• ประชาชนยื่นแก้ รธน.จัดระเบียบองค์กรอิสระ-ศาล เพิ่มช่องทางสรรหาตุลาการ-กรรมการจากหลายฝ่าย รวมถึง สส. รัฐบาล-ฝ่ายค้าน และ ส.ว. เปลี่ยนเสียงเห็นชอบจาก ส.ว. เป็นรัฐสภา เปิดทางให้ สส.และประชาชน 20,000 รายชื่อยื่นถอดถอนได้ หวังแก้ปัญหาองค์กรไม่ยึดโยงประชาชน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000064162

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ประชาชนยื่นแก้ รธน.จัดระเบียบองค์กรอิสระ-ศาล เพิ่มช่องทางสรรหาตุลาการ-กรรมการจากหลายฝ่าย รวมถึง สส. รัฐบาล-ฝ่ายค้าน และ ส.ว. เปลี่ยนเสียงเห็นชอบจาก ส.ว. เป็นรัฐสภา เปิดทางให้ สส.และประชาชน 20,000 รายชื่อยื่นถอดถอนได้ หวังแก้ปัญหาองค์กรไม่ยึดโยงประชาชน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000064162 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 357 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาชน ยื่นแก้ รธน. จัดแถวองค์กรอิสระ-ศาล
    .
    พรรคประชาชนยื่นแก้ รธน.จัดระเบียบองค์กรอิสระ-ศาล เพิ่มช่องทางสรรหาตุลาการ-กรรมการจากหลายฝ่าย รวมถึง สส. รัฐบาล-ฝ่ายค้าน และ ส.ว. เปลี่ยนเสียงเห็นชอบจาก ส.ว. เป็นรัฐสภา เปิดทางให้ สส.และประชาชน 20,000 รายชื่อ ยื่นถอดถอนได้ หวังแก้ปัญหาองค์กรไม่ยึดโยงประชาชน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000064185

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ประชาชน ยื่นแก้ รธน. จัดแถวองค์กรอิสระ-ศาล . พรรคประชาชนยื่นแก้ รธน.จัดระเบียบองค์กรอิสระ-ศาล เพิ่มช่องทางสรรหาตุลาการ-กรรมการจากหลายฝ่าย รวมถึง สส. รัฐบาล-ฝ่ายค้าน และ ส.ว. เปลี่ยนเสียงเห็นชอบจาก ส.ว. เป็นรัฐสภา เปิดทางให้ สส.และประชาชน 20,000 รายชื่อ ยื่นถอดถอนได้ หวังแก้ปัญหาองค์กรไม่ยึดโยงประชาชน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000064185 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 860 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปชน. ยื่นร่างแก้รธน.รายมาตราให้รัฐสภา รื้ออำนาจองค์กรอิสระ เข้าชื่อถอดตุลาการศาลได้
    https://www.thai-tai.tv/news/20099/
    .
    #พรรคประชาชน #ปชน #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #ผู้นำฝ่ายค้าน #รัฐสภา #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #องค์กรอิสระ #ศาลรัฐธรรมนูญ #พริษฐ์วัชรสินธุ #สรรหาตุลาการ #ถอดถอนองค์กรอิสระ #ปปช #การเมืองไทย #ปฏิรูปการเมือง #รัฐธรรมนูญ2560 #วิป3ฝ่าย #สส #สว #ระเบิดเวลา #ยึดโยงประชาชน
    ปชน. ยื่นร่างแก้รธน.รายมาตราให้รัฐสภา รื้ออำนาจองค์กรอิสระ เข้าชื่อถอดตุลาการศาลได้ https://www.thai-tai.tv/news/20099/ . #พรรคประชาชน #ปชน #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #ผู้นำฝ่ายค้าน #รัฐสภา #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #องค์กรอิสระ #ศาลรัฐธรรมนูญ #พริษฐ์วัชรสินธุ #สรรหาตุลาการ #ถอดถอนองค์กรอิสระ #ปปช #การเมืองไทย #ปฏิรูปการเมือง #รัฐธรรมนูญ2560 #วิป3ฝ่าย #สส #สว #ระเบิดเวลา #ยึดโยงประชาชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิเคราะห์เชิงลึก: จุดเริ่มต้นของ TI ภายใต้ TOR 2003

    1. TOR 2003 ข้อ 1.1.3 ระบุให้ใช้ “แผนที่มาตราส่วน 1:200,000” เป็นฐาน

    แม้รัฐบาลอภิสิทธิ์จะไม่ยอมรับ Annex I Map แต่ไม่ได้เสนอแก้ TOR ดังนั้น

    > ทุก TI ที่จัดทำภายใต้ TOR นี้ ต้องตีความให้ “สอดคล้องกับ” แผนที่ 1:200,000




    ---

    2. เอกสารประชุม JBC ชุดที่คุณแนบ (ปี 2552)

    แสดงให้เห็นว่า:

    ฝ่ายไทยยินยอมให้มีการจัดทำ "แผนที่ร่วม" (Joint Map) โดยใช้ ข้อมูล GPS, ภาพถ่ายทางอากาศ (Orthophoto)

    จุดประสงค์คือเพื่อให้สามารถ “อ้างอิงได้” กับ TOR เดิม โดยเฉพาะในเรื่องเส้นแบ่งเขตแดน


    > ตรงนี้เองที่แม้ ไทยจะไม่ยอมรับแผนที่เดิมของฝรั่งเศส (Annex I Map) โดยเปิดเผย
    แต่กลับ ยอมเข้าสู่กระบวนการจัดทำแผนที่ที่อ้าง TOR เดิมเป็นกรอบอ้างอิงทางกฎหมาย




    ---

    3. นี่คือที่มาของ "ร่าง TI" หรือ “Technical Instruction”

    ในภายหลัง TI ถูกพัฒนาโดยคณะทำงานร่วมไทย–กัมพูชา (JWG) และต่อมาใช้ในการหารือภายใต้ JBC
    โดยยังอยู่ภายใต้ TOR 2003
    ซึ่งทำให้ไทยต้องเข้าสู่ระบบที่อ้างอิงแผนที่ 1:200,000 โดยปริยาย


    ---

    สรุปทางการ

    > ❝แม้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะจะแสดงความเห็นแย้งทางการเมืองต่อการใช้แผนที่ 1:200,000 ภายใต้ TOR 2003 แต่การดำเนินการทางเทคนิค เช่น การจัดทำ
    ร่าง TI และแผนที่ร่วมในยุคนั้น ยังอยู่ภายใต้กรอบ TOR เดิม และต้องตีความให้สอดคล้องกับ TOR 2003 โดยเฉพาะข้อ 1.1.3 ที่ระบุชัดเจนถึงการใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000❞

    สาระสำคัญของร่าง TI ปี 2552–2553 (ภายใต้ JWG)

    1. จุดประสงค์ของ TI

    เป็นคู่มือเทคนิค (Technical Instruction) สำหรับ:

    การจัดทำแผนที่ร่วม (Joint Map Production)

    การใช้ ภาพถ่ายทางอากาศ (Orthophoto) และ ระบบพิกัด GPS

    เพื่อกำหนด “เส้นแบ่งเขตแดน” ตามกรอบ TOR 2003



    ---

    2. กรอบอ้างอิงหลักของ TI

    TI ฉบับนี้ ผูกพันโดยตรงกับ TOR 2003 โดยเฉพาะ ข้อ 1.1.3

    ซึ่งระบุให้ใช้ แผนที่ 1:200,000 เป็นมาตรฐานอ้างอิง

    แม้จะนำเทคโนโลยีใหม่ เช่น Orthophoto / GPS เข้ามาใช้ แต่ “ผลลัพธ์สุดท้าย” ต้อง อิงเส้นและจุดจากแผนที่ 1:200,000



    ---

    3. โครงสร้าง TI (ตามรายงานการประชุม)

    TI ประกอบด้วยขั้นตอนหลัก ได้แก่:

    การเก็บข้อมูลภาคสนามด้วย GPS และสถานีอ้างอิง

    การตีความภาพถ่ายทางอากาศและเทียบกับแผนที่เดิม

    การประเมินและอนุมัติเส้นเขตแดนโดยคณะกรรมาธิการ (JBC) หลังผ่าน JWG



    ---

    4. ข้อสังเกตจากฝ่ายไทยในที่ประชุม

    ฝ่ายไทย มีความกังวล ว่า TI อาจทำให้ไทย “ผูกพันโดยปริยาย” กับแผนที่ 1:200,000

    มีการเสนอให้ “เพิ่มถ้อยคำสงวนสิทธิ์” (reservation) ในการใช้ข้อมูล

    ไม่มีการลงนามใน TI อย่างสมบูรณ์ ณ ช่วงปี 2552–2553 แต่มีความพยายามผลักดันต่อเนื่องโดยฝ่ายเทคนิค



    ---

    สรุปสาระสำคัญ (เชิงราชการ)

    > ❝ร่าง Technical Instruction (TI) ที่จัดทำในช่วงปี 2552–2553 โดยคณะทำงานร่วม (JWG) มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำแผนที่ร่วมบนพื้นฐานของภาพถ่ายทางอากาศและระบบ GPS โดยยังคงอ้างอิงข้อกำหนดของ TOR 2003 โดยเฉพาะแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ทั้งนี้แม้ฝ่ายไทยมิได้ให้สัตยาบัน TI อย่างเป็นทางการ แต่การเข้าร่วมในกระบวนการดังกล่าวสะท้อนถึงการยอมรับกรอบทางเทคนิคภายใต้ TOR ที่มีผลผูกพันอยู่❞




    --- วิเคราะห์ความเสี่ยงทางกฎหมายจาก TI + TOR 2003

    1. TOR 2003 เป็นพันธกรณีระหว่างประเทศ

    TOR (Terms of Reference) ปี 2003 เป็นเอกสารที่ลงนามโดยรัฐบาลไทยและกัมพูชา

    มีผลผูกพันตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ (Vienna Convention on the Law of Treaties 1969)

    ข้อ 1.1.3 ของ TOR กำหนดให้ใช้ “แผนที่มาตราส่วน 1:200,000” เป็นกรอบอ้างอิงหลักในการปักปัน

    การที่ไทยไม่เคย “ยกเลิก” หรือ “ถอนตัว” ออกจาก TOR = ยังคงมีพันธะตามกฎหมาย


    ความเสี่ยง: การตีความโดยอนุญาโตตุลาการหรือศาลระหว่างประเทศ อาจถือว่าไทย ยอมรับแผนที่ 1:200,000 หากยังคงปฏิบัติตาม TOR โดยไม่คัดค้านอย่างเป็นทางการ


    ---

    2. TI (Technical Instruction) ทำหน้าที่ “แปลงเจตนาทางการเมืองให้เป็นข้อเท็จจริงทางเทคนิค”

    แม้รัฐบาลไทย (เช่น ยุคอภิสิทธิ์) จะคัดค้าน “แผนที่ฝรั่งเศส” แต่ TI เป็นเครื่องมือที่ทำให้ฝ่ายเทคนิคต้องดำเนินงานให้ตรงกับ TOR

    TI นำภาพถ่าย Orthophoto + GPS มาปรับเส้นให้ “อิงตำแหน่งเดิม” ที่อยู่บนแผนที่ 1:200,000


    ความเสี่ยง: แม้ไม่ลงนามใน TI แต่การ “ร่วมจัดทำ” และ “ยอมให้ JWG ทำงาน” = ยินยอมโดยพฤตินัย
    หากเกิดข้อพิพาทในอนาคต ไทยจะลำบากในการปฏิเสธผลของ TI


    ---

    3. การไม่มีข้อสงวน (reservation) หรือการตีความ TOR ใหม่

    ในช่วงการประชุม JBC–JWG ไทยไม่ได้เสนอ ตีความ TOR ใหม่ หรือเสนอแผนที่มาตรฐานอื่น

    การไม่สงวนสิทธิอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร = ความเสี่ยงในทางกฎหมาย ว่าไทย “นิ่งเฉย” ต่อสิ่งที่อาจเสียเปรียบ


    ความเสี่ยง: หลัก “estoppel” ในกฎหมายระหว่างประเทศอาจถูกใช้หักล้างไทย เช่น

    > “ถ้าคุณนิ่งและเข้าร่วม ก็ถือว่าคุณยอมรับ”




    ---

    4. การจัดทำ TI อาจกลายเป็น “พฤติการณ์ประกอบยินยอม”

    ศาลโลก (ICJ) เคยใช้ พฤติการณ์ เช่น “การเจรจา”, “การเข้าร่วมคณะทำงาน”, “การไม่คัดค้าน”
    เป็นหลักฐานว่า “รัฐยินยอมแล้ว”


    ความเสี่ยง: แม้ไทยจะไม่เคยลงนามใน TI อย่างเป็นทางการ
    แต่การส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วม, การเสนอข้อมูล, การเดินแนวพิกัด อาจกลายเป็นพฤติการณ์ที่ศาลใช้ตีความว่า “ประเทศไทยยอมรับเส้นแบ่งที่สอดคล้องกับ TOR”


    ---

    บทสรุปความเสี่ยงทางกฎหมาย (แบบราชการ)

    > ❝การดำเนินการตาม TOR 2003 ร่วมกับการจัดทำร่าง Technical Instruction (TI) โดย JWG ในช่วงปี 2552–2553 ก่อให้เกิดความเสี่ยงทางกฎหมายอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากแม้ไม่มีการลงนามอย่างเป็นทางการ แต่การที่ไทยมิได้ถอนตัวจาก TOR และยังคงเข้าร่วมกระบวนการเทคนิคโดยมิได้สงวนสิทธิอย่างชัดแจ้ง อาจทำให้ผลของแผนที่ร่วมที่จัดทำขึ้นภายใต้กรอบดังกล่าว มีผลผูกพันในทางกฎหมายระหว่างประเทศในอนาคต❞

    🔍 วิเคราะห์เชิงลึก: จุดเริ่มต้นของ TI ภายใต้ TOR 2003 ✅ 1. TOR 2003 ข้อ 1.1.3 ระบุให้ใช้ “แผนที่มาตราส่วน 1:200,000” เป็นฐาน แม้รัฐบาลอภิสิทธิ์จะไม่ยอมรับ Annex I Map แต่ไม่ได้เสนอแก้ TOR ดังนั้น > ทุก TI ที่จัดทำภายใต้ TOR นี้ ต้องตีความให้ “สอดคล้องกับ” แผนที่ 1:200,000 --- ✅ 2. เอกสารประชุม JBC ชุดที่คุณแนบ (ปี 2552) แสดงให้เห็นว่า: ฝ่ายไทยยินยอมให้มีการจัดทำ "แผนที่ร่วม" (Joint Map) โดยใช้ ข้อมูล GPS, ภาพถ่ายทางอากาศ (Orthophoto) จุดประสงค์คือเพื่อให้สามารถ “อ้างอิงได้” กับ TOR เดิม โดยเฉพาะในเรื่องเส้นแบ่งเขตแดน > ✳️ ตรงนี้เองที่แม้ ไทยจะไม่ยอมรับแผนที่เดิมของฝรั่งเศส (Annex I Map) โดยเปิดเผย แต่กลับ ยอมเข้าสู่กระบวนการจัดทำแผนที่ที่อ้าง TOR เดิมเป็นกรอบอ้างอิงทางกฎหมาย --- ✅ 3. นี่คือที่มาของ "ร่าง TI" หรือ “Technical Instruction” ในภายหลัง TI ถูกพัฒนาโดยคณะทำงานร่วมไทย–กัมพูชา (JWG) และต่อมาใช้ในการหารือภายใต้ JBC โดยยังอยู่ภายใต้ TOR 2003 ซึ่งทำให้ไทยต้องเข้าสู่ระบบที่อ้างอิงแผนที่ 1:200,000 โดยปริยาย --- 🎯 สรุปทางการ > ❝แม้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะจะแสดงความเห็นแย้งทางการเมืองต่อการใช้แผนที่ 1:200,000 ภายใต้ TOR 2003 แต่การดำเนินการทางเทคนิค เช่น การจัดทำ ร่าง TI และแผนที่ร่วมในยุคนั้น ยังอยู่ภายใต้กรอบ TOR เดิม และต้องตีความให้สอดคล้องกับ TOR 2003 โดยเฉพาะข้อ 1.1.3 ที่ระบุชัดเจนถึงการใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000❞ 📘 สาระสำคัญของร่าง TI ปี 2552–2553 (ภายใต้ JWG) 1. จุดประสงค์ของ TI เป็นคู่มือเทคนิค (Technical Instruction) สำหรับ: การจัดทำแผนที่ร่วม (Joint Map Production) การใช้ ภาพถ่ายทางอากาศ (Orthophoto) และ ระบบพิกัด GPS เพื่อกำหนด “เส้นแบ่งเขตแดน” ตามกรอบ TOR 2003 --- 2. กรอบอ้างอิงหลักของ TI TI ฉบับนี้ ผูกพันโดยตรงกับ TOR 2003 โดยเฉพาะ ข้อ 1.1.3 ซึ่งระบุให้ใช้ แผนที่ 1:200,000 เป็นมาตรฐานอ้างอิง แม้จะนำเทคโนโลยีใหม่ เช่น Orthophoto / GPS เข้ามาใช้ แต่ “ผลลัพธ์สุดท้าย” ต้อง อิงเส้นและจุดจากแผนที่ 1:200,000 --- 3. โครงสร้าง TI (ตามรายงานการประชุม) TI ประกอบด้วยขั้นตอนหลัก ได้แก่: การเก็บข้อมูลภาคสนามด้วย GPS และสถานีอ้างอิง การตีความภาพถ่ายทางอากาศและเทียบกับแผนที่เดิม การประเมินและอนุมัติเส้นเขตแดนโดยคณะกรรมาธิการ (JBC) หลังผ่าน JWG --- 4. ข้อสังเกตจากฝ่ายไทยในที่ประชุม ฝ่ายไทย มีความกังวล ว่า TI อาจทำให้ไทย “ผูกพันโดยปริยาย” กับแผนที่ 1:200,000 มีการเสนอให้ “เพิ่มถ้อยคำสงวนสิทธิ์” (reservation) ในการใช้ข้อมูล ไม่มีการลงนามใน TI อย่างสมบูรณ์ ณ ช่วงปี 2552–2553 แต่มีความพยายามผลักดันต่อเนื่องโดยฝ่ายเทคนิค --- 📌 สรุปสาระสำคัญ (เชิงราชการ) > ❝ร่าง Technical Instruction (TI) ที่จัดทำในช่วงปี 2552–2553 โดยคณะทำงานร่วม (JWG) มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำแผนที่ร่วมบนพื้นฐานของภาพถ่ายทางอากาศและระบบ GPS โดยยังคงอ้างอิงข้อกำหนดของ TOR 2003 โดยเฉพาะแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ทั้งนี้แม้ฝ่ายไทยมิได้ให้สัตยาบัน TI อย่างเป็นทางการ แต่การเข้าร่วมในกระบวนการดังกล่าวสะท้อนถึงการยอมรับกรอบทางเทคนิคภายใต้ TOR ที่มีผลผูกพันอยู่❞ ---⚖️ วิเคราะห์ความเสี่ยงทางกฎหมายจาก TI + TOR 2003 🔹 1. TOR 2003 เป็นพันธกรณีระหว่างประเทศ TOR (Terms of Reference) ปี 2003 เป็นเอกสารที่ลงนามโดยรัฐบาลไทยและกัมพูชา มีผลผูกพันตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ (Vienna Convention on the Law of Treaties 1969) ข้อ 1.1.3 ของ TOR กำหนดให้ใช้ “แผนที่มาตราส่วน 1:200,000” เป็นกรอบอ้างอิงหลักในการปักปัน การที่ไทยไม่เคย “ยกเลิก” หรือ “ถอนตัว” ออกจาก TOR = ยังคงมีพันธะตามกฎหมาย 📌 ความเสี่ยง: การตีความโดยอนุญาโตตุลาการหรือศาลระหว่างประเทศ อาจถือว่าไทย ยอมรับแผนที่ 1:200,000 หากยังคงปฏิบัติตาม TOR โดยไม่คัดค้านอย่างเป็นทางการ --- 🔹 2. TI (Technical Instruction) ทำหน้าที่ “แปลงเจตนาทางการเมืองให้เป็นข้อเท็จจริงทางเทคนิค” แม้รัฐบาลไทย (เช่น ยุคอภิสิทธิ์) จะคัดค้าน “แผนที่ฝรั่งเศส” แต่ TI เป็นเครื่องมือที่ทำให้ฝ่ายเทคนิคต้องดำเนินงานให้ตรงกับ TOR TI นำภาพถ่าย Orthophoto + GPS มาปรับเส้นให้ “อิงตำแหน่งเดิม” ที่อยู่บนแผนที่ 1:200,000 📌 ความเสี่ยง: แม้ไม่ลงนามใน TI แต่การ “ร่วมจัดทำ” และ “ยอมให้ JWG ทำงาน” = ยินยอมโดยพฤตินัย หากเกิดข้อพิพาทในอนาคต ไทยจะลำบากในการปฏิเสธผลของ TI --- 🔹 3. การไม่มีข้อสงวน (reservation) หรือการตีความ TOR ใหม่ ในช่วงการประชุม JBC–JWG ไทยไม่ได้เสนอ ตีความ TOR ใหม่ หรือเสนอแผนที่มาตรฐานอื่น การไม่สงวนสิทธิอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร = ความเสี่ยงในทางกฎหมาย ว่าไทย “นิ่งเฉย” ต่อสิ่งที่อาจเสียเปรียบ 📌 ความเสี่ยง: หลัก “estoppel” ในกฎหมายระหว่างประเทศอาจถูกใช้หักล้างไทย เช่น > “ถ้าคุณนิ่งและเข้าร่วม ก็ถือว่าคุณยอมรับ” --- 🔹 4. การจัดทำ TI อาจกลายเป็น “พฤติการณ์ประกอบยินยอม” ศาลโลก (ICJ) เคยใช้ พฤติการณ์ เช่น “การเจรจา”, “การเข้าร่วมคณะทำงาน”, “การไม่คัดค้าน” เป็นหลักฐานว่า “รัฐยินยอมแล้ว” 📌 ความเสี่ยง: แม้ไทยจะไม่เคยลงนามใน TI อย่างเป็นทางการ แต่การส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วม, การเสนอข้อมูล, การเดินแนวพิกัด อาจกลายเป็นพฤติการณ์ที่ศาลใช้ตีความว่า “ประเทศไทยยอมรับเส้นแบ่งที่สอดคล้องกับ TOR” --- 🟥 บทสรุปความเสี่ยงทางกฎหมาย (แบบราชการ) > ❝การดำเนินการตาม TOR 2003 ร่วมกับการจัดทำร่าง Technical Instruction (TI) โดย JWG ในช่วงปี 2552–2553 ก่อให้เกิดความเสี่ยงทางกฎหมายอย่างมีนัยยะสำคัญ เนื่องจากแม้ไม่มีการลงนามอย่างเป็นทางการ แต่การที่ไทยมิได้ถอนตัวจาก TOR และยังคงเข้าร่วมกระบวนการเทคนิคโดยมิได้สงวนสิทธิอย่างชัดแจ้ง อาจทำให้ผลของแผนที่ร่วมที่จัดทำขึ้นภายใต้กรอบดังกล่าว มีผลผูกพันในทางกฎหมายระหว่างประเทศในอนาคต❞
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่อาวุธ
    หยุดวาทกรรม “นิติสงคราม”

    ใครๆ ก็อ้างว่า “ประชาชนเลือกมา” จึงไม่มีใครควรถอดถอนนักการเมืองได้นอกจากการเลือกตั้งครั้งใหม่ — แต่นั่นเป็นความเข้าใจที่บิดเบือนหลักนิติรัฐอย่างสิ้นเชิง

    ในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง อำนาจต้องถูก จำกัด ด้วยกฎหมาย ไม่ใช่ให้ใครได้อำนาจแล้วจะทำอะไรก็ได้ตามใจ การแยกอำนาจออกเป็น บริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ก็เพื่อให้อำนาจถ่วงดุลกัน และไม่มีฝ่ายใดล้ำเส้นหน้าที่ของอีกฝ่าย เป็นการคานอำนาจทำให้เกิดการตรวจสอบ

    https://web.facebook.com/share/p/1EB7uCfGWV/
    ศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่อาวุธ หยุดวาทกรรม “นิติสงคราม” ใครๆ ก็อ้างว่า “ประชาชนเลือกมา” จึงไม่มีใครควรถอดถอนนักการเมืองได้นอกจากการเลือกตั้งครั้งใหม่ — แต่นั่นเป็นความเข้าใจที่บิดเบือนหลักนิติรัฐอย่างสิ้นเชิง ในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง อำนาจต้องถูก จำกัด ด้วยกฎหมาย ไม่ใช่ให้ใครได้อำนาจแล้วจะทำอะไรก็ได้ตามใจ การแยกอำนาจออกเป็น บริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ก็เพื่อให้อำนาจถ่วงดุลกัน และไม่มีฝ่ายใดล้ำเส้นหน้าที่ของอีกฝ่าย เป็นการคานอำนาจทำให้เกิดการตรวจสอบ https://web.facebook.com/share/p/1EB7uCfGWV/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2 นายพล หน่วยอารักขา “ฮุน เซน” ถูกศาลฝรั่งเศสฟ้อง ฐานอยู่เบื้องหลังการสังหารหมู่กลางกรุงพนมเปญ12 มีนาคม 2568ศาลฝรั่งเศสเปิดคดี “ฆ่าหมู่ 1997” กลางกรุงพนมเปญ — 2 นายพลเขมร อดีตบอดี้การ์ดของ “ฮุน เซน” ถูกไต่สวน!ฆ่าหมู่กลางกรุงพนมเปญ 1997 — ไม่มีใครถูกจับแม้แต่คนเดียว!30 มีนาคม 1997 — ผู้ประท้วงรวมตัวที่สวนสาธารณะฝั่งตรงข้ามรัฐสภากัมพูชา เพื่อเรียกร้องให้ยุติ “ตุลาการใต้ตีน” ของระบอบฮุน เซนจู่ ๆ เกิดระเบิดหลายลูกปะทุใส่ฝูงชนเสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 150 ราย — เลือดสาดทั่วสวนพยานหลายคนเล่าว่า “มือระเบิดวิ่งเข้าไปหาหน่วยอารักขาฮุน เซน” ที่ใส่ชุดปราบจลาจลครบมือ — แต่กลับปล่อยให้พวกเขาหลบหนี!รอน แอบนีย์ พลเมืองสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในผู้บาดเจ็บสาหัส ทำให้ FBI ส่งทีมสอบสวนทันทีรายงาน FBI ถูกเปิดเผยในปี 2009แต่…ไม่มีใครถูกจับแม้แต่คนเดียว!จนกระทั่งปี 2021 ศาลฝรั่งเศสออกหมายจับ:• ฮิง บุน เหียง — รองผู้บัญชาการกองทัพ และหัวหน้าหน่วยอารักขาครอบครัวฮุน เซน• ฮุย พิเซธ — รัฐมนตรีช่วยกลาโหม และรองหัวหน้าคณะที่ปรึกษาของ “ฮุน มาเนต” ลูกชายฮุน เซนคดีนี้เริ่มจากคำร้องของ “แซม เรนซี” และภรรยาในฝรั่งเศสศาลฝรั่งเศสเคยออกหมายเรียกตัว “ฮุน เซน” ด้วยแต่รัฐบาลฝรั่งเศสกลับบล็อก โดยอ้างว่า “ผู้นำรัฐบาลมีเอกสิทธิ์คุ้มกันตามกฎหมาย”Brad Adams อดีตเจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชนแห่ง UN เล่าว่า“ผมไปถึงสวนหลังเหตุระเบิดแค่ 10 นาที…ศพเกลื่อนพื้นทหารยังขัดขวางไม่ให้ช่วยคนเจ็บตำรวจมาถึงทีหลังก็ยืนดูเฉย ๆ…สุดท้าย คนธรรมดานั่นแหละที่ช่วยกันหามคนเจ็บ”ฮิง บุน เหียง ยืนยันกับ RFA ว่า “จะไม่ไปศาล และไม่ส่งทนาย”พร้อมท้าทายว่า: “ไม่มีรูปผมโยนระเบิด แล้วคุณจะจับผมได้ยังไง?”ปี 2018 สหรัฐฯ คว่ำบาตร “ฮิง บุน เหียง” จากเหตุการณ์นี้ รวมถึงอีกหลายคดีทำร้ายประชาชนมือเปล่าขณะที่ฮุย พิเซธ ยอมรับกับ FBI ว่าเขาคือคนสั่งส่งกำลังทหารจากกองพลที่ 70 มาล้อมสวนในวันเกิดเหตุ⸻ฆ่าหมู่ต่อหน้าประชาชน — แต่ไม่มีใครต้องรับผิดรัฐบาลฮุน เซนไม่เคยสอบสวนใคร — มีแต่ปิดปากแต่โลกไม่ลืม — และความจริงจะไม่ตาย#CSI_LA #ฆ่าหมู่1997 #ฝรั่งเศสลากขึ้นศาล #ฮุนเซน #หน่วยฆ่าประชาชน #CambodiaMassacre #GrenadeAttack2 Generals from Hun Sen’s Bodyguard Unit Indicted by French Court for Role in Phnom Penh MassacreMarch 12, 2025A French court has officially opened a case over the 1997 Phnom Penh massacre — putting two Cambodian generals, both former bodyguards of Hun Sen, on trial in absentia.Phnom Penh Massacre, 1997 — Not a Single Person Has Ever Been ArrestedMarch 30, 1997 — Protesters gathered at a park across from the Cambodian National Assembly to denounce Hun Sen’s authoritarian judiciary.Suddenly, several grenades were hurled into the crowd.At least 16 people were killed and more than 150 were injured — blood stained the ground.Eyewitnesses say the grenade-throwers ran toward Hun Sen’s fully equipped bodyguards, who allowed them to escape without pursuit.Ron Abney, a U.S. citizen, was among those seriously injured — prompting the FBI to send investigators to Cambodia.The FBI report was declassified in 2009.But no one was ever arrested.It wasn’t until 2021 that France issued arrest warrants for:• Hing Bun Hieng — Now Deputy Commander-in-Chief of the Armed Forces and head of Hun Sen’s family bodyguard unit• Huy Piseth — Secretary of State at the Ministry of Defense and Deputy Chief of Staff to Hun Manet, Hun Sen’s son→ The case was launched after a legal complaint by Sam Rainsy and his wife, both living in exile in France.The French court initially summoned Hun Sen himself — but the French government blocked the warrant, citing diplomatic immunity laws protecting heads of government.Brad Adams, a former U.N. human rights officer, recalled:“I arrived at the park about 10 minutes after the blast — bodies were everywhere.Soldiers interfered with rescue efforts.Police arrived later but just stood around.It was civilians who carried the injured to safety.”Hing Bun Hieng told RFA he will not appear in court or send a lawyer, saying:“Sam Rainsy has accused me for over 30 years with no real evidence.Are there any photos of me ordering the grenade attack?”In 2018, the U.S. government sanctioned Hing Bun Hieng over this attack and other incidents involving violence against unarmed civilians.Meanwhile, Huy Piseth admitted to the FBI that he had ordered the 70th Brigade to be deployed to the park on the day of the attack.⸻A massacre in broad daylight — and no one has been held accountable.The Hun Sen regime never investigated — only silenced.But the world has not forgotten — and the truth will not die.#CSI_LA #PhnomPenhMassacre1997 #FranceOpensTrial #HunSen #Impunity #Cambodia #GrenadeAttack #JusticeDelayed
    2 นายพล หน่วยอารักขา “ฮุน เซน” ถูกศาลฝรั่งเศสฟ้อง ฐานอยู่เบื้องหลังการสังหารหมู่กลางกรุงพนมเปญ12 มีนาคม 2568ศาลฝรั่งเศสเปิดคดี “ฆ่าหมู่ 1997” กลางกรุงพนมเปญ — 2 นายพลเขมร อดีตบอดี้การ์ดของ “ฮุน เซน” ถูกไต่สวน!ฆ่าหมู่กลางกรุงพนมเปญ 1997 — ไม่มีใครถูกจับแม้แต่คนเดียว!30 มีนาคม 1997 — ผู้ประท้วงรวมตัวที่สวนสาธารณะฝั่งตรงข้ามรัฐสภากัมพูชา เพื่อเรียกร้องให้ยุติ “ตุลาการใต้ตีน” ของระบอบฮุน เซนจู่ ๆ เกิดระเบิดหลายลูกปะทุใส่ฝูงชนเสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 150 ราย — เลือดสาดทั่วสวนพยานหลายคนเล่าว่า “มือระเบิดวิ่งเข้าไปหาหน่วยอารักขาฮุน เซน” ที่ใส่ชุดปราบจลาจลครบมือ — แต่กลับปล่อยให้พวกเขาหลบหนี!รอน แอบนีย์ พลเมืองสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในผู้บาดเจ็บสาหัส ทำให้ FBI ส่งทีมสอบสวนทันทีรายงาน FBI ถูกเปิดเผยในปี 2009แต่…ไม่มีใครถูกจับแม้แต่คนเดียว!จนกระทั่งปี 2021 ศาลฝรั่งเศสออกหมายจับ:• ฮิง บุน เหียง — รองผู้บัญชาการกองทัพ และหัวหน้าหน่วยอารักขาครอบครัวฮุน เซน• ฮุย พิเซธ — รัฐมนตรีช่วยกลาโหม และรองหัวหน้าคณะที่ปรึกษาของ “ฮุน มาเนต” ลูกชายฮุน เซนคดีนี้เริ่มจากคำร้องของ “แซม เรนซี” และภรรยาในฝรั่งเศสศาลฝรั่งเศสเคยออกหมายเรียกตัว “ฮุน เซน” ด้วยแต่รัฐบาลฝรั่งเศสกลับบล็อก โดยอ้างว่า “ผู้นำรัฐบาลมีเอกสิทธิ์คุ้มกันตามกฎหมาย”Brad Adams อดีตเจ้าหน้าที่สิทธิมนุษยชนแห่ง UN เล่าว่า“ผมไปถึงสวนหลังเหตุระเบิดแค่ 10 นาที…ศพเกลื่อนพื้นทหารยังขัดขวางไม่ให้ช่วยคนเจ็บตำรวจมาถึงทีหลังก็ยืนดูเฉย ๆ…สุดท้าย คนธรรมดานั่นแหละที่ช่วยกันหามคนเจ็บ”ฮิง บุน เหียง ยืนยันกับ RFA ว่า “จะไม่ไปศาล และไม่ส่งทนาย”พร้อมท้าทายว่า: “ไม่มีรูปผมโยนระเบิด แล้วคุณจะจับผมได้ยังไง?”ปี 2018 สหรัฐฯ คว่ำบาตร “ฮิง บุน เหียง” จากเหตุการณ์นี้ รวมถึงอีกหลายคดีทำร้ายประชาชนมือเปล่าขณะที่ฮุย พิเซธ ยอมรับกับ FBI ว่าเขาคือคนสั่งส่งกำลังทหารจากกองพลที่ 70 มาล้อมสวนในวันเกิดเหตุ⸻ฆ่าหมู่ต่อหน้าประชาชน — แต่ไม่มีใครต้องรับผิดรัฐบาลฮุน เซนไม่เคยสอบสวนใคร — มีแต่ปิดปากแต่โลกไม่ลืม — และความจริงจะไม่ตาย#CSI_LA #ฆ่าหมู่1997 #ฝรั่งเศสลากขึ้นศาล #ฮุนเซน #หน่วยฆ่าประชาชน #CambodiaMassacre #GrenadeAttack2 Generals from Hun Sen’s Bodyguard Unit Indicted by French Court for Role in Phnom Penh MassacreMarch 12, 2025A French court has officially opened a case over the 1997 Phnom Penh massacre — putting two Cambodian generals, both former bodyguards of Hun Sen, on trial in absentia.Phnom Penh Massacre, 1997 — Not a Single Person Has Ever Been ArrestedMarch 30, 1997 — Protesters gathered at a park across from the Cambodian National Assembly to denounce Hun Sen’s authoritarian judiciary.Suddenly, several grenades were hurled into the crowd.At least 16 people were killed and more than 150 were injured — blood stained the ground.Eyewitnesses say the grenade-throwers ran toward Hun Sen’s fully equipped bodyguards, who allowed them to escape without pursuit.Ron Abney, a U.S. citizen, was among those seriously injured — prompting the FBI to send investigators to Cambodia.The FBI report was declassified in 2009.But no one was ever arrested.It wasn’t until 2021 that France issued arrest warrants for:• Hing Bun Hieng — Now Deputy Commander-in-Chief of the Armed Forces and head of Hun Sen’s family bodyguard unit• Huy Piseth — Secretary of State at the Ministry of Defense and Deputy Chief of Staff to Hun Manet, Hun Sen’s son→ The case was launched after a legal complaint by Sam Rainsy and his wife, both living in exile in France.The French court initially summoned Hun Sen himself — but the French government blocked the warrant, citing diplomatic immunity laws protecting heads of government.Brad Adams, a former U.N. human rights officer, recalled:“I arrived at the park about 10 minutes after the blast — bodies were everywhere.Soldiers interfered with rescue efforts.Police arrived later but just stood around.It was civilians who carried the injured to safety.”Hing Bun Hieng told RFA he will not appear in court or send a lawyer, saying:“Sam Rainsy has accused me for over 30 years with no real evidence.Are there any photos of me ordering the grenade attack?”In 2018, the U.S. government sanctioned Hing Bun Hieng over this attack and other incidents involving violence against unarmed civilians.Meanwhile, Huy Piseth admitted to the FBI that he had ordered the 70th Brigade to be deployed to the park on the day of the attack.⸻A massacre in broad daylight — and no one has been held accountable.The Hun Sen regime never investigated — only silenced.But the world has not forgotten — and the truth will not die.#CSI_LA #PhnomPenhMassacre1997 #FranceOpensTrial #HunSen #Impunity #Cambodia #GrenadeAttack #JusticeDelayed
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 405 มุมมอง 0 รีวิว
  • "แขก คำผกา" เตือนสติ! อย่าตื่นตระหนก "ไม่มีสุญญากาศการเมือง" ยันโลกไม่แตก พรุ่งนี้ยังทำงานเหมือนเดิม
    https://www.thai-tai.tv/news/19946/
    .
    #แขกคำผกา #ไม่มีสุญญากาศ #รัฐบาลทำงานต่อ #สุริยะรักษาการนายก #รัฐธรรมนูญ60 #ตุลาการภิวัตน์ #แก้รัฐธรรมนูญ #การเมืองไทย #แพทองธาร #วิกฤตการเมือง
    "แขก คำผกา" เตือนสติ! อย่าตื่นตระหนก "ไม่มีสุญญากาศการเมือง" ยันโลกไม่แตก พรุ่งนี้ยังทำงานเหมือนเดิม https://www.thai-tai.tv/news/19946/ . #แขกคำผกา #ไม่มีสุญญากาศ #รัฐบาลทำงานต่อ #สุริยะรักษาการนายก #รัฐธรรมนูญ60 #ตุลาการภิวัตน์ #แก้รัฐธรรมนูญ #การเมืองไทย #แพทองธาร #วิกฤตการเมือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'พี่คนดี' ร่ายกลอนสอนพวกอ้าง 'นิติสงคราม'
    https://www.thai-tai.tv/news/19938/
    .
    #นิติสงคราม #แพทองธาร #ศาลรัฐธรรมนูญ #พี่คนดีกวีสมัครเล่น #ตุลาการ #ดุลอำนาจ #ประชาธิปไตย #การเมืองไทย #วิกฤตศรัทธา #คนขายชาติ
    'พี่คนดี' ร่ายกลอนสอนพวกอ้าง 'นิติสงคราม' https://www.thai-tai.tv/news/19938/ . #นิติสงคราม #แพทองธาร #ศาลรัฐธรรมนูญ #พี่คนดีกวีสมัครเล่น #ตุลาการ #ดุลอำนาจ #ประชาธิปไตย #การเมืองไทย #วิกฤตศรัทธา #คนขายชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘ทั่นเต้น’ ออกโรงค้านคำวินิจฉัยศาลรธน. ซัดแรงอำนาจตุลาการทำลายประชาธิปไตย
    https://www.thai-tai.tv/news/19914/
    ‘ทั่นเต้น’ ออกโรงค้านคำวินิจฉัยศาลรธน. ซัดแรงอำนาจตุลาการทำลายประชาธิปไตย https://www.thai-tai.tv/news/19914/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุ้นมติศาล รธน. 'แพทองธาร' เริ่มกังวล ภาษากายไม่สู้ดี
    .
    ถนนทุกสายจับจ้องไปที่การประชุมตุลาการศาลรัฐรรมนูญ ซึ่งจะเป็นการพิจารณาคำร้องของประธานวุฒิสภาที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นรัฐมตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงหรือไม่ตามรัฐธรรมนูญ ฐานการกระทำฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงจากกรณีคลิปเสียงสนทนากับอดีตนายกฯกัมพูชา สมเด็จ ฮุนเซน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000061696

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ลุ้นมติศาล รธน. 'แพทองธาร' เริ่มกังวล ภาษากายไม่สู้ดี . ถนนทุกสายจับจ้องไปที่การประชุมตุลาการศาลรัฐรรมนูญ ซึ่งจะเป็นการพิจารณาคำร้องของประธานวุฒิสภาที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นรัฐมตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงหรือไม่ตามรัฐธรรมนูญ ฐานการกระทำฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงจากกรณีคลิปเสียงสนทนากับอดีตนายกฯกัมพูชา สมเด็จ ฮุนเซน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000061696 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1165 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..555,ส่วนตัว ทหารพระราชทำการปฏิวัติเลย,ตัดตอนการลากเรื่องลากยาวในหลากหลายมิตินัยยะทันที,ชายแดนก็สมควรปิดด่านเด็ดขาดจริงจังลงโทษเขมรจริงๆอย่าไปอ๊อแอ๊กับมัน,ไปสวนวาทะปากวลีคำกับพวกเจตนาแต่เริ่มต้นชัดเจนต้องการคุกคามรุกรานอธิปไตยเรา,ถ้าพวกนี้ยังอยู่ต่อบรรลัยสร้างเรื่องไม่จบสิ้นเพราะทหารไทยคือฝ่ายตรงข้ามมัน มันชัดเจนแล้ว สั่งการอะไรปาหี่แหกตาประชาชน ตัดน้ำตัดไฟฟ้ามันในนามรัฐบาลก็ไม่ทำจริงยังสมยอมกันกับเขมร ปิดด่านคือปิดด่านตัดท่อน้ำเลี้ยงท่อเสบียงมันจากฝั่งไทยทั้งหมดห้ามเมตตากรุณาปราณีใดๆทั้งสิ้นแก่ชนเผ่าเนรคุณทรยศหมายรุกรานคุกคามจนเป็นภัยชัดเจนต่ออธิปไตยเรา เผาศาลาอีก จะอภัยเมตตาเอ็นดูเห็นใจมันเหี้ยอะไรอีก.,ทหารเราต้องเด็ดขาดปฏิวัติประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศเลยและให้กรุงเทพฯและปริมลฑลคือเขตพื้นที่สีแดงพิเศษ ตลอดจังหวัดที่ติดแนวพรมแดนกับเขมรทั้งหมดด้วย,คนชั่วเท่านั้นที่เกรงกลัว,นักการเมืองเลวข้าราชการสาระเลวเจ้าสัวชั่วเท่านั้นที่หวาดกลัว,การปฏิวัติคือทางออกทั้งหมด,ล้างบางอิทธิพลชั่วเลวยุคเก่าทั้งหมดได้ที่ฝังรากเหง้าจนชั่วฉิบหายเพราะพวกนี้ก็ด้วย,ล้างอำนาจบริหาร ตุลาการ นิติบัญญัติ ที่ไม่ดีทัังหมดได้จริงเพราะชื่อปฏิวัตินีัมันไม่ธรรมดานะ,รัฐประหารหนักกว่ายึดอำนาจแต่อ่อนด้อยค่ากว่าปฏิวัติเพราะสามารถล้างสิ้นซากได้ครบสมบูรณ์จริง,ประเทศไทยต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่จริงๆล้างครั้งใหญ่ด้วย,ทหารอาจใช้นอมินีคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเป็นผู้ออกนอกหน้าในนามปฏิวัติภาคมวลมหาประชาชนก็ได้,แล้วยืนอยู่เคียงข้างประชาชนร่วมกันกวาดล้างพวกมันภายในประเทศไทยเรานี้,เรา..ประชาชน จะออกนอกหน้าเอง หากโลกเหี้ยติเตียนก็อนาถเกินไปเพราะเรา..ประชาชนปฏิวัติเองมิใช่ทหารนำหน้าเรา..ประชาชนคนไทยจึงสามารถเหยียบการประนามประฌามของชาวโลกได้หากdeep stateอยากประนามเรานักผ่านชาวโลกขี้ข้าทาสสมุนรับใช้ที่เป็นเครื่องมือให้มัน,แบบพรรควัยรุ่นที่ถูกยุบพรรคนัันล่ะ ขี้ข้าทาสรับงานรับใช้อีลิทรีตลัทธิตาเดียวชัดเจน ไปโชว์สัญลักษณ์เปิดเผยขนาดนั้น โลโก้พรรคก็สามเหลี่ยมฟรีเมสันโคตรๆ เข้ารีตทุกๆฝ่ายมืดก็ว่า,เป้าหมายคือทำลายสถาบันกษัตริย์ชัดเจนเพราะรีตพวกนี้มันถือเป็นนโยบายหลักโลกก็ว่า,ชาติใดมีสถาบันกษัตริย์มันต้องเข้าทำลายแน่นอนจนสิ้นซาก ประเทศไทยไม่มีข้อเว้น,เขมรก็พวกมันนี้ทำลาย,นอมินีขี้ข้ามันล่ะปกครองถึงปัจจุบัน,ฝ่ายแสงก็รู้,จึงเป็นที่มาอย่างเปิดเผยชัดในปัจจุบันว่าฮับสาระพัดชั่วที่deep stateตั้งใจจะสร้างที่เขมรนี้เป็นฮับมหาความชั่วเลวของโลกสาระพัดแหล่งรวมสิ่งชั่วเลว ยืนยันคือคนชั่วเลวไหลหลั่งไปตั้งฐานทัพชั่วทุกๆตารางนิ้วบนดินแดนเขมร,ค้ามนุษย์คือสิ่งแรกแต่ปิดบังให้เดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดดเด่นแทนก็ว่า,deep stateวางเขมรไว้นานแล้ว,ฝ่ายแสงมาแฉหรือถึงเวลาเปิดโปงแค่นั้นล่ะ,ซึ่งเรา..ประเทศไทยต้องเป็นตัวของตัวเอง เป็นปัจเจกประเทศ สร้างจุดยืนที่ถูกทางเป็นของตนเองได้ ต้องยืนในจุดยืนเราเปิดเผยแล้ว,คือถีบรัฐบาลขี้ข้าแรปทีเลี่ยนdeep stateข้ามโลกนี้ทันที,สถาบันนักการเมืองในไทยเราล่มสลายแล้ว อีลิทdeep stateปกครองครอบงำควบคุมยึดครองสิ้นซากแล้ว จะฝ่ายค้าน สส.ฝ่ายค้านทั้งหมดก็ตามล้วนเหี้ยหมดพวกเดอะแก๊งเดียวกันทั้งนั้นและทั้งสภา,ปาหี่แหกตาประชาชนเท่านั้น,มาดูฝ่ายรัฐบาล สส.ก็เหี้ยหมดปกติเช่นกัน,
    ..เวลานี้สถานะสถาบันนักการเมืองแม้เลือกตั้งใหม่ก็มิสามารถหาทางออกจากกับดักความมืดได้มืดบอดไร้แสงสว่างเช่นในอดีตๆที่ผ่านมา,มีเพียงบารมีมหาบุญของสถาบันกษัตริย์เราเท่านั้นคือกระทำการผ่านทหารพระราชาร่วมกับเรา..ประชาชนคนไทยจะร่วมกันไล่ผีบ้าพวกนี้ออกจากประเทศไทยเราได้ จุดแสงสว่างแห่งใจมิให้มืดบอดอีกต่อไป,จุดเทียนปัญญารุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลก็ว่า,แสงแห่งปัญญาตื่นรับรู้ความจริงค่าจริงไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน,เพราะประเทศไทยเราในอนาคตคือผู้นำแห่งจิตวิญญาณนั้นเอง,แสงแห่งปัญญาก็ว่า,มหาธรรมจักรชนะมารปีศาจซาตานนี้คือแผ่นดินไทยนีัเอง.,คือคนไทยเราทุกๆคนนี้เอง,คนไทยคือนักรบแห่งจิตวิญญาณนะและอาสาลงมาเพื่อภาวะกิจนี้ด้วยจากทั่วมหาอนันตจักรวาลมาเกิดที่แผ่นดินไทยนี้,ช่วงสนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนขั้วมาไทยอีก,จะมีอัจฉริยะเป็นอันมากมาเกิดที่ไทยเราและคนไทยเราที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ได้จะอัพเรเวลโดยไม่รู้ตัว,เป็นคนเหนือมนุษย์ไม่รู้ตัวซึ่งdeep stateยอมไม่ได้,ฝ่ายมืดรับไม่ได้นั้นเอง.555
    ..ทหารคือหนทางเดียว เชื่อสิ.,ในบริบทที่ชาวโลกยังยกระดับจิตระดับใจไม่ได้ดีพอในไทยเราก็ด้วย,เขากำลังแยกปลาดีปลาเลวปลาชั่วออก,ฮุนเซนทักษิณคือตัวเปิด,ล่อสมุนที่หลงเหลือออกมาให้หมดให้เหลือน้อยที่สุด,ดำขาวต้องชัดเจน กลางวันกลางคืนมันชัดเจนในตัวมันให้เห็นประจักษ์อยู่แล้ว,และทหารนี้ล่ะจะจบมัน.
    ..
    ..https://youtu.be/Bzd_rSWn1Ww?si=w3TmIdtGUGxnpq4b
    ..555,ส่วนตัว ทหารพระราชทำการปฏิวัติเลย,ตัดตอนการลากเรื่องลากยาวในหลากหลายมิตินัยยะทันที,ชายแดนก็สมควรปิดด่านเด็ดขาดจริงจังลงโทษเขมรจริงๆอย่าไปอ๊อแอ๊กับมัน,ไปสวนวาทะปากวลีคำกับพวกเจตนาแต่เริ่มต้นชัดเจนต้องการคุกคามรุกรานอธิปไตยเรา,ถ้าพวกนี้ยังอยู่ต่อบรรลัยสร้างเรื่องไม่จบสิ้นเพราะทหารไทยคือฝ่ายตรงข้ามมัน มันชัดเจนแล้ว สั่งการอะไรปาหี่แหกตาประชาชน ตัดน้ำตัดไฟฟ้ามันในนามรัฐบาลก็ไม่ทำจริงยังสมยอมกันกับเขมร ปิดด่านคือปิดด่านตัดท่อน้ำเลี้ยงท่อเสบียงมันจากฝั่งไทยทั้งหมดห้ามเมตตากรุณาปราณีใดๆทั้งสิ้นแก่ชนเผ่าเนรคุณทรยศหมายรุกรานคุกคามจนเป็นภัยชัดเจนต่ออธิปไตยเรา เผาศาลาอีก จะอภัยเมตตาเอ็นดูเห็นใจมันเหี้ยอะไรอีก.,ทหารเราต้องเด็ดขาดปฏิวัติประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศเลยและให้กรุงเทพฯและปริมลฑลคือเขตพื้นที่สีแดงพิเศษ ตลอดจังหวัดที่ติดแนวพรมแดนกับเขมรทั้งหมดด้วย,คนชั่วเท่านั้นที่เกรงกลัว,นักการเมืองเลวข้าราชการสาระเลวเจ้าสัวชั่วเท่านั้นที่หวาดกลัว,การปฏิวัติคือทางออกทั้งหมด,ล้างบางอิทธิพลชั่วเลวยุคเก่าทั้งหมดได้ที่ฝังรากเหง้าจนชั่วฉิบหายเพราะพวกนี้ก็ด้วย,ล้างอำนาจบริหาร ตุลาการ นิติบัญญัติ ที่ไม่ดีทัังหมดได้จริงเพราะชื่อปฏิวัตินีัมันไม่ธรรมดานะ,รัฐประหารหนักกว่ายึดอำนาจแต่อ่อนด้อยค่ากว่าปฏิวัติเพราะสามารถล้างสิ้นซากได้ครบสมบูรณ์จริง,ประเทศไทยต้องทำความสะอาดครั้งใหญ่จริงๆล้างครั้งใหญ่ด้วย,ทหารอาจใช้นอมินีคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเป็นผู้ออกนอกหน้าในนามปฏิวัติภาคมวลมหาประชาชนก็ได้,แล้วยืนอยู่เคียงข้างประชาชนร่วมกันกวาดล้างพวกมันภายในประเทศไทยเรานี้,เรา..ประชาชน จะออกนอกหน้าเอง หากโลกเหี้ยติเตียนก็อนาถเกินไปเพราะเรา..ประชาชนปฏิวัติเองมิใช่ทหารนำหน้าเรา..ประชาชนคนไทยจึงสามารถเหยียบการประนามประฌามของชาวโลกได้หากdeep stateอยากประนามเรานักผ่านชาวโลกขี้ข้าทาสสมุนรับใช้ที่เป็นเครื่องมือให้มัน,แบบพรรควัยรุ่นที่ถูกยุบพรรคนัันล่ะ ขี้ข้าทาสรับงานรับใช้อีลิทรีตลัทธิตาเดียวชัดเจน ไปโชว์สัญลักษณ์เปิดเผยขนาดนั้น โลโก้พรรคก็สามเหลี่ยมฟรีเมสันโคตรๆ เข้ารีตทุกๆฝ่ายมืดก็ว่า,เป้าหมายคือทำลายสถาบันกษัตริย์ชัดเจนเพราะรีตพวกนี้มันถือเป็นนโยบายหลักโลกก็ว่า,ชาติใดมีสถาบันกษัตริย์มันต้องเข้าทำลายแน่นอนจนสิ้นซาก ประเทศไทยไม่มีข้อเว้น,เขมรก็พวกมันนี้ทำลาย,นอมินีขี้ข้ามันล่ะปกครองถึงปัจจุบัน,ฝ่ายแสงก็รู้,จึงเป็นที่มาอย่างเปิดเผยชัดในปัจจุบันว่าฮับสาระพัดชั่วที่deep stateตั้งใจจะสร้างที่เขมรนี้เป็นฮับมหาความชั่วเลวของโลกสาระพัดแหล่งรวมสิ่งชั่วเลว ยืนยันคือคนชั่วเลวไหลหลั่งไปตั้งฐานทัพชั่วทุกๆตารางนิ้วบนดินแดนเขมร,ค้ามนุษย์คือสิ่งแรกแต่ปิดบังให้เดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดดเด่นแทนก็ว่า,deep stateวางเขมรไว้นานแล้ว,ฝ่ายแสงมาแฉหรือถึงเวลาเปิดโปงแค่นั้นล่ะ,ซึ่งเรา..ประเทศไทยต้องเป็นตัวของตัวเอง เป็นปัจเจกประเทศ สร้างจุดยืนที่ถูกทางเป็นของตนเองได้ ต้องยืนในจุดยืนเราเปิดเผยแล้ว,คือถีบรัฐบาลขี้ข้าแรปทีเลี่ยนdeep stateข้ามโลกนี้ทันที,สถาบันนักการเมืองในไทยเราล่มสลายแล้ว อีลิทdeep stateปกครองครอบงำควบคุมยึดครองสิ้นซากแล้ว จะฝ่ายค้าน สส.ฝ่ายค้านทั้งหมดก็ตามล้วนเหี้ยหมดพวกเดอะแก๊งเดียวกันทั้งนั้นและทั้งสภา,ปาหี่แหกตาประชาชนเท่านั้น,มาดูฝ่ายรัฐบาล สส.ก็เหี้ยหมดปกติเช่นกัน, ..เวลานี้สถานะสถาบันนักการเมืองแม้เลือกตั้งใหม่ก็มิสามารถหาทางออกจากกับดักความมืดได้มืดบอดไร้แสงสว่างเช่นในอดีตๆที่ผ่านมา,มีเพียงบารมีมหาบุญของสถาบันกษัตริย์เราเท่านั้นคือกระทำการผ่านทหารพระราชาร่วมกับเรา..ประชาชนคนไทยจะร่วมกันไล่ผีบ้าพวกนี้ออกจากประเทศไทยเราได้ จุดแสงสว่างแห่งใจมิให้มืดบอดอีกต่อไป,จุดเทียนปัญญารุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลก็ว่า,แสงแห่งปัญญาตื่นรับรู้ความจริงค่าจริงไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน,เพราะประเทศไทยเราในอนาคตคือผู้นำแห่งจิตวิญญาณนั้นเอง,แสงแห่งปัญญาก็ว่า,มหาธรรมจักรชนะมารปีศาจซาตานนี้คือแผ่นดินไทยนีัเอง.,คือคนไทยเราทุกๆคนนี้เอง,คนไทยคือนักรบแห่งจิตวิญญาณนะและอาสาลงมาเพื่อภาวะกิจนี้ด้วยจากทั่วมหาอนันตจักรวาลมาเกิดที่แผ่นดินไทยนี้,ช่วงสนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนขั้วมาไทยอีก,จะมีอัจฉริยะเป็นอันมากมาเกิดที่ไทยเราและคนไทยเราที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ได้จะอัพเรเวลโดยไม่รู้ตัว,เป็นคนเหนือมนุษย์ไม่รู้ตัวซึ่งdeep stateยอมไม่ได้,ฝ่ายมืดรับไม่ได้นั้นเอง.555 ..ทหารคือหนทางเดียว เชื่อสิ.,ในบริบทที่ชาวโลกยังยกระดับจิตระดับใจไม่ได้ดีพอในไทยเราก็ด้วย,เขากำลังแยกปลาดีปลาเลวปลาชั่วออก,ฮุนเซนทักษิณคือตัวเปิด,ล่อสมุนที่หลงเหลือออกมาให้หมดให้เหลือน้อยที่สุด,ดำขาวต้องชัดเจน กลางวันกลางคืนมันชัดเจนในตัวมันให้เห็นประจักษ์อยู่แล้ว,และทหารนี้ล่ะจะจบมัน. .. ..https://youtu.be/Bzd_rSWn1Ww?si=w3TmIdtGUGxnpq4b
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาล รธน.ฟัน "ทักษิณ" ผวา "อุ๊งอิ๊ง" ซ้ำรอย คนที่ห้า!
    .
    โฉมหน้า”ครม.อิงค์1/1”หากไม่มีอะไรพลิกผัน อาจกลางสัปดาห์นี้ หรือ เผลอๆ อาจในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้คงคลอดออกมาให้เห็นก็ได้ แต่ตอนนี้ “ทักษิณ ชินวัตร-เพื่อไทย”ก็มีเวลาในการทำโผและเจรจาต่อรองกับพรรคร่วมรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น ไม่ถึงกับต้องรีบร้อนเหมือนก่อนหน้านี้ เหตุเพราะเช็คแล้ว สัปดาห์นี้ ไม่มีการประชุม”ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ”ประจำสัปดาห์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000058791

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ศาล รธน.ฟัน "ทักษิณ" ผวา "อุ๊งอิ๊ง" ซ้ำรอย คนที่ห้า! . โฉมหน้า”ครม.อิงค์1/1”หากไม่มีอะไรพลิกผัน อาจกลางสัปดาห์นี้ หรือ เผลอๆ อาจในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้คงคลอดออกมาให้เห็นก็ได้ แต่ตอนนี้ “ทักษิณ ชินวัตร-เพื่อไทย”ก็มีเวลาในการทำโผและเจรจาต่อรองกับพรรคร่วมรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น ไม่ถึงกับต้องรีบร้อนเหมือนก่อนหน้านี้ เหตุเพราะเช็คแล้ว สัปดาห์นี้ ไม่มีการประชุม”ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ”ประจำสัปดาห์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000058791 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 449 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ปฏิวัติเลย,รัฐประหารก็ชั่ง,ยึดอำนาจก็ตาม,ดีสุดพักงานพวกสถาบันการเมืองทั้งหมดด้วยสัก10ปี,บวกพักงานอำนาจตุลาการ,นิติบัญญัติทั้งหมดด้วย,คดีของคนระบบราชการไทยทั้งหมดตลอดเจ้าสัวทั้งหลายให้ทหารจัดการแทนทั้งหมด,กฎหมายอยุติธรรมต่อชาติต่อประชาชนต้องฉีกทิ้งทั้งหมดเช่นกัน,เลอะเทอะมากกดขี่บังคับใช้ทางกฎหมายไร้สาระสุดๆมากมายในตัวบทกฎหมายที่ออก ล้วนเป็นไปเพื่อควบคุมครอบงำอิสระเสรีของประชาชนคนไทยเอง,และเป็นไปเ้พื่อผ่องถ่ายสมบัติชาติไทยทรัพยากรมีค่ามากมายของชาติไทยบนแผ่นดินไทยไปให้คนอื่นสิ้น,ประชาชนถือไว้แต่ความยากจนเต็มแผ่นดินบนการบริหารจัดการจากทุนตังบริษัทกิจการต่างๆที่ตั้งใจเอาเปรียบกดขี่ประชาชนไปพร้อมๆกันในตัว,ค่าแรงถูก ค่าครองชีพแพงไม่พอค่าใช้จ่ายเป็นต้น,ปกครองด้วยกลไกทำให้อธิปไตยชาติไทยเสื่อมถอยเสื่อมทรามตลอดเสียอธิปไตยไทยไปในความหลากหายรูปแบบหลากหลายลักษณะหลากหลายวิธีการหลากหลายสาระพัดมุกที่มีโอกาสทำได้,นั้นคือเราเสื่อมรอบด้าน,สื่อหลักก็เสื่อม บิดเบือนความจริงมากมาย,ไม่มีจุดยืนอะไรมีแต่จุดตังแล้วพร้อมนำเสนอ,
    ..ยุคนี้ต้องกวาดล้างทำความสะอาดจริงๆ

    http://youtube.com/post/UgkxWrcTjypQPZhWr64OPzxXupC6ZRJqFWzG?si=5N3EmCoxWanSVINf
    ..ปฏิวัติเลย,รัฐประหารก็ชั่ง,ยึดอำนาจก็ตาม,ดีสุดพักงานพวกสถาบันการเมืองทั้งหมดด้วยสัก10ปี,บวกพักงานอำนาจตุลาการ,นิติบัญญัติทั้งหมดด้วย,คดีของคนระบบราชการไทยทั้งหมดตลอดเจ้าสัวทั้งหลายให้ทหารจัดการแทนทั้งหมด,กฎหมายอยุติธรรมต่อชาติต่อประชาชนต้องฉีกทิ้งทั้งหมดเช่นกัน,เลอะเทอะมากกดขี่บังคับใช้ทางกฎหมายไร้สาระสุดๆมากมายในตัวบทกฎหมายที่ออก ล้วนเป็นไปเพื่อควบคุมครอบงำอิสระเสรีของประชาชนคนไทยเอง,และเป็นไปเ้พื่อผ่องถ่ายสมบัติชาติไทยทรัพยากรมีค่ามากมายของชาติไทยบนแผ่นดินไทยไปให้คนอื่นสิ้น,ประชาชนถือไว้แต่ความยากจนเต็มแผ่นดินบนการบริหารจัดการจากทุนตังบริษัทกิจการต่างๆที่ตั้งใจเอาเปรียบกดขี่ประชาชนไปพร้อมๆกันในตัว,ค่าแรงถูก ค่าครองชีพแพงไม่พอค่าใช้จ่ายเป็นต้น,ปกครองด้วยกลไกทำให้อธิปไตยชาติไทยเสื่อมถอยเสื่อมทรามตลอดเสียอธิปไตยไทยไปในความหลากหายรูปแบบหลากหลายลักษณะหลากหลายวิธีการหลากหลายสาระพัดมุกที่มีโอกาสทำได้,นั้นคือเราเสื่อมรอบด้าน,สื่อหลักก็เสื่อม บิดเบือนความจริงมากมาย,ไม่มีจุดยืนอะไรมีแต่จุดตังแล้วพร้อมนำเสนอ, ..ยุคนี้ต้องกวาดล้างทำความสะอาดจริงๆ http://youtube.com/post/UgkxWrcTjypQPZhWr64OPzxXupC6ZRJqFWzG?si=5N3EmCoxWanSVINf
    YOUTUBE.COM
    โพสต์จาก Ejan
    เพจกองทัพบก โพสต์ ผบ.ทบ. ย้ำว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดในห้วงเวลานี้ คือ #คนไทยต้องสามัคคี ร่วมกันปกป้องอธิปไตยจากผู้ไม่หวังดี โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคั...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..555,ส่วนตัว มองดีๆมโนเล่นๆนะ,เหี้ยปาหี่แหกตาหมดทั้งระบบ,คือเขมรก็ปาหี่แหกตารับมุกคนจ้างเจ้านาย,ภายในคือชุดรัฐบาลที่แพ้การเลือกตั้งแล้วส้มหล่นได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลถึงปัจจุบันด้วยการเขียนกฎกติกาการเลือกตั้งที่นายกฯไม่ต้องมาจากการกาเลือกตรงของประชาชนทั้งประเทศและตอนนี้ก็ไม่แก้ไขกฎกติกาเงื่อนไขนี้ด้วยแสดงว่าถ้าพรรคไหนได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลจะเอาใครเสนอชื่อเป็นนายกฯตามรายชื่อตนคัดกรองคัดสรรไว้แล้วในอนาคตอาจกว่า10คนแล้วในตอนนั้นเพราะได้ชิมได้เห็นปัญหาที่เสนอชื่อคนน้อยไป,ตั้งชื่อคนน้อยไปอาจมีปัญหาก็ว่าในการสรรหานายกฯแบบไม่ซื่อสัตย์ผิดพลาด,พวกนีัต่างได้ประโยชน์จากกติกาการเลือกตั้งนี้,เสมือนสถาบันนักการเมืองเขาสมยอมกันนั้นเอง,ตลอดปัจจุบันนี้มโนได้ว่าแหกตาปาหี่สถานะการณ์หลอกลวงคนทั้งสองชาติเอามาสนับสนุนละครตนเล่นให้ได้เป็นตัวสำคัญฮีโร่เพื่อสืบทอดอำนาจตนได้มั่นคงขึ้น,ในไทยก็แสดงบทแตกคอกันสุดท้ายวางคนวางหมากให้พร้อมรับผลเร็จชัดอยู่แล้ว,ไม่น่าเกียจเกินไปถ้าจะออกผลด้านใดและตนเองครอบงำครอบคลุมทั้ง2-3ฝ่ายปกติถ้าออกด้าน,แต่สามารถตัดตอนได้หากทหารพระราชาไม่เอาด้วย,มองประชาชนคนไทยต้องมาก่อน,มองอธิปไตยชาติต้องมาก่อน,มองสถาบันกษัตริย์ไทยต้องมาก่อน,มองบริบทละครพวกนี้คือภัยคุกคามร้ายแรงต้องทำลายสถาบันนักการเมืองนอมินีอ้างเอาประชาชนบังหน้านี้ต้องกวาดล้างกำจัดสิ้นซากทันที,ไม่ดีต่อประเทศชาติอะไรเลยมีแต่ปกครองเป็นไปด้วยการสร้างความแตกแยกวุ่นวายเพื่อทำประโยชน์ในผลของความโกลาหลวุ่นวายนั้นซึ่งต่างวางผลไว้ล่วงหน้าชัดเจนแล้ว.
    ..ทหารพระราชาต้องเด็ดขาดตัดตอนยึดอำนาจรัฐบาลทันที อย่าเกรงใจการปกครองระบบประชาธิปไตยของฝรั่ง ผีบ้าอะไรต้องทนดูประชาชนลำบากเดือดร้อนสุดๆในวงจรอุบาทก์นี้เรื่อยไปโดยบอกว่าวิถีนี้ดีแล้ว,ซึ่งดีจริงสถานะประชาชนจะไม่เป็นแบบนี้,เพราะระบบนี้ไม่ได้ลงโทษนักการเมืองจริงจังอะไรเลยในไทย มันรอดตายหมดแม้ทำชั่วเลวขนาดไหนก็ไม่มีโทษประหารชีวิต อาจติดคุกนอนเล่นในบ้านตนเอง ออกไปเดินร่วมประชุมนั้นนี้แค่ใส่กำไลคุกสมมุติพอเป็นพิธีแค่นั้น,คือระบบวิถีปกครองนีัล้มเหลวทั้งระบบ,ฝ่ายบริหารฝ่ายตุลาการฝ่ายนิติบัญญัติล้วนล้มเหลวหมด.หากมองแบบมโนๆในยุคปัจจุบัน ล้วนเหี้ยตลอดเวลาทุกๆยุคที่ผ่านมาถึงปัจจุบันแบบละครเสียอธิปไตยดินแดนภาค2นี้จากทำยอดขายถล่มทลายสำเร็จไปแล้วในภาค1ตอนกบฎทรยศเนรคุณด้วยเหยื่อเขาพระวิหาร ทำได้จนสำเร็จ.,ทหารพระราชาทหารไทยที่มิใช่ทหารยุคกปปส.สมัยนั้นเท่านั้นที่เป็นหนทางเดียวในเวลาจะพลิกสถานการณ์ชาติไทยให้กลับมาดีได้อีกครั้งและทุบทั้งกระดานฝ่ายไม่ดีที่วางแผนทั้งหมดในอดีตถึงปัจจุบันได้.,ควบคุมประชาชนที่หลงผิดในอวิชาคนไม่ดีที่ได้โอกาสดีไปทำไม่ดีให้เป็นดีคืนมาแก่ประชาชนได้ที่หลงผิดหลงชั่วในทางไม่ดีนั้นจากการปกครองจากการบริหารของคณะบริหารประเทศที่เป็นคณะไม่ดีในช่วงเวลาที่ผ่านๆมานั้นได้,
    ..ทหารประชาชนเท่านัันจะช่วยประชาชนได้,มิใช่ทหารอีลิททหารฝ่ายมืดซาตานที่ยึดอำนาจล่าสุดและออกพรบ.มากมายไปเชิงไม่ซื่อสัตย์สุจริตจนลุแก่อำนาจกล้ามากเก่งมากสร้างกฎหมายขายที่ดินแก่ต่างชาติไร่ละ40ล้านบาทได้ก็ว่า,เช่าที่ดิน99ปีอีก,นี้คือผลงานอันโดดเด่นที่รัฐบาลโทนี่ก่อนพันธมิตรไล่ออกนอกประเทศทำได้ไม่สำเร็จอะไรเลยแต่สำเร็จยุคกปปส.ที่ถวายพานให้ใครไม่รู้ยึดอำนาจแบบทำทีบอกเบาๆทุบโต๊ะเนียนๆเบาๆว่าผมยึดอำนาจนะจ๊ะพะนะ,บ่อน้ำมันทั่วประเทศก็ไม่ยึดทวงคืนมาทั้งหมดที่สัมปทานไป ก่อนไปก็แจกอีกสองแปลงคุณภาพที่อ่าวไทย,ต่อเหมืองทองคำให้ขุดต่อได้อีกทั้งที่มีคดีที่ต้องสงสัยอยู่กว่าสิบคดี,พรบ500อีกที่น่าสงสัยหมดไม่รวมพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ให้เอกชนผูกขาดอย่างบ้าคลั่งจนชาวเกษตรสามารถติดคุกกันง่ายๆที่ให้สิทธิเอกชนจนล้นมือแค่ชาวเกษตรฉีกซองเมล็ดปลูกของเอกชนหากชาวบ้านปลูกต่อจะติดคุกแน่นอนแบบที่เกิดขึ้นจริงแล้วในต่างประเทศเกษรละอองเรณูผสมกันก็ผิดพวกมันเสี่ยงถูกจัดการทางคดีให้ชาวเกษตรเสียเปรียบฝ่ายเดียวคือเสีย99%,1%อาจรอดสำหรับชาวเกษตร,
    ..ทหารต้องเด็ดขาดจริงๆอย่าผีบ้าตามโหรตามพวกหมอดูต่างๆ,ทำดีเวลาไหน มันฤกษ์ดีทันทีเวลานั้น.,ทำไมเราต้องให้คนไม่ดีมีที่ยืนด้วย.,เมื่อรู้ว่ามันไม่ดีชัดเจนแก่ใจของคนดี.

    https://youtu.be/zcAl04ObpkQ?si=WwX7nN-oM2g6Nk7H
    ..555,ส่วนตัว มองดีๆมโนเล่นๆนะ,เหี้ยปาหี่แหกตาหมดทั้งระบบ,คือเขมรก็ปาหี่แหกตารับมุกคนจ้างเจ้านาย,ภายในคือชุดรัฐบาลที่แพ้การเลือกตั้งแล้วส้มหล่นได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลถึงปัจจุบันด้วยการเขียนกฎกติกาการเลือกตั้งที่นายกฯไม่ต้องมาจากการกาเลือกตรงของประชาชนทั้งประเทศและตอนนี้ก็ไม่แก้ไขกฎกติกาเงื่อนไขนี้ด้วยแสดงว่าถ้าพรรคไหนได้เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลจะเอาใครเสนอชื่อเป็นนายกฯตามรายชื่อตนคัดกรองคัดสรรไว้แล้วในอนาคตอาจกว่า10คนแล้วในตอนนั้นเพราะได้ชิมได้เห็นปัญหาที่เสนอชื่อคนน้อยไป,ตั้งชื่อคนน้อยไปอาจมีปัญหาก็ว่าในการสรรหานายกฯแบบไม่ซื่อสัตย์ผิดพลาด,พวกนีัต่างได้ประโยชน์จากกติกาการเลือกตั้งนี้,เสมือนสถาบันนักการเมืองเขาสมยอมกันนั้นเอง,ตลอดปัจจุบันนี้มโนได้ว่าแหกตาปาหี่สถานะการณ์หลอกลวงคนทั้งสองชาติเอามาสนับสนุนละครตนเล่นให้ได้เป็นตัวสำคัญฮีโร่เพื่อสืบทอดอำนาจตนได้มั่นคงขึ้น,ในไทยก็แสดงบทแตกคอกันสุดท้ายวางคนวางหมากให้พร้อมรับผลเร็จชัดอยู่แล้ว,ไม่น่าเกียจเกินไปถ้าจะออกผลด้านใดและตนเองครอบงำครอบคลุมทั้ง2-3ฝ่ายปกติถ้าออกด้าน,แต่สามารถตัดตอนได้หากทหารพระราชาไม่เอาด้วย,มองประชาชนคนไทยต้องมาก่อน,มองอธิปไตยชาติต้องมาก่อน,มองสถาบันกษัตริย์ไทยต้องมาก่อน,มองบริบทละครพวกนี้คือภัยคุกคามร้ายแรงต้องทำลายสถาบันนักการเมืองนอมินีอ้างเอาประชาชนบังหน้านี้ต้องกวาดล้างกำจัดสิ้นซากทันที,ไม่ดีต่อประเทศชาติอะไรเลยมีแต่ปกครองเป็นไปด้วยการสร้างความแตกแยกวุ่นวายเพื่อทำประโยชน์ในผลของความโกลาหลวุ่นวายนั้นซึ่งต่างวางผลไว้ล่วงหน้าชัดเจนแล้ว. ..ทหารพระราชาต้องเด็ดขาดตัดตอนยึดอำนาจรัฐบาลทันที อย่าเกรงใจการปกครองระบบประชาธิปไตยของฝรั่ง ผีบ้าอะไรต้องทนดูประชาชนลำบากเดือดร้อนสุดๆในวงจรอุบาทก์นี้เรื่อยไปโดยบอกว่าวิถีนี้ดีแล้ว,ซึ่งดีจริงสถานะประชาชนจะไม่เป็นแบบนี้,เพราะระบบนี้ไม่ได้ลงโทษนักการเมืองจริงจังอะไรเลยในไทย มันรอดตายหมดแม้ทำชั่วเลวขนาดไหนก็ไม่มีโทษประหารชีวิต อาจติดคุกนอนเล่นในบ้านตนเอง ออกไปเดินร่วมประชุมนั้นนี้แค่ใส่กำไลคุกสมมุติพอเป็นพิธีแค่นั้น,คือระบบวิถีปกครองนีัล้มเหลวทั้งระบบ,ฝ่ายบริหารฝ่ายตุลาการฝ่ายนิติบัญญัติล้วนล้มเหลวหมด.หากมองแบบมโนๆในยุคปัจจุบัน ล้วนเหี้ยตลอดเวลาทุกๆยุคที่ผ่านมาถึงปัจจุบันแบบละครเสียอธิปไตยดินแดนภาค2นี้จากทำยอดขายถล่มทลายสำเร็จไปแล้วในภาค1ตอนกบฎทรยศเนรคุณด้วยเหยื่อเขาพระวิหาร ทำได้จนสำเร็จ.,ทหารพระราชาทหารไทยที่มิใช่ทหารยุคกปปส.สมัยนั้นเท่านั้นที่เป็นหนทางเดียวในเวลาจะพลิกสถานการณ์ชาติไทยให้กลับมาดีได้อีกครั้งและทุบทั้งกระดานฝ่ายไม่ดีที่วางแผนทั้งหมดในอดีตถึงปัจจุบันได้.,ควบคุมประชาชนที่หลงผิดในอวิชาคนไม่ดีที่ได้โอกาสดีไปทำไม่ดีให้เป็นดีคืนมาแก่ประชาชนได้ที่หลงผิดหลงชั่วในทางไม่ดีนั้นจากการปกครองจากการบริหารของคณะบริหารประเทศที่เป็นคณะไม่ดีในช่วงเวลาที่ผ่านๆมานั้นได้, ..ทหารประชาชนเท่านัันจะช่วยประชาชนได้,มิใช่ทหารอีลิททหารฝ่ายมืดซาตานที่ยึดอำนาจล่าสุดและออกพรบ.มากมายไปเชิงไม่ซื่อสัตย์สุจริตจนลุแก่อำนาจกล้ามากเก่งมากสร้างกฎหมายขายที่ดินแก่ต่างชาติไร่ละ40ล้านบาทได้ก็ว่า,เช่าที่ดิน99ปีอีก,นี้คือผลงานอันโดดเด่นที่รัฐบาลโทนี่ก่อนพันธมิตรไล่ออกนอกประเทศทำได้ไม่สำเร็จอะไรเลยแต่สำเร็จยุคกปปส.ที่ถวายพานให้ใครไม่รู้ยึดอำนาจแบบทำทีบอกเบาๆทุบโต๊ะเนียนๆเบาๆว่าผมยึดอำนาจนะจ๊ะพะนะ,บ่อน้ำมันทั่วประเทศก็ไม่ยึดทวงคืนมาทั้งหมดที่สัมปทานไป ก่อนไปก็แจกอีกสองแปลงคุณภาพที่อ่าวไทย,ต่อเหมืองทองคำให้ขุดต่อได้อีกทั้งที่มีคดีที่ต้องสงสัยอยู่กว่าสิบคดี,พรบ500อีกที่น่าสงสัยหมดไม่รวมพรบ.ผูกขาดเมล็ดพันธุ์ให้เอกชนผูกขาดอย่างบ้าคลั่งจนชาวเกษตรสามารถติดคุกกันง่ายๆที่ให้สิทธิเอกชนจนล้นมือแค่ชาวเกษตรฉีกซองเมล็ดปลูกของเอกชนหากชาวบ้านปลูกต่อจะติดคุกแน่นอนแบบที่เกิดขึ้นจริงแล้วในต่างประเทศเกษรละอองเรณูผสมกันก็ผิดพวกมันเสี่ยงถูกจัดการทางคดีให้ชาวเกษตรเสียเปรียบฝ่ายเดียวคือเสีย99%,1%อาจรอดสำหรับชาวเกษตร, ..ทหารต้องเด็ดขาดจริงๆอย่าผีบ้าตามโหรตามพวกหมอดูต่างๆ,ทำดีเวลาไหน มันฤกษ์ดีทันทีเวลานั้น.,ทำไมเราต้องให้คนไม่ดีมีที่ยืนด้วย.,เมื่อรู้ว่ามันไม่ดีชัดเจนแก่ใจของคนดี. https://youtu.be/zcAl04ObpkQ?si=WwX7nN-oM2g6Nk7H
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • พูดถึงองครักษ์เสื้อแพรไปมากพอสมควร วันนี้เราเลยมาคุยกันถึงอีกหน่วยงานหนึ่งที่ปรากฎให้เห็นในละครจีนโบราณหลายเรื่อง ซึ่งก็คือ ‘ลิ่วซ่านเหมิน’ (六扇门)

    ความมีอยู่ว่า
    ...จินเซี่ยคอตกหมุนกายกลับมา ชำเลืองมองหยางเฉิงว่าน “หัวหน้า ท่านยอมมันเกินไปแล้ว ท่านว่ามันเป็นคนของใคร? คดีของลิ่วซ่านเหมินไม่เหลียวแล แต่กลับส่งมอบคนออกไป ใครบ้างไม่รู้ว่ามันกำลังพยายามประจบองครักษ์เสื้อแพร?”... “โอรสสวรรค์ปราบปรามลงทัณฑ์คนผิด มีซานฝ่าซึก็เพียงพอแล้ว ยังต้องตั้งองครักษ์เสื้อแพรมาทำให้วุ่นวายเป็นอุปสรรค แล้วยังจะมีซานฝ่าซึไว้ทำอันใด มีเหมือนไม่มี!”
    - จากเรื่อง <เบื้องล่างของเสื้อแพร> ผู้แต่ง หลานเส้อซือ
    (หมายเหตุ ละครเรื่องยอดองค์รักษ์เสื้อแพรดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    ลิ่วซ่านเหมินฟังดูเป็นหน่วยมือปราบ แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วลิ่วซ่านเหมินไม่ใช่องค์กรใดองค์กรหนึ่ง (!?)

    ชื่อเรียกที่ถูกต้องเป็นทางการของมันคือ ‘ซานฝ่าซึ’ (三法司) ที่เกริ่นถึงในบทความข้างต้น เป็นการเรียกรวมของสามหน่วยงานที่เกี่ยวกับกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมาย เริ่มปรากฎในสมัยราชวงศ์ฉิน (221-206 ก่อนคริสตกาล) เมื่อจิ๋นซีฮ่องเต้ทรงตั้งตำแหน่งสำคัญมากขึ้นสามตำแหน่งเรียกรวมว่า ‘ซานกง’ หรือสามพระยา คือเฉิงเซี่ยง (อำมาตย์ผู้ช่วย บริหารงานราชการทั่วไป) ไท่เว่ย (มหาเสนาบดี ดูแลฝ่ายทหาร) และอวี้สื่อต้าฟู (ตุลาการสูงสุด เป็นผู้ตรวจสอบ)
    ต่อมาในแต่ละสมัยมีการเปลี่ยนแปลงหน้าที่และชื่อเรียกของหน่วยงานต่างๆ แต่ยังคงหลักการเดิมว่ามีสามหน่วยงานหลักที่ร่วมผดุงกฎหมาย เรียกรวมว่า ‘ซันฝ่าซึ’

    ในสมัยราชวงศ์หมิง สามหน่วยงานนี้คือ สิงปู้ (刑部 รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน) ต้าหลี่ซึ (大理寺 ไว้พิพากษา) ตูฉาย่วน (都察院 ไว้กำกับตรวจสอบ) หากมีคดีใหญ่จะไต่สวนและพิพากษาร่วมกัน

    แล้วทำไมจึงเรียกว่า ลิ่วซ่านเหมิน’?

    แฟนละครจีนโบราณคงคุ้นเคยว่าเวลาเกิดเรื่องอะไร ชาวบ้านจะวิ่งไปฟ้องร้องที่สถานที่หนึ่ง ศาลก็ไม่ใช่ สำนักมือปราบก็ไม่เชิง หน้าตาคล้ายที่ว่าการอำเภอ สถานที่นี้เรียกว่า ‘หยาเหมิน’ (衙门) ไม่แน่ใจว่าในนิยาย/ละครแปลไทยว่าอย่างไร แต่มันก็คือที่ว่าการท้องถิ่น ว่าการโดยข้าราชการสูงสุดผู้ดูแลพื้นที่ ไม่ระบุตายตัวว่าต้องสังกัดหน่วยงานใด

    ‘ลิ่วซ่านเหมิน’ ก็คือชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการของหยาเหมิน แปลชื่อตรงตัวว่า ‘ประตูหกบาน’ ที่มาก็คือว่า ไม่ว่าจะเป็นเมืองเล็กหรือเมืองใหญ่ หยาเหมินจะมีรูปทรงอาคารเดียวกัน คือมีช่องประตูเพียงสามช่อง หันหน้าทิศใต้ ตะวันออกและตะวันตก หนึ่งทิศหนึ่งช่อง ประตูหลักที่ใช้เข้าออกทั่วไปจะหันหน้าทิศใต้ ช่องประตูที่ว่านี้ก่อตั้งขึ้นเป็นอาคารประตูใหญ่มีหลังคา (ดูรูปขวาล่าง) ซึ่งเป็นรูปแบบที่ชาวบ้านทั่วไปใช้ไม่ได้ ต้องเป็นที่ทำการของหลวงเท่านั้นจึงจะใช้ได้ แต่ละช่องประตูจะมีสองบาน รวมเป็นประตูหกบาน

    ดังนั้น จริงๆ แล้ว คนของลิ่วซ่านเหมินจะหมายรวมถึงทุกคนที่ทำงานในหยาเหมิน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานด้านสอบสวน ดูแลคุก เสมียนกฎหมาย ฯลฯ และมาจากหน่วยงานต่างๆ ที่เรียกรวมว่าซานฝ่าซึนั่นเอง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.twoeggz.com/news/8249892.html
    https://www.wenshigu.com/shbt/lishiju/221015.html
    https://www.52lishi.com/article/40895.html
    https://k.sina.cn/article_1346138855_503c72e700100tjeb.html
    https://m.52lishi.com/article/64869.html

    #จินเซี่ย #ลิ่วซ่านเหมิน #มือปราบจีนโบราณ #ราชวงศ์หมิง #หยาเหมิน #ซันฝ่าซึ #ซานฝ่าซึ
    พูดถึงองครักษ์เสื้อแพรไปมากพอสมควร วันนี้เราเลยมาคุยกันถึงอีกหน่วยงานหนึ่งที่ปรากฎให้เห็นในละครจีนโบราณหลายเรื่อง ซึ่งก็คือ ‘ลิ่วซ่านเหมิน’ (六扇门) ความมีอยู่ว่า ...จินเซี่ยคอตกหมุนกายกลับมา ชำเลืองมองหยางเฉิงว่าน “หัวหน้า ท่านยอมมันเกินไปแล้ว ท่านว่ามันเป็นคนของใคร? คดีของลิ่วซ่านเหมินไม่เหลียวแล แต่กลับส่งมอบคนออกไป ใครบ้างไม่รู้ว่ามันกำลังพยายามประจบองครักษ์เสื้อแพร?”... “โอรสสวรรค์ปราบปรามลงทัณฑ์คนผิด มีซานฝ่าซึก็เพียงพอแล้ว ยังต้องตั้งองครักษ์เสื้อแพรมาทำให้วุ่นวายเป็นอุปสรรค แล้วยังจะมีซานฝ่าซึไว้ทำอันใด มีเหมือนไม่มี!” - จากเรื่อง <เบื้องล่างของเสื้อแพร> ผู้แต่ง หลานเส้อซือ (หมายเหตุ ละครเรื่องยอดองค์รักษ์เสื้อแพรดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) ลิ่วซ่านเหมินฟังดูเป็นหน่วยมือปราบ แต่เพื่อนเพจทราบหรือไม่ว่า จริงๆ แล้วลิ่วซ่านเหมินไม่ใช่องค์กรใดองค์กรหนึ่ง (!?) ชื่อเรียกที่ถูกต้องเป็นทางการของมันคือ ‘ซานฝ่าซึ’ (三法司) ที่เกริ่นถึงในบทความข้างต้น เป็นการเรียกรวมของสามหน่วยงานที่เกี่ยวกับกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมาย เริ่มปรากฎในสมัยราชวงศ์ฉิน (221-206 ก่อนคริสตกาล) เมื่อจิ๋นซีฮ่องเต้ทรงตั้งตำแหน่งสำคัญมากขึ้นสามตำแหน่งเรียกรวมว่า ‘ซานกง’ หรือสามพระยา คือเฉิงเซี่ยง (อำมาตย์ผู้ช่วย บริหารงานราชการทั่วไป) ไท่เว่ย (มหาเสนาบดี ดูแลฝ่ายทหาร) และอวี้สื่อต้าฟู (ตุลาการสูงสุด เป็นผู้ตรวจสอบ) ต่อมาในแต่ละสมัยมีการเปลี่ยนแปลงหน้าที่และชื่อเรียกของหน่วยงานต่างๆ แต่ยังคงหลักการเดิมว่ามีสามหน่วยงานหลักที่ร่วมผดุงกฎหมาย เรียกรวมว่า ‘ซันฝ่าซึ’ ในสมัยราชวงศ์หมิง สามหน่วยงานนี้คือ สิงปู้ (刑部 รับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน) ต้าหลี่ซึ (大理寺 ไว้พิพากษา) ตูฉาย่วน (都察院 ไว้กำกับตรวจสอบ) หากมีคดีใหญ่จะไต่สวนและพิพากษาร่วมกัน แล้วทำไมจึงเรียกว่า ลิ่วซ่านเหมิน’? แฟนละครจีนโบราณคงคุ้นเคยว่าเวลาเกิดเรื่องอะไร ชาวบ้านจะวิ่งไปฟ้องร้องที่สถานที่หนึ่ง ศาลก็ไม่ใช่ สำนักมือปราบก็ไม่เชิง หน้าตาคล้ายที่ว่าการอำเภอ สถานที่นี้เรียกว่า ‘หยาเหมิน’ (衙门) ไม่แน่ใจว่าในนิยาย/ละครแปลไทยว่าอย่างไร แต่มันก็คือที่ว่าการท้องถิ่น ว่าการโดยข้าราชการสูงสุดผู้ดูแลพื้นที่ ไม่ระบุตายตัวว่าต้องสังกัดหน่วยงานใด ‘ลิ่วซ่านเหมิน’ ก็คือชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการของหยาเหมิน แปลชื่อตรงตัวว่า ‘ประตูหกบาน’ ที่มาก็คือว่า ไม่ว่าจะเป็นเมืองเล็กหรือเมืองใหญ่ หยาเหมินจะมีรูปทรงอาคารเดียวกัน คือมีช่องประตูเพียงสามช่อง หันหน้าทิศใต้ ตะวันออกและตะวันตก หนึ่งทิศหนึ่งช่อง ประตูหลักที่ใช้เข้าออกทั่วไปจะหันหน้าทิศใต้ ช่องประตูที่ว่านี้ก่อตั้งขึ้นเป็นอาคารประตูใหญ่มีหลังคา (ดูรูปขวาล่าง) ซึ่งเป็นรูปแบบที่ชาวบ้านทั่วไปใช้ไม่ได้ ต้องเป็นที่ทำการของหลวงเท่านั้นจึงจะใช้ได้ แต่ละช่องประตูจะมีสองบาน รวมเป็นประตูหกบาน ดังนั้น จริงๆ แล้ว คนของลิ่วซ่านเหมินจะหมายรวมถึงทุกคนที่ทำงานในหยาเหมิน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานด้านสอบสวน ดูแลคุก เสมียนกฎหมาย ฯลฯ และมาจากหน่วยงานต่างๆ ที่เรียกรวมว่าซานฝ่าซึนั่นเอง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.twoeggz.com/news/8249892.html https://www.wenshigu.com/shbt/lishiju/221015.html https://www.52lishi.com/article/40895.html https://k.sina.cn/article_1346138855_503c72e700100tjeb.html https://m.52lishi.com/article/64869.html #จินเซี่ย #ลิ่วซ่านเหมิน #มือปราบจีนโบราณ #ราชวงศ์หมิง #หยาเหมิน #ซันฝ่าซึ #ซานฝ่าซึ
    PPnix - Watch TV Shows Online, Watch Movies Online
    Watch PPnix movies & TV shows online or stream right to your smart TV, game console, PC, Mac, mobile, tablet and more.
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 451 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ดอนเมืองโทลล์เวย์”แจ้งตลาดฯ ยื่นอนุญาโตตุลาการฟ้องกรมทางหลวง ชดเชย ผลกระทบโควิดช่วงปี 63-65 เป็นเงิน 2.3 พันล้านบาท “สุริยะ”ยันต้องดำเนินการภายใต้ผลประโยชน์ของรัฐมากที่สุด

    รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) (DMT) หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงนามโดยนายศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ เรื่องการยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อใช้สิทธิและปฏิบัติตามสัญญาสัมปทานทางหลวงในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 ถนนวิภาวดีรังสิต ตอนดินแดง – ดอนเมือง (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) (‘สัญญาสัมปทาน”) ระหว่างกรมทางหลวงกับบริษัทฯ เพื่อให้กรมทางหลวง แก้ไขผลเสียต่อฐานะทางการของบริษัทฯ โดยยื่นคำเสนอข้อพิพาทวันที่ 27 พฤษภาคม 2568

    โดยระบุว่า บริษัทฯ เป็นผู้รับสัมปทานทางหลวงในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 (ถนนวิภาวดีรังสิต) จากกรมทางหลวง รวม 2 ตอน ได้แก่ สัมปทานทางหลวงตอนดินแดง – ดอนเมือง และสัมปทาน ทางหลวงตอนดอนเมือง – อนุสรณ์สถาน โดยระหว่างอายุสัญญาสัมปทานในปี 2563 ถึงปี 2565 ปรากฎการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร อันเป็นเหตุสุดวิสัยตามสัญญาสัมปทาน ส่งผลให้ปริมาณการจราจรที่ใช้ทางหลวงสัมปทานทางหลวงเดิมและทางหลวงสัมปทานตอนต่อขยายทางด้านทิศเหนือลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของสัญญาสัมปทานโดยแจ้งเหตุสุดวิสัยให้กรมทางหลวงทราบ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000050355

    #MGROnline #ดอนเมืองโทลล์เวย์ #ทางยกระดับดอนเมือง
    “ดอนเมืองโทลล์เวย์”แจ้งตลาดฯ ยื่นอนุญาโตตุลาการฟ้องกรมทางหลวง ชดเชย ผลกระทบโควิดช่วงปี 63-65 เป็นเงิน 2.3 พันล้านบาท “สุริยะ”ยันต้องดำเนินการภายใต้ผลประโยชน์ของรัฐมากที่สุด • รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) (DMT) หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงนามโดยนายศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ เรื่องการยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ สำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อใช้สิทธิและปฏิบัติตามสัญญาสัมปทานทางหลวงในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 ถนนวิภาวดีรังสิต ตอนดินแดง – ดอนเมือง (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) (‘สัญญาสัมปทาน”) ระหว่างกรมทางหลวงกับบริษัทฯ เพื่อให้กรมทางหลวง แก้ไขผลเสียต่อฐานะทางการของบริษัทฯ โดยยื่นคำเสนอข้อพิพาทวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 • โดยระบุว่า บริษัทฯ เป็นผู้รับสัมปทานทางหลวงในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 (ถนนวิภาวดีรังสิต) จากกรมทางหลวง รวม 2 ตอน ได้แก่ สัมปทานทางหลวงตอนดินแดง – ดอนเมือง และสัมปทาน ทางหลวงตอนดอนเมือง – อนุสรณ์สถาน โดยระหว่างอายุสัญญาสัมปทานในปี 2563 ถึงปี 2565 ปรากฎการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร อันเป็นเหตุสุดวิสัยตามสัญญาสัมปทาน ส่งผลให้ปริมาณการจราจรที่ใช้ทางหลวงสัมปทานทางหลวงเดิมและทางหลวงสัมปทานตอนต่อขยายทางด้านทิศเหนือลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของสัญญาสัมปทานโดยแจ้งเหตุสุดวิสัยให้กรมทางหลวงทราบ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000050355 • #MGROnline #ดอนเมืองโทลล์เวย์ #ทางยกระดับดอนเมือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 362 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาล ปค.แจงเป็นหน้าที่นายกฯ-รมว.คลัง-กรมบังคับคดี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกคำสั่งใหม่บังคับให้ "ยิ่งลักษณ์" จ่ายชดใช้จำนำข้าวให้เป็นไปตามคำพิพากษา หน้าที่ศาลปกครองยุติแล้ว

    วันที่ 26 พ.ค.น.ส.สายทิพย์ สุคติพันธ์ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ในฐานะกรรมการประชาพันธ์ ศาลปกครอง เปิดเผยว่าการออกมานี้ชี้แจงนี้ เพื่อให้สังคมประชาชนเข้าใจกระบวนการพิจารณาของศาลว่า เป็นพิจารณาเฉพาะประเด็นคำสั่งที่เป็นข้อพิพาทระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ นายกรัฐมนตรีกับพวกทั้ง 9 เท่านั้น เมื่อศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 35,717,273,028.23 บาท เฉพาะส่วนที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเกินกว่าจำนวน10,028,861,880.83 บาท แล้ว บทบาทหน้าที่ของศาลปกครองถือว่ายุติแล้ว การดำเนินการใดใดจากนี้ไปเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร ต้องไปดำเนินการออกคำสั่งใหม่และปฏิบัติให้ถูกต้องตามคำพิพากษา

    น.ส.สายทิพย์ อธิบายเพิ่มเติมว่า คดีนี้เป็นการฟ้องของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งโดนคำสั่งของกระทรวงการคลังที่เรียกให้รับผิดใดใช้ค่าสินไหมโครงการจำนำข้าวเปลือกไป3.5 หมื่นล้านบาท จากนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์จึงเอาคำสั่งนี้มาฟ้องต่อศาลว่าคำสั่งนี้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ศาลก็ได้ทบทวน โดยพิจารณาแล้ว เห็นว่า โคงการจำนำข้าวนั้นประกอบด้วยหลายขั้นตอน จึงวินิจฉัยว่า อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ในส่วนที่ทำหน้าที่กำหนดนโยบายนั้น ไม่ต้องมีความรับผิด แต่ในส่วนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ คือเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมการปฏิบัตินโยบาย ดังนั้น การระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี มีปัญหาการทุจริต มีการรายงานเข้ามาโดยหลายหน่วยงาน แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ติดตามกำกับดูแลตรวจสอบการทุจริตในส่วนนี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049199

    #MGROnline #ยิ่งลักษณ์ #จ่ายชดใช้จำนำข้าว #จำนำข้าว
    ศาล ปค.แจงเป็นหน้าที่นายกฯ-รมว.คลัง-กรมบังคับคดี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกคำสั่งใหม่บังคับให้ "ยิ่งลักษณ์" จ่ายชดใช้จำนำข้าวให้เป็นไปตามคำพิพากษา หน้าที่ศาลปกครองยุติแล้ว • วันที่ 26 พ.ค.น.ส.สายทิพย์ สุคติพันธ์ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ในฐานะกรรมการประชาพันธ์ ศาลปกครอง เปิดเผยว่าการออกมานี้ชี้แจงนี้ เพื่อให้สังคมประชาชนเข้าใจกระบวนการพิจารณาของศาลว่า เป็นพิจารณาเฉพาะประเด็นคำสั่งที่เป็นข้อพิพาทระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กับ นายกรัฐมนตรีกับพวกทั้ง 9 เท่านั้น เมื่อศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 35,717,273,028.23 บาท เฉพาะส่วนที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเกินกว่าจำนวน10,028,861,880.83 บาท แล้ว บทบาทหน้าที่ของศาลปกครองถือว่ายุติแล้ว การดำเนินการใดใดจากนี้ไปเป็นอำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร ต้องไปดำเนินการออกคำสั่งใหม่และปฏิบัติให้ถูกต้องตามคำพิพากษา น.ส.สายทิพย์ อธิบายเพิ่มเติมว่า คดีนี้เป็นการฟ้องของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งโดนคำสั่งของกระทรวงการคลังที่เรียกให้รับผิดใดใช้ค่าสินไหมโครงการจำนำข้าวเปลือกไป3.5 หมื่นล้านบาท จากนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์จึงเอาคำสั่งนี้มาฟ้องต่อศาลว่าคำสั่งนี้ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ศาลก็ได้ทบทวน โดยพิจารณาแล้ว เห็นว่า โคงการจำนำข้าวนั้นประกอบด้วยหลายขั้นตอน จึงวินิจฉัยว่า อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ในส่วนที่ทำหน้าที่กำหนดนโยบายนั้น ไม่ต้องมีความรับผิด แต่ในส่วนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำหน้าที่ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ คือเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่ควบคุมการปฏิบัตินโยบาย ดังนั้น การระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี มีปัญหาการทุจริต มีการรายงานเข้ามาโดยหลายหน่วยงาน แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ติดตามกำกับดูแลตรวจสอบการทุจริตในส่วนนี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000049199 • #MGROnline #ยิ่งลักษณ์ #จ่ายชดใช้จำนำข้าว #จำนำข้าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 459 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลปกครองแจงข้อกฎหมายคดี “ยิ่งลักษณ์” ฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังให้ชดใช้ค่าสินไหมโครงการจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้าน ชี้ไม่ใช่การสั่งให้ "ยิ่งลักษณ์" จ่ายชดใช้ความเสียหาย แต่เป็นการเพิกถอนคำสั่งกระทรวงคลังส่วนที่ให้จ่ายเกิน 10,029 ล้าน เผยพิจารณาคดีตั้งแต่ 12 ก.ย.2566 จึงมีชื่อตุลาการบางคนที่พ้นราชการไปแล้ว

    วันนี้ ( 26 พ.ค.) สำนักงานศาลปกครองชี้แจงข้อกฎหมายในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีหมายเลขแดงที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร ฟ้องนายกรัฐมนตรีกับพวกรวม 9คน ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ให้ชดใช้ค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้าน ว่า 1.คดีในส่วนของนางสาวยิ่งลักษณ์ มีมูลเหตุมาจากกรณีที่มีคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 ให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 35,717,273,028.23 บาท อันเป็นคำสั่งทางปกครองที่ให้ชำระเงิน ซึ่งหากไม่ชำระ กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีอำนาจใช้มาตรการบังคับทางปกครอง โดยยึดหรืออายัดทรัพย์สินและขายทอดตลาดเพื่อชำระเงินตามคำสั่งได้ โดยไม่จำต้องฟ้องคดีต่อศาล ทั้งนี้ตามมาตรา 12 พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ที่ใช้บังคับอยู่เดิม และมาตรา 63/7 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวที่แก้ไขใหม่ เมื่อเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและฟ้องคดีต่อศาลปกครอง โดยมีคำขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว คดีในส่วนนี้ จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ศาลปกครองมีอำนาจเพียงพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวทั้งหมดหรือบางส่วน

    คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/politics/detail/9680000049119

    #MGROnline #ยิ่งลักษณ์ #กระทรวงการคลัง #ชดใช้ค่าสินไหม #โครงการจำนำข้าว
    ศาลปกครองแจงข้อกฎหมายคดี “ยิ่งลักษณ์” ฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังให้ชดใช้ค่าสินไหมโครงการจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้าน ชี้ไม่ใช่การสั่งให้ "ยิ่งลักษณ์" จ่ายชดใช้ความเสียหาย แต่เป็นการเพิกถอนคำสั่งกระทรวงคลังส่วนที่ให้จ่ายเกิน 10,029 ล้าน เผยพิจารณาคดีตั้งแต่ 12 ก.ย.2566 จึงมีชื่อตุลาการบางคนที่พ้นราชการไปแล้ว • วันนี้ ( 26 พ.ค.) สำนักงานศาลปกครองชี้แจงข้อกฎหมายในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีหมายเลขแดงที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร ฟ้องนายกรัฐมนตรีกับพวกรวม 9คน ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ให้ชดใช้ค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้าน ว่า 1.คดีในส่วนของนางสาวยิ่งลักษณ์ มีมูลเหตุมาจากกรณีที่มีคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 ให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 35,717,273,028.23 บาท อันเป็นคำสั่งทางปกครองที่ให้ชำระเงิน ซึ่งหากไม่ชำระ กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีอำนาจใช้มาตรการบังคับทางปกครอง โดยยึดหรืออายัดทรัพย์สินและขายทอดตลาดเพื่อชำระเงินตามคำสั่งได้ โดยไม่จำต้องฟ้องคดีต่อศาล ทั้งนี้ตามมาตรา 12 พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ที่ใช้บังคับอยู่เดิม และมาตรา 63/7 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวที่แก้ไขใหม่ เมื่อเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและฟ้องคดีต่อศาลปกครอง โดยมีคำขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว คดีในส่วนนี้ จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ศาลปกครองมีอำนาจเพียงพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวทั้งหมดหรือบางส่วน • คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/politics/detail/9680000049119 • #MGROnline #ยิ่งลักษณ์ #กระทรวงการคลัง #ชดใช้ค่าสินไหม #โครงการจำนำข้าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 409 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส.ว.ภาพลักษณ์ตกต่ำ แนะกู้ศรัทธาคืน ชะลอโหวตองค์กรอิสระ
    .
    สถานการณ์การเมืองส่งท้ายเดือนพฤษภาคมมีหลายเรื่องที่น่าจับตา โดยเฉพาะการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณ 2569 ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรง แต่ยังมีอีกเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ การประชุมวุฒิสภาที่วาระการพิจารณเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000049033

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ส.ว.ภาพลักษณ์ตกต่ำ แนะกู้ศรัทธาคืน ชะลอโหวตองค์กรอิสระ . สถานการณ์การเมืองส่งท้ายเดือนพฤษภาคมมีหลายเรื่องที่น่าจับตา โดยเฉพาะการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณ 2569 ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองที่รุนแรง แต่ยังมีอีกเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ การประชุมวุฒิสภาที่วาระการพิจารณเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000049033 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 820 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนวินจ่อกินรวบ 3 อำนาจ (บริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ)
    สั่งสว.สีน้ำเงินโหวต อิทธิพร เป็นอัยกากสูงสุด
    หวังตัดตอนคดีตั้งแต่ต้น อัยกากช่วยไม่สั่งฟ้อง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เนวินจ่อกินรวบ 3 อำนาจ (บริหาร นิติบัญญัติ ตุลาการ) สั่งสว.สีน้ำเงินโหวต อิทธิพร เป็นอัยกากสูงสุด หวังตัดตอนคดีตั้งแต่ต้น อัยกากช่วยไม่สั่งฟ้อง #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 9 0 รีวิว
  • ตู่น้องพี่ที่กล้าหาญ
    ‘สนธิ’รับ ‘จตุพร’เป็นศิษย์น้อง แสวงจุดร่วม ‘ทักษิณ’เลว

    ////////////////////

    วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ร่วมกับนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, นายทนง ขันทอง, นายนพรัตน์ พรวนสุข, นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประพันธุ์ และนายคูณมี จัดเวที “ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 2/2568” ขณะที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตหัวหน้าศูนย์นโยบายและวิชาการของพรรคพลังประชารัฐ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมรับฟังด้วย
    โดยนายจตุพร เข้าสวมกอดนายสนธิ และกล่าวตอนหนึ่งว่า ตนเชื่อว่าตลอดระยะเวลา 20 ปีมานี้ ภาพที่ท่านทั้งหลายได้เห็นขณะนี้ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้น เพราะคำว่าทวงความถูกต้องให้กับคนไทยเป็นหัวใจหลักนำพาให้ตนมาพบกับนายสนธิ ลิ้มทองกูล ในวันนี้ ซึ่งนายสนธิได้ชวนตนในขณะที่พบกันที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมือประมาณ 7 ปีที่แล้ว ว่าเราจะได้มีโอกาสถ้อยแถลงพร้อมกัน โดยผ่านมา 7 ปีเพิ่งประสบความสำเร็จในวันนี้ และก่อนหน้านี้ 5 วัน เหมือนของนายสนธิแรงเหลือเกิน เพราะตนติดโควิด-19 แต่ได้กินยาฟ้าทะลายโจรของนายปานเทพ จึงทำให้สภาพร่างกายพร้อม
    อย่างไรก็ตามวันนี้คงไม่มีอะไรสำคัญมากกว่าประเทศไทย ที่ผ่านมาตนจะอย่างไรทุกอย่างเป็นเรื่องเล็ก ส่วนเรื่องใหญ่ของบ้านเมืองในวันนี้คือจะนำพาให้ประเทศไทยเดินทางในทิศทางที่ถูกต้อง และพลิกฟื้นประเทศชาติขึ้นมาได้อย่างไร ตนผ่านมาหลายเหตุการณ์ มารู้ตัวอีกทีก็อายุ 60 ปี แต่ทันทีที่ตนประกาศรบกับนายทักษิณ ทุกคนก็กลับมาญาติดีกับตนเหมือนเดิม ทั้งนี้วันที่นายทักษิณ กลับมาประเทศไทยและยื่นถวายฎีกา ยอมรับว่ากระทำความผิดตามคำพิพากษา มองว่าไม่ใช่ผลพวงการยึดอำนาจหรือตุลาการภิวัฒน์ แต่เขายอมรับว่าทุจริตจริง ไม่ว่าระบอบการเมืองใดทุจริตคือทุจริต โกงก็คือโกง ไม่ว่าจะเป็นเผด็จการหรือประชาธิปไตย
    และขณะนี้มีการตั้งคำถามว่านายทักษิณ จะหนีหรือไม่ หรือมีการหนีออกนอกประเทศไปแล้วหรือยัง ซึ่งตนไม่อยากให้หนีอยากให้ได้ซึมซับบรรยากาศอย่างที่ตนและนายสนธิ ได้ซึมซับในเรือนจำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีคนไทยคนไหนได้รับโอกาสเหมือนนายทักษิณอีกแล้ว และเขาไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว และหากเขายอมรับตามที่ได้เขียนถวายฎีกา คนก็ไม่ต้องมาลุ้นว่าจะหนีหรือไม่ และหัวใจหลักที่คนออกมาต่อสู้กับนายทักษิณ คือการปฎิบัติ 2 มาตรฐานและอภิสิทธิ์ชน ซึ่งนายทักษิณได้ทำครบทุกข้อ ที่ผ่านมาเราได้เห็นความเป็นทักษิณ ผู้สนับสนุนได้หูตาสว่างมากขึ้น เพราะการกระทำทั้งหมดเป็นการทำลายตัวเองอย่างย่อยยับไม่มีใครไปทำอะไรเขา ตอนอยู่ต่างประเทศกระแสนิยมสูง เพราะเห็นว่าไม่ได้รับความยุติธรรม แต่เมื่อกลับมาประเทศไทยตั้งแต่ 22 สิงหาคม 66 จนถึงวันนี้ คนไทยได้เห็นความเป็นตัวตนของนายทักษิณครบถ้วน สิ่งที่เสียไปคือการได้รัฐบาลแบบนี้ และเราได้เห็นการเปลือยตัวอย่างล่อนจ้อนของนายทักษิณ และเชื่อว่าหาคนไปตายแทบจะไม่เห็นในเวลาต่อมา

    ดังนั้นจึงควรมาเริ่มต้นความถูกต้องให้เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้ เราต้องยอมรับความจริงว่าบ้านเมืองเดินมาถึงจุดเสียหายครบทุกด้าน เลยคำว่าปฏิรูป อาจถึงขั้นการปฏิวัติและล้างบางกันใหม่ โดยยึดแนวทางสร้างสถาบันหลักของชาติและประชาชนให้แข็งแรง เพราะแต่ละขบวนการเราหาสิ่งที่ถูกต้องไม่เจอ กล่าวอ้างประชาธิปไตยเพียงแค่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งก่อนหน้านั้นมีการซื้อเสียงตั้งแต่ระดับผู้ใหญ่บ้านแต่กลับอธิบายว่าเป็นประชาธิปไตย
    นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้ตนมีโอกาสอยู่ท้องถนนและเข้าสู่สภาฯ บ้าง ซึ่งเทียบแล้วอยู่บนถนนมีความสุขมากกว่ารัฐสภา วันนี้เป็นตัวของตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง จึงต้องกล้าคิดว่าหนทางบ้านเมืองต่อไปนี้จะช่วยอะไรได้บ้าง ตนรู้ว่าพี่น้องสู้กันมานาน ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ เช่น 14 ตุลา 6 ตุลา และสงครามที่เกี่ยวกับนายทักษิณมา 20 ปี ล้วนยังไม่มีที่สิ้นสุดแต่ประเทศกลับแย่ ทั้งนี้หากสู้เพื่อสลับอำนาจให้กับนักการเมืองหรือผู้อื่น ก่อนเข้าสู่อำนาจรับปากหมด แต่เมื่อเป็นผู้มีอำนาจระหว่างเดินทางจากบ้านไปทำเนียบกลับทำสมองหล่นกลางทาง เราเจอผู้ปกครองลักษณะนี้มาโดยบ้านเมืองจึงแก้ไขไม่ได้

    ทั้งนี้ตนกับทนายนกเขา จัดรายการมา 2 ปี เพื่ออธิบายว่าหากประชาชนไม่สามัคคีกันเราไม่มีทางเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ได้รวมถึงถ้าประชาชนถูกปลุกปั่นให้ทะเลาะกัน วันนี้เป็นโอกาสดีที่สุดที่นายทักษิณกลับมาประเทศไทย และทำให้แต่ละฝ่ายสามัคคีกันโดยไม่ได้นัดหมาย เรื่องราวของบ้านเมืองจากนี้ไปภาคประชาชนต้องให้กำลังใจกัน เราเจอการบริหารประเทศแบ่งแยกและปกครอง รัฐบาลทั้งโลกและประเทศไทยล้วนแต่ชั่วทั้งสิ้น วิธีจัดการรัฐบาลนี้คือประชาชนต้องสามัคคีเท่านั้น
    อย่างไรก็ตามหลังวันที่ 13 มิถุนายน 2568 นี้บ้านเมืองนี้คงเจริญและรวดเร็วขึ้นทุกกระบวนการ เพราะผลนั้นจะเป็นน้ำมันหล่อลื่น เรื่องที่หนืดในกกต. ผู้ตรวจการแผ่นดินหรือ ป.ป.ช. จะมีความรวดเร็วมากขึ้น เพราะทุกขบวนการทำหน้าที่จะเริ่มต้นในการคิดใหม่ แต่ถ้าทุกคนรอคนใหม่มาทำหน้าที่จะทำให้บ้านเมืองจะย่อยยับ ตนมองว่าบ้านเมืองจะเปลี่ยนแต่ปัญหาคือจะเปลี่ยนไปเป็นแบบเดิมได้หรือไม่ ขออย่าหนีจิ้งจกมาเจอตุ๊กแก

    อย่างไรก็ตามตลอด 2 ปีที่ผ่านมา กับสองนายกรัฐมนตรีมีอะไรที่ดีขึ้นบ้าง และนโยบายที่หาเสียงสามารถทำได้จริงหรือไม่ ทั้งลดค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่าไฟฟ้าทันที ไฟฟ้า 20 บาททุกสาย รวมถึงแจกเงินหมื่นผ่สนดิจิทัลวอลเล็ต ตอนนี้กลับทำไม่ได้ ความจริงที่กล้าลวง เพราะคิดว่าประชาชนประเทศนี้อะไรก็ได้ วันนี้ถึงเวลาของประชาชนที่เห็นบ้านเมืองไม่ถูกต้อง ผิดทำนองคลองธรรม ประเทศนี้เป็นของเรา ต้องมีสิทธิ์กำหนดอนาคต ไม่ใช่ให้นายทักษิณคิดคนเดียว แต่ประชาชนสามารถคิดในแผ่นดินนี้ได้เหมือนกัน และสุดท้ายเวลาที่ต้องการความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจมาถึงแล้ว วันนี้ตนและทนายนกเขาพร้อมร่วมมือกับนายสนธิ เรื่องชาติบ้านเมือง เพื่อร่วมเปลี่ยนประเทศไทยไปด้วยกัน
    ตู่น้องพี่ที่กล้าหาญ ‘สนธิ’รับ ‘จตุพร’เป็นศิษย์น้อง แสวงจุดร่วม ‘ทักษิณ’เลว //////////////////// วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่มอดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นำโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ร่วมกับนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์, นายทนง ขันทอง, นายนพรัตน์ พรวนสุข, นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประพันธุ์ และนายคูณมี จัดเวที “ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 2/2568” ขณะที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตหัวหน้าศูนย์นโยบายและวิชาการของพรรคพลังประชารัฐ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ร่วมรับฟังด้วย โดยนายจตุพร เข้าสวมกอดนายสนธิ และกล่าวตอนหนึ่งว่า ตนเชื่อว่าตลอดระยะเวลา 20 ปีมานี้ ภาพที่ท่านทั้งหลายได้เห็นขณะนี้ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้น เพราะคำว่าทวงความถูกต้องให้กับคนไทยเป็นหัวใจหลักนำพาให้ตนมาพบกับนายสนธิ ลิ้มทองกูล ในวันนี้ ซึ่งนายสนธิได้ชวนตนในขณะที่พบกันที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เมือประมาณ 7 ปีที่แล้ว ว่าเราจะได้มีโอกาสถ้อยแถลงพร้อมกัน โดยผ่านมา 7 ปีเพิ่งประสบความสำเร็จในวันนี้ และก่อนหน้านี้ 5 วัน เหมือนของนายสนธิแรงเหลือเกิน เพราะตนติดโควิด-19 แต่ได้กินยาฟ้าทะลายโจรของนายปานเทพ จึงทำให้สภาพร่างกายพร้อม อย่างไรก็ตามวันนี้คงไม่มีอะไรสำคัญมากกว่าประเทศไทย ที่ผ่านมาตนจะอย่างไรทุกอย่างเป็นเรื่องเล็ก ส่วนเรื่องใหญ่ของบ้านเมืองในวันนี้คือจะนำพาให้ประเทศไทยเดินทางในทิศทางที่ถูกต้อง และพลิกฟื้นประเทศชาติขึ้นมาได้อย่างไร ตนผ่านมาหลายเหตุการณ์ มารู้ตัวอีกทีก็อายุ 60 ปี แต่ทันทีที่ตนประกาศรบกับนายทักษิณ ทุกคนก็กลับมาญาติดีกับตนเหมือนเดิม ทั้งนี้วันที่นายทักษิณ กลับมาประเทศไทยและยื่นถวายฎีกา ยอมรับว่ากระทำความผิดตามคำพิพากษา มองว่าไม่ใช่ผลพวงการยึดอำนาจหรือตุลาการภิวัฒน์ แต่เขายอมรับว่าทุจริตจริง ไม่ว่าระบอบการเมืองใดทุจริตคือทุจริต โกงก็คือโกง ไม่ว่าจะเป็นเผด็จการหรือประชาธิปไตย และขณะนี้มีการตั้งคำถามว่านายทักษิณ จะหนีหรือไม่ หรือมีการหนีออกนอกประเทศไปแล้วหรือยัง ซึ่งตนไม่อยากให้หนีอยากให้ได้ซึมซับบรรยากาศอย่างที่ตนและนายสนธิ ได้ซึมซับในเรือนจำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีคนไทยคนไหนได้รับโอกาสเหมือนนายทักษิณอีกแล้ว และเขาไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว และหากเขายอมรับตามที่ได้เขียนถวายฎีกา คนก็ไม่ต้องมาลุ้นว่าจะหนีหรือไม่ และหัวใจหลักที่คนออกมาต่อสู้กับนายทักษิณ คือการปฎิบัติ 2 มาตรฐานและอภิสิทธิ์ชน ซึ่งนายทักษิณได้ทำครบทุกข้อ ที่ผ่านมาเราได้เห็นความเป็นทักษิณ ผู้สนับสนุนได้หูตาสว่างมากขึ้น เพราะการกระทำทั้งหมดเป็นการทำลายตัวเองอย่างย่อยยับไม่มีใครไปทำอะไรเขา ตอนอยู่ต่างประเทศกระแสนิยมสูง เพราะเห็นว่าไม่ได้รับความยุติธรรม แต่เมื่อกลับมาประเทศไทยตั้งแต่ 22 สิงหาคม 66 จนถึงวันนี้ คนไทยได้เห็นความเป็นตัวตนของนายทักษิณครบถ้วน สิ่งที่เสียไปคือการได้รัฐบาลแบบนี้ และเราได้เห็นการเปลือยตัวอย่างล่อนจ้อนของนายทักษิณ และเชื่อว่าหาคนไปตายแทบจะไม่เห็นในเวลาต่อมา ดังนั้นจึงควรมาเริ่มต้นความถูกต้องให้เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้ เราต้องยอมรับความจริงว่าบ้านเมืองเดินมาถึงจุดเสียหายครบทุกด้าน เลยคำว่าปฏิรูป อาจถึงขั้นการปฏิวัติและล้างบางกันใหม่ โดยยึดแนวทางสร้างสถาบันหลักของชาติและประชาชนให้แข็งแรง เพราะแต่ละขบวนการเราหาสิ่งที่ถูกต้องไม่เจอ กล่าวอ้างประชาธิปไตยเพียงแค่ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งก่อนหน้านั้นมีการซื้อเสียงตั้งแต่ระดับผู้ใหญ่บ้านแต่กลับอธิบายว่าเป็นประชาธิปไตย นายจตุพร กล่าวว่า วันนี้ตนมีโอกาสอยู่ท้องถนนและเข้าสู่สภาฯ บ้าง ซึ่งเทียบแล้วอยู่บนถนนมีความสุขมากกว่ารัฐสภา วันนี้เป็นตัวของตัวเองไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง จึงต้องกล้าคิดว่าหนทางบ้านเมืองต่อไปนี้จะช่วยอะไรได้บ้าง ตนรู้ว่าพี่น้องสู้กันมานาน ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ เช่น 14 ตุลา 6 ตุลา และสงครามที่เกี่ยวกับนายทักษิณมา 20 ปี ล้วนยังไม่มีที่สิ้นสุดแต่ประเทศกลับแย่ ทั้งนี้หากสู้เพื่อสลับอำนาจให้กับนักการเมืองหรือผู้อื่น ก่อนเข้าสู่อำนาจรับปากหมด แต่เมื่อเป็นผู้มีอำนาจระหว่างเดินทางจากบ้านไปทำเนียบกลับทำสมองหล่นกลางทาง เราเจอผู้ปกครองลักษณะนี้มาโดยบ้านเมืองจึงแก้ไขไม่ได้ ทั้งนี้ตนกับทนายนกเขา จัดรายการมา 2 ปี เพื่ออธิบายว่าหากประชาชนไม่สามัคคีกันเราไม่มีทางเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ได้รวมถึงถ้าประชาชนถูกปลุกปั่นให้ทะเลาะกัน วันนี้เป็นโอกาสดีที่สุดที่นายทักษิณกลับมาประเทศไทย และทำให้แต่ละฝ่ายสามัคคีกันโดยไม่ได้นัดหมาย เรื่องราวของบ้านเมืองจากนี้ไปภาคประชาชนต้องให้กำลังใจกัน เราเจอการบริหารประเทศแบ่งแยกและปกครอง รัฐบาลทั้งโลกและประเทศไทยล้วนแต่ชั่วทั้งสิ้น วิธีจัดการรัฐบาลนี้คือประชาชนต้องสามัคคีเท่านั้น อย่างไรก็ตามหลังวันที่ 13 มิถุนายน 2568 นี้บ้านเมืองนี้คงเจริญและรวดเร็วขึ้นทุกกระบวนการ เพราะผลนั้นจะเป็นน้ำมันหล่อลื่น เรื่องที่หนืดในกกต. ผู้ตรวจการแผ่นดินหรือ ป.ป.ช. จะมีความรวดเร็วมากขึ้น เพราะทุกขบวนการทำหน้าที่จะเริ่มต้นในการคิดใหม่ แต่ถ้าทุกคนรอคนใหม่มาทำหน้าที่จะทำให้บ้านเมืองจะย่อยยับ ตนมองว่าบ้านเมืองจะเปลี่ยนแต่ปัญหาคือจะเปลี่ยนไปเป็นแบบเดิมได้หรือไม่ ขออย่าหนีจิ้งจกมาเจอตุ๊กแก อย่างไรก็ตามตลอด 2 ปีที่ผ่านมา กับสองนายกรัฐมนตรีมีอะไรที่ดีขึ้นบ้าง และนโยบายที่หาเสียงสามารถทำได้จริงหรือไม่ ทั้งลดค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่าไฟฟ้าทันที ไฟฟ้า 20 บาททุกสาย รวมถึงแจกเงินหมื่นผ่สนดิจิทัลวอลเล็ต ตอนนี้กลับทำไม่ได้ ความจริงที่กล้าลวง เพราะคิดว่าประชาชนประเทศนี้อะไรก็ได้ วันนี้ถึงเวลาของประชาชนที่เห็นบ้านเมืองไม่ถูกต้อง ผิดทำนองคลองธรรม ประเทศนี้เป็นของเรา ต้องมีสิทธิ์กำหนดอนาคต ไม่ใช่ให้นายทักษิณคิดคนเดียว แต่ประชาชนสามารถคิดในแผ่นดินนี้ได้เหมือนกัน และสุดท้ายเวลาที่ต้องการความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจมาถึงแล้ว วันนี้ตนและทนายนกเขาพร้อมร่วมมือกับนายสนธิ เรื่องชาติบ้านเมือง เพื่อร่วมเปลี่ยนประเทศไทยไปด้วยกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 633 มุมมอง 0 รีวิว
  • FTC สอบสวน Media Matters กรณีการคว่ำบาตรโฆษณาบน X

    คณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ (FTC) กำลังสอบสวน Media Matters เกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่ามีการร่วมมือกับองค์กรอื่นเพื่อช่วยให้เกิดการคว่ำบาตรโฆษณาบน X ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ Elon Musk ซื้อกิจการในปี 2022

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการสอบสวนของ FTC
    FTC ต้องการเอกสารจาก Media Matters เกี่ยวกับการสื่อสารกับองค์กรอื่นที่ตรวจสอบข้อมูลผิดและเนื้อหาความเกลียดชัง
    - รวมถึง Global Alliance for Responsible Media ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการคว่ำบาตรโฆษณา

    X มีคดีความต่อ Media Matters และ Global Alliance for Responsible Media
    - กล่าวหาว่า องค์กรเหล่านี้ช่วยให้เกิดการคว่ำบาตรโฆษณาโดยผิดกฎหมาย

    FTC ประธาน Andrew Ferguson เคยกล่าวถึงความเป็นไปได้ในการสอบสวนตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024
    - เขาระบุว่า ต้องดำเนินคดีต่อการสมรู้ร่วมคิดที่ผิดกฎหมายระหว่างแพลตฟอร์มออนไลน์

    Media Matters ปฏิเสธข้อกล่าวหาและระบุว่าการสอบสวนนี้เป็นการใช้พลังของรัฐบาลเพื่อกดดันฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
    - ประธานองค์กร Angelo Carusone กล่าวว่าการคุกคามนี้จะไม่ทำให้พวกเขาหยุดทำงาน

    คณะกรรมการตุลาการของสหรัฐฯ เคยกล่าวหา Global Alliance for Responsible Media ว่ามีการคว่ำบาตรโฆษณาโดยผิดกฎหมาย
    - องค์กรนี้ ถูกปิดตัวลงในเดือนสิงหาคม 2024

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/23/exclusive-ftc-probes-media-matters-over-musk039s-x-boycott-claims-document-shows
    FTC สอบสวน Media Matters กรณีการคว่ำบาตรโฆษณาบน X คณะกรรมการการค้าของสหรัฐฯ (FTC) กำลังสอบสวน Media Matters เกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่ามีการร่วมมือกับองค์กรอื่นเพื่อช่วยให้เกิดการคว่ำบาตรโฆษณาบน X ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ Elon Musk ซื้อกิจการในปี 2022 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการสอบสวนของ FTC ✅ FTC ต้องการเอกสารจาก Media Matters เกี่ยวกับการสื่อสารกับองค์กรอื่นที่ตรวจสอบข้อมูลผิดและเนื้อหาความเกลียดชัง - รวมถึง Global Alliance for Responsible Media ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการคว่ำบาตรโฆษณา ✅ X มีคดีความต่อ Media Matters และ Global Alliance for Responsible Media - กล่าวหาว่า องค์กรเหล่านี้ช่วยให้เกิดการคว่ำบาตรโฆษณาโดยผิดกฎหมาย ✅ FTC ประธาน Andrew Ferguson เคยกล่าวถึงความเป็นไปได้ในการสอบสวนตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024 - เขาระบุว่า ต้องดำเนินคดีต่อการสมรู้ร่วมคิดที่ผิดกฎหมายระหว่างแพลตฟอร์มออนไลน์ ✅ Media Matters ปฏิเสธข้อกล่าวหาและระบุว่าการสอบสวนนี้เป็นการใช้พลังของรัฐบาลเพื่อกดดันฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง - ประธานองค์กร Angelo Carusone กล่าวว่าการคุกคามนี้จะไม่ทำให้พวกเขาหยุดทำงาน ✅ คณะกรรมการตุลาการของสหรัฐฯ เคยกล่าวหา Global Alliance for Responsible Media ว่ามีการคว่ำบาตรโฆษณาโดยผิดกฎหมาย - องค์กรนี้ ถูกปิดตัวลงในเดือนสิงหาคม 2024 https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/23/exclusive-ftc-probes-media-matters-over-musk039s-x-boycott-claims-document-shows
    WWW.THESTAR.COM.MY
    FTC probes Media Matters over Musk's X boycott claims, document shows
    (Reuters) -The U.S. Federal Trade Commission has demanded documents from Media Matters about possible coordination with other media watchdogs accused by Elon Musk of helping orchestrate advertiser boycotts of X, according to a document seen by Reuters on Thursday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลสั่ง"ยิ่งลักษณ์" จ่ายหมื่นล้านปล่อยคนโกง : [NEWS UPDATE]
    ผู้สื่อข่าวรายการว่า คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุด อ่านคำพิพากษา คดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท เนื่องจากศาลปกครองกลางในขณะนั้น เห็นว่ากระทรวงการคลังยอมรับว่า ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายโดยตรง และขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดก็ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด โดยล่าสุดคณะตุลาการศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้กรณีจำนำข้าว 10,028 ล้านบาท ฐานเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายจากโครงการจำนำข้าว


    อย่าใจร้อนดีเอสไอมีเดิมพัน

    ดักทางรัฐประหาร

    ฟ้อง 5 ผู้ต้องหาคดีนอมินี

    ประเมินไฟใต้รุนแรงขึ้น
    ศาลสั่ง"ยิ่งลักษณ์" จ่ายหมื่นล้านปล่อยคนโกง : [NEWS UPDATE] ผู้สื่อข่าวรายการว่า คณะตุลาการศาลปกครองสูงสุด อ่านคำพิพากษา คดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท เนื่องจากศาลปกครองกลางในขณะนั้น เห็นว่ากระทรวงการคลังยอมรับว่า ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายโดยตรง และขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดก็ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด โดยล่าสุดคณะตุลาการศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้กรณีจำนำข้าว 10,028 ล้านบาท ฐานเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายจากโครงการจำนำข้าว อย่าใจร้อนดีเอสไอมีเดิมพัน ดักทางรัฐประหาร ฟ้อง 5 ผู้ต้องหาคดีนอมินี ประเมินไฟใต้รุนแรงขึ้น
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 904 มุมมอง 33 0 รีวิว
  • ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ ไม่รับคำร้อง วิโรจน์ นวลแข อดีตผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ร้อง อัยการสูงสุด ฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีปล่อยกู้เครือกฤษฎามหานคร ระบุ คำพิพากษา-คำสั่งถึงที่สุดแล้ว ขณะที่ วิรุฬห์ แสงเทียน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ถอนตัว เหตุ เกี่ยวข้องกับคดีที่ขอให้วินิจฉัยนั้นมาก่อนสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 30 เมษายน 2568 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการประชุมปรึกษาคดีที่สำคัญและเป็นที่น่าสนใจ เรื่องพิจารณาที่ ต. 35/2568 กรณีนายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย ผู้ร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ว่า สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ผู้ถูกร้อง ฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีที่ธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้กับเครือกฤษฎามหานคร เป็นการถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ โดยศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาก่อนที่จะมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย โดยสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่รายละเอียดผ่านเอกสารข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ข่าวที่ 12/2568 ดังนี้นายวิโรจน์ นวลแข ผู้ร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ว่า สำนักงานอัยการสูงสุด ผู้ถูกร้อง ฟ้องผู้ร้องกับพวกรวม 27 คน เป็นจำเลยต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และศาลพิพากษาว่าผู้ร้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 และมาตรา 8 พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 313 ประกอบมาตรา 307 และมาตรา 308 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 ประกอบมาตรา 354แต่ภายหลังศาลพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 ผู้ร้องเห็นว่า เมื่อศาลยกฟ้องจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนักการเมืองเพียงคนเดียวในคดีแล้ว ผู้ร้องจึงไม่อาจถูกดำเนินคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง การที่ผู้ถูกร้องทำให้ผู้ร้องต้องตกอยู่ในการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นกระบวนการพิจารณาค้นหาความจริงที่แตกต่างจากการพิจารณาแบบทั่วไปและถูกพิพากษาให้มีความผิด จึงเป็นกรณีที่ผู้ร้องละเมิดสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 5 วรรคหนึ่ง มาตรา 27 มาตรา 29 มาตรา 188 วรรคหนึ่ง และมาตรา 195 วรรคสอง ข้ดต่อกฎหมายและหลักนิติธรรม ทำให้ผู้ร้องได้รับความเสียหายนอกจากนี้ ผู้ร้องกล่าวอ้างด้วยว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 10 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 5 และมาตรา 27 ทำให้ผู้ร้องถูกละเมิดจากการกระทำของผู้ถูกร้องผลการพิจารณานายวิรุฬห์ แสงเทียน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขอถอนตัวจากการพิจารณาคดีนี้ เนื่องจากเคยเป็นผู้พิพากษาหรือตุลาการในศาลอื่นซึ่งเคยพิจารณาวินิจฉัยในคดีหรือประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ขอให้วินิจฉัยนั้นมาก่อน และที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องเป็นเรื่องที่ศาลอื่นมีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดแล้วตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561มาตรา 47 (4) ซึ่งมาตรา 46 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลรัฐธธรรมนูญสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ดังนั้น ผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213ส่วนที่ผู้ร้องกล่าวอ้างว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 10 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 นั้น เป็นการยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมาย รัฐธรรมนูญบัญญัติให้สิทธิไว้เป็นการเฉพาะแล้วตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 และมาตรา 231 (1) กรณีไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 48 ประกอบมาตรา 47 (2) ซึ่งมาตรา 46 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูสังไม่รับคำร้องไว้พิจารมา ดังนั้น ผู้ร้องไม่อาจอื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐรรมนูมาตรา
    ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ ไม่รับคำร้อง วิโรจน์ นวลแข อดีตผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ร้อง อัยการสูงสุด ฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีปล่อยกู้เครือกฤษฎามหานคร ระบุ คำพิพากษา-คำสั่งถึงที่สุดแล้ว ขณะที่ วิรุฬห์ แสงเทียน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ถอนตัว เหตุ เกี่ยวข้องกับคดีที่ขอให้วินิจฉัยนั้นมาก่อนสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 30 เมษายน 2568 ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการประชุมปรึกษาคดีที่สำคัญและเป็นที่น่าสนใจ เรื่องพิจารณาที่ ต. 35/2568 กรณีนายวิโรจน์ นวลแข อดีตกรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย ผู้ร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ว่า สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ผู้ถูกร้อง ฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีที่ธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้กับเครือกฤษฎามหานคร เป็นการถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ โดยศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาก่อนที่จะมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย โดยสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยแพร่รายละเอียดผ่านเอกสารข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ข่าวที่ 12/2568 ดังนี้นายวิโรจน์ นวลแข ผู้ร้อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 ว่า สำนักงานอัยการสูงสุด ผู้ถูกร้อง ฟ้องผู้ร้องกับพวกรวม 27 คน เป็นจำเลยต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และศาลพิพากษาว่าผู้ร้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 มาตรา 4 และมาตรา 8 พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 313 ประกอบมาตรา 307 และมาตรา 308 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 353 ประกอบมาตรา 354แต่ภายหลังศาลพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 ผู้ร้องเห็นว่า เมื่อศาลยกฟ้องจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนักการเมืองเพียงคนเดียวในคดีแล้ว ผู้ร้องจึงไม่อาจถูกดำเนินคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง การที่ผู้ถูกร้องทำให้ผู้ร้องต้องตกอยู่ในการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งเป็นกระบวนการพิจารณาค้นหาความจริงที่แตกต่างจากการพิจารณาแบบทั่วไปและถูกพิพากษาให้มีความผิด จึงเป็นกรณีที่ผู้ร้องละเมิดสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 วรรคสอง มาตรา 5 วรรคหนึ่ง มาตรา 27 มาตรา 29 มาตรา 188 วรรคหนึ่ง และมาตรา 195 วรรคสอง ข้ดต่อกฎหมายและหลักนิติธรรม ทำให้ผู้ร้องได้รับความเสียหายนอกจากนี้ ผู้ร้องกล่าวอ้างด้วยว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 10 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 5 และมาตรา 27 ทำให้ผู้ร้องถูกละเมิดจากการกระทำของผู้ถูกร้องผลการพิจารณานายวิรุฬห์ แสงเทียน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขอถอนตัวจากการพิจารณาคดีนี้ เนื่องจากเคยเป็นผู้พิพากษาหรือตุลาการในศาลอื่นซึ่งเคยพิจารณาวินิจฉัยในคดีหรือประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ขอให้วินิจฉัยนั้นมาก่อน และที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องเป็นเรื่องที่ศาลอื่นมีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดแล้วตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561มาตรา 47 (4) ซึ่งมาตรา 46 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลรัฐธธรรมนูญสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณา ดังนั้น ผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213ส่วนที่ผู้ร้องกล่าวอ้างว่า พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 10 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 นั้น เป็นการยื่นคำร้องขอให้ตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของกฎหมาย รัฐธรรมนูญบัญญัติให้สิทธิไว้เป็นการเฉพาะแล้วตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 และมาตรา 231 (1) กรณีไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 48 ประกอบมาตรา 47 (2) ซึ่งมาตรา 46 วรรคสาม บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูสังไม่รับคำร้องไว้พิจารมา ดังนั้น ผู้ร้องไม่อาจอื่นคำร้องดังกล่าวตามรัฐรรมนูมาตรา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 511 มุมมอง 0 รีวิว
  • "การเมืองโรมาเนียเพิ่มระดับความวุ่ยวายขึ้นไปอีก!!"

    ศาลอุทธรณ์ในเมืองโปลเยสตี มีคำตัดสินยกเลิก คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแห่งโรมาเนียในการยกเลิกการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว!!!

    ผู้พิพากษาอเล็กซานดรู วาสิเล (Alexandru Vasile) แห่งศาลอุทธรณ์เมืองโปลเยสตี มีคำสั่งสั่งระงับการบังคับใช้คำตัดสินที่ศาลรัฐธรรมนูญของโรมาเนียสั่งเพิกถอนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนธันวาคม 2024 ซึ่งศาลอุทธรณ์ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง

    ในคำประกาศของศาลอุทธรณ์ระบุว่า “ระงับการบังคับใช้คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024 จนกว่าจะมีการพิจารณาคดีขั้นสุดท้าย โดยการยอมรับการยื่นฟ้องขอให้เพิกถอนคำตัดสินดังกล่าวจากศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024”

    จากประกาศของศาลอุทธรณ์ ทำให้เกิดกระแสการพูดถึงอย่างมากมายในโซเชียลของโรมาเนีย ถึงความเป็นไปได้ที่จะให้ "คาลิน จอร์เจสคู" กลับมาชนะเลือกตั้งอีกครั้ง เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งรอบที่สองต่อไป

    ศาลอุทธรณ์ให้เวลา 5 วัน ในการยื่นเรื่องคัดค้านคำตัดสินนี้

    ทางด้านสื่อของโรมาเนีย รายงานว่า เหตุผลของคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการยกเลิกการเลือกตั้ง หลังจากได้ให้การรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อนนั้นแล้ว

    นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่สามารถพิสูจหลักฐานที่ใช้ในการกล่าวหาผู้สมัครที่ได้รับชัยชนะ จนนำไปสู่การตัดสินระงับการเลือกตั้งได้ เนื่องจากเอกสารหลักฐานต่างๆในการอ้างอิงเพื่อระงับการเลือกตั้ง จะต้องได้รับการพิจารณาโดยฝ่ายตุลาการ ไม่ใช่โดยศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีจากการแต่งตั้งของฝ่ายการเมือง ซึ่งทำให้เกิดความคลางแคลงใจในกระบวนการพิจรณาดังกล่าว

    จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า หลังจากมีคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ออกมา การเมืองโรมาเนียจะไปในทิศทางใด และ Calin Georgescu ซึ่งได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งรอบแรก จะได้กลับเข้าสู่เส้นทางการเมืองอีกหรือไม่
    "การเมืองโรมาเนียเพิ่มระดับความวุ่ยวายขึ้นไปอีก!!" ศาลอุทธรณ์ในเมืองโปลเยสตี มีคำตัดสินยกเลิก คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญแห่งโรมาเนียในการยกเลิกการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว!!! ผู้พิพากษาอเล็กซานดรู วาสิเล (Alexandru Vasile) แห่งศาลอุทธรณ์เมืองโปลเยสตี มีคำสั่งสั่งระงับการบังคับใช้คำตัดสินที่ศาลรัฐธรรมนูญของโรมาเนียสั่งเพิกถอนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนธันวาคม 2024 ซึ่งศาลอุทธรณ์ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ในคำประกาศของศาลอุทธรณ์ระบุว่า “ระงับการบังคับใช้คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024 จนกว่าจะมีการพิจารณาคดีขั้นสุดท้าย โดยการยอมรับการยื่นฟ้องขอให้เพิกถอนคำตัดสินดังกล่าวจากศาลรัฐธรรมนูญฉบับที่ 32 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2024” จากประกาศของศาลอุทธรณ์ ทำให้เกิดกระแสการพูดถึงอย่างมากมายในโซเชียลของโรมาเนีย ถึงความเป็นไปได้ที่จะให้ "คาลิน จอร์เจสคู" กลับมาชนะเลือกตั้งอีกครั้ง เพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งรอบที่สองต่อไป ศาลอุทธรณ์ให้เวลา 5 วัน ในการยื่นเรื่องคัดค้านคำตัดสินนี้ ทางด้านสื่อของโรมาเนีย รายงานว่า เหตุผลของคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการยกเลิกการเลือกตั้ง หลังจากได้ให้การรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อนนั้นแล้ว นอกจากนี้ ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่สามารถพิสูจหลักฐานที่ใช้ในการกล่าวหาผู้สมัครที่ได้รับชัยชนะ จนนำไปสู่การตัดสินระงับการเลือกตั้งได้ เนื่องจากเอกสารหลักฐานต่างๆในการอ้างอิงเพื่อระงับการเลือกตั้ง จะต้องได้รับการพิจารณาโดยฝ่ายตุลาการ ไม่ใช่โดยศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีจากการแต่งตั้งของฝ่ายการเมือง ซึ่งทำให้เกิดความคลางแคลงใจในกระบวนการพิจรณาดังกล่าว จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า หลังจากมีคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ออกมา การเมืองโรมาเนียจะไปในทิศทางใด และ Calin Georgescu ซึ่งได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งรอบแรก จะได้กลับเข้าสู่เส้นทางการเมืองอีกหรือไม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 523 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts