• แผนชั่ว ตอนที่ 7

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 7
    มันเป็นเรื่องน่าสมเพชมาก หลังจากกัดดาฟีเสียชีวิต อเมริกากับฝรั่งเศส ต่างออกมาอ้างว่าเป็นผลงานของตน อเมริกาบอก เครื่องโดรนของกู ยิงมันตายคาที่ ฝรั่งเศสบอกไม่ใช่ เครื่องบินของกู ทิ้งระเบิดทะลายมันก่อนต่างหาก
    แต่อังกฤษไม่เถียงกับใคร ยึดเงืนในบัญชีของกัดดาฟีที่ฝากไว้ที่ธนาคารในอังกฤษเรียบ ตัวเลขเท่าไหร่ อังกฤษเม้มปากแน่น เปิดปากเมื่อไหร่ ตัวหารมันจะแยะ ก็ดันขนกันไปกี่ชาติล่ะ เหมือนแร้งลง
    อเมริกาและนาโต้ ไปเอาข่าวมาจากไหนไม่รู้ว่า ไอ้ที่ตายเป็นตัวปลอม เดือนมีนาคม ปี ค.ศ.2012 เลยพากันกลับไปทิ้งระเบิดที่บริเวณบ้านใหญ่ของกัดดาฟี ที่ทริโปลีอีกรอบใหญ่ แต่ก็ยังไม่เจอกัดดาฟี ไม่ว่าเป็นหรือตาย
    อเมริกายังไม่พอใจ ข่าวยังลือจัง งั้นถล่มมันไปเรื่อยๆ แล้วกัน อเมริกาส่งโดรนไปสำรวจทุกเมืองในลิเบีย สงสัยที่ไหนก็ทิ้งบอมบ์ที่นั่น ตามมาด้วย “คณะผู้รับเหมา” ทหารรับจ้าง บุกเข้าไปเก็บกวาดผู้ต้องสงสัย
    ส่วนอังกฤษ และฝรั่งเศส กลัวไม่ได้ส่วนแบ่ง รับหน้าที่เป็นหน่วยข่าวกรองเคลื่อนที่ ตามสืบความเคลื่อนไหว
    เอะ ไหนลงข่าวว่าตายแน่ ถึงกับลากศพมีรูถูกยิงที่หัวมาถ่ายรูปเอาไว้ ตอนนี้กลับลำ บอกไม่เชื่อว่าตายจริง เที่ยวตามรื้อ ตามค้น หากัดดาฟีคนไหนไม่รู้ต่อ
    เดี๋ยวก็คงมีข่าวออกมา เหมือนกับเรื่องบินลาเดนหลอกว่ายังไม่ตาย แถมอยู่เกาะสวรรค์ที่ไหนสักแห่ง คนอะไร รูปถ่ายตอนตายที่ “เขา” ส่งมาให้สื่อลง ยังยิ้มอยู่ แถมยิ้มพิมพ์เดียวกับตอนยังไม่ตายเป๊ะ เพียงแต่หน้าเปื้อนเลือดไปหน่อยเท่านั้น ฮาจริง ไปกดดูได้ในกูเกิลนะครับ ผมไม่ได้เขียนตลก ผมเขียนจากภาพที่เขาเอามาลง
    เขาว่า หลังจากการค้นหา ทำลายไปทำลายมา คลังอาวุธใหญ่ของกัดดาฟี ที่ว่ามีสะสมเป็นโกดังใหญ่ๆ อยู่ในหลายเมือง หายเกลี้ยง ไปโผล่อีกที อยู่ที่ซีเรีย ที่พวกกบฏซีเรียใช้กันมา 3 ปียังไม่หมดน่ะ คนรู้ดีเรื่องอาวุธของกัดดาฟี ถูกขนมาให้กบฏซีเรียใช้ นอกจากซีไอเอและคนที่สั่ง ซีไอเอ ได้แล้ว ยังมีทูตอเมริกันประจำลิเบีย ที่ถูกฆ่าโหดอยู่ในสถานทูตตัวเอง อเมริกาแถลงว่า ถูกพวกกบฏลิเบียแตกคอกฆ่า ไหนว่าพวกกันไง แต่มีวุฒิสมาชิกอเมริกาเอง สงสัยว่าเป็นรายการเก็บกันเอง ของอเมริกา
    คนที่น่าจะรู้เรื่องนี้ดีอีกคนคือ คุณนายหน้าโหด นางสิงห์สั่งฆ่า เขาว่าตอนถูกกรรมาธิการเรียกไปสอบสวน คุณนายถึงกับเป็นลม หงายหลัง หัวฟาดพื้น แต่ดวงแข็งจัง ไม่ยักตาย (อ่านรายละเอียดเรื่อง ไอ้กันเก็บกันเองที่ลิเบีย ได้ในนิทานเรื่อง Chateau Christoff นะครับ เขียนไว้นานแล้ว)
    ส่วนลิเบียเอง หลังจากขาดหัวที่ชื่อ กัดดาฟี ลิเบียก็เหมือนปลาไหลถูกต้มอยู่ในหม้อ ทั้งตัวเป็นๆ ดิ้นกระแด็กๆ ไปวันๆ รอเวลาเขาเอามากิน ประเทศแตกไม่รู้กี่เสี่ยง ผ่านมาจะ 4 ปี ยังตั้งหลักไม่ได้ มีรัฐบาล 2 คณะพร้อมกัน แต่ละคณะ มีนายกรัฐมนตรีของตัวเอง มีสภา และกองกำลังของตนเอง
    ทางตะวันตกของประเทศ ควบคุมโดยกองกำลังอิสลาม ที่ยึดเอาทริโปลีเป็นเมืองหลวง และไล่รัฐบาลที่เพิ่งตั้งขึ้นมาเมื่อเดือนเมษา กระเด็นไป
    ทางตะวันออกของประเทศที่มีรัฐบาล ที่มาจากนักการเมืองฝ่ายที่ไม่เอาอิสลาม แต่ปัจจุบันก็รับศึกไม่ไหว ตอนนี้ลี้ภัยไปอยู่เมือง Tobruk ซึ่งอยู่ห่างไปอีก 1,200 กิโล ตอนนี้ ทางตะวันออกนี่ก็เลยไม่ขึ้นกับใคร
    ทางใต้ของประเทศ เป็นแหล่งชุมนุมดาราผู้ก่อการร้าย
    ส่วนทางเหนือ ที่อยู่ติดชายฝั่ง กลายเป็นเส้นทางผ่านของพวกอพยพลี้ภัย ก็น่าตื่นเต้นไปอีกแบบ รวมดารานักหลอกต้ม ทั้งนั้น
    หลังจากเป็นปลาไหลอยู่ในหม้อ บรรดาสถานทูตพวกฝรั่งตะวันตก หัวหด หูตกปิดประตูกลับบ้านไปหมด อิยิปต์ อัลจีเรีย และตูนีเซีย ปิดเขตแดนที่ติดต่อกับลิเบีย การข่มขืน ปล้นฆ่า จับมาทรมาน เกิดขึ้นรายวัน ลิเบียกลายเป็นรัฐที่ล้มและเหลว ไปถึงข้างในของกระดูก failed state อย่างแท้จริง
    ไอ้ตัวระยำ ที่เป็นผู้วางแผนสร้างเรื่องก็ทิ้งลิเบีย เหมือนอย่างที่ทำกับอิรัค อียิปต์ และเมืองต่างๆ ในอาฟริกา และที่อื่นๆ สาธยายด่ากันไม่หวาดไม่ไหว
    อเมริกา “ทำเหมือน” หมดปัญญาแก้ไขการมี 2 รัฐบาลในประเทศเดียวกัน และไม่สามารถบริหารประเทศได้สักรัฐบาลเดียว แต่ ล่าสุด อเมริกา กำลังสร้างรัฐบาลที่ 3 ในลิเบีย! มันยิ่งกว่า หนังตลก!
    นายพล Khalifa Hifter หรือ Haftar ซี้ย่ำปึกของซีไอเอ กำลังถูกปั้นขึ้นมาเก็บสมบัติลิเบียที่ยังเหลืออยู่อีกแยะ
    Hifter เคยเป็นลูกน้องเก่าของกัดดาฟี สมัยที่โค่นกษัตริย์ Idris al-Sanusi มาด้วยกัน กัดดาฟี เคยเรียก Hifter เป็นลูกรัก ระหว่างสงครามอาหรับ อิสราเอล ในปี ค.ศ.973 Hifter เป็นผู้นำกองทัพลิเบีย ช่วง ค.ศ.1980-1987 ทำสงครามกับชาด เขาเป็นคนสั่งใช้ระเบิดแก๊สพิษ ลิเบียแพ้ชาด ในการรบครั้งนั้น และทหารลิเบียถูกชาดจับเป็นเชลย รวมทั้ง Hifter ด้วย
    ระหว่างที่ติดอยู่ที่ชาด Hifter ไม่รู้คิดอะไร ชวนพรรคพวกที่เป็นเชลยด้วยกัน ให้ปฏิวัติกัดดาฟี แต่ยังไม่ทันเดินหน้า เขาก็เปลี่ยนแผน เพราะซีไอเอจัดการให้เขาหลุดจากคุมตัวของชาด และข้ามมาคองโก ก่อนบินไปอยู่ที่เวอร์จิเนียของอเมริกา พร้อมลูกน้องอีก 300 คน
    ในฐานะเป็นคนสัญชาติอเมริกัน ที่ซีไอเอจัดการให้ เขาอยู่ในอเมริกา ตั้งแต่ ค.ศ.1990 ถึง ปี ค.ศ.2011 ทำงานหลายจ๊อบให้ซีไอเอ และเมื่อ อเมริกาพยายามขยี้ กัดดาฟี ในปี ค.ศ.1996 Hifter และพวกอีก 600 คนก็เป็นคนจัดการ แต่ไม่สำเร็จ น่าจะทำให้ราคาเขาตกลงพอสมควร แต่ตอนนี้อเมริกาคงไม่มีตัวเลือกเหลือมากนักสำหรับรายการ เก็บกวาดลิเบีย รอบสุดท้าย
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    20 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 7 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 7 มันเป็นเรื่องน่าสมเพชมาก หลังจากกัดดาฟีเสียชีวิต อเมริกากับฝรั่งเศส ต่างออกมาอ้างว่าเป็นผลงานของตน อเมริกาบอก เครื่องโดรนของกู ยิงมันตายคาที่ ฝรั่งเศสบอกไม่ใช่ เครื่องบินของกู ทิ้งระเบิดทะลายมันก่อนต่างหาก แต่อังกฤษไม่เถียงกับใคร ยึดเงืนในบัญชีของกัดดาฟีที่ฝากไว้ที่ธนาคารในอังกฤษเรียบ ตัวเลขเท่าไหร่ อังกฤษเม้มปากแน่น เปิดปากเมื่อไหร่ ตัวหารมันจะแยะ ก็ดันขนกันไปกี่ชาติล่ะ เหมือนแร้งลง อเมริกาและนาโต้ ไปเอาข่าวมาจากไหนไม่รู้ว่า ไอ้ที่ตายเป็นตัวปลอม เดือนมีนาคม ปี ค.ศ.2012 เลยพากันกลับไปทิ้งระเบิดที่บริเวณบ้านใหญ่ของกัดดาฟี ที่ทริโปลีอีกรอบใหญ่ แต่ก็ยังไม่เจอกัดดาฟี ไม่ว่าเป็นหรือตาย อเมริกายังไม่พอใจ ข่าวยังลือจัง งั้นถล่มมันไปเรื่อยๆ แล้วกัน อเมริกาส่งโดรนไปสำรวจทุกเมืองในลิเบีย สงสัยที่ไหนก็ทิ้งบอมบ์ที่นั่น ตามมาด้วย “คณะผู้รับเหมา” ทหารรับจ้าง บุกเข้าไปเก็บกวาดผู้ต้องสงสัย ส่วนอังกฤษ และฝรั่งเศส กลัวไม่ได้ส่วนแบ่ง รับหน้าที่เป็นหน่วยข่าวกรองเคลื่อนที่ ตามสืบความเคลื่อนไหว เอะ ไหนลงข่าวว่าตายแน่ ถึงกับลากศพมีรูถูกยิงที่หัวมาถ่ายรูปเอาไว้ ตอนนี้กลับลำ บอกไม่เชื่อว่าตายจริง เที่ยวตามรื้อ ตามค้น หากัดดาฟีคนไหนไม่รู้ต่อ เดี๋ยวก็คงมีข่าวออกมา เหมือนกับเรื่องบินลาเดนหลอกว่ายังไม่ตาย แถมอยู่เกาะสวรรค์ที่ไหนสักแห่ง คนอะไร รูปถ่ายตอนตายที่ “เขา” ส่งมาให้สื่อลง ยังยิ้มอยู่ แถมยิ้มพิมพ์เดียวกับตอนยังไม่ตายเป๊ะ เพียงแต่หน้าเปื้อนเลือดไปหน่อยเท่านั้น ฮาจริง ไปกดดูได้ในกูเกิลนะครับ ผมไม่ได้เขียนตลก ผมเขียนจากภาพที่เขาเอามาลง เขาว่า หลังจากการค้นหา ทำลายไปทำลายมา คลังอาวุธใหญ่ของกัดดาฟี ที่ว่ามีสะสมเป็นโกดังใหญ่ๆ อยู่ในหลายเมือง หายเกลี้ยง ไปโผล่อีกที อยู่ที่ซีเรีย ที่พวกกบฏซีเรียใช้กันมา 3 ปียังไม่หมดน่ะ คนรู้ดีเรื่องอาวุธของกัดดาฟี ถูกขนมาให้กบฏซีเรียใช้ นอกจากซีไอเอและคนที่สั่ง ซีไอเอ ได้แล้ว ยังมีทูตอเมริกันประจำลิเบีย ที่ถูกฆ่าโหดอยู่ในสถานทูตตัวเอง อเมริกาแถลงว่า ถูกพวกกบฏลิเบียแตกคอกฆ่า ไหนว่าพวกกันไง แต่มีวุฒิสมาชิกอเมริกาเอง สงสัยว่าเป็นรายการเก็บกันเอง ของอเมริกา คนที่น่าจะรู้เรื่องนี้ดีอีกคนคือ คุณนายหน้าโหด นางสิงห์สั่งฆ่า เขาว่าตอนถูกกรรมาธิการเรียกไปสอบสวน คุณนายถึงกับเป็นลม หงายหลัง หัวฟาดพื้น แต่ดวงแข็งจัง ไม่ยักตาย (อ่านรายละเอียดเรื่อง ไอ้กันเก็บกันเองที่ลิเบีย ได้ในนิทานเรื่อง Chateau Christoff นะครับ เขียนไว้นานแล้ว) ส่วนลิเบียเอง หลังจากขาดหัวที่ชื่อ กัดดาฟี ลิเบียก็เหมือนปลาไหลถูกต้มอยู่ในหม้อ ทั้งตัวเป็นๆ ดิ้นกระแด็กๆ ไปวันๆ รอเวลาเขาเอามากิน ประเทศแตกไม่รู้กี่เสี่ยง ผ่านมาจะ 4 ปี ยังตั้งหลักไม่ได้ มีรัฐบาล 2 คณะพร้อมกัน แต่ละคณะ มีนายกรัฐมนตรีของตัวเอง มีสภา และกองกำลังของตนเอง ทางตะวันตกของประเทศ ควบคุมโดยกองกำลังอิสลาม ที่ยึดเอาทริโปลีเป็นเมืองหลวง และไล่รัฐบาลที่เพิ่งตั้งขึ้นมาเมื่อเดือนเมษา กระเด็นไป ทางตะวันออกของประเทศที่มีรัฐบาล ที่มาจากนักการเมืองฝ่ายที่ไม่เอาอิสลาม แต่ปัจจุบันก็รับศึกไม่ไหว ตอนนี้ลี้ภัยไปอยู่เมือง Tobruk ซึ่งอยู่ห่างไปอีก 1,200 กิโล ตอนนี้ ทางตะวันออกนี่ก็เลยไม่ขึ้นกับใคร ทางใต้ของประเทศ เป็นแหล่งชุมนุมดาราผู้ก่อการร้าย ส่วนทางเหนือ ที่อยู่ติดชายฝั่ง กลายเป็นเส้นทางผ่านของพวกอพยพลี้ภัย ก็น่าตื่นเต้นไปอีกแบบ รวมดารานักหลอกต้ม ทั้งนั้น หลังจากเป็นปลาไหลอยู่ในหม้อ บรรดาสถานทูตพวกฝรั่งตะวันตก หัวหด หูตกปิดประตูกลับบ้านไปหมด อิยิปต์ อัลจีเรีย และตูนีเซีย ปิดเขตแดนที่ติดต่อกับลิเบีย การข่มขืน ปล้นฆ่า จับมาทรมาน เกิดขึ้นรายวัน ลิเบียกลายเป็นรัฐที่ล้มและเหลว ไปถึงข้างในของกระดูก failed state อย่างแท้จริง ไอ้ตัวระยำ ที่เป็นผู้วางแผนสร้างเรื่องก็ทิ้งลิเบีย เหมือนอย่างที่ทำกับอิรัค อียิปต์ และเมืองต่างๆ ในอาฟริกา และที่อื่นๆ สาธยายด่ากันไม่หวาดไม่ไหว อเมริกา “ทำเหมือน” หมดปัญญาแก้ไขการมี 2 รัฐบาลในประเทศเดียวกัน และไม่สามารถบริหารประเทศได้สักรัฐบาลเดียว แต่ ล่าสุด อเมริกา กำลังสร้างรัฐบาลที่ 3 ในลิเบีย! มันยิ่งกว่า หนังตลก! นายพล Khalifa Hifter หรือ Haftar ซี้ย่ำปึกของซีไอเอ กำลังถูกปั้นขึ้นมาเก็บสมบัติลิเบียที่ยังเหลืออยู่อีกแยะ Hifter เคยเป็นลูกน้องเก่าของกัดดาฟี สมัยที่โค่นกษัตริย์ Idris al-Sanusi มาด้วยกัน กัดดาฟี เคยเรียก Hifter เป็นลูกรัก ระหว่างสงครามอาหรับ อิสราเอล ในปี ค.ศ.973 Hifter เป็นผู้นำกองทัพลิเบีย ช่วง ค.ศ.1980-1987 ทำสงครามกับชาด เขาเป็นคนสั่งใช้ระเบิดแก๊สพิษ ลิเบียแพ้ชาด ในการรบครั้งนั้น และทหารลิเบียถูกชาดจับเป็นเชลย รวมทั้ง Hifter ด้วย ระหว่างที่ติดอยู่ที่ชาด Hifter ไม่รู้คิดอะไร ชวนพรรคพวกที่เป็นเชลยด้วยกัน ให้ปฏิวัติกัดดาฟี แต่ยังไม่ทันเดินหน้า เขาก็เปลี่ยนแผน เพราะซีไอเอจัดการให้เขาหลุดจากคุมตัวของชาด และข้ามมาคองโก ก่อนบินไปอยู่ที่เวอร์จิเนียของอเมริกา พร้อมลูกน้องอีก 300 คน ในฐานะเป็นคนสัญชาติอเมริกัน ที่ซีไอเอจัดการให้ เขาอยู่ในอเมริกา ตั้งแต่ ค.ศ.1990 ถึง ปี ค.ศ.2011 ทำงานหลายจ๊อบให้ซีไอเอ และเมื่อ อเมริกาพยายามขยี้ กัดดาฟี ในปี ค.ศ.1996 Hifter และพวกอีก 600 คนก็เป็นคนจัดการ แต่ไม่สำเร็จ น่าจะทำให้ราคาเขาตกลงพอสมควร แต่ตอนนี้อเมริกาคงไม่มีตัวเลือกเหลือมากนักสำหรับรายการ เก็บกวาดลิเบีย รอบสุดท้าย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 20 ก.ย. 2558
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 443 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนชั่ว ตอนที่ 6

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 6
    ในที่สุด เดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2007 CNPC หน่วยงานที่ดูแลด้านน้ำมัน ของรัฐบาลจีน ก็ตกลงทำสัญญากับรัฐบาลของชาด Chad ในการสร้างท่อส่งน้ำมัน หลังจากนั้น 2 ปี การก่อสร้างท่อส่งน้ำมันก็เริ่มดำเนินการ มันเป็นท่อส่งสำหรับน้ำมันบ่อใหม่ ที่จีน (แอบ) ไปลงทุนขุดใหม่ทางใต้ของชาด ห่างไปอีก 300 กิโลเมตร หลังจากนั้น กลุ่มเอ็นจีโอ ที่พวกตะวันตกสนับสนุน ก็ออกมาโว้ยว่า เป็นการทำลาย สิ่งแวดล้อม มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ และเมื่อตอน Chevron ขุดน้ำมันแถวนั้น ในปี ค.ศ.2003 เอ็นจีโอกลุ่มเดียวกันนี้ ไม่ออกมาโวย ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องน่าแปลกใจเช่นเดียวกัน
    แล้วเดือนกรกฏาคม ค.ศ.2011 ชาดและจีน ก็ฉลองการเปิดดำเนินการของโรงกลั่นน้ำมัน ที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวงของชาด ที่ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมทุนกัน โรงกลั่นนี้ ว่าไปแล้ว ก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งสำรวจที่จีนไปลงทุนไว้ตอนแรก ในบริเวณดาร์ฟูที่ติดกับชาด และจีนถูกไม้กั้น ไม่เสี้ยม จนยังกินแห้วอยู่นั่นเอง แม้จะกินแห้วของดาร์ฟู แต่แหล่งที่จีนได้ใหม่ ที่ชาดก็น่าจะชดเชยของเดิม ที่ถูกถีบออกมาได้อย่างน่าทึ่ง
    จากการประเมินทางภูมิศาสตร์ สายน้ำมันน่าจะไหลมาจากดาร์ฟู ผ่านมาที่ชาด และต่อไปถึงแคเมอรูน ขนาดของแหล่งน้ำมันนี้ประเมินกันว่า ใหญ่มหาศาลนัก อาจจะเท่ากับแหล่งน้ำมันที่ซาอุดิอารเบียเสียด้วยซ้ำ การควบคุมซูดานใต้ ชาดและแคเมอรูน จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญรายการใหม่ ของสภาความมั่นคงของอเมริกา คราวนี้เป็น “ยุทธศาสตร์ขวางจีน” เต็มรูปแบบ เพื่อไม่ให้จีน เข้าไปสู่แหล่งพลังงานทุกแห่งในโลก โดยเฉพาะที่อาฟริกา
    หมากตัวสำคัญ ที่จะทำให้ยุทธศาสตร์ขวางจีนในอาฟริกา เป็นผลสำเร็จหรือไม่ คือ กัดดาฟี แห่งลิเบีย เป็นกัดดาฟีที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับตะวันตก และต่อสู้ทุกเม็ด ทุกหมากกับอเมริกา และอังกฤษ เพื่อที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศตนและอาฟริกา รวมไปถีงประเทศในตะวันออกกลาง กัดดาฟี พยายามตั้งสถาบันการเงิน เหมือนธนาคารโลก เพื่อช่วยเหลือประเทศในกลุ่มอาฟริกา จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของก๊วนหน้าเลือด ใจร้าย World Bank, IMF และที่สำคัญ กัดดาฟี ไม่ปฏิเสธ ที่จะคบ และค้าขายกับรัสเซียและจีน
    เขาจึงเป็นบุคคลที่อเมริกา และอังกฤษรังเกียจยิ่งนัก
    ลิเบีย เป็นประเทศในอาฟริกา ที่ด้านเหนือ ติดกับทะเลเมดิเตอเรเนียน ข้ามทะเลไปก็เป็นอิตาลี ซึ่งบริษัทน้ำมัน ENI ของอิตาลี เป็นผู้มาร่วมงานขุดเจาะน้ำมัน กับลิเบียอยู่นาน ตะวันตกของลิเบียติดกับ ตูนีเซีย และอัลจีเรีย ทางด้านใต้ ติดกับชาด ส่วนตะวันออกติดกับซูดาน ทั้งเหนือและใต้ และอียิปต์ ที่ตั้งของลิเบียจึงเหมือนอยู่กลางดงน้ำมัน คงมีใครมองว่า ลิเบียเหมาะที่จะใช้เป็นศูนย์กลาง ในการควบคุมดงน้ำมันอย่างยิ่ง
    ลิเบีย ไม่ให้ใครมาเป็นเจ้าของปั้มลิเบีย ลิเบียเป็นเจ้าของปั้มเอง ขายเอง ดูแลแหล่งน้ำมันที่มีคุณภาพสูงเอง ในปี ค.ศ.2006 ลิเบียเป็นเจ้าของแหล่งน้ำมัน ที่ได้รับการสำรวจและพิสูจน์ว่า มีน้ำมันแล้วถึง 35% ของน้ำมันทั้งหมดในอาฟริกา มีมากกว่าไนจีเรีย ที่อเมริกาคว้าคออยู่หมัดเสียอีก
    นอกจากนี้ ลิเบียยังให้สัมปทานน้ำมัน แก่รัฐบาลจีนด้วย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องระหว่างรัฐบาล กับ รัฐบาล
    แบบนี้ อเมริกาจะทนดู ลิเบีย ทำอะไรตามใจตัวเองอยู่ในกลางดงน้ำมัน (ที่อเมริกาอยากครอบครอง) ได้หรือ อเมริกามองว่า ตราบใดที่รัฐบาลกัดดาฟีเข้มแข็ง มีอำนาจอยู่ที่เมืองทริโปลี และควบคุมแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุดในอาฟริกา แผนการของอเมริกา ตามยุทธศาสตร์ขวางจีน คงสำเร็จยาก การแบ่งแยกซูดานเป็น 2 ประเทศ และการยุ การเสี้ยมให้เกิดการกบฏในลิเบียต้องทำพร้อมกัน จึงพอจะมีทางเอากัดดาฟี่มาขึงพืดได้
    นี่จึงเป็นภาระกิจสำคัญและเป็น “งาน” ของจริง สำหรับ AFRICOM ที่คงไม่ได้แถลงกันในรัฐสภาให้คนอเมริกันรู้
    AFRICOM รับหน้าที่เป็นกองกำลังหลัก ในปฏิบัติการทำลายกัดดาฟีและลิเบีย รวมทั้งในการสร้างกบฏ เปลี่ยนแปลงรัฐบาล ในตูนีเซีย อียิปต์ และสร้างรัฐซูดานใต้ทั้งหมด เพื่อให้แหล่งน้ำมันใหญ่ ในประเทศเหล่านี้ ไม่มีเจ้าของดูแลควบคุม อเมริกาและพวก จะได้เข้าไปควบคุมแทน
    มันเป็นปฏิบัติการเก็บเจ้าของปั้ม แล้วปล้นเอาปั้มเขามา นั่นเอง
    แต่อเมริกาไม่กล้ารบเดี่ยว อยากจะปล้น แต่ก็คงปอดแหกเหมือนกัน กัดดาฟีไม่ได้เคี้ยวง่ายเหมือนซูดาน กัดดาฟี มีทั้งเขี้ยวยาว และอาวุธทันสมัยที่ซื้อจากอเมริกาและรัสเซีย เก็บเงียบอยู่เต็มลิเบีย คราวนี้ อเมริกาจะใช้พระเอกหนังไปเดินทำหน้าเศร้า ก็คงไม่สำเร็จ อเมริกาจึงดึงนาโต้เข้ามาเล่นเต็มอัตรา
    ปี ค.ศ.2010 นาโต้ ไปกวาดต้อนเอาสาระพัดพันธ์ุ ตั้งแต่อดีตนักการเมืองที่เคยอยู่กับกัดดาฟี แต่บัดนี้ขัดใจกันแล้ว อดีตนักธุรกิจขี้โกงที่หนีคดี ไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนประกอบแบบนี้ คุ้นไหมครับ ส่วนประกอบที่สำคัญอีก 2 ส่วนคือ เด็กในกระเป๋า ซีไอเอ ที่ได้รับการฝึก รับเงินและก็ไปร่วมรบกับ ซีไอเอ หลายที่ เช่น อาฟกานิสถาน อิรัค เป็นต้น อีกส่วนหนึ่งคือ ทหารรับจ้าง หรือที่สมัยใหม่นี้ เรียกว่า ผู้รับเหมา contractor รับเหมาทำอะไรบ้าง ก็คงพอเดากันออก มันเป็นการผสมพันธุ์โหด ที่เตรียมเอาไว้เชือดกัดดาฟี
    กลุ่มสาระพัดพันธ์ุนี่ เรียกตัวเองว่า กลุ่ม TNC Transitional Nation Council
    กลุ่ม TNC ออกมาด่าว่า กัดดาฟี่เป็นเผด็จการรวบอำนาจ กดขี่ ประชาชน ต้องการให้ กัดดาฟีลาออก มีการเลือกตั้งใหม่ และปกครองตามระบอบประชาธิปไตย แหม โรเนียวนี้ใช้จนเก่าเน่าแล้ว ไม่เปลี่ยนเลยหรือพี่
    กัดดาฟี เป็นเผด็จการจริง มีทั้งพวกที่บอกว่า เขาทำประโยชน์ให้กับชาวลิเบีย และก็มีพวกที่บอกว่า เขาข่มขู่บังคับชาวลิเบีย จึงคงมีทั้งพวกที่รักเขา และพวกที่เกลียดเขา แต่ลองดูจากหลายสิ่งที่เขาทำให้กับชาวลิเบีย มันก็พอบอกได้ว่า เขาดี เลวอย่างไรกับลิเบีย
    – ชาวลิเบีย ได้รับการรักษาพยาบาล และเรียนหนังสือฟรี ( อย่าบอกนะว่า เหมือน 30 บาท รักษาทุกโรค)
    – ชาวลิเบียไม่ต้องเสียค่าไฟฟ้า
    – ชาวลิเบียกู้เงินไม่เสียดอกเบี้ยจากธนาคารของรัฐ ซึ่งใหญ่มาก และกัดดาฟีมีแผนจะสร้าง ให้มีเงินทุนมากกว่า World Bank เพื่อให้ ชาวอาฟริกันกู้ด้วย
    – รัฐบาลกัดดาฟี สร้างระบบชลประทานที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยการสร้างแม่น้ำทั่วประเทศ ชาวลิเบีย ไม่มีการขาดน้ำตลอดปี
    – ถ้าชาวลิเบียต้องการทำฟาร์มเพาะ ปลูก และเลี้ยงสัตว์ รัฐจะยกที่ดินให้ฟรี แถมปลูกบ้านให้ พร้อมแจกพันธ์ุพืชและสัตว์ ฟรีหมด เพราะรัฐสนับสนุนให้สร้าง “อาหาร” จะได้ไม่อดตาย
    – เมื่อหญิงชาวลิเบียคลอดลูก จะได้รับเงินช่วยจากรัฐ จำนวน 5 พันเหรียญ เขาสนับสนุนให้มีชาวลิเบียอยู่ในโลก ไม่ใช่ถูกตอนพันธ์
    – รัฐบาลกัดดาฟี ยืนราคาน้ำมันขายในลิเบีย ที่ลิตรละ 14 เซ็นต์ (ประมาณ 5 บาท)
    – รัฐบาลกัดดาฟีส่งเสริมการศึกษา ก่อนเขาปกครอง มีคนอ่านหนังสือออกเพียง 25% ช่วง 40 ปี ที่กัดดาฟี ปกครองลิเบีย จำนวนคนอ่านหนังสือออก เพิ่มเป็นเกือบ 90% และมีคนศึกษาจบระดับปริญญา 25%
    TNC เป็นแนวหน้าที่นาโต้เตรียมไว้ให้ไปสู้ และตายแทนกองกำลังนาโต้ ส่วนทหารนาโต้ นั่งคอยดูผลงาน TNC ไปก่อน นี่เป็นเพียงก๊อก 1
    ก๊อก 1 เริ่มงานด้วยการ ออกมาประท้วงกัดดาฟีตามเมืองต่างๆว่า เป็นเผด็จการ พวกเขาต้องการประชาธิปไตย และการประท้วงครั้งแรกในลืเบีย ก็เกิดขึ้นที่เมือง Cyrenaica เมืองที่เป็นแหล่งน้ำมันใหญ่ ทางตะวันออกของลิเบีย หลังจากนั้น การประท้วงก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และขยายตัวออกไป และในที่สุดก็ยึดเมืองสำคัญอย่าง เบงกาซี Benghazi ได้
    หลังจากนั้น กระป๋องสีย้อมข่าวใบใหญ่ ซีเอนเอน ก็รับช่วงรายงานข่าวทุกวันว่า กัดดาฟี ชั่วช้า กระทำรุนแรง ตั้งใจฆ่าประชาชน ด้วยการเอาเครื่องบินมาถล่มพวกกบฏมือเปล่า แบบนี้นานาชาติใจบุญ จะทนดูชาวลิเบียโดนระเบิดทุกวันไหวยังไง
    อังกฤษกับฝรั่งเศส รีบถลาไปเอาหน้าเกือบไม่ทัน บอกว่าไม่ได้นะ แบบนี่มันละเมิดกฏ “No Fly Zone” ของสหประชาชาติ ว่าเข้าไปโน่น สหประชาชาติ เลยมีมติกำหนดเขตห้ามบิน No Fly Zone ตามเมืองต่างๆในลิเบีย เครื่องบินของฝ่ายรัฐบาลหรือกัดดาฟี บินไม่ได้ แต่ของกองกำลังผสมของนานาชาติบินได้ ทิ้งระเบิดได้ มีปัญหาไหม ไม่มีคร้าบ… พวกเอ็งมันใหญ่ค้ำโลกแล้ว ใครจะกล้ามีปัญหาด้วย
    ก๊อก 2 คือ กองกำลังผสมของนานาชาติ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อร่วมกันเชือด กัดดาฟี ทรัพยากรลิเบียแยะนัก กองกำลังร่วมเชือด เลยแยะตามไปด้วย หวังได้แบ่งส่วนบุญ กองกำลังผสม นำโดยอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา และลูกกระเป๋ง อย่าง กาต้าร์ สหรัฐเอมิเรต เบลเยี่ยม อิตาลี เดนมาร์ค นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์และสเปญ เอาชื่อมาโชว์ให้ดูหมด จะได้รู้ว่าใคร อยู่ตรงไหน… โถ นึกว่ารวยแล้วไม่ตะกระ …แถวบ้านผมเคยมี ที่รวยแล้ว ทั้งตะกระ ทั้งโกง….
    ช่วงแรก กองกำลังผสมบัญชาการโดยอเมริกา ช่วงหลัง บัญชาการโดยนาโต้ ไม่รู้จะดัดจริต เปลี่ยนทำไม ยังไงอเมริกาก็คุมนาโต้อยู่แล้ว
    จริงๆ ช่วงแรก อเมริกานำ ก็เพราะต้องการจะเข้าลิเบียไปก่อนใคร เพื่อค้นหาสมบัติของกัดดาฟี โดยเฉพาะ พวกอาวุธที่แอบเก็บตามโกดังนั่นแหละ ใครๆ ก็อยากงาบต่อทั้งนั้น
    แล้วกองกำลังผสมของชาติต่างๆ บวกกองกำลังของนาโต้เอง บวกกองกำลังฝ่ายกบฏ บวกกองกำลังของผู้รับเหมา บวกกองกำลังทหารของอเมริกา (เอะ นี่ผมตกกองอะไร ของใครอีกไหม มันแยะ เละไปหมด) ก็ไล่ล่ากัดดาฟีอยู่ 8 เดือน กัดดาฟีหนีไปเมืองไหน ยิงกันอย่างไร บ้านเรือนพังฉิบหายขนาดไหน คนเจ็บคนตายนอนน่าสมเพชเกลื่อน ถนนเท่าไหร่ ไอ้กระป๋องใส่สีย้อมข่าว ซีเอนเอน รายงานข่าวละเอียดละออ ชาวบ้านได้ดูข่าวการไล่ล่า และไล่ฆ่า เป็นรายการสดทางทีวี ทุกวัน ทุกคืน
    เดือนมีนาคม ปี ค.ศ.2011 นาโต้ประกาศว่า ได้ทิ้งระเบิด ที่บริเวณบ้านใหญ่ ของกัดดาฟี ที่ทริโปลีรอบใหญ่ บ้านพังฉิบหายยับ แต่ยังไม่เจอกัดดาฟี ไม่ว่าเป็นหรือตาย แต่มีคนอื่นตายแทน เป็นลูกชายคนเล็กของกัดดาฟี และหลานปู่เล็กๆ อีก 3 คน เวร…..
    แล้วในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2011 กัดดาฟี ก็ถูกฆ่าตายที่เมืองบ้านเกิดของเขา Sirte ขณะที่อยู่กับกองกำลังของตัว ที่ล้อมหน้า ล้อมหลัง แต่มันมาทางจากข้างบน เป็นจรวดไล่ยิง จะไปคุ้มกันยังไงไหว เล่นยิงใส่ขบวนรถของพวกกัดดาฟี ที่กำลังขับหนีออกจาก Sirte รถกระเด็นพลิกคว่ำ บ้านเรือนแถบนั้นพังเป็นแถบ คนจะรอดหรือ แล้วกัดดาฟีพร้อมลูกชาย 2 คน และลูกน้องคนสนิทหลายคน ก็ตายเรียบ
    หลังจากนั้น เขาว่าพวกกบฏก็บุกเขาไปเอาร่างกัดดาฟีออกมา ลากไปตามถนนโห่ร้องยินดี บางข่าว บอกว่าเขาตายตั้งแต่โดนจรวด บางข่าวบอก เขายังไม่ตาย แค่เกือบ เขาหลุดออกมาจากรถ ไปแอบซ่อนตัวอยู่ในท่อ แต่มาตายตอนที่พวกกบฏลากตัวขึ้น มาจากท่อ ไปตามถนน ก่อนลาก ทุบเสียละเอียด ก่อน ทุบ จับแก้ผ้า และชำเราทางทวารหนักก่อน บางสื่อลงภาพเขานอนตาย หัวเป็นรู จากรอยกระสุน
    2 วัน ก่อนที่กัดดาฟีจะถูกจับ คุณนายคลินตัน สตรีหน้าโหด ( ผมเห็นหน้าคุณนายในทีวีทีไร ฝันร้ายทุกที ผู้หญิงอะไร น่ากลัวชะมัด) ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ เดินทางไปที่เมือง ทริโปลี Tripoli ด้วยเครื่องบินทหาร ที่มีการคุ้มกันหลายชั้น แม้แต่แมลงวันที่คุ้นเคยกัน ก็คงเข้าไปตอมคุณนายไม่ถึง คุณนายประกาศเสียงดังฟังชัดว่า เราจะต้องจับตัวกัดดาฟี มาให้ได้ ไม่ว่า จับตาย หรือจับเป็น “dead or alive”
    นี่! มันยิ่งกว่าบทพระเอก ไปทำหน้าเศร้าที่ซูดานอีกนะ บทนี้มันเป็นบทนางสิงห์สั่งฆ่าเลย
    กัดดาฟี จะอย่างไรก็เป็นประมุขประเทศ เป็นประเทศเอกราช ไม่ได้เป็นขี้ข้าใคร ทำดี ทำชั่ว ศาลระหว่างประเทศมี อเมริกา และรัฐมนตรีต่างประเทศของตน ใช้สิทธิอะไร เที่ยวประกาศ ตัดสินว่า ประเทศไหน ต้องมีนโยบายอย่างไร ประมุขประเทศ ต้องทำตัวอย่างไร ตามใจอเมริกาอย่างไร ถ้าไม่ถูกใจนี่ อเมริกา สั่งฆ่าได้เลยหรือ เรื่องนี้ผมรับไม่ได้จริงๆ และสะอิดสะเอียนที่สุด
    เรื่องนี้ สำนักข่าว Associated Press รายงานข่าวว่า
    … นางคลินตันพูดแบบไม่อ้อมค้อมเป็นพิเศษว่า อเมริกา ต้องการเห็น อดีตเผด็จการ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ถึงแก่ความตาย….
    … เราหวังว่า เขาจะถูกจับ หรือถูก ฆ่า เพื่อพวกคุณจะได้ไม่ต้องกลัวเขาอีกต่อไป
    .. Clinton declared in unusually blunt terms that the United States would like to see former dictator Muammar Gaddafi dead..
    …We hope he can be captured or killed soon so that you don’t have to fear him any longer…
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    19 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 6 ในที่สุด เดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2007 CNPC หน่วยงานที่ดูแลด้านน้ำมัน ของรัฐบาลจีน ก็ตกลงทำสัญญากับรัฐบาลของชาด Chad ในการสร้างท่อส่งน้ำมัน หลังจากนั้น 2 ปี การก่อสร้างท่อส่งน้ำมันก็เริ่มดำเนินการ มันเป็นท่อส่งสำหรับน้ำมันบ่อใหม่ ที่จีน (แอบ) ไปลงทุนขุดใหม่ทางใต้ของชาด ห่างไปอีก 300 กิโลเมตร หลังจากนั้น กลุ่มเอ็นจีโอ ที่พวกตะวันตกสนับสนุน ก็ออกมาโว้ยว่า เป็นการทำลาย สิ่งแวดล้อม มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ และเมื่อตอน Chevron ขุดน้ำมันแถวนั้น ในปี ค.ศ.2003 เอ็นจีโอกลุ่มเดียวกันนี้ ไม่ออกมาโวย ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องน่าแปลกใจเช่นเดียวกัน แล้วเดือนกรกฏาคม ค.ศ.2011 ชาดและจีน ก็ฉลองการเปิดดำเนินการของโรงกลั่นน้ำมัน ที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวงของชาด ที่ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมทุนกัน โรงกลั่นนี้ ว่าไปแล้ว ก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งสำรวจที่จีนไปลงทุนไว้ตอนแรก ในบริเวณดาร์ฟูที่ติดกับชาด และจีนถูกไม้กั้น ไม่เสี้ยม จนยังกินแห้วอยู่นั่นเอง แม้จะกินแห้วของดาร์ฟู แต่แหล่งที่จีนได้ใหม่ ที่ชาดก็น่าจะชดเชยของเดิม ที่ถูกถีบออกมาได้อย่างน่าทึ่ง จากการประเมินทางภูมิศาสตร์ สายน้ำมันน่าจะไหลมาจากดาร์ฟู ผ่านมาที่ชาด และต่อไปถึงแคเมอรูน ขนาดของแหล่งน้ำมันนี้ประเมินกันว่า ใหญ่มหาศาลนัก อาจจะเท่ากับแหล่งน้ำมันที่ซาอุดิอารเบียเสียด้วยซ้ำ การควบคุมซูดานใต้ ชาดและแคเมอรูน จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญรายการใหม่ ของสภาความมั่นคงของอเมริกา คราวนี้เป็น “ยุทธศาสตร์ขวางจีน” เต็มรูปแบบ เพื่อไม่ให้จีน เข้าไปสู่แหล่งพลังงานทุกแห่งในโลก โดยเฉพาะที่อาฟริกา หมากตัวสำคัญ ที่จะทำให้ยุทธศาสตร์ขวางจีนในอาฟริกา เป็นผลสำเร็จหรือไม่ คือ กัดดาฟี แห่งลิเบีย เป็นกัดดาฟีที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับตะวันตก และต่อสู้ทุกเม็ด ทุกหมากกับอเมริกา และอังกฤษ เพื่อที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศตนและอาฟริกา รวมไปถีงประเทศในตะวันออกกลาง กัดดาฟี พยายามตั้งสถาบันการเงิน เหมือนธนาคารโลก เพื่อช่วยเหลือประเทศในกลุ่มอาฟริกา จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของก๊วนหน้าเลือด ใจร้าย World Bank, IMF และที่สำคัญ กัดดาฟี ไม่ปฏิเสธ ที่จะคบ และค้าขายกับรัสเซียและจีน เขาจึงเป็นบุคคลที่อเมริกา และอังกฤษรังเกียจยิ่งนัก ลิเบีย เป็นประเทศในอาฟริกา ที่ด้านเหนือ ติดกับทะเลเมดิเตอเรเนียน ข้ามทะเลไปก็เป็นอิตาลี ซึ่งบริษัทน้ำมัน ENI ของอิตาลี เป็นผู้มาร่วมงานขุดเจาะน้ำมัน กับลิเบียอยู่นาน ตะวันตกของลิเบียติดกับ ตูนีเซีย และอัลจีเรีย ทางด้านใต้ ติดกับชาด ส่วนตะวันออกติดกับซูดาน ทั้งเหนือและใต้ และอียิปต์ ที่ตั้งของลิเบียจึงเหมือนอยู่กลางดงน้ำมัน คงมีใครมองว่า ลิเบียเหมาะที่จะใช้เป็นศูนย์กลาง ในการควบคุมดงน้ำมันอย่างยิ่ง ลิเบีย ไม่ให้ใครมาเป็นเจ้าของปั้มลิเบีย ลิเบียเป็นเจ้าของปั้มเอง ขายเอง ดูแลแหล่งน้ำมันที่มีคุณภาพสูงเอง ในปี ค.ศ.2006 ลิเบียเป็นเจ้าของแหล่งน้ำมัน ที่ได้รับการสำรวจและพิสูจน์ว่า มีน้ำมันแล้วถึง 35% ของน้ำมันทั้งหมดในอาฟริกา มีมากกว่าไนจีเรีย ที่อเมริกาคว้าคออยู่หมัดเสียอีก นอกจากนี้ ลิเบียยังให้สัมปทานน้ำมัน แก่รัฐบาลจีนด้วย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องระหว่างรัฐบาล กับ รัฐบาล แบบนี้ อเมริกาจะทนดู ลิเบีย ทำอะไรตามใจตัวเองอยู่ในกลางดงน้ำมัน (ที่อเมริกาอยากครอบครอง) ได้หรือ อเมริกามองว่า ตราบใดที่รัฐบาลกัดดาฟีเข้มแข็ง มีอำนาจอยู่ที่เมืองทริโปลี และควบคุมแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุดในอาฟริกา แผนการของอเมริกา ตามยุทธศาสตร์ขวางจีน คงสำเร็จยาก การแบ่งแยกซูดานเป็น 2 ประเทศ และการยุ การเสี้ยมให้เกิดการกบฏในลิเบียต้องทำพร้อมกัน จึงพอจะมีทางเอากัดดาฟี่มาขึงพืดได้ นี่จึงเป็นภาระกิจสำคัญและเป็น “งาน” ของจริง สำหรับ AFRICOM ที่คงไม่ได้แถลงกันในรัฐสภาให้คนอเมริกันรู้ AFRICOM รับหน้าที่เป็นกองกำลังหลัก ในปฏิบัติการทำลายกัดดาฟีและลิเบีย รวมทั้งในการสร้างกบฏ เปลี่ยนแปลงรัฐบาล ในตูนีเซีย อียิปต์ และสร้างรัฐซูดานใต้ทั้งหมด เพื่อให้แหล่งน้ำมันใหญ่ ในประเทศเหล่านี้ ไม่มีเจ้าของดูแลควบคุม อเมริกาและพวก จะได้เข้าไปควบคุมแทน มันเป็นปฏิบัติการเก็บเจ้าของปั้ม แล้วปล้นเอาปั้มเขามา นั่นเอง แต่อเมริกาไม่กล้ารบเดี่ยว อยากจะปล้น แต่ก็คงปอดแหกเหมือนกัน กัดดาฟีไม่ได้เคี้ยวง่ายเหมือนซูดาน กัดดาฟี มีทั้งเขี้ยวยาว และอาวุธทันสมัยที่ซื้อจากอเมริกาและรัสเซีย เก็บเงียบอยู่เต็มลิเบีย คราวนี้ อเมริกาจะใช้พระเอกหนังไปเดินทำหน้าเศร้า ก็คงไม่สำเร็จ อเมริกาจึงดึงนาโต้เข้ามาเล่นเต็มอัตรา ปี ค.ศ.2010 นาโต้ ไปกวาดต้อนเอาสาระพัดพันธ์ุ ตั้งแต่อดีตนักการเมืองที่เคยอยู่กับกัดดาฟี แต่บัดนี้ขัดใจกันแล้ว อดีตนักธุรกิจขี้โกงที่หนีคดี ไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนประกอบแบบนี้ คุ้นไหมครับ ส่วนประกอบที่สำคัญอีก 2 ส่วนคือ เด็กในกระเป๋า ซีไอเอ ที่ได้รับการฝึก รับเงินและก็ไปร่วมรบกับ ซีไอเอ หลายที่ เช่น อาฟกานิสถาน อิรัค เป็นต้น อีกส่วนหนึ่งคือ ทหารรับจ้าง หรือที่สมัยใหม่นี้ เรียกว่า ผู้รับเหมา contractor รับเหมาทำอะไรบ้าง ก็คงพอเดากันออก มันเป็นการผสมพันธุ์โหด ที่เตรียมเอาไว้เชือดกัดดาฟี กลุ่มสาระพัดพันธ์ุนี่ เรียกตัวเองว่า กลุ่ม TNC Transitional Nation Council กลุ่ม TNC ออกมาด่าว่า กัดดาฟี่เป็นเผด็จการรวบอำนาจ กดขี่ ประชาชน ต้องการให้ กัดดาฟีลาออก มีการเลือกตั้งใหม่ และปกครองตามระบอบประชาธิปไตย แหม โรเนียวนี้ใช้จนเก่าเน่าแล้ว ไม่เปลี่ยนเลยหรือพี่ กัดดาฟี เป็นเผด็จการจริง มีทั้งพวกที่บอกว่า เขาทำประโยชน์ให้กับชาวลิเบีย และก็มีพวกที่บอกว่า เขาข่มขู่บังคับชาวลิเบีย จึงคงมีทั้งพวกที่รักเขา และพวกที่เกลียดเขา แต่ลองดูจากหลายสิ่งที่เขาทำให้กับชาวลิเบีย มันก็พอบอกได้ว่า เขาดี เลวอย่างไรกับลิเบีย – ชาวลิเบีย ได้รับการรักษาพยาบาล และเรียนหนังสือฟรี ( อย่าบอกนะว่า เหมือน 30 บาท รักษาทุกโรค) – ชาวลิเบียไม่ต้องเสียค่าไฟฟ้า – ชาวลิเบียกู้เงินไม่เสียดอกเบี้ยจากธนาคารของรัฐ ซึ่งใหญ่มาก และกัดดาฟีมีแผนจะสร้าง ให้มีเงินทุนมากกว่า World Bank เพื่อให้ ชาวอาฟริกันกู้ด้วย – รัฐบาลกัดดาฟี สร้างระบบชลประทานที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยการสร้างแม่น้ำทั่วประเทศ ชาวลิเบีย ไม่มีการขาดน้ำตลอดปี – ถ้าชาวลิเบียต้องการทำฟาร์มเพาะ ปลูก และเลี้ยงสัตว์ รัฐจะยกที่ดินให้ฟรี แถมปลูกบ้านให้ พร้อมแจกพันธ์ุพืชและสัตว์ ฟรีหมด เพราะรัฐสนับสนุนให้สร้าง “อาหาร” จะได้ไม่อดตาย – เมื่อหญิงชาวลิเบียคลอดลูก จะได้รับเงินช่วยจากรัฐ จำนวน 5 พันเหรียญ เขาสนับสนุนให้มีชาวลิเบียอยู่ในโลก ไม่ใช่ถูกตอนพันธ์ – รัฐบาลกัดดาฟี ยืนราคาน้ำมันขายในลิเบีย ที่ลิตรละ 14 เซ็นต์ (ประมาณ 5 บาท) – รัฐบาลกัดดาฟีส่งเสริมการศึกษา ก่อนเขาปกครอง มีคนอ่านหนังสือออกเพียง 25% ช่วง 40 ปี ที่กัดดาฟี ปกครองลิเบีย จำนวนคนอ่านหนังสือออก เพิ่มเป็นเกือบ 90% และมีคนศึกษาจบระดับปริญญา 25% TNC เป็นแนวหน้าที่นาโต้เตรียมไว้ให้ไปสู้ และตายแทนกองกำลังนาโต้ ส่วนทหารนาโต้ นั่งคอยดูผลงาน TNC ไปก่อน นี่เป็นเพียงก๊อก 1 ก๊อก 1 เริ่มงานด้วยการ ออกมาประท้วงกัดดาฟีตามเมืองต่างๆว่า เป็นเผด็จการ พวกเขาต้องการประชาธิปไตย และการประท้วงครั้งแรกในลืเบีย ก็เกิดขึ้นที่เมือง Cyrenaica เมืองที่เป็นแหล่งน้ำมันใหญ่ ทางตะวันออกของลิเบีย หลังจากนั้น การประท้วงก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และขยายตัวออกไป และในที่สุดก็ยึดเมืองสำคัญอย่าง เบงกาซี Benghazi ได้ หลังจากนั้น กระป๋องสีย้อมข่าวใบใหญ่ ซีเอนเอน ก็รับช่วงรายงานข่าวทุกวันว่า กัดดาฟี ชั่วช้า กระทำรุนแรง ตั้งใจฆ่าประชาชน ด้วยการเอาเครื่องบินมาถล่มพวกกบฏมือเปล่า แบบนี้นานาชาติใจบุญ จะทนดูชาวลิเบียโดนระเบิดทุกวันไหวยังไง อังกฤษกับฝรั่งเศส รีบถลาไปเอาหน้าเกือบไม่ทัน บอกว่าไม่ได้นะ แบบนี่มันละเมิดกฏ “No Fly Zone” ของสหประชาชาติ ว่าเข้าไปโน่น สหประชาชาติ เลยมีมติกำหนดเขตห้ามบิน No Fly Zone ตามเมืองต่างๆในลิเบีย เครื่องบินของฝ่ายรัฐบาลหรือกัดดาฟี บินไม่ได้ แต่ของกองกำลังผสมของนานาชาติบินได้ ทิ้งระเบิดได้ มีปัญหาไหม ไม่มีคร้าบ… พวกเอ็งมันใหญ่ค้ำโลกแล้ว ใครจะกล้ามีปัญหาด้วย ก๊อก 2 คือ กองกำลังผสมของนานาชาติ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อร่วมกันเชือด กัดดาฟี ทรัพยากรลิเบียแยะนัก กองกำลังร่วมเชือด เลยแยะตามไปด้วย หวังได้แบ่งส่วนบุญ กองกำลังผสม นำโดยอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา และลูกกระเป๋ง อย่าง กาต้าร์ สหรัฐเอมิเรต เบลเยี่ยม อิตาลี เดนมาร์ค นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์และสเปญ เอาชื่อมาโชว์ให้ดูหมด จะได้รู้ว่าใคร อยู่ตรงไหน… โถ นึกว่ารวยแล้วไม่ตะกระ …แถวบ้านผมเคยมี ที่รวยแล้ว ทั้งตะกระ ทั้งโกง…. ช่วงแรก กองกำลังผสมบัญชาการโดยอเมริกา ช่วงหลัง บัญชาการโดยนาโต้ ไม่รู้จะดัดจริต เปลี่ยนทำไม ยังไงอเมริกาก็คุมนาโต้อยู่แล้ว จริงๆ ช่วงแรก อเมริกานำ ก็เพราะต้องการจะเข้าลิเบียไปก่อนใคร เพื่อค้นหาสมบัติของกัดดาฟี โดยเฉพาะ พวกอาวุธที่แอบเก็บตามโกดังนั่นแหละ ใครๆ ก็อยากงาบต่อทั้งนั้น แล้วกองกำลังผสมของชาติต่างๆ บวกกองกำลังของนาโต้เอง บวกกองกำลังฝ่ายกบฏ บวกกองกำลังของผู้รับเหมา บวกกองกำลังทหารของอเมริกา (เอะ นี่ผมตกกองอะไร ของใครอีกไหม มันแยะ เละไปหมด) ก็ไล่ล่ากัดดาฟีอยู่ 8 เดือน กัดดาฟีหนีไปเมืองไหน ยิงกันอย่างไร บ้านเรือนพังฉิบหายขนาดไหน คนเจ็บคนตายนอนน่าสมเพชเกลื่อน ถนนเท่าไหร่ ไอ้กระป๋องใส่สีย้อมข่าว ซีเอนเอน รายงานข่าวละเอียดละออ ชาวบ้านได้ดูข่าวการไล่ล่า และไล่ฆ่า เป็นรายการสดทางทีวี ทุกวัน ทุกคืน เดือนมีนาคม ปี ค.ศ.2011 นาโต้ประกาศว่า ได้ทิ้งระเบิด ที่บริเวณบ้านใหญ่ ของกัดดาฟี ที่ทริโปลีรอบใหญ่ บ้านพังฉิบหายยับ แต่ยังไม่เจอกัดดาฟี ไม่ว่าเป็นหรือตาย แต่มีคนอื่นตายแทน เป็นลูกชายคนเล็กของกัดดาฟี และหลานปู่เล็กๆ อีก 3 คน เวร….. แล้วในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2011 กัดดาฟี ก็ถูกฆ่าตายที่เมืองบ้านเกิดของเขา Sirte ขณะที่อยู่กับกองกำลังของตัว ที่ล้อมหน้า ล้อมหลัง แต่มันมาทางจากข้างบน เป็นจรวดไล่ยิง จะไปคุ้มกันยังไงไหว เล่นยิงใส่ขบวนรถของพวกกัดดาฟี ที่กำลังขับหนีออกจาก Sirte รถกระเด็นพลิกคว่ำ บ้านเรือนแถบนั้นพังเป็นแถบ คนจะรอดหรือ แล้วกัดดาฟีพร้อมลูกชาย 2 คน และลูกน้องคนสนิทหลายคน ก็ตายเรียบ หลังจากนั้น เขาว่าพวกกบฏก็บุกเขาไปเอาร่างกัดดาฟีออกมา ลากไปตามถนนโห่ร้องยินดี บางข่าว บอกว่าเขาตายตั้งแต่โดนจรวด บางข่าวบอก เขายังไม่ตาย แค่เกือบ เขาหลุดออกมาจากรถ ไปแอบซ่อนตัวอยู่ในท่อ แต่มาตายตอนที่พวกกบฏลากตัวขึ้น มาจากท่อ ไปตามถนน ก่อนลาก ทุบเสียละเอียด ก่อน ทุบ จับแก้ผ้า และชำเราทางทวารหนักก่อน บางสื่อลงภาพเขานอนตาย หัวเป็นรู จากรอยกระสุน 2 วัน ก่อนที่กัดดาฟีจะถูกจับ คุณนายคลินตัน สตรีหน้าโหด ( ผมเห็นหน้าคุณนายในทีวีทีไร ฝันร้ายทุกที ผู้หญิงอะไร น่ากลัวชะมัด) ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ เดินทางไปที่เมือง ทริโปลี Tripoli ด้วยเครื่องบินทหาร ที่มีการคุ้มกันหลายชั้น แม้แต่แมลงวันที่คุ้นเคยกัน ก็คงเข้าไปตอมคุณนายไม่ถึง คุณนายประกาศเสียงดังฟังชัดว่า เราจะต้องจับตัวกัดดาฟี มาให้ได้ ไม่ว่า จับตาย หรือจับเป็น “dead or alive” นี่! มันยิ่งกว่าบทพระเอก ไปทำหน้าเศร้าที่ซูดานอีกนะ บทนี้มันเป็นบทนางสิงห์สั่งฆ่าเลย กัดดาฟี จะอย่างไรก็เป็นประมุขประเทศ เป็นประเทศเอกราช ไม่ได้เป็นขี้ข้าใคร ทำดี ทำชั่ว ศาลระหว่างประเทศมี อเมริกา และรัฐมนตรีต่างประเทศของตน ใช้สิทธิอะไร เที่ยวประกาศ ตัดสินว่า ประเทศไหน ต้องมีนโยบายอย่างไร ประมุขประเทศ ต้องทำตัวอย่างไร ตามใจอเมริกาอย่างไร ถ้าไม่ถูกใจนี่ อเมริกา สั่งฆ่าได้เลยหรือ เรื่องนี้ผมรับไม่ได้จริงๆ และสะอิดสะเอียนที่สุด เรื่องนี้ สำนักข่าว Associated Press รายงานข่าวว่า … นางคลินตันพูดแบบไม่อ้อมค้อมเป็นพิเศษว่า อเมริกา ต้องการเห็น อดีตเผด็จการ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ถึงแก่ความตาย…. … เราหวังว่า เขาจะถูกจับ หรือถูก ฆ่า เพื่อพวกคุณจะได้ไม่ต้องกลัวเขาอีกต่อไป .. Clinton declared in unusually blunt terms that the United States would like to see former dictator Muammar Gaddafi dead.. …We hope he can be captured or killed soon so that you don’t have to fear him any longer… สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 19 ก.ย. 2558
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 676 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์ข้อมูลล่มเพราะระบบทำความเย็นเสีย

    เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน CME ต้องหยุดการซื้อขายทั่วโลก เนื่องจาก ระบบทำความเย็นในศูนย์ข้อมูล CyrusOne เกิดความขัดข้อง ส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ประมวลผลการซื้อขายไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ทีมวิศวกรและผู้รับเหมาถูกเรียกเข้ามาแก้ไขทันที โดยมีการรีสตาร์ทเครื่องทำความเย็นบางส่วนและติดตั้งอุปกรณ์เสริมชั่วคราวเพื่อพยายามฟื้นฟูระบบ

    ผลกระทบต่อการซื้อขายทั่วโลก
    CME เป็นตลาดอนุพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมการซื้อขายตั้งแต่สินค้าเกษตร พลังงาน ดัชนีหุ้น ไปจนถึงคริปโตและอัตราดอกเบี้ย การหยุดชะงักครั้งนี้จึงส่งผลกระทบไปถึง ลอนดอน กัวลาลัมเปอร์ และยุโรป โดยเฉพาะตลาดพันธบัตรและรีโปในยุโรปที่ต้องหยุดทำการ ขณะที่ BrokerTec US และ EU สามารถกลับมาเปิดได้บางส่วน แต่ระบบอื่น ๆ ยังคงหยุดอยู่

    เวลาและความรุนแรงของเหตุการณ์
    เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเช้าวันศุกร์หลังวันหยุด ทำให้ผลกระทบในตลาดสหรัฐฯ ค่อนข้างจำกัด แต่ในตลาดเอเชียและยุโรปกลับได้รับผลกระทบหนักกว่า เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีการซื้อขายหนาแน่น เหตุการณ์นี้ยังสะท้อนถึง ความเสี่ยงของการพึ่งพาระบบเดียว ในการขับเคลื่อนธุรกรรมระดับโลกที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์

    ความหมายต่ออนาคตของโครงสร้างพื้นฐานการเงิน
    การหยุดชะงักครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ใหญ่ที่สุดของ CME และเป็นสัญญาณเตือนว่าการจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและพลังงานมีความสำคัญต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโลก การลงทุนในระบบสำรองและการกระจายความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งที่ตลาดการเงินต้องให้ความสำคัญมากขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สาเหตุของการหยุดชะงัก
    ระบบทำความเย็นในศูนย์ข้อมูล CyrusOne ขัดข้อง
    ทีมวิศวกรต้องรีสตาร์ทและติดตั้งอุปกรณ์เสริมชั่วคราว

    ผลกระทบต่อการซื้อขาย
    ตลาดอนุพันธ์ CME ครอบคลุมการซื้อขายทั่วโลก
    ตลาดยุโรปและเอเชียได้รับผลกระทบหนักที่สุด

    เวลาและความรุนแรง
    เกิดขึ้นเช้าวันศุกร์หลังวันหยุด ทำให้ตลาดสหรัฐฯ กระทบจำกัด
    ตลาดยุโรปและเอเชียได้รับผลกระทบมากกว่า

    ความหมายต่ออนาคต
    สะท้อนความเสี่ยงจากการพึ่งพาระบบเดียว
    จำเป็นต้องลงทุนในระบบสำรองและการกระจายความเสี่ยง

    คำเตือนจากเหตุการณ์
    การหยุดชะงักของโครงสร้างพื้นฐาน IT สามารถกระทบเศรษฐกิจโลกทันที
    ตลาดการเงินต้องเตรียมแผนสำรองเพื่อป้องกันการล่มซ้ำอีกครั้ง

    https://www.tomshardware.com/desktops/servers/data-center-cooling-issue-halts-worlds-largest-derivatives-exchange-cme-trading-shutdown-ripples-across-malaysia-uk-and-eu-markets
    🌡️ ศูนย์ข้อมูลล่มเพราะระบบทำความเย็นเสีย เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน CME ต้องหยุดการซื้อขายทั่วโลก เนื่องจาก ระบบทำความเย็นในศูนย์ข้อมูล CyrusOne เกิดความขัดข้อง ส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ประมวลผลการซื้อขายไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ทีมวิศวกรและผู้รับเหมาถูกเรียกเข้ามาแก้ไขทันที โดยมีการรีสตาร์ทเครื่องทำความเย็นบางส่วนและติดตั้งอุปกรณ์เสริมชั่วคราวเพื่อพยายามฟื้นฟูระบบ 💹 ผลกระทบต่อการซื้อขายทั่วโลก CME เป็นตลาดอนุพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมการซื้อขายตั้งแต่สินค้าเกษตร พลังงาน ดัชนีหุ้น ไปจนถึงคริปโตและอัตราดอกเบี้ย การหยุดชะงักครั้งนี้จึงส่งผลกระทบไปถึง ลอนดอน กัวลาลัมเปอร์ และยุโรป โดยเฉพาะตลาดพันธบัตรและรีโปในยุโรปที่ต้องหยุดทำการ ขณะที่ BrokerTec US และ EU สามารถกลับมาเปิดได้บางส่วน แต่ระบบอื่น ๆ ยังคงหยุดอยู่ 🕒 เวลาและความรุนแรงของเหตุการณ์ เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเช้าวันศุกร์หลังวันหยุด ทำให้ผลกระทบในตลาดสหรัฐฯ ค่อนข้างจำกัด แต่ในตลาดเอเชียและยุโรปกลับได้รับผลกระทบหนักกว่า เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มีการซื้อขายหนาแน่น เหตุการณ์นี้ยังสะท้อนถึง ความเสี่ยงของการพึ่งพาระบบเดียว ในการขับเคลื่อนธุรกรรมระดับโลกที่มีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ 🌍 ความหมายต่ออนาคตของโครงสร้างพื้นฐานการเงิน การหยุดชะงักครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ใหญ่ที่สุดของ CME และเป็นสัญญาณเตือนว่าการจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและพลังงานมีความสำคัญต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโลก การลงทุนในระบบสำรองและการกระจายความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งที่ตลาดการเงินต้องให้ความสำคัญมากขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สาเหตุของการหยุดชะงัก ➡️ ระบบทำความเย็นในศูนย์ข้อมูล CyrusOne ขัดข้อง ➡️ ทีมวิศวกรต้องรีสตาร์ทและติดตั้งอุปกรณ์เสริมชั่วคราว ✅ ผลกระทบต่อการซื้อขาย ➡️ ตลาดอนุพันธ์ CME ครอบคลุมการซื้อขายทั่วโลก ➡️ ตลาดยุโรปและเอเชียได้รับผลกระทบหนักที่สุด ✅ เวลาและความรุนแรง ➡️ เกิดขึ้นเช้าวันศุกร์หลังวันหยุด ทำให้ตลาดสหรัฐฯ กระทบจำกัด ➡️ ตลาดยุโรปและเอเชียได้รับผลกระทบมากกว่า ✅ ความหมายต่ออนาคต ➡️ สะท้อนความเสี่ยงจากการพึ่งพาระบบเดียว ➡️ จำเป็นต้องลงทุนในระบบสำรองและการกระจายความเสี่ยง ‼️ คำเตือนจากเหตุการณ์ ⛔ การหยุดชะงักของโครงสร้างพื้นฐาน IT สามารถกระทบเศรษฐกิจโลกทันที ⛔ ตลาดการเงินต้องเตรียมแผนสำรองเพื่อป้องกันการล่มซ้ำอีกครั้ง https://www.tomshardware.com/desktops/servers/data-center-cooling-issue-halts-worlds-largest-derivatives-exchange-cme-trading-shutdown-ripples-across-malaysia-uk-and-eu-markets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนสงสัยวัวแต่ไอซ์ตอบควาย ไม่ตอบว่าเอาเงินจากมาบริจาค 2 แสน แต่บอกต้องบริจาคเพราะพรรคไม่มีทุนพลังงาน ทุนค้าปลีก ทุนผู้รับเหมา อ้าวๆ แสดงว่า ทุนชิ้นส่วนยานยนต์ของพรรค เลิกช่วยเหลือพรรคแล้ว
    #คิงส์โพธิ์แดง
    คนสงสัยวัวแต่ไอซ์ตอบควาย ไม่ตอบว่าเอาเงินจากมาบริจาค 2 แสน แต่บอกต้องบริจาคเพราะพรรคไม่มีทุนพลังงาน ทุนค้าปลีก ทุนผู้รับเหมา อ้าวๆ แสดงว่า ทุนชิ้นส่วนยานยนต์ของพรรค เลิกช่วยเหลือพรรคแล้ว #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • UNC1549 ขยายการโจมตีสู่อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ

    ตั้งแต่กลางปี 2024 กลุ่ม UNC1549 ได้เพิ่มการโจมตีที่มุ่งเป้าไปยังบริษัทด้านการบินและอวกาศ รวมถึงผู้รับเหมาด้านกลาโหม โดยใช้วิธีการที่ซับซ้อน เช่น การเจาะผ่านซัพพลายเชน และ การส่ง spear-phishing แบบเจาะจงบุคคล เพื่อเข้าถึงระบบที่มีการป้องกันสูง

    เทคนิคที่ใช้: DLL Hijacking และ VDI Breakouts
    UNC1549 ใช้ DLL search order hijacking เพื่อรันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่ในซอฟต์แวร์ที่เชื่อถือได้ เช่น Citrix, VMware และ Microsoft นอกจากนี้ยังใช้ VDI Breakouts เพื่อหลบหนีข้อจำกัดของระบบ virtualization เช่น Citrix Virtual Desktop และ Azure Virtual Desktop ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายภายในระบบได้อย่างลับๆ

    มัลแวร์เฉพาะทางที่ถูกพัฒนา
    นักวิจัยพบมัลแวร์หลายตัวที่ UNC1549 ใช้ เช่น TWOSTROKE, MINIBIKE, DEEPROOT, LIGHTRAIL, CRASHPAD, SIGHTGRAB โดยแต่ละตัวมีความสามารถเฉพาะ เช่น การขโมย credential, การจับภาพหน้าจอ, การสร้าง backdoor ผ่าน Azure WebSocket และการใช้ Golang เพื่อสร้าง backdoor บน Linux จุดเด่นคือ ทุก payload มี hash ที่ไม่ซ้ำกัน ทำให้การตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ยากขึ้นมาก

    ความเสี่ยงและผลกระทบ
    การโจมตีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาซัพพลายเชนและซอฟต์แวร์ที่เชื่อถือได้ เพราะแม้ระบบหลักจะมีการป้องกันเข้มงวด แต่การเจาะผ่านพันธมิตรหรือผู้รับเหมาที่เชื่อมต่อกับระบบก็สามารถเปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลสำคัญ เช่น เอกสารด้าน IT, ทรัพย์สินทางปัญญา และอีเมลภายในองค์กร

    สรุปสาระสำคัญ
    การโจมตีของ UNC1549
    มุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมการบิน, อวกาศ และกลาโหม
    ใช้ spear-phishing และการเจาะผ่านซัพพลายเชน

    เทคนิคที่ใช้
    DLL Hijacking บนซอฟต์แวร์ที่เชื่อถือได้ (Citrix, VMware, Microsoft)
    VDI Breakouts เพื่อหลบหนีข้อจำกัด virtualization

    มัลแวร์ที่พบ
    TWOSTROKE: backdoor ที่เข้ารหัส SSL
    LIGHTRAIL: tunneler ผ่าน Azure WebSocket
    DEEPROOT: Golang backdoor บน Linux
    CRASHPAD และ SIGHTGRAB: ขโมย credential และจับภาพหน้าจอ

    คำเตือนจากเหตุการณ์
    การพึ่งพาซัพพลายเชนที่เชื่อมต่อกับระบบหลักเป็นช่องโหว่สำคัญ
    Payload ที่มี hash ไม่ซ้ำกันทำให้การตรวจสอบยากขึ้น
    องค์กรควรเสริมการตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่เชื่อถือได้และระบบ virtualization

    https://securityonline.info/iranian-apt-unc1549-infiltrates-aerospace-by-hijacking-trusted-dlls-and-executing-vdi-breakouts/
    ✈️ UNC1549 ขยายการโจมตีสู่อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ ตั้งแต่กลางปี 2024 กลุ่ม UNC1549 ได้เพิ่มการโจมตีที่มุ่งเป้าไปยังบริษัทด้านการบินและอวกาศ รวมถึงผู้รับเหมาด้านกลาโหม โดยใช้วิธีการที่ซับซ้อน เช่น การเจาะผ่านซัพพลายเชน และ การส่ง spear-phishing แบบเจาะจงบุคคล เพื่อเข้าถึงระบบที่มีการป้องกันสูง 🛠️ เทคนิคที่ใช้: DLL Hijacking และ VDI Breakouts UNC1549 ใช้ DLL search order hijacking เพื่อรันมัลแวร์ที่ซ่อนอยู่ในซอฟต์แวร์ที่เชื่อถือได้ เช่น Citrix, VMware และ Microsoft นอกจากนี้ยังใช้ VDI Breakouts เพื่อหลบหนีข้อจำกัดของระบบ virtualization เช่น Citrix Virtual Desktop และ Azure Virtual Desktop ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายภายในระบบได้อย่างลับๆ 🧩 มัลแวร์เฉพาะทางที่ถูกพัฒนา นักวิจัยพบมัลแวร์หลายตัวที่ UNC1549 ใช้ เช่น TWOSTROKE, MINIBIKE, DEEPROOT, LIGHTRAIL, CRASHPAD, SIGHTGRAB โดยแต่ละตัวมีความสามารถเฉพาะ เช่น การขโมย credential, การจับภาพหน้าจอ, การสร้าง backdoor ผ่าน Azure WebSocket และการใช้ Golang เพื่อสร้าง backdoor บน Linux จุดเด่นคือ ทุก payload มี hash ที่ไม่ซ้ำกัน ทำให้การตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ยากขึ้นมาก ⚠️ ความเสี่ยงและผลกระทบ การโจมตีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาซัพพลายเชนและซอฟต์แวร์ที่เชื่อถือได้ เพราะแม้ระบบหลักจะมีการป้องกันเข้มงวด แต่การเจาะผ่านพันธมิตรหรือผู้รับเหมาที่เชื่อมต่อกับระบบก็สามารถเปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลสำคัญ เช่น เอกสารด้าน IT, ทรัพย์สินทางปัญญา และอีเมลภายในองค์กร 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การโจมตีของ UNC1549 ➡️ มุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมการบิน, อวกาศ และกลาโหม ➡️ ใช้ spear-phishing และการเจาะผ่านซัพพลายเชน ✅ เทคนิคที่ใช้ ➡️ DLL Hijacking บนซอฟต์แวร์ที่เชื่อถือได้ (Citrix, VMware, Microsoft) ➡️ VDI Breakouts เพื่อหลบหนีข้อจำกัด virtualization ✅ มัลแวร์ที่พบ ➡️ TWOSTROKE: backdoor ที่เข้ารหัส SSL ➡️ LIGHTRAIL: tunneler ผ่าน Azure WebSocket ➡️ DEEPROOT: Golang backdoor บน Linux ➡️ CRASHPAD และ SIGHTGRAB: ขโมย credential และจับภาพหน้าจอ ‼️ คำเตือนจากเหตุการณ์ ⛔ การพึ่งพาซัพพลายเชนที่เชื่อมต่อกับระบบหลักเป็นช่องโหว่สำคัญ ⛔ Payload ที่มี hash ไม่ซ้ำกันทำให้การตรวจสอบยากขึ้น ⛔ องค์กรควรเสริมการตรวจสอบซอฟต์แวร์ที่เชื่อถือได้และระบบ virtualization https://securityonline.info/iranian-apt-unc1549-infiltrates-aerospace-by-hijacking-trusted-dlls-and-executing-vdi-breakouts/
    SECURITYONLINE.INFO
    Iranian APT UNC1549 Infiltrates Aerospace by Hijacking Trusted DLLs and Executing VDI Breakouts
    Mandiant exposed UNC1549, an Iranian APT, using DLL search order hijacking on Citrix/VMware to deploy TWOSTROKE and DCSYNCER.SLICK. The group performs VDI breakouts for long-term espionage.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 327 มุมมอง 0 รีวิว
  • SpyCloud เผย 10 แนวโน้มภัยไซเบอร์ปี 2026

    SpyCloud ได้เปิดรายงานใหม่ที่ชื่อว่า The Identity Security Reckoning: 2025 Lessons, 2026 Predictions โดยเน้นไปที่ภัยคุกคามด้าน Identity Security ที่จะส่งผลกระทบต่อองค์กรทั่วโลกในปี 2026 รายงานนี้ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของกลยุทธ์อาชญากรไซเบอร์และการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทำให้การป้องกันยากขึ้น

    นี่คือ 10 แนวโน้มภัยไซเบอร์ปี 2026 ที่ SpyCloud คาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่อ Identity Security โดยตรง:

    0️⃣1️⃣ - Supply Chain อาชญากรไซเบอร์เปลี่ยนรูปแบบ
    Malware-as-a-Service และ Phishing-as-a-Service จะยังคงเป็นแกนหลัก
    มีการแบ่งบทบาทเฉพาะ เช่น ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน, นักพัฒนาเครื่องมือ, ตัวกลางขายการเข้าถึง

    0️⃣2️⃣ - ชุมชนผู้โจมตีแตกตัวและอายุน้อยลง
    ผู้โจมตีย้ายจาก darknet forums ไปสู่แอป mainstream
    วัยรุ่นเข้ามาทดลองใช้ชุดโจมตีสำเร็จรูปเพื่อชื่อเสียงหรือผลกำไร

    0️⃣3️⃣ - การระบุตัวตนแบบไม่ใช่มนุษย์ (NHI) ระเบิดตัว
    API, OAuth tokens และ service accounts เพิ่มจำนวนมากขึ้น
    ขาดการป้องกันเหมือนบัญชีมนุษย์ ทำให้เกิดช่องโหว่ซ่อนอยู่

    0️⃣4️⃣ - ภัยจาก Insider Threats เพิ่มขึ้น
    เกิดจากการควบรวมกิจการ (M&A), มัลแวร์ และการเข้าถึงที่ผิดพลาด
    Nation-state actors ใช้การปลอมตัวเป็นพนักงานเพื่อเจาะระบบ

    0️⃣5️⃣ - AI-enabled Cybercrime เริ่มต้นจริงจัง
    ใช้ AI สร้างมัลแวร์ที่ซับซ้อนขึ้น
    Phishing ที่สมจริงและตรวจจับยากมากขึ้น

    0️⃣6️⃣ - การโจมตี MFA และ Session Defense
    ใช้ residential proxies, anti-detect browsers และ Adversary-in-the-Middle (AiTM)
    ขโมย cookies และ bypass การตรวจสอบอุปกรณ์

    0️⃣7️⃣ - Vendor และ Contractor กลายเป็นช่องโหว่หลัก
    ผู้โจมตีใช้บัญชีของผู้รับเหมาหรือพันธมิตรเพื่อเข้าถึงระบบองค์กร
    โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี, โทรคมนาคม และซัพพลายเชนซอฟต์แวร์

    0️⃣8️⃣ - 🪪 Synthetic Identities ฉลาดขึ้นและตรวจจับยากขึ้น
    ใช้ข้อมูลจริงผสมกับ AI-generated persona และ deepfake
    หลอกระบบตรวจสอบตัวตนของธนาคารและบริการทางการเงิน

    0️⃣9️⃣ - Combolists และ Megabreaches สร้างความสับสน
    ข้อมูลรั่วไหลจำนวนมหาศาลถูกนำมาปั่นใหม่เพื่อสร้างความตื่นตระหนก
    ทำให้ความสนใจถูกเบี่ยงเบนจากภัยจริงที่กำลังเกิดขึ้น

    1️⃣0️⃣ - ทีม Cybersecurity ต้องปรับโครงสร้างใหม่
    Identity Security จะกลายเป็นแกนกลางของการป้องกัน
    ต้องเน้นการทำงานร่วมกันข้ามทีม, ใช้ automation และ holistic intelligence

    https://securityonline.info/spycloud-unveils-top-10-cybersecurity-predictions-poised-to-disrupt-identity-security-in-2026/
    🔐 SpyCloud เผย 10 แนวโน้มภัยไซเบอร์ปี 2026 SpyCloud ได้เปิดรายงานใหม่ที่ชื่อว่า The Identity Security Reckoning: 2025 Lessons, 2026 Predictions โดยเน้นไปที่ภัยคุกคามด้าน Identity Security ที่จะส่งผลกระทบต่อองค์กรทั่วโลกในปี 2026 รายงานนี้ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของกลยุทธ์อาชญากรไซเบอร์และการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทำให้การป้องกันยากขึ้น นี่คือ 10 แนวโน้มภัยไซเบอร์ปี 2026 ที่ SpyCloud คาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่อ Identity Security โดยตรง: 0️⃣1️⃣ - 🧩 Supply Chain อาชญากรไซเบอร์เปลี่ยนรูปแบบ 🔰 Malware-as-a-Service และ Phishing-as-a-Service จะยังคงเป็นแกนหลัก 🔰 มีการแบ่งบทบาทเฉพาะ เช่น ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน, นักพัฒนาเครื่องมือ, ตัวกลางขายการเข้าถึง 0️⃣2️⃣ - 👥 ชุมชนผู้โจมตีแตกตัวและอายุน้อยลง 🔰 ผู้โจมตีย้ายจาก darknet forums ไปสู่แอป mainstream 🔰 วัยรุ่นเข้ามาทดลองใช้ชุดโจมตีสำเร็จรูปเพื่อชื่อเสียงหรือผลกำไร 0️⃣3️⃣ - 🤖 การระบุตัวตนแบบไม่ใช่มนุษย์ (NHI) ระเบิดตัว 🔰 API, OAuth tokens และ service accounts เพิ่มจำนวนมากขึ้น 🔰 ขาดการป้องกันเหมือนบัญชีมนุษย์ ทำให้เกิดช่องโหว่ซ่อนอยู่ 0️⃣4️⃣ - 🕵️‍♀️ ภัยจาก Insider Threats เพิ่มขึ้น 🔰 เกิดจากการควบรวมกิจการ (M&A), มัลแวร์ และการเข้าถึงที่ผิดพลาด 🔰 Nation-state actors ใช้การปลอมตัวเป็นพนักงานเพื่อเจาะระบบ 0️⃣5️⃣ - ⚡ AI-enabled Cybercrime เริ่มต้นจริงจัง 🔰 ใช้ AI สร้างมัลแวร์ที่ซับซ้อนขึ้น 🔰 Phishing ที่สมจริงและตรวจจับยากมากขึ้น 0️⃣6️⃣ - 🔑 การโจมตี MFA และ Session Defense 🔰 ใช้ residential proxies, anti-detect browsers และ Adversary-in-the-Middle (AiTM) 🔰 ขโมย cookies และ bypass การตรวจสอบอุปกรณ์ 0️⃣7️⃣ - 🏗️ Vendor และ Contractor กลายเป็นช่องโหว่หลัก 🔰 ผู้โจมตีใช้บัญชีของผู้รับเหมาหรือพันธมิตรเพื่อเข้าถึงระบบองค์กร 🔰 โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี, โทรคมนาคม และซัพพลายเชนซอฟต์แวร์ 0️⃣8️⃣ - 🪪 Synthetic Identities ฉลาดขึ้นและตรวจจับยากขึ้น 🔰 ใช้ข้อมูลจริงผสมกับ AI-generated persona และ deepfake 🔰 หลอกระบบตรวจสอบตัวตนของธนาคารและบริการทางการเงิน 0️⃣9️⃣ - 📊 Combolists และ Megabreaches สร้างความสับสน 🔰 ข้อมูลรั่วไหลจำนวนมหาศาลถูกนำมาปั่นใหม่เพื่อสร้างความตื่นตระหนก 🔰 ทำให้ความสนใจถูกเบี่ยงเบนจากภัยจริงที่กำลังเกิดขึ้น 1️⃣0️⃣ - 🛡️ ทีม Cybersecurity ต้องปรับโครงสร้างใหม่ 🔰 Identity Security จะกลายเป็นแกนกลางของการป้องกัน 🔰 ต้องเน้นการทำงานร่วมกันข้ามทีม, ใช้ automation และ holistic intelligence https://securityonline.info/spycloud-unveils-top-10-cybersecurity-predictions-poised-to-disrupt-identity-security-in-2026/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 347 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับคาห้องทำงาน! บิ๊กเต่า-ปปป.-ปปท. ซ้อนแผน รวบเลขานายกอบต.-พวก ขู่ผู้รับเหมาถมดิน รีดเงิน 6.5 ล.แลกใบอนุญาตก่อสร้าง
    https://www.thai-tai.tv/news/22307/
    .
    #ไทยไท #จรูญเกียรติปานแก้ว #อบต.หัวหว้า #สินบน #ปปท. #ทุจริต
    จับคาห้องทำงาน! บิ๊กเต่า-ปปป.-ปปท. ซ้อนแผน รวบเลขานายกอบต.-พวก ขู่ผู้รับเหมาถมดิน รีดเงิน 6.5 ล.แลกใบอนุญาตก่อสร้าง https://www.thai-tai.tv/news/22307/ . #ไทยไท #จรูญเกียรติปานแก้ว #อบต.หัวหว้า #สินบน #ปปท. #ทุจริต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อคู่ค้าอาจกลายเป็นช่องโหว่: ทำไมองค์กรต้องจริงจังกับการประเมินความเสี่ยงจากผู้ขาย

    ในยุคที่ระบบดิจิทัลขององค์กรไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภายใน แต่แผ่ขยายไปถึงผู้ให้บริการภายนอก คลาวด์ซัพพลายเออร์ และผู้รับเหมาช่วง การประเมินความเสี่ยงจากผู้ขาย (Vendor Risk Assessment) จึงกลายเป็นหัวใจของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์.

    ความเสี่ยงจากเครือข่ายผู้ขายที่ขยายตัว
    องค์กรสมัยใหม่พึ่งพาผู้ขายจำนวนมาก ตั้งแต่ระบบคลาวด์ไปจนถึงแพลตฟอร์มการตลาด ซึ่งแม้จะช่วยให้ธุรกิจคล่องตัวขึ้น แต่ก็เปิดช่องให้เกิดการโจมตีทางไซเบอร์ผ่าน “จุดอ่อน” ที่องค์กรอาจไม่ทันระวัง เช่น:
    การเคลื่อนย้ายเข้าสู่ระบบหลัก (lateral movement)
    การขโมยข้อมูลสำคัญ
    การหยุดชะงักของบริการ
    การเปิดเผยข้อมูลลูกค้า

    การประเมินความเสี่ยงที่มีคุณภาพควรเป็นอย่างไร
    การประเมิน Vendor Risk ที่ดีไม่ใช่แค่การกรอกแบบสอบถาม แต่ต้องมีองค์ประกอบที่ครอบคลุม:
    การจัดทำรายการผู้ขายและการจัดระดับความสำคัญ
    การประเมินการควบคุมด้านความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัส การตอบสนองเหตุการณ์
    การติดตามความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง
    การกำหนดข้อกำหนดในสัญญา เช่น สิทธิ์ในการตรวจสอบ การแจ้งเหตุละเมิด
    การตรวจสอบผู้ขายช่วง (third-party และ fourth-party)

    การผสาน Vendor Risk เข้ากับกลยุทธ์ไซเบอร์ขององค์กร
    การประเมิน Vendor Risk ไม่ใช่แค่เรื่องของการปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ไซเบอร์ที่ดี:
    เพิ่มการมองเห็นและควบคุมระบบภายนอก
    ลดพื้นที่เสี่ยงจากการโจมตี
    ปรับปรุงการตอบสนองเหตุการณ์
    สอดคล้องกับมาตรฐาน เช่น NIST CSF, ISO 27001

    อนาคตของ Vendor Risk: AI และการวิเคราะห์ซัพพลายเชน
    องค์กรชั้นนำเริ่มใช้ AI และ Machine Learning เพื่อ:
    ตรวจจับสัญญาณความเสี่ยงจากผู้ขายแบบเรียลไทม์
    วิเคราะห์เส้นทางความเสี่ยงในซัพพลายเชน
    แจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงโปรไฟล์ความเสี่ยงของผู้ขาย

    สรุปเนื้อหาสำคัญและคำเตือน
    ความสำคัญของ Vendor Risk
    ผู้ขายที่อ่อนแออาจเปิดช่องให้โจมตีระบบหลัก
    ความเสี่ยงจากผู้ขายคือความเสี่ยงของธุรกิจ
    การประเมินผู้ขายเป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงปลอดภัย

    องค์ประกอบของการประเมินที่ดี
    จัดระดับผู้ขายตามความสำคัญ
    ตรวจสอบการควบคุมด้านความปลอดภัย
    ติดตามความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง
    กำหนดข้อกำหนดในสัญญาอย่างชัดเจน
    ตรวจสอบผู้ขายช่วงที่เกี่ยวข้อง

    การผสานกับกลยุทธ์ไซเบอร์
    เพิ่มการควบคุมและการมองเห็น
    ลดพื้นที่เสี่ยง
    ปรับปรุงการตอบสนองเหตุการณ์
    สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

    เทคโนโลยีใหม่ในการประเมิน
    ใช้ AI และ Machine Learning วิเคราะห์ความเสี่ยง
    แจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงโปรไฟล์ผู้ขาย
    วิเคราะห์เส้นทางความเสี่ยงในซัพพลายเชน

    ความเสี่ยงจากการละเลย Vendor Risk
    อาจถูกโจมตีผ่านผู้ขายที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ
    เสียหายทั้งด้านการดำเนินงาน กฎหมาย และชื่อเสียง

    ความเสี่ยงจากการประเมินไม่ต่อเนื่อง
    ความเสี่ยงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
    การประเมินครั้งเดียวไม่เพียงพอ ต้องมีการติดตามต่อเนื่อง

    https://hackread.com/organizations-vendor-risk-assessment-cyber-threat-landscape/
    🛡️🌐 เมื่อคู่ค้าอาจกลายเป็นช่องโหว่: ทำไมองค์กรต้องจริงจังกับการประเมินความเสี่ยงจากผู้ขาย ในยุคที่ระบบดิจิทัลขององค์กรไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภายใน แต่แผ่ขยายไปถึงผู้ให้บริการภายนอก คลาวด์ซัพพลายเออร์ และผู้รับเหมาช่วง การประเมินความเสี่ยงจากผู้ขาย (Vendor Risk Assessment) จึงกลายเป็นหัวใจของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์. 📦 ความเสี่ยงจากเครือข่ายผู้ขายที่ขยายตัว องค์กรสมัยใหม่พึ่งพาผู้ขายจำนวนมาก ตั้งแต่ระบบคลาวด์ไปจนถึงแพลตฟอร์มการตลาด ซึ่งแม้จะช่วยให้ธุรกิจคล่องตัวขึ้น แต่ก็เปิดช่องให้เกิดการโจมตีทางไซเบอร์ผ่าน “จุดอ่อน” ที่องค์กรอาจไม่ทันระวัง เช่น: 🔰 การเคลื่อนย้ายเข้าสู่ระบบหลัก (lateral movement) 🔰 การขโมยข้อมูลสำคัญ 🔰 การหยุดชะงักของบริการ 🔰 การเปิดเผยข้อมูลลูกค้า 🔍 การประเมินความเสี่ยงที่มีคุณภาพควรเป็นอย่างไร การประเมิน Vendor Risk ที่ดีไม่ใช่แค่การกรอกแบบสอบถาม แต่ต้องมีองค์ประกอบที่ครอบคลุม: 🔰 การจัดทำรายการผู้ขายและการจัดระดับความสำคัญ 🔰 การประเมินการควบคุมด้านความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัส การตอบสนองเหตุการณ์ 🔰 การติดตามความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง 🔰 การกำหนดข้อกำหนดในสัญญา เช่น สิทธิ์ในการตรวจสอบ การแจ้งเหตุละเมิด 🔰 การตรวจสอบผู้ขายช่วง (third-party และ fourth-party) 🧠 การผสาน Vendor Risk เข้ากับกลยุทธ์ไซเบอร์ขององค์กร การประเมิน Vendor Risk ไม่ใช่แค่เรื่องของการปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ไซเบอร์ที่ดี: 🔰 เพิ่มการมองเห็นและควบคุมระบบภายนอก 🔰 ลดพื้นที่เสี่ยงจากการโจมตี 🔰 ปรับปรุงการตอบสนองเหตุการณ์ 🔰 สอดคล้องกับมาตรฐาน เช่น NIST CSF, ISO 27001 🤖 อนาคตของ Vendor Risk: AI และการวิเคราะห์ซัพพลายเชน องค์กรชั้นนำเริ่มใช้ AI และ Machine Learning เพื่อ: 🔰 ตรวจจับสัญญาณความเสี่ยงจากผู้ขายแบบเรียลไทม์ 🔰 วิเคราะห์เส้นทางความเสี่ยงในซัพพลายเชน 🔰 แจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงโปรไฟล์ความเสี่ยงของผู้ขาย 📌 สรุปเนื้อหาสำคัญและคำเตือน ✅ ความสำคัญของ Vendor Risk ➡️ ผู้ขายที่อ่อนแออาจเปิดช่องให้โจมตีระบบหลัก ➡️ ความเสี่ยงจากผู้ขายคือความเสี่ยงของธุรกิจ ➡️ การประเมินผู้ขายเป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงปลอดภัย ✅ องค์ประกอบของการประเมินที่ดี ➡️ จัดระดับผู้ขายตามความสำคัญ ➡️ ตรวจสอบการควบคุมด้านความปลอดภัย ➡️ ติดตามความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง ➡️ กำหนดข้อกำหนดในสัญญาอย่างชัดเจน ➡️ ตรวจสอบผู้ขายช่วงที่เกี่ยวข้อง ✅ การผสานกับกลยุทธ์ไซเบอร์ ➡️ เพิ่มการควบคุมและการมองเห็น ➡️ ลดพื้นที่เสี่ยง ➡️ ปรับปรุงการตอบสนองเหตุการณ์ ➡️ สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ✅ เทคโนโลยีใหม่ในการประเมิน ➡️ ใช้ AI และ Machine Learning วิเคราะห์ความเสี่ยง ➡️ แจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงโปรไฟล์ผู้ขาย ➡️ วิเคราะห์เส้นทางความเสี่ยงในซัพพลายเชน ‼️ ความเสี่ยงจากการละเลย Vendor Risk ⛔ อาจถูกโจมตีผ่านผู้ขายที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ ⛔ เสียหายทั้งด้านการดำเนินงาน กฎหมาย และชื่อเสียง ‼️ ความเสี่ยงจากการประเมินไม่ต่อเนื่อง ⛔ ความเสี่ยงเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ⛔ การประเมินครั้งเดียวไม่เพียงพอ ต้องมีการติดตามต่อเนื่อง https://hackread.com/organizations-vendor-risk-assessment-cyber-threat-landscape/
    HACKREAD.COM
    Why Organizations Can’t Ignore Vendor Risk Assessment in Today’s Cyber-Threat Landscape
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • SpaceX รับดีล $2 พันล้านจากโครงการ Golden Dome ของทรัมป์ — เตรียมส่งดาวเทียม 600 ดวงติดตามภัยคุกคามทางอากาศ

    SpaceX ของ Elon Musk คาดว่าจะได้รับเงินทุนกว่า $2 พันล้านจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เพื่อร่วมพัฒนาโครงการ Golden Dome ซึ่งเป็นระบบป้องกันขีปนาวุธระดับชาติที่ใช้ดาวเทียมกว่า 600 ดวงในการติดตามเป้าหมายเคลื่อนที่ทางอากาศ

    Golden Dome เป็นโครงการป้องกันขีปนาวุธที่ประกาศโดยประธานาธิบดี Donald Trump และรัฐมนตรี Pete Hegseth ในเดือนพฤษภาคม 2025 โดยมีเป้าหมายสร้างระบบป้องกันที่สามารถสกัดขีปนาวุธจากทุกทิศทาง — แม้แต่จากอวกาศ

    SpaceX จะมีบทบาทสำคัญในระบบ “Air Moving Target Indicator” ซึ่งใช้ดาวเทียมกว่า 600 ดวงในการติดตามเป้าหมายที่เคลื่อนที่เร็ว เช่น ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกและอากาศยานไร้คนขับ

    เงินทุนนี้มาจาก “One Big Beautiful Bill” ที่ทรัมป์ลงนามในเดือนกรกฎาคม 2025 โดยยังไม่มีการระบุชื่อผู้รับเหมาหลักอย่างเป็นทางการ แต่แหล่งข่าวระบุว่า SpaceX จะเป็นหนึ่งในผู้รับงานหลัก

    นอกจาก SpaceX ยังมีบริษัทอื่นที่เสนอเทคโนโลยีเข้าร่วม เช่น Anduril, Palantir, Lockheed Martin, Northrop Grumman และ L3Harris โดยรัฐบาลไม่ต้องการพึ่งพาบริษัทเดียวเพื่อหลีกเลี่ยง “vendor lock” ที่อาจทำให้ราคาสูงและนวัตกรรมชะงัก

    รายละเอียดของดีล SpaceX
    รับเงินทุน $2 พันล้านจากกระทรวงกลาโหม
    พัฒนาเครือข่ายดาวเทียม 600 ดวงสำหรับระบบติดตามเป้าหมาย
    เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Golden Dome

    โครงการ Golden Dome
    ระบบป้องกันขีปนาวุธขั้นสูงของสหรัฐฯ
    ใช้ดาวเทียม, interceptor, command & control และโครงสร้างพื้นฐานอื่น
    ได้รับแรงบันดาลใจจาก Iron Dome ของอิสราเอล
    คาดว่ามีงบรวมอย่างน้อย $175 พันล้าน และอาจสูงกว่านั้น

    ความเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง
    Gen. Chance Saltzman ระบุว่า “เราพึ่งพาอุตสาหกรรมในการแสดงศักยภาพ”
    Sen. Rick Scott เตือนว่าไม่ควรพึ่งพาบริษัทเดียวในการสร้างระบบป้องกัน
    Pentagon ชี้ว่าการผูกขาดอาจขัดขวางนวัตกรรมและเพิ่มต้นทุน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/elon-musks-spacex-will-reportedly-receive-usd2-billion-for-trumps-golden-dome-project-system-to-include-up-to-600-satellites-to-track-fast-moving-airborne-targets
    🛰️💰 SpaceX รับดีล $2 พันล้านจากโครงการ Golden Dome ของทรัมป์ — เตรียมส่งดาวเทียม 600 ดวงติดตามภัยคุกคามทางอากาศ SpaceX ของ Elon Musk คาดว่าจะได้รับเงินทุนกว่า $2 พันล้านจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เพื่อร่วมพัฒนาโครงการ Golden Dome ซึ่งเป็นระบบป้องกันขีปนาวุธระดับชาติที่ใช้ดาวเทียมกว่า 600 ดวงในการติดตามเป้าหมายเคลื่อนที่ทางอากาศ Golden Dome เป็นโครงการป้องกันขีปนาวุธที่ประกาศโดยประธานาธิบดี Donald Trump และรัฐมนตรี Pete Hegseth ในเดือนพฤษภาคม 2025 โดยมีเป้าหมายสร้างระบบป้องกันที่สามารถสกัดขีปนาวุธจากทุกทิศทาง — แม้แต่จากอวกาศ SpaceX จะมีบทบาทสำคัญในระบบ “Air Moving Target Indicator” ซึ่งใช้ดาวเทียมกว่า 600 ดวงในการติดตามเป้าหมายที่เคลื่อนที่เร็ว เช่น ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกและอากาศยานไร้คนขับ เงินทุนนี้มาจาก “One Big Beautiful Bill” ที่ทรัมป์ลงนามในเดือนกรกฎาคม 2025 โดยยังไม่มีการระบุชื่อผู้รับเหมาหลักอย่างเป็นทางการ แต่แหล่งข่าวระบุว่า SpaceX จะเป็นหนึ่งในผู้รับงานหลัก นอกจาก SpaceX ยังมีบริษัทอื่นที่เสนอเทคโนโลยีเข้าร่วม เช่น Anduril, Palantir, Lockheed Martin, Northrop Grumman และ L3Harris โดยรัฐบาลไม่ต้องการพึ่งพาบริษัทเดียวเพื่อหลีกเลี่ยง “vendor lock” ที่อาจทำให้ราคาสูงและนวัตกรรมชะงัก ✅ รายละเอียดของดีล SpaceX ➡️ รับเงินทุน $2 พันล้านจากกระทรวงกลาโหม ➡️ พัฒนาเครือข่ายดาวเทียม 600 ดวงสำหรับระบบติดตามเป้าหมาย ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Golden Dome ✅ โครงการ Golden Dome ➡️ ระบบป้องกันขีปนาวุธขั้นสูงของสหรัฐฯ ➡️ ใช้ดาวเทียม, interceptor, command & control และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ➡️ ได้รับแรงบันดาลใจจาก Iron Dome ของอิสราเอล ➡️ คาดว่ามีงบรวมอย่างน้อย $175 พันล้าน และอาจสูงกว่านั้น ✅ ความเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง ➡️ Gen. Chance Saltzman ระบุว่า “เราพึ่งพาอุตสาหกรรมในการแสดงศักยภาพ” ➡️ Sen. Rick Scott เตือนว่าไม่ควรพึ่งพาบริษัทเดียวในการสร้างระบบป้องกัน ➡️ Pentagon ชี้ว่าการผูกขาดอาจขัดขวางนวัตกรรมและเพิ่มต้นทุน https://www.tomshardware.com/tech-industry/elon-musks-spacex-will-reportedly-receive-usd2-billion-for-trumps-golden-dome-project-system-to-include-up-to-600-satellites-to-track-fast-moving-airborne-targets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 545 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Amazon Ring จับมือ Flock ขยายเครือข่ายกล้อง AI ให้ตำรวจ — เสริมการสอดส่อง แต่เสี่ยงละเมิดสิทธิ” — เมื่อกล้องหน้าบ้านกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบเฝ้าระวังระดับประเทศ

    Amazon Ring ผู้ผลิตกล้องวงจรปิดอัจฉริยะประกาศความร่วมมือกับ Flock บริษัทที่พัฒนาเครือข่ายกล้อง AI สำหรับหน่วยงานรัฐและตำรวจ โดยเปิดให้เจ้าหน้าที่สามารถขอเข้าถึงวิดีโอจากผู้ใช้ Ring เพื่อใช้ในการ “รวบรวมหลักฐานและสืบสวน”

    Flock มีระบบกล้องที่สามารถสแกนป้ายทะเบียนและข้อมูลระบุตัวตนของรถยนต์ พร้อมฟีเจอร์ค้นหาด้วยภาษาธรรมชาติ เช่น “หาคนใส่เสื้อแดงเดินผ่านถนน X เมื่อวาน” ซึ่งช่วยให้เจ้าหน้าที่ค้นหาภาพได้อย่างแม่นยำ

    อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี AI ในงานตำรวจถูกวิจารณ์ว่าอาจเพิ่มความลำเอียงทางเชื้อชาติ และละเมิดความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะเมื่อมีรายงานว่า ICE, หน่วยสืบราชการลับ และกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้เข้าถึงเครือข่ายกล้องของ Flock แล้ว

    การจับมือกับ Ring ซึ่งมีผู้ใช้นับล้านรายทั่วสหรัฐฯ อาจทำให้ Flock ขยายเครือข่ายกล้องได้อย่างมหาศาล และเพิ่มความสามารถในการติดตามบุคคลในพื้นที่สาธารณะ

    ทั้งนี้ Ring เคยถูก FTC สั่งปรับ 5.8 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 จากกรณีที่พนักงานและผู้รับเหมาสามารถเข้าถึงวิดีโอของลูกค้าได้โดยไม่มีข้อจำกัด

    Amazon Ring ประกาศความร่วมมือกับ Flock
    เปิดให้เจ้าหน้าที่ขอวิดีโอจากผู้ใช้ Ring เพื่อใช้ในการสืบสวน

    Flock มีระบบกล้อง AI ที่สแกนป้ายทะเบียนและข้อมูลรถยนต์
    พร้อมฟีเจอร์ค้นหาด้วยภาษาธรรมชาติ

    หน่วยงานรัฐ เช่น ICE, หน่วยสืบราชการลับ และกองทัพเรือ เข้าถึงเครือข่าย Flock แล้ว
    เพิ่มความสามารถในการติดตามบุคคล

    การร่วมมือกับ Ring อาจเพิ่มจำนวนกล้องที่ Flock เข้าถึงได้อีกหลายล้านตัว
    ขยายเครือข่ายสอดส่องในพื้นที่สาธารณะ

    Ring เคยถูก FTC สั่งปรับ 5.8 ล้านดอลลาร์ในปี 2023
    จากกรณีละเมิดความปลอดภัยของวิดีโอลูกค้า

    https://techcrunch.com/2025/10/16/amazons-ring-to-partner-with-flock-a-network-of-ai-cameras-used-by-ice-feds-and-police/
    📹 “Amazon Ring จับมือ Flock ขยายเครือข่ายกล้อง AI ให้ตำรวจ — เสริมการสอดส่อง แต่เสี่ยงละเมิดสิทธิ” — เมื่อกล้องหน้าบ้านกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบเฝ้าระวังระดับประเทศ Amazon Ring ผู้ผลิตกล้องวงจรปิดอัจฉริยะประกาศความร่วมมือกับ Flock บริษัทที่พัฒนาเครือข่ายกล้อง AI สำหรับหน่วยงานรัฐและตำรวจ โดยเปิดให้เจ้าหน้าที่สามารถขอเข้าถึงวิดีโอจากผู้ใช้ Ring เพื่อใช้ในการ “รวบรวมหลักฐานและสืบสวน” Flock มีระบบกล้องที่สามารถสแกนป้ายทะเบียนและข้อมูลระบุตัวตนของรถยนต์ พร้อมฟีเจอร์ค้นหาด้วยภาษาธรรมชาติ เช่น “หาคนใส่เสื้อแดงเดินผ่านถนน X เมื่อวาน” ซึ่งช่วยให้เจ้าหน้าที่ค้นหาภาพได้อย่างแม่นยำ อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี AI ในงานตำรวจถูกวิจารณ์ว่าอาจเพิ่มความลำเอียงทางเชื้อชาติ และละเมิดความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะเมื่อมีรายงานว่า ICE, หน่วยสืบราชการลับ และกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้เข้าถึงเครือข่ายกล้องของ Flock แล้ว การจับมือกับ Ring ซึ่งมีผู้ใช้นับล้านรายทั่วสหรัฐฯ อาจทำให้ Flock ขยายเครือข่ายกล้องได้อย่างมหาศาล และเพิ่มความสามารถในการติดตามบุคคลในพื้นที่สาธารณะ ทั้งนี้ Ring เคยถูก FTC สั่งปรับ 5.8 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 จากกรณีที่พนักงานและผู้รับเหมาสามารถเข้าถึงวิดีโอของลูกค้าได้โดยไม่มีข้อจำกัด ✅ Amazon Ring ประกาศความร่วมมือกับ Flock ➡️ เปิดให้เจ้าหน้าที่ขอวิดีโอจากผู้ใช้ Ring เพื่อใช้ในการสืบสวน ✅ Flock มีระบบกล้อง AI ที่สแกนป้ายทะเบียนและข้อมูลรถยนต์ ➡️ พร้อมฟีเจอร์ค้นหาด้วยภาษาธรรมชาติ ✅ หน่วยงานรัฐ เช่น ICE, หน่วยสืบราชการลับ และกองทัพเรือ เข้าถึงเครือข่าย Flock แล้ว ➡️ เพิ่มความสามารถในการติดตามบุคคล ✅ การร่วมมือกับ Ring อาจเพิ่มจำนวนกล้องที่ Flock เข้าถึงได้อีกหลายล้านตัว ➡️ ขยายเครือข่ายสอดส่องในพื้นที่สาธารณะ ✅ Ring เคยถูก FTC สั่งปรับ 5.8 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 ➡️ จากกรณีละเมิดความปลอดภัยของวิดีโอลูกค้า https://techcrunch.com/2025/10/16/amazons-ring-to-partner-with-flock-a-network-of-ai-cameras-used-by-ice-feds-and-police/
    TECHCRUNCH.COM
    Amazon's Ring to partner with Flock, a network of AI cameras used by ICE, feds, and police | TechCrunch
    Agencies that use Flock can request that Ring doorbell users share footage to help with "evidence collection and investigative work."
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 0 รีวิว
  • เร่งรื้ออาคาร สน.สามเสน หลังโครงสร้างทรุดหนักจากเหตุถนนสามเสนยุบตัว หน่วยงานเกี่ยวข้องยอมรับยังทรุดต่อเนื่องกว่า 20–50 ซม. ขณะ “รฟม.-ผู้รับเหมา” ต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหายและค่าเช่าอาคารชั่วคราว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000095333

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    เร่งรื้ออาคาร สน.สามเสน หลังโครงสร้างทรุดหนักจากเหตุถนนสามเสนยุบตัว หน่วยงานเกี่ยวข้องยอมรับยังทรุดต่อเนื่องกว่า 20–50 ซม. ขณะ “รฟม.-ผู้รับเหมา” ต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหายและค่าเช่าอาคารชั่วคราว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000095333 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 477 มุมมอง 0 รีวิว
  • เร่งรื้ออาคาร สน.สามเสน หลังโครงสร้างทรุดหนักจากเหตุถนนสามเสนยุบตัว หน่วยงานเกี่ยวข้องยอมรับยังทรุดต่อเนื่องกว่า 20–50 ซม. ขณะ “รฟม.-ผู้รับเหมา” ต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหายและค่าเช่าอาคารชั่วคราว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000095330

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    เร่งรื้ออาคาร สน.สามเสน หลังโครงสร้างทรุดหนักจากเหตุถนนสามเสนยุบตัว หน่วยงานเกี่ยวข้องยอมรับยังทรุดต่อเนื่องกว่า 20–50 ซม. ขณะ “รฟม.-ผู้รับเหมา” ต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหายและค่าเช่าอาคารชั่วคราว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000095330 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 536 มุมมอง 0 รีวิว
  • อวสานโรงพักสามเสน 40 ล้าน ผู้รับเหมาทิ้งงานถึงดินทรุด

    ในที่สุดกรุงเทพมหานคร (กทม.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ตัดสินใจรื้อถอนอาคารที่ทำการสถานีตำรวจนครบาลสามเสน (สน.สามเสน) หลังได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์หลุมยุบ บริเวณสถานที่ก่อสร้างสถานีวชิรพยาบาล โครงการรถไฟฟ้ามหานครสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ บนถนนสามเสน เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา เนื่องอาคารเกิดความเสียหายเพิ่มเติม มีการสไลด์ของดินและเสาเข็มหักเพิ่มทำให้มีกำลังรับน้ำหนักได้น้อยลง และมีโอกาสพังถล่มได้ทุกเวลา หากแก้ไขเฉพาะจุดอาจเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า เมื่อเทียบกับก่อสร้างใหม่ ใช้งบประมาณ 40 ล้านบาท

    สำหรับที่ทำการ สน.สามเสน เดิมเป็นอาคาร 2 ชั้น ก่อนย้ายไปยังที่ทำการชั่วคราว เมื่อปี 2562 และรื้อถอนอาคารเมื่อปี 2563 เพื่อก่อสร้างอาคารทดแทน ความสูง 4 ชั้น ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จ้างก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจนครบาลสามเสน จำนวน 1 หลัง เป็นเงินจำนวน 40 ล้านบาท ตามสัญญาเลขที่ 18/2565 ลงวันที่ 20 ก.ค. 2565 ระยะเวลาก่อสร้าง 330 วัน โดยมีผู้รับจ้างคือ บริษัท หมูทอง คอนสตรัคชั่น จำกัด สำนักงานตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ และมี พ.ต.ท.นคร อุทยาน เป็นผู้ควบคุมงาน มีคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ (งานก่อสร้าง) 5 คน

    ปรากฎว่าอาคารดังกล่าวถูกผู้รับจ้างทิ้งงาน ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรายงานให้บริษัท หมูทอง คอนสตรัคชั่น และนายธนาวัฒน์ รุ่งอรุณกิจ เป็นรายชื่อผู้ทิ้งงาน ตามหนังสือกระทรวงการคลัง ลงวันที่ 25 ส.ค. 2568 ภายหลังจึงมีการก่อสร้างแล้วเสร็จแต่ไม่มีคุรุภัณฑ์และยังไม่มีคนเข้าอยู่ กระทั่งเกิดเหตุการณ์หยุมยุบ เสาเข็มหักจนเกิดการทรุดตัว ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สามเสน ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในที่ทำการชั่วคราว (สมาคมโรงเลื่อยจักรเดิม) ถนนอำนวยสงคราม

    Newskit สอบถามไปยังหนึ่งในคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ได้รับคำตอบว่า ย้ายมาดำรงตำแหน่งอื่นไปแล้ว จึงไม่ทราบเรื่อง

    อนึ่ง บริษัท หมูทอง คอนสตรัคชั่น และนายธนาวัฒน์ รุ่งอรุณกิจ เป็นรายชื่อผู้ทิ้งงานของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) โดยกองกำกับการ 5 กองบังคับการฝึกพิเศษ ค่ายนเรศวรมหาราช อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ จำนวน 3 งาน เป็นงานจ้างก่อสร้างเรือนแถวชั้นประทวน - รองสารวัตร ขนาด 10 คูหา จำนวน 3 หลังอีกด้วย

    #Newskit
    อวสานโรงพักสามเสน 40 ล้าน ผู้รับเหมาทิ้งงานถึงดินทรุด ในที่สุดกรุงเทพมหานคร (กทม.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ตัดสินใจรื้อถอนอาคารที่ทำการสถานีตำรวจนครบาลสามเสน (สน.สามเสน) หลังได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์หลุมยุบ บริเวณสถานที่ก่อสร้างสถานีวชิรพยาบาล โครงการรถไฟฟ้ามหานครสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ บนถนนสามเสน เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา เนื่องอาคารเกิดความเสียหายเพิ่มเติม มีการสไลด์ของดินและเสาเข็มหักเพิ่มทำให้มีกำลังรับน้ำหนักได้น้อยลง และมีโอกาสพังถล่มได้ทุกเวลา หากแก้ไขเฉพาะจุดอาจเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า เมื่อเทียบกับก่อสร้างใหม่ ใช้งบประมาณ 40 ล้านบาท สำหรับที่ทำการ สน.สามเสน เดิมเป็นอาคาร 2 ชั้น ก่อนย้ายไปยังที่ทำการชั่วคราว เมื่อปี 2562 และรื้อถอนอาคารเมื่อปี 2563 เพื่อก่อสร้างอาคารทดแทน ความสูง 4 ชั้น ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จ้างก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจนครบาลสามเสน จำนวน 1 หลัง เป็นเงินจำนวน 40 ล้านบาท ตามสัญญาเลขที่ 18/2565 ลงวันที่ 20 ก.ค. 2565 ระยะเวลาก่อสร้าง 330 วัน โดยมีผู้รับจ้างคือ บริษัท หมูทอง คอนสตรัคชั่น จำกัด สำนักงานตั้งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ และมี พ.ต.ท.นคร อุทยาน เป็นผู้ควบคุมงาน มีคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ (งานก่อสร้าง) 5 คน ปรากฎว่าอาคารดังกล่าวถูกผู้รับจ้างทิ้งงาน ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรายงานให้บริษัท หมูทอง คอนสตรัคชั่น และนายธนาวัฒน์ รุ่งอรุณกิจ เป็นรายชื่อผู้ทิ้งงาน ตามหนังสือกระทรวงการคลัง ลงวันที่ 25 ส.ค. 2568 ภายหลังจึงมีการก่อสร้างแล้วเสร็จแต่ไม่มีคุรุภัณฑ์และยังไม่มีคนเข้าอยู่ กระทั่งเกิดเหตุการณ์หยุมยุบ เสาเข็มหักจนเกิดการทรุดตัว ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สามเสน ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในที่ทำการชั่วคราว (สมาคมโรงเลื่อยจักรเดิม) ถนนอำนวยสงคราม Newskit สอบถามไปยังหนึ่งในคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ได้รับคำตอบว่า ย้ายมาดำรงตำแหน่งอื่นไปแล้ว จึงไม่ทราบเรื่อง อนึ่ง บริษัท หมูทอง คอนสตรัคชั่น และนายธนาวัฒน์ รุ่งอรุณกิจ เป็นรายชื่อผู้ทิ้งงานของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) โดยกองกำกับการ 5 กองบังคับการฝึกพิเศษ ค่ายนเรศวรมหาราช อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ จำนวน 3 งาน เป็นงานจ้างก่อสร้างเรือนแถวชั้นประทวน - รองสารวัตร ขนาด 10 คูหา จำนวน 3 หลังอีกด้วย #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 941 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เพนตากอนลดการฝึกอบรมไซเบอร์ — ให้ทหาร ‘โฟกัสภารกิจหลัก’ ท่ามกลางภัยคุกคามดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น”

    ในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2025 กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือที่ถูกรีแบรนด์ใหม่ว่า “Department of War” ได้ออกบันทึกภายในที่สร้างความตกตะลึงในวงการความมั่นคงไซเบอร์ โดยมีคำสั่งให้ลดความถี่ของการฝึกอบรมด้านไซเบอร์สำหรับกำลังพล พร้อมยกเลิกการฝึกอบรมบางรายการ เช่น Privacy Act Training และลดความเข้มงวดของการฝึกเกี่ยวกับข้อมูลที่ไม่จัดเป็นความลับ (CUI)

    รัฐมนตรีกลาโหม Pete Hegseth ระบุว่า การฝึกอบรมที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ “การรบและชัยชนะ” ควรถูกลดทอนหรือยกเลิก เพื่อให้ทหารสามารถโฟกัสกับภารกิจหลักได้เต็มที่ โดยมีการเสนอให้ใช้ระบบอัตโนมัติในการจัดการข้อมูลแทนการฝึกอบรมบุคลากร

    แม้จะมีเหตุผลเรื่องประสิทธิภาพ แต่การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นในช่วงที่กองทัพสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับภัยคุกคามไซเบอร์อย่างหนัก เช่น กรณีการรั่วไหลของข้อมูลจากกองทัพอากาศที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มแฮกเกอร์จากจีน และการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่เกิดขึ้นเฉลี่ย 13 ครั้งต่อวินาทีในปี 2023

    ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่สัปดาห์ กระทรวงกลาโหมเพิ่งออกกฎใหม่สำหรับผู้รับเหมาด้านไซเบอร์ โดยกำหนดระดับความเข้มงวดในการจัดการข้อมูลตามความอ่อนไหวของข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งดูขัดแย้งกับการลดการฝึกอบรมภายในของกำลังพล

    ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์เตือนว่า การลดการฝึกอบรมในช่วงที่ภัยคุกคามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจเป็นการตัดสินใจที่สั้นเกินไป และอาจเปิดช่องให้เกิดการโจมตีจากภายในหรือความผิดพลาดจากมนุษย์ ซึ่งยังคงเป็นจุดอ่อนหลักของระบบความปลอดภัยในปัจจุบัน

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ลดความถี่ของการฝึกอบรมด้านไซเบอร์สำหรับกำลังพล
    ยกเลิก Privacy Act Training และลดความเข้มงวดของการฝึก CUI
    ใช้ระบบอัตโนมัติในการจัดการข้อมูลแทนการฝึกอบรม
    เหตุผลคือเพื่อให้ทหารโฟกัสกับภารกิจหลักด้านการรบ
    การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นในช่วงที่มีภัยคุกคามไซเบอร์เพิ่มขึ้น
    กองทัพอากาศสหรัฐฯ กำลังสอบสวนเหตุรั่วไหลของข้อมูลที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของจีน
    โครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ ถูกโจมตีเฉลี่ย 13 ครั้งต่อวินาทีในปี 2023
    ก่อนหน้านี้เพิ่งออกกฎใหม่สำหรับผู้รับเหมาด้านไซเบอร์ที่เน้นความเข้มงวด
    การลดการฝึกอบรมขัดแย้งกับแนวโน้มการเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Controlled Unclassified Information (CUI) คือข้อมูลที่ไม่จัดเป็นลับแต่ยังต้องมีการควบคุม
    Privacy Act Training ช่วยให้ทหารเข้าใจการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
    การฝึกอบรมไซเบอร์ช่วยให้บุคลากรสามารถรับมือกับ phishing, malware และ insider threat ได้ดีขึ้น
    ระบบอัตโนมัติอาจช่วยลดภาระงาน แต่ไม่สามารถแทนความเข้าใจของมนุษย์ได้ทั้งหมด
    การโจมตีไซเบอร์ในสงครามสมัยใหม่มีบทบาทสำคัญ เช่นในกรณีรัสเซีย–ยูเครน และอิสราเอล–อิหร่าน

    https://www.techradar.com/pro/security/us-department-of-war-reduces-cybersecurity-training-tells-soldiers-to-focus-on-their-mission
    🛡️ “เพนตากอนลดการฝึกอบรมไซเบอร์ — ให้ทหาร ‘โฟกัสภารกิจหลัก’ ท่ามกลางภัยคุกคามดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น” ในช่วงต้นเดือนตุลาคม 2025 กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือที่ถูกรีแบรนด์ใหม่ว่า “Department of War” ได้ออกบันทึกภายในที่สร้างความตกตะลึงในวงการความมั่นคงไซเบอร์ โดยมีคำสั่งให้ลดความถี่ของการฝึกอบรมด้านไซเบอร์สำหรับกำลังพล พร้อมยกเลิกการฝึกอบรมบางรายการ เช่น Privacy Act Training และลดความเข้มงวดของการฝึกเกี่ยวกับข้อมูลที่ไม่จัดเป็นความลับ (CUI) รัฐมนตรีกลาโหม Pete Hegseth ระบุว่า การฝึกอบรมที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ “การรบและชัยชนะ” ควรถูกลดทอนหรือยกเลิก เพื่อให้ทหารสามารถโฟกัสกับภารกิจหลักได้เต็มที่ โดยมีการเสนอให้ใช้ระบบอัตโนมัติในการจัดการข้อมูลแทนการฝึกอบรมบุคลากร แม้จะมีเหตุผลเรื่องประสิทธิภาพ แต่การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นในช่วงที่กองทัพสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับภัยคุกคามไซเบอร์อย่างหนัก เช่น กรณีการรั่วไหลของข้อมูลจากกองทัพอากาศที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มแฮกเกอร์จากจีน และการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานที่เกิดขึ้นเฉลี่ย 13 ครั้งต่อวินาทีในปี 2023 ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่สัปดาห์ กระทรวงกลาโหมเพิ่งออกกฎใหม่สำหรับผู้รับเหมาด้านไซเบอร์ โดยกำหนดระดับความเข้มงวดในการจัดการข้อมูลตามความอ่อนไหวของข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งดูขัดแย้งกับการลดการฝึกอบรมภายในของกำลังพล ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์เตือนว่า การลดการฝึกอบรมในช่วงที่ภัยคุกคามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจเป็นการตัดสินใจที่สั้นเกินไป และอาจเปิดช่องให้เกิดการโจมตีจากภายในหรือความผิดพลาดจากมนุษย์ ซึ่งยังคงเป็นจุดอ่อนหลักของระบบความปลอดภัยในปัจจุบัน ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ลดความถี่ของการฝึกอบรมด้านไซเบอร์สำหรับกำลังพล ➡️ ยกเลิก Privacy Act Training และลดความเข้มงวดของการฝึก CUI ➡️ ใช้ระบบอัตโนมัติในการจัดการข้อมูลแทนการฝึกอบรม ➡️ เหตุผลคือเพื่อให้ทหารโฟกัสกับภารกิจหลักด้านการรบ ➡️ การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นในช่วงที่มีภัยคุกคามไซเบอร์เพิ่มขึ้น ➡️ กองทัพอากาศสหรัฐฯ กำลังสอบสวนเหตุรั่วไหลของข้อมูลที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของจีน ➡️ โครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯ ถูกโจมตีเฉลี่ย 13 ครั้งต่อวินาทีในปี 2023 ➡️ ก่อนหน้านี้เพิ่งออกกฎใหม่สำหรับผู้รับเหมาด้านไซเบอร์ที่เน้นความเข้มงวด ➡️ การลดการฝึกอบรมขัดแย้งกับแนวโน้มการเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Controlled Unclassified Information (CUI) คือข้อมูลที่ไม่จัดเป็นลับแต่ยังต้องมีการควบคุม ➡️ Privacy Act Training ช่วยให้ทหารเข้าใจการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ➡️ การฝึกอบรมไซเบอร์ช่วยให้บุคลากรสามารถรับมือกับ phishing, malware และ insider threat ได้ดีขึ้น ➡️ ระบบอัตโนมัติอาจช่วยลดภาระงาน แต่ไม่สามารถแทนความเข้าใจของมนุษย์ได้ทั้งหมด ➡️ การโจมตีไซเบอร์ในสงครามสมัยใหม่มีบทบาทสำคัญ เช่นในกรณีรัสเซีย–ยูเครน และอิสราเอล–อิหร่าน https://www.techradar.com/pro/security/us-department-of-war-reduces-cybersecurity-training-tells-soldiers-to-focus-on-their-mission
    WWW.TECHRADAR.COM
    US Department of War reduces cybersecurity training, tells soldiers to focus on their mission
    Cybersecurity training is apparently no longer a priority for the US armed forces
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 572 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อนุทิน” เผย สน.สามเสน ส่อไม่ปลอดภัย เสาเข็มขาด ตอนนี้เริ่มหลุดศูนย์ ให้คนเข้าไปทไงานไม่ได้แน่นอน ต้องทุบสร้างใหม่ ในความรับผิดชอบของผู้รับเหมา รฟม.

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000094893

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    “อนุทิน” เผย สน.สามเสน ส่อไม่ปลอดภัย เสาเข็มขาด ตอนนี้เริ่มหลุดศูนย์ ให้คนเข้าไปทไงานไม่ได้แน่นอน ต้องทุบสร้างใหม่ ในความรับผิดชอบของผู้รับเหมา รฟม. อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000094893 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 472 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้ตอนนี้จะมีอำนาจชั่วคราว แต่ต้องซ่องสุมขุมกำลังไว้สู้ศึกเลือกตั้งปีหน้า เสือโอ้ง เสือโอ๋ เสือหนู จึงอ้าแขนรับโจรจากทุกซุ้มมาร่วมอุดมการณ์ล้างผลาญงบประมาณแผ่นดิน ทุกวันนี้มันก็มีทั้งโจรภูธร โจรผู้รับเหมา โจรใส่สูท โจรข้าราชกาก โจรสีน้ำเงินในสภา โจรกัญชา ยั้วเยี้ยเต็มไปหมดแล้ว
    #คิงส์โพธิ์แดง
    แม้ตอนนี้จะมีอำนาจชั่วคราว แต่ต้องซ่องสุมขุมกำลังไว้สู้ศึกเลือกตั้งปีหน้า เสือโอ้ง เสือโอ๋ เสือหนู จึงอ้าแขนรับโจรจากทุกซุ้มมาร่วมอุดมการณ์ล้างผลาญงบประมาณแผ่นดิน ทุกวันนี้มันก็มีทั้งโจรภูธร โจรผู้รับเหมา โจรใส่สูท โจรข้าราชกาก โจรสีน้ำเงินในสภา โจรกัญชา ยั้วเยี้ยเต็มไปหมดแล้ว #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 406 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯกำลังดำเนินการยกระดับผลิตขีนาวุธ ในการเตรียมพร้อมรับมือความเป็นไปได้ที่จะเกิดความขัดแย้งกับจีน ตามรายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล เมื่อวันจันทร์(29ก.ย.) ทั้งนี้มีข่าวว่าเพนตากอนกดดันให้บรรดาบริษัทผู้รับเหมากลาโหมทั้งหลาย เพิ่มกำลังผลิตเป็น 2 เท่าหรือ 4 เท่า ท่ามกลางความกังวลว่าคลังแสงอาวุธอาจไม่เพียงพอ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000093281

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    สหรัฐฯกำลังดำเนินการยกระดับผลิตขีนาวุธ ในการเตรียมพร้อมรับมือความเป็นไปได้ที่จะเกิดความขัดแย้งกับจีน ตามรายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล เมื่อวันจันทร์(29ก.ย.) ทั้งนี้มีข่าวว่าเพนตากอนกดดันให้บรรดาบริษัทผู้รับเหมากลาโหมทั้งหลาย เพิ่มกำลังผลิตเป็น 2 เท่าหรือ 4 เท่า ท่ามกลางความกังวลว่าคลังแสงอาวุธอาจไม่เพียงพอ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000093281 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 621 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ ลูกชายผู้รับเหมาก่อสร้างมาตรวจผลงานเอง เข้าทางการก่อสร้างที่ล่าช้า ได้ยืดเวลาออกไปแบบไม่โดนค่าปรับ
    #7ดอกจิก
    ♣ ลูกชายผู้รับเหมาก่อสร้างมาตรวจผลงานเอง เข้าทางการก่อสร้างที่ล่าช้า ได้ยืดเวลาออกไปแบบไม่โดนค่าปรับ #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Google ปลดพนักงาน AI กว่า 200 คน — เบื้องหลังไม่ใช่แค่ ‘ลดโปรเจกต์’ แต่คือความไม่มั่นคงและแรงต้านจากแรงงาน”

    กลางเดือนสิงหาคม 2025 Google ได้ปลดพนักงานสัญญาจ้างกว่า 200 คนที่ทำงานเกี่ยวกับโครงการ AI เช่น Gemini และ AI Overviews โดยอ้างว่าเป็นการ “ลดขนาดโปรเจกต์” แต่เสียงจากคนทำงานกลับสะท้อนอีกด้าน—ว่าการปลดครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องค่าตอบแทนที่เป็นธรรม และความพยายามรวมตัวเพื่อสร้างสหภาพแรงงาน

    พนักงานเหล่านี้ส่วนใหญ่ทำงานผ่านบริษัท GlobalLogic ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Hitachi โดยมีหน้าที่เป็น “super raters” คือผู้ตรวจสอบและปรับแต่งคำตอบที่สร้างโดย AI ให้มีความถูกต้องและเป็นธรรมชาติ หลายคนมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโทหรือเอก และทำงานในสาขาวิชาชีพ เช่น การศึกษา การเขียน และการวิจัย

    แม้จะมีความเชี่ยวชาญสูง แต่พวกเขากลับได้รับค่าตอบแทนต่ำ โดยผู้ที่จ้างตรงจาก GlobalLogic ได้รับ $28–$32 ต่อชั่วโมง ขณะที่ผู้รับเหมาผ่านบริษัทตัวกลางได้เพียง $18–$22 ต่อชั่วโมงสำหรับงานเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการห้ามทำงานจากระยะไกล และจำกัดการเข้าถึงช่องทางสื่อสารภายในที่ใช้พูดคุยเรื่องความเหลื่อมล้ำ

    หลายคนเชื่อว่าการปลดครั้งนี้เป็นการตอบโต้ต่อความพยายามรวมตัวเป็นสหภาพแรงงาน โดยมีผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการแรงงานแห่งชาติของสหรัฐฯ (NLRB) แล้วอย่างน้อยสองราย และมีรายงานว่า GlobalLogic กำลังพัฒนา AI ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ในด้านการให้คะแนนคำตอบ ซึ่งทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองกำลัง “ฝึก AI เพื่อมาแทนที่ตัวเอง”

    เหตุการณ์นี้สะท้อนภาพรวมของอุตสาหกรรม AI ที่แม้จะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่กลับมีความไม่มั่นคงในระดับแรงงาน โดยเฉพาะในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูล เช่น การจัดหมวดหมู่ การให้คะแนน และการตรวจสอบคำตอบ ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นงานระดับล่าง ทั้งที่มีบทบาทสำคัญต่อคุณภาพของระบบ AI

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/google-terminates-200-ai-contractors-ramp-down-blamed-but-workers-claim-questions-over-pay-and-job-insecurity-are-the-real-reason-behind-layoffs
    🧠 “Google ปลดพนักงาน AI กว่า 200 คน — เบื้องหลังไม่ใช่แค่ ‘ลดโปรเจกต์’ แต่คือความไม่มั่นคงและแรงต้านจากแรงงาน” กลางเดือนสิงหาคม 2025 Google ได้ปลดพนักงานสัญญาจ้างกว่า 200 คนที่ทำงานเกี่ยวกับโครงการ AI เช่น Gemini และ AI Overviews โดยอ้างว่าเป็นการ “ลดขนาดโปรเจกต์” แต่เสียงจากคนทำงานกลับสะท้อนอีกด้าน—ว่าการปลดครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องค่าตอบแทนที่เป็นธรรม และความพยายามรวมตัวเพื่อสร้างสหภาพแรงงาน พนักงานเหล่านี้ส่วนใหญ่ทำงานผ่านบริษัท GlobalLogic ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Hitachi โดยมีหน้าที่เป็น “super raters” คือผู้ตรวจสอบและปรับแต่งคำตอบที่สร้างโดย AI ให้มีความถูกต้องและเป็นธรรมชาติ หลายคนมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโทหรือเอก และทำงานในสาขาวิชาชีพ เช่น การศึกษา การเขียน และการวิจัย แม้จะมีความเชี่ยวชาญสูง แต่พวกเขากลับได้รับค่าตอบแทนต่ำ โดยผู้ที่จ้างตรงจาก GlobalLogic ได้รับ $28–$32 ต่อชั่วโมง ขณะที่ผู้รับเหมาผ่านบริษัทตัวกลางได้เพียง $18–$22 ต่อชั่วโมงสำหรับงานเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีการห้ามทำงานจากระยะไกล และจำกัดการเข้าถึงช่องทางสื่อสารภายในที่ใช้พูดคุยเรื่องความเหลื่อมล้ำ หลายคนเชื่อว่าการปลดครั้งนี้เป็นการตอบโต้ต่อความพยายามรวมตัวเป็นสหภาพแรงงาน โดยมีผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการแรงงานแห่งชาติของสหรัฐฯ (NLRB) แล้วอย่างน้อยสองราย และมีรายงานว่า GlobalLogic กำลังพัฒนา AI ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ในด้านการให้คะแนนคำตอบ ซึ่งทำให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองกำลัง “ฝึก AI เพื่อมาแทนที่ตัวเอง” เหตุการณ์นี้สะท้อนภาพรวมของอุตสาหกรรม AI ที่แม้จะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่กลับมีความไม่มั่นคงในระดับแรงงาน โดยเฉพาะในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูล เช่น การจัดหมวดหมู่ การให้คะแนน และการตรวจสอบคำตอบ ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นงานระดับล่าง ทั้งที่มีบทบาทสำคัญต่อคุณภาพของระบบ AI https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/google-terminates-200-ai-contractors-ramp-down-blamed-but-workers-claim-questions-over-pay-and-job-insecurity-are-the-real-reason-behind-layoffs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 420 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Senator Wyden จี้ FTC สอบ Microsoft หลังมัลแวร์โจมตีโรงพยาบาล Ascension — เมื่อซอฟต์แวร์ที่ ‘ผ่านการรับรอง’ กลายเป็นช่องโหว่ระดับชาติ”

    วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ Ron Wyden ได้ส่งจดหมายถึง FTC (คณะกรรมการการค้าแห่งสหรัฐฯ) เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2025 เพื่อเรียกร้องให้สอบสวน Microsoft กรณีซอฟต์แวร์ของบริษัทมีส่วนทำให้เกิดการโจมตีแบบ ransomware ครั้งใหญ่ต่อเครือข่ายโรงพยาบาล Ascension ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบสาธารณสุขไม่แสวงกำไรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยเหตุการณ์นี้ส่งผลให้ข้อมูลผู้ป่วยกว่า 5.6 ล้านรายถูกขโมย และระบบไอทีของโรงพยาบาลต้องหยุดชะงักเป็นเวลาหลายสัปดาห์

    การโจมตีเริ่มต้นจากการที่ผู้รับเหมาของ Ascension คลิกลิงก์อันตรายจากการค้นหาบน Bing ซึ่งเป็นเครื่องมือค้นหาของ Microsoft ส่งผลให้มัลแวร์แฝงตัวเข้าสู่ระบบ จากนั้นผู้โจมตีใช้เทคนิคที่เรียกว่า “Kerberoasting” เพื่อเจาะระบบ Active Directory โดยอาศัยช่องโหว่จากการใช้การเข้ารหัสแบบ RC4 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเก่าตั้งแต่ยุค 1980 ที่ยังคงเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้นในซอฟต์แวร์ของ Microsoft

    Wyden ระบุว่า Microsoft ได้รับการแจ้งเตือนเรื่องช่องโหว่นี้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024 แต่ใช้เวลาถึงเดือนตุลาคมจึงเผยแพร่บล็อกโพสต์ทางเทคนิค และจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์เพื่อปิดช่องโหว่ดังกล่าว Wyden เปรียบเทียบ Microsoft ว่าเป็น “นักวางเพลิงที่ขายบริการดับไฟให้เหยื่อของตัวเอง” และชี้ว่าการผูกขาดของ Microsoft ทำให้หลายองค์กรไม่มีทางเลือกอื่นในการใช้งานซอฟต์แวร์

    รายละเอียดเหตุการณ์โจมตี Ascension
    เกิดจากผู้รับเหมาคลิกลิงก์อันตรายจาก Bing บนแล็ปท็อปของ Ascension
    มัลแวร์เข้าระบบและใช้ Kerberoasting เจาะ Active Directory
    ใช้การเข้ารหัส RC4 ซึ่งยังเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้นใน Windows
    ส่งผลให้ข้อมูลผู้ป่วยกว่า 5.6 ล้านรายถูกขโมย และระบบโรงพยาบาลล่มหลายสัปดาห์

    การตอบสนองของ Microsoft
    ได้รับการแจ้งเตือนจากทีม Wyden ตั้งแต่กรกฎาคม 2024
    เผยแพร่บล็อกโพสต์ในเดือนตุลาคม แต่ยังไม่ปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์
    ระบุว่า RC4 ใช้งานน้อยกว่า 0.1% แต่ยังไม่ปิดการใช้งานโดยค่าเริ่มต้น
    วางแผนจะปิด RC4 ใน Windows Server 2025 และ Windows 11 24H2

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    RC4 ถูกห้ามใช้ใน TLS มาตั้งแต่ปี 2015 เนื่องจากมีช่องโหว่ร้ายแรง
    Kerberoasting เป็นเทคนิคที่ใช้เจาะรหัสผ่านจาก service tickets ใน Active Directory
    กลุ่ม Black Basta ถูกระบุว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตี Ascension
    Microsoft มีรายได้จากธุรกิจความปลอดภัยกว่า $20 พันล้านต่อปี แต่ฟีเจอร์สำคัญบางส่วนอยู่หลัง paywall

    https://hackread.com/senator-ftc-probe-microsoft-ascension-ransomware-attack/
    🧯 “Senator Wyden จี้ FTC สอบ Microsoft หลังมัลแวร์โจมตีโรงพยาบาล Ascension — เมื่อซอฟต์แวร์ที่ ‘ผ่านการรับรอง’ กลายเป็นช่องโหว่ระดับชาติ” วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ Ron Wyden ได้ส่งจดหมายถึง FTC (คณะกรรมการการค้าแห่งสหรัฐฯ) เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2025 เพื่อเรียกร้องให้สอบสวน Microsoft กรณีซอฟต์แวร์ของบริษัทมีส่วนทำให้เกิดการโจมตีแบบ ransomware ครั้งใหญ่ต่อเครือข่ายโรงพยาบาล Ascension ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบสาธารณสุขไม่แสวงกำไรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยเหตุการณ์นี้ส่งผลให้ข้อมูลผู้ป่วยกว่า 5.6 ล้านรายถูกขโมย และระบบไอทีของโรงพยาบาลต้องหยุดชะงักเป็นเวลาหลายสัปดาห์ การโจมตีเริ่มต้นจากการที่ผู้รับเหมาของ Ascension คลิกลิงก์อันตรายจากการค้นหาบน Bing ซึ่งเป็นเครื่องมือค้นหาของ Microsoft ส่งผลให้มัลแวร์แฝงตัวเข้าสู่ระบบ จากนั้นผู้โจมตีใช้เทคนิคที่เรียกว่า “Kerberoasting” เพื่อเจาะระบบ Active Directory โดยอาศัยช่องโหว่จากการใช้การเข้ารหัสแบบ RC4 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเก่าตั้งแต่ยุค 1980 ที่ยังคงเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้นในซอฟต์แวร์ของ Microsoft Wyden ระบุว่า Microsoft ได้รับการแจ้งเตือนเรื่องช่องโหว่นี้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024 แต่ใช้เวลาถึงเดือนตุลาคมจึงเผยแพร่บล็อกโพสต์ทางเทคนิค และจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่ปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์เพื่อปิดช่องโหว่ดังกล่าว Wyden เปรียบเทียบ Microsoft ว่าเป็น “นักวางเพลิงที่ขายบริการดับไฟให้เหยื่อของตัวเอง” และชี้ว่าการผูกขาดของ Microsoft ทำให้หลายองค์กรไม่มีทางเลือกอื่นในการใช้งานซอฟต์แวร์ ✅ รายละเอียดเหตุการณ์โจมตี Ascension ➡️ เกิดจากผู้รับเหมาคลิกลิงก์อันตรายจาก Bing บนแล็ปท็อปของ Ascension ➡️ มัลแวร์เข้าระบบและใช้ Kerberoasting เจาะ Active Directory ➡️ ใช้การเข้ารหัส RC4 ซึ่งยังเปิดใช้งานโดยค่าเริ่มต้นใน Windows ➡️ ส่งผลให้ข้อมูลผู้ป่วยกว่า 5.6 ล้านรายถูกขโมย และระบบโรงพยาบาลล่มหลายสัปดาห์ ✅ การตอบสนองของ Microsoft ➡️ ได้รับการแจ้งเตือนจากทีม Wyden ตั้งแต่กรกฎาคม 2024 ➡️ เผยแพร่บล็อกโพสต์ในเดือนตุลาคม แต่ยังไม่ปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์ ➡️ ระบุว่า RC4 ใช้งานน้อยกว่า 0.1% แต่ยังไม่ปิดการใช้งานโดยค่าเริ่มต้น ➡️ วางแผนจะปิด RC4 ใน Windows Server 2025 และ Windows 11 24H2 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ RC4 ถูกห้ามใช้ใน TLS มาตั้งแต่ปี 2015 เนื่องจากมีช่องโหว่ร้ายแรง ➡️ Kerberoasting เป็นเทคนิคที่ใช้เจาะรหัสผ่านจาก service tickets ใน Active Directory ➡️ กลุ่ม Black Basta ถูกระบุว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตี Ascension ➡️ Microsoft มีรายได้จากธุรกิจความปลอดภัยกว่า $20 พันล้านต่อปี แต่ฟีเจอร์สำคัญบางส่วนอยู่หลัง paywall https://hackread.com/senator-ftc-probe-microsoft-ascension-ransomware-attack/
    HACKREAD.COM
    Senator Urges FTC Probe Into Microsoft After Ascension Ransomware Attack
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 0 รีวิว
  • รางรถไฟ ECRL มาเลเซีย กับรถไฟไทยไม่เท่ากัน

    ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย (Dewan Rakyat) เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายแอนโทนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย ตอบคำถามนายอะห์หมัด ฟาดลี ชะอารี สส.อำเภอปาเซร์มัส รัฐกลันตัน ที่ถามถึงความตั้งใจของรัฐบาลกลางมาเลเซียในการขยายเส้นทางโครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออกมาเลเซีย (East Coast Rail Link) หรือ ECRL ไปยังเมืองรันเตาปันยัง (Rantau Panjang) พร้อมถามถึงการศึกษาทางเทคนิค และการประเมินความเสี่ยงต่อน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ นายโลคกล่าวว่า ยังไม่ได้ดำเนินการ เนื่องจากต้องศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายเส้นทางไปยังเมืองรันเตาปันยังก่อน

    แม้โครงการ ECRL อยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ข้อเสนอขยายเส้นทางจากสถานีโกตาบารู (Kota Bharu) ไปยังเมืองรันเตาปันยัง เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ซึ่งต้องเจรจาเพิ่มเติมกับจีน รวมทั้งผู้รับเหมาหลักอย่างบริษัท ไชน่า คอมมูนิเคชัน คอนสตรัคชัน หรือ CCCC ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี แต่รับไว้จะนำเสนอต่อไป อย่างไรก็ตาม โครงการนี้มีต้นทุนก่อสร้างที่สูง เนื่องจากแนวเส้นทางรถไฟส่วนใหญ่สร้างขึ้นบนโครงสร้างยกระดับ เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาน้ำท่วมให้น้อยที่สุด แต่พื้นที่เมืองรันเตาปันยัง หากโครงการ ECRL จะเชื่อมต่อกับประเทศไทย กระทรวงคมนาคมมาเลเซียแจ้งว่า พบปัญหาทางเทคนิค

    เพราะรางรถไฟที่ใช้ในโครงการ ECRL (ขนาด 1.435 เมตร) ต่างจากการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. (ขนาด 1 เมตร) จึงยังไม่เข้ากัน จำเป็นต้องมีพื้นที่ลานขนถ่ายสินค้า และเพื่อให้บูรณาการร่วมกัน รางรถไฟของ ร.ฟ.ท. ต้องติดกับรางรถไฟ ECRL เพื่อให้สามารถขนถ่ายสินค้าได้ ขณะนี้กำลังจัดทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เกี่ยวกับการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซียและไทยอย่างจริงจัง โดยข้อเสนอที่จะได้รับผลประโยชน์ระยะยาวที่ดีที่สุดแก่มาเลเซีย และกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนนั้น โครงการ ECRL จะต้องเชื่อมโยงกับประเทศไทย แทนที่จะสิ้นสุดที่เมืองรันเตาปันจังเท่านั้น

    โครงการ ECRL เชื่อมระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ผ่านเมืองกวนตัน (Kuantan) รัฐปะหัง ซึ่งมีท่าเรือตั้งอยู่ กับท่าเรือแคลง (Port Klang) รัฐสลังงอร์ ระยะทาง 665 กิโลเมตร ประกอบด้วยทางยกระดับยาว 154 กิโลเมตร อุโมงค์ 41 แห่ง และทางข้ามสัตว์ป่า 28 แห่ง มีแผนเปิดให้บริการระยะที่ 1 ระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ถึงสถานีกอมบัค (Gombak) คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2569 เริ่มให้บริการในเดือน ม.ค.2570 ส่วนระยะที่ 2 ไปยังท่าเรือแคลง คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2570 และเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบในเดือน ม.ค.2571

    #Newskit
    รางรถไฟ ECRL มาเลเซีย กับรถไฟไทยไม่เท่ากัน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรมาเลเซีย (Dewan Rakyat) เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายแอนโทนี โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย ตอบคำถามนายอะห์หมัด ฟาดลี ชะอารี สส.อำเภอปาเซร์มัส รัฐกลันตัน ที่ถามถึงความตั้งใจของรัฐบาลกลางมาเลเซียในการขยายเส้นทางโครงการทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออกมาเลเซีย (East Coast Rail Link) หรือ ECRL ไปยังเมืองรันเตาปันยัง (Rantau Panjang) พร้อมถามถึงการศึกษาทางเทคนิค และการประเมินความเสี่ยงต่อน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นหรือไม่ นายโลคกล่าวว่า ยังไม่ได้ดำเนินการ เนื่องจากต้องศึกษาความเป็นไปได้ในการขยายเส้นทางไปยังเมืองรันเตาปันยังก่อน แม้โครงการ ECRL อยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ข้อเสนอขยายเส้นทางจากสถานีโกตาบารู (Kota Bharu) ไปยังเมืองรันเตาปันยัง เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ซึ่งต้องเจรจาเพิ่มเติมกับจีน รวมทั้งผู้รับเหมาหลักอย่างบริษัท ไชน่า คอมมูนิเคชัน คอนสตรัคชัน หรือ CCCC ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี แต่รับไว้จะนำเสนอต่อไป อย่างไรก็ตาม โครงการนี้มีต้นทุนก่อสร้างที่สูง เนื่องจากแนวเส้นทางรถไฟส่วนใหญ่สร้างขึ้นบนโครงสร้างยกระดับ เพื่อลดความเสี่ยงต่อปัญหาน้ำท่วมให้น้อยที่สุด แต่พื้นที่เมืองรันเตาปันยัง หากโครงการ ECRL จะเชื่อมต่อกับประเทศไทย กระทรวงคมนาคมมาเลเซียแจ้งว่า พบปัญหาทางเทคนิค เพราะรางรถไฟที่ใช้ในโครงการ ECRL (ขนาด 1.435 เมตร) ต่างจากการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. (ขนาด 1 เมตร) จึงยังไม่เข้ากัน จำเป็นต้องมีพื้นที่ลานขนถ่ายสินค้า และเพื่อให้บูรณาการร่วมกัน รางรถไฟของ ร.ฟ.ท. ต้องติดกับรางรถไฟ ECRL เพื่อให้สามารถขนถ่ายสินค้าได้ ขณะนี้กำลังจัดทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) เกี่ยวกับการขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างมาเลเซียและไทยอย่างจริงจัง โดยข้อเสนอที่จะได้รับผลประโยชน์ระยะยาวที่ดีที่สุดแก่มาเลเซีย และกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดนนั้น โครงการ ECRL จะต้องเชื่อมโยงกับประเทศไทย แทนที่จะสิ้นสุดที่เมืองรันเตาปันจังเท่านั้น โครงการ ECRL เชื่อมระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ผ่านเมืองกวนตัน (Kuantan) รัฐปะหัง ซึ่งมีท่าเรือตั้งอยู่ กับท่าเรือแคลง (Port Klang) รัฐสลังงอร์ ระยะทาง 665 กิโลเมตร ประกอบด้วยทางยกระดับยาว 154 กิโลเมตร อุโมงค์ 41 แห่ง และทางข้ามสัตว์ป่า 28 แห่ง มีแผนเปิดให้บริการระยะที่ 1 ระหว่างสถานีโกตาบารู รัฐกลันตัน ถึงสถานีกอมบัค (Gombak) คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2569 เริ่มให้บริการในเดือน ม.ค.2570 ส่วนระยะที่ 2 ไปยังท่าเรือแคลง คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือน ธ.ค.2570 และเริ่มให้บริการเต็มรูปแบบในเดือน ม.ค.2571 #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 655 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากชานเมือง: เมื่อผู้ใช้เบื่อความช้า จึงลุกขึ้นสร้าง ISP เอง

    ในเมือง Saline รัฐมิชิแกน สองญาติสนิท—Samuel Herman และ Alexander Baciu—ตัดสินใจไม่ทนกับอินเทอร์เน็ตช้า ๆ จาก Comcast อีกต่อไป พวกเขาเคยประสบปัญหาอัปโหลดช้า หลุดบ่อย และต้องโทรแจ้งซ้ำ ๆ โดยไม่มีการแก้ไขถาวร

    หลังจากแต่งงานและสร้างบ้านใหม่ในปี 2021 Herman พบว่าไม่มีผู้ให้บริการไฟเบอร์รายใดสนใจพื้นที่ของเขา แม้จะมีประสบการณ์ในงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ISP ก็ตาม เขาและ Baciu จึงเปลี่ยนธุรกิจครอบครัวให้กลายเป็นผู้รับเหมาโครงข่ายไฟเบอร์ และก่อตั้ง Prime-One ISP ขึ้นมาเอง

    Prime-One เป็นเครือข่ายไฟเบอร์ใต้ดิน 100% ที่เน้นความเสถียรและความเร็ว โดยมีแพ็กเกจตั้งแต่ 500Mbps ถึง 5Gbps พร้อมบริการแบบไม่มีสัญญา ไม่จำกัดข้อมูล และไม่มีค่าติดตั้ง

    พวกเขาเริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนมกราคม 2025 และขยายเครือข่ายไปแล้วกว่า 75 ไมล์ ครอบคลุม 1,500 หลังคาเรือน โดยตั้งเป้าจะเข้าถึง 4,000 หลังคาเรือนในอนาคต

    Prime-One เป็น ISP ไฟเบอร์ใต้ดินที่ก่อตั้งโดยสองชาวเมือง Saline
    Samuel Herman และ Alexander Baciu เปลี่ยนธุรกิจครอบครัวมาสร้างโครงข่ายเอง

    เหตุผลหลักคือความไม่พอใจต่อบริการของ Comcast
    อัปโหลดช้า หลุดบ่อย และไม่มีการแก้ไขถาวร

    Prime-One ให้บริการแบบไม่มีสัญญา ไม่จำกัดข้อมูล และไม่มีค่าติดตั้ง
    ราคาเริ่มต้น $75 สำหรับ 500Mbps และสูงสุด $110 สำหรับ 5Gbps

    ลูกค้าได้รับอุปกรณ์ครบชุดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
    Optical Network Terminal, โมเด็ม และ Wi-Fi Router (ถ้าต้องการ)

    บริษัทมีพนักงาน 15 คน และให้บริการซ่อมภายใน 2–4 ชั่วโมง
    มีเครดิต $5 ต่อชั่วโมงหากเกิด downtime

    ได้รับคำแนะนำจาก Jared Mauch ผู้เคยสร้าง ISP ไฟเบอร์ในพื้นที่ชนบท
    ใช้อุปกรณ์ของ Nokia และวางแผนขยายต่อในอนาคต

    Prime-One ยังมีลูกค้าเพียง 100 รายจากเป้าหมาย 4,000 หลังคาเรือน
    ต้องการ penetration ประมาณ 30% เพื่อคุ้มทุน

    การแข่งขันกับ Comcast และ Frontier ยังดุเดือด
    Comcast เสนอส่วนลดและสัญญาระยะยาวเพื่อดึงลูกค้ากลับ

    ลูกค้าบางรายยังติดอยู่กับแผนเก่าที่มี data cap
    ต้องเปลี่ยนแผนใหม่เพื่อรับสิทธิ์ unlimited data

    การขยายเครือข่ายไฟเบอร์ต้องใช้เงินลงทุนสูงและใช้เวลานาน
    โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่มีประชากรเบาบาง

    https://www.techspot.com/news/108670-tired-slow-speeds-two-michigan-residents-building-their.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากชานเมือง: เมื่อผู้ใช้เบื่อความช้า จึงลุกขึ้นสร้าง ISP เอง ในเมือง Saline รัฐมิชิแกน สองญาติสนิท—Samuel Herman และ Alexander Baciu—ตัดสินใจไม่ทนกับอินเทอร์เน็ตช้า ๆ จาก Comcast อีกต่อไป พวกเขาเคยประสบปัญหาอัปโหลดช้า หลุดบ่อย และต้องโทรแจ้งซ้ำ ๆ โดยไม่มีการแก้ไขถาวร หลังจากแต่งงานและสร้างบ้านใหม่ในปี 2021 Herman พบว่าไม่มีผู้ให้บริการไฟเบอร์รายใดสนใจพื้นที่ของเขา แม้จะมีประสบการณ์ในงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ISP ก็ตาม เขาและ Baciu จึงเปลี่ยนธุรกิจครอบครัวให้กลายเป็นผู้รับเหมาโครงข่ายไฟเบอร์ และก่อตั้ง Prime-One ISP ขึ้นมาเอง Prime-One เป็นเครือข่ายไฟเบอร์ใต้ดิน 100% ที่เน้นความเสถียรและความเร็ว โดยมีแพ็กเกจตั้งแต่ 500Mbps ถึง 5Gbps พร้อมบริการแบบไม่มีสัญญา ไม่จำกัดข้อมูล และไม่มีค่าติดตั้ง พวกเขาเริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนมกราคม 2025 และขยายเครือข่ายไปแล้วกว่า 75 ไมล์ ครอบคลุม 1,500 หลังคาเรือน โดยตั้งเป้าจะเข้าถึง 4,000 หลังคาเรือนในอนาคต ✅ Prime-One เป็น ISP ไฟเบอร์ใต้ดินที่ก่อตั้งโดยสองชาวเมือง Saline ➡️ Samuel Herman และ Alexander Baciu เปลี่ยนธุรกิจครอบครัวมาสร้างโครงข่ายเอง ✅ เหตุผลหลักคือความไม่พอใจต่อบริการของ Comcast ➡️ อัปโหลดช้า หลุดบ่อย และไม่มีการแก้ไขถาวร ✅ Prime-One ให้บริการแบบไม่มีสัญญา ไม่จำกัดข้อมูล และไม่มีค่าติดตั้ง ➡️ ราคาเริ่มต้น $75 สำหรับ 500Mbps และสูงสุด $110 สำหรับ 5Gbps ✅ ลูกค้าได้รับอุปกรณ์ครบชุดโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ➡️ Optical Network Terminal, โมเด็ม และ Wi-Fi Router (ถ้าต้องการ) ✅ บริษัทมีพนักงาน 15 คน และให้บริการซ่อมภายใน 2–4 ชั่วโมง ➡️ มีเครดิต $5 ต่อชั่วโมงหากเกิด downtime ✅ ได้รับคำแนะนำจาก Jared Mauch ผู้เคยสร้าง ISP ไฟเบอร์ในพื้นที่ชนบท ➡️ ใช้อุปกรณ์ของ Nokia และวางแผนขยายต่อในอนาคต ‼️ Prime-One ยังมีลูกค้าเพียง 100 รายจากเป้าหมาย 4,000 หลังคาเรือน ⛔ ต้องการ penetration ประมาณ 30% เพื่อคุ้มทุน ‼️ การแข่งขันกับ Comcast และ Frontier ยังดุเดือด ⛔ Comcast เสนอส่วนลดและสัญญาระยะยาวเพื่อดึงลูกค้ากลับ ‼️ ลูกค้าบางรายยังติดอยู่กับแผนเก่าที่มี data cap ⛔ ต้องเปลี่ยนแผนใหม่เพื่อรับสิทธิ์ unlimited data ‼️ การขยายเครือข่ายไฟเบอร์ต้องใช้เงินลงทุนสูงและใช้เวลานาน ⛔ โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่มีประชากรเบาบาง https://www.techspot.com/news/108670-tired-slow-speeds-two-michigan-residents-building-their.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Tired of slow speeds, two Michigan residents are building their own fiber ISP
    Herman recalls growing up in a household of ten, where slow upload speeds and frequent service interruptions from Comcast's Xfinity service were a constant source of stress....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 340 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถนนเชื่อมวิภาวดี-พหลโยธิน ทางเข้าใหม่สนามบินดอนเมือง

    08.00 น. วันอาทิตย์ที่ 29 มิ.ย. กรุงเทพมหานคร จะเปิดใช้โครงการทางหลวงท้องถิ่นสายเชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีกับถนนพหลโยธิน เชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีรังสิต ไปยังถนนพหลโยธินและถนนเทพรักษ์ ระยะทาง 2.768 กิโลเมตร งบประมาณ 1,551.65 ล้านบาท หลังเริ่มต้นก่อสร้างตั้งแต่ต้นปี 2564 โดยผู้รับเหมาสองบริษัท ได้แก่ บริษัท สระหลวงก่อสร้าง จำกัด และบริษัท พรรณีวรกิจก่อสร้างและขนส่ง จำกัด แต่ล่าช้าจากบ้านเรือนรุกล้ำคลองถนน ท่ามกลางการเติบโตของเมือง หลังเปิดใช้ถนนเทพรักษ์เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2558 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เมื่อปี 2563

    จุดเริ่มต้นถนนเชื่อมวิภาวดี-พหลโยธิน อยู่ที่ด้านทิศใต้ของท่าอากาศยานดอนเมือง เลยร้านเจ้เล้งมาเล็กน้อย มีทางเชื่อมไปยังถนนเทวฤทธิ์พันลึก ไปยังอาคารคลังสินค้าท่าอากาศยานดอนเมือง ต่อเนื่องไปยังอาคารผู้โดยสาร จากนั้นจะมีทางแยกต่างระดับ แยกซ้ายไปถนนพหลโยธิน แยกขวาไปถนนเทพรักษ์ ข้ามคลองถนน รถที่มาจากถนนวิภาวดีรังสิตขาออก สามารถใช้จุดกลับรถอาคารคลังสินค้าเพื่อใช้ถนนตัดใหม่ได้ รถที่มาจากถนนพหลโยธินและถนนเทพรักษ์ สามารถใช้ถนนตัดใหม่ เพื่อไปออกถนนวิภาวดีรังสิต รวมทั้งไปยังถนนเทวฤทธิ์พันลึก เพื่อไปท่าอากาศยานดอนเมืองได้

    เดิมคนที่จะไปสนามบินดอนเมือง ส่วนใหญ่ใช้ถนนวิภาวดีรังสิตเป็นหลัก ส่วนคนที่อยู่โซนสะพานใหม่ สายไหม ลำลูกกา วัชรพล ต้องอ้อมไปใช้ถนนแจ้งวัฒนะ หรืออนุสรณ์สถานแห่งชาติ ซึ่งหากเป็นรถแท็กซี่จะเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากเพราะต้องอ้อมและไกล ส่วนถนนธูปะเตมีย์ เชื่อมระหว่างถนนพหลโยธิน บริเวณแยก คปอ. กับถนนวิภาวดีรังสิต เนื่องจากเป็นพื้นที่กองทัพอากาศ จึงอนุญาตให้เฉพาะรถยนต์ที่มีสติกเกอร์บัตรผ่านยานพาหนะเข้า-ออก เขตพื้นที่กองทัพอากาศเท่านั้น นอกนั้นเปิดเฉพาะช่วงเช้า 06.00-09.00 น. และช่วงเย็น 15.00-18.00 น. แต่ไม่อนุญาตให้รถโดยสารและรถรับจ้างสาธารณะใช้งาน

    ถนนเชื่อมวิภาวดี-พหลโยธิน ออกแบบบริเวณแยกห้างบิ๊กซีสะพานใหม่ ให้เป็นทางแยกที่ไม่มีสัญญาณไฟ เพื่อให้การจราจรลื่นไหลได้สะดวก โดยรถที่มาจากถนนเทพรักษ์สามารถขึ้นสะพานข้ามแยกได้เลย รวมทั้งการก่อสร้างสะพานข้ามไปยังถนนเทวฤทธิ์พันลึก เพื่อเข้าสู่ท่าอากาศยานดอนเมือง ช่วยแบ่งเบาการจราจรบริเวณถนนพหลโยธิน และถนนเทพรักษ์ ให้สามารถออกไปยังถนนวิภาวดีรังสิต และท่าอากาศยานดอนเมืองได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส จะไปท่าอากาศยานดอนเมือง สามารถลงที่สถานีสายหยุดแล้วต่อรถแท็กซี่เข้าไปยังถนนสายใหม่ ช่วยประหยัดเวลามากขึ้น

    #Newskit
    ถนนเชื่อมวิภาวดี-พหลโยธิน ทางเข้าใหม่สนามบินดอนเมือง 08.00 น. วันอาทิตย์ที่ 29 มิ.ย. กรุงเทพมหานคร จะเปิดใช้โครงการทางหลวงท้องถิ่นสายเชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีกับถนนพหลโยธิน เชื่อมระหว่างถนนวิภาวดีรังสิต ไปยังถนนพหลโยธินและถนนเทพรักษ์ ระยะทาง 2.768 กิโลเมตร งบประมาณ 1,551.65 ล้านบาท หลังเริ่มต้นก่อสร้างตั้งแต่ต้นปี 2564 โดยผู้รับเหมาสองบริษัท ได้แก่ บริษัท สระหลวงก่อสร้าง จำกัด และบริษัท พรรณีวรกิจก่อสร้างและขนส่ง จำกัด แต่ล่าช้าจากบ้านเรือนรุกล้ำคลองถนน ท่ามกลางการเติบโตของเมือง หลังเปิดใช้ถนนเทพรักษ์เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2558 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เมื่อปี 2563 จุดเริ่มต้นถนนเชื่อมวิภาวดี-พหลโยธิน อยู่ที่ด้านทิศใต้ของท่าอากาศยานดอนเมือง เลยร้านเจ้เล้งมาเล็กน้อย มีทางเชื่อมไปยังถนนเทวฤทธิ์พันลึก ไปยังอาคารคลังสินค้าท่าอากาศยานดอนเมือง ต่อเนื่องไปยังอาคารผู้โดยสาร จากนั้นจะมีทางแยกต่างระดับ แยกซ้ายไปถนนพหลโยธิน แยกขวาไปถนนเทพรักษ์ ข้ามคลองถนน รถที่มาจากถนนวิภาวดีรังสิตขาออก สามารถใช้จุดกลับรถอาคารคลังสินค้าเพื่อใช้ถนนตัดใหม่ได้ รถที่มาจากถนนพหลโยธินและถนนเทพรักษ์ สามารถใช้ถนนตัดใหม่ เพื่อไปออกถนนวิภาวดีรังสิต รวมทั้งไปยังถนนเทวฤทธิ์พันลึก เพื่อไปท่าอากาศยานดอนเมืองได้ เดิมคนที่จะไปสนามบินดอนเมือง ส่วนใหญ่ใช้ถนนวิภาวดีรังสิตเป็นหลัก ส่วนคนที่อยู่โซนสะพานใหม่ สายไหม ลำลูกกา วัชรพล ต้องอ้อมไปใช้ถนนแจ้งวัฒนะ หรืออนุสรณ์สถานแห่งชาติ ซึ่งหากเป็นรถแท็กซี่จะเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากเพราะต้องอ้อมและไกล ส่วนถนนธูปะเตมีย์ เชื่อมระหว่างถนนพหลโยธิน บริเวณแยก คปอ. กับถนนวิภาวดีรังสิต เนื่องจากเป็นพื้นที่กองทัพอากาศ จึงอนุญาตให้เฉพาะรถยนต์ที่มีสติกเกอร์บัตรผ่านยานพาหนะเข้า-ออก เขตพื้นที่กองทัพอากาศเท่านั้น นอกนั้นเปิดเฉพาะช่วงเช้า 06.00-09.00 น. และช่วงเย็น 15.00-18.00 น. แต่ไม่อนุญาตให้รถโดยสารและรถรับจ้างสาธารณะใช้งาน ถนนเชื่อมวิภาวดี-พหลโยธิน ออกแบบบริเวณแยกห้างบิ๊กซีสะพานใหม่ ให้เป็นทางแยกที่ไม่มีสัญญาณไฟ เพื่อให้การจราจรลื่นไหลได้สะดวก โดยรถที่มาจากถนนเทพรักษ์สามารถขึ้นสะพานข้ามแยกได้เลย รวมทั้งการก่อสร้างสะพานข้ามไปยังถนนเทวฤทธิ์พันลึก เพื่อเข้าสู่ท่าอากาศยานดอนเมือง ช่วยแบ่งเบาการจราจรบริเวณถนนพหลโยธิน และถนนเทพรักษ์ ให้สามารถออกไปยังถนนวิภาวดีรังสิต และท่าอากาศยานดอนเมืองได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส จะไปท่าอากาศยานดอนเมือง สามารถลงที่สถานีสายหยุดแล้วต่อรถแท็กซี่เข้าไปยังถนนสายใหม่ ช่วยประหยัดเวลามากขึ้น #Newskit
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 889 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'วิโรจน์' สับ 2 กรมสร้างทาง ตั้งงบ 6.2 หมื่นล้าน ซุกเงินทอน 8 พันล้าน เอื้อผู้รับเหมาพิเศษ
    https://www.thai-tai.tv/news/19040/
    'วิโรจน์' สับ 2 กรมสร้างทาง ตั้งงบ 6.2 หมื่นล้าน ซุกเงินทอน 8 พันล้าน เอื้อผู้รับเหมาพิเศษ https://www.thai-tai.tv/news/19040/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายฐิติพงศ์ โพธิพรหม หรือ ช่างเบิร์ด เจ้าของบริษัท บีแอล จำกัด และตัวแทนกลุ่มผู้รับเหมาช่วง รับเงินค่าจ้างทำงานตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) หลังมีปัญหาถูกเบี้ยวเงินมานานกว่า 1 ปี โดยเงินงวดแรกที่บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) และบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) จะจ่ายให้ผู้รับเหมาช่วง 22 เจ้า โดยเฉลี่ยจ่ายให้ผู้ที่ยอมรับสภาพหนี้ยอดแรก 5,542,529.74 บาท จากยอดเต็ม 9,624,786.92 บาท หวังว่าจะมีการโอน อยากได้เงินเป็นก้อน แม้จะได้ครึ่งเดียวแต่ก็ต้องรับไว้ ส่วนที่เหลือ 4,082,257.18 บาท อยู่ระหว่างหาข้อสรุปว่าบริษัทก้าวพีเค จะจ่ายให้ผู้รับเหมาช่วงอย่างไร ไม่มั่นใจบริษัทนี้เพราะถ้าจะจ่ายจริง ทำงานมาเป็นปีคงจ่ายนานแล้ว เขาได้เงินไปไม่รู้เอาเงินไปไว้ที่ไหน เงินไม่มาถึงพวกเรา ไม่งั้นเขาคงไม่ติดหนี้ขนาดนี้ ไม่ใช่แค่เจ้าเดียว ติดเป็น 20 กว่าเจ้า และมีหลายเจ้าที่ยังไม่ได้เซ็นรับสภาพหนี้

    -สิ่งสำคัญที่หลายคนไม่รู้
    -พร้อมตรวจสอบการบังคับใช้
    -จัดงบ'69 รับภาษีสหรัฐ
    -พบทุจริตเอาผิดไม่ละเว้น
    นายฐิติพงศ์ โพธิพรหม หรือ ช่างเบิร์ด เจ้าของบริษัท บีแอล จำกัด และตัวแทนกลุ่มผู้รับเหมาช่วง รับเงินค่าจ้างทำงานตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) หลังมีปัญหาถูกเบี้ยวเงินมานานกว่า 1 ปี โดยเงินงวดแรกที่บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) และบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) จะจ่ายให้ผู้รับเหมาช่วง 22 เจ้า โดยเฉลี่ยจ่ายให้ผู้ที่ยอมรับสภาพหนี้ยอดแรก 5,542,529.74 บาท จากยอดเต็ม 9,624,786.92 บาท หวังว่าจะมีการโอน อยากได้เงินเป็นก้อน แม้จะได้ครึ่งเดียวแต่ก็ต้องรับไว้ ส่วนที่เหลือ 4,082,257.18 บาท อยู่ระหว่างหาข้อสรุปว่าบริษัทก้าวพีเค จะจ่ายให้ผู้รับเหมาช่วงอย่างไร ไม่มั่นใจบริษัทนี้เพราะถ้าจะจ่ายจริง ทำงานมาเป็นปีคงจ่ายนานแล้ว เขาได้เงินไปไม่รู้เอาเงินไปไว้ที่ไหน เงินไม่มาถึงพวกเรา ไม่งั้นเขาคงไม่ติดหนี้ขนาดนี้ ไม่ใช่แค่เจ้าเดียว ติดเป็น 20 กว่าเจ้า และมีหลายเจ้าที่ยังไม่ได้เซ็นรับสภาพหนี้ -สิ่งสำคัญที่หลายคนไม่รู้ -พร้อมตรวจสอบการบังคับใช้ -จัดงบ'69 รับภาษีสหรัฐ -พบทุจริตเอาผิดไม่ละเว้น
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 820 มุมมอง 25 0 รีวิว
Pages Boosts