญยังคงดัง จะถูกละเลย

    ✅ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง
    - ผู้ใช้งานบางรายพบว่า พลาดสายเรียกเข้าที่สำคัญ เช่น สายจากญาติผู้ใหญ่ หรือ การปลุกตอนเช้า
    - ปัญหานี้ได้รับการพูดถึงในชุมชน Reddit และได้รับการยืนยันโดย Android Authority

    ✅ วิธีแก้ไขชั่วคราว
    - ผู้ใช้ควร ตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android แทนการใช้คำสั่งเสียง Google Assistant
    - การเข้าถึง DND สามารถทำได้ผ่าน Settings > Modes > Do Not Disturb เพื่อกำหนดรูปแบบการแจ้งเตือนที่ต้องการ

    ✅ ความเงียบจาก Google
    - จนถึงขณะนี้ Google ยังไม่มีคำชี้แจงหรือการแก้ไขปัญหา อย่างเป็นทางการ

    ✅ ความเชื่อมโยงกับ Gemini
    - Google Assistant อาจถูกแทนที่ด้วยระบบ Gemini AI ในอนาคต ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการละเลยในเรื่องนี้

    https://www.techradar.com/phones/android/a-google-assistant-bug-seems-to-be-causing-some-users-to-miss-alarms-and-calls-on-android
    ข้อผิดพลาดใน Google Assistant ทำให้โหมด Do Not Disturb ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้ ส่งผลให้พลาดสายสำคัญและการปลุก ผู้ใช้ควรตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android เพื่อความมั่นใจว่าการแจ้งเตือนสำคัญจะไม่ถูกปิดเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจ ในขณะที่ Google ยังไม่ได้ออกมาแก้ไขปัญหา ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของ Assistant กับ Gemini อาจเป็นสิ่งที่ต้องจับตาดูต่อไป ✅ DND ผ่าน Google Assistant ไม่ทำงานตามที่ตั้งค่าไว้ - การสั่งเปิดโหมด Do Not Disturb ผ่านคำสั่งเสียงของ Google Assistant อาจ ปิดเสียงทุกการแจ้งเตือนและสายเรียกเข้าทั้งหมด - การตั้งค่าส่วนบุคคล เช่น การอนุญาตให้สายเรียกเข้าจากบุคคลสำคัญยังคงดัง จะถูกละเลย ✅ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง - ผู้ใช้งานบางรายพบว่า พลาดสายเรียกเข้าที่สำคัญ เช่น สายจากญาติผู้ใหญ่ หรือ การปลุกตอนเช้า - ปัญหานี้ได้รับการพูดถึงในชุมชน Reddit และได้รับการยืนยันโดย Android Authority ✅ วิธีแก้ไขชั่วคราว - ผู้ใช้ควร ตั้งค่า DND ผ่านการตั้งค่าของ Android แทนการใช้คำสั่งเสียง Google Assistant - การเข้าถึง DND สามารถทำได้ผ่าน Settings > Modes > Do Not Disturb เพื่อกำหนดรูปแบบการแจ้งเตือนที่ต้องการ ✅ ความเงียบจาก Google - จนถึงขณะนี้ Google ยังไม่มีคำชี้แจงหรือการแก้ไขปัญหา อย่างเป็นทางการ ✅ ความเชื่อมโยงกับ Gemini - Google Assistant อาจถูกแทนที่ด้วยระบบ Gemini AI ในอนาคต ซึ่งอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการละเลยในเรื่องนี้ https://www.techradar.com/phones/android/a-google-assistant-bug-seems-to-be-causing-some-users-to-miss-alarms-and-calls-on-android
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • Donald Trump สร้างความเปลี่ยนแปลงในหน่วยข่าวกรองไซเบอร์ของสหรัฐฯ ด้วยการปลด Gen. Timothy Haugh และรองผู้บริหาร Wendy Noble ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงที่ชี้ว่าการตัดสินใจนี้ อาจลดทอนความปลอดภัยไซเบอร์ในช่วงที่ภัยคุกคามไซเบอร์จากต่างชาติรุนแรงขึ้น Loomer ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์นี้กล่าวว่าผู้นำที่ถูกปลดนั้น “disloyal” แต่เหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจยังไม่มีการชี้แจงอย่างชัดเจน

    ✅ การปลดโดยไม่มีการชี้แจงเหตุผลชัดเจน
    - Gen. Haugh ถูกปลดขณะที่กำลังเดินทาง และไม่ได้รับข้อมูลชัดเจนถึงสาเหตุ “Your services are no longer required” เป็นคำพูดที่ถูกใช้แทนคำอธิบาย

    ✅ ความเห็นจากนักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญที่วิพากษ์วิจารณ์การปลดนี้
    - Sen. Mark Warner กล่าวว่าการปลดนี้เกิดขึ้น ในช่วงที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญภัยคุกคามไซเบอร์ครั้งใหญ่ เช่น Salt Typhoon Cyberattack จากจีน
    - Jim Himes สมาชิกคณะกรรมการข่าวกรองกล่าวว่า การปลดผู้นำที่มีความซื่อสัตย์และมุ่งเน้นความมั่นคงอาจทำให้ความปลอดภัยลดลง

    ✅ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อปฏิบัติการไซเบอร์
    - Haugh มีประสบการณ์กว่า 30 ปีในวงการข่าวกรองและการทหาร รวมถึงการนำทีมในโครงการ Russia Small Group เพื่อป้องกันการแทรกแซงการเลือกตั้ง
    - Lt. Gen. William J. Hartman จะรับหน้าที่ผู้อำนวยการ NSA ชั่วคราว ซึ่งอาจทำให้การเปลี่ยนผ่านเกิดความท้าทาย

    ✅ เหตุผลเชิงการเมืองที่อาจอยู่เบื้องหลังการปลดนี้
    - Loomer กล่าวบน X (Twitter เดิม) ว่าผู้นำที่ถูกปลดนั้น “disloyal” และเกี่ยวข้องกับการแนะนำโดยบุคคลที่ทรัมป์กล่าวหาว่า ทรยศต่อประเทศ

    https://www.csoonline.com/article/3954632/trump-fires-nsa-and-cybercom-chief-jeopardizing-cyber-intel.html
    Donald Trump สร้างความเปลี่ยนแปลงในหน่วยข่าวกรองไซเบอร์ของสหรัฐฯ ด้วยการปลด Gen. Timothy Haugh และรองผู้บริหาร Wendy Noble ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงที่ชี้ว่าการตัดสินใจนี้ อาจลดทอนความปลอดภัยไซเบอร์ในช่วงที่ภัยคุกคามไซเบอร์จากต่างชาติรุนแรงขึ้น Loomer ซึ่งเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์นี้กล่าวว่าผู้นำที่ถูกปลดนั้น “disloyal” แต่เหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจยังไม่มีการชี้แจงอย่างชัดเจน ✅ การปลดโดยไม่มีการชี้แจงเหตุผลชัดเจน - Gen. Haugh ถูกปลดขณะที่กำลังเดินทาง และไม่ได้รับข้อมูลชัดเจนถึงสาเหตุ “Your services are no longer required” เป็นคำพูดที่ถูกใช้แทนคำอธิบาย ✅ ความเห็นจากนักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญที่วิพากษ์วิจารณ์การปลดนี้ - Sen. Mark Warner กล่าวว่าการปลดนี้เกิดขึ้น ในช่วงที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญภัยคุกคามไซเบอร์ครั้งใหญ่ เช่น Salt Typhoon Cyberattack จากจีน - Jim Himes สมาชิกคณะกรรมการข่าวกรองกล่าวว่า การปลดผู้นำที่มีความซื่อสัตย์และมุ่งเน้นความมั่นคงอาจทำให้ความปลอดภัยลดลง ✅ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อปฏิบัติการไซเบอร์ - Haugh มีประสบการณ์กว่า 30 ปีในวงการข่าวกรองและการทหาร รวมถึงการนำทีมในโครงการ Russia Small Group เพื่อป้องกันการแทรกแซงการเลือกตั้ง - Lt. Gen. William J. Hartman จะรับหน้าที่ผู้อำนวยการ NSA ชั่วคราว ซึ่งอาจทำให้การเปลี่ยนผ่านเกิดความท้าทาย ✅ เหตุผลเชิงการเมืองที่อาจอยู่เบื้องหลังการปลดนี้ - Loomer กล่าวบน X (Twitter เดิม) ว่าผู้นำที่ถูกปลดนั้น “disloyal” และเกี่ยวข้องกับการแนะนำโดยบุคคลที่ทรัมป์กล่าวหาว่า ทรยศต่อประเทศ https://www.csoonline.com/article/3954632/trump-fires-nsa-and-cybercom-chief-jeopardizing-cyber-intel.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Trump fires NSA and Cybercom chief, jeopardizing cyber intel
    Lawmakers fear the firing of Gen. Timothy Haugh will lead to a loss of critical intelligence at a time when cyber threats continue to escalate.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ออกอัปเดตใหม่เพื่อแก้ปัญหา Word และ Outlook ที่เกิดจากไฟล์ DLL ขาดหาย ซึ่งผู้ใช้พบเจอมานานกว่า 6 เดือน ปัญหานี้เกิดจากเวอร์ชัน Office ที่ไม่ตรงกับช่องทางติดตั้ง (Channel) ส่งผลให้บางฟีเจอร์ทำงานไม่ได้ Microsoft แนะนำให้ตรวจสอบ Channel และเวอร์ชันของ Office หรือถอนการติดตั้งแล้วติดตั้งใหม่ หากยังพบปัญหา ผู้ใช้สามารถรวบรวมข้อมูล Log และ DLL ส่งให้ทีมสนับสนุนเพื่อช่วยแก้ไขเพิ่มเติม

    ✅ สาเหตุของปัญหาเกี่ยวกับความไม่ตรงกันของ Office Channel และเวอร์ชัน
    - ปัญหานี้เกิดขึ้นเมื่อ เวอร์ชันของ Office บนเครื่องไม่สอดคล้องกับ Channel ของการติดตั้ง
    - ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้ Office Channel แบบ Monthly Enterprise แต่ติดตั้งเวอร์ชัน Current Channel ปัญหาจะเกิดขึ้น

    ✅ วิธีการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา
    - ตรวจสอบเวอร์ชันของ Office โดยเปิด Word แล้วเข้าไปที่ File > Account > About Word
    - หากพบว่าช่องทาง (Channel) และเวอร์ชันไม่ตรงกัน ควรย้ายไปยัง Channel ที่ตรงกับเวอร์ชันของคุณ

    ✅ ขั้นตอนที่ Microsoft แนะนำในกรณีที่ยังเกิดปัญหา
    - ถอนการติดตั้ง Office และติดตั้งใหม่ เพื่อแก้ไขความไม่สอดคล้อง
    - หากปัญหายังคงอยู่ ให้ รวบรวม Log File และไฟล์ DLL ที่เกี่ยวข้อง ส่งต่อให้ทีมสนับสนุน

    ✅ คู่มือสำหรับการเก็บข้อมูลที่ต้องการ
    - Microsoft ได้แนะนำผู้ใช้ให้เก็บไฟล์ Log และข้อมูล DLL เช่น msls70.dll และ pagelayout.dll สำหรับการวิเคราะห์เพิ่มเติมโดยทีมงาน
    - ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด Deployment Log Collector Tool เพื่อช่วยจัดการข้อมูลสำหรับทีมสนับสนุน

    https://www.neowin.net/news/microsoft-finally-shares-detailed-fix-for-a-six-month-old-outlook-word-dll-bug/
    Microsoft ออกอัปเดตใหม่เพื่อแก้ปัญหา Word และ Outlook ที่เกิดจากไฟล์ DLL ขาดหาย ซึ่งผู้ใช้พบเจอมานานกว่า 6 เดือน ปัญหานี้เกิดจากเวอร์ชัน Office ที่ไม่ตรงกับช่องทางติดตั้ง (Channel) ส่งผลให้บางฟีเจอร์ทำงานไม่ได้ Microsoft แนะนำให้ตรวจสอบ Channel และเวอร์ชันของ Office หรือถอนการติดตั้งแล้วติดตั้งใหม่ หากยังพบปัญหา ผู้ใช้สามารถรวบรวมข้อมูล Log และ DLL ส่งให้ทีมสนับสนุนเพื่อช่วยแก้ไขเพิ่มเติม ✅ สาเหตุของปัญหาเกี่ยวกับความไม่ตรงกันของ Office Channel และเวอร์ชัน - ปัญหานี้เกิดขึ้นเมื่อ เวอร์ชันของ Office บนเครื่องไม่สอดคล้องกับ Channel ของการติดตั้ง - ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้ Office Channel แบบ Monthly Enterprise แต่ติดตั้งเวอร์ชัน Current Channel ปัญหาจะเกิดขึ้น ✅ วิธีการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา - ตรวจสอบเวอร์ชันของ Office โดยเปิด Word แล้วเข้าไปที่ File > Account > About Word - หากพบว่าช่องทาง (Channel) และเวอร์ชันไม่ตรงกัน ควรย้ายไปยัง Channel ที่ตรงกับเวอร์ชันของคุณ ✅ ขั้นตอนที่ Microsoft แนะนำในกรณีที่ยังเกิดปัญหา - ถอนการติดตั้ง Office และติดตั้งใหม่ เพื่อแก้ไขความไม่สอดคล้อง - หากปัญหายังคงอยู่ ให้ รวบรวม Log File และไฟล์ DLL ที่เกี่ยวข้อง ส่งต่อให้ทีมสนับสนุน ✅ คู่มือสำหรับการเก็บข้อมูลที่ต้องการ - Microsoft ได้แนะนำผู้ใช้ให้เก็บไฟล์ Log และข้อมูล DLL เช่น msls70.dll และ pagelayout.dll สำหรับการวิเคราะห์เพิ่มเติมโดยทีมงาน - ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด Deployment Log Collector Tool เพื่อช่วยจัดการข้อมูลสำหรับทีมสนับสนุน https://www.neowin.net/news/microsoft-finally-shares-detailed-fix-for-a-six-month-old-outlook-word-dll-bug/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft finally shares detailed fix for a six-month old Outlook, Word DLL bug
    Microsoft has finally offered fix for six-month old DLL issue affecting Outlook, Word, and more Office apps.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • Newsstory : สรุปสาระสำคัญ เหตุที่ทำให้ตึก สตง. ถล่ม เกิดจากสิ่งนี้.....
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล
    #สาเหตุแท้จริง #ตึกถล่ม
    Newsstory : สรุปสาระสำคัญ เหตุที่ทำให้ตึก สตง. ถล่ม เกิดจากสิ่งนี้..... #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #สาเหตุแท้จริง #ตึกถล่ม
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • 🎖️ 124 ปี อุบลฯ ปราบกบฏผีบุญองค์มั่น ศรัทธา คือ อาวุธ! ผีบุญขุขันธ์ ใหญ่สุดในอีสาน ไม่มีให้จดจำ ไม่ทำให้ลืมเลือน

    “ความศรัทธา” เปลี่ยนเป็น “การลุกฮือ” เมื่อประชาชนหมดหวังในรัฐ ย้อนรอยประวัติศาสตร์ “ศึกโนนโพธิ์” กับคำถามที่ไม่ควรหายไปจากแผ่นดิน

    🕰️ เสียงปืนใหญ่ที่โลกไม่เคยได้ยิน ย้อนกลับไปในวันศุกร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2444 เสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องจากป่าบ้านสะพือ จังหวัดอุบลราชธานี ปืนของทหารสยาม ไม่ได้ยิงใส่ข้าศึกจากภายนอก… แต่มุ่งตรงไปยังกลุ่มชาวบ้าน ผู้มีศรัทธาในชายผู้ถูกเรียกว่า “องค์มั่น” ผู้นำแห่งขบวนการ “ผู้มีบุญ”

    การปะทะในวันนั้น จบลงด้วยศพกว่า 300 ราย แต่อุดมการณ์ ยังดังก้องข้ามศตวรรษ 🕊️

    🤔 ผู้มีบุญคือใคร? ก่อนจะไปถึงการสู้รบ... ต้องย้อนกลับมาที่คำว่า “ผู้มีบุญ” หรือที่รัฐไทยเรียกแบบดูหมิ่นว่า “ผีบุญ” 👻

    ผู้มีบุญ = คนที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็น “ผู้วิเศษ” หรือ “พระศรีอริยเมตไตรย” ผู้จะมากู้โลกในยุคที่รัฐล้มเหลว ผู้มีบุญจึงไม่ใช่กบฏธรรมดา แต่คือ "ผู้นำจิตวิญญาณ" ของชาวบ้านที่สิ้นหวังในอำนาจรัฐกลาง ที่ดูห่างไกล เย็นชา และกดขี่

    🧾 จากกบฏถึงความหวัง บันทึก 260 ปี "กบฏผีบุญอีสาน" ภาคอีสานถูกจารึกว่า เป็นพื้นที่ที่มีกบฏผีบุญมากที่สุดในประเทศ

    2242 กบฏบุญกว้าง
    2334 กบฏเชียงแก้ว
    2360 กบฏสาเกียดโง้ง
    2442-44 กบฏสามโบก
    2444-45 กบฏผีบุญอีสาน ครั้งองค์มั่น 🟠
    2467 กบฏหนองหมากแก้ว
    2479 กบฏหมอลำน้อยชาดา
    2483 กบฏหมอลำโสภา พลตรี
    2502 กบฏศิลา วงศ์สิน

    🎯 ครั้งปี 2444-2445 นั้นถือเป็น การลุกฮือใหญ่ที่สุด มีผู้มีบุญมากถึง 60 คน ครอบคลุม 13 จังหวัด ในอีสาน

    "ผีบุญองค์มั่น" โด่งดังสุดในภาคอีสาน นอกจากองค์มั่นแล้ว ยังมีผู้นำรองๆ อีก 5 คน เป็นแกนนำ คือ องค์เขียว องค์ลิ้นก่าน องค์พระบาท องค์พระเมตไตร และองค์เหลือง ฝ่ายกบฏได้ปลุกระดมราษฎรทั้ง 2 ฝั่งโขง ในฝั่งขวา คือฝั่งอีสาน ได้กำลังจากอำเภอโขงเจียม อำเภอตระการพืชผล ในที่สุด ในวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2444 กลุ่มผีบุญเข้ายึดเมืองเขมราฐ จับเจ้าเมืองไว้เป็นตัวประกัน และเป็นเครื่องมือแห่แหนให้คนเข้าเป็นพวก แต่ฆ่าท้าวกุลบุตร ท้าวโพธิสาร กรมการเมืองที่ไม่ยอมเข้ากับฝ่ายกบฏ

    รวมถึงได้เผาเมืองเขมราฐ ปล่อยนักโทษจากคุก แล้วเคลื่อนกำลังมุ่งตรงมายังเมืองอุบลราชธานี มาตั้งทัพระดมพลอีกครั้งที่บ้านสะพือใหญ่ อำเภอตระการพืชผล มีคนมาเข้ากับองค์มั่น 2,500 คน แต่อาวุธไม่ทันสมัย มีปืนคาบศิลา ปืนแก๊ป มีดพร้า ฝ่ายกบฏได้สะสมเสบียงอาหารด้วย ฝ่ายกบฏได้ฆ่านายอำเภอพนานิคม ซึ่งไม่ยอมเข้ากับฝ่ายกบฏด้วย

    แต่... "ผีบุญขุขันธ์" ใหญ่สุดในภาคอีสาน กบฏกลุ่มบุญจันเมืองขุขันธ์ กลุ่มนี้เป็นกบฏผู้มีบุญอีสานที่ใหญ่ที่สุด มีสมาชิกที่มาเข้าร่วมถึง 6,000 คน หัวหน้ากบฏชื่อบุญจัน เป็นบุตรเจ้าเมืองขุขันธ์คนก่อน และเป็นน้องชายของผู้ว่าราชการเมืองขุขันธ์ในขณะนั้น ไม่ถูกกับพี่ชาย ในเรื่องตำแหน่งเจ้าเมืองมากกว่าสาเหตุอื่น ได้ตั้งตัวเป็นผู้มีบุญซ่องสุมกำลังอยู่ที่ภูฝ้าย ตำบลพราน อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษในปัจจุบัน

    การเคลื่อนไหวของผีบุญ ขยายวงกว้าง รวดเร็ว เพราะมีการเชื่อมโยงระหว่างหมู่บ้าน และอาศัยระบบวัฒนธรรม แบบปากต่อปาก 🗣️

    จุดแข็งของเครือข่ายนี้อยู่ที่ “ความศรัทธา” ไม่ใช่กำลังพล หรืออาวุธ

    🔥 จุดระเบิด เมื่อภาษี 4 บาท กลายเป็นฟางเส้นสุดท้าย 💸 ภาษีส่วยที่ชาวอีสานรับไม่ไหว รัฐสยามในยุครัชกาลที่ 5 มีนโยบายปฏิรูปการปกครองแบบรวมศูนย์ ส่งคนมาเก็บภาษีตรงจากประชาชน โดยเฉพาะภาษี ชายฉกรรจ์ 4 บาท ต่อคน ต่อปี เทียบค่าเงินปัจจุบันราว 3,500-4,000 บาท

    แต่ในยุคนั้น คนอีสานส่วนใหญ่ไม่ใช้เงิน และใช้ชีวิตพอเพียง เลี้ยงไก่ ปลูกข้าว ใช้ระบบแลกเปลี่ยน เงิน 4 บาท จึงเท่ากับความเดือดร้อนทั้งบ้าน 💔

    ☠️ “ฝูงไทยใจฮ้าย ตายสิ้นบ่หลอ” เสียงหมอลำตอกย้ำความเจ็บปวด ชี้ให้เห็นความไม่ยุติธรรม และปลุกใจชาวบ้าน
    บางพื้นที่ ถึงกับมีคำปลุกระดมชัดเจน เช่น

    “ไล่ไทยเอาดินคืนมา… ฆ่าไทยเสียให้หมด!”

    👑 จากชายธรรมดาสู่ผู้นำกองทัพศรัทธา "องค์มั่น" หรืออ้ายมาน เป็นผู้นำผู้มีบุญที่โดดเด่นที่สุด ตั้งตนเป็น "พระยาธรรมิกราช" หรือ "องค์ปราสาททอง" ✨

    👥 กลุ่มผู้ติดตามที่แข็งแกร่ง มีคนเข้าร่วมกว่า 2,500 คน ครอบคลุมพื้นที่ อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ, ลาวใต้ มีแกนนำร่วม เช่น องค์เขียว, องค์พระบาท, องค์เมตไตรย ฯลฯ

    ⚔️ ศึกโนนโพธิ์ ปืนใหญ่ที่ดับความหวัง วันศุกร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2444 ตรงกับวันนี้ครบ 124 ปี พอดี และเป็นวันศุกร์เหมือนกัน กองทัพจากเมืองอุบลฯ ภายใต้การนำของ "พันตรีหลวงสุรกิจพิศาล" ใช้ ปืนใหญ่ 2 กระบอก ซุ่มโจมตีที่ “บ้านสะพือใหญ่” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “โนนโพธิ์”

    🔥 ปืนใหญ่ยิงถล่มตรงกลางกลุ่มกบฏ

    💀 เสียชีวิตทันที 200-300 คน

    😭 บาดเจ็บกว่า 500 คน

    องค์มั่นหนีไปได้ แต่ลูกน้อง 400 คนถูกจับ ศาลตัดสินประหาร “องค์” ทุกคน ✝️

    🧵 จดหมายลูกโซ่ หมอลำ และพลัง Soft Power แห่งยุค การปลุกระดมของผู้มีบุญ ไม่ได้เกิดจากอาวุธ แต่เกิดจาก...

    📜 จดหมายลูกโซ่ ที่คัดลอกคำพยากรณ์ต่อๆ กัน

    🎤 หมอลำ ที่ลำเกี่ยวกับความทุกข์ โจมตีรัฐ และปลุกใจ

    👄 การเล่าปากต่อปาก ที่ขยายความศรัทธาไปทั่วแผ่นดิน

    ในยุคที่คนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ "เสียง" คือพลังที่สุด!

    🛕 การต่อสู้ของคนที่ “ไม่มีเจ้า” หนึ่งในข้อมูลจากเอกสารสอบสวนผู้มีบุญ ระบุว่า “ถ้ายึดเมืองต่างๆ ได้ จะไม่มีเจ้าไม่มีนาย ทุกคนจะเท่ากัน” นี่คือความฝัน ที่ชาวบ้านไม่เคยได้จากรัฐ ยุคพระศรีอาริย์ ที่ไม่มีการกดขี่ มีแต่ความอุดมสมบูรณ์

    🏞️ พื้นที่ความทรงจำ ในวันนี้ โนนโพธิ์ไม่ได้เป็นสนามรบแล้ว แต่กลายเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวบ้านเดินทางมาทำบุญ
    มีการวางแผนสร้าง อนุสรณ์สถานศึกโนนโพธิ์ ให้ลูกหลานได้เรียนรู้

    🎨 ภายในวัดมีภาพฝาผนังวาดเหตุการณ์

    🪔 ชาวบ้านมาร่วมงานบุญ แจกข้าวให้ผู้ล่วงลับ

    📖 เด็กนักเรียนเคยเก็บข้อมูล สัมภาษณ์คนเฒ่าคนแก่

    🪦 มีหลุมศพกลางทุ่ง ที่ไถนาก็ยังเจอกระโหลก

    🧑‍🏫 เมื่อรัฐหายไป ประวัติศาสตร์จึงถูกเล่าด้วยเสียงของชาวบ้าน “กบฏผีบุญ” คือคำที่รัฐใช้เรียก แต่ “ผู้มีบุญ” คือคำที่ชาวบ้านจดจำ และตอนนี้… คนรุ่นใหม่กำลังฟื้นเสียงนั้นกลับคืนมา

    📌 “การทำอนุสรณ์สถานไม่ใช่การปลุกระดม แต่คือการคืนความทรงจำให้กับแผ่นดิน”

    📌 จากเสียงหมอลำ สู่เสียงประวัติศาสตร์ที่ควรถูกฟัง “ผู้มีบุญ” = ผู้นำทางจิตวิญญาณของประชาชนที่สิ้นหวัง "องค์มั่น" เป็นผู้นำที่ชัดเจนที่สุด มีอิทธิพลมากที่สุด “ศึกโนนโพธิ์” คือตัวแทนของการปะทะระหว่าง รัฐรวมศูนย์ และ ชาวบ้านชายขอบ

    ปัจจุบันโนนโพธิ์ เริ่มกลายเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ ความหวังคือ... การพูดถึงอย่างเปิดเผย จะทำให้ประวัติศาสตร์ไม่เงียบอีกต่อไป

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 041010 เม.ย. 2568

    📌 #กบฏผีบุญ #124ปีศึกโนนโพธิ์ #องค์มั่น #ผู้มีบุญ #บ้านสะพือ #ประวัติศาสตร์อีสาน #ศรัทธาคืออาวุธ #อนุสรณ์สถานผีบุญ #เสียงจากชายขอบ #หมอลำคือพลัง

    🎖️ 124 ปี อุบลฯ ปราบกบฏผีบุญองค์มั่น ศรัทธา คือ อาวุธ! ผีบุญขุขันธ์ ใหญ่สุดในอีสาน ไม่มีให้จดจำ ไม่ทำให้ลืมเลือน “ความศรัทธา” เปลี่ยนเป็น “การลุกฮือ” เมื่อประชาชนหมดหวังในรัฐ ย้อนรอยประวัติศาสตร์ “ศึกโนนโพธิ์” กับคำถามที่ไม่ควรหายไปจากแผ่นดิน 🕰️ เสียงปืนใหญ่ที่โลกไม่เคยได้ยิน ย้อนกลับไปในวันศุกร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2444 เสียงปืนใหญ่ดังกึกก้องจากป่าบ้านสะพือ จังหวัดอุบลราชธานี ปืนของทหารสยาม ไม่ได้ยิงใส่ข้าศึกจากภายนอก… แต่มุ่งตรงไปยังกลุ่มชาวบ้าน ผู้มีศรัทธาในชายผู้ถูกเรียกว่า “องค์มั่น” ผู้นำแห่งขบวนการ “ผู้มีบุญ” การปะทะในวันนั้น จบลงด้วยศพกว่า 300 ราย แต่อุดมการณ์ ยังดังก้องข้ามศตวรรษ 🕊️ 🤔 ผู้มีบุญคือใคร? ก่อนจะไปถึงการสู้รบ... ต้องย้อนกลับมาที่คำว่า “ผู้มีบุญ” หรือที่รัฐไทยเรียกแบบดูหมิ่นว่า “ผีบุญ” 👻 ผู้มีบุญ = คนที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็น “ผู้วิเศษ” หรือ “พระศรีอริยเมตไตรย” ผู้จะมากู้โลกในยุคที่รัฐล้มเหลว ผู้มีบุญจึงไม่ใช่กบฏธรรมดา แต่คือ "ผู้นำจิตวิญญาณ" ของชาวบ้านที่สิ้นหวังในอำนาจรัฐกลาง ที่ดูห่างไกล เย็นชา และกดขี่ 🧾 จากกบฏถึงความหวัง บันทึก 260 ปี "กบฏผีบุญอีสาน" ภาคอีสานถูกจารึกว่า เป็นพื้นที่ที่มีกบฏผีบุญมากที่สุดในประเทศ 2242 กบฏบุญกว้าง 2334 กบฏเชียงแก้ว 2360 กบฏสาเกียดโง้ง 2442-44 กบฏสามโบก 2444-45 กบฏผีบุญอีสาน ครั้งองค์มั่น 🟠 2467 กบฏหนองหมากแก้ว 2479 กบฏหมอลำน้อยชาดา 2483 กบฏหมอลำโสภา พลตรี 2502 กบฏศิลา วงศ์สิน 🎯 ครั้งปี 2444-2445 นั้นถือเป็น การลุกฮือใหญ่ที่สุด มีผู้มีบุญมากถึง 60 คน ครอบคลุม 13 จังหวัด ในอีสาน "ผีบุญองค์มั่น" โด่งดังสุดในภาคอีสาน นอกจากองค์มั่นแล้ว ยังมีผู้นำรองๆ อีก 5 คน เป็นแกนนำ คือ องค์เขียว องค์ลิ้นก่าน องค์พระบาท องค์พระเมตไตร และองค์เหลือง ฝ่ายกบฏได้ปลุกระดมราษฎรทั้ง 2 ฝั่งโขง ในฝั่งขวา คือฝั่งอีสาน ได้กำลังจากอำเภอโขงเจียม อำเภอตระการพืชผล ในที่สุด ในวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2444 กลุ่มผีบุญเข้ายึดเมืองเขมราฐ จับเจ้าเมืองไว้เป็นตัวประกัน และเป็นเครื่องมือแห่แหนให้คนเข้าเป็นพวก แต่ฆ่าท้าวกุลบุตร ท้าวโพธิสาร กรมการเมืองที่ไม่ยอมเข้ากับฝ่ายกบฏ รวมถึงได้เผาเมืองเขมราฐ ปล่อยนักโทษจากคุก แล้วเคลื่อนกำลังมุ่งตรงมายังเมืองอุบลราชธานี มาตั้งทัพระดมพลอีกครั้งที่บ้านสะพือใหญ่ อำเภอตระการพืชผล มีคนมาเข้ากับองค์มั่น 2,500 คน แต่อาวุธไม่ทันสมัย มีปืนคาบศิลา ปืนแก๊ป มีดพร้า ฝ่ายกบฏได้สะสมเสบียงอาหารด้วย ฝ่ายกบฏได้ฆ่านายอำเภอพนานิคม ซึ่งไม่ยอมเข้ากับฝ่ายกบฏด้วย แต่... "ผีบุญขุขันธ์" ใหญ่สุดในภาคอีสาน กบฏกลุ่มบุญจันเมืองขุขันธ์ กลุ่มนี้เป็นกบฏผู้มีบุญอีสานที่ใหญ่ที่สุด มีสมาชิกที่มาเข้าร่วมถึง 6,000 คน หัวหน้ากบฏชื่อบุญจัน เป็นบุตรเจ้าเมืองขุขันธ์คนก่อน และเป็นน้องชายของผู้ว่าราชการเมืองขุขันธ์ในขณะนั้น ไม่ถูกกับพี่ชาย ในเรื่องตำแหน่งเจ้าเมืองมากกว่าสาเหตุอื่น ได้ตั้งตัวเป็นผู้มีบุญซ่องสุมกำลังอยู่ที่ภูฝ้าย ตำบลพราน อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษในปัจจุบัน การเคลื่อนไหวของผีบุญ ขยายวงกว้าง รวดเร็ว เพราะมีการเชื่อมโยงระหว่างหมู่บ้าน และอาศัยระบบวัฒนธรรม แบบปากต่อปาก 🗣️ จุดแข็งของเครือข่ายนี้อยู่ที่ “ความศรัทธา” ไม่ใช่กำลังพล หรืออาวุธ 🔥 จุดระเบิด เมื่อภาษี 4 บาท กลายเป็นฟางเส้นสุดท้าย 💸 ภาษีส่วยที่ชาวอีสานรับไม่ไหว รัฐสยามในยุครัชกาลที่ 5 มีนโยบายปฏิรูปการปกครองแบบรวมศูนย์ ส่งคนมาเก็บภาษีตรงจากประชาชน โดยเฉพาะภาษี ชายฉกรรจ์ 4 บาท ต่อคน ต่อปี เทียบค่าเงินปัจจุบันราว 3,500-4,000 บาท แต่ในยุคนั้น คนอีสานส่วนใหญ่ไม่ใช้เงิน และใช้ชีวิตพอเพียง เลี้ยงไก่ ปลูกข้าว ใช้ระบบแลกเปลี่ยน เงิน 4 บาท จึงเท่ากับความเดือดร้อนทั้งบ้าน 💔 ☠️ “ฝูงไทยใจฮ้าย ตายสิ้นบ่หลอ” เสียงหมอลำตอกย้ำความเจ็บปวด ชี้ให้เห็นความไม่ยุติธรรม และปลุกใจชาวบ้าน บางพื้นที่ ถึงกับมีคำปลุกระดมชัดเจน เช่น “ไล่ไทยเอาดินคืนมา… ฆ่าไทยเสียให้หมด!” 👑 จากชายธรรมดาสู่ผู้นำกองทัพศรัทธา "องค์มั่น" หรืออ้ายมาน เป็นผู้นำผู้มีบุญที่โดดเด่นที่สุด ตั้งตนเป็น "พระยาธรรมิกราช" หรือ "องค์ปราสาททอง" ✨ 👥 กลุ่มผู้ติดตามที่แข็งแกร่ง มีคนเข้าร่วมกว่า 2,500 คน ครอบคลุมพื้นที่ อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ, ลาวใต้ มีแกนนำร่วม เช่น องค์เขียว, องค์พระบาท, องค์เมตไตรย ฯลฯ ⚔️ ศึกโนนโพธิ์ ปืนใหญ่ที่ดับความหวัง วันศุกร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2444 ตรงกับวันนี้ครบ 124 ปี พอดี และเป็นวันศุกร์เหมือนกัน กองทัพจากเมืองอุบลฯ ภายใต้การนำของ "พันตรีหลวงสุรกิจพิศาล" ใช้ ปืนใหญ่ 2 กระบอก ซุ่มโจมตีที่ “บ้านสะพือใหญ่” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “โนนโพธิ์” 🔥 ปืนใหญ่ยิงถล่มตรงกลางกลุ่มกบฏ 💀 เสียชีวิตทันที 200-300 คน 😭 บาดเจ็บกว่า 500 คน องค์มั่นหนีไปได้ แต่ลูกน้อง 400 คนถูกจับ ศาลตัดสินประหาร “องค์” ทุกคน ✝️ 🧵 จดหมายลูกโซ่ หมอลำ และพลัง Soft Power แห่งยุค การปลุกระดมของผู้มีบุญ ไม่ได้เกิดจากอาวุธ แต่เกิดจาก... 📜 จดหมายลูกโซ่ ที่คัดลอกคำพยากรณ์ต่อๆ กัน 🎤 หมอลำ ที่ลำเกี่ยวกับความทุกข์ โจมตีรัฐ และปลุกใจ 👄 การเล่าปากต่อปาก ที่ขยายความศรัทธาไปทั่วแผ่นดิน ในยุคที่คนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ "เสียง" คือพลังที่สุด! 🛕 การต่อสู้ของคนที่ “ไม่มีเจ้า” หนึ่งในข้อมูลจากเอกสารสอบสวนผู้มีบุญ ระบุว่า “ถ้ายึดเมืองต่างๆ ได้ จะไม่มีเจ้าไม่มีนาย ทุกคนจะเท่ากัน” นี่คือความฝัน ที่ชาวบ้านไม่เคยได้จากรัฐ ยุคพระศรีอาริย์ ที่ไม่มีการกดขี่ มีแต่ความอุดมสมบูรณ์ 🏞️ พื้นที่ความทรงจำ ในวันนี้ โนนโพธิ์ไม่ได้เป็นสนามรบแล้ว แต่กลายเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวบ้านเดินทางมาทำบุญ มีการวางแผนสร้าง อนุสรณ์สถานศึกโนนโพธิ์ ให้ลูกหลานได้เรียนรู้ 🎨 ภายในวัดมีภาพฝาผนังวาดเหตุการณ์ 🪔 ชาวบ้านมาร่วมงานบุญ แจกข้าวให้ผู้ล่วงลับ 📖 เด็กนักเรียนเคยเก็บข้อมูล สัมภาษณ์คนเฒ่าคนแก่ 🪦 มีหลุมศพกลางทุ่ง ที่ไถนาก็ยังเจอกระโหลก 🧑‍🏫 เมื่อรัฐหายไป ประวัติศาสตร์จึงถูกเล่าด้วยเสียงของชาวบ้าน “กบฏผีบุญ” คือคำที่รัฐใช้เรียก แต่ “ผู้มีบุญ” คือคำที่ชาวบ้านจดจำ และตอนนี้… คนรุ่นใหม่กำลังฟื้นเสียงนั้นกลับคืนมา 📌 “การทำอนุสรณ์สถานไม่ใช่การปลุกระดม แต่คือการคืนความทรงจำให้กับแผ่นดิน” 📌 จากเสียงหมอลำ สู่เสียงประวัติศาสตร์ที่ควรถูกฟัง “ผู้มีบุญ” = ผู้นำทางจิตวิญญาณของประชาชนที่สิ้นหวัง "องค์มั่น" เป็นผู้นำที่ชัดเจนที่สุด มีอิทธิพลมากที่สุด “ศึกโนนโพธิ์” คือตัวแทนของการปะทะระหว่าง รัฐรวมศูนย์ และ ชาวบ้านชายขอบ ปัจจุบันโนนโพธิ์ เริ่มกลายเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ ความหวังคือ... การพูดถึงอย่างเปิดเผย จะทำให้ประวัติศาสตร์ไม่เงียบอีกต่อไป ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 041010 เม.ย. 2568 📌 #กบฏผีบุญ #124ปีศึกโนนโพธิ์ #องค์มั่น #ผู้มีบุญ #บ้านสะพือ #ประวัติศาสตร์อีสาน #ศรัทธาคืออาวุธ #อนุสรณ์สถานผีบุญ #เสียงจากชายขอบ #หมอลำคือพลัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 486 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts