• ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณขนาดใหญ่ที่เรียกว่า"One Big Beautiful Bill" ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของวาระที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ร่างกฎหมายยาว 1,116 หน้านี้มีเนื้อหาครอบคลุมหลายด้าน ตั้งแต่การลดภาษี การปรับโครงสร้างสวัสดิการสังคม ไปจนถึงการเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงสาระสำคัญของร่างกฎหมายนโยบายด้านภาษีแกนหลักของร่างกฎหมายคือการขยายระยะเวลาTax Cuts and Jobs Act (TCJA) ปี 2017 ให้มีผลถาวร ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่ง นอกจากนี้ยังรวมถึงการยกเลิกภาษีเงินทิปสำหรับพนักงานในอุตสาหกรรมบริการและพนักงานความงาม รวมทั้งการยกเลิกภาษีค่าตอบแทนล่วงเวลา ซึ่งทั้งสองมาตรการนี้จะมีผลชั่วคราวจนถึงสิ้นปี 2028ร่างกฎหมายยังรวมถึงการเพิ่มการหักลดหย่อนภาษีState and Local Tax Deduction (SALT)จาก 10,000 ดอลลาร์ (330,000 บาท) เป็น 40,000 ดอลลาร์ (1.32 ล้านบาท) ต่อครัวเรือนสำหรับรายได้ถึง 500,000 ดอลลาร์ (16.5 ล้านบาท) การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจากแรงกดดันจากสมาชิกรีพับลิกันในรัฐที่มีภาษีรัฐและท้องถิ่นสูง เช่น นิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งประชาชนในรัฐเหล่านี้ต้องจ่ายภาษีรัฐและภาษีทรัพย์สินจำนวนมากมาตรการภาษีอื่นๆ ได้แก่ การยกเลิกภาษี 200 ดอลลาร์ (6,600 บาท) สำหรับเครื่องเก็บเสียงปืน การเพิ่มเครดิตภาษีเด็กจาก 2,000 ดอลลาร์เป็น 2,500 ดอลลาร์ (82,500 บาท) และการอนุญาตให้หักลดหย่อนดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์สูงสุด 10,000 ดอลลาร์สำหรับรถที่ประกอบในสหรัฐฯโครงการ "Trump Accounts"ร่างกฎหมายสร้างบัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็ก 1,000 ดอลลาร์ (33,000บาท) ที่เรียกว่า"Trump Accounts" (เดิมชื่อ "MAGA Accounts") รัฐบาลกลางจะสมทบ 1,000 ดอลลาร์ให้เด็กที่เกิดระหว่างปี 2024-2028 พ่อแม่สามารถสมทบเพิ่มได้ปีละ 5,000 ดอลลาร์ (165,000 บาท) เงินในบัญชีสามารถใช้สำหรับการศึกษาต่อ การฝึกอาชีพ และการซื้อบ้านหลังแรกเมื่อบุตรอายุครบ 18 ปีการปฏิรูป Medicaid และ SNAPร่างกฎหมายเสนอการปฏิรูป Medicaid ของรัฐบาลไบเดนอย่างถอนรากถอนโคน โดยกำหนดให้ผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีอายุ 18-65 ปีที่ไม่มีบุตรต่ำกว่า 7 ปีต้องทำงานเพื่อได้รับสวัสดิการ นอกจากนี้ยังห้ามใช้ Medicaid สำหรับการรักษาเปลี่ยนเพศและตัดงบประมาณสำหรับรัฐที่ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพผิดกฎหมายการปฏิรูปSupplemental Nutrition Assistance Program (SNAP) จะขยายเงื่อนไขการทำงานให้ครอบคลุมผู้ใหญ่อายุ 18-64 ปี และเปลี่ยนการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายระหว่างรัฐบาลกลางกับรัฐต่างๆ โดยในปัจจุบันรัฐบาลกลางรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 100% และค่าดำเนินการ 50% แต่ร่างกฎหมายใหม่จะให้รัฐต่างๆ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 5% และค่าดำเนินการ 75% โปรแกรมนี้ให้ความช่วยเหลือคนอเมริกันกว่า 42 ล้านคนงบประมาณด้านความมั่นคงร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.53 ล้านล้านบาท) สำหรับกำแพงชายแดน 4.1 พันล้านดอลลาร์ (135,000 ล้านบาท) สำหรับการจ้างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ (66,000 ล้านบาท) สำหรับเงินรางวัลจูงใจให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเข้ามาทำงานใหม่และคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปการยุติโครงการพลังงานสะอาดร่างกฎหมายจะยุติเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาดหลายรายการ โดยกำหนดให้โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ต้องเริ่มก่อสร้างภายใน 60 วันหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้และเปิดให้บริการภายในสิ้นปี 2028 ยกเว้นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีเวลาถึงสิ้นปี 2028โอกาสการผ่านกฎหมายและขั้นตอนที่เหลือร่างกฎหมายผ่านคณะกรรมการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อย 17-16 เสียงในการประชุมวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นได้ผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเกินมาเพียงหนึ่งเสียงหลังจากการประชุมตลอดคืนขั้นตอนต่อไปคือการส่งไปยังคณะกรรมการกฎระเบียบสภาผู้แทนราษฎรในช่วงกลางสัปดาห์เพื่อกำหนดเงื่อนไขการอภิปรายและพิจารณาการแก้ไข ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สภาผู้แทนราษฎร หากผ่านสภาผู้แทนราษฎร จะส่งต่อไปยังวุฒิสภา ซึ่งอาจพบกับความท้าทายเพิ่มเติมเนื่องจากสมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันหลายคนต้องการการแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายนี้การที่ผ่านด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อยในสภาผู้แทนราษฎรแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในพรรครีพับลิกัน ทำให้การผ่านในวุฒิสภาอาจมีความท้าทายมากกว่าผู้ได้รับประโยชน์และผู้เสียประโยชน์ผู้ได้รับประโยชน์บริษัทผู้รับเหมาด้านการป้องกันประเทศจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มงบประมาณอย่างมีนัยสำคัญ RTX Corp (NYSE:RTX) และ Lockheed Martin Corp (NYSE:LMT) ถือเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการภาครัฐ เช่น Palantir Technologies (NASDAQ:PLTR) และ Booz Allen Hamilton (NYSE:BAH)ผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่งจะได้รับประโยชน์จากการขยายเวลา TCJA และการเพิ่ม SALT deduction ขีดจำกัด พนักงานในอุตสาหกรรมบริการจะได้รับประโยชน์จากการยกเลิกภาษีเงินทิปและค่าล่วงเวลาผู้เสียประโยชน์บริษัทประกันสุขภาพที่ให้บริการ Medicaid จะเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก UnitedHealth Group (NYSE:UNH), Centene Corp (NYSE:CNC) และ Elevance Health (NYSE:ELV) อาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของจำนวนผู้เอาประกันและความท้าทายในการกำหนดราคาเบี้ยประกันคนอเมริกันรายได้น้อยกว่า 42 ล้านคนที่พึ่งพา SNAP จะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มเงื่อนไขการทำงานและการโยกภาระไปยังรัฐต่างๆอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดจะได้รับผลกระทบอย่างมาก หุ้นพลังงานสะอาด ได้แก่ Enphase Energy (NASDAQ:ENPH), First Solar (NASDAQ:FSLR) และ Sunrun (NASDAQ:RUN) ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์หลังจากข่าวออกมาปฏิกิริยาของตลาดและนักลงทุนความกังวลในตลาดพันธบัตรตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ มูลค่า 28 ล้านล้านดอลลาร์ (924 ล้านล้านบาท) แสดงสัญญาณความไม่สบายใจอย่างชัดเจน พันธบัตรอายุ 30 ปีได้เพิ่มขึ้นประมาณ 0.11% นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 พ.ค. และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023ด้านนักเศรษฐศาสตร์หัวหน้าของ FWDBONDS ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้ "ดูเหมือนจะทำลายงบประมาณในระยะใกล้เมื่อพิจารณาจากการใช้จ่าย" อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นเนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมเพื่อหาเงินทุนสำหรับการขาดดุลงบประมาณความต้องการอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นในการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปี มูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (528,000 ล้านบาท) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนเรียกร้องอัตราผลตอบแทนสูงกว่า 5% เปรียบเทียบกับ 4.6% ที่เคยเป็นบรรทัดฐานในการประมูลก่อนหน้านี้ สะท้อนความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อความเสี่ยงการลงทุนในหนี้รัฐบาลสหรัฐฯความกลัว "Bond Vigilantes"นักลงทุนแสดงความกังวลต่อการเกิดขึ้นของ "Bond Vigilantes" หรือนักลงทุนที่บังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายโดยการขายหรือขู่ว่าจะขายหนี้ของรัฐบาล ปรากฏการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสามารถสร้างความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นได้ผลกระทบที่คาดการณ์หากตลาดไม่พอใจหากตลาดพันธบัตรยังคงแสดงความไม่พอใจต่อร่างกฎหมายนี้ อาจส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่อยู่อาศัยจะปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจึงหมายถึงต้นทุนการกู้เงินที่สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคทั่วไปนอกจากนี้ การลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ โดย Moody's เมื่อเร็วๆ นี้ ประกอบกับความกังวลเรื่องการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบแบบต่อเนื่องไปยังรัฐและท้องถิ่น ดังเช่นกรณีรัฐแมริแลนด์ที่ถูก Moody's ลดอันดับเครดิต Aaa ส่งผลให้ต้นทุนการกู้เงินสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน อาคารโรงเรียน และสาธารณูปโภคของรัฐและท้องถิ่นเพิ่มสูงขึ้นท้ายที่สุด ร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ของทรัมป์จึงเป็นการทดสอบที่สำคัญต่อความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างนโยบายการคลังที่ต้องการและความยั่งยืนทางการเงินในระยะยาว ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีต่อๆ ไป. . https://www.cbsnews.com/news/whats-in-trumps-one-big-beautiful-bill-medicaid-taxes/#
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณขนาดใหญ่ที่เรียกว่า"One Big Beautiful Bill" ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของวาระที่สองของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ร่างกฎหมายยาว 1,116 หน้านี้มีเนื้อหาครอบคลุมหลายด้าน ตั้งแต่การลดภาษี การปรับโครงสร้างสวัสดิการสังคม ไปจนถึงการเพิ่มงบประมาณด้านความมั่นคงสาระสำคัญของร่างกฎหมายนโยบายด้านภาษีแกนหลักของร่างกฎหมายคือการขยายระยะเวลาTax Cuts and Jobs Act (TCJA) ปี 2017 ให้มีผลถาวร ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่ง นอกจากนี้ยังรวมถึงการยกเลิกภาษีเงินทิปสำหรับพนักงานในอุตสาหกรรมบริการและพนักงานความงาม รวมทั้งการยกเลิกภาษีค่าตอบแทนล่วงเวลา ซึ่งทั้งสองมาตรการนี้จะมีผลชั่วคราวจนถึงสิ้นปี 2028ร่างกฎหมายยังรวมถึงการเพิ่มการหักลดหย่อนภาษีState and Local Tax Deduction (SALT)จาก 10,000 ดอลลาร์ (330,000 บาท) เป็น 40,000 ดอลลาร์ (1.32 ล้านบาท) ต่อครัวเรือนสำหรับรายได้ถึง 500,000 ดอลลาร์ (16.5 ล้านบาท) การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นผลจากแรงกดดันจากสมาชิกรีพับลิกันในรัฐที่มีภาษีรัฐและท้องถิ่นสูง เช่น นิวยอร์ก และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งประชาชนในรัฐเหล่านี้ต้องจ่ายภาษีรัฐและภาษีทรัพย์สินจำนวนมากมาตรการภาษีอื่นๆ ได้แก่ การยกเลิกภาษี 200 ดอลลาร์ (6,600 บาท) สำหรับเครื่องเก็บเสียงปืน การเพิ่มเครดิตภาษีเด็กจาก 2,000 ดอลลาร์เป็น 2,500 ดอลลาร์ (82,500 บาท) และการอนุญาตให้หักลดหย่อนดอกเบี้ยสินเชื่อรถยนต์สูงสุด 10,000 ดอลลาร์สำหรับรถที่ประกอบในสหรัฐฯโครงการ "Trump Accounts"ร่างกฎหมายสร้างบัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็ก 1,000 ดอลลาร์ (33,000บาท) ที่เรียกว่า"Trump Accounts" (เดิมชื่อ "MAGA Accounts") รัฐบาลกลางจะสมทบ 1,000 ดอลลาร์ให้เด็กที่เกิดระหว่างปี 2024-2028 พ่อแม่สามารถสมทบเพิ่มได้ปีละ 5,000 ดอลลาร์ (165,000 บาท) เงินในบัญชีสามารถใช้สำหรับการศึกษาต่อ การฝึกอาชีพ และการซื้อบ้านหลังแรกเมื่อบุตรอายุครบ 18 ปีการปฏิรูป Medicaid และ SNAPร่างกฎหมายเสนอการปฏิรูป Medicaid ของรัฐบาลไบเดนอย่างถอนรากถอนโคน โดยกำหนดให้ผู้ใหญ่ที่สุขภาพดีอายุ 18-65 ปีที่ไม่มีบุตรต่ำกว่า 7 ปีต้องทำงานเพื่อได้รับสวัสดิการ นอกจากนี้ยังห้ามใช้ Medicaid สำหรับการรักษาเปลี่ยนเพศและตัดงบประมาณสำหรับรัฐที่ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพผิดกฎหมายการปฏิรูปSupplemental Nutrition Assistance Program (SNAP) จะขยายเงื่อนไขการทำงานให้ครอบคลุมผู้ใหญ่อายุ 18-64 ปี และเปลี่ยนการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายระหว่างรัฐบาลกลางกับรัฐต่างๆ โดยในปัจจุบันรัฐบาลกลางรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 100% และค่าดำเนินการ 50% แต่ร่างกฎหมายใหม่จะให้รัฐต่างๆ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายการให้ผลประโยชน์ 5% และค่าดำเนินการ 75% โปรแกรมนี้ให้ความช่วยเหลือคนอเมริกันกว่า 42 ล้านคนงบประมาณด้านความมั่นคงร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณ 4.65 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.53 ล้านล้านบาท) สำหรับกำแพงชายแดน 4.1 พันล้านดอลลาร์ (135,000 ล้านบาท) สำหรับการจ้างเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ (66,000 ล้านบาท) สำหรับเงินรางวัลจูงใจให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเข้ามาทำงานใหม่และคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปการยุติโครงการพลังงานสะอาดร่างกฎหมายจะยุติเครดิตภาษีสำหรับพลังงานสะอาดหลายรายการ โดยกำหนดให้โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ต้องเริ่มก่อสร้างภายใน 60 วันหลังจากกฎหมายมีผลบังคับใช้และเปิดให้บริการภายในสิ้นปี 2028 ยกเว้นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีเวลาถึงสิ้นปี 2028โอกาสการผ่านกฎหมายและขั้นตอนที่เหลือร่างกฎหมายผ่านคณะกรรมการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อย 17-16 เสียงในการประชุมวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นได้ผ่านการลงมติในสภาผู้แทนราษฎรด้วยคะแนนเสียงเกินมาเพียงหนึ่งเสียงหลังจากการประชุมตลอดคืนขั้นตอนต่อไปคือการส่งไปยังคณะกรรมการกฎระเบียบสภาผู้แทนราษฎรในช่วงกลางสัปดาห์เพื่อกำหนดเงื่อนไขการอภิปรายและพิจารณาการแก้ไข ก่อนนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่สภาผู้แทนราษฎร หากผ่านสภาผู้แทนราษฎร จะส่งต่อไปยังวุฒิสภา ซึ่งอาจพบกับความท้าทายเพิ่มเติมเนื่องจากสมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันหลายคนต้องการการแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายนี้การที่ผ่านด้วยคะแนนเสียงเพียงเล็กน้อยในสภาผู้แทนราษฎรแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในพรรครีพับลิกัน ทำให้การผ่านในวุฒิสภาอาจมีความท้าทายมากกว่าผู้ได้รับประโยชน์และผู้เสียประโยชน์ผู้ได้รับประโยชน์บริษัทผู้รับเหมาด้านการป้องกันประเทศจะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มงบประมาณอย่างมีนัยสำคัญ RTX Corp (NYSE:RTX) และ Lockheed Martin Corp (NYSE:LMT) ถือเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรง รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการภาครัฐ เช่น Palantir Technologies (NASDAQ:PLTR) และ Booz Allen Hamilton (NYSE:BAH)ผู้มีรายได้สูงและชนชั้นมั่งคั่งจะได้รับประโยชน์จากการขยายเวลา TCJA และการเพิ่ม SALT deduction ขีดจำกัด พนักงานในอุตสาหกรรมบริการจะได้รับประโยชน์จากการยกเลิกภาษีเงินทิปและค่าล่วงเวลาผู้เสียประโยชน์บริษัทประกันสุขภาพที่ให้บริการ Medicaid จะเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างมาก UnitedHealth Group (NYSE:UNH), Centene Corp (NYSE:CNC) และ Elevance Health (NYSE:ELV) อาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของจำนวนผู้เอาประกันและความท้าทายในการกำหนดราคาเบี้ยประกันคนอเมริกันรายได้น้อยกว่า 42 ล้านคนที่พึ่งพา SNAP จะได้รับผลกระทบจากการเพิ่มเงื่อนไขการทำงานและการโยกภาระไปยังรัฐต่างๆอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดจะได้รับผลกระทบอย่างมาก หุ้นพลังงานสะอาด ได้แก่ Enphase Energy (NASDAQ:ENPH), First Solar (NASDAQ:FSLR) และ Sunrun (NASDAQ:RUN) ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในวันจันทร์หลังจากข่าวออกมาปฏิกิริยาของตลาดและนักลงทุนความกังวลในตลาดพันธบัตรตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ มูลค่า 28 ล้านล้านดอลลาร์ (924 ล้านล้านบาท) แสดงสัญญาณความไม่สบายใจอย่างชัดเจน พันธบัตรอายุ 30 ปีได้เพิ่มขึ้นประมาณ 0.11% นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ 19 พ.ค. และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023ด้านนักเศรษฐศาสตร์หัวหน้าของ FWDBONDS ระบุว่า ร่างกฎหมายนี้ "ดูเหมือนจะทำลายงบประมาณในระยะใกล้เมื่อพิจารณาจากการใช้จ่าย" อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นเนื่องจากคาดการณ์ว่าจะมีการประมูลพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มเติมเพื่อหาเงินทุนสำหรับการขาดดุลงบประมาณความต้องการอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นในการประมูลพันธบัตรอายุ 20 ปี มูลค่า 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ (528,000 ล้านบาท) เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนเรียกร้องอัตราผลตอบแทนสูงกว่า 5% เปรียบเทียบกับ 4.6% ที่เคยเป็นบรรทัดฐานในการประมูลก่อนหน้านี้ สะท้อนความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อความเสี่ยงการลงทุนในหนี้รัฐบาลสหรัฐฯความกลัว "Bond Vigilantes"นักลงทุนแสดงความกังวลต่อการเกิดขึ้นของ "Bond Vigilantes" หรือนักลงทุนที่บังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนโยบายโดยการขายหรือขู่ว่าจะขายหนี้ของรัฐบาล ปรากฏการณ์นี้เป็นหนึ่งในเหตุผลที่การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสามารถสร้างความไม่แน่นอนในตลาดหุ้นได้ผลกระทบที่คาดการณ์หากตลาดไม่พอใจหากตลาดพันธบัตรยังคงแสดงความไม่พอใจต่อร่างกฎหมายนี้ อาจส่งผลให้เกิดการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยทั่วไปในระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่อยู่อาศัยจะปรับตัวตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี การเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจึงหมายถึงต้นทุนการกู้เงินที่สูงขึ้นสำหรับผู้บริโภคทั่วไปนอกจากนี้ การลดอันดับเครดิตของสหรัฐฯ โดย Moody's เมื่อเร็วๆ นี้ ประกอบกับความกังวลเรื่องการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น อาจส่งผลกระทบแบบต่อเนื่องไปยังรัฐและท้องถิ่น ดังเช่นกรณีรัฐแมริแลนด์ที่ถูก Moody's ลดอันดับเครดิต Aaa ส่งผลให้ต้นทุนการกู้เงินสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน อาคารโรงเรียน และสาธารณูปโภคของรัฐและท้องถิ่นเพิ่มสูงขึ้นท้ายที่สุด ร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ของทรัมป์จึงเป็นการทดสอบที่สำคัญต่อความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างนโยบายการคลังที่ต้องการและความยั่งยืนทางการเงินในระยะยาว ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีต่อๆ ไป. . https://www.cbsnews.com/news/whats-in-trumps-one-big-beautiful-bill-medicaid-taxes/#
    WWW.CBSNEWS.COM
    What's in Trump's House-passed "one big, beautiful bill"
    Republicans made a number of last-minute changes to the legislation that passed in the lower chamber early Thursday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 465 มุมมอง 0 รีวิว
  • RBC ตั้งทีม AI ใหม่เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีในตลาดทุน

    Royal Bank of Canada (RBC) ประกาศจัดตั้งทีม AI และนวัตกรรมดิจิทัลใหม่ในหน่วยงานตลาดทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต ทีมนี้จะมีศูนย์กลางอยู่ใน นิวยอร์ก, โตรอนโต และลอนดอน และรายงานตรงต่อ Lindsay Patrick ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็น Chief Strategy and Innovation Officer

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับทีม AI ใหม่ของ RBC
    ✅ ทีม AI และนวัตกรรมดิจิทัลจะช่วยพัฒนาโซลูชันที่ใช้ AI ในตลาดทุน
    - มุ่งเน้นไปที่ การวิเคราะห์ข้อมูล, การบริหารความเสี่ยง และการเพิ่มประสิทธิภาพการซื้อขาย

    ✅ ศูนย์กลางของทีมตั้งอยู่ในสามเมืองหลัก ได้แก่ นิวยอร์ก, โตรอนโต และลอนดอน
    - ช่วยให้ สามารถเข้าถึงตลาดการเงินระดับโลกและพัฒนาเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว

    ✅ Lindsay Patrick ได้รับแต่งตั้งเป็น Chief Strategy and Innovation Officer
    - มีประสบการณ์ด้าน กลยุทธ์และนวัตกรรมในตลาดทุน

    ✅ RBC มองว่า AI เป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต
    - คาดว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการดำเนินงาน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/22/rbc-sets-up-new-ai-team-for-capital-markets-unit
    RBC ตั้งทีม AI ใหม่เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีในตลาดทุน Royal Bank of Canada (RBC) ประกาศจัดตั้งทีม AI และนวัตกรรมดิจิทัลใหม่ในหน่วยงานตลาดทุน โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต ทีมนี้จะมีศูนย์กลางอยู่ใน นิวยอร์ก, โตรอนโต และลอนดอน และรายงานตรงต่อ Lindsay Patrick ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็น Chief Strategy and Innovation Officer 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับทีม AI ใหม่ของ RBC ✅ ทีม AI และนวัตกรรมดิจิทัลจะช่วยพัฒนาโซลูชันที่ใช้ AI ในตลาดทุน - มุ่งเน้นไปที่ การวิเคราะห์ข้อมูล, การบริหารความเสี่ยง และการเพิ่มประสิทธิภาพการซื้อขาย ✅ ศูนย์กลางของทีมตั้งอยู่ในสามเมืองหลัก ได้แก่ นิวยอร์ก, โตรอนโต และลอนดอน - ช่วยให้ สามารถเข้าถึงตลาดการเงินระดับโลกและพัฒนาเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว ✅ Lindsay Patrick ได้รับแต่งตั้งเป็น Chief Strategy and Innovation Officer - มีประสบการณ์ด้าน กลยุทธ์และนวัตกรรมในตลาดทุน ✅ RBC มองว่า AI เป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต - คาดว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการดำเนินงาน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/22/rbc-sets-up-new-ai-team-for-capital-markets-unit
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Canadian lender RBC sets up new AI team for capital markets unit
    TORONTO (Reuters) -Royal Bank of Canada's capital markets wing has established a new artificial intelligence and digital innovation team as it bets on AI to boost future growth, the Canadian lender told Reuters on Wednesday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ประเทศไทยเราเองก็อาจเดินตามอเมริกาเช่นกัน,สูติบัตรเราคือการค้ำประกันหนี้แก่ประเทศไทย ,คือคนไทยทุกๆคนมีค่าตัวตั้งแต่เกืดมาทันทีหรือมีมูลค่าทันที,เพราะคนไทยคือทรัพย์สินมิใช่สิ่งมีชีวิต,ทาสก็ว่า เทียบใบหุ้นใบหนึ่งหรือตราสารหนี้ระดับชาติโดยค้ำประกันหนี้จากคนไทย,เพราะคนไทยคือแหล่งค้ำประกันหนี้คือสูติบัตรเราอ้างสมมุติไปทำแทนตัวเป็นๆ,อเมริกาสูติบัตรเขามีมูลค่าเป็นล้านเหรียญและปั่นจนกว่าพันล้านเหรียญ,คนไทยก็คงเช่นกันปั่นกว่าพันล้านถึงหมื่นล้านบาทแน่ๆต่อสูติบัตร1คน,ยิ่งมีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ มีมูลน่าเชื่อได้,รัฐฐะทั่วโลกฝ่ายอีลิทชนชั้นสูงยึดปกครองหมด แน่นอนมันต้องวางหมากวางนโยบายปั่นตีตรามูลค่าสูติบัตรเป็นนโยบายหลักบังคับใช้ในทุกๆประเทศทั่วโลกที่มันปกครอง ไม่เว้นแม้แต่ไทยด้วย,ธนาคารมันอีลิทก็ต้นคิดก่อตั้งแม้ในไทยก็ด้วย,ตลาดหุ้นในไทยมันเองอีกที่ก่อการหัวคิดก่อตั้งในไทยให้ขี้ข้าสมุนรับใช้ในไทยเดินเนื้องานลงหน้างานดำเนินการเปิดให้ได้,พะสาสูติบัตรแน่นอนมันสร้างมูลลค่าแน่ๆและยิ่งฝ่ายดีถ้ามีและคิดอ่านทำอีก แสดงว่าฝ่ายไม่ดียิ่งเหี้ย หามุกโกงแดกฝ่ายดีที่ตั้งราคาหัวสูติบัตรคนบนโลกไว้,ฝ่ายไม่ดีอาสาทำงานให้ฝ่ายดีก็ว่า ,โดยขณะทำงานก็คตโกงสร้างมุกต่างๆวางหมากวางสนุ๊คต่างๆโกงตังชาวโลกก็ว่าในกองทุนกลางของโลกฝ่ายดีที่โอนตังให้ชาวโลกใช้หรือตั้งมูลค่าตังไว้แล้วว่าตลอดการเกิดถึงตาย คนแต่ละน่าจะใช้จ่ายตังดำรงชีพจนถึงตายคงประมาณนี้ ร้อยล้านพันล้านก็ว่าไป,พวกฝ่ายไม่ดีก็ล้างสมองมิให้เรารับรู้ผ่านผู้นำผู้ปกครองประเทศนั้นๆอย่าเปิดปากบอกคนพวกนี้นะก็ว่า,ก็เปิดธนาคาร ปล่อยกู้โดยเอาตังเราๆนั้นล่ะมาปล่อย กินสองทาง ทางตรงแดกจากกองทุนเช่นซื้อบ้านจ่าย10ล้าน กองทุนจ่ายทันที10ล้านโดยเราไม่รู้หรือหักผ่านกองทุนเราใครมันแต่ละคนที่ส่วนกลางกำหนดไว้แล้วอาทิคนละ1หมื่นล้านบาทในไทย หักอัตโนมัติซื้อบ้านที่ดินรถนั้นนี้โน้นตลอดชีพผ่านกองทุนใครมัน,แต่รัฐฐะที่ปกครองล้มเหลวผิดพลาดหมายแดก เสือกมิให้คนไทยรับรู้,หอบตังเหมารวมว่าเองอาจกว่าล้านล้านล้านบาท จากนั้นกระจายให้อีลิทกิจการขี้ข้าทาสซาตานเครือข่ายเต็มไทยไปทำ แบบแบงค์ก็ปล่อยกู้ กิน2ต่อ ต่อที่1กินจากทางตรงของกองทุนที่ว่า,ต่อที่2กินจากคนไทยคนนั้นล่ะมาซื้อมาผ่อนมาจ่ายค่าดาวน์ค่าผ่อนในอนาคตตลอด30ปีหรือกว่า50ปีที่ทำในสัญญาณผ่อนกับแบงค์ในค่าผ่อนน้อยๆใครผ่อนมากๆเดือนละ4-5หมื่นอาจหมด3-4ปีก็หมดหนี้บ้านหนี้รถหนี้ที่ดินที่ซื้อผ่อนกับแบงค์,ทั้งที่จริงๆรัฐฐะที่ดีหากทำถูกตรง ประชาชนจะไม่เสียตังอะไรใดๆโดยรัฐฐะจ่ายตรงหักผ่านกองทุนที่รัฐฐะดูแลบัญชีกองทุนแทนบุคคลนั้นๆทันที,ไม่อุ๊บอิ๊บกินเองร่วมกับเอกชนเครือข่ายฝ่ายไม่ดีก็ว่า,
    ..สูติบัตรเรามีมูลค่าแต่ฝ่ายไม่ดีมาปล้นมาชิงเอาไปจากความไม่รู้ของคนทั้งโลก นำโดยผู้นำผู้ปกครองในประเทศนั้นๆสมคบคิดกับโจรเหล่านี้ด้วย.
    ..คนไทยร่ำรวยเลยถ้าจริงแบบนี้,บ่อน้ำมันบ่อทองคำจะเสมือนเพียงตัวหลอก จริงๆอาจคือสมบัติร่วมสร้างโลกพัฒนาโลกวิวัฒนาการโลกไปทางดีงานแบ่งปันช่วยเหลือกันและกันหรือซึ่งกันและกันได้สบาย,ผลิตเกินส่วนไหน สามารถเอาส่วนเกินนั้นส่งไปช่วยเหลือพื้นที่ตรงจุดของโลกส่วนอื่นๆที่ผู้คนชาวโลกเรายังขาดแคลนได้เช่นอาหารการกินต่างๆพืชผักผลไม้ ไม่ต้องทำลายทิังได้ เผลอส่งเสริมการแลกเปลี่ยนซื้อขายต่อกันและกันในราคามิตรภาพอีก.

    .
    รัฐบาลใหญ่
    เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย!


    โดย เมเดีย กรีเร่14 เมษายน 2568อัปเดต:19 พฤษภาคม 256849
    เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย!

    พร้อมที่จะเปิดเผยความจริงแล้วหรือยัง? ป่วยจากการโกหก? เข้าร่วมกับเรา ช่องโทรเลข ตอนนี้ ถึงเวลาสําหรับเรื่องจริง! ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคน!

    หมายเหตุบรรณาธิการ: ข้อมูลที่แบ่งปันในเนื้อหานี้มีต้นกําเนิดมาจาก เรดดิต, วิกิพีเดีย และ X เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านี้ขับเคลื่อนโดยชุมชนและสร้างขึ้นโดยผู้ใช้ จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ และความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้ ฉันเพียงแบ่งปันเนื้อหานี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและไม่อ้างสิทธิ์การประพันธ์หรือความรับผิดชอบต่อเนื้อหา

    สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงเอกสาร—มันเป็น พันธบัตรมูลค่าหลายล้าน ซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ! รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเจ้าของคุณตั้งแต่แรกเกิด ตื่น และเรียนรู้ว่าคุณถูกขาย ถูกเอารัดเอาเปรียบ และ ทาส! อ่านตอนนี้ก่อนที่พวกเขาจะฝังความจริง!


    สูติบัตรของคุณ: การหลอกลวงขั้นสูงสุด – วิธีที่คุณถูกซื้อและขายตั้งแต่แรกเกิด
    โซ่ตรวนที่มองไม่เห็นของทาสยุคใหม่- ตื่น! ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเข้าสู่โลกนี้ คุณตกเป็นทาส คุณไม่ยินยอม คุณไม่ได้รับทางเลือก คุณผูกพันกับระบบที่ทุจริตและร้ายกาจมากจนทําให้การดํารงอยู่ของคุณกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ นี่ไม่ใช่การคาดเดา นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการบันทึกไว้และปฏิเสธไม่ได้
    สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงบันทึก —it เป็นการประกาศความเป็นเจ้าของ คุณไม่ใช่บุคคลที่เป็นอิสระภายใต้กฎหมาย คุณเป็นสินทรัพย์ทางการเงิน ทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นทรัพย์สินชิ้นหนึ่งในเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่ออกแบบมาเพื่อ ใช้ประโยชน์จากคุณ


    สูติบัตรของคุณ: การแสดงความเป็นเจ้าของขององค์กร
    เคยสงสัยไหมว่าทําไมคุณถึงต้องมีสูติบัตร? คิดดูสิ เมื่อเรือมาถึงท่าเรือ ก ใบรับรองรายการ ออกให้เพื่อจัดทําเอกสารสินค้า และเมื่อคุณเกิด คุณได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นสินค้า มีการออกสูติบัตร—NOT เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความยินดี แต่เป็นสัญญาการเป็นเจ้าของ
    คุณเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ รัฐไม่เห็นคุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอํานาจอธิปไตย คุณเป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ใช้สร้างความมั่งคั่งให้กับชนชั้นสูง เหล่านั้น หมายเลขซีเรียลสีแดง ในสูติบัตรของคุณ? เป็นหมายเลขตลาดหลักทรัพย์ เป็นตัวเลขที่เชื่อมโยงกับหลักทรัพย์ที่ซื้อขายบน ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก● การดํารงอยู่ของคุณสร้างรายได้แล้ว



    พันธบัตรสูติบัตร: มีมูลค่านับพันล้านและคุณเป็นทาส
    คุณรู้ไหมว่าสูติบัตรของคุณถูกสร้างเป็นพันธบัตรมูลค่าหลายพันล้าน?!
    หากคุณสงสัยว่าพันธบัตรสูติบัตรคืออะไรขอให้ชัดเจน: คุณคือมัน คุณได้รับคํามั่นสัญญาว่าจะเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศนี้—A หนี้ที่จะไม่มีวันจ่าย
    เมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศล้มละลายในปี พ.ศ.2476 ให้คํามั่นว่าจะเป็นคนอเมริกันทุกคน เป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ
    ประธานาธิบดีรูสเวลต์ โดยทาง คําสั่งผู้บริหาร 6073, 6102, 6111 และ 6260, ประกาศให้ประเทศล้มละลายและยึด ALL GOLD ความสามารถของประชาชนในการชําระหนี้ของตนเองถูกลบออกไปอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว [ดู: รายงานของวุฒิสภา 93-549, หน้า 187 และ 594 ภายใต้ “Trading With The Enemy Act.”]



    แต่รัฐบาลต้องจัดให้มี วิธีการใหม่ ของการชําระเงิน—สิ่งที่ไม่ต้องพึ่งพาทองคํา แต่พวกเขาสร้างระบบที่เรียกว่า การยกเว้น
    ได้รับการยกเว้นจากอะไร? ได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายอะไรเลย!
    ในทางปฏิบัติ นั่นหมายความว่าชาวอเมริกันทุกคนต้องได้รับ บางสิ่งบางอย่าง เพื่อชําระเงินด้วย—AND ว่าบางสิ่งคือเครดิตของคุณ
    คุณค่าของคุณต่อสังคมคํานวณโดยใช้ตารางคณิตศาสตร์ประกันภัย เมื่อแรกเกิด, พันธบัตรที่เท่ากับค่าเฉลี่ย “นี้ ” ถูกสร้างขึ้นและยังคงถูกสร้างขึ้น
    ทําความเข้าใจสิ่งนี้: ปัจจุบันพันธบัตรสูติบัตรของคุณคาดว่าจะมีมูลค่าระหว่างหนึ่งถึงสองล้านดอลลาร์
    พันธบัตรเหล่านี้ค้ําประกันโดยสูติบัตรของคุณ และเปลี่ยนเป็น ตราสารเปลี่ยนมือได้● พวกเขาถูกสมมุติฐานและซื้อขาย ซ้ําแล้วซ้ําเล่า จนกว่ามูลค่าของพวกมันจะไม่จํากัด


    เครดิตทั้งหมดนั้นเป็นของคุณในทางเทคนิคและถูกต้อง
    ในความเป็นจริง, คุณควรจะสามารถเดินเข้าไปในร้านค้าใด ๆ, รับสิ่งที่คุณต้องการ และบอกให้พนักงานเรียกเก็บเงินเข้าบัญชียกเว้นของคุณ
    บัญชีการยกเว้นนั้นจะถูกระบุโดย หมายเลขเก้าหลัก—หมายเลขประกันสังคมของคุณโดยไม่มีขีดกลาง
    หมายเลขนั้นเป็นของคุณ EIN (หมายเลขประจําตัวการยกเว้น)
    นี่คือความจริงที่เก็บไว้จากคุณมาตลอดชีวิต


    CERTIFICATE = ความเป็นเจ้าของ: การหลอกลวงทางกฎหมาย
    ก ใบรับรอง คือเอกสารกรรมสิทธิ์ ก ใบรับรองหุ้น หมายถึงความเป็นเจ้าของหุ้นในบริษัท ก ใบรับรองที่ดิน หมายถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
    และคุณ สูติบัตร แสดงถึงความเป็นเจ้าของของคุณ
    รัฐบาลไม่ได้มองว่าพลเมืองเป็นบุคคลที่มีสิทธิโดยธรรมชาติ พวกเขามองว่าคุณเป็น ASSET— สิ่งที่ต้องเสียภาษี ติดตาม และควบคุม สูติบัตรทุกใบแสดงถึง เครื่องมือทางการเงิน ใช้ค้ําประกันหนี้ นี่คือรากฐานของเรือนจําเศรษฐกิจที่กดขี่คุณ


    ความไว้วางใจสูติบัตร: อธิบายความเป็นทาสทางเศรษฐกิจ
    อดีตประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ยอมรับความจริงด้วยคําพูดของเขาเอง:
    “เร็วๆ นี้ ชาวอเมริกันทุกคนจะต้องลงทะเบียนทรัพย์สินทางชีวภาพของตนในระบบระดับชาติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อติดตามผู้คน และจะดําเนินการภายใต้ระบบคํามั่นสัญญาแบบโบราณ ด้วยวิธีการดังกล่าว เราสามารถบังคับให้ผู้คนส่งวาระการประชุมของเรา ซึ่งจะส่งผลต่อความปลอดภัยของเราในฐานะการคืนเงินสําหรับสกุลเงินกระดาษ FIAT ของเรา ชาวอเมริกันทุกคนจะถูกบังคับให้ลงทะเบียน หรือประสบ...”
    นี่คือเกม คุณเป็น ให้คํามั่นไว้แต่กําเนิด เพื่อเติมพลังให้กับเครื่องจักรทางการเงินของรัฐบาล


    คําเตือนสุดท้าย: ตื่นหรือยังคงเป็นทาส
    นี่ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียว นี่มันเกี่ยวกับ ชีวิตของคุณ อิสรภาพของคุณ และอนาคตของคุณ● ระบบสูติบัตรคือ การหลอกลวงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์● มันได้เปลี่ยนทุกชีวิตให้กลายเป็น ทาสหนี้●
    คุณเกิดมาอย่างอิสระ แต่คุณเป็น ตีตราและจําหน่าย ก่อนที่คุณจะพูดได้
    ทางเลือกเป็นของคุณ คุณยังคงเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ในระบบของพวกเขาหรือไม่? หรือคุณยึดอํานาจของคุณกลับคืนมาและทวงคืนอํานาจอธิปไตยของคุณ?
    ถึงเวลาที่จะต่อสู้กลับแล้ว!

    ..
    ..ประเทศไทยเราเองก็อาจเดินตามอเมริกาเช่นกัน,สูติบัตรเราคือการค้ำประกันหนี้แก่ประเทศไทย ,คือคนไทยทุกๆคนมีค่าตัวตั้งแต่เกืดมาทันทีหรือมีมูลค่าทันที,เพราะคนไทยคือทรัพย์สินมิใช่สิ่งมีชีวิต,ทาสก็ว่า เทียบใบหุ้นใบหนึ่งหรือตราสารหนี้ระดับชาติโดยค้ำประกันหนี้จากคนไทย,เพราะคนไทยคือแหล่งค้ำประกันหนี้คือสูติบัตรเราอ้างสมมุติไปทำแทนตัวเป็นๆ,อเมริกาสูติบัตรเขามีมูลค่าเป็นล้านเหรียญและปั่นจนกว่าพันล้านเหรียญ,คนไทยก็คงเช่นกันปั่นกว่าพันล้านถึงหมื่นล้านบาทแน่ๆต่อสูติบัตร1คน,ยิ่งมีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ มีมูลน่าเชื่อได้,รัฐฐะทั่วโลกฝ่ายอีลิทชนชั้นสูงยึดปกครองหมด แน่นอนมันต้องวางหมากวางนโยบายปั่นตีตรามูลค่าสูติบัตรเป็นนโยบายหลักบังคับใช้ในทุกๆประเทศทั่วโลกที่มันปกครอง ไม่เว้นแม้แต่ไทยด้วย,ธนาคารมันอีลิทก็ต้นคิดก่อตั้งแม้ในไทยก็ด้วย,ตลาดหุ้นในไทยมันเองอีกที่ก่อการหัวคิดก่อตั้งในไทยให้ขี้ข้าสมุนรับใช้ในไทยเดินเนื้องานลงหน้างานดำเนินการเปิดให้ได้,พะสาสูติบัตรแน่นอนมันสร้างมูลลค่าแน่ๆและยิ่งฝ่ายดีถ้ามีและคิดอ่านทำอีก แสดงว่าฝ่ายไม่ดียิ่งเหี้ย หามุกโกงแดกฝ่ายดีที่ตั้งราคาหัวสูติบัตรคนบนโลกไว้,ฝ่ายไม่ดีอาสาทำงานให้ฝ่ายดีก็ว่า ,โดยขณะทำงานก็คตโกงสร้างมุกต่างๆวางหมากวางสนุ๊คต่างๆโกงตังชาวโลกก็ว่าในกองทุนกลางของโลกฝ่ายดีที่โอนตังให้ชาวโลกใช้หรือตั้งมูลค่าตังไว้แล้วว่าตลอดการเกิดถึงตาย คนแต่ละน่าจะใช้จ่ายตังดำรงชีพจนถึงตายคงประมาณนี้ ร้อยล้านพันล้านก็ว่าไป,พวกฝ่ายไม่ดีก็ล้างสมองมิให้เรารับรู้ผ่านผู้นำผู้ปกครองประเทศนั้นๆอย่าเปิดปากบอกคนพวกนี้นะก็ว่า,ก็เปิดธนาคาร ปล่อยกู้โดยเอาตังเราๆนั้นล่ะมาปล่อย กินสองทาง ทางตรงแดกจากกองทุนเช่นซื้อบ้านจ่าย10ล้าน กองทุนจ่ายทันที10ล้านโดยเราไม่รู้หรือหักผ่านกองทุนเราใครมันแต่ละคนที่ส่วนกลางกำหนดไว้แล้วอาทิคนละ1หมื่นล้านบาทในไทย หักอัตโนมัติซื้อบ้านที่ดินรถนั้นนี้โน้นตลอดชีพผ่านกองทุนใครมัน,แต่รัฐฐะที่ปกครองล้มเหลวผิดพลาดหมายแดก เสือกมิให้คนไทยรับรู้,หอบตังเหมารวมว่าเองอาจกว่าล้านล้านล้านบาท จากนั้นกระจายให้อีลิทกิจการขี้ข้าทาสซาตานเครือข่ายเต็มไทยไปทำ แบบแบงค์ก็ปล่อยกู้ กิน2ต่อ ต่อที่1กินจากทางตรงของกองทุนที่ว่า,ต่อที่2กินจากคนไทยคนนั้นล่ะมาซื้อมาผ่อนมาจ่ายค่าดาวน์ค่าผ่อนในอนาคตตลอด30ปีหรือกว่า50ปีที่ทำในสัญญาณผ่อนกับแบงค์ในค่าผ่อนน้อยๆใครผ่อนมากๆเดือนละ4-5หมื่นอาจหมด3-4ปีก็หมดหนี้บ้านหนี้รถหนี้ที่ดินที่ซื้อผ่อนกับแบงค์,ทั้งที่จริงๆรัฐฐะที่ดีหากทำถูกตรง ประชาชนจะไม่เสียตังอะไรใดๆโดยรัฐฐะจ่ายตรงหักผ่านกองทุนที่รัฐฐะดูแลบัญชีกองทุนแทนบุคคลนั้นๆทันที,ไม่อุ๊บอิ๊บกินเองร่วมกับเอกชนเครือข่ายฝ่ายไม่ดีก็ว่า, ..สูติบัตรเรามีมูลค่าแต่ฝ่ายไม่ดีมาปล้นมาชิงเอาไปจากความไม่รู้ของคนทั้งโลก นำโดยผู้นำผู้ปกครองในประเทศนั้นๆสมคบคิดกับโจรเหล่านี้ด้วย. ..คนไทยร่ำรวยเลยถ้าจริงแบบนี้,บ่อน้ำมันบ่อทองคำจะเสมือนเพียงตัวหลอก จริงๆอาจคือสมบัติร่วมสร้างโลกพัฒนาโลกวิวัฒนาการโลกไปทางดีงานแบ่งปันช่วยเหลือกันและกันหรือซึ่งกันและกันได้สบาย,ผลิตเกินส่วนไหน สามารถเอาส่วนเกินนั้นส่งไปช่วยเหลือพื้นที่ตรงจุดของโลกส่วนอื่นๆที่ผู้คนชาวโลกเรายังขาดแคลนได้เช่นอาหารการกินต่างๆพืชผักผลไม้ ไม่ต้องทำลายทิังได้ เผลอส่งเสริมการแลกเปลี่ยนซื้อขายต่อกันและกันในราคามิตรภาพอีก. . รัฐบาลใหญ่ เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย! โดย เมเดีย กรีเร่14 เมษายน 2568อัปเดต:19 พฤษภาคม 256849 เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย! พร้อมที่จะเปิดเผยความจริงแล้วหรือยัง? ป่วยจากการโกหก? เข้าร่วมกับเรา ช่องโทรเลข ตอนนี้ ถึงเวลาสําหรับเรื่องจริง! ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคน! หมายเหตุบรรณาธิการ: ข้อมูลที่แบ่งปันในเนื้อหานี้มีต้นกําเนิดมาจาก เรดดิต, วิกิพีเดีย และ X เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านี้ขับเคลื่อนโดยชุมชนและสร้างขึ้นโดยผู้ใช้ จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ และความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้ ฉันเพียงแบ่งปันเนื้อหานี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและไม่อ้างสิทธิ์การประพันธ์หรือความรับผิดชอบต่อเนื้อหา สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงเอกสาร—มันเป็น พันธบัตรมูลค่าหลายล้าน ซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ! รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเจ้าของคุณตั้งแต่แรกเกิด ตื่น และเรียนรู้ว่าคุณถูกขาย ถูกเอารัดเอาเปรียบ และ ทาส! อ่านตอนนี้ก่อนที่พวกเขาจะฝังความจริง! สูติบัตรของคุณ: การหลอกลวงขั้นสูงสุด – วิธีที่คุณถูกซื้อและขายตั้งแต่แรกเกิด โซ่ตรวนที่มองไม่เห็นของทาสยุคใหม่- ตื่น! ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเข้าสู่โลกนี้ คุณตกเป็นทาส คุณไม่ยินยอม คุณไม่ได้รับทางเลือก คุณผูกพันกับระบบที่ทุจริตและร้ายกาจมากจนทําให้การดํารงอยู่ของคุณกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ นี่ไม่ใช่การคาดเดา นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการบันทึกไว้และปฏิเสธไม่ได้ สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงบันทึก —it เป็นการประกาศความเป็นเจ้าของ คุณไม่ใช่บุคคลที่เป็นอิสระภายใต้กฎหมาย คุณเป็นสินทรัพย์ทางการเงิน ทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นทรัพย์สินชิ้นหนึ่งในเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่ออกแบบมาเพื่อ ใช้ประโยชน์จากคุณ สูติบัตรของคุณ: การแสดงความเป็นเจ้าของขององค์กร เคยสงสัยไหมว่าทําไมคุณถึงต้องมีสูติบัตร? คิดดูสิ เมื่อเรือมาถึงท่าเรือ ก ใบรับรองรายการ ออกให้เพื่อจัดทําเอกสารสินค้า และเมื่อคุณเกิด คุณได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นสินค้า มีการออกสูติบัตร—NOT เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความยินดี แต่เป็นสัญญาการเป็นเจ้าของ คุณเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ รัฐไม่เห็นคุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอํานาจอธิปไตย คุณเป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ใช้สร้างความมั่งคั่งให้กับชนชั้นสูง เหล่านั้น หมายเลขซีเรียลสีแดง ในสูติบัตรของคุณ? เป็นหมายเลขตลาดหลักทรัพย์ เป็นตัวเลขที่เชื่อมโยงกับหลักทรัพย์ที่ซื้อขายบน ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก● การดํารงอยู่ของคุณสร้างรายได้แล้ว พันธบัตรสูติบัตร: มีมูลค่านับพันล้านและคุณเป็นทาส คุณรู้ไหมว่าสูติบัตรของคุณถูกสร้างเป็นพันธบัตรมูลค่าหลายพันล้าน?! หากคุณสงสัยว่าพันธบัตรสูติบัตรคืออะไรขอให้ชัดเจน: คุณคือมัน คุณได้รับคํามั่นสัญญาว่าจะเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศนี้—A หนี้ที่จะไม่มีวันจ่าย เมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศล้มละลายในปี พ.ศ.2476 ให้คํามั่นว่าจะเป็นคนอเมริกันทุกคน เป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ ประธานาธิบดีรูสเวลต์ โดยทาง คําสั่งผู้บริหาร 6073, 6102, 6111 และ 6260, ประกาศให้ประเทศล้มละลายและยึด ALL GOLD ความสามารถของประชาชนในการชําระหนี้ของตนเองถูกลบออกไปอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว [ดู: รายงานของวุฒิสภา 93-549, หน้า 187 และ 594 ภายใต้ “Trading With The Enemy Act.”] แต่รัฐบาลต้องจัดให้มี วิธีการใหม่ ของการชําระเงิน—สิ่งที่ไม่ต้องพึ่งพาทองคํา แต่พวกเขาสร้างระบบที่เรียกว่า การยกเว้น ได้รับการยกเว้นจากอะไร? ได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายอะไรเลย! ในทางปฏิบัติ นั่นหมายความว่าชาวอเมริกันทุกคนต้องได้รับ บางสิ่งบางอย่าง เพื่อชําระเงินด้วย—AND ว่าบางสิ่งคือเครดิตของคุณ คุณค่าของคุณต่อสังคมคํานวณโดยใช้ตารางคณิตศาสตร์ประกันภัย เมื่อแรกเกิด, พันธบัตรที่เท่ากับค่าเฉลี่ย “นี้ ” ถูกสร้างขึ้นและยังคงถูกสร้างขึ้น ทําความเข้าใจสิ่งนี้: ปัจจุบันพันธบัตรสูติบัตรของคุณคาดว่าจะมีมูลค่าระหว่างหนึ่งถึงสองล้านดอลลาร์ พันธบัตรเหล่านี้ค้ําประกันโดยสูติบัตรของคุณ และเปลี่ยนเป็น ตราสารเปลี่ยนมือได้● พวกเขาถูกสมมุติฐานและซื้อขาย ซ้ําแล้วซ้ําเล่า จนกว่ามูลค่าของพวกมันจะไม่จํากัด เครดิตทั้งหมดนั้นเป็นของคุณในทางเทคนิคและถูกต้อง ในความเป็นจริง, คุณควรจะสามารถเดินเข้าไปในร้านค้าใด ๆ, รับสิ่งที่คุณต้องการ และบอกให้พนักงานเรียกเก็บเงินเข้าบัญชียกเว้นของคุณ บัญชีการยกเว้นนั้นจะถูกระบุโดย หมายเลขเก้าหลัก—หมายเลขประกันสังคมของคุณโดยไม่มีขีดกลาง หมายเลขนั้นเป็นของคุณ EIN (หมายเลขประจําตัวการยกเว้น) นี่คือความจริงที่เก็บไว้จากคุณมาตลอดชีวิต CERTIFICATE = ความเป็นเจ้าของ: การหลอกลวงทางกฎหมาย ก ใบรับรอง คือเอกสารกรรมสิทธิ์ ก ใบรับรองหุ้น หมายถึงความเป็นเจ้าของหุ้นในบริษัท ก ใบรับรองที่ดิน หมายถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และคุณ สูติบัตร แสดงถึงความเป็นเจ้าของของคุณ รัฐบาลไม่ได้มองว่าพลเมืองเป็นบุคคลที่มีสิทธิโดยธรรมชาติ พวกเขามองว่าคุณเป็น ASSET— สิ่งที่ต้องเสียภาษี ติดตาม และควบคุม สูติบัตรทุกใบแสดงถึง เครื่องมือทางการเงิน ใช้ค้ําประกันหนี้ นี่คือรากฐานของเรือนจําเศรษฐกิจที่กดขี่คุณ ความไว้วางใจสูติบัตร: อธิบายความเป็นทาสทางเศรษฐกิจ อดีตประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ยอมรับความจริงด้วยคําพูดของเขาเอง: “เร็วๆ นี้ ชาวอเมริกันทุกคนจะต้องลงทะเบียนทรัพย์สินทางชีวภาพของตนในระบบระดับชาติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อติดตามผู้คน และจะดําเนินการภายใต้ระบบคํามั่นสัญญาแบบโบราณ ด้วยวิธีการดังกล่าว เราสามารถบังคับให้ผู้คนส่งวาระการประชุมของเรา ซึ่งจะส่งผลต่อความปลอดภัยของเราในฐานะการคืนเงินสําหรับสกุลเงินกระดาษ FIAT ของเรา ชาวอเมริกันทุกคนจะถูกบังคับให้ลงทะเบียน หรือประสบ...” นี่คือเกม คุณเป็น ให้คํามั่นไว้แต่กําเนิด เพื่อเติมพลังให้กับเครื่องจักรทางการเงินของรัฐบาล คําเตือนสุดท้าย: ตื่นหรือยังคงเป็นทาส นี่ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียว นี่มันเกี่ยวกับ ชีวิตของคุณ อิสรภาพของคุณ และอนาคตของคุณ● ระบบสูติบัตรคือ การหลอกลวงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์● มันได้เปลี่ยนทุกชีวิตให้กลายเป็น ทาสหนี้● คุณเกิดมาอย่างอิสระ แต่คุณเป็น ตีตราและจําหน่าย ก่อนที่คุณจะพูดได้ ทางเลือกเป็นของคุณ คุณยังคงเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ในระบบของพวกเขาหรือไม่? หรือคุณยึดอํานาจของคุณกลับคืนมาและทวงคืนอํานาจอธิปไตยของคุณ? ถึงเวลาที่จะต่อสู้กลับแล้ว! ..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 469 มุมมอง 0 รีวิว
  • Windows รุ่นเก่าที่ยังคงทำงานในระบบสำคัญทั่วโลก

    แม้ว่าจะมีการเปิดตัว Windows มากถึง 15 รุ่น ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา แต่ระบบปฏิบัติการรุ่นเก่า เช่น Windows XP, Windows NT และ MS-DOS ยังคงถูกใช้งานในระบบสำคัญทั่วโลก ตั้งแต่ ลิฟต์ในโรงพยาบาล ไปจนถึงระบบควบคุมรถไฟและเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการใช้งาน Windows รุ่นเก่า
    ✅ Windows XP ยังคงถูกใช้ในลิฟต์ของโรงพยาบาลในนิวยอร์ก
    - แม้ว่า Microsoft จะหยุดการสนับสนุนไปตั้งแต่ปี 2019

    ✅ ATM บางเครื่องยังคงใช้ Windows NT ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 1993
    - เนื่องจาก XP มีความเสถียรและเข้ากันได้กับระบบควบคุมเฉพาะทาง

    ✅ Deutsche Bahn ในเยอรมนียังคงใช้ MS-DOS และ Windows 3.11 ในระบบแสดงผลของรถไฟ
    - บริษัท ยังคงรับสมัครพนักงานที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบเหล่านี้

    ✅ ระบบควบคุมรถไฟ Muni Metro ในซานฟรานซิสโกเคยต้องใช้แผ่นดิสก์เพื่อบูตระบบทุกเช้า
    - ก่อนที่จะ มีการอัปเกรดระบบในภายหลัง

    ✅ เครื่องพิมพ์ LightJet ในซานดิเอโกยังคงใช้ Windows 2000
    - เนื่องจาก การอัปเกรดระบบต้องใช้เงินหลายหมื่นดอลลาร์

    ✅ กระทรวงกิจการทหารผ่านศึกของสหรัฐฯ ยังคงใช้ระบบ CPRS ที่ทำงานบน VistA ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 1985
    - ระบบนี้ ยังคงใช้อินเทอร์เฟซแบบข้อความและต้องพิมพ์คำสั่งเต็มรูปแบบเพื่อเปิดไฟล์

    https://www.techspot.com/news/107960-decades-old-windows-systems-running-trains-printers-hospitals.html
    Windows รุ่นเก่าที่ยังคงทำงานในระบบสำคัญทั่วโลก แม้ว่าจะมีการเปิดตัว Windows มากถึง 15 รุ่น ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา แต่ระบบปฏิบัติการรุ่นเก่า เช่น Windows XP, Windows NT และ MS-DOS ยังคงถูกใช้งานในระบบสำคัญทั่วโลก ตั้งแต่ ลิฟต์ในโรงพยาบาล ไปจนถึงระบบควบคุมรถไฟและเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการใช้งาน Windows รุ่นเก่า ✅ Windows XP ยังคงถูกใช้ในลิฟต์ของโรงพยาบาลในนิวยอร์ก - แม้ว่า Microsoft จะหยุดการสนับสนุนไปตั้งแต่ปี 2019 ✅ ATM บางเครื่องยังคงใช้ Windows NT ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 1993 - เนื่องจาก XP มีความเสถียรและเข้ากันได้กับระบบควบคุมเฉพาะทาง ✅ Deutsche Bahn ในเยอรมนียังคงใช้ MS-DOS และ Windows 3.11 ในระบบแสดงผลของรถไฟ - บริษัท ยังคงรับสมัครพนักงานที่มีความรู้เกี่ยวกับระบบเหล่านี้ ✅ ระบบควบคุมรถไฟ Muni Metro ในซานฟรานซิสโกเคยต้องใช้แผ่นดิสก์เพื่อบูตระบบทุกเช้า - ก่อนที่จะ มีการอัปเกรดระบบในภายหลัง ✅ เครื่องพิมพ์ LightJet ในซานดิเอโกยังคงใช้ Windows 2000 - เนื่องจาก การอัปเกรดระบบต้องใช้เงินหลายหมื่นดอลลาร์ ✅ กระทรวงกิจการทหารผ่านศึกของสหรัฐฯ ยังคงใช้ระบบ CPRS ที่ทำงานบน VistA ซึ่งเปิดตัวตั้งแต่ปี 1985 - ระบบนี้ ยังคงใช้อินเทอร์เฟซแบบข้อความและต้องพิมพ์คำสั่งเต็มรูปแบบเพื่อเปิดไฟล์ https://www.techspot.com/news/107960-decades-old-windows-systems-running-trains-printers-hospitals.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Decades-old Windows systems are still running trains, printers, and hospitals
    A new BBC report uncovers some of the strangest real-world cases where outdated versions of Windows are still powering critical systems. One example is a hospital elevator...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดเหตุเรือใบของกองทัพเรือเม็กซิโกพุ่งชนสะพานบรูกลิน ในมหานครนิวยอร์ก เมื่อคืนวันเสร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 19 ราย เสากระโดงเรือ 3 ต้นหักและพังบางส่วนหลังจากพุ่งชน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000046401

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    เกิดเหตุเรือใบของกองทัพเรือเม็กซิโกพุ่งชนสะพานบรูกลิน ในมหานครนิวยอร์ก เมื่อคืนวันเสร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 19 ราย เสากระโดงเรือ 3 ต้นหักและพังบางส่วนหลังจากพุ่งชน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000046401 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 443 มุมมอง 0 รีวิว
  • นครนิวยอร์กกำลังทดลองใช้ AI และกล้องวงจรปิด เพื่อ ตรวจจับอาชญากรรมในระบบรถไฟใต้ดินก่อนที่มันจะเกิดขึ้น โดยหน่วยงานขนส่งนครนิวยอร์ก (MTA) กำลังทำงานร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีเพื่อพัฒนา ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์

    ระบบนี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถ ตอบสนองต่อพฤติกรรมที่น่าสงสัยได้ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น การผลักคนลงไปบนรางรถไฟ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา

    อย่างไรก็ตาม New York Civil Liberties Union ได้ออกมาเตือนว่า AI อาจมีความลำเอียงและอาจนำไปสู่การเฝ้าระวังที่มากเกินไป โดยระบุว่า "ความปลอดภัยที่แท้จริงมาจากการลงทุนในชุมชน ไม่ใช่จากการเฝ้าระวังตลอดเวลา"

    ✅ MTA กำลังพัฒนา AI เพื่อตรวจจับพฤติกรรมที่น่าสงสัย
    - วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์
    - แจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ก่อนเกิดเหตุการณ์

    ✅ เป้าหมายของระบบ AI
    - ลดอาชญากรรมในระบบรถไฟใต้ดิน
    - ป้องกันเหตุการณ์รุนแรง เช่น การผลักคนลงรางรถไฟ

    ✅ ข้อจำกัดของระบบ
    - ไม่ใช้ การจดจำใบหน้า แต่เน้นการตรวจจับพฤติกรรม
    - ยังอยู่ในช่วงทดลองและพัฒนา

    ✅ ตัวอย่างการใช้ AI ในประเทศอื่น
    - สหราชอาณาจักรกำลังพัฒนา อัลกอริธึมทำนายคดีฆาตกรรม
    - เกาหลีใต้กำลังทดลองใช้ Dejaview ซึ่งเป็นระบบ AI ที่วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิด

    https://www.techspot.com/news/107741-new-york-wants-use-ai-cameras-detect-subway.html
    นครนิวยอร์กกำลังทดลองใช้ AI และกล้องวงจรปิด เพื่อ ตรวจจับอาชญากรรมในระบบรถไฟใต้ดินก่อนที่มันจะเกิดขึ้น โดยหน่วยงานขนส่งนครนิวยอร์ก (MTA) กำลังทำงานร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีเพื่อพัฒนา ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์ ระบบนี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถ ตอบสนองต่อพฤติกรรมที่น่าสงสัยได้ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น การผลักคนลงไปบนรางรถไฟ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม New York Civil Liberties Union ได้ออกมาเตือนว่า AI อาจมีความลำเอียงและอาจนำไปสู่การเฝ้าระวังที่มากเกินไป โดยระบุว่า "ความปลอดภัยที่แท้จริงมาจากการลงทุนในชุมชน ไม่ใช่จากการเฝ้าระวังตลอดเวลา" ✅ MTA กำลังพัฒนา AI เพื่อตรวจจับพฤติกรรมที่น่าสงสัย - วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์ - แจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ก่อนเกิดเหตุการณ์ ✅ เป้าหมายของระบบ AI - ลดอาชญากรรมในระบบรถไฟใต้ดิน - ป้องกันเหตุการณ์รุนแรง เช่น การผลักคนลงรางรถไฟ ✅ ข้อจำกัดของระบบ - ไม่ใช้ การจดจำใบหน้า แต่เน้นการตรวจจับพฤติกรรม - ยังอยู่ในช่วงทดลองและพัฒนา ✅ ตัวอย่างการใช้ AI ในประเทศอื่น - สหราชอาณาจักรกำลังพัฒนา อัลกอริธึมทำนายคดีฆาตกรรม - เกาหลีใต้กำลังทดลองใช้ Dejaview ซึ่งเป็นระบบ AI ที่วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิด https://www.techspot.com/news/107741-new-york-wants-use-ai-cameras-detect-subway.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New York wants to use AI and cameras to detect subway crime before it happens
    MTA Chief Security Officer Michael Kemper said (via The Gothamist) that the agency is working with AI companies to develop the software that can analyze real-time subway...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • Samsung กำลังเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านชิปเซ็ตสำหรับสมาร์ทโฟนพับได้ โดยมีรายงานว่า Galaxy Z Flip7 จะใช้ Exynos 2500 แทน Snapdragon 8 Elite ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เนื่องจากก่อนหน้านี้ Samsung เลือกใช้ Snapdragon สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธง

    Exynos 2500 เดิมทีถูกคาดหวังว่าจะใช้ใน Galaxy S25 แต่เนื่องจากอัตราการผลิตที่ต่ำ Samsung จึงต้องเปลี่ยนไปใช้ Snapdragon 8 Elite แทน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดจาก Chosun Daily ระบุว่า Samsung ได้เริ่มการผลิต Galaxy Z Flip7 พร้อม Exynos 2500 แล้ว ซึ่งหากเป็นจริง นี่จะเป็นครั้งแรกที่สมาร์ทโฟนพับได้ของ Samsung ใช้ชิป Exynos

    เหตุผลหลักที่ Samsung เลือกใช้ Exynos แทน Snapdragon คือ ต้นทุน เนื่องจาก Qualcomm ได้ปรับราคาชิปเซ็ตให้สูงขึ้น ทำให้ Samsung หันมาพัฒนา SoC ของตัวเองเพื่อควบคุมต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

    นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า Galaxy Z Flip7 FE ซึ่งเป็นรุ่นราคาประหยัด อาจใช้ Exynos 2400e เช่นเดียวกับ Galaxy S24 FE และ Samsung อาจจัดงาน Unpacked ครั้งที่สองของปี ที่นิวยอร์กเพื่อเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่

    ✅ การเปลี่ยนมาใช้ Exynos 2500
    - Galaxy Z Flip7 จะใช้ Exynos 2500 แทน Snapdragon 8 Elite
    - เป็นครั้งแรกที่สมาร์ทโฟนพับได้ของ Samsung ใช้ชิป Exynos

    ✅ เหตุผลในการเปลี่ยนแปลง
    - Qualcomm ปรับราคาชิปเซ็ตให้สูงขึ้น
    - Samsung ต้องการควบคุมต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

    ✅ Galaxy Z Flip7 FE และ Exynos 2400e
    - รุ่นราคาประหยัดอาจใช้ Exynos 2400e เช่นเดียวกับ Galaxy S24 FE
    - อาจมีการเปิดตัวในงาน Unpacked ครั้งที่สองของปี

    ✅ การผลิตและการเปิดตัว
    - Samsung ได้เริ่มการผลิต Galaxy Z Flip7 พร้อม Exynos 2500
    - คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2025

    https://www.neowin.net/news/samsung-allegedly-ditches-snapdragon-for-exynos-2500-in-galaxy-z-flip7/
    Samsung กำลังเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านชิปเซ็ตสำหรับสมาร์ทโฟนพับได้ โดยมีรายงานว่า Galaxy Z Flip7 จะใช้ Exynos 2500 แทน Snapdragon 8 Elite ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เนื่องจากก่อนหน้านี้ Samsung เลือกใช้ Snapdragon สำหรับสมาร์ทโฟนเรือธง Exynos 2500 เดิมทีถูกคาดหวังว่าจะใช้ใน Galaxy S25 แต่เนื่องจากอัตราการผลิตที่ต่ำ Samsung จึงต้องเปลี่ยนไปใช้ Snapdragon 8 Elite แทน อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดจาก Chosun Daily ระบุว่า Samsung ได้เริ่มการผลิต Galaxy Z Flip7 พร้อม Exynos 2500 แล้ว ซึ่งหากเป็นจริง นี่จะเป็นครั้งแรกที่สมาร์ทโฟนพับได้ของ Samsung ใช้ชิป Exynos เหตุผลหลักที่ Samsung เลือกใช้ Exynos แทน Snapdragon คือ ต้นทุน เนื่องจาก Qualcomm ได้ปรับราคาชิปเซ็ตให้สูงขึ้น ทำให้ Samsung หันมาพัฒนา SoC ของตัวเองเพื่อควบคุมต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า Galaxy Z Flip7 FE ซึ่งเป็นรุ่นราคาประหยัด อาจใช้ Exynos 2400e เช่นเดียวกับ Galaxy S24 FE และ Samsung อาจจัดงาน Unpacked ครั้งที่สองของปี ที่นิวยอร์กเพื่อเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ✅ การเปลี่ยนมาใช้ Exynos 2500 - Galaxy Z Flip7 จะใช้ Exynos 2500 แทน Snapdragon 8 Elite - เป็นครั้งแรกที่สมาร์ทโฟนพับได้ของ Samsung ใช้ชิป Exynos ✅ เหตุผลในการเปลี่ยนแปลง - Qualcomm ปรับราคาชิปเซ็ตให้สูงขึ้น - Samsung ต้องการควบคุมต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ✅ Galaxy Z Flip7 FE และ Exynos 2400e - รุ่นราคาประหยัดอาจใช้ Exynos 2400e เช่นเดียวกับ Galaxy S24 FE - อาจมีการเปิดตัวในงาน Unpacked ครั้งที่สองของปี ✅ การผลิตและการเปิดตัว - Samsung ได้เริ่มการผลิต Galaxy Z Flip7 พร้อม Exynos 2500 - คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 https://www.neowin.net/news/samsung-allegedly-ditches-snapdragon-for-exynos-2500-in-galaxy-z-flip7/
    WWW.NEOWIN.NET
    Samsung allegedly ditches Snapdragon for Exynos 2500 in Galaxy Z Flip7
    For the first time ever, a Samsung foldable could reportedly be powered by an in-house Exynos processor.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • Phoebe Gates ลูกสาวคนเล็กของ Bill และ Melinda Gates ได้เปิดตัว Phia ซึ่งเป็นเครื่องมืออีคอมเมิร์ซใหม่ที่เธอร่วมพัฒนากับ Sophia Kianni โดยมีเป้าหมายให้เป็นเหมือน Booking.com ในวงการแฟชั่น Phia ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้งานค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าแฟชั่นจากแบรนด์ต่างๆ โดยมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้การช้อปปิ้งออนไลน์สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    Phia เริ่มต้นจากไอเดียในห้องพักของมหาวิทยาลัย Stanford และปัจจุบันมีสำนักงานในนิวยอร์ก โดยทีมงานที่มีอายุน้อยและเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น Phia มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงวงการแฟชั่นออนไลน์ด้วยการนำเสนอแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน

    ✅ การเปิดตัวและเป้าหมาย
    - Phia เป็นเครื่องมืออีคอมเมิร์ซที่ช่วยค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าแฟชั่น
    - มีเป้าหมายให้เป็นเหมือน Booking.com ในวงการแฟชั่น

    ✅ การพัฒนาและทีมงาน
    - เริ่มต้นจากไอเดียในห้องพักของมหาวิทยาลัย Stanford
    - มีสำนักงานในนิวยอร์กและทีมงานที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

    ✅ ฟีเจอร์และการใช้งาน
    - ช่วยให้การช้อปปิ้งออนไลน์สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - รองรับการค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าแฟชั่นจากแบรนด์ต่างๆ

    ✅ เป้าหมายของ Phia
    - เปลี่ยนแปลงวงการแฟชั่นออนไลน์ด้วยแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/28/another-gates-gets-wired-in
    Phoebe Gates ลูกสาวคนเล็กของ Bill และ Melinda Gates ได้เปิดตัว Phia ซึ่งเป็นเครื่องมืออีคอมเมิร์ซใหม่ที่เธอร่วมพัฒนากับ Sophia Kianni โดยมีเป้าหมายให้เป็นเหมือน Booking.com ในวงการแฟชั่น Phia ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ใช้งานค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าแฟชั่นจากแบรนด์ต่างๆ โดยมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้การช้อปปิ้งออนไลน์สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น Phia เริ่มต้นจากไอเดียในห้องพักของมหาวิทยาลัย Stanford และปัจจุบันมีสำนักงานในนิวยอร์ก โดยทีมงานที่มีอายุน้อยและเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น Phia มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงวงการแฟชั่นออนไลน์ด้วยการนำเสนอแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน ✅ การเปิดตัวและเป้าหมาย - Phia เป็นเครื่องมืออีคอมเมิร์ซที่ช่วยค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าแฟชั่น - มีเป้าหมายให้เป็นเหมือน Booking.com ในวงการแฟชั่น ✅ การพัฒนาและทีมงาน - เริ่มต้นจากไอเดียในห้องพักของมหาวิทยาลัย Stanford - มีสำนักงานในนิวยอร์กและทีมงานที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ✅ ฟีเจอร์และการใช้งาน - ช่วยให้การช้อปปิ้งออนไลน์สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น - รองรับการค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าแฟชั่นจากแบรนด์ต่างๆ ✅ เป้าหมายของ Phia - เปลี่ยนแปลงวงการแฟชั่นออนไลน์ด้วยแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/28/another-gates-gets-wired-in
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Another Gates gets wired in
    Phoebe Gates, the youngest and most stylish of Bill and Melinda Gates's children, steps into the spotlight as a founder of a new online shopping tool.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 308 มุมมอง 0 รีวิว
  • พัฒนาการหลังจากบูร์กินาฟาโซ หลุดพ้นจากการครอบงำของฝรั่งเศส

    “นี่ไม่ใช่ดูไบ ปารีส หรือนิวยอร์ก แต่นี่คือบูร์กินาฟาโซ นี่คือหนึ่งในโครงการหลายร้อยโครงการที่อิบราฮิม ตราโอเร ผู้นำของเราดำเนินการภายในเวลาเพียง 2 ปี”

    พัฒนาการหลังจากบูร์กินาฟาโซ หลุดพ้นจากการครอบงำของฝรั่งเศส “นี่ไม่ใช่ดูไบ ปารีส หรือนิวยอร์ก แต่นี่คือบูร์กินาฟาโซ นี่คือหนึ่งในโครงการหลายร้อยโครงการที่อิบราฮิม ตราโอเร ผู้นำของเราดำเนินการภายในเวลาเพียง 2 ปี”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nike กำลังเผชิญกับการฟ้องร้องในศาลสหรัฐฯ หลังจากปิดตัวธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตและ NFT ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงาน RTFKT ที่บริษัทเข้าซื้อในปี 2021 โดยผู้ซื้อ NFT และสินทรัพย์คริปโตที่เกี่ยวข้องกล่าวว่าการปิดตัวธุรกิจนี้ในเดือนธันวาคม 2024 ส่งผลให้ความต้องการในสินทรัพย์ของพวกเขาลดลงอย่างมาก และพวกเขาอ้างว่าหากทราบล่วงหน้าว่า NFT เหล่านี้เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน พวกเขาจะไม่ซื้อในราคาที่สูงหรืออาจไม่ซื้อเลย

    การฟ้องร้องนี้เป็นคดีแบบกลุ่มที่นำโดย Jagdeep Cheema ชาวออสเตรเลีย ซึ่งเรียกร้องค่าเสียหายมากกว่า 5 ล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าการปิดตัวธุรกิจนี้ละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคในรัฐนิวยอร์ก แคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา และโอเรกอน

    Nike ระบุว่าแม้จะปิดตัว RTFKT แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก RTFKT

    ✅ การปิดตัวธุรกิจ RTFKT
    - Nike ปิดตัวธุรกิจ RTFKT ในเดือนธันวาคม 2024
    - ผู้ซื้อ NFT และสินทรัพย์คริปโตกล่าวว่าความต้องการในสินทรัพย์ของพวกเขาลดลง

    ✅ การฟ้องร้องในศาลสหรัฐฯ
    - คดีแบบกลุ่มนำโดย Jagdeep Cheema ชาวออสเตรเลีย
    - เรียกร้องค่าเสียหายมากกว่า 5 ล้านดอลลาร์

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ซื้อ NFT
    - ผู้ซื้ออ้างว่าหากทราบล่วงหน้าว่า NFT เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน พวกเขาจะไม่ซื้อ

    ✅ การตอบสนองของ Nike
    - Nike ระบุว่ายังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการสร้างสรรค์และนวัตกรรม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/nike-sued-over-closure-of-crypto-business
    Nike กำลังเผชิญกับการฟ้องร้องในศาลสหรัฐฯ หลังจากปิดตัวธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตและ NFT ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยงาน RTFKT ที่บริษัทเข้าซื้อในปี 2021 โดยผู้ซื้อ NFT และสินทรัพย์คริปโตที่เกี่ยวข้องกล่าวว่าการปิดตัวธุรกิจนี้ในเดือนธันวาคม 2024 ส่งผลให้ความต้องการในสินทรัพย์ของพวกเขาลดลงอย่างมาก และพวกเขาอ้างว่าหากทราบล่วงหน้าว่า NFT เหล่านี้เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน พวกเขาจะไม่ซื้อในราคาที่สูงหรืออาจไม่ซื้อเลย การฟ้องร้องนี้เป็นคดีแบบกลุ่มที่นำโดย Jagdeep Cheema ชาวออสเตรเลีย ซึ่งเรียกร้องค่าเสียหายมากกว่า 5 ล้านดอลลาร์ โดยอ้างว่าการปิดตัวธุรกิจนี้ละเมิดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคในรัฐนิวยอร์ก แคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา และโอเรกอน Nike ระบุว่าแม้จะปิดตัว RTFKT แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก RTFKT ✅ การปิดตัวธุรกิจ RTFKT - Nike ปิดตัวธุรกิจ RTFKT ในเดือนธันวาคม 2024 - ผู้ซื้อ NFT และสินทรัพย์คริปโตกล่าวว่าความต้องการในสินทรัพย์ของพวกเขาลดลง ✅ การฟ้องร้องในศาลสหรัฐฯ - คดีแบบกลุ่มนำโดย Jagdeep Cheema ชาวออสเตรเลีย - เรียกร้องค่าเสียหายมากกว่า 5 ล้านดอลลาร์ ✅ ผลกระทบต่อผู้ซื้อ NFT - ผู้ซื้ออ้างว่าหากทราบล่วงหน้าว่า NFT เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน พวกเขาจะไม่ซื้อ ✅ การตอบสนองของ Nike - Nike ระบุว่ายังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการสร้างสรรค์และนวัตกรรม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/nike-sued-over-closure-of-crypto-business
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Nike sued over closure of crypto business
    NEW YORK (Reuters) -Nike was sued on Friday by purchasers of Nike-themed non-fungible tokens (NFTs) and other cryptocurrency assets who said they suffered significant losses when the athletic wear company abruptly closed the business that created those assets.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงกรานต์ชุมชนคนไทยในนิวยอร์ก ถูกยกระดับจัดขึ้นในอาคารของวุฒิสมาชิกในรัฐนิวยอร์ก
    .
    หลังจากทางรัฐนิวยอร์กได้ประกาศให้ประเพณีสงกรานต์ เป็นเทศกาลที่สำคัญของประชากรที่อยู่ในรัฐนิวยอร์ก และจัดขึ้นอย่างเป็นทางการในสถานที่ราชการสำคัญในอาคารวุฒิสภาของสหรัฐอเมริกา ถือเป็นเรื่องที่สำคัญในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยสู่สากล และยังเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีระหว่างชุมชนคนเอเชียในต่างแดน

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สงกรานต์ชุมชนคนไทยในนิวยอร์ก ถูกยกระดับจัดขึ้นในอาคารของวุฒิสมาชิกในรัฐนิวยอร์ก . หลังจากทางรัฐนิวยอร์กได้ประกาศให้ประเพณีสงกรานต์ เป็นเทศกาลที่สำคัญของประชากรที่อยู่ในรัฐนิวยอร์ก และจัดขึ้นอย่างเป็นทางการในสถานที่ราชการสำคัญในอาคารวุฒิสภาของสหรัฐอเมริกา ถือเป็นเรื่องที่สำคัญในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยสู่สากล และยังเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีระหว่างชุมชนคนเอเชียในต่างแดน #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 742 มุมมอง 0 รีวิว
  • IBM ได้ประกาศนโยบาย Return-to-Office (RTO) ใหม่สำหรับพนักงานในสหรัฐฯ โดยกำหนดให้พนักงานฝ่ายขายต้องทำงานในสำนักงานหรือศูนย์ขายอย่างน้อย สามวันต่อสัปดาห์ นโยบายนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความใกล้ชิดกับลูกค้าและเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ นอกจากนี้ IBM ยังวางแผนที่จะย้ายพนักงานฝ่ายขายในดัลลัสไปยังสำนักงานใหม่ในออสตินในปี 2026

    ✅ พนักงานฝ่ายขายต้องทำงานในสำนักงานอย่างน้อยสามวันต่อสัปดาห์
    - พนักงานสามารถเลือกทำงานที่ สำนักงานหลัก, ศูนย์ขาย หรือสถานที่ของลูกค้า
    - นโยบายนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Return-to-Client Initiative เพื่อเพิ่มความใกล้ชิดกับลูกค้า

    ✅ พนักงานในดัลลัสจะถูกย้ายไปยังสำนักงานใหม่ในออสตินในปี 2026
    - การย้ายนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร

    ✅ IBM มีสำนักงานหลัก 5 แห่งและศูนย์ขาย 8 แห่งในสหรัฐฯ
    - สำนักงานหลักตั้งอยู่ในนิวยอร์ก, ราลี, วอชิงตัน ดี.ซี., ซานฟรานซิสโก และออสติน
    - ศูนย์ขายตั้งอยู่ในแอตแลนตา, บอสตัน, ชาร์ลอตต์, ชิคาโก, โคลัมบัส, ดัลลัส, ลอสแอนเจลิส และซีแอตเทิล

    ✅ นโยบาย RTO ของ IBM มีความยืดหยุ่นมากกว่าบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ
    - IBM กำหนดให้พนักงานทำงานในสำนักงานสามวันต่อสัปดาห์ ในขณะที่บริษัทอื่น เช่น Amazon กำหนดให้ทำงานเต็มเวลาในสำนักงาน

    https://www.techradar.com/pro/ibm-orders-workers-back-to-the-office-or-face-the-consequences
    IBM ได้ประกาศนโยบาย Return-to-Office (RTO) ใหม่สำหรับพนักงานในสหรัฐฯ โดยกำหนดให้พนักงานฝ่ายขายต้องทำงานในสำนักงานหรือศูนย์ขายอย่างน้อย สามวันต่อสัปดาห์ นโยบายนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความใกล้ชิดกับลูกค้าและเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ นอกจากนี้ IBM ยังวางแผนที่จะย้ายพนักงานฝ่ายขายในดัลลัสไปยังสำนักงานใหม่ในออสตินในปี 2026 ✅ พนักงานฝ่ายขายต้องทำงานในสำนักงานอย่างน้อยสามวันต่อสัปดาห์ - พนักงานสามารถเลือกทำงานที่ สำนักงานหลัก, ศูนย์ขาย หรือสถานที่ของลูกค้า - นโยบายนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Return-to-Client Initiative เพื่อเพิ่มความใกล้ชิดกับลูกค้า ✅ พนักงานในดัลลัสจะถูกย้ายไปยังสำนักงานใหม่ในออสตินในปี 2026 - การย้ายนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร ✅ IBM มีสำนักงานหลัก 5 แห่งและศูนย์ขาย 8 แห่งในสหรัฐฯ - สำนักงานหลักตั้งอยู่ในนิวยอร์ก, ราลี, วอชิงตัน ดี.ซี., ซานฟรานซิสโก และออสติน - ศูนย์ขายตั้งอยู่ในแอตแลนตา, บอสตัน, ชาร์ลอตต์, ชิคาโก, โคลัมบัส, ดัลลัส, ลอสแอนเจลิส และซีแอตเทิล ✅ นโยบาย RTO ของ IBM มีความยืดหยุ่นมากกว่าบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ - IBM กำหนดให้พนักงานทำงานในสำนักงานสามวันต่อสัปดาห์ ในขณะที่บริษัทอื่น เช่น Amazon กำหนดให้ทำงานเต็มเวลาในสำนักงาน https://www.techradar.com/pro/ibm-orders-workers-back-to-the-office-or-face-the-consequences
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพอากาศสหรัฐฯ (USAF) ได้ลงนามในสัญญามูลค่า 10.8 ล้านดอลลาร์ กับ PsiQuantum เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี Quantum Computing โดยความร่วมมือนี้จะช่วยให้ USAF สามารถเข้าถึง ชิปควอนตัมขั้นสูง และอุปกรณ์ที่ใช้ Barium Titanate Electro-Optic phase shifters ซึ่งเป็นวัสดุระดับโลกในการประมวลผลควอนตัม

    ✅ USAF ลงนามสัญญา 10.8 ล้านดอลลาร์กับ PsiQuantum
    - สัญญานี้เป็นการต่อยอดความร่วมมือที่เริ่มต้นในปี 2022
    - PsiQuantum จะออกแบบและจัดหาฮาร์ดแวร์ควอนตัมให้กับ USAF

    ✅ เทคโนโลยีที่ PsiQuantum นำเสนอ
    - ใช้ Photonic Quantum Computing ซึ่งแตกต่างจากแนวทางของ Microsoft ที่ใช้ Topological Qubits
    - ข้อดีของ Photon Qubits คือสามารถทำงานที่ อุณหภูมิห้อง และมีความเสถียรสูง

    ✅ เป้าหมายของโครงการ
    - PsiQuantum จะพัฒนา ชิปควอนตัม Omega ซึ่งมีองค์ประกอบครบถ้วนสำหรับการขยายไปถึง 1 ล้าน Qubits
    - USAF จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในด้าน ความมั่นคงแห่งชาติ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านควอนตัม

    ✅ บทบาทของนักการเมืองในการสนับสนุนโครงการ
    - สัญญานี้เกิดขึ้นได้เพราะการสนับสนุนจาก Senator Chuck Schumer และ Representative Elise Stefanik
    - ทั้งสองคนมีบทบาทสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมควอนตัมในรัฐนิวยอร์ก

    ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันด้าน Quantum Computing
    - Microsoft กำลังพัฒนา Majorana 1 chip ซึ่งอาจเป็นคู่แข่งสำคัญของ PsiQuantum
    - ต้องติดตามว่า Photonic Quantum Computing จะสามารถแข่งขันกับเทคโนโลยีอื่นได้หรือไม่

    ℹ️ ความท้าทายในการขยายไปถึง 1 ล้าน Qubits
    - แม้ PsiQuantum จะมีแผนพัฒนา ชิป Omega แต่การขยายไปถึง 1 ล้าน Qubits ยังต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก
    - ต้องจับตาว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่

    ℹ️ แนวโน้มของ Quantum Computing ในอนาคต
    - Quantum Computing อาจมีบทบาทสำคัญในด้าน การเข้ารหัสข้อมูล, การจำลองโมเลกุล และการพัฒนา AI
    - อาจมีการลงทุนเพิ่มเติมจากรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีนี้

    https://www.neowin.net/news/usaf-bolsters-quantum-advantage-with-108-million-
    psiquantum-contract/
    กองทัพอากาศสหรัฐฯ (USAF) ได้ลงนามในสัญญามูลค่า 10.8 ล้านดอลลาร์ กับ PsiQuantum เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี Quantum Computing โดยความร่วมมือนี้จะช่วยให้ USAF สามารถเข้าถึง ชิปควอนตัมขั้นสูง และอุปกรณ์ที่ใช้ Barium Titanate Electro-Optic phase shifters ซึ่งเป็นวัสดุระดับโลกในการประมวลผลควอนตัม ✅ USAF ลงนามสัญญา 10.8 ล้านดอลลาร์กับ PsiQuantum - สัญญานี้เป็นการต่อยอดความร่วมมือที่เริ่มต้นในปี 2022 - PsiQuantum จะออกแบบและจัดหาฮาร์ดแวร์ควอนตัมให้กับ USAF ✅ เทคโนโลยีที่ PsiQuantum นำเสนอ - ใช้ Photonic Quantum Computing ซึ่งแตกต่างจากแนวทางของ Microsoft ที่ใช้ Topological Qubits - ข้อดีของ Photon Qubits คือสามารถทำงานที่ อุณหภูมิห้อง และมีความเสถียรสูง ✅ เป้าหมายของโครงการ - PsiQuantum จะพัฒนา ชิปควอนตัม Omega ซึ่งมีองค์ประกอบครบถ้วนสำหรับการขยายไปถึง 1 ล้าน Qubits - USAF จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในด้าน ความมั่นคงแห่งชาติ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านควอนตัม ✅ บทบาทของนักการเมืองในการสนับสนุนโครงการ - สัญญานี้เกิดขึ้นได้เพราะการสนับสนุนจาก Senator Chuck Schumer และ Representative Elise Stefanik - ทั้งสองคนมีบทบาทสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมควอนตัมในรัฐนิวยอร์ก ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันด้าน Quantum Computing - Microsoft กำลังพัฒนา Majorana 1 chip ซึ่งอาจเป็นคู่แข่งสำคัญของ PsiQuantum - ต้องติดตามว่า Photonic Quantum Computing จะสามารถแข่งขันกับเทคโนโลยีอื่นได้หรือไม่ ℹ️ ความท้าทายในการขยายไปถึง 1 ล้าน Qubits - แม้ PsiQuantum จะมีแผนพัฒนา ชิป Omega แต่การขยายไปถึง 1 ล้าน Qubits ยังต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก - ต้องจับตาว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่ ℹ️ แนวโน้มของ Quantum Computing ในอนาคต - Quantum Computing อาจมีบทบาทสำคัญในด้าน การเข้ารหัสข้อมูล, การจำลองโมเลกุล และการพัฒนา AI - อาจมีการลงทุนเพิ่มเติมจากรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ https://www.neowin.net/news/usaf-bolsters-quantum-advantage-with-108-million- psiquantum-contract/
    WWW.NEOWIN.NET
    USAF bolsters quantum advantage with $10.8 million PsiQuantum contract
    PsiQuantum has expanded its partnership with the Air Force Research Laboratory (AFRL) after being awarded a $10.8 million contract to provide the USAF with photonic quantum chips.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 437 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ลงนามในข้อตกลง การกำจัดคาร์บอน ครั้งใหญ่ โดยจะซื้อ เครดิตการกำจัดคาร์บอน 3.685 ล้านตัน จากบริษัท CO280 ภายในระยะเวลา 12 ปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายในการทำให้บริษัทมี คาร์บอนเป็นลบภายในปี 2030

    ✅ Microsoft ลงนามข้อตกลงกำจัดคาร์บอน 3.685 ล้านตัน
    - โครงการจะเริ่มต้นในปี 2028 และดำเนินการเป็นเวลา 12 ปี
    - คาร์บอนจะถูกดักจับจาก โรงงานผลิตเยื่อกระดาษและกระดาษ บริเวณ Gulf Coast
    - คาร์บอนที่ถูกดักจับจะถูก เก็บรักษาอย่างถาวรในชั้นหินเกลือใต้ดิน

    ✅ เทคโนโลยีที่ใช้ในการกำจัดคาร์บอน
    - ใช้ เทคโนโลยีดักจับคาร์บอนแบบอะมีน (Amine-based capture technology)
    - ระบบนี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมกระดาษ

    ✅ เป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของ Microsoft
    - Microsoft ตั้งเป้าหมายเป็น คาร์บอนเป็นลบภายในปี 2030
    - บริษัทต้องการกำจัด การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1975

    ✅ โครงการกำจัดคาร์บอนอื่นๆ ของ Microsoft
    - ซื้อเครดิต 1.5 ล้านตัน ผ่านโครงการปลูกป่าในอินเดีย
    - ซื้อเครดิต 1.6 ล้านตัน ในปานามาภายใน 30 ปี
    - ลงทุนในโครงการ Chestnut Carbon ที่นิวยอร์กเพื่อกำจัดคาร์บอน 7 ล้านตัน ภายใน 25 ปี

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี
    - ความต้องการพลังงานของ ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ Microsoft เพิ่มขึ้น
    - ในปี 2023 Microsoft ปล่อยก๊าซเรือนกระจก 17.2 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า

    ℹ️ ความท้าทายในการกำจัดคาร์บอน
    - แม้จะมีโครงการกำจัดคาร์บอน แต่ยังไม่แน่ชัดว่า Microsoft จะสามารถบรรลุเป้าหมาย คาร์บอนเป็นลบภายในปี 2030 ได้หรือไม่
    - เทคโนโลยีดักจับคาร์บอนยังต้องการการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

    ℹ️ แนวโน้มของอุตสาหกรรมกำจัดคาร์บอน
    - บริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น Amazon และ Google กำลังลงทุนในโครงการกำจัดคาร์บอนเช่นกัน
    - อาจมีการพัฒนา เทคโนโลยีใหม่ เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากศูนย์ข้อมูล

    https://www.techradar.com/pro/microsoft-signs-a-major-new-carbon-removal-deal-that-might-be-powered-by-paper
    Microsoft ได้ลงนามในข้อตกลง การกำจัดคาร์บอน ครั้งใหญ่ โดยจะซื้อ เครดิตการกำจัดคาร์บอน 3.685 ล้านตัน จากบริษัท CO280 ภายในระยะเวลา 12 ปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายในการทำให้บริษัทมี คาร์บอนเป็นลบภายในปี 2030 ✅ Microsoft ลงนามข้อตกลงกำจัดคาร์บอน 3.685 ล้านตัน - โครงการจะเริ่มต้นในปี 2028 และดำเนินการเป็นเวลา 12 ปี - คาร์บอนจะถูกดักจับจาก โรงงานผลิตเยื่อกระดาษและกระดาษ บริเวณ Gulf Coast - คาร์บอนที่ถูกดักจับจะถูก เก็บรักษาอย่างถาวรในชั้นหินเกลือใต้ดิน ✅ เทคโนโลยีที่ใช้ในการกำจัดคาร์บอน - ใช้ เทคโนโลยีดักจับคาร์บอนแบบอะมีน (Amine-based capture technology) - ระบบนี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมกระดาษ ✅ เป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของ Microsoft - Microsoft ตั้งเป้าหมายเป็น คาร์บอนเป็นลบภายในปี 2030 - บริษัทต้องการกำจัด การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1975 ✅ โครงการกำจัดคาร์บอนอื่นๆ ของ Microsoft - ซื้อเครดิต 1.5 ล้านตัน ผ่านโครงการปลูกป่าในอินเดีย - ซื้อเครดิต 1.6 ล้านตัน ในปานามาภายใน 30 ปี - ลงทุนในโครงการ Chestnut Carbon ที่นิวยอร์กเพื่อกำจัดคาร์บอน 7 ล้านตัน ภายใน 25 ปี ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี - ความต้องการพลังงานของ ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ Microsoft เพิ่มขึ้น - ในปี 2023 Microsoft ปล่อยก๊าซเรือนกระจก 17.2 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ℹ️ ความท้าทายในการกำจัดคาร์บอน - แม้จะมีโครงการกำจัดคาร์บอน แต่ยังไม่แน่ชัดว่า Microsoft จะสามารถบรรลุเป้าหมาย คาร์บอนเป็นลบภายในปี 2030 ได้หรือไม่ - เทคโนโลยีดักจับคาร์บอนยังต้องการการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ℹ️ แนวโน้มของอุตสาหกรรมกำจัดคาร์บอน - บริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น Amazon และ Google กำลังลงทุนในโครงการกำจัดคาร์บอนเช่นกัน - อาจมีการพัฒนา เทคโนโลยีใหม่ เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากศูนย์ข้อมูล https://www.techradar.com/pro/microsoft-signs-a-major-new-carbon-removal-deal-that-might-be-powered-by-paper
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพเปรียบเทียบการถล่มของตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ นครนิวยอร์ก สหรัฐ ที่ถล่มลงมาเมื่อ 11 กันยายน 2011 และตึก สตง. ที่กำลังก่อสร้าง
    ภาพเปรียบเทียบการถล่มของตึกเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ นครนิวยอร์ก สหรัฐ ที่ถล่มลงมาเมื่อ 11 กันยายน 2011 และตึก สตง. ที่กำลังก่อสร้าง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 24 1 รีวิว
  • NFL ได้ประกาศว่าจะนำระบบ Hawk-Eye Technology ของ Sony มาใช้แทนการวัดระยะ First Down ด้วยโซ่แบบดั้งเดิม เริ่มต้นใน ฤดูกาล 2025–26 โดยเทคโนโลยีนี้มี 6 กล้อง 8K เพื่อจับตำแหน่งบอลด้วยความละเอียดสูง ซึ่งช่วยลดเวลาการตัดสินจาก 70 วินาที เหลือเพียง 30 วินาที

    ✅ Hawk-Eye จะถูกนำไปใช้ในทุกสนามของ NFL รวมถึงเวทีระดับนานาชาติ
    - ระบบนี้จะทำงานร่วมกับ Art McNally GameDay Central Officiating Center ในนิวยอร์ก
    - ผู้ชมทั้งในสนามและทางโทรทัศน์จะเห็น ภาพจำลองแบบเสมือนจริงของระยะ First Down ในเวลาจริง

    ✅ ระบบใหม่ช่วยตัดสินได้เร็วขึ้น แต่ไม่ได้ขจัดข้อผิดพลาดทั้งหมด
    - แม้ Hawk-Eye จะช่วยวัดระยะได้แม่นยำขึ้น แต่การตัดสินที่เป็นข้อถกเถียงส่วนใหญ่เกิดจาก การกำหนดตำแหน่งบอลครั้งแรกโดยกรรมการ
    - เช่นในเกม AFC Championship ระหว่าง Buffalo Bills กับ Kansas City Chiefs กรรมการตัดสินให้ Josh Allen ไม่ถึงระยะ First Down ซึ่งกล้องไม่สามารถช่วยแก้ไขการตัดสินนี้ได้

    ✅ ทีมงานที่ใช้โซ่แบบดั้งเดิมยังคงอยู่เป็นระบบสำรอง
    - หาก Hawk-Eye มีปัญหาทางเทคนิค ทีมงานจะถูกเรียกมาวัดระยะด้วยวิธีดั้งเดิมทันที

    ✅ Hawk-Eye Technology ถูกใช้ในกีฬาอื่นมาแล้ว
    - ระบบนี้เป็น มาตรฐานในการตัดสินเส้นบอลของฟุตบอล, เทนนิส, คริกเก็ต และรักบี้
    - กว่า 23 จาก 25 ลีกกีฬาระดับโลกใช้เทคโนโลยีนี้

    https://www.techspot.com/news/107388-nfl-replace-chains-sony-8k-cameras-hawk-eye.html
    NFL ได้ประกาศว่าจะนำระบบ Hawk-Eye Technology ของ Sony มาใช้แทนการวัดระยะ First Down ด้วยโซ่แบบดั้งเดิม เริ่มต้นใน ฤดูกาล 2025–26 โดยเทคโนโลยีนี้มี 6 กล้อง 8K เพื่อจับตำแหน่งบอลด้วยความละเอียดสูง ซึ่งช่วยลดเวลาการตัดสินจาก 70 วินาที เหลือเพียง 30 วินาที ✅ Hawk-Eye จะถูกนำไปใช้ในทุกสนามของ NFL รวมถึงเวทีระดับนานาชาติ - ระบบนี้จะทำงานร่วมกับ Art McNally GameDay Central Officiating Center ในนิวยอร์ก - ผู้ชมทั้งในสนามและทางโทรทัศน์จะเห็น ภาพจำลองแบบเสมือนจริงของระยะ First Down ในเวลาจริง ✅ ระบบใหม่ช่วยตัดสินได้เร็วขึ้น แต่ไม่ได้ขจัดข้อผิดพลาดทั้งหมด - แม้ Hawk-Eye จะช่วยวัดระยะได้แม่นยำขึ้น แต่การตัดสินที่เป็นข้อถกเถียงส่วนใหญ่เกิดจาก การกำหนดตำแหน่งบอลครั้งแรกโดยกรรมการ - เช่นในเกม AFC Championship ระหว่าง Buffalo Bills กับ Kansas City Chiefs กรรมการตัดสินให้ Josh Allen ไม่ถึงระยะ First Down ซึ่งกล้องไม่สามารถช่วยแก้ไขการตัดสินนี้ได้ ✅ ทีมงานที่ใช้โซ่แบบดั้งเดิมยังคงอยู่เป็นระบบสำรอง - หาก Hawk-Eye มีปัญหาทางเทคนิค ทีมงานจะถูกเรียกมาวัดระยะด้วยวิธีดั้งเดิมทันที ✅ Hawk-Eye Technology ถูกใช้ในกีฬาอื่นมาแล้ว - ระบบนี้เป็น มาตรฐานในการตัดสินเส้นบอลของฟุตบอล, เทนนิส, คริกเก็ต และรักบี้ - กว่า 23 จาก 25 ลีกกีฬาระดับโลกใช้เทคโนโลยีนี้ https://www.techspot.com/news/107388-nfl-replace-chains-sony-8k-cameras-hawk-eye.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    NFL to replace chains with Sony's 8K cameras and Hawk-Eye technology for measuring first downs
    The change will take effect in the 2025 – 26 season, beginning with the kickoff game on September 4 in Philadelphia. The NFL expects the technology to...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 459 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI อาจช่วยให้ทนายคิดค่าบริการสูงถึง $10,000 ต่อชั่วโมงในอนาคต เพราะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหากฎหมายและวิเคราะห์ข้อมูลคดี อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่อง AI Hallucination ทำให้เกิดข้อพิพาททางกฎหมายหลายครั้ง เช่น กรณีที่ทนายถูกปรับเงินหลังใช้ข้อมูลที่ AI สร้างขึ้นเอง ดังนั้นทนายต้องระวังการใช้ AI เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลถูกต้อง

    AI จะช่วยให้ทนายความทำงานเร็วขึ้น
    - AI สามารถช่วย ค้นหาและวิเคราะห์กฎหมาย ได้รวดเร็วกว่ามนุษย์
    - สามารถ สรุปข้อโต้แย้ง และช่วยในการเขียนเอกสารทางกฎหมาย
    - วิเคราะห์ข้อมูลของ ผู้พิพากษาและทนายฝ่ายตรงข้าม เพื่อคาดการณ์แนวโน้มของคดี

    ทนายอาจใช้ AI เพื่อเพิ่มค่าบริการ
    - AI ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น ทนายจึง สามารถคิดค่าบริการสูงขึ้นเพราะให้บริการที่ดีกว่า
    - ทนายสามารถ ลดเวลาทำงาน และรับคดีเพิ่มได้ ซึ่งอาจทำให้รายได้สูงขึ้น

    ปัญหาเรื่อง "AI Hallucination" ในเอกสารกฎหมาย
    - มีหลายกรณีที่ AI สร้างข้อมูลทางกฎหมายปลอม เช่น กรณีทนายในรัฐอินเดียนา ที่ถูกปรับ $15,000 เพราะใช้ ChatGPT ที่สร้างคำพิพากษาปลอม
    - ปี 2023 ทนายสองคนถูกปรับเงินในนิวยอร์กหลังใช้ข้อมูลทางกฎหมายที่ AI สร้างขึ้นมาเอง
    - หากทนายใช้ AI อย่างไม่ระวัง อาจเกิดปัญหาทางกฎหมาย และทำให้คดีเสียหายได้

    AI อาจสร้าง "อัตราค่าบริการใหม่" แต่ต้องใช้ด้วยความรอบคอบ
    - Fitzpatrick เชื่อว่า การคิดค่าบริการ $10,000 ต่อชั่วโมงเป็นไปได้ หาก AI ถูกใช้เพื่อให้บริการระดับสูงขึ้น
    - อย่างไรก็ตาม ทนายต้อง ระวังการใช้ข้อมูลจาก AI เพื่อไม่ให้เกิดการสร้างข้อมูลผิดพลาด

    https://www.techspot.com/news/107374-lawyers-may-soon-charge-10000-hour-thanks-ai.html
    AI อาจช่วยให้ทนายคิดค่าบริการสูงถึง $10,000 ต่อชั่วโมงในอนาคต เพราะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหากฎหมายและวิเคราะห์ข้อมูลคดี อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่อง AI Hallucination ทำให้เกิดข้อพิพาททางกฎหมายหลายครั้ง เช่น กรณีที่ทนายถูกปรับเงินหลังใช้ข้อมูลที่ AI สร้างขึ้นเอง ดังนั้นทนายต้องระวังการใช้ AI เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลถูกต้อง AI จะช่วยให้ทนายความทำงานเร็วขึ้น - AI สามารถช่วย ค้นหาและวิเคราะห์กฎหมาย ได้รวดเร็วกว่ามนุษย์ - สามารถ สรุปข้อโต้แย้ง และช่วยในการเขียนเอกสารทางกฎหมาย - วิเคราะห์ข้อมูลของ ผู้พิพากษาและทนายฝ่ายตรงข้าม เพื่อคาดการณ์แนวโน้มของคดี ทนายอาจใช้ AI เพื่อเพิ่มค่าบริการ - AI ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น ทนายจึง สามารถคิดค่าบริการสูงขึ้นเพราะให้บริการที่ดีกว่า - ทนายสามารถ ลดเวลาทำงาน และรับคดีเพิ่มได้ ซึ่งอาจทำให้รายได้สูงขึ้น ปัญหาเรื่อง "AI Hallucination" ในเอกสารกฎหมาย - มีหลายกรณีที่ AI สร้างข้อมูลทางกฎหมายปลอม เช่น กรณีทนายในรัฐอินเดียนา ที่ถูกปรับ $15,000 เพราะใช้ ChatGPT ที่สร้างคำพิพากษาปลอม - ปี 2023 ทนายสองคนถูกปรับเงินในนิวยอร์กหลังใช้ข้อมูลทางกฎหมายที่ AI สร้างขึ้นมาเอง - หากทนายใช้ AI อย่างไม่ระวัง อาจเกิดปัญหาทางกฎหมาย และทำให้คดีเสียหายได้ AI อาจสร้าง "อัตราค่าบริการใหม่" แต่ต้องใช้ด้วยความรอบคอบ - Fitzpatrick เชื่อว่า การคิดค่าบริการ $10,000 ต่อชั่วโมงเป็นไปได้ หาก AI ถูกใช้เพื่อให้บริการระดับสูงขึ้น - อย่างไรก็ตาม ทนายต้อง ระวังการใช้ข้อมูลจาก AI เพื่อไม่ให้เกิดการสร้างข้อมูลผิดพลาด https://www.techspot.com/news/107374-lawyers-may-soon-charge-10000-hour-thanks-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Lawyers may soon charge $10,000 an hour thanks to AI, says LexisNexis CEO
    Sean Fitzpatrick, CEO of US data analytics company LexisNexis, made the prediction during a panel discussion at Legalweek (via Business Insider).
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้รายงานว่าเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (NYU) ถูกแฮกโดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่อ้างว่าต้องการเปิดเผยความไม่เท่าเทียมทางเชื้อชาติในระบบการรับสมัครนักศึกษา โดยเว็บไซต์ถูกเปลี่ยนแปลงไปแสดงข้อมูลที่กลุ่มแฮกเกอร์กล่าวอ้างถึงคะแนน SAT, ACT และ GPA เฉลี่ยของนักศึกษาที่ได้รับการตอบรับในปี 2024-2025 พร้อมทั้งอ้างว่ามีความแตกต่างของคะแนนระหว่างกลุ่มเชื้อชาติ แต่เหตุการณ์นี้กลับนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับนักศึกษากว่า 3 ล้านคนตั้งแต่ปี 1989

    ข้อมูลที่ถูกเปิดเผย:
    - ข้อมูลที่หลุดออกมารวมถึงชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล, คะแนน GPA และข้อมูลด้านการเงินของผู้สมัคร นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับการสมัครแบบ Early Decision และข้อมูลสมาชิกในครอบครัว.

    การจัดการเหตุการณ์:
    - ทีมไอทีของ NYU สามารถกู้คืนระบบได้ภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากเว็บไซต์ถูกแฮก แต่ข้อมูลที่หลุดไปก็ยังเป็นปัญหาที่ต้องจัดการในระยะยาว.

    มุมมองที่ซับซ้อน:
    - การโจมตีครั้งนี้มุ่งประเด็นไปที่การใช้นโยบาย Affirmative Action ซึ่งศาลสูงสหรัฐฯ ได้ยุติไปในปี 2023 อย่างไรก็ตาม กลุ่มแฮกเกอร์กล่าวว่า NYU ยังคงมีการดำเนินการในลักษณะดังกล่าวอยู่.

    ผลกระทบต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง:
    - นักศึกษาที่ได้รับผลกระทบสามารถตรวจสอบว่าข้อมูลของตนรั่วไหลหรือไม่ ผ่านแพลตฟอร์ม DataBreach.com ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเผยว่ากลุ่มแฮกเกอร์พยายามลบข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ แต่ยังคงมีข้อมูลสำคัญบางส่วนที่ถูกเปิดเผย.

    https://www.techradar.com/pro/security/nyu-website-defaced-as-hacker-leaks-info-on-a-million-students
    ข่าวนี้รายงานว่าเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (NYU) ถูกแฮกโดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่อ้างว่าต้องการเปิดเผยความไม่เท่าเทียมทางเชื้อชาติในระบบการรับสมัครนักศึกษา โดยเว็บไซต์ถูกเปลี่ยนแปลงไปแสดงข้อมูลที่กลุ่มแฮกเกอร์กล่าวอ้างถึงคะแนน SAT, ACT และ GPA เฉลี่ยของนักศึกษาที่ได้รับการตอบรับในปี 2024-2025 พร้อมทั้งอ้างว่ามีความแตกต่างของคะแนนระหว่างกลุ่มเชื้อชาติ แต่เหตุการณ์นี้กลับนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับนักศึกษากว่า 3 ล้านคนตั้งแต่ปี 1989 ข้อมูลที่ถูกเปิดเผย: - ข้อมูลที่หลุดออกมารวมถึงชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล, คะแนน GPA และข้อมูลด้านการเงินของผู้สมัคร นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับการสมัครแบบ Early Decision และข้อมูลสมาชิกในครอบครัว. การจัดการเหตุการณ์: - ทีมไอทีของ NYU สามารถกู้คืนระบบได้ภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากเว็บไซต์ถูกแฮก แต่ข้อมูลที่หลุดไปก็ยังเป็นปัญหาที่ต้องจัดการในระยะยาว. มุมมองที่ซับซ้อน: - การโจมตีครั้งนี้มุ่งประเด็นไปที่การใช้นโยบาย Affirmative Action ซึ่งศาลสูงสหรัฐฯ ได้ยุติไปในปี 2023 อย่างไรก็ตาม กลุ่มแฮกเกอร์กล่าวว่า NYU ยังคงมีการดำเนินการในลักษณะดังกล่าวอยู่. ผลกระทบต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง: - นักศึกษาที่ได้รับผลกระทบสามารถตรวจสอบว่าข้อมูลของตนรั่วไหลหรือไม่ ผ่านแพลตฟอร์ม DataBreach.com ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเผยว่ากลุ่มแฮกเกอร์พยายามลบข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ แต่ยังคงมีข้อมูลสำคัญบางส่วนที่ถูกเปิดเผย. https://www.techradar.com/pro/security/nyu-website-defaced-as-hacker-leaks-info-on-a-million-students
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 377 มุมมอง 0 รีวิว
  • 48 ปี โศกนาฏกรรมกลางรันเวย์ “โบอิง 747” ชนกันที่เตเนริเฟ 🇪🇸✈️ สำเนียงสเปนพ่นพิษ นักบินสื่อสารผิดพลาด 583 ศพ บทเรียนราคาแพงจากท่าอากาศยาน ท่ามกลางหมอกหนา ความเครียด และสำเนียงที่ฟังยาก

    🌫️ โศกนาฏกรรมแห่งเตเนริเฟ 🔥 ย้อนไปเมื่อ 48 ปี ที่ผ่านมา ช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2520 เป็นวันที่โลกต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การบิน เมื่อเครื่องบินโดยสารขนาดยักษ์ โบอิง 747 ของสายการบิน KLM และ Pan Am ชนกันกลางรันเวย์ที่สนามบินโลสโรเดโอส ปัจจุบันคือท่าอากาศยานเตเนริเฟนอร์เต เกาะเตเนริเฟ ประเทศสเปน

    ผลที่ตามมาคือ ผู้เสียชีวิต 583 ราย และบาดเจ็บ 61 คน เป็นอุบัติเหตุทางอากาศ ที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในโลก เหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่ได้เกิดจากเทคโนโลยีขัดข้อง หากแต่เป็นผลพวงจากปัจจัยมนุษย์ (Human Error) และการสื่อสารที่ผิดพลาด ท่ามกลางความกดดัน

    ✈️💥 บริบทก่อนเกิดเหตุ ในช่วงบ่ายของวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2520 "สนามบินกรันกานาเรีย" ซึ่งเป็นสนามบินหลักของหมู่เกาะคานารี ถูกขู่วางระเบิด ทำให้ต้องปิดการใช้งานชั่วคราว ✋🔴

    เครื่องบินหลายลำ รวมถึงเที่ยวบิน KLM 4805 และ Pan Am 1736 จำเป็นต้องลงจอดที่สนามบินสำรองอย่าง “โลสโรเดโอส” ซึ่งเป็นสนามบินขนาดเล็ก ที่ไม่มีความพร้อมรองรับ เครื่องบินลำใหญ่จำนวนมาก

    🕰️ จุดเริ่มต้นของหายนะ 🧨
    - KLM 4805 เดินทางจากอัมสเตอร์ดัม พร้อมผู้โดยสาร 234 คน และลูกเรือ 14 คน
    - Pan Am 1736:เดินทางจากลอสแอนเจลิส แวะนิวยอร์ก มุ่งหน้ากรุงมาดริด พร้อมผู้โดยสาร 380 คน และลูกเรือ 16 คน

    หลังจากเครื่องบินหลายลำลงจอด และจอดเรียงรายกันในพื้นที่จำกัด เจ้าหน้าที่ต้องบริหารพื้นที่ อย่างเร่งด่วน ก่อให้เกิดความเครียด ทั้งในหอบังคับการบินและลูกเรือ

    🚧 จุดเปลี่ยนสำคัญคือ กัปตันของ KLM ตัดสินใจเติมน้ำมันให้เต็มถัง เพื่อเลี่ยงเติมที่สนามบินปลายทางเ พราะราคาถูกกว่า ทำให้ต้องจอดนานกว่าเดิม และขัดขวางการเคลื่อนตัวของ Pan Am

    ☁️ หมอกและความสับสน ภัยเงียบแห่งรันเวย์ 🗣️ เมื่อสนามบินกรันกานาเรียเปิดใช้งานอีกครั้ง การจราจรทางอากาศในโลสโรเดโอส วุ่นวายทันที

    📻 หอบังคับการบิน ต้องจัดการเครื่องบินหลายลำ แต่ขาดเรดาร์ภาคพื้นดิน ทำให้พวกเขามองไม่เห็นตำแหน่งเครื่องบิน ต้องอาศัยการสื่อสารวิทยุแทน

    ✋ จุดวิกฤตเกิดขึ้นเมื่อ KLM เข้าใจผิดว่า สามารถนำเครื่องขึ้นได้ทันที ขณะที่ Pan Am ยังอยู่บนรันเวย์เดียวกัน!

    สำเนียงสเปน กับความคลุมเครือของคำว่า “Takeoff” 😓📡

    📌 ขณะที่ KLM กำลังเตรียมนำเครื่องขึ้น นักบินผู้ช่วยพูดว่า

    “We are now at takeoff.”

    ซึ่งไม่ใช่ประโยคขออนุญาตขึ้นบินโดยตรง แต่เป็นการสื่อสารที่ทำให้เข้าใจคลุมเครือ หอบังคับการบินตอบกลับว่า

    “OK, stand by for takeoff, I will call you.”

    แต่...❗เสียงตอบกลับนั้น ถูกกลืนหายไปกับคลื่นรบกวน ทำให้นักบิน KLM ไม่ได้ยินคำสั่งเต็ม ๆ

    🔥 การชนที่ไม่ควรเกิดขึ้น 💔 KLM เร่งนำเครื่องขึ้น โดยเข้าใจว่าได้รับอนุญาต ขณะที่ Pan Am กำลังเคลื่อนผ่านทางแยก วิ่งบนรันเวย์เดียวกัน หมอกหนาทำให้มองไม่เห็น

    ผลลัพธ์คือ ❌

    ✈️ เครื่องบิน KLM ชนเข้ากลางลำ Pan Am อย่างรุนแรง

    💥 ไฟลุกท่วมเครื่องบินทั้งสองลำในทันที

    - เสียชีวิตจาก KLM 248 ศพ (รอด = 0)
    - เสียชีวิตจาก Pan Am 335 ศพ (รอด = 61 คน)

    😢 บทวิเคราะห์: สาเหตุแห่งหายนะ 🔍
    ปัจจัยมนุษย์ (Human Error)
    - ความเครียดของกัปตัน KLM ที่ต้องรับแรงกดดัน จากบริษัทห้ามดีเลย์ 🕒
    - ขาดการสื่อสารชัดเจน ระหว่างนักบินกับหอบังคับการบิน 📻
    - สำเนียงสเปน ทำให้สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ชัดเจน 🗣️

    ปัจจัยสิ่งแวดล้อม
    - สนามบินโลสโรเดโอส ไม่มีเรดาร์พื้นดิน ❌
    - หมอกลงจัด มองไม่เห็นปลายรันเวย์ 🌫️
    - พื้นที่สนามบิน ไม่พร้อมรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่หลายลำ 🚫

    📚🛫 หลังเหตุการณ์นี้ อุตสาหกรรมการบินทั่วโลก ได้ปรับปรุงมาตรการอย่างจริงจัง
    ✅ การสื่อสารต้องใช้ภาษามาตรฐาน และชัดเจนมากขึ้น (Standard Phraseology)
    ✅ ห้ามนักบินตีความเอง โดยไม่มีการอนุญาตชัดเจน
    ✅ มีการพัฒนา Cockpit Resource Management (CRM) เพื่อเน้นการทำงานเป็นทีมระหว่างลูกเรือ
    ✅ ระบบเรดาร์พื้นดิน (Ground Radar) ถูกติดตั้งในสนามบินใหญ่ ๆ ทั่วโลก

    😨 เหตุการณ์ที่เกือบซ้ำรอยในปี 2542 🛬
    เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2542 ที่สนามบินโอแฮร์ สหรัฐอเมริกา ✈️
    - Korean Air เที่ยวบิน 36 Boeing 747 พร้อมผู้โดยสาร 340 คน
    - China Airlines เที่ยวบิน 9018 Boeing 747 เช่นกัน

    เกือบชนกันกลางรันเวย์ เนื่องจากความเข้าใจผิด ในการจราจรทางอากาศ แต่โชคดีที่หลีกเลี่ยงได้ทันโดยเครื่องบินอยู่ห่างกันเพียง 75 ฟุตเท่านั้น 😱

    🕯️ 583 ชีวิต กับบทเรียนที่ไม่มีวันลืม ✈️ “โศกนาฏกรรมเตเนริเฟ” เป็นบทเรียนราคาแพงที่สุดครั้งหนึ่งของมนุษยชาติ ที่สอนเราให้ระมัดระวังในการสื่อสาร การจัดการความเสี่ยง และให้ความสำคัญ กับมาตรฐานความปลอดภัยการบิน ✈️🧠

    แม้เวลาจะผ่านไป 48 ปี... แต่ความสูญเสีย และบทเรียนจากเหตุการณ์นี้ ยังคงส่องแสงเป็นคำเตือน ถึงทุกคนในวงการการบินเสมอ

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 271250 มี.ค. 2568

    📲 #TenerifeDisaster #Boeing747 #PlaneCrashHistory #AirlineSafety #KLM4805 #PanAm1736 #AirCrashInvestigation #อุบัติเหตุทางการบิน #โบอิง747ชนกัน #บทเรียนการบิน
    48 ปี โศกนาฏกรรมกลางรันเวย์ “โบอิง 747” ชนกันที่เตเนริเฟ 🇪🇸✈️ สำเนียงสเปนพ่นพิษ นักบินสื่อสารผิดพลาด 583 ศพ บทเรียนราคาแพงจากท่าอากาศยาน ท่ามกลางหมอกหนา ความเครียด และสำเนียงที่ฟังยาก 🌫️ โศกนาฏกรรมแห่งเตเนริเฟ 🔥 ย้อนไปเมื่อ 48 ปี ที่ผ่านมา ช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2520 เป็นวันที่โลกต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การบิน เมื่อเครื่องบินโดยสารขนาดยักษ์ โบอิง 747 ของสายการบิน KLM และ Pan Am ชนกันกลางรันเวย์ที่สนามบินโลสโรเดโอส ปัจจุบันคือท่าอากาศยานเตเนริเฟนอร์เต เกาะเตเนริเฟ ประเทศสเปน ผลที่ตามมาคือ ผู้เสียชีวิต 583 ราย และบาดเจ็บ 61 คน เป็นอุบัติเหตุทางอากาศ ที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในโลก เหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่ได้เกิดจากเทคโนโลยีขัดข้อง หากแต่เป็นผลพวงจากปัจจัยมนุษย์ (Human Error) และการสื่อสารที่ผิดพลาด ท่ามกลางความกดดัน ✈️💥 บริบทก่อนเกิดเหตุ ในช่วงบ่ายของวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2520 "สนามบินกรันกานาเรีย" ซึ่งเป็นสนามบินหลักของหมู่เกาะคานารี ถูกขู่วางระเบิด ทำให้ต้องปิดการใช้งานชั่วคราว ✋🔴 เครื่องบินหลายลำ รวมถึงเที่ยวบิน KLM 4805 และ Pan Am 1736 จำเป็นต้องลงจอดที่สนามบินสำรองอย่าง “โลสโรเดโอส” ซึ่งเป็นสนามบินขนาดเล็ก ที่ไม่มีความพร้อมรองรับ เครื่องบินลำใหญ่จำนวนมาก 🕰️ จุดเริ่มต้นของหายนะ 🧨 - KLM 4805 เดินทางจากอัมสเตอร์ดัม พร้อมผู้โดยสาร 234 คน และลูกเรือ 14 คน - Pan Am 1736:เดินทางจากลอสแอนเจลิส แวะนิวยอร์ก มุ่งหน้ากรุงมาดริด พร้อมผู้โดยสาร 380 คน และลูกเรือ 16 คน หลังจากเครื่องบินหลายลำลงจอด และจอดเรียงรายกันในพื้นที่จำกัด เจ้าหน้าที่ต้องบริหารพื้นที่ อย่างเร่งด่วน ก่อให้เกิดความเครียด ทั้งในหอบังคับการบินและลูกเรือ 🚧 จุดเปลี่ยนสำคัญคือ กัปตันของ KLM ตัดสินใจเติมน้ำมันให้เต็มถัง เพื่อเลี่ยงเติมที่สนามบินปลายทางเ พราะราคาถูกกว่า ทำให้ต้องจอดนานกว่าเดิม และขัดขวางการเคลื่อนตัวของ Pan Am ☁️ หมอกและความสับสน ภัยเงียบแห่งรันเวย์ 🗣️ เมื่อสนามบินกรันกานาเรียเปิดใช้งานอีกครั้ง การจราจรทางอากาศในโลสโรเดโอส วุ่นวายทันที 📻 หอบังคับการบิน ต้องจัดการเครื่องบินหลายลำ แต่ขาดเรดาร์ภาคพื้นดิน ทำให้พวกเขามองไม่เห็นตำแหน่งเครื่องบิน ต้องอาศัยการสื่อสารวิทยุแทน ✋ จุดวิกฤตเกิดขึ้นเมื่อ KLM เข้าใจผิดว่า สามารถนำเครื่องขึ้นได้ทันที ขณะที่ Pan Am ยังอยู่บนรันเวย์เดียวกัน! สำเนียงสเปน กับความคลุมเครือของคำว่า “Takeoff” 😓📡 📌 ขณะที่ KLM กำลังเตรียมนำเครื่องขึ้น นักบินผู้ช่วยพูดว่า “We are now at takeoff.” ซึ่งไม่ใช่ประโยคขออนุญาตขึ้นบินโดยตรง แต่เป็นการสื่อสารที่ทำให้เข้าใจคลุมเครือ หอบังคับการบินตอบกลับว่า “OK, stand by for takeoff, I will call you.” แต่...❗เสียงตอบกลับนั้น ถูกกลืนหายไปกับคลื่นรบกวน ทำให้นักบิน KLM ไม่ได้ยินคำสั่งเต็ม ๆ 🔥 การชนที่ไม่ควรเกิดขึ้น 💔 KLM เร่งนำเครื่องขึ้น โดยเข้าใจว่าได้รับอนุญาต ขณะที่ Pan Am กำลังเคลื่อนผ่านทางแยก วิ่งบนรันเวย์เดียวกัน หมอกหนาทำให้มองไม่เห็น ผลลัพธ์คือ ❌ ✈️ เครื่องบิน KLM ชนเข้ากลางลำ Pan Am อย่างรุนแรง 💥 ไฟลุกท่วมเครื่องบินทั้งสองลำในทันที - เสียชีวิตจาก KLM 248 ศพ (รอด = 0) - เสียชีวิตจาก Pan Am 335 ศพ (รอด = 61 คน) 😢 บทวิเคราะห์: สาเหตุแห่งหายนะ 🔍 ปัจจัยมนุษย์ (Human Error) - ความเครียดของกัปตัน KLM ที่ต้องรับแรงกดดัน จากบริษัทห้ามดีเลย์ 🕒 - ขาดการสื่อสารชัดเจน ระหว่างนักบินกับหอบังคับการบิน 📻 - สำเนียงสเปน ทำให้สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ชัดเจน 🗣️ ปัจจัยสิ่งแวดล้อม - สนามบินโลสโรเดโอส ไม่มีเรดาร์พื้นดิน ❌ - หมอกลงจัด มองไม่เห็นปลายรันเวย์ 🌫️ - พื้นที่สนามบิน ไม่พร้อมรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่หลายลำ 🚫 📚🛫 หลังเหตุการณ์นี้ อุตสาหกรรมการบินทั่วโลก ได้ปรับปรุงมาตรการอย่างจริงจัง ✅ การสื่อสารต้องใช้ภาษามาตรฐาน และชัดเจนมากขึ้น (Standard Phraseology) ✅ ห้ามนักบินตีความเอง โดยไม่มีการอนุญาตชัดเจน ✅ มีการพัฒนา Cockpit Resource Management (CRM) เพื่อเน้นการทำงานเป็นทีมระหว่างลูกเรือ ✅ ระบบเรดาร์พื้นดิน (Ground Radar) ถูกติดตั้งในสนามบินใหญ่ ๆ ทั่วโลก 😨 เหตุการณ์ที่เกือบซ้ำรอยในปี 2542 🛬 เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2542 ที่สนามบินโอแฮร์ สหรัฐอเมริกา ✈️ - Korean Air เที่ยวบิน 36 Boeing 747 พร้อมผู้โดยสาร 340 คน - China Airlines เที่ยวบิน 9018 Boeing 747 เช่นกัน เกือบชนกันกลางรันเวย์ เนื่องจากความเข้าใจผิด ในการจราจรทางอากาศ แต่โชคดีที่หลีกเลี่ยงได้ทันโดยเครื่องบินอยู่ห่างกันเพียง 75 ฟุตเท่านั้น 😱 🕯️ 583 ชีวิต กับบทเรียนที่ไม่มีวันลืม ✈️ “โศกนาฏกรรมเตเนริเฟ” เป็นบทเรียนราคาแพงที่สุดครั้งหนึ่งของมนุษยชาติ ที่สอนเราให้ระมัดระวังในการสื่อสาร การจัดการความเสี่ยง และให้ความสำคัญ กับมาตรฐานความปลอดภัยการบิน ✈️🧠 แม้เวลาจะผ่านไป 48 ปี... แต่ความสูญเสีย และบทเรียนจากเหตุการณ์นี้ ยังคงส่องแสงเป็นคำเตือน ถึงทุกคนในวงการการบินเสมอ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 271250 มี.ค. 2568 📲 #TenerifeDisaster #Boeing747 #PlaneCrashHistory #AirlineSafety #KLM4805 #PanAm1736 #AirCrashInvestigation #อุบัติเหตุทางการบิน #โบอิง747ชนกัน #บทเรียนการบิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1124 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์แพ้ให้กับปูตินอีกครั้ง!
    สื่อตะวันตกตีข่าวว่าทรัมป์ “แพ้” ในการเจรจากับปูติน หลังจากปูตินตกลงระงับโจมตีแหล่งพลังงานยูเครนชั่วคราว แต่ปฏิเสธรับรองข้อตกลงหยุดยิงเต็มรูปแบบ 30 วัน หลังคุยกับ 'ทรัมป์' นานชั่วโมงครึ่ง แถมปูตินยังขอพ่วงเงื่อนไขให้ตะวันตกระงับความช่วยเหลือยูเครน รวมทั้งห้ามยูเครนเคลื่อนย้ายกำลัง

    สื่อของยูเครนและตะวันตกรู้สึกผิดหวังที่ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเต็มรูปแบบ 30 วันตามที่เขาผลักดันในการเจรจากับประธานาธิบดีปูติน รายงานระบุว่าผู้นำรัสเซียยืนหยัดในเงื่อนไขของตัวเอง โดยตกลงเพียงข้อตกลงหยุดยิงในระยะเวลาจำกัดในเงื่อนไขที่เอื้อประโยชน์ต่อมอสโก แทนที่จะยุติการสู้รบทั้งหมดตามที่วอชิงตันและเคียฟเรียกร้อง

    สำนักข่าวนิวยอร์กไทม์ส(The New York Times) และดิอีโคโนมิสต์(The Economist) ระบุว่า ทรัมป์มีคาดหวังไว้สูงว่าปูตินจะยอมรับข้อเสนอหยุดยิงของเขาในการสนทนาเมื่อวานนี้ (18 มีนาคม) แต่กลับต้องผิดหวัง หลังจากเฝ้ารออย่างมีความหวังมาเป็นเวลาหลายวันต่อข้อตกลงสันติภาพที่อาจเกิดขึ้น แต่มอสโกกลับยืนหยัดในเงื่อนไขของตนเองและเป็นฝ่ายได้ตามที่ต้องการเกือบทั้งหมด

    ทางด้านเซเลนสกีแสดงความผิดหวังดังกล่าวออกมาอย่างชัดเจนโดยกล่าวประชดประชันทรัมป์ว่า วันนี้ปูตินไม่เคยยอมรับข้อตกลงหยุดยิงทั้งหมดอย่างแท้จริง และนี่กลับทำให้ยูเครนไม่สามารถโจมตีเครือข่ายโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซียได้ นอกจากนี้ยังกล่าวเรียกร้องให้ตะวันตกเพิ่มความช่วยเหลือทางทหารและคว่ำบาตรรัสเซียหนักกว่าเดิม
    ทรัมป์แพ้ให้กับปูตินอีกครั้ง! สื่อตะวันตกตีข่าวว่าทรัมป์ “แพ้” ในการเจรจากับปูติน หลังจากปูตินตกลงระงับโจมตีแหล่งพลังงานยูเครนชั่วคราว แต่ปฏิเสธรับรองข้อตกลงหยุดยิงเต็มรูปแบบ 30 วัน หลังคุยกับ 'ทรัมป์' นานชั่วโมงครึ่ง แถมปูตินยังขอพ่วงเงื่อนไขให้ตะวันตกระงับความช่วยเหลือยูเครน รวมทั้งห้ามยูเครนเคลื่อนย้ายกำลัง สื่อของยูเครนและตะวันตกรู้สึกผิดหวังที่ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงเต็มรูปแบบ 30 วันตามที่เขาผลักดันในการเจรจากับประธานาธิบดีปูติน รายงานระบุว่าผู้นำรัสเซียยืนหยัดในเงื่อนไขของตัวเอง โดยตกลงเพียงข้อตกลงหยุดยิงในระยะเวลาจำกัดในเงื่อนไขที่เอื้อประโยชน์ต่อมอสโก แทนที่จะยุติการสู้รบทั้งหมดตามที่วอชิงตันและเคียฟเรียกร้อง สำนักข่าวนิวยอร์กไทม์ส(The New York Times) และดิอีโคโนมิสต์(The Economist) ระบุว่า ทรัมป์มีคาดหวังไว้สูงว่าปูตินจะยอมรับข้อเสนอหยุดยิงของเขาในการสนทนาเมื่อวานนี้ (18 มีนาคม) แต่กลับต้องผิดหวัง หลังจากเฝ้ารออย่างมีความหวังมาเป็นเวลาหลายวันต่อข้อตกลงสันติภาพที่อาจเกิดขึ้น แต่มอสโกกลับยืนหยัดในเงื่อนไขของตนเองและเป็นฝ่ายได้ตามที่ต้องการเกือบทั้งหมด ทางด้านเซเลนสกีแสดงความผิดหวังดังกล่าวออกมาอย่างชัดเจนโดยกล่าวประชดประชันทรัมป์ว่า วันนี้ปูตินไม่เคยยอมรับข้อตกลงหยุดยิงทั้งหมดอย่างแท้จริง และนี่กลับทำให้ยูเครนไม่สามารถโจมตีเครือข่ายโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซียได้ นอกจากนี้ยังกล่าวเรียกร้องให้ตะวันตกเพิ่มความช่วยเหลือทางทหารและคว่ำบาตรรัสเซียหนักกว่าเดิม
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 426 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความสัมพันธ์สหรัฐฯ กับชาติยุโรปดูจะราวฉานยิ่งขึ้น หลังจาก ราฟาเอล กลุกส์มันน์ นักการเมืองฝรั่งเศสจากพรรคฝ่ายกลางซ้าย Place Publique และสมาชิกรัฐสภายุโรป (European Parliament) กล่าวในการประชุมพรรคว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ควรคืนเทพีเสรีภาพให้ฝรั่งเศส เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่ได้เป็นตัวแทนของเสรีภาพอีกต่อไป

    เทพีเสรีภาพ เป็นของขวัญจากฝรั่งเศสที่มอบให้แก่สหรัฐฯ เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี การประกาศอิสรภาพของสหรัฐฯถูกส่งถึงท่าเรือในนครนิวยอร์กเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 1886

    ออกแบบโดยชาวฝรั่งเศสชื่อ ออกุสต์ บาร์โธลดี โดยที่ปารีสก็มีรูปปั้นจำลองของเทพีเสรีภาพ แต่มีขนาดเล็กกว่า ตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆ ริมแม่น้ำแซน

    สำหรับกลุกส์มันน์นั้น เป็นนัการเมืองฝรั่งเศสที่แสดงท่าทีปกป้องยูเครนอย่างแข็งขันมาโดยตลอดในการทำสงครามกับรัสเซีย และได้วิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดี สหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อย่างรุนแรง เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการช่วยเหลือยูเครน
    ความสัมพันธ์สหรัฐฯ กับชาติยุโรปดูจะราวฉานยิ่งขึ้น หลังจาก ราฟาเอล กลุกส์มันน์ นักการเมืองฝรั่งเศสจากพรรคฝ่ายกลางซ้าย Place Publique และสมาชิกรัฐสภายุโรป (European Parliament) กล่าวในการประชุมพรรคว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ควรคืนเทพีเสรีภาพให้ฝรั่งเศส เนื่องจากสหรัฐฯ ไม่ได้เป็นตัวแทนของเสรีภาพอีกต่อไป เทพีเสรีภาพ เป็นของขวัญจากฝรั่งเศสที่มอบให้แก่สหรัฐฯ เนื่องในโอกาสครบรอบ 100 ปี การประกาศอิสรภาพของสหรัฐฯถูกส่งถึงท่าเรือในนครนิวยอร์กเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 1886 ออกแบบโดยชาวฝรั่งเศสชื่อ ออกุสต์ บาร์โธลดี โดยที่ปารีสก็มีรูปปั้นจำลองของเทพีเสรีภาพ แต่มีขนาดเล็กกว่า ตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆ ริมแม่น้ำแซน สำหรับกลุกส์มันน์นั้น เป็นนัการเมืองฝรั่งเศสที่แสดงท่าทีปกป้องยูเครนอย่างแข็งขันมาโดยตลอดในการทำสงครามกับรัสเซีย และได้วิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดี สหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อย่างรุนแรง เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายการช่วยเหลือยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 564 มุมมอง 0 รีวิว
  • ราฟาเอล กลุคสมันน์ สมาชิกรัฐสภายุโรปจากฝรั่งเศส เรียกร้องให้สหรัฐฯ ส่งคืนรูปปั้นเทพีเสรีภาพ อ้างว่านโยบายที่เปลี่ยนไปเมื่อเร็วๆ นี้ภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สวนทางกับค่านิยมพื้นฐานที่มีรูปปั้นดังกล่าวเป็นตัวแทน

    รูปปั้นเทพีเสรีภาพ ออกแบบโดยประติมากรชาวฝรั่งเศส เฟรเดอริก ออกุสต์ บาร์โธลดี และสร้างโดยกุสตาฟ ไอเฟล เป็นของขวัญที่ฝรั่งเศสมอบให้แก่สหรัฐฯ ในวาระเฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งศตวรรษ การประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ.1876 และนับตั้งแต่ปี 1886 เป็นต้นมา มันยื่นตระหง่านในอ่าวนิวยอร์ก ในฐานะเป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพและเป็นดวงประทีปสำหรับคนเข้าเมืองที่กำลังเสาะหาชีวิตที่ดีกว่าเดิม

    กลุคสมันน์ สมาชิกรัฐสภายุโรป หัวซ้ายกลางและเป็นผู้สนับสนุนยูเครนตัวยง แสดงความไม่พอใจต่อนโยบายต่างๆ ของทรัมป์ ในนั้นรวมถึงการผลักดันเป็นคนกลางสันติภาพระหว่างมอสโกกับเคียฟ กล่าวหาอเมริกาเลือกยืนหยัดเคียงข้างเผด็จการ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000025325

    #MGROnline #สมาชิกรัฐสภายุโรปจากฝรั่งเศส #รูปปั้นเทพีเสรีภาพ
    ราฟาเอล กลุคสมันน์ สมาชิกรัฐสภายุโรปจากฝรั่งเศส เรียกร้องให้สหรัฐฯ ส่งคืนรูปปั้นเทพีเสรีภาพ อ้างว่านโยบายที่เปลี่ยนไปเมื่อเร็วๆ นี้ภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สวนทางกับค่านิยมพื้นฐานที่มีรูปปั้นดังกล่าวเป็นตัวแทน • รูปปั้นเทพีเสรีภาพ ออกแบบโดยประติมากรชาวฝรั่งเศส เฟรเดอริก ออกุสต์ บาร์โธลดี และสร้างโดยกุสตาฟ ไอเฟล เป็นของขวัญที่ฝรั่งเศสมอบให้แก่สหรัฐฯ ในวาระเฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งศตวรรษ การประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 4 กรกฎาคม ค.ศ.1876 และนับตั้งแต่ปี 1886 เป็นต้นมา มันยื่นตระหง่านในอ่าวนิวยอร์ก ในฐานะเป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพและเป็นดวงประทีปสำหรับคนเข้าเมืองที่กำลังเสาะหาชีวิตที่ดีกว่าเดิม • กลุคสมันน์ สมาชิกรัฐสภายุโรป หัวซ้ายกลางและเป็นผู้สนับสนุนยูเครนตัวยง แสดงความไม่พอใจต่อนโยบายต่างๆ ของทรัมป์ ในนั้นรวมถึงการผลักดันเป็นคนกลางสันติภาพระหว่างมอสโกกับเคียฟ กล่าวหาอเมริกาเลือกยืนหยัดเคียงข้างเผด็จการ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000025325 • #MGROnline #สมาชิกรัฐสภายุโรปจากฝรั่งเศส #รูปปั้นเทพีเสรีภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 570 มุมมอง 0 รีวิว
  • 30 ปี สิ้นดาราดาวรุ่ง “ธรรม์ โทณะวณิก” ดิ่งคอนโด 16 ชั้น ปมเสียชีวิตยังคงเป็นปริศนา

    🌟 ย้อนรำลึกถึงดาวที่ลับฟ้า กับความจริงที่ยังไม่คลี่คลาย 🌟

    📝 ดาวรุ่งผู้จากไป กับคำถามที่ยังไร้คำตอบ ย้อนไปในค่ำคืนอันเงียบงัน กลางดึกวันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2538 เวลาห้าทุ่ม 🌌 ทั่วทั้งวงการบันเทิงไทย ต้องเผชิญความสูญเสียครั้งใหญ่ เมื่อ “ธรรม์ โทณะวณิก” ดาราหนุ่มดาวรุ่งวัยเพียง 20 ปี ตกจากดาดฟ้าคอนโดสูง 16 ชั้น ที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ‼️

    เหตุการณ์ครั้งนั้น ยังคงฝังใจผู้คนที่ติดตามข่าวสาร ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะคำถามที่ยังไม่มีคำตอบถึง "สาเหตุการเสียชีวิต" ว่าคืออุบัติเหตุ อาการซึมเศร้า หรืออาจมีเงื่อนงำบางอย่างซ่อนอยู่?

    👦🏻 "ธรรม์ โทณะวณิก" ชื่อเล่นว่า ธรรม์ เป็นที่รู้จักในฐานะ นักแสดงและนายแบบชาวไทย ที่มีพรสวรรค์และอนาคตสดใสรออยู่ข้างหน้า เกิดและเติบโตที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

    ธรรม์เป็นบุตรชายของ
    👨‍⚕️ นายแพทย์วิรุณ โทณะวณิก
    ✍🏻 นางอิราวดี นวมานนท์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ น้ำอบ นักเขียนชื่อดังระดับตำนาน ผู้เขียนนวนิยายเรื่อง “คือหัตถาครองพิภพ” ที่มีตัวละครสำคัญชื่อ “พจน์” ซึ่งเธอได้แรงบันดาลใจ จากบุคลิกของลูกชายคนนี้เอง

    🎥 จุดเริ่มต้นในวงการบันเทิง ธรรม์เริ่มเข้าสู่วงการตั้งแต่เด็ก ด้วยงานถ่ายแบบในปี พ.ศ. 2527 ในนิตยสาร "สตรีสาร" แต่สิ่งที่ทำให้แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว คือบทพระเอกในภาพยนตร์ "กระโปรงบานขาสั้น" ปี พ.ศ. 2537 โดยประกบคู่กับนางเอก "ธัญญาเรศ รามณรงค์"

    🎬 ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย "ชาติชาย แก้วสว่าง" ผู้กำกับหน้าใหม่ในขณะนั้น แต่กลับพาธรรม์ขึ้นสู่จุดสูงสุดในฐานะ "พระเอกขวัญใจวัยรุ่น" แห่งยุค 90’s

    📚 เส้นทางสายบันเทิง และชีวิตส่วนตัวที่หลายคนไม่เคยรู้

    ✨ ผลงานสร้างชื่อ ธรรม์กลายเป็นขวัญใจวัยรุ่น มีผลงานทั้งในจอเงินและจอแก้ว เช่น
    - กระโปรงบานขาสั้น
    - ม.6/2 ห้องครูวารี
    - กระโปรงบานขาสั้น เทอม 2 ตอนแอบดูบาร์บีคิว
    - ขอเก็บหัวใจเธอไว้คนเดียว
    - สมศรี 422R ภาค 3 โปรแกรม D ปีนี้มีน้อง

    📸 นายแบบยอดนิยม ธรรม์ขึ้นปกนิตยสารวัยรุ่นหลายเล่ม โดยเฉพาะ "เธอกับฉัน" ปี พ.ศ. 2536 ซึ่งธรรม์ได้รับตำแหน่ง "หนุ่มช่างฝันกิตติมศักดิ์" ด้วยคะแนนโหวตถล่มทลาย 💫

    แฟนคลับในยุคนั้น ต่างหลงใหลในความหล่อเหลา และบุคลิกที่อบอุ่นเป็นกันเอง

    ❤️ รักแรกและรักเดียว ธรรม์มีแฟนสาวนอกวงการชื่อ น้ำฝน หรือเบญจพร ตังคานุกูลกิจ คบหากันตั้งแต่เรียนที่ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ต่อเนื่องมาจนถึงช่วงที่ทั้งคู่ กำลังศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC)

    ความรักที่ดูเรียบง่ายและมั่นคงนี้เอง ที่ทำให้หลายคนเชื่อว่า ธรรม์ไม่มีเหตุผลที่จะคิดสั้น...

    🚨 คืนสุดท้ายก่อนเสียชีวิต เหตุการณ์ที่ไม่มีใครลืม กลางดึกคืนวันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2538 เวลา 23.00 น. ธรรม์พลัดตกจากดาดฟ้าคอนโด "ซีเอ็นพี คอนโดมิเนียม" ชั้น 16 ที่พักอาศัยของธรรม์ ในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

    🏢 ธรรม์ตกลงมากระแทกหลังคาบ้านเช่าหลังหนึ่ง โดยที่ "ทองม้วน พุ่มฉัตร" หญิงสาวที่เป็นแฟนคลับกำลังนอนพักผ่อนอยู่ ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา

    👉🏻 ชันสูตรพบว่า ธรรม์ไม่มีสารเสพติดในร่างกาย และไม่มีร่องรอยการต่อสู้ หรือถูกทำร้ายร่างกาย

    🕵️‍♂️ ปมปริศนา
    - อุบัติเหตุพลัดตก?
    - เมาสุราจนเสียการทรงตัว?
    - มีคนจงใจทำให้ต้องตกลงมา?

    ไม่มีใครรู้ความจริง!

    💬 คำพูดสุดท้ายของ “น้ำอบ” มารดาธรรม์ “ธรรม์ไม่มีวันฆ่าตัวตาย! เพราะยังสัญญากับแม่ว่า จะดูละครตอนแรกด้วยกัน และธรรม์ไม่เคยผิดสัญญา...”

    คำพูดนี้จาก "น้ำอบ" ผู้เป็นแม่ ยังคงสะเทือนใจแฟนคลับและสังคมจนถึงทุกวันนี้

    👉🏻 หลายคนเชื่อว่า ธรรม์อาจถูกฆาตกรรม!

    🔍 สาเหตุการเสียชีวิต อุบัติเหตุ หรือฆาตกรรม?
    1️⃣ อุบัติเหตุ บางคนตั้งข้อสันนิษฐานว่า ธรรม์อาจขึ้นไปบนดาดฟ้า เพื่อลดความเครียด สูบบุหรี่ และอาจเผลอพลัดตกลงมา โดยไม่ตั้งใจ

    2️⃣ ฆ่าตัวตาย ข่าวลือในขณะนั้นเล่าว่า ธรรม์มีความเครียดจากชีวิตการทำงาน และเรื่องส่วนตัว แต่ครอบครัวและคนสนิท ต่างปฏิเสธว่าไม่มีพฤติกรรม หรืออาการซึมเศร้า

    3️⃣ ฆาตกรรม ความสงสัยที่ไม่เคยจางหาย... ใครอยู่กับธรรม์ในคืนนั้น? และมีใครได้ยินหรือเห็นอะไรผิดปกติหรือไม่?

    หลายคนยังเชื่อว่า ธรรม์อาจถูกทำให้ตกลงมาอย่างตั้งใจ 😰

    🕰️ 30 ปีผ่านไป ความจริงที่ยังไม่ถูกเปิดเผย แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 30 ปี แต่คดีนี้ยังคงไร้บทสรุปชัดเจน 📆

    🔸 ไม่มีพยานหลักฐานใหม่
    🔸 ไม่มีผู้ต้องสงสัยที่ถูกดำเนินคดี
    🔸 ไม่มีคำอธิบายใดๆ จากผู้เกี่ยวข้อง

    ทุกอย่างยังคงเป็นปริศนา ที่ไม่มีใครสามารถคลี่คลายได้...

    🎬 มรดกทางจิตใจ และผลงานที่ธรรม์ทิ้งไว้ แม้ชีวิตของธรรม์จะจบลงในวัยเพียง 20 ปี แต่ผลงานของธรรม์ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่

    ✨ คือตัวแทนของยุคทองวงการบันเทิงไทย
    ✨ คือความทรงจำของใครหลายคน ที่ไม่เคยเลือนหาย

    “ธรรม์ โทณะวณิก ยังอยู่ในหัวใจแฟนคลับเสมอ” ❤️

    📌 “ธรรม์ โทณะวณิก” ตำนานที่ไม่มีวันลืม 30 ปีผ่านไป เหตุการณ์ครั้งนั้นยังคงเป็นปริศนา ที่ก้องอยู่ในใจของแฟนๆ และผู้ติดตามข่าวสาร หลายคนอาจยังคงสงสัย ในชะตากรรมของดาวรุ่งผู้นี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยน คือความทรงจำที่สวยงาม และผลงานที่ธรรม์ได้ทิ้งไว้ให้คนไทย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161024 มี.ค. 2568

    📲 #ธรรม์โทณะวณิก #ดารายุค90 #คดีดังในอดีต #ดาราไทยเสียชีวิต #ปริศนาดารา #วงการบันเทิงไทย #ข่าวบันเทิงย้อนหลัง #ดาวรุ่งดวงดับ #ตำนานดาราไทย #ซีเอ็นพีคอนโด
    30 ปี สิ้นดาราดาวรุ่ง “ธรรม์ โทณะวณิก” ดิ่งคอนโด 16 ชั้น ปมเสียชีวิตยังคงเป็นปริศนา 🌟 ย้อนรำลึกถึงดาวที่ลับฟ้า กับความจริงที่ยังไม่คลี่คลาย 🌟 📝 ดาวรุ่งผู้จากไป กับคำถามที่ยังไร้คำตอบ ย้อนไปในค่ำคืนอันเงียบงัน กลางดึกวันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2538 เวลาห้าทุ่ม 🌌 ทั่วทั้งวงการบันเทิงไทย ต้องเผชิญความสูญเสียครั้งใหญ่ เมื่อ “ธรรม์ โทณะวณิก” ดาราหนุ่มดาวรุ่งวัยเพียง 20 ปี ตกจากดาดฟ้าคอนโดสูง 16 ชั้น ที่อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ‼️ เหตุการณ์ครั้งนั้น ยังคงฝังใจผู้คนที่ติดตามข่าวสาร ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะคำถามที่ยังไม่มีคำตอบถึง "สาเหตุการเสียชีวิต" ว่าคืออุบัติเหตุ อาการซึมเศร้า หรืออาจมีเงื่อนงำบางอย่างซ่อนอยู่? 👦🏻 "ธรรม์ โทณะวณิก" ชื่อเล่นว่า ธรรม์ เป็นที่รู้จักในฐานะ นักแสดงและนายแบบชาวไทย ที่มีพรสวรรค์และอนาคตสดใสรออยู่ข้างหน้า เกิดและเติบโตที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ธรรม์เป็นบุตรชายของ 👨‍⚕️ นายแพทย์วิรุณ โทณะวณิก ✍🏻 นางอิราวดี นวมานนท์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ น้ำอบ นักเขียนชื่อดังระดับตำนาน ผู้เขียนนวนิยายเรื่อง “คือหัตถาครองพิภพ” ที่มีตัวละครสำคัญชื่อ “พจน์” ซึ่งเธอได้แรงบันดาลใจ จากบุคลิกของลูกชายคนนี้เอง 🎥 จุดเริ่มต้นในวงการบันเทิง ธรรม์เริ่มเข้าสู่วงการตั้งแต่เด็ก ด้วยงานถ่ายแบบในปี พ.ศ. 2527 ในนิตยสาร "สตรีสาร" แต่สิ่งที่ทำให้แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว คือบทพระเอกในภาพยนตร์ "กระโปรงบานขาสั้น" ปี พ.ศ. 2537 โดยประกบคู่กับนางเอก "ธัญญาเรศ รามณรงค์" 🎬 ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย "ชาติชาย แก้วสว่าง" ผู้กำกับหน้าใหม่ในขณะนั้น แต่กลับพาธรรม์ขึ้นสู่จุดสูงสุดในฐานะ "พระเอกขวัญใจวัยรุ่น" แห่งยุค 90’s 📚 เส้นทางสายบันเทิง และชีวิตส่วนตัวที่หลายคนไม่เคยรู้ ✨ ผลงานสร้างชื่อ ธรรม์กลายเป็นขวัญใจวัยรุ่น มีผลงานทั้งในจอเงินและจอแก้ว เช่น - กระโปรงบานขาสั้น - ม.6/2 ห้องครูวารี - กระโปรงบานขาสั้น เทอม 2 ตอนแอบดูบาร์บีคิว - ขอเก็บหัวใจเธอไว้คนเดียว - สมศรี 422R ภาค 3 โปรแกรม D ปีนี้มีน้อง 📸 นายแบบยอดนิยม ธรรม์ขึ้นปกนิตยสารวัยรุ่นหลายเล่ม โดยเฉพาะ "เธอกับฉัน" ปี พ.ศ. 2536 ซึ่งธรรม์ได้รับตำแหน่ง "หนุ่มช่างฝันกิตติมศักดิ์" ด้วยคะแนนโหวตถล่มทลาย 💫 แฟนคลับในยุคนั้น ต่างหลงใหลในความหล่อเหลา และบุคลิกที่อบอุ่นเป็นกันเอง ❤️ รักแรกและรักเดียว ธรรม์มีแฟนสาวนอกวงการชื่อ น้ำฝน หรือเบญจพร ตังคานุกูลกิจ คบหากันตั้งแต่เรียนที่ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ต่อเนื่องมาจนถึงช่วงที่ทั้งคู่ กำลังศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) ความรักที่ดูเรียบง่ายและมั่นคงนี้เอง ที่ทำให้หลายคนเชื่อว่า ธรรม์ไม่มีเหตุผลที่จะคิดสั้น... 🚨 คืนสุดท้ายก่อนเสียชีวิต เหตุการณ์ที่ไม่มีใครลืม กลางดึกคืนวันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2538 เวลา 23.00 น. ธรรม์พลัดตกจากดาดฟ้าคอนโด "ซีเอ็นพี คอนโดมิเนียม" ชั้น 16 ที่พักอาศัยของธรรม์ ในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 🏢 ธรรม์ตกลงมากระแทกหลังคาบ้านเช่าหลังหนึ่ง โดยที่ "ทองม้วน พุ่มฉัตร" หญิงสาวที่เป็นแฟนคลับกำลังนอนพักผ่อนอยู่ ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา 👉🏻 ชันสูตรพบว่า ธรรม์ไม่มีสารเสพติดในร่างกาย และไม่มีร่องรอยการต่อสู้ หรือถูกทำร้ายร่างกาย 🕵️‍♂️ ปมปริศนา - อุบัติเหตุพลัดตก? - เมาสุราจนเสียการทรงตัว? - มีคนจงใจทำให้ต้องตกลงมา? ไม่มีใครรู้ความจริง! 💬 คำพูดสุดท้ายของ “น้ำอบ” มารดาธรรม์ “ธรรม์ไม่มีวันฆ่าตัวตาย! เพราะยังสัญญากับแม่ว่า จะดูละครตอนแรกด้วยกัน และธรรม์ไม่เคยผิดสัญญา...” คำพูดนี้จาก "น้ำอบ" ผู้เป็นแม่ ยังคงสะเทือนใจแฟนคลับและสังคมจนถึงทุกวันนี้ 👉🏻 หลายคนเชื่อว่า ธรรม์อาจถูกฆาตกรรม! 🔍 สาเหตุการเสียชีวิต อุบัติเหตุ หรือฆาตกรรม? 1️⃣ อุบัติเหตุ บางคนตั้งข้อสันนิษฐานว่า ธรรม์อาจขึ้นไปบนดาดฟ้า เพื่อลดความเครียด สูบบุหรี่ และอาจเผลอพลัดตกลงมา โดยไม่ตั้งใจ 2️⃣ ฆ่าตัวตาย ข่าวลือในขณะนั้นเล่าว่า ธรรม์มีความเครียดจากชีวิตการทำงาน และเรื่องส่วนตัว แต่ครอบครัวและคนสนิท ต่างปฏิเสธว่าไม่มีพฤติกรรม หรืออาการซึมเศร้า 3️⃣ ฆาตกรรม ความสงสัยที่ไม่เคยจางหาย... ใครอยู่กับธรรม์ในคืนนั้น? และมีใครได้ยินหรือเห็นอะไรผิดปกติหรือไม่? หลายคนยังเชื่อว่า ธรรม์อาจถูกทำให้ตกลงมาอย่างตั้งใจ 😰 🕰️ 30 ปีผ่านไป ความจริงที่ยังไม่ถูกเปิดเผย แม้เวลาจะผ่านไปกว่า 30 ปี แต่คดีนี้ยังคงไร้บทสรุปชัดเจน 📆 🔸 ไม่มีพยานหลักฐานใหม่ 🔸 ไม่มีผู้ต้องสงสัยที่ถูกดำเนินคดี 🔸 ไม่มีคำอธิบายใดๆ จากผู้เกี่ยวข้อง ทุกอย่างยังคงเป็นปริศนา ที่ไม่มีใครสามารถคลี่คลายได้... 🎬 มรดกทางจิตใจ และผลงานที่ธรรม์ทิ้งไว้ แม้ชีวิตของธรรม์จะจบลงในวัยเพียง 20 ปี แต่ผลงานของธรรม์ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ ✨ คือตัวแทนของยุคทองวงการบันเทิงไทย ✨ คือความทรงจำของใครหลายคน ที่ไม่เคยเลือนหาย “ธรรม์ โทณะวณิก ยังอยู่ในหัวใจแฟนคลับเสมอ” ❤️ 📌 “ธรรม์ โทณะวณิก” ตำนานที่ไม่มีวันลืม 30 ปีผ่านไป เหตุการณ์ครั้งนั้นยังคงเป็นปริศนา ที่ก้องอยู่ในใจของแฟนๆ และผู้ติดตามข่าวสาร หลายคนอาจยังคงสงสัย ในชะตากรรมของดาวรุ่งผู้นี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยน คือความทรงจำที่สวยงาม และผลงานที่ธรรม์ได้ทิ้งไว้ให้คนไทย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161024 มี.ค. 2568 📲 #ธรรม์โทณะวณิก #ดารายุค90 #คดีดังในอดีต #ดาราไทยเสียชีวิต #ปริศนาดารา #วงการบันเทิงไทย #ข่าวบันเทิงย้อนหลัง #ดาวรุ่งดวงดับ #ตำนานดาราไทย #ซีเอ็นพีคอนโด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1572 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11/3/68

    ภัยเงียบจาก "อาหารยอดฮิต" แค่ 1 ชิ้น อายุสั้นลง 36 นาที คนไทยกินแทบทุกวัน

    { กินอาหารไม่เป็น อายุลดลง }

    ผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ เตือน "อาหารยอดฮิต" กินแค่ 1 ชิ้น อายุขัยสั้นลง 36 นาที เป็นเมนูโปรดคนไทยที่กินแทบทุกวัน

    การเลือกอาหารของคุณไม่เพียงแค่มีผลต่อสุขภาพปัจจุบันของคุณ แต่ยังมีผลต่ออายุขัยในอนาคตด้วย ดังนั้น ควรพิจารณาอย่างรอบคอบเมื่อกินอาหาร 6 อย่างนี้

    เป็นคำกล่าวที่ถูกต้องว่า "โรคมาจากปาก" เพราะการเลือกอาหารของแต่ละคนไม่เพียงแค่ตอบสนองต่อรสชาติและให้พลังงานเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพและอายุขัยของคุณด้วย อาหารที่ดีและการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยให้คุณมีสุขภาพดีและมีอายุยืนยาว ในขณะที่การมีนิสัยการกินที่ไม่ดีจะมีผลในทางตรงกันข้าม

    การวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนและมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก พบว่าอาหารบางประเภท "กิน" ชีวิตคุณได้อย่างรวดเร็ว แต่เป็นอาหารที่หลายคนชื่นชอบ ดร. โอลิเวียร์ โจลิเยต์ หัวหน้าผู้วิจัยกล่าวว่าอาหารที่อยู่ในอันดับต้นๆ ได้แก่ อาหารแปรรูปขั้นสูง (UFOs) ซึ่งเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือดและมะเร็ง 34 ชนิด รวมถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ

    1.ไส้กรอก: กิน 1 ชิ้นเท่ากับการตัดเวลาในชีวิตออกไป 36 นาที ไส้กรอกอยู่ในอันดับต้นๆ ของอาหารที่ทำให้ชีวิตสั้นลง ดร. ดาริน เดตไวเลอร์ (มหาวิทยาลัยมิชิแกน) อธิบายว่าเป็นเพราะเนื้อสัตว์แปรรูปประเภทนี้มีไขมัน ไนไตรต์และไนเตรตจำนวนมาก พร้อมทั้งอาจมีสารแต่งรสและสารกันบูด เมื่อกินมากขึ้น ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วน โรคหัวใจ และเบาหวาน การแปรรูปมักใช้ไขมันและน้ำมันจำนวนมาก โดยการใช้ความร้อนสูงอาจทำให้เกิดสารก่อมะเร็งบางประเภท

    2.แซนด์วิชเช้า: ลดอายุขัย 13 นาทีต่อมื้อ แซนด์วิชเช้าพร้อมทานอาจสะดวก แต่ถ้ากินเป็นประจำไม่ดีต่อสุขภาพ ขนมปังขาวเป็นแป้งที่ผ่านการขัดสี - ขนมปังที่ผลิตในปริมาณมากซึ่งมีแคลอรีที่ว่างเปล่าและสารเติมแต่งที่ไม่ดี สำหรับไข่, เนื้อสัตว์แปรรูป, ชีส และเนยในแซนด์วิชก็ทำให้ได้รับไขมันอิ่มตัวมากเกินไป

    3.น้ำอัดลม: ลดอายุขัย 12 นาทีต่อกระป๋อง ดร. โอลิเวียร์ โจลิเยต์เตือนว่าน้ำตาลที่เติมลงไปในเครื่องดื่มเป็น "ศัตรูที่ซ่อนอยู่" ในหลายๆ เครื่องดื่ม เช่น น้ำอัดลมหรือแม้แต่น้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง/ขวด การดื่มน้ำอัดลม 355 มล. จะทำให้คุณสูญเสียเวลาไป 24 นาทีจากชีวิต แต่ถ้าคุณดื่มมันเป็นประจำตั้งแต่อายุยังน้อย ก็อาจทำให้ชีวิตสั้นลงเกือบปีภายในอายุ 55 ปี น้ำตาลไม่ได้ทำให้เกิดโรคอ้วนเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ และมะเร็ง

    4.ขนมปังชีส: กิน 1 ชิ้นเท่ากับการตัดเวลาในชีวิต 9 นาที ขนมปังชีสโดยเฉพาะแบบที่ผลิตจำนวนมากและบรรจุหีบห่อไว้จะทำให้คุณสูญเสียเวลาไป 9 นาทีจากชีวิตทุกคำที่กัด ขนมปังชิ้นเล็กๆ หนักแค่ 150 กรัม หากขนมปังนั้นมีเนื้อหรือไส้กรอกและเสิร์ฟพร้อมชีส ก็จะยิ่งเพิ่มผลกระทบต่อสุขภาพและอายุขัย

    5.เบคอน: ลดเวลา 6 นาทีต่อการเสิร์ฟ ดร. ดาริน เดตไวเลอร์กล่าวว่าเบคอนมีเกลือและสารกันบูดมาก การบริโภคเบคอนเป็นประจำจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ การศึกษานี้พบว่าแค่การกินเบคอน 1 เสิร์ฟ (ประมาณ 15-20 กรัม) ก็สามารถทำให้ลดอายุขัยลง 26 นาที
    cr:sanook.com
    https://www.sanook.com/news/9672670/
    #ฐิติพรก้อนแก้วข้อมูลพลิกชีวิต
    #ฐิติพรก้อนแก้วกินอาหารเป็นไม่ต้องกินยา
    20 ธันวาคม 2567
    #เพจสุขภาพและความงามโดยเยาว์
    11/3/68 ภัยเงียบจาก "อาหารยอดฮิต" แค่ 1 ชิ้น อายุสั้นลง 36 นาที คนไทยกินแทบทุกวัน { กินอาหารไม่เป็น อายุลดลง } ผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ เตือน "อาหารยอดฮิต" กินแค่ 1 ชิ้น อายุขัยสั้นลง 36 นาที เป็นเมนูโปรดคนไทยที่กินแทบทุกวัน การเลือกอาหารของคุณไม่เพียงแค่มีผลต่อสุขภาพปัจจุบันของคุณ แต่ยังมีผลต่ออายุขัยในอนาคตด้วย ดังนั้น ควรพิจารณาอย่างรอบคอบเมื่อกินอาหาร 6 อย่างนี้ เป็นคำกล่าวที่ถูกต้องว่า "โรคมาจากปาก" เพราะการเลือกอาหารของแต่ละคนไม่เพียงแค่ตอบสนองต่อรสชาติและให้พลังงานเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพและอายุขัยของคุณด้วย อาหารที่ดีและการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยให้คุณมีสุขภาพดีและมีอายุยืนยาว ในขณะที่การมีนิสัยการกินที่ไม่ดีจะมีผลในทางตรงกันข้าม การวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนและมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก พบว่าอาหารบางประเภท "กิน" ชีวิตคุณได้อย่างรวดเร็ว แต่เป็นอาหารที่หลายคนชื่นชอบ ดร. โอลิเวียร์ โจลิเยต์ หัวหน้าผู้วิจัยกล่าวว่าอาหารที่อยู่ในอันดับต้นๆ ได้แก่ อาหารแปรรูปขั้นสูง (UFOs) ซึ่งเกี่ยวข้องกับโรคหัวใจและหลอดเลือดและมะเร็ง 34 ชนิด รวมถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ 1.ไส้กรอก: กิน 1 ชิ้นเท่ากับการตัดเวลาในชีวิตออกไป 36 นาที ไส้กรอกอยู่ในอันดับต้นๆ ของอาหารที่ทำให้ชีวิตสั้นลง ดร. ดาริน เดตไวเลอร์ (มหาวิทยาลัยมิชิแกน) อธิบายว่าเป็นเพราะเนื้อสัตว์แปรรูปประเภทนี้มีไขมัน ไนไตรต์และไนเตรตจำนวนมาก พร้อมทั้งอาจมีสารแต่งรสและสารกันบูด เมื่อกินมากขึ้น ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วน โรคหัวใจ และเบาหวาน การแปรรูปมักใช้ไขมันและน้ำมันจำนวนมาก โดยการใช้ความร้อนสูงอาจทำให้เกิดสารก่อมะเร็งบางประเภท 2.แซนด์วิชเช้า: ลดอายุขัย 13 นาทีต่อมื้อ แซนด์วิชเช้าพร้อมทานอาจสะดวก แต่ถ้ากินเป็นประจำไม่ดีต่อสุขภาพ ขนมปังขาวเป็นแป้งที่ผ่านการขัดสี - ขนมปังที่ผลิตในปริมาณมากซึ่งมีแคลอรีที่ว่างเปล่าและสารเติมแต่งที่ไม่ดี สำหรับไข่, เนื้อสัตว์แปรรูป, ชีส และเนยในแซนด์วิชก็ทำให้ได้รับไขมันอิ่มตัวมากเกินไป 3.น้ำอัดลม: ลดอายุขัย 12 นาทีต่อกระป๋อง ดร. โอลิเวียร์ โจลิเยต์เตือนว่าน้ำตาลที่เติมลงไปในเครื่องดื่มเป็น "ศัตรูที่ซ่อนอยู่" ในหลายๆ เครื่องดื่ม เช่น น้ำอัดลมหรือแม้แต่น้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง/ขวด การดื่มน้ำอัดลม 355 มล. จะทำให้คุณสูญเสียเวลาไป 24 นาทีจากชีวิต แต่ถ้าคุณดื่มมันเป็นประจำตั้งแต่อายุยังน้อย ก็อาจทำให้ชีวิตสั้นลงเกือบปีภายในอายุ 55 ปี น้ำตาลไม่ได้ทำให้เกิดโรคอ้วนเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ และมะเร็ง 4.ขนมปังชีส: กิน 1 ชิ้นเท่ากับการตัดเวลาในชีวิต 9 นาที ขนมปังชีสโดยเฉพาะแบบที่ผลิตจำนวนมากและบรรจุหีบห่อไว้จะทำให้คุณสูญเสียเวลาไป 9 นาทีจากชีวิตทุกคำที่กัด ขนมปังชิ้นเล็กๆ หนักแค่ 150 กรัม หากขนมปังนั้นมีเนื้อหรือไส้กรอกและเสิร์ฟพร้อมชีส ก็จะยิ่งเพิ่มผลกระทบต่อสุขภาพและอายุขัย 5.เบคอน: ลดเวลา 6 นาทีต่อการเสิร์ฟ ดร. ดาริน เดตไวเลอร์กล่าวว่าเบคอนมีเกลือและสารกันบูดมาก การบริโภคเบคอนเป็นประจำจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ การศึกษานี้พบว่าแค่การกินเบคอน 1 เสิร์ฟ (ประมาณ 15-20 กรัม) ก็สามารถทำให้ลดอายุขัยลง 26 นาที cr:sanook.com https://www.sanook.com/news/9672670/ #ฐิติพรก้อนแก้วข้อมูลพลิกชีวิต #ฐิติพรก้อนแก้วกินอาหารเป็นไม่ต้องกินยา 20 ธันวาคม 2567 #เพจสุขภาพและความงามโดยเยาว์
    WWW.SANOOK.COM
    ภัยเงียบจาก "อาหารยอดฮิต" แค่ 1 ชิ้น อายุสั้นลง 36 นาที คนไทยกินแทบทุกวัน
    ผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ เตือน "อาหารยอดฮิต" กินแค่ 1 ชิ้น อายุขัยสั้นลง 36 นาที เป็นเมนูโปรดคนไทยที่กินแทบทุกวัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1020 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องบินแอร์บัส A350-1000 ของเวอร์จิ้นแอตแลนติก (Virgin Atlantic) ออกเดินทางจากสนามบินฮีทโธรว์ ในกรุงลอนดอน มุ่งหน้าสนามบิน JFK นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ต้องบินกลับและลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินเมืองแมนเชสเตอร์ หลังระบบไฮดรอลิกขัดข้องทำให้ประตูล้อเปิดออกเองอัตโนมัติ
    เครื่องบินแอร์บัส A350-1000 ของเวอร์จิ้นแอตแลนติก (Virgin Atlantic) ออกเดินทางจากสนามบินฮีทโธรว์ ในกรุงลอนดอน มุ่งหน้าสนามบิน JFK นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ต้องบินกลับและลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินเมืองแมนเชสเตอร์ หลังระบบไฮดรอลิกขัดข้องทำให้ประตูล้อเปิดออกเองอัตโนมัติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 456 มุมมอง 21 0 รีวิว
Pages Boosts