ความต้องการทองแดงพุ่งสูงจากศูนย์ข้อมูล AI
การขยายตัวของ Hyperscale AI campuses ที่ใช้พลังงานมหาศาล (50–150 เมกะวัตต์ต่อไซต์) ทำให้ทองแดงถูกใช้ในปริมาณมหาศาล โดยเฉลี่ย 27–33 ตันต่อเมกะวัตต์ ส่งผลให้ไซต์ขนาด 100 เมกะวัตต์ต้องใช้ทองแดงหลายพันตัน นี่คือแรงกดดันใหม่ที่ทำให้ทองแดงกลายเป็น คอขวดสำคัญของอุตสาหกรรม AI
ปัญหาการผลิตและเหมืองทองแดง
หลายเหมืองทั่วโลกกำลังเจอปัญหา เช่น คุณภาพแร่ลดลงกว่า 40% ตั้งแต่ปี 1991 และการขยายเหมืองใหม่ถูกขัดขวางด้วยข้อพิพาททางกฎหมายและสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการ Resolution Copper ในรัฐแอริโซนา ที่ถูกชะลอเพราะพื้นที่ถูกมองว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่า Apache ทำให้การผลิตใหม่ยังต้องรออีกนาน
ราคาทองแดงพุ่งสูงและตลาดตึงตัว
ราคาทองแดงทะยานขึ้นกว่า 11,000 ดอลลาร์ต่อตัน จากราว 8,500 ดอลลาร์เมื่อสองปีก่อน ขณะที่สหรัฐฯ และยุโรปเริ่มจัดให้ทองแดงเป็น แร่ธาตุวิกฤต (critical mineral) เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอุตสาหกรรม นักวิเคราะห์คาดว่าราคาจะยังสูงต่อเนื่องจนถึงปี 2026 เพราะการหยุดชะงักของเหมืองในอเมริกาใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การรีไซเคิลและนโยบายใหม่
เพื่อลดแรงกดดัน ตลาดกำลังหันไปพึ่ง การรีไซเคิลและการทำเหมืองในเมือง (urban mining) รวมถึงการใช้กองขยะเก่าที่เคยไม่คุ้มค่าในการสกัด แต่การสร้างโรงถลุงใหม่ยังคงช้าและมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้การแก้ปัญหายังไม่ทันต่อความต้องการที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
สรุปประเด็นสำคัญ
ความต้องการทองแดงจากศูนย์ข้อมูล AI สูงมาก
ใช้ 27–33 ตันต่อเมกะวัตต์, ไซต์ใหญ่ต้องใช้หลายพันตัน
เหมืองทองแดงทั่วโลกผลิตไม่ทัน
คุณภาพแร่ลดลง 40% และโครงการใหม่ถูกขัดขวาง
ราคาทองแดงพุ่งทะลุ 11,000 ดอลลาร์ต่อตัน
สหรัฐฯ และยุโรปจัดให้เป็นแร่ธาตุวิกฤต
เสี่ยงขาดแคลนทองแดงในปี 2025–2035
ปี 2025 ขาดแคลน 304,000 ตัน และปี 2035 ผลิตได้เพียง 70% ของความต้องการ
การสร้างโรงถลุงใหม่ยังล่าช้าและแพง
ทำให้การแก้ปัญหายังไม่ทันต่อความต้องการ
https://www.tomshardware.com/tech-industry/ai-data-center-buildout-pushes-copper-toward-shortages-analysts-warn
การขยายตัวของ Hyperscale AI campuses ที่ใช้พลังงานมหาศาล (50–150 เมกะวัตต์ต่อไซต์) ทำให้ทองแดงถูกใช้ในปริมาณมหาศาล โดยเฉลี่ย 27–33 ตันต่อเมกะวัตต์ ส่งผลให้ไซต์ขนาด 100 เมกะวัตต์ต้องใช้ทองแดงหลายพันตัน นี่คือแรงกดดันใหม่ที่ทำให้ทองแดงกลายเป็น คอขวดสำคัญของอุตสาหกรรม AI
ปัญหาการผลิตและเหมืองทองแดง
หลายเหมืองทั่วโลกกำลังเจอปัญหา เช่น คุณภาพแร่ลดลงกว่า 40% ตั้งแต่ปี 1991 และการขยายเหมืองใหม่ถูกขัดขวางด้วยข้อพิพาททางกฎหมายและสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการ Resolution Copper ในรัฐแอริโซนา ที่ถูกชะลอเพราะพื้นที่ถูกมองว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่า Apache ทำให้การผลิตใหม่ยังต้องรออีกนาน
ราคาทองแดงพุ่งสูงและตลาดตึงตัว
ราคาทองแดงทะยานขึ้นกว่า 11,000 ดอลลาร์ต่อตัน จากราว 8,500 ดอลลาร์เมื่อสองปีก่อน ขณะที่สหรัฐฯ และยุโรปเริ่มจัดให้ทองแดงเป็น แร่ธาตุวิกฤต (critical mineral) เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอุตสาหกรรม นักวิเคราะห์คาดว่าราคาจะยังสูงต่อเนื่องจนถึงปี 2026 เพราะการหยุดชะงักของเหมืองในอเมริกาใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
การรีไซเคิลและนโยบายใหม่
เพื่อลดแรงกดดัน ตลาดกำลังหันไปพึ่ง การรีไซเคิลและการทำเหมืองในเมือง (urban mining) รวมถึงการใช้กองขยะเก่าที่เคยไม่คุ้มค่าในการสกัด แต่การสร้างโรงถลุงใหม่ยังคงช้าและมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้การแก้ปัญหายังไม่ทันต่อความต้องการที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
สรุปประเด็นสำคัญ
ความต้องการทองแดงจากศูนย์ข้อมูล AI สูงมาก
ใช้ 27–33 ตันต่อเมกะวัตต์, ไซต์ใหญ่ต้องใช้หลายพันตัน
เหมืองทองแดงทั่วโลกผลิตไม่ทัน
คุณภาพแร่ลดลง 40% และโครงการใหม่ถูกขัดขวาง
ราคาทองแดงพุ่งทะลุ 11,000 ดอลลาร์ต่อตัน
สหรัฐฯ และยุโรปจัดให้เป็นแร่ธาตุวิกฤต
เสี่ยงขาดแคลนทองแดงในปี 2025–2035
ปี 2025 ขาดแคลน 304,000 ตัน และปี 2035 ผลิตได้เพียง 70% ของความต้องการ
การสร้างโรงถลุงใหม่ยังล่าช้าและแพง
ทำให้การแก้ปัญหายังไม่ทันต่อความต้องการ
https://www.tomshardware.com/tech-industry/ai-data-center-buildout-pushes-copper-toward-shortages-analysts-warn
⚡ ความต้องการทองแดงพุ่งสูงจากศูนย์ข้อมูล AI
การขยายตัวของ Hyperscale AI campuses ที่ใช้พลังงานมหาศาล (50–150 เมกะวัตต์ต่อไซต์) ทำให้ทองแดงถูกใช้ในปริมาณมหาศาล โดยเฉลี่ย 27–33 ตันต่อเมกะวัตต์ ส่งผลให้ไซต์ขนาด 100 เมกะวัตต์ต้องใช้ทองแดงหลายพันตัน นี่คือแรงกดดันใหม่ที่ทำให้ทองแดงกลายเป็น คอขวดสำคัญของอุตสาหกรรม AI
🏭 ปัญหาการผลิตและเหมืองทองแดง
หลายเหมืองทั่วโลกกำลังเจอปัญหา เช่น คุณภาพแร่ลดลงกว่า 40% ตั้งแต่ปี 1991 และการขยายเหมืองใหม่ถูกขัดขวางด้วยข้อพิพาททางกฎหมายและสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการ Resolution Copper ในรัฐแอริโซนา ที่ถูกชะลอเพราะพื้นที่ถูกมองว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชนเผ่า Apache ทำให้การผลิตใหม่ยังต้องรออีกนาน
💰 ราคาทองแดงพุ่งสูงและตลาดตึงตัว
ราคาทองแดงทะยานขึ้นกว่า 11,000 ดอลลาร์ต่อตัน จากราว 8,500 ดอลลาร์เมื่อสองปีก่อน ขณะที่สหรัฐฯ และยุโรปเริ่มจัดให้ทองแดงเป็น แร่ธาตุวิกฤต (critical mineral) เพื่อป้องกันความเสี่ยงด้านอุตสาหกรรม นักวิเคราะห์คาดว่าราคาจะยังสูงต่อเนื่องจนถึงปี 2026 เพราะการหยุดชะงักของเหมืองในอเมริกาใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
♻️ การรีไซเคิลและนโยบายใหม่
เพื่อลดแรงกดดัน ตลาดกำลังหันไปพึ่ง การรีไซเคิลและการทำเหมืองในเมือง (urban mining) รวมถึงการใช้กองขยะเก่าที่เคยไม่คุ้มค่าในการสกัด แต่การสร้างโรงถลุงใหม่ยังคงช้าและมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้การแก้ปัญหายังไม่ทันต่อความต้องการที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
📌 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ ความต้องการทองแดงจากศูนย์ข้อมูล AI สูงมาก
➡️ ใช้ 27–33 ตันต่อเมกะวัตต์, ไซต์ใหญ่ต้องใช้หลายพันตัน
✅ เหมืองทองแดงทั่วโลกผลิตไม่ทัน
➡️ คุณภาพแร่ลดลง 40% และโครงการใหม่ถูกขัดขวาง
✅ ราคาทองแดงพุ่งทะลุ 11,000 ดอลลาร์ต่อตัน
➡️ สหรัฐฯ และยุโรปจัดให้เป็นแร่ธาตุวิกฤต
‼️ เสี่ยงขาดแคลนทองแดงในปี 2025–2035
⛔ ปี 2025 ขาดแคลน 304,000 ตัน และปี 2035 ผลิตได้เพียง 70% ของความต้องการ
‼️ การสร้างโรงถลุงใหม่ยังล่าช้าและแพง
⛔ ทำให้การแก้ปัญหายังไม่ทันต่อความต้องการ
https://www.tomshardware.com/tech-industry/ai-data-center-buildout-pushes-copper-toward-shortages-analysts-warn
0 Comments
0 Shares
6 Views
0 Reviews