• “ก่อแก้ว” ชี้ "อภิสิทธิ์" เป็นสิ่งชำรุดทางการเมือง ทำงานร่วมกับเพื่อไทยไม่ได้ในอนาคต
    https://www.thai-tai.tv/news/22184/
    .
    #ไทยไท #ก่อแก้วพิกุลทอง #อภิสิทธิ์ #ประชาธิปัตย์ #มาร์ค100ศพ #นปช.
    “ก่อแก้ว” ชี้ "อภิสิทธิ์" เป็นสิ่งชำรุดทางการเมือง ทำงานร่วมกับเพื่อไทยไม่ได้ในอนาคต https://www.thai-tai.tv/news/22184/ . #ไทยไท #ก่อแก้วพิกุลทอง #อภิสิทธิ์ #ประชาธิปัตย์ #มาร์ค100ศพ #นปช.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายใหญ่ไม่เหงาแล้ว
    ศาลฯ สั่งคุก 5 แกนนำ นปช.
    4 ปี 4 เดือน คดีปิดทำเนียบฯ ปี 52 แม้ววอน
    "วีระ-ตู่-เต้น-เหวง-อดิศร"
    อย่ายื่นประกัน
    #7ดอกจิก
    นายใหญ่ไม่เหงาแล้ว ศาลฯ สั่งคุก 5 แกนนำ นปช. 4 ปี 4 เดือน คดีปิดทำเนียบฯ ปี 52 แม้ววอน "วีระ-ตู่-เต้น-เหวง-อดิศร" อย่ายื่นประกัน #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอาญา สั่งจำคุก "วีระ-จตุพร- ณัฐวุฒิ- หมอเหวง -อดิศร" 5 แกนนำ นปช.ขุมนุมไล่รัฐบาล "อภิสิทธิ์" เมื่อปี 52 คนละ 4 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา รอลุ้นประกันตัว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000095821

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    ศาลอาญา สั่งจำคุก "วีระ-จตุพร- ณัฐวุฒิ- หมอเหวง -อดิศร" 5 แกนนำ นปช.ขุมนุมไล่รัฐบาล "อภิสิทธิ์" เมื่อปี 52 คนละ 4 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา รอลุ้นประกันตัว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000095821 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 391 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✍กราบสวัสดีคะอ.สนธิที่เคารพ...#การกำเนิด"MOU43-44"เกิดขึ้นตั้งแต่การเจรจาปี2542(ค.ศ.1999)สมัยคุณชวน หลีกภัย&หม่อมสุขุมพันธุ์!!!!"ในเวลานั้นลุงตู่ยังเป็นผู้บังคับกองพันทหารรักษาพระองค์อยู่เลย ในกรณีนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับ"ท่านนายกประยุทธ์ จันทร์โอชา .ด้วยนะคะหนูไม่ได้เป็นติ่งลุงตู่ สมัยพันธมิตรชุมนุมหนูเองยังตามืดบอดชอบนายทักกี้อยู่เลย "แต่หนูฝันถึงพลเอกเปรมท่านบอกหนูว่าเธอชอบอสรพิษหรือ? "หนูเลยเริ่มค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆด้วยตัวเองจากหลายแหล่งข่าวไม่ดูทีวีเลยหนูติดตามอ่านเพจของ อ.ดร.สมเกียรติ โอสถสภา,อ.ปฐมพงษ์"ท่านให้ความรู้และข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก อย่างอ.สมเกียรติ หนูนับถือเหมือนพ่อคนหนึ่งเลยสอบถามอะไรท่านก็จะตอบเสมอมาบางครั้งหนูถามคำถามแบบโง่ๆนะคะว่าทำไมประเทศ'USมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเกิดภัยแล้งขาดแคลนน้ำทำไมเขาไม่ทำฝนหลวงให้ประชาชนล่ะคะแม้แต่ในฝรั่งเศสออกกฎหมายว่าถ้าใครเอาน้ำไปรดต้นไม้ที่ปลูกไว้กินจะผิดกฎหมาย อาจารย์บอกมาว่าประเทศพวกนั้นเขาไม่ทำฝนหลวงแบบพ่อหลวง ร.9เราหรอก"เขาศึกษาวิจัยไว้ใช้ในสงครามเท่านั้นหนูยังถามต่ออีกว่าอาวุธต่างๆที่เราสั่งมาเก็บไว้นานๆจะไม่หมดอายุหรือแล้วใครจะเป็นคนซ่อมบำรุงเขารับประกันกี่ปีแล้วเราจะ"QA..อย่างไร?คุยกันล่าสุดก็ปี2019ช่วงมีโควิดหนูถามท่านว่าไวรัสโคโรน่ามันไม่สามารถติดต่อข้ามสปีชีส์มนุษย์ได้เพราะโคโรน่าไวรัสตัวนี้มันมีในอยู่สัตว์ตามปกติอยู่แล้วมันจะไม่ติดต่อข้ามสายพันธ ุ์อีกอย่างมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตคุณสมบัติมันไม่พอมันมีเชลล์เดียวไปโทษค้างคาวจึงไม่ถูกต้องหนูบอกท่านไปว่า(พระโพธิสัตว์กวนอิมความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ)บอกหนูว่ามันเป็นอาวุธชีวภาพตัดต่อในห้องแล๊บทำออกมา4สายพันธุ์ใหญ่ๆเวลาจะใช้ต้องแยกใช้ทีละตัวมันใช้วิธีสำเนาไปทั่วอวัยวะสัตว์ๆตายมันก็อยู่ไม่ได้ แต่สามารถสำเนาต่อได้("ความจริงมันอยู่ในเข็ม"ว.ซ)แต่ตอนนั้นคนก็เข้ามาเถียงเยอะเลย แต่หนูก็ไม่มีความรู้อะไรแค่ฟังเฉยๆตัวหนูเองน้ำตื้นเงาก็ตื้นด้วยหนูบอกว่าเขาต้องการทำลายเศรษฐกิจโลก และต่อไปจะเกิดสงครามใหญ่ ตอนนั้นหนูเองยังไม่เชื่อเลยเพราะยังไม่มีสงครามยูเครนด้วยซ้ำท่านบอกว่าให้เตรียมพื้นที่ทำแบบที่ในหลวงร.9"สอนไว้เราจะรอด ต่อมาหนูก็ไม่ได้อ่านเพจท่านเพราะรู้สึกเนื้อหาเปลี่ยนไปมาก และมาทราบว่าท่านเสียชีวิตแล้วหนูอยากไปกราบลาท่านสักครั้งนะแต่สอบถามไปเขาบอกจัดเป็นการภายในก็ลาท่านในใจ ท่านมักจะให้คะแนนคำถามของหนู" A+,AA,AAA+...หนูก็ไม่เข้าใจหรอกคะเพราะหนูไม่ได้เรียนมหาลัยเรียนแค่ปวส.เองความรู้ไม่มี งูๆปลาๆยังไม่ถึงเลย "เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่านะคะตอนที่จัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ฯอ.สนธิได้เอาชื่อลุงตู่ขึ้นไปแขวนด่าเลยทำให้เสียแนวร่วมไปเยอะเลยหนูว่า"ป..ไหนชั่วก็ตัดไปเป็นคนๆไปจะดีกว่าไหมคะคนที่มีส่วนในการสั่งการลอบยิงอ.สนธิก็รู้ว่าเป็นใครเราก็ตัดเขาออกไป✍ส่วนคนหัวล้านนิดๆเราก็ตัดออกไปเขาเคยสั่งย้ายผู้ว่าหมูป่า..เราก็ตัดไป..ลุงตู่ท่านไม่ได้เกี่ยวข้องอ.สนธิอย่าเอามาแขวนเลยยามนี้เราควรสามัคคีกันสู้ไส้ศึกภายในและภายนอกซึ้งก็หนักมากอยู่แล้วเราจะสูญเสียความสามัคคีไปไม่ได้วันที่2เพื่อนๆตอนแรกเขาตั้งใจจะไปเขาดูรายการแล้วด่าลุงตู่เขาบอกเขาไม่ไปหนูก็พูดอะไรไม่ได้"รายการอ.ปานเทพคุยกับพล.โท กนกก็ดูนะมันก็ชัดเจนคะแต่เราต้องรู้ว่ามันมีคนใหญ่กว่าลุงตู่อยู่อีกนะคะ"ถ้าลุงตู่ ดิวทักกี้กลับมาก็คงไม่ใช่ท่านทำเองหรอกคะ หนูเห็นอ.สนธิพูดเสมอเลยว่าสักวันฟ้าจะเปลี่ยนสีก็ไม่ค่อยเข้าใจ "แต่สื่อต่างชาติเขาเขียนชัดเจนเลยนะคะว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่กลุ่มพันธุ์มิตรเริ่มชุมนุมแล้ว ภาพบางอย่างเริ่มเห็นชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆอะไรที่มันซุกไว้ใต้พรมยังไงก็ต้องเผยตัวออกมาเองจริงไหมคะ"เราต้องให้ความเป็นธรรมกับลุงตู่บ้างว่าสมัยท่านเป็นนายกบ้านเมืองเราก็เจริญแบบกว้ากระโดดจนต่างชาติยังอึ้งเลย#อีกประการหนึ่งลุงตู่ขึ้นเป็นองคมนตรีแล้วถ้าเราดึงท่านมาว่าต่างๆนานา #แล้วเราจะต่างอะไรกับพวก"นปช.ที่ล่วงเกินพลเอกเปรมละ่คะ หนูนับถือการทำงานของบ้านพระอาทิตย์ทุกคน "คุณอาสนธิก็อายุเท่าแม่หนูเลยหนูก็นับถือเหมือนพ่อหนูคนหนึ่งเลยคะ "เหตุสงครามปะทะกันระหว่างกัมพูชากับไทยเหมือนเป็นบทละครที่ถูกวางไว้หมดแล้วจากคนกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากขายแผ่นดินกิน เรามาร่วมมือร่วมใจกันขับไล่คนจัญไรให้พ้นแผ่นดินกันดีกว่าพวกมันน่าจะมีจำนวนมากพอสมควรเลยล่ะมีหลายระดับด้วยคนอัปรีย์พวกนี้นะ "ถ้าหนูมีอำนาจจะจับมากุดหัว7ชั่วโคตรเลยแต่ก่อนมันจะตายจะหลอมเงินทองแล้วกรอกปากมันให้กินให้อิ่มเลยอยากได้ไม่ใช่เหรอหิวมากมีเท่าไหร่ก็ไม่พอเพราะฉะนั้นจะให้มันตายอย่างทรมานที่สุดแค่ตัดหัวหรือยิงเป้ามันง่ายเกินไปคนพวกนี้ต้องลองนรกบนดินก่อนจะไปลงนรกอเวจีจริงๆเพราะตอนนั้นมันคงจำไม่ได้แม้แต่ตัวมันเองว่าได้ทำชั่วอะไรมาถึงต้องถูกลงโทษเช่นนั้น..."ทรัพยากรในไทยมีมากมายเลยมีแต่คนอยากได้ ประเทศไหนอยากได้ก็ต้องเสนอประมูลมาที่ไทยซิกัมพูชาไม่เกี่ยว#ใครเสนอผลประโยชน์ให้ประเทศไทยสูงสุดคนนั้นก็จะได้ไปไม่ใช่ดิวลับจ่ายเข้ากระเป๋าใคร ชาติบ้านเมืองไม่ได้อะไรเลย เหมือนเราใช้น้ำมันราคาแพงก่วาเพื่อนบ้านที่ซื้อจากเราๆต้องจ่ายค่า FT ทำไมในเมื่อกำไรคุณเอาไปเต็มๆแต่ความเสี่ยงมาโยนให้ประชาชนจ่ายเราต้องจ่ายค่าไฟแพงเพื่อชดเชยให้โรงงานที่ไม่เคยผลิตไฟเลยทำไม?"กฝผ.เสนอสามารถผลิตไฟให้คนไทยใช้ได้ในหน่วยล่ะ1.50-2บาท.แล้วเราต้องใช้ไฟแพงจากเอกชนยูนิตล่ะ5-6บ.ทำไม?"อ.สนธิ,อ.ปานเทพคะรักษาสุขภาพด้วยนะเป็นห่วงจริงๆจากใจ#ประเทศไทยคนเก่งเยอะมากแต่คนกล้าหายากจริงๆเพราะชนตอม่อเยอะสะกิดไปตรงไหนก็มีแต่ตอภัยอันตรายมันจึงเยอะมาก ถ้ามีอะไรล่วงเกินกราบขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วย#หนูเคยถามลุงตู่ว่าอยู่มา8ปีทำไมไม่ยกเลิกMOU43-44พี่สาวหนูบอกว่าเหนือฟ้ามีฟ้าหรือเปล่าให้เขาจัดการกันเองเถอะเราเป็นแค่เม็ดทรายทำอะไรไม่ได้หรอกพี่สาวว่าๆทำไมอินจังเครียดนอนไม่ค่อยหลับหนูบอกก็ที่นี่มันคือแผ่นดินของเราๆจะทิ้งลมหายใจไว้ที่นี่ จะตายที่นี้ไม่ไปไหน ความตายไม่เคยกลัวเพราะตายและเกิดมานับร่างไม่ถ้วนแล้วแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แค่นั้น ตราบใดยังไม่สิ้นกิเลสก็ยังต้องเกิดอีกแน่นอน กราบสวัสดีคะพี่น้อง..Thaitime#Truth from Thailand✍"แผ่นดินนี้มีบุญคุณยิ่งใหญ่นักให้บ้านร่มเงาหลบแดดฝนภัยนาๆอยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา
    ✍กราบสวัสดีคะอ.สนธิที่เคารพ...#การกำเนิด"MOU43-44"เกิดขึ้นตั้งแต่การเจรจาปี2542(ค.ศ.1999)สมัยคุณชวน หลีกภัย&หม่อมสุขุมพันธุ์!!!!"ในเวลานั้นลุงตู่ยังเป็นผู้บังคับกองพันทหารรักษาพระองค์อยู่เลย ในกรณีนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับ"ท่านนายกประยุทธ์ จันทร์โอชา .ด้วยนะคะหนูไม่ได้เป็นติ่งลุงตู่ สมัยพันธมิตรชุมนุมหนูเองยังตามืดบอดชอบนายทักกี้อยู่เลย "แต่หนูฝันถึงพลเอกเปรมท่านบอกหนูว่าเธอชอบอสรพิษ🐍หรือ? "หนูเลยเริ่มค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆด้วยตัวเองจากหลายแหล่งข่าวไม่ดูทีวีเลยหนูติดตามอ่านเพจของ อ.ดร.สมเกียรติ โอสถสภา,อ.ปฐมพงษ์"ท่านให้ความรู้และข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก อย่างอ.สมเกียรติ หนูนับถือเหมือนพ่อคนหนึ่งเลยสอบถามอะไรท่านก็จะตอบเสมอมาบางครั้งหนูถามคำถามแบบโง่ๆนะคะว่าทำไมประเทศ'USมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเกิดภัยแล้งขาดแคลนน้ำทำไมเขาไม่ทำฝนหลวงให้ประชาชนล่ะคะแม้แต่ในฝรั่งเศสออกกฎหมายว่าถ้าใครเอาน้ำไปรดต้นไม้ที่ปลูกไว้กินจะผิดกฎหมาย อาจารย์บอกมาว่าประเทศพวกนั้นเขาไม่ทำฝนหลวงแบบพ่อหลวง ร.9เราหรอก"เขาศึกษาวิจัยไว้ใช้ในสงครามเท่านั้นหนูยังถามต่ออีกว่าอาวุธต่างๆที่เราสั่งมาเก็บไว้นานๆจะไม่หมดอายุหรือแล้วใครจะเป็นคนซ่อมบำรุงเขารับประกันกี่ปีแล้วเราจะ"QA..อย่างไร?คุยกันล่าสุดก็ปี2019ช่วงมีโควิดหนูถามท่านว่าไวรัสโคโรน่ามันไม่สามารถติดต่อข้ามสปีชีส์มนุษย์ได้เพราะโคโรน่าไวรัสตัวนี้มันมีในอยู่สัตว์ตามปกติอยู่แล้วมันจะไม่ติดต่อข้ามสายพันธ ุ์อีกอย่างมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตคุณสมบัติมันไม่พอมันมีเชลล์เดียวไปโทษค้างคาวจึงไม่ถูกต้องหนูบอกท่านไปว่า(พระโพธิสัตว์กวนอิมความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ)บอกหนูว่ามันเป็นอาวุธชีวภาพตัดต่อในห้องแล๊บทำออกมา4สายพันธุ์ใหญ่ๆเวลาจะใช้ต้องแยกใช้ทีละตัวมันใช้วิธีสำเนาไปทั่วอวัยวะสัตว์ๆตายมันก็อยู่ไม่ได้ แต่สามารถสำเนาต่อได้("ความจริงมันอยู่ในเข็ม"ว.ซ)แต่ตอนนั้นคนก็เข้ามาเถียงเยอะเลย แต่หนูก็ไม่มีความรู้อะไรแค่ฟังเฉยๆตัวหนูเองน้ำตื้นเงาก็ตื้นด้วยหนูบอกว่าเขาต้องการทำลายเศรษฐกิจโลก และต่อไปจะเกิดสงครามใหญ่ ตอนนั้นหนูเองยังไม่เชื่อเลยเพราะยังไม่มีสงครามยูเครนด้วยซ้ำท่านบอกว่าให้เตรียมพื้นที่ทำแบบที่ในหลวงร.9"สอนไว้เราจะรอด ต่อมาหนูก็ไม่ได้อ่านเพจท่านเพราะรู้สึกเนื้อหาเปลี่ยนไปมาก และมาทราบว่าท่านเสียชีวิตแล้วหนูอยากไปกราบลาท่านสักครั้งนะแต่สอบถามไปเขาบอกจัดเป็นการภายในก็ลาท่านในใจ ท่านมักจะให้คะแนนคำถามของหนู" A+,AA,AAA+...หนูก็ไม่เข้าใจหรอกคะเพราะหนูไม่ได้เรียนมหาลัยเรียนแค่ปวส.เองความรู้ไม่มี งูๆปลาๆยังไม่ถึงเลย "เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่านะคะตอนที่จัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ฯอ.สนธิได้เอาชื่อลุงตู่ขึ้นไปแขวนด่าเลยทำให้เสียแนวร่วมไปเยอะเลยหนูว่า"ป..ไหนชั่วก็ตัดไปเป็นคนๆไปจะดีกว่าไหมคะคนที่มีส่วนในการสั่งการลอบยิงอ.สนธิก็รู้ว่าเป็นใครเราก็ตัดเขาออกไป👉✍ส่วนคนหัวล้านนิดๆเราก็ตัดออกไปเขาเคยสั่งย้ายผู้ว่าหมูป่า..เราก็ตัดไป..ลุงตู่ท่านไม่ได้เกี่ยวข้องอ.สนธิอย่าเอามาแขวนเลยยามนี้เราควรสามัคคีกันสู้ไส้ศึกภายในและภายนอกซึ้งก็หนักมากอยู่แล้วเราจะสูญเสียความสามัคคีไปไม่ได้วันที่2เพื่อนๆตอนแรกเขาตั้งใจจะไปเขาดูรายการแล้วด่าลุงตู่เขาบอกเขาไม่ไปหนูก็พูดอะไรไม่ได้"รายการอ.ปานเทพคุยกับพล.โท กนกก็ดูนะมันก็ชัดเจนคะแต่เราต้องรู้ว่ามันมีคนใหญ่กว่าลุงตู่อยู่อีกนะคะ"ถ้าลุงตู่ ดิวทักกี้กลับมาก็คงไม่ใช่ท่านทำเองหรอกคะ หนูเห็นอ.สนธิพูดเสมอเลยว่าสักวันฟ้าจะเปลี่ยนสีก็ไม่ค่อยเข้าใจ "แต่สื่อต่างชาติเขาเขียนชัดเจนเลยนะคะว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่กลุ่มพันธุ์มิตรเริ่มชุมนุมแล้ว ภาพบางอย่างเริ่มเห็นชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆอะไรที่มันซุกไว้ใต้พรมยังไงก็ต้องเผยตัวออกมาเองจริงไหมคะ"เราต้องให้ความเป็นธรรมกับลุงตู่บ้างว่าสมัยท่านเป็นนายกบ้านเมืองเราก็เจริญแบบกว้ากระโดดจนต่างชาติยังอึ้งเลย#อีกประการหนึ่งลุงตู่ขึ้นเป็นองคมนตรีแล้วถ้าเราดึงท่านมาว่าต่างๆนานา #แล้วเราจะต่างอะไรกับพวก"นปช.ที่ล่วงเกินพลเอกเปรมละ่คะ หนูนับถือการทำงานของบ้านพระอาทิตย์ทุกคน "คุณอาสนธิก็อายุเท่าแม่หนูเลยหนูก็นับถือเหมือนพ่อหนูคนหนึ่งเลยคะ "เหตุสงครามปะทะกันระหว่างกัมพูชากับไทยเหมือนเป็นบทละครที่ถูกวางไว้หมดแล้วจากคนกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากขายแผ่นดินกิน เรามาร่วมมือร่วมใจกันขับไล่คนจัญไรให้พ้นแผ่นดินกันดีกว่าพวกมันน่าจะมีจำนวนมากพอสมควรเลยล่ะมีหลายระดับด้วยคนอัปรีย์พวกนี้นะ "ถ้าหนูมีอำนาจจะจับมากุดหัว7ชั่วโคตรเลยแต่ก่อนมันจะตายจะหลอมเงินทองแล้วกรอกปากมันให้กินให้อิ่มเลยอยากได้ไม่ใช่เหรอหิวมากมีเท่าไหร่ก็ไม่พอเพราะฉะนั้นจะให้มันตายอย่างทรมานที่สุดแค่ตัดหัวหรือยิงเป้ามันง่ายเกินไปคนพวกนี้ต้องลองนรกบนดินก่อนจะไปลงนรกอเวจีจริงๆเพราะตอนนั้นมันคงจำไม่ได้แม้แต่ตัวมันเองว่าได้ทำชั่วอะไรมาถึงต้องถูกลงโทษเช่นนั้น😡👿👇🔥..."ทรัพยากรในไทยมีมากมายเลยมีแต่คนอยากได้ ประเทศไหนอยากได้ก็ต้องเสนอประมูลมาที่ไทยซิกัมพูชาไม่เกี่ยว#ใครเสนอผลประโยชน์ให้ประเทศไทยสูงสุดคนนั้นก็จะได้ไปไม่ใช่ดิวลับจ่ายเข้ากระเป๋าใคร🙄 ชาติบ้านเมืองไม่ได้อะไรเลย เหมือนเราใช้น้ำมันราคาแพงก่วาเพื่อนบ้านที่ซื้อจากเราๆต้องจ่ายค่า FT ทำไมในเมื่อกำไรคุณเอาไปเต็มๆแต่ความเสี่ยงมาโยนให้ประชาชนจ่ายเราต้องจ่ายค่าไฟแพงเพื่อชดเชยให้โรงงานที่ไม่เคยผลิตไฟเลยทำไม?"กฝผ.เสนอสามารถผลิตไฟให้คนไทยใช้ได้ในหน่วยล่ะ1.50-2บาท.แล้วเราต้องใช้ไฟแพงจากเอกชนยูนิตล่ะ5-6บ.ทำไม?"อ.สนธิ,อ.ปานเทพคะรักษาสุขภาพด้วยนะเป็นห่วงจริงๆจากใจ🤍#ประเทศไทยคนเก่งเยอะมากแต่คนกล้าหายากจริงๆเพราะชนตอม่อเยอะสะกิดไปตรงไหนก็มีแต่ตอภัยอันตรายมันจึงเยอะมาก ถ้ามีอะไรล่วงเกินกราบขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วย🙇‍♀️#หนูเคยถามลุงตู่ว่าอยู่มา8ปีทำไมไม่ยกเลิกMOU43-44พี่สาวหนูบอกว่าเหนือฟ้ามีฟ้าหรือเปล่าให้เขาจัดการกันเองเถอะเราเป็นแค่เม็ดทรายทำอะไรไม่ได้หรอกพี่สาวว่าๆทำไมอินจังเครียดนอนไม่ค่อยหลับหนูบอกก็ที่นี่มันคือแผ่นดินของเราๆจะทิ้งลมหายใจไว้ที่นี่ จะตายที่นี้ไม่ไปไหน ความตายไม่เคยกลัวเพราะตายและเกิดมานับร่างไม่ถ้วนแล้วแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แค่นั้น ตราบใดยังไม่สิ้นกิเลสก็ยังต้องเกิดอีกแน่นอน กราบสวัสดีคะพี่น้อง..Thaitime#Truth from Thailand🇹🇭✍"แผ่นดินนี้มีบุญคุณยิ่งใหญ่นักให้บ้านร่มเงาหลบแดดฝนภัยนาๆอยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา🙆‍♀️💛
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 664 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 26-5-68
    .
    เช้าวันจันทร์ คุณสนธิจะมาเล่าเบื้องหน้าเบื้องหลังของเวทีความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 2/2568 ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) ที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รวมไปถึงการขับเคลื่อนมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ที่มี อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เป็นประธานมูลนิธิ และการได้ คุณจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช. มาเข้าร่วมเพื่อขับเคลื่อนจัดการกับปัญหาคอร์รัปชัน เปิดโปงความไม่ชอบธรรมในแวดวงการเมือง และ ต่อสู้เพื่อสร้างความเป็นธรรม
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=rgx-ORonsbU
    .
    #SondhiTalk #สนธิเล่าเรื่อง #ความจริงมีหนึ่งเดียว #มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน
    สนธิเล่าเรื่อง 26-5-68 . เช้าวันจันทร์ คุณสนธิจะมาเล่าเบื้องหน้าเบื้องหลังของเวทีความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 2/2568 ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) ที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รวมไปถึงการขับเคลื่อนมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ที่มี อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เป็นประธานมูลนิธิ และการได้ คุณจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช. มาเข้าร่วมเพื่อขับเคลื่อนจัดการกับปัญหาคอร์รัปชัน เปิดโปงความไม่ชอบธรรมในแวดวงการเมือง และ ต่อสู้เพื่อสร้างความเป็นธรรม . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=rgx-ORonsbU . #SondhiTalk #สนธิเล่าเรื่อง #ความจริงมีหนึ่งเดียว #มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน
    Like
    Love
    15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1059 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 26-5-68
    .
    เช้าวันจันทร์ คุณสนธิจะมาเล่าเบื้องหน้าเบื้องหลังของเวทีความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 2/2568 ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) ที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รวมไปถึงการขับเคลื่อนมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ที่มี อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เป็นประธานมูลนิธิ และการได้ คุณจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช. มาเข้าร่วมเพื่อขับเคลื่อนจัดการกับปัญหาคอร์รัปชัน เปิดโปงความไม่ชอบธรรมในแวดวงการเมือง และ ต่อสู้เพื่อสร้างความเป็นธรรม
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=rgx-ORonsbU
    .
    #SondhiTalk #สนธิเล่าเรื่อง #ความจริงมีหนึ่งเดียว #มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน
    สนธิเล่าเรื่อง 26-5-68 . เช้าวันจันทร์ คุณสนธิจะมาเล่าเบื้องหน้าเบื้องหลังของเวทีความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 2/2568 ที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ (25 พ.ค.) ที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รวมไปถึงการขับเคลื่อนมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ที่มี อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เป็นประธานมูลนิธิ และการได้ คุณจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช. มาเข้าร่วมเพื่อขับเคลื่อนจัดการกับปัญหาคอร์รัปชัน เปิดโปงความไม่ชอบธรรมในแวดวงการเมือง และ ต่อสู้เพื่อสร้างความเป็นธรรม . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=rgx-ORonsbU . #SondhiTalk #สนธิเล่าเรื่อง #ความจริงมีหนึ่งเดียว #มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 495 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปชช.ทวงความยุติธรรม 53 จัดกิจกรรมรำลึกเหตุสลายการชุมนุมเสื้อแดง 10 เมษา “ธิดา” ยันคนเสื้อแดงต่อสู้กับเผด็จการ ไม่ใช่เพื่อใคร ซัดเพื่อไทยยังไม่เข้าใจสังคมไทยดีพอ ลั่นไม่ร่วมขบวนการหมุนทวนกงล้อประวัติศาสตร์ ร่วมมือกลุ่มจารีตอำนาจนิยมต่ออำนาจวงจรอุบาทว์ ด้าน ‘วิโรจน์’ ชี้ต้องสร้างภูมิคุ้ม หยุดกระบวนการชั่วช้าสามานย์ ไม่ให้ทำร้านคนเจนต่อไป พร้อมเดินหน้าแก้กม.กองทัพ สกัดปกป้องอาชญากรที่เข่นฆ่า ปชช.-ต้องขึ้นศาลพลเรือน

    วันนี้(10 เม.ย. 68) คณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 จัดกิจกรรม “15 ปี รำลึก เมษา-พฤษภาคม 53” โดยมี นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล นางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. นายแพทย์เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำ นปช. รวมถึงตัวแทนพรรคการเมือง เช่น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน เป็นต้น เข้าร่วม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9680000034401

    #MGROnline #รำลึกเหตุสลายการชุมนุมเสื้อแดง
    ปชช.ทวงความยุติธรรม 53 จัดกิจกรรมรำลึกเหตุสลายการชุมนุมเสื้อแดง 10 เมษา “ธิดา” ยันคนเสื้อแดงต่อสู้กับเผด็จการ ไม่ใช่เพื่อใคร ซัดเพื่อไทยยังไม่เข้าใจสังคมไทยดีพอ ลั่นไม่ร่วมขบวนการหมุนทวนกงล้อประวัติศาสตร์ ร่วมมือกลุ่มจารีตอำนาจนิยมต่ออำนาจวงจรอุบาทว์ ด้าน ‘วิโรจน์’ ชี้ต้องสร้างภูมิคุ้ม หยุดกระบวนการชั่วช้าสามานย์ ไม่ให้ทำร้านคนเจนต่อไป พร้อมเดินหน้าแก้กม.กองทัพ สกัดปกป้องอาชญากรที่เข่นฆ่า ปชช.-ต้องขึ้นศาลพลเรือน • วันนี้(10 เม.ย. 68) คณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 จัดกิจกรรม “15 ปี รำลึก เมษา-พฤษภาคม 53” โดยมี นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล นางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. นายแพทย์เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำ นปช. รวมถึงตัวแทนพรรคการเมือง เช่น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน เป็นต้น เข้าร่วม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9680000034401 • #MGROnline #รำลึกเหตุสลายการชุมนุมเสื้อแดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 846 มุมมอง 0 รีวิว
  • จิตวิญญาณพันธมิตรฯ
    เมื่อเอ่ยถึงพันธมิตรฯ ผู้คนส่วนใหญ่มักจะรู้จักกัน และมีชื่อที่หลากหลายเช่น เสื้อเหลือง เป็นต้น
    การเข้ามาเป็นพันธมิตรฯไม่ใช่เรื่องยาก แต่มันก็ไม่ง่ายดายที่จะดำรงอยู่ต่อไปในชื่อนี้ เพราะจะต้องต่อสู้ทั้งกับผู้อื่นและกับตนเอง การเป็นพันธมิตรฯที่แท้จริงนั้นไม่ง่ายดายเลย มันเหมือนกับสู้อยู่คนเดียวตามลำพัง เพราะไม่มีใครเข้าใจเรา เพราะเราเป็นคนปกติในสังคมที่ไม่ปกติ คุยกับใครไม่ค่อยรู้เรื่อง หาว่าโง่บ้าง งมงายบ้าง สุดโต่งบ้าง ไม่ยอมรับฟังผู้อื่นบ้าง ทำตัวเป็นคนโดดเดี่ยวเดียวดาย อยู่ในโลกที่ซึ่งมีความมืดบอดในตัวเอง ซึ่งสิ่งที่เอ่ยมาในข้างต้นนั้นเป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น
    ใครๆต่างก็บอกว่าพันธมิตรฯใกล้ที่จะดับมอดไหม้เต็มทีแล้ว เพราะพวกเราพันธมิตรฯนั้นต่างก็ได้รับการกลั่นกรองมาจากพวก นปช.หรือพวกเสื้อแดง พวกปชป.หรือพวกเสื้อฟ้า และโดยเฉพาะพวกกลางกลวงมานั่นเอง และในอนาคตข้างหน้าเราอาจจะถูกกลั่นกรองอีกจากพวกเดียวกันเอง เพื่อเอาพวกที่โง่งงมงายไม่รู้จักพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอที่ไม่รู้เท่าทันเหตุการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งพวกเราอาจจะเหลือน้อยลงไปอีกมากก็จริง แต่ที่แน่นอนคือพวกพ้องที่เหลืออยู่นั้นก็เป็นคนที่มีคุณภาพสูงกว่าพวกอื่นๆอย่างแน่นอน และพวกเราจะต้องรวมตัวเกาะกลุ่มกันไว้ให้มีความเหนียวแน่นแนบแฟ้นยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนให้มากยิ่งขึ้น เพราะพวกเราเท่านั้นที่จะเข้าใจกันและกัน และเปลี่ยนแปลงสังคมนี้ให้ดีเหมือนดังกับเมื่อก่อน ที่บรรพชนเราเคยมีความสามัคคีกันเพื่อปกป้องกอบกู้ประเทศไทยนี้ให้มีซึ่งศีลธรรม,จริยธรรม และคุณธรรมดีงาม เพื่อให้คนดีไม่ถูกคนชั่วรังแก เพื่อให้ลูกหลานเราได้มีที่ยืนในสังคม เพื่อให้ประเทศนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม และกลับมามีความสงบสุขอีกครั้งนั่นเอง ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าสุดท้ายแล้วธรรมะย่อมชนะอธรรม คนดีไม่มีวันตาย และแผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์จริง คนดีเท่านั้นที่อยู่ได้ ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าแม้ในตอนนี้ที่ประเทศไทยยังไม่ฉิบหายล่มจมไปกว่านี้เพราะดวงวิญญาณบรรพชนของเรา พวกเค้ายังคงคอยปกปักษ์รักษาประเทศนี้อยู่เสมอมานั่นเอง
    จิตวิญญาณพันธมิตรฯ เมื่อเอ่ยถึงพันธมิตรฯ ผู้คนส่วนใหญ่มักจะรู้จักกัน และมีชื่อที่หลากหลายเช่น เสื้อเหลือง เป็นต้น การเข้ามาเป็นพันธมิตรฯไม่ใช่เรื่องยาก แต่มันก็ไม่ง่ายดายที่จะดำรงอยู่ต่อไปในชื่อนี้ เพราะจะต้องต่อสู้ทั้งกับผู้อื่นและกับตนเอง การเป็นพันธมิตรฯที่แท้จริงนั้นไม่ง่ายดายเลย มันเหมือนกับสู้อยู่คนเดียวตามลำพัง เพราะไม่มีใครเข้าใจเรา เพราะเราเป็นคนปกติในสังคมที่ไม่ปกติ คุยกับใครไม่ค่อยรู้เรื่อง หาว่าโง่บ้าง งมงายบ้าง สุดโต่งบ้าง ไม่ยอมรับฟังผู้อื่นบ้าง ทำตัวเป็นคนโดดเดี่ยวเดียวดาย อยู่ในโลกที่ซึ่งมีความมืดบอดในตัวเอง ซึ่งสิ่งที่เอ่ยมาในข้างต้นนั้นเป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น ใครๆต่างก็บอกว่าพันธมิตรฯใกล้ที่จะดับมอดไหม้เต็มทีแล้ว เพราะพวกเราพันธมิตรฯนั้นต่างก็ได้รับการกลั่นกรองมาจากพวก นปช.หรือพวกเสื้อแดง พวกปชป.หรือพวกเสื้อฟ้า และโดยเฉพาะพวกกลางกลวงมานั่นเอง และในอนาคตข้างหน้าเราอาจจะถูกกลั่นกรองอีกจากพวกเดียวกันเอง เพื่อเอาพวกที่โง่งงมงายไม่รู้จักพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอที่ไม่รู้เท่าทันเหตุการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งพวกเราอาจจะเหลือน้อยลงไปอีกมากก็จริง แต่ที่แน่นอนคือพวกพ้องที่เหลืออยู่นั้นก็เป็นคนที่มีคุณภาพสูงกว่าพวกอื่นๆอย่างแน่นอน และพวกเราจะต้องรวมตัวเกาะกลุ่มกันไว้ให้มีความเหนียวแน่นแนบแฟ้นยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนให้มากยิ่งขึ้น เพราะพวกเราเท่านั้นที่จะเข้าใจกันและกัน และเปลี่ยนแปลงสังคมนี้ให้ดีเหมือนดังกับเมื่อก่อน ที่บรรพชนเราเคยมีความสามัคคีกันเพื่อปกป้องกอบกู้ประเทศไทยนี้ให้มีซึ่งศีลธรรม,จริยธรรม และคุณธรรมดีงาม เพื่อให้คนดีไม่ถูกคนชั่วรังแก เพื่อให้ลูกหลานเราได้มีที่ยืนในสังคม เพื่อให้ประเทศนี้น่าอยู่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม และกลับมามีความสงบสุขอีกครั้งนั่นเอง ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าสุดท้ายแล้วธรรมะย่อมชนะอธรรม คนดีไม่มีวันตาย และแผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์จริง คนดีเท่านั้นที่อยู่ได้ ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าแม้ในตอนนี้ที่ประเทศไทยยังไม่ฉิบหายล่มจมไปกว่านี้เพราะดวงวิญญาณบรรพชนของเรา พวกเค้ายังคงคอยปกปักษ์รักษาประเทศนี้อยู่เสมอมานั่นเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องเลือกข้างว่าคุณจะอยู่ข้างใคร(เสื้อสีอะไร)
    ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่ข้างสีเหลือง(พันธมิตรฯ) แปลว่าคุณเป็นคนดีจริง(ยินดีต้อนรับคนจริงจังจริงใจไม่จริงโจ้และรักชาติรักในหลวง) เราเป็นพวกเดียวกัน
    ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่ข้างสีแดง(นปช.) แปลว่าคุณเป็นคนชั่ว(พวกโง่หลงงมงายงอมืองอเท้าและรออาหารเศษเดนของคนอื่นอยู่ร่ำไป) เราจะต้องเป็นศัตรูกัน
    ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่ข้างสีฟ้า(ปชป.) แปลว่าคุณเป็นคนชั่ว(กว่า)(พวกอีแอบยืมพลังคนอื่นช่วย)(พวกชอบคนหล่อเท่และเลวน้อยกว่า) เราคงต้องเป็นศัตรูกัน
    ถ้าคุณไม่เลือกที่จะอยู่ข้างใครเลย(พวกเห็นแก่ตัวเอาตัวรอดไม่สนใจใครและเห็นใครดีกว่าชนะก็ไปอยู่ข้างเค้าถ้าใครไม่ดีแพ้ก็ไม่เอาด้วย) เราคงต้องปล่อยพวกคุณไปตามกรรมของคุณ
    และทีนี้เราก็จะได้รู้กันเสียทีว่าใครเป็นใคร แล้วคุณจะตัดสินใจได้หรือยังว่าคุณเลือกที่จะอยู่ข้างใครสีอะไร ผมหวังว่าคุณคงจะเลือกในสิ่งที่เป็นตัวของคุณเอง และรู้จักเลือกอย่างชาญฉลาดนะครับ
    ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องเลือกข้างว่าคุณจะอยู่ข้างใคร(เสื้อสีอะไร) ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่ข้างสีเหลือง(พันธมิตรฯ) แปลว่าคุณเป็นคนดีจริง(ยินดีต้อนรับคนจริงจังจริงใจไม่จริงโจ้และรักชาติรักในหลวง) เราเป็นพวกเดียวกัน ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่ข้างสีแดง(นปช.) แปลว่าคุณเป็นคนชั่ว(พวกโง่หลงงมงายงอมืองอเท้าและรออาหารเศษเดนของคนอื่นอยู่ร่ำไป) เราจะต้องเป็นศัตรูกัน ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่ข้างสีฟ้า(ปชป.) แปลว่าคุณเป็นคนชั่ว(กว่า)(พวกอีแอบยืมพลังคนอื่นช่วย)(พวกชอบคนหล่อเท่และเลวน้อยกว่า) เราคงต้องเป็นศัตรูกัน ถ้าคุณไม่เลือกที่จะอยู่ข้างใครเลย(พวกเห็นแก่ตัวเอาตัวรอดไม่สนใจใครและเห็นใครดีกว่าชนะก็ไปอยู่ข้างเค้าถ้าใครไม่ดีแพ้ก็ไม่เอาด้วย) เราคงต้องปล่อยพวกคุณไปตามกรรมของคุณ และทีนี้เราก็จะได้รู้กันเสียทีว่าใครเป็นใคร แล้วคุณจะตัดสินใจได้หรือยังว่าคุณเลือกที่จะอยู่ข้างใครสีอะไร ผมหวังว่าคุณคงจะเลือกในสิ่งที่เป็นตัวของคุณเอง และรู้จักเลือกอย่างชาญฉลาดนะครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความในใจในเรื่องของอาการป่วยของท่านพ่อกับท่านแม่(ในหลวงกับราชินี ในกลุ่มคนไทยรักในหลวง)
    สวัสดีครับทุกท่านในกลุ่มคนไทยรักในหลวง
    ในตอนนี้ท่านพ่อกับท่านแม่(ในหลวงกับราชินี)พวกท่านทั้งสองพระองค์ป่วยอยู่ ซึ่งหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้พวกท่านไม่สบายทั้งกายและใจก็เพราะเนื่องมาจากพวกที่กล้าจาบจ้วง,ดูถูก,ดูหมิ่น,ทำร้าย,ทำลายพวกท่าน ซึ่งคนจำพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นคนชั่วและเลว เนรคุณคนและแผ่นดิน และส่วนมากก็เป็นพวก นปช. หรือ พวกเสื้อแดง ซึ่งมีแค่เพียง พวกพันธมิตรฯ เท่านั้นที่กล้ายืนหยัดลุกขึ้นต่อสู้ต่อต้านกับคนกลุ่มนี้ แต่เพียงกำลังของพันธมิตรฯเพียงอย่างเดียวไม่สามารถที่จะช่วยพวกท่านทั้งสองพระองค์ได้ เพราะฉะนั้นผมจึงขอวิงวอนทุกท่านให้ช่วยเหลือกลุ่มพันธมิตรฯด้วยเถิดครับ ผมไม่ได้อยากให้ทุกคนมาเข้ากลุ่มพันธมิตรฯเหมือนกันกับผม แต่อย่างน้อยผมก็กล้าพูดได้เต็มปากว่าพันธมิตรฯทุกคนล้วนเป็นคนดี ไม่เหมือนกับพวกนปช. พวกนั้นเป็นคนชั่ว แต่กลับหลอกลวงประชาชนว่าพวกตนเองเป็นคนดีทั้งๆที่ไม่ใช่ และยังหลอกแม้กระทั่งตัวเองว่าเป็นคนดี ซึ่งทุกคนก็รู้ดีกันอยู่แล้วว่าพวกเค้าเป็นคนเช่นไร
    ผมแค่อยากจะให้ พวกเป็นกลาง หรือ พวกกลางกลวง อย่างพวกคุณนั้นช่วยเหลือพวกเราบ้าง เป็นกำลังให้พวกเราบ้าง เพื่อลูกหลานในวันข้างหน้าจะได้ไม่เดือดร้อน มันถึงเวลาแล้วที่พวกท่านต้องเลือกข้าง หรืออย่างน้อยก็อย่าดีแต่ปากเห็นแก่ตัวกัน เพราะถ้าพวกเราไม่สามัคคีกันในตอนนี้ เมื่อมันถึงเวลาที่มันไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่พวกเราพันธมิตรฯเท่านั้นที่ลำบาก แต่พวกท่านและทุกคนจะเดือดร้อนกันไปหมดทั้งแผ่นดิน ถ้าพวกท่านพ่อท่านแม่(ในหลวงกับราชินี)ไม่อยู่แล้วอะไรมันจะเกิดขึ้น บ้านเมืองมันจะลุกเป็นไฟ และทุกคนก็จะเดือดร้อนกันไปหมดกันทั้งชาติ และลูกหลานของพวกเราก็จะไม่มีประเทศผืนแผ่นดินไทยให้อยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเหมือนอย่างที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ ที่ที่มีท่านพ่อกับท่านแม่(ในหลวงกับราชินี)คอยเป็นขวัญกำลังใจให้พวกเราอีกต่อไป แล้วพวกคุณอยากจะให้มันเป็นเช่นนั้นกันนักใช่มั้ย เมื่อถึงเวลานั้นก็จะรู้กันเอง ว่ามันสายเกินไปเสียแล้ว รู้อย่างนี้เราน่าจะร่วมมือช่วยกันซะตั้งแต่แรก ซึ่งมันสายเกินไปเสียแล้วล่ะครับทุกคน
    อีกไม่นาน ถ้าพวกเรามัวงอมืองอเท้าเกี่ยงกันไม่ช่วยกันอย่างนี้ สุดท้ายมันจะย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว ผมขอให้ทุกคนช่วยกัน ช่วยคนดี แล้วมันจะดีเอง
    ป.ล.ถ้าทุกท่านไม่พอใจก็สามารถเลิกเป็นเพื่อนกับผมได้ทันทีเลย และลบผมออกจากกลุ่มไปซะ ซึ่งผมก็ไม่อยากจะอยู่กับกลุ่มคนที่เห็นแก่ตัวและดีแต่ปากกันอย่างพวกคุณนักหรอกครับ
    และถ้าผมทำสิ่งใดที่ผิดพลาดและไม่น่าให้อภัย ผมก็ขอโทษทุกท่านด้วยนะครับ ขอบคุณครับ(ขอขอบคุณทุกท่าน ที่อย่างน้อยก็อ่านบทความของผมด้วยความจริงจังจริงใจนะครับ)
    ความในใจในเรื่องของอาการป่วยของท่านพ่อกับท่านแม่(ในหลวงกับราชินี ในกลุ่มคนไทยรักในหลวง) สวัสดีครับทุกท่านในกลุ่มคนไทยรักในหลวง ในตอนนี้ท่านพ่อกับท่านแม่(ในหลวงกับราชินี)พวกท่านทั้งสองพระองค์ป่วยอยู่ ซึ่งหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้พวกท่านไม่สบายทั้งกายและใจก็เพราะเนื่องมาจากพวกที่กล้าจาบจ้วง,ดูถูก,ดูหมิ่น,ทำร้าย,ทำลายพวกท่าน ซึ่งคนจำพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นคนชั่วและเลว เนรคุณคนและแผ่นดิน และส่วนมากก็เป็นพวก นปช. หรือ พวกเสื้อแดง ซึ่งมีแค่เพียง พวกพันธมิตรฯ เท่านั้นที่กล้ายืนหยัดลุกขึ้นต่อสู้ต่อต้านกับคนกลุ่มนี้ แต่เพียงกำลังของพันธมิตรฯเพียงอย่างเดียวไม่สามารถที่จะช่วยพวกท่านทั้งสองพระองค์ได้ เพราะฉะนั้นผมจึงขอวิงวอนทุกท่านให้ช่วยเหลือกลุ่มพันธมิตรฯด้วยเถิดครับ ผมไม่ได้อยากให้ทุกคนมาเข้ากลุ่มพันธมิตรฯเหมือนกันกับผม แต่อย่างน้อยผมก็กล้าพูดได้เต็มปากว่าพันธมิตรฯทุกคนล้วนเป็นคนดี ไม่เหมือนกับพวกนปช. พวกนั้นเป็นคนชั่ว แต่กลับหลอกลวงประชาชนว่าพวกตนเองเป็นคนดีทั้งๆที่ไม่ใช่ และยังหลอกแม้กระทั่งตัวเองว่าเป็นคนดี ซึ่งทุกคนก็รู้ดีกันอยู่แล้วว่าพวกเค้าเป็นคนเช่นไร ผมแค่อยากจะให้ พวกเป็นกลาง หรือ พวกกลางกลวง อย่างพวกคุณนั้นช่วยเหลือพวกเราบ้าง เป็นกำลังให้พวกเราบ้าง เพื่อลูกหลานในวันข้างหน้าจะได้ไม่เดือดร้อน มันถึงเวลาแล้วที่พวกท่านต้องเลือกข้าง หรืออย่างน้อยก็อย่าดีแต่ปากเห็นแก่ตัวกัน เพราะถ้าพวกเราไม่สามัคคีกันในตอนนี้ เมื่อมันถึงเวลาที่มันไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่ใช่เพียงแค่พวกเราพันธมิตรฯเท่านั้นที่ลำบาก แต่พวกท่านและทุกคนจะเดือดร้อนกันไปหมดทั้งแผ่นดิน ถ้าพวกท่านพ่อท่านแม่(ในหลวงกับราชินี)ไม่อยู่แล้วอะไรมันจะเกิดขึ้น บ้านเมืองมันจะลุกเป็นไฟ และทุกคนก็จะเดือดร้อนกันไปหมดกันทั้งชาติ และลูกหลานของพวกเราก็จะไม่มีประเทศผืนแผ่นดินไทยให้อยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเหมือนอย่างที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ ที่ที่มีท่านพ่อกับท่านแม่(ในหลวงกับราชินี)คอยเป็นขวัญกำลังใจให้พวกเราอีกต่อไป แล้วพวกคุณอยากจะให้มันเป็นเช่นนั้นกันนักใช่มั้ย เมื่อถึงเวลานั้นก็จะรู้กันเอง ว่ามันสายเกินไปเสียแล้ว รู้อย่างนี้เราน่าจะร่วมมือช่วยกันซะตั้งแต่แรก ซึ่งมันสายเกินไปเสียแล้วล่ะครับทุกคน อีกไม่นาน ถ้าพวกเรามัวงอมืองอเท้าเกี่ยงกันไม่ช่วยกันอย่างนี้ สุดท้ายมันจะย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว ผมขอให้ทุกคนช่วยกัน ช่วยคนดี แล้วมันจะดีเอง ป.ล.ถ้าทุกท่านไม่พอใจก็สามารถเลิกเป็นเพื่อนกับผมได้ทันทีเลย และลบผมออกจากกลุ่มไปซะ ซึ่งผมก็ไม่อยากจะอยู่กับกลุ่มคนที่เห็นแก่ตัวและดีแต่ปากกันอย่างพวกคุณนักหรอกครับ และถ้าผมทำสิ่งใดที่ผิดพลาดและไม่น่าให้อภัย ผมก็ขอโทษทุกท่านด้วยนะครับ ขอบคุณครับ(ขอขอบคุณทุกท่าน ที่อย่างน้อยก็อ่านบทความของผมด้วยความจริงจังจริงใจนะครับ)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 417 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความหมายของ "หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป แต่บางสิ่งบางอย่างไม่เคยเปลี่ยน"
    ในชีวิตนี้ คนเราย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและสถานการณ์ต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยกันทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งสิ่งต่างๆรอบตัวเรา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นรูปธรรมนั้นย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาเสมอ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นนามธรรมนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปเลย ยกตัวอย่างเช่น สัจธรรมความรู้ต่างๆที่ได้รับการยอมรับจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมความรู้ต่างๆ กฎเกณฑ์ต่างๆของธรรมชาติ เช่น ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก และตกทางทิศตะวันตก เป็นต้น
    แต่ที่ผมตั้งใจจะบอกทุกคนนั้นก็คือ จิตใจ,จิตวิญญาณ,เจตจำนง และอุดมการณ์ของคนเราบางคน และหรือหลายคนที่ไม่มีวันผันแปรหรือเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลานั่นเอง
    น้อยคนนักที่จะเป็นคนเดิม เป็นตัวตนเดิม หรือคงความเป็นตัวตนของตัวเองให้เหมือนเดิมอยู่ได้ตลอดเวลา เพราะเค้าคนนั้น หรือพวกเค้าเหล่านั้นจะต้องพบเจอกับอุปสรรคขวากหนามต่างๆนาๆที่ได้รับมาจากเบื้องบนเพื่อเป็นการทดสอบที่แสนสาหัส เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าพวกเค้าเหล่านั้นมีความตั้งใจจริงที่จะกระทำความดี คงความดีของตนเองไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลายได้เป็นอย่างดีนั่นเอง แต่ผลตอบแทนที่พวกเค้าเหล่านั้นได้รับมาหลังจากที่พวกเค้าได้ตายไปนั้น มันคุ้มค่าคู่ควรแก่การเป็นคนดีอย่างแท้จริง คนดีเมื่อเคยได้กระทำความดีให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคนแล้วนั้น พวกเค้าเหล่านั้นย่อมจะตายอย่างเป็นสุข และของแถมของพวกเค้าก็คือการได้รับการยกย่องนับถือแก่วงศ์ตระกูลชั่วลูกชั่วหลานนั่นเอง
    คนชั่วคนเลวส่วนใหญ่มักจะหวังผลประโยชน์ตอบแทนในสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืนแบบไม่คงทนถาวรแล้ว ยังสร้างความเดือดร้อนให้กับคนดีที่พยายามจะกระทำความดีอีกด้วย เพราะไปขัดแข้งขัดขาคนชั่วคนเลวพวกนั้น นั่นก็คืออุปสรรคขวากหนามที่คนดีจะต้องพบเจออยู่เสมอๆนั่นเอง
    น้อยคนนักที่จะเป็นคนดีได้อย่างยั่งยืน และส่วนมากนั้นก็จะล้มเหลวและพบจุดจบที่น่าเศร้า
    ในความเห็นส่วนตัวของผมนั้น ผมคิดว่า การที่พันธมิตรฯลุกขึ้นมาต่อต้านคนชั่วที่ทำร้ายทำลายบ้านเมืองนั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้อง และการที่พวกนปช.คิดที่จะล้มล้างสถาบันและทำลายบ้านเมืองนั้น เป็นเรื่องทีไม่น่าให้อภัย และคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่คิดที่จะเข้าข้างใคร และไม่คิดที่จะทำอะไรเลย เอาแต่กล่าวหาว่าผู้อื่นทำไม่ดี และตัวเองเดือดร้อนจึงได้แต่ด่าว่าคนอื่นอยู่ร่ำไป
    ผมว่าบ้านเมืองที่ลุกเป็นไฟก็เพราะคนเราเห็นแก่ตัวกัน เห็นแก่ผลประโยชน์กัน ขัดแย้งผลประโยชน์กัน และอีกหลายเรื่องมากมายต่างๆนาๆ การที่คนเราไม่รักกัน ไม่สามัคคีกัน มันทำให้ทุกคนเจ็บปวด แต่จะทำไงได้ ในเมื่อสังคมเดี๋ยวนี้มันมีแต่ความเสื่อมทรามลงทุกวันๆ เพราะคนเราขาดคุณธรรม,ศีลธรรม,จริยธรรม,จรรยาบรรณ และคุณงามความดีกันนั่นเอง เพราะเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่ล้าหลังล้าสมัยกันนั่นเอง
    สุดท้ายแล้วโลกจะเป็นอย่างไรก็ไม่สนใจ และท้ายที่สุดแล้ววันนั้นมันก็จะมาถึง "วันแห่งการพิพากษา" ของโลกใบนี้ และตอนนี้มันก็เริ่มกระบวนการของมันอยู่แล้ว ก็คือภัยธรรมชาติของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนั่นเอง
    ผมอยากรู้จริงๆว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไปกันนะ และถึงที่สุดแล้วคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือใครกัน ผมว่าคงไม่ใช่คนที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ในรัฐบาลอัปปรีย์สิทธิ์ หรือ รัฐบาลยิ่งอัปลักษณ์อย่างแน่นอน เพราะคนที่ยิ่งใหญ่ที่แท้จริงนั้นก็คือเหล่าพุทธะหรือผู้รู้แจ้งโลกแจ้งจักรวาลอย่างผู้นำทุกศาสนาที่เฝ้าสั่งสอนเราให้เป็นคนดีนั่นเอง
    ความหมายของ "หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป แต่บางสิ่งบางอย่างไม่เคยเปลี่ยน" ในชีวิตนี้ คนเราย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและสถานการณ์ต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยกันทุกคน ไม่เว้นแม้กระทั่งสิ่งต่างๆรอบตัวเรา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นรูปธรรมนั้นย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาเสมอ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นนามธรรมนั้นจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปเลย ยกตัวอย่างเช่น สัจธรรมความรู้ต่างๆที่ได้รับการยอมรับจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมความรู้ต่างๆ กฎเกณฑ์ต่างๆของธรรมชาติ เช่น ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก และตกทางทิศตะวันตก เป็นต้น แต่ที่ผมตั้งใจจะบอกทุกคนนั้นก็คือ จิตใจ,จิตวิญญาณ,เจตจำนง และอุดมการณ์ของคนเราบางคน และหรือหลายคนที่ไม่มีวันผันแปรหรือเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลานั่นเอง น้อยคนนักที่จะเป็นคนเดิม เป็นตัวตนเดิม หรือคงความเป็นตัวตนของตัวเองให้เหมือนเดิมอยู่ได้ตลอดเวลา เพราะเค้าคนนั้น หรือพวกเค้าเหล่านั้นจะต้องพบเจอกับอุปสรรคขวากหนามต่างๆนาๆที่ได้รับมาจากเบื้องบนเพื่อเป็นการทดสอบที่แสนสาหัส เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าพวกเค้าเหล่านั้นมีความตั้งใจจริงที่จะกระทำความดี คงความดีของตนเองไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลายได้เป็นอย่างดีนั่นเอง แต่ผลตอบแทนที่พวกเค้าเหล่านั้นได้รับมาหลังจากที่พวกเค้าได้ตายไปนั้น มันคุ้มค่าคู่ควรแก่การเป็นคนดีอย่างแท้จริง คนดีเมื่อเคยได้กระทำความดีให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคนแล้วนั้น พวกเค้าเหล่านั้นย่อมจะตายอย่างเป็นสุข และของแถมของพวกเค้าก็คือการได้รับการยกย่องนับถือแก่วงศ์ตระกูลชั่วลูกชั่วหลานนั่นเอง คนชั่วคนเลวส่วนใหญ่มักจะหวังผลประโยชน์ตอบแทนในสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืนแบบไม่คงทนถาวรแล้ว ยังสร้างความเดือดร้อนให้กับคนดีที่พยายามจะกระทำความดีอีกด้วย เพราะไปขัดแข้งขัดขาคนชั่วคนเลวพวกนั้น นั่นก็คืออุปสรรคขวากหนามที่คนดีจะต้องพบเจออยู่เสมอๆนั่นเอง น้อยคนนักที่จะเป็นคนดีได้อย่างยั่งยืน และส่วนมากนั้นก็จะล้มเหลวและพบจุดจบที่น่าเศร้า ในความเห็นส่วนตัวของผมนั้น ผมคิดว่า การที่พันธมิตรฯลุกขึ้นมาต่อต้านคนชั่วที่ทำร้ายทำลายบ้านเมืองนั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้อง และการที่พวกนปช.คิดที่จะล้มล้างสถาบันและทำลายบ้านเมืองนั้น เป็นเรื่องทีไม่น่าให้อภัย และคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่คิดที่จะเข้าข้างใคร และไม่คิดที่จะทำอะไรเลย เอาแต่กล่าวหาว่าผู้อื่นทำไม่ดี และตัวเองเดือดร้อนจึงได้แต่ด่าว่าคนอื่นอยู่ร่ำไป ผมว่าบ้านเมืองที่ลุกเป็นไฟก็เพราะคนเราเห็นแก่ตัวกัน เห็นแก่ผลประโยชน์กัน ขัดแย้งผลประโยชน์กัน และอีกหลายเรื่องมากมายต่างๆนาๆ การที่คนเราไม่รักกัน ไม่สามัคคีกัน มันทำให้ทุกคนเจ็บปวด แต่จะทำไงได้ ในเมื่อสังคมเดี๋ยวนี้มันมีแต่ความเสื่อมทรามลงทุกวันๆ เพราะคนเราขาดคุณธรรม,ศีลธรรม,จริยธรรม,จรรยาบรรณ และคุณงามความดีกันนั่นเอง เพราะเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่ล้าหลังล้าสมัยกันนั่นเอง สุดท้ายแล้วโลกจะเป็นอย่างไรก็ไม่สนใจ และท้ายที่สุดแล้ววันนั้นมันก็จะมาถึง "วันแห่งการพิพากษา" ของโลกใบนี้ และตอนนี้มันก็เริ่มกระบวนการของมันอยู่แล้ว ก็คือภัยธรรมชาติของธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกนั่นเอง ผมอยากรู้จริงๆว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไปกันนะ และถึงที่สุดแล้วคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือใครกัน ผมว่าคงไม่ใช่คนที่มีอำนาจยิ่งใหญ่ในรัฐบาลอัปปรีย์สิทธิ์ หรือ รัฐบาลยิ่งอัปลักษณ์อย่างแน่นอน เพราะคนที่ยิ่งใหญ่ที่แท้จริงนั้นก็คือเหล่าพุทธะหรือผู้รู้แจ้งโลกแจ้งจักรวาลอย่างผู้นำทุกศาสนาที่เฝ้าสั่งสอนเราให้เป็นคนดีนั่นเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 775 มุมมอง 0 รีวิว
  • คปท.ผนึก ศปปส.-กองทัพธรรม-อดีต นปช.ยื่น หนังสือจี้ส่งเวชระเบียนการรักษาตัวของ ‘ทักษิณ’ ที่ชั้น 14 รพ.จตำรวจ ถึงนายกฯ ซัดตำรวจ-แพทย์ ส่อปกป้องผู้ป่วยเทวดา พร้อมแสดงจุดยืนต้านกาสิโน "จตุพร" เตือนอุ๊งอิ๊งค์ ถ้าอยากหนีเหมือนพ่อเหมือนอาก็ทำต่อไป

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000006443

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    คปท.ผนึก ศปปส.-กองทัพธรรม-อดีต นปช.ยื่น หนังสือจี้ส่งเวชระเบียนการรักษาตัวของ ‘ทักษิณ’ ที่ชั้น 14 รพ.จตำรวจ ถึงนายกฯ ซัดตำรวจ-แพทย์ ส่อปกป้องผู้ป่วยเทวดา พร้อมแสดงจุดยืนต้านกาสิโน "จตุพร" เตือนอุ๊งอิ๊งค์ ถ้าอยากหนีเหมือนพ่อเหมือนอาก็ทำต่อไป อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000006443 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1375 มุมมอง 1 รีวิว
  • “ทักษิณ” เดือดกลางเวทีหาเสียง อบจ.มหาสารคาม ปมคนบอกว่าโกง ลั่น โกงพ่อมึงสิ ทำมาหากินมาแท้ๆ คำก็โกง สองคำก็โกง มึงตั้งคณะกรรมการเฮงซวยมาสอบกู ตอนที่กูรวยมึงยังเพิ่งขอตังค์พ่อใช้อยู่เลย

    วันนี้(20 ม.ค.) ที่โรงฝึกกีฬาอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ(สถาบันการพลศึกษาเดิม) วิทยาเขตมหาสารคาม อ.เมือง จ.มหาสารคาม นายทักษิณ​ ชิน​วัตร ​อดีต​นายก​รัฐมนตรี​ ขึ้นปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัคร อบจ.จากพรรคเพื่อไทยหาเสียงเป็นเวทีที่ 2

    นายทักษิณ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ที่นี่มี นปช.เยอะ ดีใจบอกไม่ถูกพี่น้องคงดีใจที่ได้เจอตนเอง หลังจากที่ไม่เจอกันมาเกือบ 20 ปี ตนเองว่าเรามีความรู้สึกเหมือนกับว่าตนเองตายไปแล้ว เกิดมาใหม่ มาอยู่ใกล้ๆ กันใหม่ มีความรู้สึกว่าผูกพัน วันนี้กลับมาในยามที่บ้านเมืองค่อนข้างมีปัญหาทางเศรษฐกิจเยอะ พี่น้องคงมั่นใจว่าตนคงมาช่วยแก้ไขปัญหาได้ และตนก็มั่นใจว่าแก้ได้

    นายทักษิณ กล่าวอีกว่า เราต้องทำเรื่องใหม่ๆ แต่ก็มีคนคัดค้านมาก โดยเฉพาะขาประจำ ว่างๆ จะชวนมากินไวน์ เผื่อจะเป็นน้ำเปลี่ยนนิสัยบ้าง เผื่อเปลี่ยนแล้วจะเข้าใจตนเองบ้าง และเข้าใจประเทศ เพราะเรามีเรื่องดีๆ เยอะ ต้องค่อยๆ ปล่อย ขนาดค่อยๆ ปล่อย ยังมีคนไม่เข้าใจ อย่างพวกขาประจำ แค่หายใจก็ผิด ตนเองหายใจก็ผิด หายใจไม่ได้ แต่พวกที่ไม่เข้าใจจริงๆ ก็ค่อยๆ อธิบาย เดี๋ยวนี้ต้องใจเย็น ไปไหนก็ต้องท่องคาถา ใจเย็นนะโยม เมื่อก่อนปากร้ายปากไว เดี๋ยวนี้เย็นไว้นะโยม เพราะวันนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะ ต้องมีวิธีการแก้ปัญหาแบบใหม่

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000006064

    #MGROnline #ทักษิณ #มหาสารคาม
    “ทักษิณ” เดือดกลางเวทีหาเสียง อบจ.มหาสารคาม ปมคนบอกว่าโกง ลั่น โกงพ่อมึงสิ ทำมาหากินมาแท้ๆ คำก็โกง สองคำก็โกง มึงตั้งคณะกรรมการเฮงซวยมาสอบกู ตอนที่กูรวยมึงยังเพิ่งขอตังค์พ่อใช้อยู่เลย • วันนี้(20 ม.ค.) ที่โรงฝึกกีฬาอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ(สถาบันการพลศึกษาเดิม) วิทยาเขตมหาสารคาม อ.เมือง จ.มหาสารคาม นายทักษิณ​ ชิน​วัตร ​อดีต​นายก​รัฐมนตรี​ ขึ้นปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัคร อบจ.จากพรรคเพื่อไทยหาเสียงเป็นเวทีที่ 2 • นายทักษิณ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ที่นี่มี นปช.เยอะ ดีใจบอกไม่ถูกพี่น้องคงดีใจที่ได้เจอตนเอง หลังจากที่ไม่เจอกันมาเกือบ 20 ปี ตนเองว่าเรามีความรู้สึกเหมือนกับว่าตนเองตายไปแล้ว เกิดมาใหม่ มาอยู่ใกล้ๆ กันใหม่ มีความรู้สึกว่าผูกพัน วันนี้กลับมาในยามที่บ้านเมืองค่อนข้างมีปัญหาทางเศรษฐกิจเยอะ พี่น้องคงมั่นใจว่าตนคงมาช่วยแก้ไขปัญหาได้ และตนก็มั่นใจว่าแก้ได้ • นายทักษิณ กล่าวอีกว่า เราต้องทำเรื่องใหม่ๆ แต่ก็มีคนคัดค้านมาก โดยเฉพาะขาประจำ ว่างๆ จะชวนมากินไวน์ เผื่อจะเป็นน้ำเปลี่ยนนิสัยบ้าง เผื่อเปลี่ยนแล้วจะเข้าใจตนเองบ้าง และเข้าใจประเทศ เพราะเรามีเรื่องดีๆ เยอะ ต้องค่อยๆ ปล่อย ขนาดค่อยๆ ปล่อย ยังมีคนไม่เข้าใจ อย่างพวกขาประจำ แค่หายใจก็ผิด ตนเองหายใจก็ผิด หายใจไม่ได้ แต่พวกที่ไม่เข้าใจจริงๆ ก็ค่อยๆ อธิบาย เดี๋ยวนี้ต้องใจเย็น ไปไหนก็ต้องท่องคาถา ใจเย็นนะโยม เมื่อก่อนปากร้ายปากไว เดี๋ยวนี้เย็นไว้นะโยม เพราะวันนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะ ต้องมีวิธีการแก้ปัญหาแบบใหม่ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000006064 • #MGROnline #ทักษิณ #มหาสารคาม
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 593 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัประยุทธ์ “ธรรมะ-อธรรม” #เปลวสีเงินplewเปลว สีเงิน“กฎหมาย” มีไว้สร้างสมดุลทาง “สังคมเป็นธรรม”แต่ทุกวันนี้คนใน “๓ สถาบันอำนาจ” คือ อำนาจนิติบัญญัติ, อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ “บางคน”ใช้กฎหมายสร้าง “สังคมอยุติธรรม” ทำลายสมดุลความเป็นคนที่เท่าเทียมทางกฎหมาย จนเกิดคำว่า “ป่วยทิพย์-คุกทิพย์”บ่งบอกถึง “เลือกปฎิบัติ-สองมาตรฐาน” ซึ่งชาวบ้านทั่วไป ไม่มีสิทธิได้รับโอกาสนั้น (เว้นแต่มีเงิน)คนใน ๓ สถาบันอำนาจเท่านั้น….ที่จะทำให้ “สังคมเป็นธรรม” กลายเป็น “สังคมระยำ” เช่นนั้นได้!มันก็แปลก คนกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนที่เรียกเรียก “เจ้าหน้าที่รัฐ” กลับมีอำนาจ “เหนือชีวิตประชาชน”นายจ้าง คือคนเสียภาษีแท้ๆ กลับถูก “ส้นตีนอำนาจ” ยัดปากตลอดกาลแค่จะคุกเข่า ยกสองมืออ่อนล้า วอนเมตตาและความเป็นธรรม ก็ยังถูกตราหน้า “พวกทำให้บ้านเมืองเสียโอกาส”โอกาสโกงบ้าน-กินเมืองละก็ใช่แต่ไมใช่โอกาสคืนความชอบธรรมให้กับบ้านเมือง!สังคมชาติที่ผู้คน “ตัวใคร-ตัวมัน” เห็นประโยชน์ชาติ ไม่ใช่ประโยชน์กู แล้วต่างทอดธุระและชาวบ้านก็เอาแต่ “ชะแง้รอแจก”ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ สยบยอมโจร ใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่เป็นกุญแจไข เปิดทางให้มัน “ปล้นบ้าน-ชำเราเมือง” จนย่ามใจ กร่างใหญ่คับประเทศผมก็ได้แต่ทอดถอนใจ ทำได้เพียง “รักบ้าน-รักเมือง” ด้วยปากไปวันๆเมื่อสัปดาห์ก่อน เห็นคนที่ไม่เอาแต่นั่งทอดถอนใจอย่างผม เขาเห็นการประทำย่ำยีบ้านเมืองจากไอ้ตัวกาลีเมืองแล้ว พวกเขาร้อนใจนัดกันไปคุยตามประสาคนห่วงบ้าน-ห่วงเมือง ผมอ่านข่าว ก็มีท่านเหล่านี้แก้วสรร อติโพธิ, ดร.เจิม ศักดิ์ ปิ่นทอง, ดร.กิตติศักดิ์ ปรกติ, ขวัญสรวง อติโพธิ, พลเอกสมเจตน์ บุญถนอมจตุพร พรหมพันธุ์, ทนายนกเขา, ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์,สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม, พิชิต ไชยมงคล,สาวิทย์ แก้วหวาน, ประสาร มฤคพิทักษ์, ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว), แซมดิน เลิศบุศย์สมชาย แสวงการ, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม, นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์, ชาญชัย อิสระเสนารักษ์, ปรีดา เตียสุวรรณ์ และฯลฯหลายท่าน รู้จักมักคุ้น หลายท่านได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยพบสรุป ท่านเหล่านั้น มีที่มาเดียวกันบ้าง ต่างกันบ้าง คิดและทำเหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้างแต่ที่สุดแล้ว หนีหลักธรรมชาติไม่พ้นธรรมะ คือธรรมชาติ สิ่งจัดสรรมนุษย์คือธรรมชาติ รวงข้าว เมื่อแก่ ย่อมค้อมรวงบัว เกิดจากโคลนตม เมื่อพ้นน้ำ ย่อมปลดเปลื้องจากโคลนตม พิสุทธิ์แทนใจ บูชาธรรมคณะบุคคลเหล่านั้น ก็ประมาณนี้ …..ในความต่างที่มา ที่คิด ที่ทำ ในความเป็นบัณฑิตแห่งธาตุคน ที่สุดแล้ว คนธาตุบัณฑิตย่อมไหลรวมในหมู่บัณฑิตด้วยกันจะเรียกเขาเหล่านั้นว่าอะไรดีล่ะ?เพราะมีทั้ง พันธมิตรฯ ทั้ง กปปส. ทั้งกลุ่มหลอมรวม ทั้งเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย ทั้งกลุ่มสันติอโศกเรียกคณะ “ปชพช.” ดีมั้ย ….เป็นอักษรรวมความเพื่อให้ “เรียกง่าย-จำง่าย”ปชพช. “คณะปัญญาชนพิทักษ์ชาติ” ดูเหมาะสมกับสิ่งที่พวกเขาทำเมื่อวาน (๑๘ ธค.๖๗)คือ คณะปัญญาชนพากันเดินไปที่ “สำนักงานคณะกรรมการ​ป้องกัน​และ​ปราบปราม​การ​ทุจริต​แห่งชาติ “​(ป.ป.ช.​)ไม่ได้ไปก่อกวน ก้าวร้าว เยี่ยงอันธพาลเมือง แต่ไปเยี่ยงบัณฑิต กระทำเยี่ยงบัณฑิตเพื่อยื่นหนังสือให้ป.ป.ช.ตระหนักคิด กรณี ป.ป.ช.​ รับพิจารณาข้อกล่าวหา….“นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่เรือนจำ แพทย์รพ.ราชทัณฑ์ และรพ.ตำรวจ รวม ๑๒ คนส่งตัวผู้ต้องขังรายนายทักษิณ ชินวัตร จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมิชอบ​ให้ป.ป.ช.เร่งรัดพิจารณาเรื่องนี้และดำเนินคดีขึ้นสู่ศาลโดยเร็ว​ ในหนังสือ มี ๔ ข้อ๑.คดีส่งตัวไปรักษานอกเรือนจำพบว่า มีพยานเป็นบุคคลชัดเจน ได้เข้าไปเยี่ยมและพบว่าไม่มีอาการเจ็บป่วย อีกทั้งยังไม่มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุม หรือประจำอยู่ห้องพิเศษดังกล่าวและยังไม่ปรากฏหลักฐานการตรวจ หรือหลักฐานความเห็นของแพทย์ที่อนุญาตให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจซึ่งพิธีการทั้งหมดนี้ ขัดต่อขั้นตอนกฎกระทรวงทั้งสิ้น และไม่ว่าป.ป.ช.จะขอความร่วมมือไปเท่าไร ก็ไม่ได้รับจึงเป็นหลักฐานที่เพียงพอว่า พฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายทุจริตช่วยเหลือกันโดยมิชอบส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ของกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง ป.ป.ช.จึงต้องเร่งไต่สวน๒.คดีให้อยู่บ้านพักโทษ โดยมติการให้พักโทษ โดยอ้าง นักโทษมีสภาพร่างกายที่ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งการนั่ง เดินขึ้นบันได อาบน้ำ แต่งตัวรับประทานอาหาร จึงจำเป็นต้องพักโทษให้แต่ปรากฏว่า หลังการพักโทษ นักโทษกลับแข็งแรงขึ้นมาโดยพลัน เดินทางไปทั่วประเทศ ขึ้นปราศรัย ร่วมงานเลี้ยง ใช้ชีวิตปกติได้ทุกอย่าง จึงไม่อาจเชื่อได้ว่าการพักโทษมาจากการประเมินสภาพร่างกายโดยสุจริตและถูกต้อง​ดังนั้น จึงอยากให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าไปเป็นอีกหนึ่งคดีในชั้นการพิจารณาของป.ป.ช.ด้วย๓.เรื่องการบังคับใช้กฎหมาย กฎหมายไทยพยายามปราบปรามคดีทุจริตคอร์รัปชันเป็นพิเศษแต่ปรากฏว่า หลังดำเนินคดีไปแล้วไม่มีกรอบเกณฑ์​การตรวจสอบที่เคร่งครัดปล่อยให้กระบวนการทุจริต ตัดทอนโทษทัณฑ์ตามคำพิพากษา กำเริบเสิบสานเป็นผลให้ความยุติธรรมเสื่อมสลาย จนประชาชนสิ้นศรัทธา๔.เข้าข่ายเป็นกระบวนการทุจริตระดับชาติ ใช้เงินสร้างอำนาจ แล้วใช้อำนาจมา​สร้างเงิน​ สร้างพวก​ สร้างสื่อ สร้างผลงานทุจริตไว้ ๒ ทศวรรษ​ จนเสียหายไปกว่าแสนล้าน และหัวหน้าขบวนการ ก็ยังยอมรับคำขออภัยโทษ ว่าได้ทำผิดไปแล้วจริงๆ แต่มาบัดนี้ แทนที่จะยอมรับโทษกลับหลีกเลี่ยง แสดงตน เข้าครอบงำพรรค​ ผลักดันนโยบายทุจริต สร้างประชานิยมไม่หยุดยั้งและล่าสุดยังประกาศจะพาน้องสาวที่เป็นจำเลยหนีคดีทุจริตรับจำนำข้าวกลับมาด้วยถือเป็นพฤติการณ์ทุจริตฉ้อฉลรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมหยุดบทบาทการเมือง และพาประเทศไปในทางต่ำ“นี่คือหายนะที่เห็นได้ชัดเจน และอนาคตที่มืดมิดเช่นนี้ จึงฝาก ป.ป.ช.ตระหนักและทุ่มเท รับผิดชอบ กู้อนาคตบ้านเมืองอย่างเต็มสติกำลัง”ขณะเดียวกัน ​”คณะปชพช.” ยังบอกว่า….จะยื่นให้สอบบุคคลเพิ่มเติม​ทั้ง ​”พ.ต.อ.ทวี​ สอดส่อง” ​รมว.ยุติธรรม และ “​นางพงษ์สวาท นีละโยธิน” ปลัดฯ ยุติธรรม เพราะมองว่าอยู่ในกระบวนการที่ช่วยนายทักษิณ​อาจารย์ “แก้วสรร อติโพธิ” อดีตอาจารย์คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์และรองอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวต่อหน้าเลขาฯ ป.ป.ช.ว่า“มั่นใจในการทำงาน ป.ป.ช.และคิดว่ากฎหมายกำลังเดินไปตามทางที่ถูก-ที่ควร​ จึงขอให้เดินหน้าเต็มที่​และคิดว่าจะใช้เวลาไม่นานพร้อมขอให้แพทย์ที่รักษานายทักษิณออกมาพูด โดยขอให้เอาตัวการจริงๆ มาลงโทษ​หลายคนถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนายทักษิณ คำตอบในทางกฎหมาย ถ้าหมายศาลให้ขังและหากไม่มีการขังตามหมายต้องออกหมายใหม่ กลับไปเข้าคุกเป็นอำนาจ “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมือง” ที่นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ กำลังจะไปร้อง ซึ่งศาลสามารถเรียกสำนวนจากป.ป.ช.ไปดูและวินิจฉัยได้“จุดสำคัญ ศาลสั่งกลับเข้าคุกได้ ถ้าหลักฐานชัดเจน โดยไม่ต้องรอคำวินิจฉัยของป.ป.ช.เพราะคดีนี้ เป็นคดีเจ้าหน้าที่ ดังนั้น นายทักษิณ​ เตรียมตัวได้​”อาจารย์แก้วสรร ยังสัมโมทนียกถาว่า “หากป.ป.ช.ทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง จะยอมกราบเลย”“จตุพร พรหมพันธุ์” อดีตแกนนำนปช.ผู้พ้นขอบเหวคืนสู่ฟากฝั่ง กล่าวว่า“มาให้กำลังใจป.ป.ช.ทั้งมีความไม่สบายใจในอนาคต เพราะคดีของนายทักษิณ ป.ป.ช.เป็นผู้ชี้มูลเองวันนี้มาด้วยความหวังในการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.อย่างตรงไปตรงมา ในจำนวนผู้ที่ถูกตั้งองค์คณะไต่สวน ๑๒ คนนี้ ใครไม่ผิด คือไม่ผิด ไม่ได้ต้องการมาทำให้ “ดำเป็นขาว- ขาวเป็นดำ” แต่ต้องการมาให้ “ถูกเป็นถูก-ผิดเป็นผิด, ดีเป็นดี- ชั่วเป็นชั่ว”ยอมรับว่าเรื่องการไต่สวน วันนี้ “ยังไม่ไว้ใจป.ป.ช.” จนกว่าจะได้พิสูจน์จนสิ้นข้อสงสัยแล้ว และได้ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตถึงวันนั้น ผมและคณะจะมาขอบคุณอีกครั้งขณะนี้ เป็นที่ประจักษ์ นายทักษิณไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว เราต้องการเห็นน้ำยาของ ป.ป.ช.ไม่ต้องการเห็นขนมจีน….”ครับ….ผมก็เกรงว่า คุณจตุพรจะเห็นแต่ “ขนมจีน” เท่านั้นแหละ ตามกฎหมายป.ป.ช.มาตรา ๕๑ ให้กรอบเวลาไว้ว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนเองทั้งคณะ ต้องทำให้เสร็จภายใน ๒ ปี ถ้าไม่เสร็จ ขยายเวลาได้อีก ๑ ปีสรุป “รอไปอีก ๓ ปี” กว่าจะเสร็จขั้นไต่สวน!ตอนนี้ ป.ป.ช.ครบวาระ ๓ ท่าน อยู่ช่วงกรรมการสรรหากำลังพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัคร กว่าจะได้ครบ ก็คงกลางปีหน้าโน่นและถ้าถึงขั้นชี้มูลความผิด ต้องเรียก ๑๒ ผู้ถูกกล่าวหามาให้ปากคำ กี่ปีถึงครบ ๑๒ ปากล่ะ ?เอาว่า “๕ ปี” เร็วสุด!ที่อาจารย์แก้วสรรบอก “คิดว่าจะใช้เวลาไม่นาน” นั้นรออีก ๕-๘ ปี นานมั้ย?เห็นที คณะปชพช.คงต้องทำหน้าที่ “ไม้แยงก้น” ป.ป.ช.เป็นรายการ “ทวงถามรายเดือน” แล้วหละไม่งั้น “กราบป.ป.ช.” ของอาจารย์แก้วสรรสู้ “กราบแผ่นดิน” ของ “พระเจ้ามูลเมือง” ผู้กลับชาติมาเกิดไม่ได้หรอก!เปลว สีเงิน๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๗
    สัประยุทธ์ “ธรรมะ-อธรรม” #เปลวสีเงินplewเปลว สีเงิน“กฎหมาย” มีไว้สร้างสมดุลทาง “สังคมเป็นธรรม”แต่ทุกวันนี้คนใน “๓ สถาบันอำนาจ” คือ อำนาจนิติบัญญัติ, อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ “บางคน”ใช้กฎหมายสร้าง “สังคมอยุติธรรม” ทำลายสมดุลความเป็นคนที่เท่าเทียมทางกฎหมาย จนเกิดคำว่า “ป่วยทิพย์-คุกทิพย์”บ่งบอกถึง “เลือกปฎิบัติ-สองมาตรฐาน” ซึ่งชาวบ้านทั่วไป ไม่มีสิทธิได้รับโอกาสนั้น (เว้นแต่มีเงิน)คนใน ๓ สถาบันอำนาจเท่านั้น….ที่จะทำให้ “สังคมเป็นธรรม” กลายเป็น “สังคมระยำ” เช่นนั้นได้!มันก็แปลก คนกินเงินเดือนจากภาษีประชาชนที่เรียกเรียก “เจ้าหน้าที่รัฐ” กลับมีอำนาจ “เหนือชีวิตประชาชน”นายจ้าง คือคนเสียภาษีแท้ๆ กลับถูก “ส้นตีนอำนาจ” ยัดปากตลอดกาลแค่จะคุกเข่า ยกสองมืออ่อนล้า วอนเมตตาและความเป็นธรรม ก็ยังถูกตราหน้า “พวกทำให้บ้านเมืองเสียโอกาส”โอกาสโกงบ้าน-กินเมืองละก็ใช่แต่ไมใช่โอกาสคืนความชอบธรรมให้กับบ้านเมือง!สังคมชาติที่ผู้คน “ตัวใคร-ตัวมัน” เห็นประโยชน์ชาติ ไม่ใช่ประโยชน์กู แล้วต่างทอดธุระและชาวบ้านก็เอาแต่ “ชะแง้รอแจก”ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ สยบยอมโจร ใช้อำนาจตำแหน่งหน้าที่เป็นกุญแจไข เปิดทางให้มัน “ปล้นบ้าน-ชำเราเมือง” จนย่ามใจ กร่างใหญ่คับประเทศผมก็ได้แต่ทอดถอนใจ ทำได้เพียง “รักบ้าน-รักเมือง” ด้วยปากไปวันๆเมื่อสัปดาห์ก่อน เห็นคนที่ไม่เอาแต่นั่งทอดถอนใจอย่างผม เขาเห็นการประทำย่ำยีบ้านเมืองจากไอ้ตัวกาลีเมืองแล้ว พวกเขาร้อนใจนัดกันไปคุยตามประสาคนห่วงบ้าน-ห่วงเมือง ผมอ่านข่าว ก็มีท่านเหล่านี้แก้วสรร อติโพธิ, ดร.เจิม ศักดิ์ ปิ่นทอง, ดร.กิตติศักดิ์ ปรกติ, ขวัญสรวง อติโพธิ, พลเอกสมเจตน์ บุญถนอมจตุพร พรหมพันธุ์, ทนายนกเขา, ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์,สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม, พิชิต ไชยมงคล,สาวิทย์ แก้วหวาน, ประสาร มฤคพิทักษ์, ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว), แซมดิน เลิศบุศย์สมชาย แสวงการ, นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม, นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์, ชาญชัย อิสระเสนารักษ์, ปรีดา เตียสุวรรณ์ และฯลฯหลายท่าน รู้จักมักคุ้น หลายท่านได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยพบสรุป ท่านเหล่านั้น มีที่มาเดียวกันบ้าง ต่างกันบ้าง คิดและทำเหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้างแต่ที่สุดแล้ว หนีหลักธรรมชาติไม่พ้นธรรมะ คือธรรมชาติ สิ่งจัดสรรมนุษย์คือธรรมชาติ รวงข้าว เมื่อแก่ ย่อมค้อมรวงบัว เกิดจากโคลนตม เมื่อพ้นน้ำ ย่อมปลดเปลื้องจากโคลนตม พิสุทธิ์แทนใจ บูชาธรรมคณะบุคคลเหล่านั้น ก็ประมาณนี้ …..ในความต่างที่มา ที่คิด ที่ทำ ในความเป็นบัณฑิตแห่งธาตุคน ที่สุดแล้ว คนธาตุบัณฑิตย่อมไหลรวมในหมู่บัณฑิตด้วยกันจะเรียกเขาเหล่านั้นว่าอะไรดีล่ะ?เพราะมีทั้ง พันธมิตรฯ ทั้ง กปปส. ทั้งกลุ่มหลอมรวม ทั้งเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย ทั้งกลุ่มสันติอโศกเรียกคณะ “ปชพช.” ดีมั้ย ….เป็นอักษรรวมความเพื่อให้ “เรียกง่าย-จำง่าย”ปชพช. “คณะปัญญาชนพิทักษ์ชาติ” ดูเหมาะสมกับสิ่งที่พวกเขาทำเมื่อวาน (๑๘ ธค.๖๗)คือ คณะปัญญาชนพากันเดินไปที่ “สำนักงานคณะกรรมการ​ป้องกัน​และ​ปราบปราม​การ​ทุจริต​แห่งชาติ “​(ป.ป.ช.​)ไม่ได้ไปก่อกวน ก้าวร้าว เยี่ยงอันธพาลเมือง แต่ไปเยี่ยงบัณฑิต กระทำเยี่ยงบัณฑิตเพื่อยื่นหนังสือให้ป.ป.ช.ตระหนักคิด กรณี ป.ป.ช.​ รับพิจารณาข้อกล่าวหา….“นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ รวมถึงเจ้าหน้าที่เรือนจำ แพทย์รพ.ราชทัณฑ์ และรพ.ตำรวจ รวม ๑๒ คนส่งตัวผู้ต้องขังรายนายทักษิณ ชินวัตร จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมิชอบ​ให้ป.ป.ช.เร่งรัดพิจารณาเรื่องนี้และดำเนินคดีขึ้นสู่ศาลโดยเร็ว​ ในหนังสือ มี ๔ ข้อ๑.คดีส่งตัวไปรักษานอกเรือนจำพบว่า มีพยานเป็นบุคคลชัดเจน ได้เข้าไปเยี่ยมและพบว่าไม่มีอาการเจ็บป่วย อีกทั้งยังไม่มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุม หรือประจำอยู่ห้องพิเศษดังกล่าวและยังไม่ปรากฏหลักฐานการตรวจ หรือหลักฐานความเห็นของแพทย์ที่อนุญาตให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจซึ่งพิธีการทั้งหมดนี้ ขัดต่อขั้นตอนกฎกระทรวงทั้งสิ้น และไม่ว่าป.ป.ช.จะขอความร่วมมือไปเท่าไร ก็ไม่ได้รับจึงเป็นหลักฐานที่เพียงพอว่า พฤติการณ์ดังกล่าวเข้าข่ายทุจริตช่วยเหลือกันโดยมิชอบส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ของกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง ป.ป.ช.จึงต้องเร่งไต่สวน๒.คดีให้อยู่บ้านพักโทษ โดยมติการให้พักโทษ โดยอ้าง นักโทษมีสภาพร่างกายที่ไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งการนั่ง เดินขึ้นบันได อาบน้ำ แต่งตัวรับประทานอาหาร จึงจำเป็นต้องพักโทษให้แต่ปรากฏว่า หลังการพักโทษ นักโทษกลับแข็งแรงขึ้นมาโดยพลัน เดินทางไปทั่วประเทศ ขึ้นปราศรัย ร่วมงานเลี้ยง ใช้ชีวิตปกติได้ทุกอย่าง จึงไม่อาจเชื่อได้ว่าการพักโทษมาจากการประเมินสภาพร่างกายโดยสุจริตและถูกต้อง​ดังนั้น จึงอยากให้นำเรื่องดังกล่าวเข้าไปเป็นอีกหนึ่งคดีในชั้นการพิจารณาของป.ป.ช.ด้วย๓.เรื่องการบังคับใช้กฎหมาย กฎหมายไทยพยายามปราบปรามคดีทุจริตคอร์รัปชันเป็นพิเศษแต่ปรากฏว่า หลังดำเนินคดีไปแล้วไม่มีกรอบเกณฑ์​การตรวจสอบที่เคร่งครัดปล่อยให้กระบวนการทุจริต ตัดทอนโทษทัณฑ์ตามคำพิพากษา กำเริบเสิบสานเป็นผลให้ความยุติธรรมเสื่อมสลาย จนประชาชนสิ้นศรัทธา๔.เข้าข่ายเป็นกระบวนการทุจริตระดับชาติ ใช้เงินสร้างอำนาจ แล้วใช้อำนาจมา​สร้างเงิน​ สร้างพวก​ สร้างสื่อ สร้างผลงานทุจริตไว้ ๒ ทศวรรษ​ จนเสียหายไปกว่าแสนล้าน และหัวหน้าขบวนการ ก็ยังยอมรับคำขออภัยโทษ ว่าได้ทำผิดไปแล้วจริงๆ แต่มาบัดนี้ แทนที่จะยอมรับโทษกลับหลีกเลี่ยง แสดงตน เข้าครอบงำพรรค​ ผลักดันนโยบายทุจริต สร้างประชานิยมไม่หยุดยั้งและล่าสุดยังประกาศจะพาน้องสาวที่เป็นจำเลยหนีคดีทุจริตรับจำนำข้าวกลับมาด้วยถือเป็นพฤติการณ์ทุจริตฉ้อฉลรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมหยุดบทบาทการเมือง และพาประเทศไปในทางต่ำ“นี่คือหายนะที่เห็นได้ชัดเจน และอนาคตที่มืดมิดเช่นนี้ จึงฝาก ป.ป.ช.ตระหนักและทุ่มเท รับผิดชอบ กู้อนาคตบ้านเมืองอย่างเต็มสติกำลัง”ขณะเดียวกัน ​”คณะปชพช.” ยังบอกว่า….จะยื่นให้สอบบุคคลเพิ่มเติม​ทั้ง ​”พ.ต.อ.ทวี​ สอดส่อง” ​รมว.ยุติธรรม และ “​นางพงษ์สวาท นีละโยธิน” ปลัดฯ ยุติธรรม เพราะมองว่าอยู่ในกระบวนการที่ช่วยนายทักษิณ​อาจารย์ “แก้วสรร อติโพธิ” อดีตอาจารย์คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์และรองอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ กล่าวต่อหน้าเลขาฯ ป.ป.ช.ว่า“มั่นใจในการทำงาน ป.ป.ช.และคิดว่ากฎหมายกำลังเดินไปตามทางที่ถูก-ที่ควร​ จึงขอให้เดินหน้าเต็มที่​และคิดว่าจะใช้เวลาไม่นานพร้อมขอให้แพทย์ที่รักษานายทักษิณออกมาพูด โดยขอให้เอาตัวการจริงๆ มาลงโทษ​หลายคนถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนายทักษิณ คำตอบในทางกฎหมาย ถ้าหมายศาลให้ขังและหากไม่มีการขังตามหมายต้องออกหมายใหม่ กลับไปเข้าคุกเป็นอำนาจ “ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาทางการเมือง” ที่นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ กำลังจะไปร้อง ซึ่งศาลสามารถเรียกสำนวนจากป.ป.ช.ไปดูและวินิจฉัยได้“จุดสำคัญ ศาลสั่งกลับเข้าคุกได้ ถ้าหลักฐานชัดเจน โดยไม่ต้องรอคำวินิจฉัยของป.ป.ช.เพราะคดีนี้ เป็นคดีเจ้าหน้าที่ ดังนั้น นายทักษิณ​ เตรียมตัวได้​”อาจารย์แก้วสรร ยังสัมโมทนียกถาว่า “หากป.ป.ช.ทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง จะยอมกราบเลย”“จตุพร พรหมพันธุ์” อดีตแกนนำนปช.ผู้พ้นขอบเหวคืนสู่ฟากฝั่ง กล่าวว่า“มาให้กำลังใจป.ป.ช.ทั้งมีความไม่สบายใจในอนาคต เพราะคดีของนายทักษิณ ป.ป.ช.เป็นผู้ชี้มูลเองวันนี้มาด้วยความหวังในการทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.อย่างตรงไปตรงมา ในจำนวนผู้ที่ถูกตั้งองค์คณะไต่สวน ๑๒ คนนี้ ใครไม่ผิด คือไม่ผิด ไม่ได้ต้องการมาทำให้ “ดำเป็นขาว- ขาวเป็นดำ” แต่ต้องการมาให้ “ถูกเป็นถูก-ผิดเป็นผิด, ดีเป็นดี- ชั่วเป็นชั่ว”ยอมรับว่าเรื่องการไต่สวน วันนี้ “ยังไม่ไว้ใจป.ป.ช.” จนกว่าจะได้พิสูจน์จนสิ้นข้อสงสัยแล้ว และได้ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตถึงวันนั้น ผมและคณะจะมาขอบคุณอีกครั้งขณะนี้ เป็นที่ประจักษ์ นายทักษิณไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว เราต้องการเห็นน้ำยาของ ป.ป.ช.ไม่ต้องการเห็นขนมจีน….”ครับ….ผมก็เกรงว่า คุณจตุพรจะเห็นแต่ “ขนมจีน” เท่านั้นแหละ ตามกฎหมายป.ป.ช.มาตรา ๕๑ ให้กรอบเวลาไว้ว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนเองทั้งคณะ ต้องทำให้เสร็จภายใน ๒ ปี ถ้าไม่เสร็จ ขยายเวลาได้อีก ๑ ปีสรุป “รอไปอีก ๓ ปี” กว่าจะเสร็จขั้นไต่สวน!ตอนนี้ ป.ป.ช.ครบวาระ ๓ ท่าน อยู่ช่วงกรรมการสรรหากำลังพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัคร กว่าจะได้ครบ ก็คงกลางปีหน้าโน่นและถ้าถึงขั้นชี้มูลความผิด ต้องเรียก ๑๒ ผู้ถูกกล่าวหามาให้ปากคำ กี่ปีถึงครบ ๑๒ ปากล่ะ ?เอาว่า “๕ ปี” เร็วสุด!ที่อาจารย์แก้วสรรบอก “คิดว่าจะใช้เวลาไม่นาน” นั้นรออีก ๕-๘ ปี นานมั้ย?เห็นที คณะปชพช.คงต้องทำหน้าที่ “ไม้แยงก้น” ป.ป.ช.เป็นรายการ “ทวงถามรายเดือน” แล้วหละไม่งั้น “กราบป.ป.ช.” ของอาจารย์แก้วสรรสู้ “กราบแผ่นดิน” ของ “พระเจ้ามูลเมือง” ผู้กลับชาติมาเกิดไม่ได้หรอก!เปลว สีเงิน๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๗
    Love
    Like
    Yay
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2318 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชื่อคิงส์เถอะ ม็อ..บขับไล่ทักษิณรอบนี้ จะเกิดทั่วอาเซียน มิได้มีแค่ในไทย (พันธมิตร นปช. กปปส. คณะหลอมรวม) แต่จะมีที่มาเลเซีย และกัมพูชาด้วย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    เชื่อคิงส์เถอะ ม็อ..บขับไล่ทักษิณรอบนี้ จะเกิดทั่วอาเซียน มิได้มีแค่ในไทย (พันธมิตร นปช. กปปส. คณะหลอมรวม) แต่จะมีที่มาเลเซีย และกัมพูชาด้วย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 371 มุมมอง 0 รีวิว
  • #อุ๊ย ไข่แม๊ว
    เด็จPong นำทีมอดีต นปช. ปกป้องแม้วขายชาติ
    อ้างว่ายังไม่เสียดินแดน
    แล้วใครจะรอให้เสียก่อนค่อยออกมาคัดค้านกันเล่า
    จั๊ดง่าวแล้วอยากดีเบต หรืออยากปลุกเสื้อแดงมาชนพันธมิตรกันอีกรอบ
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #อุ๊ย ไข่แม๊ว เด็จPong นำทีมอดีต นปช. ปกป้องแม้วขายชาติ อ้างว่ายังไม่เสียดินแดน แล้วใครจะรอให้เสียก่อนค่อยออกมาคัดค้านกันเล่า จั๊ดง่าวแล้วอยากดีเบต หรืออยากปลุกเสื้อแดงมาชนพันธมิตรกันอีกรอบ ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    3
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 540 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 เกลอ นปช.พร้อมดีเบต​ "สนธิ​" ปม​ MOU44 (12/12/67) #news1#สนธิลิ้มทองกุล #3เกลอนปช. #mou44 #ดีเบต
    3 เกลอ นปช.พร้อมดีเบต​ "สนธิ​" ปม​ MOU44 (12/12/67) #news1#สนธิลิ้มทองกุล #3เกลอนปช. #mou44 #ดีเบต
    Haha
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1185 มุมมอง 45 0 รีวิว
  • คนในรัฐบาลนั่งไม่ติด กลัว "สนธิ" ลงถนน ต้าน MOU 2544 รัฐยกอธิปไตยไทยให้เขมร.คนในรัฐบาลนั่งไม่ติด กลัวว่าผมจะลงถนนต้าน MOU 2544 ผมอยากพูดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้คนที่ออกมาต่อต้านผม ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไม่ได้กระเดียด จะได้เข้าใจ ผมสรุปสั้นๆ ก็แล้วกัน ผมจะชวนพ่อแม่พี่น้องทั้งหลายลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล หากรัฐบาลกระทำการอันใดก็ตามในเรื่อง MOU 2544 ที่เป็นการส่อเจตนาที่ยอมเสียอำนาจอธิปไตยทางทะเลของเราให้กับฝ่ายเขมร นั่นล่ะ ผมถือว่าเป็นเรื่องเป็นราวกับผมแล้ว และผมเชื่อว่าก็จะเป็นเรื่องเป็นราวกับท่านผู้ชมด้วย ที่รักชาติ รักบ้านรักเมือง รักพระมหากษัตริย์.เดิมทีเรากำหนดว่าผมจะไปยื่นหนังสือให้กับท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในวันที่ 2 คือวันจันทร์ที่จะถึงนี้ แต่เผอิญทนายความผมบอกว่าวันที่ 2 ผมติดภารกิจที่ศาล ตกลงเราจะเลื่อนไปเป็นวันที่ 9 ธันวาคม เวลา 10.00 น. ผมและอาจารย์ปานเทพ จะเดินทางไปยื่นหนังสือให้ท่านนายกรัฐมนตรีชี้แจงกรณี MOU ไทย-กัมพูชา 2544 พร้อมกับกล่าวหารัฐบาลชุดนี้ด้วยว่า ให้ระวังว่ากำลังจะมีการกระทำที่เป็นการยกอธิปไตยรอบเกาะกูดให้กัมพูชาอย่างไม่ถูกต้อง ถ้าท่านผู้ชมสนใจ อยากไปยื่นหนังสือ ก็ไปได้ แต่ท่านอย่าไปชุมนุมบนท้องถนนนะครับ.ความเคลื่อนไหวของผมไปกระตุกต่อมของรัฐบาลเพื่อไทย แต่ละคนดาหน้าออกมาพูดถึงเรื่องการลงถนนกันใหญ่ ตั้งแต่คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีกลาโหม เปรยแกมขู่ผม คุณภูมิธรรมนี่ความจำสั้น สมัยที่พวกเสื้อแดงของคุณออกมาประท้วง ประเทศชาติทั้งประเทศ ทั้งเผาบ้านเผาเมือง มิหนำซ้ำ คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ก็รีบออกมา แล้วก็ยังมีคนอย่างเช่นคุณชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และอีกท่านหนึ่ง คือ คุณพายัพ ปั้นเกตุ อดีตหัวหน้า นปช.ตอนนี้มีบทบาทมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี คุณบอกว่าการต่อสู้ การทำให้ประเทศชาติต้องวุ่นวายถดถอยไปนั้น ถ้าคุณพูดมีความหมายอย่างนี้ ก็แปลว่าคุณเห็นด้วยกับอำนาจทางการเมืองที่ทำให้การฉ้อราษฎร์บังหลวงเกิดขึ้นได้จากคนที่มีอำนาจทางการเมือง ใช่หรือเปล่า .คุณรู้ไหม 2548 ที่ผมออกมา มาถึง 2566 สิบแปดปี ที่ผมสู้ ความจริงที่มีหนึ่งเดียวก็เลยปรากฏออกมาในประกาศราชกิจจานุเบกษาเมื่อสิงหาคม 2566 ที่ “นายคุณ”กลับมาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ยอมรับสารภาพผิดการทุจริตคอร์รัปชันเป็นเรื่องๆ นี่เป็นหลักฐานเป็นประจักษ์พยานทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา จะโกหกอะไร โกหกได้ แต่โกหกความจริงที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษาได้อย่างไร นั่นข้อแรก. ประวัติศาสตร์มักจะย้อนรอย ความไม่โปร่งใสของรัฐบาลชุดอุ๊งอิ๊งค์ ที่ได้รับอิทธิพลจากนายคุณ คือพ่อเขา นี่ผมยังไม่ได้พูดเรื่องการรักษาตัวบนชั้น 14 คุณก็รู้ว่านายคุณโกงเวลาติดคุก ผมคิดในใจว่ามันทุเรศ ปล่อยให้ชาวบ้านเขารุมเหยียบกันดีกว่า.แล้วพฤติกรรมต่างๆ ของนายคุณ รวมทั้งท่านนายกฯ แพทองธาร ก็พูดตลอดเวลา ว่าทะเลาะกันทำไมเรื่องพื้นที่ เอาสัมปทานมาแบ่งกัน 50-50 ใครเป็นคนพูด คุณณัฐวุฒิ คุณพายัพ ปั้นเกตุ คุณชูศักดิ์ ศิรินิล คุณภูมิธรรม เวชยชัย ใครเป็นคนพูด "ต้องแบ่งกัน 50-50" ทั้งนายคุณพูด ทั้งลูกสาวคนเล็กสุดที่รักของนายคุณก็พูด และความสนิทสนมระหว่างสมเด็จฮุน เซน ซึ่งเป็นบิดาของฮุน มาแณต นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน กับนายคุณ สนิทสนมมากอย่างที่ไม่จำเป็นต้องอธิบาย มันเห็นได้ชัด ทำให้คนเขาอนุมานได้ และเขาเกิดความไม่ไว้วางใจพวกคุณ.ผมจะเรียนให้ทราบ ตั้งแต่วันแรก ปี 2548 ที่ผมตัดสินใจจะลงถนนสู้กับนายคุณ คุณไปดูคลิปเก่าๆ ไปดูข้อมูลเก่าๆ คุณจะจำได้ว่าผมพูดว่าอย่างนี้ จำใส่ใจไว้นะ คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผมบอกว่า ถึงจะเป็นผมเพียงคนเดียวออกมาสู้ ผมก็จะสู้ ผมพูดอย่างนี้ครับ เรื่องนี้ก็เช่นกัน ถึงจะเป็นผมคนเดียว ผมก็จะออกมา ผมเอาความจริงที่มีหนึ่งเดียวให้กับประชาชนเขาทราบ และผมเชื่อว่ามีประชาชนคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยเลยที่เขาเห็นด้วยว่าผมทำถูกต้อง นี่คือสมบัติของชาติ
    คนในรัฐบาลนั่งไม่ติด กลัว "สนธิ" ลงถนน ต้าน MOU 2544 รัฐยกอธิปไตยไทยให้เขมร.คนในรัฐบาลนั่งไม่ติด กลัวว่าผมจะลงถนนต้าน MOU 2544 ผมอยากพูดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้คนที่ออกมาต่อต้านผม ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไม่ได้กระเดียด จะได้เข้าใจ ผมสรุปสั้นๆ ก็แล้วกัน ผมจะชวนพ่อแม่พี่น้องทั้งหลายลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล หากรัฐบาลกระทำการอันใดก็ตามในเรื่อง MOU 2544 ที่เป็นการส่อเจตนาที่ยอมเสียอำนาจอธิปไตยทางทะเลของเราให้กับฝ่ายเขมร นั่นล่ะ ผมถือว่าเป็นเรื่องเป็นราวกับผมแล้ว และผมเชื่อว่าก็จะเป็นเรื่องเป็นราวกับท่านผู้ชมด้วย ที่รักชาติ รักบ้านรักเมือง รักพระมหากษัตริย์.เดิมทีเรากำหนดว่าผมจะไปยื่นหนังสือให้กับท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในวันที่ 2 คือวันจันทร์ที่จะถึงนี้ แต่เผอิญทนายความผมบอกว่าวันที่ 2 ผมติดภารกิจที่ศาล ตกลงเราจะเลื่อนไปเป็นวันที่ 9 ธันวาคม เวลา 10.00 น. ผมและอาจารย์ปานเทพ จะเดินทางไปยื่นหนังสือให้ท่านนายกรัฐมนตรีชี้แจงกรณี MOU ไทย-กัมพูชา 2544 พร้อมกับกล่าวหารัฐบาลชุดนี้ด้วยว่า ให้ระวังว่ากำลังจะมีการกระทำที่เป็นการยกอธิปไตยรอบเกาะกูดให้กัมพูชาอย่างไม่ถูกต้อง ถ้าท่านผู้ชมสนใจ อยากไปยื่นหนังสือ ก็ไปได้ แต่ท่านอย่าไปชุมนุมบนท้องถนนนะครับ.ความเคลื่อนไหวของผมไปกระตุกต่อมของรัฐบาลเพื่อไทย แต่ละคนดาหน้าออกมาพูดถึงเรื่องการลงถนนกันใหญ่ ตั้งแต่คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีกลาโหม เปรยแกมขู่ผม คุณภูมิธรรมนี่ความจำสั้น สมัยที่พวกเสื้อแดงของคุณออกมาประท้วง ประเทศชาติทั้งประเทศ ทั้งเผาบ้านเผาเมือง มิหนำซ้ำ คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ก็รีบออกมา แล้วก็ยังมีคนอย่างเช่นคุณชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และอีกท่านหนึ่ง คือ คุณพายัพ ปั้นเกตุ อดีตหัวหน้า นปช.ตอนนี้มีบทบาทมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี คุณบอกว่าการต่อสู้ การทำให้ประเทศชาติต้องวุ่นวายถดถอยไปนั้น ถ้าคุณพูดมีความหมายอย่างนี้ ก็แปลว่าคุณเห็นด้วยกับอำนาจทางการเมืองที่ทำให้การฉ้อราษฎร์บังหลวงเกิดขึ้นได้จากคนที่มีอำนาจทางการเมือง ใช่หรือเปล่า .คุณรู้ไหม 2548 ที่ผมออกมา มาถึง 2566 สิบแปดปี ที่ผมสู้ ความจริงที่มีหนึ่งเดียวก็เลยปรากฏออกมาในประกาศราชกิจจานุเบกษาเมื่อสิงหาคม 2566 ที่ “นายคุณ”กลับมาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ยอมรับสารภาพผิดการทุจริตคอร์รัปชันเป็นเรื่องๆ นี่เป็นหลักฐานเป็นประจักษ์พยานทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา จะโกหกอะไร โกหกได้ แต่โกหกความจริงที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษาได้อย่างไร นั่นข้อแรก. ประวัติศาสตร์มักจะย้อนรอย ความไม่โปร่งใสของรัฐบาลชุดอุ๊งอิ๊งค์ ที่ได้รับอิทธิพลจากนายคุณ คือพ่อเขา นี่ผมยังไม่ได้พูดเรื่องการรักษาตัวบนชั้น 14 คุณก็รู้ว่านายคุณโกงเวลาติดคุก ผมคิดในใจว่ามันทุเรศ ปล่อยให้ชาวบ้านเขารุมเหยียบกันดีกว่า.แล้วพฤติกรรมต่างๆ ของนายคุณ รวมทั้งท่านนายกฯ แพทองธาร ก็พูดตลอดเวลา ว่าทะเลาะกันทำไมเรื่องพื้นที่ เอาสัมปทานมาแบ่งกัน 50-50 ใครเป็นคนพูด คุณณัฐวุฒิ คุณพายัพ ปั้นเกตุ คุณชูศักดิ์ ศิรินิล คุณภูมิธรรม เวชยชัย ใครเป็นคนพูด "ต้องแบ่งกัน 50-50" ทั้งนายคุณพูด ทั้งลูกสาวคนเล็กสุดที่รักของนายคุณก็พูด และความสนิทสนมระหว่างสมเด็จฮุน เซน ซึ่งเป็นบิดาของฮุน มาแณต นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน กับนายคุณ สนิทสนมมากอย่างที่ไม่จำเป็นต้องอธิบาย มันเห็นได้ชัด ทำให้คนเขาอนุมานได้ และเขาเกิดความไม่ไว้วางใจพวกคุณ.ผมจะเรียนให้ทราบ ตั้งแต่วันแรก ปี 2548 ที่ผมตัดสินใจจะลงถนนสู้กับนายคุณ คุณไปดูคลิปเก่าๆ ไปดูข้อมูลเก่าๆ คุณจะจำได้ว่าผมพูดว่าอย่างนี้ จำใส่ใจไว้นะ คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผมบอกว่า ถึงจะเป็นผมเพียงคนเดียวออกมาสู้ ผมก็จะสู้ ผมพูดอย่างนี้ครับ เรื่องนี้ก็เช่นกัน ถึงจะเป็นผมคนเดียว ผมก็จะออกมา ผมเอาความจริงที่มีหนึ่งเดียวให้กับประชาชนเขาทราบ และผมเชื่อว่ามีประชาชนคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยเลยที่เขาเห็นด้วยว่าผมทำถูกต้อง นี่คือสมบัติของชาติ
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1244 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนในรัฐบาลนั่งไม่ติด กลัว "สนธิ" ลงถนน ต้าน MOU 2544 รัฐยกอธิปไตยไทยให้เขมร
    .
    คนในรัฐบาลนั่งไม่ติด กลัวว่าผมจะลงถนนต้าน MOU 2544 ผมอยากพูดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้คนที่ออกมาต่อต้านผม ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไม่ได้กระเดียด จะได้เข้าใจ ผมสรุปสั้นๆ ก็แล้วกัน ผมจะชวนพ่อแม่พี่น้องทั้งหลายลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล หากรัฐบาลกระทำการอันใดก็ตามในเรื่อง MOU 2544 ที่เป็นการส่อเจตนาที่ยอมเสียอำนาจอธิปไตยทางทะเลของเราให้กับฝ่ายเขมร นั่นล่ะ ผมถือว่าเป็นเรื่องเป็นราวกับผมแล้ว และผมเชื่อว่าก็จะเป็นเรื่องเป็นราวกับท่านผู้ชมด้วย ที่รักชาติ รักบ้านรักเมือง รักพระมหากษัตริย์
    .
    เดิมทีเรากำหนดว่าผมจะไปยื่นหนังสือให้กับท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในวันที่ 2 คือวันจันทร์ที่จะถึงนี้ แต่เผอิญทนายความผมบอกว่าวันที่ 2 ผมติดภารกิจที่ศาล ตกลงเราจะเลื่อนไปเป็นวันที่ 9 ธันวาคม เวลา 10.00 น. ผมและอาจารย์ปานเทพ จะเดินทางไปยื่นหนังสือให้ท่านนายกรัฐมนตรีชี้แจงกรณี MOU ไทย-กัมพูชา 2544 พร้อมกับกล่าวหารัฐบาลชุดนี้ด้วยว่า ให้ระวังว่ากำลังจะมีการกระทำที่เป็นการยกอธิปไตยรอบเกาะกูดให้กัมพูชาอย่างไม่ถูกต้อง ถ้าท่านผู้ชมสนใจ อยากไปยื่นหนังสือ ก็ไปได้ แต่ท่านอย่าไปชุมนุมบนท้องถนนนะครับ
    .
    ความเคลื่อนไหวของผมไปกระตุกต่อมของรัฐบาลเพื่อไทย แต่ละคนดาหน้าออกมาพูดถึงเรื่องการลงถนนกันใหญ่ ตั้งแต่คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีกลาโหม เปรยแกมขู่ผม คุณภูมิธรรมนี่ความจำสั้น สมัยที่พวกเสื้อแดงของคุณออกมาประท้วง ประเทศชาติทั้งประเทศ ทั้งเผาบ้านเผาเมือง มิหนำซ้ำ คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ก็รีบออกมา แล้วก็ยังมีคนอย่างเช่นคุณชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และอีกท่านหนึ่ง คือ คุณพายัพ ปั้นเกตุ อดีตหัวหน้า นปช.ตอนนี้มีบทบาทมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี คุณบอกว่าการต่อสู้ การทำให้ประเทศชาติต้องวุ่นวายถดถอยไปนั้น ถ้าคุณพูดมีความหมายอย่างนี้ ก็แปลว่าคุณเห็นด้วยกับอำนาจทางการเมืองที่ทำให้การฉ้อราษฎร์บังหลวงเกิดขึ้นได้จากคนที่มีอำนาจทางการเมือง ใช่หรือเปล่า
    .
    คุณรู้ไหม 2548 ที่ผมออกมา มาถึง 2566 สิบแปดปี ที่ผมสู้ ความจริงที่มีหนึ่งเดียวก็เลยปรากฏออกมาในประกาศราชกิจจานุเบกษาเมื่อสิงหาคม 2566 ที่ “นายคุณ”กลับมาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ยอมรับสารภาพผิดการทุจริตคอร์รัปชันเป็นเรื่องๆ นี่เป็นหลักฐานเป็นประจักษ์พยานทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา จะโกหกอะไร โกหกได้ แต่โกหกความจริงที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษาได้อย่างไร นั่นข้อแรก
    .
    ประวัติศาสตร์มักจะย้อนรอย ความไม่โปร่งใสของรัฐบาลชุดอุ๊งอิ๊งค์ ที่ได้รับอิทธิพลจากนายคุณ คือพ่อเขา นี่ผมยังไม่ได้พูดเรื่องการรักษาตัวบนชั้น 14 คุณก็รู้ว่านายคุณโกงเวลาติดคุก ผมคิดในใจว่ามันทุเรศ ปล่อยให้ชาวบ้านเขารุมเหยียบกันดีกว่า
    .
    แล้วพฤติกรรมต่างๆ ของนายคุณ รวมทั้งท่านนายกฯ แพทองธาร ก็พูดตลอดเวลา ว่าทะเลาะกันทำไมเรื่องพื้นที่ เอาสัมปทานมาแบ่งกัน 50-50 ใครเป็นคนพูด คุณณัฐวุฒิ คุณพายัพ ปั้นเกตุ คุณชูศักดิ์ ศิรินิล คุณภูมิธรรม เวชยชัย ใครเป็นคนพูด "ต้องแบ่งกัน 50-50" ทั้งนายคุณพูด ทั้งลูกสาวคนเล็กสุดที่รักของนายคุณก็พูด และความสนิทสนมระหว่างสมเด็จฮุน เซน ซึ่งเป็นบิดาของฮุน มาแณต นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน กับนายคุณ สนิทสนมมากอย่างที่ไม่จำเป็นต้องอธิบาย มันเห็นได้ชัด ทำให้คนเขาอนุมานได้ และเขาเกิดความไม่ไว้วางใจพวกคุณ
    .
    ผมจะเรียนให้ทราบ ตั้งแต่วันแรก ปี 2548 ที่ผมตัดสินใจจะลงถนนสู้กับนายคุณ คุณไปดูคลิปเก่าๆ ไปดูข้อมูลเก่าๆ คุณจะจำได้ว่าผมพูดว่าอย่างนี้ จำใส่ใจไว้นะ คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผมบอกว่า ถึงจะเป็นผมเพียงคนเดียวออกมาสู้ ผมก็จะสู้ ผมพูดอย่างนี้ครับ เรื่องนี้ก็เช่นกัน ถึงจะเป็นผมคนเดียว ผมก็จะออกมา ผมเอาความจริงที่มีหนึ่งเดียวให้กับประชาชนเขาทราบ และผมเชื่อว่ามีประชาชนคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยเลยที่เขาเห็นด้วยว่าผมทำถูกต้อง นี่คือสมบัติของชาติ
    คนในรัฐบาลนั่งไม่ติด กลัว "สนธิ" ลงถนน ต้าน MOU 2544 รัฐยกอธิปไตยไทยให้เขมร . คนในรัฐบาลนั่งไม่ติด กลัวว่าผมจะลงถนนต้าน MOU 2544 ผมอยากพูดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้คนที่ออกมาต่อต้านผม ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไม่ได้กระเดียด จะได้เข้าใจ ผมสรุปสั้นๆ ก็แล้วกัน ผมจะชวนพ่อแม่พี่น้องทั้งหลายลุกขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล หากรัฐบาลกระทำการอันใดก็ตามในเรื่อง MOU 2544 ที่เป็นการส่อเจตนาที่ยอมเสียอำนาจอธิปไตยทางทะเลของเราให้กับฝ่ายเขมร นั่นล่ะ ผมถือว่าเป็นเรื่องเป็นราวกับผมแล้ว และผมเชื่อว่าก็จะเป็นเรื่องเป็นราวกับท่านผู้ชมด้วย ที่รักชาติ รักบ้านรักเมือง รักพระมหากษัตริย์ . เดิมทีเรากำหนดว่าผมจะไปยื่นหนังสือให้กับท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในวันที่ 2 คือวันจันทร์ที่จะถึงนี้ แต่เผอิญทนายความผมบอกว่าวันที่ 2 ผมติดภารกิจที่ศาล ตกลงเราจะเลื่อนไปเป็นวันที่ 9 ธันวาคม เวลา 10.00 น. ผมและอาจารย์ปานเทพ จะเดินทางไปยื่นหนังสือให้ท่านนายกรัฐมนตรีชี้แจงกรณี MOU ไทย-กัมพูชา 2544 พร้อมกับกล่าวหารัฐบาลชุดนี้ด้วยว่า ให้ระวังว่ากำลังจะมีการกระทำที่เป็นการยกอธิปไตยรอบเกาะกูดให้กัมพูชาอย่างไม่ถูกต้อง ถ้าท่านผู้ชมสนใจ อยากไปยื่นหนังสือ ก็ไปได้ แต่ท่านอย่าไปชุมนุมบนท้องถนนนะครับ . ความเคลื่อนไหวของผมไปกระตุกต่อมของรัฐบาลเพื่อไทย แต่ละคนดาหน้าออกมาพูดถึงเรื่องการลงถนนกันใหญ่ ตั้งแต่คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีกลาโหม เปรยแกมขู่ผม คุณภูมิธรรมนี่ความจำสั้น สมัยที่พวกเสื้อแดงของคุณออกมาประท้วง ประเทศชาติทั้งประเทศ ทั้งเผาบ้านเผาเมือง มิหนำซ้ำ คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ก็รีบออกมา แล้วก็ยังมีคนอย่างเช่นคุณชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และอีกท่านหนึ่ง คือ คุณพายัพ ปั้นเกตุ อดีตหัวหน้า นปช.ตอนนี้มีบทบาทมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี คุณบอกว่าการต่อสู้ การทำให้ประเทศชาติต้องวุ่นวายถดถอยไปนั้น ถ้าคุณพูดมีความหมายอย่างนี้ ก็แปลว่าคุณเห็นด้วยกับอำนาจทางการเมืองที่ทำให้การฉ้อราษฎร์บังหลวงเกิดขึ้นได้จากคนที่มีอำนาจทางการเมือง ใช่หรือเปล่า . คุณรู้ไหม 2548 ที่ผมออกมา มาถึง 2566 สิบแปดปี ที่ผมสู้ ความจริงที่มีหนึ่งเดียวก็เลยปรากฏออกมาในประกาศราชกิจจานุเบกษาเมื่อสิงหาคม 2566 ที่ “นายคุณ”กลับมาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ ยอมรับสารภาพผิดการทุจริตคอร์รัปชันเป็นเรื่องๆ นี่เป็นหลักฐานเป็นประจักษ์พยานทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา จะโกหกอะไร โกหกได้ แต่โกหกความจริงที่ปรากฏในราชกิจจานุเบกษาได้อย่างไร นั่นข้อแรก . ประวัติศาสตร์มักจะย้อนรอย ความไม่โปร่งใสของรัฐบาลชุดอุ๊งอิ๊งค์ ที่ได้รับอิทธิพลจากนายคุณ คือพ่อเขา นี่ผมยังไม่ได้พูดเรื่องการรักษาตัวบนชั้น 14 คุณก็รู้ว่านายคุณโกงเวลาติดคุก ผมคิดในใจว่ามันทุเรศ ปล่อยให้ชาวบ้านเขารุมเหยียบกันดีกว่า . แล้วพฤติกรรมต่างๆ ของนายคุณ รวมทั้งท่านนายกฯ แพทองธาร ก็พูดตลอดเวลา ว่าทะเลาะกันทำไมเรื่องพื้นที่ เอาสัมปทานมาแบ่งกัน 50-50 ใครเป็นคนพูด คุณณัฐวุฒิ คุณพายัพ ปั้นเกตุ คุณชูศักดิ์ ศิรินิล คุณภูมิธรรม เวชยชัย ใครเป็นคนพูด "ต้องแบ่งกัน 50-50" ทั้งนายคุณพูด ทั้งลูกสาวคนเล็กสุดที่รักของนายคุณก็พูด และความสนิทสนมระหว่างสมเด็จฮุน เซน ซึ่งเป็นบิดาของฮุน มาแณต นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน กับนายคุณ สนิทสนมมากอย่างที่ไม่จำเป็นต้องอธิบาย มันเห็นได้ชัด ทำให้คนเขาอนุมานได้ และเขาเกิดความไม่ไว้วางใจพวกคุณ . ผมจะเรียนให้ทราบ ตั้งแต่วันแรก ปี 2548 ที่ผมตัดสินใจจะลงถนนสู้กับนายคุณ คุณไปดูคลิปเก่าๆ ไปดูข้อมูลเก่าๆ คุณจะจำได้ว่าผมพูดว่าอย่างนี้ จำใส่ใจไว้นะ คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผมบอกว่า ถึงจะเป็นผมเพียงคนเดียวออกมาสู้ ผมก็จะสู้ ผมพูดอย่างนี้ครับ เรื่องนี้ก็เช่นกัน ถึงจะเป็นผมคนเดียว ผมก็จะออกมา ผมเอาความจริงที่มีหนึ่งเดียวให้กับประชาชนเขาทราบ และผมเชื่อว่ามีประชาชนคนไทยอีกจำนวนไม่น้อยเลยที่เขาเห็นด้วยว่าผมทำถูกต้อง นี่คือสมบัติของชาติ
    Like
    5
    2 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1889 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เพื่อนรักหักเหลี่ยมโโฉดด
    การมาของเต้น กับตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
    แม้จะไม่ได้เป็นข้าราชการการเมือง แต่ก็ถือว่ามีความเท่ห์ไม่น้อย
    แต่การมาครั้งนี้ ไม่ได้มาแบบไร้เหตุผล
    เราย้อนกลับไปเมื่อปี 2566 วันที่พรรคเพื่อไทย
    ลงชิงสส.ทั่วประเทศ โดยเต้น ได้ทำหน้าที่เป็นหัวหอกในการปราศรัยทั่วประเทศ มีทั้งการสาปส่งสองลุง ไปถึงการไล่หนักอนุทินแห่งภูมิใจไทย
    กับยุทการ ไล่หนูตีงูวววเห่า ซึ่งเมื่อพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นอันดับที่สอง รองจากพรรคส้มเน่า โดยส้มเน่าไม่มีใครคบ และไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะมัวแต่จะล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย์ โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กับมุกเดิมๆ คือการลดทอนพระราชอำนาจ ทั้งๆที่ประชาชน ยังสามารถป้องกันเกียรติตนเองได้เมื่อถูกหมิ่น แต่กลับดึงดันให้สถาบันถูกให้ร้ายได้ โดยไม่ให้เกิดโทษกับผู้กระทำการ
    -นั่นจึงเป็นที่มาของการตั้งขั้วอำนาจ เพื่อไทย และสองลุง ซึ่งนอกจากหมอชลน่าน ที่ต้องยอมเอาตำแหน่งหัวหน้าพรรคเข้าแลก ยอมออกจากตำแหน่ง เต้นก็ถือว่า ปราศรัยแบบไม่เกรงใจลุงและอาหนูเลย ก็เป็นอันต้องลาจาก ไร้ตำแหน่ง จนน้ำตาคลอ ลั่นว่า จบแล้วกับเพื่อไทย
    -แต่ด้วยชีวิตที่อยู่ได้ ด้วยพื้นที่เวที กับการมีแสงทางการเมือง เต้นตัดสินใจนานแล้ว ตั้งแต่สมัยนายกเศรษฐาว่า อยากกลับมาช่วยเพื่อไทย ยอมลดศักดิ์ศรีของตนเอง เพราะรู้สึกเดียวดายเมื่อไม่มีแสงไฟสาดส่อง
    -เมื่อนายใหญ่กลับมา เต้น จึงได้ขอพื้นที่สื่อ ว่าตนเองพร้อมรับข้าวน่าวววมาใช้ในร้าน มั่นใจอาหย่อยแดรกด้าย ซึ่งก็ได้ใจนายใหญ่ไปไม่น้อย เพื่อปูทางให้นายเก่า นั่นคือยิ่งลักษณ์ ได้กลับมาสู่ประเทศไทย
    -ทักษิณเอง ก็ชอบที่จะตอบแทนบุญคุณคนที่เคยถวายตัวช่วยเหลือตน แต่มีนัยทางการเมือง ต้องสมเหตุสมผล จึงได้ดัน เต้น เข้าสู่การเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลลูกสาว
    ซึ่ง ที่มาก็คือ ดึงเต้นปะทะตู่จตุพร
    เพราะตั้งแต่ก่อนที่โทนี่จะกลับมา จนถึงปัจจุบัน ตู่จตุพรและทนายนกเขา มีการรุกไล่โทนี่ และรัฐบาลมาโดยตลอด ตั้งแต่ความผิดปกติในชั้น 14 ซึ่งหลายวาระ ก็ทำเอาโทนี่เซ แซดๆๆๆ ไปเหมือนกัน
    -ดังนั้น เรื่องการปะทะฝึปาก เรียกว่า ต่างรู้มือกัน ก็จะเป็นใครไม่ได้ นั่นก็คือ เต้น ณัฐวุฒินี่แหละ ที่จะทำให้ตู่ต้องเสียเวลาในการแก้เกมส์ ลดทอนเวลาในการรุกไล่รัฐบาล
    -เพราะการบ่มเพาะข้อมูล และการรวมพลังกับผู้ที่มองเห็นจุดปัญหาที่เกิดจากทักษิณเอง ก็ดูจะมีปริมาณมากขึ้น ยังไม่รวมถึงสนธิลิ้มทองกุล ที่เอ่ยเปรยๆว่า จะมีการลงถนน ซึ่งโทนี่เคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว ว่ามันพังทุกรอบ ไม่ว่าจะเป็นสมัยตนเอง สมัยสมชาย สมัย สมัคร หรือแม้กระทั่งสมัยน้องสาวที่ชื่อยิ่งลักษณ์ ต่างจบทางการเมืองจากการลงถนนของประชาชนทั้งสิ้น
    -ดังนั้นในภาวะนี้ จึงเป็นสิ่งจำเป็น ที่ต้องให้เต้น เข้ามาขวางตู่ไว้อีกทางหนึ่ง แม้ว่าเต้นเอง จะมีภาพจำระหว่างนักข่าว ที่ไม่สามารถตอบคำถามกรณีจำนำข้าวได้ และรัฐมนตรีบุญทรง ที่นั่้งอยู่ข้างๆเต้นในวันนั้นตอนนี้ก็ยังอยู่ในซักเต แต่ด้วยความหน้าาาด้าน หน้าาาาทน ก็อยากจะกลับมา ให้ทำอะไรก็ต้องทำ
    -แต่เต้น ด้วยวัยวุฒิ และประสบการณ์ เอาเข้าจริงๆ ก็ยังห่างกับตู่อยู่หลายขุม และถือว่า ตู่ จตุพร ก็ได้ต้อนรับน้องใหม่ น้องเต้น ด้วยการตั้งคำถามที่ทำให้เต้นต้องสะดุ้ง นั่นคือ เงินบริจาค ราวๆ 42 ล.บ อยู่ที่ไหน ในสมัยการชุมนุม นปช. ซึ่งตู่ ยังระบุอีกว่า ทั้งก่อนและหลังการชุมนุมในวันนั้น เต้นนี่แหละใช้จ่ายโดยไม่เคยชี้แจง และยอดสุดท้ายคือ 42 ล.บ มันอยู่ตรงไหน
    -ซึ่งแม้กระทั่งวันนี้ เต้นเอง ก็ยังไม่มีการตอบคำถามนี้แต่อย่างใด หรือการลงทุนธุรกิจและร้านอาหารของเต้นที่บ้านเกิด จะมาจากเงินบริจาคนปช. ณ วันนั้น ใช่หรือไม่ เป็นสิ่งที่เต้น ต้องอธิบาย ให้สังคม โดยเฉพาะชาว นปช. เสื้อแดง ได้รับรู้ โดยเร็ว มิเช่นนั้น เต้น อาจได้เป็นที่ปรึกษานายกเพียงแค่ในนาม แต่จะไม่ได้รับการยอมรับจากแฟนคลับเพื่อไทย
    #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    #เพื่อนรักหักเหลี่ยมโโฉดด การมาของเต้น กับตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี แม้จะไม่ได้เป็นข้าราชการการเมือง แต่ก็ถือว่ามีความเท่ห์ไม่น้อย แต่การมาครั้งนี้ ไม่ได้มาแบบไร้เหตุผล เราย้อนกลับไปเมื่อปี 2566 วันที่พรรคเพื่อไทย ลงชิงสส.ทั่วประเทศ โดยเต้น ได้ทำหน้าที่เป็นหัวหอกในการปราศรัยทั่วประเทศ มีทั้งการสาปส่งสองลุง ไปถึงการไล่หนักอนุทินแห่งภูมิใจไทย กับยุทการ ไล่หนูตีงูวววเห่า ซึ่งเมื่อพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นอันดับที่สอง รองจากพรรคส้มเน่า โดยส้มเน่าไม่มีใครคบ และไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะมัวแต่จะล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย์ โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กับมุกเดิมๆ คือการลดทอนพระราชอำนาจ ทั้งๆที่ประชาชน ยังสามารถป้องกันเกียรติตนเองได้เมื่อถูกหมิ่น แต่กลับดึงดันให้สถาบันถูกให้ร้ายได้ โดยไม่ให้เกิดโทษกับผู้กระทำการ -นั่นจึงเป็นที่มาของการตั้งขั้วอำนาจ เพื่อไทย และสองลุง ซึ่งนอกจากหมอชลน่าน ที่ต้องยอมเอาตำแหน่งหัวหน้าพรรคเข้าแลก ยอมออกจากตำแหน่ง เต้นก็ถือว่า ปราศรัยแบบไม่เกรงใจลุงและอาหนูเลย ก็เป็นอันต้องลาจาก ไร้ตำแหน่ง จนน้ำตาคลอ ลั่นว่า จบแล้วกับเพื่อไทย -แต่ด้วยชีวิตที่อยู่ได้ ด้วยพื้นที่เวที กับการมีแสงทางการเมือง เต้นตัดสินใจนานแล้ว ตั้งแต่สมัยนายกเศรษฐาว่า อยากกลับมาช่วยเพื่อไทย ยอมลดศักดิ์ศรีของตนเอง เพราะรู้สึกเดียวดายเมื่อไม่มีแสงไฟสาดส่อง -เมื่อนายใหญ่กลับมา เต้น จึงได้ขอพื้นที่สื่อ ว่าตนเองพร้อมรับข้าวน่าวววมาใช้ในร้าน มั่นใจอาหย่อยแดรกด้าย ซึ่งก็ได้ใจนายใหญ่ไปไม่น้อย เพื่อปูทางให้นายเก่า นั่นคือยิ่งลักษณ์ ได้กลับมาสู่ประเทศไทย -ทักษิณเอง ก็ชอบที่จะตอบแทนบุญคุณคนที่เคยถวายตัวช่วยเหลือตน แต่มีนัยทางการเมือง ต้องสมเหตุสมผล จึงได้ดัน เต้น เข้าสู่การเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลลูกสาว ซึ่ง ที่มาก็คือ ดึงเต้นปะทะตู่จตุพร เพราะตั้งแต่ก่อนที่โทนี่จะกลับมา จนถึงปัจจุบัน ตู่จตุพรและทนายนกเขา มีการรุกไล่โทนี่ และรัฐบาลมาโดยตลอด ตั้งแต่ความผิดปกติในชั้น 14 ซึ่งหลายวาระ ก็ทำเอาโทนี่เซ แซดๆๆๆ ไปเหมือนกัน -ดังนั้น เรื่องการปะทะฝึปาก เรียกว่า ต่างรู้มือกัน ก็จะเป็นใครไม่ได้ นั่นก็คือ เต้น ณัฐวุฒินี่แหละ ที่จะทำให้ตู่ต้องเสียเวลาในการแก้เกมส์ ลดทอนเวลาในการรุกไล่รัฐบาล -เพราะการบ่มเพาะข้อมูล และการรวมพลังกับผู้ที่มองเห็นจุดปัญหาที่เกิดจากทักษิณเอง ก็ดูจะมีปริมาณมากขึ้น ยังไม่รวมถึงสนธิลิ้มทองกุล ที่เอ่ยเปรยๆว่า จะมีการลงถนน ซึ่งโทนี่เคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว ว่ามันพังทุกรอบ ไม่ว่าจะเป็นสมัยตนเอง สมัยสมชาย สมัย สมัคร หรือแม้กระทั่งสมัยน้องสาวที่ชื่อยิ่งลักษณ์ ต่างจบทางการเมืองจากการลงถนนของประชาชนทั้งสิ้น -ดังนั้นในภาวะนี้ จึงเป็นสิ่งจำเป็น ที่ต้องให้เต้น เข้ามาขวางตู่ไว้อีกทางหนึ่ง แม้ว่าเต้นเอง จะมีภาพจำระหว่างนักข่าว ที่ไม่สามารถตอบคำถามกรณีจำนำข้าวได้ และรัฐมนตรีบุญทรง ที่นั่้งอยู่ข้างๆเต้นในวันนั้นตอนนี้ก็ยังอยู่ในซักเต แต่ด้วยความหน้าาาด้าน หน้าาาาทน ก็อยากจะกลับมา ให้ทำอะไรก็ต้องทำ -แต่เต้น ด้วยวัยวุฒิ และประสบการณ์ เอาเข้าจริงๆ ก็ยังห่างกับตู่อยู่หลายขุม และถือว่า ตู่ จตุพร ก็ได้ต้อนรับน้องใหม่ น้องเต้น ด้วยการตั้งคำถามที่ทำให้เต้นต้องสะดุ้ง นั่นคือ เงินบริจาค ราวๆ 42 ล.บ อยู่ที่ไหน ในสมัยการชุมนุม นปช. ซึ่งตู่ ยังระบุอีกว่า ทั้งก่อนและหลังการชุมนุมในวันนั้น เต้นนี่แหละใช้จ่ายโดยไม่เคยชี้แจง และยอดสุดท้ายคือ 42 ล.บ มันอยู่ตรงไหน -ซึ่งแม้กระทั่งวันนี้ เต้นเอง ก็ยังไม่มีการตอบคำถามนี้แต่อย่างใด หรือการลงทุนธุรกิจและร้านอาหารของเต้นที่บ้านเกิด จะมาจากเงินบริจาคนปช. ณ วันนั้น ใช่หรือไม่ เป็นสิ่งที่เต้น ต้องอธิบาย ให้สังคม โดยเฉพาะชาว นปช. เสื้อแดง ได้รับรู้ โดยเร็ว มิเช่นนั้น เต้น อาจได้เป็นที่ปรึกษานายกเพียงแค่ในนาม แต่จะไม่ได้รับการยอมรับจากแฟนคลับเพื่อไทย #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1572 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิไขปม “ทักษิณ” กินข้าว “เนวิน” รับมือคดี-อุ๊งอิ๊งขึ้นศาลรธน. ชงอนุทินนายกฯ คนต่อไป
    .
    วันนี้ (9 ต.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง กรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปกินข้าวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตนักโทษคดีทุจริต และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า จรัญสนิทวงศ์ 69 เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ว่า เรื่องนี้ต้องโทษนายทักษิณ ตนไม่อยากพูดถึงเพราะนายทักษิณกำลังรับเวรกรรมอยู่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลูกสาวนายทักษิณจะเอาตัวรอดเปล่าไม่รู้ และนายทักษิณกำลังถูกรุกหนัก ถึงขั้นถ้าเรื่องถึงศาลและชี้ว่ามีมูล เท่ากับว่าจะต้องถูกตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประกบตลอดเวลา และมีการคาดคะเนว่านายทักษิณอาจต้องหนีออกนอกประเทศอีกครั้ง ตนไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง คนที่เกลียดนายทักษิณตั้งข้อสังเกตเยอะแยะ ตนไม่ได้เกลียดนายทักษิณ แต่ขณะนี้เขาต้องรับเวรรับกรรม และขณะนี้รับเวรกรรมอยู่อย่างมาก
    .
    ทั้งนี้ เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายทักษิณเงียบสนิทไม่ออกไปไหน มีแต่เรียกรัฐมนตรีที่ตัวเองสั่งการได้เข้าไปพบ บางกรณีไปดุด่าว่าอนุมัติโครงการบางโครงการได้อย่างไร แม้กระทั่งมีข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่หลังม่านอีกคนหนึ่ง ซึ่งมีคนวิ่งเต้นเข้าหาตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าฯ ท่าอากาศยานไทย แม้กระทั่งหลายคนต้องการเลื่อนตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ปตท. ถึงขั้นโทรศัพท์ไปหาผู้บริหาร ปตท. ขอให้ซื้อโฆษณาสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวีเพิ่ม ซึ่งนายทักษิณได้มอบหมายดูแล 2 กระทรวง คือ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และกระทรวงยุติธรรม ที่กำลังโยกย้ายแต่งตั้ง เพราะต้องดูว่าใครช่วยนายทักษิณ
    .
    นายสนธิ กล่าวว่า นายเนวินเคยสนิทสนมกับนายทักษิณ เคยเป็นมือให้นายทักษิณทำงานทุกงาน ออกมาปะฉะดะ แม้กระทั่งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคยถูกนายเนวินกลั่นแกล้งตลอดเวลา เคยให้นายศุภชัย ใจสมุทร แจ้งความจับตนในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตำแหน่งสำคัญของนายเนวินหลุดออกไป เป็นทำให้นายเนวินหักหลังนายทักษิณ และจัดตั้งรัฐบาลที่ค่ายทหาร ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น รมว.กลาโหม โดยนายเนวินเจรจากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ทำให้กลุ่มนายเนวินมีอำนาจขึ้นมา เส้นทางการเมืองนายทักษิณอยู่ต่างประเทศ นายเนวินกับนายอนุทินตั้งพรรคภูมิใจไทยขึ้นมา
    .
    นายสนธิเห็นว่า การที่นายเนวินและนายอนุทินกินข้าวกับนายทักษิณ เพราะเวรกรรมกำลังเข้ามาที่นายทักษิณ ทั้งกรมราชทัณฑ์กำลังจะถูกสอบ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์อาจมีส่วนร่วมกระทำความผิดด้วย แม้กระทั่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ในฐานะ รมว.ยุติธรรม ที่ออกมาให้ความช่วยเหลือนายทักษิณในเรื่องชั้น 14 เพราะฉะนั้นตอนนี้กรมราชทัณฑ์เริ่มระส่ำระส่ายอย่างมาก คนที่เคยช่วยนายทักษิณเพราะหวังได้เลื่อนตำแหน่ง และหลายคนได้เลื่อนตำแหน่งเพราะการช่วยนายทักษิณ เช่น อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้ขึ้นตำแหน่งเต็มตัวเพราะช่วยนายทักษิณ และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ 5-6 คน ใช้วิชามารและหลักการช่วยนายทักษิณ จึงถูกนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ เคลื่อนไหวเอาผิด
    .
    ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีคนต่อว่าทำไมไม่พูดถึงนายทักษิณเลย ตนตอบว่า ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเขาแล้ว เพราะเขากำลังรับเวรกรรม มีโจทก์เต็มไปหมด ไล่ล่านายทักษิณตลอดเวลา นายทักษิณไม่รู้จะทำอย่างไรในขณะนี้ ซึ่งเรื่องร้องเรียนไปทุกช่องทาง ทั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงาน ปปช. ไปกระทั่งหน่วยงานองค์กรอิสระนั้นไม่เพิกเฉยต่อคำร้องเหล่านี้ได้ แต่ละองค์กรจึงมีการตั้งเรื่องเพื่อสืบเสาะข้อกล่าวหาที่แต่ละคนกล่าวหาทุกช่องทาง ล่าสุดได้ข่าวว่านายทักษิณกำลังจะถูกแจ้งข้อกล่าวหา
    .
    ขณะเดียวกัน น.ส.แพทองธาร กำลังจะถูกดำเนินคดีถือหุ้นในบริษัท อัลไพน์ฯ มีรายงานการประชุมชัดเจน มีชื่อ น.ส.แพทองธารประชุมอยู่ด้วย และโยงไปถึง คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มารดา น.ส.แพทองธาร หาก น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ แล้วเรื่องนี้ถูกส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าชี้ว่า น.ส.แพทองธารมีความผิด ไม่ใช่แค่ลาออกอย่างเดียว ยังถูกดำเนินคดีอาญาด้วย แต่ถ้าก่อนศาลรัฐธรรมนูญพิพากษา น.ส.แพทองธารลาออกไปก่อน คดีนี้ก็จบไป จึงเป็นที่มาของการกินข้าวครั้งนี้
    .
    "ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยได้เปรียบกว่าพรรคเพื่อไทยและทักษิณ เป็นพรรคที่คุม สว. เสียงข้างมากในวุฒิสภา ด้วยเหตุนี้ เนวินถือไพ่ตรงนี้เหนือกว่าทักษิณ ในขณะเดียวกัน ทักษิณก็ยังถือเสียง 140 เสียงของพรรคเพื่อไทยอยู่ ซึ่งถ้าเนวินต้องการให้อนุทินขึ้นมาเป็นนายกฯ ก็ต้องพึ่งเสียงของทักษิณ ผมเชื่อว่าเป็นการทำความเข้าใจถึงสถานการณ์ร่วมกัน และเจรจากันอย่างเงียบๆ ว่าถ้าสมมติอุ๊งอิ๊งจำเป็นต้องออก ก้าวข้าม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปได้เลย เพราะพรรคพลังประชารัฐมีเสียง สส. อยู่ 40 เสียง 20 กว่าเสียงอยู่กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เสียงของพรรคพลังประชารัฐมีจริงๆ ก็แค่ 10 กว่าเสียง ตีให้ตายชาติหน้า พล.อ.ปนระวิตร ก็เป็นนายกฯ ไม่ได้ คิวต่อไปก็เป็นอนุทิน ชาญวีรกูล ถ้าอนุทินเป็นนายกฯ แล้วไม่มีเสียงของทักษิณสนับสนุน ก็ไม่รู้จะทำยังไง นั่นคือที่มาของการกินข้าว คือการปูทางก่อน ทำความเข้าใจ ก่อนละครลิเกโรงใหญ่" นายสนธิ กล่าว
    .
    ทั้งนี้ หลายคนบอกว่าเหตุการณ์นี้จะเริ่มต้นช่วงต้นเดือน ธ.ค. 2567 แต่ตนเห็นว่าอย่างเร็วที่สุดต้นปี 2568 เพราะนายทักษิณอยากให้ น.ส.แพทองธาร ลากต่อไป จนกระทั่งถึงวินาทีสุดท้าย ถ้ายังอยู่ต่อต้องถูกศาลพิพากษาแน่ ถ้าลาออกตอนนี้แล้วเรื่องก็จบ ไม่มีแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญก็แทงเรื่องว่าจบ ปิดคดี เพราะคนที่ถูกกล่าวหาเป็นนายกฯ โดยมิชอบต้องลาออกแล้ว ข้อกล่าวหาก็ต้องตกไปเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนที่นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ กล่าวว่า กลางเดือนนี้จะมีนายกฯ คนนอก คือนายวีรไท สันติประภพ อดีตผู้ว่าการ ธปท. ลูกชาย พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ตนดูการเมืองเมืองไทยกว่า 50 ปีแล้วยังดูไม่ออกเลย นายดนัยก็ดูไม่ออกแต่เชื่อ ทฤษฎีนายดนัยต้องฟังหูไว้หู ตนไม่ประหลาดใจว่ากลางเดือนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ที่แน่ๆ กระบวนการไล่ล่า น.ส.แพทองธารและนายทักษิณยังคงดำเนินต่อไป
    .
    ส่วนการที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช. มาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ปกป้อง น.ส.แพทองธาร นั้น วันนี้กับสมัยก่อนไม่เหมือนกัน สมัยก่อนมีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ร่วมรบ แต่วันนี้ นายจตุพรเป็นศัตรูกับนายทักษิณ นายณัฐวุฒิเข้ามาให้สัมภาษณ์ไป โกหกทุกเรื่อง กระทั่งโซเชียลมีเดียตัดคลิปในอดีตออกมา นายณัฐวุฒิอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว ก็เอาคลิปเก่าที่เคยพูดเรื่องจำนำข้าวมาจี้นายณัฐวุฒิ สรุปแล้วเป็นนักการเมืองที่โกหกเก่งคนหนึ่ง ตนไม่เห็นว่านายณัฐวุฒิจะมาปกป้องอะไรนายกฯ ได้เลยแม้แต่นิดเดียว สรุปแล้วเดือนตุลาคมเป็นเดือนตุลาอาถรรพ์ และอาถรรพ์ถึงสิ้นปีนี้ ทั้งหมดถ้ามองย้อนหลังเป็นละคร ลิเกโรงใหญ่ ต่างฝ่ายต่างมีผลประโยชน์แลกกัน เป็นการจับมือสองฝ่ายที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน นายทักษิณทางเลือกมีน้อยมาก เหมือนหลังชนกำแพงแล้ว
    ..............
    Sondhi X
    สนธิไขปม “ทักษิณ” กินข้าว “เนวิน” รับมือคดี-อุ๊งอิ๊งขึ้นศาลรธน. ชงอนุทินนายกฯ คนต่อไป . วันนี้ (9 ต.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง กรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปกินข้าวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตนักโทษคดีทุจริต และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า จรัญสนิทวงศ์ 69 เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ว่า เรื่องนี้ต้องโทษนายทักษิณ ตนไม่อยากพูดถึงเพราะนายทักษิณกำลังรับเวรกรรมอยู่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลูกสาวนายทักษิณจะเอาตัวรอดเปล่าไม่รู้ และนายทักษิณกำลังถูกรุกหนัก ถึงขั้นถ้าเรื่องถึงศาลและชี้ว่ามีมูล เท่ากับว่าจะต้องถูกตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประกบตลอดเวลา และมีการคาดคะเนว่านายทักษิณอาจต้องหนีออกนอกประเทศอีกครั้ง ตนไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง คนที่เกลียดนายทักษิณตั้งข้อสังเกตเยอะแยะ ตนไม่ได้เกลียดนายทักษิณ แต่ขณะนี้เขาต้องรับเวรรับกรรม และขณะนี้รับเวรกรรมอยู่อย่างมาก . ทั้งนี้ เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายทักษิณเงียบสนิทไม่ออกไปไหน มีแต่เรียกรัฐมนตรีที่ตัวเองสั่งการได้เข้าไปพบ บางกรณีไปดุด่าว่าอนุมัติโครงการบางโครงการได้อย่างไร แม้กระทั่งมีข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่หลังม่านอีกคนหนึ่ง ซึ่งมีคนวิ่งเต้นเข้าหาตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าฯ ท่าอากาศยานไทย แม้กระทั่งหลายคนต้องการเลื่อนตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ปตท. ถึงขั้นโทรศัพท์ไปหาผู้บริหาร ปตท. ขอให้ซื้อโฆษณาสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวีเพิ่ม ซึ่งนายทักษิณได้มอบหมายดูแล 2 กระทรวง คือ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และกระทรวงยุติธรรม ที่กำลังโยกย้ายแต่งตั้ง เพราะต้องดูว่าใครช่วยนายทักษิณ . นายสนธิ กล่าวว่า นายเนวินเคยสนิทสนมกับนายทักษิณ เคยเป็นมือให้นายทักษิณทำงานทุกงาน ออกมาปะฉะดะ แม้กระทั่งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคยถูกนายเนวินกลั่นแกล้งตลอดเวลา เคยให้นายศุภชัย ใจสมุทร แจ้งความจับตนในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตำแหน่งสำคัญของนายเนวินหลุดออกไป เป็นทำให้นายเนวินหักหลังนายทักษิณ และจัดตั้งรัฐบาลที่ค่ายทหาร ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น รมว.กลาโหม โดยนายเนวินเจรจากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ทำให้กลุ่มนายเนวินมีอำนาจขึ้นมา เส้นทางการเมืองนายทักษิณอยู่ต่างประเทศ นายเนวินกับนายอนุทินตั้งพรรคภูมิใจไทยขึ้นมา . นายสนธิเห็นว่า การที่นายเนวินและนายอนุทินกินข้าวกับนายทักษิณ เพราะเวรกรรมกำลังเข้ามาที่นายทักษิณ ทั้งกรมราชทัณฑ์กำลังจะถูกสอบ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์อาจมีส่วนร่วมกระทำความผิดด้วย แม้กระทั่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ในฐานะ รมว.ยุติธรรม ที่ออกมาให้ความช่วยเหลือนายทักษิณในเรื่องชั้น 14 เพราะฉะนั้นตอนนี้กรมราชทัณฑ์เริ่มระส่ำระส่ายอย่างมาก คนที่เคยช่วยนายทักษิณเพราะหวังได้เลื่อนตำแหน่ง และหลายคนได้เลื่อนตำแหน่งเพราะการช่วยนายทักษิณ เช่น อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้ขึ้นตำแหน่งเต็มตัวเพราะช่วยนายทักษิณ และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ 5-6 คน ใช้วิชามารและหลักการช่วยนายทักษิณ จึงถูกนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ เคลื่อนไหวเอาผิด . ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีคนต่อว่าทำไมไม่พูดถึงนายทักษิณเลย ตนตอบว่า ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเขาแล้ว เพราะเขากำลังรับเวรกรรม มีโจทก์เต็มไปหมด ไล่ล่านายทักษิณตลอดเวลา นายทักษิณไม่รู้จะทำอย่างไรในขณะนี้ ซึ่งเรื่องร้องเรียนไปทุกช่องทาง ทั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงาน ปปช. ไปกระทั่งหน่วยงานองค์กรอิสระนั้นไม่เพิกเฉยต่อคำร้องเหล่านี้ได้ แต่ละองค์กรจึงมีการตั้งเรื่องเพื่อสืบเสาะข้อกล่าวหาที่แต่ละคนกล่าวหาทุกช่องทาง ล่าสุดได้ข่าวว่านายทักษิณกำลังจะถูกแจ้งข้อกล่าวหา . ขณะเดียวกัน น.ส.แพทองธาร กำลังจะถูกดำเนินคดีถือหุ้นในบริษัท อัลไพน์ฯ มีรายงานการประชุมชัดเจน มีชื่อ น.ส.แพทองธารประชุมอยู่ด้วย และโยงไปถึง คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มารดา น.ส.แพทองธาร หาก น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ แล้วเรื่องนี้ถูกส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าชี้ว่า น.ส.แพทองธารมีความผิด ไม่ใช่แค่ลาออกอย่างเดียว ยังถูกดำเนินคดีอาญาด้วย แต่ถ้าก่อนศาลรัฐธรรมนูญพิพากษา น.ส.แพทองธารลาออกไปก่อน คดีนี้ก็จบไป จึงเป็นที่มาของการกินข้าวครั้งนี้ . "ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยได้เปรียบกว่าพรรคเพื่อไทยและทักษิณ เป็นพรรคที่คุม สว. เสียงข้างมากในวุฒิสภา ด้วยเหตุนี้ เนวินถือไพ่ตรงนี้เหนือกว่าทักษิณ ในขณะเดียวกัน ทักษิณก็ยังถือเสียง 140 เสียงของพรรคเพื่อไทยอยู่ ซึ่งถ้าเนวินต้องการให้อนุทินขึ้นมาเป็นนายกฯ ก็ต้องพึ่งเสียงของทักษิณ ผมเชื่อว่าเป็นการทำความเข้าใจถึงสถานการณ์ร่วมกัน และเจรจากันอย่างเงียบๆ ว่าถ้าสมมติอุ๊งอิ๊งจำเป็นต้องออก ก้าวข้าม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปได้เลย เพราะพรรคพลังประชารัฐมีเสียง สส. อยู่ 40 เสียง 20 กว่าเสียงอยู่กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เสียงของพรรคพลังประชารัฐมีจริงๆ ก็แค่ 10 กว่าเสียง ตีให้ตายชาติหน้า พล.อ.ปนระวิตร ก็เป็นนายกฯ ไม่ได้ คิวต่อไปก็เป็นอนุทิน ชาญวีรกูล ถ้าอนุทินเป็นนายกฯ แล้วไม่มีเสียงของทักษิณสนับสนุน ก็ไม่รู้จะทำยังไง นั่นคือที่มาของการกินข้าว คือการปูทางก่อน ทำความเข้าใจ ก่อนละครลิเกโรงใหญ่" นายสนธิ กล่าว . ทั้งนี้ หลายคนบอกว่าเหตุการณ์นี้จะเริ่มต้นช่วงต้นเดือน ธ.ค. 2567 แต่ตนเห็นว่าอย่างเร็วที่สุดต้นปี 2568 เพราะนายทักษิณอยากให้ น.ส.แพทองธาร ลากต่อไป จนกระทั่งถึงวินาทีสุดท้าย ถ้ายังอยู่ต่อต้องถูกศาลพิพากษาแน่ ถ้าลาออกตอนนี้แล้วเรื่องก็จบ ไม่มีแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญก็แทงเรื่องว่าจบ ปิดคดี เพราะคนที่ถูกกล่าวหาเป็นนายกฯ โดยมิชอบต้องลาออกแล้ว ข้อกล่าวหาก็ต้องตกไปเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนที่นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ กล่าวว่า กลางเดือนนี้จะมีนายกฯ คนนอก คือนายวีรไท สันติประภพ อดีตผู้ว่าการ ธปท. ลูกชาย พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ตนดูการเมืองเมืองไทยกว่า 50 ปีแล้วยังดูไม่ออกเลย นายดนัยก็ดูไม่ออกแต่เชื่อ ทฤษฎีนายดนัยต้องฟังหูไว้หู ตนไม่ประหลาดใจว่ากลางเดือนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ที่แน่ๆ กระบวนการไล่ล่า น.ส.แพทองธารและนายทักษิณยังคงดำเนินต่อไป . ส่วนการที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช. มาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ปกป้อง น.ส.แพทองธาร นั้น วันนี้กับสมัยก่อนไม่เหมือนกัน สมัยก่อนมีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ร่วมรบ แต่วันนี้ นายจตุพรเป็นศัตรูกับนายทักษิณ นายณัฐวุฒิเข้ามาให้สัมภาษณ์ไป โกหกทุกเรื่อง กระทั่งโซเชียลมีเดียตัดคลิปในอดีตออกมา นายณัฐวุฒิอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว ก็เอาคลิปเก่าที่เคยพูดเรื่องจำนำข้าวมาจี้นายณัฐวุฒิ สรุปแล้วเป็นนักการเมืองที่โกหกเก่งคนหนึ่ง ตนไม่เห็นว่านายณัฐวุฒิจะมาปกป้องอะไรนายกฯ ได้เลยแม้แต่นิดเดียว สรุปแล้วเดือนตุลาคมเป็นเดือนตุลาอาถรรพ์ และอาถรรพ์ถึงสิ้นปีนี้ ทั้งหมดถ้ามองย้อนหลังเป็นละคร ลิเกโรงใหญ่ ต่างฝ่ายต่างมีผลประโยชน์แลกกัน เป็นการจับมือสองฝ่ายที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน นายทักษิณทางเลือกมีน้อยมาก เหมือนหลังชนกำแพงแล้ว .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Wow
    21
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 3610 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ก่อแก้ว พิกุลทอง”อดีตแกนนำ นปช. ได้เลื่อนขึ้นมาป็น สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย หลังจาก“สุดาวรรณ” ยื่นขอลาออกจาก สส.ปาร์ตี้ลิสต์มุ่งทำงานเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมอย่างเดียว

    3 สิงหาคม 2567-เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสภาผู้แทนราษฎร เรื่องให้ผู้มีชื่ออยู่ในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง เลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งที่ว่าง

    ตามที่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลงวันที่ 19 มิ.ย.ประกาศให้ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล ผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 21 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นั้น บัดนี้ น.ส.สุดาวรรณ ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ น.ส.สุดาวรรณ สิ้นสุดลง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 105 (2) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงประกาศให้ผู้มีชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยลำดับที่ 36 เลื่อนขึ้นมาเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทน คือ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ประกาศ ณ วันที่ 1 ส.ค. ลงนามโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ

    สำหรับ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ต้องลาออกจากการเป็นสส.บัญชีรายชื่อให้นายก่อแก้ว ที่ได้เลื่อนเป็นสส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายก่อแก้วเคยมีบทบาทเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และอดีตรักษาการผู้อำนวยการองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ. )

    #Thaitimes
    “ก่อแก้ว พิกุลทอง”อดีตแกนนำ นปช. ได้เลื่อนขึ้นมาป็น สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย หลังจาก“สุดาวรรณ” ยื่นขอลาออกจาก สส.ปาร์ตี้ลิสต์มุ่งทำงานเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมอย่างเดียว 3 สิงหาคม 2567-เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสภาผู้แทนราษฎร เรื่องให้ผู้มีชื่ออยู่ในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง เลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลงวันที่ 19 มิ.ย.ประกาศให้ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล ผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 21 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นั้น บัดนี้ น.ส.สุดาวรรณ ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของ น.ส.สุดาวรรณ สิ้นสุดลง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 105 (2) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงประกาศให้ผู้มีชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยลำดับที่ 36 เลื่อนขึ้นมาเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทน คือ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ประกาศ ณ วันที่ 1 ส.ค. ลงนามโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ สำหรับ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ต้องลาออกจากการเป็นสส.บัญชีรายชื่อให้นายก่อแก้ว ที่ได้เลื่อนเป็นสส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายก่อแก้วเคยมีบทบาทเป็นแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และอดีตรักษาการผู้อำนวยการองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ. ) #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 658 มุมมอง 0 รีวิว