• “ไชยา พรหมา” ขอโทษสังคม! แจงปมชิงปิดประชุมสภาฯ ยันไร้เจตนาล้มญัตติ MOU 43-44 อ้างเป็นความผิดพลาดด้านสื่อสาร
    https://www.thai-tai.tv/news/21099/
    .
    #ไชยาพรหมา #รัฐสภา #ปิดประชุมสภา #MOU4344 #ข่าวการเมือง #ไทยไท
    “ไชยา พรหมา” ขอโทษสังคม! แจงปมชิงปิดประชุมสภาฯ ยันไร้เจตนาล้มญัตติ MOU 43-44 อ้างเป็นความผิดพลาดด้านสื่อสาร https://www.thai-tai.tv/news/21099/ . #ไชยาพรหมา #รัฐสภา #ปิดประชุมสภา #MOU4344 #ข่าวการเมือง #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ฝ่ายค้าน” แถลงเดือด! ซัดรัฐบาลขวางการพิจารณาญัตติ MOU 43-44 ปิดประชุมสภาฯ ดื้อๆ ทำลายความหวังประชาชน
    https://www.thai-tai.tv/news/21065/
    .
    #ฝ่ายค้าน #สภาผู้แทนราษฎร #ญัตติMOU #ข่าวการเมือง #การเมืองไทย #ไทยไทด้วย

    “ฝ่ายค้าน” แถลงเดือด! ซัดรัฐบาลขวางการพิจารณาญัตติ MOU 43-44 ปิดประชุมสภาฯ ดื้อๆ ทำลายความหวังประชาชน https://www.thai-tai.tv/news/21065/ . #ฝ่ายค้าน #สภาผู้แทนราษฎร #ญัตติMOU #ข่าวการเมือง #การเมืองไทย #ไทยไทด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ไชยา” สั่งปิดประชุมสภาฯ ดื้อๆ ทั้งที่เตรียมถกญัตติด่วน MOU 43-44 ด้าน “วิสุทธิ์” งงบอกไม่ได้ส่งสัญญาณ
    https://www.thai-tai.tv/news/21064/
    .
    #สภาล่ม #ญัตติMOU #ไชยาพรหมา #วิสุทธิ์ไชยณรุณ #การเมืองไทย #ข่าวการเมือง #ไทยไทด้วย
    “ไชยา” สั่งปิดประชุมสภาฯ ดื้อๆ ทั้งที่เตรียมถกญัตติด่วน MOU 43-44 ด้าน “วิสุทธิ์” งงบอกไม่ได้ส่งสัญญาณ https://www.thai-tai.tv/news/21064/ . #สภาล่ม #ญัตติMOU #ไชยาพรหมา #วิสุทธิ์ไชยณรุณ #การเมืองไทย #ข่าวการเมือง #ไทยไทด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฉาว! หญิงสาวแฉ ส.ว.คุกคาม อ้างถูกล็อกตัวในรถ ส.ว.โต้กลับ งัดคลิปอ้างสมยอม คดีสะดุดเปิดประชุมสภา ตำรวจเผยผลตรวจร่างกายหญิงสาวสอดคล้องคำให้การ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000064558

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ฉาว! หญิงสาวแฉ ส.ว.คุกคาม อ้างถูกล็อกตัวในรถ ส.ว.โต้กลับ งัดคลิปอ้างสมยอม คดีสะดุดเปิดประชุมสภา ตำรวจเผยผลตรวจร่างกายหญิงสาวสอดคล้องคำให้การ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000064558 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1129 มุมมอง 0 รีวิว
  • "มท.อ้วน" ขออย่ามองลบปมสั่งปิดประชุมสภาฯ รับตามสภาพ สส.ที่เป็น รมต.ต้องหอบงานไปทำ ป้องกันสภาล่ม ชี้หน.พรรคร่วมต้องกำชับ สส.เข้าประชุม บอกปกติสามารถเกิดขึ้นได้ เผยยังไม่ได้คุยฝ่าย กม.เป็นรูปธรรม กรณีอำนาจรักษาการนายกฯยุบสภาได้หรือไม่ ยันทำตามอำนาจที่ รธน.

    วันนี้ (3ก.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง สั่งปิดการประชุมระหว่างฝ่ายค้านขอให้นับองค์ประชุม ว่าเรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ แต่เคยกำชับไว้แล้วว่าให้ทุกคนทำหน้าที่ในช่วงรอยต่อ ซึ่งอาจจะยังมีปัญหาอยู่บ้าง

    ส่วนที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีการระบุว่าสส.กว่า 90% ของพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมประชุมในวันนี้ แต่ส่วนใหญ่ที่ไม่เข้าร่วมเป็นสส.ของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งต้องให้ทางหัวหน้าพรรคกำชับกันต่อไป

    ทั้งนี้ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีจะประสานแก้ปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร หรือ ต้องให้วิปรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ นายภูมิธรรม ระบุว่า ทุกคนทำหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งตนเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อช่วง 14:00 น. ที่ผ่านมา จึงเพิ่งได้เริ่มพูดคุยกัน ฉะนั้นต้องทำงานกันอย่างต่อเนื่อง อะไรที่เคยทำและอะไรที่ควรทำตนก็ต้องทำ ขณะที่เรื่องของสภาวิปรัฐบาลก็ได้มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการแต่งตั้งใหม่และกระบวนการต่างๆยังไม่ครบถ้วนจึงขอให้รอครบถ้วนก่อน เพราะตรงนี้เป็นปัญหาแต่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ดังนั้นก็ต้องแก้ไขปัญหากันต่อ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000062818

    #MGROnline #ภูมิธรรมเวชยชัย #รองนายกรัฐมนตรี #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย #รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี
    "มท.อ้วน" ขออย่ามองลบปมสั่งปิดประชุมสภาฯ รับตามสภาพ สส.ที่เป็น รมต.ต้องหอบงานไปทำ ป้องกันสภาล่ม ชี้หน.พรรคร่วมต้องกำชับ สส.เข้าประชุม บอกปกติสามารถเกิดขึ้นได้ เผยยังไม่ได้คุยฝ่าย กม.เป็นรูปธรรม กรณีอำนาจรักษาการนายกฯยุบสภาได้หรือไม่ ยันทำตามอำนาจที่ รธน. • วันนี้ (3ก.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง สั่งปิดการประชุมระหว่างฝ่ายค้านขอให้นับองค์ประชุม ว่าเรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ แต่เคยกำชับไว้แล้วว่าให้ทุกคนทำหน้าที่ในช่วงรอยต่อ ซึ่งอาจจะยังมีปัญหาอยู่บ้าง • ส่วนที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีการระบุว่าสส.กว่า 90% ของพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมประชุมในวันนี้ แต่ส่วนใหญ่ที่ไม่เข้าร่วมเป็นสส.ของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งต้องให้ทางหัวหน้าพรรคกำชับกันต่อไป • ทั้งนี้ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีจะประสานแก้ปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร หรือ ต้องให้วิปรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ นายภูมิธรรม ระบุว่า ทุกคนทำหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งตนเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อช่วง 14:00 น. ที่ผ่านมา จึงเพิ่งได้เริ่มพูดคุยกัน ฉะนั้นต้องทำงานกันอย่างต่อเนื่อง อะไรที่เคยทำและอะไรที่ควรทำตนก็ต้องทำ ขณะที่เรื่องของสภาวิปรัฐบาลก็ได้มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการแต่งตั้งใหม่และกระบวนการต่างๆยังไม่ครบถ้วนจึงขอให้รอครบถ้วนก่อน เพราะตรงนี้เป็นปัญหาแต่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ดังนั้นก็ต้องแก้ไขปัญหากันต่อ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000062818 • #MGROnline #ภูมิธรรมเวชยชัย #รองนายกรัฐมนตรี #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย #รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 502 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาฯ แนะ "เท้งเต้ง พรรคส้ม" ยื่นซักฟอกนายกฯ เลย เปิดประชุมสภาฯ 3 ก.ค.นี้ ไม่งั้นเท่ากับยังให้ความไว้วางใจแพทองธาร และถูกมองแอบเป็นพันธมิตรลับๆ กับตระกูลชินวัตร ชี้ถ้าทำตามแบบแผนระบบรัฐสภาของตะวันตก คะแนนนิยมมาแน่ อย่าเล่นการเมืองแบบคนรุ่นก่อน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000061135

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    อาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาฯ แนะ "เท้งเต้ง พรรคส้ม" ยื่นซักฟอกนายกฯ เลย เปิดประชุมสภาฯ 3 ก.ค.นี้ ไม่งั้นเท่ากับยังให้ความไว้วางใจแพทองธาร และถูกมองแอบเป็นพันธมิตรลับๆ กับตระกูลชินวัตร ชี้ถ้าทำตามแบบแผนระบบรัฐสภาของตะวันตก คะแนนนิยมมาแน่ อย่าเล่นการเมืองแบบคนรุ่นก่อน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000061135 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 665 มุมมอง 0 รีวิว
  • 20 มิถุนายน 2568 -ศ.ไชยันต์ ไชยพร วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองร้อน ถ้านายกรัฐมนตรี แพทองธารไม่ยอมลาออกจนถึงวันเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 3 ก.ค. 2568

    เมื่อเปิดประชุมสภาฯ มีกลไกอะไรที่จะทำให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของ แพทองธาร จะสิ้นสุดลงได้ ?

    1. สภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่ไว้วางใจ

    ในกรณีที่นี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจํานวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจํานวนสมาชิกทั้งหมด เท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร เข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี

    จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ คือ 98 คน ( สส ทั้งหมดในสภามี 493 /ตัวเลข ณ วันที่ 26 มีนาคม 2568)

    ถ้าพรรคประชาชนต้องการให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีย่อมทำได้ เพราะพรรคประชาชนมี สส เกิน 100

    ในช่วงที่เสนอญัตติได้แล้ว นายกรัฐมนตรีจะยุบสภาไม่ได้

    แต่ถ้าหลังลงมติไม่ไว้วางใจแล้ว ถ้าเสียงไม่ไว้วางใจไม่เกินครึ่ง หมายความว่า แพทองธารยังเป็นนายกฯ อยู่ เธอจะยุบสภาก็ได้

    การที่กำหนดไว้แบบนี้ เพื่อขู่ สส ที่เสนอญัตติไม่ไว้วางใจให้คิดดีๆว่า ถ้านายกรัฐมนตรีได้เสียงไว้วางใจ ระวังนะ นายกรัฐมนตรีจะยุบสภา พา สส ทุกคนพ้นสภาพ ไปเลือกตั้งกันใหม่หมด

    ซึ่งในกรณีนี้ แพทองธาร คงไม่ยุบแน่

    แต่อาจมีผู้สงสัยข้อความในรัฐธรรมนูญที่ว่า การเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจสามารถทำได้ “ปีละหนึ่งครั้ง” เพราะเพิ่งมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้วระหว่างวันที่ 24-26 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมานี้เอง

    การนับปีสมัยประชุมสภาฯ ไม่ใช่นับตามปฏิทินปกติ อย่างหลังเลือกตั้งในปี 2566 จะเริ่มนับปีประชุมสภาฯ ดังนี้

    ปีที่หนึ่ง (แต่ละปีจะแบ่งการประชุมออกเป็นสองครั้ง มีพักระหว่างแต่ละครั้ง ) ครั้งที่หนึ่ง เริ่มตั้งแต่ 3 ก.ค. 2566 – 3 ต.ค. 2566 ครั้งที่สอง 12 ธ.ค. 2566 – 9 เมษา. 2567

    ปีที่สอง ครั้งที่หนึ่ง 3 ก.ค. 2567 – 30 ต.ค. 2567 ครั้งที่สอง 12 ธ.ค. 2567 – 10 เมษา. 2568

    ปีที่สาม ครั้งที่หนึ่ง 3 ก.ค. 2568 – 30 ต.ค. 2568

    ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งล่าสุดจะอยู่ในช่วงปีที่สอง

    เมื่อขึ้นปีที่สาม ซึ่งจะเปิดประชุมสภาในวันที่ 3 ก.ค. ที่จะถึงนี้ จึงสามารถขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้

    ประเด็นคือ หากนายกรัฐมนตรีไม่ยอมลาออก และไม่ยอมยุบสภา เพราะยังมีเสียงสนับสนุนเกินครึ่งสภา พรรคประชาชนอาจจะขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้

    และเมื่อถึงเวลานั้น ประชาชนก็รอดูกันว่า จะมี สส คนใดที่ยังไว้วางใจนายกฯแพทองธาร และด้วยเหตุผลอะไร หรือไม่มีเหตุผล !

    ถ้านายกฯถูกลงมติไม่ไว้วางใจ ความเป็นนายกรัฐมนตรีก็จะสิ้นสุดลงทันที และไม่ว่าใครจะมารักษาการ ก็ไม่สามารถยุบสภาได้ตามที่พรรคประชาชนต้องการ เพราะรักษาการฯไม่สามารถยุบสภาได้

    แต่จะต้องมีการสรรหานายกฯใหม่ หากได้นายกฯใหม่แล้ว นายกฯใหม่ก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่จะยุบสภา !

    แต่ถ้านายกฯใหม่ไม่ได้ ก็จะเกิดทางตันขึ้น

    และจะต้องไปใช้บริการ มาตรา 5 เพื่อจะให้มีการยุบสภา หรือ ให้ได้นายกรัฐมนตรีเสียงข้างน้อย เพื่อทำหน้าที่ที่สำคัญต่อไปสักพัก และรีบยุบสภา

    ส่วนในกรณีอื่นๆ เช่นขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม อันได้แก่

    -ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์

    หรือ -มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

    หรือความผิดในมาตราอื่นๆของรัฐธรรมนูญ รวมถึงการใช้ มาตรา 153 โดยสมาชิกวุฒิสภา ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ
    20 มิถุนายน 2568 -ศ.ไชยันต์ ไชยพร วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองร้อน ถ้านายกรัฐมนตรี แพทองธารไม่ยอมลาออกจนถึงวันเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 3 ก.ค. 2568 เมื่อเปิดประชุมสภาฯ มีกลไกอะไรที่จะทำให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของ แพทองธาร จะสิ้นสุดลงได้ ? 1. สภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่ไว้วางใจ ในกรณีที่นี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจํานวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจํานวนสมาชิกทั้งหมด เท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร เข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ คือ 98 คน ( สส ทั้งหมดในสภามี 493 /ตัวเลข ณ วันที่ 26 มีนาคม 2568) ถ้าพรรคประชาชนต้องการให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีย่อมทำได้ เพราะพรรคประชาชนมี สส เกิน 100 ในช่วงที่เสนอญัตติได้แล้ว นายกรัฐมนตรีจะยุบสภาไม่ได้ แต่ถ้าหลังลงมติไม่ไว้วางใจแล้ว ถ้าเสียงไม่ไว้วางใจไม่เกินครึ่ง หมายความว่า แพทองธารยังเป็นนายกฯ อยู่ เธอจะยุบสภาก็ได้ การที่กำหนดไว้แบบนี้ เพื่อขู่ สส ที่เสนอญัตติไม่ไว้วางใจให้คิดดีๆว่า ถ้านายกรัฐมนตรีได้เสียงไว้วางใจ ระวังนะ นายกรัฐมนตรีจะยุบสภา พา สส ทุกคนพ้นสภาพ ไปเลือกตั้งกันใหม่หมด ซึ่งในกรณีนี้ แพทองธาร คงไม่ยุบแน่ แต่อาจมีผู้สงสัยข้อความในรัฐธรรมนูญที่ว่า การเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจสามารถทำได้ “ปีละหนึ่งครั้ง” เพราะเพิ่งมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้วระหว่างวันที่ 24-26 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมานี้เอง การนับปีสมัยประชุมสภาฯ ไม่ใช่นับตามปฏิทินปกติ อย่างหลังเลือกตั้งในปี 2566 จะเริ่มนับปีประชุมสภาฯ ดังนี้ ปีที่หนึ่ง (แต่ละปีจะแบ่งการประชุมออกเป็นสองครั้ง มีพักระหว่างแต่ละครั้ง ) ครั้งที่หนึ่ง เริ่มตั้งแต่ 3 ก.ค. 2566 – 3 ต.ค. 2566 ครั้งที่สอง 12 ธ.ค. 2566 – 9 เมษา. 2567 ปีที่สอง ครั้งที่หนึ่ง 3 ก.ค. 2567 – 30 ต.ค. 2567 ครั้งที่สอง 12 ธ.ค. 2567 – 10 เมษา. 2568 ปีที่สาม ครั้งที่หนึ่ง 3 ก.ค. 2568 – 30 ต.ค. 2568 ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งล่าสุดจะอยู่ในช่วงปีที่สอง เมื่อขึ้นปีที่สาม ซึ่งจะเปิดประชุมสภาในวันที่ 3 ก.ค. ที่จะถึงนี้ จึงสามารถขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ประเด็นคือ หากนายกรัฐมนตรีไม่ยอมลาออก และไม่ยอมยุบสภา เพราะยังมีเสียงสนับสนุนเกินครึ่งสภา พรรคประชาชนอาจจะขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ และเมื่อถึงเวลานั้น ประชาชนก็รอดูกันว่า จะมี สส คนใดที่ยังไว้วางใจนายกฯแพทองธาร และด้วยเหตุผลอะไร หรือไม่มีเหตุผล ! ถ้านายกฯถูกลงมติไม่ไว้วางใจ ความเป็นนายกรัฐมนตรีก็จะสิ้นสุดลงทันที และไม่ว่าใครจะมารักษาการ ก็ไม่สามารถยุบสภาได้ตามที่พรรคประชาชนต้องการ เพราะรักษาการฯไม่สามารถยุบสภาได้ แต่จะต้องมีการสรรหานายกฯใหม่ หากได้นายกฯใหม่แล้ว นายกฯใหม่ก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่จะยุบสภา ! แต่ถ้านายกฯใหม่ไม่ได้ ก็จะเกิดทางตันขึ้น และจะต้องไปใช้บริการ มาตรา 5 เพื่อจะให้มีการยุบสภา หรือ ให้ได้นายกรัฐมนตรีเสียงข้างน้อย เพื่อทำหน้าที่ที่สำคัญต่อไปสักพัก และรีบยุบสภา ส่วนในกรณีอื่นๆ เช่นขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม อันได้แก่ -ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ หรือ -มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง หรือความผิดในมาตราอื่นๆของรัฐธรรมนูญ รวมถึงการใช้ มาตรา 153 โดยสมาชิกวุฒิสภา ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 445 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดสมัยประชุม ดิ้นเฮือกสุดท้าย เดินหน้าแก้ รธน.
    .
    12 ธันวาคม เป็นวันแรกของการเปิดสมัยประชุมสภา แน่นอนว่าประเด็นหลักที่หลายฝ่ายพูดถึง คือ ความเป็นไปได้ในการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเป็นประตูสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
    .
    นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่ถูกบรรจุลงระเบียบวาระแล้ว 17 ฉบับ ซึ่งยังไม่มีฉบับใด ที่เป็นการแก้ไขทั้งฉบับ และหากไม่มีการเสนอแก้ไขทั้งฉบับเข้ามา ก็ต้องพิจารณาแก้ไขรายมาตราตามที่บรรจุไว้ โดยในการเปิดประชุมสภา วันที่ 12 ธ.ค.จะต้องมีการถามวิปทั้งสามฝ่ายว่า หากไม่มีการแก้ทั้งฉบับแล้ว จะมาพิจารณาว่าฉบับไหนมีความจำเป็น และเมื่อเปิดสภา และมีการประชุมร่วมเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญจะกระทำช่วงใด
    .
    "เชื่อว่าจะต้องอยู่ภายในเดือนธันวาคม เพราะมีวาระที่จะต้องพิจารณา คือพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ที่ต้องให้สภาพิจารณาให้เสร็จภายใน 60 วัน และใกล้ครบกำหนด 60 วันแล้ว ดังนั้นสภาจะต้องมีการพิจารณากฎหมายนี้ และหลังจากนั้น ก็จะตามด้วยกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้ง 17 ฉบับ ซึ่งจะพิจารณาในคราวเดียวไม่ได้ แต่จะต้องมาพิจารณาว่าจะพิจารณาฉบับไหนก่อนหลัง" ประธานรัฐสภา กล่าว
    .
    ด้าน นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในนามพรรคชาติไทยพัฒนาเห็นว่าวันนี้เป็นวันรัฐธรรมนูญ แต่โอกาสที่จะได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนนั้นยังมีอยู่ แต่ไม่สามารถจะเสนอได้ทันภายในสภาสมัยนี้แน่นอน ส่วนตัวคาดว่าจะได้เพียงแค่การตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) แม้แต่ ส.ส.ร.เองก็ยังติดปัญหาอยู่เช่นกัน เพราะโอกาสที่จะทำประชามติสองครั้ง ส่วนตัวก็ไม่เชื่อว่าจะทำได้ ซึ่งต้องทำตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญคือ 3 ครั้ง เนื่องจากหากทำประชามติแค่ 2 ครั้ง สมาชิกรัฐสภาอาจจะอึดอัดกับการโหวต เพราะอาจจะไม่เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
    ..............
    Sondhi X
    เปิดสมัยประชุม ดิ้นเฮือกสุดท้าย เดินหน้าแก้ รธน. . 12 ธันวาคม เป็นวันแรกของการเปิดสมัยประชุมสภา แน่นอนว่าประเด็นหลักที่หลายฝ่ายพูดถึง คือ ความเป็นไปได้ในการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเป็นประตูสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ . นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่ถูกบรรจุลงระเบียบวาระแล้ว 17 ฉบับ ซึ่งยังไม่มีฉบับใด ที่เป็นการแก้ไขทั้งฉบับ และหากไม่มีการเสนอแก้ไขทั้งฉบับเข้ามา ก็ต้องพิจารณาแก้ไขรายมาตราตามที่บรรจุไว้ โดยในการเปิดประชุมสภา วันที่ 12 ธ.ค.จะต้องมีการถามวิปทั้งสามฝ่ายว่า หากไม่มีการแก้ทั้งฉบับแล้ว จะมาพิจารณาว่าฉบับไหนมีความจำเป็น และเมื่อเปิดสภา และมีการประชุมร่วมเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญจะกระทำช่วงใด . "เชื่อว่าจะต้องอยู่ภายในเดือนธันวาคม เพราะมีวาระที่จะต้องพิจารณา คือพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ที่ต้องให้สภาพิจารณาให้เสร็จภายใน 60 วัน และใกล้ครบกำหนด 60 วันแล้ว ดังนั้นสภาจะต้องมีการพิจารณากฎหมายนี้ และหลังจากนั้น ก็จะตามด้วยกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้ง 17 ฉบับ ซึ่งจะพิจารณาในคราวเดียวไม่ได้ แต่จะต้องมาพิจารณาว่าจะพิจารณาฉบับไหนก่อนหลัง" ประธานรัฐสภา กล่าว . ด้าน นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ในนามพรรคชาติไทยพัฒนาเห็นว่าวันนี้เป็นวันรัฐธรรมนูญ แต่โอกาสที่จะได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนนั้นยังมีอยู่ แต่ไม่สามารถจะเสนอได้ทันภายในสภาสมัยนี้แน่นอน ส่วนตัวคาดว่าจะได้เพียงแค่การตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) แม้แต่ ส.ส.ร.เองก็ยังติดปัญหาอยู่เช่นกัน เพราะโอกาสที่จะทำประชามติสองครั้ง ส่วนตัวก็ไม่เชื่อว่าจะทำได้ ซึ่งต้องทำตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญคือ 3 ครั้ง เนื่องจากหากทำประชามติแค่ 2 ครั้ง สมาชิกรัฐสภาอาจจะอึดอัดกับการโหวต เพราะอาจจะไม่เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1307 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไอซ์ รักนรก มีลุ้นถูกถอนประกันตัว หลังทำตัวเข้าข่ายผิดเงื่อนไขของศาล
    เช่น ด้อยค่าซุ้มเฉลิมพระเกียรติ วิพากษ์วิจารณ์อำนาจศาลเกี่ยวกับสิทธิประกันตัว ในโซเชียลมีเดีย แถมช่วงศาลนัดไต่สวน ดันปิดประชุมสภาฯ ไม่มีเอกสิทธิ์ด้วย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ไอซ์รักชนก
    ไอซ์ รักนรก มีลุ้นถูกถอนประกันตัว หลังทำตัวเข้าข่ายผิดเงื่อนไขของศาล เช่น ด้อยค่าซุ้มเฉลิมพระเกียรติ วิพากษ์วิจารณ์อำนาจศาลเกี่ยวกับสิทธิประกันตัว ในโซเชียลมีเดีย แถมช่วงศาลนัดไต่สวน ดันปิดประชุมสภาฯ ไม่มีเอกสิทธิ์ด้วย #คิงส์โพธิ์แดง #ไอซ์รักชนก
    Like
    Haha
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 888 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา
    .
    วันที่ 11 ก.ย. 67 เวลา 10.00 น.
    นายศุภรัศมิ์ ตัณฑเศรณีวัฒน์ ประธานสภาเทศบาลนครนครราชสีมา เปิดประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา สมัยสามัญ สมัยที่หนึ่งประจำปี 2567 ครั้งที่ 1 ตามที่ เทศบาลนครนครราชสีมาได้ประกาศใช้เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เทศบาลนครนครราชสีมามีความจำเป็นต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม เนื่องจากมีรายรับบางประเภทเพิ่มขึ้น ทำให้มีรายรับเกินยอดรวมทั้งสิ้นของประมาณการรายรับ ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 จำนวน 124,551,000 บาท โดยแบ่งเป็น รายได้จัดเก็บเอง จำนวน 35,839,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 28.77 และรายได้ที่รัฐบาลอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 88,712,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 71.23 จึงมีความจำเป็นต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เป็นเงินทั้งสิ้น 124,551,000 บาท โดยงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมนี้จะถูกนำไปใช้พัฒนาท้องถิ่นในหลายด้าน เพื่อยกระดับการเป็นมหานครที่น่าอยู่ในระดับสากลด้วยพลังสังคม เพื่อความสุขของประชาชนอย่างยั่งยืน ที่มีประสิทธิภาพและ
    ยั่งยืน ดังนี้
    1. ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ: การเป็นเมืองอัจฉริยะ ( Smart city) ด้วยการพัฒนาระบบศูนย์ข้อมูลกลางเพื่อบริหารจัดการสาธารณูปโภคและสาธารณูปการอย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาระบบ
    เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดิน และติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชน
    2. ด้านการศึกษา: ก่อสร้างและปรับปรุงอาคารเรียนในโรงเรียนสังกัดเทศบาล รวมถึงการสนับสนุนเทคโนโลยีการศึกษาด้วยการจัดหาคอมพิวเตอร์ เพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน
    3. ด้านการพัฒนาชุมชน: ก่อสร้างและปรับปรุงศาลาประชาคมให้เป็นศูนย์กลางกิจกรรมของชุมชน และการจัดหาเครื่องออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัยของประชาชน
    4. ด้านการบริหารจัดการขยะมูลฝอย: จัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืน ณ ห้องประชุมกาญจนาภิเษก ชั้น 5 เทศบาลนครนครราชสีมา

    #เทศบาลนครนครราชสีมา
    #งานประชาสัมพันธ์เทศบาลนครนครราชสีมา
    #Appkoratcity #สายด่วน1132
    ไลน์OAเทศบาลฯแอดเลย 👉🏻 https://lin.ee/tEoZH6e
    #ประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา📝 . 🗓️วันที่ 11 ก.ย. 67 เวลา 10.00 น. นายศุภรัศมิ์ ตัณฑเศรณีวัฒน์ ประธานสภาเทศบาลนครนครราชสีมา เปิดประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา สมัยสามัญ สมัยที่หนึ่งประจำปี 2567 ครั้งที่ 1 ตามที่ เทศบาลนครนครราชสีมาได้ประกาศใช้เทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เทศบาลนครนครราชสีมามีความจำเป็นต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม เนื่องจากมีรายรับบางประเภทเพิ่มขึ้น ทำให้มีรายรับเกินยอดรวมทั้งสิ้นของประมาณการรายรับ ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 จำนวน 124,551,000 บาท โดยแบ่งเป็น รายได้จัดเก็บเอง จำนวน 35,839,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 28.77 และรายได้ที่รัฐบาลอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 88,712,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 71.23 จึงมีความจำเป็นต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เป็นเงินทั้งสิ้น 124,551,000 บาท โดยงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมนี้จะถูกนำไปใช้พัฒนาท้องถิ่นในหลายด้าน เพื่อยกระดับการเป็นมหานครที่น่าอยู่ในระดับสากลด้วยพลังสังคม เพื่อความสุขของประชาชนอย่างยั่งยืน ที่มีประสิทธิภาพและ ยั่งยืน ดังนี้ 1. ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ: การเป็นเมืองอัจฉริยะ ( Smart city) ด้วยการพัฒนาระบบศูนย์ข้อมูลกลางเพื่อบริหารจัดการสาธารณูปโภคและสาธารณูปการอย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการสำรวจและวิเคราะห์ข้อมูลการใช้ประโยชน์ที่ดิน และติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชน 2. ด้านการศึกษา: ก่อสร้างและปรับปรุงอาคารเรียนในโรงเรียนสังกัดเทศบาล รวมถึงการสนับสนุนเทคโนโลยีการศึกษาด้วยการจัดหาคอมพิวเตอร์ เพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน 3. ด้านการพัฒนาชุมชน: ก่อสร้างและปรับปรุงศาลาประชาคมให้เป็นศูนย์กลางกิจกรรมของชุมชน และการจัดหาเครื่องออกกำลังกายเพื่อส่งเสริมสุขภาพอนามัยของประชาชน 4. ด้านการบริหารจัดการขยะมูลฝอย: จัดหาเครื่องมือและอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการขยะมูลฝอยอย่างยั่งยืน ณ ห้องประชุมกาญจนาภิเษก ชั้น 5 เทศบาลนครนครราชสีมา #เทศบาลนครนครราชสีมา #งานประชาสัมพันธ์เทศบาลนครนครราชสีมา #Appkoratcity #สายด่วน1132 📲 ไลน์OAเทศบาลฯแอดเลย 👉🏻 https://lin.ee/tEoZH6e
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1185 มุมมอง 0 รีวิว