• ต้มข้ามศตวรรษ บทแถม ตอน ฤทธิ์ยิว 3 – 4
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทแถม
    “ฤทธิ์ยิว”

    (3)

    ในปี ค.ศ.1880 มีชาวยิวในอเมริกาประมาณ 250,000 คน ( 0.5%) แต่พอถึงปี 1900 เพียง 20 ปี ต่อมา ตัวเลขเพิ่มเป็น 1.5 ล้านคน และในปี 1918 เพิ่มเป็น 3 ล้านคน และอิทธิพลทางการเมืองของชาวยิว ก็เพิ่มขึ้นในอเมริกา อย่างมากมายเช่นเดียวกัน

    ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นช่วงที่ยิวเร่งลดน้ำพรวนดิน แผ่อิทธิพลในอเมริกา ปี ค.ศ.1901 ประธานาธิบดี William McKinley ถูกยิงตาย โดยชาวโปลหัวรุนแรง ชื่อ Leon Czolgosz ซึ่งถูกปั่นหัว โดยชาวยิวที่ชอบก่อเรื่องวุ่นวาย 2 คน คือ Emma Goldman และ Alexander Berkman และผู้ที่ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแทน คือรองประธานาธิบดี Theodore Roosevelt ซึ่งขณะนั้น อายุเพียง 42 ปี นับเป็นประธานาธิบดี ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา เรื่องนี้น่าสนใจ

    Roosevelt ชื่อดังขึ้นมาจากบทบาทของทหารเรือหนุ่ม ที่ไปรบชนะสเปนที่คิวบา ในปี 1898 และด้วยแรงสนับสนุนสุดตัวของกลุ่มชาวยิว ในปี 1900 เขาได้รับเลือกตั้งเป็น ผู้ว่าการนครนิวยอร์ค และในปีเดียวกันนั้น ก็ได้รับเลือกเป็นรองประธานาธิบดี น่าสนในหนักขึ้นไปอีก

    Roosevelt เป็นยิวหรือเปล่า เจ้าตัวไม่เคยตอบรับ หรือตอบปฏิเสธ แต่น่าสนใจว่า Roosevelt อาจเป็นเด็กสร้างของยิวคือ หลังเขาได้เป็นขึ้นประธานาธิบดี ในปี 1901 โดยเหตุการณ์บังคับหรือจัดตั้งก็ตาม ในปี 1904 เขาลงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ด้วยความสมัครใจ และก็ได้รับเลือกตั้งสมใจ และประวัติศาสตร์ ก็ได้จารึกชื่อ Oscar Straus เป็นชาวยิวคนแรก ที่ได้รับแต่งตั้งให้เข้าร่วมรัฐบาลในอเมริกา จากการสนับสนุนเต็มตัวของ Roosevelt และในฐานะเป็นรัฐมนตรีดูแลด้านแรงงานและพาณิชย์ Straus เอาหน่วยงานด้านคนเข้าเมือง มาดูแลเอง และช่วงนั้นก็กลายเป็นช่วงที่จำนวนชาวยิวอพยพ มายังอเมริกาเพิ่มขึ้นสูงสุด หลังจากนั้น Straus ก็ได้ไปเป็นทูตอเมริกา ประจำออตโตมาน เหมือนไปดูปาเลสไตน์ทุกซอกมุม ก่อนแผนยึดเอามาครองของชาวยิว
    อำนาจเงินอันร้ายกาจของชาวยิว แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัด ในปี 1912 เมื่อ Roosevelt ปฏิเสธที่จะลงสมัครเป็นประธานาธิบดีอีกรอบ แต่สนับสนุนให้ William Taft รัฐมนตรีกลาโหม สมัยรัฐบาลเขา และเป็นได้เป็นประธานาธิบดี ในปี 1908 ลงสมัครต่ออีกวาระ แต่ปรากฎว่ามีพวกลิพับลิกันเรียกร้องให้ Roosevelt ลงสมัครด้วย ตามธรรมเนียม ก็ต้องเสนอชื่อประธานาธิบดีในตำแหน่ง คือ Taft ต่อไป แต่ Roosevelt ก็ดันเล่นตลก ลงสมัครในนามพรรคที่ 3 ปี 1912 ด้วย จึงกลายเป็นเรื่องที่พิลึกมาก ของประวัติศาสตร์การเลือกตั้งของอเมริกา ที่มีประธานาธิบดี Taft ลงสมัครเป็นสมัยที่ 2 ส่วน Roosevelt ลงสมัคร เป็นคู่แข่งจากพรรคที่ 3 และ มี Woodlow Wilson สมัครสมัยแรก ในนามพรรค ดีโมแครต

    สำหรับชาวบ้านคงงง ที่ได้เห็นอดีตประธานาธิบดีกับ ประธานาธิบดี ที่อยู่ในตำแหน่งแข่งกับ Wilson ตัวแทนของ เดโมแครตสมัยแรก และผลก็เป็นที่รู้กันว่า Wilson ชนะเลือกตั้งครั้งนั้น และครั้งต่อไปในปี 1916 อีกสมัย เพื่อทำหน้าที่ครบถ้วนเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 คือ ก่อนระหว่าง และหลัง สงคราม

    ชาวบ้านคงไม่รู้ว่า ผู้สมัครทั้ง 3 คน ได้รับการสนับสนุน จากกระเป๋าเงินอันมีอำนาจร้ายกาจ ของพวกยิวทั้งหมด เพราะฉนั้น ใครได้เป็นประธานาธิบดีคงไม่สำคัญ สำคัญว่าจะต้องมาจัดการทำหน้าที่เกี่ยวกับสงครามโลกให้ครบถ้วนตามใบสั่ง มากกว่า

    เรื่องนี้อยู่ในรายงานของ Henry Ford ชื่อ Dearborn Independent ซึ่งบันทึกเกี่ยวกับคำให้การใน รัฐสภา เมื่อ ปี 1914 ของ Paul Warburg นายธนาคารชาวยิว ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม “เจ้าพ่อ Federal Reserve” หุ้นส่วนของ Kuhn, Loeb & Co ซึ่งสรุปว่า Paul Warburg ให้การว่า หุ้นส่วนคนหนึ่งของ Kuhn Loeb ให้เงินสนับสนุน Roosevelt ส่วน Felix น้องของ Paul (ซึ่งก็เป็นหุ้นส่วนอีกคนหนึ่งเช่นกัน) ให้เงินสนับสนุน Taft ส่วน Jacob Schiff หุ้นส่วนใหญ่ตัวแสบ ให้เงินสนับสนุน Wilson
    คำให้การนี้ทำให้เห็นการทำงานของยิว เหนือผู้สมัครทั้ง 3 คน คนใดชนะเลือกตั้ง ยิวก็ชนะด้วย พวกเขาแทงม้าทุกตัวจริงๆ

    แม้ ในขณะนั้นเรายังไม่เห็นหลักฐานกันชัดเจนว่า ยิวสนับสนุน Roosevelt อย่างไร แต่การแต่งตั้ง Straus ให้คุมเรื่องการเข้าเมือง และพวกยิวก็ทะลักเข้าไปเต็มอเมริกาในช่วงนั้น ก็พอทำให้เราเห็นภาพได้พอสมควร

    ส่วนกรณีของ Taft ซึ่งเป็นผู้ส่งออก Straus ไปเป็นทูตที่ออตโตมาน และแม้ยิวก็ยังไหลเข้ามาในอเมริกาอย่างมากมายต่อเนื่อง แต่ Taft ก็ยังเล่นบทไม่สมใจนายทุน ในเรื่องของชาวยิวที่อยู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับชาวยิวที่อยู่ในรัสเซีย

    สื่ออเมริกัน ซึ่งแน่นอนอยู่ในมือของพวกยิว พากันลงข่าวใส่สีเข้มข้น เช่น Time รายงานว่า ชาวยิวถูกเชือดยังกับเชือดแกะ, เด็กยิวถูกรุมทิ้งโดยกลุ่มชนกระหายเลือด, จำนวนชาวยิวที่ถูกฆ่าสูงขึ้นทุก วัน ฯลฯ ในที่สุด นายกรัฐมนตรีรัสเซีย นาย Pyotr Stolypin ก็ถูกยิงตาย โดยชาวยิวชื่อ Mordekhai Gershkovich หรือที่รู้จักกันในชื่อ Dmitri Bogrov ยิ่งทำให้การตอบโต้ ระหว่าง ยิว/รัสเซีย เลวร้ายลงไปกว่าเดิม

    ####################
    ” ฤทธิ์ยิว”

    (4)

    แม้จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงในรัสเสียเพิ่มขึ้น แต่พวกยิวในอเมริกาเห็นว่ายังแรงไม่พอ ยิวไซออนนิสต์อ้างว่า มีการปิดกั้นไม่ให้ชาวยิวที่อยู่ในอเมริกา เดินทางเข้าไปในรัสเซีย การปิดกั้นนี่เริ่มมาพักใหญ่แล้วนะ และก็เข้มงวดมากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคประธานาธิบดี Taft นี่แหละ Taft ควรทำอะไรเสียบ้าง เสียงนายทุนยิวฟ่อใส่ แต่ Taft คงจัดการไม่ได้ง่ายๆ เพราะอเมริกากับรัสเซีย มีสนธิสัญญาต่างตอบแทนระหว่างกัน เรื่องการพาณิชย์และการเดินเรืออย่างเสรี ตั้งแตปี 1832 ซึ่งแต่ละประเทศมีสิทธิเสรีในการกำหนดการเข้าออกประเทศ แก่พลเมืองของทั้ง 2 ประเทศ
    ไซออนนิสต์ เห็นโอกาสกดดันรัสเซียจากภายนอก ถ้างั้น อเมริกาก็ยกเลิกสนธิสัญญานี้เลยซิ แล้วไซออนนิสต์ก็ทำสำเร็จ โดยการจัดการของพวกยิวกลุ่มเล็กๆ ไม่กี่คน ที่นำโดยทนายชาวยิว Louis Marshall นักการเงินชาวยิว Jacob Schiff และพรรคพวก จาก American Jewish Committee ซึ่งมีพลังอย่างยิ่งในตอนนั้น และ มีมาถึงตอนนี้

    พวกเขายกประเด็นเรื่องยกเลิกสนธิสัญญานี้ ตั้งแต่ปี 1908 แต่ มาจับขาบีบเข่าถาม Taft เอาจริงจังในปี 1910 เมื่อตอนที่ Taft เตรียมตัวจะลงสมัครเป็นประธานาธิบดีสมัย 2 เราสามารถจัดให้ชาวยิวลงคะแนนเสียงให้ท่านได้นะ แต่ท่านจะมีอะไรมาแลกเปลี่ยนกับเรา (quid pro quo)

    Taft เห็นว่าข้อเสนอของพวกยิว ที่จะให้ยกเลิกสนธิสัญญากับรัสเซีย ไม่เป็นประโยชน์อะไรกับอเมริกาเลย เขาทำท่าไม่รับลูกที่ยิวโยนมา

    พวกยิวไม่ยอมหยุด ปี 1911 Marshall เริ่มโหมประเด็นนี้ใหม่ คราวนี้เขาบอกว่า การที่อเมริกายอมให้รัสเซีย ห้ามยิวอเมริกาเข้าประเทศ ไม่ใช่เป็นการดูหมิ่นคนยิวหรอกนะ แต่มันเป็นการดูหมิ่นคนอเมริกัน แล้วสื่อกระป๋องสี ยี่ห้อยิว ก็ช่วยกันประโคมข่าว โดยมี Samuel Straus เป็นหัวหอก ออกนำล่ารายชื่อ ทำหนังสือกดดันไปถึงรัฐสภา ยอดเยี่ยมจริงๆ

    แต่ Taft ก็ยังไม่ยอมอ่อนอยู่ในมือยิวง่ายๆ เขาบอกว่า มีอเมริกันยิวอยู่ในรัสเซีย เพียง 28 คนเท่านั้น และมีคนอเมริกันยิว ที่ถูกรัสเซียปฏิเสธการเข้าเมืองแค่ 4 คน ใน 5 ปี! แต่พวกยิวก็ไม่ยอมเลิกรา เดินหน้าลุยไม่หยุด เหมือนต้องการทดสอบอำนาจของตัว แล้วก็เป็นเรื่องเหลือเชื่อ ว่าในที่สุด พวกยิวก็ทำสำเร็จ
    เป็น Schiff ที่ไปจูง Taft เดินมาที่ทางออก เขาบอก Taft ว่า ท่านก็แค่ลงชื่อในคำขอมติจากรัฐสภา ที่เหลือเป็นเรื่องของเรา แล้ววันที่ 13 ธันวาคม 1911 รัฐสภาก็เห็นชอบให้อเมริกาบอกเลิกสนธิสัญญากับรัสเซีย ด้วยคะแนนเสียง 301 ต่อ 1 เสียงค้าน และเมื่อเรื่องส่งถึงวุฒิสภา มีการแก้ไขเล็กน้อย และวุฒิสมาชิกก็ลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ ในวันที่ 19 ธันวาคม1911 ให้ดำเนินการตามที่รัฐสภาเสนอ (ผมอ่านบทความนี้ แล้วก็แปลกใจมาก ว่า Taft ถูกบีบจากอะไร และบีบตรงไหน แต่ยังหาข้อมูลเพิ่มเติมไม่เจอ)

    รัสเซียถึงกับอึ้ง พูดไม่ออกกับการตัดสินใจของอเมริกา รัสเซียรู้ว่าเรื่องมาจากการผลักดันของพวกยิว แต่รัสเซียนึกไม่ถึงว่าอเมริกา “อยู่มือ” พวกยิวถึงขนาดนั้นแล้ว และการปฏิวัติรัสเซีย โดยพวกบอลเชวิก ที่นำโดยชาวยิว ก็เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นประมาณ 6 ปี หลังจากการทดสอบ แสดงให้เห็นว่า “ผ่าน”

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    7 มิ.ย. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ บทแถม ตอน ฤทธิ์ยิว 3 – 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทแถม “ฤทธิ์ยิว” (3) ในปี ค.ศ.1880 มีชาวยิวในอเมริกาประมาณ 250,000 คน ( 0.5%) แต่พอถึงปี 1900 เพียง 20 ปี ต่อมา ตัวเลขเพิ่มเป็น 1.5 ล้านคน และในปี 1918 เพิ่มเป็น 3 ล้านคน และอิทธิพลทางการเมืองของชาวยิว ก็เพิ่มขึ้นในอเมริกา อย่างมากมายเช่นเดียวกัน ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นช่วงที่ยิวเร่งลดน้ำพรวนดิน แผ่อิทธิพลในอเมริกา ปี ค.ศ.1901 ประธานาธิบดี William McKinley ถูกยิงตาย โดยชาวโปลหัวรุนแรง ชื่อ Leon Czolgosz ซึ่งถูกปั่นหัว โดยชาวยิวที่ชอบก่อเรื่องวุ่นวาย 2 คน คือ Emma Goldman และ Alexander Berkman และผู้ที่ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแทน คือรองประธานาธิบดี Theodore Roosevelt ซึ่งขณะนั้น อายุเพียง 42 ปี นับเป็นประธานาธิบดี ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา เรื่องนี้น่าสนใจ Roosevelt ชื่อดังขึ้นมาจากบทบาทของทหารเรือหนุ่ม ที่ไปรบชนะสเปนที่คิวบา ในปี 1898 และด้วยแรงสนับสนุนสุดตัวของกลุ่มชาวยิว ในปี 1900 เขาได้รับเลือกตั้งเป็น ผู้ว่าการนครนิวยอร์ค และในปีเดียวกันนั้น ก็ได้รับเลือกเป็นรองประธานาธิบดี น่าสนในหนักขึ้นไปอีก Roosevelt เป็นยิวหรือเปล่า เจ้าตัวไม่เคยตอบรับ หรือตอบปฏิเสธ แต่น่าสนใจว่า Roosevelt อาจเป็นเด็กสร้างของยิวคือ หลังเขาได้เป็นขึ้นประธานาธิบดี ในปี 1901 โดยเหตุการณ์บังคับหรือจัดตั้งก็ตาม ในปี 1904 เขาลงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ด้วยความสมัครใจ และก็ได้รับเลือกตั้งสมใจ และประวัติศาสตร์ ก็ได้จารึกชื่อ Oscar Straus เป็นชาวยิวคนแรก ที่ได้รับแต่งตั้งให้เข้าร่วมรัฐบาลในอเมริกา จากการสนับสนุนเต็มตัวของ Roosevelt และในฐานะเป็นรัฐมนตรีดูแลด้านแรงงานและพาณิชย์ Straus เอาหน่วยงานด้านคนเข้าเมือง มาดูแลเอง และช่วงนั้นก็กลายเป็นช่วงที่จำนวนชาวยิวอพยพ มายังอเมริกาเพิ่มขึ้นสูงสุด หลังจากนั้น Straus ก็ได้ไปเป็นทูตอเมริกา ประจำออตโตมาน เหมือนไปดูปาเลสไตน์ทุกซอกมุม ก่อนแผนยึดเอามาครองของชาวยิว อำนาจเงินอันร้ายกาจของชาวยิว แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัด ในปี 1912 เมื่อ Roosevelt ปฏิเสธที่จะลงสมัครเป็นประธานาธิบดีอีกรอบ แต่สนับสนุนให้ William Taft รัฐมนตรีกลาโหม สมัยรัฐบาลเขา และเป็นได้เป็นประธานาธิบดี ในปี 1908 ลงสมัครต่ออีกวาระ แต่ปรากฎว่ามีพวกลิพับลิกันเรียกร้องให้ Roosevelt ลงสมัครด้วย ตามธรรมเนียม ก็ต้องเสนอชื่อประธานาธิบดีในตำแหน่ง คือ Taft ต่อไป แต่ Roosevelt ก็ดันเล่นตลก ลงสมัครในนามพรรคที่ 3 ปี 1912 ด้วย จึงกลายเป็นเรื่องที่พิลึกมาก ของประวัติศาสตร์การเลือกตั้งของอเมริกา ที่มีประธานาธิบดี Taft ลงสมัครเป็นสมัยที่ 2 ส่วน Roosevelt ลงสมัคร เป็นคู่แข่งจากพรรคที่ 3 และ มี Woodlow Wilson สมัครสมัยแรก ในนามพรรค ดีโมแครต สำหรับชาวบ้านคงงง ที่ได้เห็นอดีตประธานาธิบดีกับ ประธานาธิบดี ที่อยู่ในตำแหน่งแข่งกับ Wilson ตัวแทนของ เดโมแครตสมัยแรก และผลก็เป็นที่รู้กันว่า Wilson ชนะเลือกตั้งครั้งนั้น และครั้งต่อไปในปี 1916 อีกสมัย เพื่อทำหน้าที่ครบถ้วนเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 คือ ก่อนระหว่าง และหลัง สงคราม ชาวบ้านคงไม่รู้ว่า ผู้สมัครทั้ง 3 คน ได้รับการสนับสนุน จากกระเป๋าเงินอันมีอำนาจร้ายกาจ ของพวกยิวทั้งหมด เพราะฉนั้น ใครได้เป็นประธานาธิบดีคงไม่สำคัญ สำคัญว่าจะต้องมาจัดการทำหน้าที่เกี่ยวกับสงครามโลกให้ครบถ้วนตามใบสั่ง มากกว่า เรื่องนี้อยู่ในรายงานของ Henry Ford ชื่อ Dearborn Independent ซึ่งบันทึกเกี่ยวกับคำให้การใน รัฐสภา เมื่อ ปี 1914 ของ Paul Warburg นายธนาคารชาวยิว ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม “เจ้าพ่อ Federal Reserve” หุ้นส่วนของ Kuhn, Loeb & Co ซึ่งสรุปว่า Paul Warburg ให้การว่า หุ้นส่วนคนหนึ่งของ Kuhn Loeb ให้เงินสนับสนุน Roosevelt ส่วน Felix น้องของ Paul (ซึ่งก็เป็นหุ้นส่วนอีกคนหนึ่งเช่นกัน) ให้เงินสนับสนุน Taft ส่วน Jacob Schiff หุ้นส่วนใหญ่ตัวแสบ ให้เงินสนับสนุน Wilson คำให้การนี้ทำให้เห็นการทำงานของยิว เหนือผู้สมัครทั้ง 3 คน คนใดชนะเลือกตั้ง ยิวก็ชนะด้วย พวกเขาแทงม้าทุกตัวจริงๆ แม้ ในขณะนั้นเรายังไม่เห็นหลักฐานกันชัดเจนว่า ยิวสนับสนุน Roosevelt อย่างไร แต่การแต่งตั้ง Straus ให้คุมเรื่องการเข้าเมือง และพวกยิวก็ทะลักเข้าไปเต็มอเมริกาในช่วงนั้น ก็พอทำให้เราเห็นภาพได้พอสมควร ส่วนกรณีของ Taft ซึ่งเป็นผู้ส่งออก Straus ไปเป็นทูตที่ออตโตมาน และแม้ยิวก็ยังไหลเข้ามาในอเมริกาอย่างมากมายต่อเนื่อง แต่ Taft ก็ยังเล่นบทไม่สมใจนายทุน ในเรื่องของชาวยิวที่อยู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับชาวยิวที่อยู่ในรัสเซีย สื่ออเมริกัน ซึ่งแน่นอนอยู่ในมือของพวกยิว พากันลงข่าวใส่สีเข้มข้น เช่น Time รายงานว่า ชาวยิวถูกเชือดยังกับเชือดแกะ, เด็กยิวถูกรุมทิ้งโดยกลุ่มชนกระหายเลือด, จำนวนชาวยิวที่ถูกฆ่าสูงขึ้นทุก วัน ฯลฯ ในที่สุด นายกรัฐมนตรีรัสเซีย นาย Pyotr Stolypin ก็ถูกยิงตาย โดยชาวยิวชื่อ Mordekhai Gershkovich หรือที่รู้จักกันในชื่อ Dmitri Bogrov ยิ่งทำให้การตอบโต้ ระหว่าง ยิว/รัสเซีย เลวร้ายลงไปกว่าเดิม #################### ” ฤทธิ์ยิว” (4) แม้จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงในรัสเสียเพิ่มขึ้น แต่พวกยิวในอเมริกาเห็นว่ายังแรงไม่พอ ยิวไซออนนิสต์อ้างว่า มีการปิดกั้นไม่ให้ชาวยิวที่อยู่ในอเมริกา เดินทางเข้าไปในรัสเซีย การปิดกั้นนี่เริ่มมาพักใหญ่แล้วนะ และก็เข้มงวดมากขึ้นเรื่อยๆ ในยุคประธานาธิบดี Taft นี่แหละ Taft ควรทำอะไรเสียบ้าง เสียงนายทุนยิวฟ่อใส่ แต่ Taft คงจัดการไม่ได้ง่ายๆ เพราะอเมริกากับรัสเซีย มีสนธิสัญญาต่างตอบแทนระหว่างกัน เรื่องการพาณิชย์และการเดินเรืออย่างเสรี ตั้งแตปี 1832 ซึ่งแต่ละประเทศมีสิทธิเสรีในการกำหนดการเข้าออกประเทศ แก่พลเมืองของทั้ง 2 ประเทศ ไซออนนิสต์ เห็นโอกาสกดดันรัสเซียจากภายนอก ถ้างั้น อเมริกาก็ยกเลิกสนธิสัญญานี้เลยซิ แล้วไซออนนิสต์ก็ทำสำเร็จ โดยการจัดการของพวกยิวกลุ่มเล็กๆ ไม่กี่คน ที่นำโดยทนายชาวยิว Louis Marshall นักการเงินชาวยิว Jacob Schiff และพรรคพวก จาก American Jewish Committee ซึ่งมีพลังอย่างยิ่งในตอนนั้น และ มีมาถึงตอนนี้ พวกเขายกประเด็นเรื่องยกเลิกสนธิสัญญานี้ ตั้งแต่ปี 1908 แต่ มาจับขาบีบเข่าถาม Taft เอาจริงจังในปี 1910 เมื่อตอนที่ Taft เตรียมตัวจะลงสมัครเป็นประธานาธิบดีสมัย 2 เราสามารถจัดให้ชาวยิวลงคะแนนเสียงให้ท่านได้นะ แต่ท่านจะมีอะไรมาแลกเปลี่ยนกับเรา (quid pro quo) Taft เห็นว่าข้อเสนอของพวกยิว ที่จะให้ยกเลิกสนธิสัญญากับรัสเซีย ไม่เป็นประโยชน์อะไรกับอเมริกาเลย เขาทำท่าไม่รับลูกที่ยิวโยนมา พวกยิวไม่ยอมหยุด ปี 1911 Marshall เริ่มโหมประเด็นนี้ใหม่ คราวนี้เขาบอกว่า การที่อเมริกายอมให้รัสเซีย ห้ามยิวอเมริกาเข้าประเทศ ไม่ใช่เป็นการดูหมิ่นคนยิวหรอกนะ แต่มันเป็นการดูหมิ่นคนอเมริกัน แล้วสื่อกระป๋องสี ยี่ห้อยิว ก็ช่วยกันประโคมข่าว โดยมี Samuel Straus เป็นหัวหอก ออกนำล่ารายชื่อ ทำหนังสือกดดันไปถึงรัฐสภา ยอดเยี่ยมจริงๆ แต่ Taft ก็ยังไม่ยอมอ่อนอยู่ในมือยิวง่ายๆ เขาบอกว่า มีอเมริกันยิวอยู่ในรัสเซีย เพียง 28 คนเท่านั้น และมีคนอเมริกันยิว ที่ถูกรัสเซียปฏิเสธการเข้าเมืองแค่ 4 คน ใน 5 ปี! แต่พวกยิวก็ไม่ยอมเลิกรา เดินหน้าลุยไม่หยุด เหมือนต้องการทดสอบอำนาจของตัว แล้วก็เป็นเรื่องเหลือเชื่อ ว่าในที่สุด พวกยิวก็ทำสำเร็จ เป็น Schiff ที่ไปจูง Taft เดินมาที่ทางออก เขาบอก Taft ว่า ท่านก็แค่ลงชื่อในคำขอมติจากรัฐสภา ที่เหลือเป็นเรื่องของเรา แล้ววันที่ 13 ธันวาคม 1911 รัฐสภาก็เห็นชอบให้อเมริกาบอกเลิกสนธิสัญญากับรัสเซีย ด้วยคะแนนเสียง 301 ต่อ 1 เสียงค้าน และเมื่อเรื่องส่งถึงวุฒิสภา มีการแก้ไขเล็กน้อย และวุฒิสมาชิกก็ลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ ในวันที่ 19 ธันวาคม1911 ให้ดำเนินการตามที่รัฐสภาเสนอ (ผมอ่านบทความนี้ แล้วก็แปลกใจมาก ว่า Taft ถูกบีบจากอะไร และบีบตรงไหน แต่ยังหาข้อมูลเพิ่มเติมไม่เจอ) รัสเซียถึงกับอึ้ง พูดไม่ออกกับการตัดสินใจของอเมริกา รัสเซียรู้ว่าเรื่องมาจากการผลักดันของพวกยิว แต่รัสเซียนึกไม่ถึงว่าอเมริกา “อยู่มือ” พวกยิวถึงขนาดนั้นแล้ว และการปฏิวัติรัสเซีย โดยพวกบอลเชวิก ที่นำโดยชาวยิว ก็เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นประมาณ 6 ปี หลังจากการทดสอบ แสดงให้เห็นว่า “ผ่าน” สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 7 มิ.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 479 Views 0 Reviews
  • มิติใหม่สายบุญ ร้านล้างรถหยอดเหรียญ เปิดวงจรปิดถึงกับอึ้ง ลูกค้านำ “รูปหล่อพระเกจิ” มาล้างขัดอัดฉีดจนเงาวับ เหมือนใหม่
    มิติใหม่สายบุญ ร้านล้างรถหยอดเหรียญ เปิดวงจรปิดถึงกับอึ้ง ลูกค้านำ “รูปหล่อพระเกจิ” มาล้างขัดอัดฉีดจนเงาวับ เหมือนใหม่
    Like
    Love
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 868 Views 49 0 Reviews
  • หุ้นตกยุคอุ๊งอิ๊ง อ้างคนฉลาดเห็นโอกาส

    "เป็นจังหวะเข้าซื้อเพราะพื้นฐานเศรษฐกิจไทยไม่ได้เปลี่ยน คนที่ฉลาดจะมองเห็นโอกาสจากพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มีกับราคาตลาดตอนนี้ ส่วนคนที่ไม่ฉลาดก็จะตื่นเต้นและไม่เห็นโอกาสในสิ่งนี้" เป็นคำกล่าวของนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ระบุถึงตลาดหุ้นไทยลดลงต่ำกว่า 1,200 จุด ในวันที่ต่างชาติเทขายต่อเนื่อง และไม่มีแผนกระตุ้นนักลงทุนอย่างชัดเจน เรียกเสียงวิจารณ์จากผู้คนทั่วทุกสารทิศ

    ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรีวัย 38 ปี กล่าวตอบโต้ฝ่ายค้านที่ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องภาวะผู้นำว่า "ไม่ได้อยากชี้นิ้วว่าใครเป็นผู้นำ หรือเป็นผู้นำในแบบของเรา จะว่าใครก็ต้องเป็นผู้นำให้ได้ก่อน แล้วค่อยพูดถึงคนอื่นได้" และว่า "การอภิปรายไม่ใว้วางใจของสภาฯ เป็นเวทีที่ดีที่จะทำให้ประชาชนเข้าใจในข้อมูลที่แท้จริง และเข้าใจความเป็นนายกรัฐมนตรีเจนวาย (Gen Y) ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะยังไม่เคยมีมาก่อน"

    ประโยคนี้ทำเอาคนทุกเจนถึงกับอึ้ง เพราะทราบดีว่า น.ส.แพทองธาร ไม่ได้เข้ามาเป็นนายกฯ ด้วยความสามารถ แต่เข้ามาเพราะบารมีพ่ออย่างนายทักษิณ ชินวัตร ที่ผ่านมามีข้ออ้างว่า "เป็นนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์" เมื่อถูกถามถึงข้อครหาว่าครอบครัวครอบงำ หรือ "สามีเป็นคนใต้ ครอบครัวสามีก็คนใต้ ถ้าละเลยคนใต้หรือไม่รักคนใต้ แต่งงานกับคนใต้ไม่ได้" เมื่อถูกถามถึงคำว่าละเลยภาคใต้ในสถานการณ์น้ำท่วม กลายเป็นวาทะแห่งปีของสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาล

    วันที่ 16 ส.ค.2567 น.ส.แพทองธารได้รับการโหวตด้วยเสียงข้างมากในสภา ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 1,303.00 จุด กระทั่งนายทักษิณกล่าววิสัยทัศน์หลังได้รับการพักโทษคดีทุจริต และมีการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น สูงสุดที่ระดับ 1,506.82 จุด เมื่อวันที่ 18 ต.ค.2567 แต่เมื่อมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และมีเรื่องที่กระทบกับธรรมาภิบาลต่อตลาดหุ้นไทยหลายเรื่อง รวมทั้งระยะหลังนายทักษิณไม่มีคำตอบอย่างชัดเจนว่า ทำอย่างไรตลาดหุ้นไทยจะฟื้น และมีมาตรการอย่างไรเพื่อเรียกนักลงทุนกลับมา จากสิ้นปี 2567 อยู่ที่ 1,400.21 จุด ล่าสุดวันที่ 4 มี.ค.2568 เหลือ 1,177.64 จุด และมีแนวโน้มทรุดหนักต่อไป

    ในวันที่เศรษฐกิจไม่ฟื้น นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น แต่นายกฯ แพทองธารและพรรคเพื่อไทย ยังคงขยันผลิตวาทกรรมเอาตัวรอดไปวันๆ บริหารประเทศแบบถูลู่ถูกัง จนกว่าจะครบเทอมในปี 2570 ไม่ได้มรรคผลอะไรเลย คำว่า "โอกาส" ที่ น.ส.แพทองธารและรัฐบาลกล่าวบ่อยครั้ง ก็ไม่มีทางออกว่าจะไปทางไหน สิ่งเดียวที่ประชาชนทำได้ในยามนี้ คือ เอาตัวเองให้รอดก่อน

    #Newskit
    หุ้นตกยุคอุ๊งอิ๊ง อ้างคนฉลาดเห็นโอกาส "เป็นจังหวะเข้าซื้อเพราะพื้นฐานเศรษฐกิจไทยไม่ได้เปลี่ยน คนที่ฉลาดจะมองเห็นโอกาสจากพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มีกับราคาตลาดตอนนี้ ส่วนคนที่ไม่ฉลาดก็จะตื่นเต้นและไม่เห็นโอกาสในสิ่งนี้" เป็นคำกล่าวของนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ระบุถึงตลาดหุ้นไทยลดลงต่ำกว่า 1,200 จุด ในวันที่ต่างชาติเทขายต่อเนื่อง และไม่มีแผนกระตุ้นนักลงทุนอย่างชัดเจน เรียกเสียงวิจารณ์จากผู้คนทั่วทุกสารทิศ ไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรีวัย 38 ปี กล่าวตอบโต้ฝ่ายค้านที่ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องภาวะผู้นำว่า "ไม่ได้อยากชี้นิ้วว่าใครเป็นผู้นำ หรือเป็นผู้นำในแบบของเรา จะว่าใครก็ต้องเป็นผู้นำให้ได้ก่อน แล้วค่อยพูดถึงคนอื่นได้" และว่า "การอภิปรายไม่ใว้วางใจของสภาฯ เป็นเวทีที่ดีที่จะทำให้ประชาชนเข้าใจในข้อมูลที่แท้จริง และเข้าใจความเป็นนายกรัฐมนตรีเจนวาย (Gen Y) ซึ่งที่ผ่านมาอาจจะยังไม่เคยมีมาก่อน" ประโยคนี้ทำเอาคนทุกเจนถึงกับอึ้ง เพราะทราบดีว่า น.ส.แพทองธาร ไม่ได้เข้ามาเป็นนายกฯ ด้วยความสามารถ แต่เข้ามาเพราะบารมีพ่ออย่างนายทักษิณ ชินวัตร ที่ผ่านมามีข้ออ้างว่า "เป็นนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์" เมื่อถูกถามถึงข้อครหาว่าครอบครัวครอบงำ หรือ "สามีเป็นคนใต้ ครอบครัวสามีก็คนใต้ ถ้าละเลยคนใต้หรือไม่รักคนใต้ แต่งงานกับคนใต้ไม่ได้" เมื่อถูกถามถึงคำว่าละเลยภาคใต้ในสถานการณ์น้ำท่วม กลายเป็นวาทะแห่งปีของสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาล วันที่ 16 ส.ค.2567 น.ส.แพทองธารได้รับการโหวตด้วยเสียงข้างมากในสภา ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 1,303.00 จุด กระทั่งนายทักษิณกล่าววิสัยทัศน์หลังได้รับการพักโทษคดีทุจริต และมีการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น สูงสุดที่ระดับ 1,506.82 จุด เมื่อวันที่ 18 ต.ค.2567 แต่เมื่อมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และมีเรื่องที่กระทบกับธรรมาภิบาลต่อตลาดหุ้นไทยหลายเรื่อง รวมทั้งระยะหลังนายทักษิณไม่มีคำตอบอย่างชัดเจนว่า ทำอย่างไรตลาดหุ้นไทยจะฟื้น และมีมาตรการอย่างไรเพื่อเรียกนักลงทุนกลับมา จากสิ้นปี 2567 อยู่ที่ 1,400.21 จุด ล่าสุดวันที่ 4 มี.ค.2568 เหลือ 1,177.64 จุด และมีแนวโน้มทรุดหนักต่อไป ในวันที่เศรษฐกิจไม่ฟื้น นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น แต่นายกฯ แพทองธารและพรรคเพื่อไทย ยังคงขยันผลิตวาทกรรมเอาตัวรอดไปวันๆ บริหารประเทศแบบถูลู่ถูกัง จนกว่าจะครบเทอมในปี 2570 ไม่ได้มรรคผลอะไรเลย คำว่า "โอกาส" ที่ น.ส.แพทองธารและรัฐบาลกล่าวบ่อยครั้ง ก็ไม่มีทางออกว่าจะไปทางไหน สิ่งเดียวที่ประชาชนทำได้ในยามนี้ คือ เอาตัวเองให้รอดก่อน #Newskit
    Like
    Haha
    Angry
    3
    1 Comments 0 Shares 1241 Views 0 Reviews
  • พนักงานคอลเซ็นเตอร์จาก Neta Auto บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน โดนทัวร์ลง หลังลืมกดวางสายโทรศัพท์ นินทาลูกค้าฉ่ำ แถมยังใช้คำหยาบคาย

    เนื่องจากปัญหาด้านการบำรุงรักษา เจ้าของรถจึงได้มีการติดต่อพูดคุยกับทางคอลเซ็นเตอร์ของบริษัท อย่างไรก็ตาม การบริการของพนักงานทั้งต่อหน้า และลับหลังกลับแตกต่างกันอย่างลิบลับ

    "เข้าใจแล้วค่ะ จะเร่งให้เดี๋ยวนี้ มีเรื่องอื่นต้องการให้ช่วยอีกไหมคะ?" "ขอบคุณที่โทร.มานะคะ ขอให้มีความสุข สวัสดีค่ะ" คำพูดของพนักงานคอลเซ็นเตอร์ จากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงเธอพูดขึ้นมาว่า "ถามอยู่นั่นแหละว่าจะจัดการยังไง! จัดการโคตรแม่งสิ! กูจะรู้ไหมว่าจะจัดการยังไง!" จากนั้นเธอก็สบถคำหยาบ และจบท้ายด้วย "รำคาญจะตายแล้ว!"

    ด้านเจ้าของรถก็ถึงกับอึ้ง ก่อนถามสมาชิกในครอบครัวว่า “เธอพูดอะไรน่ะ?" ซึ่งสมาชิกในครอบครัวก็ตอบว่า “เธอพูดว่า จัดการกับโคตรแม่งสิ”

    ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทาง Neta Auto ระบุว่า พวกเขาได้โทร.ไปขอโทษเจ้าของรถ พร้อมสั่งพักงานพนักงานคนดังกล่าว เพื่อเป็นการลงโทษ

    #MGROnline #คอลเซ็นเตอร์
    พนักงานคอลเซ็นเตอร์จาก Neta Auto บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน โดนทัวร์ลง หลังลืมกดวางสายโทรศัพท์ นินทาลูกค้าฉ่ำ แถมยังใช้คำหยาบคาย • เนื่องจากปัญหาด้านการบำรุงรักษา เจ้าของรถจึงได้มีการติดต่อพูดคุยกับทางคอลเซ็นเตอร์ของบริษัท อย่างไรก็ตาม การบริการของพนักงานทั้งต่อหน้า และลับหลังกลับแตกต่างกันอย่างลิบลับ • "เข้าใจแล้วค่ะ จะเร่งให้เดี๋ยวนี้ มีเรื่องอื่นต้องการให้ช่วยอีกไหมคะ?" "ขอบคุณที่โทร.มานะคะ ขอให้มีความสุข สวัสดีค่ะ" คำพูดของพนักงานคอลเซ็นเตอร์ จากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงเธอพูดขึ้นมาว่า "ถามอยู่นั่นแหละว่าจะจัดการยังไง! จัดการโคตรแม่งสิ! กูจะรู้ไหมว่าจะจัดการยังไง!" จากนั้นเธอก็สบถคำหยาบ และจบท้ายด้วย "รำคาญจะตายแล้ว!" • ด้านเจ้าของรถก็ถึงกับอึ้ง ก่อนถามสมาชิกในครอบครัวว่า “เธอพูดอะไรน่ะ?" ซึ่งสมาชิกในครอบครัวก็ตอบว่า “เธอพูดว่า จัดการกับโคตรแม่งสิ” • ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทาง Neta Auto ระบุว่า พวกเขาได้โทร.ไปขอโทษเจ้าของรถ พร้อมสั่งพักงานพนักงานคนดังกล่าว เพื่อเป็นการลงโทษ • #MGROnline #คอลเซ็นเตอร์
    0 Comments 0 Shares 546 Views 0 Reviews
  • #อึ้งบนสังคมไทยที่บิดเบี้ยวsus sus
    ได้ทราบข้อมูลจากสถานีข่าวช่องดังสดๆร้อนๆ
    ว่าด้วยบ.ดังเจ้าของทีวีช่องเบอร์ต้นของประเทศไทย
    ได้ตั้งบริษัทลูก ทำธุรกิจร้านอาหาร มีกรรมการ
    และบริษัทลูก อยู่บนตึก ม ล น
    โGง ซัพพลายเออร์ โลจิสติก แทบทั้งกระบวนการห่วงโซ่อุปทาน
    เจ็บกันระนาว เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการฟ๊อง
    บ.ลูกช่องดัง ก็ได้สร้างสิ่งมหัศจรรย์
    คือการข๋ายบริษัทลูก ที่มีมูลหนี๊หลักร้อยล้าน
    ให้ยาย ส. อายุ 78 ปี โดยยาย ส. ซื้อบริษัทลูกช่องดัง
    ในราคา หมื่นนิดๆ ไม่ใช่หมื่นล้าน หมื่นกว่าบาท
    ยังไม่พอ ยาย ส. รับโอนบริษัท ภายใต้เงื่อนไข
    รับทุกหนี๊สินร้อยกว่าล้าน โดย ผสห ไม่สามารถเอาผิด
    กับกรรมการผู้ก่อการได้ ยายรับจบ
    ผสห ก็ถึงกับอึ้ง ไปปรึกษา กลต. กลต.ก็ตอบว่า
    ก็เค้าประกาศแล้ว กลต.ก็ทำอะไรไม่ได้
    อ้าว บังลัยไส้แล้วสิ แบบนี้ ตลาดหลักทรัยพ์ไม่ได้เป็นสถานที่ปลอดภัย
    ของปชช อีกต่อไป ถ้าบ.ใด มีพฤติกรรมโgง ปชช
    ก็แค่โยนให้ยายที่อายุใกล้ตุยตูนีเย่ สมอ้างรับไปคนเดียว
    กรรมการก็ไม่ต้องรับผิดชอบ
    พอฟ๊อง สืบทรั๊พย์ยาย ไม่มีอะไรให้สิ ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว
    ผสห มีอย่างน้อย แปดราย ก็ต้องดิ้นรถ ไปแจ้งที่ สน.
    ปรากฏ แจ้งที่ สน. ห. ม. ร้อยเวลาดองไว้เป็นปี และมีหนังสืออ้างว่า
    อ ย ก สั่งไม่ฟ๊อง ผสห ก็ไม่จบ ตามไปถึง อ ย ก ปรากฏ อ ย ก
    บอกว่า ทางร้อยเวร ไม่เคยส่งเรื่องมาถึง อ ย ก โอ้
    เพราะอะไรกัน ทำไมถึงมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นกับ KADEE นี้ขนาดนี้
    เรื่องนี้ ผสห กำลังสู้กับกลุ่ม ผู้ทรงอิทธิพล คงยาก ที่พี่หนุ่ม
    จะสามารถรับเคสนี้เข้ารายการ เพราะพี่หนุ่ม กรรไกร
    ก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ช่องดังเบอร์ต้นนั้นด้วยเช่นกัน
    เรื่องนี้ เปิดเผยได้เร็ว ก็ดี ทำให้รู้ว่า วิธีการแบบนี้
    ก็มีด้วย โGงได้แบบ ลอยตัว โยนให้นอมีนีซักคน ให้รับผิดชอบแทน
    ก็รอดจาก KADEE ฉ้อโGง ได้ แบบนี้ ก็ได้หรา
    ไว้พี่คิงส์มีความคืบหน้า จะมาอัพเดทอีกที
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #อึ้งบนสังคมไทยที่บิดเบี้ยวsus sus ได้ทราบข้อมูลจากสถานีข่าวช่องดังสดๆร้อนๆ ว่าด้วยบ.ดังเจ้าของทีวีช่องเบอร์ต้นของประเทศไทย ได้ตั้งบริษัทลูก ทำธุรกิจร้านอาหาร มีกรรมการ และบริษัทลูก อยู่บนตึก ม ล น โGง ซัพพลายเออร์ โลจิสติก แทบทั้งกระบวนการห่วงโซ่อุปทาน เจ็บกันระนาว เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการฟ๊อง บ.ลูกช่องดัง ก็ได้สร้างสิ่งมหัศจรรย์ คือการข๋ายบริษัทลูก ที่มีมูลหนี๊หลักร้อยล้าน ให้ยาย ส. อายุ 78 ปี โดยยาย ส. ซื้อบริษัทลูกช่องดัง ในราคา หมื่นนิดๆ ไม่ใช่หมื่นล้าน หมื่นกว่าบาท ยังไม่พอ ยาย ส. รับโอนบริษัท ภายใต้เงื่อนไข รับทุกหนี๊สินร้อยกว่าล้าน โดย ผสห ไม่สามารถเอาผิด กับกรรมการผู้ก่อการได้ ยายรับจบ ผสห ก็ถึงกับอึ้ง ไปปรึกษา กลต. กลต.ก็ตอบว่า ก็เค้าประกาศแล้ว กลต.ก็ทำอะไรไม่ได้ อ้าว บังลัยไส้แล้วสิ แบบนี้ ตลาดหลักทรัยพ์ไม่ได้เป็นสถานที่ปลอดภัย ของปชช อีกต่อไป ถ้าบ.ใด มีพฤติกรรมโgง ปชช ก็แค่โยนให้ยายที่อายุใกล้ตุยตูนีเย่ สมอ้างรับไปคนเดียว กรรมการก็ไม่ต้องรับผิดชอบ พอฟ๊อง สืบทรั๊พย์ยาย ไม่มีอะไรให้สิ ทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ผสห มีอย่างน้อย แปดราย ก็ต้องดิ้นรถ ไปแจ้งที่ สน. ปรากฏ แจ้งที่ สน. ห. ม. ร้อยเวลาดองไว้เป็นปี และมีหนังสืออ้างว่า อ ย ก สั่งไม่ฟ๊อง ผสห ก็ไม่จบ ตามไปถึง อ ย ก ปรากฏ อ ย ก บอกว่า ทางร้อยเวร ไม่เคยส่งเรื่องมาถึง อ ย ก โอ้ เพราะอะไรกัน ทำไมถึงมีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นกับ KADEE นี้ขนาดนี้ เรื่องนี้ ผสห กำลังสู้กับกลุ่ม ผู้ทรงอิทธิพล คงยาก ที่พี่หนุ่ม จะสามารถรับเคสนี้เข้ารายการ เพราะพี่หนุ่ม กรรไกร ก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ช่องดังเบอร์ต้นนั้นด้วยเช่นกัน เรื่องนี้ เปิดเผยได้เร็ว ก็ดี ทำให้รู้ว่า วิธีการแบบนี้ ก็มีด้วย โGงได้แบบ ลอยตัว โยนให้นอมีนีซักคน ให้รับผิดชอบแทน ก็รอดจาก KADEE ฉ้อโGง ได้ แบบนี้ ก็ได้หรา ไว้พี่คิงส์มีความคืบหน้า จะมาอัพเดทอีกที #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 Comments 0 Shares 683 Views 0 Reviews
  • ## พฤติกรรมของ "ประชาชน" คนรุ่นใหม่...??? ##
    ..
    ..
    โอ้โห...!!!
    .
    "พลพรรคสีส้ม" นี่ เขาไม่หยุดไม่หย่อนเลยกัยเลยจริงๆนะ...!!!
    .
    ผมนี่ ถึงกับอึ้งไปเลย...!!!
    .
    พฤติกรรมใหม่...!!!
    .
    ของคนรุ่นใหม่...???
    ของนักการเมืองรุ่นใหม่...???
    ของพรรคการเมืองใหม่...???
    .
    พฤติกรรมของ "ประชาชน" รุ่นใหม่ ควรจะเป็นแบบนี้จริงๆหรือ...???
    .
    ประชาชนจำนวนมาก ชอบพฤติกรรม เช่นนี้หรือ...???
    ...
    ...
    ประชาชน ต้องเรียนรู้ที่จะเท่าทัน "นักการเมือง"...
    .
    ผิดเป็นครู เรียนรู้ แล้ว จำ....
    .
    เป็นกำลังให้ "คะแนนเสียงส่วนมาก" ได้ตื่นรู้ครับ...!!!
    .


    https://youtu.be/sFFFecc4zzg?si=JMnPtb99b1x14DVi
    ## พฤติกรรมของ "ประชาชน" คนรุ่นใหม่...??? ## .. .. โอ้โห...!!! . "พลพรรคสีส้ม" นี่ เขาไม่หยุดไม่หย่อนเลยกัยเลยจริงๆนะ...!!! . ผมนี่ ถึงกับอึ้งไปเลย...!!! . พฤติกรรมใหม่...!!! . ของคนรุ่นใหม่...??? ของนักการเมืองรุ่นใหม่...??? ของพรรคการเมืองใหม่...??? . พฤติกรรมของ "ประชาชน" รุ่นใหม่ ควรจะเป็นแบบนี้จริงๆหรือ...??? . ประชาชนจำนวนมาก ชอบพฤติกรรม เช่นนี้หรือ...??? ... ... ประชาชน ต้องเรียนรู้ที่จะเท่าทัน "นักการเมือง"... . ผิดเป็นครู เรียนรู้ แล้ว จำ.... . เป็นกำลังให้ "คะแนนเสียงส่วนมาก" ได้ตื่นรู้ครับ...!!! . 😁😁😁😁😁😁 https://youtu.be/sFFFecc4zzg?si=JMnPtb99b1x14DVi
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 544 Views 0 Reviews
  • นวัตกรรมใหม่ เมื่อแม่ใช้ลูกชายให้ซักผ้า แต่สิ่งที่ลูกทำ แม่ถึงกับอึ้งไม่รู้จะโกรธหรือดีใจดี

    #News1 #Newsstory #นวัตกรรมใหม่ #เมื่อแม่ใช้ลูกซักผ้า
    นวัตกรรมใหม่ เมื่อแม่ใช้ลูกชายให้ซักผ้า แต่สิ่งที่ลูกทำ แม่ถึงกับอึ้งไม่รู้จะโกรธหรือดีใจดี #News1 #Newsstory #นวัตกรรมใหม่ #เมื่อแม่ใช้ลูกซักผ้า
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 1042 Views 175 0 Reviews
  • เมื่อแม่ใช้ลูกซักผ้า : [News story]

    นวัตกรรมใหม่ เมื่อแม่ใช้ลูกชายให้ซักผ้า แต่สิ่งที่ลูกทำ แม่ถึงกับอึ้งไม่รู้จะโกรธหรือดีใจดี
    เมื่อแม่ใช้ลูกซักผ้า : [News story] นวัตกรรมใหม่ เมื่อแม่ใช้ลูกชายให้ซักผ้า แต่สิ่งที่ลูกทำ แม่ถึงกับอึ้งไม่รู้จะโกรธหรือดีใจดี
    Like
    Love
    8
    0 Comments 0 Shares 1850 Views 269 0 Reviews
  • ถึงกับอึ้ง คณะ กรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการ ปลูกป่ากระบี่ หลังชาวบ้านร้องเรียน สงสัยปลูกป่าทิพย์ พบ เป็นโครงการที่ไม่เหมาะสม ต้นไม้ที่นำมาปลูกมีจำนวนน้อย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000099501

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ถึงกับอึ้ง คณะ กรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการ ปลูกป่ากระบี่ หลังชาวบ้านร้องเรียน สงสัยปลูกป่าทิพย์ พบ เป็นโครงการที่ไม่เหมาะสม ต้นไม้ที่นำมาปลูกมีจำนวนน้อย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000099501 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Angry
    Haha
    25
    1 Comments 0 Shares 2101 Views 0 Reviews
  • #นิทานEP5ตอนดาวหลงทางสู่เหวนารก
    วันนี้ เรามาพบกับนิทานของพี่คิงส์ฯ เป็นอีพีห้า
    ที่มีเรื่องราวที่มีความเกี่ยวข้องกับแกนของเนื้อเรื่อง
    จากนิทานชาวนาหน้าหล่อกับงูจอมหงี่
    เรามารู้จักตัวละครตัวใหม่กันดีกว่า
    ตัวละครแรกคือ น้องดาวตก
    -น้องดาวตกคือนางเอกยี่เกจากเมืองดาวจากประเทศแห่งความอิสระ ซึ่งในอดีต น้องดาวตกเคยเป็นนักร้องลูกกรุง ที่มีชื่อเสียงระดับกลางๆ ไม่ได้โดดเด่นมาก แต่น้องดาวตกก็ฉีกแนวของตัวเอง มาเป็นดาวฮาแห่งคณะยี่เกมุ่งไปทางตลก ก็มีงานแสดงยี่เกมากขึ้น แสดงแบบไม่ห่วงสวย เป็นที่ชื่นชอบของชาวประเทศแห่งความอิสระพอสมควร
    - แต่ด้วย ดาวตก คบหากับคนรู้ใจ ที่ไปไงมาไงไม่รู้ ดันเป็นคนชอบเล่นน้ำเต้าปูปลา ซึ่งก็เคยอยู่ในวงการนักร้องลูกกรุงเหมือนกัน และด้วยสถานการณ์ที่ประเทศแห่งความอิสระ คนให้ความสนใจกับการท่องกระจกวิเศษ มากกว่าจะดูยี่เก หรืองิ้ววิกใหญ่ๆ ทำให้ ดาวตกก็ต้องอยู่ในสภาพที่ไร้งานพอสมควร และเห็นโอกาสใหม่ จากปรากฏการชาวนากับงูหงี่ จึงเข้ามาเริ่มต้นทำความรู้จักการแข่งขันในกระจกวิเศษแบบงูๆปลาๆ เพื่อสร้างคอนเน็คชั่นบางอย่าง
    -ดาวตกกับผลัว คิดการใหญ เพราะไปจับพลัดจับผลู ไปรู้จักกับคนที่มีเงินกงเต็กจำนวนมาก เป็นคนประเทศ วามเนียด ชื่อปาปาย่า และมะขวิด เป็นที่เปิดเผยในวงกว้าง ว่าหนึ่งในสองคนนี้ มีรายได้หลักจากการค้าฮิวเมน ทำเอาเทพหน้ากากถึงกับอึ้งไป ว่าดาวตกผู้ใสซื่อจะเปลี่ยนเวย์แบบฟ้ากับก้นเหวจริงๆหรือ
    - และจากที่ดาวตกเปิดเผยว่า มีความสนิทสนมกับ ตัวละคนแห่ง เมือง วามเนียด จึงทำให้ เพื่อนนังงู ชื่อ วาเป็กส์ อยากเข้าหาปาปาย่าและมะขวิด บ้าง จึงทำการตีสนิทกับ ดาวตก เพื่อเชื่อมลูกค้าเข้าค่ายจักรวาลแห่งมารดำ สู่ระบบ กระจกวิเศษ ที่วางไว้อย่างดี
    - และมีอีกตัวละคร ที่มีชื่อเสียงเรื่องการเปลี่ยนแบ๊งกงเต็กที่ได้มาจากเรื่องเซี่ยๆ ชื่อ แป้งทอด ก็ตีสนิทดาวตก เพื่อเข้าพบปาปาย่า และมะขวิด เปย์ให้กันแบบฉ่ำๆ เพื่อคำว่ามิตรภาพ
    รอบนี้ต้องยอมรับว่า ดาวตก วิ่งทั้งฝั่งประเทศวามเนียด และประเทศอุนจิเป็นว่าเล่น อุนจิที่เป็นฐานบัญชาการของโลกแห่งมาร และดิลนี้มีท่าทีที่จะสำเร็จเสียด้วย
    โดยนับจากนี้ไป โรงงานผลิตผีดิบก็ทำงานได้ดี จะผลิตผีออกมาป่วนในโลกแห่งกระจก ผีดิลเหล่านี้ก็ยังเป็นตัวแทนของกองเชียร์ที่เป็นคนจริงในการแข่งขันบิ๊กแม๊คในอนาคต บิ๊คแม็กก็มาจากชื่อเบอร์เกอร์ยี่ห้อหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องมีคนจริงๆเป็นกองเชียร์จริงเข้ามาอยู่ในการรับชมแต่ ผีดิบ จะทำหน้าที่แทนคน ในนั่งชม ในขณะมีตัวแสดงแข่งขัน โดยจะโยนของขวัญผ่านผีดิบ ให้ดู่ว่ามีความเอิกเริก เพียงพอที่จะสอดไส้แบ๊งกงเต็กเข้าระบบ แล้วก็ถอนออกมา โดยชำระค่าต๋งให้กับเมืองนั้นๆ ก็ทำให้แบ๊งกงเต็ก กลายเป็นเงินจริง แบบสบายๆ
    -คำถามว่า ทำไม ต้องเป็นดาวตก นั่นก็เพราะ ดาวตกรู้จักคนในวงการดาว และมองออกว่าใครที่เหมาะจะเป็นตัวแสดง ทำให้ดาวตก มีความเป็นไปได้สูงที่จะสร้างคอกเอง และพาดาราตกงานเข้ามาในระบบ โดยมีผู้หนับหนุนหลักคือ ปาปาย่าและมะขวิด + กับระบบของแดนอุนจิ + ตัวแสดงที่ดี เรียกว่าครบองค์ประกอบ ในการสร้างคอกใหม่ ที่มั่นคงในประเทศ
    -สิ่งที่น่าห่วงคือ ดาวตกรู้ทั้งๆรู้ ว่าเส้นทางนี้ มันไม่ยาว ดาวในเมืองแห่งความอิสระเอง กำลังจะได้ผลตอบแทนมากมาย ด้วยความที่จมไม่ลง แทบจะไม่มีใครปฏิเสธ จะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม แต่เส้นทางเปลี่ยนกงเต็กให้เป็นเงินจริง ก็ไม่มีความยั่งยืน สุดท้าย ก็จบไม่สวยซักราย
    ขอย้ำว่า นี่เป็นเพียงนิทาน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคนในชีวิตจริงแต่ประการใด
    นิทาน ถูกสร้างมาเพื่อความบรรเทิงเท่านั้น
    อย่าโยง
    #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    #นิทานEP5ตอนดาวหลงทางสู่เหวนารก วันนี้ เรามาพบกับนิทานของพี่คิงส์ฯ เป็นอีพีห้า ที่มีเรื่องราวที่มีความเกี่ยวข้องกับแกนของเนื้อเรื่อง จากนิทานชาวนาหน้าหล่อกับงูจอมหงี่ เรามารู้จักตัวละครตัวใหม่กันดีกว่า ตัวละครแรกคือ น้องดาวตก -น้องดาวตกคือนางเอกยี่เกจากเมืองดาวจากประเทศแห่งความอิสระ ซึ่งในอดีต น้องดาวตกเคยเป็นนักร้องลูกกรุง ที่มีชื่อเสียงระดับกลางๆ ไม่ได้โดดเด่นมาก แต่น้องดาวตกก็ฉีกแนวของตัวเอง มาเป็นดาวฮาแห่งคณะยี่เกมุ่งไปทางตลก ก็มีงานแสดงยี่เกมากขึ้น แสดงแบบไม่ห่วงสวย เป็นที่ชื่นชอบของชาวประเทศแห่งความอิสระพอสมควร - แต่ด้วย ดาวตก คบหากับคนรู้ใจ ที่ไปไงมาไงไม่รู้ ดันเป็นคนชอบเล่นน้ำเต้าปูปลา ซึ่งก็เคยอยู่ในวงการนักร้องลูกกรุงเหมือนกัน และด้วยสถานการณ์ที่ประเทศแห่งความอิสระ คนให้ความสนใจกับการท่องกระจกวิเศษ มากกว่าจะดูยี่เก หรืองิ้ววิกใหญ่ๆ ทำให้ ดาวตกก็ต้องอยู่ในสภาพที่ไร้งานพอสมควร และเห็นโอกาสใหม่ จากปรากฏการชาวนากับงูหงี่ จึงเข้ามาเริ่มต้นทำความรู้จักการแข่งขันในกระจกวิเศษแบบงูๆปลาๆ เพื่อสร้างคอนเน็คชั่นบางอย่าง -ดาวตกกับผลัว คิดการใหญ เพราะไปจับพลัดจับผลู ไปรู้จักกับคนที่มีเงินกงเต็กจำนวนมาก เป็นคนประเทศ วามเนียด ชื่อปาปาย่า และมะขวิด เป็นที่เปิดเผยในวงกว้าง ว่าหนึ่งในสองคนนี้ มีรายได้หลักจากการค้าฮิวเมน ทำเอาเทพหน้ากากถึงกับอึ้งไป ว่าดาวตกผู้ใสซื่อจะเปลี่ยนเวย์แบบฟ้ากับก้นเหวจริงๆหรือ - และจากที่ดาวตกเปิดเผยว่า มีความสนิทสนมกับ ตัวละคนแห่ง เมือง วามเนียด จึงทำให้ เพื่อนนังงู ชื่อ วาเป็กส์ อยากเข้าหาปาปาย่าและมะขวิด บ้าง จึงทำการตีสนิทกับ ดาวตก เพื่อเชื่อมลูกค้าเข้าค่ายจักรวาลแห่งมารดำ สู่ระบบ กระจกวิเศษ ที่วางไว้อย่างดี - และมีอีกตัวละคร ที่มีชื่อเสียงเรื่องการเปลี่ยนแบ๊งกงเต็กที่ได้มาจากเรื่องเซี่ยๆ ชื่อ แป้งทอด ก็ตีสนิทดาวตก เพื่อเข้าพบปาปาย่า และมะขวิด เปย์ให้กันแบบฉ่ำๆ เพื่อคำว่ามิตรภาพ รอบนี้ต้องยอมรับว่า ดาวตก วิ่งทั้งฝั่งประเทศวามเนียด และประเทศอุนจิเป็นว่าเล่น อุนจิที่เป็นฐานบัญชาการของโลกแห่งมาร และดิลนี้มีท่าทีที่จะสำเร็จเสียด้วย โดยนับจากนี้ไป โรงงานผลิตผีดิบก็ทำงานได้ดี จะผลิตผีออกมาป่วนในโลกแห่งกระจก ผีดิลเหล่านี้ก็ยังเป็นตัวแทนของกองเชียร์ที่เป็นคนจริงในการแข่งขันบิ๊กแม๊คในอนาคต บิ๊คแม็กก็มาจากชื่อเบอร์เกอร์ยี่ห้อหนึ่ง โดยไม่จำเป็นต้องมีคนจริงๆเป็นกองเชียร์จริงเข้ามาอยู่ในการรับชมแต่ ผีดิบ จะทำหน้าที่แทนคน ในนั่งชม ในขณะมีตัวแสดงแข่งขัน โดยจะโยนของขวัญผ่านผีดิบ ให้ดู่ว่ามีความเอิกเริก เพียงพอที่จะสอดไส้แบ๊งกงเต็กเข้าระบบ แล้วก็ถอนออกมา โดยชำระค่าต๋งให้กับเมืองนั้นๆ ก็ทำให้แบ๊งกงเต็ก กลายเป็นเงินจริง แบบสบายๆ -คำถามว่า ทำไม ต้องเป็นดาวตก นั่นก็เพราะ ดาวตกรู้จักคนในวงการดาว และมองออกว่าใครที่เหมาะจะเป็นตัวแสดง ทำให้ดาวตก มีความเป็นไปได้สูงที่จะสร้างคอกเอง และพาดาราตกงานเข้ามาในระบบ โดยมีผู้หนับหนุนหลักคือ ปาปาย่าและมะขวิด + กับระบบของแดนอุนจิ + ตัวแสดงที่ดี เรียกว่าครบองค์ประกอบ ในการสร้างคอกใหม่ ที่มั่นคงในประเทศ -สิ่งที่น่าห่วงคือ ดาวตกรู้ทั้งๆรู้ ว่าเส้นทางนี้ มันไม่ยาว ดาวในเมืองแห่งความอิสระเอง กำลังจะได้ผลตอบแทนมากมาย ด้วยความที่จมไม่ลง แทบจะไม่มีใครปฏิเสธ จะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม แต่เส้นทางเปลี่ยนกงเต็กให้เป็นเงินจริง ก็ไม่มีความยั่งยืน สุดท้าย ก็จบไม่สวยซักราย ขอย้ำว่า นี่เป็นเพียงนิทาน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคนในชีวิตจริงแต่ประการใด นิทาน ถูกสร้างมาเพื่อความบรรเทิงเท่านั้น อย่าโยง #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 1145 Views 0 Reviews
  • วันนี้ไปศูนย์สิริกิติ์ ไปดูงาน SX Sustainability Expo ที่ปกติเน้นไปเดินกินข้าวที่ชั้นล่าง

    แต่ปีนี้มีส่วนจัดแสดงบอร์ดโครงการ The Ten ของ วปอ. 66 เลยไปเดินดูงานด้านบนก่อน แล้วไปเจอ ส่วนจัดแสดงของโรงเรียนมีชัยพัฒนา (Meechai Bamboo School) ซึ่งมีเด็กนักเรียนยืนอยู่ 4-5 คน กับบอร์ดภาพเกี่ยวกับการเษตร และ ชุมชน

    ผมถามเด็กๆว่า ที่ร.ร.ทำอะไรกัน เพราะใจสงสัยว่าทำไมถึงมีร.ร.นี้แห่งเดียวที่มาออกงาน แถมชื่อก็แปลกๆ เกี่ยวอะไรกับไม้ไผ่

    น้อง ๆ เล่าว่า ร.ร.ของเขาตั้งอยู่ที่จ.บุรีรัมย์เป็นโรงเรียนประจำของเอกชน มีสอนทำเกษตร กับ มีกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน นอกจากสอนวิชาทั่วไป

    ผมก็คิดว่า อ๋อ คงเป็นร.ร.เอกชนนานาชาติ เหมือนในกรุงเทพฯกระมัง เลยถามต่อว่าค่าเทอมเท่าไหร่?

    เด็กๆตอบว่าเรียนฟรีค่ะ! ผมก็งง ว่าทำไมถึงเรียนฟรี?

    น้องบอกว่า ร.ร.นี้ เปิดมา 15 ปีแล้ว ทั้งร.ร.สร้างด้วยไม้ไผ่ นักเรียนทุกคนต้องจ่ายค่าเทอมเป็นการทำดีให้กับชุมชน รวมถึงทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโรงเรียนตามความรับผิดชอบของตัวเอง มีนักเรียน ม.1-ม.6 ระดับชั้นละ 20 กว่าคน มีครู 10 กว่าคน โดยให้นักเรียนกินนอนที่ร.ร. ไม่ให้กลับบ้านจนกว่าจะปิดเทอม และห้ามนักเรียนใช้โทรศัพท์

    ผมก็ถามว่า แล้วอยู่กันยังไง ไม่เหงาเหรอ?

    น้องตอบกลับว่า หนูมีหนังสือต่างๆให้อ่านเยอะแยะ และ แต่ละวันมีกิจกรรมให้ทำมากมาย และที่ร.ร.ก็กำหนดให้นักเรียนร่วมกันจัดการบริหารดูแลร.ร.กันเอง โดยมีคุณครูช่วยให้คำแนะนำ เรียกว่าทั้งฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายตรวจรับ และฝ่ายต่าง ๆ ของร.ร.ถูกดูแลโดยนักเรียนเอง มีแค่งานครัวที่มีแม่ครัวเป็นคนปรุงอาหารให้กิน

    น้อง ๆ เขาคิดว่า ชีวิตของเขามีกิจกรรมอื่นให้ทำมากกว่าจะมานั่งเล่นโทรศัพท์เลยไม่ติดเกม ติดซีรี่ส์แบบเด็กวัยเดียวกัน

    ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา พี่ ๆ ที่จบไปมักจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ทุกคน และมักจะติดตั้งแต่รอบ Portfolio และส่วนใหญ่จะเรียนต่อมหาวิทยาลัยใกล้บ้าน ทั้งด้านเกษตร หรือด้านบริหารก็มี เพราะนักเรียนจะมีทั้งเด็กในจังหวัดบุรีรัมย์ และ ใกล้เคียง แต่ก็มีบางคนที่มาจาก เวียดนาม หรือ เป็นเด็กชาติพันธุ์จากกาญจนบุรี / แม่ฮ่องสอน

    ฟังน้อง ๆ เล่าแล้วผมถึงกับอึ้งกับแนวคิดของ ผ.อ. ซึ่งก็คือ อ.มีชัย วีระไวทยะ แถมยังอยากเขกหัวตัวเองว่า ไม่รู้จักโรงเรียนนี้ได้ยังไง แต่ก็ได้คำตอบว่า ทำไม ผู้จัดงานถึงได้เลือกโรงเรียนนี้มาจัดนิทรรศการในงานนี้

    งานนี้น่าจะจัดถึงวันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค. หากมีเวลาอยากชวนให้ไปดูงานนี้ แล้วไปฟังน้อง ๆ เล่าถึงโรงเรียนของเขากันนะครับ
    วันนี้ไปศูนย์สิริกิติ์ ไปดูงาน SX Sustainability Expo ที่ปกติเน้นไปเดินกินข้าวที่ชั้นล่าง 😆 แต่ปีนี้มีส่วนจัดแสดงบอร์ดโครงการ The Ten ของ วปอ. 66 เลยไปเดินดูงานด้านบนก่อน แล้วไปเจอ ส่วนจัดแสดงของโรงเรียนมีชัยพัฒนา (Meechai Bamboo School) ซึ่งมีเด็กนักเรียนยืนอยู่ 4-5 คน กับบอร์ดภาพเกี่ยวกับการเษตร และ ชุมชน ผมถามเด็กๆว่า ที่ร.ร.ทำอะไรกัน เพราะใจสงสัยว่าทำไมถึงมีร.ร.นี้แห่งเดียวที่มาออกงาน แถมชื่อก็แปลกๆ เกี่ยวอะไรกับไม้ไผ่ น้อง ๆ เล่าว่า ร.ร.ของเขาตั้งอยู่ที่จ.บุรีรัมย์เป็นโรงเรียนประจำของเอกชน มีสอนทำเกษตร กับ มีกิจกรรมช่วยเหลือชุมชน นอกจากสอนวิชาทั่วไป ผมก็คิดว่า อ๋อ คงเป็นร.ร.เอกชนนานาชาติ เหมือนในกรุงเทพฯกระมัง เลยถามต่อว่าค่าเทอมเท่าไหร่? เด็กๆตอบว่าเรียนฟรีค่ะ! ผมก็งง ว่าทำไมถึงเรียนฟรี? น้องบอกว่า ร.ร.นี้ เปิดมา 15 ปีแล้ว ทั้งร.ร.สร้างด้วยไม้ไผ่ นักเรียนทุกคนต้องจ่ายค่าเทอมเป็นการทำดีให้กับชุมชน รวมถึงทำกิจกรรมต่าง ๆ ในโรงเรียนตามความรับผิดชอบของตัวเอง มีนักเรียน ม.1-ม.6 ระดับชั้นละ 20 กว่าคน มีครู 10 กว่าคน โดยให้นักเรียนกินนอนที่ร.ร. ไม่ให้กลับบ้านจนกว่าจะปิดเทอม และห้ามนักเรียนใช้โทรศัพท์ ผมก็ถามว่า แล้วอยู่กันยังไง ไม่เหงาเหรอ? น้องตอบกลับว่า หนูมีหนังสือต่างๆให้อ่านเยอะแยะ และ แต่ละวันมีกิจกรรมให้ทำมากมาย และที่ร.ร.ก็กำหนดให้นักเรียนร่วมกันจัดการบริหารดูแลร.ร.กันเอง โดยมีคุณครูช่วยให้คำแนะนำ เรียกว่าทั้งฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายตรวจรับ และฝ่ายต่าง ๆ ของร.ร.ถูกดูแลโดยนักเรียนเอง มีแค่งานครัวที่มีแม่ครัวเป็นคนปรุงอาหารให้กิน น้อง ๆ เขาคิดว่า ชีวิตของเขามีกิจกรรมอื่นให้ทำมากกว่าจะมานั่งเล่นโทรศัพท์เลยไม่ติดเกม ติดซีรี่ส์แบบเด็กวัยเดียวกัน ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา พี่ ๆ ที่จบไปมักจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ทุกคน และมักจะติดตั้งแต่รอบ Portfolio และส่วนใหญ่จะเรียนต่อมหาวิทยาลัยใกล้บ้าน ทั้งด้านเกษตร หรือด้านบริหารก็มี เพราะนักเรียนจะมีทั้งเด็กในจังหวัดบุรีรัมย์ และ ใกล้เคียง แต่ก็มีบางคนที่มาจาก เวียดนาม หรือ เป็นเด็กชาติพันธุ์จากกาญจนบุรี / แม่ฮ่องสอน ฟังน้อง ๆ เล่าแล้วผมถึงกับอึ้งกับแนวคิดของ ผ.อ. ซึ่งก็คือ อ.มีชัย วีระไวทยะ แถมยังอยากเขกหัวตัวเองว่า ไม่รู้จักโรงเรียนนี้ได้ยังไง แต่ก็ได้คำตอบว่า ทำไม ผู้จัดงานถึงได้เลือกโรงเรียนนี้มาจัดนิทรรศการในงานนี้ งานนี้น่าจะจัดถึงวันอาทิตย์ที่ 6 ต.ค. หากมีเวลาอยากชวนให้ไปดูงานนี้ แล้วไปฟังน้อง ๆ เล่าถึงโรงเรียนของเขากันนะครับ ❤️
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 962 Views 0 Reviews
  • #คืนนี้จะได้นอนกันกี่โมงก่อน
    แฟนเพจไม่ท้อพี่คิงส์ก็ต้องไม่ท้อใช่ไหม
    เอาหละว่ากันต่อ นี่คือตัวละครที่หลายคนมองข้าม
    เธอคือ ล่ามเดียร์ หลังจากที่คนเกาหลีแท้
    ถึงกับอึ้ง ว่าน้องเดียร์แปลคนละความหมาย
    คนละฟิลลิ่งอะไรซะอย่างนั้น
    ทั้งๆที่อิเหวิงพูดอย่าง"กาก"
    แต่แปลมางดงามดุจเทพี
    อันนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับล่ามน้องเดียร์
    จะไม่ให้แปลแบบนี้ได้ไงครับ
    ก็ห_อท็_ป หามาให้ไง
    เป็นส่วนหนึ่งของผลงานอันยอดเยี่ยม
    ของการสุมหัวนำโดย ป้าโจวววอีกแล้ว
    อ้อ! ห_อท็_ป เค้าบอกว่าพี่คิงส์ไม่ต้องย่อนะ
    เค้าอยากดัง กำลังกระหายแสง
    เอ้าๆ เวทนา สรุปคือ "หมอเดาชื่อท็อป" นะครับนะ
    อย่าลืมโพสขอบคุณพี่คิงส์ด้วยหละ ไอ่เซี่ยท็อป
    แต่พี่คิงส์ถ้าเรียกเต็มๆ คงไม่เรียกหมอนะ
    มันแหยงๆ ขอเรียก ไอ่ฉัดท็อป เหมาะสุด
    ถ้าเรียกชื่อนี้ เป็นอันรู้กันนะ แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดง
    พวกนี้ พวกหลงกิมจิ๊ เห็นแก่ผลประโยชน์ตัวเอง
    ไม่สนใจว่าคน ตปท. จะมาต้มคนไทยยังไง
    ขอให้กรูได้ กรูดัง พอ
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คืนนี้จะได้นอนกันกี่โมงก่อน แฟนเพจไม่ท้อพี่คิงส์ก็ต้องไม่ท้อใช่ไหม เอาหละว่ากันต่อ นี่คือตัวละครที่หลายคนมองข้าม เธอคือ ล่ามเดียร์ หลังจากที่คนเกาหลีแท้ ถึงกับอึ้ง ว่าน้องเดียร์แปลคนละความหมาย คนละฟิลลิ่งอะไรซะอย่างนั้น ทั้งๆที่อิเหวิงพูดอย่าง"กาก" แต่แปลมางดงามดุจเทพี อันนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับล่ามน้องเดียร์ จะไม่ให้แปลแบบนี้ได้ไงครับ ก็ห_อท็_ป หามาให้ไง เป็นส่วนหนึ่งของผลงานอันยอดเยี่ยม ของการสุมหัวนำโดย ป้าโจวววอีกแล้ว อ้อ! ห_อท็_ป เค้าบอกว่าพี่คิงส์ไม่ต้องย่อนะ เค้าอยากดัง กำลังกระหายแสง เอ้าๆ เวทนา สรุปคือ "หมอเดาชื่อท็อป" นะครับนะ อย่าลืมโพสขอบคุณพี่คิงส์ด้วยหละ ไอ่เซี่ยท็อป แต่พี่คิงส์ถ้าเรียกเต็มๆ คงไม่เรียกหมอนะ มันแหยงๆ ขอเรียก ไอ่ฉัดท็อป เหมาะสุด ถ้าเรียกชื่อนี้ เป็นอันรู้กันนะ แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดง พวกนี้ พวกหลงกิมจิ๊ เห็นแก่ผลประโยชน์ตัวเอง ไม่สนใจว่าคน ตปท. จะมาต้มคนไทยยังไง ขอให้กรูได้ กรูดัง พอ ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Love
    7
    0 Comments 0 Shares 1011 Views 0 Reviews
  • #ต้องยอมรับเสียงเชียร์จากคนรุ่นใหม่
    ไม่ว่าจะวันประกาศยุบพรรคก้าวไกล
    มาเป็นพรรคใหม่พรรคประชาชน
    กลุ่มคนวัยรุ่นต่างพากันแบกวอร์คเกอร์มาเชีย
    บ้างก็พ่นน้ำหมากหยอกกัน
    บ้างก็ต้องให้เพื่อนช่วยแบกกันมา
    ทำให้ผู้จงรักษ์ภักดีต่อสถาบัน
    ถึงกับอึ้ง ด้วยความเวทนา
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ต้องยอมรับเสียงเชียร์จากคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะวันประกาศยุบพรรคก้าวไกล มาเป็นพรรคใหม่พรรคประชาชน กลุ่มคนวัยรุ่นต่างพากันแบกวอร์คเกอร์มาเชีย บ้างก็พ่นน้ำหมากหยอกกัน บ้างก็ต้องให้เพื่อนช่วยแบกกันมา ทำให้ผู้จงรักษ์ภักดีต่อสถาบัน ถึงกับอึ้ง ด้วยความเวทนา #คิงส์โพธิ์แดง
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 996 Views 0 Reviews
  • จากลีลาสุขุมของนายกเศรษฐา แต่กับปิดประโยคสุดท้าย
    ที่ทำเอาจุกดิ้นทั้งพรรคก้าวไกล
    เมื่อนายกทิ้งท้ายว่า จะไม่ให้ความสำคัญกับ
    ความเห็นค้านที่ไร้อนาคต
    ซึ่งหลายคนตีความยังไม่ออก
    แม้ว่านายกจะรักษามารยาทด้วยการตอบกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีอะไร อย่าคิดมากก็ตาม
    เพราะในระยะเวลาอันใกล้นี้ จะถึงวันแห่งการชี้ชะตาของพรรก้าวไกล
    รวมไปถึงกรรมการบริหารพรรค
    และคนบงการที่อยู่นอกพรรค
    ที่มีดคีย์112 ที่รอการพิจารณานับร้อยคดีย์
    ต้องสะเทือน เพราะคำว่า ความเห็นที่ไร้อนาคต
    สะท้อนถึงทุกอย่างกำลังจะปิดเกมส์
    พรรคก้าวไกล จะพูดอะไรก็ตาม
    แต่สุดท้าย ก็ไร้อนาคตอยู่ดี
    คิงส์โพธิ์แดงแค่อ่านใจจากการอ่านปากของนายกนิดนะ
    อาจจะถูกหรือไม่ถูกก็ได้
    ก็แค่รอดูผลการตัดสินก็พอ
    พรรคก้าวไกล ตัดสินแล้ว
    ธรจะยักไหล่ หรือยิ่งยุบยิ่งโต
    ก็คอยดู แหลวกัน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ศิริกัญญา
    #ถึงกับอึ้ง
    #เศรษฐาทวีสิน
    จากลีลาสุขุมของนายกเศรษฐา แต่กับปิดประโยคสุดท้าย ที่ทำเอาจุกดิ้นทั้งพรรคก้าวไกล เมื่อนายกทิ้งท้ายว่า จะไม่ให้ความสำคัญกับ ความเห็นค้านที่ไร้อนาคต ซึ่งหลายคนตีความยังไม่ออก แม้ว่านายกจะรักษามารยาทด้วยการตอบกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีอะไร อย่าคิดมากก็ตาม เพราะในระยะเวลาอันใกล้นี้ จะถึงวันแห่งการชี้ชะตาของพรรก้าวไกล รวมไปถึงกรรมการบริหารพรรค และคนบงการที่อยู่นอกพรรค ที่มีดคีย์112 ที่รอการพิจารณานับร้อยคดีย์ ต้องสะเทือน เพราะคำว่า ความเห็นที่ไร้อนาคต สะท้อนถึงทุกอย่างกำลังจะปิดเกมส์ พรรคก้าวไกล จะพูดอะไรก็ตาม แต่สุดท้าย ก็ไร้อนาคตอยู่ดี คิงส์โพธิ์แดงแค่อ่านใจจากการอ่านปากของนายกนิดนะ อาจจะถูกหรือไม่ถูกก็ได้ ก็แค่รอดูผลการตัดสินก็พอ พรรคก้าวไกล ตัดสินแล้ว ธรจะยักไหล่ หรือยิ่งยุบยิ่งโต ก็คอยดู แหลวกัน #คิงส์โพธิ์แดง #ศิริกัญญา #ถึงกับอึ้ง #เศรษฐาทวีสิน
    0 Comments 0 Shares 1248 Views 0 Reviews