• “สุริยะ” พอใจ ผลเลือกตั้งนายก อบจ. เพื่อไทย เผย บ้านใหญ่ยังมีอิทธิพล 04/02/68 #สุริยะ #นายกอบจ. #เลือกตั้งท้องถิ่น #เพื่อไทย
    “สุริยะ” พอใจ ผลเลือกตั้งนายก อบจ. เพื่อไทย เผย บ้านใหญ่ยังมีอิทธิพล 04/02/68 #สุริยะ #นายกอบจ. #เลือกตั้งท้องถิ่น #เพื่อไทย
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 705 มุมมอง 30 0 รีวิว
  • ♣ เก็บตก ศึกนายก อบจ. พรรคประชาชนซื้อตัวบ้านใหญ่ยังไม่รอด
    #7ดอกจิก
    ♣ เก็บตก ศึกนายก อบจ. พรรคประชาชนซื้อตัวบ้านใหญ่ยังไม่รอด #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • โหวตโนผงาด ศึกเลือกตั้ง อบจ.

    การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) 47 จังหวัด และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ทั่วประเทศ แม้ด้านหนึ่งผู้ชนะการเลือกตั้งส่วนใหญ่ล้วนมาจากบ้านใหญ่แบบไม่พลิกโผ ผู้มาใช้สิทธิไม่คึกคักเพราะจัดการเลือกตั้งในวันเสาร์ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนหนึ่งลางานไม่ได้ และไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า

    แต่อีกด้านหนึ่ง "ช่องไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด" กลับสูงขึ้นหลายจังหวัด สาเหตุหลักคือ ไม่มีผู้สมัครรายใดโดนใจ อาทิ จังหวัดยะลา ที่มีนายมุขตาร์ มะทา อดีตนายก อบจ. 4 สมัย ชนะเป็นสมัยที่ 5 มีผู้มาใช้สิทธิ 224,707 คน ปรากฎว่าบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงถึง 29,334 ใบ คิดเป็น 13.05%

    จังหวัดสงขลาที่แข่งขันกันสูงด้วยจำนวนผู้สมัคร 9 ราย นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อดีตอธิบดีกรมฝนหลวง ทีมสงขลาพลังใหม่ ชนะการเลือกตั้งด้วยแรงสนับสนุนจากนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มีผู้มาใช้สิทธิ 687,944 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงถึง 86,855 ใบ คิดเป็น 12.63%

    จังหวัดนครราชสีมา ที่นางยลดา หวังศุภกิจโกศล อดีตนายก อบจ. ชนะการเลือกตั้งอีกสมัย ด้วยแรงสนับสนุนจากนายทักษิณ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย ที่ไปเปิดตัวผู้สมัครด้วยตัวเอง มีผู้มาใช้สิทธิ 1,155,142 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 110,934 ใบ คิดเป็น 9.60%

    จังหวัดนนทบุรี ที่ พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ อดีตนายก อบจ. 4 สมัย ชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 5 มีผู้มาใช้สิทธิ 432,613 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 37,562 ใบ คิดเป็น 8.68%

    จังหวัดสมุทรปราการ ที่นายสุนทร ปานแสงทอง อดีต รมช.เกษตรฯ จากกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า (อัศวเหม) ชนะการเลือกตั้ง มีผู้มาใช้สิทธิ 569,659 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 42,142 ใบ คิดเป็น 7.40%

    จังหวัดเชียงราย ที่นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ อดีตนายก อบจ. ชนะการเลือกตั้งอีกสมัย มีผู้มาใช้สิทธิ 605,780 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 43,406 ใบ คิดเป็น 7.17%

    จังหวัดอื่นๆ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้มาใช้สิทธิ 877,640 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 57,625 ใบ คิดเป็น 6.57% จังหวัดสุพรรณบุรี มีผู้มาใช้สิทธิ 393,849 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 24,113 ใบ คิดเป็น 6.12%

    จังหวัดสมุทรสาคร มีผู้มาใช้สิทธิ 211,071 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 11,573 ใบ คิดเป็น 5.48% และจังหวัดมหาสารคาม มีผู้มาใช้สิทธิ 453,567 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 16,452 ใบ คิดเป็น 3.63% สะท้อนให้เห็นความเบื่อหน่ายของประชาชนต่อการเมืองท้องถิ่นและโยงไปถึงระดับชาติที่ไม่ควรมองข้าม

    #Newskit
    โหวตโนผงาด ศึกเลือกตั้ง อบจ. การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) 47 จังหวัด และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ทั่วประเทศ แม้ด้านหนึ่งผู้ชนะการเลือกตั้งส่วนใหญ่ล้วนมาจากบ้านใหญ่แบบไม่พลิกโผ ผู้มาใช้สิทธิไม่คึกคักเพราะจัดการเลือกตั้งในวันเสาร์ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนหนึ่งลางานไม่ได้ และไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า แต่อีกด้านหนึ่ง "ช่องไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด" กลับสูงขึ้นหลายจังหวัด สาเหตุหลักคือ ไม่มีผู้สมัครรายใดโดนใจ อาทิ จังหวัดยะลา ที่มีนายมุขตาร์ มะทา อดีตนายก อบจ. 4 สมัย ชนะเป็นสมัยที่ 5 มีผู้มาใช้สิทธิ 224,707 คน ปรากฎว่าบัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงถึง 29,334 ใบ คิดเป็น 13.05% จังหวัดสงขลาที่แข่งขันกันสูงด้วยจำนวนผู้สมัคร 9 ราย นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อดีตอธิบดีกรมฝนหลวง ทีมสงขลาพลังใหม่ ชนะการเลือกตั้งด้วยแรงสนับสนุนจากนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มีผู้มาใช้สิทธิ 687,944 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดสูงถึง 86,855 ใบ คิดเป็น 12.63% จังหวัดนครราชสีมา ที่นางยลดา หวังศุภกิจโกศล อดีตนายก อบจ. ชนะการเลือกตั้งอีกสมัย ด้วยแรงสนับสนุนจากนายทักษิณ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย ที่ไปเปิดตัวผู้สมัครด้วยตัวเอง มีผู้มาใช้สิทธิ 1,155,142 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 110,934 ใบ คิดเป็น 9.60% จังหวัดนนทบุรี ที่ พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ อดีตนายก อบจ. 4 สมัย ชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 5 มีผู้มาใช้สิทธิ 432,613 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 37,562 ใบ คิดเป็น 8.68% จังหวัดสมุทรปราการ ที่นายสุนทร ปานแสงทอง อดีต รมช.เกษตรฯ จากกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า (อัศวเหม) ชนะการเลือกตั้ง มีผู้มาใช้สิทธิ 569,659 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 42,142 ใบ คิดเป็น 7.40% จังหวัดเชียงราย ที่นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ อดีตนายก อบจ. ชนะการเลือกตั้งอีกสมัย มีผู้มาใช้สิทธิ 605,780 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 43,406 ใบ คิดเป็น 7.17% จังหวัดอื่นๆ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ มีผู้มาใช้สิทธิ 877,640 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 57,625 ใบ คิดเป็น 6.57% จังหวัดสุพรรณบุรี มีผู้มาใช้สิทธิ 393,849 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 24,113 ใบ คิดเป็น 6.12% จังหวัดสมุทรสาคร มีผู้มาใช้สิทธิ 211,071 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 11,573 ใบ คิดเป็น 5.48% และจังหวัดมหาสารคาม มีผู้มาใช้สิทธิ 453,567 คน แต่บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 16,452 ใบ คิดเป็น 3.63% สะท้อนให้เห็นความเบื่อหน่ายของประชาชนต่อการเมืองท้องถิ่นและโยงไปถึงระดับชาติที่ไม่ควรมองข้าม #Newskit
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 391 มุมมอง 0 รีวิว
  • กางคะแนน ส.อบจ. เลือกตั้งท้องถิ่น ชัยภูมิ สู้เดือด เครือข่ายบ้านใหญ่ตบเท้าเข้าสภาฯ บางเขตเฉือนชนะกันแค่ไม่ถึง 30 แต้ม

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010719

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กางคะแนน ส.อบจ. เลือกตั้งท้องถิ่น ชัยภูมิ สู้เดือด เครือข่ายบ้านใหญ่ตบเท้าเข้าสภาฯ บางเขตเฉือนชนะกันแค่ไม่ถึง 30 แต้ม อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010719 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 776 มุมมอง 0 รีวิว
  • เลือกตั้งนายก อบจ.เพื่อไทยพ่ายแล้ว 6 จังหวัด “ทักษิณ” สิ้นมนต์ขลังในถิ่นน้ำเงิน ศรีสะเกษ-บึงกาฬ-อำนาจเจริญ ส่วน “พรรคส้ม” ซดแห้วเหลือลุ้นแค่ 2 จังหวัด หลายพื้นที่บ้านใหญ่ยังหนังเหนียว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010513

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เลือกตั้งนายก อบจ.เพื่อไทยพ่ายแล้ว 6 จังหวัด “ทักษิณ” สิ้นมนต์ขลังในถิ่นน้ำเงิน ศรีสะเกษ-บึงกาฬ-อำนาจเจริญ ส่วน “พรรคส้ม” ซดแห้วเหลือลุ้นแค่ 2 จังหวัด หลายพื้นที่บ้านใหญ่ยังหนังเหนียว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010513 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Wow
    Love
    Yay
    20
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1028 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศึกชิงนายก อบจ. ดุเดือดจนทักษิณยังหนาวหลัง
    ทักษิณ ชินวัตร ออกปากยอมรับ สนามเลือกตั้งนายกอบจ ศรีสะเกษ ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ บ้านใหญ่ไตรสรณกุล สูสีกัน ทักษิณยอมรับความจริง เพราะแม้พื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยจะกวาด สส. เกือบค่อนจังหวัด
    แต่เมื่อเจาะลงไปในสนามท้องถิ่นบ้านใหญ่ ไตรสรณกุล ได้ตําแหน่งมาหลายปีสร้างผลงานเอาไว้มากมาย ในขณะที่ผู้สมัครนายกอบจของพรรคเพื่อไทยอย่างเสี่ยปู๊วิวัฒน์ชัย เป็นพวกกระดูกคนละเบอร์กับแชมป์เก่าอย่างนายกส้มเกลี้ยง เทียบกันให้ชัดชัดสนามเลือกตั้งส.ส.ศรีสะเกษที่เพิ่งผ่านมา พรรคเพื่อไทยหอบส.ส.เข้าสภาเกือบจะยกจังหวัดตกอยู่ไม่กี่เขต
    แต่หนึ่งในนั้นมีเสี่ยปู๊รวมอยู่ด้วย กระแสพรรคเพื่อไทยในศรีสะเกษเมื่อก่อนมีมาก โดยเฉพาะแคมเปญไล่หนูตีงูเห่า ที่เล่นเอาภาคภูมิใจไทยช็อตปั่นแต้มไม่ขึ้นพรรคเพื่อไทยแทบไม่ต้องออกแรงมาก นักการเมืองที่นั่นพาเหรดกันเข้าวิน แต่เสี่ยปู๊ดันตกขบวนทั้งที่ทําตัวเป็นหัวโจกค่ายสีแดงในจังหวัดถึงขั้นต้องพิจารณากันว่าต้องไม่เอาอ่าวขนาดไหน ขนาดกระแสพรรคเพื่อไทยดีขนาดนี้แต่ดันสอบตก
    หลังการเลือกตั้งเสี่ยปู๊ เข้ามาสังกัดก๊ก สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคมนาคม ท่อน้ําเลี้ยงนัมเบอร์วันของพรรคเพื่อไทยก่อนจะได้รับการปลอบใจให้มีตําแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
    พอได้อยู่กับท่อน้ําเลี้ยงแล้วคึกมีความหวัง กระแสไม่ได้ หันไปพึ่งกระสุนขอลงชิงชัยเก้าอี้นายก อบจ ศรีสะเกษ ดูสักตั้ง กระแสส่วนตัวในจังหวัดเป็นรองแต่ขอพึ่งบารมีทักษิณและสุริยะ เพื่อเข้าไปบริหารการเมืองท้องถิ่นดินแดนทุเรียนภูเขาไฟก็ยัง
    ยอมรับตรงๆว่าคะแนนสูสี ทั้งที่ความเป็นจริง ความนิยมในจังหวัดแชมป์เก่าเหนือกว่าหลายขุม ขณะที่นายกส้มเกลี้ยง เหนือกว่า เสี่ยปู๊ที่เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าพื้นเพเป็นคนอุบลราชธานีด้วยซ้ํา
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    ศึกชิงนายก อบจ. ดุเดือดจนทักษิณยังหนาวหลัง ทักษิณ ชินวัตร ออกปากยอมรับ สนามเลือกตั้งนายกอบจ ศรีสะเกษ ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ บ้านใหญ่ไตรสรณกุล สูสีกัน ทักษิณยอมรับความจริง เพราะแม้พื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยจะกวาด สส. เกือบค่อนจังหวัด แต่เมื่อเจาะลงไปในสนามท้องถิ่นบ้านใหญ่ ไตรสรณกุล ได้ตําแหน่งมาหลายปีสร้างผลงานเอาไว้มากมาย ในขณะที่ผู้สมัครนายกอบจของพรรคเพื่อไทยอย่างเสี่ยปู๊วิวัฒน์ชัย เป็นพวกกระดูกคนละเบอร์กับแชมป์เก่าอย่างนายกส้มเกลี้ยง เทียบกันให้ชัดชัดสนามเลือกตั้งส.ส.ศรีสะเกษที่เพิ่งผ่านมา พรรคเพื่อไทยหอบส.ส.เข้าสภาเกือบจะยกจังหวัดตกอยู่ไม่กี่เขต แต่หนึ่งในนั้นมีเสี่ยปู๊รวมอยู่ด้วย กระแสพรรคเพื่อไทยในศรีสะเกษเมื่อก่อนมีมาก โดยเฉพาะแคมเปญไล่หนูตีงูเห่า ที่เล่นเอาภาคภูมิใจไทยช็อตปั่นแต้มไม่ขึ้นพรรคเพื่อไทยแทบไม่ต้องออกแรงมาก นักการเมืองที่นั่นพาเหรดกันเข้าวิน แต่เสี่ยปู๊ดันตกขบวนทั้งที่ทําตัวเป็นหัวโจกค่ายสีแดงในจังหวัดถึงขั้นต้องพิจารณากันว่าต้องไม่เอาอ่าวขนาดไหน ขนาดกระแสพรรคเพื่อไทยดีขนาดนี้แต่ดันสอบตก หลังการเลือกตั้งเสี่ยปู๊ เข้ามาสังกัดก๊ก สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคมนาคม ท่อน้ําเลี้ยงนัมเบอร์วันของพรรคเพื่อไทยก่อนจะได้รับการปลอบใจให้มีตําแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พอได้อยู่กับท่อน้ําเลี้ยงแล้วคึกมีความหวัง กระแสไม่ได้ หันไปพึ่งกระสุนขอลงชิงชัยเก้าอี้นายก อบจ ศรีสะเกษ ดูสักตั้ง กระแสส่วนตัวในจังหวัดเป็นรองแต่ขอพึ่งบารมีทักษิณและสุริยะ เพื่อเข้าไปบริหารการเมืองท้องถิ่นดินแดนทุเรียนภูเขาไฟก็ยัง ยอมรับตรงๆว่าคะแนนสูสี ทั้งที่ความเป็นจริง ความนิยมในจังหวัดแชมป์เก่าเหนือกว่าหลายขุม ขณะที่นายกส้มเกลี้ยง เหนือกว่า เสี่ยปู๊ที่เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าพื้นเพเป็นคนอุบลราชธานีด้วยซ้ํา ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 479 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.ทั่วประเทศ ที่ใกล้เข้ามา "เมืองร้อยเกาะ" จ.สุราษฎร์ธานี ถือเป็นหนึ่งในสนามเลือกตั้งที่สู้กันดุเดือด ไม่แพ้จังหวัดอื่น ๆ เลยแม้แต่น้อย

    #ศึกเลือกตั้งนายกอบจ #กำนันศักดิ์ #ป้าโสบ้านใหญ่ #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.ทั่วประเทศ ที่ใกล้เข้ามา "เมืองร้อยเกาะ" จ.สุราษฎร์ธานี ถือเป็นหนึ่งในสนามเลือกตั้งที่สู้กันดุเดือด ไม่แพ้จังหวัดอื่น ๆ เลยแม้แต่น้อย #ศึกเลือกตั้งนายกอบจ #กำนันศักดิ์ #ป้าโสบ้านใหญ่ #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1826 มุมมอง 61 0 รีวิว
  • 20 ม.ค.2568-นายสมหมาย ภาษี อดีตรมว.การคลัง และอดีตประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง“ธุรกิจสีเทาในไทยทำไมจึงเบ่งบาน” ระบุว่า คนไทยทุกวันนี้ต่างก็เคยได้ยินเรื่องธุรกิจสีเทาในประเทศเราจนชาชินกันแล้ว และส่วนใหญ่ก็เข้าใจในความหมายว่าเป็นการทำธุรกิจในประเทศไทยโดยชาวต่างชาติที่ไม่ถูกต้องตรงไปตรงมา และหลีกเลี่ยงการเสียภาษีให้กับประเทศของเราอีกด้วย

    ท่านผู้อ่านคงจะได้ยินข่าวใหญ่ของธุรกิจสีเทาขนาดใหญ่ของคนจีนในภูเก็ตที่เป็นเมืองท่องเที่ยวใหญ่สุดของประเทศเมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 มีทั้งธุรกิจขายเครื่องประดับล้ำค่าให้นักท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันเหลือแต่ซากของอาคารขนาดใหญ่ที่ดูหรูหราเหมือนราชวังย่อมๆให้เห็นอยู่ 2 แห่ง ท่านคงจำได้ว่าช่วงนั้นมีทัวร์ศูนย์เหรียญเข้ามาดำเนินการอยู่ในภูเก็ต และเมืองท่องเที่ยวอื่นอย่างดาษดื่น

    เมื่อใดที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเทศหนึ่งประเทศใดเข้ามาเที่ยวในเมืองไทยมากในที่ใด พวกธุรกิจสีเทาก็จะเกิดขึ้นในเมืองนั้น นอกจากจีนแล้ว เราจะได้ยินได้ฟังเรื่องธุรกิจสีเทาของชาวรัสเซียในพัทยากันอย่างคุ้นหู ในช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเข้ามาที่ภูเก็ตมากก็ได้ข่าวว่าแถวหาดป่าตอง ก็มีพื้นที่บางแห่งถูกเรียกว่า “Little Moscow” ไปแล้ว

    จริงๆแล้วธุรกิจสีเทาในประเทศไทย ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะ 2 เมืองท่องเที่ยวหลักนี้เท่านั้น เมืองอื่นๆก็มี ส่วนชาวต่างชาติที่มาประกอบธุรกิจสีเทาในไทยก็ไม่ใช่มีแค่ชาวจีนและชาวรัสเซีย แต่ยังมีชนชาติจากยุโรปก็ไม่ใช่น้อย เร็วๆนี้อาจจะเห็นพวกจากแอฟริกาบ้างก็ได้

    ถ้าจะมีคำถามว่าทำไมธุรกิจสีเทาในไทยจึงมีมากดาษดื่นมากกว่าประเทศอื่น คำตอบมีชัดเจนครับ

    ประการแรก คนไทยเราเองจำนวนมากที่ประกอบธุรกิจแบบสีเทาให้ต่างชาติเขาเห็น หรือไม่ก็เข้าไปร่วมทุนกับต่างชาติที่ประกอบธุรกิจสีเทา

    ประการที่สอง เพราะในเมืองไทยมีกฎหมายควบคุมไม่รัดกุม และข้าราชการก็ไม่ได้ใส่ใจดูแลให้เป็นไปตามตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ได้สักอย่าง บางรัฐบาลถึงกับจะออกกฎหมายมาก่อให้เกิดธุรกิจสีเทาโดยตรงก็มี

    ผมต้องขออภัยที่จำเป็นต้องออกความเห็นเรื่อง “โครงการสถานบันเทิงครบวงจร” หรือ “Entertainment Complex” ที่กำลังออกตัวกันอย่างเต็มที่ในขณะนี้ ว่ามันเป็นโครงการที่จะเป็นอันตรายอย่างสุดจะพรรณนาในการเปิดทางให้เกิดธุรกิจสีเทาตามมาอย่างแน่นอน และยังหมิ่นเหม่ต่อการเพิ่มแรงกดดันให้กับปัญหาสังคมที่ย่ำแย่ของไทยเกิดความเลวร้ายทับถมตามมาแบบไม่คุ้มค่าอีกมาก และเมื่อฟังให้ชัดก็ได้เห็นความน่าหวาดกลัวยิ่งขึ้นไปอีก เพราะที่จัดไว้ในที่ดินผืนใหญ่ของการรถไฟไม่ใช่โครงการสถานบันเทิงครบวงจรแห่งเดียวในประเทศไทยเท่านั้น แต่จะมีอีก 4-5 แห่งคล้ายกันในท้องที่ของนักการเมืองบ้านใหญ่ทั้งหลาย นี่มันอะไรกัน เอาแต่มาปั้นตัวเลข GDP ว่าจะเพิ่มเท่านั้นเท่านี้โดยสำนักงานของรัฐไหนก็ไม่รู้

    ผมถามตัวเองว่านี่นักการเมืองและข้าราชการไทยเขาเพ้อฝันไปหรือไง หรือว่ามีการเสพกัญชากันมากเกินไปแล้ว เพราะถ้าจะคิดทำให้ดีแบบต่างประเทศที่เขาทำกัน เช่น ที่สิงคโปร์ก็มีเพียง “เดอะ แซนด์(The Sand)” เท่านั้น และมีข้อกำหนดไม่ให้ชาวสิงคโปร์ที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดเข้าไปในบ่อนโดยเด็ดขาด โดยรัฐบาลเขาจะคุมอย่างเข้มงวดมาก ที่ประเทศจีนอันใหญ่โตมีที่เกาะมาเก๊าเท่านั้น ซึ่งธุรกิจนี้นายทุนใหญ่เจ้าของบ่อนทั้งที่สิงคโปร์ มาเก๊า และลาสเวกัส ชื่อ Mr. Anderson เป็นเศรษฐีชาวอเมริกัน ผู้สนับสนุนพรรค Republican ซึ่งได้เสียชีวิตตอนอายุ 70 ปลายๆไปเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว

    ของไทยที่จะตั้งในหัวเมืองสำคัญ 4-5 แห่ง ถือว่าเป็นโมเดลที่แปลกเป็นพิเศษในโลก บ่อนคาสิโนนั้นใครๆก็รู้ว่าเป็นธุรกิจสีเทา โกงกันก็ได้ ฟอกเงินก็ได้ แลกเปลี่ยนเงินสกุลไหนอย่างไรก็ได้ แต่รายรับรายจ่ายที่จะทำบัญชีให้ถูกต้องไม่ได้ ใหญ่อย่างไรก็ตามสำนักงานบัญชีระดับท็อป 4 ของโลกคงไม่รับเป็นผู้สอบบัญชีให้ แล้วรัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการไปกำกับดูแลให้อยู่กับร่องกับรอยได้อย่างไรกัน

    หรือว่ารัฐบาลนี้จะสนับสนุนให้ธุรกิจสีเทาในประเทศเบ่งบานกันอย่างจริงจังในยุคนี้

    ก็โปรดเขียนเป็นนโยบายไว้ให้ชัดๆเลยได้ไหมครับ ลูกๆหลานๆไทยจะได้รู้ว่าใครเป็นคนคิดทำ

    https://www.thaipost.net/hi-light/725742/#
    20 ม.ค.2568-นายสมหมาย ภาษี อดีตรมว.การคลัง และอดีตประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง“ธุรกิจสีเทาในไทยทำไมจึงเบ่งบาน” ระบุว่า คนไทยทุกวันนี้ต่างก็เคยได้ยินเรื่องธุรกิจสีเทาในประเทศเราจนชาชินกันแล้ว และส่วนใหญ่ก็เข้าใจในความหมายว่าเป็นการทำธุรกิจในประเทศไทยโดยชาวต่างชาติที่ไม่ถูกต้องตรงไปตรงมา และหลีกเลี่ยงการเสียภาษีให้กับประเทศของเราอีกด้วย ท่านผู้อ่านคงจะได้ยินข่าวใหญ่ของธุรกิจสีเทาขนาดใหญ่ของคนจีนในภูเก็ตที่เป็นเมืองท่องเที่ยวใหญ่สุดของประเทศเมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 มีทั้งธุรกิจขายเครื่องประดับล้ำค่าให้นักท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันเหลือแต่ซากของอาคารขนาดใหญ่ที่ดูหรูหราเหมือนราชวังย่อมๆให้เห็นอยู่ 2 แห่ง ท่านคงจำได้ว่าช่วงนั้นมีทัวร์ศูนย์เหรียญเข้ามาดำเนินการอยู่ในภูเก็ต และเมืองท่องเที่ยวอื่นอย่างดาษดื่น เมื่อใดที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเทศหนึ่งประเทศใดเข้ามาเที่ยวในเมืองไทยมากในที่ใด พวกธุรกิจสีเทาก็จะเกิดขึ้นในเมืองนั้น นอกจากจีนแล้ว เราจะได้ยินได้ฟังเรื่องธุรกิจสีเทาของชาวรัสเซียในพัทยากันอย่างคุ้นหู ในช่วงนี้มีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเข้ามาที่ภูเก็ตมากก็ได้ข่าวว่าแถวหาดป่าตอง ก็มีพื้นที่บางแห่งถูกเรียกว่า “Little Moscow” ไปแล้ว จริงๆแล้วธุรกิจสีเทาในประเทศไทย ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะ 2 เมืองท่องเที่ยวหลักนี้เท่านั้น เมืองอื่นๆก็มี ส่วนชาวต่างชาติที่มาประกอบธุรกิจสีเทาในไทยก็ไม่ใช่มีแค่ชาวจีนและชาวรัสเซีย แต่ยังมีชนชาติจากยุโรปก็ไม่ใช่น้อย เร็วๆนี้อาจจะเห็นพวกจากแอฟริกาบ้างก็ได้ ถ้าจะมีคำถามว่าทำไมธุรกิจสีเทาในไทยจึงมีมากดาษดื่นมากกว่าประเทศอื่น คำตอบมีชัดเจนครับ ประการแรก คนไทยเราเองจำนวนมากที่ประกอบธุรกิจแบบสีเทาให้ต่างชาติเขาเห็น หรือไม่ก็เข้าไปร่วมทุนกับต่างชาติที่ประกอบธุรกิจสีเทา ประการที่สอง เพราะในเมืองไทยมีกฎหมายควบคุมไม่รัดกุม และข้าราชการก็ไม่ได้ใส่ใจดูแลให้เป็นไปตามตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ได้สักอย่าง บางรัฐบาลถึงกับจะออกกฎหมายมาก่อให้เกิดธุรกิจสีเทาโดยตรงก็มี ผมต้องขออภัยที่จำเป็นต้องออกความเห็นเรื่อง “โครงการสถานบันเทิงครบวงจร” หรือ “Entertainment Complex” ที่กำลังออกตัวกันอย่างเต็มที่ในขณะนี้ ว่ามันเป็นโครงการที่จะเป็นอันตรายอย่างสุดจะพรรณนาในการเปิดทางให้เกิดธุรกิจสีเทาตามมาอย่างแน่นอน และยังหมิ่นเหม่ต่อการเพิ่มแรงกดดันให้กับปัญหาสังคมที่ย่ำแย่ของไทยเกิดความเลวร้ายทับถมตามมาแบบไม่คุ้มค่าอีกมาก และเมื่อฟังให้ชัดก็ได้เห็นความน่าหวาดกลัวยิ่งขึ้นไปอีก เพราะที่จัดไว้ในที่ดินผืนใหญ่ของการรถไฟไม่ใช่โครงการสถานบันเทิงครบวงจรแห่งเดียวในประเทศไทยเท่านั้น แต่จะมีอีก 4-5 แห่งคล้ายกันในท้องที่ของนักการเมืองบ้านใหญ่ทั้งหลาย นี่มันอะไรกัน เอาแต่มาปั้นตัวเลข GDP ว่าจะเพิ่มเท่านั้นเท่านี้โดยสำนักงานของรัฐไหนก็ไม่รู้ ผมถามตัวเองว่านี่นักการเมืองและข้าราชการไทยเขาเพ้อฝันไปหรือไง หรือว่ามีการเสพกัญชากันมากเกินไปแล้ว เพราะถ้าจะคิดทำให้ดีแบบต่างประเทศที่เขาทำกัน เช่น ที่สิงคโปร์ก็มีเพียง “เดอะ แซนด์(The Sand)” เท่านั้น และมีข้อกำหนดไม่ให้ชาวสิงคโปร์ที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดเข้าไปในบ่อนโดยเด็ดขาด โดยรัฐบาลเขาจะคุมอย่างเข้มงวดมาก ที่ประเทศจีนอันใหญ่โตมีที่เกาะมาเก๊าเท่านั้น ซึ่งธุรกิจนี้นายทุนใหญ่เจ้าของบ่อนทั้งที่สิงคโปร์ มาเก๊า และลาสเวกัส ชื่อ Mr. Anderson เป็นเศรษฐีชาวอเมริกัน ผู้สนับสนุนพรรค Republican ซึ่งได้เสียชีวิตตอนอายุ 70 ปลายๆไปเมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ของไทยที่จะตั้งในหัวเมืองสำคัญ 4-5 แห่ง ถือว่าเป็นโมเดลที่แปลกเป็นพิเศษในโลก บ่อนคาสิโนนั้นใครๆก็รู้ว่าเป็นธุรกิจสีเทา โกงกันก็ได้ ฟอกเงินก็ได้ แลกเปลี่ยนเงินสกุลไหนอย่างไรก็ได้ แต่รายรับรายจ่ายที่จะทำบัญชีให้ถูกต้องไม่ได้ ใหญ่อย่างไรก็ตามสำนักงานบัญชีระดับท็อป 4 ของโลกคงไม่รับเป็นผู้สอบบัญชีให้ แล้วรัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการไปกำกับดูแลให้อยู่กับร่องกับรอยได้อย่างไรกัน หรือว่ารัฐบาลนี้จะสนับสนุนให้ธุรกิจสีเทาในประเทศเบ่งบานกันอย่างจริงจังในยุคนี้ ก็โปรดเขียนเป็นนโยบายไว้ให้ชัดๆเลยได้ไหมครับ ลูกๆหลานๆไทยจะได้รู้ว่าใครเป็นคนคิดทำ https://www.thaipost.net/hi-light/725742/#
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 516 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนามเลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ กลายเป็นสมรภูมิระหว่าง 'คนรุ่นเก่า' กับ 'คนุร่นใหม่' กลุ่มขั้วการเมือง 'ส้ม-แดง' ซึ่งกระแสของทั้งสองฝ่ายถือว่าสูสีกันมาก

    #สนามเลือกตั้งอบจเชียงใหม่ #ส้มแดง #บ้านใหญ่ #ทักษิณ #เจ๊ใหญ๋ #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    สนามเลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ กลายเป็นสมรภูมิระหว่าง 'คนรุ่นเก่า' กับ 'คนุร่นใหม่' กลุ่มขั้วการเมือง 'ส้ม-แดง' ซึ่งกระแสของทั้งสองฝ่ายถือว่าสูสีกันมาก #สนามเลือกตั้งอบจเชียงใหม่ #ส้มแดง #บ้านใหญ่ #ทักษิณ #เจ๊ใหญ๋ #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    Like
    Love
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1540 มุมมอง 57 0 รีวิว
  • บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งเมืองจันทน์ เกิดความดุเดือดมากขึ้น ภายหลังมีเหตุขู่ทำร้าย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ซึ่งลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครนายก อบจ.จันทบุรี พรรคประชาชน หาเสียง

    #เลือกตั้งนายกอบจ #เมืองจันทน์ #พรรคประชาชน #บ้านใหญ่ #พลังส้ม #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งเมืองจันทน์ เกิดความดุเดือดมากขึ้น ภายหลังมีเหตุขู่ทำร้าย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ซึ่งลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครนายก อบจ.จันทบุรี พรรคประชาชน หาเสียง #เลือกตั้งนายกอบจ #เมืองจันทน์ #พรรคประชาชน #บ้านใหญ่ #พลังส้ม #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    Like
    Love
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1709 มุมมอง 49 0 รีวิว
  • สมรภูมิเดือดปะทุ วัดกำลังศึกชิง 'จันทบุรี' 'คนบ้านใหญ่-พลังส้ม' : ข่าวลึกปมลับ 13/01/68
    สมรภูมิเดือดปะทุ วัดกำลังศึกชิง 'จันทบุรี' 'คนบ้านใหญ่-พลังส้ม' : ข่าวลึกปมลับ 13/01/68
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 553 มุมมอง 22 0 รีวิว
  • รวยอย่างชินวัตร Episode 3 : ‘รวยจนชาติบ้านเมืองชิบหาย’9 ม.ค.2568 - นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความ รวยอย่างชินวัตร Episode 3 : “รวยจนชาติบ้านเมืองชิบหาย” มีรายละเอียดดังนี้“คอรัปชั่น”ใน “ระบอบทักษิณ” ถาม ระบอบทักษิณเกิดและเติบโตได้อย่างไรตอบ ระบอบนี้มีทุนพื้นฐาน ๔ ประการรองรับครบถ้วน ทั้งเงินลงทุน, อำนาจในระบบ, สื่อและปัญญชนชวนเชื่อ และสาวกบริวาร ทุนทั้งสี่จะมีพลวัตสร้างเสริมกันตลอดเวลาใช้เงินสร้างอำนาจ สร้างสื่อ สร้างพวก แล้วเอาอำนาจไปสร้างเงิน สร้างพวก สร้างสื่ออีกที ด้วยพลวัตอย่างนี้นี่เองที่ทำให้ระบอบนี้เติบโตได้ด้วยตนเองไปตลอดถาม ใช้เวลาไม่นานเลยนะครับตอบ คุณเห็นไหมว่าพอเข้าสมัยที่สอง ระบอบทักษิณก็ยึดสภาได้เด็ดขาด คนพลังธรรมและความหวังใหม่สลายตัวมาเข้าด้วยหมด ส่วนบ้านใหญ่ตามต่างจังหวัดก็สยบเข้าร่วมเปิดสาขา รับสินค้าประชานิยมไทยรักไทยมาขายให้ชาวบ้านทุกหัวระแหง ราวกับเปิด 7-11 พรึบทั้งประเทศเลยก็ว่าได้ถาม ในระบอบอย่างนี้ ไม่มีคอรัปชั่นได้ไหม ?ตอบ ไม่ได้ครับระบอบนี้เกิดและเติบโตจากความเห็นแก่ตัวที่ไม่มีคำว่า“ประโยชน์ส่วนรวม”อยู่เลย สำหรับสาวกที่รอบริโภคนั้น ก็มีสินค้าประชานิยมมาตอบแทนคะแนนเลือกตั้ง ทั้งข้าวทุกเมล็ดเกวียนละสามหมื่น รถคันแรก ค่าจ้างขั้นต่ำ เงินแจกดิจิตอล เงินเดือนปริญญาตรี รักษาฟรีทุกแห่งทุกโรคทุกคนแม้แต่มะเร็ง ทั้งหมดนี้เราจะแจกจนมีเกียรติ -มีศักดิ์ศรี ทุกคนนะคร้าา....ถาม ที่แจกเป็นพื้นที่ เฉพาะพื้นที่ มีไหมครับตอบ มีครับ อย่างหอประชุมนานาชาตินั้น ภูเก็ตไม่เลือกเรา เราก็ไม่ให้ เราไปให้เชียงใหม่ หรือที่เป็นโครงการระดับหมู่บ้านหรือตำบล ก็มีเงินจากกองสลาก ไหลผ่านมือ สส.กับหัวคะแนน ลงไปช่วยเหลืออุ้มชูฐานเสียงไม่มีขาดสาย เงินท่อนี้ถือเป็นPocket money ทางการเมือง ที่ทำให้ระบอบทักษิณเกิดขึ้นมาอย่างทรงพลังมากๆถาม เขาสร้างท่อนี้ขึ้นมาอย่างไรตอบ หวยสามตัวสมัยทักษิณนั้น พอผลสลากใกล้จะออก จะมีการอ้างว่าไม่พอขายแล้วสั่งพิมพ์เพิ่มล้อตใหญ่ทุกครั้งไป ทำทุกงวดนานเป็นปีๆเลยนะครับ สลากมืดถาดนี้ เป็นที่มาของเงินมืดที่ใช้จ่ายกันได้สะดวก โดยไม่ปรากฏในระบบตรวจเงินแผ่นดินเลยถาม แล้วตัว สส.กับหัวคะแนน มีเงินอุดหนุนจากพรรคไหมตอบ มีแน่นอนทุกเดือนครับ ยุคแพทองธาร ๑ นี่ ข่าวยืนยันว่าอัดฉีดรายเดือนกันเป็นล้านแล้ว ส่วนที่หัวหน้าซุ้มต้องหามาให้ลูกซุ้มก็มีอีกส่วนหนึ่ง แต่เงินซุ้มนี้หัวหน้าหามาได้เมื่อไหร่ก็ต้องแบ่งส่งพรรคหลักด้วยเสมอ สำหรับกระทรวงที่ “นาย”สร้างโครงการขึ้นมาชงเองกินเองก็มีเช่นกันถาม สรุปแล้วในระบอบนี้ ทุกชีวิตก็ร่วมกันคอรัปชั่นหมด ทั้งชาวบ้านที่เสพติดประชานิยมสส.กับหัวคะแนน และรัฐมนตรี พวกเขาต่างก็ร่วมทุนกันทำมาหากินจากส่วนรวม ถือสิทธิเลือกตั้งและอำนาจหน้าที่เป็นสินทรัพย์แล้วแปรเป็นทุนด้วยตัวระบอบทั้งสิ้น ตอบ เป็นเช่นนั้น.. ในภาพรวมอย่างนี้ เราจะไปมองว่าทักษิณโกงคนเดียวไม่ได้ พวกเขาวินวิน ร่วมมือกันจนได้กินกันหมดทุกคน เปรียบเหมือนซ่องโสเภณี ที่มีรายได้อ้วนท้วนกันทุกฝ่าย ทั้งเจ้าของซ่อง แมงดาการเมืองที่เกาะกิน และตัวโสเภณีด้วย ”รวยจนสิ้นชาติบ้านเมือง” ถาม ที่ผ่านมามีคอรัปชั่นอะไรไปบ้างแล้วครับตอบ ที่ฉาวโฉ่ อุกอาจ ก็มีหลายโครงการ ชิบหายรวมเป็นแสนล้านเลย คือ- ซื้อรถเรือดับเพลิงใช้การไม่ได้กว่า ๑๐๐ ล้านด้วย จีทูจี จอมปลอม รัฐมนตรีหนีคดี- ซื้อเครื่องบินแพงและไม่จำเป็นจนการบินไทยเสียหายหลายหมื่นล้าน- สร้างระบบสายพานขนสัมภาระในสนามบินแพงเกินจริง ทางการสหรัฐรายงานว่าเลขาพรรครัฐบาลเรียกเงินเป็นพันล้าน- สร้างรถไฟเชื่อมสนามบินด้วยสัญญาเหมาเบ็ดเสร็จ ทั้งออกแบบก่อสร้างและหาแหล่งเงินทุน พบเงินปากถุงกินเปล่าก้อนใหญ่ ไปไหนไม่ทราบ รัฐมนตรีคมนาคมคุมเปิดซองด้วยตนเอง- แจกกล้ายางที่ใช้การไม่ได้ ซื้อมาแล้วขายให้รัฐโดยพอกราคารวยเละ- สร้างและขายบ้านเอื้ออาทร ด้วยสัญญาโควต้าเหมาจ่ายทั้งโครงการราคาตายตัว จ้างให้ทำทั้งหาที่ดิน-หาผู้จองก่อสร้าง แล้วจบลงเป็นบ้านร้างสร้างไม่เสร็จ หรือเป็นบ้านผีสิงไม่มีผู้จองซื้อจริงทั่วไปหมด ครั้นตรวจกระแสเงินขายโควต้า ก็พบเงิน ๑๔๐๐ ล้าน เข้าเสี่ยเปี๋ยงคนที่รับงานเจรจา เป็นลูกน้องเจ๊ใหญ่ ติดคุกด้วย- รับจำนำข้าวเกินราคาตลาด จบเป็นข้าวเน่า ค้างโกดังรัฐเสียหายเป็นแสนล้าน เสี่ยเปี๋ยง ก็โผล่มาจนติดคุกอีก ตัวนายกฯหนีคดีตามเคย- เงินกู้ธนาคารกรุงไทย คดีนี้นายสั่งให้คณะกรรมการให้บริษัทอสังหาฯกู้เงินหลายพันล้าน เอาที่ดินมาพัฒนาเป็นโครงการจอมปลอม ธนาคารเสียหายเป็นพันล้าน ตามรอยเงินพบเข้าลูกและลูกน้องชินวัตร กว่า ๑๐๐ ล้าน งานนี้ติดคุกรวดถาม วันนี้ วันหน้า ถ้า “ระบอบทักษิณ” ฟื้นขึ้นมาอีก ประเทศก็ชิบหายอีกสิครับตอบ เขาฟื้นอยู่แล้ว ขณะนี้กำลังเดินหน้าปราศัยหาเสียงไปทั่วประเทศ ดำริจะออกสลากเพิ่มพร้อมโครงการหนึ่งทุนหนึ่งตำบลอีก งบประมาณปีนี้ทำขาดดุลเพื่อเทงบมาแจกชาวบ้านแล้วก็ยังไม่พอ ต้องแปรญัตติเบี้ยวไม่จ่ายหนี้เงินกู้ให้ธนาคาร แล้วตัดลดเงินต่อหัวในโครงการ ๓๐ บาทรักษาทุกโรคลงอีก หน้ามืดจะแจกเงินให้ได้อย่างนี้ อนาคตธนาคารไทยโรงพยาบาลไทยซวยแน่ๆ ถาม ถ้าทรัมป์ลุยจีน ยิวลุยอิหร่าน รัสเซียลุยเคียฟถล่มจรวดลงโปแลนด์ จนเศรษฐกิจโลกยับเยิน ซ้ำเติมสุขภาพเศรษฐกิจไทยที่ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว จนเงินบาทลดค่า สินค้าส่งไม่ออก เงินคงคลังก็หมด อะไรจะเกิดขึ้นตอบ วิกฤตขนาดต้องดุลย์ข้าราชการหรือลูกจ้างจนตกงานกันทั้งประเทศนี่ ระวังฮุนเซ็นโมเดลไว้ให้ดีก็แล้วกันครับ
    รวยอย่างชินวัตร Episode 3 : ‘รวยจนชาติบ้านเมืองชิบหาย’9 ม.ค.2568 - นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความ รวยอย่างชินวัตร Episode 3 : “รวยจนชาติบ้านเมืองชิบหาย” มีรายละเอียดดังนี้“คอรัปชั่น”ใน “ระบอบทักษิณ” ถาม ระบอบทักษิณเกิดและเติบโตได้อย่างไรตอบ ระบอบนี้มีทุนพื้นฐาน ๔ ประการรองรับครบถ้วน ทั้งเงินลงทุน, อำนาจในระบบ, สื่อและปัญญชนชวนเชื่อ และสาวกบริวาร ทุนทั้งสี่จะมีพลวัตสร้างเสริมกันตลอดเวลาใช้เงินสร้างอำนาจ สร้างสื่อ สร้างพวก แล้วเอาอำนาจไปสร้างเงิน สร้างพวก สร้างสื่ออีกที ด้วยพลวัตอย่างนี้นี่เองที่ทำให้ระบอบนี้เติบโตได้ด้วยตนเองไปตลอดถาม ใช้เวลาไม่นานเลยนะครับตอบ คุณเห็นไหมว่าพอเข้าสมัยที่สอง ระบอบทักษิณก็ยึดสภาได้เด็ดขาด คนพลังธรรมและความหวังใหม่สลายตัวมาเข้าด้วยหมด ส่วนบ้านใหญ่ตามต่างจังหวัดก็สยบเข้าร่วมเปิดสาขา รับสินค้าประชานิยมไทยรักไทยมาขายให้ชาวบ้านทุกหัวระแหง ราวกับเปิด 7-11 พรึบทั้งประเทศเลยก็ว่าได้ถาม ในระบอบอย่างนี้ ไม่มีคอรัปชั่นได้ไหม ?ตอบ ไม่ได้ครับระบอบนี้เกิดและเติบโตจากความเห็นแก่ตัวที่ไม่มีคำว่า“ประโยชน์ส่วนรวม”อยู่เลย สำหรับสาวกที่รอบริโภคนั้น ก็มีสินค้าประชานิยมมาตอบแทนคะแนนเลือกตั้ง ทั้งข้าวทุกเมล็ดเกวียนละสามหมื่น รถคันแรก ค่าจ้างขั้นต่ำ เงินแจกดิจิตอล เงินเดือนปริญญาตรี รักษาฟรีทุกแห่งทุกโรคทุกคนแม้แต่มะเร็ง ทั้งหมดนี้เราจะแจกจนมีเกียรติ -มีศักดิ์ศรี ทุกคนนะคร้าา....ถาม ที่แจกเป็นพื้นที่ เฉพาะพื้นที่ มีไหมครับตอบ มีครับ อย่างหอประชุมนานาชาตินั้น ภูเก็ตไม่เลือกเรา เราก็ไม่ให้ เราไปให้เชียงใหม่ หรือที่เป็นโครงการระดับหมู่บ้านหรือตำบล ก็มีเงินจากกองสลาก ไหลผ่านมือ สส.กับหัวคะแนน ลงไปช่วยเหลืออุ้มชูฐานเสียงไม่มีขาดสาย เงินท่อนี้ถือเป็นPocket money ทางการเมือง ที่ทำให้ระบอบทักษิณเกิดขึ้นมาอย่างทรงพลังมากๆถาม เขาสร้างท่อนี้ขึ้นมาอย่างไรตอบ หวยสามตัวสมัยทักษิณนั้น พอผลสลากใกล้จะออก จะมีการอ้างว่าไม่พอขายแล้วสั่งพิมพ์เพิ่มล้อตใหญ่ทุกครั้งไป ทำทุกงวดนานเป็นปีๆเลยนะครับ สลากมืดถาดนี้ เป็นที่มาของเงินมืดที่ใช้จ่ายกันได้สะดวก โดยไม่ปรากฏในระบบตรวจเงินแผ่นดินเลยถาม แล้วตัว สส.กับหัวคะแนน มีเงินอุดหนุนจากพรรคไหมตอบ มีแน่นอนทุกเดือนครับ ยุคแพทองธาร ๑ นี่ ข่าวยืนยันว่าอัดฉีดรายเดือนกันเป็นล้านแล้ว ส่วนที่หัวหน้าซุ้มต้องหามาให้ลูกซุ้มก็มีอีกส่วนหนึ่ง แต่เงินซุ้มนี้หัวหน้าหามาได้เมื่อไหร่ก็ต้องแบ่งส่งพรรคหลักด้วยเสมอ สำหรับกระทรวงที่ “นาย”สร้างโครงการขึ้นมาชงเองกินเองก็มีเช่นกันถาม สรุปแล้วในระบอบนี้ ทุกชีวิตก็ร่วมกันคอรัปชั่นหมด ทั้งชาวบ้านที่เสพติดประชานิยมสส.กับหัวคะแนน และรัฐมนตรี พวกเขาต่างก็ร่วมทุนกันทำมาหากินจากส่วนรวม ถือสิทธิเลือกตั้งและอำนาจหน้าที่เป็นสินทรัพย์แล้วแปรเป็นทุนด้วยตัวระบอบทั้งสิ้น ตอบ เป็นเช่นนั้น.. ในภาพรวมอย่างนี้ เราจะไปมองว่าทักษิณโกงคนเดียวไม่ได้ พวกเขาวินวิน ร่วมมือกันจนได้กินกันหมดทุกคน เปรียบเหมือนซ่องโสเภณี ที่มีรายได้อ้วนท้วนกันทุกฝ่าย ทั้งเจ้าของซ่อง แมงดาการเมืองที่เกาะกิน และตัวโสเภณีด้วย ”รวยจนสิ้นชาติบ้านเมือง” ถาม ที่ผ่านมามีคอรัปชั่นอะไรไปบ้างแล้วครับตอบ ที่ฉาวโฉ่ อุกอาจ ก็มีหลายโครงการ ชิบหายรวมเป็นแสนล้านเลย คือ- ซื้อรถเรือดับเพลิงใช้การไม่ได้กว่า ๑๐๐ ล้านด้วย จีทูจี จอมปลอม รัฐมนตรีหนีคดี- ซื้อเครื่องบินแพงและไม่จำเป็นจนการบินไทยเสียหายหลายหมื่นล้าน- สร้างระบบสายพานขนสัมภาระในสนามบินแพงเกินจริง ทางการสหรัฐรายงานว่าเลขาพรรครัฐบาลเรียกเงินเป็นพันล้าน- สร้างรถไฟเชื่อมสนามบินด้วยสัญญาเหมาเบ็ดเสร็จ ทั้งออกแบบก่อสร้างและหาแหล่งเงินทุน พบเงินปากถุงกินเปล่าก้อนใหญ่ ไปไหนไม่ทราบ รัฐมนตรีคมนาคมคุมเปิดซองด้วยตนเอง- แจกกล้ายางที่ใช้การไม่ได้ ซื้อมาแล้วขายให้รัฐโดยพอกราคารวยเละ- สร้างและขายบ้านเอื้ออาทร ด้วยสัญญาโควต้าเหมาจ่ายทั้งโครงการราคาตายตัว จ้างให้ทำทั้งหาที่ดิน-หาผู้จองก่อสร้าง แล้วจบลงเป็นบ้านร้างสร้างไม่เสร็จ หรือเป็นบ้านผีสิงไม่มีผู้จองซื้อจริงทั่วไปหมด ครั้นตรวจกระแสเงินขายโควต้า ก็พบเงิน ๑๔๐๐ ล้าน เข้าเสี่ยเปี๋ยงคนที่รับงานเจรจา เป็นลูกน้องเจ๊ใหญ่ ติดคุกด้วย- รับจำนำข้าวเกินราคาตลาด จบเป็นข้าวเน่า ค้างโกดังรัฐเสียหายเป็นแสนล้าน เสี่ยเปี๋ยง ก็โผล่มาจนติดคุกอีก ตัวนายกฯหนีคดีตามเคย- เงินกู้ธนาคารกรุงไทย คดีนี้นายสั่งให้คณะกรรมการให้บริษัทอสังหาฯกู้เงินหลายพันล้าน เอาที่ดินมาพัฒนาเป็นโครงการจอมปลอม ธนาคารเสียหายเป็นพันล้าน ตามรอยเงินพบเข้าลูกและลูกน้องชินวัตร กว่า ๑๐๐ ล้าน งานนี้ติดคุกรวดถาม วันนี้ วันหน้า ถ้า “ระบอบทักษิณ” ฟื้นขึ้นมาอีก ประเทศก็ชิบหายอีกสิครับตอบ เขาฟื้นอยู่แล้ว ขณะนี้กำลังเดินหน้าปราศัยหาเสียงไปทั่วประเทศ ดำริจะออกสลากเพิ่มพร้อมโครงการหนึ่งทุนหนึ่งตำบลอีก งบประมาณปีนี้ทำขาดดุลเพื่อเทงบมาแจกชาวบ้านแล้วก็ยังไม่พอ ต้องแปรญัตติเบี้ยวไม่จ่ายหนี้เงินกู้ให้ธนาคาร แล้วตัดลดเงินต่อหัวในโครงการ ๓๐ บาทรักษาทุกโรคลงอีก หน้ามืดจะแจกเงินให้ได้อย่างนี้ อนาคตธนาคารไทยโรงพยาบาลไทยซวยแน่ๆ ถาม ถ้าทรัมป์ลุยจีน ยิวลุยอิหร่าน รัสเซียลุยเคียฟถล่มจรวดลงโปแลนด์ จนเศรษฐกิจโลกยับเยิน ซ้ำเติมสุขภาพเศรษฐกิจไทยที่ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว จนเงินบาทลดค่า สินค้าส่งไม่ออก เงินคงคลังก็หมด อะไรจะเกิดขึ้นตอบ วิกฤตขนาดต้องดุลย์ข้าราชการหรือลูกจ้างจนตกงานกันทั้งประเทศนี่ ระวังฮุนเซ็นโมเดลไว้ให้ดีก็แล้วกันครับ
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 917 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดม้ามืดปราจีน รอบนี้วางแผนมาดีเกินกว่าจะปราชัย
    สนามเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรีกำลังเป็นที่จับตา ใครจะมาวิน แม้ ส.จ.จอย ในสีเสื้อพรรคเพื่อไทย และเป็นทายาทการเมืองของ “ส.จ.โต้ง” สามีผู้ล่วงลับ จะเป็นข่าวครึมโครมกว่าผู้สมัครรายอื่น แต่คนปราจีนฯ กลับให้น้ำหนักของคู่แข่งที่ชื่อ “กำนันศักดิ์” มากกว่า ส.จ.จอย
    หลังที่เมืองปราจีนเกิดสุญญากาศอำนาจ ส.จ.โต้ง ถูกล้อมฆ่า ส่วน “โกทร” ตกเป็นผู้ต้องหา ต้องอยู่ในคุกระหว่างสู้คดี นาทีนี้ “บ้านใหญ่” แห่งเมืองปราจีนไม่มีใครใหญ่กว่า “กำนันศักดิ์แห่งบ้านคลองรั้ง” อีกแล้ว
    กำนันศักดิ์มาครบทั้งบารมีทางการเมือง และฐานะทางการเงินที่แน่นปึ้ก ร่ำรวยเป็นพันๆ ล้าน สามารถลุยสนามเลือกตั้งได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งเงินใคร ต่างจาก ส.จ.จอย ซึ่งไม่มีเงินมากพอจะสู้ศึกเลือกตั้ง เพียงแต่ได้น้ำเลี้ยงจากพรรคเพื่อไทย และก็บรรดานักการเมืองขาใหญ่หลายคนที่ประกาศพร้อมช่วย
    ไม่ว่าจะ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ และ เสี่ยเฮ้ง แต่กำนันศักดิ์ก็ใช่จะ “ข้ามาคนเดียว” ถึงจะลงสมัครในนามอิสระ ไม่สังกัดพรรคการเมืองใดๆ ก็ตาม
    แต่จริงๆ แล้ว กำนันศักดิ์นี่แหละคือตัวตายตัวแทนของโกทร ซึ่งพรรคภูมิใจไทยหนุนหลังอยู่ การไม่ใช้ชื่อพรรคภูมิใจไทย ถือเป็นกลยุทธ์หาเสียง และการประสานความร่วมมือจากฝ่ายต่างๆ ได้ดีกว่า จะช่วยให้กำนันศักดิ์ได้คะแนนเสียง มากกว่าลงในนามพรรค เนื่องจากพรรคภูมิใจไทยคุมพื้นที่ปราจีนบุรีมานาน ผ่านเครือข่ายบ้านใหญ่อย่างโกทร พอเกิดคดีสังหาร ส.จ.โต้งขึ้นมา พรรคภูมิใจไทยจึงพบว่าเวลานี้ ไม่เหลือคนในตระกูลวิลาวัลย์ ที่จะส่งลงเป็นตัวแทนของพรรคอีกแล้ว
    เพราะลูกสาวก็ถูกตัดสิทธิทางการเมือง น้องสาวก็โดนคดีทุจริตคาอยู่ใน ป.ป.ช.ถึง 15 คดี กำนันศักดิ์จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งต้องการรักษาฐานอำนาจในพื้นที่ปราจีนบุรีไว้ตามเดิม
    งานนี้ไม่ต้องสงสัย แม้จะเป็นผู้สมัครอิสระ แต่กำนันศักดิ์มีพรรคภูมิใจไทยเป็นกองหนุนแน่นอน ในการตรึงป้อมค่ายเมืองปราจีนไม่ให้ถูกพรรคเพื่อไทยตีแตกอย่างแน่นอน ติดตาม
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    เปิดม้ามืดปราจีน รอบนี้วางแผนมาดีเกินกว่าจะปราชัย สนามเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรีกำลังเป็นที่จับตา ใครจะมาวิน แม้ ส.จ.จอย ในสีเสื้อพรรคเพื่อไทย และเป็นทายาทการเมืองของ “ส.จ.โต้ง” สามีผู้ล่วงลับ จะเป็นข่าวครึมโครมกว่าผู้สมัครรายอื่น แต่คนปราจีนฯ กลับให้น้ำหนักของคู่แข่งที่ชื่อ “กำนันศักดิ์” มากกว่า ส.จ.จอย หลังที่เมืองปราจีนเกิดสุญญากาศอำนาจ ส.จ.โต้ง ถูกล้อมฆ่า ส่วน “โกทร” ตกเป็นผู้ต้องหา ต้องอยู่ในคุกระหว่างสู้คดี นาทีนี้ “บ้านใหญ่” แห่งเมืองปราจีนไม่มีใครใหญ่กว่า “กำนันศักดิ์แห่งบ้านคลองรั้ง” อีกแล้ว กำนันศักดิ์มาครบทั้งบารมีทางการเมือง และฐานะทางการเงินที่แน่นปึ้ก ร่ำรวยเป็นพันๆ ล้าน สามารถลุยสนามเลือกตั้งได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งเงินใคร ต่างจาก ส.จ.จอย ซึ่งไม่มีเงินมากพอจะสู้ศึกเลือกตั้ง เพียงแต่ได้น้ำเลี้ยงจากพรรคเพื่อไทย และก็บรรดานักการเมืองขาใหญ่หลายคนที่ประกาศพร้อมช่วย ไม่ว่าจะ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ และ เสี่ยเฮ้ง แต่กำนันศักดิ์ก็ใช่จะ “ข้ามาคนเดียว” ถึงจะลงสมัครในนามอิสระ ไม่สังกัดพรรคการเมืองใดๆ ก็ตาม แต่จริงๆ แล้ว กำนันศักดิ์นี่แหละคือตัวตายตัวแทนของโกทร ซึ่งพรรคภูมิใจไทยหนุนหลังอยู่ การไม่ใช้ชื่อพรรคภูมิใจไทย ถือเป็นกลยุทธ์หาเสียง และการประสานความร่วมมือจากฝ่ายต่างๆ ได้ดีกว่า จะช่วยให้กำนันศักดิ์ได้คะแนนเสียง มากกว่าลงในนามพรรค เนื่องจากพรรคภูมิใจไทยคุมพื้นที่ปราจีนบุรีมานาน ผ่านเครือข่ายบ้านใหญ่อย่างโกทร พอเกิดคดีสังหาร ส.จ.โต้งขึ้นมา พรรคภูมิใจไทยจึงพบว่าเวลานี้ ไม่เหลือคนในตระกูลวิลาวัลย์ ที่จะส่งลงเป็นตัวแทนของพรรคอีกแล้ว เพราะลูกสาวก็ถูกตัดสิทธิทางการเมือง น้องสาวก็โดนคดีทุจริตคาอยู่ใน ป.ป.ช.ถึง 15 คดี กำนันศักดิ์จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งต้องการรักษาฐานอำนาจในพื้นที่ปราจีนบุรีไว้ตามเดิม งานนี้ไม่ต้องสงสัย แม้จะเป็นผู้สมัครอิสระ แต่กำนันศักดิ์มีพรรคภูมิใจไทยเป็นกองหนุนแน่นอน ในการตรึงป้อมค่ายเมืองปราจีนไม่ให้ถูกพรรคเพื่อไทยตีแตกอย่างแน่นอน ติดตาม ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 602 มุมมอง 0 รีวิว
  • อยากเขี่ยทิ้งแทบขาดใจ แต่ทำได้แค่ยิ้มสยาม
    เรื่องการยุบสภา สถานการณ์ตอนนี้ ทุกพรรคการเมืองยกเว้นพรรคประชาชนไม่มีใครพร้อมลงสนามเลือกตั้ง โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเรตติ้งไม่ค่อยดี ผลงานยังไม่มีเป็นชิ้นเป็นอัน
    ที่สําคัญพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะปลดล็อกมรดกเผด็จการสร้างกติกาที่ตัวเองได้เปรียบและเปลี่ยนมาเป็นคนกําหนดเกมบ้าง ซึ่งดูแล้วก็คงไม่ยากเพราะกระดูกก้อนโตชิ้นสําคัญ ไม่ได้อยู่ที่ฝ่ายค้านแต่อยู่ที่ฝ่ายรัฐบาลด้วยกันเองโดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย กองกําลังสีน้ําเงินที่สวมบท ภูมิใจขวางอยู่
    พรรคภูมิใจไทยไม่ได้หวงมรดก คสช แต่บ้านใหญ่บุรีรัมย์อ่านขาดว่าถ้าปล่อยให้ทําประชามติกันง่ายง่ายปูทางให้พรรคเพื่อไทยแก้ไขรัฐธรรมนูญสําเร็จ พรรคเพื่อไทยได้ประโยชน์เต็มเต็มพรรคเดียวแน่นอนและที่อาจจะเป็นของร้อนบั่นทอนอายุรัฐบาลได้ก็คือสิ่งที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะมีการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ให้ทักษิณกลับมาเล่นการเมืองได้อีกครั้ง จับอาการที่ แม้วเดินสายไฮปาร์ค ดูออกว่าคันไม้คันมืออยากจะลงสนามเองเพราะมันคล่องตัวกว่าการให้คนอื่นเป็น
    ถ้ามีการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่จริง โดยมีปมร้อนร้อนดังกล่าว จะกลายเป็นการหาเงื่อนไขให้ฝ่ายต้านระดมคนออกมาบนท้องถนนอีกครั้ง แต่ค่ายสีน้ําเงินยังต้องการเสวยสุขอยู่ในอํานาจ ฉะนั้นอะไรที่มันร้อนมันเสี่ยง ก็สวมบทภูมิใจขวางแบบเนียนเนียนทุกเรื่อง
    ขณะที่พรรคเพื่อไทยและนายใหญ่ ต่อให้จะอึดอัดกับบทบาทของพรรคภูมิใจไทยแค่ไหน ก็ยากที่จะเขี่ยทิ้งเหมือนในสิ่งที่ใจต้องการได้ สมการการเมืองในวันนี้ไม่มีทางเลือกให้พรรคเพื่อไทยมากนัก ถ้าไม่เอาพรรคภูมิใจไทย ไม่เอารวมไทยสร้างชาติ
    พรรคเพื่อไทยจะไปหาเสียงส.ส.ในสภามาจากไหน ในเมื่อไฟท์บังคับมาแล้วว่าจับกับใครก็ได้ แต่ห้ามจับกับพรรคประชาชนเด็ดขาด แค่สมการนี้ก็จบเห่
    ถึงอย่างไรก็ต้องอดทนอดกลั้นอยู่กันไปแบบตบหัวลูบหลังแบบนี้กันไปเรื่อยเรื่อยสิ่งที่พรรคเพื่อไทยทํากับพรรคภูมิใจไทยได้มากที่สุด มีแค่เพียงบีบ กดดันบั่นทอนอํานาจต่อรองไม่ให้สวมบทภูมิใจขวางได้มากนัก เช่นเดียวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่แม้หัวหน้าพรรคจะทําตัวเป็นเอกเทศหลายเรื่องก็ขวางแบบเนียนเนียนตามประสาพรรคอนุรักษ์นิยมจ๋า แต่จะเขี่ยทิ้ง ก็ยากเพราะเป็นองคาพยพสําคัญที่ทําให้การจัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยสําเร็จ การไปเขี่ยทิ้งก็เท่ากับเปิดศึกกับผู้คุมดุลอํานาจในประเทศตอนนี้
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    อยากเขี่ยทิ้งแทบขาดใจ แต่ทำได้แค่ยิ้มสยาม เรื่องการยุบสภา สถานการณ์ตอนนี้ ทุกพรรคการเมืองยกเว้นพรรคประชาชนไม่มีใครพร้อมลงสนามเลือกตั้ง โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเรตติ้งไม่ค่อยดี ผลงานยังไม่มีเป็นชิ้นเป็นอัน ที่สําคัญพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะปลดล็อกมรดกเผด็จการสร้างกติกาที่ตัวเองได้เปรียบและเปลี่ยนมาเป็นคนกําหนดเกมบ้าง ซึ่งดูแล้วก็คงไม่ยากเพราะกระดูกก้อนโตชิ้นสําคัญ ไม่ได้อยู่ที่ฝ่ายค้านแต่อยู่ที่ฝ่ายรัฐบาลด้วยกันเองโดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย กองกําลังสีน้ําเงินที่สวมบท ภูมิใจขวางอยู่ พรรคภูมิใจไทยไม่ได้หวงมรดก คสช แต่บ้านใหญ่บุรีรัมย์อ่านขาดว่าถ้าปล่อยให้ทําประชามติกันง่ายง่ายปูทางให้พรรคเพื่อไทยแก้ไขรัฐธรรมนูญสําเร็จ พรรคเพื่อไทยได้ประโยชน์เต็มเต็มพรรคเดียวแน่นอนและที่อาจจะเป็นของร้อนบั่นทอนอายุรัฐบาลได้ก็คือสิ่งที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะมีการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ให้ทักษิณกลับมาเล่นการเมืองได้อีกครั้ง จับอาการที่ แม้วเดินสายไฮปาร์ค ดูออกว่าคันไม้คันมืออยากจะลงสนามเองเพราะมันคล่องตัวกว่าการให้คนอื่นเป็น ถ้ามีการเขียนรัฐธรรมนูญใหม่จริง โดยมีปมร้อนร้อนดังกล่าว จะกลายเป็นการหาเงื่อนไขให้ฝ่ายต้านระดมคนออกมาบนท้องถนนอีกครั้ง แต่ค่ายสีน้ําเงินยังต้องการเสวยสุขอยู่ในอํานาจ ฉะนั้นอะไรที่มันร้อนมันเสี่ยง ก็สวมบทภูมิใจขวางแบบเนียนเนียนทุกเรื่อง ขณะที่พรรคเพื่อไทยและนายใหญ่ ต่อให้จะอึดอัดกับบทบาทของพรรคภูมิใจไทยแค่ไหน ก็ยากที่จะเขี่ยทิ้งเหมือนในสิ่งที่ใจต้องการได้ สมการการเมืองในวันนี้ไม่มีทางเลือกให้พรรคเพื่อไทยมากนัก ถ้าไม่เอาพรรคภูมิใจไทย ไม่เอารวมไทยสร้างชาติ พรรคเพื่อไทยจะไปหาเสียงส.ส.ในสภามาจากไหน ในเมื่อไฟท์บังคับมาแล้วว่าจับกับใครก็ได้ แต่ห้ามจับกับพรรคประชาชนเด็ดขาด แค่สมการนี้ก็จบเห่ ถึงอย่างไรก็ต้องอดทนอดกลั้นอยู่กันไปแบบตบหัวลูบหลังแบบนี้กันไปเรื่อยเรื่อยสิ่งที่พรรคเพื่อไทยทํากับพรรคภูมิใจไทยได้มากที่สุด มีแค่เพียงบีบ กดดันบั่นทอนอํานาจต่อรองไม่ให้สวมบทภูมิใจขวางได้มากนัก เช่นเดียวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่แม้หัวหน้าพรรคจะทําตัวเป็นเอกเทศหลายเรื่องก็ขวางแบบเนียนเนียนตามประสาพรรคอนุรักษ์นิยมจ๋า แต่จะเขี่ยทิ้ง ก็ยากเพราะเป็นองคาพยพสําคัญที่ทําให้การจัดตั้งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยสําเร็จ การไปเขี่ยทิ้งก็เท่ากับเปิดศึกกับผู้คุมดุลอํานาจในประเทศตอนนี้ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 605 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เหลี่ยม(จน)ชิน-เนวิ(น)เกเตอร์" ฉายาสภาฯ ปี 67 ผู้นำฝ่ายค้านฯ “เท้งเต้ง” ส่วน “บิ๊กป้อม-ธิษะณา” ดาวดับทั้งคู่
    .
    สื่อสภาฯ ตั้งฉายาปี 67 สส. "เหลี่ยม(จน)ชิน" ส่วน สว. “เนวิ(น)เกเตอร์” ด้านวันนอร์ "รูทีนตีนตุ๊กแก" ประธานวุฒิฯ “ล็อกมง” หน.ปชน.ผู้นำฝ่ายค้านฯ “เท้งเต้ง” ส่วน “บิ๊กป้อม-ธิษะณา” คว้าคู่ "ดาวดับ" ไร้ดาวเด่นดาวสภาฯ 3 ปีซ้อน ยกขันหมาก “เพื่อไทย-ปชป.” เหตุการณ์แห่งปี
    .
    วันนี้ (26 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา ร่วมกันตั้ง “ฉายาสภา” เป็นธรรมเนียมประจำทุกปี เพื่อสะท้อนความคิดเห็นการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติทั้ง สส. และ สว. ตลอดปี 2567 ในฐานะที่ติดตามการทำหน้าที่ของ สส. และ สว. มาโดยตลอด ดังนี้
    .
    “สภาผู้แทนราษฎร" ได้รับฉายา "เหลี่ยม(จน)ชิน"
    .
    ปี 2567 เกิดการพลิกขั้วรัฐบาลเพื่อไทยอีกครั้ง ที่เขี่ยพรรคพลังประชารัฐ ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล และดึงพรรคประชาธิปัตย์เสียบแทน ซึ่งถือเป็นการพลิกขั้วทางการเมืองครั้งสำคัญ แต่ไม่ปรากฏสาเหตุแน่ชัดในการปรับพรรคพลังประชารัฐพ้นรัฐบาล มีเพียงสัญญาณจากนายใหญ่ตระกูลชินเท่านั้น และยังมีการหักเหลี่ยมกัน ระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคภูมิใจไทย ในการพิจารณาหลักเกณฑ์การประชามติแก้รัฐธรรมนูญ จนกลายเป็นศึก “อีแอบ” บนเรือรัฐนาวา และยังมีอีกหลายเหลี่ยมที่เกิดขึ้นในสภาฯ ทั้ง พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม หรือแม้แต่รายงานนิรโทษกรรม ที่เปลี่ยนใจตอนท้าย หรือประกาศสนับสนุนแล้ว แต่ สส.กลับสวนมติพรรค ทำให้สมัยประชุมนี้ ต้องคุ้นชินกับเหลี่ยมของผู้ทรงเกียรติ
    .
    "วุฒิสภา" ได้รับฉายา "เนวิ(น)เกเตอร์"
    .
    กติกาการเลือกวุฒิสภาที่ซับซ้อนไม่หมู แต่กลายเป็น “กติกาหนู ๆ” เห็นได้จากผลการลงมติอย่างสม่ำเสมอของ สว.ในเรื่องต่าง ๆ ที่จะเกาะกลุ่ม 150-160 เสียง ซึ่งถูกมองเป็นเครือข่ายสายตรงพรรคการเมืองสีน้ำเงิน สะท้อนให้เห็นว่า เบื้องหลังการลงมติ มีบ้านใหญ่บุรีรัมย์ เป็น “เนวิเกเตอร์” ชี้นำอยู่เบื้องหลัง
    .
    นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้รับฉายา "รูทีนตีนตุ๊กแก"
    นอกจาก นายวันมูหะมัดนอร์ จะสามารถปฏิบัติหน้าที่งานรูทีนของตนเองได้เป็นอย่างดีแล้ว แต่ก็ยังสามารถหนีบเก้าอี้ของตัวเองได้ดียิ่งกว่า หลังกระแสข่าวการแลกเก้าอี้ประธานสภาฯ กับเก้าอี้รัฐมนตรี หรือกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยทวงคืนบัลลังก์สะพัด แต่นายวันมูหะมัดนอร์ ก็ยังสามารถรับมือ หนีบเก้าอี้ตัวนี้ไว้ได้อย่างเหนียวแน่นหนึบ และใครก็ไม่สามารถเปลี่ยนตัวประธานสภาฯ ได้ เว้นแต่ตนปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้แล้ว
    .
    นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้รับฉายา "ล็อกมง"
    “ล็อกมงคล” มาตั้งแต่ไก่โห่ หลังมีกระแสข่าวค่ายน้ำเงินล็อก “มงคล” เป็นประธานวุฒิสภา และวุฒิสภายังเทคะแนนให้ “มงคล” ด้วยมติท่วมท้น 159 เสียง จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม หรือเป็นเด็กนายที่ล็อกมงมาแต่แรก เพราะประมุขสภาสูงที่ผ่านมามักมีโปรโฟล์ด้านกฎหมายแกร่งกล้า เนื่องจากต้องเป็นหัวเรือใหญ่ในการกรองกฎหมาย ทว่า “นายมงคล” กลับมาจากสายปกครอง ไม่ใช่สายนิติศาสตร์ ทั้งยังแนะนำตัวเองว่ามาจากก้อนดิน ก้อนทราย เด็กวัด เรียนอาชีวะ สู่เก้าอี้อธิบดีกรมการปกครอง จนมานั่งบัลลังก์ประมุขสภาสูง ซึ่งหากขึ้นเวทีประกวดจริง คงค้านสายตาแฟนนางงาม เพราะแบบนี้ “ล็อกมง” แน่นอน
    .
    นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้รับฉายา “เท้งเต้ง”
    การทำงาน-พฤติกรรมของผู้นำฝ่ายค้านฯ ป้ายแดง ที่ถูกมองว่า ไม่โดดเด่นเท่าลูกพรรคหลายคน “ดูเคว้งเท้งเต้ง” ซ้ำยังเหมือนฝ่ายค้านพรรคเดียว แม้จะ “มีลุง” มาเสริมทัพ กลับไร้แนวร่วม เป็นฝ่ายค้านโดดเดี่ยวที่ไม่โดดเด่น เน้นรุกเสนอกฎหมายมากกว่าตรวจสอบ จนถูกปรามาสสภาฯ ไร้ฝ่ายค้าน ประกอบกับบทบาทหัวหน้าพรรคฯ มือใหม่ ที่ขาดเสน่ห์ ไร้บารมีผู้นำ ถูกเทียบชั้นกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล หนำซ้ำป้ายหาเสียง อบจ.ยังมีแต่ภาพนายพิธา ซึ่งเป็นผู้ช่วยหาเสียงมากกว่ารูป “หัวหน้าเท้ง” ซะอีก จึงเป็น “เท้งเต้ง” ลอยไปลอยมา
    .
    "ดาวเด่น" ในปี 2567 นี้ สื่อมวลชนประจำรัฐสภา เห็นว่า "ไม่มีผู้ใดเหมาะสม" และโดดเด่นเพียงพอที่จะได้รับตำแหน่งนี้ ซึ่งเป็นปีที่ 3 แล้วที่ฝ่ายนิติบัญญัติขาดดาวเด่น
    .
    "ดาวดับ" ในปี 2567 นี้สื่อมวลชนประจำรัฐสภา มีความเห็นร่วมกันที่จะมีผู้ได้รับตำแหน่งนี้ 2 คน ได้แก่ "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ” และ “นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน”
    .
    - “พล.อ.ประวิตร” จากพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ มากบารมี หัวกะไดบ้านป่าไม่เคยแห้ง กลายเป็นหมดราศี เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ทั้งถูกร้องจริยธรรมโดดประชุม 84 ครั้ง จากนัดประชุม 95 ครั้ง มาเซ็นชื่อแล้วก็ชิ่ง สะท้อนการขาดความรับผิดชอบในหน้าที่พื้นฐานที่ต้องเข้าร่วมประชุม ทั้งที่ สส.ที่มีหน้าที่สำคัญในการประชุมสภาฯ จึงเรียกได้ว่า ไม่ทำงานจนดับ หนำซ้ำยังถูกขับออกจากพรรคร่วมรัฐบาล แม้พรรคฯ จะพยายามเสนอชื่อรัฐมนตรี และทวงเก้าอี้รัฐมนตรีไปแล้ว แต่รั้งอะไรไว้ไม่ได้ แถมยังต้องจำใจขับก๊วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ออกจากพรรคฯ ให้เป็นไท จากกระแสข่าวความเชื่อมโยงบ่วง “ภูนับดาว” อีก
    .
    - “นางสาวธิษะณา” หลานปู่อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 17 ของไทย แม้พรรคประชาชน จะผลักดันการทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แต่กลับสวนทางกับผลงาน เพราะฟังการอภิปรายแล้วต้องอ้าปากค้าง ทั้งอ่านตัวเลขผิด และยังอินกับสิทธิเสรีภาพเกินเบอร์ ถึงขนาดให้รัฐบาลรับรองสิทธิชาวเมียนมาหนีสงคราม จนถูกโซเชียลหัวคะแนนออแกนิคของพรรค ทับถมเป็น #พรรคประชาชนพม่า และถูกแซวว่า เป็น สส.ราชเทวี หรือหงสาวดีกันแน่? จึงสะท้อนว่า แม้พรรคฯ จะสนับสนุนมาก แต่เจ้าตัวกลับดับโอกาสนั้นเอง
    .
    “วาทะแห่งปี 2567" ได้แก่ "..ทำให้คนไทย มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี.." โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ถือเป็นคำมั่นสัญญาสำคัญ ที่นายกรัฐมนตรี ได้ให้ไว้ต่อประชาชนผ่านสมาชิกรัฐสภา ซึ่งวาทะดังกล่าว ก็ยังคงเป็นที่ติดหู ติดปากประชาชน ตั้งแต่เวทีการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย และถูกนำไปล้อเลียนในโซเชียลมีเดีย แต่นายกรัฐมนตรี ก็ยังคงนำวาทะนี้มายืนยันต่อสภา สวนทางกับภาวะเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนในปัจจุบัน ซึ่งคำสัญญาที่นายกรัฐมนตรี ได้ให้ไว้ต่อประชาชนผ่านเวทีหาเสียงเลือกตั้ง และรัฐสภานี้ หากไม่สามารถทำได้จริง ประชาชนก็จะลงโทษในคูหาผ่านการเลือกตั้งครั้งถัดไป
    .
    “เหตุการณ์แห่งปี 2567” ได้แก่ "พรรคเพื่อไทย" เทียบเชิญ "พรรคประชาธิปัตย์" เข้าร่วมรัฐบาล 28 สิงหาคม 2567 ที่รัฐสภา ถือเป็นการปิดตำนานความขัดแย้งยาวนานกว่า 2 ทศวรรษ ระหว่าง 2 พรรคการเมืองใหญ่ที่ขับเคี่ยวทางการเมืองกันมาโดยตลอด ซ้ำยังกลืนอุดมการณ์พรรคฯ ที่ยึดถือมาเกือบ 80 ปี เพียงเพราะขันหมาก พร้อมสินสอด 2 เก้าอี้รัฐมนตรี ทำเอาบรรดาเสื้อแดง พ่อยก-แม่ยกประชาธิปัตย์ ที่บาดเจ็บล้มตายจากการไปร่วมชุมนุม กิน-นอนข้างถนนต้องอกหัก ไม่คิดว่า 2 พรรคนี้ จะมาบรรจบกันได้ หลังแกนนำรุ่นนี้ ประกาศ “ทิ้งความขัดแย้งไว้ข้างหลังแล้ว” แต่ผลพวงความเสียหาย ซากปรักหักพังของประเทศที่เคยเกิดจากความขัดแย้งจาก 2 พรรคนี้ คงถูกทิ้งไว้ข้างหลังแล้วด้วยเช่นกัน
    .
    คู่กัดแห่งปี ได้แก่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย หลังมีข่าวกินแหนงแคลงใจกัน แม้จะอยู่พรรคเดียวกัน เพราะเมื่อ นพ.ชลน่าน พ้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และมีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทย เตรียมดันขึ้นตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่นายวันมูหะมัดนอร์ กลับกอดเก้าอี้ไว้แน่น จึงต้องเล็งมาที่เก้าอี้นายพิเชษฐ์ และเป็นที่สังเกตว่า ทุกครั้งที่นายพิเชษฐ์ ทำหน้าที่ควบคุมการประชุม นายแพทย์ชลน่าน ก็มักจะขึ้นมาอภิปราย และปะทะคารมกันบ่อยครั้ง จนถึงขั้นที่ นพ.ชลน่าน อภิปรายชี้หน้านายพิเชษฐ์ และบอกว่า หากทำหน้าที่ไม่ได้ ก็ให้รองประธานฯ อีกคนมาทำหน้าที่แทน ทำให้นายพิเชษฐ์ ของขึ้นโต้กลับอย่างควันออกหูว่า “ไม่ต้องชี้หน้า อยากเป็นก็ขึ้นมา”
    .
    ทั้งนี้ สื่อมวลชนประจำรัฐสภา ยังขอเป็นกำลังใจให้ สส.และ สว.ที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ให้มุ่งมั่น ตั้งใจ ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ส่วน สส. และ สว.ที่ยังบกพร่องในการทำหน้าที่ สื่อมวลชนหวังว่า จะมีการทบทวนปรับปรุงการทำหน้าที่ของตนเองให้ดีมากขึ้น เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนต่อไป
    ...............
    Sondhi X
    "เหลี่ยม(จน)ชิน-เนวิ(น)เกเตอร์" ฉายาสภาฯ ปี 67 ผู้นำฝ่ายค้านฯ “เท้งเต้ง” ส่วน “บิ๊กป้อม-ธิษะณา” ดาวดับทั้งคู่ . สื่อสภาฯ ตั้งฉายาปี 67 สส. "เหลี่ยม(จน)ชิน" ส่วน สว. “เนวิ(น)เกเตอร์” ด้านวันนอร์ "รูทีนตีนตุ๊กแก" ประธานวุฒิฯ “ล็อกมง” หน.ปชน.ผู้นำฝ่ายค้านฯ “เท้งเต้ง” ส่วน “บิ๊กป้อม-ธิษะณา” คว้าคู่ "ดาวดับ" ไร้ดาวเด่นดาวสภาฯ 3 ปีซ้อน ยกขันหมาก “เพื่อไทย-ปชป.” เหตุการณ์แห่งปี . วันนี้ (26 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา ร่วมกันตั้ง “ฉายาสภา” เป็นธรรมเนียมประจำทุกปี เพื่อสะท้อนความคิดเห็นการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติทั้ง สส. และ สว. ตลอดปี 2567 ในฐานะที่ติดตามการทำหน้าที่ของ สส. และ สว. มาโดยตลอด ดังนี้ . “สภาผู้แทนราษฎร" ได้รับฉายา "เหลี่ยม(จน)ชิน" . ปี 2567 เกิดการพลิกขั้วรัฐบาลเพื่อไทยอีกครั้ง ที่เขี่ยพรรคพลังประชารัฐ ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล และดึงพรรคประชาธิปัตย์เสียบแทน ซึ่งถือเป็นการพลิกขั้วทางการเมืองครั้งสำคัญ แต่ไม่ปรากฏสาเหตุแน่ชัดในการปรับพรรคพลังประชารัฐพ้นรัฐบาล มีเพียงสัญญาณจากนายใหญ่ตระกูลชินเท่านั้น และยังมีการหักเหลี่ยมกัน ระหว่างพรรคเพื่อไทย กับพรรคภูมิใจไทย ในการพิจารณาหลักเกณฑ์การประชามติแก้รัฐธรรมนูญ จนกลายเป็นศึก “อีแอบ” บนเรือรัฐนาวา และยังมีอีกหลายเหลี่ยมที่เกิดขึ้นในสภาฯ ทั้ง พ.ร.บ.จัดระเบียบกระทรวงกลาโหม หรือแม้แต่รายงานนิรโทษกรรม ที่เปลี่ยนใจตอนท้าย หรือประกาศสนับสนุนแล้ว แต่ สส.กลับสวนมติพรรค ทำให้สมัยประชุมนี้ ต้องคุ้นชินกับเหลี่ยมของผู้ทรงเกียรติ . "วุฒิสภา" ได้รับฉายา "เนวิ(น)เกเตอร์" . กติกาการเลือกวุฒิสภาที่ซับซ้อนไม่หมู แต่กลายเป็น “กติกาหนู ๆ” เห็นได้จากผลการลงมติอย่างสม่ำเสมอของ สว.ในเรื่องต่าง ๆ ที่จะเกาะกลุ่ม 150-160 เสียง ซึ่งถูกมองเป็นเครือข่ายสายตรงพรรคการเมืองสีน้ำเงิน สะท้อนให้เห็นว่า เบื้องหลังการลงมติ มีบ้านใหญ่บุรีรัมย์ เป็น “เนวิเกเตอร์” ชี้นำอยู่เบื้องหลัง . นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้รับฉายา "รูทีนตีนตุ๊กแก" นอกจาก นายวันมูหะมัดนอร์ จะสามารถปฏิบัติหน้าที่งานรูทีนของตนเองได้เป็นอย่างดีแล้ว แต่ก็ยังสามารถหนีบเก้าอี้ของตัวเองได้ดียิ่งกว่า หลังกระแสข่าวการแลกเก้าอี้ประธานสภาฯ กับเก้าอี้รัฐมนตรี หรือกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยทวงคืนบัลลังก์สะพัด แต่นายวันมูหะมัดนอร์ ก็ยังสามารถรับมือ หนีบเก้าอี้ตัวนี้ไว้ได้อย่างเหนียวแน่นหนึบ และใครก็ไม่สามารถเปลี่ยนตัวประธานสภาฯ ได้ เว้นแต่ตนปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้แล้ว . นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้รับฉายา "ล็อกมง" “ล็อกมงคล” มาตั้งแต่ไก่โห่ หลังมีกระแสข่าวค่ายน้ำเงินล็อก “มงคล” เป็นประธานวุฒิสภา และวุฒิสภายังเทคะแนนให้ “มงคล” ด้วยมติท่วมท้น 159 เสียง จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม หรือเป็นเด็กนายที่ล็อกมงมาแต่แรก เพราะประมุขสภาสูงที่ผ่านมามักมีโปรโฟล์ด้านกฎหมายแกร่งกล้า เนื่องจากต้องเป็นหัวเรือใหญ่ในการกรองกฎหมาย ทว่า “นายมงคล” กลับมาจากสายปกครอง ไม่ใช่สายนิติศาสตร์ ทั้งยังแนะนำตัวเองว่ามาจากก้อนดิน ก้อนทราย เด็กวัด เรียนอาชีวะ สู่เก้าอี้อธิบดีกรมการปกครอง จนมานั่งบัลลังก์ประมุขสภาสูง ซึ่งหากขึ้นเวทีประกวดจริง คงค้านสายตาแฟนนางงาม เพราะแบบนี้ “ล็อกมง” แน่นอน . นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้รับฉายา “เท้งเต้ง” การทำงาน-พฤติกรรมของผู้นำฝ่ายค้านฯ ป้ายแดง ที่ถูกมองว่า ไม่โดดเด่นเท่าลูกพรรคหลายคน “ดูเคว้งเท้งเต้ง” ซ้ำยังเหมือนฝ่ายค้านพรรคเดียว แม้จะ “มีลุง” มาเสริมทัพ กลับไร้แนวร่วม เป็นฝ่ายค้านโดดเดี่ยวที่ไม่โดดเด่น เน้นรุกเสนอกฎหมายมากกว่าตรวจสอบ จนถูกปรามาสสภาฯ ไร้ฝ่ายค้าน ประกอบกับบทบาทหัวหน้าพรรคฯ มือใหม่ ที่ขาดเสน่ห์ ไร้บารมีผู้นำ ถูกเทียบชั้นกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล หนำซ้ำป้ายหาเสียง อบจ.ยังมีแต่ภาพนายพิธา ซึ่งเป็นผู้ช่วยหาเสียงมากกว่ารูป “หัวหน้าเท้ง” ซะอีก จึงเป็น “เท้งเต้ง” ลอยไปลอยมา . "ดาวเด่น" ในปี 2567 นี้ สื่อมวลชนประจำรัฐสภา เห็นว่า "ไม่มีผู้ใดเหมาะสม" และโดดเด่นเพียงพอที่จะได้รับตำแหน่งนี้ ซึ่งเป็นปีที่ 3 แล้วที่ฝ่ายนิติบัญญัติขาดดาวเด่น . "ดาวดับ" ในปี 2567 นี้สื่อมวลชนประจำรัฐสภา มีความเห็นร่วมกันที่จะมีผู้ได้รับตำแหน่งนี้ 2 คน ได้แก่ "พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ” และ “นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน” . - “พล.อ.ประวิตร” จากพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ มากบารมี หัวกะไดบ้านป่าไม่เคยแห้ง กลายเป็นหมดราศี เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ทั้งถูกร้องจริยธรรมโดดประชุม 84 ครั้ง จากนัดประชุม 95 ครั้ง มาเซ็นชื่อแล้วก็ชิ่ง สะท้อนการขาดความรับผิดชอบในหน้าที่พื้นฐานที่ต้องเข้าร่วมประชุม ทั้งที่ สส.ที่มีหน้าที่สำคัญในการประชุมสภาฯ จึงเรียกได้ว่า ไม่ทำงานจนดับ หนำซ้ำยังถูกขับออกจากพรรคร่วมรัฐบาล แม้พรรคฯ จะพยายามเสนอชื่อรัฐมนตรี และทวงเก้าอี้รัฐมนตรีไปแล้ว แต่รั้งอะไรไว้ไม่ได้ แถมยังต้องจำใจขับก๊วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ออกจากพรรคฯ ให้เป็นไท จากกระแสข่าวความเชื่อมโยงบ่วง “ภูนับดาว” อีก . - “นางสาวธิษะณา” หลานปู่อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 17 ของไทย แม้พรรคประชาชน จะผลักดันการทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แต่กลับสวนทางกับผลงาน เพราะฟังการอภิปรายแล้วต้องอ้าปากค้าง ทั้งอ่านตัวเลขผิด และยังอินกับสิทธิเสรีภาพเกินเบอร์ ถึงขนาดให้รัฐบาลรับรองสิทธิชาวเมียนมาหนีสงคราม จนถูกโซเชียลหัวคะแนนออแกนิคของพรรค ทับถมเป็น #พรรคประชาชนพม่า และถูกแซวว่า เป็น สส.ราชเทวี หรือหงสาวดีกันแน่? จึงสะท้อนว่า แม้พรรคฯ จะสนับสนุนมาก แต่เจ้าตัวกลับดับโอกาสนั้นเอง . “วาทะแห่งปี 2567" ได้แก่ "..ทำให้คนไทย มีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี.." โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ถือเป็นคำมั่นสัญญาสำคัญ ที่นายกรัฐมนตรี ได้ให้ไว้ต่อประชาชนผ่านสมาชิกรัฐสภา ซึ่งวาทะดังกล่าว ก็ยังคงเป็นที่ติดหู ติดปากประชาชน ตั้งแต่เวทีการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย และถูกนำไปล้อเลียนในโซเชียลมีเดีย แต่นายกรัฐมนตรี ก็ยังคงนำวาทะนี้มายืนยันต่อสภา สวนทางกับภาวะเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนในปัจจุบัน ซึ่งคำสัญญาที่นายกรัฐมนตรี ได้ให้ไว้ต่อประชาชนผ่านเวทีหาเสียงเลือกตั้ง และรัฐสภานี้ หากไม่สามารถทำได้จริง ประชาชนก็จะลงโทษในคูหาผ่านการเลือกตั้งครั้งถัดไป . “เหตุการณ์แห่งปี 2567” ได้แก่ "พรรคเพื่อไทย" เทียบเชิญ "พรรคประชาธิปัตย์" เข้าร่วมรัฐบาล 28 สิงหาคม 2567 ที่รัฐสภา ถือเป็นการปิดตำนานความขัดแย้งยาวนานกว่า 2 ทศวรรษ ระหว่าง 2 พรรคการเมืองใหญ่ที่ขับเคี่ยวทางการเมืองกันมาโดยตลอด ซ้ำยังกลืนอุดมการณ์พรรคฯ ที่ยึดถือมาเกือบ 80 ปี เพียงเพราะขันหมาก พร้อมสินสอด 2 เก้าอี้รัฐมนตรี ทำเอาบรรดาเสื้อแดง พ่อยก-แม่ยกประชาธิปัตย์ ที่บาดเจ็บล้มตายจากการไปร่วมชุมนุม กิน-นอนข้างถนนต้องอกหัก ไม่คิดว่า 2 พรรคนี้ จะมาบรรจบกันได้ หลังแกนนำรุ่นนี้ ประกาศ “ทิ้งความขัดแย้งไว้ข้างหลังแล้ว” แต่ผลพวงความเสียหาย ซากปรักหักพังของประเทศที่เคยเกิดจากความขัดแย้งจาก 2 พรรคนี้ คงถูกทิ้งไว้ข้างหลังแล้วด้วยเช่นกัน . คู่กัดแห่งปี ได้แก่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย หลังมีข่าวกินแหนงแคลงใจกัน แม้จะอยู่พรรคเดียวกัน เพราะเมื่อ นพ.ชลน่าน พ้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และมีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทย เตรียมดันขึ้นตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่นายวันมูหะมัดนอร์ กลับกอดเก้าอี้ไว้แน่น จึงต้องเล็งมาที่เก้าอี้นายพิเชษฐ์ และเป็นที่สังเกตว่า ทุกครั้งที่นายพิเชษฐ์ ทำหน้าที่ควบคุมการประชุม นายแพทย์ชลน่าน ก็มักจะขึ้นมาอภิปราย และปะทะคารมกันบ่อยครั้ง จนถึงขั้นที่ นพ.ชลน่าน อภิปรายชี้หน้านายพิเชษฐ์ และบอกว่า หากทำหน้าที่ไม่ได้ ก็ให้รองประธานฯ อีกคนมาทำหน้าที่แทน ทำให้นายพิเชษฐ์ ของขึ้นโต้กลับอย่างควันออกหูว่า “ไม่ต้องชี้หน้า อยากเป็นก็ขึ้นมา” . ทั้งนี้ สื่อมวลชนประจำรัฐสภา ยังขอเป็นกำลังใจให้ สส.และ สว.ที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ให้มุ่งมั่น ตั้งใจ ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ส่วน สส. และ สว.ที่ยังบกพร่องในการทำหน้าที่ สื่อมวลชนหวังว่า จะมีการทบทวนปรับปรุงการทำหน้าที่ของตนเองให้ดีมากขึ้น เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนต่อไป ............... Sondhi X
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1883 มุมมอง 0 รีวิว
  • Newsstory : โกทร-สจ.โต้ง ปัญหาบ้านใหญ่ การเมืองท้องถิ่น ให้อำนาจผิดฝาผิดเหล่า
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล
    Newsstory : โกทร-สจ.โต้ง ปัญหาบ้านใหญ่ การเมืองท้องถิ่น ให้อำนาจผิดฝาผิดเหล่า #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล
    Like
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 842 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • พรรคประชาชน ทนพ่ายแพ้ไม่ไหว ขอเป็นบ้านใหญ่ มีอิทธิพลซะเอง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    พรรคประชาชน ทนพ่ายแพ้ไม่ไหว ขอเป็นบ้านใหญ่ มีอิทธิพลซะเอง #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรรคประชาชนกลืนน้ำลาย จูบ👄คนบ้านใหญ่
    หวังคว้าชัย นายก อบจ. คนแรก ที่นครนายก
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    พรรคประชาชนกลืนน้ำลาย จูบ👄คนบ้านใหญ่ หวังคว้าชัย นายก อบจ. คนแรก ที่นครนายก #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 562 มุมมอง 16 0 รีวิว
  • ผบ.ตร.คาดมีการโอนสำนวนคดียิง "สจ.โต้ง" มากองปราบเร็วๆ นี้ เตรียมเดินหน้าใช้ปราจีนบุรีโมเดล กวาดล้างผู้มีอิทธิพล บ้านเล็ก-บ้านใหญ่ ยอมไม่ได้เลี้ยงมือปืนไว้กระทำผิด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121168

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผบ.ตร.คาดมีการโอนสำนวนคดียิง "สจ.โต้ง" มากองปราบเร็วๆ นี้ เตรียมเดินหน้าใช้ปราจีนบุรีโมเดล กวาดล้างผู้มีอิทธิพล บ้านเล็ก-บ้านใหญ่ ยอมไม่ได้เลี้ยงมือปืนไว้กระทำผิด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121168 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 949 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ ตรรกะ มท.1วิบัติ บอกคดี สจ.โต้งเป็นแค่ทะเลาะวิวาท เพราะเกิดเหตุในบ้าน ตั้งใจปกป้องตระกูลวิลาวัลย์ บ้านใหญ่ปราจีนเพื่อหวังผลทางการเมืองของภูมิใจไทย
    #7ดอกจิก
    ♣ ตรรกะ มท.1วิบัติ บอกคดี สจ.โต้งเป็นแค่ทะเลาะวิวาท เพราะเกิดเหตุในบ้าน ตั้งใจปกป้องตระกูลวิลาวัลย์ บ้านใหญ่ปราจีนเพื่อหวังผลทางการเมืองของภูมิใจไทย #7ดอกจิก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 287 มุมมอง 0 รีวิว
  • อำนาจ บารมี บุญคุณ จุดจบสุดเศร้าของ สจ.โต้ง
    ความตายของ สจ.โต้ง ในคฤหาสน์ของโกธร จะเป็นปฏิบัติการเจ้าพ่อใหญ่เด็ดปีกเจ้าพ่อน้อย ในสภาพมือเปล่าไร้อาวุธ และคนติดตาม เหมือนเดินเข้าไปติดกับ เข้าไปแบบมีลมหายใจแต่กลับออกมาเป็นร่างไร้วิญญาณ
    เหตุการณ์นี้ โชกโชนในยุทธจักรนักเลงมือปืนปราจีนบุรี คนที่ผงาดขึ้นมาเป็น สจ มีกลุ่มก้อนนักการเมืองท้องถิ่นของตัว กําลังเป็นขาขึ้นทางการเมืองใน วัย49 แต่ สจโต้ง ก็ประเมินนักเลงเก่าวัย 85 ต่ําเกินไป เมื่อคิดว่าการเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ของโกธร ซึ่งเคยเป็นแหล่งอันซุกหัวนอนของตัวเองมาก่อน คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเขา
    พวกลูกน้องคนติดตาม ให้รออยู่หน้าบ้าน พอพูดคุยเจรจากันเสร็จ ก็กลับออกมาสบายสบาย ที่ไหนได้ สอจอ โต้ง อีทลูกปืนจนร่างพรุนถึง 22 เม็ดโดนทั้งปืนลูกซองทั้งเก้ามอมอ
    ที่ผ่านมา โกธร มีมือตีนสําหรับงานสีเทามาตลอด อย่างสอจอโต้งเองก็เคยติดคุกเพราะทํางานรับใช้ โกธรมาก่อน เช่นกัน หลังสิ้นเสียงปืนมีสองคนรับสารภาพ อ้างเป็นมือสังหารและอ้างตรงกันว่า โกธรไม่รู้เรื่อง นอนหลับ ไม่รู้ ไม่เห็น
    เบาะแสสําคัญ ก็คือคลิปลับ บันทึกเสียงการเจรจากันตอนก่อนเกิดเหตุฉายภาพให้เห็นเลยว่า สจ โต้ง เป็นบุตรบุญธรรมของ โกธร ซึ่งก็แค่ในอดีต แต่ปัจจุบัน สจโต้งดันตัวเองขึ้นมาทาบบารมีเจ้านายเก่า อย่างไม่มีเกรงใจกัน แล้วพูดจาด้วยน้ําเสียงเกรี้ยวกราด มีการลําเลิกบุญคุณเก่า ที่ทํางานสกปรกให้โกธรมา14 15คดี ถึงขั้น โกธร ด่าสจโต้ง ว่ากําลังเป็น คนหลงอํานาจคิดจะฆ่ากูหรือเปล่า ซึ่งสอจอโต้งกล่าว อย่างชัดเจนหาก โกธร ส่งใครมาชิงตําแหน่งนายกอบจ ปราจีนบุรี แข่งกับภรรยาสุดที่รักของเขาจะต้องมีการตายเกิดขึ้นแน่นอน
    ว่ากันว่า เมื่อปี 2555 มีการเปิดปฏิบัติการใหญ่ ปราจีนโมเดลลุยกวาดล้างมือปืนปราจีนส่งคนมาโดนลุยตรวจค้นทั้งจังหวัด ผลก็คือ สจโต้ง ตกเป็นผู้ต้องหาไปด้วยต้องไปสู้คดีอยู่ในคุกหลายปีจนรอดคดีมาได้เมื่อปี 2558
    เนื่องจากศาลยกฟ้องออกคุกมาคราวนี้ สจโต้ง รู้สึกติดลบโกธรเจ้านายของตัวเองอย่างรุนแรงเพราะรู้สึกว่าถูกทอดทิ้งในคุกอย่างไม่เหลียวแล ตรงตามคําพูดเกรี้ยวกราดในคลิปลับก่อนเกิดเหตุที่สจโต้ง งัดเรื่องนี้มาด่าโกธร อย่างดุเดือด เปรียบตัวเองเป็นหมาที่ทํางานรับใช้ด้วยความภักดีกลับถูกนายทอดทิ้งจนครอบครัวลําบากตาม ๆ กัน สจโต้งจึงแยกตัวเป็นไทยจากบ้านใหญ่ของโกธร จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมา ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ

    อำนาจ บารมี บุญคุณ จุดจบสุดเศร้าของ สจ.โต้ง ความตายของ สจ.โต้ง ในคฤหาสน์ของโกธร จะเป็นปฏิบัติการเจ้าพ่อใหญ่เด็ดปีกเจ้าพ่อน้อย ในสภาพมือเปล่าไร้อาวุธ และคนติดตาม เหมือนเดินเข้าไปติดกับ เข้าไปแบบมีลมหายใจแต่กลับออกมาเป็นร่างไร้วิญญาณ เหตุการณ์นี้ โชกโชนในยุทธจักรนักเลงมือปืนปราจีนบุรี คนที่ผงาดขึ้นมาเป็น สจ มีกลุ่มก้อนนักการเมืองท้องถิ่นของตัว กําลังเป็นขาขึ้นทางการเมืองใน วัย49 แต่ สจโต้ง ก็ประเมินนักเลงเก่าวัย 85 ต่ําเกินไป เมื่อคิดว่าการเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ของโกธร ซึ่งเคยเป็นแหล่งอันซุกหัวนอนของตัวเองมาก่อน คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเขา พวกลูกน้องคนติดตาม ให้รออยู่หน้าบ้าน พอพูดคุยเจรจากันเสร็จ ก็กลับออกมาสบายสบาย ที่ไหนได้ สอจอ โต้ง อีทลูกปืนจนร่างพรุนถึง 22 เม็ดโดนทั้งปืนลูกซองทั้งเก้ามอมอ ที่ผ่านมา โกธร มีมือตีนสําหรับงานสีเทามาตลอด อย่างสอจอโต้งเองก็เคยติดคุกเพราะทํางานรับใช้ โกธรมาก่อน เช่นกัน หลังสิ้นเสียงปืนมีสองคนรับสารภาพ อ้างเป็นมือสังหารและอ้างตรงกันว่า โกธรไม่รู้เรื่อง นอนหลับ ไม่รู้ ไม่เห็น เบาะแสสําคัญ ก็คือคลิปลับ บันทึกเสียงการเจรจากันตอนก่อนเกิดเหตุฉายภาพให้เห็นเลยว่า สจ โต้ง เป็นบุตรบุญธรรมของ โกธร ซึ่งก็แค่ในอดีต แต่ปัจจุบัน สจโต้งดันตัวเองขึ้นมาทาบบารมีเจ้านายเก่า อย่างไม่มีเกรงใจกัน แล้วพูดจาด้วยน้ําเสียงเกรี้ยวกราด มีการลําเลิกบุญคุณเก่า ที่ทํางานสกปรกให้โกธรมา14 15คดี ถึงขั้น โกธร ด่าสจโต้ง ว่ากําลังเป็น คนหลงอํานาจคิดจะฆ่ากูหรือเปล่า ซึ่งสอจอโต้งกล่าว อย่างชัดเจนหาก โกธร ส่งใครมาชิงตําแหน่งนายกอบจ ปราจีนบุรี แข่งกับภรรยาสุดที่รักของเขาจะต้องมีการตายเกิดขึ้นแน่นอน ว่ากันว่า เมื่อปี 2555 มีการเปิดปฏิบัติการใหญ่ ปราจีนโมเดลลุยกวาดล้างมือปืนปราจีนส่งคนมาโดนลุยตรวจค้นทั้งจังหวัด ผลก็คือ สจโต้ง ตกเป็นผู้ต้องหาไปด้วยต้องไปสู้คดีอยู่ในคุกหลายปีจนรอดคดีมาได้เมื่อปี 2558 เนื่องจากศาลยกฟ้องออกคุกมาคราวนี้ สจโต้ง รู้สึกติดลบโกธรเจ้านายของตัวเองอย่างรุนแรงเพราะรู้สึกว่าถูกทอดทิ้งในคุกอย่างไม่เหลียวแล ตรงตามคําพูดเกรี้ยวกราดในคลิปลับก่อนเกิดเหตุที่สจโต้ง งัดเรื่องนี้มาด่าโกธร อย่างดุเดือด เปรียบตัวเองเป็นหมาที่ทํางานรับใช้ด้วยความภักดีกลับถูกนายทอดทิ้งจนครอบครัวลําบากตาม ๆ กัน สจโต้งจึงแยกตัวเป็นไทยจากบ้านใหญ่ของโกธร จึงทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมา ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 554 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลเลือกตั้งนายก และ สท.เทศบาลนครบุรีรัมย์ ทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง อย่างไม่เป็นทางการ “อนุชิต เหลืองชัยศรี” เด็กบ้านใหญ่ “เนวิน ชิดชอบ” คว้านายก ทน.บุรีรัมย์ คนแรก ชนะท่วมท้นทิ้งห่างอันดับสอง 16,412 คะแนน ส่วน สท.“กลุ่มคนบุรีรัมย์” ได้ยกทีม 24 คน ใน 4 เขต ด้าน ปชช.คาดหวังยกระดับคุณภาพชีวิต กระตุ้นเศรษฐกิจ และพัฒนาตลาดให้ดีขึ้น

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000120516

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผลเลือกตั้งนายก และ สท.เทศบาลนครบุรีรัมย์ ทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง อย่างไม่เป็นทางการ “อนุชิต เหลืองชัยศรี” เด็กบ้านใหญ่ “เนวิน ชิดชอบ” คว้านายก ทน.บุรีรัมย์ คนแรก ชนะท่วมท้นทิ้งห่างอันดับสอง 16,412 คะแนน ส่วน สท.“กลุ่มคนบุรีรัมย์” ได้ยกทีม 24 คน ใน 4 เขต ด้าน ปชช.คาดหวังยกระดับคุณภาพชีวิต กระตุ้นเศรษฐกิจ และพัฒนาตลาดให้ดีขึ้น อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000120516 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 772 มุมมอง 0 รีวิว
  • เผย “โกทร” หวั่นเสียบัลลังก์เบอร์ 1 ปราจีน หลังรู้ สจ.โต้ง ปันใจซบเพื่อไทย ส่งเมียลงชิงชัย นายก อบจ. ช่วงชิงบารมีบ้านใหญ่ ตัวแปรความขัดแย้ง นำมาสู่แรงจูงใจลวงสังหาร คนใกล้ชิดยันชัด หัก ”โกทร” ตั้งแต่ออกจากคุก เหตุน้อยใจทิ้งให้สู้คดีฮั้วประมูลเพียงลำพัง ก่อนสร้างบารมีเทียบเคียง จนเกิดปัญหาบาดหมางสะสมมานานหลายปี เผย เคยถูกมือมืด ติดต่อมือปืนรบพิเศษเมืองเพชร เตรียมการลอบสังหาร แต่แผนล่มก่อน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000120126

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เผย “โกทร” หวั่นเสียบัลลังก์เบอร์ 1 ปราจีน หลังรู้ สจ.โต้ง ปันใจซบเพื่อไทย ส่งเมียลงชิงชัย นายก อบจ. ช่วงชิงบารมีบ้านใหญ่ ตัวแปรความขัดแย้ง นำมาสู่แรงจูงใจลวงสังหาร คนใกล้ชิดยันชัด หัก ”โกทร” ตั้งแต่ออกจากคุก เหตุน้อยใจทิ้งให้สู้คดีฮั้วประมูลเพียงลำพัง ก่อนสร้างบารมีเทียบเคียง จนเกิดปัญหาบาดหมางสะสมมานานหลายปี เผย เคยถูกมือมืด ติดต่อมือปืนรบพิเศษเมืองเพชร เตรียมการลอบสังหาร แต่แผนล่มก่อน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000120126 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Wow
    17
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1133 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนนครสั่งสอนบ้านใหญ่ เลือกข้างผิด ชีวิตเปลี่ยน
    ผลการเลือกตั้งนายก อบจ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมาที่เลือกกัน 3 จังหวัดในวันเดียวกันคือ อุดรธานี เพชรบุรี และนครศรีธรรมราช
    ส่วนใหญ่คนสนใจไปที่อุดรธานี หลังเห็นทักษิณ ชินวัตร นําทัพใหญ่ไปช่วยสราวุธ เพชรพนมพร ขณะเดียวกันพรรคประชาชนก็ขนอดีตแกนนําพรรคส้มตั้งแต่ยุคอนาคตใหม่ก้าวไกลมาถึงพรรคประชาชน ไปช่วยหาเสียงให้นายคณิศร ผู้สมัครนายก อบจ อุดรธานี เช่นกัน ทั้ง พิธา ธนาธร ปิยบุตร ไชยธว ช่อพณิกาและเท้ง ณัฐพล จนทําให้ศึกเลือกตั้งนายกอุดรธานีไปไกลเกินเลือกตั้งท้องถิ่นไปแล้ว
    แต่สุดท้ายอุดรธานี ไม่มีล็อกถล่ม เพื่อไทยยังคงรักษาเก้าอี้นายกอุดรธานีไว้ได้อีกสมัยทําให้ทักษิณไม่หน้าแหก ส่วนที่ล็อกถล่มคือสนามเลือกตั้งนายกอบจ นครศรีธรรมราช ที่นายกต้อย อดีตนายก อบจ นครศรีธรรมราชไม่สามารถรักษาเก้าอี้เดิมไว้ได้ โดยแพ้ให้กับวาริน ผู้สมัครจากกรุงนครเข้มแข็ง ซึ่งนายกต้อย เป็นอดีตนายก อบจ นครศรีธรรมราชมาร่วม 4 ปีแถมมีลูกชายสองคนเป็น สส นครศรีธรรมราชในเวลานี้ คือชัยชนะและพิทักษ์เดชเดโช สองพี่น้อง สส นครศรีธรรมราชพรรคประชาธิปัตย์โดยเฉพาะแทนชัยชนะก็ยังเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ และที่ผ่านมามีบทบาทอย่างมากในพรรคประชาธิปัตย์ยุคเฉลิมชัยที่ไปร่วมรัฐบาลกับทักษิณและพรรคเพื่อไทยเรียกได้ว่า ชัยชนะ คือเบอร์สามในพรรคประชาธิปัตย์รองจากเฉลิมชัยและเดชอิฐ
    รวมถึงยังสร้างตระกูลเดชเดโชให้ขึ้นมาเป็นบ้านใหญ่นครศรีธรรมราชได้สําเร็จเพราะตัวเองกับน้องชายก็เป็นส สส่วนแม่ก็เป็นนายก อบจ ด้วยบารมีทางการเมืองเบ่งบานขนาดนี้คนนึกว่ากนกพรคงชนะชัวร์แบบใสใส แต่สุดท้ายแพ้พลิกล็อก ให้กับ วารินเด็กปั้นโกเกี๊ยะพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แกนนําพรรคภูมิใจไทยสายภาคใต้ที่ช่วงแรกคนมองว่ากระดูกคนละเบอร์กับนางกนกพร แต่สุดท้ายหลังกระแสม้าตีนปลายของวารินมาแรงช่วง 2สัปดาห์สุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ที่สามารถล้ม นางกนกพรและชัยชนะได้สําเร็จ
    เบื้องหลังความพ่ายแพ้ของบ้านใหญ่เดชเดโชครั้งนี้ว่ากันว่าสาเหตุหลักหลักเพราะคนนครที่ถือเป็นจังหวัดใหญ่และเป็นฐานการเมืองสําคัญ ของประชาธิปัตย์ในภาคใต้มาตลอด ต้องการสั่งสอนชัยชนะและพรรคประชาธิปัตย์ที่ไปร่วมรัฐบาลกับทักษิณและเพื่อไทยซึ่งเป็นเรื่องที่คนนครจํานวนไม่น้อยรับไม่ได้ และยังมีกรณีชัยชนะเอาคณะกรรมาธิการการตํารวจที่ตัวเองเป็นประธาน ตรวจสอบเรื่องชั้น 14 ทักษิณแต่สุดท้ายกลายเป็นปาหี่ไม่เอาจริงแถมยังเป็นตัวตั้งตัวตีในการเอาประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาลกับทักษิณ
    การสั่งสอนของคนนครศรีธรรมราชต่อแกนนําพรรคประชาธิปัตย์ที่คงทําให้พวก สสสะตอพรรคประชาธิปัตย์ ไปร่วมรัฐบาลกับทักษิณและเพื่อไทย มีหนาวแน่ เพราะอาจจะสอบตกตามรอยแม่ชัยชนะอย่างที่เห็นในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นก็ได้ ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ

    คนนครสั่งสอนบ้านใหญ่ เลือกข้างผิด ชีวิตเปลี่ยน ผลการเลือกตั้งนายก อบจ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมาที่เลือกกัน 3 จังหวัดในวันเดียวกันคือ อุดรธานี เพชรบุรี และนครศรีธรรมราช ส่วนใหญ่คนสนใจไปที่อุดรธานี หลังเห็นทักษิณ ชินวัตร นําทัพใหญ่ไปช่วยสราวุธ เพชรพนมพร ขณะเดียวกันพรรคประชาชนก็ขนอดีตแกนนําพรรคส้มตั้งแต่ยุคอนาคตใหม่ก้าวไกลมาถึงพรรคประชาชน ไปช่วยหาเสียงให้นายคณิศร ผู้สมัครนายก อบจ อุดรธานี เช่นกัน ทั้ง พิธา ธนาธร ปิยบุตร ไชยธว ช่อพณิกาและเท้ง ณัฐพล จนทําให้ศึกเลือกตั้งนายกอุดรธานีไปไกลเกินเลือกตั้งท้องถิ่นไปแล้ว แต่สุดท้ายอุดรธานี ไม่มีล็อกถล่ม เพื่อไทยยังคงรักษาเก้าอี้นายกอุดรธานีไว้ได้อีกสมัยทําให้ทักษิณไม่หน้าแหก ส่วนที่ล็อกถล่มคือสนามเลือกตั้งนายกอบจ นครศรีธรรมราช ที่นายกต้อย อดีตนายก อบจ นครศรีธรรมราชไม่สามารถรักษาเก้าอี้เดิมไว้ได้ โดยแพ้ให้กับวาริน ผู้สมัครจากกรุงนครเข้มแข็ง ซึ่งนายกต้อย เป็นอดีตนายก อบจ นครศรีธรรมราชมาร่วม 4 ปีแถมมีลูกชายสองคนเป็น สส นครศรีธรรมราชในเวลานี้ คือชัยชนะและพิทักษ์เดชเดโช สองพี่น้อง สส นครศรีธรรมราชพรรคประชาธิปัตย์โดยเฉพาะแทนชัยชนะก็ยังเป็นรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ และที่ผ่านมามีบทบาทอย่างมากในพรรคประชาธิปัตย์ยุคเฉลิมชัยที่ไปร่วมรัฐบาลกับทักษิณและพรรคเพื่อไทยเรียกได้ว่า ชัยชนะ คือเบอร์สามในพรรคประชาธิปัตย์รองจากเฉลิมชัยและเดชอิฐ รวมถึงยังสร้างตระกูลเดชเดโชให้ขึ้นมาเป็นบ้านใหญ่นครศรีธรรมราชได้สําเร็จเพราะตัวเองกับน้องชายก็เป็นส สส่วนแม่ก็เป็นนายก อบจ ด้วยบารมีทางการเมืองเบ่งบานขนาดนี้คนนึกว่ากนกพรคงชนะชัวร์แบบใสใส แต่สุดท้ายแพ้พลิกล็อก ให้กับ วารินเด็กปั้นโกเกี๊ยะพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แกนนําพรรคภูมิใจไทยสายภาคใต้ที่ช่วงแรกคนมองว่ากระดูกคนละเบอร์กับนางกนกพร แต่สุดท้ายหลังกระแสม้าตีนปลายของวารินมาแรงช่วง 2สัปดาห์สุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ที่สามารถล้ม นางกนกพรและชัยชนะได้สําเร็จ เบื้องหลังความพ่ายแพ้ของบ้านใหญ่เดชเดโชครั้งนี้ว่ากันว่าสาเหตุหลักหลักเพราะคนนครที่ถือเป็นจังหวัดใหญ่และเป็นฐานการเมืองสําคัญ ของประชาธิปัตย์ในภาคใต้มาตลอด ต้องการสั่งสอนชัยชนะและพรรคประชาธิปัตย์ที่ไปร่วมรัฐบาลกับทักษิณและเพื่อไทยซึ่งเป็นเรื่องที่คนนครจํานวนไม่น้อยรับไม่ได้ และยังมีกรณีชัยชนะเอาคณะกรรมาธิการการตํารวจที่ตัวเองเป็นประธาน ตรวจสอบเรื่องชั้น 14 ทักษิณแต่สุดท้ายกลายเป็นปาหี่ไม่เอาจริงแถมยังเป็นตัวตั้งตัวตีในการเอาประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาลกับทักษิณ การสั่งสอนของคนนครศรีธรรมราชต่อแกนนําพรรคประชาธิปัตย์ที่คงทําให้พวก สสสะตอพรรคประชาธิปัตย์ ไปร่วมรัฐบาลกับทักษิณและเพื่อไทย มีหนาวแน่ เพราะอาจจะสอบตกตามรอยแม่ชัยชนะอย่างที่เห็นในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นก็ได้ ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 897 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนนคร สั่งสอนบ้านใหญ่
    เลือกข้างผิด ชีวิตเปลี่ยน
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    คนนคร สั่งสอนบ้านใหญ่ เลือกข้างผิด ชีวิตเปลี่ยน #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 6 0 รีวิว
Pages Boosts