• ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ ประเทศไอซ์แลนด์
    .
    ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ เป็นดินแดนที่ธรรมชาติก่อรูปเป็นงานศิลปะอันงดงาม ฟยอร์ดตะวันตกของไอซ์แลนด์ซ่อนเร้นสนามบินเล็กๆ แห่งหนึ่งชื่อ อิซาฟยอร์ดูร์ ท่าอากาศยานแห่งนี้เปรียบเสมือนประตูสู่โลกอันเงียบสงบและห่างไกลผู้คน เป็นจุดเชื่อมต่อที่เปราะบางระหว่างภูมิภาคอันห่างไกลกับส่วนอื่นๆ ของประเทศ ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงชันที่ทอดตัวสู่ท้องฟ้าราวกับกำแพงหิน และทะเลสีครามเข้มที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ภูมิประเทศอันขรุขระและสภาพอากาศที่ผันผวน ทำให้การเดินทางเข้าถึงท่าอากาศยานแห่งนี้เป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง ลมทะเลที่พัดกระหน่ำและภูเขาที่บดบังทัศนวิสัย ทำให้การขึ้นลงของเครื่องบินเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยทักษะและความชำนาญของนักบินเป็นอย่างมาก
    .
    หนึ่งในเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ คือ รันเวย์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวและท้าทายกว่าสนามบินส่วนใหญ่ทั่วไป เนื่องจากภูมิประเทศที่ซับซ้อน ทำให้รันเวย์ไม่สามารถสร้างให้ตรงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งได้ และเมื่อเครื่องบินเข้าใกล้เพื่อลงจอดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นักบินจะต้องบังคับเครื่องเลี้ยวกลับ 180 องศาเต็มก่อนจะแตะพื้น การเลี้ยวที่รวดเร็วและแม่นยำบนรันเวย์อันคับแคบนี้ ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดของนักบินที่บินเข้าสู่สนามบินแห่งนี้
    ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ ประเทศไอซ์แลนด์ . ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ เป็นดินแดนที่ธรรมชาติก่อรูปเป็นงานศิลปะอันงดงาม ฟยอร์ดตะวันตกของไอซ์แลนด์ซ่อนเร้นสนามบินเล็กๆ แห่งหนึ่งชื่อ อิซาฟยอร์ดูร์ ท่าอากาศยานแห่งนี้เปรียบเสมือนประตูสู่โลกอันเงียบสงบและห่างไกลผู้คน เป็นจุดเชื่อมต่อที่เปราะบางระหว่างภูมิภาคอันห่างไกลกับส่วนอื่นๆ ของประเทศ ท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงชันที่ทอดตัวสู่ท้องฟ้าราวกับกำแพงหิน และทะเลสีครามเข้มที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ภูมิประเทศอันขรุขระและสภาพอากาศที่ผันผวน ทำให้การเดินทางเข้าถึงท่าอากาศยานแห่งนี้เป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่ง ลมทะเลที่พัดกระหน่ำและภูเขาที่บดบังทัศนวิสัย ทำให้การขึ้นลงของเครื่องบินเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยทักษะและความชำนาญของนักบินเป็นอย่างมาก . หนึ่งในเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของท่าอากาศยานอิซาฟยอร์ดูร์ คือ รันเวย์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวและท้าทายกว่าสนามบินส่วนใหญ่ทั่วไป เนื่องจากภูมิประเทศที่ซับซ้อน ทำให้รันเวย์ไม่สามารถสร้างให้ตรงไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งได้ และเมื่อเครื่องบินเข้าใกล้เพื่อลงจอดทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นักบินจะต้องบังคับเครื่องเลี้ยวกลับ 180 องศาเต็มก่อนจะแตะพื้น การเลี้ยวที่รวดเร็วและแม่นยำบนรันเวย์อันคับแคบนี้ ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดของนักบินที่บินเข้าสู่สนามบินแห่งนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือที่รู้จักในนาม "Lazarus" กำลังใช้ LinkedIn เพื่อหลอกลวงผู้หางานด้วยมัลแวร์ใหม่ๆ กลุ่มนี้มีความชำนาญในการใช้งานแอป LinkedIn เพื่อแสวงหาผู้เสียหายที่เป็นผู้หางานในอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียง เช่น กลาโหม อวกาศ หรือวิศวกรรม และสร้างโปรไฟล์ปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ พวกเขาจะส่งข้อความเสนอการงานที่ดูดีกับผู้หางาน และขอประวัติย่อหรือข้อมูลส่วนบุคคลจาก GitHub

    หลังจากนั้น แฮ็กเกอร์จะส่งเอกสาร "ความคิดเห็น" ปลอม ซึ่งเมื่อเปิดแล้วจะติดตั้งมัลแวร์ในคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ เพื่อขโมยข้อมูลที่เป็นความลับหรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น ข้อมูลของบริษัท หรือข้อมูลการเข้าสู่ระบบ

    สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ การโจมตีครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ "Contagious Interview" ซึ่ง Lazarus ได้สร้างวิธีการใหม่ๆ ในการหลอกลวงผู้หางาน เช่น การทดสอบการเขียนโค้ดปลอม การติดตั้งมัลแวร์ในซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการสัมภาษณ์ และการโจมตีลักษณะอื่นๆ

    นอกจากนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 Apple ได้ออกแพทช์ใหม่ใน Xprotect ซึ่งเป็นเครื่องมือกำจัดมัลแวร์ในอุปกรณ์ เพื่อบล็อกมัลแวร์แบบใหม่ที่เรียกว่า "FerretFamily" ที่ถูกพบว่าปลอมเป็นตัวติดตั้ง Chrome หรือ Zoom เพื่อโจมตีผู้หางาน

    https://www.techradar.com/pro/security/north-korean-hackers-targeting-linkedin-jobseekers-with-new-malware
    มีรายงานว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือที่รู้จักในนาม "Lazarus" กำลังใช้ LinkedIn เพื่อหลอกลวงผู้หางานด้วยมัลแวร์ใหม่ๆ กลุ่มนี้มีความชำนาญในการใช้งานแอป LinkedIn เพื่อแสวงหาผู้เสียหายที่เป็นผู้หางานในอุตสาหกรรมที่มีชื่อเสียง เช่น กลาโหม อวกาศ หรือวิศวกรรม และสร้างโปรไฟล์ปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ พวกเขาจะส่งข้อความเสนอการงานที่ดูดีกับผู้หางาน และขอประวัติย่อหรือข้อมูลส่วนบุคคลจาก GitHub หลังจากนั้น แฮ็กเกอร์จะส่งเอกสาร "ความคิดเห็น" ปลอม ซึ่งเมื่อเปิดแล้วจะติดตั้งมัลแวร์ในคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ เพื่อขโมยข้อมูลที่เป็นความลับหรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น ข้อมูลของบริษัท หรือข้อมูลการเข้าสู่ระบบ สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ การโจมตีครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ "Contagious Interview" ซึ่ง Lazarus ได้สร้างวิธีการใหม่ๆ ในการหลอกลวงผู้หางาน เช่น การทดสอบการเขียนโค้ดปลอม การติดตั้งมัลแวร์ในซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการสัมภาษณ์ และการโจมตีลักษณะอื่นๆ นอกจากนี้ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 Apple ได้ออกแพทช์ใหม่ใน Xprotect ซึ่งเป็นเครื่องมือกำจัดมัลแวร์ในอุปกรณ์ เพื่อบล็อกมัลแวร์แบบใหม่ที่เรียกว่า "FerretFamily" ที่ถูกพบว่าปลอมเป็นตัวติดตั้ง Chrome หรือ Zoom เพื่อโจมตีผู้หางาน https://www.techradar.com/pro/security/north-korean-hackers-targeting-linkedin-jobseekers-with-new-malware
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนปาล ออกกฎใหม่ ห้ามนักปีนเขาเดินทางคนเดียว สำหรับภูเขาที่มีความสูงระดับ 8,000 เมตรขึ้นไป พร้อมทั้งเตรียมขึ้นค่าธรรมเนียมในการปีนเอเวอเรสต์ในกลางปีนี้ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 3 แสนบาท

    สิ้นสุดการผจญภัยแบบลุยเดี่ยวของเหล่านักปีนเขาสูง เมื่อรัฐบาลเนปาล โดยสำนักการท่องเที่ยว ออกกฎหมายใหม่เข้มงวดในการปีนเขาสูง ห้ามนักปีนเขาเดินทางเพียงลำพัง โดยไม่มีมัคคุเทศก์ หรือคนนำทางที่มีความชำนาญ อย่างน้อย 1 คน ในพื้นที่ภูเขาที่มีความสูง 8,000 เมตรขึ้นไป ในทุกรูปแบบของการปีนเขา ซึ่งระดับความสูงดังกล่าว รวมถึงยอดเขาอันดับหนึ่งของโลกอย่างเอเวอเรสต์ด้วย (ปัจจุบัน มียอดเขาสูงเกิน 8,000 เมตร ในเนปาล จำนวน 8 แห่ง)

    นอกจากนี้ เนปาลยังได้ขึ้นค่าธรรมเนียมการปีนเขาสําหรับนักปีนเขาชาวต่างชาติ ทําให้การเดินทางสู่เอเวอเรสต์และยอดเขา 8,000 เมตรแห่งอื่น มีราคาแพงขึ้น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/travel/detail/9680000012846

    #MGROnline #นักปีนเขาสูง #เนปาล #เอเวอเรสต์
    เนปาล ออกกฎใหม่ ห้ามนักปีนเขาเดินทางคนเดียว สำหรับภูเขาที่มีความสูงระดับ 8,000 เมตรขึ้นไป พร้อมทั้งเตรียมขึ้นค่าธรรมเนียมในการปีนเอเวอเรสต์ในกลางปีนี้ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 3 แสนบาท • สิ้นสุดการผจญภัยแบบลุยเดี่ยวของเหล่านักปีนเขาสูง เมื่อรัฐบาลเนปาล โดยสำนักการท่องเที่ยว ออกกฎหมายใหม่เข้มงวดในการปีนเขาสูง ห้ามนักปีนเขาเดินทางเพียงลำพัง โดยไม่มีมัคคุเทศก์ หรือคนนำทางที่มีความชำนาญ อย่างน้อย 1 คน ในพื้นที่ภูเขาที่มีความสูง 8,000 เมตรขึ้นไป ในทุกรูปแบบของการปีนเขา ซึ่งระดับความสูงดังกล่าว รวมถึงยอดเขาอันดับหนึ่งของโลกอย่างเอเวอเรสต์ด้วย (ปัจจุบัน มียอดเขาสูงเกิน 8,000 เมตร ในเนปาล จำนวน 8 แห่ง) • นอกจากนี้ เนปาลยังได้ขึ้นค่าธรรมเนียมการปีนเขาสําหรับนักปีนเขาชาวต่างชาติ ทําให้การเดินทางสู่เอเวอเรสต์และยอดเขา 8,000 เมตรแห่งอื่น มีราคาแพงขึ้น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/travel/detail/9680000012846 • #MGROnline #นักปีนเขาสูง #เนปาล #เอเวอเรสต์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'บิ๊กต่าย' ประกาศกฎเหล็ก โยกย้ายรอง ผบก.ต้องเป๊ะ
    .
    การแต่งตั้งนายตำรวจระดับรองผู้บัญชาการและรองจเรตำรวจ ลงมาถึงผู้บังคับการ วาระประจำปี 2567 เพิ่งผ่านไปสดๆร้อนๆได้ไม่ทันไร เร็วๆนี้การแต่งตั้งนายตำรวจระดับรองผบก.คาดว่าน่าจะเป็นประเด็นร้อนแรงเช่นกัน มิเช่นนั้นพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คงไม่มีบันทึกข้อความลงวันที่ 24 มกราคม 2567 ถึงผบช. จตร.(หน.จต.) หรือตำแหน่งเทียบเท่าผบก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า เรื่อง กำชับและเตรียมความพร้อมการแต่งตั้งตั้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ลงมา วาระประจำปี 2567
    .
    ทั้งนี้ บันทึกดังกล่าวมีใจความว่า ด้วยขณะนี้ใกล้เข้าสู่ห้วงระยะเวลาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับ รอง ผบก. ลงมา วาระประจำปี 2567 ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนด ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2567 ประกอบมติ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 8/2567 เมื่อ 7 ตุลาคม 2567 และครั้งที่ 1/2568 เมื่อ 10 มกราคม 2568 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเริ่มดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตำรวจระดับรอง ผบก. ลงมา ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบกำกับดูแลการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจ จึงกำชับให้ผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการแต่งตั้งตั้งราชการตำรวจต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 และกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2567 อย่างเคร่งครัด โดยยึดถือความถูกต้องเป็นธรรม และมีความโปร่งใสในทุกกระบวนการ ดังนี้

    .
    1. การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ลงมาใน บช. ที่มิได้สังกัด สง.ผบ.ตร. เป็นอำนาจของ ผบช. สำหรับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในสังกัด สง.ผบ.ตร. เป็นอำนาจของ ผบ.ตร. นำข้อมูลการเสนอแต่งตั้งของหัวหน้าส่วนราชการระดับรองลงมา ที่ได้มีการพิจารณาเสนอในรูปคณะกรรมการตามที่กำหนด มาประกอบการพิจารณาด้วย หากมีความเห็นแตกต่างจากข้อมูลการเสนอแต่งตั้งของหัวหน้าส่วนราชการ ให้ชี้แจงเหตุผลต่อคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติพ.ศ.2565 มาตรา 79 และมาตรา 81
    .
    การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ให้พิจารณาจากอาวุโส ผลงาน ศักยภาพ ความประพฤติ ความรู้ความสามารถ ความชำนาญ ความถนัด ทักษะ ความสมัครใจทางราชการ และมุ่งหมายให้ผู้นั้นได้มีโอกาสปฏิบัติหน้าที่ด้านต่าง ๆ อย่างหลากหลาย โดยจะนำความคิดเห็นทางการเมืองหรือสังกัดพรรคการเมืองมาประกอบการพิจารณามิได้ สำหรับการพิจารณาความรู้ความสามารถ ให้คำนึงถึงประวัติการรับราชการ ผลการปฏิบัติงาน ความประพฤติ และผลการประเมินความพึงพอใจที่ประชาชนหรือผู้รับบริการได้รับจากการให้บริการของข้าราชการตำรวจประกอบด้วย ตามมาตรา 60(3) มาตรา 76 และมาตรา 82
    .

    2. การไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือ หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ตร. สามารถใช้อำนาจทางปกครองดำเนินการกรณี ผบช. ใช้อำนาจสั่งแต่งตั้งโดยไม่เป็นธรรม หรือมีกรณีไม่ชอบด้วยหลักเกณฑ์หรือวิธีการที่ ก.ตร. กำหนด หรือไม่ยึดถือความถูกต้องเป็นธรรมได้ โดยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการที่ ศปก.ตร. ตามข้อ 9 แห่งระเบียบ ตร. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการภายใน ตร.พ.ศ.2566 และจะมีการพิจารณาตรวจสอบการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมดังกล่าว รวมถึงการพิจารณาดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
    .
    ทั้งนี้ หากมีข้าราชการตำรวจร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค.ตร. อันเนื่องมาจากการใช้อำนาจแต่งตั้งของ ผบช. ที่ไม่เป็นธรรม และ ก.พ.ค.ตร. วินิจฉัยว่า ผบช. ผู้นั้นไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดใน พ.ร.บ.นี้ ผบ.ตร. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาลงโทษผู้นั้นโดยไม่ต้องดำเนินการสอบสวนอีกแล้วรายงานให้ ก.ตร. ทราบ และหาก ก.ตร. มีมติว่าการไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นการจงใจเพื่อช่วยเหลือบุคคลหนึ่งบุคคลใดหรือเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด จะถือว่า ผบช. ผู้นั้นกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และผบ.ตร. จะดำเนินการลงโทษผู้นั้นตามมาตรา 87 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 จึงแจ้งมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด
    .............
    Sondhi X
    'บิ๊กต่าย' ประกาศกฎเหล็ก โยกย้ายรอง ผบก.ต้องเป๊ะ . การแต่งตั้งนายตำรวจระดับรองผู้บัญชาการและรองจเรตำรวจ ลงมาถึงผู้บังคับการ วาระประจำปี 2567 เพิ่งผ่านไปสดๆร้อนๆได้ไม่ทันไร เร็วๆนี้การแต่งตั้งนายตำรวจระดับรองผบก.คาดว่าน่าจะเป็นประเด็นร้อนแรงเช่นกัน มิเช่นนั้นพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คงไม่มีบันทึกข้อความลงวันที่ 24 มกราคม 2567 ถึงผบช. จตร.(หน.จต.) หรือตำแหน่งเทียบเท่าผบก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า เรื่อง กำชับและเตรียมความพร้อมการแต่งตั้งตั้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ลงมา วาระประจำปี 2567 . ทั้งนี้ บันทึกดังกล่าวมีใจความว่า ด้วยขณะนี้ใกล้เข้าสู่ห้วงระยะเวลาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับ รอง ผบก. ลงมา วาระประจำปี 2567 ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนด ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2567 ประกอบมติ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 8/2567 เมื่อ 7 ตุลาคม 2567 และครั้งที่ 1/2568 เมื่อ 10 มกราคม 2568 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเริ่มดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตำรวจระดับรอง ผบก. ลงมา ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบกำกับดูแลการแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจ จึงกำชับให้ผู้บังคับบัญชาและเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการแต่งตั้งตั้งราชการตำรวจต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 และกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2567 อย่างเคร่งครัด โดยยึดถือความถูกต้องเป็นธรรม และมีความโปร่งใสในทุกกระบวนการ ดังนี้ . 1. การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ลงมาใน บช. ที่มิได้สังกัด สง.ผบ.ตร. เป็นอำนาจของ ผบช. สำหรับการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในสังกัด สง.ผบ.ตร. เป็นอำนาจของ ผบ.ตร. นำข้อมูลการเสนอแต่งตั้งของหัวหน้าส่วนราชการระดับรองลงมา ที่ได้มีการพิจารณาเสนอในรูปคณะกรรมการตามที่กำหนด มาประกอบการพิจารณาด้วย หากมีความเห็นแตกต่างจากข้อมูลการเสนอแต่งตั้งของหัวหน้าส่วนราชการ ให้ชี้แจงเหตุผลต่อคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติพ.ศ.2565 มาตรา 79 และมาตรา 81 . การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ให้พิจารณาจากอาวุโส ผลงาน ศักยภาพ ความประพฤติ ความรู้ความสามารถ ความชำนาญ ความถนัด ทักษะ ความสมัครใจทางราชการ และมุ่งหมายให้ผู้นั้นได้มีโอกาสปฏิบัติหน้าที่ด้านต่าง ๆ อย่างหลากหลาย โดยจะนำความคิดเห็นทางการเมืองหรือสังกัดพรรคการเมืองมาประกอบการพิจารณามิได้ สำหรับการพิจารณาความรู้ความสามารถ ให้คำนึงถึงประวัติการรับราชการ ผลการปฏิบัติงาน ความประพฤติ และผลการประเมินความพึงพอใจที่ประชาชนหรือผู้รับบริการได้รับจากการให้บริการของข้าราชการตำรวจประกอบด้วย ตามมาตรา 60(3) มาตรา 76 และมาตรา 82 . 2. การไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือ หลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ตร. สามารถใช้อำนาจทางปกครองดำเนินการกรณี ผบช. ใช้อำนาจสั่งแต่งตั้งโดยไม่เป็นธรรม หรือมีกรณีไม่ชอบด้วยหลักเกณฑ์หรือวิธีการที่ ก.ตร. กำหนด หรือไม่ยึดถือความถูกต้องเป็นธรรมได้ โดยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการที่ ศปก.ตร. ตามข้อ 9 แห่งระเบียบ ตร. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการภายใน ตร.พ.ศ.2566 และจะมีการพิจารณาตรวจสอบการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมดังกล่าว รวมถึงการพิจารณาดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง . ทั้งนี้ หากมีข้าราชการตำรวจร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค.ตร. อันเนื่องมาจากการใช้อำนาจแต่งตั้งของ ผบช. ที่ไม่เป็นธรรม และ ก.พ.ค.ตร. วินิจฉัยว่า ผบช. ผู้นั้นไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดใน พ.ร.บ.นี้ ผบ.ตร. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาจะพิจารณาลงโทษผู้นั้นโดยไม่ต้องดำเนินการสอบสวนอีกแล้วรายงานให้ ก.ตร. ทราบ และหาก ก.ตร. มีมติว่าการไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นการจงใจเพื่อช่วยเหลือบุคคลหนึ่งบุคคลใดหรือเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใด จะถือว่า ผบช. ผู้นั้นกระทำความผิดวินัยอย่างร้ายแรง และผบ.ตร. จะดำเนินการลงโทษผู้นั้นตามมาตรา 87 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 จึงแจ้งมาเพื่อทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด ............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1266 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากเพจ ประวัติศาสตร์ ราชวงค์จักรี

    "ข้าชื่อ #สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน"

    "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์"

    เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า

    โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491

    หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น.

    บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์

    ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม

    ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ

    #หลวงปู่โง่น_โสรโย ขณะเดินทางเข้าพม่าในปี พ.ศ. 2491 ได้ถูกจับติดคุกพม่า เมื่อท่านทำความเพียร จึงได้สัมผัสทางวิญญาณพระสุพรรณกัลยา

    พระสุพรรณกัลยา: “ฉันเองชื่อสุพรรณกัลยา เป็นธิดาคนโตของพระมหาธรรมราชา

    มีน้องชายสองคน คือเจ้าองค์ดำ และเจ้าองค์ขาว เป็นชาวสยามไทย

    ได้ถูกกวาดต้อนมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก มาเป็นเชลยอยู่ที่เมืองหงสาวดีนี้ ท่านก็ถูกเขากวาดต้อนมาด้วย เขาเกณฑ์ท่านมาเป็นช่าง สร้างบ้านให้พวกเราอยู่กัน ฉันไว้ใจท่านเพราะท่านซื่อสัตย์และกตัญญู ท่านช่วยดูแลฉันและน้องๆ ตลอดพวกพ้องที่เป็นเชลย ตลอดเวลา

    มาวันนี้ท่านแต่งตัวเป็นนักบวช คงจะมีมนต์ขลังดี ช่วยแก้ด้ายสายสิญจน์ออกจากมือและขาให้ฉันด้วย

    หมอผีพม่ามันผูกเอาไว้ เพื่อกันฉันจะหนี ฉันจึงหนีไปไหนมาไหนไกลๆไม่ได้ มันจะเหนี่ยวกลับทันที ถ้าหนีได้ฉันจะไปกับท่าน”

    แล้วหลวงปู่โง่นจึงได้ถอดกายทิพย์ไปดึงด้ายสายสิญจน์ที่เขาทำด้วยแผ่นทองคำ ความยาวห้าคืบ กว้างหนึ่งนิ้ว ลงอักขระคาถา

    ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 วันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12

    #พระสุพรรณกัลยา: “ท่านขาท่านเก่งมากที่ท่านช่วยแก้เครื่องผูกมัดออกให้ฉัน ฉันจะได้เป็นอิสระเสียที ฉันจะไปอยู่กับท่านตลอดไป ท่านต้องการอะไรบอกฉัน เมื่อท่านจะไปไหนมาไหน หรือทำอะไรบอกฉันด้วย ฉันจะช่วยแบ่งเบาเท่าที่ ความสามารถ ของฉันจะทำได้ และท่านก็จะพ้นภัยภายในเร็วๆ นี้

    พวกเราถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลย จนฉันโตเป็นสาว อายุราวๆ เบญจเพศ ไอ้เจ้าบุเรงนองมันก็ปองรักจะหักด้ามพร้าด้วยเข่าเอาฉันทำเมีย

    แต่พระอนุชาของฉันทั้งสองไม่ยินยอมและตัวท่านเองก็ไม่ยอมด้วย ดังนั้นจึงพร้อมกันออกอุบายว่า ขอให้ฉันได้รับอนุญาตจากท่านผู้บังเกิดเกล้า

    คือ บิดามารดาเสียก่อน เจ้าบุเรงนองมันตาฝาดด้วยอำนาจกิเลสตัณหาจึงจัดแจงโยธาไพร่พลพร้อมด้วยตัวเขาและน้องชายทั้งสองของฉันและตัวท่านเองก็ได้กลับไปด้วย

    แต่การไปของท่าน เขาให้ไปถึงแค่เขตแดนแล้วเขาสั่งให้สร้างบ้านเรือนอยู่ตรงเมืองมะริด และเจ้าบุเรงนองก็เกรงใจท่านมากเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เขานับถือ

    เหตุที่ฉันจะต้องไปด้วยตอนถูกกวาดไปเป็นเชลย

    เพราะน้องของฉันทั้งสองพระองค์ เขาติดพันฉันมาก ฉันเป็นทั้งพี่จริงและพี่เลี้ยง ฉันเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เยาว์วัย

    ในคราวที่เราร่อนเร่มาอย่างเมื่อยล้า น้องคนเล็กไม่ยอมเดิน ฉันต้องอุ้มกระเตงคนเล็กไว้ที่เอวข้างขวา จูงคนโตด้วยมือซ้ายตอนข้ามน้ำ ท่านยังเห็นว่าขำแท้ๆท่านจึงทำจำแลง แกะสลักรูปของฉันอุ้มน้อง เพื่อล้อเลียนไว้ดูเล่น ขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ เอาไว้ไปดูเล่นเป็นขวัญตา รวมถึงอัฐิและกำไลแขนของฉันในสถานที่ที่ฉันเก็บไว้ ขอให้นำกลับไปด้วย และของที่เราสักการะบูชา คือ เทวรูปพระนารายณ์ และพระแม่อุมาที่เป็นทองคำก็ให้ท่านเอากลับไปด้วย"

    สิ่งของเหล่านั้นหลวงปู่โง่นได้นำเอากลับมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเทวดา ศาลากลางน้ำ วัดพระพุทธบาทเขารวก พิจิตร เท่าทุกวันนี้ นี่แหละ คือ สักขีพยานในด้านรูปธรรมที่พอยืนยันได้

    พระสุพรรณกัลยา: “กองทัพของไทยขึ้นไปประชิดที่เมืองอังวะไว้แล้ว ไอ้เจ้ามังไชยสิงหะราช (นันทบุเรง) จึงสั่งจับจำจองแม่เลี้ยงของมันคือฉันเองให้ลงโทษทัณฑ์อย่างหนัก มันสั่งให้คนจับฉัน มัดมือ มัดเท้า แล้วลงมือชกต่อย ตบ ตี เตะ ถีบ โบยด้วยแส้หวาย โบยแล้วโบยอีก แล้วปล่อยให้ฉันอดข้าวอดน้ำ ให้ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

    เมื่อมันเห็นว่าฉันอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้ว มันก็ฟันฉันด้วยดาบเล่มนี้ และขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ แล้วฉันก็ตายไปพร้อมกับลูกอยู่ในท้องแปดเดือน แล้วมันก็ให้หมอผีมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ด้วย

    การผูกรัดรึงตรึงฉัน ด้วยไม้กางเขนตรากระสัง ให้วิญญาณของฉันไปไหนมาไหนไม่ได้ ต้องวนเวียนอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น

    ฉันขอขอบใจท่านมากที่ท่านได้มาช่วยแก้เครื่องพันธนาการออกให้ฉัน

    แต่นี่ฉันก็เป็นอิสระแล้ว เมื่อท่านกลับไปเมืองไทยฉันจะไปด้วย ฉันจะไปช่วยงานท่าน ท่านมีธุรกิจอะไรเพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม เพื่อชาติ ศาสนกษัตริย์แล้วบอกฉัน

    ขอให้ท่านหวนจิตคิดย้อนกลับไปดูภาวะของฉันที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นธิดาองค์ใหญ่ในวงศ์สุดท้ายของวงศ์สุโขทัย พระราชบิดาได้ไปครองเมืองอยุธยาได้รับสมญาว่า เจ้าฟ้าหญิงพระสุพรรณกัลยา มีความสุขจากทรัพย์โภคาอย่างล้นเหลือ มีข้าทาสบริวารนับไม่ถ้วน มีความสุขสุดที่จะพรรณา จำเดิมแต่ได้พลัดพรากจากบ้านเมืองพ่อแม่มา ข้ามภูผาที่กันดาร ยังมาทุกข์ทรมานในการจำจากน้องทั้งสองอันเป็นที่รักที่สุด สุดท้ายก็มาถูกเจ้านันทบุเรง บุตรบุญธรรมของฉันนั้นเองเฆี่ยนตีทำโทษจนถึง แก่ความตายอย่างทรมานที่สุด ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดๆจะเหมือนฉัน แต่ฉันก็กระทำไปเพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติบ้านเมือง”

    หลวงปู่โง่น: “ตอนนี้ท่านหญิงสบายแล้ว เสวยสุขอยู่ในทิพย์วิมานอันแสนจะสำราญอยู่ที่นี้ ที่โลกทิพย์นี่ สองสามราตรีเท่านั้นในพิภพนี้ แต่โลกมนุษย์ปาเข้าไปห้าร้อยปีแล้ว ตัวอาตมาเองได้ดับชีวีจากเมืองผีไปเมืองคน วนเวียนอยู่หลายชาติแล้ว

    เราจะมาเพลิดเพลินในเรื่องเวียนว่ายตายเกิดอยู่หรือไง เป็นเพราะไอ้ตัวกิเลสตัณหาบ้าบอแท้ๆ ที่ได้จองจำนำพาให้เราต้องมาเวียนว่ายตายเกิด”

    พระสุพรรณกัลยา: “ฉันจะไปอุบัติในสกุลสุขุมาลย์ชาติในวงศ์สกุลกษัตริย์ไทย ช่วยบ้านเมืองในร่างสตรีเพศ เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อน และจะไม่เยื่อใยในการมีคู่ครอง เพราะฉันเข็ดแล้วเรื่องผู้ชาย ฉันจะสร้างบารมีทำแต่ความดีให้นั่งอยู่บนหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ
    แล้วฉันก็จะเป็นคนหมดเวรภัยไปสู่สถานที่ที่ไม่มีการเกิดการตายอีกแล้ว”

    พระสุพรรณกัลยา: “พระคุณเจ้าอย่าลืมนะ เรื่องฉันร้องขอคือ ฝากให้ท่านเอารูปลักษณ์ของฉันที่อยู่ในห้วงแห่งความทรงจำของท่าน ออกเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ที่อยากรู้อยากเห็นฉันให้เป็นแบบรูปธรรมขึ้นมา ให้เขาได้เห็นฉันด้วย แต่ฉันเชื่อแน่ว่า คนไทยทั้งประเทศ เขาคงจำฉันได้ไม่กี่คน

    เพราะประวัติจริงๆ ที่พระน้องยาเธอของฉันจารึกไว้ก็คงจะสลายหายสูญไปกับกรุงแตกครั้งหลังสุดแล้ว”

    หลวงปู่โง่นจึงได้สร้างรูปของพระสุพรรณกัลยาโดยใช้วิธีการสองระบบ คือ ระบบทางนามธรรม หรือ ระบบทางจิตคือการสัมผัสทางจิตวิญญาณ และระบบทางรูปธรรม โดยอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ให้ปรากฏเป็นภาพแก่สายตาภายนอก โดยใช้กล้องถ่ายรูปชั้นดีสองตัว คือ กล้องโอลิมปัสของเยอรมัน และกล้องโพโตลองของฝรั่งเศส

    ในทางวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ก็มีหลักยืนยันว่า E=MC2 สสารย่อมไม่หายไปจากโลก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีขึ้นแล้วในโลก เมื่อถึงคราวแตกดับไปสลายตัวไปก็จะกลายเป็นสสาร ยืนยงคงอยู่ตลอดไป เพราะอุณหภูมิคือความร้อนรักษาไว้

    มีการจัดหาเครื่องพลีกรรมทางไสยศาสตร์ ซึ่งมีเครื่องบูชามีอาหารหวานคาว ผลไม้ และเครื่องแต่งตัวของผู้หญิงมีแป้ง น้ำอบน้ำหอม ผ้าถุงเสื้อนุ่งสีทอง

    เสร็จแล้วก็ไปทำพิธีในสถานที่ได้นิมิตเห็นพระสุพรรณกัลยาและถ่ายรูปเอาดวงวิญญาณของพระนาง

    เมื่อได้จัดแจงอุปกรณ์ภายนอก ทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว หันหน้ากล้องทั้งสองเข้า หาพานเครื่องเส้น ทำใจให้สงบ หันหน้าตัวเองไปแนวเดียวกับกล้องถ่ายรูป แล้ว

    สวดคาถาว่า...

    เอหิภูโต มหาภูโต สะมะนุสโส สะเทวะโก กะโรหิ เทวะทิ ตานังอาคัจเฉยะ อาคัจฉาหิ เอหิวิญญานะสุพรรณกัลละยา เทวะทิตา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ มานิมามา

    ภาวนาได้เจ็ดครั้งแล้วก็หยุด

    ใช้ความรู้สึกอย่างแรงในขณะหายใจเข้า ดึงเอาภาพลักษณ์ของพระสุพรรณกัลยา ให้มาปรากฏ แล้วจิตมันก็ว่าง อันรูปภาพของพระนางก็ปรากฏขึ้นในมโนภาพเห็น ชัดเจน อันกล้องถ่ายทั้งสอง มันก็ทำงานตามที่กำหนดไว้

    ใช้เวลาอยู่สามชั่วโมงก็หยุด เอาฟิล์มออกมาล้างดู ล้างด้วยมือเอง เพราะหลวงปู่โง่นเคยเป็นช่างถ่ายรูปมาก่อน ได้รูปออกมาเป็นที่น่าพอใจ

    หลวงปู่โง่นได้เผยแพร่รูปพระนางตามที่ได้ปรากฏในโพสต์นี้ และบันทึกว่า พระนางสุพรรณกัลยาได้ทำคุณประโยชน์ไว้ให้แก่คนไทยทั้งชาติ คือ ต้องยอมเสียสละความสุข ตลอดพระชนม์ชีพส่วนตัว เพื่อความอยู่รอดของบ้านเมืองสยามไทยทั้งประเทศ ซึ่งก็ไม่มีวีรสตรีหรือวีรบุรุษท่านใดในอดีตถึง ปัจจุบันที่จะได้เสียสละอย่างนั้น แล้วสมควรไหมที่ชาวไทยจะลืมท่านลง แต่ถ้าได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ท่านผู้มีกตัญญูกตเวทิตาธรรม คงไม่ลืมแน่

    คัดลอกและเรียบเรียงจากหนังสือ “ย้อยรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา” โดยหลวงปู่โง่น โสรโย เมษายน 2529"ข้าชื่อ สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน"

    "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์"

    เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า

    โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491

    หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น.

    บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์

    ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม

    ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ

    หลวงปู่โง่น โสรโย
    จากเพจ ประวัติศาสตร์ ราชวงค์จักรี "ข้าชื่อ #สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน" "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์" เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491 หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น. บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ #หลวงปู่โง่น_โสรโย ขณะเดินทางเข้าพม่าในปี พ.ศ. 2491 ได้ถูกจับติดคุกพม่า เมื่อท่านทำความเพียร จึงได้สัมผัสทางวิญญาณพระสุพรรณกัลยา พระสุพรรณกัลยา: “ฉันเองชื่อสุพรรณกัลยา เป็นธิดาคนโตของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือเจ้าองค์ดำ และเจ้าองค์ขาว เป็นชาวสยามไทย ได้ถูกกวาดต้อนมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก มาเป็นเชลยอยู่ที่เมืองหงสาวดีนี้ ท่านก็ถูกเขากวาดต้อนมาด้วย เขาเกณฑ์ท่านมาเป็นช่าง สร้างบ้านให้พวกเราอยู่กัน ฉันไว้ใจท่านเพราะท่านซื่อสัตย์และกตัญญู ท่านช่วยดูแลฉันและน้องๆ ตลอดพวกพ้องที่เป็นเชลย ตลอดเวลา มาวันนี้ท่านแต่งตัวเป็นนักบวช คงจะมีมนต์ขลังดี ช่วยแก้ด้ายสายสิญจน์ออกจากมือและขาให้ฉันด้วย หมอผีพม่ามันผูกเอาไว้ เพื่อกันฉันจะหนี ฉันจึงหนีไปไหนมาไหนไกลๆไม่ได้ มันจะเหนี่ยวกลับทันที ถ้าหนีได้ฉันจะไปกับท่าน” แล้วหลวงปู่โง่นจึงได้ถอดกายทิพย์ไปดึงด้ายสายสิญจน์ที่เขาทำด้วยแผ่นทองคำ ความยาวห้าคืบ กว้างหนึ่งนิ้ว ลงอักขระคาถา ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 วันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 #พระสุพรรณกัลยา: “ท่านขาท่านเก่งมากที่ท่านช่วยแก้เครื่องผูกมัดออกให้ฉัน ฉันจะได้เป็นอิสระเสียที ฉันจะไปอยู่กับท่านตลอดไป ท่านต้องการอะไรบอกฉัน เมื่อท่านจะไปไหนมาไหน หรือทำอะไรบอกฉันด้วย ฉันจะช่วยแบ่งเบาเท่าที่ ความสามารถ ของฉันจะทำได้ และท่านก็จะพ้นภัยภายในเร็วๆ นี้ พวกเราถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลย จนฉันโตเป็นสาว อายุราวๆ เบญจเพศ ไอ้เจ้าบุเรงนองมันก็ปองรักจะหักด้ามพร้าด้วยเข่าเอาฉันทำเมีย แต่พระอนุชาของฉันทั้งสองไม่ยินยอมและตัวท่านเองก็ไม่ยอมด้วย ดังนั้นจึงพร้อมกันออกอุบายว่า ขอให้ฉันได้รับอนุญาตจากท่านผู้บังเกิดเกล้า คือ บิดามารดาเสียก่อน เจ้าบุเรงนองมันตาฝาดด้วยอำนาจกิเลสตัณหาจึงจัดแจงโยธาไพร่พลพร้อมด้วยตัวเขาและน้องชายทั้งสองของฉันและตัวท่านเองก็ได้กลับไปด้วย แต่การไปของท่าน เขาให้ไปถึงแค่เขตแดนแล้วเขาสั่งให้สร้างบ้านเรือนอยู่ตรงเมืองมะริด และเจ้าบุเรงนองก็เกรงใจท่านมากเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เขานับถือ เหตุที่ฉันจะต้องไปด้วยตอนถูกกวาดไปเป็นเชลย เพราะน้องของฉันทั้งสองพระองค์ เขาติดพันฉันมาก ฉันเป็นทั้งพี่จริงและพี่เลี้ยง ฉันเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เยาว์วัย ในคราวที่เราร่อนเร่มาอย่างเมื่อยล้า น้องคนเล็กไม่ยอมเดิน ฉันต้องอุ้มกระเตงคนเล็กไว้ที่เอวข้างขวา จูงคนโตด้วยมือซ้ายตอนข้ามน้ำ ท่านยังเห็นว่าขำแท้ๆท่านจึงทำจำแลง แกะสลักรูปของฉันอุ้มน้อง เพื่อล้อเลียนไว้ดูเล่น ขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ เอาไว้ไปดูเล่นเป็นขวัญตา รวมถึงอัฐิและกำไลแขนของฉันในสถานที่ที่ฉันเก็บไว้ ขอให้นำกลับไปด้วย และของที่เราสักการะบูชา คือ เทวรูปพระนารายณ์ และพระแม่อุมาที่เป็นทองคำก็ให้ท่านเอากลับไปด้วย" สิ่งของเหล่านั้นหลวงปู่โง่นได้นำเอากลับมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเทวดา ศาลากลางน้ำ วัดพระพุทธบาทเขารวก พิจิตร เท่าทุกวันนี้ นี่แหละ คือ สักขีพยานในด้านรูปธรรมที่พอยืนยันได้ พระสุพรรณกัลยา: “กองทัพของไทยขึ้นไปประชิดที่เมืองอังวะไว้แล้ว ไอ้เจ้ามังไชยสิงหะราช (นันทบุเรง) จึงสั่งจับจำจองแม่เลี้ยงของมันคือฉันเองให้ลงโทษทัณฑ์อย่างหนัก มันสั่งให้คนจับฉัน มัดมือ มัดเท้า แล้วลงมือชกต่อย ตบ ตี เตะ ถีบ โบยด้วยแส้หวาย โบยแล้วโบยอีก แล้วปล่อยให้ฉันอดข้าวอดน้ำ ให้ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เมื่อมันเห็นว่าฉันอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้ว มันก็ฟันฉันด้วยดาบเล่มนี้ และขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ แล้วฉันก็ตายไปพร้อมกับลูกอยู่ในท้องแปดเดือน แล้วมันก็ให้หมอผีมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ด้วย การผูกรัดรึงตรึงฉัน ด้วยไม้กางเขนตรากระสัง ให้วิญญาณของฉันไปไหนมาไหนไม่ได้ ต้องวนเวียนอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น ฉันขอขอบใจท่านมากที่ท่านได้มาช่วยแก้เครื่องพันธนาการออกให้ฉัน แต่นี่ฉันก็เป็นอิสระแล้ว เมื่อท่านกลับไปเมืองไทยฉันจะไปด้วย ฉันจะไปช่วยงานท่าน ท่านมีธุรกิจอะไรเพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม เพื่อชาติ ศาสนกษัตริย์แล้วบอกฉัน ขอให้ท่านหวนจิตคิดย้อนกลับไปดูภาวะของฉันที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นธิดาองค์ใหญ่ในวงศ์สุดท้ายของวงศ์สุโขทัย พระราชบิดาได้ไปครองเมืองอยุธยาได้รับสมญาว่า เจ้าฟ้าหญิงพระสุพรรณกัลยา มีความสุขจากทรัพย์โภคาอย่างล้นเหลือ มีข้าทาสบริวารนับไม่ถ้วน มีความสุขสุดที่จะพรรณา จำเดิมแต่ได้พลัดพรากจากบ้านเมืองพ่อแม่มา ข้ามภูผาที่กันดาร ยังมาทุกข์ทรมานในการจำจากน้องทั้งสองอันเป็นที่รักที่สุด สุดท้ายก็มาถูกเจ้านันทบุเรง บุตรบุญธรรมของฉันนั้นเองเฆี่ยนตีทำโทษจนถึง แก่ความตายอย่างทรมานที่สุด ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดๆจะเหมือนฉัน แต่ฉันก็กระทำไปเพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติบ้านเมือง” หลวงปู่โง่น: “ตอนนี้ท่านหญิงสบายแล้ว เสวยสุขอยู่ในทิพย์วิมานอันแสนจะสำราญอยู่ที่นี้ ที่โลกทิพย์นี่ สองสามราตรีเท่านั้นในพิภพนี้ แต่โลกมนุษย์ปาเข้าไปห้าร้อยปีแล้ว ตัวอาตมาเองได้ดับชีวีจากเมืองผีไปเมืองคน วนเวียนอยู่หลายชาติแล้ว เราจะมาเพลิดเพลินในเรื่องเวียนว่ายตายเกิดอยู่หรือไง เป็นเพราะไอ้ตัวกิเลสตัณหาบ้าบอแท้ๆ ที่ได้จองจำนำพาให้เราต้องมาเวียนว่ายตายเกิด” พระสุพรรณกัลยา: “ฉันจะไปอุบัติในสกุลสุขุมาลย์ชาติในวงศ์สกุลกษัตริย์ไทย ช่วยบ้านเมืองในร่างสตรีเพศ เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อน และจะไม่เยื่อใยในการมีคู่ครอง เพราะฉันเข็ดแล้วเรื่องผู้ชาย ฉันจะสร้างบารมีทำแต่ความดีให้นั่งอยู่บนหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ แล้วฉันก็จะเป็นคนหมดเวรภัยไปสู่สถานที่ที่ไม่มีการเกิดการตายอีกแล้ว” พระสุพรรณกัลยา: “พระคุณเจ้าอย่าลืมนะ เรื่องฉันร้องขอคือ ฝากให้ท่านเอารูปลักษณ์ของฉันที่อยู่ในห้วงแห่งความทรงจำของท่าน ออกเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ที่อยากรู้อยากเห็นฉันให้เป็นแบบรูปธรรมขึ้นมา ให้เขาได้เห็นฉันด้วย แต่ฉันเชื่อแน่ว่า คนไทยทั้งประเทศ เขาคงจำฉันได้ไม่กี่คน เพราะประวัติจริงๆ ที่พระน้องยาเธอของฉันจารึกไว้ก็คงจะสลายหายสูญไปกับกรุงแตกครั้งหลังสุดแล้ว” หลวงปู่โง่นจึงได้สร้างรูปของพระสุพรรณกัลยาโดยใช้วิธีการสองระบบ คือ ระบบทางนามธรรม หรือ ระบบทางจิตคือการสัมผัสทางจิตวิญญาณ และระบบทางรูปธรรม โดยอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ให้ปรากฏเป็นภาพแก่สายตาภายนอก โดยใช้กล้องถ่ายรูปชั้นดีสองตัว คือ กล้องโอลิมปัสของเยอรมัน และกล้องโพโตลองของฝรั่งเศส ในทางวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ก็มีหลักยืนยันว่า E=MC2 สสารย่อมไม่หายไปจากโลก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีขึ้นแล้วในโลก เมื่อถึงคราวแตกดับไปสลายตัวไปก็จะกลายเป็นสสาร ยืนยงคงอยู่ตลอดไป เพราะอุณหภูมิคือความร้อนรักษาไว้ มีการจัดหาเครื่องพลีกรรมทางไสยศาสตร์ ซึ่งมีเครื่องบูชามีอาหารหวานคาว ผลไม้ และเครื่องแต่งตัวของผู้หญิงมีแป้ง น้ำอบน้ำหอม ผ้าถุงเสื้อนุ่งสีทอง เสร็จแล้วก็ไปทำพิธีในสถานที่ได้นิมิตเห็นพระสุพรรณกัลยาและถ่ายรูปเอาดวงวิญญาณของพระนาง เมื่อได้จัดแจงอุปกรณ์ภายนอก ทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว หันหน้ากล้องทั้งสองเข้า หาพานเครื่องเส้น ทำใจให้สงบ หันหน้าตัวเองไปแนวเดียวกับกล้องถ่ายรูป แล้ว สวดคาถาว่า... เอหิภูโต มหาภูโต สะมะนุสโส สะเทวะโก กะโรหิ เทวะทิ ตานังอาคัจเฉยะ อาคัจฉาหิ เอหิวิญญานะสุพรรณกัลละยา เทวะทิตา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ มานิมามา ภาวนาได้เจ็ดครั้งแล้วก็หยุด ใช้ความรู้สึกอย่างแรงในขณะหายใจเข้า ดึงเอาภาพลักษณ์ของพระสุพรรณกัลยา ให้มาปรากฏ แล้วจิตมันก็ว่าง อันรูปภาพของพระนางก็ปรากฏขึ้นในมโนภาพเห็น ชัดเจน อันกล้องถ่ายทั้งสอง มันก็ทำงานตามที่กำหนดไว้ ใช้เวลาอยู่สามชั่วโมงก็หยุด เอาฟิล์มออกมาล้างดู ล้างด้วยมือเอง เพราะหลวงปู่โง่นเคยเป็นช่างถ่ายรูปมาก่อน ได้รูปออกมาเป็นที่น่าพอใจ หลวงปู่โง่นได้เผยแพร่รูปพระนางตามที่ได้ปรากฏในโพสต์นี้ และบันทึกว่า พระนางสุพรรณกัลยาได้ทำคุณประโยชน์ไว้ให้แก่คนไทยทั้งชาติ คือ ต้องยอมเสียสละความสุข ตลอดพระชนม์ชีพส่วนตัว เพื่อความอยู่รอดของบ้านเมืองสยามไทยทั้งประเทศ ซึ่งก็ไม่มีวีรสตรีหรือวีรบุรุษท่านใดในอดีตถึง ปัจจุบันที่จะได้เสียสละอย่างนั้น แล้วสมควรไหมที่ชาวไทยจะลืมท่านลง แต่ถ้าได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ท่านผู้มีกตัญญูกตเวทิตาธรรม คงไม่ลืมแน่ คัดลอกและเรียบเรียงจากหนังสือ “ย้อยรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา” โดยหลวงปู่โง่น โสรโย เมษายน 2529"ข้าชื่อ สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน" "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์" เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491 หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น. บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ หลวงปู่โง่น โสรโย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 883 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากเพจ ประวัติศาสตร์ ราชวงค์จักรี

    "ข้าชื่อ #สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน"

    "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์"

    เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า

    โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491

    หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น.

    บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์

    ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม

    ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ

    #หลวงปู่โง่น_โสรโย ขณะเดินทางเข้าพม่าในปี พ.ศ. 2491 ได้ถูกจับติดคุกพม่า เมื่อท่านทำความเพียร จึงได้สัมผัสทางวิญญาณพระสุพรรณกัลยา

    พระสุพรรณกัลยา: “ฉันเองชื่อสุพรรณกัลยา เป็นธิดาคนโตของพระมหาธรรมราชา

    มีน้องชายสองคน คือเจ้าองค์ดำ และเจ้าองค์ขาว เป็นชาวสยามไทย

    ได้ถูกกวาดต้อนมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก มาเป็นเชลยอยู่ที่เมืองหงสาวดีนี้ ท่านก็ถูกเขากวาดต้อนมาด้วย เขาเกณฑ์ท่านมาเป็นช่าง สร้างบ้านให้พวกเราอยู่กัน ฉันไว้ใจท่านเพราะท่านซื่อสัตย์และกตัญญู ท่านช่วยดูแลฉันและน้องๆ ตลอดพวกพ้องที่เป็นเชลย ตลอดเวลา

    มาวันนี้ท่านแต่งตัวเป็นนักบวช คงจะมีมนต์ขลังดี ช่วยแก้ด้ายสายสิญจน์ออกจากมือและขาให้ฉันด้วย

    หมอผีพม่ามันผูกเอาไว้ เพื่อกันฉันจะหนี ฉันจึงหนีไปไหนมาไหนไกลๆไม่ได้ มันจะเหนี่ยวกลับทันที ถ้าหนีได้ฉันจะไปกับท่าน”

    แล้วหลวงปู่โง่นจึงได้ถอดกายทิพย์ไปดึงด้ายสายสิญจน์ที่เขาทำด้วยแผ่นทองคำ ความยาวห้าคืบ กว้างหนึ่งนิ้ว ลงอักขระคาถา

    ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 วันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12

    #พระสุพรรณกัลยา: “ท่านขาท่านเก่งมากที่ท่านช่วยแก้เครื่องผูกมัดออกให้ฉัน ฉันจะได้เป็นอิสระเสียที ฉันจะไปอยู่กับท่านตลอดไป ท่านต้องการอะไรบอกฉัน เมื่อท่านจะไปไหนมาไหน หรือทำอะไรบอกฉันด้วย ฉันจะช่วยแบ่งเบาเท่าที่ ความสามารถ ของฉันจะทำได้ และท่านก็จะพ้นภัยภายในเร็วๆ นี้

    พวกเราถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลย จนฉันโตเป็นสาว อายุราวๆ เบญจเพศ ไอ้เจ้าบุเรงนองมันก็ปองรักจะหักด้ามพร้าด้วยเข่าเอาฉันทำเมีย

    แต่พระอนุชาของฉันทั้งสองไม่ยินยอมและตัวท่านเองก็ไม่ยอมด้วย ดังนั้นจึงพร้อมกันออกอุบายว่า ขอให้ฉันได้รับอนุญาตจากท่านผู้บังเกิดเกล้า

    คือ บิดามารดาเสียก่อน เจ้าบุเรงนองมันตาฝาดด้วยอำนาจกิเลสตัณหาจึงจัดแจงโยธาไพร่พลพร้อมด้วยตัวเขาและน้องชายทั้งสองของฉันและตัวท่านเองก็ได้กลับไปด้วย

    แต่การไปของท่าน เขาให้ไปถึงแค่เขตแดนแล้วเขาสั่งให้สร้างบ้านเรือนอยู่ตรงเมืองมะริด และเจ้าบุเรงนองก็เกรงใจท่านมากเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เขานับถือ

    เหตุที่ฉันจะต้องไปด้วยตอนถูกกวาดไปเป็นเชลย

    เพราะน้องของฉันทั้งสองพระองค์ เขาติดพันฉันมาก ฉันเป็นทั้งพี่จริงและพี่เลี้ยง ฉันเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เยาว์วัย

    ในคราวที่เราร่อนเร่มาอย่างเมื่อยล้า น้องคนเล็กไม่ยอมเดิน ฉันต้องอุ้มกระเตงคนเล็กไว้ที่เอวข้างขวา จูงคนโตด้วยมือซ้ายตอนข้ามน้ำ ท่านยังเห็นว่าขำแท้ๆท่านจึงทำจำแลง แกะสลักรูปของฉันอุ้มน้อง เพื่อล้อเลียนไว้ดูเล่น ขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ เอาไว้ไปดูเล่นเป็นขวัญตา รวมถึงอัฐิและกำไลแขนของฉันในสถานที่ที่ฉันเก็บไว้ ขอให้นำกลับไปด้วย และของที่เราสักการะบูชา คือ เทวรูปพระนารายณ์ และพระแม่อุมาที่เป็นทองคำก็ให้ท่านเอากลับไปด้วย"

    สิ่งของเหล่านั้นหลวงปู่โง่นได้นำเอากลับมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเทวดา ศาลากลางน้ำ วัดพระพุทธบาทเขารวก พิจิตร เท่าทุกวันนี้ นี่แหละ คือ สักขีพยานในด้านรูปธรรมที่พอยืนยันได้

    พระสุพรรณกัลยา: “กองทัพของไทยขึ้นไปประชิดที่เมืองอังวะไว้แล้ว ไอ้เจ้ามังไชยสิงหะราช (นันทบุเรง) จึงสั่งจับจำจองแม่เลี้ยงของมันคือฉันเองให้ลงโทษทัณฑ์อย่างหนัก มันสั่งให้คนจับฉัน มัดมือ มัดเท้า แล้วลงมือชกต่อย ตบ ตี เตะ ถีบ โบยด้วยแส้หวาย โบยแล้วโบยอีก แล้วปล่อยให้ฉันอดข้าวอดน้ำ ให้ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

    เมื่อมันเห็นว่าฉันอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้ว มันก็ฟันฉันด้วยดาบเล่มนี้ และขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ แล้วฉันก็ตายไปพร้อมกับลูกอยู่ในท้องแปดเดือน แล้วมันก็ให้หมอผีมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ด้วย

    การผูกรัดรึงตรึงฉัน ด้วยไม้กางเขนตรากระสัง ให้วิญญาณของฉันไปไหนมาไหนไม่ได้ ต้องวนเวียนอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น

    ฉันขอขอบใจท่านมากที่ท่านได้มาช่วยแก้เครื่องพันธนาการออกให้ฉัน

    แต่นี่ฉันก็เป็นอิสระแล้ว เมื่อท่านกลับไปเมืองไทยฉันจะไปด้วย ฉันจะไปช่วยงานท่าน ท่านมีธุรกิจอะไรเพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม เพื่อชาติ ศาสนกษัตริย์แล้วบอกฉัน

    ขอให้ท่านหวนจิตคิดย้อนกลับไปดูภาวะของฉันที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นธิดาองค์ใหญ่ในวงศ์สุดท้ายของวงศ์สุโขทัย พระราชบิดาได้ไปครองเมืองอยุธยาได้รับสมญาว่า เจ้าฟ้าหญิงพระสุพรรณกัลยา มีความสุขจากทรัพย์โภคาอย่างล้นเหลือ มีข้าทาสบริวารนับไม่ถ้วน มีความสุขสุดที่จะพรรณา จำเดิมแต่ได้พลัดพรากจากบ้านเมืองพ่อแม่มา ข้ามภูผาที่กันดาร ยังมาทุกข์ทรมานในการจำจากน้องทั้งสองอันเป็นที่รักที่สุด สุดท้ายก็มาถูกเจ้านันทบุเรง บุตรบุญธรรมของฉันนั้นเองเฆี่ยนตีทำโทษจนถึง แก่ความตายอย่างทรมานที่สุด ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดๆจะเหมือนฉัน แต่ฉันก็กระทำไปเพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติบ้านเมือง”

    หลวงปู่โง่น: “ตอนนี้ท่านหญิงสบายแล้ว เสวยสุขอยู่ในทิพย์วิมานอันแสนจะสำราญอยู่ที่นี้ ที่โลกทิพย์นี่ สองสามราตรีเท่านั้นในพิภพนี้ แต่โลกมนุษย์ปาเข้าไปห้าร้อยปีแล้ว ตัวอาตมาเองได้ดับชีวีจากเมืองผีไปเมืองคน วนเวียนอยู่หลายชาติแล้ว

    เราจะมาเพลิดเพลินในเรื่องเวียนว่ายตายเกิดอยู่หรือไง เป็นเพราะไอ้ตัวกิเลสตัณหาบ้าบอแท้ๆ ที่ได้จองจำนำพาให้เราต้องมาเวียนว่ายตายเกิด”

    พระสุพรรณกัลยา: “ฉันจะไปอุบัติในสกุลสุขุมาลย์ชาติในวงศ์สกุลกษัตริย์ไทย ช่วยบ้านเมืองในร่างสตรีเพศ เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อน และจะไม่เยื่อใยในการมีคู่ครอง เพราะฉันเข็ดแล้วเรื่องผู้ชาย ฉันจะสร้างบารมีทำแต่ความดีให้นั่งอยู่บนหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ
    แล้วฉันก็จะเป็นคนหมดเวรภัยไปสู่สถานที่ที่ไม่มีการเกิดการตายอีกแล้ว”

    พระสุพรรณกัลยา: “พระคุณเจ้าอย่าลืมนะ เรื่องฉันร้องขอคือ ฝากให้ท่านเอารูปลักษณ์ของฉันที่อยู่ในห้วงแห่งความทรงจำของท่าน ออกเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ที่อยากรู้อยากเห็นฉันให้เป็นแบบรูปธรรมขึ้นมา ให้เขาได้เห็นฉันด้วย แต่ฉันเชื่อแน่ว่า คนไทยทั้งประเทศ เขาคงจำฉันได้ไม่กี่คน

    เพราะประวัติจริงๆ ที่พระน้องยาเธอของฉันจารึกไว้ก็คงจะสลายหายสูญไปกับกรุงแตกครั้งหลังสุดแล้ว”

    หลวงปู่โง่นจึงได้สร้างรูปของพระสุพรรณกัลยาโดยใช้วิธีการสองระบบ คือ ระบบทางนามธรรม หรือ ระบบทางจิตคือการสัมผัสทางจิตวิญญาณ และระบบทางรูปธรรม โดยอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ให้ปรากฏเป็นภาพแก่สายตาภายนอก โดยใช้กล้องถ่ายรูปชั้นดีสองตัว คือ กล้องโอลิมปัสของเยอรมัน และกล้องโพโตลองของฝรั่งเศส

    ในทางวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ก็มีหลักยืนยันว่า E=MC2 สสารย่อมไม่หายไปจากโลก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีขึ้นแล้วในโลก เมื่อถึงคราวแตกดับไปสลายตัวไปก็จะกลายเป็นสสาร ยืนยงคงอยู่ตลอดไป เพราะอุณหภูมิคือความร้อนรักษาไว้

    มีการจัดหาเครื่องพลีกรรมทางไสยศาสตร์ ซึ่งมีเครื่องบูชามีอาหารหวานคาว ผลไม้ และเครื่องแต่งตัวของผู้หญิงมีแป้ง น้ำอบน้ำหอม ผ้าถุงเสื้อนุ่งสีทอง

    เสร็จแล้วก็ไปทำพิธีในสถานที่ได้นิมิตเห็นพระสุพรรณกัลยาและถ่ายรูปเอาดวงวิญญาณของพระนาง

    เมื่อได้จัดแจงอุปกรณ์ภายนอก ทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว หันหน้ากล้องทั้งสองเข้า หาพานเครื่องเส้น ทำใจให้สงบ หันหน้าตัวเองไปแนวเดียวกับกล้องถ่ายรูป แล้ว

    สวดคาถาว่า...

    เอหิภูโต มหาภูโต สะมะนุสโส สะเทวะโก กะโรหิ เทวะทิ ตานังอาคัจเฉยะ อาคัจฉาหิ เอหิวิญญานะสุพรรณกัลละยา เทวะทิตา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ มานิมามา

    ภาวนาได้เจ็ดครั้งแล้วก็หยุด

    ใช้ความรู้สึกอย่างแรงในขณะหายใจเข้า ดึงเอาภาพลักษณ์ของพระสุพรรณกัลยา ให้มาปรากฏ แล้วจิตมันก็ว่าง อันรูปภาพของพระนางก็ปรากฏขึ้นในมโนภาพเห็น ชัดเจน อันกล้องถ่ายทั้งสอง มันก็ทำงานตามที่กำหนดไว้

    ใช้เวลาอยู่สามชั่วโมงก็หยุด เอาฟิล์มออกมาล้างดู ล้างด้วยมือเอง เพราะหลวงปู่โง่นเคยเป็นช่างถ่ายรูปมาก่อน ได้รูปออกมาเป็นที่น่าพอใจ

    หลวงปู่โง่นได้เผยแพร่รูปพระนางตามที่ได้ปรากฏในโพสต์นี้ และบันทึกว่า พระนางสุพรรณกัลยาได้ทำคุณประโยชน์ไว้ให้แก่คนไทยทั้งชาติ คือ ต้องยอมเสียสละความสุข ตลอดพระชนม์ชีพส่วนตัว เพื่อความอยู่รอดของบ้านเมืองสยามไทยทั้งประเทศ ซึ่งก็ไม่มีวีรสตรีหรือวีรบุรุษท่านใดในอดีตถึง ปัจจุบันที่จะได้เสียสละอย่างนั้น แล้วสมควรไหมที่ชาวไทยจะลืมท่านลง แต่ถ้าได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ท่านผู้มีกตัญญูกตเวทิตาธรรม คงไม่ลืมแน่

    คัดลอกและเรียบเรียงจากหนังสือ “ย้อยรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา” โดยหลวงปู่โง่น โสรโย เมษายน 2529"ข้าชื่อ สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน"

    "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์"

    เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า

    โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491

    หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น.

    บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์

    ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม

    ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ

    หลวงปู่โง่น โสรโย
    จากเพจ ประวัติศาสตร์ ราชวงค์จักรี "ข้าชื่อ #สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน" "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์" เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491 หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น. บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ #หลวงปู่โง่น_โสรโย ขณะเดินทางเข้าพม่าในปี พ.ศ. 2491 ได้ถูกจับติดคุกพม่า เมื่อท่านทำความเพียร จึงได้สัมผัสทางวิญญาณพระสุพรรณกัลยา พระสุพรรณกัลยา: “ฉันเองชื่อสุพรรณกัลยา เป็นธิดาคนโตของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือเจ้าองค์ดำ และเจ้าองค์ขาว เป็นชาวสยามไทย ได้ถูกกวาดต้อนมาเมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก มาเป็นเชลยอยู่ที่เมืองหงสาวดีนี้ ท่านก็ถูกเขากวาดต้อนมาด้วย เขาเกณฑ์ท่านมาเป็นช่าง สร้างบ้านให้พวกเราอยู่กัน ฉันไว้ใจท่านเพราะท่านซื่อสัตย์และกตัญญู ท่านช่วยดูแลฉันและน้องๆ ตลอดพวกพ้องที่เป็นเชลย ตลอดเวลา มาวันนี้ท่านแต่งตัวเป็นนักบวช คงจะมีมนต์ขลังดี ช่วยแก้ด้ายสายสิญจน์ออกจากมือและขาให้ฉันด้วย หมอผีพม่ามันผูกเอาไว้ เพื่อกันฉันจะหนี ฉันจึงหนีไปไหนมาไหนไกลๆไม่ได้ มันจะเหนี่ยวกลับทันที ถ้าหนีได้ฉันจะไปกับท่าน” แล้วหลวงปู่โง่นจึงได้ถอดกายทิพย์ไปดึงด้ายสายสิญจน์ที่เขาทำด้วยแผ่นทองคำ ความยาวห้าคืบ กว้างหนึ่งนิ้ว ลงอักขระคาถา ตรงกับวันเพ็ญเดือน 12 ตรงกับวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 วันจันทร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 #พระสุพรรณกัลยา: “ท่านขาท่านเก่งมากที่ท่านช่วยแก้เครื่องผูกมัดออกให้ฉัน ฉันจะได้เป็นอิสระเสียที ฉันจะไปอยู่กับท่านตลอดไป ท่านต้องการอะไรบอกฉัน เมื่อท่านจะไปไหนมาไหน หรือทำอะไรบอกฉันด้วย ฉันจะช่วยแบ่งเบาเท่าที่ ความสามารถ ของฉันจะทำได้ และท่านก็จะพ้นภัยภายในเร็วๆ นี้ พวกเราถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลย จนฉันโตเป็นสาว อายุราวๆ เบญจเพศ ไอ้เจ้าบุเรงนองมันก็ปองรักจะหักด้ามพร้าด้วยเข่าเอาฉันทำเมีย แต่พระอนุชาของฉันทั้งสองไม่ยินยอมและตัวท่านเองก็ไม่ยอมด้วย ดังนั้นจึงพร้อมกันออกอุบายว่า ขอให้ฉันได้รับอนุญาตจากท่านผู้บังเกิดเกล้า คือ บิดามารดาเสียก่อน เจ้าบุเรงนองมันตาฝาดด้วยอำนาจกิเลสตัณหาจึงจัดแจงโยธาไพร่พลพร้อมด้วยตัวเขาและน้องชายทั้งสองของฉันและตัวท่านเองก็ได้กลับไปด้วย แต่การไปของท่าน เขาให้ไปถึงแค่เขตแดนแล้วเขาสั่งให้สร้างบ้านเรือนอยู่ตรงเมืองมะริด และเจ้าบุเรงนองก็เกรงใจท่านมากเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่เขานับถือ เหตุที่ฉันจะต้องไปด้วยตอนถูกกวาดไปเป็นเชลย เพราะน้องของฉันทั้งสองพระองค์ เขาติดพันฉันมาก ฉันเป็นทั้งพี่จริงและพี่เลี้ยง ฉันเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เยาว์วัย ในคราวที่เราร่อนเร่มาอย่างเมื่อยล้า น้องคนเล็กไม่ยอมเดิน ฉันต้องอุ้มกระเตงคนเล็กไว้ที่เอวข้างขวา จูงคนโตด้วยมือซ้ายตอนข้ามน้ำ ท่านยังเห็นว่าขำแท้ๆท่านจึงทำจำแลง แกะสลักรูปของฉันอุ้มน้อง เพื่อล้อเลียนไว้ดูเล่น ขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ เอาไว้ไปดูเล่นเป็นขวัญตา รวมถึงอัฐิและกำไลแขนของฉันในสถานที่ที่ฉันเก็บไว้ ขอให้นำกลับไปด้วย และของที่เราสักการะบูชา คือ เทวรูปพระนารายณ์ และพระแม่อุมาที่เป็นทองคำก็ให้ท่านเอากลับไปด้วย" สิ่งของเหล่านั้นหลวงปู่โง่นได้นำเอากลับมาเก็บรักษาไว้ที่ห้องเทวดา ศาลากลางน้ำ วัดพระพุทธบาทเขารวก พิจิตร เท่าทุกวันนี้ นี่แหละ คือ สักขีพยานในด้านรูปธรรมที่พอยืนยันได้ พระสุพรรณกัลยา: “กองทัพของไทยขึ้นไปประชิดที่เมืองอังวะไว้แล้ว ไอ้เจ้ามังไชยสิงหะราช (นันทบุเรง) จึงสั่งจับจำจองแม่เลี้ยงของมันคือฉันเองให้ลงโทษทัณฑ์อย่างหนัก มันสั่งให้คนจับฉัน มัดมือ มัดเท้า แล้วลงมือชกต่อย ตบ ตี เตะ ถีบ โบยด้วยแส้หวาย โบยแล้วโบยอีก แล้วปล่อยให้ฉันอดข้าวอดน้ำ ให้ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เมื่อมันเห็นว่าฉันอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้ว มันก็ฟันฉันด้วยดาบเล่มนี้ และขอให้ท่านเอากลับไปด้วยนะ แล้วฉันก็ตายไปพร้อมกับลูกอยู่ในท้องแปดเดือน แล้วมันก็ให้หมอผีมาทำพิธีทางไสยศาสตร์ด้วย การผูกรัดรึงตรึงฉัน ด้วยไม้กางเขนตรากระสัง ให้วิญญาณของฉันไปไหนมาไหนไม่ได้ ต้องวนเวียนอยู่ในละแวกนี้เท่านั้น ฉันขอขอบใจท่านมากที่ท่านได้มาช่วยแก้เครื่องพันธนาการออกให้ฉัน แต่นี่ฉันก็เป็นอิสระแล้ว เมื่อท่านกลับไปเมืองไทยฉันจะไปด้วย ฉันจะไปช่วยงานท่าน ท่านมีธุรกิจอะไรเพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม เพื่อชาติ ศาสนกษัตริย์แล้วบอกฉัน ขอให้ท่านหวนจิตคิดย้อนกลับไปดูภาวะของฉันที่ได้กำเนิดเกิดมาเป็นธิดาองค์ใหญ่ในวงศ์สุดท้ายของวงศ์สุโขทัย พระราชบิดาได้ไปครองเมืองอยุธยาได้รับสมญาว่า เจ้าฟ้าหญิงพระสุพรรณกัลยา มีความสุขจากทรัพย์โภคาอย่างล้นเหลือ มีข้าทาสบริวารนับไม่ถ้วน มีความสุขสุดที่จะพรรณา จำเดิมแต่ได้พลัดพรากจากบ้านเมืองพ่อแม่มา ข้ามภูผาที่กันดาร ยังมาทุกข์ทรมานในการจำจากน้องทั้งสองอันเป็นที่รักที่สุด สุดท้ายก็มาถูกเจ้านันทบุเรง บุตรบุญธรรมของฉันนั้นเองเฆี่ยนตีทำโทษจนถึง แก่ความตายอย่างทรมานที่สุด ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดๆจะเหมือนฉัน แต่ฉันก็กระทำไปเพื่อความอยู่รอดของประเทศชาติบ้านเมือง” หลวงปู่โง่น: “ตอนนี้ท่านหญิงสบายแล้ว เสวยสุขอยู่ในทิพย์วิมานอันแสนจะสำราญอยู่ที่นี้ ที่โลกทิพย์นี่ สองสามราตรีเท่านั้นในพิภพนี้ แต่โลกมนุษย์ปาเข้าไปห้าร้อยปีแล้ว ตัวอาตมาเองได้ดับชีวีจากเมืองผีไปเมืองคน วนเวียนอยู่หลายชาติแล้ว เราจะมาเพลิดเพลินในเรื่องเวียนว่ายตายเกิดอยู่หรือไง เป็นเพราะไอ้ตัวกิเลสตัณหาบ้าบอแท้ๆ ที่ได้จองจำนำพาให้เราต้องมาเวียนว่ายตายเกิด” พระสุพรรณกัลยา: “ฉันจะไปอุบัติในสกุลสุขุมาลย์ชาติในวงศ์สกุลกษัตริย์ไทย ช่วยบ้านเมืองในร่างสตรีเพศ เมื่อบ้านเมืองเดือดร้อน และจะไม่เยื่อใยในการมีคู่ครอง เพราะฉันเข็ดแล้วเรื่องผู้ชาย ฉันจะสร้างบารมีทำแต่ความดีให้นั่งอยู่บนหัวใจของคนไทยทั้งประเทศ แล้วฉันก็จะเป็นคนหมดเวรภัยไปสู่สถานที่ที่ไม่มีการเกิดการตายอีกแล้ว” พระสุพรรณกัลยา: “พระคุณเจ้าอย่าลืมนะ เรื่องฉันร้องขอคือ ฝากให้ท่านเอารูปลักษณ์ของฉันที่อยู่ในห้วงแห่งความทรงจำของท่าน ออกเผยแพร่ให้คนอื่นๆ ที่อยากรู้อยากเห็นฉันให้เป็นแบบรูปธรรมขึ้นมา ให้เขาได้เห็นฉันด้วย แต่ฉันเชื่อแน่ว่า คนไทยทั้งประเทศ เขาคงจำฉันได้ไม่กี่คน เพราะประวัติจริงๆ ที่พระน้องยาเธอของฉันจารึกไว้ก็คงจะสลายหายสูญไปกับกรุงแตกครั้งหลังสุดแล้ว” หลวงปู่โง่นจึงได้สร้างรูปของพระสุพรรณกัลยาโดยใช้วิธีการสองระบบ คือ ระบบทางนามธรรม หรือ ระบบทางจิตคือการสัมผัสทางจิตวิญญาณ และระบบทางรูปธรรม โดยอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ให้ปรากฏเป็นภาพแก่สายตาภายนอก โดยใช้กล้องถ่ายรูปชั้นดีสองตัว คือ กล้องโอลิมปัสของเยอรมัน และกล้องโพโตลองของฝรั่งเศส ในทางวิทยาศาสตร์ฟิสิกส์ก็มีหลักยืนยันว่า E=MC2 สสารย่อมไม่หายไปจากโลก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมีขึ้นแล้วในโลก เมื่อถึงคราวแตกดับไปสลายตัวไปก็จะกลายเป็นสสาร ยืนยงคงอยู่ตลอดไป เพราะอุณหภูมิคือความร้อนรักษาไว้ มีการจัดหาเครื่องพลีกรรมทางไสยศาสตร์ ซึ่งมีเครื่องบูชามีอาหารหวานคาว ผลไม้ และเครื่องแต่งตัวของผู้หญิงมีแป้ง น้ำอบน้ำหอม ผ้าถุงเสื้อนุ่งสีทอง เสร็จแล้วก็ไปทำพิธีในสถานที่ได้นิมิตเห็นพระสุพรรณกัลยาและถ่ายรูปเอาดวงวิญญาณของพระนาง เมื่อได้จัดแจงอุปกรณ์ภายนอก ทุกอย่างที่กล่าวมาแล้ว หันหน้ากล้องทั้งสองเข้า หาพานเครื่องเส้น ทำใจให้สงบ หันหน้าตัวเองไปแนวเดียวกับกล้องถ่ายรูป แล้ว สวดคาถาว่า... เอหิภูโต มหาภูโต สะมะนุสโส สะเทวะโก กะโรหิ เทวะทิ ตานังอาคัจเฉยะ อาคัจฉาหิ เอหิวิญญานะสุพรรณกัลละยา เทวะทิตา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ มานิมามา ภาวนาได้เจ็ดครั้งแล้วก็หยุด ใช้ความรู้สึกอย่างแรงในขณะหายใจเข้า ดึงเอาภาพลักษณ์ของพระสุพรรณกัลยา ให้มาปรากฏ แล้วจิตมันก็ว่าง อันรูปภาพของพระนางก็ปรากฏขึ้นในมโนภาพเห็น ชัดเจน อันกล้องถ่ายทั้งสอง มันก็ทำงานตามที่กำหนดไว้ ใช้เวลาอยู่สามชั่วโมงก็หยุด เอาฟิล์มออกมาล้างดู ล้างด้วยมือเอง เพราะหลวงปู่โง่นเคยเป็นช่างถ่ายรูปมาก่อน ได้รูปออกมาเป็นที่น่าพอใจ หลวงปู่โง่นได้เผยแพร่รูปพระนางตามที่ได้ปรากฏในโพสต์นี้ และบันทึกว่า พระนางสุพรรณกัลยาได้ทำคุณประโยชน์ไว้ให้แก่คนไทยทั้งชาติ คือ ต้องยอมเสียสละความสุข ตลอดพระชนม์ชีพส่วนตัว เพื่อความอยู่รอดของบ้านเมืองสยามไทยทั้งประเทศ ซึ่งก็ไม่มีวีรสตรีหรือวีรบุรุษท่านใดในอดีตถึง ปัจจุบันที่จะได้เสียสละอย่างนั้น แล้วสมควรไหมที่ชาวไทยจะลืมท่านลง แต่ถ้าได้อ่านเรื่องนี้แล้ว ท่านผู้มีกตัญญูกตเวทิตาธรรม คงไม่ลืมแน่ คัดลอกและเรียบเรียงจากหนังสือ “ย้อยรอยกรรม ตำนานพระสุพรรณกัลยา” โดยหลวงปู่โง่น โสรโย เมษายน 2529"ข้าชื่อ สุพรรณกัลยา ข้าเกิดวันเสาร์ ปีมะเส็ง 2098 เป็นลูกสาวของพระมหาธรรมราชา มีน้องชายสองคน คือ เจ้าดำ เจ้าขาว เมื่อแพ้ศึก ข้ากับน้องชาย พร้อมด้วยเจ้าเหนือหัวคือพระมหินทราธิราช แต่ท่านมาถึงเกตทูเบิน เมืองมนต์ (มอญ) ท่านเสียชีวิตลง เขาจึงสั่งให้พ่อของข้า เป็นมหาอุปราช เป็นผู้ครองราช กรุงอโยธยา ข้าพร้อมกับไพร่พลและน้อง เพราะน้องข้าไม่ยอม จึงให้ข้ามาด้วย เราช่วยเลี้ยงเขาจนโต ข้าจากบ้านเมืองมา เมื่อวันพุธ เดือนสี่ ปีมะเมีย พุทธศักราช 2112 ข้าคิดถึงบ้าน คิดถึงมัน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่เหลือเกิน" "ข้าได้เป็นแม่เลี้ยงน้องตั้งแต่อายุ 14 ปี ข้ากลับมาลาพ่อแม่เมื่ออายุ 19 ปี เมื่อปี 2119 ข้าได้แต่งงาน ข้าได้เลี้ยงน้อง ก่อนแต่งงานข้าได้กลับอยุธยา แล้วกลับไป แล้วให้น้องทั้งสองกลับมาช่วยพ่อกู้บ้านกู้เมืองที่อยุธยา ข้าคิดถึงบ้าน ข้าถูกจองจำด้วยเวทมนต์" เป็นบทความที่แปลจากหนังสือที่พระสุพรรณกัลยาได้เขียนเป็นอักษรโบราณของพม่าในปี พ.ศ. 2229 พบที่หอสมุดของพม่า โดยหลวงปู่โง่น โสรโย อริยสงฆ์แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร ในปี พ.ศ. 2491 หลวงปู่โง่น โสรโย เกิดบนแพกลางลำน้ำปิง เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ.2447 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เวลา 05.58 น. บิดาเป็นหัวหน้าล่องแพไม้ซุง มารดาเป็นชาวลำพูน เมื่ออายุได้ประมาณ 10 ปี ซาโต้โมมอง เลขานุการข้าหลวงใหญ่ชาวฝรั่งเศสประจำอินโดจีน รับตัวเป็นบุตรบุญธรรม และได้ศึกษาที่ต่างประเทศจนจบปริญญาเอก ณ มหาวิทยาลัยในเยอรมัน สามารถพูดได้ถึง 7 ภาษา เดิมนับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาได้อุปสมบทในพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2482 ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม นครพนม ระหว่างที่เป็นสมณะได้ปฏิบัติกรรมฐานในถ้ำ และกลางหิมะนานถึง 8 ชั่วโมง ได้รับคำสอนจากหลวงปู่โลกเทพอุดร มีความชำนาญเรื่องยาสมุนไพร หลวงปู่โง่นละสังขารของท่านเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริชนมายุได้ 94 ปีเศษ หลวงปู่โง่น โสรโย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 882 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชียงใหม่ – “ดอยอินทนนท์” คนแน่นเอี้ยด! นักท่องเที่ยวแห่ท้าหนาวไม่ขาดสาย ฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คาดตลอดทั้งวันอาจทะลุ 2 หมื่นคน ขณะที่อุณหภูมิต่ำสุด 6 องศาเซลเซียส ทั้งนี้อุทยานฯ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ 250 นาย ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแนะเลือกใช้บริการรถรับจ้างท้องถิ่นในการเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากมีความชำนาญเส้นทางขึ้นลงดอยมากกว่าและช่วยลดความหนาแน่นของการจราจร

    รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้(31 ธ.ค.67) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปี 2567 ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศกรท่องเที่ยวเป็นไปอย่างคึกคัก จากการที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างพากันท่องเที่ยวชื่นชมธรรมชาติและสัมผัสอากาศหนาวบนยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทยในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยนักท่องเที่ยวได้พากันเดินทางมารอเข้าอุทยานฯ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดเพื่อรอชมแสงแรกของพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิวหลักกิโลเมตรที่ 42 กิ่วแม่ปาน จนทำให้การจราจรเป็นไปอย่างหนาแน่นและรถติดยาวเป็นช่วงๆ

    อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวต่างไม่ผิดหวังกับการได้ชื่นชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามและอากาศหนาวเย็น โดยอุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้วัดได้ 6 องศาเซลเซียส ที่ยอดดอย และที่กิ่วแม่ปาน วัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ 7 องศาเซลเซียส ขณะที่สถิตินักท่องเที่ยว เมื่อวานนี้(30 ธ.ค.67) มีจำนวนทั้งสิ้น 15,280 คน แบ่งเป็น คนไทย 13,662 คน ชาวต่างชาติ 1,618 คน ยานพาหนะ 4,065 คัน โดยที่ในวันนี้(31 ธ.ค.67) คาดว่าตลอดทั้งวันน่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวไม่น้อยไปกว่าวานนี้ และอาจจะมากถึง 20,000 คน จากการที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างพากันท่องเที่ยวเพื่อเป็นการพักผ่อนและเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/local/detail/9670000125319

    #MGROnline #เชียงใหม่ #ดอยอินทนนท์
    เชียงใหม่ – “ดอยอินทนนท์” คนแน่นเอี้ยด! นักท่องเที่ยวแห่ท้าหนาวไม่ขาดสาย ฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คาดตลอดทั้งวันอาจทะลุ 2 หมื่นคน ขณะที่อุณหภูมิต่ำสุด 6 องศาเซลเซียส ทั้งนี้อุทยานฯ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ 250 นาย ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแนะเลือกใช้บริการรถรับจ้างท้องถิ่นในการเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากมีความชำนาญเส้นทางขึ้นลงดอยมากกว่าและช่วยลดความหนาแน่นของการจราจร • รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้(31 ธ.ค.67) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปี 2567 ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ บรรยากาศกรท่องเที่ยวเป็นไปอย่างคึกคัก จากการที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างพากันท่องเที่ยวชื่นชมธรรมชาติและสัมผัสอากาศหนาวบนยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทยในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยนักท่องเที่ยวได้พากันเดินทางมารอเข้าอุทยานฯ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดเพื่อรอชมแสงแรกของพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิวหลักกิโลเมตรที่ 42 กิ่วแม่ปาน จนทำให้การจราจรเป็นไปอย่างหนาแน่นและรถติดยาวเป็นช่วงๆ • อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวต่างไม่ผิดหวังกับการได้ชื่นชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามและอากาศหนาวเย็น โดยอุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้วัดได้ 6 องศาเซลเซียส ที่ยอดดอย และที่กิ่วแม่ปาน วัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ 7 องศาเซลเซียส ขณะที่สถิตินักท่องเที่ยว เมื่อวานนี้(30 ธ.ค.67) มีจำนวนทั้งสิ้น 15,280 คน แบ่งเป็น คนไทย 13,662 คน ชาวต่างชาติ 1,618 คน ยานพาหนะ 4,065 คัน โดยที่ในวันนี้(31 ธ.ค.67) คาดว่าตลอดทั้งวันน่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวไม่น้อยไปกว่าวานนี้ และอาจจะมากถึง 20,000 คน จากการที่ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างพากันท่องเที่ยวเพื่อเป็นการพักผ่อนและเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9670000125319 • #MGROnline #เชียงใหม่ #ดอยอินทนนท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 546 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรรมเก่าและการสร้างปัจจุบันกรรมเพื่อความร่ำรวย

    กรรมเก่า:
    กรรมเก่ามีบทบาทสำคัญในการ "เอื้อ" หรือ "จำกัด" ความสามารถในการมีเงินของเรา เช่นเดียวกับการที่เราเกิดมาพร้อมกับภาชนะที่รองรับอาหารได้ต่างกัน:

    1. ภาชนะเล็ก:

    เคยทำทานน้อย รักษาศีลไม่สม่ำเสมอ หรือตระหนี่ถี่เหนียว

    ผลกรรม: รองรับทรัพย์ได้น้อย แม้ได้ทรัพย์มา ก็มีแนวโน้มสูญเสียง่าย

    2. ภาชนะขนาดกลาง:

    เคยทำทานปานกลาง รักษาศีลในระดับใช้ได้

    ผลกรรม: มีความมั่นคงในทรัพย์ระดับหนึ่ง ไม่ขาดแคลน

    3. ภาชนะขนาดใหญ่:

    เคยทำทานอย่างรื่นเริง ทำด้วยจิตอิ่มเอิบ รักษาศีลบริสุทธิ์

    ผลกรรม: รองรับทรัพย์ได้มหาศาล ทรัพย์สมบัติเกิดขึ้นและคงอยู่

    กรรมเก่าในรูปของ ทานจิต และ ศีลจิต ส่งผลต่อฐานะทางการเงินในปัจจุบัน แต่ไม่ได้แปลว่ากรรมเก่าจะกำหนดทุกอย่าง 100%

    ---

    ปัจจุบันกรรม:
    พระพุทธเจ้าสอนให้ใส่ใจปัจจุบันกรรม ด้วยการประกอบอาชีพสุจริต ขยันขันแข็ง และรู้จักบริหารทรัพย์อย่างเหมาะสม:

    1. ขยัน:

    ทุ่มเทแรงกายแรงใจในงานที่ทำ

    สร้างความชำนาญและความน่าเชื่อถือ

    2. รู้จักเก็บ:

    บริหารทรัพย์สินให้สมดุล ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

    วางแผนการเงินเพื่ออนาคต

    3. รู้จักอุปสงค์-อุปทาน:

    ศึกษาตลาดและความต้องการ

    เลือกแนวทางการทำมาหากินที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม

    4. เผื่อแผ่และเจือจาน:

    ฝึกทำทานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อขยายภาชนะรับทรัพย์ในอนาคต

    ไม่จำเป็นต้องทำมากในคราวเดียว แต่ต้องทำด้วยใจที่เต็มเปี่ยม

    ---

    สรุป:

    กรรมเก่า: เป็นพื้นฐานที่เอื้อให้มีทรัพย์ในระดับหนึ่ง

    ปัจจุบันกรรม: เป็นตัวสร้างผลสำเร็จในระยะสั้นและระยะยาว

    อยากรวยอย่างยั่งยืน ให้ขยันทำงานสุจริต พร้อมทั้งทำทานและรักษาศีลอย่างต่อเนื่อง เมื่อนั้นทั้งผลกรรมเก่าและปัจจุบันกรรมจะสนับสนุนให้ชีวิตรุ่งเรืองขึ้นเอง.
    กรรมเก่าและการสร้างปัจจุบันกรรมเพื่อความร่ำรวย กรรมเก่า: กรรมเก่ามีบทบาทสำคัญในการ "เอื้อ" หรือ "จำกัด" ความสามารถในการมีเงินของเรา เช่นเดียวกับการที่เราเกิดมาพร้อมกับภาชนะที่รองรับอาหารได้ต่างกัน: 1. ภาชนะเล็ก: เคยทำทานน้อย รักษาศีลไม่สม่ำเสมอ หรือตระหนี่ถี่เหนียว ผลกรรม: รองรับทรัพย์ได้น้อย แม้ได้ทรัพย์มา ก็มีแนวโน้มสูญเสียง่าย 2. ภาชนะขนาดกลาง: เคยทำทานปานกลาง รักษาศีลในระดับใช้ได้ ผลกรรม: มีความมั่นคงในทรัพย์ระดับหนึ่ง ไม่ขาดแคลน 3. ภาชนะขนาดใหญ่: เคยทำทานอย่างรื่นเริง ทำด้วยจิตอิ่มเอิบ รักษาศีลบริสุทธิ์ ผลกรรม: รองรับทรัพย์ได้มหาศาล ทรัพย์สมบัติเกิดขึ้นและคงอยู่ กรรมเก่าในรูปของ ทานจิต และ ศีลจิต ส่งผลต่อฐานะทางการเงินในปัจจุบัน แต่ไม่ได้แปลว่ากรรมเก่าจะกำหนดทุกอย่าง 100% --- ปัจจุบันกรรม: พระพุทธเจ้าสอนให้ใส่ใจปัจจุบันกรรม ด้วยการประกอบอาชีพสุจริต ขยันขันแข็ง และรู้จักบริหารทรัพย์อย่างเหมาะสม: 1. ขยัน: ทุ่มเทแรงกายแรงใจในงานที่ทำ สร้างความชำนาญและความน่าเชื่อถือ 2. รู้จักเก็บ: บริหารทรัพย์สินให้สมดุล ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย วางแผนการเงินเพื่ออนาคต 3. รู้จักอุปสงค์-อุปทาน: ศึกษาตลาดและความต้องการ เลือกแนวทางการทำมาหากินที่สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม 4. เผื่อแผ่และเจือจาน: ฝึกทำทานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อขยายภาชนะรับทรัพย์ในอนาคต ไม่จำเป็นต้องทำมากในคราวเดียว แต่ต้องทำด้วยใจที่เต็มเปี่ยม --- สรุป: กรรมเก่า: เป็นพื้นฐานที่เอื้อให้มีทรัพย์ในระดับหนึ่ง ปัจจุบันกรรม: เป็นตัวสร้างผลสำเร็จในระยะสั้นและระยะยาว อยากรวยอย่างยั่งยืน ให้ขยันทำงานสุจริต พร้อมทั้งทำทานและรักษาศีลอย่างต่อเนื่อง เมื่อนั้นทั้งผลกรรมเก่าและปัจจุบันกรรมจะสนับสนุนให้ชีวิตรุ่งเรืองขึ้นเอง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • จะมีใครเข้าใจบ้างใหม(๒)
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ
    ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย
    จากการสันนิษฐานและค้นคว้าจากภาพที่นำมาลง ที่มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ
    มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป
    เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ
    ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่องรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
    ภาพในโพสต์นี้ส่วนมากเป็นทับหลังที่มีอยู่ทั่วประเทศไทย ถูกอ้างว่ามาจากวรรณกรรม มหาภารตะ ตลอดมา ถ้าจะถามทุกทับหลังเลยหรือไม่ ไม่มีใครอธิบาย ออกมาจากเรื่องมหาภารตะเลย อยากอ่านคำอธิบายที่มีเหตุผลจริงๆ ไม่ใช่อ้างอิง อ้างอิงไม่ใช่ไม่ดี แต่ถ้าประวัติศาสตร์ต้นทางเขียนผิด อ้างอิงขนาดไหนมันก็ผิด.
    จะมีใครเข้าใจบ้างใหม(๒) ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย จากการสันนิษฐานและค้นคว้าจากภาพที่นำมาลง ที่มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่องรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ภาพในโพสต์นี้ส่วนมากเป็นทับหลังที่มีอยู่ทั่วประเทศไทย ถูกอ้างว่ามาจากวรรณกรรม มหาภารตะ ตลอดมา ถ้าจะถามทุกทับหลังเลยหรือไม่ ไม่มีใครอธิบาย ออกมาจากเรื่องมหาภารตะเลย อยากอ่านคำอธิบายที่มีเหตุผลจริงๆ ไม่ใช่อ้างอิง อ้างอิงไม่ใช่ไม่ดี แต่ถ้าประวัติศาสตร์ต้นทางเขียนผิด อ้างอิงขนาดไหนมันก็ผิด.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 261 มุมมอง 0 รีวิว
  • จะมีใครเข้าใจบ้างใหม(๒)
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ
    ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย
    จากการสันนิษฐานและค้นคว้าจากภาพที่นำมาลง ที่มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ
    มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป
    เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ
    ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่องรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
    ภาพในโพสต์นี้ส่วนมากเป็นทับหลังที่มีอยู่ทั่วประเทศไทย ถูกอ้างว่ามาจากวรรณกรรม มหาภารตะ ตลอดมา ถ้าจะถามทุกทับหลังเลยหรือไม่ ไม่มีใครอธิบาย ออกมาจากเรื่องมหาภารตะเลย อยากอ่านคำอธิบายที่มีเหตุผลจริงๆ ไม่ใช่อ้างอิง อ้างอิงไม่ใช่ไม่ดี แต่ถ้าประวัติศาสตร์ต้นทางเขียนผิด อ้างอิงขนาดไหนมันก็ผิด.
    จะมีใครเข้าใจบ้างใหม(๒) ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย จากการสันนิษฐานและค้นคว้าจากภาพที่นำมาลง ที่มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่องรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ภาพในโพสต์นี้ส่วนมากเป็นทับหลังที่มีอยู่ทั่วประเทศไทย ถูกอ้างว่ามาจากวรรณกรรม มหาภารตะ ตลอดมา ถ้าจะถามทุกทับหลังเลยหรือไม่ ไม่มีใครอธิบาย ออกมาจากเรื่องมหาภารตะเลย อยากอ่านคำอธิบายที่มีเหตุผลจริงๆ ไม่ใช่อ้างอิง อ้างอิงไม่ใช่ไม่ดี แต่ถ้าประวัติศาสตร์ต้นทางเขียนผิด อ้างอิงขนาดไหนมันก็ผิด.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก(๙)
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ
    ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย
    มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ
    มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป
    เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ
    ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่อรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก(๙) ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่อรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก(๘)
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ
    ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย
    มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ
    มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป
    เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ
    ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่อรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก(๘) ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่อรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก(๗)
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ
    ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย
    มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ
    มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป
    เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ
    ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่อรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก(๗) ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่อรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก(๖)
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ
    ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย
    มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ
    มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป
    เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ
    ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่อรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก(๖) ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่อรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก(๕)
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ
    ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย
    มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ
    มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป
    เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ
    ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่อรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก(๕) ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่อรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก(๔)
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ
    ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย
    มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ
    มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป
    เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ
    ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่อรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก(๔) ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่อรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก(๓)
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ
    ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย
    มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ
    มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป
    เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ
    ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่อรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก(๓) ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่อรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก(๒)
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ
    ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย
    มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ
    มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป
    เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ
    ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่อรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก(๒) ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่อรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก(๑)
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ
    ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย
    มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ
    มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป
    เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ
    ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่อรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.
    ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึก(๑) ลายน้ำ ลายชีวิต ลายบันทึกบนโบราณวัตถุของไทยมีมากมาย แต่ไม่มีใครที่จะมองเห็นถึงความสำคัญของลายน้ำที่อยู่บนวัตถุโบราณ ลายน้ำที่มีบนวัตถุโบราณแทบทุกชนิดที่มีบนแผ่นดินไทยเป็นบันทึกโบราณที่ระบุและบันทึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับบรรพบุรุษโบราณก่อนที่จะเป็นคนไทย มีแผ่นดินแผ่นดินหนึ่งที่ยิ่งใหญ่มีอำนาจที่เป็นจักรวรรดิบนโลกในเวลานั้น(หนึ่งหมื่นกว่าปี)มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ตั้งอยู่กลางมหาสมุทร อยู่กันด้วยความผาสุข มีระเบียบ มั่งคั่ง วันหนึ่งแผ่นเปลือกโลกเกิดปรับในมหาสมุทรครั้งใหญ่ ทำให้เกิดสึนามิแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง สึนามิครั้งนั้นเป็นตำนานน้ำท่วมโลก เป็นตำนานน้ำท่วมโลกของหลายๆชนชาติ มีการหนีภัยไปรอบมหาสมุทรเหมือนผึ้งแตกรัง น้ำลดตรงไหน ผู้ที่รอดชีวิตก็ปักหลักมีชีวิตใหม่ตรงนั้น ผสมกับคนป่าคนที่อยู่บริเวณนั้นเป็นเผ่าพันธุ์นั้นต่อไป เมื่อรอดชีวีตปักหลักได้ก็มีลูกหลาน ผู้ที่รอดชีวิตก็ได้ถ่ายทอดความรู้ที่ติดตัวมาจากแผ่นดินที่ถูกทำลายและเล่าเรื่องภัยพิบัติที่เกิดกับแผ่นดินตัวเอง การบอกเล่าถูกทำมาเป็นรุ่นๆ ผู้รอดชีวิตมีความชำนาญอะไรก็ถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานทำบันทึกไว้ บนทุกทุกอย่างที่บันทึกได้ ทำไห้เราเห็นร่อรอยบันทึก บนโบราณวัตถุเต็มประเทศไทยและบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • อันวาร์ตั้งทักษิณ ฝ่าด่านออกนอกประเทศ

    การประกาศแต่งตั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน ของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนในปี 2568 ระหว่างการเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายอันวาร์มั่นใจว่าประสบการณ์นายทักษิณในฐานะนักการเมืองจะให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่า พร้อมกับทีมงานจากประเทศสมาชิกอาเซียนในรูปแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งมาเลเซียต้องการประโยชน์จากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญการเมือง (Statesmen) เหล่านี้

    นายโมฮัมหมัด ฮะซัน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า นายทักษิณจะมีบทบาทในฐานะที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการ เพราะเป็นผู้มีอิทธิพลในประเทศไทย ได้รับการยอมรับจากสหรัฐอเมริกา และมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับจีน ซึ่งจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างอาเซียน นายทักษิณและบุคคลที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆ ที่จะประกาศแต่งตั้งในภายหลังร่วมงานกับนายอันวาร์มายาวนาน สามารถเสนอข้อมูลเชิงลึกว่าอาเซียนจะก้าวต่อไปได้อย่างไร ยืนยันว่าไม่ใช่คณะที่ปรึกษาอาเซียน แต่เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในฐานะประธานอาเซียน และไม่ใช่องค์กรอย่างเป็นทางการหรือหน่วยงานใหม่ในอาเซียน

    เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2567 ศาลอาญาให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายทักษิณ ในคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 ตีราคาประกัน 500,000 บาท และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล นายทักษิณเคยขอเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปพบแพทย์ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และไปพบบุคคลสำคัญ แต่ศาลอาญายกคำร้องไม่อนุญาต เพราะอาการป่วยเป็นโรคที่เกิดแก่บุคคลทั่วไป และแพทย์ในประเทศตรวจรักษาเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนการไปพบบุคคลสำคัญก็เป็นเรื่องส่วนตัว และไม่มีพยานหลักฐานยืนยันชัดแจ้งถึงความจำเป็น

    นายทักษิณอาจใช้การเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียนของนายอันวาร์ เพื่อขอเดินทางออกนอกประเทศก็เป็นได้ ซึ่งคดีมาตรา 112 ศาลกำหนดนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยในช่วงเดือน ก.ค. 2568

    รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง เห็นว่าการที่นายอันวาร์แต่งตั้งนายทักษิณ ช่วยอุดช่องว่างเรื่องที่รัฐบาลชุดปัจจุบันขาดความรู้ความชำนาญในเรื่องมาเลเซีย เพราะ น.ส.แพทองธาร ไม่มีความพร้อมในหลายเรื่อง โดยเฉพาะความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็เป็นดาบสองคม หากใช้ไม่ระวัง ไม่มีความชัดเจนและโปร่งใส เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศในแนวทางที่ถูกต้อง อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และคนไทยโดยรวมได้ในที่สุด

    #Newskit
    อันวาร์ตั้งทักษิณ ฝ่าด่านออกนอกประเทศ การประกาศแต่งตั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน ของนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนในปี 2568 ระหว่างการเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นายอันวาร์มั่นใจว่าประสบการณ์นายทักษิณในฐานะนักการเมืองจะให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่า พร้อมกับทีมงานจากประเทศสมาชิกอาเซียนในรูปแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งมาเลเซียต้องการประโยชน์จากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญการเมือง (Statesmen) เหล่านี้ นายโมฮัมหมัด ฮะซัน รมว.ต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า นายทักษิณจะมีบทบาทในฐานะที่ปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการ เพราะเป็นผู้มีอิทธิพลในประเทศไทย ได้รับการยอมรับจากสหรัฐอเมริกา และมีความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับจีน ซึ่งจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างอาเซียน นายทักษิณและบุคคลที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆ ที่จะประกาศแต่งตั้งในภายหลังร่วมงานกับนายอันวาร์มายาวนาน สามารถเสนอข้อมูลเชิงลึกว่าอาเซียนจะก้าวต่อไปได้อย่างไร ยืนยันว่าไม่ใช่คณะที่ปรึกษาอาเซียน แต่เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีในฐานะประธานอาเซียน และไม่ใช่องค์กรอย่างเป็นทางการหรือหน่วยงานใหม่ในอาเซียน เป็นที่น่าสังเกตว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. 2567 ศาลอาญาให้ปล่อยตัวชั่วคราวนายทักษิณ ในคดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากกรณีให้สัมภาษณ์สื่อเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 ตีราคาประกัน 500,000 บาท และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล นายทักษิณเคยขอเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปพบแพทย์ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และไปพบบุคคลสำคัญ แต่ศาลอาญายกคำร้องไม่อนุญาต เพราะอาการป่วยเป็นโรคที่เกิดแก่บุคคลทั่วไป และแพทย์ในประเทศตรวจรักษาเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนการไปพบบุคคลสำคัญก็เป็นเรื่องส่วนตัว และไม่มีพยานหลักฐานยืนยันชัดแจ้งถึงความจำเป็น นายทักษิณอาจใช้การเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียนของนายอันวาร์ เพื่อขอเดินทางออกนอกประเทศก็เป็นได้ ซึ่งคดีมาตรา 112 ศาลกำหนดนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยในช่วงเดือน ก.ค. 2568 รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง เห็นว่าการที่นายอันวาร์แต่งตั้งนายทักษิณ ช่วยอุดช่องว่างเรื่องที่รัฐบาลชุดปัจจุบันขาดความรู้ความชำนาญในเรื่องมาเลเซีย เพราะ น.ส.แพทองธาร ไม่มีความพร้อมในหลายเรื่อง โดยเฉพาะความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ก็เป็นดาบสองคม หากใช้ไม่ระวัง ไม่มีความชัดเจนและโปร่งใส เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศในแนวทางที่ถูกต้อง อาจกระทบต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ และคนไทยโดยรวมได้ในที่สุด #Newskit
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 765 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ทหารเรือ #ราชนาวี ซ้อม #รบ หนักเพื่อ #ความชำนาญ #ความพร้อม ของ #กำลังพลในการ #ปกป้อง #รักษา #อาณาเขต #อธิปไตย #ชาติไทย #ประเทศไทย ส่งภาพขึ้นเพจทุกวันเลย
    #ทหารเรือ #ราชนาวี ซ้อม #รบ หนักเพื่อ #ความชำนาญ #ความพร้อม ของ #กำลังพลในการ #ปกป้อง #รักษา #อาณาเขต #อธิปไตย #ชาติไทย #ประเทศไทย ส่งภาพขึ้นเพจทุกวันเลย
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซ้อมให้เกิดความความชำนาญ
    ซ้อมให้เกิดความความชำนาญ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 922 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=LiZ0OlLdrjU
    บทสนทนาสัมภาษณ์งาน
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาสัมภาษณ์งาน
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #conversations #listeningtest #jobinterview

    The conversations from the clip :

    Interviewer: Good morning! Thank you for coming in today.
    Candidate: Good morning! Thank you for having me.
    Interviewer: Can you start by telling me a little about your background and experience?
    Candidate: Sure! I graduated with a degree in Marketing and have three years of experience in digital marketing.
    Interviewer: That’s great! What specific skills do you bring to the table?
    Candidate: I’m proficient in SEO, content creation, and social media management.
    Interviewer: Can you give an example of a successful campaign you’ve managed?
    Candidate: Absolutely! I led a social media campaign that increased our followers by 30% in just two months.
    Interviewer: Impressive! What tools do you use for your marketing efforts?
    Candidate: I primarily use Google Analytics, Hootsuite, and Mailchimp.
    Interviewer: Have you worked with a team in your previous roles?
    Candidate: Yes, I collaborated closely with the sales and design teams to align our strategies.
    Interviewer: How do you handle tight deadlines and pressure?
    Candidate: I prioritize tasks and stay organized to ensure everything is completed on time.
    Interviewer: Good to hear! How do you measure the success of your campaigns?
    Candidate: I look at engagement metrics, conversion rates, and ROI to evaluate effectiveness.
    Interviewer: What motivates you in your work?
    Candidate: I’m motivated by seeing tangible results and helping my team succeed.
    Interviewer: Do you have any questions for us about the company or role?
    Candidate: Yes, I’d like to know more about the team culture here.
    Interviewer: We have a collaborative and supportive environment that encourages growth.
    Candidate: That sounds wonderful! I appreciate the opportunity to interview.
    Interviewer: Thank you for your time today. We will be in touch soon!

    ผู้สัมภาษณ์: สวัสดีตอนเช้า! ขอบคุณที่มาในวันนี้
    ผู้สมัครงาน: สวัสดีค่ะ! ขอบคุณที่ให้โอกาสฉัน
    ผู้สัมภาษณ์: คุณช่วยบอกเกี่ยวกับพื้นฐานและประสบการณ์ของคุณหน่อยได้ไหม?
    ผู้สมัครงาน: แน่นอนค่ะ! ฉันจบการศึกษาด้วยปริญญาด้านการตลาดและมีประสบการณ์ 3 ปีในด้านการตลาดดิจิทัล
    ผู้สัมภาษณ์: ดีมาก! คุณมีทักษะเฉพาะอะไรบ้างที่สามารถนำมาช่วยงานได้?
    ผู้สมัครงาน: ฉันมีความชำนาญใน SEO, การสร้างเนื้อหา และการจัดการโซเชียลมีเดีย
    ผู้สัมภาษณ์: คุณสามารถยกตัวอย่างแคมเปญที่ประสบความสำเร็จที่คุณเคยจัดการได้ไหม?
    ผู้สมัครงาน: แน่นอนค่ะ! ฉันเป็นผู้นำแคมเปญโซเชียลมีเดียที่เพิ่มผู้ติดตามของเราได้ 30% ภายในเวลาเพียงสองเดือน
    ผู้สัมภาษณ์: น่าประทับใจมาก! คุณใช้เครื่องมืออะไรบ้างในการทำการตลาด?
    ผู้สมัครงาน: ฉันใช้ Google Analytics, Hootsuite และ Mailchimp เป็นหลัก
    ผู้สัมภาษณ์: คุณเคยทำงานเป็นทีมในตำแหน่งก่อนหน้านี้ไหม?
    ผู้สมัครงาน: ใช่ค่ะ ฉันได้ทำงานร่วมกับทีมขายและทีมออกแบบอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกัน
    ผู้สัมภาษณ์: คุณจัดการกับกำหนดเวลาที่เข้มงวดและความกดดันอย่างไร?
    ผู้สมัครงาน: ฉันจะจัดลำดับความสำคัญของงานและรักษาความเป็นระเบียบเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งต่าง ๆ จะเสร็จสิ้นตามเวลา
    ผู้สัมภาษณ์: ดีที่ได้ยินแบบนั้น! คุณวัดความสำเร็จของแคมเปญของคุณอย่างไร?
    ผู้สมัครงาน: ฉันดูที่เมตริกการมีส่วนร่วม อัตราการแปลง และ ROI เพื่อประเมินประสิทธิภาพ
    ผู้สัมภาษณ์: อะไรคือแรงจูงใจในงานของคุณ?
    ผู้สมัครงาน: ฉันมีแรงจูงใจจากการเห็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้และการช่วยให้ทีมของผม/ฉันประสบความสำเร็จ
    ผู้สัมภาษณ์: คุณมีคำถามอะไรเกี่ยวกับบริษัทหรือบทบาทนี้ไหม?
    ผู้สมัครงาน: ใช่ค่ะ ฉันอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมของทีมที่นี่
    ผู้สัมภาษณ์: เรามีสภาพแวดล้อมที่ร่วมมือและสนับสนุนซึ่งส่งเสริมการเติบโต
    ผู้สมัครงาน: ฟังดูยอดเยี่ยมมาก! ฉันขอบคุณสำหรับโอกาสในการสัมภาษณ์
    ผู้สัมภาษณ์: ขอบคุณสำหรับเวลาของคุณในวันนี้ เราจะติดต่อกลับเร็ว ๆ นี้!

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Background (แบค-กราวน์ด) n. แปลว่า ประวัติ (ภูมิหลัง)
    Experience (เอ็กซ์-พีเรีนซ) n. แปลว่า ประสบการณ์
    Proficient (พรอฟ-ฟิช-เอ็นท) adj. แปลว่า ชำนาญ
    Campaign (แคม-แพน) n. แปลว่า แคมเปญ
    Social media (โซเชียล มีเดีย) n. แปลว่า สื่อสังคมออนไลน์
    Metrics (เมท-ริค) n. แปลว่า ตัวชี้วัด
    Engagement (เอน-เกจ-เมนต์) n. แปลว่า การมีส่วนร่วม
    Collaboration (คอลลาบอเรชัน) n. แปลว่า การร่วมมือ
    Pressure (เพรช-เชอร์) n. แปลว่า ความกดดัน
    Motivation (โม-ทิ-เวชัน) n. แปลว่า แรงจูงใจ
    Results (รี-ซัลทส์) n. แปลว่า ผลลัพธ์
    Culture (คัลเจอร์) n. แปลว่า วัฒนธรรม
    Strategy (สแตรท-จี้) n. แปลว่า ยุทธศาสตร์
    Tools (ทูลส์) n. แปลว่า เครื่องมือ
    Supportive (ซัพ-พอร์-ทิฟ) adj. แปลว่า สนับสนุน
    https://www.youtube.com/watch?v=LiZ0OlLdrjU บทสนทนาสัมภาษณ์งาน (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาสัมภาษณ์งาน มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #conversations #listeningtest #jobinterview The conversations from the clip : Interviewer: Good morning! Thank you for coming in today. Candidate: Good morning! Thank you for having me. Interviewer: Can you start by telling me a little about your background and experience? Candidate: Sure! I graduated with a degree in Marketing and have three years of experience in digital marketing. Interviewer: That’s great! What specific skills do you bring to the table? Candidate: I’m proficient in SEO, content creation, and social media management. Interviewer: Can you give an example of a successful campaign you’ve managed? Candidate: Absolutely! I led a social media campaign that increased our followers by 30% in just two months. Interviewer: Impressive! What tools do you use for your marketing efforts? Candidate: I primarily use Google Analytics, Hootsuite, and Mailchimp. Interviewer: Have you worked with a team in your previous roles? Candidate: Yes, I collaborated closely with the sales and design teams to align our strategies. Interviewer: How do you handle tight deadlines and pressure? Candidate: I prioritize tasks and stay organized to ensure everything is completed on time. Interviewer: Good to hear! How do you measure the success of your campaigns? Candidate: I look at engagement metrics, conversion rates, and ROI to evaluate effectiveness. Interviewer: What motivates you in your work? Candidate: I’m motivated by seeing tangible results and helping my team succeed. Interviewer: Do you have any questions for us about the company or role? Candidate: Yes, I’d like to know more about the team culture here. Interviewer: We have a collaborative and supportive environment that encourages growth. Candidate: That sounds wonderful! I appreciate the opportunity to interview. Interviewer: Thank you for your time today. We will be in touch soon! ผู้สัมภาษณ์: สวัสดีตอนเช้า! ขอบคุณที่มาในวันนี้ ผู้สมัครงาน: สวัสดีค่ะ! ขอบคุณที่ให้โอกาสฉัน ผู้สัมภาษณ์: คุณช่วยบอกเกี่ยวกับพื้นฐานและประสบการณ์ของคุณหน่อยได้ไหม? ผู้สมัครงาน: แน่นอนค่ะ! ฉันจบการศึกษาด้วยปริญญาด้านการตลาดและมีประสบการณ์ 3 ปีในด้านการตลาดดิจิทัล ผู้สัมภาษณ์: ดีมาก! คุณมีทักษะเฉพาะอะไรบ้างที่สามารถนำมาช่วยงานได้? ผู้สมัครงาน: ฉันมีความชำนาญใน SEO, การสร้างเนื้อหา และการจัดการโซเชียลมีเดีย ผู้สัมภาษณ์: คุณสามารถยกตัวอย่างแคมเปญที่ประสบความสำเร็จที่คุณเคยจัดการได้ไหม? ผู้สมัครงาน: แน่นอนค่ะ! ฉันเป็นผู้นำแคมเปญโซเชียลมีเดียที่เพิ่มผู้ติดตามของเราได้ 30% ภายในเวลาเพียงสองเดือน ผู้สัมภาษณ์: น่าประทับใจมาก! คุณใช้เครื่องมืออะไรบ้างในการทำการตลาด? ผู้สมัครงาน: ฉันใช้ Google Analytics, Hootsuite และ Mailchimp เป็นหลัก ผู้สัมภาษณ์: คุณเคยทำงานเป็นทีมในตำแหน่งก่อนหน้านี้ไหม? ผู้สมัครงาน: ใช่ค่ะ ฉันได้ทำงานร่วมกับทีมขายและทีมออกแบบอย่างใกล้ชิดเพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกัน ผู้สัมภาษณ์: คุณจัดการกับกำหนดเวลาที่เข้มงวดและความกดดันอย่างไร? ผู้สมัครงาน: ฉันจะจัดลำดับความสำคัญของงานและรักษาความเป็นระเบียบเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งต่าง ๆ จะเสร็จสิ้นตามเวลา ผู้สัมภาษณ์: ดีที่ได้ยินแบบนั้น! คุณวัดความสำเร็จของแคมเปญของคุณอย่างไร? ผู้สมัครงาน: ฉันดูที่เมตริกการมีส่วนร่วม อัตราการแปลง และ ROI เพื่อประเมินประสิทธิภาพ ผู้สัมภาษณ์: อะไรคือแรงจูงใจในงานของคุณ? ผู้สมัครงาน: ฉันมีแรงจูงใจจากการเห็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้และการช่วยให้ทีมของผม/ฉันประสบความสำเร็จ ผู้สัมภาษณ์: คุณมีคำถามอะไรเกี่ยวกับบริษัทหรือบทบาทนี้ไหม? ผู้สมัครงาน: ใช่ค่ะ ฉันอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมของทีมที่นี่ ผู้สัมภาษณ์: เรามีสภาพแวดล้อมที่ร่วมมือและสนับสนุนซึ่งส่งเสริมการเติบโต ผู้สมัครงาน: ฟังดูยอดเยี่ยมมาก! ฉันขอบคุณสำหรับโอกาสในการสัมภาษณ์ ผู้สัมภาษณ์: ขอบคุณสำหรับเวลาของคุณในวันนี้ เราจะติดต่อกลับเร็ว ๆ นี้! Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Background (แบค-กราวน์ด) n. แปลว่า ประวัติ (ภูมิหลัง) Experience (เอ็กซ์-พีเรีนซ) n. แปลว่า ประสบการณ์ Proficient (พรอฟ-ฟิช-เอ็นท) adj. แปลว่า ชำนาญ Campaign (แคม-แพน) n. แปลว่า แคมเปญ Social media (โซเชียล มีเดีย) n. แปลว่า สื่อสังคมออนไลน์ Metrics (เมท-ริค) n. แปลว่า ตัวชี้วัด Engagement (เอน-เกจ-เมนต์) n. แปลว่า การมีส่วนร่วม Collaboration (คอลลาบอเรชัน) n. แปลว่า การร่วมมือ Pressure (เพรช-เชอร์) n. แปลว่า ความกดดัน Motivation (โม-ทิ-เวชัน) n. แปลว่า แรงจูงใจ Results (รี-ซัลทส์) n. แปลว่า ผลลัพธ์ Culture (คัลเจอร์) n. แปลว่า วัฒนธรรม Strategy (สแตรท-จี้) n. แปลว่า ยุทธศาสตร์ Tools (ทูลส์) n. แปลว่า เครื่องมือ Supportive (ซัพ-พอร์-ทิฟ) adj. แปลว่า สนับสนุน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 750 มุมมอง 0 รีวิว
  • 23 ตุลาคม วันปิยมหาราช น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

    ////////////////////

    23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ต่อประเทศไทยหลายด้าน และสิ่งที่โดดเด่นคือ การประกาศ เลิกทาส เป็นการหยุดวงจรการเป็นทาส เพราะเมื่อสมัยก่อนหากพ่อแม่เป็นทาส ลูกที่เกิดมาก็ต้องเป็นทาสต่อไปเรื่อยๆ ทางราชการจึงได้ประกาศให้วันที่ 23 ตุลาคมของทุกปีเป็นหนึ่งในวันระลึกถึงความสำคัญของเหตุการณ์ในชาติ โดยเรียกว่า “วันปิยมหาราช”
    พระราชประวัติ
    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) มีพระนามเดิมว่า สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2396 เป็นโอรสองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระนางเจ้าฟ้ารำเพยภมราภิรมย์ (สมเด็จพระเทพศิรินทรา พระบรมราชินี)เมื่อพระชนมายุได้ 9 พรรษา ทรงได้รับสถาปนาขึ้นเป็น กรมหมื่นพิฆเนศวรสุรลังกาศ ต่อมาเมื่อพระชนมายุได้ 13 พรรษา ทรงได้รับสถาปนาขึ้นเป็น กรมขุนพินิตประชานาถ พระองค์ได้รับการศึกษาอย่างเป็นทางการตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ศึกษาวิชาต่างๆ เช่น ชีววิทยา วิชาดาบ วิศวกรรมศาสตร์ ภาษาอังกฤษและมานุษยวิทยา และเดินทางไปต่างประเทศและศึกษายุโรป และวิทยาศาสตร์การทหาร ในช่วงครองราชย์ 42 ปี พระองค์ทรงริเริ่มขบวนการปฏิรูปการพัฒนาตนเองและความเจริญรุ่งเรือง ทำให้การเมืองและการทหารของไทยเป็นตะวันตก และบรรลุความมั่งคั่ง ความก้าวหน้า สันติภาพและความพึงพอใจของประเทศ นักวิชาการหลายคนเชื่อว่าการกระทำของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาเอกราชไว้ได้

    ประราชกรณียกิจสำคัญ

    การเลิกทาส : ออกพระราชบัญญัติเลิกทาสที่แท้จริงขึ้น เรียกว่า “พระราชบัญญัติทาส ร.ศ.124” (พ.ศ.2448) เลิกเรื่องลูกทาส ในเรือนเบี้ยอย่างเด็ดขาด เด็กที่เกิดจากทาส ไม่เป็นทาสอีกต่อไป การซื้อขายทาสเป็นโทษทางอาญา ส่วนผู้ที่เป็นทาสอยู่แล้ว ให้นายเงินลดค่าตัวให้เดือนละ 4 บาท จนกว่าจะหมด

    การปฏิรูประเบียบบริหารราชการ : ได้ทรงปรับปรุงหน้าที่ของกรมต่าง ๆ ที่มีอยู่แต่เดิมให้เป็นระเบียบเรียบร้อยโดยรวมกรมต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายเวลานั้นเข้าเป็นกระทรวง กระทรวงหนึ่ง ๆ ก็มีหน้าที่อย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างพอเหมาะสม

    การศึกษา : ทรงโปรดให้จัดตั้งโรงเรียนหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวัง แล้วมีหมายประกาศชักชวนพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการให้ส่งบุตรหลานเข้า เรียน โรงเรียนภาษาไทยนี้

    การคมนาคม ได้โปรดเกล้าฯ ให้ขยายถนนบำรุงเมือง ถนนที่ทรงสร้างใหม่ คือ ถนนเยาวราช ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนดินสอ ถนนบูรพา ถนนอุณากรรณ เป็นต้น

    การสุขาภิบาล ได้ทรงตั้งกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อดูแลจัดตั้งโรงพยาบาลขึ้นหลายแห่ง เช่น ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลบางรัก โรงพยาบาลโรคจิต และโรงเลี้ยงเด็ก

    การวรรณคดี ทรงเป็นนักประพันธ์ ซึ่งมีความชำนาญทั้งทางร้อยแก้วและร้อยกรอง เช่น ไกลบ้าน ลิลิตนิทราชาคริต เงาะป่า พระราชพิธีสิบสองเดือน เป็นต้น

    ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายฯ
    สำนักงาน นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
    ขอน้อมรำลึกถึง
    พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าและเพื่อเทิดพระเกียรติแด่พระองค์ท่านที่ทรงมีคุณูปการต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง
    23 ตุลาคม วันปิยมหาราช น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 //////////////////// 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ต่อประเทศไทยหลายด้าน และสิ่งที่โดดเด่นคือ การประกาศ เลิกทาส เป็นการหยุดวงจรการเป็นทาส เพราะเมื่อสมัยก่อนหากพ่อแม่เป็นทาส ลูกที่เกิดมาก็ต้องเป็นทาสต่อไปเรื่อยๆ ทางราชการจึงได้ประกาศให้วันที่ 23 ตุลาคมของทุกปีเป็นหนึ่งในวันระลึกถึงความสำคัญของเหตุการณ์ในชาติ โดยเรียกว่า “วันปิยมหาราช” พระราชประวัติ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) มีพระนามเดิมว่า สมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ.2396 เป็นโอรสองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระนางเจ้าฟ้ารำเพยภมราภิรมย์ (สมเด็จพระเทพศิรินทรา พระบรมราชินี)เมื่อพระชนมายุได้ 9 พรรษา ทรงได้รับสถาปนาขึ้นเป็น กรมหมื่นพิฆเนศวรสุรลังกาศ ต่อมาเมื่อพระชนมายุได้ 13 พรรษา ทรงได้รับสถาปนาขึ้นเป็น กรมขุนพินิตประชานาถ พระองค์ได้รับการศึกษาอย่างเป็นทางการตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ศึกษาวิชาต่างๆ เช่น ชีววิทยา วิชาดาบ วิศวกรรมศาสตร์ ภาษาอังกฤษและมานุษยวิทยา และเดินทางไปต่างประเทศและศึกษายุโรป และวิทยาศาสตร์การทหาร ในช่วงครองราชย์ 42 ปี พระองค์ทรงริเริ่มขบวนการปฏิรูปการพัฒนาตนเองและความเจริญรุ่งเรือง ทำให้การเมืองและการทหารของไทยเป็นตะวันตก และบรรลุความมั่งคั่ง ความก้าวหน้า สันติภาพและความพึงพอใจของประเทศ นักวิชาการหลายคนเชื่อว่าการกระทำของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาเอกราชไว้ได้ ประราชกรณียกิจสำคัญ การเลิกทาส : ออกพระราชบัญญัติเลิกทาสที่แท้จริงขึ้น เรียกว่า “พระราชบัญญัติทาส ร.ศ.124” (พ.ศ.2448) เลิกเรื่องลูกทาส ในเรือนเบี้ยอย่างเด็ดขาด เด็กที่เกิดจากทาส ไม่เป็นทาสอีกต่อไป การซื้อขายทาสเป็นโทษทางอาญา ส่วนผู้ที่เป็นทาสอยู่แล้ว ให้นายเงินลดค่าตัวให้เดือนละ 4 บาท จนกว่าจะหมด การปฏิรูประเบียบบริหารราชการ : ได้ทรงปรับปรุงหน้าที่ของกรมต่าง ๆ ที่มีอยู่แต่เดิมให้เป็นระเบียบเรียบร้อยโดยรวมกรมต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายเวลานั้นเข้าเป็นกระทรวง กระทรวงหนึ่ง ๆ ก็มีหน้าที่อย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างพอเหมาะสม การศึกษา : ทรงโปรดให้จัดตั้งโรงเรียนหลวงขึ้นในพระบรมมหาราชวัง แล้วมีหมายประกาศชักชวนพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการให้ส่งบุตรหลานเข้า เรียน โรงเรียนภาษาไทยนี้ การคมนาคม ได้โปรดเกล้าฯ ให้ขยายถนนบำรุงเมือง ถนนที่ทรงสร้างใหม่ คือ ถนนเยาวราช ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนดินสอ ถนนบูรพา ถนนอุณากรรณ เป็นต้น การสุขาภิบาล ได้ทรงตั้งกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อดูแลจัดตั้งโรงพยาบาลขึ้นหลายแห่ง เช่น ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลบางรัก โรงพยาบาลโรคจิต และโรงเลี้ยงเด็ก การวรรณคดี ทรงเป็นนักประพันธ์ ซึ่งมีความชำนาญทั้งทางร้อยแก้วและร้อยกรอง เช่น ไกลบ้าน ลิลิตนิทราชาคริต เงาะป่า พระราชพิธีสิบสองเดือน เป็นต้น ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายฯ สำนักงาน นันท์นภัส วงศ์ใหญ่ ขอน้อมรำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าและเพื่อเทิดพระเกียรติแด่พระองค์ท่านที่ทรงมีคุณูปการต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 665 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าจะลองซื้อหุ้นครั้งแรก แอดมินมีข้อแนะนำมั้ย?
    ตอบ : ให้ลองซื้อหุ้น SETHD (ในตลาดมี 30 ตัว)
    จำนวน 100 หุ้น เป้าหมายเพื่อปันผล และลองถือระยะยาว
    เพื่อดูผลลัพธ์นั้น รวมทั้งติดตามผล และดูการเคลื่อนไหว
    ของราคาประกอบไปด้วย เมื่อเราเรียนรู้จนเกิดความชำนาญ
    และมีวิธีการที่ถูกต้องแล้ว ค่อยขยับเพิ่มจำนวนหุ้นให้มากขึ้น

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    #thaitimes
    ถ้าจะลองซื้อหุ้นครั้งแรก แอดมินมีข้อแนะนำมั้ย? ตอบ : ให้ลองซื้อหุ้น SETHD (ในตลาดมี 30 ตัว) จำนวน 100 หุ้น เป้าหมายเพื่อปันผล และลองถือระยะยาว เพื่อดูผลลัพธ์นั้น รวมทั้งติดตามผล และดูการเคลื่อนไหว ของราคาประกอบไปด้วย เมื่อเราเรียนรู้จนเกิดความชำนาญ และมีวิธีการที่ถูกต้องแล้ว ค่อยขยับเพิ่มจำนวนหุ้นให้มากขึ้น #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 439 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts