• สนธิ ซัด บิ๊กเล็ก คนไม่มีศักดิ์ศรี อธิปไตยชาติไม่เคยสนใจ (13/9/68)

    #บิ๊กเล็ก
    #สนธิลั่น
    #อธิปไตยชาติ
    #ศักดิ์ศรีผู้นำ
    #เพื่อแผ่นดินไทย
    #ข่าววันนี้
    #News1short
    #ThaiTimes
    #TruthFromThailand
    #CambodiaNoCeasefire
    #Hunsenfiredfirst
    #scambodia
    #news1
    #shorts
    สนธิ ซัด บิ๊กเล็ก คนไม่มีศักดิ์ศรี อธิปไตยชาติไม่เคยสนใจ (13/9/68) #บิ๊กเล็ก #สนธิลั่น #อธิปไตยชาติ #ศักดิ์ศรีผู้นำ #เพื่อแผ่นดินไทย #ข่าววันนี้ #News1short #ThaiTimes #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #Hunsenfiredfirst #scambodia #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • สนธิ ซัด บิ๊กเล็ก คนไม่มีศักดิ์ศรี อธิปไตยชาติไม่เคยสนใจ (13/9/68)

    #บิ๊กเล็ก
    #สนธิลั่น
    #อธิปไตยชาติ
    #ศักดิ์ศรีผู้นำ
    #เพื่อแผ่นดินไทย
    #ข่าววันนี้
    #News1short
    #ThaiTimes
    #TruthFromThailand
    #CambodiaNoCeasefire
    #Hunsenfiredfirst
    #scambodia
    #thaitimes
    #news1
    #shorts
    สนธิ ซัด บิ๊กเล็ก คนไม่มีศักดิ์ศรี อธิปไตยชาติไม่เคยสนใจ (13/9/68) #บิ๊กเล็ก #สนธิลั่น #อธิปไตยชาติ #ศักดิ์ศรีผู้นำ #เพื่อแผ่นดินไทย #ข่าววันนี้ #News1short #ThaiTimes #TruthFromThailand #CambodiaNoCeasefire #Hunsenfiredfirst #scambodia #thaitimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ..คดี44 คน รวมสส.พรรคก้าวไกล ที่ย้ายมาพรรคประชาชน เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผิด ม.157บ้างมั้ยนะ ลงหน้างานทำงานช้าเกินไปมั้ยนะ

    ..ตลอด หลายคนมากที่ออกสื่อทั้งเชียร์ทั้งเห็นด้วยในการแก้ไข ม.112 พยามหลักฐานชัดเต็มคลิปโซเชียลต่างๆที่เรา..ประชาชนทั่วประเทศพากันนำเสนอช่วยให้อีกในแต่ละช่องกูรูต่างๆท่านที่กล้าหาญนั้น,พวกร่วมขบวนการแก้ ม.112นี้ทางรัฐฯทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการเด็ดขาดจบหรือยัง.

    อาทิคนเหล่านี้ด้วยก็ว่าที่สื่อลงชี้ชัดให้แล้ว.

    กลุ่มที่หนึ่ง บุคคลที่ยังเป็นสส.ในสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน (พฤษภาคม 2568) จำนวน 25 คน
    1. ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (หัวหน้าพรรคประชาชน ในช่วงเกิดเหตุเป็น สส. กทม.)
    2. ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน)
    3. ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน)
    4. วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน)
    5. ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ (นายทะเบียนสมาชิกพรรคประชาชน)
    6. วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน)
    7. รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน)
    8. วุฒินันท์ บุญชู สส.สมุทรปราการ
    9. ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.
    10. เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม.
    11. นิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ
    12. นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม. (ในช่วงเกิดเหตุเป็น สส. บัญชีรายชื่อ)
    13. ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ
    14. ญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี
    15. วรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ
    16. คำพอง เทพาคำ สส.บัญชีรายชื่อ
    17. ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ
    18. องค์การ ชัยบุตร สส.บัญชีรายชื่อ
    19. มานพ คีรีภูวดล สส.บัญชีรายชื่อ
    20. จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา
    21. วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ
    22. จรัส คุ้มไข่น้ำ สส.ชลบุรี
    23. สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ
    24. ศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด
    25. สุรวาท ทองบุ สส.บัญชีรายชื่อ

    กลุ่มที่สอง บุคคลที่ไม่ได้เป็นสส.ในสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน (พฤษภาคม 2568) จำนวน 11 คน
    1. พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์
    2. กัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี
    3. สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา
    4. สมเกียรติ ถนอมสินธุ์
    5. ทองแดง เบ็ญจะปัก
    6. พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์
    7. ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์
    8. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ
    9. ณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์
    10. ทวีศักดิ์ ทักษิณ
    11. สมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล

    กลุ่มที่สาม บุคคลที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปีจากการยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งทั้งหมดเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค จำนวน 8 คน
    1. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
    2. เบญจา แสงจันทร์
    3. อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล
    4. ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์
    5. สุเทพ อู่อ้น
    6. อภิชาติ ศิริสุนทร
    7. ปดิพัทธ์ สันติภาดา
    8. สมชาย ฝั่งชลจิตร


    https://www.ilaw.or.th/articles/52795
    ..คดี44 คน รวมสส.พรรคก้าวไกล ที่ย้ายมาพรรคประชาชน เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องผิด ม.157บ้างมั้ยนะ ลงหน้างานทำงานช้าเกินไปมั้ยนะ ..ตลอด หลายคนมากที่ออกสื่อทั้งเชียร์ทั้งเห็นด้วยในการแก้ไข ม.112 พยามหลักฐานชัดเต็มคลิปโซเชียลต่างๆที่เรา..ประชาชนทั่วประเทศพากันนำเสนอช่วยให้อีกในแต่ละช่องกูรูต่างๆท่านที่กล้าหาญนั้น,พวกร่วมขบวนการแก้ ม.112นี้ทางรัฐฯทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการเด็ดขาดจบหรือยัง. อาทิคนเหล่านี้ด้วยก็ว่าที่สื่อลงชี้ชัดให้แล้ว. กลุ่มที่หนึ่ง บุคคลที่ยังเป็นสส.ในสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน (พฤษภาคม 2568) จำนวน 25 คน 1. ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (หัวหน้าพรรคประชาชน ในช่วงเกิดเหตุเป็น สส. กทม.) 2. ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน) 3. ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน) 4. วาโย อัศวรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน) 5. ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ (นายทะเบียนสมาชิกพรรคประชาชน) 6. วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน) 7. รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ (รองหัวหน้าพรรคประชาชน) 8. วุฒินันท์ บุญชู สส.สมุทรปราการ 9. ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. 10. เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม. 11. นิติพล ผิวเหมาะ สส.บัญชีรายชื่อ 12. นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม. (ในช่วงเกิดเหตุเป็น สส. บัญชีรายชื่อ) 13. ประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ 14. ญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี 15. วรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ 16. คำพอง เทพาคำ สส.บัญชีรายชื่อ 17. ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ 18. องค์การ ชัยบุตร สส.บัญชีรายชื่อ 19. มานพ คีรีภูวดล สส.บัญชีรายชื่อ 20. จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา 21. วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ 22. จรัส คุ้มไข่น้ำ สส.ชลบุรี 23. สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ 24. ศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด 25. สุรวาท ทองบุ สส.บัญชีรายชื่อ กลุ่มที่สอง บุคคลที่ไม่ได้เป็นสส.ในสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน (พฤษภาคม 2568) จำนวน 11 คน 1. พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ 2. กัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี 3. สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา 4. สมเกียรติ ถนอมสินธุ์ 5. ทองแดง เบ็ญจะปัก 6. พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ 7. ปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ 8. พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ 9. ณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ 10. ทวีศักดิ์ ทักษิณ 11. สมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล กลุ่มที่สาม บุคคลที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปีจากการยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งทั้งหมดเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค จำนวน 8 คน 1. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 2. เบญจา แสงจันทร์ 3. อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล 4. ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ 5. สุเทพ อู่อ้น 6. อภิชาติ ศิริสุนทร 7. ปดิพัทธ์ สันติภาดา 8. สมชาย ฝั่งชลจิตร https://www.ilaw.or.th/articles/52795
    WWW.ILAW.OR.TH
    สรุปข้อเท็จจริงคดี 44 สส.ก้าวไกล เสนอแก้ 112 ถูกสอบ 'มาตรฐานจริยธรรม' - iLaw
    ชวนทำความเข้าใจว่า ทำไม 44 สส. ถึงต้องโดนป.ป.ช. สอบสวนดูกรอบระยะเวลาอาจจะนำไปสู่วันตัดสินคดี และผลลัพธ์ที่ตามมาหากสส. จากอดีตพรรคก้าวไกลถูกตัดสินว่า "ผิด"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก CUDA ถึง ROCm: เมื่อ Elon Musk บอกว่า “AMD ก็ทำงานได้ดี”

    Elon Musk ได้โพสต์ข้อความบน X (Twitter เดิม) ว่า AMD Instinct ทำงาน “ค่อนข้างดี” สำหรับโมเดล AI ขนาดเล็กถึงกลาง เช่น inference, fine-tuning และ foundation model ที่ไม่ใหญ่มาก แม้ว่า NVIDIA จะยังคงเป็นตัวเลือกหลักสำหรับงาน training ขนาดใหญ่ แต่คำชมจาก Elon ก็ถือเป็นสัญญาณว่า AMD กำลังไล่ทัน

    ที่ผ่านมา NVIDIA ครองตลาดด้วย CUDA ซึ่งเป็น ecosystem แบบ lock-in ที่ทำให้ผู้พัฒนาไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มอื่นได้ง่าย ๆ แต่ AMD กำลังตอบโต้ด้วย ROCm ที่เปิดกว้างและพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในรุ่น MI300 และ MI355X ที่ xAI ของ Elon ก็ใช้งานอยู่

    แม้ AMD จะยังไม่ได้รับความนิยมจาก Big Tech เท่ากับ NVIDIA แต่ก็เริ่มมีการใช้งานใน hyperscaler และ cloud provider มากขึ้น เช่น Oracle Cloud และ Dell ที่เริ่มนำ MI350 Series ไปใช้ใน rack-scale AI infrastructure

    AMD ยังเตรียมเปิดตัว MI450 และ Helios rack ที่จะใช้ HBM4 และ EPYC Venice CPU เพื่อเร่งงาน training ขนาดใหญ่ โดยตั้งเป้าให้ลูกค้า “ไม่มีข้ออ้าง” ที่จะไม่เลือก AMD อีกต่อไป

    Elon Musk สนับสนุน AMD สำหรับโมเดล AI ขนาดเล็กถึงกลาง
    กล่าวว่า AMD ทำงานได้ดีสำหรับ inference และ fine-tuning
    xAI ของ Elon ใช้ AMD Instinct MI300/MI355X ในบาง workload
    Tesla ก็เคยร่วมมือกับ AMD ในด้าน hardware

    จุดแข็งของ AMD ในตลาด AI
    MI355X ใช้สถาปัตยกรรม CDNA 4 และ ROCm 7
    มี HBM3E สูงสุด 288 GB และ bandwidth สูงถึง 8 TB/s
    ประสิทธิภาพ inference สูงขึ้นถึง 35 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน

    การขยาย ecosystem ของ AMD
    ROCm รองรับโมเดลใหญ่ เช่น LLaMA และ DeepSeek ตั้งแต่วันแรก
    มี developer cloud สำหรับนักพัฒนา AI โดยเฉพาะ
    OEM อย่าง Dell, HPE, Supermicro เริ่มนำ MI350 Series ไปใช้ในระบบ on-prem และ hybrid

    แผนการเปิดตัว MI450 และ Helios rack
    ใช้ HBM4 และ EPYC Venice CPU พร้อม NIC Vulcano 800G
    รองรับ 72 GPU ต่อ rack และให้ bandwidth สูงถึง 1.4 PBps
    ตั้งเป้าให้ประสิทธิภาพสูงกว่า NVIDIA Vera Rubin ถึง 50% ในด้าน memory และ throughput

    https://wccftech.com/elon-musk-endorses-amd-for-small-to-medium-ai-models/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก CUDA ถึง ROCm: เมื่อ Elon Musk บอกว่า “AMD ก็ทำงานได้ดี” Elon Musk ได้โพสต์ข้อความบน X (Twitter เดิม) ว่า AMD Instinct ทำงาน “ค่อนข้างดี” สำหรับโมเดล AI ขนาดเล็กถึงกลาง เช่น inference, fine-tuning และ foundation model ที่ไม่ใหญ่มาก แม้ว่า NVIDIA จะยังคงเป็นตัวเลือกหลักสำหรับงาน training ขนาดใหญ่ แต่คำชมจาก Elon ก็ถือเป็นสัญญาณว่า AMD กำลังไล่ทัน ที่ผ่านมา NVIDIA ครองตลาดด้วย CUDA ซึ่งเป็น ecosystem แบบ lock-in ที่ทำให้ผู้พัฒนาไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์มอื่นได้ง่าย ๆ แต่ AMD กำลังตอบโต้ด้วย ROCm ที่เปิดกว้างและพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในรุ่น MI300 และ MI355X ที่ xAI ของ Elon ก็ใช้งานอยู่ แม้ AMD จะยังไม่ได้รับความนิยมจาก Big Tech เท่ากับ NVIDIA แต่ก็เริ่มมีการใช้งานใน hyperscaler และ cloud provider มากขึ้น เช่น Oracle Cloud และ Dell ที่เริ่มนำ MI350 Series ไปใช้ใน rack-scale AI infrastructure AMD ยังเตรียมเปิดตัว MI450 และ Helios rack ที่จะใช้ HBM4 และ EPYC Venice CPU เพื่อเร่งงาน training ขนาดใหญ่ โดยตั้งเป้าให้ลูกค้า “ไม่มีข้ออ้าง” ที่จะไม่เลือก AMD อีกต่อไป ✅ Elon Musk สนับสนุน AMD สำหรับโมเดล AI ขนาดเล็กถึงกลาง ➡️ กล่าวว่า AMD ทำงานได้ดีสำหรับ inference และ fine-tuning ➡️ xAI ของ Elon ใช้ AMD Instinct MI300/MI355X ในบาง workload ➡️ Tesla ก็เคยร่วมมือกับ AMD ในด้าน hardware ✅ จุดแข็งของ AMD ในตลาด AI ➡️ MI355X ใช้สถาปัตยกรรม CDNA 4 และ ROCm 7 ➡️ มี HBM3E สูงสุด 288 GB และ bandwidth สูงถึง 8 TB/s ➡️ ประสิทธิภาพ inference สูงขึ้นถึง 35 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน ✅ การขยาย ecosystem ของ AMD ➡️ ROCm รองรับโมเดลใหญ่ เช่น LLaMA และ DeepSeek ตั้งแต่วันแรก ➡️ มี developer cloud สำหรับนักพัฒนา AI โดยเฉพาะ ➡️ OEM อย่าง Dell, HPE, Supermicro เริ่มนำ MI350 Series ไปใช้ในระบบ on-prem และ hybrid ✅ แผนการเปิดตัว MI450 และ Helios rack ➡️ ใช้ HBM4 และ EPYC Venice CPU พร้อม NIC Vulcano 800G ➡️ รองรับ 72 GPU ต่อ rack และให้ bandwidth สูงถึง 1.4 PBps ➡️ ตั้งเป้าให้ประสิทธิภาพสูงกว่า NVIDIA Vera Rubin ถึง 50% ในด้าน memory และ throughput https://wccftech.com/elon-musk-endorses-amd-for-small-to-medium-ai-models/
    WCCFTECH.COM
    Elon Musk ‘Endorses’ AMD's AI Hardware for Small to Medium AI Models, Implying That There's Potential to Ease Reliance on NVIDIA
    Billionaire Elon Musk has tweeted on the performance of AMD's AI hardware, claiming that it is sufficient for small and medium AI models.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก VM สู่ VMSCAPE: เมื่อแขกในระบบกลายเป็นขโมยข้อมูลของเจ้าบ้าน

    นักวิจัยจาก ETH Zurich ได้ค้นพบช่องโหว่ใหม่ในกลุ่มการโจมตีแบบ Spectre-BTI (Branch Target Injection) ที่ชื่อว่า VMSCAPE ซึ่งเปิดทางให้ virtual machine (VM) ที่เป็น guest สามารถขโมยข้อมูลจาก host ได้โดยไม่ต้องแก้ไขซอฟต์แวร์ของ host เลย

    ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่ branch predictor ของ CPU ไม่ถูกแยกอย่างปลอดภัยระหว่าง guest กับ host ทำให้ VM สามารถใช้การคาดเดาเส้นทางการทำงานของ CPU เพื่อเข้าถึงข้อมูลลับ เช่น disk encryption keys หรือ session credentials ได้

    VMSCAPE ส่งผลกระทบต่อระบบคลาวด์ที่ใช้ KVM/QEMU บน CPU ของ AMD Zen 1–5 และ Intel Coffee Lake ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ยังคงใช้ branch prediction แบบเดิม โดยช่องโหว่นี้ได้รับการลงทะเบียนเป็น CVE-2025-40300 แล้ว แต่ยังไม่มีคะแนนความรุนแรงอย่างเป็นทางการ

    นักวิจัยเสนอวิธีแก้ไขที่เรียบง่ายแต่ได้ผล คือการ “flush” branch predictor ทุกครั้งที่ VM ออกจากการทำงาน (VMEXIT) โดยใช้คำสั่ง IBPB ซึ่งสามารถป้องกันการโจมตีได้โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ

    แม้ Intel และ AMD จะเตรียมออกเอกสารและแพตช์เพื่อแก้ไข แต่ช่องโหว่นี้แสดงให้เห็นว่าการป้องกัน Spectre ที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในระบบที่มีการใช้งาน VM อย่างแพร่หลาย

    ช่องโหว่ VMSCAPE ที่ค้นพบโดย ETH Zurich
    เป็นการโจมตีแบบ Spectre-BTI ที่ใช้ branch predictor เพื่อขโมยข้อมูล
    ไม่ต้องแก้ไข host software ก็สามารถเจาะข้อมูลได้
    ส่งผลกระทบต่อระบบที่ใช้ KVM/QEMU บน AMD Zen 1–5 และ Intel Coffee Lake

    การลงทะเบียนและการตอบสนอง
    ช่องโหว่นี้ได้รับรหัส CVE-2025-40300
    AMD และ Intel เตรียมออกเอกสารและแพตช์เพื่อแก้ไข
    Linux community เตรียมออก mitigation พร้อมกับการเปิดเผยช่องโหว่

    วิธีแก้ไขที่เสนอโดยนักวิจัย
    ใช้ IBPB เพื่อ flush branch predictor ทุกครั้งที่ VMEXIT
    ทดสอบแล้วพบว่าไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพ
    เป็นวิธีที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในระบบคลาวด์

    ความหมายต่อวงการคลาวด์และความปลอดภัย
    แสดงให้เห็นว่า VM isolation ยังไม่ปลอดภัยพอ
    การป้องกัน Spectre ที่มีอยู่ยังไม่ครอบคลุมทุกกรณี
    จำเป็นต้องมีการปรับปรุงระบบความปลอดภัยในระดับสถาปัตยกรรม

    https://www.techradar.com/pro/security/new-spectre-based-cpu-vulnerability-allows-guests-to-steal-sensitive-data-from-the-cloud
    🎙️ เรื่องเล่าจาก VM สู่ VMSCAPE: เมื่อแขกในระบบกลายเป็นขโมยข้อมูลของเจ้าบ้าน นักวิจัยจาก ETH Zurich ได้ค้นพบช่องโหว่ใหม่ในกลุ่มการโจมตีแบบ Spectre-BTI (Branch Target Injection) ที่ชื่อว่า VMSCAPE ซึ่งเปิดทางให้ virtual machine (VM) ที่เป็น guest สามารถขโมยข้อมูลจาก host ได้โดยไม่ต้องแก้ไขซอฟต์แวร์ของ host เลย ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่ branch predictor ของ CPU ไม่ถูกแยกอย่างปลอดภัยระหว่าง guest กับ host ทำให้ VM สามารถใช้การคาดเดาเส้นทางการทำงานของ CPU เพื่อเข้าถึงข้อมูลลับ เช่น disk encryption keys หรือ session credentials ได้ VMSCAPE ส่งผลกระทบต่อระบบคลาวด์ที่ใช้ KVM/QEMU บน CPU ของ AMD Zen 1–5 และ Intel Coffee Lake ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ยังคงใช้ branch prediction แบบเดิม โดยช่องโหว่นี้ได้รับการลงทะเบียนเป็น CVE-2025-40300 แล้ว แต่ยังไม่มีคะแนนความรุนแรงอย่างเป็นทางการ นักวิจัยเสนอวิธีแก้ไขที่เรียบง่ายแต่ได้ผล คือการ “flush” branch predictor ทุกครั้งที่ VM ออกจากการทำงาน (VMEXIT) โดยใช้คำสั่ง IBPB ซึ่งสามารถป้องกันการโจมตีได้โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ แม้ Intel และ AMD จะเตรียมออกเอกสารและแพตช์เพื่อแก้ไข แต่ช่องโหว่นี้แสดงให้เห็นว่าการป้องกัน Spectre ที่มีอยู่ในปัจจุบันยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในระบบที่มีการใช้งาน VM อย่างแพร่หลาย ✅ ช่องโหว่ VMSCAPE ที่ค้นพบโดย ETH Zurich ➡️ เป็นการโจมตีแบบ Spectre-BTI ที่ใช้ branch predictor เพื่อขโมยข้อมูล ➡️ ไม่ต้องแก้ไข host software ก็สามารถเจาะข้อมูลได้ ➡️ ส่งผลกระทบต่อระบบที่ใช้ KVM/QEMU บน AMD Zen 1–5 และ Intel Coffee Lake ✅ การลงทะเบียนและการตอบสนอง ➡️ ช่องโหว่นี้ได้รับรหัส CVE-2025-40300 ➡️ AMD และ Intel เตรียมออกเอกสารและแพตช์เพื่อแก้ไข ➡️ Linux community เตรียมออก mitigation พร้อมกับการเปิดเผยช่องโหว่ ✅ วิธีแก้ไขที่เสนอโดยนักวิจัย ➡️ ใช้ IBPB เพื่อ flush branch predictor ทุกครั้งที่ VMEXIT ➡️ ทดสอบแล้วพบว่าไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพ ➡️ เป็นวิธีที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในระบบคลาวด์ ✅ ความหมายต่อวงการคลาวด์และความปลอดภัย ➡️ แสดงให้เห็นว่า VM isolation ยังไม่ปลอดภัยพอ ➡️ การป้องกัน Spectre ที่มีอยู่ยังไม่ครอบคลุมทุกกรณี ➡️ จำเป็นต้องมีการปรับปรุงระบบความปลอดภัยในระดับสถาปัตยกรรม https://www.techradar.com/pro/security/new-spectre-based-cpu-vulnerability-allows-guests-to-steal-sensitive-data-from-the-cloud
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก OCTOPUS ถึง SCUP-HPC: เมื่อซูเปอร์คอมพิวเตอร์กลายเป็นผู้บันทึกความจริงของงานวิจัย

    มหาวิทยาลัยโอซาก้า D3 Center ร่วมกับ NEC เปิดตัว OCTOPUS (Osaka University Compute and sTOrage Platform Urging open Science) ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีพลังการประมวลผล 2.293 petaflops โดยใช้ 140 โหนดของ NEC LX201Ein-1 ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานวิจัยแบบเปิด (Open Science)

    จุดเด่นของ OCTOPUS ไม่ใช่แค่ความเร็ว แต่คือระบบ “provenance management” ที่สามารถบันทึกและติดตามกระบวนการคำนวณทั้งหมด เช่น ข้อมูลใดถูกใช้ โปรแกรมใดเรียกใช้ และผลลัพธ์ใดถูกสร้างขึ้น โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ

    เทคโนโลยีนี้ชื่อว่า SCUP-HPC (Scientific Computing Unifying Provenance – High Performance Computing) ซึ่งพัฒนาโดยทีมของ Susumu Date จากห้องวิจัยร่วมระหว่าง NEC และมหาวิทยาลัยโอซาก้า โดยเริ่มต้นในปี 2021

    SCUP-HPC ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาประวัติการคำนวณด้วย ID เฉพาะ และแสดงผลแบบ visualization ได้ ทำให้นักวิจัยสามารถใส่รหัสประวัติการคำนวณในบทความวิชาการ เพื่อยืนยันว่าใช้ OCTOPUS จริงในการสร้างผลลัพธ์

    ระบบนี้ยังช่วยแก้ปัญหาการบันทึกข้อมูลด้วยมือที่อาจผิดพลาดหรือไม่ครบถ้วน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในงานวิจัยที่ต้องการความโปร่งใสและตรวจสอบได้ โดยเฉพาะในยุคที่ AI และ Big Data กลายเป็นเครื่องมือหลักของนักวิทยาศาสตร์

    NEC ยังมีแผนจะนำ SCUP-HPC ไปใช้เชิงพาณิชย์ในอนาคต และจะขยายแพลตฟอร์มนี้ไปสู่การใช้งานในอุตสาหกรรมและงานวิจัยด้าน AI อย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้แนวคิด “NEC BluStellar” ที่เน้นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลเพื่อการวิจัย

    การเปิดตัว OCTOPUS โดยมหาวิทยาลัยโอซาก้าและ NEC
    เริ่มทดลองใช้งานในเดือนกันยายน และเปิดใช้งานเต็มรูปแบบในเดือนธันวาคม 2025
    ใช้ 140 โหนดของ NEC LX201Ein-1 มีพลังการประมวลผล 2.293 petaflops
    ประสิทธิภาพสูงกว่าระบบเดิมประมาณ 1.5 เท่า

    เทคโนโลยี SCUP-HPC สำหรับการจัดการ provenance
    บันทึกว่าโปรแกรมใดใช้ข้อมูลใด และสร้างผลลัพธ์อะไร
    แสดงผลแบบ visualization และค้นหาด้วย history ID
    ช่วยให้นักวิจัยใส่รหัสการคำนวณในบทความเพื่อยืนยันความถูกต้อง

    เป้าหมายของระบบนี้
    ส่งเสริม Open Science โดยให้ข้อมูลวิจัยสามารถตรวจสอบและแบ่งปันได้
    ลดความผิดพลาดจากการบันทึกด้วยมือ
    เพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของงานวิจัย

    แผนการขยายในอนาคต
    NEC เตรียมนำ SCUP-HPC ไปใช้เชิงพาณิชย์
    ขยายไปสู่การใช้งานในอุตสาหกรรมและงานวิจัยด้าน AI/Big Data
    อยู่ภายใต้แนวคิด NEC BluStellar เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลวิจัย

    https://www.techpowerup.com/340936/nec-provides-computing-power-for-octopus-supercomputer-at-osaka-university
    🎙️ เรื่องเล่าจาก OCTOPUS ถึง SCUP-HPC: เมื่อซูเปอร์คอมพิวเตอร์กลายเป็นผู้บันทึกความจริงของงานวิจัย มหาวิทยาลัยโอซาก้า D3 Center ร่วมกับ NEC เปิดตัว OCTOPUS (Osaka University Compute and sTOrage Platform Urging open Science) ซึ่งเป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีพลังการประมวลผล 2.293 petaflops โดยใช้ 140 โหนดของ NEC LX201Ein-1 ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานวิจัยแบบเปิด (Open Science) จุดเด่นของ OCTOPUS ไม่ใช่แค่ความเร็ว แต่คือระบบ “provenance management” ที่สามารถบันทึกและติดตามกระบวนการคำนวณทั้งหมด เช่น ข้อมูลใดถูกใช้ โปรแกรมใดเรียกใช้ และผลลัพธ์ใดถูกสร้างขึ้น โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของระบบ เทคโนโลยีนี้ชื่อว่า SCUP-HPC (Scientific Computing Unifying Provenance – High Performance Computing) ซึ่งพัฒนาโดยทีมของ Susumu Date จากห้องวิจัยร่วมระหว่าง NEC และมหาวิทยาลัยโอซาก้า โดยเริ่มต้นในปี 2021 SCUP-HPC ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาประวัติการคำนวณด้วย ID เฉพาะ และแสดงผลแบบ visualization ได้ ทำให้นักวิจัยสามารถใส่รหัสประวัติการคำนวณในบทความวิชาการ เพื่อยืนยันว่าใช้ OCTOPUS จริงในการสร้างผลลัพธ์ ระบบนี้ยังช่วยแก้ปัญหาการบันทึกข้อมูลด้วยมือที่อาจผิดพลาดหรือไม่ครบถ้วน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ในงานวิจัยที่ต้องการความโปร่งใสและตรวจสอบได้ โดยเฉพาะในยุคที่ AI และ Big Data กลายเป็นเครื่องมือหลักของนักวิทยาศาสตร์ NEC ยังมีแผนจะนำ SCUP-HPC ไปใช้เชิงพาณิชย์ในอนาคต และจะขยายแพลตฟอร์มนี้ไปสู่การใช้งานในอุตสาหกรรมและงานวิจัยด้าน AI อย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้แนวคิด “NEC BluStellar” ที่เน้นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลเพื่อการวิจัย ✅ การเปิดตัว OCTOPUS โดยมหาวิทยาลัยโอซาก้าและ NEC ➡️ เริ่มทดลองใช้งานในเดือนกันยายน และเปิดใช้งานเต็มรูปแบบในเดือนธันวาคม 2025 ➡️ ใช้ 140 โหนดของ NEC LX201Ein-1 มีพลังการประมวลผล 2.293 petaflops ➡️ ประสิทธิภาพสูงกว่าระบบเดิมประมาณ 1.5 เท่า ✅ เทคโนโลยี SCUP-HPC สำหรับการจัดการ provenance ➡️ บันทึกว่าโปรแกรมใดใช้ข้อมูลใด และสร้างผลลัพธ์อะไร ➡️ แสดงผลแบบ visualization และค้นหาด้วย history ID ➡️ ช่วยให้นักวิจัยใส่รหัสการคำนวณในบทความเพื่อยืนยันความถูกต้อง ✅ เป้าหมายของระบบนี้ ➡️ ส่งเสริม Open Science โดยให้ข้อมูลวิจัยสามารถตรวจสอบและแบ่งปันได้ ➡️ ลดความผิดพลาดจากการบันทึกด้วยมือ ➡️ เพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของงานวิจัย ✅ แผนการขยายในอนาคต ➡️ NEC เตรียมนำ SCUP-HPC ไปใช้เชิงพาณิชย์ ➡️ ขยายไปสู่การใช้งานในอุตสาหกรรมและงานวิจัยด้าน AI/Big Data ➡️ อยู่ภายใต้แนวคิด NEC BluStellar เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลวิจัย https://www.techpowerup.com/340936/nec-provides-computing-power-for-octopus-supercomputer-at-osaka-university
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    NEC Provides Computing Power for OCTOPUS Supercomputer at Osaka University
    The University of Osaka D3 Center will begin trial operations of the "Osaka University Compute and sTOrage Platform Urging open Science" (OCTOPUS), a computational and data platform promoting open science built by NEC Corporation (NEC; TSE: 6701), starting this September, with full-scale operations ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากแบตเตอรี่ 5,220mAh สู่ 8,000mAh: เมื่อเกมเมอร์ไม่รอให้ Nintendo แก้ปัญหาแบตหมดเร็ว

    แม้ Nintendo Switch 2 จะเปิดตัวพร้อมหน้าจอ 7.9 นิ้ว 120Hz LCD และ Joy-Con ที่แข็งแรงขึ้น แต่ปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ยังคงเป็นจุดอ่อน โดยเฉพาะเมื่อเล่นเกมหนัก ๆ อย่าง Cyberpunk 2077 ที่กินพลังงานสูงมาก

    นักโมดิฟายชื่อ naga ได้โพสต์วิดีโอบน YouTube แสดงขั้นตอนการเปลี่ยนแบตเตอรี่จากรุ่นมาตรฐาน 5,220mAh เป็นรุ่นใหญ่ 8,000mAh โดยใช้แบตที่หาซื้อได้จาก Goofish ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของ Alibaba ในราคาต่ำกว่า $40

    ขั้นตอนการเปลี่ยนแบตต้องถอดฝาหลัง, แผ่นโลหะ, และใช้แอลกอฮอล์ละลายกาวใต้แบต ก่อนจะใส่แบตใหม่ที่ใหญ่กว่า ซึ่งต้องตัดแต่งโครงโลหะและแผ่นป้องกันเพื่อให้พอดี

    ผลการทดสอบพบว่า Cyberpunk 2077 ที่รันที่ 40Hz เล่นได้นานขึ้นจาก 2 ชั่วโมง 18 นาที เป็น 3 ชั่วโมง 25 นาที—เพิ่มขึ้นกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับเกมที่กินแบตหนัก

    นอกจากนี้ยังมีทางเลือกอื่น เช่น Ice Mag battery pack ขนาด 10,000mAh ที่ใช้ภายนอกร่วมกับเคส Genki Attack Vector ซึ่งสามารถเพิ่มเวลาเล่นได้ถึง 5 ชั่วโมง โดยไม่ต้องแกะเครื่องเลย

    การเปลี่ยนแบตเตอรี่ภายใน Switch 2
    เปลี่ยนจากแบต 5,220mAh เป็น 8,000mAh ด้วยแบตจาก Goofish ราคาต่ำกว่า $40
    ต้องถอดฝาหลัง ใช้แอลกอฮอล์ละลายกาว และตัดแต่งโครงโลหะ
    Cyberpunk 2077 เล่นได้นานขึ้นกว่า 1 ชั่วโมงหลังเปลี่ยนแบต

    ทางเลือกเสริมจากภายนอก
    Ice Mag battery pack ขนาด 10,000mAh เพิ่มเวลาเล่นได้ถึง 5 ชั่วโมง
    ใช้ร่วมกับเคส Genki Attack Vector ที่รองรับ MagSafe และปรับขนาดได้
    ไม่ต้องแกะเครื่องหรือ void warranty

    สเปกของ Switch 2 ที่เกี่ยวข้องกับแบต
    หน้าจอ 7.9 นิ้ว 120Hz LCD ใช้พลังงานมากกว่ารุ่นก่อน
    Joy-Con ใหม่แข็งแรงขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องประหยัดพลังงาน
    Nintendo เคลมว่าแบตใหญ่ขึ้น แต่ผลทดสอบยังไม่ประทับใจ

    https://www.tomshardware.com/video-games/nintendo/nintendo-switch-2-mod-adds-over-an-hour-of-playtime-with-bigger-8-000mah-battery-unit-replacement-battery-packs-sell-for-as-little-as-usd40
    🎙️ เรื่องเล่าจากแบตเตอรี่ 5,220mAh สู่ 8,000mAh: เมื่อเกมเมอร์ไม่รอให้ Nintendo แก้ปัญหาแบตหมดเร็ว แม้ Nintendo Switch 2 จะเปิดตัวพร้อมหน้าจอ 7.9 นิ้ว 120Hz LCD และ Joy-Con ที่แข็งแรงขึ้น แต่ปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ยังคงเป็นจุดอ่อน โดยเฉพาะเมื่อเล่นเกมหนัก ๆ อย่าง Cyberpunk 2077 ที่กินพลังงานสูงมาก นักโมดิฟายชื่อ naga ได้โพสต์วิดีโอบน YouTube แสดงขั้นตอนการเปลี่ยนแบตเตอรี่จากรุ่นมาตรฐาน 5,220mAh เป็นรุ่นใหญ่ 8,000mAh โดยใช้แบตที่หาซื้อได้จาก Goofish ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของ Alibaba ในราคาต่ำกว่า $40 ขั้นตอนการเปลี่ยนแบตต้องถอดฝาหลัง, แผ่นโลหะ, และใช้แอลกอฮอล์ละลายกาวใต้แบต ก่อนจะใส่แบตใหม่ที่ใหญ่กว่า ซึ่งต้องตัดแต่งโครงโลหะและแผ่นป้องกันเพื่อให้พอดี ผลการทดสอบพบว่า Cyberpunk 2077 ที่รันที่ 40Hz เล่นได้นานขึ้นจาก 2 ชั่วโมง 18 นาที เป็น 3 ชั่วโมง 25 นาที—เพิ่มขึ้นกว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับเกมที่กินแบตหนัก นอกจากนี้ยังมีทางเลือกอื่น เช่น Ice Mag battery pack ขนาด 10,000mAh ที่ใช้ภายนอกร่วมกับเคส Genki Attack Vector ซึ่งสามารถเพิ่มเวลาเล่นได้ถึง 5 ชั่วโมง โดยไม่ต้องแกะเครื่องเลย ✅ การเปลี่ยนแบตเตอรี่ภายใน Switch 2 ➡️ เปลี่ยนจากแบต 5,220mAh เป็น 8,000mAh ด้วยแบตจาก Goofish ราคาต่ำกว่า $40 ➡️ ต้องถอดฝาหลัง ใช้แอลกอฮอล์ละลายกาว และตัดแต่งโครงโลหะ ➡️ Cyberpunk 2077 เล่นได้นานขึ้นกว่า 1 ชั่วโมงหลังเปลี่ยนแบต ✅ ทางเลือกเสริมจากภายนอก ➡️ Ice Mag battery pack ขนาด 10,000mAh เพิ่มเวลาเล่นได้ถึง 5 ชั่วโมง ➡️ ใช้ร่วมกับเคส Genki Attack Vector ที่รองรับ MagSafe และปรับขนาดได้ ➡️ ไม่ต้องแกะเครื่องหรือ void warranty ✅ สเปกของ Switch 2 ที่เกี่ยวข้องกับแบต ➡️ หน้าจอ 7.9 นิ้ว 120Hz LCD ใช้พลังงานมากกว่ารุ่นก่อน ➡️ Joy-Con ใหม่แข็งแรงขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องประหยัดพลังงาน ➡️ Nintendo เคลมว่าแบตใหญ่ขึ้น แต่ผลทดสอบยังไม่ประทับใจ https://www.tomshardware.com/video-games/nintendo/nintendo-switch-2-mod-adds-over-an-hour-of-playtime-with-bigger-8-000mah-battery-unit-replacement-battery-packs-sell-for-as-little-as-usd40
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Nehalem ถึง Nova Lake: เมื่อผู้นำด้านสถาปัตยกรรมของ Xeon ตัดสินใจเดินออกจาก Intel

    Ronak Singhal ซึ่งอยู่กับ Intel มานานถึง 28 ปี และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการออกแบบ CPU ระดับตำนานอย่าง Nehalem, Haswell และ Broadwell ได้ลาออกจากตำแหน่ง Chief Architect ของ Xeon หลังจากรับตำแหน่งได้เพียง 8 เดือน โดยเขาเป็นคนที่สองที่รับตำแหน่งนี้ต่อจาก Sailesh Kottapalli ซึ่งก็ลาออกไปก่อนหน้านี้เพื่อร่วมทีมเซิร์ฟเวอร์ของ Qualcomm

    การลาออกของ Singhal เกิดขึ้นในช่วงที่ Intel กำลังปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดย CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan ได้แต่งตั้ง Kevork Kechichian อดีตผู้บริหารจาก Arm ให้เป็นหัวหน้ากลุ่ม Data Center Group (DCG) เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงและเน้นการพัฒนา CPU เป็นแกนหลักของธุรกิจศูนย์ข้อมูล

    Singhal เคยดูแลทั้งแผนกลยุทธ์ Xeon, การออกแบบแพลตฟอร์ม, ระบบหน่วยความจำ, ความปลอดภัย และการเร่ง AI ซึ่งถือว่าเป็นบทบาทที่ครอบคลุมมากกว่าการออกแบบชิปทั่วไป และเขายังถือสิทธิบัตรกว่า 30 ฉบับเกี่ยวกับสถาปัตยกรรม CPU

    การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงแรงสั่นสะเทือนในทีม Data Center ของ Intel ที่มีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารหลายคนในเวลาไม่ถึงปี เช่น Justin Hotard ที่ลาออกไปเป็น CEO ของ Nokia และ Sandra Rivera ที่ย้ายไปเป็น CEO ของ Altera ซึ่งถูกแยกออกจาก Intel ในปี 2024

    การลาออกของ Ronak Singhal
    ลาออกหลังรับตำแหน่ง Chief Architect ของ Xeon ได้เพียง 8 เดือน
    เป็นผู้นำด้านสถาปัตยกรรมที่อยู่กับ Intel มานาน 28 ปี
    เคยดูแล Nehalem, Haswell, Broadwell และระบบ AI acceleration

    การปรับโครงสร้างองค์กรของ Intel
    CEO Lip-Bu Tan เร่งปรับโครงสร้างเพื่อเน้น CPU เป็นแกนหลัก
    แต่งตั้ง Kevork Kechichian จาก Arm เป็นหัวหน้า DCG
    ย้ายทีม accelerator ไปอยู่ภายใต้การดูแลของ Sachin Katti

    การเปลี่ยนแปลงในทีม Data Center
    Sailesh Kottapalli ลาออกไปอยู่กับ Qualcomm
    Justin Hotard ลาออกไปเป็น CEO ของ Nokia
    Sandra Rivera ย้ายไปเป็น CEO ของ Altera ที่ถูก spin-off

    บทบาทของ Singhal ที่มีผลต่อ Intel
    ดูแลกลยุทธ์ Xeon และการออกแบบแพลตฟอร์มระดับองค์กร
    มีสิทธิบัตรกว่า 30 ฉบับเกี่ยวกับ CPU architecture
    เป็นสถาปนิกที่ครอบคลุมทั้งด้าน core, memory, security และ AI

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-xeon-chief-architect-leaves-just-8-months-after-appointment-ronak-singhal-latest-departure-in-ongoing-shakeup
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Nehalem ถึง Nova Lake: เมื่อผู้นำด้านสถาปัตยกรรมของ Xeon ตัดสินใจเดินออกจาก Intel Ronak Singhal ซึ่งอยู่กับ Intel มานานถึง 28 ปี และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการออกแบบ CPU ระดับตำนานอย่าง Nehalem, Haswell และ Broadwell ได้ลาออกจากตำแหน่ง Chief Architect ของ Xeon หลังจากรับตำแหน่งได้เพียง 8 เดือน โดยเขาเป็นคนที่สองที่รับตำแหน่งนี้ต่อจาก Sailesh Kottapalli ซึ่งก็ลาออกไปก่อนหน้านี้เพื่อร่วมทีมเซิร์ฟเวอร์ของ Qualcomm การลาออกของ Singhal เกิดขึ้นในช่วงที่ Intel กำลังปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดย CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan ได้แต่งตั้ง Kevork Kechichian อดีตผู้บริหารจาก Arm ให้เป็นหัวหน้ากลุ่ม Data Center Group (DCG) เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงและเน้นการพัฒนา CPU เป็นแกนหลักของธุรกิจศูนย์ข้อมูล Singhal เคยดูแลทั้งแผนกลยุทธ์ Xeon, การออกแบบแพลตฟอร์ม, ระบบหน่วยความจำ, ความปลอดภัย และการเร่ง AI ซึ่งถือว่าเป็นบทบาทที่ครอบคลุมมากกว่าการออกแบบชิปทั่วไป และเขายังถือสิทธิบัตรกว่า 30 ฉบับเกี่ยวกับสถาปัตยกรรม CPU การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงแรงสั่นสะเทือนในทีม Data Center ของ Intel ที่มีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารหลายคนในเวลาไม่ถึงปี เช่น Justin Hotard ที่ลาออกไปเป็น CEO ของ Nokia และ Sandra Rivera ที่ย้ายไปเป็น CEO ของ Altera ซึ่งถูกแยกออกจาก Intel ในปี 2024 ✅ การลาออกของ Ronak Singhal ➡️ ลาออกหลังรับตำแหน่ง Chief Architect ของ Xeon ได้เพียง 8 เดือน ➡️ เป็นผู้นำด้านสถาปัตยกรรมที่อยู่กับ Intel มานาน 28 ปี ➡️ เคยดูแล Nehalem, Haswell, Broadwell และระบบ AI acceleration ✅ การปรับโครงสร้างองค์กรของ Intel ➡️ CEO Lip-Bu Tan เร่งปรับโครงสร้างเพื่อเน้น CPU เป็นแกนหลัก ➡️ แต่งตั้ง Kevork Kechichian จาก Arm เป็นหัวหน้า DCG ➡️ ย้ายทีม accelerator ไปอยู่ภายใต้การดูแลของ Sachin Katti ✅ การเปลี่ยนแปลงในทีม Data Center ➡️ Sailesh Kottapalli ลาออกไปอยู่กับ Qualcomm ➡️ Justin Hotard ลาออกไปเป็น CEO ของ Nokia ➡️ Sandra Rivera ย้ายไปเป็น CEO ของ Altera ที่ถูก spin-off ✅ บทบาทของ Singhal ที่มีผลต่อ Intel ➡️ ดูแลกลยุทธ์ Xeon และการออกแบบแพลตฟอร์มระดับองค์กร ➡️ มีสิทธิบัตรกว่า 30 ฉบับเกี่ยวกับ CPU architecture ➡️ เป็นสถาปนิกที่ครอบคลุมทั้งด้าน core, memory, security และ AI https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-xeon-chief-architect-leaves-just-8-months-after-appointment-ronak-singhal-latest-departure-in-ongoing-shakeup
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปากท้องพ่อค้า สำคัญกว่า แผ่นดิน : Sondhitalk EP310 - 120968 (Full)
    -ปากท้องพ่อค้า สำคัญกว่า แผ่นดิน
    -“ทักษิณ’” ติดคุก
    -“วีระ" ล้างบาง ป.ป.ช.
    -ศึกสายเลือด "ดุสิตธานี"

    สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube
    • ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk

    https://www.youtube.com/watch?v=cvL-If1ajKk
    ปากท้องพ่อค้า สำคัญกว่า แผ่นดิน : Sondhitalk EP310 - 120968 (Full) -ปากท้องพ่อค้า สำคัญกว่า แผ่นดิน -“ทักษิณ’” ติดคุก -“วีระ" ล้างบาง ป.ป.ช. -ศึกสายเลือด "ดุสิตธานี" สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube • ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk https://www.youtube.com/watch?v=cvL-If1ajKk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 1 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Siri ถึง Symphony of AI: เมื่ออุปกรณ์รอบตัวกลายเป็นผู้ช่วยที่รู้ใจยิ่งกว่าสมาร์ตโฟน

    ในขณะที่ Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ที่บางลงเพียงเล็กน้อย โลกเทคโนโลยีกำลังมองไปไกลกว่านั้น—ไปยังยุคที่สมาร์ตโฟนอาจกลายเป็นอุปกรณ์รอง เพราะผู้ช่วย AI จะกลายเป็นศูนย์กลางของการคำนวณส่วนบุคคล

    ผู้บริหารจากบริษัทใหญ่ เช่น Meta, Google, Amazon, Qualcomm และ Nothing ต่างเห็นตรงกันว่าอุปกรณ์สวมใส่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะเข้ามาแทนที่การใช้งานแบบเดิม ไม่ว่าจะเป็นแว่นตาอัจฉริยะที่เข้าใจสิ่งที่เรามองเห็น, นาฬิกาที่จัดการชีวิตให้เรา, หรือจี้ติดเสื้อที่บันทึกบทสนทนาและให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์

    Meta ได้พัฒนา Ray-Ban Meta ที่มีผู้ช่วย AI ในตัว และเตรียมเปิดตัว Orion แว่นตาที่มีหน้าจอในเฟรม ส่วน Google ก็มีต้นแบบแว่นตาที่ใช้ Gemini เป็นผู้ช่วย AI

    Amazon มองว่า “Ambient Computing” จะกลายเป็นสิ่งสำคัญ—อุปกรณ์ที่อยู่รอบตัว เช่น ลำโพงและจอภาพ จะทำงานร่วมกับ AI เพื่อให้เราทำสิ่งต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

    Carl Pei จาก Nothing เชื่อว่า “นาฬิกาอัจฉริยะยุคใหม่” จะกลายเป็นศูนย์กลางของ AI ที่รู้จักพฤติกรรมของผู้ใช้และจัดการชีวิตให้โดยอัตโนมัติ

    Limitless AI พัฒนา “AI Pendant” ที่บันทึกเสียงและให้คำแนะนำเพื่อช่วยให้เราจำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น และแม้แต่ช่วยให้เป็นพ่อแม่ที่ดีขึ้น โดยอิงจากบทสนทนาในชีวิตจริง

    แนวโน้มการเปลี่ยนผ่านจากสมาร์ตโฟน
    ผู้ช่วย AI จะกลายเป็นระบบปฏิบัติการหลักของอุปกรณ์ส่วนบุคคล
    การใช้งานแอปและเมนูจะถูกแทนที่ด้วยการสั่งงานผ่านเสียงและบริบท

    อุปกรณ์ใหม่ที่กำลังมาแทนสมาร์ตโฟน
    แว่นตาอัจฉริยะ: Ray-Ban Meta, Orion, Google Gemini Glasses
    Ambient Computing: ลำโพงและจอภาพที่ทำงานร่วมกับ AI เช่น Alexa+
    นาฬิกาอัจฉริยะยุคใหม่: จัดการชีวิตและงานโดยอัตโนมัติ
    AI Recorder: Limitless Pendant ที่บันทึกเสียงและให้คำแนะนำ

    เทคโนโลยีเบื้องหลัง
    LongCat และ Gemini: โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนผู้ช่วย AI
    Mixture-of-Experts (MoE): เปิดใช้งานเฉพาะส่วนที่จำเป็นเพื่อประหยัดพลังงาน
    การเชื่อมโยงอุปกรณ์หลายชิ้นเป็น “Symphony of AI” ที่ทำงานร่วมกัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/13/ai-could-make-the-smartphone-passe-what-comes-next
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Siri ถึง Symphony of AI: เมื่ออุปกรณ์รอบตัวกลายเป็นผู้ช่วยที่รู้ใจยิ่งกว่าสมาร์ตโฟน ในขณะที่ Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ที่บางลงเพียงเล็กน้อย โลกเทคโนโลยีกำลังมองไปไกลกว่านั้น—ไปยังยุคที่สมาร์ตโฟนอาจกลายเป็นอุปกรณ์รอง เพราะผู้ช่วย AI จะกลายเป็นศูนย์กลางของการคำนวณส่วนบุคคล ผู้บริหารจากบริษัทใหญ่ เช่น Meta, Google, Amazon, Qualcomm และ Nothing ต่างเห็นตรงกันว่าอุปกรณ์สวมใส่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะเข้ามาแทนที่การใช้งานแบบเดิม ไม่ว่าจะเป็นแว่นตาอัจฉริยะที่เข้าใจสิ่งที่เรามองเห็น, นาฬิกาที่จัดการชีวิตให้เรา, หรือจี้ติดเสื้อที่บันทึกบทสนทนาและให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์ Meta ได้พัฒนา Ray-Ban Meta ที่มีผู้ช่วย AI ในตัว และเตรียมเปิดตัว Orion แว่นตาที่มีหน้าจอในเฟรม ส่วน Google ก็มีต้นแบบแว่นตาที่ใช้ Gemini เป็นผู้ช่วย AI Amazon มองว่า “Ambient Computing” จะกลายเป็นสิ่งสำคัญ—อุปกรณ์ที่อยู่รอบตัว เช่น ลำโพงและจอภาพ จะทำงานร่วมกับ AI เพื่อให้เราทำสิ่งต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา Carl Pei จาก Nothing เชื่อว่า “นาฬิกาอัจฉริยะยุคใหม่” จะกลายเป็นศูนย์กลางของ AI ที่รู้จักพฤติกรรมของผู้ใช้และจัดการชีวิตให้โดยอัตโนมัติ Limitless AI พัฒนา “AI Pendant” ที่บันทึกเสียงและให้คำแนะนำเพื่อช่วยให้เราจำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น และแม้แต่ช่วยให้เป็นพ่อแม่ที่ดีขึ้น โดยอิงจากบทสนทนาในชีวิตจริง ✅ แนวโน้มการเปลี่ยนผ่านจากสมาร์ตโฟน ➡️ ผู้ช่วย AI จะกลายเป็นระบบปฏิบัติการหลักของอุปกรณ์ส่วนบุคคล ➡️ การใช้งานแอปและเมนูจะถูกแทนที่ด้วยการสั่งงานผ่านเสียงและบริบท ✅ อุปกรณ์ใหม่ที่กำลังมาแทนสมาร์ตโฟน ➡️ แว่นตาอัจฉริยะ: Ray-Ban Meta, Orion, Google Gemini Glasses ➡️ Ambient Computing: ลำโพงและจอภาพที่ทำงานร่วมกับ AI เช่น Alexa+ ➡️ นาฬิกาอัจฉริยะยุคใหม่: จัดการชีวิตและงานโดยอัตโนมัติ ➡️ AI Recorder: Limitless Pendant ที่บันทึกเสียงและให้คำแนะนำ ✅ เทคโนโลยีเบื้องหลัง ➡️ LongCat และ Gemini: โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนผู้ช่วย AI ➡️ Mixture-of-Experts (MoE): เปิดใช้งานเฉพาะส่วนที่จำเป็นเพื่อประหยัดพลังงาน ➡️ การเชื่อมโยงอุปกรณ์หลายชิ้นเป็น “Symphony of AI” ที่ทำงานร่วมกัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/13/ai-could-make-the-smartphone-passe-what-comes-next
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI could make the smartphone passe. What comes next?
    Modern artificially intelligent assistants, which are far more capable and flexible than clunky voice helpers like Siri, are poised to become the central operating system of all our personal computing devices, superseding smartphone software in importance.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากปลอกเท้าเด็กถึงหม้ออบอัจฉริยะ: เมื่อแกดเจ็ตเล็ก ๆ กลายเป็นฮีโร่ของชีวิตประจำวัน

    ในยุคที่เทคโนโลยีถูกพูดถึงแต่เรื่อง AI, สมาร์ตโฟนเรือธง หรือหุ่นยนต์สุดล้ำ มีอุปกรณ์อีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ขึ้นพาดหัวข่าว แต่กลับได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ใช้จริงอย่างต่อเนื่อง เพราะมันช่วยแก้ปัญหาเล็ก ๆ ที่เราพบทุกวัน

    อุปกรณ์อัจฉริยะที่ถูกมองข้ามแต่มีประโยชน์จริง
    Rabbit Air A3: ฟอกอากาศพร้อมรายงานคุณภาพแบบเรียลไทม์
    Petcube GPS Tracker: ติดตามสัตว์เลี้ยงแบบเรียลไทม์ พร้อมโหมด Lost Dog
    KeySmart SmartCard: ขนาดเท่าบัตรเครดิต ใช้ Find My และชาร์จไร้สาย
    Tovala Smart Oven: สแกน QR code ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ
    Petkit Eversweet: น้ำพุสัตว์เลี้ยงพร้อม motion sensor และแจ้งเตือน
    Yoto Player: เครื่องเล่นหนังสือเสียงสำหรับเด็ก ไม่มีหน้าจอ
    Skylight Frame: กรอบรูปดิจิทัลที่รับภาพจากแอป
    Owlet Dream Sock: วัดชีพจรและออกซิเจนของทารก
    Oral B iO: แปรงสีฟันอัจฉริยะพร้อมเซนเซอร์แรงกด
    Smart Nora: อุปกรณ์ลดการกรนแบบไม่รบกวนการนอน
    X-Sense Smoke Detector: แจ้งเตือนผ่านมือถือ แยกแยะควันจากอาหาร
    Dyson Co-anda2x: เครื่องจัดแต่งผมอัจฉริยะพร้อม RFID และโปรไฟล์ผู้ใช้
    Itigoitie Smart Pot: กระถางต้นไม้ที่แจ้งเตือนความต้องการของพืช

    https://www.slashgear.com/1959415/overlooked-smart-gadgets-users-say-worth-trying/
    🎙️ เรื่องเล่าจากปลอกเท้าเด็กถึงหม้ออบอัจฉริยะ: เมื่อแกดเจ็ตเล็ก ๆ กลายเป็นฮีโร่ของชีวิตประจำวัน ในยุคที่เทคโนโลยีถูกพูดถึงแต่เรื่อง AI, สมาร์ตโฟนเรือธง หรือหุ่นยนต์สุดล้ำ มีอุปกรณ์อีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ขึ้นพาดหัวข่าว แต่กลับได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ใช้จริงอย่างต่อเนื่อง เพราะมันช่วยแก้ปัญหาเล็ก ๆ ที่เราพบทุกวัน ✅ อุปกรณ์อัจฉริยะที่ถูกมองข้ามแต่มีประโยชน์จริง ➡️ Rabbit Air A3: ฟอกอากาศพร้อมรายงานคุณภาพแบบเรียลไทม์ ➡️ Petcube GPS Tracker: ติดตามสัตว์เลี้ยงแบบเรียลไทม์ พร้อมโหมด Lost Dog ➡️ KeySmart SmartCard: ขนาดเท่าบัตรเครดิต ใช้ Find My และชาร์จไร้สาย ➡️ Tovala Smart Oven: สแกน QR code ปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ ➡️ Petkit Eversweet: น้ำพุสัตว์เลี้ยงพร้อม motion sensor และแจ้งเตือน ➡️ Yoto Player: เครื่องเล่นหนังสือเสียงสำหรับเด็ก ไม่มีหน้าจอ ➡️ Skylight Frame: กรอบรูปดิจิทัลที่รับภาพจากแอป ➡️ Owlet Dream Sock: วัดชีพจรและออกซิเจนของทารก ➡️ Oral B iO: แปรงสีฟันอัจฉริยะพร้อมเซนเซอร์แรงกด ➡️ Smart Nora: อุปกรณ์ลดการกรนแบบไม่รบกวนการนอน ➡️ X-Sense Smoke Detector: แจ้งเตือนผ่านมือถือ แยกแยะควันจากอาหาร ➡️ Dyson Co-anda2x: เครื่องจัดแต่งผมอัจฉริยะพร้อม RFID และโปรไฟล์ผู้ใช้ ➡️ Itigoitie Smart Pot: กระถางต้นไม้ที่แจ้งเตือนความต้องการของพืช https://www.slashgear.com/1959415/overlooked-smart-gadgets-users-say-worth-trying/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    13 Overlooked Smart Gadgets Users Say Are Worth Trying For Yourself - SlashGear
    These underrated smart gadgets may seem quirky, but users say they quietly solve daily hassles and prove more useful than their flashy tech counterparts.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากฝุ่นในกระเป๋าถึงปืนกาวร้อน: เมื่อการทำความสะอาดพอร์ต USB กลายเป็นเรื่องที่ต้องคิดให้ดี

    นยุคที่มือถือกลายเป็นอวัยวะที่ 33 ของมนุษย์ การดูแลรักษาอุปกรณ์ให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ “ช่องชาร์จ” หรือ USB port ที่มักจะเต็มไปด้วยฝุ่น เส้นใยผ้า หรือเศษสิ่งสกปรกจากการพกพาในกระเป๋าและเสื้อผ้า ซึ่งอาจทำให้ชาร์จไม่เข้า หรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นไม่ได้

    ปัญหาคือช่อง USB มีขนาดเล็กและลึก ทำให้การทำความสะอาดไม่ใช่เรื่องง่าย บางคนจึงหันไปใช้วิธีสุดโต่ง เช่น “ปืนกาวร้อน” โดยยิงกาวลงไปในพอร์ต รอให้เย็น แล้วดึงออกพร้อมเศษฝุ่น ซึ่งดูเหมือนจะได้ผลในบางกรณี แต่จริง ๆ แล้วเสี่ยงต่อความเสียหายอย่างมาก

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ากาวร้อนอาจแทรกเข้าไปในวงจรภายใน ทำให้เกิดความเสียหายถาวร หรือทำให้พอร์ตไม่กันน้ำอีกต่อไป นอกจากนี้ หากกาวแห้งติดค้างในพอร์ต ก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่กว่าเดิม

    วิธีที่ปลอดภัยกว่าคือการใช้ “ลมอัด” หรือ compressed air โดยฉีดลมเข้าไปในพอร์ตด้วยแรงเบาและมุมเอียง เพื่อไล่ฝุ่นออกโดยไม่ทำให้ชิ้นส่วนภายในเสียหาย หรือใช้ “ไม้จิ้มฟันพลาสติกหรือไม้” ค่อย ๆ เขี่ยฝุ่นออกอย่างระมัดระวัง โดยไม่ใช้โลหะที่อาจทำให้วงจรลัด

    หากมีคราบเหนียวหรือฝุ่นฝังแน่น สามารถใช้สำลีพันปลายไม้จิ้มฟัน ชุบแอลกอฮอล์เล็กน้อย แล้วเช็ดเบา ๆ เพื่อทำความสะอาดเพิ่มเติม โดยต้องแน่ใจว่าอุปกรณ์ปิดอยู่และไม่มีความชื้นตกค้าง

    https://www.slashgear.com/1963657/can-you-use-hot-glue-to-clean-phone-usb-port/
    🎙️ เรื่องเล่าจากฝุ่นในกระเป๋าถึงปืนกาวร้อน: เมื่อการทำความสะอาดพอร์ต USB กลายเป็นเรื่องที่ต้องคิดให้ดี นยุคที่มือถือกลายเป็นอวัยวะที่ 33 ของมนุษย์ การดูแลรักษาอุปกรณ์ให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ “ช่องชาร์จ” หรือ USB port ที่มักจะเต็มไปด้วยฝุ่น เส้นใยผ้า หรือเศษสิ่งสกปรกจากการพกพาในกระเป๋าและเสื้อผ้า ซึ่งอาจทำให้ชาร์จไม่เข้า หรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นไม่ได้ ปัญหาคือช่อง USB มีขนาดเล็กและลึก ทำให้การทำความสะอาดไม่ใช่เรื่องง่าย บางคนจึงหันไปใช้วิธีสุดโต่ง เช่น “ปืนกาวร้อน” โดยยิงกาวลงไปในพอร์ต รอให้เย็น แล้วดึงออกพร้อมเศษฝุ่น ซึ่งดูเหมือนจะได้ผลในบางกรณี แต่จริง ๆ แล้วเสี่ยงต่อความเสียหายอย่างมาก ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ากาวร้อนอาจแทรกเข้าไปในวงจรภายใน ทำให้เกิดความเสียหายถาวร หรือทำให้พอร์ตไม่กันน้ำอีกต่อไป นอกจากนี้ หากกาวแห้งติดค้างในพอร์ต ก็จะกลายเป็นปัญหาใหญ่กว่าเดิม วิธีที่ปลอดภัยกว่าคือการใช้ “ลมอัด” หรือ compressed air โดยฉีดลมเข้าไปในพอร์ตด้วยแรงเบาและมุมเอียง เพื่อไล่ฝุ่นออกโดยไม่ทำให้ชิ้นส่วนภายในเสียหาย หรือใช้ “ไม้จิ้มฟันพลาสติกหรือไม้” ค่อย ๆ เขี่ยฝุ่นออกอย่างระมัดระวัง โดยไม่ใช้โลหะที่อาจทำให้วงจรลัด หากมีคราบเหนียวหรือฝุ่นฝังแน่น สามารถใช้สำลีพันปลายไม้จิ้มฟัน ชุบแอลกอฮอล์เล็กน้อย แล้วเช็ดเบา ๆ เพื่อทำความสะอาดเพิ่มเติม โดยต้องแน่ใจว่าอุปกรณ์ปิดอยู่และไม่มีความชื้นตกค้าง https://www.slashgear.com/1963657/can-you-use-hot-glue-to-clean-phone-usb-port/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Can You Really Use A Hot Glue Gun To Clean Out Your Phone's USB Port? - SlashGear
    If you've seen people on the web using a hot glue gun to clean their phone's ports, think twice before you try it yourself. It could lead to bigger issues.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุงเองก็สนับสนุนให้ใช้พลังงานนิวเคลียร์ครับ ไม่ว่าจะเป็น fission หรือ fusion

    เรื่องเล่าจากการฟ้องร้องของออสเตรียถึงชัยชนะของวิทยาศาสตร์: เมื่อศาลสูงสุดของยุโรปตัดสินว่า “นิวเคลียร์คือพลังงานสะอาด”

    ย้อนกลับไปในปี 2022 ออสเตรียได้ยื่นฟ้องต่อศาลสหภาพยุโรปเพื่อขอให้ยกเลิกการจัดให้นิวเคลียร์และก๊าซธรรมชาติเป็นพลังงานที่ “เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ตามกฎเกณฑ์ของ EU Taxonomy ซึ่งเป็นระบบที่ใช้กำหนดว่าโครงการใดสามารถรับเงินลงทุนในฐานะพลังงานสีเขียวได้

    ออสเตรียอ้างว่านิวเคลียร์มีความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องกากกัมมันตรังสี และก๊าซธรรมชาติปล่อย CO₂ ซึ่งขัดกับหลักการ “ไม่ก่อให้เกิดอันตรายอย่างมีนัยสำคัญ” ที่ควรใช้กับพลังงานสีเขียว

    แต่เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2025 ศาลสูงสุดของ EU ได้ตัดสินยกฟ้อง โดยระบุว่า “การผลิตพลังงานนิวเคลียร์ปล่อยก๊าซเรือนกระจกแทบไม่มีเลย” และ “ยังไม่มีเทคโนโลยีอื่นที่สามารถทดแทนได้ในระดับที่เพียงพอ” จึงถือว่าเป็นพลังงานที่สามารถช่วยลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้

    คำตัดสินนี้ไม่เพียงแต่ยืนยันสิทธิ์ของนิวเคลียร์ในการรับเงินลงทุนจากกองทุนสีเขียวของ EU แต่ยังส่งผลให้คดีอื่น ๆ เช่นของ Greenpeace มีแนวโน้มจะแพ้ตามไปด้วย

    แม้จะมีเสียงคัดค้านจากองค์กรสิ่งแวดล้อม เช่น Greenpeace ที่เรียกวันนี้ว่า “วันมืดมนของสภาพภูมิอากาศ” แต่หลายประเทศ เช่น ฝรั่งเศส โปแลนด์ และบัลแกเรีย กลับมองว่านี่คือโอกาสในการเร่งลงทุนในพลังงานที่มั่นคงและปลอดภัย

    คำตัดสินของศาลสูงสุด EU
    ยืนยันว่าพลังงานนิวเคลียร์และก๊าซธรรมชาติสามารถจัดเป็นพลังงานสีเขียว
    ปฏิเสธคำร้องของออสเตรียที่ขอให้ยกเลิกการจัดประเภทนี้
    ระบุว่านิวเคลียร์ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยมาก และยังไม่มีทางเลือกที่ดีกว่าในปัจจุบัน

    ผลกระทบต่อการลงทุนและนโยบาย
    เปิดทางให้โครงการนิวเคลียร์ได้รับเงินลงทุนจากกองทุนสีเขียวของ EU
    อาจยุติการชะงักงันของการลงทุนในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบดั้งเดิม
    ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น ข้อตกลงล่าสุดระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมนี

    การตอบสนองจากฝ่ายสนับสนุนและคัดค้าน
    Greenpeace เรียกคำตัดสินนี้ว่า “วันมืดมน” และเตือนว่าจะทำให้เงินไหลไปยังพลังงานที่ไม่ยั่งยืน
    ฝ่ายสนับสนุนชี้ว่านี่คือชัยชนะของวิทยาศาสตร์และความมั่นคงด้านพลังงาน
    ออสเตรียยังสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลชั้นสูงของ EU ได้

    https://www.weplanet.org/post/eu-court-rules-nuclear-energy-is-clean-energy
    ลุงเองก็สนับสนุนให้ใช้พลังงานนิวเคลียร์ครับ ไม่ว่าจะเป็น fission หรือ fusion 🎙️ เรื่องเล่าจากการฟ้องร้องของออสเตรียถึงชัยชนะของวิทยาศาสตร์: เมื่อศาลสูงสุดของยุโรปตัดสินว่า “นิวเคลียร์คือพลังงานสะอาด” ย้อนกลับไปในปี 2022 ออสเตรียได้ยื่นฟ้องต่อศาลสหภาพยุโรปเพื่อขอให้ยกเลิกการจัดให้นิวเคลียร์และก๊าซธรรมชาติเป็นพลังงานที่ “เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” ตามกฎเกณฑ์ของ EU Taxonomy ซึ่งเป็นระบบที่ใช้กำหนดว่าโครงการใดสามารถรับเงินลงทุนในฐานะพลังงานสีเขียวได้ ออสเตรียอ้างว่านิวเคลียร์มีความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องกากกัมมันตรังสี และก๊าซธรรมชาติปล่อย CO₂ ซึ่งขัดกับหลักการ “ไม่ก่อให้เกิดอันตรายอย่างมีนัยสำคัญ” ที่ควรใช้กับพลังงานสีเขียว แต่เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2025 ศาลสูงสุดของ EU ได้ตัดสินยกฟ้อง โดยระบุว่า “การผลิตพลังงานนิวเคลียร์ปล่อยก๊าซเรือนกระจกแทบไม่มีเลย” และ “ยังไม่มีเทคโนโลยีอื่นที่สามารถทดแทนได้ในระดับที่เพียงพอ” จึงถือว่าเป็นพลังงานที่สามารถช่วยลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ คำตัดสินนี้ไม่เพียงแต่ยืนยันสิทธิ์ของนิวเคลียร์ในการรับเงินลงทุนจากกองทุนสีเขียวของ EU แต่ยังส่งผลให้คดีอื่น ๆ เช่นของ Greenpeace มีแนวโน้มจะแพ้ตามไปด้วย แม้จะมีเสียงคัดค้านจากองค์กรสิ่งแวดล้อม เช่น Greenpeace ที่เรียกวันนี้ว่า “วันมืดมนของสภาพภูมิอากาศ” แต่หลายประเทศ เช่น ฝรั่งเศส โปแลนด์ และบัลแกเรีย กลับมองว่านี่คือโอกาสในการเร่งลงทุนในพลังงานที่มั่นคงและปลอดภัย ✅ คำตัดสินของศาลสูงสุด EU ➡️ ยืนยันว่าพลังงานนิวเคลียร์และก๊าซธรรมชาติสามารถจัดเป็นพลังงานสีเขียว ➡️ ปฏิเสธคำร้องของออสเตรียที่ขอให้ยกเลิกการจัดประเภทนี้ ➡️ ระบุว่านิวเคลียร์ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยมาก และยังไม่มีทางเลือกที่ดีกว่าในปัจจุบัน ✅ ผลกระทบต่อการลงทุนและนโยบาย ➡️ เปิดทางให้โครงการนิวเคลียร์ได้รับเงินลงทุนจากกองทุนสีเขียวของ EU ➡️ อาจยุติการชะงักงันของการลงทุนในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบดั้งเดิม ➡️ ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น ข้อตกลงล่าสุดระหว่างฝรั่งเศสและเยอรมนี ✅ การตอบสนองจากฝ่ายสนับสนุนและคัดค้าน ➡️ Greenpeace เรียกคำตัดสินนี้ว่า “วันมืดมน” และเตือนว่าจะทำให้เงินไหลไปยังพลังงานที่ไม่ยั่งยืน ➡️ ฝ่ายสนับสนุนชี้ว่านี่คือชัยชนะของวิทยาศาสตร์และความมั่นคงด้านพลังงาน ➡️ ออสเตรียยังสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลชั้นสูงของ EU ได้ https://www.weplanet.org/post/eu-court-rules-nuclear-energy-is-clean-energy
    WWW.WEPLANET.ORG
    EU Court Rules Nuclear Energy is Clean Energy
    The highest court in the EU just reaffirmed that nuclear energy meets the scientific and environmental standards to be included in sustainable finance, and Greenpeace still refuses to budge.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้าและสัมมาทิฏฐิ ในอาเนญชสัปปายปฏิปทา
    สัทธรรมลำดับที่ : 745
    ชื่อบทธรรม : - ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้า
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=745
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้า
    --ราหุล ! รูป อย่างใดอย่างหนึ่ง อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของหยาบ
    มีลักษณะแข้นแข็ง อันอุปาทาน (ของคนหรือสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว.
    ตัวอย่างเช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ไต หัวใจ ตับ พังผืด ม้าม ปอด ลำไส้ ลำไส้สุด อาหารในกระเพาะ อุจจาระ;
    หรือจะยังมีรูปแม้อื่น อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของหยาบ
    มีลักษณะแข้นแข็ง อันอุปาทาน (ของคนหรือสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว อย่างเดียวกันนี้.
    +--ราหุล ! นี้ เรียกว่า #ปฐวีธาตุ อันเป็นภายใน.
    ปฐวีธาตุอันใด อันเป็นภายในด้วย ปฐวีธาตุอันเป็นภายนอกด้วย
    นั้นก็เป็น สักว่าปฐวีธาตุ เสมอกัน.
    ใครๆ พึงเห็นปฐวีธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า
    นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ;
    http://etipitaka.com/read/pali/13/135/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ
    ครั้นเห็นปฐวีธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อปฐวีธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากปฐวีธาตุ.
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดิน (ปฐวี) เถิด.
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดิน อยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่.
    +--ราหุล ! เปรียบเหมือนเมื่อคนเขาทิ้งของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง
    ทิ้งคูถบ้าง ทิ้งมูตรบ้าง ทิ้งน้ำลายบ้าง หนองบ้าง โลหิตบ้าง ลงบนแผ่นดิน
    แผ่นดินก็ไม่รู้สึกอึดอัดระอารังเกียจ ด้วยสิ่งเหล่านั้น, นี้ฉันใด;
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินเถิด.
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินอยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน.

    --ราหุล ! อาโปธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ?
    อาโปธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก.
    +--ราหุล ! อาโปธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ?
    อาโปธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน
    เป็นของเหลว อันอุปาทาน (ของคนหรือของสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว,
    ตัวอย่างเช่น น้ำดี เสลด หนอง โลหิต เหงื่อ มัน น้ำตา น้ำเหลือง น้ำลาย น้ำเมือก น้ำหล่อลื่นข้อ น้ำมูตร นี้ก็ดี;
    หรือจะยังมี อาโปธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน
    เป็นของเหลว อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี.
    +--ราหุล ! อาโปธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #อาโปธาตุ อันเป็นภายใน.
    อาโปธาตุอันเป็นภายในด้วย อาโปธาตุอันเป็นภายนอกด้วย
    นั้นก็เป็น สักว่าอาโปธาตุ เท่านั้น.
    ใครๆ พึงเห็นอาโปธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า
    นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ;
    http://etipitaka.com/read/pali/13/136/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ
    ครั้นเห็นอาโปธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว
    จิตย่อมเบื่อหน่ายต่ออาโปธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากอาโปธาตุ.
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำ (อาโป) เถิด.
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำอยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่.
    [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่น้ำไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด
    (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่เขาล้างลงไปในน้ำ,
    อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยน้ำ ฉันใดก็ฉันนั้น]​.

    --ราหุล ! เตโชธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ?
    เตโชธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก.
    +--ราหุล ! เตโชธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ?
    เตโชธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเผาผลาญ อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว,
    ตัวอย่างเช่น ไฟที่ยังกายให้อบอุ่น ไฟที่ยังกายให้ทรุดโทรม ไฟที่ยังกายให้กระวนกระวาย และไฟที่เผาอาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ให้แปรไปโดยชอบ นี้ก็ดี;
    หรือจะยังมีเตโชธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเผาผลาญ อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี.
    +--ราหุล ! เตโชธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #เตโชธาตุ อันเป็นภายใน.
    เตโชธาตุอันเป็นภายนอกใน เตโชธาตุอันเป็นภายนอกด้วย
    นั้นก็เป็น สักว่าเตโชธาตุ เท่านั้น.
    ใครๆ พึงเห็นเตโชธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า
    นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ;
    http://etipitaka.com/read/pali/13/136/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ
    ครั้นเห็นเตโชธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้แล้ว
    จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อเตโชธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากเตโชธาตุ.
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยไฟ (เตโช) เถิด.
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยไฟอยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ อันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่.
    [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่ไฟไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่เขาทิ้งลงไปให้มันไหม้,
    อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยไฟ ฉันใดก็ฉันนั้น]​.

    --ราหุล ! วาโยธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ?
    วาโยธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก.
    +--ราหุล ! วาโยธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ?
    วาโยธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของพัดไปมา อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว,
    ตัวอย่างเช่น ลมพัดขึ้นเบื้องบน ลมพัดลงเบื้องต่ำ ลมในท้อง ลมในไส้ ลมแล่นไปตามอวัยวะน้อยใหญ่ ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก นี้ก็ดี;
    หรือจะยังมีวาโยธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของพัดไปมา
    อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี.
    +--ราหุล ! วาโยธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #วาโยธาตุ อันเป็นภายใน.
    วาโยธาตุอันเป็นภายในด้วย วาโยธาตุอันเป็นภายนอกด้วย
    นั้นก็เป็น สักว่าวาโยธาตุ เท่านั้น.
    ใครๆ พึงเห็นวาโยธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า
    นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ;
    http://etipitaka.com/read/pali/13/137/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ
    ครั้นเห็นวาโยธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว
    จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อวาโยธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากวาโยธาตุ.
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยลม (วาโย) เถิด
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยลมอยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ อันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่.
    [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่ลมไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่ลมพัดผ่านเข้าไป,
    อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยลม ฉันใดก็ฉันนั้น]​.

    --ราหุล ! อากาสธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ?
    อากาสธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก.
    +--ราหุล ! อากาสธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ?
    อากาสธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน
    เป็นของแสดงลักษณะแห่งความว่าง อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว,
    ตัวอย่างเช่น ช่องหู ช่องจมูก ช่องปาก ที่ว่าง
    ที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ผ่านไป
    ที่ว่างที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ตั้งอยู่
    ช่องที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ออกสู่เบื้องล่าง นี้ก็ดี ;
    หรือจะยังมีอากาสธาตุ อันเป็นภายในเฉพาะตน
    เป็นของแสดงลักษณะแห่งความว่าง ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้
    ซึ่งไม่ตัน มีลักษณะไม่ตัน เป็นของเปิด
    มีลักษณะเปิด อันเนื้อและเลือดไม่เข้าไปบรรจุอยู่อันเป็นภายใน
    อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว อันใดก็ดี.
    +--ราหุล ! อากาสธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #อากาสธาตุ อันเป็นภายใน.
    อากาสธาตุอันเป็นภายในด้วย อากาสธาตุอันเป็นภายนอกด้วย
    นั้นก็เป็น สักว่าอากาสธาตุ เท่านั้น.
    ใครๆ พึงเห็นอากาสธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า
    นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ;
    http://etipitaka.com/read/pali/13/138/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ
    ครั้นเห็นอากาสธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว
    จิตย่อมเบื่อหน่ายต่ออากาสธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากอากาสธาตุ.
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสเถิด.
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสอยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่.
    +--ราหุล ! เปรียบเหมือนอากาส เป็นสิ่งมิได้ตั้งอยู่เฉพาะในที่ไรๆ, นี้ฉันใด;
    +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสเถิด.
    เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสอยู่,
    ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่,
    ฉันนั้นเหมือนกัน.-

    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : -
    -- ม. ม.๑๓/๑๓๕-๑๔๐/๑๓๕+๑๔๐, ๑๓๖+๑๔๑, ๑๓๗+๑๔๒, ๑๓๘+๑๔๓, ๑๓๙+๑๔๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/13/135/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%95 ถึง
    http://etipitaka.com/read/pali/13/140/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%90

    --สัมมาทิฏฐิ ในอาเนญชสัปปายปฏิปทา
    ๑. ข้อที่หนึ่ง
    --ภิกษุ ท. ! ในข้อที่กามเป็นอันตรายแก่อริยสาวกผู้ศึกษาอยู่ในธรรมวินัยนี้นั้น
    อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า
    “กามและกามสัญญาอันเป็นไปในทิฏฐธรรม (ภพนี้) และเป็นไปในสัมปรายะ (ภพอื่น)
    ทั้งสองอย่างนั้นเป็นบ่วงมาร เป็นวิสัยแห่งมาร เป็นเหยื่อแห่งมาร เป็นที่เที่ยวแห่งมาร.
    ในบ่วงแห่งมารนี้ บาปอกุศลทางใจเหล่านี้
    เป็นอภิชฌาบ้าง เป็นพยาบาทบ้าง เป็นสารัมภะ (ความแข่งดี) บ้าง ย่อมเป็นไป ;
    บาปอกุศลเหล่านั้น ย่อมมีเพื่อเป็นอันตรายแก่อริยสาวกผู้ตามศึกษาอยู่ในธรรมวินัยนี้.
    ถ้าอย่างไร เราพึงมีจิตเป็นมหัคคตะอันไพบูลย์ อธิษฐานจิตครอบงำโลก อยู่เถิด ;
    เมื่อเรามีจิตเป็นมหัคคตะอันไพบูลย์ อธิษฐานจิตครอบงำโลกอยู่,
    บาปอกุศลทางใจเป็นอภิชฌาบ้าง เป็นพยาบาทบ้าง เป็นสารัมภะบ้าง
    เหล่านั้น จักไม่มี; เพราะละบาปอกุศลเหล่านั้นเสียได้
    จิตของเราก็จักเป็นจิตมีคุณไม่เล็กน้อย เป็นจิตไม่มี ประมาณเป็นจิตอันอบรมดีแล้ว”
    ดังนี้.
    +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้
    เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ*--๑
    เมื่อจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงเพราะข้อปฏิบัติดังกล่าวแล้วข้างต้น
    ทำให้ง่ายและสะดวกแก่การลุถึงภพประเภทนี้ จึงได้ชื่อว่า #อาเนญชสัปปายปฏิปทา.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/75/?keywords=อาเนญฺชสปฺปายา
    +--ข้อปฏิบัติเหล่านี้เป็นฝ่ายสมถะ ซึ่งเป็นปัจจัยแก่เจโตวิมุตติโดยตรง แต่ก็เป็นปัจจัยแก่วิปัสสนาได้ด้วย ดังนั้นท่านจึงกล่าวอานิสงส์ของคำนี้ว่า เพื่อเข้าถึงอาเนญชะหรือน้อมไปเพื่อปัญญาก็ได้.
    +--อาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้นหรือน้อมไปเพื่อปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็น วิญญาณที่เข้าถึงซึ่งภพในระดับอาเนญชะ.
    +--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น #อาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่หนึ่ง.
    -----
    *--๑. คำว่า อายตนะ ในที่นี้ ไม่หมายถึงนิพพาน อันเป็นอายตนะสูงสุด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไป แต่หมายถึงอายตนะคือภาวะแห่งอรูปฌานทั้งสี่
    คือ อากาสานัญจายตนะ ฯลฯ เนวสัญญานาสัญญายตนะ ;
    โดยเฉพาะ เพราะไม่มีรูปหรือสัญญาในรูปอันเป็นที่ตั้งแห่งความหวั่นไหว,
    แต่บางมติหมายต่ำลงมาถึงจตุตถฌานอันเป็นอาเนญชะในขั้นริเริ่ม
    ซึ่งยังไม่สมบูรณ์เพราะยังอาศัยสิ่งซึ่งมีรูปหรือรูปสัญญาอยู่.

    ๒.ข้อที่สอง
    --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโทษโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า
    “กามและกามสัญญาอันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ
    อันเป็นรูปอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงสักว่ารูป
    คือเป็นเพียงมหาภูตรูปสี่ และรูปอาศัยมหาภูตรูปสี่นั้นอยู่ เท่านั้น”
    ดังนี้.
    +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่,
    จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอาเนญช (สมาบัติ)
    ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย
    ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง ซึ่งภพในระดับอาเนญชะ.
    +--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น #อาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่สอง.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/75/?keywords=อาเนญฺชสปฺปายา
    ๓.ข้อที่สาม
    --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก
    : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า
    “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะก็ดี
    รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฎฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี
    ทั้งสองอย่างนั้น เป็นอนิจจัง สิ่งใดเป็นอนิจจัง
    สิ่งนั้นไม่ควรเพื่อจะเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ สยบมัวเมา”
    ดังนี้.
    +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้อยู่,
    จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอาเนญช (สมาบัติ)
    ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา.
    ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย
    ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึงซึ่งภพในระดับอาเนญชะ.
    --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่าเป็น #อาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่สาม.-
    http://etipitaka.com/read/pali/14/76/?keywords=อาเนญฺชสปฺปายา

    #สัมมาทิฏฐิ
    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/57-58/82-84.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/57/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92 ถึง
    http://etipitaka.com/read/thai/14/58/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%94
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๔-๗๕/๘๒-๘๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/74/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92 ถึง
    http://etipitaka.com/read/pali/14/75/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%94
    ศึกษาเพิ่มเติม..
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=745
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56&id=745
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56
    ลำดับสาธยายธรรม : 56 ฟังเสียงอ่าน....
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_56.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้าและสัมมาทิฏฐิ ในอาเนญชสัปปายปฏิปทา สัทธรรมลำดับที่ : 745 ชื่อบทธรรม : - ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้า https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=745 เนื้อความทั้งหมด :- --ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้า --ราหุล ! รูป อย่างใดอย่างหนึ่ง อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของหยาบ มีลักษณะแข้นแข็ง อันอุปาทาน (ของคนหรือสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว. ตัวอย่างเช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ไต หัวใจ ตับ พังผืด ม้าม ปอด ลำไส้ ลำไส้สุด อาหารในกระเพาะ อุจจาระ; หรือจะยังมีรูปแม้อื่น อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของหยาบ มีลักษณะแข้นแข็ง อันอุปาทาน (ของคนหรือสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว อย่างเดียวกันนี้. +--ราหุล ! นี้ เรียกว่า #ปฐวีธาตุ อันเป็นภายใน. ปฐวีธาตุอันใด อันเป็นภายในด้วย ปฐวีธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าปฐวีธาตุ เสมอกัน. ใครๆ พึงเห็นปฐวีธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; http://etipitaka.com/read/pali/13/135/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ ครั้นเห็นปฐวีธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อปฐวีธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากปฐวีธาตุ. +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดิน (ปฐวี) เถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดิน อยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. +--ราหุล ! เปรียบเหมือนเมื่อคนเขาทิ้งของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง ทิ้งคูถบ้าง ทิ้งมูตรบ้าง ทิ้งน้ำลายบ้าง หนองบ้าง โลหิตบ้าง ลงบนแผ่นดิน แผ่นดินก็ไม่รู้สึกอึดอัดระอารังเกียจ ด้วยสิ่งเหล่านั้น, นี้ฉันใด; +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินเถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน. --ราหุล ! อาโปธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? อาโปธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. +--ราหุล ! อาโปธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? อาโปธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเหลว อันอุปาทาน (ของคนหรือของสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น น้ำดี เสลด หนอง โลหิต เหงื่อ มัน น้ำตา น้ำเหลือง น้ำลาย น้ำเมือก น้ำหล่อลื่นข้อ น้ำมูตร นี้ก็ดี; หรือจะยังมี อาโปธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเหลว อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี. +--ราหุล ! อาโปธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #อาโปธาตุ อันเป็นภายใน. อาโปธาตุอันเป็นภายในด้วย อาโปธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าอาโปธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นอาโปธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; http://etipitaka.com/read/pali/13/136/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ ครั้นเห็นอาโปธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่ออาโปธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากอาโปธาตุ. +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำ (อาโป) เถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่น้ำไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่เขาล้างลงไปในน้ำ, อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยน้ำ ฉันใดก็ฉันนั้น]​. --ราหุล ! เตโชธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? เตโชธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. +--ราหุล ! เตโชธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? เตโชธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเผาผลาญ อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น ไฟที่ยังกายให้อบอุ่น ไฟที่ยังกายให้ทรุดโทรม ไฟที่ยังกายให้กระวนกระวาย และไฟที่เผาอาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ให้แปรไปโดยชอบ นี้ก็ดี; หรือจะยังมีเตโชธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเผาผลาญ อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี. +--ราหุล ! เตโชธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #เตโชธาตุ อันเป็นภายใน. เตโชธาตุอันเป็นภายนอกใน เตโชธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าเตโชธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นเตโชธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; http://etipitaka.com/read/pali/13/136/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ ครั้นเห็นเตโชธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อเตโชธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากเตโชธาตุ. +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยไฟ (เตโช) เถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยไฟอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ อันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่ไฟไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่เขาทิ้งลงไปให้มันไหม้, อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยไฟ ฉันใดก็ฉันนั้น]​. --ราหุล ! วาโยธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? วาโยธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. +--ราหุล ! วาโยธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? วาโยธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของพัดไปมา อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น ลมพัดขึ้นเบื้องบน ลมพัดลงเบื้องต่ำ ลมในท้อง ลมในไส้ ลมแล่นไปตามอวัยวะน้อยใหญ่ ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก นี้ก็ดี; หรือจะยังมีวาโยธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของพัดไปมา อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี. +--ราหุล ! วาโยธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #วาโยธาตุ อันเป็นภายใน. วาโยธาตุอันเป็นภายในด้วย วาโยธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าวาโยธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นวาโยธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; http://etipitaka.com/read/pali/13/137/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ ครั้นเห็นวาโยธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อวาโยธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากวาโยธาตุ. +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยลม (วาโย) เถิด เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยลมอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ อันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่ลมไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่ลมพัดผ่านเข้าไป, อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยลม ฉันใดก็ฉันนั้น]​. --ราหุล ! อากาสธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? อากาสธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. +--ราหุล ! อากาสธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? อากาสธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของแสดงลักษณะแห่งความว่าง อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น ช่องหู ช่องจมูก ช่องปาก ที่ว่าง ที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ผ่านไป ที่ว่างที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ตั้งอยู่ ช่องที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ออกสู่เบื้องล่าง นี้ก็ดี ; หรือจะยังมีอากาสธาตุ อันเป็นภายในเฉพาะตน เป็นของแสดงลักษณะแห่งความว่าง ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ ซึ่งไม่ตัน มีลักษณะไม่ตัน เป็นของเปิด มีลักษณะเปิด อันเนื้อและเลือดไม่เข้าไปบรรจุอยู่อันเป็นภายใน อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว อันใดก็ดี. +--ราหุล ! อากาสธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า #อากาสธาตุ อันเป็นภายใน. อากาสธาตุอันเป็นภายในด้วย อากาสธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าอากาสธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นอากาสธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; http://etipitaka.com/read/pali/13/138/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ ครั้นเห็นอากาสธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่ออากาสธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากอากาสธาตุ. +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสเถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. +--ราหุล ! เปรียบเหมือนอากาส เป็นสิ่งมิได้ตั้งอยู่เฉพาะในที่ไรๆ, นี้ฉันใด; +--ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสเถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่, ฉันนั้นเหมือนกัน.- อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - -- ม. ม.๑๓/๑๓๕-๑๔๐/๑๓๕+๑๔๐, ๑๓๖+๑๔๑, ๑๓๗+๑๔๒, ๑๓๘+๑๔๓, ๑๓๙+๑๔๔. http://etipitaka.com/read/pali/13/135/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%95 ถึง http://etipitaka.com/read/pali/13/140/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%94%E0%B9%90 --สัมมาทิฏฐิ ในอาเนญชสัปปายปฏิปทา ๑. ข้อที่หนึ่ง --ภิกษุ ท. ! ในข้อที่กามเป็นอันตรายแก่อริยสาวกผู้ศึกษาอยู่ในธรรมวินัยนี้นั้น อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญาอันเป็นไปในทิฏฐธรรม (ภพนี้) และเป็นไปในสัมปรายะ (ภพอื่น) ทั้งสองอย่างนั้นเป็นบ่วงมาร เป็นวิสัยแห่งมาร เป็นเหยื่อแห่งมาร เป็นที่เที่ยวแห่งมาร. ในบ่วงแห่งมารนี้ บาปอกุศลทางใจเหล่านี้ เป็นอภิชฌาบ้าง เป็นพยาบาทบ้าง เป็นสารัมภะ (ความแข่งดี) บ้าง ย่อมเป็นไป ; บาปอกุศลเหล่านั้น ย่อมมีเพื่อเป็นอันตรายแก่อริยสาวกผู้ตามศึกษาอยู่ในธรรมวินัยนี้. ถ้าอย่างไร เราพึงมีจิตเป็นมหัคคตะอันไพบูลย์ อธิษฐานจิตครอบงำโลก อยู่เถิด ; เมื่อเรามีจิตเป็นมหัคคตะอันไพบูลย์ อธิษฐานจิตครอบงำโลกอยู่, บาปอกุศลทางใจเป็นอภิชฌาบ้าง เป็นพยาบาทบ้าง เป็นสารัมภะบ้าง เหล่านั้น จักไม่มี; เพราะละบาปอกุศลเหล่านั้นเสียได้ จิตของเราก็จักเป็นจิตมีคุณไม่เล็กน้อย เป็นจิตไม่มี ประมาณเป็นจิตอันอบรมดีแล้ว” ดังนี้. +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ*--๑ เมื่อจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงเพราะข้อปฏิบัติดังกล่าวแล้วข้างต้น ทำให้ง่ายและสะดวกแก่การลุถึงภพประเภทนี้ จึงได้ชื่อว่า #อาเนญชสัปปายปฏิปทา. http://etipitaka.com/read/pali/14/75/?keywords=อาเนญฺชสปฺปายา +--ข้อปฏิบัติเหล่านี้เป็นฝ่ายสมถะ ซึ่งเป็นปัจจัยแก่เจโตวิมุตติโดยตรง แต่ก็เป็นปัจจัยแก่วิปัสสนาได้ด้วย ดังนั้นท่านจึงกล่าวอานิสงส์ของคำนี้ว่า เพื่อเข้าถึงอาเนญชะหรือน้อมไปเพื่อปัญญาก็ได้. +--อาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้นหรือน้อมไปเพื่อปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็น วิญญาณที่เข้าถึงซึ่งภพในระดับอาเนญชะ. +--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น #อาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่หนึ่ง. ----- *--๑. คำว่า อายตนะ ในที่นี้ ไม่หมายถึงนิพพาน อันเป็นอายตนะสูงสุด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไป แต่หมายถึงอายตนะคือภาวะแห่งอรูปฌานทั้งสี่ คือ อากาสานัญจายตนะ ฯลฯ เนวสัญญานาสัญญายตนะ ; โดยเฉพาะ เพราะไม่มีรูปหรือสัญญาในรูปอันเป็นที่ตั้งแห่งความหวั่นไหว, แต่บางมติหมายต่ำลงมาถึงจตุตถฌานอันเป็นอาเนญชะในขั้นริเริ่ม ซึ่งยังไม่สมบูรณ์เพราะยังอาศัยสิ่งซึ่งมีรูปหรือรูปสัญญาอยู่. ๒.ข้อที่สอง --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโทษโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญาอันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ อันเป็นรูปอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงสักว่ารูป คือเป็นเพียงมหาภูตรูปสี่ และรูปอาศัยมหาภูตรูปสี่นั้นอยู่ เท่านั้น” ดังนี้. +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง ซึ่งภพในระดับอาเนญชะ. +--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น #อาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่สอง. http://etipitaka.com/read/pali/14/75/?keywords=อาเนญฺชสปฺปายา ๓.ข้อที่สาม --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะก็ดี รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฎฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี ทั้งสองอย่างนั้น เป็นอนิจจัง สิ่งใดเป็นอนิจจัง สิ่งนั้นไม่ควรเพื่อจะเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ สยบมัวเมา” ดังนี้. +--เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึงซึ่งภพในระดับอาเนญชะ. --ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่าเป็น #อาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่สาม.- http://etipitaka.com/read/pali/14/76/?keywords=อาเนญฺชสปฺปายา #สัมมาทิฏฐิ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/57-58/82-84. http://etipitaka.com/read/thai/14/57/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92 ถึง http://etipitaka.com/read/thai/14/58/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%94 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๔-๗๕/๘๒-๘๔. http://etipitaka.com/read/pali/14/74/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92 ถึง http://etipitaka.com/read/pali/14/75/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%94 ศึกษาเพิ่มเติม.. https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=745 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56&id=745 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=56 ลำดับสาธยายธรรม : 56 ฟังเสียงอ่าน.... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_56.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้า
    -ข้อปฎิบัติเกี่ยวกับธาตุห้า ราหุล ! รูป อย่างใดอย่างหนึ่ง อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของหยาบ มีลักษณะแข้นแข็ง อันอุปาทาน (ของคนหรือสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว. ตัวอย่างเช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ไต หัวใจ ตับ พังผืด ม้าม ปอด ลำไส้ ลำไส้สุด อาหารในกระเพาะ อุจจาระ; หรือจะยังมีรูปแม้อื่น อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของหยาบ มีลักษณะแข้นแข็ง อันอุปาทาน (ของคนหรือสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว อย่างเดียวกันนี้. ราหุล ! นี้ เรียกว่า ปฐวีธาตุ อันเป็นภายใน. ปฐวีธาตุอันใด อันเป็นภายในด้วย ปฐวีธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าปฐวีธาตุ เสมอกัน. ใครๆ พึงเห็นปฐวีธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; ครั้นเห็นปฐวีธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อปฐวีธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากปฐวีธาตุ. ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดิน (ปฐวี) เถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดิน อยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. ราหุล ! เปรียบเหมือนเมื่อคนเขาทิ้งของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง ทิ้งคูถบ้าง ทิ้งมูตรบ้าง ทิ้งน้ำลายบ้าง หนองบ้าง โลหิตบ้าง ลงบนแผ่นดิน แผ่นดินก็ไม่รู้สึกอึดอัดระอารังเกียจ ด้วยสิ่งเหล่านั้น, นี้ฉันใด; ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินเถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยแผ่นดินอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่ ฉันนั้นเหมือนกัน. ราหุล ! อาโปธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? อาโปธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. ราหุล ! อาโปธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? อาโปธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเหลว อันอุปาทาน (ของคนหรือของสัตว์) เข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น น้ำดี เสลด หนอง โลหิต เหงื่อ มัน น้ำตา น้ำเหลือง น้ำลาย น้ำเมือก น้ำหล่อลื่นข้อ น้ำมูตร นี้ก็ดี; หรือจะยังมี อาโปธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเหลว อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี. ราหุล ! อาโปธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า อาโปธาตุ อันเป็นภายใน. อาโปธาตุอันเป็นภายในด้วย อาโปธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าอาโปธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นอาโปธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; ครั้นเห็นอาโปธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่ออาโปธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากอาโปธาตุ. ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำ (อาโป) เถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยน้ำอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่น้ำไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่เขาล้างลงไปในน้ำ, อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยน้ำ ฉันใดก็ฉันนั้น]. ราหุล ! เตโชธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? เตโชธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. ราหุล ! เตโชธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? เตโชธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเผาผลาญ อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น ไฟที่ยังกายให้อบอุ่น ไฟที่ยังกายให้ทรุดโทรม ไฟที่ยังกายให้กระวนกระวาย และไฟที่เผาอาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ให้แปรไปโดยชอบ นี้ก็ดี; หรือจะยังมีเตโชธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของเผาผลาญ อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี. ราหุล ! เตโชธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่า เตโชธาตุอันเป็นภายใน. เตโชธาตุอันเป็นภายนอกใน เตโชธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าเตโชธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นเตโชธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; ครั้นเห็นเตโชธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อเตโชธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากเตโชธาตุ. ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยไฟ (เตโช) เถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยไฟอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ อันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่ไฟไม่อึดอัดระอาต่อสิ่ง ปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่เขาทิ้งลงไปให้มันไหม้, อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยไฟ ฉันใดก็ฉันนั้น]. ราหุล ! วาโยธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? วาโยธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. ราหุล ! วาโยธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? วาโยธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของพัดไปมา อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น ลมพัดขึ้นเบื้องบน ลมพัดลงเบื้องต่ำ ลมในท้อง ลมในไส้ ลมแล่นไปตามอวัยวะน้อยใหญ่ ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก นี้ก็ดี; หรือจะยังมีวาโยธาตุ อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของพัดไปมา อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ อันใดก็ดี. ราหุล ! วาโยธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่าวาโยธาตุอันเป็นภายใน. วาโยธาตุอันเป็นภายในด้วย วาโยธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าวาโยธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นวาโยธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; ครั้นเห็นวาโยธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่อวาโยธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากวาโยธาตุ. ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยลม (วาโย) เถิด เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยลมอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ อันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. [ข้อความต่อไปจากนี้ ตรัสถึงการที่ลมไม่อึดอัดระอาต่อสิ่งปฎิกูลและไม่ปฎิกูลนานาชนิด (ดังที่กล่าวมาแล้วในตอนที่ว่าด้วยธาตุดิน) ที่ลมพัดผ่านเข้าไป, อันเป็นอุปมาของจิตที่อบรมแล้วเสมอด้วยลม ฉันใดก็ฉันนั้น]. ราหุล ! อากาสธาตุ เป็นอย่างไรเล่า ? อากาสธาตุมีทั้งที่เป็นภายในและเป็นภายนอก. ราหุล ! อากาสธาตุที่เป็นภายใน เป็นอย่างไรเล่า ? อากาสธาตุอันใด อันเป็นภายใน เฉพาะตน เป็นของแสดงลักษณะแห่งความว่าง อันอุปาทานเข้าไปถือเอาแล้ว, ตัวอย่างเช่น ช่องหู ช่องจมูก ช่องปาก ที่ว่างที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ผ่านไป ที่ว่างที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ตั้งอยู่ ช่องที่อาหารอันกินแล้ว ดื่มแล้ว เคี้ยวแล้ว ลิ้มแล้ว ออกสู่เบื้องล่าง นี้ก็ดี ; หรือจะยังมีอากาสธาตุ อันเป็นภายในเฉพาะตน เป็นของแสดงลักษณะแห่งความว่าง ไรๆ อื่นนอกไปจากนี้ ซึ่งไม่ตัน มีลักษณะไม่ตัน เป็นของเปิด มีลักษณะเปิด อันเนื้อและเลือดไม่เข้าไปบรรจุอยู่อันเป็นภายใน อันอุปาทาน เข้าไปถือเอาแล้ว อันใดก็ดี. ราหุล ! อากาสธาตุทั้งสองประเภทนี้ เรียกว่าอากาสธาตุอันเป็นภายใน. อากาสธาตุอันเป็นภายในด้วย อากาสธาตุอันเป็นภายนอกด้วย นั้นก็เป็น สักว่าอากาสธาตุ เท่านั้น. ใครๆ พึงเห็นอากาสธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่ใช่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา ; ครั้นเห็นอากาสธาตุนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริง อย่างนี้แล้ว จิตย่อมเบื่อหน่ายต่ออากาสธาตุ ย่อมคลายกำหนัดจากอากาสธาตุ. ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสเถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่. ราหุล ! เปรียบเหมือนอากาส เป็นสิ่งมิได้ตั้งอยู่เฉพาะในที่ไรๆ, นี้ฉันใด; ราหุล ! เธอจงอบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสเถิด. เมื่อเธออบรมจิตให้เสมอด้วยอากาสอยู่, ผัสสะทั้งหลายที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจอันเกิดขึ้นแล้ว จักไม่กลุ้มรุมจิตตั้งอยู่, ฉันนั้นเหมือนกัน. ม. ม.๑๓/๑๓๕-๑๔๐/๑๓๕+๑๔๐, ๑๓๖+๑๔๑, ๑๓๗+๑๔๒, ๑๓๘+๑๔๓, ๑๓๙+๑๔๔. สัมมาทิฏฐิ ในอาเนญชสัปปายปฏิปทา ข้อที่หนึ่ง ภิกษุ ท. ! ในข้อที่กามเป็นอันตรายแก่อริยสาวกผู้ศึกษาอยู่ในธรรมวินัยนี้นั้น อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญาอันเป็นไปในทิฏฐธรรม (ภพนี้) และเป็นไปในสัมปรายะ (ภพอื่น) ทั้งสองอย่างนั้นเป็นบ่วงมาร เป็นวิสัยแห่งมาร เป็นเหยื่อแห่งมาร เป็นที่เที่ยวแห่งมาร. ในบ่วงแห่งมารนี้ บาปอกุศลทางใจเหล่านี้ เป็นอภิชฌาบ้าง เป็นพยาบาทบ้าง เป็นสารัมภะ (ความแข่งดี) บ้าง ย่อมเป็นไป ; บาปอกุศลเหล่านั้น ย่อมมีเพื่อเป็นอันตรายแก่อริยสาวกผู้ตามศึกษาอยู่ในธรรมวินัยนี้. ถ้าอย่างไร เราพึงมีจิตเป็นมหัคคตะอันไพบูลย์ อธิษฐานจิตครอบงำโลก อยู่เถิด ; เมื่อเรามีจิตเป็นมหัคคตะอันไพบูลย์ อธิษฐานจิตครอบงำโลกอยู่, บาปอกุศลทางใจเป็นอภิชฌาบ้าง เป็นพยาบาทบ้าง เป็นสารัมภะบ้าง เหล่านั้น จักไม่มี; เพราะละบาปอกุศลเหล่านั้นเสียได้ จิตของเราก็จักเป็นจิตมีคุณไม่เล็กน้อย เป็นจิตไม่มี ประมาณเป็นจิตอันอบรมดีแล้ว” ดังนี้. เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ๑ เมื่อจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึง ๑. คำว่า อายตนะ ในที่นี้ ไม่หมายถึงนิพพาน อันเป็นอายตนะสูงสุด ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไป แต่หมายถึงอายตนะคือภาวะแห่งอรูปฌานทั้งสี่ คือ อากาสานัญจายตนะ ฯลฯ เนวสัญญานาสัญญายตนะ โดยเฉพาะ เพราะไม่มีรูปหรือสัญญาในรูปอันเป็นที่ตั้งแห่งความหวั่นไหว, แต่บางมติหมายต่ำลงมาถึงจตุตถฌานอันเป็นอาเนญชะในขั้นริเริ่ม ซึ่งยังไม่สมบูรณ์เพราะยังอาศัยสิ่งซึ่งมีรูปหรือรูปสัญญาอยู่. เพราะข้อปฏิบัติดังกล่าวแล้วข้างต้น ทำให้ง่ายและสะดวกแก่การลุถึงภพประเภทนี้ จึงได้ชื่อว่า อาเนญชสัปปายปฏิปทา. ข้อปฏิบัติเหล่านี้เป็นฝ่ายสมถะ ซึ่งเป็นปัจจัยแก่เจโตวิมุตติโดยตรง แต่ก็เป็นปัจจัยแก่วิปัสสนาได้ด้วย ดังนั้นท่านจึงกล่าวอานิสงส์ของคำนี้ว่า เพื่อเข้าถึงอาเนญชะหรือน้อมไปเพื่อปัญญาก็ได้. อาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้นหรือน้อมไปเพื่อปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็น วิญญาณที่เข้าถึงซึ่งภพในระดับอาเนญชะ. ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น อาเนญชสัปปายปฏิปทาข้อที่หนึ่ง. ข้อที่สอง ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโทษโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญาอันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ อันเป็นรูปอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงสักว่ารูป คือเป็นเพียงมหาภูตรูปสี่ และรูปอาศัยมหาภูตรูปสี่นั้นอยู่ เท่านั้น” ดังนี้. เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้ อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึง ซึ่งภพในระดับอาเนญชะ. ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า เป็น อาเนญชสัปปายปฏิปทาข้อที่สอง. ข้อที่สาม ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก : อริยสาวก ย่อมพิจารณาเห็นโดยประจักษ์ ดังนี้ว่า “กามและกามสัญญา อันเป็นไปในทิฏฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะก็ดี รูปและรูปสัญญา อันเป็นไปในทิฎฐธรรมและเป็นไปในสัมปรายะ ก็ดี ทั้ง สองอย่างนั้น เป็นอนิจจัง สิ่งใดเป็นอนิจจัง สิ่งนั้นไม่ควรเพื่อจะเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ สยบมัวเมา” ดังนี้. เมื่ออริยสาวกนั้น ปฏิบัติแล้วอย่างนี้ เป็นผู้มากด้วยการปฏิบัติอย่างนี้อยู่, จิตย่อมเลื่อมใสในอายตนะ. เมื่อมีจิตเลื่อมใสสมบูรณ์ เขาก็จะเข้าถึงอาเนญช (สมาบัติ) ในกาลนั้น หรือน้อมไปเพื่อปัญญา. ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย ฐานะที่พึงมีได้ก็คือ วิญญาณที่เป็นไป ก็จะเป็นวิญญาณที่เข้าถึงซึ่งภพในระดับอาเนญชะ. ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่าเป็น อาเนญชสัปปายปฏิปทาข้อที่สาม.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดุสิตธานีลมสงบ ชนินทธ์ควบกรุ๊ปซีอีโอ

    การแถลงข่าวทิศทางการบริหารงานของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ก.ย.) พบว่านายชนินทธ์ โทณวณิก รักษาการประธานกรรมการฯ ออกมากล่าวถึงความขัดแย้งในครอบครัวท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งโรงแรมดุสิตธานี ผู้ล่วงลับ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจว่า จบลงได้ดีไม่ต้องเป็นห่วง พูดคุยแก้ไขปัญหาทุกวัน เพราะทุกคนอยากจะให้ทุกอย่างออกมาดี ให้เชื่อมั่นประเด็นดุสิตธานีจะจบลงด้วยดี รวมทั้งยังทำงานร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัลได้

    นอกจากนี้ คณะกรรมการ DUSIT ยังมีมติแต่งตั้งนายชนินทธ์ ควบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม (กรุ๊ปซีอีโอ) หลังจากนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ได้รับการทาบทามจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ไปดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ แต่ก็พร้อมเปิดทางกลับมา เปรียบได้กับคลื่นลมสงบ ก่อนการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 ก.ย.ที่จะถึงนี้ หนึ่งในวาระการประชุม คือการพิจารณาอนุมัติถอดถอนนายชนินทธ์ ออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทฯ ตามที่บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด เสนอวาระดังกล่าว

    ท่านผู้หญิงชนัตถ์มีบุตรธิดา 3 คน คือ นายชนินทธ์ โทณวณิก ลูกชายคนโต, นางสินี เธียรประสิทธิ์ ลูกสาวคนกลาง สมรสกับนายฐิตินันท์ เธียรประสิทธิ์ และนางสุนงค์ สาลีรัฐวิภาค ลูกสาวคนเล็ก สมรสกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรองนายกฯ และ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ

    ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 27 ส.ค. นายชนินทธ์แถลงข่าวว่า ถูกนางสินีและนางสุนงค์เปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการเดิม และปลดออกจากรรมการบริษัท ชนัตถ์และลูก ต่อด้วยไม่อนุมัติงบการเงิน DUSIT ล่าสุดพยายามถอดถอนตนออกจาก DUSIT แต่งตั้งคนนอกครอบครัว ยึดกิจการที่ครอบครัวสร้างมา พร้อมกับเสนอกรรมการใหม่ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา (CPN) แม้จะเป็นพันธมิตรโครงการดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค แต่ลับหลังซื้อหุ้น 22.5% โดยไม่แจ้งให้ทราบ ต้องเจรจาให้ขายหุ้นออกครึ่งหนึ่ง และขอไม่ให้ส่งคนมานั่งกรรมการ เพราะมีธุรกิจทับซ้อนกัน

    ต่อมานางสินีและนางสุนงค์ตอบโต้นายชนินทร์ ปฎิเสธข้อกล่าวหาและถามกลับว่าที่แถลงข่าวมีเจตนาอะไร อ้างว่าที่เสนอเปลี่ยนแปลงบอร์ดเพราะขาดทุนกว่า 1,254 ล้านบาท และไม่ได้จ่ายปันผลมาแล้ว 5 ปี จึงต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ DUSIT กลับมามีกำไร และเชื่อว่า CPN มีความเป็นมืออาชีพ ไม่คิดเทกโอเวอร์

    อนึ่ง บริษัท ชนัตถ์และลูก จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2533 ทุนจดทะเบียน 752 ล้านบาท เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของดุสิตธานี 49.74% ปัจจุบันพบว่ากรรมการบริษัทมี 4 คน คือ นางสินีและลูกสาว นางสุนงค์และลูกชาย

    #Newskit

    (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ใน Facebook และ Instagram วันจันทร์ที่ 15 ก.ย.2568)
    ดุสิตธานีลมสงบ ชนินทธ์ควบกรุ๊ปซีอีโอ การแถลงข่าวทิศทางการบริหารงานของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ก.ย.) พบว่านายชนินทธ์ โทณวณิก รักษาการประธานกรรมการฯ ออกมากล่าวถึงความขัดแย้งในครอบครัวท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย ผู้ก่อตั้งโรงแรมดุสิตธานี ผู้ล่วงลับ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจว่า จบลงได้ดีไม่ต้องเป็นห่วง พูดคุยแก้ไขปัญหาทุกวัน เพราะทุกคนอยากจะให้ทุกอย่างออกมาดี ให้เชื่อมั่นประเด็นดุสิตธานีจะจบลงด้วยดี รวมทั้งยังทำงานร่วมกับกลุ่มเซ็นทรัลได้ นอกจากนี้ คณะกรรมการ DUSIT ยังมีมติแต่งตั้งนายชนินทธ์ ควบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม (กรุ๊ปซีอีโอ) หลังจากนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ได้รับการทาบทามจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ไปดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ แต่ก็พร้อมเปิดทางกลับมา เปรียบได้กับคลื่นลมสงบ ก่อนการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 ก.ย.ที่จะถึงนี้ หนึ่งในวาระการประชุม คือการพิจารณาอนุมัติถอดถอนนายชนินทธ์ ออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทฯ ตามที่บริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด เสนอวาระดังกล่าว ท่านผู้หญิงชนัตถ์มีบุตรธิดา 3 คน คือ นายชนินทธ์ โทณวณิก ลูกชายคนโต, นางสินี เธียรประสิทธิ์ ลูกสาวคนกลาง สมรสกับนายฐิตินันท์ เธียรประสิทธิ์ และนางสุนงค์ สาลีรัฐวิภาค ลูกสาวคนเล็ก สมรสกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรองนายกฯ และ รมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 27 ส.ค. นายชนินทธ์แถลงข่าวว่า ถูกนางสินีและนางสุนงค์เปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการเดิม และปลดออกจากรรมการบริษัท ชนัตถ์และลูก ต่อด้วยไม่อนุมัติงบการเงิน DUSIT ล่าสุดพยายามถอดถอนตนออกจาก DUSIT แต่งตั้งคนนอกครอบครัว ยึดกิจการที่ครอบครัวสร้างมา พร้อมกับเสนอกรรมการใหม่ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา (CPN) แม้จะเป็นพันธมิตรโครงการดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค แต่ลับหลังซื้อหุ้น 22.5% โดยไม่แจ้งให้ทราบ ต้องเจรจาให้ขายหุ้นออกครึ่งหนึ่ง และขอไม่ให้ส่งคนมานั่งกรรมการ เพราะมีธุรกิจทับซ้อนกัน ต่อมานางสินีและนางสุนงค์ตอบโต้นายชนินทร์ ปฎิเสธข้อกล่าวหาและถามกลับว่าที่แถลงข่าวมีเจตนาอะไร อ้างว่าที่เสนอเปลี่ยนแปลงบอร์ดเพราะขาดทุนกว่า 1,254 ล้านบาท และไม่ได้จ่ายปันผลมาแล้ว 5 ปี จึงต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ DUSIT กลับมามีกำไร และเชื่อว่า CPN มีความเป็นมืออาชีพ ไม่คิดเทกโอเวอร์ อนึ่ง บริษัท ชนัตถ์และลูก จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2533 ทุนจดทะเบียน 752 ล้านบาท เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของดุสิตธานี 49.74% ปัจจุบันพบว่ากรรมการบริษัทมี 4 คน คือ นางสินีและลูกสาว นางสุนงค์และลูกชาย #Newskit (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ใน Facebook และ Instagram วันจันทร์ที่ 15 ก.ย.2568)
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • วีรบุรุษ ที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี สง่างาม
    ที่เราเคารพนับถืออย่างภาคภูมิใจคือ
    ทหาร ตชด. ประชาชน ที่เสียสละ
    เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ป้องปกรักษาแผ่นดิน เท่านั้นครับฮะ!!
    วีรบุรุษ ที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี สง่างาม ที่เราเคารพนับถืออย่างภาคภูมิใจคือ ทหาร ตชด. ประชาชน ที่เสียสละ เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ป้องปกรักษาแผ่นดิน เท่านั้นครับฮะ!!
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • แหกคอก ตอนที่ 6 – พระเจ้าเงินตรา

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 6 : พระเจ้าเงินตรา
    ไม่นานเกินรอ ทางฝั่งอเมริกาในปี ค.ศ.1907 การเงินประเทศเกิดอาการสะอึก จากฝีมือที่มองไม่เห็น ทำให้วงการธนาคารเกิดอาการซวนเซ ข่าวลือว่าเป็นแผนการของ J.P Morgan นก 2 หัว พยายามกดดันให้รัฐบาลอเมริกัน สร้างระบบการธนาคารที่มั่นคง ปี ค.ศ.1910 ได้มีการประชุมกันที่ Jekyll Island ซึ่งมีการวางแผนที่จะตั้ง National Reserve Association มีสาขา 15 แห่ง ควบคุมโดยนายธนาคาร ซึ่งได้รับมอบอำนาจมาจากรัฐบาลกลาง เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นธนาคารกลาง สามารถพิมพ์เงินเองได้ และให้เงินยืมแก่ธนาคารเอกชนได้ ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ยินยอมเดินตามแผนนี้เกือบทุกอ ย่าง ในที่สุด ปี ค.ศ.1913 Federal Reserve หรือ Fed ก็ก่อตั้งขึ้น สามารถหารายได้เองได้ กำหนดงบประมาณของตนเองได้ โดยไม่ต้องผ่านสภาสูง Fed มีสาขา 12 แห่ง แต่ละแห่งถือหุ้นโดยธนาคารพาณิชย์ (ผมได้เคยเล่านิทานตอนนี้ไว้อย่างละเอียด อยู่ในนิทานเรื่องมายากลยุทธ ท่านใดยังไม่เคยอ่าน ช่วยกลับไปอ่านหน่อยนะครับ จะได้ไม่ต้องเขียนซ้ำ)
    แล้วอำนาจที่แท้จริงในการครองโลก ก็อยู่ในกำมือของกลุ่มผู้ถือหุ้นเอกชน Anglo American Establishment ไม่กี่ตระกูล ซึ่งเป็นเจ้าของธนาคารระหว่างประเทศ ที่เข้าไปถือหุ้นในธนาคารกลางของโลกทั้งนั้นแหละ คือผู้มีอำนาจควบคุมโลกตัวจริง เป็นผู้สร้างผู้ปกครองผู้บริหารประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามที่พวกเขาต้องการ ใครมันจะทำอะไรได้ถ้าไม่มีเงิน เงินเท่านั้น ที่มนุษย์ทั่วไปมองเห็นและให้ความเคารพนับถือ เชื่อ ใช้ บูชา ทุนคืออำนาจ อำนาจคือทุน จริงหรือไม่
    ที่ว่าไม่กี่ตระกูลที่ครองโลกอยู่ขณะนี้เป็นใครบ้างล่ะ มารู้จักชื่อแซ่พระเจ้าเงินตรากันหน่อย เขาว่ามี 8 ตระกูล หรือกลุ่ม หรือก๊วน แล้วแต่จะเรียก 4 ก๊วนอยู่ทางฝั่งอเมริกา อีก 4 อยู่ทางอังกฤษและยุโรป
    ฝั่งอเมริกา
    – Goldman Sachs
    – Rockefellers
    – Lehman of New York
    – Kuhn Loebs of New York
    ฝั่งอังกฤษและยุโรป
    – Rothschilds of Paris, London
    – Warburg of Hamburg
    – Lazards of Paris
    – Israel Moses Seifs of Rome
    กว่าจะมาเป็น 8 ก๊วนคนโคตรรวย เขาผ่านการหักหลัง หักคอ ควบรวม ไปจนถึงคลุมถุงให้แต่งงาน เพื่อจะรักษาความรวยและเลือดเนื้อ เชื้อไข คนรวย ให้อยู่แต่ในกลุ่มก้อนเดียวกัน ส่วน BIS ซึ่งเป็นธนาคารกลางตัวแม่ มีอิทธิพลสูงสุด ควบคุมธนาคารเกือบทั้งหมดในประเทศ แถบตะวันตก และประเทศที่กำลังพัฒนา (อย่างเราๆ ) ก็ถือหุ้นโดย Federal Reserve (ของอเมริกา), Bank of England, Bank of Italy, Bank of Canada, Swiss National Bank, Nederlandsche Bank, Bundesbank และ Bank of France โดยมี 8 ก๊วนคนโคตรรวย ต่างถือหุ้นใน 8 ธนาคารกลางดังกล่าวอีกต่อหนึ่ง
    ประธาน BIS คนแรกคือ นาย Gates McGarrah ซึ่งมาจาก Chase Manhatton Bank ของตระกูล Rockefeller และเป็นเจ้าหน้าที่ของ Federal Reserve ด้วย นาย McGarrah นี้ เป็นปู่ของนาย Richard McGarrah Helmes หัวหน้า CIA ตัวใหญ่ สมัย ค.ศ.1966-1973
    รัฐบาลอเมริกาเอง ในประวัติศาสตร์ก็ขยาด BIS และพยายามที่จะล้ม BIS มาแล้ว ในการประชุมที่ Bretton Woods เมื่อปี ค.ศ.1944 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ถูก 8 ก๊วนโคตรรวยจับมือกันป่วน นอกจากล้ม BIS ไม่ได้แล้ว 8 ก๊วน ยังท้าทายด้วยการตั้ง IMF และ World Bank ตามแผนของพวกเขา เพื่อสั่งสอนรัฐบาลอเมริกันอีก
    BIS ถือ 10% ของเงินสำรอง (Reserves) ในประมาณ 80 ธนาคารกลางทั่วโลก รวมทั้งใน IMF และสถาบันการเงินนานาชาติอีกหลายแห่ง BIS นอกจากเป็นแม่ใหญ่ของธนาคารกลางของ 8 ก๊วนแล้ว ยังแอบทำกิจกรรมสำคัญด้วยคือ เก็บข้อมูลเกี่ยวกับการเงินและเศรษฐกิจของทั้งโลก (รู้มากที่สุด ได้เปรียบมากที่สุด) และเป็นแหล่งเงินกู้ให้ธนาคารพาณิชย์กู้ ในเวลาวิกฤติเพื่อไม่ให้สถาบันการเงินโลกล้มระเนระนาดด้วย ยังมีข้อมูลน่าศึกษาเกี่ยวกับ BIS อีกแยะ วันนี้เอาแค่ให้เห็นภาพกว้างๆ ก่อน
    คนเล่านิทาน
    30 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 6 – พระเจ้าเงินตรา นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 6 : พระเจ้าเงินตรา ไม่นานเกินรอ ทางฝั่งอเมริกาในปี ค.ศ.1907 การเงินประเทศเกิดอาการสะอึก จากฝีมือที่มองไม่เห็น ทำให้วงการธนาคารเกิดอาการซวนเซ ข่าวลือว่าเป็นแผนการของ J.P Morgan นก 2 หัว พยายามกดดันให้รัฐบาลอเมริกัน สร้างระบบการธนาคารที่มั่นคง ปี ค.ศ.1910 ได้มีการประชุมกันที่ Jekyll Island ซึ่งมีการวางแผนที่จะตั้ง National Reserve Association มีสาขา 15 แห่ง ควบคุมโดยนายธนาคาร ซึ่งได้รับมอบอำนาจมาจากรัฐบาลกลาง เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นธนาคารกลาง สามารถพิมพ์เงินเองได้ และให้เงินยืมแก่ธนาคารเอกชนได้ ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ยินยอมเดินตามแผนนี้เกือบทุกอ ย่าง ในที่สุด ปี ค.ศ.1913 Federal Reserve หรือ Fed ก็ก่อตั้งขึ้น สามารถหารายได้เองได้ กำหนดงบประมาณของตนเองได้ โดยไม่ต้องผ่านสภาสูง Fed มีสาขา 12 แห่ง แต่ละแห่งถือหุ้นโดยธนาคารพาณิชย์ (ผมได้เคยเล่านิทานตอนนี้ไว้อย่างละเอียด อยู่ในนิทานเรื่องมายากลยุทธ ท่านใดยังไม่เคยอ่าน ช่วยกลับไปอ่านหน่อยนะครับ จะได้ไม่ต้องเขียนซ้ำ) แล้วอำนาจที่แท้จริงในการครองโลก ก็อยู่ในกำมือของกลุ่มผู้ถือหุ้นเอกชน Anglo American Establishment ไม่กี่ตระกูล ซึ่งเป็นเจ้าของธนาคารระหว่างประเทศ ที่เข้าไปถือหุ้นในธนาคารกลางของโลกทั้งนั้นแหละ คือผู้มีอำนาจควบคุมโลกตัวจริง เป็นผู้สร้างผู้ปกครองผู้บริหารประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามที่พวกเขาต้องการ ใครมันจะทำอะไรได้ถ้าไม่มีเงิน เงินเท่านั้น ที่มนุษย์ทั่วไปมองเห็นและให้ความเคารพนับถือ เชื่อ ใช้ บูชา ทุนคืออำนาจ อำนาจคือทุน จริงหรือไม่ ที่ว่าไม่กี่ตระกูลที่ครองโลกอยู่ขณะนี้เป็นใครบ้างล่ะ มารู้จักชื่อแซ่พระเจ้าเงินตรากันหน่อย เขาว่ามี 8 ตระกูล หรือกลุ่ม หรือก๊วน แล้วแต่จะเรียก 4 ก๊วนอยู่ทางฝั่งอเมริกา อีก 4 อยู่ทางอังกฤษและยุโรป ฝั่งอเมริกา – Goldman Sachs – Rockefellers – Lehman of New York – Kuhn Loebs of New York ฝั่งอังกฤษและยุโรป – Rothschilds of Paris, London – Warburg of Hamburg – Lazards of Paris – Israel Moses Seifs of Rome กว่าจะมาเป็น 8 ก๊วนคนโคตรรวย เขาผ่านการหักหลัง หักคอ ควบรวม ไปจนถึงคลุมถุงให้แต่งงาน เพื่อจะรักษาความรวยและเลือดเนื้อ เชื้อไข คนรวย ให้อยู่แต่ในกลุ่มก้อนเดียวกัน ส่วน BIS ซึ่งเป็นธนาคารกลางตัวแม่ มีอิทธิพลสูงสุด ควบคุมธนาคารเกือบทั้งหมดในประเทศ แถบตะวันตก และประเทศที่กำลังพัฒนา (อย่างเราๆ ) ก็ถือหุ้นโดย Federal Reserve (ของอเมริกา), Bank of England, Bank of Italy, Bank of Canada, Swiss National Bank, Nederlandsche Bank, Bundesbank และ Bank of France โดยมี 8 ก๊วนคนโคตรรวย ต่างถือหุ้นใน 8 ธนาคารกลางดังกล่าวอีกต่อหนึ่ง ประธาน BIS คนแรกคือ นาย Gates McGarrah ซึ่งมาจาก Chase Manhatton Bank ของตระกูล Rockefeller และเป็นเจ้าหน้าที่ของ Federal Reserve ด้วย นาย McGarrah นี้ เป็นปู่ของนาย Richard McGarrah Helmes หัวหน้า CIA ตัวใหญ่ สมัย ค.ศ.1966-1973 รัฐบาลอเมริกาเอง ในประวัติศาสตร์ก็ขยาด BIS และพยายามที่จะล้ม BIS มาแล้ว ในการประชุมที่ Bretton Woods เมื่อปี ค.ศ.1944 หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ถูก 8 ก๊วนโคตรรวยจับมือกันป่วน นอกจากล้ม BIS ไม่ได้แล้ว 8 ก๊วน ยังท้าทายด้วยการตั้ง IMF และ World Bank ตามแผนของพวกเขา เพื่อสั่งสอนรัฐบาลอเมริกันอีก BIS ถือ 10% ของเงินสำรอง (Reserves) ในประมาณ 80 ธนาคารกลางทั่วโลก รวมทั้งใน IMF และสถาบันการเงินนานาชาติอีกหลายแห่ง BIS นอกจากเป็นแม่ใหญ่ของธนาคารกลางของ 8 ก๊วนแล้ว ยังแอบทำกิจกรรมสำคัญด้วยคือ เก็บข้อมูลเกี่ยวกับการเงินและเศรษฐกิจของทั้งโลก (รู้มากที่สุด ได้เปรียบมากที่สุด) และเป็นแหล่งเงินกู้ให้ธนาคารพาณิชย์กู้ ในเวลาวิกฤติเพื่อไม่ให้สถาบันการเงินโลกล้มระเนระนาดด้วย ยังมีข้อมูลน่าศึกษาเกี่ยวกับ BIS อีกแยะ วันนี้เอาแค่ให้เห็นภาพกว้างๆ ก่อน คนเล่านิทาน 30 พค. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • แหกคอก ตอนที่ 5 – สร้างพระเจ้าองค์ใหม่
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 5 : สร้างพระเจ้าองค์ใหม่
    หลัง Anglo American Establishment กอดคอจับมือกันชัดเจน เมื่อประมาณ ค.ศ.1890 ทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมกันสร้างกลไก สร้างระบบด้านการเงินการธนาคารเป็นอันดับแรก เพื่อเอาตัวเองนำหน้าชักใยรัฐบาล และลดบทบาทของประเทศ
    ระบบธนาคารกลาง เกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ.1694 ที่อังกฤษ เป็นการรวมตัวกันของ เครือข่ายธนาคารกลางนานาชาติ ซึ่งไม่ได้เป็นของรัฐ แต่เป็นของเอกชน ! มีผู้ถือหุ้นเป็นเอกชนคนโคตรรวย ธนาคารกลางนี้เป็นผู้อนุญาตให้ รัฐบาล (จำกันให้ดี เงินเป็นใหญ่กว่ารัฐบาล มาตั้งแต่ ค.ศ.1694 แล้ว !) ในการพิมพ์ธนบัตร เงินสกุลต่างๆ ของแต่ละประเทศ โดยอนุญาตให้กำหนดอัตราดอกเบี้ย และทำกำไรจากดอกเบี้ยนั้น ธนาคารกลางเหล่านี้ เป็นผู้ให้เงินกู้แก่รัฐบาล และผู้ประกอบการอุตสาหกรรม เท่ากับควบคุมลูกค้าใหญ่ 2 กลุ่ม 2 ขาของประเทศไปพร้อมๆ กัน ต่อมาภายหลังประมาณ ปี ค.ศ.1930 ธนาคารกลางเหล่านี้ พร้อมใจกันอยู่ในระบบที่พวกตัว เองสร้างขึ้น เรียกว่า Bank for International Settlements (BIS) ตั้งอยู่ที่เมือง Basle ในสวิสเซอร์แลนด์ เป็นธนาคารของเอกชนเช่นเดียวกัน ทำหน้าที่เป็นธนาคารกลางของเหล่าสมาชิกซึ่งเป็นธนาคารกลางต่างๆ (เขียนแล้วมึนเอง คนอ่านก็คงมึน) เอาแบบง่ายๆ BIS ธนาคารกลางตัวแม่นี้ถือหุ้นโดย ธนาคารกลางตัว ลูกๆ ทั้งหลาย ธนาคารกลางตัวลูกก็ถือหุ้นโดยพวกเอกชนคนโคตรรวยอีกต่อหนึ่ง สรุปว่า พวกคนรวยลงทุนลงขันกันเอง เพื่อตั้งธนาคารกลาง และไม่ให้ใครมายุ่ง เขาดูแลเงินของเขากันเอง ตั้งกฎกติกาเอง โดยให้แม่ BIS คุม รัฐบาลได้แต่ทำตาปริบๆ ดู หน้าจ๋อย มือกุม ก้มหน้า รับคำสั่งรับอำนาจมาจากคนรวยอีกทีหนึ่ง เข้าใจไหม คนรวยใหญ่กว่ารัฐบาล ถึงพูดกันว่าเงินเป็นพระเจ้า
    ระบบธนาคารกลางนี้ หลังจากเกิดขึ้นครั้งแรกที่ London ไปได้สวย คนรวยติดใจ จึงขยายตัวข้ามมาในทวีปยุโรปตะวันตก และกระจายทั่วไปในทวีปยุโรป การปฏิวัติในฝรั่งเศส ทำให้นโปเลียนขึ้นมามีอำนาจ และยอมให้บรรดานายทุนที่รวมตัวกันให้เงินกู้นโปเลียนไปทำการปฏิวัตินั่นแหละ จับมือร่วมกันจัดตั้งธนาคารในฝรั่งเศสขึ้น เป็นธนาคารส่วนบุคคล ที่พวกนายทุนนี้ควบคุมกันเอง รัฐบาลไม่เกี่ยว ธนาคารนี้เป็นต้นกำเนิดของตระกูลโคตรรวยทางฝั่งยุโรป คือ ตระกูล Rothshilds ชาวยิวในยุโรป ซึ่งขยายธุรกิจการเงินของตระกูล โดยการตั้งธนาคารใน London, Paris, Frankfurt, Vienna และ Naples ทำให้ตระกูลนี้ยิ่งรวยเละขึ้นไปอีก และยิ่งรวยเพิ่มขึ้น จากการไปถือหางทุกฝ่ายในการรบทุกครั้งของนโปเลียน (ต้นกำเนิดของการถือไพ่ทุกใบในการต่อสู้ มีเงินซื้อไพ่ทุกใบ มีไพ่ให้เลือกเล่นแยะ เล่นยังไงก็ชนะ ยกเว้นโคตรโง่ หรือ โคตรเลว จนเทวดาบอกมีเงินมากมายมหาศาลแค่ไหนก็ช่วยอะไรพวกเจ้าไม่ได้ ตัวอย่างกำลังมีให้เห็นในบ้านเรา !)
    นาย Carroll Quigley นักประวัติศาสตร์ นักทฤษฎี เจ้าความคิดกำเนิดแห่งศิวิไลย์ของมนุษยชาติ แห่งมหาวิทยาลัย Georgetown เขียนไว้ในหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งบรรดาสาวกทั้งหลายถือเป็นคัมภีร์ ชื่อ Tragedy and Hope บอกว่าในช่วง ค.ศ.18101850 พวกวาณิชธนกิจใน London ได้สร้าง ธนาคารแห่งอังกฤษ (Bank of England) ตลาดหุ้นและตลาดเงินแห่ง London และไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็ขยายธุรกิจ โดยการสร้างธนาคารย่อยในระดับเมือง ต่างๆ ดำเนินกิจการ ในรูปแบบของธนาคารพาณิชย์ และธนาคารออมสิน รวมทั้งทำธุรกิจประกันภัย ธุรกิจ 3 อย่างนี้ มันหมุนเงิน สร้างเงินในตัวของมันเองตามวงจร เขาจึงรวมธุรกิจพวกนี้ไว้ด้วยกัน ในระดับที่ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนเป็นระดับระหว่างประเทศ จากเมืองไปสู่ประเทศ และด้วยวิธีนี้พวกเขาสามารถชักใย ควบคุมการไหลเข้าออก ของเงินระหว่างประเทศ แน่นอนการดำเนินการแบบนี้ ถึงแม้ในบางครั้งอาจจะควบคุมไม่ได้เบ็ดเสร็จ แต่ก็เรียกว่ามีอิทธิพล เหนือทั้งรัฐบาลและธุรกิจอุตสาหกรรม เงินไม่มี กิจการต่างๆไม่ว่าทางการเมืองหรือธุรกิจก็เป็นง่อยเรียบร้อย ตรงไปตรงมา ไม่ต้องฉลาดมากก็คิดได้ ขอให้มีเงินไว้ก่อน !
    ในขณะเดียวกัน ทางอีกฟากหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติก ในอเมริกาก็มีการรวมตัวของกลุ่มธนาคารและธุรกิจอุตสาหกรรมในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน โดยพวก Morgans, Astors, Vanderbilts, Rockefellers และ Carnegies กลุ่มทุนพวกนี้ก็เริ่มครอบงำอุตสาหกรรมทั้งหมด ตลอดศตวรรษที่ 19 และต่อมาผลประโยชน์ของนายทุนทั้ง 2 ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติคก็เชื่อมโยงกัน คนมีเงินก็ย่อมเลือกที่จะคบกับคนมีเงินด้วยกัน Anglo American Establishment ก็เกิดขึ้น
    คนรวยมีเงินแล้วก็อยากมีอำนาจ เป็นโรคเดียวกันทั้งนั้น ไม่มีใครต่างกัน กลับมาดูคนรวยที่อังกฤษ พวกคนรวยในอังกฤษเริ่มจับกลุ่มรวมตัวกัน เพื่อแสดงอิทธิพลของตนในระดับชาติ ช่วงนั้นนักล่าแถบนั้น กำลังรุมทิ้งเหยื่ออยู่แถวอาฟริกา ซึ่งเกือบทุกประเทศในอาฟริกา ยกเว้นเอธิโอเปีย ตกเป็นอาณานิคมของนักล่าผมทองจากอังกฤษและยุโรปทั้งสิ้น นักล่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคนั้นคือ นาย Cecil Rhodes นักล่าชาวอังกฤษเป็นคนลงไม้ลงมือล่า แต่กระเป๋าที่อุดหนุนให้เขาปฏิบัติการล่า คือ ตระกูล Rothshilds ซึ่งในช่วงนั้น เป็นแหล่งเงินทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก นาย Cecil Rhodes เป็นคนสุดโต่งอีกคนหนึ่ง เขามองว่าอเมริกายังเป็นอาณานิ คมของจักรภพอังกฤษอยู่ จะปล่อยให้มาทำท่ารวยยะโส เดินหน้าเชิด เทียบชั้นกับอังกฤษ เจ้านายเก่าแบบนี้น่ะ มันจะมากไปหน่อยไหม นาย Rhodes มองตัวเองไม่ใช่แค่เป็นนักล่าเงินรางวัล แต่เขาเป็นนักสร้างอาณาจักร empire builder อย่าลืมเขาสร้างเมือง Rhodesia ในอาฟริกา ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Zimbabwe
    Carroll Quigley เล่าต่อไปว่า ค.ศ.1891 คนโคตรรวยอังกฤษ 3 หนุ่ม แอบพบกัน เพื่อสมคบกันสร้างสมาคมลับ 3 หนุ่มคือนาย Cecil Rhodes, William T. Stead พี่เบิ้มแห่งวงการหนังสือพิมพ์สมัยนั้น (น่าสังเกตว่า ถ้าจะทำอะไรให้ดังต้องมีสื่อยักษ์มาร่วม มิน่าเล่า มันถึงอยากเป็นสื่อใหญ่กันทั้งนั้น ถีบตัวเองขึ้นมา จนลืมจรรยาบรรณ ฐานันดรที่ 4) และนาย Reginald Baliol Brett ซึ่งเป็นพระสหายผู้ได้รับความไว้วางใจ จากพระราชินีวิกตอเรีย แห่งจักรภพอังกฤษ และต่อมาก็ได้เป็นที่ปรึกษาผู้ มีอิทธิพลต่อพระเจ้า Edward ที่ 7 และพระเจ้า George ที่ 5 ปู่ของพระราชินีElizabeth ที่ 2 ของอังกฤษคนปัจจุบัน สมาคมลับนี้มีนาย Rhodes เป็นหัวหน้า และพระอันดับอีก 3 คน คือ นาย Stead, นาย Brett และคนสุดท้ายแต่มาแรง คือ นาย Alfred Milner
    วัตถุประสงค์ของสมาคมลับนี้ ซึ่งต่อไปจะนำฝูงโดยนาย Alfred Milner คือจัดการให้อังกฤษปกครองไปทั่วโลก ด้วยระบบของอังกฤษ ไม่ว่าจะในด้านปกครองประชาชนหรือทำการค้า พูดให้ชัด เป้าหมายคือจัดการให้อเมริกากลับมาอยู่ในอาณานิคมของอังกฤษ ใช้ระบบอังกฤษดำเนินชีวิต และอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม Rothshilds และกลุ่มธนาคารต่างๆ เต็มที่อย่างลับๆ
    คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 5 – สร้างพระเจ้าองค์ใหม่ นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 5 : สร้างพระเจ้าองค์ใหม่ หลัง Anglo American Establishment กอดคอจับมือกันชัดเจน เมื่อประมาณ ค.ศ.1890 ทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมกันสร้างกลไก สร้างระบบด้านการเงินการธนาคารเป็นอันดับแรก เพื่อเอาตัวเองนำหน้าชักใยรัฐบาล และลดบทบาทของประเทศ ระบบธนาคารกลาง เกิดขึ้นครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ.1694 ที่อังกฤษ เป็นการรวมตัวกันของ เครือข่ายธนาคารกลางนานาชาติ ซึ่งไม่ได้เป็นของรัฐ แต่เป็นของเอกชน ! มีผู้ถือหุ้นเป็นเอกชนคนโคตรรวย ธนาคารกลางนี้เป็นผู้อนุญาตให้ รัฐบาล (จำกันให้ดี เงินเป็นใหญ่กว่ารัฐบาล มาตั้งแต่ ค.ศ.1694 แล้ว !) ในการพิมพ์ธนบัตร เงินสกุลต่างๆ ของแต่ละประเทศ โดยอนุญาตให้กำหนดอัตราดอกเบี้ย และทำกำไรจากดอกเบี้ยนั้น ธนาคารกลางเหล่านี้ เป็นผู้ให้เงินกู้แก่รัฐบาล และผู้ประกอบการอุตสาหกรรม เท่ากับควบคุมลูกค้าใหญ่ 2 กลุ่ม 2 ขาของประเทศไปพร้อมๆ กัน ต่อมาภายหลังประมาณ ปี ค.ศ.1930 ธนาคารกลางเหล่านี้ พร้อมใจกันอยู่ในระบบที่พวกตัว เองสร้างขึ้น เรียกว่า Bank for International Settlements (BIS) ตั้งอยู่ที่เมือง Basle ในสวิสเซอร์แลนด์ เป็นธนาคารของเอกชนเช่นเดียวกัน ทำหน้าที่เป็นธนาคารกลางของเหล่าสมาชิกซึ่งเป็นธนาคารกลางต่างๆ (เขียนแล้วมึนเอง คนอ่านก็คงมึน) เอาแบบง่ายๆ BIS ธนาคารกลางตัวแม่นี้ถือหุ้นโดย ธนาคารกลางตัว ลูกๆ ทั้งหลาย ธนาคารกลางตัวลูกก็ถือหุ้นโดยพวกเอกชนคนโคตรรวยอีกต่อหนึ่ง สรุปว่า พวกคนรวยลงทุนลงขันกันเอง เพื่อตั้งธนาคารกลาง และไม่ให้ใครมายุ่ง เขาดูแลเงินของเขากันเอง ตั้งกฎกติกาเอง โดยให้แม่ BIS คุม รัฐบาลได้แต่ทำตาปริบๆ ดู หน้าจ๋อย มือกุม ก้มหน้า รับคำสั่งรับอำนาจมาจากคนรวยอีกทีหนึ่ง เข้าใจไหม คนรวยใหญ่กว่ารัฐบาล ถึงพูดกันว่าเงินเป็นพระเจ้า ระบบธนาคารกลางนี้ หลังจากเกิดขึ้นครั้งแรกที่ London ไปได้สวย คนรวยติดใจ จึงขยายตัวข้ามมาในทวีปยุโรปตะวันตก และกระจายทั่วไปในทวีปยุโรป การปฏิวัติในฝรั่งเศส ทำให้นโปเลียนขึ้นมามีอำนาจ และยอมให้บรรดานายทุนที่รวมตัวกันให้เงินกู้นโปเลียนไปทำการปฏิวัตินั่นแหละ จับมือร่วมกันจัดตั้งธนาคารในฝรั่งเศสขึ้น เป็นธนาคารส่วนบุคคล ที่พวกนายทุนนี้ควบคุมกันเอง รัฐบาลไม่เกี่ยว ธนาคารนี้เป็นต้นกำเนิดของตระกูลโคตรรวยทางฝั่งยุโรป คือ ตระกูล Rothshilds ชาวยิวในยุโรป ซึ่งขยายธุรกิจการเงินของตระกูล โดยการตั้งธนาคารใน London, Paris, Frankfurt, Vienna และ Naples ทำให้ตระกูลนี้ยิ่งรวยเละขึ้นไปอีก และยิ่งรวยเพิ่มขึ้น จากการไปถือหางทุกฝ่ายในการรบทุกครั้งของนโปเลียน (ต้นกำเนิดของการถือไพ่ทุกใบในการต่อสู้ มีเงินซื้อไพ่ทุกใบ มีไพ่ให้เลือกเล่นแยะ เล่นยังไงก็ชนะ ยกเว้นโคตรโง่ หรือ โคตรเลว จนเทวดาบอกมีเงินมากมายมหาศาลแค่ไหนก็ช่วยอะไรพวกเจ้าไม่ได้ ตัวอย่างกำลังมีให้เห็นในบ้านเรา !) นาย Carroll Quigley นักประวัติศาสตร์ นักทฤษฎี เจ้าความคิดกำเนิดแห่งศิวิไลย์ของมนุษยชาติ แห่งมหาวิทยาลัย Georgetown เขียนไว้ในหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งบรรดาสาวกทั้งหลายถือเป็นคัมภีร์ ชื่อ Tragedy and Hope บอกว่าในช่วง ค.ศ.18101850 พวกวาณิชธนกิจใน London ได้สร้าง ธนาคารแห่งอังกฤษ (Bank of England) ตลาดหุ้นและตลาดเงินแห่ง London และไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาก็ขยายธุรกิจ โดยการสร้างธนาคารย่อยในระดับเมือง ต่างๆ ดำเนินกิจการ ในรูปแบบของธนาคารพาณิชย์ และธนาคารออมสิน รวมทั้งทำธุรกิจประกันภัย ธุรกิจ 3 อย่างนี้ มันหมุนเงิน สร้างเงินในตัวของมันเองตามวงจร เขาจึงรวมธุรกิจพวกนี้ไว้ด้วยกัน ในระดับที่ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนเป็นระดับระหว่างประเทศ จากเมืองไปสู่ประเทศ และด้วยวิธีนี้พวกเขาสามารถชักใย ควบคุมการไหลเข้าออก ของเงินระหว่างประเทศ แน่นอนการดำเนินการแบบนี้ ถึงแม้ในบางครั้งอาจจะควบคุมไม่ได้เบ็ดเสร็จ แต่ก็เรียกว่ามีอิทธิพล เหนือทั้งรัฐบาลและธุรกิจอุตสาหกรรม เงินไม่มี กิจการต่างๆไม่ว่าทางการเมืองหรือธุรกิจก็เป็นง่อยเรียบร้อย ตรงไปตรงมา ไม่ต้องฉลาดมากก็คิดได้ ขอให้มีเงินไว้ก่อน ! ในขณะเดียวกัน ทางอีกฟากหนึ่งของมหาสมุทรแอตแลนติก ในอเมริกาก็มีการรวมตัวของกลุ่มธนาคารและธุรกิจอุตสาหกรรมในลักษณะนี้เช่นเดียวกัน โดยพวก Morgans, Astors, Vanderbilts, Rockefellers และ Carnegies กลุ่มทุนพวกนี้ก็เริ่มครอบงำอุตสาหกรรมทั้งหมด ตลอดศตวรรษที่ 19 และต่อมาผลประโยชน์ของนายทุนทั้ง 2 ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติคก็เชื่อมโยงกัน คนมีเงินก็ย่อมเลือกที่จะคบกับคนมีเงินด้วยกัน Anglo American Establishment ก็เกิดขึ้น คนรวยมีเงินแล้วก็อยากมีอำนาจ เป็นโรคเดียวกันทั้งนั้น ไม่มีใครต่างกัน กลับมาดูคนรวยที่อังกฤษ พวกคนรวยในอังกฤษเริ่มจับกลุ่มรวมตัวกัน เพื่อแสดงอิทธิพลของตนในระดับชาติ ช่วงนั้นนักล่าแถบนั้น กำลังรุมทิ้งเหยื่ออยู่แถวอาฟริกา ซึ่งเกือบทุกประเทศในอาฟริกา ยกเว้นเอธิโอเปีย ตกเป็นอาณานิคมของนักล่าผมทองจากอังกฤษและยุโรปทั้งสิ้น นักล่าที่มีชื่อเสียงโด่งดังในยุคนั้นคือ นาย Cecil Rhodes นักล่าชาวอังกฤษเป็นคนลงไม้ลงมือล่า แต่กระเป๋าที่อุดหนุนให้เขาปฏิบัติการล่า คือ ตระกูล Rothshilds ซึ่งในช่วงนั้น เป็นแหล่งเงินทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก นาย Cecil Rhodes เป็นคนสุดโต่งอีกคนหนึ่ง เขามองว่าอเมริกายังเป็นอาณานิ คมของจักรภพอังกฤษอยู่ จะปล่อยให้มาทำท่ารวยยะโส เดินหน้าเชิด เทียบชั้นกับอังกฤษ เจ้านายเก่าแบบนี้น่ะ มันจะมากไปหน่อยไหม นาย Rhodes มองตัวเองไม่ใช่แค่เป็นนักล่าเงินรางวัล แต่เขาเป็นนักสร้างอาณาจักร empire builder อย่าลืมเขาสร้างเมือง Rhodesia ในอาฟริกา ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Zimbabwe Carroll Quigley เล่าต่อไปว่า ค.ศ.1891 คนโคตรรวยอังกฤษ 3 หนุ่ม แอบพบกัน เพื่อสมคบกันสร้างสมาคมลับ 3 หนุ่มคือนาย Cecil Rhodes, William T. Stead พี่เบิ้มแห่งวงการหนังสือพิมพ์สมัยนั้น (น่าสังเกตว่า ถ้าจะทำอะไรให้ดังต้องมีสื่อยักษ์มาร่วม มิน่าเล่า มันถึงอยากเป็นสื่อใหญ่กันทั้งนั้น ถีบตัวเองขึ้นมา จนลืมจรรยาบรรณ ฐานันดรที่ 4) และนาย Reginald Baliol Brett ซึ่งเป็นพระสหายผู้ได้รับความไว้วางใจ จากพระราชินีวิกตอเรีย แห่งจักรภพอังกฤษ และต่อมาก็ได้เป็นที่ปรึกษาผู้ มีอิทธิพลต่อพระเจ้า Edward ที่ 7 และพระเจ้า George ที่ 5 ปู่ของพระราชินีElizabeth ที่ 2 ของอังกฤษคนปัจจุบัน สมาคมลับนี้มีนาย Rhodes เป็นหัวหน้า และพระอันดับอีก 3 คน คือ นาย Stead, นาย Brett และคนสุดท้ายแต่มาแรง คือ นาย Alfred Milner วัตถุประสงค์ของสมาคมลับนี้ ซึ่งต่อไปจะนำฝูงโดยนาย Alfred Milner คือจัดการให้อังกฤษปกครองไปทั่วโลก ด้วยระบบของอังกฤษ ไม่ว่าจะในด้านปกครองประชาชนหรือทำการค้า พูดให้ชัด เป้าหมายคือจัดการให้อเมริกากลับมาอยู่ในอาณานิคมของอังกฤษ ใช้ระบบอังกฤษดำเนินชีวิต และอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ แนวคิดนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่ม Rothshilds และกลุ่มธนาคารต่างๆ เต็มที่อย่างลับๆ คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • แหกคอก ตอนที่ 4 – ทองห่อผ้าขี้ริ้ว
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 4 : ทองห่อผ้าขี้ริ้ว
    อำนาจคือทุน ทุนคืออำนาจ คาถาง่ายๆ สั้นๆ ท่องให้ฟังอยู่ในนิทานเกือบทุกเรื่อง โลกใบนี้ไม่ได้ซับซ้อนเกินเข้าใจ ความซับซ้อนถูกสร้างขึ้นมา เพื่อให้เหยื่อสับสนมึนงง แล้วจะได้ถูกล่าง่ายขึ้นต่างหาก
    การจะสร้างนักล่าหมายเลขหนึ่งขึ้นมาครองโลก แบบไม่มีใครกล้ามาท้าทาย ไม่ใช่ทำได้ง่ายๆ มันออกจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ และเพ้อฝันเสียด้วยซ้ำ แต่มันมีคนคิดจริง ขบวนการสร้างนักล่า ใช้เวลาทั้งหมดกว่า 100 ปี เริ่มตั้งแต่ประมาณ ปี ค.ศ.1890 คนคิดสร้างไม่ได้คิดเล่นๆ เขาคิดจริง ทำจริง อดทน วางแผน เป็นขั้นเป็นตอน และที่สำคัญคนคิดนอกจากมีทุนหนามหึมาแล้ว มันต้องมีความบ้าเต็มขั้น มีความอยากทะเยอทะยานเต็มร้อย บวกกับความเหี้ยมโหด อีกไม่รู้กี่พันเท่า มันถึงจะทำได้
    มันเป็นความคิดของพวกนายทุนที่เป็นเจ้าของ และมีอำนาจเหนือธนาคารกลาง และตลาดหุ้น ตลาดทุนที่ Wall Street และ London ไม่กี่ตระกูล ที่หวังจะจัดระเบียบโลกใหม่อย่างที่เขาต้องการ เป็นโลกที่ควบคุมด้วยเงิน ด้วยระบบการเงินที่พวกเขาวางแผนคิดสร้างมานั้น จะทำให้พวกเขาเป็นผู้ควบคุมชักใย รัฐบาล กองทัพ และประชาชนอีกต่อหนึ่งไม่ว่าเป็นชนชาติใด โดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือการครองโลก และจัดระเบียบโลกใหม่
    มันไม่ง่ายนักหรอก แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของพวกเขา พวกเขาคิดว่าถ้าเราสามารถสร้างระบบที่ให้เราเป็นผู้ สร้าง เงินได้ การควบคุมปริมาณและกระแสเงินของโลกนี้ ก็อยู่ในมือพวกเรา ระบบนี้จะทำงานไม่ต่างกับการควบคุมด้วยอาวุธ แต่มันเป็นอาวุธทางการเงิน
    New World Order จัดระเบียบโลกใหม่ Globalization โลกาภิวัฒน์เป็นหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์ประมาณ 500 ปี มาแล้ว (นานแล้วครับ แต่ใช้เวลานานมาก กว่าสมันน้อยจะรู้เรื่อง) เรื่องราวมันย้อนไปตั้งแต่สมัยอเมริกายังถูกนับเป็นอาณานิคม อยู่ในอำนาจของอังกฤษ ตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1600 กว่าประมาณนั้น อิทธิพลของอังกฤษครอบงำอเมริกาจนถึงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้อเมริกาจะทำสงครามกลางเมืองเหนือใต้เมื่อ ค.ศ.1861 – 1865 โดยฝ่ายเหนือมีอังกฤษสนับสนุน ฝ่ายใต้มีฝรั่งเศสสนับสนุน และอ้างว่าอังกฤษไม่สามารถจะกระทืบอเมริกาซ้ำได้ ต้องถอยกองทัพกลับไปก็ตาม แต่คราบของอังกฤษก็ยังคงครอบอเมริกาอยู่อย่างที่อเมริกาไม่รู้ตัวหรือแกล้งไม่รู้ตัว
    อิทธิพลของอังกฤษ ระบบของอังกฤษในด้านการค้าครอบงำอเมริกามาตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1700 แล้ว ก็พวกที่อพยพมาอยู่อเมริกาส่วนหนึ่ง (ไม่น้อย) ก็มาจากอังกฤษนั่นแหละ นอกจากพูดภาษาเดียวกันแล้ว อิทธิพลและวัฒนธรรม ผู้อพยพก็เก็บใส่กระเป๋าเอาติดมาด้วย
    ประมาณปี ค.ศ.1890 หลังอเมริกาปฏิวัติอุตสาหกรรม เกิดเศรษฐีใหม่ขึ้นมาหลายตระกูล ในอเมริกา เช่น Rockefeller, J.P Morgan, Astors, Vanderbits, Carnegies ฯลฯ
    อเมริกาจะเป็นคนรวยแบบไหนล่ะ แบบอินเดียนแดงเจ้าของถิ่นที่อเมริกาไล่ล่าเขา แล้วยึดเอาดินแดนเขามาหรือ ถ้างั้นก็ต้องเดินห้อยลูกปัด เอาขนนกติดหัว แน่นอนอเมริกาไม่เอาหรอกอเมริกาต้องเลือกเป็นคนรวยแบบที่ผู้ดีอังกฤษเขาเป็นกัน แบบที่อเมริกาแอบนับถือปนเกรงกลัวและอิจฉา เพราะรู้สึกด้อยกว่าเขา จึงต้องอพยพมาก่อร่างสร้างตัวในดินแดนใหม่นั่นแหละ ระบบอังกฤษจึงยังครอบงำอเมริกาในหลายๆ รูปแบบ ไม่มากก็น้อย จนถึงทุกวันนี้
    เมื่อคนอเมริกันเริ่มรวย รวยพอที่จะเดินเชิดหน้าในสังคมโลก ก็เริ่มทำการค้าแบบคนอังกฤษ ในระบบอังกฤษ โดยเฉพาะด้านการเงิน และการอุตสาหกรรม ประมาณปี ค.ศ.1890 การร่วมมือ รวมลงทุนระหว่างคนรวยฝั่งอเมริกากับฝั่งอังกฤษก็เริ่มเพิ่มขึ้น Anglo American Establishment ก็เกิดขึ้น แนวคิดที่จะครองโลกร่วมกัน จึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้น
    อังกฤษรู้อยู่แก่ใจว่า วันหนึ่งดวงอาทิตย์ต้องตกดินในดินแดนที่ เคย เป็นอาณานิคมของตัว จะอุ้มจะแบกอาณานิคมไปตลอดกาล เป็นไปไม่ได้ อังกฤษเองไม่มีทรัพยากรของตัวเอง เกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อย ที่แผ่ไพศาลมาได้ขนาดนี้ ก็ต้องชื่นชมในความตะกรามทยานอยากได้อย่างสุดขีด แล้วจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นประวัติศาสตร์ หลุดมือไปหมดกระนั้นหรือ อังกฤษเป็นนักล่ารุ่นเก๋า ย่อมมองเห็น ใครจะขึ้นมาเป็นนักล่ารุ่นใหม่ ดูท่วงทีลีลาของนักล่ารุ่นใหม่แล้ว แยกกันเดินคงเหนื่อย ร่วมกันเดินหลอกชาวบ้านน่าจะรุ่งกว่า ว่าแล้วคนรวย 2 ฝากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกก็จับมือกัน แท้จริงแล้วใครนำใคร ใครหลอกใคร เป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูไปอีกนาน น่าสนใจอย่างยิ่งจนถึงทุกวันนี้ ย้ำ จนถึงทุกวันนี้ !
    คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 4 – ทองห่อผ้าขี้ริ้ว นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 4 : ทองห่อผ้าขี้ริ้ว อำนาจคือทุน ทุนคืออำนาจ คาถาง่ายๆ สั้นๆ ท่องให้ฟังอยู่ในนิทานเกือบทุกเรื่อง โลกใบนี้ไม่ได้ซับซ้อนเกินเข้าใจ ความซับซ้อนถูกสร้างขึ้นมา เพื่อให้เหยื่อสับสนมึนงง แล้วจะได้ถูกล่าง่ายขึ้นต่างหาก การจะสร้างนักล่าหมายเลขหนึ่งขึ้นมาครองโลก แบบไม่มีใครกล้ามาท้าทาย ไม่ใช่ทำได้ง่ายๆ มันออกจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ และเพ้อฝันเสียด้วยซ้ำ แต่มันมีคนคิดจริง ขบวนการสร้างนักล่า ใช้เวลาทั้งหมดกว่า 100 ปี เริ่มตั้งแต่ประมาณ ปี ค.ศ.1890 คนคิดสร้างไม่ได้คิดเล่นๆ เขาคิดจริง ทำจริง อดทน วางแผน เป็นขั้นเป็นตอน และที่สำคัญคนคิดนอกจากมีทุนหนามหึมาแล้ว มันต้องมีความบ้าเต็มขั้น มีความอยากทะเยอทะยานเต็มร้อย บวกกับความเหี้ยมโหด อีกไม่รู้กี่พันเท่า มันถึงจะทำได้ มันเป็นความคิดของพวกนายทุนที่เป็นเจ้าของ และมีอำนาจเหนือธนาคารกลาง และตลาดหุ้น ตลาดทุนที่ Wall Street และ London ไม่กี่ตระกูล ที่หวังจะจัดระเบียบโลกใหม่อย่างที่เขาต้องการ เป็นโลกที่ควบคุมด้วยเงิน ด้วยระบบการเงินที่พวกเขาวางแผนคิดสร้างมานั้น จะทำให้พวกเขาเป็นผู้ควบคุมชักใย รัฐบาล กองทัพ และประชาชนอีกต่อหนึ่งไม่ว่าเป็นชนชาติใด โดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือการครองโลก และจัดระเบียบโลกใหม่ มันไม่ง่ายนักหรอก แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถของพวกเขา พวกเขาคิดว่าถ้าเราสามารถสร้างระบบที่ให้เราเป็นผู้ สร้าง เงินได้ การควบคุมปริมาณและกระแสเงินของโลกนี้ ก็อยู่ในมือพวกเรา ระบบนี้จะทำงานไม่ต่างกับการควบคุมด้วยอาวุธ แต่มันเป็นอาวุธทางการเงิน New World Order จัดระเบียบโลกใหม่ Globalization โลกาภิวัฒน์เป็นหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์ประมาณ 500 ปี มาแล้ว (นานแล้วครับ แต่ใช้เวลานานมาก กว่าสมันน้อยจะรู้เรื่อง) เรื่องราวมันย้อนไปตั้งแต่สมัยอเมริกายังถูกนับเป็นอาณานิคม อยู่ในอำนาจของอังกฤษ ตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1600 กว่าประมาณนั้น อิทธิพลของอังกฤษครอบงำอเมริกาจนถึงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้อเมริกาจะทำสงครามกลางเมืองเหนือใต้เมื่อ ค.ศ.1861 – 1865 โดยฝ่ายเหนือมีอังกฤษสนับสนุน ฝ่ายใต้มีฝรั่งเศสสนับสนุน และอ้างว่าอังกฤษไม่สามารถจะกระทืบอเมริกาซ้ำได้ ต้องถอยกองทัพกลับไปก็ตาม แต่คราบของอังกฤษก็ยังคงครอบอเมริกาอยู่อย่างที่อเมริกาไม่รู้ตัวหรือแกล้งไม่รู้ตัว อิทธิพลของอังกฤษ ระบบของอังกฤษในด้านการค้าครอบงำอเมริกามาตั้งแต่ช่วง ค.ศ.1700 แล้ว ก็พวกที่อพยพมาอยู่อเมริกาส่วนหนึ่ง (ไม่น้อย) ก็มาจากอังกฤษนั่นแหละ นอกจากพูดภาษาเดียวกันแล้ว อิทธิพลและวัฒนธรรม ผู้อพยพก็เก็บใส่กระเป๋าเอาติดมาด้วย ประมาณปี ค.ศ.1890 หลังอเมริกาปฏิวัติอุตสาหกรรม เกิดเศรษฐีใหม่ขึ้นมาหลายตระกูล ในอเมริกา เช่น Rockefeller, J.P Morgan, Astors, Vanderbits, Carnegies ฯลฯ อเมริกาจะเป็นคนรวยแบบไหนล่ะ แบบอินเดียนแดงเจ้าของถิ่นที่อเมริกาไล่ล่าเขา แล้วยึดเอาดินแดนเขามาหรือ ถ้างั้นก็ต้องเดินห้อยลูกปัด เอาขนนกติดหัว แน่นอนอเมริกาไม่เอาหรอกอเมริกาต้องเลือกเป็นคนรวยแบบที่ผู้ดีอังกฤษเขาเป็นกัน แบบที่อเมริกาแอบนับถือปนเกรงกลัวและอิจฉา เพราะรู้สึกด้อยกว่าเขา จึงต้องอพยพมาก่อร่างสร้างตัวในดินแดนใหม่นั่นแหละ ระบบอังกฤษจึงยังครอบงำอเมริกาในหลายๆ รูปแบบ ไม่มากก็น้อย จนถึงทุกวันนี้ เมื่อคนอเมริกันเริ่มรวย รวยพอที่จะเดินเชิดหน้าในสังคมโลก ก็เริ่มทำการค้าแบบคนอังกฤษ ในระบบอังกฤษ โดยเฉพาะด้านการเงิน และการอุตสาหกรรม ประมาณปี ค.ศ.1890 การร่วมมือ รวมลงทุนระหว่างคนรวยฝั่งอเมริกากับฝั่งอังกฤษก็เริ่มเพิ่มขึ้น Anglo American Establishment ก็เกิดขึ้น แนวคิดที่จะครองโลกร่วมกัน จึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้น อังกฤษรู้อยู่แก่ใจว่า วันหนึ่งดวงอาทิตย์ต้องตกดินในดินแดนที่ เคย เป็นอาณานิคมของตัว จะอุ้มจะแบกอาณานิคมไปตลอดกาล เป็นไปไม่ได้ อังกฤษเองไม่มีทรัพยากรของตัวเอง เกาะเล็กเท่าปลายนิ้วก้อย ที่แผ่ไพศาลมาได้ขนาดนี้ ก็ต้องชื่นชมในความตะกรามทยานอยากได้อย่างสุดขีด แล้วจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นประวัติศาสตร์ หลุดมือไปหมดกระนั้นหรือ อังกฤษเป็นนักล่ารุ่นเก๋า ย่อมมองเห็น ใครจะขึ้นมาเป็นนักล่ารุ่นใหม่ ดูท่วงทีลีลาของนักล่ารุ่นใหม่แล้ว แยกกันเดินคงเหนื่อย ร่วมกันเดินหลอกชาวบ้านน่าจะรุ่งกว่า ว่าแล้วคนรวย 2 ฝากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกก็จับมือกัน แท้จริงแล้วใครนำใคร ใครหลอกใคร เป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูไปอีกนาน น่าสนใจอย่างยิ่งจนถึงทุกวันนี้ ย้ำ จนถึงทุกวันนี้ ! คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • มหามิตรซามูไร ไร้ศักดิ์ศรี ย่ำยีอธิปไตยไทยเพื่อผลประโยชน์
    ไทยญี่ปุ่นผูกพันข้ามศตวรรษ กลับมาสร้างบาดแผลให้คนไทย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ญี่ปุ่น
    มหามิตรซามูไร ไร้ศักดิ์ศรี ย่ำยีอธิปไตยไทยเพื่อผลประโยชน์ ไทยญี่ปุ่นผูกพันข้ามศตวรรษ กลับมาสร้างบาดแผลให้คนไทย #คิงส์โพธิ์แดง #ญี่ปุ่น
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • คุณอนุทินและลูกชายคุณเนวิน ตอนเป็นฝ่ายค้านแป๊บนึง พูดว่าไทยต้องทำกำแพงล้อมรั้ว100%&อีกคนบอกต้องยกเลิก"MOU43-44..เพราะเป็นปัญหาให้ประเทศไทยเสียเปรียบกัมพูชาเป็นชนวนความขัดแย้งก่อให้เกิดความสูญเสียมากมายทั้งชีวิตและทรัพย์สินประเมินค่ามิได้"แต่พอเข้ามาเข้ามาเป็นรัฐบาลกับรีบเจรจาเปิดด่านอ้างปากท้องประชาชนแน่รึปากท้องนักการเมืองมากกว่า#ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาอีกทำไมให้เสียเวลา เหตุปัจจัยปัจจุบันที่เห็นอยู่ยังไม่พออีกหรือที่จะตัดสินใจยกเลิก ความสูญเสียที่เกิดขึ้นคราวนี้ถ้าไม่รีบจัดการยุติก็ต้องเป็นปัญหาให้ลูกหลานไทยในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน STOP..เจรจากับกัมพูชาควรหยุดเพราะพูดกันคนละภาษา มันพูดอย่างทำอย่างเราจะเชื่อถืออะไรได้ ให้เร่งเปิดด่านอ้างสารพัด บลาๆๆๆจะถอนกำลังหนักออกไปแต่มันเสริมกำลังเข้ามาตลอดแล้วกองกำลัง BHQ..มันเสริมเข้ามาพร้อมอาวุธหนักเข้ามาประชิดชายแดนไทยทำไม คนชาตินี้หาสัจจะในคำพูดไม่ได้ เช้านั่งกินข้าวด้วยกันเย็นวางระเบิดทหารไทยขาขาด พวกคุณรู้ทุกอย่างอยู่กับข้อมูล หรือมีอะไรตื้นลึกหนาบางที่ประชาชนยังไม่รู้อีก?#พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่๙ พระองค์มีพระบรมราชโองการออกมาแล้วและเขียนแผนที่ให้เห็นชัดเจนทั้งหมด ไม่มีพื้นที่ส่วนใดในประเทศไทยที่เป็นพื้นที่ทับซ้อนแต่อย่างใดเลย "สยามได้ทำแผนที่เสร็จสิ้นสมบูรณ์พร้อมมีหลักเขตแดน #ก่อนจะมีประเทศกัมพูชากำเนิดขึ้นมาด้วยซ้ำ"..แล้วจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาหรือทำประชามติอีกทำไมให้เสียเวลาแล้วปัญหานี้จะดึงเวลาไปอีกเท่าไหร่ชาตินี้ไหม๊หรือภพชาติหน้า♾&แล้วคำถามในประชามติจะระบุว่าอะไร"คำถามเชิงชี้นำ?&หรือเชิงวิเคราะห์.."แหมตอนไปทำไม่ถามประชาชนสักคำแต่พอจะยกเลิกกับจะมาเห็นหัวประชาชนขึ้นมาซะงั้นต้องถามประชาชนก่อนว่าเห็นด้วยกับการยกเลิกMOU43-44 ไหมหัวเราะไม่ออกจริงๆก็เห็นๆอยู่ว่ากัมพูชาไปยึดแผนที่1:200,000 "มันไม่ได้จะมาขีดเองตามใจไม่ได้การทำแผนที่ในปัจจุบันด้วยดาวเทียมมีความละเอียดสูงพิกัดชัดเจน1:50,000#🙏🏿พ่อหลวง ร.9 พระองค์ก็เขียนไว้ให้แล้ว❤#ตอนวุ้นเส้นบัญชาการรบก็ใช้แผนที่1:50,000เห็นกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นจะมาอ้างว่าไม่มีเจตนายิงใส่บ้านพลเรือนจึงฟังไม่ขึ้น ไปหลอกเด็กไป่มันละเมิดสนธิสัญญาเจนีวาอย่างชัดเจนเจตนาฆ่าพลเรือน&ละเมิดสนธิสัญญาออตตาวาแอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทำให้ทหารไทยขาขาดพิการไปจำนวนมากทุกวันนี้ก็ยังวางอยู่ ไทยตรวจจับกู้มาได้ตลอดเวลา ความเจ็บปวดของเพื่อนร่วมชาติพวกคุณไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไม่ต้องเจรจาแล้วลิ้นสองแฉกคบไม่ได้#นักการเมืองพวกคุณไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ระวังประชาชนจะเปลี่ยนคุณเองอย่าคิดนะว่าไทยจะไม่เป็นแบบเนปาลมันก็ไม่แน่หรอก..ไม่ได้เห็นด้วยกับความรุนแรงเผาบ้านเผาเมืองขนาดนั้นแต่ไม่ไปตัดสินเขาเพราะเราไม่ใช่เขาไม่รู้ว่าเขาเจออะไรมาบ้าง#ถ้ามันเกิดเป็น โดมิโน่ขึ้นมาล่ะ พวกคุณต้องรับผิดชอบนะ คุณมีโอกาสทำให้ดีแล้วไม่ทำก็จะไม่มีโอกาส"เห็นไหมภาคเหนือน้ำท่วมซ้ำซากบริหารจัดการกันอย่างไร ชาวบ้านทุกข์ยากลำบากไปมองเขาบ้างไหมบ้านหายไปทั้งหลัง ท่วมติดๆกันต่อเนื่องทุกปีเขาจะตั้งตัวยังไง งบประมาณบริหารจัดการน้ำไปทำอะไรได้บ้าง คนเราจะมีบ้านสักหลังอาจต้องทำงานทั้งชีวิตตายก็ยังผ่อนไม่หมดเลย ต่อให้ไทยพบแหล่งพลังงานจำนวนมากแค่ไหน คนไทยจะได้อะไร?เพราะทุกวันนี้คนไทยก็ใช้พลังงานในราคาแพงมากๆอยู่แล้วมันคือต้นทุนของค่าครองชีพทุกอย่างสูงไปตามกัน ไทยมีน้ำมันส่งออกไปขาย ตปท.ได้ ผลิตกระแสไฟฟ้าได้เกินความต้องการของคนในประเทศคือมันล้นแต่คนไทยก็ใช้ไฟแพงอยู่ดี เพราะฉะนั้นจะพบแหล่งพลังงานขุดหรือไม่ขุดขึ้นมาค่ามันต่างกันตรงไหนไม่ทราบ "ขนาดค่าอัตราไฟฟ้าผันแปร'FT(Fuel Adjustment Charge.ประชาชนต้องแบกรับอ้างเป็นต้นทุนการผลิตที่ควบคุมไม่ได้ "#แต่เวลากำไรกับรับไปเต็มๆมันผลิตเกินความต้องการของคนใช้ภายในประเทศมันควรจะถูกมากๆไม่ใช่แพงขนาดนี้#ชีวิตหรูหราของนักการเมืองใช้ของกินอยู่กันแบบไฮโซคิดว่าประชาชนเขาไม่เห็นหรือไงคะ...เข้ามาระยะสั้นๆทำอะไรฝากไว้เป็นเกียรติยศศักดิ์ศรีไม่ดีกว่าหรือคะ คนเราตายได้ทุกลมหายใจเข้าออกนะอย่าคิดว่ามีเวลาเยอะยังไงก็ไม่เกิน3หมื่นวัน.จะให้คนจดจำคุณแบบใดฯลฯ&‍‍If's up to you to do.(อยู่ที่คุณทำ)
    คุณอนุทินและลูกชายคุณเนวิน ตอนเป็นฝ่ายค้านแป๊บนึง พูดว่าไทยต้องทำกำแพงล้อมรั้ว100%&อีกคนบอกต้องยกเลิก"MOU43-44..เพราะเป็นปัญหาให้ประเทศไทยเสียเปรียบกัมพูชาเป็นชนวนความขัดแย้งก่อให้เกิดความสูญเสียมากมายทั้งชีวิตและทรัพย์สินประเมินค่ามิได้"แต่พอเข้ามาเข้ามาเป็นรัฐบาลกับรีบเจรจาเปิดด่านอ้างปากท้องประชาชนแน่รึ🙄🔊ปากท้องนักการเมืองมากกว่า#ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาอีกทำไมให้เสียเวลา เหตุปัจจัยปัจจุบันที่เห็นอยู่ยังไม่พออีกหรือที่จะตัดสินใจยกเลิก ความสูญเสียที่เกิดขึ้นคราวนี้ถ้าไม่รีบจัดการยุติก็ต้องเป็นปัญหาให้ลูกหลานไทยในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน 🤚STOP..เจรจากับกัมพูชาควรหยุดเพราะพูดกันคนละภาษา มันพูดอย่างทำอย่างเราจะเชื่อถืออะไรได้ ให้เร่งเปิดด่านอ้างสารพัด บลาๆๆๆจะถอนกำลังหนักออกไปแต่มันเสริมกำลังเข้ามาตลอดแล้วกองกำลัง BHQ..มันเสริมเข้ามาพร้อมอาวุธหนักเข้ามาประชิดชายแดนไทยทำไม คนชาตินี้หาสัจจะในคำพูดไม่ได้ เช้านั่งกินข้าวด้วยกันเย็นวางระเบิดทหารไทยขาขาด พวกคุณรู้ทุกอย่างอยู่กับข้อมูล หรือมีอะไรตื้นลึกหนาบางที่ประชาชนยังไม่รู้อีก?#พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่๙ พระองค์มีพระบรมราชโองการออกมาแล้วและเขียนแผนที่ให้เห็นชัดเจนทั้งหมด ไม่มีพื้นที่ส่วนใดในประเทศไทยที่เป็นพื้นที่ทับซ้อนแต่อย่างใดเลย "สยามได้ทำแผนที่เสร็จสิ้นสมบูรณ์พร้อมมีหลักเขตแดน #ก่อนจะมีประเทศกัมพูชากำเนิดขึ้นมาด้วยซ้ำ"..แล้วจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาหรือทำประชามติอีกทำไมให้เสียเวลาแล้วปัญหานี้จะดึงเวลาไปอีกเท่าไหร่ชาตินี้ไหม๊😔หรือภพชาติหน้า♾&แล้วคำถามในประชามติจะระบุว่าอะไร"คำถามเชิงชี้นำ?&หรือเชิงวิเคราะห์.."แหมตอนไปทำไม่ถามประชาชนสักคำแต่พอจะยกเลิกกับจะมาเห็นหัวประชาชนขึ้นมาซะงั้นต้องถามประชาชนก่อนว่าเห็นด้วยกับการยกเลิกMOU43-44 ไหมหัวเราะไม่ออกจริงๆก็เห็นๆอยู่ว่ากัมพูชาไปยึดแผนที่1:200,000 "มันไม่ได้จะมาขีดเองตามใจไม่ได้การทำแผนที่ในปัจจุบันด้วยดาวเทียมมีความละเอียดสูงพิกัดชัดเจน1:50,000#💛🙏🏿พ่อหลวง ร.9 พระองค์ก็เขียนไว้ให้แล้ว🔆❤🇹🇭❤#ตอนวุ้นเส้นบัญชาการรบก็ใช้แผนที่1:50,000เห็นกันทั่วโลก เพราะฉะนั้นจะมาอ้างว่าไม่มีเจตนายิงใส่บ้านพลเรือนจึงฟังไม่ขึ้น ไปหลอกเด็กไป่👉มันละเมิดสนธิสัญญาเจนีวาอย่างชัดเจนเจตนาฆ่าพลเรือน&ละเมิดสนธิสัญญาออตตาวาแอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลทำให้ทหารไทยขาขาดพิการไปจำนวนมากทุกวันนี้ก็ยังวางอยู่ ไทยตรวจจับกู้มาได้ตลอดเวลา ความเจ็บปวดของเพื่อนร่วมชาติพวกคุณไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไม่ต้องเจรจาแล้วลิ้นสองแฉกคบไม่ได้#นักการเมืองพวกคุณไม่เปลี่ยนพฤติกรรม ระวังประชาชนจะเปลี่ยนคุณเองอย่าคิดนะว่าไทยจะไม่เป็นแบบเนปาลมันก็ไม่แน่หรอก..ไม่ได้เห็นด้วยกับความรุนแรงเผาบ้านเผาเมืองขนาดนั้นแต่ไม่ไปตัดสินเขาเพราะเราไม่ใช่เขาไม่รู้ว่าเขาเจออะไรมาบ้าง#ถ้ามันเกิดเป็น โดมิโน่ขึ้นมาล่ะ พวกคุณต้องรับผิดชอบนะ คุณมีโอกาสทำให้ดีแล้วไม่ทำก็จะไม่มีโอกาส"เห็นไหมภาคเหนือน้ำท่วมซ้ำซากบริหารจัดการกันอย่างไร ชาวบ้านทุกข์ยากลำบากไปมองเขาบ้างไหมบ้านหายไปทั้งหลัง ท่วมติดๆกันต่อเนื่องทุกปีเขาจะตั้งตัวยังไง งบประมาณบริหารจัดการน้ำไปทำอะไรได้บ้าง คนเราจะมีบ้านสักหลังอาจต้องทำงานทั้งชีวิตตายก็ยังผ่อนไม่หมดเลย ต่อให้ไทยพบแหล่งพลังงานจำนวนมากแค่ไหน คนไทยจะได้อะไร?เพราะทุกวันนี้คนไทยก็ใช้พลังงานในราคาแพงมากๆอยู่แล้วมันคือต้นทุนของค่าครองชีพทุกอย่างสูงไปตามกัน ไทยมีน้ำมันส่งออกไปขาย ตปท.ได้ ผลิตกระแสไฟฟ้าได้เกินความต้องการของคนในประเทศคือมันล้นแต่คนไทยก็ใช้ไฟแพงอยู่ดี เพราะฉะนั้นจะพบแหล่งพลังงานขุดหรือไม่ขุดขึ้นมาค่ามันต่างกันตรงไหนไม่ทราบ "ขนาดค่าอัตราไฟฟ้าผันแปร'FT(Fuel Adjustment Charge.ประชาชนต้องแบกรับอ้างเป็นต้นทุนการผลิตที่ควบคุมไม่ได้ "#แต่เวลากำไรกับรับไปเต็มๆมันผลิตเกินความต้องการของคนใช้ภายในประเทศมันควรจะถูกมากๆไม่ใช่แพงขนาดนี้#ชีวิตหรูหราของนักการเมืองใช้ของกินอยู่กันแบบไฮโซคิดว่าประชาชนเขาไม่เห็นหรือไงคะ...เข้ามาระยะสั้นๆทำอะไรฝากไว้เป็นเกียรติยศศักดิ์ศรีไม่ดีกว่าหรือคะ คนเราตายได้ทุกลมหายใจเข้าออกนะอย่าคิดว่ามีเวลาเยอะยังไงก็ไม่เกิน3หมื่นวัน.จะให้คนจดจำคุณแบบใดฯลฯ👹&🧚‍♀️🧚‍♂️If's up to you to do.(อยู่ที่คุณทำ)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • คดีแตงโมคืบหน้า 90% พบความน่าสงสัย!? : [THE MESSAGE]

    นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน และ นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน คุณแม่แตงโม นำพยานเอกสารเพิ่มซึ่งได้จากศาลจังหวัดนนทบุรี มอบให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนคดีแตงโม โดยนายปานเทพ เผย เอกสารที่นำมามอบให้ อาทิ วัตถุพยานโจทก์-จำเลยอ้างส่ง 14 ชิ้น, หนังสือนำส่งวัตถุพยาน สำเนารายงานผลการตรวจชันสูตรศพจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดยได้คัดมาเกือบทั้งหมดขาดเพียง 3 ชิ้น ด้านคุณแม่แตงโม เผย ยังคิดถึงลูกสาวยังพูดกับน้องทุกวัน เชื่อน้องโดนสะกดวิญญาณอยู่ที่วัดค้างคาว อีกไม่กี่วันจะเป็นวันเกิดของน้องโมจะทำบุญให้ลูก ความหวังของแม่ตอนนี้อยู่ที่พยานเอกสารเหล่านี้ทั้งหมด อยากรู้ว่าใครทำลูกเรา หากทำจริงทำเพราะเหตุผลใด ขณะที่ พ.ต.ต.ณฐพล เผยความคืบหน้าสำนวนการสืบสวนมีถึง 90% ซึ่งได้ส่งภาพถ่ายสำคัญ 4 ภาพ ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบว่าภาพมีการแก้ไขดัดแปลงหรือไม่ สำหรับข้อมูลการกู้โทรศัพท์ของคุณแตงโมได้มาบางส่วนแล้ว แต่ได้ส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจซ้ำอีก เตรียมลงพื้นที่อีกครั้งต้นเดือน ต.ค. นี้
    คดีแตงโมคืบหน้า 90% พบความน่าสงสัย!? : [THE MESSAGE] นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน และ นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน คุณแม่แตงโม นำพยานเอกสารเพิ่มซึ่งได้จากศาลจังหวัดนนทบุรี มอบให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนคดีแตงโม โดยนายปานเทพ เผย เอกสารที่นำมามอบให้ อาทิ วัตถุพยานโจทก์-จำเลยอ้างส่ง 14 ชิ้น, หนังสือนำส่งวัตถุพยาน สำเนารายงานผลการตรวจชันสูตรศพจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดยได้คัดมาเกือบทั้งหมดขาดเพียง 3 ชิ้น ด้านคุณแม่แตงโม เผย ยังคิดถึงลูกสาวยังพูดกับน้องทุกวัน เชื่อน้องโดนสะกดวิญญาณอยู่ที่วัดค้างคาว อีกไม่กี่วันจะเป็นวันเกิดของน้องโมจะทำบุญให้ลูก ความหวังของแม่ตอนนี้อยู่ที่พยานเอกสารเหล่านี้ทั้งหมด อยากรู้ว่าใครทำลูกเรา หากทำจริงทำเพราะเหตุผลใด ขณะที่ พ.ต.ต.ณฐพล เผยความคืบหน้าสำนวนการสืบสวนมีถึง 90% ซึ่งได้ส่งภาพถ่ายสำคัญ 4 ภาพ ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบว่าภาพมีการแก้ไขดัดแปลงหรือไม่ สำหรับข้อมูลการกู้โทรศัพท์ของคุณแตงโมได้มาบางส่วนแล้ว แต่ได้ส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจซ้ำอีก เตรียมลงพื้นที่อีกครั้งต้นเดือน ต.ค. นี้
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Newsstory : สนธิ ซัด บิ๊กเล็ก คนไม่มีศักดิ์ศรี อธิปไตยชาติไม่เคยสนใจ

    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล
    #บิ๊กเล็ก #อธิปไตยชาติไทย
    Newsstory : สนธิ ซัด บิ๊กเล็ก คนไม่มีศักดิ์ศรี อธิปไตยชาติไม่เคยสนใจ #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #บิ๊กเล็ก #อธิปไตยชาติไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ..โปรดเกล้าฯได้3วัน มันก็รีบคุยเรื่องเปิดด่าน
    ..วันที่7ก.ย.68 ,วันที่8,9,10 วันที่10มันคุยเปิดด่านเลย,
    ..สรุป ม.144 ลงหน้างานจริงเสียทีเถอะ เรา..ประชาชนรอนานพอแล้วเนปาลอาจเกิดที่ไทยได้, คดีฮั้วสว,คดีเขากระโดง ,คดียุบพรรคภูมิใจไทย ยุบพรรคเพื่อไทยท่านทำอะไรอยู่ อย่ากินเงินภาษีแผ่นดินนี้ให้หนักแผ่นดินเลย, เร่งเดินเรื่องเถอะ

    https://www.thaipbs.or.th/news/content/356256
    ..โปรดเกล้าฯได้3วัน มันก็รีบคุยเรื่องเปิดด่าน ..วันที่7ก.ย.68 ,วันที่8,9,10 วันที่10มันคุยเปิดด่านเลย, ..สรุป ม.144 ลงหน้างานจริงเสียทีเถอะ เรา..ประชาชนรอนานพอแล้วเนปาลอาจเกิดที่ไทยได้, คดีฮั้วสว,คดีเขากระโดง ,คดียุบพรรคภูมิใจไทย ยุบพรรคเพื่อไทยท่านทำอะไรอยู่ อย่ากินเงินภาษีแผ่นดินนี้ให้หนักแผ่นดินเลย, เร่งเดินเรื่องเถอะ https://www.thaipbs.or.th/news/content/356256
    WWW.THAIPBS.OR.TH
    โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "อนุทิน ชาญวีรกูล" เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "อนุทิน ชาญวีรกูล" เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พีระพันธุ์” ฝากรัฐบาลใหม่เดินหน้าสูตร Pool Gas ใหม่ – ย้ำ “ใครทำก็ได้ ขอให้ทำเพื่อประโยชน์ประชาชน”
    https://www.thai-tai.tv/news/21449/
    .
    #ไทยไท #พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค #ค่าไฟฟ้า #พลังงาน #PoolGas #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    “พีระพันธุ์” ฝากรัฐบาลใหม่เดินหน้าสูตร Pool Gas ใหม่ – ย้ำ “ใครทำก็ได้ ขอให้ทำเพื่อประโยชน์ประชาชน” https://www.thai-tai.tv/news/21449/ . #ไทยไท #พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค #ค่าไฟฟ้า #พลังงาน #PoolGas #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts