• 'เท้ง' ลั่น! พร้อมเป็น ‘นายกฯ’ บอกมีประสบการณ์กว่า 6 ปี!
    https://www.thai-tai.tv/news/21556/
    .
    #ไทยไท #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #พรรคประชาชน #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้ #ณัฐพงศ์คุณากรวงศ์
    'เท้ง' ลั่น! พร้อมเป็น ‘นายกฯ’ บอกมีประสบการณ์กว่า 6 ปี! https://www.thai-tai.tv/news/21556/ . #ไทยไท #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #พรรคประชาชน #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้ #ณัฐพงศ์คุณากรวงศ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • 19-09-68/01 : หมี CNN / "FRIDAY JASON" ศุกร์ สยิวกิ้ว! EP35 (มาตามนัด)

    ปิดด่าน สำคัญกว่าที่คิด สกัดเงินฟอก สกัดเงินมืด มีเงินแต่เอาไปใช้ไม่ได้ ที่ผ่านมา มันเอามาฟอกที่ไทยเนี่ยแหละ เงินบาทไทยสดสด ที่อีขะแมร์ต้องการ ขนทองคำไปส่งขะแมร์ แผนลับตั้งแต่อีแม่กะบังลมสั่ง ในที่สุด ตัวการใหญ่ก็อยู่ไม่ได้โผล่ ส่งทั้งกระเช้าดอกไม้ บอกนัยยะ อำนาจมันอยู่ไม่นานดอกน่ะ ออกหน้าสั่งการพรรค เพราะอีผัวเหี้ยหมดสภาพไปแล้ว นอนกระดิกตรีนในคุกคลองเปรม อีลูกส่ายหัว ไม่มีใครกล้ามาเป็นเหยื่อให้อีพ่อแล้ว ตายยกโคตร วันนี้ เสื้อแดงรู้เช่นเห็นชาติแล้ว เลวกว่า เหี้ยกว่า ระยำสลัดหมากว่าอีเหลี่ยม มีเพียงตัวเดียว นั่นคือ "อีกะบังลม" เงินที่โกงแผ่นดินทั้งหมดอยู่ที่มัน โยกย้ายไปตามหมู่เกาะแคริบเบี้ยน

    อีโง่ยุโรป หมดท่า กลายร่างเป็นหมาบ้าแล้ว! ไล่งับทั้ง BRICS รัสเซีย อีแขก อ้าว..เว้นจีนไว้ทำไมล่ะจ๊ะ? อ๋อ..จะเสี้ยมจีนให้แตกเหรอ เหี้ยมะกันจะดึงรัสเซีย แยกจากจีนยังทำไม่ได้ แล้วไอ้โง่อย่างมรึงที่สติปัญญา IQ 18 จะมาหลอกจีน IQ 180 เนี่ยน่ะ ควายจ๋า..ไปแดร๊กหญ้าให้อิ่มเหอะ พรุ่งนี้ก็โดนเชือดแล้ว มันต้องการอะไร ก่อนจะริท้าสู่ขั้วใหม่ ช่วยแหกตาดูด้วยว่า วันนี้ มรึงเองยังต้องแบมือขอพลังงานรัสเซีย แบมือขอโลจิสติคจากจีน แบมือขอตลาดจากอาหรับ แล้วมรึงคลั่งจนลืมสิ่งที่จำเป็นต้องมี นั่นคือ "การคลัง" EURO อ่อนค่า พิมพ์แบงค์มั่วซั่วตามอีวอชิงตัน ทองคำจะเอาจากไหนล่ะ รัสเซียผูกสัมปทานในแอฟริกาสิ้น จะขอใคร

    เปลี่ยนปุ๊บ ออกสื่อปั๊บ! อะไรน่ะ? กูหูไม่ฟาดชิมิ? ภาค 1 ขู่ขะแมร์โว๊ย? อย่ายั่วยุ ใช้กฎหมายไทยบังคับคดีทั้งหมด เข้ามาเหยียบก็แผ่นดินกู ใช้กฎหมายกู พอเอาจริง ม็อบตอแหลวงแตกทันที ถูกจับไปขังคุกไม่ต้องรอนาน แล้วทำไม? มรึงไม่ทำตั้งแต่แรกล่ะ? คำตอบคือ บ่อนคือต้นเหตุ ส่วยเดือนล่ะ 100 ล้านคือสาเหตุ แหล่งฟอกเงินคือหม้อข้าวของบรรดา BIG เขียวขายชาติ ชัดพอมั้ย? แต่ตอนนี้ เกิดการปฎิวัติเงียบ ระดับนายพัน จับกลุ่มขู่นายพล นายจ๊ะ อันนี้อธิปไตยของชาติน่ะ นายอย่าแตะ เดี๋ยวพวกผมเอาจริง! (เสียงในฟิล์มจากชายแแดน) มรึงถึงได้เห็นภาพวันนี้ไง กูบอกให้รู้ไว้ ใหญ่แค่ไหน แค่วังสั่งคำเดียว หัวหลุดทั้งยวงบูรพาสุนัข บูรพาพยัคฆ์ของจริงมีเยอะ แต่ถูกบูรพาสุนัขคาบไปแดร๊ก ถึงเวลาเปลี่ยนหัวเหี้ยแล้วจ๊ะ

    ส่งสัญญาน เอาโต๊ะลุงตู่กลับมาใช้ต่อในทำเนียบ หันทิศทางเดียวกัน จะบอกอะไรรึจ๊ะ? บ้างก็อ้าง โต๊ะที่บ้านใหญ่ หรู ไม่เข้ากับสไตล์ห้อง เดี๋ยวผิดสังเกตุ แค่ 4 เดือน จะทำอะไรให้หมั่นไส้มากไม่ดี สร้างภาพสิจ๊ะ อยู่ให้คนเค้ารัก ไปให้คนเค้าคิดถึง อีเพ่นู๋ มันอยู่เป็น ไม่งั้นคงไม่มีวาสนาขึ้นแท่นบังลังก์เมฆดอก ขนาดอีลุงป้อมรอคอยมาทั้งชีวิต ยังไม่ได้เป็น กระแสตีกลับ จนป่านนี้ ยังตั้งครม.ไม่ได้ ติดเรื่องคุณสมบัติ เพราะมีแต่เหี้ยไปจัญไรมา สภาพแค่เอาตัวรอดไปวันวัน จะเอา จะเอา แต่ไม่มีใครคิดถึงเรื่องของชาติ ปากท้องประชาชนก่อน นี่ไง "นักการเมือง" อีส้มเน่ามั่น งวดหน้ากูแลนด์สไลด์หนักกว่านี้แน่ อ๋อ..เหรอ หายไป 70% น่ะสิ เดี๋ยวรู้กัน

    ฮาแตก! อีฮุน จอมตอแหล สร้างภาพตลอด จีนหนุน จีนให้อภัย จีนเปิดทางเดินให้ต่อ แต่ของจริง จีนไม่เปิดระบบยิงขีปนาวุธให้อีขะแมร์มาทำร้ายไทย จีนไม่สร้างอะไรเพิ่มทั้งนั้น จีนถอนการลงทุนออกมา จีนห้ามนักท่องเที่ยวไปขะแมร์ นี่เหรอ ที่เค้าเรียกว่าหนุน เสพสื่อ ให้ดูของจริง อย่าเชื่อแค่เค้าเล่าอ้าง? สติทำให้ฉลาด เพราะคิดขัดแย้งไว้ก่อน จะได้คำตอบ ตั้งคำถามก่อน จะได้คำตอบ อย่าเชื่อ ให้ใช้ปัญญา ว่าข้อเท็จจริงคือ สื่อเล่าอ้างคือ กองทัพไทย เริ่มลงมือปิดกั้นทุกทางเชื่อมไทย-ขะแมร์ ส่งสัญญาน งานนี้ กูเอามรึงถึงตายคาตรีน พนมเปญแค่ขนมกรุบ

    ฝั่งโลกอาหรับก็ไม่เบา MBS ล่าสุดจับมือปากีฯ เซ็นต์ควมร่วมมือแผนความมั่นคง แปลว่าอะไร? อียิวจะโดนหนักไงล่ะ? ดอกนี้ ปากีขอมา กูจะเอาคืนมรึง ที่ไปหนุนอีแขกมารุกรานกูก่อน รออิมราน ข่านขึ้นแท่นเมื่อไหร่ กูบอกเลย ประกาศศักดาแน่ QATAR เจ็บแค้น ทั้งอียิว เหี้ยมะกัน ส่งผลให้ ราชวงศ์ในอาหรับ ลงมติเชือดอียิวแบบไม่ให้เหลือซาก อิหร่านมาเต็ม ต้องถามแบบนี้ว่า ยังจะเหลือใครที่เอาอียิวล่ะ ขนาดอีจอร์แดง ขี้ข้าชั้นสวะ ที่อะไรก็แล้วแต่นายใหญ่ ยังฉี่แตก เค้าลงขันมุสลิมปาร์ตี้อียิวโดยตรงแล้ว คนย้ายออกจากเยรูซาเล็มแล้ว รู้ตัวแล้ว อิหร่านนำทัพ เตรียมยกพลขึ้นบก ไม่ต้องถามน่ะ ยังจะเหลือเหี้ยยิวรอต้อนรับอีกมั้ย?

    เวรกรรมทันตาเห็น อีเศษฝรั่ง บ้านเมืองลุกเป็นไฟแล้ว ขนส่งปิด รถสาธารณะปิด รถไม่วิ่ง ร้านค้าปิด ธนาคารไม่มีคน มันหายไปไหนกันหมดล่ะ? ลงถนนกันหมดทั้งแผ่นดินแล้ว กูว่าแล้ว สุดท้าย ปากท้องชาวบ้าน คือสิ่งที่อันตรายที่สุด จีน รัสเซีย มองเห็น แต่มรึงมันโง่ไงล่ะ อีมาครง งานนี้เอาถึง "กิโยติน" เลยน่ะ ย้อนภาพประวัติศาสตร์กลับมาทันที เมื่องานไม่มี ไร้บ้าน อาหารไม่พอ ข้าวยาก หมากแพง ชีวิตอยู่ไปวันวัน ใครล่ะ ที่ทำให้มรึงจนตรอก "ประชาธิปไตย" ที่มรึงเลือกกันเองไงล่ะ มันช่วยให้มรึงหายอิ่มมั้ย มีแต่จะเอาสงครามท่าเดียว ตามใบสั่งนายจ้าง แดร๊กเข้าไปสิ ยุโรปสิ้นแล้ววันนี้ VISA น่ะเหรอ? ให้เข้าฟรี ยังไม่เอาเลย มีแต่โจรกับโจร

    มอ 144 มาเต็มตรีน ไวฟ้าผ่า โยกเงินเหรอ เงิน 10000 เหรอ เดี๋ยวตามด้วยชั้น 14 มาตามสเตป ไล่เบี้ยขี้ข้าหมารับใช้ทุกองค์กร ทุกไอ้อี อย่าคิดว่ายุบสภา แล้วจบน่ะ เปลี่ยนรัฐบาลแล้วปล้วกันไปน่ะ คำฟ้อง อยู่ที่ศาลยังมีครบทุกข้อหา เป้าแท้จริงคือ ล้างบางพรรคขายชาติให้สิ้นซาก ทั้งอีแดง อีส้มเน่า อีน้ำเงิน และบรรดาพรรคตัวปลากรอบทั้งหลาย โดนหมดจ๊ะ พายเรือให้โจรนั่ง เซ็นต์ MOU43/44 ของเก่าก็โดน เพราะมันเป็นผลพ่วงมาจนถึงปัจจุบัน มรึงดู ทุกความระยำอัปรีย์จัญไรของไอ้อีขายชาติทั้งหลาย มันมาผูกปมเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด แม้แต่คดีผีน้องโม สีเทา สีดำ มีเอี่ยวหมด ที่ศาลใจเย็น เพราะมันผูกกันทั้ง 3 ศาลไงล่ะ จับมัดเผาทีเดียว!

    มรึงดูความอดอยากของคนสิ? อีปารี แจกไก่ทอด เป็นเหตุชุลมุนกลายเป็นเรื่องใหญ่ นี่มัน "โกลาหล" ดูเปลือกภายนอก คือวัยรุ่นตามอินฟลูเอนเซอร์ แต่โดยเนื้อแท้แล้ว แค่ร้านไทยเปิดใหม่โปรโมต แจกฟรี ข้าวหน้าไก่ทอด 1000 ชุด มรึงถึงกับต้องแย่งกันอย่างกะหมา มันใช่เหรอ? แล้วไอ้หน่วยควบคุมมาได้ยังไง เร็วปร๊ีด! ทุกอย่างคือการจัดฉาก ไม่ต้องถามว่าฝ่ายการเมืองเล่นเหี้ยอาไยอีก? มรึงเลือกตั้งใหม่ ยุบสภา กันให้ตาย เลือกกี่รอบก็เหมือนเดิม เพราะนายทุนใหญ่ใครล่ะ? ทำไมต้องเป็นร้านอาหารไทย? หากเป็นร้านอื่นจะไวปานนี้มั้ย? อย่ามองข้ามรายละเอียดเล็กน้อย คนเริ่มแค่ไม่กี่คน สร้างปัญหาเป็นข่าวไปทั่วโลกได้ ด้วยเงินลงทุนนิดหน่อย เข้าใจเล่นน่ะมรึง? ร้านก็ดังไปเลย สื่อก็ได้ตีข่าว เจ้าหน้าที่ได้ออกแรง ส่งสัญญานซ้อมกันไว้ก่อนสิน่ะ ก่อนจะแตกจริง เพราะชาวปารี คือนักปฎิวัติอยู่แล้ว

    เนปาลโมเดล ไฟไหม้ฟางซะงั้น? อ้าวทำไมล่ะ? เพราะมันของปลอมไงล่ะ ทุกอย่างถูกจัดฉากขึ้นมา ตามใบสั่ง เหตุผลเดียวคือเปลี่ยนรัฐบาล ไอ้ที่มีอยู่ก่อน คืออิงขั้วใหม่ สูตรสำเร็จความใคร่เหี้ย เมื่อมรึงตีตัวห่าง กูก็ต้องส่ง เหี้ย C ไปเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทำกันมาเป็นศตวรรษ ชาวบ้านถูกปั่นหัว ใครให้มรึงแตะโซเชี่ยล ปิดปุ๊บ อาละวาดปั๊บ แปลว่า โซเชี่ยลกำหนดความบ้าคลั่งของคนได้จริง ทุกชาติกลัวเนปาลโมเดล สั่งคุมเข้มความมั่นคงทันที จากนี้ไป ความวุ่นวายจะไม่จบ ไม่มีกษัตริย์ ไม่มีศูนย์รวมจิตใจ เหลือแต่ดูแลกันเอง ก็อ้อยเข้าปากเหี้ยไงล่ะ? และนี่ คือสิ่งที่เหี้ย C รอคอยมานานกว่า 93 ปี วังไทย ตียังไงก็ไม่แตก เพราะมีทศพิธราชธรรมเป็นเสาหลัก ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์คือเป้าหมายของพวกมัน เงินถุงแดง ที่เก็บกันมาจนวันนี้ รู้มั้ยว่า มันมากมายมหาศาลขนาดไหน เหี้ยเลียปาก?

    ปล.ชัดเจน! เมื่อ 3 ปีก่อน ปูตินพูดชัด "ไม่ยึด แต่จะทำลายให้สิ้นซาก" คราวนั้นหลายคนเข้าใจว่ายูเครน แต่วันนี้ ถึงบางอ้อ ปูตินหมายหัว "ยุโรปจ๊ะ" เพราะเนื้อแท้แล้ว เพราะมีพวกมรึง ก็จะมียูเครน 2..3..4 ไม่สิ้นสุด แล้วทำไม ไม่จัดการที่ต้นตอเลยล่ะ แผนถึงถูกออกแบบมาเพื่อดันเบลารุสขึ้นแท่นหัวหมู่ทะลวงฟัน ISKANDER ใช่ว่าจะให้ใครไปง่ายๆ หากไม่มั่นใจ และซี๊ปึกกันจริง วันนี้ เป็นที่ประจักษ์ WAGNER อยู่กันเต็มแผ่นดินอีโปล ตามพรมแดนเพี๊ยบ เพื่อเปิดทาง ปูทางให้ กองทัพ Z ดาหน้าเข้ายึดยุโรปในไม่ช้านี้ จับตาให้ดีดี ปูติน เคยพูดอะไรไว้ แล้วทำได้จริงเสมอ อีโง่ยุโรป ดิ้นให้ตาย หมาก็ไม่แล เหี้ยวอชิงตัน มันถูกปูตินสะกดไว้แล้วที่อลาสก้า "อย่าเสือก" ยุ่งเมื่อไหร่ ถึงวอชิงตันแน่ มรึงกล้าวัดมั้ยล่ะ? เมื่อรัสเซียบุกยึดยุโรป แล้วโลกอาหรับ บุกขยี้เยรูซาเล็ม เป็นจังหวะเดียวที่จีนจะดาหน้าปูพรมยึดไต้หวัน ถามว่า อะไรจะเกิดขึ้น? อเมริกาจะไม่เสือกเพราะถังแตก และรอดูผลลัพธ์ กูไม่ต้องเหนื่อย มีคนขยี้อียิวและยุดรปให้กูฟรีๆ แต่ช้าก่อน เค้าอ่านมรึงทะลุ สุดท้ายมรึงก็ต้องมาเอี่ยวอยู่ดี เพราะเค้าจ้องหลังบ้านมรึงแล้วไงล่ะ ทันที ที่วอชิงตันแตก มันคือโอกาสทองที่ปูตินจะเข้ายึดอลาสก้า ดินแดนที่เป็นของรัสเซียเก่า โดยอ้างว่ายังมีชาวพื้นเมืองรัสเซียอยู่ที่นั่น ต้องการแยกตัวกลับบ้าน แผนนี้จะใช้เมื่อเหี้ยไม่ตกลงยอมขายแต่โดยดี สงครามไม่ต้องการเหตุผล ทุกอย่างวัดกันที่ปากกระบอกปืน ใครใหญ่กว่าก็งาบไปแดร๊ก โลกเรียนรู้จากสิ่งนี้มาเป็น 1000 ปีแล้ว สงครามจะกระจายไปทั่วโลก แต่จะไม่บ้าคลั่งเท่า WWII จะไม่มีการใช้นุ๊กจริง ใช้แค่มินิคุ๊กกี้ ตามพื้นที่จำเพาะแต่ละเป้าหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงความวินาศฉิบหายทั้งโลก ไอ้สัส! แค่มินิคุ๊กกี้ ก็อ่วมแล้วน่ะมรึง เพราะขนาดความเสียหาย มันแรงกว่าที่ฮิโรชิม่า นางาซากิ ซะอีก แค่มลพิษน้อยกว่าเท่านั้นเอง แต่อาวุธร้ายรัสเซีย ไม่ใช่แบบนั้น มันจ้องทำลายโสตประสาทของมนุษย์ พิการทั้งกองทัพ แบบที่ทหารอเมริกันโดนมาแล้วหลายพันตัว อยากรู้ให้ไปถามที่สวนสัตว์มอสโคว์

    หมี CNN(อะไรน่ะ อียิวเตรียมใช้เสียงเลเซอร์ยิงสกัดไฮเปอร์โซนิค อ๋อเหรอ? มีเท่าไหร่กันล่ะ ยิงได้จริงเหรอ รัศมีทำการแค่ไหน อะไรที่มรึงมี รัสเซีย จีน อิหร่าน แม้แต่โสมแดงก็มี ไอ้ควาย? ทำไม หน่วยข่าวกรองเค้าจะไม่รู้ ว่ามรึงมีของเหี้ยอะไรอีก ระยะคือข้อจำกัดของเลเซอร์ยิว ระบบดาวเทียมนำร่องสั่งการ คือคีย์ของการทำงานทั้งระบบ แค่จัดสัญญาน GPS มรึง คือจบทันที และหากจะล่อจริง เค้าใช้ ไฮเปอร์โซนิค15 มัคขึ้นไป มรึงยิงยังไงก็ไม่ทัน เพราะมันมีปล่อยลูกหลอกด้วยไงล่ะ มรึงมีปัญญายิงพร้อมกัน 5 เป้าหมายมั้ยล่ะ? จุดอ่อนเพี๊ยบ มันใช้ได้กับโดรน เพื่อกวาด แต่ใช้กับไฮเปอร์โซนิคจริงยาก เค้าคำนวณกันมาก่อนแล้ว ไอ้ควาย)
    19 กันยายน 68
    09.30 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    19-09-68/01 : หมี CNN / "FRIDAY JASON" ศุกร์ สยิวกิ้ว! EP35 (มาตามนัด) ปิดด่าน สำคัญกว่าที่คิด สกัดเงินฟอก สกัดเงินมืด มีเงินแต่เอาไปใช้ไม่ได้ ที่ผ่านมา มันเอามาฟอกที่ไทยเนี่ยแหละ เงินบาทไทยสดสด ที่อีขะแมร์ต้องการ ขนทองคำไปส่งขะแมร์ แผนลับตั้งแต่อีแม่กะบังลมสั่ง ในที่สุด ตัวการใหญ่ก็อยู่ไม่ได้โผล่ ส่งทั้งกระเช้าดอกไม้ บอกนัยยะ อำนาจมันอยู่ไม่นานดอกน่ะ ออกหน้าสั่งการพรรค เพราะอีผัวเหี้ยหมดสภาพไปแล้ว นอนกระดิกตรีนในคุกคลองเปรม อีลูกส่ายหัว ไม่มีใครกล้ามาเป็นเหยื่อให้อีพ่อแล้ว ตายยกโคตร วันนี้ เสื้อแดงรู้เช่นเห็นชาติแล้ว เลวกว่า เหี้ยกว่า ระยำสลัดหมากว่าอีเหลี่ยม มีเพียงตัวเดียว นั่นคือ "อีกะบังลม" เงินที่โกงแผ่นดินทั้งหมดอยู่ที่มัน โยกย้ายไปตามหมู่เกาะแคริบเบี้ยน อีโง่ยุโรป หมดท่า กลายร่างเป็นหมาบ้าแล้ว! ไล่งับทั้ง BRICS รัสเซีย อีแขก อ้าว..เว้นจีนไว้ทำไมล่ะจ๊ะ? อ๋อ..จะเสี้ยมจีนให้แตกเหรอ เหี้ยมะกันจะดึงรัสเซีย แยกจากจีนยังทำไม่ได้ แล้วไอ้โง่อย่างมรึงที่สติปัญญา IQ 18 จะมาหลอกจีน IQ 180 เนี่ยน่ะ ควายจ๋า..ไปแดร๊กหญ้าให้อิ่มเหอะ พรุ่งนี้ก็โดนเชือดแล้ว มันต้องการอะไร ก่อนจะริท้าสู่ขั้วใหม่ ช่วยแหกตาดูด้วยว่า วันนี้ มรึงเองยังต้องแบมือขอพลังงานรัสเซีย แบมือขอโลจิสติคจากจีน แบมือขอตลาดจากอาหรับ แล้วมรึงคลั่งจนลืมสิ่งที่จำเป็นต้องมี นั่นคือ "การคลัง" EURO อ่อนค่า พิมพ์แบงค์มั่วซั่วตามอีวอชิงตัน ทองคำจะเอาจากไหนล่ะ รัสเซียผูกสัมปทานในแอฟริกาสิ้น จะขอใคร เปลี่ยนปุ๊บ ออกสื่อปั๊บ! อะไรน่ะ? กูหูไม่ฟาดชิมิ? ภาค 1 ขู่ขะแมร์โว๊ย? อย่ายั่วยุ ใช้กฎหมายไทยบังคับคดีทั้งหมด เข้ามาเหยียบก็แผ่นดินกู ใช้กฎหมายกู พอเอาจริง ม็อบตอแหลวงแตกทันที ถูกจับไปขังคุกไม่ต้องรอนาน แล้วทำไม? มรึงไม่ทำตั้งแต่แรกล่ะ? คำตอบคือ บ่อนคือต้นเหตุ ส่วยเดือนล่ะ 100 ล้านคือสาเหตุ แหล่งฟอกเงินคือหม้อข้าวของบรรดา BIG เขียวขายชาติ ชัดพอมั้ย? แต่ตอนนี้ เกิดการปฎิวัติเงียบ ระดับนายพัน จับกลุ่มขู่นายพล นายจ๊ะ อันนี้อธิปไตยของชาติน่ะ นายอย่าแตะ เดี๋ยวพวกผมเอาจริง! (เสียงในฟิล์มจากชายแแดน) มรึงถึงได้เห็นภาพวันนี้ไง กูบอกให้รู้ไว้ ใหญ่แค่ไหน แค่วังสั่งคำเดียว หัวหลุดทั้งยวงบูรพาสุนัข บูรพาพยัคฆ์ของจริงมีเยอะ แต่ถูกบูรพาสุนัขคาบไปแดร๊ก ถึงเวลาเปลี่ยนหัวเหี้ยแล้วจ๊ะ ส่งสัญญาน เอาโต๊ะลุงตู่กลับมาใช้ต่อในทำเนียบ หันทิศทางเดียวกัน จะบอกอะไรรึจ๊ะ? บ้างก็อ้าง โต๊ะที่บ้านใหญ่ หรู ไม่เข้ากับสไตล์ห้อง เดี๋ยวผิดสังเกตุ แค่ 4 เดือน จะทำอะไรให้หมั่นไส้มากไม่ดี สร้างภาพสิจ๊ะ อยู่ให้คนเค้ารัก ไปให้คนเค้าคิดถึง อีเพ่นู๋ มันอยู่เป็น ไม่งั้นคงไม่มีวาสนาขึ้นแท่นบังลังก์เมฆดอก ขนาดอีลุงป้อมรอคอยมาทั้งชีวิต ยังไม่ได้เป็น กระแสตีกลับ จนป่านนี้ ยังตั้งครม.ไม่ได้ ติดเรื่องคุณสมบัติ เพราะมีแต่เหี้ยไปจัญไรมา สภาพแค่เอาตัวรอดไปวันวัน จะเอา จะเอา แต่ไม่มีใครคิดถึงเรื่องของชาติ ปากท้องประชาชนก่อน นี่ไง "นักการเมือง" อีส้มเน่ามั่น งวดหน้ากูแลนด์สไลด์หนักกว่านี้แน่ อ๋อ..เหรอ หายไป 70% น่ะสิ เดี๋ยวรู้กัน ฮาแตก! อีฮุน จอมตอแหล สร้างภาพตลอด จีนหนุน จีนให้อภัย จีนเปิดทางเดินให้ต่อ แต่ของจริง จีนไม่เปิดระบบยิงขีปนาวุธให้อีขะแมร์มาทำร้ายไทย จีนไม่สร้างอะไรเพิ่มทั้งนั้น จีนถอนการลงทุนออกมา จีนห้ามนักท่องเที่ยวไปขะแมร์ นี่เหรอ ที่เค้าเรียกว่าหนุน เสพสื่อ ให้ดูของจริง อย่าเชื่อแค่เค้าเล่าอ้าง? สติทำให้ฉลาด เพราะคิดขัดแย้งไว้ก่อน จะได้คำตอบ ตั้งคำถามก่อน จะได้คำตอบ อย่าเชื่อ ให้ใช้ปัญญา ว่าข้อเท็จจริงคือ สื่อเล่าอ้างคือ กองทัพไทย เริ่มลงมือปิดกั้นทุกทางเชื่อมไทย-ขะแมร์ ส่งสัญญาน งานนี้ กูเอามรึงถึงตายคาตรีน พนมเปญแค่ขนมกรุบ ฝั่งโลกอาหรับก็ไม่เบา MBS ล่าสุดจับมือปากีฯ เซ็นต์ควมร่วมมือแผนความมั่นคง แปลว่าอะไร? อียิวจะโดนหนักไงล่ะ? ดอกนี้ ปากีขอมา กูจะเอาคืนมรึง ที่ไปหนุนอีแขกมารุกรานกูก่อน รออิมราน ข่านขึ้นแท่นเมื่อไหร่ กูบอกเลย ประกาศศักดาแน่ QATAR เจ็บแค้น ทั้งอียิว เหี้ยมะกัน ส่งผลให้ ราชวงศ์ในอาหรับ ลงมติเชือดอียิวแบบไม่ให้เหลือซาก อิหร่านมาเต็ม ต้องถามแบบนี้ว่า ยังจะเหลือใครที่เอาอียิวล่ะ ขนาดอีจอร์แดง ขี้ข้าชั้นสวะ ที่อะไรก็แล้วแต่นายใหญ่ ยังฉี่แตก เค้าลงขันมุสลิมปาร์ตี้อียิวโดยตรงแล้ว คนย้ายออกจากเยรูซาเล็มแล้ว รู้ตัวแล้ว อิหร่านนำทัพ เตรียมยกพลขึ้นบก ไม่ต้องถามน่ะ ยังจะเหลือเหี้ยยิวรอต้อนรับอีกมั้ย? เวรกรรมทันตาเห็น อีเศษฝรั่ง บ้านเมืองลุกเป็นไฟแล้ว ขนส่งปิด รถสาธารณะปิด รถไม่วิ่ง ร้านค้าปิด ธนาคารไม่มีคน มันหายไปไหนกันหมดล่ะ? ลงถนนกันหมดทั้งแผ่นดินแล้ว กูว่าแล้ว สุดท้าย ปากท้องชาวบ้าน คือสิ่งที่อันตรายที่สุด จีน รัสเซีย มองเห็น แต่มรึงมันโง่ไงล่ะ อีมาครง งานนี้เอาถึง "กิโยติน" เลยน่ะ ย้อนภาพประวัติศาสตร์กลับมาทันที เมื่องานไม่มี ไร้บ้าน อาหารไม่พอ ข้าวยาก หมากแพง ชีวิตอยู่ไปวันวัน ใครล่ะ ที่ทำให้มรึงจนตรอก "ประชาธิปไตย" ที่มรึงเลือกกันเองไงล่ะ มันช่วยให้มรึงหายอิ่มมั้ย มีแต่จะเอาสงครามท่าเดียว ตามใบสั่งนายจ้าง แดร๊กเข้าไปสิ ยุโรปสิ้นแล้ววันนี้ VISA น่ะเหรอ? ให้เข้าฟรี ยังไม่เอาเลย มีแต่โจรกับโจร มอ 144 มาเต็มตรีน ไวฟ้าผ่า โยกเงินเหรอ เงิน 10000 เหรอ เดี๋ยวตามด้วยชั้น 14 มาตามสเตป ไล่เบี้ยขี้ข้าหมารับใช้ทุกองค์กร ทุกไอ้อี อย่าคิดว่ายุบสภา แล้วจบน่ะ เปลี่ยนรัฐบาลแล้วปล้วกันไปน่ะ คำฟ้อง อยู่ที่ศาลยังมีครบทุกข้อหา เป้าแท้จริงคือ ล้างบางพรรคขายชาติให้สิ้นซาก ทั้งอีแดง อีส้มเน่า อีน้ำเงิน และบรรดาพรรคตัวปลากรอบทั้งหลาย โดนหมดจ๊ะ พายเรือให้โจรนั่ง เซ็นต์ MOU43/44 ของเก่าก็โดน เพราะมันเป็นผลพ่วงมาจนถึงปัจจุบัน มรึงดู ทุกความระยำอัปรีย์จัญไรของไอ้อีขายชาติทั้งหลาย มันมาผูกปมเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด แม้แต่คดีผีน้องโม สีเทา สีดำ มีเอี่ยวหมด ที่ศาลใจเย็น เพราะมันผูกกันทั้ง 3 ศาลไงล่ะ จับมัดเผาทีเดียว! มรึงดูความอดอยากของคนสิ? อีปารี แจกไก่ทอด เป็นเหตุชุลมุนกลายเป็นเรื่องใหญ่ นี่มัน "โกลาหล" ดูเปลือกภายนอก คือวัยรุ่นตามอินฟลูเอนเซอร์ แต่โดยเนื้อแท้แล้ว แค่ร้านไทยเปิดใหม่โปรโมต แจกฟรี ข้าวหน้าไก่ทอด 1000 ชุด มรึงถึงกับต้องแย่งกันอย่างกะหมา มันใช่เหรอ? แล้วไอ้หน่วยควบคุมมาได้ยังไง เร็วปร๊ีด! ทุกอย่างคือการจัดฉาก ไม่ต้องถามว่าฝ่ายการเมืองเล่นเหี้ยอาไยอีก? มรึงเลือกตั้งใหม่ ยุบสภา กันให้ตาย เลือกกี่รอบก็เหมือนเดิม เพราะนายทุนใหญ่ใครล่ะ? ทำไมต้องเป็นร้านอาหารไทย? หากเป็นร้านอื่นจะไวปานนี้มั้ย? อย่ามองข้ามรายละเอียดเล็กน้อย คนเริ่มแค่ไม่กี่คน สร้างปัญหาเป็นข่าวไปทั่วโลกได้ ด้วยเงินลงทุนนิดหน่อย เข้าใจเล่นน่ะมรึง? ร้านก็ดังไปเลย สื่อก็ได้ตีข่าว เจ้าหน้าที่ได้ออกแรง ส่งสัญญานซ้อมกันไว้ก่อนสิน่ะ ก่อนจะแตกจริง เพราะชาวปารี คือนักปฎิวัติอยู่แล้ว เนปาลโมเดล ไฟไหม้ฟางซะงั้น? อ้าวทำไมล่ะ? เพราะมันของปลอมไงล่ะ ทุกอย่างถูกจัดฉากขึ้นมา ตามใบสั่ง เหตุผลเดียวคือเปลี่ยนรัฐบาล ไอ้ที่มีอยู่ก่อน คืออิงขั้วใหม่ สูตรสำเร็จความใคร่เหี้ย เมื่อมรึงตีตัวห่าง กูก็ต้องส่ง เหี้ย C ไปเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทำกันมาเป็นศตวรรษ ชาวบ้านถูกปั่นหัว ใครให้มรึงแตะโซเชี่ยล ปิดปุ๊บ อาละวาดปั๊บ แปลว่า โซเชี่ยลกำหนดความบ้าคลั่งของคนได้จริง ทุกชาติกลัวเนปาลโมเดล สั่งคุมเข้มความมั่นคงทันที จากนี้ไป ความวุ่นวายจะไม่จบ ไม่มีกษัตริย์ ไม่มีศูนย์รวมจิตใจ เหลือแต่ดูแลกันเอง ก็อ้อยเข้าปากเหี้ยไงล่ะ? และนี่ คือสิ่งที่เหี้ย C รอคอยมานานกว่า 93 ปี วังไทย ตียังไงก็ไม่แตก เพราะมีทศพิธราชธรรมเป็นเสาหลัก ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์คือเป้าหมายของพวกมัน เงินถุงแดง ที่เก็บกันมาจนวันนี้ รู้มั้ยว่า มันมากมายมหาศาลขนาดไหน เหี้ยเลียปาก? ปล.ชัดเจน! เมื่อ 3 ปีก่อน ปูตินพูดชัด "ไม่ยึด แต่จะทำลายให้สิ้นซาก" คราวนั้นหลายคนเข้าใจว่ายูเครน แต่วันนี้ ถึงบางอ้อ ปูตินหมายหัว "ยุโรปจ๊ะ" เพราะเนื้อแท้แล้ว เพราะมีพวกมรึง ก็จะมียูเครน 2..3..4 ไม่สิ้นสุด แล้วทำไม ไม่จัดการที่ต้นตอเลยล่ะ แผนถึงถูกออกแบบมาเพื่อดันเบลารุสขึ้นแท่นหัวหมู่ทะลวงฟัน ISKANDER ใช่ว่าจะให้ใครไปง่ายๆ หากไม่มั่นใจ และซี๊ปึกกันจริง วันนี้ เป็นที่ประจักษ์ WAGNER อยู่กันเต็มแผ่นดินอีโปล ตามพรมแดนเพี๊ยบ เพื่อเปิดทาง ปูทางให้ กองทัพ Z ดาหน้าเข้ายึดยุโรปในไม่ช้านี้ จับตาให้ดีดี ปูติน เคยพูดอะไรไว้ แล้วทำได้จริงเสมอ อีโง่ยุโรป ดิ้นให้ตาย หมาก็ไม่แล เหี้ยวอชิงตัน มันถูกปูตินสะกดไว้แล้วที่อลาสก้า "อย่าเสือก" ยุ่งเมื่อไหร่ ถึงวอชิงตันแน่ มรึงกล้าวัดมั้ยล่ะ? เมื่อรัสเซียบุกยึดยุโรป แล้วโลกอาหรับ บุกขยี้เยรูซาเล็ม เป็นจังหวะเดียวที่จีนจะดาหน้าปูพรมยึดไต้หวัน ถามว่า อะไรจะเกิดขึ้น? อเมริกาจะไม่เสือกเพราะถังแตก และรอดูผลลัพธ์ กูไม่ต้องเหนื่อย มีคนขยี้อียิวและยุดรปให้กูฟรีๆ แต่ช้าก่อน เค้าอ่านมรึงทะลุ สุดท้ายมรึงก็ต้องมาเอี่ยวอยู่ดี เพราะเค้าจ้องหลังบ้านมรึงแล้วไงล่ะ ทันที ที่วอชิงตันแตก มันคือโอกาสทองที่ปูตินจะเข้ายึดอลาสก้า ดินแดนที่เป็นของรัสเซียเก่า โดยอ้างว่ายังมีชาวพื้นเมืองรัสเซียอยู่ที่นั่น ต้องการแยกตัวกลับบ้าน แผนนี้จะใช้เมื่อเหี้ยไม่ตกลงยอมขายแต่โดยดี สงครามไม่ต้องการเหตุผล ทุกอย่างวัดกันที่ปากกระบอกปืน ใครใหญ่กว่าก็งาบไปแดร๊ก โลกเรียนรู้จากสิ่งนี้มาเป็น 1000 ปีแล้ว สงครามจะกระจายไปทั่วโลก แต่จะไม่บ้าคลั่งเท่า WWII จะไม่มีการใช้นุ๊กจริง ใช้แค่มินิคุ๊กกี้ ตามพื้นที่จำเพาะแต่ละเป้าหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงความวินาศฉิบหายทั้งโลก ไอ้สัส! แค่มินิคุ๊กกี้ ก็อ่วมแล้วน่ะมรึง เพราะขนาดความเสียหาย มันแรงกว่าที่ฮิโรชิม่า นางาซากิ ซะอีก แค่มลพิษน้อยกว่าเท่านั้นเอง แต่อาวุธร้ายรัสเซีย ไม่ใช่แบบนั้น มันจ้องทำลายโสตประสาทของมนุษย์ พิการทั้งกองทัพ แบบที่ทหารอเมริกันโดนมาแล้วหลายพันตัว อยากรู้ให้ไปถามที่สวนสัตว์มอสโคว์ หมี CNN(อะไรน่ะ อียิวเตรียมใช้เสียงเลเซอร์ยิงสกัดไฮเปอร์โซนิค อ๋อเหรอ? มีเท่าไหร่กันล่ะ ยิงได้จริงเหรอ รัศมีทำการแค่ไหน อะไรที่มรึงมี รัสเซีย จีน อิหร่าน แม้แต่โสมแดงก็มี ไอ้ควาย? ทำไม หน่วยข่าวกรองเค้าจะไม่รู้ ว่ามรึงมีของเหี้ยอะไรอีก ระยะคือข้อจำกัดของเลเซอร์ยิว ระบบดาวเทียมนำร่องสั่งการ คือคีย์ของการทำงานทั้งระบบ แค่จัดสัญญาน GPS มรึง คือจบทันที และหากจะล่อจริง เค้าใช้ ไฮเปอร์โซนิค15 มัคขึ้นไป มรึงยิงยังไงก็ไม่ทัน เพราะมันมีปล่อยลูกหลอกด้วยไงล่ะ มรึงมีปัญญายิงพร้อมกัน 5 เป้าหมายมั้ยล่ะ? จุดอ่อนเพี๊ยบ มันใช้ได้กับโดรน เพื่อกวาด แต่ใช้กับไฮเปอร์โซนิคจริงยาก เค้าคำนวณกันมาก่อนแล้ว ไอ้ควาย) 19 กันยายน 68 09.30 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • 18-09-68/03​ : หมี CNN / สูตรสำเร็จความใคร่เหี้ย? ปากเจรจา แต่ลับหลังสั่งเชือด มันไม่ใช่เพิ่งจะทำ แต่ทำมาแล้วนับศตวรรษ อี QATAR มรึงเคยโง่ยังไง ก็เหมือนเดิมเป๊ะเด๊ะ ถามว่า ยังจะเหลือควายกี่ตัวที่ยังเชื่ออเมริกา อังกฤษ อิสราเอล ชะตากรรมขี้ข้า สุดท้ายก็แค่ที่รองตรีนเหี้ย หมดประโยชน์ก็เชือด ไม่ทำตามใบสั่งก็เชือด และนี่คือตัวอย่างว่าขนาดกาตาร์ ก็ยังจะโดนอียิว เหี้ยมะกันล่อได้ แม้เป็นทาสผู้ซื่อสัตย์มาหลายทศวรรษ ทำให้ขี้ข้าเหี้ยตาสว่างขึ้นเยอะ ผู้มีปัญญา ย่อมใฝ่หาผู้มีปัญญาเช่นกัน ส่วนคนโง่ก็จะจมปลักอยู่กับคนโง่ไม่สิ้นสุด ฮามาสได้ที สบช่องชี้เป้า "อเมริกาอยู่เบื้องหลังช่วยอียิวโจมตีกาตาร์" ระบบป้องกันภัยทางอากาศแพตทริออตไม่ทำงาน สั่งยิงระยะไกลไม่ได้ เพราะถูกเหี้ยมะกันควบคุมรหัสผ่านอยู่ หากไม่อนุมัติก็ใช้งานไม่ได้ แล้วมรึงจะซื้ออาวุธมาทำพ่อง? ซื้อแล้วไม่ได้ใช้ ใช้ได้เฉพาะกับศัตรูของเหี้ยเท่านั้น แปลว่ามรึงบรมโง่ดักดานของจริง? ทำไมอียิวต้องโจมตีกาตาร์ แต่เสือกเล่น 2 หน้า แอบให้ความช่วยเหลือกองกำลังต่อต้านยิวไงล่ะ ทั้งช่วยอีไก่งวง ทั้งช่วยฮามาสแบบลับๆ แล้วทำไม มรึงไม่เปิดตัวไปเลยล่ะ ให้ขั้วใหม่เข้ามาคุ้มครอง ดีกว่าเล่น 2 หน้า ไปไม่สุด สุดท้ายโดนเททั้ง 2 ฝั่ง ความโง่ที่มรึงคู่ควร ยุคนี้แล้ว จะเลือกข้างไหน ต้องเอามันให้ชัดเจนไปเลย เพราะมรึงถึงแตกหักแน่ ใครมันจะพริ้วเหมือนศรีธนญชัยกันล่ะ? เกมส์โลกเปิดหน้าแล้ว 3 ปี สมรภูมิรบ ขั้วเก่าแพ้ขั้วใหม่ราบคาบ ทุกเวทีโลก ทั้งฝ่ายการเมือง กำลังพล แสนยานุภาพ และผลลัพธ์ของการรบ แพ้แบบหมดรูป หมดเปลือก โลกอาหรับมีมติกู้ปาเลสไตน์ เมื่อคิดจะสู้กับยิว ใยต้องเล่น 2 หน้าต่อไปอีก เพราะสำหรับตะวันออกกลางแล้ว ความซื่อสัตย์ จงรักภักดี และคำพูด เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องรักษาคำมั่นสัญญา ซาอุ อิหร่าน ไก่งวง ฟาโรห์ แค่ 4 ชาตินี้ เหี้ยยิวก็ตายโหงแล้ว มรึงเปิดหน้าแลกเมื่อไหร่ คือวันแตกอเมริกา แตกอังกฤษ มันจะมาพร้อมกันหมดทีเดียว เพราะนี่คือสคริปต์ที่อีเยรูซาเล็ม ลอนดอน วอชิงตัน มันคุยกันไว้นานแล้ว ก่อนจาก ก่อนไป มันต้องทิ้งทวนให้โลกจดจำไงล่ะ?

    Hamas: US complicit in Doha attack on truce negotiators กลุ่มฮามาสระบุว่า สหรัฐสมรู้ร่วมคิดในการโจมตีโดฮา ขณะที่เจรจา

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : กลุ่มฮามาสระบุว่า สหรัฐสมรู้ร่วมคิดในการโจมตีโดฮา ขณะที่เจรจา

    กลุ่มฮามาสประณามการสมรู้ร่วมคิดของสหรัฐกับอิสราเอลในการโจมตีทางอากาศต่อกาตาร์และความพยายามลอบสังหารต่อผู้นำกบฏปาเลสไตน์ที่ระบุว่า พวกเขาพยายามเลิกเจรจาในการหยุดยิงที่มีประสิทธิภาพในกาซา

    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาฟอว์ซี บาร์ฮอมโฆษกกลุ่มฮามาสกล่าวผ่านแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ว่า คำเชื้อเชิญที่จะฆ่าทีมการประนีประนอมของกลุ่มฮามาสในโดฮาพร้อมภัยที่เกิดขึ้นเพื่อโจมตีความเป็นผู้นำของการปฏิบัติการในต่างประเทศแสดงให้เห็นถึง “ความไร้ความสามารถที่จะบรรลุจุดประสงค์” หลังจาก 23 เดือนของสงครามในกาซา

    เขาระบุว่า ความพยายามลอบสังหารเกิดขึ้นขณะที่ผู้แทนมีส่วนร่วมในการเจรจาข้อเสนอหยุดยิง

    บาร์ฮอมระบุว่า การระเบิดมีเป้าหมายเป็นที่อยู่อาศัยของหัวหน้าของผู้แทนการเจรจา คาลิล อัล-เฮย์ยาที่ทำร้ายภรรยาฮัมแมม อัล เฮย์ยาและหลาน เขาระบุว่า “อาชญากรรม” ดังกล่าวเป็นการโจมตีต่อกระบวนการเจรจาทั้งหมด

    โฆษกของกลุ่มฮามาสระบุว่า การโจมตีอิสราเอลแสดงให้เห็นถึงการโจมตีอำนาจอธิปไตยของกาต้าร์และความมั่นคงแต่ “การประกาศสงครามต่อประเทศอาหรับและอิสลาม” รวมถึงก่อให้เกิดภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคเอเชียตะวันตกทั้งหมด

    บาร์ฮอมตัดสินว่าสหรัฐ “สมรู้ร่วมคิด” ในการโจมตีของอิสราเอล

    ทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้ยอมรับในการตัดสินใจของอิสราเอลที่จะใช้การปฏิบัติการทางทหาร เขาระบุว่า เขาไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าและเมื่อเขาทราบ เขาเรียกร้องให้ผู้แทนพิเศษ สตีฟ วิตคอฟฟ์เพื่อเตือนกาตาร์ทันที แต่การโจมตีได้เริ่มขึ้นแล้ว

    กลุ่มฮามาสระบุว่า สมาชิก 5 คนเสียชีวิตในการโจมตีรวมถึงลูกชายของ คาลิล อัล-เฮย์ยา

    ซูฮาอิล อัล-ฮินดีสมาชิกกลุ่มฮามาสบอกกับสถานีโทรทัศน์ Al Jazeera ว่า ผู้นำระดับสูงของกลุ่มรอดจากเหตุโจมตี

    งานศพของเหยื่อที่จัดโดยกาตาร์

    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา งานศพของเหยื่อจากเหตุโจมตีของอิสราเอลจัดขึ้นที่เมืองโดฮา ร่างของเหยื่อทั้ง 6 คนจากเหตุโจมตีถูกนำไปที่มัสยิดในเมืองโดฮาซึ่งมีศพ 5 รายที่คลุมด้วยธงปาเลสไตน์และอีกรายคลุมด้วยธงกาตาร์

    อีเมียร์ ชีค ทามิม บิน ฮามัด อัล ทานีเข้าร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย งานจัดขึ้นที่มัสยิดและนำไปฝังที่สุสาน

    https://www.presstv.ir/Detail/2025/09/11/754831/US-complicit-in-Doha-attack-on-negotiators,-it-was-assault-on-truce-talks--Hamas

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    18-09-68/03​ : หมี CNN / สูตรสำเร็จความใคร่เหี้ย? ปากเจรจา แต่ลับหลังสั่งเชือด มันไม่ใช่เพิ่งจะทำ แต่ทำมาแล้วนับศตวรรษ อี QATAR มรึงเคยโง่ยังไง ก็เหมือนเดิมเป๊ะเด๊ะ ถามว่า ยังจะเหลือควายกี่ตัวที่ยังเชื่ออเมริกา อังกฤษ อิสราเอล ชะตากรรมขี้ข้า สุดท้ายก็แค่ที่รองตรีนเหี้ย หมดประโยชน์ก็เชือด ไม่ทำตามใบสั่งก็เชือด และนี่คือตัวอย่างว่าขนาดกาตาร์ ก็ยังจะโดนอียิว เหี้ยมะกันล่อได้ แม้เป็นทาสผู้ซื่อสัตย์มาหลายทศวรรษ ทำให้ขี้ข้าเหี้ยตาสว่างขึ้นเยอะ ผู้มีปัญญา ย่อมใฝ่หาผู้มีปัญญาเช่นกัน ส่วนคนโง่ก็จะจมปลักอยู่กับคนโง่ไม่สิ้นสุด ฮามาสได้ที สบช่องชี้เป้า "อเมริกาอยู่เบื้องหลังช่วยอียิวโจมตีกาตาร์" ระบบป้องกันภัยทางอากาศแพตทริออตไม่ทำงาน สั่งยิงระยะไกลไม่ได้ เพราะถูกเหี้ยมะกันควบคุมรหัสผ่านอยู่ หากไม่อนุมัติก็ใช้งานไม่ได้ แล้วมรึงจะซื้ออาวุธมาทำพ่อง? ซื้อแล้วไม่ได้ใช้ ใช้ได้เฉพาะกับศัตรูของเหี้ยเท่านั้น แปลว่ามรึงบรมโง่ดักดานของจริง? ทำไมอียิวต้องโจมตีกาตาร์ แต่เสือกเล่น 2 หน้า แอบให้ความช่วยเหลือกองกำลังต่อต้านยิวไงล่ะ ทั้งช่วยอีไก่งวง ทั้งช่วยฮามาสแบบลับๆ แล้วทำไม มรึงไม่เปิดตัวไปเลยล่ะ ให้ขั้วใหม่เข้ามาคุ้มครอง ดีกว่าเล่น 2 หน้า ไปไม่สุด สุดท้ายโดนเททั้ง 2 ฝั่ง ความโง่ที่มรึงคู่ควร ยุคนี้แล้ว จะเลือกข้างไหน ต้องเอามันให้ชัดเจนไปเลย เพราะมรึงถึงแตกหักแน่ ใครมันจะพริ้วเหมือนศรีธนญชัยกันล่ะ? เกมส์โลกเปิดหน้าแล้ว 3 ปี สมรภูมิรบ ขั้วเก่าแพ้ขั้วใหม่ราบคาบ ทุกเวทีโลก ทั้งฝ่ายการเมือง กำลังพล แสนยานุภาพ และผลลัพธ์ของการรบ แพ้แบบหมดรูป หมดเปลือก โลกอาหรับมีมติกู้ปาเลสไตน์ เมื่อคิดจะสู้กับยิว ใยต้องเล่น 2 หน้าต่อไปอีก เพราะสำหรับตะวันออกกลางแล้ว ความซื่อสัตย์ จงรักภักดี และคำพูด เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องรักษาคำมั่นสัญญา ซาอุ อิหร่าน ไก่งวง ฟาโรห์ แค่ 4 ชาตินี้ เหี้ยยิวก็ตายโหงแล้ว มรึงเปิดหน้าแลกเมื่อไหร่ คือวันแตกอเมริกา แตกอังกฤษ มันจะมาพร้อมกันหมดทีเดียว เพราะนี่คือสคริปต์ที่อีเยรูซาเล็ม ลอนดอน วอชิงตัน มันคุยกันไว้นานแล้ว ก่อนจาก ก่อนไป มันต้องทิ้งทวนให้โลกจดจำไงล่ะ? Hamas: US complicit in Doha attack on truce negotiators กลุ่มฮามาสระบุว่า สหรัฐสมรู้ร่วมคิดในการโจมตีโดฮา ขณะที่เจรจา ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : กลุ่มฮามาสระบุว่า สหรัฐสมรู้ร่วมคิดในการโจมตีโดฮา ขณะที่เจรจา กลุ่มฮามาสประณามการสมรู้ร่วมคิดของสหรัฐกับอิสราเอลในการโจมตีทางอากาศต่อกาตาร์และความพยายามลอบสังหารต่อผู้นำกบฏปาเลสไตน์ที่ระบุว่า พวกเขาพยายามเลิกเจรจาในการหยุดยิงที่มีประสิทธิภาพในกาซา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาฟอว์ซี บาร์ฮอมโฆษกกลุ่มฮามาสกล่าวผ่านแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ว่า คำเชื้อเชิญที่จะฆ่าทีมการประนีประนอมของกลุ่มฮามาสในโดฮาพร้อมภัยที่เกิดขึ้นเพื่อโจมตีความเป็นผู้นำของการปฏิบัติการในต่างประเทศแสดงให้เห็นถึง “ความไร้ความสามารถที่จะบรรลุจุดประสงค์” หลังจาก 23 เดือนของสงครามในกาซา เขาระบุว่า ความพยายามลอบสังหารเกิดขึ้นขณะที่ผู้แทนมีส่วนร่วมในการเจรจาข้อเสนอหยุดยิง บาร์ฮอมระบุว่า การระเบิดมีเป้าหมายเป็นที่อยู่อาศัยของหัวหน้าของผู้แทนการเจรจา คาลิล อัล-เฮย์ยาที่ทำร้ายภรรยาฮัมแมม อัล เฮย์ยาและหลาน เขาระบุว่า “อาชญากรรม” ดังกล่าวเป็นการโจมตีต่อกระบวนการเจรจาทั้งหมด โฆษกของกลุ่มฮามาสระบุว่า การโจมตีอิสราเอลแสดงให้เห็นถึงการโจมตีอำนาจอธิปไตยของกาต้าร์และความมั่นคงแต่ “การประกาศสงครามต่อประเทศอาหรับและอิสลาม” รวมถึงก่อให้เกิดภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคเอเชียตะวันตกทั้งหมด บาร์ฮอมตัดสินว่าสหรัฐ “สมรู้ร่วมคิด” ในการโจมตีของอิสราเอล ทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้ยอมรับในการตัดสินใจของอิสราเอลที่จะใช้การปฏิบัติการทางทหาร เขาระบุว่า เขาไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าและเมื่อเขาทราบ เขาเรียกร้องให้ผู้แทนพิเศษ สตีฟ วิตคอฟฟ์เพื่อเตือนกาตาร์ทันที แต่การโจมตีได้เริ่มขึ้นแล้ว กลุ่มฮามาสระบุว่า สมาชิก 5 คนเสียชีวิตในการโจมตีรวมถึงลูกชายของ คาลิล อัล-เฮย์ยา ซูฮาอิล อัล-ฮินดีสมาชิกกลุ่มฮามาสบอกกับสถานีโทรทัศน์ Al Jazeera ว่า ผู้นำระดับสูงของกลุ่มรอดจากเหตุโจมตี งานศพของเหยื่อที่จัดโดยกาตาร์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา งานศพของเหยื่อจากเหตุโจมตีของอิสราเอลจัดขึ้นที่เมืองโดฮา ร่างของเหยื่อทั้ง 6 คนจากเหตุโจมตีถูกนำไปที่มัสยิดในเมืองโดฮาซึ่งมีศพ 5 รายที่คลุมด้วยธงปาเลสไตน์และอีกรายคลุมด้วยธงกาตาร์ อีเมียร์ ชีค ทามิม บิน ฮามัด อัล ทานีเข้าร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย งานจัดขึ้นที่มัสยิดและนำไปฝังที่สุสาน https://www.presstv.ir/Detail/2025/09/11/754831/US-complicit-in-Doha-attack-on-negotiators,-it-was-assault-on-truce-talks--Hamas ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    WWW.PRESSTV.IR
    Hamas: US complicit in Doha attack on truce negotiators
    Hamas has held the United States accountable for aiding and abetting the Zionist regime’s attempt to assassinate members of the resistance movement’s negotiating delegation in the Qatari capital Doha.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17-09-68/01 : หมี CNN / "สภาโกปี๊" หรรษาขาประจำ EP5.1

    ณ ร้านอาแปะ "แดร๊กด่วน" วงประชุม "สภาโกปี๊" ชุดเก่า เวลาเดิม เกิดเรื่องใหญ่ เมื่อบรรดาพรรคการเมือง แห่กันเข้ามาในหมู่บ้านหมีดุ เหตุเพราะสถิติแรงเกิน หมู่บ้านเดียว ที่ตลอด 20 ปี ยอด NO VOTE สูงสุดอันดับ 1 ของประเทศ คือไม่เลือกใครเลย เป็นแรงดึงดูด ให้บรรดาเสือหิวทั้งหลาย อยากได้คะแนนจากที่นี่ให้ได้ เค้าเรียก "ด่านโหดหิน" ใครได้คะแนนจากที่นี่ได้ คือสุดยอดนักการเมืองเหี้ยที่ไร้พ่าย ครั้งล่าสุดเมื่อ 2 ปี ก่อน จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง มี 3500 คน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 3499 ขาด 1 เสียงเพราะนอนพะงาบที่รพ. ICU ใช้สิทธิ์โหวต NO ถึง 3499 เสียงครบตามจำนวนผู้มีสิทธิ์ หมู่บ้านหมีดุ ขึ้นชื่อเรื่อง "ไม่เอาเหี้ยไป จัญไรมา" เพราะไม่ว่าจะกาใคร แม่งก็เหี้ยเหมียงเดิม แล้วกูจะเอาเสียงบริสุทธิ์ในมือไปให้เหี้ยมันทำไมกันล่ะ นโยบายโคตรพ่อง ประชานิยมโคตรแม่ง ดีแต่เผาผลาญงบหาแดร๊ก

    อาแปะ : ไอ้สัส! วันนี้ "เหี้ยบุก" พวกเราเตรียมรับมือกันให้ดีดี งวดนี้ ได้ข่าว มันจัดเต็ม มากันยกแก๊งค์เหี้ย C ท่อน้ำเลี้ยงมันทั้งนั้น 3 พรรคหลอกแดร๊ก 1 พรรคตีเนียน มันเล่นยกสื่อเหี้ยยิวเข้ามา คงถาม หมู่บ้านเรา ไม่นิยมประชาธิปไตยโคตรพ่องยิวบ้างเหรอ?

    อาโก : พอจะมียุบสภาพกันอีก 4 เดือน เดินสายกันเชียวน่ะมรึง 4 ปี แลก 4 วิ หมายังอาย กาเสร็จ กวักมือเรียกให้ตาย แม่งก็ไม่โผล่ สันดาน ใครกันแน่ที่โง่ฟ่ะ?

    อาซิ่ม อินเตอร์ : อีหมู่บ้านชั้น มันเข้าไปเรียบร้อยแล้ว ตามสูตร หัวละ 2000 เริ่มต้น ยิ่งใกล้คืนหมาหอน เอาไปเลย 3500 พร้อมรองเท้าแตะ 1 ข้าง กาเสร็จ ค่อยไปรับอีกข้าง ดูมันทำ? คราวก่อน อีส้มดวย ชนะยกพรรค ทั้งบุคคล และพรรค เพิ่งเคยเห็น แจกบัตรคอนเสิร์ตไอดอลคลั่งฟรี หัวละ 2 ใบ วัยรุ่นแถวบ้านกรี๊ดกร๊าดกันหย่าย ดิ้นเหมือนโดนน้ำร้อนลวกเป๊ะเด๊ะ

    อาฉี : โน้น..ไม่ทันไร มันโผล่มาล่ะ เอาไงดี ใครจะเปิดก่อนดีล่ะ?

    อาคิม : ใจร่มๆ ตามสูตร มันต้องแกล้งเข้ามานั่งแดรีกโกปี๊ แล้วถามสารทุกข์ สุขดิบ เพื่อสร้างความคุ้นเคย และไว้เนื้อเชื้อใจ วิธีการเดียวกับนักล่า จูบก่อนแล้วค่อยขย้ำ มาผิดที่แล้วไอ้นู๋ นี่มันดง "เพชรฆาตนักการเมืองหัวกล้วยนะมรึง" โดนแน่

    อาซิ่ม อินเตอร์ : ไม่รู้ มันจะจำชั้นได้มั้ย เพราะมันเพิ่งจะเข้าไปในหมู่บ้านชั้นเมื่ออาทิตย์ก่อน เงิน 2000 หมดเกลี้ยงแล้ว โดนหวยแดร๊กจ๊ะ แหม..เงินอัปมงคลเสียจริง เงินบาป แทงเหี้ยอะไรก็ไม่ถูก! ให้มากูรับ แต่จะเลือกจริงหรือไม่ เรื่องของกู

    อาแปะ : READY! มันมากันแล้ว สื่อตรึม จัดฉากกันใหญ่เชียวมรึง? เดี๋ยวรู้

    ทันทีที่กองทัพสื่อรับจ้างเหี้ย ดาหน้ากันเข้ามา วางกล้องพร้อม ตัวละครพร้อม ACTION นำหน้าด้วยหัวหน้าพรรคมันม่วง สโลแกน "อยู่ให้สบาย อิ่มหมีพีมันส์" กราบไหว้มาแต่ไกล "สวัสดีครับเพ่น้อง ผมชื่อ "สะเบอเร่อเฮ้ย" ครับเพ่น้อง วันนี้ ขอฝากเนื้อ ฝากตัวไว้ในอ้อมอก อ้อมใจ เพ่น้องชาวหมู่บ้านหมีดุ ด้วยน่ะคร๊าบบบ

    ไม่ทันไร! อาแปะ หน้านิ่ง หน้าตาย ก็นำร่องก่อนเพื่อน ชี้นิ้วไปที่ชื่อป้ายหน้าร้าน ตามสโลแกน "แดร๊กเสร็จก็ไสหัวไปซะ" มันเห็นแล้วสะอึก! กูเพิ่งมาถึง แม่งจะไล่กันแล้วรึเนี่ย? โหดจริง อะไรจริง นี่มันหมู่บ้าน หรือ กรงหมาพันธุ์ดุกันฟ่ะเนี่ย?

    แฮะ..แค่แวะมาทักทาย เพ่น้องทุกท่านคร๊าบ มีอะไรให้รับใช้ บอกมาได้เลย เดี๋ยวจัดการให้ น้ำ ไฟ ถนน สาธารณูปโภค เข้าถึง เข้าถึง อย่าได้ห่วง โปรดเลือก พรรคมันม่วง เบอร์ 88 รับรอง ชีวิตจะสบายไปตลอดกาลขอรับ เพราะเรารับใช้ประชาชนเต็มความสามารถอยู่แล้ว

    อาแปะ : ลื้อจะสั่งอะไร? หากไม่กิน ก็ไสหัวออกไป ที่นี่ เค้าสงบสุขดีอยู่แล้ว

    สะเบอเร่อเฮ้ย : อ๋อ..สั่ง ครับสั่ง โกปี๊ 8 ปาท่องโก๋ 10 ไข่ลวก 10 นมเย็น 4 ขอรับ

    อาแปะ : แล้วบรรดานักข่าวที่ลื้อยกกันมาเป็นขบวนขันหมากเนี่ย ไม่ให้มันได้แดร๊กหน่อยเหรอ? ไหนว่าทำเพื่อประชาชนไง เห็นอยู่ก็ไม่น้อยน่ะ ประมาณ 40 คน จะเลี้ยงมั้ย? (ถามต่อหน้า "สะเบอเร่อเฮ้ย" ขณะ LIVE สดอยู่)

    สะเบอเร่อเฮ้ย : อ๋อ..เลี้ยงสิคร๊าบ เท่าไหร่ ก็เลี้ยงขอรับ(ไอ้สัส..จัดหนักกูทันที)

    อาโก : อ้าว..เลี้ยงแต่นักข่าว ไม่เลี้ยงพวกเรา ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำรึจ๊ะ? คุณหัวหน้าพรรค ดูท่าทาง ไม่ใช่คนขี้เหนียวนิจ๊ะ มาทั้งที มันต้องสร้างความประทับใจหน่อยสิ อยากเห็นผู้แทนประชาชนตัวเป็นๆ ของจริง อ่ะน่ะ (คนในร้านเฮ ทันที)

    สะเบอเร่อเฮ้ย : จัดไปขอรับ เป็นเกียรติที่ได้ดูแลประชาชนครับ มันเป็นหน้าที่

    อาฉี : อ้าว..พวกเรา ไปป่าวประกาศเร็ว ท่านหัวหน้าพรรค จะเลี้ยงยกหมู่บ้าน ใครมีลูกเด็ก เล็กแดง ยกกันมากินฟรีเร็ว! ให้ว่อง ให้ไว ชาวบ้านเฮตามน้ำทันที (กล้องจับภาพบรรยากาศคึกคัก แต่หัวหน้าพรรคหน้าเจื่อน)

    หลังผ่านไป 2 ชั่วโมง หลังแดร๊กกันดุเด็ด เผ็ดมันส์ ร้านอาแปะ ทำยอดขายได้มากกว่าขายทั้งเดือนซะอีก ลาภปาก แดร๊กกันดีนัก กูขอเอาคืนมรึงบ้างเหอะ ก็ถึงเวลา "หาเสียง" ยังไงเสียแล้ว เมื่อชาวบ้านมารุมกินฟรีที่ร้านอาแปะ ก็เอาเป็นที่ถ่ายโลเกชั่นหมู่บ้านไปเลย นายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน อีกำนัน ดาหน้ากันเสนอผลงานกันใหญ่ออกสื่อ ออกมาต้อนรับท่านหัวหน้าพรรคมันม่วง ชาวบ้านเห็นชัด ถึงอาการชะเลียส้นตรีนของข้าราชการ กับฝ่ายการเมือง ยิ่งทำให้แค้นจัด เดี๋ยวมีช็อตเด็ดแน่!

    LIVE สด ณ หมู่บ้านหมีดุ ตำบลหมีงาบ อำเภอหมีตะปบ ถ่ายทำที่ร้าน "แดร๊กเสร็จก็ไสหัวไปซะ" โดยมี อาแปะเป็นเจ้าของร้าน และเป็นศูนย์กลางชาวบ้าน ตั้งสภาโกปี๊มาหลายสิบปี เห็นการเมืองมาเยอะ ถูกเชิญไปให้สัมภาษณ์ โดยมีการจัดฉาก ยืนเรียงกันพร้อม ทั้งฝ่ายข้าราชการ และฝ่ายการเมือง

    สะเบอเร่อเฮ้ย : เรา..ในฐานะพรรคมันม่วง ที่ต้องการจะยกระดับความเจริญให้เพ่น้องประชาชน เราต้องการสิ่งที่ดีกว่า ทันสมัยกว่า และเห็นทันตาเป็นที่ประจักษ์ ดังนั้น นโยบายหลักของเราคือ "กินอิ่ม หลับสบาย" ทุกครัวเรือน จะต้องปลอดภัย และมีกิน มีใช้ ไม่ศักดิ์ศรี ไม่ต้องขอใครกิน อีกต่อไป (ชาวบ้านนั่งฟัง..เงียบกริบ)

    อาแปะ : ลื้อมาเพื่อช่วยพวกเราชิมิ? งั้นลื้อพร้อมจะฟังปัญหา ปากท้องชาวบ้าน และสิ่งที่ชาวบ้านต้องการจริงๆ รึยัง? ที่ไม่ใช่จากปากคนอื่น อ่ะน่ะ กล้าฟังมั้ย?

    (อาแปะพูดคั่นกลาง LIVE สดเลย อี สะเบอเร่อเฮ้ย ถึงกับชงักไป 5 วิ แต่เห็นออกสื่ออยู่ จึงตามน้ำ ผิดแผน กูกะจะใส่นโยบายหลอกแดร๊ก ปั่นหัวควายซะหน่อย แต่เสือกถูกคั่นรายการ เอาเหอะ เดี๋ยวค่อยตบท้ายสวยๆ ปล่อยชาวบ้านได้ปลดปล่อยก่อน)

    อาแปะ : กวักมือเรียก "อาโก" ทันที ตาลื้อล่ะ อั๊วชงให้แล้ว ในหมู่บ้าน ไม่มีใครรู้ดีเท่าลื้อดอก ข้อมูลตรึม ปัญญาเป็นเริ่ด ช่วยบอกท่านหัวหน้าพรรคหน่อยว่า เราต้องการอะไร? จัดไป อย่าให้เสียของ

    อาโก : ก็ไม่มีอะไรมากดอกน่ะ เราอยากให้ท่านรับปากสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องการในยามนี้ และในอนาคต หากทำได้ เราทั้งหมู่บ้านจะเลือกพรรคท่านแน่นอน เพราะคนลงมือทำจริง ย่อมดีกว่าเอาแต่พูด พวกเราชอบคนจริง และให้ใจเต็มที่

    สะเบอเร่อเฮ้ย : ยิงลี ก๊าบ..เฮ๊ย ยินดี ขอรับ ผมพร้อมรับฟังปัญหาชาวบ้านอยู่แล้ว ยากแค่ไหน ก็จะทำให้ได้ เพื่อให้ชีวิตที่ดีกลับคืนสู่ทุกหมู่บ้านอีกครั้ง

    อาโก : ใส่ทันที ขอเรียงเป็นข้อๆ ดังนี้

    1.ยกเลิก MOU43/44 ทันที โดยไม่มีเงื่อนไข ปิดด่านให้หมด จนกว่าขะแมร์แพ้
    2.ร่างรมน.ใหม่เมื่อไหร่ ใครแตะต้องสถาบันสูงสุด ประหาร 9 ชั่วโคตร ไม่มียกเว้น
    3.โทษของการคอรัปชั่นคือประหารชีวิตเท่านั้น ไม่มีหมดอายุความ ทำทันที
    4.ตัดทุกอย่างเกี่ยวกับสิทธิพิเศษ และอภิสิทธิ์ของสส. สว. เปลืองงบใช่เหตุ
    5.ร่างรมน.ใหม่เมื่อไหร่ ไม่ใช่เลือกกันเอง ภาคประชาชนต้องเข้าไปมีส่วนร่าง
    6.องค์กรอิสระ ไม่ให้ฝ่ายการเมืองยุ่งเด็ดขาด ให้ประชาชนส่งตัวแทนเข้าไป
    7.ผลัดใบกรมปทุมวัน ผลัดใบอัยกวย ผลัดใบกรุมคุก ผลัดใบข้าราชการทั้งระบบ
    8.กฎหมายควบคุมพรรค ท่อน้ำเลี้ยงต่างชาติ ยุบทันที ถอนสิทธิ์ตลอดชีพ
    9.กระจายอำนาจ ไม่ให้ทุกอย่างเข้าสู่ศูนย์กลาง เพาะเชื้อชั่ว 77 จ. บริหารเอง
    10.ยกเลิกระบบนายทุนผูกขาด ใช้ระบบสวัสดิการรัฐนำ งบประมาณกระจายทั่ว
    11.รากฐานสำคัญ ประวัติศาสตร์ ศีลธรรม บรรจุในระเบียบแห่งชาติต้องมี ทุกรร.
    12.คืนพระราชอำนาจ โปรดเกล้านายกฯ พระราชทาน ฝ่ายการเมือง 30 วัง 70
    13.เรียกคืนอธิปไตยไทย ดินแดนเดิมที่เคยมี และถูกแย่งชิงไปคืนมาให้หมด
    14.ทุนเรียนฟรีต้องมี คนไทยต้องได้รับการศึกษาฟรีไปจนถึงชั้นปริญญา วิชาชีพ
    15.จัดการทุนต่างชาติ ควบคุมผู้อพยพลี้ภัย คนต่างด้าว แรงงานเถื่อน กฎต้องแรง

    หายใจทันมั้ย? เอาแค่นี้ก่อนน่ะ ท่านผู้นำพรรค เดี๋ยวจะฉี่แตกซะก่อน

    สะเบอเร่อเฮ้ย : มึน..โดนหมัดรัว นี่มันเข้ากูทุกดอกนี่หว่า? ตั้งสติได้แป๊บ หันมาหากล้อง ยิ้มหวานๆ เป็นข้อเสนอที่ดี แต่ทำได้ยากน่ะ เพราะหลายข่อมันขัดกับประชาธิปไตย ที่สากลยอมรับน่ะ

    อาโก : สวนกลับทันควัน.. เอาเหรอ? อั๊วคิดว่าที่นี่คือประเทศไทย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุก เป็นเอกราชมานับ 1000 ปี มีอะไรที่สากลไม่ยอมรับเราบ้างล่ะ อั๊วก็เห็น ทั่วโลกแห่กันเข้ามาเต็มบ้าน เต็มเมือง ไม่เห็นใครบอกเราไม่ใช่ประชาธิปไตยซะหน่อย

    สะเบอเร่อเฮ้ย : (ของเริ่มขึ้น) ไม่คิดหน่อยรึว่า มันอาจจะกลายเป็นคอมมิวนิสต์น่ะ หากเราไม่ยึดประชาธิปไตยอันทรงคุณค่าเอาไว้ ทั่วโลกเจริญก็เพราะประชาธิปไตยเนี่ยแหละ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค เราจะเดินถอยหลังเอาน่ะ

    อาฉี : แล้วทำไม จีน รัสเซีย ถึงได้เจริญกันล่ะ เพราะมีผู้นำดี ทั้งปูติน สีจิ้นผิง แปลว่าอะไร ระบบอะไรก็ช่าง มันดีหมด หากได้ผู้นำที่ดี เก่ง และฉลาด ที่สำคัญคือ ทำเพื่อส่วนรวมอย่างจริงจัง ประชาธิปไตย 93 ปี ไม่ได้ช่วยให้เราอิ่มได้จริง เลือกตั้งกันมากี่ครั้งแล้วล่ะ แล้วจบยังไง?

    ชาวบ้านเริ่มเฮกันหย่าย สื่อได้ช็อต ปิงปอง เล่นข่าว จับตาดูท่านหัวหน้าพรรค จะเอาตัวรอดยังไงดี? ไม่ทันไร นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็ดาหน้าเสนอ องครักษ์พิทักษ์นายทันที เสนอหน้าออกสื่อ "ชมผู้นำพรรคที่มีใจเป็นกลาง" และชื่นชมความเอาใจใส่ แม้แต่ในหมู่บ้านเล็กๆ ยังอุตส่าห์มาเยี่ยมเยียน บอกสื่อไปหน้าตาเฉยว่า ทุกวันนี้ หมู่บ้านนี้ ร่มเย็นเป็นสุขดี เพราะมีผู้ใหญี่หลายท่านให้ความสนใจ(ก็แหงสิ 10 กว่าปี ไม่ได้แดร๊กแม้เพียงเสียงเดียว คะแนนเดียว มรึงถึงอยากจะแย่งกันอย่างกะหมา เพื่อปลดล็อค สร้างวีรกรรมชนะใจคนในหมู่บ้านนี้ให้ได้ วงพนันขันต่อ วางไว้ 100:1 ใครที่ได้เสียงมา คือแชมป์จ๊ะ)

    ยังไม่ทัน ที่อี สะเบอเร่อเฮ้ย จะแถต่อ ก็มีเด็กน้อยโผล่มา สาวน้อยคนนี้มีชื่อว่า "ปุกลุก" ท่านผู้นำขา นู๋มีเรื่องจะขอร้องคร๊า สื่อให้ความสำคัญทันที ด้วยความใสซื่อของเด็ก ก็พูดออกมาโพลงๆ เลยว่า "ทำไมต้องแย่งนมนู๋กินด้วยคร๊า ผู้ใหญ่น่าไม่อาย" เพราะแกเพิ่งจะไปล้างท้องมาหมาดๆ กับเพื่อนนักเรียนร่วมห้อง ท้องเสียเพราะนมบูด งานเข้านายอำเภอทันที จะแถต่อยังไงดีเนี่ย?

    นายอำเภอหันหน้ามาบอกผู้นำพรรคว่า "เป็นเรื่องผิดพลาดทางเทคนิค" การขนส่งล่าช้า และขบวนการขนส่งไม่ได้มาตรฐาน ท่านผู้นำพรรค ก็รีบออกสื่อแจ้งทันที ว่า จะแก้ไขโดยด่วน ต่อไปเด็กๆ จะต้องได้กินนมสดจากฟาร์มทุกวัน สดใหม่เสมอ ยังไม่ทันจะคุยต่อ ก็มีเด็กน้อยโผล่มาอีก ถามว่า "อยากได้ ลุงกุ้ง เป็นนายกฯ อ่ะคร๊าบบ" ฮาแตก ทั้งร้าน เด็กมันยังรู้ ว่าใครคือ "วีรบุรุษชาติ"

    บรรยากาศเริ่มไม่เป็นใจ กระแสรักชาติดาษดื่น ดูท่า การหาเสียงครั้งนี้ มันจะไร้ผล ไม่เป็นดั่งที่คาดคิดไว้ ผู้นำพรรค ถึงได้แถลงการณ์ต่อหน้าสื่อ เพื่อปิดท้ายทันที อ้างว่า "ที่เดินทางมาหมู่บ้านนี้ ก็เพื่อจะดำรงประชาธิปไตย" ให้ระบบแข็งแรง และสนับสนุนให้ทุกคนมีส่วนในการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง รงณรงค์ให้ทุกครัวเรือน มีส่วนในการกำหนดชะตากรรมประเทศ เพราะแลเห็นว่า ผ่านมา 20 ปี หมู่บ้านหมีดุ แห่งนี้ ไม่มีคะแนนเสียงของพรรคการเมืองใดเลยที่เจาะได้ แปลว่า ยังไม่ถูกใจผู้แทนคนไหนเลย ถึงได้มาเพื่อแสดงตัวให้เป็นที่พิจารณา แล้วจึงชิ่งหนีกลับทันที

    ยังไม่ทันจะพ้นปากทางหมู่บ้าน คณะพรรคใหม่ก็โผล่มาทันที งวดนี้ จัดหนัก จัดเต็ม ขนอุปกรณ์เวที มาตั้ง กะให้บรรลือไปทั้งโลก พ่วงดารา ไอดอล มาเต็มตรีน อย่างกะขยวนขันหมาก ไอ้สัส! อี สะเบอเร่อเฮ้ย หน้าเหว่อทันที https://www.minds.com/newsfeed/1814952706748571648
    17-09-68/01 : หมี CNN / "สภาโกปี๊" หรรษาขาประจำ EP5.1 ณ ร้านอาแปะ "แดร๊กด่วน" วงประชุม "สภาโกปี๊" ชุดเก่า เวลาเดิม เกิดเรื่องใหญ่ เมื่อบรรดาพรรคการเมือง แห่กันเข้ามาในหมู่บ้านหมีดุ เหตุเพราะสถิติแรงเกิน หมู่บ้านเดียว ที่ตลอด 20 ปี ยอด NO VOTE สูงสุดอันดับ 1 ของประเทศ คือไม่เลือกใครเลย เป็นแรงดึงดูด ให้บรรดาเสือหิวทั้งหลาย อยากได้คะแนนจากที่นี่ให้ได้ เค้าเรียก "ด่านโหดหิน" ใครได้คะแนนจากที่นี่ได้ คือสุดยอดนักการเมืองเหี้ยที่ไร้พ่าย ครั้งล่าสุดเมื่อ 2 ปี ก่อน จำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง มี 3500 คน มีผู้มาใช้สิทธิ์ 3499 ขาด 1 เสียงเพราะนอนพะงาบที่รพ. ICU ใช้สิทธิ์โหวต NO ถึง 3499 เสียงครบตามจำนวนผู้มีสิทธิ์ หมู่บ้านหมีดุ ขึ้นชื่อเรื่อง "ไม่เอาเหี้ยไป จัญไรมา" เพราะไม่ว่าจะกาใคร แม่งก็เหี้ยเหมียงเดิม แล้วกูจะเอาเสียงบริสุทธิ์ในมือไปให้เหี้ยมันทำไมกันล่ะ นโยบายโคตรพ่อง ประชานิยมโคตรแม่ง ดีแต่เผาผลาญงบหาแดร๊ก อาแปะ : ไอ้สัส! วันนี้ "เหี้ยบุก" พวกเราเตรียมรับมือกันให้ดีดี งวดนี้ ได้ข่าว มันจัดเต็ม มากันยกแก๊งค์เหี้ย C ท่อน้ำเลี้ยงมันทั้งนั้น 3 พรรคหลอกแดร๊ก 1 พรรคตีเนียน มันเล่นยกสื่อเหี้ยยิวเข้ามา คงถาม หมู่บ้านเรา ไม่นิยมประชาธิปไตยโคตรพ่องยิวบ้างเหรอ? อาโก : พอจะมียุบสภาพกันอีก 4 เดือน เดินสายกันเชียวน่ะมรึง 4 ปี แลก 4 วิ หมายังอาย กาเสร็จ กวักมือเรียกให้ตาย แม่งก็ไม่โผล่ สันดาน ใครกันแน่ที่โง่ฟ่ะ? อาซิ่ม อินเตอร์ : อีหมู่บ้านชั้น มันเข้าไปเรียบร้อยแล้ว ตามสูตร หัวละ 2000 เริ่มต้น ยิ่งใกล้คืนหมาหอน เอาไปเลย 3500 พร้อมรองเท้าแตะ 1 ข้าง กาเสร็จ ค่อยไปรับอีกข้าง ดูมันทำ? คราวก่อน อีส้มดวย ชนะยกพรรค ทั้งบุคคล และพรรค เพิ่งเคยเห็น แจกบัตรคอนเสิร์ตไอดอลคลั่งฟรี หัวละ 2 ใบ วัยรุ่นแถวบ้านกรี๊ดกร๊าดกันหย่าย ดิ้นเหมือนโดนน้ำร้อนลวกเป๊ะเด๊ะ อาฉี : โน้น..ไม่ทันไร มันโผล่มาล่ะ เอาไงดี ใครจะเปิดก่อนดีล่ะ? อาคิม : ใจร่มๆ ตามสูตร มันต้องแกล้งเข้ามานั่งแดรีกโกปี๊ แล้วถามสารทุกข์ สุขดิบ เพื่อสร้างความคุ้นเคย และไว้เนื้อเชื้อใจ วิธีการเดียวกับนักล่า จูบก่อนแล้วค่อยขย้ำ มาผิดที่แล้วไอ้นู๋ นี่มันดง "เพชรฆาตนักการเมืองหัวกล้วยนะมรึง" โดนแน่ อาซิ่ม อินเตอร์ : ไม่รู้ มันจะจำชั้นได้มั้ย เพราะมันเพิ่งจะเข้าไปในหมู่บ้านชั้นเมื่ออาทิตย์ก่อน เงิน 2000 หมดเกลี้ยงแล้ว โดนหวยแดร๊กจ๊ะ แหม..เงินอัปมงคลเสียจริง เงินบาป แทงเหี้ยอะไรก็ไม่ถูก! ให้มากูรับ แต่จะเลือกจริงหรือไม่ เรื่องของกู อาแปะ : READY! มันมากันแล้ว สื่อตรึม จัดฉากกันใหญ่เชียวมรึง? เดี๋ยวรู้ ทันทีที่กองทัพสื่อรับจ้างเหี้ย ดาหน้ากันเข้ามา วางกล้องพร้อม ตัวละครพร้อม ACTION นำหน้าด้วยหัวหน้าพรรคมันม่วง สโลแกน "อยู่ให้สบาย อิ่มหมีพีมันส์" กราบไหว้มาแต่ไกล "สวัสดีครับเพ่น้อง ผมชื่อ "สะเบอเร่อเฮ้ย" ครับเพ่น้อง วันนี้ ขอฝากเนื้อ ฝากตัวไว้ในอ้อมอก อ้อมใจ เพ่น้องชาวหมู่บ้านหมีดุ ด้วยน่ะคร๊าบบบ ไม่ทันไร! อาแปะ หน้านิ่ง หน้าตาย ก็นำร่องก่อนเพื่อน ชี้นิ้วไปที่ชื่อป้ายหน้าร้าน ตามสโลแกน "แดร๊กเสร็จก็ไสหัวไปซะ" มันเห็นแล้วสะอึก! กูเพิ่งมาถึง แม่งจะไล่กันแล้วรึเนี่ย? โหดจริง อะไรจริง นี่มันหมู่บ้าน หรือ กรงหมาพันธุ์ดุกันฟ่ะเนี่ย? แฮะ..แค่แวะมาทักทาย เพ่น้องทุกท่านคร๊าบ มีอะไรให้รับใช้ บอกมาได้เลย เดี๋ยวจัดการให้ น้ำ ไฟ ถนน สาธารณูปโภค เข้าถึง เข้าถึง อย่าได้ห่วง โปรดเลือก พรรคมันม่วง เบอร์ 88 รับรอง ชีวิตจะสบายไปตลอดกาลขอรับ เพราะเรารับใช้ประชาชนเต็มความสามารถอยู่แล้ว อาแปะ : ลื้อจะสั่งอะไร? หากไม่กิน ก็ไสหัวออกไป ที่นี่ เค้าสงบสุขดีอยู่แล้ว สะเบอเร่อเฮ้ย : อ๋อ..สั่ง ครับสั่ง โกปี๊ 8 ปาท่องโก๋ 10 ไข่ลวก 10 นมเย็น 4 ขอรับ อาแปะ : แล้วบรรดานักข่าวที่ลื้อยกกันมาเป็นขบวนขันหมากเนี่ย ไม่ให้มันได้แดร๊กหน่อยเหรอ? ไหนว่าทำเพื่อประชาชนไง เห็นอยู่ก็ไม่น้อยน่ะ ประมาณ 40 คน จะเลี้ยงมั้ย? (ถามต่อหน้า "สะเบอเร่อเฮ้ย" ขณะ LIVE สดอยู่) สะเบอเร่อเฮ้ย : อ๋อ..เลี้ยงสิคร๊าบ เท่าไหร่ ก็เลี้ยงขอรับ(ไอ้สัส..จัดหนักกูทันที) อาโก : อ้าว..เลี้ยงแต่นักข่าว ไม่เลี้ยงพวกเรา ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำรึจ๊ะ? คุณหัวหน้าพรรค ดูท่าทาง ไม่ใช่คนขี้เหนียวนิจ๊ะ มาทั้งที มันต้องสร้างความประทับใจหน่อยสิ อยากเห็นผู้แทนประชาชนตัวเป็นๆ ของจริง อ่ะน่ะ (คนในร้านเฮ ทันที) สะเบอเร่อเฮ้ย : จัดไปขอรับ เป็นเกียรติที่ได้ดูแลประชาชนครับ มันเป็นหน้าที่ อาฉี : อ้าว..พวกเรา ไปป่าวประกาศเร็ว ท่านหัวหน้าพรรค จะเลี้ยงยกหมู่บ้าน ใครมีลูกเด็ก เล็กแดง ยกกันมากินฟรีเร็ว! ให้ว่อง ให้ไว ชาวบ้านเฮตามน้ำทันที (กล้องจับภาพบรรยากาศคึกคัก แต่หัวหน้าพรรคหน้าเจื่อน) หลังผ่านไป 2 ชั่วโมง หลังแดร๊กกันดุเด็ด เผ็ดมันส์ ร้านอาแปะ ทำยอดขายได้มากกว่าขายทั้งเดือนซะอีก ลาภปาก แดร๊กกันดีนัก กูขอเอาคืนมรึงบ้างเหอะ ก็ถึงเวลา "หาเสียง" ยังไงเสียแล้ว เมื่อชาวบ้านมารุมกินฟรีที่ร้านอาแปะ ก็เอาเป็นที่ถ่ายโลเกชั่นหมู่บ้านไปเลย นายอำเภอ ผู้ใหญ่บ้าน อีกำนัน ดาหน้ากันเสนอผลงานกันใหญ่ออกสื่อ ออกมาต้อนรับท่านหัวหน้าพรรคมันม่วง ชาวบ้านเห็นชัด ถึงอาการชะเลียส้นตรีนของข้าราชการ กับฝ่ายการเมือง ยิ่งทำให้แค้นจัด เดี๋ยวมีช็อตเด็ดแน่! LIVE สด ณ หมู่บ้านหมีดุ ตำบลหมีงาบ อำเภอหมีตะปบ ถ่ายทำที่ร้าน "แดร๊กเสร็จก็ไสหัวไปซะ" โดยมี อาแปะเป็นเจ้าของร้าน และเป็นศูนย์กลางชาวบ้าน ตั้งสภาโกปี๊มาหลายสิบปี เห็นการเมืองมาเยอะ ถูกเชิญไปให้สัมภาษณ์ โดยมีการจัดฉาก ยืนเรียงกันพร้อม ทั้งฝ่ายข้าราชการ และฝ่ายการเมือง สะเบอเร่อเฮ้ย : เรา..ในฐานะพรรคมันม่วง ที่ต้องการจะยกระดับความเจริญให้เพ่น้องประชาชน เราต้องการสิ่งที่ดีกว่า ทันสมัยกว่า และเห็นทันตาเป็นที่ประจักษ์ ดังนั้น นโยบายหลักของเราคือ "กินอิ่ม หลับสบาย" ทุกครัวเรือน จะต้องปลอดภัย และมีกิน มีใช้ ไม่ศักดิ์ศรี ไม่ต้องขอใครกิน อีกต่อไป (ชาวบ้านนั่งฟัง..เงียบกริบ) อาแปะ : ลื้อมาเพื่อช่วยพวกเราชิมิ? งั้นลื้อพร้อมจะฟังปัญหา ปากท้องชาวบ้าน และสิ่งที่ชาวบ้านต้องการจริงๆ รึยัง? ที่ไม่ใช่จากปากคนอื่น อ่ะน่ะ กล้าฟังมั้ย? (อาแปะพูดคั่นกลาง LIVE สดเลย อี สะเบอเร่อเฮ้ย ถึงกับชงักไป 5 วิ แต่เห็นออกสื่ออยู่ จึงตามน้ำ ผิดแผน กูกะจะใส่นโยบายหลอกแดร๊ก ปั่นหัวควายซะหน่อย แต่เสือกถูกคั่นรายการ เอาเหอะ เดี๋ยวค่อยตบท้ายสวยๆ ปล่อยชาวบ้านได้ปลดปล่อยก่อน) อาแปะ : กวักมือเรียก "อาโก" ทันที ตาลื้อล่ะ อั๊วชงให้แล้ว ในหมู่บ้าน ไม่มีใครรู้ดีเท่าลื้อดอก ข้อมูลตรึม ปัญญาเป็นเริ่ด ช่วยบอกท่านหัวหน้าพรรคหน่อยว่า เราต้องการอะไร? จัดไป อย่าให้เสียของ อาโก : ก็ไม่มีอะไรมากดอกน่ะ เราอยากให้ท่านรับปากสิ่งที่พวกเราทุกคนต้องการในยามนี้ และในอนาคต หากทำได้ เราทั้งหมู่บ้านจะเลือกพรรคท่านแน่นอน เพราะคนลงมือทำจริง ย่อมดีกว่าเอาแต่พูด พวกเราชอบคนจริง และให้ใจเต็มที่ สะเบอเร่อเฮ้ย : ยิงลี ก๊าบ..เฮ๊ย ยินดี ขอรับ ผมพร้อมรับฟังปัญหาชาวบ้านอยู่แล้ว ยากแค่ไหน ก็จะทำให้ได้ เพื่อให้ชีวิตที่ดีกลับคืนสู่ทุกหมู่บ้านอีกครั้ง อาโก : ใส่ทันที ขอเรียงเป็นข้อๆ ดังนี้ 1.ยกเลิก MOU43/44 ทันที โดยไม่มีเงื่อนไข ปิดด่านให้หมด จนกว่าขะแมร์แพ้ 2.ร่างรมน.ใหม่เมื่อไหร่ ใครแตะต้องสถาบันสูงสุด ประหาร 9 ชั่วโคตร ไม่มียกเว้น 3.โทษของการคอรัปชั่นคือประหารชีวิตเท่านั้น ไม่มีหมดอายุความ ทำทันที 4.ตัดทุกอย่างเกี่ยวกับสิทธิพิเศษ และอภิสิทธิ์ของสส. สว. เปลืองงบใช่เหตุ 5.ร่างรมน.ใหม่เมื่อไหร่ ไม่ใช่เลือกกันเอง ภาคประชาชนต้องเข้าไปมีส่วนร่าง 6.องค์กรอิสระ ไม่ให้ฝ่ายการเมืองยุ่งเด็ดขาด ให้ประชาชนส่งตัวแทนเข้าไป 7.ผลัดใบกรมปทุมวัน ผลัดใบอัยกวย ผลัดใบกรุมคุก ผลัดใบข้าราชการทั้งระบบ 8.กฎหมายควบคุมพรรค ท่อน้ำเลี้ยงต่างชาติ ยุบทันที ถอนสิทธิ์ตลอดชีพ 9.กระจายอำนาจ ไม่ให้ทุกอย่างเข้าสู่ศูนย์กลาง เพาะเชื้อชั่ว 77 จ. บริหารเอง 10.ยกเลิกระบบนายทุนผูกขาด ใช้ระบบสวัสดิการรัฐนำ งบประมาณกระจายทั่ว 11.รากฐานสำคัญ ประวัติศาสตร์ ศีลธรรม บรรจุในระเบียบแห่งชาติต้องมี ทุกรร. 12.คืนพระราชอำนาจ โปรดเกล้านายกฯ พระราชทาน ฝ่ายการเมือง 30 วัง 70 13.เรียกคืนอธิปไตยไทย ดินแดนเดิมที่เคยมี และถูกแย่งชิงไปคืนมาให้หมด 14.ทุนเรียนฟรีต้องมี คนไทยต้องได้รับการศึกษาฟรีไปจนถึงชั้นปริญญา วิชาชีพ 15.จัดการทุนต่างชาติ ควบคุมผู้อพยพลี้ภัย คนต่างด้าว แรงงานเถื่อน กฎต้องแรง หายใจทันมั้ย? เอาแค่นี้ก่อนน่ะ ท่านผู้นำพรรค เดี๋ยวจะฉี่แตกซะก่อน สะเบอเร่อเฮ้ย : มึน..โดนหมัดรัว นี่มันเข้ากูทุกดอกนี่หว่า? ตั้งสติได้แป๊บ หันมาหากล้อง ยิ้มหวานๆ เป็นข้อเสนอที่ดี แต่ทำได้ยากน่ะ เพราะหลายข่อมันขัดกับประชาธิปไตย ที่สากลยอมรับน่ะ อาโก : สวนกลับทันควัน.. เอาเหรอ? อั๊วคิดว่าที่นี่คือประเทศไทย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุก เป็นเอกราชมานับ 1000 ปี มีอะไรที่สากลไม่ยอมรับเราบ้างล่ะ อั๊วก็เห็น ทั่วโลกแห่กันเข้ามาเต็มบ้าน เต็มเมือง ไม่เห็นใครบอกเราไม่ใช่ประชาธิปไตยซะหน่อย สะเบอเร่อเฮ้ย : (ของเริ่มขึ้น) ไม่คิดหน่อยรึว่า มันอาจจะกลายเป็นคอมมิวนิสต์น่ะ หากเราไม่ยึดประชาธิปไตยอันทรงคุณค่าเอาไว้ ทั่วโลกเจริญก็เพราะประชาธิปไตยเนี่ยแหละ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค เราจะเดินถอยหลังเอาน่ะ อาฉี : แล้วทำไม จีน รัสเซีย ถึงได้เจริญกันล่ะ เพราะมีผู้นำดี ทั้งปูติน สีจิ้นผิง แปลว่าอะไร ระบบอะไรก็ช่าง มันดีหมด หากได้ผู้นำที่ดี เก่ง และฉลาด ที่สำคัญคือ ทำเพื่อส่วนรวมอย่างจริงจัง ประชาธิปไตย 93 ปี ไม่ได้ช่วยให้เราอิ่มได้จริง เลือกตั้งกันมากี่ครั้งแล้วล่ะ แล้วจบยังไง? ชาวบ้านเริ่มเฮกันหย่าย สื่อได้ช็อต ปิงปอง เล่นข่าว จับตาดูท่านหัวหน้าพรรค จะเอาตัวรอดยังไงดี? ไม่ทันไร นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็ดาหน้าเสนอ องครักษ์พิทักษ์นายทันที เสนอหน้าออกสื่อ "ชมผู้นำพรรคที่มีใจเป็นกลาง" และชื่นชมความเอาใจใส่ แม้แต่ในหมู่บ้านเล็กๆ ยังอุตส่าห์มาเยี่ยมเยียน บอกสื่อไปหน้าตาเฉยว่า ทุกวันนี้ หมู่บ้านนี้ ร่มเย็นเป็นสุขดี เพราะมีผู้ใหญี่หลายท่านให้ความสนใจ(ก็แหงสิ 10 กว่าปี ไม่ได้แดร๊กแม้เพียงเสียงเดียว คะแนนเดียว มรึงถึงอยากจะแย่งกันอย่างกะหมา เพื่อปลดล็อค สร้างวีรกรรมชนะใจคนในหมู่บ้านนี้ให้ได้ วงพนันขันต่อ วางไว้ 100:1 ใครที่ได้เสียงมา คือแชมป์จ๊ะ) ยังไม่ทัน ที่อี สะเบอเร่อเฮ้ย จะแถต่อ ก็มีเด็กน้อยโผล่มา สาวน้อยคนนี้มีชื่อว่า "ปุกลุก" ท่านผู้นำขา นู๋มีเรื่องจะขอร้องคร๊า สื่อให้ความสำคัญทันที ด้วยความใสซื่อของเด็ก ก็พูดออกมาโพลงๆ เลยว่า "ทำไมต้องแย่งนมนู๋กินด้วยคร๊า ผู้ใหญ่น่าไม่อาย" เพราะแกเพิ่งจะไปล้างท้องมาหมาดๆ กับเพื่อนนักเรียนร่วมห้อง ท้องเสียเพราะนมบูด งานเข้านายอำเภอทันที จะแถต่อยังไงดีเนี่ย? นายอำเภอหันหน้ามาบอกผู้นำพรรคว่า "เป็นเรื่องผิดพลาดทางเทคนิค" การขนส่งล่าช้า และขบวนการขนส่งไม่ได้มาตรฐาน ท่านผู้นำพรรค ก็รีบออกสื่อแจ้งทันที ว่า จะแก้ไขโดยด่วน ต่อไปเด็กๆ จะต้องได้กินนมสดจากฟาร์มทุกวัน สดใหม่เสมอ ยังไม่ทันจะคุยต่อ ก็มีเด็กน้อยโผล่มาอีก ถามว่า "อยากได้ ลุงกุ้ง เป็นนายกฯ อ่ะคร๊าบบ" ฮาแตก ทั้งร้าน เด็กมันยังรู้ ว่าใครคือ "วีรบุรุษชาติ" บรรยากาศเริ่มไม่เป็นใจ กระแสรักชาติดาษดื่น ดูท่า การหาเสียงครั้งนี้ มันจะไร้ผล ไม่เป็นดั่งที่คาดคิดไว้ ผู้นำพรรค ถึงได้แถลงการณ์ต่อหน้าสื่อ เพื่อปิดท้ายทันที อ้างว่า "ที่เดินทางมาหมู่บ้านนี้ ก็เพื่อจะดำรงประชาธิปไตย" ให้ระบบแข็งแรง และสนับสนุนให้ทุกคนมีส่วนในการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง รงณรงค์ให้ทุกครัวเรือน มีส่วนในการกำหนดชะตากรรมประเทศ เพราะแลเห็นว่า ผ่านมา 20 ปี หมู่บ้านหมีดุ แห่งนี้ ไม่มีคะแนนเสียงของพรรคการเมืองใดเลยที่เจาะได้ แปลว่า ยังไม่ถูกใจผู้แทนคนไหนเลย ถึงได้มาเพื่อแสดงตัวให้เป็นที่พิจารณา แล้วจึงชิ่งหนีกลับทันที ยังไม่ทันจะพ้นปากทางหมู่บ้าน คณะพรรคใหม่ก็โผล่มาทันที งวดนี้ จัดหนัก จัดเต็ม ขนอุปกรณ์เวที มาตั้ง กะให้บรรลือไปทั้งโลก พ่วงดารา ไอดอล มาเต็มตรีน อย่างกะขยวนขันหมาก ไอ้สัส! อี สะเบอเร่อเฮ้ย หน้าเหว่อทันที https://www.minds.com/newsfeed/1814952706748571648
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ควบคุมกฎระเบียบอินเตอร์เน็ตของจีนออกคำสั่งให้บรรดาบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศ ระงับจัดซื้อชิปปัญญาประดิษฐ์ของเอ็นวิเดียและยกเลิกคำสั่งซื้อที่มีอยู่ในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งในการผลักดันอย่างครอบคลุมลดการพึ่งพาเทคโนโลยีอเมริกา ตามรายงานของไฟแนนเชียลไทม์ส
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000089251

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ผู้ควบคุมกฎระเบียบอินเตอร์เน็ตของจีนออกคำสั่งให้บรรดาบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศ ระงับจัดซื้อชิปปัญญาประดิษฐ์ของเอ็นวิเดียและยกเลิกคำสั่งซื้อที่มีอยู่ในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งในการผลักดันอย่างครอบคลุมลดการพึ่งพาเทคโนโลยีอเมริกา ตามรายงานของไฟแนนเชียลไทม์ส . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000089251 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 449 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าเห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเราและการดับทุกข์สิ้นเชิง
    สัทธรรมลำดับที่ : 381
    ชื่อบทธรรม :- เห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเรา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=381
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --เห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเรา
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นเทพฤษี !
    ....ข้าพระองค์จะพิจารณาเห็นโลกอย่างไร
    ความตายจึงไม่แลเห็นข้าพระองค์เล่า ? พระเจ้าข้า !”
    --ดูก่อนโมฆราช ! ท่านจงเป็นคนมีสติ
    ถอนความตามเห็นว่าเป็นตัวตนออกเสีย
    พิจารณาเห็นโลก โดยความเป็นของว่างเปล่าทุกเมื่อเถิด.
    ท่านจะพึงข้ามความตายเสียได้ ด้วยข้อปฏิบัติอย่างนี้,
    #ความตายจะไม่แลเห็นท่าน
    http://etipitaka.com/read/pali/25/548/?keywords=มจฺจุราช
    ผู้พิจารณาเห็นโลกอยู่ โดยอาการอย่างนี้ แล.
    --- สุตฺต. ขุ. ๒๕/๕๔๙/๔๓๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/25/548/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%93%E0%B9%99
    --- จูฬนิ. ขุ. ๓๐/๒๔๕/๔๙๙, ๕๐๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/30/245/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%99%E0%B9%99
    http://etipitaka.com/read/pali/30/245/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%94

    --การดับทุกข์สิ้นเชิง
    --ไม่เนื่องด้วยอิทธิวิธี แม้กระทั่งวิโมกข์ที่ไม่เกี่ยวกับการสิ้นอาสวะ
    (นักบวชเดียรถีย์อื่น ชื่อ สุสิมะ
    หาอุบายเข้ามาบวชในพุทธศาสนา เพื่อจะบรรลุคุณวิเศษสำหรับนำเอาไปทำให้คณะของตัวเจริญรุ่งเรืองด้วยลาภยศสักการะ เหมือนสังฆบริษัทของพระพุทธองค์ ;
    ครั้นบวชแล้ว ได้เข้าไปหาพวกภิกษุปัญญาวิมุตต์ โดยคิดว่าภิกษุพวกนี้ มีอภิญญาทั้งหก เมื่อได้ทราบว่าภิกษุพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอภิญญาทั้งหก และได้รับบอกเล่าว่าความเป็นอริยะบุคคลไม่เนื่องด้วยอภิญญาทั้งหก ก็เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า
    ซักไซ้ถึงเรื่องอภิญญาทั้งหก ว่าเกี่ยวข้องกันอย่างจำเป็นกับความสิ้นอาสวะตามความเชื่อของเขาหรือไม่.
    พระพุทธองค์ได้ทรงใช้วิธีทำให้เขาเกิดธัมมฐิติญาณและนิพพานญาณ โดยทรงนำเอาเรื่องเบญจขันธ์ไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา ไม่ควรเห็นว่าเป็นของเรา เป็นเรา เป็นอัตตาของเรา จนเป็นธัมมฐิติญาณขึ้นมาก่อน จนกระทั่งจิตเบื่อหน่ายคลายกำหนัด หลุดพ้น และรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว อันเป็นนิพพานญาณ
    ตามนัยแห่งอนัตตลักขณสูตร ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว หรืออาจจะหาอ่านดูได้จากที่ทั่วไป และเมื่อนักบวชชื่อสุสิมะนั้น เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ในเรื่องความดับทุกข์หรือความสิ้นอาสวะนั้น ว่าเป็นไปได้ตามเหตุตามปัจจัยของมันเอง และเมื่อนักบวชชื่อสุสิมะเห็นชัดในความจริงข้อนี้แล้ว จึงตรัสแก่เขาต่อไปว่า:- )
    --การดับทุกข์สิ้นเชิงไม่เนื่องด้วยอิทธิวิธี แม้กระทั่งวิโมกข์ที่ไม่เกี่ยวกับการสิ้นอาสวะ
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ชรามรณะ มี เพราะชาติเป็นปัจจัย ? “
    อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ชาติ มี เพราะภพเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ภพ มี เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า อุปาทาน มีเพราะตัณหาเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ตัณหา มี เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า เวทนา มี เพราะผัสสะเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ผัสสะ มี เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า สฬายตนะ มี เพราะนามรูปเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า นามรูป มี เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า วิญญาณ มี เพราะสังขารเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า สังขาร ทั้งหลายมี เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    (ใต่อไปได้ตรัสชักนำให้เห็นปฏิจจสมุปบาทฝ่ายนิโรธวาร (ความดับ)​
    โดยรูปแบบแห่งถ้อยคำอย่างเดียวกับข้อความข้างบนนี้ ครบทั้ง ๑๑ อาการ
    แล้วได้ตรัสว่า :-​ )​
    --สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้
    เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี อิทธิวิธี มีอย่างต่าง ๆ อยู่อีกหรือ
    คือคนเดียวแปลงรูปเป็นหลายคน, หลายคนเป็นคนเดียว, ....ฯลฯ....
    และแสดงอำนาจทางกาย เป็นไปตลอดถึงพรหมโลกได้ ดังนี้.
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้
    เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ทิพพโสต อยู่อีกหรือ คือมีโสตธาตุอันเป็นทิพย์ ....ฯลฯ....
    ทั้งที่ไกลและที่ใกล้ ดังนี้.
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้
    เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มีลักษณะแห่งอภิญญาแต่ละอย่าง ๆ โดยละเอียด ออกจะยืดยาว ในที่นี้นำมาใส่ไว้แต่โดยย่อพอ เป็นเครื่องสังเกต เจโตปริยญาณ อยู่อีกหรือ คือกำหนดรู้ใจแห่งสัตว์อื่น ....ฯลฯ....
    จิตไม่หลุดพ้นว่าไม่หลุดพ้น ดังนี้.
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้
    เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ อยู่อีกหรือ คือระลึกได้ถึงขันธ์ที่เคยอยู่อาศัยในภพก่อนมีอย่างต่าง ๆ ....ฯลฯ....
    พร้อมทั้งอาการและอุทเทศ ด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้.
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้
    เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ทิพพจักขุญาณ อยู่อีกหรือ คือ มีจักษุอันเป็นทิพย์ บริสุทธิ์หมดจดล่วงจักษุของสามัญมนุษย์ ....ฯลฯ....
    รู้ชัดหมู่สัตว์ผู้เข้าถึงตามกรรมได้ ดังนี้.
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้
    เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี อารุปปวิโมกข์ อยู่อีกหรือ คือ วิโมกข์เหล่าใด อันสงบรำงับ เป็นอรูปเพราะก้าวล่วงรูปเสียได้ เธอถูกต้องวิโมกข์เหล่านั้นด้วยนามกายแล้วแลอยู่ ดังนี้.
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
    --สุสิมะ ! คราวนี้, คำพูดอย่างโน้นของเธอกับการที่ (เธอกล่าวบัดนี้ว่า)
    ไม่ต้องมีการบรรลุถึงอภิญญาธรรมทั้งหลายเหล่านี้ ก็ได้,
    ในกรณีนี้ นี้เราจะว่า อย่างไรกัน.-

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/122-124/294-302
    http://etipitaka.com/read/thai/16/122/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%94​
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๑๕๓-๑๕๕/๒๙๔-๓๐๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/153/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%94
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=381
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=381
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าเห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเราและการดับทุกข์สิ้นเชิง สัทธรรมลำดับที่ : 381 ชื่อบทธรรม :- เห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเรา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=381 เนื้อความทั้งหมด :- --เห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเรา --“ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นเทพฤษี ! ....ข้าพระองค์จะพิจารณาเห็นโลกอย่างไร ความตายจึงไม่แลเห็นข้าพระองค์เล่า ? พระเจ้าข้า !” --ดูก่อนโมฆราช ! ท่านจงเป็นคนมีสติ ถอนความตามเห็นว่าเป็นตัวตนออกเสีย พิจารณาเห็นโลก โดยความเป็นของว่างเปล่าทุกเมื่อเถิด. ท่านจะพึงข้ามความตายเสียได้ ด้วยข้อปฏิบัติอย่างนี้, #ความตายจะไม่แลเห็นท่าน http://etipitaka.com/read/pali/25/548/?keywords=มจฺจุราช ผู้พิจารณาเห็นโลกอยู่ โดยอาการอย่างนี้ แล. --- สุตฺต. ขุ. ๒๕/๕๔๙/๔๓๙. http://etipitaka.com/read/pali/25/548/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%93%E0%B9%99 --- จูฬนิ. ขุ. ๓๐/๒๔๕/๔๙๙, ๕๐๔. http://etipitaka.com/read/pali/30/245/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%99%E0%B9%99 http://etipitaka.com/read/pali/30/245/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%94 --การดับทุกข์สิ้นเชิง --ไม่เนื่องด้วยอิทธิวิธี แม้กระทั่งวิโมกข์ที่ไม่เกี่ยวกับการสิ้นอาสวะ (นักบวชเดียรถีย์อื่น ชื่อ สุสิมะ หาอุบายเข้ามาบวชในพุทธศาสนา เพื่อจะบรรลุคุณวิเศษสำหรับนำเอาไปทำให้คณะของตัวเจริญรุ่งเรืองด้วยลาภยศสักการะ เหมือนสังฆบริษัทของพระพุทธองค์ ; ครั้นบวชแล้ว ได้เข้าไปหาพวกภิกษุปัญญาวิมุตต์ โดยคิดว่าภิกษุพวกนี้ มีอภิญญาทั้งหก เมื่อได้ทราบว่าภิกษุพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอภิญญาทั้งหก และได้รับบอกเล่าว่าความเป็นอริยะบุคคลไม่เนื่องด้วยอภิญญาทั้งหก ก็เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ซักไซ้ถึงเรื่องอภิญญาทั้งหก ว่าเกี่ยวข้องกันอย่างจำเป็นกับความสิ้นอาสวะตามความเชื่อของเขาหรือไม่. พระพุทธองค์ได้ทรงใช้วิธีทำให้เขาเกิดธัมมฐิติญาณและนิพพานญาณ โดยทรงนำเอาเรื่องเบญจขันธ์ไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา ไม่ควรเห็นว่าเป็นของเรา เป็นเรา เป็นอัตตาของเรา จนเป็นธัมมฐิติญาณขึ้นมาก่อน จนกระทั่งจิตเบื่อหน่ายคลายกำหนัด หลุดพ้น และรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว อันเป็นนิพพานญาณ ตามนัยแห่งอนัตตลักขณสูตร ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว หรืออาจจะหาอ่านดูได้จากที่ทั่วไป และเมื่อนักบวชชื่อสุสิมะนั้น เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ในเรื่องความดับทุกข์หรือความสิ้นอาสวะนั้น ว่าเป็นไปได้ตามเหตุตามปัจจัยของมันเอง และเมื่อนักบวชชื่อสุสิมะเห็นชัดในความจริงข้อนี้แล้ว จึงตรัสแก่เขาต่อไปว่า:- ) --การดับทุกข์สิ้นเชิงไม่เนื่องด้วยอิทธิวิธี แม้กระทั่งวิโมกข์ที่ไม่เกี่ยวกับการสิ้นอาสวะ --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ชรามรณะ มี เพราะชาติเป็นปัจจัย ? “ อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ชาติ มี เพราะภพเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ภพ มี เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า อุปาทาน มีเพราะตัณหาเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ตัณหา มี เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า เวทนา มี เพราะผัสสะเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ผัสสะ มี เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า สฬายตนะ มี เพราะนามรูปเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า นามรูป มี เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า วิญญาณ มี เพราะสังขารเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า สังขาร ทั้งหลายมี เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” (ใต่อไปได้ตรัสชักนำให้เห็นปฏิจจสมุปบาทฝ่ายนิโรธวาร (ความดับ)​ โดยรูปแบบแห่งถ้อยคำอย่างเดียวกับข้อความข้างบนนี้ ครบทั้ง ๑๑ อาการ แล้วได้ตรัสว่า :-​ )​ --สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี อิทธิวิธี มีอย่างต่าง ๆ อยู่อีกหรือ คือคนเดียวแปลงรูปเป็นหลายคน, หลายคนเป็นคนเดียว, ....ฯลฯ.... และแสดงอำนาจทางกาย เป็นไปตลอดถึงพรหมโลกได้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ทิพพโสต อยู่อีกหรือ คือมีโสตธาตุอันเป็นทิพย์ ....ฯลฯ.... ทั้งที่ไกลและที่ใกล้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มีลักษณะแห่งอภิญญาแต่ละอย่าง ๆ โดยละเอียด ออกจะยืดยาว ในที่นี้นำมาใส่ไว้แต่โดยย่อพอ เป็นเครื่องสังเกต เจโตปริยญาณ อยู่อีกหรือ คือกำหนดรู้ใจแห่งสัตว์อื่น ....ฯลฯ.... จิตไม่หลุดพ้นว่าไม่หลุดพ้น ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ อยู่อีกหรือ คือระลึกได้ถึงขันธ์ที่เคยอยู่อาศัยในภพก่อนมีอย่างต่าง ๆ ....ฯลฯ.... พร้อมทั้งอาการและอุทเทศ ด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ทิพพจักขุญาณ อยู่อีกหรือ คือ มีจักษุอันเป็นทิพย์ บริสุทธิ์หมดจดล่วงจักษุของสามัญมนุษย์ ....ฯลฯ.... รู้ชัดหมู่สัตว์ผู้เข้าถึงตามกรรมได้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี อารุปปวิโมกข์ อยู่อีกหรือ คือ วิโมกข์เหล่าใด อันสงบรำงับ เป็นอรูปเพราะก้าวล่วงรูปเสียได้ เธอถูกต้องวิโมกข์เหล่านั้นด้วยนามกายแล้วแลอยู่ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --สุสิมะ ! คราวนี้, คำพูดอย่างโน้นของเธอกับการที่ (เธอกล่าวบัดนี้ว่า) ไม่ต้องมีการบรรลุถึงอภิญญาธรรมทั้งหลายเหล่านี้ ก็ได้, ในกรณีนี้ นี้เราจะว่า อย่างไรกัน.- #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/122-124/294-302 http://etipitaka.com/read/thai/16/122/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%94​ อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๑๕๓-๑๕๕/๒๙๔-๓๐๒. http://etipitaka.com/read/pali/16/153/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%94 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=381 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=381 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - เห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเรา
    -เห็นโลกชนิดที่ความตายไม่เห็นเรา “ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นเทพฤษี ! ....ข้าพระองค์จะพิจารณาเห็นโลกอย่างไร ความตายจึงไม่แลเห็นข้าพระองค์เล่า ? พระเจ้าข้า !” ดูก่อนโมฆราช ! ท่านจงเป็นคนมีสติ ถอนความตามเห็นว่าเป็นตัวตนออกเสีย พิจารณาเห็นโลก โดยความเป็นของว่างเปล่าทุกเมื่อเถิด. ท่านจะพึงข้ามความตายเสียได้ ด้วยข้อปฏิบัติอย่างนี้, ความตายจะไม่แลเห็นท่าน ผู้พิจารณาเห็นโลกอยู่ โดยอาการอย่างนี้ แล. สุตฺต. ขุ. ๒๕/๕๔๙/๔๓๙. - จูฬนิ. ขุ. ๓๐/๒๔๕/๔๙๙, ๕๐๔. การดับทุกข์สิ้นเชิง ไม่เนื่องด้วยอิทธิวิธี แม้กระทั่งวิโมกข์ที่ไม่เกี่ยวกับการสิ้นอาสวะ (นักบวชเดียรถีย์อื่น ชื่อ สุสิมะ หาอุบายเข้ามาบวชในพุทธศาสนา เพื่อจะบรรลุคุณวิเศษสำหรับนำเอาไปทำให้คณะของตัวเจริญรุ่งเรืองด้วยลาภยศสักการะ เหมือนสังฆบริษัทของพระพุทธองค์ ; ครั้นบวชแล้ว ได้เข้าไปหาพวกภิกษุปัญญาวิมุตต์ โดยคิดว่าภิกษุพวกนี้ มีอภิญญาทั้งหก เมื่อได้ทราบว่าภิกษุพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอภิญญาทั้งหก และได้รับบอกเล่าว่าความเป็นอริยะบุคคลไม่ เนื่องด้วยอภิญญาทั้งหก ก็เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ซักไซ้ถึงเรื่องอภิญญาทั้งหก ว่าเกี่ยวข้องกันอย่างจำเป็นกับความสิ้นอาสวะตามความเชื่อของเขาหรือไม่. พระพุทธองค์ได้ทรงใช้วิธีทำให้เขาเกิดธัมมฐิติญาณและนิพพานญาณ โดยทรงนำเอาเรื่องเบญจขันธ์ไม่เที่ยงเป็นทุกข์เป็นอนัตตา ไม่ควรเห็นว่าเป็นของเรา เป็นเรา เป็นอัตตาของเรา จนเป็นธัมมฐิติญาณขึ้นมาก่อน จนกระทั่งจิตเบื่อหน่ายคลายกำหนัด หลุดพ้น และรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว อันเป็นนิพพานญาณ ตามนัยแห่งอนัตตลักขณสูตร ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว หรืออาจจะหาอ่านดูได้จากที่ทั่วไป และเมื่อนักบวชชื่อสุสิมะนั้น เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง ในเรื่องความดับทุกข์หรือความสิ้นอาสวะนั้น ว่าเป็นไปได้ตามเหตุตามปัจจัยของมันเอง และเมื่อนักบวชชื่อสุสิมะเห็นชัดในความจริงข้อนี้แล้ว จึงตรัสแก่เขาต่อไปว่า:- ) สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ชรามรณะ มี เพราะชาติเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ชาติ มี เพราะภพเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ภพ มี เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า อุปาทาน มีเพราะตัณหาเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ตัณหา มี เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า เวทนา มี เพราะผัสสะเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า ผัสสะ มี เพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า สฬายตนะ มี เพราะนามรูปเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า นามรูป มี เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า วิญญาณ มี เพราะสังขารเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เธอเห็นไหมว่า สังขาร ทั้งหลายมี เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” (ต่อไปได้ตรัสชักนำให้เห็นปฏิจจสมุปบาทฝ่ายนิโรธวาร โดยรูปแบบแห่งถ้อยคำอย่างเดียวกับข้อความข้างบนนี้ ครบทั้ง ๑๑ อาการ แล้วได้ตรัสว่า :-) สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี อิทธิวิธี มีอย่างต่าง ๆ อยู่อีกหรือ คือคนเดียวแปลงรูปเป็นหลายคน, หลายคนเป็นคนเดียว, ....ฯลฯ....๑ และแสดงอำนาจทางกาย เป็นไปตลอดถึงพรหมโลกได้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ทิพพโสต อยู่อีกหรือ คือมีโสตธาตุอันเป็นทิพย์ ....ฯลฯ....๑ ทั้งที่ไกลและที่ใกล้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ๑. ลักษณะแห่งอภิญญาแต่ละอย่าง ๆ โดยละเอียด ออกจะยืดยาว ในที่นี้นำมาใส่ไว้แต่โดยย่อพอ เป็นเครื่องสังเกต ผู้ปรารถนาจะทราบโดยละเอียด พึงดูได้ที่หัวข้อว่า “ธรรมธาตุต่างๆ ที่เป็นผล ของสมถวิปัสสนาอันดับสุดท้าย” ที่หน้า ๔๙๕ แห่งหนังสือนี้. เจโตปริยญาณ อยู่อีกหรือ คือกำหนดรู้ใจแห่งสัตว์อื่น ....ฯลฯ....๑ จิตไม่หลุดพ้นว่าไม่หลุดพ้น ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ อยู่อีกหรือ คือระลึกได้ถึงขันธ์ที่เคยอยู่อาศัยในภพก่อนมีอย่างต่าง ๆ ....ฯลฯ....๑ พร้อมทั้งอาการและอุทเทศ ด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี ทิพพจักขุญาณ อยู่อีกหรือ คือ มีจักษุอันเป็นทิพย์ บริสุทธิ์หมดจดล่วงจักษุของสามัญมนุษย์ ....ฯลฯ....๑ รู้ชัดหมู่สัตว์ผู้เข้าถึงตามกรรมได้ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” สุลิมะ ! เมื่อรู้อยู่อย่างนี้ เห็นอยู่อย่างนี้ เธอยังจำเป็นที่จะต้องทำให้มี อารุปปวิโมกข์ อยู่อีกหรือ คือ วิโมกข์เหล่าใด อันสงบรำงับ เป็นอรูปเพราะก้าวล่วงรูปเสียได้ เธอถูกต้องวิโมกข์เหล่านั้นด้วยนามกายแล้วแลอยู่ ดังนี้. “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” สุสิมะ ! คราวนี้, คำพูดอย่างโน้นของเธอกับการที่ (เธอกล่าวบัดนี้ว่า) ไม่ต้องมีการบรรลุถึงอภิญญาธรรมทั้งหลายเหล่านี้ ก็ได้, ในกรณีนี้ นี้เราจะว่า อย่างไรกัน.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI ในศูนย์รักษาความปลอดภัยองค์กร: ผู้ช่วยอัจฉริยะหรือแค่เสียงรบกวน? — เมื่อ CISO ต้องเผชิญความจริงของการใช้งานจริง”

    ในปี 2025 การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในระบบรักษาความปลอดภัยองค์กร (Security Operations Center – SOC) กลายเป็นประเด็นหลักของผู้บริหารด้านความปลอดภัยข้อมูล (CISO) ทั่วโลก หลายองค์กรหวังว่า AI จะเป็นตัวพลิกเกมในการรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ที่ซับซ้อนและรวดเร็วขึ้น แต่เมื่อเริ่มใช้งานจริง กลับพบว่าความหวังนั้นต้องผ่านบทเรียนมากมายก่อนจะได้ผลลัพธ์ที่แท้จริง

    Myke Lyons จากบริษัท Cribl ชี้ว่า AI และระบบอัตโนมัติช่วยลดเวลาในการตรวจจับและตอบสนองเหตุการณ์ได้จริง แต่ต้องอาศัยการจัดการข้อมูลอย่างมีโครงสร้าง โดยเฉพาะ telemetry ที่มีความสำคัญสูง เช่น log การยืนยันตัวตนและการเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน ซึ่งต้องถูกส่งไปยังระบบที่มีความมั่นใจสูงเพื่อการตรวจจับแบบเรียลไทม์ ส่วนข้อมูลรองลงมาถูกเก็บไว้ใน data lake เพื่อใช้วิเคราะห์ย้อนหลังและลดต้นทุน

    Erin Rogers จาก BOK Financial เสริมว่า AI แบบ “agentic” ซึ่งสามารถตัดสินใจและปรับตัวได้เอง กำลังช่วยให้ระบบตรวจจับภัยคุกคามสามารถตอบสนองได้รวดเร็วขึ้น เช่น การป้องกันการโจมตีแบบ Business Email Compromise แบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องรอมนุษย์เข้ามาแทรกแซง

    แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วย Shaila Rana จาก IEEE เตือนว่า AI ยังไม่แม่นยำพอ โดยอ้างผลการทดลองจาก Microsoft Research ที่พบว่า AI ตรวจจับมัลแวร์ได้เพียง 26% ภายใต้เงื่อนไขที่ยากที่สุด แม้จะมีความแม่นยำถึง 89% ในสถานการณ์ทั่วไปก็ตาม ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้เกิดความมั่นใจเกินจริงและลดการเฝ้าระวังที่จำเป็น

    Anar Israfilov จาก Cyberoon Enterprise ย้ำว่า AI ต้องมีการควบคุมและตรวจสอบจากมนุษย์เสมอ เพราะหากไม่มีการตั้งค่าข้อมูลที่เหมาะสม ระบบอาจสร้าง “ghost alert” หรือการแจ้งเตือนผิดพลาดจำนวนมาก ทำให้ทีมงานเสียเวลาไล่ตามสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง

    Denida Grow จาก LeMareschal ก็เห็นด้วยว่า AI ยังไม่สามารถแทนที่มนุษย์ได้ โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้บริบท เช่น การตอบสนองเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายท้องถิ่น หรือความเสี่ยงเฉพาะขององค์กร ซึ่ง AI ยังไม่สามารถเข้าใจได้ลึกพอ

    Jonathan Garini จาก fifthelement.ai สรุปว่า AI ควรถูกใช้เพื่อช่วยลดภาระงานซ้ำซาก เช่น การวิเคราะห์ log หรือการกรอง alert เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญมีเวลามากขึ้นในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน และการผสาน AI เข้ากับความรู้ภายในองค์กร เช่น ประวัติภัยคุกคามและ workflow ที่มีอยู่ จะช่วยให้ระบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ข้อมูลสำคัญจากบทความ
    AI ถูกนำมาใช้ใน SOC เพื่อเพิ่มความเร็วและลดภาระงานของนักวิเคราะห์
    ระบบ agentic AI สามารถตัดสินใจและปรับตัวได้เองในบางกรณี เช่น การป้องกันอีเมลหลอกลวง
    การจัดการ telemetry อย่างมีโครงสร้างช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับ
    AI ช่วยลดเวลาในการตอบสนองเหตุการณ์และลดต้นทุนในการดำเนินงาน

    มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ
    ต้องมีการควบคุมและตรวจสอบจากมนุษย์เพื่อหลีกเลี่ยง ghost alert
    AI ยังไม่สามารถเข้าใจบริบทเฉพาะ เช่น กฎหมายท้องถิ่นหรือความเสี่ยงเฉพาะองค์กร
    การผสาน AI กับความรู้ภายในองค์กรช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
    AI เหมาะกับงานซ้ำซาก เช่น การกรอง alert และการวิเคราะห์ log

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Cisco และ Splunk เปิดตัว SOC รุ่นใหม่ที่ใช้ agentic AI เพื่อรวมการตรวจจับและตอบสนองภัยคุกคาม
    SANS Institute พบว่าองค์กรส่วนใหญ่ยังใช้ AI ในระดับสนับสนุน ไม่ใช่การตัดสินใจอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
    ปัญหาหลักของ AI ในความปลอดภัยคือ false positive และการขาดบริบท
    การใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบต้องมี “guardrails” เช่น rule-based automation เพื่อควบคุมพฤติกรรมของระบบ

    https://www.csoonline.com/article/4054301/cisos-grapple-with-the-realities-of-applying-ai-to-security-functions.html
    🤖 “AI ในศูนย์รักษาความปลอดภัยองค์กร: ผู้ช่วยอัจฉริยะหรือแค่เสียงรบกวน? — เมื่อ CISO ต้องเผชิญความจริงของการใช้งานจริง” ในปี 2025 การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในระบบรักษาความปลอดภัยองค์กร (Security Operations Center – SOC) กลายเป็นประเด็นหลักของผู้บริหารด้านความปลอดภัยข้อมูล (CISO) ทั่วโลก หลายองค์กรหวังว่า AI จะเป็นตัวพลิกเกมในการรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ที่ซับซ้อนและรวดเร็วขึ้น แต่เมื่อเริ่มใช้งานจริง กลับพบว่าความหวังนั้นต้องผ่านบทเรียนมากมายก่อนจะได้ผลลัพธ์ที่แท้จริง Myke Lyons จากบริษัท Cribl ชี้ว่า AI และระบบอัตโนมัติช่วยลดเวลาในการตรวจจับและตอบสนองเหตุการณ์ได้จริง แต่ต้องอาศัยการจัดการข้อมูลอย่างมีโครงสร้าง โดยเฉพาะ telemetry ที่มีความสำคัญสูง เช่น log การยืนยันตัวตนและการเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน ซึ่งต้องถูกส่งไปยังระบบที่มีความมั่นใจสูงเพื่อการตรวจจับแบบเรียลไทม์ ส่วนข้อมูลรองลงมาถูกเก็บไว้ใน data lake เพื่อใช้วิเคราะห์ย้อนหลังและลดต้นทุน Erin Rogers จาก BOK Financial เสริมว่า AI แบบ “agentic” ซึ่งสามารถตัดสินใจและปรับตัวได้เอง กำลังช่วยให้ระบบตรวจจับภัยคุกคามสามารถตอบสนองได้รวดเร็วขึ้น เช่น การป้องกันการโจมตีแบบ Business Email Compromise แบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องรอมนุษย์เข้ามาแทรกแซง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วย Shaila Rana จาก IEEE เตือนว่า AI ยังไม่แม่นยำพอ โดยอ้างผลการทดลองจาก Microsoft Research ที่พบว่า AI ตรวจจับมัลแวร์ได้เพียง 26% ภายใต้เงื่อนไขที่ยากที่สุด แม้จะมีความแม่นยำถึง 89% ในสถานการณ์ทั่วไปก็ตาม ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้เกิดความมั่นใจเกินจริงและลดการเฝ้าระวังที่จำเป็น Anar Israfilov จาก Cyberoon Enterprise ย้ำว่า AI ต้องมีการควบคุมและตรวจสอบจากมนุษย์เสมอ เพราะหากไม่มีการตั้งค่าข้อมูลที่เหมาะสม ระบบอาจสร้าง “ghost alert” หรือการแจ้งเตือนผิดพลาดจำนวนมาก ทำให้ทีมงานเสียเวลาไล่ตามสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง Denida Grow จาก LeMareschal ก็เห็นด้วยว่า AI ยังไม่สามารถแทนที่มนุษย์ได้ โดยเฉพาะในงานที่ต้องใช้บริบท เช่น การตอบสนองเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายท้องถิ่น หรือความเสี่ยงเฉพาะขององค์กร ซึ่ง AI ยังไม่สามารถเข้าใจได้ลึกพอ Jonathan Garini จาก fifthelement.ai สรุปว่า AI ควรถูกใช้เพื่อช่วยลดภาระงานซ้ำซาก เช่น การวิเคราะห์ log หรือการกรอง alert เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญมีเวลามากขึ้นในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน และการผสาน AI เข้ากับความรู้ภายในองค์กร เช่น ประวัติภัยคุกคามและ workflow ที่มีอยู่ จะช่วยให้ระบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ ข้อมูลสำคัญจากบทความ ➡️ AI ถูกนำมาใช้ใน SOC เพื่อเพิ่มความเร็วและลดภาระงานของนักวิเคราะห์ ➡️ ระบบ agentic AI สามารถตัดสินใจและปรับตัวได้เองในบางกรณี เช่น การป้องกันอีเมลหลอกลวง ➡️ การจัดการ telemetry อย่างมีโครงสร้างช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับ ➡️ AI ช่วยลดเวลาในการตอบสนองเหตุการณ์และลดต้นทุนในการดำเนินงาน ✅ มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ ➡️ ต้องมีการควบคุมและตรวจสอบจากมนุษย์เพื่อหลีกเลี่ยง ghost alert ➡️ AI ยังไม่สามารถเข้าใจบริบทเฉพาะ เช่น กฎหมายท้องถิ่นหรือความเสี่ยงเฉพาะองค์กร ➡️ การผสาน AI กับความรู้ภายในองค์กรช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ➡️ AI เหมาะกับงานซ้ำซาก เช่น การกรอง alert และการวิเคราะห์ log ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Cisco และ Splunk เปิดตัว SOC รุ่นใหม่ที่ใช้ agentic AI เพื่อรวมการตรวจจับและตอบสนองภัยคุกคาม ➡️ SANS Institute พบว่าองค์กรส่วนใหญ่ยังใช้ AI ในระดับสนับสนุน ไม่ใช่การตัดสินใจอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ➡️ ปัญหาหลักของ AI ในความปลอดภัยคือ false positive และการขาดบริบท ➡️ การใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบต้องมี “guardrails” เช่น rule-based automation เพื่อควบคุมพฤติกรรมของระบบ https://www.csoonline.com/article/4054301/cisos-grapple-with-the-realities-of-applying-ai-to-security-functions.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    CISOs grapple with the realities of applying AI to security functions
    Viewed as a copilot to augment rather than revolutionize security operations, well-governed AI can deliver incremental results, according to security leaders’ early returns.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธรรมครองเรือนอยู่
    รู้สัตย์จริงใจ
    อบรมข่มได้
    ให้คุณมากมาย

    จาคะขันติ
    ปิดทางอบาย
    ศีลธรรมอาศัย
    ให้กรรมความดี

    กำลังเพียรอยู่
    รู้สติมี
    สมาธิดี
    มีปัญญาได้

    ธรรมะบริสุทธิ์
    ผุดผ่องถึงใจ
    พาถึงฝั่งได้
    ให้ทุกข์ห่างไกล

    ขอจิตตั้งมั่น
    ปัญญาคุณได้
    เมตตาพอใจ
    ให้สุขสมหวัง.นะ
    ธรรมครองเรือนอยู่ รู้สัตย์จริงใจ อบรมข่มได้ ให้คุณมากมาย จาคะขันติ ปิดทางอบาย ศีลธรรมอาศัย ให้กรรมความดี กำลังเพียรอยู่ รู้สติมี สมาธิดี มีปัญญาได้ ธรรมะบริสุทธิ์ ผุดผ่องถึงใจ พาถึงฝั่งได้ ให้ทุกข์ห่างไกล ขอจิตตั้งมั่น ปัญญาคุณได้ เมตตาพอใจ ให้สุขสมหวัง.นะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • “คิดลบซ้ำ ๆ อาจทำให้สมองเสื่อมเร็วขึ้น — งานวิจัยจากจีนชี้ชัด ความเครียดทางใจส่งผลต่อความจำและการตัดสินใจในผู้สูงอายุ”

    ในยุคที่ผู้สูงอายุเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและสังคม งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยแพทย์จีนแห่งหูเป่ย (Hubei University of Chinese Medicine) ได้เปิดเผยความเชื่อมโยงที่น่าตกใจระหว่าง “การคิดลบซ้ำ ๆ” หรือ Repetitive Negative Thinking (RNT) กับการเสื่อมถอยของสมรรถภาพทางปัญญาในผู้สูงอายุ

    การศึกษานี้เก็บข้อมูลจากผู้เข้าร่วม 424 คน อายุ 60 ปีขึ้นไปในเมืองอู่ฮั่น โดยใช้แบบสอบถาม Perseverative Thinking Questionnaire (PTQ) เพื่อวัดระดับการคิดลบ และใช้แบบทดสอบ Montreal Cognitive Assessment (MoCA) เพื่อประเมินความสามารถทางสมอง เช่น ความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจ

    ผลการวิเคราะห์พบว่า ผู้ที่มีคะแนน RNT สูง (กลุ่ม Q3 และ Q4) มีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะควบคุมปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุ รายได้ การศึกษา และโรคประจำตัวแล้วก็ตาม โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้ที่มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป ความสัมพันธ์นี้ยิ่งชัดเจน

    นักวิจัยอธิบายว่า การคิดลบซ้ำ ๆ เช่น การกังวลเรื่องอนาคต หรือการครุ่นคิดถึงอดีตที่เจ็บปวด จะกระตุ้นระบบความเครียดในร่างกาย ทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงขึ้น เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมของโปรตีนอะไมลอยด์และเทา ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์

    นอกจากนี้ยังมีแนวคิด “หนี้สมอง” (Cognitive Debt) ที่อธิบายว่า การใช้ทรัพยากรสมองไปกับความคิดลบอย่างต่อเนื่อง จะลดความสามารถในการจดจำและตัดสินใจในระยะยาว

    ข้อมูลสำคัญจากงานวิจัย
    ศึกษาในผู้สูงอายุ 424 คนในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน
    ใช้แบบสอบถาม PTQ วัดระดับการคิดลบ และ MoCA วัดความสามารถทางสมอง
    ผู้ที่มี RNT สูงมีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำ
    ความสัมพันธ์ชัดเจนในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป

    กลไกที่อธิบายผลกระทบ
    การคิดลบซ้ำ ๆ กระตุ้นระบบความเครียด ทำให้คอร์ติซอลสูงขึ้น
    เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมโปรตีนอะไมลอยด์และเทา
    แนวคิด “หนี้สมอง” อธิบายว่าความคิดลบใช้ทรัพยากรสมองจนหมด
    ส่งผลต่อความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจในระยะยาว

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    งานวิจัยจาก UCL พบว่า RNT เชื่อมโยงกับการเสื่อมของสมองในระยะ 4 ปี
    RNT เป็นอาการร่วมในโรคซึมเศร้า วิตกกังวล PTSD และโรคนอนไม่หลับ
    การลด RNT ด้วย CBT, mindfulness และกิจกรรมทางสังคมช่วยป้องกันสมองเสื่อม
    การตรวจสอบ RNT ควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพจิตผู้สูงอายุ

    https://bmcpsychiatry.biomedcentral.com/articles/10.1186/s12888-025-06815-2
    🧠 “คิดลบซ้ำ ๆ อาจทำให้สมองเสื่อมเร็วขึ้น — งานวิจัยจากจีนชี้ชัด ความเครียดทางใจส่งผลต่อความจำและการตัดสินใจในผู้สูงอายุ” ในยุคที่ผู้สูงอายุเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและสังคม งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยแพทย์จีนแห่งหูเป่ย (Hubei University of Chinese Medicine) ได้เปิดเผยความเชื่อมโยงที่น่าตกใจระหว่าง “การคิดลบซ้ำ ๆ” หรือ Repetitive Negative Thinking (RNT) กับการเสื่อมถอยของสมรรถภาพทางปัญญาในผู้สูงอายุ การศึกษานี้เก็บข้อมูลจากผู้เข้าร่วม 424 คน อายุ 60 ปีขึ้นไปในเมืองอู่ฮั่น โดยใช้แบบสอบถาม Perseverative Thinking Questionnaire (PTQ) เพื่อวัดระดับการคิดลบ และใช้แบบทดสอบ Montreal Cognitive Assessment (MoCA) เพื่อประเมินความสามารถทางสมอง เช่น ความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจ ผลการวิเคราะห์พบว่า ผู้ที่มีคะแนน RNT สูง (กลุ่ม Q3 และ Q4) มีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะควบคุมปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุ รายได้ การศึกษา และโรคประจำตัวแล้วก็ตาม โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้ที่มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป ความสัมพันธ์นี้ยิ่งชัดเจน นักวิจัยอธิบายว่า การคิดลบซ้ำ ๆ เช่น การกังวลเรื่องอนาคต หรือการครุ่นคิดถึงอดีตที่เจ็บปวด จะกระตุ้นระบบความเครียดในร่างกาย ทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงขึ้น เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมของโปรตีนอะไมลอยด์และเทา ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์ นอกจากนี้ยังมีแนวคิด “หนี้สมอง” (Cognitive Debt) ที่อธิบายว่า การใช้ทรัพยากรสมองไปกับความคิดลบอย่างต่อเนื่อง จะลดความสามารถในการจดจำและตัดสินใจในระยะยาว ✅ ข้อมูลสำคัญจากงานวิจัย ➡️ ศึกษาในผู้สูงอายุ 424 คนในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ➡️ ใช้แบบสอบถาม PTQ วัดระดับการคิดลบ และ MoCA วัดความสามารถทางสมอง ➡️ ผู้ที่มี RNT สูงมีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำ ➡️ ความสัมพันธ์ชัดเจนในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป ✅ กลไกที่อธิบายผลกระทบ ➡️ การคิดลบซ้ำ ๆ กระตุ้นระบบความเครียด ทำให้คอร์ติซอลสูงขึ้น ➡️ เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมโปรตีนอะไมลอยด์และเทา ➡️ แนวคิด “หนี้สมอง” อธิบายว่าความคิดลบใช้ทรัพยากรสมองจนหมด ➡️ ส่งผลต่อความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจในระยะยาว ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ งานวิจัยจาก UCL พบว่า RNT เชื่อมโยงกับการเสื่อมของสมองในระยะ 4 ปี ➡️ RNT เป็นอาการร่วมในโรคซึมเศร้า วิตกกังวล PTSD และโรคนอนไม่หลับ ➡️ การลด RNT ด้วย CBT, mindfulness และกิจกรรมทางสังคมช่วยป้องกันสมองเสื่อม ➡️ การตรวจสอบ RNT ควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพจิตผู้สูงอายุ https://bmcpsychiatry.biomedcentral.com/articles/10.1186/s12888-025-06815-2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดมาเป็นคน
    หนทางชีวี
    มีกรรมความดี
    ศีลธรรมอาศัย

    พระพุทธธรรมสงฆ์
    คงทุกสมัย
    รวมลงสู่ใจ
    ให้ไตรสิกขา

    ศีลสมาธิ
    จิตน้อมนำพา
    ธรรมให้ปัญญา
    พาประเสริฐจริง

    จงเป็นสุขเถิด
    เกิดธรรมพึ่งพิง
    จิตนี้มีจริง
    ดั่งลิงคุมไว้

    มหาสติ
    จิตนิ่งรวมได้
    สมาธิได้
    ธรรมให้ปัญญา
    เกิดมาเป็นคน หนทางชีวี มีกรรมความดี ศีลธรรมอาศัย พระพุทธธรรมสงฆ์ คงทุกสมัย รวมลงสู่ใจ ให้ไตรสิกขา ศีลสมาธิ จิตน้อมนำพา ธรรมให้ปัญญา พาประเสริฐจริง จงเป็นสุขเถิด เกิดธรรมพึ่งพิง จิตนี้มีจริง ดั่งลิงคุมไว้ มหาสติ จิตนิ่งรวมได้ สมาธิได้ ธรรมให้ปัญญา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าสัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา
    สัทธรรมลำดับที่ : 747
    ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=747
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา
    --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ดังนี้ว่า
    “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี
    รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี
    อาเนญชสัญญา ก็ดี
    อากิญจัญญายตนสัญญา ก็ดี
    สัญญาทั้งหมดนั้น ดับไม่มีส่วนเหลือ ในธรรมใด ธรรมนั้นประณีต
    กล่าวคือ #เนวสัญญานาสัญญายตนะ”.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/78/?keywords=เนวสญฺญานาสญฺญายตน

    +--เมื่ออริยสาวกนั้น
    ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้อยู่,
    จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ.
    เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ (สมาบัติ) ในกาลนั้น
    หรือน้อมไปเพื่อ ปัญญา.
    ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย
    ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป
    ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ.
    --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น #เนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/59/88.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/59/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๗/๘๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/77/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%98
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=747
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57
    ลำดับสาธยายธรรม : 57 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าสัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา สัทธรรมลำดับที่ : 747 ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=747 เนื้อความทั้งหมด :- --สัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี อาเนญชสัญญา ก็ดี อากิญจัญญายตนสัญญา ก็ดี สัญญาทั้งหมดนั้น ดับไม่มีส่วนเหลือ ในธรรมใด ธรรมนั้นประณีต กล่าวคือ #เนวสัญญานาสัญญายตนะ”. http://etipitaka.com/read/pali/14/78/?keywords=เนวสญฺญานาสญฺญายตน +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อ ปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ. --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น #เนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/59/88. http://etipitaka.com/read/thai/14/59/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๗/๘๘. http://etipitaka.com/read/pali/14/77/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%98 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=747 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57 ลำดับสาธยายธรรม : 57 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ¸ªà¸±à¸¡à¸¡à¸²à¸—ิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา
    -[คำว่า อากิญจัญญายตนะ คำนี้ เป็นคำแปลกและกำกวม เคยใช้ให้มีความหมายเป็นนิพพาน มาแต่ก่อนพุทธศาสนา หรือนอกพุทธศาสนา เช่น ในสำนักของพาวรีพราหมณ์ (ที่เป็นต้นเหตุให้เกิดโสฬสปัญหา) นั้นเขาถือว่าเป็นนิพพาน จึงมาทูลขอให้พระองค์ทรงแสดงอากิญจัญญายตนะ ตามแบบของพระองค์ ในฐานะที่เป็นนิพพาน ดังนั้นในสูตรนี้ จึงมีบทพิจารณาทำนองเดียวกับนิพพาน เช่นคำว่า นั่นว่างจากอัตตาว่างจากอัตตนิยา หรือว่านั่นสงบนั่นประณีต ดังนี้เป็นต้น ผู้ศึกษาจะต้องมีความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง อย่าให้ปะปนกันเสีย จะมีความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวง]. สัมมาทิฏฐิในเนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะก็ดี รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี อาเนญชสัญญา ก็ดี อากิญจัญญายตนสัญญา ก็ดี สัญญาทั้งหมดนั้น ดับไม่มี ส่วนเหลือ ในธรรมใด ธรรมนั้นประณีต กล่าวคือ เนวสัญญานาสัญญายตนะ”. เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะ. ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น เนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • แหกคอก ตอนที่ 11 – ปฏิบัติการฟอกย้อม
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 11 : ปฏิบัติการฟอกย้อม
    ปี ค.ศ.1913 เกิดเหตุการณ์ที่เหมืองถ่านหินในรัฐ Colorado รู้จักกันในชื่อเหตุการณ์ฆ่าโหด Ludlow (Ludlow Massacre) กรรมกรในเหมืองถ่านหินประมาณหมื่นกว่าคน พร้อมใจกันประท้วงนายจ้าง เนื่องจากหัวหน้ากรรมกรถูกฆาตกรรม กรรมกรพวกนี้เป็นคนต่างชาติ เช่น พวกกรีก อิตาเลียน และเซิร์บ ที่อพยพมาอยู่ในอเมริกาในช่วงอุตสาหกรรมบูม การประท้วงลามไปถึง Colorado Fuel & Iron Corporation ซึ่งเป็นของตระกูล Rockefeller กรรมกรขอขึ้นค่าแรง เนื่องจากสภาพความเป็นอยู่สุดห่วย แถมยังมีการกดขี่จากนายจ้าง และฝ่ายรัฐซึ่งเป็นเสมือนขี้ข้าของนายทุน (เพราะรับเงินส่วย !) ที่เป็นเจ้าของเหมือง นายทุนบอกโง่มาก คิดว่าเอากำลังคนมาขู่กำลังเงินจะสำเร็จหรือ ว่าแล้วก็ไล่กรรมกรและครอบครัวกระเจิงออกไปจากเหมือง กรรมกรคอตกไม่มีที่ไป จัดการกางเต็นท์ตั้งมันอยู่ที่นอกเมืองนั่นแหละ นายทุน Rockefeller บอกว่าเมื่อพูดด้วยปากไม่รู้เรื่อง ก็เอาปืนมาพูดแทนแล้วกัน แล้วเขาก็ไปจ้างพวกมือปืนรับจ้าง ซึ่งมีทั้งปืนกลและปืนไรเฟิล มายิ่งถล่มใส่เต้นท์กรรมกร
    ผู้ว่าการรัฐ Colorado รู้เรื่องเข้าก็บอก นายท่านจัดการเองแบบนี้ไม่ได้ เป็นหน้าที่ของกระผม แล้วขี้ข้าก็ไปรวบรวมเจ้าหน้าที่ ของรัฐ ซึ่งแน่นอน กินเงินเดือนของนายทุน Rockefeller มากวาดเต้นท์จนราบ ในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ.1914 ประวัติศาสตร์ได้ บันทึกไว้ว่า กรรมกรที่รวมกลุ่มกันตั้งเต้นท์กลุ่มใหญ่ที่สุด มีคนรวมกันประมาณพันคน มีทั้งผู้หญิงผู้ชายและเด็ก ถูกปืนกลของเจ้าหน้าที่รัฐรัวใส่บาดเจ็บล้มตายระเนระนาดไปหมด และเมื่อกรรมกรยกธงขาวเดินเข้ามาขอเจรจาสงบศึก เขาก็ถูกปืนกลรัวใส่ตายคาที่เรียบร้อยอยู่บนพื้นถนน หลังจากนั้นปืนกลก็รัวต่อจนถึงค่ำ ตามต่อด้วยเจ้าหน้าที่จุดไฟเผาเต้นท์จนไม่เหลือ กรรมกรตายเรียบ ในจำนวนผู้ที่ถูกไฟเผามีทั้งผู้หญิงและเด็ก ชื่อของฆ่าโหด Ludlow ก็เป็นที่รู้จักดังไปทั่วตั้งแต่นั้นมา หนังสือพิมพ์ลงข่าวทุกวัน พร้อมคำด่ามาจากทุกสารทิศ
    นายทุน Rockefeller บอกว่าเรื่องแบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ขอโทษอย่าเข้าใจผิดว่า เรื่องสาดปืนกลและเอาไฟเผาจะไม่เกิดขึ้นอีก เขาหมายความว่าการที่สื่อประโคมข่าวด่าแบบไม่เลิกนี้ จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกต่างหาก ดังนั้น Rockefeller Foundation จึงได้รับมอบหมายให้ทำการวิจัย เกี่ยวกับการโฆษณาชวนเชื่อ propaganda เพื่อหาวิธีปิดปากสังคมเกี่ยวกับความไม่สงบทางสังคม และการเมือง ไหนๆ จะวิเคราะห์วิจัยเกี่ยวกับเรื่องการบิดเบือนข้อเท็จจริงแล้ว มันก็ควรจะทำกันให้ครบถ้วนไปเลย โดยหาวิธีคิดหลักสูตรเพิ่มคือ เอาให้ถึงวิธีชี้นำสังคม ว่าความจริง truth เป็นอย่างไรไม่สำคัญ สำคัญว่าจะทำให้สังคมคิดอย่างไรกับความจริงนั้นต่างหาก หาวิธีใส่ความคิดเข้าในหัวเรา !
    วิธีการนี้มาจากการโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งได้มีการทดลองใช้ในช่วงสงคราม โลกครั้งที่ 1 มาแล้ว โดยประธานาธิบดี Woodrow Wilson ได้ตั้งหน่วยงาน US Committee on Public Information (CPI) เพื่อให้ประชาชนสนับสนุนการทำสงคราม ก่อนทำสงครามประชาชนทั่วไป
    โดยเฉพาะชนชั้นกรรมกร ไม่มีใครอยากให้ทำสงคราม เพราะมีแต่ความอดอยาก ชาวบ้านบอกว่าสงครามเป็นเรื่อง ของคนรวย แต่นาย Walter Lippman นักคิด นักเขียน จากมหาวิทยาลัย Harvard ผู้ซึ่งประธานาธิบดี Roosevelt ปลื้มมาก บอกว่าเป็นคนหนุ่มที่ฉลาดที่สุดในพวกวัยเดียวกับเขา (ตอนนั้นเขาอายุ 25 ปี) นาย Lippman บอกว่าที่ทำสงครามเพื่อทำให้ประชาธิปไตยเราปลอดภัย เป็นการพูดที่ฟังแล้วดูสวยหรู แต่เป็นตรรกะที่ห่วยมาก แต่คนก็พากันเชื่อ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไอ้หนุ่มน้อยนี้เป็นที่ชื่นชมของประธานาธิบดีหรือเปล่า ฝรั่งก็สอพลอเป็น
    นาย Lippman ยังมีความเห็นอีกว่า คนส่วนใหญ่จะมีความเห็นชอบหรือไม่ชอบ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ ว่างั้นเถอะ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเหตุผล (ด้วยเหตุว่า) คนพวกนี้ไม่ค่อยมีความเฉลียวฉลาดมากนัก และไม่มีความคิดที่มั่นคง แถมเป็นพวกที่ไม่ชอบใช้ความคิด หรือไม่ใช้เวลามานั่งคิดว่าอะไรเกิดขึ้นในโลกนี้บ้าง คนพวกนี้คือคนส่วนใหญ่ของสังคม (พวกโลกสวย?!) เป็นมวลชน เป็นกลุ่มชน ที่ควรจะต้องมีการชี้นำ กำกับ โดยผู้นำ ซึ่งก็อาจจะชี้นำถูกหรือผิดก็ได้ ดังนั้นในความเห็นของนาย Lippman คือ ควรจะมีผู้เชี่ยวชาญ ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการแนะนำ ให้แก่ผู้มีหน้าที่ตัดสินใจ
    ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ เป็นผู้ที่มีความคิดเฉลียวฉลาด มีปัญญามองอะไรทะลุปรุโปร่ง ซึ่งส่วนมากจะเป็นผู้บริหารชั้นสูง คนระดับสูงของประเทศ หรือผู้นำกลุ่มวิชาชีพ ซึ่งเขาเหล่านี้มักจะอยู่ในระดับสูงสุดของสังคม (นี่มันไม่ใช่ แค่แบ่งชนชั้นทางสังคมนะ เป็นการแบ่งชนชั้นทางปัญญาอีกด้วย !)
    นาย Rockefeller ถูกใจมาก เขาเห็นด้วยอย่างยิ่ง บอกใช่แล้วพ่อหนุ่ม เราควรนำมาใช้ในทุกเรื่องเลย โดยเฉพาะใช้ในการครองโลก รวมทั้งด้านธุรกิจสังคมและการเมือง เพื่อชี้นำประชาชน (ฟ้อกย้อมความคิดแบบสมบูรณ์) และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของการคิดสร้างถังความคิด (Think Tank) CFR ซึ่งแน่นอนภายหลัง นาย Lippmann เป็นหนึ่งในนักคิดคนสำคัญของ CFR ด้วย
    วิธีการโฆษณาชวนเชื่อ Propaganda พัฒนามาจนถึงปี ค.ศ.1928 Edward Bernays ซึ่งเป็นหลานของ Sigmund Freud และเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้วางแผนโฆษณาชวนเชื่อให้กับประธานาธิบดี Woodrow Wilson ในสำนักงาน CPI เขียนหนังสือชื่อ Propaganda การโฆษณาชวนเชื่อ ถือเป็นตำราที่ผู้นำทั้งหลายนำไปใช้ ในการต้อนประชาชนเข้าคอก เขาบอกว่า ประชาชนสามารถถูกชี้นำได้โดยคนไม่กี่คน ที่เข้าใจขบวนการนึกคิดและรูปแบบของมวลชน คนไม่กี่คนนี้สามารถทำหน้าที่เป็นคนกระตุกเชือกในการคุมและชี้นำความคิดของมหาชน เหมือนเวลาจะต้อนสัตว์เข้าคอกนั่นแหละ
    วิธีการเช่นนี้ ปรากฎว่าได้ผลไปในทุกวงการและทั่วโลกและยังใช้อยู่จนทุกวันนี้ เพียงแต่เขาเรียกเป็นภาษาสมัยใหม่ว่า engineering consent หรือ constructing consent กระบวนการจัดการให้ได้รับความยินยอมความเห็นชอบ ที่นักล่าเอาไว้ใช้ในการล่าเหยื่อ โดยไม่ต้องออกแรงใช้อาวุธ เพียงแค่หาวิธีย้อมความคิดเหยื่อ จนเหยื่อหลงเชื่อคล้อยตาม และเต็มใจเดินเข้าปากนักล่าให้เคี้ยวแบบสบายๆ 60 ปีมานี้สมันน้อยเต็มใจเดินเข้าปากนักล่าให้เคี้ยวอย่างสบายใจกันเกือบหมดแล้ว
    คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 11 – ปฏิบัติการฟอกย้อม นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 11 : ปฏิบัติการฟอกย้อม ปี ค.ศ.1913 เกิดเหตุการณ์ที่เหมืองถ่านหินในรัฐ Colorado รู้จักกันในชื่อเหตุการณ์ฆ่าโหด Ludlow (Ludlow Massacre) กรรมกรในเหมืองถ่านหินประมาณหมื่นกว่าคน พร้อมใจกันประท้วงนายจ้าง เนื่องจากหัวหน้ากรรมกรถูกฆาตกรรม กรรมกรพวกนี้เป็นคนต่างชาติ เช่น พวกกรีก อิตาเลียน และเซิร์บ ที่อพยพมาอยู่ในอเมริกาในช่วงอุตสาหกรรมบูม การประท้วงลามไปถึง Colorado Fuel & Iron Corporation ซึ่งเป็นของตระกูล Rockefeller กรรมกรขอขึ้นค่าแรง เนื่องจากสภาพความเป็นอยู่สุดห่วย แถมยังมีการกดขี่จากนายจ้าง และฝ่ายรัฐซึ่งเป็นเสมือนขี้ข้าของนายทุน (เพราะรับเงินส่วย !) ที่เป็นเจ้าของเหมือง นายทุนบอกโง่มาก คิดว่าเอากำลังคนมาขู่กำลังเงินจะสำเร็จหรือ ว่าแล้วก็ไล่กรรมกรและครอบครัวกระเจิงออกไปจากเหมือง กรรมกรคอตกไม่มีที่ไป จัดการกางเต็นท์ตั้งมันอยู่ที่นอกเมืองนั่นแหละ นายทุน Rockefeller บอกว่าเมื่อพูดด้วยปากไม่รู้เรื่อง ก็เอาปืนมาพูดแทนแล้วกัน แล้วเขาก็ไปจ้างพวกมือปืนรับจ้าง ซึ่งมีทั้งปืนกลและปืนไรเฟิล มายิ่งถล่มใส่เต้นท์กรรมกร ผู้ว่าการรัฐ Colorado รู้เรื่องเข้าก็บอก นายท่านจัดการเองแบบนี้ไม่ได้ เป็นหน้าที่ของกระผม แล้วขี้ข้าก็ไปรวบรวมเจ้าหน้าที่ ของรัฐ ซึ่งแน่นอน กินเงินเดือนของนายทุน Rockefeller มากวาดเต้นท์จนราบ ในวันที่ 20 เมษายน ค.ศ.1914 ประวัติศาสตร์ได้ บันทึกไว้ว่า กรรมกรที่รวมกลุ่มกันตั้งเต้นท์กลุ่มใหญ่ที่สุด มีคนรวมกันประมาณพันคน มีทั้งผู้หญิงผู้ชายและเด็ก ถูกปืนกลของเจ้าหน้าที่รัฐรัวใส่บาดเจ็บล้มตายระเนระนาดไปหมด และเมื่อกรรมกรยกธงขาวเดินเข้ามาขอเจรจาสงบศึก เขาก็ถูกปืนกลรัวใส่ตายคาที่เรียบร้อยอยู่บนพื้นถนน หลังจากนั้นปืนกลก็รัวต่อจนถึงค่ำ ตามต่อด้วยเจ้าหน้าที่จุดไฟเผาเต้นท์จนไม่เหลือ กรรมกรตายเรียบ ในจำนวนผู้ที่ถูกไฟเผามีทั้งผู้หญิงและเด็ก ชื่อของฆ่าโหด Ludlow ก็เป็นที่รู้จักดังไปทั่วตั้งแต่นั้นมา หนังสือพิมพ์ลงข่าวทุกวัน พร้อมคำด่ามาจากทุกสารทิศ นายทุน Rockefeller บอกว่าเรื่องแบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีก ขอโทษอย่าเข้าใจผิดว่า เรื่องสาดปืนกลและเอาไฟเผาจะไม่เกิดขึ้นอีก เขาหมายความว่าการที่สื่อประโคมข่าวด่าแบบไม่เลิกนี้ จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกต่างหาก ดังนั้น Rockefeller Foundation จึงได้รับมอบหมายให้ทำการวิจัย เกี่ยวกับการโฆษณาชวนเชื่อ propaganda เพื่อหาวิธีปิดปากสังคมเกี่ยวกับความไม่สงบทางสังคม และการเมือง ไหนๆ จะวิเคราะห์วิจัยเกี่ยวกับเรื่องการบิดเบือนข้อเท็จจริงแล้ว มันก็ควรจะทำกันให้ครบถ้วนไปเลย โดยหาวิธีคิดหลักสูตรเพิ่มคือ เอาให้ถึงวิธีชี้นำสังคม ว่าความจริง truth เป็นอย่างไรไม่สำคัญ สำคัญว่าจะทำให้สังคมคิดอย่างไรกับความจริงนั้นต่างหาก หาวิธีใส่ความคิดเข้าในหัวเรา ! วิธีการนี้มาจากการโฆษณาชวนเชื่อ ซึ่งได้มีการทดลองใช้ในช่วงสงคราม โลกครั้งที่ 1 มาแล้ว โดยประธานาธิบดี Woodrow Wilson ได้ตั้งหน่วยงาน US Committee on Public Information (CPI) เพื่อให้ประชาชนสนับสนุนการทำสงคราม ก่อนทำสงครามประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะชนชั้นกรรมกร ไม่มีใครอยากให้ทำสงคราม เพราะมีแต่ความอดอยาก ชาวบ้านบอกว่าสงครามเป็นเรื่อง ของคนรวย แต่นาย Walter Lippman นักคิด นักเขียน จากมหาวิทยาลัย Harvard ผู้ซึ่งประธานาธิบดี Roosevelt ปลื้มมาก บอกว่าเป็นคนหนุ่มที่ฉลาดที่สุดในพวกวัยเดียวกับเขา (ตอนนั้นเขาอายุ 25 ปี) นาย Lippman บอกว่าที่ทำสงครามเพื่อทำให้ประชาธิปไตยเราปลอดภัย เป็นการพูดที่ฟังแล้วดูสวยหรู แต่เป็นตรรกะที่ห่วยมาก แต่คนก็พากันเชื่อ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไอ้หนุ่มน้อยนี้เป็นที่ชื่นชมของประธานาธิบดีหรือเปล่า ฝรั่งก็สอพลอเป็น นาย Lippman ยังมีความเห็นอีกว่า คนส่วนใหญ่จะมีความเห็นชอบหรือไม่ชอบ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ ว่างั้นเถอะ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเหตุผล (ด้วยเหตุว่า) คนพวกนี้ไม่ค่อยมีความเฉลียวฉลาดมากนัก และไม่มีความคิดที่มั่นคง แถมเป็นพวกที่ไม่ชอบใช้ความคิด หรือไม่ใช้เวลามานั่งคิดว่าอะไรเกิดขึ้นในโลกนี้บ้าง คนพวกนี้คือคนส่วนใหญ่ของสังคม (พวกโลกสวย?!) เป็นมวลชน เป็นกลุ่มชน ที่ควรจะต้องมีการชี้นำ กำกับ โดยผู้นำ ซึ่งก็อาจจะชี้นำถูกหรือผิดก็ได้ ดังนั้นในความเห็นของนาย Lippman คือ ควรจะมีผู้เชี่ยวชาญ ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการแนะนำ ให้แก่ผู้มีหน้าที่ตัดสินใจ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ เป็นผู้ที่มีความคิดเฉลียวฉลาด มีปัญญามองอะไรทะลุปรุโปร่ง ซึ่งส่วนมากจะเป็นผู้บริหารชั้นสูง คนระดับสูงของประเทศ หรือผู้นำกลุ่มวิชาชีพ ซึ่งเขาเหล่านี้มักจะอยู่ในระดับสูงสุดของสังคม (นี่มันไม่ใช่ แค่แบ่งชนชั้นทางสังคมนะ เป็นการแบ่งชนชั้นทางปัญญาอีกด้วย !) นาย Rockefeller ถูกใจมาก เขาเห็นด้วยอย่างยิ่ง บอกใช่แล้วพ่อหนุ่ม เราควรนำมาใช้ในทุกเรื่องเลย โดยเฉพาะใช้ในการครองโลก รวมทั้งด้านธุรกิจสังคมและการเมือง เพื่อชี้นำประชาชน (ฟ้อกย้อมความคิดแบบสมบูรณ์) และนี่เป็นจุดเริ่มต้นของการคิดสร้างถังความคิด (Think Tank) CFR ซึ่งแน่นอนภายหลัง นาย Lippmann เป็นหนึ่งในนักคิดคนสำคัญของ CFR ด้วย วิธีการโฆษณาชวนเชื่อ Propaganda พัฒนามาจนถึงปี ค.ศ.1928 Edward Bernays ซึ่งเป็นหลานของ Sigmund Freud และเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้วางแผนโฆษณาชวนเชื่อให้กับประธานาธิบดี Woodrow Wilson ในสำนักงาน CPI เขียนหนังสือชื่อ Propaganda การโฆษณาชวนเชื่อ ถือเป็นตำราที่ผู้นำทั้งหลายนำไปใช้ ในการต้อนประชาชนเข้าคอก เขาบอกว่า ประชาชนสามารถถูกชี้นำได้โดยคนไม่กี่คน ที่เข้าใจขบวนการนึกคิดและรูปแบบของมวลชน คนไม่กี่คนนี้สามารถทำหน้าที่เป็นคนกระตุกเชือกในการคุมและชี้นำความคิดของมหาชน เหมือนเวลาจะต้อนสัตว์เข้าคอกนั่นแหละ วิธีการเช่นนี้ ปรากฎว่าได้ผลไปในทุกวงการและทั่วโลกและยังใช้อยู่จนทุกวันนี้ เพียงแต่เขาเรียกเป็นภาษาสมัยใหม่ว่า engineering consent หรือ constructing consent กระบวนการจัดการให้ได้รับความยินยอมความเห็นชอบ ที่นักล่าเอาไว้ใช้ในการล่าเหยื่อ โดยไม่ต้องออกแรงใช้อาวุธ เพียงแค่หาวิธีย้อมความคิดเหยื่อ จนเหยื่อหลงเชื่อคล้อยตาม และเต็มใจเดินเข้าปากนักล่าให้เคี้ยวแบบสบายๆ 60 ปีมานี้สมันน้อยเต็มใจเดินเข้าปากนักล่าให้เคี้ยวอย่างสบายใจกันเกือบหมดแล้ว คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สัมมาทิฏฐิในอากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา
    สัทธรรมลำดับที่ : 746
    ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิในอากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=74
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สัมมาทิฏฐิในอากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา
    +ข้อที่หนึ่ง
    --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ดังนี้ว่า
    “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี
    รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี
    อาเนญชสัญญา ก็ดี
    สัญญาทั้งหมดนั้น ดับไม่มีส่วนเหลือ ในธรรมใด
    ธรรมนั้นสงบ ธรรมนั้นประณีต กล่าวคือ อากิญจัญญายตนะ” ดังนี้.
    +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่,
    จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ.
    +--เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอากิญจัญญายตนะ (สมาบัติ)
    ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อ ปัญญา.
    +--ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย
    ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง อากิญจัญญายตนะ.
    --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น อากิญจัญญายตนะสัปปายปฏิปทา ข้อที่หนึ่ง.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/76/?keywords=อากิญฺจญฺญายตน

    +ข้อที่สอง
    --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : อริยสาวกไปแล้วสู่ป่าก็ตาม สู่โคนไม้ก็ตาม สู่เรือนว่างก็ตาม
    ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า
    “อายตนะนี้ว่าง จากอัตตา ว่างจากอัตตนิยา”
    ดังนี้.
    +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่,
    จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ.
    +--เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอากิญจัญญายตนะ (สมาบัติ)
    ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อ ปัญญา.
    +--ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย
    ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง อากิญจัญญายตนะ.
    --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น อากิญจัญญายตนะสัปปายปฏิปทา ข้อที่สอง.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/77/?keywords=อากิญฺจญฺญายตนสปฺปายา

    +ข้อที่สาม
    --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : อริยสาวกไปแล้วสู่ป่าก็ตาม สู่โคนไม้ก็ตาม สู่เรือนว่างก็ตาม
    ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ว่า
    “ไม่มีอะไรที่เป็นตัวเรา, ความกังวลต่อสิ่งใด หรือในอะไรๆ ว่าเป็นตัวเราก็ไม่มี ;
    และไม่มีอะไรที่เป็นของเรา, ความกังวลในสิ่งใดๆ ว่าเป็นของเราก็ไม่มี”
    ดังนี้.
    +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่,
    จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ.
    +--เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอากิญจัญญายตนะ (สมาบัติ) ในกาลนั้น
    หรือน้อมไปเพื่อ ปัญญา.
    +--ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย
    ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง อากิญจัญญายตนะ.
    --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น อากิญจัญญายตนะสัปปายปฏิปทา ข้อที่สาม.-
    http://etipitaka.com/read/pali/14/77/?keywords=อากิญฺจญฺญายตนสปฺปายา

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/58 - 59/85 - 87.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/58/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%95
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๖ - ๗๗/๘๕ - ๘๗.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/76/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%95
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=746
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57
    ลำดับสาธยายธรรม : 57​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สัมมาทิฏฐิในอากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา สัทธรรมลำดับที่ : 746 ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิในอากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=74 เนื้อความทั้งหมด :- --สัมมาทิฏฐิในอากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา +ข้อที่หนึ่ง --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี อาเนญชสัญญา ก็ดี สัญญาทั้งหมดนั้น ดับไม่มีส่วนเหลือ ในธรรมใด ธรรมนั้นสงบ ธรรมนั้นประณีต กล่าวคือ อากิญจัญญายตนะ” ดังนี้. +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. +--เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอากิญจัญญายตนะ (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อ ปัญญา. +--ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง อากิญจัญญายตนะ. --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น อากิญจัญญายตนะสัปปายปฏิปทา ข้อที่หนึ่ง. http://etipitaka.com/read/pali/14/76/?keywords=อากิญฺจญฺญายตน +ข้อที่สอง --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวกไปแล้วสู่ป่าก็ตาม สู่โคนไม้ก็ตาม สู่เรือนว่างก็ตาม ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “อายตนะนี้ว่าง จากอัตตา ว่างจากอัตตนิยา” ดังนี้. +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. +--เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอากิญจัญญายตนะ (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อ ปัญญา. +--ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง อากิญจัญญายตนะ. --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น อากิญจัญญายตนะสัปปายปฏิปทา ข้อที่สอง. http://etipitaka.com/read/pali/14/77/?keywords=อากิญฺจญฺญายตนสปฺปายา +ข้อที่สาม --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวกไปแล้วสู่ป่าก็ตาม สู่โคนไม้ก็ตาม สู่เรือนว่างก็ตาม ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ว่า “ไม่มีอะไรที่เป็นตัวเรา, ความกังวลต่อสิ่งใด หรือในอะไรๆ ว่าเป็นตัวเราก็ไม่มี ; และไม่มีอะไรที่เป็นของเรา, ความกังวลในสิ่งใดๆ ว่าเป็นของเราก็ไม่มี” ดังนี้. +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. +--เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอากิญจัญญายตนะ (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อ ปัญญา. +--ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง อากิญจัญญายตนะ. --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น อากิญจัญญายตนะสัปปายปฏิปทา ข้อที่สาม.- http://etipitaka.com/read/pali/14/77/?keywords=อากิญฺจญฺญายตนสปฺปายา #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/58 - 59/85 - 87. http://etipitaka.com/read/thai/14/58/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%95 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๖ - ๗๗/๘๕ - ๘๗. http://etipitaka.com/read/pali/14/76/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%95 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=746 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57 ลำดับสาธยายธรรม : 57​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - การรู้อริยสัจทำให้มีตาครบสองตา
    -การรู้อริยสัจทำให้มีตาครบสองตา ภิกษุ ท. ! บุคคล ๓ จำพวกนี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก. สามจำพวกอย่างไรเล่า ? สามจำพวกคือ คนตาบอด (อนฺโธ) คนมีตาข้างเดียว (เอกจกฺขุ) คนมีตาสองข้าง (ทฺวิจกฺขุ). ภิกษุ ท. ! คนตาบอด เป็นอย่างไรเล่า ? คือคนบางคนในโลกนี้ไม่มีตาที่เป็นเหตุให้ได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้ หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น นี้อย่างหนึ่ง ; และไม่มีตาที่เป็นเหตุให้รู้ธรรมที่เป็นกุศลอกุศล - ธรรมมีโทษไม่มีโทษ - ธรรมเลวและธรรมประณีต - ธรรมฝ่ายดำและธรรมฝ่ายขาวนี้อีกอย่างหนึ่ง. ภิกษุ ท. ! นี้แล คนตาบอด (ทั้งสองข้าง). ภิกษุ ท. ! คนมีตาข้างเดียว เป็นอย่างไรเล่า ? คือคนบางคนในโลกนี้ มีตาที่เป็นเหตุให้ได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้ หรือทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น ; แต่ไม่มีตาที่เป็นเหตุให้รู้ธรรมที่เป็นกุศลอกุศล - ธรรมมีโทษไม่มีโทษ - ธรรมเลวและธรรมประณีต - ธรรมฝ่ายดำและธรรมฝ่ายขาว. ภิกษุ ท. ! นี้แล คนมีตาข้างเดียว. ภิกษุ ท. ! คนมีตาสองข้าง เป็นอย่างไรเล่า ? คือคนบางคนในโลกนี้ มีตาที่เป็นเหตุให้ได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้ หรือ ทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ทวีมากขึ้น นี้อย่างหนึ่ง ; และ มีตาที่เป็นเหตุให้รู้ธรรม ที่เป็นกุศลอกุศล- ธรรมมีโทษไม่มีโทษ - ธรรมเลวและธรรมประณีต - ธรรมฝ่ายดำและธรรมฝ่ายขาว นี้อีกอย่างหนึ่ง. ภิกษุ ท. ! นี้แล คนมีตาสองข้าง. ... ภิกษุ ท. ! ภิกษุมีตาสมบูรณ์ (จกฺขุมา) เป็นอย่างไรเล่า ? คือภิกษุในกรณีนี้ ย่อม รู้ชัดตามเป็นจริงว่า “นี้ ความทุกข์, นี้ เหตุให้เกิดทุกข์, นี้ ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์, นี้ ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือ แห่งทุกข์” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! นี้แล ภิกษุมีตาสมบูรณ์.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • แหกคอก ตอนที่ 9 – สร้างคอก
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 9 : สร้างคอก
    เมื่อมีใบสั่งออกมาว่า อเมริกาจะต้องเป็นผู้ครองโลกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พี่เลี้ยงก็เริ่มเตรียมการ จะให้นักล่าครองโลก ไปแต่หัวได้อย่างไร แขนขามือเท้าก็ต้องไปด้วยกัน เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องมีการจัดเตรียมหลักสูตรการศึกษา ภายใน ประเทศเสียใหม่ เพื่อเตรียมตัว พวก technocrat และพวกชนชั้นระดับสูงในสังคม elites ให้เข้าใจให้รู้จักกันไว้ว่า ระดับประเทศเขาจะทำอะไร เมื่ออเมริกาจะควบคุม Grand Area ก็จำเป็นต้องมีการศึกษาเกี่ยวกับ area พวกนี้ไว้ ให้รู้ว่าอยู่ที่ไหน ผู้คนมีหน้าตาอย่างไร มีอะไรน่าขะโมย น่าเคี้ยวบ้าง ไม่ใช่พูดถึง area ไหน แล้วนั่งเซ่อ ยังขี่ช้างอยู่หรือเปล่า งูบ้านยูแยะไหม แบบนั้นไม่เอานะ หลักสูตรและโครงการศึกษาที่เรียกว่า Area Studies จึงเกิดขึ้น โดยการนำเอาปัญญาชน นักวิชาการ นักผู้เชี่ยวชาญจากทุกแหล่ง มาช่วยจัดสร้างหลักสูตร สำหรับ Area Studies นี้ และนาย Kenneth ตัวแสบของเรา จึงน่าจะได้รับภาระกิจให้ไปเป็นนักสำรวจรุ่นแรกๆ ที่นำข้อมูลมาร่วมในการจัดทำหลักสูตร Area Studies นี้ด้วย
    มูลนิธิ Rockefeller รับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้าง ใหญ่ ในการจับอเมริกามาแต่งตัว แต่งหน้าใหม่ (ทำ face lift !) จากอยู่ในสังคมแบบสันโดษ isolist society เปลี่ยนมาเป็นอยู่ในสังคมโลก globalist society (จริงๆ จะกำหนดสังคมโลกใหม่น่ะ แต่มันต้องค่อยๆ ทำ จากคุณลุงวัย 60 พุงห้อย กล้ามเหี่ยว เป็นหนุ่มแน่นกล้ามท้องเรียงเป็นตับ มันต้องใช้เวลาสร้างนะ)
    ขบวนการแต่งตัวใหม่ให้อเมริกา เริ่มดำเนินการโดย CFR มาตั้งแต่ ค.ศ.1921 เป็นต้นมา แต่มาเห็นเด่นชัด เมื่อมีการศึกษา War and Peace Studies ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างทีม CFR กับทีม State Department โดยมูลนิธิ Rockefeller เป็นผู้อุปถัมภ์ควักกระเป๋าจ่ายเองทั้งหมด นอกจากนี้มูลนิธิยังให้ทำการศึกษาวิจัยอีกหลายโครงการ ในช่วง ค.ศ.1930 – 1940 ในช่วงนักล่าตั้งไข่หัดเดิน เพื่อช่วยให้ผู้บริหารของรัฐบาลระดับวางนโยบายและฝ่ายวิชาการ มีความเข้าใจเกี่ยวกับสังคมโลกและเป้าหมายการครองโลกของอเมริกาในทิศทางเดียวกัน
    นอกจากนี้ระหว่างปี ค.ศ.1927-1945 มูลนิธิยังตั้ง study group เพื่อเตรียมออกสิ่งพิมพ์ ซึ่งจำเป็นต้องใช้มากในช่วงเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ การจัดทำสิ่งพิมพ์ publications นี้ ก็เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง CFR กับ State Department อีกเช่นเดียวกัน นาย William P. Bundy ถึงกับเอ่ยปากว่ายังไม่เคยมีหน่วยงานเอกชนใด ก็มีโอกาสทำงานกับฝ่ายรัฐอย่างใกล้ชิดเช่นนี้มาก่อนเลย ในประวัติศาสตร์ของอเมริกา (ตกลงใครเป็นผู้นำประเทศกันแน่ รัฐบาลหรือ CFR ?) นาย Bundy ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เด็กในคาถาที่ CFR แอบส่งมาประกบรัฐบาลตั้งแต่ต้น ต่อมาปี ค.ศ.1950 เขาได้เป็นนักวิเคราะห์สังกัดหน่วยงาน CIA และเป็นที่ปรึกษาให้ประธานาธิบดี Kennedy และเป็นผช.รมว.ใน State Department เป็นผู้ดูแลงานด้าน East Asian and Pacific Affairs ในสมัยรัฐบาล Lyndon Johnson ทำให้เขากลายเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของประธานาธิบดี ในการตัดสินใจในสมัยสงครามเวี ยตนาม เมื่อนาย David Rockefeller ลงมาคุม CFR เต็มตัวในตำแหน่งประธาน CFR เมื่อปี ค.ศ.1970 เขาได้ขอ (สั่ง !) ให้นาย William Bundy มาเป็นบรรณาธิการนิตยสาร Foreign Affairs ของ CFR ซึ่งเป็นนิตยสารที่ได้รับการยอมรับและมีอิทธิพลสูงมากในวง การเมืองระหว่างประเทศ นาย Bundy ทำหน้าที่นี้อยู่ตั้งแต่ปี 1972 ถึง 1984 ส่วนพี่ชายของเขา นาย McGeorge Bundy ก็มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงให้แก่ประธานาธิบดี Kennedy ประธานาธิบดี Johnson รวมทั้งรับตำแหน่งเป็นประธานมูลนิธิ Ford ด้วย ตั้งแต่ ค.ศ.1966-1979 (เอาว่าเด็กในคาถาของ CFR เข้ายึดตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลเกือบหมด)
    นอกจากจัดหลักสูตรติวเข้มให้กับสังคมระดับไข่แดงแล้ว มูลนิธิ Rockefeller ก็ได้เตรียมการสำหรับสังคมระดับไข่ขาวด้วย เพื่อให้สังคมทั่วไปรู้จักการก้าวเข้าไปสู่สังคมนานาชาติของอเมริกา โดยเขาตั้ง Foreign Policy Association (FPA) และ Institute of Pacifics Relations (IPR) ซึ่งมีหน้าที่หลักในการสร้างความเห็นของมวลชน (เริ่มรายการฟอกย้อม ความคิดคนในประเทศก่อน) โดยย้อมความคิดทางสิ่งพิมพ์หนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง ให้ตั้งแต่ระดับเด็กนักเรียนมัธยม นักศึกษาในมหาวิทยาลัย ครู โรงเรียน สหภาพ นักธุรกิจ และสมาคมสตรีทั้งหลาย และสังคมทั่วไป โครงการนี้เพื่อสนับสนุนนโยบายต่างประเทศ ยุคใหม่ของอเมริกานั่นแหละ แต่ขณะเดียวกัน ทางมูลนิธิได้ระบุไว้ในการเสนอโครงการนี้ว่า เป็นโครงการที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในทางการเมือง (เขาเขียนกันอย่างนี้ทั้งนั้นแหละ !)
    คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 9 – สร้างคอก นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 9 : สร้างคอก เมื่อมีใบสั่งออกมาว่า อเมริกาจะต้องเป็นผู้ครองโลกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พี่เลี้ยงก็เริ่มเตรียมการ จะให้นักล่าครองโลก ไปแต่หัวได้อย่างไร แขนขามือเท้าก็ต้องไปด้วยกัน เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องมีการจัดเตรียมหลักสูตรการศึกษา ภายใน ประเทศเสียใหม่ เพื่อเตรียมตัว พวก technocrat และพวกชนชั้นระดับสูงในสังคม elites ให้เข้าใจให้รู้จักกันไว้ว่า ระดับประเทศเขาจะทำอะไร เมื่ออเมริกาจะควบคุม Grand Area ก็จำเป็นต้องมีการศึกษาเกี่ยวกับ area พวกนี้ไว้ ให้รู้ว่าอยู่ที่ไหน ผู้คนมีหน้าตาอย่างไร มีอะไรน่าขะโมย น่าเคี้ยวบ้าง ไม่ใช่พูดถึง area ไหน แล้วนั่งเซ่อ ยังขี่ช้างอยู่หรือเปล่า งูบ้านยูแยะไหม แบบนั้นไม่เอานะ หลักสูตรและโครงการศึกษาที่เรียกว่า Area Studies จึงเกิดขึ้น โดยการนำเอาปัญญาชน นักวิชาการ นักผู้เชี่ยวชาญจากทุกแหล่ง มาช่วยจัดสร้างหลักสูตร สำหรับ Area Studies นี้ และนาย Kenneth ตัวแสบของเรา จึงน่าจะได้รับภาระกิจให้ไปเป็นนักสำรวจรุ่นแรกๆ ที่นำข้อมูลมาร่วมในการจัดทำหลักสูตร Area Studies นี้ด้วย มูลนิธิ Rockefeller รับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสร้าง ใหญ่ ในการจับอเมริกามาแต่งตัว แต่งหน้าใหม่ (ทำ face lift !) จากอยู่ในสังคมแบบสันโดษ isolist society เปลี่ยนมาเป็นอยู่ในสังคมโลก globalist society (จริงๆ จะกำหนดสังคมโลกใหม่น่ะ แต่มันต้องค่อยๆ ทำ จากคุณลุงวัย 60 พุงห้อย กล้ามเหี่ยว เป็นหนุ่มแน่นกล้ามท้องเรียงเป็นตับ มันต้องใช้เวลาสร้างนะ) ขบวนการแต่งตัวใหม่ให้อเมริกา เริ่มดำเนินการโดย CFR มาตั้งแต่ ค.ศ.1921 เป็นต้นมา แต่มาเห็นเด่นชัด เมื่อมีการศึกษา War and Peace Studies ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างทีม CFR กับทีม State Department โดยมูลนิธิ Rockefeller เป็นผู้อุปถัมภ์ควักกระเป๋าจ่ายเองทั้งหมด นอกจากนี้มูลนิธิยังให้ทำการศึกษาวิจัยอีกหลายโครงการ ในช่วง ค.ศ.1930 – 1940 ในช่วงนักล่าตั้งไข่หัดเดิน เพื่อช่วยให้ผู้บริหารของรัฐบาลระดับวางนโยบายและฝ่ายวิชาการ มีความเข้าใจเกี่ยวกับสังคมโลกและเป้าหมายการครองโลกของอเมริกาในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ระหว่างปี ค.ศ.1927-1945 มูลนิธิยังตั้ง study group เพื่อเตรียมออกสิ่งพิมพ์ ซึ่งจำเป็นต้องใช้มากในช่วงเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้ การจัดทำสิ่งพิมพ์ publications นี้ ก็เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง CFR กับ State Department อีกเช่นเดียวกัน นาย William P. Bundy ถึงกับเอ่ยปากว่ายังไม่เคยมีหน่วยงานเอกชนใด ก็มีโอกาสทำงานกับฝ่ายรัฐอย่างใกล้ชิดเช่นนี้มาก่อนเลย ในประวัติศาสตร์ของอเมริกา (ตกลงใครเป็นผู้นำประเทศกันแน่ รัฐบาลหรือ CFR ?) นาย Bundy ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เด็กในคาถาที่ CFR แอบส่งมาประกบรัฐบาลตั้งแต่ต้น ต่อมาปี ค.ศ.1950 เขาได้เป็นนักวิเคราะห์สังกัดหน่วยงาน CIA และเป็นที่ปรึกษาให้ประธานาธิบดี Kennedy และเป็นผช.รมว.ใน State Department เป็นผู้ดูแลงานด้าน East Asian and Pacific Affairs ในสมัยรัฐบาล Lyndon Johnson ทำให้เขากลายเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของประธานาธิบดี ในการตัดสินใจในสมัยสงครามเวี ยตนาม เมื่อนาย David Rockefeller ลงมาคุม CFR เต็มตัวในตำแหน่งประธาน CFR เมื่อปี ค.ศ.1970 เขาได้ขอ (สั่ง !) ให้นาย William Bundy มาเป็นบรรณาธิการนิตยสาร Foreign Affairs ของ CFR ซึ่งเป็นนิตยสารที่ได้รับการยอมรับและมีอิทธิพลสูงมากในวง การเมืองระหว่างประเทศ นาย Bundy ทำหน้าที่นี้อยู่ตั้งแต่ปี 1972 ถึง 1984 ส่วนพี่ชายของเขา นาย McGeorge Bundy ก็มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงให้แก่ประธานาธิบดี Kennedy ประธานาธิบดี Johnson รวมทั้งรับตำแหน่งเป็นประธานมูลนิธิ Ford ด้วย ตั้งแต่ ค.ศ.1966-1979 (เอาว่าเด็กในคาถาของ CFR เข้ายึดตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลเกือบหมด) นอกจากจัดหลักสูตรติวเข้มให้กับสังคมระดับไข่แดงแล้ว มูลนิธิ Rockefeller ก็ได้เตรียมการสำหรับสังคมระดับไข่ขาวด้วย เพื่อให้สังคมทั่วไปรู้จักการก้าวเข้าไปสู่สังคมนานาชาติของอเมริกา โดยเขาตั้ง Foreign Policy Association (FPA) และ Institute of Pacifics Relations (IPR) ซึ่งมีหน้าที่หลักในการสร้างความเห็นของมวลชน (เริ่มรายการฟอกย้อม ความคิดคนในประเทศก่อน) โดยย้อมความคิดทางสิ่งพิมพ์หนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง ให้ตั้งแต่ระดับเด็กนักเรียนมัธยม นักศึกษาในมหาวิทยาลัย ครู โรงเรียน สหภาพ นักธุรกิจ และสมาคมสตรีทั้งหลาย และสังคมทั่วไป โครงการนี้เพื่อสนับสนุนนโยบายต่างประเทศ ยุคใหม่ของอเมริกานั่นแหละ แต่ขณะเดียวกัน ทางมูลนิธิได้ระบุไว้ในการเสนอโครงการนี้ว่า เป็นโครงการที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในทางการเมือง (เขาเขียนกันอย่างนี้ทั้งนั้นแหละ !) คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..คดี44 คน รวมสส.พรรคก้าวไกล ที่ย้ายมาพรรคประชาชน เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผิด ม.157บ้างมั้ยนะ ลงหน้างานทำงานช้าเกินไปมั้ยนะ

    ..ตลอด หลายคนมากที่ออกสื่อทั้งเชียร์ทั้งเห็นด้วยในการแก้ไข ม.112 พยามหลักฐานชัดเต็มคลิปโซเชียลต่างๆที่เรา..ประชาชนทั่วประเทศพากันนำเสนอช่วยให้อีกในแต่ละช่องกูรูต่างๆท่านที่กล้าหาญนั้น,พวกร่วมขบวนการแก้ ม.112นี้ทางรัฐฯทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการเด็ดขาดจบหรือยัง.

    อาทิคนเหล่านี้ด้วยก็ว่าที่สื่อลงชี้ชัดให้แล้ว.

    กลุ่มที่หนึ่ง บุคคลที่ยังเป็นสส.ในสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน (พฤษภาคม 2568) จำนวน 25 คน
    1. ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (หัวหน้าพรรคประชาชน ในช่วงเกิดเหตุเป็น สส. กทม.)
    2. ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน)
    3. ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน)
    4. วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน)
    5. ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ (นายทะเบียนสมาชิกพรรคประชาชน)
    6. วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน)
    7. รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน)
    8. วุฒินันท์ บุญชู สส.สมุทรปราการ
    9. ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.
    10. เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม.
    11. นิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ
    12. นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม. (ในช่วงเกิดเหตุเป็น สส. บัญชีรายชื่อ)
    13. ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ
    14. ญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี
    15. วรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ
    16. คำพอง เทพาคำ สส.บัญชีรายชื่อ
    17. ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ
    18. องค์การ ชัยบุตร สส.บัญชีรายชื่อ
    19. มานพ คีรีภูวดล สส.บัญชีรายชื่อ
    20. จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา
    21. วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ
    22. จรัส คุ้มไข่น้ำ สส.ชลบุรี
    23. สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ
    24. ศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด
    25. สุรวาท ทองบุ สส.บัญชีรายชื่อ

    กลุ่มที่สอง บุคคลที่ไม่ได้เป็นสส.ในสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน (พฤษภาคม 2568) จำนวน 11 คน
    1. พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์
    2. กัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี
    3. สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา
    4. สมเกียรติ ถนอมสินธุ์
    5. ทองแดง เบ็ญจะปัก
    6. พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์
    7. ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์
    8. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ
    9. ณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์
    10. ทวีศักดิ์ ทักษิณ
    11. สมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล

    กลุ่มที่สาม บุคคลที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปีจากการยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งทั้งหมดเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค จำนวน 8 คน
    1. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
    2. เบญจา แสงจันทร์
    3. อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล
    4. ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์
    5. สุเทพ อู่อ้น
    6. อภิชาติ ศิริสุนทร
    7. ปดิพัทธ์ สันติภาดา
    8. สมชาย ฝั่งชลจิตร


    https://www.ilaw.or.th/articles/52795
    ..คดี44 คน รวมสส.พรรคก้าวไกล ที่ย้ายมาพรรคประชาชน เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผิด ม.157บ้างมั้ยนะ ลงหน้างานทำงานช้าเกินไปมั้ยนะ ..ตลอด หลายคนมากที่ออกสื่อทั้งเชียร์ทั้งเห็นด้วยในการแก้ไข ม.112 พยามหลักฐานชัดเต็มคลิปโซเชียลต่างๆที่เรา..ประชาชนทั่วประเทศพากันนำเสนอช่วยให้อีกในแต่ละช่องกูรูต่างๆท่านที่กล้าหาญนั้น,พวกร่วมขบวนการแก้ ม.112นี้ทางรัฐฯทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการเด็ดขาดจบหรือยัง. อาทิคนเหล่านี้ด้วยก็ว่าที่สื่อลงชี้ชัดให้แล้ว. กลุ่มที่หนึ่ง บุคคลที่ยังเป็นสส.ในสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน (พฤษภาคม 2568) จำนวน 25 คน 1. ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (หัวหน้าพรรคประชาชน ในช่วงเกิดเหตุเป็น สส. กทม.) 2. ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน) 3. ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน) 4. วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน) 5. ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ (นายทะเบียนสมาชิกพรรคประชาชน) 6. วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน) 7. รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน) 8. วุฒินันท์ บุญชู สส.สมุทรปราการ 9. ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. 10. เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม. 11. นิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ 12. นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม. (ในช่วงเกิดเหตุเป็น สส. บัญชีรายชื่อ) 13. ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ 14. ญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี 15. วรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ 16. คำพอง เทพาคำ สส.บัญชีรายชื่อ 17. ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ 18. องค์การ ชัยบุตร สส.บัญชีรายชื่อ 19. มานพ คีรีภูวดล สส.บัญชีรายชื่อ 20. จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา 21. วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ 22. จรัส คุ้มไข่น้ำ สส.ชลบุรี 23. สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ 24. ศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด 25. สุรวาท ทองบุ สส.บัญชีรายชื่อ กลุ่มที่สอง บุคคลที่ไม่ได้เป็นสส.ในสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน (พฤษภาคม 2568) จำนวน 11 คน 1. พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ 2. กัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี 3. สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา 4. สมเกียรติ ถนอมสินธุ์ 5. ทองแดง เบ็ญจะปัก 6. พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ 7. ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ 8. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ 9. ณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ 10. ทวีศักดิ์ ทักษิณ 11. สมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล กลุ่มที่สาม บุคคลที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปีจากการยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งทั้งหมดเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค จำนวน 8 คน 1. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 2. เบญจา แสงจันทร์ 3. อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล 4. ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ 5. สุเทพ อู่อ้น 6. อภิชาติ ศิริสุนทร 7. ปดิพัทธ์ สันติภาดา 8. สมชาย ฝั่งชลจิตร https://www.ilaw.or.th/articles/52795
    WWW.ILAW.OR.TH
    สรุปข้อเท็จจริงคดี 44 สส.ก้าวไกล เสนอแก้ 112 ถูกสอบ 'มาตรฐานจริยธรรม' - iLaw
    ชวนทำความเข้าใจว่า ทำไม 44 สส. ถึงต้องโดนป.ป.ช. สอบสวนดูกรอบระยะเวลาอาจจะนำไปสู่วันตัดสินคดี และผลลัพธ์ที่ตามมาหากสส. จากอดีตพรรคก้าวไกลถูกตัดสินว่า "ผิด"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้าและสัมมาทิฏฐิ ในอาเนญชสัปปายปฏิปทา
    สัทธรรมลำดับที่ : 745
    ชื่อบทธรรม : - ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้า
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=745
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้า
    --ราหุล ! รูป อย่างใดอย่างหนึ่ง อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของหยาบ
    มีลักษณะแข้นแข็ง อันอุปาทาน (ของคนหรือสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว.
    ตัวอย่างเช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ไต หัวใจ ตับ พังผืด ม้าม ปอด ลำไส้ ลำไส้สุด อาหารในกระเพาะ อุจจาระ;
    หรือจะยังมีรูปแม้อื่น อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของหยาบ
    มีลักษณะแข้นแข็ง อันอุปาทาน (ของคนหรือสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว อย่างเดียวกันนี้.
    +--ราหุล ! นี้ เรียกว่า #ปฐวีธาตุ อันเป็นภายใน.
    ปฐวีธาตุอันใด อันเป็นภายในด้วย ปฐวีธาตุอันเป็นภายนอกด้วย
    นั้นก็เป็น สักว่าปฐวีธาตุ เสมอกัน.
    ใครๆ พึงเห็นปฐวีธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า
    นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ;
    http://etipitaka.com/read/pali/13/135/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ
    ครั้นเห็นปฐวีธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อปฐวีธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากปฐวีธาตุ.
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดิน (ปฐวี) เถิด.
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดิน อยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่.
    +--ราหุล ! เปรียบเหมือนเมื่อคนเขาทิ้งของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง
    ทิ้งคูถบ้าง ทิ้งมูตรบ้าง ทิ้งน้ำลายบ้าง หนองบ้าง โลหิตบ้าง ลงบนแผ่นดิน
    แผ่นดินก็ไม่รู้สึกอึดอัดระอารังเกียจ ด้วยสิ่งเหล่านั้น, นี้ฉันใด;
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินเถิด.
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินอยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน.

    --ราหุล ! อาโปธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ?
    อาโปธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก.
    +--ราหุล ! อาโปธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ?
    อาโปธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน
    เป็นของเหลว อันอุปาทาน (ของคนหรือของสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว,
    ตัวอย่างเช่น น้ำดี เสลด หนอง โลหิต เหงื่อ มัน น้ำตา น้ำเหลือง น้ำลาย น้ำเมือก น้ำหล่อลื่นข้อ น้ำมูตร นี้ก็ดี;
    หรือจะยังมี อาโปธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน
    เป็นของเหลว อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี.
    +--ราหุล ! อาโปธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #อาโปธาตุ อันเป็นภายใน.
    อาโปธาตุอันเป็นภายในด้วย อาโปธาตุอันเป็นภายนอกด้วย
    นั้นก็เป็น สักว่าอาโปธาตุ เท่านั้น.
    ใครๆ พึงเห็นอาโปธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า
    นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ;
    http://etipitaka.com/read/pali/13/136/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ
    ครั้นเห็นอาโปธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว
    จิตย่อมเบื่อหน่ายต่ออาโปธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากอาโปธาตุ.
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำ (อาโป) เถิด.
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำอยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่.
    [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่น้ำไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด
    (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่เขาล้างลงไปในน้ำ,
    อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยน้ำ ฉันใดก็ฉันนั้น]​.

    --ราหุล ! เตโชธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ?
    เตโชธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก.
    +--ราหุล ! เตโชธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ?
    เตโชธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเผาผลาญ อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว,
    ตัวอย่างเช่น ไฟที่ยังกายให้อบอุ่น ไฟที่ยังกายให้ทรุดโทรม ไฟที่ยังกายให้กระวนกระวาย และไฟที่เผาอาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ให้แปรไปโดยชอบ นี้ก็ดี;
    หรือจะยังมีเตโชธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเผาผลาญ อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี.
    +--ราหุล ! เตโชธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #เตโชธาตุ อันเป็นภายใน.
    เตโชธาตุอันเป็นภายนอกใน เตโชธาตุอันเป็นภายนอกด้วย
    นั้นก็เป็น สักว่าเตโชธาตุ เท่านั้น.
    ใครๆ พึงเห็นเตโชธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า
    นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ;
    http://etipitaka.com/read/pali/13/136/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ
    ครั้นเห็นเตโชธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้แล้ว
    จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อเตโชธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากเตโชธาตุ.
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยไฟ (เตโช) เถิด.
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยไฟอยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ อันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่.
    [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่ไฟไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่เขาทิ้งลงไปให้มันไหม้,
    อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยไฟ ฉันใดก็ฉันนั้น]​.

    --ราหุล ! วาโยธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ?
    วาโยธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก.
    +--ราหุล ! วาโยธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ?
    วาโยธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของพัดไปมา อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว,
    ตัวอย่างเช่น ลมพัดขึ้นเบื้องบน ลมพัดลงเบื้องต่ำ ลมในท้อง ลมในไส้ ลมแล่นไปตามอวัยวะน้อยใหญ่ ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก นี้ก็ดี;
    หรือจะยังมีวาโยธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของพัดไปมา
    อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี.
    +--ราหุล ! วาโยธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #วาโยธาตุ อันเป็นภายใน.
    วาโยธาตุอันเป็นภายในด้วย วาโยธาตุอันเป็นภายนอกด้วย
    นั้นก็เป็น สักว่าวาโยธาตุ เท่านั้น.
    ใครๆ พึงเห็นวาโยธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า
    นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ;
    http://etipitaka.com/read/pali/13/137/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ
    ครั้นเห็นวาโยธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว
    จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อวาโยธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากวาโยธาตุ.
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยลม (วาโย) เถิด
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยลมอยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ อันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่.
    [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่ลมไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่ลมพัดผ่านเข้าไป,
    อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยลม ฉันใดก็ฉันนั้น]​.

    --ราหุล ! อากาสธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ?
    อากาสธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก.
    +--ราหุล ! อากาสธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ?
    อากาสธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน
    เป็นของแสดงลักษณะแห่งความว่าง อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว,
    ตัวอย่างเช่น ช่องหู ช่องจมูก ช่องปาก ที่ว่าง
    ที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ผ่านไป
    ที่ว่างที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ตั้งอยู่
    ช่องที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ออกสู่เบื้องล่าง นี้ก็ดี ;
    หรือจะยังมีอากาสธาตุ อันเป็นภายในเฉพาะตน
    เป็นของแสดงลักษณะแห่งความว่าง ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้
    ซึ่งไม่ตัน มีลักษณะไม่ตัน เป็นของเปิด
    มีลักษณะเปิด อันเนื้อและเลือดไม่เข้าไปบรรจุอยู่อันเป็นภายใน
    อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว อันใดก็ดี.
    +--ราหุล ! อากาสธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #อากาสธาตุ อันเป็นภายใน.
    อากาสธาตุอันเป็นภายในด้วย อากาสธาตุอันเป็นภายนอกด้วย
    นั้นก็เป็น สักว่าอากาสธาตุ เท่านั้น.
    ใครๆ พึงเห็นอากาสธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า
    นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ;
    http://etipitaka.com/read/pali/13/138/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ
    ครั้นเห็นอากาสธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว
    จิตย่อมเบื่อหน่ายต่ออากาสธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากอากาสธาตุ.
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสเถิด.
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสอยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่.
    +--ราหุล ! เปรียบเหมือนอากาส เป็นสิ่งมิได้ตั้งอยู่เฉพาะในที่ไรๆ, นี้ฉันใด;
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสเถิด.
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสอยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่,
    ฉันนั้นเหมือนกัน.-

    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : -
    -- ม. ม.๑๓/๑๓๕-๑๔๐/๑๓๕+๑๔๐, ๑๓๖+๑๔๑, ๑๓๗+๑๔๒, ๑๓๘+๑๔๓, ๑๓๙+๑๔๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/13/135/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%95 ถึง
    http://etipitaka.com/read/pali/13/140/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%90

    --สัมมาทิฏฐิ ในอาเนญชสัปปายปฏิปทา
    ๑. ข้อที่หนึ่ง
    --ภิกษุ ท. ! ในข้อที่กามเป็นอันตรายแก่อริยสาวกผู้ศึกษาอยู่ในธรรมวินัยนี้นั้น
    อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า
    “กามและกามสัญญาอันเป็นไปในทิฏฐธรรม (ภพนี้) และเป็นไปในสัมปรายะ (ภพอื่น)
    ทั้งสองอย่างนั้นเป็นบ่วงมาร เป็นวิสัยแห่งมาร เป็นเหยื่อแห่งมาร เป็นที่เที่ยวแห่งมาร.
    ในบ่วงแห่งมารนี้ บาปอกุศลทางใจเหล่านี้
    เป็นอภิชฌาบ้าง เป็นพยาบาทบ้าง เป็นสารัมภะ (ความแข่งดี) บ้าง ย่อมเป็นไป ;
    บาปอกุศลเหล่านั้น ย่อมมีเพื่อเป็นอันตรายแก่อริยสาวกผู้ตามศึกษาอยู่ในธรรมวินัยนี้.
    ถ้าอย่างไร เราพึงมีจิตเป็นมหัคคตะอันไพบูลย์ อธิษฐานจิตครอบงำโลก อยู่เถิด ;
    เมื่อเรามีจิตเป็นมหัคคตะอันไพบูลย์ อธิษฐานจิตครอบงำโลกอยู่,
    บาปอกุศลทางใจเป็นอภิชฌาบ้าง เป็นพยาบาทบ้าง เป็นสารัมภะบ้าง
    เหล่านั้น จักไม่มี; เพราะละบาปอกุศลเหล่านั้นเสียได้
    จิตของเราก็จักเป็นจิตมีคุณไม่เล็กน้อย เป็นจิตไม่มี ประมาณเป็นจิตอันอบรมดีแล้ว”
    ดังนี้.
    +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้
    เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ*--๑
    เมื่อจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงเพราะข้อปฏิบัติดังกล่าวแล้วข้างต้น
    ทำให้ง่ายและสะดวกแก่การลุถึงภพประเภทนี้ จึงได้ชื่อว่า #อาเนญชสัปปายปฏิปทา.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/75/?keywords=อาเนญฺชสปฺปายา
    +--ข้อปฏิบัติเหล่านี้เป็นฝ่ายสมถะ ซึ่งเป็นปัจจัยแก่เจโตวิมุตติโดยตรง แต่ก็เป็นปัจจัยแก่วิปัสสนาได้ด้วย ดังนั้นท่านจึงกล่าวอานิสงส์ของคำนี้ว่า เพื่อเข้าถึงอาเนญชะหรือน้อมไปเพื่อปัญญาก็ได้.
    +--อาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้นหรือน้อมไปเพื่อปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็น วิญญาณที่เข้าถึงซึ่งภพในระดับอาเนญชะ.
    +--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น #อาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่หนึ่ง.
    -----
    *--๑. คำว่า อายตนะ ในที่นี้ ไม่หมายถึงนิพพาน อันเป็นอายตนะสูงสุด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไป แต่หมายถึงอายตนะคือภาวะแห่งอรูปฌานทั้งสี่
    คือ อากาสานัญจายตนะ ฯลฯ เนวสัญญานาสัญญายตนะ ;
    โดยเฉพาะ เพราะไม่มีรูปหรือสัญญาในรูปอันเป็นที่ตั้งแห่งความหวั่นไหว,
    แต่บางมติหมายต่ำลงมาถึงจตุตถฌานอันเป็นอาเนญชะในขั้นริเริ่ม
    ซึ่งยังไม่สมบูรณ์เพราะยังอาศัยสิ่งซึ่งมีรูปหรือรูปสัญญาอยู่.

    ๒.ข้อที่สอง
    --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโทษโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า
    “กามและกามสัญญาอันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ
    อันเป็นรูปอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงสักว่ารูป
    คือเป็นเพียงมหาภูตรูปสี่ และรูปอาศัยมหาภูตรูปสี่นั้นอยู่ เท่านั้น”
    ดังนี้.
    +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่,
    จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอาเนญช (สมาบัติ)
    ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย
    ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง ซึ่งภพในระดับอาเนญชะ.
    +--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น #อาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่สอง.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/75/?keywords=อาเนญฺชสปฺปายา
    ๓.ข้อที่สาม
    --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า
    “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะก็ดี
    รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฎฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี
    ทั้งสองอย่างนั้น เป็นอนิจจัง สิ่งใดเป็นอนิจจัง
    สิ่งนั้นไม่ควรเพื่อจะเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ สยบมัวเมา”
    ดังนี้.
    +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้อยู่,
    จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอาเนญช (สมาบัติ)
    ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา.
    ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย
    ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึงซึ่งภพในระดับอาเนญชะ.
    --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่าเป็น #อาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่สาม.-
    http://etipitaka.com/read/pali/14/76/?keywords=อาเนญฺชสปฺปายา

    #สัมมาทิฏฐิ
    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/57-58/82-84.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/57/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92 ถึง
    http://etipitaka.com/read/thai/14/58/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%94
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๔-๗๕/๘๒-๘๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/74/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92 ถึง
    http://etipitaka.com/read/pali/14/75/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%94
    ศึกษาเพิ่มเติม..
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=745
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56&id=745
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56
    ลำดับสาธยายธรรม : 56 ฟังเสียงอ่าน....
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_56.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้าและสัมมาทิฏฐิ ในอาเนญชสัปปายปฏิปทา สัทธรรมลำดับที่ : 745 ชื่อบทธรรม : - ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้า https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=745 เนื้อความทั้งหมด :- --ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้า --ราหุล ! รูป อย่างใดอย่างหนึ่ง อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของหยาบ มีลักษณะแข้นแข็ง อันอุปาทาน (ของคนหรือสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว. ตัวอย่างเช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ไต หัวใจ ตับ พังผืด ม้าม ปอด ลำไส้ ลำไส้สุด อาหารในกระเพาะ อุจจาระ; หรือจะยังมีรูปแม้อื่น อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของหยาบ มีลักษณะแข้นแข็ง อันอุปาทาน (ของคนหรือสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว อย่างเดียวกันนี้. +--ราหุล ! นี้ เรียกว่า #ปฐวีธาตุ อันเป็นภายใน. ปฐวีธาตุอันใด อันเป็นภายในด้วย ปฐวีธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าปฐวีธาตุ เสมอกัน. ใครๆ พึงเห็นปฐวีธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; http://etipitaka.com/read/pali/13/135/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ ครั้นเห็นปฐวีธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อปฐวีธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากปฐวีธาตุ. +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดิน (ปฐวี) เถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดิน อยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. +--ราหุล ! เปรียบเหมือนเมื่อคนเขาทิ้งของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง ทิ้งคูถบ้าง ทิ้งมูตรบ้าง ทิ้งน้ำลายบ้าง หนองบ้าง โลหิตบ้าง ลงบนแผ่นดิน แผ่นดินก็ไม่รู้สึกอึดอัดระอารังเกียจ ด้วยสิ่งเหล่านั้น, นี้ฉันใด; +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินเถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน. --ราหุล ! อาโปธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? อาโปธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. +--ราหุล ! อาโปธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? อาโปธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเหลว อันอุปาทาน (ของคนหรือของสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น น้ำดี เสลด หนอง โลหิต เหงื่อ มัน น้ำตา น้ำเหลือง น้ำลาย น้ำเมือก น้ำหล่อลื่นข้อ น้ำมูตร นี้ก็ดี; หรือจะยังมี อาโปธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเหลว อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี. +--ราหุล ! อาโปธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #อาโปธาตุ อันเป็นภายใน. อาโปธาตุอันเป็นภายในด้วย อาโปธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าอาโปธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นอาโปธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; http://etipitaka.com/read/pali/13/136/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ ครั้นเห็นอาโปธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่ออาโปธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากอาโปธาตุ. +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำ (อาโป) เถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่น้ำไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่เขาล้างลงไปในน้ำ, อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยน้ำ ฉันใดก็ฉันนั้น]​. --ราหุล ! เตโชธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? เตโชธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. +--ราหุล ! เตโชธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? เตโชธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเผาผลาญ อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น ไฟที่ยังกายให้อบอุ่น ไฟที่ยังกายให้ทรุดโทรม ไฟที่ยังกายให้กระวนกระวาย และไฟที่เผาอาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ให้แปรไปโดยชอบ นี้ก็ดี; หรือจะยังมีเตโชธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเผาผลาญ อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี. +--ราหุล ! เตโชธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #เตโชธาตุ อันเป็นภายใน. เตโชธาตุอันเป็นภายนอกใน เตโชธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าเตโชธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นเตโชธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; http://etipitaka.com/read/pali/13/136/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ ครั้นเห็นเตโชธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อเตโชธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากเตโชธาตุ. +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยไฟ (เตโช) เถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยไฟอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ อันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่ไฟไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่เขาทิ้งลงไปให้มันไหม้, อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยไฟ ฉันใดก็ฉันนั้น]​. --ราหุล ! วาโยธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? วาโยธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. +--ราหุล ! วาโยธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? วาโยธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของพัดไปมา อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น ลมพัดขึ้นเบื้องบน ลมพัดลงเบื้องต่ำ ลมในท้อง ลมในไส้ ลมแล่นไปตามอวัยวะน้อยใหญ่ ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก นี้ก็ดี; หรือจะยังมีวาโยธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของพัดไปมา อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี. +--ราหุล ! วาโยธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #วาโยธาตุ อันเป็นภายใน. วาโยธาตุอันเป็นภายในด้วย วาโยธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าวาโยธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นวาโยธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; http://etipitaka.com/read/pali/13/137/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ ครั้นเห็นวาโยธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อวาโยธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากวาโยธาตุ. +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยลม (วาโย) เถิด เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยลมอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ อันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่ลมไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่ลมพัดผ่านเข้าไป, อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยลม ฉันใดก็ฉันนั้น]​. --ราหุล ! อากาสธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? อากาสธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. +--ราหุล ! อากาสธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? อากาสธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของแสดงลักษณะแห่งความว่าง อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น ช่องหู ช่องจมูก ช่องปาก ที่ว่าง ที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ผ่านไป ที่ว่างที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ตั้งอยู่ ช่องที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ออกสู่เบื้องล่าง นี้ก็ดี ; หรือจะยังมีอากาสธาตุ อันเป็นภายในเฉพาะตน เป็นของแสดงลักษณะแห่งความว่าง ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ ซึ่งไม่ตัน มีลักษณะไม่ตัน เป็นของเปิด มีลักษณะเปิด อันเนื้อและเลือดไม่เข้าไปบรรจุอยู่อันเป็นภายใน อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว อันใดก็ดี. +--ราหุล ! อากาสธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #อากาสธาตุ อันเป็นภายใน. อากาสธาตุอันเป็นภายในด้วย อากาสธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าอากาสธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นอากาสธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; http://etipitaka.com/read/pali/13/138/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ ครั้นเห็นอากาสธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่ออากาสธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากอากาสธาตุ. +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสเถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. +--ราหุล ! เปรียบเหมือนอากาส เป็นสิ่งมิได้ตั้งอยู่เฉพาะในที่ไรๆ, นี้ฉันใด; +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสเถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่, ฉันนั้นเหมือนกัน.- อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - -- ม. ม.๑๓/๑๓๕-๑๔๐/๑๓๕+๑๔๐, ๑๓๖+๑๔๑, ๑๓๗+๑๔๒, ๑๓๘+๑๔๓, ๑๓๙+๑๔๔. http://etipitaka.com/read/pali/13/135/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%95 ถึง http://etipitaka.com/read/pali/13/140/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%90 --สัมมาทิฏฐิ ในอาเนญชสัปปายปฏิปทา ๑. ข้อที่หนึ่ง --ภิกษุ ท. ! ในข้อที่กามเป็นอันตรายแก่อริยสาวกผู้ศึกษาอยู่ในธรรมวินัยนี้นั้น อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญาอันเป็นไปในทิฏฐธรรม (ภพนี้) และเป็นไปในสัมปรายะ (ภพอื่น) ทั้งสองอย่างนั้นเป็นบ่วงมาร เป็นวิสัยแห่งมาร เป็นเหยื่อแห่งมาร เป็นที่เที่ยวแห่งมาร. ในบ่วงแห่งมารนี้ บาปอกุศลทางใจเหล่านี้ เป็นอภิชฌาบ้าง เป็นพยาบาทบ้าง เป็นสารัมภะ (ความแข่งดี) บ้าง ย่อมเป็นไป ; บาปอกุศลเหล่านั้น ย่อมมีเพื่อเป็นอันตรายแก่อริยสาวกผู้ตามศึกษาอยู่ในธรรมวินัยนี้. ถ้าอย่างไร เราพึงมีจิตเป็นมหัคคตะอันไพบูลย์ อธิษฐานจิตครอบงำโลก อยู่เถิด ; เมื่อเรามีจิตเป็นมหัคคตะอันไพบูลย์ อธิษฐานจิตครอบงำโลกอยู่, บาปอกุศลทางใจเป็นอภิชฌาบ้าง เป็นพยาบาทบ้าง เป็นสารัมภะบ้าง เหล่านั้น จักไม่มี; เพราะละบาปอกุศลเหล่านั้นเสียได้ จิตของเราก็จักเป็นจิตมีคุณไม่เล็กน้อย เป็นจิตไม่มี ประมาณเป็นจิตอันอบรมดีแล้ว” ดังนี้. +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ*--๑ เมื่อจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงเพราะข้อปฏิบัติดังกล่าวแล้วข้างต้น ทำให้ง่ายและสะดวกแก่การลุถึงภพประเภทนี้ จึงได้ชื่อว่า #อาเนญชสัปปายปฏิปทา. http://etipitaka.com/read/pali/14/75/?keywords=อาเนญฺชสปฺปายา +--ข้อปฏิบัติเหล่านี้เป็นฝ่ายสมถะ ซึ่งเป็นปัจจัยแก่เจโตวิมุตติโดยตรง แต่ก็เป็นปัจจัยแก่วิปัสสนาได้ด้วย ดังนั้นท่านจึงกล่าวอานิสงส์ของคำนี้ว่า เพื่อเข้าถึงอาเนญชะหรือน้อมไปเพื่อปัญญาก็ได้. +--อาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้นหรือน้อมไปเพื่อปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็น วิญญาณที่เข้าถึงซึ่งภพในระดับอาเนญชะ. +--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น #อาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่หนึ่ง. ----- *--๑. คำว่า อายตนะ ในที่นี้ ไม่หมายถึงนิพพาน อันเป็นอายตนะสูงสุด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไป แต่หมายถึงอายตนะคือภาวะแห่งอรูปฌานทั้งสี่ คือ อากาสานัญจายตนะ ฯลฯ เนวสัญญานาสัญญายตนะ ; โดยเฉพาะ เพราะไม่มีรูปหรือสัญญาในรูปอันเป็นที่ตั้งแห่งความหวั่นไหว, แต่บางมติหมายต่ำลงมาถึงจตุตถฌานอันเป็นอาเนญชะในขั้นริเริ่ม ซึ่งยังไม่สมบูรณ์เพราะยังอาศัยสิ่งซึ่งมีรูปหรือรูปสัญญาอยู่. ๒.ข้อที่สอง --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโทษโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญาอันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ อันเป็นรูปอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงสักว่ารูป คือเป็นเพียงมหาภูตรูปสี่ และรูปอาศัยมหาภูตรูปสี่นั้นอยู่ เท่านั้น” ดังนี้. +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง ซึ่งภพในระดับอาเนญชะ. +--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น #อาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่สอง. http://etipitaka.com/read/pali/14/75/?keywords=อาเนญฺชสปฺปายา ๓.ข้อที่สาม --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะก็ดี รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฎฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี ทั้งสองอย่างนั้น เป็นอนิจจัง สิ่งใดเป็นอนิจจัง สิ่งนั้นไม่ควรเพื่อจะเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ สยบมัวเมา” ดังนี้. +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึงซึ่งภพในระดับอาเนญชะ. --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่าเป็น #อาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่สาม.- http://etipitaka.com/read/pali/14/76/?keywords=อาเนญฺชสปฺปายา #สัมมาทิฏฐิ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/57-58/82-84. http://etipitaka.com/read/thai/14/57/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92 ถึง http://etipitaka.com/read/thai/14/58/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%94 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๔-๗๕/๘๒-๘๔. http://etipitaka.com/read/pali/14/74/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92 ถึง http://etipitaka.com/read/pali/14/75/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%94 ศึกษาเพิ่มเติม.. https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=745 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56&id=745 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56 ลำดับสาธยายธรรม : 56 ฟังเสียงอ่าน.... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_56.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้า
    -ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้า ราหุล ! รูป อย่างใดอย่างหนึ่ง อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของหยาบ มีลักษณะแข้นแข็ง อันอุปาทาน (ของคนหรือสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว. ตัวอย่างเช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ไต หัวใจ ตับ พังผืด ม้าม ปอด ลำไส้ ลำไส้สุด อาหารในกระเพาะ อุจจาระ; หรือจะยังมีรูปแม้อื่น อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของหยาบ มีลักษณะแข้นแข็ง อันอุปาทาน (ของคนหรือสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว อย่างเดียวกันนี้. ราหุล ! นี้ เรียกว่า ปฐวีธาตุ อันเป็นภายใน. ปฐวีธาตุอันใด อันเป็นภายในด้วย ปฐวีธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าปฐวีธาตุ เสมอกัน. ใครๆ พึงเห็นปฐวีธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; ครั้นเห็นปฐวีธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อปฐวีธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากปฐวีธาตุ. ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดิน (ปฐวี) เถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดิน อยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. ราหุล ! เปรียบเหมือนเมื่อคนเขาทิ้งของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง ทิ้งคูถบ้าง ทิ้งมูตรบ้าง ทิ้งน้ำลายบ้าง หนองบ้าง โลหิตบ้าง ลงบนแผ่นดิน แผ่นดินก็ไม่รู้สึกอึดอัดระอารังเกียจ ด้วยสิ่งเหล่านั้น, นี้ฉันใด; ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินเถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน. ราหุล ! อาโปธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? อาโปธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. ราหุล ! อาโปธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? อาโปธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเหลว อันอุปาทาน (ของคนหรือของสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น น้ำดี เสลด หนอง โลหิต เหงื่อ มัน น้ำตา น้ำเหลือง น้ำลาย น้ำเมือก น้ำหล่อลื่นข้อ น้ำมูตร นี้ก็ดี; หรือจะยังมี อาโปธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเหลว อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี. ราหุล ! อาโปธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า อาโปธาตุ อันเป็นภายใน. อาโปธาตุอันเป็นภายในด้วย อาโปธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าอาโปธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นอาโปธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; ครั้นเห็นอาโปธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่ออาโปธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากอาโปธาตุ. ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำ (อาโป) เถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่น้ำไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่เขาล้างลงไปในน้ำ, อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยน้ำ ฉันใดก็ฉันนั้น]. ราหุล ! เตโชธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? เตโชธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. ราหุล ! เตโชธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? เตโชธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเผาผลาญ อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น ไฟที่ยังกายให้อบอุ่น ไฟที่ยังกายให้ทรุดโทรม ไฟที่ยังกายให้กระวนกระวาย และไฟที่เผาอาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ให้แปรไปโดยชอบ นี้ก็ดี; หรือจะยังมีเตโชธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเผาผลาญ อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี. ราหุล ! เตโชธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า เตโชธาตุอันเป็นภายใน. เตโชธาตุอันเป็นภายนอกใน เตโชธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าเตโชธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นเตโชธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; ครั้นเห็นเตโชธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อเตโชธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากเตโชธาตุ. ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยไฟ (เตโช) เถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยไฟอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ อันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่ไฟไม่อึดอัดระอาต่อสิ่ง ปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่เขาทิ้งลงไปให้มันไหม้, อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยไฟ ฉันใดก็ฉันนั้น]. ราหุล ! วาโยธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? วาโยธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. ราหุล ! วาโยธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? วาโยธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของพัดไปมา อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น ลมพัดขึ้นเบื้องบน ลมพัดลงเบื้องต่ำ ลมในท้อง ลมในไส้ ลมแล่นไปตามอวัยวะน้อยใหญ่ ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก นี้ก็ดี; หรือจะยังมีวาโยธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของพัดไปมา อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี. ราหุล ! วาโยธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่าวาโยธาตุอันเป็นภายใน. วาโยธาตุอันเป็นภายในด้วย วาโยธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าวาโยธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นวาโยธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; ครั้นเห็นวาโยธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อวาโยธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากวาโยธาตุ. ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยลม (วาโย) เถิด เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยลมอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ อันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่ลมไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่ลมพัดผ่านเข้าไป, อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยลม ฉันใดก็ฉันนั้น]. ราหุล ! อากาสธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? อากาสธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. ราหุล ! อากาสธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? อากาสธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของแสดงลักษณะแห่งความว่าง อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น ช่องหู ช่องจมูก ช่องปาก ที่ว่างที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ผ่านไป ที่ว่างที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ตั้งอยู่ ช่องที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ออกสู่เบื้องล่าง นี้ก็ดี ; หรือจะยังมีอากาสธาตุ อันเป็นภายในเฉพาะตน เป็นของแสดงลักษณะแห่งความว่าง ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ ซึ่งไม่ตัน มีลักษณะไม่ตัน เป็นของเปิด มีลักษณะเปิด อันเนื้อและเลือดไม่เข้าไปบรรจุอยู่อันเป็นภายใน อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว อันใดก็ดี. ราหุล ! อากาสธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่าอากาสธาตุอันเป็นภายใน. อากาสธาตุอันเป็นภายในด้วย อากาสธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าอากาสธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นอากาสธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; ครั้นเห็นอากาสธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่ออากาสธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากอากาสธาตุ. ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสเถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. ราหุล ! เปรียบเหมือนอากาส เป็นสิ่งมิได้ตั้งอยู่เฉพาะในที่ไรๆ, นี้ฉันใด; ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสเถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่, ฉันนั้นเหมือนกัน. ม. ม.๑๓/๑๓๕-๑๔๐/๑๓๕+๑๔๐, ๑๓๖+๑๔๑, ๑๓๗+๑๔๒, ๑๓๘+๑๔๓, ๑๓๙+๑๔๔. สัมมาทิฏฐิ ในอาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่หนึ่ง ภิกษุ ท. ! ในข้อที่กามเป็นอันตรายแก่อริยสาวกผู้ศึกษาอยู่ในธรรมวินัยนี้นั้น อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญาอันเป็นไปในทิฏฐธรรม (ภพนี้) และเป็นไปในสัมปรายะ (ภพอื่น) ทั้งสองอย่างนั้นเป็นบ่วงมาร เป็นวิสัยแห่งมาร เป็นเหยื่อแห่งมาร เป็นที่เที่ยวแห่งมาร. ในบ่วงแห่งมารนี้ บาปอกุศลทางใจเหล่านี้ เป็นอภิชฌาบ้าง เป็นพยาบาทบ้าง เป็นสารัมภะ (ความแข่งดี) บ้าง ย่อมเป็นไป ; บาปอกุศลเหล่านั้น ย่อมมีเพื่อเป็นอันตรายแก่อริยสาวกผู้ตามศึกษาอยู่ในธรรมวินัยนี้. ถ้าอย่างไร เราพึงมีจิตเป็นมหัคคตะอันไพบูลย์ อธิษฐานจิตครอบงำโลก อยู่เถิด ; เมื่อเรามีจิตเป็นมหัคคตะอันไพบูลย์ อธิษฐานจิตครอบงำโลกอยู่, บาปอกุศลทางใจเป็นอภิชฌาบ้าง เป็นพยาบาทบ้าง เป็นสารัมภะบ้าง เหล่านั้น จักไม่มี; เพราะละบาปอกุศลเหล่านั้นเสียได้ จิตของเราก็จักเป็นจิตมีคุณไม่เล็กน้อย เป็นจิตไม่มี ประมาณเป็นจิตอันอบรมดีแล้ว” ดังนี้. เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ๑ เมื่อจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึง ๑. คำว่า อายตนะ ในที่นี้ ไม่หมายถึงนิพพาน อันเป็นอายตนะสูงสุด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไป แต่หมายถึงอายตนะคือภาวะแห่งอรูปฌานทั้งสี่ คือ อากาสานัญจายตนะ ฯลฯ เนวสัญญานาสัญญายตนะ โดยเฉพาะ เพราะไม่มีรูปหรือสัญญาในรูปอันเป็นที่ตั้งแห่งความหวั่นไหว, แต่บางมติหมายต่ำลงมาถึงจตุตถฌานอันเป็นอาเนญชะในขั้นริเริ่ม ซึ่งยังไม่สมบูรณ์เพราะยังอาศัยสิ่งซึ่งมีรูปหรือรูปสัญญาอยู่. เพราะข้อปฏิบัติดังกล่าวแล้วข้างต้น ทำให้ง่ายและสะดวกแก่การลุถึงภพประเภทนี้ จึงได้ชื่อว่า อาเนญชสัปปายปฏิปทา. ข้อปฏิบัติเหล่านี้เป็นฝ่ายสมถะ ซึ่งเป็นปัจจัยแก่เจโตวิมุตติโดยตรง แต่ก็เป็นปัจจัยแก่วิปัสสนาได้ด้วย ดังนั้นท่านจึงกล่าวอานิสงส์ของคำนี้ว่า เพื่อเข้าถึงอาเนญชะหรือน้อมไปเพื่อปัญญาก็ได้. อาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้นหรือน้อมไปเพื่อปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็น วิญญาณที่เข้าถึงซึ่งภพในระดับอาเนญชะ. ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น อาเนญชสัปปายปฏิปทาข้อที่หนึ่ง. ข้อที่สอง ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโทษโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญาอันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ อันเป็นรูปอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงสักว่ารูป คือเป็นเพียงมหาภูตรูปสี่ และรูปอาศัยมหาภูตรูปสี่นั้นอยู่ เท่านั้น” ดังนี้. เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง ซึ่งภพในระดับอาเนญชะ. ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น อาเนญชสัปปายปฏิปทาข้อที่สอง. ข้อที่สาม ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะก็ดี รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฎฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี ทั้ง สองอย่างนั้น เป็นอนิจจัง สิ่งใดเป็นอนิจจัง สิ่งนั้นไม่ควรเพื่อจะเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ สยบมัวเมา” ดังนี้. เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึงซึ่งภพในระดับอาเนญชะ. ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่าเป็น อาเนญชสัปปายปฏิปทาข้อที่สาม.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Supabase เปิดสิทธิบัตร OrioleDB ให้ชุมชน Postgres — ยกระดับระบบจัดเก็บข้อมูลด้วย B+-Tree เวอร์ชันทนทาน พร้อมเป้าหมายสู่การรวมเข้ากับต้นน้ำ”

    หลังจาก Supabase เข้าซื้อ OrioleDB มาเมื่อปีก่อน ล่าสุดบริษัทได้ประกาศเปิดสิทธิบัตรสหรัฐฯ หมายเลข 10,325,030 ซึ่งครอบคลุมเทคโนโลยี “Durable multiversion B+-tree” ให้ใช้งานได้ฟรีแบบไม่จำกัดสิทธิ์สำหรับผู้ใช้ OrioleDB ทุกคน รวมถึงโฟร์กเชิงพาณิชย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องโอเพ่นซอร์สจากการฟ้องร้องด้านทรัพย์สินทางปัญญา และผลักดันให้ OrioleDB กลายเป็นส่วนหนึ่งของ PostgreSQL อย่างแท้จริง

    OrioleDB เป็นระบบจัดเก็บข้อมูลแบบ extension ที่ใช้ Table Access Method API ของ Postgres เพื่อแทนที่ heap storage แบบเดิม โดยออกแบบมาให้ทำงานได้ดีกับฮาร์ดแวร์ยุคใหม่และโครงสร้างคลาวด์ Benchmarks ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า OrioleDB เร็วกว่า heap ถึง 5.5 เท่าใน workload แบบ TPC-C

    สิ่งที่ทำให้ OrioleDB โดดเด่นคือการใช้ index-organized tables, การเชื่อมโยงหน้าในหน่วยความจำแบบตรง (no buffer mapping), การใช้ undo log แทน vacuum และการทำ checkpoint แบบ copy-on-write ซึ่งช่วยลด overhead และเพิ่มความเสถียรในการทำงานแบบ concurrent

    Supabase ยังยืนยันว่า OrioleDB จะยังคงเป็นโอเพ่นซอร์ส พร้อมเปิดรับการมีส่วนร่วมจากชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการส่งโค้ด ทดสอบ หรือให้ฟีดแบ็ก โดยมีเป้าหมายระยะยาวคือการ upstream เข้าสู่ PostgreSQL source tree เพื่อให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบหลักอย่างเป็นทางการ

    การเปิดสิทธิบัตรของ OrioleDB
    Supabase เปิดสิทธิบัตร Durable multiversion B+-tree ให้ใช้งานฟรี
    ครอบคลุมผู้ใช้ทุกคน รวมถึงโฟร์กเชิงพาณิชย์
    ใช้เพื่อปกป้องโอเพ่นซอร์สจากการฟ้องร้องด้าน IP
    เสริมความเข้ากันได้กับ PostgreSQL License

    จุดเด่นของ OrioleDB
    เป็น extension ที่แทนที่ heap storage ด้วย Table Access Method API
    เร็วกว่า heap ถึง 5.5 เท่าใน TPC-C benchmark
    ใช้ index-organized tables และ direct memory mapping
    มี undo log แทน vacuum และใช้ copy-on-write checkpoint

    แนวทางการพัฒนาและเป้าหมาย
    ยังคงเป็นโอเพ่นซอร์ส พร้อมเปิดรับการมีส่วนร่วมจากชุมชน
    เป้าหมายคือ upstream เข้าสู่ PostgreSQL source tree
    พัฒนาให้ทำงานได้บน stock Postgres โดยไม่ต้องแก้ไขมาก
    มีแผนปรับปรุงเอกสารและ onboarding เพื่อให้ใช้งานง่ายขึ้น

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    PostgreSQL 18 กำลังจะเปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ด้าน performance ใหม่
    OrioleDB ยังไม่รองรับ index ประเภท HNSW ของ pg_vector
    มีการพัฒนา bridge สำหรับ Index Access Method เพื่อรองรับ index ทุกประเภท
    Supabase ใช้ OrioleDB เป็น storage engine เริ่มต้นใน image ของตนแล้ว

    https://supabase.com/blog/orioledb-patent-free
    🐘 “Supabase เปิดสิทธิบัตร OrioleDB ให้ชุมชน Postgres — ยกระดับระบบจัดเก็บข้อมูลด้วย B+-Tree เวอร์ชันทนทาน พร้อมเป้าหมายสู่การรวมเข้ากับต้นน้ำ” หลังจาก Supabase เข้าซื้อ OrioleDB มาเมื่อปีก่อน ล่าสุดบริษัทได้ประกาศเปิดสิทธิบัตรสหรัฐฯ หมายเลข 10,325,030 ซึ่งครอบคลุมเทคโนโลยี “Durable multiversion B+-tree” ให้ใช้งานได้ฟรีแบบไม่จำกัดสิทธิ์สำหรับผู้ใช้ OrioleDB ทุกคน รวมถึงโฟร์กเชิงพาณิชย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องโอเพ่นซอร์สจากการฟ้องร้องด้านทรัพย์สินทางปัญญา และผลักดันให้ OrioleDB กลายเป็นส่วนหนึ่งของ PostgreSQL อย่างแท้จริง OrioleDB เป็นระบบจัดเก็บข้อมูลแบบ extension ที่ใช้ Table Access Method API ของ Postgres เพื่อแทนที่ heap storage แบบเดิม โดยออกแบบมาให้ทำงานได้ดีกับฮาร์ดแวร์ยุคใหม่และโครงสร้างคลาวด์ Benchmarks ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า OrioleDB เร็วกว่า heap ถึง 5.5 เท่าใน workload แบบ TPC-C สิ่งที่ทำให้ OrioleDB โดดเด่นคือการใช้ index-organized tables, การเชื่อมโยงหน้าในหน่วยความจำแบบตรง (no buffer mapping), การใช้ undo log แทน vacuum และการทำ checkpoint แบบ copy-on-write ซึ่งช่วยลด overhead และเพิ่มความเสถียรในการทำงานแบบ concurrent Supabase ยังยืนยันว่า OrioleDB จะยังคงเป็นโอเพ่นซอร์ส พร้อมเปิดรับการมีส่วนร่วมจากชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการส่งโค้ด ทดสอบ หรือให้ฟีดแบ็ก โดยมีเป้าหมายระยะยาวคือการ upstream เข้าสู่ PostgreSQL source tree เพื่อให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบหลักอย่างเป็นทางการ ✅ การเปิดสิทธิบัตรของ OrioleDB ➡️ Supabase เปิดสิทธิบัตร Durable multiversion B+-tree ให้ใช้งานฟรี ➡️ ครอบคลุมผู้ใช้ทุกคน รวมถึงโฟร์กเชิงพาณิชย์ ➡️ ใช้เพื่อปกป้องโอเพ่นซอร์สจากการฟ้องร้องด้าน IP ➡️ เสริมความเข้ากันได้กับ PostgreSQL License ✅ จุดเด่นของ OrioleDB ➡️ เป็น extension ที่แทนที่ heap storage ด้วย Table Access Method API ➡️ เร็วกว่า heap ถึง 5.5 เท่าใน TPC-C benchmark ➡️ ใช้ index-organized tables และ direct memory mapping ➡️ มี undo log แทน vacuum และใช้ copy-on-write checkpoint ✅ แนวทางการพัฒนาและเป้าหมาย ➡️ ยังคงเป็นโอเพ่นซอร์ส พร้อมเปิดรับการมีส่วนร่วมจากชุมชน ➡️ เป้าหมายคือ upstream เข้าสู่ PostgreSQL source tree ➡️ พัฒนาให้ทำงานได้บน stock Postgres โดยไม่ต้องแก้ไขมาก ➡️ มีแผนปรับปรุงเอกสารและ onboarding เพื่อให้ใช้งานง่ายขึ้น ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ PostgreSQL 18 กำลังจะเปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ด้าน performance ใหม่ ➡️ OrioleDB ยังไม่รองรับ index ประเภท HNSW ของ pg_vector ➡️ มีการพัฒนา bridge สำหรับ Index Access Method เพื่อรองรับ index ทุกประเภท ➡️ Supabase ใช้ OrioleDB เป็น storage engine เริ่มต้นใน image ของตนแล้ว https://supabase.com/blog/orioledb-patent-free
    SUPABASE.COM
    OrioleDB Patent: now freely available to the Postgres community
    Supabase is explicitly making available a non-exclusive license of the OrioleDB patent to all OrioleDB users in accordance with the OrioleDB license.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • ค้นบ้านอดีตเมียกำนันลี พบปืน 4 กระบอก : [NEWS UPDATE]
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สนธิกำลังตรวจค้นในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว หลังได้รับเบาะแสว่ามีโกดังขนาดใหญ่ ลักลอบค้าขายสินค้าข้ามแดนผิดกฎหมาย โดยตรวจค้นครั้งแรกที่โกดังไม่มีเลขที่ หมู่ 1 ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย พบน้ำดื่มบรรจุแพ็กและลังน้ำผลไม้ จากนั้นขยายผลตรวจค้นบ้านเลขที่ 30 หมู่ 3 ตำบลโนนหมากมุ่น ซึ่งอยู่ห่างจุดตรวจ ตชด.40 บ้านหนองจานเพียง 100 เมตร พบอาวุธปืน 4 กระบอก พร้อมใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ได้แก่ ปืนยาว BROWNING ขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก (ชื่อผู้ครอบครอง นางทองลัด กันหา), อาวุธปืนสั้น SMITH & WESSON ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก (ชื่อผู้ครอบครอง นางทองลัด กันหา), อาวุธปืนยาว CZ ขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก (ชื่อผู้ครอบครอง นายประทิศ ญาณปัญญา บุตรชายนางทองลัด), อาวุธปืนสั้น CZ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก (ชื่อผู้ครอบครอง นายประทิศ ญาณปัญญา บุตรชายนางทองลัด) เจ้าหน้าที่ยังพบภาพถ่ายของ "กำนันลี" อดีตสามีนางทองลัด ซึ่งเป็นอดีตทหารกัมพูชา ติดอยู่ในบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อนำไปประกอบการสืบสวนสอบสวนต่อไป


    กัมพูชาละเมิดหยุดยิงซ้ำๆ

    ที่ดินเขากระโดงไม่ต้มคนดู

    เงินวัดบางคลานหาย 30 ล้าน

    ลดอายุความผิดอาญาเด็ก
    ค้นบ้านอดีตเมียกำนันลี พบปืน 4 กระบอก : [NEWS UPDATE] ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่สนธิกำลังตรวจค้นในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้ว หลังได้รับเบาะแสว่ามีโกดังขนาดใหญ่ ลักลอบค้าขายสินค้าข้ามแดนผิดกฎหมาย โดยตรวจค้นครั้งแรกที่โกดังไม่มีเลขที่ หมู่ 1 ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย พบน้ำดื่มบรรจุแพ็กและลังน้ำผลไม้ จากนั้นขยายผลตรวจค้นบ้านเลขที่ 30 หมู่ 3 ตำบลโนนหมากมุ่น ซึ่งอยู่ห่างจุดตรวจ ตชด.40 บ้านหนองจานเพียง 100 เมตร พบอาวุธปืน 4 กระบอก พร้อมใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ได้แก่ ปืนยาว BROWNING ขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก (ชื่อผู้ครอบครอง นางทองลัด กันหา), อาวุธปืนสั้น SMITH & WESSON ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก (ชื่อผู้ครอบครอง นางทองลัด กันหา), อาวุธปืนยาว CZ ขนาด.22 จำนวน 1 กระบอก (ชื่อผู้ครอบครอง นายประทิศ ญาณปัญญา บุตรชายนางทองลัด), อาวุธปืนสั้น CZ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก (ชื่อผู้ครอบครอง นายประทิศ ญาณปัญญา บุตรชายนางทองลัด) เจ้าหน้าที่ยังพบภาพถ่ายของ "กำนันลี" อดีตสามีนางทองลัด ซึ่งเป็นอดีตทหารกัมพูชา ติดอยู่ในบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลทั้งหมดเพื่อนำไปประกอบการสืบสวนสอบสวนต่อไป กัมพูชาละเมิดหยุดยิงซ้ำๆ ที่ดินเขากระโดงไม่ต้มคนดู เงินวัดบางคลานหาย 30 ล้าน ลดอายุความผิดอาญาเด็ก
    Like
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 606 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • อ้างประเทศที่3,ทำไมไม่กล้าบอกชื่อประเทศที่3ควายนี้แก่ประชาชน,ประชาชนจะได้ไปถามฑูตประเทศที่3นี้,ถ้าเดือดร้อนขนาดนั้นมาค้ามาขายโคตรพ่อโคตรแมร่งมรึงทำไมในไทย,ใช้ไทยเป็นสถานที่อ้างเปิดด่านเปืดจุดผ่อนปรนวลีคำพ่อมรึงตายเหรอ,ไปใช้ลาวแทนสิ ไปเปิดบริษัทในลาวในเวียดนามโน้น,ใช้ด่านเวียดนามด่านลาวโน้น,ตรรกะส้นตีนมาก,รมต.ก็ไร้สมองไร้ความคิดความอ่าน คิดไม่เป็น,ไปเป็นรมต.มันสะ ลาออกจากรมต.เลย ,ไม่มีความสามารถยึดมั่นในยุทธการวิธีทางสงครามอะไร,เป็นผู้บัญชาการแบบไหน แต่ยึดฐานที่มั่นตนเองไม่ได้,ยึดครองฐานรบตนก็ไม่ได้,กากมาก,จะอ้างผ่อนปรนห่าเหวอะไรก็คือเปิดด่านให้สินค้าเข้าออกได้นั้นล่ะ สอดไส้อะไรก็ได้หมดในการขนไปเขมร ไอ้มือที่สามนี้ล่ะน่ากลัวส่งอาวุธก็ได้,เป็นถึง รมต.สมควรมีสมองมีวุฒิภาวะพื้นฐานว่าเวลานี้มันเส้นยาแดงชัดเจน ยังจะมีหน้าไปเปิดโอกาสทางเปิดด่านขนส่งรถบรรทุกสินค้าอีก เอกชนต่างชาติ ประเทศที่สามนี้สมควรประเทศมันมีแต่ศึกสงคราม ความไม่สงบภายในใหญ่โตบ้างนะ จนล่มสลายเลย อย่ามาใช้ไทยทำมาหาแดกเลย ไปทำมาหาแดกที่ประเทศอื่นเถอะถ้าจะตายขนาดนั้น,นี้คือข้ออ้างเพื่อช่วยเหลือเขมรเหมือนรีบเจรจาหยุดยิงนั่นเอง,ทหารพานิชย์บัดสบมาก สระแก้วก็เกินทนแล้ว ชาวบ้านเขาเห็นความชั่วเลวหมดล่ะ ปิดด่านยังลักลอบขนกันเข้าออกตรึม,
    ..ทหารภาคตะวันออกไว้ใจไม่ได้แล้วทั้งหมดหากเป็นเช่นนี้,รวมไปถึงรัฐบาลอนุทินนายกฯหนูด้วย เรา..ประชาชนกำลังลดเครดิตลงอาจติดลบแล้วตอนนี้ ไม่น่าไว้วางใจแล้ว หางงอก ลายออกชัดเจนแล้ว ,
    ..ไม่สมควรตัดสินใจแถลงบนเวทีแบบนั้น,ทรยศประชาชนคนไทยทั้งประเทศชัดเจน.รับไม่ได้ เหี้ยสันดานเขมรมันยิงคนไทยตายคา7/11นะ ตายเกือบหมดครอบครัว พวกเจรจานี้ทั้งหมดที่เป็นคนไทยพากันไปเจรจาทรยศประชาชนแบบนี้ สมควรให้ตายเกือบหมดครอบครัวทุกๆตัวแบบครอบครัวคนที่ถูกระเบิดเขมรยิงใส่7/11 โดยเฉพาะหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทยเรา,ไม่สำนึกสำเนียกอะไร ,น่าผิดหวังมาก ไม่สมควรเป็นคณะนำทีมเจรจาใดๆอีกต่อไป กากกระจอก ไร้ฝีมือ อ่อน ขลาดใจหมา แค่ประเทศที่3บอกก็ใจสัตว์หมาทำตามดากมัน,ไม่ยกประเทศให้มันเลย มันบอกอะไรเดี๋ยวจัดให้ เข้าข่ายอดีตนายกฯอุ๊งอิ๊งอีกคนแล้วทั้งคณะ ร่วมก่อการเป็นกระบวนการให้เสียยุทธการศึกปกป้องอธิปไตยความมั่นคงของชาติ ด้านความมั่นคงชัดเจนด้านเพราะปิดด่านไร้เปิดด่านทุกๆกรณีคือยุทธวิธีสงครามที่ชนะโดยไม่ต้องรบ,แต่ขี้หมาสมองหมาปัญญาควายทั้งคณะเจรจามีสมองไว้ตั้งบ่าใส่กระโหลกเฉยๆก็คิดอ่านเหมือนคนมีตำแหน่งใหญ่โตจริงก็ไม่ได้ สมองหมาและปัญญาอ่อนสุดๆทั้งคณะ เจตนาทำให้ศักยภาพทางทหารเขมรมีกำลังสู้รบชนะไทยชัดเจนจนอาจนำไปสู่ให้ทหารไทยเราแพ้สงคราม ทำให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยด้วย ผิด ม.119 ให้เสียหานเสื่อมเสียได้,คาดผลได้ว่าคนเขมรมีกำลังใจเชียร์ทหารเขมรตน ส่งข้าวปลาอาหารจากตนที่ขนส่งจากด่านไทยเข้าไปส่งต่อให้ทหารเขมรได้ จะอาวุธที่ประกอบเสร็จแล้ว ยารักษาโรคขณะยิงกันบาดเจ็บ อาหารเสบียงสามารถส่งต่อจากมือประชาชนคนทหารเขมรก็ได้อีก,นี้คือพื้นๆที่คนทั่วไปก็อ่านขาดได้ แต่คณะเจรจากากมากๆ ,ทรยศกบฎต่อประชาชนคนไทยตนเองชัดเจน นายกฯหนู ต้องถูกยึดอำนาจหากยังปล่อยแบบนี้ อย่ามาลิเกกับประชาชน,ถือว่ายุบการเจรจาทั้งหมดทันที ไร้ประสิทธิภาพ ใช้การจริงอะไรไม่ได้ เจรจาผีบ้ามาหลายรอบแล้ว ถือว่ากระจอก,ยุบไปเถอะ,ปิดด่านถาวรเหมือนเดิม ให้ทหารภาค2ควบคุมด่านตลอดพรมแดนเถอะ,ผบ.ทบ. ผบ.สส.เหล่าทัพท่านต้องสร้างความไว้วางใจให้ประชาชนให้ได้ เรา..ประชาชนหากเสื่อมศรัทธาทหารโดยภาพรวมอีก ที่กระทำย่ำยีความรู้สึกประชาชนทุกๆครั้งแบบนี้ที่ประชุมผีบ้ากันออกมาแต่ละที,ทหารไทยเราอาจไม่มีประชาชนสนับสนุนอีกต่อไป,และเบื่อหน่ายมากกับหลายๆมาตราการที่ไม่เด็ดขาดกับเขมรในภาคตะวันออกนี้ เสมือนภาพที่ออกมาทหารภาค1,คือผู้ทรยศต่ออธิปไตยไทยตนเองดีๆนี้เอง.หรือทหารบูรพาพยัคฆ์คือต้นเหตุของปัญหาพรมแดนไทยกับเขมรทั้งหมดตั้งแต่แรก.ผู้ก่อความวุ่นวายโกลาหลเองต่อแผ่นดินไทยนี้.
    ..เพราะทหารภาค2 ไม่มีปัญหาแบบทหารภาค1,ชัดเจนหนักแน่นไม่ขี้คุย ใช่ปากสร้างข้ออ้างหาคะแนนกับประชาชนคนไทยทั้งประเทศแบบภาค1หรือคณะเจรจารีบเปิดแต่ด่าน เร่งรีบอ้างปากออกมาก็อยากแต่เปิดด่านตั้งแต่รัฐบาลอุ๊งอิ๊งแล้ว,สายข่าวทหารดี ถ้ามีหลักฐานพวกเหี้ยนี้ทำความชั่วก็ขอให้ท่านจัดการทหารเลวชั่วนี้แทนคนไทยเรา..ประชาชนจริงๆเสียที เก็บกวาดเสียที ท่านเก็บรักษาไว้เป็นอนุสาวรีย์ไว้เชิดชูเกียรติกองทัพไทยหรือไง.



    https://youtube.com/watch?v=iFYaOFFV3lU&si=9Ehz_xkDyLizQNVW
    อ้างประเทศที่3,ทำไมไม่กล้าบอกชื่อประเทศที่3ควายนี้แก่ประชาชน,ประชาชนจะได้ไปถามฑูตประเทศที่3นี้,ถ้าเดือดร้อนขนาดนั้นมาค้ามาขายโคตรพ่อโคตรแมร่งมรึงทำไมในไทย,ใช้ไทยเป็นสถานที่อ้างเปิดด่านเปืดจุดผ่อนปรนวลีคำพ่อมรึงตายเหรอ,ไปใช้ลาวแทนสิ ไปเปิดบริษัทในลาวในเวียดนามโน้น,ใช้ด่านเวียดนามด่านลาวโน้น,ตรรกะส้นตีนมาก,รมต.ก็ไร้สมองไร้ความคิดความอ่าน คิดไม่เป็น,ไปเป็นรมต.มันสะ ลาออกจากรมต.เลย ,ไม่มีความสามารถยึดมั่นในยุทธการวิธีทางสงครามอะไร,เป็นผู้บัญชาการแบบไหน แต่ยึดฐานที่มั่นตนเองไม่ได้,ยึดครองฐานรบตนก็ไม่ได้,กากมาก,จะอ้างผ่อนปรนห่าเหวอะไรก็คือเปิดด่านให้สินค้าเข้าออกได้นั้นล่ะ สอดไส้อะไรก็ได้หมดในการขนไปเขมร ไอ้มือที่สามนี้ล่ะน่ากลัวส่งอาวุธก็ได้,เป็นถึง รมต.สมควรมีสมองมีวุฒิภาวะพื้นฐานว่าเวลานี้มันเส้นยาแดงชัดเจน ยังจะมีหน้าไปเปิดโอกาสทางเปิดด่านขนส่งรถบรรทุกสินค้าอีก เอกชนต่างชาติ ประเทศที่สามนี้สมควรประเทศมันมีแต่ศึกสงคราม ความไม่สงบภายในใหญ่โตบ้างนะ จนล่มสลายเลย อย่ามาใช้ไทยทำมาหาแดกเลย ไปทำมาหาแดกที่ประเทศอื่นเถอะถ้าจะตายขนาดนั้น,นี้คือข้ออ้างเพื่อช่วยเหลือเขมรเหมือนรีบเจรจาหยุดยิงนั่นเอง,ทหารพานิชย์บัดสบมาก สระแก้วก็เกินทนแล้ว ชาวบ้านเขาเห็นความชั่วเลวหมดล่ะ ปิดด่านยังลักลอบขนกันเข้าออกตรึม, ..ทหารภาคตะวันออกไว้ใจไม่ได้แล้วทั้งหมดหากเป็นเช่นนี้,รวมไปถึงรัฐบาลอนุทินนายกฯหนูด้วย เรา..ประชาชนกำลังลดเครดิตลงอาจติดลบแล้วตอนนี้ ไม่น่าไว้วางใจแล้ว หางงอก ลายออกชัดเจนแล้ว , ..ไม่สมควรตัดสินใจแถลงบนเวทีแบบนั้น,ทรยศประชาชนคนไทยทั้งประเทศชัดเจน.รับไม่ได้ เหี้ยสันดานเขมรมันยิงคนไทยตายคา7/11นะ ตายเกือบหมดครอบครัว พวกเจรจานี้ทั้งหมดที่เป็นคนไทยพากันไปเจรจาทรยศประชาชนแบบนี้ สมควรให้ตายเกือบหมดครอบครัวทุกๆตัวแบบครอบครัวคนที่ถูกระเบิดเขมรยิงใส่7/11 โดยเฉพาะหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทยเรา,ไม่สำนึกสำเนียกอะไร ,น่าผิดหวังมาก ไม่สมควรเป็นคณะนำทีมเจรจาใดๆอีกต่อไป กากกระจอก ไร้ฝีมือ อ่อน ขลาดใจหมา แค่ประเทศที่3บอกก็ใจสัตว์หมาทำตามดากมัน,ไม่ยกประเทศให้มันเลย มันบอกอะไรเดี๋ยวจัดให้ เข้าข่ายอดีตนายกฯอุ๊งอิ๊งอีกคนแล้วทั้งคณะ ร่วมก่อการเป็นกระบวนการให้เสียยุทธการศึกปกป้องอธิปไตยความมั่นคงของชาติ ด้านความมั่นคงชัดเจนด้านเพราะปิดด่านไร้เปิดด่านทุกๆกรณีคือยุทธวิธีสงครามที่ชนะโดยไม่ต้องรบ,แต่ขี้หมาสมองหมาปัญญาควายทั้งคณะเจรจามีสมองไว้ตั้งบ่าใส่กระโหลกเฉยๆก็คิดอ่านเหมือนคนมีตำแหน่งใหญ่โตจริงก็ไม่ได้ สมองหมาและปัญญาอ่อนสุดๆทั้งคณะ เจตนาทำให้ศักยภาพทางทหารเขมรมีกำลังสู้รบชนะไทยชัดเจนจนอาจนำไปสู่ให้ทหารไทยเราแพ้สงคราม ทำให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยด้วย ผิด ม.119 ให้เสียหานเสื่อมเสียได้,คาดผลได้ว่าคนเขมรมีกำลังใจเชียร์ทหารเขมรตน ส่งข้าวปลาอาหารจากตนที่ขนส่งจากด่านไทยเข้าไปส่งต่อให้ทหารเขมรได้ จะอาวุธที่ประกอบเสร็จแล้ว ยารักษาโรคขณะยิงกันบาดเจ็บ อาหารเสบียงสามารถส่งต่อจากมือประชาชนคนทหารเขมรก็ได้อีก,นี้คือพื้นๆที่คนทั่วไปก็อ่านขาดได้ แต่คณะเจรจากากมากๆ ,ทรยศกบฎต่อประชาชนคนไทยตนเองชัดเจน นายกฯหนู ต้องถูกยึดอำนาจหากยังปล่อยแบบนี้ อย่ามาลิเกกับประชาชน,ถือว่ายุบการเจรจาทั้งหมดทันที ไร้ประสิทธิภาพ ใช้การจริงอะไรไม่ได้ เจรจาผีบ้ามาหลายรอบแล้ว ถือว่ากระจอก,ยุบไปเถอะ,ปิดด่านถาวรเหมือนเดิม ให้ทหารภาค2ควบคุมด่านตลอดพรมแดนเถอะ,ผบ.ทบ. ผบ.สส.เหล่าทัพท่านต้องสร้างความไว้วางใจให้ประชาชนให้ได้ เรา..ประชาชนหากเสื่อมศรัทธาทหารโดยภาพรวมอีก ที่กระทำย่ำยีความรู้สึกประชาชนทุกๆครั้งแบบนี้ที่ประชุมผีบ้ากันออกมาแต่ละที,ทหารไทยเราอาจไม่มีประชาชนสนับสนุนอีกต่อไป,และเบื่อหน่ายมากกับหลายๆมาตราการที่ไม่เด็ดขาดกับเขมรในภาคตะวันออกนี้ เสมือนภาพที่ออกมาทหารภาค1,คือผู้ทรยศต่ออธิปไตยไทยตนเองดีๆนี้เอง.หรือทหารบูรพาพยัคฆ์คือต้นเหตุของปัญหาพรมแดนไทยกับเขมรทั้งหมดตั้งแต่แรก.ผู้ก่อความวุ่นวายโกลาหลเองต่อแผ่นดินไทยนี้. ..เพราะทหารภาค2 ไม่มีปัญหาแบบทหารภาค1,ชัดเจนหนักแน่นไม่ขี้คุย ใช่ปากสร้างข้ออ้างหาคะแนนกับประชาชนคนไทยทั้งประเทศแบบภาค1หรือคณะเจรจารีบเปิดแต่ด่าน เร่งรีบอ้างปากออกมาก็อยากแต่เปิดด่านตั้งแต่รัฐบาลอุ๊งอิ๊งแล้ว,สายข่าวทหารดี ถ้ามีหลักฐานพวกเหี้ยนี้ทำความชั่วก็ขอให้ท่านจัดการทหารเลวชั่วนี้แทนคนไทยเรา..ประชาชนจริงๆเสียที เก็บกวาดเสียที ท่านเก็บรักษาไว้เป็นอนุสาวรีย์ไว้เชิดชูเกียรติกองทัพไทยหรือไง. https://youtube.com/watch?v=iFYaOFFV3lU&si=9Ehz_xkDyLizQNVW
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัญหาประชาชนเอาไว้ก่อน??? “ณัฐพงษ์” จี้ "ภท." รวบรวมเสียงเร่งแก้ รธน. หมวด 15 เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาก.ย.นี้
    https://www.thai-tai.tv/news/21403/
    .
    #ไทยไท #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #พรรคประชาชน #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    ปัญหาประชาชนเอาไว้ก่อน??? “ณัฐพงษ์” จี้ "ภท." รวบรวมเสียงเร่งแก้ รธน. หมวด 15 เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาก.ย.นี้ https://www.thai-tai.tv/news/21403/ . #ไทยไท #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #พรรคประชาชน #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม
    สัทธรรมลำดับที่ : 741
    ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=741
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม
    --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้ มีอยู่.
    สามอย่าง อย่างไรเล่า ?
    สามอย่าง คือ ราคะ โทสะ โมหะ.
    +--ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ธรรม ๓ อย่างนั้น.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/496/?keywords=ตโย+ธมฺมา

    --ภิกษุ ท. ! เพื่อละเสียซึ่งธรรมสามอย่างเหล่านี้ ควรเจริญซึ่งธรรม ๓ อย่าง.
    ธรรมสามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่างคือ :-
    ๑--เจริญ อสุภะ เพื่อละเสียซึ่ง ราคะ;
    ๒--เจริญ เมตตา เพื่อละเสียซึ่ง โทสะ;
    ๓--เจริญ ปัญญา เพื่อละเสียซึ่ง โมหะ.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/496/?keywords=โมห
    --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้
    อันบุคคลควรเจริญเพื่อละเสีย
    ซึ่งธรรมสามอย่างเหล่าโน้น
    แล.-

    #สัมมาสังกับปะ
    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/399/378.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/399/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๙๖/๓๗๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/496/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%98
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=741
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56&id=741
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56
    ลำดับสาธยายธรรม : 56 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_56.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม สัทธรรมลำดับที่ : 741 ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=741 เนื้อความทั้งหมด :- --สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้ มีอยู่. สามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่าง คือ ราคะ โทสะ โมหะ. +--ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ธรรม ๓ อย่างนั้น. http://etipitaka.com/read/pali/22/496/?keywords=ตโย+ธมฺมา --ภิกษุ ท. ! เพื่อละเสียซึ่งธรรมสามอย่างเหล่านี้ ควรเจริญซึ่งธรรม ๓ อย่าง. ธรรมสามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่างคือ :- ๑--เจริญ อสุภะ เพื่อละเสียซึ่ง ราคะ; ๒--เจริญ เมตตา เพื่อละเสียซึ่ง โทสะ; ๓--เจริญ ปัญญา เพื่อละเสียซึ่ง โมหะ. http://etipitaka.com/read/pali/22/496/?keywords=โมห --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้ อันบุคคลควรเจริญเพื่อละเสีย ซึ่งธรรมสามอย่างเหล่าโน้น แล.- #สัมมาสังกับปะ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/399/378. http://etipitaka.com/read/thai/22/399/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๙๖/๓๗๘. http://etipitaka.com/read/pali/22/496/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%98 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=741 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56&id=741 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56 ลำดับสาธยายธรรม : 56 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_56.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม
    -สัมมาทิฏฐิในการเจริญธรรมสาม เพื่อละธรรมสาม ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้ มีอยู่. สามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่าง คือ ราคะ โทสะ โมหะ. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ธรรม ๓ อย่างนั้น. ภิกษุ ท. ! เพื่อละเสียซึ่งธรรมสามอย่างเหล่านี้ ควรเจริญซึ่งธรรม ๓ อย่าง. ธรรมสามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่างคือ : เจริญ อสุภะ เพื่อละเสียซึ่ง ราคะ; เจริญ เมตตา เพื่อละเสียซึ่ง โทสะ; เจริญ ปัญญา เพื่อละเสียซึ่ง โมหะ. ภิกษุ ท. ! ธรรม ๓ อย่าง เหล่านี้ อันบุคคลควรเจริญเพื่อละเสีย ซึ่งธรรมสามอย่างเหล่าโน้นแล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘ณัฐพงษ์’ มองการกลับมาของ ‘ทักษิณ’ ครั้งนี้ อาจมี ‘ดีล’ แลกเปลี่ยนทางการเมือง แนะ ยอมรับกระบวนการยุติธรรม
    https://www.thai-tai.tv/news/21373/
    .
    #ไทยไท #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #ทักษิณชินวัตร #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    ‘ณัฐพงษ์’ มองการกลับมาของ ‘ทักษิณ’ ครั้งนี้ อาจมี ‘ดีล’ แลกเปลี่ยนทางการเมือง แนะ ยอมรับกระบวนการยุติธรรม https://www.thai-tai.tv/news/21373/ . #ไทยไท #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #ทักษิณชินวัตร #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อมีอคติ ต่อพระราชา! สติปัญญา...ย่อมพร่ามัว!! (8/9/68)
    #อคติบังปัญญา #พระราชากับความจริง #เมื่ออคติบดบังใจ #อย่าให้ความเกลียดชี้นำชีวิต #TruthFromThailand #news1 #thaitimes #shorts
    เมื่อมีอคติ ต่อพระราชา! สติปัญญา...ย่อมพร่ามัว!! (8/9/68) #อคติบังปัญญา #พระราชากับความจริง #เมื่ออคติบดบังใจ #อย่าให้ความเกลียดชี้นำชีวิต #TruthFromThailand #news1 #thaitimes #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เปิดหนังสือ สส. เข้าชื่อยื่น "ศาล รธน." ฟัน "อนุทิน-ณัฐพงษ์" พ้นสมาชิกภาพ สส. ชี้ทำผิด รธน. คดีฮั้วจัดตั้งรัฐบาล
    https://www.thai-tai.tv/news/21350/
    .
    #ไทยไท #อนุทินชาญวีรกูล #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #ศาลรัฐธรรมนูญ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    เปิดหนังสือ สส. เข้าชื่อยื่น "ศาล รธน." ฟัน "อนุทิน-ณัฐพงษ์" พ้นสมาชิกภาพ สส. ชี้ทำผิด รธน. คดีฮั้วจัดตั้งรัฐบาล https://www.thai-tai.tv/news/21350/ . #ไทยไท #อนุทินชาญวีรกูล #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #ศาลรัฐธรรมนูญ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2568. ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีมะเส็ง เป็นวันพระ หรือ วันธรรมสวนะ
    ขอทุกท่านหันกลับมาพิจารณา ชีวิตของตน ผู้ล้วนกำลังเผชิญภยันตรายกันอยู่ทั่วหน้า โดยไม่อาจทราบได้ว่าความเจ็บ ความตายจะมาถึงเมื่อไร เร่งสั่งสมอบรม “ความไม่ประมาท" ให้ถึงพร้อม สั่งสมเพิ่มพูนกุศลธรรม ให้เจริญงอกงามเพื่อผลคือ“สติ” และ “ปัญญา” อันสามารถช่วยให้ล่วงพ้นจากภัยได้ทุกสถานและทุกเมื่อ

    พระคติธรรม
    เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
    วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2568. ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสิบ(๑๐) ปีมะเส็ง เป็นวันพระ หรือ วันธรรมสวนะ ขอทุกท่านหันกลับมาพิจารณา ชีวิตของตน ผู้ล้วนกำลังเผชิญภยันตรายกันอยู่ทั่วหน้า โดยไม่อาจทราบได้ว่าความเจ็บ ความตายจะมาถึงเมื่อไร เร่งสั่งสมอบรม “ความไม่ประมาท" ให้ถึงพร้อม สั่งสมเพิ่มพูนกุศลธรรม ให้เจริญงอกงามเพื่อผลคือ“สติ” และ “ปัญญา” อันสามารถช่วยให้ล่วงพ้นจากภัยได้ทุกสถานและทุกเมื่อ พระคติธรรม เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts