OKJ ลากแมลงเม่าไปเชือด / สุนันท์ ศรีจันทรา
หุ้นบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้เพียง 2 วัน เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ได้สนั่นหวั่นไหว เพราะราคาทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง จนถูกตั้งคำถามว่า มีใครอยู่เบื้องหลัง ลากนักลงทุนรายย่อยขึ้นไปเชือดหรือไม่
OKJ นำหุ้นจำนวน 159 ล้านหุ้น หรือสัดส่วนประมาณ 26% ของทุนจดทะเบียน เสนอขายนักลงทุนทั่วไปเป็นครั้งแรกในราคาหุ้นละ 6.70 บาท โดย บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด บริษัทลูกของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ถือหุ้นในสัดส่วน 20% ของทุนจดทะเบียน
โอ้กะจู๋ หรือ OKJ สร้างชื่อเสียงจากร้านอาหารพักปลอดสารเพื่อสุขภาพ จนเติบโตเป็นที่นิยมและขยายสาขาต่อเนื่อง หุ้นที่นำมาเสนอขายนักลงทุน จึงได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่จองล้นโควตาจัดสรร
เป็นที่คาดหมายก่อนหน้าแล้วว่า การซื้อขายหุ้น OKJ จะมีความคึกคัก และเมื่อได้ฤกษ์ประเดิมเคาะซื้อขายวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ราคาหุ้นเคลื่อนไหวร้อนแรงตามคาด โดยเปิดการซื้อขายที่ราคา 10.10 บาท และถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 12.50 บาท ก่อนปิดที่ 12.40 บาท สูงกว่าราคาจอง 5.70 บาท หรือสูงกว่าจอง 85% มูลค่าซื้อขาย 4,678.91 ล้านบาท
การซื้อขายวันที่สอง หรือวันที่ 7 ตุลาคม OKJ ยังร้อนไม่หยุด เปิดซื้อขายที่ราคา 12.80 บาท ก่อนถูกลากขึ้นไปสูงสุด 14.60 บาท แต่ถูกเทขาย จนร่วงลงมาปิดที่ 12.90 บาท เพิ่มขึ้น 50 สตางค์หรือเพิ่มขึ้น 4.03% มูลค่าซื้อขายยังหนาแน่น 1,829.41 ล้านบาท
หุ้น OKJ ที่พุ่งทะยาน ถูกวิจารณ์จากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์และนักลงทุนว่า ราคาร้อนเกินเหตุ และเป็นราคาที่ล้ำหน้าปัจจัยพื้นฐานไปมาก จนมีเสียงเตือนให้ระมัดระวังการตามแห่เก็งกำไร เพราะอาจมีคนที่อยู่เบื้องหลังการลากราคาหุ้น
ค่าพี/อีเรโช OKJ จากระดับ 24 เท่า ช่วงที่เสนอขายหุ้นในราคา 6.70บาท ล่าสุดพุ่งขึ้นไปเป็น 46 เท่าแล้ว ซึ่งเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มอาหารด้วยกัน ถือว่า เป็นหุ้นกลุ่มอาหารที่มีค่า พี/อี เรโช สูงกว่าหุ้นกลุ่มอาหารอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับหุ้น บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M ซึ่งราคาปิดล่าสุดที่ 30.25 บาท มีค่า พี/อี เรโช 16 เท่า
หุ้นน้องใหม่ที่เคยสร้างสถิติความร้อนแรงสุดขีดคือ หุ้นบริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI จากราคาจอง 4.95 บาท และนับจากประเดิมเข้าซื้อขายในตลาด MAI วันที่ 14 ธันวาคม 2566 ราคาพุ่งไม่หยุด แม้จะถูกมาตรการกำกับการซื้อขายหลายครั้ง โดยราคาถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 65.50 บาท ก่อนจะปรับฐานสู่พื้นฐานที่เป็นจริง ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมราคาปิดที่ 14.50 บาท
นักลงทุนขาใหญ่ที่ลากหุ้น MGI ขึ้นไป ขายหุ้นทำกำไร เผ่นหนีออกไปแล้ว ปล่อยให้แมลงเม่าที่ตามแห่เก็งกำไร ติดค้างอยู่บนยอดดอย ขาดทุนกันป่นปี้
เช่นเดียวกับ OKJ ซึ่งอาจมีนักลงทุนขาใหญ่ อยู่เบื้องหลังความร้อนแรงของราคา และ "ขาใหญ่" อาจทิ้งหุ้นไปแล้ว เมื่อราคาหุ้นพุ่งเกิน 100% เหนือราคาจอง
หุ้นน้องใหม่ ส่วนใหญ่จะมีเจ้ามือหรือนักลงทุนขาใหญ่ อยู่เบื้องหลังการสร้างราคา โดยอาจมีข้อตกลงกับผู้ถือหุ้นใหญ่ในการทำราคา แลกกับการจัดสรรหุ้นต้นทุนต่ำ จึงปรากฏรายชื่อบรรดานักลงทุนขาใหญ่หรือเซียนหุ้นได้รับการจัดสรรหุ้นใหม่จำนวนมาก
และการซื้อขายหุ้นใหม่ในวันแรก ๆ ดูเหมือนว่าตลาดหลักทรัพย์จะปล่อยผี ปล่อยให้ทำราคากันได้เต็มที่ บางครั้งปล่อยให้ลากราคาสูงกว่าจองเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ปิดตลาดกลับถูกทุบลงต่ำกว่าราคาจองอย่างน่าประหลาดใจ จนนักลงทุนรายย่อยตายกันเป็นเบือ
เช่นเดียวกับ OKJ ซึ่งเป็นหุ้นชื่อเสียงดี แต่พฤติกรรมราคาใน 2 วันแรกที่เข้าซื้อขาย ดูไม่ดีเท่าไหร่นัก และน่าจะมีแมลงเม่าจำนวนไม่น้อยต้องเซ่นสังเวยในกองไฟ
แต่ตลาดหลักทรัพย์ไม่เคยจับ ฆาตกรที่ลากหุ้นใหม่ขึ้นไปเชือดในวันแรกๆที่เข้าซื้อขายได้สักราย
ที่มา :
https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000095940 #Thaitimes OKJ ลากแมลงเม่าไปเชือด / สุนันท์ ศรีจันทรา
หุ้นบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้เพียง 2 วัน เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ได้สนั่นหวั่นไหว เพราะราคาทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง จนถูกตั้งคำถามว่า มีใครอยู่เบื้องหลัง ลากนักลงทุนรายย่อยขึ้นไปเชือดหรือไม่
OKJ นำหุ้นจำนวน 159 ล้านหุ้น หรือสัดส่วนประมาณ 26% ของทุนจดทะเบียน เสนอขายนักลงทุนทั่วไปเป็นครั้งแรกในราคาหุ้นละ 6.70 บาท โดย บริษัท มอดูลัส เวนเจอร์ จำกัด บริษัทลูกของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ถือหุ้นในสัดส่วน 20% ของทุนจดทะเบียน
โอ้กะจู๋ หรือ OKJ สร้างชื่อเสียงจากร้านอาหารพักปลอดสารเพื่อสุขภาพ จนเติบโตเป็นที่นิยมและขยายสาขาต่อเนื่อง หุ้นที่นำมาเสนอขายนักลงทุน จึงได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่จองล้นโควตาจัดสรร
เป็นที่คาดหมายก่อนหน้าแล้วว่า การซื้อขายหุ้น OKJ จะมีความคึกคัก และเมื่อได้ฤกษ์ประเดิมเคาะซื้อขายวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ราคาหุ้นเคลื่อนไหวร้อนแรงตามคาด โดยเปิดการซื้อขายที่ราคา 10.10 บาท และถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 12.50 บาท ก่อนปิดที่ 12.40 บาท สูงกว่าราคาจอง 5.70 บาท หรือสูงกว่าจอง 85% มูลค่าซื้อขาย 4,678.91 ล้านบาท
การซื้อขายวันที่สอง หรือวันที่ 7 ตุลาคม OKJ ยังร้อนไม่หยุด เปิดซื้อขายที่ราคา 12.80 บาท ก่อนถูกลากขึ้นไปสูงสุด 14.60 บาท แต่ถูกเทขาย จนร่วงลงมาปิดที่ 12.90 บาท เพิ่มขึ้น 50 สตางค์หรือเพิ่มขึ้น 4.03% มูลค่าซื้อขายยังหนาแน่น 1,829.41 ล้านบาท
หุ้น OKJ ที่พุ่งทะยาน ถูกวิจารณ์จากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์และนักลงทุนว่า ราคาร้อนเกินเหตุ และเป็นราคาที่ล้ำหน้าปัจจัยพื้นฐานไปมาก จนมีเสียงเตือนให้ระมัดระวังการตามแห่เก็งกำไร เพราะอาจมีคนที่อยู่เบื้องหลังการลากราคาหุ้น
ค่าพี/อีเรโช OKJ จากระดับ 24 เท่า ช่วงที่เสนอขายหุ้นในราคา 6.70บาท ล่าสุดพุ่งขึ้นไปเป็น 46 เท่าแล้ว ซึ่งเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มอาหารด้วยกัน ถือว่า เป็นหุ้นกลุ่มอาหารที่มีค่า พี/อี เรโช สูงกว่าหุ้นกลุ่มอาหารอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับหุ้น บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M ซึ่งราคาปิดล่าสุดที่ 30.25 บาท มีค่า พี/อี เรโช 16 เท่า
หุ้นน้องใหม่ที่เคยสร้างสถิติความร้อนแรงสุดขีดคือ หุ้นบริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI จากราคาจอง 4.95 บาท และนับจากประเดิมเข้าซื้อขายในตลาด MAI วันที่ 14 ธันวาคม 2566 ราคาพุ่งไม่หยุด แม้จะถูกมาตรการกำกับการซื้อขายหลายครั้ง โดยราคาถูกลากขึ้นไปสูงสุดที่ 65.50 บาท ก่อนจะปรับฐานสู่พื้นฐานที่เป็นจริง ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมราคาปิดที่ 14.50 บาท
นักลงทุนขาใหญ่ที่ลากหุ้น MGI ขึ้นไป ขายหุ้นทำกำไร เผ่นหนีออกไปแล้ว ปล่อยให้แมลงเม่าที่ตามแห่เก็งกำไร ติดค้างอยู่บนยอดดอย ขาดทุนกันป่นปี้
เช่นเดียวกับ OKJ ซึ่งอาจมีนักลงทุนขาใหญ่ อยู่เบื้องหลังความร้อนแรงของราคา และ "ขาใหญ่" อาจทิ้งหุ้นไปแล้ว เมื่อราคาหุ้นพุ่งเกิน 100% เหนือราคาจอง
หุ้นน้องใหม่ ส่วนใหญ่จะมีเจ้ามือหรือนักลงทุนขาใหญ่ อยู่เบื้องหลังการสร้างราคา โดยอาจมีข้อตกลงกับผู้ถือหุ้นใหญ่ในการทำราคา แลกกับการจัดสรรหุ้นต้นทุนต่ำ จึงปรากฏรายชื่อบรรดานักลงทุนขาใหญ่หรือเซียนหุ้นได้รับการจัดสรรหุ้นใหม่จำนวนมาก
และการซื้อขายหุ้นใหม่ในวันแรก ๆ ดูเหมือนว่าตลาดหลักทรัพย์จะปล่อยผี ปล่อยให้ทำราคากันได้เต็มที่ บางครั้งปล่อยให้ลากราคาสูงกว่าจองเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ปิดตลาดกลับถูกทุบลงต่ำกว่าราคาจองอย่างน่าประหลาดใจ จนนักลงทุนรายย่อยตายกันเป็นเบือ
เช่นเดียวกับ OKJ ซึ่งเป็นหุ้นชื่อเสียงดี แต่พฤติกรรมราคาใน 2 วันแรกที่เข้าซื้อขาย ดูไม่ดีเท่าไหร่นัก และน่าจะมีแมลงเม่าจำนวนไม่น้อยต้องเซ่นสังเวยในกองไฟ
แต่ตลาดหลักทรัพย์ไม่เคยจับ ฆาตกรที่ลากหุ้นใหม่ขึ้นไปเชือดในวันแรกๆที่เข้าซื้อขายได้สักราย
ที่มา : https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000095940
#Thaitimes