• “Apple เตรียมเปิดตัว MacBook ราคาประหยัด! ลุยตลาดนักเรียน-ธุรกิจในปี 2026”
    Apple กำลังเปลี่ยนเกมอีกครั้ง — คราวนี้ไม่ใช่ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำ แต่ด้วยราคาที่เข้าถึงได้! มีรายงานล่าสุดว่า Apple กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิตและทดสอบ MacBook รุ่นใหม่ที่มีราคาต่ำกว่า $1,000 โดยมีเป้าหมายเจาะกลุ่มนักเรียน ธุรกิจขนาดเล็ก และผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการโน้ตบุ๊กคุณภาพในราคาคุ้มค่า

    MacBook รุ่นนี้มีโค้ดเนมภายในว่า “J700” และคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 โดยใช้ชิป A18 Pro ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ใน iPhone 16 Pro พร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 13.6 นิ้ว และโครงสร้างอะลูมิเนียมแบบเดียวกับ MacBook Air แต่ลดสเปกบางส่วนเพื่อควบคุมต้นทุน

    แม้จะไม่มี Thunderbolt แต่ยังคงมีพอร์ต USB 3.2 Gen 2 ที่รองรับความเร็วสูงถึง 10Gb/s พร้อม RAM 12GB และ SSD 256GB ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป เช่น เอกสาร, วิดีโอคอล, และงานออนไลน์

    Apple เคยทดลองขาย MacBook Air M1 ผ่าน Walmart ในราคาต่ำกว่า $700 มาแล้ว และดูเหมือนว่ากลยุทธ์นี้จะถูกนำมาใช้จริงในรุ่นใหม่ เพื่อแข่งขันกับ Chromebook และโน้ตบุ๊ก Windows ราคาประหยัด โดยเฉพาะหลังจาก Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 อย่างเป็นทางการ

    Apple เตรียมเปิดตัว MacBook ราคาประหยัดในปี 2026
    โค้ดเนม “J700” อยู่ในขั้นตอนการผลิตและทดสอบ
    คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี

    สเปกที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมต้นทุน
    ใช้ชิป A18 Pro และหน้าจอ LCD ขนาด 13.6 นิ้ว
    ไม่มี Thunderbolt แต่มี USB 3.2 Gen 2
    RAM 12GB และ SSD 256GB

    กลุ่มเป้าหมายคือผู้ใช้ทั่วไป
    นักเรียน, ธุรกิจขนาดเล็ก, ผู้ใช้งานทั่วไป
    แข่งขันกับ Chromebook และโน้ตบุ๊ก Windows ราคาประหยัด

    กลยุทธ์ต่อยอดจาก MacBook Air M1 ราคาถูก
    เคยขายผ่าน Walmart ในราคาต่ำกว่า $700
    รุ่นใหม่อาจตั้งราคาระหว่าง $599–$699

    คำเตือนด้านข้อจำกัดของรุ่นราคาประหยัด
    ไม่มีคีย์บอร์ดแบบ backlit
    ไม่มี Thunderbolt อาจจำกัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ระดับโปร

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง
    ไม่เหมาะกับงานกราฟิกหรือการตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ
    อาจไม่รองรับแอปที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูง

    https://wccftech.com/apples-first-low-cost-macbook-coming-in-h1-2026-early-production-already-underway/
    🍏💻 “Apple เตรียมเปิดตัว MacBook ราคาประหยัด! ลุยตลาดนักเรียน-ธุรกิจในปี 2026” Apple กำลังเปลี่ยนเกมอีกครั้ง — คราวนี้ไม่ใช่ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำ แต่ด้วยราคาที่เข้าถึงได้! มีรายงานล่าสุดว่า Apple กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิตและทดสอบ MacBook รุ่นใหม่ที่มีราคาต่ำกว่า $1,000 โดยมีเป้าหมายเจาะกลุ่มนักเรียน ธุรกิจขนาดเล็ก และผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการโน้ตบุ๊กคุณภาพในราคาคุ้มค่า MacBook รุ่นนี้มีโค้ดเนมภายในว่า “J700” และคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 โดยใช้ชิป A18 Pro ซึ่งเป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ใน iPhone 16 Pro พร้อมหน้าจอ LCD ขนาด 13.6 นิ้ว และโครงสร้างอะลูมิเนียมแบบเดียวกับ MacBook Air แต่ลดสเปกบางส่วนเพื่อควบคุมต้นทุน แม้จะไม่มี Thunderbolt แต่ยังคงมีพอร์ต USB 3.2 Gen 2 ที่รองรับความเร็วสูงถึง 10Gb/s พร้อม RAM 12GB และ SSD 256GB ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป เช่น เอกสาร, วิดีโอคอล, และงานออนไลน์ Apple เคยทดลองขาย MacBook Air M1 ผ่าน Walmart ในราคาต่ำกว่า $700 มาแล้ว และดูเหมือนว่ากลยุทธ์นี้จะถูกนำมาใช้จริงในรุ่นใหม่ เพื่อแข่งขันกับ Chromebook และโน้ตบุ๊ก Windows ราคาประหยัด โดยเฉพาะหลังจาก Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 อย่างเป็นทางการ ✅ Apple เตรียมเปิดตัว MacBook ราคาประหยัดในปี 2026 ➡️ โค้ดเนม “J700” อยู่ในขั้นตอนการผลิตและทดสอบ ➡️ คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี ✅ สเปกที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมต้นทุน ➡️ ใช้ชิป A18 Pro และหน้าจอ LCD ขนาด 13.6 นิ้ว ➡️ ไม่มี Thunderbolt แต่มี USB 3.2 Gen 2 ➡️ RAM 12GB และ SSD 256GB ✅ กลุ่มเป้าหมายคือผู้ใช้ทั่วไป ➡️ นักเรียน, ธุรกิจขนาดเล็ก, ผู้ใช้งานทั่วไป ➡️ แข่งขันกับ Chromebook และโน้ตบุ๊ก Windows ราคาประหยัด ✅ กลยุทธ์ต่อยอดจาก MacBook Air M1 ราคาถูก ➡️ เคยขายผ่าน Walmart ในราคาต่ำกว่า $700 ➡️ รุ่นใหม่อาจตั้งราคาระหว่าง $599–$699 ‼️ คำเตือนด้านข้อจำกัดของรุ่นราคาประหยัด ⛔ ไม่มีคีย์บอร์ดแบบ backlit ⛔ ไม่มี Thunderbolt อาจจำกัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ระดับโปร ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง ⛔ ไม่เหมาะกับงานกราฟิกหรือการตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ ⛔ อาจไม่รองรับแอปที่ต้องใช้พลังประมวลผลสูง https://wccftech.com/apples-first-low-cost-macbook-coming-in-h1-2026-early-production-already-underway/
    WCCFTECH.COM
    Apple's First Low-Cost MacBook Coming In H1 2026, Early Production Already Underway
    The fact that Apple's low-cost MacBook is already in early production and testing phase bolsters the thesis for its near-imminent launch.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Blackwell สำหรับอเมริกาเท่านั้น! รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ย้ำชัด จีนต้องรอจนชิปตกยุค”

    ในยุคที่ AI กลายเป็นหัวใจของการแข่งขันระดับโลก สหรัฐฯ ยังคงเดินเกมควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูง โดยล่าสุด Scott Bessent รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงจุดยืนที่สอดคล้องกับประธานาธิบดี Donald Trump ว่า “ชิป AI ระดับสูงสุดจาก Nvidia จะถูกสงวนไว้ให้ใช้ภายในประเทศเท่านั้น”

    Bessent กล่าวผ่าน CNBC ว่า Blackwell — ชิป AI รุ่นล่าสุดจาก Nvidia — เป็น “อัญมณีแห่งเทคโนโลยี” และจะไม่ถูกส่งออกไปยังจีนจนกว่าจะตกยุค โดยอาจใช้เวลาราว 12–24 เดือน ซึ่งสอดคล้องกับแผนการเปิดตัว Vera Rubin รุ่นถัดไปในปีหน้า

    แม้จะไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจากทำเนียบขาว แต่คำพูดของ Bessent สะท้อนแนวโน้มเชิงนโยบายที่ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อเขาเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดี และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจและการค้า

    ขณะเดียวกัน Nvidia ก็เตรียมเปิดตัวรุ่น “ลดสเปก” สำหรับจีนในชื่อ B30A ซึ่งจะมีประสิทธิภาพต่ำกว่ารุ่นมาตรฐาน และต้องแบ่งรายได้ 15% ให้รัฐบาลสหรัฐฯ หากมีการขายในจีน

    สหรัฐฯ ยืนยันไม่ส่งออกชิป Blackwell ไปจีนในช่วงแรก
    Scott Bessent ระบุว่า Blackwell จะถูกสงวนไว้ให้ใช้ในประเทศ
    อาจใช้เวลาราว 12–24 เดือนก่อนจะอนุญาตให้ส่งออก

    ความเห็นสอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิบดี Trump
    Trump เคยกล่าวว่า “จีนจะไม่ได้รับชิปที่ดีที่สุดจาก Nvidia”
    เป็นการควบคุมเทคโนโลยีเพื่อรักษาความได้เปรียบด้าน AI

    Nvidia เตรียมเปิดตัวรุ่นลดสเปกสำหรับจีน
    รุ่น B30A มีประสิทธิภาพต่ำกว่ารุ่นมาตรฐาน
    หากขายในจีน ต้องแบ่งรายได้ 15% ให้รัฐบาลสหรัฐฯ

    การพัฒนาในอนาคต
    Blackwell จะถูกแทนที่ด้วย Vera Rubin ในปีหน้า
    เมื่อ Blackwell ตกรุ่น อาจถูกอนุญาตให้ส่งออกไปยังจีน

    คำเตือนด้านการค้าและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    การจำกัดการส่งออกอาจกระทบต่อความร่วมมือด้านเทคโนโลยี
    จีนอาจเร่งพัฒนาเทคโนโลยีภายในเพื่อลดการพึ่งพาสหรัฐฯ

    คำเตือนด้านการละเมิดข้อจำกัด
    มีรายงานว่าชิป Blackwell ยังหลุดเข้าไปในจีนผ่านช่องทางสีเทา
    การนำเข้าแบบผิดกฎหมายอาจสร้างความตึงเครียดทางการค้า

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/echoing-trumps-sentiments-americas-finance-chief-bessent-says-the-most-advanced-ai-gpus-are-restricted-to-home-soil-china-can-have-blackwell-chips-once-theyre-outdated
    🇺🇸🚫 “Blackwell สำหรับอเมริกาเท่านั้น! รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ย้ำชัด จีนต้องรอจนชิปตกยุค” ในยุคที่ AI กลายเป็นหัวใจของการแข่งขันระดับโลก สหรัฐฯ ยังคงเดินเกมควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูง โดยล่าสุด Scott Bessent รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงจุดยืนที่สอดคล้องกับประธานาธิบดี Donald Trump ว่า “ชิป AI ระดับสูงสุดจาก Nvidia จะถูกสงวนไว้ให้ใช้ภายในประเทศเท่านั้น” Bessent กล่าวผ่าน CNBC ว่า Blackwell — ชิป AI รุ่นล่าสุดจาก Nvidia — เป็น “อัญมณีแห่งเทคโนโลยี” และจะไม่ถูกส่งออกไปยังจีนจนกว่าจะตกยุค โดยอาจใช้เวลาราว 12–24 เดือน ซึ่งสอดคล้องกับแผนการเปิดตัว Vera Rubin รุ่นถัดไปในปีหน้า แม้จะไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจากทำเนียบขาว แต่คำพูดของ Bessent สะท้อนแนวโน้มเชิงนโยบายที่ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อเขาเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดี และมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจและการค้า ขณะเดียวกัน Nvidia ก็เตรียมเปิดตัวรุ่น “ลดสเปก” สำหรับจีนในชื่อ B30A ซึ่งจะมีประสิทธิภาพต่ำกว่ารุ่นมาตรฐาน และต้องแบ่งรายได้ 15% ให้รัฐบาลสหรัฐฯ หากมีการขายในจีน ✅ สหรัฐฯ ยืนยันไม่ส่งออกชิป Blackwell ไปจีนในช่วงแรก ➡️ Scott Bessent ระบุว่า Blackwell จะถูกสงวนไว้ให้ใช้ในประเทศ ➡️ อาจใช้เวลาราว 12–24 เดือนก่อนจะอนุญาตให้ส่งออก ✅ ความเห็นสอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิบดี Trump ➡️ Trump เคยกล่าวว่า “จีนจะไม่ได้รับชิปที่ดีที่สุดจาก Nvidia” ➡️ เป็นการควบคุมเทคโนโลยีเพื่อรักษาความได้เปรียบด้าน AI ✅ Nvidia เตรียมเปิดตัวรุ่นลดสเปกสำหรับจีน ➡️ รุ่น B30A มีประสิทธิภาพต่ำกว่ารุ่นมาตรฐาน ➡️ หากขายในจีน ต้องแบ่งรายได้ 15% ให้รัฐบาลสหรัฐฯ ✅ การพัฒนาในอนาคต ➡️ Blackwell จะถูกแทนที่ด้วย Vera Rubin ในปีหน้า ➡️ เมื่อ Blackwell ตกรุ่น อาจถูกอนุญาตให้ส่งออกไปยังจีน ‼️ คำเตือนด้านการค้าและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ⛔ การจำกัดการส่งออกอาจกระทบต่อความร่วมมือด้านเทคโนโลยี ⛔ จีนอาจเร่งพัฒนาเทคโนโลยีภายในเพื่อลดการพึ่งพาสหรัฐฯ ‼️ คำเตือนด้านการละเมิดข้อจำกัด ⛔ มีรายงานว่าชิป Blackwell ยังหลุดเข้าไปในจีนผ่านช่องทางสีเทา ⛔ การนำเข้าแบบผิดกฎหมายอาจสร้างความตึงเครียดทางการค้า https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/echoing-trumps-sentiments-americas-finance-chief-bessent-says-the-most-advanced-ai-gpus-are-restricted-to-home-soil-china-can-have-blackwell-chips-once-theyre-outdated
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • “จีนแจกส่วนลดไฟฟ้าให้บริษัท AI — ถ้าใช้ชิปผลิตในประเทศ!”

    ในสงครามเทคโนโลยีระดับโลก จีนกำลังเดินเกมรุกเพื่อสร้างอิสรภาพด้าน AI และเซมิคอนดักเตอร์ ล่าสุดหลายมณฑลในจีน เช่น กานซู, กุ้ยโจว และมองโกเลียใน ได้เสนอส่วนลดค่าไฟฟ้าอุตสาหกรรมสูงถึง 50% ให้กับศูนย์ข้อมูล AI — แต่มีเงื่อนไขสำคัญ: ต้องใช้ชิปที่ผลิตในประเทศจีนเท่านั้น ห้ามใช้ของ Nvidia หรือ AMD

    นอกจากส่วนลดค่าไฟแล้ว ยังมีเงินสนับสนุนโดยตรงที่เพียงพอให้ศูนย์ข้อมูลดำเนินงานได้ถึงหนึ่งปี โดยราคาค่าไฟต่อหน่วยลดลงเหลือเพียง 0.4 หยวน หรือประมาณ 5.6 เซนต์สหรัฐ ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับภูมิภาคชายฝั่ง

    แม้ชิปจีนยังไม่สามารถเทียบเคียงกับ Nvidia H20 หรือ Blackwell ได้ในด้านประสิทธิภาพ แต่รัฐบาลจีนก็ผลักดันให้เกิดการใช้งานอย่างจริงจัง โดยมีบริษัทชั้นนำอย่าง Huawei, Cambricon, Alibaba และ Biren เข้าร่วมผลิต AI accelerators โดย Huawei นำทีมด้วยชิป Ascend 910C

    การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลจีนสั่งแบนการใช้งานชิป AI จาก Nvidia โดยตรง ซึ่งทำให้การใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้น 30–50% เนื่องจากชิปจีนยังด้อยกว่าด้านประสิทธิภาพ

    จีนเสนอส่วนลดค่าไฟฟ้าให้ศูนย์ข้อมูล AI
    มณฑลกานซู, กุ้ยโจว และมองโกเลียใน ลดค่าไฟลง 50%
    เหลือเพียง 0.4 หยวนต่อ kWh หรือประมาณ 5.6 เซนต์สหรัฐ

    เงื่อนไขคือต้องใช้ชิปที่ผลิตในจีน
    ห้ามใช้ชิปจาก Nvidia หรือ AMD
    เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายผลักดันการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี

    รัฐบาลจีนสนับสนุนเงินทุนโดยตรง
    เพียงพอให้ศูนย์ข้อมูลดำเนินงานได้ถึงหนึ่งปี
    ส่งเสริมการตั้งศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ที่มีพลังงานเหลือเฟือ

    บริษัทจีนเร่งพัฒนาชิป AI
    Huawei, Cambricon, Alibaba และ Biren เป็นผู้ผลิตหลัก
    Huawei นำทีมด้วยชิป Ascend 910C

    คำเตือนด้านประสิทธิภาพของชิปจีน
    ประสิทธิภาพยังด้อยกว่าชิป Nvidia H20 และ Blackwell
    ส่งผลให้การใช้พลังงานเพิ่มขึ้น 30–50%

    คำเตือนด้านการแข่งขันระดับโลก
    การแบนชิปต่างชาติอาจกระทบต่อความร่วมมือระหว่างประเทศ
    การพึ่งพาชิปภายในอาจทำให้จีนต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีให้ทันคู่แข่ง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/chinese-provinces-offer-steep-power-discounts-to-ai-companies-using-china-made-chips-country-continues-its-aggressive-push-towards-ai-independence-and-homegrown-silicon
    ⚡🇨🇳 “จีนแจกส่วนลดไฟฟ้าให้บริษัท AI — ถ้าใช้ชิปผลิตในประเทศ!” ในสงครามเทคโนโลยีระดับโลก จีนกำลังเดินเกมรุกเพื่อสร้างอิสรภาพด้าน AI และเซมิคอนดักเตอร์ ล่าสุดหลายมณฑลในจีน เช่น กานซู, กุ้ยโจว และมองโกเลียใน ได้เสนอส่วนลดค่าไฟฟ้าอุตสาหกรรมสูงถึง 50% ให้กับศูนย์ข้อมูล AI — แต่มีเงื่อนไขสำคัญ: ต้องใช้ชิปที่ผลิตในประเทศจีนเท่านั้น ห้ามใช้ของ Nvidia หรือ AMD นอกจากส่วนลดค่าไฟแล้ว ยังมีเงินสนับสนุนโดยตรงที่เพียงพอให้ศูนย์ข้อมูลดำเนินงานได้ถึงหนึ่งปี โดยราคาค่าไฟต่อหน่วยลดลงเหลือเพียง 0.4 หยวน หรือประมาณ 5.6 เซนต์สหรัฐ ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับภูมิภาคชายฝั่ง แม้ชิปจีนยังไม่สามารถเทียบเคียงกับ Nvidia H20 หรือ Blackwell ได้ในด้านประสิทธิภาพ แต่รัฐบาลจีนก็ผลักดันให้เกิดการใช้งานอย่างจริงจัง โดยมีบริษัทชั้นนำอย่าง Huawei, Cambricon, Alibaba และ Biren เข้าร่วมผลิต AI accelerators โดย Huawei นำทีมด้วยชิป Ascend 910C การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลจีนสั่งแบนการใช้งานชิป AI จาก Nvidia โดยตรง ซึ่งทำให้การใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูลเพิ่มขึ้น 30–50% เนื่องจากชิปจีนยังด้อยกว่าด้านประสิทธิภาพ ✅ จีนเสนอส่วนลดค่าไฟฟ้าให้ศูนย์ข้อมูล AI ➡️ มณฑลกานซู, กุ้ยโจว และมองโกเลียใน ลดค่าไฟลง 50% ➡️ เหลือเพียง 0.4 หยวนต่อ kWh หรือประมาณ 5.6 เซนต์สหรัฐ ✅ เงื่อนไขคือต้องใช้ชิปที่ผลิตในจีน ➡️ ห้ามใช้ชิปจาก Nvidia หรือ AMD ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายผลักดันการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี ✅ รัฐบาลจีนสนับสนุนเงินทุนโดยตรง ➡️ เพียงพอให้ศูนย์ข้อมูลดำเนินงานได้ถึงหนึ่งปี ➡️ ส่งเสริมการตั้งศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ที่มีพลังงานเหลือเฟือ ✅ บริษัทจีนเร่งพัฒนาชิป AI ➡️ Huawei, Cambricon, Alibaba และ Biren เป็นผู้ผลิตหลัก ➡️ Huawei นำทีมด้วยชิป Ascend 910C ‼️ คำเตือนด้านประสิทธิภาพของชิปจีน ⛔ ประสิทธิภาพยังด้อยกว่าชิป Nvidia H20 และ Blackwell ⛔ ส่งผลให้การใช้พลังงานเพิ่มขึ้น 30–50% ‼️ คำเตือนด้านการแข่งขันระดับโลก ⛔ การแบนชิปต่างชาติอาจกระทบต่อความร่วมมือระหว่างประเทศ ⛔ การพึ่งพาชิปภายในอาจทำให้จีนต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีให้ทันคู่แข่ง https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/chinese-provinces-offer-steep-power-discounts-to-ai-companies-using-china-made-chips-country-continues-its-aggressive-push-towards-ai-independence-and-homegrown-silicon
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • “SpaceX ผนึก Besxar สร้างโรงงานผลิตชิปกลางอวกาศ — ภารกิจสุดล้ำที่อาจเปลี่ยนโลกเทคโนโลยี!”

    ลองจินตนาการว่าอนาคตของการผลิตชิปไม่ได้อยู่ในห้องคลีนรูมบนโลกอีกต่อไป… แต่ลอยอยู่ในอวกาศ! นั่นคือแนวคิดสุดล้ำของ Besxar สตาร์ทอัพจากวอชิงตัน ดี.ซี. ที่จับมือกับ SpaceX เพื่อทดลองผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในสุญญากาศของอวกาศ โดยใช้ “Fabships” — แคปซูลขนาดไมโครเวฟที่ติดไปกับจรวด Falcon 9

    ภารกิจนี้จะมีทั้งหมด 12 ครั้ง เริ่มปลายปีนี้ โดย Fabships จะถูกส่งขึ้นไปพร้อมจรวด ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีในการสัมผัสสุญญากาศระดับสูง ก่อนกลับลงมาพร้อมข้อมูลสำคัญเพื่อพัฒนาโรงงานผลิตชิปในวงโคจร

    CEO ของ Besxar, Ashley Pilipiszyn อธิบายว่า “โรงงานผลิตชิปบนโลกไม่สามารถสร้างสุญญากาศที่บริสุทธิ์ได้เท่ากับอวกาศ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพและผลผลิตของชิปยุคใหม่” แนวคิดนี้จึงเปรียบเสมือนการใช้ธรรมชาติของอวกาศเป็นห้องคลีนรูมขนาดยักษ์

    แม้จะยังห่างไกลจากการผลิตเชิงพาณิชย์ แต่ Besxar ได้รับการสนับสนุนจาก NVIDIA และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ พร้อมเป้าหมายในการสร้างชิปที่ทนรังสีและเหมาะกับการใช้งานในอวกาศและกองทัพ

    Besxar จับมือ SpaceX ทดลองผลิตชิปในอวกาศ
    ใช้แคปซูล “Fabships” ติดไปกับจรวด Falcon 9
    สัมผัสสุญญากาศระดับสูงก่อนกลับสู่โลกภายใน 10 นาที

    เป้าหมายคือสร้างโรงงานผลิตชิปในวงโคจร
    ใช้สุญญากาศของอวกาศแทนห้องคลีนรูม
    หวังเพิ่มคุณภาพและผลผลิตของเซมิคอนดักเตอร์

    ภารกิจเริ่มปลายปีนี้ รวม 12 ครั้ง
    เป็นโครงการทดลองเพื่อเก็บข้อมูล
    ยังไม่ใช่การผลิตเชิงพาณิชย์

    ได้รับการสนับสนุนจาก NVIDIA และกระทรวงกลาโหม
    มีเป้าหมายในการผลิตชิปที่ทนรังสีสำหรับการใช้งานด้านกลาโหม
    อาจเปลี่ยนโฉมหน้าการผลิตชิปในอนาคต

    คำเตือนด้านความเป็นไปได้
    ยังอยู่ในขั้นทดลอง ไม่สามารถผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้ก่อนปี 2030
    ต้องพิสูจน์ว่าชิปสามารถทนต่อแรงกระแทกจากการปล่อยและกลับสู่โลกได้

    คำเตือนด้านต้นทุนและความเสี่ยง
    การสร้างระบบผลิตในอวกาศมีต้นทุนสูงมาก
    หากไม่สำเร็จ อาจเป็นเพียง “โน้ตเชิงทดลองราคาแพง” ในประวัติศาสตร์เทคโนโลยี

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/elon-musks-spacex-to-launch-reusable-fabships-for-orbital-chip-manufacturing-experiments-besxars-orbital-chipmaking-experiments-to-occur-over-12-launches
    🚀🔬 “SpaceX ผนึก Besxar สร้างโรงงานผลิตชิปกลางอวกาศ — ภารกิจสุดล้ำที่อาจเปลี่ยนโลกเทคโนโลยี!” ลองจินตนาการว่าอนาคตของการผลิตชิปไม่ได้อยู่ในห้องคลีนรูมบนโลกอีกต่อไป… แต่ลอยอยู่ในอวกาศ! นั่นคือแนวคิดสุดล้ำของ Besxar สตาร์ทอัพจากวอชิงตัน ดี.ซี. ที่จับมือกับ SpaceX เพื่อทดลองผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในสุญญากาศของอวกาศ โดยใช้ “Fabships” — แคปซูลขนาดไมโครเวฟที่ติดไปกับจรวด Falcon 9 ภารกิจนี้จะมีทั้งหมด 12 ครั้ง เริ่มปลายปีนี้ โดย Fabships จะถูกส่งขึ้นไปพร้อมจรวด ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีในการสัมผัสสุญญากาศระดับสูง ก่อนกลับลงมาพร้อมข้อมูลสำคัญเพื่อพัฒนาโรงงานผลิตชิปในวงโคจร CEO ของ Besxar, Ashley Pilipiszyn อธิบายว่า “โรงงานผลิตชิปบนโลกไม่สามารถสร้างสุญญากาศที่บริสุทธิ์ได้เท่ากับอวกาศ ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพและผลผลิตของชิปยุคใหม่” แนวคิดนี้จึงเปรียบเสมือนการใช้ธรรมชาติของอวกาศเป็นห้องคลีนรูมขนาดยักษ์ แม้จะยังห่างไกลจากการผลิตเชิงพาณิชย์ แต่ Besxar ได้รับการสนับสนุนจาก NVIDIA และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ พร้อมเป้าหมายในการสร้างชิปที่ทนรังสีและเหมาะกับการใช้งานในอวกาศและกองทัพ ✅ Besxar จับมือ SpaceX ทดลองผลิตชิปในอวกาศ ➡️ ใช้แคปซูล “Fabships” ติดไปกับจรวด Falcon 9 ➡️ สัมผัสสุญญากาศระดับสูงก่อนกลับสู่โลกภายใน 10 นาที ✅ เป้าหมายคือสร้างโรงงานผลิตชิปในวงโคจร ➡️ ใช้สุญญากาศของอวกาศแทนห้องคลีนรูม ➡️ หวังเพิ่มคุณภาพและผลผลิตของเซมิคอนดักเตอร์ ✅ ภารกิจเริ่มปลายปีนี้ รวม 12 ครั้ง ➡️ เป็นโครงการทดลองเพื่อเก็บข้อมูล ➡️ ยังไม่ใช่การผลิตเชิงพาณิชย์ ✅ ได้รับการสนับสนุนจาก NVIDIA และกระทรวงกลาโหม ➡️ มีเป้าหมายในการผลิตชิปที่ทนรังสีสำหรับการใช้งานด้านกลาโหม ➡️ อาจเปลี่ยนโฉมหน้าการผลิตชิปในอนาคต ‼️ คำเตือนด้านความเป็นไปได้ ⛔ ยังอยู่ในขั้นทดลอง ไม่สามารถผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้ก่อนปี 2030 ⛔ ต้องพิสูจน์ว่าชิปสามารถทนต่อแรงกระแทกจากการปล่อยและกลับสู่โลกได้ ‼️ คำเตือนด้านต้นทุนและความเสี่ยง ⛔ การสร้างระบบผลิตในอวกาศมีต้นทุนสูงมาก ⛔ หากไม่สำเร็จ อาจเป็นเพียง “โน้ตเชิงทดลองราคาแพง” ในประวัติศาสตร์เทคโนโลยี https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/elon-musks-spacex-to-launch-reusable-fabships-for-orbital-chip-manufacturing-experiments-besxars-orbital-chipmaking-experiments-to-occur-over-12-launches
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ อนุทิน แจงลงนามปฏิญญา ไทย-กัมพูชา ต้องการหยุดสงครามให้ประเทศสงบสุข ยันไทยไม่เสียอธิปไตย-ดินแดน เตือนกัมพูชาอย่าคิดรุกราน ย้ำเปิดด่าน ต้องฟังเสียงประชาชน ชี้ ลงนามแร่เเรร์เอิร์ธไทยไม่เสียหาย บอกต้องการขายหินในราคาทองคำไม่ใช่มาชั่งกิโลขาย ชี้บาลานซ์ 2 ชาติ ไทยต้องรักตัวเอง ไม่เหยียบเรือสองแคม ลั่น ”ต้องเป็นคู่ค้า ไม่ใช่ขี้ข้า“

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000105618

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    นายกฯ อนุทิน แจงลงนามปฏิญญา ไทย-กัมพูชา ต้องการหยุดสงครามให้ประเทศสงบสุข ยันไทยไม่เสียอธิปไตย-ดินแดน เตือนกัมพูชาอย่าคิดรุกราน ย้ำเปิดด่าน ต้องฟังเสียงประชาชน ชี้ ลงนามแร่เเรร์เอิร์ธไทยไม่เสียหาย บอกต้องการขายหินในราคาทองคำไม่ใช่มาชั่งกิโลขาย ชี้บาลานซ์ 2 ชาติ ไทยต้องรักตัวเอง ไม่เหยียบเรือสองแคม ลั่น ”ต้องเป็นคู่ค้า ไม่ใช่ขี้ข้า“ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000105618 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตะกรุดหนังเสือวัดกม.26ใน จ.ยะลา
    ตะกรุดหนังเสือวัดกม.26ใน อ.บันนังสตา จ.ยะลา //พระดีพิธีใหญ่ !! เฉียบ!!! ขลัง!!!!ปลุกเสกโดยพระเกจิสายเขาอ้อ-สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก!!หายาก สร้างจำนวนน้อย!!!! //พระสถาพสวยมาก สมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณอํานาจเด่นด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด มหาอุตม์ เมตตามหานิยม น่าเกรงขาม บารมี มีไว้สำหรับป้องกันคุณไสย อำนาจ บารมี ผู้บูชามีความน่าเกรงขาม ดุจดังพญาเสือ และช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผ่านการปลุกเสกจากเกจิอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ **

    ** พระดีพิธีใหญ่ !! เฉียบ!!! ขลัง!! พระเกจิรวมพลัง!!!พระเกจิสายเขาอ้อ...สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก!! จัดสร้างโดย...พระปลัดจิรเดช นาถกโร (อาจารย์ต้อม) เกจิที่โด่งดังอีกท่านนึงในจังหวัดยะลา ท่านได้สร้างและปลุกเสก มีประสบการณ์มากมาย ทั้งในเรื่องแคล้วคลาด กันคุณไสย์ต่างฯครับ วัตถุมงคลของท่านล้วนแล้วแต่เข้มขลังจากประสบการณ์มากมายในสามจังหวัดชายแดน

    ** รายนามพระเกจิอาจารย์นั่งปรกพุทธาภิเษก
    1. พระครูไพบูลย์สิกขการ (พ่อท่านหวาน อภโย) วัดสะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา อายุ96ปี(จุดเทียนชัยและนั่งปรกบริกรรม)
    2. พระครูพิสิฐธรรมคุณ(พ่อท่านเอียด ครุธัมโม) วัดโคกแย้ม อ.เมือง จ.พัทลุง(นั่งปรกและดับเทียนชัย)
    3. พระครูศิริวรรณคณารักษ์ (หลวงพ่อพัฒน์) วัดป่าพะยอม อำเภอป่าพะยอม จ.พัทลุง
    4. พระครูอาทรศุภการ (พ่อท่านพล อาสโภ) วัดนาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานีผู้สืบทอด พุทธาคม ในสายหลวงพ่อทวดตัวจริงจากอาจารย์นองวัดทรายขาว..โดยเฉพาะ ตำราการปลุกพระเครื่องหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ซึ่งแม้ที่อื่นจะทำได้ ก็ไม่เหมือน สายตรง จากวัดช้างให้
    5. พระครูวรปัญญาประยุต วัดราษฎร์สโมสร อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
    6. พระครูสถิตธีรธรรม (พ่อท่านถวิล ถิรธมโม) วัดยะหาประชาราม อ.ยะหา จ.ยะลา ศิษย์สายหลวงพ่อเซี่ยง วัดยะหา
    7. พ่อท่านห้อง ธัมมวโร วัดเขาอ้อ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง…เจ้าอาวาสวัดเขาอ้อ พัทลุง ผู้สืบวิชาสำนักตักศิลาชื่อดังแห่งเมืองใต้
    8. พ่อท่านตุด จันทวังโส ที่พักสงฆ์หารคอกช้าง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เป็นศิษย์ หลวงปู่สีมั่น เทพอินโท วัดห้วยลาด
    9. พระครูปุญญาพิศาล (พระอาจารย์ชัย กตปุญโญ) วัดพะโค๊ะ อ.สทิงพระ จ.สงขลา
    10. พระครูอนันตพุทธคุณ (พ่อท่านเผ่า ปิยจาโร) วัดพระพุทธ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
    11. พระอาจารย์มงคล วัดสวนใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ศิษย์หลวงปู่สุระ ภูริปัญโญ
    12. พระครูรังสีธรรมโสภิต(พระอาจารย์พนธ์ ) วัดลอน อ.บางแก้ว จ.พัทลุง
    13. พระปลัดจิรเดช นาถกโร (พระอาจารย์ต้อม) วัดกม.26ใน อ.บันนังสตา จ.ยะลา พิธีนี้ไม่ธรรมดา **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    ตะกรุดหนังเสือวัดกม.26ใน จ.ยะลา ตะกรุดหนังเสือวัดกม.26ใน อ.บันนังสตา จ.ยะลา //พระดีพิธีใหญ่ !! เฉียบ!!! ขลัง!!!!ปลุกเสกโดยพระเกจิสายเขาอ้อ-สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก!!หายาก สร้างจำนวนน้อย!!!! //พระสถาพสวยมาก สมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณอํานาจเด่นด้านคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด มหาอุตม์ เมตตามหานิยม น่าเกรงขาม บารมี มีไว้สำหรับป้องกันคุณไสย อำนาจ บารมี ผู้บูชามีความน่าเกรงขาม ดุจดังพญาเสือ และช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผ่านการปลุกเสกจากเกจิอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ** ** พระดีพิธีใหญ่ !! เฉียบ!!! ขลัง!! พระเกจิรวมพลัง!!!พระเกจิสายเขาอ้อ...สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก!! จัดสร้างโดย...พระปลัดจิรเดช นาถกโร (อาจารย์ต้อม) เกจิที่โด่งดังอีกท่านนึงในจังหวัดยะลา ท่านได้สร้างและปลุกเสก มีประสบการณ์มากมาย ทั้งในเรื่องแคล้วคลาด กันคุณไสย์ต่างฯครับ วัตถุมงคลของท่านล้วนแล้วแต่เข้มขลังจากประสบการณ์มากมายในสามจังหวัดชายแดน ** รายนามพระเกจิอาจารย์นั่งปรกพุทธาภิเษก 1. พระครูไพบูลย์สิกขการ (พ่อท่านหวาน อภโย) วัดสะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา อายุ96ปี(จุดเทียนชัยและนั่งปรกบริกรรม) 2. พระครูพิสิฐธรรมคุณ(พ่อท่านเอียด ครุธัมโม) วัดโคกแย้ม อ.เมือง จ.พัทลุง(นั่งปรกและดับเทียนชัย) 3. พระครูศิริวรรณคณารักษ์ (หลวงพ่อพัฒน์) วัดป่าพะยอม อำเภอป่าพะยอม จ.พัทลุง 4. พระครูอาทรศุภการ (พ่อท่านพล อาสโภ) วัดนาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานีผู้สืบทอด พุทธาคม ในสายหลวงพ่อทวดตัวจริงจากอาจารย์นองวัดทรายขาว..โดยเฉพาะ ตำราการปลุกพระเครื่องหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ซึ่งแม้ที่อื่นจะทำได้ ก็ไม่เหมือน สายตรง จากวัดช้างให้ 5. พระครูวรปัญญาประยุต วัดราษฎร์สโมสร อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส 6. พระครูสถิตธีรธรรม (พ่อท่านถวิล ถิรธมโม) วัดยะหาประชาราม อ.ยะหา จ.ยะลา ศิษย์สายหลวงพ่อเซี่ยง วัดยะหา 7. พ่อท่านห้อง ธัมมวโร วัดเขาอ้อ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง…เจ้าอาวาสวัดเขาอ้อ พัทลุง ผู้สืบวิชาสำนักตักศิลาชื่อดังแห่งเมืองใต้ 8. พ่อท่านตุด จันทวังโส ที่พักสงฆ์หารคอกช้าง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เป็นศิษย์ หลวงปู่สีมั่น เทพอินโท วัดห้วยลาด 9. พระครูปุญญาพิศาล (พระอาจารย์ชัย กตปุญโญ) วัดพะโค๊ะ อ.สทิงพระ จ.สงขลา 10. พระครูอนันตพุทธคุณ (พ่อท่านเผ่า ปิยจาโร) วัดพระพุทธ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส 11. พระอาจารย์มงคล วัดสวนใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ศิษย์หลวงปู่สุระ ภูริปัญโญ 12. พระครูรังสีธรรมโสภิต(พระอาจารย์พนธ์ ) วัดลอน อ.บางแก้ว จ.พัทลุง 13. พระปลัดจิรเดช นาถกโร (พระอาจารย์ต้อม) วัดกม.26ใน อ.บันนังสตา จ.ยะลา พิธีนี้ไม่ธรรมดา ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ ลั่นไม่สนคำวิจารณ์เลียนแบบ ยืนยัน "คนละครึ่งพลัส" และ "บัตรสวัสดิการฯ" สร้างเม็ดเงินในระบบ-ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
    https://www.thai-tai.tv/news/22220/
    .
    #ไทยไท #อนุทิน #ยุบสภา #QuickBigWin #คนละครึ่งพลัส #GreenEconomy #ไฟฟ้าชุมชน
    นายกฯ ลั่นไม่สนคำวิจารณ์เลียนแบบ ยืนยัน "คนละครึ่งพลัส" และ "บัตรสวัสดิการฯ" สร้างเม็ดเงินในระบบ-ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง https://www.thai-tai.tv/news/22220/ . #ไทยไท #อนุทิน #ยุบสภา #QuickBigWin #คนละครึ่งพลัส #GreenEconomy #ไฟฟ้าชุมชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: “Digital Footprints” – เมื่อ AI กลายเป็นเครื่องมือปลุกชีวิตลูกที่จากไป

    บทความจาก The Star เผยเรื่องราวสะเทือนใจของพ่อแม่ในสหรัฐฯ ที่สูญเสียลูกจากการใช้เฟนทานิล ซึ่งเป็นสารเสพติดร้ายแรง พวกเขาหันมาใช้เครื่องมือ AI เพื่อสร้างภาพถ่าย วิดีโอ และกราฟิกของลูกที่จากไป—บางครั้งในรูปแบบที่ลูกไม่เคยมีจริง เช่น ใส่ชุดแต่งงาน ขี่ม้า หรือพูดจาก “สวรรค์”

    Tammy Plakstis หนึ่งในแม่ที่สูญเสียลูกชายวัย 29 ปี ได้ใช้แอปอย่าง Photolab และ Canva เพื่อสร้างภาพ AI ของลูกชายในฉากต่าง ๆ เช่น พื้นหลังอวกาศหรือภาพเหมือนในชุดสูท เธอใช้เวลาหลายพันชั่วโมงสร้างภาพให้กับแม่คนอื่น ๆ ในกลุ่ม “Angel Mom” ที่สูญเสียลูกจากเฟนทานิลเช่นกัน

    แม้หลายคนบอกว่าภาพเหล่านี้ช่วยเยียวยาใจ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านจริยธรรมและจิตวิทยาเตือนว่า การใช้ AI ในลักษณะนี้อาจบิดเบือนความทรงจำ และสร้างความคาดหวังที่ไม่สมจริง

    การใช้ AI เพื่อเยียวยาความเศร้า
    พ่อแม่สร้างภาพและวิดีโอของลูกที่เสียชีวิต
    ใช้แอป Photolab และ Canva สร้างกราฟิกในฉากต่าง ๆ
    กลุ่ม “Angel Mom” แชร์ภาพกันในโซเชียลมีเดีย

    ตัวอย่างการใช้งาน
    วิดีโอ AI ของ Rachel DeMaio พูดจาก “สวรรค์” เพื่อเตือนเรื่องเฟนทานิล
    ภาพของ Dylan ในชุดสูทหรือฉากอวกาศ
    ภาพของ Ryan Powell ที่แม่บอกว่า “เขาไม่เคยแต่งตัวแบบนั้น”

    ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ
    Alex John London เตือนว่า AI อาจขัดขวางการเยียวยา
    การบิดเบือนความทรงจำอาจทำให้ไม่ยอมรับความจริง
    Lynn Beck รู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นภาพลูกสาวในฉากที่ไม่เคยเกิดขึ้น

    การออกกฎหมายควบคุม
    รัฐ Pennsylvania ออกกฎหมายห้ามใช้ AI สร้างภาพบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต
    มีการเสนอร่างกฎหมายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ deepfake และการใช้ AI ในระบบสุขภาพ

    ความเสี่ยงจากการบิดเบือนความทรงจำ
    ภาพที่ไม่ตรงกับความจริงอาจทำให้ผู้สูญเสียไม่ยอมรับความจริง
    อาจสร้างความคาดหวังหรือภาพลวงตาที่ขัดขวางการเยียวยา

    การใช้ AI โดยไม่ได้รับความยินยอม
    อาจละเมิดสิทธิของผู้เสียชีวิตและครอบครัว
    เสี่ยงต่อการถูกนำไปใช้ในทางหลอกลวงหรือฉ้อโกง

    การพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป
    บางคนใช้เวลาหลายพันชั่วโมงสร้างภาพ AI
    อาจกลายเป็นพฤติกรรมเสพติดที่ไม่ช่วยให้เยียวยาอย่างแท้จริง

    เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นว่า AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างภาพ แต่เป็นเครื่องมือที่สัมผัสจิตใจมนุษย์อย่างลึกซึ้ง—และการใช้มันเพื่อเยียวยาความเศร้า ต้องมาพร้อมกับความระมัดระวังและความเข้าใจในผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทั้งทางจิตใจและจริยธรรม.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/05/digital-footprints-employing-ai-parents-in-the-us-are-resurrecting-children-lost-to-fentanyl
    📰 หัวข้อข่าว: “Digital Footprints” – เมื่อ AI กลายเป็นเครื่องมือปลุกชีวิตลูกที่จากไป บทความจาก The Star เผยเรื่องราวสะเทือนใจของพ่อแม่ในสหรัฐฯ ที่สูญเสียลูกจากการใช้เฟนทานิล ซึ่งเป็นสารเสพติดร้ายแรง พวกเขาหันมาใช้เครื่องมือ AI เพื่อสร้างภาพถ่าย วิดีโอ และกราฟิกของลูกที่จากไป—บางครั้งในรูปแบบที่ลูกไม่เคยมีจริง เช่น ใส่ชุดแต่งงาน ขี่ม้า หรือพูดจาก “สวรรค์” Tammy Plakstis หนึ่งในแม่ที่สูญเสียลูกชายวัย 29 ปี ได้ใช้แอปอย่าง Photolab และ Canva เพื่อสร้างภาพ AI ของลูกชายในฉากต่าง ๆ เช่น พื้นหลังอวกาศหรือภาพเหมือนในชุดสูท เธอใช้เวลาหลายพันชั่วโมงสร้างภาพให้กับแม่คนอื่น ๆ ในกลุ่ม “Angel Mom” ที่สูญเสียลูกจากเฟนทานิลเช่นกัน แม้หลายคนบอกว่าภาพเหล่านี้ช่วยเยียวยาใจ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านจริยธรรมและจิตวิทยาเตือนว่า การใช้ AI ในลักษณะนี้อาจบิดเบือนความทรงจำ และสร้างความคาดหวังที่ไม่สมจริง ✅ การใช้ AI เพื่อเยียวยาความเศร้า ➡️ พ่อแม่สร้างภาพและวิดีโอของลูกที่เสียชีวิต ➡️ ใช้แอป Photolab และ Canva สร้างกราฟิกในฉากต่าง ๆ ➡️ กลุ่ม “Angel Mom” แชร์ภาพกันในโซเชียลมีเดีย ✅ ตัวอย่างการใช้งาน ➡️ วิดีโอ AI ของ Rachel DeMaio พูดจาก “สวรรค์” เพื่อเตือนเรื่องเฟนทานิล ➡️ ภาพของ Dylan ในชุดสูทหรือฉากอวกาศ ➡️ ภาพของ Ryan Powell ที่แม่บอกว่า “เขาไม่เคยแต่งตัวแบบนั้น” ✅ ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ ➡️ Alex John London เตือนว่า AI อาจขัดขวางการเยียวยา ➡️ การบิดเบือนความทรงจำอาจทำให้ไม่ยอมรับความจริง ➡️ Lynn Beck รู้สึกไม่สบายใจเมื่อเห็นภาพลูกสาวในฉากที่ไม่เคยเกิดขึ้น ✅ การออกกฎหมายควบคุม ➡️ รัฐ Pennsylvania ออกกฎหมายห้ามใช้ AI สร้างภาพบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต ➡️ มีการเสนอร่างกฎหมายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ deepfake และการใช้ AI ในระบบสุขภาพ ‼️ ความเสี่ยงจากการบิดเบือนความทรงจำ ⛔ ภาพที่ไม่ตรงกับความจริงอาจทำให้ผู้สูญเสียไม่ยอมรับความจริง ⛔ อาจสร้างความคาดหวังหรือภาพลวงตาที่ขัดขวางการเยียวยา ‼️ การใช้ AI โดยไม่ได้รับความยินยอม ⛔ อาจละเมิดสิทธิของผู้เสียชีวิตและครอบครัว ⛔ เสี่ยงต่อการถูกนำไปใช้ในทางหลอกลวงหรือฉ้อโกง ‼️ การพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป ⛔ บางคนใช้เวลาหลายพันชั่วโมงสร้างภาพ AI ⛔ อาจกลายเป็นพฤติกรรมเสพติดที่ไม่ช่วยให้เยียวยาอย่างแท้จริง เรื่องราวนี้สะท้อนให้เห็นว่า AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างภาพ แต่เป็นเครื่องมือที่สัมผัสจิตใจมนุษย์อย่างลึกซึ้ง—และการใช้มันเพื่อเยียวยาความเศร้า ต้องมาพร้อมกับความระมัดระวังและความเข้าใจในผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทั้งทางจิตใจและจริยธรรม. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/05/digital-footprints-employing-ai-parents-in-the-us-are-resurrecting-children-lost-to-fentanyl
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Digital footprints: Employing AI, parents in the US are resurrecting children lost to fentanyl
    Many say that, without any new photographs of their kids, the practice has helped them heal and feel close to them. Others worry this use of AI has gone too far.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI’s Dial-Up Era” – เมื่อ AI อยู่ในยุคโมเด็มเสียงหวีด

    ในปี 1995 อินเทอร์เน็ตยังใหม่มาก—เว็บไซต์มีไม่ถึง 3,000 แห่ง โมเด็มส่งเสียงหวีดตอนเชื่อมต่อ และไม่มีใครกล้าใส่บัตรเครดิตออนไลน์ แต่ภายใน 25 ปี โลกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เราไว้ใจคนแปลกหน้าในอินเทอร์เน็ตให้ขับรถให้เรา พาเราไปพักในบ้านของพวกเขา และแม้แต่หาคู่ให้เรา

    ผู้เขียน Nowfal ชี้ว่า AI ในวันนี้ก็เหมือนอินเทอร์เน็ตในปี 1995—ยังอยู่ในช่วง “เสียงหวีด” ของการเริ่มต้น และทั้งฝ่ายมองโลกในแง่ดีและแง่ร้ายต่างก็เข้าใจผิดในบางจุด

    การเปรียบเทียบกับยุคอินเทอร์เน็ต
    อินเทอร์เน็ตเคยถูกมองว่าเป็นแฟชั่นชั่วคราว
    แต่กลับเปลี่ยนวิถีชีวิตมนุษย์ในทุกมิติ
    AI กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้นแบบเดียวกัน

    ปริศนาการจ้างงานกับ AI
    บางอาชีพ เช่น รังสีแพทย์ ยังไม่ถูกแทนที่แม้มี AI
    Jevons Paradox: ยิ่งเทคโนโลยีทำให้บริการถูกลง ความต้องการกลับเพิ่ม
    แต่ผลกระทบขึ้นกับอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์ยังไม่อิ่มตัว แต่สิ่งทออิ่มตัวแล้ว

    เศรษฐศาสตร์ของฟองสบู่ AI
    การลงทุนใน AI คล้ายยุคดอทคอม
    บริษัทบางแห่งระดมทุนมหาศาลโดยไม่มีผลิตภัณฑ์
    แต่โครงสร้างพื้นฐานที่สร้างขึ้นจะอยู่ต่อแม้ฟองสบู่แตก

    การเปลี่ยนแปลงของอาชีพ
    อาชีพใหม่จะเกิดขึ้นจาก AI เช่นเดียวกับที่อินเทอร์เน็ตสร้าง YouTuber, Influencer
    ความหมายของ “วิศวกรซอฟต์แวร์” จะเปลี่ยนไป
    คนทั่วไปจะสร้างซอฟต์แวร์โดยไม่ต้องเป็นโปรแกรมเมอร์

    ความไม่แน่นอนที่คาดเดาได้
    เราคาดการณ์ทิศทางได้ แต่ไม่รู้รายละเอียด
    เช่นเดียวกับที่ไม่มีใครคาดว่า Airbnb หรือ Uber จะเกิดขึ้นในปี 1995

    อย่าหลงเชื่อสุดโต่งทั้งสองฝั่ง
    ฝ่ายที่บอกว่า AI จะทำลายงานทั้งหมดอาจมองข้ามความซับซ้อนของอุตสาหกรรม
    ฝ่ายที่เชื่อว่า AI จะสร้างงานเสมออาจไม่เห็นข้อจำกัดของดีมานด์

    ฟองสบู่ AI อาจแตก
    การลงทุนที่เกินจริงอาจนำไปสู่การล่มสลายของบริษัท
    แต่โครงสร้างพื้นฐานที่สร้างไว้จะยังคงอยู่

    การเปลี่ยนแปลงของอาชีพไม่เท่ากับความมั่นคง
    แม้จะมี “ผู้สร้างคอนเทนต์” มากขึ้น แต่รายได้ไม่เท่ากับนักข่าวมืออาชีพในอดีต
    การเปลี่ยนแปลงอาจทำให้เกิดความไม่มั่นคงในอาชีพใหม่

    AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนโลก เหมือนอินเทอร์เน็ตในยุคโมเด็มเสียงหวีด เราอาจไม่รู้ว่ามันจะพาเราไปถึงไหน แต่สิ่งที่แน่นอนคือ—มันจะเปลี่ยนทุกอย่าง และเราควรเตรียมตัวให้พร้อมทั้งในแง่โอกาสและความเสี่ยง

    https://www.wreflection.com/p/ai-dial-up-era
    📰 “AI’s Dial-Up Era” – เมื่อ AI อยู่ในยุคโมเด็มเสียงหวีด ในปี 1995 อินเทอร์เน็ตยังใหม่มาก—เว็บไซต์มีไม่ถึง 3,000 แห่ง โมเด็มส่งเสียงหวีดตอนเชื่อมต่อ และไม่มีใครกล้าใส่บัตรเครดิตออนไลน์ แต่ภายใน 25 ปี โลกเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เราไว้ใจคนแปลกหน้าในอินเทอร์เน็ตให้ขับรถให้เรา พาเราไปพักในบ้านของพวกเขา และแม้แต่หาคู่ให้เรา ผู้เขียน Nowfal ชี้ว่า AI ในวันนี้ก็เหมือนอินเทอร์เน็ตในปี 1995—ยังอยู่ในช่วง “เสียงหวีด” ของการเริ่มต้น และทั้งฝ่ายมองโลกในแง่ดีและแง่ร้ายต่างก็เข้าใจผิดในบางจุด ✅ การเปรียบเทียบกับยุคอินเทอร์เน็ต ➡️ อินเทอร์เน็ตเคยถูกมองว่าเป็นแฟชั่นชั่วคราว ➡️ แต่กลับเปลี่ยนวิถีชีวิตมนุษย์ในทุกมิติ ➡️ AI กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้นแบบเดียวกัน ✅ ปริศนาการจ้างงานกับ AI ➡️ บางอาชีพ เช่น รังสีแพทย์ ยังไม่ถูกแทนที่แม้มี AI ➡️ Jevons Paradox: ยิ่งเทคโนโลยีทำให้บริการถูกลง ความต้องการกลับเพิ่ม ➡️ แต่ผลกระทบขึ้นกับอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์ยังไม่อิ่มตัว แต่สิ่งทออิ่มตัวแล้ว ✅ เศรษฐศาสตร์ของฟองสบู่ AI ➡️ การลงทุนใน AI คล้ายยุคดอทคอม ➡️ บริษัทบางแห่งระดมทุนมหาศาลโดยไม่มีผลิตภัณฑ์ ➡️ แต่โครงสร้างพื้นฐานที่สร้างขึ้นจะอยู่ต่อแม้ฟองสบู่แตก ✅ การเปลี่ยนแปลงของอาชีพ ➡️ อาชีพใหม่จะเกิดขึ้นจาก AI เช่นเดียวกับที่อินเทอร์เน็ตสร้าง YouTuber, Influencer ➡️ ความหมายของ “วิศวกรซอฟต์แวร์” จะเปลี่ยนไป ➡️ คนทั่วไปจะสร้างซอฟต์แวร์โดยไม่ต้องเป็นโปรแกรมเมอร์ ✅ ความไม่แน่นอนที่คาดเดาได้ ➡️ เราคาดการณ์ทิศทางได้ แต่ไม่รู้รายละเอียด ➡️ เช่นเดียวกับที่ไม่มีใครคาดว่า Airbnb หรือ Uber จะเกิดขึ้นในปี 1995 ‼️ อย่าหลงเชื่อสุดโต่งทั้งสองฝั่ง ⛔ ฝ่ายที่บอกว่า AI จะทำลายงานทั้งหมดอาจมองข้ามความซับซ้อนของอุตสาหกรรม ⛔ ฝ่ายที่เชื่อว่า AI จะสร้างงานเสมออาจไม่เห็นข้อจำกัดของดีมานด์ ‼️ ฟองสบู่ AI อาจแตก ⛔ การลงทุนที่เกินจริงอาจนำไปสู่การล่มสลายของบริษัท ⛔ แต่โครงสร้างพื้นฐานที่สร้างไว้จะยังคงอยู่ ‼️ การเปลี่ยนแปลงของอาชีพไม่เท่ากับความมั่นคง ⛔ แม้จะมี “ผู้สร้างคอนเทนต์” มากขึ้น แต่รายได้ไม่เท่ากับนักข่าวมืออาชีพในอดีต ⛔ การเปลี่ยนแปลงอาจทำให้เกิดความไม่มั่นคงในอาชีพใหม่ AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนโลก เหมือนอินเทอร์เน็ตในยุคโมเด็มเสียงหวีด เราอาจไม่รู้ว่ามันจะพาเราไปถึงไหน แต่สิ่งที่แน่นอนคือ—มันจะเปลี่ยนทุกอย่าง และเราควรเตรียมตัวให้พร้อมทั้งในแง่โอกาสและความเสี่ยง https://www.wreflection.com/p/ai-dial-up-era
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • “You Can’t cURL a Border” – เมื่อการเดินทางกลายเป็นปัญหาทางรัฐศาสตร์และโปรแกรมมิ่ง

    Vadim Drobinin นักพัฒนา iOS และนักเดินทางตัวยง เผชิญกับปัญหาที่หลายคนอาจไม่เคยคิด—การเดินทางระหว่างประเทศไม่ใช่แค่เรื่องของตั๋วเครื่องบินและวีซ่า แต่คือการจัดการ “สถานะ” ที่ซับซ้อนระหว่างระบบราชการหลายประเทศ เช่น กฎ Schengen, การนับวันภาษีของ UK, การหมดอายุของพาสปอร์ต หรือแม้แต่การเปลี่ยนเขตเวลาในช่วงรอมฎอนของโมร็อกโก

    เขาเล่าว่า ก่อนจะกดซื้อไฟลต์ราคาถูกไปไอซ์แลนด์ เขาต้องใช้เวลา 20 นาทีตรวจสอบว่า “ทริปนี้จะทำให้สถานะอะไรพังไหม” เช่น ทำให้หมดสิทธิ์เป็นผู้มีถิ่นฐานภาษีใน UK หรือทำให้เกินจำนวนวันที่อนุญาตใน Schengen

    จากความยุ่งยากนี้ เขาสร้างแอปชื่อ “Residency” ที่ทำหน้าที่เหมือน “ลินเตอร์” หรือเครื่องตรวจสอบข้อผิดพลาดก่อนเดินทาง โดยจำลองสถานะจากข้อมูลการเดินทาง, เอกสาร, เขตเวลา และกฎของแต่ละประเทศ เพื่อบอกว่า “ถ้าทำแบบนี้ จะเกิดอะไรขึ้น”

    ปัญหาการเดินทางข้ามประเทศ
    ระบบราชการแต่ละประเทศมีเกณฑ์ต่างกันในการนับ “วัน”
    Schengen ใช้ระบบ rolling window, UK นับเที่ยงคืน, Morocco เปลี่ยนเขตเวลาในรอมฎอน
    พาสปอร์ตมีเงื่อนไขเช่น “ต้องมีหน้าเปล่า” หรือ “ต้องมีอายุเกิน 6 เดือน”

    การสร้างแอป Residency
    แอปทำงานแบบ local ไม่ต้องเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์
    จำลองสถานะจากข้อมูลจริง เช่น รูปถ่าย, GPS, เอกสาร
    ใช้ “state machine” เพื่อจัดการกฎของแต่ละประเทศ
    รองรับการเปลี่ยนแปลง เช่น timezone database หรือกฎใหม่

    การใช้งานจริง
    แอปช่วยตรวจสอบก่อนซื้อไฟลต์ไปไอซ์แลนด์
    บอกได้ว่าไม่ต้องใช้ IDP, ไม่เกินวันใน Schengen, และจะหมดสถานะภาษี UK
    เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเห็นข้อมูลตรงกันกับแอป

    แนวคิดเบื้องหลัง
    “You can’t cURL a border” หมายถึง API ไม่สามารถบอกสถานะคุณได้
    ต้องสร้างระบบที่เข้าใจ “state” ของคุณเอง
    เป้าหมายไม่ใช่โน้มน้าวเจ้าหน้าที่ แต่คือ “ไม่พลาดในสิ่งที่เขาจะจับผิดคุณได้”

    ความซับซ้อนของระบบราชการ
    ไม่มีระบบกลางที่บอกสถานะคุณได้ครบทุกมิติ
    การนับวัน, เขตเวลา, และเงื่อนไขเอกสารแตกต่างกันมาก

    ความเสี่ยงจากการไม่ตรวจสอบก่อนเดินทาง
    อาจทำให้หมดสิทธิ์เป็นผู้มีถิ่นฐานภาษี
    อาจถูกปฏิเสธเข้าเมืองเพราะพาสปอร์ตหมดอายุหรือไม่ตรงเงื่อนไข
    การเดินทางผ่านประเทศอาจนับเป็น “อยู่” แม้จะไม่ได้ออกจากสนามบิน

    https://drobinin.com/posts/you-cant-curl-a-border/
    📰 “You Can’t cURL a Border” – เมื่อการเดินทางกลายเป็นปัญหาทางรัฐศาสตร์และโปรแกรมมิ่ง Vadim Drobinin นักพัฒนา iOS และนักเดินทางตัวยง เผชิญกับปัญหาที่หลายคนอาจไม่เคยคิด—การเดินทางระหว่างประเทศไม่ใช่แค่เรื่องของตั๋วเครื่องบินและวีซ่า แต่คือการจัดการ “สถานะ” ที่ซับซ้อนระหว่างระบบราชการหลายประเทศ เช่น กฎ Schengen, การนับวันภาษีของ UK, การหมดอายุของพาสปอร์ต หรือแม้แต่การเปลี่ยนเขตเวลาในช่วงรอมฎอนของโมร็อกโก เขาเล่าว่า ก่อนจะกดซื้อไฟลต์ราคาถูกไปไอซ์แลนด์ เขาต้องใช้เวลา 20 นาทีตรวจสอบว่า “ทริปนี้จะทำให้สถานะอะไรพังไหม” เช่น ทำให้หมดสิทธิ์เป็นผู้มีถิ่นฐานภาษีใน UK หรือทำให้เกินจำนวนวันที่อนุญาตใน Schengen จากความยุ่งยากนี้ เขาสร้างแอปชื่อ “Residency” ที่ทำหน้าที่เหมือน “ลินเตอร์” หรือเครื่องตรวจสอบข้อผิดพลาดก่อนเดินทาง โดยจำลองสถานะจากข้อมูลการเดินทาง, เอกสาร, เขตเวลา และกฎของแต่ละประเทศ เพื่อบอกว่า “ถ้าทำแบบนี้ จะเกิดอะไรขึ้น” ✅ ปัญหาการเดินทางข้ามประเทศ ➡️ ระบบราชการแต่ละประเทศมีเกณฑ์ต่างกันในการนับ “วัน” ➡️ Schengen ใช้ระบบ rolling window, UK นับเที่ยงคืน, Morocco เปลี่ยนเขตเวลาในรอมฎอน ➡️ พาสปอร์ตมีเงื่อนไขเช่น “ต้องมีหน้าเปล่า” หรือ “ต้องมีอายุเกิน 6 เดือน” ✅ การสร้างแอป Residency ➡️ แอปทำงานแบบ local ไม่ต้องเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ ➡️ จำลองสถานะจากข้อมูลจริง เช่น รูปถ่าย, GPS, เอกสาร ➡️ ใช้ “state machine” เพื่อจัดการกฎของแต่ละประเทศ ➡️ รองรับการเปลี่ยนแปลง เช่น timezone database หรือกฎใหม่ ✅ การใช้งานจริง ➡️ แอปช่วยตรวจสอบก่อนซื้อไฟลต์ไปไอซ์แลนด์ ➡️ บอกได้ว่าไม่ต้องใช้ IDP, ไม่เกินวันใน Schengen, และจะหมดสถานะภาษี UK ➡️ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเห็นข้อมูลตรงกันกับแอป ✅ แนวคิดเบื้องหลัง ➡️ “You can’t cURL a border” หมายถึง API ไม่สามารถบอกสถานะคุณได้ ➡️ ต้องสร้างระบบที่เข้าใจ “state” ของคุณเอง ➡️ เป้าหมายไม่ใช่โน้มน้าวเจ้าหน้าที่ แต่คือ “ไม่พลาดในสิ่งที่เขาจะจับผิดคุณได้” ‼️ ความซับซ้อนของระบบราชการ ⛔ ไม่มีระบบกลางที่บอกสถานะคุณได้ครบทุกมิติ ⛔ การนับวัน, เขตเวลา, และเงื่อนไขเอกสารแตกต่างกันมาก ‼️ ความเสี่ยงจากการไม่ตรวจสอบก่อนเดินทาง ⛔ อาจทำให้หมดสิทธิ์เป็นผู้มีถิ่นฐานภาษี ⛔ อาจถูกปฏิเสธเข้าเมืองเพราะพาสปอร์ตหมดอายุหรือไม่ตรงเงื่อนไข ⛔ การเดินทางผ่านประเทศอาจนับเป็น “อยู่” แม้จะไม่ได้ออกจากสนามบิน https://drobinin.com/posts/you-cant-curl-a-border/
    DROBININ.COM
    You can't cURL a Border
    Country borders don't return JSON, they return judgment. So I built a state machine for travel when governments won't expose your state.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Manifold” พื้นฐานแห่งจักรวาลที่ซ่อนอยู่ในคณิตศาสตร์และฟิสิกส์

    ลองจินตนาการว่าคุณยืนอยู่กลางทุ่งกว้าง โลกดูแบนราบจากมุมมองของคุณ แต่เรารู้ดีว่าโลกกลม—นี่คือจุดเริ่มต้นของแนวคิด “Manifold” หรือ “พหุพาค” ที่เปลี่ยนวิธีคิดของนักคณิตศาสตร์และนักฟิสิกส์ทั่วโลก

    เรื่องเล่าจากอดีตสู่ปัจจุบัน
    ในศตวรรษที่ 19 Bernhard Riemann นักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมันได้เสนอแนวคิดใหม่เกี่ยวกับ “พื้นที่” ที่ไม่จำกัดแค่แบบแบนราบแบบยุคลิด เขาเสนอว่าเราสามารถคิดถึงพื้นที่ที่โค้งงอได้ และสามารถมีมิติได้มากกว่าสามมิติที่เราคุ้นเคย แนวคิดนี้กลายเป็นรากฐานของ “Topology” หรือ “ภูมิรูปศาสตร์” และถูกนำไปใช้ในฟิสิกส์ โดยเฉพาะในทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของ Einstein ที่มองว่า “อวกาศ-เวลา” คือ manifold สี่มิติที่โค้งงอจากแรงโน้มถ่วง

    Manifold คืออะไร?
    Manifold คือพื้นที่ที่เมื่อซูมเข้าไปใกล้ ๆ จะดูเหมือนพื้นที่ยุคลิด เช่น พื้นผิวโลกที่ดูแบนเมื่อมองจากจุดเล็ก ๆ แต่จริง ๆ แล้วโค้งเป็นทรงกลม หรือวงกลมที่ดูเหมือนเส้นตรงเมื่อมองใกล้ ๆ แต่ถ้าเป็นรูปเลขแปดที่ตัดกันตรงกลาง จะไม่ใช่ manifold เพราะจุดตัดนั้นไม่สามารถมองว่าเป็นพื้นที่ยุคลิดได้

    การใช้งานในโลกจริง
    Manifold ไม่ได้อยู่แค่ในตำรา แต่ยังใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น การทำความเข้าใจการทำงานของสมองจากข้อมูลนิวรอนนับพัน หรือการจำลองการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์และอนุภาคควอนตัม โดยใช้ manifold เป็นพื้นฐานในการคำนวณและจำลองพฤติกรรม

    เกร็ดเสริมจากภายนอก
    ใน Machine Learning มีเทคนิคชื่อ “Manifold Learning” ที่ใช้ลดมิติของข้อมูลเพื่อให้เข้าใจโครงสร้างภายใน เช่น t-SNE หรือ UMAP

    ในกราฟิก 3D การสร้างพื้นผิววัตถุที่สมจริงก็ใช้แนวคิด manifold เพื่อจัดการกับโครงสร้างพื้นผิวที่ซับซ้อน

    แนวคิดพื้นฐานของ Manifold
    เป็นพื้นที่ที่ดูเหมือนยุคลิดเมื่อมองใกล้ ๆ
    ถูกเสนอโดย Bernhard Riemann ในศตวรรษที่ 19
    เป็นจุดเริ่มต้นของวิชา Topology

    การประยุกต์ใช้ในฟิสิกส์
    Einstein ใช้ในทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป
    อวกาศ-เวลาเป็น manifold สี่มิติที่โค้งจากแรงโน้มถ่วง

    ตัวอย่างทางคณิตศาสตร์
    วงกลมเป็น manifold หนึ่งมิติ
    รูปเลขแปดไม่ใช่ manifold เพราะมีจุดตัดที่ไม่ยุคลิด

    การใช้งานในวิทยาการข้อมูล
    ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลนิวรอน
    ใช้จำลองการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์และอนุภาค

    การแบ่งพื้นที่ด้วยแผนที่ (Chart) และแอตลาส
    ใช้ชุดพิกัดเพื่ออธิบายแต่ละส่วนของ manifold
    เชื่อมโยงแผนที่ต่าง ๆ ด้วยกฎการแปลงพิกัด

    https://www.quantamagazine.org/what-is-a-manifold-20251103/
    🧠 "Manifold” พื้นฐานแห่งจักรวาลที่ซ่อนอยู่ในคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ ลองจินตนาการว่าคุณยืนอยู่กลางทุ่งกว้าง โลกดูแบนราบจากมุมมองของคุณ แต่เรารู้ดีว่าโลกกลม—นี่คือจุดเริ่มต้นของแนวคิด “Manifold” หรือ “พหุพาค” ที่เปลี่ยนวิธีคิดของนักคณิตศาสตร์และนักฟิสิกส์ทั่วโลก 📜 เรื่องเล่าจากอดีตสู่ปัจจุบัน ในศตวรรษที่ 19 Bernhard Riemann นักคณิตศาสตร์ชาวเยอรมันได้เสนอแนวคิดใหม่เกี่ยวกับ “พื้นที่” ที่ไม่จำกัดแค่แบบแบนราบแบบยุคลิด เขาเสนอว่าเราสามารถคิดถึงพื้นที่ที่โค้งงอได้ และสามารถมีมิติได้มากกว่าสามมิติที่เราคุ้นเคย แนวคิดนี้กลายเป็นรากฐานของ “Topology” หรือ “ภูมิรูปศาสตร์” และถูกนำไปใช้ในฟิสิกส์ โดยเฉพาะในทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของ Einstein ที่มองว่า “อวกาศ-เวลา” คือ manifold สี่มิติที่โค้งงอจากแรงโน้มถ่วง 🔍 Manifold คืออะไร? Manifold คือพื้นที่ที่เมื่อซูมเข้าไปใกล้ ๆ จะดูเหมือนพื้นที่ยุคลิด เช่น พื้นผิวโลกที่ดูแบนเมื่อมองจากจุดเล็ก ๆ แต่จริง ๆ แล้วโค้งเป็นทรงกลม หรือวงกลมที่ดูเหมือนเส้นตรงเมื่อมองใกล้ ๆ แต่ถ้าเป็นรูปเลขแปดที่ตัดกันตรงกลาง จะไม่ใช่ manifold เพราะจุดตัดนั้นไม่สามารถมองว่าเป็นพื้นที่ยุคลิดได้ 📚 การใช้งานในโลกจริง Manifold ไม่ได้อยู่แค่ในตำรา แต่ยังใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น การทำความเข้าใจการทำงานของสมองจากข้อมูลนิวรอนนับพัน หรือการจำลองการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์และอนุภาคควอนตัม โดยใช้ manifold เป็นพื้นฐานในการคำนวณและจำลองพฤติกรรม 🧩 เกร็ดเสริมจากภายนอก 💠 ใน Machine Learning มีเทคนิคชื่อ “Manifold Learning” ที่ใช้ลดมิติของข้อมูลเพื่อให้เข้าใจโครงสร้างภายใน เช่น t-SNE หรือ UMAP 💠 ในกราฟิก 3D การสร้างพื้นผิววัตถุที่สมจริงก็ใช้แนวคิด manifold เพื่อจัดการกับโครงสร้างพื้นผิวที่ซับซ้อน ✅ แนวคิดพื้นฐานของ Manifold ➡️ เป็นพื้นที่ที่ดูเหมือนยุคลิดเมื่อมองใกล้ ๆ ➡️ ถูกเสนอโดย Bernhard Riemann ในศตวรรษที่ 19 ➡️ เป็นจุดเริ่มต้นของวิชา Topology ✅ การประยุกต์ใช้ในฟิสิกส์ ➡️ Einstein ใช้ในทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ➡️ อวกาศ-เวลาเป็น manifold สี่มิติที่โค้งจากแรงโน้มถ่วง ✅ ตัวอย่างทางคณิตศาสตร์ ➡️ วงกลมเป็น manifold หนึ่งมิติ ➡️ รูปเลขแปดไม่ใช่ manifold เพราะมีจุดตัดที่ไม่ยุคลิด ✅ การใช้งานในวิทยาการข้อมูล ➡️ ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลนิวรอน ➡️ ใช้จำลองการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์และอนุภาค ✅ การแบ่งพื้นที่ด้วยแผนที่ (Chart) และแอตลาส ➡️ ใช้ชุดพิกัดเพื่ออธิบายแต่ละส่วนของ manifold ➡️ เชื่อมโยงแผนที่ต่าง ๆ ด้วยกฎการแปลงพิกัด https://www.quantamagazine.org/what-is-a-manifold-20251103/
    WWW.QUANTAMAGAZINE.ORG
    What Is a Manifold?
    In the mid-19th century, Bernhard Riemann conceived of a new way to think about mathematical spaces, providing the foundation for modern geometry and physics.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • เลขาธิการไทยก้าวใหม่เชิญชวนบุคคลสนใจ ร่วมเป็นผู้สมัคร-ตัวแทนประจำจังหวัด ชู "สร้างทุนมนุษย์" เป็นนโยบายหลัก
    https://www.thai-tai.tv/news/22217/
    .
    #ไทยไท #ไทยก้าวใหม่ #เปิดตัวพรรค #ส่งผู้สมัครทั่วประเทศ #สร้างทุนมนุษย์ #ก้องเกียรติกรสูต

    เลขาธิการไทยก้าวใหม่เชิญชวนบุคคลสนใจ ร่วมเป็นผู้สมัคร-ตัวแทนประจำจังหวัด ชู "สร้างทุนมนุษย์" เป็นนโยบายหลัก https://www.thai-tai.tv/news/22217/ . #ไทยไท #ไทยก้าวใหม่ #เปิดตัวพรรค #ส่งผู้สมัครทั่วประเทศ #สร้างทุนมนุษย์ #ก้องเกียรติกรสูต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ – ที่แท้ก็โจร 4
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 4

    ระหว่างที่ ประธานาธิบดี Wilson ยังแต่งบทหลอกคนอเมริกันไม่ได้ว่า ทำไมเขาซึ่งหาเสียงในตอนสมัครเลือกตั้งว่า ” He kept us out of war ” เขาไม่พาเราเข้าสงคราม แต่ตอนนี้ มันถึงเวลา ถึงบท ที่จะต้องพากันเข้าสงครามหมดแล้ว เขาจะต้มประชาชนของเขาอย่างไรดี ให้พร้อมใจสนับสนุน

    พวกวอลสตรีท และพรรคพวกที่ส่วนใหญ่เป็นนายทุนชาวยิว ที่กุมสื่อเกือบทั้งหมดอยู่ในมือ ต่างระดมเรียกสื่อในสังกัด ให้หิ้วกระป๋องสีมาหมดเมือง แล้วข่าวย้อมสี ที่มีภาพเยอรมันเป็นผู้ร้าย ผู้ทำลายสันติภาพของโลก ก็กระจายออกมาเต็มทุกพื้นที่ของอเมริกา ในรูปแบบต่างๆกัน

    สื่อย้อมไม่ทันใจ คนอเมริกันเฉื่อยเกินไป กับสงครามนอกบ้านตนเอง คงต้องมีเหตุการณ์มากระตุ้นต่อมให้ตื่นตระหนกกันหน่อย

    Morgan ไม่ได้เก่งด้านการเงินอย่างเดียว หรือลงทุนเรื่องรางรถไฟเพื่อไว้ใช้ต่อรองกับรัฐบาลในเวลาจำเป็น เขาพยายามซื้อบริษัทเดินเรือด้วย คือ The Cunard ของอังกฤษ แต่ยังไม่สำเร็จ ในฐานะที่เขาเป็นตัวแทนซื้อสินค้าสงครามให้อังกฤษ ที่ต้องขนส่งทางเรือ เขาจึงมีสายใยกับอังกฤษในเรื่องการเดินเรือด้วย

    ” Lusitania” เป็นเรือโดยสารระดับหรูของ Cunard ที่แล่นข้ามไปมาระหว่าง ลิเวอร์พูลของอังกฤษกับนิวยอร์คของอเมริกา เมื่อ Lusitania แล่นออกจากท่าเรือที่นิวยอร์ค เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 1915 ไปได้ 6 วัน ก็ถูกเรือดำน้ำของเยอรมัน ยิงด้วยตอร์ปิโดจมดิ่งสู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติก มีผู้โดยสารตาย 1,195 คน เป็นคนอเมริกัน 195 คน

    ทำไมเยอรมันถึงโหดเหี้ยม ยิงเรือโดยสาร ละเมิดกฏการเดินเรือระหว่างประเทศในยามสงคราม?
    Lusitania ได้ถูกนำมาเข้าอู่ในเดือนพฤษภาคม 1913 เพื่อติดตั้งเกราะหุ้มเรือเพิ่ม พร้อมติดตั้งปืนกล รวมทั้งรางกระสุน ที่ดาดฟ้าของเรือ ปืนใหญ่ชนิดกำลังแรง 12 กระบอก ถูกชักรอกขึ้นไปติดตั้ง แม้หน้าตาจะบอกว่าเป็นเรือโดยสาร แต่สรีระ กลับกลายเป็นเรือรบ รายการทั้งหมดนี้ เป็นข้อมูลสาธารณะ ที่เปิดเผยอยู่ที่พิพิธภัณท์ด้านการเดินเรือที่อังกฤษ
    Lusitania ออกจากอู่เข้าไปประจำการณ์ ในฐานะกองเรือรบ เพื่อทำหน้าที่เป็นเรือขนส่งอาวุธระหว่างอเมริกากับอังกฤษ

    หลังจากสอบสวนอยู่หลายปี จึงได้มีรายงานออกมาว่า สินค้าที่ Lusitania บรรทุกในวันถูกตอร์ปิโดร์นั้น มี pyroxyline หรือ gun cotton (วัตถุระเบิดแรงสูง) 600 ตัน กระสุน 6 ล้านนัด กระสุนดาวกระจาย 1,248 หีบ และมีกระสุนปืนอีกไม่ทราบจำนวนอยู่ชั้นล่างสุดของเรือ นอกจากนี้ในรายการบอกว่ามีสินค้าประเภท เนยแข็ง น้ำมันหมู ขนสัตว์ และอื่นๆ อีกหลายตัน ซึ่งเข้าใจว่า เป็นการแสดงรายการสินค้าปลอมทั้งหมด มีชื่อ J P Mogan Company เป็นผู้ส่งสินค้า

    ระหว่างที่ Wilson และ Morgan กำลังแต่งบทฆาตกรรมหมู่ เพื่อนำอเมริกาเข้าสู่สงคราม ทางอังกฤษ โดยหลอด Churchill ก็รับหน้าที่เขียนบททางฝั่งอังกฤษให้สอดรับกัน

    เมื่อ Lusitania กำลังแล่นออกจากท่าเรือที่นิวยอร์ค Juno เรือรบคุ้มกันของอังกฤษ ก็กำลังออกมาจากชายฝั่งของไอร์แลนด์ เพื่อมาคุ้มกัน Lusitania ในแถบน่านน้ำเปิด แต่เมื่อ Lusitania แล่นมาถึงจุดนัดพบ Juno ยังไม่มา กัปตัน Lusitania คิดว่า เพราะหมอกลงจัด จึงพลัดกับ Juno

    แต่ความจริง Juno ถูกสั่งให้ถอยกลับมาที่เมือง Queenstown เป็นคำสั่งที่ออกมา โดยที่รู้แน่ว่า Lusitania กำลังมาที่จุดนัดพบ และเป็นบริเวณที่รู้กันว่า เรือดำน้ำเยอรมันมักออกมาปฏิบัติการ ยิ่งไปกว่านั้น Lusitania ถูกสั่งให้ลดจำนวนถ่านหินที่ใช้เดินเครื่องไม่ใช่เพราะกำลังขาดแคลนถ่านหิน แต่เป้าที่เคลื่อนที่ช้า ย่อมง่ายต่อการถูกเป็นเป้า Lusitania จึงแล่นมาด้วยอัตราความเร็วเพียง 75% ของความเร็วปรกติ

    ระหว่างนั้น หลอด Churchill ยืนดูความเคลื่อนไหวของ Lusitania อย่างเงียบขรึม ผ่านจอเรดาร์ที่แสดงให้เห็น Lusitania กำลังแล่นเข้ามาในบริเวณ ที่วงแดงเอาไว้ว่า เป็นบริเวณ ที่เรือ 2 ลำ ถูกตอร์ปิโดร์ของเยอรมัน ยิงจมเมื่อวันก่อน
    Lusitania กำลังแล่นด้วยความเร็ว 19 น๊อตตรงเข้าไปในใจกลางของวงแดง โดยไม่มีใครแสดงอาการใด หรือส่งสัญญานใด กับ Lusitania

    ดูเหมือนจะมีเพียงคนเดียวคือ ผู้บังคับการ Joseph Kenworthy ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่กี่วันถูกหลอด Churchill เรียกไปพบ เพื่อให้เขียนคำตอบว่า จะมีผลกระทบทางการเมืองอย่างใดหรือไม่ ถ้าเรือโดยสาร ที่มีผู้โดยสารอเมริกันเดินทางมาด้วย แล้วถูกยิงจมดิ่งมหาสมุทร ผุ้บังคับการ Kenworthy เดินออกมาจากห้อง ด้วยความรู้สึกสะอิดสะเอียนต่อผู้บังคับบัญชาของเขา ต่อมาในปี 1927 เขาเขียนหนังสือชื่อ The Freedom of Sea ซึ่งเขาเขียนถึงเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า ” …Lusitania ถูกสั่งให้แล่นโดยลดความเร็ว เข้าไปในบริเวณที่เป็นที่รู้อยู่ว่า จะมีเรือดำน้ำเยอรมันคอยอยู่ โดยเรือคุ้มกันภัยของ Lusitania ได้ถอนตัวไม่มาตามนัด…”

    ในวันที่ Lusitania กำลังจะชะตาขาด Col. House อยู่ที่อังกฤษ เขามีหมายกำหนดการที่จะต้องเข้า พบ กษัตริย์ George ที่ 5 (ปู่ของพระราชินี Elizabeth ที่2) โดย Sir Edward Grey เป็นคนนำเข้าพบ ระหว่างเดินทาง Sir Grey ถามเขาว่า อเมริกาจะทำอย่างไร ถ้าเยอรมันจมเรือโดยสารที่มีคนอเมริกันอยู่ด้วย คำตอบของ House ตามที่เขาเขียนไว้ในบันทึกของเขา คือ “… ผมบอกเขาว่า ถ้ามันเกิดเหตุเช่นนั้นจริง ไฟของความโกรธแค้นคงลุกโพลงขึ้นในอเมริกา และมันคงพาให้เราเข้าสู่สงคราม..”

    เมื่อถึงวัง Buckingham กษัตริย์ George ที่ 5 ก็ถามเรื่องเดียวกัน แต่กษัตริย์ไม่อ้อมค้อม ถาม House ตรงๆ ว่า “… ถ้าเขาจมเรือ Lusitania ที่มีคนอเมริกันโดยสารมาด้วย…”

    4 ชั่วโมง หลังจากคำสนทนา กล้องส่องของเรือดำน้ำเยอรมัน ก็เห็นควันสีดำ พุ่งขึ้นมาจาก Lusitania ตอร์ปิโดลูกแรก ยิงถูกหัวเรือที่แล่นมาอย่างช้าๆ อย่างจัง ตอร์ปิโดลูกที่ 2 พร้อมยิง แต่อันที่จริงไม่จำเป็น เพราะหลังจากโดนลูกแรก Lusitania ซึ่งบรรทุกระเบิดมาเต็ม ก็มีการระเบิดอย่างแรง และจมหายไปทั้งลำ ในเวลาไม่เกิน 18 นาที

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    9 พ.ค. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – ที่แท้ก็โจร 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 4 ระหว่างที่ ประธานาธิบดี Wilson ยังแต่งบทหลอกคนอเมริกันไม่ได้ว่า ทำไมเขาซึ่งหาเสียงในตอนสมัครเลือกตั้งว่า ” He kept us out of war ” เขาไม่พาเราเข้าสงคราม แต่ตอนนี้ มันถึงเวลา ถึงบท ที่จะต้องพากันเข้าสงครามหมดแล้ว เขาจะต้มประชาชนของเขาอย่างไรดี ให้พร้อมใจสนับสนุน พวกวอลสตรีท และพรรคพวกที่ส่วนใหญ่เป็นนายทุนชาวยิว ที่กุมสื่อเกือบทั้งหมดอยู่ในมือ ต่างระดมเรียกสื่อในสังกัด ให้หิ้วกระป๋องสีมาหมดเมือง แล้วข่าวย้อมสี ที่มีภาพเยอรมันเป็นผู้ร้าย ผู้ทำลายสันติภาพของโลก ก็กระจายออกมาเต็มทุกพื้นที่ของอเมริกา ในรูปแบบต่างๆกัน สื่อย้อมไม่ทันใจ คนอเมริกันเฉื่อยเกินไป กับสงครามนอกบ้านตนเอง คงต้องมีเหตุการณ์มากระตุ้นต่อมให้ตื่นตระหนกกันหน่อย Morgan ไม่ได้เก่งด้านการเงินอย่างเดียว หรือลงทุนเรื่องรางรถไฟเพื่อไว้ใช้ต่อรองกับรัฐบาลในเวลาจำเป็น เขาพยายามซื้อบริษัทเดินเรือด้วย คือ The Cunard ของอังกฤษ แต่ยังไม่สำเร็จ ในฐานะที่เขาเป็นตัวแทนซื้อสินค้าสงครามให้อังกฤษ ที่ต้องขนส่งทางเรือ เขาจึงมีสายใยกับอังกฤษในเรื่องการเดินเรือด้วย ” Lusitania” เป็นเรือโดยสารระดับหรูของ Cunard ที่แล่นข้ามไปมาระหว่าง ลิเวอร์พูลของอังกฤษกับนิวยอร์คของอเมริกา เมื่อ Lusitania แล่นออกจากท่าเรือที่นิวยอร์ค เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 1915 ไปได้ 6 วัน ก็ถูกเรือดำน้ำของเยอรมัน ยิงด้วยตอร์ปิโดจมดิ่งสู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติก มีผู้โดยสารตาย 1,195 คน เป็นคนอเมริกัน 195 คน ทำไมเยอรมันถึงโหดเหี้ยม ยิงเรือโดยสาร ละเมิดกฏการเดินเรือระหว่างประเทศในยามสงคราม? Lusitania ได้ถูกนำมาเข้าอู่ในเดือนพฤษภาคม 1913 เพื่อติดตั้งเกราะหุ้มเรือเพิ่ม พร้อมติดตั้งปืนกล รวมทั้งรางกระสุน ที่ดาดฟ้าของเรือ ปืนใหญ่ชนิดกำลังแรง 12 กระบอก ถูกชักรอกขึ้นไปติดตั้ง แม้หน้าตาจะบอกว่าเป็นเรือโดยสาร แต่สรีระ กลับกลายเป็นเรือรบ รายการทั้งหมดนี้ เป็นข้อมูลสาธารณะ ที่เปิดเผยอยู่ที่พิพิธภัณท์ด้านการเดินเรือที่อังกฤษ Lusitania ออกจากอู่เข้าไปประจำการณ์ ในฐานะกองเรือรบ เพื่อทำหน้าที่เป็นเรือขนส่งอาวุธระหว่างอเมริกากับอังกฤษ หลังจากสอบสวนอยู่หลายปี จึงได้มีรายงานออกมาว่า สินค้าที่ Lusitania บรรทุกในวันถูกตอร์ปิโดร์นั้น มี pyroxyline หรือ gun cotton (วัตถุระเบิดแรงสูง) 600 ตัน กระสุน 6 ล้านนัด กระสุนดาวกระจาย 1,248 หีบ และมีกระสุนปืนอีกไม่ทราบจำนวนอยู่ชั้นล่างสุดของเรือ นอกจากนี้ในรายการบอกว่ามีสินค้าประเภท เนยแข็ง น้ำมันหมู ขนสัตว์ และอื่นๆ อีกหลายตัน ซึ่งเข้าใจว่า เป็นการแสดงรายการสินค้าปลอมทั้งหมด มีชื่อ J P Mogan Company เป็นผู้ส่งสินค้า ระหว่างที่ Wilson และ Morgan กำลังแต่งบทฆาตกรรมหมู่ เพื่อนำอเมริกาเข้าสู่สงคราม ทางอังกฤษ โดยหลอด Churchill ก็รับหน้าที่เขียนบททางฝั่งอังกฤษให้สอดรับกัน เมื่อ Lusitania กำลังแล่นออกจากท่าเรือที่นิวยอร์ค Juno เรือรบคุ้มกันของอังกฤษ ก็กำลังออกมาจากชายฝั่งของไอร์แลนด์ เพื่อมาคุ้มกัน Lusitania ในแถบน่านน้ำเปิด แต่เมื่อ Lusitania แล่นมาถึงจุดนัดพบ Juno ยังไม่มา กัปตัน Lusitania คิดว่า เพราะหมอกลงจัด จึงพลัดกับ Juno แต่ความจริง Juno ถูกสั่งให้ถอยกลับมาที่เมือง Queenstown เป็นคำสั่งที่ออกมา โดยที่รู้แน่ว่า Lusitania กำลังมาที่จุดนัดพบ และเป็นบริเวณที่รู้กันว่า เรือดำน้ำเยอรมันมักออกมาปฏิบัติการ ยิ่งไปกว่านั้น Lusitania ถูกสั่งให้ลดจำนวนถ่านหินที่ใช้เดินเครื่องไม่ใช่เพราะกำลังขาดแคลนถ่านหิน แต่เป้าที่เคลื่อนที่ช้า ย่อมง่ายต่อการถูกเป็นเป้า Lusitania จึงแล่นมาด้วยอัตราความเร็วเพียง 75% ของความเร็วปรกติ ระหว่างนั้น หลอด Churchill ยืนดูความเคลื่อนไหวของ Lusitania อย่างเงียบขรึม ผ่านจอเรดาร์ที่แสดงให้เห็น Lusitania กำลังแล่นเข้ามาในบริเวณ ที่วงแดงเอาไว้ว่า เป็นบริเวณ ที่เรือ 2 ลำ ถูกตอร์ปิโดร์ของเยอรมัน ยิงจมเมื่อวันก่อน Lusitania กำลังแล่นด้วยความเร็ว 19 น๊อตตรงเข้าไปในใจกลางของวงแดง โดยไม่มีใครแสดงอาการใด หรือส่งสัญญานใด กับ Lusitania ดูเหมือนจะมีเพียงคนเดียวคือ ผู้บังคับการ Joseph Kenworthy ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่กี่วันถูกหลอด Churchill เรียกไปพบ เพื่อให้เขียนคำตอบว่า จะมีผลกระทบทางการเมืองอย่างใดหรือไม่ ถ้าเรือโดยสาร ที่มีผู้โดยสารอเมริกันเดินทางมาด้วย แล้วถูกยิงจมดิ่งมหาสมุทร ผุ้บังคับการ Kenworthy เดินออกมาจากห้อง ด้วยความรู้สึกสะอิดสะเอียนต่อผู้บังคับบัญชาของเขา ต่อมาในปี 1927 เขาเขียนหนังสือชื่อ The Freedom of Sea ซึ่งเขาเขียนถึงเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า ” …Lusitania ถูกสั่งให้แล่นโดยลดความเร็ว เข้าไปในบริเวณที่เป็นที่รู้อยู่ว่า จะมีเรือดำน้ำเยอรมันคอยอยู่ โดยเรือคุ้มกันภัยของ Lusitania ได้ถอนตัวไม่มาตามนัด…” ในวันที่ Lusitania กำลังจะชะตาขาด Col. House อยู่ที่อังกฤษ เขามีหมายกำหนดการที่จะต้องเข้า พบ กษัตริย์ George ที่ 5 (ปู่ของพระราชินี Elizabeth ที่2) โดย Sir Edward Grey เป็นคนนำเข้าพบ ระหว่างเดินทาง Sir Grey ถามเขาว่า อเมริกาจะทำอย่างไร ถ้าเยอรมันจมเรือโดยสารที่มีคนอเมริกันอยู่ด้วย คำตอบของ House ตามที่เขาเขียนไว้ในบันทึกของเขา คือ “… ผมบอกเขาว่า ถ้ามันเกิดเหตุเช่นนั้นจริง ไฟของความโกรธแค้นคงลุกโพลงขึ้นในอเมริกา และมันคงพาให้เราเข้าสู่สงคราม..” เมื่อถึงวัง Buckingham กษัตริย์ George ที่ 5 ก็ถามเรื่องเดียวกัน แต่กษัตริย์ไม่อ้อมค้อม ถาม House ตรงๆ ว่า “… ถ้าเขาจมเรือ Lusitania ที่มีคนอเมริกันโดยสารมาด้วย…” 4 ชั่วโมง หลังจากคำสนทนา กล้องส่องของเรือดำน้ำเยอรมัน ก็เห็นควันสีดำ พุ่งขึ้นมาจาก Lusitania ตอร์ปิโดลูกแรก ยิงถูกหัวเรือที่แล่นมาอย่างช้าๆ อย่างจัง ตอร์ปิโดลูกที่ 2 พร้อมยิง แต่อันที่จริงไม่จำเป็น เพราะหลังจากโดนลูกแรก Lusitania ซึ่งบรรทุกระเบิดมาเต็ม ก็มีการระเบิดอย่างแรง และจมหายไปทั้งลำ ในเวลาไม่เกิน 18 นาที สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 9 พ.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ – ที่แท้ก็โจร 1 – 3
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 1

    ขณะตัดสินใจเข้าทำสงครามโลก ในเดือนสิงหาคม 1914 อังกฤษ กระเป๋าแบน เศรษฐกิจร่องแร่ง และทองสำรองใน Bank of England ใกล้จะแห้งขอดอย่างน่าตกใจ อังกฤษไม่อยู่ในสภาพที่จะทำสงครามได้เลย อังกฤษรู้ตัวดี แต่อังกฤษก็เดินหน้าประกาศสงครามกับเยอรมันอย่างท่าดี ถ้าไม่ใช่เป็นนักพนันระดับเซียน ที่ลักไก่ เกจนหมดหน้าตัก ก็ต้องเป็นนักวางแผนที่เลือดเย็นและล้ำลึกอย่างน่ากลัว

    เดือนตุลาคม 1914 อังกฤษส่งคณะทำงานพิเศษ จากฝ่ายกิจกรรมสงครามของตนไปวอชิงตัน เพื่อเจรจาให้ทางวอชิงตันจัดการให้ภาคเอกชนของอเมริกา เป็นผู้ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ สัมภาระและกำลังบำรุงให้ เพราะอเมริกาในฐานะประเทศเป็นกลางอย่างเป็นทางการ จะทำในฐานะประเทศไม่ได้ เลยเลี่ยงให้เอกชนออกหน้า

    อังกฤษเลือก J P Morgan & Co เป็นตัวแทนแต่ผู้เดียวในการจัดซื้อ Sole Purchasing Agent ดูเผินๆ เหมือนกับเป็นเรื่องเสี่ยงมาก ที่เลือกตัวแทนรายเดียว แต่เนื่องจากเป็นบทหนึ่งของละครลวงโลก เราจะเห็นว่า มันมีการเตรียมการอย่างแยบยลมา แล้ว ที่ให้อเมริกามี Federal Reserve System ที่สามารถทำให้ J P Morgan และพวก ซึ่งก็เป็นผู้บริหาร และเจ้าของ Federal Reseve Bank สามารถบริหารความเสี่ยงของตน ผ่านการควบคุมหนี้ของรัฐบาล พร้อมกับการควบคุมการพิมพ์ธนบัตรของประเทศในขณะเดียวกัน

    ด้วยวิธีการนี้ อังกฤษจึงสามารถเดินหน้า ทำสงครามได้อย่างสบายใจ อเมริกา โดยนักธุรกิจ เช่น Rockefeller, Morgan, Carnegie ฯลฯ ก็สบายใจ พวกเขาผลิต และขายสินค้า ส่งให้อังกฤษ ทำให้พากันรวยหนักกันขึ้นไปอีก และโดยไม่ต้องห่วงเรื่องจะต้องเสียภาษีเงินได้ก้อนใหญ่ให้ รัฐบาล เพราะบทในละครลวงโลก เรื่องภาษีนี้ ก็ได้มีจัดการหาทางออก เตรียมใว้เรียบร้อยแล้ว โดยนาย Wilson ได้ยอมให้แก้กฏหมายของอเมริกา ในปี 1913 ให้มูลนิธิเพื่อการกุศล ได้รับยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ และบรรดานายทุนเศรษฐีโตครรวยต่างๆของอเมริกา ก็พากันจดทะเบียนตั้งมูลนิธิ และโอนทรัพย์สินของตนไปไว้ในมูลนิธิ เพื่อเลี่ยงภาษี เช่น มูลนิธิ Rockefeller มูลนิธิ Carnegie มูลนิธิ Ford เรียบร้อยก่อนที่จะได้อังกฤษ มาเป็นลูกหนี้
    นี่คือ ประชาธิปไตยแบบ ตะหวักตะบวยของอเมริกา ที่ยังมีสมันน้อยหลงชื่นชม

    Morgan ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้รัฐบาลอังกฤษ ในการจัดซื้อ อาวุธ กระสุน เครื่องแบบ เคมี ฯลฯ สาระพัด ที่จำเป็นสำหรับการทำสงครามในสมัย ค.ศ. 1914 และในฐานะเป็นตัวแทนดูแลด้านการ เงินด้วย Morgan ไม่ใช่แค่เลือกว่า “จะซื้ออะไร ” เขาเป็นผู้เลือกด้วยว่า “จะซื้อจากใคร” ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ที่กลุ่มธุรกิจในเครือข่ายของ Morgan และ Rockefeller คือกลุ่มที่ได้รับเลือกไปก่อน และรวยไปก่อน

    เมื่อ British War Office ถามประธาน J P Morgan คนใหม่คือ J P Morgan Jr. หรือที่เพื่อนเรียกว่า Jack ซึ่งขึ้นมารับตำแหน่งแทนพ่อที่ตายไปเมื่อ ปี 1913 ว่า รัฐบาลของ Wilson มีปัญหาหรือไม่ ที่สถาบันการเงินใหญ่ของอเมริกา เข้ามาช่วยเหลืออังกฤษอย่างเปิดเผย เกี่ยวกับการสงคราม

    Jack ตอบว่า ไม่มีปัญหาครับเจ้านาย ไม่กระทบกับความเป็นกลางของรัฐบาลอเมริกัน อย่างแน่นอนที่สุด เพราะว่า Morgan ทำธุรกิจกับ British War Office และรัฐบาลของฝรั่งเศส เป็นการทำธุรกิจตามปรกติธรรมดา เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าขายต่อกัน ไม่ใช่เป็นข้อตกลงทางการเมือง หรือการฑูตแต่อย่างใด กลิ้งได้พริ้วจริงๆไอ้หนู

    เดือนมกราคม 1915 Jack ไปพบกับประธานาธิบดี Wilson ที่ทำเนียบ White House เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว Wilson ยืนยันว่า เขาไม่มีข้อขัดข้อง ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม Morgan หรือผู้อื่น ในเรื่องที่หารือนั้น

    ก็คงทำให้เข้าใจได้ว่า ไม่มีใครต้มใคร หลอกใครมาเข้าฉาก เป็นการสมัครใจมาร่วมเล่นละครกันทั้งนั้น

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 2

    ในปี ค.ศ. 1915 เมื่อสงครามเริ่มใหม่ๆ E.I. Dupont de Nemours & Co แห่ง Delaware ได้รับเงิน 100 ล้านเหรียญ จากอังกฤษ ผ่าน J P Morgan เพื่อขยายแผนกวัตถุระเบิด ภายในไม่กี่เดือน Dupont ขยายตัวจากบริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นบริษัทอยู่แถวหน้าทางอุตสา หกรรม Hercules Powder และ Monsanto Chemical โตตามไปด้วย บริษัทเหล็กกล้า และเหล็กดิบ ก็งอกงาม เหล็กดิบราคาขึ้น จากตันละ 13 เหรียญ เป็น ตันละ 42 เหรียญ
    Bethlehem Steel, US Steel, Westinghouse Electric, Remington Arms, Colt Firearms ได้รับใบสั่งซื้อสินค้ามาเป็นกอง ตั้งสูง จนผลิตไม่ทัน อุตสาหกรรมเหล็กอย่างเดียว กำไรเพิ่มจาก 23 ล้านเหรียญ ในปี 1914 เป็น 224 ล้านเหรียญ ในปี 1917 และระหว่างปี 1914-1917 Anaconda Copper ของ William Rockefeller ได้กำไรโดดจาก 9 ล้านเหรียญ เป็น 25 ล้านเหรียญ ส่วนทรัพย์สินของ บริษัท Phelps Dodge ซึ่งเป็นนายทุนใหญ่ในการส่งให้ Wilson ไปนั่งที่ White House ขี้นไป 400 %

    เฉพาะปี 1916 ขณะที่เศรษฐกิจทั่วไป ของอเมริกากำลังขาลาก แค่การส่งสินค้าออกเกี่ยวกับอาวุธ ให้แก่อังกฤษ และฝรั่งเศส อย่างเดียว มูลค่าสูงถึง 1,290 พันล้านเหรียญแล้ว มันเป็นโอกาสทองคำ ของคนบางกลุ่มในอเมริกา ก่อนที่อเมริกาจะเข้าสู่สงครามโลก

    J P Morgan ได้จัดหาอาวุธยุทธปัจจัยให้รัฐบาล อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี เป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 5 พันล้านเหรียญ ทั้งหมด ซื้อโดยเครดิต ที่ J P Morgan เป็นผู้จัดการให้ เงินจำนวนดังกล่าวคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบัน เท่ากับประมาณ 9 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งยังไม่เคยมีสถาบันการเงินส่วนบุคคลใด เคยทำมาก่อน

    มันเป็นจำนวนมโหฬาร พอที่จะทำให้เกิดซึนามิทางการเงินได้ ถ้ามีการผิดนัดไม่ชำระเงิน

    เดือนเมษายน 1915 ประมาณ 2 ปี ก่อนอเมริกาจะเข้าสูสงครามโลก ครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ Thomas W Lamont หุ้นส่วนคนหนึ่งของ J P Morgan ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่มีความหมายมาก แต่มีน้อยคน ที่ให้ความสนใจอย่างจริงจังที่ American Academy of Political Science ในเมือง Philadelphia

    ” เรา (อเมริกา) ได้เปลี่ยนสภาพ จากเป็นลูกหนี้ กลายมาเป็นเจ้าหนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าที่เราได้รับ กองสูงเป็นตั้ง ผู้ผลิตหลายรายของเรา รวมทั้งผู้ขาย ได้ธุรกิจอย่างมหัศจรรย์จากสงครามนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าสงคราม มียอดสูงเป็นล้านๆเหรียญ และมันกำลังส่งผลไปถึงธุรกิจอื่นๆ ทั่วไปด้วย แต่จุดสำคัญอยู่ที่การปรับตัวดีขึ้นของธุรกิจของเรา ทำให้อเมริกากลายเป็นปัจจัยใหญ่ในตลาดเงินกู้ระหว่างประเทศ
    จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต หลายคนเชื่อว่า ต่อไปนิวยอร์ค อาจจะเหนือกว่าลอนดอนในการเป็นศูนย์กลางตลาดเงินของโลก เราอาจกลายเป็นศูนย์กลางการค้าของโลก… มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้สูง….

    แต่ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญสองสามอย่าง อย่างหนึ่งคือ ระยะเวลาของการทำสงคราม…. ถ้าสงครามจบเร็ว เยอรมัน ซึ่งขณะนี้การส่งสินค้าออกถูกตัดขาดเกือบหมด จะกลับมาเป็นคู่แข่งสำคัญทันที

    ฉะนั้น เราจะเป็นเจ้าหนี้จำนวนมหาศาลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ “ระยะเวลา” ของการทำสงคราม ถ้ามันนานพอ เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ที่ดอลล่าร์จะกลายเป็นตัวเทียบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ แทนปอนด์สเตอริงก์”

    สุนทรพจน์นี้ ทำให้เห็นเป้าหมาย และการพัฒนา ให้เงินกู้ระหว่างประเทศ กลายเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ของ J P Morgan ในระหว่างการทำสงครามโลกครั้งที่ 1 และหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ไปจนถึงการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างน่ากลัว และชั่วยิ่ง

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 3

    นโยบายของ J P Morgan ตามแนวที่เราเข้าใจจากสุนทรพจน์ของ Lamont ดูเหมือนจะราบรื่น เป็นไปตามแผน แต่พอถึงปลายปี 1916 จนเริ่มเข้าเดือนแรกของปี 1917 ข่าวลือเกี่ยวกับรัสเซียชักมาแปลก และ ในเดือนกุมภาพันธ์ ก็เป็นจริงตามข่าว ซาร์นิโคลัสที่ 2 ของรัสเซีย ประกาศสละ
    บัลลังค์ หลังจากมีการปฏิวัติ โดยคนชื่อไม่ดัง Alexandre Kerensky กองทัพรัสเซียระส่ำ เยอรมันดีใจ ไม่ต้องรบทั้ง 2 แนว จึงทุ่มกำลังมาทางด้านตะวันตกเต็มที่ และอังกฤษอาจกลายเป็นฝ่ายแพ้สงคราม !

    Morgan และพวก เริ่มออกอาการ ไอ้ที่กลัวว่าจะเกิด ทำท่าจะเกิดจริงๆ สงครามอาจจะจบเร็วกว่าที่คิด โดยเยอรมันเป็นฝ่ายชนะ และนั่นคือหายนะ ของ Morgan อังกฤษและพวก ซึ่งรวมถึงอเมริกาด้วย
    นาย Walter Hines Page ซึ่งเคยเป็นผู้ดูแล General Education Board ของ Rockefeller ก่อนได้รับเลือกให้ไปเป็นฑูตอเมริกา ประจำลอนดอน ขณะนั้น ได้ทำหนังสือลงวันที่ 5 มีนาคม 1917 ถึง ประธานาธิบดี Wilson

    ” ผมคิดว่า สถานการณ์ปัจจุบัน มีความกดดันสูงเกินกว่าที่ Morgan ในสถานะตัวแทนทางการเงินของรัฐบาลอังกฤษ และฝรั่งเศสจะรับได้ จำเป็นที่จะต้องมีการหารือกันเป็นการด่วน ….หากเราจะเข้าไปทำสงครามกับเยอรมัน คงเป็นการช่วยฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างยิ่งยวด และในกรณีดังกล่าว รัฐบาลเราน่าจะทำ ถ้าสามารถทำได้คือ ช่วยลงทุนให้เงินกู้กับอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือค้ำประกันเงินกู้ให้เขา ….แต่เราจะต้องเข้าร่วมทำสงครามกับเยอรมันด้วย เราถึงจะให้เงินกู้โดยตรง หรือให้การค้ำประกันได้…”

    4 อาทิตย์หลังจากได้รับจดหมายของฑูต Page ประธานาธิบดี Wilson ซึ่งตอนหาเสียงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี สมัยที่ 2 ในปี 1916 ประกาศไว้ว่า เราเป็นฝ่ายไม่ทำสงคราม ก็พาอเมริกาเข้าสู่สงคราม ตามบทละครลวงโลก

    Wilson แถลงต่อสภาสูง เพื่อขอทำสงครามกับเยอรมัน ด้วยเหตุผลว่า เยอรมันละเมิดกฏการเดินเรือในน่านน้ำที่เป็นกลาง โดยใช้เรือดำน้ำโจมตีเรือของอเมริกาเรือขนส่งสินค้าของอังกฤษ และฝรั่งเศส สภาสูงลงมติอย่างท่วมท้น ให้อำนาจเขาประกาศสงครามกับเยอรมัน

    กระทรวงการคลังของอเมริกา ให้การสนับสนุน ที่อเมริกาจะออกพันธบัตร Liberty Bond เพื่อระดมเงินจากชาวอเมริกัน สนับสนุนให้อังกฤษทำสงครามต่อ โดยนาย Benjamin Strong ประธานธนาคารกลางของอเมริกา Federal Reserve Bank ซึ่งมาจาก กลุ่ม Morgan บอกว่า ตามกฎหมาย Federal Reserve Act ที่เพิ่งออกในปี 1913 ทำได้สบายมาก และเงินงวดแรก ที่ได้จากการขายพันธบัตร Liberty War ให้ชาวบ้าน ถูกนำมาใช้หนี้ ที่อังกฤษมีกับ Morgan จำนวน 400 ล้านเหรียญก่อนรายการอื่น

    สรุปง่ายๆว่า Wilson เอาเงินชาวบ้านมาใช้หนี้ให้เศรษฐี Morgan หรืออาจจะเป็น Rothschild ไม่แนใจ
    จากวันที่อเมริกาประกาศสงครามกับ เยอรมันอย่างเป็นทางการ ในเดือนเมษายน 1917 จนถึงวันที่มีการลงนามสัญญาสงบ ศึกกับเยอรมัน ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 อเมริกาให้เงินกู้กับ สัมพันมิตร ยุโรป เป็นจำนวนประมาณ 9 พันล้านเหรียญ เงินดังกล่าว ไม่ได้ไปถึงมือผู้กู้ ส่วนใหญ่กลับไปอยู่ที่กลุ่ม Morgan, Kuhn Loeb และ Rockefeller เพื่อจ่ายเป็นค่าสินค้าสงครามที่ส่งให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร เงินกู้ดังกล่าวนี้ เป็นจำนวนต่างหาก นอกเหนือจากที่อังกฤษให้ J P Morgan เป็นตัวแทนระดมเงินกู้ต้ังแต่เริ่มทำสงคราม จนถึงสงครามเลิก อีกจำนวนมหาศาล

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    8 พ.ค. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – ที่แท้ก็โจร 1 – 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 1 ขณะตัดสินใจเข้าทำสงครามโลก ในเดือนสิงหาคม 1914 อังกฤษ กระเป๋าแบน เศรษฐกิจร่องแร่ง และทองสำรองใน Bank of England ใกล้จะแห้งขอดอย่างน่าตกใจ อังกฤษไม่อยู่ในสภาพที่จะทำสงครามได้เลย อังกฤษรู้ตัวดี แต่อังกฤษก็เดินหน้าประกาศสงครามกับเยอรมันอย่างท่าดี ถ้าไม่ใช่เป็นนักพนันระดับเซียน ที่ลักไก่ เกจนหมดหน้าตัก ก็ต้องเป็นนักวางแผนที่เลือดเย็นและล้ำลึกอย่างน่ากลัว เดือนตุลาคม 1914 อังกฤษส่งคณะทำงานพิเศษ จากฝ่ายกิจกรรมสงครามของตนไปวอชิงตัน เพื่อเจรจาให้ทางวอชิงตันจัดการให้ภาคเอกชนของอเมริกา เป็นผู้ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ สัมภาระและกำลังบำรุงให้ เพราะอเมริกาในฐานะประเทศเป็นกลางอย่างเป็นทางการ จะทำในฐานะประเทศไม่ได้ เลยเลี่ยงให้เอกชนออกหน้า อังกฤษเลือก J P Morgan & Co เป็นตัวแทนแต่ผู้เดียวในการจัดซื้อ Sole Purchasing Agent ดูเผินๆ เหมือนกับเป็นเรื่องเสี่ยงมาก ที่เลือกตัวแทนรายเดียว แต่เนื่องจากเป็นบทหนึ่งของละครลวงโลก เราจะเห็นว่า มันมีการเตรียมการอย่างแยบยลมา แล้ว ที่ให้อเมริกามี Federal Reserve System ที่สามารถทำให้ J P Morgan และพวก ซึ่งก็เป็นผู้บริหาร และเจ้าของ Federal Reseve Bank สามารถบริหารความเสี่ยงของตน ผ่านการควบคุมหนี้ของรัฐบาล พร้อมกับการควบคุมการพิมพ์ธนบัตรของประเทศในขณะเดียวกัน ด้วยวิธีการนี้ อังกฤษจึงสามารถเดินหน้า ทำสงครามได้อย่างสบายใจ อเมริกา โดยนักธุรกิจ เช่น Rockefeller, Morgan, Carnegie ฯลฯ ก็สบายใจ พวกเขาผลิต และขายสินค้า ส่งให้อังกฤษ ทำให้พากันรวยหนักกันขึ้นไปอีก และโดยไม่ต้องห่วงเรื่องจะต้องเสียภาษีเงินได้ก้อนใหญ่ให้ รัฐบาล เพราะบทในละครลวงโลก เรื่องภาษีนี้ ก็ได้มีจัดการหาทางออก เตรียมใว้เรียบร้อยแล้ว โดยนาย Wilson ได้ยอมให้แก้กฏหมายของอเมริกา ในปี 1913 ให้มูลนิธิเพื่อการกุศล ได้รับยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ และบรรดานายทุนเศรษฐีโตครรวยต่างๆของอเมริกา ก็พากันจดทะเบียนตั้งมูลนิธิ และโอนทรัพย์สินของตนไปไว้ในมูลนิธิ เพื่อเลี่ยงภาษี เช่น มูลนิธิ Rockefeller มูลนิธิ Carnegie มูลนิธิ Ford เรียบร้อยก่อนที่จะได้อังกฤษ มาเป็นลูกหนี้ นี่คือ ประชาธิปไตยแบบ ตะหวักตะบวยของอเมริกา ที่ยังมีสมันน้อยหลงชื่นชม Morgan ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้รัฐบาลอังกฤษ ในการจัดซื้อ อาวุธ กระสุน เครื่องแบบ เคมี ฯลฯ สาระพัด ที่จำเป็นสำหรับการทำสงครามในสมัย ค.ศ. 1914 และในฐานะเป็นตัวแทนดูแลด้านการ เงินด้วย Morgan ไม่ใช่แค่เลือกว่า “จะซื้ออะไร ” เขาเป็นผู้เลือกด้วยว่า “จะซื้อจากใคร” ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ที่กลุ่มธุรกิจในเครือข่ายของ Morgan และ Rockefeller คือกลุ่มที่ได้รับเลือกไปก่อน และรวยไปก่อน เมื่อ British War Office ถามประธาน J P Morgan คนใหม่คือ J P Morgan Jr. หรือที่เพื่อนเรียกว่า Jack ซึ่งขึ้นมารับตำแหน่งแทนพ่อที่ตายไปเมื่อ ปี 1913 ว่า รัฐบาลของ Wilson มีปัญหาหรือไม่ ที่สถาบันการเงินใหญ่ของอเมริกา เข้ามาช่วยเหลืออังกฤษอย่างเปิดเผย เกี่ยวกับการสงคราม Jack ตอบว่า ไม่มีปัญหาครับเจ้านาย ไม่กระทบกับความเป็นกลางของรัฐบาลอเมริกัน อย่างแน่นอนที่สุด เพราะว่า Morgan ทำธุรกิจกับ British War Office และรัฐบาลของฝรั่งเศส เป็นการทำธุรกิจตามปรกติธรรมดา เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าขายต่อกัน ไม่ใช่เป็นข้อตกลงทางการเมือง หรือการฑูตแต่อย่างใด กลิ้งได้พริ้วจริงๆไอ้หนู เดือนมกราคม 1915 Jack ไปพบกับประธานาธิบดี Wilson ที่ทำเนียบ White House เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว Wilson ยืนยันว่า เขาไม่มีข้อขัดข้อง ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม Morgan หรือผู้อื่น ในเรื่องที่หารือนั้น ก็คงทำให้เข้าใจได้ว่า ไม่มีใครต้มใคร หลอกใครมาเข้าฉาก เป็นการสมัครใจมาร่วมเล่นละครกันทั้งนั้น นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 2 ในปี ค.ศ. 1915 เมื่อสงครามเริ่มใหม่ๆ E.I. Dupont de Nemours & Co แห่ง Delaware ได้รับเงิน 100 ล้านเหรียญ จากอังกฤษ ผ่าน J P Morgan เพื่อขยายแผนกวัตถุระเบิด ภายในไม่กี่เดือน Dupont ขยายตัวจากบริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นบริษัทอยู่แถวหน้าทางอุตสา หกรรม Hercules Powder และ Monsanto Chemical โตตามไปด้วย บริษัทเหล็กกล้า และเหล็กดิบ ก็งอกงาม เหล็กดิบราคาขึ้น จากตันละ 13 เหรียญ เป็น ตันละ 42 เหรียญ Bethlehem Steel, US Steel, Westinghouse Electric, Remington Arms, Colt Firearms ได้รับใบสั่งซื้อสินค้ามาเป็นกอง ตั้งสูง จนผลิตไม่ทัน อุตสาหกรรมเหล็กอย่างเดียว กำไรเพิ่มจาก 23 ล้านเหรียญ ในปี 1914 เป็น 224 ล้านเหรียญ ในปี 1917 และระหว่างปี 1914-1917 Anaconda Copper ของ William Rockefeller ได้กำไรโดดจาก 9 ล้านเหรียญ เป็น 25 ล้านเหรียญ ส่วนทรัพย์สินของ บริษัท Phelps Dodge ซึ่งเป็นนายทุนใหญ่ในการส่งให้ Wilson ไปนั่งที่ White House ขี้นไป 400 % เฉพาะปี 1916 ขณะที่เศรษฐกิจทั่วไป ของอเมริกากำลังขาลาก แค่การส่งสินค้าออกเกี่ยวกับอาวุธ ให้แก่อังกฤษ และฝรั่งเศส อย่างเดียว มูลค่าสูงถึง 1,290 พันล้านเหรียญแล้ว มันเป็นโอกาสทองคำ ของคนบางกลุ่มในอเมริกา ก่อนที่อเมริกาจะเข้าสู่สงครามโลก J P Morgan ได้จัดหาอาวุธยุทธปัจจัยให้รัฐบาล อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี เป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 5 พันล้านเหรียญ ทั้งหมด ซื้อโดยเครดิต ที่ J P Morgan เป็นผู้จัดการให้ เงินจำนวนดังกล่าวคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบัน เท่ากับประมาณ 9 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งยังไม่เคยมีสถาบันการเงินส่วนบุคคลใด เคยทำมาก่อน มันเป็นจำนวนมโหฬาร พอที่จะทำให้เกิดซึนามิทางการเงินได้ ถ้ามีการผิดนัดไม่ชำระเงิน เดือนเมษายน 1915 ประมาณ 2 ปี ก่อนอเมริกาจะเข้าสูสงครามโลก ครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ Thomas W Lamont หุ้นส่วนคนหนึ่งของ J P Morgan ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่มีความหมายมาก แต่มีน้อยคน ที่ให้ความสนใจอย่างจริงจังที่ American Academy of Political Science ในเมือง Philadelphia ” เรา (อเมริกา) ได้เปลี่ยนสภาพ จากเป็นลูกหนี้ กลายมาเป็นเจ้าหนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าที่เราได้รับ กองสูงเป็นตั้ง ผู้ผลิตหลายรายของเรา รวมทั้งผู้ขาย ได้ธุรกิจอย่างมหัศจรรย์จากสงครามนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าสงคราม มียอดสูงเป็นล้านๆเหรียญ และมันกำลังส่งผลไปถึงธุรกิจอื่นๆ ทั่วไปด้วย แต่จุดสำคัญอยู่ที่การปรับตัวดีขึ้นของธุรกิจของเรา ทำให้อเมริกากลายเป็นปัจจัยใหญ่ในตลาดเงินกู้ระหว่างประเทศ จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต หลายคนเชื่อว่า ต่อไปนิวยอร์ค อาจจะเหนือกว่าลอนดอนในการเป็นศูนย์กลางตลาดเงินของโลก เราอาจกลายเป็นศูนย์กลางการค้าของโลก… มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้สูง…. แต่ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญสองสามอย่าง อย่างหนึ่งคือ ระยะเวลาของการทำสงคราม…. ถ้าสงครามจบเร็ว เยอรมัน ซึ่งขณะนี้การส่งสินค้าออกถูกตัดขาดเกือบหมด จะกลับมาเป็นคู่แข่งสำคัญทันที ฉะนั้น เราจะเป็นเจ้าหนี้จำนวนมหาศาลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ “ระยะเวลา” ของการทำสงคราม ถ้ามันนานพอ เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ที่ดอลล่าร์จะกลายเป็นตัวเทียบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ แทนปอนด์สเตอริงก์” สุนทรพจน์นี้ ทำให้เห็นเป้าหมาย และการพัฒนา ให้เงินกู้ระหว่างประเทศ กลายเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ของ J P Morgan ในระหว่างการทำสงครามโลกครั้งที่ 1 และหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ไปจนถึงการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างน่ากลัว และชั่วยิ่ง นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 3 นโยบายของ J P Morgan ตามแนวที่เราเข้าใจจากสุนทรพจน์ของ Lamont ดูเหมือนจะราบรื่น เป็นไปตามแผน แต่พอถึงปลายปี 1916 จนเริ่มเข้าเดือนแรกของปี 1917 ข่าวลือเกี่ยวกับรัสเซียชักมาแปลก และ ในเดือนกุมภาพันธ์ ก็เป็นจริงตามข่าว ซาร์นิโคลัสที่ 2 ของรัสเซีย ประกาศสละ บัลลังค์ หลังจากมีการปฏิวัติ โดยคนชื่อไม่ดัง Alexandre Kerensky กองทัพรัสเซียระส่ำ เยอรมันดีใจ ไม่ต้องรบทั้ง 2 แนว จึงทุ่มกำลังมาทางด้านตะวันตกเต็มที่ และอังกฤษอาจกลายเป็นฝ่ายแพ้สงคราม ! Morgan และพวก เริ่มออกอาการ ไอ้ที่กลัวว่าจะเกิด ทำท่าจะเกิดจริงๆ สงครามอาจจะจบเร็วกว่าที่คิด โดยเยอรมันเป็นฝ่ายชนะ และนั่นคือหายนะ ของ Morgan อังกฤษและพวก ซึ่งรวมถึงอเมริกาด้วย นาย Walter Hines Page ซึ่งเคยเป็นผู้ดูแล General Education Board ของ Rockefeller ก่อนได้รับเลือกให้ไปเป็นฑูตอเมริกา ประจำลอนดอน ขณะนั้น ได้ทำหนังสือลงวันที่ 5 มีนาคม 1917 ถึง ประธานาธิบดี Wilson ” ผมคิดว่า สถานการณ์ปัจจุบัน มีความกดดันสูงเกินกว่าที่ Morgan ในสถานะตัวแทนทางการเงินของรัฐบาลอังกฤษ และฝรั่งเศสจะรับได้ จำเป็นที่จะต้องมีการหารือกันเป็นการด่วน ….หากเราจะเข้าไปทำสงครามกับเยอรมัน คงเป็นการช่วยฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างยิ่งยวด และในกรณีดังกล่าว รัฐบาลเราน่าจะทำ ถ้าสามารถทำได้คือ ช่วยลงทุนให้เงินกู้กับอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือค้ำประกันเงินกู้ให้เขา ….แต่เราจะต้องเข้าร่วมทำสงครามกับเยอรมันด้วย เราถึงจะให้เงินกู้โดยตรง หรือให้การค้ำประกันได้…” 4 อาทิตย์หลังจากได้รับจดหมายของฑูต Page ประธานาธิบดี Wilson ซึ่งตอนหาเสียงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี สมัยที่ 2 ในปี 1916 ประกาศไว้ว่า เราเป็นฝ่ายไม่ทำสงคราม ก็พาอเมริกาเข้าสู่สงคราม ตามบทละครลวงโลก Wilson แถลงต่อสภาสูง เพื่อขอทำสงครามกับเยอรมัน ด้วยเหตุผลว่า เยอรมันละเมิดกฏการเดินเรือในน่านน้ำที่เป็นกลาง โดยใช้เรือดำน้ำโจมตีเรือของอเมริกาเรือขนส่งสินค้าของอังกฤษ และฝรั่งเศส สภาสูงลงมติอย่างท่วมท้น ให้อำนาจเขาประกาศสงครามกับเยอรมัน กระทรวงการคลังของอเมริกา ให้การสนับสนุน ที่อเมริกาจะออกพันธบัตร Liberty Bond เพื่อระดมเงินจากชาวอเมริกัน สนับสนุนให้อังกฤษทำสงครามต่อ โดยนาย Benjamin Strong ประธานธนาคารกลางของอเมริกา Federal Reserve Bank ซึ่งมาจาก กลุ่ม Morgan บอกว่า ตามกฎหมาย Federal Reserve Act ที่เพิ่งออกในปี 1913 ทำได้สบายมาก และเงินงวดแรก ที่ได้จากการขายพันธบัตร Liberty War ให้ชาวบ้าน ถูกนำมาใช้หนี้ ที่อังกฤษมีกับ Morgan จำนวน 400 ล้านเหรียญก่อนรายการอื่น สรุปง่ายๆว่า Wilson เอาเงินชาวบ้านมาใช้หนี้ให้เศรษฐี Morgan หรืออาจจะเป็น Rothschild ไม่แนใจ จากวันที่อเมริกาประกาศสงครามกับ เยอรมันอย่างเป็นทางการ ในเดือนเมษายน 1917 จนถึงวันที่มีการลงนามสัญญาสงบ ศึกกับเยอรมัน ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 อเมริกาให้เงินกู้กับ สัมพันมิตร ยุโรป เป็นจำนวนประมาณ 9 พันล้านเหรียญ เงินดังกล่าว ไม่ได้ไปถึงมือผู้กู้ ส่วนใหญ่กลับไปอยู่ที่กลุ่ม Morgan, Kuhn Loeb และ Rockefeller เพื่อจ่ายเป็นค่าสินค้าสงครามที่ส่งให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร เงินกู้ดังกล่าวนี้ เป็นจำนวนต่างหาก นอกเหนือจากที่อังกฤษให้ J P Morgan เป็นตัวแทนระดมเงินกู้ต้ังแต่เริ่มทำสงคราม จนถึงสงครามเลิก อีกจำนวนมหาศาล สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 8 พ.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ – หน้าฉาก หลังฉาก 1 – 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 9 “หน้าฉาก หลังฉาก”

    ตอน 1

    ขณะที่สงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่มปะทะกันในยุโรป คนอเมริกัน มากกว่า 1 ใน 3 เป็นพวกต่างชาติ ที่อพยพเข้ามาอยู่ในอเมริกา และส่วนใหญ่มาจาก เยอรมัน ไอร์แลนด์ และอิตาลี คนส่วนใหญ่ในอเมริกา ไม่รู้เรื่อง ไม่เกี่ยวข้อง และไม่มีผลประโยชน์กับสงครามโลกที่กำลังดำเนินอยู่ในยุโรป ไม่มีทางที่พวกเขาอยากจะไปยุ่งเกี่ยวกับสงคราม ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขาเลยนี่นะ และโดยเฉพาะคนเยอรมัน ที่มีอยู่ในอเมริกา ประมาณ 6 ล้านคน คงไม่อยากให้อเมริกาทำสงครามกับเยอรมัน

    มันเป็นความคิด คนละชุดกับของคนอเมริกันอีกกลุ่มหนึ่ง ที่มีจำนวนเล็กน้อยมาก จนเทียบกับเสียงส่วนใหญ่ของคนอเมริกันไม่ได้ แต่คนพวกนี้ เป็นนักการเงิน นักธุรกิจ พวกอีลิต ที่กำลังทำธุรกิจอยู่กับกับอังกฤษ และฝรั่งเศส และกำลังครอบงำธุรกิจของอเมริกา และรัฐบาลของอเมริกาอยู่

    ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ของอเมริกา ซึ่งเป็นหุ่นถูกเชิด หรือสมคบกับกลุ่มนักการเงินวอลสตรีท เพื่อออกกฏหมาย Federal Reserve Act ในปี 1913 ได้รับเลือกเข้ามาเป็นประธานาธิบดีอีก เป็นวาระที่ 2 ในปี 1916

    ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี กลุ่มนักการเงิน นักธุรกิจใหญ่ของอเมริกา ประชุมวางแผนกันที่บ้านของ Elbert Gary เจ้าพ่ออุตสาหกรรมเหล็กของอเม ริกาคนหนึ่ง โดยมีผู้ร่วมประชุม เช่น August Belmont (ตัวแทนของ กลุ่ม Rothschild ซึ่งมีข่าวว่า เป็นลูกนอกสมรสของพวก Rothschild) Jacob Schiff, George F Baker, Cornelius Vanderbilt รวมทั้งอดีตประธานาธิบดี Theodore Roosevelt และ George W Pergins คนถือกระเป๋าบรรจุขนมของ J P Morgan เอาไว้แจกนักการเมืองยามจำเป็น และเป็นอดีตหุ้นส่วนของ J P Morgan ด้วย ที่ประชุมตกลงที่จะสนับสนุน ให้ Woodlow Wilson เป็นประธานาธิบดี อีกสมัยหนึ่ง เป็นการสนับสนุนอย่างลับๆ โดยไม่ไร้วัตถุประสงค์ ในการหาเสียง ทีมงานของ Wilson ใช้คำขวัญประกาศเสียงดังฟังชัดว่า “he kept us out of war” เขาไม่พาเราเข้าสงคราม

    คำขวัญนี้ กำหนดโดยคณะที่ปรึกษาในการหาเสี ยง และที่ปรึกษาคนสำคัญของ Wilson คือ Colonel Edward M. House ก็เห็นด้วย เมื่อได้รับตำแหน่งหมาดๆ Wilson ประกาศว่า เราเป็นรัฐบาลของประชาชน และประชาชนของเราไม่ต้องการทำสงคราม ผ่านไปปีกว่า ประชาชนชาวอเมริกันก็ยังไม่อยากให้อเมริกาเข้าร่วมสงคราม แต่ Wilson กลับลำ ประกาศนำอเมริกาเข้าร่วมสงครามโลก ยกเลิกบทบาทประเทศเป็นกลาง อย่างหน้าตาเฉย
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 9 “หน้าฉาก หลังฉาก”

    ตอน 2

    Col. Edward M House เป็นผู้ที่มีอิทธิพลสูง และเป็นตัวละครสำคัญ ที่ทำหน้าที่ชักใยอยู่หลังฉาก ในละครลวงโลกเรื่องปฏิวิติ Bolsheviks หรือปล้นรัสเซีย

    Col. House ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาส่วนตัว ของ ประธานาธิบดี Wilson และประธานาธิบดี Flanklin D Roosevelt ในช่วงต่อจาก Wilson ด้วย เขามีความใกล้ชิดกับ J P Morgan และครอบครัวนักการเงินรุ่นเก๋าของอังกฤษ แม้จะเติบโตมาจากเมือง Houston, Texas แต่เขาก็ไปเรียนหนังสือในโรงเรียนที่อังกฤษอยู่หลายปี

    พ่อของ House , Thomas William House เป็นคนอังกฤษ ที่อพยพมาอยู่ในอเมริกา และทำรายได้จนเรียกได้ว่าเป็นคนรวย จากการเป็นตัวแทนให้สถาบันการเงินอังกฤษ ในช่วงสงครามที่รบกันระหว่างรัฐ ของอเมริกา ข่าวว่า เขาเป็นตัวแทนของตระกูล Rothschild พ่อเขา House ทิ้งมรดกไว้ให้ลูกอยู่อย่างสบาย แค่ต้องการให้ลูก “รู้จัก และ รับใช้” อังกฤษ

    House เป็นคนสนใจการเมือง และชอบที่จะเล่นบทอยู่หลังฉากมากกว่าหน้าฉาก เขาเริ่มหาประสบการณ์ทางการเมือง โดยการเข้าไปสนับสนุนผู้สมัคร เลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐเท็กซัสถึง 4 สมัย หนึ่งในผู้ว่าการรัฐที่เขาหนุนจนได้ตำแหน่ง เป็นคนเรียกเขาว่า ผู้พัน หลังจากนั้นเขาเลยกลายเป็น Col. House ของทุกคน

    ประมาณปี ค.ศ. 1902 เขาย้ายมาอยู่นิวยอร์ค และเข้าสังคมชั้นสูง หลังจากนั้นจึงเข้ามาป้วนเปี้ยน ในการเมืองสนามใหญ่ มองหาม้ามืด มาฝึกเอาถ้วยรางวัล เขาเล็งได้ม้ามืด ชื่อ Woodlow Wilson เขาร่วมวางแผนหาเสียงให้ Wilson จนได้เป็นประธานาธิบดี แต่เขาไม่รับตำแหน่งในรัฐบาล เขาเลือกที่จะเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว และดูแลงานด้านการต่างประเทศให้ Wilson
    ความใหญ่ของ House ในช่วงนั้นเป็นที่เล่าขานกันทั่ว ครั้งหนึ่ง เมื่อมีการตั้งนาย Robert Lansing เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ นักข่าวหน้าใหม่ไม่รู้จัก ตะโกนถามกันว่า Lansing สะกดยังไงนะ นักข่าวรุ่นเก๋าตะโกนตอบว่า สะกดว่า H O U S E

    House ใกล้ชิดสนิทสนม กับประธานาธิบดี Wilson อย่างยิ่ง เรียกว่าเห็นหนังตากระตุก ก็รู้แล้วว่ากำลังคิดอะไร หลายตำแหน่งสำคัญในคณะรัฐมนตรีของ Wilson ที่ปรึกษา House เป็นผู้เลือก Wilson แค่ออกแรงลงชื่อ

    เมื่อการสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ของ Wilson ในสมัยที่ 2 ใกล้เข้ามา ที่ปรึกษา House ก็เริ่มหารืออย่างลับๆ กับ Sir William Wiseman ซึ่งทำงานที่สถานฑูตอังกฤษ ในอเมริกา Wiseman คือหัวหน้าข่าวกรองของอังกฤษในอเมริกา นั่นแหละ เพื่อให้ Wiseman ไปปูทางกับอังกฤษ ก่อนที่ House จะไปเจรจา

    House เจรจากับรัฐบาลอังกฤษ และฝรั่งเศส ในนามของ Wilson ว่า ถ้า Wilson ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี อเมริกาจะเข้าสู่สงครามโลกด้วย โดยจะใช้แผนเสนอให้มีการเจรจาสงบศึกกับเยอรมัน ซึ่งอเมริกาจะยื่นเงื่อนไขของการสงบศึกกับทั้ง 2 ฝ่าย ถ้ามีฝ่ายใดไม่รับข้อเสนอ อเมริกาก็จะเข้าทำสงครามด้วย และแผนลับคือ อเมริกาจะเสนอเงื่อนไขกับทางเยอรมัน ชนิดที่จะทำให้เยอรมันไม่มีทางรับได้ และก็จะทำให้เยอรมันกลายเป็นผู้ร้าย และอเมริกาจะได้เข้าสู่สงครามแบบพระเอก บทน้ำเน่าไปหน่อย แต่เขาเสนออย่างนั้นจริงๆ

    ดูอย่างคนนอก มันคงเป็นเรื่องที่ House เล่นนอกบท มันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อ Wilson แสดงภาพพจน์ว่าเป็นคนรักสงบ ไม่เอาสงคราม

    แต่จริงๆ แล้ว Wilson รู้ดีว่า การเป็นกลาง และการเข้าสู่สงคราม มันเป็นบทของละครลวงโลกทั้งสิ้น และ Wilson รู้ด้วยว่า ถ้าอเมริกาเข้าสงครามในจังหวะที่เหมาะ จะมีผลกับสงครามอย่างไร และจะทำให้พวกสัมพันธมิตรต้องพึ่ง อเมริกาขนาดไหน ทั้งด้านกองกำลัง และด้านการเงินทุนสนับสนุน และถ้าเงินทุนสนับสนุน มันจำนวนใหญ่พอ เขานั่นแหละ จะเป็นผู้กำหนดเงื่อนไข และชะตาของสันติภาพ หรือชะตาของโลกหลังสงคราม

    มันก็เป็นความคิดที่ไม่ต่างกับอังกฤษ ที่หวังจะเป็นผู้ตัดสินชะตาโลกหลังสงคราม อเมริการู้เป้าหมายของอังกฤษอย่างดี แต่ไม่แน่ว่าตอนนั้น อังกฤษรู้เป้าหมายของอเมริกาที่แท้จริงของอเมริกา

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    7 พ.ค. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – หน้าฉาก หลังฉาก 1 – 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 9 “หน้าฉาก หลังฉาก” ตอน 1 ขณะที่สงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่มปะทะกันในยุโรป คนอเมริกัน มากกว่า 1 ใน 3 เป็นพวกต่างชาติ ที่อพยพเข้ามาอยู่ในอเมริกา และส่วนใหญ่มาจาก เยอรมัน ไอร์แลนด์ และอิตาลี คนส่วนใหญ่ในอเมริกา ไม่รู้เรื่อง ไม่เกี่ยวข้อง และไม่มีผลประโยชน์กับสงครามโลกที่กำลังดำเนินอยู่ในยุโรป ไม่มีทางที่พวกเขาอยากจะไปยุ่งเกี่ยวกับสงคราม ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขาเลยนี่นะ และโดยเฉพาะคนเยอรมัน ที่มีอยู่ในอเมริกา ประมาณ 6 ล้านคน คงไม่อยากให้อเมริกาทำสงครามกับเยอรมัน มันเป็นความคิด คนละชุดกับของคนอเมริกันอีกกลุ่มหนึ่ง ที่มีจำนวนเล็กน้อยมาก จนเทียบกับเสียงส่วนใหญ่ของคนอเมริกันไม่ได้ แต่คนพวกนี้ เป็นนักการเงิน นักธุรกิจ พวกอีลิต ที่กำลังทำธุรกิจอยู่กับกับอังกฤษ และฝรั่งเศส และกำลังครอบงำธุรกิจของอเมริกา และรัฐบาลของอเมริกาอยู่ ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ของอเมริกา ซึ่งเป็นหุ่นถูกเชิด หรือสมคบกับกลุ่มนักการเงินวอลสตรีท เพื่อออกกฏหมาย Federal Reserve Act ในปี 1913 ได้รับเลือกเข้ามาเป็นประธานาธิบดีอีก เป็นวาระที่ 2 ในปี 1916 ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี กลุ่มนักการเงิน นักธุรกิจใหญ่ของอเมริกา ประชุมวางแผนกันที่บ้านของ Elbert Gary เจ้าพ่ออุตสาหกรรมเหล็กของอเม ริกาคนหนึ่ง โดยมีผู้ร่วมประชุม เช่น August Belmont (ตัวแทนของ กลุ่ม Rothschild ซึ่งมีข่าวว่า เป็นลูกนอกสมรสของพวก Rothschild) Jacob Schiff, George F Baker, Cornelius Vanderbilt รวมทั้งอดีตประธานาธิบดี Theodore Roosevelt และ George W Pergins คนถือกระเป๋าบรรจุขนมของ J P Morgan เอาไว้แจกนักการเมืองยามจำเป็น และเป็นอดีตหุ้นส่วนของ J P Morgan ด้วย ที่ประชุมตกลงที่จะสนับสนุน ให้ Woodlow Wilson เป็นประธานาธิบดี อีกสมัยหนึ่ง เป็นการสนับสนุนอย่างลับๆ โดยไม่ไร้วัตถุประสงค์ ในการหาเสียง ทีมงานของ Wilson ใช้คำขวัญประกาศเสียงดังฟังชัดว่า “he kept us out of war” เขาไม่พาเราเข้าสงคราม คำขวัญนี้ กำหนดโดยคณะที่ปรึกษาในการหาเสี ยง และที่ปรึกษาคนสำคัญของ Wilson คือ Colonel Edward M. House ก็เห็นด้วย เมื่อได้รับตำแหน่งหมาดๆ Wilson ประกาศว่า เราเป็นรัฐบาลของประชาชน และประชาชนของเราไม่ต้องการทำสงคราม ผ่านไปปีกว่า ประชาชนชาวอเมริกันก็ยังไม่อยากให้อเมริกาเข้าร่วมสงคราม แต่ Wilson กลับลำ ประกาศนำอเมริกาเข้าร่วมสงครามโลก ยกเลิกบทบาทประเทศเป็นกลาง อย่างหน้าตาเฉย นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 9 “หน้าฉาก หลังฉาก” ตอน 2 Col. Edward M House เป็นผู้ที่มีอิทธิพลสูง และเป็นตัวละครสำคัญ ที่ทำหน้าที่ชักใยอยู่หลังฉาก ในละครลวงโลกเรื่องปฏิวิติ Bolsheviks หรือปล้นรัสเซีย Col. House ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาส่วนตัว ของ ประธานาธิบดี Wilson และประธานาธิบดี Flanklin D Roosevelt ในช่วงต่อจาก Wilson ด้วย เขามีความใกล้ชิดกับ J P Morgan และครอบครัวนักการเงินรุ่นเก๋าของอังกฤษ แม้จะเติบโตมาจากเมือง Houston, Texas แต่เขาก็ไปเรียนหนังสือในโรงเรียนที่อังกฤษอยู่หลายปี พ่อของ House , Thomas William House เป็นคนอังกฤษ ที่อพยพมาอยู่ในอเมริกา และทำรายได้จนเรียกได้ว่าเป็นคนรวย จากการเป็นตัวแทนให้สถาบันการเงินอังกฤษ ในช่วงสงครามที่รบกันระหว่างรัฐ ของอเมริกา ข่าวว่า เขาเป็นตัวแทนของตระกูล Rothschild พ่อเขา House ทิ้งมรดกไว้ให้ลูกอยู่อย่างสบาย แค่ต้องการให้ลูก “รู้จัก และ รับใช้” อังกฤษ House เป็นคนสนใจการเมือง และชอบที่จะเล่นบทอยู่หลังฉากมากกว่าหน้าฉาก เขาเริ่มหาประสบการณ์ทางการเมือง โดยการเข้าไปสนับสนุนผู้สมัคร เลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐเท็กซัสถึง 4 สมัย หนึ่งในผู้ว่าการรัฐที่เขาหนุนจนได้ตำแหน่ง เป็นคนเรียกเขาว่า ผู้พัน หลังจากนั้นเขาเลยกลายเป็น Col. House ของทุกคน ประมาณปี ค.ศ. 1902 เขาย้ายมาอยู่นิวยอร์ค และเข้าสังคมชั้นสูง หลังจากนั้นจึงเข้ามาป้วนเปี้ยน ในการเมืองสนามใหญ่ มองหาม้ามืด มาฝึกเอาถ้วยรางวัล เขาเล็งได้ม้ามืด ชื่อ Woodlow Wilson เขาร่วมวางแผนหาเสียงให้ Wilson จนได้เป็นประธานาธิบดี แต่เขาไม่รับตำแหน่งในรัฐบาล เขาเลือกที่จะเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว และดูแลงานด้านการต่างประเทศให้ Wilson ความใหญ่ของ House ในช่วงนั้นเป็นที่เล่าขานกันทั่ว ครั้งหนึ่ง เมื่อมีการตั้งนาย Robert Lansing เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ นักข่าวหน้าใหม่ไม่รู้จัก ตะโกนถามกันว่า Lansing สะกดยังไงนะ นักข่าวรุ่นเก๋าตะโกนตอบว่า สะกดว่า H O U S E House ใกล้ชิดสนิทสนม กับประธานาธิบดี Wilson อย่างยิ่ง เรียกว่าเห็นหนังตากระตุก ก็รู้แล้วว่ากำลังคิดอะไร หลายตำแหน่งสำคัญในคณะรัฐมนตรีของ Wilson ที่ปรึกษา House เป็นผู้เลือก Wilson แค่ออกแรงลงชื่อ เมื่อการสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ของ Wilson ในสมัยที่ 2 ใกล้เข้ามา ที่ปรึกษา House ก็เริ่มหารืออย่างลับๆ กับ Sir William Wiseman ซึ่งทำงานที่สถานฑูตอังกฤษ ในอเมริกา Wiseman คือหัวหน้าข่าวกรองของอังกฤษในอเมริกา นั่นแหละ เพื่อให้ Wiseman ไปปูทางกับอังกฤษ ก่อนที่ House จะไปเจรจา House เจรจากับรัฐบาลอังกฤษ และฝรั่งเศส ในนามของ Wilson ว่า ถ้า Wilson ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี อเมริกาจะเข้าสู่สงครามโลกด้วย โดยจะใช้แผนเสนอให้มีการเจรจาสงบศึกกับเยอรมัน ซึ่งอเมริกาจะยื่นเงื่อนไขของการสงบศึกกับทั้ง 2 ฝ่าย ถ้ามีฝ่ายใดไม่รับข้อเสนอ อเมริกาก็จะเข้าทำสงครามด้วย และแผนลับคือ อเมริกาจะเสนอเงื่อนไขกับทางเยอรมัน ชนิดที่จะทำให้เยอรมันไม่มีทางรับได้ และก็จะทำให้เยอรมันกลายเป็นผู้ร้าย และอเมริกาจะได้เข้าสู่สงครามแบบพระเอก บทน้ำเน่าไปหน่อย แต่เขาเสนออย่างนั้นจริงๆ ดูอย่างคนนอก มันคงเป็นเรื่องที่ House เล่นนอกบท มันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อ Wilson แสดงภาพพจน์ว่าเป็นคนรักสงบ ไม่เอาสงคราม แต่จริงๆ แล้ว Wilson รู้ดีว่า การเป็นกลาง และการเข้าสู่สงคราม มันเป็นบทของละครลวงโลกทั้งสิ้น และ Wilson รู้ด้วยว่า ถ้าอเมริกาเข้าสงครามในจังหวะที่เหมาะ จะมีผลกับสงครามอย่างไร และจะทำให้พวกสัมพันธมิตรต้องพึ่ง อเมริกาขนาดไหน ทั้งด้านกองกำลัง และด้านการเงินทุนสนับสนุน และถ้าเงินทุนสนับสนุน มันจำนวนใหญ่พอ เขานั่นแหละ จะเป็นผู้กำหนดเงื่อนไข และชะตาของสันติภาพ หรือชะตาของโลกหลังสงคราม มันก็เป็นความคิดที่ไม่ต่างกับอังกฤษ ที่หวังจะเป็นผู้ตัดสินชะตาโลกหลังสงคราม อเมริการู้เป้าหมายของอังกฤษอย่างดี แต่ไม่แน่ว่าตอนนั้น อังกฤษรู้เป้าหมายของอเมริกาที่แท้จริงของอเมริกา สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 7 พ.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ประเด็นเพื่อชี้เป้าว่า,ทหารไทย กองทัพไทยต้องยึดอำนาจตอนนี้โดยรวดเร็วเพื่อวางแผนรับมือการลดประชากรคนไทย ลูกหลายคนไทยจะกำพร้าพ่อแม่เป็นอันมาก หากลูกหลานเราที่เรียนหนังสือรอดจากการบังคับฉีดวัคซีนกันทั่วประเทศในแต่ละโรงเรียน,ปัจจุบันเด็กลาป่วยรื้อรังเป็นอันมาก คนไทยในแต่ละหมู่บ้านตายมากผิดปกติกว่าที่เคยผ่านมา วูบตายพื้นฐาน ติดเชื้อในกระแสเลือดสไตล์หมอจะบอกคนไข้ญาติคนตายก็ว่า,และสาระพัดตายจากโรคต่างๆใน1,291โรค,ทหารยึดอำนาจเราจะวางใจมาก,ยังเตรียมสั่งการรับมือฝ่ายไม่ดีได้,แต่บริบทกองทัพไทยดูแล้วน่าผิดหวังมาก ,เสือกปล่อยให้รัฐบาลหนูที่ส้มล้มเจ้ายกชูสนับสนุนมาเป็นรัฐบาลมาแวงกัดกองทัพไทยกว่าอุ๊งอิ๊งได้อีก,ไร้น้ำยามาก เสียเครดิตจากที่เราตายทั้งประชาชนและทหารหาญกล้า5วัน 24ถึง28ก.ค.68นี้มาก,ท่านทรยศในชีวิตคนเหล่านั้นสิ้นดี,
    ..การยึดอำนาจการประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศจึงเหมาะสมมากหากท่านคือฝ่ายแสงมิใช่ฝ่ายมืดซาตานเลวๆอย่างที่ผ่านๆมา,เรา..ประเทศไทยยืนเอกไม่แพ้ชาติใดในโลกแน่นอน.,แก่นแท้จริงคืออาวุธชีวภาพจากปืนที่มาในคราบเข็มที่ยิงใส่คนไทยเตรียมเก็บศพแล้ว,การรักษาจึงสำคัญ มันกำลังเบียงเบนในชีวิตคนไทยชัดเจนด้วยด้านสุขภาพ เพราะคนไทยตายเกือบหมดประเทศมันจะทำสงครามทำซากอะไร ก็ยึดก็มาครองอยู่แทนคนไทยสบายแล้ว ,ตัดตอนคือกองทัพไทยต้องยึดอำนาจก่อนเสีย.,แต่ไม่มีท่าทีใดๆเลย,ทหารไทยเราอ่อนแอจริงๆเหรอ,ภาพมหาภาคใหญ่หลวงขนาดนี้ดูหมากไม่ออกเลยเหรอ,อำนาจเท่านั้นต้องอยู่ในประเทศไทยเรา,มิใช่ต่างประเทศที่ปกครองผ่านนอมินีจากภาคนักการเมืองไทยในปัจจุบันนี้,ทหารไทยต้องคิดให้ได้ ทำให้ถึง จบให้เป็นสำเร็จ.

    https://youtube.com/watch?v=dL8_t531NP8&si=vhoMpSZ4YCg42SM-
    ..ประเด็นเพื่อชี้เป้าว่า,ทหารไทย กองทัพไทยต้องยึดอำนาจตอนนี้โดยรวดเร็วเพื่อวางแผนรับมือการลดประชากรคนไทย ลูกหลายคนไทยจะกำพร้าพ่อแม่เป็นอันมาก หากลูกหลานเราที่เรียนหนังสือรอดจากการบังคับฉีดวัคซีนกันทั่วประเทศในแต่ละโรงเรียน,ปัจจุบันเด็กลาป่วยรื้อรังเป็นอันมาก คนไทยในแต่ละหมู่บ้านตายมากผิดปกติกว่าที่เคยผ่านมา วูบตายพื้นฐาน ติดเชื้อในกระแสเลือดสไตล์หมอจะบอกคนไข้ญาติคนตายก็ว่า,และสาระพัดตายจากโรคต่างๆใน1,291โรค,ทหารยึดอำนาจเราจะวางใจมาก,ยังเตรียมสั่งการรับมือฝ่ายไม่ดีได้,แต่บริบทกองทัพไทยดูแล้วน่าผิดหวังมาก ,เสือกปล่อยให้รัฐบาลหนูที่ส้มล้มเจ้ายกชูสนับสนุนมาเป็นรัฐบาลมาแวงกัดกองทัพไทยกว่าอุ๊งอิ๊งได้อีก,ไร้น้ำยามาก เสียเครดิตจากที่เราตายทั้งประชาชนและทหารหาญกล้า5วัน 24ถึง28ก.ค.68นี้มาก,ท่านทรยศในชีวิตคนเหล่านั้นสิ้นดี, ..การยึดอำนาจการประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศจึงเหมาะสมมากหากท่านคือฝ่ายแสงมิใช่ฝ่ายมืดซาตานเลวๆอย่างที่ผ่านๆมา,เรา..ประเทศไทยยืนเอกไม่แพ้ชาติใดในโลกแน่นอน.,แก่นแท้จริงคืออาวุธชีวภาพจากปืนที่มาในคราบเข็มที่ยิงใส่คนไทยเตรียมเก็บศพแล้ว,การรักษาจึงสำคัญ มันกำลังเบียงเบนในชีวิตคนไทยชัดเจนด้วยด้านสุขภาพ เพราะคนไทยตายเกือบหมดประเทศมันจะทำสงครามทำซากอะไร ก็ยึดก็มาครองอยู่แทนคนไทยสบายแล้ว ,ตัดตอนคือกองทัพไทยต้องยึดอำนาจก่อนเสีย.,แต่ไม่มีท่าทีใดๆเลย,ทหารไทยเราอ่อนแอจริงๆเหรอ,ภาพมหาภาคใหญ่หลวงขนาดนี้ดูหมากไม่ออกเลยเหรอ,อำนาจเท่านั้นต้องอยู่ในประเทศไทยเรา,มิใช่ต่างประเทศที่ปกครองผ่านนอมินีจากภาคนักการเมืองไทยในปัจจุบันนี้,ทหารไทยต้องคิดให้ได้ ทำให้ถึง จบให้เป็นสำเร็จ. https://youtube.com/watch?v=dL8_t531NP8&si=vhoMpSZ4YCg42SM-
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## เบื่อนักวิชาการ บางประเภทมากๆ ##
    ..
    ..
    พอเรียนมาก อ่านมาก สอนคนมาก มีคนนับถือมากเข้า...
    .
    จะพูดจะจาอะไร ก็ราวกับ ล่องลอยออกจากสรวงสวรรค์ที่เรียกว่า "ตำรา"
    .
    เหมือนกับว่า ทั้งชีวิต ฝึกหัดบำเพ็ญแต่วิชาเซียน ไม่ได้กินนอน หรือ ถ่ายอุจจาระปัสสาวะอยู่บนโลกมนุษย์เลยแม้แต่น้อย...
    .
    มันผยองว่า กูนั้นแน่กว่าใคร เพราะกูเป็นนักตำรา เป็นเจ้าหลักการ ตามตำรา...
    .
    ยิ่งใหญ่ราวกับ เป็นผู้ประกาศ สารสวรรค์จากแดนเซียน
    .
    รู้สึกว่าตัวเองสามารถเปล่ง แสงเฮ้ากวง ออกมาได้
    .
    อันที่จริงผมก็พอเข้าใจแหละ...
    ....
    ....
    ตอนเรียกฎหมาย อาจารย์บางคนที่ เพ้อเจ้อแบบไร้ความรับผิดชอบในคำพูดตัวเอง ส่อสันดานออกมา แทนที่จะสอนหนังสือ
    .
    พอผมฟังได้ซัก 10 นาที ยังไม่จบ ผมก็ลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกจากห้องไป...
    .
    เขาว่าเมื่อนักเรียนพร้อม อาจารย์จะปรากฏ
    .
    แต่สำหรับผม...
    .
    เมื่อผมพร้อมเรียนรู้ แต่ อาจารย์ไม่คู่ควร ผมก็อ่านเอง สอบผ่านเองได้ครับ...
    .
    จะไปนับถือแม่งทำไม...
    .

    .
    ปล.
    .
    ไอ้ตอนที่ประเทศไทย เสีย 4.6 ตารางกิโลเมตร รอบตัวปราสาทพระวิหารเนี่ย ก็เพราะ "ไอ้ผู้รู้" จาก 2 กระทรวงกร๊วก นั่นไม่ใช่เหรอ...???
    .
    อยากหลอกตัวเองให้ เชื่อว่าตัวเองเก่งทุกเรื่อง ไม่เคยผิด ก็ล้างสมองกันต่อไปเถอะ
    .
    ผลงานมันฟ้องเป็นที่ประจักษ์แก่ชาวโลกอยู่ทนโท่แล้ว...
    .
    ถ้าไม่ใช้เขางอกจนโง้งขนาดหนัก ก็น่าเข้าใจได้ไม่ยากหรอก...
    .

    .
    https://youtube.com/shorts/0p0piMbDFgE?si=9ZcFGpHTYmZJK-PC
    ## เบื่อนักวิชาการ บางประเภทมากๆ ## .. .. พอเรียนมาก อ่านมาก สอนคนมาก มีคนนับถือมากเข้า... . จะพูดจะจาอะไร ก็ราวกับ ล่องลอยออกจากสรวงสวรรค์ที่เรียกว่า "ตำรา" . เหมือนกับว่า ทั้งชีวิต ฝึกหัดบำเพ็ญแต่วิชาเซียน ไม่ได้กินนอน หรือ ถ่ายอุจจาระปัสสาวะอยู่บนโลกมนุษย์เลยแม้แต่น้อย... . มันผยองว่า กูนั้นแน่กว่าใคร เพราะกูเป็นนักตำรา เป็นเจ้าหลักการ ตามตำรา... . ยิ่งใหญ่ราวกับ เป็นผู้ประกาศ สารสวรรค์จากแดนเซียน . รู้สึกว่าตัวเองสามารถเปล่ง แสงเฮ้ากวง ออกมาได้ . อันที่จริงผมก็พอเข้าใจแหละ... .... .... ตอนเรียกฎหมาย อาจารย์บางคนที่ เพ้อเจ้อแบบไร้ความรับผิดชอบในคำพูดตัวเอง ส่อสันดานออกมา แทนที่จะสอนหนังสือ . พอผมฟังได้ซัก 10 นาที ยังไม่จบ ผมก็ลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกจากห้องไป... . เขาว่าเมื่อนักเรียนพร้อม อาจารย์จะปรากฏ . แต่สำหรับผม... . เมื่อผมพร้อมเรียนรู้ แต่ อาจารย์ไม่คู่ควร ผมก็อ่านเอง สอบผ่านเองได้ครับ... . จะไปนับถือแม่งทำไม... . 🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣 . ปล. . ไอ้ตอนที่ประเทศไทย เสีย 4.6 ตารางกิโลเมตร รอบตัวปราสาทพระวิหารเนี่ย ก็เพราะ "ไอ้ผู้รู้" จาก 2 กระทรวงกร๊วก นั่นไม่ใช่เหรอ...??? . อยากหลอกตัวเองให้ เชื่อว่าตัวเองเก่งทุกเรื่อง ไม่เคยผิด ก็ล้างสมองกันต่อไปเถอะ . ผลงานมันฟ้องเป็นที่ประจักษ์แก่ชาวโลกอยู่ทนโท่แล้ว... . ถ้าไม่ใช้เขางอกจนโง้งขนาดหนัก ก็น่าเข้าใจได้ไม่ยากหรอก... . 🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣 . https://youtube.com/shorts/0p0piMbDFgE?si=9ZcFGpHTYmZJK-PC
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • หยุดพูดเรื่อง AI แบบหลอน ๆ – นักเทคโนโลยีเรียกร้องให้กลับมาคุยกันอย่างมีสติ

    บทความนี้สะท้อนเสียงจากนักพัฒนา AI ตัวจริง ที่เบื่อหน่ายกับคำพูดสุดโต่งของเหล่าผู้บริหารและผู้เชียร์ AI ที่มักพูดถึงเทคโนโลยีนี้ในเชิงศาสนา หรือภัยคุกคามระดับโลก ทั้งที่คนสร้าง AI ส่วนใหญ่มองว่า มันก็แค่ “เทคโนโลยีธรรมดา” ที่ควรใช้ด้วยเหตุผลและความระมัดระวัง.

    เรื่องเล่าจากสนามจริง: นักสร้าง AI อยากให้ทุกคนใจเย็น
    ในช่วงที่ AI อยู่ในจุดสูงสุดของกระแส hype หลายคนเริ่มพูดถึงมันในแบบสุดโต่ง เช่น Dario Amodei จาก Anthropic ที่เคยกล่าวว่า AI จะเขียนโค้ด 90% ของโลกภายใน 6 เดือน และจะ ทำให้ครึ่งหนึ่งของงานออฟฟิศหายไปใน 5 ปี. Sam Altman จาก OpenAI ก็เคยพูดว่า “การลดความเสี่ยงจากการสูญพันธุ์ด้วย AI ควรเป็นวาระระดับโลก”

    นักเทคโนโลยีอย่าง Anil Dash และ Gina Trapani กลับมองว่า คำพูดเหล่านี้ไม่เพียงหลอน แต่ยังบิดเบือนความเข้าใจของสาธารณะ. พวกเขาเรียกร้องให้พูดถึง AI ในฐานะ “เทคโนโลยีธรรมดา” ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ไม่ใช่เทพเจ้า หรือปีศาจ

    นักพัฒนา AI ส่วนใหญ่มีมุมมองที่เป็นกลาง
    มองว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์ แต่ไม่ใช่สิ่งวิเศษ
    ต้องมีการควบคุม ตรวจสอบ และวิจารณ์อย่างมีเหตุผล
    ไม่ควรพูดถึง AI ในเชิงศาสนา หรือภัยคุกคามระดับโลก

    เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ
    Anil Dash ชี้ว่าผู้สร้าง AI มีมุมมองที่สอดคล้องกัน
    Gina Trapani ระบุว่า คนในวงการไม่กล้าพูดความจริง เพราะกลัวเสียงาน
    เรียกร้องให้มีการพูดถึง AI อย่างมีสติและไม่หลอน

    คำเตือนจากการพูดถึง AI แบบสุดโต่ง
    คำพูดเช่น “AI จะทำให้มนุษย์สูญพันธุ์” สร้างความกลัวเกินจริง
    การเปรียบ AI เป็น “พระเจ้า” หรือ “ศาสนาใหม่” ทำให้คนทั่วไปสับสน
    การบังคับให้ทุกคนใช้ AI โดยไม่เข้าใจ อาจสร้างแรงต้าน

    ผลกระทบต่อวงการและสังคม
    คนทั่วไปอาจเข้าใจผิดว่า AI เป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
    นักพัฒนา AI ที่มีมุมมองกลาง ๆ อาจถูกมองว่า “ไม่ทันสมัย”
    การพูดถึง AI แบบหลอน ๆ อาจทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีสะดุด

    AI ไม่ใช่พระเจ้า และไม่ใช่ปีศาจ มันคือเครื่องมือที่เราต้องเข้าใจและใช้ให้เป็น หากคุณรู้สึกว่าเสียงรอบตัวพูดถึง AI แบบเว่อร์ ๆ คุณไม่ได้คิดไปเอง – คนสร้าง AI ส่วนใหญ่ก็คิดแบบเดียวกัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/04/technologists-to-ai-cheerleaders-stop-being-so-creepy
    🧠 หยุดพูดเรื่อง AI แบบหลอน ๆ – นักเทคโนโลยีเรียกร้องให้กลับมาคุยกันอย่างมีสติ บทความนี้สะท้อนเสียงจากนักพัฒนา AI ตัวจริง ที่เบื่อหน่ายกับคำพูดสุดโต่งของเหล่าผู้บริหารและผู้เชียร์ AI ที่มักพูดถึงเทคโนโลยีนี้ในเชิงศาสนา หรือภัยคุกคามระดับโลก ทั้งที่คนสร้าง AI ส่วนใหญ่มองว่า มันก็แค่ “เทคโนโลยีธรรมดา” ที่ควรใช้ด้วยเหตุผลและความระมัดระวัง. 📣 เรื่องเล่าจากสนามจริง: นักสร้าง AI อยากให้ทุกคนใจเย็น ในช่วงที่ AI อยู่ในจุดสูงสุดของกระแส hype หลายคนเริ่มพูดถึงมันในแบบสุดโต่ง เช่น Dario Amodei จาก Anthropic ที่เคยกล่าวว่า AI จะเขียนโค้ด 90% ของโลกภายใน 6 เดือน และจะ ทำให้ครึ่งหนึ่งของงานออฟฟิศหายไปใน 5 ปี. Sam Altman จาก OpenAI ก็เคยพูดว่า “การลดความเสี่ยงจากการสูญพันธุ์ด้วย AI ควรเป็นวาระระดับโลก” นักเทคโนโลยีอย่าง Anil Dash และ Gina Trapani กลับมองว่า คำพูดเหล่านี้ไม่เพียงหลอน แต่ยังบิดเบือนความเข้าใจของสาธารณะ. พวกเขาเรียกร้องให้พูดถึง AI ในฐานะ “เทคโนโลยีธรรมดา” ที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ไม่ใช่เทพเจ้า หรือปีศาจ ✅ นักพัฒนา AI ส่วนใหญ่มีมุมมองที่เป็นกลาง ➡️ มองว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่มีประโยชน์ แต่ไม่ใช่สิ่งวิเศษ ➡️ ต้องมีการควบคุม ตรวจสอบ และวิจารณ์อย่างมีเหตุผล ➡️ ไม่ควรพูดถึง AI ในเชิงศาสนา หรือภัยคุกคามระดับโลก ✅ เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ ➡️ Anil Dash ชี้ว่าผู้สร้าง AI มีมุมมองที่สอดคล้องกัน ➡️ Gina Trapani ระบุว่า คนในวงการไม่กล้าพูดความจริง เพราะกลัวเสียงาน ➡️ เรียกร้องให้มีการพูดถึง AI อย่างมีสติและไม่หลอน ‼️ คำเตือนจากการพูดถึง AI แบบสุดโต่ง ⛔ คำพูดเช่น “AI จะทำให้มนุษย์สูญพันธุ์” สร้างความกลัวเกินจริง ⛔ การเปรียบ AI เป็น “พระเจ้า” หรือ “ศาสนาใหม่” ทำให้คนทั่วไปสับสน ⛔ การบังคับให้ทุกคนใช้ AI โดยไม่เข้าใจ อาจสร้างแรงต้าน ‼️ ผลกระทบต่อวงการและสังคม ⛔ คนทั่วไปอาจเข้าใจผิดว่า AI เป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ ⛔ นักพัฒนา AI ที่มีมุมมองกลาง ๆ อาจถูกมองว่า “ไม่ทันสมัย” ⛔ การพูดถึง AI แบบหลอน ๆ อาจทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีสะดุด AI ไม่ใช่พระเจ้า และไม่ใช่ปีศาจ มันคือเครื่องมือที่เราต้องเข้าใจและใช้ให้เป็น 🛠️ หากคุณรู้สึกว่าเสียงรอบตัวพูดถึง AI แบบเว่อร์ ๆ คุณไม่ได้คิดไปเอง – คนสร้าง AI ส่วนใหญ่ก็คิดแบบเดียวกัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/04/technologists-to-ai-cheerleaders-stop-being-so-creepy
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Technologists to AI cheerleaders: Stop being so creepy
    These days, AI is definitely near the peak of the hype cycle, when pronouncements about a new technology reach their most fevered pitch. But even given that reality, CEOs of AI companies and other assorted AI boosters have been saying a lot of creepy and extreme stuff lately.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักพัฒนาเกมหวั่น AI แย่งบทบาทสร้างสรรค์ – เทคโนโลยีที่ทั้งช่วยและท้าทายวงการเกม

    AI กำลังกลายเป็นเครื่องมือทรงพลังในอุตสาหกรรมเกม แต่ก็สร้างความกังวลไม่น้อยในหมู่นักพัฒนาและศิลปิน ว่าจะกลายเป็นผู้แย่งงานแทนที่จะเป็นผู้ช่วย.

    ลองนึกภาพว่าเกมที่คุณเล่นทุกวันนี้ อาจมีฉาก ตัวละคร หรือแม้แต่บทพูดที่สร้างขึ้นโดย AI ทั้งหมด โดยไม่ผ่านมือมนุษย์เลยแม้แต่น้อย นั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเกมทั่วโลก

    จากการศึกษาของ Totally Human Media พบว่า เกือบ 20% ของเกมบน Steam ปีนี้ใช้ AI ในการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นเกมดังอย่าง Call of Duty: Black Ops 6 หรือเกมจำลองชีวิต Inzoi. AI ถูกใช้ในหลายด้าน เช่น การพากย์เสียง การวาดภาพประกอบ หรือแม้แต่ช่วยเขียนโค้ด

    Ethan Hu จาก Meshy.ai เผยว่า การสร้างโมเดล 3D ที่เคยใช้เวลา 2 สัปดาห์และงบประมาณ 1,000 ดอลลาร์ ตอนนี้ใช้เวลาแค่ 1 นาทีและต้นทุนเพียง 2 ดอลลาร์. นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับทีมพัฒนาเกม

    แต่ไม่ใช่ทุกคนจะต้อนรับ AI ด้วยรอยยิ้ม

    แม้ AI จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความเร็วในการผลิตเกม แต่ก็สร้างความกังวลในหมู่คนทำงาน โดยเฉพาะเรื่อง การลดตำแหน่งงาน และ คุณภาพของงานที่ AI สร้างขึ้น

    นักพัฒนาจากสตูดิโอในฝรั่งเศสเผยว่า โมเดล 3D ที่สร้างโดย AI มักจะ “วุ่นวาย” และต้องใช้เวลาซ่อมแซมเท่ากับการสร้างใหม่. ขณะที่ผู้เล่นเองก็เริ่มจับผิดว่าเกมใดใช้ AI โดยไม่แจ้งล่วงหน้า เช่นกรณีเกม The Alters ที่ถูกวิจารณ์หนักหลังพบข้อความที่สร้างโดย AI โดยไม่ได้ระบุไว้ก่อน

    AI ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเกมอย่างแพร่หลาย
    เกือบ 20% ของเกมบน Steam ปี 2025 ใช้ AI ในการพัฒนา
    ใช้ในงานพากย์เสียง ภาพประกอบ และเขียนโค้ด
    ลดต้นทุนและเวลาในการสร้างโมเดล 3D อย่างมหาศาล

    บริษัทใหญ่เริ่มลงทุนใน AI
    EA ร่วมมือกับ Stability AI
    Microsoft พัฒนาโมเดล AI ชื่อ Muse
    Ubisoft และ Quantic Dream ยังไม่เปิดเผยแนวทาง

    ความกังวลจากนักพัฒนาเกม
    กลัวการลดตำแหน่งงานจากการใช้ AI
    ผลงานที่สร้างโดย AI ยังต้องแก้ไขมาก
    ขาดความโปร่งใสในการแจ้งผู้เล่นว่าใช้ AI

    ความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น
    ผู้เล่นอาจไม่พอใจหากพบว่าเกมใช้ AI โดยไม่แจ้ง
    นักลงทุนยังไม่ใช้ AI เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจ
    การไม่ใช้ AI อาจทำให้สตูดิโอเสียเปรียบในการแข่งขัน

    AI ในวงการเกมคือดาบสองคม – ทั้งช่วยให้สร้างสรรค์ได้เร็วขึ้น และอาจทำให้มนุษย์ถูกลดบทบาทลง หากคุณเป็นนักเล่นเกมหรือผู้พัฒนาเกม นี่คือช่วงเวลาที่ต้องตั้งคำถามว่า “เรายังควบคุมเกมอยู่ หรือ AI กำลังถือจอยแทนเรา?”

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/04/video-game-creators-fear-ai-could-grab-the-controller
    🎮 นักพัฒนาเกมหวั่น AI แย่งบทบาทสร้างสรรค์ – เทคโนโลยีที่ทั้งช่วยและท้าทายวงการเกม AI กำลังกลายเป็นเครื่องมือทรงพลังในอุตสาหกรรมเกม แต่ก็สร้างความกังวลไม่น้อยในหมู่นักพัฒนาและศิลปิน ว่าจะกลายเป็นผู้แย่งงานแทนที่จะเป็นผู้ช่วย. ลองนึกภาพว่าเกมที่คุณเล่นทุกวันนี้ อาจมีฉาก ตัวละคร หรือแม้แต่บทพูดที่สร้างขึ้นโดย AI ทั้งหมด โดยไม่ผ่านมือมนุษย์เลยแม้แต่น้อย นั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเกมทั่วโลก จากการศึกษาของ Totally Human Media พบว่า เกือบ 20% ของเกมบน Steam ปีนี้ใช้ AI ในการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นเกมดังอย่าง Call of Duty: Black Ops 6 หรือเกมจำลองชีวิต Inzoi. AI ถูกใช้ในหลายด้าน เช่น การพากย์เสียง การวาดภาพประกอบ หรือแม้แต่ช่วยเขียนโค้ด Ethan Hu จาก Meshy.ai เผยว่า การสร้างโมเดล 3D ที่เคยใช้เวลา 2 สัปดาห์และงบประมาณ 1,000 ดอลลาร์ ตอนนี้ใช้เวลาแค่ 1 นาทีและต้นทุนเพียง 2 ดอลลาร์. นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับทีมพัฒนาเกม 😨 แต่ไม่ใช่ทุกคนจะต้อนรับ AI ด้วยรอยยิ้ม แม้ AI จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความเร็วในการผลิตเกม แต่ก็สร้างความกังวลในหมู่คนทำงาน โดยเฉพาะเรื่อง การลดตำแหน่งงาน และ คุณภาพของงานที่ AI สร้างขึ้น นักพัฒนาจากสตูดิโอในฝรั่งเศสเผยว่า โมเดล 3D ที่สร้างโดย AI มักจะ “วุ่นวาย” และต้องใช้เวลาซ่อมแซมเท่ากับการสร้างใหม่. ขณะที่ผู้เล่นเองก็เริ่มจับผิดว่าเกมใดใช้ AI โดยไม่แจ้งล่วงหน้า เช่นกรณีเกม The Alters ที่ถูกวิจารณ์หนักหลังพบข้อความที่สร้างโดย AI โดยไม่ได้ระบุไว้ก่อน ✅ AI ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมเกมอย่างแพร่หลาย ➡️ เกือบ 20% ของเกมบน Steam ปี 2025 ใช้ AI ในการพัฒนา ➡️ ใช้ในงานพากย์เสียง ภาพประกอบ และเขียนโค้ด ➡️ ลดต้นทุนและเวลาในการสร้างโมเดล 3D อย่างมหาศาล ✅ บริษัทใหญ่เริ่มลงทุนใน AI ➡️ EA ร่วมมือกับ Stability AI ➡️ Microsoft พัฒนาโมเดล AI ชื่อ Muse ➡️ Ubisoft และ Quantic Dream ยังไม่เปิดเผยแนวทาง ‼️ ความกังวลจากนักพัฒนาเกม ⛔ กลัวการลดตำแหน่งงานจากการใช้ AI ⛔ ผลงานที่สร้างโดย AI ยังต้องแก้ไขมาก ⛔ ขาดความโปร่งใสในการแจ้งผู้เล่นว่าใช้ AI ‼️ ความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์และความเชื่อมั่น ⛔ ผู้เล่นอาจไม่พอใจหากพบว่าเกมใช้ AI โดยไม่แจ้ง ⛔ นักลงทุนยังไม่ใช้ AI เป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจ ⛔ การไม่ใช้ AI อาจทำให้สตูดิโอเสียเปรียบในการแข่งขัน AI ในวงการเกมคือดาบสองคม – ทั้งช่วยให้สร้างสรรค์ได้เร็วขึ้น และอาจทำให้มนุษย์ถูกลดบทบาทลง หากคุณเป็นนักเล่นเกมหรือผู้พัฒนาเกม นี่คือช่วงเวลาที่ต้องตั้งคำถามว่า “เรายังควบคุมเกมอยู่ หรือ AI กำลังถือจอยแทนเรา?” 🎮✨ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/04/video-game-creators-fear-ai-could-grab-the-controller
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Video game creators fear AI could grab the controller
    Generative artificial intelligence models capable of dreaming up ultra-realistic characters and virtual universes could make for cheaper, better video games in future, but the emerging technology has artists and developers on edge.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อความปลอดภัยกลายเป็นพลังขับเคลื่อนธุรกิจ

    ลองจินตนาการว่า CISO (Chief Information Security Officer) ไม่ได้เป็นแค่ผู้เฝ้าระวังภัยไซเบอร์อีกต่อไป แต่กลายเป็น "ที่ปรึกษากลยุทธ์" ที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้า นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในหลายองค์กรยุคใหม่ โดยเฉพาะกรณีของ Tim Sattler จาก Jungheinrich AG ที่ไม่เพียงแต่ดูแลความปลอดภัย แต่ยังร่วมทีม AI เพื่อค้นหาโอกาสใหม่ ๆ ให้กับบริษัท

    เขาไม่มองแค่ "ความเสี่ยง" แต่ยังมองเห็น "โอกาส" จากเทคโนโลยี เช่น AI และควอนตัมคอมพิวติ้ง และนี่คือบทบาทใหม่ของฝ่ายความปลอดภัยที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าตื่นเต้น

    ความปลอดภัยต้องสอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร
    CISO ควรรู้เป้าหมายธุรกิจ คู่แข่ง และแนวโน้มอุตสาหกรรม
    การเข้าใจโอกาสจากเทคโนโลยีใหม่เป็นสิ่งจำเป็น เช่น AI และควอนตัมคอมพิวติ้ง
    การมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นในโครงการธุรกิจช่วยลดแรงเสียดทานและเพิ่มความไว้วางใจ

    ตัวอย่างการปรับตัวของ CISO ที่ดี
    เข้าร่วมทีม AI เพื่อวิเคราะห์โอกาสและความเสี่ยง
    ให้คำแนะนำกับบอร์ดบริหารเรื่องเทคโนโลยีใหม่
    ใช้เวลาศึกษาเทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อออกแบบแนวทางใช้งานอย่างปลอดภัย

    ตัวชี้วัดของการปรับตัวที่ดี
    ใช้ตัวชี้วัดทางธุรกิจในการประเมินประสิทธิภาพของความปลอดภัย
    ทำงานร่วมกับฝ่ายวิศวกรรมเพื่อออกแบบระบบที่ปลอดภัยแต่ไม่รบกวนการผลิต
    วางแผนงานความปลอดภัยให้สอดคล้องกับเวลาหยุดของโรงงาน

    คำเตือนจากการวิจัย
    มีเพียง 13% ของ CISO ที่ถูกปรึกษาตั้งแต่ต้นในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์
    58% ของผู้บริหารด้านความปลอดภัยยังไม่สามารถอธิบายคุณค่าของตนเกินกว่าการลดความเสี่ยง
    ความไม่เข้าใจเป้าหมายธุรกิจทำให้ฝ่ายความปลอดภัยกลายเป็น "เกาะโดดเดี่ยว"

    ความเสี่ยงจากการไม่ปรับตัว
    การวางระบบความปลอดภัยที่เกินความจำเป็นอาจทำให้ธุรกิจชะงัก
    การเข้าร่วมโครงการหลังจากเริ่มไปแล้วทำให้ฝ่ายความปลอดภัยกลายเป็นผู้ขัดขวาง
    การไม่เข้าใจกลยุทธ์องค์กรทำให้ไม่สามารถสนับสนุนการเติบโตได้อย่างแท้จริง

    ถ้าคุณเป็นผู้บริหารหรือทำงานด้านความปลอดภัย ลองถามตัวเองว่า “เรากำลังช่วยให้ธุรกิจเติบโต หรือแค่ป้องกันไม่ให้มันล้ม?” เพราะในยุคนี้ ความปลอดภัยไม่ใช่แค่เกราะป้องกัน แต่คือพลังขับเคลื่อนธุรกิจอย่างแท้จริง

    https://www.csoonline.com/article/4080670/what-does-aligning-security-to-the-business-really-mean.html
    🛡️ เมื่อความปลอดภัยกลายเป็นพลังขับเคลื่อนธุรกิจ ลองจินตนาการว่า CISO (Chief Information Security Officer) ไม่ได้เป็นแค่ผู้เฝ้าระวังภัยไซเบอร์อีกต่อไป แต่กลายเป็น "ที่ปรึกษากลยุทธ์" ที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้า นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในหลายองค์กรยุคใหม่ โดยเฉพาะกรณีของ Tim Sattler จาก Jungheinrich AG ที่ไม่เพียงแต่ดูแลความปลอดภัย แต่ยังร่วมทีม AI เพื่อค้นหาโอกาสใหม่ ๆ ให้กับบริษัท เขาไม่มองแค่ "ความเสี่ยง" แต่ยังมองเห็น "โอกาส" จากเทคโนโลยี เช่น AI และควอนตัมคอมพิวติ้ง และนี่คือบทบาทใหม่ของฝ่ายความปลอดภัยที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าตื่นเต้น ✅ ความปลอดภัยต้องสอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร ➡️ CISO ควรรู้เป้าหมายธุรกิจ คู่แข่ง และแนวโน้มอุตสาหกรรม ➡️ การเข้าใจโอกาสจากเทคโนโลยีใหม่เป็นสิ่งจำเป็น เช่น AI และควอนตัมคอมพิวติ้ง ➡️ การมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นในโครงการธุรกิจช่วยลดแรงเสียดทานและเพิ่มความไว้วางใจ ✅ ตัวอย่างการปรับตัวของ CISO ที่ดี ➡️ เข้าร่วมทีม AI เพื่อวิเคราะห์โอกาสและความเสี่ยง ➡️ ให้คำแนะนำกับบอร์ดบริหารเรื่องเทคโนโลยีใหม่ ➡️ ใช้เวลาศึกษาเทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อออกแบบแนวทางใช้งานอย่างปลอดภัย ✅ ตัวชี้วัดของการปรับตัวที่ดี ➡️ ใช้ตัวชี้วัดทางธุรกิจในการประเมินประสิทธิภาพของความปลอดภัย ➡️ ทำงานร่วมกับฝ่ายวิศวกรรมเพื่อออกแบบระบบที่ปลอดภัยแต่ไม่รบกวนการผลิต ➡️ วางแผนงานความปลอดภัยให้สอดคล้องกับเวลาหยุดของโรงงาน ‼️ คำเตือนจากการวิจัย ⛔ มีเพียง 13% ของ CISO ที่ถูกปรึกษาตั้งแต่ต้นในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ⛔ 58% ของผู้บริหารด้านความปลอดภัยยังไม่สามารถอธิบายคุณค่าของตนเกินกว่าการลดความเสี่ยง ⛔ ความไม่เข้าใจเป้าหมายธุรกิจทำให้ฝ่ายความปลอดภัยกลายเป็น "เกาะโดดเดี่ยว" ‼️ ความเสี่ยงจากการไม่ปรับตัว ⛔ การวางระบบความปลอดภัยที่เกินความจำเป็นอาจทำให้ธุรกิจชะงัก ⛔ การเข้าร่วมโครงการหลังจากเริ่มไปแล้วทำให้ฝ่ายความปลอดภัยกลายเป็นผู้ขัดขวาง ⛔ การไม่เข้าใจกลยุทธ์องค์กรทำให้ไม่สามารถสนับสนุนการเติบโตได้อย่างแท้จริง ถ้าคุณเป็นผู้บริหารหรือทำงานด้านความปลอดภัย ลองถามตัวเองว่า “เรากำลังช่วยให้ธุรกิจเติบโต หรือแค่ป้องกันไม่ให้มันล้ม?” เพราะในยุคนี้ ความปลอดภัยไม่ใช่แค่เกราะป้องกัน แต่คือพลังขับเคลื่อนธุรกิจอย่างแท้จริง 💼✨ https://www.csoonline.com/article/4080670/what-does-aligning-security-to-the-business-really-mean.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    What does aligning security to the business really mean?
    Security leaders must ensure their security strategies and teams support the organization’s overall business strategy. Here’s what that looks like in practice — and why it remains so challenging.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อคง วัดธรรมโฆษณ์หลังหลวงพ่ออั้น วัดไทรงาม จ.สงขลา
    เหรียญหลวงพ่อคง วัดธรรมโฆษณ์หลังหลวงพ่ออั้น วัดไทรงาม จ.สงขลา ปี2538 //พระดีพิธีใหญ่ !! พระมีประสบการณ์มาก คงกระพัน มหาอุด แคล้วคลาด คุ้มครอง //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ สามารถปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย รอดพ้นจากภัยอันตรายต่างๆทั้งปวง ประสบแต่ความสุขความเจริญ และอยู่ร่มเย็น เสริมอำนาจบารมี เพิ่มยศเพิ่มตำแหน่ง หนุนโชคลาภ การงาน การเงิน เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน ค้าขาย เรียกทรัพย์ **


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อคง วัดธรรมโฆษณ์หลังหลวงพ่ออั้น วัดไทรงาม จ.สงขลา เหรียญหลวงพ่อคง วัดธรรมโฆษณ์หลังหลวงพ่ออั้น วัดไทรงาม จ.สงขลา ปี2538 //พระดีพิธีใหญ่ !! พระมีประสบการณ์มาก คงกระพัน มหาอุด แคล้วคลาด คุ้มครอง //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ สามารถปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย รอดพ้นจากภัยอันตรายต่างๆทั้งปวง ประสบแต่ความสุขความเจริญ และอยู่ร่มเย็น เสริมอำนาจบารมี เพิ่มยศเพิ่มตำแหน่ง หนุนโชคลาภ การงาน การเงิน เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน ค้าขาย เรียกทรัพย์ ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อคำแหง รุ่น1 สำนักวิปัสสนากรรมฐานบ้านเหนือ ปี2541
    เหรียญหลวงพ่อคำแหง รุ่น1 สำนักวิปัสสนากรรมฐานบ้านเหนือ ปี2541 // พระดีพิธีขลัง !! // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณ เสริมอำนาจบารมี เพิ่มยศเพิ่มตำแหน่ง แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม หนุนโชคลาภ การงาน การเงิน เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน ค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อคำแหง รุ่น1 สำนักวิปัสสนากรรมฐานบ้านเหนือ ปี2541 เหรียญหลวงพ่อคำแหง รุ่น1 สำนักวิปัสสนากรรมฐานบ้านเหนือ ปี2541 // พระดีพิธีขลัง !! // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณ เสริมอำนาจบารมี เพิ่มยศเพิ่มตำแหน่ง แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม หนุนโชคลาภ การงาน การเงิน เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน ค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมึกฉาบสามรส อร่อยเลิศ…ของดีที่ต้องลิ้มลอง… พลาดแล้วจะเสียใจ… เพราะกลมกล่อมอร่อยดีเกินต้าน

    “แค่เปิดถุง… กลิ่นก็มาแล้ว
    หมึกฉาบสามรส กรอบนอก นุ่มใน รสจัดจ้านสะใจ!
    เตือนแล้วนะ... กินคนเดียวหมดถุงแน่!”

    หมึกฉาบสามรสใน TikTok
    https://vt.tiktok.com/ZSBvmN6mF/

    หมึกฉาบสามรสใน Shopee
    https://th.shp.ee/gKjqCk9

    เลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง
    1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop
    2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1

    ช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ

    #หมึกฉาบสามรส #ของกินเล่น #หมึกกรอบ
    #ของกินTikTok #ของดีบอกต่อ #พร้อมส่ง #อาหารทะเลแห้ง # l สายกินต้องลอง #เคี้ยวเพลิน #ขนมขบเคี้ยว

    #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #หมึกฉาบสามรส #ปลากระพงทุบ #หมึกกระตอย #กุนเชียงปลา
    หมึกฉาบสามรส อร่อยเลิศ…ของดีที่ต้องลิ้มลอง… พลาดแล้วจะเสียใจ… เพราะกลมกล่อมอร่อยดีเกินต้าน “แค่เปิดถุง… กลิ่นก็มาแล้ว 🤤 หมึกฉาบสามรส กรอบนอก นุ่มใน รสจัดจ้านสะใจ! เตือนแล้วนะ... กินคนเดียวหมดถุงแน่!” หมึกฉาบสามรสใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZSBvmN6mF/ หมึกฉาบสามรสใน Shopee https://th.shp.ee/gKjqCk9 เลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง 1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop 2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1 ช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ #หมึกฉาบสามรส #ของกินเล่น #หมึกกรอบ #ของกินTikTok #ของดีบอกต่อ #พร้อมส่ง #อาหารทะเลแห้ง # l สายกินต้องลอง #เคี้ยวเพลิน #ขนมขบเคี้ยว #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #หมึกฉาบสามรส #ปลากระพงทุบ #หมึกกระตอย #กุนเชียงปลา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • สมเด็จแก้วพระจักรพรรดิ์ วัดป่าคำไก่แก้วสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู ปี2550
    สมเด็จแก้วพระจักรพรรดิ์ วัดป่าคำไก่แก้วสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู ปี2550 /// พระดีพิธีขลัง !! มอบให้ผู้มีวาสนา วางศิลาฤกษ์ พระ ๙ เมตร // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณ เสริมอำนาจบารมี เพิ่มยศเพิ่มตำแหน่ง แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม หนุนโชคลาภ การงาน การเงิน เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน ค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    สมเด็จแก้วพระจักรพรรดิ์ วัดป่าคำไก่แก้วสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู ปี2550 สมเด็จแก้วพระจักรพรรดิ์ วัดป่าคำไก่แก้วสวรรค์ จ.หนองบัวลำภู ปี2550 /// พระดีพิธีขลัง !! มอบให้ผู้มีวาสนา วางศิลาฤกษ์ พระ ๙ เมตร // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณ เสริมอำนาจบารมี เพิ่มยศเพิ่มตำแหน่ง แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม หนุนโชคลาภ การงาน การเงิน เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน ค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ปราสาทตาควายยังเป็นของไทย" รมว.กลาโหม ลั่นไม่ยอม ไม่คุยเรื่องอื่นจนกว่ากัมพูชาจะเคลียร์หมดทุกเรื่อง
    https://www.thai-tai.tv/news/22209/
    .
    #ไทยไท #ปราสาทตาควาย #ณัฐพลนาคพาณิชย์ #อนุสัญญาเจนีวา #ทุ่นระเบิด #ชายแดนไทยกัมพูชา

    "ปราสาทตาควายยังเป็นของไทย" รมว.กลาโหม ลั่นไม่ยอม ไม่คุยเรื่องอื่นจนกว่ากัมพูชาจะเคลียร์หมดทุกเรื่อง https://www.thai-tai.tv/news/22209/ . #ไทยไท #ปราสาทตาควาย #ณัฐพลนาคพาณิชย์ #อนุสัญญาเจนีวา #ทุ่นระเบิด #ชายแดนไทยกัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts