• เทพเทวดาฯ ก็อยากได้บุญกุศล (ในภพเทวดาอาจจะทำบุญไม่ได้แต่หาวิธีทำจนได้)
    พญามุจลินท์ เห็นพระพุทธเจ้าศรัทธาในพระพุทธเจ้าท่านมาปกปักษ์รักษาทันที ได้ฟังเทศน์ฟังธรรมของพระพุทธเจ้า อัศจรรย์

    ครั้งล่วง 7 วัน ฝนหายขาดแล้ว พญานาคก็คลายขนดจำแลงกายเป็นมาณพ เข้าไปถวายอัญชลีเฉพาะพระพักตร์ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเปล่งอุทานวาจาว่า"ความสงัดเป็นสุข สำหรับบุคคลผู้มีธรรมอันเห็นแล้ว ยินดีอยู่ในที่สงัด รู้เห็นตามความเป็นจริง ความไม่เบียดเบียน คือความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย และความปราศจากความกำหนัด คือความล่วงกามทั้งหลายเสียได้ด้วยประการทั้งปวง เป็นสุขในโลก ความนำอัสมิมานะ คือความถือตัวออกให้หมดไปเป็นสุขอย่างยิ่ง"
    เทพเทวดาฯ ก็อยากได้บุญกุศล (ในภพเทวดาอาจจะทำบุญไม่ได้แต่หาวิธีทำจนได้) พญามุจลินท์ เห็นพระพุทธเจ้าศรัทธาในพระพุทธเจ้าท่านมาปกปักษ์รักษาทันที ได้ฟังเทศน์ฟังธรรมของพระพุทธเจ้า อัศจรรย์ ครั้งล่วง 7 วัน ฝนหายขาดแล้ว พญานาคก็คลายขนดจำแลงกายเป็นมาณพ เข้าไปถวายอัญชลีเฉพาะพระพักตร์ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเปล่งอุทานวาจาว่า"ความสงัดเป็นสุข สำหรับบุคคลผู้มีธรรมอันเห็นแล้ว ยินดีอยู่ในที่สงัด รู้เห็นตามความเป็นจริง ความไม่เบียดเบียน คือความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย และความปราศจากความกำหนัด คือความล่วงกามทั้งหลายเสียได้ด้วยประการทั้งปวง เป็นสุขในโลก ความนำอัสมิมานะ คือความถือตัวออกให้หมดไปเป็นสุขอย่างยิ่ง"
    0 Comments 0 Shares 104 Views 0 Reviews
  • ไส้กรอกเต้าหู้เห็ดหอม

    วิธีทำ น้ำตาลโตนด 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ ดอกเกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ แป้งข้าวโพด 1 ถ้วยตวง แป้งมัน 1/2 ถ้วยตวง น้ำเย็นจัดผสมลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน เต้าหู้ขาวบด ปั่นให้ละเอียดกับมันฝรั่ง หรือเผือกหอมบดละเอียด 1 ถ้วย เห็ดหอม 2 ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปั้นเป็นแท่ง ลวกในน้ำร้อนพอประมาณ ประมาณ 5 นาที หรือ ห่อด้วยอลูมินั่ม ฟอยล์ นำไปนึ่ง จะกินให้ย่าง อบ หรือ ทอด ก็ได้
    ไส้กรอกเต้าหู้เห็ดหอม วิธีทำ น้ำตาลโตนด 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ ดอกเกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ แป้งข้าวโพด 1 ถ้วยตวง แป้งมัน 1/2 ถ้วยตวง น้ำเย็นจัดผสมลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน เต้าหู้ขาวบด ปั่นให้ละเอียดกับมันฝรั่ง หรือเผือกหอมบดละเอียด 1 ถ้วย เห็ดหอม 2 ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปั้นเป็นแท่ง ลวกในน้ำร้อนพอประมาณ ประมาณ 5 นาที หรือ ห่อด้วยอลูมินั่ม ฟอยล์ นำไปนึ่ง จะกินให้ย่าง อบ หรือ ทอด ก็ได้
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • ✅รวมลิงค์ข้อมูล Chorine Dioxide Solution (CDS)
    ✍️สารคดีเกี่ยวกับคลอรีนไดออกไซด์ เมื่อปี 2012 โดยใช้สูตรของ จิม ฮัมเบิล ที่เรียกกันว่า MMS (Miracle Mineral Solution) เป็นงานวิจัยร่วมกับสภากาชาดในการใช้ MMS กำจัดโรคมาลาเรีย ภายใน 24 ชม.!!
    https://t.me/CDS4UData/9
    https://www.brighteon.com/e73aaf21-d7ef-411d-9777...
    ✍️คลิปสั้น 12 นาที สภากาชาดแอฟริกาใช้คลอรีนไดออกไซด์ในการรักษาคนไข้มาลาเรีย154 คน ภายใน 24 ชม.
    https://www.brighteon.com/aab729ec-e096-4c6f-b176...
    ✍️ขณะนี้แพทย์กว่า 5,000 คนใน 25 ประเทศใช้ chlorine dioxide (คลอรีนไดออกไซด์) หรือเรียกสั้นๆ ว่า CDS เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยที่ติดโควิด-19 อัตราการรักษาได้ผล 100% จากการรักษาที่ประเทศโบลิเวีย และเอกวาดอร์ และในอีกหลายๆประเทศ
    ที่มา: https://www.stopworldcontrol.com/cds/
    ✍️CDS แพทย์และผู้พันเพโดร จากเม็กซิโก
    https://t.me/CDS4UData/3
    ✍️CDS ถามตอบ มันคือสารฟอกขาวหรือ
    https://t.me/CDS4UData/4
    ✍️ CDS ไม่ไปฆ่าเซลล์หรือทำร้ายเซลล์ในตัวเรา โดย ดร.เพโดร แพทย์ทหารจากเม็กซิโก
    https://t.me/CDS4UData/6
    ✍️CDS คุณหมอ แมนูแอล อะพาริโช ประธานกลุ่มแพทย์ COMUSAV ทั่วโลก บอกว่ามีงานศึกษาวิจัยการใช้คลอรีนไดออกไซด์ 3 ฉบับซึ่งตีพิมพ์ในนิตยสาร Index แล้ว
    https://t.me/CDS4UData/7
    ✍️การทดลองกับเม็ดเลือดแดงโดยให้คนดื่มคลอรีนไดออกไซด์ CDS แล้วเจาะเลือดส่องกล้องจุลทรรศน์ ทำให้เห็นว่าเม็ดเลือดแดงมีรูปร่างและมีความกลม ตามที่ควรจะเป็น ไม่ติดกันเป็นสาย
    https://t.me/CDS4UData/8
    ✍️คลอรีนไดออกไซด์ กับ เด็กออทิสติก
    https://t.me/CDS4UData/20
    ✍️การทำงานของ CDS
    https://t.me/CDS4UData/10
    ✍️สารบัญข้อมูล ห้อง “CDS ทำเองได้ ใช้เองเป็น”
    https://t.me/CDS4UData/470
    ✍️วิธีทำ CDS ช่องเทเลแกรม ป้องกันรักษาโรค ทางสายกลาง โดย หม่อมโจ้ รุ่งคุณ กิติยากร
    https://t.me/MiddlewayResistance/1560
    ✍️โรคที่รักษาด้วย CDS ได้
    https://t.me/CDS4UData/14
    ✍️CDS for Cancer protocol
    https://canceremocional.org/en/cds-protocols-a-through-z/...
    ✍️คลิปความอันตรายของสารใดๆก็ตาม ขึ้นอยู่กับปริมาณโดส https://t.me/awakened_thailand/207
    ✍️คลิปทำไมคลอรีนไดออกไซด์ถึงกำจัดโควิดได้ https://t.me/awakened_thailand/194
    ✍️ที่อเมริกาต้อง ผสม CDS เอง ไม่มีแบบสำเร็จรูปขาย สั่งซื้อเองได้ที่นี่
    https://amzn.to/3CSaiwf
    ✍️วีธีใช้ CDS โปรโตคอลในการล้างโลหะหนัก
    https://t.me/CDS4UData/179
    https://m.facebook.com/story.php...
    ✍️หนังสือเกี่ยวกับคลอรีนไดออกไซด์ (CDS) อธิบายพื้นฐาน หลักการทำงานต่างๆ รวมไปถึงวิธีการเตรียม และสารที่ต้องใช้
    https://t.me/CDS4UData/23
    ✍️คลิปโควิดลงปอด รักษาหายได้ด้วย CDS (ภาพตัวอย่าง X ray)
    https://t.me/awakened_thailand/199
    ✍️สารคดีเกี่ยวกับคลอรีนไดออกไซด์ โดยสารนี้เรียกว่า MMS (ชื่อแรกเริ่ม) ซึ่งมีความแตกต่างจาก CDS (Chlorine Dioxide Solution) ในการเตรียม
    https://rumble.com/vm8dkf-chlorine-dioxide-the-universal...
    ✍️The Universal Antidote of Chorine Dioxide Documentary FULL
    https://www.brighteon.com/cbea0547-0152-48d0-8ad8...
    ✍️คลอรีนไดออกไซด์สามารถทำลายไกลโฟเซต (ยาฆ่าหญ้า) ที่ทำให้เด็กเป็นออทิสติก https://t.me/awakened_thailand/408
    ✍️ การดื่ม MMS1 หรือ CDS ไปทำลายจุลินทรีย์ดีในลำไส้หรือไม่
    https://t.me/awakened_thailand/409
    ✍️ประสบการณ์ผู้ใช้ยา CDS
    https://t.me/CDS_Thailand
    รีวิวบางส่วน
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=170017322259924&id=100077549707108
    ✍️CDS ตัวอย่าง5เคสน่าทึ่ง
    https://www.brighteon.com/cbea0547-0152-48d0-8ad8...
    ✍️เคสใช้ CDS ของต่างประเทศ มีเคสมะเร็ง โรคเบาหวานและสารพัดโรค
    https://t.me/ChlorineDioxideInfo
    ✍️ควรใช้สารตั้งต้นเกรดอะไรในกระบวนการผลิต CDS
    https://t.me/CDS4UData/2154
    ✍️Protocol คืออะไร?? โดย เพจ คนไทยต้องรอด
    https://fb.watch/qU2nCSju8p/?
    ✍️Protocol E สวนล้างลำไส้ โดย เพจ คนไทยต้องรอด
    https://t.me/CDS4UData/2060
    ✍️รวมคลิปและวิธีทำ CDS
    https://drive.google.com/.../17WvCSyxFMIcjx...
    ✍️แจกหนังสือ อุบายขายโรค กระชากหน้ากากธุรกิจยาข้ามชาติ แถมคู่มือทำ cds เกรดแลปด้วยตัวเอง โดย ผู้ใช้ติ๊กต็อกชื่อ Daddy's On Fire
    https://tinyurl.com/daddyonfire
    👉กลุ่มCOMUSAV
    https://t.me/comusav
    👉 https://t.me/ChlorineDioxideTestimonies
    👉ห้อง CDS คลอรีนไดออกไซด์โซลูชัน
    https://t.me/CDS4UData
    👉ห้อง Natural Health Knowledge รวบรวมความรู้ด้านสุขภาพต่างๆ ทั้ง CDS, MMS, Colloidal silver, Borax และอื่นๆ เน้นทางเลือกในการรักษาสุขภาพ/รักษาโรค โดยไม่ต้องพึ่งพายาเคมี
    https://t.me/naturalhealthknowledge
    👉ห้องแชทเกี่ยวกับคลอรีนไดออกไซด์ ของต่างประเทศ (ทั้ง MMS & CDS)
    https://t.me/theuniversalantidote
    👉ห้องแชทภาษาสเปน
    https://t.me/joinchat/gj6PrWvxyJlkZjdk
    👉ห้องแชทภาษาอังกฤษ Natural Health Knowledge
    https://t.me/naturalhealthknowledgechat
    ✍️เปิดใจศึกษา CDS | บทสัมภาษณ์กับ ดร. แอนเดรียส คัลเกอร์
    https://www.rookon.com/?p=1248
    ✍️ไลฟ์สดเรื่อง CDS โดย อดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/watch?v=HOW9VLeS-7g
    CDS ปลอดภัยไหม
    https://www.youtube.com/watch?v=VabfaTTsK6o
    https://fb.watch/uPOe7rQYRN/?
    หมอบอกว่ากิน CDS แล้วตาย... จริงหรือ?
    https://www.youtube.com/live/wAaEXilj4qg?si=p8CD7sqmnlC6L3u8
    https://www.facebook.com/share/v/pkhiVpNEraX7irMi/
    ✍️ CDS , คาบาล , เราจะทำอย่างไรต่อ?
    https://www.youtube.com/live/cJSCI-6A6kA?si=j8TwPX6vnNvY_s6t
    https://fb.watch/v6cVR3d2hw/?
    ✍️ไลฟ์สด หัวข้อ CDS และ การล้างพิษ วิธีทำ CDS |อดิเทพ จาวลาห์
    https://fb.watch/vxYlcFYh8I/?
    https://www.youtube.com/live/z7dGSQAmX1k?si=-karhpJzOl5dmklZ
    ✍️CDS วิธีผลิตโดยใช้ป็๊มลม
    https://www.facebook.com/share/v/15CLedm4hA/
    EP1 https://www.youtube.com/live/5mCbq1fYT2Y?si=TP8aU5NpILbIl2Nu
    EP2 https://www.youtube.com/live/VMtE0bQ4_lM?si=sxFqf-XxXkav1t9C
    ✍️ไลฟ์สด หัวข้อ : BRICS | Donald Trump | วิธีการทำ CDS แบบที่ 3 ช่องทางการชม https://linktr.ee/chawlaadithep
    https://lin.ee/whj86pz
    https://www.youtube.com/live/NLyB0--X-dY?si=2NqruDF9U9TXknHv
    👉สนใจลงเรียนคอร์ส CDS ฟรี เพิ่มเพื่อนไลน์ @dioxiway
    กรุณาลงทะเบียนฟรีที่ https://forms.gle/2p1tZUMogn41iQMD6
    —————
    เกี่ยวกับ Dioxi Way
    Dioxi Way ถูกก่อตั้งขึ้นด้วยจุดประสงค์ 2 อย่าง
    1. ให้คนไทยเข้าใจ CDS
    2. ให้แพทย์ไทยเข้าถึงผลวิจัยและชมผลรับของผู้ที่ใช้ CDS เพื่อ พลักดัน ให้ CDS ถูกกฏหมาย
    เรากำลังสร้างเว็บไซต์ Dioxiway.com ให้เป็นแหล่งข้อมูลดังกล่าวครับ
    ขอบคุณครับ อดิเทพ จาวลาห์
    ไฟล์ วิธีทำ CDS (ไฟล์ PDF)
    ท่านสามารถรับชมได้ทาง
    1. ออนไลน์ - https://jmp.sh/s/1klP9ql0fMm3TZMNyOyN
    หรือ
    2. ดาวน์โหลดไฟล์ลงเครื่อง - https://www.transferxl.com/download/04jqQp0R3pyJK2
    ✍️ผลิต CDS ง่ายๆทำเองที่บ้านได้ โดยคุณอดิเทพ จาวลาห์
    https://www.rookon.com/?p=1276
    เข้าใจ CDS (พื้นฐาน)
    - คลอรีไดอ็อกไซด์คืออะไร?
    - สารตั้งต้น
    - ClO2 | CDS | NaClO2 | NaClO | MMS | CD | Cl2 คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร?
    - คุณสมบัติของ CDS
    - การคำนวนค่า PPM
    - CDS หมดอายุได้หรือไม่?
    - CDS ฆ่าเซลล์เราได้หรือไม่?
    - แบคทีเรีย ดี / แบคทีเรีย ไม่ดี
    - ClO2 / RBC
    รับชมคลิปได้ทาง:
    Facebook : https://www.facebook.com/share/v/162ihSAu7L/?mibextid=wwXIfr
    TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSM4LFMEQ/
    YouTube : https://youtu.be/cwafLyKQ6JA?si=KS58k3YZ1-lSLHRI
    สารคดี Bluetruth โดย Dr. Pedro Chavez
    https://dioxitube.com/w/aJNKrv79PLdaXQib7mctqk
    การดีท็อกซ์ กราฟีน อ็อกไซด์ (ภาษาอังกฤษ) ข้อมูลจาก Comusav โดย Dr. Pedro Chavez ครับ
    1. https://www.comusav.com/.../ENGLISH-AI-Protocol-16-Dec...
    2. https://www.comusav.com/.../18-NOV-2021_ENGLISH_COVID19...
    สร้างลิงก์ใหม่ให้แล้ว ท่านไม่ต้องลงทะเบียน
    📌 ลงเรียนทันที
    👉🏼 https://group.rookon.com/read-blog/1_คอร-ส-cds.html
    📌 ต้องการคอมเมนต์สอบถาม? ลงทะเบียนที่นี่
    👉🏼 https://group.rookon.com/register
    ติดต่อพบแพทย์ออนไลน์ ขอรับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของกลุ่ม Dr. Andreas Kalcker
    - ALK Foundation : www.alkfoundation.com
    ติดต่อรับชมรายละเอียด/สั่งซื้อสารตั้งต้น
    - https://forms.gle/ph5HBBZNAuThZnQV8
    วิธีการใช้ CDS
    - โปรโตคอล A – มือใหม่ที่ยังสงสัย - https://cds.rookon.com/protocol/โปรโตคอล-a-ถึง-f/1016/
    - โปรโตคอล B – อาบน้ำ - https://cds.rookon.com/protocol/โปรโตคอล-a-ถึง-f/1018/
    - โปรโตคอล C - คลาสสิก ต่อเนื่อง (ล้างผิษ วซ โควิด) - https://cds.rookon.com/protocol/โปรโตคอล-a-ถึง-f/1021/
    - โปรโตคอล D – ผิวหนัง - https://cds.rookon.com/protocol/โปรโตคอล-a-ถึง-f/1023/
    - โปรโตคอล E – สวนทวาร - https://cds.rookon.com/protocol/โปรโตคอล-a-ถึง-f/1026/
    - โปรโตคอล F – ไข้ การติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียเฉียบพลัน - https://cds.rookon.com/protocol/1086/
    - โปรโตคอล G – หูและผิวหนัง - https://cds.rookon.com/protocol/1030/
    - โปรโตคอล H – ป้องกันการติดเชื้อทางอากาศในห้องโถง - https://cds.rookon.com/protocol/1031/
    - โปรโตคอล I – แมลงกัดต่อยและสภาพผิวอื่นๆ - https://cds.rookon.com/protocol/1032/
    - โปรโตคอล J – บ้วนปาก - https://cds.rookon.com/protocol/1033/
    - โปรโตคอล K –
    - โปรโตคอล L – แช่เท้า - https://cds.rookon.com/protocol/1041/
    - โปรโตคอล M – มาลาเรีย - https://cds.rookon.com/protocol/1042/
    - โปรโตคอล N – ทารก เด็ก วัยรุ่น - https://cds.rookon.com/protocol/1043/
    - โปรโตคอล O – ตา จมูก - https://cds.rookon.com/protocol/1044/
    - โปรโตคอล P –
    - โปรโตคอล Q –
    - โปรโตคอล R –
    - โปรโตคอล S –
    - โปรโตคอล T –
    - โปรโตคอล U –
    - โปรโตคอล V –
    - โปรโตคอล W – การใช้ประโยชน์อื่นๆ - https://cds.rookon.com/protocol/1058/
    - โปรโตคอล X –
    - โปรโตคอล Y –
    - โปรโตคอล Z –
    หรืออีกช่องทางศึกษา
    👉ถ้าสนใจศึกษา CDS ให้ลง App Telegram แล้วเข้าห้องนี้ https://t.me/CDS_School วิธีการทำ CDS (Chlorine Dioxide Solution) อย่างถูกต้อง ตามกลุ่มหมอ COMUSAV จะมีเนื้อหาอย่างละเอียด ทั้งวิธีทำ แหล่งหาสารและอุปกรณ์ทุกอย่าง รวมถึงการใช้อย่างละเอียด อย่างถูกต้องและปลอดภัย เพื่อให้คนพึ่งพาตนเองได้ ( ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น )
    เทเลแกรมสำหรับโทรศัพท์ระบบเอ็นดรอยด์
    Telegram for Android
    https://telegram.org/android
    ลองเข้าไปโหลดIOS ในนี้ดูค่ะ
    https://telegram.org/apps
    ศึกษาตามหัวข้อต่างๆ 👇👇 (1) เริ่มอ่านข้อความแรกของห้องนี้
    https://t.me/CDS_School/924
    (2) เปิดโลก CDS ....ความรู้พื้นฐาน และ กลไกการทำงานของ CDS ในร่างกายมนุษย์
    https://t.me/CDS_School/939 https://t.me/CDS_School/940 https://t.me/CDS_School/947 https://t.me/CDS_School/948 https://t.me/CDS_School/950 https://t.me/CDS_School/951 (3) อุปกรณ์สำหรับทำ CDS
    https://t.me/CDS_School/1290
    (4) การเลือกเกรดโซเดียมคลอไรท์
    https://t.me/CDS_School/1293
    (5) อายุผงโซเดียมคลอไรท์ 80%
    https://t.me/CDS_School/1297
    (6) แหล่งหาสารโซเดียมคลอไรท์
    https://t.me/CDS_School/1301
    (7) ต้นทุนสำหรับการทำ CDS
    https://t.me/CDS_School/1308
    (😎 ทำไมจึงต้องหลีกเลี่ยงโซเดียมคลอไรท์เกรดอุตสาหกรรม
    https://t.me/CDS_School/1314
    (9) ประเภทกรดที่ใช้ทำ CDS
    https://t.me/CDS_School/1340
    (10) วิธีเลือกโหลสุญญากาศ แก้วช๊อต ขวดสีชา
    https://t.me/CDS_School/1342
    (11) ทำไมต้องใช้น้ำกลั่น
    https://t.me/CDS_School/1346
    (12) น้ำกลั่นเติมแบตเตอรี่รถยนต์ใช้ไม่ได้
    https://t.me/CDS_School/1347
    (13) แหล่งหาสาร และ อุปกรณ์ทุกอย่าง
    https://t.me/CDS_School/1351
    (14) ไม่ใช้ขวดดรอปเปอร์ที่เป็นยางใส่สารตั้งต้น
    https://t.me/CDS_School/1351
    (15) วิธีเจือจางสารตั้งต้น โซเดียมคลอไรท์ 25% กรดซิตริค 50%
    https://t.me/CDS_School/1357
    (16) ข้อควรระวังในการเจือจางสาร
    https://t.me/CDS_School/1358
    (17) วิธีเจือจางสารตั้งต้น โซเดียมคลอไรท์ 22.4%
    https://t.me/CDS_School/1360
    (18) อายุของสารตั้งต้นที่เจือจางแล้ว และ การเก็บรักษา
    https://t.me/CDS_School/1365
    (19) วิธีทำ CDS ด้วยโซเดียมคลอไรท์ กับ กรดซิตริค
    https://t.me/CDS_School/1369
    (20) สารที่เหลือในแก้วช๊อต
    https://t.me/CDS_School/1377
    (21) วิธีทำ CDS ด้วยโซเดียมคลอไรท์ กับ กรดไฮโดรคลอริค
    https://t.me/CDS_School/1379
    (22) วิธีการคำนวณเพื่อเจือจางกรดไฮโดรคลอริคให้ได้ความเข้มข้นตามที่ต้องการ
    https://t.me/CDS_School/1391
    (23) คลิปสาธิตวิธีทำ CDS โดย Dr. Andreas Kalcker
    https://t.me/CDS_School/1396
    (24) คู่มือการศึกษา CDS จาก The Universal Antidote
    https://t.me/CDS_School/1402
    (25) ขั้นตอนการทำ CDS พร้อมรูปภาพประกอบโดย TUA
    https://t.me/CDS_School/1404
    (26) แหล่งซื้อแผ่นทดสอบความเข้มข้น ppm ของ CDS
    https://t.me/CDS_School/1411
    (27) อายุของ CDS
    https://t.me/CDS_School/1413
    (28) การเก็บรักษา CDS
    https://t.me/CDS_School/1414
    (29) วิธีดูสภาพของ CDS
    https://t.me/CDS_School/1418
    (30) วิธีดื่ม CDS ขั้นพื้นฐาน
    https://t.me/CDS_School/1422
    (31) วิธีเพิ่มโดส
    https://t.me/CDS_School/1428
    (32) อาการขับพิษ
    https://t.me/CDS_School/1433
    (33) โดสสูงสุดสำหรับการผสมเพื่อดื่ม
    https://t.me/CDS_School/1437
    (34) เหตุผลที่ต้องดื่มทุกชั่วโมง
    https://t.me/CDS_School/1439
    (35) Jim Humble ผู้ค้นพบ MMS
    https://t.me/CDS_School/1445
    (36) Dr.Andreas ผู้พัฒนา CDS จาก MMS
    https://t.me/CDS_School/1452
    (37) น้ำทะเล กับ CDS
    https://t.me/CDS_School/1454
    (38) วิธีผสมน้ำเกลือสมุทร หรือ น้ำดอกเกลือใช้แทนน้ำทะเล
    https://t.me/CDS_School/1459
    (39) หนังสือ Forbidden Health แต่งโดย Dr.Andreas Kalcker
    https://t.me/CDS_School/1462 (40) ดื่ม CDS เมื่อท้องว่าง
    https://t.me/CDS_School/1463
    (41) ดื่ม CDS เว้นช่วงจากอาหารและยา
    https://t.me/CDS_School/1463
    (42) อาหารและเครื่องดื่มที่ต้องงดระหว่างการดื่ม CDS
    https://t.me/CDS_School/1465
    (43) ตัวอย่างตารางเวลาในการดื่ม CDS
    https://t.me/CDS_School/1468
    (44) สมุนไพร กับ CDS
    https://t.me/CDS_School/1469
    (45) น้ำมันกัญชา กับ CDS
    https://t.me/CDS_School/1471
    (46) สาเหตุที่บางคนร่างกายร้อนวูบวาบเมื่อดื่ม CDS
    https://t.me/CDS_School/1473
    (47) อาการร่างกายขับพิษ หรือ ปฏิกิริยาเฮิร์กไซเมอร์
    https://t.me/CDS_School/1476
    (48) หากสารในแก้วช๊อตกระฉอกจนปนเปื้อนน้ำในโหล
    https://t.me/CDS_School/1485
    (49) เมื่อโหลหรือขวดบรรจุ CDS ตกแตก
    https://t.me/CDS_School/1486
    (50) วิธีแก้ไข กรณีดื่ม CDS จน overdose โอเวอร์โดส
    https://t.me/CDS_School/1487
    (51) ยาละลายลิ่มเลือด กับ CDS
    https://t.me/CDS_School/1488
    (52) คีโม กับ CDS
    https://t.me/CDS_School/1489
    (53) การผ่าตัด กับ CDS
    https://t.me/CDS_School/1490
    (54) pH ของ CDS
    https://t.me/CDS_School/1491
    (55) blood brain barrier-แนวกั้นเลือดและสมอง กับ CDS
    https://t.me/CDS_School/1526 (56) การค้นหาแหล่งข้อมูล CDS ทางออนไลน์
    https://t.me/CDS_School/1529
    (57) ความรู้ CDS โดย TUA
    https://t.me/CDS_School/1534
    (58) MMS กับ CDS
    https://t.me/CDS_School/1535
    (59) ควรเริ่มใช้ CDS เมื่อใด
    https://t.me/CDS_School/1537
    (60) หนังสือที่แนะนำเพื่อศึกษา CDS
    https://t.me/CDS_School/1546
    (61) หนังสือ MMS Health Recovery Guide Book แต่งโดย Jim Humble
    https://t.me/CDS_School/1477
    (62) โรคที่ใช้ CDS รักษาได้
    https://t.me/CDS_School/1550
    (63) แบคทีเรียที่ดีในลำไส้ กับ CDS
    https://t.me/CDS_School/1570 https://t.me/CDS_School/1993 (64) โลหะวัสดุการแพทย์ที่ใส่เข้าไปในร่างกาย กับ CDS
    https://t.me/CDS_School/1577
    (65) ตัวอย่างการจัดเวลาสำหรับดื่ม CDS
    https://t.me/CDS_School/1668
    (66) อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงระหว่างการดื่ม CDS
    https://t.me/CDS_School/1673
    (67) อาการร่างกายขับพิษ-ปฏิกิริยาเฮิร์กไซเมอร์ และ วิธีรับมือ
    https://t.me/CDS_School/1677
    (68) 3 กฏทองคำ จำให้แม่น
    https://t.me/CDS_School/1429
    (69) ใช้ CDS นานเท่าใด อาการจึงดีขึ้น
    https://t.me/CDS_School/1681
    (70) ความเข้มข้น ppm ของ CDS ที่เราใช้
    https://t.me/CDS_School/1683
    (71) ความปลอดภัยของ CDS
    https://t.me/CDS_School/1685 https://t.me/CDS_School/951
    (72) รายงานทางการแพทย์ที่ใช้ CDS สำหรับป้องกันและรักษา covid-19 โดยแพทย์กลุ่ม COMUSAV
    https://t.me/CDS_School/1689
    (73) วิธีใช้ CDS ป้องกันและรักษา covid-19 โดยกลุ่มแพทย์ COMUSAV
    https://t.me/CDS_School/1713
    (74) วิธีใช้ CDS รักษาผู้บาดเจ็บจากการรับวัคซีน covid-19 โดยกลุ่มแพทย์ COMUSAV
    https://t.me/CDS_School/1743
    (75) ห้องแชร์ประสบการณ์ผู้ใช้ CDS รักษาอาการต่างๆ
    https://t.me/CDS_School/1919
    (76) ห้องคนไทยตื่นรู้
    https://t.me/CDS_School/1926
    (77) สารคดี ความเป็นมาของ CDS ฉบับเต็ม ( ภาษาอังกฤษ ) โดยบุคคลากรทางการแพทย์ https://t.me/CDS_School/1928 (78) สารคดี MMS ( ภาษาอังกฤษ ) https://t.me/CDS_School/1932 (79) สารคดี จุดเริ่มต้น จิม ฮัมเลิล กับ คลอรีนไดออกไซด์ MMS https://t.me/CDS_School/1933 (80) สภากาชาดแอฟริกาใช้คลอรีนไดออกไซด์ในการรักษาคนไข้มาลาเรียหายภายใน 24 ชม. (คลิปนี้ถูกบล๊อค และ เซ็นเซอร์โดยสื่อหลัก) https://t.me/CDS_School/1934 https://t.me/CDS_School/1935 (81) จุดเริ่มต้นของ CDS โดย Dr. Andreas Kalcker https://t.me/CDS_School/1936 (82) CDS ทำงานอย่างไร และ ทำไมมันถึงปลอดภัย https://t.me/CDS_School/1937 https://t.me/CDS_School/948 https://t.me/CDS_School/947 https://t.me/CDS_School/940 (83) ชัวร์หรือมั่วนิ่ม เมื่อสื่อหลักบอกเราว่าคลอรีนไดออกไซด์คือสารฟอกขาวที่เป็นอันตราย https://t.me/CDS_School/947 https://t.me/CDS_School/1938 https://t.me/CDS_School/1939
    (84) การวิเคราะห์ด้วยกล้องจุลทรรศน์ ตัวอย่างของเม็ดเลือดแดงสด ที่ได้รับ CDS แสดงให้เห็นถึงสภาวะที่เม็ดเลือดแดงที่แข็งแรง สามารถขนส่งออกซิเจนได้ดีขึ้น https://t.me/CDS_School/948 https://t.me/CDS_School/1940 https://t.me/CDS_School/1941 (85) คลอรีนไดออกไซด์ ประกอบด้วย คลอรีนอิออน(ประจุลบ) Cl- มันจึงไม่ใช่คลอรีน Cl2 https://t.me/CDS_School/1942 https://t.me/CDS_School/940 (86) ตัวอย่างน่าทึ่ง 5 เคสที่หายด้วย CDS https://t.me/CDS_School/1943
    (87) แพทย์แชร์ประสบการณ์จากการใช้ CDS รักษาคนไข้ https://t.me/CDS_School/1944 https://t.me/CDS_School/1947 https://t.me/CDS_School/1948 https://t.me/CDS_School/1949 https://t.me/CDS_School/1950 https://t.me/CDS_School/1951 https://t.me/CDS_School/1952 https://t.me/CDS_School/1953 https://t.me/CDS_School/1954 https://t.me/CDS_School/1955
    https://t.me/CDS_School/1956 https://t.me/CDS_School/1957 https://t.me/CDS_School/1958 https://t.me/CDS_School/1996 (88) ประเทศโบลีเวีย ประกาศออกกฏหมายในสภาให้ใช้ CDS รักษาผู้ป่วย Covid-19 https://t.me/CDS_School/950 https://t.me/CDS_School/1945 https://t.me/CDS_School/1946 (89) กำจัดมะเร็งง่ายๆ ด้วยการเพิ่มออกซิเจน!! https://t.me/CDS_School/1959
    90) เด็กออทิสติก กับ CDS https://t.me/CDS_School/1961 https://t.me/CDS_School/1962 https://t.me/CDS_School/1963 https://t.me/CDS_School/1964 https://t.me/CDS_School/1992
    (91) ห้องแชทเกี่ยวกับคลอรีนไดออกไซด์ ของต่างประเทศ (ทั้ง MMS & CDS) https://t.me/CDS_School/1965 (92) สิทธิบัตรต่างๆที่เกี่ยวกับคลอรีนไดออกไซด์ https://t.me/CDS_School/1966 https://t.me/CDS_School/1967 https://t.me/CDS_School/1968 https://t.me/CDS_School/1969 https://t.me/CDS_School/1970 https://t.me/CDS_School/1971 https://t.me/CDS_School/1972 https://t.me/CDS_School/1973 https://t.me/CDS_School/1975 https://t.me/CDS_School/1976 https://t.me/CDS_School/1977 https://t.me/CDS_School/1978 https://t.me/CDS_School/1980
    https://t.me/CDS_School/1981 https://t.me/CDS_School/1982 https://t.me/CDS_School/1983 https://t.me/CDS_School/1984 https://t.me/CDS_School/1985 https://t.me/CDS_School/1986 https://t.me/CDS_School/1987 https://t.me/CDS_School/1990 https://t.me/CDS_School/1991
    (93) เปิดโลก CDS https://t.me/CDS_School/939
    ช่องทางการเข้าถึง CDS เมื่อทำด้วยตัวเองไม่ได้จริงๆ
    👉เพจ “คนไทยต้องรอด”
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61551524785454
    👉โอเพ่นแชท "บอกทางรอดพี่น้องชาวไทย"
    https://line.me/.../AJOpx8doUEgGLo8CtyrYeFl8mDr_0e9Hs0w...
    👉จิตอาสาอีกท่านที่ผู้เชียวชาญแนะนำ https://lin.ee/ic3PIRV
    👉จิตอาสาที่ผู้เชียวชาญแนะนำ กลุ่มไลน์ "detox ล้างพิษ ถ่ายพยาธิ"
    https://line.me/.../7zjtSeoGIl9FS_o30cxE6P9YJqp2p2iuaq1...
    หรือ line id : sjpthai
    👉จิตอาสาอีกท่านที่ผู้เชียวชาญแนะนำ line id : jae.pai
    👉เวป suwannawaree.com
    https://www.suwannawaree.com/product/cds/
    👉กลุ่ม "สมุนไพร ชนะพิษ" โปรดแตะลิงก์ด้านล่างเพื่อเข้าร่วมโอเพนแชทนี้
    https://line.me/.../6HYG5coFaoOTNcXYezlTZo1lWq4Z4bO0AIP...
    👉เพจ : เรามาล้างพิษวัคซีนด้วย CDS กันเถอะ
    https://www.facebook.com/Starseeds22
    ไลน์ https://line.me/ti/p/99Z9doLz5K
    TikTok https://www.tiktok.com/@meelap1999x?_t=8qpQOqra2x6&_r=1
    👉2ช่องทางนี้ขอสงวนไว้สำหรับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์เท่านั้น
    1.ติดต่อ ไอดีไลน์ : JWOV และ 2.กลุ่ม "cds ตระกูลเกา"
    https://line.me/.../50dWeG5SoOuUg1J53nEMuD7oXnSD3zJ5...
    👉สำหรับผู้ที่อยู่อเมริกา ซื้อหาได้จากเว็บไซต์ https://kvlab.com/
    👉ติดต่อรับชมรายละเอียด/สั่งซื้อสารตั้งต้น
    - https://forms.gle/ph5HBBZNAuThZnQV8
    #ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ✅รวมลิงค์ข้อมูล Chorine Dioxide Solution (CDS) ✍️สารคดีเกี่ยวกับคลอรีนไดออกไซด์ เมื่อปี 2012 โดยใช้สูตรของ จิม ฮัมเบิล ที่เรียกกันว่า MMS (Miracle Mineral Solution) เป็นงานวิจัยร่วมกับสภากาชาดในการใช้ MMS กำจัดโรคมาลาเรีย ภายใน 24 ชม.!! https://t.me/CDS4UData/9 https://www.brighteon.com/e73aaf21-d7ef-411d-9777... ✍️คลิปสั้น 12 นาที สภากาชาดแอฟริกาใช้คลอรีนไดออกไซด์ในการรักษาคนไข้มาลาเรีย154 คน ภายใน 24 ชม. https://www.brighteon.com/aab729ec-e096-4c6f-b176... ✍️ขณะนี้แพทย์กว่า 5,000 คนใน 25 ประเทศใช้ chlorine dioxide (คลอรีนไดออกไซด์) หรือเรียกสั้นๆ ว่า CDS เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยที่ติดโควิด-19 อัตราการรักษาได้ผล 100% จากการรักษาที่ประเทศโบลิเวีย และเอกวาดอร์ และในอีกหลายๆประเทศ ที่มา: https://www.stopworldcontrol.com/cds/ ✍️CDS แพทย์และผู้พันเพโดร จากเม็กซิโก https://t.me/CDS4UData/3 ✍️CDS ถามตอบ มันคือสารฟอกขาวหรือ https://t.me/CDS4UData/4 ✍️ CDS ไม่ไปฆ่าเซลล์หรือทำร้ายเซลล์ในตัวเรา โดย ดร.เพโดร แพทย์ทหารจากเม็กซิโก https://t.me/CDS4UData/6 ✍️CDS คุณหมอ แมนูแอล อะพาริโช ประธานกลุ่มแพทย์ COMUSAV ทั่วโลก บอกว่ามีงานศึกษาวิจัยการใช้คลอรีนไดออกไซด์ 3 ฉบับซึ่งตีพิมพ์ในนิตยสาร Index แล้ว https://t.me/CDS4UData/7 ✍️การทดลองกับเม็ดเลือดแดงโดยให้คนดื่มคลอรีนไดออกไซด์ CDS แล้วเจาะเลือดส่องกล้องจุลทรรศน์ ทำให้เห็นว่าเม็ดเลือดแดงมีรูปร่างและมีความกลม ตามที่ควรจะเป็น ไม่ติดกันเป็นสาย https://t.me/CDS4UData/8 ✍️คลอรีนไดออกไซด์ กับ เด็กออทิสติก https://t.me/CDS4UData/20 ✍️การทำงานของ CDS https://t.me/CDS4UData/10 ✍️สารบัญข้อมูล ห้อง “CDS ทำเองได้ ใช้เองเป็น” https://t.me/CDS4UData/470 ✍️วิธีทำ CDS ช่องเทเลแกรม ป้องกันรักษาโรค ทางสายกลาง โดย หม่อมโจ้ รุ่งคุณ กิติยากร https://t.me/MiddlewayResistance/1560 ✍️โรคที่รักษาด้วย CDS ได้ https://t.me/CDS4UData/14 ✍️CDS for Cancer protocol https://canceremocional.org/en/cds-protocols-a-through-z/... ✍️คลิปความอันตรายของสารใดๆก็ตาม ขึ้นอยู่กับปริมาณโดส https://t.me/awakened_thailand/207 ✍️คลิปทำไมคลอรีนไดออกไซด์ถึงกำจัดโควิดได้ https://t.me/awakened_thailand/194 ✍️ที่อเมริกาต้อง ผสม CDS เอง ไม่มีแบบสำเร็จรูปขาย สั่งซื้อเองได้ที่นี่ https://amzn.to/3CSaiwf ✍️วีธีใช้ CDS โปรโตคอลในการล้างโลหะหนัก https://t.me/CDS4UData/179 https://m.facebook.com/story.php... ✍️หนังสือเกี่ยวกับคลอรีนไดออกไซด์ (CDS) อธิบายพื้นฐาน หลักการทำงานต่างๆ รวมไปถึงวิธีการเตรียม และสารที่ต้องใช้ https://t.me/CDS4UData/23 ✍️คลิปโควิดลงปอด รักษาหายได้ด้วย CDS (ภาพตัวอย่าง X ray) https://t.me/awakened_thailand/199 ✍️สารคดีเกี่ยวกับคลอรีนไดออกไซด์ โดยสารนี้เรียกว่า MMS (ชื่อแรกเริ่ม) ซึ่งมีความแตกต่างจาก CDS (Chlorine Dioxide Solution) ในการเตรียม https://rumble.com/vm8dkf-chlorine-dioxide-the-universal... ✍️The Universal Antidote of Chorine Dioxide Documentary FULL https://www.brighteon.com/cbea0547-0152-48d0-8ad8... ✍️คลอรีนไดออกไซด์สามารถทำลายไกลโฟเซต (ยาฆ่าหญ้า) ที่ทำให้เด็กเป็นออทิสติก https://t.me/awakened_thailand/408 ✍️ การดื่ม MMS1 หรือ CDS ไปทำลายจุลินทรีย์ดีในลำไส้หรือไม่ https://t.me/awakened_thailand/409 ✍️ประสบการณ์ผู้ใช้ยา CDS https://t.me/CDS_Thailand รีวิวบางส่วน https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=170017322259924&id=100077549707108 ✍️CDS ตัวอย่าง5เคสน่าทึ่ง https://www.brighteon.com/cbea0547-0152-48d0-8ad8... ✍️เคสใช้ CDS ของต่างประเทศ มีเคสมะเร็ง โรคเบาหวานและสารพัดโรค https://t.me/ChlorineDioxideInfo ✍️ควรใช้สารตั้งต้นเกรดอะไรในกระบวนการผลิต CDS https://t.me/CDS4UData/2154 ✍️Protocol คืออะไร?? โดย เพจ คนไทยต้องรอด https://fb.watch/qU2nCSju8p/? ✍️Protocol E สวนล้างลำไส้ โดย เพจ คนไทยต้องรอด https://t.me/CDS4UData/2060 ✍️รวมคลิปและวิธีทำ CDS https://drive.google.com/.../17WvCSyxFMIcjx... ✍️แจกหนังสือ อุบายขายโรค กระชากหน้ากากธุรกิจยาข้ามชาติ แถมคู่มือทำ cds เกรดแลปด้วยตัวเอง โดย ผู้ใช้ติ๊กต็อกชื่อ Daddy's On Fire https://tinyurl.com/daddyonfire 👉กลุ่มCOMUSAV https://t.me/comusav 👉 https://t.me/ChlorineDioxideTestimonies 👉ห้อง CDS คลอรีนไดออกไซด์โซลูชัน https://t.me/CDS4UData 👉ห้อง Natural Health Knowledge รวบรวมความรู้ด้านสุขภาพต่างๆ ทั้ง CDS, MMS, Colloidal silver, Borax และอื่นๆ เน้นทางเลือกในการรักษาสุขภาพ/รักษาโรค โดยไม่ต้องพึ่งพายาเคมี https://t.me/naturalhealthknowledge 👉ห้องแชทเกี่ยวกับคลอรีนไดออกไซด์ ของต่างประเทศ (ทั้ง MMS & CDS) https://t.me/theuniversalantidote 👉ห้องแชทภาษาสเปน https://t.me/joinchat/gj6PrWvxyJlkZjdk 👉ห้องแชทภาษาอังกฤษ Natural Health Knowledge https://t.me/naturalhealthknowledgechat ✍️เปิดใจศึกษา CDS | บทสัมภาษณ์กับ ดร. แอนเดรียส คัลเกอร์ https://www.rookon.com/?p=1248 ✍️ไลฟ์สดเรื่อง CDS โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/watch?v=HOW9VLeS-7g CDS ปลอดภัยไหม https://www.youtube.com/watch?v=VabfaTTsK6o https://fb.watch/uPOe7rQYRN/? หมอบอกว่ากิน CDS แล้วตาย... จริงหรือ? https://www.youtube.com/live/wAaEXilj4qg?si=p8CD7sqmnlC6L3u8 https://www.facebook.com/share/v/pkhiVpNEraX7irMi/ ✍️ CDS , คาบาล , เราจะทำอย่างไรต่อ? https://www.youtube.com/live/cJSCI-6A6kA?si=j8TwPX6vnNvY_s6t https://fb.watch/v6cVR3d2hw/? ✍️ไลฟ์สด หัวข้อ CDS และ การล้างพิษ วิธีทำ CDS |อดิเทพ จาวลาห์ https://fb.watch/vxYlcFYh8I/? https://www.youtube.com/live/z7dGSQAmX1k?si=-karhpJzOl5dmklZ ✍️CDS วิธีผลิตโดยใช้ป็๊มลม https://www.facebook.com/share/v/15CLedm4hA/ EP1 https://www.youtube.com/live/5mCbq1fYT2Y?si=TP8aU5NpILbIl2Nu EP2 https://www.youtube.com/live/VMtE0bQ4_lM?si=sxFqf-XxXkav1t9C ✍️ไลฟ์สด หัวข้อ : BRICS | Donald Trump | วิธีการทำ CDS แบบที่ 3 ช่องทางการชม https://linktr.ee/chawlaadithep https://lin.ee/whj86pz https://www.youtube.com/live/NLyB0--X-dY?si=2NqruDF9U9TXknHv 👉สนใจลงเรียนคอร์ส CDS ฟรี เพิ่มเพื่อนไลน์ @dioxiway กรุณาลงทะเบียนฟรีที่ https://forms.gle/2p1tZUMogn41iQMD6 ————— เกี่ยวกับ Dioxi Way Dioxi Way ถูกก่อตั้งขึ้นด้วยจุดประสงค์ 2 อย่าง 1. ให้คนไทยเข้าใจ CDS 2. ให้แพทย์ไทยเข้าถึงผลวิจัยและชมผลรับของผู้ที่ใช้ CDS เพื่อ พลักดัน ให้ CDS ถูกกฏหมาย เรากำลังสร้างเว็บไซต์ Dioxiway.com ให้เป็นแหล่งข้อมูลดังกล่าวครับ ขอบคุณครับ อดิเทพ จาวลาห์ ไฟล์ วิธีทำ CDS (ไฟล์ PDF) ท่านสามารถรับชมได้ทาง 1. ออนไลน์ - https://jmp.sh/s/1klP9ql0fMm3TZMNyOyN หรือ 2. ดาวน์โหลดไฟล์ลงเครื่อง - https://www.transferxl.com/download/04jqQp0R3pyJK2 ✍️ผลิต CDS ง่ายๆทำเองที่บ้านได้ โดยคุณอดิเทพ จาวลาห์ https://www.rookon.com/?p=1276 เข้าใจ CDS (พื้นฐาน) - คลอรีไดอ็อกไซด์คืออะไร? - สารตั้งต้น - ClO2 | CDS | NaClO2 | NaClO | MMS | CD | Cl2 คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร? - คุณสมบัติของ CDS - การคำนวนค่า PPM - CDS หมดอายุได้หรือไม่? - CDS ฆ่าเซลล์เราได้หรือไม่? - แบคทีเรีย ดี / แบคทีเรีย ไม่ดี - ClO2 / RBC รับชมคลิปได้ทาง: Facebook : https://www.facebook.com/share/v/162ihSAu7L/?mibextid=wwXIfr TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSM4LFMEQ/ YouTube : https://youtu.be/cwafLyKQ6JA?si=KS58k3YZ1-lSLHRI สารคดี Bluetruth โดย Dr. Pedro Chavez https://dioxitube.com/w/aJNKrv79PLdaXQib7mctqk การดีท็อกซ์ กราฟีน อ็อกไซด์ (ภาษาอังกฤษ) ข้อมูลจาก Comusav โดย Dr. Pedro Chavez ครับ 1. https://www.comusav.com/.../ENGLISH-AI-Protocol-16-Dec... 2. https://www.comusav.com/.../18-NOV-2021_ENGLISH_COVID19... สร้างลิงก์ใหม่ให้แล้ว ท่านไม่ต้องลงทะเบียน 📌 ลงเรียนทันที 👉🏼 https://group.rookon.com/read-blog/1_คอร-ส-cds.html 📌 ต้องการคอมเมนต์สอบถาม? ลงทะเบียนที่นี่ 👉🏼 https://group.rookon.com/register ติดต่อพบแพทย์ออนไลน์ ขอรับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของกลุ่ม Dr. Andreas Kalcker - ALK Foundation : www.alkfoundation.com ติดต่อรับชมรายละเอียด/สั่งซื้อสารตั้งต้น - https://forms.gle/ph5HBBZNAuThZnQV8 วิธีการใช้ CDS - โปรโตคอล A – มือใหม่ที่ยังสงสัย - https://cds.rookon.com/protocol/โปรโตคอล-a-ถึง-f/1016/ - โปรโตคอล B – อาบน้ำ - https://cds.rookon.com/protocol/โปรโตคอล-a-ถึง-f/1018/ - โปรโตคอล C - คลาสสิก ต่อเนื่อง (ล้างผิษ วซ โควิด) - https://cds.rookon.com/protocol/โปรโตคอล-a-ถึง-f/1021/ - โปรโตคอล D – ผิวหนัง - https://cds.rookon.com/protocol/โปรโตคอล-a-ถึง-f/1023/ - โปรโตคอล E – สวนทวาร - https://cds.rookon.com/protocol/โปรโตคอล-a-ถึง-f/1026/ - โปรโตคอล F – ไข้ การติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียเฉียบพลัน - https://cds.rookon.com/protocol/1086/ - โปรโตคอล G – หูและผิวหนัง - https://cds.rookon.com/protocol/1030/ - โปรโตคอล H – ป้องกันการติดเชื้อทางอากาศในห้องโถง - https://cds.rookon.com/protocol/1031/ - โปรโตคอล I – แมลงกัดต่อยและสภาพผิวอื่นๆ - https://cds.rookon.com/protocol/1032/ - โปรโตคอล J – บ้วนปาก - https://cds.rookon.com/protocol/1033/ - โปรโตคอล K – - โปรโตคอล L – แช่เท้า - https://cds.rookon.com/protocol/1041/ - โปรโตคอล M – มาลาเรีย - https://cds.rookon.com/protocol/1042/ - โปรโตคอล N – ทารก เด็ก วัยรุ่น - https://cds.rookon.com/protocol/1043/ - โปรโตคอล O – ตา จมูก - https://cds.rookon.com/protocol/1044/ - โปรโตคอล P – - โปรโตคอล Q – - โปรโตคอล R – - โปรโตคอล S – - โปรโตคอล T – - โปรโตคอล U – - โปรโตคอล V – - โปรโตคอล W – การใช้ประโยชน์อื่นๆ - https://cds.rookon.com/protocol/1058/ - โปรโตคอล X – - โปรโตคอล Y – - โปรโตคอล Z – หรืออีกช่องทางศึกษา 👉ถ้าสนใจศึกษา CDS ให้ลง App Telegram แล้วเข้าห้องนี้ https://t.me/CDS_School วิธีการทำ CDS (Chlorine Dioxide Solution) อย่างถูกต้อง ตามกลุ่มหมอ COMUSAV จะมีเนื้อหาอย่างละเอียด ทั้งวิธีทำ แหล่งหาสารและอุปกรณ์ทุกอย่าง รวมถึงการใช้อย่างละเอียด อย่างถูกต้องและปลอดภัย เพื่อให้คนพึ่งพาตนเองได้ ( ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ) เทเลแกรมสำหรับโทรศัพท์ระบบเอ็นดรอยด์ Telegram for Android https://telegram.org/android ลองเข้าไปโหลดIOS ในนี้ดูค่ะ https://telegram.org/apps ศึกษาตามหัวข้อต่างๆ 👇👇 (1) เริ่มอ่านข้อความแรกของห้องนี้ https://t.me/CDS_School/924 (2) เปิดโลก CDS ....ความรู้พื้นฐาน และ กลไกการทำงานของ CDS ในร่างกายมนุษย์ https://t.me/CDS_School/939 https://t.me/CDS_School/940 https://t.me/CDS_School/947 https://t.me/CDS_School/948 https://t.me/CDS_School/950 https://t.me/CDS_School/951 (3) อุปกรณ์สำหรับทำ CDS https://t.me/CDS_School/1290 (4) การเลือกเกรดโซเดียมคลอไรท์ https://t.me/CDS_School/1293 (5) อายุผงโซเดียมคลอไรท์ 80% https://t.me/CDS_School/1297 (6) แหล่งหาสารโซเดียมคลอไรท์ https://t.me/CDS_School/1301 (7) ต้นทุนสำหรับการทำ CDS https://t.me/CDS_School/1308 (😎 ทำไมจึงต้องหลีกเลี่ยงโซเดียมคลอไรท์เกรดอุตสาหกรรม https://t.me/CDS_School/1314 (9) ประเภทกรดที่ใช้ทำ CDS https://t.me/CDS_School/1340 (10) วิธีเลือกโหลสุญญากาศ แก้วช๊อต ขวดสีชา https://t.me/CDS_School/1342 (11) ทำไมต้องใช้น้ำกลั่น https://t.me/CDS_School/1346 (12) น้ำกลั่นเติมแบตเตอรี่รถยนต์ใช้ไม่ได้ https://t.me/CDS_School/1347 (13) แหล่งหาสาร และ อุปกรณ์ทุกอย่าง https://t.me/CDS_School/1351 (14) ไม่ใช้ขวดดรอปเปอร์ที่เป็นยางใส่สารตั้งต้น https://t.me/CDS_School/1351 (15) วิธีเจือจางสารตั้งต้น โซเดียมคลอไรท์ 25% กรดซิตริค 50% https://t.me/CDS_School/1357 (16) ข้อควรระวังในการเจือจางสาร https://t.me/CDS_School/1358 (17) วิธีเจือจางสารตั้งต้น โซเดียมคลอไรท์ 22.4% https://t.me/CDS_School/1360 (18) อายุของสารตั้งต้นที่เจือจางแล้ว และ การเก็บรักษา https://t.me/CDS_School/1365 (19) วิธีทำ CDS ด้วยโซเดียมคลอไรท์ กับ กรดซิตริค https://t.me/CDS_School/1369 (20) สารที่เหลือในแก้วช๊อต https://t.me/CDS_School/1377 (21) วิธีทำ CDS ด้วยโซเดียมคลอไรท์ กับ กรดไฮโดรคลอริค https://t.me/CDS_School/1379 (22) วิธีการคำนวณเพื่อเจือจางกรดไฮโดรคลอริคให้ได้ความเข้มข้นตามที่ต้องการ https://t.me/CDS_School/1391 (23) คลิปสาธิตวิธีทำ CDS โดย Dr. Andreas Kalcker https://t.me/CDS_School/1396 (24) คู่มือการศึกษา CDS จาก The Universal Antidote https://t.me/CDS_School/1402 (25) ขั้นตอนการทำ CDS พร้อมรูปภาพประกอบโดย TUA https://t.me/CDS_School/1404 (26) แหล่งซื้อแผ่นทดสอบความเข้มข้น ppm ของ CDS https://t.me/CDS_School/1411 (27) อายุของ CDS https://t.me/CDS_School/1413 (28) การเก็บรักษา CDS https://t.me/CDS_School/1414 (29) วิธีดูสภาพของ CDS https://t.me/CDS_School/1418 (30) วิธีดื่ม CDS ขั้นพื้นฐาน https://t.me/CDS_School/1422 (31) วิธีเพิ่มโดส https://t.me/CDS_School/1428 (32) อาการขับพิษ https://t.me/CDS_School/1433 (33) โดสสูงสุดสำหรับการผสมเพื่อดื่ม https://t.me/CDS_School/1437 (34) เหตุผลที่ต้องดื่มทุกชั่วโมง https://t.me/CDS_School/1439 (35) Jim Humble ผู้ค้นพบ MMS https://t.me/CDS_School/1445 (36) Dr.Andreas ผู้พัฒนา CDS จาก MMS https://t.me/CDS_School/1452 (37) น้ำทะเล กับ CDS https://t.me/CDS_School/1454 (38) วิธีผสมน้ำเกลือสมุทร หรือ น้ำดอกเกลือใช้แทนน้ำทะเล https://t.me/CDS_School/1459 (39) หนังสือ Forbidden Health แต่งโดย Dr.Andreas Kalcker https://t.me/CDS_School/1462 (40) ดื่ม CDS เมื่อท้องว่าง https://t.me/CDS_School/1463 (41) ดื่ม CDS เว้นช่วงจากอาหารและยา https://t.me/CDS_School/1463 (42) อาหารและเครื่องดื่มที่ต้องงดระหว่างการดื่ม CDS https://t.me/CDS_School/1465 (43) ตัวอย่างตารางเวลาในการดื่ม CDS https://t.me/CDS_School/1468 (44) สมุนไพร กับ CDS https://t.me/CDS_School/1469 (45) น้ำมันกัญชา กับ CDS https://t.me/CDS_School/1471 (46) สาเหตุที่บางคนร่างกายร้อนวูบวาบเมื่อดื่ม CDS https://t.me/CDS_School/1473 (47) อาการร่างกายขับพิษ หรือ ปฏิกิริยาเฮิร์กไซเมอร์ https://t.me/CDS_School/1476 (48) หากสารในแก้วช๊อตกระฉอกจนปนเปื้อนน้ำในโหล https://t.me/CDS_School/1485 (49) เมื่อโหลหรือขวดบรรจุ CDS ตกแตก https://t.me/CDS_School/1486 (50) วิธีแก้ไข กรณีดื่ม CDS จน overdose โอเวอร์โดส https://t.me/CDS_School/1487 (51) ยาละลายลิ่มเลือด กับ CDS https://t.me/CDS_School/1488 (52) คีโม กับ CDS https://t.me/CDS_School/1489 (53) การผ่าตัด กับ CDS https://t.me/CDS_School/1490 (54) pH ของ CDS https://t.me/CDS_School/1491 (55) blood brain barrier-แนวกั้นเลือดและสมอง กับ CDS https://t.me/CDS_School/1526 (56) การค้นหาแหล่งข้อมูล CDS ทางออนไลน์ https://t.me/CDS_School/1529 (57) ความรู้ CDS โดย TUA https://t.me/CDS_School/1534 (58) MMS กับ CDS https://t.me/CDS_School/1535 (59) ควรเริ่มใช้ CDS เมื่อใด https://t.me/CDS_School/1537 (60) หนังสือที่แนะนำเพื่อศึกษา CDS https://t.me/CDS_School/1546 (61) หนังสือ MMS Health Recovery Guide Book แต่งโดย Jim Humble https://t.me/CDS_School/1477 (62) โรคที่ใช้ CDS รักษาได้ https://t.me/CDS_School/1550 (63) แบคทีเรียที่ดีในลำไส้ กับ CDS https://t.me/CDS_School/1570 https://t.me/CDS_School/1993 (64) โลหะวัสดุการแพทย์ที่ใส่เข้าไปในร่างกาย กับ CDS https://t.me/CDS_School/1577 (65) ตัวอย่างการจัดเวลาสำหรับดื่ม CDS https://t.me/CDS_School/1668 (66) อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงระหว่างการดื่ม CDS https://t.me/CDS_School/1673 (67) อาการร่างกายขับพิษ-ปฏิกิริยาเฮิร์กไซเมอร์ และ วิธีรับมือ https://t.me/CDS_School/1677 (68) 3 กฏทองคำ จำให้แม่น https://t.me/CDS_School/1429 (69) ใช้ CDS นานเท่าใด อาการจึงดีขึ้น https://t.me/CDS_School/1681 (70) ความเข้มข้น ppm ของ CDS ที่เราใช้ https://t.me/CDS_School/1683 (71) ความปลอดภัยของ CDS https://t.me/CDS_School/1685 https://t.me/CDS_School/951 (72) รายงานทางการแพทย์ที่ใช้ CDS สำหรับป้องกันและรักษา covid-19 โดยแพทย์กลุ่ม COMUSAV https://t.me/CDS_School/1689 (73) วิธีใช้ CDS ป้องกันและรักษา covid-19 โดยกลุ่มแพทย์ COMUSAV https://t.me/CDS_School/1713 (74) วิธีใช้ CDS รักษาผู้บาดเจ็บจากการรับวัคซีน covid-19 โดยกลุ่มแพทย์ COMUSAV https://t.me/CDS_School/1743 (75) ห้องแชร์ประสบการณ์ผู้ใช้ CDS รักษาอาการต่างๆ https://t.me/CDS_School/1919 (76) ห้องคนไทยตื่นรู้ https://t.me/CDS_School/1926 (77) สารคดี ความเป็นมาของ CDS ฉบับเต็ม ( ภาษาอังกฤษ ) โดยบุคคลากรทางการแพทย์ https://t.me/CDS_School/1928 (78) สารคดี MMS ( ภาษาอังกฤษ ) https://t.me/CDS_School/1932 (79) สารคดี จุดเริ่มต้น จิม ฮัมเลิล กับ คลอรีนไดออกไซด์ MMS https://t.me/CDS_School/1933 (80) สภากาชาดแอฟริกาใช้คลอรีนไดออกไซด์ในการรักษาคนไข้มาลาเรียหายภายใน 24 ชม. (คลิปนี้ถูกบล๊อค และ เซ็นเซอร์โดยสื่อหลัก) https://t.me/CDS_School/1934 https://t.me/CDS_School/1935 (81) จุดเริ่มต้นของ CDS โดย Dr. Andreas Kalcker https://t.me/CDS_School/1936 (82) CDS ทำงานอย่างไร และ ทำไมมันถึงปลอดภัย https://t.me/CDS_School/1937 https://t.me/CDS_School/948 https://t.me/CDS_School/947 https://t.me/CDS_School/940 (83) ชัวร์หรือมั่วนิ่ม เมื่อสื่อหลักบอกเราว่าคลอรีนไดออกไซด์คือสารฟอกขาวที่เป็นอันตราย https://t.me/CDS_School/947 https://t.me/CDS_School/1938 https://t.me/CDS_School/1939 (84) การวิเคราะห์ด้วยกล้องจุลทรรศน์ ตัวอย่างของเม็ดเลือดแดงสด ที่ได้รับ CDS แสดงให้เห็นถึงสภาวะที่เม็ดเลือดแดงที่แข็งแรง สามารถขนส่งออกซิเจนได้ดีขึ้น https://t.me/CDS_School/948 https://t.me/CDS_School/1940 https://t.me/CDS_School/1941 (85) คลอรีนไดออกไซด์ ประกอบด้วย คลอรีนอิออน(ประจุลบ) Cl- มันจึงไม่ใช่คลอรีน Cl2 https://t.me/CDS_School/1942 https://t.me/CDS_School/940 (86) ตัวอย่างน่าทึ่ง 5 เคสที่หายด้วย CDS https://t.me/CDS_School/1943 (87) แพทย์แชร์ประสบการณ์จากการใช้ CDS รักษาคนไข้ https://t.me/CDS_School/1944 https://t.me/CDS_School/1947 https://t.me/CDS_School/1948 https://t.me/CDS_School/1949 https://t.me/CDS_School/1950 https://t.me/CDS_School/1951 https://t.me/CDS_School/1952 https://t.me/CDS_School/1953 https://t.me/CDS_School/1954 https://t.me/CDS_School/1955 https://t.me/CDS_School/1956 https://t.me/CDS_School/1957 https://t.me/CDS_School/1958 https://t.me/CDS_School/1996 (88) ประเทศโบลีเวีย ประกาศออกกฏหมายในสภาให้ใช้ CDS รักษาผู้ป่วย Covid-19 https://t.me/CDS_School/950 https://t.me/CDS_School/1945 https://t.me/CDS_School/1946 (89) กำจัดมะเร็งง่ายๆ ด้วยการเพิ่มออกซิเจน!! https://t.me/CDS_School/1959 90) เด็กออทิสติก กับ CDS https://t.me/CDS_School/1961 https://t.me/CDS_School/1962 https://t.me/CDS_School/1963 https://t.me/CDS_School/1964 https://t.me/CDS_School/1992 (91) ห้องแชทเกี่ยวกับคลอรีนไดออกไซด์ ของต่างประเทศ (ทั้ง MMS & CDS) https://t.me/CDS_School/1965 (92) สิทธิบัตรต่างๆที่เกี่ยวกับคลอรีนไดออกไซด์ https://t.me/CDS_School/1966 https://t.me/CDS_School/1967 https://t.me/CDS_School/1968 https://t.me/CDS_School/1969 https://t.me/CDS_School/1970 https://t.me/CDS_School/1971 https://t.me/CDS_School/1972 https://t.me/CDS_School/1973 https://t.me/CDS_School/1975 https://t.me/CDS_School/1976 https://t.me/CDS_School/1977 https://t.me/CDS_School/1978 https://t.me/CDS_School/1980 https://t.me/CDS_School/1981 https://t.me/CDS_School/1982 https://t.me/CDS_School/1983 https://t.me/CDS_School/1984 https://t.me/CDS_School/1985 https://t.me/CDS_School/1986 https://t.me/CDS_School/1987 https://t.me/CDS_School/1990 https://t.me/CDS_School/1991 (93) เปิดโลก CDS https://t.me/CDS_School/939 ช่องทางการเข้าถึง CDS เมื่อทำด้วยตัวเองไม่ได้จริงๆ 👉เพจ “คนไทยต้องรอด” https://www.facebook.com/profile.php?id=61551524785454 👉โอเพ่นแชท "บอกทางรอดพี่น้องชาวไทย" https://line.me/.../AJOpx8doUEgGLo8CtyrYeFl8mDr_0e9Hs0w... 👉จิตอาสาอีกท่านที่ผู้เชียวชาญแนะนำ https://lin.ee/ic3PIRV 👉จิตอาสาที่ผู้เชียวชาญแนะนำ กลุ่มไลน์ "detox ล้างพิษ ถ่ายพยาธิ" https://line.me/.../7zjtSeoGIl9FS_o30cxE6P9YJqp2p2iuaq1... หรือ line id : sjpthai 👉จิตอาสาอีกท่านที่ผู้เชียวชาญแนะนำ line id : jae.pai 👉เวป suwannawaree.com https://www.suwannawaree.com/product/cds/ 👉กลุ่ม "สมุนไพร ชนะพิษ" โปรดแตะลิงก์ด้านล่างเพื่อเข้าร่วมโอเพนแชทนี้ https://line.me/.../6HYG5coFaoOTNcXYezlTZo1lWq4Z4bO0AIP... 👉เพจ : เรามาล้างพิษวัคซีนด้วย CDS กันเถอะ https://www.facebook.com/Starseeds22 ไลน์ https://line.me/ti/p/99Z9doLz5K TikTok https://www.tiktok.com/@meelap1999x?_t=8qpQOqra2x6&_r=1 👉2ช่องทางนี้ขอสงวนไว้สำหรับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์เท่านั้น 1.ติดต่อ ไอดีไลน์ : JWOV และ 2.กลุ่ม "cds ตระกูลเกา" https://line.me/.../50dWeG5SoOuUg1J53nEMuD7oXnSD3zJ5... 👉สำหรับผู้ที่อยู่อเมริกา ซื้อหาได้จากเว็บไซต์ https://kvlab.com/ 👉ติดต่อรับชมรายละเอียด/สั่งซื้อสารตั้งต้น - https://forms.gle/ph5HBBZNAuThZnQV8 #ทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 701 Views 0 Reviews
  • Storyฯ เคยเขียนถึงวิธีสู้กับความหนาวของจีนโบราณซึ่งหนึ่งในนั้นคือใช้เสื้อผ้าและผ้าห่มที่ทำมาจากกระดาษ ซึ่งในสมัยถังมีวิวัฒนาการการผลิตกระดาษอย่างก้าวกระโดด เสื้อหรือผ้าห่มนั้นใช้กระดาษที่ทำจากเปลือกของกิ่งหม่อน วิธีทำและหน้าตาคล้ายผลิตกระดาษสาบ้านเรา

    เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า มีการนำกระดาษมาทำเสื้อเกราะให้ทหารสวมใส่ด้วย? บ้างก็ว่ามีมาแต่สมัยราชวงศ์เหนือใต้ บ้างก็ว่าเสื้อเกราะกระดาษนั้นถูกคิดค้นขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง

    เสื้อเกราะกระดาษนี้เรียกตรงตัวว่า ‘จื๋อข่าย’ (纸铠)หรือ ‘จื๋อเจี่ย’ (纸甲) ในบันทึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ราชวงศ์ถังที่จัดทำขึ้นโดยสำนักราชบัณฑิตสมัยซ่ง (ซินถังซู/新唐书) มีจารึกไว้ว่า เสื้อเกราะกระดาษเหล่านี้ป้องกันได้จากคมดาบและธนู ต่อมาในยุคสมัยหมิงนิยมใช้ในพื้นที่ทางตอนใต้ โดยเฉพาะกับทหารเรือ เนื่องจากพื้นที่แถบนั้นอากาศชื้น เสื้อเกราะเหล็กขึ้นสนิมได้ง่ายและหนัก ในทางกลับกัน เสื้อเกราะกระดาษใช้ได้ในหลายสภาพอากาศทั้งร้อนทั้งหนาว มีน้ำหนักเบาและเมื่อโดนน้ำยิ่งทำให้มีความทนทานมากขึ้น ป้องกันได้แม้กระทั่งระเบิดดินปืน

    จากบันทึกทางการทหารในสมัยหมิงมีการกล่าวว่า เสื้อเกราะกระดาษประกอบขึ้นจากกระดาษเยื่อไม้และใยผ้าอัดแน่นซ้ำๆ จนเป็นชั้นหนาประมาณหนึ่งนิ้ว ตรึงด้วยหมุดเหล็ก เย็บขึ้นเป็นเกราะแบบเกล็ดปลา

    เสื้อเกราะกระดาษถูกใช้อย่างแพร่หลายในราชวงศ์หมิง แม้จะยังมีใช้บ้างในสมัยราชวงศ์ชิง (มีการค้นพบเสื้อเกราะกระดาษจากสมัยราชวงศ์ชิงจริงในกุ้ยโจวเมื่อปี 2004) แต่ในยุคสมัยที่ระเบิดมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีไฟแรง เกราะกระดาษใช้ไม่ได้ดีนักจึงค่อยๆ หายไป

    Storyฯ ก็นึกไม่ออกว่าเกราะกระดาษจะทนทานต่ออาวุธได้อย่างไร? ไปพบเจอกับวิดิโอคลิปเลยนำมาแบ่งปันให้ดู (ขออภัยไร้ความสามารถทำคำแปลบนคลิป)

    เป็นคลิปที่ตัดตอนมาจากรายการเกมการแข่งขันความรู้ของเด็กนักเรียน มีการเชิญมือธนูมาทดลองยิงเปรียบเทียบระหว่างเกราะโซ่และเกราะกระดาษ (ซึ่งใช้กระดาษเท่านั้น ยังไม่ได้รวมใยผ้าอัดผสมเข้าไป) โดยหัวธนูที่ใช้นั้นเป็นแบบที่มือธนูเรียกว่าเป็นธนูสำหรับยิงเกราะ หัวธนูเป็นเหล็กแหลมสองชั้น ยิงในระยะ 10 เมตร โดยตอนท้ายมีการสรุปว่าการที่จะเจาะให้ทะลุกระดาษที่เรียงเป็นชั้นๆ จนถึงผิวของคนใส่นั้น ต้องมีแรงอัดหลายทอด หัวธนูจึงไม่สามารถยิงทะลุได้ในคราวเดียว ใครอยากดูคลิปเต็มดูได้ตามลิ้งค์ยูทูบข้างล่างเลยค่ะ

    ดูแล้วรู้สึกอย่างไรคะ? เม้นท์บอกกันมาได้ค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit วิดิโอและรูปภาพจาก:
    https://www.youtube.com/watch?v=9lG3aWRDQtI
    https://kknews.cc/history/g93o88.html
    https://kknews.cc/other/mo6gpg6.html

    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/%E7%BA%B8%E7%94%B2/8697116
    https://www.chinanews.com.cn/hb/news/2009/11-18/1971854.shtml
    https://kknews.cc/other/mo6gpg6.html

    #เสื้อเกราะจีนโบราณ #เสื้อกระดาษ #จื๋อเจี่ย #จื๋อข่าย #อาวุธจีนโบราณ #เสื้อเกราะกระดาษ
    Storyฯ เคยเขียนถึงวิธีสู้กับความหนาวของจีนโบราณซึ่งหนึ่งในนั้นคือใช้เสื้อผ้าและผ้าห่มที่ทำมาจากกระดาษ ซึ่งในสมัยถังมีวิวัฒนาการการผลิตกระดาษอย่างก้าวกระโดด เสื้อหรือผ้าห่มนั้นใช้กระดาษที่ทำจากเปลือกของกิ่งหม่อน วิธีทำและหน้าตาคล้ายผลิตกระดาษสาบ้านเรา เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า มีการนำกระดาษมาทำเสื้อเกราะให้ทหารสวมใส่ด้วย? บ้างก็ว่ามีมาแต่สมัยราชวงศ์เหนือใต้ บ้างก็ว่าเสื้อเกราะกระดาษนั้นถูกคิดค้นขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง เสื้อเกราะกระดาษนี้เรียกตรงตัวว่า ‘จื๋อข่าย’ (纸铠)หรือ ‘จื๋อเจี่ย’ (纸甲) ในบันทึกเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ราชวงศ์ถังที่จัดทำขึ้นโดยสำนักราชบัณฑิตสมัยซ่ง (ซินถังซู/新唐书) มีจารึกไว้ว่า เสื้อเกราะกระดาษเหล่านี้ป้องกันได้จากคมดาบและธนู ต่อมาในยุคสมัยหมิงนิยมใช้ในพื้นที่ทางตอนใต้ โดยเฉพาะกับทหารเรือ เนื่องจากพื้นที่แถบนั้นอากาศชื้น เสื้อเกราะเหล็กขึ้นสนิมได้ง่ายและหนัก ในทางกลับกัน เสื้อเกราะกระดาษใช้ได้ในหลายสภาพอากาศทั้งร้อนทั้งหนาว มีน้ำหนักเบาและเมื่อโดนน้ำยิ่งทำให้มีความทนทานมากขึ้น ป้องกันได้แม้กระทั่งระเบิดดินปืน จากบันทึกทางการทหารในสมัยหมิงมีการกล่าวว่า เสื้อเกราะกระดาษประกอบขึ้นจากกระดาษเยื่อไม้และใยผ้าอัดแน่นซ้ำๆ จนเป็นชั้นหนาประมาณหนึ่งนิ้ว ตรึงด้วยหมุดเหล็ก เย็บขึ้นเป็นเกราะแบบเกล็ดปลา เสื้อเกราะกระดาษถูกใช้อย่างแพร่หลายในราชวงศ์หมิง แม้จะยังมีใช้บ้างในสมัยราชวงศ์ชิง (มีการค้นพบเสื้อเกราะกระดาษจากสมัยราชวงศ์ชิงจริงในกุ้ยโจวเมื่อปี 2004) แต่ในยุคสมัยที่ระเบิดมีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีไฟแรง เกราะกระดาษใช้ไม่ได้ดีนักจึงค่อยๆ หายไป Storyฯ ก็นึกไม่ออกว่าเกราะกระดาษจะทนทานต่ออาวุธได้อย่างไร? ไปพบเจอกับวิดิโอคลิปเลยนำมาแบ่งปันให้ดู (ขออภัยไร้ความสามารถทำคำแปลบนคลิป) เป็นคลิปที่ตัดตอนมาจากรายการเกมการแข่งขันความรู้ของเด็กนักเรียน มีการเชิญมือธนูมาทดลองยิงเปรียบเทียบระหว่างเกราะโซ่และเกราะกระดาษ (ซึ่งใช้กระดาษเท่านั้น ยังไม่ได้รวมใยผ้าอัดผสมเข้าไป) โดยหัวธนูที่ใช้นั้นเป็นแบบที่มือธนูเรียกว่าเป็นธนูสำหรับยิงเกราะ หัวธนูเป็นเหล็กแหลมสองชั้น ยิงในระยะ 10 เมตร โดยตอนท้ายมีการสรุปว่าการที่จะเจาะให้ทะลุกระดาษที่เรียงเป็นชั้นๆ จนถึงผิวของคนใส่นั้น ต้องมีแรงอัดหลายทอด หัวธนูจึงไม่สามารถยิงทะลุได้ในคราวเดียว ใครอยากดูคลิปเต็มดูได้ตามลิ้งค์ยูทูบข้างล่างเลยค่ะ ดูแล้วรู้สึกอย่างไรคะ? เม้นท์บอกกันมาได้ค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit วิดิโอและรูปภาพจาก: https://www.youtube.com/watch?v=9lG3aWRDQtI https://kknews.cc/history/g93o88.html https://kknews.cc/other/mo6gpg6.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/%E7%BA%B8%E7%94%B2/8697116 https://www.chinanews.com.cn/hb/news/2009/11-18/1971854.shtml https://kknews.cc/other/mo6gpg6.html #เสื้อเกราะจีนโบราณ #เสื้อกระดาษ #จื๋อเจี่ย #จื๋อข่าย #อาวุธจีนโบราณ #เสื้อเกราะกระดาษ
    1 Comments 0 Shares 489 Views 0 Reviews
  • วิธีทำpcb จาก 3D resin printer จะเป็นแบบ DLP หรือ SLA ก็ได้
    https://youtu.be/-Qeq7ZgUOuE?si=peawebjWDgbXmkYT
    วิธีทำpcb จาก 3D resin printer จะเป็นแบบ DLP หรือ SLA ก็ได้ https://youtu.be/-Qeq7ZgUOuE?si=peawebjWDgbXmkYT
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงพ่อปลอด รุ่นแรก วัดหัวป่า จ.สงขลา
    เหรียญหลวงพ่อปลอด รุ่นแรก เนื้ออัลปาก้ากะใหล่เงินแจกกรรมการ วัดหัวป่า จ.สงขลา ///เหรียญอันดับหนึ่ง ของสงขลา รู้จักกันทั่วประเทศ เป็นที่ หวงแหน ของคนพิ้นที่สงขลามากครับ // เหรียญแท้ๆ จัดสร้างจำนวนน้อย หายากกก // พระสถาพสวย ผิงหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ ช่วยปกปักรักษาคุ้มครอง แคล้วคลาด มหาอุด เมตตามหานิยม โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา ทํามาค้าขึ้นร่ำรวยเงินทอง ทำมาค้าขึ้น การงานเจริญก้าวหน้า เดินทางปลอดภัย >>

    ** หลวงพ่อปลอด อดีตเจ้าอาวาสวัดหัวป่า อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา เป็นพระผู้ทรงวิทยาคมเรืองวิทยาเวทย์ บำเพ็ญตนในเพศสมณะที่สมบูรณ์ด้วยศีลจริยวัตรอันงดงาม กอปรด้วยวัตรปฏิบัติอันสมถะสันโดษ ปราศจากมลทินมัวหมองใด ๆ หลวงพ่อปลอด ท่านยังได้ศึกษาเกี่ยวกับวิทยาเวทย์จากอาจารย์ ที่มีความรู้เรื่องไสยเวทย์ไม่ว่าจะเป็นสมณะชีพราหมณ์หรือเพศฆราวาสได้ศึกษาภาษาขอมจากพระอาจารย์ไข่ ศึกษาวิธีทำตะกรุดพิศมรจากอาจารย์ทวดทองขาวซึ่งเป็นฆราวาสและผู้เรืองวิทยาเวทย์แก่กล้ามาก โดยเฉพาะด้านคงกระพันชาตรี หนังเหนียว ศาสตราอาวุธทั้งหลายไม่สามารถทำอันตรายได้เลย ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้รับความเคารพนับถืออย่างสูงในละแวกบ้าน จนชาวบ้านเรียกท่านติดปากว่า “พระอาจารย์ปลอด” หรือ “พ่อท่านปลอด” >>

    ** พระสถาพสวย ผิงหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อปลอด รุ่นแรก วัดหัวป่า จ.สงขลา เหรียญหลวงพ่อปลอด รุ่นแรก เนื้ออัลปาก้ากะใหล่เงินแจกกรรมการ วัดหัวป่า จ.สงขลา ///เหรียญอันดับหนึ่ง ของสงขลา รู้จักกันทั่วประเทศ เป็นที่ หวงแหน ของคนพิ้นที่สงขลามากครับ // เหรียญแท้ๆ จัดสร้างจำนวนน้อย หายากกก // พระสถาพสวย ผิงหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ ช่วยปกปักรักษาคุ้มครอง แคล้วคลาด มหาอุด เมตตามหานิยม โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา ทํามาค้าขึ้นร่ำรวยเงินทอง ทำมาค้าขึ้น การงานเจริญก้าวหน้า เดินทางปลอดภัย >> ** หลวงพ่อปลอด อดีตเจ้าอาวาสวัดหัวป่า อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา เป็นพระผู้ทรงวิทยาคมเรืองวิทยาเวทย์ บำเพ็ญตนในเพศสมณะที่สมบูรณ์ด้วยศีลจริยวัตรอันงดงาม กอปรด้วยวัตรปฏิบัติอันสมถะสันโดษ ปราศจากมลทินมัวหมองใด ๆ หลวงพ่อปลอด ท่านยังได้ศึกษาเกี่ยวกับวิทยาเวทย์จากอาจารย์ ที่มีความรู้เรื่องไสยเวทย์ไม่ว่าจะเป็นสมณะชีพราหมณ์หรือเพศฆราวาสได้ศึกษาภาษาขอมจากพระอาจารย์ไข่ ศึกษาวิธีทำตะกรุดพิศมรจากอาจารย์ทวดทองขาวซึ่งเป็นฆราวาสและผู้เรืองวิทยาเวทย์แก่กล้ามาก โดยเฉพาะด้านคงกระพันชาตรี หนังเหนียว ศาสตราอาวุธทั้งหลายไม่สามารถทำอันตรายได้เลย ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้รับความเคารพนับถืออย่างสูงในละแวกบ้าน จนชาวบ้านเรียกท่านติดปากว่า “พระอาจารย์ปลอด” หรือ “พ่อท่านปลอด” >> ** พระสถาพสวย ผิงหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 253 Views 0 Reviews
  • เรื่อง “การชอบคนอื่นที่ไม่ใช่แฟน” ซึ่งเป็นหัวข้อที่ก้ำกึ่งระหว่างความรู้สึกธรรมดาในใจคน กับการเสี่ยงต่อการก่อกรรมที่ร้ายแรงหากไม่รู้เท่าทัน

    ---

    1. คำถาม "ผิดไหม" อาจไม่ใช่คำถามที่ดีที่สุด

    > "การตั้งโจทย์ที่ถูกต้อง คือถามว่า ‘มันล่อแหลมต่อการผิดหรือเปล่า?’"

    เพราะบางอย่าง แม้ยังไม่ผิดตอนนี้ แต่ เปิดทางให้กิเลสโต และนำไปสู่การผิดศีลได้ในที่สุด

    ที่สำคัญมากคือ กิเลสโดยเฉพาะ ราคะ มีลักษณะไหลลึก ลื่นไถล และตบตาจิตใจให้ประมาทง่ายกว่ากิเลสอื่นๆ

    > ธรรมะสำคัญ:
    "อย่าใช้แค่กฎเกณฑ์ภายนอกตัดสิน ให้ดูแรงไหลของใจด้วย"

    ---

    2. รักหรือชอบที่ยังไม่ผิด แต่ "ล่อแหลม" คือภัยเงียบ

    ความชอบในใจแม้เป็นธรรมชาติของมนุษย์ แต่หากปล่อยให้ พูดบ่อย คุยบ่อย คิดบ่อย จิตจะตกลงไปในห้วงหลงโดยไม่รู้ตัว

    จุดที่หลายคนพลาดคือ การอนุโลมเล็กๆ ที่สะสมเป็นไฟเผาใจในที่สุด

    > ธรรมะสำคัญ:
    "ต้นทางที่คิดว่าไม่ผิด คือกับดักที่เปิดทางสู่ความผิดในอนาคต"

    ---

    3. วิธีปฏิบัติที่ชัดเจน: ห้ามกาย ห้ามวาจา แม้ใจยังไม่ห้ามได้

    > “แม้ห้ามใจไม่ได้ ก็ต้องห้ามกายกับปากให้ได้ก่อน”

    ทางกาย: ไม่แตะต้อง ไม่หาข้ออ้างไปพบปะ

    ทางวาจา: ไม่พูด หรือไม่สื่อสารด้วยถ้อยคำที่เหนี่ยวนำให้ผูกพัน

    การห้ามกายห้ามวาจาคือ การถือศีลเบื้องต้น ที่หยุดไม่ให้กิเลสระบาดออกนอก

    > ธรรมะสำคัญ:
    "ห้ามกายวาจาได้ คือป้องกันจิตจากการแตกพ่ายหนักขึ้น"

    ---

    4. วิธีทำให้จิตฉลาดขึ้น: หมั่นถามตัวเองด้วยคำถามสั้นๆ

    > “ความรู้สึกผิด เป็นสุขหรือเป็นทุกข์?”

    การถามตัวเองอย่างตรงไปตรงมา เช่น

    ความรู้สึกแบบนี้ทำให้ใจโปร่งเบา หรือหน่วงหนัก?

    ถ้าเดินต่อ จะได้บุญหรือได้บาป?

    จิตจะค่อยๆ คิดเป็นเองได้ และรู้ทันตัวเองเร็วขึ้น

    > ธรรมะสำคัญ:
    "ตั้งคำถามถูก จิตจะตอบตัวเองได้โดยไม่ต้องบังคับ"

    ---

    5. เคล็ดสำคัญ: ต้อง “หักดิบ” ตั้งแต่ต้นลม

    > “ศีลข้อ ๓ ต้องหักดิบตั้งแต่ยังไม่สาย”

    ถ้าปล่อยให้มีเยื่อใยแม้นิดเดียว จิตจะสร้างเรื่องขยายกิเลสให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

    ผู้ที่รอดปลอดภัยจากกรรมหนัก คือผู้ที่ “ใจเด็ด” ไม่ปล่อยให้กิเลสมีโอกาสโตตั้งแต่ต้น

    > ธรรมะสำคัญ:
    "ปล่อยต้นลมไม่ได้ ถ้าไม่อยากตกเหวตอนปลายทาง"

    ---

    สรุปใจกลางธรรมะ

    อย่าแค่ถามว่า "ผิดไหม" แต่ถามว่า "ล่อแหลมหรือไม่?"

    ความชอบที่ไม่ดูแล จะกลายเป็นไฟเผาตัว

    แม้ห้ามใจไม่ได้ แต่ต้องห้ามกายกับวาจาให้ได้

    ฝึกจิตให้ฉลาดขึ้น ด้วยการถามหาความสุขแท้จริงในใจ

    การหักดิบตั้งแต่ต้น คือเกราะป้องกันกรรมหนักได้ดีที่สุด

    ---

    ธรรมะสั้นใช้ต่อยอดได้ทันที

    "รักเขาไม่ผิด แต่หลงเขาเกินขอบเขต คือทางสู่กรรม"

    "ต้นลมที่ไม่ห้าม คือพายุใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า"

    "ห้ามกาย วาจา คือป้องกันใจได้ในวันข้างหน้า"

    "ถามใจเสมอ: สิ่งนี้พาใจไปเบาหรือไปหนัก?"

    "หักดิบความล่อแหลมวันนี้ เพื่อไม่ต้องร้องไห้ในวันพรุ่งนี้"

    ---
    เรื่อง “การชอบคนอื่นที่ไม่ใช่แฟน” ซึ่งเป็นหัวข้อที่ก้ำกึ่งระหว่างความรู้สึกธรรมดาในใจคน กับการเสี่ยงต่อการก่อกรรมที่ร้ายแรงหากไม่รู้เท่าทัน --- 1. คำถาม "ผิดไหม" อาจไม่ใช่คำถามที่ดีที่สุด > "การตั้งโจทย์ที่ถูกต้อง คือถามว่า ‘มันล่อแหลมต่อการผิดหรือเปล่า?’" เพราะบางอย่าง แม้ยังไม่ผิดตอนนี้ แต่ เปิดทางให้กิเลสโต และนำไปสู่การผิดศีลได้ในที่สุด ที่สำคัญมากคือ กิเลสโดยเฉพาะ ราคะ มีลักษณะไหลลึก ลื่นไถล และตบตาจิตใจให้ประมาทง่ายกว่ากิเลสอื่นๆ > ธรรมะสำคัญ: "อย่าใช้แค่กฎเกณฑ์ภายนอกตัดสิน ให้ดูแรงไหลของใจด้วย" --- 2. รักหรือชอบที่ยังไม่ผิด แต่ "ล่อแหลม" คือภัยเงียบ ความชอบในใจแม้เป็นธรรมชาติของมนุษย์ แต่หากปล่อยให้ พูดบ่อย คุยบ่อย คิดบ่อย จิตจะตกลงไปในห้วงหลงโดยไม่รู้ตัว จุดที่หลายคนพลาดคือ การอนุโลมเล็กๆ ที่สะสมเป็นไฟเผาใจในที่สุด > ธรรมะสำคัญ: "ต้นทางที่คิดว่าไม่ผิด คือกับดักที่เปิดทางสู่ความผิดในอนาคต" --- 3. วิธีปฏิบัติที่ชัดเจน: ห้ามกาย ห้ามวาจา แม้ใจยังไม่ห้ามได้ > “แม้ห้ามใจไม่ได้ ก็ต้องห้ามกายกับปากให้ได้ก่อน” ทางกาย: ไม่แตะต้อง ไม่หาข้ออ้างไปพบปะ ทางวาจา: ไม่พูด หรือไม่สื่อสารด้วยถ้อยคำที่เหนี่ยวนำให้ผูกพัน การห้ามกายห้ามวาจาคือ การถือศีลเบื้องต้น ที่หยุดไม่ให้กิเลสระบาดออกนอก > ธรรมะสำคัญ: "ห้ามกายวาจาได้ คือป้องกันจิตจากการแตกพ่ายหนักขึ้น" --- 4. วิธีทำให้จิตฉลาดขึ้น: หมั่นถามตัวเองด้วยคำถามสั้นๆ > “ความรู้สึกผิด เป็นสุขหรือเป็นทุกข์?” การถามตัวเองอย่างตรงไปตรงมา เช่น ความรู้สึกแบบนี้ทำให้ใจโปร่งเบา หรือหน่วงหนัก? ถ้าเดินต่อ จะได้บุญหรือได้บาป? จิตจะค่อยๆ คิดเป็นเองได้ และรู้ทันตัวเองเร็วขึ้น > ธรรมะสำคัญ: "ตั้งคำถามถูก จิตจะตอบตัวเองได้โดยไม่ต้องบังคับ" --- 5. เคล็ดสำคัญ: ต้อง “หักดิบ” ตั้งแต่ต้นลม > “ศีลข้อ ๓ ต้องหักดิบตั้งแต่ยังไม่สาย” ถ้าปล่อยให้มีเยื่อใยแม้นิดเดียว จิตจะสร้างเรื่องขยายกิเลสให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผู้ที่รอดปลอดภัยจากกรรมหนัก คือผู้ที่ “ใจเด็ด” ไม่ปล่อยให้กิเลสมีโอกาสโตตั้งแต่ต้น > ธรรมะสำคัญ: "ปล่อยต้นลมไม่ได้ ถ้าไม่อยากตกเหวตอนปลายทาง" --- สรุปใจกลางธรรมะ อย่าแค่ถามว่า "ผิดไหม" แต่ถามว่า "ล่อแหลมหรือไม่?" ความชอบที่ไม่ดูแล จะกลายเป็นไฟเผาตัว แม้ห้ามใจไม่ได้ แต่ต้องห้ามกายกับวาจาให้ได้ ฝึกจิตให้ฉลาดขึ้น ด้วยการถามหาความสุขแท้จริงในใจ การหักดิบตั้งแต่ต้น คือเกราะป้องกันกรรมหนักได้ดีที่สุด --- ธรรมะสั้นใช้ต่อยอดได้ทันที "รักเขาไม่ผิด แต่หลงเขาเกินขอบเขต คือทางสู่กรรม" "ต้นลมที่ไม่ห้าม คือพายุใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า" "ห้ามกาย วาจา คือป้องกันใจได้ในวันข้างหน้า" "ถามใจเสมอ: สิ่งนี้พาใจไปเบาหรือไปหนัก?" "หักดิบความล่อแหลมวันนี้ เพื่อไม่ต้องร้องไห้ในวันพรุ่งนี้" ---
    0 Comments 0 Shares 254 Views 0 Reviews
  • เชื่อว่าเพื่อนเพจต้องเคยเห็นอุปกรณ์จุดไฟชนิดหนึ่งในละครจีนหลายเรื่อง หน้าตาเป็นกระบอกไม้ไผ่เล็กๆ เปิดฝามาใช้มือโบกพัดหรือปากเป่าไม่กี่ทีก็มีไฟติด ใช้แทนเทียนได้ ซึ่ง Storyฯ คิดว่ามันน่าทึ่งมากเพราะไม่ต้องใช้หินเหล็กตีให้เกิดประกายไฟและไม่ต้องมีการชักสูบเหมือนตะบันไฟ Storyฯ ขอเรียกมันว่า ‘กระบอกจุดไฟ’ หรือที่ชาวจีนเรียกว่า ‘หั่วเจ๋อจื่อ’ (火折子)

    จากบันทึกโบราณ เทคโนโลยีนี้มีมาแต่สมัยราชวงศ์เหนือใต้ (ประมาณช่วงปีค.ศ. 577) เป็นวิธีการเก็บไฟไว้ใช้ของนางกำนัลในวังโดยใช้กระดาษเนื้อหยาบมาม้วนอัดลงไปในถังไม้แล้วจุดไฟ จากนั้นก็ดับไฟลงจนไม่เหลือเปลวไฟแต่ยังมีสะเก็ดไฟคุกรุ่นไว้แล้วก็ปิดฝาไว้ พอจะใช้ก็เปิดฝาออกมาเป่าจนไฟติด ต่อมาจึงพัฒนามาเป็นอุปกรณ์ที่ใช้พกพาได้ แต่แรกเริ่มนั้น จุดติดได้เพียงครั้งเดียว

    กระบอกจุดไฟแบบนี้เป็นที่นิยมเพราะสะดวกต่อการพกพา และเมื่อเป็นที่นิยมมากขึ้นกรรมวิธีการทำก็ซับซ้อนขึ้น วิธีทำกระบอกไฟที่ดีคือใช้วัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงได้ (เช่น กระดาษเนื้อหยาบ หญ้าบางชนิด มูลสัตว์ หรืออย่างดีคือเถามันเทศและปุยนุ่น) มาหมักน้ำแล้วบีบทุบและเค้นจนเป็นใย ทำอย่างนี้หลายครั้งก่อนจะนำไปตากแห้ง จากนั้นก็นำไปผสมกับขี้ไต้ (ส่วนผสมเท่าที่หาข้อมูลได้ก็มี ดีเกลือ ผงกำมะถัน ยางสน และการบูร) แล้วอัดเข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ ก่อนใช้ต้องจุดไฟจนติดแรง แล้วค่อยดับไฟลงจนเหลือเพียงสะเก็ดไฟคุกรุ่นอยู่ข้างในแต่ไม่เหลือเปลวไฟ แล้วจึงปิดกระบอกด้วยฝาที่มีรูเล็ก พอจะใช้ก็เปิดออกแล้วเป่าจนไฟติด สามารถใช้ได้หลายครั้งจนเชื้อเพลิงหมดกระบอก และสามารถเก็บไว้ใช้ได้นานหลายวัน

    ฟังดูเหมือนง่าย แต่ความยากของมันอยู่ที่ความพอดีของวัสดุเชื้อเพลิงและขี้ไต้ และความหนาแน่นที่พอดีในกระบอกที่ใส่ แน่นอนว่ากระบอกจุดไฟหั่วเจ๋อจื่อมีหลายเกรดแตกต่างกัน ในกลุ่มผู้มีอันจะกินจะใช้เชื้อเพลิงจากใยมันเทศและนุ่นผสมขี้ไต้ตามที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งกรรมวิธีทำจะซับซ้อน แต่จุดง่ายกว่า เพียงใช้มือโบกพัดไม่กี่ทีก็จุดติด

    ส่วนชาวบ้านธรรมดานิยมใช้เยื่อกระดาษหยาบ จะติดไฟยากกว่า เวลาเป่าให้ไฟติดจึงต้องมีเทคนิคมากหน่อย เพราะต้องเป็นลมที่เกิดอย่างกะทันหัน สั้นและแรง จึงจะก่อให้เกิดแรงกระตุ้นที่ดี เพราะฉะนั้นอย่างที่เราเห็นในละคร... ถ้าเราเป็นจอมยุทธ์ก็เพียงสะบัดมือวืดเดียวค่ะ แต่ถ้าไร้วรยุทธ์ก็ต้องใช้ปากเป่าค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากละคร <ปริศนาลับราชวงศ์ถัง> และจาก:
    https://k.sina.cn/article_5100008885_12ffbf5b500100ysyy.html?from=ent&subch=film
    https://www.163.com/dy/article/FO6T9F2R05437E9K.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.163.com/dy/article/FO6T9F2R05437E9K.html
    https://kknews.cc/history/x4q6ojr.html
    http://m.qulishi.com/article/202009/438462.html

    #ปริศนาลับราชวงศ์ถัง #กระบอกไฟ #แท่งไฟโบราณ #แท่งจุดไฟ #หั่วเจ๋อจื่อ #กระบอกจุดไฟโบราณ
    เชื่อว่าเพื่อนเพจต้องเคยเห็นอุปกรณ์จุดไฟชนิดหนึ่งในละครจีนหลายเรื่อง หน้าตาเป็นกระบอกไม้ไผ่เล็กๆ เปิดฝามาใช้มือโบกพัดหรือปากเป่าไม่กี่ทีก็มีไฟติด ใช้แทนเทียนได้ ซึ่ง Storyฯ คิดว่ามันน่าทึ่งมากเพราะไม่ต้องใช้หินเหล็กตีให้เกิดประกายไฟและไม่ต้องมีการชักสูบเหมือนตะบันไฟ Storyฯ ขอเรียกมันว่า ‘กระบอกจุดไฟ’ หรือที่ชาวจีนเรียกว่า ‘หั่วเจ๋อจื่อ’ (火折子) จากบันทึกโบราณ เทคโนโลยีนี้มีมาแต่สมัยราชวงศ์เหนือใต้ (ประมาณช่วงปีค.ศ. 577) เป็นวิธีการเก็บไฟไว้ใช้ของนางกำนัลในวังโดยใช้กระดาษเนื้อหยาบมาม้วนอัดลงไปในถังไม้แล้วจุดไฟ จากนั้นก็ดับไฟลงจนไม่เหลือเปลวไฟแต่ยังมีสะเก็ดไฟคุกรุ่นไว้แล้วก็ปิดฝาไว้ พอจะใช้ก็เปิดฝาออกมาเป่าจนไฟติด ต่อมาจึงพัฒนามาเป็นอุปกรณ์ที่ใช้พกพาได้ แต่แรกเริ่มนั้น จุดติดได้เพียงครั้งเดียว กระบอกจุดไฟแบบนี้เป็นที่นิยมเพราะสะดวกต่อการพกพา และเมื่อเป็นที่นิยมมากขึ้นกรรมวิธีการทำก็ซับซ้อนขึ้น วิธีทำกระบอกไฟที่ดีคือใช้วัสดุที่เป็นเชื้อเพลิงได้ (เช่น กระดาษเนื้อหยาบ หญ้าบางชนิด มูลสัตว์ หรืออย่างดีคือเถามันเทศและปุยนุ่น) มาหมักน้ำแล้วบีบทุบและเค้นจนเป็นใย ทำอย่างนี้หลายครั้งก่อนจะนำไปตากแห้ง จากนั้นก็นำไปผสมกับขี้ไต้ (ส่วนผสมเท่าที่หาข้อมูลได้ก็มี ดีเกลือ ผงกำมะถัน ยางสน และการบูร) แล้วอัดเข้าไปในกระบอกไม้ไผ่ ก่อนใช้ต้องจุดไฟจนติดแรง แล้วค่อยดับไฟลงจนเหลือเพียงสะเก็ดไฟคุกรุ่นอยู่ข้างในแต่ไม่เหลือเปลวไฟ แล้วจึงปิดกระบอกด้วยฝาที่มีรูเล็ก พอจะใช้ก็เปิดออกแล้วเป่าจนไฟติด สามารถใช้ได้หลายครั้งจนเชื้อเพลิงหมดกระบอก และสามารถเก็บไว้ใช้ได้นานหลายวัน ฟังดูเหมือนง่าย แต่ความยากของมันอยู่ที่ความพอดีของวัสดุเชื้อเพลิงและขี้ไต้ และความหนาแน่นที่พอดีในกระบอกที่ใส่ แน่นอนว่ากระบอกจุดไฟหั่วเจ๋อจื่อมีหลายเกรดแตกต่างกัน ในกลุ่มผู้มีอันจะกินจะใช้เชื้อเพลิงจากใยมันเทศและนุ่นผสมขี้ไต้ตามที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งกรรมวิธีทำจะซับซ้อน แต่จุดง่ายกว่า เพียงใช้มือโบกพัดไม่กี่ทีก็จุดติด ส่วนชาวบ้านธรรมดานิยมใช้เยื่อกระดาษหยาบ จะติดไฟยากกว่า เวลาเป่าให้ไฟติดจึงต้องมีเทคนิคมากหน่อย เพราะต้องเป็นลมที่เกิดอย่างกะทันหัน สั้นและแรง จึงจะก่อให้เกิดแรงกระตุ้นที่ดี เพราะฉะนั้นอย่างที่เราเห็นในละคร... ถ้าเราเป็นจอมยุทธ์ก็เพียงสะบัดมือวืดเดียวค่ะ แต่ถ้าไร้วรยุทธ์ก็ต้องใช้ปากเป่าค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากละคร <ปริศนาลับราชวงศ์ถัง> และจาก: https://k.sina.cn/article_5100008885_12ffbf5b500100ysyy.html?from=ent&subch=film https://www.163.com/dy/article/FO6T9F2R05437E9K.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.163.com/dy/article/FO6T9F2R05437E9K.html https://kknews.cc/history/x4q6ojr.html http://m.qulishi.com/article/202009/438462.html #ปริศนาลับราชวงศ์ถัง #กระบอกไฟ #แท่งไฟโบราณ #แท่งจุดไฟ #หั่วเจ๋อจื่อ #กระบอกจุดไฟโบราณ
    该文章已不存在_手机新浪网
    手机新浪网是新浪网的手机门户网站,为亿万用户打造一个手机联通世界的超级平台,提供24小时全面及时的中文资讯,内容覆盖国内外突发新闻事件、体坛赛事、娱乐时尚、产业资讯、实用信息等。手机新浪网触屏版 - sina.cn
    1 Comments 0 Shares 629 Views 0 Reviews
  • 🍲🍲🍲 ทำไมใจร้ายแบบนี้…ลงคลิปนี้ตอนเที่ยงคืน !!!ก็เอามายั่วๆค่ะ…กะปิดีๆ เอาไปทำอะไรก็อร่อยค่ะ…กะปิทำจากเคยแท้ 100% …อร่อย หอม สะอาด ถูกหลักอนามัย … กระปุกนึงขายราคาเพียง 69-79 บาท …แถมเก็บไว้ได้นาน ตำน้ำพริกได้เป็นหม้อ ทานได้ทั้งบ้านค่ะ ฮ่าๆๆๆ :))🤤🤤🤤วิธีทำง่ายๆ ส่วนผสมหาได้ตาม 7-11 เลยค่ะ… มีครกใบเดียว สบายแล้วววราคาประหยัดมากๆ …ทำเองเนี่ย อร่อย สะอาด สบายกระเป๋า…คือดีย์สายน้ำพริกกะปิ สายแซ่บ สายชอบความจี้ดจ้าด แซ่บเวอร์ ไม่ควรพลาดการมีกะปิดีๆติดบ้านค่ะ… โอ้ยยยย รออะไร กดสั่งเลยค้าาา 🤤⏰🍚🥣🌶️♨️⭕️ น่าทานมากกกกกกค่าาากะปิเคยแท้ 100% 🐟🐠 🙂 ใน TikTokhttps://vt.tiktok.com/ZSMYopYpg/กะปิเคยแท้ 100% 🐠🐟 🙂 ใน Shopeehttps://th.shp.ee/GXC6b3nและเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ ส่วนที่ 6
    🍲🍲🍲 ทำไมใจร้ายแบบนี้…ลงคลิปนี้ตอนเที่ยงคืน !!!ก็เอามายั่วๆค่ะ…กะปิดีๆ เอาไปทำอะไรก็อร่อยค่ะ…กะปิทำจากเคยแท้ 100% …อร่อย หอม สะอาด ถูกหลักอนามัย … กระปุกนึงขายราคาเพียง 69-79 บาท …แถมเก็บไว้ได้นาน ตำน้ำพริกได้เป็นหม้อ ทานได้ทั้งบ้านค่ะ ฮ่าๆๆๆ :))🤤🤤🤤วิธีทำง่ายๆ ส่วนผสมหาได้ตาม 7-11 เลยค่ะ… มีครกใบเดียว สบายแล้วววราคาประหยัดมากๆ …ทำเองเนี่ย อร่อย สะอาด สบายกระเป๋า…คือดีย์สายน้ำพริกกะปิ สายแซ่บ สายชอบความจี้ดจ้าด แซ่บเวอร์ ไม่ควรพลาดการมีกะปิดีๆติดบ้านค่ะ… โอ้ยยยย รออะไร กดสั่งเลยค้าาา 🤤⏰🍚🥣🌶️♨️⭕️ น่าทานมากกกกกกค่าาากะปิเคยแท้ 100% 🐟🐠 🙂 ใน TikTokhttps://vt.tiktok.com/ZSMYopYpg/กะปิเคยแท้ 100% 🐠🐟 🙂 ใน Shopeehttps://th.shp.ee/GXC6b3nและเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ ส่วนที่ 6
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 360 Views 0 0 Reviews
  • Google NotebookLM เปิดตัวฟีเจอร์ Mind Maps ที่ช่วยจัดระเบียบข้อมูลด้วย AI ในรูปแบบแผนภาพ ผู้ใช้สามารถใช้ฟีเจอร์นี้วางแผนสวนหรือเรียนรู้ DIY ได้อย่างง่ายดาย แม้จะมีข้อจำกัดในข้อมูลที่บางครั้งไม่เจาะจง แต่ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการจัดระเบียบความคิดและเรียนรู้แนวคิดใหม่

    การประยุกต์ใช้งานจริง:
    - ผู้เขียนทดลองใช้ Mind Maps ในสองสถานการณ์ ได้แก่ การวางแผนสวน และการเรียนรู้วิธีทำงาน DIY ที่เกี่ยวข้องกับซ่อมแซมบ้าน ซึ่งช่วยให้การจัดระเบียบข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น.

    ข้อดีของ Mind Maps:
    - AI ใน NotebookLM สามารถสร้างการเชื่อมโยงของแนวคิดและข้อมูลได้อย่างชัดเจน เช่น การแยกแยะหัวข้อย่อยในงานที่ซับซ้อน ทำให้ผู้ใช้สามารถวางแผนและค้นหาวิธีการแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น.

    ข้อจำกัดที่พบ:
    - ฟีเจอร์นี้ยังมีข้อจำกัด เช่น การแนะนำข้อมูลทั่วไปที่อาจไม่เจาะจงต่อสถานการณ์ หรือการเชื่อมโยงที่ดูไม่เกี่ยวข้องกันในบางครั้ง เช่น การเชื่อมโยงหัวข้อการทำปุ๋ยหมักกับการแต่งเพลงสวน.

    การปรับปรุงในอนาคต:
    - ผู้เขียนเสนอว่า NotebookLM ควรมีฟีเจอร์การปรับแต่งแผนภาพด้วยตนเอง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตัดหรือแก้ไขข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องได้ง่ายขึ้น.

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/i-tried-mind-maps-in-notebooklm-and-its-my-new-favorite-feature
    Google NotebookLM เปิดตัวฟีเจอร์ Mind Maps ที่ช่วยจัดระเบียบข้อมูลด้วย AI ในรูปแบบแผนภาพ ผู้ใช้สามารถใช้ฟีเจอร์นี้วางแผนสวนหรือเรียนรู้ DIY ได้อย่างง่ายดาย แม้จะมีข้อจำกัดในข้อมูลที่บางครั้งไม่เจาะจง แต่ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการจัดระเบียบความคิดและเรียนรู้แนวคิดใหม่ การประยุกต์ใช้งานจริง: - ผู้เขียนทดลองใช้ Mind Maps ในสองสถานการณ์ ได้แก่ การวางแผนสวน และการเรียนรู้วิธีทำงาน DIY ที่เกี่ยวข้องกับซ่อมแซมบ้าน ซึ่งช่วยให้การจัดระเบียบข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น. ข้อดีของ Mind Maps: - AI ใน NotebookLM สามารถสร้างการเชื่อมโยงของแนวคิดและข้อมูลได้อย่างชัดเจน เช่น การแยกแยะหัวข้อย่อยในงานที่ซับซ้อน ทำให้ผู้ใช้สามารถวางแผนและค้นหาวิธีการแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น. ข้อจำกัดที่พบ: - ฟีเจอร์นี้ยังมีข้อจำกัด เช่น การแนะนำข้อมูลทั่วไปที่อาจไม่เจาะจงต่อสถานการณ์ หรือการเชื่อมโยงที่ดูไม่เกี่ยวข้องกันในบางครั้ง เช่น การเชื่อมโยงหัวข้อการทำปุ๋ยหมักกับการแต่งเพลงสวน. การปรับปรุงในอนาคต: - ผู้เขียนเสนอว่า NotebookLM ควรมีฟีเจอร์การปรับแต่งแผนภาพด้วยตนเอง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตัดหรือแก้ไขข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องได้ง่ายขึ้น. https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/i-tried-mind-maps-in-notebooklm-and-its-my-new-favorite-feature
    0 Comments 0 Shares 395 Views 0 Reviews
  • วันนี้ตื่นตัวมากเลย อ่านหนังสือเตรียมสอบราชการ แต่ก็ต้องลุยทำโจทย์สักตั้ง ทำวนๆไป ส่วนคณิตศาสตร์ ผมว่าจะหาวิธีทำที่เจ๋งที่สุดและสร้างโจทย์แคลคูลัสและการคำนวนเชิงวิศวกรรมเพื่อฝึกฝนวิธีการคำนวณวิเคราะห์ด้านวิศวกรรม ในแง่ของสารสนเทศ ข้อมูลและระบบคอมพิวเตอร์มากกว่าครับ และจะพยายามอ่านหนังสือสอบ กพ. แต่ไม่เน้นอ่านนาน อ่าน 30 นาที ดีเลย์ อ่าน 45 น. ดีเลย์ อ่าน 1 ชม. ดีเลย์ และทำโจทย์เพ่ิมความเข้าใจอีก 30-1 ชม. และ ดีเลย์ เพื่อพักผ่อน เบรก ไรงี้ ไม่งั้นสมองพังแน่ๆ
    วันนี้ตื่นตัวมากเลย อ่านหนังสือเตรียมสอบราชการ แต่ก็ต้องลุยทำโจทย์สักตั้ง ทำวนๆไป ส่วนคณิตศาสตร์ ผมว่าจะหาวิธีทำที่เจ๋งที่สุดและสร้างโจทย์แคลคูลัสและการคำนวนเชิงวิศวกรรมเพื่อฝึกฝนวิธีการคำนวณวิเคราะห์ด้านวิศวกรรม ในแง่ของสารสนเทศ ข้อมูลและระบบคอมพิวเตอร์มากกว่าครับ และจะพยายามอ่านหนังสือสอบ กพ. แต่ไม่เน้นอ่านนาน อ่าน 30 นาที ดีเลย์ อ่าน 45 น. ดีเลย์ อ่าน 1 ชม. ดีเลย์ และทำโจทย์เพ่ิมความเข้าใจอีก 30-1 ชม. และ ดีเลย์ เพื่อพักผ่อน เบรก ไรงี้ ไม่งั้นสมองพังแน่ๆ
    0 Comments 0 Shares 332 Views 0 Reviews
  • 17/3/68

    @Kittisuk iPhone
    ส่งไปให้ลูกดูนะ

    หมอได้ผ่าศพคนอายุ 90-103 ปีที่ตายธรรมชาติ

    พบว่าแต่ละคนล้วนมีเซลล์มะเร็งอยู่
    บางคนมีหลายแห่งด้วย
    แต่
    ทำไมพวกเขาจึงไม่มีอาการ

    เขาเชื่อว่า

    มันสงบอยู่ในระยะฟักตัว
    หรือ จำศีล
    ถ้ามีสิ่งที่มีปลุกหรือกระตุ้นให้ตื่น จึงจะเจริญเติบโต


    วงการแพทย์ปัจจุบัน
    กำลังพยายามหาวิธีทำให้เซลล์มะเร็งสงบอยู่ได้ตลอดไป
    เชื่อว่า
    อาหารที่ทำให้เซลล์มะเร็งสงบได้แก่

    1. ขมิ้น
    (สารที่เชื่อว่าต้านมะเร็ง
    คือ curcumin)
    2. พริก (capsaicin)
    3. ขิง (curcumin)
    4. ชาเขียว (catechin)
    5. ถั่วเหลือง (isoflavones)
    6. มะเขือเทศ (lycopene)
    7. องุ่น (resveratrol)y
    8. กระเทียม (sulfides)

    “10 อันดับอาหาร
    ที่กระตุ้นให้เซลล์มะเร็งฟื้น”
    คือ
    1. แฮมเบอร์เกอร์ ของทอด,
    โค้ก (Hamburger Fries
    + Cola)
    2. ข้าวซี่โครงหมูตุ๋น +
    ชาไข่มุก (Pork ribs rice
    + Zhen milk)
    3. เกี๊ยวซ่า + นมถั่วเหลือง
    (Pot Sticker + Soy Milk)
    4. สปาร์เก็ตตี้อิตาเลียน +
    ซุปเมอแรงค์ ((Grilled
    Italian noodles) +
    meringue soup)
    5. ไก่ทอดเกาหลีกับเบียร์
    (Korean fried chicken
    + beer)
    6. ข้าวผัด + ซุปกงเหมา
    (Fried rice + Gongmao
    soup)
    7. ราเมง + ครีมแข็ง (Ramen
    + Frost Cream)
    8. ข้าวหน้าหมูตุ๋น +
    ซุปลูกชิ้นปลา (Braised
    Pork Rice + Fish Ball
    Soup)
    9. ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น +
    กะหล่ำปลีดอง (Braised
    beef noodles +
    sauerkraut)
    10. หมูทอด + โอเด้ง (Fried meat round + Oden boiled)

    ส่วนอาหารที่ต้านพิษ
    ได้แก่
    1. มันหวาน (Sweet potato)
    2. ถั่วเขียว (Mung beans)
    3. ข้าวโอ๊ต (Oats)
    4. เม็ดบัว (Huanren)
    5. เซียวหมี่ (Xiaomi)
    6. ข้าวกล้อง (Brown rice)
    7. ถั่วแดง (Red Beans)
    8. แครอท (Carrots)
    9. แยม (Yam)
    10. หญ้าเจ้าชู้ (Burdock)
    11. หน่อไม้ฝรั่ง (Asparagus)
    12. หัวหอม (Onions)
    13. รากบัว (Lotus root)
    14. หัวไชเท้า (White radish)
    15. โกฐจุฬาลัมพา (Artemisia
    halodendron)
    16. ใบของมันหวาน (Sweet
    potato leaves)
    17. ใบหัวไชเท้า (Radish
    leaves)
    18. ชวานชี (Chuanqi)
    19. โยเกิร์ต (Yogurt)
    20. น้ำส้มสายชู (Vinegart)

    "You are what You eat"
    คุณ กินอะไรเข้าไป
    คุณก็จะเป็นอย่างนั้น

    Don’t no who wrote but I do
    ไม่รู้ใครเขียนแต่ผมทำตาม...

    ด่วน...
    เส้นเลือด "ตีบ" ในสมอง
    เกิดขึ้นทุก 4 นาที
    ทำไมตรวจหาสาเหตุไม่เจอ แล้วจะมีวิธีป้องกันได้อย่างไร ?

    ทุกวันนี้ ผมเจอคนป่วยเส้นเลือดตีบทุกวัน
    ตั้งแต่อายุ 13 ปี ยัน 95 ปี
    มันเกิดอะไรขึ้น
    ความพิการจะหยุดได้
    หรือไม่ได้...

    ถ้าสำหรับผม ผมตอบได้เลยว่า
    "หยุดได้"

    เส้นเลือดตีบในสมอง
    เกิดขึ้นทุก 4 นาที
    ปีละเป็นแสนคน
    ดารานักแสดง.. คนรวย.. คนจน.... ก็ไม่เว้น
    จนเป็นเรื่องน่าวิตกมาก

    วันนี้การแพทย์สหรัฐ
    ยังบอกเลยว่า
    มันยากมากที่สุด

    การรักษาคนป่วยเหล่านี้
    แทบจะเลือนลาง
    เสียงบประมาณมากมาย
    กับคนป่วยเหล่านี้...

    อาการเส้นเลือดตีบ
    เป็นอย่างไร ?

    เส้นเลือดตีบ
    อาการที่ส่งสัญญาณ คือ.-
    1. อาการมึนหัว
    2. อาการบ้านหมุน
    3. อาจมีอาการอาเจียนร่วม
    4. อาการร่วม-อ่อนแรงที่แขน
    5. อาการร่วม-อ่อนแรงที่ขา
    6. มีกลุ่มก้อนแข็งอุดตาม คอ
    บ่า ไหล่
    อาจส่งสัญญาณปวด

    จากพฤติกรรมที่ทำ คือ.-
    1. พักผ่อนน้อย
    2. ดื่มน้ำน้อย
    3. นอนดึก
    4. ดื่มน้ำเย็นเป็นประจำ
    5. ชอบทานอาหารมันๆ
    6. ชอบดื่มเหล้า สูบบุหรี่
    7. ขาดการออกกำลังกาย
    8. ไม่เคยปรับสมดุล ดูแล
    ระบบหลอดเลือด และ
    การไหลเวียนให้สมดุล
    9. นั่งนาน
    10. ยืนนาน
    11. ทำงานหนัก
    12. ชอบดื่มน้ำอัดลม เป็นต้น

    ภาวะเส้นเลือดตีบในสมอง
    ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค
    แต่เกิดจากพฤติกรรม
    ที่สะสมมานาน
    ไม่ต่ำกว่า 4-5 ปี
    การอุดตันในเส้นเลือด
    ถึงจะเกิดขึ้นได้
    การรักษาฟื้นฟู
    สามารถทำได้
    แต่ต้องใช้ระยะเวลา..
    นาน.. ไม่ต่ำกว่า 5 ปี

    คนที่เป็น
    มีอาการก่อนเส้นเลือดจะตีบตัน
    สามารถรักษาได้
    ใช้ระยะเวลาไม่เกิด 3-6 เดือน

    อาการเส้นเลือดตีบในสมองถึงจะไม่เกิดขึ้น
    แต่ถ้ายังกลับไปทำพฤติกรรมเดิมๆ ก็อาจกลับมาได้อีก เพราะเส้นเลือดตีบในสมอง

    “เกิดจากพฤติกรรม
    ในการดำเนินชีวิต…..

    ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค“

    เอาละครับ
    คิดว่าข้อมูลเล็กๆน้อยๆ
    คงช่วยให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงได้
    ห่างไกลความพิการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

    อนุญาตให้แชร์ข้อมูลได้ครับ
    เพื่อเป็นวิทยาทาน...
    17/3/68 @Kittisuk iPhone ส่งไปให้ลูกดูนะ หมอได้ผ่าศพคนอายุ 90-103 ปีที่ตายธรรมชาติ พบว่าแต่ละคนล้วนมีเซลล์มะเร็งอยู่ บางคนมีหลายแห่งด้วย แต่ ทำไมพวกเขาจึงไม่มีอาการ เขาเชื่อว่า มันสงบอยู่ในระยะฟักตัว หรือ จำศีล ถ้ามีสิ่งที่มีปลุกหรือกระตุ้นให้ตื่น จึงจะเจริญเติบโต วงการแพทย์ปัจจุบัน กำลังพยายามหาวิธีทำให้เซลล์มะเร็งสงบอยู่ได้ตลอดไป เชื่อว่า อาหารที่ทำให้เซลล์มะเร็งสงบได้แก่ 1. ขมิ้น (สารที่เชื่อว่าต้านมะเร็ง คือ curcumin) 2. พริก (capsaicin) 3. ขิง (curcumin) 4. ชาเขียว (catechin) 5. ถั่วเหลือง (isoflavones) 6. มะเขือเทศ (lycopene) 7. องุ่น (resveratrol)y 8. กระเทียม (sulfides) “10 อันดับอาหาร ที่กระตุ้นให้เซลล์มะเร็งฟื้น” คือ 1. แฮมเบอร์เกอร์ ของทอด, โค้ก (Hamburger Fries + Cola) 2. ข้าวซี่โครงหมูตุ๋น + ชาไข่มุก (Pork ribs rice + Zhen milk) 3. เกี๊ยวซ่า + นมถั่วเหลือง (Pot Sticker + Soy Milk) 4. สปาร์เก็ตตี้อิตาเลียน + ซุปเมอแรงค์ ((Grilled Italian noodles) + meringue soup) 5. ไก่ทอดเกาหลีกับเบียร์ (Korean fried chicken + beer) 6. ข้าวผัด + ซุปกงเหมา (Fried rice + Gongmao soup) 7. ราเมง + ครีมแข็ง (Ramen + Frost Cream) 8. ข้าวหน้าหมูตุ๋น + ซุปลูกชิ้นปลา (Braised Pork Rice + Fish Ball Soup) 9. ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น + กะหล่ำปลีดอง (Braised beef noodles + sauerkraut) 10. หมูทอด + โอเด้ง (Fried meat round + Oden boiled) ส่วนอาหารที่ต้านพิษ ได้แก่ 1. มันหวาน (Sweet potato) 2. ถั่วเขียว (Mung beans) 3. ข้าวโอ๊ต (Oats) 4. เม็ดบัว (Huanren) 5. เซียวหมี่ (Xiaomi) 6. ข้าวกล้อง (Brown rice) 7. ถั่วแดง (Red Beans) 8. แครอท (Carrots) 9. แยม (Yam) 10. หญ้าเจ้าชู้ (Burdock) 11. หน่อไม้ฝรั่ง (Asparagus) 12. หัวหอม (Onions) 13. รากบัว (Lotus root) 14. หัวไชเท้า (White radish) 15. โกฐจุฬาลัมพา (Artemisia halodendron) 16. ใบของมันหวาน (Sweet potato leaves) 17. ใบหัวไชเท้า (Radish leaves) 18. ชวานชี (Chuanqi) 19. โยเกิร์ต (Yogurt) 20. น้ำส้มสายชู (Vinegart) "You are what You eat" คุณ กินอะไรเข้าไป คุณก็จะเป็นอย่างนั้น Don’t no who wrote but I do ไม่รู้ใครเขียนแต่ผมทำตาม... ด่วน... เส้นเลือด "ตีบ" ในสมอง เกิดขึ้นทุก 4 นาที ทำไมตรวจหาสาเหตุไม่เจอ แล้วจะมีวิธีป้องกันได้อย่างไร ? ทุกวันนี้ ผมเจอคนป่วยเส้นเลือดตีบทุกวัน ตั้งแต่อายุ 13 ปี ยัน 95 ปี มันเกิดอะไรขึ้น ความพิการจะหยุดได้ หรือไม่ได้... ถ้าสำหรับผม ผมตอบได้เลยว่า "หยุดได้" เส้นเลือดตีบในสมอง เกิดขึ้นทุก 4 นาที ปีละเป็นแสนคน ดารานักแสดง.. คนรวย.. คนจน.... ก็ไม่เว้น จนเป็นเรื่องน่าวิตกมาก วันนี้การแพทย์สหรัฐ ยังบอกเลยว่า มันยากมากที่สุด การรักษาคนป่วยเหล่านี้ แทบจะเลือนลาง เสียงบประมาณมากมาย กับคนป่วยเหล่านี้... อาการเส้นเลือดตีบ เป็นอย่างไร ? เส้นเลือดตีบ อาการที่ส่งสัญญาณ คือ.- 1. อาการมึนหัว 2. อาการบ้านหมุน 3. อาจมีอาการอาเจียนร่วม 4. อาการร่วม-อ่อนแรงที่แขน 5. อาการร่วม-อ่อนแรงที่ขา 6. มีกลุ่มก้อนแข็งอุดตาม คอ บ่า ไหล่ อาจส่งสัญญาณปวด จากพฤติกรรมที่ทำ คือ.- 1. พักผ่อนน้อย 2. ดื่มน้ำน้อย 3. นอนดึก 4. ดื่มน้ำเย็นเป็นประจำ 5. ชอบทานอาหารมันๆ 6. ชอบดื่มเหล้า สูบบุหรี่ 7. ขาดการออกกำลังกาย 8. ไม่เคยปรับสมดุล ดูแล ระบบหลอดเลือด และ การไหลเวียนให้สมดุล 9. นั่งนาน 10. ยืนนาน 11. ทำงานหนัก 12. ชอบดื่มน้ำอัดลม เป็นต้น ภาวะเส้นเลือดตีบในสมอง ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แต่เกิดจากพฤติกรรม ที่สะสมมานาน ไม่ต่ำกว่า 4-5 ปี การอุดตันในเส้นเลือด ถึงจะเกิดขึ้นได้ การรักษาฟื้นฟู สามารถทำได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลา.. นาน.. ไม่ต่ำกว่า 5 ปี คนที่เป็น มีอาการก่อนเส้นเลือดจะตีบตัน สามารถรักษาได้ ใช้ระยะเวลาไม่เกิด 3-6 เดือน อาการเส้นเลือดตีบในสมองถึงจะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้ายังกลับไปทำพฤติกรรมเดิมๆ ก็อาจกลับมาได้อีก เพราะเส้นเลือดตีบในสมอง “เกิดจากพฤติกรรม ในการดำเนินชีวิต….. ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค“ เอาละครับ คิดว่าข้อมูลเล็กๆน้อยๆ คงช่วยให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงได้ ห่างไกลความพิการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อนุญาตให้แชร์ข้อมูลได้ครับ เพื่อเป็นวิทยาทาน...
    0 Comments 0 Shares 1350 Views 0 Reviews
  • 🔥 วิธีทำงานให้มีไฟ แม้ไม่มีใจรัก 🔥


    ---

    📌 1️⃣ ถ้าไม่มีใจ งานก็เหมือนไม่เคยเริ่มต้น

    🚫 ปัญหา:

    ทำงานไปวันๆ รอให้หมดเดือน รับเงินเดือนแล้วจบ

    ไม่มีเป้าหมาย ไม่แคร์ผลลัพธ์

    ไม่เห็นความสำคัญของงาน จึงหมดไฟง่าย


    ✅ แนวทางแก้:
    "ให้มองว่างานนี้เป็นสะพาน ไม่ใช่ปลายทาง"

    งานที่ทำวันนี้ อาจไม่ใช่งานสุดท้าย

    แต่มันเป็น "จุดเริ่มต้น" หรือ "กลางทาง" ที่พาคุณไปสู่งานที่ใช่

    ถ้าคุณทำแบบไร้ใจต่อไป คุณจะไม่มีวันไปถึงงานที่รักได้เลย!



    ---

    📌 2️⃣ เปลี่ยนวิธีคิด: "ทำก่อนรัก" ไม่ใช่ "รักก่อนทำ"

    🚫 ปัญหา:

    หลายคนรอให้ "มีใจ" ก่อน แล้วค่อยทำเต็มที่

    แต่ความจริงคือ "ยิ่งทำ ยิ่งชำนาญ ยิ่งเห็นคุณค่า"

    ถ้าเอาแต่เกลียดงาน ไม่อดทน ไม่ตั้งใจ คุณจะไม่รักงานไหนเลย!


    ✅ แนวทางแก้:
    "เปลี่ยนจากการรอให้รักงาน เป็นการสร้างใจให้รักงาน"

    เริ่มจาก ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ในแต่ละวัน (งานสำเร็จ 1 อย่างก็ดีแล้ว)

    คิดเป็นขั้นตอน งาน 1 ชิ้น ต้องทำอะไรบ้าง

    ให้รางวัลตัวเอง เมื่อทำเสร็จ (พัก 5 นาที, ดื่มกาแฟ ฯลฯ)



    ---

    📌 3️⃣ ฝึกวินัย แม้ไม่มีใจรักงาน

    🚫 ปัญหา:

    คนที่เบื่องานมักทำงานแบบจับจด

    ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีลำดับขั้นตอน

    ทำไปวันๆ พอหมดวันก็หมดไฟ


    ✅ แนวทางแก้:
    "สร้างนิสัยให้ทำงานอย่างมีระบบ"

    ฝึกตั้งเป้าหมายประจำวัน เช่น

    🎯 เช้านี้ต้องส่งรายงาน

    🎯 บ่ายต้องทำสไลด์ประชุม

    🎯 เย็นต้องเคลียร์อีเมล


    มีขั้นบันได 1-2-3 ในการทำงาน ไม่ทำสะเปะสะปะ

    อดทนกับอุปสรรค เพราะงานที่รัก ก็มีปัญหาเหมือนกัน



    ---

    📌 4️⃣ ใช้ "งานปัจจุบัน" สร้าง "โอกาสอนาคต"

    🚫 ปัญหา:

    คิดว่างานนี้ไม่มีประโยชน์กับอนาคต

    ขาดแรงบันดาลใจในการทำงาน

    ไม่มีเป้าหมายชีวิต


    ✅ แนวทางแก้:
    "ทำงานที่มีวันนี้ ให้ดีที่สุด เพราะมันจะเป็นใบเบิกทางไปสู่โอกาสที่ดีกว่า"

    สร้างผลงานให้ดี แม้เป็นงานที่ไม่ชอบ

    พัฒนาทักษะจากงานปัจจุบัน

    ใช้โอกาสนี้เรียนรู้ให้มากที่สุด



    ---

    📌 5️⃣ สร้าง "พานทอง" ไว้รองรับ "งานในฝัน"

    🚫 ปัญหา:

    หลายคนรอให้เจองานที่ชอบก่อน

    ไม่คิดพัฒนาตัวเองในระหว่างทาง

    สุดท้ายพอเจองานที่รัก ก็ไม่มีความสามารถพอทำได้


    ✅ แนวทางแก้:
    "ใช้ช่วงเวลานี้เป็นการเตรียมตัวให้พร้อม"

    ฝึก "ความรับผิดชอบ" กับงานที่มี

    ฝึก "ความอดทน" กับอุปสรรค

    ฝึก "การทำงานให้สำเร็จ"


    📌 จำไว้!
    "คุณสร้างจิตใจแบบนี้ตอนทำงานที่ไม่รักได้ แล้วมันจะเป็นพลังสำคัญเมื่อคุณได้ทำงานที่รักจริงๆ!"


    ---

    🎯 สรุป: วิธีเติมไฟให้ตัวเอง แม้ไม่มีใจรักงาน

    ✅ 1️⃣ มองว่างานนี้เป็นสะพาน ไม่ใช่จุดจบ
    ✅ 2️⃣ อย่ารอให้รักงาน แต่ให้ทำก่อนแล้วจะรักเอง
    ✅ 3️⃣ ฝึกวินัย ทำงานอย่างมีระบบ
    ✅ 4️⃣ ใช้งานปัจจุบันเป็นโอกาสสร้างอนาคต
    ✅ 5️⃣ ฝึกสร้าง "จิตใจนักสู้" ไว้รองรับงานที่ใช่

    📌 "ถ้าคุณทำงานแบบมีระบบ มีเป้าหมาย มีความอดทน งานที่ใช่จะมาหาคุณเอง!"

    🔥 วิธีทำงานให้มีไฟ แม้ไม่มีใจรัก 🔥 --- 📌 1️⃣ ถ้าไม่มีใจ งานก็เหมือนไม่เคยเริ่มต้น 🚫 ปัญหา: ทำงานไปวันๆ รอให้หมดเดือน รับเงินเดือนแล้วจบ ไม่มีเป้าหมาย ไม่แคร์ผลลัพธ์ ไม่เห็นความสำคัญของงาน จึงหมดไฟง่าย ✅ แนวทางแก้: "ให้มองว่างานนี้เป็นสะพาน ไม่ใช่ปลายทาง" งานที่ทำวันนี้ อาจไม่ใช่งานสุดท้าย แต่มันเป็น "จุดเริ่มต้น" หรือ "กลางทาง" ที่พาคุณไปสู่งานที่ใช่ ถ้าคุณทำแบบไร้ใจต่อไป คุณจะไม่มีวันไปถึงงานที่รักได้เลย! --- 📌 2️⃣ เปลี่ยนวิธีคิด: "ทำก่อนรัก" ไม่ใช่ "รักก่อนทำ" 🚫 ปัญหา: หลายคนรอให้ "มีใจ" ก่อน แล้วค่อยทำเต็มที่ แต่ความจริงคือ "ยิ่งทำ ยิ่งชำนาญ ยิ่งเห็นคุณค่า" ถ้าเอาแต่เกลียดงาน ไม่อดทน ไม่ตั้งใจ คุณจะไม่รักงานไหนเลย! ✅ แนวทางแก้: "เปลี่ยนจากการรอให้รักงาน เป็นการสร้างใจให้รักงาน" เริ่มจาก ตั้งเป้าหมายเล็กๆ ในแต่ละวัน (งานสำเร็จ 1 อย่างก็ดีแล้ว) คิดเป็นขั้นตอน งาน 1 ชิ้น ต้องทำอะไรบ้าง ให้รางวัลตัวเอง เมื่อทำเสร็จ (พัก 5 นาที, ดื่มกาแฟ ฯลฯ) --- 📌 3️⃣ ฝึกวินัย แม้ไม่มีใจรักงาน 🚫 ปัญหา: คนที่เบื่องานมักทำงานแบบจับจด ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีลำดับขั้นตอน ทำไปวันๆ พอหมดวันก็หมดไฟ ✅ แนวทางแก้: "สร้างนิสัยให้ทำงานอย่างมีระบบ" ฝึกตั้งเป้าหมายประจำวัน เช่น 🎯 เช้านี้ต้องส่งรายงาน 🎯 บ่ายต้องทำสไลด์ประชุม 🎯 เย็นต้องเคลียร์อีเมล มีขั้นบันได 1-2-3 ในการทำงาน ไม่ทำสะเปะสะปะ อดทนกับอุปสรรค เพราะงานที่รัก ก็มีปัญหาเหมือนกัน --- 📌 4️⃣ ใช้ "งานปัจจุบัน" สร้าง "โอกาสอนาคต" 🚫 ปัญหา: คิดว่างานนี้ไม่มีประโยชน์กับอนาคต ขาดแรงบันดาลใจในการทำงาน ไม่มีเป้าหมายชีวิต ✅ แนวทางแก้: "ทำงานที่มีวันนี้ ให้ดีที่สุด เพราะมันจะเป็นใบเบิกทางไปสู่โอกาสที่ดีกว่า" สร้างผลงานให้ดี แม้เป็นงานที่ไม่ชอบ พัฒนาทักษะจากงานปัจจุบัน ใช้โอกาสนี้เรียนรู้ให้มากที่สุด --- 📌 5️⃣ สร้าง "พานทอง" ไว้รองรับ "งานในฝัน" 🚫 ปัญหา: หลายคนรอให้เจองานที่ชอบก่อน ไม่คิดพัฒนาตัวเองในระหว่างทาง สุดท้ายพอเจองานที่รัก ก็ไม่มีความสามารถพอทำได้ ✅ แนวทางแก้: "ใช้ช่วงเวลานี้เป็นการเตรียมตัวให้พร้อม" ฝึก "ความรับผิดชอบ" กับงานที่มี ฝึก "ความอดทน" กับอุปสรรค ฝึก "การทำงานให้สำเร็จ" 📌 จำไว้! "คุณสร้างจิตใจแบบนี้ตอนทำงานที่ไม่รักได้ แล้วมันจะเป็นพลังสำคัญเมื่อคุณได้ทำงานที่รักจริงๆ!" --- 🎯 สรุป: วิธีเติมไฟให้ตัวเอง แม้ไม่มีใจรักงาน ✅ 1️⃣ มองว่างานนี้เป็นสะพาน ไม่ใช่จุดจบ ✅ 2️⃣ อย่ารอให้รักงาน แต่ให้ทำก่อนแล้วจะรักเอง ✅ 3️⃣ ฝึกวินัย ทำงานอย่างมีระบบ ✅ 4️⃣ ใช้งานปัจจุบันเป็นโอกาสสร้างอนาคต ✅ 5️⃣ ฝึกสร้าง "จิตใจนักสู้" ไว้รองรับงานที่ใช่ 📌 "ถ้าคุณทำงานแบบมีระบบ มีเป้าหมาย มีความอดทน งานที่ใช่จะมาหาคุณเอง!"
    0 Comments 0 Shares 455 Views 0 Reviews
  • การทำ เทียนอบ..

    สูตรที่คุณแม่
    ที่ถ่ายทอดกันมา ไม่ต้องไปซื้อ..ทำใช้ได้เอง คุณภาพดี.

    นำมาใช้ อบขนม น้ำกะทิ น้ำอบ น้ำปรุง ของชำร่วยต่างๆ อบผ้า ได้หอมกรุ่น เหมืิอน..ผ้าสไบ ของ แม่นางเกศสุรางค์

    เทียนอบ คือ เทียนที่ทำจากขี้ผึ้ง ผสมเครื่องหอม แล้วนำมาฟั่นกับไส้เทียน มีลักษณะโค้งงอ(เหมือนไส้อั่ว) มีปลายสองข้างเป็นไส้เทียน (ตามภาพ)

    เตรียมส่วนผสม
    ขี้ผึ้ง 50 กรัม ผงชะลูดป่น 2 1/2 ช้อนชา กำยานป่น 2 ½ ช้อนชา ผิวมะกรุด(บดละเอียด) 1 ช้อนชา น้ำตาลทรายแดง 2 1/2 ช้อนชา พิมเสน(บดละเอียด) 2 ช้อนชา น้ำมันจันทร์ หรือ น้ำมันหอมกลิ่นลำเจียก 2 ช้อนชา และ ไส้เทียนอบ

    1) วิธีทำขี้ผึ้ง(แท้) ทำจากรังผึ้ง ต้มเคี่ยวกับน้ำ ให้ขี้ผึ้งที่เป็นไขมันละลายออกมาจากรัง ไขมันจะมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำ ทิ้งไว้หนึ่งคืน รุ่งเช้าจะมีไขมันลอยที่ผิวน้ำ รอให้เย็นแล้วช้อนเอาไขมาใส่ในแม่พิมพ์ รีดเอาน้ำ(ด้านล่าง)ออก จะได้ขี้ผึ้งแท้ๆที่มีกลิ่นหอมจากรังผึ้งธรรมชาติ

    2) วิธีทำไส้เทียน ด้วยฝ้ายแท้ๆ ต้องทำเอง เพราะฝ้ายในท้องตลาดมักผสมโพลีเอสเตอร์ใช้ไม่ได้ นะคะ(จุดไฟแล้ว..จะมีควันพิษ) ของฟรี..ของดี ก็มีในโลก ด้วยการไปขอกับชาวบ้านที่หมู่บ้านทอฝ้าย นำมาทบกันให้มีขนาดใหญ่เท่ากับดินสอยาวประมาณ 10-12 นิ้ว ทำความสะอาด ซักแล้วตากแห้งหลายๆครั้งให้สะอาดและหมดกลิ่น แปรงไส้เทียน ไม่ให้พันกัน การแปรงไส้เทียนเป็นการทำความสะอาด เป็นระเบียบ ทำให้ได้เปลวที่ไฟแรง ขี้ผึ้งและส่วนประกอบร้อนเร็ว สุดท้ายนำไป ชุบขี้ผึ้งเหลว..ที่ต้มร้อนๆ กับ น้ำมันจันทร์หรือน้ำมันหอมกลิ่นลำเจียก ให้ขี้ผึ้งหอมๆซึมแทรกเข้าในเนื้อฝ้ายให้อิ่มๆ

    3) #วิธีทำเทียนอบ เริ่มจาก ขี้ผึ้ง 50 กรัม นำไปลนไฟพอนิ่ม โรยส่วนผสมชะลูด กำยาน ผิวมะกรูด น้ำตาลทราบแดง พิมเสม นวดให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แผ่แผ่นเทียนให้ยาวน้อยกว่าไส้เทียนประมาณ 2 นิ้ว กว้างประมาณ 1 นิ้ว หนา ½ นิ้ว ฟั้นเทียนให้แน่น และ เข้ากัน เหลือชาย 2 ข้างๆละประมาณ 1 นิ้ว ขดยกปลายเทียนทั้งสองข้าง พักไว้ให้เย็น
    ------------------------------
    วิธีใช้ จุดเทียนอบ ให้ติดไฟเป็นเปลวทั้งสองด้าน สังเกต..ขี้ผึ้งรอบไส้เทียนหลอมละลาย เดือด และ #ไส้เทียนติดไฟเป็นสีแดง จะส่งกลิ่นหอมให้กับขนมจากส่วนประกอบในเทียน จึงค่อยดับไฟ ช่วงนี้แหละ..จะเกิดควันมากมาย รีบปิดฝาอบ น้ำกะทิ อบ40นาที ขนมอบ อบข้ามคืน ยิ่งอบนาน..ยิ่งหอม จ๊ะ
    -------------------------------
    *** ข้อสำคัญ คือ ทุกครั้งที่นำเทียนอบ(เล่มใหม่)มาจุด ต้องทำการBurn โดยจุดไส้เทียนเปล่า 1 รอบ
    แล้วจุดใหม่อีก 1 ครั้งเสมอ นะคะ หากไม่Burnก่อน จะทำให้เทียนอบจะไม่ส่งกลิ่นหอมให้กับขนม

    เทียนเล่มเก่า(จุดใหม่) ให้ขูด ไส้เทียนดำๆ และ ขี้ผึ้งที่ไหม้ไฟออกก่อน จึงจุดใหม่ เทียนหนึ่งเล่มใช้ได้เกือบสิบครั้ง เมื่อใช้เสร็จ..เก็บในถุงZip-Lockรักษาความหอมไว้ได้นาน.
    การทำ เทียนอบ.. สูตรที่คุณแม่ ที่ถ่ายทอดกันมา ไม่ต้องไปซื้อ..ทำใช้ได้เอง คุณภาพดี. นำมาใช้ อบขนม น้ำกะทิ น้ำอบ น้ำปรุง ของชำร่วยต่างๆ อบผ้า ได้หอมกรุ่น เหมืิอน..ผ้าสไบ ของ แม่นางเกศสุรางค์ เทียนอบ คือ เทียนที่ทำจากขี้ผึ้ง ผสมเครื่องหอม แล้วนำมาฟั่นกับไส้เทียน มีลักษณะโค้งงอ(เหมือนไส้อั่ว) มีปลายสองข้างเป็นไส้เทียน (ตามภาพ) เตรียมส่วนผสม ขี้ผึ้ง 50 กรัม ผงชะลูดป่น 2 1/2 ช้อนชา กำยานป่น 2 ½ ช้อนชา ผิวมะกรุด(บดละเอียด) 1 ช้อนชา น้ำตาลทรายแดง 2 1/2 ช้อนชา พิมเสน(บดละเอียด) 2 ช้อนชา น้ำมันจันทร์ หรือ น้ำมันหอมกลิ่นลำเจียก 2 ช้อนชา และ ไส้เทียนอบ 1) วิธีทำขี้ผึ้ง(แท้) ทำจากรังผึ้ง ต้มเคี่ยวกับน้ำ ให้ขี้ผึ้งที่เป็นไขมันละลายออกมาจากรัง ไขมันจะมีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำ ทิ้งไว้หนึ่งคืน รุ่งเช้าจะมีไขมันลอยที่ผิวน้ำ รอให้เย็นแล้วช้อนเอาไขมาใส่ในแม่พิมพ์ รีดเอาน้ำ(ด้านล่าง)ออก จะได้ขี้ผึ้งแท้ๆที่มีกลิ่นหอมจากรังผึ้งธรรมชาติ 2) วิธีทำไส้เทียน ด้วยฝ้ายแท้ๆ ต้องทำเอง เพราะฝ้ายในท้องตลาดมักผสมโพลีเอสเตอร์ใช้ไม่ได้ นะคะ(จุดไฟแล้ว..จะมีควันพิษ) ของฟรี..ของดี ก็มีในโลก ด้วยการไปขอกับชาวบ้านที่หมู่บ้านทอฝ้าย นำมาทบกันให้มีขนาดใหญ่เท่ากับดินสอยาวประมาณ 10-12 นิ้ว ทำความสะอาด ซักแล้วตากแห้งหลายๆครั้งให้สะอาดและหมดกลิ่น แปรงไส้เทียน ไม่ให้พันกัน การแปรงไส้เทียนเป็นการทำความสะอาด เป็นระเบียบ ทำให้ได้เปลวที่ไฟแรง ขี้ผึ้งและส่วนประกอบร้อนเร็ว สุดท้ายนำไป ชุบขี้ผึ้งเหลว..ที่ต้มร้อนๆ กับ น้ำมันจันทร์หรือน้ำมันหอมกลิ่นลำเจียก ให้ขี้ผึ้งหอมๆซึมแทรกเข้าในเนื้อฝ้ายให้อิ่มๆ 3) #วิธีทำเทียนอบ เริ่มจาก ขี้ผึ้ง 50 กรัม นำไปลนไฟพอนิ่ม โรยส่วนผสมชะลูด กำยาน ผิวมะกรูด น้ำตาลทราบแดง พิมเสม นวดให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แผ่แผ่นเทียนให้ยาวน้อยกว่าไส้เทียนประมาณ 2 นิ้ว กว้างประมาณ 1 นิ้ว หนา ½ นิ้ว ฟั้นเทียนให้แน่น และ เข้ากัน เหลือชาย 2 ข้างๆละประมาณ 1 นิ้ว ขดยกปลายเทียนทั้งสองข้าง พักไว้ให้เย็น ------------------------------ วิธีใช้ จุดเทียนอบ ให้ติดไฟเป็นเปลวทั้งสองด้าน สังเกต..ขี้ผึ้งรอบไส้เทียนหลอมละลาย เดือด และ #ไส้เทียนติดไฟเป็นสีแดง จะส่งกลิ่นหอมให้กับขนมจากส่วนประกอบในเทียน จึงค่อยดับไฟ ช่วงนี้แหละ..จะเกิดควันมากมาย รีบปิดฝาอบ น้ำกะทิ อบ40นาที ขนมอบ อบข้ามคืน ยิ่งอบนาน..ยิ่งหอม จ๊ะ ------------------------------- *** ข้อสำคัญ คือ ทุกครั้งที่นำเทียนอบ(เล่มใหม่)มาจุด ต้องทำการBurn โดยจุดไส้เทียนเปล่า 1 รอบ แล้วจุดใหม่อีก 1 ครั้งเสมอ นะคะ หากไม่Burnก่อน จะทำให้เทียนอบจะไม่ส่งกลิ่นหอมให้กับขนม เทียนเล่มเก่า(จุดใหม่) ให้ขูด ไส้เทียนดำๆ และ ขี้ผึ้งที่ไหม้ไฟออกก่อน จึงจุดใหม่ เทียนหนึ่งเล่มใช้ได้เกือบสิบครั้ง เมื่อใช้เสร็จ..เก็บในถุงZip-Lockรักษาความหอมไว้ได้นาน.
    0 Comments 0 Shares 555 Views 0 Reviews
  • "นิยามของศัตรู & ศิลปะการรับมือ"

    ศัตรู ไม่ใช่แค่คนที่เลวร้ายโดยสันดาน
    แต่คือ "คนที่ใจเราเลือกจะเห็นแต่แง่ร้ายของเขา"


    ---

    📌 "ศัตรู" เกิดจากมุมมองของใจเราเอง

    ✔ คนเดียวกัน แต่บางคนเกลียด บางคนรัก
    ✔ คนเดียวกัน แต่บางคนเห็นดี บางคนเห็นร้าย
    ✔ คนเดียวกัน แต่เรามองไม่เหมือนเมื่อวาน

    🎯 "ศัตรู" ไม่ได้เกิดจากตัวเขา
    🎯 "ศัตรู" เกิดจากใจเราที่สร้างเขาขึ้นมา!


    ---

    📌 วิธีทำให้ "ศัตรู" หายไปจากใจเรา

    1️⃣ มี "สติ" แทน "โทสะ" ขณะเผชิญหน้า

    ✅ ถ้าเรา "รู้ตัว" ว่ากำลังโกรธ → โกรธจะอ่อนกำลัง
    ✅ ถ้าเรา "รู้ตัว" ว่ากำลังมองแง่ร้าย → ใจจะเริ่มปรับสมดุล

    🎯 "สติ" คือการดึงตัวเองออกจากอคติที่สร้างศัตรู
    🎯 "สติ" ทำให้ใจสงบ → คลื่นจิตสงบ → ความเป็นศัตรูลดลง


    ---

    2️⃣ ฝึกพูด "ด้วยความนิ่ง" แทนอารมณ์

    ✅ "น้ำเสียง" เป็นพลังงานชนิดหนึ่ง
    ✅ "จิตที่มีอารมณ์" = น้ำเสียงกระแทก = คนฟังรู้สึกเป็นปฏิปักษ์
    ✅ "จิตที่มีสติ" = น้ำเสียงราบเรียบ = คนฟังรู้สึกสงบ

    🎯 "พูดด้วยใจที่สงบ → ทำให้ใจเขาสงบตาม"
    🎯 "พูดโดยไร้ความเป็นศัตรู → ทำให้เขาไม่อยากเป็นศัตรูด้วย"


    ---

    3️⃣ หัด "มองเห็นแง่ดี" ของคนที่เราไม่ชอบ

    ✅ ทุกคนมีข้อดี → ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกจะมองเห็นไหม
    ✅ ถ้ามองเขาแง่ดีบ้าง → ใจเราจะเริ่มคลายจากความเป็นศัตรู

    🎯 "ศัตรู = มายาคติของใจ"
    🎯 "พอใจมองเปลี่ยน → ศัตรูก็เปลี่ยนเป็นคนธรรมดาได้"


    ---

    🔥 สรุป: ถ้าใจเราไม่เป็นศัตรู → ศัตรูจะค่อยๆ หายไปเอง 🔥

    ✔ "ศัตรูไม่ได้อยู่ที่เขา → ศัตรูอยู่ในใจเรา"
    ✔ "สติ & การควบคุมอารมณ์ → คือกุญแจเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตร"
    ✔ "ฝึกพูดด้วยความนิ่ง → จะลดแรงต้านจากอีกฝ่ายโดยอัตโนมัติ"

    🎯 "สุดท้ายแล้ว… คนอื่นเปลี่ยนไม่ได้"
    🎯 "แต่ใจเราเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเขาได้เสมอ!"

    "นิยามของศัตรู & ศิลปะการรับมือ" ศัตรู ไม่ใช่แค่คนที่เลวร้ายโดยสันดาน แต่คือ "คนที่ใจเราเลือกจะเห็นแต่แง่ร้ายของเขา" --- 📌 "ศัตรู" เกิดจากมุมมองของใจเราเอง ✔ คนเดียวกัน แต่บางคนเกลียด บางคนรัก ✔ คนเดียวกัน แต่บางคนเห็นดี บางคนเห็นร้าย ✔ คนเดียวกัน แต่เรามองไม่เหมือนเมื่อวาน 🎯 "ศัตรู" ไม่ได้เกิดจากตัวเขา 🎯 "ศัตรู" เกิดจากใจเราที่สร้างเขาขึ้นมา! --- 📌 วิธีทำให้ "ศัตรู" หายไปจากใจเรา 1️⃣ มี "สติ" แทน "โทสะ" ขณะเผชิญหน้า ✅ ถ้าเรา "รู้ตัว" ว่ากำลังโกรธ → โกรธจะอ่อนกำลัง ✅ ถ้าเรา "รู้ตัว" ว่ากำลังมองแง่ร้าย → ใจจะเริ่มปรับสมดุล 🎯 "สติ" คือการดึงตัวเองออกจากอคติที่สร้างศัตรู 🎯 "สติ" ทำให้ใจสงบ → คลื่นจิตสงบ → ความเป็นศัตรูลดลง --- 2️⃣ ฝึกพูด "ด้วยความนิ่ง" แทนอารมณ์ ✅ "น้ำเสียง" เป็นพลังงานชนิดหนึ่ง ✅ "จิตที่มีอารมณ์" = น้ำเสียงกระแทก = คนฟังรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ ✅ "จิตที่มีสติ" = น้ำเสียงราบเรียบ = คนฟังรู้สึกสงบ 🎯 "พูดด้วยใจที่สงบ → ทำให้ใจเขาสงบตาม" 🎯 "พูดโดยไร้ความเป็นศัตรู → ทำให้เขาไม่อยากเป็นศัตรูด้วย" --- 3️⃣ หัด "มองเห็นแง่ดี" ของคนที่เราไม่ชอบ ✅ ทุกคนมีข้อดี → ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกจะมองเห็นไหม ✅ ถ้ามองเขาแง่ดีบ้าง → ใจเราจะเริ่มคลายจากความเป็นศัตรู 🎯 "ศัตรู = มายาคติของใจ" 🎯 "พอใจมองเปลี่ยน → ศัตรูก็เปลี่ยนเป็นคนธรรมดาได้" --- 🔥 สรุป: ถ้าใจเราไม่เป็นศัตรู → ศัตรูจะค่อยๆ หายไปเอง 🔥 ✔ "ศัตรูไม่ได้อยู่ที่เขา → ศัตรูอยู่ในใจเรา" ✔ "สติ & การควบคุมอารมณ์ → คือกุญแจเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตร" ✔ "ฝึกพูดด้วยความนิ่ง → จะลดแรงต้านจากอีกฝ่ายโดยอัตโนมัติ" 🎯 "สุดท้ายแล้ว… คนอื่นเปลี่ยนไม่ได้" 🎯 "แต่ใจเราเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเขาได้เสมอ!"
    0 Comments 0 Shares 420 Views 0 Reviews
  • #ถุงใต้ตา

    เกิดขึ้นได้เมื่อคุณอายุมากขึ้น แต่ถ้าคุณอายุยังน้อยหมายถึงคุณใช้ดวงตาแต่ไม่ได้ให้สารอาหารที่ดวงตาต้องการ ร่างกายเลยต้องสร้างน้ำมาหล่อเย็นดวงตา จากนั้นเนื้อเยื่อรอบดวงตาจะอ่อนแอลง รวมถึงกล้ามเนื้อบางส่วนที่รองรับเปลือกตาของคุณด้วย ไขมันที่ช่วยพยุงดวงตาสามารถเคลื่อนเข้าสู่เปลือกตาล่างทำให้เกิดอาการบวม ของเหลวอาจสะสมอยู่ใต้ดวงตาของคุณ

    ถุงน้ำใต้ตามักเป็นปัญหาด้านความงามและไม่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงภาวะร้ายแรง การเยียวยาที่บ้าน เช่น การประคบเย็นและการให้สารอาหารที่ถูกต้องแก่ดวงตา สามารถช่วยปรับปรุงรูปลักษณ์ของพวกเขาได้สำหรับอาการบวมใต้ตาที่เรื้อรังหรือน่ารำคาญ

    มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดหรือทำให้ผลกระทบนี้แย่ลง ได้แก่:

    • ริ้วรอยก่อนวัย

    • การกักเก็บของเหลว โดยเฉพาะเมื่อตื่นหรือหลังอาหารรสเค็ม

    • นอนไม่หลับ

    • ภูมิแพ้

    • สูบบุหรี่

    • พันธุศาสตร์ — ถุงใต้ตาเกิดขึ้นได้ในครอบครัว

    • สภาวะทางการแพทย์ เช่น กรดไหลย้อน โรคผิวหนังอักเสบ โรคไต และโรคตาของต่อมไทรอยด์

    คุณอาจลดการเกิดถุงใต้ตาได้ในระยะยาวด้วยการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์บางอย่าง เช่น นอนหลับให้เพียงพอและดื่มน้ำให้เพียงพอ

    1.ใช้ถุงชา

    คุณสามารถใช้ถุงชาที่มีคาเฟอีนใต้ตาเพื่อช่วยลดรอยคล้ำและถุงใต้ตา

    คาเฟอีนในชาประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพและอาจเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปที่ผิวหนังของคุณ นอกจากนี้ยังกล่าวกันว่าปกป้องจากรังสียูวีและอาจชะลอการแก่ก่อนวัยได้

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาเขียวมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ตามการทบทวนงานวิจัยในปี 2020

    วิธีลองทำ:

    • แช่ถุงชาที่ที่คุณดื่มแล้วไว้ในตู้เย็นเป็นเวลา 20 นาที

    • จากนั้นบีบของเหลวส่วนเกินออกแล้วนำไปประคบบริเวณใต้ตาเป็นเวลา15 ถึง 30 นาที

    2. ใช้ผ้าเย็นประคบ

    คุณอาจพบการบรรเทาถุงใต้ตาได้ด้วยการประคบเย็น การประคบเย็นบริเวณที่มีอาการอาจช่วยให้หลอดเลือดหดตัวอย่างรวดเร็วเพื่อบรรเทา

    แม้ว่าคุณจะซื้อผ้าเย็นประคบได้จากร้านค้า แต่คุณสามารถทำเองได้โดยใช้เทคนิคนี้ก็ได้ผลลัพธ์เหมือนกัน

    วิธีทำด้วยตัวเอง ได้แก่

    • ช้อนชาแช่เย็น

    • แตงกวาแช่เย็น

    • ผ้าเช็ดตัวเปียก

    • ถุงผักแช่แข็ง

    ก่อนประคบ ให้ห่อผ้าด้วยผ้าเนื้อนุ่มเพื่อปกป้องผิวของคุณไม่ให้เย็นเกินไป คุณเพียงแค่ประคบผ้าเป็นเวลาไม่กี่นาทีก็เห็นผลแล้ว

    3.ดื่มน้ำให้เพียงพอ

    การขาดน้ำสามารถทำให้เกิดถุงใต้ตาได้ ผู้คนทั่วโลกเกือบครึ่งหนึ่งดื่มน้ำไม่ตรงตามคำแนะนำในแต่ละวัน

    ดื่มน้ำเท่าไหร่จึงจะเพียงพอ คำแนะนำมีตั้งแต่ 6 ถึง 12 แก้ว และอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึง:

    • อายุ

    • ระดับการออกกำลังกาย

    • สภาพอากาศ

    • เพศ

    • การตั้งครรภ์

    4.เพิ่มครีมเรตินอลในกิจวัตรประจำวันของคุณ

    คุณอาจเคยใช้ครีมบำรุงรอบดวงตามาก่อน แต่การเน้นที่ส่วนผสมเฉพาะเป็นสิ่งสำคัญ ครีมเรตินอลถูกนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาผิวหนังต่างๆ รวมถึง:

    • สิว

    • โรคสะเก็ดเงิน

    • การแก่ก่อนวัย

    ส่วนผสมนี้เกี่ยวข้องกับวิตามินเอ และมีอยู่ในรูปแบบครีม เจล หรือของเหลว

    เมื่อทาลงบนผิวหนัง เรตินอลสามารถช่วยลดอาการขาดคอลลาเจนได้ ความเข้มข้นของเรตินอลอาจแตกต่างกันไปในผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ แต่ครีมที่เข้มข้นกว่านี้ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ผิวหนัง

    โดยทั่วไป ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ทาเรตินอลบนผิวหนังวันละครั้ง ประมาณครึ่งชั่วโมงหลังจากล้างหน้า

    หากคุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร แพทย์มักแนะนำให้หลีกเลี่ยงครีมเรตินอลและวิตามินเอเสริม

    5.ล้างหน้าก่อนนอน

    การปรับปรุงกิจวัตรประจำวันในตอนกลางคืนอาจช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงถุงใต้ตาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการล้างหน้าก่อนนอนทุกคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณแต่งหน้า

    หากคุณนอนหลับโดยที่มาสคาร่าหรือเครื่องสำอางอื่นๆ อยู่บนดวงตา คุณอาจ:

    • ทำให้ดวงตาเกิดการระคายเคือง

    • เกิดอาการแพ้

    • เกิดการติดเชื้อที่ทำให้เกิดรอยคล้ำ อาการบวม หรืออาการอื่นๆ

    เมื่อคุณนอนหลับโดยที่ยังคงแต่งหน้าอยู่ ผิวของคุณสัมผัสกับอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าความเครียดออกซิเดชัน ซึ่งอาจทำให้ผิวของคุณแสดงสัญญาณของการแก่ก่อนวัยได้

    6.รับประทานอาหารที่มีคอลลาเจนสูงมากขึ้น

    เมื่อคุณอายุมากขึ้น กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่รองรับเปลือกตาจะอ่อนแอลง ซึ่งหมายความว่าผิวหนังของคุณอาจเริ่มหย่อนคล้อย ซึ่งรวมถึงไขมันที่โดยปกติจะอยู่รอบดวงตาด้วย

    การรับประทานวิตามินซีในปริมาณมากขึ้นจะช่วยให้ร่างกายของคุณดูดซึมกรดไฮยาลูโรนิกได้มากขึ้น กรดที่จำเป็นนี้พบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย แต่ปริมาณที่สะสมจะลดลงตามอายุ

    อาหารที่มีวิตามินซีและกรดอะมิโนในปริมาณสูงยังช่วยในการผลิตคอลลาเจนได้ด้วยการเพิ่มระดับกรดไฮยาลูโรนิก ทำให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้น

    แหล่งที่ดีของวิตามินซี ได้แก่:

    • มะนาว

    • พริกแดง

    • ผักคะน้า

    • กะหล่ำ

    • บรอกโคลี

    • สตรอว์เบอร์รี่

    7.กินอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงให้มากขึ้น

    โรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กคือภาวะที่เลือดขาดเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เหล่านี้จะนำออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย การขาดธาตุเหล็กอาจทำให้เกิดถุงใต้ตาและผิวซีดได้ อาการอื่นๆ ได้แก่:

    • อ่อนเพลียอย่างมาก

    • มือและเท้าเย็น

    • เล็บเปราะ

    แพทย์สามารถตรวจหาโรคโลหิตจางได้ด้วยการตรวจเลือด แพทย์อาจแนะนำให้กินอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงมากขึ้นหรือทานอาหารเสริมธาตุเหล็กเพื่อเพิ่มระดับธาตุเหล็กในร่างกาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรง

    อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ได้แก่:

    • เนื้อแดง เนื้อหมู ตับ เครื่องในสัตว์และสัตว์ปีก

    • อาหารทะเล

    • ถั่ว

    • ผักใบเขียว เช่น คะน้าและผักโขม

    • ลูกเกด แอปริคอต และผลไม้แห้งอื่นๆ

    • ถั่ว

    ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแนะนำ

    Glap
    Paa super h
    Whole c
    K cal
    Prink

    ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง

    Cr. Santi Manadee
    #ถุงใต้ตา เกิดขึ้นได้เมื่อคุณอายุมากขึ้น แต่ถ้าคุณอายุยังน้อยหมายถึงคุณใช้ดวงตาแต่ไม่ได้ให้สารอาหารที่ดวงตาต้องการ ร่างกายเลยต้องสร้างน้ำมาหล่อเย็นดวงตา จากนั้นเนื้อเยื่อรอบดวงตาจะอ่อนแอลง รวมถึงกล้ามเนื้อบางส่วนที่รองรับเปลือกตาของคุณด้วย ไขมันที่ช่วยพยุงดวงตาสามารถเคลื่อนเข้าสู่เปลือกตาล่างทำให้เกิดอาการบวม ของเหลวอาจสะสมอยู่ใต้ดวงตาของคุณ ถุงน้ำใต้ตามักเป็นปัญหาด้านความงามและไม่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงภาวะร้ายแรง การเยียวยาที่บ้าน เช่น การประคบเย็นและการให้สารอาหารที่ถูกต้องแก่ดวงตา สามารถช่วยปรับปรุงรูปลักษณ์ของพวกเขาได้สำหรับอาการบวมใต้ตาที่เรื้อรังหรือน่ารำคาญ มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดหรือทำให้ผลกระทบนี้แย่ลง ได้แก่: • ริ้วรอยก่อนวัย • การกักเก็บของเหลว โดยเฉพาะเมื่อตื่นหรือหลังอาหารรสเค็ม • นอนไม่หลับ • ภูมิแพ้ • สูบบุหรี่ • พันธุศาสตร์ — ถุงใต้ตาเกิดขึ้นได้ในครอบครัว • สภาวะทางการแพทย์ เช่น กรดไหลย้อน โรคผิวหนังอักเสบ โรคไต และโรคตาของต่อมไทรอยด์ คุณอาจลดการเกิดถุงใต้ตาได้ในระยะยาวด้วยการเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์บางอย่าง เช่น นอนหลับให้เพียงพอและดื่มน้ำให้เพียงพอ 1.ใช้ถุงชา คุณสามารถใช้ถุงชาที่มีคาเฟอีนใต้ตาเพื่อช่วยลดรอยคล้ำและถุงใต้ตา คาเฟอีนในชาประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพและอาจเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปที่ผิวหนังของคุณ นอกจากนี้ยังกล่าวกันว่าปกป้องจากรังสียูวีและอาจชะลอการแก่ก่อนวัยได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาเขียวมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ตามการทบทวนงานวิจัยในปี 2020 วิธีลองทำ: • แช่ถุงชาที่ที่คุณดื่มแล้วไว้ในตู้เย็นเป็นเวลา 20 นาที • จากนั้นบีบของเหลวส่วนเกินออกแล้วนำไปประคบบริเวณใต้ตาเป็นเวลา15 ถึง 30 นาที 2. ใช้ผ้าเย็นประคบ คุณอาจพบการบรรเทาถุงใต้ตาได้ด้วยการประคบเย็น การประคบเย็นบริเวณที่มีอาการอาจช่วยให้หลอดเลือดหดตัวอย่างรวดเร็วเพื่อบรรเทา แม้ว่าคุณจะซื้อผ้าเย็นประคบได้จากร้านค้า แต่คุณสามารถทำเองได้โดยใช้เทคนิคนี้ก็ได้ผลลัพธ์เหมือนกัน วิธีทำด้วยตัวเอง ได้แก่ • ช้อนชาแช่เย็น • แตงกวาแช่เย็น • ผ้าเช็ดตัวเปียก • ถุงผักแช่แข็ง ก่อนประคบ ให้ห่อผ้าด้วยผ้าเนื้อนุ่มเพื่อปกป้องผิวของคุณไม่ให้เย็นเกินไป คุณเพียงแค่ประคบผ้าเป็นเวลาไม่กี่นาทีก็เห็นผลแล้ว 3.ดื่มน้ำให้เพียงพอ การขาดน้ำสามารถทำให้เกิดถุงใต้ตาได้ ผู้คนทั่วโลกเกือบครึ่งหนึ่งดื่มน้ำไม่ตรงตามคำแนะนำในแต่ละวัน ดื่มน้ำเท่าไหร่จึงจะเพียงพอ คำแนะนำมีตั้งแต่ 6 ถึง 12 แก้ว และอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึง: • อายุ • ระดับการออกกำลังกาย • สภาพอากาศ • เพศ • การตั้งครรภ์ 4.เพิ่มครีมเรตินอลในกิจวัตรประจำวันของคุณ คุณอาจเคยใช้ครีมบำรุงรอบดวงตามาก่อน แต่การเน้นที่ส่วนผสมเฉพาะเป็นสิ่งสำคัญ ครีมเรตินอลถูกนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหาผิวหนังต่างๆ รวมถึง: • สิว • โรคสะเก็ดเงิน • การแก่ก่อนวัย ส่วนผสมนี้เกี่ยวข้องกับวิตามินเอ และมีอยู่ในรูปแบบครีม เจล หรือของเหลว เมื่อทาลงบนผิวหนัง เรตินอลสามารถช่วยลดอาการขาดคอลลาเจนได้ ความเข้มข้นของเรตินอลอาจแตกต่างกันไปในผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ แต่ครีมที่เข้มข้นกว่านี้ต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ผิวหนัง โดยทั่วไป ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ทาเรตินอลบนผิวหนังวันละครั้ง ประมาณครึ่งชั่วโมงหลังจากล้างหน้า หากคุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร แพทย์มักแนะนำให้หลีกเลี่ยงครีมเรตินอลและวิตามินเอเสริม 5.ล้างหน้าก่อนนอน การปรับปรุงกิจวัตรประจำวันในตอนกลางคืนอาจช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงถุงใต้ตาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการล้างหน้าก่อนนอนทุกคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณแต่งหน้า หากคุณนอนหลับโดยที่มาสคาร่าหรือเครื่องสำอางอื่นๆ อยู่บนดวงตา คุณอาจ: • ทำให้ดวงตาเกิดการระคายเคือง • เกิดอาการแพ้ • เกิดการติดเชื้อที่ทำให้เกิดรอยคล้ำ อาการบวม หรืออาการอื่นๆ เมื่อคุณนอนหลับโดยที่ยังคงแต่งหน้าอยู่ ผิวของคุณสัมผัสกับอนุมูลอิสระ ซึ่งอาจทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าความเครียดออกซิเดชัน ซึ่งอาจทำให้ผิวของคุณแสดงสัญญาณของการแก่ก่อนวัยได้ 6.รับประทานอาหารที่มีคอลลาเจนสูงมากขึ้น เมื่อคุณอายุมากขึ้น กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่รองรับเปลือกตาจะอ่อนแอลง ซึ่งหมายความว่าผิวหนังของคุณอาจเริ่มหย่อนคล้อย ซึ่งรวมถึงไขมันที่โดยปกติจะอยู่รอบดวงตาด้วย การรับประทานวิตามินซีในปริมาณมากขึ้นจะช่วยให้ร่างกายของคุณดูดซึมกรดไฮยาลูโรนิกได้มากขึ้น กรดที่จำเป็นนี้พบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย แต่ปริมาณที่สะสมจะลดลงตามอายุ อาหารที่มีวิตามินซีและกรดอะมิโนในปริมาณสูงยังช่วยในการผลิตคอลลาเจนได้ด้วยการเพิ่มระดับกรดไฮยาลูโรนิก ทำให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้น แหล่งที่ดีของวิตามินซี ได้แก่: • มะนาว • พริกแดง • ผักคะน้า • กะหล่ำ • บรอกโคลี • สตรอว์เบอร์รี่ 7.กินอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงให้มากขึ้น โรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กคือภาวะที่เลือดขาดเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เหล่านี้จะนำออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย การขาดธาตุเหล็กอาจทำให้เกิดถุงใต้ตาและผิวซีดได้ อาการอื่นๆ ได้แก่: • อ่อนเพลียอย่างมาก • มือและเท้าเย็น • เล็บเปราะ แพทย์สามารถตรวจหาโรคโลหิตจางได้ด้วยการตรวจเลือด แพทย์อาจแนะนำให้กินอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงมากขึ้นหรือทานอาหารเสริมธาตุเหล็กเพื่อเพิ่มระดับธาตุเหล็กในร่างกาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรง อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ได้แก่: • เนื้อแดง เนื้อหมู ตับ เครื่องในสัตว์และสัตว์ปีก • อาหารทะเล • ถั่ว • ผักใบเขียว เช่น คะน้าและผักโขม • ลูกเกด แอปริคอต และผลไม้แห้งอื่นๆ • ถั่ว ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแนะนำ Glap Paa super h Whole c K cal Prink ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง Cr. Santi Manadee
    0 Comments 0 Shares 1459 Views 0 Reviews
  • กุ้งกระเทียมพริกไทย เป็นเมนูอาหารที่ทำง่ายและอร่อย ใช้วัตถุดิบไม่มากแต่รสชาติเข้มข้นด้วยกลิ่นหอมของกระเทียมและพริกไทย เหมาะสำหรับทำทานเองที่บ้าน มาดูสูตรการทำกัน
    ส่วนผสม
    กุ้งสดขนาดกลาง - 300-400 กรัม (ล้างทำความสะอาด ปอกเปลือกไว้)
    กระเทียม - 5-6 กลีบ (สับละเอียด)
    พริกไทยเม็ด - 1 ช้อนชา (ตำหยาบๆ) หรือพริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
    ซอสปรุงรส - 1-2 ช้อนโต๊ะ
    ซีอิ๊วขาว - 1 ช้อนโต๊ะ
    น้ำตาลทราย - 1/2 ช้อนชา (เพื่อตัดความเค็ม)
    น้ำมันพืช - 2 ช้อนโต๊ะ
    น้ำมันหอย - 1 ช้อนโต๊ะ (ใส่เพิ่มตามชอบ)
    ใบ parsley หรือใบผักชี (สำหรับตกแต่ง)
    วิธีทำ
    เตรียมกุ้ง :
    ล้างกุ้งให้สะอาด ปอกเปลือกและดึงเส้นดำออก หากต้องการให้เนื้อกุ้งกรอบ สามารถหมักกุ้งกับเกลือเล็กน้อยและแป้งมันประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออกอีกครั้ง
    เตรียมเครื่องปรุง :
    สับกระเทียมให้ละเอียด และตำพริกไทยเม็ดพอหยาบ
    ผัดกระเทียม :
    ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไปพอร้อน
    ใส่กระเทียมลงผัดจนเหลืองหอม (ระวังอย่าให้กระเทียมไหม้ เพราะจะขม)
    ผัดกุ้ง :
    ใส่กุ้งลงในกระทะ ผัดเร็วๆ จนกุ้งเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีชมพู
    จากนั้นปรุงรสด้วยซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย
    ใส่พริกไทย :
    ใส่พริกไทยที่ตำไว้ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน ผัดต่ออีกประมาณ 1-2 นาทีจนกุ้งสุกเต็มที่
    จัดจาน :
    ตักกุ้งกระเทียมพริกไทยใส่จาน โรยพริกไทยเพิ่มอีกเล็กน้อยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม และตกแต่งด้วยใบ parsley หรือผักชี
    กุ้งกระเทียมพริกไทย เป็นเมนูอาหารที่ทำง่ายและอร่อย ใช้วัตถุดิบไม่มากแต่รสชาติเข้มข้นด้วยกลิ่นหอมของกระเทียมและพริกไทย เหมาะสำหรับทำทานเองที่บ้าน มาดูสูตรการทำกัน ส่วนผสม กุ้งสดขนาดกลาง - 300-400 กรัม (ล้างทำความสะอาด ปอกเปลือกไว้) กระเทียม - 5-6 กลีบ (สับละเอียด) พริกไทยเม็ด - 1 ช้อนชา (ตำหยาบๆ) หรือพริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา ซอสปรุงรส - 1-2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาว - 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลทราย - 1/2 ช้อนชา (เพื่อตัดความเค็ม) น้ำมันพืช - 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันหอย - 1 ช้อนโต๊ะ (ใส่เพิ่มตามชอบ) ใบ parsley หรือใบผักชี (สำหรับตกแต่ง) วิธีทำ เตรียมกุ้ง : ล้างกุ้งให้สะอาด ปอกเปลือกและดึงเส้นดำออก หากต้องการให้เนื้อกุ้งกรอบ สามารถหมักกุ้งกับเกลือเล็กน้อยและแป้งมันประมาณ 10 นาทีแล้วล้างออกอีกครั้ง เตรียมเครื่องปรุง : สับกระเทียมให้ละเอียด และตำพริกไทยเม็ดพอหยาบ ผัดกระเทียม : ตั้งกระทะบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไปพอร้อน ใส่กระเทียมลงผัดจนเหลืองหอม (ระวังอย่าให้กระเทียมไหม้ เพราะจะขม) ผัดกุ้ง : ใส่กุ้งลงในกระทะ ผัดเร็วๆ จนกุ้งเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีชมพู จากนั้นปรุงรสด้วยซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย ใส่พริกไทย : ใส่พริกไทยที่ตำไว้ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน ผัดต่ออีกประมาณ 1-2 นาทีจนกุ้งสุกเต็มที่ จัดจาน : ตักกุ้งกระเทียมพริกไทยใส่จาน โรยพริกไทยเพิ่มอีกเล็กน้อยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม และตกแต่งด้วยใบ parsley หรือผักชี
    0 Comments 0 Shares 597 Views 0 Reviews
  • เมื่อไม่มีใครเข้าใจเรา: วิธีเข้าใจตัวเองในแบบพุทธ

    หลายครั้งที่เรารู้สึกว่า ไม่มีใครเข้าใจเจตนาของเราเลย หรือ เราถูกตีความผิด อยู่เสมอ สิ่งนี้อาจทำให้เรารู้สึกน้อยใจ และอยากให้คนอื่นเข้าใจตัวเองมากขึ้น

    แต่หากเราสังเกตดีๆ เรายังเข้าใจตัวเองดีพอหรือเปล่า?
    บางครั้ง เราก็สับสนในตัวเอง วันหนึ่งคิดแบบหนึ่ง อีกวันกลับคิดอีกแบบ
    อารมณ์ของเราเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา และบางที เราเองก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองต้องการอะไร
    หากเป็นเช่นนี้ จะหวังให้คนอื่นเข้าใจเราได้อย่างไร?


    ---

    🔍 เข้าใจตัวเองได้อย่างไร?

    1️⃣ หยุดหา "คนเข้าใจ" จากภายนอก แล้วเริ่มเข้าใจตัวเองก่อน

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน”

    ถ้าเรา “เป็นที่พึ่งของตัวเองได้” เข้าใจตนเองได้ ไม่ต้องรอให้ใครเข้าใจ เราก็จะไม่ทุกข์


    2️⃣ ใช้ “สติ” สังเกตกายใจของตัวเอง
    ✅ เริ่มจากกาย – ถามตัวเองง่ายๆ ว่า

    ตอนนี้ หลังงอ หรือ หลังตรง?

    ตอนนี้ ร่างกายเกร็ง หรือ ผ่อนคลาย?


    ✅ แล้วค่อยสังเกตใจ

    ตอนนี้ เรารู้สึกสุข หรือทุกข์?

    ตอนนี้ กำลังคิดอะไร ฟุ้งซ่าน หรือสงบ?

    ตอนนี้ เราตั้งใจคิดดี หรือคิดร้ายกับใครไหม?


    → แค่รู้ตัวง่ายๆ แบบนี้ ก็เริ่มเข้าใจตัวเองมากขึ้นแล้ว!

    3️⃣ สังเกตว่าอารมณ์ของเราขึ้นลงตามสิ่งรอบตัวอย่างไร

    อากาศร้อน → กายเป็นทุกข์ → ใจขุ่นมัว

    อากาศเย็น → กายสบาย → ใจคิดดีง่ายขึ้น

    คิดร้ายบ่อยๆ → กายตึงเครียด → ใจยิ่งฟุ้ง

    คิดดีสม่ำเสมอ → กายผ่อนคลาย → ใจสงบ


    📌 เราจะเริ่มเห็นว่า "อารมณ์เราไม่ใช่ตัวเรา" แต่มันเป็นสิ่งที่ผันแปรไปตามสิ่งแวดล้อมและความคิดของเราเอง


    ---

    🎯 ผลที่เกิดขึ้นเมื่อเข้าใจตัวเอง

    📌 เราไม่เรียกร้องให้ใครต้องมาเข้าใจเราอีกต่อไป
    📌 เรามองเห็นอารมณ์ตัวเอง และไม่ยึดติดกับมัน
    📌 เรารู้ว่าอารมณ์ขึ้นลงเป็นธรรมดา และไม่หลงไปกับมัน
    📌 เรารู้วิธีทำให้ตัวเองเป็นสุข โดยไม่ต้องรอให้ใครมาทำให้

    ✨ สุดท้ายแล้ว ถ้าเราเข้าใจตัวเองได้
    ก็เหมือนเราได้พบคนที่เข้าใจเราดีที่สุดในโลกแล้ว! 🎯

    เมื่อไม่มีใครเข้าใจเรา: วิธีเข้าใจตัวเองในแบบพุทธ หลายครั้งที่เรารู้สึกว่า ไม่มีใครเข้าใจเจตนาของเราเลย หรือ เราถูกตีความผิด อยู่เสมอ สิ่งนี้อาจทำให้เรารู้สึกน้อยใจ และอยากให้คนอื่นเข้าใจตัวเองมากขึ้น แต่หากเราสังเกตดีๆ เรายังเข้าใจตัวเองดีพอหรือเปล่า? บางครั้ง เราก็สับสนในตัวเอง วันหนึ่งคิดแบบหนึ่ง อีกวันกลับคิดอีกแบบ อารมณ์ของเราเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา และบางที เราเองก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองต้องการอะไร หากเป็นเช่นนี้ จะหวังให้คนอื่นเข้าใจเราได้อย่างไร? --- 🔍 เข้าใจตัวเองได้อย่างไร? 1️⃣ หยุดหา "คนเข้าใจ" จากภายนอก แล้วเริ่มเข้าใจตัวเองก่อน พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” ถ้าเรา “เป็นที่พึ่งของตัวเองได้” เข้าใจตนเองได้ ไม่ต้องรอให้ใครเข้าใจ เราก็จะไม่ทุกข์ 2️⃣ ใช้ “สติ” สังเกตกายใจของตัวเอง ✅ เริ่มจากกาย – ถามตัวเองง่ายๆ ว่า ตอนนี้ หลังงอ หรือ หลังตรง? ตอนนี้ ร่างกายเกร็ง หรือ ผ่อนคลาย? ✅ แล้วค่อยสังเกตใจ ตอนนี้ เรารู้สึกสุข หรือทุกข์? ตอนนี้ กำลังคิดอะไร ฟุ้งซ่าน หรือสงบ? ตอนนี้ เราตั้งใจคิดดี หรือคิดร้ายกับใครไหม? → แค่รู้ตัวง่ายๆ แบบนี้ ก็เริ่มเข้าใจตัวเองมากขึ้นแล้ว! 3️⃣ สังเกตว่าอารมณ์ของเราขึ้นลงตามสิ่งรอบตัวอย่างไร อากาศร้อน → กายเป็นทุกข์ → ใจขุ่นมัว อากาศเย็น → กายสบาย → ใจคิดดีง่ายขึ้น คิดร้ายบ่อยๆ → กายตึงเครียด → ใจยิ่งฟุ้ง คิดดีสม่ำเสมอ → กายผ่อนคลาย → ใจสงบ 📌 เราจะเริ่มเห็นว่า "อารมณ์เราไม่ใช่ตัวเรา" แต่มันเป็นสิ่งที่ผันแปรไปตามสิ่งแวดล้อมและความคิดของเราเอง --- 🎯 ผลที่เกิดขึ้นเมื่อเข้าใจตัวเอง 📌 เราไม่เรียกร้องให้ใครต้องมาเข้าใจเราอีกต่อไป 📌 เรามองเห็นอารมณ์ตัวเอง และไม่ยึดติดกับมัน 📌 เรารู้ว่าอารมณ์ขึ้นลงเป็นธรรมดา และไม่หลงไปกับมัน 📌 เรารู้วิธีทำให้ตัวเองเป็นสุข โดยไม่ต้องรอให้ใครมาทำให้ ✨ สุดท้ายแล้ว ถ้าเราเข้าใจตัวเองได้ ก็เหมือนเราได้พบคนที่เข้าใจเราดีที่สุดในโลกแล้ว! 🎯
    0 Comments 0 Shares 238 Views 0 Reviews
  • 🔴sold🔴
    🥛Kaya – ขวดน้ำทองแดงบริสุทธ์ - ใหม่
    • ทำจากทองแดงบริสุทธิ์คุณภาพดีที่สุดในโลก
    • ไม่มีรอยต่อ / ฝาเกรียว+ซิลิโคนกันซึม
    • ประโยชย์ต่อสุขภาพของภาชนะทองแดงบริสุทธ์
    o ช่วยคุมน้ำหนัก
    o กระตุ้นการทำงานของสมอง
    o ฆ่าแบคทีเรียในน้ำ
    o กระตุ้นระบบย่อยอาหาร
    o ป้องกันโรคเบาหวาน
    • วิธีทำความสะอาด- ล้างด้วยน้ำอุ่น+มะนาว+เกลือทั้งในและนอกก่อนจะล้างน้ำสะอาด
    • ขนาด 1 ล.
    🔴sold🔴

    🍶 พท.ห่างไกล+50บาท
    🗄 ไม่มีปลายทาง
    📦 โอนก่อนบ่าย 2 ส่งของภายในวันเดียวกัน/ร้านส่งปิดวันอาทิตย์
    🗒 บช.พ่อค้า 005-xxx - xx37
    * ถ่ายคลิปการแกะกล่องสค.ทุกครั้ง/ไม่มีคลิป พ่อค้าไม่สามารถรับเคลมได้
    FB: Lek's Kitchenware / IG : Lek's Choices
    🔴sold🔴 🥛Kaya – ขวดน้ำทองแดงบริสุทธ์ - ใหม่ • ทำจากทองแดงบริสุทธิ์คุณภาพดีที่สุดในโลก • ไม่มีรอยต่อ / ฝาเกรียว+ซิลิโคนกันซึม • ประโยชย์ต่อสุขภาพของภาชนะทองแดงบริสุทธ์ o ช่วยคุมน้ำหนัก o กระตุ้นการทำงานของสมอง o ฆ่าแบคทีเรียในน้ำ o กระตุ้นระบบย่อยอาหาร o ป้องกันโรคเบาหวาน • วิธีทำความสะอาด- ล้างด้วยน้ำอุ่น+มะนาว+เกลือทั้งในและนอกก่อนจะล้างน้ำสะอาด • ขนาด 1 ล. 🔴sold🔴 🍶 พท.ห่างไกล+50บาท 🗄 ไม่มีปลายทาง 📦 โอนก่อนบ่าย 2 ส่งของภายในวันเดียวกัน/ร้านส่งปิดวันอาทิตย์ 🗒 บช.พ่อค้า 005-xxx - xx37 * ถ่ายคลิปการแกะกล่องสค.ทุกครั้ง/ไม่มีคลิป พ่อค้าไม่สามารถรับเคลมได้ FB: Lek's Kitchenware / IG : Lek's Choices
    0 Comments 0 Shares 399 Views 0 Reviews
  • คิดแคปชั่นไม่ออก 😅
    เอาสูตรจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงไปละกันนะคะ

    สิ่งที่ต้องเตรียม
    หัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 1 ขวด
    📌 https://th.shp.ee/5Lj1TYa
    ขวด 1.5 ลิตร 1 ใบ
    ไข่ไก่ 1 ฟอง
    น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
    ผงชูรส 1 ช้อนโต๊ะ
    น้ำสะอาด 1-1.25 ลิตร

    วิธีทำ
    1) เติมน้ำปริมาตร 1 ลิตร หรือ 1.25 ลงในขวด 1.5 ลิตร
    2) เติมหัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงทั้งขวด ลงในขวด 1.5 ลิตร
    3) ตอกไข่ไก่ลงในถ้วย ผสมน้ำปลาและผงชูรส ตีให้เข้ากัน (ใช้เป็นอาหารจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง)
    4) ใช้ช้อนตักส่วนผสมที่เข้ากันแล้ว 1 ช้อนโต๊ะ กรอกลงในขวด 1.5 ลิตร
    5) นำขวดที่บรรจุเสร็จแล้ว วางไว้ในที่ร่มให้แสงส่องถึง

    หมายเหตุ
    เขย่าขวดเป็นประจำทุกวัน หรืออย่างน้อย วันเว้นวัน ช่วยให้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงได้รับอาหารได้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้การเพาะเชื้อสำเร็จเร็วขึ้นด้วยค่ะ
    คิดแคปชั่นไม่ออก 😅 เอาสูตรจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงไปละกันนะคะ สิ่งที่ต้องเตรียม หัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 1 ขวด 📌 https://th.shp.ee/5Lj1TYa ขวด 1.5 ลิตร 1 ใบ ไข่ไก่ 1 ฟอง น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ ผงชูรส 1 ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด 1-1.25 ลิตร วิธีทำ 1) เติมน้ำปริมาตร 1 ลิตร หรือ 1.25 ลงในขวด 1.5 ลิตร 2) เติมหัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงทั้งขวด ลงในขวด 1.5 ลิตร 3) ตอกไข่ไก่ลงในถ้วย ผสมน้ำปลาและผงชูรส ตีให้เข้ากัน (ใช้เป็นอาหารจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง) 4) ใช้ช้อนตักส่วนผสมที่เข้ากันแล้ว 1 ช้อนโต๊ะ กรอกลงในขวด 1.5 ลิตร 5) นำขวดที่บรรจุเสร็จแล้ว วางไว้ในที่ร่มให้แสงส่องถึง หมายเหตุ เขย่าขวดเป็นประจำทุกวัน หรืออย่างน้อย วันเว้นวัน ช่วยให้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงได้รับอาหารได้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้การเพาะเชื้อสำเร็จเร็วขึ้นด้วยค่ะ
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 249 Views 0 Reviews
  • คิดแคปชั่นไม่ออก 😅
    เอาสูตรจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงไปละกันนะคะ

    สิ่งที่ต้องเตรียม
    หัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 1 ขวด
    📌 https://th.shp.ee/5Lj1TYa
    ขวด 1.5 ลิตร 1 ใบ
    ไข่ไก่ 1 ฟอง
    น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
    ผงชูรส 1 ช้อนโต๊ะ
    น้ำสะอาด 1-1.25 ลิตร

    วิธีทำ
    1) เติมน้ำปริมาตร 1 ลิตร หรือ 1.25 ลงในขวด 1.5 ลิตร
    2) เติมหัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงทั้งขวด ลงในขวด 1.5 ลิตร
    3) ตอกไข่ไก่ลงในถ้วย ผสมน้ำปลาและผงชูรส ตีให้เข้ากัน (ใช้เป็นอาหารจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง)
    4) ใช้ช้อนตักส่วนผสมที่เข้ากันแล้ว 1 ช้อนโต๊ะ กรอกลงในขวด 1.5 ลิตร
    5) นำขวดที่บรรจุเสร็จแล้ว วางไว้ในที่ร่มให้แสงส่องถึง

    หมายเหตุ
    เขย่าขวดเป็นประจำทุกวัน หรืออย่างน้อย วันเว้นวัน ช่วยให้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงได้รับอาหารได้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้การเพาะเชื้อสำเร็จเร็วขึ้นด้วยค่ะ
    คิดแคปชั่นไม่ออก 😅 เอาสูตรจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงไปละกันนะคะ สิ่งที่ต้องเตรียม หัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 1 ขวด 📌 https://th.shp.ee/5Lj1TYa ขวด 1.5 ลิตร 1 ใบ ไข่ไก่ 1 ฟอง น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ ผงชูรส 1 ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด 1-1.25 ลิตร วิธีทำ 1) เติมน้ำปริมาตร 1 ลิตร หรือ 1.25 ลงในขวด 1.5 ลิตร 2) เติมหัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงทั้งขวด ลงในขวด 1.5 ลิตร 3) ตอกไข่ไก่ลงในถ้วย ผสมน้ำปลาและผงชูรส ตีให้เข้ากัน (ใช้เป็นอาหารจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง) 4) ใช้ช้อนตักส่วนผสมที่เข้ากันแล้ว 1 ช้อนโต๊ะ กรอกลงในขวด 1.5 ลิตร 5) นำขวดที่บรรจุเสร็จแล้ว วางไว้ในที่ร่มให้แสงส่องถึง หมายเหตุ เขย่าขวดเป็นประจำทุกวัน หรืออย่างน้อย วันเว้นวัน ช่วยให้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงได้รับอาหารได้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้การเพาะเชื้อสำเร็จเร็วขึ้นด้วยค่ะ
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 301 Views 0 Reviews
  • คิดแคปชั่นไม่ออก 😅
    เอาสูตรจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงไปละกันนะคะ

    สิ่งที่ต้องเตรียม
    หัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 1 ขวด
    📌 https://th.shp.ee/5Lj1TYa
    ขวด 1.5 ลิตร 1 ใบ
    ไข่ไก่ 1 ฟอง
    น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
    ผงชูรส 1 ช้อนโต๊ะ
    น้ำสะอาด 1-1.25 ลิตร

    วิธีทำ
    1) เติมน้ำปริมาตร 1 ลิตร หรือ 1.25 ลงในขวด 1.5 ลิตร
    2) เติมหัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงทั้งขวด ลงในขวด 1.5 ลิตร
    3) ตอกไข่ไก่ลงในถ้วย ผสมน้ำปลาและผงชูรส ตีให้เข้ากัน (ใช้เป็นอาหารจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง)
    4) ใช้ช้อนตักส่วนผสมที่เข้ากันแล้ว 1 ช้อนโต๊ะ กรอกลงในขวด 1.5 ลิตร
    5) นำขวดที่บรรจุเสร็จแล้ว วางไว้ในที่ร่มให้แสงส่องถึง

    หมายเหตุ
    เขย่าขวดเป็นประจำทุกวัน หรืออย่างน้อย วันเว้นวัน ช่วยให้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงได้รับอาหารได้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้การเพาะเชื้อสำเร็จเร็วขึ้นด้วยค่ะ
    คิดแคปชั่นไม่ออก 😅 เอาสูตรจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงไปละกันนะคะ สิ่งที่ต้องเตรียม หัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง 1 ขวด 📌 https://th.shp.ee/5Lj1TYa ขวด 1.5 ลิตร 1 ใบ ไข่ไก่ 1 ฟอง น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ ผงชูรส 1 ช้อนโต๊ะ น้ำสะอาด 1-1.25 ลิตร วิธีทำ 1) เติมน้ำปริมาตร 1 ลิตร หรือ 1.25 ลงในขวด 1.5 ลิตร 2) เติมหัวเชื้อจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงทั้งขวด ลงในขวด 1.5 ลิตร 3) ตอกไข่ไก่ลงในถ้วย ผสมน้ำปลาและผงชูรส ตีให้เข้ากัน (ใช้เป็นอาหารจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง) 4) ใช้ช้อนตักส่วนผสมที่เข้ากันแล้ว 1 ช้อนโต๊ะ กรอกลงในขวด 1.5 ลิตร 5) นำขวดที่บรรจุเสร็จแล้ว วางไว้ในที่ร่มให้แสงส่องถึง หมายเหตุ เขย่าขวดเป็นประจำทุกวัน หรืออย่างน้อย วันเว้นวัน ช่วยให้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงได้รับอาหารได้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้การเพาะเชื้อสำเร็จเร็วขึ้นด้วยค่ะ
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 272 Views 0 Reviews
  • #วิธีทำบุญให้ได้บุญในชาตินี้ โดย สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี

    ขอขอบพระคุณคลิปเสียงจาก ธรรมะสอนใจ
    #วิธีทำบุญให้ได้บุญในชาตินี้ โดย สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ขอขอบพระคุณคลิปเสียงจาก ธรรมะสอนใจ
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 496 Views 0 0 Reviews
  • เซาเออร์เคราท์ (Sauerkraut) รสแซ่บ..แบบไทยๆ

    คือ อาหารเยอรมันชนิดหนึ่ง แปลตรงตัวว่ากะหล่ำปลีเปรี้ยว
    เป็นการดองกะหล่ำปลีโดยแบคทีเรียที่ผลิตกรดแลกติกหลายชนิด เช่น Leuconostoc, Lactobacillus และ Pediococcus

    เซาเออร์เคราท์(เยอรมัน)ทำจากกะหล่ำปลีหั่นแล้วนำไปหมักกับเกลือ ใส่เม็ดผักชี ใบเบย์ ผลเอลเดอร์ ยี่หร่า ฮอร์สแรดิช ใบเซโวรี กานพลู และเครื่องเทศอื่น ๆ ตามชอบ

    วิธีทำ แบบไทยๆ ทำง่าย รวดเร็วกว่า โดย
    1. หั่นกะหล่ำปลีสด ต้นหอม หรือ คึนฉ่าย โรยเกลือเพื่อดึงน้ำออก ทุบ+ขยำให้ผักช้ำ ล้างน้ำ บีบแห้ง ใส่ขวดโหล
    2. ทุบพริก และ กระเทียม พอแตก แล้วใส่ลงไปในโหล แล้วเทน้ำซาวข้าวลงไปให้ท่วม ไล่อากาศออกให้หมด ปิดฝา
    3. ทิ้งไว้ 3 วัน เปิด กินได้

    นี่แหละ..คือ ผักรสเปรี้ยว ที่อุดมไปด้วยโพรไบโอติก หรือ จุลินทรีย์ที่ดีต่อลำไส้ ช่วยย่อยอาหาร ขจัดของเสีย และ เพิ่มภูมิคุ้มกัน

    อยากมีสุขภาพที่ดี อายุยืน 120 ปี ต้อง(เพิ่ม)จุลินทรีย์ในลำไส้ ด้วย Sauerkraut ทำเอง สะอาด อร่อย เป็นประจำ นะคะ
    เซาเออร์เคราท์ (Sauerkraut) รสแซ่บ..แบบไทยๆ คือ อาหารเยอรมันชนิดหนึ่ง แปลตรงตัวว่ากะหล่ำปลีเปรี้ยว เป็นการดองกะหล่ำปลีโดยแบคทีเรียที่ผลิตกรดแลกติกหลายชนิด เช่น Leuconostoc, Lactobacillus และ Pediococcus เซาเออร์เคราท์(เยอรมัน)ทำจากกะหล่ำปลีหั่นแล้วนำไปหมักกับเกลือ ใส่เม็ดผักชี ใบเบย์ ผลเอลเดอร์ ยี่หร่า ฮอร์สแรดิช ใบเซโวรี กานพลู และเครื่องเทศอื่น ๆ ตามชอบ วิธีทำ แบบไทยๆ ทำง่าย รวดเร็วกว่า โดย 1. หั่นกะหล่ำปลีสด ต้นหอม หรือ คึนฉ่าย โรยเกลือเพื่อดึงน้ำออก ทุบ+ขยำให้ผักช้ำ ล้างน้ำ บีบแห้ง ใส่ขวดโหล 2. ทุบพริก และ กระเทียม พอแตก แล้วใส่ลงไปในโหล แล้วเทน้ำซาวข้าวลงไปให้ท่วม ไล่อากาศออกให้หมด ปิดฝา 3. ทิ้งไว้ 3 วัน เปิด กินได้ นี่แหละ..คือ ผักรสเปรี้ยว ที่อุดมไปด้วยโพรไบโอติก หรือ จุลินทรีย์ที่ดีต่อลำไส้ ช่วยย่อยอาหาร ขจัดของเสีย และ เพิ่มภูมิคุ้มกัน อยากมีสุขภาพที่ดี อายุยืน 120 ปี ต้อง(เพิ่ม)จุลินทรีย์ในลำไส้ ด้วย Sauerkraut ทำเอง สะอาด อร่อย เป็นประจำ นะคะ
    0 Comments 0 Shares 476 Views 0 Reviews
  • การปรับตัวเพื่อสร้างความรู้สึกเท่าเทียมในคู่ครอง

    1. ยอมรับว่า "ความรู้สึกไม่เท่าเทียม" อาจมาจากความเคยชินเดิม

    ความรู้สึกที่อีกฝ่ายเป็นบริวารเก่า หรือเราเป็นผู้นำ เกิดจาก พฤติกรรมสะสม ที่สะท้อนผ่านวิธีการปฏิบัติต่อกันในระยะยาว

    หากเราเคยชินกับการตัดสินใจ หรือรับบทบาทผู้นำ ความรู้สึกเท่าเทียมจะไม่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ

    ---

    2. ความรู้สึกเท่าเทียมต้องสร้างด้วยการเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีทำ

    ลดทิฐิมานะ: ยอมรับว่าความรักและชีวิตคู่ไม่ได้วัดกันด้วยบทบาทสูงต่ำ แต่ด้วยความสมดุลในการให้และรับ

    แสดงความเคารพและสนับสนุน: ลดบทบาทของ “การควบคุม” และเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายแสดงตัวตน เช่น การฟังความคิดเห็น หรือให้เขาได้ตัดสินใจ

    ---

    3. วิธีปฏิบัติที่ช่วยสร้างความรู้สึกเท่าเทียม

    ลดอัตตา: หากเราเผลอแสดงบทบาทที่เหนือกว่า เช่น ตัดสินใจแทนหรือแสดงความเป็นผู้นำ ลองถอยกลับมาให้เขาเป็นผู้นำบ้าง

    เพิ่มความใส่ใจในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ: เช่น เตรียมน้ำให้ดื่ม ช่วยเหลือในเรื่องเล็กน้อยด้วยความเต็มใจ

    หยอดกระปุกความรู้สึกดี: เช่น ยอมให้เขาตัดสินใจในบางเรื่อง โดยไม่แทรกแซงหรือวิจารณ์

    ---

    4. ปรับมุมมองต่อ "ความรักที่เท่าเทียม"

    ความเท่าเทียมไม่ใช่การแบ่งบทบาทชัดเจนว่าใครเป็นเท้าหน้าหรือเท้าหลัง แต่คือ การเคารพซึ่งกันและกันในทุกบทบาท

    เรียนรู้ที่จะอยู่ในโลกของอีกฝ่ายบ้าง เพื่อสร้างความสมดุลในความสัมพันธ์

    ---

    5. ความสุขในความสัมพันธ์เริ่มต้นจากใจเรา

    เริ่มจากการทำให้ตัวเองทุกข์น้อยลง: เช่น ลดความคาดหวัง ลดความต้องการควบคุม

    ใส่ความสุขลงในสิ่งที่ทำ: ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือ การพูดคุย หรือการเปิดใจให้กัน

    ---

    สรุป

    หากต้องการสร้างความรู้สึกเท่าเทียมในชีวิตคู่ จงเริ่มจากตัวเอง ด้วยการลดทิฐิและใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่สร้างความรู้สึกดีให้กันและกัน อย่ามองว่าใครต้องนำหรือใครต้องตาม แต่ให้มองว่า เรากำลังเดินเคียงข้างกันเพื่อสร้างความสุขร่วมกัน.
    การปรับตัวเพื่อสร้างความรู้สึกเท่าเทียมในคู่ครอง 1. ยอมรับว่า "ความรู้สึกไม่เท่าเทียม" อาจมาจากความเคยชินเดิม ความรู้สึกที่อีกฝ่ายเป็นบริวารเก่า หรือเราเป็นผู้นำ เกิดจาก พฤติกรรมสะสม ที่สะท้อนผ่านวิธีการปฏิบัติต่อกันในระยะยาว หากเราเคยชินกับการตัดสินใจ หรือรับบทบาทผู้นำ ความรู้สึกเท่าเทียมจะไม่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ --- 2. ความรู้สึกเท่าเทียมต้องสร้างด้วยการเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีทำ ลดทิฐิมานะ: ยอมรับว่าความรักและชีวิตคู่ไม่ได้วัดกันด้วยบทบาทสูงต่ำ แต่ด้วยความสมดุลในการให้และรับ แสดงความเคารพและสนับสนุน: ลดบทบาทของ “การควบคุม” และเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายแสดงตัวตน เช่น การฟังความคิดเห็น หรือให้เขาได้ตัดสินใจ --- 3. วิธีปฏิบัติที่ช่วยสร้างความรู้สึกเท่าเทียม ลดอัตตา: หากเราเผลอแสดงบทบาทที่เหนือกว่า เช่น ตัดสินใจแทนหรือแสดงความเป็นผู้นำ ลองถอยกลับมาให้เขาเป็นผู้นำบ้าง เพิ่มความใส่ใจในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ: เช่น เตรียมน้ำให้ดื่ม ช่วยเหลือในเรื่องเล็กน้อยด้วยความเต็มใจ หยอดกระปุกความรู้สึกดี: เช่น ยอมให้เขาตัดสินใจในบางเรื่อง โดยไม่แทรกแซงหรือวิจารณ์ --- 4. ปรับมุมมองต่อ "ความรักที่เท่าเทียม" ความเท่าเทียมไม่ใช่การแบ่งบทบาทชัดเจนว่าใครเป็นเท้าหน้าหรือเท้าหลัง แต่คือ การเคารพซึ่งกันและกันในทุกบทบาท เรียนรู้ที่จะอยู่ในโลกของอีกฝ่ายบ้าง เพื่อสร้างความสมดุลในความสัมพันธ์ --- 5. ความสุขในความสัมพันธ์เริ่มต้นจากใจเรา เริ่มจากการทำให้ตัวเองทุกข์น้อยลง: เช่น ลดความคาดหวัง ลดความต้องการควบคุม ใส่ความสุขลงในสิ่งที่ทำ: ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือ การพูดคุย หรือการเปิดใจให้กัน --- สรุป หากต้องการสร้างความรู้สึกเท่าเทียมในชีวิตคู่ จงเริ่มจากตัวเอง ด้วยการลดทิฐิและใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่สร้างความรู้สึกดีให้กันและกัน อย่ามองว่าใครต้องนำหรือใครต้องตาม แต่ให้มองว่า เรากำลังเดินเคียงข้างกันเพื่อสร้างความสุขร่วมกัน.
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 472 Views 0 Reviews
More Results