• Huawei เปลี่ยนกลยุทธ์ชิป AI – หวังแซง NVIDIA ด้วยแนวทางใหม่

    แม้สหรัฐฯ จะออกมาตรการแบนไม่ให้ NVIDIA ขายชิป AI รุ่นใหม่ในจีน แต่ความต้องการในตลาดยังสูงมาก จนรัฐบาลสหรัฐฯ พิจารณาแบนประเทศอื่นอย่างมาเลเซียและไทยที่อาจเป็นช่องทางลัดให้จีนเข้าถึงชิปเหล่านี้

    Huawei จึงตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งใหญ่ โดยจะเลิกเน้นการผลิตชิปแบบ ASIC ที่ออกแบบมาเฉพาะงาน และหันไปพัฒนาชิปแบบ general-purpose ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายเหมือนกับ GPU ของ NVIDIA และ AMD

    จุดเปลี่ยนสำคัญคือการพัฒนา “ซอฟต์แวร์ตัวกลาง” ที่สามารถแปลงคำสั่งจากภาษา Cuda (ที่ใช้กับ NVIDIA) ให้ทำงานกับชิปของ Huawei ได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถย้ายงานจาก NVIDIA มาสู่ Huawei ได้ง่ายขึ้น

    อย่างไรก็ตาม Huawei ยังต้องพึ่งโรงงานผลิตชิปของจีนอย่าง SMIC ซึ่งถูกแบนจากการเข้าถึงเครื่องจักรขั้นสูง ทำให้ยังผลิตได้แค่ระดับ 7 นาโนเมตร ขณะที่ NVIDIA ใช้เทคโนโลยีระดับ 4 นาโนเมตรหรือดีกว่า

    แม้จะมีข้อจำกัดด้านการผลิต แต่บริษัทเทคโนโลยีจีนอย่าง Alibaba และ Tencent อาจไม่มีทางเลือกในอนาคต หาก Huawei สามารถพัฒนาชิปให้ใกล้เคียงกับ NVIDIA ได้จริง

    ข้อมูลจากข่าว
    - Huawei เตรียมเปลี่ยนแนวทางการออกแบบชิป AI จาก ASIC ไปสู่ general-purpose GPU
    - พัฒนาซอฟต์แวร์ตัวกลางเพื่อให้รองรับภาษา Cuda ของ NVIDIA
    - หวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในจีนที่ยังต้องการชิป AI อย่างมาก
    - SMIC เป็นโรงงานผลิตหลัก แต่ยังจำกัดที่เทคโนโลยี 7 นาโนเมตร
    - Alibaba และ Tencent อาจต้องหันมาใช้ชิปของ Huawei หากไม่มีทางเลือกอื่น
    - การเปลี่ยนแนวทางนี้อาจช่วยให้ Huawei แข่งขันกับ NVIDIA และ AMD ได้ดีขึ้นในระยะยาว

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - SMIC ยังไม่สามารถผลิตชิประดับสูงได้เทียบเท่ากับ TSMC หรือ Samsung ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญ
    - การพึ่งพาซอฟต์แวร์ตัวกลางอาจทำให้ประสิทธิภาพไม่เทียบเท่าการใช้ Cuda โดยตรง
    - การเปลี่ยนจาก ASIC ไปสู่ general-purpose ต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก
    - หากซอฟต์แวร์ของ Huawei ไม่ได้รับการยอมรับจากนักพัฒนา อาจทำให้ชิปไม่ถูกใช้งานจริง
    - การแข่งขันกับ NVIDIA ต้องอาศัยทั้ง ecosystem, tooling และการสนับสนุนจากนักพัฒนา ซึ่ง Huawei ยังขาดอยู่

    https://wccftech.com/huawei-looks-to-shake-up-ai-chip-design-to-compete-with-nvidia-says-report/
    Huawei เปลี่ยนกลยุทธ์ชิป AI – หวังแซง NVIDIA ด้วยแนวทางใหม่ แม้สหรัฐฯ จะออกมาตรการแบนไม่ให้ NVIDIA ขายชิป AI รุ่นใหม่ในจีน แต่ความต้องการในตลาดยังสูงมาก จนรัฐบาลสหรัฐฯ พิจารณาแบนประเทศอื่นอย่างมาเลเซียและไทยที่อาจเป็นช่องทางลัดให้จีนเข้าถึงชิปเหล่านี้ Huawei จึงตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งใหญ่ โดยจะเลิกเน้นการผลิตชิปแบบ ASIC ที่ออกแบบมาเฉพาะงาน และหันไปพัฒนาชิปแบบ general-purpose ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายเหมือนกับ GPU ของ NVIDIA และ AMD จุดเปลี่ยนสำคัญคือการพัฒนา “ซอฟต์แวร์ตัวกลาง” ที่สามารถแปลงคำสั่งจากภาษา Cuda (ที่ใช้กับ NVIDIA) ให้ทำงานกับชิปของ Huawei ได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถย้ายงานจาก NVIDIA มาสู่ Huawei ได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม Huawei ยังต้องพึ่งโรงงานผลิตชิปของจีนอย่าง SMIC ซึ่งถูกแบนจากการเข้าถึงเครื่องจักรขั้นสูง ทำให้ยังผลิตได้แค่ระดับ 7 นาโนเมตร ขณะที่ NVIDIA ใช้เทคโนโลยีระดับ 4 นาโนเมตรหรือดีกว่า แม้จะมีข้อจำกัดด้านการผลิต แต่บริษัทเทคโนโลยีจีนอย่าง Alibaba และ Tencent อาจไม่มีทางเลือกในอนาคต หาก Huawei สามารถพัฒนาชิปให้ใกล้เคียงกับ NVIDIA ได้จริง ✅ ข้อมูลจากข่าว - Huawei เตรียมเปลี่ยนแนวทางการออกแบบชิป AI จาก ASIC ไปสู่ general-purpose GPU - พัฒนาซอฟต์แวร์ตัวกลางเพื่อให้รองรับภาษา Cuda ของ NVIDIA - หวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในจีนที่ยังต้องการชิป AI อย่างมาก - SMIC เป็นโรงงานผลิตหลัก แต่ยังจำกัดที่เทคโนโลยี 7 นาโนเมตร - Alibaba และ Tencent อาจต้องหันมาใช้ชิปของ Huawei หากไม่มีทางเลือกอื่น - การเปลี่ยนแนวทางนี้อาจช่วยให้ Huawei แข่งขันกับ NVIDIA และ AMD ได้ดีขึ้นในระยะยาว ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - SMIC ยังไม่สามารถผลิตชิประดับสูงได้เทียบเท่ากับ TSMC หรือ Samsung ซึ่งเป็นข้อจำกัดสำคัญ - การพึ่งพาซอฟต์แวร์ตัวกลางอาจทำให้ประสิทธิภาพไม่เทียบเท่าการใช้ Cuda โดยตรง - การเปลี่ยนจาก ASIC ไปสู่ general-purpose ต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก - หากซอฟต์แวร์ของ Huawei ไม่ได้รับการยอมรับจากนักพัฒนา อาจทำให้ชิปไม่ถูกใช้งานจริง - การแข่งขันกับ NVIDIA ต้องอาศัยทั้ง ecosystem, tooling และการสนับสนุนจากนักพัฒนา ซึ่ง Huawei ยังขาดอยู่ https://wccftech.com/huawei-looks-to-shake-up-ai-chip-design-to-compete-with-nvidia-says-report/
    WCCFTECH.COM
    Huawei Looks To Shake Up AI Chip Design To Compete With NVIDIA, Says Report
    Huawei aims to shift chip design strategy to compete with NVIDIA, focusing on general-purpose computing and new chip software.
    0 Comments 0 Shares 90 Views 0 Reviews
  • ลืม ransomware ไปก่อน—Quantum Computing คือภัยไซเบอร์ที่องค์กรทั่วโลกกลัวที่สุด

    รายงานล่าสุดจาก Capgemini Research Institute ซึ่งสำรวจองค์กรขนาดใหญ่กว่า 1,000 แห่งใน 13 ประเทศ พบว่า 70% ขององค์กรเหล่านี้มองว่า Quantum Computing คือภัยคุกคามด้านความปลอดภัยที่ร้ายแรงที่สุดในอนาคต มากกว่าการโจมตีแบบ ransomware ที่เคยเป็นอันดับหนึ่ง

    เหตุผลคือ Quantum Computer จะสามารถ “ถอดรหัส” ระบบเข้ารหัสที่ใช้อยู่ในปัจจุบันได้ทั้งหมด เช่น RSA, ECC และ AES ซึ่งเป็นหัวใจของการรักษาความปลอดภัยในระบบธนาคาร, การสื่อสาร, โครงสร้างพื้นฐาน และแม้แต่ระบบป้องกันประเทศ

    สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือแนวโน้ม “Harvest Now, Decrypt Later” หรือการที่หน่วยงานบางแห่ง (โดยเฉพาะรัฐ) กำลังเก็บข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ล่วงหน้า เพื่อรอวันที่ Quantum Computer มีพลังมากพอจะถอดรหัสได้—ซึ่งหลายองค์กรเชื่อว่า “Q-Day” หรือวันที่เกิดเหตุการณ์นี้จะมาถึงภายใน 5–10 ปี

    Capgemini แนะนำให้องค์กรเริ่มเปลี่ยนไปใช้ระบบ “Post-Quantum Cryptography” ตั้งแต่วันนี้ เพื่อป้องกันความเสียหายในอนาคต และสร้างความเชื่อมั่นระยะยาว

    ข้อมูลจากข่าว
    - รายงานจาก Capgemini พบว่า 70% ขององค์กรขนาดใหญ่มองว่า Quantum Computing เป็นภัยไซเบอร์อันดับหนึ่ง
    - Quantum Computer สามารถถอดรหัสระบบเข้ารหัสแบบดั้งเดิมได้ เช่น RSA, ECC, AES
    - แนวโน้ม “Harvest Now, Decrypt Later” คือการเก็บข้อมูลไว้ล่วงหน้าเพื่อรอถอดรหัสในอนาคต
    - 65% ขององค์กรกังวลว่า Q-Day จะเกิดภายใน 5 ปี และ 60% เชื่อว่าจะเกิดภายใน 10 ปี
    - องค์กรเริ่มเปลี่ยนไปใช้ Post-Quantum Cryptography เพื่อป้องกันล่วงหน้า
    - Capgemini แนะนำให้เปลี่ยนเร็วเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจและความเชื่อมั่นระยะยาว

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - หากไม่เปลี่ยนระบบเข้ารหัสให้รองรับ Quantum ภายในเวลาอันใกล้ องค์กรอาจเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลมหาศาล
    - ข้อมูลที่ถูกเก็บไว้วันนี้ อาจถูกถอดรหัสในอนาคตโดยไม่มีทางป้องกัน
    - การเปลี่ยนระบบเข้ารหัสต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก องค์กรควรวางแผนล่วงหน้า
    - การรอให้ Q-Day มาถึงก่อนค่อยเปลี่ยนอาจสายเกินไป และส่งผลต่อความมั่นคงของระบบทั้งหมด
    - องค์กรที่ไม่เตรียมตัวอาจเสียเปรียบด้านการแข่งขันและความไว้วางใจจากลูกค้า

    https://www.techradar.com/pro/security/forget-ransomware-most-firms-think-quantum-computing-is-the-biggest-security-risk-to-come
    ลืม ransomware ไปก่อน—Quantum Computing คือภัยไซเบอร์ที่องค์กรทั่วโลกกลัวที่สุด รายงานล่าสุดจาก Capgemini Research Institute ซึ่งสำรวจองค์กรขนาดใหญ่กว่า 1,000 แห่งใน 13 ประเทศ พบว่า 70% ขององค์กรเหล่านี้มองว่า Quantum Computing คือภัยคุกคามด้านความปลอดภัยที่ร้ายแรงที่สุดในอนาคต มากกว่าการโจมตีแบบ ransomware ที่เคยเป็นอันดับหนึ่ง เหตุผลคือ Quantum Computer จะสามารถ “ถอดรหัส” ระบบเข้ารหัสที่ใช้อยู่ในปัจจุบันได้ทั้งหมด เช่น RSA, ECC และ AES ซึ่งเป็นหัวใจของการรักษาความปลอดภัยในระบบธนาคาร, การสื่อสาร, โครงสร้างพื้นฐาน และแม้แต่ระบบป้องกันประเทศ สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือแนวโน้ม “Harvest Now, Decrypt Later” หรือการที่หน่วยงานบางแห่ง (โดยเฉพาะรัฐ) กำลังเก็บข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ล่วงหน้า เพื่อรอวันที่ Quantum Computer มีพลังมากพอจะถอดรหัสได้—ซึ่งหลายองค์กรเชื่อว่า “Q-Day” หรือวันที่เกิดเหตุการณ์นี้จะมาถึงภายใน 5–10 ปี Capgemini แนะนำให้องค์กรเริ่มเปลี่ยนไปใช้ระบบ “Post-Quantum Cryptography” ตั้งแต่วันนี้ เพื่อป้องกันความเสียหายในอนาคต และสร้างความเชื่อมั่นระยะยาว ✅ ข้อมูลจากข่าว - รายงานจาก Capgemini พบว่า 70% ขององค์กรขนาดใหญ่มองว่า Quantum Computing เป็นภัยไซเบอร์อันดับหนึ่ง - Quantum Computer สามารถถอดรหัสระบบเข้ารหัสแบบดั้งเดิมได้ เช่น RSA, ECC, AES - แนวโน้ม “Harvest Now, Decrypt Later” คือการเก็บข้อมูลไว้ล่วงหน้าเพื่อรอถอดรหัสในอนาคต - 65% ขององค์กรกังวลว่า Q-Day จะเกิดภายใน 5 ปี และ 60% เชื่อว่าจะเกิดภายใน 10 ปี - องค์กรเริ่มเปลี่ยนไปใช้ Post-Quantum Cryptography เพื่อป้องกันล่วงหน้า - Capgemini แนะนำให้เปลี่ยนเร็วเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจและความเชื่อมั่นระยะยาว ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - หากไม่เปลี่ยนระบบเข้ารหัสให้รองรับ Quantum ภายในเวลาอันใกล้ องค์กรอาจเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลมหาศาล - ข้อมูลที่ถูกเก็บไว้วันนี้ อาจถูกถอดรหัสในอนาคตโดยไม่มีทางป้องกัน - การเปลี่ยนระบบเข้ารหัสต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก องค์กรควรวางแผนล่วงหน้า - การรอให้ Q-Day มาถึงก่อนค่อยเปลี่ยนอาจสายเกินไป และส่งผลต่อความมั่นคงของระบบทั้งหมด - องค์กรที่ไม่เตรียมตัวอาจเสียเปรียบด้านการแข่งขันและความไว้วางใจจากลูกค้า https://www.techradar.com/pro/security/forget-ransomware-most-firms-think-quantum-computing-is-the-biggest-security-risk-to-come
    0 Comments 0 Shares 91 Views 0 Reviews
  • MIPS จากตำนาน RISC สู่การเริ่มต้นใหม่ในอ้อมแขนของ GlobalFoundries

    ย้อนกลับไปในยุค 1980s MIPS คือหนึ่งในผู้บุกเบิกสถาปัตยกรรม RISC (Reduced Instruction Set Computing) โดยมี John Hennessy จาก Stanford เป็นผู้ร่วมออกแบบ และเปิดตัว CPU รุ่นแรกคือ R2000 ซึ่งมีเพียง 110,000 ทรานซิสเตอร์ แต่สามารถทำงานได้เร็วถึง 15MHz

    MIPS เคยเป็นคู่แข่งของ Intel และ Arm และมีบทบาทสำคัญในอุปกรณ์ระดับสูง เช่น:
    - Workstation ของ Silicon Graphics
    - เครื่องเล่นเกม Sony PlayStation รุ่นแรก
    - ยานสำรวจอวกาศ New Horizons ของ NASA

    แต่หลังจากนั้น MIPS ก็เปลี่ยนมือหลายครั้ง—ผ่าน Silicon Graphics, Imagination Technologies, Tallwood Ventures และ Wave Computing ก่อนจะล้มละลายและกลับมาอีกครั้งในปี 2020 โดยหันไปใช้สถาปัตยกรรม RISC-V แบบโอเพนซอร์ส

    แม้จะเปิดตัวซีรีส์ eVocore และ Atlas Explorer เพื่อเจาะตลาด AI และ edge computing แต่ก็ไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมได้มากนัก จนล่าสุด GlobalFoundries เข้าซื้อกิจการ และจะให้ MIPS ดำเนินงานเป็นหน่วยธุรกิจอิสระที่เน้น AI, อุตสาหกรรม และระบบอัตโนมัติ

    ข้อมูลจากข่าว
    - MIPS เคยเป็นผู้นำด้าน RISC และอยู่เบื้องหลัง PlayStation รุ่นแรกและภารกิจของ NASA
    - เปิดตัว CPU รุ่นแรก R2000 ในปี 1986 และ R3000 ในปี 1988
    - ถูกซื้อโดย GlobalFoundries ซึ่งเคยเป็นโรงงานผลิตชิปของ AMD
    - MIPS จะดำเนินงานเป็นหน่วยธุรกิจอิสระภายใต้ GlobalFoundries
    - เป้าหมายใหม่คือ AI, ระบบอัตโนมัติ และ edge computing
    - เคยเปลี่ยนมาใช้ RISC-V architecture เพื่อกลับเข้าสู่ตลาด
    - CEO ของ MIPS มองว่าการเข้าร่วม GlobalFoundries คือ “การเริ่มต้นบทใหม่ที่กล้าหาญ”

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - แม้จะมีประวัติยิ่งใหญ่ แต่ MIPS ยังไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมในตลาด AI ได้จริง
    - การเปลี่ยนมือบ่อยครั้งสะท้อนถึงความไม่มั่นคงของโมเดลธุรกิจ
    - RISC-V แม้จะเป็นมาตรฐานเปิด แต่ยังมีความไม่แน่นอนในด้าน ecosystem และการสนับสนุนเชิงพาณิชย์
    - การพึ่งพา GlobalFoundries อาจทำให้ MIPS ต้องปรับตัวตามกลยุทธ์ของบริษัทแม่
    - ผู้พัฒนาและองค์กรที่ใช้ IP ของ MIPS ควรติดตามการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบในระยะยาว

    https://www.techradar.com/pro/arms-legendary-rival-was-in-the-original-playstation-now-in-a-twist-of-fate-mips-has-been-sold-to-amds-former-foundry
    MIPS จากตำนาน RISC สู่การเริ่มต้นใหม่ในอ้อมแขนของ GlobalFoundries ย้อนกลับไปในยุค 1980s MIPS คือหนึ่งในผู้บุกเบิกสถาปัตยกรรม RISC (Reduced Instruction Set Computing) โดยมี John Hennessy จาก Stanford เป็นผู้ร่วมออกแบบ และเปิดตัว CPU รุ่นแรกคือ R2000 ซึ่งมีเพียง 110,000 ทรานซิสเตอร์ แต่สามารถทำงานได้เร็วถึง 15MHz MIPS เคยเป็นคู่แข่งของ Intel และ Arm และมีบทบาทสำคัญในอุปกรณ์ระดับสูง เช่น: - Workstation ของ Silicon Graphics - เครื่องเล่นเกม Sony PlayStation รุ่นแรก - ยานสำรวจอวกาศ New Horizons ของ NASA แต่หลังจากนั้น MIPS ก็เปลี่ยนมือหลายครั้ง—ผ่าน Silicon Graphics, Imagination Technologies, Tallwood Ventures และ Wave Computing ก่อนจะล้มละลายและกลับมาอีกครั้งในปี 2020 โดยหันไปใช้สถาปัตยกรรม RISC-V แบบโอเพนซอร์ส แม้จะเปิดตัวซีรีส์ eVocore และ Atlas Explorer เพื่อเจาะตลาด AI และ edge computing แต่ก็ไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมได้มากนัก จนล่าสุด GlobalFoundries เข้าซื้อกิจการ และจะให้ MIPS ดำเนินงานเป็นหน่วยธุรกิจอิสระที่เน้น AI, อุตสาหกรรม และระบบอัตโนมัติ ✅ ข้อมูลจากข่าว - MIPS เคยเป็นผู้นำด้าน RISC และอยู่เบื้องหลัง PlayStation รุ่นแรกและภารกิจของ NASA - เปิดตัว CPU รุ่นแรก R2000 ในปี 1986 และ R3000 ในปี 1988 - ถูกซื้อโดย GlobalFoundries ซึ่งเคยเป็นโรงงานผลิตชิปของ AMD - MIPS จะดำเนินงานเป็นหน่วยธุรกิจอิสระภายใต้ GlobalFoundries - เป้าหมายใหม่คือ AI, ระบบอัตโนมัติ และ edge computing - เคยเปลี่ยนมาใช้ RISC-V architecture เพื่อกลับเข้าสู่ตลาด - CEO ของ MIPS มองว่าการเข้าร่วม GlobalFoundries คือ “การเริ่มต้นบทใหม่ที่กล้าหาญ” ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - แม้จะมีประวัติยิ่งใหญ่ แต่ MIPS ยังไม่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมในตลาด AI ได้จริง - การเปลี่ยนมือบ่อยครั้งสะท้อนถึงความไม่มั่นคงของโมเดลธุรกิจ - RISC-V แม้จะเป็นมาตรฐานเปิด แต่ยังมีความไม่แน่นอนในด้าน ecosystem และการสนับสนุนเชิงพาณิชย์ - การพึ่งพา GlobalFoundries อาจทำให้ MIPS ต้องปรับตัวตามกลยุทธ์ของบริษัทแม่ - ผู้พัฒนาและองค์กรที่ใช้ IP ของ MIPS ควรติดตามการเปลี่ยนแปลงอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินผลกระทบในระยะยาว https://www.techradar.com/pro/arms-legendary-rival-was-in-the-original-playstation-now-in-a-twist-of-fate-mips-has-been-sold-to-amds-former-foundry
    0 Comments 0 Shares 112 Views 0 Reviews
  • ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดาวเทียมบนโลกเราเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด — แค่ Starlink ของ SpaceX ก็ปล่อยไปแล้วกว่า 7,000 ดวง! → Amazon กำลังสร้าง Kuiper อีก 3,000 ดวง → ฝั่งจีนเตรียมปล่อย “หลายหมื่น” ดวงตามมาอีก

    มันเหมือน “ถนนบนฟ้า” ที่ไม่มีไฟแดง ไม่มีเลนตรงข้าม — แถมทุกค่ายปล่อยดาวเทียมแบบไม่ค่อยประสานกันเท่าไหร่ → หน่วยงานที่ชื่อว่า Office of Space Commerce ของสหรัฐ คือผู้ดูแลจราจรอวกาศให้ไม่ชนกัน → ทำหน้าที่คล้ายกับ FAA ที่ดูแลเครื่องบิน บนพื้นโลก → แต่พอรัฐบาลเสนองบปี 2026…ปรากฏว่า “จะลดงบจาก $65M → เหลือแค่ $10M”!!

    องค์กรอวกาศทั่วอเมริกา เช่น SpaceX, Blue Origin และอีกกว่า 450 บริษัทเลยรวมตัวกันยื่นเรื่องเตือนรัฐสภาว่า → ถ้าคุณตัด TraCSS (Traffic Coordination System for Space) ไป = เท่ากับปล่อยอวกาศให้ “จราจรสับสน–เสี่ยงชน–ค่าใช้จ่ายเพิ่ม” → แถมอเมริกาอาจเสียบทบาทในการกำหนด “มาตรฐานความปลอดภัยอวกาศโลก” ด้วย

    รัฐบาลสหรัฐมีแผนตัดงบ Office of Space Commerce จาก $65M → เหลือ $10M ในปี 2026  
    • จะกระทบต่อระบบ TraCSS ที่อยู่ระหว่างทดสอบ → ระบบจัดการจราจรอวกาศเชิงพลเรือน  
    • ทำให้ดาวเทียมเสี่ยงชน และเพิ่มความเสี่ยงของ “ขยะอวกาศ” ระยะยาว

    องค์กรอวกาศกว่า 450 แห่งออกมาเตือนรัฐสภา  
    • รวมถึง SpaceX, Blue Origin  
    • เตือนว่าการตัดงบจะทำให้ต้นทุนดำเนินงานเพิ่ม และบริษัทอาจย้ายออกนอกสหรัฐ

    จำนวนดาวเทียมในวงโคจรต่ำ (LEO) เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด:  
    • Starlink (SpaceX): 7,000 ดวงตั้งแต่ 2019  
    • Kuiper (Amazon): แผน 3,000 ดวง  
    • จีน: มีแผนปล่อย “หลายหมื่น” ดวง

    TraCSS อยู่ระหว่างทดสอบกับผู้ให้บริการหลายราย → ทำหน้าที่แจ้งเตือนการชนแบบ real-time

    Prof. Hugh Lewis เผยว่า Starlink มีการหลบชนแบบ active มากกว่าช่วงก่อนถึง 2 เท่าในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา
    • สะท้อนว่าความเสี่ยงเกิดจริง ไม่ใช่แค่ทฤษฎี

    รัฐบาลมองว่าเอกชนสามารถจัดการจราจรเองได้ → แต่อุตสาหกรรมชี้ว่าขาดการประสาน และไม่มี funding model ที่ชัดเจน

    https://www.techspot.com/news/108611-us-space-industry-warns-increased-collision-risks-funding.html
    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดาวเทียมบนโลกเราเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด — แค่ Starlink ของ SpaceX ก็ปล่อยไปแล้วกว่า 7,000 ดวง! → Amazon กำลังสร้าง Kuiper อีก 3,000 ดวง → ฝั่งจีนเตรียมปล่อย “หลายหมื่น” ดวงตามมาอีก มันเหมือน “ถนนบนฟ้า” ที่ไม่มีไฟแดง ไม่มีเลนตรงข้าม — แถมทุกค่ายปล่อยดาวเทียมแบบไม่ค่อยประสานกันเท่าไหร่ → หน่วยงานที่ชื่อว่า Office of Space Commerce ของสหรัฐ คือผู้ดูแลจราจรอวกาศให้ไม่ชนกัน → ทำหน้าที่คล้ายกับ FAA ที่ดูแลเครื่องบิน บนพื้นโลก → แต่พอรัฐบาลเสนองบปี 2026…ปรากฏว่า “จะลดงบจาก $65M → เหลือแค่ $10M”!! องค์กรอวกาศทั่วอเมริกา เช่น SpaceX, Blue Origin และอีกกว่า 450 บริษัทเลยรวมตัวกันยื่นเรื่องเตือนรัฐสภาว่า → ถ้าคุณตัด TraCSS (Traffic Coordination System for Space) ไป = เท่ากับปล่อยอวกาศให้ “จราจรสับสน–เสี่ยงชน–ค่าใช้จ่ายเพิ่ม” → แถมอเมริกาอาจเสียบทบาทในการกำหนด “มาตรฐานความปลอดภัยอวกาศโลก” ด้วย ✅ รัฐบาลสหรัฐมีแผนตัดงบ Office of Space Commerce จาก $65M → เหลือ $10M ในปี 2026   • จะกระทบต่อระบบ TraCSS ที่อยู่ระหว่างทดสอบ → ระบบจัดการจราจรอวกาศเชิงพลเรือน   • ทำให้ดาวเทียมเสี่ยงชน และเพิ่มความเสี่ยงของ “ขยะอวกาศ” ระยะยาว ✅ องค์กรอวกาศกว่า 450 แห่งออกมาเตือนรัฐสภา   • รวมถึง SpaceX, Blue Origin   • เตือนว่าการตัดงบจะทำให้ต้นทุนดำเนินงานเพิ่ม และบริษัทอาจย้ายออกนอกสหรัฐ ✅ จำนวนดาวเทียมในวงโคจรต่ำ (LEO) เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด:   • Starlink (SpaceX): 7,000 ดวงตั้งแต่ 2019   • Kuiper (Amazon): แผน 3,000 ดวง   • จีน: มีแผนปล่อย “หลายหมื่น” ดวง ✅ TraCSS อยู่ระหว่างทดสอบกับผู้ให้บริการหลายราย → ทำหน้าที่แจ้งเตือนการชนแบบ real-time ✅ Prof. Hugh Lewis เผยว่า Starlink มีการหลบชนแบบ active มากกว่าช่วงก่อนถึง 2 เท่าในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา • สะท้อนว่าความเสี่ยงเกิดจริง ไม่ใช่แค่ทฤษฎี ✅ รัฐบาลมองว่าเอกชนสามารถจัดการจราจรเองได้ → แต่อุตสาหกรรมชี้ว่าขาดการประสาน และไม่มี funding model ที่ชัดเจน https://www.techspot.com/news/108611-us-space-industry-warns-increased-collision-risks-funding.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Space industry warns of satellite collision risks as US funding faces deep cuts
    The proposed cuts have sparked a strong backlash from the space industry. Seven major trade associations representing more than 450 companies including SpaceX and Blue Origin have...
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • วันนี้ได้สะสาง/เคลียร์เควสต์เก่าใน Maplestory เพราะรอเวลานี้มานานแล้ว ต้องทำให้หมด แต่เดือนนึงไม่ไหวอะ แต่ปีหน้าไม่แน่อาจจะจบหมดนะครับ
    ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อไป ทำเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอปลายทางที่ได้ดั่งใจหวัง
    แต่เวลาที่ทำตามความคาดหวังคนอื่น ผมประเมินเองแล้วหลังทบทวนตัวเองจนค้นพบตัวตนและความอยากโดยพื้นฐานของผมมานาน ได้แค่ความสุขระยะสั้น แถมได้ความทุกข์ล่วงหน้า ความทุกข์ระยะยาว ที่ต้องทนเป็นทาสชั้นต่ำของผู้ใหญ่ออฟฟิศปากโคตรตลาด
    สำรวมระวัง ละอายชั่วกลัวบาป อยู่กับปัจจุบัน ถ้านึกถึงอดีตควรรำลึกถึงอดีตที่ดีๆ อดีตที่เลวร้ายอย่าไปจมปลัก ไม่งั้นเราจะไม่พัฒนา เราจะไม่ก้าวหน้า
    วันนี้ได้สะสาง/เคลียร์เควสต์เก่าใน Maplestory เพราะรอเวลานี้มานานแล้ว ต้องทำให้หมด แต่เดือนนึงไม่ไหวอะ แต่ปีหน้าไม่แน่อาจจะจบหมดนะครับ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อไป ทำเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เจอปลายทางที่ได้ดั่งใจหวัง แต่เวลาที่ทำตามความคาดหวังคนอื่น ผมประเมินเองแล้วหลังทบทวนตัวเองจนค้นพบตัวตนและความอยากโดยพื้นฐานของผมมานาน ได้แค่ความสุขระยะสั้น แถมได้ความทุกข์ล่วงหน้า ความทุกข์ระยะยาว ที่ต้องทนเป็นทาสชั้นต่ำของผู้ใหญ่ออฟฟิศปากโคตรตลาด สำรวมระวัง ละอายชั่วกลัวบาป อยู่กับปัจจุบัน ถ้านึกถึงอดีตควรรำลึกถึงอดีตที่ดีๆ อดีตที่เลวร้ายอย่าไปจมปลัก ไม่งั้นเราจะไม่พัฒนา เราจะไม่ก้าวหน้า
    0 Comments 0 Shares 69 Views 0 Reviews
  • อย่าเอา LNG ไปผูกดีลภาษีทรัมป์!
    ผศ.ประสาท มีแต้ม เตือน “ไม่ซื้อก็ต้องจ่าย”
    หัวโตแน่ ทั้งที่โซลาร์+แบตใช้ไฟได้เกือบทั้งปี

    ผศ.ประสาท มีแต้ม อนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงานและสิ่งแวดล้อม สภาองค์กรของผู้บริโภค เตือนรัฐบาลว่า

    “ไม่ควรนำเรื่อง การนำเข้า LNG ไปเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจา ‘ภาษีทรัมป์’ หรือข้อตกลงทางการค้า”
    เพราะนั่นจะทำให้ไทยตกอยู่ในสถานะ ต้องเซ็นสัญญา Take-or-Pay — ไม่ซื้อก็ต้องจ่าย ซึ่งจะกลายเป็นภาระค่าไฟระยะยาวมหาศาล

    ผศ.ประสาทชี้ว่า ขณะนี้โลกกำลังเปลี่ยนทิศทางไปสู่พลังงานหมุนเวียน และงานวิจัยล่าสุดพบว่า

    “ระบบโซลาร์บวกแบตเตอรี่ (Solar + Storage) ในประเทศที่มีแดดดี 12 ประเทศทั่วโลก สามารถผลิตไฟฟ้าได้ เกือบครบ 24 ชั่วโมง ตลอด 365 วัน”

    เช่นใน ฟิลิปปินส์ ระบบนี้สามารถจ่ายไฟได้ถึง 92% ของเวลาทั้งปี ส่วนที่เหลืออีกเพียง 8% จึงค่อยใช้ไฟจากแหล่งอื่น

    นอกจากนี้ ต้นทุนไฟฟ้าจากระบบโซลาร์บวกแบตฯ ก็ถูกลงอย่างรวดเร็ว
    • ปี 2024 อยู่ที่ประมาณ 3.50 บาทต่อหน่วย
    • และจะ ลดลงเฉลี่ยปีละ 22%

    “ลองคิดดูดีๆ เราไม่มีความจำเป็นต้องพึ่ง LNG อีกต่อไป
    แต่ถ้ารัฐยังฝืนพาไทยไปผูกกับดีล LNG ระยะยาว สุดท้ายประชาชนจะต้องจ่ายแพงไปอีกหลายสิบปี”

    https://www.facebook.com/share/p/1Aor22TQZp/?mibextid=wwXIfr
    อย่าเอา LNG ไปผูกดีลภาษีทรัมป์! ผศ.ประสาท มีแต้ม เตือน “ไม่ซื้อก็ต้องจ่าย” หัวโตแน่ ทั้งที่โซลาร์+แบตใช้ไฟได้เกือบทั้งปี ผศ.ประสาท มีแต้ม อนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงานและสิ่งแวดล้อม สภาองค์กรของผู้บริโภค เตือนรัฐบาลว่า “ไม่ควรนำเรื่อง การนำเข้า LNG ไปเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจา ‘ภาษีทรัมป์’ หรือข้อตกลงทางการค้า” เพราะนั่นจะทำให้ไทยตกอยู่ในสถานะ ต้องเซ็นสัญญา Take-or-Pay — ไม่ซื้อก็ต้องจ่าย ซึ่งจะกลายเป็นภาระค่าไฟระยะยาวมหาศาล ผศ.ประสาทชี้ว่า ขณะนี้โลกกำลังเปลี่ยนทิศทางไปสู่พลังงานหมุนเวียน และงานวิจัยล่าสุดพบว่า “ระบบโซลาร์บวกแบตเตอรี่ (Solar + Storage) ในประเทศที่มีแดดดี 12 ประเทศทั่วโลก สามารถผลิตไฟฟ้าได้ เกือบครบ 24 ชั่วโมง ตลอด 365 วัน” เช่นใน ฟิลิปปินส์ ระบบนี้สามารถจ่ายไฟได้ถึง 92% ของเวลาทั้งปี ส่วนที่เหลืออีกเพียง 8% จึงค่อยใช้ไฟจากแหล่งอื่น นอกจากนี้ ต้นทุนไฟฟ้าจากระบบโซลาร์บวกแบตฯ ก็ถูกลงอย่างรวดเร็ว • ปี 2024 อยู่ที่ประมาณ 3.50 บาทต่อหน่วย • และจะ ลดลงเฉลี่ยปีละ 22% “ลองคิดดูดีๆ เราไม่มีความจำเป็นต้องพึ่ง LNG อีกต่อไป แต่ถ้ารัฐยังฝืนพาไทยไปผูกกับดีล LNG ระยะยาว สุดท้ายประชาชนจะต้องจ่ายแพงไปอีกหลายสิบปี” https://www.facebook.com/share/p/1Aor22TQZp/?mibextid=wwXIfr
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • ในโลกใต้ดินของแรนซัมแวร์ เหล่าแก๊งแฮกเกอร์ไม่ได้แค่รอเรียกค่าไถ่จากเหยื่อ แต่ยังต้องแข่งกันเอง — ล่าสุด “DragonForce” (กลุ่มอาชญากรไซเบอร์รัสเซีย) ไม่พอใจที่ “RansomHub” แย่งพันธมิตรในเครือข่ายแรนซัมแวร์ → จึงเปิดศึกแย่งพื้นที่ (turf war) โดยเริ่มจากการโจมตี “เว็บบนดาร์กเว็บของ RansomHub” ให้ล่มไปเลย

    สิ่งที่นักวิเคราะห์กลัวคือ: → แก๊งทั้งสองอาจโจมตีเหยื่อองค์กรเดียวกัน “พร้อมกัน” เพื่อแย่งผลงานกันเอง → หรือบางกรณีเกิด “แรนซัมซ้อนแรนซัม” — เรียกค่าไถ่จากเหยื่อซ้ำหลายรอบ → เหมือนกรณี UnitedHealth Group ที่เคยจ่ายค่าไถ่ให้แก๊งหนึ่งไปแล้ว แต่ถูกอีกแก๊งใช้ช่องทางอื่นมารีดซ้ำอีกจนต้องจ่ายอีกรอบ

    นักวิเคราะห์จาก Google Threat Intelligence Group เตือนว่า → วิกฤตนี้อาจทำให้สภาพแวดล้อมภัยไซเบอร์สำหรับเหยื่อแย่ลงมาก → เพราะ “ความไร้เสถียรภาพของแก๊งแฮกเกอร์เอง” ก็เพิ่มโอกาสถูกโจมตีซ้ำหรือโดนรีดไถต่อเนื่อง → แต่บางฝั่งก็มองว่า การแตกคอกันในวงการแรนซัมแวร์อาจทำให้แก๊งเหล่านี้อ่อนแอลงจากภายในในระยะยาวก็ได้

    แก๊ง DragonForce กำลังทำสงครามไซเบอร์กับ RansomHub เพื่อแย่งพื้นที่และพันธมิตรในโลกอาชญากรรม  
    • เริ่มจากการถล่มเว็บไซต์ดาร์กเว็บของ RansomHub  
    • เหตุเพราะ RansomHub ขยายบริการและดึงดูดเครือข่ายได้มากขึ้น

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอาจเกิด “ดับเบิลรีดไถ” คือเหยื่อถูกเรียกค่าไถ่จากหลายกลุ่มพร้อมกัน  
    • เหมือนกรณีของ UnitedHealth Group ที่โดนรีด 2 รอบจาก 2 แก๊ง  
    • เสี่ยงสูญเสียข้อมูล–ชื่อเสียง–เงินทุนมากกว่าเดิม

    ระบบ Ransomware-as-a-Service ยังดำเนินต่อไปแม้แก๊งหลักจะพัง → แค่เปลี่ยนชื่อและ affiliate ไปอยู่กับกลุ่มใหม่

    Google เตือนว่า ความไร้เสถียรภาพของโลกอาชญากรรมไซเบอร์ส่งผลโดยตรงต่อระดับภัยคุกคามของเหยื่อองค์กร

    บางกลุ่มเช่น Conti เคยล่มสลายหลังรัสเซียบุกยูเครน เพราะความขัดแย้งระหว่างสมาชิกจากสองประเทศ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/hacker-turf-war-unfolding-as-russian-dragonforce-ransomware-gang-drama-could-lead-to-double-extortionions-making-life-even-worse-for-potential-victims
    ในโลกใต้ดินของแรนซัมแวร์ เหล่าแก๊งแฮกเกอร์ไม่ได้แค่รอเรียกค่าไถ่จากเหยื่อ แต่ยังต้องแข่งกันเอง — ล่าสุด “DragonForce” (กลุ่มอาชญากรไซเบอร์รัสเซีย) ไม่พอใจที่ “RansomHub” แย่งพันธมิตรในเครือข่ายแรนซัมแวร์ → จึงเปิดศึกแย่งพื้นที่ (turf war) โดยเริ่มจากการโจมตี “เว็บบนดาร์กเว็บของ RansomHub” ให้ล่มไปเลย สิ่งที่นักวิเคราะห์กลัวคือ: → แก๊งทั้งสองอาจโจมตีเหยื่อองค์กรเดียวกัน “พร้อมกัน” เพื่อแย่งผลงานกันเอง → หรือบางกรณีเกิด “แรนซัมซ้อนแรนซัม” — เรียกค่าไถ่จากเหยื่อซ้ำหลายรอบ → เหมือนกรณี UnitedHealth Group ที่เคยจ่ายค่าไถ่ให้แก๊งหนึ่งไปแล้ว แต่ถูกอีกแก๊งใช้ช่องทางอื่นมารีดซ้ำอีกจนต้องจ่ายอีกรอบ นักวิเคราะห์จาก Google Threat Intelligence Group เตือนว่า → วิกฤตนี้อาจทำให้สภาพแวดล้อมภัยไซเบอร์สำหรับเหยื่อแย่ลงมาก → เพราะ “ความไร้เสถียรภาพของแก๊งแฮกเกอร์เอง” ก็เพิ่มโอกาสถูกโจมตีซ้ำหรือโดนรีดไถต่อเนื่อง → แต่บางฝั่งก็มองว่า การแตกคอกันในวงการแรนซัมแวร์อาจทำให้แก๊งเหล่านี้อ่อนแอลงจากภายในในระยะยาวก็ได้ ✅ แก๊ง DragonForce กำลังทำสงครามไซเบอร์กับ RansomHub เพื่อแย่งพื้นที่และพันธมิตรในโลกอาชญากรรม   • เริ่มจากการถล่มเว็บไซต์ดาร์กเว็บของ RansomHub   • เหตุเพราะ RansomHub ขยายบริการและดึงดูดเครือข่ายได้มากขึ้น ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอาจเกิด “ดับเบิลรีดไถ” คือเหยื่อถูกเรียกค่าไถ่จากหลายกลุ่มพร้อมกัน   • เหมือนกรณีของ UnitedHealth Group ที่โดนรีด 2 รอบจาก 2 แก๊ง   • เสี่ยงสูญเสียข้อมูล–ชื่อเสียง–เงินทุนมากกว่าเดิม ✅ ระบบ Ransomware-as-a-Service ยังดำเนินต่อไปแม้แก๊งหลักจะพัง → แค่เปลี่ยนชื่อและ affiliate ไปอยู่กับกลุ่มใหม่ ✅ Google เตือนว่า ความไร้เสถียรภาพของโลกอาชญากรรมไซเบอร์ส่งผลโดยตรงต่อระดับภัยคุกคามของเหยื่อองค์กร ✅ บางกลุ่มเช่น Conti เคยล่มสลายหลังรัสเซียบุกยูเครน เพราะความขัดแย้งระหว่างสมาชิกจากสองประเทศ https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/hacker-turf-war-unfolding-as-russian-dragonforce-ransomware-gang-drama-could-lead-to-double-extortionions-making-life-even-worse-for-potential-victims
    0 Comments 0 Shares 166 Views 0 Reviews
  • เปลี่ยนน้ำตาลทรายให้เป็น...โอกาสทางธุรกิจ!
    ด้วย "เครื่องบดแห้ง Pulverizer 20B" จาก ย.ย่งฮะเฮง!
    บอกลาความยุ่งยากแบบเดิมๆ! พบกับ เครื่องบดแห้ง Pulverizer 20B (หรือ Pin Mill 20B New Design) ผู้ช่วยคนสำคัญที่จะเปลี่ยนน้ำตาลทรายขาวของคุณให้เป็นเกล็ดละเอียดสวยงามด้วย ตะแกรงขนาด 1 มม. หรือบดได้ละเอียดถึงระดับผงไอซิ่ง (0-100 MESH) ได้ตามต้องการ!

    ทำไม Pulverizer 20B คือสิ่งที่คุณต้องมี?

    ละเอียดถึงใจ เร็วทันใช้:
    * บดได้ละเอียดดุจแป้ง (0-100 MESH) หรือเป็นเกล็ด 1 มม. ก็ทำได้ง่ายๆ
    * กำลังผลิตสูงถึง 20-200 กก./ชม. ไม่ว่าออร์เดอร์เยอะแค่ไหนก็เอาอยู่!
    * มอเตอร์ 5 แรงม้า ความเร็ว 4200 รอบ/นาที บดไว ทันใจทุกงาน!
    สะอาด ปลอดภัย มั่นใจ 100%:
    *สเตนเลส 304 ทั่วทั้งตัว: ส่วนที่สัมผัสวัตถุดิบสะอาด ปลอดภัย ไม่เป็นสนิม
    *ไร้กังวลเรื่องฝุ่น: ด้วยระบบป้องกันฝุ่นแบบพิเศษพร้อมถุงผ้ากรอง
    *ระบบ Safety Door: ตัดการทำงานทันทีหากมีการเปิดห้องเครื่องขณะทำงาน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด!
    *ระบบน้ำหล่อเย็น: มีช่องต่อระบบ Cooling ช่วยควบคุมอุณหภูมิที่หัวบด ป้องกันเครื่องร้อนจัด
    *ป้องกันมอเตอร์ไหม้: ตัวเครื่องมีระบบป้องกันมอเตอร์ไหม้ ยืดอายุการใช้งาน
    ทนทาน ลงทุนครั้งเดียว คุ้มค่าระยะยาว:
    * โครงสร้างแข็งแรง ทนทาน พร้อมใช้งานหนัก
    * รองรับระบบไฟ 380V เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรม (โปรดตรวจสอบความเหมาะสมกับระบบไฟของท่าน)
    ข้อมูลตัวเครื่อง:
    ขนาด: 70 x 90 x 150 ซม.
    น้ำหนัก: ไม่เกิน 250 กก.
    วัตถุดิบ: รองรับขนาดไม่เกิน 1 ซม. (เช่น น้ำตาลทราย หรือสมุนไพร)
    ไม่แค่ขายเครื่อง...แต่เราดูแลคุณ!

    ย.ย่งฮะเฮง พร้อมบริการหลังการขายที่ใส่ใจ ให้คุณมั่นใจทุกการใช้งาน
    สนใจยกระดับธุรกิจของคุณ? โทรเลย!
    มาดูเครื่องจริงได้ที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    เปิดบริการ: จันทร์-ศุกร์ 8.00-17.00 น. | เสาร์ 8.00-16.00 น.
    สอบถามเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อ: โทร: 02-215-3515-9 | 081-3189098

    LINE ID: @yonghahheng คลิก: https://lin.ee/HV4lSKp
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com

    #เครื่องบดแห้ง #Pulverizer20B #PinMill20B #เครื่องบดน้ำตาล #น้ำตาลไอซิ่ง #เครื่องบดสมุนไพร #เครื่องจักรอาหาร #เบเกอรี่ #ร้านอาหาร #โรงงานผลิต #ยย่งฮะเฮง #คุณภาพดี #บริการหลังการขาย
    📢 เปลี่ยนน้ำตาลทรายให้เป็น...โอกาสทางธุรกิจ! 🚀✨ ด้วย "เครื่องบดแห้ง Pulverizer 20B" จาก ย.ย่งฮะเฮง! บอกลาความยุ่งยากแบบเดิมๆ! 👋 พบกับ เครื่องบดแห้ง Pulverizer 20B (หรือ Pin Mill 20B New Design) ผู้ช่วยคนสำคัญที่จะเปลี่ยนน้ำตาลทรายขาวของคุณให้เป็นเกล็ดละเอียดสวยงามด้วย ตะแกรงขนาด 1 มม. หรือบดได้ละเอียดถึงระดับผงไอซิ่ง (0-100 MESH) ได้ตามต้องการ! 🥣 ทำไม Pulverizer 20B คือสิ่งที่คุณต้องมี? ✅ ละเอียดถึงใจ เร็วทันใช้: * บดได้ละเอียดดุจแป้ง (0-100 MESH) หรือเป็นเกล็ด 1 มม. ก็ทำได้ง่ายๆ * กำลังผลิตสูงถึง 20-200 กก./ชม. ไม่ว่าออร์เดอร์เยอะแค่ไหนก็เอาอยู่! * มอเตอร์ 5 แรงม้า 💪 ความเร็ว 4200 รอบ/นาที บดไว ทันใจทุกงาน! ✅ สะอาด ปลอดภัย มั่นใจ 100%: *สเตนเลส 304 ทั่วทั้งตัว: ส่วนที่สัมผัสวัตถุดิบสะอาด ปลอดภัย ไม่เป็นสนิม *ไร้กังวลเรื่องฝุ่น: ด้วยระบบป้องกันฝุ่นแบบพิเศษพร้อมถุงผ้ากรอง *ระบบ Safety Door: ตัดการทำงานทันทีหากมีการเปิดห้องเครื่องขณะทำงาน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด! *ระบบน้ำหล่อเย็น: มีช่องต่อระบบ Cooling 🧊 ช่วยควบคุมอุณหภูมิที่หัวบด ป้องกันเครื่องร้อนจัด *ป้องกันมอเตอร์ไหม้: ตัวเครื่องมีระบบป้องกันมอเตอร์ไหม้ ยืดอายุการใช้งาน ✅ ทนทาน ลงทุนครั้งเดียว คุ้มค่าระยะยาว: * โครงสร้างแข็งแรง ทนทาน พร้อมใช้งานหนัก * รองรับระบบไฟ 380V ⚡ เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรม (โปรดตรวจสอบความเหมาะสมกับระบบไฟของท่าน) ข้อมูลตัวเครื่อง: ขนาด: 70 x 90 x 150 ซม. น้ำหนัก: ไม่เกิน 250 กก. วัตถุดิบ: รองรับขนาดไม่เกิน 1 ซม. (เช่น น้ำตาลทราย หรือสมุนไพร) ไม่แค่ขายเครื่อง...แต่เราดูแลคุณ! ย.ย่งฮะเฮง พร้อมบริการหลังการขายที่ใส่ใจ ให้คุณมั่นใจทุกการใช้งาน 👍 สนใจยกระดับธุรกิจของคุณ? โทรเลย! 📍 มาดูเครื่องจริงได้ที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 ⏰ เปิดบริการ: จันทร์-ศุกร์ 8.00-17.00 น. | เสาร์ 8.00-16.00 น. สอบถามเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อ:📞 โทร: 02-215-3515-9 | 081-3189098 💬LINE ID: @yonghahheng คลิก: https://lin.ee/HV4lSKp 🌐เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com #เครื่องบดแห้ง #Pulverizer20B #PinMill20B #เครื่องบดน้ำตาล #น้ำตาลไอซิ่ง #เครื่องบดสมุนไพร #เครื่องจักรอาหาร #เบเกอรี่ #ร้านอาหาร #โรงงานผลิต #ยย่งฮะเฮง #คุณภาพดี #บริการหลังการขาย
    0 Comments 0 Shares 208 Views 0 Reviews
  • ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่:

    1. **สหรัฐอเมริกา:**
    * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control)

    2. **จีน:**
    * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ

    3. **รัสเซีย:**
    * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ
    * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น

    4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:**
    * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ
    * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS)

    **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม
    2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้
    3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี
    4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
    5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง

    **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ
    2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต
    3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ
    4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):**
    * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน
    * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น
    5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา
    6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ

    **สรุป:**
    สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่: 1. **สหรัฐอเมริกา:** * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control) 2. **จีน:** * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ 3. **รัสเซีย:** * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น 4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:** * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS) **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม 2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้ 3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี 4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ 5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ 2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต 3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ 4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):** * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น 5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา 6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ **สรุป:** สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    0 Comments 0 Shares 294 Views 0 Reviews
  • ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ASML คือบริษัทผลิต เครื่อง EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) ที่เป็นหัวใจของการผลิตชิปสมัยใหม่ทุกวันนี้ ยิ่งเทคโนโลยีเล็กลง (เช่น 5nm, 3nm), ความละเอียดของเครื่องก็ยิ่งสำคัญ

    แต่ช่วงหลัง Intel กลับออกมาบอกว่า “เครื่อง High NA EUV รุ่นล่าสุดของ ASML อาจไม่จำเป็นเท่าที่คิดในเทคโนโลยีชิปยุคใหม่” เพราะแนวโน้มตอนนี้คือ “เปลี่ยนจากการลดขนาดทรานซิสเตอร์แนวนอน → ไปเพิ่มชั้นแนวตั้ง (3D stacking)” แทน → ทำให้ความคมชัดของเลนส์ไม่ใช่พระเอกอีกต่อไป

    BofA จึงลดความคาดหวังต่ออุปสงค์ของเครื่อง High NA EUV แม้จะยังแนะนำ “ซื้อ” หุ้น ASML อยู่ (เพราะยังเชื่อในกระแส AI) แต่ก็มองว่า:
    - ตลาด High NA ยังไม่เติบโตเท่าที่หวัง
    - Intel ยังมีปัญหาผลิต 18A
    - Samsung เองยังไม่สามารถส่งชิปหน่วยความจำให้ NVIDIA ผ่านได้
    - และยังมีความเสี่ยงการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ต่ออุปกรณ์ที่ส่งไปจีน

    BofA ลดเป้าราคาหุ้น ASML จาก €795 → €759  
    • ลดคาดการณ์ EPS ปี 2026–2027 ลง ~5%  
    • แต่ยังคงคำแนะนำ “Buy” อยู่

    เหตุผลที่ลดประมาณการคือการชะลอความต้องการเครื่อง High NA EUV ของ ASML  
    • โดยเฉพาะจาก Intel, Samsung  
    • และการปรับทิศทางดีไซน์ชิปไปสู่แนวตั้งแบบ 3D มากขึ้น

    BofA คาดว่า ASML จะขายเครื่อง High NA ได้แค่ 4 เครื่องในปี 2026  
    • ลดลง ~50% จากที่เคยคาดไว้

    แม้จะเผชิญแรงกดดัน แต่ BofA ยังเชื่อในการเติบโตระยะยาวจากกระแส AI  
    • คาดว่าตลาด AI chip จะโตแตะ $795B ภายในปี 2030  
    • ซึ่งยังต้องพึ่งพาเทคโนโลยีลิทโธกราฟีรุ่นล่าสุดอยู่

    อัตราส่วน EV/Operating Income ของ ASML ยังอยู่ที่ 19.6x  
    • ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 22x แต่ถือว่า “ยังน่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะยาว”

    https://wccftech.com/asmls-price-target-cut-by-bofa-due-to-lower-high-na-machine-demand/
    ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ASML คือบริษัทผลิต เครื่อง EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) ที่เป็นหัวใจของการผลิตชิปสมัยใหม่ทุกวันนี้ ยิ่งเทคโนโลยีเล็กลง (เช่น 5nm, 3nm), ความละเอียดของเครื่องก็ยิ่งสำคัญ แต่ช่วงหลัง Intel กลับออกมาบอกว่า “เครื่อง High NA EUV รุ่นล่าสุดของ ASML อาจไม่จำเป็นเท่าที่คิดในเทคโนโลยีชิปยุคใหม่” เพราะแนวโน้มตอนนี้คือ “เปลี่ยนจากการลดขนาดทรานซิสเตอร์แนวนอน → ไปเพิ่มชั้นแนวตั้ง (3D stacking)” แทน → ทำให้ความคมชัดของเลนส์ไม่ใช่พระเอกอีกต่อไป BofA จึงลดความคาดหวังต่ออุปสงค์ของเครื่อง High NA EUV แม้จะยังแนะนำ “ซื้อ” หุ้น ASML อยู่ (เพราะยังเชื่อในกระแส AI) แต่ก็มองว่า: - ตลาด High NA ยังไม่เติบโตเท่าที่หวัง - Intel ยังมีปัญหาผลิต 18A - Samsung เองยังไม่สามารถส่งชิปหน่วยความจำให้ NVIDIA ผ่านได้ - และยังมีความเสี่ยงการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ต่ออุปกรณ์ที่ส่งไปจีน ✅ BofA ลดเป้าราคาหุ้น ASML จาก €795 → €759   • ลดคาดการณ์ EPS ปี 2026–2027 ลง ~5%   • แต่ยังคงคำแนะนำ “Buy” อยู่ ✅ เหตุผลที่ลดประมาณการคือการชะลอความต้องการเครื่อง High NA EUV ของ ASML   • โดยเฉพาะจาก Intel, Samsung   • และการปรับทิศทางดีไซน์ชิปไปสู่แนวตั้งแบบ 3D มากขึ้น ✅ BofA คาดว่า ASML จะขายเครื่อง High NA ได้แค่ 4 เครื่องในปี 2026   • ลดลง ~50% จากที่เคยคาดไว้ ✅ แม้จะเผชิญแรงกดดัน แต่ BofA ยังเชื่อในการเติบโตระยะยาวจากกระแส AI   • คาดว่าตลาด AI chip จะโตแตะ $795B ภายในปี 2030   • ซึ่งยังต้องพึ่งพาเทคโนโลยีลิทโธกราฟีรุ่นล่าสุดอยู่ ✅ อัตราส่วน EV/Operating Income ของ ASML ยังอยู่ที่ 19.6x   • ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 22x แต่ถือว่า “ยังน่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะยาว” https://wccftech.com/asmls-price-target-cut-by-bofa-due-to-lower-high-na-machine-demand/
    WCCFTECH.COM
    ASML's Price Target Cut By BofA Due To Lower High NA Machine Demand
    Bank of America cuts ASML share price target on back of lower demand for high NA EUV scanners and Intel's production woes.
    0 Comments 0 Shares 202 Views 0 Reviews
  • ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ.

    ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล
    BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม!

    ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน

    แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต

    BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ!

    คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้

    NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ

    BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว!

    ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง

    “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์

    BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา!
    จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ

    ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป

    BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม!

    ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง

    ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น

    BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ!

    บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว!

    นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น

    BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย!

    นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์

    นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม

    BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก!

    ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา

    นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน

    BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม!

    NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา

    และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่

    BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้!

    ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง

    ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด

    บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก

    1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่

    2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์

    3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง

    4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น

    5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต

    6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ

    7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ

    8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต

    9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส

    11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน

    12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร

    13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ

    15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย

    17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง

    18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก

    19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ

    20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง

    21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป

    22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด

    24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น


    25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว
    26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม

    27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA

    28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง

    29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย
    30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม

    ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่

    31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง

    บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ. ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม! ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ! คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้ NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว! ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์ BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา! จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม! ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ! บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว! นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย! นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์ นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก! ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม! NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่ BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้! ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก 1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่ 2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์ 3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง 4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น 5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต 6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ 7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ 8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต 9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ 10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส 11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน 12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร 13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ 14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ 15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ 16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย 17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง 18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก 19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ 20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง 21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป 22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ 23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด 24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น 25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว 26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม 27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA 28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง 29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย 30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่ 31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    0 Comments 0 Shares 509 Views 0 Reviews
  • เซเลนสกีเริ่มขั้นตอนถอนตัวออกจากสนธิสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty) ปี 1997 ที่ห้ามมีการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยที่คำสั่งของเซเลนสกีปรากฏบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการแล้ว แม้ว่าจะมีผลบังคับใช้ทันที แต่การถอนตัวจะมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการภายในหกเดือนหลังจากที่สหประชาชาติได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการ


    สื่อยูเครนรายงานว่า การถอนตัวออกจากอนุสัญญานี้ได้มีการหารือกันแบบลับๆ ตั้งแต่ปี 2023 ร่วมกับพันธมิตร ซึ่งได้มีการอนุญาตให้ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนของตนเองได้ และในที่สุดเซเลนสกีต้องการมากกว่านั้น จึงได้มีการลงนามในกฎหมายเพื่อทำให้เป็นทางการต่อไป

    ความมุ่งหวังของเซเลนสกีคือ ต้องการให้ยูเครนสามารถกลับมาผลิตทุ่นระเบิดดังกล่าวในประเทศได้อีกครั้งเพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตทุ่นระเบิดดังกล่าว

    ขณะเซเลนสกี ให้ข้ออ้างต่อชาวยูเครนว่า รัสเซียก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอนุสัญญาฉบับดังกล่าวเช่นกัน

    .
    อนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty) ได้รับการรับรองในปี 1997 โดยมีจุดมุ่งหมายคือการรณรงค์ให้ทั่วโลกห้ามใช้ สะสม ผลิต และถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Landmines: APLs) ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ไอซีอาร์ซี (International Committee of the Red Cross – ICRC) 


    ทุ่นระเบิดดังกล่าวมักจะทำให้เหยื่อนผู้เคราะห์มีความพิการ หรือคร่าชีวิตได้ทันที นอกจากนี้ ทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ยังถือเป็นอันตรายระยะยาวต่อชีวิตพลเรือนอรีกด้วย

    มี 160 ประเทศ ที่เข้าร่วมภาคีของอนุสัญญาออตตาวา แต่ทั้งสหรัฐอเมริกาและรัสเซียไม่ได้เข้าร่วม ส่วนยูเครนให้สัตยาบันรับรองเมื่อปี 2005

    เซเลนสกีเริ่มขั้นตอนถอนตัวออกจากสนธิสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty) ปี 1997 ที่ห้ามมีการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยที่คำสั่งของเซเลนสกีปรากฏบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการแล้ว แม้ว่าจะมีผลบังคับใช้ทันที แต่การถอนตัวจะมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการภายในหกเดือนหลังจากที่สหประชาชาติได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการ สื่อยูเครนรายงานว่า การถอนตัวออกจากอนุสัญญานี้ได้มีการหารือกันแบบลับๆ ตั้งแต่ปี 2023 ร่วมกับพันธมิตร ซึ่งได้มีการอนุญาตให้ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนของตนเองได้ และในที่สุดเซเลนสกีต้องการมากกว่านั้น จึงได้มีการลงนามในกฎหมายเพื่อทำให้เป็นทางการต่อไป ความมุ่งหวังของเซเลนสกีคือ ต้องการให้ยูเครนสามารถกลับมาผลิตทุ่นระเบิดดังกล่าวในประเทศได้อีกครั้งเพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตทุ่นระเบิดดังกล่าว ขณะเซเลนสกี ให้ข้ออ้างต่อชาวยูเครนว่า รัสเซียก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของอนุสัญญาฉบับดังกล่าวเช่นกัน . 👉อนุสัญญาออตตาวา (Ottawa Treaty) ได้รับการรับรองในปี 1997 โดยมีจุดมุ่งหมายคือการรณรงค์ให้ทั่วโลกห้ามใช้ สะสม ผลิต และถ่ายโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Anti-Personnel Landmines: APLs) ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ หรือ ไอซีอาร์ซี (International Committee of the Red Cross – ICRC)  👉ทุ่นระเบิดดังกล่าวมักจะทำให้เหยื่อนผู้เคราะห์มีความพิการ หรือคร่าชีวิตได้ทันที นอกจากนี้ ทุ่นระเบิดที่ยังไม่ระเบิด ยังถือเป็นอันตรายระยะยาวต่อชีวิตพลเรือนอรีกด้วย 👉มี 160 ประเทศ ที่เข้าร่วมภาคีของอนุสัญญาออตตาวา แต่ทั้งสหรัฐอเมริกาและรัสเซียไม่ได้เข้าร่วม ส่วนยูเครนให้สัตยาบันรับรองเมื่อปี 2005
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 291 Views 0 Reviews
  • ปัญหาเขตแดนมีครบแล้ว ใต้ พม่า เขมร
    (ดีไม่ดี ลาว เพราะมีเส้นแบ่งเขตด้วยแม่น้ำโขง)
    ทำให้รู้ว่า ถ้าอยู่ในแผ่นดินเดียวกันในคาบสมุทรเดียวกัน
    ย่อมเกิดปัญหาในอนาคต อยู่แล้ว
    "สรุป คือ ปัญหาระยะยาวแน่นอน"
    ปัญหาเขตแดนมีครบแล้ว ใต้ พม่า เขมร (ดีไม่ดี ลาว เพราะมีเส้นแบ่งเขตด้วยแม่น้ำโขง) ทำให้รู้ว่า ถ้าอยู่ในแผ่นดินเดียวกันในคาบสมุทรเดียวกัน ย่อมเกิดปัญหาในอนาคต อยู่แล้ว "สรุป คือ ปัญหาระยะยาวแน่นอน"
    0 Comments 0 Shares 89 Views 0 Reviews
  • เปิดตัวผู้ช่วยคนใหม่ในครัวของคุณ! เครื่องบดเนื้อสเตนเลส #32 ที่สุดของความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพ!
    เบื่อไหมกับการบดเนื้อที่เสียเวลา และได้ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ? เราขอแนะนำ เครื่องบดเนื้อสเตนเลส #32 จากร้าน ย่งฮะเฮง ที่จะปฏิวัติการเตรียมวัตถุดิบของคุณให้ง่าย สะดวก และได้มาตรฐานยิ่งขึ้น!

    บดละเอียดได้ตามใจคุณ!
    ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อวัว หรือแม้แต่กระดูกอ่อน เครื่องนี้ก็สามารถบดได้อย่างละเอียดสม่ำเสมอถึง 16 มิลลิเมตร ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ตั้งแต่การเตรียมไส้กรอก หมูยอ ไปจนถึงเมนูอื่นๆ ที่ต้องการ #เนื้อบด คุณภาพสูง!

    เร็ว แรง ทันใจ ด้วยประสิทธิภาพระดับมืออาชีพ!
    มาพร้อมมอเตอร์ทรงพลัง 3 แรงม้า และกำลังการผลิตที่น่าทึ่งถึง 200-400 กิโลกรัมต่อชั่วโมง! ไม่ว่าคุณจะมีปริมาณงานมากแค่ไหน เครื่องนี้ก็พร้อมลุยได้อย่างต่อเนื่อง หมดกังวลเรื่องงานสะดุด!

    โครงสร้าง #สเตนเลส แท้ 100% ทนทาน ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย!
    ผลิตจากสเตนเลสสตีล #คุณภาพดี ไม่เป็นสนิม ทำความสะอาดง่าย มั่นใจได้ในความสะอาดและปลอดภัยในการใช้งานในระยะยาว แข็งแรงทนทาน ออกแบบมาเพื่อการใช้งานหนักในเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ!

    รายละเอียดทางเทคนิคที่คุณควรรู้:
    มอเตอร์: 3 แรงม้า (HP)
    กำลังไฟฟ้า: 220 โวลต์ (Volt) - ใช้ไฟบ้านทั่วไปได้
    กำลังการผลิต: 200-400 กก./ชม. (kg/hr)
    ขนาดเครื่อง (กว้างxลึกxสูง): 815 x 360 x 815 มม. (mm)
    น้ำหนักเครื่อง: 68 กก. (kg)

    เหมาะสำหรับ:
    #ร้านอาหาร
    #โรงงานอาหาร (ขนาดเล็ก-กลาง)
    ร้านขายเนื้อ
    ผู้ประกอบการที่ต้องการผลิต #เนื้อบด จำนวนมาก
    และทุกคนที่ต้องการ #คุณภาพดี และความเร็วในการบดเนื้อ!

    อย่ารอช้า! ยกระดับ #ธุรกิจอาหาร ของคุณวันนี้!
    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อ #เครื่องบดเนื้อ คุณภาพสูงได้เลยที่:
    โทร: 02-215-3515-9
    สายด่วน: 081-318-9098
    LINE ID: @yonghahheng
    Facebook: yonghahheng
    TikTok: @yonghahheng
    Instagram: yonghahheng
    เว็บไซต์: www.yonghahheng.com

    #เครื่องบดหมู #อุปกรณ์ครัว #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #อาหารแปรรูป #ทำอาหาร #วัตถุดิบ #เครื่องมือครัว #พ่อครัวแม่ครัว #สินค้าขายดี #ของดีบอกต่อ #เมนูอาหาร #ครัวเรือน #Yonghahheng
    💥 เปิดตัวผู้ช่วยคนใหม่ในครัวของคุณ! เครื่องบดเนื้อสเตนเลส #32 ที่สุดของความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพ! 🚀 เบื่อไหมกับการบดเนื้อที่เสียเวลา ⏰ และได้ผลลัพธ์ไม่สม่ำเสมอ? เราขอแนะนำ เครื่องบดเนื้อสเตนเลส #32 จากร้าน ย่งฮะเฮง ที่จะปฏิวัติการเตรียมวัตถุดิบของคุณให้ง่าย สะดวก และได้มาตรฐานยิ่งขึ้น! ✨ 🥩 บดละเอียดได้ตามใจคุณ! ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู 🐷 เนื้อวัว 🐄 หรือแม้แต่กระดูกอ่อน 🦴 เครื่องนี้ก็สามารถบดได้อย่างละเอียดสม่ำเสมอถึง 16 มิลลิเมตร ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ตั้งแต่การเตรียมไส้กรอก 🌭 หมูยอ ไปจนถึงเมนูอื่นๆ ที่ต้องการ #เนื้อบด คุณภาพสูง! 🚀 เร็ว แรง ทันใจ ด้วยประสิทธิภาพระดับมืออาชีพ! มาพร้อมมอเตอร์ทรงพลัง 3 แรงม้า 💪 และกำลังการผลิตที่น่าทึ่งถึง 200-400 กิโลกรัมต่อชั่วโมง! ⏱️ ไม่ว่าคุณจะมีปริมาณงานมากแค่ไหน เครื่องนี้ก็พร้อมลุยได้อย่างต่อเนื่อง หมดกังวลเรื่องงานสะดุด! 💯 ⚙️ โครงสร้าง #สเตนเลส แท้ 100% ทนทาน ปลอดภัย ถูกสุขอนามัย! ผลิตจากสเตนเลสสตีล #คุณภาพดี ไม่เป็นสนิม ✨ ทำความสะอาดง่าย มั่นใจได้ในความสะอาดและปลอดภัยในการใช้งานในระยะยาว 🧼 แข็งแรงทนทาน ออกแบบมาเพื่อการใช้งานหนักในเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะ! รายละเอียดทางเทคนิคที่คุณควรรู้: 📌มอเตอร์: 3 แรงม้า (HP) 📌กำลังไฟฟ้า: 220 โวลต์ (Volt) - ใช้ไฟบ้านทั่วไปได้ 🔌 📌กำลังการผลิต: 200-400 กก./ชม. (kg/hr) 📌ขนาดเครื่อง (กว้างxลึกxสูง): 815 x 360 x 815 มม. (mm) 📌น้ำหนักเครื่อง: 68 กก. (kg) 🏋️‍♂️ เหมาะสำหรับ: #ร้านอาหาร 🍽️ #โรงงานอาหาร (ขนาดเล็ก-กลาง) 🏭 ร้านขายเนื้อ 🛍️ ผู้ประกอบการที่ต้องการผลิต #เนื้อบด จำนวนมาก 📈 และทุกคนที่ต้องการ #คุณภาพดี และความเร็วในการบดเนื้อ! 👨‍🍳👩‍🍳 📞 อย่ารอช้า! ยกระดับ #ธุรกิจอาหาร ของคุณวันนี้! สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อ #เครื่องบดเนื้อ คุณภาพสูงได้เลยที่: โทร: 02-215-3515-9 ☎️ สายด่วน: 081-318-9098 📱 LINE ID: @yonghahheng Facebook: yonghahheng 👍 TikTok: @yonghahheng 🎵 Instagram: yonghahheng 📸 เว็บไซต์: www.yonghahheng.com 🌐 #เครื่องบดหมู #อุปกรณ์ครัว #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #อาหารแปรรูป #ทำอาหาร #วัตถุดิบ #เครื่องมือครัว #พ่อครัวแม่ครัว #สินค้าขายดี #ของดีบอกต่อ #เมนูอาหาร #ครัวเรือน #Yonghahheng
    0 Comments 0 Shares 346 Views 39 0 Reviews
  • ก่อนหน้านี้เรามักเห็นจีนใช้ชิป Intel หรือ AMD เป็นหลักในดาต้าเซ็นเตอร์ หรือหน่วยงานวิจัย แต่ รัฐบาลจีนก็กระตุ้นอย่างหนักให้พัฒนา “ชิปพื้นบ้าน (homegrown)” ขึ้นมาใช้เองในระยะยาว โดย Loongson คือหนึ่งในบริษัทที่ถือธงนำทัพด้านนี้

    ล่าสุดพวกเขาเปิดตัว Loongson 3E6000 ซึ่งใช้สถาปัตยกรรม LoongArch 6000 พร้อมแกนประมวลผล LA664 รวมทั้งหมด 64 คอร์ 128 เธรด, ความเร็วสูงสุด 2.2 GHz, แคช 32MB และรองรับ DDR4-3200 แบบ quad-channel

    จุดน่าสนใจคือ ตัวชิปนี้ใช้เทคนิค “quad-chiplet” คือรวม 4 ชิปย่อยเชื่อมกันด้วยเทคโนโลยีที่ชื่อ LoongLink (คล้ายกับ Infinity Fabric หรือ NVLink) — ทำให้สร้างชิป 64 คอร์ได้แม้กระบวนการผลิตของจีนจะยังตามหลังตะวันตก

    แม้ยังมีจุดอ่อนด้าน floating-point แต่ผลการทดสอบใน Spec CPU 2017 ระบุว่า Loongson 3E6000 ทำคะแนน integer ได้สูงกว่า Xeon 8380 ถึง 35% (แต่แพ้ในด้าน floating-point อยู่ 14%)

    และที่สำคัญ…Loongson ยังพัฒนาแผนถัดไปไว้แล้ว เช่นรุ่น 3B6600 (8 คอร์, 3GHz) และ 3B7000 (แรงกว่านี้อีก) ที่ใช้คอร์รุ่นใหม่ LA864 ซึ่งหวังว่าจะชน Intel Raptor Lake หรือ AMD Zen 4 ได้เลยครับ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/new-homegrown-china-server-chips-unveiled-with-impressive-specs-loongsons-3c6000-cpu-comes-armed-with-64-cores-128-threads-and-performance-to-rival-xeon-8380
    ก่อนหน้านี้เรามักเห็นจีนใช้ชิป Intel หรือ AMD เป็นหลักในดาต้าเซ็นเตอร์ หรือหน่วยงานวิจัย แต่ รัฐบาลจีนก็กระตุ้นอย่างหนักให้พัฒนา “ชิปพื้นบ้าน (homegrown)” ขึ้นมาใช้เองในระยะยาว โดย Loongson คือหนึ่งในบริษัทที่ถือธงนำทัพด้านนี้ ล่าสุดพวกเขาเปิดตัว Loongson 3E6000 ซึ่งใช้สถาปัตยกรรม LoongArch 6000 พร้อมแกนประมวลผล LA664 รวมทั้งหมด 64 คอร์ 128 เธรด, ความเร็วสูงสุด 2.2 GHz, แคช 32MB และรองรับ DDR4-3200 แบบ quad-channel จุดน่าสนใจคือ ตัวชิปนี้ใช้เทคนิค “quad-chiplet” คือรวม 4 ชิปย่อยเชื่อมกันด้วยเทคโนโลยีที่ชื่อ LoongLink (คล้ายกับ Infinity Fabric หรือ NVLink) — ทำให้สร้างชิป 64 คอร์ได้แม้กระบวนการผลิตของจีนจะยังตามหลังตะวันตก แม้ยังมีจุดอ่อนด้าน floating-point แต่ผลการทดสอบใน Spec CPU 2017 ระบุว่า Loongson 3E6000 ทำคะแนน integer ได้สูงกว่า Xeon 8380 ถึง 35% (แต่แพ้ในด้าน floating-point อยู่ 14%) และที่สำคัญ…Loongson ยังพัฒนาแผนถัดไปไว้แล้ว เช่นรุ่น 3B6600 (8 คอร์, 3GHz) และ 3B7000 (แรงกว่านี้อีก) ที่ใช้คอร์รุ่นใหม่ LA864 ซึ่งหวังว่าจะชน Intel Raptor Lake หรือ AMD Zen 4 ได้เลยครับ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/new-homegrown-china-server-chips-unveiled-with-impressive-specs-loongsons-3c6000-cpu-comes-armed-with-64-cores-128-threads-and-performance-to-rival-xeon-8380
    0 Comments 0 Shares 220 Views 0 Reviews
  • ไม่ใช่ข่าวใหม่ว่าหลายคนกลัวว่า AI จะมาชิงงานเราไป — แต่สิ่งที่ ManpowerGroup ซึ่งเป็นบริษัทจัดหางานระดับโลกพบ คือ "แทนที่บริษัทจะเลิกจ้าง" จริง ๆ แล้วกลับเริ่ม มองหาพนักงานที่มีทักษะแบบใหม่ เพื่อ “ทำงานกับ AI” มากกว่าจะ “แข่งขันกับมัน”

    จากการสำรวจนายจ้างกว่า 40,000 รายใน 42 ประเทศ พวกเขาพบว่า:
    - งานที่เน้น การตัดสินใจทางจริยธรรม, การจัดการทีม, การคิดเชิงกลยุทธ์ และการบริการลูกค้า ยัง “ยากมาก” ที่ AI จะทำแทนได้
    - แต่ งานระดับเริ่มต้นในสายออฟฟิศ (เช่น งานเอกสาร, เขียนรายงาน, งานตรวจสอบข้อมูล) กำลังถูก AI แย่งพื้นที่ไปอย่างรวดเร็ว

    นอกจากนี้ เทรนด์ใหม่ที่น่าสนใจคือ: AI ไม่ได้ใช้แค่ “ฝ่ายนายจ้าง” เท่านั้น — ผู้สมัครงานเองก็ใช้ AI ด้วย!
    - เขียนเรซูเม่ 500 ใบในวันเดียว
    - ใช้บอตตอบสัมภาษณ์เบื้องต้น
    - หรือใช้ AI ผ่านการทดสอบแบบเลือกตอบ (แม้มีแค่ 17% ที่ยอมรับว่าเคยโกงก็ตาม)

    พอทั้งสองฝั่งใช้ AI คู่กัน แปลว่า “ปริมาณ–ความเร็ว–ความเนียน” ไม่ใช่ข้อได้เปรียบอีกต่อไป สิ่งที่องค์กรต้องหาคือ “คนที่ยังเป็นมนุษย์และเป็นทีมที่ดีได้” นั่นเอง

    1 ใน 4 คนทั่วโลกทำงานที่ “มีแนวโน้มถูกแทนบางส่วน” โดย Generative AI  
    • อ้างอิงรายงานของ ILO (องค์การแรงงานระหว่างประเทศ)

    แต่ “งานที่เสี่ยงถูกแทนทั้งหมด” ยังมีสัดส่วนไม่มากนักในตอนนี้

    ทักษะที่ AI ยังแทนไม่ได้และนายจ้างให้ความสำคัญสูงสุด ได้แก่  
    • การคิดเชิงจริยธรรม  
    • การจัดการทีม  
    • การบริการลูกค้า  
    • การวางกลยุทธ์

    การใช้ AI ช่วยลดเวลาในการทำงานของสายออฟฟิศได้ 30–50%  
    • แต่จะคุ้มจริงก็ต่อเมื่อเวลาเหล่านั้นถูกใช้เพื่อทำสิ่งที่ AI ทำไม่ได้ เช่น คิดสร้างสรรค์ หรือวางแผนระยะยาว

    ManpowerGroup พบว่าเทรนด์การ “จ้างงานตามศักยภาพ” แทน “ทักษะที่มีปัจจุบัน” เริ่มเด่นชัดขึ้น  
    • เช่น คนที่เรียนรู้ง่าย, สื่อสารเก่ง, และเข้ากับทีมได้ดี

    การใช้ AI ในการสรรหาพนักงานเริ่มแพร่หลาย เช่น  
    • ใช้สร้างคำอธิบายงาน  
    • คัดกรองใบสมัครเบื้องต้น  
    • แต่ยังไม่ใช้สัมภาษณ์แทนมนุษย์เต็มรูปแบบ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/27/ai039s-arrival-at-work-reshaping-employers039-hunt-for-talent
    ไม่ใช่ข่าวใหม่ว่าหลายคนกลัวว่า AI จะมาชิงงานเราไป — แต่สิ่งที่ ManpowerGroup ซึ่งเป็นบริษัทจัดหางานระดับโลกพบ คือ "แทนที่บริษัทจะเลิกจ้าง" จริง ๆ แล้วกลับเริ่ม มองหาพนักงานที่มีทักษะแบบใหม่ เพื่อ “ทำงานกับ AI” มากกว่าจะ “แข่งขันกับมัน” จากการสำรวจนายจ้างกว่า 40,000 รายใน 42 ประเทศ พวกเขาพบว่า: - งานที่เน้น การตัดสินใจทางจริยธรรม, การจัดการทีม, การคิดเชิงกลยุทธ์ และการบริการลูกค้า ยัง “ยากมาก” ที่ AI จะทำแทนได้ - แต่ งานระดับเริ่มต้นในสายออฟฟิศ (เช่น งานเอกสาร, เขียนรายงาน, งานตรวจสอบข้อมูล) กำลังถูก AI แย่งพื้นที่ไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ เทรนด์ใหม่ที่น่าสนใจคือ: AI ไม่ได้ใช้แค่ “ฝ่ายนายจ้าง” เท่านั้น — ผู้สมัครงานเองก็ใช้ AI ด้วย! - เขียนเรซูเม่ 500 ใบในวันเดียว - ใช้บอตตอบสัมภาษณ์เบื้องต้น - หรือใช้ AI ผ่านการทดสอบแบบเลือกตอบ (แม้มีแค่ 17% ที่ยอมรับว่าเคยโกงก็ตาม) พอทั้งสองฝั่งใช้ AI คู่กัน แปลว่า “ปริมาณ–ความเร็ว–ความเนียน” ไม่ใช่ข้อได้เปรียบอีกต่อไป สิ่งที่องค์กรต้องหาคือ “คนที่ยังเป็นมนุษย์และเป็นทีมที่ดีได้” นั่นเอง ✅ 1 ใน 4 คนทั่วโลกทำงานที่ “มีแนวโน้มถูกแทนบางส่วน” โดย Generative AI   • อ้างอิงรายงานของ ILO (องค์การแรงงานระหว่างประเทศ) ✅ แต่ “งานที่เสี่ยงถูกแทนทั้งหมด” ยังมีสัดส่วนไม่มากนักในตอนนี้ ✅ ทักษะที่ AI ยังแทนไม่ได้และนายจ้างให้ความสำคัญสูงสุด ได้แก่   • การคิดเชิงจริยธรรม   • การจัดการทีม   • การบริการลูกค้า   • การวางกลยุทธ์ ✅ การใช้ AI ช่วยลดเวลาในการทำงานของสายออฟฟิศได้ 30–50%   • แต่จะคุ้มจริงก็ต่อเมื่อเวลาเหล่านั้นถูกใช้เพื่อทำสิ่งที่ AI ทำไม่ได้ เช่น คิดสร้างสรรค์ หรือวางแผนระยะยาว ✅ ManpowerGroup พบว่าเทรนด์การ “จ้างงานตามศักยภาพ” แทน “ทักษะที่มีปัจจุบัน” เริ่มเด่นชัดขึ้น   • เช่น คนที่เรียนรู้ง่าย, สื่อสารเก่ง, และเข้ากับทีมได้ดี ✅ การใช้ AI ในการสรรหาพนักงานเริ่มแพร่หลาย เช่น   • ใช้สร้างคำอธิบายงาน   • คัดกรองใบสมัครเบื้องต้น   • แต่ยังไม่ใช้สัมภาษณ์แทนมนุษย์เต็มรูปแบบ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/27/ai039s-arrival-at-work-reshaping-employers039-hunt-for-talent
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI's arrival at work reshaping employers' hunt for talent
    Predictions of imminent AI-driven mass unemployment are likely overblown, but employers will seek workers with different skills as the technology matures, a top executive at global recruiter ManpowerGroup told AFP at Paris's Vivatech trade fair.
    0 Comments 0 Shares 202 Views 0 Reviews
  • ย้อนกลับไปปีที่แล้ว CoreWeave เคยเสนอยื่นซื้อกิจการ Core Scientific มาแล้วครั้งหนึ่งด้วยเงิน $1.02 พันล้าน แต่ถูกปฏิเสธเพราะทาง CoreSci มองว่ามูลค่าดังกล่าวยังต่ำกว่าความเป็นจริง

    เวลาผ่านไป…ดูเหมือนสถานการณ์เปลี่ยนครับ เพราะวันนี้ WSJ รายงานว่า ทั้งสองบริษัท “กลับมาเจรจากันใหม่” และอาจปิดดีลได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

    อะไรคือเหตุผลเบื้องหลัง? เพราะตอนนี้บริษัท AI อย่าง CoreWeave ต้องการ “แหล่งพลังงานราคาถูกและพร้อมใช้งานได้ทันที” — ซึ่งตรงกับสิ่งที่ CoreSci มีอยู่ เพราะศูนย์เหมืองคริปโตต้องใช้ไฟมหาศาลระดับหลายร้อยเมกะวัตต์อยู่แล้ว และมีสัญญาโรงไฟฟ้าระยะยาวพร้อมใช้งาน

    นอกจากนี้ ทั้งคู่เพิ่งเซ็นสัญญาร่วมกันไปเมื่อกลางปี 2024 โดย CoreSci จะจัดหาโครงสร้างพื้นฐาน 200 เมกะวัตต์ให้ CoreWeave ใช้กับการประมวลผล AI

    CoreWeave กำลังเจรจาซื้อกิจการ Core Scientific อีกครั้ง หลังเคยถูกปฏิเสธเมื่อปีที่แล้ว  
    • รอบก่อนเสนอซื้อที่ $1.02 พันล้าน หรือ $5.75/หุ้น แต่โดนปัดตกว่า “ราคาต่ำเกินไป”

    ดีลใหม่นี้มีมูลค่ายังไม่เปิดเผย และยังอยู่ระหว่างเจรจา  
    • หากสำเร็จ อาจเสร็จสิ้นภายในไม่กี่สัปดาห์

    Core Scientific ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดราว $4 พันล้าน  
    • ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 8% หลังมีข่าวเจรจา

    ทั้งสองบริษัทมีสัญญาระยะยาวร่วมกันอยู่แล้ว  
    • CoreSci ให้พลังงาน 200MW สำหรับศูนย์ AI ของ CoreWeave  
    • เป็นระบบพลังงานระดับ “High-performance computing infrastructure”

    เทรนด์ในอุตสาหกรรมตอนนี้: บริษัท AI ซื้อหรือร่วมมือกับผู้ขุดเหมืองคริปโตเพื่อแย่งพลังงานราคาถูก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/27/coreweave-in-talks-to-buy-core-scientific-wsj-reports
    ย้อนกลับไปปีที่แล้ว CoreWeave เคยเสนอยื่นซื้อกิจการ Core Scientific มาแล้วครั้งหนึ่งด้วยเงิน $1.02 พันล้าน แต่ถูกปฏิเสธเพราะทาง CoreSci มองว่ามูลค่าดังกล่าวยังต่ำกว่าความเป็นจริง เวลาผ่านไป…ดูเหมือนสถานการณ์เปลี่ยนครับ เพราะวันนี้ WSJ รายงานว่า ทั้งสองบริษัท “กลับมาเจรจากันใหม่” และอาจปิดดีลได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า อะไรคือเหตุผลเบื้องหลัง? เพราะตอนนี้บริษัท AI อย่าง CoreWeave ต้องการ “แหล่งพลังงานราคาถูกและพร้อมใช้งานได้ทันที” — ซึ่งตรงกับสิ่งที่ CoreSci มีอยู่ เพราะศูนย์เหมืองคริปโตต้องใช้ไฟมหาศาลระดับหลายร้อยเมกะวัตต์อยู่แล้ว และมีสัญญาโรงไฟฟ้าระยะยาวพร้อมใช้งาน นอกจากนี้ ทั้งคู่เพิ่งเซ็นสัญญาร่วมกันไปเมื่อกลางปี 2024 โดย CoreSci จะจัดหาโครงสร้างพื้นฐาน 200 เมกะวัตต์ให้ CoreWeave ใช้กับการประมวลผล AI ✅ CoreWeave กำลังเจรจาซื้อกิจการ Core Scientific อีกครั้ง หลังเคยถูกปฏิเสธเมื่อปีที่แล้ว   • รอบก่อนเสนอซื้อที่ $1.02 พันล้าน หรือ $5.75/หุ้น แต่โดนปัดตกว่า “ราคาต่ำเกินไป” ✅ ดีลใหม่นี้มีมูลค่ายังไม่เปิดเผย และยังอยู่ระหว่างเจรจา   • หากสำเร็จ อาจเสร็จสิ้นภายในไม่กี่สัปดาห์ ✅ Core Scientific ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดราว $4 พันล้าน   • ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นกว่า 8% หลังมีข่าวเจรจา ✅ ทั้งสองบริษัทมีสัญญาระยะยาวร่วมกันอยู่แล้ว   • CoreSci ให้พลังงาน 200MW สำหรับศูนย์ AI ของ CoreWeave   • เป็นระบบพลังงานระดับ “High-performance computing infrastructure” ✅ เทรนด์ในอุตสาหกรรมตอนนี้: บริษัท AI ซื้อหรือร่วมมือกับผู้ขุดเหมืองคริปโตเพื่อแย่งพลังงานราคาถูก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/27/coreweave-in-talks-to-buy-core-scientific-wsj-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    CoreWeave in talks to buy Core Scientific, WSJ reports
    (Reuters) -CoreWeave is in talks to buy Core Scientific, after the bitcoin miner rejected an earlier deal from the cloud provider last year, the Wall Street Journal reported on Thursday, citing people familiar with the matter.
    0 Comments 0 Shares 122 Views 0 Reviews
  • หลายคนอาจคิดว่าชิป AI หรือคลาวด์คือปัญหาใหญ่ของยุคนี้ — แต่จริง ๆ แล้วศูนย์ข้อมูล AI ทั้งหลายมีอีกสิ่งที่ “กินไม่อั้น” ยิ่งกว่า…นั่นคือ “ไฟฟ้า”

    Meta หนึ่งในบริษัทที่ลงทุนใน AI หนักมาก (ตั้งเป้าใช้ $65 พันล้านในด้านนี้) เริ่มเผชิญ “คอขวดด้านพลังงาน” อย่างหนัก เลยต้องเดินเกมสองด้าน:

    1️⃣ หันไปซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาด จากบริษัท Invenergy ทั้งแสงอาทิตย์และลม รวมกัน 1,800 เมกะวัตต์ (MW)

    2️⃣ ขุดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เก่าในรัฐอิลลินอยส์กลับมาใช้งานอีกครั้ง เป็นเวลานาน 20 ปี!

    3️⃣ ยังไม่พอ Meta ยังประกาศหา “พันธมิตรด้านพลังงานนิวเคลียร์ใหม่” ในสหรัฐอีกด้วย เพราะวางแผนจะสร้างไฟนิวเคลียร์ใหม่ให้ได้ 1–4 กิกะวัตต์ (GW) ภายในต้นทศวรรษ 2030

    แม้พลังงานหมุนเวียนจะสะอาดและดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่ก็ไม่สามารถให้พลังงานได้ “แน่นอนทุกวินาที” เหมือนนิวเคลียร์ ทำให้ในระยะยาว Meta และบริษัทเทคอื่น ๆ ต้องพึ่งไฟแบบ “เสถียรคงที่” มากขึ้น

    Meta เซ็นสัญญากับ Invenergy เพื่อซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่ม 791 MW  
    • ครอบคลุมพลังงานแสงอาทิตย์และลม  
    • เพิ่มจากข้อตกลงเดิมปีที่แล้วอีก 760 MW → รวมกลายเป็น 1,800 MW

    พลังงานหมุนเวียนมาจากโครงการในรัฐ Ohio, Arkansas, Texas  
    • ใช้ป้อนศูนย์ข้อมูลของ Meta ในพื้นที่นั้น ๆ

    Meta ประกาศแผนหาโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์เพิ่มอีก 1–4 GW ภายในต้นปี 2030  
    • เปิด RFP หาผู้พัฒนาใหม่จากสหรัฐฯ ตั้งแต่ปีที่แล้ว

    ร่วมกับบริษัท Constellation เพื่อฟื้นฟูโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในรัฐ Illinois  
    • โรงงานนี้หยุดทำงานไปตั้งแต่ปี 2017 จากปัญหาขาดทุน  
    • Meta จะใช้พลังงานจากโรงงานนี้อีกอย่างน้อย 20 ปี

    ความต้องการไฟฟ้าจาก AI Data Center กลายเป็นแรงผลักดันให้ Big Tech หันมาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานพลังงานโดยตรง

    https://www.neowin.net/news/meta-is-now-using-every-possible-source-to-power-its-data-centers/
    หลายคนอาจคิดว่าชิป AI หรือคลาวด์คือปัญหาใหญ่ของยุคนี้ — แต่จริง ๆ แล้วศูนย์ข้อมูล AI ทั้งหลายมีอีกสิ่งที่ “กินไม่อั้น” ยิ่งกว่า…นั่นคือ “ไฟฟ้า” Meta หนึ่งในบริษัทที่ลงทุนใน AI หนักมาก (ตั้งเป้าใช้ $65 พันล้านในด้านนี้) เริ่มเผชิญ “คอขวดด้านพลังงาน” อย่างหนัก เลยต้องเดินเกมสองด้าน: 1️⃣ หันไปซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาด จากบริษัท Invenergy ทั้งแสงอาทิตย์และลม รวมกัน 1,800 เมกะวัตต์ (MW) 2️⃣ ขุดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เก่าในรัฐอิลลินอยส์กลับมาใช้งานอีกครั้ง เป็นเวลานาน 20 ปี! 3️⃣ ยังไม่พอ Meta ยังประกาศหา “พันธมิตรด้านพลังงานนิวเคลียร์ใหม่” ในสหรัฐอีกด้วย เพราะวางแผนจะสร้างไฟนิวเคลียร์ใหม่ให้ได้ 1–4 กิกะวัตต์ (GW) ภายในต้นทศวรรษ 2030 แม้พลังงานหมุนเวียนจะสะอาดและดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่ก็ไม่สามารถให้พลังงานได้ “แน่นอนทุกวินาที” เหมือนนิวเคลียร์ ทำให้ในระยะยาว Meta และบริษัทเทคอื่น ๆ ต้องพึ่งไฟแบบ “เสถียรคงที่” มากขึ้น ✅ Meta เซ็นสัญญากับ Invenergy เพื่อซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพิ่ม 791 MW   • ครอบคลุมพลังงานแสงอาทิตย์และลม   • เพิ่มจากข้อตกลงเดิมปีที่แล้วอีก 760 MW → รวมกลายเป็น 1,800 MW ✅ พลังงานหมุนเวียนมาจากโครงการในรัฐ Ohio, Arkansas, Texas   • ใช้ป้อนศูนย์ข้อมูลของ Meta ในพื้นที่นั้น ๆ ✅ Meta ประกาศแผนหาโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์เพิ่มอีก 1–4 GW ภายในต้นปี 2030   • เปิด RFP หาผู้พัฒนาใหม่จากสหรัฐฯ ตั้งแต่ปีที่แล้ว ✅ ร่วมกับบริษัท Constellation เพื่อฟื้นฟูโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในรัฐ Illinois   • โรงงานนี้หยุดทำงานไปตั้งแต่ปี 2017 จากปัญหาขาดทุน   • Meta จะใช้พลังงานจากโรงงานนี้อีกอย่างน้อย 20 ปี ✅ ความต้องการไฟฟ้าจาก AI Data Center กลายเป็นแรงผลักดันให้ Big Tech หันมาลงทุนโครงสร้างพื้นฐานพลังงานโดยตรง https://www.neowin.net/news/meta-is-now-using-every-possible-source-to-power-its-data-centers/
    WWW.NEOWIN.NET
    Meta is now using every possible source to power its data centers
    After investing in nuclear power plants, Meta is now turning to renewable energy to power its data centers.
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า AI จะทำลายหรือต่อยอด “งาน” อย่างไรในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อมองจากข้อมูลเชิงวิชาการที่ยังมีข้อจำกัดด้านพื้นที่, ช่วงเวลา, และประเภท AI ที่ศึกษา

    ช่วงนี้คนทั่วโลกเริ่มกังวลว่า “AI จะมาแย่งงานไหม?” โดยเฉพาะเมื่อเราเห็นบริษัทยักษ์ใหญ่หันมาใช้ chatbot และหุ่นยนต์แบบจริงจัง — แต่ทีมนักวิจัยจากเยอรมนี อิตาลี และสหรัฐฯ กลับบอกว่า ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า AI ทำให้คนตกงานหรือเครียดหนักขึ้นจริงในภาพรวม

    ทีมนี้ใช้ข้อมูลจากเยอรมนี (2000–2020) ก่อนยุค generative AI อย่าง ChatGPT และพบว่า AI อาจช่วยลดความเสี่ยงทางกายภาพของงานบางประเภท และเพิ่มความพึงพอใจในงานเล็กน้อย โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานที่ไม่มีปริญญา

    แต่พวกเขาก็เตือนว่าอย่าด่วนสรุป — เพราะ
    1) การใช้ AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
    2) กฎหมายแรงงานในเยอรมนีค่อนข้างแข็งแรงกว่าประเทศอื่น และ
    3) งานวิจัยยังไม่ครอบคลุม AI สมัยใหม่แบบ LLM

    นักวิจัยยังเน้นด้วยว่า “สถาบันและนโยบายภาครัฐ” จะเป็นตัวกำหนดว่า AI จะทำให้งานดีขึ้นหรือแย่ลง ไม่ใช่ตัวเทคโนโลยีเองล้วน ๆ

    งานวิจัยจากนักวิจัยในเยอรมนี–อิตาลี–สหรัฐฯ ชี้ว่า AI ยังไม่ส่งผลลบต่อสุขภาพจิตและความพึงพอใจในการทำงาน  
    • โดยเฉพาะในประเทศที่มีแรงงานคุ้มครองสูง เช่น เยอรมนี

    พบว่า AI อาจมีส่วนช่วยลด “ความเสี่ยงทางร่างกาย” และภาระทางกายในบางอาชีพได้เล็กน้อย  
    • เช่น งานที่เคยหนัก อาจถูกแทนบางส่วนด้วยระบบอัตโนมัติ

    คนไม่มีปริญญาอาจได้ประโยชน์ทางสุขภาพมากกว่า  
    • จากการที่งานเน้นแรงกายน้อยลง

    ข้อมูลวิจัยใช้แบบ Longitudinal ครอบคลุมปี 2000–2020  
    • ก่อนเกิดเทคโนโลยี Generative AI แบบ ChatGPT (ปลายปี 2022)

    นักวิจัยเน้นว่า “นโยบายและสถาบันแรงงาน” มีผลสำคัญต่อผลกระทบของ AI ต่อแรงงาน  
    • ไม่ใช่ตัว AI อย่างเดียวที่กำหนดชะตากรรม

    Gallup ระบุว่าในสหรัฐฯ อัตราใช้ AI ที่ทำงานเพิ่มขึ้น 2 เท่าใน 2 ปีที่ผ่านมา  
    • มากสุดในสายงาน white-collar อย่างเทคโนโลยีและการเงิน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/25/it039s-still-039too-soon039-to-say-how-ai-will-affect-jobs-researchers-say
    ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า AI จะทำลายหรือต่อยอด “งาน” อย่างไรในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อมองจากข้อมูลเชิงวิชาการที่ยังมีข้อจำกัดด้านพื้นที่, ช่วงเวลา, และประเภท AI ที่ศึกษา ช่วงนี้คนทั่วโลกเริ่มกังวลว่า “AI จะมาแย่งงานไหม?” โดยเฉพาะเมื่อเราเห็นบริษัทยักษ์ใหญ่หันมาใช้ chatbot และหุ่นยนต์แบบจริงจัง — แต่ทีมนักวิจัยจากเยอรมนี อิตาลี และสหรัฐฯ กลับบอกว่า ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่า AI ทำให้คนตกงานหรือเครียดหนักขึ้นจริงในภาพรวม ทีมนี้ใช้ข้อมูลจากเยอรมนี (2000–2020) ก่อนยุค generative AI อย่าง ChatGPT และพบว่า AI อาจช่วยลดความเสี่ยงทางกายภาพของงานบางประเภท และเพิ่มความพึงพอใจในงานเล็กน้อย โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานที่ไม่มีปริญญา แต่พวกเขาก็เตือนว่าอย่าด่วนสรุป — เพราะ 1) การใช้ AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น 2) กฎหมายแรงงานในเยอรมนีค่อนข้างแข็งแรงกว่าประเทศอื่น และ 3) งานวิจัยยังไม่ครอบคลุม AI สมัยใหม่แบบ LLM นักวิจัยยังเน้นด้วยว่า “สถาบันและนโยบายภาครัฐ” จะเป็นตัวกำหนดว่า AI จะทำให้งานดีขึ้นหรือแย่ลง ไม่ใช่ตัวเทคโนโลยีเองล้วน ๆ ✅ งานวิจัยจากนักวิจัยในเยอรมนี–อิตาลี–สหรัฐฯ ชี้ว่า AI ยังไม่ส่งผลลบต่อสุขภาพจิตและความพึงพอใจในการทำงาน   • โดยเฉพาะในประเทศที่มีแรงงานคุ้มครองสูง เช่น เยอรมนี ✅ พบว่า AI อาจมีส่วนช่วยลด “ความเสี่ยงทางร่างกาย” และภาระทางกายในบางอาชีพได้เล็กน้อย   • เช่น งานที่เคยหนัก อาจถูกแทนบางส่วนด้วยระบบอัตโนมัติ ✅ คนไม่มีปริญญาอาจได้ประโยชน์ทางสุขภาพมากกว่า   • จากการที่งานเน้นแรงกายน้อยลง ✅ ข้อมูลวิจัยใช้แบบ Longitudinal ครอบคลุมปี 2000–2020   • ก่อนเกิดเทคโนโลยี Generative AI แบบ ChatGPT (ปลายปี 2022) ✅ นักวิจัยเน้นว่า “นโยบายและสถาบันแรงงาน” มีผลสำคัญต่อผลกระทบของ AI ต่อแรงงาน   • ไม่ใช่ตัว AI อย่างเดียวที่กำหนดชะตากรรม ✅ Gallup ระบุว่าในสหรัฐฯ อัตราใช้ AI ที่ทำงานเพิ่มขึ้น 2 เท่าใน 2 ปีที่ผ่านมา   • มากสุดในสายงาน white-collar อย่างเทคโนโลยีและการเงิน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/25/it039s-still-039too-soon039-to-say-how-ai-will-affect-jobs-researchers-say
    WWW.THESTAR.COM.MY
    It's still 'too soon' to say how AI will affect jobs, researchers say
    Using artificial intelligence at work has not caused any discernible damage to employees' mental health or job satisfaction, according to researchers based in Germany, Italy and the US, who nonetheless warn that it is probably "way too soon to draw definitive conclusions" about its effects on jobs.
    0 Comments 0 Shares 216 Views 0 Reviews
  • ปี 2026 ที่จะถึงนี้ Pixel 11 จะไม่ใช่แค่การอัปเกรดกล้องหรือดีไซน์เท่านั้น แต่ชิป Tensor G6 ที่อยู่ในเครื่องนั้นกำลังจะกลายเป็น “หัวใจใหม่” ที่แรงกว่าเดิมแบบคนละระดับ เพราะ Google ตัดสินใจเลือกใช้ TSMC 2nm ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเล็กที่สุดในอุตสาหกรรม ณ ตอนนี้

    เดิมที Tensor G5 ของ Pixel 10 ยังใช้ 3nm (N3E) ก็ว่าแรงแล้ว แต่นี่กระโดดข้าม N3P ไปเลย! แน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่เร็ว — แต่น่าจะช่วยเรื่องประหยัดพลังงาน, ลดความร้อน และเปิดทางให้ใส่ฟีเจอร์ AI ใหม่ ๆ ได้แบบจัดเต็ม

    แหล่งข่าวยังบอกว่า Google ยอมลงทุนสูง แม้จะผลิตมือถือได้น้อยกว่าคู่แข่งอย่าง Apple แต่ก็อยากเป็น “ผู้นำด้านนวัตกรรม AI บนมือถือ” และเลือกเทคโนโลยีที่ดีที่สุดแทนการประหยัดต้นทุน

    Tensor G6 จะถูกผลิตบนเทคโนโลยี 2nm ของ TSMC สำหรับ Pixel 11 series (ปี 2026)  
    • ข้าม TSMC N3P (3nm รุ่น 3) ไปใช้ 2nm ทันที  
    • ถือเป็นชิป smartphone กลุ่มแรก ๆ ที่ใช้ 2nm

    Google เปลี่ยนจาก Samsung มาใช้ TSMC ตั้งแต่ Tensor G5 (Pixel 10)  
    • หลังพบปัญหาคุณภาพกับการผลิตก่อนหน้า  
    • มีการเจรจากับ TSMC เพื่อสัญญาระยะยาว 5 ปี

    ข้อดีของ TSMC 2nm (เทียบกับ 3nm):  
    • ประหยัดพลังงานขึ้น ~25–30%  
    • เพิ่มความเร็วประมวลผล  
    • รองรับการทำงาน AI บนเครื่องแบบหนัก ๆ

    ใช้เทคโนโลยี GAAFET (Gate-All-Around) เพื่อย่อทรานซิสเตอร์ให้เล็กลงอีก  
    • เทียบเท่าเทคโนโลยีใน Apple A20 หรือ Snapdragon 8 Gen 5 รุ่นอนาคต

    https://wccftech.com/tensor-g6-found-in-the-pixel-11-series-to-be-mass-produced-on-tsmc-2nm-process/
    ปี 2026 ที่จะถึงนี้ Pixel 11 จะไม่ใช่แค่การอัปเกรดกล้องหรือดีไซน์เท่านั้น แต่ชิป Tensor G6 ที่อยู่ในเครื่องนั้นกำลังจะกลายเป็น “หัวใจใหม่” ที่แรงกว่าเดิมแบบคนละระดับ เพราะ Google ตัดสินใจเลือกใช้ TSMC 2nm ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเล็กที่สุดในอุตสาหกรรม ณ ตอนนี้ เดิมที Tensor G5 ของ Pixel 10 ยังใช้ 3nm (N3E) ก็ว่าแรงแล้ว แต่นี่กระโดดข้าม N3P ไปเลย! แน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่เร็ว — แต่น่าจะช่วยเรื่องประหยัดพลังงาน, ลดความร้อน และเปิดทางให้ใส่ฟีเจอร์ AI ใหม่ ๆ ได้แบบจัดเต็ม แหล่งข่าวยังบอกว่า Google ยอมลงทุนสูง แม้จะผลิตมือถือได้น้อยกว่าคู่แข่งอย่าง Apple แต่ก็อยากเป็น “ผู้นำด้านนวัตกรรม AI บนมือถือ” และเลือกเทคโนโลยีที่ดีที่สุดแทนการประหยัดต้นทุน ✅ Tensor G6 จะถูกผลิตบนเทคโนโลยี 2nm ของ TSMC สำหรับ Pixel 11 series (ปี 2026)   • ข้าม TSMC N3P (3nm รุ่น 3) ไปใช้ 2nm ทันที   • ถือเป็นชิป smartphone กลุ่มแรก ๆ ที่ใช้ 2nm ✅ Google เปลี่ยนจาก Samsung มาใช้ TSMC ตั้งแต่ Tensor G5 (Pixel 10)   • หลังพบปัญหาคุณภาพกับการผลิตก่อนหน้า   • มีการเจรจากับ TSMC เพื่อสัญญาระยะยาว 5 ปี ✅ ข้อดีของ TSMC 2nm (เทียบกับ 3nm):   • ประหยัดพลังงานขึ้น ~25–30%   • เพิ่มความเร็วประมวลผล   • รองรับการทำงาน AI บนเครื่องแบบหนัก ๆ ✅ ใช้เทคโนโลยี GAAFET (Gate-All-Around) เพื่อย่อทรานซิสเตอร์ให้เล็กลงอีก   • เทียบเท่าเทคโนโลยีใน Apple A20 หรือ Snapdragon 8 Gen 5 รุ่นอนาคต https://wccftech.com/tensor-g6-found-in-the-pixel-11-series-to-be-mass-produced-on-tsmc-2nm-process/
    WCCFTECH.COM
    Google’s Tensor G6 Will Reportedly Be Mass Produced On TSMC’s 2nm Process, Allowing The Pixel 11 Series To Maintain Competition With Rivals By Sticking With The Cutting-Edge Lithography
    The Tensor G6 could keep pace with the competition, with Google’s SoC found in the Pixel 11 family reportedly fabricated on TSMC’s 2nm technology
    0 Comments 0 Shares 185 Views 0 Reviews
  • David Sacks ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า ช่องว่างระหว่างจีนกับสหรัฐในด้านการออกแบบชิปตอนนี้เหลือแค่ 1.5–2 ปีเท่านั้น โดยเฉพาะ Huawei ซึ่งแม้จะยังขาดกำลังผลิต GPU ขั้นสูง แต่สามารถหาทางออกด้วยการนำ ชิปเก่า 910B มาต่อรวมกันเป็น “910C” เพื่อเพิ่มพลังประมวลผลและหน่วยความจำให้ใกล้เคียง NVIDIA H100

    แม้จะไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่สด แต่ถือเป็น “ทางเลือกภายในประเทศ” ที่ใช้งานจริงได้ และ Huawei เริ่มจะ ส่งออก AI Chip ไปยังลูกค้าต่างประเทศด้วย แล้ว

    Sacks เตือนว่า หากจีนสามารถผลิตและสร้าง ecosystem ที่แข็งแรงได้จริง สหรัฐอาจเสียตำแหน่งผู้นำในตลาดเทคโนโลยี AI — โดยเฉพาะถ้า การควบคุมการส่งออกของสหรัฐเข้มเกินไปจนกลายเป็น “ผลย้อนกลับ” ทำให้จีนหาทางพึ่งพาตนเองได้เร็วขึ้น

    ตัวอย่างหนึ่งคือรัฐบาล Trump ได้ “ยกเลิก” กฎในยุค Biden ที่จำกัดการส่งออก GPU ให้กับพันธมิตรบางประเทศ เพื่อไม่ให้เสียพื้นที่ทางการค้าในระยะยาว

    Huawei พัฒนาชิป AI รุ่น 910C โดยรวมชิป 910B สองตัวเข้าด้วยกัน  
    • ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียง NVIDIA H100  
    • ใช้ได้จริงกับตลาดในจีน และเตรียมขยายการส่งออก

    จีนกำลังลดช่องว่างด้านการออกแบบชิป เหลือห่างสหรัฐเพียง 1.5–2 ปี  
    • โดยเฉพาะบริษัทอย่าง Huawei ที่แก้เกมจากข้อจำกัดทางเทคนิคและการเมือง

    David Sacks เตือนว่า การควบคุมการส่งออกที่เข้มเกินไป อาจย้อนศร  
    • ทำให้คู่แข่งพึ่งพาตัวเองได้เร็ว และไม่ยอมรับมาตรฐานเทคโนโลยีของสหรัฐ

    Trump administration เลือกยกเลิกบางข้อจำกัดจากยุค Biden เพื่อรักษาฐานการค้าในระยะยาว

    แม้ผู้ก่อตั้ง Huawei ยอมรับว่า GPU ของตนยังล้าหลังกว่าคู่แข่ง แต่การสร้าง ecosystem และผลิตภัณฑ์ “ราคาเข้าถึงได้” อาจทำให้เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในอนาคต

    https://www.techspot.com/news/108400-us-tech-czar-warns-china-only-two-years.html
    David Sacks ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า ช่องว่างระหว่างจีนกับสหรัฐในด้านการออกแบบชิปตอนนี้เหลือแค่ 1.5–2 ปีเท่านั้น โดยเฉพาะ Huawei ซึ่งแม้จะยังขาดกำลังผลิต GPU ขั้นสูง แต่สามารถหาทางออกด้วยการนำ ชิปเก่า 910B มาต่อรวมกันเป็น “910C” เพื่อเพิ่มพลังประมวลผลและหน่วยความจำให้ใกล้เคียง NVIDIA H100 แม้จะไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่สด แต่ถือเป็น “ทางเลือกภายในประเทศ” ที่ใช้งานจริงได้ และ Huawei เริ่มจะ ส่งออก AI Chip ไปยังลูกค้าต่างประเทศด้วย แล้ว Sacks เตือนว่า หากจีนสามารถผลิตและสร้าง ecosystem ที่แข็งแรงได้จริง สหรัฐอาจเสียตำแหน่งผู้นำในตลาดเทคโนโลยี AI — โดยเฉพาะถ้า การควบคุมการส่งออกของสหรัฐเข้มเกินไปจนกลายเป็น “ผลย้อนกลับ” ทำให้จีนหาทางพึ่งพาตนเองได้เร็วขึ้น ตัวอย่างหนึ่งคือรัฐบาล Trump ได้ “ยกเลิก” กฎในยุค Biden ที่จำกัดการส่งออก GPU ให้กับพันธมิตรบางประเทศ เพื่อไม่ให้เสียพื้นที่ทางการค้าในระยะยาว ✅ Huawei พัฒนาชิป AI รุ่น 910C โดยรวมชิป 910B สองตัวเข้าด้วยกัน   • ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียง NVIDIA H100   • ใช้ได้จริงกับตลาดในจีน และเตรียมขยายการส่งออก ✅ จีนกำลังลดช่องว่างด้านการออกแบบชิป เหลือห่างสหรัฐเพียง 1.5–2 ปี   • โดยเฉพาะบริษัทอย่าง Huawei ที่แก้เกมจากข้อจำกัดทางเทคนิคและการเมือง ✅ David Sacks เตือนว่า การควบคุมการส่งออกที่เข้มเกินไป อาจย้อนศร   • ทำให้คู่แข่งพึ่งพาตัวเองได้เร็ว และไม่ยอมรับมาตรฐานเทคโนโลยีของสหรัฐ ✅ Trump administration เลือกยกเลิกบางข้อจำกัดจากยุค Biden เพื่อรักษาฐานการค้าในระยะยาว ✅ แม้ผู้ก่อตั้ง Huawei ยอมรับว่า GPU ของตนยังล้าหลังกว่าคู่แข่ง แต่การสร้าง ecosystem และผลิตภัณฑ์ “ราคาเข้าถึงได้” อาจทำให้เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในอนาคต https://www.techspot.com/news/108400-us-tech-czar-warns-china-only-two-years.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    US tech czar warns China is only two years behind in semiconductor and chip design
    According to Sacks, Huawei is making swift progress in chip design and could soon begin exporting its hardware, although the company still faces challenges in producing high-end...
    0 Comments 0 Shares 240 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้พูดถึงสองประเด็นที่ผู้ใช้ Windows 10 ควรรู้ในช่วงใกล้หมดซัพพอร์ตปี 2025 — คือ
    1) วิธีเช็กว่าเครื่องของคุณพร้อมอัปเกรดเป็น Windows 11 หรือไม่ และ
    2) ทางเลือก “แก้ขัด” หากไม่สามารถอัปเกรดได้ ด้วยซอฟต์แวร์ของบริษัทภายนอกอย่าง 0patch ที่ให้แพตช์ความปลอดภัยต่อแม้ Microsoft หยุดอัปเดต

    เรื่องแรก — ถ้าอยากรู้ว่าเครื่องคุณสามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้หรือไม่ วิธีง่ายที่สุดคือไปที่หน้า Windows 11 ของ Microsoft แล้วเลื่อนลงด้านล่างจนเจอปุ่ม “Check for compatibility” ซึ่งจะโหลดแอป PC Health Check มาให้คุณเช็กสเปกของเครื่อง เช่น CPU, TPM, RAM, ฯลฯ พร้อมบอกเลยว่า “ผ่าน” หรือ “ไม่ผ่าน”

    ส่วนเรื่องที่สอง — ถ้าเครื่องของคุณใช้ Windows 10 แต่ไม่สามารถอัปเกรดได้ (เพราะไม่ผ่าน TPM หรือ CPU รุ่นเก่า) คุณอาจลองใช้ ซอฟต์แวร์ชื่อ “0patch” ซึ่งเป็นบริการจากบริษัท Acros Security ที่แจก “ไมโครแพตช์” ขนาดเล็กเพื่อปิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย แม้ Microsoft จะเลิกปล่อยแพตช์ให้ Windows 10 ไปแล้วก็ตาม

    0patch เวอร์ชันฟรีให้ผู้ใช้ทั่วไปติดตั้งได้ทันที และมีเวอร์ชันเสียเงินสำหรับภาคธุรกิจด้วย โดยจุดเด่นของมันคือแพตช์มีขนาดเล็ก ติดตั้งเร็ว ไม่ต้องรีบูตเครื่อง และเน้น “แก้เฉพาะจุด” โดยไม่เปลี่ยนโค้ดระบบจำนวนมาก — ช่วยให้ Windows 10 มีความปลอดภัยในช่วงระยะยาวได้ดีในระดับหนึ่ง

    วิธีเช็กว่าเครื่องอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้หรือไม่ ใช้แอป PC Health Check จาก Microsoft  
    • ดาวน์โหลดจากหน้า Windows 11 แล้วกดปุ่ม “check now”  
    • จะแสดงผล “ผ่าน / ไม่ผ่าน” พร้อมสรุปรายการสเปกที่ทดสอบ

    แอป PC Health Check ยังให้ข้อมูลระบบพื้นฐาน เช่น hostname, RAM, พื้นที่ว่าง, สถานะการ backup และเวลาบูตเครื่อง

    หากเครื่องอัปเกรดได้ วิธีแนะนำคือใช้ Windows Update จาก Settings เพื่ออัปเกรดโดยตรง  
    • ควร backup ข้อมูลไว้ก่อนเสมอ

    หากอัปเกรดไม่ได้ ผู้ใช้สามารถลองใช้ 0patch เพื่อรับ micropatch จากบริษัท Acros Security  
    • แพตช์ขนาดเล็ก ติดตั้งง่าย  
    • มีเวอร์ชันฟรีสำหรับผู้ใช้ทั่วไป และแบบเชิงพาณิชย์เสียเงิน

    0patch เน้นอุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยหลัง Microsoft หยุดอัปเดต Windows 10

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/22/opinion-more-questions-about-the-end-of-windows-10-and-third-party-patching
    ข่าวนี้พูดถึงสองประเด็นที่ผู้ใช้ Windows 10 ควรรู้ในช่วงใกล้หมดซัพพอร์ตปี 2025 — คือ 1) วิธีเช็กว่าเครื่องของคุณพร้อมอัปเกรดเป็น Windows 11 หรือไม่ และ 2) ทางเลือก “แก้ขัด” หากไม่สามารถอัปเกรดได้ ด้วยซอฟต์แวร์ของบริษัทภายนอกอย่าง 0patch ที่ให้แพตช์ความปลอดภัยต่อแม้ Microsoft หยุดอัปเดต เรื่องแรก — ถ้าอยากรู้ว่าเครื่องคุณสามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้หรือไม่ วิธีง่ายที่สุดคือไปที่หน้า Windows 11 ของ Microsoft แล้วเลื่อนลงด้านล่างจนเจอปุ่ม “Check for compatibility” ซึ่งจะโหลดแอป PC Health Check มาให้คุณเช็กสเปกของเครื่อง เช่น CPU, TPM, RAM, ฯลฯ พร้อมบอกเลยว่า “ผ่าน” หรือ “ไม่ผ่าน” ส่วนเรื่องที่สอง — ถ้าเครื่องของคุณใช้ Windows 10 แต่ไม่สามารถอัปเกรดได้ (เพราะไม่ผ่าน TPM หรือ CPU รุ่นเก่า) คุณอาจลองใช้ ซอฟต์แวร์ชื่อ “0patch” ซึ่งเป็นบริการจากบริษัท Acros Security ที่แจก “ไมโครแพตช์” ขนาดเล็กเพื่อปิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย แม้ Microsoft จะเลิกปล่อยแพตช์ให้ Windows 10 ไปแล้วก็ตาม 0patch เวอร์ชันฟรีให้ผู้ใช้ทั่วไปติดตั้งได้ทันที และมีเวอร์ชันเสียเงินสำหรับภาคธุรกิจด้วย โดยจุดเด่นของมันคือแพตช์มีขนาดเล็ก ติดตั้งเร็ว ไม่ต้องรีบูตเครื่อง และเน้น “แก้เฉพาะจุด” โดยไม่เปลี่ยนโค้ดระบบจำนวนมาก — ช่วยให้ Windows 10 มีความปลอดภัยในช่วงระยะยาวได้ดีในระดับหนึ่ง ✅ วิธีเช็กว่าเครื่องอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้หรือไม่ ใช้แอป PC Health Check จาก Microsoft   • ดาวน์โหลดจากหน้า Windows 11 แล้วกดปุ่ม “check now”   • จะแสดงผล “ผ่าน / ไม่ผ่าน” พร้อมสรุปรายการสเปกที่ทดสอบ ✅ แอป PC Health Check ยังให้ข้อมูลระบบพื้นฐาน เช่น hostname, RAM, พื้นที่ว่าง, สถานะการ backup และเวลาบูตเครื่อง ✅ หากเครื่องอัปเกรดได้ วิธีแนะนำคือใช้ Windows Update จาก Settings เพื่ออัปเกรดโดยตรง   • ควร backup ข้อมูลไว้ก่อนเสมอ ✅ หากอัปเกรดไม่ได้ ผู้ใช้สามารถลองใช้ 0patch เพื่อรับ micropatch จากบริษัท Acros Security   • แพตช์ขนาดเล็ก ติดตั้งง่าย   • มีเวอร์ชันฟรีสำหรับผู้ใช้ทั่วไป และแบบเชิงพาณิชย์เสียเงิน ✅ 0patch เน้นอุดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยหลัง Microsoft หยุดอัปเดต Windows 10 https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/22/opinion-more-questions-about-the-end-of-windows-10-and-third-party-patching
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: More questions about the end of Windows 10 and third-party patching
    I received two short (one sentence) emails this week that I'd like to address. They are both follow-up questions to my recent columns about the end of Microsoft support for Windows 10.
    0 Comments 0 Shares 132 Views 0 Reviews
  • คุณเคยเปิดเกมแล้วเจอฉากสวยๆ ที่ทำให้การ์ดจอคุณ “ทรุด” เพราะ VRAM เต็มไหมครับ? ข่าวดีคือ NTC หรือ Neural Texture Compression อาจเปลี่ยนเกมนี้ไปทั้งวงการ เพราะมันช่วยให้เรนเดอร์ texture ที่สมจริงได้โดยใช้หน่วยความจำกราฟิกน้อยลงมาก — ถึง 20 เท่าในบางกรณี!

    หลักการคือการใช้ AI neural network ที่ฝึกมาล่วงหน้าเพื่อบีบอัด (compress) และถอดรหัส (decompress) texture ใน real-time โดยคงรายละเอียดที่สายตามองเห็นว่า “คมเหมือนต้นฉบับ” แม้ข้อมูลต้นทางจะถูกลดทอนอย่างหนัก

    สื่อเทคโนโลยีชื่อ Compusemble ทำการทดสอบเทคโนโลยีนี้จาก Intel และ Nvidia แล้วพบผลลัพธ์น่าทึ่ง: จาก 272MB เหลือเพียง 11.37MB บน GPU และ ลดเวลาสร้างเฟรมจาก 5.77ms เหลือแค่ 0.11ms เมื่อใช้ Cooperative Vectors — ฟีเจอร์ใหม่ใน DirectX 12 ที่ช่วยเร่งการทำงาน AI บน GPU โดยไม่ล็อกอยู่กับค่ายใดค่ายหนึ่ง

    แม้ตอนนี้ยังไม่มีเกมพาณิชย์ที่รองรับ NTC เต็มตัว แต่การทดสอบนี้อาจเร่งให้ Unreal Engine, Unity หรือผู้ผลิตเกมอื่นนำไปใช้จริงในอนาคตอันใกล้

    Neural Texture Compression (NTC) คือเทคโนโลยีที่ใช้ AI ลดขนาด texture โดยแทบไม่ลดคุณภาพภาพ  
    • ใช้ neural network ที่ฝึกมาเฉพาะ  
    • บีบอัดและคืนค่าข้อมูล texture ระหว่างเรนเดอร์แบบ real-time

    NTC สามารถลดการใช้ VRAM ได้อย่างมหาศาล  
    • จากตัวอย่าง: 272MB → 11.37MB  
    • มีผลต่อความลื่นไหลในเกมระดับ 4K

    ต้องใช้พลังประมวลผลสูง จึงต้องอาศัยฟีเจอร์อย่าง Cooperative Vectors เพื่อให้รันได้เร็ว  
    • เป็นฟีเจอร์ใหม่ใน DirectX 12  
    • ช่วยเร่งงาน matrix computation ข้าม GPU หลายค่าย (cross-vendor)

    ผลทดสอบจริงจาก Compusemble พบว่าการใช้ Cooperative Vectors ลดเวลาสร้างเฟรมได้สูงถึง 98%  
    • จาก 5.77ms เหลือ 0.11ms ใน demo จาก Intel  
    • จาก 1.44ms เหลือ 0.74ms ใน demo จาก Nvidia

    เปิดโอกาสให้ GPU ที่มี VRAM จำกัดรันเกมระดับสูงได้ดีขึ้นในอนาคต  
    • เหมาะกับทั้งเกมใหม่ และการอัปเดตเกมเก่าเพื่อประสิทธิภาพดีขึ้น

    เทคโนโลยี NTC ยังไม่ถูกใช้อย่างแพร่หลายในเกมจริง  
    • ปัจจุบันยังอยู่ใน demo/research stage เท่านั้น  
    • ต้องรอดูว่า engine ใหญ่ ๆ จะนำไปใช้ไหม

    ต้องการการ์ดจอที่รองรับฟีเจอร์เฉพาะ (เช่น Cooperative Vectors)  
    • ยังไม่ชัดว่าการ์ดรุ่นใดบ้างจะรองรับในระยะยาว

    การแปลง texture แบบ neural อาจลดความเที่ยงตรงในบางประเภทภาพ  
    • โดยเฉพาะกับเนื้อหาที่มีลวดลายซับซ้อน, เส้นคม, หรือเนื้อสัมผัสปลีกย่อย

    ยังไม่มีมาตรฐานกลางสำหรับ NTC ข้ามค่ายระหว่าง Intel–Nvidia–AMD  
    • นักพัฒนาอาจต้องเลือกใช้ฟีเจอร์แบบล็อก vendor หรือสร้างระบบของตนเอง

    https://www.techspot.com/news/108371-neural-texture-compression-can-do-wonders-vram-usage.html
    คุณเคยเปิดเกมแล้วเจอฉากสวยๆ ที่ทำให้การ์ดจอคุณ “ทรุด” เพราะ VRAM เต็มไหมครับ? ข่าวดีคือ NTC หรือ Neural Texture Compression อาจเปลี่ยนเกมนี้ไปทั้งวงการ เพราะมันช่วยให้เรนเดอร์ texture ที่สมจริงได้โดยใช้หน่วยความจำกราฟิกน้อยลงมาก — ถึง 20 เท่าในบางกรณี! หลักการคือการใช้ AI neural network ที่ฝึกมาล่วงหน้าเพื่อบีบอัด (compress) และถอดรหัส (decompress) texture ใน real-time โดยคงรายละเอียดที่สายตามองเห็นว่า “คมเหมือนต้นฉบับ” แม้ข้อมูลต้นทางจะถูกลดทอนอย่างหนัก สื่อเทคโนโลยีชื่อ Compusemble ทำการทดสอบเทคโนโลยีนี้จาก Intel และ Nvidia แล้วพบผลลัพธ์น่าทึ่ง: จาก 272MB เหลือเพียง 11.37MB บน GPU และ ลดเวลาสร้างเฟรมจาก 5.77ms เหลือแค่ 0.11ms เมื่อใช้ Cooperative Vectors — ฟีเจอร์ใหม่ใน DirectX 12 ที่ช่วยเร่งการทำงาน AI บน GPU โดยไม่ล็อกอยู่กับค่ายใดค่ายหนึ่ง แม้ตอนนี้ยังไม่มีเกมพาณิชย์ที่รองรับ NTC เต็มตัว แต่การทดสอบนี้อาจเร่งให้ Unreal Engine, Unity หรือผู้ผลิตเกมอื่นนำไปใช้จริงในอนาคตอันใกล้ ✅ Neural Texture Compression (NTC) คือเทคโนโลยีที่ใช้ AI ลดขนาด texture โดยแทบไม่ลดคุณภาพภาพ   • ใช้ neural network ที่ฝึกมาเฉพาะ   • บีบอัดและคืนค่าข้อมูล texture ระหว่างเรนเดอร์แบบ real-time ✅ NTC สามารถลดการใช้ VRAM ได้อย่างมหาศาล   • จากตัวอย่าง: 272MB → 11.37MB   • มีผลต่อความลื่นไหลในเกมระดับ 4K ✅ ต้องใช้พลังประมวลผลสูง จึงต้องอาศัยฟีเจอร์อย่าง Cooperative Vectors เพื่อให้รันได้เร็ว   • เป็นฟีเจอร์ใหม่ใน DirectX 12   • ช่วยเร่งงาน matrix computation ข้าม GPU หลายค่าย (cross-vendor) ✅ ผลทดสอบจริงจาก Compusemble พบว่าการใช้ Cooperative Vectors ลดเวลาสร้างเฟรมได้สูงถึง 98%   • จาก 5.77ms เหลือ 0.11ms ใน demo จาก Intel   • จาก 1.44ms เหลือ 0.74ms ใน demo จาก Nvidia ✅ เปิดโอกาสให้ GPU ที่มี VRAM จำกัดรันเกมระดับสูงได้ดีขึ้นในอนาคต   • เหมาะกับทั้งเกมใหม่ และการอัปเดตเกมเก่าเพื่อประสิทธิภาพดีขึ้น ‼️ เทคโนโลยี NTC ยังไม่ถูกใช้อย่างแพร่หลายในเกมจริง   • ปัจจุบันยังอยู่ใน demo/research stage เท่านั้น   • ต้องรอดูว่า engine ใหญ่ ๆ จะนำไปใช้ไหม ‼️ ต้องการการ์ดจอที่รองรับฟีเจอร์เฉพาะ (เช่น Cooperative Vectors)   • ยังไม่ชัดว่าการ์ดรุ่นใดบ้างจะรองรับในระยะยาว ‼️ การแปลง texture แบบ neural อาจลดความเที่ยงตรงในบางประเภทภาพ   • โดยเฉพาะกับเนื้อหาที่มีลวดลายซับซ้อน, เส้นคม, หรือเนื้อสัมผัสปลีกย่อย ‼️ ยังไม่มีมาตรฐานกลางสำหรับ NTC ข้ามค่ายระหว่าง Intel–Nvidia–AMD   • นักพัฒนาอาจต้องเลือกใช้ฟีเจอร์แบบล็อก vendor หรือสร้างระบบของตนเอง https://www.techspot.com/news/108371-neural-texture-compression-can-do-wonders-vram-usage.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Neural Texture Compression demo shows it can do wonders for VRAM usage
    Neural Texture Compression (NTC) is a new technique that improves texture quality while reducing VRAM usage. It relies on a specialized neural network trained to compress and...
    0 Comments 0 Shares 182 Views 0 Reviews
  • IMCT News:ทรัมป์เลื่อนการโจมตีอิหร่านเพราะเกรงผลกระทบต่อตลาดการเงิน แต่แผนทำลายอิหร่านยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
    ในบทความล่าสุดบน Substack ซีมัวร์ เฮิร์ช ซึ่งเป็นนักข่าวอวุโสที่มีชื่อเสียงรายงานว่า มีความเป็นไปได้สูงที่สหรัฐฯ จะเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศขนาดใหญ่ต่ออิหร่านภายในสุดสัปดาห์นี้ ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวอิสราเอลและอเมริกันที่เขาเชื่อถือได้
    การโจมตีซึ่งได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ จะมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานทางทหารและโครงการนิวเคลียร์ที่สำคัญของอิหร่าน รวมถึงศูนย์ฟอร์โดว์ (Fordow) ที่ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งอย่างแน่นหนา ซึ่งเป็นสถานที่เก็บเครื่องหมุนเหวี่ยงรุ่นล่าสุดของอิหร่านไว้ใต้ดินลึก
    เฮิร์ชรายงานว่า เหตุผลของการชะลอการโจมตี มาจากความต้องการของทรัมป์ที่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อตลาดการเงินของสหรัฐฯ เมื่อตลาดเปิดทำการในวันจันทร์
    แต่ แผนปฏิบัติการครั้งนี้มีเป้าหมายมากกว่าการทำลายขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน – มันมุ่งหวังจะสร้างความไม่มั่นคงให้กับรัฐบาลของประเทศด้วย ผู้วางแผนชาวอเมริกันและอิสราเอลต่างคาดหวังว่าจะเกิดความไม่สงบภายใน โดยการโจมตีฐานทัพ สถานีตำรวจ และศูนย์ราชการจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดกระแสต่อต้านรัฐบาลที่กว้างขึ้น
    เฮิร์ชระบุว่า มีรายงาน (ยังไม่ได้รับการยืนยัน) ว่า อายะตุลลอฮ์ คาเมเนอี อาจได้เดินทางออกจากกรุงเตหะรานแล้ว
    ในขณะที่บางฝ่ายในกรุงวอชิงตันเสนอแนวคิดว่าจะ ตั้งผู้นำทางศาสนาในสายกลางขึ้นเป็นผู้นำชั่วคราวของประเทศ เจ้าหน้าที่อิสราเอลกลับไม่เห็นด้วย และต้องการให้มีการควบคุมทางการเมืองอย่างเต็มรูปแบบโดยผ่านบุคคลที่ภักดีต่ออิสราเอล ความเห็นที่แตกต่างนี้สะท้อนถึงความขัดแย้งในเชิงลึกเกี่ยวกับอนาคตของอิหร่านหลังจากการโจมตี
    นอกจากนี้ หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ยังพิจารณาใช้ชนกลุ่มน้อยในอิหร่าน เช่น ชาวอาเซอรี ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ CIA เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นการลุกฮือครั้งใหญ่
    เฮิร์ชเตือนว่า แผนการนี้มีลักษณะคล้ายกับ การแทรกแซงของชาติตะวันตกในลิเบียและซีเรีย ซึ่งนำไปสู่ความไม่มั่นคงและความทุกข์ทรมานในระยะยาว เขาชี้ว่า การโจมตีอิหร่านอาจส่งผลคล้ายคลึงกัน เสี่ยงที่จะทำให้ประเทศแตกแยกและจุดชนวนความรุนแรงทั่วทั้งภูมิภาค ทั้งหมดนี้ถูกผลักดันโดย เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของเนทันยาฮู และความปรารถนาของทรัมป์ที่จะสร้างชัยชนะในเวทีภูมิรัฐศาสตร์
    https://seymourhersh.substack.com/p/what-i-have-been-told-is-coming-in
    20/6/2025
    IMCT News:ทรัมป์เลื่อนการโจมตีอิหร่านเพราะเกรงผลกระทบต่อตลาดการเงิน แต่แผนทำลายอิหร่านยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ในบทความล่าสุดบน Substack ซีมัวร์ เฮิร์ช ซึ่งเป็นนักข่าวอวุโสที่มีชื่อเสียงรายงานว่า มีความเป็นไปได้สูงที่สหรัฐฯ จะเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศขนาดใหญ่ต่ออิหร่านภายในสุดสัปดาห์นี้ ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวอิสราเอลและอเมริกันที่เขาเชื่อถือได้ การโจมตีซึ่งได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ จะมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานทางทหารและโครงการนิวเคลียร์ที่สำคัญของอิหร่าน รวมถึงศูนย์ฟอร์โดว์ (Fordow) ที่ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งอย่างแน่นหนา ซึ่งเป็นสถานที่เก็บเครื่องหมุนเหวี่ยงรุ่นล่าสุดของอิหร่านไว้ใต้ดินลึก เฮิร์ชรายงานว่า เหตุผลของการชะลอการโจมตี มาจากความต้องการของทรัมป์ที่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อตลาดการเงินของสหรัฐฯ เมื่อตลาดเปิดทำการในวันจันทร์ แต่ แผนปฏิบัติการครั้งนี้มีเป้าหมายมากกว่าการทำลายขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน – มันมุ่งหวังจะสร้างความไม่มั่นคงให้กับรัฐบาลของประเทศด้วย ผู้วางแผนชาวอเมริกันและอิสราเอลต่างคาดหวังว่าจะเกิดความไม่สงบภายใน โดยการโจมตีฐานทัพ สถานีตำรวจ และศูนย์ราชการจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดกระแสต่อต้านรัฐบาลที่กว้างขึ้น เฮิร์ชระบุว่า มีรายงาน (ยังไม่ได้รับการยืนยัน) ว่า อายะตุลลอฮ์ คาเมเนอี อาจได้เดินทางออกจากกรุงเตหะรานแล้ว ในขณะที่บางฝ่ายในกรุงวอชิงตันเสนอแนวคิดว่าจะ ตั้งผู้นำทางศาสนาในสายกลางขึ้นเป็นผู้นำชั่วคราวของประเทศ เจ้าหน้าที่อิสราเอลกลับไม่เห็นด้วย และต้องการให้มีการควบคุมทางการเมืองอย่างเต็มรูปแบบโดยผ่านบุคคลที่ภักดีต่ออิสราเอล ความเห็นที่แตกต่างนี้สะท้อนถึงความขัดแย้งในเชิงลึกเกี่ยวกับอนาคตของอิหร่านหลังจากการโจมตี นอกจากนี้ หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ยังพิจารณาใช้ชนกลุ่มน้อยในอิหร่าน เช่น ชาวอาเซอรี ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ CIA เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นการลุกฮือครั้งใหญ่ เฮิร์ชเตือนว่า แผนการนี้มีลักษณะคล้ายกับ การแทรกแซงของชาติตะวันตกในลิเบียและซีเรีย ซึ่งนำไปสู่ความไม่มั่นคงและความทุกข์ทรมานในระยะยาว เขาชี้ว่า การโจมตีอิหร่านอาจส่งผลคล้ายคลึงกัน เสี่ยงที่จะทำให้ประเทศแตกแยกและจุดชนวนความรุนแรงทั่วทั้งภูมิภาค ทั้งหมดนี้ถูกผลักดันโดย เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของเนทันยาฮู และความปรารถนาของทรัมป์ที่จะสร้างชัยชนะในเวทีภูมิรัฐศาสตร์ https://seymourhersh.substack.com/p/what-i-have-been-told-is-coming-in 20/6/2025
    0 Comments 0 Shares 351 Views 0 Reviews
  • หากไม่มีการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ระบบป้องกันขีปนาวุธของอิสราเอลจะใช้งานได้นาน 10 วัน WP เขียน

    ศักยภาพในการโจมตีของทั้งสองฝ่ายลดลงเรื่อยๆ พวกเขากำลังเก็บทั้งขีปนาวุธและกระสุนไว้สำหรับระบบป้องกันทางอากาศ นักสังเกตการณ์ตะวันตกเชื่อว่าสงครามระยะยาวระหว่างอิสราเอลและอิหร่านอาจเป็นไปไม่ได้ - อย่างน้อยก็ด้วยความรุนแรงของการสู้รบในปัจจุบัน

    ขีปนาวุธสกัดกั้นเป็นประเด็นอ่อนไหวมากสำหรับอิสราเอล และนี่อาจกลายเป็น "ปัจจัยการสงบศึก" กับอิหร่านได้ หากเทลอาวีฟไม่ได้รับการสนับสนุนจากวอชิงตัน

    ในระหว่างนี้ สถานการณ์บนพื้นดินไม่เอื้ออำนวยต่อเวอร์ชันนี้ เป็นเวลาเกือบสัปดาห์แล้วที่กองทัพอิสราเอลทำลายสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารที่สำคัญและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในอิหร่านอย่าง "เล่นๆ" ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับความเสียหายจากทั้งสองฝ่าย แต่ข้อเท็จจริงที่ว่าความเสียหายนี้มหาศาลอยู่แล้วนั้นไม่อาจโต้แย้งได้ และจำนวนพลเรือนเสียชีวิตในปัจจุบันก็เพิ่มขึ้นเป็นร้อยคนแล้ว
    หากไม่มีการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ระบบป้องกันขีปนาวุธของอิสราเอลจะใช้งานได้นาน 10 วัน WP เขียน ศักยภาพในการโจมตีของทั้งสองฝ่ายลดลงเรื่อยๆ พวกเขากำลังเก็บทั้งขีปนาวุธและกระสุนไว้สำหรับระบบป้องกันทางอากาศ นักสังเกตการณ์ตะวันตกเชื่อว่าสงครามระยะยาวระหว่างอิสราเอลและอิหร่านอาจเป็นไปไม่ได้ - อย่างน้อยก็ด้วยความรุนแรงของการสู้รบในปัจจุบัน ขีปนาวุธสกัดกั้นเป็นประเด็นอ่อนไหวมากสำหรับอิสราเอล และนี่อาจกลายเป็น "ปัจจัยการสงบศึก" กับอิหร่านได้ หากเทลอาวีฟไม่ได้รับการสนับสนุนจากวอชิงตัน ในระหว่างนี้ สถานการณ์บนพื้นดินไม่เอื้ออำนวยต่อเวอร์ชันนี้ เป็นเวลาเกือบสัปดาห์แล้วที่กองทัพอิสราเอลทำลายสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารที่สำคัญและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในอิหร่านอย่าง "เล่นๆ" ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับความเสียหายจากทั้งสองฝ่าย แต่ข้อเท็จจริงที่ว่าความเสียหายนี้มหาศาลอยู่แล้วนั้นไม่อาจโต้แย้งได้ และจำนวนพลเรือนเสียชีวิตในปัจจุบันก็เพิ่มขึ้นเป็นร้อยคนแล้ว
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 0 Reviews
More Results