• สุทธิชัย หยุ่น ซัดปาฐกถา "ทักษิณ" ไร้วิสัยทัศน์! ชี้ "เรื่องลอยๆ-ซ้ำซาก" หลงตัวเองกูเก่งที่สุดในประเทศนี้ ให้คนรุ่นต่อไปเขาได้ทำงานเถอะ
    https://www.thai-tai.tv/news/20373/
    .
    #สุทธิชัยหยุ่น #ทักษิณ #วิสัยทัศน์ประเทศไทย #การเมืองไทย #อดีตนายก #นักวิจารณ์ #ปลดล็อกประเทศไทย #เศรษฐกิจไทย
    สุทธิชัย หยุ่น ซัดปาฐกถา "ทักษิณ" ไร้วิสัยทัศน์! ชี้ "เรื่องลอยๆ-ซ้ำซาก" หลงตัวเองกูเก่งที่สุดในประเทศนี้ ให้คนรุ่นต่อไปเขาได้ทำงานเถอะ https://www.thai-tai.tv/news/20373/ . #สุทธิชัยหยุ่น #ทักษิณ #วิสัยทัศน์ประเทศไทย #การเมืองไทย #อดีตนายก #นักวิจารณ์ #ปลดล็อกประเทศไทย #เศรษฐกิจไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • เราเคยได้ยินคำว่า AI ถูกฝึกจาก “อินเทอร์เน็ต” หรือ “ฐานข้อมูลสาธารณะ” ใช่ไหมครับ แต่ข่าวนี้แฉว่า Anthropic ซื้อ “หนังสือเล่มจริง” มาจำนวนมหาศาลแล้ว “ตัดสัน ฉีกสแกน” เพื่อใช้เป็นข้อมูลเทรน AI โดยที่ ไม่มีแผนเผยแพร่ digital copy นั้นต่อสาธารณะ ด้วยซ้ำ

    ที่พีคคือ ในคดีความล่าสุด ศาลบางส่วนกลับเห็นว่า “การทำลายหนังสือแล้วแปลงเป็นดิจิทัล” แบบนี้ถือเป็น “การเปลี่ยนรูปแบบที่เพียงพอ” (transformative) ตามหลัก fair use — คือใช้แล้วไม่ละเมิดลิขสิทธิ์

    ฝั่งนักวิจารณ์ไม่เห็นด้วย โดยระบุว่า AI อย่าง Claude แม้จะดูฉลาด แต่บางครั้งก็ “หลุดโควตจากหนังสือแบบคำต่อคำ” ซึ่งเสี่ยงต่อการละเมิด

    ที่สำคัญกว่านั้นคือ คดีนี้ไม่ใช่จบแค่นี้ — ศาลยังให้ Anthropic “ต้องไปขึ้นศาลอีกรอบ” ในเดือนธันวาคมนี้ ฐานนำ “ไฟล์หนังสือเถื่อน” (pirated eBook library) ไปฝึกโมเดล โดยอาจถูกปรับ สูงสุด $150,000 ต่อเล่ม

    https://www.techspot.com/news/108463-anthropic-destroyed-millions-physical-books-train-ai-court.html
    เราเคยได้ยินคำว่า AI ถูกฝึกจาก “อินเทอร์เน็ต” หรือ “ฐานข้อมูลสาธารณะ” ใช่ไหมครับ แต่ข่าวนี้แฉว่า Anthropic ซื้อ “หนังสือเล่มจริง” มาจำนวนมหาศาลแล้ว “ตัดสัน ฉีกสแกน” เพื่อใช้เป็นข้อมูลเทรน AI โดยที่ ไม่มีแผนเผยแพร่ digital copy นั้นต่อสาธารณะ ด้วยซ้ำ ที่พีคคือ ในคดีความล่าสุด ศาลบางส่วนกลับเห็นว่า “การทำลายหนังสือแล้วแปลงเป็นดิจิทัล” แบบนี้ถือเป็น “การเปลี่ยนรูปแบบที่เพียงพอ” (transformative) ตามหลัก fair use — คือใช้แล้วไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ ฝั่งนักวิจารณ์ไม่เห็นด้วย โดยระบุว่า AI อย่าง Claude แม้จะดูฉลาด แต่บางครั้งก็ “หลุดโควตจากหนังสือแบบคำต่อคำ” ซึ่งเสี่ยงต่อการละเมิด ที่สำคัญกว่านั้นคือ คดีนี้ไม่ใช่จบแค่นี้ — ศาลยังให้ Anthropic “ต้องไปขึ้นศาลอีกรอบ” ในเดือนธันวาคมนี้ ฐานนำ “ไฟล์หนังสือเถื่อน” (pirated eBook library) ไปฝึกโมเดล โดยอาจถูกปรับ สูงสุด $150,000 ต่อเล่ม https://www.techspot.com/news/108463-anthropic-destroyed-millions-physical-books-train-ai-court.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Anthropic destroyed millions of physical books to train its AI, court documents reveal
    Buried in the details of a recent split ruling against Anthropic is a surprising revelation: the generative AI company destroyed millions of physical books by cutting off...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักข่าว Al Jazeera แฉคลิปเสียงหลุด!ฮุนเซน สั่ง “นายฮวด” ไล่ล่าคนเห็นต่างในไทย — ไม่สนว่าจับได้จะ “เป็นหรือตาย”!นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาภายในกัมพูชา —แต่คือคำสั่งจากผู้นำต่างชาติ ที่ล้ำเส้นเข้ามายัง “แผ่นดินไทย”!ในคลิปเสียงดังกล่าว ฮุนเซนได้สั่งตรงถึง “นายเคลียง ฮวด”ให้ดำเนินการ “ตามล่าคนที่วิพากษ์วิจารณ์ตน แม้จะอยู่ในประเทศไทย”พร้อมกำชับชัดเจนว่า“ไม่ต้องสนใจว่าจับมาได้จะ ‘เป็นหรือตาย’”การลอบสังหารนักการเมืองระดับสูงในกัมพูชา ในปี 2016 นายเขม ไลย์ นักวิจารณ์การเมืองซึ่งเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์ฮุน เซน ชื่อดัง ถูกยิงเสียชีวิตในกรุงพนมเปญ และในปี 2012 นายจุ๊ต วุตติ นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมก็ถูกสังหารด้วยเช่นกันล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ กรณีสังหารนายลิม กิมยา อดีตสมาชิกรัฐสภาวัย 73 ปี ของพรรคแกนนำฝ่ายค้านของกัมพูชาที่ชื่อว่าพรรคกู้ชาติกัมพูชา หรือ ซีเอ็นอาร์พี (Cambodia National Rescue Party - CNRP) ซึ่งพรรคนี้ถูกแบนไปเมื่อปี 2017 จากรายงานของตำรวจไทย เขาถูกยิงด้วยกระสุน 2 นัดบริเวณหน้าอก ทั้งที่เพิ่งเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ด้วยรถบัสจากกัมพูชา พร้อมกับภรรยาที่บริเวณหน้าวัดบวรนิเวศ บางลำพู เขตพระนคร กรุงเทพนายเอกลักษณ์ แพน้อย ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงนายลิม กิมยา อดีต สส. ฝ่ายค้านกัมพูชา ถูกจับตัวได้ที่ จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา หลังหลบหนีออกจากไทย และถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทยแล้วเมื่อวันที่ 11 ม.ค.2568ที่ผ่านมาแล้วเรื่องก็เงียบhttps://youtu.be/FR39vs42N9I
    สำนักข่าว Al Jazeera แฉคลิปเสียงหลุด!ฮุนเซน สั่ง “นายฮวด” ไล่ล่าคนเห็นต่างในไทย — ไม่สนว่าจับได้จะ “เป็นหรือตาย”!นี่ไม่ใช่แค่ปัญหาภายในกัมพูชา —แต่คือคำสั่งจากผู้นำต่างชาติ ที่ล้ำเส้นเข้ามายัง “แผ่นดินไทย”!ในคลิปเสียงดังกล่าว ฮุนเซนได้สั่งตรงถึง “นายเคลียง ฮวด”ให้ดำเนินการ “ตามล่าคนที่วิพากษ์วิจารณ์ตน แม้จะอยู่ในประเทศไทย”พร้อมกำชับชัดเจนว่า“ไม่ต้องสนใจว่าจับมาได้จะ ‘เป็นหรือตาย’”การลอบสังหารนักการเมืองระดับสูงในกัมพูชา ในปี 2016 นายเขม ไลย์ นักวิจารณ์การเมืองซึ่งเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์ฮุน เซน ชื่อดัง ถูกยิงเสียชีวิตในกรุงพนมเปญ และในปี 2012 นายจุ๊ต วุตติ นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมก็ถูกสังหารด้วยเช่นกันล่าสุดเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ กรณีสังหารนายลิม กิมยา อดีตสมาชิกรัฐสภาวัย 73 ปี ของพรรคแกนนำฝ่ายค้านของกัมพูชาที่ชื่อว่าพรรคกู้ชาติกัมพูชา หรือ ซีเอ็นอาร์พี (Cambodia National Rescue Party - CNRP) ซึ่งพรรคนี้ถูกแบนไปเมื่อปี 2017 จากรายงานของตำรวจไทย เขาถูกยิงด้วยกระสุน 2 นัดบริเวณหน้าอก ทั้งที่เพิ่งเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ ด้วยรถบัสจากกัมพูชา พร้อมกับภรรยาที่บริเวณหน้าวัดบวรนิเวศ บางลำพู เขตพระนคร กรุงเทพนายเอกลักษณ์ แพน้อย ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงนายลิม กิมยา อดีต สส. ฝ่ายค้านกัมพูชา ถูกจับตัวได้ที่ จ.พระตะบอง ประเทศกัมพูชา หลังหลบหนีออกจากไทย และถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่ไทยแล้วเมื่อวันที่ 11 ม.ค.2568ที่ผ่านมาแล้วเรื่องก็เงียบhttps://youtu.be/FR39vs42N9I
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 371 มุมมอง 0 รีวิว
  • "One Big Beautiful Bill": สภาผู้แทนฯ สหรัฐฯ สนับสนุนแผนของทรัมป์ในการระงับกฎหมาย AI ระดับรัฐเป็นเวลา 10 ปี

    สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีเป้าหมาย ปรับโครงสร้างภาษีและนโยบายตรวจคนเข้าเมือง แต่ที่เป็นประเด็นร้อนแรงคือ ข้อกำหนดที่ห้ามรัฐออกกฎหมายควบคุม AI เป็นเวลา 10 ปี

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill"
    ร่างกฎหมายนี้ห้ามรัฐออกกฎหมายควบคุม AI เป็นเวลา 10 ปี
    - ครอบคลุม ทั้งโมเดล AI และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ AI เช่น รถยนต์, IoT, โซเชียลมีเดีย และอุปกรณ์ทางการแพทย์

    นักวิจารณ์กังวลว่าการระงับกฎหมายระดับรัฐอาจเปิดช่องให้ AI ถูกใช้ในทางที่ผิด
    - อาจทำให้ นักพัฒนา AI สามารถสร้างระบบที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและความมั่นคง

    สมาชิกพรรครีพับลิกันบางส่วนเตือนว่าร่างกฎหมายนี้อาจกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
    - วุฒิสมาชิก Marsha Blackburn และ Josh Hawley ระบุว่าอาจทำให้ Deepfake และภัยคุกคาม AI เพิ่มขึ้น

    องค์กรด้านสิทธิและความเป็นส่วนตัว เช่น Electronic Frontier Foundation คัดค้านร่างกฎหมายนี้
    - มองว่า เป็นความพยายามของ Big Tech ในการลดข้อจำกัดด้าน AI

    ผู้สนับสนุนร่างกฎหมายมองว่าการระงับกฎหมายระดับรัฐช่วยให้บริษัทสหรัฐฯ แข่งขันกับจีนได้ดีขึ้น
    - เชื่อว่า กฎระเบียบที่เข้มงวดอาจขัดขวางนวัตกรรมและลดโอกาสของสหรัฐฯ ในการเป็นผู้นำด้าน AI

    ร่างกฎหมายยังต้องผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาก่อนที่ทรัมป์จะลงนามเป็นกฎหมาย
    - นักวิเคราะห์มองว่า ทรัมป์อาจเผชิญแรงต้านจากวุฒิสมาชิกที่กังวลเรื่องอำนาจของรัฐ

    https://www.techspot.com/news/108036-one-big-beautiful-bill-house-backs-trump-plan.html
    "One Big Beautiful Bill": สภาผู้แทนฯ สหรัฐฯ สนับสนุนแผนของทรัมป์ในการระงับกฎหมาย AI ระดับรัฐเป็นเวลา 10 ปี สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีเป้าหมาย ปรับโครงสร้างภาษีและนโยบายตรวจคนเข้าเมือง แต่ที่เป็นประเด็นร้อนแรงคือ ข้อกำหนดที่ห้ามรัฐออกกฎหมายควบคุม AI เป็นเวลา 10 ปี 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ✅ ร่างกฎหมายนี้ห้ามรัฐออกกฎหมายควบคุม AI เป็นเวลา 10 ปี - ครอบคลุม ทั้งโมเดล AI และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ AI เช่น รถยนต์, IoT, โซเชียลมีเดีย และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ✅ นักวิจารณ์กังวลว่าการระงับกฎหมายระดับรัฐอาจเปิดช่องให้ AI ถูกใช้ในทางที่ผิด - อาจทำให้ นักพัฒนา AI สามารถสร้างระบบที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและความมั่นคง ✅ สมาชิกพรรครีพับลิกันบางส่วนเตือนว่าร่างกฎหมายนี้อาจกระทบต่อความมั่นคงของชาติ - วุฒิสมาชิก Marsha Blackburn และ Josh Hawley ระบุว่าอาจทำให้ Deepfake และภัยคุกคาม AI เพิ่มขึ้น ✅ องค์กรด้านสิทธิและความเป็นส่วนตัว เช่น Electronic Frontier Foundation คัดค้านร่างกฎหมายนี้ - มองว่า เป็นความพยายามของ Big Tech ในการลดข้อจำกัดด้าน AI ✅ ผู้สนับสนุนร่างกฎหมายมองว่าการระงับกฎหมายระดับรัฐช่วยให้บริษัทสหรัฐฯ แข่งขันกับจีนได้ดีขึ้น - เชื่อว่า กฎระเบียบที่เข้มงวดอาจขัดขวางนวัตกรรมและลดโอกาสของสหรัฐฯ ในการเป็นผู้นำด้าน AI ✅ ร่างกฎหมายยังต้องผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาก่อนที่ทรัมป์จะลงนามเป็นกฎหมาย - นักวิเคราะห์มองว่า ทรัมป์อาจเผชิญแรงต้านจากวุฒิสมาชิกที่กังวลเรื่องอำนาจของรัฐ https://www.techspot.com/news/108036-one-big-beautiful-bill-house-backs-trump-plan.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    "One Big Beautiful Bill": House backs Trump plan to freeze state AI laws for a decade
    The moratorium applies not only to AI models but also to any products or services integrating AI, effectively banning and overriding state regulations in those areas. The...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • อียูประกาศยกเลิกคว่ำบาตรซีเรีย หลังจากสหรัฐประกาศยกเลิกไปเมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา

    หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป "คาจา คัลลาส" ประกาศเมื่อวันอังคารว่า จะยกเลิกการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจทั้งหมดต่อซีเรีย โดยมุ่งหวังที่จะสนับสนุนประชาชนซีเรียและส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

    ทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศของซีเรีย "อาซาด อัล-ชาอิบานี" เรียกร้องให้ตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่ครอบคลุมด้านการเงินและธนาคาร ซึ่งจะทำให้ธนาคารซีเรียสามารถเข้าสู่ระบบทั่วโลกได้ และต้องการให้ยกเลิกอายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางด้วย

    ตลอดเวลาที่ผ่านมาจากการรวมหัวกันใช้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและยุโรปอย่างรุนแรง ทำให้ประชากรซีเรียมากกว่า 90% ต้องเผชิญกับความยากจน และ 12 ล้านคนอยู่ในภาวะการขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง!!

    นักวิจารณ์เตือนถึง การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและยุโรป อย่างรวดเร็วเช่นนี้ อาจทำให้การปกครองแบบกลุ่มก่อการร้าย HTS กลับมาแข้มแข็ง และจะเกิดสงครามกลางเมืองจากชนกลุ่มน้อยภายในซีเรียที่หวั่นเกรงแนวนโยบายบริหารของอดีตผู้ก่อการร้าย

    เช่นเดียวกับมาร์โก รูบิโอ เพิ่งตอบคำถามในรัฐสภาสหรัฐว่า แนวโน้มของซีเรียกำลังย่างก้าวเข้าสู่สงครามกลางเมืองในเร็ววันนี้
    อียูประกาศยกเลิกคว่ำบาตรซีเรีย หลังจากสหรัฐประกาศยกเลิกไปเมื่อหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป "คาจา คัลลาส" ประกาศเมื่อวันอังคารว่า จะยกเลิกการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจทั้งหมดต่อซีเรีย โดยมุ่งหวังที่จะสนับสนุนประชาชนซีเรียและส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศของซีเรีย "อาซาด อัล-ชาอิบานี" เรียกร้องให้ตะวันตกยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่ครอบคลุมด้านการเงินและธนาคาร ซึ่งจะทำให้ธนาคารซีเรียสามารถเข้าสู่ระบบทั่วโลกได้ และต้องการให้ยกเลิกอายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางด้วย 👉 ตลอดเวลาที่ผ่านมาจากการรวมหัวกันใช้มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและยุโรปอย่างรุนแรง ทำให้ประชากรซีเรียมากกว่า 90% ต้องเผชิญกับความยากจน และ 12 ล้านคนอยู่ในภาวะการขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง!! นักวิจารณ์เตือนถึง การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐและยุโรป อย่างรวดเร็วเช่นนี้ อาจทำให้การปกครองแบบกลุ่มก่อการร้าย HTS กลับมาแข้มแข็ง และจะเกิดสงครามกลางเมืองจากชนกลุ่มน้อยภายในซีเรียที่หวั่นเกรงแนวนโยบายบริหารของอดีตผู้ก่อการร้าย เช่นเดียวกับมาร์โก รูบิโอ เพิ่งตอบคำถามในรัฐสภาสหรัฐว่า แนวโน้มของซีเรียกำลังย่างก้าวเข้าสู่สงครามกลางเมืองในเร็ววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 421 มุมมอง 0 รีวิว
  • มหาดไทยเหิมเกริม อ้าง PDPA ลบชื่อผู้ทิ้งงาน

    บัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงาน เป็นมาตรการลงโทษสำหรับผู้รับจ้างหรือคู่สัญญาของหน่วยงานของรัฐที่ได้รับการคัดเลือกแล้วแต่ไม่ยอมทำสัญญา ไม่ปฎิบัติตามสัญญาโดยไม่มีเหตุอันควร มีลักษณะขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ผลการปฎิบัติงานมีข้อบกพร่อง ผิดพลาด หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐอย่างร้ายแรง และไม่ปฎิบัติตามมาตรา 88 พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ปี 2560 โดยมีอายุความ 10 ปี

    มาบัดนี้กลายเป็นประเด็นความไม่ชอบมาพากล เมื่อนายมานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ออกมาเปิดประเด็นว่า เมื่อต้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือแจ้งไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ให้ลบรายชื่อบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชี “ผู้ทิ้งงาน” ออกจากเว็บไซต์ โดยอ้างการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)

    "นี่่คือการกระทำที่ส่งสัญญาณชัดว่า ระบบราชการกำลังเอื้อประโยชน์ให้คนผิดและพยายามลบล้างร่องรอยของความล้มเหลวแทนที่จะเปิดเผยความจริงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ" นายมานะ ระบุ

    เฟซบุ๊ก Sarinee Achavanuntakul ของ น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและนักวิจารณ์สังคม มองว่าเป็นการอ้างมั่วมาก เพราะกฎหมาย PDPA เขียนข้อยกเว้นชัดอยู่แล้วในมาตรา 24 ว่ากรณีไหนบ้างที่ไม่ต้องขอความยินยอม ได้แก่

    (4) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุม ข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

    (5) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

    สำหรับหนังสือดังกล่าวเป็นของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่ มท.0808.2/ว.1558 ลงวันที่ 2 เม.ย. ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ขอความอนุเคราะห์ลบข้อมูลของผู้ประกอบการที่ถูกแจ้งเวียนชื่อให้เป็นผู้ทิ้งงานและเพิกถอนรายชื่อผู้ทิ้งงาน โดยอ้างว่าคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการพิจารณาผู้ทิ้งงานแจ้งว่า มีผู้ประกอบการได้ขอให้กรมบัญชีกลางลบชื่อผู้ประกอบการ ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับนิติบุคคล เลขทะเบียนนิติบุคคล ชื่อกรรมการผู้จัดการ ชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ ที่อยู่ และเลขบัตรประชาชน ซึ่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพนำไปใช้ในทางผิดกฎหมายได้ ลงนามโดย นายสุรพล เจริญภูมิ รองอธิบดี ปฎิบัติราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น

    #Newskit
    มหาดไทยเหิมเกริม อ้าง PDPA ลบชื่อผู้ทิ้งงาน บัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงาน เป็นมาตรการลงโทษสำหรับผู้รับจ้างหรือคู่สัญญาของหน่วยงานของรัฐที่ได้รับการคัดเลือกแล้วแต่ไม่ยอมทำสัญญา ไม่ปฎิบัติตามสัญญาโดยไม่มีเหตุอันควร มีลักษณะขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ผลการปฎิบัติงานมีข้อบกพร่อง ผิดพลาด หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐอย่างร้ายแรง และไม่ปฎิบัติตามมาตรา 88 พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ปี 2560 โดยมีอายุความ 10 ปี มาบัดนี้กลายเป็นประเด็นความไม่ชอบมาพากล เมื่อนายมานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ออกมาเปิดประเด็นว่า เมื่อต้นเดือน เม.ย. ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือแจ้งไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ให้ลบรายชื่อบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชี “ผู้ทิ้งงาน” ออกจากเว็บไซต์ โดยอ้างการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) "นี่่คือการกระทำที่ส่งสัญญาณชัดว่า ระบบราชการกำลังเอื้อประโยชน์ให้คนผิดและพยายามลบล้างร่องรอยของความล้มเหลวแทนที่จะเปิดเผยความจริงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ" นายมานะ ระบุ เฟซบุ๊ก Sarinee Achavanuntakul ของ น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและนักวิจารณ์สังคม มองว่าเป็นการอ้างมั่วมาก เพราะกฎหมาย PDPA เขียนข้อยกเว้นชัดอยู่แล้วในมาตรา 24 ว่ากรณีไหนบ้างที่ไม่ต้องขอความยินยอม ได้แก่ (4) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของผู้ควบคุม ข้อมูลส่วนบุคคล หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (5) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่ประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญน้อยกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับหนังสือดังกล่าวเป็นของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ที่ มท.0808.2/ว.1558 ลงวันที่ 2 เม.ย. ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ขอความอนุเคราะห์ลบข้อมูลของผู้ประกอบการที่ถูกแจ้งเวียนชื่อให้เป็นผู้ทิ้งงานและเพิกถอนรายชื่อผู้ทิ้งงาน โดยอ้างว่าคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการพิจารณาผู้ทิ้งงานแจ้งว่า มีผู้ประกอบการได้ขอให้กรมบัญชีกลางลบชื่อผู้ประกอบการ ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับนิติบุคคล เลขทะเบียนนิติบุคคล ชื่อกรรมการผู้จัดการ ชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ ที่อยู่ และเลขบัตรประชาชน ซึ่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพนำไปใช้ในทางผิดกฎหมายได้ ลงนามโดย นายสุรพล เจริญภูมิ รองอธิบดี ปฎิบัติราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น #Newskit
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 512 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำพูดตลกของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม และ “ภรรยาคนที่สอง” ทำให้คนในประเทศเกิดปฏิกิริยาที่หลากหลาย โดยทำให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรู้สึกขบขัน แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนอื่นๆรู้สึกไม่พอใจเพราะยังคงไว้อาลัยเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ หลังจากที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เครื่องบินตกเมื่อปี 2014 ระหว่างที่อันวาร์เยือนกรุงมอสโก

    อันวาร์อยู่ระหว่างการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ 4 วันตามคำเชิญของปูติน โดยทั้งสองฝ่ายต่างยกย่องความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในภาคส่วนต่างๆ เช่น อวกาศ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีดิจิทัล

    แต่คำพูดที่หลุดจากปากของปูตินเองต่างหากที่ดึงดูดความสนใจ

    ในการแถลงข่าวร่วมกันที่กรุงมอสโกเมื่อวันพุธที่14 พ.ค. ผู้นำรัสเซียเล่าว่าพาอันวาร์ชมห้องโถงเซนต์แอนดรูว์อันโอ่อ่าในเครมลิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบัลลังก์พิธีการ 3 บัลลังก์ที่ราชวงศ์รัสเซียเคยใช้ ผู้นำรัสเซียอธิบายว่าบัลลังก์หนึ่งเป็นของซาร์ และอีกบัลลังก์หนึ่งเป็นของภรรยา จากนั้นจึงถามผู้นำมาเลเซียว่าบัลลังก์ที่สามเป็นของใคร

    “นายกรัฐมนตรีอันวาร์กล่าวโดยไม่คิดอะไรเลยว่า ‘เพื่อภรรยาคนที่สอง’” ปูตินกล่าว ทำให้ผู้ฟังหัวเราะ “ฉันหวังว่าเขาจะไม่โกรธฉันที่พูดแบบนั้น แต่นี่คือคำตอบของมุสลิมแท้ ตัวแทนที่แท้จริงของวัฒนธรรมอิสลาม”

    อันวาร์ซึ่งหัวเราะขณะที่ปูตินเล่าเรื่องนี้ตอบกลับว่า “ผมมีภรรยาคนเดียวเท่านั้น ท่านประธานาธิบดี” และเสริมว่าภายหลังเขาเพิ่งตระหนักว่าบัลลังก์ที่สามนั้นเป็นของพระมารดาของซาร์

    ชาวมาเลเซียรีบล้อเลียนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนี้บนโซเชียลมีเดีย โดยบางคนเสนอว่าควรมีเพลง “Russia Sayang” เป็นเพลงประกอบการเยือนของอันวาร์ ซึ่งเป็นการเล่นคำกับเพลง “Rasa Sayang” ซึ่งเป็นเพลงพื้นบ้านยอดนิยมของชาวมาเลย์ที่แปลว่า “ความรู้สึกรัก”

    “จากรัสเซียด้วยความรัก” ผู้ใช้รายหนึ่งชื่ออัซลัน อับดุลลาห์ เขียน พร้อมเพิ่มอีโมจิหัวเราะในความคิดเห็นบนเฟซบุ๊กของเขา

    อย่างไรก็ตาม ชาวมาเลเซียบางคนก็ไม่ได้รู้สึกขบขัน นักวิจารณ์โต้แย้งว่าความตลกโปกฮานี้ขาดความจริงจัง เนื่องจากรัสเซียมีบทบาทในเหตุโศกนาฏกรรม MH17 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 298 ราย รวมถึงชาวมาเลเซีย 43 ราย เมื่อเครื่องบินถูกขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ Buk ที่ผลิตโดยรัสเซียโจมตีเหนือยูเครนตะวันออกในเดือนกรกฎาคม 2557 ระหว่างการสู้รบระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนมอสโกวและกองกำลังยูเครน

    ผู้ใช้รายหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า “เขาคิดว่าเขาไปมอสโกวเพื่อเรียกร้องคำตอบเกี่ยวกับ MH17 แต่กลับกลายเป็นว่าเขากำลังเล่าเรื่องตลกเกี่ยวกับภรรยาคนที่สองกับปูตินแทน” ผู้ใช้อีกรายเขียนว่า “หัวเราะและเล่าเรื่องตลกในขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจาก MH17 ร้องไห้” ในโพสต์ที่แชร์คลิปการแถลงข่าวที่กลายเป็นไวรัล

    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ตัดสินว่ารัสเซียต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์เครื่องบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ถูกยิงตก

    คำตัดสินดังกล่าวระบุว่ารัสเซียละเมิดอนุสัญญาชิคาโก ซึ่งห้ามใช้อาวุธโจมตีเครื่องบินพลเรือนขณะบิน และเปิดโอกาสให้รัฐที่ได้รับผลกระทบเรียกร้องค่าชดเชยแทนครอบครัวของผู้เสียชีวิตผ่านกลไกทางกฎหมายระหว่างประเทศ

    เครมลินปฏิเสธคำตัดสินดังกล่าวโดยระบุว่า “ลำเอียง” โดยให้เหตุผลว่ามอสโกไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวน

    ในการแถลงข่าวแยกกับสื่อมาเลเซียในกรุงมอสโก อันวาร์กล่าวว่าปูตินบอกกับเขาว่ารัสเซียเปิดกว้างที่จะให้ความร่วมมือในคดีนี้ แต่เฉพาะกับหน่วยงานสอบสวนที่ถือว่าเป็นกลางเท่านั้น

    “สิ่งที่ฉันยืนยันได้คือเขากล่าวว่าไม่เป็นความจริงที่จะบอกว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ แต่พวกเขาไม่สามารถให้ความร่วมมือกับใครก็ตามที่รัสเซียถือว่าไม่เป็นอิสระ” เขากล่าว

    มาเลเซียซึ่งสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียในช่วงยุคโซเวียตในทศวรรษ 1960 นำเข้าธัญพืช น้ำมันกลั่น และอาวุธจากรัสเซีย และล่าสุดหันไปหามอสโกเพื่อขอการสนับสนุนในการพยายามเข้าร่วมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่บริกส์

    ที่มา Putin’s ‘second wife’ joke about Anwar draws laughs and backlash in Malaysia
    https://www.scmp.com/week-asia/politics/article/3310606/putins-second-wife-joke-about-malaysias-anwar-draws-laughs-and-anger-amid-mh17-ruling?share=mYixsqD3Gx74oC2WLCVGDbUSw3YQ5trX%2FyBWyU9E0%2F%2FQDIcV%2Ba96vAUpBw3v%2BoxVR4RAImnq9JxgzHKpT4WMZjU%2BOyv%2BvSxYeWul0pVvbj0%3D&utm_campaign=social_share
    คำพูดตลกของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม และ “ภรรยาคนที่สอง” ทำให้คนในประเทศเกิดปฏิกิริยาที่หลากหลาย โดยทำให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรู้สึกขบขัน แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนอื่นๆรู้สึกไม่พอใจเพราะยังคงไว้อาลัยเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ หลังจากที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เครื่องบินตกเมื่อปี 2014 ระหว่างที่อันวาร์เยือนกรุงมอสโก อันวาร์อยู่ระหว่างการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ 4 วันตามคำเชิญของปูติน โดยทั้งสองฝ่ายต่างยกย่องความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในภาคส่วนต่างๆ เช่น อวกาศ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีดิจิทัล แต่คำพูดที่หลุดจากปากของปูตินเองต่างหากที่ดึงดูดความสนใจ ในการแถลงข่าวร่วมกันที่กรุงมอสโกเมื่อวันพุธที่14 พ.ค. ผู้นำรัสเซียเล่าว่าพาอันวาร์ชมห้องโถงเซนต์แอนดรูว์อันโอ่อ่าในเครมลิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบัลลังก์พิธีการ 3 บัลลังก์ที่ราชวงศ์รัสเซียเคยใช้ ผู้นำรัสเซียอธิบายว่าบัลลังก์หนึ่งเป็นของซาร์ และอีกบัลลังก์หนึ่งเป็นของภรรยา จากนั้นจึงถามผู้นำมาเลเซียว่าบัลลังก์ที่สามเป็นของใคร “นายกรัฐมนตรีอันวาร์กล่าวโดยไม่คิดอะไรเลยว่า ‘เพื่อภรรยาคนที่สอง’” ปูตินกล่าว ทำให้ผู้ฟังหัวเราะ “ฉันหวังว่าเขาจะไม่โกรธฉันที่พูดแบบนั้น แต่นี่คือคำตอบของมุสลิมแท้ ตัวแทนที่แท้จริงของวัฒนธรรมอิสลาม” อันวาร์ซึ่งหัวเราะขณะที่ปูตินเล่าเรื่องนี้ตอบกลับว่า “ผมมีภรรยาคนเดียวเท่านั้น ท่านประธานาธิบดี” และเสริมว่าภายหลังเขาเพิ่งตระหนักว่าบัลลังก์ที่สามนั้นเป็นของพระมารดาของซาร์ ชาวมาเลเซียรีบล้อเลียนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนี้บนโซเชียลมีเดีย โดยบางคนเสนอว่าควรมีเพลง “Russia Sayang” เป็นเพลงประกอบการเยือนของอันวาร์ ซึ่งเป็นการเล่นคำกับเพลง “Rasa Sayang” ซึ่งเป็นเพลงพื้นบ้านยอดนิยมของชาวมาเลย์ที่แปลว่า “ความรู้สึกรัก” “จากรัสเซียด้วยความรัก” ผู้ใช้รายหนึ่งชื่ออัซลัน อับดุลลาห์ เขียน พร้อมเพิ่มอีโมจิหัวเราะในความคิดเห็นบนเฟซบุ๊กของเขา อย่างไรก็ตาม ชาวมาเลเซียบางคนก็ไม่ได้รู้สึกขบขัน นักวิจารณ์โต้แย้งว่าความตลกโปกฮานี้ขาดความจริงจัง เนื่องจากรัสเซียมีบทบาทในเหตุโศกนาฏกรรม MH17 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 298 ราย รวมถึงชาวมาเลเซีย 43 ราย เมื่อเครื่องบินถูกขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ Buk ที่ผลิตโดยรัสเซียโจมตีเหนือยูเครนตะวันออกในเดือนกรกฎาคม 2557 ระหว่างการสู้รบระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนมอสโกวและกองกำลังยูเครน ผู้ใช้รายหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า “เขาคิดว่าเขาไปมอสโกวเพื่อเรียกร้องคำตอบเกี่ยวกับ MH17 แต่กลับกลายเป็นว่าเขากำลังเล่าเรื่องตลกเกี่ยวกับภรรยาคนที่สองกับปูตินแทน” ผู้ใช้อีกรายเขียนว่า “หัวเราะและเล่าเรื่องตลกในขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจาก MH17 ร้องไห้” ในโพสต์ที่แชร์คลิปการแถลงข่าวที่กลายเป็นไวรัล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ตัดสินว่ารัสเซียต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์เครื่องบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ถูกยิงตก คำตัดสินดังกล่าวระบุว่ารัสเซียละเมิดอนุสัญญาชิคาโก ซึ่งห้ามใช้อาวุธโจมตีเครื่องบินพลเรือนขณะบิน และเปิดโอกาสให้รัฐที่ได้รับผลกระทบเรียกร้องค่าชดเชยแทนครอบครัวของผู้เสียชีวิตผ่านกลไกทางกฎหมายระหว่างประเทศ เครมลินปฏิเสธคำตัดสินดังกล่าวโดยระบุว่า “ลำเอียง” โดยให้เหตุผลว่ามอสโกไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวน ในการแถลงข่าวแยกกับสื่อมาเลเซียในกรุงมอสโก อันวาร์กล่าวว่าปูตินบอกกับเขาว่ารัสเซียเปิดกว้างที่จะให้ความร่วมมือในคดีนี้ แต่เฉพาะกับหน่วยงานสอบสวนที่ถือว่าเป็นกลางเท่านั้น “สิ่งที่ฉันยืนยันได้คือเขากล่าวว่าไม่เป็นความจริงที่จะบอกว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ แต่พวกเขาไม่สามารถให้ความร่วมมือกับใครก็ตามที่รัสเซียถือว่าไม่เป็นอิสระ” เขากล่าว มาเลเซียซึ่งสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียในช่วงยุคโซเวียตในทศวรรษ 1960 นำเข้าธัญพืช น้ำมันกลั่น และอาวุธจากรัสเซีย และล่าสุดหันไปหามอสโกเพื่อขอการสนับสนุนในการพยายามเข้าร่วมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่บริกส์ ที่มา Putin’s ‘second wife’ joke about Anwar draws laughs and backlash in Malaysia https://www.scmp.com/week-asia/politics/article/3310606/putins-second-wife-joke-about-malaysias-anwar-draws-laughs-and-anger-amid-mh17-ruling?share=mYixsqD3Gx74oC2WLCVGDbUSw3YQ5trX%2FyBWyU9E0%2F%2FQDIcV%2Ba96vAUpBw3v%2BoxVR4RAImnq9JxgzHKpT4WMZjU%2BOyv%2BvSxYeWul0pVvbj0%3D&utm_campaign=social_share
    WWW.SCMP.COM
    Putin’s ‘second wife’ joke about Anwar draws laughs and backlash in Malaysia
    While some social media users were amused by the leaders’ moment of levity, others felt it was inappropriate in light of the MH17 tragedy.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 592 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมนตรีกลาโหม พีท เฮกเซธ ของสหรัฐฯ ออกคำสั่ง ให้ลดจำนวนนายทหารอาวุโสระดับพลเอก หรือที่นิยมเรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า นายพล 4 ดาว เป็นจำนวน 20% ขณะที่คณะบริหารของทรัมป์เดินหน้าแผนปลดเจ้าหน้าที่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยระบุว่า เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพของกองทัพ อย่างไรก็ดี พวกนักวิจารณ์แสดงความกังวลว่าอาจส่งผลทำให้เกิดกำลังทหารที่ฝักใฝ่เลือกข้างทางการเมืองมากยิ่งขึ้น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042483

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รัฐมนตรีกลาโหม พีท เฮกเซธ ของสหรัฐฯ ออกคำสั่ง ให้ลดจำนวนนายทหารอาวุโสระดับพลเอก หรือที่นิยมเรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า นายพล 4 ดาว เป็นจำนวน 20% ขณะที่คณะบริหารของทรัมป์เดินหน้าแผนปลดเจ้าหน้าที่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยระบุว่า เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพของกองทัพ อย่างไรก็ดี พวกนักวิจารณ์แสดงความกังวลว่าอาจส่งผลทำให้เกิดกำลังทหารที่ฝักใฝ่เลือกข้างทางการเมืองมากยิ่งขึ้น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000042483 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1174 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลทรัมป์ได้เสนอร่างงบประมาณปี 2026 ที่มีการลดงบประมาณของ NASA ลงถึง 20% หรือประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อโครงการวิทยาศาสตร์และความเป็นผู้นำด้านอวกาศของสหรัฐฯ

    การลดงบประมาณของ NASA:
    - งบประมาณของ NASA จะลดลงจาก 25 พันล้านดอลลาร์เหลือ 20 พันล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะในส่วนของ Science Mission Directorate
    - การลดงบประมาณนี้จะส่งผลให้โครงการวิทยาศาสตร์ เช่น Astrophysics, Planetary Science และ Earth Science ถูกลดงบประมาณลงถึง 50%

    โครงการที่อาจถูกยกเลิก:
    - Nancy Grace Roman Space Telescope ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์ที่มีศักยภาพเทียบเท่ากับ Hubble และ James Webb อาจถูกยกเลิก
    - โครงการสำคัญอื่น ๆ เช่น Mars Sample Return และ DAVINCI Mission to Venus ก็อาจได้รับผลกระทบ

    ผลกระทบต่อศูนย์ NASA:
    - การลดงบประมาณอาจนำไปสู่การปิดศูนย์ Goddard Space Flight Center ในรัฐแมริแลนด์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพนักงานกว่า 10,000 คน

    การตอบสนองของนักวิจารณ์:
    - นักวิจารณ์และผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายวิทยาศาสตร์เรียกการลดงบประมาณนี้ว่าเป็น "เหตุการณ์ระดับการสูญพันธุ์" สำหรับโครงการวิทยาศาสตร์ของ NASA

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    การรักษาความเป็นผู้นำด้านอวกาศ:
    - สหรัฐฯ ควรพิจารณาเพิ่มงบประมาณเพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านอวกาศและสนับสนุนการค้นพบทางวิทยาศาสตร์

    การสนับสนุนโครงการวิทยาศาสตร์:
    - ควรมีการสนับสนุนโครงการวิทยาศาสตร์ที่สำคัญเพื่อส่งเสริมการค้นพบใหม่ ๆ และการพัฒนาทางเทคโนโลยี

    การสื่อสารกับสาธารณะ:
    - NASA ควรสื่อสารกับสาธารณะเกี่ยวกับความสำคัญของโครงการวิทยาศาสตร์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการลดงบประมาณ

    https://www.neowin.net/news/trump-white-houses-proposed-huge-nasa-budget-cut-could-decimate-american-space-leadership/
    รัฐบาลทรัมป์ได้เสนอร่างงบประมาณปี 2026 ที่มีการลดงบประมาณของ NASA ลงถึง 20% หรือประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อโครงการวิทยาศาสตร์และความเป็นผู้นำด้านอวกาศของสหรัฐฯ ✅ การลดงบประมาณของ NASA: - งบประมาณของ NASA จะลดลงจาก 25 พันล้านดอลลาร์เหลือ 20 พันล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะในส่วนของ Science Mission Directorate - การลดงบประมาณนี้จะส่งผลให้โครงการวิทยาศาสตร์ เช่น Astrophysics, Planetary Science และ Earth Science ถูกลดงบประมาณลงถึง 50% ✅ โครงการที่อาจถูกยกเลิก: - Nancy Grace Roman Space Telescope ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์ที่มีศักยภาพเทียบเท่ากับ Hubble และ James Webb อาจถูกยกเลิก - โครงการสำคัญอื่น ๆ เช่น Mars Sample Return และ DAVINCI Mission to Venus ก็อาจได้รับผลกระทบ ✅ ผลกระทบต่อศูนย์ NASA: - การลดงบประมาณอาจนำไปสู่การปิดศูนย์ Goddard Space Flight Center ในรัฐแมริแลนด์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพนักงานกว่า 10,000 คน ✅ การตอบสนองของนักวิจารณ์: - นักวิจารณ์และผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายวิทยาศาสตร์เรียกการลดงบประมาณนี้ว่าเป็น "เหตุการณ์ระดับการสูญพันธุ์" สำหรับโครงการวิทยาศาสตร์ของ NASA == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ℹ️ การรักษาความเป็นผู้นำด้านอวกาศ: - สหรัฐฯ ควรพิจารณาเพิ่มงบประมาณเพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านอวกาศและสนับสนุนการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ ℹ️ การสนับสนุนโครงการวิทยาศาสตร์: - ควรมีการสนับสนุนโครงการวิทยาศาสตร์ที่สำคัญเพื่อส่งเสริมการค้นพบใหม่ ๆ และการพัฒนาทางเทคโนโลยี ℹ️ การสื่อสารกับสาธารณะ: - NASA ควรสื่อสารกับสาธารณะเกี่ยวกับความสำคัญของโครงการวิทยาศาสตร์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการลดงบประมาณ https://www.neowin.net/news/trump-white-houses-proposed-huge-nasa-budget-cut-could-decimate-american-space-leadership/
    WWW.NEOWIN.NET
    Trump White House's proposed huge NASA budget cut could "decimate American space leadership"
    A massive cut to the budget spending for NASA science research has been proposed by The White House that "could decimate American leadership in space".
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตก

    เดือนนี้ นักวิจารณ์ นักวิชาการ จะมีชื่อเสียง ส่งผลดีต่อเรื่องของการเรียนการศึกษาและงานสร้างสรรค์ แต่ภายในครอบครัวกลับจะเกิดการขัดแย้งแตกแยกไม่เข้าใจต่อกัน หญิงต่างวัยจะเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง หรือแม่ สามีกับลูกสะใภ้มีปัญหาต่อกัน หรือสะใภ้มีอำนาจ หรือลูกสาวดื้อไม่เชื่อฟังแม่ เพศหญิงจะมีปัญหาในความรัก เมียหลวงถูกเมียน้อยระราน มีโอกาสจะเป็นม่าย ที่โสดอยู่ก็ยังคงจะไม่ได้แต่ง มีเรื่องให้โศกเศร้าเสียใจ หากในบ้านมีคนป่วยจะทรุดหนัก เจ็บป่วยที่อวัยวะภายใน ท้อง ม้าม กระเพาะ ถุงน้ำดี เต้านม สะโพก ระบบประสาท ระบบทางเดินหายใจ ผมร่วง หญิงมีครรภ์คลอดบุตรในบ้านจะสูญเสีย เดินทางระวังภัยอุบัติเหตุจะได้ไม่รับบาดเจ็บให้ต้องรักษาพยาบาล

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตก เดือนนี้ นักวิจารณ์ นักวิชาการ จะมีชื่อเสียง ส่งผลดีต่อเรื่องของการเรียนการศึกษาและงานสร้างสรรค์ แต่ภายในครอบครัวกลับจะเกิดการขัดแย้งแตกแยกไม่เข้าใจต่อกัน หญิงต่างวัยจะเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง หรือแม่ สามีกับลูกสะใภ้มีปัญหาต่อกัน หรือสะใภ้มีอำนาจ หรือลูกสาวดื้อไม่เชื่อฟังแม่ เพศหญิงจะมีปัญหาในความรัก เมียหลวงถูกเมียน้อยระราน มีโอกาสจะเป็นม่าย ที่โสดอยู่ก็ยังคงจะไม่ได้แต่ง มีเรื่องให้โศกเศร้าเสียใจ หากในบ้านมีคนป่วยจะทรุดหนัก เจ็บป่วยที่อวัยวะภายใน ท้อง ม้าม กระเพาะ ถุงน้ำดี เต้านม สะโพก ระบบประสาท ระบบทางเดินหายใจ ผมร่วง หญิงมีครรภ์คลอดบุตรในบ้านจะสูญเสีย เดินทางระวังภัยอุบัติเหตุจะได้ไม่รับบาดเจ็บให้ต้องรักษาพยาบาล ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 407 มุมมอง 0 รีวิว
  • Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มโดย Elon Musk ประกาศแผนจัด "Hackathon" เพื่อพัฒนาระบบ Mega API สำหรับการเข้าถึงข้อมูลของ IRS (Internal Revenue Service) การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การ รวมศูนย์ข้อมูลของ IRS บนแพลตฟอร์มคลาวด์เดียว โดยจะช่วยให้การแชร์ข้อมูลข้ามหน่วยงานทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

    เป้าหมายของการพัฒนา Mega API:
    - ระบบ Mega API นี้จะเป็นศูนย์กลางการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญ เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขประกันสังคม (SSN) รายได้จากการเสียภาษี และข้อมูลการจ้างงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแชร์ข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐ

    การสนับสนุนจากพันธมิตรที่มีศักยภาพ:
    - Palantir Technologies ถูกกล่าวถึงว่าอาจเป็นพันธมิตรรายสำคัญในการพัฒนาระบบนี้ โดยบริษัทนี้มีความเชี่ยวชาญในการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และมีลูกค้ารัฐบาลจำนวนมาก

    การจัด Hackathon เพื่อผลักดันการพัฒนา:
    - DOGE ได้เชิญวิศวกร IRS หลายสิบคนร่วมกิจกรรม Hackathon ที่วอชิงตัน ดี.ซี. โดยตั้งเป้าหมายพัฒนาระบบ API นี้ภายในระยะเวลา 30 วัน แม้จะมีนักวิจารณ์หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่าเป็นกรอบเวลาที่สั้นเกินไปและอาจเสี่ยงต่อปัญหาความปลอดภัย

    เสียงตอบรับและข้อกังวล:
    - นักวิจารณ์บางส่วนแสดงความกังวลว่า Mega API นี้อาจกลายเป็น ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ที่เปิดทางให้เกิดการละเมิดข้อมูล เนื่องจากการรวมศูนย์ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ต้องใช้มาตรการป้องกันที่เข้มงวด

    สาระเพิ่มเติมที่น่าสนใจ:
    - โครงการนี้เกิดขึ้นหลังจาก Donald Trump ลงนามในคำสั่งบริหารเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2025 เพื่อแก้ปัญหาการสูญเสียทรัพยากรในระบบรัฐ เป้าหมายของคำสั่งนี้คือการ ขจัดความซ้ำซ้อน และเพิ่มความสามารถในการตรวจจับการฉ้อโกงและการใช้จ่ายเกินจำเป็น

    https://www.techradar.com/pro/doge-is-hosting-a-hackathon-to-build-a-mega-api-for-accessing-all-irs-and-taxpayer-data
    Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มโดย Elon Musk ประกาศแผนจัด "Hackathon" เพื่อพัฒนาระบบ Mega API สำหรับการเข้าถึงข้อมูลของ IRS (Internal Revenue Service) การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การ รวมศูนย์ข้อมูลของ IRS บนแพลตฟอร์มคลาวด์เดียว โดยจะช่วยให้การแชร์ข้อมูลข้ามหน่วยงานทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ✅ เป้าหมายของการพัฒนา Mega API: - ระบบ Mega API นี้จะเป็นศูนย์กลางการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญ เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขประกันสังคม (SSN) รายได้จากการเสียภาษี และข้อมูลการจ้างงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแชร์ข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐ ✅ การสนับสนุนจากพันธมิตรที่มีศักยภาพ: - Palantir Technologies ถูกกล่าวถึงว่าอาจเป็นพันธมิตรรายสำคัญในการพัฒนาระบบนี้ โดยบริษัทนี้มีความเชี่ยวชาญในการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และมีลูกค้ารัฐบาลจำนวนมาก ✅ การจัด Hackathon เพื่อผลักดันการพัฒนา: - DOGE ได้เชิญวิศวกร IRS หลายสิบคนร่วมกิจกรรม Hackathon ที่วอชิงตัน ดี.ซี. โดยตั้งเป้าหมายพัฒนาระบบ API นี้ภายในระยะเวลา 30 วัน แม้จะมีนักวิจารณ์หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่าเป็นกรอบเวลาที่สั้นเกินไปและอาจเสี่ยงต่อปัญหาความปลอดภัย ✅ เสียงตอบรับและข้อกังวล: - นักวิจารณ์บางส่วนแสดงความกังวลว่า Mega API นี้อาจกลายเป็น ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ที่เปิดทางให้เกิดการละเมิดข้อมูล เนื่องจากการรวมศูนย์ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ต้องใช้มาตรการป้องกันที่เข้มงวด ✅ สาระเพิ่มเติมที่น่าสนใจ: - โครงการนี้เกิดขึ้นหลังจาก Donald Trump ลงนามในคำสั่งบริหารเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2025 เพื่อแก้ปัญหาการสูญเสียทรัพยากรในระบบรัฐ เป้าหมายของคำสั่งนี้คือการ ขจัดความซ้ำซ้อน และเพิ่มความสามารถในการตรวจจับการฉ้อโกงและการใช้จ่ายเกินจำเป็น https://www.techradar.com/pro/doge-is-hosting-a-hackathon-to-build-a-mega-api-for-accessing-all-irs-and-taxpayer-data
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 386 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี Peter Diamandis นักวิทยาศาสตร์อนาคตผู้ก่อตั้ง XPRIZE Foundation ได้เผยถึงความเป็นไปได้ที่เทคโนโลยีจะช่วยชะลอ หยุด หรือแม้กระทั่งย้อนเวลากระบวนการชรา โดยอาศัยความก้าวหน้าที่ก่อเกิดจากการรวมตัวของ AI, เซ็นเซอร์, การคำนวณ, และชีววิทยาเซลล์เดียว ซึ่งเขาเรียกช่วงเวลานี้ว่า "การปฏิวัติสุขภาพช่วงชีวิต" (Healthspan Revolution)

    AI และการวิเคราะห์ข้อมูล
    - AI กำลังขับเคลื่อนความสามารถในการจัดการข้อมูลชีวภาพขนาดมหาศาล เพื่อเปิดเผยความลับของกระบวนการชราผ่านการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้ง

    การปรับเปลี่ยน Epigenome
    - Diamandis เชื่อมั่นว่า การรีโปรแกรม Epigenome ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมการทำงานของยีนในเซลล์ จะสามารถทำให้เซลล์กลับคืนสู่สภาพที่อ่อนเยาว์

    "ความเร็วหลบหนีของอายุยืน" (Longevity Escape Velocity)
    - เขาคาดการณ์ว่าในอีก 10 ปี เราอาจเข้าสู่จุดที่เทคโนโลยีสามารถยืดอายุคนได้มากกว่าหนึ่งปีสำหรับทุกปีที่เราอยู่ ซึ่งหมายความว่ากระบวนการชราจะถูกชะลอจนถึงขั้นหยุดนิ่ง

    มุมมองที่ต้องวิเคราะห์เพิ่ม:
    - แม้ว่าการทำนายของ Diamandis จะน่าตื่นเต้น แต่มีนักวิจารณ์ที่เตือนให้เราระมัดระวัง เนื่องจากคำพูดของนักวิทยาศาสตร์อนาคตบางคนมักมีแนวโน้มที่จะ มองโลกในแง่ดีเกินไป และเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ทางธุรกิจ

    https://www.techspot.com/news/107440-futurist-key-living-longer-making-2030s-ndash-ai.html
    ในวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี Peter Diamandis นักวิทยาศาสตร์อนาคตผู้ก่อตั้ง XPRIZE Foundation ได้เผยถึงความเป็นไปได้ที่เทคโนโลยีจะช่วยชะลอ หยุด หรือแม้กระทั่งย้อนเวลากระบวนการชรา โดยอาศัยความก้าวหน้าที่ก่อเกิดจากการรวมตัวของ AI, เซ็นเซอร์, การคำนวณ, และชีววิทยาเซลล์เดียว ซึ่งเขาเรียกช่วงเวลานี้ว่า "การปฏิวัติสุขภาพช่วงชีวิต" (Healthspan Revolution) ✅ AI และการวิเคราะห์ข้อมูล - AI กำลังขับเคลื่อนความสามารถในการจัดการข้อมูลชีวภาพขนาดมหาศาล เพื่อเปิดเผยความลับของกระบวนการชราผ่านการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้ง ✅ การปรับเปลี่ยน Epigenome - Diamandis เชื่อมั่นว่า การรีโปรแกรม Epigenome ซึ่งเป็นส่วนที่ควบคุมการทำงานของยีนในเซลล์ จะสามารถทำให้เซลล์กลับคืนสู่สภาพที่อ่อนเยาว์ ✅ "ความเร็วหลบหนีของอายุยืน" (Longevity Escape Velocity) - เขาคาดการณ์ว่าในอีก 10 ปี เราอาจเข้าสู่จุดที่เทคโนโลยีสามารถยืดอายุคนได้มากกว่าหนึ่งปีสำหรับทุกปีที่เราอยู่ ซึ่งหมายความว่ากระบวนการชราจะถูกชะลอจนถึงขั้นหยุดนิ่ง ✅ มุมมองที่ต้องวิเคราะห์เพิ่ม: - แม้ว่าการทำนายของ Diamandis จะน่าตื่นเต้น แต่มีนักวิจารณ์ที่เตือนให้เราระมัดระวัง เนื่องจากคำพูดของนักวิทยาศาสตร์อนาคตบางคนมักมีแนวโน้มที่จะ มองโลกในแง่ดีเกินไป และเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ทางธุรกิจ https://www.techspot.com/news/107440-futurist-key-living-longer-making-2030s-ndash-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Futurist says the key to living longer is making it to the 2030s – AI will take it from there
    On a recent Apple Podcast, Diamandis expanded upon a tweet in which he advised people to stay alive until the next decade and not die from "something...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 360 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้เล่นเกมเริ่มปฏิเสธราคาที่สูงเกินไปของ RTX 5090 โดยเฉพาะรุ่นระบายความร้อนด้วยของเหลวที่ราคาแตะ $4,000 หลายคนรอให้ราคาปรับลดลงตามอุปทาน แม้การ์ดนี้จะมีประสิทธิภาพสูง แต่วิจารณ์กันว่ายังไม่คุ้มค่าสำหรับทั้งการเล่นเกมและการใช้งาน AI นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เริ่มหันไปหาตัวเลือกที่สมเหตุสมผลกว่า

    ความแตกต่างของรุ่นและราคา:
    - รุ่นที่มีการระบายความร้อนด้วยอากาศ เช่น ASUS TUF ($2,450) และ ASUS Astral OC ($2,800) ขายหมดไปอย่างรวดเร็ว เพราะราคาที่ต่ำกว่ารุ่น Liquid Cooling.

    การเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค:
    - ในตลาดรอง เช่น eBay ราคาของ RTX 5090 บางรุ่นยังคงสูงถึง $4,222 (มากกว่า MSRP ถึง 111%) แต่มีแนวโน้มที่ผู้ใช้เริ่มหยุดซื้อการ์ดจอที่มีราคาสูงเกินไป และรอการปรับปรุงอุปทานเพื่อให้ราคาลดลง.

    บทบาทของตลาด AI:
    - ความต้องการชิปเพื่อการใช้งาน AI ยังคงดันราคาการ์ดจอให้สูงขึ้น แต่ RTX 5090 ถูกวิจารณ์ว่ายังไม่ตอบโจทย์ด้าน AI เช่น ขนาดหน่วยความจำ 32GB ที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวังเมื่อเทียบกับราคาที่เพิ่มขึ้น.

    ความเห็นจากผู้บริโภคและนักวิจารณ์:
    - การ์ดจอรุ่นนี้ถูกวิจารณ์เรื่องการเชื่อมต่อที่ไม่เสถียรและประสิทธิภาพต่อวัตต์ที่ไม่ได้พัฒนาเพิ่มขึ้นจาก RTX 4090 มากนัก แม้ว่าจะเป็นรุ่นที่ใหม่กว่า.

    https://www.techpowerup.com/334741/gamers-are-refusing-the-sky-high-rtx-5090-gpu-prices-leaving-shelves-full-of-usd-4-000-gpus
    ผู้เล่นเกมเริ่มปฏิเสธราคาที่สูงเกินไปของ RTX 5090 โดยเฉพาะรุ่นระบายความร้อนด้วยของเหลวที่ราคาแตะ $4,000 หลายคนรอให้ราคาปรับลดลงตามอุปทาน แม้การ์ดนี้จะมีประสิทธิภาพสูง แต่วิจารณ์กันว่ายังไม่คุ้มค่าสำหรับทั้งการเล่นเกมและการใช้งาน AI นี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เริ่มหันไปหาตัวเลือกที่สมเหตุสมผลกว่า ความแตกต่างของรุ่นและราคา: - รุ่นที่มีการระบายความร้อนด้วยอากาศ เช่น ASUS TUF ($2,450) และ ASUS Astral OC ($2,800) ขายหมดไปอย่างรวดเร็ว เพราะราคาที่ต่ำกว่ารุ่น Liquid Cooling. การเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค: - ในตลาดรอง เช่น eBay ราคาของ RTX 5090 บางรุ่นยังคงสูงถึง $4,222 (มากกว่า MSRP ถึง 111%) แต่มีแนวโน้มที่ผู้ใช้เริ่มหยุดซื้อการ์ดจอที่มีราคาสูงเกินไป และรอการปรับปรุงอุปทานเพื่อให้ราคาลดลง. บทบาทของตลาด AI: - ความต้องการชิปเพื่อการใช้งาน AI ยังคงดันราคาการ์ดจอให้สูงขึ้น แต่ RTX 5090 ถูกวิจารณ์ว่ายังไม่ตอบโจทย์ด้าน AI เช่น ขนาดหน่วยความจำ 32GB ที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวังเมื่อเทียบกับราคาที่เพิ่มขึ้น. ความเห็นจากผู้บริโภคและนักวิจารณ์: - การ์ดจอรุ่นนี้ถูกวิจารณ์เรื่องการเชื่อมต่อที่ไม่เสถียรและประสิทธิภาพต่อวัตต์ที่ไม่ได้พัฒนาเพิ่มขึ้นจาก RTX 4090 มากนัก แม้ว่าจะเป็นรุ่นที่ใหม่กว่า. https://www.techpowerup.com/334741/gamers-are-refusing-the-sky-high-rtx-5090-gpu-prices-leaving-shelves-full-of-usd-4-000-gpus
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Gamers Are Refusing the Sky-High RTX 5090 GPU Prices, Leaving Shelves Full of $4,000 GPUs
    While we are used to gamers buying GPUs over their MSRPs just to get the latest and greatest, it appears that there are some limits to that. According to a Redditor, who pictured a Microcenter hardware store in Dallas, Texas, there are full shelves of ASUS ROG Astral RTX 5090 GPUs with AIO liquid co...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 331 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศสวิตเซอร์แลนด์กำลังพิจารณาแก้ไขกฎหมายการเฝ้าระวัง ที่อาจกระทบถึงผู้ให้บริการ VPN และแอปส่งข้อความที่เข้ารหัส เช่น Threema และ ProtonVPN กฎหมายฉบับใหม่จะเน้นการติดตามว่าใครติดต่อกับใครบ้าง โดยไม่ได้เข้าถึงเนื้อหาการสนทนาโดยตรง อย่างไรก็ตาม บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้เริ่มรวมพลังกันเพื่อต่อต้านการเปลี่ยนแปลงที่อาจกระทบต่อสิทธิความเป็นส่วนตัวออนไลน์

    ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยออนไลน์:
    - Alexis Roussel, ผู้ร่วมก่อตั้ง NymVPN ชี้ให้เห็นว่าการลดความเป็นนิรนามออนไลน์จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล และอาจเปิดช่องทางให้เกิดการโจมตีไซเบอร์มากขึ้น.

    เป้าหมายของการเฝ้าระวัง:
    - แม้รัฐบาลอ้างว่ามุ่งเน้นความปลอดภัยและการจับกุมผู้กระทำผิด แต่กฎหมายใหม่นี้ไม่ได้เน้นการเข้าถึงเนื้อหาในการสื่อสารโดยตรง แต่เน้นไปที่การติดตามว่าใครติดต่อกับใคร.

    ความพยายามในการคัดค้าน:
    - Proton และ Threema ร่วมมือกับ NymVPN วางกลยุทธ์เพื่อแสดงผลกระทบต่อความปลอดภัยของพลเมืองและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศ โดยหวังว่าการสนับสนุนจากประชาชนจะช่วยยับยั้งการเปลี่ยนแปลงนี้ได้.

    ข้อถกเถียงเรื่องสิทธิความเป็นส่วนตัว:
    - นักวิจารณ์ชี้ว่าการเพิ่มอำนาจการเฝ้าระวังในลักษณะนี้สะท้อนถึงการลดความสำคัญของสิทธิความเป็นส่วนตัวในยุคดิจิทัล.

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/secure-encryption-and-online-anonymity-are-now-at-risk-in-switzerland-heres-what-you-need-to-know
    ประเทศสวิตเซอร์แลนด์กำลังพิจารณาแก้ไขกฎหมายการเฝ้าระวัง ที่อาจกระทบถึงผู้ให้บริการ VPN และแอปส่งข้อความที่เข้ารหัส เช่น Threema และ ProtonVPN กฎหมายฉบับใหม่จะเน้นการติดตามว่าใครติดต่อกับใครบ้าง โดยไม่ได้เข้าถึงเนื้อหาการสนทนาโดยตรง อย่างไรก็ตาม บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้เริ่มรวมพลังกันเพื่อต่อต้านการเปลี่ยนแปลงที่อาจกระทบต่อสิทธิความเป็นส่วนตัวออนไลน์ ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยออนไลน์: - Alexis Roussel, ผู้ร่วมก่อตั้ง NymVPN ชี้ให้เห็นว่าการลดความเป็นนิรนามออนไลน์จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูล และอาจเปิดช่องทางให้เกิดการโจมตีไซเบอร์มากขึ้น. เป้าหมายของการเฝ้าระวัง: - แม้รัฐบาลอ้างว่ามุ่งเน้นความปลอดภัยและการจับกุมผู้กระทำผิด แต่กฎหมายใหม่นี้ไม่ได้เน้นการเข้าถึงเนื้อหาในการสื่อสารโดยตรง แต่เน้นไปที่การติดตามว่าใครติดต่อกับใคร. ความพยายามในการคัดค้าน: - Proton และ Threema ร่วมมือกับ NymVPN วางกลยุทธ์เพื่อแสดงผลกระทบต่อความปลอดภัยของพลเมืองและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในประเทศ โดยหวังว่าการสนับสนุนจากประชาชนจะช่วยยับยั้งการเปลี่ยนแปลงนี้ได้. ข้อถกเถียงเรื่องสิทธิความเป็นส่วนตัว: - นักวิจารณ์ชี้ว่าการเพิ่มอำนาจการเฝ้าระวังในลักษณะนี้สะท้อนถึงการลดความสำคัญของสิทธิความเป็นส่วนตัวในยุคดิจิทัล. https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/secure-encryption-and-online-anonymity-are-now-at-risk-in-switzerland-heres-what-you-need-to-know
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาธิปไตยที่กินได้ (ใครได้กิน??)

    รัฐบาลของประธานาธิบดี Trump ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงนโยบายในโครงการ Broadband Equity, Access, and Deployment (BEAD) มูลค่า 42.45 พันล้านดอลลาร์ โดยยกเลิกการให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตใยแก้วนำแสง (Fiber Internet) เพื่อเปิดทางให้เทคโนโลยีอื่น เช่นบริการดาวเทียม Starlink ของ Elon Musk สามารถเข้าถึงงบประมาณจากโครงการนี้ได้มากขึ้น ซึ่งอาจอยู่ในช่วง 10 ถึง 20 พันล้านดอลลาร์

    ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Biden ก่อนหน้านี้ โครงสร้างใยแก้วนำแสงได้รับการเน้นย้ำว่าเป็นโซลูชันที่มั่นคงและพัฒนาต่อยอดได้ง่ายในอนาคต เช่น การสนับสนุนโครงข่าย 5G แต่รัฐบาล Trump มองว่านโยบายดังกล่าวมีข้อจำกัดและอุปสรรคมากเกินไป จึงเปลี่ยนมาใช้นโยบาย "เทคโนโลยีเป็นกลาง" ที่มุ่งเน้นการให้บริการอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วในราคาถูกแก่ประชาชน โดยลดข้อกำหนดที่ถูกมองว่าเป็นภาระหรือสร้างความล่าช้าในการก่อสร้าง

    นักวิจารณ์และกลุ่มผู้สนับสนุนการเข้าถึงบรอดแบนด์คุณภาพสูง เช่น Benton Institute for Broadband & Society ได้แสดงความกังวลว่า การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ประชาชนในชนบทหลายล้านคนต้องพึ่งพาบริการอินเทอร์เน็ตที่ช้ากว่า ไม่เสถียร และไม่ตอบโจทย์ความต้องการทางเทคโนโลยีในระยะยาว เช่น การแพทย์ทางไกลหรือการเล่นเกม

    การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจเป็นโอกาสทองสำหรับ Starlink ซึ่งเป็นโครงการบริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมที่บริหารโดย SpaceX แม้จะยังไม่ได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากโครงการ BEAD แต่ก็มีแนวโน้มที่จะได้รับเงินทุนจากโปรแกรมสนับสนุนบรอดแบนด์ของรัฐบาล เช่น Universal Service Programs โดย FCC และบทบาทของ Elon Musk ในรัฐบาล Trump ยังถูกตั้งคำถามถึงผลประโยชน์ทับซ้อน

    ในขณะที่นโยบายนี้อาจช่วยให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมีความรวดเร็วขึ้นในบางพื้นที่ แต่การลดความสำคัญของใยแก้วนำแสงอาจส่งผลต่อความยั่งยืนและความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์ในระยะยาว การสร้างสมดุลระหว่างเทคโนโลยีที่หลากหลายกับคุณภาพของบริการจึงเป็นความท้าทายสำคัญที่สหรัฐฯ ต้องเผชิญ

    https://www.techspot.com/news/107067-broadband-policy-shift-us-drops-fiber-priority-could.html
    ประชาธิปไตยที่กินได้ (ใครได้กิน??) รัฐบาลของประธานาธิบดี Trump ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงนโยบายในโครงการ Broadband Equity, Access, and Deployment (BEAD) มูลค่า 42.45 พันล้านดอลลาร์ โดยยกเลิกการให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตใยแก้วนำแสง (Fiber Internet) เพื่อเปิดทางให้เทคโนโลยีอื่น เช่นบริการดาวเทียม Starlink ของ Elon Musk สามารถเข้าถึงงบประมาณจากโครงการนี้ได้มากขึ้น ซึ่งอาจอยู่ในช่วง 10 ถึง 20 พันล้านดอลลาร์ ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Biden ก่อนหน้านี้ โครงสร้างใยแก้วนำแสงได้รับการเน้นย้ำว่าเป็นโซลูชันที่มั่นคงและพัฒนาต่อยอดได้ง่ายในอนาคต เช่น การสนับสนุนโครงข่าย 5G แต่รัฐบาล Trump มองว่านโยบายดังกล่าวมีข้อจำกัดและอุปสรรคมากเกินไป จึงเปลี่ยนมาใช้นโยบาย "เทคโนโลยีเป็นกลาง" ที่มุ่งเน้นการให้บริการอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วในราคาถูกแก่ประชาชน โดยลดข้อกำหนดที่ถูกมองว่าเป็นภาระหรือสร้างความล่าช้าในการก่อสร้าง นักวิจารณ์และกลุ่มผู้สนับสนุนการเข้าถึงบรอดแบนด์คุณภาพสูง เช่น Benton Institute for Broadband & Society ได้แสดงความกังวลว่า การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ประชาชนในชนบทหลายล้านคนต้องพึ่งพาบริการอินเทอร์เน็ตที่ช้ากว่า ไม่เสถียร และไม่ตอบโจทย์ความต้องการทางเทคโนโลยีในระยะยาว เช่น การแพทย์ทางไกลหรือการเล่นเกม การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจเป็นโอกาสทองสำหรับ Starlink ซึ่งเป็นโครงการบริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมที่บริหารโดย SpaceX แม้จะยังไม่ได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากโครงการ BEAD แต่ก็มีแนวโน้มที่จะได้รับเงินทุนจากโปรแกรมสนับสนุนบรอดแบนด์ของรัฐบาล เช่น Universal Service Programs โดย FCC และบทบาทของ Elon Musk ในรัฐบาล Trump ยังถูกตั้งคำถามถึงผลประโยชน์ทับซ้อน ในขณะที่นโยบายนี้อาจช่วยให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมีความรวดเร็วขึ้นในบางพื้นที่ แต่การลดความสำคัญของใยแก้วนำแสงอาจส่งผลต่อความยั่งยืนและความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์ในระยะยาว การสร้างสมดุลระหว่างเทคโนโลยีที่หลากหลายกับคุณภาพของบริการจึงเป็นความท้าทายสำคัญที่สหรัฐฯ ต้องเผชิญ https://www.techspot.com/news/107067-broadband-policy-shift-us-drops-fiber-priority-could.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Broadband policy shift in the U.S. drops fiber priority, could funnel billions to Starlink
    This move marks a departure from the Biden administration's approach, which emphasized fiber-optic networks as the most future-proof and reliable option for broadband deployment.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 486 มุมมอง 0 รีวิว
  • อเมริกาต้องมาก่อน ภาษาอังกฤษเท่านั้น? ทรัมป์เพิ่งลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารกำหนดให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐฯ มีผู้พูดภาษาสเปนประมาณ 42 ล้านคน และในเปอร์โตริโก ซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐฯ มีผู้พูดภาษาสเปนถึง 94%นักวิจารณ์กล่าวว่าการดำเนินการครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อชุมชนผู้อพยพและทำลายความหลากหลายทางภาษาของประเทศ
    อเมริกาต้องมาก่อน ภาษาอังกฤษเท่านั้น? ทรัมป์เพิ่งลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารกำหนดให้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐฯ มีผู้พูดภาษาสเปนประมาณ 42 ล้านคน และในเปอร์โตริโก ซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐฯ มีผู้พูดภาษาสเปนถึง 94%นักวิจารณ์กล่าวว่าการดำเนินการครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อชุมชนผู้อพยพและทำลายความหลากหลายทางภาษาของประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • แคลิฟอร์เนียผ่านงบคุ้มครองโรบินฮูด 50 ล้าน!

    แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ลงนามกฎหมายจัดตั้งงบประมาณ 50 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือผู้อพยพที่ตกเป็นเหยื่อเนรเทศของรัฐบาลทรัมป์

    เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2025 เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ลงนามในกฎหมายจัดสรรงบประมาณพิเศษมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สำหรับให้ความคุ้มครองประชากรกลุ่มผู้อพยพ ที่กำลังถูกคุกคามจากมาตรการ “เนรเทศขนานใหญ่” ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

    โดยงบประมาณดังกล่าว จะแบ่งเป็นสองส่วนเท่ากัน ส่วนแรก 25 ล้านดอลลาร์ มอบให้กับสำนักงานอัยการของรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อใช้เป็นเงินกองทุนต่อสู้ในเชิงกฎหมายกับรัฐบาลกลาง ส่วนที่สอง อีก 25 ล้านดอลลาร์ จะถูกแบ่งสันปันส่วนให้กับองค์กรทางกฎหมายในรัฐ ที่ทำงานให้ความช่วยเหลือผู้อพยพที่อยู่ในสภาพเสี่ยงต่อการถูกเนรเทศ

    เกวิน นิวซัม กล่าวหลังลงนามในกฎหมายว่า งบประมาณจากกฎหมายฉบับนี้ ไม่มีเจตนาช่วยเหลือหรือให้ความคุ้มครองผู้อพยพที่มีประวัติอาชญากรรม

    ทั้งนี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ตั้งตัวเป็น “คู่กัด” กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มาตั้งแต่สมัยแรกในหลายประเด็น เช่นกฎหมายคุ้มครองสภาพภูมิอากาศ, นโยบายบริหารจัดการน้ำ, สิทธิ์ของผู้อพยพ ฯลฯ จนมีการต่อสู้ในชั้นศาลระหว่างรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐบาลกลางเกิดขึ้นมากกว่า 120 คดี

    โดยระหว่างเทอมแรกของทรัมป์นั้น สำนักงานอัยการของรัฐแคลิฟอร์เนีย ใช้งบประมาณ 42 ล้านดอลลาร์ในการต่อสู้ทางกฎหมายกับรัฐบาลกลาง หรือเฉลี่ยปีละกว่า 10 ล้านดอลลาร์

    โรเบิร์ท ริวาส ประธานสภาผู้แทนราษฏรของแคลิฟอร์เนีย แถลงถึงการผลักดันกฎหมายฉบับนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เป็นเพราะ “ชาวแคลิฟอร์เนียกำลังถูกคุกคามโดยฝ่ายบริหารบ้าอำนาจ ที่ไม่สนใจรัฐธรรมนูญ และคิดว่าพวกเขามีอำนาจแบบไร้ขีดจำกัด”

    ทั้งนี้ นักวิจารณ์การเมืองทั่วไปเชื่อว่า การต่อสู้ “ยกที่สอง” ระหว่างแคลิฟอร์เนียกับรัฐบาลกลาง ซึ่งเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันแรกที่ประธานาธิบดีทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งในสมัยที่สองนั้น จะเข้นข้นและรุนแรงมากขึ้นกว่ายกที่หนึ่งอย่างแน่นอน.
    แคลิฟอร์เนียผ่านงบคุ้มครองโรบินฮูด 50 ล้าน! แอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ลงนามกฎหมายจัดตั้งงบประมาณ 50 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือผู้อพยพที่ตกเป็นเหยื่อเนรเทศของรัฐบาลทรัมป์ เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2025 เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ลงนามในกฎหมายจัดสรรงบประมาณพิเศษมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สำหรับให้ความคุ้มครองประชากรกลุ่มผู้อพยพ ที่กำลังถูกคุกคามจากมาตรการ “เนรเทศขนานใหญ่” ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยงบประมาณดังกล่าว จะแบ่งเป็นสองส่วนเท่ากัน ส่วนแรก 25 ล้านดอลลาร์ มอบให้กับสำนักงานอัยการของรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อใช้เป็นเงินกองทุนต่อสู้ในเชิงกฎหมายกับรัฐบาลกลาง ส่วนที่สอง อีก 25 ล้านดอลลาร์ จะถูกแบ่งสันปันส่วนให้กับองค์กรทางกฎหมายในรัฐ ที่ทำงานให้ความช่วยเหลือผู้อพยพที่อยู่ในสภาพเสี่ยงต่อการถูกเนรเทศ เกวิน นิวซัม กล่าวหลังลงนามในกฎหมายว่า งบประมาณจากกฎหมายฉบับนี้ ไม่มีเจตนาช่วยเหลือหรือให้ความคุ้มครองผู้อพยพที่มีประวัติอาชญากรรม ทั้งนี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ตั้งตัวเป็น “คู่กัด” กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มาตั้งแต่สมัยแรกในหลายประเด็น เช่นกฎหมายคุ้มครองสภาพภูมิอากาศ, นโยบายบริหารจัดการน้ำ, สิทธิ์ของผู้อพยพ ฯลฯ จนมีการต่อสู้ในชั้นศาลระหว่างรัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐบาลกลางเกิดขึ้นมากกว่า 120 คดี โดยระหว่างเทอมแรกของทรัมป์นั้น สำนักงานอัยการของรัฐแคลิฟอร์เนีย ใช้งบประมาณ 42 ล้านดอลลาร์ในการต่อสู้ทางกฎหมายกับรัฐบาลกลาง หรือเฉลี่ยปีละกว่า 10 ล้านดอลลาร์ โรเบิร์ท ริวาส ประธานสภาผู้แทนราษฏรของแคลิฟอร์เนีย แถลงถึงการผลักดันกฎหมายฉบับนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เป็นเพราะ “ชาวแคลิฟอร์เนียกำลังถูกคุกคามโดยฝ่ายบริหารบ้าอำนาจ ที่ไม่สนใจรัฐธรรมนูญ และคิดว่าพวกเขามีอำนาจแบบไร้ขีดจำกัด” ทั้งนี้ นักวิจารณ์การเมืองทั่วไปเชื่อว่า การต่อสู้ “ยกที่สอง” ระหว่างแคลิฟอร์เนียกับรัฐบาลกลาง ซึ่งเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันแรกที่ประธานาธิบดีทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งในสมัยที่สองนั้น จะเข้นข้นและรุนแรงมากขึ้นกว่ายกที่หนึ่งอย่างแน่นอน.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานข่าวจากMGR Chinaระบุว่าหลายคนงง! ทำไมจีนส่ง “นักรบหมาป่า” ประจำด่านยุโรป

    ข่าวจีนแต่งตั้งนายหลู ซาแหย่ อดีตเอกอัครราชทูตประจำฝรั่งเศส วัย 60 ปี เป็น #ผู้แทนพิเศษฝ่ายกิจการยุโรป ทำเอานักการทูตรู้สึกประหลาดใจไปตามๆ กัน เนื่องจากเป็นการแต่งตั้งในช่วงที่ #ความสัมพันธ์จีน-ยุโรปมาถึงจุดเปลี่ยน แต่ด้วยสไตล์บู๊มากกว่าบุ๋นของนายหลู เขาจึงไม่น่าจะใช่กับช่วงเวลาที่มีความละเอียดอ่อนเช่นนี้

    นายหลูขึ้นชื่อในเรื่องการออกมาปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างดุดัน จนได้รับฉายานักการทูต “นักรบหมาป่า” ( #Wolf Warrior) ตัวฉกาจ ฉายานี้ใช้เรียกบุคคลที่ออกมาตอบโต้นักวิจารณ์ซึ่งถูกมองว่าเป็นศัตรูกับจีนได้อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน

    ท่านทูตผู้นี้เอ่ยวาทะเด็ด แต่ไม่เข้าหูชาติในสหภาพยุโรป (อียู) บ่อยครั้ง เช่น เมื่อปี 2566 ขณะประจำอยู่ที่ฝรั่งเศส นายหลูตั้งคำถามเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยของรัฐอดีตสหภาพโซเวียต เขากล่าวกับสถานีโทรทัศน์ว่า รัฐเหล่านี้ไม่มีสถานะที่มีผลบังคับใช้ในกฎหมายระหว่างประเทศ นายหลูมีนัยถึง #กลุ่มรัฐบอลติกคือ เอสโตเนีย ลัตเวีย และลิทัวเนียซึ่งเคยเป็นสาธารณรัฐของสหภาพโซเวียต แต่ปัจจุบันเป็นสมาชิกอียูและองค์การนาโต

    “เรายังจำคำพูดเกี่ยวกับรัฐบอลติกนี้ได้ดี” นักการทูตยุโรปในกรุงปักกิ่งคนหนึ่งระบุ

    มีอยู่คราวหนึ่งนาย อังตวน บงดาซ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนของมูลนิธิเพื่อการวิจัยเชิงยุทธศาสตร์ (FRS) ซึ่งเป็นสถาบันนักคิด บ่นจีนว่ากดดันไม่ให้สมาชิกสภานิติบัญญัติฝรั่งเศสไปเยือนไต้หวัน ท่านทูตหลูก็เลยจัดให้ชุดใหญ่ไฟกะพริบ ประณามนายบงดาซ์ว่า เป็น “อันธพาลตัวกะเปี๊ยก” “หมาไนบ้า” และ “ตัวป่วนอุดมการณ์” ซึ่งมีจุดยืนต่อต้านจีน กระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสออถแถลงการณ์ประณาม รับไม่ได้กับความคิดเห็นของนายหลู รวมถึง "การดูถูกและข่มขู่ต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติและนักวิจัยชาวฝรั่งเศส" เป็นเรื่องเกิดขึ้นเมื่อปี 2564

    ต่อมาในปี 2565 นายหลูให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ แนะให้ชาวไต้หวันเข้ารับการปรับทัศนติเมื่อจีนผนวกไต้หวัน ฝ่ายสนับสนุนเอกราชไต้หวันถึงกับเต้น

    นายหลูดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำฝรั่งเศสจนครบวาระ 5 ปีในเดือนธันวาคมปี 2567

    ก่อนหน้านั้น สมัยเป็นเอกอัครราชทูตประจำแคนาดา เขาเคยกล่าวหารัฐบาลแคนาดาเมื่อเดือนมกราคมปี 2562 ว่าเป็นคนผิวขาวที่วางอำนาจยิ่งใหญ่เหนือผู้อื่น จากกรณีที่เรียกร้องให้ปล่อยตัวชาวแคนาดา 2 คนซึ่งถูกจีนควบคุมตัว การจับกุมชาวแคนาดาเกิดขึ้น หลังจาก “เมิ่ง หวั่นโจว” ซีอีโอบริษัทหัวเว่ยถูกแคนาดาจับกุมตัวตามคำร้องขอของสหรัฐอเมริกา

    โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงข่าวการแต่งตั้งเมื่อวันพฤหัสฯ (6 ก.พ.) ว่า นายหลูจะช่วยเหลือและประสานงานการจัดการในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอียู โดยเขาเป็นนักการทูตระดับสูงผู้รอบรู้สถานการณ์ในยุโรปเป็นอย่างดี

    ที่ว่าความสัมพันธ์จีน-ยุโรปเดินมาถึงจุดเปลี่ยนนั่นก็คือ พวกสายเหยี่ยวต้านจีนในอียู เช่น นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยนประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ส่งสัญญาณว่ายินดีที่จะทบทวนความสัมพันธ์จีน-อียู ที่กำลังย่ำแย่ อันเนื่องมาจากปัญหาขัดแย้งทางการค้าและความไม่พอใจที่จีนมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับรัสเซีย

    อียูเริ่มเปลี่ยนท่าทีท่ามกลางความตึงเครียดที่ส่อเค้าระหว่างอียู-สหรัฐฯ หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 10% และขู่ขึ้นภาษีกับยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

    ผู้แทนพิเศษฝ่ายกิจการยุโรปเป็นตำแหน่งที่จีนตั้งขึ้นเมื่อปี 2562 โดยนายหลูรับตำแหน่งสืบต่อจากนายอู๋ หงปั๋ว วัย 72 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งคนแรก

    ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์
    ภาพประกอบข่าว
    นายหลู ซาแหย่ อดีตเอกอัครราชทูตจีนประจำฝรั่งเศสและผู้แทนพิเศษฝ่ายกิจการยุโรปคนใหม่ - ภาพ : ซินหัว
    รายงานข่าวจากMGR Chinaระบุว่าหลายคนงง! ทำไมจีนส่ง “นักรบหมาป่า” ประจำด่านยุโรป ข่าวจีนแต่งตั้งนายหลู ซาแหย่ อดีตเอกอัครราชทูตประจำฝรั่งเศส วัย 60 ปี เป็น #ผู้แทนพิเศษฝ่ายกิจการยุโรป ทำเอานักการทูตรู้สึกประหลาดใจไปตามๆ กัน เนื่องจากเป็นการแต่งตั้งในช่วงที่ #ความสัมพันธ์จีน-ยุโรปมาถึงจุดเปลี่ยน แต่ด้วยสไตล์บู๊มากกว่าบุ๋นของนายหลู เขาจึงไม่น่าจะใช่กับช่วงเวลาที่มีความละเอียดอ่อนเช่นนี้ นายหลูขึ้นชื่อในเรื่องการออกมาปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างดุดัน จนได้รับฉายานักการทูต “นักรบหมาป่า” ( #Wolf Warrior) ตัวฉกาจ ฉายานี้ใช้เรียกบุคคลที่ออกมาตอบโต้นักวิจารณ์ซึ่งถูกมองว่าเป็นศัตรูกับจีนได้อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน ท่านทูตผู้นี้เอ่ยวาทะเด็ด แต่ไม่เข้าหูชาติในสหภาพยุโรป (อียู) บ่อยครั้ง เช่น เมื่อปี 2566 ขณะประจำอยู่ที่ฝรั่งเศส นายหลูตั้งคำถามเกี่ยวกับอำนาจอธิปไตยของรัฐอดีตสหภาพโซเวียต เขากล่าวกับสถานีโทรทัศน์ว่า รัฐเหล่านี้ไม่มีสถานะที่มีผลบังคับใช้ในกฎหมายระหว่างประเทศ นายหลูมีนัยถึง #กลุ่มรัฐบอลติกคือ เอสโตเนีย ลัตเวีย และลิทัวเนียซึ่งเคยเป็นสาธารณรัฐของสหภาพโซเวียต แต่ปัจจุบันเป็นสมาชิกอียูและองค์การนาโต “เรายังจำคำพูดเกี่ยวกับรัฐบอลติกนี้ได้ดี” นักการทูตยุโรปในกรุงปักกิ่งคนหนึ่งระบุ มีอยู่คราวหนึ่งนาย อังตวน บงดาซ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านจีนของมูลนิธิเพื่อการวิจัยเชิงยุทธศาสตร์ (FRS) ซึ่งเป็นสถาบันนักคิด บ่นจีนว่ากดดันไม่ให้สมาชิกสภานิติบัญญัติฝรั่งเศสไปเยือนไต้หวัน ท่านทูตหลูก็เลยจัดให้ชุดใหญ่ไฟกะพริบ ประณามนายบงดาซ์ว่า เป็น “อันธพาลตัวกะเปี๊ยก” “หมาไนบ้า” และ “ตัวป่วนอุดมการณ์” ซึ่งมีจุดยืนต่อต้านจีน กระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสออถแถลงการณ์ประณาม รับไม่ได้กับความคิดเห็นของนายหลู รวมถึง "การดูถูกและข่มขู่ต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติและนักวิจัยชาวฝรั่งเศส" เป็นเรื่องเกิดขึ้นเมื่อปี 2564 ต่อมาในปี 2565 นายหลูให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ แนะให้ชาวไต้หวันเข้ารับการปรับทัศนติเมื่อจีนผนวกไต้หวัน ฝ่ายสนับสนุนเอกราชไต้หวันถึงกับเต้น นายหลูดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำฝรั่งเศสจนครบวาระ 5 ปีในเดือนธันวาคมปี 2567 ก่อนหน้านั้น สมัยเป็นเอกอัครราชทูตประจำแคนาดา เขาเคยกล่าวหารัฐบาลแคนาดาเมื่อเดือนมกราคมปี 2562 ว่าเป็นคนผิวขาวที่วางอำนาจยิ่งใหญ่เหนือผู้อื่น จากกรณีที่เรียกร้องให้ปล่อยตัวชาวแคนาดา 2 คนซึ่งถูกจีนควบคุมตัว การจับกุมชาวแคนาดาเกิดขึ้น หลังจาก “เมิ่ง หวั่นโจว” ซีอีโอบริษัทหัวเว่ยถูกแคนาดาจับกุมตัวตามคำร้องขอของสหรัฐอเมริกา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงข่าวการแต่งตั้งเมื่อวันพฤหัสฯ (6 ก.พ.) ว่า นายหลูจะช่วยเหลือและประสานงานการจัดการในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอียู โดยเขาเป็นนักการทูตระดับสูงผู้รอบรู้สถานการณ์ในยุโรปเป็นอย่างดี ที่ว่าความสัมพันธ์จีน-ยุโรปเดินมาถึงจุดเปลี่ยนนั่นก็คือ พวกสายเหยี่ยวต้านจีนในอียู เช่น นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยนประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ส่งสัญญาณว่ายินดีที่จะทบทวนความสัมพันธ์จีน-อียู ที่กำลังย่ำแย่ อันเนื่องมาจากปัญหาขัดแย้งทางการค้าและความไม่พอใจที่จีนมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับรัสเซีย อียูเริ่มเปลี่ยนท่าทีท่ามกลางความตึงเครียดที่ส่อเค้าระหว่างอียู-สหรัฐฯ หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 10% และขู่ขึ้นภาษีกับยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้แทนพิเศษฝ่ายกิจการยุโรปเป็นตำแหน่งที่จีนตั้งขึ้นเมื่อปี 2562 โดยนายหลูรับตำแหน่งสืบต่อจากนายอู๋ หงปั๋ว วัย 72 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งคนแรก ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์ ภาพประกอบข่าว นายหลู ซาแหย่ อดีตเอกอัครราชทูตจีนประจำฝรั่งเศสและผู้แทนพิเศษฝ่ายกิจการยุโรปคนใหม่ - ภาพ : ซินหัว
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1003 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท Bitfarms ซึ่งเป็นบริษัทขุดบิตคอยน์จากแคนาดา ที่กำลังพิจารณาเปลี่ยนแปลงบางส่วนของโรงงานให้เป็นศูนย์ข้อมูลปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาด AI โดยบริษัทได้ว่าจ้างที่ปรึกษาสองรายคือ Appleby Strategy Group และ World Wide Technology เพื่อวิเคราะห์สถานที่ในอเมริกาเหนือและให้คำแนะนำเกี่ยวกับกลยุทธ์การคำนวณและ AI ของบริษัท

    การเปลี่ยนแปลงนี้มีความสำคัญเนื่องจากบริษัทขุดบิตคอยน์มักมีที่ดินขนาดใหญ่และทรัพยากรพลังงานที่สำคัญ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับศูนย์ข้อมูลประสิทธิภาพสูง (HPC) และ AI อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้อาจไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากศูนย์ข้อมูล AI มีความซับซ้อนมากกว่า

    Bitfarms หวังว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้บริษัทมีรายได้ที่มั่นคงและต่อเนื่องจากลูกค้า HPC/AI ในขณะที่ยังคงดำเนินการขุดบิตคอยน์ต่อไปเพื่อใช้ประโยชน์จากศักยภาพของบิตคอยน์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/31/canadian-bitcoin-miner-bitfarms-mulls-pivot-to-ai-data-centers
    บริษัท Bitfarms ซึ่งเป็นบริษัทขุดบิตคอยน์จากแคนาดา ที่กำลังพิจารณาเปลี่ยนแปลงบางส่วนของโรงงานให้เป็นศูนย์ข้อมูลปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาด AI โดยบริษัทได้ว่าจ้างที่ปรึกษาสองรายคือ Appleby Strategy Group และ World Wide Technology เพื่อวิเคราะห์สถานที่ในอเมริกาเหนือและให้คำแนะนำเกี่ยวกับกลยุทธ์การคำนวณและ AI ของบริษัท การเปลี่ยนแปลงนี้มีความสำคัญเนื่องจากบริษัทขุดบิตคอยน์มักมีที่ดินขนาดใหญ่และทรัพยากรพลังงานที่สำคัญ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับศูนย์ข้อมูลประสิทธิภาพสูง (HPC) และ AI อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้อาจไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากศูนย์ข้อมูล AI มีความซับซ้อนมากกว่า Bitfarms หวังว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้บริษัทมีรายได้ที่มั่นคงและต่อเนื่องจากลูกค้า HPC/AI ในขณะที่ยังคงดำเนินการขุดบิตคอยน์ต่อไปเพื่อใช้ประโยชน์จากศักยภาพของบิตคอยน์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/31/canadian-bitcoin-miner-bitfarms-mulls-pivot-to-ai-data-centers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Canadian bitcoin miner Bitfarms mulls pivot to AI data centers
    (Reuters) - Toronto-based bitcoin miner Bitfarms has enlisted two consultants to explore how it can transform some of its facilities to meet the growing demand for artificial intelligence data centers, it said on Friday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 402 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยจะออกคำสั่งให้กระทรวงกลาโหม(เพนตากอน) และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เตรียมพร้อมอาคารกักกันคนเข้าเมือง ณ เรือนจำอ่าวกวนตานาโม สำหรับรองรับพวกผู้อพยพสูงสุด 30,000 คน ที่ไม่สามารถเนรเทศกลับประเทศต้นทางได้
    .
    ที่ผ่านมา ฐานทัพเรือสหรัฐฯในอ่าวกวนตานาโม ประเทศคิวบา เป็นที่ตั้งของสถานที่ผู้อพยพแห่งหนึ่งอยู่ก่อนแล้ว แยกจากเรือนจำที่มีรักษาความปลอดภัยในระดับสูงของสหรัฐฯ ที่มีไว้คุมขังพวกผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายต่างชาติ ขณะที่ศูนย์อพยพแห่งนี้ถูกใช้งานเป็นครั้งคราวในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงใช้คุมตัวผู้อพยพชาวเฮติและชาวคิวบา ที่จับตัวได้กลางทะเล
    .
    ทอม โอแมน ซาร์ด้านเขตแดนของทรัมป์ ระบุในเวลาต่อมาในวันพุธ(29ม.ค.) รัฐบาลจะขยายศูนย์ดังกล่าวที่มีอยู่แล้ว และจะมอบหน้าที่ให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ (ICE) เป็นผู้ดูแล
    .
    "วันนี้ ผมลงนามในคำสั่งบริหาร สั่งการให้กระทรวงกลาโหมและกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เริ่มเตรียมการศูนย์คนเข้าเมืองรองรับ 30,000 คน ที่อ่าวกวนตานาโม" ทรัมป์ บอกที่ทำเนียบขาว
    .
    ทรัมป์ กล่าวด้วยว่าศูนย์แห่งนี้ "จะถูกใช้ควบคุมตัวอาชญากรต่างด้าวเลวร้ายผิดกฎหมายที่คุกคามประชาชนชาวอเมริกา บางส่วนในนั้นเลวเสียจนกระทั่ง เราไม่อาจไว้วางใจให้ประเทศต่างๆควบคุมตัวพวกเขา เพราะว่าเราไม่ต้องการให้พวกเขากลับมาอีก ดังนั้น เรากำลังส่งตัวพวกเขาไปยังกวนตานาโม นี่จะเพิ่มความจุของเราเป็นเท่าตัวในทันที"
    .
    ไม่นานหลังจากนั้น ทรัมป์ลงนามในบันทึกความเข้าใจ ซึ่งไม่ได้ระบุถึงจำนวนพวกผู้อพยพ แต่เรียกร้องให้เพิ่มพื้นที่กักขัง ณ ศูนย์ที่ได้รับการขยายแห่งนี้
    .
    เมื่อถูกถามว่าศูนย์แห่งนี้จำเป็นต้องใช้เงินมากน้อยแค่ไหน ทาง คริสตี โนเอม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ตอบว่ารัฐบาลกำลังทำงานในเรื่องนี้ ภายใต้การประนีประนอมและการจัดสรรในสภาคองเกรส
    .
    เรือนจำในอ่าวกวตานาโม ถูกจัดตั้งขึ้นมาในปี 2002 โดยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู.บุช ณ ขณะนั้น เพื่อกักขังพวกผู้ต้องสงสัยนักรบต่างๆชาติ ตามหลังเหตุวินาศกรรมโจมตีสหรัฐฯ วันที่ 11 กันยายน 2001 และเวลานี้ยังเหนือผู้ต้องขังในเรือนจำ 15 คน
    .
    บารัค โอบามา และ โจ ไบเดน 2 ประธานาธิบดีคนก่อนหน้าทรัมป์ ซึ่งมาจากเดโมแครตทั้งคู่ หาทางปิดเรือนจำกวนตานาโม แต่ทำได้เพียงลดประชากรผู้ต้องขัง อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ประกาศว่าจะให้เรือนจำแห่งนี้เปิดทำการต่อไป
    .
    สถานคุมขังแห่งนี้ถูกประณามมาช้านานจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลาย สำหรับการกักขังอย่างไม่มีกำหนดและกลายมาเป็นสัญลักษณ์ความเลยเถิดของ "สงครามต่อต้านก่อการร้าย" ของสหรัฐฯ สืบเนื่องจากมีการใช้วิธีสอบปากคำที่เหี้ยมโหด ที่พวกนักวิจารณ์บอกว่าไม่ต่างจากการทรมาน
    .
    อย่างไรก็ตามศูนย์อพยพสำหรับคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย จะแยกออกจากสถานคุมขังในเรือนจำแห่งนี้
    .
    มิเกล ดิอาซ คาเนล ประธานาธิบดีคิวบาในวันพุธ(29ม.ค.) ให้คำจำกัดความว่า "เป็นการกระทำที่โหดร้ายทารุณ" ประณามแผนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในจะควบคุมตัวคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย ณ เรือนจำทหารกวนตานาโม
    .
    "ในการกระทำที่โหดร้ายทารุณ รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯแถลงเกี่ยวกับการกักขังที่ฐานทัพเรือกวนตานาโม ตั้งอยู่ในดินแดนคิวบา ที่ถูกยึดครองอย่างผิดกฎหมาย" ประธานาธิบดีคิวบาเขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ พร้อมระบุพวกผู้อพยพจะถูกคุมขังใกล้สถานที่ต่างๆที่เขาบอกว่าสหรัฐฯเคยใช้มัน "ทรมานและกักขังผิดกฎหมาย"
    .
    การตัดสินใจล่าสุดเป็นความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมจากกรณีที่กองทัพสหรัฐฯใช้เครื่องบินทหารลำเลียงพวกผู้อพยพที่ถูกเทรเนศออกนอกประเทศ และส่งทหารประจำการกว่า 1,600 นาย เข้าไปบริเวณแนวชายแดนสหรัฐฯติดกับเม็กซิโก หลังจาก ทรัมป์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านผู้อพยพเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009491
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เปิดเผยจะออกคำสั่งให้กระทรวงกลาโหม(เพนตากอน) และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เตรียมพร้อมอาคารกักกันคนเข้าเมือง ณ เรือนจำอ่าวกวนตานาโม สำหรับรองรับพวกผู้อพยพสูงสุด 30,000 คน ที่ไม่สามารถเนรเทศกลับประเทศต้นทางได้ . ที่ผ่านมา ฐานทัพเรือสหรัฐฯในอ่าวกวนตานาโม ประเทศคิวบา เป็นที่ตั้งของสถานที่ผู้อพยพแห่งหนึ่งอยู่ก่อนแล้ว แยกจากเรือนจำที่มีรักษาความปลอดภัยในระดับสูงของสหรัฐฯ ที่มีไว้คุมขังพวกผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายต่างชาติ ขณะที่ศูนย์อพยพแห่งนี้ถูกใช้งานเป็นครั้งคราวในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ในนั้นรวมถึงใช้คุมตัวผู้อพยพชาวเฮติและชาวคิวบา ที่จับตัวได้กลางทะเล . ทอม โอแมน ซาร์ด้านเขตแดนของทรัมป์ ระบุในเวลาต่อมาในวันพุธ(29ม.ค.) รัฐบาลจะขยายศูนย์ดังกล่าวที่มีอยู่แล้ว และจะมอบหน้าที่ให้ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ (ICE) เป็นผู้ดูแล . "วันนี้ ผมลงนามในคำสั่งบริหาร สั่งการให้กระทรวงกลาโหมและกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เริ่มเตรียมการศูนย์คนเข้าเมืองรองรับ 30,000 คน ที่อ่าวกวนตานาโม" ทรัมป์ บอกที่ทำเนียบขาว . ทรัมป์ กล่าวด้วยว่าศูนย์แห่งนี้ "จะถูกใช้ควบคุมตัวอาชญากรต่างด้าวเลวร้ายผิดกฎหมายที่คุกคามประชาชนชาวอเมริกา บางส่วนในนั้นเลวเสียจนกระทั่ง เราไม่อาจไว้วางใจให้ประเทศต่างๆควบคุมตัวพวกเขา เพราะว่าเราไม่ต้องการให้พวกเขากลับมาอีก ดังนั้น เรากำลังส่งตัวพวกเขาไปยังกวนตานาโม นี่จะเพิ่มความจุของเราเป็นเท่าตัวในทันที" . ไม่นานหลังจากนั้น ทรัมป์ลงนามในบันทึกความเข้าใจ ซึ่งไม่ได้ระบุถึงจำนวนพวกผู้อพยพ แต่เรียกร้องให้เพิ่มพื้นที่กักขัง ณ ศูนย์ที่ได้รับการขยายแห่งนี้ . เมื่อถูกถามว่าศูนย์แห่งนี้จำเป็นต้องใช้เงินมากน้อยแค่ไหน ทาง คริสตี โนเอม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ตอบว่ารัฐบาลกำลังทำงานในเรื่องนี้ ภายใต้การประนีประนอมและการจัดสรรในสภาคองเกรส . เรือนจำในอ่าวกวตานาโม ถูกจัดตั้งขึ้นมาในปี 2002 โดยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู.บุช ณ ขณะนั้น เพื่อกักขังพวกผู้ต้องสงสัยนักรบต่างๆชาติ ตามหลังเหตุวินาศกรรมโจมตีสหรัฐฯ วันที่ 11 กันยายน 2001 และเวลานี้ยังเหนือผู้ต้องขังในเรือนจำ 15 คน . บารัค โอบามา และ โจ ไบเดน 2 ประธานาธิบดีคนก่อนหน้าทรัมป์ ซึ่งมาจากเดโมแครตทั้งคู่ หาทางปิดเรือนจำกวนตานาโม แต่ทำได้เพียงลดประชากรผู้ต้องขัง อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ประกาศว่าจะให้เรือนจำแห่งนี้เปิดทำการต่อไป . สถานคุมขังแห่งนี้ถูกประณามมาช้านานจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลาย สำหรับการกักขังอย่างไม่มีกำหนดและกลายมาเป็นสัญลักษณ์ความเลยเถิดของ "สงครามต่อต้านก่อการร้าย" ของสหรัฐฯ สืบเนื่องจากมีการใช้วิธีสอบปากคำที่เหี้ยมโหด ที่พวกนักวิจารณ์บอกว่าไม่ต่างจากการทรมาน . อย่างไรก็ตามศูนย์อพยพสำหรับคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย จะแยกออกจากสถานคุมขังในเรือนจำแห่งนี้ . มิเกล ดิอาซ คาเนล ประธานาธิบดีคิวบาในวันพุธ(29ม.ค.) ให้คำจำกัดความว่า "เป็นการกระทำที่โหดร้ายทารุณ" ประณามแผนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ในจะควบคุมตัวคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย ณ เรือนจำทหารกวนตานาโม . "ในการกระทำที่โหดร้ายทารุณ รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯแถลงเกี่ยวกับการกักขังที่ฐานทัพเรือกวนตานาโม ตั้งอยู่ในดินแดนคิวบา ที่ถูกยึดครองอย่างผิดกฎหมาย" ประธานาธิบดีคิวบาเขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ พร้อมระบุพวกผู้อพยพจะถูกคุมขังใกล้สถานที่ต่างๆที่เขาบอกว่าสหรัฐฯเคยใช้มัน "ทรมานและกักขังผิดกฎหมาย" . การตัดสินใจล่าสุดเป็นความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมจากกรณีที่กองทัพสหรัฐฯใช้เครื่องบินทหารลำเลียงพวกผู้อพยพที่ถูกเทรเนศออกนอกประเทศ และส่งทหารประจำการกว่า 1,600 นาย เข้าไปบริเวณแนวชายแดนสหรัฐฯติดกับเม็กซิโก หลังจาก ทรัมป์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านผู้อพยพเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009491 .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    Sad
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2700 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้อัปเดตไดรเวอร์ Linux ของตนด้วยการเพิ่ม PCI IDs ใหม่สามรายการสำหรับกราฟิกการ์ดซีรีส์ Arc B "Battlemage" ซึ่งประกอบด้วยรุ่น B580 และ B570 ที่ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากผู้ใช้และนักวิจารณ์

    การอัปเดตนี้ทำให้เกิดการคาดเดาว่า Intel อาจกำลังเตรียมเปิดตัวกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ในซีรีส์ Battlemage ซึ่งอาจเป็นรุ่นที่มี VRAM ขนาดใหญ่ขึ้นและเน้นการใช้งานในงานเวิร์กสเตชัน โดยมีการคาดการณ์ว่าการเปิดตัวนี้อาจเกิดขึ้นในปลายปี 2025

    นอกจากนี้ บทความยังกล่าวถึงการที่ Intel ได้ยืนยันว่าได้เสร็จสิ้นการพัฒนาเทคโนโลยี Xe3 "Celestial" และกำลังเริ่มทำงานกับเทคโนโลยี Xe4 "Druid" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของ Intel ในการพัฒนากราฟิกการ์ด

    การอัปเดตไดรเวอร์นี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Intel ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    https://www.techpowerup.com/331740/intel-updates-linux-driver-with-three-unannounced-battlemage-pci-ids
    Intel ได้อัปเดตไดรเวอร์ Linux ของตนด้วยการเพิ่ม PCI IDs ใหม่สามรายการสำหรับกราฟิกการ์ดซีรีส์ Arc B "Battlemage" ซึ่งประกอบด้วยรุ่น B580 และ B570 ที่ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากผู้ใช้และนักวิจารณ์ การอัปเดตนี้ทำให้เกิดการคาดเดาว่า Intel อาจกำลังเตรียมเปิดตัวกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ในซีรีส์ Battlemage ซึ่งอาจเป็นรุ่นที่มี VRAM ขนาดใหญ่ขึ้นและเน้นการใช้งานในงานเวิร์กสเตชัน โดยมีการคาดการณ์ว่าการเปิดตัวนี้อาจเกิดขึ้นในปลายปี 2025 นอกจากนี้ บทความยังกล่าวถึงการที่ Intel ได้ยืนยันว่าได้เสร็จสิ้นการพัฒนาเทคโนโลยี Xe3 "Celestial" และกำลังเริ่มทำงานกับเทคโนโลยี Xe4 "Druid" ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของ Intel ในการพัฒนากราฟิกการ์ด การอัปเดตไดรเวอร์นี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Intel ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว https://www.techpowerup.com/331740/intel-updates-linux-driver-with-three-unannounced-battlemage-pci-ids
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Intel Updates Linux Driver with Three Unannounced Battlemage PCI IDs
    Intel's relatively new lineup of Arc B-series "Battlemage" desktop graphics cards consists of B580 and B570 GPUs—these affordable models have been warmly welcomed by reviewers and customers alike. PC hardware enthusiasts—with larger wallets—will be pondering over possible future launches of mid-tier...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบื้องหลังที่เมลาเนียสวมหมวกพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของทรัมป์21 มกราคม 2568 -รายงานข่าวเดลิเมล์ ระบุว่าเหตุผลที่แท้จริงที่เมลาเนีย ทรัมป์ในฐานะสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งทำในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งสวมหมวกปิดปังสายตาในพิธีสาบานตนรับตำแหสมัยน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของโดนัล ทรัมป์  โดยในครั้งนี้ เมลาเนียเลือกที่จะใส่ชุดเดรสสีกรมท่าที่ทำจากผ้าไหมและผ้าขนสัตว์ที่ตัดเย็บพิเศษ โดยกระโปรงทรงดินสอและเสื้อเบลาส์ไหมสีงาช้างเข้ากัน ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่ติดตามแฟชั่นหลายคน เนื่องจากชุดเดรสทั้งหมดตัดเย็บด้วยมือในนิวยอร์กซิตี้โดยนักออกแบบชาวอเมริกันที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างอดัม ลิปเปส ขณะเสื้อตัวในของเมลาเนียออกแบบโดยเอริก จาวิตส์ นักออกแบบชาวอเมริกันอีกคน ทำให้ชุดที่สะดุดตาชุดนี้สมบูรณ์แบบแต่เป็นที่น่าสังเกตว่านับตั้งแต่ฮิลลารี คลินตันในปี 1993 เป็นต้นมา สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งไม่เคยเลือกสวมหมวกในวันพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของสามี แต่ครั้งนี้เมลาเนียสวมหมวกไม่เพียงแต่ทำให้ชุดของเมลาเนียดูมีมิติมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังบดบังดวงตาของเธอได้เกือบทั้งหมดสำหรับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อในเรื่องความชื่นชอบแว่นกันแดดอย่างเมลาเนีย นี่อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในวันที่คนทั้งโลกจะจับตามองเธอเธอหลีกเลี่ยงแบรนด์ยุโรปที่เธอชอบ (แม้ว่าจะเลือกทั้ง Dolce & Gabbana และ Dior ในงานเฉลิมฉลองก่อนเข้ารับตำแหน่งต่างๆ) และให้ความสำคัญกับนักออกแบบสองคนที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักคือ Lippes Javits ซึ่งตอนนี้แบรนด์ของพวกเขาอาจเพิ่มยอดขายอย่างกะทันหันได้ด้วยการอุปถัมภ์ของประธานาธิบดีAdam Lippes – ผู้มีโชว์รูมแบบสตูดิโอขนาดเล็กในห้างสรรพสินค้าหรู Brookfield Place (ใกล้กับ One World Trade Center) – ถือเป็นน้องใหม่ และแน่นอนว่าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของกลุ่มคนชั้นสูงในโลกแฟชั่นของนิวยอร์กJavits เองก็พูดอย่างภาคภูมิใจเกี่ยวกับผลงานที่เขาประดิษฐ์ด้วยมือ ซึ่งเขาทำเอง (เย็บด้วยเครื่องจักรเพียงแปดเปอร์เซ็นต์ของงานเย็บมือบนหมวก)"ไม่มีมืออื่นใดสัมผัสมันเลย... ก่อนที่ Herve [Pierre สไตลิสต์ส่วนตัวของ Melania] และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งจะได้รับมัน" เขากล่าวกิจการของ Eric Javits อยู่ไกลออกไปอีก เขาเป็นผู้จัดหาเครื่องประดับศีรษะและเครื่องประดับฟางให้กับ Bloomingdale's และ Nordstrom ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ในไมอามี และความใกล้ชิดกับ Mar-a-Lago ทำให้ Herve สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปให้กับ Melania ใน Palm Beach ได้ด้วยมือในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อเช้าวันจันทร์ Lippes กล่าวว่าเป็น "เกียรติ" ที่สตูดิโอของเขาในนิวยอร์กได้แต่งตัวให้ Melania เพื่อทำตามประเพณีที่ "สะท้อนถึงความงามของประชาธิปไตยแบบอเมริกัน" และชุดของเธอเป็นผลงานของ "ช่างฝีมือที่ดีที่สุดของอเมริกา"มีการยกย่องชุดที่ออกแบบในอเมริกาเป็นจำนวนมาก และนักวิจารณ์แฟชั่นต่างก็พากันตะลึงที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนใหม่สามารถหาดีไซเนอร์ชาวอเมริกันที่ยินดีจะออกแบบเสื้อผ้าให้เธอได้ (แบรนด์เสรีนิยมสุดโต่งและค่อนข้างเย่อหยิ่งหลายแห่งปฏิเสธที่จะร่วมงานกับเมลาเนียนับตั้งแต่สามีของเธอเริ่มต้นอาชีพนักการเมือง)แน่นอนว่าเพื่อที่จะค้นหาดีไซเนอร์ทั้งสองคนนี้ให้กับเมลาเนีย เอร์ฟ ปิแอร์ต้องพยายามค้นหาให้ไกลจากบูติกบนถนนเมดิสันอเวนิว (ซึ่งหนึ่งในนั้นเคยปฏิเสธไม่ให้เธอเข้าร้าน) และต้องคิดนอกกรอบของโลกแฟชั่นอเมริกันที่ยังคงถูกครอบงำโดยกระแสต่อต้านอย่างไม่แยแสของแอนนา วินทัวร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตและบรรณาธิการนิตยสารโว้กทั้งนี้ การแต่งกายของเมลาเนียในฐานะสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งทำในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งสมัยแรกของทรัมป์ เมลาเนียเธอสวมชุดสูทสีฟ้าอ่อนซีดที่ในพิธีสาบานตนและถูกนำไปเปรียบเทียบกับแจ็กกี้ เคนเนดี เมื่อปี 1961 ผมของเธอที่รวบขึ้นเป็นมวยแบบยุค 1960 อย่างชัดเจน สะท้อนให้เห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มขณะที่เธอปลุกเร้ายุคทองของอุดมคติทางการเมืองผ่านแฟชั่น ภาพนี้แสดงให้เห็นโดนัลด์และเมลาเนียในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาในปี 2017https://www.dailymail.co.uk/femail/article-14305329/Melania-Trump-inauguration-hat-real-reason.html
    เบื้องหลังที่เมลาเนียสวมหมวกพิธีสาบานตนรับตำแหน่งของทรัมป์21 มกราคม 2568 -รายงานข่าวเดลิเมล์ ระบุว่าเหตุผลที่แท้จริงที่เมลาเนีย ทรัมป์ในฐานะสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งทำในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งสวมหมวกปิดปังสายตาในพิธีสาบานตนรับตำแหสมัยน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของโดนัล ทรัมป์  โดยในครั้งนี้ เมลาเนียเลือกที่จะใส่ชุดเดรสสีกรมท่าที่ทำจากผ้าไหมและผ้าขนสัตว์ที่ตัดเย็บพิเศษ โดยกระโปรงทรงดินสอและเสื้อเบลาส์ไหมสีงาช้างเข้ากัน ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่ติดตามแฟชั่นหลายคน เนื่องจากชุดเดรสทั้งหมดตัดเย็บด้วยมือในนิวยอร์กซิตี้โดยนักออกแบบชาวอเมริกันที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างอดัม ลิปเปส ขณะเสื้อตัวในของเมลาเนียออกแบบโดยเอริก จาวิตส์ นักออกแบบชาวอเมริกันอีกคน ทำให้ชุดที่สะดุดตาชุดนี้สมบูรณ์แบบแต่เป็นที่น่าสังเกตว่านับตั้งแต่ฮิลลารี คลินตันในปี 1993 เป็นต้นมา สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งไม่เคยเลือกสวมหมวกในวันพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของสามี แต่ครั้งนี้เมลาเนียสวมหมวกไม่เพียงแต่ทำให้ชุดของเมลาเนียดูมีมิติมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังบดบังดวงตาของเธอได้เกือบทั้งหมดสำหรับผู้หญิงที่ขึ้นชื่อในเรื่องความชื่นชอบแว่นกันแดดอย่างเมลาเนีย นี่อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในวันที่คนทั้งโลกจะจับตามองเธอเธอหลีกเลี่ยงแบรนด์ยุโรปที่เธอชอบ (แม้ว่าจะเลือกทั้ง Dolce & Gabbana และ Dior ในงานเฉลิมฉลองก่อนเข้ารับตำแหน่งต่างๆ) และให้ความสำคัญกับนักออกแบบสองคนที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักคือ Lippes Javits ซึ่งตอนนี้แบรนด์ของพวกเขาอาจเพิ่มยอดขายอย่างกะทันหันได้ด้วยการอุปถัมภ์ของประธานาธิบดีAdam Lippes – ผู้มีโชว์รูมแบบสตูดิโอขนาดเล็กในห้างสรรพสินค้าหรู Brookfield Place (ใกล้กับ One World Trade Center) – ถือเป็นน้องใหม่ และแน่นอนว่าไม่ใช่ส่วนหนึ่งของกลุ่มคนชั้นสูงในโลกแฟชั่นของนิวยอร์กJavits เองก็พูดอย่างภาคภูมิใจเกี่ยวกับผลงานที่เขาประดิษฐ์ด้วยมือ ซึ่งเขาทำเอง (เย็บด้วยเครื่องจักรเพียงแปดเปอร์เซ็นต์ของงานเย็บมือบนหมวก)"ไม่มีมืออื่นใดสัมผัสมันเลย... ก่อนที่ Herve [Pierre สไตลิสต์ส่วนตัวของ Melania] และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งจะได้รับมัน" เขากล่าวกิจการของ Eric Javits อยู่ไกลออกไปอีก เขาเป็นผู้จัดหาเครื่องประดับศีรษะและเครื่องประดับฟางให้กับ Bloomingdale's และ Nordstrom ปัจจุบันเขาอาศัยอยู่ในไมอามี และความใกล้ชิดกับ Mar-a-Lago ทำให้ Herve สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปให้กับ Melania ใน Palm Beach ได้ด้วยมือในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อเช้าวันจันทร์ Lippes กล่าวว่าเป็น "เกียรติ" ที่สตูดิโอของเขาในนิวยอร์กได้แต่งตัวให้ Melania เพื่อทำตามประเพณีที่ "สะท้อนถึงความงามของประชาธิปไตยแบบอเมริกัน" และชุดของเธอเป็นผลงานของ "ช่างฝีมือที่ดีที่สุดของอเมริกา"มีการยกย่องชุดที่ออกแบบในอเมริกาเป็นจำนวนมาก และนักวิจารณ์แฟชั่นต่างก็พากันตะลึงที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนใหม่สามารถหาดีไซเนอร์ชาวอเมริกันที่ยินดีจะออกแบบเสื้อผ้าให้เธอได้ (แบรนด์เสรีนิยมสุดโต่งและค่อนข้างเย่อหยิ่งหลายแห่งปฏิเสธที่จะร่วมงานกับเมลาเนียนับตั้งแต่สามีของเธอเริ่มต้นอาชีพนักการเมือง)แน่นอนว่าเพื่อที่จะค้นหาดีไซเนอร์ทั้งสองคนนี้ให้กับเมลาเนีย เอร์ฟ ปิแอร์ต้องพยายามค้นหาให้ไกลจากบูติกบนถนนเมดิสันอเวนิว (ซึ่งหนึ่งในนั้นเคยปฏิเสธไม่ให้เธอเข้าร้าน) และต้องคิดนอกกรอบของโลกแฟชั่นอเมริกันที่ยังคงถูกครอบงำโดยกระแสต่อต้านอย่างไม่แยแสของแอนนา วินทัวร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตและบรรณาธิการนิตยสารโว้กทั้งนี้ การแต่งกายของเมลาเนียในฐานะสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งทำในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งสมัยแรกของทรัมป์ เมลาเนียเธอสวมชุดสูทสีฟ้าอ่อนซีดที่ในพิธีสาบานตนและถูกนำไปเปรียบเทียบกับแจ็กกี้ เคนเนดี เมื่อปี 1961 ผมของเธอที่รวบขึ้นเป็นมวยแบบยุค 1960 อย่างชัดเจน สะท้อนให้เห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มขณะที่เธอปลุกเร้ายุคทองของอุดมคติทางการเมืองผ่านแฟชั่น ภาพนี้แสดงให้เห็นโดนัลด์และเมลาเนียในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาในปี 2017https://www.dailymail.co.uk/femail/article-14305329/Melania-Trump-inauguration-hat-real-reason.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1119 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta กำลังวางแผนที่จะเติมเต็มแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตนด้วยบอทที่สร้างขึ้นโดย AI เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมกับผู้ใช้จริงจำนวนสามพันล้านคน

    Meta กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI หลายอย่าง รวมถึงบริการที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างบอท AI บน Instagram และ Facebook บอทเหล่านี้สามารถเลียนแบบบุคลิกของผู้ใช้และโต้ตอบกับผู้ใช้คนอื่นๆ บนเครือข่ายได้ โดยหวังว่าจะดึงดูดผู้ใช้ที่อายุน้อยกว่า ซึ่งดูเหมือนจะสนใจใน AI เป็นพิเศษในปัจจุบัน

    นักวิจารณ์ก็เตือนถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการใช้เนื้อหาที่สร้างขึ้นโดย AI เพื่อขยายเรื่องราวเท็จหากไม่มีการบังคับใช้มาตรการป้องกันที่เข้มงวดบนโซเชียลมีเดีย

    ลุงว่า ถ้ามันเกิดขึ้นจริง บริษัทห้างร้านต่างๆ จะต้องคิดให้หนักในการลงโฆษณากับ Meta แล้วหล่ะ

    https://www.techspot.com/news/106138-meta-wants-fill-social-platforms-ai-generated-bots.html
    Meta กำลังวางแผนที่จะเติมเต็มแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตนด้วยบอทที่สร้างขึ้นโดย AI เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมกับผู้ใช้จริงจำนวนสามพันล้านคน Meta กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ AI หลายอย่าง รวมถึงบริการที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างบอท AI บน Instagram และ Facebook บอทเหล่านี้สามารถเลียนแบบบุคลิกของผู้ใช้และโต้ตอบกับผู้ใช้คนอื่นๆ บนเครือข่ายได้ โดยหวังว่าจะดึงดูดผู้ใช้ที่อายุน้อยกว่า ซึ่งดูเหมือนจะสนใจใน AI เป็นพิเศษในปัจจุบัน นักวิจารณ์ก็เตือนถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการใช้เนื้อหาที่สร้างขึ้นโดย AI เพื่อขยายเรื่องราวเท็จหากไม่มีการบังคับใช้มาตรการป้องกันที่เข้มงวดบนโซเชียลมีเดีย ลุงว่า ถ้ามันเกิดขึ้นจริง บริษัทห้างร้านต่างๆ จะต้องคิดให้หนักในการลงโฆษณากับ Meta แล้วหล่ะ https://www.techspot.com/news/106138-meta-wants-fill-social-platforms-ai-generated-bots.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Meta wants to fill its social platforms with AI-generated bots
    Meta is actively working to transform its social media platforms into spaces where AI bots interact with each other. Over the next few years, the company formerly...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ (FTC) กำลังตรวจสอบข้อตกลงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ Microsoft กับรัฐบาลกลางสหรัฐฯ การสอบสวนนี้เกิดขึ้นหลังจากรายงานของ ProPublica ที่ระบุว่า Microsoft ได้โน้มน้าวให้รัฐบาลเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลส่วนใหญ่ไปใช้ผลิตภัณฑ์ของ Microsoft หลังจากการโจมตีทางไซเบอร์ SolarWinds ในปี 2020

    ถ้ายังจำกันได้ ในปี 2020 แฮ็กเกอร์ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซียได้แทรกโค้ดที่เป็นอันตรายเข้าไปในอัปเดตของซอฟต์แวร์ Orion ของบริษัท SolarWinds ซึ่งถูกแจกจ่ายให้กับลูกค้าทั่วโลก เมื่อองค์กรต่างๆ ดาวน์โหลดและติดตั้งอัปเดตที่มีโค้ดที่เป็นอันตรายนี้ แฮ็กเกอร์สามารถเข้าถึงระบบขององค์กรเหล่านั้นได้ การโจมตีนี้ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ หลายแห่ง รวมถึงกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงบริษัทเอกชนหลายแห่งทั่วโลก การโจมตีนี้ทำให้เกิดการประชุมฉุกเฉินของสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ และนำไปสู่การตรวจสอบและปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยทางไซเบอร์ในหลายองค์กร

    คณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ กล่าวหาว่า Microsoft ข้ามกระบวนการประมูลสัญญาแบบดั้งเดิม ทำให้ลูกค้าของรัฐบาลต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิกที่แพง และทำให้การย้ายไปใช้ผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งเช่น Google หรือ Amazon เป็นเรื่องยาก การใช้ระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ Microsoft ในช่วงแรกเป็นการทดลองใช้งานฟรี แต่เมื่อสิ้นสุดช่วงทดลองใช้งาน ราคาการสมัครสมาชิกก็สูงขึ้นมาก

    การสอบสวนของ FTC มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจคลาวด์ของ Microsoft Azure ซึ่งหน่วยงานของรัฐบาลที่เปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มนี้ต้องซื้อผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมที่ทำงานบน Azure นักวิจารณ์กล่าวว่าการจัดการนี้ทำให้รัฐบาลต้องพึ่งพา Microsoft มากเกินไป และปิดกั้นคู่แข่งครับ

    https://www.techspot.com/news/106122-ftc-escalates-investigation-microsoft-bundling-policies.html
    คณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ (FTC) กำลังตรวจสอบข้อตกลงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ Microsoft กับรัฐบาลกลางสหรัฐฯ การสอบสวนนี้เกิดขึ้นหลังจากรายงานของ ProPublica ที่ระบุว่า Microsoft ได้โน้มน้าวให้รัฐบาลเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลส่วนใหญ่ไปใช้ผลิตภัณฑ์ของ Microsoft หลังจากการโจมตีทางไซเบอร์ SolarWinds ในปี 2020 ถ้ายังจำกันได้ ในปี 2020 แฮ็กเกอร์ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซียได้แทรกโค้ดที่เป็นอันตรายเข้าไปในอัปเดตของซอฟต์แวร์ Orion ของบริษัท SolarWinds ซึ่งถูกแจกจ่ายให้กับลูกค้าทั่วโลก เมื่อองค์กรต่างๆ ดาวน์โหลดและติดตั้งอัปเดตที่มีโค้ดที่เป็นอันตรายนี้ แฮ็กเกอร์สามารถเข้าถึงระบบขององค์กรเหล่านั้นได้ การโจมตีนี้ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ หลายแห่ง รวมถึงกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงบริษัทเอกชนหลายแห่งทั่วโลก การโจมตีนี้ทำให้เกิดการประชุมฉุกเฉินของสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ และนำไปสู่การตรวจสอบและปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยทางไซเบอร์ในหลายองค์กร คณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ กล่าวหาว่า Microsoft ข้ามกระบวนการประมูลสัญญาแบบดั้งเดิม ทำให้ลูกค้าของรัฐบาลต้องจ่ายค่าธรรมเนียมการสมัครสมาชิกที่แพง และทำให้การย้ายไปใช้ผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งเช่น Google หรือ Amazon เป็นเรื่องยาก การใช้ระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ Microsoft ในช่วงแรกเป็นการทดลองใช้งานฟรี แต่เมื่อสิ้นสุดช่วงทดลองใช้งาน ราคาการสมัครสมาชิกก็สูงขึ้นมาก การสอบสวนของ FTC มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจคลาวด์ของ Microsoft Azure ซึ่งหน่วยงานของรัฐบาลที่เปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มนี้ต้องซื้อผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมที่ทำงานบน Azure นักวิจารณ์กล่าวว่าการจัดการนี้ทำให้รัฐบาลต้องพึ่งพา Microsoft มากเกินไป และปิดกั้นคู่แข่งครับ https://www.techspot.com/news/106122-ftc-escalates-investigation-microsoft-bundling-policies.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft faces FTC scrutiny over alleged antitrust practices in federal cybersecurity deals
    Microsoft has received a subpoena to turn information over to the US Federal Trade Commission amid accusations of anticompetitive behavior. The company's wide-ranging cybersecurity agreement with multiple...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 453 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดสรรเงินช่วยเหลือ COVID-19 จำนวน 6.2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 987 พันล้านเยน) ที่เหลืออยู่จากการจัดสรรงบในหลายปีที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนบริษัทผลิตชิปในประเทศชื่อ Rapidus การใช้เงินช่วยเหลือ COVID-19 ที่เหลืออยู่เพื่อสนับสนุนบริษัทขนาดใหญ่เช่นนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่มีความโปร่งใสและอาจนำไปสู่การใช้จ่ายที่ไม่เหมาะสม

    นายกรัฐมนตรี Shigeru Ishiba ได้ปกป้องการจัดสรรเงินดังกล่าว โดยกล่าวว่าเงินถูกส่งคืนไปยังคลังแล้วก่อนที่จะถูกนำมาใช้ใหม่ ดังนั้นจึงไม่มีการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ยังคงกังวลเกี่ยวกับการใช้เงินจากพันธบัตรที่ครอบคลุมการขาดดุล ซึ่งเพิ่มภาระหนี้ระยะยาวโดยไม่มีแผนการชำระคืนที่ชัดเจน

    การจัดสรรเงินช่วยเหลือนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผน 7 ปีมูลค่า 63.6 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 10 ล้านล้านเยน) ที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศในเดือนพฤศจิกายน เพื่อส่งเสริมภาคส่วนเซมิคอนดักเตอร์และ AI ของประเทศ โดยส่วนของบริษัท Rapidus ต้องการเงินทุนประมาณ 32 พันล้านดอลลาร์สำหรับการสร้างโรงงานผลิตชิปที่สามารถผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตรได้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/japanese-govt-under-fire-for-funding-native-chipmaker-rapidus-with-usd6-2-billion-from-covid-relief-money
    รัฐบาลญี่ปุ่นได้จัดสรรเงินช่วยเหลือ COVID-19 จำนวน 6.2 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 987 พันล้านเยน) ที่เหลืออยู่จากการจัดสรรงบในหลายปีที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนบริษัทผลิตชิปในประเทศชื่อ Rapidus การใช้เงินช่วยเหลือ COVID-19 ที่เหลืออยู่เพื่อสนับสนุนบริษัทขนาดใหญ่เช่นนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่มีความโปร่งใสและอาจนำไปสู่การใช้จ่ายที่ไม่เหมาะสม นายกรัฐมนตรี Shigeru Ishiba ได้ปกป้องการจัดสรรเงินดังกล่าว โดยกล่าวว่าเงินถูกส่งคืนไปยังคลังแล้วก่อนที่จะถูกนำมาใช้ใหม่ ดังนั้นจึงไม่มีการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ยังคงกังวลเกี่ยวกับการใช้เงินจากพันธบัตรที่ครอบคลุมการขาดดุล ซึ่งเพิ่มภาระหนี้ระยะยาวโดยไม่มีแผนการชำระคืนที่ชัดเจน การจัดสรรเงินช่วยเหลือนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผน 7 ปีมูลค่า 63.6 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 10 ล้านล้านเยน) ที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศในเดือนพฤศจิกายน เพื่อส่งเสริมภาคส่วนเซมิคอนดักเตอร์และ AI ของประเทศ โดยส่วนของบริษัท Rapidus ต้องการเงินทุนประมาณ 32 พันล้านดอลลาร์สำหรับการสร้างโรงงานผลิตชิปที่สามารถผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตรได้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/japanese-govt-under-fire-for-funding-native-chipmaker-rapidus-with-usd6-2-billion-from-covid-relief-money
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 433 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts