• รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251211 #securityonline

    Makop Ransomware กลับมาอีกครั้งพร้อมกลยุทธ์ใหม่
    ภัยคุกคามที่เคยคุ้นชื่อ Makop ransomware ได้พัฒนาวิธีการโจมตีให้ซับซ้อนขึ้น แม้จะยังใช้ช่องโหว่เดิมคือการเจาะผ่านพอร์ต RDP ที่ไม่ได้ป้องกัน แต่ครั้งนี้พวกเขาเสริมเครื่องมืออย่าง GuLoader เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เพิ่มเติม และยังใช้เทคนิค BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกันไวรัสในระดับ kernel ได้โดยตรง การโจมตีส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่องค์กรในอินเดีย แต่ก็พบในหลายประเทศอื่นด้วย จุดสำคัญคือ แม้จะเป็นการโจมตีที่ดู “ง่าย” แต่ผลลัพธ์กลับสร้างความเสียหายรุนแรงต่อองค์กรที่ละเลยการอัปเดตและการตั้งค่าความปลอดภัย
    https://securityonline.info/makop-ransomware-evolves-guloader-and-byovd-edr-killers-used-to-attack-rdp-exposed-networks

    DeadLock Ransomware ใช้ช่องโหว่ไดรเวอร์ Baidu เจาะระบบ
    กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่หวังผลทางการเงินได้ปล่อยแรนซัมแวร์ชื่อ DeadLock โดยใช้เทคนิค BYOVD เช่นกัน คราวนี้พวกเขาอาศัยไดรเวอร์จาก Baidu Antivirus ที่มีช่องโหว่ ทำให้สามารถสั่งงานในระดับ kernel และปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันได้ทันที หลังจากนั้นยังใช้ PowerShell script ปิดบริการสำคัญ เช่น SQL Server และลบ shadow copies เพื่อกันไม่ให้เหยื่อกู้คืนข้อมูลได้ ตัวแรนซัมแวร์ถูกเขียนขึ้นใหม่ด้วย C++ และใช้วิธีเข้ารหัสเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ที่น่าสนใจคือพวกเขาไม่ใช้วิธี “double extortion” แต่ให้เหยื่อติดต่อผ่านแอป Session เพื่อเจรจาจ่ายค่าไถ่เป็น Bitcoin หรือ Monero
    https://securityonline.info/deadlock-ransomware-deploys-byovd-edr-killer-by-exploiting-baidu-driver-for-kernel-level-defense-bypass

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน PCIe 6.0 เสี่ยงข้อมูลเสียหาย
    มาตรฐาน PCIe 6.0 ที่ใช้ในการส่งข้อมูลความเร็วสูงถูกพบว่ามีช่องโหว่ในกลไก IDE (Integrity and Data Encryption) ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์เข้าถึงฮาร์ดแวร์สามารถฉีดข้อมูลที่ผิดพลาดหรือเก่าเข้ามาในระบบได้ ช่องโหว่นี้ถูกระบุเป็น CVE-2025-9612, 9613 และ 9614 แม้จะไม่สามารถโจมตีจากระยะไกล แต่ก็เป็นภัยใหญ่สำหรับศูนย์ข้อมูลหรือระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง ตอนนี้ PCI-SIG ได้ออก Draft Engineering Change Notice เพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ผลิตอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้โดยเร็ว
    https://securityonline.info/critical-pcie-6-0-flaws-risk-secure-data-integrity-via-stale-data-injection-in-ide-mechanism

    EtherRAT Malware ใช้บล็อกเชน Ethereum ซ่อนร่องรอย
    หลังจากเกิดช่องโหว่ React2Shell เพียงไม่กี่วัน นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ใช้บล็อกเชน Ethereum เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้ควบคุม โดยอาศัย smart contracts เพื่อรับคำสั่ง ทำให้แทบไม่สามารถปิดกั้นได้ เพราะเครือข่าย Ethereum เป็นระบบกระจายศูนย์ นอกจากนี้ EtherRAT ยังมีความคล้ายคลึงกับเครื่องมือที่เคยใช้โดยกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือ และถูกออกแบบให้ฝังตัวแน่นหนาในระบบ Linux ด้วยหลายวิธีการ persistence พร้อมทั้งดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อกลมกลืนกับการทำงานปกติ ถือเป็นการยกระดับการโจมตีจากช่องโหว่ React2Shell ไปสู่ระดับ APT ที่อันตรายยิ่งขึ้น
    https://securityonline.info/etherrat-malware-hijacks-ethereum-blockchain-for-covert-c2-after-react2shell-exploit

    Slack CEO ย้ายไปร่วมทีม OpenAI เป็น CRO
    OpenAI กำลังเร่งหาทางสร้างรายได้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายมหาศาลในการประมวลผล AI ล่าสุดได้ดึง Denise Dresser ซีอีโอของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer (CRO) เพื่อดูแลกลยุทธ์รายได้และการขยายตลาดองค์กร การเข้ามาของเธอสะท้อนให้เห็นว่า OpenAI กำลังใช้แนวทางแบบ Silicon Valley อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการขยายฐานผู้ใช้และการหาช่องทางทำเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขาย subscription หรือแม้กระทั่งโฆษณาใน ChatGPT อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่คือการทำให้รายได้เติบโตทันกับค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วจากการสร้างและดูแลโครงสร้างพื้นฐาน AI
    https://securityonline.info/slack-ceo-denise-dresser-joins-openai-as-cro-to-solve-the-profitability-puzzle

    Jenkins เจอช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงถูกโจมตี DoS และ XSS
    ทีมพัฒนา Jenkins ออกประกาศเตือนครั้งใหญ่ หลังพบช่องโหว่หลายรายการที่อาจทำให้ระบบ CI/CD ถูกโจมตีจนหยุดทำงาน หรือโดนฝังสคริปต์อันตราย (XSS) โดยเฉพาะช่องโหว่ CVE-2025-67635 ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์ส่งคำสั่งผ่าน HTTP CLI โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทรัพยากรถูกใช้จนล่ม อีกช่องโหว่ CVE-2025-67641 ใน Coverage Plugin ก็เปิดทางให้ผู้โจมตีฝังโค้ด JavaScript ลงในรายงาน เมื่อผู้ดูแลเปิดดู รายงานนั้นจะรันสคริปต์ทันที เสี่ยงต่อการถูกขโมย session และข้อมูลสำคัญ แม้จะมีการอัปเดตแก้ไขหลายจุด เช่น การเข้ารหัส token และการปิดช่องโหว่การเห็นรหัสผ่าน แต่ยังมีบางปลั๊กอินที่ยังไม่มีแพตช์ออกมา ทำให้ผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดต Jenkins และปลั๊กอินที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันความเสียหาย
    https://securityonline.info/high-severity-jenkins-flaws-risk-unauthenticated-dos-via-http-cli-and-xss-via-coverage-reports

    Gogs Zero-Day โดนเจาะกว่า 700 เซิร์ฟเวอร์ ผ่าน Symlink Path Traversal
    นักวิจัยจาก Wiz พบช่องโหว่ใหม่ใน Gogs (CVE-2025-8110) ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถเขียนไฟล์อันตรายลงในระบบได้ง่าย ๆ ผ่านการใช้ symlink โดยช่องโหว่นี้เป็นการเลี่ยงแพตช์เก่าที่เคยแก้ไขไปแล้ว ทำให้กว่า 700 เซิร์ฟเวอร์จาก 1,400 ที่ตรวจสอบถูกเจาะสำเร็จ การโจมตีมีลักษณะเป็นแคมเปญ “smash-and-grab” คือเข้ามาเร็ว ใช้ symlink เขียนทับไฟล์สำคัญ เช่น .git/config แล้วรันคำสั่งอันตราย จากนั้นติดตั้ง payload ที่ใช้ Supershell เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกล ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์ออกมา ผู้ดูแลระบบจึงถูกแนะนำให้ปิดการสมัครสมาชิกสาธารณะ และจำกัดการเข้าถึงระบบทันที
    https://securityonline.info/gogs-zero-day-cve-2025-8110-risks-rce-for-700-servers-via-symlink-path-traversal-bypass

    GitLab พบช่องโหว่ XSS เสี่ยงโดนขโมย session ผ่าน Wiki
    GitLab ออกอัปเดตด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-12716 ที่มีความรุนแรงสูง (CVSS 8.7) โดยช่องโหว่นี้เกิดขึ้นในฟีเจอร์ Wiki ที่ผู้ใช้สามารถสร้างเพจได้ หากมีการฝังโค้ดอันตรายลงไป เมื่อผู้ใช้รายอื่นเปิดดู เพจนั้นจะรันคำสั่งแทนผู้ใช้โดยอัตโนมัติ เสี่ยงต่อการถูกยึด session และสั่งงานแทนเจ้าของบัญชี นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ เช่น การ inject HTML ในรายงานช่องโหว่ และการเปิดเผยข้อมูลโครงการที่ควรเป็น private ผ่าน error message และ GraphQL query GitLab.com และ GitLab Dedicated ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ผู้ที่ใช้ self-managed instance ต้องรีบอัปเดตเวอร์ชัน 18.6.2, 18.5.4 หรือ 18.4.6 เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้
    https://securityonline.info/high-severity-gitlab-xss-flaw-cve-2025-12716-risks-session-hijack-via-malicious-wiki-pages

    Facebook ปรับโฉมใหม่ แต่ Instagram ใช้ AI ดึง SEO
    มีรายงานว่า Facebook ได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Instagram ถูกเปิดโปงว่าใช้ AI เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ดึง SEO ให้ติดอันดับการค้นหา คล้ายกับการทำ content farm โดยไม่ได้บอกผู้ใช้ตรง ๆ เรื่องนี้จึงถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและจริยธรรมของ Meta ที่อาจใช้ AI เพื่อผลักดันการเข้าถึงโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ
    https://securityonline.info/facebook-gets-new-look-but-instagram-secretly-uses-ai-for-seo-bait

    SpaceX เตรียม IPO มูลค่าเป้าหมายทะลุ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์
    SpaceX กำลังเดินหน้าแผน IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยตั้งเป้าระดมทุนกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำลายสถิติของ Saudi Aramco ที่เคยทำไว้ในปี 2019 ที่ 29 พันล้านดอลลาร์ สิ่งที่ทำให้ตลาดตะลึงคือการตั้งเป้ามูลค่าบริษัทไว้สูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ แม้รายได้ของ SpaceX ในปี 2025 จะอยู่ที่ประมาณ 15.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่า Tesla ถึง 6 เท่า แต่ความคาดหวังอยู่ที่อนาคตของ Starlink และ Starship รวมถึงแผนสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศเพื่อรองรับ AI และการสื่อสารผ่านดาวเทียม Musk เชื่อว่าการรวมพลังของ Starlink และ Starship จะขยายตลาดได้มหาศาล และนี่อาจเป็นก้าวสำคัญที่สุดของ SpaceX
    https://securityonline.info/spacex-ipo-targeting-a-1-5-trillion-valuation-to-fund-space-data-centers

    จีนเปิดปฏิบัติการไซเบอร์ WARP PANDA ใช้ BRICKSTORM เจาะ VMware และ Azure
    มีการเปิดโปงแคมเปญจารกรรมไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ดำเนินการโดยกลุ่มแฮกเกอร์จากจีนชื่อ WARP PANDA พวกเขาไม่ได้โจมตีแบบธรรมดา แต่เลือกเจาะเข้าไปในโครงสร้างพื้นฐาน IT ที่สำคัญอย่าง VMware vCenter และ ESXi รวมถึงระบบคลาวด์ Microsoft Azure จุดเด่นคือการใช้เครื่องมือที่สร้างขึ้นเองชื่อ BRICKSTORM ซึ่งเป็น backdoor ที่แฝงตัวเหมือนโปรเซสของระบบ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือเสริมอย่าง Junction และ GuestConduit ที่ช่วยควบคุมการสื่อสารในระบบเสมือนจริงได้อย่างแนบเนียน สิ่งที่น่ากังวลคือพวกเขาสามารถอยู่ในระบบได้นานเป็นปีโดยไม่ถูกพบ และยังขยายการโจมตีไปสู่บริการ Microsoft 365 เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงจูงใจเชิงรัฐมากกว่าการเงิน เพราะเป้าหมายคือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของรัฐบาลจีน
    https://securityonline.info/chinas-warp-panda-apt-deploys-brickstorm-backdoor-to-hijack-vmware-vcenter-esxi-and-azure-cloud

    ช่องโหว่ร้ายแรง TOTOLINK AX1800 เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึง root โดยไม่ต้องล็อกอิน
    มีการค้นพบช่องโหว่ในเราเตอร์ TOTOLINK AX1800 ที่ใช้กันแพร่หลายในบ้านและธุรกิจขนาดเล็ก ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวเพื่อเปิดบริการ Telnet โดยไม่ต้องผ่านการยืนยันตัวตน เมื่อ Telnet ถูกเปิดแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผลกระทบคือสามารถดักจับข้อมูล เปลี่ยนเส้นทาง DNS หรือใช้เป็นฐานโจมตีอุปกรณ์อื่นในเครือข่ายได้ ที่น่ากังวลคือยังไม่มีแพตช์แก้ไขจากผู้ผลิต ทำให้ผู้ใช้ต้องป้องกันตัวเองด้วยการปิดการเข้าถึงจาก WAN และตรวจสอบการเปิดใช้งาน Telnet อย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/unpatched-totolink-ax1800-router-flaw-allows-unauthenticated-telnet-root-rce

    FBI และ CISA เตือนกลุ่มแฮกเกอร์สายโปรรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานผ่าน VNC ที่ไม่ปลอดภัย
    หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ รวมถึง FBI และ CISA ออกคำเตือนว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซียกำลังโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ระบบน้ำ พลังงาน และอาหาร โดยใช้วิธีง่าย ๆ คือค้นหา Human-Machine Interfaces (HMI) ที่เชื่อมต่อผ่าน VNC แต่ไม่ได้ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง เมื่อเข้าถึงได้ พวกเขาจะปรับเปลี่ยนค่าการทำงาน เช่น ความเร็วปั๊ม หรือปิดระบบแจ้งเตือน ทำให้ผู้ควบคุมไม่เห็นภาพจริงของโรงงาน กลุ่มที่ถูกระบุมีทั้ง Cyber Army of Russia Reborn, NoName057(16), Z-Pentest และ Sector16 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับรัฐรัสเซีย แม้จะไม่ซับซ้อน แต่การโจมตีแบบนี้สร้างความเสียหายได้จริงและยากต่อการคาดเดา
    https://securityonline.info/fbi-cisa-warn-pro-russia-hacktivists-target-critical-infrastructure-via-unsecured-vnc-hmis

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน CCTV (CVE-2025-13607) เสี่ยงถูกแฮกดูภาพสดและขโมยรหัสผ่าน
    CISA ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อเครือข่าย โดยเฉพาะรุ่น D-Link DCS-F5614-L1 ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงการตั้งค่าและข้อมูลบัญชีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ผลคือสามารถดูภาพสดจากกล้องและขโมยรหัสผ่านผู้ดูแลเพื่อเจาะลึกเข้าไปในระบบต่อไปได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 และแม้ D-Link จะออกเฟิร์มแวร์แก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้แบรนด์อื่นอย่าง Securus และ Sparsh ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบและติดต่อผู้ผลิตเองเพื่อความปลอดภัย
    https://securityonline.info/critical-cctv-flaw-cve-2025-13607-risks-video-feed-hijack-credential-theft-via-missing-authentication

    ข่าวด่วน: Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome
    เรื่องนี้เป็นการอัปเดตที่สำคัญมากของ Google Chrome เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ Google จึงรีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ 143.0.7499.109/.110 เพื่ออุดช่องโหว่ โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น “Under coordination” ซึ่งหมายถึงยังอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ ทำให้รายละเอียดเชิงเทคนิคยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ที่แน่ ๆ คือมีผู้ไม่หวังดีนำไปใช้โจมตีแล้ว นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ระดับกลางอีกสองรายการ ได้แก่ปัญหาใน Password Manager และ Toolbar ที่นักวิจัยภายนอกรายงานเข้ามา พร้อมได้รับรางวัลบั๊กบาวน์ตี้รวม 4,000 ดอลลาร์ เรื่องนี้จึงเป็นการเตือนผู้ใช้ทุกคนให้รีบตรวจสอบและอัปเดต Chrome ด้วยตนเองทันที ไม่ควรรอการอัปเดตอัตโนมัติ เพราะความเสี่ยงกำลังเกิดขึ้นจริงแล้ว
    https://securityonline.info/emergency-chrome-update-google-patches-new-zero-day-under-active-attack

    นวัตกรรมใหม่: สถาปัตยกรรม AI ของ Google แรงกว่า GPT-4 ในด้านความจำ
    Google เปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อ Titans และกรอบแนวคิด MIRAS ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการจำข้อมูลระยะยาวของโมเดล AI แบบเดิม ๆ จุดเด่นคือสามารถ “อ่านไป จำไป” ได้เหมือนสมองมนุษย์ โดยใช้โมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานคล้ายการแยกความจำสั้นและยาวในสมองจริง ๆ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ “surprise metric” กลไกที่เลือกจำเฉพาะข้อมูลที่แปลกใหม่หรือไม่คาดคิด เช่นเดียวกับที่มนุษย์มักจำเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาได้ชัดเจน ผลลัพธ์คือโมเดลนี้สามารถจัดการข้อมูลยาวมหาศาลได้ถึงสองล้านโทเคน และยังทำงานได้ดีกว่า GPT-4 แม้จะมีพารามิเตอร์น้อยกว่า นอกจากนี้ MIRAS ยังเปิดทางให้สร้างโมเดลใหม่ ๆ ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน เช่นการทนต่อสัญญาณรบกวนหรือการรักษาความจำระยะยาวอย่างมั่นคง การทดสอบกับชุดข้อมูล BABILong แสดงให้เห็นว่า Titans มีศักยภาพเหนือกว่าโมเดลชั้นนำอื่น ๆ ในการดึงข้อมูลที่กระจายอยู่ในเอกสารขนาดใหญ่ ทำให้อนาคตของ AI ในการทำความเข้าใจทั้งเอกสารหรือแม้แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมดูสดใสและทรงพลังมากขึ้น
    https://securityonline.info/the-surprise-metric-googles-new-ai-architecture-outperforms-gpt-4-in-memory

    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251211 #securityonline 🛡️ Makop Ransomware กลับมาอีกครั้งพร้อมกลยุทธ์ใหม่ ภัยคุกคามที่เคยคุ้นชื่อ Makop ransomware ได้พัฒนาวิธีการโจมตีให้ซับซ้อนขึ้น แม้จะยังใช้ช่องโหว่เดิมคือการเจาะผ่านพอร์ต RDP ที่ไม่ได้ป้องกัน แต่ครั้งนี้พวกเขาเสริมเครื่องมืออย่าง GuLoader เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เพิ่มเติม และยังใช้เทคนิค BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกันไวรัสในระดับ kernel ได้โดยตรง การโจมตีส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่องค์กรในอินเดีย แต่ก็พบในหลายประเทศอื่นด้วย จุดสำคัญคือ แม้จะเป็นการโจมตีที่ดู “ง่าย” แต่ผลลัพธ์กลับสร้างความเสียหายรุนแรงต่อองค์กรที่ละเลยการอัปเดตและการตั้งค่าความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/makop-ransomware-evolves-guloader-and-byovd-edr-killers-used-to-attack-rdp-exposed-networks 💻 DeadLock Ransomware ใช้ช่องโหว่ไดรเวอร์ Baidu เจาะระบบ กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่หวังผลทางการเงินได้ปล่อยแรนซัมแวร์ชื่อ DeadLock โดยใช้เทคนิค BYOVD เช่นกัน คราวนี้พวกเขาอาศัยไดรเวอร์จาก Baidu Antivirus ที่มีช่องโหว่ ทำให้สามารถสั่งงานในระดับ kernel และปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันได้ทันที หลังจากนั้นยังใช้ PowerShell script ปิดบริการสำคัญ เช่น SQL Server และลบ shadow copies เพื่อกันไม่ให้เหยื่อกู้คืนข้อมูลได้ ตัวแรนซัมแวร์ถูกเขียนขึ้นใหม่ด้วย C++ และใช้วิธีเข้ารหัสเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ที่น่าสนใจคือพวกเขาไม่ใช้วิธี “double extortion” แต่ให้เหยื่อติดต่อผ่านแอป Session เพื่อเจรจาจ่ายค่าไถ่เป็น Bitcoin หรือ Monero 🔗 https://securityonline.info/deadlock-ransomware-deploys-byovd-edr-killer-by-exploiting-baidu-driver-for-kernel-level-defense-bypass ⚙️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน PCIe 6.0 เสี่ยงข้อมูลเสียหาย มาตรฐาน PCIe 6.0 ที่ใช้ในการส่งข้อมูลความเร็วสูงถูกพบว่ามีช่องโหว่ในกลไก IDE (Integrity and Data Encryption) ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์เข้าถึงฮาร์ดแวร์สามารถฉีดข้อมูลที่ผิดพลาดหรือเก่าเข้ามาในระบบได้ ช่องโหว่นี้ถูกระบุเป็น CVE-2025-9612, 9613 และ 9614 แม้จะไม่สามารถโจมตีจากระยะไกล แต่ก็เป็นภัยใหญ่สำหรับศูนย์ข้อมูลหรือระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง ตอนนี้ PCI-SIG ได้ออก Draft Engineering Change Notice เพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ผลิตอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้โดยเร็ว 🔗 https://securityonline.info/critical-pcie-6-0-flaws-risk-secure-data-integrity-via-stale-data-injection-in-ide-mechanism 🪙 EtherRAT Malware ใช้บล็อกเชน Ethereum ซ่อนร่องรอย หลังจากเกิดช่องโหว่ React2Shell เพียงไม่กี่วัน นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ใช้บล็อกเชน Ethereum เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้ควบคุม โดยอาศัย smart contracts เพื่อรับคำสั่ง ทำให้แทบไม่สามารถปิดกั้นได้ เพราะเครือข่าย Ethereum เป็นระบบกระจายศูนย์ นอกจากนี้ EtherRAT ยังมีความคล้ายคลึงกับเครื่องมือที่เคยใช้โดยกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือ และถูกออกแบบให้ฝังตัวแน่นหนาในระบบ Linux ด้วยหลายวิธีการ persistence พร้อมทั้งดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อกลมกลืนกับการทำงานปกติ ถือเป็นการยกระดับการโจมตีจากช่องโหว่ React2Shell ไปสู่ระดับ APT ที่อันตรายยิ่งขึ้น 🔗 https://securityonline.info/etherrat-malware-hijacks-ethereum-blockchain-for-covert-c2-after-react2shell-exploit 🤝 Slack CEO ย้ายไปร่วมทีม OpenAI เป็น CRO OpenAI กำลังเร่งหาทางสร้างรายได้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายมหาศาลในการประมวลผล AI ล่าสุดได้ดึง Denise Dresser ซีอีโอของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer (CRO) เพื่อดูแลกลยุทธ์รายได้และการขยายตลาดองค์กร การเข้ามาของเธอสะท้อนให้เห็นว่า OpenAI กำลังใช้แนวทางแบบ Silicon Valley อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการขยายฐานผู้ใช้และการหาช่องทางทำเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขาย subscription หรือแม้กระทั่งโฆษณาใน ChatGPT อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่คือการทำให้รายได้เติบโตทันกับค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วจากการสร้างและดูแลโครงสร้างพื้นฐาน AI 🔗 https://securityonline.info/slack-ceo-denise-dresser-joins-openai-as-cro-to-solve-the-profitability-puzzle 🛠️ Jenkins เจอช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงถูกโจมตี DoS และ XSS ทีมพัฒนา Jenkins ออกประกาศเตือนครั้งใหญ่ หลังพบช่องโหว่หลายรายการที่อาจทำให้ระบบ CI/CD ถูกโจมตีจนหยุดทำงาน หรือโดนฝังสคริปต์อันตราย (XSS) โดยเฉพาะช่องโหว่ CVE-2025-67635 ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์ส่งคำสั่งผ่าน HTTP CLI โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทรัพยากรถูกใช้จนล่ม อีกช่องโหว่ CVE-2025-67641 ใน Coverage Plugin ก็เปิดทางให้ผู้โจมตีฝังโค้ด JavaScript ลงในรายงาน เมื่อผู้ดูแลเปิดดู รายงานนั้นจะรันสคริปต์ทันที เสี่ยงต่อการถูกขโมย session และข้อมูลสำคัญ แม้จะมีการอัปเดตแก้ไขหลายจุด เช่น การเข้ารหัส token และการปิดช่องโหว่การเห็นรหัสผ่าน แต่ยังมีบางปลั๊กอินที่ยังไม่มีแพตช์ออกมา ทำให้ผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดต Jenkins และปลั๊กอินที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันความเสียหาย 🔗 https://securityonline.info/high-severity-jenkins-flaws-risk-unauthenticated-dos-via-http-cli-and-xss-via-coverage-reports 🐙 Gogs Zero-Day โดนเจาะกว่า 700 เซิร์ฟเวอร์ ผ่าน Symlink Path Traversal นักวิจัยจาก Wiz พบช่องโหว่ใหม่ใน Gogs (CVE-2025-8110) ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถเขียนไฟล์อันตรายลงในระบบได้ง่าย ๆ ผ่านการใช้ symlink โดยช่องโหว่นี้เป็นการเลี่ยงแพตช์เก่าที่เคยแก้ไขไปแล้ว ทำให้กว่า 700 เซิร์ฟเวอร์จาก 1,400 ที่ตรวจสอบถูกเจาะสำเร็จ การโจมตีมีลักษณะเป็นแคมเปญ “smash-and-grab” คือเข้ามาเร็ว ใช้ symlink เขียนทับไฟล์สำคัญ เช่น .git/config แล้วรันคำสั่งอันตราย จากนั้นติดตั้ง payload ที่ใช้ Supershell เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกล ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์ออกมา ผู้ดูแลระบบจึงถูกแนะนำให้ปิดการสมัครสมาชิกสาธารณะ และจำกัดการเข้าถึงระบบทันที 🔗 https://securityonline.info/gogs-zero-day-cve-2025-8110-risks-rce-for-700-servers-via-symlink-path-traversal-bypass 🧩 GitLab พบช่องโหว่ XSS เสี่ยงโดนขโมย session ผ่าน Wiki GitLab ออกอัปเดตด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-12716 ที่มีความรุนแรงสูง (CVSS 8.7) โดยช่องโหว่นี้เกิดขึ้นในฟีเจอร์ Wiki ที่ผู้ใช้สามารถสร้างเพจได้ หากมีการฝังโค้ดอันตรายลงไป เมื่อผู้ใช้รายอื่นเปิดดู เพจนั้นจะรันคำสั่งแทนผู้ใช้โดยอัตโนมัติ เสี่ยงต่อการถูกยึด session และสั่งงานแทนเจ้าของบัญชี นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ เช่น การ inject HTML ในรายงานช่องโหว่ และการเปิดเผยข้อมูลโครงการที่ควรเป็น private ผ่าน error message และ GraphQL query GitLab.com และ GitLab Dedicated ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ผู้ที่ใช้ self-managed instance ต้องรีบอัปเดตเวอร์ชัน 18.6.2, 18.5.4 หรือ 18.4.6 เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้ 🔗 https://securityonline.info/high-severity-gitlab-xss-flaw-cve-2025-12716-risks-session-hijack-via-malicious-wiki-pages 📱 Facebook ปรับโฉมใหม่ แต่ Instagram ใช้ AI ดึง SEO มีรายงานว่า Facebook ได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Instagram ถูกเปิดโปงว่าใช้ AI เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ดึง SEO ให้ติดอันดับการค้นหา คล้ายกับการทำ content farm โดยไม่ได้บอกผู้ใช้ตรง ๆ เรื่องนี้จึงถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและจริยธรรมของ Meta ที่อาจใช้ AI เพื่อผลักดันการเข้าถึงโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ 🔗 https://securityonline.info/facebook-gets-new-look-but-instagram-secretly-uses-ai-for-seo-bait 🚀 SpaceX เตรียม IPO มูลค่าเป้าหมายทะลุ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ SpaceX กำลังเดินหน้าแผน IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยตั้งเป้าระดมทุนกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำลายสถิติของ Saudi Aramco ที่เคยทำไว้ในปี 2019 ที่ 29 พันล้านดอลลาร์ สิ่งที่ทำให้ตลาดตะลึงคือการตั้งเป้ามูลค่าบริษัทไว้สูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ แม้รายได้ของ SpaceX ในปี 2025 จะอยู่ที่ประมาณ 15.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่า Tesla ถึง 6 เท่า แต่ความคาดหวังอยู่ที่อนาคตของ Starlink และ Starship รวมถึงแผนสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศเพื่อรองรับ AI และการสื่อสารผ่านดาวเทียม Musk เชื่อว่าการรวมพลังของ Starlink และ Starship จะขยายตลาดได้มหาศาล และนี่อาจเป็นก้าวสำคัญที่สุดของ SpaceX 🔗 https://securityonline.info/spacex-ipo-targeting-a-1-5-trillion-valuation-to-fund-space-data-centers 🐼 จีนเปิดปฏิบัติการไซเบอร์ WARP PANDA ใช้ BRICKSTORM เจาะ VMware และ Azure มีการเปิดโปงแคมเปญจารกรรมไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ดำเนินการโดยกลุ่มแฮกเกอร์จากจีนชื่อ WARP PANDA พวกเขาไม่ได้โจมตีแบบธรรมดา แต่เลือกเจาะเข้าไปในโครงสร้างพื้นฐาน IT ที่สำคัญอย่าง VMware vCenter และ ESXi รวมถึงระบบคลาวด์ Microsoft Azure จุดเด่นคือการใช้เครื่องมือที่สร้างขึ้นเองชื่อ BRICKSTORM ซึ่งเป็น backdoor ที่แฝงตัวเหมือนโปรเซสของระบบ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือเสริมอย่าง Junction และ GuestConduit ที่ช่วยควบคุมการสื่อสารในระบบเสมือนจริงได้อย่างแนบเนียน สิ่งที่น่ากังวลคือพวกเขาสามารถอยู่ในระบบได้นานเป็นปีโดยไม่ถูกพบ และยังขยายการโจมตีไปสู่บริการ Microsoft 365 เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงจูงใจเชิงรัฐมากกว่าการเงิน เพราะเป้าหมายคือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของรัฐบาลจีน 🔗 https://securityonline.info/chinas-warp-panda-apt-deploys-brickstorm-backdoor-to-hijack-vmware-vcenter-esxi-and-azure-cloud 📡 ช่องโหว่ร้ายแรง TOTOLINK AX1800 เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึง root โดยไม่ต้องล็อกอิน มีการค้นพบช่องโหว่ในเราเตอร์ TOTOLINK AX1800 ที่ใช้กันแพร่หลายในบ้านและธุรกิจขนาดเล็ก ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวเพื่อเปิดบริการ Telnet โดยไม่ต้องผ่านการยืนยันตัวตน เมื่อ Telnet ถูกเปิดแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผลกระทบคือสามารถดักจับข้อมูล เปลี่ยนเส้นทาง DNS หรือใช้เป็นฐานโจมตีอุปกรณ์อื่นในเครือข่ายได้ ที่น่ากังวลคือยังไม่มีแพตช์แก้ไขจากผู้ผลิต ทำให้ผู้ใช้ต้องป้องกันตัวเองด้วยการปิดการเข้าถึงจาก WAN และตรวจสอบการเปิดใช้งาน Telnet อย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/unpatched-totolink-ax1800-router-flaw-allows-unauthenticated-telnet-root-rce ⚠️ FBI และ CISA เตือนกลุ่มแฮกเกอร์สายโปรรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานผ่าน VNC ที่ไม่ปลอดภัย หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ รวมถึง FBI และ CISA ออกคำเตือนว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซียกำลังโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ระบบน้ำ พลังงาน และอาหาร โดยใช้วิธีง่าย ๆ คือค้นหา Human-Machine Interfaces (HMI) ที่เชื่อมต่อผ่าน VNC แต่ไม่ได้ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง เมื่อเข้าถึงได้ พวกเขาจะปรับเปลี่ยนค่าการทำงาน เช่น ความเร็วปั๊ม หรือปิดระบบแจ้งเตือน ทำให้ผู้ควบคุมไม่เห็นภาพจริงของโรงงาน กลุ่มที่ถูกระบุมีทั้ง Cyber Army of Russia Reborn, NoName057(16), Z-Pentest และ Sector16 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับรัฐรัสเซีย แม้จะไม่ซับซ้อน แต่การโจมตีแบบนี้สร้างความเสียหายได้จริงและยากต่อการคาดเดา 🔗 https://securityonline.info/fbi-cisa-warn-pro-russia-hacktivists-target-critical-infrastructure-via-unsecured-vnc-hmis 🎥 ช่องโหว่ร้ายแรงใน CCTV (CVE-2025-13607) เสี่ยงถูกแฮกดูภาพสดและขโมยรหัสผ่าน CISA ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อเครือข่าย โดยเฉพาะรุ่น D-Link DCS-F5614-L1 ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงการตั้งค่าและข้อมูลบัญชีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ผลคือสามารถดูภาพสดจากกล้องและขโมยรหัสผ่านผู้ดูแลเพื่อเจาะลึกเข้าไปในระบบต่อไปได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 และแม้ D-Link จะออกเฟิร์มแวร์แก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้แบรนด์อื่นอย่าง Securus และ Sparsh ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบและติดต่อผู้ผลิตเองเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/critical-cctv-flaw-cve-2025-13607-risks-video-feed-hijack-credential-theft-via-missing-authentication 🛡️ ข่าวด่วน: Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome เรื่องนี้เป็นการอัปเดตที่สำคัญมากของ Google Chrome เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ Google จึงรีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ 143.0.7499.109/.110 เพื่ออุดช่องโหว่ โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น “Under coordination” ซึ่งหมายถึงยังอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ ทำให้รายละเอียดเชิงเทคนิคยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ที่แน่ ๆ คือมีผู้ไม่หวังดีนำไปใช้โจมตีแล้ว นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ระดับกลางอีกสองรายการ ได้แก่ปัญหาใน Password Manager และ Toolbar ที่นักวิจัยภายนอกรายงานเข้ามา พร้อมได้รับรางวัลบั๊กบาวน์ตี้รวม 4,000 ดอลลาร์ เรื่องนี้จึงเป็นการเตือนผู้ใช้ทุกคนให้รีบตรวจสอบและอัปเดต Chrome ด้วยตนเองทันที ไม่ควรรอการอัปเดตอัตโนมัติ เพราะความเสี่ยงกำลังเกิดขึ้นจริงแล้ว 🔗 https://securityonline.info/emergency-chrome-update-google-patches-new-zero-day-under-active-attack 🤖 นวัตกรรมใหม่: สถาปัตยกรรม AI ของ Google แรงกว่า GPT-4 ในด้านความจำ Google เปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อ Titans และกรอบแนวคิด MIRAS ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการจำข้อมูลระยะยาวของโมเดล AI แบบเดิม ๆ จุดเด่นคือสามารถ “อ่านไป จำไป” ได้เหมือนสมองมนุษย์ โดยใช้โมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานคล้ายการแยกความจำสั้นและยาวในสมองจริง ๆ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ “surprise metric” กลไกที่เลือกจำเฉพาะข้อมูลที่แปลกใหม่หรือไม่คาดคิด เช่นเดียวกับที่มนุษย์มักจำเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาได้ชัดเจน ผลลัพธ์คือโมเดลนี้สามารถจัดการข้อมูลยาวมหาศาลได้ถึงสองล้านโทเคน และยังทำงานได้ดีกว่า GPT-4 แม้จะมีพารามิเตอร์น้อยกว่า นอกจากนี้ MIRAS ยังเปิดทางให้สร้างโมเดลใหม่ ๆ ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน เช่นการทนต่อสัญญาณรบกวนหรือการรักษาความจำระยะยาวอย่างมั่นคง การทดสอบกับชุดข้อมูล BABILong แสดงให้เห็นว่า Titans มีศักยภาพเหนือกว่าโมเดลชั้นนำอื่น ๆ ในการดึงข้อมูลที่กระจายอยู่ในเอกสารขนาดใหญ่ ทำให้อนาคตของ AI ในการทำความเข้าใจทั้งเอกสารหรือแม้แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมดูสดใสและทรงพลังมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-surprise-metric-googles-new-ai-architecture-outperforms-gpt-4-in-memory
    0 Comments 0 Shares 478 Views 0 Reviews
  • Snapmaker ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3D จากจีน ประกาศระดมทุน Series B ได้

    Snapmaker ยืนยันว่าได้รับเงินลงทุน Series B หลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมี Hillhouse Ventures และ Meituan เป็นผู้นำรอบ พร้อมด้วย Shunwei Capital, Longzhu Capital และนักลงทุนรายเดิมอย่าง Cowin Capital และ Orient Securities Capital การเข้ามาของ Shunwei Capital ซึ่งก่อตั้งโดย Lei Jun (CEO ของ Xiaomi) ยิ่งทำให้ดีลนี้น่าสนใจ เพราะสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายใหญ่ในอนาคตของ Snapmaker

    ผลงานและความสำเร็จที่ผ่านมา
    Snapmaker ก่อตั้งในปี 2016 และสร้างชื่อจากการเปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3D แบบโมดูลาร์ที่สามารถทำงานได้ทั้งการพิมพ์ 3D, เลเซอร์คัต และ CNC โดยเฉพาะรุ่น Snapmaker 2.0 ที่เคยระดมทุนบน Kickstarter ได้กว่า 7.85 ล้านดอลลาร์ และรุ่น U1 Tool Changer ที่ทำสถิติสูงสุดในวงการ 3D Printing ด้วยยอดระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์จากผู้สนับสนุนกว่า 20,000 คน

    แผนการขยายสู่ระดับโลก
    เงินทุนใหม่จะถูกนำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลัก, การดึงดูดบุคลากรระดับโลก และการสร้าง ecosystem ที่ครบวงจร Snapmaker ตั้งเป้าที่จะลดอุปสรรคในการเข้าถึงเทคโนโลยี 3D Printing และทำให้มันกลายเป็นเครื่องมือที่ทุกคนสามารถใช้ได้ ไม่ใช่แค่กลุ่มนักสร้างสรรค์หรือผู้เชี่ยวชาญ

    ความหมายต่อวงการ 3D Printing
    การลงทุนครั้งนี้สะท้อนว่าตลาด 3D Printing กำลังเข้าสู่ “arms race” ของบริษัทยักษ์ใหญ่จีน เช่น Tencent ที่สนใจ Bambu Lab และ DJI ที่ลงทุนใน Elegoo การแข่งขันนี้จะเร่งให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ และทำให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงเครื่องพิมพ์ที่เร็วขึ้น, ถูกลง และใช้งานง่ายขึ้น

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Snapmaker ระดมทุน Series B
    ได้เงินลงทุนหลายสิบล้านดอลลาร์
    Hillhouse Ventures และ Meituan นำรอบ

    นักลงทุนรายสำคัญ
    Shunwei Capital (ก่อตั้งโดย Lei Jun จาก Xiaomi)
    Cowin Capital และ Orient Securities Capital ร่วมลงทุนต่อเนื่อง

    ผลงานเด่นของ Snapmaker
    Snapmaker 2.0 ระดมทุน 7.85 ล้านดอลลาร์
    U1 Tool Changer ระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์

    แผนการใช้เงินทุน
    วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่
    ดึงดูดบุคลากรระดับโลก
    สร้าง ecosystem ครบวงจร

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ตลาด 3D Printing จีนแข่งขันสูงจากผู้เล่นรายใหญ่
    ความเสี่ยงด้านการพึ่งพานักลงทุนรายใหญ่
    ต้องพิสูจน์ว่าสามารถขยายสู่ตลาดโลกได้จริง

    https://www.tomshardware.com/3d-printing/snapmaker-raises-millions-as-chinese-big-tech-investors-pile-into-3d-printing
    💰 Snapmaker ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ 3D จากจีน ประกาศระดมทุน Series B ได้ Snapmaker ยืนยันว่าได้รับเงินลงทุน Series B หลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมี Hillhouse Ventures และ Meituan เป็นผู้นำรอบ พร้อมด้วย Shunwei Capital, Longzhu Capital และนักลงทุนรายเดิมอย่าง Cowin Capital และ Orient Securities Capital การเข้ามาของ Shunwei Capital ซึ่งก่อตั้งโดย Lei Jun (CEO ของ Xiaomi) ยิ่งทำให้ดีลนี้น่าสนใจ เพราะสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนรายใหญ่ในอนาคตของ Snapmaker 🛠️ ผลงานและความสำเร็จที่ผ่านมา Snapmaker ก่อตั้งในปี 2016 และสร้างชื่อจากการเปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3D แบบโมดูลาร์ที่สามารถทำงานได้ทั้งการพิมพ์ 3D, เลเซอร์คัต และ CNC โดยเฉพาะรุ่น Snapmaker 2.0 ที่เคยระดมทุนบน Kickstarter ได้กว่า 7.85 ล้านดอลลาร์ และรุ่น U1 Tool Changer ที่ทำสถิติสูงสุดในวงการ 3D Printing ด้วยยอดระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์จากผู้สนับสนุนกว่า 20,000 คน 🌍 แผนการขยายสู่ระดับโลก เงินทุนใหม่จะถูกนำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีหลัก, การดึงดูดบุคลากรระดับโลก และการสร้าง ecosystem ที่ครบวงจร Snapmaker ตั้งเป้าที่จะลดอุปสรรคในการเข้าถึงเทคโนโลยี 3D Printing และทำให้มันกลายเป็นเครื่องมือที่ทุกคนสามารถใช้ได้ ไม่ใช่แค่กลุ่มนักสร้างสรรค์หรือผู้เชี่ยวชาญ 🔍 ความหมายต่อวงการ 3D Printing การลงทุนครั้งนี้สะท้อนว่าตลาด 3D Printing กำลังเข้าสู่ “arms race” ของบริษัทยักษ์ใหญ่จีน เช่น Tencent ที่สนใจ Bambu Lab และ DJI ที่ลงทุนใน Elegoo การแข่งขันนี้จะเร่งให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ และทำให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงเครื่องพิมพ์ที่เร็วขึ้น, ถูกลง และใช้งานง่ายขึ้น 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Snapmaker ระดมทุน Series B ➡️ ได้เงินลงทุนหลายสิบล้านดอลลาร์ ➡️ Hillhouse Ventures และ Meituan นำรอบ ✅ นักลงทุนรายสำคัญ ➡️ Shunwei Capital (ก่อตั้งโดย Lei Jun จาก Xiaomi) ➡️ Cowin Capital และ Orient Securities Capital ร่วมลงทุนต่อเนื่อง ✅ ผลงานเด่นของ Snapmaker ➡️ Snapmaker 2.0 ระดมทุน 7.85 ล้านดอลลาร์ ➡️ U1 Tool Changer ระดมทุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์ ✅ แผนการใช้เงินทุน ➡️ วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ➡️ ดึงดูดบุคลากรระดับโลก ➡️ สร้าง ecosystem ครบวงจร ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ตลาด 3D Printing จีนแข่งขันสูงจากผู้เล่นรายใหญ่ ⛔ ความเสี่ยงด้านการพึ่งพานักลงทุนรายใหญ่ ⛔ ต้องพิสูจน์ว่าสามารถขยายสู่ตลาดโลกได้จริง https://www.tomshardware.com/3d-printing/snapmaker-raises-millions-as-chinese-big-tech-investors-pile-into-3d-printing
    0 Comments 0 Shares 164 Views 0 Reviews
  • ซีเกมส์ 2025 เปิดฉากสุดตระการตาที่ราชมังฯ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ฮีโร่โอลิมปิก 2 สมัย รับหน้าที่จุดคบเพลิง จุดประกายเปิดการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 33 อย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิดความยั่งยืน–นวัตกรรมใหม่
    .
    พิธีเปิดจัดเต็ม แสง สี เสียง ผสานศิลปวัฒนธรรมไทย–เทคโนโลยี พร้อมบุคคลดังร่วมงานคับคั่ง ขบวนพาเหรด 11 ชาติคึกคัก ท่ามกลางผู้ชมล้นสนาม
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000118429
    .
    #News1live #News1 #SEAGames2025 #พาณิภัควงศ์พัฒนกิจ #ซีเกมส์เปิดฉาก #TeamThailand
    ซีเกมส์ 2025 เปิดฉากสุดตระการตาที่ราชมังฯ “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ฮีโร่โอลิมปิก 2 สมัย รับหน้าที่จุดคบเพลิง จุดประกายเปิดการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 33 อย่างเป็นทางการ ภายใต้แนวคิดความยั่งยืน–นวัตกรรมใหม่ . พิธีเปิดจัดเต็ม แสง สี เสียง ผสานศิลปวัฒนธรรมไทย–เทคโนโลยี พร้อมบุคคลดังร่วมงานคับคั่ง ขบวนพาเหรด 11 ชาติคึกคัก ท่ามกลางผู้ชมล้นสนาม . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000118429 . #News1live #News1 #SEAGames2025 #พาณิภัควงศ์พัฒนกิจ #ซีเกมส์เปิดฉาก #TeamThailand
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 289 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251208 #TechRadar

    โปรเจ็กเตอร์พกพา Xgimi Horizon 20 Max
    ถ้าใครกำลังมองหาโปรเจ็กเตอร์ที่ทั้งสว่างและภาพสวยจัด ๆ รุ่นใหม่จาก Xgimi ตัวนี้ถือว่าเป็นเรือธงเลย มันใช้ระบบเลเซอร์สามสี ให้ความสว่างสูงถึง 5,700 ISO lumens รองรับ Dolby Vision, HDR10+ และ IMAX Enhanced เรียกว่าดูหนังหรือเล่นเกมก็ได้ภาพคมชัด สีสด และเสียงที่ติดตั้งมาก็ไม่ธรรมดา มีลำโพงจาก Harman Kardon ที่ให้เสียงเบสแน่นและเสียงพูดชัดเจน จุดเด่นอีกอย่างคือฟีเจอร์ปรับภาพอัตโนมัติ ทั้ง keystone, zoom และ lens shift ทำให้ติดตั้งง่ายมาก แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง และยังไม่รองรับ 4K 120Hz สำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ ถึงอย่างนั้นก็ยังถือว่าเป็นโปรเจ็กเตอร์พกพาที่ครบเครื่องที่สุดในตลาดตอนนี้
    https://www.techradar.com/televisions/projectors/xgimi-horizon-20-max-review

    ลำโพง Marshall Middleton II
    Marshall กลับมาอีกครั้งกับลำโพง Bluetooth ขนาดกลางที่ชื่อ Middleton II จุดขายคือเสียงสเตอริโอที่แยกซ้ายขวาได้ชัดเจน ทำให้ฟังเพลงมีมิติและรายละเอียดมากกว่าลำโพงพกพาทั่วไป เสียงเบสลงได้ลึก เสียงกลางและสูงก็สมดุลดี แม้เปิดดังสุดเบสจะอัดแน่นไปบ้างแต่ยังถือว่าดีมาก แถมแบตเตอรี่ใช้งานได้ถึง 30 ชั่วโมง ดีไซน์ยังคงความคลาสสิกสไตล์แอมป์ Marshall พร้อมกันฝุ่นและกันน้ำระดับ IP67 แต่ด้วยขนาดและน้ำหนักที่ไม่เบามาก ทำให้พกพาไม่สะดวกเท่ารุ่นเล็ก Emberton III และราคาก็ใกล้เคียงรุ่นใหญ่ Kilburn III จนบางคนอาจลังเลว่าจะเลือกตัวไหนดี ถึงอย่างนั้นถ้าอยากได้ลำโพงกลางที่เสียงดีและดูเท่ Middleton II ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
    https://www.techradar.com/audio/wireless-bluetooth-speakers/marshall-middleton-ii-review

    iOS 26 ยังขาดฟีเจอร์สำคัญ
    แม้ iOS 26 จะเปิดตัวไปแล้วและมีอัปเดตย่อยออกมา แต่ยังมีหลายฟีเจอร์ที่ผู้ใช้รอคอย เช่น การยกเครื่อง Siri ด้วย AI ที่คาดว่าจะมาในปี 2026 โดยใช้เทคโนโลยี Gemini ของ Google เพื่อให้ฉลาดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับ Liquid Glass ให้ผู้ใช้ปรับความโปร่งใสได้เอง, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้ง่ายขึ้น, Podcasts ที่จะมีการสร้าง chapter อัตโนมัติ และสุดท้ายคือการตั้ง “alarm” ให้กับ reminder เพื่อไม่ให้พลาดสิ่งสำคัญ ทั้งหมดนี้คาดว่าจะทยอยมาในอัปเดตย่อยของ iOS 26 ก่อนจะไปสู่ iOS 27 ในปีหน้า
    https://www.techradar.com/phones/iphone/5-features-that-are-still-missing-from-ios-26-and-its-not-just-the-siri-update

    ภัยไซเบอร์ที่ต้องจับตาในปีนี้
    โลกไซเบอร์ไม่ได้หยุดนิ่ง และปี 2026 มีแนวโน้มที่อันตรายจะซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ จากรายงานพบว่ากลุ่มแฮกเกอร์เปลี่ยนวิธีโจมตีจากการเข้ารหัสไฟล์เรียกค่าไถ่ มาเป็นการขโมยข้อมูลแล้วขู่เปิดเผยเพื่อกดดันให้เหยื่อจ่ายเงิน ตัวอย่างเช่นการโจมตีบริษัทโทรคมนาคมในอังกฤษที่ข้อมูลพนักงานและลูกค้าถูกขโมยไปมหาศาล นอกจากนี้ยังมีการใช้ช่องโหว่ในระบบ VPN และอุปกรณ์ edge เพื่อเจาะเข้าระบบ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือ “EDR killers” ที่ทำให้ระบบตรวจจับภัยทำงานยากขึ้น สิ่งเหล่านี้บอกชัดว่าองค์กรต้องเร่งอุดช่องโหว่และเสริมการเฝ้าระวัง เพราะภัยไซเบอร์กำลังพัฒนาเร็วไม่แพ้เทคโนโลยีที่เราใช้
    https://www.techradar.com/pro/threats-to-watch-this-year-from-data-theft-and-extortion-to-edr-killers

    Starforge Systems Frieren PC สำหรับแฟนอนิเมะ
    นี่คือคอมพิวเตอร์เกมมิ่งที่ออกแบบมาเอาใจแฟนอนิเมะ Frieren: Beyond Journey’s End โดยเฉพาะ ตัวเครื่องใช้เคส Lian Li O11 Dynamic ที่ตกแต่งด้วยงานศิลป์จากอนิเมะ พร้อมไฟ RGB ที่ปรับได้เต็มที่ ภายในประกอบด้วย Intel Core i5-14600K, การ์ดจอ AMD Radeon RX 9070 XT, RAM 32GB และ SSD 1TB ทำให้เล่นเกมได้ลื่นทั้ง 1080p, 1440p และถึงขั้น 4K ถ้าเปิด FSR ของ AMD เสริม จุดเด่นคือดีไซน์สวยมากและมีของแถมอย่าง desk mat และ art panel แต่ราคาก็สูงถึง $2,499.99 ซึ่งถือว่าเป็นพรีเมียมสำหรับแฟนอนิเมะที่อยากได้เครื่องแรงและสวยในเวลาเดียวกัน
    https://www.techradar.com/computing/gaming-pcs/starforge-systems-frieren-pc-review

    กระเป๋ากล้อง Ulanzi 9L Sling Bag
    สำหรับคนที่ชอบพกกล้องไปถ่ายรูปนอกบ้าน Ulanzi 9L Sling Bag รุ่นนี้ถือว่าออกแบบมาได้ลงตัวมาก ขนาดกะทัดรัดแต่ใส่กล้องและเลนส์ได้ครบ พร้อมช่องสำหรับขาตั้งกล้องที่ติดตั้งมาให้โดยเฉพาะ วัสดุแข็งแรง กันละอองน้ำได้ดี และมีช่องแบ่งภายในที่ปรับได้ตามอุปกรณ์ จุดเด่นคือการเข้าถึงกล้องได้รวดเร็วเพราะเป็นแบบ sling สะพายข้าง แต่ข้อจำกัดคือความจุไม่มากนัก เหมาะกับคนที่พกอุปกรณ์ไม่เยอะและอยากได้ความคล่องตัวเป็นหลัก
    https://www.techradar.com/cameras/camera-accessories/ulanzi-9l-camera-sling-bag-with-tripod-holder-b122-review

    มอเตอร์ไซค์ Flying Flea รุ่นไฟฟ้า
    จากตำนานรถจักรยานยนต์ในสงครามโลกครั้งที่สอง Flying Flea ได้ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ในเวอร์ชันไฟฟ้า ปี 2026 นี้ถือว่าเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ที่น่าตื่นเต้นที่สุด รถยังคงรูปลักษณ์คลาสสิกแต่เพิ่มเทคโนโลยีทันสมัยเข้าไป เช่น มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงบิดทันใจ แบตเตอรี่ที่ถอดเปลี่ยนได้ และระบบเบรกที่ปลอดภัยกว่าเดิม จุดขายคือการผสมผสานความเป็นประวัติศาสตร์กับนวัตกรรมใหม่ ทำให้คนที่หลงใหลในรถคลาสสิกและสาย EV ต่างจับตามอง แต่แน่นอนว่าราคาก็ไม่ถูก และยังเป็นรุ่นที่ผลิตจำนวนจำกัด
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/this-electrified-ww2-motorbike-is-one-of-the-most-exciting-of-2026-here-are-5-things-you-need-know-about-the-flying-flea

    ประสบการณ์ซื้อ Kia EV6 คันแรก
    เรื่องเล่าของคนที่ตัดสินใจเปลี่ยนจากรถน้ำมันมาเป็นรถไฟฟ้า Kia EV6 แบบไม่ตั้งใจ แต่กลับพบทั้งข้อดีและสิ่งที่อยากให้รู้ก่อนซื้อ เขาเล่าว่าการชาร์จมีหลายระดับ ตั้งแต่ปลั๊กบ้านธรรมดาที่ช้ามาก ไปจนถึงเครื่องชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 20 นาทีถึง 80% แต่ก็ต้องทำใจว่าการชาร์จสาธารณะไม่ฟรีเสมอไป และระบบแอปพลิเคชันที่ใช้กับแต่ละเครือข่ายก็ทำให้ยุ่งยากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ต้องระวัง เช่น ระยะทางที่ลดลงในอากาศหนาว การไม่มียางอะไหล่ และแบตเตอรี่เล็ก 12V ที่ยังคงต้องดูแลเหมือนรถน้ำมัน แต่ข้อดีคือแรงบิดทันใจ ความเร็วที่น่าประทับใจ และไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/i-bought-a-kia-ev6-my-first-electric-car-here-are-9-things-i-wish-id-known-before-buying-an-ev

    รีวิวมือถือถึก Doogee V Max LR
    มือถือรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสายลุยจริง ๆ ด้วยแบตเตอรี่ขนาดมหึมา 20,500 mAh ที่ใช้งานได้เป็นสัปดาห์ และฟีเจอร์วัดระยะทางที่เหมาะกับคนทำงานก่อสร้าง แม้จะหนักและใหญ่จนพกพาลำบาก แต่ก็มีข้อดีคือทนทาน กันน้ำ กันฝุ่น และมีกล้องความละเอียดสูง จุดต่างจากรุ่น Play คือไม่มีโปรเจ็กเตอร์ ทำให้ราคาถูกลง แต่ยังคงข้อเสียเรื่องการออกแบบเคสที่ใช้งานไม่สะดวก
    https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-lr-rugged-phone-review

    ข่าวลือ iPhone 18 อาจซ่อนกล้องใต้จอ
    มีรายงานว่า Apple กำลังทดสอบเทคโนโลยีกล้องหน้าใต้จอสำหรับ iPhone 18 ที่จะเปิดตัวในปี 2026 ซึ่งหากเป็นจริงจะทำให้หน้าจอดูเต็มตาไร้รอยบากเหมือนเดิม เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ Samsung เคยลองใช้กับ Galaxy Z Fold 3 ตั้งแต่ปี 2021 แต่คุณภาพยังไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม Apple มักจะนำเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาให้ใช้งานได้ดีกว่าเดิม ทำให้หลายคนคาดหวังว่ากล้องใต้จอของ iPhone จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ
    https://www.techradar.com/phones/iphone/the-iphone-18-may-finally-add-a-camera-feature-that-samsung-introduced-on-its-flagship-phones-in-2021

    แว่น MR ของ Meta เลื่อนเปิดตัวถึงปี 2027
    Meta มีแผนจะเปิดตัวแว่นตา Mixed Reality รุ่นใหม่ที่มีโค้ดเนมว่า Phoenix แต่ล่าสุดมีข้อมูลว่าการเปิดตัวถูกเลื่อนออกไปจนถึงปี 2027 เพื่อให้ทีมงานมีเวลาพัฒนาประสบการณ์ใช้งานให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น แว่นรุ่นนี้คาดว่าจะมีอุปกรณ์เสริมแยกสำหรับแบตเตอรี่และการประมวลผล ทำให้เบาขึ้นและใช้งานสะดวกกว่าเดิม แม้จะต้องรอนาน แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทต้องการให้ผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างไร้ข้อบกพร่อง
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/we-may-have-to-wait-until-2027-for-the-launch-of-the-next-pair-of-meta-mixed-reality-smart-glasses

    แอป Go Jauntly ชวนออกไปเดินเล่น
    นี่คือแอปที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนที่ใช้ชีวิตติดโต๊ะทำงานได้ออกไปเดินเล่นมากขึ้น แอปจะเสนอเส้นทางเดินที่น่าสนใจใกล้บ้านหรือที่ทำงาน พร้อมทั้งมีฟีเจอร์บันทึกเส้นทาง แชร์กับเพื่อน และค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ จากชุมชนผู้ใช้ จุดเด่นคือช่วยให้การเดินเล่นกลายเป็นกิจกรรมที่สนุกและมีเป้าหมาย ไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย แต่ยังเป็นการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว
    https://www.techradar.com/computing/websites-apps/go-jauntly

    ชิปจีนท้าชน Nvidia
    บริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่จากจีนกำลังเร่งการผลิตเพื่อแข่งขันกับ Nvidia ในตลาดกราฟิกและ AI แม้จะยังมีคำถามว่าความสามารถจะทัดเทียมได้จริงหรือไม่ แต่การขยายกำลังผลิตครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนที่จะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และสร้างอุตสาหกรรมชิปที่แข็งแกร่งขึ้น
    https://www.techradar.com/news/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel

    รีวิว Doogee V Max Play – โทรศัพท์ถึกที่เหมือนแบกก้อนอิฐ
    เรื่องราวของ Doogee V Max Play คือการพยายามสร้างสมาร์ทโฟนที่รวมทุกฟีเจอร์ไว้ในเครื่องเดียว แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นโทรศัพท์ที่หนักเกือบ 800 กรัม จนเหมือนต้องมี “ล่อ” ช่วยแบกเวลาเดินทาง จุดเด่นคือแบตเตอรี่ขนาด 20,500 mAh ที่อึดจนใช้งานได้เป็นสัปดาห์ กล้องหลัก 200MP ที่ถ่ายภาพคมชัด และยังมีโปรเจ็กเตอร์ในตัว แม้จะสว่างไม่มากแต่ก็พอใช้ดูหนังในห้องมืดได้ จุดอ่อนคือดีไซน์ที่เทอะทะและบัมเปอร์ที่ออกแบบพลาดจนใช้งานไม่สะดวก สรุปแล้วนี่คือโทรศัพท์ที่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งหรือวางบนรถมากกว่าพกติดตัวไปเดินเล่น
    https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-play-rugged-phone-review

    Windows 11 ยังไม่สามารถโค่น Windows 10 ได้
    แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่ข้อมูลล่าสุดยังบอกว่า Windows 10 ยังคงครองใจผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะในองค์กรที่ยังเลือกใช้ Windows 10 พร้อมซื้อแพ็กเกจอัปเดตความปลอดภัยเพิ่มเติมแทนการย้ายไป Windows 11 เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนระบบสูง ทั้งฮาร์ดแวร์ใหม่ การทดสอบความเข้ากันได้ และการฝึกอบรมพนักงาน อีกทั้ง Windows 11 ยังไม่มีฟีเจอร์ที่บังคับให้ต้องเปลี่ยนทันที ทำให้การเติบโตของ Windows 11 มาจากเครื่องใหม่มากกว่าการแทนที่เครื่องเก่า
    https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular

    เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติปรับแรงดูดเอง – จริงๆ ไม่ได้ทำให้สะอาดขึ้น
    ปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นหลายรุ่นมีโหมด “Auto” ที่ปรับแรงดูดตามสภาพพื้นผิวหรือปริมาณฝุ่น เช่น Dyson ที่สามารถตรวจจับขนาดฝุ่นและแสดงผลบนหน้าจอ หรือ Shark ที่เพิ่มแรงดูดเมื่อถึงขอบห้อง แม้ฟังดูฉลาด แต่จากการทดสอบพบว่าการปรับแรงดูดอัตโนมัติไม่ได้ทำให้การทำความสะอาดดีขึ้นเสมอไป สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือกำลังดูดและการออกแบบหัวดูดมากกว่า อย่างไรก็ตามโหมด Auto ก็ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้นและยืดอายุแบตเตอรี่ได้ เพราะเครื่องจะใช้พลังงานเท่าที่จำเป็น
    https://www.techradar.com/home/vacuums/how-useful-is-suction-automation-on-a-vacuum

    UPerfect UColor T3 – จอพกพาที่ใหญ่จนแทบไม่พก
    UPerfect UColor T3 เป็นจอ 4K ขนาด 23.8 นิ้วที่ถูกเรียกว่า “พกพา” แต่จริงๆ แล้วใหญ่จนใส่กระเป๋าเป้ไม่ได้ จุดเด่นคือดีไซน์บางเหมือนแท็บเล็ต ใช้สาย USB-C เส้นเดียวก็ทำงานได้ และยังมีขาตั้งในตัวพร้อมรองรับการติดตั้ง VESA เหมาะกับคนที่ต้องการจอเสริมคุณภาพสูงสำหรับการทำงานนอกสถานที่หรือใช้ในเซิร์ฟเวอร์รูม แม้ความสว่างไม่สูงนัก แต่หน้าจอแบบด้านช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้ใช้งานได้ดีในสภาพแวดล้อมทั่วไป ถือเป็นจอที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง “จอเดสก์ท็อป” และ “จอพกพา” อย่างแท้จริง
    https://www.techradar.com/pro/i-reviewed-the-uperfect-ucolor-t3-and-this-4k-portable-monitor-challenges-what-portable-means

    AGM G3 Pro – โทรศัพท์ถึกพร้อมกล้องถ่ายภาพความร้อน
    AGM G3 Pro เป็นสมาร์ทโฟนสายถึกที่ดูหรูหราและมีฟีเจอร์พิเศษคือกล้องถ่ายภาพความร้อน สามารถตรวจจับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20°C ถึง 550°C เหมาะสำหรับงานช่าง วิศวกรรม หรือการตรวจสอบอุปกรณ์ที่ร้อนผิดปกติ ตัวเครื่องหนักเพียง 375 กรัม ซึ่งถือว่าเบากว่าหลายรุ่นในตลาด ใช้ชิป Dimensity 7300 พร้อม RAM 12GB และความจุ 512GB จุดเด่นอีกอย่างคือรองรับการชาร์จไร้สายและมีไฟ LED สำหรับใช้เป็นไฟแคมป์ แต่ราคาที่สูงเกือบ 700 ดอลลาร์ทำให้หลายคนลังเล เพราะมีรุ่นอื่นที่มีกล้องถ่ายความร้อนเช่นกันแต่ราคาถูกกว่า
    https://www.techradar.com/pro/phone-communications/agm-g3-pro-rugged-phone-review

    ทางเลือกใหม่แทน Ring Doorbell ราคาประหยัด
    ผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฮมแนะนำว่าถ้าไม่อยากจ่ายแพงกับ Ring Doorbell ยังมีตัวเลือกที่คุ้มค่า เช่น Blink Video Doorbell ที่ราคาย่อมเยาและใช้งานง่าย, Eufy Security Video Doorbell ที่ไม่ต้องเสียค่าสมาชิกคลาวด์ และ Wyze Video Doorbell ที่มีฟีเจอร์ครบในราคาต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ ทั้งหมดนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความปลอดภัยหน้าบ้านโดยไม่ต้องลงทุนสูง แม้คุณภาพภาพและระบบอาจไม่เทียบเท่า Ring แต่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    https://www.techradar.com/home/home-security/want-a-cheap-ring-doorbell-alternative-im-a-smart-home-tech-expert-and-these-are-the-3-i-recommend

    Cybersecurity กลายเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัทเทค
    ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและการแข่งขันสูง บริษัทเทคโนโลยีเริ่มมอง Cybersecurity ไม่ใช่แค่การป้องกัน แต่เป็น “กลยุทธ์” ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความได้เปรียบทางธุรกิจ การลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างความแตกต่างและลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่อาจทำให้เสียชื่อเสียงหรือสูญเสียข้อมูลสำคัญ แนวโน้มนี้สะท้อนว่าความปลอดภัยไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนธุรกิจในระดับสูง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/why-cybersecurity-is-now-a-strategic-lever-for-tech-firms-navigating-uncertainty
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251208 #TechRadar 🎥 โปรเจ็กเตอร์พกพา Xgimi Horizon 20 Max ถ้าใครกำลังมองหาโปรเจ็กเตอร์ที่ทั้งสว่างและภาพสวยจัด ๆ รุ่นใหม่จาก Xgimi ตัวนี้ถือว่าเป็นเรือธงเลย มันใช้ระบบเลเซอร์สามสี ให้ความสว่างสูงถึง 5,700 ISO lumens รองรับ Dolby Vision, HDR10+ และ IMAX Enhanced เรียกว่าดูหนังหรือเล่นเกมก็ได้ภาพคมชัด สีสด และเสียงที่ติดตั้งมาก็ไม่ธรรมดา มีลำโพงจาก Harman Kardon ที่ให้เสียงเบสแน่นและเสียงพูดชัดเจน จุดเด่นอีกอย่างคือฟีเจอร์ปรับภาพอัตโนมัติ ทั้ง keystone, zoom และ lens shift ทำให้ติดตั้งง่ายมาก แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง และยังไม่รองรับ 4K 120Hz สำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ ถึงอย่างนั้นก็ยังถือว่าเป็นโปรเจ็กเตอร์พกพาที่ครบเครื่องที่สุดในตลาดตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/televisions/projectors/xgimi-horizon-20-max-review 🔊 ลำโพง Marshall Middleton II Marshall กลับมาอีกครั้งกับลำโพง Bluetooth ขนาดกลางที่ชื่อ Middleton II จุดขายคือเสียงสเตอริโอที่แยกซ้ายขวาได้ชัดเจน ทำให้ฟังเพลงมีมิติและรายละเอียดมากกว่าลำโพงพกพาทั่วไป เสียงเบสลงได้ลึก เสียงกลางและสูงก็สมดุลดี แม้เปิดดังสุดเบสจะอัดแน่นไปบ้างแต่ยังถือว่าดีมาก แถมแบตเตอรี่ใช้งานได้ถึง 30 ชั่วโมง ดีไซน์ยังคงความคลาสสิกสไตล์แอมป์ Marshall พร้อมกันฝุ่นและกันน้ำระดับ IP67 แต่ด้วยขนาดและน้ำหนักที่ไม่เบามาก ทำให้พกพาไม่สะดวกเท่ารุ่นเล็ก Emberton III และราคาก็ใกล้เคียงรุ่นใหญ่ Kilburn III จนบางคนอาจลังเลว่าจะเลือกตัวไหนดี ถึงอย่างนั้นถ้าอยากได้ลำโพงกลางที่เสียงดีและดูเท่ Middleton II ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก 🔗 https://www.techradar.com/audio/wireless-bluetooth-speakers/marshall-middleton-ii-review 📱 iOS 26 ยังขาดฟีเจอร์สำคัญ แม้ iOS 26 จะเปิดตัวไปแล้วและมีอัปเดตย่อยออกมา แต่ยังมีหลายฟีเจอร์ที่ผู้ใช้รอคอย เช่น การยกเครื่อง Siri ด้วย AI ที่คาดว่าจะมาในปี 2026 โดยใช้เทคโนโลยี Gemini ของ Google เพื่อให้ฉลาดขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับ Liquid Glass ให้ผู้ใช้ปรับความโปร่งใสได้เอง, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้ง่ายขึ้น, Podcasts ที่จะมีการสร้าง chapter อัตโนมัติ และสุดท้ายคือการตั้ง “alarm” ให้กับ reminder เพื่อไม่ให้พลาดสิ่งสำคัญ ทั้งหมดนี้คาดว่าจะทยอยมาในอัปเดตย่อยของ iOS 26 ก่อนจะไปสู่ iOS 27 ในปีหน้า 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/5-features-that-are-still-missing-from-ios-26-and-its-not-just-the-siri-update 🛡️ ภัยไซเบอร์ที่ต้องจับตาในปีนี้ โลกไซเบอร์ไม่ได้หยุดนิ่ง และปี 2026 มีแนวโน้มที่อันตรายจะซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ จากรายงานพบว่ากลุ่มแฮกเกอร์เปลี่ยนวิธีโจมตีจากการเข้ารหัสไฟล์เรียกค่าไถ่ มาเป็นการขโมยข้อมูลแล้วขู่เปิดเผยเพื่อกดดันให้เหยื่อจ่ายเงิน ตัวอย่างเช่นการโจมตีบริษัทโทรคมนาคมในอังกฤษที่ข้อมูลพนักงานและลูกค้าถูกขโมยไปมหาศาล นอกจากนี้ยังมีการใช้ช่องโหว่ในระบบ VPN และอุปกรณ์ edge เพื่อเจาะเข้าระบบ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือ “EDR killers” ที่ทำให้ระบบตรวจจับภัยทำงานยากขึ้น สิ่งเหล่านี้บอกชัดว่าองค์กรต้องเร่งอุดช่องโหว่และเสริมการเฝ้าระวัง เพราะภัยไซเบอร์กำลังพัฒนาเร็วไม่แพ้เทคโนโลยีที่เราใช้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/threats-to-watch-this-year-from-data-theft-and-extortion-to-edr-killers 💻 Starforge Systems Frieren PC สำหรับแฟนอนิเมะ นี่คือคอมพิวเตอร์เกมมิ่งที่ออกแบบมาเอาใจแฟนอนิเมะ Frieren: Beyond Journey’s End โดยเฉพาะ ตัวเครื่องใช้เคส Lian Li O11 Dynamic ที่ตกแต่งด้วยงานศิลป์จากอนิเมะ พร้อมไฟ RGB ที่ปรับได้เต็มที่ ภายในประกอบด้วย Intel Core i5-14600K, การ์ดจอ AMD Radeon RX 9070 XT, RAM 32GB และ SSD 1TB ทำให้เล่นเกมได้ลื่นทั้ง 1080p, 1440p และถึงขั้น 4K ถ้าเปิด FSR ของ AMD เสริม จุดเด่นคือดีไซน์สวยมากและมีของแถมอย่าง desk mat และ art panel แต่ราคาก็สูงถึง $2,499.99 ซึ่งถือว่าเป็นพรีเมียมสำหรับแฟนอนิเมะที่อยากได้เครื่องแรงและสวยในเวลาเดียวกัน 🔗 https://www.techradar.com/computing/gaming-pcs/starforge-systems-frieren-pc-review 🎒 กระเป๋ากล้อง Ulanzi 9L Sling Bag สำหรับคนที่ชอบพกกล้องไปถ่ายรูปนอกบ้าน Ulanzi 9L Sling Bag รุ่นนี้ถือว่าออกแบบมาได้ลงตัวมาก ขนาดกะทัดรัดแต่ใส่กล้องและเลนส์ได้ครบ พร้อมช่องสำหรับขาตั้งกล้องที่ติดตั้งมาให้โดยเฉพาะ วัสดุแข็งแรง กันละอองน้ำได้ดี และมีช่องแบ่งภายในที่ปรับได้ตามอุปกรณ์ จุดเด่นคือการเข้าถึงกล้องได้รวดเร็วเพราะเป็นแบบ sling สะพายข้าง แต่ข้อจำกัดคือความจุไม่มากนัก เหมาะกับคนที่พกอุปกรณ์ไม่เยอะและอยากได้ความคล่องตัวเป็นหลัก 🔗 https://www.techradar.com/cameras/camera-accessories/ulanzi-9l-camera-sling-bag-with-tripod-holder-b122-review 🏍️ มอเตอร์ไซค์ Flying Flea รุ่นไฟฟ้า จากตำนานรถจักรยานยนต์ในสงครามโลกครั้งที่สอง Flying Flea ได้ถูกนำกลับมาสร้างใหม่ในเวอร์ชันไฟฟ้า ปี 2026 นี้ถือว่าเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ที่น่าตื่นเต้นที่สุด รถยังคงรูปลักษณ์คลาสสิกแต่เพิ่มเทคโนโลยีทันสมัยเข้าไป เช่น มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้แรงบิดทันใจ แบตเตอรี่ที่ถอดเปลี่ยนได้ และระบบเบรกที่ปลอดภัยกว่าเดิม จุดขายคือการผสมผสานความเป็นประวัติศาสตร์กับนวัตกรรมใหม่ ทำให้คนที่หลงใหลในรถคลาสสิกและสาย EV ต่างจับตามอง แต่แน่นอนว่าราคาก็ไม่ถูก และยังเป็นรุ่นที่ผลิตจำนวนจำกัด 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/this-electrified-ww2-motorbike-is-one-of-the-most-exciting-of-2026-here-are-5-things-you-need-know-about-the-flying-flea 🚗 ประสบการณ์ซื้อ Kia EV6 คันแรก เรื่องเล่าของคนที่ตัดสินใจเปลี่ยนจากรถน้ำมันมาเป็นรถไฟฟ้า Kia EV6 แบบไม่ตั้งใจ แต่กลับพบทั้งข้อดีและสิ่งที่อยากให้รู้ก่อนซื้อ เขาเล่าว่าการชาร์จมีหลายระดับ ตั้งแต่ปลั๊กบ้านธรรมดาที่ช้ามาก ไปจนถึงเครื่องชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 20 นาทีถึง 80% แต่ก็ต้องทำใจว่าการชาร์จสาธารณะไม่ฟรีเสมอไป และระบบแอปพลิเคชันที่ใช้กับแต่ละเครือข่ายก็ทำให้ยุ่งยากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ต้องระวัง เช่น ระยะทางที่ลดลงในอากาศหนาว การไม่มียางอะไหล่ และแบตเตอรี่เล็ก 12V ที่ยังคงต้องดูแลเหมือนรถน้ำมัน แต่ข้อดีคือแรงบิดทันใจ ความเร็วที่น่าประทับใจ และไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/i-bought-a-kia-ev6-my-first-electric-car-here-are-9-things-i-wish-id-known-before-buying-an-ev 📱 รีวิวมือถือถึก Doogee V Max LR มือถือรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสายลุยจริง ๆ ด้วยแบตเตอรี่ขนาดมหึมา 20,500 mAh ที่ใช้งานได้เป็นสัปดาห์ และฟีเจอร์วัดระยะทางที่เหมาะกับคนทำงานก่อสร้าง แม้จะหนักและใหญ่จนพกพาลำบาก แต่ก็มีข้อดีคือทนทาน กันน้ำ กันฝุ่น และมีกล้องความละเอียดสูง จุดต่างจากรุ่น Play คือไม่มีโปรเจ็กเตอร์ ทำให้ราคาถูกลง แต่ยังคงข้อเสียเรื่องการออกแบบเคสที่ใช้งานไม่สะดวก 🔗 https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-lr-rugged-phone-review 📷 ข่าวลือ iPhone 18 อาจซ่อนกล้องใต้จอ มีรายงานว่า Apple กำลังทดสอบเทคโนโลยีกล้องหน้าใต้จอสำหรับ iPhone 18 ที่จะเปิดตัวในปี 2026 ซึ่งหากเป็นจริงจะทำให้หน้าจอดูเต็มตาไร้รอยบากเหมือนเดิม เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ Samsung เคยลองใช้กับ Galaxy Z Fold 3 ตั้งแต่ปี 2021 แต่คุณภาพยังไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม Apple มักจะนำเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาให้ใช้งานได้ดีกว่าเดิม ทำให้หลายคนคาดหวังว่ากล้องใต้จอของ iPhone จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/the-iphone-18-may-finally-add-a-camera-feature-that-samsung-introduced-on-its-flagship-phones-in-2021 🥽 แว่น MR ของ Meta เลื่อนเปิดตัวถึงปี 2027 Meta มีแผนจะเปิดตัวแว่นตา Mixed Reality รุ่นใหม่ที่มีโค้ดเนมว่า Phoenix แต่ล่าสุดมีข้อมูลว่าการเปิดตัวถูกเลื่อนออกไปจนถึงปี 2027 เพื่อให้ทีมงานมีเวลาพัฒนาประสบการณ์ใช้งานให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น แว่นรุ่นนี้คาดว่าจะมีอุปกรณ์เสริมแยกสำหรับแบตเตอรี่และการประมวลผล ทำให้เบาขึ้นและใช้งานสะดวกกว่าเดิม แม้จะต้องรอนาน แต่ก็สะท้อนว่าบริษัทต้องการให้ผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างไร้ข้อบกพร่อง 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/we-may-have-to-wait-until-2027-for-the-launch-of-the-next-pair-of-meta-mixed-reality-smart-glasses 🌿 แอป Go Jauntly ชวนออกไปเดินเล่น นี่คือแอปที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนที่ใช้ชีวิตติดโต๊ะทำงานได้ออกไปเดินเล่นมากขึ้น แอปจะเสนอเส้นทางเดินที่น่าสนใจใกล้บ้านหรือที่ทำงาน พร้อมทั้งมีฟีเจอร์บันทึกเส้นทาง แชร์กับเพื่อน และค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ จากชุมชนผู้ใช้ จุดเด่นคือช่วยให้การเดินเล่นกลายเป็นกิจกรรมที่สนุกและมีเป้าหมาย ไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย แต่ยังเป็นการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว 🔗 https://www.techradar.com/computing/websites-apps/go-jauntly 💻 ชิปจีนท้าชน Nvidia บริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่จากจีนกำลังเร่งการผลิตเพื่อแข่งขันกับ Nvidia ในตลาดกราฟิกและ AI แม้จะยังมีคำถามว่าความสามารถจะทัดเทียมได้จริงหรือไม่ แต่การขยายกำลังผลิตครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนที่จะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และสร้างอุตสาหกรรมชิปที่แข็งแกร่งขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/news/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel 📱 รีวิว Doogee V Max Play – โทรศัพท์ถึกที่เหมือนแบกก้อนอิฐ เรื่องราวของ Doogee V Max Play คือการพยายามสร้างสมาร์ทโฟนที่รวมทุกฟีเจอร์ไว้ในเครื่องเดียว แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นโทรศัพท์ที่หนักเกือบ 800 กรัม จนเหมือนต้องมี “ล่อ” ช่วยแบกเวลาเดินทาง จุดเด่นคือแบตเตอรี่ขนาด 20,500 mAh ที่อึดจนใช้งานได้เป็นสัปดาห์ กล้องหลัก 200MP ที่ถ่ายภาพคมชัด และยังมีโปรเจ็กเตอร์ในตัว แม้จะสว่างไม่มากแต่ก็พอใช้ดูหนังในห้องมืดได้ จุดอ่อนคือดีไซน์ที่เทอะทะและบัมเปอร์ที่ออกแบบพลาดจนใช้งานไม่สะดวก สรุปแล้วนี่คือโทรศัพท์ที่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งหรือวางบนรถมากกว่าพกติดตัวไปเดินเล่น 🔗 https://www.techradar.com/pro/phone-communications/doogee-v-max-play-rugged-phone-review 💻 Windows 11 ยังไม่สามารถโค่น Windows 10 ได้ แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่ข้อมูลล่าสุดยังบอกว่า Windows 10 ยังคงครองใจผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะในองค์กรที่ยังเลือกใช้ Windows 10 พร้อมซื้อแพ็กเกจอัปเดตความปลอดภัยเพิ่มเติมแทนการย้ายไป Windows 11 เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนระบบสูง ทั้งฮาร์ดแวร์ใหม่ การทดสอบความเข้ากันได้ และการฝึกอบรมพนักงาน อีกทั้ง Windows 11 ยังไม่มีฟีเจอร์ที่บังคับให้ต้องเปลี่ยนทันที ทำให้การเติบโตของ Windows 11 มาจากเครื่องใหม่มากกว่าการแทนที่เครื่องเก่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular 🧹 เครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติปรับแรงดูดเอง – จริงๆ ไม่ได้ทำให้สะอาดขึ้น ปัจจุบันเครื่องดูดฝุ่นหลายรุ่นมีโหมด “Auto” ที่ปรับแรงดูดตามสภาพพื้นผิวหรือปริมาณฝุ่น เช่น Dyson ที่สามารถตรวจจับขนาดฝุ่นและแสดงผลบนหน้าจอ หรือ Shark ที่เพิ่มแรงดูดเมื่อถึงขอบห้อง แม้ฟังดูฉลาด แต่จากการทดสอบพบว่าการปรับแรงดูดอัตโนมัติไม่ได้ทำให้การทำความสะอาดดีขึ้นเสมอไป สิ่งที่สำคัญจริงๆ คือกำลังดูดและการออกแบบหัวดูดมากกว่า อย่างไรก็ตามโหมด Auto ก็ช่วยให้ใช้งานง่ายขึ้นและยืดอายุแบตเตอรี่ได้ เพราะเครื่องจะใช้พลังงานเท่าที่จำเป็น 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/how-useful-is-suction-automation-on-a-vacuum 🖥️ UPerfect UColor T3 – จอพกพาที่ใหญ่จนแทบไม่พก UPerfect UColor T3 เป็นจอ 4K ขนาด 23.8 นิ้วที่ถูกเรียกว่า “พกพา” แต่จริงๆ แล้วใหญ่จนใส่กระเป๋าเป้ไม่ได้ จุดเด่นคือดีไซน์บางเหมือนแท็บเล็ต ใช้สาย USB-C เส้นเดียวก็ทำงานได้ และยังมีขาตั้งในตัวพร้อมรองรับการติดตั้ง VESA เหมาะกับคนที่ต้องการจอเสริมคุณภาพสูงสำหรับการทำงานนอกสถานที่หรือใช้ในเซิร์ฟเวอร์รูม แม้ความสว่างไม่สูงนัก แต่หน้าจอแบบด้านช่วยลดแสงสะท้อน ทำให้ใช้งานได้ดีในสภาพแวดล้อมทั่วไป ถือเป็นจอที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง “จอเดสก์ท็อป” และ “จอพกพา” อย่างแท้จริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/i-reviewed-the-uperfect-ucolor-t3-and-this-4k-portable-monitor-challenges-what-portable-means 🔥 AGM G3 Pro – โทรศัพท์ถึกพร้อมกล้องถ่ายภาพความร้อน AGM G3 Pro เป็นสมาร์ทโฟนสายถึกที่ดูหรูหราและมีฟีเจอร์พิเศษคือกล้องถ่ายภาพความร้อน สามารถตรวจจับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20°C ถึง 550°C เหมาะสำหรับงานช่าง วิศวกรรม หรือการตรวจสอบอุปกรณ์ที่ร้อนผิดปกติ ตัวเครื่องหนักเพียง 375 กรัม ซึ่งถือว่าเบากว่าหลายรุ่นในตลาด ใช้ชิป Dimensity 7300 พร้อม RAM 12GB และความจุ 512GB จุดเด่นอีกอย่างคือรองรับการชาร์จไร้สายและมีไฟ LED สำหรับใช้เป็นไฟแคมป์ แต่ราคาที่สูงเกือบ 700 ดอลลาร์ทำให้หลายคนลังเล เพราะมีรุ่นอื่นที่มีกล้องถ่ายความร้อนเช่นกันแต่ราคาถูกกว่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/phone-communications/agm-g3-pro-rugged-phone-review 🔔 ทางเลือกใหม่แทน Ring Doorbell ราคาประหยัด ผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฮมแนะนำว่าถ้าไม่อยากจ่ายแพงกับ Ring Doorbell ยังมีตัวเลือกที่คุ้มค่า เช่น Blink Video Doorbell ที่ราคาย่อมเยาและใช้งานง่าย, Eufy Security Video Doorbell ที่ไม่ต้องเสียค่าสมาชิกคลาวด์ และ Wyze Video Doorbell ที่มีฟีเจอร์ครบในราคาต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ ทั้งหมดนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ความปลอดภัยหน้าบ้านโดยไม่ต้องลงทุนสูง แม้คุณภาพภาพและระบบอาจไม่เทียบเท่า Ring แต่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้ทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/home/home-security/want-a-cheap-ring-doorbell-alternative-im-a-smart-home-tech-expert-and-these-are-the-3-i-recommend 🛡️ Cybersecurity กลายเป็นกลยุทธ์หลักของบริษัทเทค ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและการแข่งขันสูง บริษัทเทคโนโลยีเริ่มมอง Cybersecurity ไม่ใช่แค่การป้องกัน แต่เป็น “กลยุทธ์” ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความได้เปรียบทางธุรกิจ การลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์จึงถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างความแตกต่างและลดความเสี่ยงจากการโจมตีที่อาจทำให้เสียชื่อเสียงหรือสูญเสียข้อมูลสำคัญ แนวโน้มนี้สะท้อนว่าความปลอดภัยไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนธุรกิจในระดับสูง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/why-cybersecurity-is-now-a-strategic-lever-for-tech-firms-navigating-uncertainty
    0 Comments 0 Shares 598 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251127 #securityonline

    Meta ถูกกล่าวหาปกปิดข้อมูลภายในที่ชี้ว่า Facebook ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล
    เรื่องนี้เริ่มจากเอกสารในคดีฟ้องร้องแบบกลุ่มที่โรงเรียนหลายแห่งในสหรัฐฯ ยื่นต่อบริษัทโซเชียลมีเดีย โดยมีการเปิดเผยว่า Meta เคยทำการศึกษาในโครงการชื่อ Project Mercury ร่วมกับบริษัท Nielsen ตั้งแต่ปี 2020 ผลการวิจัยพบว่าการเลิกใช้ Facebook ช่วยลดความรู้สึกซึมเศร้า วิตกกังวล และความเหงา แต่ Meta กลับหยุดการศึกษาและไม่เผยแพร่ผลลัพธ์ โดยอ้างว่าเป็นข้อมูลที่มีอคติและถูกกระทบจากกระแสสื่อ ขณะเดียวกันมีเสียงจากนักวิจัยภายในที่เปรียบเทียบการกระทำนี้เหมือนกับอุตสาหกรรมบุหรี่ที่เคยปกปิดผลวิจัยเรื่องอันตรายของการสูบบุหรี่ ปัจจุบันคดีนี้กำลังเข้าสู่การพิจารณาในศาล และสะท้อนถึงความไม่ไว้วางใจที่รัฐบาลทั่วโลกมีต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี
    https://securityonline.info/meta-accused-of-hiding-internal-data-showing-facebook-causes-depression-anxiety

    Tor Project พัฒนาอัลกอริทึมเข้ารหัสใหม่ CGO แทน Tor1 ที่มีช่องโหว่
    เครือข่าย Tor ที่ใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานนั้น แม้จะมีชื่อเสียงด้านการรักษาความลับ แต่ก็ไม่ปลอดภัยเสมอไป โดยโปรโตคอลเก่า Tor1 มีช่องโหว่สำคัญ เช่น การโจมตีแบบ tagging attack ที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถติดตามเส้นทางข้อมูลได้ อีกทั้งยังมีการใช้คีย์ AES ซ้ำและตัวตรวจสอบที่อ่อนแอ เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ Tor Project จึงพัฒนาอัลกอริทึมใหม่ชื่อ Counter Galois Onion (CGO) ที่เมื่อมีการพยายามแก้ไขข้อมูล ข้อความทั้งหมดในเส้นทางนั้นจะเสียหายทันที ทำให้การโจมตีแทบเป็นไปไม่ได้ แม้จะยังไม่มีตารางเวลาชัดเจนในการนำมาใช้กับ Tor Browser แต่ทีมงานกำลังปรับปรุงให้เหมาะกับ CPU รุ่นใหม่
    https://securityonline.info/tor-project-develops-new-cgo-encryption-to-replace-vulnerable-tor1-protocol

    PoC Exploit สำหรับช่องโหว่ Windows NTLM Elevation of Privilege ถูกเผยแพร่แล้ว
    มีการเปิดเผยโค้ดตัวอย่างการโจมตี (PoC Exploit) ที่เจาะช่องโหว่ในระบบ NTLM ของ Windows ซึ่งสามารถนำไปสู่การยกระดับสิทธิ์การเข้าถึงได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ Channel Binding และ LDAPS โดยเนื้อหาละเอียดถูกจำกัดให้เฉพาะผู้สนับสนุนที่ลงทะเบียนเท่านั้น แต่การที่ PoC ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะถือเป็นสัญญาณเตือนว่าผู้โจมตีอาจนำไปใช้จริงได้
    https://securityonline.info/poc-exploit-releases-for-windows-ntlm-elevation-of-privilege-vulnerability

    NVIDIA ออกแพตช์ด่วนแก้ช่องโหว่ร้ายแรงใน DGX Spark เสี่ยงถูกยึดระบบ
    AI NVIDIA ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยสำหรับแพลตฟอร์ม DGX Spark ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ขนาดกะทัดรัดที่ใช้ในงานวิจัยและพัฒนา โดยมีช่องโหว่รวม 14 รายการ หนึ่งในนั้นคือ CVE-2025-33187 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.3 ช่องโหว่นี้อยู่ในส่วน SROOT ทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ระดับสูงสามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ปกป้องโดยชิป SoC และควบคุมระบบได้อย่างสมบูรณ์ หากไม่อัปเดตทันที ข้อมูลวิจัยและโมเดล AI อาจถูกขโมยหรือแก้ไขโดยไม่รู้ตัว NVIDIA แนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดต DGX Spark ไปยังเวอร์ชัน OTA0 โดยเร็วที่สุด
    https://securityonline.info/critical-patch-nvidia-dgx-spark-flaw-cve-2025-33187-cvss-9-3-exposes-ai-secrets-to-takeover

    WormGPT 4 และ KawaiiGPT: AI ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมืออาชญากรรมไซเบอร์
    รายงานจาก Unit 42 เปิดเผยว่าโมเดล AI ที่ควรใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ กลับถูกนำไปใช้สร้างภัยคุกคาม WormGPT 4 ถูกโฆษณาในฟอรั่มใต้ดินว่าเป็น “AI ที่ไร้ข้อจำกัด” สามารถสร้างมัลแวร์และสคริปต์เรียกค่าไถ่ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเขียนโน้ตข่มขู่ที่ทำให้เหยื่อหวาดกลัว ส่วน KawaiiGPT ถูกนำเสนอในรูปแบบ “Waifu pentesting” ที่ดูน่ารักแต่จริง ๆ แล้วสามารถสร้างอีเมลฟิชชิ่งและสคริปต์โจมตีได้ง่ายมาก ทั้งสองโมเดลนี้ทำให้การโจมตีไซเบอร์เข้าถึงได้แม้แต่ผู้ที่ไม่มีทักษะสูง สะท้อนถึงการ “ทำให้อาชญากรรมไซเบอร์เป็นประชาธิปไตย” ที่ใครก็สามารถโจมตีได้เพียงแค่พิมพ์คำสั่ง
    https://securityonline.info/silent-fast-brutal-how-wormgpt-4-and-kawaiigpt-democratize-cybercrime

    Anthropic เปิดตัว Opus 4.5: AI สำหรับองค์กรที่เชื่อม Excel และแชทได้ไม่สิ้นสุด
    Anthropic ได้เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ของโมเดล AI ชื่อ Opus 4.5 ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในระดับองค์กร จุดเด่นคือสามารถเชื่อมต่อกับ Excel ได้โดยตรง ทำให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างรายงานได้อย่างอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ “Infinite Chat” ที่ช่วยให้การสนทนากับ AI ต่อเนื่องได้ไม่จำกัด ไม่ต้องเริ่มใหม่ทุกครั้งที่หมด session ถือเป็นการยกระดับการใช้งาน AI ให้เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องและการจัดการข้อมูลจำนวนมาก
    https://securityonline.info/anthropic-unleashes-opus-4-5-excel-integration-infinite-chat-for-enterprise-ai

    Perplexity เปิดตัว AI Shopping พร้อม PayPal Instant Buy และค้นหาสินค้าแบบเฉพาะบุคคล
    Perplexity กำลังขยายขอบเขตการใช้งาน AI จากการค้นหาข้อมูลไปสู่การช้อปปิ้งออนไลน์ โดยเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าผ่าน PayPal ได้ทันที (Instant Buy) และยังมีระบบค้นหาสินค้าแบบ Personalized ที่ปรับตามความสนใจและพฤติกรรมของผู้ใช้ จุดนี้ทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์สะดวกขึ้นและตรงใจมากขึ้น ถือเป็นการผสมผสานระหว่าง AI และอีคอมเมิร์ซที่น่าจับตามอง
    https://securityonline.info/perplexity-launches-ai-shopping-with-paypal-instant-buy-personalized-product-search

    Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 8 Gen 5: CPU เร็วขึ้น 36% และพลัง AI เพิ่มขึ้น 46%
    Qualcomm ได้เปิดตัวชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Snapdragon 8 Gen 5 ที่มาพร้อมกับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทั้งด้านความเร็วของ CPU ที่เพิ่มขึ้น 36% และพลังการประมวลผล AI ที่มากขึ้นถึง 46% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า จุดเด่นอีกอย่างคือการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เหมาะกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่จะออกในปีหน้า ซึ่งจะรองรับการใช้งานที่หนักหน่วงทั้งเกมและงานด้าน AI ได้อย่างลื่นไหล
    https://securityonline.info/qualcomm-unveils-snapdragon-8-gen-5-36-faster-cpu-46-more-ai-power

    INE ขยายการเรียนรู้แบบ Cross-Skilling เพื่อเพิ่มทักษะหลากหลายให้ผู้เรียน
    INE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่เน้นการ Cross-Skilling หรือการเรียนรู้ทักษะข้ามสาขา เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะที่หลากหลายและนำไปใช้ในงานจริงได้มากขึ้น แนวทางนี้ตอบโจทย์ตลาดแรงงานที่ต้องการคนที่มีความสามารถหลายด้าน ไม่จำกัดอยู่แค่สายงานเดียว ถือเป็นการปรับตัวของแพลตฟอร์มการศึกษาให้เข้ากับโลกการทำงานยุคใหม่
    https://securityonline.info/ine-expands-cross-skilling-innovations

    GitLab ออกแพตช์แก้ช่องโหว่ร้ายแรง ทั้ง DoS และการขโมย Credential ใน CI/CD
    GitLab ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยล่าสุดที่แก้ไขช่องโหว่หลายรายการ ทั้งการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ที่ไม่ต้องล็อกอินก็ทำได้ และช่องโหว่ที่ทำให้ผู้ใช้ระดับต่ำสามารถขโมย Credential ของผู้ใช้ระดับสูงในระบบ CI/CD ได้ นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ด้านการ bypass authentication และการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ควรเข้าถึง GitLab แนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตไปยังเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
    https://securityonline.info/gitlab-patch-fixes-ci-cd-credential-theft-unauthenticated-dos-attacks

    Hidden Theft: ส่วนขยาย Chrome “Crypto Copilot” ดูดเงินจากกระเป๋า Solana
    เรื่องนี้เริ่มจากนักเทรดคริปโตที่อยากได้ความสะดวกในการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์ม X จึงติดตั้งส่วนขยาย Chrome ที่ชื่อว่า Crypto Copilot ซึ่งโฆษณาว่าสามารถทำให้การเทรดรวดเร็วขึ้น แต่เบื้องหลังกลับเป็นกับดักที่ซ่อนการโอนเงินไปยังกระเป๋าของแฮกเกอร์โดยอัตโนมัติ ทุกครั้งที่ผู้ใช้ทำการ swap เหรียญ ระบบจะเพิ่มคำสั่งลับที่โอนเงินส่วนหนึ่งไปยังที่อยู่กระเป๋าที่ถูกควบคุมโดยผู้โจมตี โดยที่หน้าจอผู้ใช้ไม่แสดงให้เห็นเลย ทำให้หลายคนสูญเสียเงินไปโดยไม่รู้ตัว ปัจจุบันส่วนขยายนี้ยังคงอยู่บน Chrome Web Store และนักวิจัยได้ส่งคำร้องให้ Google ลบออกแล้ว
    https://securityonline.info/hidden-theft-crypto-copilot-chrome-extension-drains-solana-wallets-on-x

    Critical Ray AI Flaw: ช่องโหว่ร้ายแรงใน Ray Framework ผ่าน Safari และ Firefox
    Ray เป็นเฟรมเวิร์กโอเพ่นซอร์สที่นักพัฒนาใช้ในการทำงานด้าน Machine Learning แต่ล่าสุดพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดอันตรายบนเครื่องของนักพัฒนาได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการตรวจสอบ User-Agent ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้เทคนิค DNS Rebinding หลอกเบราว์เซอร์ Safari และ Firefox ให้ส่งคำสั่งไปยัง Ray Dashboard ที่รันอยู่ในเครื่องของเหยื่อ ผลลัพธ์คือโค้ดอันตรายสามารถถูกประมวลผลได้ทันที ทีมงาน Ray ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 2.52.0 และแนะนำให้อัปเดตโดยด่วนเพื่อป้องกันความเสี่ยง
    https://securityonline.info/critical-ray-ai-flaw-exposes-devs-via-safari-firefox-cve-2025-62593

    Water Gamayun Weaponizes “MSC EvilTwin”: กลุ่ม APT รัสเซียใช้ช่องโหว่ Windows เจาะระบบ
    กลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเชื่อมโยงกับรัสเซียชื่อ Water Gamayun ถูกเปิดโปงว่ากำลังใช้ช่องโหว่ใหม่ใน Microsoft Management Console (MMC) ที่เรียกว่า “MSC EvilTwin” เพื่อเจาะระบบองค์กรที่มีมูลค่าสูง วิธีการคือหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วเป็น payload ที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกใช้ช่องโหว่เพื่อรัน PowerShell ลับและติดตั้งมัลแวร์ต่อเนื่อง เป้าหมายของกลุ่มนี้คือการขโมยข้อมูลเชิงกลยุทธ์และสร้างช่องทางเข้าถึงระบบอย่างยาวนาน
    https://securityonline.info/water-gamayun-weaponizes-msc-eviltwin-zero-day-for-stealthy-backdoor-attacks

    Fragging Your Data: มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Crack และ Trainer ของ Battlefield 6
    การเปิดตัวเกม Battlefield 6 กลายเป็นโอกาสทองของอาชญากรไซเบอร์ พวกเขาปล่อยไฟล์ “Crack” และ “Trainer” ปลอมบนเว็บแชร์ไฟล์และฟอรั่มใต้ดิน โดยอ้างว่าเป็นผลงานของกลุ่มแคร็กชื่อดัง แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลผู้ใช้ เช่น กระเป๋าเงินคริปโต คุกกี้เบราว์เซอร์ และโทเคน Discord บางเวอร์ชันยังซ่อนตัวเก่ง ตรวจสอบสภาพแวดล้อมก่อนทำงาน และบางตัวทำหน้าที่เป็น backdoor ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยเตือนว่าผู้เล่นที่ดาวน์โหลดไฟล์เหล่านี้ควรรีบสแกนเครื่องและเปลี่ยนรหัสผ่านทันที
    https://securityonline.info/fragging-your-data-fake-battlefield-6-cracks-trainers-spread-infostealers

    Hidden Danger in 3D: ไฟล์ Blender ปลอมแพร่กระจาย StealC V2 Infostealer
    วงการนักออกแบบ 3D และเกมถูกโจมตีด้วยวิธีใหม่ แฮกเกอร์ปล่อยไฟล์โมเดล 3D ที่ดูเหมือนงานจริง เช่น โมเดลชุดอวกาศ Apollo 11 แต่ภายในฝังสคริปต์ Python อันตราย เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ใน Blender และเปิดใช้งาน Auto Run Python Scripts มัลแวร์จะทำงานทันทีโดยไม่รู้ตัว จากนั้นจะดาวน์โหลด payload ต่อเนื่องและติดตั้ง StealC V2 ซึ่งเป็น infostealer ที่สามารถดูดข้อมูลจากเบราว์เซอร์ กระเป๋าเงินคริปโต และแอปต่าง ๆ เช่น Discord หรือ Telegram จุดอันตรายคือไฟล์เหล่านี้ตรวจจับได้ยากมากในระบบป้องกันทั่วไป ทำให้ผู้ใช้ต้องระวังเป็นพิเศษ
    https://securityonline.info/hidden-danger-in-3d-malicious-blender-files-unleash-stealc-v2-infostealer

    Zero-Day Warning: ช่องโหว่ Twonky Server เปิดทางยึดระบบสื่อ
    มีการค้นพบช่องโหว่ใหม่ใน Twonky Server ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับสตรีมสื่อในบ้านและองค์กร ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมระบบได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษ เมื่อผู้ใช้เปิดใช้งานเซิร์ฟเวอร์ที่ยังไม่ได้แพตช์ แฮกเกอร์สามารถส่งคำสั่งจากระยะไกลเพื่อเข้าถึงไฟล์สื่อและแม้กระทั่งติดตั้งมัลแวร์เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลและความเป็นส่วนตัวอย่างมาก
    https://securityonline.info/zero-day-warning-unpatched-twonky-server-flaws-expose-media-to-total-takeover

    UNMASKED: การรั่วไหลครั้งใหญ่เปิดโปงหน่วยไซเบอร์ “Department 40” ของอิหร่าน
    มีการเปิดเผยข้อมูลครั้งใหญ่ที่แสดงให้เห็นการทำงานของหน่วยไซเบอร์ลับในอิหร่านที่ชื่อว่า Department 40 ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ระดับโลก เอกสารที่รั่วไหลออกมาเผยให้เห็นโครงสร้างการทำงาน วิธีการโจมตี และเป้าหมายที่พวกเขาใช้ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือที่ซับซ้อนเพื่อเจาะระบบขององค์กรและรัฐบาลต่างประเทศ การเปิดโปงครั้งนี้ทำให้หลายประเทศเริ่มตรวจสอบและเพิ่มมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/unmasked-massive-leak-exposes-irans-department-40-cyber-terror-unit

    Angular Alert: ช่องโหว่ Protocol-Relative URLs ทำให้ XSRF Tokens รั่วไหล
    นักวิจัยพบว่าการใช้ URL แบบ protocol-relative ใน Angular สามารถทำให้โทเคน XSRF รั่วไหลไปยังโดเมนที่ไม่ปลอดภัยได้ ช่องโหว่นี้อาจถูกใช้เพื่อขโมย session และเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ปัญหานี้เกิดจากการที่เฟรมเวิร์กไม่ได้ตรวจสอบเส้นทาง URL อย่างเข้มงวดพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างลิงก์ที่ดูเหมือนปลอดภัยแต่จริง ๆ แล้วส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยแฮกเกอร์
    https://securityonline.info/angular-alert-protocol-relative-urls-leak-xsrf-tokens-cve-2025-66035

    Holiday Heist: ร้านค้าออนไลน์ปลอมกว่า 200,000 แห่งโจมตี Black Friday
    ในช่วง Black Friday มีการตรวจพบร้านค้าออนไลน์ปลอมกว่า 200,000 แห่งที่เลียนแบบ Amazon และแพลตฟอร์มช้อปปิ้งชื่อดังอื่น ๆ เว็บไซต์เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อหลอกให้ผู้ซื้อกรอกข้อมูลบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว โดยใช้ดีไซน์และโลโก้ที่เหมือนจริงมาก ผู้ใช้ที่ไม่ทันระวังอาจสูญเสียเงินและข้อมูลไปโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยเตือนว่าควรตรวจสอบ URL และรีวิวร้านค้าให้ละเอียดก่อนทำการซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลลดราคา
    https://securityonline.info/holiday-heist-200000-fake-shops-amazon-clones-target-black-friday

    Security Alert: ช่องโหว่ Stored XSS ใน Apache SkyWalking
    Apache SkyWalking ซึ่งเป็นระบบ APM ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการตรวจสอบและติดตามระบบแบบ distributed พบช่องโหว่ Stored XSS ที่อันตรายมาก เพราะโค้ดอันตรายจะถูกบันทึกถาวรในเซิร์ฟเวอร์และทำงานทุกครั้งที่ผู้ดูแลเปิดหน้า dashboard ช่องโหว่นี้สามารถถูกใช้เพื่อขโมย session cookies, redirect ผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อันตราย หรือแม้กระทั่งแก้ไขข้อมูลการแสดงผลเพื่อปกปิดกิจกรรมที่ผิดปกติ ทีมงาน Apache ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 10.3.0 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที
    https://securityonline.info/security-alert-apache-skywalking-stored-xss-vulnerability-cve-2025-54057

    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251127 #securityonline 📰 Meta ถูกกล่าวหาปกปิดข้อมูลภายในที่ชี้ว่า Facebook ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล เรื่องนี้เริ่มจากเอกสารในคดีฟ้องร้องแบบกลุ่มที่โรงเรียนหลายแห่งในสหรัฐฯ ยื่นต่อบริษัทโซเชียลมีเดีย โดยมีการเปิดเผยว่า Meta เคยทำการศึกษาในโครงการชื่อ Project Mercury ร่วมกับบริษัท Nielsen ตั้งแต่ปี 2020 ผลการวิจัยพบว่าการเลิกใช้ Facebook ช่วยลดความรู้สึกซึมเศร้า วิตกกังวล และความเหงา แต่ Meta กลับหยุดการศึกษาและไม่เผยแพร่ผลลัพธ์ โดยอ้างว่าเป็นข้อมูลที่มีอคติและถูกกระทบจากกระแสสื่อ ขณะเดียวกันมีเสียงจากนักวิจัยภายในที่เปรียบเทียบการกระทำนี้เหมือนกับอุตสาหกรรมบุหรี่ที่เคยปกปิดผลวิจัยเรื่องอันตรายของการสูบบุหรี่ ปัจจุบันคดีนี้กำลังเข้าสู่การพิจารณาในศาล และสะท้อนถึงความไม่ไว้วางใจที่รัฐบาลทั่วโลกมีต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี 🔗 https://securityonline.info/meta-accused-of-hiding-internal-data-showing-facebook-causes-depression-anxiety 🔐 Tor Project พัฒนาอัลกอริทึมเข้ารหัสใหม่ CGO แทน Tor1 ที่มีช่องโหว่ เครือข่าย Tor ที่ใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานนั้น แม้จะมีชื่อเสียงด้านการรักษาความลับ แต่ก็ไม่ปลอดภัยเสมอไป โดยโปรโตคอลเก่า Tor1 มีช่องโหว่สำคัญ เช่น การโจมตีแบบ tagging attack ที่ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถติดตามเส้นทางข้อมูลได้ อีกทั้งยังมีการใช้คีย์ AES ซ้ำและตัวตรวจสอบที่อ่อนแอ เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ Tor Project จึงพัฒนาอัลกอริทึมใหม่ชื่อ Counter Galois Onion (CGO) ที่เมื่อมีการพยายามแก้ไขข้อมูล ข้อความทั้งหมดในเส้นทางนั้นจะเสียหายทันที ทำให้การโจมตีแทบเป็นไปไม่ได้ แม้จะยังไม่มีตารางเวลาชัดเจนในการนำมาใช้กับ Tor Browser แต่ทีมงานกำลังปรับปรุงให้เหมาะกับ CPU รุ่นใหม่ 🔗 https://securityonline.info/tor-project-develops-new-cgo-encryption-to-replace-vulnerable-tor1-protocol ⚠️ PoC Exploit สำหรับช่องโหว่ Windows NTLM Elevation of Privilege ถูกเผยแพร่แล้ว มีการเปิดเผยโค้ดตัวอย่างการโจมตี (PoC Exploit) ที่เจาะช่องโหว่ในระบบ NTLM ของ Windows ซึ่งสามารถนำไปสู่การยกระดับสิทธิ์การเข้าถึงได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบ Channel Binding และ LDAPS โดยเนื้อหาละเอียดถูกจำกัดให้เฉพาะผู้สนับสนุนที่ลงทะเบียนเท่านั้น แต่การที่ PoC ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะถือเป็นสัญญาณเตือนว่าผู้โจมตีอาจนำไปใช้จริงได้ 🔗 https://securityonline.info/poc-exploit-releases-for-windows-ntlm-elevation-of-privilege-vulnerability 💻 NVIDIA ออกแพตช์ด่วนแก้ช่องโหว่ร้ายแรงใน DGX Spark เสี่ยงถูกยึดระบบ AI NVIDIA ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยสำหรับแพลตฟอร์ม DGX Spark ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ขนาดกะทัดรัดที่ใช้ในงานวิจัยและพัฒนา โดยมีช่องโหว่รวม 14 รายการ หนึ่งในนั้นคือ CVE-2025-33187 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.3 ช่องโหว่นี้อยู่ในส่วน SROOT ทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ระดับสูงสามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ปกป้องโดยชิป SoC และควบคุมระบบได้อย่างสมบูรณ์ หากไม่อัปเดตทันที ข้อมูลวิจัยและโมเดล AI อาจถูกขโมยหรือแก้ไขโดยไม่รู้ตัว NVIDIA แนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดต DGX Spark ไปยังเวอร์ชัน OTA0 โดยเร็วที่สุด 🔗 https://securityonline.info/critical-patch-nvidia-dgx-spark-flaw-cve-2025-33187-cvss-9-3-exposes-ai-secrets-to-takeover 🕵️‍♂️ WormGPT 4 และ KawaiiGPT: AI ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมืออาชญากรรมไซเบอร์ รายงานจาก Unit 42 เปิดเผยว่าโมเดล AI ที่ควรใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ กลับถูกนำไปใช้สร้างภัยคุกคาม WormGPT 4 ถูกโฆษณาในฟอรั่มใต้ดินว่าเป็น “AI ที่ไร้ข้อจำกัด” สามารถสร้างมัลแวร์และสคริปต์เรียกค่าไถ่ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเขียนโน้ตข่มขู่ที่ทำให้เหยื่อหวาดกลัว ส่วน KawaiiGPT ถูกนำเสนอในรูปแบบ “Waifu pentesting” ที่ดูน่ารักแต่จริง ๆ แล้วสามารถสร้างอีเมลฟิชชิ่งและสคริปต์โจมตีได้ง่ายมาก ทั้งสองโมเดลนี้ทำให้การโจมตีไซเบอร์เข้าถึงได้แม้แต่ผู้ที่ไม่มีทักษะสูง สะท้อนถึงการ “ทำให้อาชญากรรมไซเบอร์เป็นประชาธิปไตย” ที่ใครก็สามารถโจมตีได้เพียงแค่พิมพ์คำสั่ง 🔗 https://securityonline.info/silent-fast-brutal-how-wormgpt-4-and-kawaiigpt-democratize-cybercrime 📊 Anthropic เปิดตัว Opus 4.5: AI สำหรับองค์กรที่เชื่อม Excel และแชทได้ไม่สิ้นสุด Anthropic ได้เปิดตัวเวอร์ชันใหม่ของโมเดล AI ชื่อ Opus 4.5 ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในระดับองค์กร จุดเด่นคือสามารถเชื่อมต่อกับ Excel ได้โดยตรง ทำให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างรายงานได้อย่างอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ “Infinite Chat” ที่ช่วยให้การสนทนากับ AI ต่อเนื่องได้ไม่จำกัด ไม่ต้องเริ่มใหม่ทุกครั้งที่หมด session ถือเป็นการยกระดับการใช้งาน AI ให้เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการความต่อเนื่องและการจัดการข้อมูลจำนวนมาก 🔗 https://securityonline.info/anthropic-unleashes-opus-4-5-excel-integration-infinite-chat-for-enterprise-ai 🛒 Perplexity เปิดตัว AI Shopping พร้อม PayPal Instant Buy และค้นหาสินค้าแบบเฉพาะบุคคล Perplexity กำลังขยายขอบเขตการใช้งาน AI จากการค้นหาข้อมูลไปสู่การช้อปปิ้งออนไลน์ โดยเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าผ่าน PayPal ได้ทันที (Instant Buy) และยังมีระบบค้นหาสินค้าแบบ Personalized ที่ปรับตามความสนใจและพฤติกรรมของผู้ใช้ จุดนี้ทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์สะดวกขึ้นและตรงใจมากขึ้น ถือเป็นการผสมผสานระหว่าง AI และอีคอมเมิร์ซที่น่าจับตามอง 🔗 https://securityonline.info/perplexity-launches-ai-shopping-with-paypal-instant-buy-personalized-product-search ⚡ Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 8 Gen 5: CPU เร็วขึ้น 36% และพลัง AI เพิ่มขึ้น 46% Qualcomm ได้เปิดตัวชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Snapdragon 8 Gen 5 ที่มาพร้อมกับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทั้งด้านความเร็วของ CPU ที่เพิ่มขึ้น 36% และพลังการประมวลผล AI ที่มากขึ้นถึง 46% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า จุดเด่นอีกอย่างคือการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เหมาะกับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่จะออกในปีหน้า ซึ่งจะรองรับการใช้งานที่หนักหน่วงทั้งเกมและงานด้าน AI ได้อย่างลื่นไหล 🔗 https://securityonline.info/qualcomm-unveils-snapdragon-8-gen-5-36-faster-cpu-46-more-ai-power 🎓 INE ขยายการเรียนรู้แบบ Cross-Skilling เพื่อเพิ่มทักษะหลากหลายให้ผู้เรียน INE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่เน้นการ Cross-Skilling หรือการเรียนรู้ทักษะข้ามสาขา เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาทักษะที่หลากหลายและนำไปใช้ในงานจริงได้มากขึ้น แนวทางนี้ตอบโจทย์ตลาดแรงงานที่ต้องการคนที่มีความสามารถหลายด้าน ไม่จำกัดอยู่แค่สายงานเดียว ถือเป็นการปรับตัวของแพลตฟอร์มการศึกษาให้เข้ากับโลกการทำงานยุคใหม่ 🔗 https://securityonline.info/ine-expands-cross-skilling-innovations 🛡️ GitLab ออกแพตช์แก้ช่องโหว่ร้ายแรง ทั้ง DoS และการขโมย Credential ใน CI/CD GitLab ได้ปล่อยอัปเดตความปลอดภัยล่าสุดที่แก้ไขช่องโหว่หลายรายการ ทั้งการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ที่ไม่ต้องล็อกอินก็ทำได้ และช่องโหว่ที่ทำให้ผู้ใช้ระดับต่ำสามารถขโมย Credential ของผู้ใช้ระดับสูงในระบบ CI/CD ได้ นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ด้านการ bypass authentication และการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่ควรเข้าถึง GitLab แนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตไปยังเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น 🔗 https://securityonline.info/gitlab-patch-fixes-ci-cd-credential-theft-unauthenticated-dos-attacks 🕵️‍♂️ Hidden Theft: ส่วนขยาย Chrome “Crypto Copilot” ดูดเงินจากกระเป๋า Solana เรื่องนี้เริ่มจากนักเทรดคริปโตที่อยากได้ความสะดวกในการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์ม X จึงติดตั้งส่วนขยาย Chrome ที่ชื่อว่า Crypto Copilot ซึ่งโฆษณาว่าสามารถทำให้การเทรดรวดเร็วขึ้น แต่เบื้องหลังกลับเป็นกับดักที่ซ่อนการโอนเงินไปยังกระเป๋าของแฮกเกอร์โดยอัตโนมัติ ทุกครั้งที่ผู้ใช้ทำการ swap เหรียญ ระบบจะเพิ่มคำสั่งลับที่โอนเงินส่วนหนึ่งไปยังที่อยู่กระเป๋าที่ถูกควบคุมโดยผู้โจมตี โดยที่หน้าจอผู้ใช้ไม่แสดงให้เห็นเลย ทำให้หลายคนสูญเสียเงินไปโดยไม่รู้ตัว ปัจจุบันส่วนขยายนี้ยังคงอยู่บน Chrome Web Store และนักวิจัยได้ส่งคำร้องให้ Google ลบออกแล้ว 🔗 https://securityonline.info/hidden-theft-crypto-copilot-chrome-extension-drains-solana-wallets-on-x 💻 Critical Ray AI Flaw: ช่องโหว่ร้ายแรงใน Ray Framework ผ่าน Safari และ Firefox Ray เป็นเฟรมเวิร์กโอเพ่นซอร์สที่นักพัฒนาใช้ในการทำงานด้าน Machine Learning แต่ล่าสุดพบช่องโหว่ร้ายแรงที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดอันตรายบนเครื่องของนักพัฒนาได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการตรวจสอบ User-Agent ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้เทคนิค DNS Rebinding หลอกเบราว์เซอร์ Safari และ Firefox ให้ส่งคำสั่งไปยัง Ray Dashboard ที่รันอยู่ในเครื่องของเหยื่อ ผลลัพธ์คือโค้ดอันตรายสามารถถูกประมวลผลได้ทันที ทีมงาน Ray ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 2.52.0 และแนะนำให้อัปเดตโดยด่วนเพื่อป้องกันความเสี่ยง 🔗 https://securityonline.info/critical-ray-ai-flaw-exposes-devs-via-safari-firefox-cve-2025-62593 🎯 Water Gamayun Weaponizes “MSC EvilTwin”: กลุ่ม APT รัสเซียใช้ช่องโหว่ Windows เจาะระบบ กลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเชื่อมโยงกับรัสเซียชื่อ Water Gamayun ถูกเปิดโปงว่ากำลังใช้ช่องโหว่ใหม่ใน Microsoft Management Console (MMC) ที่เรียกว่า “MSC EvilTwin” เพื่อเจาะระบบองค์กรที่มีมูลค่าสูง วิธีการคือหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทั่วไป แต่จริง ๆ แล้วเป็น payload ที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกใช้ช่องโหว่เพื่อรัน PowerShell ลับและติดตั้งมัลแวร์ต่อเนื่อง เป้าหมายของกลุ่มนี้คือการขโมยข้อมูลเชิงกลยุทธ์และสร้างช่องทางเข้าถึงระบบอย่างยาวนาน 🔗 https://securityonline.info/water-gamayun-weaponizes-msc-eviltwin-zero-day-for-stealthy-backdoor-attacks 🎮 Fragging Your Data: มัลแวร์ปลอมตัวเป็น Crack และ Trainer ของ Battlefield 6 การเปิดตัวเกม Battlefield 6 กลายเป็นโอกาสทองของอาชญากรไซเบอร์ พวกเขาปล่อยไฟล์ “Crack” และ “Trainer” ปลอมบนเว็บแชร์ไฟล์และฟอรั่มใต้ดิน โดยอ้างว่าเป็นผลงานของกลุ่มแคร็กชื่อดัง แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลผู้ใช้ เช่น กระเป๋าเงินคริปโต คุกกี้เบราว์เซอร์ และโทเคน Discord บางเวอร์ชันยังซ่อนตัวเก่ง ตรวจสอบสภาพแวดล้อมก่อนทำงาน และบางตัวทำหน้าที่เป็น backdoor ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ นักวิจัยเตือนว่าผู้เล่นที่ดาวน์โหลดไฟล์เหล่านี้ควรรีบสแกนเครื่องและเปลี่ยนรหัสผ่านทันที 🔗 https://securityonline.info/fragging-your-data-fake-battlefield-6-cracks-trainers-spread-infostealers 🎨 Hidden Danger in 3D: ไฟล์ Blender ปลอมแพร่กระจาย StealC V2 Infostealer วงการนักออกแบบ 3D และเกมถูกโจมตีด้วยวิธีใหม่ แฮกเกอร์ปล่อยไฟล์โมเดล 3D ที่ดูเหมือนงานจริง เช่น โมเดลชุดอวกาศ Apollo 11 แต่ภายในฝังสคริปต์ Python อันตราย เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ใน Blender และเปิดใช้งาน Auto Run Python Scripts มัลแวร์จะทำงานทันทีโดยไม่รู้ตัว จากนั้นจะดาวน์โหลด payload ต่อเนื่องและติดตั้ง StealC V2 ซึ่งเป็น infostealer ที่สามารถดูดข้อมูลจากเบราว์เซอร์ กระเป๋าเงินคริปโต และแอปต่าง ๆ เช่น Discord หรือ Telegram จุดอันตรายคือไฟล์เหล่านี้ตรวจจับได้ยากมากในระบบป้องกันทั่วไป ทำให้ผู้ใช้ต้องระวังเป็นพิเศษ 🔗 https://securityonline.info/hidden-danger-in-3d-malicious-blender-files-unleash-stealc-v2-infostealer 📺 Zero-Day Warning: ช่องโหว่ Twonky Server เปิดทางยึดระบบสื่อ มีการค้นพบช่องโหว่ใหม่ใน Twonky Server ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้สำหรับสตรีมสื่อในบ้านและองค์กร ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมระบบได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องมีสิทธิ์พิเศษ เมื่อผู้ใช้เปิดใช้งานเซิร์ฟเวอร์ที่ยังไม่ได้แพตช์ แฮกเกอร์สามารถส่งคำสั่งจากระยะไกลเพื่อเข้าถึงไฟล์สื่อและแม้กระทั่งติดตั้งมัลแวร์เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลและความเป็นส่วนตัวอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/zero-day-warning-unpatched-twonky-server-flaws-expose-media-to-total-takeover 🕶️ UNMASKED: การรั่วไหลครั้งใหญ่เปิดโปงหน่วยไซเบอร์ “Department 40” ของอิหร่าน มีการเปิดเผยข้อมูลครั้งใหญ่ที่แสดงให้เห็นการทำงานของหน่วยไซเบอร์ลับในอิหร่านที่ชื่อว่า Department 40 ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ระดับโลก เอกสารที่รั่วไหลออกมาเผยให้เห็นโครงสร้างการทำงาน วิธีการโจมตี และเป้าหมายที่พวกเขาใช้ รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือที่ซับซ้อนเพื่อเจาะระบบขององค์กรและรัฐบาลต่างประเทศ การเปิดโปงครั้งนี้ทำให้หลายประเทศเริ่มตรวจสอบและเพิ่มมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/unmasked-massive-leak-exposes-irans-department-40-cyber-terror-unit ⚠️ Angular Alert: ช่องโหว่ Protocol-Relative URLs ทำให้ XSRF Tokens รั่วไหล นักวิจัยพบว่าการใช้ URL แบบ protocol-relative ใน Angular สามารถทำให้โทเคน XSRF รั่วไหลไปยังโดเมนที่ไม่ปลอดภัยได้ ช่องโหว่นี้อาจถูกใช้เพื่อขโมย session และเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ปัญหานี้เกิดจากการที่เฟรมเวิร์กไม่ได้ตรวจสอบเส้นทาง URL อย่างเข้มงวดพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างลิงก์ที่ดูเหมือนปลอดภัยแต่จริง ๆ แล้วส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยแฮกเกอร์ 🔗 https://securityonline.info/angular-alert-protocol-relative-urls-leak-xsrf-tokens-cve-2025-66035 🛍️ Holiday Heist: ร้านค้าออนไลน์ปลอมกว่า 200,000 แห่งโจมตี Black Friday ในช่วง Black Friday มีการตรวจพบร้านค้าออนไลน์ปลอมกว่า 200,000 แห่งที่เลียนแบบ Amazon และแพลตฟอร์มช้อปปิ้งชื่อดังอื่น ๆ เว็บไซต์เหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อหลอกให้ผู้ซื้อกรอกข้อมูลบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว โดยใช้ดีไซน์และโลโก้ที่เหมือนจริงมาก ผู้ใช้ที่ไม่ทันระวังอาจสูญเสียเงินและข้อมูลไปโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยเตือนว่าควรตรวจสอบ URL และรีวิวร้านค้าให้ละเอียดก่อนทำการซื้อสินค้าในช่วงเทศกาลลดราคา 🔗 https://securityonline.info/holiday-heist-200000-fake-shops-amazon-clones-target-black-friday 🛡️ Security Alert: ช่องโหว่ Stored XSS ใน Apache SkyWalking Apache SkyWalking ซึ่งเป็นระบบ APM ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการตรวจสอบและติดตามระบบแบบ distributed พบช่องโหว่ Stored XSS ที่อันตรายมาก เพราะโค้ดอันตรายจะถูกบันทึกถาวรในเซิร์ฟเวอร์และทำงานทุกครั้งที่ผู้ดูแลเปิดหน้า dashboard ช่องโหว่นี้สามารถถูกใช้เพื่อขโมย session cookies, redirect ผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อันตราย หรือแม้กระทั่งแก้ไขข้อมูลการแสดงผลเพื่อปกปิดกิจกรรมที่ผิดปกติ ทีมงาน Apache ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 10.3.0 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที 🔗 https://securityonline.info/security-alert-apache-skywalking-stored-xss-vulnerability-cve-2025-54057
    0 Comments 0 Shares 795 Views 0 Reviews
  • Genesis Mission: โครงการ AI ระดับชาติ

    รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศโครงการ Genesis Mission เพื่อเร่งพัฒนา AI โดยเปรียบเทียบขอบเขตกับโครงการ Manhattan Project สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป้าหมายคือทำให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำโลกด้าน AI ทั้งในวิทยาศาสตร์ ความมั่นคง และพลังงาน.

    เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2025 ทำเนียบขาวได้ออกคำสั่งบริหารใหม่เพื่อเริ่มต้น Genesis Mission โดยมี Department of Energy (DoE) เป็นผู้ดำเนินการหลัก โครงการนี้ถูกวางให้เป็นความพยายามระดับชาติในการสร้างแพลตฟอร์ม AI ที่สามารถใช้ข้อมูลวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลกลางเพื่อแก้ปัญหาทางเทคโนโลยีอย่างน้อย 20 ด้าน เช่น วัสดุศาสตร์ พลังงานนิวเคลียร์ ฟิวชัน ควอนตัม และเซมิคอนดักเตอร์.

    เป้าหมายและความร่วมมือ
    โครงการจะใช้ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของห้องทดลองแห่งชาติ และร่วมมือกับบริษัทเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญด้าน AI และฮาร์ดแวร์ เช่น Nvidia, AMD, HP และ Dell เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ข้อมูลที่ใช้จะรวมทั้ง ชุดข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ ข้อมูลที่รัฐบาลจัดทำ และข้อมูลสังเคราะห์ โดยมีการเน้นเรื่อง การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาและการติดตามแหล่งที่มา เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์จากการทดลอง AI จะถูกควบคุมอย่างเหมาะสม.

    ผลกระทบต่อพลังงานและความมั่นคง
    หนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือการใช้ AI เพื่อ ปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้า ลดต้นทุนพลังงาน และเร่งการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์และฟิวชัน ซึ่งอาจช่วยแก้ปัญหาความต้องการพลังงานมหาศาลจากการเติบโตของ AI เอง นอกจากนี้ยังมีการเน้นเรื่อง ความมั่นคงทางไซเบอร์ เนื่องจากจีนถูกมองว่าเป็นคู่แข่งหลักในสงคราม AI และการผลิตชิป.

    ความท้าทายและข้อกังวล
    แม้ Genesis Mission จะถูกเปรียบเทียบกับ Manhattan Project แต่ก็มีข้อกังวลเรื่อง งบประมาณและทรัพยากร ที่ยังไม่ชัดเจน รวมถึงความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและการใช้พลังงานมหาศาล นักวิจารณ์บางส่วนชี้ว่าโครงการอาจเป็นการผลักดันบริษัทเอกชนมากกว่าการสร้างนวัตกรรมใหม่จริงๆ และยังไม่แน่ว่าจะสามารถแข่งขันกับบริษัท AI ชั้นนำอย่าง OpenAI หรือ Google ได้ในเชิงคุณภาพ.

    สรุปสาระสำคัญ
    Genesis Mission คือโครงการ AI ระดับชาติ
    เปรียบเทียบกับ Manhattan Project, ดำเนินการโดย DoE

    เป้าหมายหลัก
    ใช้ AI แก้ปัญหาทางเทคโนโลยี 20 ด้าน เช่น พลังงาน ควอนตัม และเซมิคอนดักเตอร์

    ความร่วมมือกับเอกชน
    Nvidia, AMD, HP, Dell เข้าร่วมสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI

    ผลกระทบต่อพลังงานและความมั่นคง
    ปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้า, เร่งพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์, เน้นความมั่นคงไซเบอร์

    ข้อกังวลสำคัญ
    งบประมาณยังไม่ชัดเจน, ใช้พลังงานมหาศาล, อาจเป็นการผลักดันบริษัทเอกชนมากกว่านวัตกรรมจริง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/trump-administration-touts-genesis-mission-to-try-and-win-the-ai-race-white-house-compares-scope-of-its-initiative-to-the-manhattan-project
    🚀 Genesis Mission: โครงการ AI ระดับชาติ รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศโครงการ Genesis Mission เพื่อเร่งพัฒนา AI โดยเปรียบเทียบขอบเขตกับโครงการ Manhattan Project สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป้าหมายคือทำให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำโลกด้าน AI ทั้งในวิทยาศาสตร์ ความมั่นคง และพลังงาน. เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2025 ทำเนียบขาวได้ออกคำสั่งบริหารใหม่เพื่อเริ่มต้น Genesis Mission โดยมี Department of Energy (DoE) เป็นผู้ดำเนินการหลัก โครงการนี้ถูกวางให้เป็นความพยายามระดับชาติในการสร้างแพลตฟอร์ม AI ที่สามารถใช้ข้อมูลวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลกลางเพื่อแก้ปัญหาทางเทคโนโลยีอย่างน้อย 20 ด้าน เช่น วัสดุศาสตร์ พลังงานนิวเคลียร์ ฟิวชัน ควอนตัม และเซมิคอนดักเตอร์. ⚡ เป้าหมายและความร่วมมือ โครงการจะใช้ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของห้องทดลองแห่งชาติ และร่วมมือกับบริษัทเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญด้าน AI และฮาร์ดแวร์ เช่น Nvidia, AMD, HP และ Dell เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ข้อมูลที่ใช้จะรวมทั้ง ชุดข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ ข้อมูลที่รัฐบาลจัดทำ และข้อมูลสังเคราะห์ โดยมีการเน้นเรื่อง การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาและการติดตามแหล่งที่มา เพื่อให้มั่นใจว่าผลลัพธ์จากการทดลอง AI จะถูกควบคุมอย่างเหมาะสม. 🌍 ผลกระทบต่อพลังงานและความมั่นคง หนึ่งในเป้าหมายสำคัญคือการใช้ AI เพื่อ ปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้า ลดต้นทุนพลังงาน และเร่งการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์และฟิวชัน ซึ่งอาจช่วยแก้ปัญหาความต้องการพลังงานมหาศาลจากการเติบโตของ AI เอง นอกจากนี้ยังมีการเน้นเรื่อง ความมั่นคงทางไซเบอร์ เนื่องจากจีนถูกมองว่าเป็นคู่แข่งหลักในสงคราม AI และการผลิตชิป. 🛡️ ความท้าทายและข้อกังวล แม้ Genesis Mission จะถูกเปรียบเทียบกับ Manhattan Project แต่ก็มีข้อกังวลเรื่อง งบประมาณและทรัพยากร ที่ยังไม่ชัดเจน รวมถึงความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและการใช้พลังงานมหาศาล นักวิจารณ์บางส่วนชี้ว่าโครงการอาจเป็นการผลักดันบริษัทเอกชนมากกว่าการสร้างนวัตกรรมใหม่จริงๆ และยังไม่แน่ว่าจะสามารถแข่งขันกับบริษัท AI ชั้นนำอย่าง OpenAI หรือ Google ได้ในเชิงคุณภาพ. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Genesis Mission คือโครงการ AI ระดับชาติ ➡️ เปรียบเทียบกับ Manhattan Project, ดำเนินการโดย DoE ✅ เป้าหมายหลัก ➡️ ใช้ AI แก้ปัญหาทางเทคโนโลยี 20 ด้าน เช่น พลังงาน ควอนตัม และเซมิคอนดักเตอร์ ✅ ความร่วมมือกับเอกชน ➡️ Nvidia, AMD, HP, Dell เข้าร่วมสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ✅ ผลกระทบต่อพลังงานและความมั่นคง ➡️ ปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้า, เร่งพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์, เน้นความมั่นคงไซเบอร์ ‼️ ข้อกังวลสำคัญ ⛔ งบประมาณยังไม่ชัดเจน, ใช้พลังงานมหาศาล, อาจเป็นการผลักดันบริษัทเอกชนมากกว่านวัตกรรมจริง https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/trump-administration-touts-genesis-mission-to-try-and-win-the-ai-race-white-house-compares-scope-of-its-initiative-to-the-manhattan-project
    0 Comments 0 Shares 349 Views 0 Reviews
  • นวัตกรรมใหม่: ยาหยอดจมูกสู้มะเร็งสมอง

    นักวิจัยจาก Washington University และ Northwestern University ได้พัฒนาวิธีการส่งยาผ่านจมูกเข้าสู่สมอง โดยใช้โครงสร้างนาโนที่เรียกว่า Spherical Nucleic Acids (SNA) ห่อหุ้มสารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน STING pathway เพื่อให้คงตัวได้นานขึ้นและเดินทางไปยังสมองได้อย่างปลอดภัย ผลการทดลองในหนูพบว่าสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก Glioblastoma ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมาย
    เมื่อยาหยอดจมูกถูกใช้ร่วมกับยาที่ช่วยกระตุ้นเซลล์ T-lymphocytes นักวิจัยพบว่าสามารถกำจัดเนื้องอกได้แทบหมดสิ้น และยังสร้างภูมิคุ้มกันระยะยาวต่อการกลับมาใหม่ของมะเร็ง นี่ถือเป็นการเปลี่ยน “Cold Tumor” ที่ไม่ตอบสนองต่อภูมิคุ้มกัน ให้กลายเป็น “Hot Tumor” ที่ระบบภูมิคุ้มกันสามารถจัดการได้ง่ายขึ้น

    ความท้าทายและข้อควรระวัง
    แม้ผลการทดลองในสัตว์จะน่าตื่นเต้น แต่นักวิจัยเตือนว่ายังต้องใช้เวลาอีกมากก่อนจะเข้าสู่การทดลองในมนุษย์ เนื่องจาก Glioblastoma เป็นมะเร็งที่ซับซ้อนและสามารถหลบเลี่ยงการตอบสนองของภูมิคุ้มกันได้หลายวิธี การรักษาอาจต้องใช้การผสมผสานหลายแนวทางเพื่อให้ได้ผลจริงในคนไข้

    ความหวังใหม่ในวงการแพทย์
    นวัตกรรมนี้สะท้อนถึงความก้าวหน้าของ Immunotherapy ที่กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าการรักษามะเร็งสมอง จากเดิมที่ต้องพึ่งการผ่าตัดและเคมีบำบัดที่รุกรานร่างกาย สู่การรักษาแบบไม่เจ็บปวดและอาจมีผลข้างเคียงน้อยลง หากประสบความสำเร็จในมนุษย์ จะเป็นการเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของการรักษามะเร็งที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

    สรุปสาระสำคัญ
    นวัตกรรมยาหยอดจมูก
    ใช้โครงสร้างนาโน SNA ห่อหุ้มสารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
    เดินทางจากโพรงจมูกเข้าสู่สมองโดยตรง

    ผลการทดลองในสัตว์
    ยับยั้งการเจริญเติบโตของ Glioblastoma ได้
    สร้างภูมิคุ้มกันระยะยาวต่อการกลับมาใหม่ของเนื้องอก

    ศักยภาพของการรักษา
    เปลี่ยน “Cold Tumor” ให้ตอบสนองต่อภูมิคุ้มกัน
    ลดความจำเป็นในการผ่าตัดหรือการรักษาที่รุกราน

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    ยังอยู่ในขั้นทดลองกับสัตว์ ไม่พร้อมใช้กับมนุษย์
    Glioblastoma มีความซับซ้อน อาจต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน
    ต้องพัฒนาเรื่องความเสถียรและการควบคุมปริมาณยาให้แม่นยำ

    https://www.sciencealert.com/nasal-drops-could-help-fight-a-common-and-deadly-brain-cancer
    🧪 นวัตกรรมใหม่: ยาหยอดจมูกสู้มะเร็งสมอง นักวิจัยจาก Washington University และ Northwestern University ได้พัฒนาวิธีการส่งยาผ่านจมูกเข้าสู่สมอง โดยใช้โครงสร้างนาโนที่เรียกว่า Spherical Nucleic Acids (SNA) ห่อหุ้มสารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน STING pathway เพื่อให้คงตัวได้นานขึ้นและเดินทางไปยังสมองได้อย่างปลอดภัย ผลการทดลองในหนูพบว่าสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก Glioblastoma ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🌟 ผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมาย เมื่อยาหยอดจมูกถูกใช้ร่วมกับยาที่ช่วยกระตุ้นเซลล์ T-lymphocytes นักวิจัยพบว่าสามารถกำจัดเนื้องอกได้แทบหมดสิ้น และยังสร้างภูมิคุ้มกันระยะยาวต่อการกลับมาใหม่ของมะเร็ง นี่ถือเป็นการเปลี่ยน “Cold Tumor” ที่ไม่ตอบสนองต่อภูมิคุ้มกัน ให้กลายเป็น “Hot Tumor” ที่ระบบภูมิคุ้มกันสามารถจัดการได้ง่ายขึ้น ⚠️ ความท้าทายและข้อควรระวัง แม้ผลการทดลองในสัตว์จะน่าตื่นเต้น แต่นักวิจัยเตือนว่ายังต้องใช้เวลาอีกมากก่อนจะเข้าสู่การทดลองในมนุษย์ เนื่องจาก Glioblastoma เป็นมะเร็งที่ซับซ้อนและสามารถหลบเลี่ยงการตอบสนองของภูมิคุ้มกันได้หลายวิธี การรักษาอาจต้องใช้การผสมผสานหลายแนวทางเพื่อให้ได้ผลจริงในคนไข้ 🌍 ความหวังใหม่ในวงการแพทย์ นวัตกรรมนี้สะท้อนถึงความก้าวหน้าของ Immunotherapy ที่กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าการรักษามะเร็งสมอง จากเดิมที่ต้องพึ่งการผ่าตัดและเคมีบำบัดที่รุกรานร่างกาย สู่การรักษาแบบไม่เจ็บปวดและอาจมีผลข้างเคียงน้อยลง หากประสบความสำเร็จในมนุษย์ จะเป็นการเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของการรักษามะเร็งที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ นวัตกรรมยาหยอดจมูก ➡️ ใช้โครงสร้างนาโน SNA ห่อหุ้มสารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ➡️ เดินทางจากโพรงจมูกเข้าสู่สมองโดยตรง ✅ ผลการทดลองในสัตว์ ➡️ ยับยั้งการเจริญเติบโตของ Glioblastoma ได้ ➡️ สร้างภูมิคุ้มกันระยะยาวต่อการกลับมาใหม่ของเนื้องอก ✅ ศักยภาพของการรักษา ➡️ เปลี่ยน “Cold Tumor” ให้ตอบสนองต่อภูมิคุ้มกัน ➡️ ลดความจำเป็นในการผ่าตัดหรือการรักษาที่รุกราน ‼️ ข้อควรระวังและความท้าทาย ⛔ ยังอยู่ในขั้นทดลองกับสัตว์ ไม่พร้อมใช้กับมนุษย์ ⛔ Glioblastoma มีความซับซ้อน อาจต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน ⛔ ต้องพัฒนาเรื่องความเสถียรและการควบคุมปริมาณยาให้แม่นยำ https://www.sciencealert.com/nasal-drops-could-help-fight-a-common-and-deadly-brain-cancer
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Nasal Drops Could Help Fight a Common And Deadly Brain Cancer
    Researchers have developed nasal drops that travel along the nerves of the nose into the central nervous system to fight the deadliest brain cancer.
    0 Comments 0 Shares 294 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251126 #TechRadar

    Amazon ทุ่มงบ 50 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างระบบ AI และ HPC สำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ
    เรื่องนี้เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของ Amazon ที่ต้องการยกระดับศักยภาพด้านการประมวลผลให้กับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ โดยจะเน้นไปที่งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ความมั่นคงไซเบอร์ พลังงาน และการแพทย์ การลงทุนนี้จะเพิ่มกำลังการประมวลผลกว่า 1.3 กิกะวัตต์ในระบบคลาวด์ของรัฐบาล ทำให้สามารถทำงานจำลองและวิเคราะห์ข้อมูลได้เร็วขึ้นมาก AWS CEO กล่าวว่านี่คือการเปิดทางให้หน่วยงานรัฐเข้าถึง AI ขั้นสูงเพื่อเร่งภารกิจสำคัญของประเทศ
    https://www.techradar.com/pro/talk-about-an-upgrade-amazon-is-spending-usd50-billion-on-new-ai-and-hpc-hardware-for-the-us-government

    ข่าวลือราคา iPhone พับได้ อาจสูงถึง $2,399 ทำให้ iPad Mini 8 ดูคุ้มกว่า
    มีรายงานจาก Fubon Research ว่า iPhone รุ่นพับได้ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 อาจมีราคาสูงถึง $2,399 ซึ่งถือว่าแพงกว่าที่หลายคนคาดไว้ แม้จะมีข่าวดีว่าหน้าจออาจไร้รอยพับ แต่ราคาที่สูงขนาดนี้ทำให้หลายคนมองว่าซื้อ iPhone รุ่นปกติพร้อม iPad Mini 8 อาจจะคุ้มกว่า เพราะได้สองหน้าจอในราคาที่ใกล้เคียงกัน การเปิดตัวคาดว่าจะใช้ชื่อ “iPhone Fold” และอยู่ในขั้นตอนการทดสอบก่อนผลิตจริง
    https://www.techradar.com/phones/iphone/if-the-latest-foldable-iphone-price-rumor-is-correct-the-ipad-mini-8-will-be-the-only-sensible-choice

    ช่องโหว่ที่ซ่อนอยู่ในระบบ Cloud Security
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการใช้ระบบคลาวด์หลายเจ้า (multicloud) และการนำ AI หรือ container มาใช้งาน ทำให้เกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่องค์กรอาจมองไม่เห็น โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายข้อมูลภายใน (east-west traffic) และการส่งข้อมูลออกไปภายนอก (egress traffic) ที่มักไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนวคิดใหม่ “Cloud Native Security Fabric” ที่ฝังระบบรักษาความปลอดภัยเข้าไปในโครงสร้างเครือข่ายโดยตรง เพื่อให้สามารถปรับตัวได้ตามการเปลี่ยนแปลงของ workload แบบเรียลไทม์
    https://www.techradar.com/pro/the-hidden-gaps-in-your-cloud-security-fabric

    Gemini 3 กับ Nano Banana Pro: AI ที่เปลี่ยนการแต่งภาพให้เหมือนงานศิลป์
    Google เปิดตัวเครื่องมือแก้ไขภาพด้วย AI ที่ชื่อ Nano Banana Pro ซึ่งใช้พลังจาก Gemini 3 จุดเด่นคือสามารถปรับแสงเหมือนเปลี่ยนบรรยากาศจริง เช่น จากภาพธรรมดาให้กลายเป็นช่วง golden hour หรือเปลี่ยนฉากหลังโดยไม่ทำให้ตัวแบบดูหลุดออกจากภาพ นอกจากนี้ยังสามารถย้ายวัตถุหรือปรับโครงสร้างภาพได้อย่างสมจริง ทำให้การแก้ไขภาพซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่บอกคำสั่งเหมือนเล่าให้คนเข้าใจ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/gemini-3s-nano-banana-pro-photo-editing-is-amazing-here-are-3-ways-to-make-the-most-of-it

    สิ้นสุดการสนับสนุน vSphere 7: Broadcom ปรับโมเดลราคาใหม่จนลูกค้าหนักใจ
    หลังจาก Broadcom เข้าซื้อ VMware ด้วยมูลค่า 61 พันล้านดอลลาร์ ก็มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ ทั้งการยกเลิกการขายแบบ perpetual license และเปลี่ยนเป็น subscription bundles ทำให้ต้นทุนของลูกค้าเพิ่มขึ้นหลายเท่า การสิ้นสุดการสนับสนุน vSphere 7 ในเดือนตุลาคม 2025 ยิ่งสร้างแรงกดดันให้ธุรกิจต้องหาทางเลือกใหม่ หลายองค์กรเริ่มมองหาผู้ให้บริการรายอื่นหรือใช้ third-party support เพื่อคงระบบเดิมไว้โดยไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายสูงตามโมเดลใหม่
    https://www.techradar.com/pro/vsphere-7-support-ends-the-challenges-of-broadcoms-new-licensing-and-pricing-models

    Linux OS มียอดดาวน์โหลดทะลุหนึ่งล้านครั้งหลัง Windows 10 หมดการสนับสนุน
    หลังจาก Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากหันไปหา Linux OS ทางเลือกใหม่ที่มีความปลอดภัยและเสถียร โดยมีรายงานว่ามียอดดาวน์โหลดทะลุหนึ่งล้านครั้งในเวลาไม่นาน ความนิยมนี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้ใช้เริ่มมองหาทางเลือกที่ไม่ต้องพึ่งพา Windows และยังได้ฟีเจอร์ที่ทันสมัยพร้อมการอัปเดตต่อเนื่องจากชุมชนโอเพ่นซอร์ส
    https://www.techradar.com/computing/windows/this-linux-os-has-got-a-million-downloads-since-windows-10-support-ended-should-microsoft-start-worrying-now

    ChatGPT เปิดตัวฟีเจอร์ Agent ให้ผู้ใช้สั่งงานแล้วปล่อยให้ทำเอง
    ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่ชื่อว่า Agent ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งภารกิจ เช่น ค้นหาข้อมูลหรือจัดการงาน แล้วปล่อยให้ระบบทำงานต่อเองโดยไม่ต้องติดตามตลอดเวลา ถือเป็นการยกระดับจากการสนทนาแบบโต้ตอบไปสู่การทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับงานอื่นได้ในขณะที่ AI ทำงานเบื้องหลัง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-agent-feature-lets-you-assign-tasks-and-walk-away-heres-how-it-works

    มหาวิทยาลัย Harvard เผยข้อมูลรั่วไหลกระทบศิษย์เก่าและผู้บริจาค
    Harvard University ประกาศว่ามีการโจมตีทางไซเบอร์ที่ทำให้ข้อมูลของศิษย์เก่าและผู้บริจาคถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้อง มหาวิทยาลัยกำลังดำเนินการตรวจสอบและเสริมมาตรการความปลอดภัยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
    https://www.techradar.com/pro/security/harvard-university-reveals-data-breach-hitting-alumni-and-donors

    Zero Trust มี 3 ระดับความเร็วในการปรับใช้
    แนวคิด Zero Trust ที่เน้นการตรวจสอบทุกการเข้าถึงระบบ ไม่ว่าจะมาจากภายในหรือภายนอกองค์กร ถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับความเร็วในการนำไปใช้ ได้แก่ ระดับเริ่มต้นที่เน้นการควบคุมพื้นฐาน ระดับกลางที่เริ่มใช้ระบบอัตโนมัติ และระดับสูงสุดที่ผสาน AI และการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อสร้างความปลอดภัยแบบครบวงจร องค์กรสามารถเลือกปรับใช้ตามความพร้อมและทรัพยากรที่มี
    https://www.techradar.com/pro/the-three-speeds-of-zero-trust

    iLamp พลังงานแสงอาทิตย์ เปลี่ยนเสาไฟให้กลายเป็นศูนย์กลาง AI
    นวัตกรรมใหม่ที่ชื่อว่า iLamp ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และติดตั้งระบบ AI ภายในเสาไฟ ทำให้สามารถทำหน้าที่มากกว่าแค่ให้แสงสว่าง เช่น การตรวจสอบสภาพแวดล้อม การเชื่อมต่อกับระบบเมืองอัจฉริยะ และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการเปลี่ยนเสาไฟธรรมดาให้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของเมืองในอนาคต
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/solar-powered-ilamp-turns-the-humble-lamppost-into-an-ai-hub

    CEO Salesforce หันหลังให้ ChatGPT หันไปหา Gemini 3
    Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce สร้างความฮือฮาเมื่อประกาศเลิกใช้ ChatGPT หลังจากได้ลอง Google Gemini 3 เพียงสองชั่วโมง เขายกย่อง Gemini 3 ว่าเหนือกว่าในด้านความเร็ว การให้เหตุผล และความสามารถแบบมัลติโหมดที่รองรับทั้งข้อความ ภาพ เสียง และวิดีโอ การเปลี่ยนใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในโลก AI และอาจส่งผลต่อทิศทางการใช้งาน AI ในองค์กรระดับโลก
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/the-leap-is-insane-salesforce-ceo-swaps-chatgpt-for-gemini-3-and-says-hes-not-going-back

    โน้ตบุ๊ก Geekom GeekBook X14 Pro เบาแต่แรง
    Geekom เปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ GeekBook X14 Pro ที่มีน้ำหนักไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัม แต่สเปกจัดเต็มด้วย Intel Core Ultra 9 และ Intel Arc GPU ที่รองรับการเร่งผลกราฟิกด้วย AI หน้าจอ OLED ขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K พร้อมรีเฟรชเรต 120Hz ทำให้ภาพคมชัดและสดใส แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมง และรองรับชาร์จเร็ว จุดเด่นคือความเบาและพกพาสะดวก แต่ยังคงประสิทธิภาพสูงสำหรับงานหนักและงานสร้างสรรค์
    https://www.techradar.com/pro/geekoms-new-laptop-offers-a-bright-and-wide-screen-impressive-hardware-but-it-weighs-less-than-a-bag-of-sugar

    บั๊ก Windows 11 เล่นงานการ์ดจอ Nvidia RTX 5090
    การอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคมทำให้เกิดปัญหากับเกมเมอร์ โดยเฉพาะเกม Assassin’s Creed Shadows ที่เฟรมเรตตกลงถึง 50% แม้ใช้การ์ดจอระดับเทพ RTX 5090 Nvidia ต้องรีบออกแพตช์แก้ไขฉุกเฉิน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าต้นเหตุจริง ๆ มาจาก Microsoft หรือ Nvidia เอง ปัญหานี้ทำให้ผู้ใช้หลายคนต้องหาทางแก้ชั่วคราว เช่น ปิดฟีเจอร์ Resizable Bar เพื่อให้เล่นเกมได้ลื่นขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/gpu/possible-windows-11-bug-with-nvidia-gpus-tanks-assassins-creed-shadows-performance-bringing-even-an-rtx-5090-to-its-knees

    แฟนเทคโนโลยีย้อนยุคสร้างเครื่องอ่านเทปเจาะรู
    นักประดิษฐ์สายเรโทรได้สร้างเครื่องอ่านเทปเจาะรูขึ้นใหม่ โดยใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์และเซ็นเซอร์แสงสมัยใหม่แทนกลไกเก่า ๆ เครื่องนี้สามารถอ่านข้อมูลจากเทปกระดาษได้ แม้ความเร็วจะอยู่ที่ประมาณ 50 ไบต์ต่อวินาที ซึ่งถือว่าช้ามากเมื่อเทียบกับมาตรฐานปัจจุบัน แต่ก็เป็นการรื้อฟื้นเทคโนโลยีเก่าที่เคยมีบทบาทสำคัญในยุคแรกของคอมพิวเตอร์ จุดประสงค์หลักคือการทดลองและอนุรักษ์ ไม่ใช่การใช้งานจริง
    https://www.techradar.com/pro/retro-computer-boffin-creates-a-freshly-created-perforated-tape-reader-just-dont-expect-high-data-reading-speeds

    DeepSeek-R1 ผู้ช่วย AI จากจีนเริ่มสะดุด DeepSeek-R1 ที่เคยถูกยกย่องว่าเป็นดาวรุ่งแห่งวงการ AI ตอนนี้กลับถูกวิจารณ์หนัก เพราะไม่สามารถจัดการกับหัวข้ออ่อนไหวได้ดี แถมยังสร้างโค้ดที่ผิดพลาดและมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย นักพัฒนาองค์กรที่เคยหวังพึ่งพากลับต้องระวังมากขึ้น เพราะความผิดพลาดเหล่านี้อาจนำไปสู่หายนะด้านความปลอดภัยในระบบใหญ่ ๆ ได้ เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าการพัฒนา AI ไม่ใช่แค่เรื่องความฉลาด แต่ต้องมั่นคงและปลอดภัยด้วย https://www.techradar.com/pro/deepseek-took-off-as-an-ai-superstar-a-year-ago-but-could-it-also-be-a-major-security-risk-these-experts-think-so

    แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นนักข่าว TechCrunch
    มีการเปิดโปงว่าแฮกเกอร์จำนวนมากกำลังสวมรอยเป็นผู้สื่อข่าวจาก TechCrunch เพื่อหลอกบริษัทต่าง ๆ ให้เปิดเผยข้อมูลลับ ทั้งผ่านอีเมลและการโทรศัพท์ พวกเขาใช้ความน่าเชื่อถือของสื่อใหญ่เป็นเครื่องมือในการโจมตี ทำให้หลายองค์กรตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าการตรวจสอบแหล่งที่มาของการติดต่อเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลคือทรัพย์สินล้ำค่า
    https://www.techradar.com/pro/hackers-impersonate-techcrunch-reporters-to-steal-sensitive-information-but-you-can-always-trust-us

    แผน AI ระดับโลกของรัฐบาล Trump
    รัฐบาลสหรัฐภายใต้ Donald Trump ได้เปิดตัวแผนการครอบครองความเป็นผู้นำด้าน AI ระดับโลก โดยมีเป้าหมายผลักดันให้สหรัฐเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี AI ที่เหนือกว่าประเทศอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนตั้งคำถามว่าแผนนี้อาจมีช่องโหว่และความเสี่ยง ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และความปลอดภัย เพราะการเร่งรีบเพื่อครองความเป็นใหญ่ อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-trump-administration-just-launched-its-own-plan-for-global-ai-dominance-and-what-could-go-wrong

    Meta เปิดโปรแกรมแลกเปลี่ยน Ray-Ban Smart Glasses
    Meta เปิดตัวโปรแกรมใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถนำ AirPods มาแลกเป็นแว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban ได้ แต่มีเงื่อนไขบางอย่างที่ต้องระวัง เช่น รุ่นที่สามารถแลกได้ และข้อจำกัดในการใช้งาน แม้จะเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากลองเทคโนโลยีใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้สิทธิ์นี้ทันที
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/metas-new-ray-ban-trade-in-program-lets-you-swap-your-airpods-for-smart-glasses-but-theres-a-catch
    📌📡🟢 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟢📡📌 #รวมข่าวIT #20251126 #TechRadar 🖥️ Amazon ทุ่มงบ 50 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างระบบ AI และ HPC สำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ เรื่องนี้เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของ Amazon ที่ต้องการยกระดับศักยภาพด้านการประมวลผลให้กับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ โดยจะเน้นไปที่งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ความมั่นคงไซเบอร์ พลังงาน และการแพทย์ การลงทุนนี้จะเพิ่มกำลังการประมวลผลกว่า 1.3 กิกะวัตต์ในระบบคลาวด์ของรัฐบาล ทำให้สามารถทำงานจำลองและวิเคราะห์ข้อมูลได้เร็วขึ้นมาก AWS CEO กล่าวว่านี่คือการเปิดทางให้หน่วยงานรัฐเข้าถึง AI ขั้นสูงเพื่อเร่งภารกิจสำคัญของประเทศ 🔗 https://www.techradar.com/pro/talk-about-an-upgrade-amazon-is-spending-usd50-billion-on-new-ai-and-hpc-hardware-for-the-us-government 📱 ข่าวลือราคา iPhone พับได้ อาจสูงถึง $2,399 ทำให้ iPad Mini 8 ดูคุ้มกว่า มีรายงานจาก Fubon Research ว่า iPhone รุ่นพับได้ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 อาจมีราคาสูงถึง $2,399 ซึ่งถือว่าแพงกว่าที่หลายคนคาดไว้ แม้จะมีข่าวดีว่าหน้าจออาจไร้รอยพับ แต่ราคาที่สูงขนาดนี้ทำให้หลายคนมองว่าซื้อ iPhone รุ่นปกติพร้อม iPad Mini 8 อาจจะคุ้มกว่า เพราะได้สองหน้าจอในราคาที่ใกล้เคียงกัน การเปิดตัวคาดว่าจะใช้ชื่อ “iPhone Fold” และอยู่ในขั้นตอนการทดสอบก่อนผลิตจริง 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/if-the-latest-foldable-iphone-price-rumor-is-correct-the-ipad-mini-8-will-be-the-only-sensible-choice 🔒 ช่องโหว่ที่ซ่อนอยู่ในระบบ Cloud Security บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการใช้ระบบคลาวด์หลายเจ้า (multicloud) และการนำ AI หรือ container มาใช้งาน ทำให้เกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่องค์กรอาจมองไม่เห็น โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายข้อมูลภายใน (east-west traffic) และการส่งข้อมูลออกไปภายนอก (egress traffic) ที่มักไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนวคิดใหม่ “Cloud Native Security Fabric” ที่ฝังระบบรักษาความปลอดภัยเข้าไปในโครงสร้างเครือข่ายโดยตรง เพื่อให้สามารถปรับตัวได้ตามการเปลี่ยนแปลงของ workload แบบเรียลไทม์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-hidden-gaps-in-your-cloud-security-fabric 🎨 Gemini 3 กับ Nano Banana Pro: AI ที่เปลี่ยนการแต่งภาพให้เหมือนงานศิลป์ Google เปิดตัวเครื่องมือแก้ไขภาพด้วย AI ที่ชื่อ Nano Banana Pro ซึ่งใช้พลังจาก Gemini 3 จุดเด่นคือสามารถปรับแสงเหมือนเปลี่ยนบรรยากาศจริง เช่น จากภาพธรรมดาให้กลายเป็นช่วง golden hour หรือเปลี่ยนฉากหลังโดยไม่ทำให้ตัวแบบดูหลุดออกจากภาพ นอกจากนี้ยังสามารถย้ายวัตถุหรือปรับโครงสร้างภาพได้อย่างสมจริง ทำให้การแก้ไขภาพซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่บอกคำสั่งเหมือนเล่าให้คนเข้าใจ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/gemini-3s-nano-banana-pro-photo-editing-is-amazing-here-are-3-ways-to-make-the-most-of-it 💸 สิ้นสุดการสนับสนุน vSphere 7: Broadcom ปรับโมเดลราคาใหม่จนลูกค้าหนักใจ หลังจาก Broadcom เข้าซื้อ VMware ด้วยมูลค่า 61 พันล้านดอลลาร์ ก็มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ ทั้งการยกเลิกการขายแบบ perpetual license และเปลี่ยนเป็น subscription bundles ทำให้ต้นทุนของลูกค้าเพิ่มขึ้นหลายเท่า การสิ้นสุดการสนับสนุน vSphere 7 ในเดือนตุลาคม 2025 ยิ่งสร้างแรงกดดันให้ธุรกิจต้องหาทางเลือกใหม่ หลายองค์กรเริ่มมองหาผู้ให้บริการรายอื่นหรือใช้ third-party support เพื่อคงระบบเดิมไว้โดยไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายสูงตามโมเดลใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/vsphere-7-support-ends-the-challenges-of-broadcoms-new-licensing-and-pricing-models 🐧 Linux OS มียอดดาวน์โหลดทะลุหนึ่งล้านครั้งหลัง Windows 10 หมดการสนับสนุน หลังจาก Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากหันไปหา Linux OS ทางเลือกใหม่ที่มีความปลอดภัยและเสถียร โดยมีรายงานว่ามียอดดาวน์โหลดทะลุหนึ่งล้านครั้งในเวลาไม่นาน ความนิยมนี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้ใช้เริ่มมองหาทางเลือกที่ไม่ต้องพึ่งพา Windows และยังได้ฟีเจอร์ที่ทันสมัยพร้อมการอัปเดตต่อเนื่องจากชุมชนโอเพ่นซอร์ส 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/this-linux-os-has-got-a-million-downloads-since-windows-10-support-ended-should-microsoft-start-worrying-now 🤖 ChatGPT เปิดตัวฟีเจอร์ Agent ให้ผู้ใช้สั่งงานแล้วปล่อยให้ทำเอง ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่ชื่อว่า Agent ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งภารกิจ เช่น ค้นหาข้อมูลหรือจัดการงาน แล้วปล่อยให้ระบบทำงานต่อเองโดยไม่ต้องติดตามตลอดเวลา ถือเป็นการยกระดับจากการสนทนาแบบโต้ตอบไปสู่การทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับงานอื่นได้ในขณะที่ AI ทำงานเบื้องหลัง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-agent-feature-lets-you-assign-tasks-and-walk-away-heres-how-it-works 🏫 มหาวิทยาลัย Harvard เผยข้อมูลรั่วไหลกระทบศิษย์เก่าและผู้บริจาค Harvard University ประกาศว่ามีการโจมตีทางไซเบอร์ที่ทำให้ข้อมูลของศิษย์เก่าและผู้บริจาคถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้อง มหาวิทยาลัยกำลังดำเนินการตรวจสอบและเสริมมาตรการความปลอดภัยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/harvard-university-reveals-data-breach-hitting-alumni-and-donors 🛡️ Zero Trust มี 3 ระดับความเร็วในการปรับใช้ แนวคิด Zero Trust ที่เน้นการตรวจสอบทุกการเข้าถึงระบบ ไม่ว่าจะมาจากภายในหรือภายนอกองค์กร ถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับความเร็วในการนำไปใช้ ได้แก่ ระดับเริ่มต้นที่เน้นการควบคุมพื้นฐาน ระดับกลางที่เริ่มใช้ระบบอัตโนมัติ และระดับสูงสุดที่ผสาน AI และการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อสร้างความปลอดภัยแบบครบวงจร องค์กรสามารถเลือกปรับใช้ตามความพร้อมและทรัพยากรที่มี 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-three-speeds-of-zero-trust 🌞 iLamp พลังงานแสงอาทิตย์ เปลี่ยนเสาไฟให้กลายเป็นศูนย์กลาง AI นวัตกรรมใหม่ที่ชื่อว่า iLamp ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และติดตั้งระบบ AI ภายในเสาไฟ ทำให้สามารถทำหน้าที่มากกว่าแค่ให้แสงสว่าง เช่น การตรวจสอบสภาพแวดล้อม การเชื่อมต่อกับระบบเมืองอัจฉริยะ และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการเปลี่ยนเสาไฟธรรมดาให้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของเมืองในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/solar-powered-ilamp-turns-the-humble-lamppost-into-an-ai-hub 🤖 CEO Salesforce หันหลังให้ ChatGPT หันไปหา Gemini 3 Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce สร้างความฮือฮาเมื่อประกาศเลิกใช้ ChatGPT หลังจากได้ลอง Google Gemini 3 เพียงสองชั่วโมง เขายกย่อง Gemini 3 ว่าเหนือกว่าในด้านความเร็ว การให้เหตุผล และความสามารถแบบมัลติโหมดที่รองรับทั้งข้อความ ภาพ เสียง และวิดีโอ การเปลี่ยนใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในโลก AI และอาจส่งผลต่อทิศทางการใช้งาน AI ในองค์กรระดับโลก 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/the-leap-is-insane-salesforce-ceo-swaps-chatgpt-for-gemini-3-and-says-hes-not-going-back 💻 โน้ตบุ๊ก Geekom GeekBook X14 Pro เบาแต่แรง Geekom เปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ GeekBook X14 Pro ที่มีน้ำหนักไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัม แต่สเปกจัดเต็มด้วย Intel Core Ultra 9 และ Intel Arc GPU ที่รองรับการเร่งผลกราฟิกด้วย AI หน้าจอ OLED ขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K พร้อมรีเฟรชเรต 120Hz ทำให้ภาพคมชัดและสดใส แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมง และรองรับชาร์จเร็ว จุดเด่นคือความเบาและพกพาสะดวก แต่ยังคงประสิทธิภาพสูงสำหรับงานหนักและงานสร้างสรรค์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/geekoms-new-laptop-offers-a-bright-and-wide-screen-impressive-hardware-but-it-weighs-less-than-a-bag-of-sugar 🎮 บั๊ก Windows 11 เล่นงานการ์ดจอ Nvidia RTX 5090 การอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคมทำให้เกิดปัญหากับเกมเมอร์ โดยเฉพาะเกม Assassin’s Creed Shadows ที่เฟรมเรตตกลงถึง 50% แม้ใช้การ์ดจอระดับเทพ RTX 5090 Nvidia ต้องรีบออกแพตช์แก้ไขฉุกเฉิน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าต้นเหตุจริง ๆ มาจาก Microsoft หรือ Nvidia เอง ปัญหานี้ทำให้ผู้ใช้หลายคนต้องหาทางแก้ชั่วคราว เช่น ปิดฟีเจอร์ Resizable Bar เพื่อให้เล่นเกมได้ลื่นขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/possible-windows-11-bug-with-nvidia-gpus-tanks-assassins-creed-shadows-performance-bringing-even-an-rtx-5090-to-its-knees 📼 แฟนเทคโนโลยีย้อนยุคสร้างเครื่องอ่านเทปเจาะรู นักประดิษฐ์สายเรโทรได้สร้างเครื่องอ่านเทปเจาะรูขึ้นใหม่ โดยใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์และเซ็นเซอร์แสงสมัยใหม่แทนกลไกเก่า ๆ เครื่องนี้สามารถอ่านข้อมูลจากเทปกระดาษได้ แม้ความเร็วจะอยู่ที่ประมาณ 50 ไบต์ต่อวินาที ซึ่งถือว่าช้ามากเมื่อเทียบกับมาตรฐานปัจจุบัน แต่ก็เป็นการรื้อฟื้นเทคโนโลยีเก่าที่เคยมีบทบาทสำคัญในยุคแรกของคอมพิวเตอร์ จุดประสงค์หลักคือการทดลองและอนุรักษ์ ไม่ใช่การใช้งานจริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/retro-computer-boffin-creates-a-freshly-created-perforated-tape-reader-just-dont-expect-high-data-reading-speeds 🧠 DeepSeek-R1 ผู้ช่วย AI จากจีนเริ่มสะดุด DeepSeek-R1 ที่เคยถูกยกย่องว่าเป็นดาวรุ่งแห่งวงการ AI ตอนนี้กลับถูกวิจารณ์หนัก เพราะไม่สามารถจัดการกับหัวข้ออ่อนไหวได้ดี แถมยังสร้างโค้ดที่ผิดพลาดและมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย นักพัฒนาองค์กรที่เคยหวังพึ่งพากลับต้องระวังมากขึ้น เพราะความผิดพลาดเหล่านี้อาจนำไปสู่หายนะด้านความปลอดภัยในระบบใหญ่ ๆ ได้ เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าการพัฒนา AI ไม่ใช่แค่เรื่องความฉลาด แต่ต้องมั่นคงและปลอดภัยด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/deepseek-took-off-as-an-ai-superstar-a-year-ago-but-could-it-also-be-a-major-security-risk-these-experts-think-so 🕵️‍♂️ แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นนักข่าว TechCrunch มีการเปิดโปงว่าแฮกเกอร์จำนวนมากกำลังสวมรอยเป็นผู้สื่อข่าวจาก TechCrunch เพื่อหลอกบริษัทต่าง ๆ ให้เปิดเผยข้อมูลลับ ทั้งผ่านอีเมลและการโทรศัพท์ พวกเขาใช้ความน่าเชื่อถือของสื่อใหญ่เป็นเครื่องมือในการโจมตี ทำให้หลายองค์กรตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าการตรวจสอบแหล่งที่มาของการติดต่อเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลคือทรัพย์สินล้ำค่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/hackers-impersonate-techcrunch-reporters-to-steal-sensitive-information-but-you-can-always-trust-us 🌍 แผน AI ระดับโลกของรัฐบาล Trump รัฐบาลสหรัฐภายใต้ Donald Trump ได้เปิดตัวแผนการครอบครองความเป็นผู้นำด้าน AI ระดับโลก โดยมีเป้าหมายผลักดันให้สหรัฐเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี AI ที่เหนือกว่าประเทศอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนตั้งคำถามว่าแผนนี้อาจมีช่องโหว่และความเสี่ยง ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และความปลอดภัย เพราะการเร่งรีบเพื่อครองความเป็นใหญ่ อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-trump-administration-just-launched-its-own-plan-for-global-ai-dominance-and-what-could-go-wrong 👓 Meta เปิดโปรแกรมแลกเปลี่ยน Ray-Ban Smart Glasses Meta เปิดตัวโปรแกรมใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถนำ AirPods มาแลกเป็นแว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban ได้ แต่มีเงื่อนไขบางอย่างที่ต้องระวัง เช่น รุ่นที่สามารถแลกได้ และข้อจำกัดในการใช้งาน แม้จะเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากลองเทคโนโลยีใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้สิทธิ์นี้ทันที ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/metas-new-ray-ban-trade-in-program-lets-you-swap-your-airpods-for-smart-glasses-but-theres-a-catch
    0 Comments 0 Shares 969 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251123 #TechRadar

    Apple ขยับพลังชิปจาก CPU ไปสู่ GPU และหน่วยความจำ
    Apple เริ่มต้นจากชิป M1 ที่เน้นประสิทธิภาพ CPU แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนถึง M4 และ M5 แนวโน้มเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน — พลังงานที่เคยทุ่มให้ CPU ถูกโยกไปสู่ GPU และระบบหน่วยความจำแทน เพื่อรองรับงานหนักแบบต่อเนื่อง เช่น งานกราฟิกและ AI ที่ต้องการการประมวลผลมหาศาล การออกแบบใหม่นี้ทำให้ MacBook Pro และ iPad Pro รุ่นล่าสุดไม่ได้เน้นแค่ “ความเร็วซีพียู” อีกต่อไป แต่เน้น “ความสมดุล” ของทั้งระบบ
    https://www.techradar.com/pro/where-apple-spends-its-power-m4-max-cpu-consumes-just-48w-why-the-gpu-and-memory-system-define-the-true-cost-of-your-macbook-pro

    Ricoh GR IV กล้องคอมแพคที่ทำให้หลงรักการถ่ายภาพยาวนาน
    นักรีวิวได้ลองถ่ายภาพกว่า 1,000 รูปด้วย Ricoh GR IV และพบว่ามีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจที่สุดคือระบบกันสั่นแบบ 5 แกน ทำให้สามารถถ่ายภาพถือมือด้วยสปีดชัตเตอร์ช้าได้อย่างคมชัด เหมาะกับการสร้างเอฟเฟกต์แสงไฟลากยาวในเมือง นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ที่อึดขึ้นและการออกแบบที่จับถนัดมือกว่าเดิม ถึงแม้บางส่วนยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ทำให้การถ่ายภาพสนุกและสร้างสรรค์มากขึ้น
    https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/ive-shot-over-1-000-photos-with-the-ricoh-gr-iv-here-are-my-favorites-and-one-new-feature-stands-out

    ยุคใหม่ของ “Agentic Internet” กำลังมา
    บทความนี้เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอินเทอร์เน็ต เมื่อ AI ไม่ได้แค่ช่วยเรา แต่จะ “ทำแทนเรา” เช่น การเปรียบเทียบราคา ซื้อสินค้า หรือจัดการธุรกรรมต่าง ๆ โดยอัตโนมัติ ธุรกิจจึงต้องเตรียมตัวออกแบบระบบที่ไม่ใช่แค่ให้คนใช้ง่าย แต่ต้องให้ “AI Agent” เข้าใจและทำงานได้ด้วย โลกออนไลน์กำลังจะเปลี่ยนจาก UX (User Experience) ไปสู่ AX (Agent Experience) อย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/the-agentic-internet-is-coming-and-businesses-need-to-be-ready

    Incognito Mode จริง ๆ แล้วไม่ได้ “ลับ” อย่างที่คิด
    หลายคนเข้าใจผิดว่าเปิด Incognito Mode แล้วจะหายตัวจากโลกออนไลน์ แต่ความจริงคือมันแค่ไม่บันทึกประวัติในเครื่องเท่านั้น เว็บไซต์ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่เจ้านายยังสามารถเห็นการใช้งานได้อยู่ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวจริง ๆ ต้องใช้เครื่องมือเสริม เช่น VPN หรือเบราว์เซอร์ที่เน้นความปลอดภัยอย่าง Brave หรือ DuckDuckGo https://www.techradar.com/computing/browsers/is-incognito-mode-actually-private-heres-the-surprising-answer-from-cybersecurity-experts

    Google Pixel 10 ได้ฟีเจอร์คล้าย AirDrop แต่ยังตาม Apple อยู่
    Google เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ให้ Pixel 10 สามารถส่งไฟล์แบบไร้สายเข้ากับ iPhone ได้ คล้ายกับ AirDrop ของ Apple ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้ แต่ก็ยังถูกมองว่าเป็นการ “ตามรอย” มากกว่าการสร้างนวัตกรรมใหม่ จุดเด่นอื่น ๆ ของ Pixel 10 คือระบบ PixelSnap ที่คล้าย MagSafe และกล้องเทเลโฟโต้ 5x ถึงอย่างนั้น Google ยังต้องหาทางสร้างเอกลักษณ์ของตัวเองให้ชัดเจนกว่านี้
    https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/googles-new-airdrop-feature-is-great-for-pixel-phones-but-it-cant-chase-apples-tail-forever

    Microsoft เคยทำแท็บเล็ตก่อน Apple แต่ไม่รุ่ง
    ย้อนกลับไปในปี 2001 Microsoft เคยเปิดตัวแท็บเล็ตที่ใช้ Windows XP Tablet Edition โดยหวังว่าจะเป็นอนาคตของคอมพิวเตอร์พกพา แต่ด้วยข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ น้ำหนักที่มาก และซอฟต์แวร์ที่ยังไม่เหมาะกับการสัมผัส ทำให้มันไม่สามารถครองตลาดได้ สุดท้าย Apple iPad ที่เปิดตัวในปี 2010 กลับกลายเป็นผู้เปลี่ยนเกมแทน
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-created-a-tablet-years-before-apple-but-it-never-took-off-heres-why

    AIOps: ใช้ AI พลิกโฉมการจัดการระบบ IT
    AIOps (Artificial Intelligence for IT Operations) กำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับองค์กร เพราะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลจากระบบ IT ได้แบบเรียลไทม์ ลดเวลาในการแก้ปัญหา และคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นล่วงหน้า ทำให้ทีม IT สามารถทำงานเชิงรุกมากขึ้น และลด downtime ของระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    https://www.techradar.com/pro/aiops-how-companies-can-harness-ai-to-reshape-it-operations

    API ของ X (Twitter เดิม) เปลี่ยนเป็นคิดตามการใช้งาน
    แพลตฟอร์ม X ได้ปรับโมเดลการคิดค่าบริการ API ใหม่ โดยเปลี่ยนจากการคิดแบบเหมาจ่ายรายเดือน ไปเป็นการคิดตามการใช้งานจริง หวังว่าจะดึงดูดนักพัฒนาให้กลับมาใช้มากขึ้น แต่ก็ยังมีข้อกังวลว่าราคาจะสูงเกินไปสำหรับสตาร์ทอัพเล็ก ๆ และอาจทำให้บางคนเลือกหันไปใช้แพลตฟอร์มอื่นแทน
    https://www.techradar.com/pro/will-xs-usage-based-api-pricing-succeed-in-winning-over-developers

    Shark PowerPro เครื่องดูดฝุ่นคุ้มค่า ใช้ง่าย
    Shark PowerPro ถูกรีวิวว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่เหมาะกับครัวเรือนทั่วไป ด้วยราคาที่ไม่แพงและการใช้งานที่ง่าย มีหัวดูดหลายแบบสำหรับพื้นต่าง ๆ และแรงดูดที่เพียงพอสำหรับฝุ่นในบ้าน ถึงแม้จะไม่ได้หรูหราเหมือนรุ่นไฮเอนด์ แต่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานประจำวัน
    https://www.techradar.com/home/vacuums/shark-powerpro-vacuum-review

    Apple เตรียมออก MacBook ราคาประหยัดและ iPhone รุ่นถูกในปี 2026
    มีข่าวลือว่า Apple กำลังวางแผนเปิดตัว MacBook รุ่นราคาย่อมเยา และ iPhone รุ่นใหม่ที่ถูกลงในต้นปี 2026 เพื่อเจาะตลาดนักเรียนและผู้ใช้ที่ต้องการอุปกรณ์ Apple แต่มีงบจำกัด ถือเป็นการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มที่กว้างขึ้น และอาจสร้างแรงกดดันให้คู่แข่งในตลาดโน้ตบุ๊กและสมาร์ทโฟนราคาประหยัด
    https://www.techradar.com/computing/macbooks/apple-rumored-to-be-releasing-its-affordable-macbook-and-another-cut-price-iphone-early-in-2026

    Bambu Lab เปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3D H2C หัวฉีด 7 หัว
    Bambu Lab เปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3D รุ่นใหม่ H2C ที่มาพร้อมหัวฉีดถึง 7 หัว ใช้ระบบ Vortek Hotend ที่สามารถสลับหัวฉีดได้อย่างรวดเร็วด้วยแม่เหล็กและความร้อนเหนี่ยวนำ จุดเด่นคือช่วยลดการสิ้นเปลืองวัสดุและเพิ่มความเร็วในการพิมพ์มากกว่ารุ่นก่อนหน้า แต่ยังช้ากว่าเครื่อง Prusa XL อยู่พอสมควร ราคาตั้งต้นอยู่ที่ $2,399 อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ในสหรัฐฯ ต้องรอถึงเดือนธันวาคม 2025 เนื่องจากปัญหาด้านการนำเข้า
    https://www.techradar.com/pro/sorry-us-3d-printing-fans-bambu-lab-has-a-mighty-new-seven-nozzle-printer-but-you-wont-be-able-to-get-it-anytime-soon

    Microsoft ปรับปรุง Windows 11 ลดภาพ BSOD บนจอใหญ่
    Microsoft เพิ่มโหมดใหม่ใน Windows 11 สำหรับหน้าจอสาธารณะ เช่น ป้ายดิจิทัลหรือบอร์ดแสดงผล เมื่อเกิด Blue Screen of Death (BSOD) จะโชว์เพียง 15 วินาทีแล้วดับหน้าจอ เพื่อลดความน่าอายในการใช้งาน พร้อมทั้งเพิ่มระบบกู้คืนแบบ snapshot และ Cloud Rebuild ที่ช่วยให้ผู้ดูแล IT กู้คืนเครื่องได้ง่ายขึ้น รวมถึงเตรียมใช้การเข้ารหัส BitLocker ที่เร็วขึ้นและรองรับการป้องกันจากการโจมตีด้วยคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-is-hoping-to-kill-off-embarrassing-big-screen-bsod-errors-for-good

    Nano Banana Pro เติมพลังดีไซน์ให้ NotebookLM
    Google นำโมเดล AI สร้างภาพ Nano Banana Pro มาเสริมใน NotebookLM เพื่อช่วยสร้าง infographic และสไลด์ได้อย่างสวยงามและมีข้อมูลครบถ้วน ตัวอย่างที่ทดสอบคือการเล่าเรื่องตำนาน King Arthur ที่ถูกแปลงเป็นภาพและสไลด์หลากหลายสไตล์ ตั้งแต่ยุคกลางจนถึงไซเบอร์พังค์ จุดเด่นคือความสามารถในการรักษาความต่อเนื่องของตัวละครและการเล่าเรื่องในเชิงภาพ ทำให้การทำงานวิจัยและการนำเสนอมีความน่าสนใจมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/nano-banana-pro-cast-a-design-spell-in-notebooklm-to-explore-the-legend-of-camelot

    Anthropic จับมือ Microsoft และ Nvidia ขยาย Claude บน Azure
    Anthropic ลงทุนซื้อ compute capacity บน Microsoft Azure มูลค่า $30 พันล้านดอลลาร์ เพื่อรองรับการขยายโมเดล Claude ในอนาคต พร้อมได้รับเงินลงทุนเพิ่มอีก $15 พันล้านจาก Microsoft และ Nvidia ความร่วมมือนี้ทำให้ Claude สามารถใช้งานได้บนแพลตฟอร์ม Microsoft Foundry และ Copilot ต่าง ๆ รวมถึงใช้ประโยชน์จากสถาปัตยกรรมใหม่ของ Nvidia เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการทำงานในระยะยาว ถือเป็นการขยายตัวครั้งใหญ่ของ Anthropic ในตลาด AI ระดับโลก
    https://www.techradar.com/pro/anthropic-just-bought-usd30-billion-of-azure-cloud-capability-and-has-netted-usd15-billion-investment-from-microsoft-and-nvidia-in-return

    Xbox Full Screen Experience มาสู่ Windows 11
    Microsoft กำลังทดสอบฟีเจอร์ Xbox Full Screen Experience (FSE) บน Windows 11 ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องด้วยจอย Xbox ได้สะดวกขึ้น โดยมีหน้าตาแบบคอนโซล ใช้งานง่ายและจัดการเกมได้รวดเร็ว ฟีเจอร์นี้ยังช่วยปรับทรัพยากรเครื่องให้เหมาะกับการเล่นเกม สามารถเข้าถึงได้ผ่าน Task View, Game Bar หรือปุ่ม Win+F11 และคาดว่าจะเป็นรากฐานของ Xbox PC รุ่นใหม่ในอนาคต
    https://www.techradar.com/computing/microsoft-is-now-testing-the-xbox-full-screen-experience-across-windows-11-pcs

    5 แอปที่ผู้เชี่ยวชาญมือถือแนะนำว่าต้องมี
    ผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฟนแนะนำ 5 แอปที่ควรติดตั้งทั้งบน iPhone และ Android เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน ได้แก่ แอปสำหรับความปลอดภัย การจัดการรหัสผ่าน แอปสุขภาพ แอปถ่ายภาพ และแอปจัดการการเงิน จุดเด่นคือช่วยให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้น ปลอดภัยขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น 
    https://www.techradar.com/phones/im-a-phones-expert-and-these-are-my-5-must-have-apps-for-iphone-and-android

    Microsoft เปิดตัวชิป Cobalt 200 แข่งตลาด CPU
    Microsoft เปิดตัวชิป ARM-based รุ่นใหม่ชื่อ Cobalt 200 ที่ออกแบบเองเพื่อใช้กับ Azure โดยเน้นประสิทธิภาพสูงและการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น ถือเป็นการเข้าสู่การแข่งขันด้าน custom silicon อย่างจริงจัง เพื่อให้บริการคลาวด์มีความเร็วและคุ้มค่ามากขึ้น พร้อมท้าชนคู่แข่งรายใหญ่ที่พัฒนาชิปเองเช่นกัน
    https://www.techradar.com/pro/microsoft-unveils-its-next-generation-arm-based-cpu-cobalt-200-looks-to-unlock-even-more-azure-power

    AI ในงาน QA: ใช้อย่างไรไม่ให้เกิดหนี้ทางเทคนิค
    บทความนี้อธิบายการนำ Generative AI มาใช้ในงานทดสอบคุณภาพซอฟต์แวร์ (QA) โดยเน้นว่าถ้าใช้ไม่ระวังอาจสร้าง “หนี้ทางเทคนิค” เช่น การสร้างโค้ดที่ยากต่อการบำรุงรักษา หรือการทดสอบที่ไม่ครอบคลุม แต่หากใช้อย่างถูกต้อง AI สามารถช่วยลดเวลา เพิ่มความแม่นยำ และทำให้ทีม QA มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/ai-in-qa-how-to-use-generative-ai-in-testing-without-creating-technical-debt

    ChatGPT ช่วยให้คุณกินอาหารสุขภาพได้
    บทความนี้เล่าว่า ChatGPT สามารถช่วยผู้ใช้วางแผนการกินที่ดีต่อสุขภาพได้ เช่น แนะนำเมนูที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง จัดตารางอาหารให้เหมาะกับเป้าหมายสุขภาพ และให้เคล็ดลับการทำอาหารที่ง่ายและดีต่อร่างกาย ถือเป็นการใช้ AI เพื่อสนับสนุนการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวัน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/how-chatgpt-can-help-you-eat-healthier-ai-tips-to-get-back-on-your-health-kick

    คอนโทรลเลอร์เกมที่คุณชอบที่สุดคืออะไร
    บทความนี้เปิดประเด็นสนทนาเกี่ยวกับคอนโทรลเลอร์เกมที่ผู้เล่นชื่นชอบมากที่สุด โดยยกตัวอย่างคอนโทรลเลอร์ที่เคยมีในอดีต เช่น Steam Machine Controller ที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม พร้อมเชิญชวนให้ผู้อ่านแชร์ประสบการณ์และความเห็นว่าคอนโทรลเลอร์ใดที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกม
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/gaming/gaming-accessories/forget-the-weird-steam-machine-controller-tell-me-whats-your-favourite-controller-of-all-time
    📌📡🔴 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔴📡📌 #รวมข่าวIT #20251123 #TechRadar 🖥️ Apple ขยับพลังชิปจาก CPU ไปสู่ GPU และหน่วยความจำ Apple เริ่มต้นจากชิป M1 ที่เน้นประสิทธิภาพ CPU แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนถึง M4 และ M5 แนวโน้มเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน — พลังงานที่เคยทุ่มให้ CPU ถูกโยกไปสู่ GPU และระบบหน่วยความจำแทน เพื่อรองรับงานหนักแบบต่อเนื่อง เช่น งานกราฟิกและ AI ที่ต้องการการประมวลผลมหาศาล การออกแบบใหม่นี้ทำให้ MacBook Pro และ iPad Pro รุ่นล่าสุดไม่ได้เน้นแค่ “ความเร็วซีพียู” อีกต่อไป แต่เน้น “ความสมดุล” ของทั้งระบบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/where-apple-spends-its-power-m4-max-cpu-consumes-just-48w-why-the-gpu-and-memory-system-define-the-true-cost-of-your-macbook-pro 📸 Ricoh GR IV กล้องคอมแพคที่ทำให้หลงรักการถ่ายภาพยาวนาน นักรีวิวได้ลองถ่ายภาพกว่า 1,000 รูปด้วย Ricoh GR IV และพบว่ามีฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจที่สุดคือระบบกันสั่นแบบ 5 แกน ทำให้สามารถถ่ายภาพถือมือด้วยสปีดชัตเตอร์ช้าได้อย่างคมชัด เหมาะกับการสร้างเอฟเฟกต์แสงไฟลากยาวในเมือง นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่ที่อึดขึ้นและการออกแบบที่จับถนัดมือกว่าเดิม ถึงแม้บางส่วนยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ทำให้การถ่ายภาพสนุกและสร้างสรรค์มากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/ive-shot-over-1-000-photos-with-the-ricoh-gr-iv-here-are-my-favorites-and-one-new-feature-stands-out 🌐 ยุคใหม่ของ “Agentic Internet” กำลังมา บทความนี้เล่าถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอินเทอร์เน็ต เมื่อ AI ไม่ได้แค่ช่วยเรา แต่จะ “ทำแทนเรา” เช่น การเปรียบเทียบราคา ซื้อสินค้า หรือจัดการธุรกรรมต่าง ๆ โดยอัตโนมัติ ธุรกิจจึงต้องเตรียมตัวออกแบบระบบที่ไม่ใช่แค่ให้คนใช้ง่าย แต่ต้องให้ “AI Agent” เข้าใจและทำงานได้ด้วย โลกออนไลน์กำลังจะเปลี่ยนจาก UX (User Experience) ไปสู่ AX (Agent Experience) อย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-agentic-internet-is-coming-and-businesses-need-to-be-ready 🕵️‍♂️ Incognito Mode จริง ๆ แล้วไม่ได้ “ลับ” อย่างที่คิด หลายคนเข้าใจผิดว่าเปิด Incognito Mode แล้วจะหายตัวจากโลกออนไลน์ แต่ความจริงคือมันแค่ไม่บันทึกประวัติในเครื่องเท่านั้น เว็บไซต์ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่เจ้านายยังสามารถเห็นการใช้งานได้อยู่ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวจริง ๆ ต้องใช้เครื่องมือเสริม เช่น VPN หรือเบราว์เซอร์ที่เน้นความปลอดภัยอย่าง Brave หรือ DuckDuckGo 🔗 https://www.techradar.com/computing/browsers/is-incognito-mode-actually-private-heres-the-surprising-answer-from-cybersecurity-experts 📱 Google Pixel 10 ได้ฟีเจอร์คล้าย AirDrop แต่ยังตาม Apple อยู่ Google เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ให้ Pixel 10 สามารถส่งไฟล์แบบไร้สายเข้ากับ iPhone ได้ คล้ายกับ AirDrop ของ Apple ถือเป็นการเพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้ แต่ก็ยังถูกมองว่าเป็นการ “ตามรอย” มากกว่าการสร้างนวัตกรรมใหม่ จุดเด่นอื่น ๆ ของ Pixel 10 คือระบบ PixelSnap ที่คล้าย MagSafe และกล้องเทเลโฟโต้ 5x ถึงอย่างนั้น Google ยังต้องหาทางสร้างเอกลักษณ์ของตัวเองให้ชัดเจนกว่านี้ 🔗 https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/googles-new-airdrop-feature-is-great-for-pixel-phones-but-it-cant-chase-apples-tail-forever 📱 Microsoft เคยทำแท็บเล็ตก่อน Apple แต่ไม่รุ่ง ย้อนกลับไปในปี 2001 Microsoft เคยเปิดตัวแท็บเล็ตที่ใช้ Windows XP Tablet Edition โดยหวังว่าจะเป็นอนาคตของคอมพิวเตอร์พกพา แต่ด้วยข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ น้ำหนักที่มาก และซอฟต์แวร์ที่ยังไม่เหมาะกับการสัมผัส ทำให้มันไม่สามารถครองตลาดได้ สุดท้าย Apple iPad ที่เปิดตัวในปี 2010 กลับกลายเป็นผู้เปลี่ยนเกมแทน 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-created-a-tablet-years-before-apple-but-it-never-took-off-heres-why 🤖 AIOps: ใช้ AI พลิกโฉมการจัดการระบบ IT AIOps (Artificial Intelligence for IT Operations) กำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับองค์กร เพราะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลจากระบบ IT ได้แบบเรียลไทม์ ลดเวลาในการแก้ปัญหา และคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นล่วงหน้า ทำให้ทีม IT สามารถทำงานเชิงรุกมากขึ้น และลด downtime ของระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🔗 https://www.techradar.com/pro/aiops-how-companies-can-harness-ai-to-reshape-it-operations 💻 API ของ X (Twitter เดิม) เปลี่ยนเป็นคิดตามการใช้งาน แพลตฟอร์ม X ได้ปรับโมเดลการคิดค่าบริการ API ใหม่ โดยเปลี่ยนจากการคิดแบบเหมาจ่ายรายเดือน ไปเป็นการคิดตามการใช้งานจริง หวังว่าจะดึงดูดนักพัฒนาให้กลับมาใช้มากขึ้น แต่ก็ยังมีข้อกังวลว่าราคาจะสูงเกินไปสำหรับสตาร์ทอัพเล็ก ๆ และอาจทำให้บางคนเลือกหันไปใช้แพลตฟอร์มอื่นแทน 🔗 https://www.techradar.com/pro/will-xs-usage-based-api-pricing-succeed-in-winning-over-developers 🧹 Shark PowerPro เครื่องดูดฝุ่นคุ้มค่า ใช้ง่าย Shark PowerPro ถูกรีวิวว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นที่เหมาะกับครัวเรือนทั่วไป ด้วยราคาที่ไม่แพงและการใช้งานที่ง่าย มีหัวดูดหลายแบบสำหรับพื้นต่าง ๆ และแรงดูดที่เพียงพอสำหรับฝุ่นในบ้าน ถึงแม้จะไม่ได้หรูหราเหมือนรุ่นไฮเอนด์ แต่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งานประจำวัน 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/shark-powerpro-vacuum-review 💸 Apple เตรียมออก MacBook ราคาประหยัดและ iPhone รุ่นถูกในปี 2026 มีข่าวลือว่า Apple กำลังวางแผนเปิดตัว MacBook รุ่นราคาย่อมเยา และ iPhone รุ่นใหม่ที่ถูกลงในต้นปี 2026 เพื่อเจาะตลาดนักเรียนและผู้ใช้ที่ต้องการอุปกรณ์ Apple แต่มีงบจำกัด ถือเป็นการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มที่กว้างขึ้น และอาจสร้างแรงกดดันให้คู่แข่งในตลาดโน้ตบุ๊กและสมาร์ทโฟนราคาประหยัด 🔗 https://www.techradar.com/computing/macbooks/apple-rumored-to-be-releasing-its-affordable-macbook-and-another-cut-price-iphone-early-in-2026 🖨️ Bambu Lab เปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3D H2C หัวฉีด 7 หัว Bambu Lab เปิดตัวเครื่องพิมพ์ 3D รุ่นใหม่ H2C ที่มาพร้อมหัวฉีดถึง 7 หัว ใช้ระบบ Vortek Hotend ที่สามารถสลับหัวฉีดได้อย่างรวดเร็วด้วยแม่เหล็กและความร้อนเหนี่ยวนำ จุดเด่นคือช่วยลดการสิ้นเปลืองวัสดุและเพิ่มความเร็วในการพิมพ์มากกว่ารุ่นก่อนหน้า แต่ยังช้ากว่าเครื่อง Prusa XL อยู่พอสมควร ราคาตั้งต้นอยู่ที่ $2,399 อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ในสหรัฐฯ ต้องรอถึงเดือนธันวาคม 2025 เนื่องจากปัญหาด้านการนำเข้า 🔗 https://www.techradar.com/pro/sorry-us-3d-printing-fans-bambu-lab-has-a-mighty-new-seven-nozzle-printer-but-you-wont-be-able-to-get-it-anytime-soon 💻 Microsoft ปรับปรุง Windows 11 ลดภาพ BSOD บนจอใหญ่ Microsoft เพิ่มโหมดใหม่ใน Windows 11 สำหรับหน้าจอสาธารณะ เช่น ป้ายดิจิทัลหรือบอร์ดแสดงผล เมื่อเกิด Blue Screen of Death (BSOD) จะโชว์เพียง 15 วินาทีแล้วดับหน้าจอ เพื่อลดความน่าอายในการใช้งาน พร้อมทั้งเพิ่มระบบกู้คืนแบบ snapshot และ Cloud Rebuild ที่ช่วยให้ผู้ดูแล IT กู้คืนเครื่องได้ง่ายขึ้น รวมถึงเตรียมใช้การเข้ารหัส BitLocker ที่เร็วขึ้นและรองรับการป้องกันจากการโจมตีด้วยคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-is-hoping-to-kill-off-embarrassing-big-screen-bsod-errors-for-good 🎨 Nano Banana Pro เติมพลังดีไซน์ให้ NotebookLM Google นำโมเดล AI สร้างภาพ Nano Banana Pro มาเสริมใน NotebookLM เพื่อช่วยสร้าง infographic และสไลด์ได้อย่างสวยงามและมีข้อมูลครบถ้วน ตัวอย่างที่ทดสอบคือการเล่าเรื่องตำนาน King Arthur ที่ถูกแปลงเป็นภาพและสไลด์หลากหลายสไตล์ ตั้งแต่ยุคกลางจนถึงไซเบอร์พังค์ จุดเด่นคือความสามารถในการรักษาความต่อเนื่องของตัวละครและการเล่าเรื่องในเชิงภาพ ทำให้การทำงานวิจัยและการนำเสนอมีความน่าสนใจมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/nano-banana-pro-cast-a-design-spell-in-notebooklm-to-explore-the-legend-of-camelot ☁️ Anthropic จับมือ Microsoft และ Nvidia ขยาย Claude บน Azure Anthropic ลงทุนซื้อ compute capacity บน Microsoft Azure มูลค่า $30 พันล้านดอลลาร์ เพื่อรองรับการขยายโมเดล Claude ในอนาคต พร้อมได้รับเงินลงทุนเพิ่มอีก $15 พันล้านจาก Microsoft และ Nvidia ความร่วมมือนี้ทำให้ Claude สามารถใช้งานได้บนแพลตฟอร์ม Microsoft Foundry และ Copilot ต่าง ๆ รวมถึงใช้ประโยชน์จากสถาปัตยกรรมใหม่ของ Nvidia เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการทำงานในระยะยาว ถือเป็นการขยายตัวครั้งใหญ่ของ Anthropic ในตลาด AI ระดับโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/anthropic-just-bought-usd30-billion-of-azure-cloud-capability-and-has-netted-usd15-billion-investment-from-microsoft-and-nvidia-in-return 🎮 Xbox Full Screen Experience มาสู่ Windows 11 Microsoft กำลังทดสอบฟีเจอร์ Xbox Full Screen Experience (FSE) บน Windows 11 ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องด้วยจอย Xbox ได้สะดวกขึ้น โดยมีหน้าตาแบบคอนโซล ใช้งานง่ายและจัดการเกมได้รวดเร็ว ฟีเจอร์นี้ยังช่วยปรับทรัพยากรเครื่องให้เหมาะกับการเล่นเกม สามารถเข้าถึงได้ผ่าน Task View, Game Bar หรือปุ่ม Win+F11 และคาดว่าจะเป็นรากฐานของ Xbox PC รุ่นใหม่ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/computing/microsoft-is-now-testing-the-xbox-full-screen-experience-across-windows-11-pcs 📱 5 แอปที่ผู้เชี่ยวชาญมือถือแนะนำว่าต้องมี ผู้เชี่ยวชาญด้านสมาร์ทโฟนแนะนำ 5 แอปที่ควรติดตั้งทั้งบน iPhone และ Android เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน ได้แก่ แอปสำหรับความปลอดภัย การจัดการรหัสผ่าน แอปสุขภาพ แอปถ่ายภาพ และแอปจัดการการเงิน จุดเด่นคือช่วยให้ชีวิตประจำวันสะดวกขึ้น ปลอดภัยขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น  🔗 https://www.techradar.com/phones/im-a-phones-expert-and-these-are-my-5-must-have-apps-for-iphone-and-android 🔋 Microsoft เปิดตัวชิป Cobalt 200 แข่งตลาด CPU Microsoft เปิดตัวชิป ARM-based รุ่นใหม่ชื่อ Cobalt 200 ที่ออกแบบเองเพื่อใช้กับ Azure โดยเน้นประสิทธิภาพสูงและการจัดการพลังงานที่ดีขึ้น ถือเป็นการเข้าสู่การแข่งขันด้าน custom silicon อย่างจริงจัง เพื่อให้บริการคลาวด์มีความเร็วและคุ้มค่ามากขึ้น พร้อมท้าชนคู่แข่งรายใหญ่ที่พัฒนาชิปเองเช่นกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/microsoft-unveils-its-next-generation-arm-based-cpu-cobalt-200-looks-to-unlock-even-more-azure-power 🤖 AI ในงาน QA: ใช้อย่างไรไม่ให้เกิดหนี้ทางเทคนิค บทความนี้อธิบายการนำ Generative AI มาใช้ในงานทดสอบคุณภาพซอฟต์แวร์ (QA) โดยเน้นว่าถ้าใช้ไม่ระวังอาจสร้าง “หนี้ทางเทคนิค” เช่น การสร้างโค้ดที่ยากต่อการบำรุงรักษา หรือการทดสอบที่ไม่ครอบคลุม แต่หากใช้อย่างถูกต้อง AI สามารถช่วยลดเวลา เพิ่มความแม่นยำ และทำให้ทีม QA มีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/ai-in-qa-how-to-use-generative-ai-in-testing-without-creating-technical-debt 🥗 ChatGPT ช่วยให้คุณกินอาหารสุขภาพได้ บทความนี้เล่าว่า ChatGPT สามารถช่วยผู้ใช้วางแผนการกินที่ดีต่อสุขภาพได้ เช่น แนะนำเมนูที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง จัดตารางอาหารให้เหมาะกับเป้าหมายสุขภาพ และให้เคล็ดลับการทำอาหารที่ง่ายและดีต่อร่างกาย ถือเป็นการใช้ AI เพื่อสนับสนุนการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวัน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/how-chatgpt-can-help-you-eat-healthier-ai-tips-to-get-back-on-your-health-kick 🎮 คอนโทรลเลอร์เกมที่คุณชอบที่สุดคืออะไร บทความนี้เปิดประเด็นสนทนาเกี่ยวกับคอนโทรลเลอร์เกมที่ผู้เล่นชื่นชอบมากที่สุด โดยยกตัวอย่างคอนโทรลเลอร์ที่เคยมีในอดีต เช่น Steam Machine Controller ที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม พร้อมเชิญชวนให้ผู้อ่านแชร์ประสบการณ์และความเห็นว่าคอนโทรลเลอร์ใดที่ดีที่สุดสำหรับการเล่นเกม ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/gaming/gaming-accessories/forget-the-weird-steam-machine-controller-tell-me-whats-your-favourite-controller-of-all-time
    0 Comments 0 Shares 891 Views 0 Reviews
  • “เมมเบรนมหัศจรรย์” ระบายความร้อนเซิร์ฟเวอร์ AI ด้วยพลังระเหยเหนือขีดจำกัด

    ในยุคที่เซิร์ฟเวอร์ AI กำลังกลายเป็นสัตว์ร้ายที่กินไฟมหาศาล การระบายความร้อนจึงไม่ใช่แค่เรื่องของพัดลมหรือของเหลวอีกต่อไป นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย UC San Diego ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้เมมเบรนระบายความร้อนแบบระเหย ซึ่งสามารถจัดการกับความร้อนระดับ 800 วัตต์ต่อตารางเซนติเมตร — ตัวเลขที่สูงกว่าระบบทั่วไปหลายเท่า และยังไม่ถึงขีดจำกัดทางทฤษฎีของมันด้วยซ้ำ!

    เมมเบรน 3 ชั้น: โครงสร้างอัจฉริยะที่ทำงานร่วมกัน
    ระบบนี้ประกอบด้วย 3 ชั้นหลัก:
    ชั้นล่าง: มีไมโครแชนแนลสำหรับส่งของเหลว
    ชั้นกลาง: เป็นเมมเบรนที่ดูดซับของเหลวผ่านแรงแคปิลลารี
    ชั้นบน: เป็นตัวระเหยที่ปล่อยไอน้ำออก

    เมื่อของเหลวไหลผ่านไมโครแชนแนล มันจะถูกดูดเข้าสู่เมมเบรน และความร้อนจากชิปจะเปลี่ยนของเหลวเป็นไอ ซึ่งระบายออกผ่านชั้นบน ส่วนของเหลวที่ไม่ระเหยจะถูกรีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่

    แก้ปัญหาเดิมด้วยนวัตกรรมใหม่
    ระบบระบายความร้อนแบบเมมเบรนเคยมีปัญหาเรื่องรูพรุนที่เล็กหรือใหญ่เกินไป ทำให้เกิดการอุดตันหรือเดือด แต่เทคโนโลยีใหม่นี้ใช้โครงสร้างเส้นใยที่มีรูเชื่อมต่อกันขนาดพอดี จึงสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเสถียร

    พร้อมรับมือกับ GPU ยุคใหม่
    Nvidia เตรียมเปิดตัว GPU รุ่น Feynman ที่กินไฟถึง 4,400 วัตต์ — มากกว่ารุ่น Blackwell ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีระบายความร้อนแบบเดิมอาจไม่เพียงพอ และเมมเบรนระเหยนี้อาจเป็นคำตอบที่อุตสาหกรรมต้องการ

    เทคโนโลยีเมมเบรนระบายความร้อนแบบระเหย
    พัฒนาโดย UC San Diego
    ใช้โครงสร้าง 3 ชั้น: ไมโครแชนแนล, เมมเบรน, ตัวระเหย
    ระบายความร้อนสูงถึง 800 W/cm²

    ข้อดีเหนือระบบเดิม
    ไม่เกิดการอุดตันหรือเดือด
    เสถียรต่อเนื่องหลายชั่วโมง
    ยังต่ำกว่าขีดจำกัดทางทฤษฎี — มีโอกาสพัฒนาเพิ่ม

    รองรับเซิร์ฟเวอร์ AI รุ่นใหม่
    Nvidia Feynman GPU จะใช้พลังงานถึง 4,400W
    ระบบเดิมอาจไม่เพียงพอสำหรับความร้อนระดับนี้

    ข้อจำกัดของระบบระบายความร้อนแบบเดิม
    ระบบ immersion cooling ยังไม่ตอบโจทย์เซิร์ฟเวอร์ AI ที่ใช้พลังงานสูง
    การระบายความร้อนแบบน้ำหรืออากาศอาจไม่ทันต่อความร้อนที่เพิ่มขึ้น

    ความท้าทายของอุตสาหกรรม
    ความต้องการพลังงานของ AI เติบโตเร็วเกินกว่าระบบระบายความร้อนจะตามทัน
    หากไม่มีนวัตกรรมใหม่ อาจเกิดคอขวดในการพัฒนาเทคโนโลยี AI

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/membrane-evaporative-cooling-technology-achieves-record-breaking-results-could-be-a-solution-for-next-generation-ai-server-cooling-clocks-800-watts-of-heat-flux-per-square-centimeter
    ❄️⚙️ “เมมเบรนมหัศจรรย์” ระบายความร้อนเซิร์ฟเวอร์ AI ด้วยพลังระเหยเหนือขีดจำกัด ในยุคที่เซิร์ฟเวอร์ AI กำลังกลายเป็นสัตว์ร้ายที่กินไฟมหาศาล การระบายความร้อนจึงไม่ใช่แค่เรื่องของพัดลมหรือของเหลวอีกต่อไป นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย UC San Diego ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้เมมเบรนระบายความร้อนแบบระเหย ซึ่งสามารถจัดการกับความร้อนระดับ 800 วัตต์ต่อตารางเซนติเมตร — ตัวเลขที่สูงกว่าระบบทั่วไปหลายเท่า และยังไม่ถึงขีดจำกัดทางทฤษฎีของมันด้วยซ้ำ! 🧵 เมมเบรน 3 ชั้น: โครงสร้างอัจฉริยะที่ทำงานร่วมกัน ระบบนี้ประกอบด้วย 3 ชั้นหลัก: 💠 ชั้นล่าง: มีไมโครแชนแนลสำหรับส่งของเหลว 💠 ชั้นกลาง: เป็นเมมเบรนที่ดูดซับของเหลวผ่านแรงแคปิลลารี 💠 ชั้นบน: เป็นตัวระเหยที่ปล่อยไอน้ำออก เมื่อของเหลวไหลผ่านไมโครแชนแนล มันจะถูกดูดเข้าสู่เมมเบรน และความร้อนจากชิปจะเปลี่ยนของเหลวเป็นไอ ซึ่งระบายออกผ่านชั้นบน ส่วนของเหลวที่ไม่ระเหยจะถูกรีไซเคิลกลับมาใช้ใหม่ 🔬 แก้ปัญหาเดิมด้วยนวัตกรรมใหม่ ระบบระบายความร้อนแบบเมมเบรนเคยมีปัญหาเรื่องรูพรุนที่เล็กหรือใหญ่เกินไป ทำให้เกิดการอุดตันหรือเดือด แต่เทคโนโลยีใหม่นี้ใช้โครงสร้างเส้นใยที่มีรูเชื่อมต่อกันขนาดพอดี จึงสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเสถียร 🚀 พร้อมรับมือกับ GPU ยุคใหม่ Nvidia เตรียมเปิดตัว GPU รุ่น Feynman ที่กินไฟถึง 4,400 วัตต์ — มากกว่ารุ่น Blackwell ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีระบายความร้อนแบบเดิมอาจไม่เพียงพอ และเมมเบรนระเหยนี้อาจเป็นคำตอบที่อุตสาหกรรมต้องการ ✅ เทคโนโลยีเมมเบรนระบายความร้อนแบบระเหย ➡️ พัฒนาโดย UC San Diego ➡️ ใช้โครงสร้าง 3 ชั้น: ไมโครแชนแนล, เมมเบรน, ตัวระเหย ➡️ ระบายความร้อนสูงถึง 800 W/cm² ✅ ข้อดีเหนือระบบเดิม ➡️ ไม่เกิดการอุดตันหรือเดือด ➡️ เสถียรต่อเนื่องหลายชั่วโมง ➡️ ยังต่ำกว่าขีดจำกัดทางทฤษฎี — มีโอกาสพัฒนาเพิ่ม ✅ รองรับเซิร์ฟเวอร์ AI รุ่นใหม่ ➡️ Nvidia Feynman GPU จะใช้พลังงานถึง 4,400W ➡️ ระบบเดิมอาจไม่เพียงพอสำหรับความร้อนระดับนี้ ‼️ ข้อจำกัดของระบบระบายความร้อนแบบเดิม ⛔ ระบบ immersion cooling ยังไม่ตอบโจทย์เซิร์ฟเวอร์ AI ที่ใช้พลังงานสูง ⛔ การระบายความร้อนแบบน้ำหรืออากาศอาจไม่ทันต่อความร้อนที่เพิ่มขึ้น ‼️ ความท้าทายของอุตสาหกรรม ⛔ ความต้องการพลังงานของ AI เติบโตเร็วเกินกว่าระบบระบายความร้อนจะตามทัน ⛔ หากไม่มีนวัตกรรมใหม่ อาจเกิดคอขวดในการพัฒนาเทคโนโลยี AI https://www.tomshardware.com/pc-components/cooling/membrane-evaporative-cooling-technology-achieves-record-breaking-results-could-be-a-solution-for-next-generation-ai-server-cooling-clocks-800-watts-of-heat-flux-per-square-centimeter
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Membrane evaporative cooling tech achieves record-breaking results, could be solution for next-generation AI server cooling — clocks 800 watts of heat flux per square centimeter
    Membrane evaporative cooling achieved 800 watts of heat flux per square centimeter, and it's not even close to its theoretical performance limit.
    0 Comments 0 Shares 170 Views 0 Reviews
  • Amazon เปิดตัวหุ่นยนต์ Blue Jay และ AI Eluna พลิกโฉมโลจิสติกส์ เพิ่มประสิทธิภาพ ลดภาระพนักงาน

    Amazon เผยโฉมนวัตกรรมใหม่ในระบบโลจิสติกส์ ได้แก่ “Blue Jay” หุ่นยนต์แขนกลอัจฉริยะ และ “Project Eluna” ผู้ช่วย AI สำหรับผู้จัดการคลังสินค้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดงานซ้ำซ้อน และยกระดับประสิทธิภาพการจัดส่ง

    Amazon กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการทำงานในคลังสินค้า โดยเปิดตัว 2 เทคโนโลยีใหม่ ได้แก่:

    1️⃣ Blue Jay – หุ่นยนต์แขนกลหลายแขนที่สามารถทำงานร่วมกับพนักงานได้อย่างคล่องตัว เช่น หยิบของ เก็บของ และจัดเรียงสินค้าในพื้นที่เดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปรียบเสมือน “นักเล่นกลที่ไม่เคยทำของตก” และ “วาทยกร” ที่ควบคุมการเคลื่อนไหวอย่างแม่นยำ โดยใช้พื้นที่น้อยลงแต่ทำงานได้มากขึ้น ปัจจุบันกำลังทดสอบในศูนย์ของ Amazon ที่เซาท์แคโรไลนา และสามารถจัดการสินค้ากว่า 75% ของคลังได้แล้ว

    2️⃣ Project Eluna – ผู้ช่วย AI สำหรับผู้จัดการคลังสินค้า ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเรียลไทม์และประวัติการทำงาน เพื่อแนะนำการตัดสินใจ เช่น การจัดสรรพนักงานเพื่อหลีกเลี่ยงคอขวดในระบบ โดยผู้จัดการสามารถถามคำถามเชิงกลยุทธ์ เช่น “ควรย้ายพนักงานไปตรงไหนเพื่อป้องกันความล่าช้า?” แล้ว Eluna จะให้คำตอบที่มีข้อมูลรองรับ

    ทั้งสองเทคโนโลยีนี้มีเป้าหมายร่วมกันคือ ลดภาระงานซ้ำซ้อน เพิ่มความปลอดภัยทางกายภาพ และเปิดโอกาสให้พนักงานได้พัฒนาทักษะในงานที่มีคุณค่ามากขึ้น

    หุ่นยนต์ Blue Jay
    เป็นระบบแขนกลหลายแขนที่ทำงานร่วมกับพนักงาน
    รวม 3 สถานีงาน (หยิบ-เก็บ-รวมสินค้า) ไว้ในจุดเดียว
    ใช้พื้นที่น้อยลงแต่ทำงานได้มากขึ้น
    ทดสอบแล้วในศูนย์ Amazon ที่เซาท์แคโรไลนา

    AI ผู้ช่วย Project Eluna
    วิเคราะห์ข้อมูลเรียลไทม์และประวัติการทำงาน
    แนะนำการจัดสรรทรัพยากรเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา
    ช่วยให้ผู้จัดการวางแผนเชิงรุก แทนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

    เป้าหมายของเทคโนโลยี
    ลดงานซ้ำซ้อน เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน
    สนับสนุนการเติบโตของพนักงานในบทบาทที่มีคุณค่ามากขึ้น

    คำเตือนเกี่ยวกับการใช้ AI และหุ่นยนต์ในที่ทำงาน
    ควรมีการฝึกอบรมพนักงานให้เข้าใจการทำงานร่วมกับ AI
    ต้องมีมาตรการป้องกันการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป
    ควรติดตามผลกระทบต่อแรงงานในระยะยาวอย่างใกล้ชิด

    https://securityonline.info/future-of-logistics-amazon-unveils-blue-jay-robot-and-eluna-ai-assistant/
    🤖 Amazon เปิดตัวหุ่นยนต์ Blue Jay และ AI Eluna พลิกโฉมโลจิสติกส์ เพิ่มประสิทธิภาพ ลดภาระพนักงาน Amazon เผยโฉมนวัตกรรมใหม่ในระบบโลจิสติกส์ ได้แก่ “Blue Jay” หุ่นยนต์แขนกลอัจฉริยะ และ “Project Eluna” ผู้ช่วย AI สำหรับผู้จัดการคลังสินค้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดงานซ้ำซ้อน และยกระดับประสิทธิภาพการจัดส่ง Amazon กำลังเร่งพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการทำงานในคลังสินค้า โดยเปิดตัว 2 เทคโนโลยีใหม่ ได้แก่: 1️⃣ Blue Jay – หุ่นยนต์แขนกลหลายแขนที่สามารถทำงานร่วมกับพนักงานได้อย่างคล่องตัว เช่น หยิบของ เก็บของ และจัดเรียงสินค้าในพื้นที่เดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปรียบเสมือน “นักเล่นกลที่ไม่เคยทำของตก” และ “วาทยกร” ที่ควบคุมการเคลื่อนไหวอย่างแม่นยำ โดยใช้พื้นที่น้อยลงแต่ทำงานได้มากขึ้น ปัจจุบันกำลังทดสอบในศูนย์ของ Amazon ที่เซาท์แคโรไลนา และสามารถจัดการสินค้ากว่า 75% ของคลังได้แล้ว 2️⃣ Project Eluna – ผู้ช่วย AI สำหรับผู้จัดการคลังสินค้า ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเรียลไทม์และประวัติการทำงาน เพื่อแนะนำการตัดสินใจ เช่น การจัดสรรพนักงานเพื่อหลีกเลี่ยงคอขวดในระบบ โดยผู้จัดการสามารถถามคำถามเชิงกลยุทธ์ เช่น “ควรย้ายพนักงานไปตรงไหนเพื่อป้องกันความล่าช้า?” แล้ว Eluna จะให้คำตอบที่มีข้อมูลรองรับ ทั้งสองเทคโนโลยีนี้มีเป้าหมายร่วมกันคือ ลดภาระงานซ้ำซ้อน เพิ่มความปลอดภัยทางกายภาพ และเปิดโอกาสให้พนักงานได้พัฒนาทักษะในงานที่มีคุณค่ามากขึ้น ✅ หุ่นยนต์ Blue Jay ➡️ เป็นระบบแขนกลหลายแขนที่ทำงานร่วมกับพนักงาน ➡️ รวม 3 สถานีงาน (หยิบ-เก็บ-รวมสินค้า) ไว้ในจุดเดียว ➡️ ใช้พื้นที่น้อยลงแต่ทำงานได้มากขึ้น ➡️ ทดสอบแล้วในศูนย์ Amazon ที่เซาท์แคโรไลนา ✅ AI ผู้ช่วย Project Eluna ➡️ วิเคราะห์ข้อมูลเรียลไทม์และประวัติการทำงาน ➡️ แนะนำการจัดสรรทรัพยากรเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ➡️ ช่วยให้ผู้จัดการวางแผนเชิงรุก แทนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ✅ เป้าหมายของเทคโนโลยี ➡️ ลดงานซ้ำซ้อน เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน ➡️ สนับสนุนการเติบโตของพนักงานในบทบาทที่มีคุณค่ามากขึ้น ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับการใช้ AI และหุ่นยนต์ในที่ทำงาน ⛔ ควรมีการฝึกอบรมพนักงานให้เข้าใจการทำงานร่วมกับ AI ⛔ ต้องมีมาตรการป้องกันการพึ่งพาเทคโนโลยีมากเกินไป ⛔ ควรติดตามผลกระทบต่อแรงงานในระยะยาวอย่างใกล้ชิด https://securityonline.info/future-of-logistics-amazon-unveils-blue-jay-robot-and-eluna-ai-assistant/
    SECURITYONLINE.INFO
    Future of Logistics: Amazon Unveils Blue Jay Robot and Eluna AI Assistant
    Amazon introduced Blue Jay, a multi-arm robot for packing, and Project Eluna, an AI assistant for managers, promising safer, faster operations.
    0 Comments 0 Shares 305 Views 0 Reviews
  • “Meta เปิดตัวเคเบิลใต้น้ำ ‘Candle’ ความเร็ว 570 Tbps — ปูทางสู่ยุค AI ในเอเชียแปซิฟิก”

    Meta ประกาศลงทุนสร้างระบบเคเบิลใต้น้ำใหม่ชื่อว่า “Candle” ซึ่งจะเชื่อมโยงประเทศในเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยมีระยะทางรวมกว่า 8,000 กิโลเมตร และความสามารถในการส่งข้อมูลสูงถึง 570 Tbps ถือเป็นเครือข่ายข้อมูลใต้น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้

    โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมความมั่นคงของโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการส่งข้อมูลข้ามพรมแดน และรองรับความต้องการด้าน AI และแอปพลิเคชันดิจิทัลที่ใช้แบนด์วิดท์สูง โดยจะใช้เทคโนโลยีไฟเบอร์ออปติกแบบ 24 คู่สาย ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ให้ความหนาแน่นและความเร็วสูงกว่าระบบเดิมหลายเท่า

    นอกจาก Candle แล้ว Meta ยังอัปเดตความคืบหน้าของเคเบิลใต้น้ำอีก 3 เส้น ได้แก่

    1️⃣ Apricot ที่เชื่อมไต้หวัน ญี่ปุ่น และกวม พร้อมแผนขยายไปยังฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ รวมระยะทาง 12,000 กิโลเมตร และเพิ่มความจุอีก 290 Tbps

    2️⃣ Bifrost ที่เชื่อมสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสหรัฐฯ พร้อมแผนขยายไปเม็กซิโกในปี 2026 ให้ความจุ 260 Tbps

    3️⃣ Echo ที่เชื่อมกวมกับแคลิฟอร์เนีย ให้ความจุ 260 Tbps เช่นกัน และอาจขยายไปยังประเทศในเอเชียเพิ่มเติมตามความต้องการ

    Meta เน้นว่าเอเชียแปซิฟิกซึ่งมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 58% ของโลก จำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อรองรับการประมวลผล AI และบริการคลาวด์ โดย Candle จะเป็นแกนหลักของการเชื่อมต่อยุคใหม่ที่ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างทั่วถึง

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Meta ลงทุนสร้างเคเบิลใต้น้ำ “Candle” ความเร็ว 570 Tbps
    เชื่อมโยง 6 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก: ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์
    ระยะทางรวม 8,000 กิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2028
    ใช้เทคโนโลยีไฟเบอร์ออปติกแบบ 24 คู่สาย (24-fiber pair)
    รองรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 580 ล้านคนในภูมิภาค
    เสริมความมั่นคงของโครงข่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการส่งข้อมูลข้ามพรมแดน
    สนับสนุนการพัฒนา AI และระบบดิจิทัลยุคใหม่
    Apricot เพิ่มความจุ 290 Tbps เชื่อม 5 ประเทศ
    Bifrost และ Echo ให้ความจุ 260 Tbps ต่อเส้น
    Meta มีแผนขยายเคเบิลไปยังเม็กซิโกและประเทศอื่นในเอเชีย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    เคเบิลใต้น้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของอินเทอร์เน็ตโลก โดยส่งข้อมูลกว่า 95% ของทั้งหมด
    ความเร็ว 570 Tbps เทียบเท่าการส่งวิดีโอ 4K พร้อมกันหลายสิบล้านสตรีม
    การใช้ 24-fiber pair เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
    เคเบิลใต้น้ำมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 25 ปี และต้องการการดูแลตลอดเวลา
    Meta ยังมีโครงการ “Waterworth” และ “2Africa” เพื่อเชื่อมโยง 5 ทวีปและภูมิภาคอื่น

    https://securityonline.info/meta-unveils-candle-submarine-cable-the-largest-570-tbps-data-network-for-asia-pacific-ai/
    🌊 “Meta เปิดตัวเคเบิลใต้น้ำ ‘Candle’ ความเร็ว 570 Tbps — ปูทางสู่ยุค AI ในเอเชียแปซิฟิก” Meta ประกาศลงทุนสร้างระบบเคเบิลใต้น้ำใหม่ชื่อว่า “Candle” ซึ่งจะเชื่อมโยงประเทศในเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยมีระยะทางรวมกว่า 8,000 กิโลเมตร และความสามารถในการส่งข้อมูลสูงถึง 570 Tbps ถือเป็นเครือข่ายข้อมูลใต้น้ำที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมความมั่นคงของโครงข่ายอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพการส่งข้อมูลข้ามพรมแดน และรองรับความต้องการด้าน AI และแอปพลิเคชันดิจิทัลที่ใช้แบนด์วิดท์สูง โดยจะใช้เทคโนโลยีไฟเบอร์ออปติกแบบ 24 คู่สาย ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ให้ความหนาแน่นและความเร็วสูงกว่าระบบเดิมหลายเท่า นอกจาก Candle แล้ว Meta ยังอัปเดตความคืบหน้าของเคเบิลใต้น้ำอีก 3 เส้น ได้แก่ 1️⃣ Apricot ที่เชื่อมไต้หวัน ญี่ปุ่น และกวม พร้อมแผนขยายไปยังฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ รวมระยะทาง 12,000 กิโลเมตร และเพิ่มความจุอีก 290 Tbps 2️⃣ Bifrost ที่เชื่อมสิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และสหรัฐฯ พร้อมแผนขยายไปเม็กซิโกในปี 2026 ให้ความจุ 260 Tbps 3️⃣ Echo ที่เชื่อมกวมกับแคลิฟอร์เนีย ให้ความจุ 260 Tbps เช่นกัน และอาจขยายไปยังประเทศในเอเชียเพิ่มเติมตามความต้องการ Meta เน้นว่าเอเชียแปซิฟิกซึ่งมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 58% ของโลก จำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อรองรับการประมวลผล AI และบริการคลาวด์ โดย Candle จะเป็นแกนหลักของการเชื่อมต่อยุคใหม่ที่ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างทั่วถึง ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Meta ลงทุนสร้างเคเบิลใต้น้ำ “Candle” ความเร็ว 570 Tbps ➡️ เชื่อมโยง 6 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก: ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ➡️ ระยะทางรวม 8,000 กิโลเมตร คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2028 ➡️ ใช้เทคโนโลยีไฟเบอร์ออปติกแบบ 24 คู่สาย (24-fiber pair) ➡️ รองรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกว่า 580 ล้านคนในภูมิภาค ➡️ เสริมความมั่นคงของโครงข่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการส่งข้อมูลข้ามพรมแดน ➡️ สนับสนุนการพัฒนา AI และระบบดิจิทัลยุคใหม่ ➡️ Apricot เพิ่มความจุ 290 Tbps เชื่อม 5 ประเทศ ➡️ Bifrost และ Echo ให้ความจุ 260 Tbps ต่อเส้น ➡️ Meta มีแผนขยายเคเบิลไปยังเม็กซิโกและประเทศอื่นในเอเชีย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ เคเบิลใต้น้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของอินเทอร์เน็ตโลก โดยส่งข้อมูลกว่า 95% ของทั้งหมด ➡️ ความเร็ว 570 Tbps เทียบเท่าการส่งวิดีโอ 4K พร้อมกันหลายสิบล้านสตรีม ➡️ การใช้ 24-fiber pair เป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ➡️ เคเบิลใต้น้ำมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 25 ปี และต้องการการดูแลตลอดเวลา ➡️ Meta ยังมีโครงการ “Waterworth” และ “2Africa” เพื่อเชื่อมโยง 5 ทวีปและภูมิภาคอื่น https://securityonline.info/meta-unveils-candle-submarine-cable-the-largest-570-tbps-data-network-for-asia-pacific-ai/
    SECURITYONLINE.INFO
    Meta Unveils "Candle" Submarine Cable: The Largest 570 Tbps Data Network for Asia-Pacific AI
    Meta announced a $570 Tbps "Candle" submarine cable to connect Taiwan, Japan, Philippines, Indonesia, Malaysia, and Singapore, strengthening Asia-Pacific AI data capacity by 2028.
    0 Comments 0 Shares 394 Views 0 Reviews
  • เครื่องหั่นมันฝรั่ง หั่นมันแกวทำเฟรนช์ฟรายส์
    นวัตกรรมใหม่! หั่น มันแกว ให้เป็นแท่งสวยเป๊ะเหมือนเฟรนช์ฟรายส์ ด้วย เครื่องหั่นมันฝรั่ง (Potato Slicer) จาก ย.ย่งฮะเฮง!

    ใครว่าเครื่องหั่นมันฝรั่งจะหั่นได้แต่มันฝรั่ง? วันนี้เรามีไอเดียสุดว้าว! เปลี่ยนเมนูธรรมดาให้พิเศษ
    อัปเกรดธุรกิจของคุณด้วย เครื่องหั่นมันฝรั่งที่หั่นวัตถุดิบได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

    มันแกวทอด/อบกรอบ: เมนูทานเล่นใหม่ ๆ เพื่อสุขภาพ
    มันฝรั่งแท่ง: เฟรนช์ฟรายส์มาตรฐานสากล
    กระชาย/ขิง/แครอท: สำหรับธุรกิจสมุนไพรและอาหารแปรรูป

    จุดเด่นที่ทำให้คุณไม่ควรพลาด:
    อเนกประสงค์ : หั่นได้หลากหลายกว่าที่คิด ตั้งแต่มันแกวถึงกระชาย!
    ชิ้นงานสม่ำเสมอ: ปรับความหนาได้ตามต้องการ ได้ชิ้นงานสวยเท่ากันทุกแท่ง
    ผลิตเร็วแรงสูง: กำลังการผลิต 100-300 KG/H ประหยัดเวลาแรงงานไปได้เยอะ!
    อย่าปล่อยให้การหั่นช้าทำให้ธุรกิจสะดุด! ลงทุนครั้งเดียว คุ้มค่าระยะยาว!

    สนใจดูสินค้าจริงและสอบถามเพิ่มเติม:
    ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
    เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ (8.00-17.00 น.), เสาร์ (8.00-16.00 น.)
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    แชท: m.me/yonghahheng
    LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9
    โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    อีเมล: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com

    #เครื่องหั่นมันฝรั่ง #เครื่องหั่นผัก #เครื่องหั่นมันแกว #มันแกวเฟรนช์ฟรายส์ #เฟรนช์ฟรายส์ #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องจักรอุตสาหกรรม #เครื่องครัวเชิงพาณิชย์ #ยงฮะเฮง #Yoryonghahheng #เครื่องหั่นสแตนเลส #เครื่องหั่นผักอเนกประสงค์ #เครื่องหั่นผลไม้ #เครื่องหั่นกระชาย #เครื่องหั่นขิง #ธุรกิจอาหาร #ร้านอาหาร #โรงงานแปรรูป #อาหารแช่แข็ง #อาหารแปรรูป #วัตถุดิบสดใหม่ #อุปกรณ์ครัว #ลดต้นทุน #เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต #ลงทุนธุรกิจ #ครัวมืออาชีพ #ของดีบอกต่อ #ทำอาหารขาย #สินค้าพร้อมส่ง #เครื่องจักรนำเข้า
    🥔🍠 เครื่องหั่นมันฝรั่ง หั่นมันแกวทำเฟรนช์ฟรายส์ 🍟✨ ✨ นวัตกรรมใหม่! หั่น มันแกว ให้เป็นแท่งสวยเป๊ะเหมือนเฟรนช์ฟรายส์ ด้วย เครื่องหั่นมันฝรั่ง (Potato Slicer) จาก ย.ย่งฮะเฮง! 🚀 ใครว่าเครื่องหั่นมันฝรั่งจะหั่นได้แต่มันฝรั่ง? 🧐 วันนี้เรามีไอเดียสุดว้าว! เปลี่ยนเมนูธรรมดาให้พิเศษ ✨ อัปเกรดธุรกิจของคุณด้วย เครื่องหั่นมันฝรั่งที่หั่นวัตถุดิบได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น มันแกวทอด/อบกรอบ: เมนูทานเล่นใหม่ ๆ เพื่อสุขภาพ 💚 มันฝรั่งแท่ง: เฟรนช์ฟรายส์มาตรฐานสากล 🍟 กระชาย/ขิง/แครอท: สำหรับธุรกิจสมุนไพรและอาหารแปรรูป 🥕 ✅ จุดเด่นที่ทำให้คุณไม่ควรพลาด: อเนกประสงค์ 💯: หั่นได้หลากหลายกว่าที่คิด ตั้งแต่มันแกวถึงกระชาย! ชิ้นงานสม่ำเสมอ: ปรับความหนาได้ตามต้องการ ได้ชิ้นงานสวยเท่ากันทุกแท่ง ผลิตเร็วแรงสูง: กำลังการผลิต 100-300 KG/H ประหยัดเวลาแรงงานไปได้เยอะ! ⏱️ อย่าปล่อยให้การหั่นช้าทำให้ธุรกิจสะดุด! 🛠️ ลงทุนครั้งเดียว คุ้มค่าระยะยาว! 🛒 สนใจดูสินค้าจริงและสอบถามเพิ่มเติม: ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ (8.00-17.00 น.), เสาร์ (8.00-16.00 น.) แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 แชท: m.me/yonghahheng LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9 โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com อีเมล: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com #เครื่องหั่นมันฝรั่ง #เครื่องหั่นผัก #เครื่องหั่นมันแกว #มันแกวเฟรนช์ฟรายส์ #เฟรนช์ฟรายส์ #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องจักรอุตสาหกรรม #เครื่องครัวเชิงพาณิชย์ #ยงฮะเฮง #Yoryonghahheng #เครื่องหั่นสแตนเลส #เครื่องหั่นผักอเนกประสงค์ #เครื่องหั่นผลไม้ #เครื่องหั่นกระชาย #เครื่องหั่นขิง #ธุรกิจอาหาร #ร้านอาหาร #โรงงานแปรรูป #อาหารแช่แข็ง #อาหารแปรรูป #วัตถุดิบสดใหม่ #อุปกรณ์ครัว #ลดต้นทุน #เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต #ลงทุนธุรกิจ #ครัวมืออาชีพ #ของดีบอกต่อ #ทำอาหารขาย #สินค้าพร้อมส่ง #เครื่องจักรนำเข้า
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 1365 Views 0 Reviews
  • “Solidigm เปิดตัว SSD ระบายความร้อนด้วยน้ำรุ่นแรกของโลก — D7-PS1010 พลิกโฉมเซิร์ฟเวอร์ AI ด้วยดีไซน์ E.1 PCIe 5.0”

    ในยุคที่ศูนย์ข้อมูลต้องรับมือกับภาระงาน AI ที่หนักหน่วงและความร้อนที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง Solidigm ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุด — SSD รุ่น D7-PS1010 ซึ่งเป็น SSD ระดับองค์กรรุ่นแรกของโลกที่ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำโดยตรง

    D7-PS1010 มาในรูปแบบ E.1 ที่บางเฉียบ พร้อมอินเทอร์เฟซ PCIe 5.0 และถูกออกแบบให้มี cold plate หุ้มรอบแผงวงจร พร้อมหัวต่อท่อน้ำที่ปลายทั้งสองด้าน ทำให้สามารถถอดเปลี่ยนได้แบบ hot-swap โดยไม่ต้องปิดระบบ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในศูนย์ข้อมูลที่ต้องการ uptime สูงสุด

    Solidigm ระบุว่า SSD รุ่นนี้เหมาะสำหรับเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ใช้ Direct-Attached Storage (DAS) โดยเฉพาะ และได้ร่วมมือกับ Supermicro เพื่อทดสอบการใช้งานร่วมกับเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ Nvidia HGX B300 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI ระดับสูง

    ด้านประสิทธิภาพ D7-PS1010 มีความเร็วในการอ่านแบบ sequential สูงถึง 14,500 MB/s และเขียนที่ 8,400 MB/s พร้อมรองรับ IOPS สำหรับการอ่านแบบสุ่มถึง 3.2 ล้านครั้งต่อวินาที และเขียนที่ 315,000 ครั้ง โดยใช้ NAND แบบ TLC 3D 176 ชั้น และมีความจุให้เลือก 3.84 TB และ 7.68 TB

    ที่น่าสนใจคือระบบระบายความร้อนสามารถทำงานได้ทั้งสองด้านของ PCB พร้อมช่วยลดการใช้พัดลมใน storage bay ซึ่งอาจนำไปสู่การออกแบบเซิร์ฟเวอร์ที่เล็กลงและประหยัดพลังงานมากขึ้น

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Solidigm เปิดตัว D7-PS1010 SSD ระดับองค์กรรุ่นแรกที่ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ
    ใช้รูปแบบ E.1 พร้อมอินเทอร์เฟซ PCIe 5.0 และ cold plate หุ้มรอบแผงวงจร
    รองรับการถอดเปลี่ยนแบบ hot-swap โดยไม่ต้องปิดระบบ
    เหมาะสำหรับเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ใช้ Direct-Attached Storage (DAS)
    ร่วมมือกับ Supermicro ทดสอบใช้งานในเซิร์ฟเวอร์ Nvidia HGX B300
    ความเร็ว sequential read/write อยู่ที่ 14,500 / 8,400 MB/s
    รองรับ IOPS สำหรับ random read/write ที่ 3.2 ล้าน / 315,000
    ใช้ NAND แบบ TLC 3D 176 ชั้น มีความจุ 3.84 TB และ 7.68 TB
    MTBF อยู่ที่ 2.5 ล้านชั่วโมง พร้อมรับประกัน 5 ปี
    ระบบระบายความร้อนช่วยลดการใช้พัดลมใน storage bay

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    E.1 เป็นฟอร์มแฟกเตอร์ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเซิร์ฟเวอร์ยุค AI โดยเฉพาะ
    PCIe 5.0 ให้แบนด์วิดธ์สูงกว่า PCIe 4.0 ถึงสองเท่า เหมาะกับงาน AI/ML
    การใช้ cold plate แบบ wraparound ช่วยลดจุดร้อนเฉพาะจุดใน SSD ได้ดี
    DAS มี latency ต่ำกว่าการใช้ SAN หรือ NAS และเหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วสูง
    การลดการใช้พัดลมช่วยลดเสียงรบกวนและเพิ่มความน่าเชื่อถือของระบบ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/solidigm-touts-industrys-first-liquid-cooled-enterprise-ssd-d7-ps1010-is-an-e-1-pcie-5-0-drive-with-a-wrap-around-cold-plate
    💧 “Solidigm เปิดตัว SSD ระบายความร้อนด้วยน้ำรุ่นแรกของโลก — D7-PS1010 พลิกโฉมเซิร์ฟเวอร์ AI ด้วยดีไซน์ E.1 PCIe 5.0” ในยุคที่ศูนย์ข้อมูลต้องรับมือกับภาระงาน AI ที่หนักหน่วงและความร้อนที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง Solidigm ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุด — SSD รุ่น D7-PS1010 ซึ่งเป็น SSD ระดับองค์กรรุ่นแรกของโลกที่ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำโดยตรง D7-PS1010 มาในรูปแบบ E.1 ที่บางเฉียบ พร้อมอินเทอร์เฟซ PCIe 5.0 และถูกออกแบบให้มี cold plate หุ้มรอบแผงวงจร พร้อมหัวต่อท่อน้ำที่ปลายทั้งสองด้าน ทำให้สามารถถอดเปลี่ยนได้แบบ hot-swap โดยไม่ต้องปิดระบบ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในศูนย์ข้อมูลที่ต้องการ uptime สูงสุด Solidigm ระบุว่า SSD รุ่นนี้เหมาะสำหรับเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ใช้ Direct-Attached Storage (DAS) โดยเฉพาะ และได้ร่วมมือกับ Supermicro เพื่อทดสอบการใช้งานร่วมกับเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ Nvidia HGX B300 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI ระดับสูง ด้านประสิทธิภาพ D7-PS1010 มีความเร็วในการอ่านแบบ sequential สูงถึง 14,500 MB/s และเขียนที่ 8,400 MB/s พร้อมรองรับ IOPS สำหรับการอ่านแบบสุ่มถึง 3.2 ล้านครั้งต่อวินาที และเขียนที่ 315,000 ครั้ง โดยใช้ NAND แบบ TLC 3D 176 ชั้น และมีความจุให้เลือก 3.84 TB และ 7.68 TB ที่น่าสนใจคือระบบระบายความร้อนสามารถทำงานได้ทั้งสองด้านของ PCB พร้อมช่วยลดการใช้พัดลมใน storage bay ซึ่งอาจนำไปสู่การออกแบบเซิร์ฟเวอร์ที่เล็กลงและประหยัดพลังงานมากขึ้น ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Solidigm เปิดตัว D7-PS1010 SSD ระดับองค์กรรุ่นแรกที่ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ➡️ ใช้รูปแบบ E.1 พร้อมอินเทอร์เฟซ PCIe 5.0 และ cold plate หุ้มรอบแผงวงจร ➡️ รองรับการถอดเปลี่ยนแบบ hot-swap โดยไม่ต้องปิดระบบ ➡️ เหมาะสำหรับเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ใช้ Direct-Attached Storage (DAS) ➡️ ร่วมมือกับ Supermicro ทดสอบใช้งานในเซิร์ฟเวอร์ Nvidia HGX B300 ➡️ ความเร็ว sequential read/write อยู่ที่ 14,500 / 8,400 MB/s ➡️ รองรับ IOPS สำหรับ random read/write ที่ 3.2 ล้าน / 315,000 ➡️ ใช้ NAND แบบ TLC 3D 176 ชั้น มีความจุ 3.84 TB และ 7.68 TB ➡️ MTBF อยู่ที่ 2.5 ล้านชั่วโมง พร้อมรับประกัน 5 ปี ➡️ ระบบระบายความร้อนช่วยลดการใช้พัดลมใน storage bay ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ E.1 เป็นฟอร์มแฟกเตอร์ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเซิร์ฟเวอร์ยุค AI โดยเฉพาะ ➡️ PCIe 5.0 ให้แบนด์วิดธ์สูงกว่า PCIe 4.0 ถึงสองเท่า เหมาะกับงาน AI/ML ➡️ การใช้ cold plate แบบ wraparound ช่วยลดจุดร้อนเฉพาะจุดใน SSD ได้ดี ➡️ DAS มี latency ต่ำกว่าการใช้ SAN หรือ NAS และเหมาะกับงานที่ต้องการความเร็วสูง ➡️ การลดการใช้พัดลมช่วยลดเสียงรบกวนและเพิ่มความน่าเชื่อถือของระบบ https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/solidigm-touts-industrys-first-liquid-cooled-enterprise-ssd-d7-ps1010-is-an-e-1-pcie-5-0-drive-with-a-wrap-around-cold-plate
    0 Comments 0 Shares 275 Views 0 Reviews
  • “เซลล์เชื้อเพลิงเซรามิกพิมพ์สามมิติจาก DTU — เบา ทน และผลิตพลังงานได้มากกว่าหนึ่งวัตต์ต่อกรัม พร้อมพลิกโฉมอุตสาหกรรมการบิน”

    ทีมนักวิจัยจาก Technical University of Denmark (DTU) ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่อาจเปลี่ยนอนาคตของเซลล์เชื้อเพลิงสำหรับการบิน ด้วยการพัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงแบบใหม่ที่เรียกว่า “Monolithic Gyroidal Solid Oxide Cell” หรือ “The Monolith” ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติจากวัสดุเซรามิกทั้งหมด

    จุดเด่นของเซลล์เชื้อเพลิงนี้คือโครงสร้างแบบ “gyroid” ซึ่งเป็นรูปทรงเรขาคณิตที่เรียกว่า triply periodic minimal surface (TPMS) มีคุณสมบัติด้านการกระจายความร้อนดีเยี่ยม พื้นที่ผิวสูง และน้ำหนักเบา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากโครงสร้างธรรมชาติ เช่น ปะการังและปีกผีเสื้อ

    ต่างจากเซลล์เชื้อเพลิงทั่วไปที่ใช้โลหะเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งคิดเป็นกว่า 75% ของน้ำหนักทั้งหมด เซลล์เชื้อเพลิงแบบใหม่ของ DTU ใช้เซรามิกล้วน ทำให้เบากว่า ทนต่อการกัดกร่อน และสามารถผลิตพลังงานได้มากกว่า 1 วัตต์ต่อกรัม ซึ่งเป็นอัตราส่วนพลังงานต่อน้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมการบิน

    นอกจากนี้ “The Monolith” ยังสามารถสลับโหมดการทำงานระหว่างการผลิตพลังงานและการเก็บพลังงาน (electrolysis mode) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในโหมด electrolysis สามารถผลิตไฮโดรเจนได้มากกว่ามาตรฐานถึง 10 เท่า

    การผลิตด้วยการพิมพ์สามมิติยังช่วยลดขั้นตอนการประกอบ ลดจำนวนชิ้นส่วน และเพิ่มความแม่นยำในการควบคุมโครงสร้างภายใน ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง และสามารถปรับแต่งการออกแบบได้ตามความต้องการเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรม

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    DTU พัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงแบบใหม่ชื่อ “Monolithic Gyroidal Solid Oxide Cell” หรือ “The Monolith”
    ใช้โครงสร้าง gyroid ซึ่งเป็น TPMS เพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวและลดน้ำหนัก
    ผลิตจากเซรามิกทั้งหมด ไม่มีส่วนประกอบโลหะ
    ให้พลังงานมากกว่า 1 วัตต์ต่อกรัม ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมการบิน

    คุณสมบัติเด่นของเซลล์เชื้อเพลิง
    ทนต่ออุณหภูมิสูงถึง 100°C และสลับโหมดการทำงานได้ระหว่างผลิตและเก็บพลังงาน
    โหมด electrolysis เพิ่มอัตราการผลิตไฮโดรเจนได้ถึง 10 เท่า
    โครงสร้าง gyroid ช่วยกระจายความร้อนและไหลเวียนก๊าซได้ดี
    การพิมพ์สามมิติช่วยลดขั้นตอนการผลิตและต้นทุน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    TPMS ถูกใช้ในงานวิศวกรรม เช่น heat exchanger และวัสดุโครงสร้างเบา
    เซลล์เชื้อเพลิงแบบ solid oxide (SOC) ถูกใช้ในโรงพยาบาล เรือ และระบบพลังงานหมุนเวียน
    การใช้เซรามิกแทนโลหะช่วยลดปัญหาการกัดกร่อนและเพิ่มอายุการใช้งาน
    DTU เป็นหนึ่งในสถาบันที่มีผลงานวิจัยด้านพลังงานสะอาดระดับแนวหน้าในยุโรป

    https://www.tomshardware.com/3d-printing/researchers-3d-print-lightweight-ceramic-fuel-cell-suggests-alternative-power-source-for-the-aerospace-industry
    🔬 “เซลล์เชื้อเพลิงเซรามิกพิมพ์สามมิติจาก DTU — เบา ทน และผลิตพลังงานได้มากกว่าหนึ่งวัตต์ต่อกรัม พร้อมพลิกโฉมอุตสาหกรรมการบิน” ทีมนักวิจัยจาก Technical University of Denmark (DTU) ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่อาจเปลี่ยนอนาคตของเซลล์เชื้อเพลิงสำหรับการบิน ด้วยการพัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงแบบใหม่ที่เรียกว่า “Monolithic Gyroidal Solid Oxide Cell” หรือ “The Monolith” ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติจากวัสดุเซรามิกทั้งหมด จุดเด่นของเซลล์เชื้อเพลิงนี้คือโครงสร้างแบบ “gyroid” ซึ่งเป็นรูปทรงเรขาคณิตที่เรียกว่า triply periodic minimal surface (TPMS) มีคุณสมบัติด้านการกระจายความร้อนดีเยี่ยม พื้นที่ผิวสูง และน้ำหนักเบา โดยได้รับแรงบันดาลใจจากโครงสร้างธรรมชาติ เช่น ปะการังและปีกผีเสื้อ ต่างจากเซลล์เชื้อเพลิงทั่วไปที่ใช้โลหะเป็นส่วนประกอบหลัก ซึ่งคิดเป็นกว่า 75% ของน้ำหนักทั้งหมด เซลล์เชื้อเพลิงแบบใหม่ของ DTU ใช้เซรามิกล้วน ทำให้เบากว่า ทนต่อการกัดกร่อน และสามารถผลิตพลังงานได้มากกว่า 1 วัตต์ต่อกรัม ซึ่งเป็นอัตราส่วนพลังงานต่อน้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมการบิน นอกจากนี้ “The Monolith” ยังสามารถสลับโหมดการทำงานระหว่างการผลิตพลังงานและการเก็บพลังงาน (electrolysis mode) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในโหมด electrolysis สามารถผลิตไฮโดรเจนได้มากกว่ามาตรฐานถึง 10 เท่า การผลิตด้วยการพิมพ์สามมิติยังช่วยลดขั้นตอนการประกอบ ลดจำนวนชิ้นส่วน และเพิ่มความแม่นยำในการควบคุมโครงสร้างภายใน ทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง และสามารถปรับแต่งการออกแบบได้ตามความต้องการเฉพาะของแต่ละอุตสาหกรรม ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ DTU พัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงแบบใหม่ชื่อ “Monolithic Gyroidal Solid Oxide Cell” หรือ “The Monolith” ➡️ ใช้โครงสร้าง gyroid ซึ่งเป็น TPMS เพื่อเพิ่มพื้นที่ผิวและลดน้ำหนัก ➡️ ผลิตจากเซรามิกทั้งหมด ไม่มีส่วนประกอบโลหะ ➡️ ให้พลังงานมากกว่า 1 วัตต์ต่อกรัม ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมการบิน ✅ คุณสมบัติเด่นของเซลล์เชื้อเพลิง ➡️ ทนต่ออุณหภูมิสูงถึง 100°C และสลับโหมดการทำงานได้ระหว่างผลิตและเก็บพลังงาน ➡️ โหมด electrolysis เพิ่มอัตราการผลิตไฮโดรเจนได้ถึง 10 เท่า ➡️ โครงสร้าง gyroid ช่วยกระจายความร้อนและไหลเวียนก๊าซได้ดี ➡️ การพิมพ์สามมิติช่วยลดขั้นตอนการผลิตและต้นทุน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ TPMS ถูกใช้ในงานวิศวกรรม เช่น heat exchanger และวัสดุโครงสร้างเบา ➡️ เซลล์เชื้อเพลิงแบบ solid oxide (SOC) ถูกใช้ในโรงพยาบาล เรือ และระบบพลังงานหมุนเวียน ➡️ การใช้เซรามิกแทนโลหะช่วยลดปัญหาการกัดกร่อนและเพิ่มอายุการใช้งาน ➡️ DTU เป็นหนึ่งในสถาบันที่มีผลงานวิจัยด้านพลังงานสะอาดระดับแนวหน้าในยุโรป https://www.tomshardware.com/3d-printing/researchers-3d-print-lightweight-ceramic-fuel-cell-suggests-alternative-power-source-for-the-aerospace-industry
    0 Comments 0 Shares 490 Views 0 Reviews
  • AI ดันตลาด HDD สะเทือน — รอ 32TB นานเป็นปี ราคาพุ่งทั่วโลก ขณะที่ SSD ก็เริ่มโดนหางเลข

    ในยุคที่ AI ไม่ได้แค่คิดเร็ว แต่ยัง “กินพื้นที่” อย่างมหาศาล ความต้องการจัดเก็บข้อมูลระดับเทราไบต์จึงพุ่งทะยานแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะในกลุ่ม HDD ความจุสูงอย่าง 32TB ที่ตอนนี้ต้องรอนานถึง 52 สัปดาห์ หรือเกือบหนึ่งปีเต็ม2 ข้อมูลจาก TrendForce และ TechRadar ระบุว่า hyperscaler รายใหญ่ เช่น Google และ Oracle กำลังเร่งขยายโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้เกิดแรงกดดันมหาศาลต่อระบบจัดเก็บข้อมูลทั่วโลก

    Western Digital และ Seagate ต่างประกาศขึ้นราคาทุกผลิตภัณฑ์ HDD โดยให้เหตุผลว่า “ความต้องการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” และการลงทุนในนวัตกรรมใหม่เป็นต้นทุนหลัก ขณะเดียวกัน SSD ก็เริ่มถูกดึงเข้ามาใช้งานแม้ในงาน cold data ที่เดิมที HDD เป็นตัวเลือกหลัก เพราะราคาถูกต่อ GB แต่ตอนนี้ผู้ให้บริการคลาวด์เริ่มหันมาใช้ QLC SSD แม้จะมีต้นทุนสูงกว่า เพื่อรับมือกับปัญหาการขาดแคลน HDD

    อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนไปใช้ SSD สำหรับ cold data ยังมีอุปสรรคหลายด้าน ทั้งเรื่องต้นทุน การปรับระบบซอฟต์แวร์ และความเข้ากันได้ของอัลกอริธึมจัดการข้อมูล ซึ่งหากไม่วางแผนให้ดี อาจทำให้ต้นทุนรวมพุ่งเกินควบคุมได้ง่าย

    ความต้องการ HDD ความจุสูงพุ่งจากการขยายระบบ AI
    Hyperscaler อย่าง Google, Oracle, Amazon เร่งซื้อ HDD สำหรับงาน inference
    ความต้องการ cold data storage เพิ่มขึ้นจากการฝึกและใช้งานโมเดล AI

    HDD ขนาด 32TB ขึ้นไปต้องรอนานถึง 52 สัปดาห์
    30TB ยังพอมีในตลาด เช่น Seagate Exos Mozaic+
    การขนส่งล่าช้าเพิ่มอีก 6–10 สัปดาห์จากการใช้เรือสินค้า

    Western Digital และ Seagate ประกาศขึ้นราคาทุกผลิตภัณฑ์ HDD
    อ้างเหตุผลจากความต้องการสูงและต้นทุนการพัฒนา
    กระทบทั้งองค์กรขนาดใหญ่และผู้ใช้งานทั่วไป

    SSD เริ่มถูกนำมาใช้แทน HDD แม้ในงาน cold data
    QLC SSD มีความเร็วสูงและใช้พลังงานน้อยลง ~30%
    คาดว่า QLC SSD จะเติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2026

    การเปลี่ยนไปใช้ SSD ต้องปรับระบบหลายด้าน
    ต้องอัปเดตอัลกอริธึมจัดการข้อมูลและตรวจสอบความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์
    ต้องคำนวณต้นทุนรวมอย่างแม่นยำเพื่อควบคุมงบประมาณ

    https://www.techradar.com/pro/surging-ai-demand-for-hdd-means-that-you-may-have-to-wait-up-to-a-year-for-32-tb-hard-disk-drives-warns-research-and-yes-prices-are-also-going-up
    📰 AI ดันตลาด HDD สะเทือน — รอ 32TB นานเป็นปี ราคาพุ่งทั่วโลก ขณะที่ SSD ก็เริ่มโดนหางเลข ในยุคที่ AI ไม่ได้แค่คิดเร็ว แต่ยัง “กินพื้นที่” อย่างมหาศาล ความต้องการจัดเก็บข้อมูลระดับเทราไบต์จึงพุ่งทะยานแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะในกลุ่ม HDD ความจุสูงอย่าง 32TB ที่ตอนนี้ต้องรอนานถึง 52 สัปดาห์ หรือเกือบหนึ่งปีเต็ม2 ข้อมูลจาก TrendForce และ TechRadar ระบุว่า hyperscaler รายใหญ่ เช่น Google และ Oracle กำลังเร่งขยายโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้เกิดแรงกดดันมหาศาลต่อระบบจัดเก็บข้อมูลทั่วโลก Western Digital และ Seagate ต่างประกาศขึ้นราคาทุกผลิตภัณฑ์ HDD โดยให้เหตุผลว่า “ความต้องการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” และการลงทุนในนวัตกรรมใหม่เป็นต้นทุนหลัก ขณะเดียวกัน SSD ก็เริ่มถูกดึงเข้ามาใช้งานแม้ในงาน cold data ที่เดิมที HDD เป็นตัวเลือกหลัก เพราะราคาถูกต่อ GB แต่ตอนนี้ผู้ให้บริการคลาวด์เริ่มหันมาใช้ QLC SSD แม้จะมีต้นทุนสูงกว่า เพื่อรับมือกับปัญหาการขาดแคลน HDD อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนไปใช้ SSD สำหรับ cold data ยังมีอุปสรรคหลายด้าน ทั้งเรื่องต้นทุน การปรับระบบซอฟต์แวร์ และความเข้ากันได้ของอัลกอริธึมจัดการข้อมูล ซึ่งหากไม่วางแผนให้ดี อาจทำให้ต้นทุนรวมพุ่งเกินควบคุมได้ง่าย ✅ ความต้องการ HDD ความจุสูงพุ่งจากการขยายระบบ AI ➡️ Hyperscaler อย่าง Google, Oracle, Amazon เร่งซื้อ HDD สำหรับงาน inference ➡️ ความต้องการ cold data storage เพิ่มขึ้นจากการฝึกและใช้งานโมเดล AI ✅ HDD ขนาด 32TB ขึ้นไปต้องรอนานถึง 52 สัปดาห์ ➡️ 30TB ยังพอมีในตลาด เช่น Seagate Exos Mozaic+ ➡️ การขนส่งล่าช้าเพิ่มอีก 6–10 สัปดาห์จากการใช้เรือสินค้า ✅ Western Digital และ Seagate ประกาศขึ้นราคาทุกผลิตภัณฑ์ HDD ➡️ อ้างเหตุผลจากความต้องการสูงและต้นทุนการพัฒนา ➡️ กระทบทั้งองค์กรขนาดใหญ่และผู้ใช้งานทั่วไป ✅ SSD เริ่มถูกนำมาใช้แทน HDD แม้ในงาน cold data ➡️ QLC SSD มีความเร็วสูงและใช้พลังงานน้อยลง ~30% ➡️ คาดว่า QLC SSD จะเติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2026 ✅ การเปลี่ยนไปใช้ SSD ต้องปรับระบบหลายด้าน ➡️ ต้องอัปเดตอัลกอริธึมจัดการข้อมูลและตรวจสอบความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์ ➡️ ต้องคำนวณต้นทุนรวมอย่างแม่นยำเพื่อควบคุมงบประมาณ https://www.techradar.com/pro/surging-ai-demand-for-hdd-means-that-you-may-have-to-wait-up-to-a-year-for-32-tb-hard-disk-drives-warns-research-and-yes-prices-are-also-going-up
    0 Comments 0 Shares 237 Views 0 Reviews
  • 'กกท.' จับมือ 'ม.รังสิต' ลั่นใช้ 'AI' วิเคราะห์นักกีฬา หวังสร้างนวัตกรรมใหม่!
    https://www.thai-tai.tv/news/21538/
    .
    #ไทยไท #กกท #มหาวิทยาลัยรังสิต #ข่าวการกีฬา #ข่าววันนี้ #วิทยาศาสตร์การกีฬา #AI
    'กกท.' จับมือ 'ม.รังสิต' ลั่นใช้ 'AI' วิเคราะห์นักกีฬา หวังสร้างนวัตกรรมใหม่! https://www.thai-tai.tv/news/21538/ . #ไทยไท #กกท #มหาวิทยาลัยรังสิต #ข่าวการกีฬา #ข่าววันนี้ #วิทยาศาสตร์การกีฬา #AI
    0 Comments 0 Shares 350 Views 0 Reviews
  • “ปืนกาวพิมพ์กระดูก — นวัตกรรมใหม่จากเกาหลีใต้ เปลี่ยนการผ่าตัดกระดูกให้แม่นยำและปลอดภัยยิ่งขึ้น”

    ใครจะคิดว่า “ปืนกาว” ที่เราใช้ในงานประดิษฐ์จะกลายเป็นเครื่องมือช่วยชีวิตในห้องผ่าตัด ล่าสุดทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Sungkyunkwan (SKKU) ประเทศเกาหลีใต้ ได้พัฒนาอุปกรณ์พิมพ์สามมิติแบบมือถือที่สามารถ “พิมพ์กระดูกเทียม” ลงบนเนื้อเยื่อของผู้ป่วยได้โดยตรงระหว่างการผ่าตัด

    อุปกรณ์นี้มีลักษณะคล้ายปืนกาวทั่วไป แต่ใช้วัสดุแท่งที่ประกอบด้วย polycaprolactone (PCL) ซึ่งเป็นพอลิเมอร์ชีวภาพ และ hydroxyapatite (HA) ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่พบในกระดูกตามธรรมชาติ เมื่อหลอมละลายแล้วจะกลายเป็นโครงสร้างรองรับการเจริญเติบโตของกระดูกใหม่ โดยสามารถปรับทิศทาง ความลึก และมุมการพิมพ์ได้แบบเรียลไทม์ ทำให้เหมาะกับการซ่อมแซมรอยแตกหรือช่องว่างที่มีรูปร่างไม่แน่นอน

    นอกจากความสามารถในการพิมพ์โครงสร้างกระดูกแล้ว ทีมวิจัยยังสามารถผสมยาปฏิชีวนะ เช่น vancomycin และ gentamycin ลงในวัสดุพิมพ์ได้โดยตรง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อหลังผ่าตัด และลดการใช้ยาปฏิชีวนะแบบกินที่อาจนำไปสู่การดื้อยา

    การทดลองในสัตว์แสดงให้เห็นว่าโครงสร้างที่พิมพ์ด้วยอุปกรณ์นี้มีความแข็งแรงสูง กระตุ้นการสร้างกระดูกใหม่ได้ดี และไม่ก่อให้เกิดการอักเสบหรือความเสียหายต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง โดยวัสดุจะค่อย ๆ สลายตัวและถูกแทนที่ด้วยกระดูกจริงในระยะเวลา 12 สัปดาห์

    แม้เทคโนโลยีนี้จะยังไม่พร้อมใช้งานในโรงพยาบาลทั่วไป แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของการผ่าตัดแบบ “พิมพ์สด” ที่อาจเปลี่ยนวิธีการรักษากระดูกในอนาคต

    จุดเด่นของเทคโนโลยีปืนกาวพิมพ์กระดูก
    พัฒนาโดยมหาวิทยาลัย Sungkyunkwan (SKKU) ประเทศเกาหลีใต้
    ใช้วัสดุ PCL และ hydroxyapatite ซึ่งปลอดภัยและกระตุ้นการสร้างกระดูก
    พิมพ์ได้โดยตรงบนเนื้อเยื่อของผู้ป่วยระหว่างการผ่าตัด
    ปรับทิศทาง มุม และความลึกของการพิมพ์ได้แบบเรียลไทม์

    ความสามารถเพิ่มเติม
    ผสมยาปฏิชีวนะลงในวัสดุพิมพ์เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ
    ไม่ต้องใช้สารละลายที่เป็นพิษ — ปลอดภัยต่อเนื้อเยื่อ
    วัสดุพิมพ์สามารถสลายตัวและถูกแทนที่ด้วยกระดูกจริง
    ใช้เวลาพิมพ์เพียงไม่กี่นาที — ลดเวลาในการผ่าตัด

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    การทดลองในสัตว์แสดงผลลัพธ์ที่ดีในด้านความแข็งแรงและการฟื้นฟู
    การปรับสัดส่วน HA/PCL สามารถควบคุมความแข็งและอัตราการสลายตัวได้
    อุปกรณ์นี้ได้รับความร่วมมือจากหลายสถาบัน เช่น MIT, KAIST, SNU
    เทคโนโลยีนี้อาจแทนที่ bone cement และการปลูกถ่ายโลหะในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/3d-printing/researchers-develop-modified-glue-gun-that-can-print-bone-device-3d-prints-synthetic-grafts-directly-onto-patients-living-tissue-during-surgery
    🦴 “ปืนกาวพิมพ์กระดูก — นวัตกรรมใหม่จากเกาหลีใต้ เปลี่ยนการผ่าตัดกระดูกให้แม่นยำและปลอดภัยยิ่งขึ้น” ใครจะคิดว่า “ปืนกาว” ที่เราใช้ในงานประดิษฐ์จะกลายเป็นเครื่องมือช่วยชีวิตในห้องผ่าตัด ล่าสุดทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Sungkyunkwan (SKKU) ประเทศเกาหลีใต้ ได้พัฒนาอุปกรณ์พิมพ์สามมิติแบบมือถือที่สามารถ “พิมพ์กระดูกเทียม” ลงบนเนื้อเยื่อของผู้ป่วยได้โดยตรงระหว่างการผ่าตัด อุปกรณ์นี้มีลักษณะคล้ายปืนกาวทั่วไป แต่ใช้วัสดุแท่งที่ประกอบด้วย polycaprolactone (PCL) ซึ่งเป็นพอลิเมอร์ชีวภาพ และ hydroxyapatite (HA) ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่พบในกระดูกตามธรรมชาติ เมื่อหลอมละลายแล้วจะกลายเป็นโครงสร้างรองรับการเจริญเติบโตของกระดูกใหม่ โดยสามารถปรับทิศทาง ความลึก และมุมการพิมพ์ได้แบบเรียลไทม์ ทำให้เหมาะกับการซ่อมแซมรอยแตกหรือช่องว่างที่มีรูปร่างไม่แน่นอน นอกจากความสามารถในการพิมพ์โครงสร้างกระดูกแล้ว ทีมวิจัยยังสามารถผสมยาปฏิชีวนะ เช่น vancomycin และ gentamycin ลงในวัสดุพิมพ์ได้โดยตรง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อหลังผ่าตัด และลดการใช้ยาปฏิชีวนะแบบกินที่อาจนำไปสู่การดื้อยา การทดลองในสัตว์แสดงให้เห็นว่าโครงสร้างที่พิมพ์ด้วยอุปกรณ์นี้มีความแข็งแรงสูง กระตุ้นการสร้างกระดูกใหม่ได้ดี และไม่ก่อให้เกิดการอักเสบหรือความเสียหายต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง โดยวัสดุจะค่อย ๆ สลายตัวและถูกแทนที่ด้วยกระดูกจริงในระยะเวลา 12 สัปดาห์ แม้เทคโนโลยีนี้จะยังไม่พร้อมใช้งานในโรงพยาบาลทั่วไป แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของการผ่าตัดแบบ “พิมพ์สด” ที่อาจเปลี่ยนวิธีการรักษากระดูกในอนาคต ✅ จุดเด่นของเทคโนโลยีปืนกาวพิมพ์กระดูก ➡️ พัฒนาโดยมหาวิทยาลัย Sungkyunkwan (SKKU) ประเทศเกาหลีใต้ ➡️ ใช้วัสดุ PCL และ hydroxyapatite ซึ่งปลอดภัยและกระตุ้นการสร้างกระดูก ➡️ พิมพ์ได้โดยตรงบนเนื้อเยื่อของผู้ป่วยระหว่างการผ่าตัด ➡️ ปรับทิศทาง มุม และความลึกของการพิมพ์ได้แบบเรียลไทม์ ✅ ความสามารถเพิ่มเติม ➡️ ผสมยาปฏิชีวนะลงในวัสดุพิมพ์เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ ➡️ ไม่ต้องใช้สารละลายที่เป็นพิษ — ปลอดภัยต่อเนื้อเยื่อ ➡️ วัสดุพิมพ์สามารถสลายตัวและถูกแทนที่ด้วยกระดูกจริง ➡️ ใช้เวลาพิมพ์เพียงไม่กี่นาที — ลดเวลาในการผ่าตัด ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ การทดลองในสัตว์แสดงผลลัพธ์ที่ดีในด้านความแข็งแรงและการฟื้นฟู ➡️ การปรับสัดส่วน HA/PCL สามารถควบคุมความแข็งและอัตราการสลายตัวได้ ➡️ อุปกรณ์นี้ได้รับความร่วมมือจากหลายสถาบัน เช่น MIT, KAIST, SNU ➡️ เทคโนโลยีนี้อาจแทนที่ bone cement และการปลูกถ่ายโลหะในอนาคต https://www.tomshardware.com/3d-printing/researchers-develop-modified-glue-gun-that-can-print-bone-device-3d-prints-synthetic-grafts-directly-onto-patients-living-tissue-during-surgery
    0 Comments 0 Shares 424 Views 0 Reviews
  • นี้ต้องอย่างนี้,เรา..ภาคประชาชนต้องร่วมกันแบบนี้,แต่จะดีมาหากร่วมกันยกเลิก พรบ.ห้ามชุมนุมในที่สาธารณะด้วย เพราะออกในยุคลุงเป็นรัฐบาลด้วย ยึดอำนาจมาด้วย 11จุดก็เสียให้เขมรด้วย มารู้ความจริงก็ตอนแม่ทัพภาคที่2บุกยึดคืนได้แล้ว,กฎหมายมากมาย พรบ.มากมายต้องฉีกทิ้งกันเป็นอันมาก,มันขัดขวางประชาชนพัฒนาตนเองสู่เจตนำนงเสรีทางดีเป็นอันมาก.

    ..เบื้องต้นนี้ คณะรวมพลังแผ่นดินไทย ทำตามกำลังตนถูกทางแล้ว ไม่มีภาพนักการเมืองแอบแฝงยิ่งดี เหมือนใครบ้างคนเข้ามาในคณะรวมพลังฯหมายเชิดชูลุงกลับมานั้นเอง,ยุคลุงยุคทหารแท้ๆเสือกไม่ยกเลิกmou43,44มันบอกนัยยะเปิดเผยชัดเจนแล้ว,ส่วนรัฐบาลในปัจจุบันก็แค่รับไม้ต่อสลับมุกเปลี่ยนมือนี้ล่ะ,เพื่อไทย คนของตนแบบลุงตู่ก็ขึ้นมาเหมือนเดิม,คณะรวมพลังแผ่นดินฯน่าจะเห็นชัดบริบทนี้,ต้องรวมพลังฯจริงๆเอาให้สุดซอยด้วย อย่าพลาดแบบกปปส.พลาดแบบอาสนธิ ต้องทำการเปลี่ยนแปลงโดยภาคประชาชนจริงให้ได้,คนในคณะรวมพลังแผ่นดินฯแน่นอนต่างมีอดีตที่ผิดพลาดกันหมด,แต่สงครามครั้งนี้อดีตได้ทิ้งไปแล้ว ยิ่งมุ่งทำเพื่อชาติคือประชาชนเราจริงๆร่วม สามารถเป็นคณะบริหารประเทศฉุกเฉินชั่วคราวของภาคประชาชนระดับประเทศแห่งชาติ ร่วมกับกองทัพไทยเรา รีเซ็ตประเทศไทยใหม่ กวาดล้างภัยภายในประเทศไทยเราจริงๆและภัยภายนอกแบบเขมร แบบมาเลย์ภาคใต้เรา แบบciaของอเมริกาชั่วมุ่งแต่ผลประโยชน์มันสูงสุด กำจัดเผาทิ้งพรบ.และกฎหมายทุกๆฉบับที่ขายชาติอย่างจริงจังด้วย กดขี่ความคิดอิสระสร้างสรรค์ของประชาชนพัฒนานวัตกรรมใหม่พัฒนาชาติให้ล้ำสมัยไม่แพ้ชาติใดในโลก,ตลอดคนไทยต้องพ้นสถานะยากจนจริงๆกันเสียที,ปล่อยให้ต่างชาติมาปล้นทรัพยากรมีค่ามากมายเราง่ายดายสะดวกสบายเกินไปจนคนไทยยากจนเป็นอันมากเมื่อศักยภาพเราสุดยอดขนาดนั้น ตีมูลค่าทรัพยากรมีค่าเราอาจกว่า100,000ล้านล้านบาท มิใช่ 4-5หมื่นล้านล้านบาทหรอก,แค่ขุดคลองคอดกระ ทำรั้วลวดหนามกั้นไทยกับมาเลย์ชัดเจน ciaอเมริกาก็ปั่นป่วนภาคใต้เรากับมาเลย์ลูกน้องอเมริกาซาอุฯก็ไม่ง่ายแล้ว, คลองคอดกระ ทางแลนด์บริดจ์ พื้นที่ภาคใต้เกือบทั้งหมด สามารถเป็นฮับสำนักใหญ่ของแต่ละชาติมาค้าขายทำตลาดระดับโลกฮับของโลกสบายมาก ไม่ใช้ทรัพยากรไทยก็ตีมูลค่ารายได้กว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปี ได้สบาย,อนาคตคนไทยระดับจิตใจดีจะแยกแยะดีชั่วและกระบวนการโปร่งใส สามารถปกป้องคุ้มครองทั้งคนไทยเราและคู่ค้าให้ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเขา นักท่องเที่ยวนักธุรกิจย่อมชื่นชอบประเทศไทยเพิ่มคน ,คือเม็ดเงินมหาศาลหลากหลายช่องทางเข้าประเทศไทยเราแน่นอน,เราจะจัดสรรเม็ดเงินนี้ให้คนไทยเราร่ำรวยจริงแค่ไหนแค่นั้นล่ะ,แต่หากยังมีวิถีปกครองกากๆแบบนี้ต่อไปตลอดไป ก็ฝันเลยว่าประชาชนคนไทยจะพ้นสถานะความยากจน มีแต่เอารัดเอาเปรียบรีดไถประชาชนคนไทยตนผ่านกฎหมายเลวชั่วสาระพัด ดูแหล่งปิโตรเลียมชัดเจน ถ้าประเทศไทยนำโดยภาคประชาชนคนไทยทำเอง มิใช่ผีบ้าพวกรัฐบาลห่าเหวในอดีตนั้นทำ ไปยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติ รัฐบาลกบฎทรยศประชาชนตนเสียเอง สภาพคนไทยปัจจุบันก็ไม่เป็นแบบนี้ และล่าสุดดูเขมรนี้ล่ะ ฝีมือนักการเมืองและทหารทรยศไส้ศึกชัดเจนบนแผ่นดินไทยเรา,เช่นนั้นจะไม่เป็นแบบนี้เลย,อนาคตรีดภาษีจากประชาชนอีก ทั้งที่ระบบยังกากอยู่แฮกข้อมูลเป็นว่าเล่น ดูดตังคนไทยสนุกมือบัญชี จะไว้วางใจว่าจะแก้ไขความยากจนของคนไทยได้อย่างไร,ทั้งที่จริงๆเงินเถื่อนเงินนอกระบบเงินฟอกเงินเทาตรึมในวงจรอุบาทก์นี้ทั่วไทย ยังจัดการไม่ได้ ยาบ้ายังไร้ปัญญาจัดการจริงเลย,ภาษีที่รีดไถประชาชนจริงๆและปีละกว่าแสนล้านบาทคือภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีน้ำมันต่างหาก,ประเทศไทยแค่ยึดบ่อน้ำมันคืนก็ร่ำรวยแล้ว พลังงานสะอาดอื่นๆอีกต่อยอดได้สบาย,ภาษีบุคคลและนิติบุคคลกิจการบริษัทต่างๆแค่4-5พันล้านบาท มากสุดมนุษย์เงินเดือนแค่7-8พันล้านถั่วเฉลี่ย5-10ปีที่ผ่านๆมาอาจไม่ถึงด้วยซ้ำ,มุกภาษีNITนี้คือมุกนักการเมืองชั่วๆเลวๆจะควบคุมคนไทยนี้ล่ะ เชื่อมสุขภาพอีก ใครยังไม่ฉีดวัคซีน มันจะได้รู้และบังคับควบคุมได้โดยสร้างเงื่อนไขว่า หากไม่ฉีดจะตัดสวัสดิการทั้งหมดของรัฐที่ให้ไป,คือมันจะหามุกมาเรื่อยๆล่ะ คณะรวมพลังแผ่นดินไทยเราจึงต้องสามัคคีกันทำให้สุดซอยเพื่อเรา..ประชาชนคนไทยเราสู่ยุคใหม่จริงๆ.


    https://youtube.com/live/qyP5nsDRofk?si=IZhFf7d3BcxF7KUq
    นี้ต้องอย่างนี้,เรา..ภาคประชาชนต้องร่วมกันแบบนี้,แต่จะดีมาหากร่วมกันยกเลิก พรบ.ห้ามชุมนุมในที่สาธารณะด้วย เพราะออกในยุคลุงเป็นรัฐบาลด้วย ยึดอำนาจมาด้วย 11จุดก็เสียให้เขมรด้วย มารู้ความจริงก็ตอนแม่ทัพภาคที่2บุกยึดคืนได้แล้ว,กฎหมายมากมาย พรบ.มากมายต้องฉีกทิ้งกันเป็นอันมาก,มันขัดขวางประชาชนพัฒนาตนเองสู่เจตนำนงเสรีทางดีเป็นอันมาก. ..เบื้องต้นนี้ คณะรวมพลังแผ่นดินไทย ทำตามกำลังตนถูกทางแล้ว ไม่มีภาพนักการเมืองแอบแฝงยิ่งดี เหมือนใครบ้างคนเข้ามาในคณะรวมพลังฯหมายเชิดชูลุงกลับมานั้นเอง,ยุคลุงยุคทหารแท้ๆเสือกไม่ยกเลิกmou43,44มันบอกนัยยะเปิดเผยชัดเจนแล้ว,ส่วนรัฐบาลในปัจจุบันก็แค่รับไม้ต่อสลับมุกเปลี่ยนมือนี้ล่ะ,เพื่อไทย คนของตนแบบลุงตู่ก็ขึ้นมาเหมือนเดิม,คณะรวมพลังแผ่นดินฯน่าจะเห็นชัดบริบทนี้,ต้องรวมพลังฯจริงๆเอาให้สุดซอยด้วย อย่าพลาดแบบกปปส.พลาดแบบอาสนธิ ต้องทำการเปลี่ยนแปลงโดยภาคประชาชนจริงให้ได้,คนในคณะรวมพลังแผ่นดินฯแน่นอนต่างมีอดีตที่ผิดพลาดกันหมด,แต่สงครามครั้งนี้อดีตได้ทิ้งไปแล้ว ยิ่งมุ่งทำเพื่อชาติคือประชาชนเราจริงๆร่วม สามารถเป็นคณะบริหารประเทศฉุกเฉินชั่วคราวของภาคประชาชนระดับประเทศแห่งชาติ ร่วมกับกองทัพไทยเรา รีเซ็ตประเทศไทยใหม่ กวาดล้างภัยภายในประเทศไทยเราจริงๆและภัยภายนอกแบบเขมร แบบมาเลย์ภาคใต้เรา แบบciaของอเมริกาชั่วมุ่งแต่ผลประโยชน์มันสูงสุด กำจัดเผาทิ้งพรบ.และกฎหมายทุกๆฉบับที่ขายชาติอย่างจริงจังด้วย กดขี่ความคิดอิสระสร้างสรรค์ของประชาชนพัฒนานวัตกรรมใหม่พัฒนาชาติให้ล้ำสมัยไม่แพ้ชาติใดในโลก,ตลอดคนไทยต้องพ้นสถานะยากจนจริงๆกันเสียที,ปล่อยให้ต่างชาติมาปล้นทรัพยากรมีค่ามากมายเราง่ายดายสะดวกสบายเกินไปจนคนไทยยากจนเป็นอันมากเมื่อศักยภาพเราสุดยอดขนาดนั้น ตีมูลค่าทรัพยากรมีค่าเราอาจกว่า100,000ล้านล้านบาท มิใช่ 4-5หมื่นล้านล้านบาทหรอก,แค่ขุดคลองคอดกระ ทำรั้วลวดหนามกั้นไทยกับมาเลย์ชัดเจน ciaอเมริกาก็ปั่นป่วนภาคใต้เรากับมาเลย์ลูกน้องอเมริกาซาอุฯก็ไม่ง่ายแล้ว, คลองคอดกระ ทางแลนด์บริดจ์ พื้นที่ภาคใต้เกือบทั้งหมด สามารถเป็นฮับสำนักใหญ่ของแต่ละชาติมาค้าขายทำตลาดระดับโลกฮับของโลกสบายมาก ไม่ใช้ทรัพยากรไทยก็ตีมูลค่ารายได้กว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปี ได้สบาย,อนาคตคนไทยระดับจิตใจดีจะแยกแยะดีชั่วและกระบวนการโปร่งใส สามารถปกป้องคุ้มครองทั้งคนไทยเราและคู่ค้าให้ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเขา นักท่องเที่ยวนักธุรกิจย่อมชื่นชอบประเทศไทยเพิ่มคน ,คือเม็ดเงินมหาศาลหลากหลายช่องทางเข้าประเทศไทยเราแน่นอน,เราจะจัดสรรเม็ดเงินนี้ให้คนไทยเราร่ำรวยจริงแค่ไหนแค่นั้นล่ะ,แต่หากยังมีวิถีปกครองกากๆแบบนี้ต่อไปตลอดไป ก็ฝันเลยว่าประชาชนคนไทยจะพ้นสถานะความยากจน มีแต่เอารัดเอาเปรียบรีดไถประชาชนคนไทยตนผ่านกฎหมายเลวชั่วสาระพัด ดูแหล่งปิโตรเลียมชัดเจน ถ้าประเทศไทยนำโดยภาคประชาชนคนไทยทำเอง มิใช่ผีบ้าพวกรัฐบาลห่าเหวในอดีตนั้นทำ ไปยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติ รัฐบาลกบฎทรยศประชาชนตนเสียเอง สภาพคนไทยปัจจุบันก็ไม่เป็นแบบนี้ และล่าสุดดูเขมรนี้ล่ะ ฝีมือนักการเมืองและทหารทรยศไส้ศึกชัดเจนบนแผ่นดินไทยเรา,เช่นนั้นจะไม่เป็นแบบนี้เลย,อนาคตรีดภาษีจากประชาชนอีก ทั้งที่ระบบยังกากอยู่แฮกข้อมูลเป็นว่าเล่น ดูดตังคนไทยสนุกมือบัญชี จะไว้วางใจว่าจะแก้ไขความยากจนของคนไทยได้อย่างไร,ทั้งที่จริงๆเงินเถื่อนเงินนอกระบบเงินฟอกเงินเทาตรึมในวงจรอุบาทก์นี้ทั่วไทย ยังจัดการไม่ได้ ยาบ้ายังไร้ปัญญาจัดการจริงเลย,ภาษีที่รีดไถประชาชนจริงๆและปีละกว่าแสนล้านบาทคือภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีน้ำมันต่างหาก,ประเทศไทยแค่ยึดบ่อน้ำมันคืนก็ร่ำรวยแล้ว พลังงานสะอาดอื่นๆอีกต่อยอดได้สบาย,ภาษีบุคคลและนิติบุคคลกิจการบริษัทต่างๆแค่4-5พันล้านบาท มากสุดมนุษย์เงินเดือนแค่7-8พันล้านถั่วเฉลี่ย5-10ปีที่ผ่านๆมาอาจไม่ถึงด้วยซ้ำ,มุกภาษีNITนี้คือมุกนักการเมืองชั่วๆเลวๆจะควบคุมคนไทยนี้ล่ะ เชื่อมสุขภาพอีก ใครยังไม่ฉีดวัคซีน มันจะได้รู้และบังคับควบคุมได้โดยสร้างเงื่อนไขว่า หากไม่ฉีดจะตัดสวัสดิการทั้งหมดของรัฐที่ให้ไป,คือมันจะหามุกมาเรื่อยๆล่ะ คณะรวมพลังแผ่นดินไทยเราจึงต้องสามัคคีกันทำให้สุดซอยเพื่อเรา..ประชาชนคนไทยเราสู่ยุคใหม่จริงๆ. https://youtube.com/live/qyP5nsDRofk?si=IZhFf7d3BcxF7KUq
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 Comments 0 Shares 768 Views 0 Reviews
  • Mini SSD ขนาดเท่า SIM ที่เร็วระดับ NVMe: นวัตกรรมใหม่จาก Biwin

    ลองนึกภาพ SSD ที่มีขนาดเล็กพอ ๆ กับซิมการ์ดมือถือ แต่สามารถอ่านเขียนข้อมูลได้เร็วระดับ NVMe แบบที่ใช้ในคอมพิวเตอร์เกมแรง ๆ นั่นคือสิ่งที่ Biwin จากจีนเพิ่งเปิดตัว—“Mini SSD” ที่อาจเปลี่ยนโลกของอุปกรณ์พกพาไปตลอดกาล

    Mini SSD นี้มีขนาดเพียง 15 × 17 × 1.4 มม. เล็กกว่าหัวแม่มือ แต่สามารถอ่านข้อมูลได้ถึง 3,700 MB/s และเขียนได้ 3,400 MB/s ผ่าน PCIe 4.0 x2 ซึ่งถือว่าเร็วกว่า microSD Express ถึง 3 เท่า และใกล้เคียงกับ SSD M.2 ขนาดใหญ่

    สิ่งที่ทำให้มันน่าสนใจคือการติดตั้งแบบ “ถาดซิม”—แค่ใช้เข็มจิ้มก็ถอดเปลี่ยนได้ทันที ไม่ต้องไขน็อตหรือเปิดฝาเครื่อง เหมาะมากกับอุปกรณ์พกพาอย่าง GPD Win 5 และ OneXPlayer Super X ที่เริ่มรองรับแล้ว

    นอกจากความเร็วและความสะดวก Mini SSD ยังทนทานระดับ IP68 กันน้ำกันฝุ่น และตกจากที่สูง 3 เมตรได้โดยไม่พัง เหมาะกับการใช้งานในสนามหรืออุปกรณ์ที่ต้องพกพาไปทุกที่

    แต่ก็ยังมีข้อกังวล เช่น ความร้อนที่อาจสะสมในพื้นที่เล็ก ๆ และความไม่แน่นอนว่า Biwin จะเปิดให้ผู้ผลิตรายอื่นใช้ฟอร์แมตนี้หรือไม่ ถ้าไม่เปิด อาจกลายเป็นแค่เทคโนโลยีเฉพาะกลุ่มเหมือน Sony Memory Stick ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

    คุณสมบัติเด่นของ Biwin Mini SSD
    ขนาดเล็กเพียง 15 × 17 × 1.4 มม. ใกล้เคียง microSD
    ความเร็วสูงระดับ NVMe: อ่าน 3,700 MB/s เขียน 3,400 MB/s
    ใช้ PCIe 4.0 x2 และ NVMe 1.4
    มีความจุให้เลือก 512GB, 1TB และ 2TB
    ติดตั้งแบบถาดซิม ใช้เข็มจิ้มเปลี่ยนได้ทันที
    กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 และทนการตกจาก 3 เมตร

    การใช้งานในอุปกรณ์พกพา
    รองรับใน GPD Win 5 และ OneXPlayer Super X
    เหมาะกับเกมพกพาและอุปกรณ์ที่ต้องการพื้นที่ภายในมากขึ้น
    ช่วยลดขนาด SSD และเพิ่มพื้นที่ให้แบตเตอรี่หรือระบบระบายความร้อน

    เทคโนโลยีเบื้องหลัง
    ใช้ LGA packaging รวม controller และ NAND flash ในพื้นที่เล็ก
    ออกแบบให้ทนทานต่อการใช้งานภาคสนาม
    อาจเป็นทางเลือกใหม่แทน microSD Express ที่ยังจำกัดความเร็ว

    https://www.techpowerup.com/339967/biwin-launches-mini-ssd-nvme-speeds-in-a-sim-tray-style-card
    💾 Mini SSD ขนาดเท่า SIM ที่เร็วระดับ NVMe: นวัตกรรมใหม่จาก Biwin ลองนึกภาพ SSD ที่มีขนาดเล็กพอ ๆ กับซิมการ์ดมือถือ แต่สามารถอ่านเขียนข้อมูลได้เร็วระดับ NVMe แบบที่ใช้ในคอมพิวเตอร์เกมแรง ๆ นั่นคือสิ่งที่ Biwin จากจีนเพิ่งเปิดตัว—“Mini SSD” ที่อาจเปลี่ยนโลกของอุปกรณ์พกพาไปตลอดกาล Mini SSD นี้มีขนาดเพียง 15 × 17 × 1.4 มม. เล็กกว่าหัวแม่มือ แต่สามารถอ่านข้อมูลได้ถึง 3,700 MB/s และเขียนได้ 3,400 MB/s ผ่าน PCIe 4.0 x2 ซึ่งถือว่าเร็วกว่า microSD Express ถึง 3 เท่า และใกล้เคียงกับ SSD M.2 ขนาดใหญ่ สิ่งที่ทำให้มันน่าสนใจคือการติดตั้งแบบ “ถาดซิม”—แค่ใช้เข็มจิ้มก็ถอดเปลี่ยนได้ทันที ไม่ต้องไขน็อตหรือเปิดฝาเครื่อง เหมาะมากกับอุปกรณ์พกพาอย่าง GPD Win 5 และ OneXPlayer Super X ที่เริ่มรองรับแล้ว นอกจากความเร็วและความสะดวก Mini SSD ยังทนทานระดับ IP68 กันน้ำกันฝุ่น และตกจากที่สูง 3 เมตรได้โดยไม่พัง เหมาะกับการใช้งานในสนามหรืออุปกรณ์ที่ต้องพกพาไปทุกที่ แต่ก็ยังมีข้อกังวล เช่น ความร้อนที่อาจสะสมในพื้นที่เล็ก ๆ และความไม่แน่นอนว่า Biwin จะเปิดให้ผู้ผลิตรายอื่นใช้ฟอร์แมตนี้หรือไม่ ถ้าไม่เปิด อาจกลายเป็นแค่เทคโนโลยีเฉพาะกลุ่มเหมือน Sony Memory Stick ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ✅ คุณสมบัติเด่นของ Biwin Mini SSD ➡️ ขนาดเล็กเพียง 15 × 17 × 1.4 มม. ใกล้เคียง microSD ➡️ ความเร็วสูงระดับ NVMe: อ่าน 3,700 MB/s เขียน 3,400 MB/s ➡️ ใช้ PCIe 4.0 x2 และ NVMe 1.4 ➡️ มีความจุให้เลือก 512GB, 1TB และ 2TB ➡️ ติดตั้งแบบถาดซิม ใช้เข็มจิ้มเปลี่ยนได้ทันที ➡️ กันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 และทนการตกจาก 3 เมตร ✅ การใช้งานในอุปกรณ์พกพา ➡️ รองรับใน GPD Win 5 และ OneXPlayer Super X ➡️ เหมาะกับเกมพกพาและอุปกรณ์ที่ต้องการพื้นที่ภายในมากขึ้น ➡️ ช่วยลดขนาด SSD และเพิ่มพื้นที่ให้แบตเตอรี่หรือระบบระบายความร้อน ✅ เทคโนโลยีเบื้องหลัง ➡️ ใช้ LGA packaging รวม controller และ NAND flash ในพื้นที่เล็ก ➡️ ออกแบบให้ทนทานต่อการใช้งานภาคสนาม ➡️ อาจเป็นทางเลือกใหม่แทน microSD Express ที่ยังจำกัดความเร็ว https://www.techpowerup.com/339967/biwin-launches-mini-ssd-nvme-speeds-in-a-sim-tray-style-card
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Biwin Launches Mini SSD: NVMe Speeds in a SIM-Tray Style Card
    Biwin's new Mini SSD squeezes NVMe-class performance into a SIM-tray style card barely larger than a MicroSD, offering quoted sequential read speeds of up to 3,700 MB/s and write speeds of up to 3,400 MB/s over PCIe 4.0 x2 in 512 GB, 1 TB, and 2 TB options. The 15 × 17 × 1.4 mm module ejects with a ...
    0 Comments 0 Shares 252 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากสนาม AI: ลงทุนเป็นพันล้าน แต่ผลลัพธ์ยังไม่มา

    ลองนึกภาพบริษัททั่วโลกกำลังเทเงินมหาศาลลงในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้วยความหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่เปลี่ยนเกม ทั้งลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกลับคล้ายกับ “Productivity Paradox” ที่เคยเกิดขึ้นในยุคคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเมื่อ 40 ปีก่อน—ลงทุนเยอะ แต่ผลผลิตไม่เพิ่มตามที่คาดไว้

    บริษัทต่าง ๆ ใช้ AI เพื่อช่วยงานหลังบ้าน เช่น การเงิน ทรัพยากรบุคคล และบริการลูกค้า แต่หลายโครงการกลับล้มเหลวเพราะปัญหาทางเทคนิคและ “ปัจจัยมนุษย์” เช่น พนักงานต่อต้าน ขาดทักษะ หรือไม่เข้าใจการใช้งาน

    แม้จะมีความคาดหวังสูงจากเทคโนโลยีอย่าง ChatGPT หรือระบบอัตโนมัติ แต่ผลตอบแทนที่แท้จริงยังไม่ปรากฏชัดในตัวเลขกำไรของบริษัทนอกวงการเทคโนโลยี บางบริษัทถึงกับยกเลิกโครงการนำร่องไปเกือบครึ่ง

    อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า AI อาจเป็น “เทคโนโลยีทั่วไป” (General Purpose Technology) เหมือนกับไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต ที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการปรับตัวก่อนจะเห็นผลลัพธ์ที่แท้จริง

    การลงทุนใน AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    บริษัททั่วโลกเทเงินกว่า 61.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 เพื่อพัฒนา AI
    อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ธนาคาร และค้าปลีกเป็นกลุ่มที่ลงทุนมากที่สุด
    บริษัทเทคโนโลยีอย่าง Microsoft, Google, Amazon และ Nvidia เป็นผู้ได้ประโยชน์หลักในตอนนี้

    ปรากฏการณ์ Productivity Paradox กลับมาอีกครั้ง
    แม้จะมีการใช้ AI อย่างแพร่หลาย แต่ผลผลิตทางเศรษฐกิจยังไม่เพิ่มขึ้น
    ปัญหาหลักคือการนำ AI ไปใช้งานจริงยังไม่แพร่หลาย และต้องการการปรับตัวในองค์กร

    ตัวอย่างบริษัทที่เริ่มใช้ AI อย่างจริงจัง
    USAA ใช้ AI ช่วยพนักงานบริการลูกค้า 16,000 คนในการตอบคำถาม
    แม้ยังไม่มีตัวเลขผลตอบแทนที่ชัดเจน แต่พนักงานตอบรับในทางบวก

    ความล้มเหลวของโครงการ AI นำร่อง
    42% ของบริษัทที่เริ่มโครงการ AI ต้องยกเลิกภายในปี 2024
    ปัญหาหลักมาจาก “ปัจจัยมนุษย์” เช่น ขาดทักษะหรือความเข้าใจ

    ความคาดหวังที่อาจเกินจริง
    Gartner คาดว่า AI กำลังเข้าสู่ “ช่วงแห่งความผิดหวัง” ก่อนจะฟื้นตัว
    CEO ของ Ford คาดว่า AI จะมาแทนที่พนักงานออฟฟิศครึ่งหนึ่งในสหรัฐฯ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/14/companies-are-pouring-billions-into-ai-it-has-yet-to-pay-off
    🎙️เรื่องเล่าจากสนาม AI: ลงทุนเป็นพันล้าน แต่ผลลัพธ์ยังไม่มา ลองนึกภาพบริษัททั่วโลกกำลังเทเงินมหาศาลลงในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้วยความหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่เปลี่ยนเกม ทั้งลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกลับคล้ายกับ “Productivity Paradox” ที่เคยเกิดขึ้นในยุคคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเมื่อ 40 ปีก่อน—ลงทุนเยอะ แต่ผลผลิตไม่เพิ่มตามที่คาดไว้ บริษัทต่าง ๆ ใช้ AI เพื่อช่วยงานหลังบ้าน เช่น การเงิน ทรัพยากรบุคคล และบริการลูกค้า แต่หลายโครงการกลับล้มเหลวเพราะปัญหาทางเทคนิคและ “ปัจจัยมนุษย์” เช่น พนักงานต่อต้าน ขาดทักษะ หรือไม่เข้าใจการใช้งาน แม้จะมีความคาดหวังสูงจากเทคโนโลยีอย่าง ChatGPT หรือระบบอัตโนมัติ แต่ผลตอบแทนที่แท้จริงยังไม่ปรากฏชัดในตัวเลขกำไรของบริษัทนอกวงการเทคโนโลยี บางบริษัทถึงกับยกเลิกโครงการนำร่องไปเกือบครึ่ง อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า AI อาจเป็น “เทคโนโลยีทั่วไป” (General Purpose Technology) เหมือนกับไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ต ที่ต้องใช้เวลาหลายปีในการปรับตัวก่อนจะเห็นผลลัพธ์ที่แท้จริง ✅ การลงทุนใน AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ➡️ บริษัททั่วโลกเทเงินกว่า 61.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 เพื่อพัฒนา AI ➡️ อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ ธนาคาร และค้าปลีกเป็นกลุ่มที่ลงทุนมากที่สุด ➡️ บริษัทเทคโนโลยีอย่าง Microsoft, Google, Amazon และ Nvidia เป็นผู้ได้ประโยชน์หลักในตอนนี้ ✅ ปรากฏการณ์ Productivity Paradox กลับมาอีกครั้ง ➡️ แม้จะมีการใช้ AI อย่างแพร่หลาย แต่ผลผลิตทางเศรษฐกิจยังไม่เพิ่มขึ้น ➡️ ปัญหาหลักคือการนำ AI ไปใช้งานจริงยังไม่แพร่หลาย และต้องการการปรับตัวในองค์กร ✅ ตัวอย่างบริษัทที่เริ่มใช้ AI อย่างจริงจัง ➡️ USAA ใช้ AI ช่วยพนักงานบริการลูกค้า 16,000 คนในการตอบคำถาม ➡️ แม้ยังไม่มีตัวเลขผลตอบแทนที่ชัดเจน แต่พนักงานตอบรับในทางบวก ‼️ ความล้มเหลวของโครงการ AI นำร่อง ⛔ 42% ของบริษัทที่เริ่มโครงการ AI ต้องยกเลิกภายในปี 2024 ⛔ ปัญหาหลักมาจาก “ปัจจัยมนุษย์” เช่น ขาดทักษะหรือความเข้าใจ ‼️ ความคาดหวังที่อาจเกินจริง ⛔ Gartner คาดว่า AI กำลังเข้าสู่ “ช่วงแห่งความผิดหวัง” ก่อนจะฟื้นตัว ⛔ CEO ของ Ford คาดว่า AI จะมาแทนที่พนักงานออฟฟิศครึ่งหนึ่งในสหรัฐฯ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/14/companies-are-pouring-billions-into-ai-it-has-yet-to-pay-off
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Companies are pouring billions into AI. It has yet to pay off.
    Corporate spending on artificial intelligence is surging as executives bank on major efficiency gains. So far, they report little effect to the bottom line.
    0 Comments 0 Shares 454 Views 0 Reviews

  • อนาคตไทยเราต้องพัฒนาอาวุธยุคใหม่ให้สำเร็จโเยรวดเร็วลิกตามดากฝรั่งได้แล้ว ตลอดเครื่องบินรบก็ต้องผลิตเองได้แล้ว เรามีทรัพยากรและวัสดุเพียงพอ,พัฒนาคนไทยตั้งแต่เยาวชนเลย,ผู้ปกครองผู้นำเรากากกระจอกเกินไป,สุดท้ายประเทศอื่นแบบอเมริกาหรือมหาอำนาจฝรั่งมันก็มาคุกคามปล้นชิงแย่งชิงทรัพยากรมีค่ามากมายในประเทศเราแบบสาระพัดมุกกดดันข่มขู่เราแบบภาษีทรัมป์นั้นล่ะ เพราะผู้นำกาก รัฐบาลกระจอกขลาดเขลา ผู้นำโง่ใจปลาซิว ทีมงานใจหมาสมองควายวัวอีกเอาแต่ได้หมายแต่แดกแต่คตโกงขี้โกงทั้งชุดคณะปกครองนั้นเองโดยวลีเด็ดมุกที่มันชอบใช้กันคือ "ทำเพื่อประชาชน" แดกเพื่อประชาชน แดกแทนมากๆเพื่อประชาชน,เราจึงถอยหลังด้านศีลด้านธรรมของคุณธรรมประจำใจ ถอยหลังการพัฒนาบุคคลในนวัตกรรมล้ำแก่คนไทย เมื่อคนไทยร่ำรวยจะสามารถซื้อหาคิดอ่านสร้างสรรค์ผลงานได้สะดวกมีทุนเตรียมวัตถุดิบได้ในสัมมาอาชีพต่างๆหรือพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆตลอดไม่ซื้อเสียงขายเสียงด้วย แต่ผู้นำผู้ปกครองบริหารประเทศให้คนไทยยากจน บ่อน้ำมันบ่อทองคำมากมายก็ยกให้ฝรั่ง บริหารเป็นจะกระจายความมั่งคั่งร่ำรวยแก่คนไทยได้ หรือล่าสุดแลนด์บริดจ์หรือขุดคลองคอดกระ เราทำเองเป็นฮับเดินเรือค้าขายระดับโลกเม็ดเงินกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีก็สามารถทำได้ ตั้งเป็นนิคมฮับการค้าโลกก็ได้,คนไทยตั้งบริษัทกองทุนปกครองบริหารจัดการงานแทนทั้งหมดได้ ออกหุ้นฟรีๆและซื้อให้คนไทยจับต้องเป็นรูปธรรมแสดงถึงความเป็นเจ้าของจริงร่วมกัน ต่างชาติจะแบ่งแยกสร้างความแตกต่างก็ยากเพราะห้ามคนต่างชาติมาถือหุ้นในนี้ทุกๆกรณี,ถ้าปล่อยรัฐบาลจัดการก็เหมือนบ่อน้ำมันไปสุมหัวยกให้ต่างชาติแบบบริษัทอเมริกาเชฟรอนและฝรั่งอื่นๆทำบ่อน้ำมันทั่วประเทศไทยทำแดกเองจนร่ำจนรวยถึงปัจจุบันนี้ล่ะ คนไทยก็ยากจนเหมือนเดิม เหมือนกำลังให้อเมริกายึดพังงายึดฮับตังเราอยู่นี้เห็นก้อนเงินมหาศาลอเมริกาสถุนก็อยากได้ตาร้อนโลภกระสั่นรีบแล่นเข้ามาจะยึดจุดยุทธศาสตร์เราทันทีอ้างปิดปากเดินเรือจีนช่องแคบมะลาก็ว่า,จริงมันมองแดกทะลุหมดล่ะ อเมริกาจึงถือว่าเป็นชาติพาลชาติชั่วเลวของจริง ปล้นชิงแย่งชิงไปทั่วโลก,ยิ่งผู้ปกครองกาก ผู้นำขี้ขลาดโง่ ไร้ฝีมือ มือไม่ถึง ยิ่งถูกอเมริกาเหยียบ แค่อ้างภาษีทรัมป์ก็แสดงอาการใจหมาขาสั่นกากแล้ว,ตัดการค้าขายกับอเมริกาไปชาติไทยไม่ล้มสลายหรอก,ตลาดโลกฝั่งเอเชียเรามูลค้ากว่า100ล้านล้านบาทต่อปี ผู้ปกครองกากผู้นำกระจอกเอง สาระพัดมุกวิธีเจริญไมตรีค้าขายดีงามกับชาติเอเชียเราด้วยกัน เอเชียร่วมใจถีบชาติฝรั่งออกจากระบบตลาดค้าขายเราก็สามารถทำได้เลยหรือทั่วโลกยกเว้นอเมริกาและชาติยุโรป เราก็ค้าขายได้สบาย ไทยขุดคลองคอดกระช่วยการขนส่งเอเชียเราแต่บริหารจัดการเองจากตังคนไทยเองที่ขุดเองทั้งหมดตัดตอนการแทรกแซงจัดการเป็นเอกเทศเลย ทวีปแอฟริกาค้าขายกับเอเชีย สินค้าเอเชียค้าทั่วทวีปเราและแอฟริกา ขนส่งมหาศาลทางเรือปริมาณมากครั้งเดียวต่อเรือใหญ่ยักษ์100,000เที่ยว1,000,000เที่ยวต่อปี รวมเรือสาระพัดประเภทชนิด เรือสำราญใหญ่ๆบ่อนลอยน้ำข้ามทวีปอีก เม็ดเงินกว่า1,000ล้านล้านบาทเข้าไทยจึงกระจอกมาก,ไม่รวมฮับในพื้นที่บริหารจัดการรอบๆแลนด์บริดจ์และคลองคอดกระอีก,
    ..เราจึงพัฒนาตนเองทุกๆด้านได้แล้วโดยเฉพาะขีปนาวุธลูกกระสุนต้องผลิตเองดีที่สุด ขีปนาวุธEMPระยะใกล้ กลางและวิถีไกลข้ามทวีปก็สมควรมีปกป้องตนเองด้วย ระเบิดกลางอวกาศกำจัดดาวเทียมชั่วเลวคุกคามไทยเราก็สามารถทำได้,ระเบิดเขมรสิ้นแผ่นดินแบ่งให้ลาว เวียดนามปกครองเนื้อที่ก็ทำได้ทันทีด้วย กำจัดอาชญากรรมทั่วโลกได้ด้วย อย่าปล่อยรกโลกคุกคามระรานชั่วไปทั่ว.



    https://www.youtube.com/watch?v=5W4gRXvSqNA
    อนาคตไทยเราต้องพัฒนาอาวุธยุคใหม่ให้สำเร็จโเยรวดเร็วลิกตามดากฝรั่งได้แล้ว ตลอดเครื่องบินรบก็ต้องผลิตเองได้แล้ว เรามีทรัพยากรและวัสดุเพียงพอ,พัฒนาคนไทยตั้งแต่เยาวชนเลย,ผู้ปกครองผู้นำเรากากกระจอกเกินไป,สุดท้ายประเทศอื่นแบบอเมริกาหรือมหาอำนาจฝรั่งมันก็มาคุกคามปล้นชิงแย่งชิงทรัพยากรมีค่ามากมายในประเทศเราแบบสาระพัดมุกกดดันข่มขู่เราแบบภาษีทรัมป์นั้นล่ะ เพราะผู้นำกาก รัฐบาลกระจอกขลาดเขลา ผู้นำโง่ใจปลาซิว ทีมงานใจหมาสมองควายวัวอีกเอาแต่ได้หมายแต่แดกแต่คตโกงขี้โกงทั้งชุดคณะปกครองนั้นเองโดยวลีเด็ดมุกที่มันชอบใช้กันคือ "ทำเพื่อประชาชน" แดกเพื่อประชาชน แดกแทนมากๆเพื่อประชาชน,เราจึงถอยหลังด้านศีลด้านธรรมของคุณธรรมประจำใจ ถอยหลังการพัฒนาบุคคลในนวัตกรรมล้ำแก่คนไทย เมื่อคนไทยร่ำรวยจะสามารถซื้อหาคิดอ่านสร้างสรรค์ผลงานได้สะดวกมีทุนเตรียมวัตถุดิบได้ในสัมมาอาชีพต่างๆหรือพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆตลอดไม่ซื้อเสียงขายเสียงด้วย แต่ผู้นำผู้ปกครองบริหารประเทศให้คนไทยยากจน บ่อน้ำมันบ่อทองคำมากมายก็ยกให้ฝรั่ง บริหารเป็นจะกระจายความมั่งคั่งร่ำรวยแก่คนไทยได้ หรือล่าสุดแลนด์บริดจ์หรือขุดคลองคอดกระ เราทำเองเป็นฮับเดินเรือค้าขายระดับโลกเม็ดเงินกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีก็สามารถทำได้ ตั้งเป็นนิคมฮับการค้าโลกก็ได้,คนไทยตั้งบริษัทกองทุนปกครองบริหารจัดการงานแทนทั้งหมดได้ ออกหุ้นฟรีๆและซื้อให้คนไทยจับต้องเป็นรูปธรรมแสดงถึงความเป็นเจ้าของจริงร่วมกัน ต่างชาติจะแบ่งแยกสร้างความแตกต่างก็ยากเพราะห้ามคนต่างชาติมาถือหุ้นในนี้ทุกๆกรณี,ถ้าปล่อยรัฐบาลจัดการก็เหมือนบ่อน้ำมันไปสุมหัวยกให้ต่างชาติแบบบริษัทอเมริกาเชฟรอนและฝรั่งอื่นๆทำบ่อน้ำมันทั่วประเทศไทยทำแดกเองจนร่ำจนรวยถึงปัจจุบันนี้ล่ะ คนไทยก็ยากจนเหมือนเดิม เหมือนกำลังให้อเมริกายึดพังงายึดฮับตังเราอยู่นี้เห็นก้อนเงินมหาศาลอเมริกาสถุนก็อยากได้ตาร้อนโลภกระสั่นรีบแล่นเข้ามาจะยึดจุดยุทธศาสตร์เราทันทีอ้างปิดปากเดินเรือจีนช่องแคบมะลาก็ว่า,จริงมันมองแดกทะลุหมดล่ะ อเมริกาจึงถือว่าเป็นชาติพาลชาติชั่วเลวของจริง ปล้นชิงแย่งชิงไปทั่วโลก,ยิ่งผู้ปกครองกาก ผู้นำขี้ขลาดโง่ ไร้ฝีมือ มือไม่ถึง ยิ่งถูกอเมริกาเหยียบ แค่อ้างภาษีทรัมป์ก็แสดงอาการใจหมาขาสั่นกากแล้ว,ตัดการค้าขายกับอเมริกาไปชาติไทยไม่ล้มสลายหรอก,ตลาดโลกฝั่งเอเชียเรามูลค้ากว่า100ล้านล้านบาทต่อปี ผู้ปกครองกากผู้นำกระจอกเอง สาระพัดมุกวิธีเจริญไมตรีค้าขายดีงามกับชาติเอเชียเราด้วยกัน เอเชียร่วมใจถีบชาติฝรั่งออกจากระบบตลาดค้าขายเราก็สามารถทำได้เลยหรือทั่วโลกยกเว้นอเมริกาและชาติยุโรป เราก็ค้าขายได้สบาย ไทยขุดคลองคอดกระช่วยการขนส่งเอเชียเราแต่บริหารจัดการเองจากตังคนไทยเองที่ขุดเองทั้งหมดตัดตอนการแทรกแซงจัดการเป็นเอกเทศเลย ทวีปแอฟริกาค้าขายกับเอเชีย สินค้าเอเชียค้าทั่วทวีปเราและแอฟริกา ขนส่งมหาศาลทางเรือปริมาณมากครั้งเดียวต่อเรือใหญ่ยักษ์100,000เที่ยว1,000,000เที่ยวต่อปี รวมเรือสาระพัดประเภทชนิด เรือสำราญใหญ่ๆบ่อนลอยน้ำข้ามทวีปอีก เม็ดเงินกว่า1,000ล้านล้านบาทเข้าไทยจึงกระจอกมาก,ไม่รวมฮับในพื้นที่บริหารจัดการรอบๆแลนด์บริดจ์และคลองคอดกระอีก, ..เราจึงพัฒนาตนเองทุกๆด้านได้แล้วโดยเฉพาะขีปนาวุธลูกกระสุนต้องผลิตเองดีที่สุด ขีปนาวุธEMPระยะใกล้ กลางและวิถีไกลข้ามทวีปก็สมควรมีปกป้องตนเองด้วย ระเบิดกลางอวกาศกำจัดดาวเทียมชั่วเลวคุกคามไทยเราก็สามารถทำได้,ระเบิดเขมรสิ้นแผ่นดินแบ่งให้ลาว เวียดนามปกครองเนื้อที่ก็ทำได้ทันทีด้วย กำจัดอาชญากรรมทั่วโลกได้ด้วย อย่าปล่อยรกโลกคุกคามระรานชั่วไปทั่ว. https://www.youtube.com/watch?v=5W4gRXvSqNA
    0 Comments 0 Shares 772 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลก AI: Agentic AI—เทคโนโลยีที่มาแรง แต่ยังไม่พร้อมสำหรับทุกองค์กร

    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “Agentic AI” หรือ AI ที่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เองโดยอัตโนมัติ กลายเป็นกระแสที่มาแรงในวงการเทคโนโลยี หลายองค์กรเริ่มทดลองใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างนวัตกรรมใหม่

    แต่ Gartner เตือนว่า ภายในปี 2570 โครงการ Agentic AI กว่า 40% จะถูกยกเลิก เนื่องจากหลายองค์กรยังไม่เข้าใจต้นทุนที่แท้จริง ความซับซ้อนในการใช้งาน และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อระบบยังอยู่ในช่วงทดลองหรือพิสูจน์แนวคิด (Proof of Concept)

    นอกจากนี้ ยังมีปรากฏการณ์ “Agent Washing” ที่ผู้จำหน่ายบางรายนำผลิตภัณฑ์เดิม เช่น Chatbot หรือ RPA มารีแบรนด์ว่าเป็น Agentic AI ทั้งที่ไม่มีความสามารถจริง ทำให้ตลาดเต็มไปด้วยความสับสน

    อย่างไรก็ตาม Gartner ยังมองว่า Agentic AI มีศักยภาพสูง โดยคาดว่าในปี 2571:
    - 15% ของการตัดสินใจในงานประจำวันจะเป็นอัตโนมัติผ่าน Agentic AI
    - 33% ของแอปพลิเคชันองค์กรจะรวม Agentic AI ไว้ใช้งาน

    คำแนะนำคือ องค์กรควรเริ่มต้นจาก use case ที่มี ROI ชัดเจน และพิจารณาออกแบบเวิร์กโฟลว์ใหม่ตั้งแต่ต้น แทนที่จะพยายามฝัง AI agent เข้าไปในระบบเดิมที่อาจไม่รองรับ

    https://www.dailynews.co.th/news/4919128
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลก AI: Agentic AI—เทคโนโลยีที่มาแรง แต่ยังไม่พร้อมสำหรับทุกองค์กร ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “Agentic AI” หรือ AI ที่สามารถตัดสินใจและดำเนินการได้เองโดยอัตโนมัติ กลายเป็นกระแสที่มาแรงในวงการเทคโนโลยี หลายองค์กรเริ่มทดลองใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างนวัตกรรมใหม่ แต่ Gartner เตือนว่า ภายในปี 2570 โครงการ Agentic AI กว่า 40% จะถูกยกเลิก เนื่องจากหลายองค์กรยังไม่เข้าใจต้นทุนที่แท้จริง ความซับซ้อนในการใช้งาน และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อระบบยังอยู่ในช่วงทดลองหรือพิสูจน์แนวคิด (Proof of Concept) นอกจากนี้ ยังมีปรากฏการณ์ “Agent Washing” ที่ผู้จำหน่ายบางรายนำผลิตภัณฑ์เดิม เช่น Chatbot หรือ RPA มารีแบรนด์ว่าเป็น Agentic AI ทั้งที่ไม่มีความสามารถจริง ทำให้ตลาดเต็มไปด้วยความสับสน อย่างไรก็ตาม Gartner ยังมองว่า Agentic AI มีศักยภาพสูง โดยคาดว่าในปี 2571: - 15% ของการตัดสินใจในงานประจำวันจะเป็นอัตโนมัติผ่าน Agentic AI - 33% ของแอปพลิเคชันองค์กรจะรวม Agentic AI ไว้ใช้งาน คำแนะนำคือ องค์กรควรเริ่มต้นจาก use case ที่มี ROI ชัดเจน และพิจารณาออกแบบเวิร์กโฟลว์ใหม่ตั้งแต่ต้น แทนที่จะพยายามฝัง AI agent เข้าไปในระบบเดิมที่อาจไม่รองรับ https://www.dailynews.co.th/news/4919128
    WWW.DAILYNEWS.CO.TH
    “การ์ทเนอร์” เผยปี 70 โครงการ Agentic AI มากกว่า 40% จะถูกยกเลิก | เดลินิวส์
    การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่ากว่า 40% ของโครงการงานด้าน Agentic AI จะถูกยกเลิกไปในอีกสองปีข้างหน้า สาเหตุมาจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น คุณค่าทางธุรกิจที่ไม่ชัดเจน รวมถึงการควบคุมความเสี่ยงที่ไม่เพียงพอ
    0 Comments 0 Shares 313 Views 0 Reviews
  • ..555,ข่าวแหกตา เศรษฐกิจโลกมันพังปกติอยู่แล้ว โยนบาปให้ทรัมป์เป็นแพะว่าชาติต่างๆจะล้มละลายเพราะนโยบายทรัมป์ ซึ่งมันไม่จริงอะไรเลย อเมริกามีประชากรไม่กี่ร้อยล้านคนจะบริโภคห่าเหวอะไรมากมายขนาดนั้น,ส่วนใหญ่อาจแค่ใข้อเมริกาเป็นทางผ่านแบรนด์นามใช้ชื่อโลโก้อเมริกานั้นล่ะ,นำเข้าหลอกๆอีก ไม่ได้เข้าอเมริกาเป็นรูปร่างรูปธรรมห่าอะไรด้วย แค่นำเข้าในนามกระดาษ แบรนด์อเมริกากิจการเครือข่ายอเมริกาแต่ละชาติรับไปขายต่อผ่านอเมริกาเท่านั่น มุกตย.หนึ่งแค่นั้นล่ะ เช่นเรือน้ำมันอเมริกาแท่งขุดบริษัทอเมริกาลอยลำในไทยตีตราว่าส่งออกเข้าอเมริกาแล้ววนเอกสารนำเข้ามาไทยในที่สุดนั้นล่ะ,อเมริกาคิดภาษีเสร็จแล้วก็มาขายคืนไทย0%กำไรทันทีถ้าตกลงแบบเวียดนามให้สินค้าอเมริกามาขายเวียดนามในอัตรานำเข้า0%แลกส่งออกไปอเมริกาก็ว่า ,เจ้าสัวไทยไม่เดือดร้อนอะไรหรอกสมุนอีลิทมันรับรู้ล่วงหน้าแล้วเลยไม่ตั้งสายการผลิตทั่วอาเชียนทั่วเอเชียก็ส่งออกในชื่อที่ภาษีถูกคิดน้อยๆไง,คืออเมริกามีแต่ได้จริงๆในภาวะตังเงินโลกพัง,ทรัมป์ก็เหี้ยถูกจังหวะพอดี,เลยรับซวยไป,มองอีกมุม ทรัมป์กำลังเล่นงานบริษัทกิจการอีลิทdeep stateอยู่ก็ได้,ปลดปล่อยทาสแรงงานออกจากระบบทาสdeep stateที่ควบคุมมานานคือทำงานรับใช้พวกมันเหมือนทาสในกิจการบริษัทมันนั้นล่ะ,เร่งให้คนออกจากระบบทาสมันกลับบ้านใครบ้านมันไปอยู่ในธรรมชาติบ้านเกิดท้องเมืองนอนเดิมตนเสียก็ว่า,แก้ง่ายๆคือนายกฯต้องมานำประเทศแบบมุ่งการพึ่งพาตนเองภายในประเทศตนและกันและกันให้ได้ก่อน,ต้องมาในลักษณะพิเศษ กฎหมายพิเศษด้วย คือนายกฯพระราชทานนั้นล่ะมาบริหารชาติด้วยกฎหมายพิเศษมีอำนาจเด็ดขาดพร้อมสร้างทุกๆกลยุทธทางสงครามตังปากท้องและอธิปไตยตนทันทีสลับสับเปลี่ยนคล่องตัวก็ว่า,โดยกลไกปกติทำไม่ได้ ไม่ทันกาล ทันยุคที่การเปลี่ยนทางกระสุนตังกระสุนเงินรวดเร็วมาก,อเมริกาก็เป็นบ้าเป็นบอเพราะตังเพราะเงินใช้หนี้นี้ล่ะ,ญี่ปุ่นก็จะล่มละลายทั่งประเทศก็ตังนี้ล่ะบวกภัยธรรมชาติแบบแผ่นดินไหวอีก,"ตัง"คือชื่อเรียกหนึ่งว่าชื่อ"เศรษฐกิจ"ในชื่อเรียกหนึ่งเท่านั้น,
    ..อนาคตคนไทยต้องตกงานแน่นอนอยู่แล้วเพราะจักรกลจะมาแทนที่เป็นอันมากตลอดAIแทรกซึมทุกๆกระบวนการทำตังแล้ว,ช่องทางปกติอาจลดบทบาทลงมากขึ้น,คนจะถูกแทนที่มากขึ้นเรื่อยๆจากเอไอ,ผู้นำประเทศไทยเราจึงสำคัญมากในยุคการละครบทบาทเวลานี้ที่จะมาลงเล่นในยุคต่อไป,นำพาคนไทยทั้งประเทศตั้งรับและรุกหรือถอยเพื่อชนะตนเองหรือการดำรงอยู่ของคนไทยและประเทศชาติให้ได้บนฐานความอิ่มดีมีสุขก็ว่า,คือทั่วโลกจะเป็นห่าเหวอะไร,แต่ภายในประเทศเรา ครอบครัวพร้อมหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขตังทองพอดีพองามไม่ขาดไม่เดือดร้อน มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ อาหารการกินเต็มบ้าน แบ่งปันกันภายในประเทศไทยตน เหลือก็ขาย ยาสมุนไพรเคมีเพียงพอแก่การรักษาคนในชาติไทยตน,คือผู้นำสามารถนำพาชาติไทยตนตั้งรับตั้งรุกหรือนิ่งเฉยได้หมด,คืออุดมสมบูรณ์ปกติดีทั่วถึงแก่ทุกๆคนไทยเราอย่างไร,,ทรัมป์กีดกันก็ค้าขายกับชาติอื่น ขายคนแค่100คน กับขายคนรวมกันหลายๆบ้านกว่า1,000คนได้ตังหลายพันบาทมากกว่าร้อยบาทย่อมดีแน่นอน,บางทีอาจแลกเปลี่ยนวัตถุดิบในรัฐต่อรัฐได้เช่น ไทยขุดน้ำมันเอง ยึดทุกๆบ่อน้ำมันเสร็จ แลกน้ำมันกับจักรกลทางการเกษตรหรืออุตสากรรมก็ได้อีกมาช่วยทุ่นแรงคนไทยตนในราคาไม่แพง,อาหารแลกอาหาร,เสบียงใดเราขาดก็แลกเสบียงนั้นที่เขาขาดได้,รัฐสร้างโรงงานผลิตยานบินในฮับไทย ขาดวัตถุดิบก็ใช้ทรัพยากรเรามีที่เขาต้องการแลกกัน,ผลิตเสร็จขายราคาไม่แพงแก่เขาก็ได้หรือประเทศอื่นในราคาไม่แพงก็ได้อีก,คือผู้นำเราทั้งสิ้นจะควบคุมกลไกให้สมดุลในระบบแบบใด,ประเทศไทยเราพร้อมหมด,ฉีกกฎหมายผูกตีผูกมือผูกการกระทำกิจกรรมที่สร้างสรรคของคนไทยทิ้ง จะเพิ่มโอกาสนวัตกรรมใหม่ตรึมบนแผ่นดินไทยเรา,เพราะผู้ปกครองชั่วเลวปกครองกดขี่คนไทยด้วยกฎหมายผีบ้าผีบ้อมากมายนั่นล่ะ,คนชั่วในไทยแม้มีมากแต่ระบบสังคมจะจัดการเขาเองร่วมด้วยก็ได้,อาทิ เสพยาบ้าแล้วคลั่ง ชุมชนสะกำได้ทันทีก็ว่า,ข่มขื่นไทบ้านชาวบ้านรุมสะกัมเกือบตายก็ได้ซึ่งคนชั่วเลวที่ชัดเจน สมควรต้องเปิดเผยถูกกระซากหน้าให้สังคมรับรู้ เช่นแบงค์สถุนกากยักยอกตังคนฝากก็ประจานชื่อแบงค์สถุนกากนั้นเลย สาขาอะไร พนักงานคนไหน เป็นต้น นี้อะไรเขียนกฎหมายช่วยเหลือคนชั่วเลวเป็นต้น,นี้คือลักษณะกฎหมายเลวชั่วแบบเปิดสัมปทานน้ำมันแต่ไม่เอาเข้าสภาสส.สว.นั้นล่ะ,นี้คือกฎหมายเลวก็ด้วย,แบบพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ที่ร่างออกมาจะออกเป็นพรบ.มาบังคับคนปลูกต่างๆทั่วไทยโดยเฉพาะสานคนเกษตรกรรมซวยแน่นอนหากพรบ.500ยึดทหารยุดอำนาจนั้นผ่านได้เอกชนไทยแดกรวบทั้งระบบทั้งประเทศทันที นี้คือกฎหมายชั่วสารเลวอีกตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนว่า,กฎหมายเราคือตัวถ่วงความเจริญอยู่ดีมีสุขสงบร่มเย็นพึ่งพาตนเองได้จริงของคนไทยโดยการปล้นชิงผ่านกฎหมายนั้นเองไปจากประชาชนคนไทย,สร้างข้อกำหนด ทำได้ทำไม่ได้นั่นล่ะ,ปลูกกัญชาเสรีก็ทำไม่ได้ สกัดยาสาระพัดวิจัย5ปีก่อนนะ,แต่วัคซีนโควิดไม่มีงานวิจัยปลอดภัยอะไรรองรับเสือกฉีดเข้าร่างกายคนไทยกว่า60ล้านคนหน้าตาเฉย ต่างชาติบริษัทยามันเองรับผิดถูกฟ้องคดีตรึมบอกเองว่ามีผลเป็นพิษจริงแก่คนฉีดมากกว่า1โรคโน้น รัฐบาลไทยเปลี่ยนมาสองนายกฯสองรักษาการแล้วนะก็ไม่ยอมประกาศความจริงอย่างเป็นทางการเลนด้วย.
    ..นี้จึงคือสาเหตุชัดต้องล้างทั้งหมด,ทรัมป์คือปัญหาภายนอกผู้นำภายนอก,เราต้องจัดการภายในเราก่อน,จึงนายกฯพระราชทานคือทางออก,และเด็ดขาดกับความชั่วเลวจริง,เด็ดขาดกับเดอะแก๊งแดกประเทศไทยทั้งหมดจริงด้วย.
    ..
    ..https://youtu.be/UqqWf54tRMM?si=T-lTaXTTUXijbHdQ
    ..555,ข่าวแหกตา เศรษฐกิจโลกมันพังปกติอยู่แล้ว โยนบาปให้ทรัมป์เป็นแพะว่าชาติต่างๆจะล้มละลายเพราะนโยบายทรัมป์ ซึ่งมันไม่จริงอะไรเลย อเมริกามีประชากรไม่กี่ร้อยล้านคนจะบริโภคห่าเหวอะไรมากมายขนาดนั้น,ส่วนใหญ่อาจแค่ใข้อเมริกาเป็นทางผ่านแบรนด์นามใช้ชื่อโลโก้อเมริกานั้นล่ะ,นำเข้าหลอกๆอีก ไม่ได้เข้าอเมริกาเป็นรูปร่างรูปธรรมห่าอะไรด้วย แค่นำเข้าในนามกระดาษ แบรนด์อเมริกากิจการเครือข่ายอเมริกาแต่ละชาติรับไปขายต่อผ่านอเมริกาเท่านั่น มุกตย.หนึ่งแค่นั้นล่ะ เช่นเรือน้ำมันอเมริกาแท่งขุดบริษัทอเมริกาลอยลำในไทยตีตราว่าส่งออกเข้าอเมริกาแล้ววนเอกสารนำเข้ามาไทยในที่สุดนั้นล่ะ,อเมริกาคิดภาษีเสร็จแล้วก็มาขายคืนไทย0%กำไรทันทีถ้าตกลงแบบเวียดนามให้สินค้าอเมริกามาขายเวียดนามในอัตรานำเข้า0%แลกส่งออกไปอเมริกาก็ว่า ,เจ้าสัวไทยไม่เดือดร้อนอะไรหรอกสมุนอีลิทมันรับรู้ล่วงหน้าแล้วเลยไม่ตั้งสายการผลิตทั่วอาเชียนทั่วเอเชียก็ส่งออกในชื่อที่ภาษีถูกคิดน้อยๆไง,คืออเมริกามีแต่ได้จริงๆในภาวะตังเงินโลกพัง,ทรัมป์ก็เหี้ยถูกจังหวะพอดี,เลยรับซวยไป,มองอีกมุม ทรัมป์กำลังเล่นงานบริษัทกิจการอีลิทdeep stateอยู่ก็ได้,ปลดปล่อยทาสแรงงานออกจากระบบทาสdeep stateที่ควบคุมมานานคือทำงานรับใช้พวกมันเหมือนทาสในกิจการบริษัทมันนั้นล่ะ,เร่งให้คนออกจากระบบทาสมันกลับบ้านใครบ้านมันไปอยู่ในธรรมชาติบ้านเกิดท้องเมืองนอนเดิมตนเสียก็ว่า,แก้ง่ายๆคือนายกฯต้องมานำประเทศแบบมุ่งการพึ่งพาตนเองภายในประเทศตนและกันและกันให้ได้ก่อน,ต้องมาในลักษณะพิเศษ กฎหมายพิเศษด้วย คือนายกฯพระราชทานนั้นล่ะมาบริหารชาติด้วยกฎหมายพิเศษมีอำนาจเด็ดขาดพร้อมสร้างทุกๆกลยุทธทางสงครามตังปากท้องและอธิปไตยตนทันทีสลับสับเปลี่ยนคล่องตัวก็ว่า,โดยกลไกปกติทำไม่ได้ ไม่ทันกาล ทันยุคที่การเปลี่ยนทางกระสุนตังกระสุนเงินรวดเร็วมาก,อเมริกาก็เป็นบ้าเป็นบอเพราะตังเพราะเงินใช้หนี้นี้ล่ะ,ญี่ปุ่นก็จะล่มละลายทั่งประเทศก็ตังนี้ล่ะบวกภัยธรรมชาติแบบแผ่นดินไหวอีก,"ตัง"คือชื่อเรียกหนึ่งว่าชื่อ"เศรษฐกิจ"ในชื่อเรียกหนึ่งเท่านั้น, ..อนาคตคนไทยต้องตกงานแน่นอนอยู่แล้วเพราะจักรกลจะมาแทนที่เป็นอันมากตลอดAIแทรกซึมทุกๆกระบวนการทำตังแล้ว,ช่องทางปกติอาจลดบทบาทลงมากขึ้น,คนจะถูกแทนที่มากขึ้นเรื่อยๆจากเอไอ,ผู้นำประเทศไทยเราจึงสำคัญมากในยุคการละครบทบาทเวลานี้ที่จะมาลงเล่นในยุคต่อไป,นำพาคนไทยทั้งประเทศตั้งรับและรุกหรือถอยเพื่อชนะตนเองหรือการดำรงอยู่ของคนไทยและประเทศชาติให้ได้บนฐานความอิ่มดีมีสุขก็ว่า,คือทั่วโลกจะเป็นห่าเหวอะไร,แต่ภายในประเทศเรา ครอบครัวพร้อมหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขตังทองพอดีพองามไม่ขาดไม่เดือดร้อน มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ อาหารการกินเต็มบ้าน แบ่งปันกันภายในประเทศไทยตน เหลือก็ขาย ยาสมุนไพรเคมีเพียงพอแก่การรักษาคนในชาติไทยตน,คือผู้นำสามารถนำพาชาติไทยตนตั้งรับตั้งรุกหรือนิ่งเฉยได้หมด,คืออุดมสมบูรณ์ปกติดีทั่วถึงแก่ทุกๆคนไทยเราอย่างไร,,ทรัมป์กีดกันก็ค้าขายกับชาติอื่น ขายคนแค่100คน กับขายคนรวมกันหลายๆบ้านกว่า1,000คนได้ตังหลายพันบาทมากกว่าร้อยบาทย่อมดีแน่นอน,บางทีอาจแลกเปลี่ยนวัตถุดิบในรัฐต่อรัฐได้เช่น ไทยขุดน้ำมันเอง ยึดทุกๆบ่อน้ำมันเสร็จ แลกน้ำมันกับจักรกลทางการเกษตรหรืออุตสากรรมก็ได้อีกมาช่วยทุ่นแรงคนไทยตนในราคาไม่แพง,อาหารแลกอาหาร,เสบียงใดเราขาดก็แลกเสบียงนั้นที่เขาขาดได้,รัฐสร้างโรงงานผลิตยานบินในฮับไทย ขาดวัตถุดิบก็ใช้ทรัพยากรเรามีที่เขาต้องการแลกกัน,ผลิตเสร็จขายราคาไม่แพงแก่เขาก็ได้หรือประเทศอื่นในราคาไม่แพงก็ได้อีก,คือผู้นำเราทั้งสิ้นจะควบคุมกลไกให้สมดุลในระบบแบบใด,ประเทศไทยเราพร้อมหมด,ฉีกกฎหมายผูกตีผูกมือผูกการกระทำกิจกรรมที่สร้างสรรคของคนไทยทิ้ง จะเพิ่มโอกาสนวัตกรรมใหม่ตรึมบนแผ่นดินไทยเรา,เพราะผู้ปกครองชั่วเลวปกครองกดขี่คนไทยด้วยกฎหมายผีบ้าผีบ้อมากมายนั่นล่ะ,คนชั่วในไทยแม้มีมากแต่ระบบสังคมจะจัดการเขาเองร่วมด้วยก็ได้,อาทิ เสพยาบ้าแล้วคลั่ง ชุมชนสะกำได้ทันทีก็ว่า,ข่มขื่นไทบ้านชาวบ้านรุมสะกัมเกือบตายก็ได้ซึ่งคนชั่วเลวที่ชัดเจน สมควรต้องเปิดเผยถูกกระซากหน้าให้สังคมรับรู้ เช่นแบงค์สถุนกากยักยอกตังคนฝากก็ประจานชื่อแบงค์สถุนกากนั้นเลย สาขาอะไร พนักงานคนไหน เป็นต้น นี้อะไรเขียนกฎหมายช่วยเหลือคนชั่วเลวเป็นต้น,นี้คือลักษณะกฎหมายเลวชั่วแบบเปิดสัมปทานน้ำมันแต่ไม่เอาเข้าสภาสส.สว.นั้นล่ะ,นี้คือกฎหมายเลวก็ด้วย,แบบพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ที่ร่างออกมาจะออกเป็นพรบ.มาบังคับคนปลูกต่างๆทั่วไทยโดยเฉพาะสานคนเกษตรกรรมซวยแน่นอนหากพรบ.500ยึดทหารยุดอำนาจนั้นผ่านได้เอกชนไทยแดกรวบทั้งระบบทั้งประเทศทันที นี้คือกฎหมายชั่วสารเลวอีกตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนว่า,กฎหมายเราคือตัวถ่วงความเจริญอยู่ดีมีสุขสงบร่มเย็นพึ่งพาตนเองได้จริงของคนไทยโดยการปล้นชิงผ่านกฎหมายนั้นเองไปจากประชาชนคนไทย,สร้างข้อกำหนด ทำได้ทำไม่ได้นั่นล่ะ,ปลูกกัญชาเสรีก็ทำไม่ได้ สกัดยาสาระพัดวิจัย5ปีก่อนนะ,แต่วัคซีนโควิดไม่มีงานวิจัยปลอดภัยอะไรรองรับเสือกฉีดเข้าร่างกายคนไทยกว่า60ล้านคนหน้าตาเฉย ต่างชาติบริษัทยามันเองรับผิดถูกฟ้องคดีตรึมบอกเองว่ามีผลเป็นพิษจริงแก่คนฉีดมากกว่า1โรคโน้น รัฐบาลไทยเปลี่ยนมาสองนายกฯสองรักษาการแล้วนะก็ไม่ยอมประกาศความจริงอย่างเป็นทางการเลนด้วย. ..นี้จึงคือสาเหตุชัดต้องล้างทั้งหมด,ทรัมป์คือปัญหาภายนอกผู้นำภายนอก,เราต้องจัดการภายในเราก่อน,จึงนายกฯพระราชทานคือทางออก,และเด็ดขาดกับความชั่วเลวจริง,เด็ดขาดกับเดอะแก๊งแดกประเทศไทยทั้งหมดจริงด้วย. .. ..https://youtu.be/UqqWf54tRMM?si=T-lTaXTTUXijbHdQ
    0 Comments 0 Shares 952 Views 0 Reviews
  • ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่:

    1. **สหรัฐอเมริกา:**
    * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control)

    2. **จีน:**
    * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ

    3. **รัสเซีย:**
    * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ
    * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น

    4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:**
    * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ
    * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS)

    **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม
    2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้
    3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี
    4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
    5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง

    **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ
    2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต
    3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ
    4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):**
    * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน
    * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น
    5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา
    6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ

    **สรุป:**
    สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่: 1. **สหรัฐอเมริกา:** * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control) 2. **จีน:** * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ 3. **รัสเซีย:** * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น 4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:** * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS) **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม 2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้ 3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี 4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ 5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ 2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต 3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ 4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):** * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น 5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา 6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ **สรุป:** สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    0 Comments 0 Shares 840 Views 0 Reviews
More Results