• ตามรายงานของนิวยอร์กโพสต์ ซึ่งอ้างอิงแหล่งข่าวใกล้ชิดเซเลนสกี เชื่อว่าหากเซเลนสกีต้องลี้ภัยต่างประเทศ

    “ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเขา คงหนีไม่พ้นฝรั่งเศส”
    ตามรายงานของนิวยอร์กโพสต์ ซึ่งอ้างอิงแหล่งข่าวใกล้ชิดเซเลนสกี เชื่อว่าหากเซเลนสกีต้องลี้ภัยต่างประเทศ “ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเขา คงหนีไม่พ้นฝรั่งเศส”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ โพสต์ข้อความบน Truth Social ยกย่องตัวเองว่าเป็น “กษัตริย์” หลังจากยกเลิกโครงการเก็บ “ค่าธรรมเนียมรถติด” (Congestion pricing) ในนครนิวยอร์ก โดยทรัมป์ กล่าวว่าค่าธรรมเนียมรถติดตายแล้ว ทำให้ แมนฮัตตันและทั่วทั้งนิวยอร์กปลอดภัยและลงท้ายว่า “LONG LIVE THE KING!" ปรากฏว่าในXบัญชีThe White House ของทำเนียบขาวถือโอกาสเชียร์ สร้างภาพทรัมป์สวมมงกุฎพระราชาภายในกรอบแดง เลียนแบบหน้าปกของนิตยสารไทม์ โดยพาดว่า “LONG LIVE THE KING”โดยต่อยอดคำพูดยกยอตัวเองของทรัมป์เผยแพร่ออกไป ทำให้คำว่า “LONG LIVE THE KING” ติดเทรนด์ยอดนิยมบน X ในสหรัฐฯ สื่อท้องถิ่นสหรัฐฯ บางสำนักกล่าวว่าการโพสต์จากบัญชีทางการของทำเนียบขาวที่แปลก ๆทรัมป์เกิดขึ้นในยุคทรัมป์ครองอำนาจประธานาธิบดีที่อยากเป็น "กษัตริย์แห่งอเมริกา"
    โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ โพสต์ข้อความบน Truth Social ยกย่องตัวเองว่าเป็น “กษัตริย์” หลังจากยกเลิกโครงการเก็บ “ค่าธรรมเนียมรถติด” (Congestion pricing) ในนครนิวยอร์ก โดยทรัมป์ กล่าวว่าค่าธรรมเนียมรถติดตายแล้ว ทำให้ แมนฮัตตันและทั่วทั้งนิวยอร์กปลอดภัยและลงท้ายว่า “LONG LIVE THE KING!" ปรากฏว่าในXบัญชีThe White House ของทำเนียบขาวถือโอกาสเชียร์ สร้างภาพทรัมป์สวมมงกุฎพระราชาภายในกรอบแดง เลียนแบบหน้าปกของนิตยสารไทม์ โดยพาดว่า “LONG LIVE THE KING”โดยต่อยอดคำพูดยกยอตัวเองของทรัมป์เผยแพร่ออกไป ทำให้คำว่า “LONG LIVE THE KING” ติดเทรนด์ยอดนิยมบน X ในสหรัฐฯ สื่อท้องถิ่นสหรัฐฯ บางสำนักกล่าวว่าการโพสต์จากบัญชีทางการของทำเนียบขาวที่แปลก ๆทรัมป์เกิดขึ้นในยุคทรัมป์ครองอำนาจประธานาธิบดีที่อยากเป็น "กษัตริย์แห่งอเมริกา"
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • งามไส้! ทองคำไทยที่ฝากไว้ในสหรัฐ อาการน่าเป็นห่วง 20/02/68 #ทองคำไทย #ลอนดอน #นิวยอร์ก
    งามไส้! ทองคำไทยที่ฝากไว้ในสหรัฐ อาการน่าเป็นห่วง 20/02/68 #ทองคำไทย #ลอนดอน #นิวยอร์ก
    Angry
    Like
    Sad
    9
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 982 มุมมอง 33 0 รีวิว
  • ทองคำไทยที่ฝากที่ลอนดอน และนิวยอร์กอาจจะไม่ได้คืน : คนเคาะข่าว 18-02-68

    https://www.youtube.com/watch?v=z1Z6ML6IPJ4&list=WL&index=10
    ทองคำไทยที่ฝากที่ลอนดอน และนิวยอร์กอาจจะไม่ได้คืน : คนเคาะข่าว 18-02-68 https://www.youtube.com/watch?v=z1Z6ML6IPJ4&list=WL&index=10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยว่าเขาสั่งการให้กระทรวงยุติธรรม เลิกจ้างบรรดาอัยการอเมริกาในยุคของไบเดน ที่ยังเหลือยู่ทั้งหมด อ้างว่ากระทรวงแห่งนี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
    .
    "เราต้องทำความสะอาดบ้านในทันที และฟื้นฟูความชื่อมั่น ยุคทองของอเมริกาจำเป็นต้องมีระบบยุติธรรมที่ยุติธรรม และมันเริ่มขึ้นแล้วในวันนี้" ทรัมป์โพสต์ข้อความบนทรัสต์โซเชียล
    .
    สำนักข่าวรอยเตอร์ติดต่อสอบถามไปยังกระทรวงยุติธรรม แต่กระทรวงยุติธรรมยังไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว
    .
    เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำเนียบขาวส่งหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญาไปยังอัยการสหรัฐฯ หลายคนทั่วประเทศ ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต และล่าสุดในวันจันทร์ (17 ก.พ.) อัยการสหรัฐฯ หลายคนที่ได้รับการแต่งตั้งจากไบเดน แถลงว่ากำลังลาออก ส่วนคนอื่นๆ ได้ออกจากรัฐบาลตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
    .
    แม้ตามธรรรมเนียมแล้ว บรรดาอัยการหรัฐฯ จะลาออกหลังมีการเปลี่ยนแปลงในการบริหารงานประธานาธิบดี แต่โดยปกติแล้วรัฐบาลที่กำลังเข้ารับตำแหน่งจะร้องขอให้พวกเขาลาออกจากตำแหน่งอย่างละมุนละม่อมและไม่ออกหนังสือเลิกจ้างที่ใช้ถ้อยคำกะทัดรัดเช่นนี้ จากความเห็นของอดีตทนายความทั้งในอดีตและปัจจุบันของกระทรวงยุติธรรม
    .
    การเลิกจ้างบรรดาอัยการสหรัฐฯ ซึ่งทำหน้าที่ในฐานะเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายรัฐบาลกลางระดับสูงสุด ตามเขตต่างๆ ของอัยการรายนั้นๆ ถือเป็นการยกเครื่องล่าสุดภายในกระทรวงยุติธรรม นับตั้งแต่ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งในเดือนที่แล้ว
    .
    แม้กระทั่งพวกเจ้าหน้าที่ที่มีอาชีพการเงินในกระทรวงยุติธรรม ที่ปกติแล้วจะยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไปแม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาลก็ตาม แต่คราวนี้มีพวกเขาหลายสิบคนในเมืองต่างๆ อย่างเช่นวอชิงตันและนิวยอร์ก ที่ถูกไล่ออกหรือลาออกไป นับตั้งแต่ ทรัมป์ ก้าวเข้าสู่อำนาจ
    .
    ระหว่างรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ทรัมป์ประกาศกร้าวว่าจะยุติการใช้กระทรวงยุติธรรมเป็นเครื่องมือทางการเมือง ในสิ่งที่เขากล่าวอ้างว่าถูกใช้เล่นงานเขา ในช่วงหลายขวบปีที่พ้นจากอำนาจไป
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016385
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยว่าเขาสั่งการให้กระทรวงยุติธรรม เลิกจ้างบรรดาอัยการอเมริกาในยุคของไบเดน ที่ยังเหลือยู่ทั้งหมด อ้างว่ากระทรวงแห่งนี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน . "เราต้องทำความสะอาดบ้านในทันที และฟื้นฟูความชื่อมั่น ยุคทองของอเมริกาจำเป็นต้องมีระบบยุติธรรมที่ยุติธรรม และมันเริ่มขึ้นแล้วในวันนี้" ทรัมป์โพสต์ข้อความบนทรัสต์โซเชียล . สำนักข่าวรอยเตอร์ติดต่อสอบถามไปยังกระทรวงยุติธรรม แต่กระทรวงยุติธรรมยังไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว . เมื่อสัปดาห์ก่อน ทำเนียบขาวส่งหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญาไปยังอัยการสหรัฐฯ หลายคนทั่วประเทศ ผู้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต และล่าสุดในวันจันทร์ (17 ก.พ.) อัยการสหรัฐฯ หลายคนที่ได้รับการแต่งตั้งจากไบเดน แถลงว่ากำลังลาออก ส่วนคนอื่นๆ ได้ออกจากรัฐบาลตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว . แม้ตามธรรรมเนียมแล้ว บรรดาอัยการหรัฐฯ จะลาออกหลังมีการเปลี่ยนแปลงในการบริหารงานประธานาธิบดี แต่โดยปกติแล้วรัฐบาลที่กำลังเข้ารับตำแหน่งจะร้องขอให้พวกเขาลาออกจากตำแหน่งอย่างละมุนละม่อมและไม่ออกหนังสือเลิกจ้างที่ใช้ถ้อยคำกะทัดรัดเช่นนี้ จากความเห็นของอดีตทนายความทั้งในอดีตและปัจจุบันของกระทรวงยุติธรรม . การเลิกจ้างบรรดาอัยการสหรัฐฯ ซึ่งทำหน้าที่ในฐานะเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายรัฐบาลกลางระดับสูงสุด ตามเขตต่างๆ ของอัยการรายนั้นๆ ถือเป็นการยกเครื่องล่าสุดภายในกระทรวงยุติธรรม นับตั้งแต่ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งในเดือนที่แล้ว . แม้กระทั่งพวกเจ้าหน้าที่ที่มีอาชีพการเงินในกระทรวงยุติธรรม ที่ปกติแล้วจะยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไปแม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาลก็ตาม แต่คราวนี้มีพวกเขาหลายสิบคนในเมืองต่างๆ อย่างเช่นวอชิงตันและนิวยอร์ก ที่ถูกไล่ออกหรือลาออกไป นับตั้งแต่ ทรัมป์ ก้าวเข้าสู่อำนาจ . ระหว่างรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ทรัมป์ประกาศกร้าวว่าจะยุติการใช้กระทรวงยุติธรรมเป็นเครื่องมือทางการเมือง ในสิ่งที่เขากล่าวอ้างว่าถูกใช้เล่นงานเขา ในช่วงหลายขวบปีที่พ้นจากอำนาจไป . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000016385 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1476 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทองคำไทยที่ฝากที่ลอนดอน และนิวยอร์กอาจจะไม่ได้คืน : คนเคาะข่าว 18-02-68
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์
    #คนเคาะข่าว
    ทองคำไทยที่ฝากที่ลอนดอน และนิวยอร์กอาจจะไม่ได้คืน : คนเคาะข่าว 18-02-68 : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ #คนเคาะข่าว
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • ไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม วัดไทยในนิวยอร์ก เช้ามืดวันที่12 กุมภาพันธ์ 2568 พระมรณภาพ 1 รูป และคนไทยที่มาขออาศัยพักที่วัด 1 รายเสียชีวิตhttps://abc7ny.com/post/3-alarm-fire-buddhist-temple-tremont-section-bronx-injures-2-people/15897097/?#ecjv3dhq6gj6c46h0dim02zecki3miu2o https://www.facebook.com/100002229012691/posts/9094154120668798/?mibextid=wwXIfr
    ไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม วัดไทยในนิวยอร์ก เช้ามืดวันที่12 กุมภาพันธ์ 2568 พระมรณภาพ 1 รูป และคนไทยที่มาขออาศัยพักที่วัด 1 รายเสียชีวิตhttps://abc7ny.com/post/3-alarm-fire-buddhist-temple-tremont-section-bronx-injures-2-people/15897097/?#ecjv3dhq6gj6c46h0dim02zecki3miu2o https://www.facebook.com/100002229012691/posts/9094154120668798/?mibextid=wwXIfr
    ABC7NY.COM
    FDNY says car parked in front of hydrant hindered response to deadly fire in Bronx
    The fire consumed two buildings, including a Buddhist temple early Wednesday morning.
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซียสวนกลับ ยังไม่ได้รับข้อเสนอดีๆ จาก เพื่อเริ่มต้นการเจรจาเกี่ยวกับยูเครน หลังจากทรัมป์อวดอ้างว่า ได้คุยกับปูตินแล้ว และมีความคืบหน้าในการเจรจาเพื่อยุติสงคราม
    .
    มิคาอิล กาลูซิน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซียที่นำออกเผยแพร่ในวันจันทร์ (10 ก.พ.) ว่า คำพูดต้องได้รับการสนับสนุนด้วยขั้นตอนการปฏิบัติซึ่งคำนึงถึงผลประโยชน์อันชอบธรรมของรัสเซีย รวมทั้งแสดงถึงความพร้อมในการกำจัดรากเหง้าของปัญหาที่นำไปสู่วิกฤตยูเครน และตระหนึกถึงความเป็นจริงใหม่ ก่อนสำทับว่า ถึงขณะนี้มอสโกยังไม่ได้รับข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมเพื่อเริ่มต้นการเจรจาเกี่ยวกับยูเครนแต่อย่างใด
    .
    ช่วงหลายวันมานี้มีข้อมูลที่ขัดแย้งกันออกมาจากฝั่งวอชิงตันและมอสโกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการหารือระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เพื่อยุติสงครามในยูเครนที่ยืดเยื้อมายาวนานเกือบ 3 ปีเต็ม
    .
    สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ให้สัมภาษณ์นิวยอร์กโพสต์ว่า เขาไม่ควรพูดเรื่องนี้ แต่ว่าเขาได้คุยกับปูตินแล้ว ถือเป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการครั้งแรกอย่างน้อยก็จากฝ่ายวอชิงตันว่า ผู้นำสองประเทศได้พูดคุยกันภายหลังจากหมางเมินมาตลอดตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022 นอกจากนั้นทรัมป์ยังแสดงความหวังว่า จะมีการหารือเพิ่มเติม พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า การเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครนมีความคืบหน้า แต่ไม่เปิดเผยว่า ใช้ช่องทางใดในการสื่อสารกับผู้นำรัสเซีย
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์นิวยอร์กโพสต์เมื่อวันศุกร์ (7) ประมุขทำเนียบขาวยังบอกว่า ไม่ต้องการเปิดเผยว่า ได้คุยกับปูตินแล้วกี่รอบ และรอบล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อใด
    .
    ต่อมาในวันอาทิตย์ (9 ก.พ.) ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน เปิดเผยกับสำนักข่าวทาสส์ ของทางการรัสเซียว่า ระหว่างปูตินกับทรัมป์ มีการสื่อสารด้วยช่องทางต่างๆ ซึ่งตนเองอาจไม่รับรู้ทุกเรื่อง จึงไม่สามารถยืนยันหรือปฏิเสธได้ว่า ผู้นำทั้งสองมีการพูดคุยกันหรือยังนับตั้งแต่ที่ทรัมป์เข้าดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง
    .
    เช่นเดียวกับ ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ที่ปฏิเสธที่จะแจกแจงว่า ผู้นำอเมริกาและรัสเซียสื่อสารกันเมื่อใด แต่ส่งสัญญาณว่า ทรัมป์อาจใช้มาตรการแซงก์ชันหรือภาษีศุลกากรเพื่อบีบให้ปูตินยอมเจรจาหยุดยิง
    .
    ก่อนหน้านี้ทรัมป์ย้ำมาตลอดว่า ต้องการยุติสงครามในยูเครนและจะพบกับปูตินเพื่อหารือเรื่องนี้ แต่ไม่ได้บอกว่า จะเป็นเมื่อใดและที่ไหน โดยในวันอาทิตย์ผู้นำสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์แค่ว่า จะพบกับประมุขรัสเซียในเวลาที่เหมาะสม
    .
    อย่างไรก็ดี รอยเตอร์รายงานก่อนหน้านี้ว่า รัสเซียมองว่า สถานที่จัดประชุมสุดยอดอาจเป็นที่ซาอุดีอาระเบียหรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเมื่อวันพฤหัสฯ ที่แล้ว (6) ลีโอนิด สลัตสกี สมาชิกคณะกรรมาธิการกิจการระหว่างประเทศของรัฐสภารัสเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าวอาร์ไอเอว่า การเตรียมการสำหรับการพบกันระหว่างปูตินกับทรัมป์มีความคืบหน้า โดยอาจจัดขึ้นในเดือนนี้หรือเดือนมีนาคม
    .
    นอกจากนั้นเมื่อวันศุกร์ ทรัมป์ยังบอกว่า อาจพบกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครนเพื่อหารือเรื่องดังกล่าวในสัปดาห์นี้ ขณะที่เซเลนสกี้ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า ตนต้องการให้ยูเครนจัดหาแร่แรร์เอิร์ธ ให้อเมริกาเพื่อแลกเปลี่ยนกับการสนับสนุนทางการเงินสำหรับการทำสงครามกับรัสเซีย
    .
    ก่อนหน้านี้ผู้นำเคียฟผู้นี้ยืนยันว่า จะไม่ยอมยกดินแดนที่ถูกยึดครองให้รัสเซีย รวมทั้งยังต้องการเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งล้วนเป็นเงื่อนไขที่ตรงข้ามกับจุดยืนของรัสเซีย
    .
    ทางด้านปูตินนั้นมองว่า สงครามในยูเครนเป็นสงครามเพื่อความอยู่รอดของรัสเซีย หลังจากถูกฝ่ายตะวันตกที่ใช้องค์การนาโตเป็นหัวหอก รุกไล่เข้ามาจนติดพรมแดนรัสเซีย
    .
    จากคำพูดของรัฐมนตรีช่วยกาลูซิน ระบุว่า มอสโกยังคงเปิดกว้างสำหรับการเจราจา ทว่าแดนหมีขาวยังยืนยันเงื่อนไขเดิมคือ ยูเครนต้องไม่เข้าเป็นสมาชิกนาโต และต้องมีมาตรการในการปกป้องสิทธิ์ของชาวรัสเซียในยูเครน
    .
    ขณะเดียวกัน แม้ทรัมป์ไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนสันติภาพยูเครน แต่อาร์ทีรายงานว่า แผนการดังกล่าวอาจรวมถึงการระงับชั่วคราวการสู้รบขัดแย้งตลอดแนวรบปัจจุบัน การสร้างเขตปลอดทหารและการจัดส่งทหารยุโรปเข้าไปทำหน้าที่รักษาสันติภาพ และการระงับการเข้าเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน
    .
    ทว่า รัสเซียไม่เห็นด้วยกับเรื่องการหยุดพักการสู้รบขัดแย้ง และยืนกรานว่า ข้อตกลงสันติภาพที่ยั่งยืนต้องกำหนดให้ยูเครนรักษาความเป็นกลางถาวรและเป็นเขตปลอดทหาร ตลอดจนถึงขจัดระบอบนาซี และยอมรับความเป็นจริงด้านดินแดน ซึ่งหมายถึงแคว้นต่างๆ ที่ถูกรัสเซียประกาศผนวกเป็นดินแดนของตนไปแล้ว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013539
    ..............
    Sondhi X
    รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซียสวนกลับ ยังไม่ได้รับข้อเสนอดีๆ จาก เพื่อเริ่มต้นการเจรจาเกี่ยวกับยูเครน หลังจากทรัมป์อวดอ้างว่า ได้คุยกับปูตินแล้ว และมีความคืบหน้าในการเจรจาเพื่อยุติสงคราม . มิคาอิล กาลูซิน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซียที่นำออกเผยแพร่ในวันจันทร์ (10 ก.พ.) ว่า คำพูดต้องได้รับการสนับสนุนด้วยขั้นตอนการปฏิบัติซึ่งคำนึงถึงผลประโยชน์อันชอบธรรมของรัสเซีย รวมทั้งแสดงถึงความพร้อมในการกำจัดรากเหง้าของปัญหาที่นำไปสู่วิกฤตยูเครน และตระหนึกถึงความเป็นจริงใหม่ ก่อนสำทับว่า ถึงขณะนี้มอสโกยังไม่ได้รับข้อเสนอที่เป็นรูปธรรมเพื่อเริ่มต้นการเจรจาเกี่ยวกับยูเครนแต่อย่างใด . ช่วงหลายวันมานี้มีข้อมูลที่ขัดแย้งกันออกมาจากฝั่งวอชิงตันและมอสโกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการหารือระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เพื่อยุติสงครามในยูเครนที่ยืดเยื้อมายาวนานเกือบ 3 ปีเต็ม . สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ให้สัมภาษณ์นิวยอร์กโพสต์ว่า เขาไม่ควรพูดเรื่องนี้ แต่ว่าเขาได้คุยกับปูตินแล้ว ถือเป็นการยืนยันอย่างเป็นทางการครั้งแรกอย่างน้อยก็จากฝ่ายวอชิงตันว่า ผู้นำสองประเทศได้พูดคุยกันภายหลังจากหมางเมินมาตลอดตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022 นอกจากนั้นทรัมป์ยังแสดงความหวังว่า จะมีการหารือเพิ่มเติม พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่า การเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครนมีความคืบหน้า แต่ไม่เปิดเผยว่า ใช้ช่องทางใดในการสื่อสารกับผู้นำรัสเซีย . ระหว่างให้สัมภาษณ์นิวยอร์กโพสต์เมื่อวันศุกร์ (7) ประมุขทำเนียบขาวยังบอกว่า ไม่ต้องการเปิดเผยว่า ได้คุยกับปูตินแล้วกี่รอบ และรอบล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อใด . ต่อมาในวันอาทิตย์ (9 ก.พ.) ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน เปิดเผยกับสำนักข่าวทาสส์ ของทางการรัสเซียว่า ระหว่างปูตินกับทรัมป์ มีการสื่อสารด้วยช่องทางต่างๆ ซึ่งตนเองอาจไม่รับรู้ทุกเรื่อง จึงไม่สามารถยืนยันหรือปฏิเสธได้ว่า ผู้นำทั้งสองมีการพูดคุยกันหรือยังนับตั้งแต่ที่ทรัมป์เข้าดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง . เช่นเดียวกับ ไมค์ วอลซ์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ที่ปฏิเสธที่จะแจกแจงว่า ผู้นำอเมริกาและรัสเซียสื่อสารกันเมื่อใด แต่ส่งสัญญาณว่า ทรัมป์อาจใช้มาตรการแซงก์ชันหรือภาษีศุลกากรเพื่อบีบให้ปูตินยอมเจรจาหยุดยิง . ก่อนหน้านี้ทรัมป์ย้ำมาตลอดว่า ต้องการยุติสงครามในยูเครนและจะพบกับปูตินเพื่อหารือเรื่องนี้ แต่ไม่ได้บอกว่า จะเป็นเมื่อใดและที่ไหน โดยในวันอาทิตย์ผู้นำสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์แค่ว่า จะพบกับประมุขรัสเซียในเวลาที่เหมาะสม . อย่างไรก็ดี รอยเตอร์รายงานก่อนหน้านี้ว่า รัสเซียมองว่า สถานที่จัดประชุมสุดยอดอาจเป็นที่ซาอุดีอาระเบียหรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเมื่อวันพฤหัสฯ ที่แล้ว (6) ลีโอนิด สลัตสกี สมาชิกคณะกรรมาธิการกิจการระหว่างประเทศของรัฐสภารัสเซีย เปิดเผยกับสำนักข่าวอาร์ไอเอว่า การเตรียมการสำหรับการพบกันระหว่างปูตินกับทรัมป์มีความคืบหน้า โดยอาจจัดขึ้นในเดือนนี้หรือเดือนมีนาคม . นอกจากนั้นเมื่อวันศุกร์ ทรัมป์ยังบอกว่า อาจพบกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครนเพื่อหารือเรื่องดังกล่าวในสัปดาห์นี้ ขณะที่เซเลนสกี้ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า ตนต้องการให้ยูเครนจัดหาแร่แรร์เอิร์ธ ให้อเมริกาเพื่อแลกเปลี่ยนกับการสนับสนุนทางการเงินสำหรับการทำสงครามกับรัสเซีย . ก่อนหน้านี้ผู้นำเคียฟผู้นี้ยืนยันว่า จะไม่ยอมยกดินแดนที่ถูกยึดครองให้รัสเซีย รวมทั้งยังต้องการเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งล้วนเป็นเงื่อนไขที่ตรงข้ามกับจุดยืนของรัสเซีย . ทางด้านปูตินนั้นมองว่า สงครามในยูเครนเป็นสงครามเพื่อความอยู่รอดของรัสเซีย หลังจากถูกฝ่ายตะวันตกที่ใช้องค์การนาโตเป็นหัวหอก รุกไล่เข้ามาจนติดพรมแดนรัสเซีย . จากคำพูดของรัฐมนตรีช่วยกาลูซิน ระบุว่า มอสโกยังคงเปิดกว้างสำหรับการเจราจา ทว่าแดนหมีขาวยังยืนยันเงื่อนไขเดิมคือ ยูเครนต้องไม่เข้าเป็นสมาชิกนาโต และต้องมีมาตรการในการปกป้องสิทธิ์ของชาวรัสเซียในยูเครน . ขณะเดียวกัน แม้ทรัมป์ไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับแผนสันติภาพยูเครน แต่อาร์ทีรายงานว่า แผนการดังกล่าวอาจรวมถึงการระงับชั่วคราวการสู้รบขัดแย้งตลอดแนวรบปัจจุบัน การสร้างเขตปลอดทหารและการจัดส่งทหารยุโรปเข้าไปทำหน้าที่รักษาสันติภาพ และการระงับการเข้าเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน . ทว่า รัสเซียไม่เห็นด้วยกับเรื่องการหยุดพักการสู้รบขัดแย้ง และยืนกรานว่า ข้อตกลงสันติภาพที่ยั่งยืนต้องกำหนดให้ยูเครนรักษาความเป็นกลางถาวรและเป็นเขตปลอดทหาร ตลอดจนถึงขจัดระบอบนาซี และยอมรับความเป็นจริงด้านดินแดน ซึ่งหมายถึงแคว้นต่างๆ ที่ถูกรัสเซียประกาศผนวกเป็นดินแดนของตนไปแล้ว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013539 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Yay
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1488 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เผยว่าได้พูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เป็นที่เรียบร้อยแล้วผ่านทางโทรศัพท์ เกี่ยวกับการยุติสงครามในยูเครน ตามรายงานของนิวยอร์กโพสต์ ถือเป็นสนทนากันอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกระหว่าง ปูตินกับผู้นำรายหนึ่งๆของอเมริกา นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022
    .
    ที่ผ่านมา ทรัมป์ รับปากยุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน แต่ยังไม่เคยพูดกับสาธารณะชนว่าเขาจะดำเนินการอย่างไรเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาบอกว่าอเมริกากำลังพูดคุยกับทั้งฝ่ายรัสเซียและยูเครน เกี่ยวกับการคลี่คลายความขัดแย้ง แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเพิ่มเติม
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์บนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันเมื่อวันศุกร์(7ก.พ.) ทรัมป์บอกกับนิวยอร์กโพสต์ว่า คงจะดีกว่าที่ไม่บอกว่าเขาพูดคุยกับปูตินไปแล้วกี่ครั้งและหลายครั้งมากแค่ไหน นอกจากนี้แล้วประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ไม่ได้เปิดเผยด้วยว่าครั้งสุดท้ายของการสนทนากันนั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ "เขา(ปูติน) อยากเห็นผู้คนหยุดบาดเจ็บล้มตาย" ทรัมป์กล่าว
    .
    ด้าน ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของวังเครมลิน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวทาสส์นิวส์ สื่อมวลชนแห่งรัฐ ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธรายงานข่าวของนิวยอร์กโพสต์ ส่วน ไมค์ วอลต์ซ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ตอบคำถามระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็นบีซีในวันอาทิตย์(9ก.พ.) เกี่ยวกับการสนทนากันระหว่าง ทรัมป์ กับ ปูติน ว่า "ผมไม่ขอให้ข้อมูลไปมากกว่าท่านประธานาธิบดี แต่แน่นอนว่ามีการสนทนาในประเด็นที่อ่อนไหวมากมาย"
    .
    ทรัมป์ เน้นย้ำซ้ำๆว่าเขาต้องการยุติสงครามและจะพบปะพูดคุยกับปูติน เพื่อหารือในเรืองนี้ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าการประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นที่ไหนและเวลาใด อย่างไรก็ตามสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อช่วงต้นเดือนว่า รัสเซียได้เล็งซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เอาไว้ ในฐานะสถานที่ที่เป็นไปได้สำหรับจัดการประชุมซัมมิตระหว่างปูตินกับทรัมป์
    .
    ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯจะพากันมุ่งหน้าไปยังยุโรป ส่วนหนึ่งในการหารือเกี่ยวกับสงคราม ในนั้นรวมถึง มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ, พีต เฮกเซท รัฐมนตรีกลาโหม, รองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ และ คีธ เคลล็อกก์ ทูตพิเศษด้านสงครามยูเครน
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์กับเอ็นบีซี วอลต์ซบ่งชี้ว่าทรัมป์อาจมีความตั้งใจใช้มาตรการคว่ำบาตรและรีดภาษีหว่านล้อมให้ปูตินเข้าสู่โต๊ะเจรจา พร้อมเผยว่าพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและยูเครนจะหารือเกี่ยวกับกรณีอเมริกาจะเข้าถึงทรัพยากรแร่แรร์เอิร์ธของยูเครน ชดเชยเงินช่วยเหนือของวอชิงตันที่มอบให้แก่พันธฒิตรแห่งนี้ "การพูดคุยเหล่านี้จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้"
    .
    เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ปูติน วางกรอบเงื่อนไขอย่างเปิดเผยสำหรับการยุติสงครามในทันที นั่นคือยูเครนต้องละทิ้งความทะเยอทะยานเข้าร่วมนาโต และถอนกำลังพลออกจาก 4 แคว้นของเคียฟ ที่ปัจจุบันถูกควบคุมโดยรัสเซียเป็นส่วนใหญ่และมอสโกกล่าวอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน
    .
    รอยเตอร์รายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน ว่า ปูติน เปิดกว้างหารือข้อตกลงสันติภาพกับทรัมป์ แต่ปฏิเสธความเป็นไปได้ใดๆของการยอมสละดินแดนครั้งใหญ่แลกข้อตกลง และยืนยันว่าเคียฟต้องละทิ้งความทะเยอทะยานเข้าร่วมนาโต
    .
    วังเครามลิน เน้นย้ำซ้ำๆให้ระมัดระวังในการคาดเดาใดๆในเรื่องการติดต่อกับคณะทำงานของทรัมป์ เกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพที่เป็นไปได้ใดๆ
    .
    อย่างไรก็ตามสำนักข่าวอาร์ไอเอ รายงานอ้าง ลีโอนิด สลัตสกี หัวหน้าคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของรัฐสภารัสเซีย ระบุในวันพฤหัสบดีที่แล้ว(6ก.พ.) ว่าเวลานี้อยู่ในขั้นการเตรียมการล่วงหน้าสำหรับการประชุมดังกล่าว และมันอาจเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์หรือไม่ก็เดือนมีนาคม
    .
    ปูติน พูดคุยครั้งสุดท้ายกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ไม่นานก่อนที่ ปูติน ออกคำสั่งให้ทหารหลายหมื่นนายบุกเข้าไปในยูเครน
    .
    รอยเตอร์, วอชิงตันโพสต์ และ Axios เคยรายงานแยกกันว่า ทรัมป์ และ ปูติน ได้พูดคุยกันไปแล้วในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน แต่วังเครมลินปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าว
    .
    เมื่อวันศุกร์(7ก.พ.) ทรัมป์บอกว่าเขาอาจพบปะกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือเกี่ยวกับการยุติสงคราม ในขณะที่ เซเลนสกี เผยกับรอยเตอร์ ว่าเขาต้องการให้ยูเครนจัดหาแร่แรร์เอิร์ธและแร่ธาตุอื่นๆแก่สหรัฐฯ แลกกับเงินสนับสนุนในการทำสงคราม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013148
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เผยว่าได้พูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เป็นที่เรียบร้อยแล้วผ่านทางโทรศัพท์ เกี่ยวกับการยุติสงครามในยูเครน ตามรายงานของนิวยอร์กโพสต์ ถือเป็นสนทนากันอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกระหว่าง ปูตินกับผู้นำรายหนึ่งๆของอเมริกา นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2022 . ที่ผ่านมา ทรัมป์ รับปากยุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน แต่ยังไม่เคยพูดกับสาธารณะชนว่าเขาจะดำเนินการอย่างไรเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาบอกว่าอเมริกากำลังพูดคุยกับทั้งฝ่ายรัสเซียและยูเครน เกี่ยวกับการคลี่คลายความขัดแย้ง แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเพิ่มเติม . ระหว่างให้สัมภาษณ์บนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันเมื่อวันศุกร์(7ก.พ.) ทรัมป์บอกกับนิวยอร์กโพสต์ว่า คงจะดีกว่าที่ไม่บอกว่าเขาพูดคุยกับปูตินไปแล้วกี่ครั้งและหลายครั้งมากแค่ไหน นอกจากนี้แล้วประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ไม่ได้เปิดเผยด้วยว่าครั้งสุดท้ายของการสนทนากันนั้นเกิดขึ้นเมื่อไหร่ "เขา(ปูติน) อยากเห็นผู้คนหยุดบาดเจ็บล้มตาย" ทรัมป์กล่าว . ด้าน ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของวังเครมลิน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวทาสส์นิวส์ สื่อมวลชนแห่งรัฐ ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธรายงานข่าวของนิวยอร์กโพสต์ ส่วน ไมค์ วอลต์ซ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ตอบคำถามระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็นบีซีในวันอาทิตย์(9ก.พ.) เกี่ยวกับการสนทนากันระหว่าง ทรัมป์ กับ ปูติน ว่า "ผมไม่ขอให้ข้อมูลไปมากกว่าท่านประธานาธิบดี แต่แน่นอนว่ามีการสนทนาในประเด็นที่อ่อนไหวมากมาย" . ทรัมป์ เน้นย้ำซ้ำๆว่าเขาต้องการยุติสงครามและจะพบปะพูดคุยกับปูติน เพื่อหารือในเรืองนี้ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าการประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นที่ไหนและเวลาใด อย่างไรก็ตามสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อช่วงต้นเดือนว่า รัสเซียได้เล็งซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เอาไว้ ในฐานะสถานที่ที่เป็นไปได้สำหรับจัดการประชุมซัมมิตระหว่างปูตินกับทรัมป์ . ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯจะพากันมุ่งหน้าไปยังยุโรป ส่วนหนึ่งในการหารือเกี่ยวกับสงคราม ในนั้นรวมถึง มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ, พีต เฮกเซท รัฐมนตรีกลาโหม, รองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ และ คีธ เคลล็อกก์ ทูตพิเศษด้านสงครามยูเครน . ระหว่างให้สัมภาษณ์กับเอ็นบีซี วอลต์ซบ่งชี้ว่าทรัมป์อาจมีความตั้งใจใช้มาตรการคว่ำบาตรและรีดภาษีหว่านล้อมให้ปูตินเข้าสู่โต๊ะเจรจา พร้อมเผยว่าพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและยูเครนจะหารือเกี่ยวกับกรณีอเมริกาจะเข้าถึงทรัพยากรแร่แรร์เอิร์ธของยูเครน ชดเชยเงินช่วยเหนือของวอชิงตันที่มอบให้แก่พันธฒิตรแห่งนี้ "การพูดคุยเหล่านี้จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้" . เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ปูติน วางกรอบเงื่อนไขอย่างเปิดเผยสำหรับการยุติสงครามในทันที นั่นคือยูเครนต้องละทิ้งความทะเยอทะยานเข้าร่วมนาโต และถอนกำลังพลออกจาก 4 แคว้นของเคียฟ ที่ปัจจุบันถูกควบคุมโดยรัสเซียเป็นส่วนใหญ่และมอสโกกล่าวอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน . รอยเตอร์รายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน ว่า ปูติน เปิดกว้างหารือข้อตกลงสันติภาพกับทรัมป์ แต่ปฏิเสธความเป็นไปได้ใดๆของการยอมสละดินแดนครั้งใหญ่แลกข้อตกลง และยืนยันว่าเคียฟต้องละทิ้งความทะเยอทะยานเข้าร่วมนาโต . วังเครามลิน เน้นย้ำซ้ำๆให้ระมัดระวังในการคาดเดาใดๆในเรื่องการติดต่อกับคณะทำงานของทรัมป์ เกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพที่เป็นไปได้ใดๆ . อย่างไรก็ตามสำนักข่าวอาร์ไอเอ รายงานอ้าง ลีโอนิด สลัตสกี หัวหน้าคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศของรัฐสภารัสเซีย ระบุในวันพฤหัสบดีที่แล้ว(6ก.พ.) ว่าเวลานี้อยู่ในขั้นการเตรียมการล่วงหน้าสำหรับการประชุมดังกล่าว และมันอาจเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์หรือไม่ก็เดือนมีนาคม . ปูติน พูดคุยครั้งสุดท้ายกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ไม่นานก่อนที่ ปูติน ออกคำสั่งให้ทหารหลายหมื่นนายบุกเข้าไปในยูเครน . รอยเตอร์, วอชิงตันโพสต์ และ Axios เคยรายงานแยกกันว่า ทรัมป์ และ ปูติน ได้พูดคุยกันไปแล้วในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน แต่วังเครมลินปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าว . เมื่อวันศุกร์(7ก.พ.) ทรัมป์บอกว่าเขาอาจพบปะกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือเกี่ยวกับการยุติสงคราม ในขณะที่ เซเลนสกี เผยกับรอยเตอร์ ว่าเขาต้องการให้ยูเครนจัดหาแร่แรร์เอิร์ธและแร่ธาตุอื่นๆแก่สหรัฐฯ แลกกับเงินสนับสนุนในการทำสงคราม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013148 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1368 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เอาคืนทุกดอก แล้วบอกรักประชาธิปไตย"
    หลังจากทรัมป์เพิ่งประกาศเพิกถอนใบอนุญาตด้านความปลอดภัยของโจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลสรุปข่าวกรองประจำวันได้ โดยอ้างเหตุผลด้านความจำ จนทำให้ไม่สามารถไว้วางใจให้ไบเดนดูแลข้อมูลที่ละเอียดอ่อนได้อีกต่อไป

    ล่าสุดวันนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่าทรัมป์เพิ่งยกเลิกใบอนุญาตด้านความปลอดภัยอีกครั้ง ทำให้ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลด้านความปลอดภัยของประเทศ ไดแก่
    "แอนโธนี บลิงเคน" รัฐมนตรีต่างประเทศ
    "เลติเทีย เจมส์" อัยการสูงสุดของรัฐนิวยอร์ก
    "อัลวิน แบร็ก" อัยการเขตแมนฮัตตัน

    ทรัมป์ยังมีคำสั่งห้ามพวกเขาเข้าไปในอาคารของรัฐบาลกลางโดยอ้างว่าเป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติจากอดีตนักการเมือง

    มีรายงานเพิ่มเติมว่า ยังมีเจ้าหน้าที่อีกหลายคนที่ทรัมป์เล็งเป้า เช่น เจค ซัลลิแวน อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของไบเดน ซึ่งไม่น่าจะรอดพ้นเงื้อมมือของทรัมป์ไปได้

    การกระทำของทรัมป์กำลังถูกวิจารณ์จากสื่อฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากเรื่องเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐอเมริกา ซึ่งทรัมป์มุ่งเป้าหมายไปที่การแก้แค้นส่วนตัวและกำจัดศัตรูทางการเมือง ซึ่งถือเป็นการทำลายหลักนิติธรรมที่สหรัฐเชิดชูมาอย่างยาวนาน และยังเป็นแบบอย่างให้กับหลานประเทศทั่วโลก
    "เอาคืนทุกดอก แล้วบอกรักประชาธิปไตย" หลังจากทรัมป์เพิ่งประกาศเพิกถอนใบอนุญาตด้านความปลอดภัยของโจ ไบเดน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลสรุปข่าวกรองประจำวันได้ โดยอ้างเหตุผลด้านความจำ จนทำให้ไม่สามารถไว้วางใจให้ไบเดนดูแลข้อมูลที่ละเอียดอ่อนได้อีกต่อไป ล่าสุดวันนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่าทรัมป์เพิ่งยกเลิกใบอนุญาตด้านความปลอดภัยอีกครั้ง ทำให้ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลด้านความปลอดภัยของประเทศ ไดแก่ "แอนโธนี บลิงเคน" รัฐมนตรีต่างประเทศ "เลติเทีย เจมส์" อัยการสูงสุดของรัฐนิวยอร์ก "อัลวิน แบร็ก" อัยการเขตแมนฮัตตัน ทรัมป์ยังมีคำสั่งห้ามพวกเขาเข้าไปในอาคารของรัฐบาลกลางโดยอ้างว่าเป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติจากอดีตนักการเมือง มีรายงานเพิ่มเติมว่า ยังมีเจ้าหน้าที่อีกหลายคนที่ทรัมป์เล็งเป้า เช่น เจค ซัลลิแวน อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของไบเดน ซึ่งไม่น่าจะรอดพ้นเงื้อมมือของทรัมป์ไปได้ การกระทำของทรัมป์กำลังถูกวิจารณ์จากสื่อฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากเรื่องเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในระบอบประชาธิปไตยของสหรัฐอเมริกา ซึ่งทรัมป์มุ่งเป้าหมายไปที่การแก้แค้นส่วนตัวและกำจัดศัตรูทางการเมือง ซึ่งถือเป็นการทำลายหลักนิติธรรมที่สหรัฐเชิดชูมาอย่างยาวนาน และยังเป็นแบบอย่างให้กับหลานประเทศทั่วโลก
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • จาเร็ด​ คุชเนอร์ (Jared Kushner) สามีของอิวังก้า ทรัมป์ ลูกสาวคนโตของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกสื่อมวลชนเปิดโปงว่าคือผู้อยู่เบื้องหลังแนวคิดให้สหรัฐเข้ายึดครองกาซา และขับไล่ชาวปาเลสไตน์เกือบสองล้านคนออกไปจากถิ่นกำเนิดพวกเขา เพื่อสร้างกาซาขึ้นใหม่

    เนื่องจากแผนการของทรัมป์ คือสิ่งที่ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยของเขา เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนมีนาคม 2024 ว่าอิสราเอลควรขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซาและพัฒนาพื้นที่ริมทะเลแห่งนี้ขึ้นใหม่ โดยเรียกพื้นที่ตรงนั้นว่า “มีค่ามหาศาล” (very valuable)

    นายจาเร็ด คุชเนอร์ ชาวยิวที่มีบรรพบุรุษมาจากเบลารุส ปู่และย่าของเขารอดชีวิตจากค่ายกักกันที่นาซีเยอรมนีดำเนินการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ระหว่างยึดครองเบลารุสอยู่ และอพยพมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2492 ต่อมา "ชาร์ล คุชเนอร์" พ่อของจาเร็ดก่อตั้งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ จนประสบความสำเร็จมั่งคั่งร่ำรวยอย่างมาก

    ทรัมป์สมัยแรก แต่งตั้งให้ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยคนโปรดเข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษาระดับอาวุโสในทำเนียบขาว โดยให้คำปรึกษาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อทรัมป์โดยตรง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็น "มือขวา" ของทรัมป์ในสมัยนั้น

    เขาเป็นทั้งเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นักลงทุน และเจ้าของธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ New York Observer

    ต่อมาในทรัมป์สมัยที่สอง ได้สร้างความฮือฮาด้วยการแต่งตั้ง ชาร์ลส์ คุชเนอร์ วัย 70 ปี พ่อของจาเร็ด เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำฝรั่งเศส ทั้งที่เคยถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก 2 ปีเมื่อปี 2548 หลังจากรับสารภาพในความผิด 18 กระทงในคดีบริจาคเงินหาเสียงอย่างผิดกฎหมาย เลี่ยงภาษี และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงถูกเพิกถอนใบอนุญาตการเป็นทนายความในรัฐนิวเจอร์ซีย์ นิวยอร์ก และเพนซิลเวเนีย แต่ได้รับการอภัยโทษทั้งหมดจากทรัมป์ในปี 2563 เมื่อครั้งที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสมัยแรก





    จาเร็ด​ คุชเนอร์ (Jared Kushner) สามีของอิวังก้า ทรัมป์ ลูกสาวคนโตของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกสื่อมวลชนเปิดโปงว่าคือผู้อยู่เบื้องหลังแนวคิดให้สหรัฐเข้ายึดครองกาซา และขับไล่ชาวปาเลสไตน์เกือบสองล้านคนออกไปจากถิ่นกำเนิดพวกเขา เพื่อสร้างกาซาขึ้นใหม่ เนื่องจากแผนการของทรัมป์ คือสิ่งที่ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยของเขา เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนมีนาคม 2024 ว่าอิสราเอลควรขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซาและพัฒนาพื้นที่ริมทะเลแห่งนี้ขึ้นใหม่ โดยเรียกพื้นที่ตรงนั้นว่า “มีค่ามหาศาล” (very valuable) นายจาเร็ด คุชเนอร์ ชาวยิวที่มีบรรพบุรุษมาจากเบลารุส ปู่และย่าของเขารอดชีวิตจากค่ายกักกันที่นาซีเยอรมนีดำเนินการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ระหว่างยึดครองเบลารุสอยู่ และอพยพมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2492 ต่อมา "ชาร์ล คุชเนอร์" พ่อของจาเร็ดก่อตั้งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ จนประสบความสำเร็จมั่งคั่งร่ำรวยอย่างมาก ทรัมป์สมัยแรก แต่งตั้งให้ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยคนโปรดเข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษาระดับอาวุโสในทำเนียบขาว โดยให้คำปรึกษาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อทรัมป์โดยตรง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็น "มือขวา" ของทรัมป์ในสมัยนั้น เขาเป็นทั้งเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นักลงทุน และเจ้าของธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ New York Observer ต่อมาในทรัมป์สมัยที่สอง ได้สร้างความฮือฮาด้วยการแต่งตั้ง ชาร์ลส์ คุชเนอร์ วัย 70 ปี พ่อของจาเร็ด เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำฝรั่งเศส ทั้งที่เคยถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก 2 ปีเมื่อปี 2548 หลังจากรับสารภาพในความผิด 18 กระทงในคดีบริจาคเงินหาเสียงอย่างผิดกฎหมาย เลี่ยงภาษี และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงถูกเพิกถอนใบอนุญาตการเป็นทนายความในรัฐนิวเจอร์ซีย์ นิวยอร์ก และเพนซิลเวเนีย แต่ได้รับการอภัยโทษทั้งหมดจากทรัมป์ในปี 2563 เมื่อครั้งที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสมัยแรก
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยวบินของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ (United Airlines) จากฮุสตัน (Houston) ไปนิวยอร์ก (New York) ต้องอพยพผู้โดยสารออกจากพื้นที่หลังจากเครื่องยนต์เกิดไฟไหม้จนลูกเรือต้องยกเลิกเที่ยวบินขึ้นบิน

    ตามรายงานของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) เที่ยวบิน 1382 ของยูไนเต็ดแอร์ไลน์กำลังเตรียมออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติจอร์จ บุช เมื่อเวลาประมาณ 8.35 น. ของวันอาทิตย์

    ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ
    เที่ยวบินของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ (United Airlines) จากฮุสตัน (Houston) ไปนิวยอร์ก (New York) ต้องอพยพผู้โดยสารออกจากพื้นที่หลังจากเครื่องยนต์เกิดไฟไหม้จนลูกเรือต้องยกเลิกเที่ยวบินขึ้นบิน ตามรายงานของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) เที่ยวบิน 1382 ของยูไนเต็ดแอร์ไลน์กำลังเตรียมออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติจอร์จ บุช เมื่อเวลาประมาณ 8.35 น. ของวันอาทิตย์ ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • ฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 8 ราย ประกอบด้วยชาวอิสราเอล 3 คน และคนไทย 5 ราย หลังถูกกักขังในกาซานานกว่า 1 ปี จากการเปิดเผยของรัฐบาลอิสราเอล ในขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายยังคงยึดถือข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว
    .
    เจ้าหน้าที่อิสราเอล ระบุว่าตัวประกันอิสราเอลที่จะได้รับการปล่อยตัวประกอบด้วย กาดี โมเซส วัย 80ปี, อาร์เบล เยฮุด วัย 29 ปี และอากัม เบอร์เกอร์ วัย 20 ปี ในขณะที่ฮามาสก็ยืนยันเกี่ยวกับการปล่อยตัวชาวอิสราเอลทั้ง 3 รายเช่นกัน อย่างไรก็ตามทั้งอิสราเอลและฮามาส ไม่ได้เปิดเผยชื่อพลเมืองไทย 5 คน ที่จะได้รับการปล่อยตัวออกมา
    .
    ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิง คาดหมายว่าอิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์มากกว่า 100 คน แลกกับตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) ในนั้นรวมถึงพวกที่ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต โทษฐานเกี่ยวกับกับเหตุโจมตีนองเลือดเล่นงานชาวอิสราเอล
    .
    การปล่อยตัวครั้งนี้ ถือเป็นหนที่ 3 แล้ว นับตั้งแต่อิสราเอลและฮามาสปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง 6 สัปดาห์ ส่วนหนึ่งในข้อตกลงหลายขั้นที่พวกคนกลางการเจรจาหวังว่าจะนำมาซึ่งการยุติสงครามในกาซา ในขณะที่มีผู้คนมากกว่า 45,000 นาย ที่ต้องเสียชีวิตในฉนวนแห่งนี้ ระหว่างปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลเล่นงานแก้แค้นพวกฮามาส
    .
    ระหว่างการหยุดยิงเบื้องต้น 42 วัน ฮามาส รับปากว่าจะปล่อยตัวประกันอย่างน้อย 33 คน จาก 97 คนที่เหลืออยู่ในกาซา แลกกับการที่อิสราเอลถอนกำลังบางส่วนและปล่อยชาวปาเลสไตน์กว่า 1,500 คน ที่ถูกจองจำโดยอิสราเอล ภายใต้ข้อตกลงนี้ มีการเสนอให้ปล่อยตัวนางสาวเยฮุด หนึ่งในตัวประกันหญิงคนท้ายๆที่ยังมีชีวิตอยู่ ในสัปดาห์ที่แล้ว
    .
    แต่หลังจากที่เธอไม่ได้รับการปล่อยตัวในตอนนั้น อิสราเอลตอบโต้ด้วยการเลื่อนไม่เปิดเส้นทางผ่านให้พวกชาวปาเลสไตน์ผู้ไร้ถิ่นฐานหลายแสนคนเดินทางกลับสู่มาตุภูมิทางเหนือของกาซา ตามเงื่อนไขของข้อตกลง ก่อนสุดท้ายกองทัพอิสราเอลจะยอมเปิดทาง หลังบรรดาชาติคนกลางแถลงในวันอาทิตย์(25ม.ค. )ว่าพวกเขาได้รับคำสัญญาแล้วว่านางสาวเยฮุด จะได้รับการปล่อยตัว
    .
    ตัวประกันทั้ง 8 คน ที่ได้รับคาดหมายว่าจะได้รับการปล่อยตัวเป็นกลุ่มถัดไป ทั้งหมดถูกลักพาตัวระหว่างที่พวกฮามาสปฏิบัติการจู่โจมสายฟ้าแลบเล่นงานทางใต้ของอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 อันเป็นจุดเริ่มต้นของสงคราม มีผู้เสียชีวิตราวๆ 1,200 คน ในเหตุจู่โจมดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนและอีก 250 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน
    .
    มูซา อาบู มาร์ซูค เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส ยืนยันระหว่างให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับนิวยอร์กไทม์ส ว่าแรงงานไทย 5 คนจะได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) พร้อมเผยว่าคนงานไทยเหล่านี้ถูกควบคุมตัวโดยกลุ่มญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์ (Palestinian Islamic Jihad) อ้างถึงกลุ่มนักรบเล็กๆในกาซา ที่ใกล้ชิดกับฮามาส แต่มีความแตกต่างกันทั้งเชิงกลยุทธ์และอุดมการณ์
    .
    นางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล ยืนยันเช่นกันว่าตัวประกันคนไทย 5 คน จากทั้งหมด 8 คน จะได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) แต่ไม่ชัดเจนว่าผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวนั้นมีใครบ้าง
    .
    รายงานของนิวยอร์กไทม์อ้างคำกล่าวของนางสาวพรรณนภา ระบุด้วยว่ายังมีตัวประกันไทยอยู่ในกาซาอีก 8 ราย แบ่งเป็นยังมีชีวิตอยู่ 6 รายและเสียชีวิตแล้ว 2 คน ทั้งหมดอายุระหว่าง 28 ปี ถึง 42 ปี โดยทั้งหมดเป็นแรงงานภาคการเกษตร ณ ฟาร์ม 4 แห่งใกล้ชายแดนกาซา และถูกลักพาตัวระหว่างการโจมตีที่นำโดยพวกฮามาสในเดือนตุลาคม 2023
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009508
    ..............
    Sondhi X
    ฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 8 ราย ประกอบด้วยชาวอิสราเอล 3 คน และคนไทย 5 ราย หลังถูกกักขังในกาซานานกว่า 1 ปี จากการเปิดเผยของรัฐบาลอิสราเอล ในขณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายยังคงยึดถือข้อตกลงหยุดยิงอันเปราะบางเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 แล้ว . เจ้าหน้าที่อิสราเอล ระบุว่าตัวประกันอิสราเอลที่จะได้รับการปล่อยตัวประกอบด้วย กาดี โมเซส วัย 80ปี, อาร์เบล เยฮุด วัย 29 ปี และอากัม เบอร์เกอร์ วัย 20 ปี ในขณะที่ฮามาสก็ยืนยันเกี่ยวกับการปล่อยตัวชาวอิสราเอลทั้ง 3 รายเช่นกัน อย่างไรก็ตามทั้งอิสราเอลและฮามาส ไม่ได้เปิดเผยชื่อพลเมืองไทย 5 คน ที่จะได้รับการปล่อยตัวออกมา . ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิง คาดหมายว่าอิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์มากกว่า 100 คน แลกกับตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) ในนั้นรวมถึงพวกที่ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต โทษฐานเกี่ยวกับกับเหตุโจมตีนองเลือดเล่นงานชาวอิสราเอล . การปล่อยตัวครั้งนี้ ถือเป็นหนที่ 3 แล้ว นับตั้งแต่อิสราเอลและฮามาสปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง 6 สัปดาห์ ส่วนหนึ่งในข้อตกลงหลายขั้นที่พวกคนกลางการเจรจาหวังว่าจะนำมาซึ่งการยุติสงครามในกาซา ในขณะที่มีผู้คนมากกว่า 45,000 นาย ที่ต้องเสียชีวิตในฉนวนแห่งนี้ ระหว่างปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลเล่นงานแก้แค้นพวกฮามาส . ระหว่างการหยุดยิงเบื้องต้น 42 วัน ฮามาส รับปากว่าจะปล่อยตัวประกันอย่างน้อย 33 คน จาก 97 คนที่เหลืออยู่ในกาซา แลกกับการที่อิสราเอลถอนกำลังบางส่วนและปล่อยชาวปาเลสไตน์กว่า 1,500 คน ที่ถูกจองจำโดยอิสราเอล ภายใต้ข้อตกลงนี้ มีการเสนอให้ปล่อยตัวนางสาวเยฮุด หนึ่งในตัวประกันหญิงคนท้ายๆที่ยังมีชีวิตอยู่ ในสัปดาห์ที่แล้ว . แต่หลังจากที่เธอไม่ได้รับการปล่อยตัวในตอนนั้น อิสราเอลตอบโต้ด้วยการเลื่อนไม่เปิดเส้นทางผ่านให้พวกชาวปาเลสไตน์ผู้ไร้ถิ่นฐานหลายแสนคนเดินทางกลับสู่มาตุภูมิทางเหนือของกาซา ตามเงื่อนไขของข้อตกลง ก่อนสุดท้ายกองทัพอิสราเอลจะยอมเปิดทาง หลังบรรดาชาติคนกลางแถลงในวันอาทิตย์(25ม.ค. )ว่าพวกเขาได้รับคำสัญญาแล้วว่านางสาวเยฮุด จะได้รับการปล่อยตัว . ตัวประกันทั้ง 8 คน ที่ได้รับคาดหมายว่าจะได้รับการปล่อยตัวเป็นกลุ่มถัดไป ทั้งหมดถูกลักพาตัวระหว่างที่พวกฮามาสปฏิบัติการจู่โจมสายฟ้าแลบเล่นงานทางใต้ของอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 อันเป็นจุดเริ่มต้นของสงคราม มีผู้เสียชีวิตราวๆ 1,200 คน ในเหตุจู่โจมดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนและอีก 250 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน . มูซา อาบู มาร์ซูค เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส ยืนยันระหว่างให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับนิวยอร์กไทม์ส ว่าแรงงานไทย 5 คนจะได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) พร้อมเผยว่าคนงานไทยเหล่านี้ถูกควบคุมตัวโดยกลุ่มญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์ (Palestinian Islamic Jihad) อ้างถึงกลุ่มนักรบเล็กๆในกาซา ที่ใกล้ชิดกับฮามาส แต่มีความแตกต่างกันทั้งเชิงกลยุทธ์และอุดมการณ์ . นางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล ยืนยันเช่นกันว่าตัวประกันคนไทย 5 คน จากทั้งหมด 8 คน จะได้รับการปล่อยตัวในวันพฤหัสบดี(30ม.ค.) แต่ไม่ชัดเจนว่าผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวนั้นมีใครบ้าง . รายงานของนิวยอร์กไทม์อ้างคำกล่าวของนางสาวพรรณนภา ระบุด้วยว่ายังมีตัวประกันไทยอยู่ในกาซาอีก 8 ราย แบ่งเป็นยังมีชีวิตอยู่ 6 รายและเสียชีวิตแล้ว 2 คน ทั้งหมดอายุระหว่าง 28 ปี ถึง 42 ปี โดยทั้งหมดเป็นแรงงานภาคการเกษตร ณ ฟาร์ม 4 แห่งใกล้ชายแดนกาซา และถูกลักพาตัวระหว่างการโจมตีที่นำโดยพวกฮามาสในเดือนตุลาคม 2023 . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009508 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Yay
    21
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2206 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/
    มีรายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์ มอบหมายให้ "สตีฟ วิทคอฟฟ์" (Steve Witkoff) ผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของเขา เข้าทำหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงเพื่อเจรจาด้านการทูตกับอิหร่าน "เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจอย่างมากต่ออิสราเอล!"

    ตำแหน่งผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของ สตีฟ วิทคอฟฟ์ นับว่าสำคัญที่สุด เนื่องจากเป็นผู้กำหนดและดำเนินการตามนโยบายของทรัมป์ในภูมิภาคนี้

    คาดว่าทรัมป์จะมอบความรับผิดชอบให้กับสตีฟ วิทคอฟฟ์ในการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน

    เป็นที่ทราบกันดีว่าวิทคอฟฟ์ เน้นเรื่องการเจรจาทางการทูต มากกว่าการใช้กำลังทางทหาร นี่จึงเป็นสาเหตุที่อิสราเอลไม่พอใจ เพราะหากไม่มีความขัดแย้ง เป้าหมายของแอสราเอลจะไม่มีทางบรรลุผล

    ที่ผ่านมาวิทคอฟฟ์เป็นตัวแทนของทรัมป์เข้าทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเจาจาข้อตกลงหยุดยิงในกาซา รวมทั้งติดตามผลของข้อตกลงหยุดยิงนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้อิสราเอลทำตามอย่างแข็งขันอีกด้วย

    เขาเป็นคนเดียวที่คัดค้านนโยบายการแทรกแซงอิหร่านเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง

    (วิดีโอ1) สตีฟ วิทคอฟฟ์ เคยพูดถึงหลักการ 4 ประการเพื่อเป็นแนวทางให้รัฐบาลของทรัมป์ปฏิบัติต่อตะวันออกกลาง:
    1. เคารพในอำนาจอธิปไตย
    2. ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจเป็นสะพานเชื่อมสู่เสถียรภาพ
    3. เน้นดำเนินโยบายทางด้านการทูต
    4. “การตอบสนองและความรับผิดชอบ” สหรัฐอเมริกาต้องการเห็นการตอบสนองจากพันธมิตร หลังจากแสวงหาผลประโยชน์จากสหรัฐมาอย่างยาวนาน ยุคของเช็คเปล่าสิ้นสุดลงแล้ว ความร่วมมือต้องยุติธรรม และการสนับสนุนต้องสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันต่อเป้าหมายของทุกฝ่าย

    หลายฝ่ายเชื่อว่า สิ่งที่วิทคอฟฟ์พูดนี้ เป็นการส่งข้อความถึงอิสราเอล

    (วิดีโอ2) ล่าสุด สตีฟ วิทคอฟฟ์ เพิ่งให้สัมภาษณกับ Fox News เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นของเขาที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระยะที่สองในกาซา และเปิดกว้างในการบรรลุ "ความเข้าใจในทุกเรื่อง" กับกลุ่มฮามาส (แน่นอนว่าเพิ่มความไม่พอใจให้กับอิสราเอล)
    บางส่วนในการสัมภาษณ์:
    🔸 “เราต้องแน่ใจว่าข้อตกลงหยุดยิงดำเนินการไปด้วยดี เพราะมันจะทำให้เราจะเข้าสู่ระยะที่สอง ซึ่งมันจะช่วยรักษาชีวิตผู้คนอีกมาก
    🔸 “ผมกำลังจะไปอิสราเอล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทีมตรวจสอบทางเดินเน็ตซาริม (Netzarim corridor) และที่ทางเดินฟิลาเดลเฟีย (Philadelphi corridor) ด้วย”
    🔸 มูซา อาบู มาร์ซุก เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาส กล่าวกับนิวยอร์กไทมส์เมื่อไม่นานนี้ว่า กลุ่มฮามาสพร้อมที่จะเจรจากับรัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่ หากเรื่องนี้เป็นความจริง ถือเป็นเรื่อง “ดี”
    🔸 วิตคอฟฟ์เชื่อว่าทุกประเทศในภูมิภาคนี้สามารถตกลงเจรจาพูดคุยกันได้
    2/ มีรายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์ มอบหมายให้ "สตีฟ วิทคอฟฟ์" (Steve Witkoff) ผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของเขา เข้าทำหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงเพื่อเจรจาด้านการทูตกับอิหร่าน "เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจอย่างมากต่ออิสราเอล!" ตำแหน่งผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของ สตีฟ วิทคอฟฟ์ นับว่าสำคัญที่สุด เนื่องจากเป็นผู้กำหนดและดำเนินการตามนโยบายของทรัมป์ในภูมิภาคนี้ คาดว่าทรัมป์จะมอบความรับผิดชอบให้กับสตีฟ วิทคอฟฟ์ในการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน เป็นที่ทราบกันดีว่าวิทคอฟฟ์ เน้นเรื่องการเจรจาทางการทูต มากกว่าการใช้กำลังทางทหาร นี่จึงเป็นสาเหตุที่อิสราเอลไม่พอใจ เพราะหากไม่มีความขัดแย้ง เป้าหมายของแอสราเอลจะไม่มีทางบรรลุผล ที่ผ่านมาวิทคอฟฟ์เป็นตัวแทนของทรัมป์เข้าทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเจาจาข้อตกลงหยุดยิงในกาซา รวมทั้งติดตามผลของข้อตกลงหยุดยิงนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้อิสราเอลทำตามอย่างแข็งขันอีกด้วย เขาเป็นคนเดียวที่คัดค้านนโยบายการแทรกแซงอิหร่านเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง (วิดีโอ1) สตีฟ วิทคอฟฟ์ เคยพูดถึงหลักการ 4 ประการเพื่อเป็นแนวทางให้รัฐบาลของทรัมป์ปฏิบัติต่อตะวันออกกลาง: 1. เคารพในอำนาจอธิปไตย 2. ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจเป็นสะพานเชื่อมสู่เสถียรภาพ 3. เน้นดำเนินโยบายทางด้านการทูต 4. “การตอบสนองและความรับผิดชอบ” สหรัฐอเมริกาต้องการเห็นการตอบสนองจากพันธมิตร หลังจากแสวงหาผลประโยชน์จากสหรัฐมาอย่างยาวนาน ยุคของเช็คเปล่าสิ้นสุดลงแล้ว ความร่วมมือต้องยุติธรรม และการสนับสนุนต้องสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันต่อเป้าหมายของทุกฝ่าย หลายฝ่ายเชื่อว่า สิ่งที่วิทคอฟฟ์พูดนี้ เป็นการส่งข้อความถึงอิสราเอล (วิดีโอ2) ล่าสุด สตีฟ วิทคอฟฟ์ เพิ่งให้สัมภาษณกับ Fox News เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นของเขาที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระยะที่สองในกาซา และเปิดกว้างในการบรรลุ "ความเข้าใจในทุกเรื่อง" กับกลุ่มฮามาส (แน่นอนว่าเพิ่มความไม่พอใจให้กับอิสราเอล) บางส่วนในการสัมภาษณ์: 🔸 “เราต้องแน่ใจว่าข้อตกลงหยุดยิงดำเนินการไปด้วยดี เพราะมันจะทำให้เราจะเข้าสู่ระยะที่สอง ซึ่งมันจะช่วยรักษาชีวิตผู้คนอีกมาก 🔸 “ผมกำลังจะไปอิสราเอล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทีมตรวจสอบทางเดินเน็ตซาริม (Netzarim corridor) และที่ทางเดินฟิลาเดลเฟีย (Philadelphi corridor) ด้วย” 🔸 มูซา อาบู มาร์ซุก เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาส กล่าวกับนิวยอร์กไทมส์เมื่อไม่นานนี้ว่า กลุ่มฮามาสพร้อมที่จะเจรจากับรัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่ หากเรื่องนี้เป็นความจริง ถือเป็นเรื่อง “ดี” 🔸 วิตคอฟฟ์เชื่อว่าทุกประเทศในภูมิภาคนี้สามารถตกลงเจรจาพูดคุยกันได้
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 421 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • 1/
    มีรายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์ มอบหมายให้ "สตีฟ วิทคอฟฟ์" (Steve Witkoff) ผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของเขา เข้าทำหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงเพื่อเจรจาด้านการทูตกับอิหร่าน "เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจอย่างมากต่ออิสราเอล!"

    ตำแหน่งผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของ สตีฟ วิทคอฟฟ์ นับว่าสำคัญที่สุด เนื่องจากเป็นผู้กำหนดและดำเนินการตามนโยบายของทรัมป์ในภูมิภาคนี้

    คาดว่าทรัมป์จะมอบความรับผิดชอบให้กับสตีฟ วิทคอฟฟ์ในการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน

    เป็นที่ทราบกันดีว่าวิทคอฟฟ์ เน้นเรื่องการเจรจาทางการทูต มากกว่าการใช้กำลังทางทหาร นี่จึงเป็นสาเหตุที่อิสราเอลไม่พอใจ เพราะหากไม่มีความขัดแย้ง เป้าหมายของแอสราเอลจะไม่มีทางบรรลุผล

    ที่ผ่านมาวิทคอฟฟ์เป็นตัวแทนของทรัมป์เข้าทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเจาจาข้อตกลงหยุดยิงในกาซา รวมทั้งติดตามผลของข้อตกลงหยุดยิงนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้อิสราเอลทำตามอย่างแข็งขันอีกด้วย

    เขาเป็นคนเดียวที่คัดค้านนโยบายการแทรกแซงอิหร่านเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง

    (วิดีโอ1) สตีฟ วิทคอฟฟ์ เคยพูดถึงหลักการ 4 ประการเพื่อเป็นแนวทางให้รัฐบาลของทรัมป์ปฏิบัติต่อตะวันออกกลาง:
    1. เคารพในอำนาจอธิปไตย
    2. ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจเป็นสะพานเชื่อมสู่เสถียรภาพ
    3. เน้นดำเนินโยบายทางด้านการทูต
    4. “การตอบสนองและความรับผิดชอบ” สหรัฐอเมริกาต้องการเห็นการตอบสนองจากพันธมิตร หลังจากแสวงหาผลประโยชน์จากสหรัฐมาอย่างยาวนาน ยุคของเช็คเปล่าสิ้นสุดลงแล้ว ความร่วมมือต้องยุติธรรม และการสนับสนุนต้องสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันต่อเป้าหมายของทุกฝ่าย

    หลายฝ่ายเชื่อว่า สิ่งที่วิทคอฟฟ์พูดนี้ เป็นการส่งข้อความถึงอิสราเอล

    (วิดีโอ2) ล่าสุด สตีฟ วิทคอฟฟ์ เพิ่งให้สัมภาษณกับ Fox News เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นของเขาที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระยะที่สองในกาซา และเปิดกว้างในการบรรลุ "ความเข้าใจในทุกเรื่อง" กับกลุ่มฮามาส (แน่นอนว่าเพิ่มความไม่พอใจให้กับอิสราเอล)
    บางส่วนในการสัมภาษณ์:
    🔸 “เราต้องแน่ใจว่าข้อตกลงหยุดยิงดำเนินการไปด้วยดี เพราะมันจะทำให้เราจะเข้าสู่ระยะที่สอง ซึ่งมันจะช่วยรักษาชีวิตผู้คนอีกมาก
    🔸 “ผมกำลังจะไปอิสราเอล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทีมตรวจสอบทางเดินเน็ตซาริม (Netzarim corridor) และที่ทางเดินฟิลาเดลเฟีย (Philadelphi corridor) ด้วย”
    🔸 มูซา อาบู มาร์ซุก เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาส กล่าวกับนิวยอร์กไทมส์เมื่อไม่นานนี้ว่า กลุ่มฮามาสพร้อมที่จะเจรจากับรัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่ หากเรื่องนี้เป็นความจริง ถือเป็นเรื่อง “ดี”
    🔸 วิตคอฟฟ์เชื่อว่าทุกประเทศในภูมิภาคนี้สามารถตกลงเจรจาพูดคุยกันได้
    1/ มีรายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์ มอบหมายให้ "สตีฟ วิทคอฟฟ์" (Steve Witkoff) ผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของเขา เข้าทำหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงเพื่อเจรจาด้านการทูตกับอิหร่าน "เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจอย่างมากต่ออิสราเอล!" ตำแหน่งผู้แทนพิเศษประจำตะวันออกกลางของ สตีฟ วิทคอฟฟ์ นับว่าสำคัญที่สุด เนื่องจากเป็นผู้กำหนดและดำเนินการตามนโยบายของทรัมป์ในภูมิภาคนี้ คาดว่าทรัมป์จะมอบความรับผิดชอบให้กับสตีฟ วิทคอฟฟ์ในการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน เป็นที่ทราบกันดีว่าวิทคอฟฟ์ เน้นเรื่องการเจรจาทางการทูต มากกว่าการใช้กำลังทางทหาร นี่จึงเป็นสาเหตุที่อิสราเอลไม่พอใจ เพราะหากไม่มีความขัดแย้ง เป้าหมายของแอสราเอลจะไม่มีทางบรรลุผล ที่ผ่านมาวิทคอฟฟ์เป็นตัวแทนของทรัมป์เข้าทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเจาจาข้อตกลงหยุดยิงในกาซา รวมทั้งติดตามผลของข้อตกลงหยุดยิงนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้อิสราเอลทำตามอย่างแข็งขันอีกด้วย เขาเป็นคนเดียวที่คัดค้านนโยบายการแทรกแซงอิหร่านเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง (วิดีโอ1) สตีฟ วิทคอฟฟ์ เคยพูดถึงหลักการ 4 ประการเพื่อเป็นแนวทางให้รัฐบาลของทรัมป์ปฏิบัติต่อตะวันออกกลาง: 1. เคารพในอำนาจอธิปไตย 2. ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจเป็นสะพานเชื่อมสู่เสถียรภาพ 3. เน้นดำเนินโยบายทางด้านการทูต 4. “การตอบสนองและความรับผิดชอบ” สหรัฐอเมริกาต้องการเห็นการตอบสนองจากพันธมิตร หลังจากแสวงหาผลประโยชน์จากสหรัฐมาอย่างยาวนาน ยุคของเช็คเปล่าสิ้นสุดลงแล้ว ความร่วมมือต้องยุติธรรม และการสนับสนุนต้องสะท้อนถึงความมุ่งมั่นร่วมกันต่อเป้าหมายของทุกฝ่าย หลายฝ่ายเชื่อว่า สิ่งที่วิทคอฟฟ์พูดนี้ เป็นการส่งข้อความถึงอิสราเอล (วิดีโอ2) ล่าสุด สตีฟ วิทคอฟฟ์ เพิ่งให้สัมภาษณกับ Fox News เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นของเขาที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระยะที่สองในกาซา และเปิดกว้างในการบรรลุ "ความเข้าใจในทุกเรื่อง" กับกลุ่มฮามาส (แน่นอนว่าเพิ่มความไม่พอใจให้กับอิสราเอล) บางส่วนในการสัมภาษณ์: 🔸 “เราต้องแน่ใจว่าข้อตกลงหยุดยิงดำเนินการไปด้วยดี เพราะมันจะทำให้เราจะเข้าสู่ระยะที่สอง ซึ่งมันจะช่วยรักษาชีวิตผู้คนอีกมาก 🔸 “ผมกำลังจะไปอิสราเอล เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทีมตรวจสอบทางเดินเน็ตซาริม (Netzarim corridor) และที่ทางเดินฟิลาเดลเฟีย (Philadelphi corridor) ด้วย” 🔸 มูซา อาบู มาร์ซุก เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาส กล่าวกับนิวยอร์กไทมส์เมื่อไม่นานนี้ว่า กลุ่มฮามาสพร้อมที่จะเจรจากับรัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่ หากเรื่องนี้เป็นความจริง ถือเป็นเรื่อง “ดี” 🔸 วิตคอฟฟ์เชื่อว่าทุกประเทศในภูมิภาคนี้สามารถตกลงเจรจาพูดคุยกันได้
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 402 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบื้องหลังที่เมลาเนียสวมหมวกพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของทรัมป์21 มกราคม 2568 -รายงานข่าวเดลิเมล์ ระบุว่าเหตุผลที่แท้จริงที่เมลาเนีย ทรัมป์ในฐานะสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งทำในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งสวมหมวกปิดปังสายตาในพิธีสาบานตนรับตำแหสมัยน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของโดนัล ทรัมป์  โดยในครั้งนี้ เมลาเนียเลือกที่จะใส่ชุดเดรสสีกรมท่าที่ทำจากผ้าไหมและผ้าขนสัตว์ที่ตัดเย็บพิเศษ โดยกระโปรงทรงดินสอและเสื้อเบลาส์ไหมสีงาช้างเข้ากัน ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่ติดตามแฟชั่นหลายคน เนื่องจากชุดเดรสทั้งหมดตัดเย็บด้วยมือในนิวยอร์กซิตี้โดยนักออกแบบชาวอเมริกันที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างอดัม ลิปเปส ขณะเสื้อตัวในของเมลาเนียออกแบบโดยเอริก จาวิตส์ นักออกแบบชาวอเมริกันอีกคน ทำให้ชุดที่สะดุดตาชุดนี้สมบูรณ์แบบแต่เป็นที่น่าสังเกตว่านับตั้งแต่ฮิลลารี คลินตันในปี 1993 เป็นต้นมา สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งไม่เคยเลือกสวมหมวกในวันพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของสามี แต่ครั้งนี้เมลาเนียสวมหมวกไม่เพียงแต่ทำให้ชุดของเมลาเนียดูมีมิติมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังบดบังดวงตาของเธอได้เกือบทั้งหมดสำหรับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อในเรื่องความชื่นชอบแว่นกันแดดอย่างเมลาเนีย นี่อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในวันที่คนทั้งโลกจะจับตามองเธอเธอหลีกเลี่ยงแบรนด์ยุโรปที่เธอชอบ (แม้ว่าจะเลือกทั้ง Dolce & Gabbana และ Dior ในงานเฉลิมฉลองก่อนเข้ารับตำแหน่งต่างๆ) และให้ความสำคัญกับนักออกแบบสองคนที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักคือ Lippes Javits ซึ่งตอนนี้แบรนด์ของพวกเขาอาจเพิ่มยอดขายอย่างกะทันหันได้ด้วยการอุปถัมภ์ของประธานาธิบดีAdam Lippes – ผู้มีโชว์รูมแบบสตูดิโอขนาดเล็กในห้างสรรพสินค้าหรู Brookfield Place (ใกล้กับ One World Trade Center) – ถือเป็นน้องใหม่ และแน่นอนว่าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของกลุ่มคนชั้นสูงในโลกแฟชั่นของนิวยอร์กJavits เองก็พูดอย่างภาคภูมิใจเกี่ยวกับผลงานที่เขาประดิษฐ์ด้วยมือ ซึ่งเขาทำเอง (เย็บด้วยเครื่องจักรเพียงแปดเปอร์เซ็นต์ของงานเย็บมือบนหมวก)"ไม่มีมืออื่นใดสัมผัสมันเลย... ก่อนที่ Herve [Pierre สไตลิสต์ส่วนตัวของ Melania] และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งจะได้รับมัน" เขากล่าวกิจการของ Eric Javits อยู่ไกลออกไปอีก เขาเป็นผู้จัดหาเครื่องประดับศีรษะและเครื่องประดับฟางให้กับ Bloomingdale's และ Nordstrom ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ในไมอามี และความใกล้ชิดกับ Mar-a-Lago ทำให้ Herve สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปให้กับ Melania ใน Palm Beach ได้ด้วยมือในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อเช้าวันจันทร์ Lippes กล่าวว่าเป็น "เกียรติ" ที่สตูดิโอของเขาในนิวยอร์กได้แต่งตัวให้ Melania เพื่อทำตามประเพณีที่ "สะท้อนถึงความงามของประชาธิปไตยแบบอเมริกัน" และชุดของเธอเป็นผลงานของ "ช่างฝีมือที่ดีที่สุดของอเมริกา"มีการยกย่องชุดที่ออกแบบในอเมริกาเป็นจำนวนมาก และนักวิจารณ์แฟชั่นต่างก็พากันตะลึงที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนใหม่สามารถหาดีไซเนอร์ชาวอเมริกันที่ยินดีจะออกแบบเสื้อผ้าให้เธอได้ (แบรนด์เสรีนิยมสุดโต่งและค่อนข้างเย่อหยิ่งหลายแห่งปฏิเสธที่จะร่วมงานกับเมลาเนียนับตั้งแต่สามีของเธอเริ่มต้นอาชีพนักการเมือง)แน่นอนว่าเพื่อที่จะค้นหาดีไซเนอร์ทั้งสองคนนี้ให้กับเมลาเนีย เอร์ฟ ปิแอร์ต้องพยายามค้นหาให้ไกลจากบูติกบนถนนเมดิสันอเวนิว (ซึ่งหนึ่งในนั้นเคยปฏิเสธไม่ให้เธอเข้าร้าน) และต้องคิดนอกกรอบของโลกแฟชั่นอเมริกันที่ยังคงถูกครอบงำโดยกระแสต่อต้านอย่างไม่แยแสของแอนนา วินทัวร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตและบรรณาธิการนิตยสารโว้กทั้งนี้ การแต่งกายของเมลาเนียในฐานะสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งทำในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งสมัยแรกของทรัมป์ เมลาเนียเธอสวมชุดสูทสีฟ้าอ่อนซีดที่ในพิธีสาบานตนและถูกนำไปเปรียบเทียบกับแจ็กกี้ เคนเนดี เมื่อปี 1961 ผมของเธอที่รวบขึ้นเป็นมวยแบบยุค 1960 อย่างชัดเจน สะท้อนให้เห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มขณะที่เธอปลุกเร้ายุคทองของอุดมคติทางการเมืองผ่านแฟชั่น ภาพนี้แสดงให้เห็นโดนัลด์และเมลาเนียในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาในปี 2017https://www.dailymail.co.uk/femail/article-14305329/Melania-Trump-inauguration-hat-real-reason.html
    เบื้องหลังที่เมลาเนียสวมหมวกพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของทรัมป์21 มกราคม 2568 -รายงานข่าวเดลิเมล์ ระบุว่าเหตุผลที่แท้จริงที่เมลาเนีย ทรัมป์ในฐานะสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งทำในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งสวมหมวกปิดปังสายตาในพิธีสาบานตนรับตำแหสมัยน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของโดนัล ทรัมป์  โดยในครั้งนี้ เมลาเนียเลือกที่จะใส่ชุดเดรสสีกรมท่าที่ทำจากผ้าไหมและผ้าขนสัตว์ที่ตัดเย็บพิเศษ โดยกระโปรงทรงดินสอและเสื้อเบลาส์ไหมสีงาช้างเข้ากัน ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่ติดตามแฟชั่นหลายคน เนื่องจากชุดเดรสทั้งหมดตัดเย็บด้วยมือในนิวยอร์กซิตี้โดยนักออกแบบชาวอเมริกันที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างอดัม ลิปเปส ขณะเสื้อตัวในของเมลาเนียออกแบบโดยเอริก จาวิตส์ นักออกแบบชาวอเมริกันอีกคน ทำให้ชุดที่สะดุดตาชุดนี้สมบูรณ์แบบแต่เป็นที่น่าสังเกตว่านับตั้งแต่ฮิลลารี คลินตันในปี 1993 เป็นต้นมา สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งไม่เคยเลือกสวมหมวกในวันพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของสามี แต่ครั้งนี้เมลาเนียสวมหมวกไม่เพียงแต่ทำให้ชุดของเมลาเนียดูมีมิติมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังบดบังดวงตาของเธอได้เกือบทั้งหมดสำหรับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อในเรื่องความชื่นชอบแว่นกันแดดอย่างเมลาเนีย นี่อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในวันที่คนทั้งโลกจะจับตามองเธอเธอหลีกเลี่ยงแบรนด์ยุโรปที่เธอชอบ (แม้ว่าจะเลือกทั้ง Dolce & Gabbana และ Dior ในงานเฉลิมฉลองก่อนเข้ารับตำแหน่งต่างๆ) และให้ความสำคัญกับนักออกแบบสองคนที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักคือ Lippes Javits ซึ่งตอนนี้แบรนด์ของพวกเขาอาจเพิ่มยอดขายอย่างกะทันหันได้ด้วยการอุปถัมภ์ของประธานาธิบดีAdam Lippes – ผู้มีโชว์รูมแบบสตูดิโอขนาดเล็กในห้างสรรพสินค้าหรู Brookfield Place (ใกล้กับ One World Trade Center) – ถือเป็นน้องใหม่ และแน่นอนว่าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของกลุ่มคนชั้นสูงในโลกแฟชั่นของนิวยอร์กJavits เองก็พูดอย่างภาคภูมิใจเกี่ยวกับผลงานที่เขาประดิษฐ์ด้วยมือ ซึ่งเขาทำเอง (เย็บด้วยเครื่องจักรเพียงแปดเปอร์เซ็นต์ของงานเย็บมือบนหมวก)"ไม่มีมืออื่นใดสัมผัสมันเลย... ก่อนที่ Herve [Pierre สไตลิสต์ส่วนตัวของ Melania] และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งจะได้รับมัน" เขากล่าวกิจการของ Eric Javits อยู่ไกลออกไปอีก เขาเป็นผู้จัดหาเครื่องประดับศีรษะและเครื่องประดับฟางให้กับ Bloomingdale's และ Nordstrom ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ในไมอามี และความใกล้ชิดกับ Mar-a-Lago ทำให้ Herve สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปให้กับ Melania ใน Palm Beach ได้ด้วยมือในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อเช้าวันจันทร์ Lippes กล่าวว่าเป็น "เกียรติ" ที่สตูดิโอของเขาในนิวยอร์กได้แต่งตัวให้ Melania เพื่อทำตามประเพณีที่ "สะท้อนถึงความงามของประชาธิปไตยแบบอเมริกัน" และชุดของเธอเป็นผลงานของ "ช่างฝีมือที่ดีที่สุดของอเมริกา"มีการยกย่องชุดที่ออกแบบในอเมริกาเป็นจำนวนมาก และนักวิจารณ์แฟชั่นต่างก็พากันตะลึงที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนใหม่สามารถหาดีไซเนอร์ชาวอเมริกันที่ยินดีจะออกแบบเสื้อผ้าให้เธอได้ (แบรนด์เสรีนิยมสุดโต่งและค่อนข้างเย่อหยิ่งหลายแห่งปฏิเสธที่จะร่วมงานกับเมลาเนียนับตั้งแต่สามีของเธอเริ่มต้นอาชีพนักการเมือง)แน่นอนว่าเพื่อที่จะค้นหาดีไซเนอร์ทั้งสองคนนี้ให้กับเมลาเนีย เอร์ฟ ปิแอร์ต้องพยายามค้นหาให้ไกลจากบูติกบนถนนเมดิสันอเวนิว (ซึ่งหนึ่งในนั้นเคยปฏิเสธไม่ให้เธอเข้าร้าน) และต้องคิดนอกกรอบของโลกแฟชั่นอเมริกันที่ยังคงถูกครอบงำโดยกระแสต่อต้านอย่างไม่แยแสของแอนนา วินทัวร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตและบรรณาธิการนิตยสารโว้กทั้งนี้ การแต่งกายของเมลาเนียในฐานะสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งทำในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งสมัยแรกของทรัมป์ เมลาเนียเธอสวมชุดสูทสีฟ้าอ่อนซีดที่ในพิธีสาบานตนและถูกนำไปเปรียบเทียบกับแจ็กกี้ เคนเนดี เมื่อปี 1961 ผมของเธอที่รวบขึ้นเป็นมวยแบบยุค 1960 อย่างชัดเจน สะท้อนให้เห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มขณะที่เธอปลุกเร้ายุคทองของอุดมคติทางการเมืองผ่านแฟชั่น ภาพนี้แสดงให้เห็นโดนัลด์และเมลาเนียในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาในปี 2017https://www.dailymail.co.uk/femail/article-14305329/Melania-Trump-inauguration-hat-real-reason.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 488 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน วิงวอน โดนัลด์ ทรัมป์ หลายต่อหลายครั้ง ขอเข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ถูกปฏิเสธมาอย่างต่อเนื่อง จากคำกล่าวอ้างของโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายของ ทรัมป์ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดผู้นำเคียฟ ใช้แพลตฟอร์มเอ็กซ์ เขียนแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีคนใหม่ของอเมริกา
    .
    โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ เขียนบนอินสตาแกรม ก่อนพิธีสาบานตนของผู้เป็นพ่อ เย้ยหยันคำพูดของผู้นำยูเครน ที่ให้สัมภาษณ์กับ เล็กซ์ ฟรีดแมน พอดแคสต์ชาวอเมริกัน เมื่อช่วงต้นเดือน ซึ่ง เซเลนสกี บอกว่าเขาไม่ได้รับเชิญเข้าร่มพิธีสาบานตนในวันที่ 20 มกราคม
    .
    "ผมไม่สามารถมาได้ โดยเฉพาะในช่วงระหว่างสงคราม จนกว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะเชิญผมเป็นการส่วนตัว ผมไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นเรื่องเหมาะสมไหมที่จะเดินทางมา เพราะผมรู้ว่าโดยทั่วไปแล้ว พวกผู้นำบางคนมีเหตุผลบางประการที่ไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ" เซเลนสกี บอกกับ ฟรีดแมน
    .
    ทรัมป์ จูเนียร์ ตอบโต้ว่า "ส่วนที่ตลกที่สุดก็คือ เขาเป็นผู้ร้องขออย่างไม่เป็นทางการสำหรับคำเชิญถึง 3 รอบ และแต่ละครั้งถูกปฏิเสธ "ตอนนี้ เขาทำราวกับว่าเขาไม่ได้เดินทางมาด้วยตนเอง" พร้อมตราหน้าเซเลนสกีว่าเป็น "คนประหลาด"
    .
    โดยปกติแล้ว ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มักไม่เชิญพวกผู้นำต่างชาติเข้าร่วมพิธีสาบานตน แต่ ทรัมป์ นั้น เปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติดั้งเดิมและส่งคำเชิญอย่างครอบคลุมถึง สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน วิคตอร์ เออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการี ฆาเบียร์ มิลเล ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา จอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีอิตาลี ดาเนียล โนโบอา ประธานาธิบดีเอกวาดอร์ และประธานาธิบดีซานติอาร์โก เปญา แห่งปารากวัย
    .
    ทรัมป์ ก่อความเคลือบแคลงแก่ยุทธการของสหรัฐฯ ในการช่วยเหลือยูเครน และประกาศยุติความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างรวดเร็ว พวกเจ้าหน้าที่ยูเครนเกรงว่าข้อตกลงหยุดยิงที่เสนอโดย ทรัมป์ จะทำให้ประเทศของเขาเสียเปรียบ
    .
    ทั้งนี้ เซเลนสกี พบปะกับ ทรัมป์ ในนิวยอร์ก เมื่อเดือนกันยายน จากนั้น ทรัมป์ เผยว่าผู้นำยูเครน "ต้องการให้ความขัดแย้งยุติลง และทั้ง 2 ฝ่ายต่างต้องการ "ข้อตกลงที่ยุติธรรม"
    .
    แม้ไม่ได้รับเชิญ แต่ในวันจันทร์ (20 ม.ค.) เซเลนสกี โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ในพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง และยกย่องว่ามันเป็นโอกาสที่จะบรรลุเป้าหมายแห่งสันติภาพในประเทศของเขา ที่สู้รบทำสงครามต่อต้านการรุกรานของรัสเซียมาเกือบ 3 ปี
    .
    ทรัมป์ เรียกร้องซ้ำๆ เกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง และสัญญาว่าจะหยุดสงครามอย่างทันทีทันใด แต่ไม่ได้บอกว่าจะด้วยวิธีการใด "ประธานาธิบดีทรัมป์เด็ดขาดเสมอ และนโยบายสันติภาพผ่านความเข้มแข็งที่เขาแถลง เปิดโอกาสสำหรับเสริมเข้มแข็งแก่ความเป็นผู้นำของอเมริกา และบรรลุเป้าหมายสันติภาพในระยะยาว ซึ่งมันมีความสำคัญลำดับสูงสุด" เซเลนสกีระบุ
    .
    ยูเครน มองการเพาะบ่มความใกล้ชิดกับว่าที่รัฐบาลใหม่ของทรัมป์ คือเป้าหมายสำคัญ และเซเลนสกี กล่าวในวันจันทร์ (20 ม.ค.) ว่ายูเครนกำลังตั้งตาคอยบรรลุเป้าหมายแห่งความร่วมมือที่ก่อประโยชน์ร่วมกันกับรัฐบาลทรัมป์ "เมื่อร่วมมือกัน เราเข้มแข็งกว่าเดิม และเราสามารถมอบความมั่นคงและเสถียรภาพที่ดียิ่งขึ้น เช่นเดียวกับมอบการเติบโตทางเศรษฐกิจในทิศทางที่ดีขึ้นแก่โลกและประเทศของเราทั้ง 2 ชาติ" เขากล่าว
    .
    ระหว่างการปราศรัยในช่วงค่ำ เซเลนสกี ให้คำจำกัดความ ทรัมป์ ว่าเป็น "คนที่เข้มแข็ง" ที่มอบแรงกดดันที่จำเป็นสำหรับเดินหน้าความพยายามบรรลุเป้าหมายแห่งสันติภาพ "นี่คือโอกาสที่ต้องคว้าไว้" เซเลนสกีกล่าว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006233
    .........
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน วิงวอน โดนัลด์ ทรัมป์ หลายต่อหลายครั้ง ขอเข้าร่วมพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ถูกปฏิเสธมาอย่างต่อเนื่อง จากคำกล่าวอ้างของโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายของ ทรัมป์ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดผู้นำเคียฟ ใช้แพลตฟอร์มเอ็กซ์ เขียนแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีคนใหม่ของอเมริกา . โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ เขียนบนอินสตาแกรม ก่อนพิธีสาบานตนของผู้เป็นพ่อ เย้ยหยันคำพูดของผู้นำยูเครน ที่ให้สัมภาษณ์กับ เล็กซ์ ฟรีดแมน พอดแคสต์ชาวอเมริกัน เมื่อช่วงต้นเดือน ซึ่ง เซเลนสกี บอกว่าเขาไม่ได้รับเชิญเข้าร่มพิธีสาบานตนในวันที่ 20 มกราคม . "ผมไม่สามารถมาได้ โดยเฉพาะในช่วงระหว่างสงคราม จนกว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะเชิญผมเป็นการส่วนตัว ผมไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นเรื่องเหมาะสมไหมที่จะเดินทางมา เพราะผมรู้ว่าโดยทั่วไปแล้ว พวกผู้นำบางคนมีเหตุผลบางประการที่ไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีสหรัฐฯ" เซเลนสกี บอกกับ ฟรีดแมน . ทรัมป์ จูเนียร์ ตอบโต้ว่า "ส่วนที่ตลกที่สุดก็คือ เขาเป็นผู้ร้องขออย่างไม่เป็นทางการสำหรับคำเชิญถึง 3 รอบ และแต่ละครั้งถูกปฏิเสธ "ตอนนี้ เขาทำราวกับว่าเขาไม่ได้เดินทางมาด้วยตนเอง" พร้อมตราหน้าเซเลนสกีว่าเป็น "คนประหลาด" . โดยปกติแล้ว ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มักไม่เชิญพวกผู้นำต่างชาติเข้าร่วมพิธีสาบานตน แต่ ทรัมป์ นั้น เปลี่ยนแปลงแนวทางปฏิบัติดั้งเดิมและส่งคำเชิญอย่างครอบคลุมถึง สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน วิคตอร์ เออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการี ฆาเบียร์ มิลเล ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา จอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีอิตาลี ดาเนียล โนโบอา ประธานาธิบดีเอกวาดอร์ และประธานาธิบดีซานติอาร์โก เปญา แห่งปารากวัย . ทรัมป์ ก่อความเคลือบแคลงแก่ยุทธการของสหรัฐฯ ในการช่วยเหลือยูเครน และประกาศยุติความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างรวดเร็ว พวกเจ้าหน้าที่ยูเครนเกรงว่าข้อตกลงหยุดยิงที่เสนอโดย ทรัมป์ จะทำให้ประเทศของเขาเสียเปรียบ . ทั้งนี้ เซเลนสกี พบปะกับ ทรัมป์ ในนิวยอร์ก เมื่อเดือนกันยายน จากนั้น ทรัมป์ เผยว่าผู้นำยูเครน "ต้องการให้ความขัดแย้งยุติลง และทั้ง 2 ฝ่ายต่างต้องการ "ข้อตกลงที่ยุติธรรม" . แม้ไม่ได้รับเชิญ แต่ในวันจันทร์ (20 ม.ค.) เซเลนสกี โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ แสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ในพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง และยกย่องว่ามันเป็นโอกาสที่จะบรรลุเป้าหมายแห่งสันติภาพในประเทศของเขา ที่สู้รบทำสงครามต่อต้านการรุกรานของรัสเซียมาเกือบ 3 ปี . ทรัมป์ เรียกร้องซ้ำๆ เกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง และสัญญาว่าจะหยุดสงครามอย่างทันทีทันใด แต่ไม่ได้บอกว่าจะด้วยวิธีการใด "ประธานาธิบดีทรัมป์เด็ดขาดเสมอ และนโยบายสันติภาพผ่านความเข้มแข็งที่เขาแถลง เปิดโอกาสสำหรับเสริมเข้มแข็งแก่ความเป็นผู้นำของอเมริกา และบรรลุเป้าหมายสันติภาพในระยะยาว ซึ่งมันมีความสำคัญลำดับสูงสุด" เซเลนสกีระบุ . ยูเครน มองการเพาะบ่มความใกล้ชิดกับว่าที่รัฐบาลใหม่ของทรัมป์ คือเป้าหมายสำคัญ และเซเลนสกี กล่าวในวันจันทร์ (20 ม.ค.) ว่ายูเครนกำลังตั้งตาคอยบรรลุเป้าหมายแห่งความร่วมมือที่ก่อประโยชน์ร่วมกันกับรัฐบาลทรัมป์ "เมื่อร่วมมือกัน เราเข้มแข็งกว่าเดิม และเราสามารถมอบความมั่นคงและเสถียรภาพที่ดียิ่งขึ้น เช่นเดียวกับมอบการเติบโตทางเศรษฐกิจในทิศทางที่ดีขึ้นแก่โลกและประเทศของเราทั้ง 2 ชาติ" เขากล่าว . ระหว่างการปราศรัยในช่วงค่ำ เซเลนสกี ให้คำจำกัดความ ทรัมป์ ว่าเป็น "คนที่เข้มแข็ง" ที่มอบแรงกดดันที่จำเป็นสำหรับเดินหน้าความพยายามบรรลุเป้าหมายแห่งสันติภาพ "นี่คือโอกาสที่ต้องคว้าไว้" เซเลนสกีกล่าว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006233 ......... Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    16
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1422 มุมมอง 1 รีวิว
  • GlobalFoundries (GF) หนึ่งในผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของโลก กำลังจะเปิดศูนย์ใหม่สำหรับการบรรจุภัณฑ์และทดสอบชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ ที่นิวยอร์ก! ศูนย์นี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐนิวยอร์กและกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สามารถผลิต ประมวลผล บรรจุภัณฑ์ และทดสอบชิปทั้งหมดในสหรัฐฯ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของชิปซิลิคอนโฟโตนิกส์และชิปอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับตลาดสำคัญ ๆ เช่น AI, ยานยนต์, อวกาศและการป้องกันประเทศ, และการสื่อสาร

    การเติบโตของ AI กำลังผลักดันการนำชิปซิลิคอนโฟโตนิกส์และชิป 3D และ HI มาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงาน แบนด์วิดท์ และความหนาแน่นในดาต้าเซ็นเตอร์และอุปกรณ์ขอบ ชิปซิลิคอนโฟโตนิกส์ยังสามารถตอบสนองความต้องการด้านพลังงานและประสิทธิภาพในยานยนต์ การสื่อสาร เรดาร์ และแอปพลิเคชันโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอื่น ๆ

    ศูนย์นี้จะมีการบรรจุภัณฑ์ขั้นสูง การประกอบ และการทดสอบสำหรับแพลตฟอร์มซิลิคอนโฟโตนิกส์ของ GF ซึ่งรวมเอาส่วนประกอบออปติคอลและไฟฟ้าไว้ในชิปเดียวเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีการบรรจุภัณฑ์ขั้นสูง การประกอบ และการทดสอบสำหรับลูกค้าในอุตสาหกรรมอวกาศและการป้องกันประเทศภายใต้การรับรอง Trusted Foundry ของ GF

    การลงทุนทั้งหมดของ GF ในศูนย์นี้คาดว่าจะอยู่ที่ 575 ล้านดอลลาร์ โดยมีการลงทุนเพิ่มเติมในด้านการวิจัยและพัฒนามูลค่า 186 ล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า ความพยายามเหล่านี้คาดว่าจะสร้างงานใหม่ประมาณ 100 ตำแหน่งในนิวยอร์กในอีก 5 ปีข้างหน้า

    https://www.techpowerup.com/331279/globalfoundries-announces-new-york-advanced-packaging-and-photonics-center
    GlobalFoundries (GF) หนึ่งในผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของโลก กำลังจะเปิดศูนย์ใหม่สำหรับการบรรจุภัณฑ์และทดสอบชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ ที่นิวยอร์ก! ศูนย์นี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐนิวยอร์กและกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สามารถผลิต ประมวลผล บรรจุภัณฑ์ และทดสอบชิปทั้งหมดในสหรัฐฯ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของชิปซิลิคอนโฟโตนิกส์และชิปอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับตลาดสำคัญ ๆ เช่น AI, ยานยนต์, อวกาศและการป้องกันประเทศ, และการสื่อสาร การเติบโตของ AI กำลังผลักดันการนำชิปซิลิคอนโฟโตนิกส์และชิป 3D และ HI มาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการด้านพลังงาน แบนด์วิดท์ และความหนาแน่นในดาต้าเซ็นเตอร์และอุปกรณ์ขอบ ชิปซิลิคอนโฟโตนิกส์ยังสามารถตอบสนองความต้องการด้านพลังงานและประสิทธิภาพในยานยนต์ การสื่อสาร เรดาร์ และแอปพลิเคชันโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอื่น ๆ ศูนย์นี้จะมีการบรรจุภัณฑ์ขั้นสูง การประกอบ และการทดสอบสำหรับแพลตฟอร์มซิลิคอนโฟโตนิกส์ของ GF ซึ่งรวมเอาส่วนประกอบออปติคอลและไฟฟ้าไว้ในชิปเดียวเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีการบรรจุภัณฑ์ขั้นสูง การประกอบ และการทดสอบสำหรับลูกค้าในอุตสาหกรรมอวกาศและการป้องกันประเทศภายใต้การรับรอง Trusted Foundry ของ GF การลงทุนทั้งหมดของ GF ในศูนย์นี้คาดว่าจะอยู่ที่ 575 ล้านดอลลาร์ โดยมีการลงทุนเพิ่มเติมในด้านการวิจัยและพัฒนามูลค่า 186 ล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า ความพยายามเหล่านี้คาดว่าจะสร้างงานใหม่ประมาณ 100 ตำแหน่งในนิวยอร์กในอีก 5 ปีข้างหน้า https://www.techpowerup.com/331279/globalfoundries-announces-new-york-advanced-packaging-and-photonics-center
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    GlobalFoundries Announces New York Advanced Packaging and Photonics Center
    GlobalFoundries (Nasdaq: GFS) (GF) today announced plans to create a new center for advanced packaging and testing of U.S.-made essential chips within its New York manufacturing facility. Supported by investments from the State of New York and the U.S. Department of Commerce, the first-of-its-kind c...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ตั้งใจเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาคดีอิสราเอลฆ่าล้างเผ่าพันธุ์??"

    นาวาฟ ซาลาม ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ได้รับการโหวตให้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลบานอน โดยที่ทำเนียบประธานาธิบดีกล่าวว่า ซาลามจะเดินทางกลับเลบานอนในวันอังคารนี้เลย

    นาวาฟ ซาลาม (Nawaf Salam) ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ในกรุงเฮก ซึ่งกำลังพิจารณาคดีที่ยื่นโดยแอฟริกาใต้ ในข้อกล่าวหาว่าอิสราเอลก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ได้รับคะแนนโหวตในรัฐสภาเลบานอนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งเป็นคนที่ 53 ของเลบานอน

    สมาชิกรัฐสภา 128 คน ลงคะแนนเลือก
    - นาวาฟ ซาลาม 85 เสียง
    - ขณะที่ นาจิบ มิคาติ นายกรัฐมนตรีคนเดิมได้รับความไว้วางใจเพียง 9 เสียง
    - ส่วนที่เหลืออีก 34 เสียง งดออกเสียง

    ซาลาม ว่าที่นายกรัฐมนตรีซึ่งมีสมาชิกครอบครัวในสาย "ซุนนี" สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขารัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Sciences Po ในฝรั่งเศส ปริญญาเอกสาขาประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Sorbonne และปริญญาโทสาขานิติศาสตร์จากโรงเรียนกฎหมายฮาร์วาร์ด

    ซาลามทำงานเป็นทนายความและอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งก่อนที่จะดำรงตำแหน่งผู้แทนถาวรของเลบานอนประจำสหประชาชาติในนิวยอร์กตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2017

    เขาเข้าเป็นสมาชิกของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของสหประชาชาติ ในปี 2018 และได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเป็นเวลา 3 ปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ในขณะที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศพิจารณาคดีที่ยื่นโดยแอฟริกาใต้ ซึ่งกล่าวหาว่ากองกำลังอิสราเอลก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
    "ตั้งใจเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาคดีอิสราเอลฆ่าล้างเผ่าพันธุ์??" นาวาฟ ซาลาม ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ได้รับการโหวตให้กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเลบานอน โดยที่ทำเนียบประธานาธิบดีกล่าวว่า ซาลามจะเดินทางกลับเลบานอนในวันอังคารนี้เลย นาวาฟ ซาลาม (Nawaf Salam) ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ในกรุงเฮก ซึ่งกำลังพิจารณาคดีที่ยื่นโดยแอฟริกาใต้ ในข้อกล่าวหาว่าอิสราเอลก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ได้รับคะแนนโหวตในรัฐสภาเลบานอนให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซึ่งเป็นคนที่ 53 ของเลบานอน สมาชิกรัฐสภา 128 คน ลงคะแนนเลือก - นาวาฟ ซาลาม 85 เสียง - ขณะที่ นาจิบ มิคาติ นายกรัฐมนตรีคนเดิมได้รับความไว้วางใจเพียง 9 เสียง - ส่วนที่เหลืออีก 34 เสียง งดออกเสียง ซาลาม ว่าที่นายกรัฐมนตรีซึ่งมีสมาชิกครอบครัวในสาย "ซุนนี" สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขารัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Sciences Po ในฝรั่งเศส ปริญญาเอกสาขาประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Sorbonne และปริญญาโทสาขานิติศาสตร์จากโรงเรียนกฎหมายฮาร์วาร์ด ซาลามทำงานเป็นทนายความและอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยหลายแห่งก่อนที่จะดำรงตำแหน่งผู้แทนถาวรของเลบานอนประจำสหประชาชาติในนิวยอร์กตั้งแต่ปี 2007 ถึง 2017 เขาเข้าเป็นสมาชิกของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของสหประชาชาติ ในปี 2018 และได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีเป็นเวลา 3 ปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ในขณะที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศพิจารณาคดีที่ยื่นโดยแอฟริกาใต้ ซึ่งกล่าวหาว่ากองกำลังอิสราเอลก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 433 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชื่อว่าอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อาจได้ความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์จากทายาทเครื่องสำอาง ESTÉE LAUDER “โรแนลด์ ลอเดอร์” (Ronald Lauder) เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย นายกรัฐมนตรีอิตาลีฟันธง เหมือนสัญญาณเตือนไป “ปักกิ่ง” ไม่กี่วันหลังวอชิงตันล็อบบี้ไม่ให้ขายบริษัทเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) ของกรีนแลนด์ไปให้ปักกิ่ง
    .
    หนังสือพิมพ์ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานวันพุธ (8 ม.ค.) ว่า มีการเชื่อว่า ความคิดการซื้อเกาะกรีนแลนด์อาจมาจากเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของทรัมป์ ทายาทเครื่องสำอาง ESTÉE LAUDER “โรแนลด์ ลอเดอร์” (Ronald Lauder) อ้างจากหนังสือ The Divider ของปีเตอร์ เบเกอร์ (Peter Baker) จากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส และซูซาน กลาสเซอร์ (Susan Glasser) จาก The New Yorker ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอดีตผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะที่อยู่ในทำเนียบขาวระหว่างปี 2017-2021
    .
    “เพื่อนคนหนึ่งของผมที่เป็นนักธุรกิจที่มีประสบการณ์มากๆ คิดว่าเราควรได้เกาะกรีนแลนด์” ทรัมป์กล่าวต่อที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติในเวลานั้น อ้างอิงจากหนังสือ
    .
    ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ในเวลานั้นถามย้ำว่า “คุณคิดว่าอย่างไร?”
    .
    และส่งผลทำให้มีการตั้งทีมศึกษา การหาทางออกต่างๆ เป็นต้นว่า ข้อเสนอขอเช่าเกาะ ที่คล้ายข้อตกลงอสังหาริมทรัพย์นิวยอร์ก
    .
    อ้างอิงจากนิวยอร์กไทม์ส มีความวิตกในกลุ่มผู้ช่วยทรัมป์ว่า หากแนวคิดการซื้อเกาะกรีนแลนด์หากรั่วออกไปอาจส่งผลกระทบทางการทูตได้
    .
    ทรัมป์ให้มสัมภาษณ์กับผู้แต่งว่า “ผมพูดว่า ทำไมพวกเราไม่ครอบครองมัน” และเสริมว่า “คุณมองไปที่แผนที่สิ ผมเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผมมองไปที่ตรงมุม ผมพูดว่า ผมจะต้องมีร้านสำหรับตึกที่ผมกำลังจะสร้างและอื่นๆ มันไม่ต่างกันเลย”
    .
    ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่า “ผมรักแผน และผมมักพูดว่า มองไปที่ขนาดของมันสิ มันใหญ่มหึมามาก มันสมควรเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา”
    .
    ดิอินดีเพนเดนท์รายงานว่า อ้างอิงจากหนังสือพบว่า ทายาท Estée Lauder ได้หารือกับทรัมป์เกี่ยวกับเกาะกรีนแลนด์มาตั้งแต่เริ่มแรกของสมัยการดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2017 และแม้กระทั่งเสนอตัวเองเป็นประตูหลังติดต่อรัฐบาลเดนมาร์กสำหรับการเจรจาต่อรอง
    .
    ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ จอห์น โบลตัน (John Bolton) ในเวลานั้นได้สั่งผู้ช่วยของเขา ฟิโอนา ฮิลล์ (Fiona Hill) ให้ตั้งทีมงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ และพบมีการแอบหารือลับร่วมกับเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก พร้อมกับเมโมเสนอช่องทางตัวเลือก
    .
    ทั้งนี้ โบลตันวิตกการแผ่อิทธิพลของ "ปักกิ่ง" มายังภูมิภาคอาร์กติก ขั้วโลกเหนือ และเชื่อว่าการที่สหรัฐฯ จะเพิ่มอิทธิพลปรากฏตัวบนเกาะกรีนแลนด์จะเป็นความคิดที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม โบลตันเชื่อว่า ความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์นั้นไม่มีความเป็นไปได้
    .
    มีการสานสัมพันธ์ระหว่างกรีนแลนด์และจีน อ้างอิงจาก highnorthnews รายงานเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ปี 2021 ว่า เกาะกรีนแลนด์ได้เปิดสำนักงานตัวแทนขึ้นที่กรุงปักกิ่ง เพื่อโปรโมตทางเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรมระหว่างกรีนแลนด์และเอเชีย โดยมีเป้าหมายไปที่ "จีน" แต่ยังครอบคลุมไปถึงญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้
    .
    ความกังวลของโบลตันเกี่ยวกับกรีนแลนด์ในเวลานั้นยังสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของวอชิงตันเมื่อล่าสุด
    .
    รอยเตอร์รายงานวันศุกร์ (10) ล่าสุดว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่กำลังจะหมดสมัยได้ร่วมกับโคเปนเฮเกนแอบล็อบบี้บริษัทเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) Tanbreez Mining ของกรีนแลนด์ที่มีนโยบายว่า ทำเหมืองเพื่อเทคโนโลยีสะอาดกว่า (Mining for Greener Technologies) ไม่ให้ถูกขายไปให้ปักกิ่ง
    .
    แร่แรร์เอิร์ธนั้นมีคุณสมบัติความเป็นแม่เหล็กสูงและมีความสำคัญต่อการพัฒนาตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าไปจนถึงจรวดมิสไซล์ที่ทั้งสหรัฐฯ และจีนต่างแข่งขันเพื่อครอบครอง
    .
    เกร็ก บาร์นส์ (Greg Barnes) ซีอีโอบริษัท Tanbreez Mining ที่ขัดสนเงินให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า เจ้าหน้าที่อเมริกันปีที่แล้วเดินทางมาที่ทางใต้ของเกาะกรีนแลนด์ถึง 2 ครั้งเพื่อเตือนไม่ให้ขายไปให้ผู้ซื้อที่เชื่อมโยงกับปักกิ่ง
    .
    และในท้ายที่สุดเขาจำเป็นต้องขายบริษัทเหมืองแร่กรีนแลนด์ไปให้บริษัทเหมืองแร่ Critical Metals ที่มีฐานในนิวยอร์กในข้อตกลงที่สลับซับซ้อนและได้เงินน้อยกว่า ซึ่งสัญญาจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปีนี้
    .
    ทั้งนี้บาร์นส์จะได้เงินสด 5 ล้านดอลลาร์และหุ้นใน Critical Metals สำหรับ Tanbreez Mining เป็นมูลค่า 211 ล้านดอลลาร์ เป็นมูลค่าสัญญาขายน้อยกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบออกมาจากฝั่งของบริษัทจีน
    .
    ทรัมป์ต้องการได้เกาะกรีนแลนด์เพื่อกันจีนนั้นยังออกมาจากความเห็นของนายกรัฐมนตรีอิตาลี จอร์เจีย เมโลนี (Giorgia Meloni)
    .
    ฟรานซ์24 ของฝรั่งเศสรายงานวันพฤหัสบดี (9) ว่า ผู้นำหญิงอิตาลีเปิดเผยว่า เธอมองว่าการที่ว่าที่ประธานาธิบดีอเมริกันคนใหม่ข่มขู่จะใช้กำลังทหารเข้ายึดเกาะกรีนแลนด์หรือคลองปานามาเป็นเสมือนคำเตือนไปยังประเทศฝ่ายตรงข้ามเป็นต้นว่า “จีน” ที่สมควรทำตัวออกห่างจากพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ
    .
    เดลีเมลของอังกฤษรายงานวันเสาร์ (11) ว่า นายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์ Múte Egede ในวันศุกร์ (10) ที่เดนมาร์ก ได้แสดงความปรารถนาจะเข้าสู่การเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับผลประโยชน์ร่วมกัน พร้อมย้ำว่า “ชาวกรีนแลนด์ไม่ต้องการเป็นอเมริกันชน”
    .
    เกิดขึ้นหลังแอ็กซิออส (Axios) รายงานว่า เจ้าหน้าที่เดนมาร์กได้สื่อสารในทางลับกับทีมของทรัมป์ประเด็นเกาะกรีนแลนด์ก่อนหน้าวันพิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค.
    .
    สหรัฐฯ ที่ตั้งชาติมาอย่างหลากหลายวิธีทั้งสู้รบในสงครามปฏิวัติอเมริกากับอังกฤษ และการสู้รบสเปน และเม็กซิโกในการขยายดินแดน และยังรวมไปถึงการใช้เงินเพื่อซื้อดินแดน
    .
    เดลีเมลของอังกฤษประเมินว่า หากสหรัฐฯ เดินหน้าซื้อเกาะกรีนแลนด์จริงอาจต้องจ่ายแพงกว่าตอนซื้อรัฐอะแลสกาจากรัสเซียเมื่อปี 1867 ในราคา 7.2 ล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับ 153.5 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
    .
    โดยชี้ว่า เกาะกรีนแลนด์ใหญ่กว่ารัฐอะแลสกา 150 เท่า คาดว่าอาจต้องควักกระเป๋าจ่ายถึง 230.25 ล้านดอลลาร์
    สหรัฐฯ เคยซื้อเกาะเวอร์จินจากเดนมาร์กเมื่อปี 1917 ด้วยทองคำมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์ เทียบเท่ากับ 616.2 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
    .
    และรัฐบาลลุงแซมยังเคยทุ่มซื้อรัฐลุยเซียนาจากฝรั่งเศสเมื่อปี 1803 ในราคา 15 ล้านดอลลาร์ หรือตกราว 418.8 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003916
    ..............
    Sondhi X
    เชื่อว่าอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อาจได้ความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์จากทายาทเครื่องสำอาง ESTÉE LAUDER “โรแนลด์ ลอเดอร์” (Ronald Lauder) เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย นายกรัฐมนตรีอิตาลีฟันธง เหมือนสัญญาณเตือนไป “ปักกิ่ง” ไม่กี่วันหลังวอชิงตันล็อบบี้ไม่ให้ขายบริษัทเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) ของกรีนแลนด์ไปให้ปักกิ่ง . หนังสือพิมพ์ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานวันพุธ (8 ม.ค.) ว่า มีการเชื่อว่า ความคิดการซื้อเกาะกรีนแลนด์อาจมาจากเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของทรัมป์ ทายาทเครื่องสำอาง ESTÉE LAUDER “โรแนลด์ ลอเดอร์” (Ronald Lauder) อ้างจากหนังสือ The Divider ของปีเตอร์ เบเกอร์ (Peter Baker) จากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส และซูซาน กลาสเซอร์ (Susan Glasser) จาก The New Yorker ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอดีตผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะที่อยู่ในทำเนียบขาวระหว่างปี 2017-2021 . “เพื่อนคนหนึ่งของผมที่เป็นนักธุรกิจที่มีประสบการณ์มากๆ คิดว่าเราควรได้เกาะกรีนแลนด์” ทรัมป์กล่าวต่อที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติในเวลานั้น อ้างอิงจากหนังสือ . ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ในเวลานั้นถามย้ำว่า “คุณคิดว่าอย่างไร?” . และส่งผลทำให้มีการตั้งทีมศึกษา การหาทางออกต่างๆ เป็นต้นว่า ข้อเสนอขอเช่าเกาะ ที่คล้ายข้อตกลงอสังหาริมทรัพย์นิวยอร์ก . อ้างอิงจากนิวยอร์กไทม์ส มีความวิตกในกลุ่มผู้ช่วยทรัมป์ว่า หากแนวคิดการซื้อเกาะกรีนแลนด์หากรั่วออกไปอาจส่งผลกระทบทางการทูตได้ . ทรัมป์ให้มสัมภาษณ์กับผู้แต่งว่า “ผมพูดว่า ทำไมพวกเราไม่ครอบครองมัน” และเสริมว่า “คุณมองไปที่แผนที่สิ ผมเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผมมองไปที่ตรงมุม ผมพูดว่า ผมจะต้องมีร้านสำหรับตึกที่ผมกำลังจะสร้างและอื่นๆ มันไม่ต่างกันเลย” . ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่า “ผมรักแผน และผมมักพูดว่า มองไปที่ขนาดของมันสิ มันใหญ่มหึมามาก มันสมควรเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา” . ดิอินดีเพนเดนท์รายงานว่า อ้างอิงจากหนังสือพบว่า ทายาท Estée Lauder ได้หารือกับทรัมป์เกี่ยวกับเกาะกรีนแลนด์มาตั้งแต่เริ่มแรกของสมัยการดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2017 และแม้กระทั่งเสนอตัวเองเป็นประตูหลังติดต่อรัฐบาลเดนมาร์กสำหรับการเจรจาต่อรอง . ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ จอห์น โบลตัน (John Bolton) ในเวลานั้นได้สั่งผู้ช่วยของเขา ฟิโอนา ฮิลล์ (Fiona Hill) ให้ตั้งทีมงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ และพบมีการแอบหารือลับร่วมกับเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก พร้อมกับเมโมเสนอช่องทางตัวเลือก . ทั้งนี้ โบลตันวิตกการแผ่อิทธิพลของ "ปักกิ่ง" มายังภูมิภาคอาร์กติก ขั้วโลกเหนือ และเชื่อว่าการที่สหรัฐฯ จะเพิ่มอิทธิพลปรากฏตัวบนเกาะกรีนแลนด์จะเป็นความคิดที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม โบลตันเชื่อว่า ความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์นั้นไม่มีความเป็นไปได้ . มีการสานสัมพันธ์ระหว่างกรีนแลนด์และจีน อ้างอิงจาก highnorthnews รายงานเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ปี 2021 ว่า เกาะกรีนแลนด์ได้เปิดสำนักงานตัวแทนขึ้นที่กรุงปักกิ่ง เพื่อโปรโมตทางเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรมระหว่างกรีนแลนด์และเอเชีย โดยมีเป้าหมายไปที่ "จีน" แต่ยังครอบคลุมไปถึงญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ . ความกังวลของโบลตันเกี่ยวกับกรีนแลนด์ในเวลานั้นยังสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของวอชิงตันเมื่อล่าสุด . รอยเตอร์รายงานวันศุกร์ (10) ล่าสุดว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่กำลังจะหมดสมัยได้ร่วมกับโคเปนเฮเกนแอบล็อบบี้บริษัทเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) Tanbreez Mining ของกรีนแลนด์ที่มีนโยบายว่า ทำเหมืองเพื่อเทคโนโลยีสะอาดกว่า (Mining for Greener Technologies) ไม่ให้ถูกขายไปให้ปักกิ่ง . แร่แรร์เอิร์ธนั้นมีคุณสมบัติความเป็นแม่เหล็กสูงและมีความสำคัญต่อการพัฒนาตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าไปจนถึงจรวดมิสไซล์ที่ทั้งสหรัฐฯ และจีนต่างแข่งขันเพื่อครอบครอง . เกร็ก บาร์นส์ (Greg Barnes) ซีอีโอบริษัท Tanbreez Mining ที่ขัดสนเงินให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า เจ้าหน้าที่อเมริกันปีที่แล้วเดินทางมาที่ทางใต้ของเกาะกรีนแลนด์ถึง 2 ครั้งเพื่อเตือนไม่ให้ขายไปให้ผู้ซื้อที่เชื่อมโยงกับปักกิ่ง . และในท้ายที่สุดเขาจำเป็นต้องขายบริษัทเหมืองแร่กรีนแลนด์ไปให้บริษัทเหมืองแร่ Critical Metals ที่มีฐานในนิวยอร์กในข้อตกลงที่สลับซับซ้อนและได้เงินน้อยกว่า ซึ่งสัญญาจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปีนี้ . ทั้งนี้บาร์นส์จะได้เงินสด 5 ล้านดอลลาร์และหุ้นใน Critical Metals สำหรับ Tanbreez Mining เป็นมูลค่า 211 ล้านดอลลาร์ เป็นมูลค่าสัญญาขายน้อยกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบออกมาจากฝั่งของบริษัทจีน . ทรัมป์ต้องการได้เกาะกรีนแลนด์เพื่อกันจีนนั้นยังออกมาจากความเห็นของนายกรัฐมนตรีอิตาลี จอร์เจีย เมโลนี (Giorgia Meloni) . ฟรานซ์24 ของฝรั่งเศสรายงานวันพฤหัสบดี (9) ว่า ผู้นำหญิงอิตาลีเปิดเผยว่า เธอมองว่าการที่ว่าที่ประธานาธิบดีอเมริกันคนใหม่ข่มขู่จะใช้กำลังทหารเข้ายึดเกาะกรีนแลนด์หรือคลองปานามาเป็นเสมือนคำเตือนไปยังประเทศฝ่ายตรงข้ามเป็นต้นว่า “จีน” ที่สมควรทำตัวออกห่างจากพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ . เดลีเมลของอังกฤษรายงานวันเสาร์ (11) ว่า นายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์ Múte Egede ในวันศุกร์ (10) ที่เดนมาร์ก ได้แสดงความปรารถนาจะเข้าสู่การเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับผลประโยชน์ร่วมกัน พร้อมย้ำว่า “ชาวกรีนแลนด์ไม่ต้องการเป็นอเมริกันชน” . เกิดขึ้นหลังแอ็กซิออส (Axios) รายงานว่า เจ้าหน้าที่เดนมาร์กได้สื่อสารในทางลับกับทีมของทรัมป์ประเด็นเกาะกรีนแลนด์ก่อนหน้าวันพิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค. . สหรัฐฯ ที่ตั้งชาติมาอย่างหลากหลายวิธีทั้งสู้รบในสงครามปฏิวัติอเมริกากับอังกฤษ และการสู้รบสเปน และเม็กซิโกในการขยายดินแดน และยังรวมไปถึงการใช้เงินเพื่อซื้อดินแดน . เดลีเมลของอังกฤษประเมินว่า หากสหรัฐฯ เดินหน้าซื้อเกาะกรีนแลนด์จริงอาจต้องจ่ายแพงกว่าตอนซื้อรัฐอะแลสกาจากรัสเซียเมื่อปี 1867 ในราคา 7.2 ล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับ 153.5 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน . โดยชี้ว่า เกาะกรีนแลนด์ใหญ่กว่ารัฐอะแลสกา 150 เท่า คาดว่าอาจต้องควักกระเป๋าจ่ายถึง 230.25 ล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ เคยซื้อเกาะเวอร์จินจากเดนมาร์กเมื่อปี 1917 ด้วยทองคำมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์ เทียบเท่ากับ 616.2 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน . และรัฐบาลลุงแซมยังเคยทุ่มซื้อรัฐลุยเซียนาจากฝรั่งเศสเมื่อปี 1803 ในราคา 15 ล้านดอลลาร์ หรือตกราว 418.8 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003916 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Yay
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1853 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการลาออกของ สมิธ ถูกระบุเอาไว้ในฟุตโน้ตของเอกสารดังกล่าว โดยบอกว่า สมิธ ได้ทำงานเสร็จสมบูรณ์แล้ว และส่งรายงานชั้นความลับฉบับสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 7 ม.ค. ก่อนที่จะ "แยกทาง" กับกระทรวงยุติธรรมสกรัฐฯ ในวันที่ 10 ม.ค.

    อดีตอัยการคดีอาชญากรรมสงครามผู้นี้ได้เป็นผู้สั่งฟ้อง ทรัมป์ ในคดีอาญา 2 จาก 4 คดีที่ ทรัมป์ ตกเป็นจำเลยหลังพ้นตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในปี 2021 ทว่าคดีทั้งสองก็ต้องหยุดชะงักไปหลังผู้พิพากษาฟลอริดาที่ได้รับการแต่งตั้งโดย ทรัมป์ ตัดสินยกฟ้องไปหนึ่ง และศาลสูงสุดสหรัฐฯ ที่มีผู้พิพากษา 3 คนที่ถูกแต่งตั้งโดย ทรัมป์ วินิจฉัยว่าอดีตผู้นำสหรัฐฯ ทุกคนมีสิทธิคุ้มกันจากการถูกดำเนินคดีในการกระทำภายใต้อำนาจหน้าที่ (official acts) ทำให้ทั้ง 2 คดีนี้ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการไต่สวนเลย

    หลังจากที่ ทรัมป์ เอาชนะรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ปีที่แล้ว สมิธ ได้ประกาศยกฟ้อง ทรัมป์ ทั้ง 2 คดี โดยอ้างถึงจุดยืนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่ปฏิเสธการดำเนินคดีกับประธานาธิบดีในตำแหน่ง

    ในเอกสารคำร้องขอให้ศาลยกฟ้อง ทีมงานของ สมิธ ยังคงยืนยันว่าคดีเหล่านี้มีคุณค่า (merits) สมควรแก่การไต่สวน ทว่าการกลับขึ้นมามีอำนาจของ ทรัมป์ เท่านั้นที่ทำให้คดีไปต่อไม่ได้

    ด้านว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงความยินดีกับข่าวการลาออกของ สมิธ ในวันอาทิตย์ (12) โดยโพสต์ Truth Social ว่า สมิธ ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง และยังกล่าวหาอัยการผู้นี้ว่า "ทำลายชีวิตของผู้คนและครอบครัวจำนวนมากมาย"

    ทั้งนี้ การลาออกของ สมิธ จากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่หลายคนคาดหมายอยู่แล้ว เนื่องจาก ทรัมป์ ซึ่งออกมาด่าอัยการพิเศษผู้นี้ว่าเป็นพวก "วิกลจริต" (deranged) ประกาศชัดเจนว่าจะไล่ สมิธ ออกทันทีที่สาบานตนเป็นประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค. แถมยังขู่จะไล่เบี้ยแก้แค้นทั้ง สมิธ และบุคคลอื่นๆ ที่มีส่วนในการสอบสวนตนด้วย

    เมื่อปี 2023 ทรัมป์ กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งอดีตและในตำแหน่งคนแรกที่ถูกฟ้องคดีอาญา เริ่มจากคดีที่นิวยอร์กซึ่งเขาถูกตั้งข้อหาพยายามปกปิดเรื่องการจ่ายเงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่ในช่วงก่อนศึกเลือกตั้งปี 2016 จากนั้นก็ตามมาด้วยคำสั่งฟ้องของอัยการ สมิธ จากกรณีที่ ทรัมป์ เก็บเอกสารชั้นความลับไว้กับตัวอย่างผิดกฎหมายหลังพ้นตำแหน่งประธานาธิบดี และพยายามล้มผลเลือกตั้งปี 2020 ซึ่งเป็นชนวนนำมาสู่เหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาในวันที่ 6 ม.ค. ปี 2021

    อัยการในรัฐจอร์เจียยังมีการตั้งข้อหาเอาผิด ทรัมป์ ฐานพยายามล้มผลเลือกตั้งในรัฐดังกล่าวที่เขาเป็นฝ่ายแพ้ด้วย

    ที่มา : รอยเตอร์
    https://mgronline.com/around/detail/9680000003502?tbref=hp
    ข้อมูลเกี่ยวกับการลาออกของ สมิธ ถูกระบุเอาไว้ในฟุตโน้ตของเอกสารดังกล่าว โดยบอกว่า สมิธ ได้ทำงานเสร็จสมบูรณ์แล้ว และส่งรายงานชั้นความลับฉบับสุดท้ายไปเมื่อวันที่ 7 ม.ค. ก่อนที่จะ "แยกทาง" กับกระทรวงยุติธรรมสกรัฐฯ ในวันที่ 10 ม.ค. อดีตอัยการคดีอาชญากรรมสงครามผู้นี้ได้เป็นผู้สั่งฟ้อง ทรัมป์ ในคดีอาญา 2 จาก 4 คดีที่ ทรัมป์ ตกเป็นจำเลยหลังพ้นตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในปี 2021 ทว่าคดีทั้งสองก็ต้องหยุดชะงักไปหลังผู้พิพากษาฟลอริดาที่ได้รับการแต่งตั้งโดย ทรัมป์ ตัดสินยกฟ้องไปหนึ่ง และศาลสูงสุดสหรัฐฯ ที่มีผู้พิพากษา 3 คนที่ถูกแต่งตั้งโดย ทรัมป์ วินิจฉัยว่าอดีตผู้นำสหรัฐฯ ทุกคนมีสิทธิคุ้มกันจากการถูกดำเนินคดีในการกระทำภายใต้อำนาจหน้าที่ (official acts) ทำให้ทั้ง 2 คดีนี้ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการไต่สวนเลย หลังจากที่ ทรัมป์ เอาชนะรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ปีที่แล้ว สมิธ ได้ประกาศยกฟ้อง ทรัมป์ ทั้ง 2 คดี โดยอ้างถึงจุดยืนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่ปฏิเสธการดำเนินคดีกับประธานาธิบดีในตำแหน่ง ในเอกสารคำร้องขอให้ศาลยกฟ้อง ทีมงานของ สมิธ ยังคงยืนยันว่าคดีเหล่านี้มีคุณค่า (merits) สมควรแก่การไต่สวน ทว่าการกลับขึ้นมามีอำนาจของ ทรัมป์ เท่านั้นที่ทำให้คดีไปต่อไม่ได้ ด้านว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกมาแสดงความยินดีกับข่าวการลาออกของ สมิธ ในวันอาทิตย์ (12) โดยโพสต์ Truth Social ว่า สมิธ ทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง และยังกล่าวหาอัยการผู้นี้ว่า "ทำลายชีวิตของผู้คนและครอบครัวจำนวนมากมาย" ทั้งนี้ การลาออกของ สมิธ จากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่หลายคนคาดหมายอยู่แล้ว เนื่องจาก ทรัมป์ ซึ่งออกมาด่าอัยการพิเศษผู้นี้ว่าเป็นพวก "วิกลจริต" (deranged) ประกาศชัดเจนว่าจะไล่ สมิธ ออกทันทีที่สาบานตนเป็นประธานาธิบดีในวันที่ 20 ม.ค. แถมยังขู่จะไล่เบี้ยแก้แค้นทั้ง สมิธ และบุคคลอื่นๆ ที่มีส่วนในการสอบสวนตนด้วย เมื่อปี 2023 ทรัมป์ กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งอดีตและในตำแหน่งคนแรกที่ถูกฟ้องคดีอาญา เริ่มจากคดีที่นิวยอร์กซึ่งเขาถูกตั้งข้อหาพยายามปกปิดเรื่องการจ่ายเงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่ในช่วงก่อนศึกเลือกตั้งปี 2016 จากนั้นก็ตามมาด้วยคำสั่งฟ้องของอัยการ สมิธ จากกรณีที่ ทรัมป์ เก็บเอกสารชั้นความลับไว้กับตัวอย่างผิดกฎหมายหลังพ้นตำแหน่งประธานาธิบดี และพยายามล้มผลเลือกตั้งปี 2020 ซึ่งเป็นชนวนนำมาสู่เหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภาในวันที่ 6 ม.ค. ปี 2021 อัยการในรัฐจอร์เจียยังมีการตั้งข้อหาเอาผิด ทรัมป์ ฐานพยายามล้มผลเลือกตั้งในรัฐดังกล่าวที่เขาเป็นฝ่ายแพ้ด้วย ที่มา : รอยเตอร์ https://mgronline.com/around/detail/9680000003502?tbref=hp
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 492 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไฟป่า Palisades Fire และไฟป่า Eaton fire ยังคงไม่สามารถคุมได้ต่อไป ตัวเลขผู้เสียชีวิตไฟป่าล่าสุดไม่ต่ำกว่า 16 คน พบ 2 คนละเมิดกฎเคอร์ฟิวโผล่ใกล้บ้านรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส เบื้องลึกไฟป่ารัฐแคลิฟอร์เนีย พบเบื้องลึกดับเพลิงใน LA ไม่มีน้ำดับไฟหลัง หัวดับเพลิงแดงแห้งรวมอ่างเก็บน้ำสำคัญเกิดปิดซ่อมพอดี เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ และเมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ วันศุกร์ (10 ม.ค.) เสด็จเยือนศูนย์ผู้อพยพลอสแอนเจลิส บริจาคของเล่น ช่วยเสิร์ฟอาหารร่วมกับ World Central Kitchen ที่เคยส่งอาหารให้เขตฉนวนกาซา
    .
    หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ของสหรัฐฯ รายงานวันอาทิตย์ (12 ม.ค.) ว่า 5 วันนับตั้งแต่ไฟป่า Palisades Fire และไฟป่า Eaton fire เกิดขึ้นมีผู้เสียชีวิตล่าสุดไปแล้ว 16 คน ทำให้ประชาชนไร้ที่อยู่เกือบ 200,000 คน และไฟป่าเผาทำลายสิ่งปลูกสร้างไปร่วม 10,000 หลัง ที่รวมถึงทำลายทั้งชุมชน
    .
    เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แถลงคืนวันเสาร์ว่า ยอดเสียชีวิต 16 ราย รวมถึง 11 คนจากไฟป่า Eaton Fire และอีก 5 คนจาก Palisades Fire
    .
    พื้นที่ขนาด 2.5 เท่าของขนาดแมนแฮตตัน หรือไม่ต่ำกว่า 39,000 เอเคอร์ถูกไฟเผาทำลายจนราบ ขณะที่ภายในเช้าวันอาทิตย์ (12) ไฟป่าได้ลามมาจนถึง แมนเดวิลล์ แคนยอน (Mandeville Canyon) และมีความเป็นไปได้ที่จะเดินทางไปถึง เบรนต์วูด (Brentwood) ที่อยู่ในโซนอพยพ
    .
    เบรนต์วูดเป็นศูนย์รวมที่อยู่คนดังต่างๆ รวม รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง คนเหล็กเรื่อง Terminator และเคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ และนักกีฬาสหรัฐฯ คนดัง เลอบรอน เจมส์ (LeBron James)
    .
    ทั้งนี้ อ้างอิงจาก KNBC สื่อท้องถิ่นพบว่า ตำรวจแอลเอพีดีสามารถจับกุมชาย 2 คนในข้อหาละเมิดกฎเคอร์ฟิวได้ในเช้าวันเสาร์ (11) ใกล้บ้านรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ อ้างอิงจากแหล่งข่าว
    .
    อย่างไรก็ตาม ในรายงานระบุว่า ไม่พบหลักฐานว่าคนทั้งสองแอบลักลอบเข้าบ้านรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อยู่ภายใต้การอารักขาของตำรวจลับสหรัฐฯ
    .
    มีชาวแคลิฟอร์เนียกว่า 153,000 คนถูกสั่งอพยพ และอีก 166,000 คนอยู่ในเรดาร์ธงแดงเตือนอาจต้องอพยพ
    .
    และผู้ใช้ไฟกว่า 50,000 คนในรัฐแคลิฟอร์เนียยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ ลดลงจากเมื่อต้นสัปดาห์ที่มีสูงถึงครึ่งล้านคน customers บริษัทการไฟฟ้า Southern California Edison แถลงวันเสาร์ (11)
    .
    นิวยอร์กโพสต์รายงานว่า ไฟป่า Eaton Fire ในพาซาดีนา (Pasadena) และอัลทาดีนา (Altadena) เผาผลาญไปแล้วกว่า 14,117 เอเคอร์ แต่สามารถควบคุมได้เพียง 15%
    .
    นิวยอร์กโพสต์รายงานการเดินทางมาถึงของทีมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเม็กซิกัน โดยเครื่องได้ร่อนแตะรันเวย์สนามบินลอสแองเจลิสบ่ายวันเสาร์ (11)
    .
    ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แกวิน นิวซอม ที่กำลังดวงตกจากมรสุมไฟป่าหลังพรรคเดโมแครตแพ้เลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนประกาศข่าวผ่านแพลตฟอร์ม X
    .
    นิวซอมชี้ว่า ทีมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเม็กซิโกจะเข้าร่วมกองทัพเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 14,000 คนที่กำลังทำหน้าที่ดับไฟป่า #PalisadesFire พร้อมกันนี้เขายังแสดงความขอบคุณไปยังเม็กซิโกประเทศเพื่อนบ้าน
    .
    ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานวันอาทิตย์ (12) กลายเป็นคำถามดังไปทั่วว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิง LA จะดับไฟป่าลูกใหญ่ได้อย่างไรหากหัวดับเพลิงแดงแห้งไม่มีน้ำ
    .
    หลังในจุดหนึ่งของสัปดาห์นี้พบว่า หัวดับเพลิงแดงมากถึง 20% แห้งอ้างอิงจากนายกเทศมนตรีหญิงผิวสี แคเรน แบสส์ (Karen Bass) และมาจนถึงคืนวันพฤหัสบดี (9) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงหยุดการต่อท่อใช้น้ำจากหัวดับเพลิงแดงทั้งหมด
    .
    และเลวร้ายมากไปกว่านั้นเมื่ออ่างเก็บน้ำที่มีความสามารถกักเก็บ 117 ล้านแกลลอน อ่างเก็บน้ำซานตา อีเนซ (Santa Ynez) ใน แปซิฟิก พาลิเซดส์ (Pacific Palisades) ในจุดเกิดไฟป่าเกิดปิดซ่อมแซมก่อนหน้าส่งผลทำให้ไม่สามารถส่งน้ำไปช่วยได้ อ้างอิงจาก NBC News ของสหรัฐฯ รายงานวันเสาร์ (11) สร้างความหัวเสียให้ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แกวิน นิวซอม (Gavin Newzom) จากพรรคเดโมแครตที่กำลังตกที่นั่งลำบากและได้ออกคำสั่งสอบสวนทั้งกรณีหัวดับเพลิงแดง LA แห้งและอ่างเก็บน้ำปิดซ่อมขณะเกิดไฟป่า
    .
    เดอะซันของอังกฤษรายงานวันเสาร์ (11) ว่า เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ และเมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ เสด็จไปเยือนศูนย์ผู้อพยพผู้ประสบภัยแอลเออย่างไม่คาดฝันในวันศุกร์ (10)
    .
    ทั้งสองพระองค์ได้ช่วยทีม World Central Kitchen ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณกุศลระดับโลกในการเสิร์ฟอาหารให้ผู้ประสบภัย ทั้งนี้องค์กร NGO นี้เคยส่งอาหารช่วยชาวปาเลสไตน์ในกาซามาแล้ว
    .
    อ้างอิงจากเดลีเมลของอังกฤษ พบว่าทั้งสองพระองค์เสด็จมาที่ศูนย์ประชุมพาซาดีนา (Pasadena Convention Centre) เจ้าชายแฮร์รีทรงพระมาลารูปหมีกริสส์ลีสัญลักษณ์ประจำรัฐ ส่วนเมแกน มาร์เคิลทรงพระมาลาทีมเบสบอล LA Dodgers ดัชเชสได้สวมกอดผู้ก่อตั้ง โฮเซ อันเดรส (José Andrés)
    .
    เดอะซันรายงานว่า ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ยังบริจาคสิ่งของจำเป็นและของเล่นให้แก่ผู้ประสบภัย ทั้งสองพระองค์ประทับห่างจากจุดเกิดเหตุไปราว 90 ไมล์
    .
    ขณะที่นายกเทศมนตรี วิคเตอร์ กอร์โด (Victor Gordo) ให้สัมภาษษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ว่า "เจ้าชายแฮร์รีและเมแกน มาร์เคิลทรงต้องการประทานความช่วยเหลือเท่าที่พระองค์จะทำได้ พระองค์ต้องการที่จะเป็นผู้สนับสนุน"
    .
    และในการรายงานของเดลีเมล เขากล่าวว่า ทั้งสองพระองค์ไม่ได้เสด็จมาเพื่อต้องการประชาสัมพันธ์แต่มาเพื่อทรงงาน เปิดเผยว่า ทั้งดยุกและดัชเชสทรงเสด็จมาตั้งแต่ช่วงต้นของวันและไม่แสดงพระองค์ให้รู้ร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่เสิร์ฟอาหารให้ผู้ประสบภัย เมแกน มาร์เคิลยังได้ทรงสวมกอดและพูดคุยกับคนที่สูญเสียบ้านไปจากไฟป่า
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003507
    ..............
    Sondhi X
    ไฟป่า Palisades Fire และไฟป่า Eaton fire ยังคงไม่สามารถคุมได้ต่อไป ตัวเลขผู้เสียชีวิตไฟป่าล่าสุดไม่ต่ำกว่า 16 คน พบ 2 คนละเมิดกฎเคอร์ฟิวโผล่ใกล้บ้านรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส เบื้องลึกไฟป่ารัฐแคลิฟอร์เนีย พบเบื้องลึกดับเพลิงใน LA ไม่มีน้ำดับไฟหลัง หัวดับเพลิงแดงแห้งรวมอ่างเก็บน้ำสำคัญเกิดปิดซ่อมพอดี เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ และเมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ วันศุกร์ (10 ม.ค.) เสด็จเยือนศูนย์ผู้อพยพลอสแอนเจลิส บริจาคของเล่น ช่วยเสิร์ฟอาหารร่วมกับ World Central Kitchen ที่เคยส่งอาหารให้เขตฉนวนกาซา . หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ของสหรัฐฯ รายงานวันอาทิตย์ (12 ม.ค.) ว่า 5 วันนับตั้งแต่ไฟป่า Palisades Fire และไฟป่า Eaton fire เกิดขึ้นมีผู้เสียชีวิตล่าสุดไปแล้ว 16 คน ทำให้ประชาชนไร้ที่อยู่เกือบ 200,000 คน และไฟป่าเผาทำลายสิ่งปลูกสร้างไปร่วม 10,000 หลัง ที่รวมถึงทำลายทั้งชุมชน . เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แถลงคืนวันเสาร์ว่า ยอดเสียชีวิต 16 ราย รวมถึง 11 คนจากไฟป่า Eaton Fire และอีก 5 คนจาก Palisades Fire . พื้นที่ขนาด 2.5 เท่าของขนาดแมนแฮตตัน หรือไม่ต่ำกว่า 39,000 เอเคอร์ถูกไฟเผาทำลายจนราบ ขณะที่ภายในเช้าวันอาทิตย์ (12) ไฟป่าได้ลามมาจนถึง แมนเดวิลล์ แคนยอน (Mandeville Canyon) และมีความเป็นไปได้ที่จะเดินทางไปถึง เบรนต์วูด (Brentwood) ที่อยู่ในโซนอพยพ . เบรนต์วูดเป็นศูนย์รวมที่อยู่คนดังต่างๆ รวม รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง คนเหล็กเรื่อง Terminator และเคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ และนักกีฬาสหรัฐฯ คนดัง เลอบรอน เจมส์ (LeBron James) . ทั้งนี้ อ้างอิงจาก KNBC สื่อท้องถิ่นพบว่า ตำรวจแอลเอพีดีสามารถจับกุมชาย 2 คนในข้อหาละเมิดกฎเคอร์ฟิวได้ในเช้าวันเสาร์ (11) ใกล้บ้านรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ อ้างอิงจากแหล่งข่าว . อย่างไรก็ตาม ในรายงานระบุว่า ไม่พบหลักฐานว่าคนทั้งสองแอบลักลอบเข้าบ้านรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อยู่ภายใต้การอารักขาของตำรวจลับสหรัฐฯ . มีชาวแคลิฟอร์เนียกว่า 153,000 คนถูกสั่งอพยพ และอีก 166,000 คนอยู่ในเรดาร์ธงแดงเตือนอาจต้องอพยพ . และผู้ใช้ไฟกว่า 50,000 คนในรัฐแคลิฟอร์เนียยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ ลดลงจากเมื่อต้นสัปดาห์ที่มีสูงถึงครึ่งล้านคน customers บริษัทการไฟฟ้า Southern California Edison แถลงวันเสาร์ (11) . นิวยอร์กโพสต์รายงานว่า ไฟป่า Eaton Fire ในพาซาดีนา (Pasadena) และอัลทาดีนา (Altadena) เผาผลาญไปแล้วกว่า 14,117 เอเคอร์ แต่สามารถควบคุมได้เพียง 15% . นิวยอร์กโพสต์รายงานการเดินทางมาถึงของทีมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเม็กซิกัน โดยเครื่องได้ร่อนแตะรันเวย์สนามบินลอสแองเจลิสบ่ายวันเสาร์ (11) . ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แกวิน นิวซอม ที่กำลังดวงตกจากมรสุมไฟป่าหลังพรรคเดโมแครตแพ้เลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนประกาศข่าวผ่านแพลตฟอร์ม X . นิวซอมชี้ว่า ทีมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเม็กซิโกจะเข้าร่วมกองทัพเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกว่า 14,000 คนที่กำลังทำหน้าที่ดับไฟป่า #PalisadesFire พร้อมกันนี้เขายังแสดงความขอบคุณไปยังเม็กซิโกประเทศเพื่อนบ้าน . ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานวันอาทิตย์ (12) กลายเป็นคำถามดังไปทั่วว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิง LA จะดับไฟป่าลูกใหญ่ได้อย่างไรหากหัวดับเพลิงแดงแห้งไม่มีน้ำ . หลังในจุดหนึ่งของสัปดาห์นี้พบว่า หัวดับเพลิงแดงมากถึง 20% แห้งอ้างอิงจากนายกเทศมนตรีหญิงผิวสี แคเรน แบสส์ (Karen Bass) และมาจนถึงคืนวันพฤหัสบดี (9) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงหยุดการต่อท่อใช้น้ำจากหัวดับเพลิงแดงทั้งหมด . และเลวร้ายมากไปกว่านั้นเมื่ออ่างเก็บน้ำที่มีความสามารถกักเก็บ 117 ล้านแกลลอน อ่างเก็บน้ำซานตา อีเนซ (Santa Ynez) ใน แปซิฟิก พาลิเซดส์ (Pacific Palisades) ในจุดเกิดไฟป่าเกิดปิดซ่อมแซมก่อนหน้าส่งผลทำให้ไม่สามารถส่งน้ำไปช่วยได้ อ้างอิงจาก NBC News ของสหรัฐฯ รายงานวันเสาร์ (11) สร้างความหัวเสียให้ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย แกวิน นิวซอม (Gavin Newzom) จากพรรคเดโมแครตที่กำลังตกที่นั่งลำบากและได้ออกคำสั่งสอบสวนทั้งกรณีหัวดับเพลิงแดง LA แห้งและอ่างเก็บน้ำปิดซ่อมขณะเกิดไฟป่า . เดอะซันของอังกฤษรายงานวันเสาร์ (11) ว่า เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ และเมแกน ดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ เสด็จไปเยือนศูนย์ผู้อพยพผู้ประสบภัยแอลเออย่างไม่คาดฝันในวันศุกร์ (10) . ทั้งสองพระองค์ได้ช่วยทีม World Central Kitchen ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณกุศลระดับโลกในการเสิร์ฟอาหารให้ผู้ประสบภัย ทั้งนี้องค์กร NGO นี้เคยส่งอาหารช่วยชาวปาเลสไตน์ในกาซามาแล้ว . อ้างอิงจากเดลีเมลของอังกฤษ พบว่าทั้งสองพระองค์เสด็จมาที่ศูนย์ประชุมพาซาดีนา (Pasadena Convention Centre) เจ้าชายแฮร์รีทรงพระมาลารูปหมีกริสส์ลีสัญลักษณ์ประจำรัฐ ส่วนเมแกน มาร์เคิลทรงพระมาลาทีมเบสบอล LA Dodgers ดัชเชสได้สวมกอดผู้ก่อตั้ง โฮเซ อันเดรส (José Andrés) . เดอะซันรายงานว่า ดยุกและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ยังบริจาคสิ่งของจำเป็นและของเล่นให้แก่ผู้ประสบภัย ทั้งสองพระองค์ประทับห่างจากจุดเกิดเหตุไปราว 90 ไมล์ . ขณะที่นายกเทศมนตรี วิคเตอร์ กอร์โด (Victor Gordo) ให้สัมภาษษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ว่า "เจ้าชายแฮร์รีและเมแกน มาร์เคิลทรงต้องการประทานความช่วยเหลือเท่าที่พระองค์จะทำได้ พระองค์ต้องการที่จะเป็นผู้สนับสนุน" . และในการรายงานของเดลีเมล เขากล่าวว่า ทั้งสองพระองค์ไม่ได้เสด็จมาเพื่อต้องการประชาสัมพันธ์แต่มาเพื่อทรงงาน เปิดเผยว่า ทั้งดยุกและดัชเชสทรงเสด็จมาตั้งแต่ช่วงต้นของวันและไม่แสดงพระองค์ให้รู้ร่วมกับทีมเจ้าหน้าที่เสิร์ฟอาหารให้ผู้ประสบภัย เมแกน มาร์เคิลยังได้ทรงสวมกอดและพูดคุยกับคนที่สูญเสียบ้านไปจากไฟป่า . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003507 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1405 มุมมอง 0 รีวิว
  • 4/
    ด่วน! เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่อพาร์ตเมนต์ 6 ชั้น ที่ Wallace Avenue ในบรองซ์ (BRONX) นิวยอร์ก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ประมาณ 200 ราย กำลังเข้าระงับเหตุ แต่เนื่องจากสภาพอากาศมีลมแรง ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว

    มีรายงานเบื้องต้นพลเมืองบาดเจ็บ 7 ราย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีก 5 ราย
    4/ ด่วน! เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่อพาร์ตเมนต์ 6 ชั้น ที่ Wallace Avenue ในบรองซ์ (BRONX) นิวยอร์ก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ประมาณ 200 ราย กำลังเข้าระงับเหตุ แต่เนื่องจากสภาพอากาศมีลมแรง ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว มีรายงานเบื้องต้นพลเมืองบาดเจ็บ 7 ราย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีก 5 ราย
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3/
    ด่วน! เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่อพาร์ตเมนต์ 6 ชั้น ที่ Wallace Avenue ในบรองซ์ (BRONX) นิวยอร์ก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ประมาณ 200 ราย กำลังเข้าระงับเหตุ แต่เนื่องจากสภาพอากาศมีลมแรง ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว

    มีรายงานเบื้องต้นพลเมืองบาดเจ็บ 7 ราย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีก 5 ราย
    3/ ด่วน! เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่อพาร์ตเมนต์ 6 ชั้น ที่ Wallace Avenue ในบรองซ์ (BRONX) นิวยอร์ก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ประมาณ 200 ราย กำลังเข้าระงับเหตุ แต่เนื่องจากสภาพอากาศมีลมแรง ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว มีรายงานเบื้องต้นพลเมืองบาดเจ็บ 7 ราย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีก 5 ราย
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 566 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • 2/
    ด่วน! เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่อพาร์ตเมนต์ 6 ชั้น ที่ Wallace Avenue ในบรองซ์ (BRONX) นิวยอร์ก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ประมาณ 200 ราย กำลังเข้าระงับเหตุ แต่เนื่องจากสภาพอากาศมีลมแรง ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว

    มีรายงานเบื้องต้นพลเมืองบาดเจ็บ 7 ราย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีก 5 ราย
    2/ ด่วน! เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่อพาร์ตเมนต์ 6 ชั้น ที่ Wallace Avenue ในบรองซ์ (BRONX) นิวยอร์ก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ประมาณ 200 ราย กำลังเข้าระงับเหตุ แต่เนื่องจากสภาพอากาศมีลมแรง ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว มีรายงานเบื้องต้นพลเมืองบาดเจ็บ 7 ราย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอีก 5 ราย
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 505 มุมมอง 24 0 รีวิว
Pages Boosts