• การเปิดเผยต้นแบบ RTX Titan Ada

    ต้นแบบการ์ดจอ RTX Titan Ada ของ NVIDIA ที่ไม่เคยถูกวางจำหน่าย ได้ถูกชำแหละโดยนักโอเวอร์คล็อกชื่อดัง Roman "der8auer" Hartung เผยให้เห็นการออกแบบภายในที่ซับซ้อนและวิศวกรรมระดับสูง การ์ดนี้ถูกสร้างขึ้นในยุค RTX 40 Series แต่ไม่เคยเข้าสู่ตลาดจริง ทำให้มันกลายเป็น “ตำนาน” ที่หลายคนสงสัยมานาน

    โครงสร้างและการออกแบบ
    ตัวการ์ดมีขนาดใหญ่แบบ quad-slot พร้อมพัดลม 3 ตัว (สองด้านและหนึ่งตรงกลาง) โครงสร้างคล้ายกับ RTX 5090 Founders Edition แต่แตกต่างตรงที่ PCB ถูกติดตั้งด้านข้างแทนที่จะอยู่ตรงกลาง การ์ดใช้หน่วยความจำ 48GB GDDR7 (12 โมดูลด้านหน้า + 12 โมดูลด้านหลัง) และมีระบบระบายความร้อนที่ซับซ้อนด้วยท่อความร้อนและแผ่นระบายความร้อนที่สัมผัสกับชิ้นส่วนสำคัญโดยตรง

    พลังงานและการเชื่อมต่อ
    RTX Titan Ada ต้นแบบนี้ใช้ dual 12VHPWR connectors เพื่อรองรับพลังงานมหาศาล และมีการออกแบบพิเศษที่ใช้จุดสัมผัสไฟฟ้าบนตัวคูลเลอร์แทนสายเคเบิลตรงไปยัง PCB นอกจากนี้ยังมีพอร์ตเชื่อมต่อ 3x DisplayPort 1.4a และ 1x HDMI 2.1 ที่ถูกบัดกรีเข้ากับบอร์ดหลักโดยตรง

    ความหมายต่อวงการ GPU
    แม้จะไม่ถูกผลิตจริง แต่การออกแบบของ Titan Ada แสดงให้เห็นถึงความพยายามของ NVIDIA ในการผลักดันขีดจำกัดด้านวิศวกรรมและพลังงาน การ์ดนี้ถูกมองว่าเป็น “พี่ใหญ่” ของ RTX 5090 และเป็นหนึ่งใน GPU ที่ซับซ้อนที่สุดที่เคยสร้างขึ้น การเปิดเผยครั้งนี้จึงเป็นข้อมูลล้ำค่าแก่ผู้ที่สนใจด้านฮาร์ดแวร์และการออกแบบ GPU

    สรุปสาระสำคัญ
    การ์ดต้นแบบ RTX Titan Ada
    ไม่เคยวางจำหน่ายจริง
    ถูกเปิดเผยโดย der8auer

    โครงสร้างภายใน
    Quad-slot พร้อมพัดลม 3 ตัว
    หน่วยความจำ 48GB GDDR7

    ระบบพลังงานและการเชื่อมต่อ
    Dual 12VHPWR connectors
    พอร์ต 3x DisplayPort + 1x HDMI

    ข้อสังเกต
    การ์ดนี้เป็นเพียงต้นแบบ ไม่พร้อมผลิตเชิงพาณิชย์
    ขนาดใหญ่และซับซ้อนเกินไปสำหรับตลาดทั่วไป

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/unreleased-rtx-titan-ada-prototype-gets-taken-apart-to-reveal-complex-internal-design-and-assembly-nvidias-mythical-gpu-is-engineered-to-the-max-with-dual-12vhpwr-connectors
    🖥️ การเปิดเผยต้นแบบ RTX Titan Ada ต้นแบบการ์ดจอ RTX Titan Ada ของ NVIDIA ที่ไม่เคยถูกวางจำหน่าย ได้ถูกชำแหละโดยนักโอเวอร์คล็อกชื่อดัง Roman "der8auer" Hartung เผยให้เห็นการออกแบบภายในที่ซับซ้อนและวิศวกรรมระดับสูง การ์ดนี้ถูกสร้างขึ้นในยุค RTX 40 Series แต่ไม่เคยเข้าสู่ตลาดจริง ทำให้มันกลายเป็น “ตำนาน” ที่หลายคนสงสัยมานาน 🔧 โครงสร้างและการออกแบบ ตัวการ์ดมีขนาดใหญ่แบบ quad-slot พร้อมพัดลม 3 ตัว (สองด้านและหนึ่งตรงกลาง) โครงสร้างคล้ายกับ RTX 5090 Founders Edition แต่แตกต่างตรงที่ PCB ถูกติดตั้งด้านข้างแทนที่จะอยู่ตรงกลาง การ์ดใช้หน่วยความจำ 48GB GDDR7 (12 โมดูลด้านหน้า + 12 โมดูลด้านหลัง) และมีระบบระบายความร้อนที่ซับซ้อนด้วยท่อความร้อนและแผ่นระบายความร้อนที่สัมผัสกับชิ้นส่วนสำคัญโดยตรง ⚡ พลังงานและการเชื่อมต่อ RTX Titan Ada ต้นแบบนี้ใช้ dual 12VHPWR connectors เพื่อรองรับพลังงานมหาศาล และมีการออกแบบพิเศษที่ใช้จุดสัมผัสไฟฟ้าบนตัวคูลเลอร์แทนสายเคเบิลตรงไปยัง PCB นอกจากนี้ยังมีพอร์ตเชื่อมต่อ 3x DisplayPort 1.4a และ 1x HDMI 2.1 ที่ถูกบัดกรีเข้ากับบอร์ดหลักโดยตรง 🚀 ความหมายต่อวงการ GPU แม้จะไม่ถูกผลิตจริง แต่การออกแบบของ Titan Ada แสดงให้เห็นถึงความพยายามของ NVIDIA ในการผลักดันขีดจำกัดด้านวิศวกรรมและพลังงาน การ์ดนี้ถูกมองว่าเป็น “พี่ใหญ่” ของ RTX 5090 และเป็นหนึ่งใน GPU ที่ซับซ้อนที่สุดที่เคยสร้างขึ้น การเปิดเผยครั้งนี้จึงเป็นข้อมูลล้ำค่าแก่ผู้ที่สนใจด้านฮาร์ดแวร์และการออกแบบ GPU 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การ์ดต้นแบบ RTX Titan Ada ➡️ ไม่เคยวางจำหน่ายจริง ➡️ ถูกเปิดเผยโดย der8auer ✅ โครงสร้างภายใน ➡️ Quad-slot พร้อมพัดลม 3 ตัว ➡️ หน่วยความจำ 48GB GDDR7 ✅ ระบบพลังงานและการเชื่อมต่อ ➡️ Dual 12VHPWR connectors ➡️ พอร์ต 3x DisplayPort + 1x HDMI ‼️ ข้อสังเกต ⛔ การ์ดนี้เป็นเพียงต้นแบบ ไม่พร้อมผลิตเชิงพาณิชย์ ⛔ ขนาดใหญ่และซับซ้อนเกินไปสำหรับตลาดทั่วไป https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/unreleased-rtx-titan-ada-prototype-gets-taken-apart-to-reveal-complex-internal-design-and-assembly-nvidias-mythical-gpu-is-engineered-to-the-max-with-dual-12vhpwr-connectors
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251211 #TechRadar

    UK เสริมความปลอดภัยสายเคเบิลใต้น้ำจากภัยรัสเซีย
    สหราชอาณาจักรประกาศโครงการ Atlantic Bastion เพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานใต้น้ำอย่างสายเคเบิลและท่อส่งพลังงานจากการคุกคามของรัสเซีย หลังจากมีเหตุการณ์สายเคเบิลในทะเลบอลติกถูกตัดหรือเสียหายหลายครั้งในช่วงสงครามรัสเซีย–ยูเครน โครงการนี้จะใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งเรืออัตโนมัติ เซ็นเซอร์ตรวจจับ และกองทัพเรือ โดยมีแผนเริ่มนำไปใช้จริงตั้งแต่ปี 2026 เพื่อให้การป้องกันครอบคลุมพื้นที่มหาสมุทรกว้างใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    https://www.techradar.com/pro/security/uk-strengthens-subsea-cables-against-russian-interference

    Europol ปราบเครือข่าย “Violence-as-a-Service”
    Europol เปิดเผยแนวโน้มใหม่ของอาชญากรรมที่เรียกว่า “Violence-as-a-Service” ซึ่งเป็นการจ้างคนรุ่นใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ให้ก่อเหตุรุนแรง ตั้งแต่ข่มขู่ ทรมาน ไปจนถึงฆาตกรรม เครือข่ายนี้เริ่มจากสวีเดนและแพร่ไปทั่วยุโรป จนต้องตั้งหน่วยเฉพาะกิจ GRIMM เพื่อสกัดกั้นการรับสมัครผ่านโซเชียลมีเดีย ภายใน 6 เดือนแรกสามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ถึง 193 คน พร้อมยึดอาวุธและกระสุนจำนวนมาก ถือเป็นการป้องกันโศกนาฏกรรมที่อาจเกิดขึ้นได้
    https://www.techradar.com/pro/security/europol-cracks-down-on-violence-as-a-service-network

    หุ่นยนต์ไล่เตะ CEO – โลกอนาคตที่เราเซ็นรับหรือยัง
    เรื่องราวที่กำลังเป็นไวรัลคือหุ่นยนต์ T800 ของบริษัท EngineAI ที่โชว์พลังเตะใส่ CEO ของตัวเองจนกระเด็นไปไกล ทั้งหมดนี้เป็นการพิสูจน์ว่าหุ่นยนต์ไม่ได้ถูกสร้างด้วย CGI แต่ทำได้จริง หุ่นยนต์รุ่นใหม่ไม่เพียงแค่เดินหรือโต้ตอบ แต่ยังสามารถวิ่งได้ถึง 6 mph และทำท่าต่อสู้เหมือนมนุษย์ จุดประสงค์เบื้องหลังคือการโปรโมตงาน “Robot Boxing Match” ที่จะจัดขึ้นในจีน แต่ภาพที่ออกมากลับทำให้หลายคนเริ่มกังวลว่าอนาคตหุ่นยนต์อาจไม่ใช่ผู้ช่วยในบ้าน แต่กลายเป็นคู่ต่อสู้ในสังเวียนแทน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/now-weve-got-robots-that-can-chase-and-kick-us-is-this-the-robot-revolution-we-signed-up-for

    DJI FlyCart 100 – โดรนยักษ์แบกของหนัก 100 กิโลกรัม
    DJI เปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ FlyCart 100 ที่ออกแบบมาเพื่อการขนส่งหนักโดยเฉพาะ สามารถแบกน้ำหนักได้ถึง 100 กิโลกรัม และบินสูงถึง 6,000 เมตร พร้อมระบบวินซ์ยกของด้วยสายเคเบิล 30 เมตร มีแบตเตอรี่ที่เปลี่ยนได้แบบ hot-swap และทนสภาพอากาศตั้งแต่ -20°C ถึง 40°C รวมถึงทนลมแรงและมีระบบหลบสิ่งกีดขวางด้วย LiDAR จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานในพื้นที่ก่อสร้างหรือภูเขาสูง แต่รูปลักษณ์ที่ดุดันทำให้หลายคนเปรียบเทียบกับเครื่องจักรในหนังไซไฟมากกว่าจะเป็นโดรนส่งพัสดุทั่วไป
    https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-terrifying-new-delivery-drone-is-its-most-powerful-so-far-the-flycart-100-can-carry-100kg-loads-and-climb-6-000m-mountains

    Sam Altman บน Tonight Show – AI คือพลังแห่งความเท่าเทียม
    Sam Altman CEO ของ OpenAI ไปออกรายการ Tonight Show กับ Jimmy Fallon เพื่อเล่าถึงการเติบโตของ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ เขาเปรียบ AI ว่าเป็น “พลังแห่งความเท่าเทียม” คล้ายกับการมาของสมาร์ทโฟนที่ทุกคนเข้าถึงได้เหมือนกัน แม้จะยอมรับว่ามีความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว แต่เขาย้ำว่า AI กำลังช่วยให้คนทั่วไปมีเครื่องมือทรงพลังในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่เขียนเรซูเม่ไปจนถึงวางแผนการเดินทาง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/sam-altman-tells-jimmy-fallon-that-ai-is-the-equalizing-force-the-world-needs

    Salesforce Agentforce – เดิมพันอนาคตด้วย AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ
    Salesforce ประกาศเปิดตัว Agentforce 360 แพลตฟอร์มใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจสร้าง AI Agent สำหรับงานบริการลูกค้าและการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้รายได้ไตรมาสล่าสุดจะโตถึง 9% เป็น 10.3 พันล้านดอลลาร์ แต่หุ้นยังร่วงลงกว่า 29% ในปีนี้ การเปิดตัว Agentforce จึงถูกมองว่าเป็นการวางเดิมพันครั้งใหญ่เพื่อสร้างความเชื่อมั่น โดยมีตัวอย่างการใช้งานจริง เช่น ตำรวจ Thames Valley ที่ทดลองใช้ AI Assistant “Bobbi” ตอบคำถามทั่วไปแทนเจ้าหน้าที่ แม้ยังมีข้อกังวลเรื่องความผิดพลาด แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังเข้ามาอยู่ในงานที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นเรื่อย ๆ
    https://www.techradar.com/pro/salesforce-bets-on-agentic-ai-platform-following-cautiously-optimistic-earnings-report

    จอมอนิเตอร์ 1000Hz – เร็วเกินไปหรือเปล่า?
    ข่าวที่ทำให้สายเกมเมอร์ต้องขมวดคิ้วคือการเปิดตัวจอมอนิเตอร์ “dual-mode” ที่สามารถรีเฟรชเรตได้สูงถึง 1000Hz ฟังดูเหมือนจะเป็นการปฏิวัติ แต่หลายคนกลับมองว่ามันเกินความจำเป็น เพราะแม้แต่เกมแข่งขันระดับ eSports ส่วนใหญ่ก็ยังใช้ไม่ถึง 360Hz การกระโดดไปถึง 1000Hz จึงถูกตั้งคำถามว่าเป็นการตลาดมากกว่าความต้องการจริงของผู้เล่น อย่างไรก็ตาม มันก็สะท้อนให้เห็นว่าตลาดฮาร์ดแวร์ยังคงพยายามหาจุดขายใหม่ ๆ อยู่เสมอ
    https://www.techradar.com/computing/monitors/the-worlds-first-1-000hz-dual-mode-gaming-monitors-are-coming-but-they-sound-completely-unnecessary

    Lamborghini ชนะคดีโดเมน Lambo.com
    เรื่องราวดราม่าในโลกออนไลน์คือการที่ Lamborghini ฟ้องร้องเจ้าของโดเมน Lambo.com หลังจากเจ้าของพยายามขายชื่อโดเมนนี้ในราคา 75 ล้านดอลลาร์ ศาลตัดสินว่าเจ้าของกระทำโดยไม่สุจริต และสั่งให้โดเมนตกเป็นของ Lamborghini ทันที เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของชื่อแบรนด์ในโลกดิจิทัล และการที่บริษัทใหญ่พร้อมจะปกป้องทรัพย์สินทางออนไลน์ของตนอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/man-attempts-to-break-world-record-with-usd75-million-domain-name-pitch-ends-up-empty-handed-instead

    นาฬิกาฟิตเนสรุ่นใหม่ – คู่แข่ง Apple Watch SE 3
    ข่าวหลุดล่าสุดเผยว่ากำลังจะมีการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ราคาประหยัดรุ่นใหม่ ที่ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Apple Watch SE 3 จุดเด่นคือการออกแบบที่คล้ายคลึงกับรุ่นยอดนิยม แต่เพิ่มฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายมากขึ้น ทำให้หลายคนคาดว่าจะเป็น “ภาคต่อ” ของนาฬิกาฟิตเนสที่เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุด
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/forget-the-apple-watch-se-3-it-looks-like-a-big-sequel-to-our-best-ever-cheap-fitness-watch-has-just-leaked

    Windows 11 ปรับเมนูคลิกขวา ลบ AI Actions ที่ไม่ใช้
    Microsoft กำลังทดสอบการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่ช่วยลดความรกใน Windows 11 โดยหากผู้ใช้ปิดการทำงานของ AI Actions ทั้งหมด เมนูคลิกขวาใน File Explorer จะไม่แสดงโฟลเดอร์ว่าง ๆ ของ AI อีกต่อไป ก่อนหน้านี้แม้ปิดแล้วก็ยังเห็นเมนูแต่ไม่มีฟังก์ชัน ซึ่งทำให้หลายคนงง การแก้ไขนี้จึงเป็นเหมือนการจัดระเบียบให้ใช้งานง่ายขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการทำให้ Windows 11 ดูสะอาดตาและตรงไปตรงมา
    https://www.techradar.com/computing/windows/think-ai-actions-in-windows-11-are-pointless-microsoft-is-letting-you-banish-them-from-the-right-click-menu

    Norton VPN ปรับปรุงครั้งใหญ่ เพิ่มความเร็วและความปลอดภัย
    ปีนี้ Norton VPN เดินหน้าอัปเกรดครั้งใหญ่ ทั้งเพิ่มเซิร์ฟเวอร์ความเร็วสูง 25Gbps ในหลายเมืองทั่วโลก รวมถึงเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่สำหรับ P2P และเพิ่มตัวเลือก OpenVPN ทั้ง UDP และ TCP เพื่อให้ผู้ใช้เลือกได้ตามความต้องการ ไม่เพียงเท่านั้น Norton ยังผ่านการตรวจสอบจากบริษัทภายนอกเกี่ยวกับโปรโตคอล Mimic ที่พัฒนาขึ้นเอง ผลคือไม่มีความเสี่ยงด้านเทคนิคและยังรองรับการเข้ารหัสที่ต้านทานคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต ทำให้บริการนี้ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองในตลาด VPN
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/faster-speeds-more-locations-norton-vpn-caps-off-a-year-of-transformation

    Samsung Galaxy S26 อาจได้ MagSafe เวอร์ชันของตัวเอง
    ข่าวลือใหม่เผยว่า Galaxy S26 จะมาพร้อมระบบแม่เหล็กคล้าย MagSafe ของ Apple ซึ่งจะเปิดทางให้มีอุปกรณ์เสริมหลากหลาย เช่น เคสแม่เหล็ก แท่นชาร์จ และที่ยึดติดรถยนต์ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน ecosystem ของ Samsung เพราะจะทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกเสริมที่สะดวกและเป็นมาตรฐานเดียวกันมากขึ้น หากเป็นจริง Galaxy S26 จะกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับอุปกรณ์เสริมได้กว้างขวางที่สุดรุ่นหนึ่ง
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-s26-might-finally-be-getting-its-version-of-magsafe-here-are-8-accessories-to-expect

    Adobe จับมือ YouTube: เพิ่มเครื่องมือใหม่ให้ครีเอเตอร์
    Adobe และ YouTube ร่วมกันเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Premiere สำหรับการสร้าง YouTube Shorts โดยตรง จุดเด่นคือมีเอฟเฟกต์พิเศษ ทรานซิชัน และเทมเพลตที่ออกแบบมาเฉพาะ ทำให้การตัดต่อและอัปโหลดคลิปสั้นง่ายขึ้นมาก นอกจากนี้ยังมีระบบติดตามเทรนด์เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์เข้าใจว่าคอนเทนต์แบบไหนกำลังมาแรง ถือเป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่าง Adobe และ Google ที่เคยนำโมเดล AI เข้ามาใช้ในเครื่องมือสร้างสรรค์ต่าง ๆ การอัปเดตนี้ช่วยให้การทำงานของครีเอเตอร์เร็วขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/adobe-and-youtube-love-in-delivers-new-tools-for-content-creators-and-resolves-the-biggest-issue-we-had-with-adobes-free-video-editing-app

    Amazon ทุ่มงบ 35 พันล้านดอลลาร์ลงทุน AI ในอินเดีย
    Amazon ประกาศแผนลงทุนครั้งใหญ่ในอินเดีย มูลค่าถึง 35 พันล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การลงทุนนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะทำให้อินเดียเป็นศูนย์กลางด้าน AI และคลาวด์ในภูมิภาคเอเชีย พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการจ้างงานจำนวนมาก ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ของ Amazon ในตลาดเกิดใหม่
    https://www.techradar.com/pro/amazon-and-to-commit-usd35bn-into-ai-in-india

    AMD Redstone: อัปเดตใหม่ที่อาจทำให้ Nvidia ต้องกังวล
    AMD เตรียมปล่อยอัปเดต Redstone สำหรับเทคโนโลยี FSR (FidelityFX Super Resolution) ที่ใช้ในการเรนเดอร์ภาพเกมบนพีซี การอัปเดตนี้ถูกคาดว่าจะช่วยยกระดับคุณภาพภาพและประสิทธิภาพให้ดีขึ้นมาก จนกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ DLSS จาก Nvidia หาก Redstone ทำได้ตามที่คาดไว้ มันอาจเปลี่ยนสมดุลการแข่งขันในตลาดกราฟิกการ์ด และทำให้ผู้เล่นเกมมีทางเลือกที่คุ้มค่ามากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/gpu/amds-redstone-update-could-revitalize-fsr-for-pc-games-heres-why-nvidia-should-be-worried

    SAP อุดช่องโหว่ร้ายแรง 3 จุด เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ S
    AP ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยที่ถูกจัดว่าเป็นระดับวิกฤติถึง 3 จุด ซึ่งหากปล่อยไว้ อาจเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำคัญหรือควบคุมระบบได้ ช่องโหว่เหล่านี้ถูกค้นพบและรายงานโดยนักวิจัยด้านความปลอดภัย และการแก้ไขครั้งนี้ถือเป็นการยืนยันว่า SAP ให้ความสำคัญกับการปกป้องลูกค้าในระดับองค์กรอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/security/three-critical-vulnerabilities-patched-by-sap-heres-what-we-know

    ไต้หวันบล็อกแอป RedNote จุดกระแส VPN พุ่งแรง
    รัฐบาลไต้หวันได้สั่งบล็อกการใช้งานแอป RedNote ซึ่งเป็นแอปที่ได้รับความนิยมในบางกลุ่ม ส่งผลให้ผู้ใช้จำนวนมากหันไปใช้ VPN เพื่อหลีกเลี่ยงการบล็อก การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดด้านการควบคุมข้อมูลและการสื่อสารในประเทศ และทำให้ตลาด VPN เติบโตขึ้นทันทีหลังจากมาตรการถูกประกาศ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/taiwan-blocks-rednote-app-sparking-vpn-surge

    Motorola โชว์มือถือพับใหม่ท้าชน Samsung Galaxy Z Fold 7
    Motorola กำลังกลับมาสู่ตลาดมือถือพับได้อีกครั้ง โดยล่าสุดได้ปล่อยทีเซอร์มือถือรุ่นใหม่ที่ตั้งใจจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Samsung Galaxy Z Fold 7 แม้ยังไม่มีรายละเอียดเต็ม ๆ แต่การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าตลาดมือถือพับได้ยังคงร้อนแรง และ Motorola ต้องการกลับมาชิงส่วนแบ่งตลาดจาก Samsung ที่ครองตลาดอยู่ในตอนนี้
    https://www.techradar.com/phones/motorola-phones/motorola-just-teased-a-new-foldable-to-rival-the-samsung-galaxy-z-fold-7

    Instagram เปิดให้ผู้ใช้ควบคุมอัลกอริทึมเอง
    Instagram ประกาศฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าต้องการเห็นโพสต์แบบไหน โดยสามารถปรับการแสดงผลให้เป็นไปตามความต้องการ เช่น การจัดลำดับตามเวลา หรือการเลือกเนื้อหาที่สนใจมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อวิธีที่ผู้คนใช้แพลตฟอร์ม และอาจเปลี่ยนโฉมหน้าของโซเชียลมีเดียในอนาคต เพราะเป็นการคืนอำนาจการควบคุมให้กับผู้ใช้มากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/social-media/instagram-just-gave-users-algorithm-control-and-this-could-change-the-face-of-social-media

    ทำไมระบบเทคโนโลยีที่ไม่เชื่อมต่อกันกำลังบั่นทอนประสิทธิภาพการทำงาน
    หลายองค์กรลงทุนในเทคโนโลยีมากมาย แต่กลับสูญเสียเงินมหาศาลเพราะระบบที่ไม่เชื่อมโยงกัน ทำให้พนักงานต้องเสียเวลามากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพียงเพื่อค้นหาข้อมูลหรือแก้ปัญหาซ้ำ ๆ สิ่งนี้ไม่เพียงลดประสิทธิภาพ แต่ยังทำให้คนเก่ง ๆ หมดไฟและลาออกไปในที่สุด ทางออกคือการสร้างระบบที่เชื่อมโยงกันอย่างชาญฉลาด มีความสามารถในการแก้ไขตัวเองอัตโนมัติ และปรับตัวตามพฤติกรรมผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจแข่งขันได้ดีขึ้นและรักษาคนเก่งไว้ได้
    https://www.techradar.com/pro/why-disconnected-tech-stacks-are-undermining-your-workforce-and-how-to-fix-it

    อังกฤษยังไม่คิดทำตามออสเตรเลียเรื่องแบนโซเชียลมีเดียเด็กอายุต่ำกว่า 16
    หลังจากออสเตรเลียประกาศห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย อังกฤษถูกถามว่าจะทำตามหรือไม่ รัฐมนตรีวัฒนธรรม Lisa Nandy ยืนยันว่า “ยังไม่มีแผน” เพราะกังวลเรื่องการบังคับใช้และผลกระทบที่อาจผลักเด็กไปใช้ช่องทางอื่น แต่ก็เปิดช่องว่า หากมาตรการนี้ได้ผล อังกฤษอาจพิจารณาในอนาคต ประเด็นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงระหว่างการปกป้องเยาวชนกับสิทธิความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-has-no-plans-to-replicate-australias-social-media-ban-yet

    Google Photos เพิ่มเครื่องมือใหม่สู้ CapCut
    Google Photos เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับการตัดต่อวิดีโอ โดยเพิ่ม “template” สำเร็จรูปที่มีเพลงและข้อความพร้อม ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างคลิปสั้น ๆ สไตล์ TikTok หรือ Reels ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงหน้าตา editor ให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมเพิ่มฟังก์ชันใส่เพลงและข้อความลงในคลิป ฟีเจอร์เหล่านี้กำลังทยอยเปิดให้ใช้ทั้งบน Android และ iOS และจะกลายเป็นเครื่องมือหลักในการตัดต่อวิดีโอบนมือถือของ Google
    https://www.techradar.com/computing/software/google-photos-takes-on-capcut-with-5-handy-new-video-editing-tools-including-a-time-saving-template-feature

    การหลอกลวงผ่าน SMS หรือ Smishing กำลังกลายเป็นภัยต่อธุรกิจ
    จากเดิมที่เป็นเพียงการหลอกผู้บริโภค ตอนนี้ Smishing หรือการส่งข้อความ SMS หลอกลวงได้พัฒนาไปถึงระดับที่คุกคามองค์กร โดยอาชญากรใช้เครื่อง “SMS Blaster” ที่สามารถส่งข้อความปลอมจำนวนมหาศาลได้ในไม่กี่วินาที ทำให้พนักงานตกเป็นเป้าหมายและอาจเผลอให้ข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลการเงิน อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและหน่วยงานกำกับดูแลกำลังหาทางป้องกัน ทั้งการบล็อกข้อความลิงก์ต้องสงสัย และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อย่าง RCS ที่มีระบบเข้ารหัสและการยืนยันตัวตนที่แข็งแรงกว่า
    https://www.techradar.com/pro/smishings-evolution-from-consumer-scam-to-enterprise-threat-how-industry-is-fighting-back

    CEO มองว่าเรื่องการเรียนรู้ AI ต้องฝึกเอง
    ในโลกธุรกิจปัจจุบัน AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือผู้บริหารหลายคนกลับมองว่า การเรียนรู้และการพัฒนาทักษะด้าน AI ไม่ควรพึ่งพาองค์กรจัดฝึกอบรมให้ แต่ควรเป็นความรับผิดชอบของพนักงานเองที่จะต้องหาความรู้ ฝึกฝน และพัฒนาทักษะเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง เท่ากับว่าภาพลักษณ์ของการทำงานยุคใหม่คือ “ใครปรับตัวได้เร็ว คนนั้นได้เปรียบ”
    https://www.techradar.com/pro/need-ai-training-ceos-think-you-should-train-yourself

    ชิป PCIe ตัวเดียวเปลี่ยน DDR4 ให้มีพลังเพิ่มขึ้น
    มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจมากสำหรับวงการเซิร์ฟเวอร์และดาต้าเซ็นเตอร์ คืออุปกรณ์ PCIe ที่สามารถทำให้หน่วยความจำ DDR4 รุ่นเก่ากลับมามีประสิทธิภาพสูงขึ้นเกือบสามเท่า โดยใช้เทคโนโลยี CXL เพื่อเชื่อมต่อและขยายความสามารถ เท่ากับว่าบริษัทใหญ่ที่มีฮาร์ดแวร์เก่าอยู่แล้วสามารถรีไซเคิลมาใช้ใหม่ได้โดยไม่ต้องลงทุนซื้อ DDR5 ในราคาสูง ถือเป็นการแก้ปัญหาขาดแคลนหน่วยความจำได้อย่างชาญฉลาด
    https://www.techradar.com/pro/this-tiny-chip-could-singlehandedly-solve-the-ram-shortage-by-allowing-hyperscalers-to-reuse-old-ddr4-memory-via-cxl-and-it-even-comes-with-an-extraordinary-feature

    HBO Max ผู้ใช้ฟ้อง Netflix ด้วยคดีใหญ่
    เกิดคดีความที่น่าสนใจในวงการสตรีมมิ่ง เมื่อผู้ใช้ HBO Max รายหนึ่งยื่นฟ้อง Netflix ในรูปแบบคดีแบบกลุ่ม โดยอ้างว่าข้อตกลงระหว่าง Netflix และ Warner Bros จะสร้างความเสียหายต่อการแข่งขัน และอาจทำให้เกิดการผูกขาดในตลาดสตรีมมิ่ง ผู้ฟ้องร้องมองว่าตนเองและผู้ใช้รายอื่นจะได้รับผลกระทบในเชิง “การเลือกที่น้อยลงและราคาที่สูงขึ้น” เรื่องนี้จึงถูกมองว่าเป็นคดีที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าของตลาดสตรีมมิ่งในอนาคต
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/hbo-max-subscriber-sues-netflix-in-dramatic-class-action-lawsuit-claiming-the-warner-bros-deal-will-cause-irreparable-antitrust-injury

    TunnelBear ปรับโมเดล VPN ฟรีใหม่
    TunnelBear กำลังปรับเปลี่ยนบริการ VPN ฟรีของตัวเอง เนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น ทำให้ผู้ใช้แบบฟรีจะไม่สามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์เองได้อีกต่อไป และฟีเจอร์ SplitBear หรือ split tunneling ก็ถูกถอดออกไปเช่นกัน ผู้ใช้ฟรียังคงได้ใช้งาน 2GB ต่อเดือน แต่จะถูกสุ่มเชื่อมต่อไปยังตำแหน่งที่ระบบเลือกให้ จุดประสงค์คือเพื่อรักษาความยั่งยืนของบริการโดยไม่ต้องพึ่งโฆษณาหรือขายข้อมูล ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้นอาจต้องพิจารณาอัปเกรดเป็นแบบพรีเมียม
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/tunnelbear-reshapes-its-free-vpn-model-amid-rising-infrastructure-costs

    Bluesky บังคับตรวจสอบอายุ ตามกฎหมายออสเตรเลีย
    Bluesky ต้องปรับตัวตามกฎหมายใหม่ของออสเตรเลียที่ห้ามผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีเล่นโซเชียลมีเดีย จึงเริ่มบังคับตรวจสอบอายุผู้ใช้เพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับ นอกจากนี้ยังมีการกลับคำสั่งบล็อกผู้ใช้ในรัฐ Mississippi ที่เคยถูกจำกัดการเข้าถึง ถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อให้แพลตฟอร์มยังคงดำเนินงานได้ในหลายประเทศ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/bluesky-enforces-age-checks-to-comply-with-australias-under-16s-social-media-ban-and-reverses-mississippis-block

    Proton Pass เพิ่ม CLI สำหรับนักพัฒนา
    Proton Pass ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวจัดการรหัสผ่านที่ได้รับความนิยม ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่คือ Command-Line Interface (CLI) ให้นักพัฒนาสามารถดึงข้อมูลลับจาก terminal ได้โดยตรง ทำให้สามารถสร้าง workflow อัตโนมัติที่รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังคงรักษาการเข้ารหัสแบบ end-to-end และรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อม CI/CD หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่มี UI ผู้ใช้ฟรีจะไม่ได้ฟีเจอร์นี้ ต้องอัปเกรดเป็นแพ็กเกจแบบเสียเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/proton-pass-just-made-it-even-easier-for-developers-to-retrieve-secrets-and-thats-a-win-for-everyone-involved

    ญี่ปุ่นเปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ที่ยังมีพอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD
    ในยุคที่โน้ตบุ๊กทั่วโลกตัดพอร์ตเก่า ๆ ออกไปหมด ญี่ปุ่นกลับยังคงมีตลาดที่ต้องการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ ล่าสุด NEC เปิดตัว VersaPro VX-R ที่ใช้ชิป Intel Core Ultra รุ่นใหม่ แต่ยังคงใส่พอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD มาให้ เหตุผลคือหลายองค์กร โรงเรียน และสถาบันในญี่ปุ่นยังใช้โปรเจกเตอร์และระบบเก็บข้อมูลแบบเก่าอยู่ ทำให้การมีพอร์ตเหล่านี้ยังจำเป็น ตัวเครื่องรองรับ Wi-Fi 7, มีระบบความปลอดภัยครบ และยังคงเป็นโน้ตบุ๊กที่ผสมผสานเทคโนโลยีใหม่กับความต้องการดั้งเดิมของตลาดญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
    https://www.techradar.com/pro/the-only-core-ultra-265u-laptop-with-a-vga-port-and-a-dvd-writer-just-launched-and-yes-it-has-to-be-in-japan

    ช่องโหว่ React2Shell ถูกแฮกเกอร์เกาหลีเหนือใช้โจมตี
    หลังจากที่จีนถูกพบว่าใช้ช่องโหว่ React2Shell ในการโจมตี ตอนนี้มีรายงานว่าเกาหลีเหนือก็เข้ามาใช้ช่องโหว่นี้เช่นกัน โดยพวกเขาพัฒนา malware ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ซับซ้อนกว่าเดิม ใช้ smart contract ของ Ethereum เป็นระบบควบคุม, มีวิธีฝังตัวใน Linux ถึง 5 แบบ และยังดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อทำงานต่อ ช่องโหว่นี้ถูกจัดว่า “critical” ระดับ 10/10 และนักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดต React เป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันที เพราะเป็นการโจมตีที่อาจกระทบผู้พัฒนาเว็บจำนวนมหาศาล
    https://www.techradar.com/pro/security/maximum-severity-react2shell-flaw-exploited-by-north-korean-hackers-in-malware-attacks

    Google เสริมเกราะป้องกัน Chrome จากการโจมตีแบบ Prompt Injection
    Google ประกาศเพิ่มระบบป้องกันใหม่ใน Chrome เพื่อรับมือกับการโจมตีที่เรียกว่า Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในเว็บเพจหรือ extension เพื่อหลอกให้ AI ทำงานผิดพลาด ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยตรวจจับและบล็อกคำสั่งที่ไม่พึงประสงค์ก่อนที่ผู้ใช้จะโดนหลอกหรือข้อมูลจะรั่วไหล ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการทำให้เบราว์เซอร์ปลอดภัยขึ้นในยุคที่ AI ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย
    https://www.techradar.com/pro/security/google-adds-prompt-injection-defenses-to-chrome

    Teamgroup เปิดตัว PD40 SSD พกพาเล็กแต่แรงด้วย USB4
    Teamgroup เปิดตัวไดรฟ์ PD40 ที่ใช้มาตรฐาน USB4 ทำให้มีความเร็วสูงมากเมื่อเทียบกับ SSD พกพาทั่วไป จุดเด่นคือขนาดเล็ก น้ำหนักเบา แต่ยังคงให้ความเร็วระดับสูงที่สามารถแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ ๆ ได้ โดยตั้งใจจะเจาะตลาดที่ SSD พกพามีราคาสูงเกินไป รุ่นนี้จึงถูกวางตัวให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความสะดวกในการพกพา
    https://www.techradar.com/pro/finally-another-external-usb4-ssd-hit-the-market-and-this-one-is-likely-to-be-far-more-affordable-than-rivals

    ศึกชิงแชมป์โลก Excel 2025
    การแข่งขัน Excel World Championship ปีนี้จัดขึ้นที่ลาสเวกัส และผู้ชนะคือ Diarmuid Early ที่ถูกขนานนามว่า “LeBron James แห่ง Excel” เขาสามารถเอาชนะ Andrew Ngai แชมป์เก่าถึงสามสมัยได้ ด้วยการทำโจทย์สุดโหด ทั้งการจัดการข้อมูลมหาศาล การสร้าง Pivot Table ซับซ้อน และแม้กระทั่งโจทย์พับโมดูล Excel แบบ Origami ผู้ชนะได้รับเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์ พร้อมเข็มขัดแชมป์แบบนักมวยปล้ำ ถือเป็นการยกระดับการใช้ Excel จากเครื่องมือทำงานสู่กีฬาแข่งขันที่จริงจังและสนุกสนาน
    https://www.techradar.com/pro/battle-of-the-pivot-tables-diarmuid-the-lebron-james-of-excel-defeats-three-time-champion-andrew-ngai-to-claim-the-2025-title-and-usd5-000-cash-prize

    Beelink เปิดตัว NAS จิ๋วแต่จุใจ
    Beelink เตรียมปล่อย NAS รุ่น ME Pro ที่มีให้เลือกทั้งแบบ 2 ช่องและ 4 ช่องใส่ฮาร์ดดิสก์ จุดเด่นคือรุ่น 4 ช่องสามารถรองรับความจุรวมสูงสุดถึง 120TB แต่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเพียง 4 ลิตรเท่านั้น ใช้โครงสร้างแบบ Unibody ที่ช่วยประหยัดพื้นที่ภายในและทำให้เครื่องเล็กกว่าคู่แข่งมาก แม้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเรื่อง CPU หรือระบบปฏิบัติการ แต่การออกแบบนี้สะท้อนแนวทางใหม่ของ Beelink ที่ต้องการทำให้ NAS มีขนาดเล็กลงแต่ยังคงความจุสูง
    https://www.techradar.com/pro/beelink-promises-a-4-liter-4-drive-nas-that-could-hold-120tb-in-the-palm-of-your-hand

    ลังเลใจระหว่าง iPhone และ Android
    นักเขียนจาก TechRadar เล่าประสบการณ์ส่วนตัวว่าใช้ iPhone มานานกว่า 4 ปีหลังจากย้ายจาก Android แต่ตอนนี้เริ่มคิดว่าจะกลับไปใช้ Android อีกครั้ง เหตุผลมาจากการเจอปัญหากับ iOS 26 และความสนใจใน Samsung Galaxy S25 Ultra ที่อยู่ตรงหน้า เขายังเปิดโพลให้ผู้อ่านช่วยตัดสินใจว่าจะควรกลับไป Android หรือไม่ พร้อมบอกว่าถ้าเปลี่ยนจริงก็อยากลอง Pixel 10 Pro หรือรุ่นเรือธงจาก Oppo และ OnePlus ถือเป็นการเปิดใจถามความเห็นจากชุมชนผู้ใช้มือถือโดยตรง
    https://www.techradar.com/phones/iphone/should-i-abandon-my-iphone-for-a-return-to-android-tell-me-what-to-do

    Imec เผยความท้าทายของ 3D Memory-on-GPU
    งานประชุม IEDM 2025 มีการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่จาก Imec ที่วางซ้อนหน่วยความจำ HBM แบบ 3D บน GPU เพื่อเพิ่มความหนาแน่นในการประมวลผลสำหรับงาน AI แม้จะให้ประสิทธิภาพสูงกว่าแบบ 2.5D แต่การจำลองความร้อนพบว่าชิปสามารถร้อนทะลุ 140°C ซึ่งเกินขีดจำกัดการทำงาน ต้องใช้วิธีลดความเร็ว GPU ลงครึ่งหนึ่งเพื่อควบคุมอุณหภูมิ แต่ก็ทำให้การฝึก AI ช้าลงถึง 28% เทคโนโลยีนี้จึงยังเป็นดาบสองคมที่ต้องหาทางแก้เรื่องความร้อนก่อนจะนำไปใช้จริงในศูนย์ข้อมูล
    https://www.techradar.com/pro/hbm-on-gpu-set-to-power-the-next-revolution-in-ai-accelerators-and-just-to-confirm-theres-no-way-this-will-come-to-your-video-card-anytime-soon
    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251211 #TechRadar 🌊 UK เสริมความปลอดภัยสายเคเบิลใต้น้ำจากภัยรัสเซีย สหราชอาณาจักรประกาศโครงการ Atlantic Bastion เพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานใต้น้ำอย่างสายเคเบิลและท่อส่งพลังงานจากการคุกคามของรัสเซีย หลังจากมีเหตุการณ์สายเคเบิลในทะเลบอลติกถูกตัดหรือเสียหายหลายครั้งในช่วงสงครามรัสเซีย–ยูเครน โครงการนี้จะใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งเรืออัตโนมัติ เซ็นเซอร์ตรวจจับ และกองทัพเรือ โดยมีแผนเริ่มนำไปใช้จริงตั้งแต่ปี 2026 เพื่อให้การป้องกันครอบคลุมพื้นที่มหาสมุทรกว้างใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/uk-strengthens-subsea-cables-against-russian-interference 🚨 Europol ปราบเครือข่าย “Violence-as-a-Service” Europol เปิดเผยแนวโน้มใหม่ของอาชญากรรมที่เรียกว่า “Violence-as-a-Service” ซึ่งเป็นการจ้างคนรุ่นใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ให้ก่อเหตุรุนแรง ตั้งแต่ข่มขู่ ทรมาน ไปจนถึงฆาตกรรม เครือข่ายนี้เริ่มจากสวีเดนและแพร่ไปทั่วยุโรป จนต้องตั้งหน่วยเฉพาะกิจ GRIMM เพื่อสกัดกั้นการรับสมัครผ่านโซเชียลมีเดีย ภายใน 6 เดือนแรกสามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ถึง 193 คน พร้อมยึดอาวุธและกระสุนจำนวนมาก ถือเป็นการป้องกันโศกนาฏกรรมที่อาจเกิดขึ้นได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-cracks-down-on-violence-as-a-service-network 🤖 หุ่นยนต์ไล่เตะ CEO – โลกอนาคตที่เราเซ็นรับหรือยัง เรื่องราวที่กำลังเป็นไวรัลคือหุ่นยนต์ T800 ของบริษัท EngineAI ที่โชว์พลังเตะใส่ CEO ของตัวเองจนกระเด็นไปไกล ทั้งหมดนี้เป็นการพิสูจน์ว่าหุ่นยนต์ไม่ได้ถูกสร้างด้วย CGI แต่ทำได้จริง หุ่นยนต์รุ่นใหม่ไม่เพียงแค่เดินหรือโต้ตอบ แต่ยังสามารถวิ่งได้ถึง 6 mph และทำท่าต่อสู้เหมือนมนุษย์ จุดประสงค์เบื้องหลังคือการโปรโมตงาน “Robot Boxing Match” ที่จะจัดขึ้นในจีน แต่ภาพที่ออกมากลับทำให้หลายคนเริ่มกังวลว่าอนาคตหุ่นยนต์อาจไม่ใช่ผู้ช่วยในบ้าน แต่กลายเป็นคู่ต่อสู้ในสังเวียนแทน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/now-weve-got-robots-that-can-chase-and-kick-us-is-this-the-robot-revolution-we-signed-up-for 🚁 DJI FlyCart 100 – โดรนยักษ์แบกของหนัก 100 กิโลกรัม DJI เปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ FlyCart 100 ที่ออกแบบมาเพื่อการขนส่งหนักโดยเฉพาะ สามารถแบกน้ำหนักได้ถึง 100 กิโลกรัม และบินสูงถึง 6,000 เมตร พร้อมระบบวินซ์ยกของด้วยสายเคเบิล 30 เมตร มีแบตเตอรี่ที่เปลี่ยนได้แบบ hot-swap และทนสภาพอากาศตั้งแต่ -20°C ถึง 40°C รวมถึงทนลมแรงและมีระบบหลบสิ่งกีดขวางด้วย LiDAR จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานในพื้นที่ก่อสร้างหรือภูเขาสูง แต่รูปลักษณ์ที่ดุดันทำให้หลายคนเปรียบเทียบกับเครื่องจักรในหนังไซไฟมากกว่าจะเป็นโดรนส่งพัสดุทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-terrifying-new-delivery-drone-is-its-most-powerful-so-far-the-flycart-100-can-carry-100kg-loads-and-climb-6-000m-mountains 📺 Sam Altman บน Tonight Show – AI คือพลังแห่งความเท่าเทียม Sam Altman CEO ของ OpenAI ไปออกรายการ Tonight Show กับ Jimmy Fallon เพื่อเล่าถึงการเติบโตของ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ เขาเปรียบ AI ว่าเป็น “พลังแห่งความเท่าเทียม” คล้ายกับการมาของสมาร์ทโฟนที่ทุกคนเข้าถึงได้เหมือนกัน แม้จะยอมรับว่ามีความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว แต่เขาย้ำว่า AI กำลังช่วยให้คนทั่วไปมีเครื่องมือทรงพลังในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่เขียนเรซูเม่ไปจนถึงวางแผนการเดินทาง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/sam-altman-tells-jimmy-fallon-that-ai-is-the-equalizing-force-the-world-needs 💼 Salesforce Agentforce – เดิมพันอนาคตด้วย AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ Salesforce ประกาศเปิดตัว Agentforce 360 แพลตฟอร์มใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจสร้าง AI Agent สำหรับงานบริการลูกค้าและการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้รายได้ไตรมาสล่าสุดจะโตถึง 9% เป็น 10.3 พันล้านดอลลาร์ แต่หุ้นยังร่วงลงกว่า 29% ในปีนี้ การเปิดตัว Agentforce จึงถูกมองว่าเป็นการวางเดิมพันครั้งใหญ่เพื่อสร้างความเชื่อมั่น โดยมีตัวอย่างการใช้งานจริง เช่น ตำรวจ Thames Valley ที่ทดลองใช้ AI Assistant “Bobbi” ตอบคำถามทั่วไปแทนเจ้าหน้าที่ แม้ยังมีข้อกังวลเรื่องความผิดพลาด แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังเข้ามาอยู่ในงานที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นเรื่อย ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/salesforce-bets-on-agentic-ai-platform-following-cautiously-optimistic-earnings-report 🖥️ จอมอนิเตอร์ 1000Hz – เร็วเกินไปหรือเปล่า? ข่าวที่ทำให้สายเกมเมอร์ต้องขมวดคิ้วคือการเปิดตัวจอมอนิเตอร์ “dual-mode” ที่สามารถรีเฟรชเรตได้สูงถึง 1000Hz ฟังดูเหมือนจะเป็นการปฏิวัติ แต่หลายคนกลับมองว่ามันเกินความจำเป็น เพราะแม้แต่เกมแข่งขันระดับ eSports ส่วนใหญ่ก็ยังใช้ไม่ถึง 360Hz การกระโดดไปถึง 1000Hz จึงถูกตั้งคำถามว่าเป็นการตลาดมากกว่าความต้องการจริงของผู้เล่น อย่างไรก็ตาม มันก็สะท้อนให้เห็นว่าตลาดฮาร์ดแวร์ยังคงพยายามหาจุดขายใหม่ ๆ อยู่เสมอ 🔗 https://www.techradar.com/computing/monitors/the-worlds-first-1-000hz-dual-mode-gaming-monitors-are-coming-but-they-sound-completely-unnecessary 🚗 Lamborghini ชนะคดีโดเมน Lambo.com เรื่องราวดราม่าในโลกออนไลน์คือการที่ Lamborghini ฟ้องร้องเจ้าของโดเมน Lambo.com หลังจากเจ้าของพยายามขายชื่อโดเมนนี้ในราคา 75 ล้านดอลลาร์ ศาลตัดสินว่าเจ้าของกระทำโดยไม่สุจริต และสั่งให้โดเมนตกเป็นของ Lamborghini ทันที เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของชื่อแบรนด์ในโลกดิจิทัล และการที่บริษัทใหญ่พร้อมจะปกป้องทรัพย์สินทางออนไลน์ของตนอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/man-attempts-to-break-world-record-with-usd75-million-domain-name-pitch-ends-up-empty-handed-instead ⌚ นาฬิกาฟิตเนสรุ่นใหม่ – คู่แข่ง Apple Watch SE 3 ข่าวหลุดล่าสุดเผยว่ากำลังจะมีการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ราคาประหยัดรุ่นใหม่ ที่ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Apple Watch SE 3 จุดเด่นคือการออกแบบที่คล้ายคลึงกับรุ่นยอดนิยม แต่เพิ่มฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายมากขึ้น ทำให้หลายคนคาดว่าจะเป็น “ภาคต่อ” ของนาฬิกาฟิตเนสที่เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุด 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/forget-the-apple-watch-se-3-it-looks-like-a-big-sequel-to-our-best-ever-cheap-fitness-watch-has-just-leaked 🖥️ Windows 11 ปรับเมนูคลิกขวา ลบ AI Actions ที่ไม่ใช้ Microsoft กำลังทดสอบการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่ช่วยลดความรกใน Windows 11 โดยหากผู้ใช้ปิดการทำงานของ AI Actions ทั้งหมด เมนูคลิกขวาใน File Explorer จะไม่แสดงโฟลเดอร์ว่าง ๆ ของ AI อีกต่อไป ก่อนหน้านี้แม้ปิดแล้วก็ยังเห็นเมนูแต่ไม่มีฟังก์ชัน ซึ่งทำให้หลายคนงง การแก้ไขนี้จึงเป็นเหมือนการจัดระเบียบให้ใช้งานง่ายขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการทำให้ Windows 11 ดูสะอาดตาและตรงไปตรงมา 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/think-ai-actions-in-windows-11-are-pointless-microsoft-is-letting-you-banish-them-from-the-right-click-menu 🌐 Norton VPN ปรับปรุงครั้งใหญ่ เพิ่มความเร็วและความปลอดภัย ปีนี้ Norton VPN เดินหน้าอัปเกรดครั้งใหญ่ ทั้งเพิ่มเซิร์ฟเวอร์ความเร็วสูง 25Gbps ในหลายเมืองทั่วโลก รวมถึงเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่สำหรับ P2P และเพิ่มตัวเลือก OpenVPN ทั้ง UDP และ TCP เพื่อให้ผู้ใช้เลือกได้ตามความต้องการ ไม่เพียงเท่านั้น Norton ยังผ่านการตรวจสอบจากบริษัทภายนอกเกี่ยวกับโปรโตคอล Mimic ที่พัฒนาขึ้นเอง ผลคือไม่มีความเสี่ยงด้านเทคนิคและยังรองรับการเข้ารหัสที่ต้านทานคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต ทำให้บริการนี้ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองในตลาด VPN 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/faster-speeds-more-locations-norton-vpn-caps-off-a-year-of-transformation 📱 Samsung Galaxy S26 อาจได้ MagSafe เวอร์ชันของตัวเอง ข่าวลือใหม่เผยว่า Galaxy S26 จะมาพร้อมระบบแม่เหล็กคล้าย MagSafe ของ Apple ซึ่งจะเปิดทางให้มีอุปกรณ์เสริมหลากหลาย เช่น เคสแม่เหล็ก แท่นชาร์จ และที่ยึดติดรถยนต์ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน ecosystem ของ Samsung เพราะจะทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกเสริมที่สะดวกและเป็นมาตรฐานเดียวกันมากขึ้น หากเป็นจริง Galaxy S26 จะกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับอุปกรณ์เสริมได้กว้างขวางที่สุดรุ่นหนึ่ง 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-s26-might-finally-be-getting-its-version-of-magsafe-here-are-8-accessories-to-expect 🎬 Adobe จับมือ YouTube: เพิ่มเครื่องมือใหม่ให้ครีเอเตอร์ Adobe และ YouTube ร่วมกันเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Premiere สำหรับการสร้าง YouTube Shorts โดยตรง จุดเด่นคือมีเอฟเฟกต์พิเศษ ทรานซิชัน และเทมเพลตที่ออกแบบมาเฉพาะ ทำให้การตัดต่อและอัปโหลดคลิปสั้นง่ายขึ้นมาก นอกจากนี้ยังมีระบบติดตามเทรนด์เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์เข้าใจว่าคอนเทนต์แบบไหนกำลังมาแรง ถือเป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่าง Adobe และ Google ที่เคยนำโมเดล AI เข้ามาใช้ในเครื่องมือสร้างสรรค์ต่าง ๆ การอัปเดตนี้ช่วยให้การทำงานของครีเอเตอร์เร็วขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/adobe-and-youtube-love-in-delivers-new-tools-for-content-creators-and-resolves-the-biggest-issue-we-had-with-adobes-free-video-editing-app 💰 Amazon ทุ่มงบ 35 พันล้านดอลลาร์ลงทุน AI ในอินเดีย Amazon ประกาศแผนลงทุนครั้งใหญ่ในอินเดีย มูลค่าถึง 35 พันล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การลงทุนนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะทำให้อินเดียเป็นศูนย์กลางด้าน AI และคลาวด์ในภูมิภาคเอเชีย พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการจ้างงานจำนวนมาก ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ของ Amazon ในตลาดเกิดใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/amazon-and-to-commit-usd35bn-into-ai-in-india 🎮 AMD Redstone: อัปเดตใหม่ที่อาจทำให้ Nvidia ต้องกังวล AMD เตรียมปล่อยอัปเดต Redstone สำหรับเทคโนโลยี FSR (FidelityFX Super Resolution) ที่ใช้ในการเรนเดอร์ภาพเกมบนพีซี การอัปเดตนี้ถูกคาดว่าจะช่วยยกระดับคุณภาพภาพและประสิทธิภาพให้ดีขึ้นมาก จนกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ DLSS จาก Nvidia หาก Redstone ทำได้ตามที่คาดไว้ มันอาจเปลี่ยนสมดุลการแข่งขันในตลาดกราฟิกการ์ด และทำให้ผู้เล่นเกมมีทางเลือกที่คุ้มค่ามากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/amds-redstone-update-could-revitalize-fsr-for-pc-games-heres-why-nvidia-should-be-worried 🛡️ SAP อุดช่องโหว่ร้ายแรง 3 จุด เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ S AP ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยที่ถูกจัดว่าเป็นระดับวิกฤติถึง 3 จุด ซึ่งหากปล่อยไว้ อาจเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำคัญหรือควบคุมระบบได้ ช่องโหว่เหล่านี้ถูกค้นพบและรายงานโดยนักวิจัยด้านความปลอดภัย และการแก้ไขครั้งนี้ถือเป็นการยืนยันว่า SAP ให้ความสำคัญกับการปกป้องลูกค้าในระดับองค์กรอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/three-critical-vulnerabilities-patched-by-sap-heres-what-we-know 🌐 ไต้หวันบล็อกแอป RedNote จุดกระแส VPN พุ่งแรง รัฐบาลไต้หวันได้สั่งบล็อกการใช้งานแอป RedNote ซึ่งเป็นแอปที่ได้รับความนิยมในบางกลุ่ม ส่งผลให้ผู้ใช้จำนวนมากหันไปใช้ VPN เพื่อหลีกเลี่ยงการบล็อก การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดด้านการควบคุมข้อมูลและการสื่อสารในประเทศ และทำให้ตลาด VPN เติบโตขึ้นทันทีหลังจากมาตรการถูกประกาศ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/taiwan-blocks-rednote-app-sparking-vpn-surge 📱 Motorola โชว์มือถือพับใหม่ท้าชน Samsung Galaxy Z Fold 7 Motorola กำลังกลับมาสู่ตลาดมือถือพับได้อีกครั้ง โดยล่าสุดได้ปล่อยทีเซอร์มือถือรุ่นใหม่ที่ตั้งใจจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Samsung Galaxy Z Fold 7 แม้ยังไม่มีรายละเอียดเต็ม ๆ แต่การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าตลาดมือถือพับได้ยังคงร้อนแรง และ Motorola ต้องการกลับมาชิงส่วนแบ่งตลาดจาก Samsung ที่ครองตลาดอยู่ในตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/phones/motorola-phones/motorola-just-teased-a-new-foldable-to-rival-the-samsung-galaxy-z-fold-7 📸 Instagram เปิดให้ผู้ใช้ควบคุมอัลกอริทึมเอง Instagram ประกาศฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าต้องการเห็นโพสต์แบบไหน โดยสามารถปรับการแสดงผลให้เป็นไปตามความต้องการ เช่น การจัดลำดับตามเวลา หรือการเลือกเนื้อหาที่สนใจมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อวิธีที่ผู้คนใช้แพลตฟอร์ม และอาจเปลี่ยนโฉมหน้าของโซเชียลมีเดียในอนาคต เพราะเป็นการคืนอำนาจการควบคุมให้กับผู้ใช้มากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/social-media/instagram-just-gave-users-algorithm-control-and-this-could-change-the-face-of-social-media 🖥️ ทำไมระบบเทคโนโลยีที่ไม่เชื่อมต่อกันกำลังบั่นทอนประสิทธิภาพการทำงาน หลายองค์กรลงทุนในเทคโนโลยีมากมาย แต่กลับสูญเสียเงินมหาศาลเพราะระบบที่ไม่เชื่อมโยงกัน ทำให้พนักงานต้องเสียเวลามากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพียงเพื่อค้นหาข้อมูลหรือแก้ปัญหาซ้ำ ๆ สิ่งนี้ไม่เพียงลดประสิทธิภาพ แต่ยังทำให้คนเก่ง ๆ หมดไฟและลาออกไปในที่สุด ทางออกคือการสร้างระบบที่เชื่อมโยงกันอย่างชาญฉลาด มีความสามารถในการแก้ไขตัวเองอัตโนมัติ และปรับตัวตามพฤติกรรมผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจแข่งขันได้ดีขึ้นและรักษาคนเก่งไว้ได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-disconnected-tech-stacks-are-undermining-your-workforce-and-how-to-fix-it 🇬🇧 อังกฤษยังไม่คิดทำตามออสเตรเลียเรื่องแบนโซเชียลมีเดียเด็กอายุต่ำกว่า 16 หลังจากออสเตรเลียประกาศห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย อังกฤษถูกถามว่าจะทำตามหรือไม่ รัฐมนตรีวัฒนธรรม Lisa Nandy ยืนยันว่า “ยังไม่มีแผน” เพราะกังวลเรื่องการบังคับใช้และผลกระทบที่อาจผลักเด็กไปใช้ช่องทางอื่น แต่ก็เปิดช่องว่า หากมาตรการนี้ได้ผล อังกฤษอาจพิจารณาในอนาคต ประเด็นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงระหว่างการปกป้องเยาวชนกับสิทธิความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-has-no-plans-to-replicate-australias-social-media-ban-yet 🎬 Google Photos เพิ่มเครื่องมือใหม่สู้ CapCut Google Photos เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับการตัดต่อวิดีโอ โดยเพิ่ม “template” สำเร็จรูปที่มีเพลงและข้อความพร้อม ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างคลิปสั้น ๆ สไตล์ TikTok หรือ Reels ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงหน้าตา editor ให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมเพิ่มฟังก์ชันใส่เพลงและข้อความลงในคลิป ฟีเจอร์เหล่านี้กำลังทยอยเปิดให้ใช้ทั้งบน Android และ iOS และจะกลายเป็นเครื่องมือหลักในการตัดต่อวิดีโอบนมือถือของ Google 🔗 https://www.techradar.com/computing/software/google-photos-takes-on-capcut-with-5-handy-new-video-editing-tools-including-a-time-saving-template-feature 📱 การหลอกลวงผ่าน SMS หรือ Smishing กำลังกลายเป็นภัยต่อธุรกิจ จากเดิมที่เป็นเพียงการหลอกผู้บริโภค ตอนนี้ Smishing หรือการส่งข้อความ SMS หลอกลวงได้พัฒนาไปถึงระดับที่คุกคามองค์กร โดยอาชญากรใช้เครื่อง “SMS Blaster” ที่สามารถส่งข้อความปลอมจำนวนมหาศาลได้ในไม่กี่วินาที ทำให้พนักงานตกเป็นเป้าหมายและอาจเผลอให้ข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลการเงิน อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและหน่วยงานกำกับดูแลกำลังหาทางป้องกัน ทั้งการบล็อกข้อความลิงก์ต้องสงสัย และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อย่าง RCS ที่มีระบบเข้ารหัสและการยืนยันตัวตนที่แข็งแรงกว่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/smishings-evolution-from-consumer-scam-to-enterprise-threat-how-industry-is-fighting-back 📚 CEO มองว่าเรื่องการเรียนรู้ AI ต้องฝึกเอง ในโลกธุรกิจปัจจุบัน AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือผู้บริหารหลายคนกลับมองว่า การเรียนรู้และการพัฒนาทักษะด้าน AI ไม่ควรพึ่งพาองค์กรจัดฝึกอบรมให้ แต่ควรเป็นความรับผิดชอบของพนักงานเองที่จะต้องหาความรู้ ฝึกฝน และพัฒนาทักษะเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง เท่ากับว่าภาพลักษณ์ของการทำงานยุคใหม่คือ “ใครปรับตัวได้เร็ว คนนั้นได้เปรียบ” 🔗 https://www.techradar.com/pro/need-ai-training-ceos-think-you-should-train-yourself 💾 ชิป PCIe ตัวเดียวเปลี่ยน DDR4 ให้มีพลังเพิ่มขึ้น มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจมากสำหรับวงการเซิร์ฟเวอร์และดาต้าเซ็นเตอร์ คืออุปกรณ์ PCIe ที่สามารถทำให้หน่วยความจำ DDR4 รุ่นเก่ากลับมามีประสิทธิภาพสูงขึ้นเกือบสามเท่า โดยใช้เทคโนโลยี CXL เพื่อเชื่อมต่อและขยายความสามารถ เท่ากับว่าบริษัทใหญ่ที่มีฮาร์ดแวร์เก่าอยู่แล้วสามารถรีไซเคิลมาใช้ใหม่ได้โดยไม่ต้องลงทุนซื้อ DDR5 ในราคาสูง ถือเป็นการแก้ปัญหาขาดแคลนหน่วยความจำได้อย่างชาญฉลาด 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-tiny-chip-could-singlehandedly-solve-the-ram-shortage-by-allowing-hyperscalers-to-reuse-old-ddr4-memory-via-cxl-and-it-even-comes-with-an-extraordinary-feature ⚖️ HBO Max ผู้ใช้ฟ้อง Netflix ด้วยคดีใหญ่ เกิดคดีความที่น่าสนใจในวงการสตรีมมิ่ง เมื่อผู้ใช้ HBO Max รายหนึ่งยื่นฟ้อง Netflix ในรูปแบบคดีแบบกลุ่ม โดยอ้างว่าข้อตกลงระหว่าง Netflix และ Warner Bros จะสร้างความเสียหายต่อการแข่งขัน และอาจทำให้เกิดการผูกขาดในตลาดสตรีมมิ่ง ผู้ฟ้องร้องมองว่าตนเองและผู้ใช้รายอื่นจะได้รับผลกระทบในเชิง “การเลือกที่น้อยลงและราคาที่สูงขึ้น” เรื่องนี้จึงถูกมองว่าเป็นคดีที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าของตลาดสตรีมมิ่งในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/hbo-max-subscriber-sues-netflix-in-dramatic-class-action-lawsuit-claiming-the-warner-bros-deal-will-cause-irreparable-antitrust-injury 🛡️ TunnelBear ปรับโมเดล VPN ฟรีใหม่ TunnelBear กำลังปรับเปลี่ยนบริการ VPN ฟรีของตัวเอง เนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น ทำให้ผู้ใช้แบบฟรีจะไม่สามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์เองได้อีกต่อไป และฟีเจอร์ SplitBear หรือ split tunneling ก็ถูกถอดออกไปเช่นกัน ผู้ใช้ฟรียังคงได้ใช้งาน 2GB ต่อเดือน แต่จะถูกสุ่มเชื่อมต่อไปยังตำแหน่งที่ระบบเลือกให้ จุดประสงค์คือเพื่อรักษาความยั่งยืนของบริการโดยไม่ต้องพึ่งโฆษณาหรือขายข้อมูล ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้นอาจต้องพิจารณาอัปเกรดเป็นแบบพรีเมียม 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/tunnelbear-reshapes-its-free-vpn-model-amid-rising-infrastructure-costs 🚫 Bluesky บังคับตรวจสอบอายุ ตามกฎหมายออสเตรเลีย Bluesky ต้องปรับตัวตามกฎหมายใหม่ของออสเตรเลียที่ห้ามผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีเล่นโซเชียลมีเดีย จึงเริ่มบังคับตรวจสอบอายุผู้ใช้เพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับ นอกจากนี้ยังมีการกลับคำสั่งบล็อกผู้ใช้ในรัฐ Mississippi ที่เคยถูกจำกัดการเข้าถึง ถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อให้แพลตฟอร์มยังคงดำเนินงานได้ในหลายประเทศ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/bluesky-enforces-age-checks-to-comply-with-australias-under-16s-social-media-ban-and-reverses-mississippis-block 🔐 Proton Pass เพิ่ม CLI สำหรับนักพัฒนา Proton Pass ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวจัดการรหัสผ่านที่ได้รับความนิยม ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่คือ Command-Line Interface (CLI) ให้นักพัฒนาสามารถดึงข้อมูลลับจาก terminal ได้โดยตรง ทำให้สามารถสร้าง workflow อัตโนมัติที่รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังคงรักษาการเข้ารหัสแบบ end-to-end และรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อม CI/CD หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่มี UI ผู้ใช้ฟรีจะไม่ได้ฟีเจอร์นี้ ต้องอัปเกรดเป็นแพ็กเกจแบบเสียเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/proton-pass-just-made-it-even-easier-for-developers-to-retrieve-secrets-and-thats-a-win-for-everyone-involved 💻 ญี่ปุ่นเปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ที่ยังมีพอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD ในยุคที่โน้ตบุ๊กทั่วโลกตัดพอร์ตเก่า ๆ ออกไปหมด ญี่ปุ่นกลับยังคงมีตลาดที่ต้องการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ ล่าสุด NEC เปิดตัว VersaPro VX-R ที่ใช้ชิป Intel Core Ultra รุ่นใหม่ แต่ยังคงใส่พอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD มาให้ เหตุผลคือหลายองค์กร โรงเรียน และสถาบันในญี่ปุ่นยังใช้โปรเจกเตอร์และระบบเก็บข้อมูลแบบเก่าอยู่ ทำให้การมีพอร์ตเหล่านี้ยังจำเป็น ตัวเครื่องรองรับ Wi-Fi 7, มีระบบความปลอดภัยครบ และยังคงเป็นโน้ตบุ๊กที่ผสมผสานเทคโนโลยีใหม่กับความต้องการดั้งเดิมของตลาดญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-only-core-ultra-265u-laptop-with-a-vga-port-and-a-dvd-writer-just-launched-and-yes-it-has-to-be-in-japan 🚨 ช่องโหว่ React2Shell ถูกแฮกเกอร์เกาหลีเหนือใช้โจมตี หลังจากที่จีนถูกพบว่าใช้ช่องโหว่ React2Shell ในการโจมตี ตอนนี้มีรายงานว่าเกาหลีเหนือก็เข้ามาใช้ช่องโหว่นี้เช่นกัน โดยพวกเขาพัฒนา malware ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ซับซ้อนกว่าเดิม ใช้ smart contract ของ Ethereum เป็นระบบควบคุม, มีวิธีฝังตัวใน Linux ถึง 5 แบบ และยังดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อทำงานต่อ ช่องโหว่นี้ถูกจัดว่า “critical” ระดับ 10/10 และนักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดต React เป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันที เพราะเป็นการโจมตีที่อาจกระทบผู้พัฒนาเว็บจำนวนมหาศาล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/maximum-severity-react2shell-flaw-exploited-by-north-korean-hackers-in-malware-attacks 🛡️ Google เสริมเกราะป้องกัน Chrome จากการโจมตีแบบ Prompt Injection Google ประกาศเพิ่มระบบป้องกันใหม่ใน Chrome เพื่อรับมือกับการโจมตีที่เรียกว่า Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในเว็บเพจหรือ extension เพื่อหลอกให้ AI ทำงานผิดพลาด ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยตรวจจับและบล็อกคำสั่งที่ไม่พึงประสงค์ก่อนที่ผู้ใช้จะโดนหลอกหรือข้อมูลจะรั่วไหล ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการทำให้เบราว์เซอร์ปลอดภัยขึ้นในยุคที่ AI ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/google-adds-prompt-injection-defenses-to-chrome 💾 Teamgroup เปิดตัว PD40 SSD พกพาเล็กแต่แรงด้วย USB4 Teamgroup เปิดตัวไดรฟ์ PD40 ที่ใช้มาตรฐาน USB4 ทำให้มีความเร็วสูงมากเมื่อเทียบกับ SSD พกพาทั่วไป จุดเด่นคือขนาดเล็ก น้ำหนักเบา แต่ยังคงให้ความเร็วระดับสูงที่สามารถแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ ๆ ได้ โดยตั้งใจจะเจาะตลาดที่ SSD พกพามีราคาสูงเกินไป รุ่นนี้จึงถูกวางตัวให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความสะดวกในการพกพา 🔗 https://www.techradar.com/pro/finally-another-external-usb4-ssd-hit-the-market-and-this-one-is-likely-to-be-far-more-affordable-than-rivals 📊 ศึกชิงแชมป์โลก Excel 2025 การแข่งขัน Excel World Championship ปีนี้จัดขึ้นที่ลาสเวกัส และผู้ชนะคือ Diarmuid Early ที่ถูกขนานนามว่า “LeBron James แห่ง Excel” เขาสามารถเอาชนะ Andrew Ngai แชมป์เก่าถึงสามสมัยได้ ด้วยการทำโจทย์สุดโหด ทั้งการจัดการข้อมูลมหาศาล การสร้าง Pivot Table ซับซ้อน และแม้กระทั่งโจทย์พับโมดูล Excel แบบ Origami ผู้ชนะได้รับเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์ พร้อมเข็มขัดแชมป์แบบนักมวยปล้ำ ถือเป็นการยกระดับการใช้ Excel จากเครื่องมือทำงานสู่กีฬาแข่งขันที่จริงจังและสนุกสนาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/battle-of-the-pivot-tables-diarmuid-the-lebron-james-of-excel-defeats-three-time-champion-andrew-ngai-to-claim-the-2025-title-and-usd5-000-cash-prize 💾 Beelink เปิดตัว NAS จิ๋วแต่จุใจ Beelink เตรียมปล่อย NAS รุ่น ME Pro ที่มีให้เลือกทั้งแบบ 2 ช่องและ 4 ช่องใส่ฮาร์ดดิสก์ จุดเด่นคือรุ่น 4 ช่องสามารถรองรับความจุรวมสูงสุดถึง 120TB แต่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเพียง 4 ลิตรเท่านั้น ใช้โครงสร้างแบบ Unibody ที่ช่วยประหยัดพื้นที่ภายในและทำให้เครื่องเล็กกว่าคู่แข่งมาก แม้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเรื่อง CPU หรือระบบปฏิบัติการ แต่การออกแบบนี้สะท้อนแนวทางใหม่ของ Beelink ที่ต้องการทำให้ NAS มีขนาดเล็กลงแต่ยังคงความจุสูง 🔗 https://www.techradar.com/pro/beelink-promises-a-4-liter-4-drive-nas-that-could-hold-120tb-in-the-palm-of-your-hand 📱 ลังเลใจระหว่าง iPhone และ Android นักเขียนจาก TechRadar เล่าประสบการณ์ส่วนตัวว่าใช้ iPhone มานานกว่า 4 ปีหลังจากย้ายจาก Android แต่ตอนนี้เริ่มคิดว่าจะกลับไปใช้ Android อีกครั้ง เหตุผลมาจากการเจอปัญหากับ iOS 26 และความสนใจใน Samsung Galaxy S25 Ultra ที่อยู่ตรงหน้า เขายังเปิดโพลให้ผู้อ่านช่วยตัดสินใจว่าจะควรกลับไป Android หรือไม่ พร้อมบอกว่าถ้าเปลี่ยนจริงก็อยากลอง Pixel 10 Pro หรือรุ่นเรือธงจาก Oppo และ OnePlus ถือเป็นการเปิดใจถามความเห็นจากชุมชนผู้ใช้มือถือโดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/should-i-abandon-my-iphone-for-a-return-to-android-tell-me-what-to-do 🔥 Imec เผยความท้าทายของ 3D Memory-on-GPU งานประชุม IEDM 2025 มีการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่จาก Imec ที่วางซ้อนหน่วยความจำ HBM แบบ 3D บน GPU เพื่อเพิ่มความหนาแน่นในการประมวลผลสำหรับงาน AI แม้จะให้ประสิทธิภาพสูงกว่าแบบ 2.5D แต่การจำลองความร้อนพบว่าชิปสามารถร้อนทะลุ 140°C ซึ่งเกินขีดจำกัดการทำงาน ต้องใช้วิธีลดความเร็ว GPU ลงครึ่งหนึ่งเพื่อควบคุมอุณหภูมิ แต่ก็ทำให้การฝึก AI ช้าลงถึง 28% เทคโนโลยีนี้จึงยังเป็นดาบสองคมที่ต้องหาทางแก้เรื่องความร้อนก่อนจะนำไปใช้จริงในศูนย์ข้อมูล 🔗 https://www.techradar.com/pro/hbm-on-gpu-set-to-power-the-next-revolution-in-ai-accelerators-and-just-to-confirm-theres-no-way-this-will-come-to-your-video-card-anytime-soon
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 581 มุมมอง 0 รีวิว
  • UK เปิดตัว Atlantic Bastion: ระบบเฝ้าระวังใต้น้ำด้วย AI

    รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้เปิดตัวเครือข่ายเฝ้าระวังใต้น้ำที่ใช้ AI ขับเคลื่อน มีชื่อว่า Atlantic Bastion ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อ ตรวจจับและติดตามเรือดำน้ำของรัสเซีย ในมหาสมุทรแอตแลนติก โดยถือเป็นโครงการด้านความมั่นคงที่ทันสมัยที่สุดของประเทศในช่วงหลายปีที่ผ่านมา【edge_all_open_tabs】

    รายละเอียดของ Atlantic Bastion
    ใช้ เซ็นเซอร์ใต้น้ำรุ่นใหม่ ที่เชื่อมต่อกับระบบ AI เพื่อวิเคราะห์เสียงและการเคลื่อนไหวของเรือดำน้ำ
    สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ละเอียดอ่อน เช่น เสียงเครื่องยนต์หรือการเปลี่ยนทิศทางของเรือดำน้ำ
    ระบบ AI จะช่วยกรองข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ได้จากเซ็นเซอร์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถระบุภัยคุกคามได้รวดเร็วและแม่นยำ

    เป้าหมายหลัก
    ป้องกันการแทรกซึมของเรือดำน้ำรัสเซียในเส้นทางเดินเรือสำคัญ
    เสริมความมั่นคงทางทะเลของ NATO และพันธมิตรยุโรป
    ลดภาระการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยให้ AI ทำหน้าที่ตรวจจับเบื้องต้น

    บริบททางภูมิรัฐศาสตร์
    การเปิดตัว Atlantic Bastion เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่าง NATO และรัสเซีย โดยเฉพาะในภูมิภาคแอตแลนติกเหนือ
    รัสเซียถูกกล่าวหาว่าเพิ่มกิจกรรมเรือดำน้ำในเส้นทางเดินเรือพาณิชย์และเส้นทางสายเคเบิลใต้น้ำ
    โครงการนี้สะท้อนถึงการใช้ AI ในการป้องกันประเทศ ที่กำลังกลายเป็นแนวโน้มใหม่ทั่วโลก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Atlantic Bastion เป็นระบบเฝ้าระวังใต้น้ำด้วย AI ของสหราชอาณาจักร
    ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับกิจกรรมเรือดำน้ำรัสเซีย
    ใช้เซ็นเซอร์ใต้น้ำ + AI วิเคราะห์เสียงและการเคลื่อนไหว
    เสริมความมั่นคงทางทะเลของ NATO และพันธมิตร
    สะท้อนการใช้ AI ในด้านความมั่นคงและการทหาร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/uk-unveils-atlantic-bastion-ai-driven-undersea-surveillance-network
    🌊 UK เปิดตัว Atlantic Bastion: ระบบเฝ้าระวังใต้น้ำด้วย AI รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้เปิดตัวเครือข่ายเฝ้าระวังใต้น้ำที่ใช้ AI ขับเคลื่อน มีชื่อว่า Atlantic Bastion ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อ ตรวจจับและติดตามเรือดำน้ำของรัสเซีย ในมหาสมุทรแอตแลนติก โดยถือเป็นโครงการด้านความมั่นคงที่ทันสมัยที่สุดของประเทศในช่วงหลายปีที่ผ่านมา【edge_all_open_tabs】 ⚙️ รายละเอียดของ Atlantic Bastion 💠 ใช้ เซ็นเซอร์ใต้น้ำรุ่นใหม่ ที่เชื่อมต่อกับระบบ AI เพื่อวิเคราะห์เสียงและการเคลื่อนไหวของเรือดำน้ำ 💠 สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ละเอียดอ่อน เช่น เสียงเครื่องยนต์หรือการเปลี่ยนทิศทางของเรือดำน้ำ 💠 ระบบ AI จะช่วยกรองข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ได้จากเซ็นเซอร์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถระบุภัยคุกคามได้รวดเร็วและแม่นยำ 🎯 เป้าหมายหลัก 🎗️ ป้องกันการแทรกซึมของเรือดำน้ำรัสเซียในเส้นทางเดินเรือสำคัญ 🎗️ เสริมความมั่นคงทางทะเลของ NATO และพันธมิตรยุโรป 🎗️ ลดภาระการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยให้ AI ทำหน้าที่ตรวจจับเบื้องต้น 🌍 บริบททางภูมิรัฐศาสตร์ 💠 การเปิดตัว Atlantic Bastion เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่าง NATO และรัสเซีย โดยเฉพาะในภูมิภาคแอตแลนติกเหนือ 💠 รัสเซียถูกกล่าวหาว่าเพิ่มกิจกรรมเรือดำน้ำในเส้นทางเดินเรือพาณิชย์และเส้นทางสายเคเบิลใต้น้ำ 💠 โครงการนี้สะท้อนถึงการใช้ AI ในการป้องกันประเทศ ที่กำลังกลายเป็นแนวโน้มใหม่ทั่วโลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Atlantic Bastion เป็นระบบเฝ้าระวังใต้น้ำด้วย AI ของสหราชอาณาจักร ✅ ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับกิจกรรมเรือดำน้ำรัสเซีย ✅ ใช้เซ็นเซอร์ใต้น้ำ + AI วิเคราะห์เสียงและการเคลื่อนไหว ✅ เสริมความมั่นคงทางทะเลของ NATO และพันธมิตร ✅ สะท้อนการใช้ AI ในด้านความมั่นคงและการทหาร https://www.tomshardware.com/tech-industry/uk-unveils-atlantic-bastion-ai-driven-undersea-surveillance-network
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    UK unveils AI-driven undersea surveillance network to counter Russian submarine activity
    The UK government has unveiled the first details of Atlantic Bastion, a new undersea warfare programme to detect and counter Russian submarine activity.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • “รายงานสภาคองเกรสเตือน จีนพัฒนาเทคโนโลยีตัดสายเคเบิลใต้น้ำ เสี่ยงกระทบการสื่อสารโลก”

    รายงานประจำปีจาก U.S.-China Economic and Security Review Commission ที่ส่งถึงสภาคองเกรสสหรัฐฯ เปิดเผยว่าจีนกำลังพัฒนาเครื่องมือและเทคนิคเพื่อทำลายสายเคเบิลใต้น้ำ ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่รับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตกว่า 95% ของโลก หน่วยงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนได้จดสิทธิบัตรและทดลองอุปกรณ์ตัดสายเคเบิลที่สามารถทำงานได้ลึกกว่า 13,000 ฟุต

    นอกจากการวิจัยแล้ว ยังมีเหตุการณ์จริงที่ถูกเชื่อมโยงกับจีน เช่น กรณีเรือจีนลากสมอเรือยาวกว่า 100 ไมล์ในทะเลบอลติกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 จนทำให้สายเคเบิลระหว่างสวีเดน-ลิทัวเนีย และเยอรมนี-ฟินแลนด์ ถูกตัดขาด เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลว่าจีนอาจใช้ยุทธวิธีดังกล่าวเพื่อสร้างแรงกดดันทางการเมืองและความมั่นคง

    รายงานยังเตือนว่าหากเกิดการรุกรานไต้หวัน จีนอาจใช้วิธีตัดสายเคเบิลใต้น้ำเพื่อปิดกั้นการสื่อสารของเกาะ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อธุรกรรมทางการเงิน บริการภาครัฐ และระบบคลาวด์ที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ การหยุดชะงักแม้เพียงเล็กน้อยก็อาจสร้างผลกระทบมหาศาลต่อเศรษฐกิจโลก

    เพื่อรับมือกับความเสี่ยงนี้ หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ เช่น FCC กำลังพิจารณากฎใหม่เพื่อห้ามการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์จากจีนในสายเคเบิลที่เชื่อมต่อกับสหรัฐฯ รวมถึงเพิ่มมาตรการตรวจสอบและยกระดับความปลอดภัยในการอนุญาตโครงการใหม่ ๆ

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การพัฒนาเทคโนโลยีของจีน
    จดสิทธิบัตรอุปกรณ์ตัดสายเคเบิลใต้น้ำ
    สามารถทำงานได้ลึกกว่า 13,000 ฟุต

    เหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นแล้ว
    เรือจีนลากสมอทำสายเคเบิลในทะเลบอลติกเสียหาย
    สายเคเบิลระหว่างสวีเดน-ลิทัวเนีย และเยอรมนี-ฟินแลนด์ ถูกตัดขาด

    ความเสี่ยงต่อไต้หวันและโลก
    จีนอาจตัดสายเคเบิลเพื่อปิดการสื่อสารของไต้หวัน
    กระทบธุรกรรมการเงิน บริการภาครัฐ และระบบคลาวด์

    มาตรการตอบโต้ของสหรัฐฯ
    FCC เสนอห้ามใช้อุปกรณ์จีนในสายเคเบิลเชื่อมต่อสหรัฐฯ
    เพิ่มมาตรการตรวจสอบและยกระดับความปลอดภัย

    ข้อกังวลระดับโลก
    สายเคเบิลใต้น้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอินเทอร์เน็ตโลก
    การหยุดชะงักแม้เล็กน้อยก็สร้างผลกระทบมหาศาลต่อเศรษฐกิจและการสื่อสาร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/congressional-report-warns-of-chinese-undersea-cable-cutting-capabilities
    🌊 “รายงานสภาคองเกรสเตือน จีนพัฒนาเทคโนโลยีตัดสายเคเบิลใต้น้ำ เสี่ยงกระทบการสื่อสารโลก” รายงานประจำปีจาก U.S.-China Economic and Security Review Commission ที่ส่งถึงสภาคองเกรสสหรัฐฯ เปิดเผยว่าจีนกำลังพัฒนาเครื่องมือและเทคนิคเพื่อทำลายสายเคเบิลใต้น้ำ ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่รับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตกว่า 95% ของโลก หน่วยงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนได้จดสิทธิบัตรและทดลองอุปกรณ์ตัดสายเคเบิลที่สามารถทำงานได้ลึกกว่า 13,000 ฟุต นอกจากการวิจัยแล้ว ยังมีเหตุการณ์จริงที่ถูกเชื่อมโยงกับจีน เช่น กรณีเรือจีนลากสมอเรือยาวกว่า 100 ไมล์ในทะเลบอลติกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2024 จนทำให้สายเคเบิลระหว่างสวีเดน-ลิทัวเนีย และเยอรมนี-ฟินแลนด์ ถูกตัดขาด เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลว่าจีนอาจใช้ยุทธวิธีดังกล่าวเพื่อสร้างแรงกดดันทางการเมืองและความมั่นคง รายงานยังเตือนว่าหากเกิดการรุกรานไต้หวัน จีนอาจใช้วิธีตัดสายเคเบิลใต้น้ำเพื่อปิดกั้นการสื่อสารของเกาะ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อธุรกรรมทางการเงิน บริการภาครัฐ และระบบคลาวด์ที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ การหยุดชะงักแม้เพียงเล็กน้อยก็อาจสร้างผลกระทบมหาศาลต่อเศรษฐกิจโลก เพื่อรับมือกับความเสี่ยงนี้ หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ เช่น FCC กำลังพิจารณากฎใหม่เพื่อห้ามการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์จากจีนในสายเคเบิลที่เชื่อมต่อกับสหรัฐฯ รวมถึงเพิ่มมาตรการตรวจสอบและยกระดับความปลอดภัยในการอนุญาตโครงการใหม่ ๆ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีของจีน ➡️ จดสิทธิบัตรอุปกรณ์ตัดสายเคเบิลใต้น้ำ ➡️ สามารถทำงานได้ลึกกว่า 13,000 ฟุต ✅ เหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นแล้ว ➡️ เรือจีนลากสมอทำสายเคเบิลในทะเลบอลติกเสียหาย ➡️ สายเคเบิลระหว่างสวีเดน-ลิทัวเนีย และเยอรมนี-ฟินแลนด์ ถูกตัดขาด ✅ ความเสี่ยงต่อไต้หวันและโลก ➡️ จีนอาจตัดสายเคเบิลเพื่อปิดการสื่อสารของไต้หวัน ➡️ กระทบธุรกรรมการเงิน บริการภาครัฐ และระบบคลาวด์ ✅ มาตรการตอบโต้ของสหรัฐฯ ➡️ FCC เสนอห้ามใช้อุปกรณ์จีนในสายเคเบิลเชื่อมต่อสหรัฐฯ ➡️ เพิ่มมาตรการตรวจสอบและยกระดับความปลอดภัย ‼️ ข้อกังวลระดับโลก ⛔ สายเคเบิลใต้น้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของอินเทอร์เน็ตโลก ⛔ การหยุดชะงักแม้เล็กน้อยก็สร้างผลกระทบมหาศาลต่อเศรษฐกิจและการสื่อสาร https://www.tomshardware.com/tech-industry/congressional-report-warns-of-chinese-undersea-cable-cutting-capabilities
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251121 #TechRadar

    ปราบปรามบริการโฮสติ้งเถื่อน
    มีการร่วมมือกันระหว่างสหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย ในการจัดการกับบริษัท Media Land จากรัสเซีย ซึ่งให้บริการโฮสติ้งแบบ “bulletproof” ที่ถูกใช้โดยกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ เช่น Evil Corp และ LockBit เพื่อทำฟิชชิ่ง ปล่อยมัลแวร์ และโจมตี DDoS โครงสร้างพื้นฐานของบริษัทถูกยึด และผู้นำหลักถูกลงโทษทางการเงิน ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศพันธมิตรจะไม่ปล่อยให้กลุ่มเหล่านี้ทำงานในเงามืดได้อีก
    https://www.techradar.com/pro/security/another-bulletproof-hosting-service-has-been-locked-down-by-global-law-forces

    เน็ตพกพายุคใหม่จาก Netgear
    Netgear เปิดตัว Nighthawk 5G M7 อุปกรณ์ฮอตสปอตที่รองรับ Wi-Fi 7 สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันถึง 32 เครื่อง ความเร็วระดับกิกะบิต และยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ราว 10 ชั่วโมง จุดเด่นคือรองรับ global eSIM ใช้งานได้กว่า 140 ประเทศ เหมาะกับคนเดินทางบ่อย ไม่ต้องพึ่งมือถือเป็นฮอตสปอตอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/pro/rip-mobile-hotspots-netgears-new-nighthawk-5g-m7-features-wi-fi-7-connectivity-and-even-global-esim-support

    ความวุ่นวายในทะเลแดงกระทบสายเคเบิลโลก
    ความไม่สงบในทะเลแดงทำให้โครงการวางสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ เช่น 2Africa ของ Meta และ Blue-Raman ของ Google ต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้การเชื่อมต่อระหว่างยุโรป เอเชีย และแอฟริกาเกิดความล่าช้า ผู้ให้บริการบางรายเริ่มพิจารณาเส้นทางใหม่บนบกผ่านซาอุดีอาระเบียและอิรัก แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงและซับซ้อนทางการเมือง แต่ก็อาจเป็นทางออกเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง
    https://www.techradar.com/pro/more-internet-outages-on-the-way-google-and-meta-delay-subsea-cable-plans-due-to-sabotage-fears

    SSD พกพาไร้สายจาก Kingston
    Kingston เปิดตัว Dual Portable SSD ที่ไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อ มาพร้อมหัว USB-A และ USB-C ในตัวเดียว ความเร็วอ่านสูงสุด 1,050MB/s และเขียน 950MB/s มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาเพียง 13 กรัม แต่จุได้สูงสุดถึง 2TB รองรับหลายระบบปฏิบัติการ เหมาะกับคนที่ต้องการพกข้อมูลไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องพกสายให้ยุ่งยาก
    https://www.techradar.com/pro/goodbye-pesky-cables-kingston-reveals-new-wire-free-portable-ssd-offering-up-to-2tb-storage-and-up-to-1-050-mb-s-data-transfers-and-itll-fit-into-even-your-smallest-pocket

    Android จับมือ AirDrop ของ Apple
    สิ่งที่หลายคนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงก็เกิดแล้ว! Google ประกาศว่า Quick Share ของ Android สามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้แล้ว เริ่มต้นที่ Pixel 10 ทำให้การส่งไฟล์ระหว่าง Android และ iPhone, iPad, Mac สะดวกขึ้นมาก แม้ยังมีข้อจำกัด เช่น ต้องเปิดโหมด “Everyone for 10 minutes” แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้กำแพงระหว่างสองระบบเริ่มพังลง
    https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/its-actually-happened-android-now-works-with-apple-airdrop-for-simple-file-sharing-starting-with-the-pixel-10

    ช่องโหว่ในเบราว์เซอร์ AI ของ Perplexity
    มีรายงานว่า Comet AI Browser ของ Perplexity อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการสิทธิ์และ sandbox ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหากไม่อัปเดตหรือใช้มาตรการป้องกันเพิ่มเติม
    https://www.techradar.com/pro/security/perplexitys-comet-ai-browser-may-have-some-concerning-security-flaws-which-could-let-hacker-hijack-your-device

    Twitch ใช้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันอายุ
    Twitch เริ่มทดสอบระบบ Facial Age Scan ในสหราชอาณาจักร เพื่อยืนยันอายุผู้ใช้งานก่อนเข้าถึงคอนเทนต์ที่จำกัดอายุ แม้จะช่วยป้องกันเด็กเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม แต่ก็มีเสียงวิจารณ์เรื่องความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูลชีวมิติว่าจะถูกนำไปใช้อย่างไร
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/twitch-introduces-facial-age-scans-in-the-uk-amid-growing-privacy-concerns

    บริษัทยักษ์ใหญ่ IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์
    บริษัทเกมและการพนันระดับโลก IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ทำให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลอาจถูกเข้ารหัสหรือขโมยไป เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าธุรกิจบันเทิงและการพนันก็เป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์เช่นกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/gaming-and-gambling-giant-igt-reportedly-hit-by-ransomware-heres-what-we-know

    Google เปิดตัว Nano Banana Pro สำหรับแก้ไขภาพด้วย AI
    Google เปิดตัวเครื่องมือใหม่ชื่อ Nano Banana Pro ที่ใช้พลังของ Gemini 3 Pro ในการแก้ไขภาพขั้นสูง เช่น การปรับรายละเอียด การลบวัตถุ หรือการสร้างองค์ประกอบใหม่ในภาพ ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านการแก้ไขภาพด้วย AI ที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงเทคโนโลยีระดับมืออาชีพได้ง่ายขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/google-launches-nano-banana-pro-a-massive-leap-in-ai-image-editing-powered-by-gemini-3-pro

    ปลั๊กอิน WordPress ยอดนิยมเจอช่องโหว่
    ปลั๊กอิน WordPress ที่มีผู้ติดตั้งมากกว่าล้านครั้งถูกพบว่ามีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลหรือควบคุมเว็บไซต์ได้ เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ต้องหมั่นอัปเดตปลั๊กอินและตรวจสอบความปลอดภัยอยู่เสมอ
    https://www.techradar.com/pro/security/wordpress-plugin-with-over-a-million-installs-may-have-a-worrying-security-flaw-heres-what-we-know

    ช่องโหว่ใหม่ใน Fortinet ถูกโจมตีแล้ว
    Fortinet ยอมรับว่าพบ zero-day ช่องโหว่ใหม่ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยเองก็ยังเป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์ และผู้ใช้ควรเร่งอัปเดตแพตช์ทันทีที่มีการปล่อยออกมา
    https://www.techradar.com/pro/security/fortinet-admits-it-found-another-worrying-zero-day-being-exploited-in-attacks

    ที่จับ MagSafe สุดแปลกแต่ใช้ง่าย
    มีการเปิดตัว MagSafe iPhone Grip ที่ดีไซน์แปลกตา แต่กลับใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ทุกคน จุดเด่นคือช่วยให้ถือ iPhone ได้มั่นคงขึ้นโดยไม่ต้องใช้เคสหนา ๆ และยังถอดออกได้สะดวก เหมาะกับคนที่อยากได้อุปกรณ์เสริมที่ไม่ซ้ำใคร
    https://www.techradar.com/phones/iphone/this-may-be-the-oddest-yet-most-accessible-magsafe-iphone-grip-ever-made

    กลุ่ม PlushDaemon จากจีนโจมตีซัพพลายเชนโลก
    กลุ่มแฮกเกอร์ PlushDaemon ใช้มัลแวร์ชื่อ SlowStepper ผ่าน implant ที่เรียกว่า EdgeStepper เพื่อเจาะเข้าอุปกรณ์เครือข่ายในหลายประเทศ ถือเป็นการโจมตีซัพพลายเชนที่ซับซ้อนและอันตราย เพราะสามารถกระทบต่อองค์กรทั่วโลกได้พร้อมกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/chinas-plushdaemon-group-uses-edgestepper-implant-to-infect-network-devices-with-slowstepper-malware-in-global-supply-chain-attacks

    แอปช้อปปิ้งสหรัฐฯ ดูดข้อมูลมากกว่าใคร
    รายงานใหม่เผยว่าแอปช้อปปิ้งจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Amazon เป็นแอปที่เก็บข้อมูลผู้ใช้มากที่สุด ทั้งข้อมูลส่วนตัวและพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งมากกว่าแอปจากจีนที่หลายคนกังวลกันอยู่แล้ว ทำให้เกิดคำถามเรื่องความเป็นส่วนตัวและการใช้ข้อมูลของผู้บริโภค
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/forget-beijing-its-us-shopping-apps-that-are-sucking-up-your-privacy-and-amazon-is-the-most-data-hungry

    Leica Q3 Monochrom กล้องขาวดำสุดหรู
    Leica เปิดตัว Q3 Monochrom กล้องที่ถ่ายได้เฉพาะภาพขาวดำ ราคาหลายพันดอลลาร์ แต่กลับได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะคุณภาพไฟล์และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเชิงศิลป์และต้องการความแตกต่างจากกล้องทั่วไป
    https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/leicas-q3-monochrom-costs-thousands-and-only-shoots-black-and-white-but-thats-only-made-me-want-one-more

    รีโมท Google TV รุ่นใหม่ใช้พลังงานจากแสงในบ้าน

    Google เตรียมเปิดตัวอุปกรณ์ Google TV รุ่นใหม่ที่มาพร้อมรีโมทซึ่งสามารถชาร์จพลังงานจากแสงในบ้านได้ ไม่ต้องใช้ถ่านหรือชาร์จสายอีกต่อไป ถือเป็นการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ไม่อยากเปลี่ยนถ่านบ่อย ๆ
    https://www.techradar.com/televisions/streaming-devices/your-next-google-tv-device-could-come-with-a-remote-powered-by-indoor-light-and-im-definitely-a-fan

    ซีอีโอ Microsoft ด้าน AI ตอบโต้เสียงวิจารณ์ Windows 11
    ซีอีโอฝ่าย AI ของ Microsoft ออกมาโต้ตอบเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับทิศทางใหม่ของ Windows 11 โดยบอกว่าคำวิจารณ์เหล่านั้น “mind-blowing” และยืนยันว่าการนำ AI เข้ามาในระบบปฏิบัติการจะช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้จะมีผู้ใช้บางส่วนที่ยังไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงนี้
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    หลุดไลน์อัพสมาร์ทโฟน Samsung ปี 2026
    มีข้อมูลหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Samsung ที่จะเปิดตัวในปี 2026 โดยคาดว่าจะมีการอัปเกรดทั้งด้านกล้อง หน้าจอ และประสิทธิภาพการทำงาน รายละเอียดบางส่วนยังไม่แน่ชัด แต่ข่าวนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ที่รอคอยการเปิดตัว
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsungs-2026-smartphone-lineup-just-leaked-heres-what-to-expect-and-when

    รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมท้าทายกฎหมาย AI ของรัฐต่าง ๆ
    ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ มีแผนจะใช้ อำนาจรัฐบาลกลาง เพื่อตรวจสอบและท้าทายกฎหมาย AI ที่ออกโดยรัฐต่าง ๆ เนื่องจากกังวลว่ากฎหมายเหล่านี้อาจขัดแย้งกันและสร้างความยุ่งยากต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในระดับประเทศ
    https://www.techradar.com/pro/security/trump-administration-wants-to-use-federal-power-to-challenge-state-ai-laws

    การกลับมาของ VPN ฟรีที่เป็นอันตราย
    มีการพบว่า VPN ฟรีบางตัว ที่เคยถูกแบนเพราะมีพฤติกรรมอันตราย ได้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบใหม่ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว การใช้ VPN ที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเปิดช่องให้ข้อมูลส่วนตัวถูกขโมยได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/malicious-free-vpn-extension-makes-a-comeback

    iPhone 17 Pro แจกฟรีกับโปร Verizon
    Verizon จัดโปรแรง แจกมือถือฟรี รวมถึง iPhone 17 Pro ให้ลูกค้าเมื่อสมัครแพ็กเกจที่กำหนด ถือเป็นดีลที่ดึงดูดใจมาก แต่ก็มีเงื่อนไขที่ผู้ใช้ต้องตรวจสอบให้ดีว่าเหมาะกับการใช้งานจริงหรือไม่
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    ประสบการณ์เล่น Stalker 2: Heart of Chornobyl
    นักเขียนรีวิวเล่าประสบการณ์การเล่นเกม Stalker 2: Heart of Chornobyl บน PS5 ที่ใช้เวลามากกว่า 50 ชั่วโมงในการเอาชีวิตรอดในโลกหลังหายนะ เกมนี้เต็มไปด้วยความท้าทายและบรรยากาศกดดัน แต่ก็สนุกและสมจริงสำหรับแฟนเกมแนว survival
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    Microsoft Flex โชว์ทักษะโค้ดของ Copilot
    Microsoft สาธิตความสามารถของ Copilot ในการช่วยเขียนโค้ด แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้ไม่เห็นด้วยกับการใช้ AI ในงานพัฒนาโปรแกรม บางคนมองว่าเป็นการลดคุณค่าของนักพัฒนา แต่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    Nvidia รีบปล่อยแพตช์แก้ปัญหา GPU บน Windows 11
    หลังจากการอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคม ทำให้เกมหลายเกมมีอาการหน่วง Nvidia จึงรีบออกแพตช์แก้ไขเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ GPU ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ การแก้ไขนี้ช่วยให้ผู้เล่นเกมสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง
    https://www.techradar.com/computing/gpu/nvidia-rushes-out-a-gpu-fix-blaming-windows-11s-october-update-for-sluggish-performance-in-games

    Nokia แยกธุรกิจ AI หลังได้ทุนจาก Nvidia
    Nokia ประกาศแยกธุรกิจใหม่ด้าน AI สำหรับเครือข่ายมือถือ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2026 หลังจากที่ Nvidia ลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี 6G บริษัทตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก และหวังสร้างเครือข่ายมือถือที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก พร้อมคาดการณ์การเติบโตของรายได้ต่อปี 6-8% จนถึงปี 2028
    https://www.techradar.com/pro/nokia-is-splitting-off-its-ai-business-weeks-after-usd1bn-nvidia-investment

    หุ่นยนต์ส่งอาหารของ Uber Eats
    Uber Eats จับมือกับบริษัท Starship Technologies เพื่อเริ่มใช้หุ่นยนต์ส่งอาหารในสหราชอาณาจักร โดยเริ่มทดลองที่เมือง Leeds และจะขยายไปยัง Sheffield รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในยุโรปปี 2026 และสหรัฐฯ ปี 2027 หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถส่งอาหารได้ภายใน 30 นาทีในระยะทางไม่เกิน 2 ไมล์ ลูกค้าจะไม่สามารถให้ทิปหุ่นยนต์ได้ แต่สามารถให้คะแนนผ่านแอปเหมือนการส่งปกติ ถือเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของการขนส่งในเมืองยุคอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/uber-eats-will-soon-use-robots-to-deliver-your-takeaway-but-you-cant-tip-them

    ChatGPT Atlas อัปเดตใหญ่ครั้งแรก
    ChatGPT Atlas ได้รับการอัปเดตครั้งสำคัญ โดยเพิ่ม 3 ฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้จะอยากลองใช้ทันที ได้แก่ การปรับปรุงความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล, การทำงานร่วมกับเครื่องมือภายนอกได้ดีขึ้น และการปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานให้ลื่นไหลมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับแพลตฟอร์ม AI ให้ตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-atlas-just-got-its-first-major-update-3-new-features-youll-want-to-use

    Samsung เพิ่มระบบป้องกันขโมยใน One UI 8.5
    Samsung เตรียมอัปเดต One UI 8.5 ที่จะเพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการโจรกรรมมือถือ เช่น การล็อกเครื่องแม้ถูกรีเซ็ต และระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการพยายามเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและอุปกรณ์ของตนเอง
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/your-samsung-phone-is-about-to-get-a-big-theft-protection-boost-thanks-to-one-ui-8-5-heres-how

    คนทำงานสายครีเอทีฟชอบ AI แต่ก็มีปัญหา
    รายงานจาก Dropbox พบว่าคนทำงานสายครีเอทีฟใช้เครื่องมือเฉลี่ยถึง 14 ตัว ทำให้เกิดความซับซ้อนและเสียเวลา แม้ว่า 95% ของคนกลุ่มนี้จะใช้ AI เพื่อช่วยงาน เช่น การระดมไอเดีย สรุปการประชุม และค้นหาข้อมูล แต่ AI ยังไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด เพราะบางครั้งไม่เข้าใจบริบทของงานจริง ๆ หากสามารถลดจำนวนเครื่องมือและใช้ AI ที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มเวลาสร้างสรรค์งานได้มากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/creative-workers-love-ai-but-it-is-causing-more-issues-than-expected
    📌📰🔵 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔵📰📌 #รวมข่าวIT #20251121 #TechRadar 🛡️ ปราบปรามบริการโฮสติ้งเถื่อน มีการร่วมมือกันระหว่างสหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย ในการจัดการกับบริษัท Media Land จากรัสเซีย ซึ่งให้บริการโฮสติ้งแบบ “bulletproof” ที่ถูกใช้โดยกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ เช่น Evil Corp และ LockBit เพื่อทำฟิชชิ่ง ปล่อยมัลแวร์ และโจมตี DDoS โครงสร้างพื้นฐานของบริษัทถูกยึด และผู้นำหลักถูกลงโทษทางการเงิน ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศพันธมิตรจะไม่ปล่อยให้กลุ่มเหล่านี้ทำงานในเงามืดได้อีก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/another-bulletproof-hosting-service-has-been-locked-down-by-global-law-forces 📶 เน็ตพกพายุคใหม่จาก Netgear Netgear เปิดตัว Nighthawk 5G M7 อุปกรณ์ฮอตสปอตที่รองรับ Wi-Fi 7 สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันถึง 32 เครื่อง ความเร็วระดับกิกะบิต และยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ราว 10 ชั่วโมง จุดเด่นคือรองรับ global eSIM ใช้งานได้กว่า 140 ประเทศ เหมาะกับคนเดินทางบ่อย ไม่ต้องพึ่งมือถือเป็นฮอตสปอตอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/rip-mobile-hotspots-netgears-new-nighthawk-5g-m7-features-wi-fi-7-connectivity-and-even-global-esim-support 🌊 ความวุ่นวายในทะเลแดงกระทบสายเคเบิลโลก ความไม่สงบในทะเลแดงทำให้โครงการวางสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ เช่น 2Africa ของ Meta และ Blue-Raman ของ Google ต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้การเชื่อมต่อระหว่างยุโรป เอเชีย และแอฟริกาเกิดความล่าช้า ผู้ให้บริการบางรายเริ่มพิจารณาเส้นทางใหม่บนบกผ่านซาอุดีอาระเบียและอิรัก แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงและซับซ้อนทางการเมือง แต่ก็อาจเป็นทางออกเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง 🔗 https://www.techradar.com/pro/more-internet-outages-on-the-way-google-and-meta-delay-subsea-cable-plans-due-to-sabotage-fears 💾 SSD พกพาไร้สายจาก Kingston Kingston เปิดตัว Dual Portable SSD ที่ไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อ มาพร้อมหัว USB-A และ USB-C ในตัวเดียว ความเร็วอ่านสูงสุด 1,050MB/s และเขียน 950MB/s มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาเพียง 13 กรัม แต่จุได้สูงสุดถึง 2TB รองรับหลายระบบปฏิบัติการ เหมาะกับคนที่ต้องการพกข้อมูลไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องพกสายให้ยุ่งยาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/goodbye-pesky-cables-kingston-reveals-new-wire-free-portable-ssd-offering-up-to-2tb-storage-and-up-to-1-050-mb-s-data-transfers-and-itll-fit-into-even-your-smallest-pocket 🤝 Android จับมือ AirDrop ของ Apple สิ่งที่หลายคนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงก็เกิดแล้ว! Google ประกาศว่า Quick Share ของ Android สามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้แล้ว เริ่มต้นที่ Pixel 10 ทำให้การส่งไฟล์ระหว่าง Android และ iPhone, iPad, Mac สะดวกขึ้นมาก แม้ยังมีข้อจำกัด เช่น ต้องเปิดโหมด “Everyone for 10 minutes” แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้กำแพงระหว่างสองระบบเริ่มพังลง 🔗 https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/its-actually-happened-android-now-works-with-apple-airdrop-for-simple-file-sharing-starting-with-the-pixel-10 ⚠️ ช่องโหว่ในเบราว์เซอร์ AI ของ Perplexity มีรายงานว่า Comet AI Browser ของ Perplexity อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการสิทธิ์และ sandbox ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหากไม่อัปเดตหรือใช้มาตรการป้องกันเพิ่มเติม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/perplexitys-comet-ai-browser-may-have-some-concerning-security-flaws-which-could-let-hacker-hijack-your-device 🧑‍💻 Twitch ใช้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันอายุ Twitch เริ่มทดสอบระบบ Facial Age Scan ในสหราชอาณาจักร เพื่อยืนยันอายุผู้ใช้งานก่อนเข้าถึงคอนเทนต์ที่จำกัดอายุ แม้จะช่วยป้องกันเด็กเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม แต่ก็มีเสียงวิจารณ์เรื่องความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูลชีวมิติว่าจะถูกนำไปใช้อย่างไร 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/twitch-introduces-facial-age-scans-in-the-uk-amid-growing-privacy-concerns 🎰 บริษัทยักษ์ใหญ่ IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ บริษัทเกมและการพนันระดับโลก IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ทำให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลอาจถูกเข้ารหัสหรือขโมยไป เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าธุรกิจบันเทิงและการพนันก็เป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์เช่นกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/gaming-and-gambling-giant-igt-reportedly-hit-by-ransomware-heres-what-we-know 🖼️ Google เปิดตัว Nano Banana Pro สำหรับแก้ไขภาพด้วย AI Google เปิดตัวเครื่องมือใหม่ชื่อ Nano Banana Pro ที่ใช้พลังของ Gemini 3 Pro ในการแก้ไขภาพขั้นสูง เช่น การปรับรายละเอียด การลบวัตถุ หรือการสร้างองค์ประกอบใหม่ในภาพ ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านการแก้ไขภาพด้วย AI ที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงเทคโนโลยีระดับมืออาชีพได้ง่ายขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/google-launches-nano-banana-pro-a-massive-leap-in-ai-image-editing-powered-by-gemini-3-pro 🔒 ปลั๊กอิน WordPress ยอดนิยมเจอช่องโหว่ ปลั๊กอิน WordPress ที่มีผู้ติดตั้งมากกว่าล้านครั้งถูกพบว่ามีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลหรือควบคุมเว็บไซต์ได้ เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ต้องหมั่นอัปเดตปลั๊กอินและตรวจสอบความปลอดภัยอยู่เสมอ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/wordpress-plugin-with-over-a-million-installs-may-have-a-worrying-security-flaw-heres-what-we-know 🛡️ ช่องโหว่ใหม่ใน Fortinet ถูกโจมตีแล้ว Fortinet ยอมรับว่าพบ zero-day ช่องโหว่ใหม่ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยเองก็ยังเป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์ และผู้ใช้ควรเร่งอัปเดตแพตช์ทันทีที่มีการปล่อยออกมา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/fortinet-admits-it-found-another-worrying-zero-day-being-exploited-in-attacks 📱 ที่จับ MagSafe สุดแปลกแต่ใช้ง่าย มีการเปิดตัว MagSafe iPhone Grip ที่ดีไซน์แปลกตา แต่กลับใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ทุกคน จุดเด่นคือช่วยให้ถือ iPhone ได้มั่นคงขึ้นโดยไม่ต้องใช้เคสหนา ๆ และยังถอดออกได้สะดวก เหมาะกับคนที่อยากได้อุปกรณ์เสริมที่ไม่ซ้ำใคร 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/this-may-be-the-oddest-yet-most-accessible-magsafe-iphone-grip-ever-made 🐉 กลุ่ม PlushDaemon จากจีนโจมตีซัพพลายเชนโลก กลุ่มแฮกเกอร์ PlushDaemon ใช้มัลแวร์ชื่อ SlowStepper ผ่าน implant ที่เรียกว่า EdgeStepper เพื่อเจาะเข้าอุปกรณ์เครือข่ายในหลายประเทศ ถือเป็นการโจมตีซัพพลายเชนที่ซับซ้อนและอันตราย เพราะสามารถกระทบต่อองค์กรทั่วโลกได้พร้อมกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/chinas-plushdaemon-group-uses-edgestepper-implant-to-infect-network-devices-with-slowstepper-malware-in-global-supply-chain-attacks 🛍️ แอปช้อปปิ้งสหรัฐฯ ดูดข้อมูลมากกว่าใคร รายงานใหม่เผยว่าแอปช้อปปิ้งจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Amazon เป็นแอปที่เก็บข้อมูลผู้ใช้มากที่สุด ทั้งข้อมูลส่วนตัวและพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งมากกว่าแอปจากจีนที่หลายคนกังวลกันอยู่แล้ว ทำให้เกิดคำถามเรื่องความเป็นส่วนตัวและการใช้ข้อมูลของผู้บริโภค 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/forget-beijing-its-us-shopping-apps-that-are-sucking-up-your-privacy-and-amazon-is-the-most-data-hungry 📷 Leica Q3 Monochrom กล้องขาวดำสุดหรู Leica เปิดตัว Q3 Monochrom กล้องที่ถ่ายได้เฉพาะภาพขาวดำ ราคาหลายพันดอลลาร์ แต่กลับได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะคุณภาพไฟล์และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเชิงศิลป์และต้องการความแตกต่างจากกล้องทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/leicas-q3-monochrom-costs-thousands-and-only-shoots-black-and-white-but-thats-only-made-me-want-one-more 📺 รีโมท Google TV รุ่นใหม่ใช้พลังงานจากแสงในบ้าน Google เตรียมเปิดตัวอุปกรณ์ Google TV รุ่นใหม่ที่มาพร้อมรีโมทซึ่งสามารถชาร์จพลังงานจากแสงในบ้านได้ ไม่ต้องใช้ถ่านหรือชาร์จสายอีกต่อไป ถือเป็นการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ไม่อยากเปลี่ยนถ่านบ่อย ๆ 🔗 https://www.techradar.com/televisions/streaming-devices/your-next-google-tv-device-could-come-with-a-remote-powered-by-indoor-light-and-im-definitely-a-fan 💻 ซีอีโอ Microsoft ด้าน AI ตอบโต้เสียงวิจารณ์ Windows 11 ซีอีโอฝ่าย AI ของ Microsoft ออกมาโต้ตอบเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับทิศทางใหม่ของ Windows 11 โดยบอกว่าคำวิจารณ์เหล่านั้น “mind-blowing” และยืนยันว่าการนำ AI เข้ามาในระบบปฏิบัติการจะช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้จะมีผู้ใช้บางส่วนที่ยังไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงนี้ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 📱 หลุดไลน์อัพสมาร์ทโฟน Samsung ปี 2026 มีข้อมูลหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Samsung ที่จะเปิดตัวในปี 2026 โดยคาดว่าจะมีการอัปเกรดทั้งด้านกล้อง หน้าจอ และประสิทธิภาพการทำงาน รายละเอียดบางส่วนยังไม่แน่ชัด แต่ข่าวนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ที่รอคอยการเปิดตัว 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsungs-2026-smartphone-lineup-just-leaked-heres-what-to-expect-and-when ⚖️ รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมท้าทายกฎหมาย AI ของรัฐต่าง ๆ ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ มีแผนจะใช้ อำนาจรัฐบาลกลาง เพื่อตรวจสอบและท้าทายกฎหมาย AI ที่ออกโดยรัฐต่าง ๆ เนื่องจากกังวลว่ากฎหมายเหล่านี้อาจขัดแย้งกันและสร้างความยุ่งยากต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในระดับประเทศ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/trump-administration-wants-to-use-federal-power-to-challenge-state-ai-laws 🌐 การกลับมาของ VPN ฟรีที่เป็นอันตราย มีการพบว่า VPN ฟรีบางตัว ที่เคยถูกแบนเพราะมีพฤติกรรมอันตราย ได้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบใหม่ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว การใช้ VPN ที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเปิดช่องให้ข้อมูลส่วนตัวถูกขโมยได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/malicious-free-vpn-extension-makes-a-comeback 📱 iPhone 17 Pro แจกฟรีกับโปร Verizon Verizon จัดโปรแรง แจกมือถือฟรี รวมถึง iPhone 17 Pro ให้ลูกค้าเมื่อสมัครแพ็กเกจที่กำหนด ถือเป็นดีลที่ดึงดูดใจมาก แต่ก็มีเงื่อนไขที่ผู้ใช้ต้องตรวจสอบให้ดีว่าเหมาะกับการใช้งานจริงหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 🎮 ประสบการณ์เล่น Stalker 2: Heart of Chornobyl นักเขียนรีวิวเล่าประสบการณ์การเล่นเกม Stalker 2: Heart of Chornobyl บน PS5 ที่ใช้เวลามากกว่า 50 ชั่วโมงในการเอาชีวิตรอดในโลกหลังหายนะ เกมนี้เต็มไปด้วยความท้าทายและบรรยากาศกดดัน แต่ก็สนุกและสมจริงสำหรับแฟนเกมแนว survival 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 🖥️ Microsoft Flex โชว์ทักษะโค้ดของ Copilot Microsoft สาธิตความสามารถของ Copilot ในการช่วยเขียนโค้ด แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้ไม่เห็นด้วยกับการใช้ AI ในงานพัฒนาโปรแกรม บางคนมองว่าเป็นการลดคุณค่าของนักพัฒนา แต่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 🎮 Nvidia รีบปล่อยแพตช์แก้ปัญหา GPU บน Windows 11 หลังจากการอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคม ทำให้เกมหลายเกมมีอาการหน่วง Nvidia จึงรีบออกแพตช์แก้ไขเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ GPU ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ การแก้ไขนี้ช่วยให้ผู้เล่นเกมสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/nvidia-rushes-out-a-gpu-fix-blaming-windows-11s-october-update-for-sluggish-performance-in-games 📡 Nokia แยกธุรกิจ AI หลังได้ทุนจาก Nvidia Nokia ประกาศแยกธุรกิจใหม่ด้าน AI สำหรับเครือข่ายมือถือ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2026 หลังจากที่ Nvidia ลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี 6G บริษัทตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก และหวังสร้างเครือข่ายมือถือที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก พร้อมคาดการณ์การเติบโตของรายได้ต่อปี 6-8% จนถึงปี 2028 🔗 https://www.techradar.com/pro/nokia-is-splitting-off-its-ai-business-weeks-after-usd1bn-nvidia-investment 🛵 หุ่นยนต์ส่งอาหารของ Uber Eats Uber Eats จับมือกับบริษัท Starship Technologies เพื่อเริ่มใช้หุ่นยนต์ส่งอาหารในสหราชอาณาจักร โดยเริ่มทดลองที่เมือง Leeds และจะขยายไปยัง Sheffield รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในยุโรปปี 2026 และสหรัฐฯ ปี 2027 หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถส่งอาหารได้ภายใน 30 นาทีในระยะทางไม่เกิน 2 ไมล์ ลูกค้าจะไม่สามารถให้ทิปหุ่นยนต์ได้ แต่สามารถให้คะแนนผ่านแอปเหมือนการส่งปกติ ถือเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของการขนส่งในเมืองยุคอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/uber-eats-will-soon-use-robots-to-deliver-your-takeaway-but-you-cant-tip-them 🤖 ChatGPT Atlas อัปเดตใหญ่ครั้งแรก ChatGPT Atlas ได้รับการอัปเดตครั้งสำคัญ โดยเพิ่ม 3 ฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้จะอยากลองใช้ทันที ได้แก่ การปรับปรุงความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล, การทำงานร่วมกับเครื่องมือภายนอกได้ดีขึ้น และการปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานให้ลื่นไหลมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับแพลตฟอร์ม AI ให้ตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-atlas-just-got-its-first-major-update-3-new-features-youll-want-to-use 🔒 Samsung เพิ่มระบบป้องกันขโมยใน One UI 8.5 Samsung เตรียมอัปเดต One UI 8.5 ที่จะเพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการโจรกรรมมือถือ เช่น การล็อกเครื่องแม้ถูกรีเซ็ต และระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการพยายามเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและอุปกรณ์ของตนเอง 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/your-samsung-phone-is-about-to-get-a-big-theft-protection-boost-thanks-to-one-ui-8-5-heres-how 🎨 คนทำงานสายครีเอทีฟชอบ AI แต่ก็มีปัญหา รายงานจาก Dropbox พบว่าคนทำงานสายครีเอทีฟใช้เครื่องมือเฉลี่ยถึง 14 ตัว ทำให้เกิดความซับซ้อนและเสียเวลา แม้ว่า 95% ของคนกลุ่มนี้จะใช้ AI เพื่อช่วยงาน เช่น การระดมไอเดีย สรุปการประชุม และค้นหาข้อมูล แต่ AI ยังไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด เพราะบางครั้งไม่เข้าใจบริบทของงานจริง ๆ หากสามารถลดจำนวนเครื่องมือและใช้ AI ที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มเวลาสร้างสรรค์งานได้มากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/creative-workers-love-ai-but-it-is-causing-more-issues-than-expected
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1067 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google และ Meta เลื่อนโครงการสายเคเบิลใต้น้ำในทะเลแดง

    Google และ Meta กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตระดับโลก หลังจากตัดสินใจเลื่อนการวางสายเคเบิลใต้น้ำในทะเลแดง ซึ่งเป็นเส้นทางที่สำคัญต่อการเชื่อมต่อระหว่างยุโรป เอเชีย และแอฟริกา สาเหตุหลักมาจากความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การโจมตีด้วยขีปนาวุธและความไม่มั่นคงทางการเมืองในภูมิภาค

    ผลกระทบต่อการเชื่อมต่อโลก
    ทะเลแดงถือเป็นเส้นทางที่รับผิดชอบต่อการส่งผ่านข้อมูลอินเทอร์เน็ตถึง หนึ่งในห้าของการจราจรโลก การเลื่อนโครงการทำให้ข้อมูลต้องเบี่ยงเส้นทางไปยังเส้นทางที่ยาวกว่า เช่น รอบทวีปแอฟริกา ส่งผลให้เกิด ความหน่วง (latency) สูงขึ้น และเพิ่มค่าใช้จ่ายให้กับบริษัทที่ต้องซื้อแบนด์วิดท์จากเส้นทางอื่นเพื่อรองรับความต้องการในระยะสั้น

    ต้นทุนและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ
    การหยุดชะงักนี้ไม่เพียงแต่ทำให้บริษัทเทคโนโลยีสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้จากโครงสร้างพื้นฐานใหม่ แต่ยังทำให้ผู้ใช้งานในภูมิภาคที่พึ่งพาอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงต้องเผชิญกับ ราคาที่สูงขึ้นและความเร็วที่ลดลง โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาในแอฟริกาและเอเชียที่ยังขาดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่เสถียร

    ทางเลือกใหม่และความท้าทาย
    เพื่อรับมือกับความเสี่ยง บริษัทโทรคมนาคมและเทคโนโลยีเริ่มพิจารณาเส้นทางทางบกผ่านประเทศอย่าง บาห์เรน ซาอุดีอาระเบีย และแม้กระทั่งอิรัก ซึ่งเดิมถูกมองว่าเสี่ยงและมีต้นทุนสูง แต่สถานการณ์ปัจจุบันทำให้เส้นทางเหล่านี้กลายเป็นทางเลือกที่จริงจังมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเจรจาและการขออนุญาตจากรัฐบาลท้องถิ่นยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ

    สรุปสาระสำคัญ
    การเลื่อนโครงการสายเคเบิลใต้น้ำของ Google และ Meta
    โครงการ 2Africa และ Blue-Raman ถูกเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด

    ทะเลแดงมีความสำคัญต่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโลก
    รับผิดชอบต่อการจราจรข้อมูลถึง 20% ของโลก

    ผลกระทบต่อผู้ใช้งานและบริษัทเทคโนโลยี
    เกิดความหน่วงสูงขึ้นและต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้น

    ทางเลือกใหม่ในการเชื่อมต่อ
    เส้นทางทางบกผ่านบาห์เรน ซาอุดีอาระเบีย และอิรักถูกพิจารณา

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในทะเลแดง
    มีรายงานการโจมตีด้วยขีปนาวุธและภัยจากกลุ่มติดอาวุธ

    ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต
    ประเทศกำลังพัฒนาต้องเผชิญราคาสูงและความเร็วต่ำลง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/google-and-meta-delay-red-sea-cables-over-security-concerns
    🌊 Google และ Meta เลื่อนโครงการสายเคเบิลใต้น้ำในทะเลแดง Google และ Meta กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตระดับโลก หลังจากตัดสินใจเลื่อนการวางสายเคเบิลใต้น้ำในทะเลแดง ซึ่งเป็นเส้นทางที่สำคัญต่อการเชื่อมต่อระหว่างยุโรป เอเชีย และแอฟริกา สาเหตุหลักมาจากความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การโจมตีด้วยขีปนาวุธและความไม่มั่นคงทางการเมืองในภูมิภาค 🚢 ผลกระทบต่อการเชื่อมต่อโลก ทะเลแดงถือเป็นเส้นทางที่รับผิดชอบต่อการส่งผ่านข้อมูลอินเทอร์เน็ตถึง หนึ่งในห้าของการจราจรโลก การเลื่อนโครงการทำให้ข้อมูลต้องเบี่ยงเส้นทางไปยังเส้นทางที่ยาวกว่า เช่น รอบทวีปแอฟริกา ส่งผลให้เกิด ความหน่วง (latency) สูงขึ้น และเพิ่มค่าใช้จ่ายให้กับบริษัทที่ต้องซื้อแบนด์วิดท์จากเส้นทางอื่นเพื่อรองรับความต้องการในระยะสั้น 💰 ต้นทุนและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ การหยุดชะงักนี้ไม่เพียงแต่ทำให้บริษัทเทคโนโลยีสูญเสียโอกาสในการสร้างรายได้จากโครงสร้างพื้นฐานใหม่ แต่ยังทำให้ผู้ใช้งานในภูมิภาคที่พึ่งพาอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงต้องเผชิญกับ ราคาที่สูงขึ้นและความเร็วที่ลดลง โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาในแอฟริกาและเอเชียที่ยังขาดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่เสถียร 🔒 ทางเลือกใหม่และความท้าทาย เพื่อรับมือกับความเสี่ยง บริษัทโทรคมนาคมและเทคโนโลยีเริ่มพิจารณาเส้นทางทางบกผ่านประเทศอย่าง บาห์เรน ซาอุดีอาระเบีย และแม้กระทั่งอิรัก ซึ่งเดิมถูกมองว่าเสี่ยงและมีต้นทุนสูง แต่สถานการณ์ปัจจุบันทำให้เส้นทางเหล่านี้กลายเป็นทางเลือกที่จริงจังมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเจรจาและการขออนุญาตจากรัฐบาลท้องถิ่นยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเลื่อนโครงการสายเคเบิลใต้น้ำของ Google และ Meta ➡️ โครงการ 2Africa และ Blue-Raman ถูกเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด ✅ ทะเลแดงมีความสำคัญต่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโลก ➡️ รับผิดชอบต่อการจราจรข้อมูลถึง 20% ของโลก ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งานและบริษัทเทคโนโลยี ➡️ เกิดความหน่วงสูงขึ้นและต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ✅ ทางเลือกใหม่ในการเชื่อมต่อ ➡️ เส้นทางทางบกผ่านบาห์เรน ซาอุดีอาระเบีย และอิรักถูกพิจารณา ‼️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในทะเลแดง ⛔ มีรายงานการโจมตีด้วยขีปนาวุธและภัยจากกลุ่มติดอาวุธ ‼️ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ⛔ ประเทศกำลังพัฒนาต้องเผชิญราคาสูงและความเร็วต่ำลง https://www.tomshardware.com/tech-industry/google-and-meta-delay-red-sea-cables-over-security-concerns
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 399 มุมมอง 0 รีวิว
  • Kyocera พัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารใต้น้ำด้วยเลเซอร์

    บริษัท Kyocera จากญี่ปุ่นได้พัฒนาเทคโนโลยี Underwater Optical Communications (UWOC) ที่ใช้เลเซอร์ในการส่งข้อมูลใต้น้ำ ความเร็วสูงสุดถึง 5.2 Gbps ซึ่งเร็วกว่าระบบสื่อสารใต้น้ำแบบเสียงที่ทำได้เพียงไม่กี่ Mbps เท่านั้น จุดเด่นคือสามารถส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์จากโดรนใต้น้ำ เช่น ภาพถ่ายความละเอียดสูง วิดีโอสด และข้อมูลจากเซ็นเซอร์

    เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับการตรวจสอบโครงสร้างใต้น้ำ เช่น ท่อส่งน้ำมัน สายเคเบิลใยแก้วนำแสง หรือแม้แต่การติดตามสัตว์ทะเลที่ติดแท็กไว้ นอกจากนี้ยังมีศักยภาพในการใช้งานทางทหาร เช่น การสื่อสารกับโดรนใต้น้ำจากเรือดำน้ำหรือเรือรบ

    อย่างไรก็ตาม UWOC มีข้อจำกัดคือระยะทางสั้น (ประมาณ 100 เมตร) และต้องใช้การมองเห็นตรง ๆ ระหว่างตัวส่งและตัวรับ หากมีสิ่งกีดขวาง เช่น ปลา หรือความขุ่นของน้ำ ก็อาจทำให้สัญญาณขาดหายได้ แต่ข้อดีคือยากต่อการดักฟังเมื่อเทียบกับสัญญาณเสียงที่กระจายไปทุกทิศทาง

    Kyocera พัฒนา UWOC ด้วยเลเซอร์ความเร็ว 5.2 Gbps
    เหมาะสำหรับโดรนใต้น้ำและการตรวจสอบโครงสร้าง

    มีศักยภาพใช้ในงานทหารและติดตามสัตว์ทะเล
    สามารถสื่อสารกับหลายเซ็นเซอร์พร้อมกัน

    ระยะทางจำกัดและต้องใช้ line-of-sight
    สิ่งกีดขวางหรือความขุ่นของน้ำอาจทำให้สัญญาณขาด

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/kyocera-develops-wireless-underwater-optical-communications-technology-uses-lasers-to-achieve-5-2-gbps-at-short-distances
    🌊 Kyocera พัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารใต้น้ำด้วยเลเซอร์ บริษัท Kyocera จากญี่ปุ่นได้พัฒนาเทคโนโลยี Underwater Optical Communications (UWOC) ที่ใช้เลเซอร์ในการส่งข้อมูลใต้น้ำ ความเร็วสูงสุดถึง 5.2 Gbps ซึ่งเร็วกว่าระบบสื่อสารใต้น้ำแบบเสียงที่ทำได้เพียงไม่กี่ Mbps เท่านั้น จุดเด่นคือสามารถส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์จากโดรนใต้น้ำ เช่น ภาพถ่ายความละเอียดสูง วิดีโอสด และข้อมูลจากเซ็นเซอร์ เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับการตรวจสอบโครงสร้างใต้น้ำ เช่น ท่อส่งน้ำมัน สายเคเบิลใยแก้วนำแสง หรือแม้แต่การติดตามสัตว์ทะเลที่ติดแท็กไว้ นอกจากนี้ยังมีศักยภาพในการใช้งานทางทหาร เช่น การสื่อสารกับโดรนใต้น้ำจากเรือดำน้ำหรือเรือรบ อย่างไรก็ตาม UWOC มีข้อจำกัดคือระยะทางสั้น (ประมาณ 100 เมตร) และต้องใช้การมองเห็นตรง ๆ ระหว่างตัวส่งและตัวรับ หากมีสิ่งกีดขวาง เช่น ปลา หรือความขุ่นของน้ำ ก็อาจทำให้สัญญาณขาดหายได้ แต่ข้อดีคือยากต่อการดักฟังเมื่อเทียบกับสัญญาณเสียงที่กระจายไปทุกทิศทาง ✅ Kyocera พัฒนา UWOC ด้วยเลเซอร์ความเร็ว 5.2 Gbps ➡️ เหมาะสำหรับโดรนใต้น้ำและการตรวจสอบโครงสร้าง ✅ มีศักยภาพใช้ในงานทหารและติดตามสัตว์ทะเล ➡️ สามารถสื่อสารกับหลายเซ็นเซอร์พร้อมกัน ‼️ ระยะทางจำกัดและต้องใช้ line-of-sight ⛔ สิ่งกีดขวางหรือความขุ่นของน้ำอาจทำให้สัญญาณขาด https://www.tomshardware.com/tech-industry/kyocera-develops-wireless-underwater-optical-communications-technology-uses-lasers-to-achieve-5-2-gbps-at-short-distances
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Fastnet” สายเคเบิลใต้น้ำสุดแกร่งจาก Amazon เชื่อมอเมริกาสู่อินเตอร์เน็ตความเร็วแสง

    ลองจินตนาการถึงการสตรีมภาพยนตร์ความละเอียดสูง (HD) พร้อมกันถึง 12.5 ล้านเรื่องในเวลาเดียวกัน — นั่นคือพลังของ “Fastnet” สายเคเบิลใต้น้ำใหม่ล่าสุดจาก Amazon ที่กำลังจะเชื่อมต่อสหรัฐอเมริกากับไอร์แลนด์ผ่านมหาสมุทรแอตแลนติก ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 320 เทราบิตต่อวินาที (Tbps)!

    Amazon ไม่ได้แค่ขายของออนไลน์หรือให้บริการคลาวด์เท่านั้น แต่ยังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกเพื่อรองรับการเติบโตของบริการ AWS และความต้องการข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจาก AI และเทคโนโลยีใหม่ๆ

    เคเบิลใต้น้ำที่ “หุ้มเกราะ” ป้องกันการโจมตี
    Fastnet ไม่ใช่แค่เร็ว แต่ยัง “แกร่ง” ด้วยการหุ้มเกราะเหล็กสองชั้นบริเวณชายฝั่ง เพื่อป้องกันการถูกตัดหรือทำลาย ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่เกิดขึ้นจริงในหลายพื้นที่ เช่น เหตุการณ์สายเคเบิลในทะเลแดงถูกตัดเมื่อไม่นานมานี้

    Amazon ยังออกแบบให้สายเคเบิลนี้มีจุดขึ้นฝั่งที่ “หลีกเลี่ยงเส้นทางเดิมๆ” อย่างสหราชอาณาจักรหรือฝรั่งเศส เพื่อเพิ่มความหลากหลายของเส้นทางข้อมูล ลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์

    ขยายอาณาจักร AWS พร้อมแผนพัฒนาอนาคต
    นอกจาก Fastnet แล้ว Amazon ยังมีแผนเพิ่ม Availability Zones อีก 10 แห่ง และเปิด AWS Region ใหม่อีก 3 แห่งทั่วโลก เพื่อรองรับความต้องการใช้งานคลาวด์ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะจากภาคธุรกิจและ AI

    เกร็ดน่ารู้: ทำไมสายเคเบิลใต้น้ำถึงสำคัญ?
    แม้เราจะใช้ Wi-Fi หรือ 5G กันทุกวัน แต่ความจริงแล้วกว่า 95% ของข้อมูลอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศยังคงเดินทางผ่านสายเคเบิลใต้น้ำ! สายเคเบิลเหล่านี้จึงเป็น “เส้นเลือดใหญ่” ของโลกดิจิทัล และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานนี้คือการวางรากฐานให้กับอนาคต

    Fastnet: สายเคเบิลใต้น้ำใหม่จาก Amazon
    เชื่อมต่อ Maryland, สหรัฐฯ กับ County Cork, ไอร์แลนด์
    ความเร็วสูงสุด 320 Tbps – เทียบเท่าการสตรีมหนัง HD 12.5 ล้านเรื่องพร้อมกัน
    พร้อมใช้งานในปี 2028

    โครงสร้างที่แข็งแกร่งและปลอดภัย
    หุ้มเกราะเหล็กสองชั้นบริเวณชายฝั่ง
    ออกแบบให้หลีกเลี่ยงเส้นทางสายเคเบิลเดิม เพื่อความหลากหลายและปลอดภัย

    รองรับการเติบโตของ AWS
    เพิ่ม Availability Zones อีก 10 แห่ง
    เปิด AWS Region ใหม่อีก 3 แห่งทั่วโลก

    การมีส่วนร่วมกับชุมชน
    จัดตั้ง Community Benefit Funds ใน Maryland และ County Cork
    สนับสนุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษา และความเป็นอยู่ของชุมชน

    ความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางภูมิรัฐศาสตร์
    สายเคเบิลใต้น้ำเคยถูกตัดในทะเลแดง ส่งผลกระทบต่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    ความขัดแย้งระหว่างประเทศอาจส่งผลต่อเส้นทางการวางสายเคเบิล

    ความเปราะบางของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล
    แม้จะมีการป้องกัน แต่สายเคเบิลใต้น้ำยังคงเป็นเป้าหมายที่อ่อนไหว
    การโจมตีหรือความเสียหายอาจส่งผลกระทบต่อบริการทั่วโลก

    https://www.tomshardware.com/networking/amazons-new-armored-undersea-cable-is-fast-enough-to-stream-12-5-million-hd-films-simultaneously-between-the-us-and-ireland-fastnet-to-deliver-320-terabits-per-second-across-the-atlantic
    🌊🔌 “Fastnet” สายเคเบิลใต้น้ำสุดแกร่งจาก Amazon เชื่อมอเมริกาสู่อินเตอร์เน็ตความเร็วแสง ลองจินตนาการถึงการสตรีมภาพยนตร์ความละเอียดสูง (HD) พร้อมกันถึง 12.5 ล้านเรื่องในเวลาเดียวกัน — นั่นคือพลังของ “Fastnet” สายเคเบิลใต้น้ำใหม่ล่าสุดจาก Amazon ที่กำลังจะเชื่อมต่อสหรัฐอเมริกากับไอร์แลนด์ผ่านมหาสมุทรแอตแลนติก ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 320 เทราบิตต่อวินาที (Tbps)! Amazon ไม่ได้แค่ขายของออนไลน์หรือให้บริการคลาวด์เท่านั้น แต่ยังลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกเพื่อรองรับการเติบโตของบริการ AWS และความต้องการข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจาก AI และเทคโนโลยีใหม่ๆ 🛡️ เคเบิลใต้น้ำที่ “หุ้มเกราะ” ป้องกันการโจมตี Fastnet ไม่ใช่แค่เร็ว แต่ยัง “แกร่ง” ด้วยการหุ้มเกราะเหล็กสองชั้นบริเวณชายฝั่ง เพื่อป้องกันการถูกตัดหรือทำลาย ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่เกิดขึ้นจริงในหลายพื้นที่ เช่น เหตุการณ์สายเคเบิลในทะเลแดงถูกตัดเมื่อไม่นานมานี้ Amazon ยังออกแบบให้สายเคเบิลนี้มีจุดขึ้นฝั่งที่ “หลีกเลี่ยงเส้นทางเดิมๆ” อย่างสหราชอาณาจักรหรือฝรั่งเศส เพื่อเพิ่มความหลากหลายของเส้นทางข้อมูล ลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ 🌍 ขยายอาณาจักร AWS พร้อมแผนพัฒนาอนาคต นอกจาก Fastnet แล้ว Amazon ยังมีแผนเพิ่ม Availability Zones อีก 10 แห่ง และเปิด AWS Region ใหม่อีก 3 แห่งทั่วโลก เพื่อรองรับความต้องการใช้งานคลาวด์ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะจากภาคธุรกิจและ AI 💡 เกร็ดน่ารู้: ทำไมสายเคเบิลใต้น้ำถึงสำคัญ? แม้เราจะใช้ Wi-Fi หรือ 5G กันทุกวัน แต่ความจริงแล้วกว่า 95% ของข้อมูลอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศยังคงเดินทางผ่านสายเคเบิลใต้น้ำ! สายเคเบิลเหล่านี้จึงเป็น “เส้นเลือดใหญ่” ของโลกดิจิทัล และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานนี้คือการวางรากฐานให้กับอนาคต ✅ Fastnet: สายเคเบิลใต้น้ำใหม่จาก Amazon ➡️ เชื่อมต่อ Maryland, สหรัฐฯ กับ County Cork, ไอร์แลนด์ ➡️ ความเร็วสูงสุด 320 Tbps – เทียบเท่าการสตรีมหนัง HD 12.5 ล้านเรื่องพร้อมกัน ➡️ พร้อมใช้งานในปี 2028 ✅ โครงสร้างที่แข็งแกร่งและปลอดภัย ➡️ หุ้มเกราะเหล็กสองชั้นบริเวณชายฝั่ง ➡️ ออกแบบให้หลีกเลี่ยงเส้นทางสายเคเบิลเดิม เพื่อความหลากหลายและปลอดภัย ✅ รองรับการเติบโตของ AWS ➡️ เพิ่ม Availability Zones อีก 10 แห่ง ➡️ เปิด AWS Region ใหม่อีก 3 แห่งทั่วโลก ✅ การมีส่วนร่วมกับชุมชน ➡️ จัดตั้ง Community Benefit Funds ใน Maryland และ County Cork ➡️ สนับสนุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษา และความเป็นอยู่ของชุมชน ‼️ ความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางภูมิรัฐศาสตร์ ⛔ สายเคเบิลใต้น้ำเคยถูกตัดในทะเลแดง ส่งผลกระทบต่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ⛔ ความขัดแย้งระหว่างประเทศอาจส่งผลต่อเส้นทางการวางสายเคเบิล ‼️ ความเปราะบางของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ⛔ แม้จะมีการป้องกัน แต่สายเคเบิลใต้น้ำยังคงเป็นเป้าหมายที่อ่อนไหว ⛔ การโจมตีหรือความเสียหายอาจส่งผลกระทบต่อบริการทั่วโลก https://www.tomshardware.com/networking/amazons-new-armored-undersea-cable-is-fast-enough-to-stream-12-5-million-hd-films-simultaneously-between-the-us-and-ireland-fastnet-to-deliver-320-terabits-per-second-across-the-atlantic
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวข้อข่าว: “อินเทอร์เน็ตโลกยังเปราะบาง – Cloudflare เผยเบื้องหลังการล่มจากสายเคเบิล,ภัยธรรมชาติ และคำสั่งรัฐ”

    รายงานล่าสุดจาก Cloudflare เผยว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2025 โลกเผชิญกับการล่มของอินเทอร์เน็ตจากหลายสาเหตุ ทั้งภัยธรรมชาติ, การก่อสร้าง, การโจมตีไซเบอร์ และคำสั่งจากรัฐบาล โดยมีผลกระทบต่อผู้ใช้งานในกว่า 125 ประเทศ.

    ลองนึกภาพว่าแค่กระสุนหลงในเท็กซัสก็สามารถทำให้ผู้ใช้ Spectrum หลายพันคนใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่ได้ถึง 2 ชั่วโมง นี่คือหนึ่งในหลายกรณีที่ Cloudflare รวบรวมไว้ในรายงาน “Q3 Internet Disruptions” ซึ่งชี้ให้เห็นว่าโครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ตทั่วโลกยังคงเปราะบางอย่างมาก

    รายงานระบุว่า:
    รัฐบาลยังคงเป็นต้นเหตุหลักของการล่ม เช่น อิรัก, ซีเรีย และซูดาน ที่สั่งปิดอินเทอร์เน็ตช่วงสอบระดับชาติ เพื่อป้องกันการโกงข้อสอบ
    ภัยธรรมชาติและอุบัติเหตุ เช่น แผ่นดินไหวขนาด 8.8 ในคัมชัตกา, ไฟไหม้ศูนย์กลางโทรคมนาคมในอียิปต์, และการตัดสายเคเบิลจากการก่อสร้างในแองโกลาและโดมินิกัน
    การโจมตีไซเบอร์และความผิดพลาดของระบบ เช่น Starlink ที่ล่มทั่วโลกในวันที่ 24 กรกฎาคม จากความผิดพลาดของซอฟต์แวร์ภายใน

    แม้จะมีเทคโนโลยีป้องกัน DDoS และระบบ routing ที่ทันสมัย แต่เมื่อโครงสร้างพื้นฐานถูกทำลายหรือถูกสั่งปิด อินเทอร์เน็ตก็ยังคงล่มได้ง่าย

    Cloudflare เผยรายงาน Q3 Internet Disruptions ปี 2025
    ครอบคลุมเหตุการณ์ล่มใน 125 ประเทศจากหลายสาเหตุ

    รัฐบาลยังคงใช้การปิดอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือควบคุม
    เช่น อิรัก, ซีเรีย, ซูดาน ปิดเน็ตช่วงสอบเพื่อป้องกันการโกง

    ภัยธรรมชาติและอุบัติเหตุเป็นสาเหตุสำคัญ
    แผ่นดินไหวในรัสเซีย, ไฟไหม้ในอียิปต์, กระสุนหลงในเท็กซัส

    การก่อสร้างทำให้สายเคเบิลถูกตัด
    ส่งผลให้การเชื่อมต่อหยุดชะงักหลายชั่วโมงในหลายประเทศ

    Starlink ล่มทั่วโลกจากความผิดพลาดของระบบ
    แสดงให้เห็นว่าแม้ระบบดาวเทียมก็ยังไม่ปลอดภัยจากข้อผิดพลาดภายใน

    Cloudflare ใช้ข้อมูลจากเครือข่ายใน 330 เมืองทั่วโลก
    เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการล่มและสาเหตุที่แท้จริง

    https://www.techradar.com/pro/disasters-shutdowns-and-cable-damage-galore-cloudflare-study-reveals-whats-really-been-behind-all-the-recent-internet-outages
    🌐⚡ หัวข้อข่าว: “อินเทอร์เน็ตโลกยังเปราะบาง – Cloudflare เผยเบื้องหลังการล่มจากสายเคเบิล,ภัยธรรมชาติ และคำสั่งรัฐ” รายงานล่าสุดจาก Cloudflare เผยว่า ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2025 โลกเผชิญกับการล่มของอินเทอร์เน็ตจากหลายสาเหตุ ทั้งภัยธรรมชาติ, การก่อสร้าง, การโจมตีไซเบอร์ และคำสั่งจากรัฐบาล โดยมีผลกระทบต่อผู้ใช้งานในกว่า 125 ประเทศ. ลองนึกภาพว่าแค่กระสุนหลงในเท็กซัสก็สามารถทำให้ผู้ใช้ Spectrum หลายพันคนใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่ได้ถึง 2 ชั่วโมง นี่คือหนึ่งในหลายกรณีที่ Cloudflare รวบรวมไว้ในรายงาน “Q3 Internet Disruptions” ซึ่งชี้ให้เห็นว่าโครงสร้างพื้นฐานของอินเทอร์เน็ตทั่วโลกยังคงเปราะบางอย่างมาก รายงานระบุว่า: 📍 รัฐบาลยังคงเป็นต้นเหตุหลักของการล่ม เช่น อิรัก, ซีเรีย และซูดาน ที่สั่งปิดอินเทอร์เน็ตช่วงสอบระดับชาติ เพื่อป้องกันการโกงข้อสอบ 📍 ภัยธรรมชาติและอุบัติเหตุ เช่น แผ่นดินไหวขนาด 8.8 ในคัมชัตกา, ไฟไหม้ศูนย์กลางโทรคมนาคมในอียิปต์, และการตัดสายเคเบิลจากการก่อสร้างในแองโกลาและโดมินิกัน 📍 การโจมตีไซเบอร์และความผิดพลาดของระบบ เช่น Starlink ที่ล่มทั่วโลกในวันที่ 24 กรกฎาคม จากความผิดพลาดของซอฟต์แวร์ภายใน แม้จะมีเทคโนโลยีป้องกัน DDoS และระบบ routing ที่ทันสมัย แต่เมื่อโครงสร้างพื้นฐานถูกทำลายหรือถูกสั่งปิด อินเทอร์เน็ตก็ยังคงล่มได้ง่าย ✅ Cloudflare เผยรายงาน Q3 Internet Disruptions ปี 2025 ➡️ ครอบคลุมเหตุการณ์ล่มใน 125 ประเทศจากหลายสาเหตุ ✅ รัฐบาลยังคงใช้การปิดอินเทอร์เน็ตเป็นเครื่องมือควบคุม ➡️ เช่น อิรัก, ซีเรีย, ซูดาน ปิดเน็ตช่วงสอบเพื่อป้องกันการโกง ✅ ภัยธรรมชาติและอุบัติเหตุเป็นสาเหตุสำคัญ ➡️ แผ่นดินไหวในรัสเซีย, ไฟไหม้ในอียิปต์, กระสุนหลงในเท็กซัส ✅ การก่อสร้างทำให้สายเคเบิลถูกตัด ➡️ ส่งผลให้การเชื่อมต่อหยุดชะงักหลายชั่วโมงในหลายประเทศ ✅ Starlink ล่มทั่วโลกจากความผิดพลาดของระบบ ➡️ แสดงให้เห็นว่าแม้ระบบดาวเทียมก็ยังไม่ปลอดภัยจากข้อผิดพลาดภายใน ✅ Cloudflare ใช้ข้อมูลจากเครือข่ายใน 330 เมืองทั่วโลก ➡️ เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการล่มและสาเหตุที่แท้จริง https://www.techradar.com/pro/disasters-shutdowns-and-cable-damage-galore-cloudflare-study-reveals-whats-really-been-behind-all-the-recent-internet-outages
    WWW.TECHRADAR.COM
    Fires, bullets, and earthquakes can easily take the internet down
    Little things like a stray bullet in Texas can disrupt entire network connections
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 440 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดาวเทียมกับดราม่าชิปโลก: จีนโพสต์ภาพ Hsinchu สะเทือนวงการเซมิคอนดักเตอร์

    ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา จีนได้โพสต์ภาพถ่ายดาวเทียมของ “Hsinchu Science Park” บนแพลตฟอร์ม X พร้อมข้อความ “There is but one China in the world” ซึ่งแม้จะไม่กล่าวถึงชิปโดยตรง แต่ภาพที่เลือกกลับเป็นศูนย์กลางการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกของไต้หวัน — สะท้อนเจตนาทางการเมืองที่ชัดเจน

    Hsinchu คือที่ตั้งของ TSMC, MediaTek, UMC และหน่วยงานรัฐที่ดูแลยุทธศาสตร์ด้านอวกาศและชิปของไต้หวัน โดยเฉพาะ TSMC ที่มีโรงงานระดับสูงอย่าง Fab 12A, 12B, 20, 3, 5, 8, 2 และ Advanced Backend Fab 1 รวมถึง Global R&D Center ที่นักวิเคราะห์ระบุว่า “เป็นที่ที่ IP ของการผลิตชิประดับโลกถูกสร้างขึ้น”

    แม้จะเป็นโพสต์ธรรมดา แต่ในบริบทของความตึงเครียดระหว่างจีน-ไต้หวัน ภาพนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเตือนโลกว่า “จุดอ่อนของเศรษฐกิจโลก” อยู่ที่นี่ เพราะกว่า 99% ของชิปประสิทธิภาพสูงผลิตในไต้หวัน และหากเกิดเหตุการณ์หยุดชะงักแม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลกระทบตั้งแต่ดาต้าเซ็นเตอร์ไปจนถึงระบบป้องกันประเทศ

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก:
    TSMC ถือเป็นผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลก โดยมีลูกค้าหลักอย่าง Apple, Nvidia, AMD และ Qualcomm
    สหรัฐฯ เคยเตือนว่า TSMC คือ “single point of failure” ของเศรษฐกิจโลก หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
    การแข่งขันด้านเทคโนโลยีระหว่างจีน-สหรัฐฯ ทำให้ไต้หวันกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในสงครามเศรษฐกิจ

    จีนโพสต์ภาพดาวเทียมของ Hsinchu Science Park
    พร้อมข้อความ “There is but one China in the world”
    ภาพแสดงศูนย์กลางการผลิตชิประดับโลกของไต้หวัน

    ความสำคัญของ Hsinchu ต่ออุตสาหกรรมชิป
    เป็นที่ตั้งของ TSMC, MediaTek, UMC และหน่วยงานรัฐ
    มีโรงงาน TSMC หลายแห่งและ Global R&D Center

    ความเสี่ยงเชิงยุทธศาสตร์
    99% ของชิปประสิทธิภาพสูงผลิตในไต้หวัน
    หากเกิดเหตุการณ์หยุดชะงัก อาจกระทบเศรษฐกิจโลก

    การตอบสนองจากสหรัฐฯ และพันธมิตร
    มีการจำลองสถานการณ์ในช่องแคบบาชี
    เพิ่มบทลงโทษการทำลายสายเคเบิลใต้น้ำ

    ความตึงเครียดระหว่างจีน-ไต้หวัน
    การซ้อมปิดล้อมช่องแคบไต้หวันโดยกองทัพเรือจีน
    การตรวจสอบเรือสินค้าและการเคลื่อนไหวทางทหาร

    ความเปราะบางของห่วงโซ่อุปทานชิป
    การพึ่งพา TSMC มากเกินไปในระดับโลก
    ความล่าช้าในการกระจายการผลิตไปยังประเทศอื่น

    เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ภาพถ่ายดาวเทียมธรรมดา แต่เป็น “สัญญาณเตือน” ว่าโลกกำลังพึ่งพาเทคโนโลยีจากพื้นที่เล็ก ๆ ที่อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของเศรษฐกิจโลก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-posts-photo-of-taiwans-chip-hub-in-political-message
    🛰️ ดาวเทียมกับดราม่าชิปโลก: จีนโพสต์ภาพ Hsinchu สะเทือนวงการเซมิคอนดักเตอร์ ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา จีนได้โพสต์ภาพถ่ายดาวเทียมของ “Hsinchu Science Park” บนแพลตฟอร์ม X พร้อมข้อความ “There is but one China in the world” ซึ่งแม้จะไม่กล่าวถึงชิปโดยตรง แต่ภาพที่เลือกกลับเป็นศูนย์กลางการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกของไต้หวัน — สะท้อนเจตนาทางการเมืองที่ชัดเจน Hsinchu คือที่ตั้งของ TSMC, MediaTek, UMC และหน่วยงานรัฐที่ดูแลยุทธศาสตร์ด้านอวกาศและชิปของไต้หวัน โดยเฉพาะ TSMC ที่มีโรงงานระดับสูงอย่าง Fab 12A, 12B, 20, 3, 5, 8, 2 และ Advanced Backend Fab 1 รวมถึง Global R&D Center ที่นักวิเคราะห์ระบุว่า “เป็นที่ที่ IP ของการผลิตชิประดับโลกถูกสร้างขึ้น” แม้จะเป็นโพสต์ธรรมดา แต่ในบริบทของความตึงเครียดระหว่างจีน-ไต้หวัน ภาพนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเตือนโลกว่า “จุดอ่อนของเศรษฐกิจโลก” อยู่ที่นี่ เพราะกว่า 99% ของชิปประสิทธิภาพสูงผลิตในไต้หวัน และหากเกิดเหตุการณ์หยุดชะงักแม้เพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลกระทบตั้งแต่ดาต้าเซ็นเตอร์ไปจนถึงระบบป้องกันประเทศ 💡 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก: 💠 TSMC ถือเป็นผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลก โดยมีลูกค้าหลักอย่าง Apple, Nvidia, AMD และ Qualcomm 💠 สหรัฐฯ เคยเตือนว่า TSMC คือ “single point of failure” ของเศรษฐกิจโลก หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน 💠 การแข่งขันด้านเทคโนโลยีระหว่างจีน-สหรัฐฯ ทำให้ไต้หวันกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในสงครามเศรษฐกิจ ✅ จีนโพสต์ภาพดาวเทียมของ Hsinchu Science Park ➡️ พร้อมข้อความ “There is but one China in the world” ➡️ ภาพแสดงศูนย์กลางการผลิตชิประดับโลกของไต้หวัน ✅ ความสำคัญของ Hsinchu ต่ออุตสาหกรรมชิป ➡️ เป็นที่ตั้งของ TSMC, MediaTek, UMC และหน่วยงานรัฐ ➡️ มีโรงงาน TSMC หลายแห่งและ Global R&D Center ✅ ความเสี่ยงเชิงยุทธศาสตร์ ➡️ 99% ของชิปประสิทธิภาพสูงผลิตในไต้หวัน ➡️ หากเกิดเหตุการณ์หยุดชะงัก อาจกระทบเศรษฐกิจโลก ✅ การตอบสนองจากสหรัฐฯ และพันธมิตร ➡️ มีการจำลองสถานการณ์ในช่องแคบบาชี ➡️ เพิ่มบทลงโทษการทำลายสายเคเบิลใต้น้ำ ‼️ ความตึงเครียดระหว่างจีน-ไต้หวัน ⛔ การซ้อมปิดล้อมช่องแคบไต้หวันโดยกองทัพเรือจีน ⛔ การตรวจสอบเรือสินค้าและการเคลื่อนไหวทางทหาร ‼️ ความเปราะบางของห่วงโซ่อุปทานชิป ⛔ การพึ่งพา TSMC มากเกินไปในระดับโลก ⛔ ความล่าช้าในการกระจายการผลิตไปยังประเทศอื่น เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ภาพถ่ายดาวเทียมธรรมดา แต่เป็น “สัญญาณเตือน” ว่าโลกกำลังพึ่งพาเทคโนโลยีจากพื้นที่เล็ก ๆ ที่อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของเศรษฐกิจโลก 🌏💥 https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-posts-photo-of-taiwans-chip-hub-in-political-message
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 469 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไต้หวันเพิ่มโทษทำลายสายเคเบิลใต้น้ำ: จำคุกสูงสุด 7 ปี ปรับกว่า 325,000 ดอลลาร์!

    รัฐบาลไต้หวันเสนอร่างกฎหมายใหม่เพิ่มโทษผู้ที่ทำลายสายเคเบิลใต้น้ำ ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญด้านการสื่อสาร โดยมีบทลงโทษสูงสุดถึง 7 ปี และปรับกว่า 10 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 325,000 ดอลลาร์สหรัฐ)

    สายเคเบิลใต้น้ำไม่ใช่แค่ท่อส่งข้อมูลระหว่างประเทศ แต่เป็นเส้นเลือดหลักของการสื่อสารระหว่างไต้หวันกับโลกภายนอก โดยเฉพาะกับพันธมิตรอย่างสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่สายเคเบิลเหล่านี้ถูกตัดหรือเสียหายหลายครั้ง โดยมีข้อสงสัยว่ามาจากเรือสินค้าจีนที่จงใจทำลาย

    เพื่อรับมือกับภัยคุกคามนี้ รัฐบาลไต้หวันจึงเสนอ “กฎหมายสายเคเบิลใต้น้ำ 7 ฉบับ” ที่เพิ่มบทลงโทษอย่างชัดเจน:
    ผู้ที่จงใจทำลาย: จำคุกสูงสุด 7 ปี และปรับ 10 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน
    ผู้ที่ทำลายโดยไม่ตั้งใจ: จำคุก 6 เดือน และปรับ 2 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน
    เรือที่เกี่ยวข้อง: รัฐบาลมีสิทธิ์ยึดเรือทันที ไม่ว่าผู้ถือกรรมสิทธิ์จะเป็นใคร

    นอกจากนี้ กฎหมายยังบังคับให้เรือทุกลำต้องติดตั้งระบบระบุตัวอัตโนมัติ (AIS) และให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำแผนที่แสดงตำแหน่งสายเคเบิลใต้น้ำ เพื่อป้องกันความเสียหายโดยไม่ตั้งใจ

    แม้การเปิดเผยตำแหน่งสายเคเบิลอาจดูเสี่ยง แต่รัฐบาลมองว่า “ฝ่ายตรงข้ามน่าจะรู้ตำแหน่งอยู่แล้ว” การเปิดเผยต่อสาธารณะจะช่วยลดความผิดพลาดจากเรือทั่วไปที่ไม่รู้ว่ากำลังแล่นผ่านโครงสร้างสำคัญ

    นี่คือการส่งสัญญาณว่า “ข้อมูลคืออธิปไตย” และไต้หวันจะไม่ยอมให้โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารถูกคุกคามอีกต่อไป ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม

    https://www.tomshardware.com/networking/taiwan-increases-penalty-for-damaging-undersea-cables-offenders-face-up-to-7-years-in-prison-and-usd325-000-in-fines
    🌐⚖️ ไต้หวันเพิ่มโทษทำลายสายเคเบิลใต้น้ำ: จำคุกสูงสุด 7 ปี ปรับกว่า 325,000 ดอลลาร์! รัฐบาลไต้หวันเสนอร่างกฎหมายใหม่เพิ่มโทษผู้ที่ทำลายสายเคเบิลใต้น้ำ ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญด้านการสื่อสาร โดยมีบทลงโทษสูงสุดถึง 7 ปี และปรับกว่า 10 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 325,000 ดอลลาร์สหรัฐ) สายเคเบิลใต้น้ำไม่ใช่แค่ท่อส่งข้อมูลระหว่างประเทศ แต่เป็นเส้นเลือดหลักของการสื่อสารระหว่างไต้หวันกับโลกภายนอก โดยเฉพาะกับพันธมิตรอย่างสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่สายเคเบิลเหล่านี้ถูกตัดหรือเสียหายหลายครั้ง โดยมีข้อสงสัยว่ามาจากเรือสินค้าจีนที่จงใจทำลาย เพื่อรับมือกับภัยคุกคามนี้ รัฐบาลไต้หวันจึงเสนอ “กฎหมายสายเคเบิลใต้น้ำ 7 ฉบับ” ที่เพิ่มบทลงโทษอย่างชัดเจน: 📍 ผู้ที่จงใจทำลาย: จำคุกสูงสุด 7 ปี และปรับ 10 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน 📍 ผู้ที่ทำลายโดยไม่ตั้งใจ: จำคุก 6 เดือน และปรับ 2 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน 📍 เรือที่เกี่ยวข้อง: รัฐบาลมีสิทธิ์ยึดเรือทันที ไม่ว่าผู้ถือกรรมสิทธิ์จะเป็นใคร นอกจากนี้ กฎหมายยังบังคับให้เรือทุกลำต้องติดตั้งระบบระบุตัวอัตโนมัติ (AIS) และให้กระทรวงมหาดไทยจัดทำแผนที่แสดงตำแหน่งสายเคเบิลใต้น้ำ เพื่อป้องกันความเสียหายโดยไม่ตั้งใจ แม้การเปิดเผยตำแหน่งสายเคเบิลอาจดูเสี่ยง แต่รัฐบาลมองว่า “ฝ่ายตรงข้ามน่าจะรู้ตำแหน่งอยู่แล้ว” การเปิดเผยต่อสาธารณะจะช่วยลดความผิดพลาดจากเรือทั่วไปที่ไม่รู้ว่ากำลังแล่นผ่านโครงสร้างสำคัญ นี่คือการส่งสัญญาณว่า “ข้อมูลคืออธิปไตย” และไต้หวันจะไม่ยอมให้โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารถูกคุกคามอีกต่อไป ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม https://www.tomshardware.com/networking/taiwan-increases-penalty-for-damaging-undersea-cables-offenders-face-up-to-7-years-in-prison-and-usd325-000-in-fines
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 347 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แร็ค 21 นิ้วกำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของดาต้าเซ็นเตอร์ — รับยุค AI ที่ต้องการพลังงานและความเย็นมากขึ้น” — เมื่อโครงสร้างพื้นฐานต้องปรับตัวเพื่อรองรับเซิร์ฟเวอร์ยุคใหม่ที่หนาแน่นและร้อนแรงกว่าเดิม

    รายงานจาก TechRadar เผยว่าแร็คขนาด 21 นิ้ว (หรือ 51 มม. ต่อหน่วย) กำลังจะเข้ามาแทนที่แร็คขนาด 19 นิ้วแบบดั้งเดิมในดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกภายในปี 2030 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ให้บริการคลาวด์และ AI ขนาดใหญ่ เช่น Microsoft, Amazon, Google, Meta, Huawei และ Oracle

    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากความต้องการด้านโครงสร้างที่สูงขึ้นในยุค AI ซึ่งต้องการเซิร์ฟเวอร์ที่มีการจัดสายเคเบิลหนาแน่น, ระบบระบายความร้อนแบบน้ำ, และการจ่ายไฟที่มากขึ้น แร็คขนาด 21 นิ้วช่วยให้ติดตั้งพัดลมขนาดใหญ่ขึ้น, เพิ่ม airflow, และจัดวางระบบจ่ายไฟได้ดีขึ้น

    ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์อย่าง Dell และ HPE กำลังเปลี่ยนไปใช้มาตรฐาน Open Rack และระบบ DC-MHS (Data Center Modular Hardware System) ซึ่งช่วยให้สามารถจัดการ compute และ storage แบบ rack-scale ได้

    รายงานจาก Omdia คาดว่าแร็คขนาด 21 นิ้วจะครองตลาดมากกว่า 70% ภายในปี 2030 และยอดขายแร็คจะเติบโตเร็วกว่ายอดขายเซิร์ฟเวอร์เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี

    แร็คขนาด 21 นิ้วกำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในดาต้าเซ็นเตอร์
    แทนที่แร็คขนาด 19 นิ้วแบบเดิมภายในปี 2030

    ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่เริ่มเปลี่ยนมาใช้แร็ค 21 นิ้วแล้ว
    เช่น Microsoft, Amazon, Google, Meta, Huawei และ Oracle

    Dell และ HPE สนับสนุนมาตรฐาน Open Rack และ DC-MHS
    เพื่อจัดการ compute และ storage แบบ rack-scale

    แร็คขนาดใหญ่ช่วยเพิ่ม airflow และติดตั้งพัดลมขนาดใหญ่ขึ้น
    รองรับเซิร์ฟเวอร์ที่ร้อนและใช้พลังงานสูงในยุค AI

    Omdia คาดว่าแร็ค 21 นิ้วจะครองตลาดมากกว่า 70% ภายในปี 2030
    และยอดขายแร็คจะเติบโตเร็วกว่ายอดขายเซิร์ฟเวอร์

    Wiwynn ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์รายใหญ่กำลังขยายกำลังการผลิต
    เพื่อตอบสนองความต้องการของ hyperscaler ด้าน AI

    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/when-51mm-is-all-you-need-supersized-21-inch-racks-to-become-standard-for-enterprise-and-cloud-service-providers-by-end-of-the-decade-displacing-the-venerable-19-inch-format
    📦 “แร็ค 21 นิ้วกำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของดาต้าเซ็นเตอร์ — รับยุค AI ที่ต้องการพลังงานและความเย็นมากขึ้น” — เมื่อโครงสร้างพื้นฐานต้องปรับตัวเพื่อรองรับเซิร์ฟเวอร์ยุคใหม่ที่หนาแน่นและร้อนแรงกว่าเดิม รายงานจาก TechRadar เผยว่าแร็คขนาด 21 นิ้ว (หรือ 51 มม. ต่อหน่วย) กำลังจะเข้ามาแทนที่แร็คขนาด 19 นิ้วแบบดั้งเดิมในดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกภายในปี 2030 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ให้บริการคลาวด์และ AI ขนาดใหญ่ เช่น Microsoft, Amazon, Google, Meta, Huawei และ Oracle การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากความต้องการด้านโครงสร้างที่สูงขึ้นในยุค AI ซึ่งต้องการเซิร์ฟเวอร์ที่มีการจัดสายเคเบิลหนาแน่น, ระบบระบายความร้อนแบบน้ำ, และการจ่ายไฟที่มากขึ้น แร็คขนาด 21 นิ้วช่วยให้ติดตั้งพัดลมขนาดใหญ่ขึ้น, เพิ่ม airflow, และจัดวางระบบจ่ายไฟได้ดีขึ้น ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์อย่าง Dell และ HPE กำลังเปลี่ยนไปใช้มาตรฐาน Open Rack และระบบ DC-MHS (Data Center Modular Hardware System) ซึ่งช่วยให้สามารถจัดการ compute และ storage แบบ rack-scale ได้ รายงานจาก Omdia คาดว่าแร็คขนาด 21 นิ้วจะครองตลาดมากกว่า 70% ภายในปี 2030 และยอดขายแร็คจะเติบโตเร็วกว่ายอดขายเซิร์ฟเวอร์เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ✅ แร็คขนาด 21 นิ้วกำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในดาต้าเซ็นเตอร์ ➡️ แทนที่แร็คขนาด 19 นิ้วแบบเดิมภายในปี 2030 ✅ ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่เริ่มเปลี่ยนมาใช้แร็ค 21 นิ้วแล้ว ➡️ เช่น Microsoft, Amazon, Google, Meta, Huawei และ Oracle ✅ Dell และ HPE สนับสนุนมาตรฐาน Open Rack และ DC-MHS ➡️ เพื่อจัดการ compute และ storage แบบ rack-scale ✅ แร็คขนาดใหญ่ช่วยเพิ่ม airflow และติดตั้งพัดลมขนาดใหญ่ขึ้น ➡️ รองรับเซิร์ฟเวอร์ที่ร้อนและใช้พลังงานสูงในยุค AI ✅ Omdia คาดว่าแร็ค 21 นิ้วจะครองตลาดมากกว่า 70% ภายในปี 2030 ➡️ และยอดขายแร็คจะเติบโตเร็วกว่ายอดขายเซิร์ฟเวอร์ ✅ Wiwynn ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์รายใหญ่กำลังขยายกำลังการผลิต ➡️ เพื่อตอบสนองความต้องการของ hyperscaler ด้าน AI https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/when-51mm-is-all-you-need-supersized-21-inch-racks-to-become-standard-for-enterprise-and-cloud-service-providers-by-end-of-the-decade-displacing-the-venerable-19-inch-format
    WWW.TECHRADAR.COM
    The transition to 21-inch Open Rack designs gathers momentum
    Hyperscalers are turning to wider Open Rack designs for AI expansion
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Supermicro เปิดตัว DCBBS” — โซลูชันสร้างศูนย์ข้อมูลครบวงจรจากผู้ผลิตรายเดียว

    Supermicro บริษัทผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT สำหรับ AI, HPC, Cloud และ 5G ได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ในชื่อ Data Center Building Block Solutions (DCBBS) ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ในการออกแบบและสร้างศูนย์ข้อมูลแบบครบวงจรจากผู้ผลิตรายเดียว โดยมีเป้าหมายเพื่อลดเวลาในการออนไลน์ (Time-to-Online) และเพิ่มคุณภาพรวมถึงความสะดวกในการดูแลรักษา

    DCBBS ครอบคลุมทุกองค์ประกอบของศูนย์ข้อมูล ตั้งแต่เซิร์ฟเวอร์ ระบบจัดเก็บข้อมูล ซอฟต์แวร์บริหารจัดการ ระบบระบายความร้อนแบบของเหลว เครือข่าย และระบบไฟฟ้า โดยทุกชิ้นส่วนจะถูกทดสอบและประกอบในโรงงานของ Supermicro ก่อนส่งมอบ

    ระบบระบายความร้อนแบบของเหลวของ Supermicro สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนด้วยอากาศแบบเดิม และสามารถรองรับความร้อนจาก GPU และ CPU รุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    นอกจากนี้ยังมีโซลูชันเสริม เช่น ระบบจ่ายไฟ 33kW ต่อชั้นวาง, ระบบแบตเตอรี่สำรอง 48V DC, ระบบจัดการสายเคเบิลและเครือข่าย, รวมถึงซอฟต์แวร์บริหารจัดการศูนย์ข้อมูลแบบครบวงจร เช่น SuperCloud Composer และ Automation Center

    Supermicro ยังเปิดบริการระดับมืออาชีพสำหรับการออกแบบและติดตั้งศูนย์ข้อมูล พร้อมทีมงานที่สามารถให้การสนับสนุนในสถานที่ภายใน 4 ชั่วโมงสำหรับงานที่ต้องการความต่อเนื่องสูง

    ข้อมูลในข่าว
    Supermicro เปิดตัว Data Center Building Block Solutions (DCBBS) เป็นธุรกิจใหม่
    ครอบคลุมทุกองค์ประกอบของศูนย์ข้อมูลจากผู้ผลิตรายเดียว
    ระบบระบายความร้อนแบบของเหลวช่วยลดพลังงานได้ถึง 40%
    รองรับ GPU และ CPU รุ่นใหม่ด้วย cold plates ที่ลดความร้อนได้ถึง 98%
    มีระบบจ่ายไฟ 33kW ต่อชั้นวาง และแบตเตอรี่สำรอง 48V DC สำหรับงานสำคัญ
    ซอฟต์แวร์บริหารจัดการครบวงจร เช่น SuperCloud Composer และ SCAC
    บริการออกแบบและติดตั้งศูนย์ข้อมูล พร้อมทีมสนับสนุนในสถานที่

    คำเตือนจากข้อมูลข่าว
    การเปลี่ยนมาใช้ระบบระบายความร้อนแบบของเหลวต้องมีการปรับโครงสร้างพื้นฐาน
    หากไม่มีการจัดการพลังงานและความร้อนที่ดี อาจส่งผลต่อเสถียรภาพของศูนย์ข้อมูล
    การพึ่งพาผู้ผลิตรายเดียวอาจสร้างความเสี่ยงด้านการจัดหาและการซ่อมบำรุง
    การออกแบบศูนย์ข้อมูลใหม่ต้องใช้เวลาและงบประมาณสูงในการวางแผนและทดสอบ

    https://www.techpowerup.com/341891/supermicro-introduces-data-center-building-block-solutions
    🏗️ “Supermicro เปิดตัว DCBBS” — โซลูชันสร้างศูนย์ข้อมูลครบวงจรจากผู้ผลิตรายเดียว Supermicro บริษัทผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT สำหรับ AI, HPC, Cloud และ 5G ได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ในชื่อ Data Center Building Block Solutions (DCBBS) ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ในการออกแบบและสร้างศูนย์ข้อมูลแบบครบวงจรจากผู้ผลิตรายเดียว โดยมีเป้าหมายเพื่อลดเวลาในการออนไลน์ (Time-to-Online) และเพิ่มคุณภาพรวมถึงความสะดวกในการดูแลรักษา DCBBS ครอบคลุมทุกองค์ประกอบของศูนย์ข้อมูล ตั้งแต่เซิร์ฟเวอร์ ระบบจัดเก็บข้อมูล ซอฟต์แวร์บริหารจัดการ ระบบระบายความร้อนแบบของเหลว เครือข่าย และระบบไฟฟ้า โดยทุกชิ้นส่วนจะถูกทดสอบและประกอบในโรงงานของ Supermicro ก่อนส่งมอบ ระบบระบายความร้อนแบบของเหลวของ Supermicro สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนด้วยอากาศแบบเดิม และสามารถรองรับความร้อนจาก GPU และ CPU รุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีโซลูชันเสริม เช่น ระบบจ่ายไฟ 33kW ต่อชั้นวาง, ระบบแบตเตอรี่สำรอง 48V DC, ระบบจัดการสายเคเบิลและเครือข่าย, รวมถึงซอฟต์แวร์บริหารจัดการศูนย์ข้อมูลแบบครบวงจร เช่น SuperCloud Composer และ Automation Center Supermicro ยังเปิดบริการระดับมืออาชีพสำหรับการออกแบบและติดตั้งศูนย์ข้อมูล พร้อมทีมงานที่สามารถให้การสนับสนุนในสถานที่ภายใน 4 ชั่วโมงสำหรับงานที่ต้องการความต่อเนื่องสูง ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Supermicro เปิดตัว Data Center Building Block Solutions (DCBBS) เป็นธุรกิจใหม่ ➡️ ครอบคลุมทุกองค์ประกอบของศูนย์ข้อมูลจากผู้ผลิตรายเดียว ➡️ ระบบระบายความร้อนแบบของเหลวช่วยลดพลังงานได้ถึง 40% ➡️ รองรับ GPU และ CPU รุ่นใหม่ด้วย cold plates ที่ลดความร้อนได้ถึง 98% ➡️ มีระบบจ่ายไฟ 33kW ต่อชั้นวาง และแบตเตอรี่สำรอง 48V DC สำหรับงานสำคัญ ➡️ ซอฟต์แวร์บริหารจัดการครบวงจร เช่น SuperCloud Composer และ SCAC ➡️ บริการออกแบบและติดตั้งศูนย์ข้อมูล พร้อมทีมสนับสนุนในสถานที่ ‼️ คำเตือนจากข้อมูลข่าว ⛔ การเปลี่ยนมาใช้ระบบระบายความร้อนแบบของเหลวต้องมีการปรับโครงสร้างพื้นฐาน ⛔ หากไม่มีการจัดการพลังงานและความร้อนที่ดี อาจส่งผลต่อเสถียรภาพของศูนย์ข้อมูล ⛔ การพึ่งพาผู้ผลิตรายเดียวอาจสร้างความเสี่ยงด้านการจัดหาและการซ่อมบำรุง ⛔ การออกแบบศูนย์ข้อมูลใหม่ต้องใช้เวลาและงบประมาณสูงในการวางแผนและทดสอบ https://www.techpowerup.com/341891/supermicro-introduces-data-center-building-block-solutions
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Supermicro Introduces Data Center Building Block Solutions
    Super Micro Computer, Inc. (SMCI), a total IT solution provider for AI/ML, HPC, Cloud, Storage, and 5G/Edge, is announcing the availability of its Data Center Building Block Solutions (DCBBS). These solutions are considered a new business line for Supermicro and enable organizations to design, order...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Stark เปิดตัว Vanta Sea Drone — โดรนเรืออัจฉริยะเพื่อปกป้องสายเคเบิลใต้น้ำจากภัยคุกคามยุคใหม่”

    ในยุคที่ข้อมูลและพลังงานไหลผ่านสายเคเบิลใต้น้ำเป็นหลัก ความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้กลายเป็นเรื่องสำคัญระดับโลก ล่าสุดบริษัท Stark จากอังกฤษ-เยอรมนี ได้เปิดตัวเรือโดรนอัจฉริยะรุ่นใหม่ชื่อว่า Vanta-4 และ Vanta-6 ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อภารกิจลาดตระเวนและป้องกันภัยคุกคามต่อสายเคเบิลใต้น้ำโดยเฉพาะ

    เรือ Vanta ถูกทดสอบในภารกิจ NATO ชื่อ REPMUS/Dynamic Messenger 2025 ที่ประเทศโปรตุเกส โดยมีบทบาทในภารกิจหลากหลาย เช่น การคุ้มกันเป้าหมายสำคัญ, ควบคุมท่าเรือ, ตรวจสอบเป้าหมายที่อยู่ไกลเกินสายตา และลาดตระเวนกลางคืนเพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรอง

    Vanta-4 มีความยาว 4 เมตร ส่วน Vanta-6 ยาว 6 เมตร ทั้งสองรุ่นสามารถวิ่งได้ไกลถึง 900 ไมล์ทะเล (ประมาณ 1,667 กม.) และติดตั้งเซนเซอร์ขั้นสูง เช่น กล้องอินฟราเรด, กล้องออปติค, เรดาร์ค้นหา และระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบปรับเปลี่ยนได้

    จุดเด่นของ Vanta คือการออกแบบให้ผลิตได้จำนวนมากในราคาประหยัด พร้อมระบบควบคุมอัจฉริยะชื่อ Minerva ที่สามารถสั่งการแบบฝูง (swarm) และทำงานร่วมกับโดรนทางอากาศ เช่น Virtus ซึ่งเป็นโดรน VTOL แบบโจมตีของ Stark

    Stark ยังได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ เช่น Sequoia Capital, Thiel Capital และ NATO Innovation Fund โดยมีมูลค่าบริษัทล่าสุดอยู่ที่ 500 ล้านดอลลาร์ และระดมทุนไปแล้วกว่า 92 ล้านดอลลาร์

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Stark เปิดตัวเรือโดรน Vanta-4 และ Vanta-6 สำหรับภารกิจทางทะเล
    ทดสอบในภารกิจ NATO REPMUS/Dynamic Messenger 2025 ที่โปรตุเกส
    Vanta-4 ยาว 4 เมตร / Vanta-6 ยาว 6 เมตร / วิ่งได้ไกลถึง 900 ไมล์ทะเล
    ติดตั้งเซนเซอร์ขั้นสูง เช่น กล้องอินฟราเรด, เรดาร์, ระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบปรับเปลี่ยน
    ใช้ระบบควบคุม Minerva ที่รองรับการสั่งการแบบฝูงและทำงานร่วมกับโดรนอากาศ
    ภารกิจที่ทดสอบรวมถึงคุ้มกันเป้าหมาย, ควบคุมท่าเรือ, ตรวจสอบเป้าหมายไกลสายตา, ลาดตระเวนกลางคืน
    ออกแบบเพื่อผลิตจำนวนมากในราคาประหยัด
    Stark ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ และมีมูลค่าบริษัท 500 ล้านดอลลาร์
    มีสำนักงานในอังกฤษ, มิวนิก และเคียฟ พร้อมโรงงานผลิตในสหราชอาณาจักร

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    สายเคเบิลใต้น้ำส่งข้อมูลกว่า 95% ของโลก และเป็นเส้นทางหลักของการค้าทางทะเล
    การโจมตีสายเคเบิลใต้น้ำเคยเกิดขึ้นในทะเลบอลติกจาก “กองเรือเงา” ของรัสเซีย
    โดรนเรือแบบ USV (Unmanned Surface Vessel) กำลังเป็นเทคโนโลยีสำคัญในยุทธศาสตร์ทางทะเล
    ระบบควบคุมแบบ swarm ช่วยให้สามารถลาดตระเวนพื้นที่กว้างโดยใช้กำลังคนน้อย
    การใช้เซนเซอร์แบบ modular ช่วยให้ปรับภารกิจได้ตามสถานการณ์

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/undersea-cable-attacks-drive-sea-drone-development-starks-vanta-unmanned-vessels-could-be-an-affordable-solution-to-protecting-vital-infrastructure
    🌊 “Stark เปิดตัว Vanta Sea Drone — โดรนเรืออัจฉริยะเพื่อปกป้องสายเคเบิลใต้น้ำจากภัยคุกคามยุคใหม่” ในยุคที่ข้อมูลและพลังงานไหลผ่านสายเคเบิลใต้น้ำเป็นหลัก ความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้กลายเป็นเรื่องสำคัญระดับโลก ล่าสุดบริษัท Stark จากอังกฤษ-เยอรมนี ได้เปิดตัวเรือโดรนอัจฉริยะรุ่นใหม่ชื่อว่า Vanta-4 และ Vanta-6 ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อภารกิจลาดตระเวนและป้องกันภัยคุกคามต่อสายเคเบิลใต้น้ำโดยเฉพาะ เรือ Vanta ถูกทดสอบในภารกิจ NATO ชื่อ REPMUS/Dynamic Messenger 2025 ที่ประเทศโปรตุเกส โดยมีบทบาทในภารกิจหลากหลาย เช่น การคุ้มกันเป้าหมายสำคัญ, ควบคุมท่าเรือ, ตรวจสอบเป้าหมายที่อยู่ไกลเกินสายตา และลาดตระเวนกลางคืนเพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรอง Vanta-4 มีความยาว 4 เมตร ส่วน Vanta-6 ยาว 6 เมตร ทั้งสองรุ่นสามารถวิ่งได้ไกลถึง 900 ไมล์ทะเล (ประมาณ 1,667 กม.) และติดตั้งเซนเซอร์ขั้นสูง เช่น กล้องอินฟราเรด, กล้องออปติค, เรดาร์ค้นหา และระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบปรับเปลี่ยนได้ จุดเด่นของ Vanta คือการออกแบบให้ผลิตได้จำนวนมากในราคาประหยัด พร้อมระบบควบคุมอัจฉริยะชื่อ Minerva ที่สามารถสั่งการแบบฝูง (swarm) และทำงานร่วมกับโดรนทางอากาศ เช่น Virtus ซึ่งเป็นโดรน VTOL แบบโจมตีของ Stark Stark ยังได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ เช่น Sequoia Capital, Thiel Capital และ NATO Innovation Fund โดยมีมูลค่าบริษัทล่าสุดอยู่ที่ 500 ล้านดอลลาร์ และระดมทุนไปแล้วกว่า 92 ล้านดอลลาร์ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Stark เปิดตัวเรือโดรน Vanta-4 และ Vanta-6 สำหรับภารกิจทางทะเล ➡️ ทดสอบในภารกิจ NATO REPMUS/Dynamic Messenger 2025 ที่โปรตุเกส ➡️ Vanta-4 ยาว 4 เมตร / Vanta-6 ยาว 6 เมตร / วิ่งได้ไกลถึง 900 ไมล์ทะเล ➡️ ติดตั้งเซนเซอร์ขั้นสูง เช่น กล้องอินฟราเรด, เรดาร์, ระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบปรับเปลี่ยน ➡️ ใช้ระบบควบคุม Minerva ที่รองรับการสั่งการแบบฝูงและทำงานร่วมกับโดรนอากาศ ➡️ ภารกิจที่ทดสอบรวมถึงคุ้มกันเป้าหมาย, ควบคุมท่าเรือ, ตรวจสอบเป้าหมายไกลสายตา, ลาดตระเวนกลางคืน ➡️ ออกแบบเพื่อผลิตจำนวนมากในราคาประหยัด ➡️ Stark ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนรายใหญ่ และมีมูลค่าบริษัท 500 ล้านดอลลาร์ ➡️ มีสำนักงานในอังกฤษ, มิวนิก และเคียฟ พร้อมโรงงานผลิตในสหราชอาณาจักร ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ สายเคเบิลใต้น้ำส่งข้อมูลกว่า 95% ของโลก และเป็นเส้นทางหลักของการค้าทางทะเล ➡️ การโจมตีสายเคเบิลใต้น้ำเคยเกิดขึ้นในทะเลบอลติกจาก “กองเรือเงา” ของรัสเซีย ➡️ โดรนเรือแบบ USV (Unmanned Surface Vessel) กำลังเป็นเทคโนโลยีสำคัญในยุทธศาสตร์ทางทะเล ➡️ ระบบควบคุมแบบ swarm ช่วยให้สามารถลาดตระเวนพื้นที่กว้างโดยใช้กำลังคนน้อย ➡️ การใช้เซนเซอร์แบบ modular ช่วยให้ปรับภารกิจได้ตามสถานการณ์ https://www.tomshardware.com/tech-industry/undersea-cable-attacks-drive-sea-drone-development-starks-vanta-unmanned-vessels-could-be-an-affordable-solution-to-protecting-vital-infrastructure
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 447 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Yantar: เรือสอดแนมรัสเซียที่กำลัง ‘เดินสาย’ ใต้ทะเลยุโรป — เมื่อสายเคเบิลกลายเป็นสมรภูมิใหม่ของสงครามเงียบ”

    รายงานล่าสุดจาก Financial Times และหน่วยงานความมั่นคงยุโรปเปิดเผยว่า เรือ Yantar ของรัสเซีย ซึ่งถูกระบุว่าเป็น “เรือสอดแนมทางทหาร” ได้ถูกติดตามขณะเคลื่อนที่อย่างลับ ๆ ตามแนวสายเคเบิลใต้น้ำที่เชื่อมโยงประเทศ NATO ทั่วชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของยุโรป โดยมีเป้าหมายเพื่อ “ทำแผนที่” และอาจ “สกัดกั้น” การสื่อสารที่สำคัญของพันธมิตร NATO

    Yantar ถูกระบุว่าออกเดินทางจากคาบสมุทร Kola ของรัสเซียตั้งแต่ปลายปี 2024 โดยปลอมตัวเป็นเรือพลเรือน แต่ติดตั้งอุปกรณ์สอดแนมเต็มรูปแบบ เช่น ระบบเรดาร์, แขนกลใต้น้ำ, และยานดำน้ำไร้คนขับ ซึ่งสามารถเข้าถึงสายเคเบิลที่อยู่ลึกถึง 6,000 เมตร

    เรือถูกพบในหลายจุดสำคัญ เช่น ทะเลไอริช, ช่องแคบอังกฤษ, และระหว่างนอร์เวย์กับหมู่เกาะ Svalbard ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในอาร์กติก โดยมีการเคลื่อนไหวที่พยายามหลบเลี่ยงการตรวจจับ เช่น ไม่ส่งสัญญาณตำแหน่ง และเคลื่อนที่ช้าเหนือสายเคเบิลโดยตรง

    ข้อมูลจากดาวเทียม Sentinel-1 ของ ESA แสดงให้เห็นว่า Yantar เคลื่อนตัวอย่างมีเป้าหมาย และมีการหยุดตามจุดที่ตรงกับตำแหน่งสายเคเบิลพลังงาน, อินเทอร์เน็ต, และระบบสื่อสารทางทหาร เช่น Integrated Undersea Surveillance System ที่ใช้ติดตามเรือดำน้ำของศัตรู

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หากรัสเซียต้องการโจมตีแบบ “สงครามลูกผสม” การตัดสายเคเบิลเหล่านี้อาจทำให้ประเทศตะวันตก “มืดสนิท” ทั้งในด้านพลังงาน, การเงิน, และการสื่อสาร โดยเฉพาะในช่วงที่ความตึงเครียดกับยูเครนและ NATO ยังคงสูงขึ้น

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    เรือ Yantar ของรัสเซียถูกติดตามขณะเคลื่อนที่ตามแนวสายเคเบิลใต้น้ำของ NATO
    เรือถูกระบุว่าเป็นเรือสอดแนมทางทหารที่ติดตั้งอุปกรณ์สอดแนมเต็มรูปแบบ
    จุดที่พบเรือ ได้แก่ ทะเลไอริช, ช่องแคบอังกฤษ, และระหว่างนอร์เวย์กับ Svalbard
    ใช้ดาวเทียม Sentinel-1 ของ ESA ในการติดตามตำแหน่งเรือ
    เรือสามารถปล่อยยานใต้น้ำและแขนกลเพื่อเข้าถึงสายเคเบิลลึกถึง 6,000 เมตร
    เป้าหมายคือการทำแผนที่และอาจสกัดกั้นการสื่อสารของ NATO
    สายเคเบิลที่ถูกติดตามรวมถึงระบบติดตามเรือดำน้ำ Integrated Undersea Surveillance System
    รัฐบาลอังกฤษและ NATO เริ่มพัฒนาเทคโนโลยีป้องกัน เช่น หุ่นยนต์ใต้น้ำและโดรนตรวจการณ์

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    สายเคเบิลใต้น้ำส่งข้อมูลกว่า 95% ของการสื่อสารทั่วโลก และรองรับธุรกรรมการเงินกว่า $10 ล้านล้านต่อวัน
    รัสเซียมีหน่วยงานลับชื่อ GUGI ที่ดูแลเรือ Yantar และยานใต้น้ำกว่า 50 ลำ
    การตัดสายเคเบิลเคยเกิดขึ้นจริง เช่น กรณีสายเคเบิลระหว่างฟินแลนด์และสวีเดนถูกตัดในปี 2024
    สายเคเบิลบางเส้นมีความลับสูง เช่น เส้นที่ใช้ติดตามเรือดำน้ำของศัตรู
    ประเทศในยุโรปเริ่มใช้โดรนอัตโนมัติเพื่อตรวจสอบและป้องกันการโจมตีใต้น้ำ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/moscow-military-spy-ship-tracked-mapping-and-surveilling-nato-undersea-cables-shes-following-cable-lines-and-pipelines-making-stops-we-are-monitoring-her-very-closely
    🌊 “Yantar: เรือสอดแนมรัสเซียที่กำลัง ‘เดินสาย’ ใต้ทะเลยุโรป — เมื่อสายเคเบิลกลายเป็นสมรภูมิใหม่ของสงครามเงียบ” รายงานล่าสุดจาก Financial Times และหน่วยงานความมั่นคงยุโรปเปิดเผยว่า เรือ Yantar ของรัสเซีย ซึ่งถูกระบุว่าเป็น “เรือสอดแนมทางทหาร” ได้ถูกติดตามขณะเคลื่อนที่อย่างลับ ๆ ตามแนวสายเคเบิลใต้น้ำที่เชื่อมโยงประเทศ NATO ทั่วชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของยุโรป โดยมีเป้าหมายเพื่อ “ทำแผนที่” และอาจ “สกัดกั้น” การสื่อสารที่สำคัญของพันธมิตร NATO Yantar ถูกระบุว่าออกเดินทางจากคาบสมุทร Kola ของรัสเซียตั้งแต่ปลายปี 2024 โดยปลอมตัวเป็นเรือพลเรือน แต่ติดตั้งอุปกรณ์สอดแนมเต็มรูปแบบ เช่น ระบบเรดาร์, แขนกลใต้น้ำ, และยานดำน้ำไร้คนขับ ซึ่งสามารถเข้าถึงสายเคเบิลที่อยู่ลึกถึง 6,000 เมตร เรือถูกพบในหลายจุดสำคัญ เช่น ทะเลไอริช, ช่องแคบอังกฤษ, และระหว่างนอร์เวย์กับหมู่เกาะ Svalbard ซึ่งเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในอาร์กติก โดยมีการเคลื่อนไหวที่พยายามหลบเลี่ยงการตรวจจับ เช่น ไม่ส่งสัญญาณตำแหน่ง และเคลื่อนที่ช้าเหนือสายเคเบิลโดยตรง ข้อมูลจากดาวเทียม Sentinel-1 ของ ESA แสดงให้เห็นว่า Yantar เคลื่อนตัวอย่างมีเป้าหมาย และมีการหยุดตามจุดที่ตรงกับตำแหน่งสายเคเบิลพลังงาน, อินเทอร์เน็ต, และระบบสื่อสารทางทหาร เช่น Integrated Undersea Surveillance System ที่ใช้ติดตามเรือดำน้ำของศัตรู ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หากรัสเซียต้องการโจมตีแบบ “สงครามลูกผสม” การตัดสายเคเบิลเหล่านี้อาจทำให้ประเทศตะวันตก “มืดสนิท” ทั้งในด้านพลังงาน, การเงิน, และการสื่อสาร โดยเฉพาะในช่วงที่ความตึงเครียดกับยูเครนและ NATO ยังคงสูงขึ้น ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ เรือ Yantar ของรัสเซียถูกติดตามขณะเคลื่อนที่ตามแนวสายเคเบิลใต้น้ำของ NATO ➡️ เรือถูกระบุว่าเป็นเรือสอดแนมทางทหารที่ติดตั้งอุปกรณ์สอดแนมเต็มรูปแบบ ➡️ จุดที่พบเรือ ได้แก่ ทะเลไอริช, ช่องแคบอังกฤษ, และระหว่างนอร์เวย์กับ Svalbard ➡️ ใช้ดาวเทียม Sentinel-1 ของ ESA ในการติดตามตำแหน่งเรือ ➡️ เรือสามารถปล่อยยานใต้น้ำและแขนกลเพื่อเข้าถึงสายเคเบิลลึกถึง 6,000 เมตร ➡️ เป้าหมายคือการทำแผนที่และอาจสกัดกั้นการสื่อสารของ NATO ➡️ สายเคเบิลที่ถูกติดตามรวมถึงระบบติดตามเรือดำน้ำ Integrated Undersea Surveillance System ➡️ รัฐบาลอังกฤษและ NATO เริ่มพัฒนาเทคโนโลยีป้องกัน เช่น หุ่นยนต์ใต้น้ำและโดรนตรวจการณ์ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ สายเคเบิลใต้น้ำส่งข้อมูลกว่า 95% ของการสื่อสารทั่วโลก และรองรับธุรกรรมการเงินกว่า $10 ล้านล้านต่อวัน ➡️ รัสเซียมีหน่วยงานลับชื่อ GUGI ที่ดูแลเรือ Yantar และยานใต้น้ำกว่า 50 ลำ ➡️ การตัดสายเคเบิลเคยเกิดขึ้นจริง เช่น กรณีสายเคเบิลระหว่างฟินแลนด์และสวีเดนถูกตัดในปี 2024 ➡️ สายเคเบิลบางเส้นมีความลับสูง เช่น เส้นที่ใช้ติดตามเรือดำน้ำของศัตรู ➡️ ประเทศในยุโรปเริ่มใช้โดรนอัตโนมัติเพื่อตรวจสอบและป้องกันการโจมตีใต้น้ำ https://www.tomshardware.com/tech-industry/moscow-military-spy-ship-tracked-mapping-and-surveilling-nato-undersea-cables-shes-following-cable-lines-and-pipelines-making-stops-we-are-monitoring-her-very-closely
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 513 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ญี่ปุ่นอุดหนุนเรือวางสายเคเบิลใต้น้ำให้ NEC — ป้องกันความมั่นคงจากภัยไซเบอร์และการก่อวินาศกรรมในทะเลลึก”

    รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศอุดหนุนเงินสูงสุดถึงครึ่งหนึ่งของราคาซื้อเรือวางสายเคเบิลใต้น้ำให้กับบริษัท NEC ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ติดตั้งสายเคเบิลใต้น้ำรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยแต่ละลำมีมูลค่าประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ การตัดสินใจครั้งนี้เกิดจากความกังวลด้านความมั่นคงระดับชาติ หลังเกิดเหตุการณ์ตัดสายเคเบิลใต้น้ำหลายครั้งทั่วโลกในช่วงปีที่ผ่านมา

    NEC เคยติดตั้งสายเคเบิลใต้น้ำมากกว่า 400,000 กิโลเมตรทั่วโลก แต่ไม่มีเรือเป็นของตัวเอง ต้องเช่าเรือจากบริษัทนอร์เวย์และบริษัทญี่ปุ่น เช่น NTT และ KDDI ซึ่งสามารถทำงานได้เฉพาะในน่านน้ำภูมิภาค ไม่สามารถเดินทางข้ามมหาสมุทรได้ ทำให้การตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินล่าช้า

    การอุดหนุนนี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์หลายครั้ง เช่น สายเคเบิลระหว่างฟินแลนด์–สวีเดนถูกตัดในเดือนพฤศจิกายน 2024 และสายเคเบิลระหว่างสหรัฐฯ–ไต้หวันถูกสงสัยว่าถูกเรือจีนทำให้เสียหายในเดือนมกราคม 2025 ซึ่งสร้างความเสียหายต่อการสื่อสารระหว่างประเทศอย่างรุนแรง

    รัฐบาลญี่ปุ่นมองว่าการไม่มีเรือเป็นของตัวเองคือ “ความเสี่ยงด้านความมั่นคง” และการพึ่งพาบริษัทต่างชาติอาจเปิดช่องให้เกิดการสอดแนมหรือก่อวินาศกรรมได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อสายเคเบิลใต้น้ำส่วนใหญ่ถูกวางในน่านน้ำสากล ซึ่งการทำลายไม่ถือเป็นการประกาศสงครามโดยตรง

    แม้ NEC จะยอมรับว่าการมีเรือเป็นของตัวเองคือ “ต้นทุนคงที่มหาศาล” แต่ในช่วงที่ตลาดเคเบิลใต้น้ำกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การลงทุนนี้อาจคุ้มค่าในระยะยาว และช่วยให้ญี่ปุ่นมีความสามารถในการป้องกันโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่สำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    รัฐบาลญี่ปุ่นจะอุดหนุนสูงสุดครึ่งหนึ่งของราคาซื้อเรือวางสายเคเบิลใต้น้ำให้ NEC
    เรือแต่ละลำมีมูลค่าประมาณ 300 ล้านดอลลาร์
    NEC เป็นผู้ติดตั้งสายเคเบิลใต้น้ำรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย แต่ไม่มีเรือเป็นของตัวเอง
    ปัจจุบัน NEC เช่าเรือจากบริษัทนอร์เวย์และญี่ปุ่น ซึ่งจำกัดการใช้งานเฉพาะในภูมิภาค

    เหตุผลด้านความมั่นคง
    เกิดเหตุการณ์ตัดสายเคเบิลใต้น้ำหลายครั้ง เช่น ฟินแลนด์–สวีเดน และสหรัฐฯ–ไต้หวัน
    สายเคเบิลใต้น้ำส่วนใหญ่ถูกวางในน่านน้ำสากล ทำให้การทำลายไม่ถือเป็นสงคราม
    การไม่มีเรือเป็นของตัวเองทำให้ NEC ตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ช้า
    รัฐบาลมองว่าเป็น “ความเสี่ยงด้านความมั่นคงระดับชาติ”

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    คู่แข่งของ NEC เช่น SubCom (สหรัฐฯ), Alcatel Submarine Networks (ฝรั่งเศส), และ HMN Tech (จีน) ต่างมีเรือเป็นของตัวเอง
    จีนวางสายเคเบิลใต้น้ำหลายหมื่นกิโลเมตรทั่วโลกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
    NEC เชี่ยวชาญด้านสายเคเบิลหุ้มเกราะที่ทนต่อการก่อวินาศกรรม
    ตลาดเคเบิลใต้น้ำในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    https://www.tomshardware.com/networking/japan-to-subsidize-undersea-cable-vessels-over-very-serious-national-security-concerns-will-front-up-to-half-the-cost-for-usd300-million-vessels-bought-by-nec
    🌊 “ญี่ปุ่นอุดหนุนเรือวางสายเคเบิลใต้น้ำให้ NEC — ป้องกันความมั่นคงจากภัยไซเบอร์และการก่อวินาศกรรมในทะเลลึก” รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศอุดหนุนเงินสูงสุดถึงครึ่งหนึ่งของราคาซื้อเรือวางสายเคเบิลใต้น้ำให้กับบริษัท NEC ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ติดตั้งสายเคเบิลใต้น้ำรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยแต่ละลำมีมูลค่าประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ การตัดสินใจครั้งนี้เกิดจากความกังวลด้านความมั่นคงระดับชาติ หลังเกิดเหตุการณ์ตัดสายเคเบิลใต้น้ำหลายครั้งทั่วโลกในช่วงปีที่ผ่านมา NEC เคยติดตั้งสายเคเบิลใต้น้ำมากกว่า 400,000 กิโลเมตรทั่วโลก แต่ไม่มีเรือเป็นของตัวเอง ต้องเช่าเรือจากบริษัทนอร์เวย์และบริษัทญี่ปุ่น เช่น NTT และ KDDI ซึ่งสามารถทำงานได้เฉพาะในน่านน้ำภูมิภาค ไม่สามารถเดินทางข้ามมหาสมุทรได้ ทำให้การตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินล่าช้า การอุดหนุนนี้เกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์หลายครั้ง เช่น สายเคเบิลระหว่างฟินแลนด์–สวีเดนถูกตัดในเดือนพฤศจิกายน 2024 และสายเคเบิลระหว่างสหรัฐฯ–ไต้หวันถูกสงสัยว่าถูกเรือจีนทำให้เสียหายในเดือนมกราคม 2025 ซึ่งสร้างความเสียหายต่อการสื่อสารระหว่างประเทศอย่างรุนแรง รัฐบาลญี่ปุ่นมองว่าการไม่มีเรือเป็นของตัวเองคือ “ความเสี่ยงด้านความมั่นคง” และการพึ่งพาบริษัทต่างชาติอาจเปิดช่องให้เกิดการสอดแนมหรือก่อวินาศกรรมได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อสายเคเบิลใต้น้ำส่วนใหญ่ถูกวางในน่านน้ำสากล ซึ่งการทำลายไม่ถือเป็นการประกาศสงครามโดยตรง แม้ NEC จะยอมรับว่าการมีเรือเป็นของตัวเองคือ “ต้นทุนคงที่มหาศาล” แต่ในช่วงที่ตลาดเคเบิลใต้น้ำกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การลงทุนนี้อาจคุ้มค่าในระยะยาว และช่วยให้ญี่ปุ่นมีความสามารถในการป้องกันโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่สำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ รัฐบาลญี่ปุ่นจะอุดหนุนสูงสุดครึ่งหนึ่งของราคาซื้อเรือวางสายเคเบิลใต้น้ำให้ NEC ➡️ เรือแต่ละลำมีมูลค่าประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ ➡️ NEC เป็นผู้ติดตั้งสายเคเบิลใต้น้ำรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย แต่ไม่มีเรือเป็นของตัวเอง ➡️ ปัจจุบัน NEC เช่าเรือจากบริษัทนอร์เวย์และญี่ปุ่น ซึ่งจำกัดการใช้งานเฉพาะในภูมิภาค ✅ เหตุผลด้านความมั่นคง ➡️ เกิดเหตุการณ์ตัดสายเคเบิลใต้น้ำหลายครั้ง เช่น ฟินแลนด์–สวีเดน และสหรัฐฯ–ไต้หวัน ➡️ สายเคเบิลใต้น้ำส่วนใหญ่ถูกวางในน่านน้ำสากล ทำให้การทำลายไม่ถือเป็นสงคราม ➡️ การไม่มีเรือเป็นของตัวเองทำให้ NEC ตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินได้ช้า ➡️ รัฐบาลมองว่าเป็น “ความเสี่ยงด้านความมั่นคงระดับชาติ” ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ คู่แข่งของ NEC เช่น SubCom (สหรัฐฯ), Alcatel Submarine Networks (ฝรั่งเศส), และ HMN Tech (จีน) ต่างมีเรือเป็นของตัวเอง ➡️ จีนวางสายเคเบิลใต้น้ำหลายหมื่นกิโลเมตรทั่วโลกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ➡️ NEC เชี่ยวชาญด้านสายเคเบิลหุ้มเกราะที่ทนต่อการก่อวินาศกรรม ➡️ ตลาดเคเบิลใต้น้ำในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว https://www.tomshardware.com/networking/japan-to-subsidize-undersea-cable-vessels-over-very-serious-national-security-concerns-will-front-up-to-half-the-cost-for-usd300-million-vessels-bought-by-nec
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 501 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ทวนรัฐบาลปัจจุบัน คนไทยเขาดูออกกันตรึม,ให้จัดการเด็ดขาดเถอะ,ก่อนจะเป็นเนปาล2ในไทย,จากรัฐบาลชุดนี้,
    ..คนธรรมดาพื้นฐานเขาก็ดูออก,แต่หักเหความสนใจไปที่อื่นอย่างมีนัยยะสำคัญ ถ่วงเวลาก็ได้,สันปันน้ำมีมานานพร้อมเสาหมุด1:1ถึง74เสา,mou43,44tor46จึงต้องโมฆะและตกไปทันทีเรื่องเขตแดน,ไทยต้องยืนพื้นตรงนี้,รัฐบาลอนุทินต้องยืนยันยืนพื้นตรงนี้,อย่ามาเสียเวลาเหี้ยกับเขมรอีกเลย ปล่อยคนเขมรจัดการฮุนเซนฮุนมาเนตเอง อาจไม่รอดอาทิตย์นี้ก็ได้,ไทยรัฐบาลไทยสั่งตัดน้ำมัน ตัดน่าน้ำทางทะเลอ่าวไทยจริงจังห้ามเรือใดๆผ่านเข้าเขมรที่ใช้น่านน้ำอ่าวไทยทั้งหมด,สายการบินไทยด้วยห้ามบินไปเขมรห้ามบินจากเขมรมาจอดที่ได้,ตัดเน็ต ตัดสายเคเบิลที่ไปจากฝั่งไทยทั้งหมด,ตัดไฟฟ้าจริง วางรั้วลวดหนามจริงตลอดแนวพรมแดนเขมรชั่วคราวทั้งหมดมิใช่เห็นโชว์ตรงจุดเฉพาะที่เป็นข่าวๆ,ทหารไทยเราวางตลอดพิกัดดาวเทียมที่เสาหมุดเราบอกพิกัดแนววางลวดหนามเลย จะตรงแนวเขตแดนเสาต่อเสาทั้ง74เสาเราแน่นอน,ตามแนวสันปันน้ำด้วย.,ทหารเราปูพรมวางจริง ถ่ายรูปอัพขึ้นเพจเสาแนวพรมแดนเลย เสาที่1ถึง74วางลวดหนามตามภาพนี้จริง,โดรนบินถ่ายเลย,เราคนไทยเห็นตำตาร่วมกันสบายใจด้วยว่าวางจริงตลอดแนวก่อนสร้างกำแพงถาวรอีกครั้ง,
    ..วางลวดหนามเสร็จ เขมรยังอยู่อีกในเขตเรา จับขังคุกเลย ค่อยปล่อยตัวถีบออกจากประเทศไทยไปทางด่านหลัก,หรือส่งไปปล่อยเกาะกลางทะเลเราสักที่ก่อน.
    ..รัฐบาลอนุทิน ถ้าไม่จัดการ คนไทยจัดการท่านแน่ ,อาจทนายคนไทยยื่นฟ้องทั้งคณะรัฐบาล ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่มีเสาเขตแดนปักยืนยันไว้ชัดเจนแล้วแต่แทรงทำเป็นอื่นไป,อ้างmouซึ่งเกิดที่หลังร.ที่5อีก.ก็ว่า,เจตนาทำให้เสียแผ่นดินไทยถึง1:150,000ชัดเจน.จากมีเสาปักเขตแดนชัดเจนที่1:1ปกติอยู่แล้ว,มีเจตนาไม่ซื่อสัตย์หมายทรัพย์สมบัติแผ่นดินเช่นทรัพยากรมีค่ามากมายในอ่าวไทยร่วมกับศัตรูของชาติ.,โทษ ม.157และม.119ทั้งรัฐบาลชัดเจน คือฝ่ายค้านที่ไม่ทำหน้าที่ที่เห็นภัยชัดเจนจะเกิดก็ไม่ค้าน,ฝ่ายรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มก็ไม่ยกเลิกหรือสร้างทำในสิ่งที่ถูกต้อง,ทั้งสภา.ผิดด้วยกันหมด ที่ไม่ร่วมกันปกป้องดินแดนอธิปไตยแผ่นดินไทยเต็มที่ ข้อหาม.157และม.119จึงสมควรแล้วที่เป็นถึงตัวแทนปนะชาชนกับประมาทในภัยแผ่นดินไทยตน.


    https://youtube.com/shorts/NFOzgK_9V1A?si=giYzJ0cbX8qpK6qT
    ..ทวนรัฐบาลปัจจุบัน คนไทยเขาดูออกกันตรึม,ให้จัดการเด็ดขาดเถอะ,ก่อนจะเป็นเนปาล2ในไทย,จากรัฐบาลชุดนี้, ..คนธรรมดาพื้นฐานเขาก็ดูออก,แต่หักเหความสนใจไปที่อื่นอย่างมีนัยยะสำคัญ ถ่วงเวลาก็ได้,สันปันน้ำมีมานานพร้อมเสาหมุด1:1ถึง74เสา,mou43,44tor46จึงต้องโมฆะและตกไปทันทีเรื่องเขตแดน,ไทยต้องยืนพื้นตรงนี้,รัฐบาลอนุทินต้องยืนยันยืนพื้นตรงนี้,อย่ามาเสียเวลาเหี้ยกับเขมรอีกเลย ปล่อยคนเขมรจัดการฮุนเซนฮุนมาเนตเอง อาจไม่รอดอาทิตย์นี้ก็ได้,ไทยรัฐบาลไทยสั่งตัดน้ำมัน ตัดน่าน้ำทางทะเลอ่าวไทยจริงจังห้ามเรือใดๆผ่านเข้าเขมรที่ใช้น่านน้ำอ่าวไทยทั้งหมด,สายการบินไทยด้วยห้ามบินไปเขมรห้ามบินจากเขมรมาจอดที่ได้,ตัดเน็ต ตัดสายเคเบิลที่ไปจากฝั่งไทยทั้งหมด,ตัดไฟฟ้าจริง วางรั้วลวดหนามจริงตลอดแนวพรมแดนเขมรชั่วคราวทั้งหมดมิใช่เห็นโชว์ตรงจุดเฉพาะที่เป็นข่าวๆ,ทหารไทยเราวางตลอดพิกัดดาวเทียมที่เสาหมุดเราบอกพิกัดแนววางลวดหนามเลย จะตรงแนวเขตแดนเสาต่อเสาทั้ง74เสาเราแน่นอน,ตามแนวสันปันน้ำด้วย.,ทหารเราปูพรมวางจริง ถ่ายรูปอัพขึ้นเพจเสาแนวพรมแดนเลย เสาที่1ถึง74วางลวดหนามตามภาพนี้จริง,โดรนบินถ่ายเลย,เราคนไทยเห็นตำตาร่วมกันสบายใจด้วยว่าวางจริงตลอดแนวก่อนสร้างกำแพงถาวรอีกครั้ง, ..วางลวดหนามเสร็จ เขมรยังอยู่อีกในเขตเรา จับขังคุกเลย ค่อยปล่อยตัวถีบออกจากประเทศไทยไปทางด่านหลัก,หรือส่งไปปล่อยเกาะกลางทะเลเราสักที่ก่อน. ..รัฐบาลอนุทิน ถ้าไม่จัดการ คนไทยจัดการท่านแน่ ,อาจทนายคนไทยยื่นฟ้องทั้งคณะรัฐบาล ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ทั้งที่มีเสาเขตแดนปักยืนยันไว้ชัดเจนแล้วแต่แทรงทำเป็นอื่นไป,อ้างmouซึ่งเกิดที่หลังร.ที่5อีก.ก็ว่า,เจตนาทำให้เสียแผ่นดินไทยถึง1:150,000ชัดเจน.จากมีเสาปักเขตแดนชัดเจนที่1:1ปกติอยู่แล้ว,มีเจตนาไม่ซื่อสัตย์หมายทรัพย์สมบัติแผ่นดินเช่นทรัพยากรมีค่ามากมายในอ่าวไทยร่วมกับศัตรูของชาติ.,โทษ ม.157และม.119ทั้งรัฐบาลชัดเจน คือฝ่ายค้านที่ไม่ทำหน้าที่ที่เห็นภัยชัดเจนจะเกิดก็ไม่ค้าน,ฝ่ายรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มก็ไม่ยกเลิกหรือสร้างทำในสิ่งที่ถูกต้อง,ทั้งสภา.ผิดด้วยกันหมด ที่ไม่ร่วมกันปกป้องดินแดนอธิปไตยแผ่นดินไทยเต็มที่ ข้อหาม.157และม.119จึงสมควรแล้วที่เป็นถึงตัวแทนปนะชาชนกับประมาทในภัยแผ่นดินไทยตน. https://youtube.com/shorts/NFOzgK_9V1A?si=giYzJ0cbX8qpK6qT
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 698 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ใต้ทะเลไม่เงียบอีกต่อไป — ไต้หวันเพิ่มการลาดตระเวนสายเคเบิลใต้น้ำ 24 จุด รับมือยุทธวิธี ‘สงครามสีเทา’ จากจีน”

    ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไต้หวันเผชิญกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่การยิงขีปนาวุธหรือการส่งเรือรบ แต่เป็นการโจมตีสายเคเบิลใต้น้ำที่เชื่อมต่อเกาะกับโลกภายนอก ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสารระดับประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การทหาร และการบริหารภาครัฐ

    ล่าสุด รัฐบาลไต้หวันได้เพิ่มการลาดตระเวนรอบสายเคเบิลใต้น้ำทั้ง 24 จุดทั่วเกาะ โดยเน้นพื้นที่ TP3 ซึ่งเคยถูกเรือจีนชื่อ Hong Tai 58 ตัดสายเคเบิลในเดือนกุมภาพันธ์ และศาลไต้หวันได้ตัดสินว่ากัปตันจีนมีความผิดฐานเจตนาโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

    การลาดตระเวนดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง โดยใช้เรือตรวจการณ์ PP-10079 พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อมีเรือเข้าใกล้สายเคเบิลในระยะ 1 กิโลเมตรด้วยความเร็วต่ำ รวมถึงการใช้เรดาร์และสถานีตรวจจับหลายสิบแห่งทั่วเกาะเพื่อสแกนหาความเคลื่อนไหวที่น่าสงสัย

    เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของไต้หวันระบุว่า มีเรือที่เชื่อมโยงกับจีนกว่า 96 ลำที่ถูกขึ้นบัญชีดำ และอีกกว่า 400 ลำที่สามารถดัดแปลงเป็นเรือสงครามได้ ซึ่งสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อทรัพยากรของหน่วยยามชายฝั่ง

    เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงยุทธวิธี “สงครามสีเทา” ที่จีนใช้เพื่อบั่นทอนเสถียรภาพของไต้หวันโดยไม่ต้องเปิดฉากสงครามอย่างเป็นทางการ เช่นเดียวกับที่รัสเซียเคยใช้ในทะเลบอลติกหลังการรุกรานยูเครน

    มาตรการป้องกันสายเคเบิลใต้น้ำของไต้หวัน
    เพิ่มการลาดตระเวน 24 ชั่วโมงรอบสายเคเบิล TP3 และอีก 23 จุดทั่วเกาะ
    ใช้เรือตรวจการณ์ PP-10079 พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อมีเรือเข้าใกล้
    มีสถานีเรดาร์หลายสิบแห่งช่วยตรวจจับเรือที่เคลื่อนที่ผิดปกติ
    ออกคำเตือนทางวิทยุก่อนส่งเรือเข้าตรวจสอบ

    เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีสายเคเบิล
    เรือ Hong Tai 58 ถูกตัดสินว่าตั้งใจตัดสายเคเบิล TP3 ในเดือนกุมภาพันธ์
    ศาลไต้หวันตัดสินจำคุกกัปตันจีนเป็นเวลา 3 ปี
    มีเหตุการณ์คล้ายกันในภาคเหนือของไต้หวันที่เชื่อมโยงกับเรือจีน
    จีนปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุว่าไต้หวัน “สร้างเรื่อง” ก่อนมีข้อเท็จจริง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    สายเคเบิลใต้น้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของการสื่อสารระดับโลก
    การตัดสายเคเบิลสามารถทำให้ประเทศหนึ่ง “ตัดขาดจากโลกภายนอก” ได้ทันที
    ยุทธวิธีสงครามสีเทาเน้นการบั่นทอนทรัพยากรโดยไม่เปิดสงคราม
    รัสเซียเคยใช้วิธีคล้ายกันในทะเลบอลติกหลังรุกรานยูเครน

    https://www.tomshardware.com/networking/taiwan-increases-undersea-cable-protection-patrols-closely-monitoring-96-blacklisted-china-linked-boats
    🌊 “ใต้ทะเลไม่เงียบอีกต่อไป — ไต้หวันเพิ่มการลาดตระเวนสายเคเบิลใต้น้ำ 24 จุด รับมือยุทธวิธี ‘สงครามสีเทา’ จากจีน” ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ไต้หวันเผชิญกับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่ไม่ใช่การยิงขีปนาวุธหรือการส่งเรือรบ แต่เป็นการโจมตีสายเคเบิลใต้น้ำที่เชื่อมต่อเกาะกับโลกภายนอก ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสารระดับประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การทหาร และการบริหารภาครัฐ ล่าสุด รัฐบาลไต้หวันได้เพิ่มการลาดตระเวนรอบสายเคเบิลใต้น้ำทั้ง 24 จุดทั่วเกาะ โดยเน้นพื้นที่ TP3 ซึ่งเคยถูกเรือจีนชื่อ Hong Tai 58 ตัดสายเคเบิลในเดือนกุมภาพันธ์ และศาลไต้หวันได้ตัดสินว่ากัปตันจีนมีความผิดฐานเจตนาโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ การลาดตระเวนดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง โดยใช้เรือตรวจการณ์ PP-10079 พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อมีเรือเข้าใกล้สายเคเบิลในระยะ 1 กิโลเมตรด้วยความเร็วต่ำ รวมถึงการใช้เรดาร์และสถานีตรวจจับหลายสิบแห่งทั่วเกาะเพื่อสแกนหาความเคลื่อนไหวที่น่าสงสัย เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของไต้หวันระบุว่า มีเรือที่เชื่อมโยงกับจีนกว่า 96 ลำที่ถูกขึ้นบัญชีดำ และอีกกว่า 400 ลำที่สามารถดัดแปลงเป็นเรือสงครามได้ ซึ่งสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อทรัพยากรของหน่วยยามชายฝั่ง เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงยุทธวิธี “สงครามสีเทา” ที่จีนใช้เพื่อบั่นทอนเสถียรภาพของไต้หวันโดยไม่ต้องเปิดฉากสงครามอย่างเป็นทางการ เช่นเดียวกับที่รัสเซียเคยใช้ในทะเลบอลติกหลังการรุกรานยูเครน ✅ มาตรการป้องกันสายเคเบิลใต้น้ำของไต้หวัน ➡️ เพิ่มการลาดตระเวน 24 ชั่วโมงรอบสายเคเบิล TP3 และอีก 23 จุดทั่วเกาะ ➡️ ใช้เรือตรวจการณ์ PP-10079 พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อมีเรือเข้าใกล้ ➡️ มีสถานีเรดาร์หลายสิบแห่งช่วยตรวจจับเรือที่เคลื่อนที่ผิดปกติ ➡️ ออกคำเตือนทางวิทยุก่อนส่งเรือเข้าตรวจสอบ ✅ เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีสายเคเบิล ➡️ เรือ Hong Tai 58 ถูกตัดสินว่าตั้งใจตัดสายเคเบิล TP3 ในเดือนกุมภาพันธ์ ➡️ ศาลไต้หวันตัดสินจำคุกกัปตันจีนเป็นเวลา 3 ปี ➡️ มีเหตุการณ์คล้ายกันในภาคเหนือของไต้หวันที่เชื่อมโยงกับเรือจีน ➡️ จีนปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุว่าไต้หวัน “สร้างเรื่อง” ก่อนมีข้อเท็จจริง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ สายเคเบิลใต้น้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของการสื่อสารระดับโลก ➡️ การตัดสายเคเบิลสามารถทำให้ประเทศหนึ่ง “ตัดขาดจากโลกภายนอก” ได้ทันที ➡️ ยุทธวิธีสงครามสีเทาเน้นการบั่นทอนทรัพยากรโดยไม่เปิดสงคราม ➡️ รัสเซียเคยใช้วิธีคล้ายกันในทะเลบอลติกหลังรุกรานยูเครน https://www.tomshardware.com/networking/taiwan-increases-undersea-cable-protection-patrols-closely-monitoring-96-blacklisted-china-linked-boats
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 435 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก SEA-ME-WE ถึง Azure: เมื่อสายเคเบิลใต้ทะเลกลายเป็นจุดอ่อนของอินเทอร์เน็ตโลก

    เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2025 Microsoft ต้องรีบเปลี่ยนเส้นทางการรับส่งข้อมูลของ Azure หลังจากสายเคเบิลใต้น้ำสองเส้นหลัก—SEA-ME-WE 4 และ IMEWE—ถูกตัดขาดในทะเลแดงใกล้เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ส่งผลให้ผู้ใช้งานในภูมิภาคเอเชียใต้และอ่าวเปอร์เซียพบกับความล่าช้าและประสิทธิภาพที่ลดลงทันที

    แม้ Microsoft จะสามารถ reroute ทราฟฟิกผ่านเส้นทางสำรองได้ แต่ก็เตือนว่าการใช้งานจะมี latency สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสำหรับ workload ที่ต้องเชื่อมต่อระหว่างยุโรปกับเอเชีย เช่น การดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่, การเล่นเกมออนไลน์แบบมัลติเพลเยอร์ หรือการใช้งานคลาวด์ระดับ hyperscale อย่าง Google และ Meta

    NetBlocks ซึ่งเป็นองค์กรติดตามสถานะอินเทอร์เน็ต รายงานว่าเหตุการณ์นี้ส่งผลให้เกิดการชะลอตัวของอินเทอร์เน็ตในปากีสถาน อินเดีย ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการใช้งานสูง

    ที่น่ากังวลคือ การซ่อมแซมสายเคเบิลใต้น้ำไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องใช้เรือเฉพาะทางที่มีจำนวนจำกัด และต้องระบุตำแหน่งที่เสียอย่างแม่นยำในพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างทะเลแดง ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์คล้ายกันมาแล้วในปี 2024 และ 2025 โดยมีข้อสงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับการโจมตีจากกลุ่ม Houthi ในเยเมน แม้เหตุการณ์ล่าสุดจะเกิดขึ้นทางเหนือของพื้นที่ที่กลุ่มนี้เคลื่อนไหว

    เหตุการณ์ตัดสายเคเบิลใต้น้ำในทะเลแดง
    เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2025 บริเวณใกล้เมืองเจดดาห์
    สายเคเบิลที่ได้รับผลกระทบคือ SEA-ME-WE 4 และ IMEWE
    ส่งผลให้ Microsoft ต้อง reroute ทราฟฟิกของ Azure

    ผลกระทบต่อการใช้งานอินเทอร์เน็ต
    ผู้ใช้งานในเอเชียใต้และอ่าวเปอร์เซียพบ latency สูงขึ้น
    บริการคลาวด์ระดับ hyperscale เช่น Google และ Meta ได้รับผลกระทบ
    การใช้งานที่ต้องเชื่อมต่อระหว่างยุโรปกับเอเชียได้รับผลกระทบโดยตรง

    การรายงานจาก NetBlocks และผู้ให้บริการท้องถิ่น
    อินเทอร์เน็ตชะลอตัวในปากีสถาน อินเดีย ซาอุดีอาระเบีย และ UAE
    ผู้ให้บริการเช่น Etisalat และ Du ยืนยันว่ามีการหยุดชะงัก
    Microsoft เตือนว่าผลกระทบอาจต่อเนื่องถึงวันที่ 7 กันยายน

    ความยากในการซ่อมแซม
    ต้องใช้เรือเฉพาะทางและการระบุตำแหน่งที่แม่นยำ
    พื้นที่ทะเลแดงมีความอ่อนไหวทางภูมิรัฐศาสตร์
    การซ่อมแซมอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/red-sea-cable-cut-takes-azure-routes-down
    🎙️ เรื่องเล่าจาก SEA-ME-WE ถึง Azure: เมื่อสายเคเบิลใต้ทะเลกลายเป็นจุดอ่อนของอินเทอร์เน็ตโลก เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2025 Microsoft ต้องรีบเปลี่ยนเส้นทางการรับส่งข้อมูลของ Azure หลังจากสายเคเบิลใต้น้ำสองเส้นหลัก—SEA-ME-WE 4 และ IMEWE—ถูกตัดขาดในทะเลแดงใกล้เมืองเจดดาห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ส่งผลให้ผู้ใช้งานในภูมิภาคเอเชียใต้และอ่าวเปอร์เซียพบกับความล่าช้าและประสิทธิภาพที่ลดลงทันที แม้ Microsoft จะสามารถ reroute ทราฟฟิกผ่านเส้นทางสำรองได้ แต่ก็เตือนว่าการใช้งานจะมี latency สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสำหรับ workload ที่ต้องเชื่อมต่อระหว่างยุโรปกับเอเชีย เช่น การดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่, การเล่นเกมออนไลน์แบบมัลติเพลเยอร์ หรือการใช้งานคลาวด์ระดับ hyperscale อย่าง Google และ Meta NetBlocks ซึ่งเป็นองค์กรติดตามสถานะอินเทอร์เน็ต รายงานว่าเหตุการณ์นี้ส่งผลให้เกิดการชะลอตัวของอินเทอร์เน็ตในปากีสถาน อินเดีย ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการใช้งานสูง ที่น่ากังวลคือ การซ่อมแซมสายเคเบิลใต้น้ำไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องใช้เรือเฉพาะทางที่มีจำนวนจำกัด และต้องระบุตำแหน่งที่เสียอย่างแม่นยำในพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างทะเลแดง ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์คล้ายกันมาแล้วในปี 2024 และ 2025 โดยมีข้อสงสัยว่าอาจเกี่ยวข้องกับการโจมตีจากกลุ่ม Houthi ในเยเมน แม้เหตุการณ์ล่าสุดจะเกิดขึ้นทางเหนือของพื้นที่ที่กลุ่มนี้เคลื่อนไหว ✅ เหตุการณ์ตัดสายเคเบิลใต้น้ำในทะเลแดง ➡️ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2025 บริเวณใกล้เมืองเจดดาห์ ➡️ สายเคเบิลที่ได้รับผลกระทบคือ SEA-ME-WE 4 และ IMEWE ➡️ ส่งผลให้ Microsoft ต้อง reroute ทราฟฟิกของ Azure ✅ ผลกระทบต่อการใช้งานอินเทอร์เน็ต ➡️ ผู้ใช้งานในเอเชียใต้และอ่าวเปอร์เซียพบ latency สูงขึ้น ➡️ บริการคลาวด์ระดับ hyperscale เช่น Google และ Meta ได้รับผลกระทบ ➡️ การใช้งานที่ต้องเชื่อมต่อระหว่างยุโรปกับเอเชียได้รับผลกระทบโดยตรง ✅ การรายงานจาก NetBlocks และผู้ให้บริการท้องถิ่น ➡️ อินเทอร์เน็ตชะลอตัวในปากีสถาน อินเดีย ซาอุดีอาระเบีย และ UAE ➡️ ผู้ให้บริการเช่น Etisalat และ Du ยืนยันว่ามีการหยุดชะงัก ➡️ Microsoft เตือนว่าผลกระทบอาจต่อเนื่องถึงวันที่ 7 กันยายน ✅ ความยากในการซ่อมแซม ➡️ ต้องใช้เรือเฉพาะทางและการระบุตำแหน่งที่แม่นยำ ➡️ พื้นที่ทะเลแดงมีความอ่อนไหวทางภูมิรัฐศาสตร์ ➡️ การซ่อมแซมอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ https://www.tomshardware.com/tech-industry/red-sea-cable-cut-takes-azure-routes-down
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 403 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เอาจริงๆนะ ถึงวันนี้ ต้องให้กำลังใจทหารไทยดีๆคนดีๆเราจริงๆที่มีผู้บังคับบัญชาบัดสบมาจนถึงเวลานี้,จัดการอะไรเด็ดขาดกับเขมรจริงๆจังๆแบบถีบออกหลังเสาหมุดสยามเราก็จบแล้ว.,ตามคลิปนี้ล่ะ,ตามข่าวอื่นๆมุมสูงด้วย ราบหมดมันแย่งชิงของชาวบ้านหนองจานจริงๆ.,รั้วลวดหนามถาวรแบบปิดตายตลอดแนวชายแดนแถวนี้ต้องเอาจริง,และเวลานี้ยุคนี้สร้างปิดตายตลอดพรมแดนเลย,เจ้าสัวคนไหน นายใหญ่คนไหนสั่งมีทางเข้าออกก็ห้ามให้มี จนกว่าจะสร้างรั้วลวดหนามจบทั้งอีสานใต้,ค่อยว่าเรื่องด่านอีกที,ตัดน้ำมัน ตัดไฟฟ้าจริงๆทีเถอะ,ตัดสายเน็ตสายเคเบิลส่งไปเขมรจากไทยต้องตัดจริงๆด้วย,กิจการใดในไทยมีธุรกิจในเขมร มาอาศัยเปิดบริษัทในไทยบังหน้าแล้วค้าขายให้ความช่วยเหลือเขมร ยกเลิกใบอนุญาตประกอบการในไทยหมดเช่นกิจการเดินเรือในอ่าวไทยแอบใช้นามกิจการไทยช่วยเหลือขนส่งน้ำมันขนส่งถ่านหินให้เขมร ซื้อน้ำมันจากแท่งเจาะในอ่าวไทยไปส่งน้ำมันให้เขมรผลิตไฟฟ้าแก๊สก๊าซไทยผลิตไฟฟ้าให้เขมร เราต้องยกเลิกกิจการเขมรใช้ไทยเปิดบริษัทที่เราช่วยเหลือเขมรต้องกำจัดทุนพวกนี้ทันที,นี้คือยุทธศาสตร์ความมั่นคงกำจัดภัยคุกคามอธิปไตยไทยจริงจัง อย่างทำกันเล่นๆอีกเลย เราเบื่อหน่ายการปกครองไทยทั้งระบบเต็มทีจริงๆ,ไม่เด็ดขาดกำจัดกวาดล้างคนไม่ดีภายนอกจริงและคนไม่ดีภายในเราเองก็เพิ่มมากมายเกินไปแล้ว,ถึงเวลาลดประชากรคนพวกนี้จริงๆบนแผ่นดินไทยเราได้แล้ว.

    https://youtube.com/shorts/8ou4GkDCZig?si=K7UprxfPrn3IF96M
    ..เอาจริงๆนะ ถึงวันนี้ ต้องให้กำลังใจทหารไทยดีๆคนดีๆเราจริงๆที่มีผู้บังคับบัญชาบัดสบมาจนถึงเวลานี้,จัดการอะไรเด็ดขาดกับเขมรจริงๆจังๆแบบถีบออกหลังเสาหมุดสยามเราก็จบแล้ว.,ตามคลิปนี้ล่ะ,ตามข่าวอื่นๆมุมสูงด้วย ราบหมดมันแย่งชิงของชาวบ้านหนองจานจริงๆ.,รั้วลวดหนามถาวรแบบปิดตายตลอดแนวชายแดนแถวนี้ต้องเอาจริง,และเวลานี้ยุคนี้สร้างปิดตายตลอดพรมแดนเลย,เจ้าสัวคนไหน นายใหญ่คนไหนสั่งมีทางเข้าออกก็ห้ามให้มี จนกว่าจะสร้างรั้วลวดหนามจบทั้งอีสานใต้,ค่อยว่าเรื่องด่านอีกที,ตัดน้ำมัน ตัดไฟฟ้าจริงๆทีเถอะ,ตัดสายเน็ตสายเคเบิลส่งไปเขมรจากไทยต้องตัดจริงๆด้วย,กิจการใดในไทยมีธุรกิจในเขมร มาอาศัยเปิดบริษัทในไทยบังหน้าแล้วค้าขายให้ความช่วยเหลือเขมร ยกเลิกใบอนุญาตประกอบการในไทยหมดเช่นกิจการเดินเรือในอ่าวไทยแอบใช้นามกิจการไทยช่วยเหลือขนส่งน้ำมันขนส่งถ่านหินให้เขมร ซื้อน้ำมันจากแท่งเจาะในอ่าวไทยไปส่งน้ำมันให้เขมรผลิตไฟฟ้าแก๊สก๊าซไทยผลิตไฟฟ้าให้เขมร เราต้องยกเลิกกิจการเขมรใช้ไทยเปิดบริษัทที่เราช่วยเหลือเขมรต้องกำจัดทุนพวกนี้ทันที,นี้คือยุทธศาสตร์ความมั่นคงกำจัดภัยคุกคามอธิปไตยไทยจริงจัง อย่างทำกันเล่นๆอีกเลย เราเบื่อหน่ายการปกครองไทยทั้งระบบเต็มทีจริงๆ,ไม่เด็ดขาดกำจัดกวาดล้างคนไม่ดีภายนอกจริงและคนไม่ดีภายในเราเองก็เพิ่มมากมายเกินไปแล้ว,ถึงเวลาลดประชากรคนพวกนี้จริงๆบนแผ่นดินไทยเราได้แล้ว. https://youtube.com/shorts/8ou4GkDCZig?si=K7UprxfPrn3IF96M
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 387 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากแกนกลวง: เมื่อสายเคเบิลที่ไม่มีแก้วกลายเป็นตัวเร่งความเร็วของยุค AI

    หลังจากที่โลกใช้สายไฟเบอร์แก้วนำแสงมานานกว่า 40 ปี โดยมีขีดจำกัดการสูญเสียสัญญาณอยู่ที่ ~0.14 dB/km ทีมวิจัยจาก Lumenisity ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Microsoft ได้สร้างสายเคเบิลแบบใหม่ที่เรียกว่า “double nested antiresonant nodeless fiber” หรือ DNANF ซึ่งใช้แกนกลางเป็นอากาศแทนแก้ว และสามารถลดการสูญเสียสัญญาณลงเหลือเพียง 0.091 dB/km

    เทคโนโลยีนี้ใช้โครงสร้างแก้วบางระดับไมครอนล้อมรอบแกนอากาศ ทำหน้าที่เหมือนกระจกสะท้อนแสงกลับเข้าสู่แกนกลาง และลดการกระจายของคลื่นแสงที่ไม่ต้องการ ผลลัพธ์คือสายเคเบิลที่เร็วขึ้น (เพราะแสงเดินทางในอากาศเร็วกว่าในแก้ว) และสูญเสียพลังงานน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ

    Microsoft ได้ติดตั้งสายเคเบิลนี้จริงแล้วกว่า 1,200 กิโลเมตรในเครือข่าย Azure และประกาศว่าจะขยายอีก 15,000 กิโลเมตรภายในสองปี เพื่อรองรับการเชื่อมต่อ AI ที่ต้องการ latency ต่ำและ bandwidth สูง

    นอกจากการลดการสูญเสียสัญญาณแล้ว DNANF ยังมี chromatic dispersion ต่ำกว่าฟิเบอร์แก้วถึง 7 เท่า ซึ่งช่วยให้การออกแบบ transceiver ง่ายขึ้น และลดการใช้พลังงานในอุปกรณ์เครือข่าย

    Francesco Poletti ผู้ร่วมออกแบบเทคโนโลยีนี้ระบุว่า การลดการสูญเสียสัญญาณลงระดับนี้จะช่วยให้สามารถ “ข้ามสถานีขยายสัญญาณได้หนึ่งในทุกสองหรือสามจุด” ซึ่งลดทั้งต้นทุนการติดตั้งและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

    ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของ DNANF
    ใช้โครงสร้างแก้วบางล้อมรอบแกนอากาศเพื่อสะท้อนแสงกลับ
    ลดการสูญเสียสัญญาณเหลือเพียง 0.091 dB/km ต่ำกว่าฟิเบอร์แก้วเดิม
    ลด chromatic dispersion ได้ถึง 7 เท่าเมื่อเทียบกับสายแก้ว

    การใช้งานจริงในเครือข่าย Azure
    Microsoft ติดตั้งแล้วกว่า 1,200 กม. และวางแผนขยายอีก 15,000 กม.
    ใช้ในเครือข่าย AI เพื่อรองรับ latency ต่ำและ bandwidth สูง
    ช่วยลดจำนวนสถานีขยายสัญญาณและต้นทุนการดำเนินงาน

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    เป็นครั้งแรกที่สายแกนอากาศมีประสิทธิภาพดีกว่าสายแก้ว
    อาจเปลี่ยนมาตรฐานการออกแบบเครือข่ายในอนาคต
    ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างศูนย์ข้อมูลเร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น

    ความท้าทายด้านการผลิตและมาตรฐาน
    การผลิตต้องใช้เครื่องมือใหม่และกระบวนการเฉพาะ
    มาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับสาย DNANF ยังไม่ถูกกำหนดอย่างชัดเจน

    ความไม่แน่นอนของการขยายในวงกว้าง
    แม้จะใช้งานจริงแล้ว แต่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการ deploy
    ต้องพิสูจน์ความเสถียรในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและระยะยาว

    ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “ความเร็ว”
    แม้แสงในอากาศจะเร็วกว่าในแก้ว แต่ความเร็วรวมยังขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ปลายทาง
    การลด latency ต้องพิจารณาทั้งระบบ ไม่ใช่แค่สายเคเบิลอย่างเดียว

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/hollow-core-fiber-research-smashes-optical-loss-record
    🎙️ เรื่องเล่าจากแกนกลวง: เมื่อสายเคเบิลที่ไม่มีแก้วกลายเป็นตัวเร่งความเร็วของยุค AI หลังจากที่โลกใช้สายไฟเบอร์แก้วนำแสงมานานกว่า 40 ปี โดยมีขีดจำกัดการสูญเสียสัญญาณอยู่ที่ ~0.14 dB/km ทีมวิจัยจาก Lumenisity ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Microsoft ได้สร้างสายเคเบิลแบบใหม่ที่เรียกว่า “double nested antiresonant nodeless fiber” หรือ DNANF ซึ่งใช้แกนกลางเป็นอากาศแทนแก้ว และสามารถลดการสูญเสียสัญญาณลงเหลือเพียง 0.091 dB/km เทคโนโลยีนี้ใช้โครงสร้างแก้วบางระดับไมครอนล้อมรอบแกนอากาศ ทำหน้าที่เหมือนกระจกสะท้อนแสงกลับเข้าสู่แกนกลาง และลดการกระจายของคลื่นแสงที่ไม่ต้องการ ผลลัพธ์คือสายเคเบิลที่เร็วขึ้น (เพราะแสงเดินทางในอากาศเร็วกว่าในแก้ว) และสูญเสียพลังงานน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ Microsoft ได้ติดตั้งสายเคเบิลนี้จริงแล้วกว่า 1,200 กิโลเมตรในเครือข่าย Azure และประกาศว่าจะขยายอีก 15,000 กิโลเมตรภายในสองปี เพื่อรองรับการเชื่อมต่อ AI ที่ต้องการ latency ต่ำและ bandwidth สูง นอกจากการลดการสูญเสียสัญญาณแล้ว DNANF ยังมี chromatic dispersion ต่ำกว่าฟิเบอร์แก้วถึง 7 เท่า ซึ่งช่วยให้การออกแบบ transceiver ง่ายขึ้น และลดการใช้พลังงานในอุปกรณ์เครือข่าย Francesco Poletti ผู้ร่วมออกแบบเทคโนโลยีนี้ระบุว่า การลดการสูญเสียสัญญาณลงระดับนี้จะช่วยให้สามารถ “ข้ามสถานีขยายสัญญาณได้หนึ่งในทุกสองหรือสามจุด” ซึ่งลดทั้งต้นทุนการติดตั้งและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ✅ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของ DNANF ➡️ ใช้โครงสร้างแก้วบางล้อมรอบแกนอากาศเพื่อสะท้อนแสงกลับ ➡️ ลดการสูญเสียสัญญาณเหลือเพียง 0.091 dB/km ต่ำกว่าฟิเบอร์แก้วเดิม ➡️ ลด chromatic dispersion ได้ถึง 7 เท่าเมื่อเทียบกับสายแก้ว ✅ การใช้งานจริงในเครือข่าย Azure ➡️ Microsoft ติดตั้งแล้วกว่า 1,200 กม. และวางแผนขยายอีก 15,000 กม. ➡️ ใช้ในเครือข่าย AI เพื่อรองรับ latency ต่ำและ bandwidth สูง ➡️ ช่วยลดจำนวนสถานีขยายสัญญาณและต้นทุนการดำเนินงาน ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ เป็นครั้งแรกที่สายแกนอากาศมีประสิทธิภาพดีกว่าสายแก้ว ➡️ อาจเปลี่ยนมาตรฐานการออกแบบเครือข่ายในอนาคต ➡️ ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างศูนย์ข้อมูลเร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น ‼️ ความท้าทายด้านการผลิตและมาตรฐาน ⛔ การผลิตต้องใช้เครื่องมือใหม่และกระบวนการเฉพาะ ⛔ มาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับสาย DNANF ยังไม่ถูกกำหนดอย่างชัดเจน ‼️ ความไม่แน่นอนของการขยายในวงกว้าง ⛔ แม้จะใช้งานจริงแล้ว แต่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการ deploy ⛔ ต้องพิสูจน์ความเสถียรในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและระยะยาว ‼️ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “ความเร็ว” ⛔ แม้แสงในอากาศจะเร็วกว่าในแก้ว แต่ความเร็วรวมยังขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ปลายทาง ⛔ การลด latency ต้องพิจารณาทั้งระบบ ไม่ใช่แค่สายเคเบิลอย่างเดียว https://www.tomshardware.com/tech-industry/hollow-core-fiber-research-smashes-optical-loss-record
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 423 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอาจริงๆเรา..ประชาชนคนไทยถูกทำให้หลงประเด็น เสาหมัด หลักเสาหมุดปักปันเขตแดนมันมีชัดเจนแล้วคือ74เสา(รวมเสาที่22Bด้วย)เราก็สร้างรั้วลวดหนามตามเสาเขตแดนเก่าที่ตกลงกันเรียบร้อยนั้นแล้วได้,mou43,44,tor2546หรือใดๆเป็นอันตกไปโมฆะทันและไม่ผ่านสภาแต่แรกด้วย,นายกฯและกระทรวงที่ติดต่อต่างประเทศซึ่งหากยุบกระทรวงการต่างประเทศเก่าได้ด้วยก็ยิ่งดี ให้กระทรวงใหม่นีัร่วมแถลงการอย่างเป็นทางการว่าด้วยกระทรวงการต่างประเทศเดิมไม่ซื่อสัตย์จึงถูกยุบไปแล้วนั้นอย่างเป็นทางการจึงอำนาจตัดสินใจด้านต่างประเทศทั้งหมดเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดเช่นกันทันที,นายกฯกับกระทรวงใหม่ร่วมแถลงยกเลิกmou43,44,tor2546และอื่นๆที่ทำกับเขมรทั้งหมดทันทีด้วยเพราะทั้งหมดที่กล่าวมานั้นไม่ได้ผ่านสภามาแต่ต้นสิทธิขาดนายกฯจึงเข้ามาดำเนินการได้ทั้งหมด,จากนั้นก็กำหนดปิดด่านตลอดแนวพรมแดนกับเขมรเป็นการถาวรทั้งหมดป้องกันการยั่วยุทุกๆกรณีและเร่งสร้างรั้วลวดหนามตลอดชาติแดนเป็นการชั่วคราวไว้ก่อนด้วยระดับความแน่นหนาพอสมควรให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้,ประชาชนสามารถร่วมดำเนินการบริจาคและร่วมลงแรงก่อสร้างได้ โดยมีนายกฯเป็นเจ้าภาพร่วมกันกับภาคประชาชนทั้งประเทศ, ตัดน้ำมัน ตัดไฟ ตัดน่านน้ำทางทะเลและอากาศ ห้ามเครื่องทุกๆประเภทชนิดบินผ่านประเทศไทยเพื่อไปเขมร,ตัดเน็ต ตัดสายเคเบิลเน็ตทั้งทางบกและทางทะเลที่ผ่านประเทศไทยไปเขมร ผ่านทะเลอ่าวไทยไปเขมรทุกเส้นสายเคเบิล,ห้ามดาวเทียมใดๆบินในวงโคจรไทยเพื่อส่งสัญญาณเน็ตให้เขมรจะถูกทำลายทันทีที่บินผ่านวงโคจรอวกาศไทย,ตัดสินค้าอุปโภคบริโภคทุกๆชนิดส่งจากไทยไปเขมรหรืออ้อมลาวอ้อมเวียดนามไปเขมรจะถูกดำเนินคดีทันที.
    ..นายกฯประเทศไทยต้องไม่ใช่มาจากนักการเมืองแล้วในเวลานี้ยิ่งเป็นเช่นปัจจุบันกำลังจัดตั้งรัฐบาลด้วย ,เรา..ประชาชน ต้องการรัฐบาลพระราชทานเท่านั้น.,ในช่วงเวลานี้.การจัดการเขมรต้องเด็ดขาดทันที.มิอาจยืดยาวต่อไปอีกได้,ไม่ว่าใครจะปกครองเขมร เขมรก็ไว้ใจไม่ได้ การตัดสายสัมพันธ์ทั้งหมดในช่วงเวลาวิกฤติโลก ลดปัญหามากมายสาระพัดกับเขมรจึงจำเป็นและสำคัญมาก,อยู่ใครอยู่มันไปก่อน,แต่หากเขมรรุกรานอีกรอบที่2 เขมรต้องสิ้นชาติและถูกทำลายทันที,นายกฯไทยต้องลักษณะเด็ดขาดแบบนี้.



    ..https://youtube.com/watch?v=I0C4i-g8GCI&si=s6b5HEc1_NPCqMGW
    เอาจริงๆเรา..ประชาชนคนไทยถูกทำให้หลงประเด็น เสาหมัด หลักเสาหมุดปักปันเขตแดนมันมีชัดเจนแล้วคือ74เสา(รวมเสาที่22Bด้วย)เราก็สร้างรั้วลวดหนามตามเสาเขตแดนเก่าที่ตกลงกันเรียบร้อยนั้นแล้วได้,mou43,44,tor2546หรือใดๆเป็นอันตกไปโมฆะทันและไม่ผ่านสภาแต่แรกด้วย,นายกฯและกระทรวงที่ติดต่อต่างประเทศซึ่งหากยุบกระทรวงการต่างประเทศเก่าได้ด้วยก็ยิ่งดี ให้กระทรวงใหม่นีัร่วมแถลงการอย่างเป็นทางการว่าด้วยกระทรวงการต่างประเทศเดิมไม่ซื่อสัตย์จึงถูกยุบไปแล้วนั้นอย่างเป็นทางการจึงอำนาจตัดสินใจด้านต่างประเทศทั้งหมดเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดเช่นกันทันที,นายกฯกับกระทรวงใหม่ร่วมแถลงยกเลิกmou43,44,tor2546และอื่นๆที่ทำกับเขมรทั้งหมดทันทีด้วยเพราะทั้งหมดที่กล่าวมานั้นไม่ได้ผ่านสภามาแต่ต้นสิทธิขาดนายกฯจึงเข้ามาดำเนินการได้ทั้งหมด,จากนั้นก็กำหนดปิดด่านตลอดแนวพรมแดนกับเขมรเป็นการถาวรทั้งหมดป้องกันการยั่วยุทุกๆกรณีและเร่งสร้างรั้วลวดหนามตลอดชาติแดนเป็นการชั่วคราวไว้ก่อนด้วยระดับความแน่นหนาพอสมควรให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้,ประชาชนสามารถร่วมดำเนินการบริจาคและร่วมลงแรงก่อสร้างได้ โดยมีนายกฯเป็นเจ้าภาพร่วมกันกับภาคประชาชนทั้งประเทศ, ตัดน้ำมัน ตัดไฟ ตัดน่านน้ำทางทะเลและอากาศ ห้ามเครื่องทุกๆประเภทชนิดบินผ่านประเทศไทยเพื่อไปเขมร,ตัดเน็ต ตัดสายเคเบิลเน็ตทั้งทางบกและทางทะเลที่ผ่านประเทศไทยไปเขมร ผ่านทะเลอ่าวไทยไปเขมรทุกเส้นสายเคเบิล,ห้ามดาวเทียมใดๆบินในวงโคจรไทยเพื่อส่งสัญญาณเน็ตให้เขมรจะถูกทำลายทันทีที่บินผ่านวงโคจรอวกาศไทย,ตัดสินค้าอุปโภคบริโภคทุกๆชนิดส่งจากไทยไปเขมรหรืออ้อมลาวอ้อมเวียดนามไปเขมรจะถูกดำเนินคดีทันที. ..นายกฯประเทศไทยต้องไม่ใช่มาจากนักการเมืองแล้วในเวลานี้ยิ่งเป็นเช่นปัจจุบันกำลังจัดตั้งรัฐบาลด้วย ,เรา..ประชาชน ต้องการรัฐบาลพระราชทานเท่านั้น.,ในช่วงเวลานี้.การจัดการเขมรต้องเด็ดขาดทันที.มิอาจยืดยาวต่อไปอีกได้,ไม่ว่าใครจะปกครองเขมร เขมรก็ไว้ใจไม่ได้ การตัดสายสัมพันธ์ทั้งหมดในช่วงเวลาวิกฤติโลก ลดปัญหามากมายสาระพัดกับเขมรจึงจำเป็นและสำคัญมาก,อยู่ใครอยู่มันไปก่อน,แต่หากเขมรรุกรานอีกรอบที่2 เขมรต้องสิ้นชาติและถูกทำลายทันที,นายกฯไทยต้องลักษณะเด็ดขาดแบบนี้. ..https://youtube.com/watch?v=I0C4i-g8GCI&si=s6b5HEc1_NPCqMGW
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 470 มุมมอง 0 รีวิว
  • จริงๆฝ่ายทหารเรา ผบ.ทบ.สูงสุดสามารถประกาศยกเลิกเองได้ทันทีเพราะถือกฎอัยดารศึกตลอดพรมแดนเขมรอยู่แล้ว ,โมฆะข้อตกลงทั้งหมดตั้งแต่ทหารไทยเราเหยียบกับระเบิดล่าสุดหลังไปเจรจาแล้วแต่ก็ไม่ประกาศยกเลิก หรือจากพฤติกรรมเขมรที่ผ่านมาหลังเจรจา13ข้อ ที่ละเมิดเป็นว่าเล่น แม้ละเมิดข้อใดข้อหนึ่งฝั่งไทยเราก็สามารถประกาศยกเลิกได้ฝ่ายเดียวเหมือนmouเพราะตกลงแค่สองคน,และผบ.ทบ.สูงสุดเราที่คุมทหารทุกเหล่าทับ สามารถประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศอย่างชอบธรรมไว้ก่อนได้ในวันที่25หลังเขมรเปิดเราก่อน,ไม่ประกาศวันนัันก็ประกาศในวันที่26,27ก.ค.68ได้อีก,เราจะตัดตอนอำนาจชั่วเลวที่พยายามขัดขวางการปฏิบัติภาระกิจได้ให้จบ อาทิสั่งห้ามไทยไปเจรจาหยุดยิงต้องฟังฝ่ายทหารก่อนเท่านั้นในแนวรบ,ผบ.ทบ.สูงสุดสามารถส่งคนไปคุยผ่านฑูตทรัมป์ในไทยได้หรือเชิญมาพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับผบ.ทบ.สูงสุดได้,เพื่อแสดงจุดยืนอธิปไตยตนไม่สมควรมาแทรกแซงในการกำจัดศัตรูภัยคุกคามไทยอย่าออกหน้าออกตาแบบนี้,
    ..การประกาศกฏอัยการศึกทั่วประเทศมิใช่การยึดอำนาจรัฐบาล แต่คือสามารถจัดการพวกไม่กระทำตามคำสั่งทางมั่นคงของทหารด้านอธิปไตยชาติได้ เช่นพวกที่บอกให้ไปตัดไฟฟ้าตัดน้ำมันตัดเน็ตตัดคลื่นโทรศัพท์ตัดสายเคเบิลแต่ยังไม่ปฏิบัติจริงในหน่วยงานนั้นๆ อำนาจกฏอัยการศึกสามารถจัดการพวกนี้ทางตรงได้ทันที,ตลอดทำทีเช่นแสดงความคิดเห็นออกสื่อแต่เอาภาพสถานีที่ตั้งจุดเสาสัญญาณคลื่นต่างๆของทหารไทยตนบรรยายออกมาผ่านสื่อ สาระพัดบอกว่ามีที่ตั้งทหารผ่านเสาสัญญาณทางทหารอยู่ตำแหน่งไหนบ้าง,นี้คือการแบไต๋หมายบอกศัตรูทางอ้อมด้วยนั้นเองผ่านหน้าที่การงานตนทำทีออกมาอธิบายทำความเข้าใจแก่ประชาชนก็ว่า,สายเคเบิลแบบภูมะเขือ เสาสัญญาณของฐานเขมรในภูมะเขืออีก สามารถจับพวกสมคบคิดนี้ได้ทันทีนั้นเอง.

    ..

    ..https://youtube.com/shorts/ehWuPlPQLwI?si=pNXFfRsOqKBHZ63_
    จริงๆฝ่ายทหารเรา ผบ.ทบ.สูงสุดสามารถประกาศยกเลิกเองได้ทันทีเพราะถือกฎอัยดารศึกตลอดพรมแดนเขมรอยู่แล้ว ,โมฆะข้อตกลงทั้งหมดตั้งแต่ทหารไทยเราเหยียบกับระเบิดล่าสุดหลังไปเจรจาแล้วแต่ก็ไม่ประกาศยกเลิก หรือจากพฤติกรรมเขมรที่ผ่านมาหลังเจรจา13ข้อ ที่ละเมิดเป็นว่าเล่น แม้ละเมิดข้อใดข้อหนึ่งฝั่งไทยเราก็สามารถประกาศยกเลิกได้ฝ่ายเดียวเหมือนmouเพราะตกลงแค่สองคน,และผบ.ทบ.สูงสุดเราที่คุมทหารทุกเหล่าทับ สามารถประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศอย่างชอบธรรมไว้ก่อนได้ในวันที่25หลังเขมรเปิดเราก่อน,ไม่ประกาศวันนัันก็ประกาศในวันที่26,27ก.ค.68ได้อีก,เราจะตัดตอนอำนาจชั่วเลวที่พยายามขัดขวางการปฏิบัติภาระกิจได้ให้จบ อาทิสั่งห้ามไทยไปเจรจาหยุดยิงต้องฟังฝ่ายทหารก่อนเท่านั้นในแนวรบ,ผบ.ทบ.สูงสุดสามารถส่งคนไปคุยผ่านฑูตทรัมป์ในไทยได้หรือเชิญมาพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับผบ.ทบ.สูงสุดได้,เพื่อแสดงจุดยืนอธิปไตยตนไม่สมควรมาแทรกแซงในการกำจัดศัตรูภัยคุกคามไทยอย่าออกหน้าออกตาแบบนี้, ..การประกาศกฏอัยการศึกทั่วประเทศมิใช่การยึดอำนาจรัฐบาล แต่คือสามารถจัดการพวกไม่กระทำตามคำสั่งทางมั่นคงของทหารด้านอธิปไตยชาติได้ เช่นพวกที่บอกให้ไปตัดไฟฟ้าตัดน้ำมันตัดเน็ตตัดคลื่นโทรศัพท์ตัดสายเคเบิลแต่ยังไม่ปฏิบัติจริงในหน่วยงานนั้นๆ อำนาจกฏอัยการศึกสามารถจัดการพวกนี้ทางตรงได้ทันที,ตลอดทำทีเช่นแสดงความคิดเห็นออกสื่อแต่เอาภาพสถานีที่ตั้งจุดเสาสัญญาณคลื่นต่างๆของทหารไทยตนบรรยายออกมาผ่านสื่อ สาระพัดบอกว่ามีที่ตั้งทหารผ่านเสาสัญญาณทางทหารอยู่ตำแหน่งไหนบ้าง,นี้คือการแบไต๋หมายบอกศัตรูทางอ้อมด้วยนั้นเองผ่านหน้าที่การงานตนทำทีออกมาอธิบายทำความเข้าใจแก่ประชาชนก็ว่า,สายเคเบิลแบบภูมะเขือ เสาสัญญาณของฐานเขมรในภูมะเขืออีก สามารถจับพวกสมคบคิดนี้ได้ทันทีนั้นเอง. .. ..https://youtube.com/shorts/ehWuPlPQLwI?si=pNXFfRsOqKBHZ63_
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 445 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาชนเรายึดอำนาจเถอะ,จากนั้นลงมติ สร้างรั้วลวดหนามแบบเวียดนามหนาแน่นนั้นเลย มรึงก็ไปรักษาโรงพยาบาลเขมรมรึงเถอะ ประเทศใครประเทศมันปิดด่านถาวรจริงจังเลย อยู่ใครอยู่มันเงียบๆสัก10-20ปีไปก่อน,ห้ามคนไทยไปเขมรเด็ดขาดจะไม่รับรองความปลอดภัยใดๆ,แต่ถ้าเขมรลักพาตัว สถานที่ราชการเขมรจะถูกไทยระเบิดทิ้งหากไม่จับกุมคนลักพาตัวคนไทยมาลงโทษและไม่ส่งตัวคนไทยเรากลับมาคืนอย่างปลอดภัย,ตัดสายสัมพันธ์ค้าขายทั้งหมดกับเขมร ตัดน้ำตัดไฟตัดเน็ตตัดสายเคเบิล ตัดถนนรถไฟเชื่อมไปหาเขมรทั้งหมดทันที,แรงงานเขมรส่งกลับเขมรทั้งหมดที่อยู่ประเทศไทยไม่มีเงื่อนไขใดๆให้อยู่ต่อทุกๆกรณี,ไทยเราต้องเด็ดขาดจริงๆนะ อย่าเลอะเทอะแบบปัจจุบัน,อย่าอ้างเมตตาสงสารใดๆเลย เกิดชาติหน้ามาเกิดบนแผ่นดินไทยก็แล้วกัน ชาติปัจจุบันนี้เราปกป้องคนไทยดูแลคนไทยเราก่อนคืออันดับแรกในภัยคุกคามความขัดแย้งรุกรานอธิปไตยไทย เกลียดชังประเทศไทยว่าไทยคือโจรสยามก็ว่า เคลมสาระพัดต่างๆของไทย ว่ากล่าวด่าทอคนไทยสินค้าไทย เนรคุณคนไทย,เรา..ประเทศไทยต้องเด็ดขาดจริงๆ,มันจะเป็นจะตายมิใช่สถานะคนไทยไปเกี่ยวข้องอีกต่อไป,โรงงานใดเมตตาสงสารคนเขมรก็รับความเสี่ยงเองไปตั้งฐานผลิตที่เขมร,แต่ทุกๆสินค้าบริการของเขมรทั้งหมด ประเทศไทยห้ามนำเข้าและยกเลิกการค้าขายกับเขมรทั้งหมด ยกเลิกธุรกรรมกิจการใดๆกับเขมรทั้งหมด,ส่วนชาติใดค้าขายกับเขมร ช่วยเหลือเขมรที่เป็นภัยความมั่นคงกับเราโดยเฉพาะภูมิภาคนี้เราประเทศไทยจะกลับไปพิจารณาประเทศนั้นๆอย่างมีสติปัญญาและรอบคอบที่สุด,
    ..
    ..เรา..ประชาชนคนไทยต้องสั่งสอนเขมรจริงจังได้แล้ว,โรงงานกิจการใดๆที่ใช้คนเขมรต่างพิจารณาสถานะใหม่จริงๆด้วย.,คนเขมรเขามีวิถีคนเขมรเอง,มาใช้วิถีเขมรบนแผ่นดินวิถีไทยแบบเนรคุณหักหลังทรยศว่ากล่าวด่าดูถูกเรามาเก่งกล้าสามารถตีลูกตีหลานฆ่าเด็กๆเราฆ่าลูกฆ่าหลานคนไทยเราประชาชนผู้บริสุทธิ์เรา ,หมายยึดบ้านยึดเมืองเรามันสมควรมั้ย.
    ..
    https://youtube.com/shorts/jakwmzORgoc?si=l9z9DBpc1kjOSd6J
    ประชาชนเรายึดอำนาจเถอะ,จากนั้นลงมติ สร้างรั้วลวดหนามแบบเวียดนามหนาแน่นนั้นเลย มรึงก็ไปรักษาโรงพยาบาลเขมรมรึงเถอะ ประเทศใครประเทศมันปิดด่านถาวรจริงจังเลย อยู่ใครอยู่มันเงียบๆสัก10-20ปีไปก่อน,ห้ามคนไทยไปเขมรเด็ดขาดจะไม่รับรองความปลอดภัยใดๆ,แต่ถ้าเขมรลักพาตัว สถานที่ราชการเขมรจะถูกไทยระเบิดทิ้งหากไม่จับกุมคนลักพาตัวคนไทยมาลงโทษและไม่ส่งตัวคนไทยเรากลับมาคืนอย่างปลอดภัย,ตัดสายสัมพันธ์ค้าขายทั้งหมดกับเขมร ตัดน้ำตัดไฟตัดเน็ตตัดสายเคเบิล ตัดถนนรถไฟเชื่อมไปหาเขมรทั้งหมดทันที,แรงงานเขมรส่งกลับเขมรทั้งหมดที่อยู่ประเทศไทยไม่มีเงื่อนไขใดๆให้อยู่ต่อทุกๆกรณี,ไทยเราต้องเด็ดขาดจริงๆนะ อย่าเลอะเทอะแบบปัจจุบัน,อย่าอ้างเมตตาสงสารใดๆเลย เกิดชาติหน้ามาเกิดบนแผ่นดินไทยก็แล้วกัน ชาติปัจจุบันนี้เราปกป้องคนไทยดูแลคนไทยเราก่อนคืออันดับแรกในภัยคุกคามความขัดแย้งรุกรานอธิปไตยไทย เกลียดชังประเทศไทยว่าไทยคือโจรสยามก็ว่า เคลมสาระพัดต่างๆของไทย ว่ากล่าวด่าทอคนไทยสินค้าไทย เนรคุณคนไทย,เรา..ประเทศไทยต้องเด็ดขาดจริงๆ,มันจะเป็นจะตายมิใช่สถานะคนไทยไปเกี่ยวข้องอีกต่อไป,โรงงานใดเมตตาสงสารคนเขมรก็รับความเสี่ยงเองไปตั้งฐานผลิตที่เขมร,แต่ทุกๆสินค้าบริการของเขมรทั้งหมด ประเทศไทยห้ามนำเข้าและยกเลิกการค้าขายกับเขมรทั้งหมด ยกเลิกธุรกรรมกิจการใดๆกับเขมรทั้งหมด,ส่วนชาติใดค้าขายกับเขมร ช่วยเหลือเขมรที่เป็นภัยความมั่นคงกับเราโดยเฉพาะภูมิภาคนี้เราประเทศไทยจะกลับไปพิจารณาประเทศนั้นๆอย่างมีสติปัญญาและรอบคอบที่สุด, .. ..เรา..ประชาชนคนไทยต้องสั่งสอนเขมรจริงจังได้แล้ว,โรงงานกิจการใดๆที่ใช้คนเขมรต่างพิจารณาสถานะใหม่จริงๆด้วย.,คนเขมรเขามีวิถีคนเขมรเอง,มาใช้วิถีเขมรบนแผ่นดินวิถีไทยแบบเนรคุณหักหลังทรยศว่ากล่าวด่าดูถูกเรามาเก่งกล้าสามารถตีลูกตีหลานฆ่าเด็กๆเราฆ่าลูกฆ่าหลานคนไทยเราประชาชนผู้บริสุทธิ์เรา ,หมายยึดบ้านยึดเมืองเรามันสมควรมั้ย. .. https://youtube.com/shorts/jakwmzORgoc?si=l9z9DBpc1kjOSd6J
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 537 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัดทั้งหมดที่ไปเขมรมิใช่แค่ไฟฟ้า,ซิมไทยตัดสัญญาณทั้งหมดด้วย,ตัดสายเคเบิลในอ่าวไทยทั้งหมดที่เชื่อมหรือลากยาวจากอ่าวไทยไปเขมร,และสายเคเบิลทั้งหมดตลอดแนวพรมแดนเขมรที่มันลากไปให้เขมรเปิดเดอะแก๊งสแกมเมอร์คอลเซ็นเตอร์ทั้งหมดด้วย,อเมริกาสากกระบือควายวัว เขมรคืออาชญากรสงครามชัดเจนเสือกไปจับมือร่วมกับโจรเขมรด้วย มาเลย์ฝรั่งเศสและอเมริกาที่เปิดหน้าโชว์นี้คือมหาโจรเดอะแก๊งโจรหมายปล้นชิงบ่อน้ำมันหรือทรัพย์สินเงินทองของมีค่าจากประเทศไทยนี้เอง,มิใช่แค่บริบทผีบ้าอื่นๆนั้นแค่นั้น.

    https://youtube.com/shorts/ftfdJh3XcSk?si=n8mkkmAybaXHzzdl
    ตัดทั้งหมดที่ไปเขมรมิใช่แค่ไฟฟ้า,ซิมไทยตัดสัญญาณทั้งหมดด้วย,ตัดสายเคเบิลในอ่าวไทยทั้งหมดที่เชื่อมหรือลากยาวจากอ่าวไทยไปเขมร,และสายเคเบิลทั้งหมดตลอดแนวพรมแดนเขมรที่มันลากไปให้เขมรเปิดเดอะแก๊งสแกมเมอร์คอลเซ็นเตอร์ทั้งหมดด้วย,อเมริกาสากกระบือควายวัว เขมรคืออาชญากรสงครามชัดเจนเสือกไปจับมือร่วมกับโจรเขมรด้วย มาเลย์ฝรั่งเศสและอเมริกาที่เปิดหน้าโชว์นี้คือมหาโจรเดอะแก๊งโจรหมายปล้นชิงบ่อน้ำมันหรือทรัพย์สินเงินทองของมีค่าจากประเทศไทยนี้เอง,มิใช่แค่บริบทผีบ้าอื่นๆนั้นแค่นั้น. https://youtube.com/shorts/ftfdJh3XcSk?si=n8mkkmAybaXHzzdl
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts