• เบื่อไหมกับกองสายไฟ สายเคเบิลที่รกพื้นที่และกำจัดยาก?
    มาถึงจุดเปลี่ยนที่ธุรกิจของคุณต้องมี! ขอแนะนำ เครื่องบดย่อยวัสดุเหลือใช้ Two Shafts Shredder นวัตกรรมล้ำหน้าที่จะช่วยให้การจัดการขยะสายไฟกลายเป็นเรื่องง่าย และสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างไม่น่าเชื่อ!
    ทำไม Two Shafts Shredder ของเราถึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด?
    บดได้ทุกอย่าง... โดยเฉพาะสายไฟและสายเคเบิลทุกชนิด!
    ไม่ว่าจะเป็นสายทองแดง สายอลูมิเนียม สายเคเบิลใยแก้วนำแสง หรือสายโทรศัพท์ที่มีฉนวนหนาขนาดไหน เครื่องของเราก็เอาอยู่! ด้วยระบบใบมีดคู่ที่ทรงพลังและแม่นยำ ทำให้สายไฟและเคเบิลถูกบดย่อยเป็นชิ้นเล็กๆ อย่างสม่ำเสมอพร้อมสำหรับการแยกส่วนหรือรีไซเคิลต่อยอดทันที!
    สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจคุณ!
    การบดย่อยสายไฟอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณสามารถแยกทองแดง อลูมิเนียม หรือวัสดุมีค่าอื่นๆ ออกมาได้อย่างง่ายดาย เพิ่มโอกาสในการขายเศษวัสดุรีไซเคิล สร้างรายได้เสริมให้ธุรกิจของคุณได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ!
    ทนทาน แกร่งทุกงานหนัก!
    ด้วยการออกแบบวิศวกรรมที่แข็งแกร่ง ใบมีดผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ทนทานต่อการสึกหรอ และมอเตอร์คู่กำลังสูง 10 HP (380V x 2 Motors) ทำให้เครื่องของเราพร้อมลุยงานหนักได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ติดขัด!
    ปลอดภัย ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก!
    มีระบบ Emergency Switch เพื่อหยุดการทำงานฉุกเฉิน, Meter แสดงสถานะการทำงาน และฟังก์ชัน Reverse ที่ช่วยแก้ปัญหาวัสดุติดขัดได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การทำงานของคุณราบรื่นและปลอดภัยไร้กังวล!
    นี่คือโอกาสทองที่จะยกระดับธุรกิจของคุณให้เหนือกว่า!
    ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการจัดการขยะที่ไร้ประสิทธิภาพอีกต่อไป! ลงทุนกับ Two Shafts Shredder วันนี้ เพื่อประสิทธิภาพที่ยั่งยืนและผลกำไรที่เพิ่มขึ้น!
    ไม่อยากพลาดโอกาสดีๆ?
    แวะมาชมเครื่องจริงและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่ ย.ย่งฮะเฮง!
    เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 8.00-17.00 น. | เสาร์ 8.00-16.00 น.
    คลิกดูแผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    รีบติดต่อเราเพื่อรับข้อเสนอสุดพิเศษ ก่อนใคร!
    แชทกับเราได้เลย: m.me/yonghahheng หรือ LINE Business ID: @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) / https://lin.ee/5H812n9
    โทรสายด่วน: 02-215-3515-9 | 081-3189098
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    อีเมล: sales@yoryonghahheng.com | yonghahheng@gmail.com
    #เครื่องบดสายไฟ #เครื่องบดเคเบิล #TwoShaftsShredder #เครื่องบดย่อย #จัดการสายไฟ #รีไซเคิลสายไฟ #เศษสายไฟ #ขยะอิเล็กทรอนิกส์ #eWaste #ยย่งฮะเฮง #เครื่องจักรอุตสาหกรรม #ลดต้นทุน #เพิ่มพื้นที่ #โซลูชั่นขยะ #ธุรกิจรีไซเคิล #โรงงาน #อุตสาหกรรมไฟฟ้า #สายไฟ #สายเคเบิล #บดละเอียด #เครื่องจักรคุณภาพสูง #สร้างรายได้ #สิ่งแวดล้อม #จัดการของเสียอย่างมืออาชีพ #นวัตกรรมเครื่องจักร
    💥 เบื่อไหมกับกองสายไฟ สายเคเบิลที่รกพื้นที่และกำจัดยาก? 💥 มาถึงจุดเปลี่ยนที่ธุรกิจของคุณต้องมี! ขอแนะนำ เครื่องบดย่อยวัสดุเหลือใช้ Two Shafts Shredder นวัตกรรมล้ำหน้าที่จะช่วยให้การจัดการขยะสายไฟกลายเป็นเรื่องง่าย และสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างไม่น่าเชื่อ! ✨ ทำไม Two Shafts Shredder ของเราถึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด? ✨ ✅ บดได้ทุกอย่าง... โดยเฉพาะสายไฟและสายเคเบิลทุกชนิด! ไม่ว่าจะเป็นสายทองแดง สายอลูมิเนียม สายเคเบิลใยแก้วนำแสง หรือสายโทรศัพท์ที่มีฉนวนหนาขนาดไหน เครื่องของเราก็เอาอยู่! ด้วยระบบใบมีดคู่ที่ทรงพลังและแม่นยำ ทำให้สายไฟและเคเบิลถูกบดย่อยเป็นชิ้นเล็กๆ อย่างสม่ำเสมอพร้อมสำหรับการแยกส่วนหรือรีไซเคิลต่อยอดทันที! ✅ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจคุณ! การบดย่อยสายไฟอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณสามารถแยกทองแดง อลูมิเนียม หรือวัสดุมีค่าอื่นๆ ออกมาได้อย่างง่ายดาย เพิ่มโอกาสในการขายเศษวัสดุรีไซเคิล สร้างรายได้เสริมให้ธุรกิจของคุณได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ! ✅ ทนทาน แกร่งทุกงานหนัก! ด้วยการออกแบบวิศวกรรมที่แข็งแกร่ง ใบมีดผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ทนทานต่อการสึกหรอ และมอเตอร์คู่กำลังสูง 10 HP (380V x 2 Motors) ทำให้เครื่องของเราพร้อมลุยงานหนักได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ติดขัด! ✅ ปลอดภัย ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก! มีระบบ Emergency Switch เพื่อหยุดการทำงานฉุกเฉิน, Meter แสดงสถานะการทำงาน และฟังก์ชัน Reverse ที่ช่วยแก้ปัญหาวัสดุติดขัดได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การทำงานของคุณราบรื่นและปลอดภัยไร้กังวล! นี่คือโอกาสทองที่จะยกระดับธุรกิจของคุณให้เหนือกว่า! ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการจัดการขยะที่ไร้ประสิทธิภาพอีกต่อไป! ลงทุนกับ Two Shafts Shredder วันนี้ เพื่อประสิทธิภาพที่ยั่งยืนและผลกำไรที่เพิ่มขึ้น! 📍 ไม่อยากพลาดโอกาสดีๆ? แวะมาชมเครื่องจริงและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่ ย.ย่งฮะเฮง! เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 8.00-17.00 น. | เสาร์ 8.00-16.00 น. 🗺️ คลิกดูแผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 รีบติดต่อเราเพื่อรับข้อเสนอสุดพิเศษ ก่อนใคร! 💬 แชทกับเราได้เลย: m.me/yonghahheng หรือ LINE Business ID: @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) / https://lin.ee/5H812n9 📞 โทรสายด่วน: 02-215-3515-9 | 081-3189098 🌐 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com 📧 อีเมล: sales@yoryonghahheng.com | yonghahheng@gmail.com #เครื่องบดสายไฟ #เครื่องบดเคเบิล #TwoShaftsShredder #เครื่องบดย่อย #จัดการสายไฟ #รีไซเคิลสายไฟ #เศษสายไฟ #ขยะอิเล็กทรอนิกส์ #eWaste #ยย่งฮะเฮง #เครื่องจักรอุตสาหกรรม #ลดต้นทุน #เพิ่มพื้นที่ #โซลูชั่นขยะ #ธุรกิจรีไซเคิล #โรงงาน #อุตสาหกรรมไฟฟ้า #สายไฟ #สายเคเบิล #บดละเอียด #เครื่องจักรคุณภาพสูง #สร้างรายได้ #สิ่งแวดล้อม #จัดการของเสียอย่างมืออาชีพ #นวัตกรรมเครื่องจักร
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดยทั่วไปแล้ว การสกัดทองจากแร่หรือแผงวงจร (PCB) ต้องพึ่งสารเคมีสุดอันตรายอย่าง “ไซยาไนด์” หรือ “ปรอท” ซึ่งเป็นอันตรายต่อทั้งคนและสิ่งแวดล้อม แถมยังเกิดมลพิษข้ามพรมแดนในหลายประเทศ

    ทีมวิจัยจาก Flinders คิดต่าง — พวกเขาใช้สาร TCCA (Trichloroisocyanuric acid) ซึ่งโดยปกติใช้ในงานฆ่าเชื้อหรือบำบัดน้ำ มาทำหน้าที่ละลายทองคำออกจากแหล่งขยะอิเล็กทรอนิกส์

    แล้วจับทองด้วย “โพลิเมอร์กำมะถันชนิดใหม่” ที่จะจับเฉพาะทอง (ไม่จับโลหะอื่น) พอจับเสร็จ ก็เอาไปเผาหรือแยกเคมีเพื่อคืนทองที่มีความบริสุทธิ์สูงกว่า 99%!

    ไฮไลต์อยู่ตรงนี้:
    - โพลิเมอร์นี้ รีไซเคิลได้ ใช้ซ้ำได้หลายรอบ
    - ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าเยอะ
    - ไม่มีของเสียพิษเหมือนระบบเดิม
    - เหมาะกับทั้ง “งานเหมืองใหม่” และ “รีไซเคิลทองจากขยะ”

    ใช้ TCCA แทนไซยาไนด์ในการสกัดทอง  
    • TCCA เป็นสารปลอดภัย ราคาถูก ใช้ในน้ำยาฆ่าเชื้อทั่วไป  
    • ละลายทองออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ใช้โพลิเมอร์กำมะถันชนิดพิเศษจับทองจากสารละลาย  
    • โพลิเมอร์นี้จับเฉพาะทอง — ไม่จับโลหะอื่น ๆ ที่ละลายมาด้วย  
    • สามารถทำให้ได้ทองความบริสุทธิ์สูง >99%

    โพลิเมอร์สามารถรีไซเคิลได้หลายรอบ  
    • ลดต้นทุน ไม่ต้องใช้สารใหม่ทุกครั้ง
    • ลดการใช้ทรัพยากรและของเสีย

    กระบวนการใช้ไฟฟ้าน้อยและไม่มีการปล่อยปรอท/ไซยาไนด์  
    • ปลอดภัยทั้งต่อคนทำและสิ่งแวดล้อม  
    • เหมาะกับประเทศกำลังพัฒนา, ชุมชนขุดทองแบบ artisanal mining

    ทีมวิจัยนำโดย Dr. Max Mann, Dr. Thomas Nicholls, Dr. Harshal Patel และ Dr. Lynn Lisboa  
    • ทดสอบด้วยขยะอิเล็กทรอนิกส์จริงและของเสียจากห้องแล็บ  
    • ได้ผลลัพธ์เป็นทองบริสุทธิ์จาก “ภูเขาขยะ”

    ทองยังเป็นโลหะที่โลกต้องใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ  
    • ในวงการอิเล็กทรอนิกส์, ชิป, การแพทย์ และ AI

    https://www.tomshardware.com/pc-components/safer-faster-and-cheaper-way-to-extract-gold-at-99-percent-purity-from-electronic-waste-detailed-method-uses-a-sanitizing-reagent-and-a-novel-polymer-to-recover-gold-from-pcbs
    โดยทั่วไปแล้ว การสกัดทองจากแร่หรือแผงวงจร (PCB) ต้องพึ่งสารเคมีสุดอันตรายอย่าง “ไซยาไนด์” หรือ “ปรอท” ซึ่งเป็นอันตรายต่อทั้งคนและสิ่งแวดล้อม แถมยังเกิดมลพิษข้ามพรมแดนในหลายประเทศ ทีมวิจัยจาก Flinders คิดต่าง — พวกเขาใช้สาร TCCA (Trichloroisocyanuric acid) ซึ่งโดยปกติใช้ในงานฆ่าเชื้อหรือบำบัดน้ำ มาทำหน้าที่ละลายทองคำออกจากแหล่งขยะอิเล็กทรอนิกส์ แล้วจับทองด้วย “โพลิเมอร์กำมะถันชนิดใหม่” ที่จะจับเฉพาะทอง (ไม่จับโลหะอื่น) พอจับเสร็จ ก็เอาไปเผาหรือแยกเคมีเพื่อคืนทองที่มีความบริสุทธิ์สูงกว่า 99%! ไฮไลต์อยู่ตรงนี้: - โพลิเมอร์นี้ รีไซเคิลได้ ใช้ซ้ำได้หลายรอบ - ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าเยอะ - ไม่มีของเสียพิษเหมือนระบบเดิม - เหมาะกับทั้ง “งานเหมืองใหม่” และ “รีไซเคิลทองจากขยะ” ✅ ใช้ TCCA แทนไซยาไนด์ในการสกัดทอง   • TCCA เป็นสารปลอดภัย ราคาถูก ใช้ในน้ำยาฆ่าเชื้อทั่วไป   • ละลายทองออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ใช้โพลิเมอร์กำมะถันชนิดพิเศษจับทองจากสารละลาย   • โพลิเมอร์นี้จับเฉพาะทอง — ไม่จับโลหะอื่น ๆ ที่ละลายมาด้วย   • สามารถทำให้ได้ทองความบริสุทธิ์สูง >99% ✅ โพลิเมอร์สามารถรีไซเคิลได้หลายรอบ   • ลดต้นทุน ไม่ต้องใช้สารใหม่ทุกครั้ง • ลดการใช้ทรัพยากรและของเสีย ✅ กระบวนการใช้ไฟฟ้าน้อยและไม่มีการปล่อยปรอท/ไซยาไนด์   • ปลอดภัยทั้งต่อคนทำและสิ่งแวดล้อม   • เหมาะกับประเทศกำลังพัฒนา, ชุมชนขุดทองแบบ artisanal mining ✅ ทีมวิจัยนำโดย Dr. Max Mann, Dr. Thomas Nicholls, Dr. Harshal Patel และ Dr. Lynn Lisboa   • ทดสอบด้วยขยะอิเล็กทรอนิกส์จริงและของเสียจากห้องแล็บ   • ได้ผลลัพธ์เป็นทองบริสุทธิ์จาก “ภูเขาขยะ” ✅ ทองยังเป็นโลหะที่โลกต้องใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ   • ในวงการอิเล็กทรอนิกส์, ชิป, การแพทย์ และ AI https://www.tomshardware.com/pc-components/safer-faster-and-cheaper-way-to-extract-gold-at-99-percent-purity-from-electronic-waste-detailed-method-uses-a-sanitizing-reagent-and-a-novel-polymer-to-recover-gold-from-pcbs
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD อัปเดต AGESA 1.2.0.3e: รองรับ Ryzen 9000F และแก้ไขช่องโหว่ TPM
    AMD กำลังเตรียมปล่อย AGESA microcode update 1.2.0.3e ซึ่งมีข่าวลือว่าอาจรองรับ Ryzen 9000F-series โดยเฉพาะ Ryzen 7 9700F ที่ไม่มีกราฟิกในตัว นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของ Pluton TPM และ fTPM ที่อาจถูกใช้โจมตีเพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญ.

    รายละเอียดการอัปเดต
    AGESA 1.2.0.3e อาจรองรับ Ryzen 9000F-series ซึ่งเป็นซีพียูที่ไม่มีกราฟิกในตัว.
    Ryzen 7 9700F อาจเป็นรุ่นที่สูงสุดของ F-series โดยมี 8 คอร์ Zen 5 และ 32MB L3 Cache.
    AMD ใช้โมเดล F-series เพื่อรีไซเคิลชิปที่มีกราฟิกเสียหาย ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต.
    การอัปเดตนี้ยังแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของ TPM ที่อาจถูกใช้โจมตีเพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญ.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    Ryzen 9000F อาจไม่มีประสิทธิภาพด้านกราฟิก ทำให้ต้องใช้ GPU แยกสำหรับการเล่นเกมหรือทำงานด้านกราฟิก.
    ช่องโหว่ TPM อาจถูกใช้เพื่อโจมตีระบบ หากไม่ได้รับการอัปเดตอย่างเหมาะสม.
    การอัปเดต BIOS อาจมีความเสี่ยง หากไม่ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง อาจทำให้ระบบไม่สามารถบูตได้.

    แนวทางการอัปเดตและการใช้งาน
    ตรวจสอบว่าเมนบอร์ดรองรับ AGESA 1.2.0.3e ก่อนทำการอัปเดต.
    ใช้ GPU แยกหากต้องการประสิทธิภาพด้านกราฟิก เนื่องจาก Ryzen 9000F ไม่มีกราฟิกในตัว.
    ติดตามการอัปเดตด้านความปลอดภัยของ TPM เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ryzen 9000 และ AGESA
    AMD อาจเปิดตัว Ryzen 9000G-series ในไตรมาส 4 ปี 2025 สำหรับเมนบอร์ด AM5.
    Zen 6 Ryzen ถูกพบในฐานข้อมูล AIDA64 ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการพัฒนา CPU รุ่นใหม่.
    การอัปเดต BIOS ควรทำด้วยความระมัดระวัง และสำรองข้อมูลก่อนดำเนินการ.

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/gpu-disabled-ryzen-9000f-support-suspected-in-agesa-firmware-update
    AMD อัปเดต AGESA 1.2.0.3e: รองรับ Ryzen 9000F และแก้ไขช่องโหว่ TPM AMD กำลังเตรียมปล่อย AGESA microcode update 1.2.0.3e ซึ่งมีข่าวลือว่าอาจรองรับ Ryzen 9000F-series โดยเฉพาะ Ryzen 7 9700F ที่ไม่มีกราฟิกในตัว นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของ Pluton TPM และ fTPM ที่อาจถูกใช้โจมตีเพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญ. รายละเอียดการอัปเดต ✅ AGESA 1.2.0.3e อาจรองรับ Ryzen 9000F-series ซึ่งเป็นซีพียูที่ไม่มีกราฟิกในตัว. ✅ Ryzen 7 9700F อาจเป็นรุ่นที่สูงสุดของ F-series โดยมี 8 คอร์ Zen 5 และ 32MB L3 Cache. ✅ AMD ใช้โมเดล F-series เพื่อรีไซเคิลชิปที่มีกราฟิกเสียหาย ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต. ✅ การอัปเดตนี้ยังแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยของ TPM ที่อาจถูกใช้โจมตีเพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญ. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ Ryzen 9000F อาจไม่มีประสิทธิภาพด้านกราฟิก ทำให้ต้องใช้ GPU แยกสำหรับการเล่นเกมหรือทำงานด้านกราฟิก. ‼️ ช่องโหว่ TPM อาจถูกใช้เพื่อโจมตีระบบ หากไม่ได้รับการอัปเดตอย่างเหมาะสม. ‼️ การอัปเดต BIOS อาจมีความเสี่ยง หากไม่ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง อาจทำให้ระบบไม่สามารถบูตได้. แนวทางการอัปเดตและการใช้งาน ✅ ตรวจสอบว่าเมนบอร์ดรองรับ AGESA 1.2.0.3e ก่อนทำการอัปเดต. ✅ ใช้ GPU แยกหากต้องการประสิทธิภาพด้านกราฟิก เนื่องจาก Ryzen 9000F ไม่มีกราฟิกในตัว. ✅ ติดตามการอัปเดตด้านความปลอดภัยของ TPM เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ryzen 9000 และ AGESA ✅ AMD อาจเปิดตัว Ryzen 9000G-series ในไตรมาส 4 ปี 2025 สำหรับเมนบอร์ด AM5. ✅ Zen 6 Ryzen ถูกพบในฐานข้อมูล AIDA64 ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการพัฒนา CPU รุ่นใหม่. ‼️ การอัปเดต BIOS ควรทำด้วยความระมัดระวัง และสำรองข้อมูลก่อนดำเนินการ. https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/gpu-disabled-ryzen-9000f-support-suspected-in-agesa-firmware-update
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    GPU-disabled Ryzen 9000F support suspected in AGESA firmware update
    The upcoming 1.2.0.3e AGESA microcode update also rectifies a TPM security vulnerability
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปลี่ยนมือถือเก่าให้กลายเป็นศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก
    นักวิจัยจาก University of Tartu ประเทศเอสโตเนีย ได้พัฒนาแนวทางใหม่ในการ นำสมาร์ทโฟนเก่ามาเชื่อมต่อกันเพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก ซึ่งสามารถ ประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ในสถานที่ต่าง ๆ

    ทีมวิจัยได้นำ สมาร์ทโฟนเก่าจำนวน 4 เครื่อง มาถอดแบตเตอรี่ออกเพื่อลดความเสี่ยงของการรั่วไหล จากนั้น ออกแบบตัวครอบ 3D-printed และวงจรควบคุมพลังงาน เพื่อให้สามารถ เปลี่ยนหรือซ่อมแซมอุปกรณ์ได้ง่ายขึ้น

    ข้อมูลจากข่าว
    - นักวิจัยจาก University of Tartu พัฒนาแนวทางใช้สมาร์ทโฟนเก่าสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก
    - นำสมาร์ทโฟน 4 เครื่องมาถอดแบตเตอรี่และติดตั้งตัวครอบ 3D-printed พร้อมวงจรควบคุมพลังงาน
    - ระบบสามารถประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ในสถานที่ต่าง ๆ
    - การทดลองแรกประสบความสำเร็จในการใช้ระบบนี้เพื่อตรวจสอบชีวิตใต้ทะเลโดยไม่ต้องใช้มนุษย์
    - แนวคิดนี้สามารถนำไปใช้ในสถานที่อื่น เช่น ป้ายรถเมล์ เพื่อนับจำนวนผู้โดยสารแบบเรียลไทม์

    ผลกระทบต่อการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์
    แนวทางนี้ช่วยให้ สมาร์ทโฟนเก่ามีโอกาสถูกนำกลับมาใช้ใหม่แทนที่จะถูกทิ้งเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจช่วยลด ปริมาณขยะที่เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลหรือถูกทิ้งในหลุมฝังกลบ

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการควบคุมระบบนี้
    - ต้องติดตามว่าการใช้งานจริงจะมีข้อจำกัดด้านพลังงานและความทนทานของอุปกรณ์หรือไม่
    - การนำสมาร์ทโฟนเก่ามาใช้ใหม่อาจต้องมีมาตรการป้องกันข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เดิม
    - ต้องรอดูว่าทีมวิจัยจะสามารถพัฒนาให้ระบบนี้ใช้งานได้ง่ายและมีต้นทุนต่ำหรือไม่

    หากแนวคิดนี้ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม อาจช่วยให้สามารถนำสมาร์ทโฟนเก่าหลายล้านเครื่องกลับมาใช้ใหม่ และ ช่วยให้การประมวลผลข้อมูลแบบ Edge Computing มีต้นทุนต่ำลง

    https://www.tomshardware.com/desktops/servers/researchers-convert-old-phones-into-tiny-data-centers-deploy-one-underwater-for-marine-monitoring
    📱 เปลี่ยนมือถือเก่าให้กลายเป็นศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก นักวิจัยจาก University of Tartu ประเทศเอสโตเนีย ได้พัฒนาแนวทางใหม่ในการ นำสมาร์ทโฟนเก่ามาเชื่อมต่อกันเพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก ซึ่งสามารถ ประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ในสถานที่ต่าง ๆ ทีมวิจัยได้นำ สมาร์ทโฟนเก่าจำนวน 4 เครื่อง มาถอดแบตเตอรี่ออกเพื่อลดความเสี่ยงของการรั่วไหล จากนั้น ออกแบบตัวครอบ 3D-printed และวงจรควบคุมพลังงาน เพื่อให้สามารถ เปลี่ยนหรือซ่อมแซมอุปกรณ์ได้ง่ายขึ้น ✅ ข้อมูลจากข่าว - นักวิจัยจาก University of Tartu พัฒนาแนวทางใช้สมาร์ทโฟนเก่าสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดเล็ก - นำสมาร์ทโฟน 4 เครื่องมาถอดแบตเตอรี่และติดตั้งตัวครอบ 3D-printed พร้อมวงจรควบคุมพลังงาน - ระบบสามารถประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ในสถานที่ต่าง ๆ - การทดลองแรกประสบความสำเร็จในการใช้ระบบนี้เพื่อตรวจสอบชีวิตใต้ทะเลโดยไม่ต้องใช้มนุษย์ - แนวคิดนี้สามารถนำไปใช้ในสถานที่อื่น เช่น ป้ายรถเมล์ เพื่อนับจำนวนผู้โดยสารแบบเรียลไทม์ 🔥 ผลกระทบต่อการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ แนวทางนี้ช่วยให้ สมาร์ทโฟนเก่ามีโอกาสถูกนำกลับมาใช้ใหม่แทนที่จะถูกทิ้งเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจช่วยลด ปริมาณขยะที่เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลหรือถูกทิ้งในหลุมฝังกลบ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการควบคุมระบบนี้ - ต้องติดตามว่าการใช้งานจริงจะมีข้อจำกัดด้านพลังงานและความทนทานของอุปกรณ์หรือไม่ - การนำสมาร์ทโฟนเก่ามาใช้ใหม่อาจต้องมีมาตรการป้องกันข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เดิม - ต้องรอดูว่าทีมวิจัยจะสามารถพัฒนาให้ระบบนี้ใช้งานได้ง่ายและมีต้นทุนต่ำหรือไม่ หากแนวคิดนี้ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม อาจช่วยให้สามารถนำสมาร์ทโฟนเก่าหลายล้านเครื่องกลับมาใช้ใหม่ และ ช่วยให้การประมวลผลข้อมูลแบบ Edge Computing มีต้นทุนต่ำลง https://www.tomshardware.com/desktops/servers/researchers-convert-old-phones-into-tiny-data-centers-deploy-one-underwater-for-marine-monitoring
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Researchers convert old phones into 'tiny data centers' — deploy one underwater for marine monitoring
    This will reduce e-waste while making edge devices more accessible and affordable.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 313 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจ ปทส.บุกค้นโกดังพนัสนิคม ชลบุรี ลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์จากยุโรปเตรียมส่งจีน ยึดของกลาง 1,600 ตัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000048936

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ตำรวจ ปทส.บุกค้นโกดังพนัสนิคม ชลบุรี ลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์จากยุโรปเตรียมส่งจีน ยึดของกลาง 1,600 ตัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000048936 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 717 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'เอกนัฏ' ส่ง 'สุดซอย' บุก 'ฟรีโซน' รวบบริษัทศูนย์เหรียญ ลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์
    https://www.thai-tai.tv/news/18819/
    'เอกนัฏ' ส่ง 'สุดซอย' บุก 'ฟรีโซน' รวบบริษัทศูนย์เหรียญ ลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ https://www.thai-tai.tv/news/18819/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิทยาศาสตร์พัฒนาแบตเตอรี่ชีวภาพจากเห็ด เพื่ออนาคตของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ยั่งยืน

    นักวิจัยจาก Empa (Swiss Federal Laboratories for Materials Science and Technology) กำลังพัฒนา แบตเตอรี่ชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้เอง โดยใช้ ไมซีเลียมของเห็ด split-gill เป็นวัสดุหลักสำหรับอิเล็กโทรด ซึ่งแนวคิดนี้อาจช่วยลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ในอนาคต

    ไมซีเลียมของเห็ด split-gill มีคุณสมบัติทางกลและชีวภาพที่โดดเด่น
    - สามารถ นำมาใช้เป็นวัสดุสำหรับอิเล็กโทรดของแบตเตอรี่

    เป้าหมายคือการสร้างแบตเตอรี่ที่สามารถย่อยสลายได้เองโดยไม่ปล่อยสารพิษ
    - ต่างจาก แบตเตอรี่ทั่วไปที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    นักวิจัยกำลังศึกษาความแข็งแรงของไมซีเลียมและความไวต่อความชื้น
    - เพื่อ ปรับปรุงให้สามารถใช้งานในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้จริง

    การใช้วัสดุชีวภาพช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
    - อาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับ แบตเตอรี่ที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ

    แนวคิดนี้ยังอยู่ในขั้นทดลอง และต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติม
    - นักวิจัยต้อง หาวิธีควบคุมการย่อยสลายของวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งาน

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/a-compact-biodegradable-battery-with-fungal-paper-electrodes-is-what-researchers-at-this-university-are-dreaming-of
    นักวิทยาศาสตร์พัฒนาแบตเตอรี่ชีวภาพจากเห็ด เพื่ออนาคตของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ยั่งยืน นักวิจัยจาก Empa (Swiss Federal Laboratories for Materials Science and Technology) กำลังพัฒนา แบตเตอรี่ชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้เอง โดยใช้ ไมซีเลียมของเห็ด split-gill เป็นวัสดุหลักสำหรับอิเล็กโทรด ซึ่งแนวคิดนี้อาจช่วยลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ในอนาคต ✅ ไมซีเลียมของเห็ด split-gill มีคุณสมบัติทางกลและชีวภาพที่โดดเด่น - สามารถ นำมาใช้เป็นวัสดุสำหรับอิเล็กโทรดของแบตเตอรี่ ✅ เป้าหมายคือการสร้างแบตเตอรี่ที่สามารถย่อยสลายได้เองโดยไม่ปล่อยสารพิษ - ต่างจาก แบตเตอรี่ทั่วไปที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ✅ นักวิจัยกำลังศึกษาความแข็งแรงของไมซีเลียมและความไวต่อความชื้น - เพื่อ ปรับปรุงให้สามารถใช้งานในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้จริง ✅ การใช้วัสดุชีวภาพช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม - อาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับ แบตเตอรี่ที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ ✅ แนวคิดนี้ยังอยู่ในขั้นทดลอง และต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติม - นักวิจัยต้อง หาวิธีควบคุมการย่อยสลายของวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งาน https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/a-compact-biodegradable-battery-with-fungal-paper-electrodes-is-what-researchers-at-this-university-are-dreaming-of
    WWW.TECHRADAR.COM
    Your next eco-friendly battery could be made from mushrooms, and it might eat your trash when it’s done
    Fungal paper batteries could reduce e-waste, but they’re still a long way from reality
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 341 มุมมอง 0 รีวิว
  • Philips เปิดตัวโปรแกรม Fixables: ให้ผู้ใช้ 3D พิมพ์อะไหล่เองที่บ้าน

    Philips ได้เปิดตัว โปรแกรม Fixables ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์และพิมพ์อะไหล่สำหรับอุปกรณ์สุขภาพส่วนตัวด้วยเครื่องพิมพ์ 3D โดยเริ่มต้นที่ หวีปรับระดับสำหรับเครื่องโกนหนวด OneBlade และมีแผนที่จะขยายไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น แปรงสีฟันไฟฟ้าและไดร์เป่าผม

    Philips Fixables เปิดตัวในสาธารณรัฐเช็กร่วมกับ Prusa Research
    - ไฟล์สามารถดาวน์โหลดได้ทั่วโลกผ่าน แพลตฟอร์ม Printables

    ช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์โดยให้ผู้ใช้พิมพ์อะไหล่เองแทนการซื้อใหม่
    - ลดการทิ้งอุปกรณ์เพียงเพราะ ชิ้นส่วนเล็ก ๆ เสียหายหรือสูญหาย

    ไฟล์ที่ให้ดาวน์โหลดได้รับการออกแบบให้ตรงตามมาตรฐานของ Philips
    - ต้องใช้ วัสดุ PLA และพิมพ์ตามทิศทางที่กำหนดเพื่อให้แข็งแรงและใช้งานได้ดี

    ปัจจุบันมีเพียงหวีปรับระดับสำหรับ OneBlade แต่ Philips มีแผนขยายไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ
    - อาจรวมถึง ไกด์ปรับระดับสำหรับเครื่องโกนหนวดและอะไหล่สำหรับแปรงสีฟันไฟฟ้า

    Philips เปิดให้ผู้ใช้ส่งคำขออะไหล่ที่ต้องการผ่านแบบฟอร์มบนเว็บไซต์
    - แต่ยังไม่มีการระบุกรอบเวลาสำหรับการเพิ่มอะไหล่ใหม่

    https://www.techspot.com/news/107894-philips-fixables-program-you-3d-print-spare-parts.html
    Philips เปิดตัวโปรแกรม Fixables: ให้ผู้ใช้ 3D พิมพ์อะไหล่เองที่บ้าน Philips ได้เปิดตัว โปรแกรม Fixables ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์และพิมพ์อะไหล่สำหรับอุปกรณ์สุขภาพส่วนตัวด้วยเครื่องพิมพ์ 3D โดยเริ่มต้นที่ หวีปรับระดับสำหรับเครื่องโกนหนวด OneBlade และมีแผนที่จะขยายไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น แปรงสีฟันไฟฟ้าและไดร์เป่าผม ✅ Philips Fixables เปิดตัวในสาธารณรัฐเช็กร่วมกับ Prusa Research - ไฟล์สามารถดาวน์โหลดได้ทั่วโลกผ่าน แพลตฟอร์ม Printables ✅ ช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์โดยให้ผู้ใช้พิมพ์อะไหล่เองแทนการซื้อใหม่ - ลดการทิ้งอุปกรณ์เพียงเพราะ ชิ้นส่วนเล็ก ๆ เสียหายหรือสูญหาย ✅ ไฟล์ที่ให้ดาวน์โหลดได้รับการออกแบบให้ตรงตามมาตรฐานของ Philips - ต้องใช้ วัสดุ PLA และพิมพ์ตามทิศทางที่กำหนดเพื่อให้แข็งแรงและใช้งานได้ดี ✅ ปัจจุบันมีเพียงหวีปรับระดับสำหรับ OneBlade แต่ Philips มีแผนขยายไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ - อาจรวมถึง ไกด์ปรับระดับสำหรับเครื่องโกนหนวดและอะไหล่สำหรับแปรงสีฟันไฟฟ้า ✅ Philips เปิดให้ผู้ใช้ส่งคำขออะไหล่ที่ต้องการผ่านแบบฟอร์มบนเว็บไซต์ - แต่ยังไม่มีการระบุกรอบเวลาสำหรับการเพิ่มอะไหล่ใหม่ https://www.techspot.com/news/107894-philips-fixables-program-you-3d-print-spare-parts.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Philips Fixables program lets you 3D-print spare parts at home
    Philips has introduced a program that allows consumers to 3D print replacement parts for some of its personal health devices, marking a new approach to product repair...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 349 มุมมอง 0 รีวิว
  • Pine Beat: ลำโพง Bluetooth ที่อายุการใช้งานไม่จำกัด Poca Audio เปิดตัว Pine Beat ลำโพง Bluetooth แบบโมดูลาร์ที่สามารถ เปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ง่าย ทำให้สามารถ ใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องทิ้งลำโพงเมื่อแบตเตอรี่เสื่อม

    นอกจากการออกแบบที่ช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์แล้ว Pine Beat ยังสามารถอัปเกรด Bluetooth module ได้ในอนาคต ทำให้ลำโพงนี้ ไม่ล้าสมัยแม้เทคโนโลยีจะพัฒนาไป

    Pine Beat ใช้แบตเตอรี่แบบถอดเปลี่ยนได้
    - แบตเตอรี่ 30 ชั่วโมงมีราคาเพียง £25 และสามารถ พกพาสำรองเพื่อใช้งานต่อเนื่อง

    สามารถอัปเกรด Bluetooth module ได้ในอนาคต
    - ทำให้ ลำโพงไม่ล้าสมัยเมื่อมีเทคโนโลยีใหม่

    มีพลังเสียง 40W พร้อม woofer, tweeter และ bass radiator
    - รองรับ ช่วงความถี่ 58Hz - 20KHz

    สามารถเชื่อมต่อกับลำโพงอื่นได้สูงสุด 100 ตัว
    - เหมาะสำหรับ การใช้งานในงานปาร์ตี้หรือพื้นที่ขนาดใหญ่

    มี EQ ปรับแต่งเสียงและอุปกรณ์เสริมสำหรับการติดตั้งในสถานที่ต่าง ๆ
    - เช่น แขวน, วางบนพื้นหญ้า หรือทราย

    รับประกัน 30 เดือน
    - ให้ความมั่นใจใน คุณภาพและความทนทานของผลิตภัณฑ์

    https://www.techradar.com/audio/wireless-bluetooth-speakers/rock-n-roll-will-never-die-and-neither-will-this-modular-bluetooth-speaker-with-an-unlimited-battery-life
    Pine Beat: ลำโพง Bluetooth ที่อายุการใช้งานไม่จำกัด Poca Audio เปิดตัว Pine Beat ลำโพง Bluetooth แบบโมดูลาร์ที่สามารถ เปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ง่าย ทำให้สามารถ ใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องทิ้งลำโพงเมื่อแบตเตอรี่เสื่อม นอกจากการออกแบบที่ช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์แล้ว Pine Beat ยังสามารถอัปเกรด Bluetooth module ได้ในอนาคต ทำให้ลำโพงนี้ ไม่ล้าสมัยแม้เทคโนโลยีจะพัฒนาไป ✅ Pine Beat ใช้แบตเตอรี่แบบถอดเปลี่ยนได้ - แบตเตอรี่ 30 ชั่วโมงมีราคาเพียง £25 และสามารถ พกพาสำรองเพื่อใช้งานต่อเนื่อง ✅ สามารถอัปเกรด Bluetooth module ได้ในอนาคต - ทำให้ ลำโพงไม่ล้าสมัยเมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ ✅ มีพลังเสียง 40W พร้อม woofer, tweeter และ bass radiator - รองรับ ช่วงความถี่ 58Hz - 20KHz ✅ สามารถเชื่อมต่อกับลำโพงอื่นได้สูงสุด 100 ตัว - เหมาะสำหรับ การใช้งานในงานปาร์ตี้หรือพื้นที่ขนาดใหญ่ ✅ มี EQ ปรับแต่งเสียงและอุปกรณ์เสริมสำหรับการติดตั้งในสถานที่ต่าง ๆ - เช่น แขวน, วางบนพื้นหญ้า หรือทราย ✅ รับประกัน 30 เดือน - ให้ความมั่นใจใน คุณภาพและความทนทานของผลิตภัณฑ์ https://www.techradar.com/audio/wireless-bluetooth-speakers/rock-n-roll-will-never-die-and-neither-will-this-modular-bluetooth-speaker-with-an-unlimited-battery-life
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 209 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ประกาศ การสิ้นสุดการสนับสนุน Windows 10 ในอีกไม่ถึง 6 เดือน พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้ อัปเกรดเป็น Windows 11 หรือซื้อพีซีใหม่ หากอุปกรณ์ของตนไม่สามารถรองรับ Windows 11 ได้

    อย่างไรก็ตาม ESET และโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจาก KDE ได้เสนอทางเลือกใหม่ โดยแนะนำให้ผู้ใช้ที่ไม่สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 เปลี่ยนไปใช้ Linux แทน ซึ่งช่วยให้สามารถใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดิมต่อไปได้โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่

    โครงการนี้ได้เปิดตัวเว็บไซต์ EndOf10 ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ข้อดีของ Linux เช่น ไม่มีโฆษณา, ไม่มีการสอดแนม, ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ และให้ผู้ใช้ควบคุมระบบได้มากขึ้น

    Windows 10 จะสิ้นสุดการสนับสนุนในอีกไม่ถึง 6 เดือน
    - Microsoft แนะนำให้ อัปเกรดเป็น Windows 11 หรือซื้อพีซีใหม่
    - อุปกรณ์ที่ยังใช้ Windows 10 จะไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยอีกต่อไป

    ESET และ KDE แนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Linux แทน
    - ช่วยให้สามารถ ใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดิมต่อไปได้
    - ลด ค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์ใหม่

    เว็บไซต์ EndOf10 ให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อดีของ Linux
    - ไม่มีโฆษณาและไม่มีการสอดแนม
    - ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถใช้งานได้นานขึ้น
    - ให้ผู้ใช้ควบคุมระบบได้มากขึ้น

    Seagate ระบุว่า SSD มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า HDD
    - การใช้ Linux อาจช่วยลด การเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ที่ไม่จำเป็น

    ผลกระทบต่ออุปกรณ์ที่ยังใช้ Windows 10 หลังวันที่ 14 ตุลาคม 2025
    - อาจ เสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ เนื่องจากไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัย

    ความท้าทายในการเปลี่ยนไปใช้ Linux
    - ผู้ใช้ที่ไม่คุ้นเคยกับ Linux อาจ ต้องใช้เวลาในการปรับตัว

    แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต
    - หาก Linux ได้รับความนิยมมากขึ้น อาจทำให้ ผู้ใช้มีทางเลือกที่หลากหลายขึ้น

    https://www.neowin.net/news/a-linux-backed-project-shows-how-to-save-unsupported-windows-10-pcs-by-installing-linux/
    Microsoft ได้ประกาศ การสิ้นสุดการสนับสนุน Windows 10 ในอีกไม่ถึง 6 เดือน พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้ อัปเกรดเป็น Windows 11 หรือซื้อพีซีใหม่ หากอุปกรณ์ของตนไม่สามารถรองรับ Windows 11 ได้ อย่างไรก็ตาม ESET และโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจาก KDE ได้เสนอทางเลือกใหม่ โดยแนะนำให้ผู้ใช้ที่ไม่สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 เปลี่ยนไปใช้ Linux แทน ซึ่งช่วยให้สามารถใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดิมต่อไปได้โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่ โครงการนี้ได้เปิดตัวเว็บไซต์ EndOf10 ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ข้อดีของ Linux เช่น ไม่มีโฆษณา, ไม่มีการสอดแนม, ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ และให้ผู้ใช้ควบคุมระบบได้มากขึ้น ✅ Windows 10 จะสิ้นสุดการสนับสนุนในอีกไม่ถึง 6 เดือน - Microsoft แนะนำให้ อัปเกรดเป็น Windows 11 หรือซื้อพีซีใหม่ - อุปกรณ์ที่ยังใช้ Windows 10 จะไม่ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยอีกต่อไป ✅ ESET และ KDE แนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ Linux แทน - ช่วยให้สามารถ ใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดิมต่อไปได้ - ลด ค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์ใหม่ ✅ เว็บไซต์ EndOf10 ให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อดีของ Linux - ไม่มีโฆษณาและไม่มีการสอดแนม - ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยช่วยให้คอมพิวเตอร์สามารถใช้งานได้นานขึ้น - ให้ผู้ใช้ควบคุมระบบได้มากขึ้น ✅ Seagate ระบุว่า SSD มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า HDD - การใช้ Linux อาจช่วยลด การเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ที่ไม่จำเป็น ‼️ ผลกระทบต่ออุปกรณ์ที่ยังใช้ Windows 10 หลังวันที่ 14 ตุลาคม 2025 - อาจ เสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ เนื่องจากไม่มีการอัปเดตด้านความปลอดภัย ‼️ ความท้าทายในการเปลี่ยนไปใช้ Linux - ผู้ใช้ที่ไม่คุ้นเคยกับ Linux อาจ ต้องใช้เวลาในการปรับตัว ‼️ แนวโน้มของการพัฒนาในอนาคต - หาก Linux ได้รับความนิยมมากขึ้น อาจทำให้ ผู้ใช้มีทางเลือกที่หลากหลายขึ้น https://www.neowin.net/news/a-linux-backed-project-shows-how-to-save-unsupported-windows-10-pcs-by-installing-linux/
    WWW.NEOWIN.NET
    A Linux-backed project shows how to save unsupported Windows 10 PCs by installing Linux
    Windows 10 end of support is in six months and many PCs that are unsupported by Windows 11 won't be able to upgrade. A new Linux-backed project urges users to try installing Linux and shows how.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • Asustor ได้ประกาศจุดยืนที่ชัดเจนในการ ต่อต้านการล็อกฮาร์ดแวร์โดยผู้ผลิต NAS โดยเน้นให้ผู้ใช้สามารถ เลือกฮาร์ดไดรฟ์และระบบปฏิบัติการได้อย่างอิสระ ซึ่งเป็นการตอบโต้แนวทางของแบรนด์อื่น ๆ เช่น Synology ที่มีข้อจำกัดด้านความเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์

    Asustor ระบุว่า "เราไม่เชื่อในการปฏิบัติต่อผู้ใช้เหมือนเด็ก" และให้ความสำคัญกับ ความสามารถในการเลือกฮาร์ดแวร์ของผู้ใช้ โดยไม่บังคับให้ใช้ไดรฟ์ที่มีเฟิร์มแวร์เฉพาะของบริษัท นอกจากนี้ยังมีข้อดีด้าน สิ่งแวดล้อม เนื่องจากอุปกรณ์ที่ไม่มีข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ สามารถใช้งานได้นานขึ้นและลดขยะอิเล็กทรอนิกส์

    Asustor ไม่บังคับให้ใช้ฮาร์ดไดรฟ์ที่มีเฟิร์มแวร์เฉพาะ
    - ผู้ใช้สามารถ เลือกฮาร์ดไดรฟ์และระบบปฏิบัติการได้อย่างอิสระ
    - ลดข้อจำกัดที่อาจทำให้อุปกรณ์ ล้าสมัยเร็วขึ้น

    ข้อดีด้านสิ่งแวดล้อม
    - อุปกรณ์ที่ไม่มีข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ สามารถใช้งานได้นานขึ้น
    - ลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดจาก การเลิกผลิตไดรฟ์เฉพาะของแบรนด์

    รองรับไดรฟ์ความจุสูงโดยไม่มีข้อจำกัดด้านเฟิร์มแวร์
    - สามารถใช้ ไดรฟ์ขนาด 36TB และสร้าง NAS ขนาด 360TB ได้
    - ไม่มีข้อจำกัดด้าน การอัปเกรดฮาร์ดแวร์

    ผู้ใช้สามารถติดตั้งระบบปฏิบัติการอื่นได้ แม้หลังจากหมดการสนับสนุน
    - Asustor ไม่ได้ให้การสนับสนุนโดยตรง แต่เคารพสิทธิ์ของผู้ใช้ในการเลือก

    https://www.techradar.com/pro/asustor-makes-veiled-dig-at-synologys-proprietary-hard-drive-philosophy-with-open-and-unlocked-stance
    Asustor ได้ประกาศจุดยืนที่ชัดเจนในการ ต่อต้านการล็อกฮาร์ดแวร์โดยผู้ผลิต NAS โดยเน้นให้ผู้ใช้สามารถ เลือกฮาร์ดไดรฟ์และระบบปฏิบัติการได้อย่างอิสระ ซึ่งเป็นการตอบโต้แนวทางของแบรนด์อื่น ๆ เช่น Synology ที่มีข้อจำกัดด้านความเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์ Asustor ระบุว่า "เราไม่เชื่อในการปฏิบัติต่อผู้ใช้เหมือนเด็ก" และให้ความสำคัญกับ ความสามารถในการเลือกฮาร์ดแวร์ของผู้ใช้ โดยไม่บังคับให้ใช้ไดรฟ์ที่มีเฟิร์มแวร์เฉพาะของบริษัท นอกจากนี้ยังมีข้อดีด้าน สิ่งแวดล้อม เนื่องจากอุปกรณ์ที่ไม่มีข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ สามารถใช้งานได้นานขึ้นและลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ✅ Asustor ไม่บังคับให้ใช้ฮาร์ดไดรฟ์ที่มีเฟิร์มแวร์เฉพาะ - ผู้ใช้สามารถ เลือกฮาร์ดไดรฟ์และระบบปฏิบัติการได้อย่างอิสระ - ลดข้อจำกัดที่อาจทำให้อุปกรณ์ ล้าสมัยเร็วขึ้น ✅ ข้อดีด้านสิ่งแวดล้อม - อุปกรณ์ที่ไม่มีข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ สามารถใช้งานได้นานขึ้น - ลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เกิดจาก การเลิกผลิตไดรฟ์เฉพาะของแบรนด์ ✅ รองรับไดรฟ์ความจุสูงโดยไม่มีข้อจำกัดด้านเฟิร์มแวร์ - สามารถใช้ ไดรฟ์ขนาด 36TB และสร้าง NAS ขนาด 360TB ได้ - ไม่มีข้อจำกัดด้าน การอัปเกรดฮาร์ดแวร์ ✅ ผู้ใช้สามารถติดตั้งระบบปฏิบัติการอื่นได้ แม้หลังจากหมดการสนับสนุน - Asustor ไม่ได้ให้การสนับสนุนโดยตรง แต่เคารพสิทธิ์ของผู้ใช้ในการเลือก https://www.techradar.com/pro/asustor-makes-veiled-dig-at-synologys-proprietary-hard-drive-philosophy-with-open-and-unlocked-stance
    WWW.TECHRADAR.COM
    This NAS brand just called out the competition and says you should own your hardware, not rent it
    Run your OS, pick your drives - Asustor gives power back to the user, not the vendor
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • Raspberry Pi ได้ปรับปรุงกระบวนการผลิตโดยใช้ เทคนิคการบัดกรีแบบ Intrusive Reflow Soldering ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    เทคนิคใหม่นี้ถูกนำมาใช้ครั้งแรกกับ Raspberry Pi 5 และกำลังถูกนำไปใช้กับรุ่นก่อนหน้า โดยช่วยลด ขั้นตอนที่สิ้นเปลืองในกระบวนการผลิต ทำให้สามารถใช้เครื่องจักรเดียวกันในการติดตั้ง ตัวเชื่อมต่อแบบ Through-hole และชิ้นส่วน SMT

    ผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงนี้คือ อัตราการคืนสินค้าลดลง 50% ความเร็วในการผลิตเพิ่มขึ้น 15% และลดการปล่อย CO₂ ลง 43 ตันต่อปี ซึ่งช่วยให้ Raspberry Pi สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    การใช้เทคนิค Intrusive Reflow Soldering
    - ช่วยให้สามารถใช้เครื่องจักรเดียวกันในการติดตั้ง ตัวเชื่อมต่อแบบ Through-hole และชิ้นส่วน SMT
    - ลดขั้นตอนที่สิ้นเปลืองในกระบวนการผลิต

    ผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลง
    - อัตราการคืนสินค้าลดลง 50%
    - ความเร็วในการผลิตเพิ่มขึ้น 15%
    - ลดการปล่อย CO₂ ลง 43 ตันต่อปี

    การนำเทคนิคนี้ไปใช้กับรุ่นก่อนหน้า
    - เริ่มต้นจาก Raspberry Pi 5 และกำลังถูกนำไปใช้กับรุ่นก่อนหน้า

    ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
    - ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
    - ช่วยให้ Raspberry Pi ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.techspot.com/news/107777-raspberry-pi-improved-manufacturing-sustainability-thanks-new-soldering.html
    Raspberry Pi ได้ปรับปรุงกระบวนการผลิตโดยใช้ เทคนิคการบัดกรีแบบ Intrusive Reflow Soldering ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เทคนิคใหม่นี้ถูกนำมาใช้ครั้งแรกกับ Raspberry Pi 5 และกำลังถูกนำไปใช้กับรุ่นก่อนหน้า โดยช่วยลด ขั้นตอนที่สิ้นเปลืองในกระบวนการผลิต ทำให้สามารถใช้เครื่องจักรเดียวกันในการติดตั้ง ตัวเชื่อมต่อแบบ Through-hole และชิ้นส่วน SMT ผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงนี้คือ อัตราการคืนสินค้าลดลง 50% ความเร็วในการผลิตเพิ่มขึ้น 15% และลดการปล่อย CO₂ ลง 43 ตันต่อปี ซึ่งช่วยให้ Raspberry Pi สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ การใช้เทคนิค Intrusive Reflow Soldering - ช่วยให้สามารถใช้เครื่องจักรเดียวกันในการติดตั้ง ตัวเชื่อมต่อแบบ Through-hole และชิ้นส่วน SMT - ลดขั้นตอนที่สิ้นเปลืองในกระบวนการผลิต ✅ ผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลง - อัตราการคืนสินค้าลดลง 50% - ความเร็วในการผลิตเพิ่มขึ้น 15% - ลดการปล่อย CO₂ ลง 43 ตันต่อปี ✅ การนำเทคนิคนี้ไปใช้กับรุ่นก่อนหน้า - เริ่มต้นจาก Raspberry Pi 5 และกำลังถูกนำไปใช้กับรุ่นก่อนหน้า ✅ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน - ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม - ช่วยให้ Raspberry Pi ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.techspot.com/news/107777-raspberry-pi-improved-manufacturing-sustainability-thanks-new-soldering.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Raspberry Pi says it's improved manufacturing and sustainability thanks to a new soldering solution
    Raspberry Pi Hardware Engineer Roger Thornton explained the change in a recent blog post. Working with its manufacturing partner Sony, the UK organization gradually implemented a soldering...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • Western Digital และ Microsoft ได้ร่วมมือกันเปิดตัวโครงการ Advanced Recycling and Rare Earth Material Capture Program ซึ่งเป็นโครงการรีไซเคิลฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ขนาดใหญ่ โดยมีเป้าหมายเพื่อกู้คืนแร่หายากจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ โครงการนี้ช่วยลดการสูญเสียวัสดุสำคัญที่มักถูกทำลายเมื่อ HDD จากศูนย์ข้อมูลหมดอายุการใช้งาน

    โครงการนี้สามารถกู้คืนแร่หายากได้ถึง 90%
    - ใช้เทคโนโลยีรีไซเคิลแบบ acid-free dissolution ซึ่งช่วยสกัดแร่หายาก เช่น dysprosium, neodymium และ praseodymium
    - ลดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายและช่วยรักษาคุณภาพของวัสดุ

    Microsoft เป็นผู้จัดหา HDD ที่หมดอายุการใช้งานจากศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ
    - HDD ที่หมดอายุจะถูกส่งไปยัง PedalPoint Recycling เพื่อแยกวัสดุ
    - แม่เหล็กและเหล็กที่สกัดได้จะถูกส่งไปยัง Critical Materials Recycling เพื่อรีไซเคิล

    โครงการนี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 95%
    - เมื่อเทียบกับการทำเหมืองแร่แบบดั้งเดิม การรีไซเคิลช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีนัยสำคัญ
    - ลดการพึ่งพาการนำเข้าแร่หายากจากจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตหลักของโลก

    โครงการนำร่องสามารถรีไซเคิล HDD ได้กว่า 47,000 ปอนด์
    - รวมถึง SSD และอุปกรณ์ติดตั้ง HDD ที่ถูกนำออกจากศูนย์ข้อมูล

    https://www.techspot.com/news/107615-western-digital-microsoft-launch-hdd-recycling-program-recover.html
    Western Digital และ Microsoft ได้ร่วมมือกันเปิดตัวโครงการ Advanced Recycling and Rare Earth Material Capture Program ซึ่งเป็นโครงการรีไซเคิลฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ขนาดใหญ่ โดยมีเป้าหมายเพื่อกู้คืนแร่หายากจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ โครงการนี้ช่วยลดการสูญเสียวัสดุสำคัญที่มักถูกทำลายเมื่อ HDD จากศูนย์ข้อมูลหมดอายุการใช้งาน ✅ โครงการนี้สามารถกู้คืนแร่หายากได้ถึง 90% - ใช้เทคโนโลยีรีไซเคิลแบบ acid-free dissolution ซึ่งช่วยสกัดแร่หายาก เช่น dysprosium, neodymium และ praseodymium - ลดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายและช่วยรักษาคุณภาพของวัสดุ ✅ Microsoft เป็นผู้จัดหา HDD ที่หมดอายุการใช้งานจากศูนย์ข้อมูลในสหรัฐฯ - HDD ที่หมดอายุจะถูกส่งไปยัง PedalPoint Recycling เพื่อแยกวัสดุ - แม่เหล็กและเหล็กที่สกัดได้จะถูกส่งไปยัง Critical Materials Recycling เพื่อรีไซเคิล ✅ โครงการนี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 95% - เมื่อเทียบกับการทำเหมืองแร่แบบดั้งเดิม การรีไซเคิลช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างมีนัยสำคัญ - ลดการพึ่งพาการนำเข้าแร่หายากจากจีน ซึ่งเป็นผู้ผลิตหลักของโลก ✅ โครงการนำร่องสามารถรีไซเคิล HDD ได้กว่า 47,000 ปอนด์ - รวมถึง SSD และอุปกรณ์ติดตั้ง HDD ที่ถูกนำออกจากศูนย์ข้อมูล https://www.techspot.com/news/107615-western-digital-microsoft-launch-hdd-recycling-program-recover.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Western Digital and Microsoft launch HDD recycling program to recover rare earths from e-waste
    Although solid-state drives have become the standard for personal computers, mechanical hard drives remain the backbone of data centers worldwide. When these drives are retired, they are...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 424 มุมมอง 0 รีวิว
  • Western Digital (WD) ได้เปิดตัว โครงการรีไซเคิลฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ที่สามารถ ดึงแร่ธาตุหายาก (Rare Earth Elements - REE) กลับมาใช้ใหม่ได้ โดยโครงการนี้ร่วมมือกับ Microsoft และพันธมิตรในอุตสาหกรรมรีไซเคิล เช่น CMR และ PedalPoint Recycling ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 95%

    โครงการนี้ช่วยดึงแร่ธาตุหายากกลับมาใช้ใหม่
    - WD สามารถดึง REE เช่น dysprosium, neodymium และ praseodymium จาก HDD
    - นอกจากนี้ยังดึงวัสดุอื่นๆ เช่น อลูมิเนียม, เหล็ก, ทองคำ, พัลลาเดียม และทองแดง

    กระบวนการรีไซเคิลใช้เทคโนโลยี ADR ของ CMR
    - ใช้สารละลายเกลือทองแดงเพื่อดึง REE ที่มีความบริสุทธิ์ถึง 99.5%
    - กระบวนการนี้หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย

    โครงการนี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 95%
    - เมื่อเทียบกับการทำเหมืองแร่ใหม่ กระบวนการรีไซเคิลนี้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า

    WD วางแผนขยายโครงการไปยังลูกค้ารายใหญ่เพิ่มเติม
    - โครงการนี้เริ่มต้นในปี 2023 และกำลังขยายไปยังลูกค้ารายใหญ่ในอุตสาหกรรม hyperscale

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรีไซเคิล
    - หากโครงการนี้ประสบความสำเร็จ อาจช่วยลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ในระดับโลก

    ความท้าทายในการขยายโครงการ
    - WD ต้องเผชิญกับความท้าทายในการ เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนของกระบวนการรีไซเคิล

    แนวโน้มของการพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลในอนาคต
    - หากโครงการนี้ได้รับการสนับสนุน อาจมีการพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลที่ล้ำหน้ากว่าในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/wd-launches-hdd-recycling-process-that-reclaims-rare-earth-elements-cuts-out-china
    Western Digital (WD) ได้เปิดตัว โครงการรีไซเคิลฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) ที่สามารถ ดึงแร่ธาตุหายาก (Rare Earth Elements - REE) กลับมาใช้ใหม่ได้ โดยโครงการนี้ร่วมมือกับ Microsoft และพันธมิตรในอุตสาหกรรมรีไซเคิล เช่น CMR และ PedalPoint Recycling ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 95% ✅ โครงการนี้ช่วยดึงแร่ธาตุหายากกลับมาใช้ใหม่ - WD สามารถดึง REE เช่น dysprosium, neodymium และ praseodymium จาก HDD - นอกจากนี้ยังดึงวัสดุอื่นๆ เช่น อลูมิเนียม, เหล็ก, ทองคำ, พัลลาเดียม และทองแดง ✅ กระบวนการรีไซเคิลใช้เทคโนโลยี ADR ของ CMR - ใช้สารละลายเกลือทองแดงเพื่อดึง REE ที่มีความบริสุทธิ์ถึง 99.5% - กระบวนการนี้หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย ✅ โครงการนี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 95% - เมื่อเทียบกับการทำเหมืองแร่ใหม่ กระบวนการรีไซเคิลนี้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า ✅ WD วางแผนขยายโครงการไปยังลูกค้ารายใหญ่เพิ่มเติม - โครงการนี้เริ่มต้นในปี 2023 และกำลังขยายไปยังลูกค้ารายใหญ่ในอุตสาหกรรม hyperscale ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรีไซเคิล - หากโครงการนี้ประสบความสำเร็จ อาจช่วยลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ในระดับโลก ℹ️ ความท้าทายในการขยายโครงการ - WD ต้องเผชิญกับความท้าทายในการ เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนของกระบวนการรีไซเคิล ℹ️ แนวโน้มของการพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลในอนาคต - หากโครงการนี้ได้รับการสนับสนุน อาจมีการพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลที่ล้ำหน้ากว่าในอนาคต https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/wd-launches-hdd-recycling-process-that-reclaims-rare-earth-elements-cuts-out-china
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    This HDD recycling process could make U.S. less dependent on China.
    WD has found a way to recapture rare earth elements from old hard drives.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 356 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงปัญหาและตัวเลือกสำคัญเกี่ยวกับอนาคตของคอมพิวเตอร์ที่ไม่สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้ เมื่อ Microsoft เตรียมจะหยุดการสนับสนุนอัปเดตความปลอดภัยสำหรับ Windows 10 ในเดือนตุลาคมนี้ นั่นหมายความว่ามีคอมพิวเตอร์ราว 240 ล้านเครื่อง ที่อาจต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบาก

    ปัญหาหลักคืออะไร? Windows 11 มีข้อกำหนดฮาร์ดแวร์ที่สูง เช่น ซีพียูต้องเป็น Intel 8th Gen หรือ Ryzen 2000 ขึ้นไป ทำให้คอมพิวเตอร์หลายรุ่นที่ยังใช้งานได้ดี ไม่สามารถอัปเกรดได้ หลายองค์กรการกุศลที่มีหน้าที่จัดหาคอมพิวเตอร์ให้ผู้ขาดแคลนจึงต้องเผชิญกับคำถามสำคัญว่า ควรแจกจ่ายคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง Windows 10 ต่อไป, เปลี่ยนไปใช้ระบบปฏิบัติการ Linux, หรือส่งเครื่องที่ไม่ผ่านมาตรฐานไปรีไซเคิล

    ตัวเลือกที่เป็นไปได้:
    1) ติดตั้ง Linux แทน Windows 10: Linux เช่น Mint รุ่นใหม่ได้รับการสนับสนุนจนถึงปี 2029 และมีความปลอดภัยสูง แต่มีปัญหาในเรื่องความคุ้นเคยของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะผู้สูงอายุและนักเรียนที่คุ้นกับ Windows
    2) ใช้ Windows 10 ต่อไป: แม้จะใช้งานง่าย แต่ Windows 10 จะกลายเป็นระบบที่ไม่ปลอดภัยเพราะไม่มีการอัปเดตความปลอดภัย
    3) รีไซเคิลเครื่องเก่า: อาจช่วยลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้ แต่ปัจจุบันในสหรัฐฯ มีเพียง 14-40% ของขยะ e-waste ที่ได้รับการรีไซเคิล

    องค์กรอย่าง PCs for People ได้ตัดสินใจเลิกใช้ Windows 10 ล่วงหน้าหนึ่งปีโดยหันมาแจกจ่ายเครื่องที่ติดตั้ง Linux ให้กับผู้ที่ต้องการแทน และเน้นให้คอมพิวเตอร์ที่ยังรองรับ Windows 11 ได้รับการใช้งานต่อ ขณะเดียวกัน การใช้ระบบ Linux อย่างกว้างขวางในองค์กรการกุศลสะท้อนให้เห็นว่าหลายคนเริ่มยอมรับ OS ทางเลือกนี้มากขึ้นในฐานะ “หน้าต่างสู่โลกอินเทอร์เน็ต”

    คุณคิดว่าการเลือกใช้ Linux หรือการรีไซเคิลเครื่องจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตของเครื่องเก่าเหล่านี้ หรือองค์กรควรรอให้ Microsoft ปรับเปลี่ยนแนวทางเพื่อสนับสนุนอุปกรณ์รุ่นเก่ามากขึ้น?

    https://www.tomshardware.com/software/operating-systems/linux-or-landfill-end-of-windows-10-leaves-pc-charities-with-tough-choice
    ข่าวนี้พูดถึงปัญหาและตัวเลือกสำคัญเกี่ยวกับอนาคตของคอมพิวเตอร์ที่ไม่สามารถอัปเกรดเป็น Windows 11 ได้ เมื่อ Microsoft เตรียมจะหยุดการสนับสนุนอัปเดตความปลอดภัยสำหรับ Windows 10 ในเดือนตุลาคมนี้ นั่นหมายความว่ามีคอมพิวเตอร์ราว 240 ล้านเครื่อง ที่อาจต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบาก ปัญหาหลักคืออะไร? Windows 11 มีข้อกำหนดฮาร์ดแวร์ที่สูง เช่น ซีพียูต้องเป็น Intel 8th Gen หรือ Ryzen 2000 ขึ้นไป ทำให้คอมพิวเตอร์หลายรุ่นที่ยังใช้งานได้ดี ไม่สามารถอัปเกรดได้ หลายองค์กรการกุศลที่มีหน้าที่จัดหาคอมพิวเตอร์ให้ผู้ขาดแคลนจึงต้องเผชิญกับคำถามสำคัญว่า ควรแจกจ่ายคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง Windows 10 ต่อไป, เปลี่ยนไปใช้ระบบปฏิบัติการ Linux, หรือส่งเครื่องที่ไม่ผ่านมาตรฐานไปรีไซเคิล ตัวเลือกที่เป็นไปได้: 1) ติดตั้ง Linux แทน Windows 10: Linux เช่น Mint รุ่นใหม่ได้รับการสนับสนุนจนถึงปี 2029 และมีความปลอดภัยสูง แต่มีปัญหาในเรื่องความคุ้นเคยของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะผู้สูงอายุและนักเรียนที่คุ้นกับ Windows 2) ใช้ Windows 10 ต่อไป: แม้จะใช้งานง่าย แต่ Windows 10 จะกลายเป็นระบบที่ไม่ปลอดภัยเพราะไม่มีการอัปเดตความปลอดภัย 3) รีไซเคิลเครื่องเก่า: อาจช่วยลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้ แต่ปัจจุบันในสหรัฐฯ มีเพียง 14-40% ของขยะ e-waste ที่ได้รับการรีไซเคิล องค์กรอย่าง PCs for People ได้ตัดสินใจเลิกใช้ Windows 10 ล่วงหน้าหนึ่งปีโดยหันมาแจกจ่ายเครื่องที่ติดตั้ง Linux ให้กับผู้ที่ต้องการแทน และเน้นให้คอมพิวเตอร์ที่ยังรองรับ Windows 11 ได้รับการใช้งานต่อ ขณะเดียวกัน การใช้ระบบ Linux อย่างกว้างขวางในองค์กรการกุศลสะท้อนให้เห็นว่าหลายคนเริ่มยอมรับ OS ทางเลือกนี้มากขึ้นในฐานะ “หน้าต่างสู่โลกอินเทอร์เน็ต” คุณคิดว่าการเลือกใช้ Linux หรือการรีไซเคิลเครื่องจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับอนาคตของเครื่องเก่าเหล่านี้ หรือองค์กรควรรอให้ Microsoft ปรับเปลี่ยนแนวทางเพื่อสนับสนุนอุปกรณ์รุ่นเก่ามากขึ้น? https://www.tomshardware.com/software/operating-systems/linux-or-landfill-end-of-windows-10-leaves-pc-charities-with-tough-choice
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Microsoft delivers gut punch to PC charities with end of Windows 10
    Many donateable PCs can’t run Windows 11. Should non-profits still be giving them away? Should they install Linux instead?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 349 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหมาะกับผู้สูงวัยอย่างมากครับ ลุงชอบ

    Google และ Qualcomm ได้ประกาศความร่วมมือในการปรับปรุงการสนับสนุนอุปกรณ์ Android อย่างมีนัยสำคัญ โดยเสนอการอัปเดตซอฟต์แวร์และความปลอดภัยนานถึง แปดปี สำหรับอุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์ ข่าวดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการยืดอายุการใช้งานของสมาร์ทโฟน!

    แผนการสนับสนุนใหม่นี้จะครอบคลุมโทรศัพท์ที่ใช้แพลตฟอร์ม Snapdragon 8 Elite ซึ่งเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2024 และใช้ในผลิตภัณฑ์ล่าสุดเช่น OnePlus 13 และ Samsung Galaxy S25 ซึ่ง Android 15 จะเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นแรกที่ได้รับการสนับสนุนระยะยาวนี้ โดยในปีนี้อุปกรณ์ที่ใช้ชิป Snapdragon 8 และ 7-series จะเข้าร่วมแผนนี้ด้วย

    อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่าแผนการสนับสนุนนี้ไม่ได้ครอบคลุมอุปกรณ์รุ่นเก่า และผู้ผลิตยังสามารถตัดสินใจว่าจะนำแผนการสนับสนุนนี้ไปใช้หรือไม่ แม้จะมีการรับประกันการเข้าถึงการอัปเดต Android รุ่นใหม่ แต่การตัดสินใจสุดท้ายยังขึ้นอยู่กับผู้ผลิต OEM

    ประโยชน์จากแผนนี้คืออะไร?

    การมีการอัปเดตซอฟต์แวร์และความปลอดภัยนานขึ้น จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานอุปกรณ์ได้ยาวนานขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ยังช่วยลดการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์และเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม

    อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัด เช่น อุปกรณ์ราคาประหยัดที่ใช้ชิปของ Qualcomm อาจไม่ได้รับการอัปเดตเพิ่มเติม

    การขยายเวลาการสนับสนุนนี้ยังเป็นไปตามแนวคิดหลักในด้านความปลอดภัยที่สำคัญในสหรัฐฯ และยุโรป และสามารถปรับปรุงทั้งความปลอดภัยของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ แต่ความสำเร็จขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมของผู้ผลิตในการนำแผนการสนับสนุนไปใช้

    https://www.techspot.com/news/106931-google-qualcomm-offering-up-eight-years-updates-newer.html
    เหมาะกับผู้สูงวัยอย่างมากครับ ลุงชอบ Google และ Qualcomm ได้ประกาศความร่วมมือในการปรับปรุงการสนับสนุนอุปกรณ์ Android อย่างมีนัยสำคัญ โดยเสนอการอัปเดตซอฟต์แวร์และความปลอดภัยนานถึง แปดปี สำหรับอุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์ ข่าวดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการยืดอายุการใช้งานของสมาร์ทโฟน! แผนการสนับสนุนใหม่นี้จะครอบคลุมโทรศัพท์ที่ใช้แพลตฟอร์ม Snapdragon 8 Elite ซึ่งเปิดตัวในเดือนตุลาคม 2024 และใช้ในผลิตภัณฑ์ล่าสุดเช่น OnePlus 13 และ Samsung Galaxy S25 ซึ่ง Android 15 จะเป็นระบบปฏิบัติการรุ่นแรกที่ได้รับการสนับสนุนระยะยาวนี้ โดยในปีนี้อุปกรณ์ที่ใช้ชิป Snapdragon 8 และ 7-series จะเข้าร่วมแผนนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ควรทราบว่าแผนการสนับสนุนนี้ไม่ได้ครอบคลุมอุปกรณ์รุ่นเก่า และผู้ผลิตยังสามารถตัดสินใจว่าจะนำแผนการสนับสนุนนี้ไปใช้หรือไม่ แม้จะมีการรับประกันการเข้าถึงการอัปเดต Android รุ่นใหม่ แต่การตัดสินใจสุดท้ายยังขึ้นอยู่กับผู้ผลิต OEM ประโยชน์จากแผนนี้คืออะไร? การมีการอัปเดตซอฟต์แวร์และความปลอดภัยนานขึ้น จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานอุปกรณ์ได้ยาวนานขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านความปลอดภัย นอกจากนี้ยังช่วยลดการทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์และเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัด เช่น อุปกรณ์ราคาประหยัดที่ใช้ชิปของ Qualcomm อาจไม่ได้รับการอัปเดตเพิ่มเติม การขยายเวลาการสนับสนุนนี้ยังเป็นไปตามแนวคิดหลักในด้านความปลอดภัยที่สำคัญในสหรัฐฯ และยุโรป และสามารถปรับปรุงทั้งความปลอดภัยของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ แต่ความสำเร็จขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมของผู้ผลิตในการนำแผนการสนับสนุนไปใช้ https://www.techspot.com/news/106931-google-qualcomm-offering-up-eight-years-updates-newer.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google and Qualcomm offering up to eight years of updates on newer Android devices
    Qualcomm and Google have announced a partnership to significantly improve official Android support, offering "up to" eight years of software and security updates for eligible devices. Needless...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 548 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความสมดุลระหว่างเทคโนโลยีกับสิ่งมีชีวิตบนโลกเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของมนุษย์ สิ่งมีชีวิตบนโลก รวมทั้งมนุษย์ พึ่งพาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการดำรงชีวิต ในขณะที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิต แต่ก็อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศได้หากไม่มีการจัดการที่เหมาะสม

    ### ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความสมดุลนี้ ได้แก่:
    1. **การใช้นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม**
    - เทคโนโลยีสามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การพัฒนาพลังงานสะอาด (พลังงานแสงอาทิตย์ ลม) การใช้ยานพาหนะไฟฟ้า และการรีไซเคิลขยะ
    - เทคโนโลยีช่วยในการตรวจสอบและจัดการสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้ดาวเทียมเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

    2. **ผลกระทบเชิงลบของเทคโนโลยี**
    - การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมากเพื่อผลิตเทคโนโลยี เช่น การขุดแร่หายากสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
    - มลพิษจากกระบวนการผลิตและขยะอิเล็กทรอนิกส์
    - การรบกวนระบบนิเวศจากการขยายตัวของเมืองและอุตสาหกรรม

    3. **การปรับตัวของสิ่งมีชีวิต**
    - สิ่งมีชีวิตหลายชนิดต้องปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่เกิดจากเทคโนโลยี เช่น มลพิษทางอากาศและน้ำ
    - การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพเนื่องจากที่อยู่อาศัยถูกทำลาย

    4. **บทบาทของมนุษย์ในการสร้างสมดุล**
    - มนุษย์ต้องรับผิดชอบในการใช้เทคโนโลยีอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
    - การส่งเสริมการบริโภคอย่างยั่งยืนและการลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น
    - การสนับสนุนนโยบายและกฎหมายที่ส่งเสริมการปกป้องสิ่งแวดล้อม

    ### สรุป:
    ความสมดุลระหว่างเทคโนโลยีกับสิ่งมีชีวิตบนโลกเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยการจัดการอย่างรอบคอบ มนุษย์ในฐานะผู้ใช้เทคโนโลยีต้องตระหนักถึงผลกระทบและพยายามลดการทำลายสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ทั้งเทคโนโลยีและสิ่งมีชีวิตสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน
    ความสมดุลระหว่างเทคโนโลยีกับสิ่งมีชีวิตบนโลกเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของมนุษย์ สิ่งมีชีวิตบนโลก รวมทั้งมนุษย์ พึ่งพาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติเพื่อการดำรงชีวิต ในขณะที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิต แต่ก็อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศได้หากไม่มีการจัดการที่เหมาะสม ### ประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความสมดุลนี้ ได้แก่: 1. **การใช้นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม** - เทคโนโลยีสามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การพัฒนาพลังงานสะอาด (พลังงานแสงอาทิตย์ ลม) การใช้ยานพาหนะไฟฟ้า และการรีไซเคิลขยะ - เทคโนโลยีช่วยในการตรวจสอบและจัดการสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้ดาวเทียมเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 2. **ผลกระทบเชิงลบของเทคโนโลยี** - การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมากเพื่อผลิตเทคโนโลยี เช่น การขุดแร่หายากสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ - มลพิษจากกระบวนการผลิตและขยะอิเล็กทรอนิกส์ - การรบกวนระบบนิเวศจากการขยายตัวของเมืองและอุตสาหกรรม 3. **การปรับตัวของสิ่งมีชีวิต** - สิ่งมีชีวิตหลายชนิดต้องปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่เกิดจากเทคโนโลยี เช่น มลพิษทางอากาศและน้ำ - การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพเนื่องจากที่อยู่อาศัยถูกทำลาย 4. **บทบาทของมนุษย์ในการสร้างสมดุล** - มนุษย์ต้องรับผิดชอบในการใช้เทคโนโลยีอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม - การส่งเสริมการบริโภคอย่างยั่งยืนและการลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น - การสนับสนุนนโยบายและกฎหมายที่ส่งเสริมการปกป้องสิ่งแวดล้อม ### สรุป: ความสมดุลระหว่างเทคโนโลยีกับสิ่งมีชีวิตบนโลกเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยการจัดการอย่างรอบคอบ มนุษย์ในฐานะผู้ใช้เทคโนโลยีต้องตระหนักถึงผลกระทบและพยายามลดการทำลายสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ทั้งเทคโนโลยีและสิ่งมีชีวิตสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 558 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sabri Cheriha วิศวกรชาวตูนีเซียที่ก้าวมาเป็นนักสังคมสงเคราะห์ โดยเขาได้ก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพที่ชื่อว่า Wefix ในชานเมืองของเมืองตูนิส เพื่อจัดการกับปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศตูนีเซีย

    ในตูนีเซียมีอุปกรณ์ไฟฟ้าในครัวเรือนประมาณแปดล้านชิ้นและโทรศัพท์มือถือเก้าล้านเครื่องที่ใช้งานอยู่ แต่เมื่ออุปกรณ์เหล่านี้เสียหายหรือถูกทดแทน ไม่มีการบริการใด ๆ ที่จะจัดการกับขยะเหล่านี้อย่างถูกต้อง

    จุดที่น่าสนใจคือการแก้ปัญหานี้เป็นเรื่องที่ท้าทายและจำเป็น เนื่องจากขยะอิเล็กทรอนิกส์มักมีสารอันตรายที่สามารถทำลายสิ่งแวดล้อมได้ถ้าไม่จัดการอย่างถูกวิธี นอกจากนี้การนำขยะอิเล็กทรอนิกส์มารีไซเคิลยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย

    โครงการแบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่ยังสร้างงานให้กับชุมชนและส่งเสริมให้คนรู้จักการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนค่ะ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/17/tunisian-startup-takes-on-ewaste-challenge
    Sabri Cheriha วิศวกรชาวตูนีเซียที่ก้าวมาเป็นนักสังคมสงเคราะห์ โดยเขาได้ก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพที่ชื่อว่า Wefix ในชานเมืองของเมืองตูนิส เพื่อจัดการกับปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศตูนีเซีย ในตูนีเซียมีอุปกรณ์ไฟฟ้าในครัวเรือนประมาณแปดล้านชิ้นและโทรศัพท์มือถือเก้าล้านเครื่องที่ใช้งานอยู่ แต่เมื่ออุปกรณ์เหล่านี้เสียหายหรือถูกทดแทน ไม่มีการบริการใด ๆ ที่จะจัดการกับขยะเหล่านี้อย่างถูกต้อง จุดที่น่าสนใจคือการแก้ปัญหานี้เป็นเรื่องที่ท้าทายและจำเป็น เนื่องจากขยะอิเล็กทรอนิกส์มักมีสารอันตรายที่สามารถทำลายสิ่งแวดล้อมได้ถ้าไม่จัดการอย่างถูกวิธี นอกจากนี้การนำขยะอิเล็กทรอนิกส์มารีไซเคิลยังช่วยลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย โครงการแบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ แต่ยังสร้างงานให้กับชุมชนและส่งเสริมให้คนรู้จักการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นับว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนค่ะ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/17/tunisian-startup-takes-on-ewaste-challenge
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Tunisian startup takes on ewaste challenge
    Engineer turned social entrepreneur Sabri Cheriha hunches over a washing machine at a small depot in a suburb of Tunisia's capital, the unassuming home of a startup he launched to tackle the country's mounting electronic waste problem.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 408 มุมมอง 0 รีวิว
  • Deutsche Telekom ได้เปิดตัวโปรเจคใหม่ที่น่าทึ่ง ชื่อว่า "NeoCircuit Router" โปรเจคนี้เป็นความพยายามในการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยนำชิ้นส่วนจากสมาร์ทโฟนเก่ามาประกอบกันเป็นเราเตอร์ใหม่ ตัวเราเตอร์นี้ใช้โปรเซสเซอร์ ชิปหน่วยความจำ และการเชื่อมต่อทางกายภาพจากสมาร์ทโฟนเก่า ซึ่งมีอัตราการนำกลับมาใช้ใหม่สูงถึง 70%

    Dr. Henning Never ผู้จัดการโปรเจคของ Deutsche Telekom เชื่อว่า NeoCircuit Router นี้จะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ Bertrand Pascual จาก Sagemcom ยังเสริมว่าการนำโปรเซสเซอร์จากสมาร์ทโฟนมาใช้ในอุปกรณ์อื่น ๆ นั้นเป็นการประหยัดทรัพยากรและทำให้มีความคุ้มค่าทางการเงิน

    การเปิดตัวของ NeoCircuit Router จะมีขึ้นในงาน Mobile World Congress 2025 ที่บาร์เซโลน่าในวันที่ 3 มีนาคม หากโปรเจคนี้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างน้อย 20% เมื่อเทียบกับการผลิตชิ้นส่วนใหม่ทั้งหมด และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญในการส่งเสริมการนำทรัพยากรมาใช้ใหม่ในวงการอิเล็กทรอนิกส์

    https://www.techradar.com/pro/europes-largest-telco-wants-to-slash-the-cost-of-your-router-by-reusing-your-old-smartphone-and-i-think-it-is-genius
    Deutsche Telekom ได้เปิดตัวโปรเจคใหม่ที่น่าทึ่ง ชื่อว่า "NeoCircuit Router" โปรเจคนี้เป็นความพยายามในการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยนำชิ้นส่วนจากสมาร์ทโฟนเก่ามาประกอบกันเป็นเราเตอร์ใหม่ ตัวเราเตอร์นี้ใช้โปรเซสเซอร์ ชิปหน่วยความจำ และการเชื่อมต่อทางกายภาพจากสมาร์ทโฟนเก่า ซึ่งมีอัตราการนำกลับมาใช้ใหม่สูงถึง 70% Dr. Henning Never ผู้จัดการโปรเจคของ Deutsche Telekom เชื่อว่า NeoCircuit Router นี้จะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ Bertrand Pascual จาก Sagemcom ยังเสริมว่าการนำโปรเซสเซอร์จากสมาร์ทโฟนมาใช้ในอุปกรณ์อื่น ๆ นั้นเป็นการประหยัดทรัพยากรและทำให้มีความคุ้มค่าทางการเงิน การเปิดตัวของ NeoCircuit Router จะมีขึ้นในงาน Mobile World Congress 2025 ที่บาร์เซโลน่าในวันที่ 3 มีนาคม หากโปรเจคนี้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อย่างน้อย 20% เมื่อเทียบกับการผลิตชิ้นส่วนใหม่ทั้งหมด และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญในการส่งเสริมการนำทรัพยากรมาใช้ใหม่ในวงการอิเล็กทรอนิกส์ https://www.techradar.com/pro/europes-largest-telco-wants-to-slash-the-cost-of-your-router-by-reusing-your-old-smartphone-and-i-think-it-is-genius
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 506 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel กำลังเสนอแนวคิดใหม่เกี่ยวกับมาตรฐานโมดูลาร์สำหรับแล็ปท็อปและมินิพีซี เพื่อปรับปรุงความสามารถในการซ่อมแซมและลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ แนวคิดนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถอัปเกรดและเปลี่ยนส่วนประกอบต่าง ๆ ของแล็ปท็อปได้โดยไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ทั้งหมด เช่น การอัปเกรดเมนบอร์ดและพอร์ตต่าง ๆ

    Intel เชื่อว่าการนำมาตรฐานโมดูลาร์มาใช้จะช่วยลดต้นทุนและขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิในการซ่อมแซม ซึ่งเป็นการต่อต้านความพยายามของผู้ผลิตในการปิดกั้นการซ่อมแซมและบำรุงรักษาโดยผู้ใช้หรือผู้ขายฮาร์ดแวร์บุคคลที่สาม

    https://www.techspot.com/news/106495-intel-proposes-new-modular-standards-laptops-mini-pcs.html
    Intel กำลังเสนอแนวคิดใหม่เกี่ยวกับมาตรฐานโมดูลาร์สำหรับแล็ปท็อปและมินิพีซี เพื่อปรับปรุงความสามารถในการซ่อมแซมและลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ แนวคิดนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถอัปเกรดและเปลี่ยนส่วนประกอบต่าง ๆ ของแล็ปท็อปได้โดยไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ทั้งหมด เช่น การอัปเกรดเมนบอร์ดและพอร์ตต่าง ๆ Intel เชื่อว่าการนำมาตรฐานโมดูลาร์มาใช้จะช่วยลดต้นทุนและขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิในการซ่อมแซม ซึ่งเป็นการต่อต้านความพยายามของผู้ผลิตในการปิดกั้นการซ่อมแซมและบำรุงรักษาโดยผู้ใช้หรือผู้ขายฮาร์ดแวร์บุคคลที่สาม https://www.techspot.com/news/106495-intel-proposes-new-modular-standards-laptops-mini-pcs.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Intel proposes new modular standards for laptops and mini PCs to improve repairability
    Intel recently outlined its ideas for allowing users to upgrade and replace individual laptop components. If widely adopted, the new standards could reduce costs and e-waste.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทยเป็นปลายทางขยะโลก!? (ตอน 2: ข้อมูลชี้...การนำเข้าขยะพุ่งและมีมากมายหลายชนิด)
    .
    จากกรณีพบขยะเทศบาลในตู้คอนเทนเนอร์สินค้าที่บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นผู้นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยที่มีการสำแดงว่าเป็นเศษกระดาษ เรื่องดังกล่าว กรมศุลกากรไม่ได้เปิดเผยสู่สาธารณะ แต่ด้วยข้อมูลที่เล็ดลอดออกมา ทำให้มีสื่อมวลชนบางสำนักหยิบมานำเสนอ เหตุการณ์ที่มีลักษณะเป็นการลักลอบนี้จึงได้เผยตัวสู่สาธารณะ
    .
    ในทางลึกมีข้อมูลว่า เฉพาะในรอบปีนี้ ซึ่งนับตามจำนวนเวลาก็คือประมาณ 7 เดือน มีการตรวจพบปัญหาลักษณะเดียวกันของผู้นำเข้ารายนี้มาแล้วถึง 3 ครั้ง
    .
    สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นมิติของการลักลอบ ซึ่งมักไม่มีการเปิดเผยข้อมูลออกมาอย่างชัดเจน ส่วนในมิติที่มีข้อมูลสถิติเป็นทางการ เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ ได้นำเสนอผ่านการแถลงข่าวร่วมกับกรรณิการ์ กิจติเวชกุล รองประธานกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch) ในหัวข้อ “เมื่อขยะโลกหลั่งไหลเข้าไทย เราจะรอดพ้นจากสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างไร” เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา ระบุว่า
    .
    “จากการติดตามปัญหาการส่งออกขยะในหมู่ประเทศสมาชิกของอียู (สหภาพยุโรป) ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา ได้มีการส่งขยะกลุ่มนี้เข้ามายังประเทศไทยสูงทีเดียว ประเทศไทยกลายเป็นปลายทางของการส่งออกขยะกระดาษและกระดาษแข็ง เป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคนี้ รองจากอินโดนีเซียและเวียดนาม นอกจากนี้ไทยยังเป็นปลายทางอันดับ 4 ของขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้าจากสหภาพยุโรป รองมาจากอินโดนีเซีย เวียดนาม และมาเลเซีย”
    .
    ตามสถิติของกรมศุลกากรที่เพ็ญโฉมค้นมานำเสนอ ไม่มีการแสดงปริมาณการนำเข้าของเสียเหล่านั้น แต่ได้แสดงเป็นมูลค่า ซึ่งในส่วนของเศษกระดาษมีมูลค่าสูงถึงระดับมากกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่ประเภทส่วนประกอบทางไฟฟ้าของเครื่องจักรและอุปกรณ์ ที่เพ็ญโฉมบอกว่าเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์นั้น มูลค่าในแต่ละปีสูงประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท
    .
    “เราจะเห็นว่าการนำเข้าขยะกระดาษและขยะอิล็กทรอนิกส์ ซึ่งแม้ว่าประเทศไทยจะมีกฎหมายห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์แล้ว แต่ยังมีพิกัดหนึ่งที่เป็นตัวรวมของขยะอิเล็กทรอนิกส์หลายประเภทและเศษโลหะที่นำเข้ามา เศษพลาสติกบางอย่างที่ปนเข้ามาในพิกัด 8548 จะเห็นว่า ถ้าดูจากกราฟ สหรัฐอเมริกาคือประเทศที่ส่งออกขยะกลุ่มนี้มายังประเทศไทยสูงที่สุด ถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ”
    .
    ไม่เพียงพิกัด 8548 แต่พิกัด 4704 ที่เป็นรายการเศษกระดาษ คิดจากมูลค่าการนำเข้าสูงสุดก็มีต้นทางมาจากประเทศสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน ส่วนลำดับรองลงมาได้แก่สหราชอาณาจักรและญี่ปุ่น ในขณะที่ประเทศลำดับรองที่ส่งออกขยะพิกัด 8548 มาไทยในมูลค่าที่สูงรองจากสหรัฐฯ ได้แก่จีนและญี่ปุ่น
    .
    นอกจากนั้น เพ็ญโฉมยังเปิดเผยข้อมูลในส่วนของขยะหรือกากของเสียอุตสาหกรรม โดยยกสถิติเกี่ยวกับเศษอะลูมิเนียมมานำเสนอด้วย
    .
    “อะลูมิเนียมดรอส ยกตัวอย่างปี 2560 - 2567 ประเทศไทยมีการนำเข้าอะลูมิเนียม ซึ่งตัวที่เป็นปัญหา ไม่ว่าจะกรณีที่พบที่วินโพรเสส นครปฐม และอีกหลายที่ เราจะเรียกว่า อะลูมิเนียมดรอส ซึ่งคือกากอะลูมิเนียม แต่เวลาแสดงพิกัดการนำเข้า จะเรียกว่าเป็นผงอะลูมีเนียม หรือเป็นเศษชิ้นส่วนอะลูมิเนียม พวกนี้สามารถนำเข้ามาได้ และมีการนำเข้าเยอะทีเดียว จากปี 2560 – 2567 เป็นปริมาณหลายล้านตัน
    .
    “อย่างการนำเข้ากาก/เศษอะลูมิเนียม ปี 67 จากมกราคม - มิถุนายน ครึ่งปี มีการนำเข้ามาถึง 335 ล้านกิโลกรัม หรืออย่างตัวผงและเกล็ดอะลูมิเนียม เพียงครึ่งปีนี้ก็นำเข้ามากว่า 580,000 กิโลกรัม แต่บางปีก็มีการนำเข้ามากกว่านั้น ซึ่งเราคิดว่า การนำเข้าผงอะลูมิเนียมจากปี 60-67 แนวโน้มมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คำถามว่า นำเข้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะอะไร อันนี้เราคิดว่าต้องย้อนมาดูนโยบายเรื่องการส่งเสริมกิจการรีไซเคิลและเศรษฐกิจหมุนเวียน”
    .
    อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นมิตินโยบาย เราจะนำเสนอในตอนต่อๆ ไป
    ...
    ...
    เรียบเรียงโดย ปานรักษ์ วัฒกะวงศ์ มูลนิธิบูรณะนิเวศ

    อ่านตอนที่ 1 ไทยเป็นปลายทางขยะโลก!? (ตอน 1: ทวงถามความรับผิดชอบ กรณีนำเข้าเศษกระดาษ แต่มี “ขยะเทศบาล” ปนมาด้วย)
    https://shorturl.asia/k2SJG

    #Thaitimes
    ไทยเป็นปลายทางขยะโลก!? (ตอน 2: ข้อมูลชี้...การนำเข้าขยะพุ่งและมีมากมายหลายชนิด) . จากกรณีพบขยะเทศบาลในตู้คอนเทนเนอร์สินค้าที่บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นผู้นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดยที่มีการสำแดงว่าเป็นเศษกระดาษ เรื่องดังกล่าว กรมศุลกากรไม่ได้เปิดเผยสู่สาธารณะ แต่ด้วยข้อมูลที่เล็ดลอดออกมา ทำให้มีสื่อมวลชนบางสำนักหยิบมานำเสนอ เหตุการณ์ที่มีลักษณะเป็นการลักลอบนี้จึงได้เผยตัวสู่สาธารณะ . ในทางลึกมีข้อมูลว่า เฉพาะในรอบปีนี้ ซึ่งนับตามจำนวนเวลาก็คือประมาณ 7 เดือน มีการตรวจพบปัญหาลักษณะเดียวกันของผู้นำเข้ารายนี้มาแล้วถึง 3 ครั้ง . สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นมิติของการลักลอบ ซึ่งมักไม่มีการเปิดเผยข้อมูลออกมาอย่างชัดเจน ส่วนในมิติที่มีข้อมูลสถิติเป็นทางการ เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ ได้นำเสนอผ่านการแถลงข่าวร่วมกับกรรณิการ์ กิจติเวชกุล รองประธานกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน (FTA Watch) ในหัวข้อ “เมื่อขยะโลกหลั่งไหลเข้าไทย เราจะรอดพ้นจากสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างไร” เมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา ระบุว่า . “จากการติดตามปัญหาการส่งออกขยะในหมู่ประเทศสมาชิกของอียู (สหภาพยุโรป) ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา ได้มีการส่งขยะกลุ่มนี้เข้ามายังประเทศไทยสูงทีเดียว ประเทศไทยกลายเป็นปลายทางของการส่งออกขยะกระดาษและกระดาษแข็ง เป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคนี้ รองจากอินโดนีเซียและเวียดนาม นอกจากนี้ไทยยังเป็นปลายทางอันดับ 4 ของขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้าจากสหภาพยุโรป รองมาจากอินโดนีเซีย เวียดนาม และมาเลเซีย” . ตามสถิติของกรมศุลกากรที่เพ็ญโฉมค้นมานำเสนอ ไม่มีการแสดงปริมาณการนำเข้าของเสียเหล่านั้น แต่ได้แสดงเป็นมูลค่า ซึ่งในส่วนของเศษกระดาษมีมูลค่าสูงถึงระดับมากกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่ประเภทส่วนประกอบทางไฟฟ้าของเครื่องจักรและอุปกรณ์ ที่เพ็ญโฉมบอกว่าเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์นั้น มูลค่าในแต่ละปีสูงประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท . “เราจะเห็นว่าการนำเข้าขยะกระดาษและขยะอิล็กทรอนิกส์ ซึ่งแม้ว่าประเทศไทยจะมีกฎหมายห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์แล้ว แต่ยังมีพิกัดหนึ่งที่เป็นตัวรวมของขยะอิเล็กทรอนิกส์หลายประเภทและเศษโลหะที่นำเข้ามา เศษพลาสติกบางอย่างที่ปนเข้ามาในพิกัด 8548 จะเห็นว่า ถ้าดูจากกราฟ สหรัฐอเมริกาคือประเทศที่ส่งออกขยะกลุ่มนี้มายังประเทศไทยสูงที่สุด ถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ” . ไม่เพียงพิกัด 8548 แต่พิกัด 4704 ที่เป็นรายการเศษกระดาษ คิดจากมูลค่าการนำเข้าสูงสุดก็มีต้นทางมาจากประเทศสหรัฐฯ เช่นเดียวกัน ส่วนลำดับรองลงมาได้แก่สหราชอาณาจักรและญี่ปุ่น ในขณะที่ประเทศลำดับรองที่ส่งออกขยะพิกัด 8548 มาไทยในมูลค่าที่สูงรองจากสหรัฐฯ ได้แก่จีนและญี่ปุ่น . นอกจากนั้น เพ็ญโฉมยังเปิดเผยข้อมูลในส่วนของขยะหรือกากของเสียอุตสาหกรรม โดยยกสถิติเกี่ยวกับเศษอะลูมิเนียมมานำเสนอด้วย . “อะลูมิเนียมดรอส ยกตัวอย่างปี 2560 - 2567 ประเทศไทยมีการนำเข้าอะลูมิเนียม ซึ่งตัวที่เป็นปัญหา ไม่ว่าจะกรณีที่พบที่วินโพรเสส นครปฐม และอีกหลายที่ เราจะเรียกว่า อะลูมิเนียมดรอส ซึ่งคือกากอะลูมิเนียม แต่เวลาแสดงพิกัดการนำเข้า จะเรียกว่าเป็นผงอะลูมีเนียม หรือเป็นเศษชิ้นส่วนอะลูมิเนียม พวกนี้สามารถนำเข้ามาได้ และมีการนำเข้าเยอะทีเดียว จากปี 2560 – 2567 เป็นปริมาณหลายล้านตัน . “อย่างการนำเข้ากาก/เศษอะลูมิเนียม ปี 67 จากมกราคม - มิถุนายน ครึ่งปี มีการนำเข้ามาถึง 335 ล้านกิโลกรัม หรืออย่างตัวผงและเกล็ดอะลูมิเนียม เพียงครึ่งปีนี้ก็นำเข้ามากว่า 580,000 กิโลกรัม แต่บางปีก็มีการนำเข้ามากกว่านั้น ซึ่งเราคิดว่า การนำเข้าผงอะลูมิเนียมจากปี 60-67 แนวโน้มมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คำถามว่า นำเข้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะอะไร อันนี้เราคิดว่าต้องย้อนมาดูนโยบายเรื่องการส่งเสริมกิจการรีไซเคิลและเศรษฐกิจหมุนเวียน” . อย่างไรก็ตาม สำหรับประเด็นมิตินโยบาย เราจะนำเสนอในตอนต่อๆ ไป ... ... เรียบเรียงโดย ปานรักษ์ วัฒกะวงศ์ มูลนิธิบูรณะนิเวศ อ่านตอนที่ 1 ไทยเป็นปลายทางขยะโลก!? (ตอน 1: ทวงถามความรับผิดชอบ กรณีนำเข้าเศษกระดาษ แต่มี “ขยะเทศบาล” ปนมาด้วย) https://shorturl.asia/k2SJG #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 870 มุมมอง 0 รีวิว