• รักนี้คืออะไรทำไมจึงรัก
    ทำไมหักห้ามใจไม่ไหวเลยน้า
    ทำไมคิดถึงเขาตลอดเวลา
    ทำไมจึงอยากเห็นหน้าทุกนาที
    รักน่ะถ้าไม่รักจะได้ไหม
    จะหักห้ามหัวใจอย่างไรดี
    อยากห้ามความคิดถึงถามหน่อยซี
    บอกวิธีหน่อยได้ไหมทำอย่างไรกัน
    หลงรักเขาเข้าให้มิใช่น้อย
    คิดถึงเขาบ่อยจนเพ้อละเมอฝัน
    แม้นว่ารู้ทั้งรู้มิใช่คู่กัน
    แต่ใจมันบังอาจอนาถใจ
    รักนี้คืออะไรทำไมจึงรัก ทำไมหักห้ามใจไม่ไหวเลยน้า ทำไมคิดถึงเขาตลอดเวลา ทำไมจึงอยากเห็นหน้าทุกนาที รักน่ะถ้าไม่รักจะได้ไหม จะหักห้ามหัวใจอย่างไรดี อยากห้ามความคิดถึงถามหน่อยซี บอกวิธีหน่อยได้ไหมทำอย่างไรกัน หลงรักเขาเข้าให้มิใช่น้อย คิดถึงเขาบ่อยจนเพ้อละเมอฝัน แม้นว่ารู้ทั้งรู้มิใช่คู่กัน แต่ใจมันบังอาจอนาถใจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวัสดีค่ะ Storyฯ หายไปตามรอยซากุระมา จำได้ว่าตอนที่เคยเล่าถึงความหมายของดอกเหมยในวัฒนธรรมจีน มีเพื่อนเพจถามถึงดอกซากุระด้วย วันนี้เลยมาคุยกันสั้นๆ

    เพื่อนเพจคงทราบดีว่าดอกซากุระเป็นดอกไม้ประจำชาติของญี่ปุ่น มีคนกล่าวถึงความหมายของมันต่อคนญี่ปุ่นว่าจริงแล้วคือ Rebirth หรือการเกิดใหม่ กล่าวคือการยอมรับความไม่จีรังในชีวิตแต่ยังเปี่ยมด้วยความหวังว่าสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นใหม่ เฉกเช่นดอกซากุระที่บานให้ชื่นชมเพียงไม่นานก็ร่วงโรยแต่แล้วก็จะผลิใหม่และเบ่งบานให้ชมอีกเรื่อยไป นอกจากนี้ยังมีอีกหลายความหมาย เช่น ความสำเร็จ หัวใจที่เข้มแข็ง ความรัก ความบริสุทธิ์ และความอ่อนโยน ฯลฯ ซึ่งเหล่านี้ล้วนให้อารมณ์แห่งความหวังและความสุข

    แล้วที่จีนล่ะ?

    ดอกซากุระมีชื่อจีนว่า ‘อิงฮวา’ (樱花) หรือโบราณเคยเรียกว่า ‘อิงเถา’ แต่มีการระบุชัดว่าไม่ใช่ดอกท้อ (เถาฮวา) เฉพาะในประเทศจีนมีกว่าสี่สิบสายพันธุ์ เชื่อว่ามีการเริ่มปลูกต้นอิงฮวาในเขตพระราชฐานมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น แต่แพร่สู่บ้านเรือนสามัญชนและพบเห็นได้ทั่วไปในสมัยราชวงศ์ถัง (บ้างก็ว่าในช่วงสมัยถังนี่เองที่ อิงฮวาหรือซากุระถูกเผยแพร่ในญี่ปุ่น) ต่อมาในสมัยซ่งเหนือคนหันมานิยมดอกเหมยมากกว่า ทำให้ดอกอิงฮวาถูกกล่าวขานถึงน้อยลง

    ผลงานทางศิลปะเกี่ยวกับอิงฮวามีน้อยมาก ไม่ว่าจะเป็นบทกวีหรือภาพวาด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับดอกบ๊วยหรือดอกท้อที่ดูจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผลงานมากกว่า แรกเริ่มเลยในงานประพันธ์ต่างๆ จะเรียกมันว่า ‘ซันอิง’ หมายถึงต้นอิงฮวาที่โตตามป่าเขา โดยบทกวีที่เก่าแก่ที่สุดเกี่ยวกับอิงฮวาคือในสมัยราชวงศ์ใต้ ประพันธ์โดยเสิ่นเยวี้ย (ค.ศ. 441-513) เป็นการบรรยายถึงดอกซันอิงบานรับฤดูใบไม้ผลิ คงจะกล่าวได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่ดอกอิงฮวาถูกโยงเข้ากับการมาเยือนของวสันตฤดู

    ในสมัยถังมีบทกวีเกี่ยวกับดอกอิงฮวามากกว่ายุคสมัยอื่น บ่งบอกถึงความนิยมในสมัยนั้น โดยนักการเมืองไป๋จวีอี (ค.ศ. 772-846) ได้สร้างผลงานบทกวีชื่นชมความงามของดอกอิงฮวาไว้หลายบท แต่ผลงานของเขามักบ่งบอกถึงอารมณ์แห่งความเสียดายยามบุปผาโรยรา ทว่าแฝงไว้ซึ่งความหวังเพราะซันอิงยังจะคงอยู่และผลิบานใหม่ท่ามกลางป่าเขา โดยผลงานเหล่านี้สะท้อนถึงชีวิตทางการเมืองที่ผ่านร้อนผ่านหนาวของเขา

    อิงฮวากลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบได้ แต่ในช่วงยุคสมัยถังเช่นเดียวกัน มีการกล่าวถึงธรรมเนียมการหักกิ่งอิงฮวามอบให้กันยามคู่รักต้องจากลา โดยใช้อิงฮวาเป็นตัวแทนแห่งความคนึงหา และในหลายบทกวีในยุคนั้น ใช้อิงฮวาเปรียบเปรยถึงความคิดถึงและความอ้างว้าง ดุจฉากดอกอิงฮวาร่วงโรยโปรยพลิ้วในสายลม Storyฯ ขอยกตัวอย่างจากบทกวี <หักกิ่งบุปผามอบอำลา> ของหยวนเจิ่นในสมัยถัง (ขออภัยหากแปลไม่สละสลวย) ที่กล่าวถึงความอาลัยอาวรณ์ของสตรียามต้องส่งชายคนรักจากไป:
    “ส่งท่านใต้ร่มเงาอิงเถา ใจวสันต์ฝากไว้ในกิ่ง
    ที่ใดชวนให้คำนึงถึงที่สุด นั่นคือป่าอิงเถาอันดารดาษ”

    ต่อมาอิงฮวากลายมาเป็นสัญลักษณ์ของสตรีเพศที่อ่อนหวานและอ่อนโยน ไม่ปรากฏชัดเจนว่ามุมมองในลักษณะนี้เกิดขึ้นเมื่อใด แต่ในบทกวี <ซันอิง> ของหวางอันสือในยุคสมัยซ่งเหนือ (คนเดียวกับที่ฝากผลงานอันโดดเด่น <เหมยฮวา> ที่ Storyฯ เคยเขียนไปแล้ว) มีการบรรยายเปรียบเปรยอิงฮวาดุจสตรีที่เอียงอายหลบอยู่ใต้เงาไม้และเบ่งบานหลังดอกไม้อื่น แต่เมื่อลมวสันต์โชยก็พัดพากลิ่นหอมขจรขจายให้ความงามเป็นที่ประจักษ์ต่อผู้คน

    จะเห็นได้ว่า ในวัฒนธรรมจีนนั้น ความหมายของดอกอิงฮวาคล้ายคลึงกับซากุระในวัฒนธรรมญี่ปุ่น คือเป็นตัวแทนแห่งความไม่จีรัง ความบริสุทธิ์ และความอ่อนหวาน

    แต่ในความคล้ายคลึงก็มีความแตกต่าง เพราะซากุระในญี่ปุ่นแฝงไว้ด้วยความหวังท่ามกลางความไม่จีรังในชีวิต แต่โดยส่วนตัวแล้ว Storyฯ รู้สึกว่าบทกวีเกี่ยวกับอิงฮวาของจีนมักแฝงไว้ด้วยความเศร้า หากจะกล่าวว่าดอกบ๊วยเป็นตัวแทนแห่งความงามที่คงทน ดอกอิงฮวาก็คงเป็นตัวแทนแห่งความงามที่เปราะบาง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    รูปภาพจาก: พี่ชายของ Storyฯ เอง
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://news.bjd.com.cn/2022/04/08/10066983.shtml
    https://www.baike.com/wikiid/4777101092071907963?from=wiki_content&prd=innerlink&view_id=32kicegvg8m000
    https://www.163.com/dy/article/HV0LDNRE05418YI9.html

    #อิงฮวา #ซากุระจีน
    สวัสดีค่ะ Storyฯ หายไปตามรอยซากุระมา จำได้ว่าตอนที่เคยเล่าถึงความหมายของดอกเหมยในวัฒนธรรมจีน มีเพื่อนเพจถามถึงดอกซากุระด้วย วันนี้เลยมาคุยกันสั้นๆ เพื่อนเพจคงทราบดีว่าดอกซากุระเป็นดอกไม้ประจำชาติของญี่ปุ่น มีคนกล่าวถึงความหมายของมันต่อคนญี่ปุ่นว่าจริงแล้วคือ Rebirth หรือการเกิดใหม่ กล่าวคือการยอมรับความไม่จีรังในชีวิตแต่ยังเปี่ยมด้วยความหวังว่าสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นใหม่ เฉกเช่นดอกซากุระที่บานให้ชื่นชมเพียงไม่นานก็ร่วงโรยแต่แล้วก็จะผลิใหม่และเบ่งบานให้ชมอีกเรื่อยไป นอกจากนี้ยังมีอีกหลายความหมาย เช่น ความสำเร็จ หัวใจที่เข้มแข็ง ความรัก ความบริสุทธิ์ และความอ่อนโยน ฯลฯ ซึ่งเหล่านี้ล้วนให้อารมณ์แห่งความหวังและความสุข แล้วที่จีนล่ะ? ดอกซากุระมีชื่อจีนว่า ‘อิงฮวา’ (樱花) หรือโบราณเคยเรียกว่า ‘อิงเถา’ แต่มีการระบุชัดว่าไม่ใช่ดอกท้อ (เถาฮวา) เฉพาะในประเทศจีนมีกว่าสี่สิบสายพันธุ์ เชื่อว่ามีการเริ่มปลูกต้นอิงฮวาในเขตพระราชฐานมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น แต่แพร่สู่บ้านเรือนสามัญชนและพบเห็นได้ทั่วไปในสมัยราชวงศ์ถัง (บ้างก็ว่าในช่วงสมัยถังนี่เองที่ อิงฮวาหรือซากุระถูกเผยแพร่ในญี่ปุ่น) ต่อมาในสมัยซ่งเหนือคนหันมานิยมดอกเหมยมากกว่า ทำให้ดอกอิงฮวาถูกกล่าวขานถึงน้อยลง ผลงานทางศิลปะเกี่ยวกับอิงฮวามีน้อยมาก ไม่ว่าจะเป็นบทกวีหรือภาพวาด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับดอกบ๊วยหรือดอกท้อที่ดูจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับผลงานมากกว่า แรกเริ่มเลยในงานประพันธ์ต่างๆ จะเรียกมันว่า ‘ซันอิง’ หมายถึงต้นอิงฮวาที่โตตามป่าเขา โดยบทกวีที่เก่าแก่ที่สุดเกี่ยวกับอิงฮวาคือในสมัยราชวงศ์ใต้ ประพันธ์โดยเสิ่นเยวี้ย (ค.ศ. 441-513) เป็นการบรรยายถึงดอกซันอิงบานรับฤดูใบไม้ผลิ คงจะกล่าวได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่ดอกอิงฮวาถูกโยงเข้ากับการมาเยือนของวสันตฤดู ในสมัยถังมีบทกวีเกี่ยวกับดอกอิงฮวามากกว่ายุคสมัยอื่น บ่งบอกถึงความนิยมในสมัยนั้น โดยนักการเมืองไป๋จวีอี (ค.ศ. 772-846) ได้สร้างผลงานบทกวีชื่นชมความงามของดอกอิงฮวาไว้หลายบท แต่ผลงานของเขามักบ่งบอกถึงอารมณ์แห่งความเสียดายยามบุปผาโรยรา ทว่าแฝงไว้ซึ่งความหวังเพราะซันอิงยังจะคงอยู่และผลิบานใหม่ท่ามกลางป่าเขา โดยผลงานเหล่านี้สะท้อนถึงชีวิตทางการเมืองที่ผ่านร้อนผ่านหนาวของเขา อิงฮวากลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบได้ แต่ในช่วงยุคสมัยถังเช่นเดียวกัน มีการกล่าวถึงธรรมเนียมการหักกิ่งอิงฮวามอบให้กันยามคู่รักต้องจากลา โดยใช้อิงฮวาเป็นตัวแทนแห่งความคนึงหา และในหลายบทกวีในยุคนั้น ใช้อิงฮวาเปรียบเปรยถึงความคิดถึงและความอ้างว้าง ดุจฉากดอกอิงฮวาร่วงโรยโปรยพลิ้วในสายลม Storyฯ ขอยกตัวอย่างจากบทกวี <หักกิ่งบุปผามอบอำลา> ของหยวนเจิ่นในสมัยถัง (ขออภัยหากแปลไม่สละสลวย) ที่กล่าวถึงความอาลัยอาวรณ์ของสตรียามต้องส่งชายคนรักจากไป: “ส่งท่านใต้ร่มเงาอิงเถา ใจวสันต์ฝากไว้ในกิ่ง ที่ใดชวนให้คำนึงถึงที่สุด นั่นคือป่าอิงเถาอันดารดาษ” ต่อมาอิงฮวากลายมาเป็นสัญลักษณ์ของสตรีเพศที่อ่อนหวานและอ่อนโยน ไม่ปรากฏชัดเจนว่ามุมมองในลักษณะนี้เกิดขึ้นเมื่อใด แต่ในบทกวี <ซันอิง> ของหวางอันสือในยุคสมัยซ่งเหนือ (คนเดียวกับที่ฝากผลงานอันโดดเด่น <เหมยฮวา> ที่ Storyฯ เคยเขียนไปแล้ว) มีการบรรยายเปรียบเปรยอิงฮวาดุจสตรีที่เอียงอายหลบอยู่ใต้เงาไม้และเบ่งบานหลังดอกไม้อื่น แต่เมื่อลมวสันต์โชยก็พัดพากลิ่นหอมขจรขจายให้ความงามเป็นที่ประจักษ์ต่อผู้คน จะเห็นได้ว่า ในวัฒนธรรมจีนนั้น ความหมายของดอกอิงฮวาคล้ายคลึงกับซากุระในวัฒนธรรมญี่ปุ่น คือเป็นตัวแทนแห่งความไม่จีรัง ความบริสุทธิ์ และความอ่อนหวาน แต่ในความคล้ายคลึงก็มีความแตกต่าง เพราะซากุระในญี่ปุ่นแฝงไว้ด้วยความหวังท่ามกลางความไม่จีรังในชีวิต แต่โดยส่วนตัวแล้ว Storyฯ รู้สึกว่าบทกวีเกี่ยวกับอิงฮวาของจีนมักแฝงไว้ด้วยความเศร้า หากจะกล่าวว่าดอกบ๊วยเป็นตัวแทนแห่งความงามที่คงทน ดอกอิงฮวาก็คงเป็นตัวแทนแห่งความงามที่เปราะบาง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) รูปภาพจาก: พี่ชายของ Storyฯ เอง Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://news.bjd.com.cn/2022/04/08/10066983.shtml https://www.baike.com/wikiid/4777101092071907963?from=wiki_content&prd=innerlink&view_id=32kicegvg8m000 https://www.163.com/dy/article/HV0LDNRE05418YI9.html #อิงฮวา #ซากุระจีน
    樱花 花开花谢皆诗意的早春花木_北京日报网
    我国野生樱花品种最多 樱属植物广泛分布于北半球的温带与亚热带地区。亚洲、欧洲、北美洲均有分布,但主要集中在东亚地区。中国的西南、华南、长江流域、华北、东北地区,俄罗斯、日本、朝鲜一线,以及缅甸、不丹...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 671 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โซเชียลได้แห่แชร์คลิปของ “น้องพลูโต” นกเงือกหนุ่มจากสวนสัตว์เชียงใหม่ ที่มีพฤติกรรมสุดน่ารักที่ชอบแบ่งปันอาหารให้นักท่องเที่ยวที่แวะมาเยี่ยมชม จนเกิดเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันเป็นอย่างมาก

    ครั้งนี้จะขอพามาส่องอีกด้านของความน่ารักแฝงด้วยความคิดถึงของน้องพลูโต ที่พี่เลี้ยงบอกว่าการแบ่งอาหารให้คนเช่นนั้น อาจเพราะคิดว่านักท่องเที่ยวคือ “เนปจูน” คู่รักที่จากไปก็เป็นได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/travel/detail/9680000021466

    #MGROnline #น้องพลูโต #นกเงือก #สวนสัตว์เชียงใหม่
    ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โซเชียลได้แห่แชร์คลิปของ “น้องพลูโต” นกเงือกหนุ่มจากสวนสัตว์เชียงใหม่ ที่มีพฤติกรรมสุดน่ารักที่ชอบแบ่งปันอาหารให้นักท่องเที่ยวที่แวะมาเยี่ยมชม จนเกิดเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันเป็นอย่างมาก • ครั้งนี้จะขอพามาส่องอีกด้านของความน่ารักแฝงด้วยความคิดถึงของน้องพลูโต ที่พี่เลี้ยงบอกว่าการแบ่งอาหารให้คนเช่นนั้น อาจเพราะคิดว่านักท่องเที่ยวคือ “เนปจูน” คู่รักที่จากไปก็เป็นได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/travel/detail/9680000021466 • #MGROnline #น้องพลูโต #นกเงือก #สวนสัตว์เชียงใหม่
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 448 มุมมอง 0 รีวิว
  • Classy Live Project (Vol.12)
    คอนเสิร์ต: 51 ปี กรวิก ลมหายใจแห่งความคิดถึง
    วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม 2568
    ประตูเปิด 16.00 น. l เริ่มแสดง 17.00 น.
    หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
    รายละเอียดที่โพสต้นทางครับ
    https://www.facebook.com/share/p/1BViRitB5k/
    Classy Live Project (Vol.12) คอนเสิร์ต: 51 ปี กรวิก ลมหายใจแห่งความคิดถึง วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม 2568 ประตูเปิด 16.00 น. l เริ่มแสดง 17.00 น. หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย รายละเอียดที่โพสต้นทางครับ https://www.facebook.com/share/p/1BViRitB5k/
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความรักในสังสารวัฏ

    ในวัฏสงสาร ความรักเป็นเพียงสิ่งลวงที่ดูเหมือนจะให้ความอบอุ่น แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของ อนิจจัง และ ทุกขัง เพราะไม่ว่าจะสมหวังหรือผิดหวัง ความรักก็มักนำมาซึ่งความยึดมั่น และความยึดมั่นนี้เองที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์

    แม้รักแท้ดูเหมือนมั่นคง แต่สุดท้ายก็ต้องพลัดพราก ไม่ว่าจะด้วยความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ หรือความตาย


    ---

    อริยสัจ 4 เบื้องต้น ผ่านอาการ "อกหัก"

    1. ทุกข์
    ทุกข์เกิดขึ้นเพราะการพลัดพรากจากสิ่งที่รัก หรือการไม่ได้สิ่งที่ปรารถนา
    ทุกข์ในอาการอกหัก คือ ความเศร้า ความว้าเหว่ และการถวิลหาความรักที่จากไป


    2. สมุทัย
    เหตุแห่งทุกข์ คือ ตัณหา (ความทะยานอยาก)
    เราอยากให้คนรักอยู่กับเรา อยากให้เขาทำให้เรามีความสุข อยากให้ความสัมพันธ์เป็นไปตามที่เราคาดหวัง


    3. นิโรธ
    ความดับทุกข์เกิดจากการปล่อยวาง ยอมรับความจริงว่า ทุกสิ่งไม่เที่ยง
    เมื่อเรามองเห็นทุกข์และสาเหตุอย่างแจ่มชัด เราจะค่อยๆ คลายความยึดติด และพบกับความสงบในใจ


    4. มรรค
    ทางสู่ความดับทุกข์ คือการเจริญ สติ และ สมาธิ

    พิจารณาอารมณ์และความคิดของตนเอง

    ฝึกสังเกตอาการยึดมั่นและปล่อยวาง

    ใช้ปัญญาเห็นว่า ความรักและความทุกข์ทั้งปวงเป็นของชั่วคราว





    ---

    วิธีเจริญสติ เพื่อปล่อยวางความรักที่พลัดพราก

    1. ดูใจตนเอง
    เมื่อเกิดความเศร้า ให้พิจารณาว่าอารมณ์นั้นเป็นเพียง สภาวะของจิต ที่เกิดขึ้นชั่วคราว แล้วมันจะผ่านไป


    2. เห็นอารมณ์ตามจริง
    มองว่าอารมณ์ที่เกิดขึ้น เช่น ความคิดถึงหรือความเศร้า เป็นเพียง "ปรากฏการณ์" ที่จิตปรุงแต่งขึ้น


    3. พิจารณาอนิจจัง
    ความรักที่เคยทำให้สุขใจ สุดท้ายก็กลายเป็นทุกข์ได้ เพราะทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนไม่เที่ยง


    4. ฝึกปล่อยวาง

    ยอมรับว่า คนรักที่จากไป ไม่ได้เป็นของเรา

    เห็นว่าความยึดติดนั้นนำมาซึ่งความทุกข์





    ---

    จากความรัก สู่ความวิเวกอันสงบ

    เมื่อเราสามารถปล่อยวางความรักหรือความยึดมั่นได้ จิตใจจะเริ่มรู้สึกเบาสบาย และสงบเย็น นี่คือความสุขที่แท้จริง ความสุขที่ไม่ต้องพึ่งพาใครหรือสิ่งใด

    จงฝึกเห็นความรักในฐานะธรรมชาติที่เกิดขึ้นและดับไป
    จงปลื้มใจในความวิเวก และค้นพบอิสรภาพทางใจแทน

    "เมื่อเราไม่ยึดติดในความรัก เราจะมอบความรักที่แท้จริงให้แก่ตนเองได้"

    ความรักในสังสารวัฏ ในวัฏสงสาร ความรักเป็นเพียงสิ่งลวงที่ดูเหมือนจะให้ความอบอุ่น แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของ อนิจจัง และ ทุกขัง เพราะไม่ว่าจะสมหวังหรือผิดหวัง ความรักก็มักนำมาซึ่งความยึดมั่น และความยึดมั่นนี้เองที่เป็นต้นเหตุของความทุกข์ แม้รักแท้ดูเหมือนมั่นคง แต่สุดท้ายก็ต้องพลัดพราก ไม่ว่าจะด้วยความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ หรือความตาย --- อริยสัจ 4 เบื้องต้น ผ่านอาการ "อกหัก" 1. ทุกข์ ทุกข์เกิดขึ้นเพราะการพลัดพรากจากสิ่งที่รัก หรือการไม่ได้สิ่งที่ปรารถนา ทุกข์ในอาการอกหัก คือ ความเศร้า ความว้าเหว่ และการถวิลหาความรักที่จากไป 2. สมุทัย เหตุแห่งทุกข์ คือ ตัณหา (ความทะยานอยาก) เราอยากให้คนรักอยู่กับเรา อยากให้เขาทำให้เรามีความสุข อยากให้ความสัมพันธ์เป็นไปตามที่เราคาดหวัง 3. นิโรธ ความดับทุกข์เกิดจากการปล่อยวาง ยอมรับความจริงว่า ทุกสิ่งไม่เที่ยง เมื่อเรามองเห็นทุกข์และสาเหตุอย่างแจ่มชัด เราจะค่อยๆ คลายความยึดติด และพบกับความสงบในใจ 4. มรรค ทางสู่ความดับทุกข์ คือการเจริญ สติ และ สมาธิ พิจารณาอารมณ์และความคิดของตนเอง ฝึกสังเกตอาการยึดมั่นและปล่อยวาง ใช้ปัญญาเห็นว่า ความรักและความทุกข์ทั้งปวงเป็นของชั่วคราว --- วิธีเจริญสติ เพื่อปล่อยวางความรักที่พลัดพราก 1. ดูใจตนเอง เมื่อเกิดความเศร้า ให้พิจารณาว่าอารมณ์นั้นเป็นเพียง สภาวะของจิต ที่เกิดขึ้นชั่วคราว แล้วมันจะผ่านไป 2. เห็นอารมณ์ตามจริง มองว่าอารมณ์ที่เกิดขึ้น เช่น ความคิดถึงหรือความเศร้า เป็นเพียง "ปรากฏการณ์" ที่จิตปรุงแต่งขึ้น 3. พิจารณาอนิจจัง ความรักที่เคยทำให้สุขใจ สุดท้ายก็กลายเป็นทุกข์ได้ เพราะทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนไม่เที่ยง 4. ฝึกปล่อยวาง ยอมรับว่า คนรักที่จากไป ไม่ได้เป็นของเรา เห็นว่าความยึดติดนั้นนำมาซึ่งความทุกข์ --- จากความรัก สู่ความวิเวกอันสงบ เมื่อเราสามารถปล่อยวางความรักหรือความยึดมั่นได้ จิตใจจะเริ่มรู้สึกเบาสบาย และสงบเย็น นี่คือความสุขที่แท้จริง ความสุขที่ไม่ต้องพึ่งพาใครหรือสิ่งใด จงฝึกเห็นความรักในฐานะธรรมชาติที่เกิดขึ้นและดับไป จงปลื้มใจในความวิเวก และค้นพบอิสรภาพทางใจแทน "เมื่อเราไม่ยึดติดในความรัก เราจะมอบความรักที่แท้จริงให้แก่ตนเองได้"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 439 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากที่ TikTok ถูกแบนในสหรัฐฯ เด็กและวัยรุ่นจำนวนมากได้โทรไปที่ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 911 เพื่อแสดงความรักและความคิดถึงต่อแอปนี้! TikTok ถูกแบนเนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ และรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เสนอให้ ByteDance ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TikTok โอนความเป็นเจ้าของให้กับบริษัทในสหรัฐฯ แต่ ByteDance ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้

    การแบน TikTok ทำให้ผู้ใช้ โดยเฉพาะเด็กและวัยรุ่น รู้สึกเสียใจและหันไปโทรหา 911 เพื่อแสดงความรักต่อแอปนี้ TikTok ไม่ได้เป็นเพียงแค่แอปโซเชียลมีเดีย แต่ยังเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมและชุมชนดิจิทัลที่มีผู้ใช้หลายล้านคนที่แชร์เรื่องราวและประสบการณ์ต่างๆ

    การโทรหา 911 เพื่อแสดงความรักต่อ TikTok เป็นการเตือนให้เห็นถึงความสำคัญของการให้ความรู้แก่ผู้ใช้เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรฉุกเฉินอย่างถูกต้อง การใช้ 911 ในกรณีที่ไม่ฉุกเฉินอาจทำให้การตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินจริง ๆ ล่าช้าและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ

    https://wccftech.com/teens-call-911-to-express-love-for-tiktok/
    หลังจากที่ TikTok ถูกแบนในสหรัฐฯ เด็กและวัยรุ่นจำนวนมากได้โทรไปที่ศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 911 เพื่อแสดงความรักและความคิดถึงต่อแอปนี้! TikTok ถูกแบนเนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ และรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เสนอให้ ByteDance ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TikTok โอนความเป็นเจ้าของให้กับบริษัทในสหรัฐฯ แต่ ByteDance ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้ การแบน TikTok ทำให้ผู้ใช้ โดยเฉพาะเด็กและวัยรุ่น รู้สึกเสียใจและหันไปโทรหา 911 เพื่อแสดงความรักต่อแอปนี้ TikTok ไม่ได้เป็นเพียงแค่แอปโซเชียลมีเดีย แต่ยังเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมและชุมชนดิจิทัลที่มีผู้ใช้หลายล้านคนที่แชร์เรื่องราวและประสบการณ์ต่างๆ การโทรหา 911 เพื่อแสดงความรักต่อ TikTok เป็นการเตือนให้เห็นถึงความสำคัญของการให้ความรู้แก่ผู้ใช้เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรฉุกเฉินอย่างถูกต้อง การใช้ 911 ในกรณีที่ไม่ฉุกเฉินอาจทำให้การตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินจริง ๆ ล่าช้าและอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ https://wccftech.com/teens-call-911-to-express-love-for-tiktok/
    WCCFTECH.COM
    Teens And Children Have Been Calling 911 Call Centers To Express Their Love For TikTok Following Its Ban In The United States
    Following the TikTok ban in the United States, teens and children are calling 911 call centers to express their love to the platform.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • วลีจีน วิญญาณผู้กล้าหวนคืนมาตุภูมิ

    สวัสดีค่ะ Storyฯ เคยเขียนหลายบทความถึง ‘วลีเด็ด’ จากบทกวีจีนโบราณและวรรณกรรมจีนโบราณที่ถูกนำมาใช้ในหลายซีรีส์และนวนิยายจีน แต่จริงๆ แล้วก็มี ‘วลีเด็ด’ จากยุคปัจจุบันที่เคยถูกยกไปใช้ในซีรีส์หรือนิยายจีนโบราณด้วยเหมือนกัน

    วันนี้เรามาคุยกันถึงตัวอย่างหนึ่งจากซีรีส์ <ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก> เพื่อนเพจที่ได้ดูอาจพอจำได้ว่าในระหว่างการเดินทางของคณะฑูตแคว้นอู๋ไปยังแคว้นอันเพื่อช่วยกษัตริย์แคว้นอู๋นั้น พวกเขาพบซากศพและป้ายห้อยคอประจำตัวของเหล่าทหารจากหน่วยหกวิถีที่พลีชีพก่อนหน้านี้ในศึกที่แคว้นอู๋พ่ายแพ้ และได้จัดพิธีเผาศพให้กับพวกเขา (รูปประกอบ1) ในฉากนี้ หลี่อ๋องเซ่นสุราและกล่าวออกมาประโยคหนึ่งว่า “ดวงวิญญาณจงกลับมา อย่าได้โศกเศร้าไปชั่วนิรันดร์” (หมายเหตุ คำแปลตามซับไทย)

    ประโยคดังกล่าว ต้นฉบับภาษาจีนคือ ‘魂兮归来 维莫永伤 (หุนซีกุยหลาย เหวยม่อหย่งซัง)’ เป็นประโยคที่มาจากสุทรพจน์เมื่อปี 2021 เพื่อสดุดีทหารอาสาสมัครจีน โดยวรรคแรกถูกยกมาจากบทประพันธ์โบราณ

    ‘ดวงวิญญาณจงกลับมา’ วรรคนี้มาจากบทประพันธ์ที่มีชื่อว่า ‘เรียกดวงวิญญาณ’ (招魂 /จาวหุน) บ้างว่าเป็นผลงานของชวีหยวน ขุนนางและกวีแคว้นฉู่ในสมัยจ้านกั๋วหรือยุครณรัฐที่เพื่อนเพจอาจเคยได้ยินชื่อจากตำนานบ๊ะจ่าง บ้างว่าเป็นผลงานของซ่งอวี้ ขุนนางจากแคว้นฉู่เช่นกัน

    บทประพันธ์ ‘เรียกดวงวิญญาณ’ เป็นบทประพันธ์ที่ยาวมาก ลักษณะคล้ายเล่านิทาน ใจความของบทประพันธ์เป็นการเรียกและหว่านล้อมดวงวิญญาณให้กลับมาบ้าน อย่าได้ไปหยุดรั้งอยู่ในดินแดน ณ ทิศต่างๆ โดยบรรยายถึงภยันตรายและความยากลำบากในดินแดนนั้นๆ ที่อาจทำให้ดวงวิญญาณอาจดับสูญได้ และกล่าวถึงความคิดถึงของคนที่บ้านที่รอคอยให้ดวงวิญญาณนั้นหวนคืนมา ซึ่งสะท้อนถึงธรรมเนียมโบราณที่ต้องทำพิธีเรียกดวงวิญญาณของผู้ที่ตายในต่างแดนให้กลับบ้าน

    ว่ากันว่าบทประพันธ์ ‘เรียกดวงวิญญาณ’ นี้มีที่มาจากเรื่องราวของกษัตริย์ฉู่หวยหวางที่เสียท่าให้กับกุศโลบายของแคว้นฉิน ถูกจับเป็นตัวประกันหลังพ่ายศึกและพลีชีพที่นั่น ต่อมาสามปีให้หลังเมื่อสองแคว้นสงบศึกกันแล้วจึงมีการจัดพิธีศพให้แต่กษัตริย์ฉู่หวยหวาง และแม้ว่ากษัตริย์ฉู่หวยหวางจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าบริหารราชการแผ่นดินผิดพลาด แต่ในช่วงที่ถูกจับเป็นตัวประกันนั้นได้แสดงถึงความกล้าหาญยอมหักไม่ยอมงอ บทกวีนี้จึงถูกประพันธ์ขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงจิตวิญญาณอันหาญกล้าของผู้ที่พลีชีพในต่างแดนเพื่อแผ่นดินเกิด

    และวลี ‘ดวงวิญญาณจงกลับมา’ ได้ถูกนำมาใช้ในสุนทรพจน์สดุดีทหารจีนในงานพิธีฝังศพทหารอาสาสมัครจีนชุดที่ 8 จำนวน 109 นายที่พลีชีพในสงครามเกาหลีเมื่อกว่า 70 ปีที่แล้วและเพิ่งได้รับการส่งคืนจากเกาหลีใต้ในเดือนกันยายน 2021 มันเป็นสุนทรพจน์ของนายซุนส้าวเฉิงในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงการทหารผ่านศึก (Ministry of Veteran Affairs) ในสมัยนั้น โดยประโยคเต็ม ‘ดวงวิญญาณจงกลับมา อย่าได้โศกเศร้าไปชั่วนิรันดร์’ นี้คือประโยคจบของสุนทรพจน์ (รูปประกอบ2)

    บทสุนทรพจน์ดังกล่าวยาวและใช้ทักษะภาษาชั้นสูงถ้อยคำงดงาม ใจความโดยสรุปคือยกย่องเหล่าทหารอาสาสมัครที่ออกไปร่วบรบเพื่อเสถียรภาพของสาธารณรัฐจีนที่เพิ่งถูกก่อตั้งขึ้นใหม่ สดุดีความกล้าหาญของพวกเขาที่ต้องเผชิญหน้าคู่ต่อสู้ที่มีอาวุธสงครามที่ร้ายกาจ สุดท้ายพลีชีพอยู่ต่างแดนไม่มีโอกาสได้กลับบ้านเกิดจวบจนวันนี้ ขอให้เหล่าดวงวิญญาณกลับมาสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นของประชาชนที่รักเขาและยังไม่ลืมความเสียสละของพวกเขา ได้กลับมาเห็นความเจริญเข้มแข็งของประเทศที่เขาพลีกายปกปักษ์รักษา ขอเหล่าวิญญาณผู้กล้าจงกลับคืนสู่มาตุภูมิ กลับมาสู่ความสงบ ไม่ต้องเจ็บช้ำหรือโศกเศร้าอีกต่อไป

    สุนทรพจน์นี้ได้รับการยกย่องด้วยภาษาที่งดงามและความหมายลึกซึ้งกินใจ ไม่เพียงสดุดีความกล้าหาญ แต่ยังกระตุ้นอารมณ์รักและเคารพในผู้ฟังอีกด้วย และประโยคนี้เป็นคำพูดในยุคจีนปัจจุบันที่สะท้อนวัฒนธรรมที่สั่งสมผ่านกาลเวลาจากวลีจีนโบราณ กลายมาเป็นอีกประโยคหนึ่งที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์จีน

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://www.sohu.com/a/584621129_114988
    http://www.81.cn/tp_207717/10086482.html
    https://mgronline.com/china/detail/9670000114488
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://m.shangshiwen.com/71990.html
    https://www.gushiwen.cn/mingju_991.aspx
    https://baike.baidu.com/item/招魂/8176058
    http://www.81.cn/tp_207717/10086482.html

    #ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก #เรียกดวงวิญญาณ #ชวีหยวน #ทหารอาสาสมัครจีน #สาระจีน
    วลีจีน วิญญาณผู้กล้าหวนคืนมาตุภูมิ สวัสดีค่ะ Storyฯ เคยเขียนหลายบทความถึง ‘วลีเด็ด’ จากบทกวีจีนโบราณและวรรณกรรมจีนโบราณที่ถูกนำมาใช้ในหลายซีรีส์และนวนิยายจีน แต่จริงๆ แล้วก็มี ‘วลีเด็ด’ จากยุคปัจจุบันที่เคยถูกยกไปใช้ในซีรีส์หรือนิยายจีนโบราณด้วยเหมือนกัน วันนี้เรามาคุยกันถึงตัวอย่างหนึ่งจากซีรีส์ <ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก> เพื่อนเพจที่ได้ดูอาจพอจำได้ว่าในระหว่างการเดินทางของคณะฑูตแคว้นอู๋ไปยังแคว้นอันเพื่อช่วยกษัตริย์แคว้นอู๋นั้น พวกเขาพบซากศพและป้ายห้อยคอประจำตัวของเหล่าทหารจากหน่วยหกวิถีที่พลีชีพก่อนหน้านี้ในศึกที่แคว้นอู๋พ่ายแพ้ และได้จัดพิธีเผาศพให้กับพวกเขา (รูปประกอบ1) ในฉากนี้ หลี่อ๋องเซ่นสุราและกล่าวออกมาประโยคหนึ่งว่า “ดวงวิญญาณจงกลับมา อย่าได้โศกเศร้าไปชั่วนิรันดร์” (หมายเหตุ คำแปลตามซับไทย) ประโยคดังกล่าว ต้นฉบับภาษาจีนคือ ‘魂兮归来 维莫永伤 (หุนซีกุยหลาย เหวยม่อหย่งซัง)’ เป็นประโยคที่มาจากสุทรพจน์เมื่อปี 2021 เพื่อสดุดีทหารอาสาสมัครจีน โดยวรรคแรกถูกยกมาจากบทประพันธ์โบราณ ‘ดวงวิญญาณจงกลับมา’ วรรคนี้มาจากบทประพันธ์ที่มีชื่อว่า ‘เรียกดวงวิญญาณ’ (招魂 /จาวหุน) บ้างว่าเป็นผลงานของชวีหยวน ขุนนางและกวีแคว้นฉู่ในสมัยจ้านกั๋วหรือยุครณรัฐที่เพื่อนเพจอาจเคยได้ยินชื่อจากตำนานบ๊ะจ่าง บ้างว่าเป็นผลงานของซ่งอวี้ ขุนนางจากแคว้นฉู่เช่นกัน บทประพันธ์ ‘เรียกดวงวิญญาณ’ เป็นบทประพันธ์ที่ยาวมาก ลักษณะคล้ายเล่านิทาน ใจความของบทประพันธ์เป็นการเรียกและหว่านล้อมดวงวิญญาณให้กลับมาบ้าน อย่าได้ไปหยุดรั้งอยู่ในดินแดน ณ ทิศต่างๆ โดยบรรยายถึงภยันตรายและความยากลำบากในดินแดนนั้นๆ ที่อาจทำให้ดวงวิญญาณอาจดับสูญได้ และกล่าวถึงความคิดถึงของคนที่บ้านที่รอคอยให้ดวงวิญญาณนั้นหวนคืนมา ซึ่งสะท้อนถึงธรรมเนียมโบราณที่ต้องทำพิธีเรียกดวงวิญญาณของผู้ที่ตายในต่างแดนให้กลับบ้าน ว่ากันว่าบทประพันธ์ ‘เรียกดวงวิญญาณ’ นี้มีที่มาจากเรื่องราวของกษัตริย์ฉู่หวยหวางที่เสียท่าให้กับกุศโลบายของแคว้นฉิน ถูกจับเป็นตัวประกันหลังพ่ายศึกและพลีชีพที่นั่น ต่อมาสามปีให้หลังเมื่อสองแคว้นสงบศึกกันแล้วจึงมีการจัดพิธีศพให้แต่กษัตริย์ฉู่หวยหวาง และแม้ว่ากษัตริย์ฉู่หวยหวางจะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าบริหารราชการแผ่นดินผิดพลาด แต่ในช่วงที่ถูกจับเป็นตัวประกันนั้นได้แสดงถึงความกล้าหาญยอมหักไม่ยอมงอ บทกวีนี้จึงถูกประพันธ์ขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกถึงจิตวิญญาณอันหาญกล้าของผู้ที่พลีชีพในต่างแดนเพื่อแผ่นดินเกิด และวลี ‘ดวงวิญญาณจงกลับมา’ ได้ถูกนำมาใช้ในสุนทรพจน์สดุดีทหารจีนในงานพิธีฝังศพทหารอาสาสมัครจีนชุดที่ 8 จำนวน 109 นายที่พลีชีพในสงครามเกาหลีเมื่อกว่า 70 ปีที่แล้วและเพิ่งได้รับการส่งคืนจากเกาหลีใต้ในเดือนกันยายน 2021 มันเป็นสุนทรพจน์ของนายซุนส้าวเฉิงในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงการทหารผ่านศึก (Ministry of Veteran Affairs) ในสมัยนั้น โดยประโยคเต็ม ‘ดวงวิญญาณจงกลับมา อย่าได้โศกเศร้าไปชั่วนิรันดร์’ นี้คือประโยคจบของสุนทรพจน์ (รูปประกอบ2) บทสุนทรพจน์ดังกล่าวยาวและใช้ทักษะภาษาชั้นสูงถ้อยคำงดงาม ใจความโดยสรุปคือยกย่องเหล่าทหารอาสาสมัครที่ออกไปร่วบรบเพื่อเสถียรภาพของสาธารณรัฐจีนที่เพิ่งถูกก่อตั้งขึ้นใหม่ สดุดีความกล้าหาญของพวกเขาที่ต้องเผชิญหน้าคู่ต่อสู้ที่มีอาวุธสงครามที่ร้ายกาจ สุดท้ายพลีชีพอยู่ต่างแดนไม่มีโอกาสได้กลับบ้านเกิดจวบจนวันนี้ ขอให้เหล่าดวงวิญญาณกลับมาสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นของประชาชนที่รักเขาและยังไม่ลืมความเสียสละของพวกเขา ได้กลับมาเห็นความเจริญเข้มแข็งของประเทศที่เขาพลีกายปกปักษ์รักษา ขอเหล่าวิญญาณผู้กล้าจงกลับคืนสู่มาตุภูมิ กลับมาสู่ความสงบ ไม่ต้องเจ็บช้ำหรือโศกเศร้าอีกต่อไป สุนทรพจน์นี้ได้รับการยกย่องด้วยภาษาที่งดงามและความหมายลึกซึ้งกินใจ ไม่เพียงสดุดีความกล้าหาญ แต่ยังกระตุ้นอารมณ์รักและเคารพในผู้ฟังอีกด้วย และประโยคนี้เป็นคำพูดในยุคจีนปัจจุบันที่สะท้อนวัฒนธรรมที่สั่งสมผ่านกาลเวลาจากวลีจีนโบราณ กลายมาเป็นอีกประโยคหนึ่งที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์จีน (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.sohu.com/a/584621129_114988 http://www.81.cn/tp_207717/10086482.html https://mgronline.com/china/detail/9670000114488 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: http://m.shangshiwen.com/71990.html https://www.gushiwen.cn/mingju_991.aspx https://baike.baidu.com/item/招魂/8176058 http://www.81.cn/tp_207717/10086482.html #ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก #เรียกดวงวิญญาณ #ชวีหยวน #ทหารอาสาสมัครจีน #สาระจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1045 มุมมอง 0 รีวิว
  • การลืมต้องไม่ตั้งใจลืม
    และไม่ใช่การตั้งใจจะไม่จำ
    เพราะถ้าตั้งใจไม่จำมันจะคิดถึงสิ่งที่พยายามไม่จำนั้น
    และสุดท้ายการลืมจะยิ่งยาก
    เพราะถูกย้ำให้ไม่จำจนยิ่งจำจนยิ่งจดจำ
    จนมันเริ่มก่อเกิดความคิดถึง
    และจากที่เกือบจะไม่จำก็เลยไม่ลืม

    จากหนังสือ |ฉันจะมีความสุขกับสีของฟ้าในทุกวัน

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #ฉันจะมีความสุขกับสีของฟ้าในทุกวัน
    การลืมต้องไม่ตั้งใจลืม และไม่ใช่การตั้งใจจะไม่จำ เพราะถ้าตั้งใจไม่จำมันจะคิดถึงสิ่งที่พยายามไม่จำนั้น และสุดท้ายการลืมจะยิ่งยาก เพราะถูกย้ำให้ไม่จำจนยิ่งจำจนยิ่งจดจำ จนมันเริ่มก่อเกิดความคิดถึง และจากที่เกือบจะไม่จำก็เลยไม่ลืม จากหนังสือ |ฉันจะมีความสุขกับสีของฟ้าในทุกวัน #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #ฉันจะมีความสุขกับสีของฟ้าในทุกวัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ความคิดถึงที่ไม่เคยจางหาย
    คิดถึงทุกคนที่ได้เจอกันวันนี้และทุกคนที่ไม่ได้เจอเพื่อนเพื่อนที่ติดภารกิจในวันนี้โอกาสหน้าหาเวลามาเจอกันอีกนะคะ
    #เปร็งวิสุทธา 9
    #อาจารย์ทองฟู🙏เจ้าของไม้เรียวแสนโหดในตำนาน❤️
    🙏ขอบคุณเจ้าของสถานที่ที่น่ารัก
    #สวนลุงแอ้ด
    #ความคิดถึงที่ไม่เคยจางหาย คิดถึงทุกคนที่ได้เจอกันวันนี้และทุกคนที่ไม่ได้เจอเพื่อนเพื่อนที่ติดภารกิจในวันนี้โอกาสหน้าหาเวลามาเจอกันอีกนะคะ #เปร็งวิสุทธา 9 #อาจารย์ทองฟู🙏เจ้าของไม้เรียวแสนโหดในตำนาน❤️ 🙏ขอบคุณเจ้าของสถานที่ที่น่ารัก #สวนลุงแอ้ด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 678 มุมมอง 0 รีวิว
  • ติดปีกความคิดถึง
    ติดปีกความคิดถึง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 173 0 รีวิว
  • 😶ความคิดถึง
    เป็นความทุกข์รูปแบบหนึ่ง
    😶ความคิดถึง เป็นความทุกข์รูปแบบหนึ่ง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📸ขอเชิญน้องๆ นักเรียน นักศึกษา ระดับมัธยมศึกษา และอุดมศึกษา ร่วมส่งผลงานการประกวดภาพถ่ายสุดสร้างสรรค์🫶🏻

    🖼️ในหัวข้อ ”รส รำลึก : รสสัมผัสของความคิดถึง ผู้คน บรรยากาศ สถานที่” 📝เพื่อบันทึกภาพความทรงจำและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองโคราช สะท้อนให้เห็นบรรยากาศเก่าๆและรสชาติที่ที่คนโคราชเราคุ้นเคย จนอยากชวนเพื่อนๆ มาลองลิ้มชิมรสแบบคนโคราช🍲🥘🥗🧇🥙🍛

    💰ชิงเงินรางวัล รวมมูลค่ากว่า 50,000 บาท✨พร้อมโล่รางวัลและเกียรติบัตร จากนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา🫶🏻

    📍รับสมัคร และกำหนดส่งผลงานได้ตั้งแต่วันที่ 7 – 27 ตุลาคม 2567 ในรูปแบบไฟล์ โดยการอัพโหลดไฟล์บนเว็บไซต์ฝากไฟล์ Google Drive และส่งLink สำหรับดาวน์โหลดผ่านทาง Email : tk.square.korat@gmail.com หรือส่งในรูปแบบ USB Drive ที่อุทยานการเรียนรู้นครราชสีมา (TK Square Korat) เลขที่ 310 ถนนชุมพล ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

    💁‍♀️สามารถดาวโหลดใบสมัครและหลักเกณฑ์การประกวดได้ที่ลิ้งนี้นะคะ👇
    👉🏻ใบสมัคร https://drive.google.com/file/d/10_LoBqSLmWr7c6hqMAT2jvHmO2RKV6VM/view?usp=sharing

    👉🏻หลักเกณฑ์การประกวด https://drive.google.com/file/d/1e52lPxa1Gg83irt_fWwqjt_Ib06DZ_Mq/view?usp=sharing

    ☎️สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
    📞โทร 083-6659144
    📸ขอเชิญน้องๆ นักเรียน นักศึกษา ระดับมัธยมศึกษา และอุดมศึกษา ร่วมส่งผลงานการประกวดภาพถ่ายสุดสร้างสรรค์🫶🏻 🖼️ในหัวข้อ ”รส รำลึก : รสสัมผัสของความคิดถึง ผู้คน บรรยากาศ สถานที่” 📝เพื่อบันทึกภาพความทรงจำและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองโคราช สะท้อนให้เห็นบรรยากาศเก่าๆและรสชาติที่ที่คนโคราชเราคุ้นเคย จนอยากชวนเพื่อนๆ มาลองลิ้มชิมรสแบบคนโคราช🍲🥘🥗🧇🥙🍛 💰ชิงเงินรางวัล รวมมูลค่ากว่า 50,000 บาท✨พร้อมโล่รางวัลและเกียรติบัตร จากนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา🫶🏻 📍รับสมัคร และกำหนดส่งผลงานได้ตั้งแต่วันที่ 7 – 27 ตุลาคม 2567 ในรูปแบบไฟล์ โดยการอัพโหลดไฟล์บนเว็บไซต์ฝากไฟล์ Google Drive และส่งLink สำหรับดาวน์โหลดผ่านทาง Email : tk.square.korat@gmail.com หรือส่งในรูปแบบ USB Drive ที่อุทยานการเรียนรู้นครราชสีมา (TK Square Korat) เลขที่ 310 ถนนชุมพล ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา 💁‍♀️สามารถดาวโหลดใบสมัครและหลักเกณฑ์การประกวดได้ที่ลิ้งนี้นะคะ👇 👉🏻ใบสมัคร https://drive.google.com/file/d/10_LoBqSLmWr7c6hqMAT2jvHmO2RKV6VM/view?usp=sharing 👉🏻หลักเกณฑ์การประกวด https://drive.google.com/file/d/1e52lPxa1Gg83irt_fWwqjt_Ib06DZ_Mq/view?usp=sharing ☎️สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 📞โทร 083-6659144
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 503 มุมมอง 0 รีวิว
  • วงจรความคิด ความรู้สึกว่าเป็นทุกข์ เป็นสุข หรือรู้สึกเฉยๆ ความคิดถึงเรื่องราวในอดีต ความคิดปรุงแต่งหรือจินตนาการ แล้วเพลินอยู่จนเคยชิน แบบไม่รู้สึกตัว ไม่รู้ว่าตนกำลังเวียนว่ายอยู่ในวัฏฐสงสาร เวียนว่ายอยู่ในกองทุกข์ (สิ่งไม่เที่ยง แตกดับ และสิ่งที่ไม่มีตัวตน)...

    ทุกสิ่งแก้ได้ด้วยการปฏิบัติให้ถึงการดับไม่เหลือแห่งทุกข์...
    วงจรความคิด ความรู้สึกว่าเป็นทุกข์ เป็นสุข หรือรู้สึกเฉยๆ ความคิดถึงเรื่องราวในอดีต ความคิดปรุงแต่งหรือจินตนาการ แล้วเพลินอยู่จนเคยชิน แบบไม่รู้สึกตัว ไม่รู้ว่าตนกำลังเวียนว่ายอยู่ในวัฏฐสงสาร เวียนว่ายอยู่ในกองทุกข์ (สิ่งไม่เที่ยง แตกดับ และสิ่งที่ไม่มีตัวตน)... ทุกสิ่งแก้ได้ด้วยการปฏิบัติให้ถึงการดับไม่เหลือแห่งทุกข์...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 36 0 รีวิว
  • วันอิดิ้ลอัฏฮา หรือวันรายอฮัจยี เป็นวันเฉลิมฉลองการเชือดสัตว์เพื่อพลีทาน โดยวันสำคัญทางศาสนาอิสลามที่มีการฉลองใหญ่ทั่วโลกเพื่อยกย่องอิบรอฮีมที่จะเชือดพลีลูกชายตามคำสั่งของอัลลอฮ์ แต่ก่อนที่อิบรอฮีมเชือดพลีลูกชายของตนเอง พระองค์ให้ท่านเชือดแกะแทน โดยจะถูกแบ่งเป็นสามส่วน ส่วนหนึ่งให้คนจนและคนที่ต้องการ อีกส่วนให้เก็บที่บ้าน และส่วนที่สามเอาไปแจกให้กับญาติ ตามปฏิทินอิสลาม อีดิลอัฎฮา อยู่ในวันที่ 10 ซุลฮิจญะฮ์ และมีระยะเวลาสามวัน

    ในวันอีดิ้ลอัฏฮา ชาวมุสลิมจะทำการละหมาดและฟังคำสอนที่มัสยิด และจะสวมเสื้อผ้าใหม่ ไปเยี่ยมครอบครัวและเพื่อน และในผู้ที่พอมีกำลังทรัพย์สามารถทำการเชือดสัตว์พลีทาน (กุรบาน) เป็นสัญลักษณ์แทนความเต็มใจของอิบรอฮีมในการเชือดลูกชายคนเดียวของตัวเอง และมีการบริจาคเงินให้กับคนที่ยากจน และในช่วงวันอีดิ้ลอัฏฮา ชาวมุสลิมทั่วโลกจะเดินทางไปนครเมกกะและพื้นที่โดยรอบในซาอุดีอาระเบียเพื่อประกอบพิธีฮัจญ์
    สำหรับชาวปาเลสนั้นก็มีโอกาสเยี่ยมชมสุสานหลังจากการละหมาดในข่าน ยูนิส
    หลุมศพจำนวนมากในสุสานในเมืองถูกทำลายเนื่องจากการโจมตีทางอากาศและภาคพื้นดินโดยกองทัพเอล
    โดยในโอกาสสำคัญนี้ชาวปาเลสก็ได้ร่วมดูแลหลุมศพของผู้เป็นที่รักและผู้ที่จากไปด้วยความคิดถึง ในความสามารถเท่าที่จะทำได้
    โดยมีการร่วมไว้อาลัยกันด้วยความพร้อมเพรียงกันอีกด้วย
    .
    #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews
    #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง
    -------------------------------
    สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    วันอิดิ้ลอัฏฮา หรือวันรายอฮัจยี เป็นวันเฉลิมฉลองการเชือดสัตว์เพื่อพลีทาน โดยวันสำคัญทางศาสนาอิสลามที่มีการฉลองใหญ่ทั่วโลกเพื่อยกย่องอิบรอฮีมที่จะเชือดพลีลูกชายตามคำสั่งของอัลลอฮ์ แต่ก่อนที่อิบรอฮีมเชือดพลีลูกชายของตนเอง พระองค์ให้ท่านเชือดแกะแทน โดยจะถูกแบ่งเป็นสามส่วน ส่วนหนึ่งให้คนจนและคนที่ต้องการ อีกส่วนให้เก็บที่บ้าน และส่วนที่สามเอาไปแจกให้กับญาติ ตามปฏิทินอิสลาม อีดิลอัฎฮา อยู่ในวันที่ 10 ซุลฮิจญะฮ์ และมีระยะเวลาสามวัน ในวันอีดิ้ลอัฏฮา ชาวมุสลิมจะทำการละหมาดและฟังคำสอนที่มัสยิด และจะสวมเสื้อผ้าใหม่ ไปเยี่ยมครอบครัวและเพื่อน และในผู้ที่พอมีกำลังทรัพย์สามารถทำการเชือดสัตว์พลีทาน (กุรบาน) เป็นสัญลักษณ์แทนความเต็มใจของอิบรอฮีมในการเชือดลูกชายคนเดียวของตัวเอง และมีการบริจาคเงินให้กับคนที่ยากจน และในช่วงวันอีดิ้ลอัฏฮา ชาวมุสลิมทั่วโลกจะเดินทางไปนครเมกกะและพื้นที่โดยรอบในซาอุดีอาระเบียเพื่อประกอบพิธีฮัจญ์ สำหรับชาวปาเลสนั้นก็มีโอกาสเยี่ยมชมสุสานหลังจากการละหมาดในข่าน ยูนิส หลุมศพจำนวนมากในสุสานในเมืองถูกทำลายเนื่องจากการโจมตีทางอากาศและภาคพื้นดินโดยกองทัพเอล โดยในโอกาสสำคัญนี้ชาวปาเลสก็ได้ร่วมดูแลหลุมศพของผู้เป็นที่รักและผู้ที่จากไปด้วยความคิดถึง ในความสามารถเท่าที่จะทำได้ โดยมีการร่วมไว้อาลัยกันด้วยความพร้อมเพรียงกันอีกด้วย . #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง ------------------------------- สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 443 มุมมอง 0 รีวิว