• เหยื่อ – ขวาง ตอนที่ 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
    ตอนที่ 2 : “ขวาง 2”

    คงเห็นชัดเจนแล้วว่าอังกฤษเป็นโรคแพ้ทางรถไฟ โดยเฉพาะสาย Berlin Bagdad ซึ่งสร้างโดยเยอรมัน อนุญาตโดยออตโตมาน อังกฤษจะแก้อาการแพ้ทางรถไฟนี้อย่างไร อังกฤษตั้งใจใช้ไม้เสี้ยม หวังให้รางรถไฟแหกโค้ง ตกเขาจบสิ้นไป แต่ถ้าเอาแว่นขยายส่องอีกหน่อย เราจะเห็นความเหี้ยมของอังกฤษว่า ไม่ใช่แค่เสี้ยมให้ทางรถไฟแหกโค้งตกเขา แล้วเรื่องจะจบ อาการแพ้จะหายไป นั่นมันง่ายไป และใจดีไปสำหรับชาวเกาะ มันต้องมีอะไรซับซ้อนซ่อนมากกว่านั้น เกินจิตนาการ เล่าแล้วเหมือนจะทำลายหัวใจ พวกที่นิยมบูชาฝรั่ง

    เริ่มจาก ค.ศ. 1873 เป็นต้นมา ความเจริญทางเศรษฐกิจระหว่างอังกฤษกับเยอรมัน ดูเหมือนจะใช้อัตราและขนาด ทิ้งห่างกันออกไปเรื่อย ๆ ในที่สุดก็ถึงระดับที่ทำให้สงครามโลกครั้งที่ 1 ต้องถูกจุดให้เกิดระเบิดขึ้น ในปี ค.ศ. 1914 แต่สาเหตุแท้จริงของการจุดให้เกิดสงครามโลก ได้ถูกซ่อนลึก จนแทบจะไม่มีใครได้รู้จนเวลาผ่านพ้นไปนานพอสมควร

    ประมาณปลายศตวรรษที่ 19 กลุ่มธุรกิจ การเงิน นักการเมือง และพวกอีลิตของชาวเกาะอังกฤษ เริ่มออกอาการ เนื่องจากเห็นความเปลี่ยนแปลง ของพวกอยู่บนแผ่นดินใหญ่ของทวีปยุโรป ที่ดูจะคึกคักผิดปรกติ

    การเกิดของกองเรือขนส่งสินค้าของเยอรมัน ที่ทำท่าว่ากำลังทำมาค้าขึ้น ข่าวเรื่องการก่อสร้างทางรถไฟสาย Berlin Bagdad ที่จะวิ่งไปตามเส้นทาง ที่จะทำให้ อินเดีย กล่องดวงใจ ของรักของหวงของชาวเกาะ มีโอกาสล่อแหลมที่จะถูกฉกไปเชยชม แบบนี้ชาวเกาะจะไม่รู้สึกว่า มีอาการของกรดไหลย้อนขึ้นมาละหรือ

    ในช่วง ค.ศ. 1890 อุตสาหกรรมของอังกฤษ ทั้งในด้านคุณภาพและปริมาณ รวมทั้งด้านการเกษตร นำหน้าเยอรมันหลายช่วงตัว เรียกว่าเหลียวหลังหันกลับไปมองจนคอจะเคล็ดตาย ยังไม่เห็นแม้เงาราง ๆ ของเยอรมันวิ่งตามมา อังกฤษเจ้าแห่งนักล่าอาณานิคม มองเยอรมันเหมือนคนป่าเถื่อน เทอะทะ เฟอะฟะ พูดจาเหมือนออกมาจากดงดิบ ดีว่าตัวขาวผมทอง ไม่งั้นคงถูกเหมาว่ามาจากแถบอื่น ไม่ใช่ชาวยุโรป
    เมื่อ ค.ศ. 1850 อังกฤษยังเพลิดเพลินและโดดเด่นในการล่าอาณานิคม ขยายอาณาเขตของตัวเองกว้างไกลไปไม่หยุด เพื่อไปขโมยเอาทรัพยากรของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ อังกฤษทำเพราะส่วนหนึ่งเกาะตัวเองใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย จะเอาเนื้อที่ส่วนไหนมาให้ประชาชนทำมาหากิน ปลูกผักปลูกหญ้า แถมทรัพยากรสำคัญก็ไม่มี มีแต่ถ่านหินที่พอเชิดหน้าชูตาได้ จะกินเข้าไปได้หรือถ่านหินน่ะ อังกฤษจึงใช้ความคิดกับปากเป็นอาวุธสำคัญในการล่าอาณานิคม แต่อาวุธกับปากมันไปเองไม่ได้ จึงต้องมีกองทัพเรืออันยิ่งใหญ่ เพื่อไปหลอก ไปต้ม ไปเสี้ยม ไปล่า ไปเอาอาณานิคมมาเกือบทั้งโลก ก็ต้องยอมรับว่า วิทยายุทธการล่าเหยื่อของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยเท้าซ้ายนี้สูงส่งนัก

    แผนการหนึ่งของการล่า คือทำให้เหยื่อเปิดประตูบ้าน ให้นักล่าเข้านอกออกใน และหลังจากนั้น นักล่าชาวเกาะใหญ่นี้ จะได้ไปถอดกลอนประตูบ้านเขาให้ เปิดกว้าง สู่การค้าเสรี การค้าเสรี นักล่ารุ่นเก่าเขาก็ทำนะ อย่านึกว่ามีแต่รุ่นใหม่ มีอะไรเอามาขายให้หมด (ในราคาถูก) เพื่อแลกกับของแปลก ๆ ใหม่ ๆ ที่อังกฤษนักล่า เอาไปหลอกขาย คิดดูแล้ว ก็เหมือนพ่อค้าเร่ขายยา มีของอยู่เต็มท้ายรถ ไปถึงก็หลอกชาวบ้าน โดยฉายหนังกลางแปลง ชาวบ้านก็หอบลูกจูงหลานมาดู หนังเลิก ก็อดซื้ออะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเห็นติดไม้ติดมือกลับ บ้านไปไม่ได้ พ่อค้าซื้อมาถูกๆ มาขายต่อราคาแพง ๆ กับชาวบ้านต่างถิ่นไกลโพ้น ที่ไม่มีโอกาสเห็นโลกกว้าง เออ! หลอกต้มแบบนี้มาตั้งกะสมัยปู่ย่า ถึงสมัยลูกหลานก็ยังโดนหลอกอยู่เหมือนเดิม

    สินค้าที่พ่อค้าเร่ขายยา นักล่ารุ่นเก่าชอบเอามาหลอกเหยื่อสมัยนั้น ส่วนมากก็เป็นพวกเครื่องมือ เครื่องใช้สมัยใหม่ วิทยาการใหม่ทางวิทยาศาตร์ เช่น โทรเลข โทรศัพท์ รถไฟ รถราง และเครื่องไฟฟ้าต่าง ๆ เป็นต้น

    แล้วเหยื่อส่วนใหญ่ก็กินเบ็ด เพราะไม่เคยมี ก็อยากมี แต่ไม่มีทุนพอซื้อหรือสร้าง นักล่าบอกไม่เป็นไร มีแผนสำเร็จรูปเตรียมไว้ให้ ได้เลย เดี๋ยวไอจัดการให้ ไอหาเงินกู้ดอกถูกมาให้สร้างเสาโทรเลขดีไหม จะได้ไม่ต้องขี่อูฐกันไป 3 เดือนกว่าจะรู้เรื่อง กดแต๊ก แต๊ก แต๊ก เดี๋ยวเดียว ก็รู้แล้วว่าไอ้คนที่เจ้านายส่งไปดูแลหัวเมืองน่ะ มันทำงาน หรือกลับบ้านไปนอนกลางวันทุกวัน นี่มันคิดหลอกกันแบบนี้ เป็นร้อยปีมากแล้ว แต่ยังใช้ได้อยู่ ลุงนิทานเล่าซ้ำซากด้วยความอ่อนใจ

    เหยื่อส่วนใหญ่ก็ตกลง ให้นักล่าจัดการสร้างโน่น ติดตั้งนี้ ไปเรื่อย ๆ ด้วยเงินกู้ที่นักล่าจัดการให้ แล้วเหยื่อก็เป็นหนี้บานทะโล่ไปเรื่อย ๆ ส่วนหนึ่งที่ออตโตมานเจ๊ง ถูกเรียกว่าเป็นคนป่วยก็มาจากเหตุนี้แหละ ถูกต้ม ให้ซื้อ ให้ทำสงคราม ให้สร้างกองทัพ ฯลฯ ส่วนนักล่าเมื่อได้เงินมา ส่วนหนึ่งก็ซื้อสินค้าพื้นเมืองราคาถูก กลับไปขายแพงที่บ้าน มีกำไรดี แต่เงินส่วนใหญ่กลับไปหานายธนาคารผู้สนับสนุน ทั้งการเดินทาง และการสร้างของเล่นให้เหยื่อ ทำแบบนี้เหมือนอังกฤษน่าจะรวย แต่ ค.ศ. 1870 อังกฤษเกิดอาการเศรษฐกิจตกสะเก็ด เงินไปกระจุกตัวอยู่ที่นายธนาคารผู้ให้กู้ ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีกิน
    เยอรมันบอกวิธีนี้ ถ้าเราทำตาม เราก็คงเจ็งตาม เยอรมันจึงเปลี่ยนวิธีการพัฒนาประเทศตนเองใหม่ เน้นหนักทางด้านอุตสาหกรรม

    ค.ศ. 1890 เยอรมันผลิตถ่านหินได้ 88 ล้านตัน ส่วนอังกฤษผลิตได้ 182 ล้านตัน

    ค.ศ. 1910 การผลิตถ่านหินของเยอรมัน พุ่งขึ้นเป็น 219 ล้านตัน ส่วนอังกฤษผลิตได้ 264 ล้านตัน ความห่างของปริมาณการผลิตเริ่มแคบเข้ามาเรื่อย ๆ
    ค.ศ. 1914 เรือบรรทุกสินค้าของเยอรมัน ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองแค่อังกฤษ เป็นการปรับตัวขยายที่รวดเร็วมาก เยอรมันเปลี่ยนตัวถังเรือจากไม้เป็นเหล็ก และเปลี่ยนเป็นใช้เครื่องจักรกลขับเคลื่อนเรือ ทำให้ขนาดเรือบรรทุกสินค้าใหญ่ขึ้น บรรทุกสินค้าได้มากขึ้น และวิ่งเร็วขึ้น เยอรมันกลับกลายเป็นลูกพี่ในการขนส่งสินค้าทางทะเล

    การขนส่งสินค้าทางเรือบรรทุกของเยอรมัน นอกจากเพิ่มจำนวนสินค้าแล้ว ยังมีการประกันภัยสินค้าด้วย ระบบที่ครบถ้วนของเยอรมัน เป็นที่พอใจของผู้ใช้บริการมาก ขนาดฝรั่งเศส คู่หูอังกฤษเอง ยังออกปากว่า การขนส่งสินค้าทางเรือของเยอรมัน ไม่ได้วางระบบให้วิ่งไปหาการค้า แต่วิธีดำเนินการของเยอรมัน ทำให้การค้าวิ่งมาหาเอง มันเหนือกว่าที่เคย ๆ ทำ

    เอะ ! ฝรั่งเศสหมายถึงใคร พูดชมใคร พูดแดกใคร ! แค่เยอรมันเริ่มทาบรัศมีการขนส่งทางเรือ อังกฤษก็ขัดใจแย่แล้ว นี่คู่หูดันไปชื่นชมอีก แบบนี้มันยิ่งกว่าขัดใจ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    28 ส.ค. 2557
    เหยื่อ – ขวาง ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ” ตอนที่ 2 : “ขวาง 2” คงเห็นชัดเจนแล้วว่าอังกฤษเป็นโรคแพ้ทางรถไฟ โดยเฉพาะสาย Berlin Bagdad ซึ่งสร้างโดยเยอรมัน อนุญาตโดยออตโตมาน อังกฤษจะแก้อาการแพ้ทางรถไฟนี้อย่างไร อังกฤษตั้งใจใช้ไม้เสี้ยม หวังให้รางรถไฟแหกโค้ง ตกเขาจบสิ้นไป แต่ถ้าเอาแว่นขยายส่องอีกหน่อย เราจะเห็นความเหี้ยมของอังกฤษว่า ไม่ใช่แค่เสี้ยมให้ทางรถไฟแหกโค้งตกเขา แล้วเรื่องจะจบ อาการแพ้จะหายไป นั่นมันง่ายไป และใจดีไปสำหรับชาวเกาะ มันต้องมีอะไรซับซ้อนซ่อนมากกว่านั้น เกินจิตนาการ เล่าแล้วเหมือนจะทำลายหัวใจ พวกที่นิยมบูชาฝรั่ง เริ่มจาก ค.ศ. 1873 เป็นต้นมา ความเจริญทางเศรษฐกิจระหว่างอังกฤษกับเยอรมัน ดูเหมือนจะใช้อัตราและขนาด ทิ้งห่างกันออกไปเรื่อย ๆ ในที่สุดก็ถึงระดับที่ทำให้สงครามโลกครั้งที่ 1 ต้องถูกจุดให้เกิดระเบิดขึ้น ในปี ค.ศ. 1914 แต่สาเหตุแท้จริงของการจุดให้เกิดสงครามโลก ได้ถูกซ่อนลึก จนแทบจะไม่มีใครได้รู้จนเวลาผ่านพ้นไปนานพอสมควร ประมาณปลายศตวรรษที่ 19 กลุ่มธุรกิจ การเงิน นักการเมือง และพวกอีลิตของชาวเกาะอังกฤษ เริ่มออกอาการ เนื่องจากเห็นความเปลี่ยนแปลง ของพวกอยู่บนแผ่นดินใหญ่ของทวีปยุโรป ที่ดูจะคึกคักผิดปรกติ การเกิดของกองเรือขนส่งสินค้าของเยอรมัน ที่ทำท่าว่ากำลังทำมาค้าขึ้น ข่าวเรื่องการก่อสร้างทางรถไฟสาย Berlin Bagdad ที่จะวิ่งไปตามเส้นทาง ที่จะทำให้ อินเดีย กล่องดวงใจ ของรักของหวงของชาวเกาะ มีโอกาสล่อแหลมที่จะถูกฉกไปเชยชม แบบนี้ชาวเกาะจะไม่รู้สึกว่า มีอาการของกรดไหลย้อนขึ้นมาละหรือ ในช่วง ค.ศ. 1890 อุตสาหกรรมของอังกฤษ ทั้งในด้านคุณภาพและปริมาณ รวมทั้งด้านการเกษตร นำหน้าเยอรมันหลายช่วงตัว เรียกว่าเหลียวหลังหันกลับไปมองจนคอจะเคล็ดตาย ยังไม่เห็นแม้เงาราง ๆ ของเยอรมันวิ่งตามมา อังกฤษเจ้าแห่งนักล่าอาณานิคม มองเยอรมันเหมือนคนป่าเถื่อน เทอะทะ เฟอะฟะ พูดจาเหมือนออกมาจากดงดิบ ดีว่าตัวขาวผมทอง ไม่งั้นคงถูกเหมาว่ามาจากแถบอื่น ไม่ใช่ชาวยุโรป เมื่อ ค.ศ. 1850 อังกฤษยังเพลิดเพลินและโดดเด่นในการล่าอาณานิคม ขยายอาณาเขตของตัวเองกว้างไกลไปไม่หยุด เพื่อไปขโมยเอาทรัพยากรของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ อังกฤษทำเพราะส่วนหนึ่งเกาะตัวเองใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย จะเอาเนื้อที่ส่วนไหนมาให้ประชาชนทำมาหากิน ปลูกผักปลูกหญ้า แถมทรัพยากรสำคัญก็ไม่มี มีแต่ถ่านหินที่พอเชิดหน้าชูตาได้ จะกินเข้าไปได้หรือถ่านหินน่ะ อังกฤษจึงใช้ความคิดกับปากเป็นอาวุธสำคัญในการล่าอาณานิคม แต่อาวุธกับปากมันไปเองไม่ได้ จึงต้องมีกองทัพเรืออันยิ่งใหญ่ เพื่อไปหลอก ไปต้ม ไปเสี้ยม ไปล่า ไปเอาอาณานิคมมาเกือบทั้งโลก ก็ต้องยอมรับว่า วิทยายุทธการล่าเหยื่อของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยเท้าซ้ายนี้สูงส่งนัก แผนการหนึ่งของการล่า คือทำให้เหยื่อเปิดประตูบ้าน ให้นักล่าเข้านอกออกใน และหลังจากนั้น นักล่าชาวเกาะใหญ่นี้ จะได้ไปถอดกลอนประตูบ้านเขาให้ เปิดกว้าง สู่การค้าเสรี การค้าเสรี นักล่ารุ่นเก่าเขาก็ทำนะ อย่านึกว่ามีแต่รุ่นใหม่ มีอะไรเอามาขายให้หมด (ในราคาถูก) เพื่อแลกกับของแปลก ๆ ใหม่ ๆ ที่อังกฤษนักล่า เอาไปหลอกขาย คิดดูแล้ว ก็เหมือนพ่อค้าเร่ขายยา มีของอยู่เต็มท้ายรถ ไปถึงก็หลอกชาวบ้าน โดยฉายหนังกลางแปลง ชาวบ้านก็หอบลูกจูงหลานมาดู หนังเลิก ก็อดซื้ออะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเห็นติดไม้ติดมือกลับ บ้านไปไม่ได้ พ่อค้าซื้อมาถูกๆ มาขายต่อราคาแพง ๆ กับชาวบ้านต่างถิ่นไกลโพ้น ที่ไม่มีโอกาสเห็นโลกกว้าง เออ! หลอกต้มแบบนี้มาตั้งกะสมัยปู่ย่า ถึงสมัยลูกหลานก็ยังโดนหลอกอยู่เหมือนเดิม สินค้าที่พ่อค้าเร่ขายยา นักล่ารุ่นเก่าชอบเอามาหลอกเหยื่อสมัยนั้น ส่วนมากก็เป็นพวกเครื่องมือ เครื่องใช้สมัยใหม่ วิทยาการใหม่ทางวิทยาศาตร์ เช่น โทรเลข โทรศัพท์ รถไฟ รถราง และเครื่องไฟฟ้าต่าง ๆ เป็นต้น แล้วเหยื่อส่วนใหญ่ก็กินเบ็ด เพราะไม่เคยมี ก็อยากมี แต่ไม่มีทุนพอซื้อหรือสร้าง นักล่าบอกไม่เป็นไร มีแผนสำเร็จรูปเตรียมไว้ให้ ได้เลย เดี๋ยวไอจัดการให้ ไอหาเงินกู้ดอกถูกมาให้สร้างเสาโทรเลขดีไหม จะได้ไม่ต้องขี่อูฐกันไป 3 เดือนกว่าจะรู้เรื่อง กดแต๊ก แต๊ก แต๊ก เดี๋ยวเดียว ก็รู้แล้วว่าไอ้คนที่เจ้านายส่งไปดูแลหัวเมืองน่ะ มันทำงาน หรือกลับบ้านไปนอนกลางวันทุกวัน นี่มันคิดหลอกกันแบบนี้ เป็นร้อยปีมากแล้ว แต่ยังใช้ได้อยู่ ลุงนิทานเล่าซ้ำซากด้วยความอ่อนใจ เหยื่อส่วนใหญ่ก็ตกลง ให้นักล่าจัดการสร้างโน่น ติดตั้งนี้ ไปเรื่อย ๆ ด้วยเงินกู้ที่นักล่าจัดการให้ แล้วเหยื่อก็เป็นหนี้บานทะโล่ไปเรื่อย ๆ ส่วนหนึ่งที่ออตโตมานเจ๊ง ถูกเรียกว่าเป็นคนป่วยก็มาจากเหตุนี้แหละ ถูกต้ม ให้ซื้อ ให้ทำสงคราม ให้สร้างกองทัพ ฯลฯ ส่วนนักล่าเมื่อได้เงินมา ส่วนหนึ่งก็ซื้อสินค้าพื้นเมืองราคาถูก กลับไปขายแพงที่บ้าน มีกำไรดี แต่เงินส่วนใหญ่กลับไปหานายธนาคารผู้สนับสนุน ทั้งการเดินทาง และการสร้างของเล่นให้เหยื่อ ทำแบบนี้เหมือนอังกฤษน่าจะรวย แต่ ค.ศ. 1870 อังกฤษเกิดอาการเศรษฐกิจตกสะเก็ด เงินไปกระจุกตัวอยู่ที่นายธนาคารผู้ให้กู้ ประชาชนส่วนใหญ่ไม่มีกิน เยอรมันบอกวิธีนี้ ถ้าเราทำตาม เราก็คงเจ็งตาม เยอรมันจึงเปลี่ยนวิธีการพัฒนาประเทศตนเองใหม่ เน้นหนักทางด้านอุตสาหกรรม ค.ศ. 1890 เยอรมันผลิตถ่านหินได้ 88 ล้านตัน ส่วนอังกฤษผลิตได้ 182 ล้านตัน ค.ศ. 1910 การผลิตถ่านหินของเยอรมัน พุ่งขึ้นเป็น 219 ล้านตัน ส่วนอังกฤษผลิตได้ 264 ล้านตัน ความห่างของปริมาณการผลิตเริ่มแคบเข้ามาเรื่อย ๆ ค.ศ. 1914 เรือบรรทุกสินค้าของเยอรมัน ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของโลก เป็นรองแค่อังกฤษ เป็นการปรับตัวขยายที่รวดเร็วมาก เยอรมันเปลี่ยนตัวถังเรือจากไม้เป็นเหล็ก และเปลี่ยนเป็นใช้เครื่องจักรกลขับเคลื่อนเรือ ทำให้ขนาดเรือบรรทุกสินค้าใหญ่ขึ้น บรรทุกสินค้าได้มากขึ้น และวิ่งเร็วขึ้น เยอรมันกลับกลายเป็นลูกพี่ในการขนส่งสินค้าทางทะเล การขนส่งสินค้าทางเรือบรรทุกของเยอรมัน นอกจากเพิ่มจำนวนสินค้าแล้ว ยังมีการประกันภัยสินค้าด้วย ระบบที่ครบถ้วนของเยอรมัน เป็นที่พอใจของผู้ใช้บริการมาก ขนาดฝรั่งเศส คู่หูอังกฤษเอง ยังออกปากว่า การขนส่งสินค้าทางเรือของเยอรมัน ไม่ได้วางระบบให้วิ่งไปหาการค้า แต่วิธีดำเนินการของเยอรมัน ทำให้การค้าวิ่งมาหาเอง มันเหนือกว่าที่เคย ๆ ทำ เอะ ! ฝรั่งเศสหมายถึงใคร พูดชมใคร พูดแดกใคร ! แค่เยอรมันเริ่มทาบรัศมีการขนส่งทางเรือ อังกฤษก็ขัดใจแย่แล้ว นี่คู่หูดันไปชื่นชมอีก แบบนี้มันยิ่งกว่าขัดใจ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 28 ส.ค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหยื่อ – ขวาง ตอนที่ 1
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
    ตอนที่ 2 : “ขวาง 1”

    อิรักเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรออตโตมาน นานแสนนานก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 จะเริ่ม เรียกว่าเป็นมณฑลด่านนอก ซึ่งประกอบด้วย เมือง Basra, Bagdad และ Mosul อังกฤษนักล่าฯ จากเกาะใหญ่ฯ เรียกมณฑลนี่ว่า เมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) แม้จะเป็นด่านนอก แต่มีความสำคัญกับออตโตมาน เพราะฉะนั้นจึงมีความเชื่อมทางชะตากรรมและทิศทางของเมืองร่วมกัน

    แต่บางครั้งด้วยการคมนาคมที่ขลุกขลัก ทำให้หลายครั้ง อิรัก เหมือนถูกโดดเดี่ยว ไม่รู้ทิศทางเลี้ยวของนายเหนือ ปล่อยให้อิรักหลงทางและเป็นเหยื่อเผชิญศึกอยู่แต่ลำพัง

    อิรักเริ่มคบค้ากับนักล่าชาวเกาะใหญ่ฯ ผ่านการค้าของ English East India ซึ่งนักล่าเปิดสำนักหว่านไว้ทั่ว สำนักพวกนี้ มีหน้าที่เปิดเผยเป็นตัวแทนค้าขาย ให้กับรัฐบาลและพ่อค้าชาวอังกฤษ แต่หน้าที่หลักที่ปกปิดไว้ คือ สืบราชการลับ ครอบงำ กำกับดูแล ผู้ปกครองอาณาบริเวณที่ชาวเกาะไปตั้งสำนักอยู่ เรียกง่าย ๆ ว่า เป็นหน่วยงานช่างไม้ ทำหน้าที่เหลาไม้เสี้ยม ไม้ขัด ไม้ขวาง ไว้ตามบ้านเหยื่อต่าง ๆ

    สำหรับนักล่าชาวเกาะใหญ่ อิรักอยู่ในเส้นทางติดต่อระหว่างเกาะใหญ่ของนักล่ากับอินเดีย กล่องดวงใจของ นักล่า

    อิรักมีขนาดกำลังดี ทั้งในแง่พลเมืองและเศรษฐกิจ พอมีเรื่องให้ทำมาค้าขาย ไม่ให้หน่วยงานช่างไม้เหงา นักล่าจึงตั้งโรงงานขึ้นใน Basra ตั้งแต่ ค.ศ. 1763 ความสัมพันธ์ระหว่างนักล่ากับอิรัก จึงไม่ใช่แบบหลวม ๆ แม้โรงงานจะไม่ค่อยได้ผลมากนัก แต่นักล่าก็พอใจที่จะให้มีโรงงาน เพื่อคนของตัวจะได้นั่งเหลาไม้อยู่แถวนั้น เพราะนักล่าเกี่ยวเอาคูเวต (Kuwait) เมืองที่มีท่าเรือน้ำลึกอยู่แถวนั้นเอาไว้ด้วย ดังนั้นแถบนี้ จึงเหมือนเป็นเส้นทางที่นักล่าวางไว้ให้เป็นทางหนี หรือทางไล่ หากออตโตมานมีปัญหาอะไร รับมือไม่ไหวก็กระโดดก้าวผ่านอิรักไปคูเวต ลงเรือหนี หรือทำกลับกัน ย้อนกลับไปเอาไม้มาเพิ่ม เข้าทางคูเวตก็ได้เช่นเดียวกัน เป็นการวางจุดที่ทำให้นักล่าเคลื่อนไหวได้คล่องตัว
    พวก Mamluk เป็นผู้ได้รับอำนาจจากออตโตมานให้ปกครองอิรักในช่วงนั้น แต่ Mamluk เหม็นหน้าผู้ปกครองออตโตมานอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงพยายามผูกสัมพันธ์กับอังกฤษ สัมพันธ์ระหว่างอิรักกับอังกฤษ จึงสมประโยชน์กัน

    ค.ศ. 1798 Mamluk ยอมให้อังกฤษ มาร่วมนั่งพิจารณาคดี ในห้องพิจารณาคดีที่ Bagdad นับเป็นความคืบหน้าของอังกฤษไม่น้อย และในที่สุดอังกฤษก็ตั้งสถานกงสุลใน Bagdad เมื่อ ค.ศ. 1802 การค้าขายระหว่างอังกฤษและอิรักก็ก้าวหน้าขึ้นอีก โดยเฉพาะเรื่องการทอผ้า อังกฤษตั้งโรงงานทอผ้าในอิรัก และในที่สุด อังกฤษก็ชักจูงให้อิรักซื้อเรือกลไฟ และตั้งกิจการไปรษณีย์โทรเลข วางเสาไปทั่วเขตได้ โดยอังกฤษเป็นผู้ดำเนินการ
    สิ่งหนึ่งที่เหล่านักล่าอาณานิคมชอบขายให้แก่เหยื่อ คือ กิจการโทรเลข เพราะเป็นช่องทางที่ข้อมูลของเหยื่อจะหล่นมาถึงผู้ติดตั้ง ระบบและเสา เป็นของแถม หรือจริง ๆ เป็นของหลัก ที่มีค่ามากสำหรับนักล่า เป็นงานจารกรรมข่าวกรอง ที่เหยื่อไม่เคยรู้ตัว ไม่ต่างกับการติดตั้งโทรศัพท์ ในสมัยต่อมา และดาวเทียมในระยะเวลาไม่นานมานี้ พอนึกภาพออกกันไหมครับ ยิ่งตอนหลังนี้ มีโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ไอ้ป๊อด อีแป้ด อากู อะไรพวกนี้ มันเป็นเครื่องมือการดูดข้อมูลของเหยื่อทั้งสิ้น ถ้านึกกันไม่ทัน ก็คิดว่าผมเล่าฝันให้ฟังก็แล้วกัน

    อาจจะเป็นเพราะมีระยะความชิดใกล้มากไป ระหว่างพวก Mamluk กับอังกฤษ ค.ศ. 1831 พวก Mamluks ก็ถูกออตโตมานปลดกลางอากาศ ออกจากการเป็นผู้ปกครองอิรัก และออตโตมานก็เริ่มคุมเข้มอิรักใหม่ แต่การค้าขายติดต่อกับอังกฤษก็ยังดำเนินต่อไปคล้ายเหมือนเดิม

    อิทธิพลของฝรั่งตะวันตก ฝังรากลึกอยู่ในอิรัก ฝรั่งแนะนำให้อิรักปฏิรูปบ้านเมืองในเรื่องที่ดิน ให้มีการซื้อขายได้ และมีเศรษฐกิจแบบเปิดกว้าง อิรักเชื่อฟัง เดินตามที่ฝรั่งจูง เพราะเชื่อว่าจะทำให้ตัวเจริญ และทันสมัยอย่างที่ฝรั่งกล่อม ในที่สุดชาวอิรัก ซึ่งเคยมีชื่อเสียงในการเป็นช่างฝีมือ โดยเฉพาะในการทอพรม แกะสลักไม้ ก็ค่อย ๆ เหลือน้อยลง กลายเป็นช่างฝีมือเปิดปิดเครื่องจักรโรงงานให้ฝรั่งตะวันตกแทน

    ตลอดศตวรรษที่ 19 อังกฤษพอใจกับการได้ประโยชน์ ในการตั้งโรงงานไม้เหลาอยู่ที่อิรักนี้ เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายมาก และได้ผลตามที่ต้องการ แต่เมื่อเริ่มศตวรรษที่ 20 ออตโตมานชักเบื่อที่จะต้องถูกฝรั่งชาติเดียวหลอก จึงพยายามคบค้ากับฝรั่งชาติอื่นมากขึ้น โดยเฉพาะกับรัสเซียและเยอรมัน การแข่งขันมีมากขึ้น ไม้เสี้ยม ไม้ขัด ไม้ขวาง ทำท่าจะไม่พอใช้ ช่างไม้ชาวอังกฤษต้องทำงานหนักขึ้น

    การมาถึงของเส้นทางรถไฟสาย Berlin Bagdad ทำให้หัวคิ้วของนักล่า ขมวดผูกเป็นเงื่อนตาย นี่ยังไม่ต้องนึกถึงเรื่องที่แอบเก็บฝังลึกไว้ในหัวสมองของชาวเกาะใหญ่ กลางคืนแทบไม่กล้านอน กลัวหลับแล้วละเมอถึงความลับ ชาวบ้านจะรู้กันหมด ?

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    28 ส.ค. 2557
    เหยื่อ – ขวาง ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ” ตอนที่ 2 : “ขวาง 1” อิรักเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรออตโตมาน นานแสนนานก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 จะเริ่ม เรียกว่าเป็นมณฑลด่านนอก ซึ่งประกอบด้วย เมือง Basra, Bagdad และ Mosul อังกฤษนักล่าฯ จากเกาะใหญ่ฯ เรียกมณฑลนี่ว่า เมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) แม้จะเป็นด่านนอก แต่มีความสำคัญกับออตโตมาน เพราะฉะนั้นจึงมีความเชื่อมทางชะตากรรมและทิศทางของเมืองร่วมกัน แต่บางครั้งด้วยการคมนาคมที่ขลุกขลัก ทำให้หลายครั้ง อิรัก เหมือนถูกโดดเดี่ยว ไม่รู้ทิศทางเลี้ยวของนายเหนือ ปล่อยให้อิรักหลงทางและเป็นเหยื่อเผชิญศึกอยู่แต่ลำพัง อิรักเริ่มคบค้ากับนักล่าชาวเกาะใหญ่ฯ ผ่านการค้าของ English East India ซึ่งนักล่าเปิดสำนักหว่านไว้ทั่ว สำนักพวกนี้ มีหน้าที่เปิดเผยเป็นตัวแทนค้าขาย ให้กับรัฐบาลและพ่อค้าชาวอังกฤษ แต่หน้าที่หลักที่ปกปิดไว้ คือ สืบราชการลับ ครอบงำ กำกับดูแล ผู้ปกครองอาณาบริเวณที่ชาวเกาะไปตั้งสำนักอยู่ เรียกง่าย ๆ ว่า เป็นหน่วยงานช่างไม้ ทำหน้าที่เหลาไม้เสี้ยม ไม้ขัด ไม้ขวาง ไว้ตามบ้านเหยื่อต่าง ๆ สำหรับนักล่าชาวเกาะใหญ่ อิรักอยู่ในเส้นทางติดต่อระหว่างเกาะใหญ่ของนักล่ากับอินเดีย กล่องดวงใจของ นักล่า อิรักมีขนาดกำลังดี ทั้งในแง่พลเมืองและเศรษฐกิจ พอมีเรื่องให้ทำมาค้าขาย ไม่ให้หน่วยงานช่างไม้เหงา นักล่าจึงตั้งโรงงานขึ้นใน Basra ตั้งแต่ ค.ศ. 1763 ความสัมพันธ์ระหว่างนักล่ากับอิรัก จึงไม่ใช่แบบหลวม ๆ แม้โรงงานจะไม่ค่อยได้ผลมากนัก แต่นักล่าก็พอใจที่จะให้มีโรงงาน เพื่อคนของตัวจะได้นั่งเหลาไม้อยู่แถวนั้น เพราะนักล่าเกี่ยวเอาคูเวต (Kuwait) เมืองที่มีท่าเรือน้ำลึกอยู่แถวนั้นเอาไว้ด้วย ดังนั้นแถบนี้ จึงเหมือนเป็นเส้นทางที่นักล่าวางไว้ให้เป็นทางหนี หรือทางไล่ หากออตโตมานมีปัญหาอะไร รับมือไม่ไหวก็กระโดดก้าวผ่านอิรักไปคูเวต ลงเรือหนี หรือทำกลับกัน ย้อนกลับไปเอาไม้มาเพิ่ม เข้าทางคูเวตก็ได้เช่นเดียวกัน เป็นการวางจุดที่ทำให้นักล่าเคลื่อนไหวได้คล่องตัว พวก Mamluk เป็นผู้ได้รับอำนาจจากออตโตมานให้ปกครองอิรักในช่วงนั้น แต่ Mamluk เหม็นหน้าผู้ปกครองออตโตมานอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงพยายามผูกสัมพันธ์กับอังกฤษ สัมพันธ์ระหว่างอิรักกับอังกฤษ จึงสมประโยชน์กัน ค.ศ. 1798 Mamluk ยอมให้อังกฤษ มาร่วมนั่งพิจารณาคดี ในห้องพิจารณาคดีที่ Bagdad นับเป็นความคืบหน้าของอังกฤษไม่น้อย และในที่สุดอังกฤษก็ตั้งสถานกงสุลใน Bagdad เมื่อ ค.ศ. 1802 การค้าขายระหว่างอังกฤษและอิรักก็ก้าวหน้าขึ้นอีก โดยเฉพาะเรื่องการทอผ้า อังกฤษตั้งโรงงานทอผ้าในอิรัก และในที่สุด อังกฤษก็ชักจูงให้อิรักซื้อเรือกลไฟ และตั้งกิจการไปรษณีย์โทรเลข วางเสาไปทั่วเขตได้ โดยอังกฤษเป็นผู้ดำเนินการ สิ่งหนึ่งที่เหล่านักล่าอาณานิคมชอบขายให้แก่เหยื่อ คือ กิจการโทรเลข เพราะเป็นช่องทางที่ข้อมูลของเหยื่อจะหล่นมาถึงผู้ติดตั้ง ระบบและเสา เป็นของแถม หรือจริง ๆ เป็นของหลัก ที่มีค่ามากสำหรับนักล่า เป็นงานจารกรรมข่าวกรอง ที่เหยื่อไม่เคยรู้ตัว ไม่ต่างกับการติดตั้งโทรศัพท์ ในสมัยต่อมา และดาวเทียมในระยะเวลาไม่นานมานี้ พอนึกภาพออกกันไหมครับ ยิ่งตอนหลังนี้ มีโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ไอ้ป๊อด อีแป้ด อากู อะไรพวกนี้ มันเป็นเครื่องมือการดูดข้อมูลของเหยื่อทั้งสิ้น ถ้านึกกันไม่ทัน ก็คิดว่าผมเล่าฝันให้ฟังก็แล้วกัน อาจจะเป็นเพราะมีระยะความชิดใกล้มากไป ระหว่างพวก Mamluk กับอังกฤษ ค.ศ. 1831 พวก Mamluks ก็ถูกออตโตมานปลดกลางอากาศ ออกจากการเป็นผู้ปกครองอิรัก และออตโตมานก็เริ่มคุมเข้มอิรักใหม่ แต่การค้าขายติดต่อกับอังกฤษก็ยังดำเนินต่อไปคล้ายเหมือนเดิม อิทธิพลของฝรั่งตะวันตก ฝังรากลึกอยู่ในอิรัก ฝรั่งแนะนำให้อิรักปฏิรูปบ้านเมืองในเรื่องที่ดิน ให้มีการซื้อขายได้ และมีเศรษฐกิจแบบเปิดกว้าง อิรักเชื่อฟัง เดินตามที่ฝรั่งจูง เพราะเชื่อว่าจะทำให้ตัวเจริญ และทันสมัยอย่างที่ฝรั่งกล่อม ในที่สุดชาวอิรัก ซึ่งเคยมีชื่อเสียงในการเป็นช่างฝีมือ โดยเฉพาะในการทอพรม แกะสลักไม้ ก็ค่อย ๆ เหลือน้อยลง กลายเป็นช่างฝีมือเปิดปิดเครื่องจักรโรงงานให้ฝรั่งตะวันตกแทน ตลอดศตวรรษที่ 19 อังกฤษพอใจกับการได้ประโยชน์ ในการตั้งโรงงานไม้เหลาอยู่ที่อิรักนี้ เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายมาก และได้ผลตามที่ต้องการ แต่เมื่อเริ่มศตวรรษที่ 20 ออตโตมานชักเบื่อที่จะต้องถูกฝรั่งชาติเดียวหลอก จึงพยายามคบค้ากับฝรั่งชาติอื่นมากขึ้น โดยเฉพาะกับรัสเซียและเยอรมัน การแข่งขันมีมากขึ้น ไม้เสี้ยม ไม้ขัด ไม้ขวาง ทำท่าจะไม่พอใช้ ช่างไม้ชาวอังกฤษต้องทำงานหนักขึ้น การมาถึงของเส้นทางรถไฟสาย Berlin Bagdad ทำให้หัวคิ้วของนักล่า ขมวดผูกเป็นเงื่อนตาย นี่ยังไม่ต้องนึกถึงเรื่องที่แอบเก็บฝังลึกไว้ในหัวสมองของชาวเกาะใหญ่ กลางคืนแทบไม่กล้านอน กลัวหลับแล้วละเมอถึงความลับ ชาวบ้านจะรู้กันหมด ? สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 28 ส.ค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหยื่อ – เสี้ยม ตอนที่ 6 บทขยาย 1
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
บทขยาย ท้ายตอน “เสี้ยม”
    (1)

The Three Pasha ที่โค่นสุลต่าน Abdulhamid ในปี ค.ศ. 1908 และจัดการตัวเองขึ้นปกครองออตโตมาน ปาชา พวกนี้คือรุ่นแรกของกลุ่ม Young Turk ที่โด่งดัง เหล่ายังเตอร์กพวกนี้ ส่วนใหญ่เรียนจบมาจากลอนดอนหรือปารีส (แปลกใจไหมครับ ? !) เมื่อสงครามโลกใกล้จะเกิดเต็มแก่ และอังกฤษแสดงท่ารังเกียจ (จริง ๆ คืออิจฉาน่ะ) เยอรมัน อย่างออกนอกหน้า สามปาชาก็ร้อนใจ พยายามจะเอาใจอังกฤษ โดยแสดงอาการผลักหลังดันไหล่ ให้เยอรมันออกไปห่าง ๆ อีกประมาณหนึ่งช่วงแขน แล้วกลับไปทอดสะพานยาวเพิ่มขึ้นให้กับอังกฤษ
    สามปาชา ยินยอมทำสัญญาให้อังกฤษต่อเรือรบให้ออตโตมาน การต่อเรือนี้จะอำนวยการแสดงโดยท่านหลอด Winston Churchill เอง ในฐานะท่านแม่ทัพเรือ (ฉากใหญ่มาก !) แต่อู่ต่อเรือนี้ อังกฤษบอกต้องอยู่ที่กรุงคอนแสตนติโนเบิลนะ
    สามปาชาให้เกียรติยกย่อง อังกฤษ ให้มีอำนาจเหนือออตโตมาน อย่างที่ไม่เคยมีชาติไหนได้รับมาก่อน ยอมให้อังกฤษเข้านอกออกใน ร่วมตัดสินปัญหาราชการร่วมกับรัฐบาลตุรกี ที่สำคัญ อังกฤษส่งนายพลเรือ Gamble และนายพลเรือ Limpus มาดูแลกองทัพเรือให้ออตโตมาน โดยเฉพาะเกี่ยวกับการวางระเบิดใต้น้ำแถวช่องแคบ Golden Horn รวมทั้งเส้นทางที่ควรยิงตอร์ปิโด โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันตุรกี
    เป็น การวางแผนยุทธศาสตร์แบบเซียนเหยียบเมฆ ไร้ร่องรอย ความชั่วร้ายไม่มีหลุดออกมาให้เห็น (เท่าไหร่เลย) ฉากหน้าเหมือนมาดูแลออตโตมานคนป่วยด้วยความห่วงใย ระวังนะลมแรงใส่เสื้อหนาวซะนะ เดี๋ยวเป็นหวัด แต่แท้จริงหมออังกฤษเอายาพิษมาผสมอาหารให้คนป่วยกิน เพื่อจะได้ไปเร็วขึ้น
    การ ที่อังกฤษโหมทั้งมาต่อเรือให้ตุรกี และมาดูแลกองทัพเรือให้ตุรกี แน่นอน เป็นการเร่งเครื่องให้เยอรมันทนไม่ได้ ละครฉากนี้เนียนมาก ปาชาศิษย์เอก จะทันเหลี่ยมของครูที่สอนลูกศิษย์มาเองหรือ บางทีครูเขาก็ไม่ได้สอนมาหมดหรอกนะ (เอะ ! หรือเขาร่วมมือกัน ไม่น่า! คงไม่ใช่กรณีออตโตมาน!)
    ก่อนหน้าที่ออตโตมานจะตัดสินใจ ประกาศเข้าสู่สงครามโลก โดยอยู่ฝ่ายเยอรมัน นาย Edward Grey รมต.ต่างประเทศของอังกฤษขณะนั้น ผู้ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้เตรียมขั้นตอนการส่งมอบกรุงแสตนติโนเปิล ให้กับรัสเซียหลังสงครามเลิก เป็นค่าสินบนตามสัญญาที่ตกลงกันไว้นั้น นาย Grey ได้ทำบันทึกถึงกระทรวงต่างประเทศว่า “จงถ่วงเวลาที่จะทำให้สงครามโลกระเบิด ให้นานที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เพื่อที่เราจะได้มีเวลานานที่สุด ในการที่จะบอกกับทุกฝ่าย เมื่อสงครามโลกเกิดขึ้นแล้วว่า เราได้พยายามอย่างที่สุดแล้วที่จะไม่ให้สงครามโลกเกิดขึ้น แต่ออตโตมานเป็นฝ่ายที่ทำให้มันเกิดขึ้น”
    นี่ ก็น่าจะเป็นใบเสร็จ ให้เห็นถึงความร้ายกาจของการฑูตของอังกฤษ ที่สามารถแสดงการปลิ้นปล้อน ตอแหล ได้อย่างเยี่ยมยอด นอกเหนือจากสัญญา ซ้งกะบ๊วย Sykes-Picot และ Balfour Declaration ที่ทำไว้ก่อนหน้าแล้ว ฝีมือการใช้ไม้เสี้ยมจากสำนักชาวเกาะ ใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยเท้าซ้าย นี่ถือว่าเยี่ยมยุทธจริง ๆ เยี่ยงนี้ออตโตมานหรือจะรอดพ้น จากการหลอกไปขึ้นเขียง แล้วสับละเอียดเป็นหมูบะช่อ
    ไม้เสี้ยมมีเท่านี้หรือ คงไม่ใช่! จอมยุทธระดับนี้แล้วต้องพกมาหลายไม้ ขณะที่อังกฤษแพ้หมดรูปในการรบที่ Gallipoli ระหว่างทาง แทนที่จะรีบเคลื่อนพลกลับเกาะ กองทัพเรืออังกฤษกลับแวะพักเลียแผลอยู่ที่อียิปต์และกรีก ซึ่งประกาศตัวเป็นกลาง ส่วนกองทัพภาคพื้นดินของอังกฤษ ก็มุ่งหน้าไปทางปาเลสไตน์ และเมโสโปเตเมีย (อีรัค) และยึดเมืองทั้ง 2 มาจากชาวพื้นเมืองที่มีอาวุธ อานุภาพต่างกันราวฟ้ากับดิน ไม้สุดท้ายนี้เป็นไปตามแผน หาบ้านให้ยิว
    แผนการหาบ้านให้ยิวนี้ ดูเหมือนจะเป็นการซ้อนแผน คนโคตรรวย Rothschild ที่ขุนนางอังกฤษมองว่า ถึงจะโคตรรวย แต่ก็เป็นแค่พ่อค้า จะคิดมาเป็นระดับผู้ปกครองประเทศ (ruling class) คงเป็นการคิดใหญ่เกินสถานะไปหน่อย พวกขุนนางบอกว่า พวกยิวไม่มีสำนึกของความเป็นชาติ เพราะฉะนั้นย่อมเป็นอันตราย ถ้าให้มาเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองในประเทศ หวังว่าสมันน้อยจะอ่านความตรงนี้ให้แตก
    เมื่อสงครามโลกเริ่มติด เครื่อง อเมริกาประกาศวางตัวเป็นกลาง แถมออกจะมองอังกฤษอย่างไม่ค่อยไว้ใจ ว่าจะมีแผนลวงล่อ อะไรอีกเกี่ยวกับการเข้าสู่สงคราม ถึงเขี้ยวจะเพิ่งงอก แต่นักล่าหน้าใหม่ก็มีพี่เลี้ยงดูแล ติวเข้มกันมานานแล้ว คนอ่านนิทานแกะรอยนักล่าคงจะจำกันได้
    เดือนสิงหาคม ค.ศ. 1914 อังกฤษ ตั้งหน่วยงาน ชื่อ War Propaganda Bureau ซึ่งตั้งอยู่ที่ Wellington House หน่วยงานนี้ จึงเป็นที่รู้จักกัน ในชื่อของ Wellington House หน่วยงานนี้ ขึ้นตรงกับกระทรวงต่างประเทศ มีหน้าที่ชัดเจนคือปฏิบัติการใส่สีต่อเป้าหมาย ที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้าม และฟอกย้อมความคิดของฝ่ายเป็นกลาง โดยเฉพาะอเมริกาที่แม้จะพยายามทำตัวเป็นกลาง แต่น้ำหนักมาก พอที่จะทำให้ตาชั่งหมุนกลับได้ กลางแบบนี้ จึงทิ้งไว้ข้างสนามไม่ได้ ให้ใครมาฉกไปไม่ได้
    กระทรวง ต่างประเทศมอบหมายให้ นาย David Lloyd George เป็นผู้รับผิดชอบดูแลหน่วยงานนี้ Lloyd George มอบให้นักเขียนและสมาชิกรัฐสภาพรรคลิเบอรัล Charles Masterman เป็นหัวหน้าดูแลอีกต่อหนึ่ง
    นาย Masterman ได้เชิญนักเขียนชื่อดังของอังกฤษขณะนั้นมา 25 คน มาประชุม เพื่อช่วยกันคิดแผนใส่สีฟ้อกย้อมเป้าหมาย เพื่อประโยชน์ในการทำสงครามของ อังกฤษ ผู้ที่เข้ามาร่วมมี ทั้ง William Archer, Arthur Conan Doyle (คนเขียนนิยาย เชอร์ลอคโฮม) Arnold Bennett, John Masefield, Ford Madox Ford, G. K. Chesterton, Henry Newbolt, John Galsworthy, Thomas Hardy, Rudyard Kipling (คนเขียนนิยายชื่อดัง ระดับได้รางวัล Noble) Gilbert Parker, G. M. Trevelyan and H. G. Wells (คนเขียนหนังสือดัง เช่น the Time Machine, the Invisible Man เป็นต้น)
    ทั้งหมด ตกลงที่จะเก็บเรื่องทั้งหมดนี้เป็นความลับ (ความลับเพิ่งมาแตกเอาปี 1935) แต่ละคนต่างรับหน้าที่ไปเขียนเรื่องเลวร้ายเกี่ยวกับเยอร มัน จริงบ้าง เท็จบ้าง และมีสำนักพิมพ์อย่าง Hodder & Stoughton, Methuen, Oxford University Press, John Murray, Macmillan and Thomas Nelson เป็นผู้รับหน้าที่พิมพ์ จำชื่อสำนักพิมพ์พวกนี้ไว้บ้างนะครับ ใครที่เป็นนักอ่านหนังสือรุ่นเก่า จะได้รู้ว่าเรื่องไหนมันถูกย้อมมาแล้วหรือเปล่า หน่วยงาน War Prepaganda นี้ ผลิตงานทั้งหมด 1,160 รายการ ระหว่างสงคราม ผู้ที่โดนใส่สีย้อมหนักที่สุด คงไม่มีใครเกินเยอรมันและตุรกี
    หนังสือ กว่า 2.5 ล้านเล่ม รวมทั้งแผ่นพับส่งไป 13,000 จุดหมายและหน่วยงานสำคัญในอเมริกา ขณะนั้นอเมริกาไม่ไว้ใจว่าอังกฤษ กำลังเล่นละครเรื่องใดในตะวันออกกลาง เบื้องหน้าฉากเป็นอย่าง แล้วเบื้องหลังฉากเป็นอย่างไร อเมริกาจึงยังไม่เข้าร่วมสงครามรายการถล่มตุรกี
    แต่หลังจากมีสื่อ และแผ่นพับทยอยไปสู่ประชาชนชาวอเมริกันมากขึ้น คนอเมริกันเริ่มมีความเห็นออกมาว่า ตุรกีน่าจะป่วยหนัก ร่างกายและความคิด คงหลวมหลุดไปแยะ ไม่สมควรจะปกครองอาณาจักรออตโตมานต่อไป และการที่อังกฤษจะเข้าไปในอาหรับ ก็เหมือนเป็นพระผู้มาโปรดคนอาหรับ น่าจะเหมาะสมกว่า เพราะคนอาหรับไม่ฉลาดไม่มั่นคง ไม่เหมาะที่จะปกครองดินแดนของตัวเองอย่างยิ่ง !
    แล้วความเป็นกลางของอเมริกาก็เริ่มจะเอียง และเอียงมากขึ้นไปทางสนับสนุนฝ่ายอังกฤษ
    อเมริกาเริ่มด้วยการส่งเสบียงสนับสนุนฝ่ายอังกฤษ แท้จริงแล้ว มันเป็นโอกาสทอง ของการทำมาค้าขายครั้งสำคัญของอเมริกานั่นแหละ
    ใน ที่สุดอเมริกา ก็ประกาศอย่างเป็นทางการเข้าร่วมสงคราม สนับสนุนฝ่ายสัมพันธมิตร เมื่อเมษายน ค.ศ. 1917 เหล่าพี่เลี้ยงและผู้อยู่หลังฉากของการประกาศเข้าสู่สงครามของอเมริกา ต่างถอนหายใจเฮือกใหญ่ แหม ! ลุ้นกันเกือบตาย กว่าจะเป็นตามแผน!
    ไม่รู้ใครหลอกใคร ใครต้มใคร ช่วยกลับไปอ่านนิทานเรื่องแหกคอก อีกรอบนะครับ
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
20 ส.ค. 2557
    เหยื่อ – เสี้ยม ตอนที่ 6 บทขยาย 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “เหยื่อ”
บทขยาย ท้ายตอน “เสี้ยม” (1)

The Three Pasha ที่โค่นสุลต่าน Abdulhamid ในปี ค.ศ. 1908 และจัดการตัวเองขึ้นปกครองออตโตมาน ปาชา พวกนี้คือรุ่นแรกของกลุ่ม Young Turk ที่โด่งดัง เหล่ายังเตอร์กพวกนี้ ส่วนใหญ่เรียนจบมาจากลอนดอนหรือปารีส (แปลกใจไหมครับ ? !) เมื่อสงครามโลกใกล้จะเกิดเต็มแก่ และอังกฤษแสดงท่ารังเกียจ (จริง ๆ คืออิจฉาน่ะ) เยอรมัน อย่างออกนอกหน้า สามปาชาก็ร้อนใจ พยายามจะเอาใจอังกฤษ โดยแสดงอาการผลักหลังดันไหล่ ให้เยอรมันออกไปห่าง ๆ อีกประมาณหนึ่งช่วงแขน แล้วกลับไปทอดสะพานยาวเพิ่มขึ้นให้กับอังกฤษ สามปาชา ยินยอมทำสัญญาให้อังกฤษต่อเรือรบให้ออตโตมาน การต่อเรือนี้จะอำนวยการแสดงโดยท่านหลอด Winston Churchill เอง ในฐานะท่านแม่ทัพเรือ (ฉากใหญ่มาก !) แต่อู่ต่อเรือนี้ อังกฤษบอกต้องอยู่ที่กรุงคอนแสตนติโนเบิลนะ สามปาชาให้เกียรติยกย่อง อังกฤษ ให้มีอำนาจเหนือออตโตมาน อย่างที่ไม่เคยมีชาติไหนได้รับมาก่อน ยอมให้อังกฤษเข้านอกออกใน ร่วมตัดสินปัญหาราชการร่วมกับรัฐบาลตุรกี ที่สำคัญ อังกฤษส่งนายพลเรือ Gamble และนายพลเรือ Limpus มาดูแลกองทัพเรือให้ออตโตมาน โดยเฉพาะเกี่ยวกับการวางระเบิดใต้น้ำแถวช่องแคบ Golden Horn รวมทั้งเส้นทางที่ควรยิงตอร์ปิโด โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันตุรกี เป็น การวางแผนยุทธศาสตร์แบบเซียนเหยียบเมฆ ไร้ร่องรอย ความชั่วร้ายไม่มีหลุดออกมาให้เห็น (เท่าไหร่เลย) ฉากหน้าเหมือนมาดูแลออตโตมานคนป่วยด้วยความห่วงใย ระวังนะลมแรงใส่เสื้อหนาวซะนะ เดี๋ยวเป็นหวัด แต่แท้จริงหมออังกฤษเอายาพิษมาผสมอาหารให้คนป่วยกิน เพื่อจะได้ไปเร็วขึ้น การ ที่อังกฤษโหมทั้งมาต่อเรือให้ตุรกี และมาดูแลกองทัพเรือให้ตุรกี แน่นอน เป็นการเร่งเครื่องให้เยอรมันทนไม่ได้ ละครฉากนี้เนียนมาก ปาชาศิษย์เอก จะทันเหลี่ยมของครูที่สอนลูกศิษย์มาเองหรือ บางทีครูเขาก็ไม่ได้สอนมาหมดหรอกนะ (เอะ ! หรือเขาร่วมมือกัน ไม่น่า! คงไม่ใช่กรณีออตโตมาน!) ก่อนหน้าที่ออตโตมานจะตัดสินใจ ประกาศเข้าสู่สงครามโลก โดยอยู่ฝ่ายเยอรมัน นาย Edward Grey รมต.ต่างประเทศของอังกฤษขณะนั้น ผู้ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้เตรียมขั้นตอนการส่งมอบกรุงแสตนติโนเปิล ให้กับรัสเซียหลังสงครามเลิก เป็นค่าสินบนตามสัญญาที่ตกลงกันไว้นั้น นาย Grey ได้ทำบันทึกถึงกระทรวงต่างประเทศว่า “จงถ่วงเวลาที่จะทำให้สงครามโลกระเบิด ให้นานที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เพื่อที่เราจะได้มีเวลานานที่สุด ในการที่จะบอกกับทุกฝ่าย เมื่อสงครามโลกเกิดขึ้นแล้วว่า เราได้พยายามอย่างที่สุดแล้วที่จะไม่ให้สงครามโลกเกิดขึ้น แต่ออตโตมานเป็นฝ่ายที่ทำให้มันเกิดขึ้น” นี่ ก็น่าจะเป็นใบเสร็จ ให้เห็นถึงความร้ายกาจของการฑูตของอังกฤษ ที่สามารถแสดงการปลิ้นปล้อน ตอแหล ได้อย่างเยี่ยมยอด นอกเหนือจากสัญญา ซ้งกะบ๊วย Sykes-Picot และ Balfour Declaration ที่ทำไว้ก่อนหน้าแล้ว ฝีมือการใช้ไม้เสี้ยมจากสำนักชาวเกาะ ใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยเท้าซ้าย นี่ถือว่าเยี่ยมยุทธจริง ๆ เยี่ยงนี้ออตโตมานหรือจะรอดพ้น จากการหลอกไปขึ้นเขียง แล้วสับละเอียดเป็นหมูบะช่อ ไม้เสี้ยมมีเท่านี้หรือ คงไม่ใช่! จอมยุทธระดับนี้แล้วต้องพกมาหลายไม้ ขณะที่อังกฤษแพ้หมดรูปในการรบที่ Gallipoli ระหว่างทาง แทนที่จะรีบเคลื่อนพลกลับเกาะ กองทัพเรืออังกฤษกลับแวะพักเลียแผลอยู่ที่อียิปต์และกรีก ซึ่งประกาศตัวเป็นกลาง ส่วนกองทัพภาคพื้นดินของอังกฤษ ก็มุ่งหน้าไปทางปาเลสไตน์ และเมโสโปเตเมีย (อีรัค) และยึดเมืองทั้ง 2 มาจากชาวพื้นเมืองที่มีอาวุธ อานุภาพต่างกันราวฟ้ากับดิน ไม้สุดท้ายนี้เป็นไปตามแผน หาบ้านให้ยิว แผนการหาบ้านให้ยิวนี้ ดูเหมือนจะเป็นการซ้อนแผน คนโคตรรวย Rothschild ที่ขุนนางอังกฤษมองว่า ถึงจะโคตรรวย แต่ก็เป็นแค่พ่อค้า จะคิดมาเป็นระดับผู้ปกครองประเทศ (ruling class) คงเป็นการคิดใหญ่เกินสถานะไปหน่อย พวกขุนนางบอกว่า พวกยิวไม่มีสำนึกของความเป็นชาติ เพราะฉะนั้นย่อมเป็นอันตราย ถ้าให้มาเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองในประเทศ หวังว่าสมันน้อยจะอ่านความตรงนี้ให้แตก เมื่อสงครามโลกเริ่มติด เครื่อง อเมริกาประกาศวางตัวเป็นกลาง แถมออกจะมองอังกฤษอย่างไม่ค่อยไว้ใจ ว่าจะมีแผนลวงล่อ อะไรอีกเกี่ยวกับการเข้าสู่สงคราม ถึงเขี้ยวจะเพิ่งงอก แต่นักล่าหน้าใหม่ก็มีพี่เลี้ยงดูแล ติวเข้มกันมานานแล้ว คนอ่านนิทานแกะรอยนักล่าคงจะจำกันได้ เดือนสิงหาคม ค.ศ. 1914 อังกฤษ ตั้งหน่วยงาน ชื่อ War Propaganda Bureau ซึ่งตั้งอยู่ที่ Wellington House หน่วยงานนี้ จึงเป็นที่รู้จักกัน ในชื่อของ Wellington House หน่วยงานนี้ ขึ้นตรงกับกระทรวงต่างประเทศ มีหน้าที่ชัดเจนคือปฏิบัติการใส่สีต่อเป้าหมาย ที่อยู่ฝ่ายตรงกันข้าม และฟอกย้อมความคิดของฝ่ายเป็นกลาง โดยเฉพาะอเมริกาที่แม้จะพยายามทำตัวเป็นกลาง แต่น้ำหนักมาก พอที่จะทำให้ตาชั่งหมุนกลับได้ กลางแบบนี้ จึงทิ้งไว้ข้างสนามไม่ได้ ให้ใครมาฉกไปไม่ได้ กระทรวง ต่างประเทศมอบหมายให้ นาย David Lloyd George เป็นผู้รับผิดชอบดูแลหน่วยงานนี้ Lloyd George มอบให้นักเขียนและสมาชิกรัฐสภาพรรคลิเบอรัล Charles Masterman เป็นหัวหน้าดูแลอีกต่อหนึ่ง นาย Masterman ได้เชิญนักเขียนชื่อดังของอังกฤษขณะนั้นมา 25 คน มาประชุม เพื่อช่วยกันคิดแผนใส่สีฟ้อกย้อมเป้าหมาย เพื่อประโยชน์ในการทำสงครามของ อังกฤษ ผู้ที่เข้ามาร่วมมี ทั้ง William Archer, Arthur Conan Doyle (คนเขียนนิยาย เชอร์ลอคโฮม) Arnold Bennett, John Masefield, Ford Madox Ford, G. K. Chesterton, Henry Newbolt, John Galsworthy, Thomas Hardy, Rudyard Kipling (คนเขียนนิยายชื่อดัง ระดับได้รางวัล Noble) Gilbert Parker, G. M. Trevelyan and H. G. Wells (คนเขียนหนังสือดัง เช่น the Time Machine, the Invisible Man เป็นต้น) ทั้งหมด ตกลงที่จะเก็บเรื่องทั้งหมดนี้เป็นความลับ (ความลับเพิ่งมาแตกเอาปี 1935) แต่ละคนต่างรับหน้าที่ไปเขียนเรื่องเลวร้ายเกี่ยวกับเยอร มัน จริงบ้าง เท็จบ้าง และมีสำนักพิมพ์อย่าง Hodder & Stoughton, Methuen, Oxford University Press, John Murray, Macmillan and Thomas Nelson เป็นผู้รับหน้าที่พิมพ์ จำชื่อสำนักพิมพ์พวกนี้ไว้บ้างนะครับ ใครที่เป็นนักอ่านหนังสือรุ่นเก่า จะได้รู้ว่าเรื่องไหนมันถูกย้อมมาแล้วหรือเปล่า หน่วยงาน War Prepaganda นี้ ผลิตงานทั้งหมด 1,160 รายการ ระหว่างสงคราม ผู้ที่โดนใส่สีย้อมหนักที่สุด คงไม่มีใครเกินเยอรมันและตุรกี หนังสือ กว่า 2.5 ล้านเล่ม รวมทั้งแผ่นพับส่งไป 13,000 จุดหมายและหน่วยงานสำคัญในอเมริกา ขณะนั้นอเมริกาไม่ไว้ใจว่าอังกฤษ กำลังเล่นละครเรื่องใดในตะวันออกกลาง เบื้องหน้าฉากเป็นอย่าง แล้วเบื้องหลังฉากเป็นอย่างไร อเมริกาจึงยังไม่เข้าร่วมสงครามรายการถล่มตุรกี แต่หลังจากมีสื่อ และแผ่นพับทยอยไปสู่ประชาชนชาวอเมริกันมากขึ้น คนอเมริกันเริ่มมีความเห็นออกมาว่า ตุรกีน่าจะป่วยหนัก ร่างกายและความคิด คงหลวมหลุดไปแยะ ไม่สมควรจะปกครองอาณาจักรออตโตมานต่อไป และการที่อังกฤษจะเข้าไปในอาหรับ ก็เหมือนเป็นพระผู้มาโปรดคนอาหรับ น่าจะเหมาะสมกว่า เพราะคนอาหรับไม่ฉลาดไม่มั่นคง ไม่เหมาะที่จะปกครองดินแดนของตัวเองอย่างยิ่ง ! แล้วความเป็นกลางของอเมริกาก็เริ่มจะเอียง และเอียงมากขึ้นไปทางสนับสนุนฝ่ายอังกฤษ อเมริกาเริ่มด้วยการส่งเสบียงสนับสนุนฝ่ายอังกฤษ แท้จริงแล้ว มันเป็นโอกาสทอง ของการทำมาค้าขายครั้งสำคัญของอเมริกานั่นแหละ ใน ที่สุดอเมริกา ก็ประกาศอย่างเป็นทางการเข้าร่วมสงคราม สนับสนุนฝ่ายสัมพันธมิตร เมื่อเมษายน ค.ศ. 1917 เหล่าพี่เลี้ยงและผู้อยู่หลังฉากของการประกาศเข้าสู่สงครามของอเมริกา ต่างถอนหายใจเฮือกใหญ่ แหม ! ลุ้นกันเกือบตาย กว่าจะเป็นตามแผน! ไม่รู้ใครหลอกใคร ใครต้มใคร ช่วยกลับไปอ่านนิทานเรื่องแหกคอก อีกรอบนะครับ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
20 ส.ค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • สาวไทยใจถึง จัดหนักสอนให้สำนึก พ่อค้าแม่ค้าไทย แต่ใจเขมร (23/9/68)

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #สาวไทย
    #พ่อค้าแม่ค้า
    #เขมร
    #ชายแดนไทย
    สาวไทยใจถึง จัดหนักสอนให้สำนึก พ่อค้าแม่ค้าไทย แต่ใจเขมร (23/9/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #สาวไทย #พ่อค้าแม่ค้า #เขมร #ชายแดนไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 55,ยึดอำนาจมา อำนาจเต็มมือ สั่ง ม.44แบบไหนก็ได้,ยุทธศาสตร์ชาติ20ปีด้วยนะ.
    ..คิดในมุมบวกแบบบวกโคตรๆ 3ป.อาจคือผู้เสียสละร่วมกับโทนี่ก็ได้,เพื่อลากไส้เขมรและผู้สนับสนุนเขมรทั้งหมด ตลอดพวกจะล้มจะยึดจะทำลายประเทศไทยให้เปิดเผยออกมาทั้งหมด เพื่อเก็บกวาดครั้งเดียว จะบ่อนจะพื้นที่ดินแดนจะอะไรชั่วเลวสาระพัดที่กระทำต่อแผ่นดินไทยประเทศไทยคนเสียสละเหล่านี้รับบทเล่นเต็มที่ แม้คนทั้งชาติจะตราหน้าว่าขายชาติก็ตาม เพื่อล่อเหยื่อตัวพ่อตัวแม่ออกมาได้จริงๆ,ไม่เข้าถ้ำเสือ ก็ไม่ได้ลูกเสือ จนกระทั่งขายวิญญาณให้ซาตานก็ได้เพื่อแลกกับความไว้วางใจของซาตาน แต่บทสุดท้ายคือพลิก เป้าหมายคือเพื่อทำลายซาตานให้พินาศทั้งหมดทั้งเครือข่ายนั้นเอง,เสียสละตนเองเพื่อพิทักษ์คนหมู่มากหรือประเทศไทย,ต้องสร้างสตอรี่เรื่องราวให้มีเหตุต่อการจบของเรื่อง ซึ่งธรรมะย่อมชนะอธรรมเสมอนั้นเอง.,เรทไรเดอร์ประมาณนั้น,ลุง3ป.บวกโทนี่รับบทถูกคนแล้วและอาจวางแผนกันมานานตั้งแต่ร.9แล้วก็ด้วย,อาจอยู่ที่ต่างประเทศโน้น,โดยฝ่ายแสงช่วยสนับสนุนพิเศษ,และอาจเดินทางไปเห็นอนาคตด้วยยานข้ามเวลามาแล้ว,ที่ฝ่ายแสงพาไปเห็น,โลกนี้มีอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะ
    ..ฝ่ายมืดแพ้สิ้นท่าแล้วก็ว่า,แค่ปลุกให้เราประชาชนมาตื่นรู้ค่าจริงแค่นั้น แบบตายจริง เจ็งจริงจึงกระตุ้นแรงขับเคลื่อนยากตื่นรู้ร่วมกันได้ เหมือนเราคนไทยสามัคคีร่วมใจกันปิดด่านเขมรจนกว่าจะเขมรหมดศักยภาพสิ้นฤทธิ์มาเป็นภัยอันตรายใดๆต่อประเทศไทยได้,โทนี่ที่ติดคุกก็เพื่อคุ้มครองชีวิตโทนี่ได้100%เท่านั้นแม้เป็นตัวปลอมก็ตามแต่,ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยจากคนที่จะทำร้ายดีที่สุด,ทั้งหมดถูกวางเนื้อเรื่องไว้หมดแล้วจากผู้สร้างหนังเรื่องไทยยึดภูมะเขือนี้.
    ..นี้คือมโนแบบเชิงบวกโคตรๆ พวกนี้คือฮีโร่ คนไทยรู้หรือยังว่า ..ไม่มีอะไรจะสุดยอดไปกว่าที่คนไทยเรารักกัน คนไทยเราสามัคคีกัน และช่วยเหลือกันและกันพึ่งพากันเองดีที่สุด,มิตรที่ดีที่สุดคือไทยเราเอง คือคนไทยทั้งประเทศเราเอง.,และสุดท้ายเรา..ประชาชนอาจร่วมกัน อภัยกันและกันในความผิดพลาดทั้งของตนเองและคนอื่น,เพื่อร่วมสร้างชาติไทยเราใหม่อีกครั้ง,ถอยแก่คนไทยเราเอง เพื่อก้าวไปอย่างรุ่งโรจน์ร่วมกันในยุคสมัยหน้า,ศัตรูที่แท้จริงมิใช่คนภายในชาติไทยเรา แต่คือคนหมายไม่ดีต่อประเทศไทยและคนไทยเรา ให้แตกแยกกัน จะทางศาสนา เชื้อชาติ และใดๆก็ตาม,การล้างกวาดล้างประเทศไทยที่ดีที่สุดคือล้างแบบให้อภัยกัน ทุกๆคนที่ทำผิดพลาดหวังได้รับการอภัยเพื่อกลับตัวกลับใจเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เคยทำผิดพลาดในอดีต,คนลักษณะนี้สมควรให้อภัยเมื่อสำนึกแล้วมาทำความดีเพื่อประเทศชาติร่วมกัน,แต่กับคนไม่สำนึก เราก็มิอาจให้อภัยได้ทางตายเท่านั้นคือสิ่งที่มันต้องได้รับเช่นกัน.,ชาติจึงจะเดินต่อไปได้,สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้คือสถาบันกษัตริย์เราเท่านั้นจะเคลียร์ตรงนี้ได้,คือคนระบบแบบราชการไทยทั้งหมด ต้องเห็นค่าการสำนึกนี้ ถวายสัตย์นั้นเอง กลับตัวกลับใจใหม่ ความชั่วใดๆในอดีตจะไม่คิดคำนวนกลับมาอีกแก่บรรดาข้าราชการไทยทั่วประเทศ จงกลับเนื้อกลับตัวกลับใจตั้งมั่นทำความดีเพื่อชาติคือประชาชนและเพื่อแผ่นดินอธิปไตยไทยที่เกิดอาศัยดำรงชีพและตายนี้,คนข้าราชการไทยเราจะเกิดใหม่ทันที,ความผิดใดๆคือเป็นศูนย์,อภัยโทษนั้นเอง,ต่อมาคือประชาชนคนไทย ความผิดใดๆโทษอภัยหมด,ตั้งต้นชีวิตใหม่ ,หากข้าราชการไทยคนใด พ่อค้าเจ้าสัวใดยังมีพฤติกรรมชั่วเลวเหมือนเดิม โทษอาญาหนักแน่นอน,อาจยึดทรัพย์ทั้งตระกูล,ประหารชีวิตพร้อม,ส่วย เถื่อนทหารนายพลใดยังรับไม่ซื่อคือตายสถานเดียว,อะไรไม่ถูกต้องทำให้ถูกต้อง,สุดท้ายคนไทยจะเป็นหัวโขนอะไรใดๆจะรักเข้าใจกันหมด,สามัคคีร่วมแรงใจลงใจกันทั่วประเทศ,เรา..ทั้งประเทศไทยประชาชนคนไทยจะเสมือนเม็ดทรายเป็นเม็ดหินหลายลูกรวมกองกันเป็นภูเขาเงินภูเขาทองภูเขาเพชรที่แข็วแกร่งกว่าใดๆมิปานแน่นอน ตั้งสง่าใหญ่โตองอาจประดับคู่เคียงข้างโลกอย่างอารยะธรรมใดๆเสมอเหมือนมิมีแน่นอนในยุคปัจจุบันนี้,ยุคคนเหนือมนุษย์รวมสาระพัดทุกๆศาสตราจักรวาลอาจมารวมไว้ที่ไทยเรานี้,จะล้ำๆต่างดาวยุคอารยะธรรมใดๆก็ตามThe godsใดๆที่ผ่านมาเหยียบโลกนี้มากมายเพียงใดก็ตาม,สนามหลวงแห่งกายเนื้อนี้คนไทยเราตีแตกหมดนั้นเอง,จะโคตรสุดยอดอัจฉริยะขนาดไหนอีก,บรรลุธรรมจักรวาลเป็นว่าเล่นนั้นเอง,โดยต่างดาวใดๆที่มาเยือนมายึดครองโลกมากมายหลายล้านล้านปีก็ยังกระทำไม่ได้เช่นคนไทยเราทำได้นับจากยุคนี้ร.10เราเป็นต้นไปนั้นเอง.,
    อภัยหนี้ อภัยโทษ จึงคือจุดเริ่มต้นของการปลดปล่อยจิตวิญญาณ.
    https://youtube.com/shorts/laYhDaCK47s?si=k-m4UrsIFSNUBfd1
    55,ยึดอำนาจมา อำนาจเต็มมือ สั่ง ม.44แบบไหนก็ได้,ยุทธศาสตร์ชาติ20ปีด้วยนะ. ..คิดในมุมบวกแบบบวกโคตรๆ 3ป.อาจคือผู้เสียสละร่วมกับโทนี่ก็ได้,เพื่อลากไส้เขมรและผู้สนับสนุนเขมรทั้งหมด ตลอดพวกจะล้มจะยึดจะทำลายประเทศไทยให้เปิดเผยออกมาทั้งหมด เพื่อเก็บกวาดครั้งเดียว จะบ่อนจะพื้นที่ดินแดนจะอะไรชั่วเลวสาระพัดที่กระทำต่อแผ่นดินไทยประเทศไทยคนเสียสละเหล่านี้รับบทเล่นเต็มที่ แม้คนทั้งชาติจะตราหน้าว่าขายชาติก็ตาม เพื่อล่อเหยื่อตัวพ่อตัวแม่ออกมาได้จริงๆ,ไม่เข้าถ้ำเสือ ก็ไม่ได้ลูกเสือ จนกระทั่งขายวิญญาณให้ซาตานก็ได้เพื่อแลกกับความไว้วางใจของซาตาน แต่บทสุดท้ายคือพลิก เป้าหมายคือเพื่อทำลายซาตานให้พินาศทั้งหมดทั้งเครือข่ายนั้นเอง,เสียสละตนเองเพื่อพิทักษ์คนหมู่มากหรือประเทศไทย,ต้องสร้างสตอรี่เรื่องราวให้มีเหตุต่อการจบของเรื่อง ซึ่งธรรมะย่อมชนะอธรรมเสมอนั้นเอง.,เรทไรเดอร์ประมาณนั้น,ลุง3ป.บวกโทนี่รับบทถูกคนแล้วและอาจวางแผนกันมานานตั้งแต่ร.9แล้วก็ด้วย,อาจอยู่ที่ต่างประเทศโน้น,โดยฝ่ายแสงช่วยสนับสนุนพิเศษ,และอาจเดินทางไปเห็นอนาคตด้วยยานข้ามเวลามาแล้ว,ที่ฝ่ายแสงพาไปเห็น,โลกนี้มีอะไรที่เราไม่รู้อีกเยอะ ..ฝ่ายมืดแพ้สิ้นท่าแล้วก็ว่า,แค่ปลุกให้เราประชาชนมาตื่นรู้ค่าจริงแค่นั้น แบบตายจริง เจ็งจริงจึงกระตุ้นแรงขับเคลื่อนยากตื่นรู้ร่วมกันได้ เหมือนเราคนไทยสามัคคีร่วมใจกันปิดด่านเขมรจนกว่าจะเขมรหมดศักยภาพสิ้นฤทธิ์มาเป็นภัยอันตรายใดๆต่อประเทศไทยได้,โทนี่ที่ติดคุกก็เพื่อคุ้มครองชีวิตโทนี่ได้100%เท่านั้นแม้เป็นตัวปลอมก็ตามแต่,ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยจากคนที่จะทำร้ายดีที่สุด,ทั้งหมดถูกวางเนื้อเรื่องไว้หมดแล้วจากผู้สร้างหนังเรื่องไทยยึดภูมะเขือนี้. ..นี้คือมโนแบบเชิงบวกโคตรๆ พวกนี้คือฮีโร่ คนไทยรู้หรือยังว่า ..ไม่มีอะไรจะสุดยอดไปกว่าที่คนไทยเรารักกัน คนไทยเราสามัคคีกัน และช่วยเหลือกันและกันพึ่งพากันเองดีที่สุด,มิตรที่ดีที่สุดคือไทยเราเอง คือคนไทยทั้งประเทศเราเอง.,และสุดท้ายเรา..ประชาชนอาจร่วมกัน อภัยกันและกันในความผิดพลาดทั้งของตนเองและคนอื่น,เพื่อร่วมสร้างชาติไทยเราใหม่อีกครั้ง,ถอยแก่คนไทยเราเอง เพื่อก้าวไปอย่างรุ่งโรจน์ร่วมกันในยุคสมัยหน้า,ศัตรูที่แท้จริงมิใช่คนภายในชาติไทยเรา แต่คือคนหมายไม่ดีต่อประเทศไทยและคนไทยเรา ให้แตกแยกกัน จะทางศาสนา เชื้อชาติ และใดๆก็ตาม,การล้างกวาดล้างประเทศไทยที่ดีที่สุดคือล้างแบบให้อภัยกัน ทุกๆคนที่ทำผิดพลาดหวังได้รับการอภัยเพื่อกลับตัวกลับใจเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เคยทำผิดพลาดในอดีต,คนลักษณะนี้สมควรให้อภัยเมื่อสำนึกแล้วมาทำความดีเพื่อประเทศชาติร่วมกัน,แต่กับคนไม่สำนึก เราก็มิอาจให้อภัยได้ทางตายเท่านั้นคือสิ่งที่มันต้องได้รับเช่นกัน.,ชาติจึงจะเดินต่อไปได้,สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้คือสถาบันกษัตริย์เราเท่านั้นจะเคลียร์ตรงนี้ได้,คือคนระบบแบบราชการไทยทั้งหมด ต้องเห็นค่าการสำนึกนี้ ถวายสัตย์นั้นเอง กลับตัวกลับใจใหม่ ความชั่วใดๆในอดีตจะไม่คิดคำนวนกลับมาอีกแก่บรรดาข้าราชการไทยทั่วประเทศ จงกลับเนื้อกลับตัวกลับใจตั้งมั่นทำความดีเพื่อชาติคือประชาชนและเพื่อแผ่นดินอธิปไตยไทยที่เกิดอาศัยดำรงชีพและตายนี้,คนข้าราชการไทยเราจะเกิดใหม่ทันที,ความผิดใดๆคือเป็นศูนย์,อภัยโทษนั้นเอง,ต่อมาคือประชาชนคนไทย ความผิดใดๆโทษอภัยหมด,ตั้งต้นชีวิตใหม่ ,หากข้าราชการไทยคนใด พ่อค้าเจ้าสัวใดยังมีพฤติกรรมชั่วเลวเหมือนเดิม โทษอาญาหนักแน่นอน,อาจยึดทรัพย์ทั้งตระกูล,ประหารชีวิตพร้อม,ส่วย เถื่อนทหารนายพลใดยังรับไม่ซื่อคือตายสถานเดียว,อะไรไม่ถูกต้องทำให้ถูกต้อง,สุดท้ายคนไทยจะเป็นหัวโขนอะไรใดๆจะรักเข้าใจกันหมด,สามัคคีร่วมแรงใจลงใจกันทั่วประเทศ,เรา..ทั้งประเทศไทยประชาชนคนไทยจะเสมือนเม็ดทรายเป็นเม็ดหินหลายลูกรวมกองกันเป็นภูเขาเงินภูเขาทองภูเขาเพชรที่แข็วแกร่งกว่าใดๆมิปานแน่นอน ตั้งสง่าใหญ่โตองอาจประดับคู่เคียงข้างโลกอย่างอารยะธรรมใดๆเสมอเหมือนมิมีแน่นอนในยุคปัจจุบันนี้,ยุคคนเหนือมนุษย์รวมสาระพัดทุกๆศาสตราจักรวาลอาจมารวมไว้ที่ไทยเรานี้,จะล้ำๆต่างดาวยุคอารยะธรรมใดๆก็ตามThe godsใดๆที่ผ่านมาเหยียบโลกนี้มากมายเพียงใดก็ตาม,สนามหลวงแห่งกายเนื้อนี้คนไทยเราตีแตกหมดนั้นเอง,จะโคตรสุดยอดอัจฉริยะขนาดไหนอีก,บรรลุธรรมจักรวาลเป็นว่าเล่นนั้นเอง,โดยต่างดาวใดๆที่มาเยือนมายึดครองโลกมากมายหลายล้านล้านปีก็ยังกระทำไม่ได้เช่นคนไทยเราทำได้นับจากยุคนี้ร.10เราเป็นต้นไปนั้นเอง., อภัยหนี้ อภัยโทษ จึงคือจุดเริ่มต้นของการปลดปล่อยจิตวิญญาณ. https://youtube.com/shorts/laYhDaCK47s?si=k-m4UrsIFSNUBfd1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • โง่กว่าเขมรไม่มีอีกแล้ว คว่ำบาตร แบนสินค้าไทย แต่ยังซื้อสินค้าไทยจากลาว เสียเงินแพงกว่าเดิม แถมซื้อไปแล้วเอามากระทืบโชว์ลงโซเชียล พ่อค้าไทยได้เงิน แต่เขมรเสียเงินแพงกว่าเดิม แถมไม่ได้แดกไม่ได้ใช้ หรือว่าแม่งจะกวาดเศษมาม่า อาหาร บนพื้นไปกินต่อ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    โง่กว่าเขมรไม่มีอีกแล้ว คว่ำบาตร แบนสินค้าไทย แต่ยังซื้อสินค้าไทยจากลาว เสียเงินแพงกว่าเดิม แถมซื้อไปแล้วเอามากระทืบโชว์ลงโซเชียล พ่อค้าไทยได้เงิน แต่เขมรเสียเงินแพงกว่าเดิม แถมไม่ได้แดกไม่ได้ใช้ หรือว่าแม่งจะกวาดเศษมาม่า อาหาร บนพื้นไปกินต่อ #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • AOC 1441 เพิ่มคู่สาย แก้ปัญหาโทรติดยาก : [NEWS UPDATE]

    นายเอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ศปอท.) หรือ AOC 1441 เผยกรณีการอายัดบัญชี ศูนย์ AOC เป็นผู้ถอนบัญชีที่ถูกระงับใช้วงเงิน โดยโทรมาที่ AOC 1441 กด 2 ก็จะเร่งตรวจสอบว่ามีเหตุอันสงสัยหรือไม่ หากไม่มีจะถอนการระงับบัญชีเร็วที่สุด ส่วนเรื่องโทรเข้าศูนย์ AOC 1441 ติดยาก ยืนยันมีคู่สายกว่า 100 สาย ตอนนี้มีสายโทรเข้ามากขึ้น ซึ่งได้แก้ปัญหาด้วยการเพิ่มคู่สายและเจ้าหน้าที่ สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ไม่รับโอนเงิน อยากให้เชื่อมั่น เพราะตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ผิดปกติเท่านั้น บางบัญชีมีเงินโอนจากบัญชีม้าเป็นร้อยครั้งต่อวันถือว่าผิดปกติ ส่วนของคนบริสุทธิ์ที่โดนระงับใช้วงเงินมีจำนวนน้อย ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องปรับการทำงาน เพราะเป็นเรื่องใหม่

    -"ทักษิณ"ไร้สิทธิพิเศษ

    -ยากจะทุ่มเทแก้รัฐธรรมนูญ

    -เพิ่มสิทธิลาคลอด

    -ค้าปลีกไทยขอแรงส่ง
    AOC 1441 เพิ่มคู่สาย แก้ปัญหาโทรติดยาก : [NEWS UPDATE] นายเอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(ศปอท.) หรือ AOC 1441 เผยกรณีการอายัดบัญชี ศูนย์ AOC เป็นผู้ถอนบัญชีที่ถูกระงับใช้วงเงิน โดยโทรมาที่ AOC 1441 กด 2 ก็จะเร่งตรวจสอบว่ามีเหตุอันสงสัยหรือไม่ หากไม่มีจะถอนการระงับบัญชีเร็วที่สุด ส่วนเรื่องโทรเข้าศูนย์ AOC 1441 ติดยาก ยืนยันมีคู่สายกว่า 100 สาย ตอนนี้มีสายโทรเข้ามากขึ้น ซึ่งได้แก้ปัญหาด้วยการเพิ่มคู่สายและเจ้าหน้าที่ สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ไม่รับโอนเงิน อยากให้เชื่อมั่น เพราะตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ผิดปกติเท่านั้น บางบัญชีมีเงินโอนจากบัญชีม้าเป็นร้อยครั้งต่อวันถือว่าผิดปกติ ส่วนของคนบริสุทธิ์ที่โดนระงับใช้วงเงินมีจำนวนน้อย ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องปรับการทำงาน เพราะเป็นเรื่องใหม่ -"ทักษิณ"ไร้สิทธิพิเศษ -ยากจะทุ่มเทแก้รัฐธรรมนูญ -เพิ่มสิทธิลาคลอด -ค้าปลีกไทยขอแรงส่ง
    Like
    Sad
    2
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 366 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ..CCPจีนคอมมิวนิสต์อันตรายโคตรๆ,คอมมิวนิสต์ก็คือเผด็จการตัวพ่อ,ยิงเอาAIหุ่นยนต์มาติดตามผู้คนอีก จะฝังชิปจะสแกนอะไรๆก็ตามคือการควบคุมมนุษย์ ติดตามตัว ไล่ล่าเหยื่ออยู่ไหนไปจับได้ตรงจุดที่เหยื่อมนุษย์นั้นอยู่นั้นเอง,ผิดกฎหมายคอมมิวนิสต์มันคือโทษตายรออยู่,อวัยวะคือได้เก็บเกี่ยวแน่นอน,ccpจีนจริงๆคือพวกฝ่ายมืดก็ด้วย,จับมนุษย์ไปชำแหละก็มีจริงโดยพวกมัน,อะดริโนโครมคือยาอายุวัฒนะตัวจริง,แอปจีน มือถือจีน กล้องจีน หุ่นยนต์จีน AIจีนจึงอันตรายมากเพราะccpปกครองในจีนมากว่าจีนฝ่ายดีปกครอง,จีนฝ่ายดีกำลังต่อสู้กับจีนccpฝ่ายไม่ดีภายในประเทศจีนเอง,จีนเทาคือจีนของccpฝ่ายไม่ดีหนีออกมาจากจีนทั้งแบบตั้งใจออกมาเองและหนีออกมาจริงจากการถูกไล่ล่าของรัฐบาลจีนฝ่ายดี,แต่ภาพรวมจีนอันตรายของจริง,เราไม่รู้เลยว่าเขาคิดอะไรกันแน่,คนไทยหากหลงไปใช้แอปจีน ลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชน มันจำจนตายAIของมันไม่ลบข้อมูลคุณทิ้งหรอก,หมายหัวคุณก็หมายหัวแบบนั้น บล็อคคุณก็บล็อคแบบนั้น ดูติ๊กต๊อกคือตัวอย่าง บทจะปิดบัญชีคุณมันปิดเลย,อายัดตะกร้าขายของคุณมันอายัดเลย,คอมมิวนิสต์ระดับแอป,ถ้าไม่มีอเมริกาถ่วงดุลอำนาจก็อันตรายเช่นกัน,แม้อเมริกาเหี้ยปล้นบ่อน้ำมันในไทยเราส่วนมากส่วนใหญ่,จีนก็ใช่ว่าไม่ปล้นชิงทรัพยากรมีค่ามากมายด้วย บ่อน้ำมันมันก็ได้สัมปทานเหมือนกัน อีสานโรงงานจีนตรึม เหมืองแร่โปแตสก็จีนได้ไปไม่น้อยในอีสาน ผูกขาดเลยก็ว่า ยุคใครค้นข้อมูลก็รู้,
    ..ตัวพ่อไม่น้อยหน้าอเมริกาที่ปล้นชิงไทยในทรัพยากรมีค่ามากมายบนแผ่นดินไทยก็จีนนี้ล่ะ,กดดันธรรมดาที่ไหน ของฟรีไม่มีในโลก ไทยต้องแลกอะไรสาระพัดกับจีนก็ด้วย,ลาวเป็นของจีนแล้วเกือบหมดประเทศ แร่เอิร์ธที่พบในลาว ทำไปทำมาตกเป็นของจีนหมดอีกล่ะ รัสเชียด้วย เอาอาวุธมาให้ลาวทำดีกับลาวหมายแร่เอิร์ธก็ได้และแร่อื่นๆตรึมเต็มลาวที่จีนสแกนจากดาวเทียมค้นพบนานแล้ว หามุกมายึดลาวแบบไหนที่ผู้นำโง่ๆให้ตกหลุมจีนนั้นล่ะ,ขนทรัพยากรมีค่าแร่ธาตุออกจากลาวไปแปรรูปที่จีนตรึม รวมซื้อคนลาวชั่งกิโลไปแดกด้วย ชำแหละค้ามนุษย์ค้าอวัยวะคนลาวสบายใจเลย,จีนจึงอันตรายมากๆจะยุคสมัยใดๆก็ตามทั้งยุคสมัยใหม่คนจีนรุ่นไฮบริดจ์ลูกผสมแรปทีเลี่ยนก็มีไม่น้อย โคลนคนจีนมหาศาลอีก,มาใช้แรงงานโดยเฉพาะ ใช้เสร็จฆ่ากินฆ่าแดกเลยเพราะไม่มีสำนึกจิตใจอะไรแค่โคลน,ทั้งโคลนทั้งหุ่นยนต์ผลิตมาทำลายโลกทีละน้อย แอบซ่อนใต้ดินตรึม,คนเหล็กมาแน่,
    ..เขมร พม่า จีนแรปทีเลี่ยนค้าแดกมนุษย์มีเยอะมาก,เอเชียอาเชียนต้องตื่นรู้และร่วมกันสแกนกำจัดอย่างจริงจัง,ต้องทำให้แต่ละประเทศสงบให้ได้ก่อนเราจะพูดคุยและลงมือกำจัดอมนุษย์พวกนี้ในแต่ละชาติได้,เริ่มจากเขมรก่อน,ฮุนเซนแท้จริงคือแรปทีเลี่ยนดีๆนี้ล่ะก็ได้ สายมืดผู้รับใช้ตัวจริงของอีลิทเลว,มันเปิดเผยตัวตนชัดเจนในยุคเวลานี้เพราะโคตรพ่อโคตรแมร่งมันสั่งให้เปิดเผยตัวตนแล้วหลังยุคโควิดมานั้นเอง,ความดุเดือดไล่ล่ากำจัดจึงเกิดขึ้น สงครามฝ่ายดีและฝ่ายชั่วจึงอุบัติขึ้นจริงจัง,พม่าอ่องชานโดนทำลาย แหล่งค้ามนุษย์ก็กระเจิงด้วย,โดยแม่ทัพพม่ายึดอำนาจ,จึงหนีมาเขมรอพยพมาเกือบหมด,เขมรจึงลุกเป็นไฟ แหล่งค้ามนุษย์ชำแหละมนุษย์ส่งออกจึงย้ายมาเขมร,ส่วนจีนตัวพ่อค้ามนุษย์อยู่แล้วซึ่งจีนฝ่ายดีต้องจัดการจริงจังภายในตนเอง,อเมริกาก็เหี้ยใช่น้อยโคตรพ่อโคตรแม่ตัวแดกเด็กฮับค้ามนุษย์ของโลก ส่งออกไปดวงจันทร์ด้วย,ไม่ต่างจากวาติกันยุโรปหรืออิสราเอลยูเครนฮับประจำโซนยุโรป,
    ..คนไทยเราต้องสามัคคีจริงๆ,กำจัดเขมรให้สิ้นซากก่อน,อาเชียนจะสงบทันที อีลิทจะปั่นป่วนอาเชียนยาก ภาคใต้เราก็มันนั่นล่ะทำ,รัฐบาลนี้ทรยศเราก็จบมันเลย,ยึดอำนาจด้วยทหารพระราชาเสีย ทหารพระราชาคุ้มครองความสงบมั่นคงไว้เบื้องต้นในวิกฤติโลกปัจจุบันนี้ เราสามารถปกป้องประเทศไทยให้รอดพ้นวิกฤติได้,ถ้าปล่อยให้นักการเมืองเหี้ยนี้ปกครองอีกอันตรายมาก,จะตัดสินใจยึดอำนาจหรือไม่ดูที่นายกฯหนูกล้ายกเลิกmou43,44ในคณะครม.ตนประชุมครั้งแรกมั้ย,ถ้าไม่ยกเลิก ตัดสินใจได้เลยว่า เป็นฝ่ายตรงข้ามอธิปไตยดินแดนแผ่นดินไทยชัดเจน มีเจตนาต้องการทำให้เสียแผ่นดินไทยถึง1:150,000แล้ว ผิด ม.119 ชัดเจนเป็นภัยร้ายแรงต่อชาติไทยเสมือนเขมรที่รุกรานไทยในปัจจุบัน.

    https://youtube.com/watch?v=o6UDZvG0uTQ&si=B738trQKOn4osC2A
    ..CCPจีนคอมมิวนิสต์อันตรายโคตรๆ,คอมมิวนิสต์ก็คือเผด็จการตัวพ่อ,ยิงเอาAIหุ่นยนต์มาติดตามผู้คนอีก จะฝังชิปจะสแกนอะไรๆก็ตามคือการควบคุมมนุษย์ ติดตามตัว ไล่ล่าเหยื่ออยู่ไหนไปจับได้ตรงจุดที่เหยื่อมนุษย์นั้นอยู่นั้นเอง,ผิดกฎหมายคอมมิวนิสต์มันคือโทษตายรออยู่,อวัยวะคือได้เก็บเกี่ยวแน่นอน,ccpจีนจริงๆคือพวกฝ่ายมืดก็ด้วย,จับมนุษย์ไปชำแหละก็มีจริงโดยพวกมัน,อะดริโนโครมคือยาอายุวัฒนะตัวจริง,แอปจีน มือถือจีน กล้องจีน หุ่นยนต์จีน AIจีนจึงอันตรายมากเพราะccpปกครองในจีนมากว่าจีนฝ่ายดีปกครอง,จีนฝ่ายดีกำลังต่อสู้กับจีนccpฝ่ายไม่ดีภายในประเทศจีนเอง,จีนเทาคือจีนของccpฝ่ายไม่ดีหนีออกมาจากจีนทั้งแบบตั้งใจออกมาเองและหนีออกมาจริงจากการถูกไล่ล่าของรัฐบาลจีนฝ่ายดี,แต่ภาพรวมจีนอันตรายของจริง,เราไม่รู้เลยว่าเขาคิดอะไรกันแน่,คนไทยหากหลงไปใช้แอปจีน ลงทะเบียนด้วยบัตรประชาชน มันจำจนตายAIของมันไม่ลบข้อมูลคุณทิ้งหรอก,หมายหัวคุณก็หมายหัวแบบนั้น บล็อคคุณก็บล็อคแบบนั้น ดูติ๊กต๊อกคือตัวอย่าง บทจะปิดบัญชีคุณมันปิดเลย,อายัดตะกร้าขายของคุณมันอายัดเลย,คอมมิวนิสต์ระดับแอป,ถ้าไม่มีอเมริกาถ่วงดุลอำนาจก็อันตรายเช่นกัน,แม้อเมริกาเหี้ยปล้นบ่อน้ำมันในไทยเราส่วนมากส่วนใหญ่,จีนก็ใช่ว่าไม่ปล้นชิงทรัพยากรมีค่ามากมายด้วย บ่อน้ำมันมันก็ได้สัมปทานเหมือนกัน อีสานโรงงานจีนตรึม เหมืองแร่โปแตสก็จีนได้ไปไม่น้อยในอีสาน ผูกขาดเลยก็ว่า ยุคใครค้นข้อมูลก็รู้, ..ตัวพ่อไม่น้อยหน้าอเมริกาที่ปล้นชิงไทยในทรัพยากรมีค่ามากมายบนแผ่นดินไทยก็จีนนี้ล่ะ,กดดันธรรมดาที่ไหน ของฟรีไม่มีในโลก ไทยต้องแลกอะไรสาระพัดกับจีนก็ด้วย,ลาวเป็นของจีนแล้วเกือบหมดประเทศ แร่เอิร์ธที่พบในลาว ทำไปทำมาตกเป็นของจีนหมดอีกล่ะ รัสเชียด้วย เอาอาวุธมาให้ลาวทำดีกับลาวหมายแร่เอิร์ธก็ได้และแร่อื่นๆตรึมเต็มลาวที่จีนสแกนจากดาวเทียมค้นพบนานแล้ว หามุกมายึดลาวแบบไหนที่ผู้นำโง่ๆให้ตกหลุมจีนนั้นล่ะ,ขนทรัพยากรมีค่าแร่ธาตุออกจากลาวไปแปรรูปที่จีนตรึม รวมซื้อคนลาวชั่งกิโลไปแดกด้วย ชำแหละค้ามนุษย์ค้าอวัยวะคนลาวสบายใจเลย,จีนจึงอันตรายมากๆจะยุคสมัยใดๆก็ตามทั้งยุคสมัยใหม่คนจีนรุ่นไฮบริดจ์ลูกผสมแรปทีเลี่ยนก็มีไม่น้อย โคลนคนจีนมหาศาลอีก,มาใช้แรงงานโดยเฉพาะ ใช้เสร็จฆ่ากินฆ่าแดกเลยเพราะไม่มีสำนึกจิตใจอะไรแค่โคลน,ทั้งโคลนทั้งหุ่นยนต์ผลิตมาทำลายโลกทีละน้อย แอบซ่อนใต้ดินตรึม,คนเหล็กมาแน่, ..เขมร พม่า จีนแรปทีเลี่ยนค้าแดกมนุษย์มีเยอะมาก,เอเชียอาเชียนต้องตื่นรู้และร่วมกันสแกนกำจัดอย่างจริงจัง,ต้องทำให้แต่ละประเทศสงบให้ได้ก่อนเราจะพูดคุยและลงมือกำจัดอมนุษย์พวกนี้ในแต่ละชาติได้,เริ่มจากเขมรก่อน,ฮุนเซนแท้จริงคือแรปทีเลี่ยนดีๆนี้ล่ะก็ได้ สายมืดผู้รับใช้ตัวจริงของอีลิทเลว,มันเปิดเผยตัวตนชัดเจนในยุคเวลานี้เพราะโคตรพ่อโคตรแมร่งมันสั่งให้เปิดเผยตัวตนแล้วหลังยุคโควิดมานั้นเอง,ความดุเดือดไล่ล่ากำจัดจึงเกิดขึ้น สงครามฝ่ายดีและฝ่ายชั่วจึงอุบัติขึ้นจริงจัง,พม่าอ่องชานโดนทำลาย แหล่งค้ามนุษย์ก็กระเจิงด้วย,โดยแม่ทัพพม่ายึดอำนาจ,จึงหนีมาเขมรอพยพมาเกือบหมด,เขมรจึงลุกเป็นไฟ แหล่งค้ามนุษย์ชำแหละมนุษย์ส่งออกจึงย้ายมาเขมร,ส่วนจีนตัวพ่อค้ามนุษย์อยู่แล้วซึ่งจีนฝ่ายดีต้องจัดการจริงจังภายในตนเอง,อเมริกาก็เหี้ยใช่น้อยโคตรพ่อโคตรแม่ตัวแดกเด็กฮับค้ามนุษย์ของโลก ส่งออกไปดวงจันทร์ด้วย,ไม่ต่างจากวาติกันยุโรปหรืออิสราเอลยูเครนฮับประจำโซนยุโรป, ..คนไทยเราต้องสามัคคีจริงๆ,กำจัดเขมรให้สิ้นซากก่อน,อาเชียนจะสงบทันที อีลิทจะปั่นป่วนอาเชียนยาก ภาคใต้เราก็มันนั่นล่ะทำ,รัฐบาลนี้ทรยศเราก็จบมันเลย,ยึดอำนาจด้วยทหารพระราชาเสีย ทหารพระราชาคุ้มครองความสงบมั่นคงไว้เบื้องต้นในวิกฤติโลกปัจจุบันนี้ เราสามารถปกป้องประเทศไทยให้รอดพ้นวิกฤติได้,ถ้าปล่อยให้นักการเมืองเหี้ยนี้ปกครองอีกอันตรายมาก,จะตัดสินใจยึดอำนาจหรือไม่ดูที่นายกฯหนูกล้ายกเลิกmou43,44ในคณะครม.ตนประชุมครั้งแรกมั้ย,ถ้าไม่ยกเลิก ตัดสินใจได้เลยว่า เป็นฝ่ายตรงข้ามอธิปไตยดินแดนแผ่นดินไทยชัดเจน มีเจตนาต้องการทำให้เสียแผ่นดินไทยถึง1:150,000แล้ว ผิด ม.119 ชัดเจนเป็นภัยร้ายแรงต่อชาติไทยเสมือนเขมรที่รุกรานไทยในปัจจุบัน. https://youtube.com/watch?v=o6UDZvG0uTQ&si=B738trQKOn4osC2A
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 355 มุมมอง 0 รีวิว
  • พ่อค้าแม่ค้ารู้...ถุงดีคือกำไรที่มองไม่เห็นขายของเยอะ ใช้ถุงเยอะ... ต้องหาถุงดี ๆ แล้วล่ะถุง HD ตัดตรง ถุงรุ่นนี้ เป็นที่นิยมอีกตัวของพ่อค้าแม่ค้าค่ะ จะมีความขุ่นเล็กน้อย ใช้ใส่ของร้อนก็ได้ ของเย็นก็ได้ เอนกประสงค์เลยค่าาาใช้ใส่ของแห้งใช้ใส่ของเปียกใช้ใส่ของร้อนใช้ใส่กำไรชีวิตก็ได้นะเธอยกเว้น ใช้ใส่ใจเธอ นี่ยังไม่ด้ายยยยนี่เลยค่ะ ถุงนี้ครึ่งโล ได้หลายใบ ใส่ของได้ยันลูกบวช (่อ่ะล้อเล่น) ถุง HD ตัดตรง ตราปู ใช้แล้วจบ! ไม่ต้องคิดเยอะ ทักมารัว ๆ ที่ KinJubJib Shop. ⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าถุง HD ตัดตรง สีขุ่นเล็กน้อย ตราปูใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSS5jrA67/ถุง HD ตัดตรง สีขุ่นเล็กน้อย ตราปู ใน Shopee https://th.shp.ee/HXkKmfy https://th.shp.ee/e9DwVYbเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ #คือจึ้งมาก #คือเจ๋งมาก #คืออร่อย #คือดีย์#ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลากระพงทุบ #ปลากระพงทุบ #อร่อยกี่โมง #กะปิเคย #หมึกกะตอย #ปลาทูมัน #ปลาทูหอม #ปลาซิวทอดกรอบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาจิ้งจั้งทอด #หมึกกะตอยแห้ง #ถุงใส่กับข้าว #ถุงppหนา #ถุงพลาสติก #ถุงร้อน#ถุงเย็น
    พ่อค้าแม่ค้ารู้...ถุงดีคือกำไรที่มองไม่เห็นขายของเยอะ ใช้ถุงเยอะ... ต้องหาถุงดี ๆ แล้วล่ะถุง HD ตัดตรง ถุงรุ่นนี้ เป็นที่นิยมอีกตัวของพ่อค้าแม่ค้าค่ะ จะมีความขุ่นเล็กน้อย ใช้ใส่ของร้อนก็ได้ ของเย็นก็ได้ เอนกประสงค์เลยค่าาาใช้ใส่ของแห้งใช้ใส่ของเปียกใช้ใส่ของร้อนใช้ใส่กำไรชีวิตก็ได้นะเธอยกเว้น ใช้ใส่ใจเธอ นี่ยังไม่ด้ายยยยนี่เลยค่ะ ถุงนี้ครึ่งโล ได้หลายใบ ใส่ของได้ยันลูกบวช (่อ่ะล้อเล่น)📦 ถุง HD ตัดตรง ตราปู🎯 ใช้แล้วจบ! ไม่ต้องคิดเยอะ💬 ทักมารัว ๆ ที่ KinJubJib Shop. 🌶️♨️⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าถุง HD ตัดตรง สีขุ่นเล็กน้อย ตราปูใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSS5jrA67/ถุง HD ตัดตรง สีขุ่นเล็กน้อย ตราปู ใน Shopee https://th.shp.ee/HXkKmfy https://th.shp.ee/e9DwVYbเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ #คือจึ้งมาก #คือเจ๋งมาก #คืออร่อย #คือดีย์#ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลากระพงทุบ #ปลากระพงทุบ #อร่อยกี่โมง #กะปิเคย #หมึกกะตอย #ปลาทูมัน #ปลาทูหอม #ปลาซิวทอดกรอบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาจิ้งจั้งทอด #หมึกกะตอยแห้ง #ถุงใส่กับข้าว #ถุงppหนา #ถุงพลาสติก #ถุงร้อน#ถุงเย็น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 337 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ต่อสู้นานร่วม 9 ปี สีกาผู้ร้องเรียนถูกพระเมืองเสพเมถุนถึงปิดตำนานพระชื่อดังรูปนี้ได้สำเร็จ โดยมีคลิป “พระหน้าเหมือน” อยู่กับสีกาเปลือยกายในกุฏิเป็นหลักฐาน เผยพระเมืองมีลูกศิษย์เคารพนับถือเยอะทั้งอัยการ ตำรวจ พ่อค้านักธุรกิจดาราดัง “ณเดช” และ “ญาญ่า”ก็ใช่ แม้แต่ แอ๊ด คาราบาว เองยังเคยแต่งและร้องเพลง “หลวงปู่เมือง”ด้วยซ้ำ เนื้อเพลงเน้นเชิดชูคุณความดีของหลวงพ่อเมือง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000087740

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    ต่อสู้นานร่วม 9 ปี สีกาผู้ร้องเรียนถูกพระเมืองเสพเมถุนถึงปิดตำนานพระชื่อดังรูปนี้ได้สำเร็จ โดยมีคลิป “พระหน้าเหมือน” อยู่กับสีกาเปลือยกายในกุฏิเป็นหลักฐาน เผยพระเมืองมีลูกศิษย์เคารพนับถือเยอะทั้งอัยการ ตำรวจ พ่อค้านักธุรกิจดาราดัง “ณเดช” และ “ญาญ่า”ก็ใช่ แม้แต่ แอ๊ด คาราบาว เองยังเคยแต่งและร้องเพลง “หลวงปู่เมือง”ด้วยซ้ำ เนื้อเพลงเน้นเชิดชูคุณความดีของหลวงพ่อเมือง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000087740 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 435 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลุดเอกสารของศาลสงฆ์ชั้นฏีกา พิพากษา “หลวงพ่อเมือง”เจ้าอาวาสวัดป่ามัชฌิมาวาส จ.กาฬสินธุ์ต้องอาบัติปาราชิกเสพเมถุน ต้องสละสมณเพศภายใน10วันสร้างความตกใจให้กับประชาชนและศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมากเนื่องจากหลวงพ่อเมือง เป็นพระเถระชื่อดังรูปหนึ่งของภาคอีสาน มีลูกศิษย์เคารพนับถือจำนวนมากทั้งนักการเมืองและพ่อค้านักธุรกิจ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000087724

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    หลุดเอกสารของศาลสงฆ์ชั้นฏีกา พิพากษา “หลวงพ่อเมือง”เจ้าอาวาสวัดป่ามัชฌิมาวาส จ.กาฬสินธุ์ต้องอาบัติปาราชิกเสพเมถุน ต้องสละสมณเพศภายใน10วันสร้างความตกใจให้กับประชาชนและศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมากเนื่องจากหลวงพ่อเมือง เป็นพระเถระชื่อดังรูปหนึ่งของภาคอีสาน มีลูกศิษย์เคารพนับถือจำนวนมากทั้งนักการเมืองและพ่อค้านักธุรกิจ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000087724 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 402 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปากท้องพ่อค้า สำคัญกว่า แผ่นดิน : Sondhitalk EP310 - 120968 (Full)
    -ปากท้องพ่อค้า สำคัญกว่า แผ่นดิน
    -“ทักษิณ’” ติดคุก
    -“วีระ" ล้างบาง ป.ป.ช.
    -ศึกสายเลือด "ดุสิตธานี"

    สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube
    • ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk

    https://www.youtube.com/watch?v=cvL-If1ajKk
    ปากท้องพ่อค้า สำคัญกว่า แผ่นดิน : Sondhitalk EP310 - 120968 (Full) -ปากท้องพ่อค้า สำคัญกว่า แผ่นดิน -“ทักษิณ’” ติดคุก -“วีระ" ล้างบาง ป.ป.ช. -ศึกสายเลือด "ดุสิตธานี" สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube • ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk https://www.youtube.com/watch?v=cvL-If1ajKk
    Like
    Love
    Wow
    12
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1134 มุมมอง 2 รีวิว
  • ทำไม GDPโต แต่พ่อค้าแม่ค้ายังบ่นอุบ ?
    ทำไม GDPโต แต่พ่อค้าแม่ค้ายังบ่นอุบ ?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • แกะรอยเก่า ตอนที่ 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
    ตอนที่ 2
    นาย Kenneth Perry Landon เป็นมิชชั่นนารี หมอสอนศาสนา แต่ไม่ใช่มิชชั่นนารีประเภทเดินหน้าเซียวเที่ยวเคาะประตูบ้าน เหมือนคนขายหนังสือพจนานุกรมสมัยก่อน แต่เขาเป็นนักสอนศาสนามีดีกรี จบปริญญาตรีทางเทววิทยา Theological Seminary จากมหาวิทยาลัย Princeton (วิชานี้เขาว่านักบวชสมัยก่อนที่เดินทางมาเผยแพร่ศาสนา แถวเอเซีย ลาตินอเมริกา ล้วนจบวิชานี้ทั้งนั้น นอกเหนือจากเรียนหลายภาษาแล้ว หนึ่งในหลักสูตรเขาว่าต้องเรียนฟันดาบและต่อสู้ป้องกันตัวด้วย)หลังจากนั้นนาย Kenneth ก็เรียนต่อจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัย Chicago เขาเดินทางมาเมืองไทย พร้อมภรรยา เมื่อประมาณ ค.ศ. 1927 (อย่าเพิ่งโว้ย ว่าเล่านิทานโบราณจัง ตอนนี้ใครๆ เขาเขียนเรื่องเรือบินหายหรือสงครามโลกครั้งที่ 3 กันทั้งนั้น ใจเย็น อ่านต่อไปก่อนน่า เดี๋ยวมันก็อธิบายมาถึงปัจจุบันได้เองแหละ)
    เขากับนาง Margaret เดินทางมาทางเรือจากด้านตะวันออกของอเมริกา ผ่านมหาสมุทรแปซิฟิก มาโผล่เอาที่สิงคโปร์ ตลอดทางที่เรือแวะจอดท่าต่างๆ เขานั่งเบิ่งตา หูตั้ง มองทุกอย่าง ฟังทุกเรื่อง จัดเก็บข้อมูลเรียงแน่นอยู่ในหัว (ใบสั่งมันคงระบุชัดเจนดี) จนเมื่อเรือแล่นจากสิงคโปร์ขึ้นมาบางกอก เมียก็ถามเขาว่า นี่เธอรู้จักเมืองไทยดีแค่ไหนนะเนี่ย เขาตอบว่า ฉันรู้แต่ว่าคนไทยส่วนมากเป็นฝาแฝดตัวติดกัน แล้วก็มีช้างเผือกแยะมาก และที่เมืองไทยฝนน่าจะตกชุก เพราะฉันเห็นรูปถ่ายพระเจ้าแผ่นดินของไทย นั่งอยู่ใต้ร่มอันใหญ่มาก หน้าตาเหมือนน้ำพุ 9 ชั้น (อืม ! ชั้นเชิงใช้ได้ ตอบเมียตัวเองได้แบบนี้อนาคตไกล)
    นาย Kenneth กับนาง Margaret เมื่อแรกมาถึงเมืองไทยก็พักอยู่ที่เมืองบางกอกก่อน อยู่ประมาณ 1 ปี ตลอดเวลา 1 ปี เขาถูกพาไปป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่ในสังคมฝรั่งที่มีทั้งพวกมิชชั่นนารี พวกฑูต และพ่อค้าฝรั่ง แล้วฝรั่งพวกนี้ก็พาเขาเข้าสังคมคนไทยชั้นสูง ทำให้เขามีโอกาสรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ของเมืองไทย รวมทั้งเชื้อพระวงศ์ระดับสูง เช่น กรมพระยาดำรงเดชานุภาพ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ เป็นต้น (อย่าลืมว่าเมื่อนาย Kenneth มาถึงเมืองไทย ช่วงนั้นยังเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์อยู่ น่าสนใจวิธีการนำตัวเข้าสังคมของนักสอนศาสนารายนี้จริงๆ) นาย Kenneth ไม่ได้ใช้เวลาเดินเล่นอยู่ในวงสังคมชั้นสูงอย่างเดียว อีกอย่างที่เขาทำอย่างเอาจริงเอาจัง และไม่ให้ใครรู้ คือ เขาตั้งใจเรียนภาษาไทย เขาจ้างครูมาสอน เขาและภรรยาเรียนภาษาไทยกับครูทุกวันๆ ละ 3 ชั่วโมง และทำการบ้านเตรียมตัวอีกวันละ 3 ชั่วโมง สำหรับการเรียนในวันรุ่งขึ้น เป็นการเรียนแบบหลักสูตรเร่งรัดเลยละ (มันทำไมต้องเร่งรัดกันขนาดนี้นะ ?) เขาฝึกบทเรียนภาษาไทยที่เขาเรียน ด้วยการออกไปเดินเที่ยวเล่นในตลาด ไปเดินซื้อของและถามแม่ค้า เป็นภาษาไทยว่า “เท่าไหร่” และไม่ว่าแม่ค้าจะตอบว่าอะไร และไม่ว่าเขาจะฟังรู้เรื่องหรือไม่ เขาก็จะตอบกลับเป็นภาษาไทยว่า “แพงไป” แล้วก็เดินไปหาแม่ค้าเจ้าอื่นต่อไป (เห็นลีลาสายลับรุ่นโบราณไหมครับ สมัยนี้ก็ยังทำแบบนี้ แต่แทนที่จะเดินเล่นตามตลาด เขาไปเดินเล่นตามห้าง ตามงานสังคมชั้นสูง ตามที่มั่วสุมของคนชั้นสูง เช่นที่สปอร์ตคลับ และตามบ้านคนใหญ่คนโตทั้งหลาย ฯลฯ เสร็จแล้วพวกเขาก็ไปรายงานข้อมูลที่ได้ยินมาจากที่ไปเดินเล่น ตามที่ตัวเองเข้าใจ แบบ งูๆ ปลาๆ ต่อนายเหนือ เรื่องมันถึงได้วุ่น !)
    จากการเรียนภาษาไทยอย่างตั้งอกตั้งใจ ทำให้เขาเข้าใจว่า ภาษาไทยเป็นภาษาที่ลึกซึ้ง แสดงถึงความละเอียดอ่อนของความเป็นคนไทย เขายกตัวอย่างคำว่า ฉัน ภาษาอังกฤษ ใช้ I หรือ me แค่ 2 คำ แต่ภาษาไทยมีให้เลือกใช้ถึง 15 คำ แต่ละคำแสดงถึงสถานะทางสังคมของ ผู้พูด ความสัมพันธ์ระหว่างผู้พูดและยังแยกเพศได้อีก สิ่งเหล่านี้ไม่มีในภาษาอังกฤษ นอกจากนั้นคำเดียวกันนั้น ถ้าใช้คู่กับอีกคำ ระหว่างบุรุษที่ 1 กับบุรุษที่ 2 ยังแสดงถึงอารมณ์ ความสนิทสนมของผู้ใช้อีกด้วย รวมทั้งแสดงได้ถึงฐานะที่สูงต่ำกว่ากัน เช่นคำว่า “มึง” และ “กู” ดังนั้นจึงเป็นการยากที่ชาวต่างชาติจะเข้าใจคนไทย และสังคมไทยถ้าไม่เข้าใจภาษาไทยให้แตกฉานเสียก่อน (อยากรู้ว่าไอ้พวก app รุ่นใหม่ที่ไปเดินเล่นตามสังคมนั้น มันจะเข้าใจความละเอียดอ่อนของคนไทยได้แค่ไหนกัน)
    นอกจากนี้จากการเรียนภาษาไทย ทำให้เขาเข้าใจว่า กว่าครึ่งของภาษาไทยมีรากมาจากภาษาสันสกฤตและบาลี ซึ่งเป็นภาษาโบราณของอินเดีย และเกี่ยวพันกับพุทธศาสนา ซึ่งเป็นทั้งศาสนาและวัฒนธรรมของคนไทย เขาบอกกับตัวเองว่าถ้าจะเข้าใจคนไทยให้ลึกซึ้ง ต้องเข้าใจภาษาไทย และควรจะศึกษาเกี่ยวกับอินเดียด้วย เพื่อเข้าใจที่มาที่ไปของคนไทย ประเพณี และวิธีการคิดของคนไทย ซึ่งภายหลังเขาได้กลับไปเรียนต่อปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัย Chicago เขาเรียนภาษาสันสกฤต บาลีรวมทั้งเรียนวิชาเกี่ยวกับอินเดียด้วย (เขาหาอุปกรณ์เสริมได้เก่ง ต้องยอมรับ นักสอนศาสนาคนนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ)
    เขาเรียนภาษาไทยแตกฉานได้อย่างรวดเร็ว ระหว่างที่อยู่บางกอก เขาทดสอบความแตกฉานของตัวเองด้วยการ เริ่มเทศน์เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ เป็นภาษาไทย ช่วงแรกๆ เวลาเขาเทศน์ เมื่อพูดถึงพระเยซูถูกตรึง “กางเขน” เขาออกเสียงภาษาไทย เป็นพระเยซูถูกตรึง “กางเกง” และนั่นทำให้เขาเป็นที่ชอบใจของคนไทย ว่าเขาเทศน์ได้ตลกดี และทำให้มีคนมาฟังเขาแยะ แม้จะไม่รู้จักพระเยซูและศาสนาคริสเตียนเลยแม้แต่น้อย แต่ก็พากันมาดูฝรั่งแทศน์เป็นภาษาไทย แบบดูการแสดงตลก โดยไม่คิดอะไรมาก

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า” ตอนที่ 2 นาย Kenneth Perry Landon เป็นมิชชั่นนารี หมอสอนศาสนา แต่ไม่ใช่มิชชั่นนารีประเภทเดินหน้าเซียวเที่ยวเคาะประตูบ้าน เหมือนคนขายหนังสือพจนานุกรมสมัยก่อน แต่เขาเป็นนักสอนศาสนามีดีกรี จบปริญญาตรีทางเทววิทยา Theological Seminary จากมหาวิทยาลัย Princeton (วิชานี้เขาว่านักบวชสมัยก่อนที่เดินทางมาเผยแพร่ศาสนา แถวเอเซีย ลาตินอเมริกา ล้วนจบวิชานี้ทั้งนั้น นอกเหนือจากเรียนหลายภาษาแล้ว หนึ่งในหลักสูตรเขาว่าต้องเรียนฟันดาบและต่อสู้ป้องกันตัวด้วย)หลังจากนั้นนาย Kenneth ก็เรียนต่อจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัย Chicago เขาเดินทางมาเมืองไทย พร้อมภรรยา เมื่อประมาณ ค.ศ. 1927 (อย่าเพิ่งโว้ย ว่าเล่านิทานโบราณจัง ตอนนี้ใครๆ เขาเขียนเรื่องเรือบินหายหรือสงครามโลกครั้งที่ 3 กันทั้งนั้น ใจเย็น อ่านต่อไปก่อนน่า เดี๋ยวมันก็อธิบายมาถึงปัจจุบันได้เองแหละ) เขากับนาง Margaret เดินทางมาทางเรือจากด้านตะวันออกของอเมริกา ผ่านมหาสมุทรแปซิฟิก มาโผล่เอาที่สิงคโปร์ ตลอดทางที่เรือแวะจอดท่าต่างๆ เขานั่งเบิ่งตา หูตั้ง มองทุกอย่าง ฟังทุกเรื่อง จัดเก็บข้อมูลเรียงแน่นอยู่ในหัว (ใบสั่งมันคงระบุชัดเจนดี) จนเมื่อเรือแล่นจากสิงคโปร์ขึ้นมาบางกอก เมียก็ถามเขาว่า นี่เธอรู้จักเมืองไทยดีแค่ไหนนะเนี่ย เขาตอบว่า ฉันรู้แต่ว่าคนไทยส่วนมากเป็นฝาแฝดตัวติดกัน แล้วก็มีช้างเผือกแยะมาก และที่เมืองไทยฝนน่าจะตกชุก เพราะฉันเห็นรูปถ่ายพระเจ้าแผ่นดินของไทย นั่งอยู่ใต้ร่มอันใหญ่มาก หน้าตาเหมือนน้ำพุ 9 ชั้น (อืม ! ชั้นเชิงใช้ได้ ตอบเมียตัวเองได้แบบนี้อนาคตไกล) นาย Kenneth กับนาง Margaret เมื่อแรกมาถึงเมืองไทยก็พักอยู่ที่เมืองบางกอกก่อน อยู่ประมาณ 1 ปี ตลอดเวลา 1 ปี เขาถูกพาไปป้วนเปี้ยนวนเวียนอยู่ในสังคมฝรั่งที่มีทั้งพวกมิชชั่นนารี พวกฑูต และพ่อค้าฝรั่ง แล้วฝรั่งพวกนี้ก็พาเขาเข้าสังคมคนไทยชั้นสูง ทำให้เขามีโอกาสรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ของเมืองไทย รวมทั้งเชื้อพระวงศ์ระดับสูง เช่น กรมพระยาดำรงเดชานุภาพ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ เป็นต้น (อย่าลืมว่าเมื่อนาย Kenneth มาถึงเมืองไทย ช่วงนั้นยังเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์อยู่ น่าสนใจวิธีการนำตัวเข้าสังคมของนักสอนศาสนารายนี้จริงๆ) นาย Kenneth ไม่ได้ใช้เวลาเดินเล่นอยู่ในวงสังคมชั้นสูงอย่างเดียว อีกอย่างที่เขาทำอย่างเอาจริงเอาจัง และไม่ให้ใครรู้ คือ เขาตั้งใจเรียนภาษาไทย เขาจ้างครูมาสอน เขาและภรรยาเรียนภาษาไทยกับครูทุกวันๆ ละ 3 ชั่วโมง และทำการบ้านเตรียมตัวอีกวันละ 3 ชั่วโมง สำหรับการเรียนในวันรุ่งขึ้น เป็นการเรียนแบบหลักสูตรเร่งรัดเลยละ (มันทำไมต้องเร่งรัดกันขนาดนี้นะ ?) เขาฝึกบทเรียนภาษาไทยที่เขาเรียน ด้วยการออกไปเดินเที่ยวเล่นในตลาด ไปเดินซื้อของและถามแม่ค้า เป็นภาษาไทยว่า “เท่าไหร่” และไม่ว่าแม่ค้าจะตอบว่าอะไร และไม่ว่าเขาจะฟังรู้เรื่องหรือไม่ เขาก็จะตอบกลับเป็นภาษาไทยว่า “แพงไป” แล้วก็เดินไปหาแม่ค้าเจ้าอื่นต่อไป (เห็นลีลาสายลับรุ่นโบราณไหมครับ สมัยนี้ก็ยังทำแบบนี้ แต่แทนที่จะเดินเล่นตามตลาด เขาไปเดินเล่นตามห้าง ตามงานสังคมชั้นสูง ตามที่มั่วสุมของคนชั้นสูง เช่นที่สปอร์ตคลับ และตามบ้านคนใหญ่คนโตทั้งหลาย ฯลฯ เสร็จแล้วพวกเขาก็ไปรายงานข้อมูลที่ได้ยินมาจากที่ไปเดินเล่น ตามที่ตัวเองเข้าใจ แบบ งูๆ ปลาๆ ต่อนายเหนือ เรื่องมันถึงได้วุ่น !) จากการเรียนภาษาไทยอย่างตั้งอกตั้งใจ ทำให้เขาเข้าใจว่า ภาษาไทยเป็นภาษาที่ลึกซึ้ง แสดงถึงความละเอียดอ่อนของความเป็นคนไทย เขายกตัวอย่างคำว่า ฉัน ภาษาอังกฤษ ใช้ I หรือ me แค่ 2 คำ แต่ภาษาไทยมีให้เลือกใช้ถึง 15 คำ แต่ละคำแสดงถึงสถานะทางสังคมของ ผู้พูด ความสัมพันธ์ระหว่างผู้พูดและยังแยกเพศได้อีก สิ่งเหล่านี้ไม่มีในภาษาอังกฤษ นอกจากนั้นคำเดียวกันนั้น ถ้าใช้คู่กับอีกคำ ระหว่างบุรุษที่ 1 กับบุรุษที่ 2 ยังแสดงถึงอารมณ์ ความสนิทสนมของผู้ใช้อีกด้วย รวมทั้งแสดงได้ถึงฐานะที่สูงต่ำกว่ากัน เช่นคำว่า “มึง” และ “กู” ดังนั้นจึงเป็นการยากที่ชาวต่างชาติจะเข้าใจคนไทย และสังคมไทยถ้าไม่เข้าใจภาษาไทยให้แตกฉานเสียก่อน (อยากรู้ว่าไอ้พวก app รุ่นใหม่ที่ไปเดินเล่นตามสังคมนั้น มันจะเข้าใจความละเอียดอ่อนของคนไทยได้แค่ไหนกัน) นอกจากนี้จากการเรียนภาษาไทย ทำให้เขาเข้าใจว่า กว่าครึ่งของภาษาไทยมีรากมาจากภาษาสันสกฤตและบาลี ซึ่งเป็นภาษาโบราณของอินเดีย และเกี่ยวพันกับพุทธศาสนา ซึ่งเป็นทั้งศาสนาและวัฒนธรรมของคนไทย เขาบอกกับตัวเองว่าถ้าจะเข้าใจคนไทยให้ลึกซึ้ง ต้องเข้าใจภาษาไทย และควรจะศึกษาเกี่ยวกับอินเดียด้วย เพื่อเข้าใจที่มาที่ไปของคนไทย ประเพณี และวิธีการคิดของคนไทย ซึ่งภายหลังเขาได้กลับไปเรียนต่อปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัย Chicago เขาเรียนภาษาสันสกฤต บาลีรวมทั้งเรียนวิชาเกี่ยวกับอินเดียด้วย (เขาหาอุปกรณ์เสริมได้เก่ง ต้องยอมรับ นักสอนศาสนาคนนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ) เขาเรียนภาษาไทยแตกฉานได้อย่างรวดเร็ว ระหว่างที่อยู่บางกอก เขาทดสอบความแตกฉานของตัวเองด้วยการ เริ่มเทศน์เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ เป็นภาษาไทย ช่วงแรกๆ เวลาเขาเทศน์ เมื่อพูดถึงพระเยซูถูกตรึง “กางเขน” เขาออกเสียงภาษาไทย เป็นพระเยซูถูกตรึง “กางเกง” และนั่นทำให้เขาเป็นที่ชอบใจของคนไทย ว่าเขาเทศน์ได้ตลกดี และทำให้มีคนมาฟังเขาแยะ แม้จะไม่รู้จักพระเยซูและศาสนาคริสเตียนเลยแม้แต่น้อย แต่ก็พากันมาดูฝรั่งแทศน์เป็นภาษาไทย แบบดูการแสดงตลก โดยไม่คิดอะไรมาก คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถุง HD ตัดตรง ถุงสีขุ่น เหนียว แน่น พรางสายตาได้ ใส่ได้ทั้งร้อน เย็นๆ พ่อค้าแม่ค้ารู้...ถุงดีคือกำไรที่มองไม่เห็นขายของเยอะ ใช้ถุงเยอะ... ต้องหาถุงดี ๆ แล้วล่ะถุง HD ตัดตรง ถุงรุ่นนี้ เป็นที่นิยมอีกตัวของพ่อค้าแม่ค้าค่ะ จะมีความขุ่นเล็กน้อย ใช้ใส่ของร้อนก็ได้ ของเย็นก็ได้ เอนกประสงค์เลยค่าาาใช้ใส่ของแห้งใช้ใส่ของเปียกใช้ใส่ของร้อนใช้ใส่กำไรชีวิตก็ได้นะเธอยกเว้น ใช้ใส่ใจเธอ นี่ยังไม่ด้ายยยยนี่เลยค่ะ ถุงนี้ครึ่งโล ได้หลายใบ ใส่ของได้ยันลูกบวช (่อ่ะล้อเล่น) ถุง HD ตัดตรง ตราปู ใช้แล้วจบ! ไม่ต้องคิดเยอะ ทักมารัว ๆ ที่ KinJubJib Shop⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าถุง HD ตัดตรง สีขุ่นเล็กน้อย ตราปูใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSS5jrA67/ถุง HD ตัดตรง สีขุ่นเล็กน้อย ตราปู ใน Shopee https://th.shp.ee/HXkKmfy https://th.shp.ee/e9DwVYbเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ถุงตราปู #ถุงHDตัดตรง #ถุงขุ่นใส่อาหารร้อนเย็น
    ถุง HD ตัดตรง ถุงสีขุ่น เหนียว แน่น พรางสายตาได้ ใส่ได้ทั้งร้อน เย็นๆ พ่อค้าแม่ค้ารู้...ถุงดีคือกำไรที่มองไม่เห็นขายของเยอะ ใช้ถุงเยอะ... ต้องหาถุงดี ๆ แล้วล่ะถุง HD ตัดตรง ถุงรุ่นนี้ เป็นที่นิยมอีกตัวของพ่อค้าแม่ค้าค่ะ จะมีความขุ่นเล็กน้อย ใช้ใส่ของร้อนก็ได้ ของเย็นก็ได้ เอนกประสงค์เลยค่าาาใช้ใส่ของแห้งใช้ใส่ของเปียกใช้ใส่ของร้อนใช้ใส่กำไรชีวิตก็ได้นะเธอยกเว้น ใช้ใส่ใจเธอ นี่ยังไม่ด้ายยยยนี่เลยค่ะ ถุงนี้ครึ่งโล ได้หลายใบ ใส่ของได้ยันลูกบวช (่อ่ะล้อเล่น)📦 ถุง HD ตัดตรง ตราปู🎯 ใช้แล้วจบ! ไม่ต้องคิดเยอะ💬 ทักมารัว ๆ ที่ KinJubJib Shop🌶️♨️⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าถุง HD ตัดตรง สีขุ่นเล็กน้อย ตราปูใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSS5jrA67/ถุง HD ตัดตรง สีขุ่นเล็กน้อย ตราปู ใน Shopee https://th.shp.ee/HXkKmfy https://th.shp.ee/e9DwVYbเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ถุงตราปู #ถุงHDตัดตรง #ถุงขุ่นใส่อาหารร้อนเย็น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เหนื่อยกับการสับปลาร้าบองจนเมื่อยมือใช่ไหม? บอกลาความลำบากแล้วมาเปิดประตูสู่ความอร่อยแบบง่ายๆ กับ "เครื่องสับผสมอเนกประสงค์" ตัวนี้เลย!
    เครื่องนี้คือฮีโร่ตัวจริงสำหรับคนทำปลาร้าบอง ไม่ว่าจะเป็นปลาร้า, พริก, ข่า, ตะไคร้, หอมแดง, กระเทียม... เพียงแค่โยนส่วนผสมทั้งหมดลงไปในโถ ใบมีดคมกริบจะสับและผสมทุกอย่างให้ละเอียดเข้าเนื้อกันในพริบตา! ภายในไม่กี่นาที คุณก็จะได้ปลาร้าบองที่เนียนนัว หอมสมุนไพรแบบถึงเครื่อง พร้อมเสิร์ฟความแซ่บได้ทันที
    ไม่ต้องเมื่อย, ไม่ต้องเสียเวลา, ไม่ต้องเลอะเทอะ – เพราะเครื่องนี้ทำจากสแตนเลสคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน และล้างทำความสะอาดง่ายสุดๆ
    มีให้เลือก 2 รุ่นตามความต้องการของคุณ:
    - รุ่นเล็ก (YMC-QS5A-Z-SUS): สำหรับทำกินในบ้าน หรือทำขายเล็กๆ น้อยๆ สับวัตถุดิบได้ครั้งละ 1-3 กก.
    - รุ่นใหญ่ (YMC QS13A Z-SUS): สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ทำขายจริงจัง สับได้ครั้งละ 4-6 กก.
    ไม่ว่าจะเป็นการทำปลาร้าบอง, น้ำพริก, แกง, หรือสับเนื้อสัตว์ เครื่องนี้ก็เอาอยู่หมด! #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY
    สนใจติดต่อสอบถาม
    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน
    Inbox: m.me/yonghahheng
    LINE: @yonghahheng (มี @) หรือคลิก https://lin.ee/HV4lSKp
    โทร: 098-8307906, 098-8307905, 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 8.00-17.00 น. | เสาร์ 8.00-16.00 น.
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    #เครื่องสับผสม #เครื่องปั่นปลาร้า #ปลาร้าบอง #แจ่วบอง #น้ำพริกปลาร้า #ครัวอีสาน #เมนูแซ่บ #สร้างอาชีพ #ทำกินเอง #เครื่องครัว #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #ประหยัดเวลา #ของดีบอกต่อ #แม่ค้าออนไลน์ #สินค้าคุณภาพ #อาหารไทย #ธุรกิจอาหาร #ของอร่อย #ทำอาหารง่ายๆ #อร่อยไม่ยาก #เครื่องปั่นอเนกประสงค์ #ของมันต้องมี #ไอเท็มเด็ด #ชีวิตดีขึ้น #อร่อยเด็ด #เข้าครัว #ย่งฮะเฮง #yonghahheng
    เหนื่อยกับการสับปลาร้าบองจนเมื่อยมือใช่ไหม? 😫🌶️ บอกลาความลำบากแล้วมาเปิดประตูสู่ความอร่อยแบบง่ายๆ กับ "เครื่องสับผสมอเนกประสงค์" ตัวนี้เลย! เครื่องนี้คือฮีโร่ตัวจริงสำหรับคนทำปลาร้าบอง ไม่ว่าจะเป็นปลาร้า, พริก, ข่า, ตะไคร้, หอมแดง, กระเทียม... เพียงแค่โยนส่วนผสมทั้งหมดลงไปในโถ ใบมีดคมกริบจะสับและผสมทุกอย่างให้ละเอียดเข้าเนื้อกันในพริบตา! ภายในไม่กี่นาที คุณก็จะได้ปลาร้าบองที่เนียนนัว หอมสมุนไพรแบบถึงเครื่อง พร้อมเสิร์ฟความแซ่บได้ทันที ไม่ต้องเมื่อย, ไม่ต้องเสียเวลา, ไม่ต้องเลอะเทอะ – เพราะเครื่องนี้ทำจากสแตนเลสคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน และล้างทำความสะอาดง่ายสุดๆ มีให้เลือก 2 รุ่นตามความต้องการของคุณ: - รุ่นเล็ก (YMC-QS5A-Z-SUS): สำหรับทำกินในบ้าน หรือทำขายเล็กๆ น้อยๆ สับวัตถุดิบได้ครั้งละ 1-3 กก. - รุ่นใหญ่ (YMC QS13A Z-SUS): สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ทำขายจริงจัง สับได้ครั้งละ 4-6 กก. ไม่ว่าจะเป็นการทำปลาร้าบอง, น้ำพริก, แกง, หรือสับเนื้อสัตว์ เครื่องนี้ก็เอาอยู่หมด! #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY สนใจติดต่อสอบถาม ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน Inbox: m.me/yonghahheng LINE: @yonghahheng (มี @) หรือคลิก https://lin.ee/HV4lSKp โทร: 098-8307906, 098-8307905, 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 8.00-17.00 น. | เสาร์ 8.00-16.00 น. แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 #เครื่องสับผสม #เครื่องปั่นปลาร้า #ปลาร้าบอง #แจ่วบอง #น้ำพริกปลาร้า #ครัวอีสาน #เมนูแซ่บ #สร้างอาชีพ #ทำกินเอง #เครื่องครัว #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #ประหยัดเวลา #ของดีบอกต่อ #แม่ค้าออนไลน์ #สินค้าคุณภาพ #อาหารไทย #ธุรกิจอาหาร #ของอร่อย #ทำอาหารง่ายๆ #อร่อยไม่ยาก #เครื่องปั่นอเนกประสงค์ #ของมันต้องมี #ไอเท็มเด็ด #ชีวิตดีขึ้น #อร่อยเด็ด #เข้าครัว #ย่งฮะเฮง #yonghahheng
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 521 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอน 14
    เล่าเรื่องชาว บ้านซะหลายมื้อ กลับเข้ามาบ้านเราต่อดีกว่า เดี๋ยวท่านผู้อ่านจะงง มันจะเล่าเรื่องอะไรกันแน่นะ ก็แหมมันต้องให้เห็นภาพ บอกแล้วอย่าดูแต่สิ่งที่เห็นข้างหน้าอย่างเดียว หัดมองภาพกว้าง ภาพลึก 3 มิติบ้าง
    จิ๊กโก๋๋ไปหากินอยู่ซอยอื่น ตั้งแต่ปี ค.ศ.1978 จนเดี๋ยวนี้ยังพล่านอยู่ เพราะฉะนั้นตั้งแต่รัฐบาลคุณป๋าจ๊อกกี้ จนมาถึงคุณน้าชาติ ขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ บ้านเราจึงแบ่งกันกินแย่งกันกัด โดยไม่มีจิ๊กโก๋๋ต่างถิ่นมาขัดคอ
    มาเกิดเหตุบังเอิญ ตอนคุณน้าขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ แกจัดงานเลี้ยงบุพเฟ่ต์บ่อยไปหน่อย แถมอาหารแต่ละจาน มันก็มีพวกจิ๊กโก๋๋อยากร่วมวงรับประทานกินด้วย เรื่องบังเอิญมันถึงได้เกิด ไทยแลนด์แดนสยาม จึงมีนายกชื่อ คุณน้านัน จำได้ใช่ไหมครับ
    พอคุณน้านันเป็นนายก นอกจากจะจัดสรรเมนูอาหารให้ถูกปากแล้ว รัฐบาลคุณน้านัน ยังเป็นรัฐบาลที่ออกกฎหมาย เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ธุรกรรมการเงิน อีกมากมาย รวมทั้งการเปิดเสรีทางการเงินอีกด้วย พร้อมทั้งจัดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญและเลือกตั้งใหม่ เราต้องเป็นประชาธิปไตย เราต้องมีธรรมาภิบาล ฯลฯ นโยบายของคุณน้านันนี่ ถ้าไม่เขียนออกมาเป็นภาษาไทยว่า นโยบายนายกอานันท์นี่ เผลอๆ ท่านผู้อ่านจะนึกว่ากำลังอ่าน Doctrine ต่างๆ ของพี่เบิ้มอเมริกา
    เลือกตั้งแล้ว เราก็ได้รัฐบาลปี๋ชวนเชื่องช้า รัฐบาลป๋าเติ้งปลาโหลตัวสั้นแลบลิ้นแผล็บๆ รัฐบาลน้าจิ๋วจอมมั่ว แล้วก็กลับมาปี๋ชวนเชื่องช้าอีก เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนสมัยรัฐบาลทหาร พอเป็นรัฐบาลพลเรือน ก็ไม่ต่างกัน แบ่งกันกินแย่งกันกัดเหมือนเดิม
    แล้วไง จิ๊กโก๋๋ก็ยังไปวุ่นอยู่ซอยอื่น เพราะคิดว่า สมันน้อยมันเหลือแต่กระดูกแล้ว ไม่มีความหมายแล้ว สมันแดนอื่นมันน่าหม่ำกว่าแยะ
    พ.ศ.2540 (ค.ศ.1997) ช่วงรัฐบาลน้าจิ๋วจอมมั่ว เป็นนายก บริหารเก่งจนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ดังไปทั่วโลก น้อยใจยุบสภากลับบ้าน ไปนอนซบน้าเครือตู้ทองเคลื่อนที่ดีกว่า ปี๋ชวนเชื่องช้ากลับเข้ามาเป็นรัฐบาล ไทยแลนด์กระเป๋าฉีกขาดกระจุย เงินคงคลังเหลือแต่คลัง ไม่มีเงินคงเหลือ อ้ายน้อยธารินทร์รมว.คลังที่ทุกคนรอคอยยังกะเทวดามาโปรด นักเรียนเก่าฮาร์วาร์ด บอกอย่ากระนั้นเลย เราต้องไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเก่าสถาบันเดียวกัน จิ๊กโก๋๋แถววอชิงตันน่าจะช่วยเราได้
    เป็นไปตามคาด (ไม่รู้ใครคาด) จิ๊กโก๋๋วอชิงตันบอกเสียใจนะ อ้ายน้อย ไอให้ยูยืมเงินไม่ได้หรอก แต่ไอก็ไม่ทิ้งยู ยูไปเข้าโปรแกรม IMF ล่ะกันนะ ไอจะแนะนำไปให้ อ้ายน้อยเดินหน้าขรึมกลับบ้าน บอกปี๋ชวน เขาช่วยเราโดยให้ไปกู้ IMF 5 5 5
    เงินกู้ IMF มาพร้อมกับเงื่อนไข 508 ประการ เช่นการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ที่สำคัญเกิด ปรากฏการณ์ปิด 56 ไฟแนนซ์ (เบื้องหลังการปิดไฟแนนซ์นี่ ถ้าจะต้องไปตามอ่านจากเพจคุณThanong Fanclub น่าจะดีกว่า!)
    เจ้าสัวทั้งหลายแทบจะเดินเอากระจาดปิดก้นกันเป็นแถว พ่อค้าจีนไทยเจ๊ง ตลาดหุ้นเจ๊ง ธุรกิจพัง อสังหาริม ทรัพย์ร้าง ขนาดอาเฮียนักการเงินเดินหน้าแห้งบอก ตูไปขายแซนด์วิชดีกว่า
    อืม เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดจริงๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เขียนเหมือนสนุก แต่มันเจ็บลึก เจ็บจริงๆ นี่ยังไม่นับเรื่องการซื้อขายทรัพย์สินของ ปรส. นะ
    ภารกิจ IMF นี่มันซับซ้อนต้องเล่ากันยาว แต่เล่ามาเท่านี้ นักฟังนิทานก็น่าจะพอเดากันออกบ้างว่า มันวางไลน์กันอย่างไร
    ต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่า ไทยเคยเสียอธิปไตยให้แก่อเมริกาครั้งแรก เมื่อคราวปี พ.ศ.2505 -2515 สมัยสงครามเวียตนาม อเมริกาใช้ไทยเป็นฐานทัพ โดยไม่มีเอกสารสัญญาเป็นเรื่องเป็นราว การปฏิบัติการรบทางอากาศที่อาศัยฐานทัพ 7 แห่งในบ้านเรา อนุมัติโดยอเมริกา และทหารอเมริกันมีสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ไม่ต้องขึ้นศาลไทย
    แต่ไทยก็ไม่เคยรู้ซึ้ง ถึงเล่ห์รักของเพื่อน เชื่อใจเขา จนถึงปี พ.ศ.2540 ไทยก็เสียอธิปไตยอีกครั้ง ครั้งนี้จากการปฎิเสธความช่วยเหลือไทยของประธานาธิบดีคลินตัน โดยให้ไทยเข้าโครงการ IMF แทน!
    ผลของโครงการ IMF เปิดทางให้ต่างชาติ ครอบงำธุรกิจไทยเบ็ดเสร็จ ไม่ว่าอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจ อุตสาหกรรม ที่สำคัญสถาบันการเงินไทย ถูกต่างชาติเข้ามาครอบงำ จนทุกวันนี้ มีธนาคารชื่อไทย แต่ไส้เป็นของต่าง ชาติกี่ธนาคาร คำตอบคือ เกือบหมด ไปหารายงานของตลาดหลักทรัพย์หรือธนาคารแห่งประเทศไทยอ่านซะบ้าง จะได้รู้สภาพประเทศตัวเองเป็นอย่างไร อย่าหลงเทิดทูนหัวทองตาสีฟ้ากันมากนัก เทิดทูนจนถึงกับฟอกผม ฟอกผิวนี่นะ มันยิ่งกว่างี่เง่าอีกนะ
    แต่วิกฤติการณ์ต้มยำกุ้ง เงินกู้ IMF ก็ไม่ทำให้สมันน้อยรู้ตัว
    ถ้าเราเคยดูหนังสารคดี discovery เราจะเห็นนิสัยของสัตว์อ่อนแอ พวกนี้ชัดเจน
    พวกมันเคยวิ่งข้ามแม่น้ำนี้แล้ว โดนจระเข้กัด ขึ้นบกเจอสิงโตตะปบ มากี่ฤดู ก็ทำมันซ้ำซากอยู่นั่น ไม่เคยคิดเปลี่ยนเส้นทาง แต่มันก็เป็นเพียงสมันน้อย ไม่มีสมองเหมือนมนุษย์
    ชนชาวไทยเคยเป็นนักสู้ บรรพบุรุษกู้บ้านรักษาเมืองมาตลอด เราถึงมีบ้านเมืองเหลืออยู่จนทุกวันนี้ มาสมัยนี้ เรามีแต่สมันน้อยกลัวภัย เซ่อกิน ไม่คิดต่อสู้ป้องกันตัวเลย รู้ว่าจระเข้คอยอยู่ในน้ำ สิงโตคอยอยู่บนฝั่ง ก็ยังดันวิ่งเข้าไปใส่ นิทานเรื่องนี้มันสอนอะไรได้บ้างไหมหนอ
    เขาว่า โชคร้ายมักมาซ้ำสอง หลังจากปี๋ชวนกะอ้ายน้อย โดนจิ๊กโก๋๋วอซิงตันหักหลังจนเดินไม่เป็น ลี้กายหายวับ ก็เกิดมีอัศวินควายดำโผล่ขึ้นมา อัศวินควายดำหน้าเหลี่ยมใช้เล่ห์ และขนมหลายพันล้านห่อ จัดการจนตัวเองได้เป็นรัฐบาล พอเป็นรัฐบาลไม่เท่าไหร่ก็ประกาศศักดา UN ไม่ใช่พ่อ (แต่เป็นปู่ ฮา ฮา) จะใช้หนี้ IMF ให้หมด ไทยจะได้เป็นไทแก่ตัว ไม่ต้องเป็นหนี้เขา ว่าแล้วก็อัดนโยบายประชานิยม มาให้ดินแดนแห่งสมันน้อยเต็มพิกัด
    สมันน้อยแค่จะคิดเอาตัวรอดไปวันๆ ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ก็คิดไม่เก่งน่ะนะ ยังมาเจอเหลี่ยมอัศวินควายดำ จะไปเหลืออะไร โอ้ย! เขาเก่งนะ เขารวยแล้วไม่โกง ฮา 500 หน
    แล้วอัศวินควายดำนี่ชาญฉลาดมาจากไหน อยู่ดีๆ ก็โผล่จากรูมาหรือไร อันนี้ต้องไปหาหนังสือประเภทรู้ทันเหลี่ยม 1,2,3,4,5 ถึง 100 มาอ่าน ก็จะได้พอรู้ประวัติ รู้พัฒนาการเล่ห์ของเหลี่ยมเขา แต่นิทานเรื่องนี้จะเล่าเรื่องที่หนังสือรู้ทัน ไม่ได้เขียนไว้ดีไหม

    คนเล่านิทาน
    ตอน 14 เล่าเรื่องชาว บ้านซะหลายมื้อ กลับเข้ามาบ้านเราต่อดีกว่า เดี๋ยวท่านผู้อ่านจะงง มันจะเล่าเรื่องอะไรกันแน่นะ ก็แหมมันต้องให้เห็นภาพ บอกแล้วอย่าดูแต่สิ่งที่เห็นข้างหน้าอย่างเดียว หัดมองภาพกว้าง ภาพลึก 3 มิติบ้าง จิ๊กโก๋๋ไปหากินอยู่ซอยอื่น ตั้งแต่ปี ค.ศ.1978 จนเดี๋ยวนี้ยังพล่านอยู่ เพราะฉะนั้นตั้งแต่รัฐบาลคุณป๋าจ๊อกกี้ จนมาถึงคุณน้าชาติ ขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ บ้านเราจึงแบ่งกันกินแย่งกันกัด โดยไม่มีจิ๊กโก๋๋ต่างถิ่นมาขัดคอ มาเกิดเหตุบังเอิญ ตอนคุณน้าขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ แกจัดงานเลี้ยงบุพเฟ่ต์บ่อยไปหน่อย แถมอาหารแต่ละจาน มันก็มีพวกจิ๊กโก๋๋อยากร่วมวงรับประทานกินด้วย เรื่องบังเอิญมันถึงได้เกิด ไทยแลนด์แดนสยาม จึงมีนายกชื่อ คุณน้านัน จำได้ใช่ไหมครับ พอคุณน้านันเป็นนายก นอกจากจะจัดสรรเมนูอาหารให้ถูกปากแล้ว รัฐบาลคุณน้านัน ยังเป็นรัฐบาลที่ออกกฎหมาย เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ธุรกรรมการเงิน อีกมากมาย รวมทั้งการเปิดเสรีทางการเงินอีกด้วย พร้อมทั้งจัดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญและเลือกตั้งใหม่ เราต้องเป็นประชาธิปไตย เราต้องมีธรรมาภิบาล ฯลฯ นโยบายของคุณน้านันนี่ ถ้าไม่เขียนออกมาเป็นภาษาไทยว่า นโยบายนายกอานันท์นี่ เผลอๆ ท่านผู้อ่านจะนึกว่ากำลังอ่าน Doctrine ต่างๆ ของพี่เบิ้มอเมริกา เลือกตั้งแล้ว เราก็ได้รัฐบาลปี๋ชวนเชื่องช้า รัฐบาลป๋าเติ้งปลาโหลตัวสั้นแลบลิ้นแผล็บๆ รัฐบาลน้าจิ๋วจอมมั่ว แล้วก็กลับมาปี๋ชวนเชื่องช้าอีก เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนสมัยรัฐบาลทหาร พอเป็นรัฐบาลพลเรือน ก็ไม่ต่างกัน แบ่งกันกินแย่งกันกัดเหมือนเดิม แล้วไง จิ๊กโก๋๋ก็ยังไปวุ่นอยู่ซอยอื่น เพราะคิดว่า สมันน้อยมันเหลือแต่กระดูกแล้ว ไม่มีความหมายแล้ว สมันแดนอื่นมันน่าหม่ำกว่าแยะ พ.ศ.2540 (ค.ศ.1997) ช่วงรัฐบาลน้าจิ๋วจอมมั่ว เป็นนายก บริหารเก่งจนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ดังไปทั่วโลก น้อยใจยุบสภากลับบ้าน ไปนอนซบน้าเครือตู้ทองเคลื่อนที่ดีกว่า ปี๋ชวนเชื่องช้ากลับเข้ามาเป็นรัฐบาล ไทยแลนด์กระเป๋าฉีกขาดกระจุย เงินคงคลังเหลือแต่คลัง ไม่มีเงินคงเหลือ อ้ายน้อยธารินทร์รมว.คลังที่ทุกคนรอคอยยังกะเทวดามาโปรด นักเรียนเก่าฮาร์วาร์ด บอกอย่ากระนั้นเลย เราต้องไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเก่าสถาบันเดียวกัน จิ๊กโก๋๋แถววอชิงตันน่าจะช่วยเราได้ เป็นไปตามคาด (ไม่รู้ใครคาด) จิ๊กโก๋๋วอชิงตันบอกเสียใจนะ อ้ายน้อย ไอให้ยูยืมเงินไม่ได้หรอก แต่ไอก็ไม่ทิ้งยู ยูไปเข้าโปรแกรม IMF ล่ะกันนะ ไอจะแนะนำไปให้ อ้ายน้อยเดินหน้าขรึมกลับบ้าน บอกปี๋ชวน เขาช่วยเราโดยให้ไปกู้ IMF 5 5 5 เงินกู้ IMF มาพร้อมกับเงื่อนไข 508 ประการ เช่นการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ที่สำคัญเกิด ปรากฏการณ์ปิด 56 ไฟแนนซ์ (เบื้องหลังการปิดไฟแนนซ์นี่ ถ้าจะต้องไปตามอ่านจากเพจคุณThanong Fanclub น่าจะดีกว่า!) เจ้าสัวทั้งหลายแทบจะเดินเอากระจาดปิดก้นกันเป็นแถว พ่อค้าจีนไทยเจ๊ง ตลาดหุ้นเจ๊ง ธุรกิจพัง อสังหาริม ทรัพย์ร้าง ขนาดอาเฮียนักการเงินเดินหน้าแห้งบอก ตูไปขายแซนด์วิชดีกว่า อืม เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดจริงๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เขียนเหมือนสนุก แต่มันเจ็บลึก เจ็บจริงๆ นี่ยังไม่นับเรื่องการซื้อขายทรัพย์สินของ ปรส. นะ ภารกิจ IMF นี่มันซับซ้อนต้องเล่ากันยาว แต่เล่ามาเท่านี้ นักฟังนิทานก็น่าจะพอเดากันออกบ้างว่า มันวางไลน์กันอย่างไร ต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่า ไทยเคยเสียอธิปไตยให้แก่อเมริกาครั้งแรก เมื่อคราวปี พ.ศ.2505 -2515 สมัยสงครามเวียตนาม อเมริกาใช้ไทยเป็นฐานทัพ โดยไม่มีเอกสารสัญญาเป็นเรื่องเป็นราว การปฏิบัติการรบทางอากาศที่อาศัยฐานทัพ 7 แห่งในบ้านเรา อนุมัติโดยอเมริกา และทหารอเมริกันมีสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ไม่ต้องขึ้นศาลไทย แต่ไทยก็ไม่เคยรู้ซึ้ง ถึงเล่ห์รักของเพื่อน เชื่อใจเขา จนถึงปี พ.ศ.2540 ไทยก็เสียอธิปไตยอีกครั้ง ครั้งนี้จากการปฎิเสธความช่วยเหลือไทยของประธานาธิบดีคลินตัน โดยให้ไทยเข้าโครงการ IMF แทน! ผลของโครงการ IMF เปิดทางให้ต่างชาติ ครอบงำธุรกิจไทยเบ็ดเสร็จ ไม่ว่าอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจ อุตสาหกรรม ที่สำคัญสถาบันการเงินไทย ถูกต่างชาติเข้ามาครอบงำ จนทุกวันนี้ มีธนาคารชื่อไทย แต่ไส้เป็นของต่าง ชาติกี่ธนาคาร คำตอบคือ เกือบหมด ไปหารายงานของตลาดหลักทรัพย์หรือธนาคารแห่งประเทศไทยอ่านซะบ้าง จะได้รู้สภาพประเทศตัวเองเป็นอย่างไร อย่าหลงเทิดทูนหัวทองตาสีฟ้ากันมากนัก เทิดทูนจนถึงกับฟอกผม ฟอกผิวนี่นะ มันยิ่งกว่างี่เง่าอีกนะ แต่วิกฤติการณ์ต้มยำกุ้ง เงินกู้ IMF ก็ไม่ทำให้สมันน้อยรู้ตัว ถ้าเราเคยดูหนังสารคดี discovery เราจะเห็นนิสัยของสัตว์อ่อนแอ พวกนี้ชัดเจน พวกมันเคยวิ่งข้ามแม่น้ำนี้แล้ว โดนจระเข้กัด ขึ้นบกเจอสิงโตตะปบ มากี่ฤดู ก็ทำมันซ้ำซากอยู่นั่น ไม่เคยคิดเปลี่ยนเส้นทาง แต่มันก็เป็นเพียงสมันน้อย ไม่มีสมองเหมือนมนุษย์ ชนชาวไทยเคยเป็นนักสู้ บรรพบุรุษกู้บ้านรักษาเมืองมาตลอด เราถึงมีบ้านเมืองเหลืออยู่จนทุกวันนี้ มาสมัยนี้ เรามีแต่สมันน้อยกลัวภัย เซ่อกิน ไม่คิดต่อสู้ป้องกันตัวเลย รู้ว่าจระเข้คอยอยู่ในน้ำ สิงโตคอยอยู่บนฝั่ง ก็ยังดันวิ่งเข้าไปใส่ นิทานเรื่องนี้มันสอนอะไรได้บ้างไหมหนอ เขาว่า โชคร้ายมักมาซ้ำสอง หลังจากปี๋ชวนกะอ้ายน้อย โดนจิ๊กโก๋๋วอซิงตันหักหลังจนเดินไม่เป็น ลี้กายหายวับ ก็เกิดมีอัศวินควายดำโผล่ขึ้นมา อัศวินควายดำหน้าเหลี่ยมใช้เล่ห์ และขนมหลายพันล้านห่อ จัดการจนตัวเองได้เป็นรัฐบาล พอเป็นรัฐบาลไม่เท่าไหร่ก็ประกาศศักดา UN ไม่ใช่พ่อ (แต่เป็นปู่ ฮา ฮา) จะใช้หนี้ IMF ให้หมด ไทยจะได้เป็นไทแก่ตัว ไม่ต้องเป็นหนี้เขา ว่าแล้วก็อัดนโยบายประชานิยม มาให้ดินแดนแห่งสมันน้อยเต็มพิกัด สมันน้อยแค่จะคิดเอาตัวรอดไปวันๆ ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ก็คิดไม่เก่งน่ะนะ ยังมาเจอเหลี่ยมอัศวินควายดำ จะไปเหลืออะไร โอ้ย! เขาเก่งนะ เขารวยแล้วไม่โกง ฮา 500 หน แล้วอัศวินควายดำนี่ชาญฉลาดมาจากไหน อยู่ดีๆ ก็โผล่จากรูมาหรือไร อันนี้ต้องไปหาหนังสือประเภทรู้ทันเหลี่ยม 1,2,3,4,5 ถึง 100 มาอ่าน ก็จะได้พอรู้ประวัติ รู้พัฒนาการเล่ห์ของเหลี่ยมเขา แต่นิทานเรื่องนี้จะเล่าเรื่องที่หนังสือรู้ทัน ไม่ได้เขียนไว้ดีไหม คนเล่านิทาน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 538 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิถีการปกครองของเราต้องเปลี่ยนแปลงใหม่จริงๆกฎหมายมากมายที่ถูกเขียนอย่างอยุติธรรมกดขี่ประชาชนต้องฉีกทิ้งหมดทันทีแล้วเขียนใหม่ในวิถีปกครองแห่งคนดีมิใช่คนชั่วเขียนแบบนักการเมืองปัจจุบันเขียนนี้ที่สมคบคิดกับต่างชาติเลวชั่วเขียนทำลายทำร้ายประเทศไทยคนไทยเสียมากกว่า เด่นชัดคือกฎหมายปล้นบ่อน้ำมันเรา mou43/44ที่เห็นใจชัดๆที่กอด1:200,000ไว้.
    ..ยุคสมัยใหม่อันตรายมาก aiมาเกี่ยวในทุกๆชีวิตคนไทยแล้ว,นายกฯผู้นำต้องไม่กากขี้ขลาดกระจอกไร้ฝีมือ,มีคุณสมบัติซื่อสัตย์ต่อชาติไทยตนและประชาชนตนเอง,เต็มที่ในการดูแลประชาชนพัฒนาคนไทยรับมือการเปลี่ยนแปลงของโลกและคือประเทศทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งทางดีและทางชั่วเลวแบบอเมริกาที่กระทำคุกคามรุกรานหมายอยากได้พังงาเราแบบนั้น.แล้วไร้ฝีมือตั้งรับและรุก ตลอดสมยอมเขมรสาระพัดด้วย เปิดมุกปูทางเขมรให้โอกาสเขมร จัดให้เขมรตลอดที่อังเคิลต้องการ.
    ..ไทยต้องพัฒนาคนพัฒนาตนสามารถผลิตอาวุธป้องกันตนเองได้แล้ว,ตลอดต้องชัดเจนว่าใครคือมิตรคือศัตรูจริงๆ สามัคคีกันจริงทั้งภายในไทยเราเองมิใช่ให้นักการเมืองสร้างความแตกแยกภายในแบบนี้และอันตรายต่ออธิปไตยตนเองด้วย,ระบบปกครองแบบสส.สว.ศาลตุลาการเราและระบบราชการเรามีปัญหาพร้อมสอบตกจริงๆ,ปัญหาทั้งหมดเกิดจากคนภาคการเมืองและคนภาคราชการไม่ซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินไทยตนและประชาชนเราทั้งประเทศ.
    ..ระบบปกครองเราล้มเหลวด้านไม่เด็ดขาดประหารชีวิตนักการเมืองที่เป็นภัยต่อประเทศชาติจริงและคนของราชการด้วยเช่นกันที่ใฝ่ไปทางชั่วเลวร่วมกับนักการเมืองร่วมกับพ่อค้านักลงทุนนักธุรกิจกิจการไม่ซื่อต่างๆด้วย.



    https://youtube.com/watch?v=5ElNQsZt6tk&si=Rvjl3gnzriiTzsAB
    วิถีการปกครองของเราต้องเปลี่ยนแปลงใหม่จริงๆกฎหมายมากมายที่ถูกเขียนอย่างอยุติธรรมกดขี่ประชาชนต้องฉีกทิ้งหมดทันทีแล้วเขียนใหม่ในวิถีปกครองแห่งคนดีมิใช่คนชั่วเขียนแบบนักการเมืองปัจจุบันเขียนนี้ที่สมคบคิดกับต่างชาติเลวชั่วเขียนทำลายทำร้ายประเทศไทยคนไทยเสียมากกว่า เด่นชัดคือกฎหมายปล้นบ่อน้ำมันเรา mou43/44ที่เห็นใจชัดๆที่กอด1:200,000ไว้. ..ยุคสมัยใหม่อันตรายมาก aiมาเกี่ยวในทุกๆชีวิตคนไทยแล้ว,นายกฯผู้นำต้องไม่กากขี้ขลาดกระจอกไร้ฝีมือ,มีคุณสมบัติซื่อสัตย์ต่อชาติไทยตนและประชาชนตนเอง,เต็มที่ในการดูแลประชาชนพัฒนาคนไทยรับมือการเปลี่ยนแปลงของโลกและคือประเทศทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งทางดีและทางชั่วเลวแบบอเมริกาที่กระทำคุกคามรุกรานหมายอยากได้พังงาเราแบบนั้น.แล้วไร้ฝีมือตั้งรับและรุก ตลอดสมยอมเขมรสาระพัดด้วย เปิดมุกปูทางเขมรให้โอกาสเขมร จัดให้เขมรตลอดที่อังเคิลต้องการ. ..ไทยต้องพัฒนาคนพัฒนาตนสามารถผลิตอาวุธป้องกันตนเองได้แล้ว,ตลอดต้องชัดเจนว่าใครคือมิตรคือศัตรูจริงๆ สามัคคีกันจริงทั้งภายในไทยเราเองมิใช่ให้นักการเมืองสร้างความแตกแยกภายในแบบนี้และอันตรายต่ออธิปไตยตนเองด้วย,ระบบปกครองแบบสส.สว.ศาลตุลาการเราและระบบราชการเรามีปัญหาพร้อมสอบตกจริงๆ,ปัญหาทั้งหมดเกิดจากคนภาคการเมืองและคนภาคราชการไม่ซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินไทยตนและประชาชนเราทั้งประเทศ. ..ระบบปกครองเราล้มเหลวด้านไม่เด็ดขาดประหารชีวิตนักการเมืองที่เป็นภัยต่อประเทศชาติจริงและคนของราชการด้วยเช่นกันที่ใฝ่ไปทางชั่วเลวร่วมกับนักการเมืองร่วมกับพ่อค้านักลงทุนนักธุรกิจกิจการไม่ซื่อต่างๆด้วย. https://youtube.com/watch?v=5ElNQsZt6tk&si=Rvjl3gnzriiTzsAB
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 371 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวบพ่อค้าเชียงใหม่ขายเลื่อยโซ่ยนต์เถื่อนออนไลน์! ตำรวจบุกค้นบ้านพบปืนเถื่อน เลื่อยโซ่ยนต์ผิดกฎหมายจำนวนมาก สารภาพรับซื้อของเก่ามาขายต่อ ผบช.สอท. สั่งเร่งกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์ เตือนประชาชนระวังโทษหนัก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000075579

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    รวบพ่อค้าเชียงใหม่ขายเลื่อยโซ่ยนต์เถื่อนออนไลน์! ตำรวจบุกค้นบ้านพบปืนเถื่อน เลื่อยโซ่ยนต์ผิดกฎหมายจำนวนมาก สารภาพรับซื้อของเก่ามาขายต่อ ผบช.สอท. สั่งเร่งกวาดล้างอาชญากรรมออนไลน์ เตือนประชาชนระวังโทษหนัก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000075579 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 662 มุมมอง 0 รีวิว
  • นางกวักหลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่
    นางกวัก เมตตา มหาลาภ เนื้อผงพุทธคุณ หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ // พระดีพิธีใหญ่ เครื่องรางของขลังที่นิยมบูชาในหมู่พ่อค้าแม่ค้า เพื่อเสริมโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรืองในการค้าขาย และเมตตามหานิยม // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเสริมโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรืองในการค้าขาย และเมตตามหานิยม กวักโชคลาภ เรียกเงินทองให้ไหลมาเทมา และทำให้ค้าขายดี ดึงดูดลูกค้า ทำให้ค้าขายร่ำรวย เป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป ทำให้เจรจาค้าขายราบรื่น >>

    ** หลวงพ่อจำเนียร หรือ พระอาจารย์จำเนียร วัดถ้ำเสือ เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ด้วยเหตุที่วัตรปฎิบัติบัตรอันงดงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง จึงทำวัตถุมงคลของหลวงพ่อจำเนียร ล้วนแต่มีพุทธคุณครบเครื่องครอบจักรวาล และเกิดประสบการณ์ ทางด้านคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม ให้เห็นประจักษ์แก่บันดาศิษยานุศิษย์ และผู้เคารพศรัทธาในตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    นางกวักหลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ นางกวัก เมตตา มหาลาภ เนื้อผงพุทธคุณ หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ // พระดีพิธีใหญ่ เครื่องรางของขลังที่นิยมบูชาในหมู่พ่อค้าแม่ค้า เพื่อเสริมโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรืองในการค้าขาย และเมตตามหานิยม // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเสริมโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรืองในการค้าขาย และเมตตามหานิยม กวักโชคลาภ เรียกเงินทองให้ไหลมาเทมา และทำให้ค้าขายดี ดึงดูดลูกค้า ทำให้ค้าขายร่ำรวย เป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป ทำให้เจรจาค้าขายราบรื่น >> ** หลวงพ่อจำเนียร หรือ พระอาจารย์จำเนียร วัดถ้ำเสือ เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ด้วยเหตุที่วัตรปฎิบัติบัตรอันงดงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง จึงทำวัตถุมงคลของหลวงพ่อจำเนียร ล้วนแต่มีพุทธคุณครบเครื่องครอบจักรวาล และเกิดประสบการณ์ ทางด้านคงกระพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม ให้เห็นประจักษ์แก่บันดาศิษยานุศิษย์ และผู้เคารพศรัทธาในตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเจรจารีบหยุดยิงก็เพื่อคุ้มครองพวกนี้ด้วยนั้นเอง,ตลอดฐานทัพอเมริกาในชลบุรีด้วยกลัวโดนลูกหลงและตอบโต้ออกหน้าออกตาไม่ได้ด้วยหากเจอphl03ของเขมรตกใส่,กรณีปะทะกัน,อเมริกางานเข้าจึงรีบออกตัวจากพุ่มไม้ก็ว่า,
    ..ในด้านเล่นของมืดอาวุธมืดเงินทุนมืดเงินที่ฟอกตรึมทั่วโลกจากพวกมืดๆนี้ก็หมายระดมมาในช่วงหยุดยิงนี้ด้วย,เขมรชนะฮุนเซนก็ช่วยโทนี่ได้จริง ประเทศไทยก็จะปกครองในสไตล์ประธานาธิบดีสมใจโทนี่จากนั้นก็แบ่งบ่อน้ำมันให้ฮุนเซนให้อเมริกาให้ฝรั่งเศสตามที่รับเงินรับทองล่วงหน้าก่อนแล้วและเงินก้อนสุดท้ายหลังเสร็จงาน คือเดอะแก๊งทั้งหมดพวกนี้สำเร็จในการทำลายประเทศไทย ทำลายสถาบันนั้นเอง.,รัสเชียสนับสนุนทางลับไม่รู้หรือเขมรจากบ่อนคาสิโนสั่งซื้อเองนำเข้าผ่านเอกชนไทยที่สมคบคิดเปิดด่านขนอาวุธต่างๆแต่แรกนั้นเองช่วงผิดแผนอาจควบคุมไม่ได้นั้นก็ด้วย,และตอนนี้บ่อคาสิโนรับรู้ชาตะกรรมแน่แล้วจึงประสานงานทุกๆสาระพัดความเถื่อนฮับความเลวทั่วเขมรมาสุมหัวกันนำเข้าค้าอาวุธมาสู้ตายกับไทยนั่นเองเพราะไปไหนไม่รอดแล้ว ออกจากเขมรก็มีคดีมีหมายติดหัวในชาติต้นสกัดตนเองนั้นล่ะ,แต่ละตัวโทษตายโทษติดคุกตลอดชีวิตก็ว่า,จึงบีบขี้ข้าลูกหนี้บ่อนเหยื่อค้ามนุษย์ทั้งหมดทำตามคำสั่งมันเพื่อจัดการคนไทยทหารไทยแทรกซึมทำลายไทยทุกๆวิถีทาง นักการเมืองหรือใครๆที่มันเก็บความลับให้ซ่อนในฝั่งเขมร นายทุนเจ้าสัวพ่อค้าค้ากิจการใดๆที่บ่อนหรือฮับค้ามนุษย์เก็บหลักฐานความผิดตนเองไว้ที่เขมร หากพวกนี้ไม่ทำตามคำสั่งมัน มันจะแฉจะส่งความผิดนี้เปิดโปงสิ่งนี้แก่เจ้าหน้าที่ไทยลงโทษพวกนักการเมืองนักพนันนักเจ้าสัวที่ข้องเกี่ยวสิ่งชั่วเลวกับมันทั้งหมด,คนไทยนี้กลัวนะสิจึงเป็นไส้ศึกโดยง่ายดาย โดรนมากมายก็พวกเหี้ยนี้สั่งบินจากไทยนี้ล่ะ สมคบคิดกัน พักไว้ในบ้านไส้ศึกนี้,แลกยาบ้าแลกหนี้แลกสาระพัดมุกมันล่อคนไทยที่สิ้นคิดนี้ได้หมด,นายพลทหารเลวในไทยก็เป็นเจ้าของบ่อนในเขมรนะธรรมดาที่ไหน,คือทหารไทยยังลีลาไม่ประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศไทยจะรอกฎหมายปกติธรรมดาเดินเนื้องานฝันไม่เถอะจะทันเหลี่ยมมัน,เมื่อประกาศกฎอัยการศึกนะซึ่งนักการเมืองเลวเจ้าสัวกิจการชั่วdeep stateเองมันหวาดกลัวแน่นอน,แผนการต่างๆมันวางไว้อาจตัดตอนตัดขาเสียแผนมันมหาศาลมโหฬารนั้นเอง,แค่ทหารไทยจัดการภายในได้นะ ศึกกับเขมรเสมือนชนะแบบไม่ต้องรบเกิน90%ทันที,อเมริกาหมายจะเอาไทยตั้งฐานทัพสู้กับจีนสร้างหายนะในเอเชีย ประเทศไทยสงสัยว่าทำให้ไทยเสี่ยงด้านอธิปไตยไทยสู่สงครามไม่สงบในอาเชียนในเอเชีย สามารถเชิญฑูตต่างประเทศนั้นออกจากไทยไปก่อนได้ทันที ตัดตอนปฏิบัติการด้านสายข่าวเพื่อก่อสงครามได้ทันที เช่นอเมริกา ฝรั่งเศส เป็นต้น เชิญออกนอกประเทศไปก่อนเพราะต้องสงสัยสนับสนุนสร้างความไม่สงบในเอเชียและภูมิภาคอาเชียนนี้.,เราไม่จำเป็นต้องแคร์อะไร,ทดลองวิจัยสัก5-10ปีก็ได้ว่า เมื่อเชิญฑูตต่างชาติตะวันตกยุโรปอเมริกาออกจากประเทศไทย ดัชนีความสงบสุขเพิ่มขึ้นหรือลดลงหรือนัยยะหัวข้อต่างๆที่ตั้งสมมุติฐานไว้ เชิงบวกหรือเชิงลบ,ประเทศไทยไม่มีฑูตอเมริกาฑูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยชาติไทยมันจะพังพินาศล่มสลายก็ให้มันรู้ไป.

    https://youtube.com/shorts/EqJ_uOG7Xg4?si=DvD-DJ5t1DYZkWM1
    การเจรจารีบหยุดยิงก็เพื่อคุ้มครองพวกนี้ด้วยนั้นเอง,ตลอดฐานทัพอเมริกาในชลบุรีด้วยกลัวโดนลูกหลงและตอบโต้ออกหน้าออกตาไม่ได้ด้วยหากเจอphl03ของเขมรตกใส่,กรณีปะทะกัน,อเมริกางานเข้าจึงรีบออกตัวจากพุ่มไม้ก็ว่า, ..ในด้านเล่นของมืดอาวุธมืดเงินทุนมืดเงินที่ฟอกตรึมทั่วโลกจากพวกมืดๆนี้ก็หมายระดมมาในช่วงหยุดยิงนี้ด้วย,เขมรชนะฮุนเซนก็ช่วยโทนี่ได้จริง ประเทศไทยก็จะปกครองในสไตล์ประธานาธิบดีสมใจโทนี่จากนั้นก็แบ่งบ่อน้ำมันให้ฮุนเซนให้อเมริกาให้ฝรั่งเศสตามที่รับเงินรับทองล่วงหน้าก่อนแล้วและเงินก้อนสุดท้ายหลังเสร็จงาน คือเดอะแก๊งทั้งหมดพวกนี้สำเร็จในการทำลายประเทศไทย ทำลายสถาบันนั้นเอง.,รัสเชียสนับสนุนทางลับไม่รู้หรือเขมรจากบ่อนคาสิโนสั่งซื้อเองนำเข้าผ่านเอกชนไทยที่สมคบคิดเปิดด่านขนอาวุธต่างๆแต่แรกนั้นเองช่วงผิดแผนอาจควบคุมไม่ได้นั้นก็ด้วย,และตอนนี้บ่อคาสิโนรับรู้ชาตะกรรมแน่แล้วจึงประสานงานทุกๆสาระพัดความเถื่อนฮับความเลวทั่วเขมรมาสุมหัวกันนำเข้าค้าอาวุธมาสู้ตายกับไทยนั่นเองเพราะไปไหนไม่รอดแล้ว ออกจากเขมรก็มีคดีมีหมายติดหัวในชาติต้นสกัดตนเองนั้นล่ะ,แต่ละตัวโทษตายโทษติดคุกตลอดชีวิตก็ว่า,จึงบีบขี้ข้าลูกหนี้บ่อนเหยื่อค้ามนุษย์ทั้งหมดทำตามคำสั่งมันเพื่อจัดการคนไทยทหารไทยแทรกซึมทำลายไทยทุกๆวิถีทาง นักการเมืองหรือใครๆที่มันเก็บความลับให้ซ่อนในฝั่งเขมร นายทุนเจ้าสัวพ่อค้าค้ากิจการใดๆที่บ่อนหรือฮับค้ามนุษย์เก็บหลักฐานความผิดตนเองไว้ที่เขมร หากพวกนี้ไม่ทำตามคำสั่งมัน มันจะแฉจะส่งความผิดนี้เปิดโปงสิ่งนี้แก่เจ้าหน้าที่ไทยลงโทษพวกนักการเมืองนักพนันนักเจ้าสัวที่ข้องเกี่ยวสิ่งชั่วเลวกับมันทั้งหมด,คนไทยนี้กลัวนะสิจึงเป็นไส้ศึกโดยง่ายดาย โดรนมากมายก็พวกเหี้ยนี้สั่งบินจากไทยนี้ล่ะ สมคบคิดกัน พักไว้ในบ้านไส้ศึกนี้,แลกยาบ้าแลกหนี้แลกสาระพัดมุกมันล่อคนไทยที่สิ้นคิดนี้ได้หมด,นายพลทหารเลวในไทยก็เป็นเจ้าของบ่อนในเขมรนะธรรมดาที่ไหน,คือทหารไทยยังลีลาไม่ประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศไทยจะรอกฎหมายปกติธรรมดาเดินเนื้องานฝันไม่เถอะจะทันเหลี่ยมมัน,เมื่อประกาศกฎอัยการศึกนะซึ่งนักการเมืองเลวเจ้าสัวกิจการชั่วdeep stateเองมันหวาดกลัวแน่นอน,แผนการต่างๆมันวางไว้อาจตัดตอนตัดขาเสียแผนมันมหาศาลมโหฬารนั้นเอง,แค่ทหารไทยจัดการภายในได้นะ ศึกกับเขมรเสมือนชนะแบบไม่ต้องรบเกิน90%ทันที,อเมริกาหมายจะเอาไทยตั้งฐานทัพสู้กับจีนสร้างหายนะในเอเชีย ประเทศไทยสงสัยว่าทำให้ไทยเสี่ยงด้านอธิปไตยไทยสู่สงครามไม่สงบในอาเชียนในเอเชีย สามารถเชิญฑูตต่างประเทศนั้นออกจากไทยไปก่อนได้ทันที ตัดตอนปฏิบัติการด้านสายข่าวเพื่อก่อสงครามได้ทันที เช่นอเมริกา ฝรั่งเศส เป็นต้น เชิญออกนอกประเทศไปก่อนเพราะต้องสงสัยสนับสนุนสร้างความไม่สงบในเอเชียและภูมิภาคอาเชียนนี้.,เราไม่จำเป็นต้องแคร์อะไร,ทดลองวิจัยสัก5-10ปีก็ได้ว่า เมื่อเชิญฑูตต่างชาติตะวันตกยุโรปอเมริกาออกจากประเทศไทย ดัชนีความสงบสุขเพิ่มขึ้นหรือลดลงหรือนัยยะหัวข้อต่างๆที่ตั้งสมมุติฐานไว้ เชิงบวกหรือเชิงลบ,ประเทศไทยไม่มีฑูตอเมริกาฑูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยชาติไทยมันจะพังพินาศล่มสลายก็ให้มันรู้ไป. https://youtube.com/shorts/EqJ_uOG7Xg4?si=DvD-DJ5t1DYZkWM1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 500 มุมมอง 0 รีวิว
  • เธอจะขายทุกอย่างไม่ได้นะ !!!ขายทั้งอาหารทะเลแห้ง และก็ขายถุงพลาสติกได้สิ…มาที่ร้านกินจุ๊บจิ๊บไงคะพ่อค้าแม่ค้ารู้...ถุงดีคือกำไรที่มองไม่เห็นขายของเยอะ ใช้ถุงเยอะ... ต้องหาถุงดี ๆ แล้วล่ะถุงตราปู เป็นที่นิยมอีกตัวของพ่อค้าแม่ค้าค่ะ มีหลากหลายแบบให้เลือก ถุงใส่ของร้อน ถุงใส่ของเย็น ถุงใส ถุงขุ่น ถุงหูหิ้ว ถุงหูหิ้วไฮโซ ถุงใส่แก้วใส่ได้ทุกอย่าง มีทุกถุง ใช้งานง่าย ใส่อะไรก็ได้ …แถมใช้ใส่กำไรชีวิตก็ได้นะเธออออออออยกเว้น ใช้ใส่ใจเธอ นี่ยังไม่ด้ายยยยนี่เลยค่ะ ถุงนี้ครึ่งโล ได้หลายใบ ใส่ของได้ยันลูกบวช (อ่ะ ล้อเล่นนน) ถุงตราปู ใช้แล้วจบ! ไม่ต้องคิดเยอะ ทักมารัว ๆ ที่ KinJubJib Shopร้านกินจุ๊บจิ๊บ อร่อย สดใหม่ ส่งไว ได้คุณภาพ⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าและเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8yDIw0654gK&_r=1เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา #ถุงใส่กับข้าว #ถุงppหนา #ถุงพลาสติก #ถุงร้อน#ถุงเย็น #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง
    เธอจะขายทุกอย่างไม่ได้นะ !!!ขายทั้งอาหารทะเลแห้ง และก็ขายถุงพลาสติกได้สิ…มาที่ร้านกินจุ๊บจิ๊บไงคะ🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭🇹🇭🧧🧧🧧🧧🧧🧧🧧🧧🧧🧧🧧🧧พ่อค้าแม่ค้ารู้...ถุงดีคือกำไรที่มองไม่เห็นขายของเยอะ ใช้ถุงเยอะ... ต้องหาถุงดี ๆ แล้วล่ะถุงตราปู เป็นที่นิยมอีกตัวของพ่อค้าแม่ค้าค่ะ มีหลากหลายแบบให้เลือก✅ ถุงใส่ของร้อน✅ ถุงใส่ของเย็น✅ ถุงใส✅ ถุงขุ่น✅ ถุงหูหิ้ว✅ ถุงหูหิ้วไฮโซ✅ ถุงใส่แก้วใส่ได้ทุกอย่าง มีทุกถุง ใช้งานง่าย ใส่อะไรก็ได้ …แถมใช้ใส่กำไรชีวิตก็ได้นะเธออออออออยกเว้น ใช้ใส่ใจเธอ นี่ยังไม่ด้ายยยยนี่เลยค่ะ ถุงนี้ครึ่งโล ได้หลายใบ ใส่ของได้ยันลูกบวช (อ่ะ ล้อเล่นนน)📦 ถุงตราปู🎯 ใช้แล้วจบ! ไม่ต้องคิดเยอะ💬 ทักมารัว ๆ ที่ KinJubJib Shop😍ร้านกินจุ๊บจิ๊บ อร่อย สดใหม่ ส่งไว ได้คุณภาพ😍🌶️♨️⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าและเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8yDIw0654gK&_r=1เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา #ถุงใส่กับข้าว #ถุงppหนา #ถุงพลาสติก #ถุงร้อน#ถุงเย็น #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 516 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ตอน 8
    พ.ศ.2506 คุณป๋าสฤษดิ์ก็หมดบุญ น้าหนอมของป้าจงก็ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 อีกครั้งหนึ่ง พี่เบิ้มบอกว่า น้าหนอมน่าเอ็นดู แต่เด็ดไม่ขาด ไม่มีบารมี การสั่งการจากที่เคยคุยแต่กับคุณป๋าคนเดียวก็รู้เรื่อง ที่นี้ก็ต้องคุยเป็นพวง ถนอม ประภาส จิตติ ทวี กฤษณ์ฯลฯ
    แล้วไง ทำเป็นไม่รู้เรื่อง คุย 1 คน จ่าย 100 คุย 5 คน ก็เอา 5 คูณ
    พี่เบิ้มถึงจะรวยก็ขี้เหนียวนะ มาเล่นวิ่งผลัด 100 x 5 กับไอนี่ ไอไม่ชอบนะ
    ช่วงนั้นสถานการณ์ด้านการรบก็กำลังเข้ม การบริหารประเทศไทยแลนด์ของยูก็ไม่มีเอกภาพ แบ่งชามข้าวกันอยู่นั้น เอ้า! พจน์ สารสิน (อีกแล้ว!) ยูมาคุมกระทรวงพัฒนาแห่งชาติหน่อย อย่างน้อยไอก็ไม่ต้องปวดหมองด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ เดี๋ยวเงินไหลเข้าไหลออกมันจะสะดุด แล้วพจน์ ยูก็มาทำหน้า ที่เป็นกระบอกเสียงระหว่างน้าหนอมกับไอด้วยนะ เวลาพี่เบิ้มจะเอาอะไรก็บอก good boy ชื่อ พจน์ พจน์ก็ไปบอกน้าหนอม ไม่งั้นสั่งอะไรน้าหนอมก็พยักหน้าอย่างเดียว ไม่รู้ว่ารู้เรื่องหรือเปล่า
    สถานการณ์วิ่งผลัดก็ดำเนินไปเรื่อยๆ เขาเข้ามาใช้บ้านเราเป็นฐานทัพทั้งบก เรือ อากาศ นี่ดีว่าไม่มีเรือดำนำนะ ถามว่า ภายใต้พันธะอะไร ข้อตกลงอะไร เคยรู้กันบ้างไหมว่า เขาเข้ามากันเปล่าๆ ไม่เคยมีสัญญาข้อตกลงเป็นรูปธรรมเลยระหว่างสหรัฐกับไทย ก็มันสมประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย สหรัฐก็ไม่ต้องแจงรัฐสภาของตัวเอง ไทยก็ไม่ต้องแจงรัฐสภาของไทย เพราะทุกอย่างอยู่ในกำมือ บอกแล้วเงินช่วย เหลือเข้ามา ก็คนละหนุบละหนับ เขียนแล้วมันเศร้าใจ
    ทหารอเมริกันก็ไม่ต้องขึ้นศาลไทย เครื่องบินจะบินขึ้นไปทิ้งบอมบ์เขาก็เป็นคนอนุมัติ เขาจะขนทหารเข้ามาเท่าไหร่ เราก็ o.k, o.k
    นี่คือสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ยุคสงครามเวียตนาม แล้วนึกว่าหมดแล้วหรือ เปล่าเลยแล้วให้จำสัญญาJUSMAC ปี ค.ศ.1950 ที่ท่านนายพลคนแปลก เป็นผู้ลงนามไว้ บอกไว้แล้วว่า สัญญานั้นยังมีชีวิตอยู่ สัญญานี้มีผลอย่างไร เกี่ยวกับปัจจุบันหรือไม่ โปรดติดตาม อย่าได้ขาดตอนเชียว
    ช่วงปี พ.ศ.2507 – 2511 คอมมิวนิสต์เริ่มรุกเข้าอีสานบ้านเรา พี่เบิ้มก็ทุ่มเงินใส่ให้พัฒนาหมู่บ้านและตชด. กับตำรวจภูธรเพื่อดูแลหมู่บ้าน ตอนนี้เข้าใจแล้วใช่ไหม ทำไมเขาต้องตั้งตชด.และตั้งตำรวจ ภูธรให้เรา ทหารนั้นเอาไว้ไปรบกับเวียดกง โว้ย! สั่งทุกอย่างเหมือนเป็นบ้านตัวเองเลยนะ
    เงินที่พี่เบิ้มให้มาผ่านโครงการ MAP (Military Assistance Program) โดยให้ผ่านหน่วยงาน USIS และ USOM ปีละตั้งหลาย (ประมาณ 100 ล้านเหรียญต่อปีพี่เบิ้มเขาก็เป็นห่วงว่าเงิน MAP นี่มันจะไปใช้สนับสนุนกีฬาวิ่งผลัด 100 x 5 เท่าไหร่ จะถึงตชด.เท่าไหร่  เขาเลยเข้ามาวางแผนเข้าไปถึงระบบพัฒนาหมู่บ้านเราเอง จัดสรรงบเอง เพื่อไม่ให้กีฬาวิ่งผลัดเบิกบานเกินไป และเพื่อให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพ สามารถรับใช้การปฏิบัติงานของเจ้าของเงินได้อย่างราบรื่น พี่เบิ้มก็ต้องการให้ไทยแลนด์มีการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตยจริงๆ เสียที เพราะว่า ค่าใช้จ่ายกีฬาวิ่งผลัดมันชักจะสูงไปแล้วนะ แทน ที่จะคุยกับนักกีฬาวิ่งผลัด คุยกับรัฐบาลมันน่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายไอมากกว่านะ แต่ต้องเป็นรัฐบาลจากพรรคที่ไอเลือกให้ เป็นรัฐบาลนะ
    คิดกลับไปกลับมา พี่เบิ้มก็ปวดหัวว่าจะใช้บริการของใครดีหนอ น้าหนอมน่าจะดีที่สุด ท่าทางนอนง่ายสอนง่าย ไม่ค่อยมีพยศ รายงานของ CIA ระบุว่า สหรัฐมีแผนที่จะให้กลุ่มถนอมเป็นผู้บริหารประเทศไทยต่อไป ดังนั้นจึงมีการเจรจากับทูตอเมริกันนามว่าคุณมาร์ติน ให้อเมริกาสนับสนุนการตั้งพรรคของ กลุ่มถนอม
    ได้ยินเสียงตัวแทนฝ่ายไทย คล้ายๆ เสียงนายพจน์ สารสิน บอกเลือกตั้งน่ะนะ มันต้องใช้ทุนแยะอยู่ ถ้ายูช่วยพวกไอก็จะดี จะได้ไม่ต้องไปเอาจากพ่อค้า ซึ่งส่วนมากเป็นคนจีน มันยากจะเดาว่าจะเอียงหน้าไปอยู่ข้างไหน
    รายงาน CIA บอกว่าทูตมาร์ตินนำเรื่องนี้ไปเสนอต่อ 303 Committee ปรากฏว่าทางวอชิงตัน (Washington) ก็ถามกลับมาว่า คุ้มแน่นะ คำตอบก็อยู่ในสายลมที่พัดไป แล้วก็เงียบหาย ระหว่างนั้นไทยแลนด์ก็เลยมีข่าวลือว่า จะมีการปฎิวัติน้าหนอมโดยกลุ่มทวี จิตติ กฤษณ์บ้าง ลุงตุ๊บ้าง แต่ระยะหลังข่าวปฎิวัติโดยลุงตุ๊มาแรง แหม มันประจวบเหมาะอะไรเช่นนั้น บังเอิญจริงนะ
    ช่วงข่าวปฏิวัติโดยลุงตุ๊ ทูตมาร์ตินก็หมดวาระกลับบ้าน ทูตอังเกอร์ (Unger) มาแทน คุณ good boy นามพจน์ ก็ไปเตือนทูตใหม่อีกว่า ยูจะเอายังไง ข่าวปฎิวัติมาแรงนะ ถ้ายูจะให้ถนอมเป็นนายกนี่ต้องเร่งๆ หน่อย เราจะตั้งพรรคแล้วหนา เงินที่ว่าจะช่วยยังไม่มาเลย
    ทูตตั้งคำถาม 20 คำถาม แล้วก็มีประโยคทองตอบไปเป็นเกียรติประวัติว่า “Trust us-We know what to do” เชื่อเราน่า เรารู้ว่าจะต้องทำยังไง …ไอรวยจะตาย ยูไม่ต้องห่วง ธุรกิจแยะไปหมด น้ำดำไทยแลนด์นี่ก็ของไอนะ (ไม่ได้ค่าโฆษณาไม่เขียนให้รอบสอง!)
    ทูตอังเกอร์ (Unger) ได้ยินประโยคทอง แล้วก็อ่อนระทวยเขียนรายงานชื่อว่า “Lotus Project” ส่งด่วนจี๋ไปยังวอชิงตัน (Washington) ทันทีอีกรอบ การเลือกตั้งในวันที่ 11 ก.พ. พ.ศ.2512 ปรากฏว่า พรรคสหประชาไทยของน้าหนอม ได้รับชัยชนะเฉียดฉิวมากคือ 75 ที่นั่งจากสส.ทั้งหมด 215 คน เก่งจังเลย!
    การเลือกตั้งครั้งนี้สมควร บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่าอำนวยการสร้างโดย CIA ของแท้ ภายใต้ชื่อว่า Lotus Project  มีนายพจน์ สารสินเป็น project manger ทั้งนี้เพราะพี่เบิ้มกลัวว่า ถ้าการเมืองไทยไม่นิ่ง Pax Americana ที่วางไว้ซับซ้อนก็จะ ฉ.ห. ดังนั้นพรรคสหประชาไทย ภายใต้การดำเนินงานของนายพจน์ จึงเกิด ขึ้น และชนะการเลือกตั้งและได้นายกชื่อ พล.อ. ถนอม!
    ไอ้ที่เขียนเกี่ยวกับ Lotus Project มาทั้งหมดนี้นี้ อยู่ในรายงานลับของทูตมาร์ติน และทูตอังเกอร์ เองนะ ไม่ ได้ยกเมฆ แหม ลับยังไงก็หลุดมาได้น่า สีมือระดับนี่แล้ว เดี๋ยวว่าคุย (ฮา)
    โม้มาก สงสัย คงมีพวกซีมาคอยรับตัวไปเที่ยวแน่
    Lotus Project ใช้เงินหลวงของพี่เบิ้มอุดหนุน ภายใต้การพิจารณาอนุมัติของ Committer 303 ไปหาดูแล้วกัน ไอ้ Committee นี้มันทำอะไร แล้วอย่ามาพูดอีกนะ ยูต้องเป็นประชาธิปไตย เหม็นขี้ฟันจริงๆ


    คนเล่านิทาน
    ตอน 8 พ.ศ.2506 คุณป๋าสฤษดิ์ก็หมดบุญ น้าหนอมของป้าจงก็ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 อีกครั้งหนึ่ง พี่เบิ้มบอกว่า น้าหนอมน่าเอ็นดู แต่เด็ดไม่ขาด ไม่มีบารมี การสั่งการจากที่เคยคุยแต่กับคุณป๋าคนเดียวก็รู้เรื่อง ที่นี้ก็ต้องคุยเป็นพวง ถนอม ประภาส จิตติ ทวี กฤษณ์ฯลฯ แล้วไง ทำเป็นไม่รู้เรื่อง คุย 1 คน จ่าย 100 คุย 5 คน ก็เอา 5 คูณ พี่เบิ้มถึงจะรวยก็ขี้เหนียวนะ มาเล่นวิ่งผลัด 100 x 5 กับไอนี่ ไอไม่ชอบนะ ช่วงนั้นสถานการณ์ด้านการรบก็กำลังเข้ม การบริหารประเทศไทยแลนด์ของยูก็ไม่มีเอกภาพ แบ่งชามข้าวกันอยู่นั้น เอ้า! พจน์ สารสิน (อีกแล้ว!) ยูมาคุมกระทรวงพัฒนาแห่งชาติหน่อย อย่างน้อยไอก็ไม่ต้องปวดหมองด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ เดี๋ยวเงินไหลเข้าไหลออกมันจะสะดุด แล้วพจน์ ยูก็มาทำหน้า ที่เป็นกระบอกเสียงระหว่างน้าหนอมกับไอด้วยนะ เวลาพี่เบิ้มจะเอาอะไรก็บอก good boy ชื่อ พจน์ พจน์ก็ไปบอกน้าหนอม ไม่งั้นสั่งอะไรน้าหนอมก็พยักหน้าอย่างเดียว ไม่รู้ว่ารู้เรื่องหรือเปล่า สถานการณ์วิ่งผลัดก็ดำเนินไปเรื่อยๆ เขาเข้ามาใช้บ้านเราเป็นฐานทัพทั้งบก เรือ อากาศ นี่ดีว่าไม่มีเรือดำนำนะ ถามว่า ภายใต้พันธะอะไร ข้อตกลงอะไร เคยรู้กันบ้างไหมว่า เขาเข้ามากันเปล่าๆ ไม่เคยมีสัญญาข้อตกลงเป็นรูปธรรมเลยระหว่างสหรัฐกับไทย ก็มันสมประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย สหรัฐก็ไม่ต้องแจงรัฐสภาของตัวเอง ไทยก็ไม่ต้องแจงรัฐสภาของไทย เพราะทุกอย่างอยู่ในกำมือ บอกแล้วเงินช่วย เหลือเข้ามา ก็คนละหนุบละหนับ เขียนแล้วมันเศร้าใจ ทหารอเมริกันก็ไม่ต้องขึ้นศาลไทย เครื่องบินจะบินขึ้นไปทิ้งบอมบ์เขาก็เป็นคนอนุมัติ เขาจะขนทหารเข้ามาเท่าไหร่ เราก็ o.k, o.k นี่คือสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ยุคสงครามเวียตนาม แล้วนึกว่าหมดแล้วหรือ เปล่าเลยแล้วให้จำสัญญาJUSMAC ปี ค.ศ.1950 ที่ท่านนายพลคนแปลก เป็นผู้ลงนามไว้ บอกไว้แล้วว่า สัญญานั้นยังมีชีวิตอยู่ สัญญานี้มีผลอย่างไร เกี่ยวกับปัจจุบันหรือไม่ โปรดติดตาม อย่าได้ขาดตอนเชียว ช่วงปี พ.ศ.2507 – 2511 คอมมิวนิสต์เริ่มรุกเข้าอีสานบ้านเรา พี่เบิ้มก็ทุ่มเงินใส่ให้พัฒนาหมู่บ้านและตชด. กับตำรวจภูธรเพื่อดูแลหมู่บ้าน ตอนนี้เข้าใจแล้วใช่ไหม ทำไมเขาต้องตั้งตชด.และตั้งตำรวจ ภูธรให้เรา ทหารนั้นเอาไว้ไปรบกับเวียดกง โว้ย! สั่งทุกอย่างเหมือนเป็นบ้านตัวเองเลยนะ เงินที่พี่เบิ้มให้มาผ่านโครงการ MAP (Military Assistance Program) โดยให้ผ่านหน่วยงาน USIS และ USOM ปีละตั้งหลาย (ประมาณ 100 ล้านเหรียญต่อปีพี่เบิ้มเขาก็เป็นห่วงว่าเงิน MAP นี่มันจะไปใช้สนับสนุนกีฬาวิ่งผลัด 100 x 5 เท่าไหร่ จะถึงตชด.เท่าไหร่  เขาเลยเข้ามาวางแผนเข้าไปถึงระบบพัฒนาหมู่บ้านเราเอง จัดสรรงบเอง เพื่อไม่ให้กีฬาวิ่งผลัดเบิกบานเกินไป และเพื่อให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพ สามารถรับใช้การปฏิบัติงานของเจ้าของเงินได้อย่างราบรื่น พี่เบิ้มก็ต้องการให้ไทยแลนด์มีการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตยจริงๆ เสียที เพราะว่า ค่าใช้จ่ายกีฬาวิ่งผลัดมันชักจะสูงไปแล้วนะ แทน ที่จะคุยกับนักกีฬาวิ่งผลัด คุยกับรัฐบาลมันน่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายไอมากกว่านะ แต่ต้องเป็นรัฐบาลจากพรรคที่ไอเลือกให้ เป็นรัฐบาลนะ คิดกลับไปกลับมา พี่เบิ้มก็ปวดหัวว่าจะใช้บริการของใครดีหนอ น้าหนอมน่าจะดีที่สุด ท่าทางนอนง่ายสอนง่าย ไม่ค่อยมีพยศ รายงานของ CIA ระบุว่า สหรัฐมีแผนที่จะให้กลุ่มถนอมเป็นผู้บริหารประเทศไทยต่อไป ดังนั้นจึงมีการเจรจากับทูตอเมริกันนามว่าคุณมาร์ติน ให้อเมริกาสนับสนุนการตั้งพรรคของ กลุ่มถนอม ได้ยินเสียงตัวแทนฝ่ายไทย คล้ายๆ เสียงนายพจน์ สารสิน บอกเลือกตั้งน่ะนะ มันต้องใช้ทุนแยะอยู่ ถ้ายูช่วยพวกไอก็จะดี จะได้ไม่ต้องไปเอาจากพ่อค้า ซึ่งส่วนมากเป็นคนจีน มันยากจะเดาว่าจะเอียงหน้าไปอยู่ข้างไหน รายงาน CIA บอกว่าทูตมาร์ตินนำเรื่องนี้ไปเสนอต่อ 303 Committee ปรากฏว่าทางวอชิงตัน (Washington) ก็ถามกลับมาว่า คุ้มแน่นะ คำตอบก็อยู่ในสายลมที่พัดไป แล้วก็เงียบหาย ระหว่างนั้นไทยแลนด์ก็เลยมีข่าวลือว่า จะมีการปฎิวัติน้าหนอมโดยกลุ่มทวี จิตติ กฤษณ์บ้าง ลุงตุ๊บ้าง แต่ระยะหลังข่าวปฎิวัติโดยลุงตุ๊มาแรง แหม มันประจวบเหมาะอะไรเช่นนั้น บังเอิญจริงนะ ช่วงข่าวปฏิวัติโดยลุงตุ๊ ทูตมาร์ตินก็หมดวาระกลับบ้าน ทูตอังเกอร์ (Unger) มาแทน คุณ good boy นามพจน์ ก็ไปเตือนทูตใหม่อีกว่า ยูจะเอายังไง ข่าวปฎิวัติมาแรงนะ ถ้ายูจะให้ถนอมเป็นนายกนี่ต้องเร่งๆ หน่อย เราจะตั้งพรรคแล้วหนา เงินที่ว่าจะช่วยยังไม่มาเลย ทูตตั้งคำถาม 20 คำถาม แล้วก็มีประโยคทองตอบไปเป็นเกียรติประวัติว่า “Trust us-We know what to do” เชื่อเราน่า เรารู้ว่าจะต้องทำยังไง …ไอรวยจะตาย ยูไม่ต้องห่วง ธุรกิจแยะไปหมด น้ำดำไทยแลนด์นี่ก็ของไอนะ (ไม่ได้ค่าโฆษณาไม่เขียนให้รอบสอง!) ทูตอังเกอร์ (Unger) ได้ยินประโยคทอง แล้วก็อ่อนระทวยเขียนรายงานชื่อว่า “Lotus Project” ส่งด่วนจี๋ไปยังวอชิงตัน (Washington) ทันทีอีกรอบ การเลือกตั้งในวันที่ 11 ก.พ. พ.ศ.2512 ปรากฏว่า พรรคสหประชาไทยของน้าหนอม ได้รับชัยชนะเฉียดฉิวมากคือ 75 ที่นั่งจากสส.ทั้งหมด 215 คน เก่งจังเลย! การเลือกตั้งครั้งนี้สมควร บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่าอำนวยการสร้างโดย CIA ของแท้ ภายใต้ชื่อว่า Lotus Project  มีนายพจน์ สารสินเป็น project manger ทั้งนี้เพราะพี่เบิ้มกลัวว่า ถ้าการเมืองไทยไม่นิ่ง Pax Americana ที่วางไว้ซับซ้อนก็จะ ฉ.ห. ดังนั้นพรรคสหประชาไทย ภายใต้การดำเนินงานของนายพจน์ จึงเกิด ขึ้น และชนะการเลือกตั้งและได้นายกชื่อ พล.อ. ถนอม! ไอ้ที่เขียนเกี่ยวกับ Lotus Project มาทั้งหมดนี้นี้ อยู่ในรายงานลับของทูตมาร์ติน และทูตอังเกอร์ เองนะ ไม่ ได้ยกเมฆ แหม ลับยังไงก็หลุดมาได้น่า สีมือระดับนี่แล้ว เดี๋ยวว่าคุย (ฮา) โม้มาก สงสัย คงมีพวกซีมาคอยรับตัวไปเที่ยวแน่ Lotus Project ใช้เงินหลวงของพี่เบิ้มอุดหนุน ภายใต้การพิจารณาอนุมัติของ Committer 303 ไปหาดูแล้วกัน ไอ้ Committee นี้มันทำอะไร แล้วอย่ามาพูดอีกนะ ยูต้องเป็นประชาธิปไตย เหม็นขี้ฟันจริงๆ คนเล่านิทาน
    9 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 517 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถุงดี คือ กำไรที่มองไม่เห็น… ถุง HD ตัดตรง…สีขุ่นเล็กน้อย …ถุงตราปู ถุงดี คือของติดตัวแม่ค้าพ่อค้า เลือกช้อปได้เลยค่า พ่อค้าแม่ค้ารู้...ถุงดีคือกำไรที่มองไม่เห็นขายของเยอะ ใช้ถุงเยอะ... ต้องหาถุงดี ๆ แล้วล่ะถุง HD ตัดตรง ถุงรุ่นนี้ เป็นที่นิยมอีกตัวของพ่อค้าแม่ค้าค่ะ จะมีความขุ่นเล็กน้อย ใช้ใส่ของร้อนก็ได้ ของเย็นก็ได้ เอนกประสงค์เลยค่าาาใช้ใส่ของแห้งใช้ใส่ของเปียกใช้ใส่ของร้อนใช้ใส่กำไรชีวิตก็ได้นะเธอยกเว้น ใช้ใส่ใจเธอ นี่ยังไม่ด้ายยยยนี่เลยค่ะ ถุงนี้ครึ่งโล ได้หลายใบ ใส่ของได้ยันลูกบวช (อ่ะล้อเล่นน) ถุง HD ตัดตรง ตราปู ใช้แล้วจบ! ไม่ต้องคิดเยอะ ทักมารัว ๆ ที่ KinJubJib Shop⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าถุง HD ตัดตรง สีขุ่นเล็กน้อย ตราปูใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSS5jrA67/ถุง HD ตัดตรง สีขุ่นเล็กน้อย ตราปู ใน Shopee https://th.shp.ee/HXkKmfy https://th.shp.ee/e9DwVYbเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา #ถุงใส่กับข้าว #ถุงppหนา #ถุงพลาสติก #ถุงร้อน#ถุงเย็น #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง
    ถุงดี คือ กำไรที่มองไม่เห็น… ถุง HD ตัดตรง…สีขุ่นเล็กน้อย …ถุงตราปู ถุงดี คือของติดตัวแม่ค้าพ่อค้า เลือกช้อปได้เลยค่า พ่อค้าแม่ค้ารู้...ถุงดีคือกำไรที่มองไม่เห็นขายของเยอะ ใช้ถุงเยอะ... ต้องหาถุงดี ๆ แล้วล่ะถุง HD ตัดตรง ถุงรุ่นนี้ เป็นที่นิยมอีกตัวของพ่อค้าแม่ค้าค่ะ จะมีความขุ่นเล็กน้อย ใช้ใส่ของร้อนก็ได้ ของเย็นก็ได้ เอนกประสงค์เลยค่าาาใช้ใส่ของแห้งใช้ใส่ของเปียกใช้ใส่ของร้อนใช้ใส่กำไรชีวิตก็ได้นะเธอยกเว้น ใช้ใส่ใจเธอ นี่ยังไม่ด้ายยยยนี่เลยค่ะ ถุงนี้ครึ่งโล ได้หลายใบ ใส่ของได้ยันลูกบวช (อ่ะล้อเล่นน)📦 ถุง HD ตัดตรง ตราปู🎯 ใช้แล้วจบ! ไม่ต้องคิดเยอะ💬 ทักมารัว ๆ ที่ KinJubJib Shop🌶️♨️⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าถุง HD ตัดตรง สีขุ่นเล็กน้อย ตราปูใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSS5jrA67/ถุง HD ตัดตรง สีขุ่นเล็กน้อย ตราปู ใน Shopee https://th.shp.ee/HXkKmfy https://th.shp.ee/e9DwVYbเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา #ถุงใส่กับข้าว #ถุงppหนา #ถุงพลาสติก #ถุงร้อน#ถุงเย็น #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 502 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ตอน 6
    ต้องเล่าย้อนหลังไปถึงการเมืองไทยยุคจอมพล ป. หน่อย เล่าข้ามเดี๋ยวเหมือนหนังขาด
    จอมพล ป. ขึ้นมามีอำนาจ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2490 หลังจากแยกวงกับนายปรีดี พนมยงค์ พอถึงปี พ.ศ.2492 ทางฝ่ายจีนก็เริ่มเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง เป็นระบอบคอมมิวนิสต์  พี่เบิ้มก็ตาเขียวขึ้นมาทันที มือหนึ่งถือกระเป๋าเงินหนัก 7.5 ล้านเหรียญ อีกมือหนึ่งจับบ่าจอมพล ป. ถามว่า จอมพลคนแปลก ยูจะเอายังไง จะดื่มโค้กกับไอ หรือจะไปแทะเม็ดกวยจี๊
    แหม! ไม่อยากคิดเลยว่าเราจะเป็นพวกเห็นแก่เงิน เอาว่า ไทยเราเป็นประเภทนักการทูตนกรู้แล้วกันนะ ว่าแล้วก็จิบโค้กแกล้มเงินช่วยเหลือ 7.5 ล้านเหรียญ อร่อย (เอ๊ะ! ตอนนี้ฝรั่งต้มไทยหรือไทยต้มฝรั่งกันแน่)
    พอให้เงินแค่ 7.5 ล้านเหรียญ พี่เบิ้มก็เริ่มเบียดกระแซะไทยเข้ามาอีกคืบ
    จับมือไทยลงชื่อแปะโป้งลงนามสัญญา 3 ฉบับ ในปี พ.ศ.2493 (ค.ศ.1950) (อีตอนนี้สงสัยฝรั่งต้มไทยนะ…อ้าว) เกี่ยวกับการร่วมมือการศึกษาและวัฒนธรรม 1 ฉบับ, ความตกลงร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิทยาการอีก 1 ฉบับ…แต่ฉบับที่สำคัญ คือ ความตกลงช่วยเหลือทางการทหาร เรียกย่อๆ ว่า สัญญา JUSMAC อีก1 ฉบับ
    เฉพาะรายการหลัง เพื่อให้แน่ใจว่า สมันน้อยผูกคอตัวเองจนแน่น พี่เบิ้มใจดีจ่ายค่าแปะโป้งให้อีก 10ล้านเหรียญ! อืม… มันหวังดีจริงนะ จำสัญญานี้ให้ดีๆ นะครับ เรื่องนี้สำคัญมากๆ
    มันเป็นสัญญาที่ทำให้ไทย คล้ายจะกลายเป็นทาสในเรือนเบี้ยของพี่เบิ้ม ไปตั้งแต่บัดนั้นมาจนถึงทุกวันนี้สัญญานี้ก็ยังมีผลบังคับอยู่ สนใจก็ไปหามาอ่านกันนะครับ หรือไปถามลุงตู่เอาก็แล้วกัน ผมเล่ามากกว่านี้เดี๋ยวก็จะโดนข้อหา เอาความลับของทางราชการมาเผย เดี๋ยวลุงตู่แกจะตวาดเอา (คนอะไรของขึ้นง่ายจัง)
    ก็ใอ้สัญญาที่ผูกมัดประเทศแบบนี้แหละ ที่เขาไม่อยากให้ประชาชนอย่างเราๆ รู้ เขาถึงคิดแก้รัฐ ธรรมนูญกัน เพื่อเอาสิทธิของประชาชนคืนไป แล้วไงครับ… เราก็ไม่รู้ไม่ชี้ นั่งดูละครน้ำเน่าต่อ… ยังกะบ้านเมืองไม่ใช่ของเรา…
    จอมพล ป. เจ้าของ “มาลานำไทย ใส่หมวกแล้วชาติเจริญนั้นน่ะ เป็นคนที่เชื่อในลัทธิชาตินิยม ออกกฎหมายลักษณะชาตินิยมทางเศรษฐกิจไว้แยะ เรื่องนี้ก็ต้องย้อนไป ตั้งกะสมัยปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 ซะหน่อย
    เราๆ เข้าใจว่า ปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองล้มเจ้าแล้ว ชาวเราได้ปกครองหรือเปล่าหรอก เปลี่ยนจากเจ้าก็มาเป็นพวกเขาที่ทำการปฏิวัตินั่นแหละ มันเป็นการย้ายที่ทุนกับอำนาจ ยังไง จำได้ไหม เกริ่นไว้ตั้งกะแรกนะ
    ก่อนพ.ศ. 2475 อำนาจกับทุนอยู่ที่พระมหากษัตริย์ หลังพ.ศ. 2475 อำนาจกับทุนย้ายมาอยู่ที่พวกปฏิวัติ หรือจริงๆ ก็คือ พวกอำมาตย์ (ทหาร+ข้าราชการ) และพ่อค้า ไม่ได้มาอยู่ที่เราประชาชนคนไทย อย่างที่อ้าง และเข้าใจกันหรอกนะครับ
    (นิทานตอนนี้อยากให้พวกนิติเรดมาอ่าน แยะๆ เผื่อจะชอบแนวคิดนี้บ้าง 555)
    สมัยพระมหากษัตริย์ปกครอง พระองค์ท่านมิได้ทำทำการค้าขายเอง แต่ให้นายอากรเป็นผู้ดำเนินการ แล้วก็จ่ายค่าอากรให้หลวง ถึงเรียกว่านายอากร นายอากรนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนจีน ดังนั้นการค้าส่วนใหญ่สมัยรัตน โกสินทร์ส่วนใหญ่ก็อยู่ในมือพี่น้องคนจีนที่มาพึ่งพระบรมโพธิสมภารอยู่ในแผ่นดินไทย
    พอหลัง พ.ศ.2475 คณะราษฎร์ ก็รวบทั้งอำนาจและทุน แล้วก็ออกกฎหมายใหม่ อะไรที่นายอากรเคยทำ ก็เอามาทำเอง จึงกำเนิดรัฐวิสาหกิจ 100 กว่าแห่ง ธนาคารอีกเกือบ 10 แห่ง
    แล้วพวกคณะราษฎร์นั่นแหละ ก็เข้าไปร่วมถือหุ้นในกิจการต่างๆ เหล่านั้น
    แล้วมันปฏิวัติเพื่อประชาชนตรงไหน มีเวลาจะเล่ารายละเอียดว่า ตระกูลไหน ใครบ้างเข้าไปถือหุ้นในรัฐวิสาหกิจอะไร ธนาคารอะไร ไม่งั้นมันจะยังรวยก็อยู่ถึงตอนนี้เหรอ ผ่านไปตั้ง 70-80 ปีแล้ว (เอ้า! พวกนิติเรด อย่าลืมเล่าตรงนี้บ้างนะ)
    นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนจีนที่เคยค้าขายในประเทศไทย ส่งเงินไปสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพราะเห็นว่า ถูกกลั่นแกล้งจากรัฐบาลไทย (ที่กำกับโดยพี่เบิ้มอเมริกา)
    ขณะเดียวกัน พี่เบิ้มก็บี้ไทยซ้ำ ยูจะเอายังไง ไอบอกว่าทุนนิยม ยูก็จะชาตินิยม เดี๋ยวเอาเงินคืนนะ ถึงขนาดส่งนายจอห์น ดัลลัส (John Dulles) รมต.ตปท. มาบีบลูกกระเดือกจอมพล คนแปลกเอง
    มันเกี่ยวกับเรื่องจอมพลคนแปลก มาลานำไทยแล้วชาติเจริญ ไม่ยอมเปลี่ยนจากชาตินิยมเป็นทุนนิยมหรือเปล่ามันก็น่าคิด เพราะช่วงพ.ศ.2498-พ.ศ.2500 สถานการณ์ของจอมพล ป. ก็คลอนแคลน โยกเยก แล้วในที่สุด 16 ก.ย. พ.ศ.2500 จอมพลผ้าขะม้าก็ทำรัฐประหาร
    จอมพล ป. ก็รีบเก็บกระเป๋าขึ้นรถ นั่งตัวตรงลี้ภัยไปที่เขมร ก่อนที่จะติดปีกบินต่อไปญี่ปุ่น ผู้ทำหน้าที่ขับรถพาท่านจอมพลไปเขมรชื่อ ชุมพล โลหะชาละ คุ้นๆชื่อนี้ไหมครับ ส่วนนายพลเผ่า ซีซัพพลาย (Sea Supply) ก็หรูหน่อยขึ้นเครื่องบินลี้ภัยไปสวิส
    น่าคิดนะ ไม่ว่าใครที่ขวางทาง  หรือไม่เป็นเด็กดีตามใบสั่งพี่เบิ้มนี่ ไม่นานหรอกก็มีอันต้องเก็บฉากหายตัวเป็นแถวๆ ตามดูไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน
    จอมพลผ้าขะม้ารัฐประหารแล้วไม่เป็นนายกเอง แปลกนะ! คนเป็นนายกชื่อ นายพจน์ สารสิน (แปลกไม่แปลกเอ่ย อ่านๆ ไปก็รู้เอง) คล้ายๆ กับ พล.อ.สุจินดาทำรัฐประหาร แล้วให้นายอานันท์เป็นนายกเลยนะ อิ! อิ!
    นายพจน์ เป็นนายกได้ไม่นาน ก็จัดการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยใบสั่งรุ่นแรกปี พ.ศ.2501 หวยก็ไปตกที่พล.อ. ถนอม เป็นนายก โดยมีคุณป๋าผ้าขะม้าถือไม้เรียวคุมเข้มอยู่ข้างหลัง
    รัฐประหารไม่เท่าไหร่ น้าหนอมยังเป็นนายกตั้งไข่ คุณป๋าผ้าขะม้าก็ล้มป่วย
    พี่เบิ้มตาเหลือก ยุ่งล่ะสิ! วางแผนซะเกือบตาย กำลังจะไปได้สวย ทุกอย่างอยู่ในอวยหมดแล้ว ทำไม ทำไม จะหมดวาสนาเอาง่ายๆ พี่เบิ้มก็เลยกล่อมให้คุณป๋าไปรักษาตัวที่ รพ. Water Reed อันลือชื่อของพี่เบิ้ม ระหว่างที่คุณป๋าสฤษดิ์รักษาตัวไป พักฟื้นไป พี่เบิ้มก็ส่งพี่เลี้ยงชื่อ พล.อ. เออร์สกิน (Erskine) มานั่งจับมือคุณป๋า เล่านิทานเรื่องภัยคอมมิวนิสต์ในอินโดจีนให้คุณป๋าฟังทุกวัน ทุกวัน
    คุณป๋าแกเป็นทหารรักชาติของจริง ไม่ใช่ประเภทเห็นแก่ร้องเท้ากอล์ฟคู่เดียว หรือมีวันนี้เพราะพี่ให้ แกฟังพี่เลี้ยงใส่สีตีไข่ทุกวัน คุณป๋าเลือดรักชาติ พุ่งกระฉูดแทบหายป่วยเลย
    อะไรมันจะขนาดนั้น ภัยมันจ่อคอหอยบ้านเราแล้วหรือ แถมลาวน้องรักก็กำลังจะถึงซึ่งชีวี มีหรือพี่จะนอนต่อไปได้ ว่าแล้วคุณป๋าก็ลุกขึ้น ทำเสียงเข้มใส่พี่เบิ้มทันที บอกมาบัดเดี๋ยวนี้ เราจะช่วยบ้านเราและบ้านพี่เมืองน้องของเรา ให้พ้นจากภัยคุกคาม ของเหล่าคอมมิวนิสต์ตัวร้ายได้อย่างไร
    อ้า! สมันน้อยติดกับเราเรียบร้อยแล้ว…เสียงรำพึงขึ้นจมูกโด่งงุ้มของใครบางคนดังขึ้น
    อย่าตกใจไปเลยสมันน้อย เราได้เตรียมการไว้ให้ท่านสมันน้อย เอ๊ย มิตรรัก ไว้พร้อมสรรพแล้ว เพียงท่านทำตามที่เราบอก บ้านท่าน รวมทั้งบ้านพี่บ้านน้องท่านก็จักพ้นภัย
    วิธีจัดการกับสมันน้อยนามไทยแลนด์ของพี่เบิ้มเนียนมาก
    ด้านหนึ่งก็บอกว่าต้องพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า ชาวประชาต้องมีงานทำ
    พวกคอมมี่มันจะได้เข้าไม่ถึง ถ้าเรายากจน เขาก็มาช่วงชิงประชาชนไปได้
    อีกด้านหนึ่งเราก็ต้องจัดการ ให้ยูมีกองกำลังเอาไว้ป้องกันตัว บดขยี้ไอ้พวกคอมมี่ที่จะมาตีบ้านตีเมืองยู ไอไม่ปล่อยให้ยูเดียวดาย โฮมอะโลนหรอกเพื่อนรัก
    แล้วการจะทำทุกอย่างให้มีประสิทธิภาพน่ะ เพื่อนต้องมีอำนาจเบ็ดเสร็จ การเมืองต้องนิ่ง คุมสภาให้อยู่หมัด เพื่อนอย่าเพิ่งมึน
    แหม! นี่ถ้าไม่บอกว่า พี่มะกันพูดกะป๋าสฤษดิ์น่ะ ท่านผู้อ่านอาจเผลอนึกว่า พี่มะกันพูดกับพี่น้องนักซุก ว.5
    ดังนั้นไทยแลนด์เพื่อนรัก เพื่อนจงรีบจัดการ เรื่องการบ้านการเมืองบ้านยูให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็ดำเนิน การพัฒนาประเทศเป็นการด่วน ไอได้ทำการสำรวจ และทำข้อแนะนำไว้ให้ยูเรียบร้อยแล้ว เห็นไหม ไอรู้ใจเพื่อนรักขนาดไหน ยูรีบไปดูแล จัดตั้งหน่วยงานพัฒนาเสียโดยดี เพื่อนจะรออะไรอีก เงินไม่มี ไอก็จะให้กู้ โอ๊ย! เพื่อนใจป้ำอย่างนี้หาได้ง่ายๆ ที่ไหน
    แบบนี้คุณป๋าหายป่วยเลย รีบกลับบ้านเรียกประชุมมิตรรักนักเพลงที่คอเดียวกับพี่เบิ้มมะกันเป็นการด่วน
    เร็วๆ พวกเรา คอมมิวนิสต์มันจ่อก้นเราแล้ว เราต้องช่วงชิงประชาชนกลับมา นำความเจริญไปสู่เขา ฯลฯ แหม นกแก้วรุ่นพ่อก็ท่องคล่องเหมือนกันนะ นึกว่ามีแต่นกแก้วสมัยนี้
    ระหว่างที่คุณป๋าสฤษดิ์รักษาตัวอยู่ ที่สหรัฐฯ น้าหนอมเป็นนายกก็จริง แต่เริ่มมีรัศมีของลุงตุ๊ หนวดจิ๋ม ขึ้นมาบดบัง คุณป๋าก็ร้อนใจ โอ๊ย! ไหนจะเรื่องคอมมี่ ไหนจะเรื่องหนวดจิ๋ม
    พี่เบิ้มนี่น่ารักจริง ๆ ไม่ปล่อยให้คุณป๋าร้อนใจนานหรอก คนรักกันชอบกัน ทำมั้ยทำไม เรื่องแค่นี้จะทำให้กันไม่ได้ พี่เบิ้มเขาทำอะไรให้นะ ใจเย็น ๆ อ่านต่อไปครับ
    คุณป๋าบินกลับไทยแลนด์ ในเดือนตุลา พ.ศ.2501  มาถึงก็สั่งปรับ ครม. ทันที แต่ก่อนคุณป๋าจะกลับมา ก็มีคนช่วยจัดการเตรียมแผนให้คุณป๋ามีอำนาจเบ็ดเสร็จ ตามที่มีผู้ปรารถนาดีแต่ประสงค์ร้ายแนะนำเอาไว้แล้ว
    ช่วงกลางปี พ.ศ.2502 (ค.ศ.1959) คุณป๋าก็เดินทางไปอังกฤษ อ้างว่าจะไปตรวจสุขภาพ (อีก)
    รายงานของ CIA อ้างว่า คุณป๋าไปเตรียมแผนปฏิวัติอยู่ที่ ซันนิ่ง เดล Sunning Dale ในลอนดอน (London) หอบเอาคณะมันสมองไปด้วยประมาณ 1 โหล ในรายงานบอกว่ามีแต่เด็ดๆ ทั้งนั้นเช่น ถนัด คอมันตร์ หลวงวิจิตรวาทการสุนทร หงส์ลดารมภ์ บุญชู จันทรุเบกษา พงษ์สวัสดิ สุริโยทัย เฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร ฯลฯ
    ระหว่างเตรียมการรัฐประหาร CIA ระบุในรายงานของตนว่า เป็นการเตรียมตัวของไทยแลนด์ เข้าสู่การพัฒนาตาม Pax Americana ให้บรรลุผลสำเร็จ พี่เบิ้มต้องรีบเอาผ้าเช็ดหน้ามาอุดปาก น้ำลายมันไหลเยิ้มไม่หยุด อู้ย! หมูกำลังเต๊าะแต๊ะๆ เข้าอวยแล้ว
    รายงานของ CIA ยังบอกอีกว่า ได้ส่งกำลังมาอารักขาครอบครัวของคณะท่าน ซันนิ่ง เดล โดยส่งครอบครัวไปซ่อนในที่ปลอดภัยที่หัวหิน มาแล้วไง ค่ายนเรศวร บอกแล้วว่าให้จำไว้ อย่าลืมๆ โดยมีขบวนรถของอเมริกาเตรียมพร้อมตลอดเวลา เพื่อนำครอบครัวของคณะซันนิ่ง เผ่นลงใต้ หากแผนล่ม!
    19 ต.ค. พ.ศ.2502 คุณป๋าและคณะเดินทางกลับประเทศไทย
    20 ต.ค. พ.ศ.2502 น้าหนอมยื่นใบลาออกจากการเป็นนายกฯ วันเดียวกันนั้น คุณป๋าก็ปฏิบัติการยึดอำนาจ โดยคณะทหารที่เรียกตัวเองว่า “คณะปฎิวัติ” แล้วคุณป๋าก็ตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าคณะปฎิวัติ และให้น้าหนอมเป็นรองหัวหน้าคณะฯ
    CIA รายงานว่าการรัฐประหารครั้งนี้มุ่งลดอำนาจลุงตุ๊ และทำให้คุณป๋ามีอำนาจเบ็ดเสร็จ
    Pax Americanaเดินหน้าอย่างไม่มีอุปสรรคแล้ว ดื่ม Coke แก้กระหายด่วน (โฆษณาให้ฟรี จะส่งเงินมาสม ทบก็ไม่ขัดข้อง)


    คนเล่านิทาน
    ตอน 6 ต้องเล่าย้อนหลังไปถึงการเมืองไทยยุคจอมพล ป. หน่อย เล่าข้ามเดี๋ยวเหมือนหนังขาด จอมพล ป. ขึ้นมามีอำนาจ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2490 หลังจากแยกวงกับนายปรีดี พนมยงค์ พอถึงปี พ.ศ.2492 ทางฝ่ายจีนก็เริ่มเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง เป็นระบอบคอมมิวนิสต์  พี่เบิ้มก็ตาเขียวขึ้นมาทันที มือหนึ่งถือกระเป๋าเงินหนัก 7.5 ล้านเหรียญ อีกมือหนึ่งจับบ่าจอมพล ป. ถามว่า จอมพลคนแปลก ยูจะเอายังไง จะดื่มโค้กกับไอ หรือจะไปแทะเม็ดกวยจี๊ แหม! ไม่อยากคิดเลยว่าเราจะเป็นพวกเห็นแก่เงิน เอาว่า ไทยเราเป็นประเภทนักการทูตนกรู้แล้วกันนะ ว่าแล้วก็จิบโค้กแกล้มเงินช่วยเหลือ 7.5 ล้านเหรียญ อร่อย (เอ๊ะ! ตอนนี้ฝรั่งต้มไทยหรือไทยต้มฝรั่งกันแน่) พอให้เงินแค่ 7.5 ล้านเหรียญ พี่เบิ้มก็เริ่มเบียดกระแซะไทยเข้ามาอีกคืบ จับมือไทยลงชื่อแปะโป้งลงนามสัญญา 3 ฉบับ ในปี พ.ศ.2493 (ค.ศ.1950) (อีตอนนี้สงสัยฝรั่งต้มไทยนะ…อ้าว) เกี่ยวกับการร่วมมือการศึกษาและวัฒนธรรม 1 ฉบับ, ความตกลงร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิทยาการอีก 1 ฉบับ…แต่ฉบับที่สำคัญ คือ ความตกลงช่วยเหลือทางการทหาร เรียกย่อๆ ว่า สัญญา JUSMAC อีก1 ฉบับ เฉพาะรายการหลัง เพื่อให้แน่ใจว่า สมันน้อยผูกคอตัวเองจนแน่น พี่เบิ้มใจดีจ่ายค่าแปะโป้งให้อีก 10ล้านเหรียญ! อืม… มันหวังดีจริงนะ จำสัญญานี้ให้ดีๆ นะครับ เรื่องนี้สำคัญมากๆ มันเป็นสัญญาที่ทำให้ไทย คล้ายจะกลายเป็นทาสในเรือนเบี้ยของพี่เบิ้ม ไปตั้งแต่บัดนั้นมาจนถึงทุกวันนี้สัญญานี้ก็ยังมีผลบังคับอยู่ สนใจก็ไปหามาอ่านกันนะครับ หรือไปถามลุงตู่เอาก็แล้วกัน ผมเล่ามากกว่านี้เดี๋ยวก็จะโดนข้อหา เอาความลับของทางราชการมาเผย เดี๋ยวลุงตู่แกจะตวาดเอา (คนอะไรของขึ้นง่ายจัง) ก็ใอ้สัญญาที่ผูกมัดประเทศแบบนี้แหละ ที่เขาไม่อยากให้ประชาชนอย่างเราๆ รู้ เขาถึงคิดแก้รัฐ ธรรมนูญกัน เพื่อเอาสิทธิของประชาชนคืนไป แล้วไงครับ… เราก็ไม่รู้ไม่ชี้ นั่งดูละครน้ำเน่าต่อ… ยังกะบ้านเมืองไม่ใช่ของเรา… จอมพล ป. เจ้าของ “มาลานำไทย ใส่หมวกแล้วชาติเจริญนั้นน่ะ เป็นคนที่เชื่อในลัทธิชาตินิยม ออกกฎหมายลักษณะชาตินิยมทางเศรษฐกิจไว้แยะ เรื่องนี้ก็ต้องย้อนไป ตั้งกะสมัยปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 ซะหน่อย เราๆ เข้าใจว่า ปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองล้มเจ้าแล้ว ชาวเราได้ปกครองหรือเปล่าหรอก เปลี่ยนจากเจ้าก็มาเป็นพวกเขาที่ทำการปฏิวัตินั่นแหละ มันเป็นการย้ายที่ทุนกับอำนาจ ยังไง จำได้ไหม เกริ่นไว้ตั้งกะแรกนะ ก่อนพ.ศ. 2475 อำนาจกับทุนอยู่ที่พระมหากษัตริย์ หลังพ.ศ. 2475 อำนาจกับทุนย้ายมาอยู่ที่พวกปฏิวัติ หรือจริงๆ ก็คือ พวกอำมาตย์ (ทหาร+ข้าราชการ) และพ่อค้า ไม่ได้มาอยู่ที่เราประชาชนคนไทย อย่างที่อ้าง และเข้าใจกันหรอกนะครับ (นิทานตอนนี้อยากให้พวกนิติเรดมาอ่าน แยะๆ เผื่อจะชอบแนวคิดนี้บ้าง 555) สมัยพระมหากษัตริย์ปกครอง พระองค์ท่านมิได้ทำทำการค้าขายเอง แต่ให้นายอากรเป็นผู้ดำเนินการ แล้วก็จ่ายค่าอากรให้หลวง ถึงเรียกว่านายอากร นายอากรนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนจีน ดังนั้นการค้าส่วนใหญ่สมัยรัตน โกสินทร์ส่วนใหญ่ก็อยู่ในมือพี่น้องคนจีนที่มาพึ่งพระบรมโพธิสมภารอยู่ในแผ่นดินไทย พอหลัง พ.ศ.2475 คณะราษฎร์ ก็รวบทั้งอำนาจและทุน แล้วก็ออกกฎหมายใหม่ อะไรที่นายอากรเคยทำ ก็เอามาทำเอง จึงกำเนิดรัฐวิสาหกิจ 100 กว่าแห่ง ธนาคารอีกเกือบ 10 แห่ง แล้วพวกคณะราษฎร์นั่นแหละ ก็เข้าไปร่วมถือหุ้นในกิจการต่างๆ เหล่านั้น แล้วมันปฏิวัติเพื่อประชาชนตรงไหน มีเวลาจะเล่ารายละเอียดว่า ตระกูลไหน ใครบ้างเข้าไปถือหุ้นในรัฐวิสาหกิจอะไร ธนาคารอะไร ไม่งั้นมันจะยังรวยก็อยู่ถึงตอนนี้เหรอ ผ่านไปตั้ง 70-80 ปีแล้ว (เอ้า! พวกนิติเรด อย่าลืมเล่าตรงนี้บ้างนะ) นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนจีนที่เคยค้าขายในประเทศไทย ส่งเงินไปสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพราะเห็นว่า ถูกกลั่นแกล้งจากรัฐบาลไทย (ที่กำกับโดยพี่เบิ้มอเมริกา) ขณะเดียวกัน พี่เบิ้มก็บี้ไทยซ้ำ ยูจะเอายังไง ไอบอกว่าทุนนิยม ยูก็จะชาตินิยม เดี๋ยวเอาเงินคืนนะ ถึงขนาดส่งนายจอห์น ดัลลัส (John Dulles) รมต.ตปท. มาบีบลูกกระเดือกจอมพล คนแปลกเอง มันเกี่ยวกับเรื่องจอมพลคนแปลก มาลานำไทยแล้วชาติเจริญ ไม่ยอมเปลี่ยนจากชาตินิยมเป็นทุนนิยมหรือเปล่ามันก็น่าคิด เพราะช่วงพ.ศ.2498-พ.ศ.2500 สถานการณ์ของจอมพล ป. ก็คลอนแคลน โยกเยก แล้วในที่สุด 16 ก.ย. พ.ศ.2500 จอมพลผ้าขะม้าก็ทำรัฐประหาร จอมพล ป. ก็รีบเก็บกระเป๋าขึ้นรถ นั่งตัวตรงลี้ภัยไปที่เขมร ก่อนที่จะติดปีกบินต่อไปญี่ปุ่น ผู้ทำหน้าที่ขับรถพาท่านจอมพลไปเขมรชื่อ ชุมพล โลหะชาละ คุ้นๆชื่อนี้ไหมครับ ส่วนนายพลเผ่า ซีซัพพลาย (Sea Supply) ก็หรูหน่อยขึ้นเครื่องบินลี้ภัยไปสวิส น่าคิดนะ ไม่ว่าใครที่ขวางทาง  หรือไม่เป็นเด็กดีตามใบสั่งพี่เบิ้มนี่ ไม่นานหรอกก็มีอันต้องเก็บฉากหายตัวเป็นแถวๆ ตามดูไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน จอมพลผ้าขะม้ารัฐประหารแล้วไม่เป็นนายกเอง แปลกนะ! คนเป็นนายกชื่อ นายพจน์ สารสิน (แปลกไม่แปลกเอ่ย อ่านๆ ไปก็รู้เอง) คล้ายๆ กับ พล.อ.สุจินดาทำรัฐประหาร แล้วให้นายอานันท์เป็นนายกเลยนะ อิ! อิ! นายพจน์ เป็นนายกได้ไม่นาน ก็จัดการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยใบสั่งรุ่นแรกปี พ.ศ.2501 หวยก็ไปตกที่พล.อ. ถนอม เป็นนายก โดยมีคุณป๋าผ้าขะม้าถือไม้เรียวคุมเข้มอยู่ข้างหลัง รัฐประหารไม่เท่าไหร่ น้าหนอมยังเป็นนายกตั้งไข่ คุณป๋าผ้าขะม้าก็ล้มป่วย พี่เบิ้มตาเหลือก ยุ่งล่ะสิ! วางแผนซะเกือบตาย กำลังจะไปได้สวย ทุกอย่างอยู่ในอวยหมดแล้ว ทำไม ทำไม จะหมดวาสนาเอาง่ายๆ พี่เบิ้มก็เลยกล่อมให้คุณป๋าไปรักษาตัวที่ รพ. Water Reed อันลือชื่อของพี่เบิ้ม ระหว่างที่คุณป๋าสฤษดิ์รักษาตัวไป พักฟื้นไป พี่เบิ้มก็ส่งพี่เลี้ยงชื่อ พล.อ. เออร์สกิน (Erskine) มานั่งจับมือคุณป๋า เล่านิทานเรื่องภัยคอมมิวนิสต์ในอินโดจีนให้คุณป๋าฟังทุกวัน ทุกวัน คุณป๋าแกเป็นทหารรักชาติของจริง ไม่ใช่ประเภทเห็นแก่ร้องเท้ากอล์ฟคู่เดียว หรือมีวันนี้เพราะพี่ให้ แกฟังพี่เลี้ยงใส่สีตีไข่ทุกวัน คุณป๋าเลือดรักชาติ พุ่งกระฉูดแทบหายป่วยเลย อะไรมันจะขนาดนั้น ภัยมันจ่อคอหอยบ้านเราแล้วหรือ แถมลาวน้องรักก็กำลังจะถึงซึ่งชีวี มีหรือพี่จะนอนต่อไปได้ ว่าแล้วคุณป๋าก็ลุกขึ้น ทำเสียงเข้มใส่พี่เบิ้มทันที บอกมาบัดเดี๋ยวนี้ เราจะช่วยบ้านเราและบ้านพี่เมืองน้องของเรา ให้พ้นจากภัยคุกคาม ของเหล่าคอมมิวนิสต์ตัวร้ายได้อย่างไร อ้า! สมันน้อยติดกับเราเรียบร้อยแล้ว…เสียงรำพึงขึ้นจมูกโด่งงุ้มของใครบางคนดังขึ้น อย่าตกใจไปเลยสมันน้อย เราได้เตรียมการไว้ให้ท่านสมันน้อย เอ๊ย มิตรรัก ไว้พร้อมสรรพแล้ว เพียงท่านทำตามที่เราบอก บ้านท่าน รวมทั้งบ้านพี่บ้านน้องท่านก็จักพ้นภัย วิธีจัดการกับสมันน้อยนามไทยแลนด์ของพี่เบิ้มเนียนมาก ด้านหนึ่งก็บอกว่าต้องพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า ชาวประชาต้องมีงานทำ พวกคอมมี่มันจะได้เข้าไม่ถึง ถ้าเรายากจน เขาก็มาช่วงชิงประชาชนไปได้ อีกด้านหนึ่งเราก็ต้องจัดการ ให้ยูมีกองกำลังเอาไว้ป้องกันตัว บดขยี้ไอ้พวกคอมมี่ที่จะมาตีบ้านตีเมืองยู ไอไม่ปล่อยให้ยูเดียวดาย โฮมอะโลนหรอกเพื่อนรัก แล้วการจะทำทุกอย่างให้มีประสิทธิภาพน่ะ เพื่อนต้องมีอำนาจเบ็ดเสร็จ การเมืองต้องนิ่ง คุมสภาให้อยู่หมัด เพื่อนอย่าเพิ่งมึน แหม! นี่ถ้าไม่บอกว่า พี่มะกันพูดกะป๋าสฤษดิ์น่ะ ท่านผู้อ่านอาจเผลอนึกว่า พี่มะกันพูดกับพี่น้องนักซุก ว.5 ดังนั้นไทยแลนด์เพื่อนรัก เพื่อนจงรีบจัดการ เรื่องการบ้านการเมืองบ้านยูให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็ดำเนิน การพัฒนาประเทศเป็นการด่วน ไอได้ทำการสำรวจ และทำข้อแนะนำไว้ให้ยูเรียบร้อยแล้ว เห็นไหม ไอรู้ใจเพื่อนรักขนาดไหน ยูรีบไปดูแล จัดตั้งหน่วยงานพัฒนาเสียโดยดี เพื่อนจะรออะไรอีก เงินไม่มี ไอก็จะให้กู้ โอ๊ย! เพื่อนใจป้ำอย่างนี้หาได้ง่ายๆ ที่ไหน แบบนี้คุณป๋าหายป่วยเลย รีบกลับบ้านเรียกประชุมมิตรรักนักเพลงที่คอเดียวกับพี่เบิ้มมะกันเป็นการด่วน เร็วๆ พวกเรา คอมมิวนิสต์มันจ่อก้นเราแล้ว เราต้องช่วงชิงประชาชนกลับมา นำความเจริญไปสู่เขา ฯลฯ แหม นกแก้วรุ่นพ่อก็ท่องคล่องเหมือนกันนะ นึกว่ามีแต่นกแก้วสมัยนี้ ระหว่างที่คุณป๋าสฤษดิ์รักษาตัวอยู่ ที่สหรัฐฯ น้าหนอมเป็นนายกก็จริง แต่เริ่มมีรัศมีของลุงตุ๊ หนวดจิ๋ม ขึ้นมาบดบัง คุณป๋าก็ร้อนใจ โอ๊ย! ไหนจะเรื่องคอมมี่ ไหนจะเรื่องหนวดจิ๋ม พี่เบิ้มนี่น่ารักจริง ๆ ไม่ปล่อยให้คุณป๋าร้อนใจนานหรอก คนรักกันชอบกัน ทำมั้ยทำไม เรื่องแค่นี้จะทำให้กันไม่ได้ พี่เบิ้มเขาทำอะไรให้นะ ใจเย็น ๆ อ่านต่อไปครับ คุณป๋าบินกลับไทยแลนด์ ในเดือนตุลา พ.ศ.2501  มาถึงก็สั่งปรับ ครม. ทันที แต่ก่อนคุณป๋าจะกลับมา ก็มีคนช่วยจัดการเตรียมแผนให้คุณป๋ามีอำนาจเบ็ดเสร็จ ตามที่มีผู้ปรารถนาดีแต่ประสงค์ร้ายแนะนำเอาไว้แล้ว ช่วงกลางปี พ.ศ.2502 (ค.ศ.1959) คุณป๋าก็เดินทางไปอังกฤษ อ้างว่าจะไปตรวจสุขภาพ (อีก) รายงานของ CIA อ้างว่า คุณป๋าไปเตรียมแผนปฏิวัติอยู่ที่ ซันนิ่ง เดล Sunning Dale ในลอนดอน (London) หอบเอาคณะมันสมองไปด้วยประมาณ 1 โหล ในรายงานบอกว่ามีแต่เด็ดๆ ทั้งนั้นเช่น ถนัด คอมันตร์ หลวงวิจิตรวาทการสุนทร หงส์ลดารมภ์ บุญชู จันทรุเบกษา พงษ์สวัสดิ สุริโยทัย เฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร ฯลฯ ระหว่างเตรียมการรัฐประหาร CIA ระบุในรายงานของตนว่า เป็นการเตรียมตัวของไทยแลนด์ เข้าสู่การพัฒนาตาม Pax Americana ให้บรรลุผลสำเร็จ พี่เบิ้มต้องรีบเอาผ้าเช็ดหน้ามาอุดปาก น้ำลายมันไหลเยิ้มไม่หยุด อู้ย! หมูกำลังเต๊าะแต๊ะๆ เข้าอวยแล้ว รายงานของ CIA ยังบอกอีกว่า ได้ส่งกำลังมาอารักขาครอบครัวของคณะท่าน ซันนิ่ง เดล โดยส่งครอบครัวไปซ่อนในที่ปลอดภัยที่หัวหิน มาแล้วไง ค่ายนเรศวร บอกแล้วว่าให้จำไว้ อย่าลืมๆ โดยมีขบวนรถของอเมริกาเตรียมพร้อมตลอดเวลา เพื่อนำครอบครัวของคณะซันนิ่ง เผ่นลงใต้ หากแผนล่ม! 19 ต.ค. พ.ศ.2502 คุณป๋าและคณะเดินทางกลับประเทศไทย 20 ต.ค. พ.ศ.2502 น้าหนอมยื่นใบลาออกจากการเป็นนายกฯ วันเดียวกันนั้น คุณป๋าก็ปฏิบัติการยึดอำนาจ โดยคณะทหารที่เรียกตัวเองว่า “คณะปฎิวัติ” แล้วคุณป๋าก็ตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าคณะปฎิวัติ และให้น้าหนอมเป็นรองหัวหน้าคณะฯ CIA รายงานว่าการรัฐประหารครั้งนี้มุ่งลดอำนาจลุงตุ๊ และทำให้คุณป๋ามีอำนาจเบ็ดเสร็จ Pax Americanaเดินหน้าอย่างไม่มีอุปสรรคแล้ว ดื่ม Coke แก้กระหายด่วน (โฆษณาให้ฟรี จะส่งเงินมาสม ทบก็ไม่ขัดข้อง) คนเล่านิทาน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 643 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts