• เรื่อง สันดาน
    “สันดาน”

    (1)

    ผมหายไปจากหน้าจอหลายวันมาก เพราะขี้เกียจดูข่าวและเขียนถึงไอ้นักล่าตอนนี้ บทมันซ้ำจนน่าเบื่อ แถมสะอิดสะเอียน เวลาดูมันพูด เล่นบทเป็นวีรบุรุษ ผู้เสียสละ จำเป็นต้องรักษาสันติสุขของมนุษยชาติ ฯลฯ ขืนดูต่อ ยาแก้คลื่นไส้ก็เอาไม่อยู่ ผมเลยไปค้นหาหนังสือเก่าๆมาอ่านประเทืองปัญญา ดีกว่าดูไอ้นักล่าตอแหล

    ปรากฏว่า อาการผมหนักกว่าคลื่นไส้!

    ผมไปเจอเอกสารเก่า เกือบ 100 ปี “The American and Russian Missions” ปี ค.ศ.1917 เป็นเอกสารของกระทรวงการต่างประเทศ อเมริกัน ที่เรียกว่า Foreign Relations of the United States (FRUS) ทนไม่ไหว ต้องเอามาเล่าสู่กันฟัง ถ้าไม่บอกว่า คนเขียนเอกสาร เขียนเมื่อไหร่ ท่านผู้อ่านอาจนึกว่าเป็นเรื่องในสมัยปัจจุบัน ผ่านมาเกือบ 100 ปี มันก็ยังใช้วิธีเดิมๆ ตามสันดาน…

    ปี ค.ศ.1917 ตามวิชาประวัติศาสตร์สากล สมัยที่ผมยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยม เขาบอกว่า มีการปฏิวัติเกิดขึ้นในรัสเซีย คือการปฏิวัติอันโด่งดังของพวกบอลเชวิก (Bolsheviks) ที่โค่นพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 นั่นแหละ

    แต่ความจริง ในปี ค.ศ.1917 รัสเซีย มีการปฏิวัติ 2 ครั้ง ครั้งแรก ในเดือนมีนาคม ผู้นำการปฏิวัติ คือ นาย Aleksandr Kerensky ซึ่งยึดอำนาจจากพระเจ้าซาร์ ทำให้พระเจ้าซาร์ประกาศสละบัลลังก์ แต่ต่อมาพวกปฏิวัติก็จับท่านและราชวงค์ไปกักขัง ส่วนพวก Bolsheviks มาทำการปฏิวัติซ้ำในพฤศจิกายน ค.ศ.1917 ไล่คณะ นาย Kerensky ออกไป แล้วพวก Bolsheviks ก็ปกครองรัสเซียต่อ

    ในตอนที่ นาย Kerensky ทำการปฏิวัตินั้น สงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ ปี ค.ศ.1914 กำลังโซ้ยกันอย่างดุเดือด สงครามโลกครั้งที่ 1 นี้ ความจริงเริ่มมาจากชาวเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เป็นฝ่ายกระสัน อยากจะทำสงครามนะครับ เพราะอังกฤษหมั่นไส้ ปนปอดแหกว่า เยอรมันกำลังจะโตใหญ่เกินหน้า ส่วนเรื่องอาชดยุกค์เฟอร์ดินานด์ แห่งปรัสเซียถูกยิง นั่นมันสาเหตุของสงครามโลก ตามประวัติศาสตร์หลักสูตรกระทรวงศึกษาฯ ลองไปหาประวัติศาสตร์นอกหลักสูตรมาอ่านกันบ้าง จะได้เห็นโลกกว้าง และลึกขึ้น

    ประมาณปี คศ 1899 เยอรมันส้มหล่นใส่ ไปได้สัมปทานจากออตโตมาน ให้สร้างทางรถไฟสาย Berlin Bagdad ยาวประมาณ 2,500 ไมล์ ภาพรางรถไฟวิ่งยาวจาก Berlin ผ่านไปกลางตะวันออกกลาง ที่เต็มไปด้วยแหล่งน้ำมันไปจนถึง Bagdad เลยไปอีกหน่อย ก็ถึงอ่าวเปอร์เซีย ที่อังกฤษตีตั๋วจองไว้ ภาพนี้มันทำให้ชาวเกาะใหญ่ฯนอนฝันร้าย ที่นอนเปียกชุ่มทุกคืน ตั้งแต่รู้ข่าว ชาวเกาะฯทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาวางแผนเตะตัดขาเยอรมัน ด้วยการไปชวนพรรคพวกมาร่วมรายการถล่มนักสร้างราง แต่ถ้ามีแค่พวกขาประจำอย่างฝรั่งเศส อืตาลีร่วม ชาวเกาะไม่แน่ใจว่า จะถีบนักสร้างรางให้ตกรางได้ ชาวเกาะเลยไปหลอกรัสเซีย ถึงจะอยู่ใกลหน่อย แต่ข่าวว่ากองทัพอึด ให้มาร่วมรายการถล่มนักสร้างรางด้วยกัน (รายละเอียดอยู่ในนิทาน เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือนก 2 หัว” และ นิทานชุด “เหยื่อ”)

    รัสเซีย จริงๆไม่มีเรื่องชังหน้ากับเยอรมันซักหน่อย แต่พออังกฤษเอาของขวัญมาล่อว่า ถ้าถีบมันตกรางได้ เอาไปเลย อาณาจักรออโตมาน เรายกให้ท่าน ไม่รู้รัสเซียกำลังมึนอะไร เดินหล่นพลั่กลงหลุม ที่ชาวเกาะขุดล่อ ออโตมานก็ไม่ใช่ของชาวเกาะใหญ่ฯ ซะหน่อย เขาเอาของคนอื่นมาล่อ ไปตกลงกับเขาได้ยังไง เนี่ย เหมือนเวลาคนดวงไม่ดี มีดาวประเภท เสาร์ ราหู ทับลัคน์อะไรทำนองนั้น เวลาดาวแรงอย่างนี้ทับลัคน์ อย่าไปเชื่ออะไรใครเขาง่ายๆนะครับ
    เมื่อ นาย Kerensky ทำปฏิวัติรัสเซีย สงครามเล่นไปแล้ว 3 ปี แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิก คนจัดรายการ ออกตั๋วเสริมมาขายเพิ่มอยู่เรื่อย แม้บ้านช่องจะพังพินาศฉิบหายกันเป็นแถบๆ แต่ชาวเกาะก็บอกให้สู้ต่อ ก็บทมันเขียนไว้อย่างนั้น ทีนี้ รัสเซียแนวร่วม ดันมีปฏิวัติ รัฐบาลใหม่จะเล่นสงครามต่อหรือ เปล่า ชาวเกาะชักเหงื่อแตก อเมริกาเด็กเรา (ตอนนั้น ไอ้นักล่ายังเป็นเด็ก อยู่ในอาณัติของอังกฤษ เรื่องมัน 100 ปีมาแล้วนะครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจ ตอนนี้ ถึงไม่ใช่เด็กแล้ว แต่ก็อาจจะยังอยู่ ในอาณัติกันเหมือนเดิม) ก็ดันประกาศอยู่นั่นว่า เราเป็นกลาง (ยัง) ไม่เข้ามาช่วยรบ จำเราต้องใช้มันไปสืบความว่า รัสเซียหลังปฏิวัตินี่ จะสู้ต่อ หรือจะฝ่อหนี

    ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ไม้หลักปักเลน จึงจัดคณะละครเร่ ไปเจริญสัมพันธไมตรี ชื่อ The Roots Mission ให้ไปดูลาดเลารัสเซีย หลังปฏิวัติครั้งแรก ว่าหน้าตาเป็นยังไง หล่อเหลา หรือเหลาเหย่ คณะละครเร่เจริญสัมพันธไมตรีที่นำโดย นาย Elihu Roots ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอดีตทูต อดีตรัฐมนตรี อดีตอะไรเยอะแยะไปหมด ไปเปิดดูกูเกิลเอาแล้วกันนะครับ น่าเชื่อถือดี แต่คราวนี้ดูเหมือนจะไปทำหน้าที่เล่นละคร และทำหน้าที่นักสืบมากกว่า

    คณะนาย Roots มีด้วยกันกว่าสิบคน มีทั้ง นักการทูต นักธุรกิจ วิศวกร นักหนังสือพิมพ์ นักกิจกรรมสังคม (YMCA) นายทหารบก นายทหารเรือ เบิ้มๆทั้งนั้น มันเป็นคณะที่ต้องไปแสดงละครจริงๆ พวกเขาไปถึง เมือง Petrograd ของรัสเซีย เดือนพฤษภาคม 1917 ใช้เวลาเจริญสัมพันธไมตรีกับคณะปฏิวัติ Kerensky ประมาณ 4 เดือน ไปมันทั่วรัสเซียอันกว้างใหญ่ไพศาล ไปจนถึงไซบีเรียโน่น ต้องยอมรับว่า คณะนี้เขาเล่นละครเก่ง

    คงสงสัยกัน พวก YMCA ( Young Men’s Christain Association) นี่คณะละคร เอาไปทำอะไร ในสมัยนั้น (และสมัยนี้ ?!) เขาใช้ YMCA ทำหน้าที่เหมือน CIA ในคราบทูตวัฒนธรรม ใช้ศาสนา การกีฬา การบรรเทิง บังหน้า เข้าไปคลุกคลี กับชาวบ้าน ชาวเมือง และนักเรียนนักศึกษา มีทั้ง YMCA และ YWCA ของฝ่ายหญิง การจะเอาเจ้าหน้าที่ หน่วยงานราชการทหาร ไปคลุกกับชาวบ้านนี่ บางทีไม่ได้ผล ชาวบ้านไม่เปิดใจ ก็ใช้กิจกรรมนำโดยกลุ่มแบบนี้ สมัยนี้ ก็คงไม่ใช้ YMCA แล้ว เขามาในรูปแบบของกลุ่มอะไร ลองเดาดู

    (2)

    เดือนสิงหาคม คณะละครเร่ แสดงเสร็จ ก็ทำรายงานยาวเหยียด ส่งให้รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ นาย Robert Lansing พิจารณา
    ผมจะขอยกมาเฉพาะบางส่วน ที่น่าสนใจ แต่จะเอาฉบับเต็มลงให้อ่านกันด้วย เผื่อท่านใดอยากจะตั้งคณะละคร จะได้ใช้เป็นตัวอย่าง

    คณะละครได้ไปพบทั้งพวกทำปฏิวัติ ทหารฝ่ายเก่า ฝ่ายใหม่ ชาวบ้าน ชาววัด ครู นักเรียน พ่อค้า นักธุรกิจ สายลับ ฯลฯ พบมันหมด ไปคุย ไปถาม ไปเสือก ก็เหมือนที่ไอ้บ้าอะไรที่เพิ่ง มาเสือกที่บ้านเรา เมื่อต้นเดือนนี้ละครับ มันคงมาจากคณะละครเดียวกัน รูปแบบ การเจรจา ถึงได้ทำนองเดียวกัน เล่นกันแบบนี้มา 100 ปีแล้ว ยังไม่เลิก

    ข้อสรุปที่คณะละคร ได้จากการสำรวจ คือ ชาวรัสเซีย ถอดใจไม่อยากเล่นสงครามแล้ว ขนมปังก็จะไม่มีกิน บ้านก็พัง จนแทบไม่เหลือที่ให้ซุกหัว จะไปรบทำไมอีก คณะละครอ้างว่า เพราะฝ่ายเยอรมันขนสายลับเข้ามา เต็มเมืองรัสเซีย มากรอกหูชาวรัสเซีย และทหารรัสเซียว่า จะไปรบทำไม คนอยากรบน่ะ คือพระเจ้าซาร์ ตอนนี้ท่านก็ไปแล้ว พี่น้องก็ไม่ต้องไปรบแล้ว กลับบ้านไปทำไร่ทำนาต่อแล้วกัน

    ฝ่ายคณะละครได้ยินเข้าก็ลมแทบใส่ นี่ใกล้จะถึงคิวเราเข้าฉากไปรบต่อ ถ้าไม่มีรัสเซียอยู่แถวหน้าตายก่อน พวกเราก็ ฉ. ห. ละซิ เพราะฉนั้น สิ่งที่ฝ่ายเราต้องทำด่วน (ที่เปิดเผยได้) มี 2 เรื่อง

    เรื่องที่ 1 เราต้องเอาทีมอเมริกัน เข้ามาดูแลเรื่องถนนหนทาง รางรถไฟ ในรัสเซีย เพราะขณะนี้ อาวุธยุทธภัณท์ ที่ฝ่ายเราขนมาให้ ยังกองค้างอยูที่เมืองท่า Vladivostok ประมาณ 700,000 ตัน จะขนผ่านข้ามไป Moscow ยังไม่ได้ เพราะทั้งถนน ทั้งทางรถไฟ รับน้ำหนักไม่ไหว แล้วเมื่อเราจะเข้าทำสงคราม ของมันจะต้องขนมาอีกมากมาย เราจะทำยังไง ต้องแก้ไขเรื่องนี้ด่วนจี๋

    อืม คณะละครนี่ ไม่ใช่ย่อย ไม่ใช่มารำเฉิบๆ อย่างเดียว เขาไปสำรวจหมด ระยะทางรถไฟจาก Vladivostok ถึง Moscow น่ะ ประมาณ 5 ถึง 6,000 ไมล์ เชียวนะ รำไป สำรวจไปนี่ไม่ใช่งานเล็กๆ

    แล้วจำกันได้ไหมครับ เมื่อเขาจะรบกับเวียตนาม เขาใช้บ้านเราเป็นฐานทัพ แต่ก่อนจะยกโขยงกองทัพกันเข้ามา เขาส่งคณะละครเร่แบบนี้ มาสำรวจบ้านเราไม่รู้กี่คณะ สำรวจอะไรไปบ้างก็ไม่รู้ แล้วเขาก็สร้างถนน จากสระบุรี กว้างขวางยาวเรียบไปถึงโคราช ให้เราชาวบ้านดีใจ แหม อเมริกาใจดีจัง ถนนเลยมีชื่อว่า มิตรภาพ เปล่าหรอกครับ เขาเตรียมไว้ขนส่ง อาวุธ ยุทธภัณท์ ที่เขาจะขนมาทางเรือ แต่กลัวมากองเป็นภูเขา อยู่แถวท่าเรือคลองเตย แบบ Vladivostock! มันก็เลย ต้องสร้างถนน สร้างสนามบิน ให้ประเทศไทย ฯลฯ (รายละเอียดมีอยู่ในนิทานเรื่อง “จิกโก๋ปากซอย” ถ้าอยากอ่านประวัติศาสตร์ นอกหลักสูตร กระทรวงศึกษาฯ)

    เรื่องที่ 2 ที่คณะละคร บอกสำคัญอย่างยิ่ง คือ เราต้องย้อมความคิค ย้อมสมองคนรัสเซียให้ “อยากทำสงคราม” ไม่ให้เชื่อฟังเยอรมัน อเมริกาจะทำได้อย่างไร รัสเซียไม่ใช่สมันน้อยนะ คณะละครบอกไม่มีปัญหา คนรัสเซีย ก็เหมือนเด็ก ที่ตัวโตนั่นแหละ
    เอ้า เจ้าหน้าที่รัสเซียที่ตามอ่านนิทาน ช่วยขีดเส้นใต้ 2 เส้น แล้วรายงานส่งคุณพี่ปูตินของผมด้วยนะครับ ว่าอเมริกาพูดแบบนี้ แปลว่าเห็นคนรัสเซียเป็นยังไง (เสี้ยม ซะหน่อย)

    คณะละครเร่ เขียนแผนการฟอกย้อมให้เสร็จ เขาระบุว่า เป้าหมายของแผนคือ:

    “To influence the attitude of the people of Russia for the prosecution of war as the only way of perpetuating their democracy ”

    ใครแปลเก่งๆ ลองแปลดูครับ

    สำหรับผม ผมเข้าใจความว่า เพื่อเป็นการย้อมความคิดของคนรัสเซีย ให้เชื่อว่า การเข้าทำสงคราม เป็นทางเดียวที่จะทำให้ประชาธิปไตยของเขาอยู่อย่างยั่งยืน

    ผมเขียนปูพื้น เล่ามาเสียยืดยาว เพื่อจะให้อ่านประโยคนี้กัน อ่านแล้วโปรดพิเคราะห์กันให้ดีๆ จะได้เห็น “สันดาน” อันอำมหิต ของอเมริกา (และของอังกฤษ) ที่ผ่านมาแล้วเกือบ 100 ปี แล้วก็ยังไม่เปลี่ยน และอีกกี่ร้อยปี ก็คงไม่มีวันเปลี่ยนความอำมหิต นี้ โดยใช้ความตอแหล แบบหน้าด้านๆ อ้างเรื่องประชาธิปไตย แบบตะหวักตะบวย เพื่อประโยชน์ของมัน หรือพวกมันเท่านั้น ใครจะเจ็บ ใครจะตาย ใครจะฉิบหาย ใครจะวิบัติ ขนาดไหน มันไม่สนใจ เลวถึงขนาดนี้ อำมหิต อย่างนี้ ยังมีคนอยากให้อเมริกา ครอบหัวสี่เหลี่ยมต่อไปอีกหรือครับ

    แผนการฟอกย้อม จะใช้วิธีหลักๆ อยู่ 5 อย่าง

    1. จัดกระบวนการ “สร้าง และย้อมข่าว” แล้วกระจายข่าว ที่สร้างและย้อมแล้ว ไปทั่วรัสเซีย โดยจะเอาทีมงานมาจากอเมริกา ทั้งด้านการเขียน และการแปล

    คือเอาช่างชำนาญการย้อมของอเมริกา มาตั้งโรงงานที่รัสเซีย เหมือนที่มีอยู่เกลื่อนในบ้านสมันน้อย ซื้อมันทุกช่อง ครอบมันทุกฉบับ

    2. การใช้เอกสารประเภทแผ่นพับ และใบปลิว เพื่อง่ายแก่การเสพข่าว
    สมัยนี้ก็คงเปลี่ยนเป็น เครื่องมือ ไอ้ป๊อด ไอ้แป้ด ไอ้โฟน โดยเฉพาะ พวกเล่นไลน์นี่เหยื่อชั้นดี ส่งข่าวย้อมอะไรเข้าไปแพลบเดียว กระจายทั่ว เรื่องโกหกทั้งนั้น เสพกันได้แยะและเร็วกว่า

    3. สร้างหนังประเภทต่างๆ เพื่อให้ชาวรัสเซียเสพ เช่น หนังเกี่ยวกับสงคราม หนังชีวิตคนอเมริกันในชนบท ในเมือง หนังเกี่ยวกับการทำอุตสาหกรรม การค้า หนังตลก และที่สำคัญ หนังที่แสดงถึงความรักชาติและการแสวงหาประชาธิปไตย

    ฮอลลีวู้ดรับไป เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นโรงย้อมที่สำคัญหมายเลขหนึ่ง

    4. การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะทำเป็นแผ่นโปสเตอร์สีสวยสดุดตา สื่อหัวข้อที่เหมาะสมกับรัสเซีย โดยให้สำนักงานประชาสัมพันธ์ ฝีมือเยี่ยมของอเมริกา

    รู้ไหมครับ พวกประชาสัมพันธ์เก่งๆ เขาย้อมโลกใบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว เขาเอาอะไรมาใส่หัวสมันน้อยบ้าง

    5. วิธีการที่แนบเนียนและใช้แพร่หลาย คือการพูด ซึ่งจำเป็นต้องใช้ นักพูด นักประชาสัมพันธ์ และครู เป็นจำนวนมาก โดยอเมริกาอาจจะเลือกอย่างเหมาะสม จากชาวรัสเซียก็ได้ นักพูดและครูนี้ ถือว่าเป็นเครื่องมือย้อมที่เยี่ยมที่สุด

    วิธีการนี้ บ้านสมันน้อยใช้แยะมาก ยิ่งตอนนี้ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของบ้านเมือง ช่างย้อมถูกจ้างมาทำหน้าที่เพิ่มขึ้นอีกมาก มาในสาระพัดคราบ หัดสังเกตกันบ้าง ใครของจริง ใครของปลอม ใครช่างย้อมฝีมือเนียน

    เป็นไงครับ 5 วิธีการหลัก ยังอยู่ครบในศตวรรษนี้ แค่เปลี่ยน เสื้อผ้า หน้าผม ถ้อยคำ ท่าทาง ให้เข้ากับสมัย ละครฉากเดิมๆก็ยังใช้ได้ เครื่องมือย้อมก็ยังใช้อยู่ แค่เปลี่ยนรุ่นใหม่ไปเรื่อยๆ เท่านั้น นี่ตกลงเราจะให้เขาเล่นแบบนี้ ไปเรื่อยๆ อีก 100 ปีหรือไงครับ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    26 กพ. 2558

    ####################
    เอกสารประกอบ
    FRUS
    https://www.dropbox.com/s/
    เรื่อง สันดาน “สันดาน” (1) ผมหายไปจากหน้าจอหลายวันมาก เพราะขี้เกียจดูข่าวและเขียนถึงไอ้นักล่าตอนนี้ บทมันซ้ำจนน่าเบื่อ แถมสะอิดสะเอียน เวลาดูมันพูด เล่นบทเป็นวีรบุรุษ ผู้เสียสละ จำเป็นต้องรักษาสันติสุขของมนุษยชาติ ฯลฯ ขืนดูต่อ ยาแก้คลื่นไส้ก็เอาไม่อยู่ ผมเลยไปค้นหาหนังสือเก่าๆมาอ่านประเทืองปัญญา ดีกว่าดูไอ้นักล่าตอแหล ปรากฏว่า อาการผมหนักกว่าคลื่นไส้! ผมไปเจอเอกสารเก่า เกือบ 100 ปี “The American and Russian Missions” ปี ค.ศ.1917 เป็นเอกสารของกระทรวงการต่างประเทศ อเมริกัน ที่เรียกว่า Foreign Relations of the United States (FRUS) ทนไม่ไหว ต้องเอามาเล่าสู่กันฟัง ถ้าไม่บอกว่า คนเขียนเอกสาร เขียนเมื่อไหร่ ท่านผู้อ่านอาจนึกว่าเป็นเรื่องในสมัยปัจจุบัน ผ่านมาเกือบ 100 ปี มันก็ยังใช้วิธีเดิมๆ ตามสันดาน… ปี ค.ศ.1917 ตามวิชาประวัติศาสตร์สากล สมัยที่ผมยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยม เขาบอกว่า มีการปฏิวัติเกิดขึ้นในรัสเซีย คือการปฏิวัติอันโด่งดังของพวกบอลเชวิก (Bolsheviks) ที่โค่นพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 นั่นแหละ แต่ความจริง ในปี ค.ศ.1917 รัสเซีย มีการปฏิวัติ 2 ครั้ง ครั้งแรก ในเดือนมีนาคม ผู้นำการปฏิวัติ คือ นาย Aleksandr Kerensky ซึ่งยึดอำนาจจากพระเจ้าซาร์ ทำให้พระเจ้าซาร์ประกาศสละบัลลังก์ แต่ต่อมาพวกปฏิวัติก็จับท่านและราชวงค์ไปกักขัง ส่วนพวก Bolsheviks มาทำการปฏิวัติซ้ำในพฤศจิกายน ค.ศ.1917 ไล่คณะ นาย Kerensky ออกไป แล้วพวก Bolsheviks ก็ปกครองรัสเซียต่อ ในตอนที่ นาย Kerensky ทำการปฏิวัตินั้น สงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ ปี ค.ศ.1914 กำลังโซ้ยกันอย่างดุเดือด สงครามโลกครั้งที่ 1 นี้ ความจริงเริ่มมาจากชาวเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เป็นฝ่ายกระสัน อยากจะทำสงครามนะครับ เพราะอังกฤษหมั่นไส้ ปนปอดแหกว่า เยอรมันกำลังจะโตใหญ่เกินหน้า ส่วนเรื่องอาชดยุกค์เฟอร์ดินานด์ แห่งปรัสเซียถูกยิง นั่นมันสาเหตุของสงครามโลก ตามประวัติศาสตร์หลักสูตรกระทรวงศึกษาฯ ลองไปหาประวัติศาสตร์นอกหลักสูตรมาอ่านกันบ้าง จะได้เห็นโลกกว้าง และลึกขึ้น ประมาณปี คศ 1899 เยอรมันส้มหล่นใส่ ไปได้สัมปทานจากออตโตมาน ให้สร้างทางรถไฟสาย Berlin Bagdad ยาวประมาณ 2,500 ไมล์ ภาพรางรถไฟวิ่งยาวจาก Berlin ผ่านไปกลางตะวันออกกลาง ที่เต็มไปด้วยแหล่งน้ำมันไปจนถึง Bagdad เลยไปอีกหน่อย ก็ถึงอ่าวเปอร์เซีย ที่อังกฤษตีตั๋วจองไว้ ภาพนี้มันทำให้ชาวเกาะใหญ่ฯนอนฝันร้าย ที่นอนเปียกชุ่มทุกคืน ตั้งแต่รู้ข่าว ชาวเกาะฯทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาวางแผนเตะตัดขาเยอรมัน ด้วยการไปชวนพรรคพวกมาร่วมรายการถล่มนักสร้างราง แต่ถ้ามีแค่พวกขาประจำอย่างฝรั่งเศส อืตาลีร่วม ชาวเกาะไม่แน่ใจว่า จะถีบนักสร้างรางให้ตกรางได้ ชาวเกาะเลยไปหลอกรัสเซีย ถึงจะอยู่ใกลหน่อย แต่ข่าวว่ากองทัพอึด ให้มาร่วมรายการถล่มนักสร้างรางด้วยกัน (รายละเอียดอยู่ในนิทาน เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือนก 2 หัว” และ นิทานชุด “เหยื่อ”) รัสเซีย จริงๆไม่มีเรื่องชังหน้ากับเยอรมันซักหน่อย แต่พออังกฤษเอาของขวัญมาล่อว่า ถ้าถีบมันตกรางได้ เอาไปเลย อาณาจักรออโตมาน เรายกให้ท่าน ไม่รู้รัสเซียกำลังมึนอะไร เดินหล่นพลั่กลงหลุม ที่ชาวเกาะขุดล่อ ออโตมานก็ไม่ใช่ของชาวเกาะใหญ่ฯ ซะหน่อย เขาเอาของคนอื่นมาล่อ ไปตกลงกับเขาได้ยังไง เนี่ย เหมือนเวลาคนดวงไม่ดี มีดาวประเภท เสาร์ ราหู ทับลัคน์อะไรทำนองนั้น เวลาดาวแรงอย่างนี้ทับลัคน์ อย่าไปเชื่ออะไรใครเขาง่ายๆนะครับ เมื่อ นาย Kerensky ทำปฏิวัติรัสเซีย สงครามเล่นไปแล้ว 3 ปี แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิก คนจัดรายการ ออกตั๋วเสริมมาขายเพิ่มอยู่เรื่อย แม้บ้านช่องจะพังพินาศฉิบหายกันเป็นแถบๆ แต่ชาวเกาะก็บอกให้สู้ต่อ ก็บทมันเขียนไว้อย่างนั้น ทีนี้ รัสเซียแนวร่วม ดันมีปฏิวัติ รัฐบาลใหม่จะเล่นสงครามต่อหรือ เปล่า ชาวเกาะชักเหงื่อแตก อเมริกาเด็กเรา (ตอนนั้น ไอ้นักล่ายังเป็นเด็ก อยู่ในอาณัติของอังกฤษ เรื่องมัน 100 ปีมาแล้วนะครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจ ตอนนี้ ถึงไม่ใช่เด็กแล้ว แต่ก็อาจจะยังอยู่ ในอาณัติกันเหมือนเดิม) ก็ดันประกาศอยู่นั่นว่า เราเป็นกลาง (ยัง) ไม่เข้ามาช่วยรบ จำเราต้องใช้มันไปสืบความว่า รัสเซียหลังปฏิวัตินี่ จะสู้ต่อ หรือจะฝ่อหนี ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ไม้หลักปักเลน จึงจัดคณะละครเร่ ไปเจริญสัมพันธไมตรี ชื่อ The Roots Mission ให้ไปดูลาดเลารัสเซีย หลังปฏิวัติครั้งแรก ว่าหน้าตาเป็นยังไง หล่อเหลา หรือเหลาเหย่ คณะละครเร่เจริญสัมพันธไมตรีที่นำโดย นาย Elihu Roots ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอดีตทูต อดีตรัฐมนตรี อดีตอะไรเยอะแยะไปหมด ไปเปิดดูกูเกิลเอาแล้วกันนะครับ น่าเชื่อถือดี แต่คราวนี้ดูเหมือนจะไปทำหน้าที่เล่นละคร และทำหน้าที่นักสืบมากกว่า คณะนาย Roots มีด้วยกันกว่าสิบคน มีทั้ง นักการทูต นักธุรกิจ วิศวกร นักหนังสือพิมพ์ นักกิจกรรมสังคม (YMCA) นายทหารบก นายทหารเรือ เบิ้มๆทั้งนั้น มันเป็นคณะที่ต้องไปแสดงละครจริงๆ พวกเขาไปถึง เมือง Petrograd ของรัสเซีย เดือนพฤษภาคม 1917 ใช้เวลาเจริญสัมพันธไมตรีกับคณะปฏิวัติ Kerensky ประมาณ 4 เดือน ไปมันทั่วรัสเซียอันกว้างใหญ่ไพศาล ไปจนถึงไซบีเรียโน่น ต้องยอมรับว่า คณะนี้เขาเล่นละครเก่ง คงสงสัยกัน พวก YMCA ( Young Men’s Christain Association) นี่คณะละคร เอาไปทำอะไร ในสมัยนั้น (และสมัยนี้ ?!) เขาใช้ YMCA ทำหน้าที่เหมือน CIA ในคราบทูตวัฒนธรรม ใช้ศาสนา การกีฬา การบรรเทิง บังหน้า เข้าไปคลุกคลี กับชาวบ้าน ชาวเมือง และนักเรียนนักศึกษา มีทั้ง YMCA และ YWCA ของฝ่ายหญิง การจะเอาเจ้าหน้าที่ หน่วยงานราชการทหาร ไปคลุกกับชาวบ้านนี่ บางทีไม่ได้ผล ชาวบ้านไม่เปิดใจ ก็ใช้กิจกรรมนำโดยกลุ่มแบบนี้ สมัยนี้ ก็คงไม่ใช้ YMCA แล้ว เขามาในรูปแบบของกลุ่มอะไร ลองเดาดู (2) เดือนสิงหาคม คณะละครเร่ แสดงเสร็จ ก็ทำรายงานยาวเหยียด ส่งให้รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ นาย Robert Lansing พิจารณา ผมจะขอยกมาเฉพาะบางส่วน ที่น่าสนใจ แต่จะเอาฉบับเต็มลงให้อ่านกันด้วย เผื่อท่านใดอยากจะตั้งคณะละคร จะได้ใช้เป็นตัวอย่าง คณะละครได้ไปพบทั้งพวกทำปฏิวัติ ทหารฝ่ายเก่า ฝ่ายใหม่ ชาวบ้าน ชาววัด ครู นักเรียน พ่อค้า นักธุรกิจ สายลับ ฯลฯ พบมันหมด ไปคุย ไปถาม ไปเสือก ก็เหมือนที่ไอ้บ้าอะไรที่เพิ่ง มาเสือกที่บ้านเรา เมื่อต้นเดือนนี้ละครับ มันคงมาจากคณะละครเดียวกัน รูปแบบ การเจรจา ถึงได้ทำนองเดียวกัน เล่นกันแบบนี้มา 100 ปีแล้ว ยังไม่เลิก ข้อสรุปที่คณะละคร ได้จากการสำรวจ คือ ชาวรัสเซีย ถอดใจไม่อยากเล่นสงครามแล้ว ขนมปังก็จะไม่มีกิน บ้านก็พัง จนแทบไม่เหลือที่ให้ซุกหัว จะไปรบทำไมอีก คณะละครอ้างว่า เพราะฝ่ายเยอรมันขนสายลับเข้ามา เต็มเมืองรัสเซีย มากรอกหูชาวรัสเซีย และทหารรัสเซียว่า จะไปรบทำไม คนอยากรบน่ะ คือพระเจ้าซาร์ ตอนนี้ท่านก็ไปแล้ว พี่น้องก็ไม่ต้องไปรบแล้ว กลับบ้านไปทำไร่ทำนาต่อแล้วกัน ฝ่ายคณะละครได้ยินเข้าก็ลมแทบใส่ นี่ใกล้จะถึงคิวเราเข้าฉากไปรบต่อ ถ้าไม่มีรัสเซียอยู่แถวหน้าตายก่อน พวกเราก็ ฉ. ห. ละซิ เพราะฉนั้น สิ่งที่ฝ่ายเราต้องทำด่วน (ที่เปิดเผยได้) มี 2 เรื่อง เรื่องที่ 1 เราต้องเอาทีมอเมริกัน เข้ามาดูแลเรื่องถนนหนทาง รางรถไฟ ในรัสเซีย เพราะขณะนี้ อาวุธยุทธภัณท์ ที่ฝ่ายเราขนมาให้ ยังกองค้างอยูที่เมืองท่า Vladivostok ประมาณ 700,000 ตัน จะขนผ่านข้ามไป Moscow ยังไม่ได้ เพราะทั้งถนน ทั้งทางรถไฟ รับน้ำหนักไม่ไหว แล้วเมื่อเราจะเข้าทำสงคราม ของมันจะต้องขนมาอีกมากมาย เราจะทำยังไง ต้องแก้ไขเรื่องนี้ด่วนจี๋ อืม คณะละครนี่ ไม่ใช่ย่อย ไม่ใช่มารำเฉิบๆ อย่างเดียว เขาไปสำรวจหมด ระยะทางรถไฟจาก Vladivostok ถึง Moscow น่ะ ประมาณ 5 ถึง 6,000 ไมล์ เชียวนะ รำไป สำรวจไปนี่ไม่ใช่งานเล็กๆ แล้วจำกันได้ไหมครับ เมื่อเขาจะรบกับเวียตนาม เขาใช้บ้านเราเป็นฐานทัพ แต่ก่อนจะยกโขยงกองทัพกันเข้ามา เขาส่งคณะละครเร่แบบนี้ มาสำรวจบ้านเราไม่รู้กี่คณะ สำรวจอะไรไปบ้างก็ไม่รู้ แล้วเขาก็สร้างถนน จากสระบุรี กว้างขวางยาวเรียบไปถึงโคราช ให้เราชาวบ้านดีใจ แหม อเมริกาใจดีจัง ถนนเลยมีชื่อว่า มิตรภาพ เปล่าหรอกครับ เขาเตรียมไว้ขนส่ง อาวุธ ยุทธภัณท์ ที่เขาจะขนมาทางเรือ แต่กลัวมากองเป็นภูเขา อยู่แถวท่าเรือคลองเตย แบบ Vladivostock! มันก็เลย ต้องสร้างถนน สร้างสนามบิน ให้ประเทศไทย ฯลฯ (รายละเอียดมีอยู่ในนิทานเรื่อง “จิกโก๋ปากซอย” ถ้าอยากอ่านประวัติศาสตร์ นอกหลักสูตร กระทรวงศึกษาฯ) เรื่องที่ 2 ที่คณะละคร บอกสำคัญอย่างยิ่ง คือ เราต้องย้อมความคิค ย้อมสมองคนรัสเซียให้ “อยากทำสงคราม” ไม่ให้เชื่อฟังเยอรมัน อเมริกาจะทำได้อย่างไร รัสเซียไม่ใช่สมันน้อยนะ คณะละครบอกไม่มีปัญหา คนรัสเซีย ก็เหมือนเด็ก ที่ตัวโตนั่นแหละ เอ้า เจ้าหน้าที่รัสเซียที่ตามอ่านนิทาน ช่วยขีดเส้นใต้ 2 เส้น แล้วรายงานส่งคุณพี่ปูตินของผมด้วยนะครับ ว่าอเมริกาพูดแบบนี้ แปลว่าเห็นคนรัสเซียเป็นยังไง (เสี้ยม ซะหน่อย) คณะละครเร่ เขียนแผนการฟอกย้อมให้เสร็จ เขาระบุว่า เป้าหมายของแผนคือ: “To influence the attitude of the people of Russia for the prosecution of war as the only way of perpetuating their democracy ” ใครแปลเก่งๆ ลองแปลดูครับ สำหรับผม ผมเข้าใจความว่า เพื่อเป็นการย้อมความคิดของคนรัสเซีย ให้เชื่อว่า การเข้าทำสงคราม เป็นทางเดียวที่จะทำให้ประชาธิปไตยของเขาอยู่อย่างยั่งยืน ผมเขียนปูพื้น เล่ามาเสียยืดยาว เพื่อจะให้อ่านประโยคนี้กัน อ่านแล้วโปรดพิเคราะห์กันให้ดีๆ จะได้เห็น “สันดาน” อันอำมหิต ของอเมริกา (และของอังกฤษ) ที่ผ่านมาแล้วเกือบ 100 ปี แล้วก็ยังไม่เปลี่ยน และอีกกี่ร้อยปี ก็คงไม่มีวันเปลี่ยนความอำมหิต นี้ โดยใช้ความตอแหล แบบหน้าด้านๆ อ้างเรื่องประชาธิปไตย แบบตะหวักตะบวย เพื่อประโยชน์ของมัน หรือพวกมันเท่านั้น ใครจะเจ็บ ใครจะตาย ใครจะฉิบหาย ใครจะวิบัติ ขนาดไหน มันไม่สนใจ เลวถึงขนาดนี้ อำมหิต อย่างนี้ ยังมีคนอยากให้อเมริกา ครอบหัวสี่เหลี่ยมต่อไปอีกหรือครับ แผนการฟอกย้อม จะใช้วิธีหลักๆ อยู่ 5 อย่าง 1. จัดกระบวนการ “สร้าง และย้อมข่าว” แล้วกระจายข่าว ที่สร้างและย้อมแล้ว ไปทั่วรัสเซีย โดยจะเอาทีมงานมาจากอเมริกา ทั้งด้านการเขียน และการแปล คือเอาช่างชำนาญการย้อมของอเมริกา มาตั้งโรงงานที่รัสเซีย เหมือนที่มีอยู่เกลื่อนในบ้านสมันน้อย ซื้อมันทุกช่อง ครอบมันทุกฉบับ 2. การใช้เอกสารประเภทแผ่นพับ และใบปลิว เพื่อง่ายแก่การเสพข่าว สมัยนี้ก็คงเปลี่ยนเป็น เครื่องมือ ไอ้ป๊อด ไอ้แป้ด ไอ้โฟน โดยเฉพาะ พวกเล่นไลน์นี่เหยื่อชั้นดี ส่งข่าวย้อมอะไรเข้าไปแพลบเดียว กระจายทั่ว เรื่องโกหกทั้งนั้น เสพกันได้แยะและเร็วกว่า 3. สร้างหนังประเภทต่างๆ เพื่อให้ชาวรัสเซียเสพ เช่น หนังเกี่ยวกับสงคราม หนังชีวิตคนอเมริกันในชนบท ในเมือง หนังเกี่ยวกับการทำอุตสาหกรรม การค้า หนังตลก และที่สำคัญ หนังที่แสดงถึงความรักชาติและการแสวงหาประชาธิปไตย ฮอลลีวู้ดรับไป เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นโรงย้อมที่สำคัญหมายเลขหนึ่ง 4. การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะทำเป็นแผ่นโปสเตอร์สีสวยสดุดตา สื่อหัวข้อที่เหมาะสมกับรัสเซีย โดยให้สำนักงานประชาสัมพันธ์ ฝีมือเยี่ยมของอเมริกา รู้ไหมครับ พวกประชาสัมพันธ์เก่งๆ เขาย้อมโลกใบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว เขาเอาอะไรมาใส่หัวสมันน้อยบ้าง 5. วิธีการที่แนบเนียนและใช้แพร่หลาย คือการพูด ซึ่งจำเป็นต้องใช้ นักพูด นักประชาสัมพันธ์ และครู เป็นจำนวนมาก โดยอเมริกาอาจจะเลือกอย่างเหมาะสม จากชาวรัสเซียก็ได้ นักพูดและครูนี้ ถือว่าเป็นเครื่องมือย้อมที่เยี่ยมที่สุด วิธีการนี้ บ้านสมันน้อยใช้แยะมาก ยิ่งตอนนี้ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของบ้านเมือง ช่างย้อมถูกจ้างมาทำหน้าที่เพิ่มขึ้นอีกมาก มาในสาระพัดคราบ หัดสังเกตกันบ้าง ใครของจริง ใครของปลอม ใครช่างย้อมฝีมือเนียน เป็นไงครับ 5 วิธีการหลัก ยังอยู่ครบในศตวรรษนี้ แค่เปลี่ยน เสื้อผ้า หน้าผม ถ้อยคำ ท่าทาง ให้เข้ากับสมัย ละครฉากเดิมๆก็ยังใช้ได้ เครื่องมือย้อมก็ยังใช้อยู่ แค่เปลี่ยนรุ่นใหม่ไปเรื่อยๆ เท่านั้น นี่ตกลงเราจะให้เขาเล่นแบบนี้ ไปเรื่อยๆ อีก 100 ปีหรือไงครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 26 กพ. 2558 #################### เอกสารประกอบ FRUS https://www.dropbox.com/s/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง ตาเหลือก
    “ตาเหลือก”

    คนโบราณ เวลาเล่าอะไร ท่านจะมีถ้อยคำบรรยายให้เราเห็นภาพชัด เช่น ขณะที่พวกลุงๆกำลังถกกันมันปากว่า ตกลงอีเอ๋อ มันจะได้ไปเจอพี่มัน ที่ใกล้จะลงโลงอยู่ที่โรงแรมอะไร วะ พูดได้แค่นั้นก็ต้องหยุด เพราะไอ้จ้อนวิ่งสี่ตีน ตาเหลือก มาบอกว่า ลุงตู่ๆ เร็วๆเข้า ปู่จิ๋ว เดินสะดุดปากตัวเอง หัวทิ่มฟาดพื้นเลือดไหลโกรกเลย..แปลว่าปู่จิ๋วแกต้องกำลังแย่จริงๆ ไอ้จ้อนถึงกับตกใจ ตาเหลือกวิ่งมา

    ผมชอบอ่านบทความของสื่อ ที่ทำหน้าที่เป็นโรงงานประชาสัมพันธ์ แบบถนัดย้อมสี ของไอ้นักล่าใบตองแห้ง โดยเฉพาะจากพวกที่เป็นถังความคิด แล้วเอามาถอดรหัสมันอีกต่อว่า ตอนนี้จริงๆแล้ว มันมีอาการอย่างไร สบายดี แค่ไข้จับสั่น หรือป่วยหนักถึงขนาดน้ำลายฟูมปาก ฯลฯ โดยเฉพาะอ่านจาก Foreign Affairs ซึ่งเป็นสื่อของ Council on Foreign Relations (CFR) ถังความคิดหมายเลขหนึ่ง ที่มีอิทธิพลต่อนโยบายและความคิดของไอ้นักล่าใบตองแห้ง

    ล่าสุด ผมอ่านเมื่อ 2 วันก่อน เป็นบทความลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2015 ชื่อเรื่อง “Goodbye, Putin” Why the President’s Days Are Numbered ยังไม่ทันอ่านเรื่องก็เดาออกแล้ว ว่า จะเร้าใจใส่สีแรงขนาดไหน

    คนเขียนบอกว่า ยิ่งสงครามที่ยูเครนยืดเยื้อนานไปเท่าไหร่ รัฐบาลของนายปูตินก็ล่มเร็วขึ้นเท่านั้นแหล่ะ นายปูตินปกครองรัสเซียมา 15 ปีแล้ว แม้ในตอนแรกๆ นโยบายเขาจะทำให้ได้คะแนนเสียง เช่น ตอนไล่พวกเช็คเชนออกไป หรือตอนอัดกลับพวกตะวันตก แต่หลังจากไปยึดไครเมีย และทำสงครามกับยูเครน ที่ทำให้ชาวรัสเซียตายเป็นเบือ และเศรษฐกิจของรัสเซียพุ่งลงเหว คะแนนเสียงของนายปูตินก็พุ่งหลาวตามลงไปด้วย ทุกสัญญาณแสดงว่า นายปูตินกำลังจะไปไม่รอด ระหว่างนี้พวกตะวันตกต้องดูแลยูเครนอย่างดีที่สุด แต่คงไม่นาน เพราะรัสเซียที่กำลังเน่าเฟะ กำลังจะร่วงหล่นอยู่แล้ว

    นอกเหนือจากนโยบายที่ผิดพลาดแล้ว นายปูตินยังมีปัญหาเรื่องภาพพจน์ ซึ่งนายปูตินก็รู้ตัว แม้ว่าจะบอกว่ามีเสน่ห์มีบารมี แต่เขารูปร่างขนาดเตี้ยแคระ…

    แม่เจ้าโว้ย นี่ เป็นถึงหนังสือ Foreign Affairs นะ ไม่ใช่หนังสือประเภทขายดารา มันคงไม่รู้จะด่าอะไรแล้ว ด่าตั้งกะนโยบายทำนายว่าจวนจะหล่น มันคงไม่หนำใจ เลยเล่นไปถึงเรื่องรูปโฉมกันเลย ไม่รู้หรือไง แถวบ้านสมันน้อยเขาปลื้มคุณพี่กัน ถึงขนาดมีสมาคมคนรักปูติน นี่มันแสดงว่า ไอ้นักล่ากำลังเริ่มตาเหลือกแล้วละสิ ถึงต้องเขียนข่าวแบบนี้ และสงสัยมันก็ได้ตาเหลือกจริงสมใจ
    ผมอ่านบทความเรื่องดาราจะลาโรงนี่ ยังไม่ทันจบดีเลย ดันม่อยหลับเพราะเหม็นน้ำเน่าของ เรื่อง อ้าวตื่นมาอีกที เห็นข่าวเมือง Donestsk ยูเครน ได้รับของขวัญ เป็นดอกเห็ดรุ่นใหม่ ดอกเล็กจิ๋ว แต่เขาว่าฤทธิ์ไม่แพ้ดอกใหญ่ คงมีใครทดลองส่งไปให้ดู ก่อนชุดจริง จะส่งข้ามทวีปไปให้ แบบนี้แสดงว่า ยูเครนคงจบยาก หรือจบไม่สวย

    อย่าลืมว่า เมื่อวันคุณป้าเข้มขัดเหล็ก จูงมือกับคุณลุงโอลองด์ ไปคุยกันให้รู้เรื่องกับคุณพี่ปูติน ที่รัสเซีย ข่าวไม่บอกว่าคุยได้เรื่องอะไรบ้าง แต่ผมดูสารรูปของคุณป้าตอนคุย เหมือนกำลังต้องการยาหอมแก้ลมใส่อย่างยิ่ง และขากลับ ดูเหมือนเข็มขัดเหล็ก จะกลายเป็นเข็มขัดหลุด ก็พอจะเดาผลการคุยได้ แถมคุณป้า ยังต้องทำหน้าที่กาคาบความไปบอกให้นายโอบามาถึงที่อีกด้วย เพราะข้อความบางอัน ผมเดาว่า คุณป้าคงไม่กล้าพูดผ่านใคร กลัวเขาไม่กล้าถ่ายทอด ป้าต้องถ่ายเอง ถึงจะได้อรรถรสครบถ้วน จากที่รับมาจากคุณพี่ปูติน

    ผลการคุยวันก่อนเป็นอย่างไร วันนี้ (10 กพ) ก็คงได้รู้กันแล้ว

    คุณป้าเข็มขัดเหล็ก หน้าตก บอกนายโอบามาว่า เขาไม่ยอมหรอก อย่าไปขู่เขาด้วยการคว่ำบาตรซ้ำเลย เพราะไม่ใช่เขาช้ำคนเดียว คนที่จะช้ำด้วยและหนักหนา คือพวกฉันที่อยู่ยุโรปนั่นแหละ แล้วถ้าเธอขนอาวุธ ขนกองทัพเข้าไปในยูเครน หยั่งที่ออกข่าวขู่ไปน่ะ เธอนึกว่าเขาจะถอยเหรอ มันเหมือนยิ่งยุเขา เขาไม่ได้มีมือเปล่านะ และไม่ได้มาคนเดียวด้วย เธอก็รู้ เธอนึกว่าเธอจะกล่อมอิหร่านได้เหรอ เซ่อจริง ตาโอ เขาจับมือตกลงกับทางโน้นเรียบร้อยไปตั้งนานแล้ว ไม่งั้นการเจรจาของเธอ มันจะเดินหน้าถอยหลังอย่างนี้เหรอ แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหนล่ะ โน่น เขาไปนั่งคุยอยู่ที่อียิปต์ ก็เพราะเธออีกนั่นแหละ เซ่อซ้ำซาก เดินหมากผิด ไปถีบมูบารักเขาทิ้งน่ะ เธอทำอย่างนี้มาตลอด แล้วใครจะไปเชื่อเธออีก อย่าลืมตุรกีด้วย ตอนนี้เขาเห็นหัวเธอไหม จะให้ฉันจาระไนให้เธอฟังไหม ตาโอ ว่าตอนนี้ เขาคุยอะไรกับใครบ้าง ที่สำคัญ เขายังมีอาเฮียช่วยเดินสาย เก็บเล็กเก็บใหญ่ให้อีก เธอรู้ใช่ไหมมันแปลว่าอะไร เขากำลังจับมือกัน เดินเรียงแถวดาหน้ามาใส่พวกเราไงล่ะ

    เธอนึกว่า จะให้พวกฉันแถวยุโรปรับกรรมบ้านช่องพัง แล้วเธอก็ลอยตัว เหมือนตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 อีกน่ะเหรอ นี่มันจะครั้งที่ 3 แล้วนะยะ จะให้พวกยุโรป โง่ซ้ำซาก โดนบอมบ์อยู่ข้างเดียวงั้นเหรอ เขาฝากมาบอกย่ะ ว่าคราวนี้ละ ตาโอ ตาแกบ้างซิ ป้ากลัวจนจะตดแตกอยู่แล้ว เขาฝากมาบอกว่า คราวนี้ลงบ้านแกแน่นอน เข้าใจมั้ย

    นี่ผมเดาเอาทั้งนั้นนะครับ ว่าคุณป้าแกคงใส่นายโอบามาเสียยับ แบบไม่ติดเบรคอย่างนั้น

    มันไม่น่าจะผิดไปจากนี้เท่าไหร่หรอก ถ้าเราฟังจากที่นายโอบามาพูด ตอนแถลงข่าวคู่กับคุณป้าเข็มขัดเหล็ก ที่ทำเนียบขาววันนี้ (10กพ) และดูสีหน้าของนายโอบามา ซึ่งเหมือนคนกินของแสลงเข้าไปเต็มท้อง ส่วนคุณป้า คราวนี้อย่าว่าแต่เข็มขัดเหล็กจะคาดไม่อยู่เลย ตัวแก ก็แทบจะยืนไม่อยู่ ถูกบีบจากทุกทาง จนหน้าตกเกือบถึงสะดือ

    ตอนนี้ดูเหมือนผู้เกี่ยวข้อง รู้สึกจะต่างเสียงกันเกี่ยวกับเรื่อง การติดอาวุธให้ยูเครน และการแซงชั่นรัสเซีย แม้ในกลุ่มพวกกันเอง แต่สำหรับคุณป้าเข็มขัดหลุด กับนักล่าใบตองแห้ง ต่างยืนเอามือยันโต๊ะ บอกว่า (ตอนนี้) เรายังร้องเพลงเดียวกันอยู่ แต่ไม่รู้อีกนานเท่าไหร่

    การติดอาวุธให้ยูเครน หมายถึงโอกาสเกิดสงครามโลกคร้ังที่ 3 สูงอย่างรวดเร็วจนน่ากลัว

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    10 กพ 58
    เรื่อง ตาเหลือก “ตาเหลือก” คนโบราณ เวลาเล่าอะไร ท่านจะมีถ้อยคำบรรยายให้เราเห็นภาพชัด เช่น ขณะที่พวกลุงๆกำลังถกกันมันปากว่า ตกลงอีเอ๋อ มันจะได้ไปเจอพี่มัน ที่ใกล้จะลงโลงอยู่ที่โรงแรมอะไร วะ พูดได้แค่นั้นก็ต้องหยุด เพราะไอ้จ้อนวิ่งสี่ตีน ตาเหลือก มาบอกว่า ลุงตู่ๆ เร็วๆเข้า ปู่จิ๋ว เดินสะดุดปากตัวเอง หัวทิ่มฟาดพื้นเลือดไหลโกรกเลย..แปลว่าปู่จิ๋วแกต้องกำลังแย่จริงๆ ไอ้จ้อนถึงกับตกใจ ตาเหลือกวิ่งมา ผมชอบอ่านบทความของสื่อ ที่ทำหน้าที่เป็นโรงงานประชาสัมพันธ์ แบบถนัดย้อมสี ของไอ้นักล่าใบตองแห้ง โดยเฉพาะจากพวกที่เป็นถังความคิด แล้วเอามาถอดรหัสมันอีกต่อว่า ตอนนี้จริงๆแล้ว มันมีอาการอย่างไร สบายดี แค่ไข้จับสั่น หรือป่วยหนักถึงขนาดน้ำลายฟูมปาก ฯลฯ โดยเฉพาะอ่านจาก Foreign Affairs ซึ่งเป็นสื่อของ Council on Foreign Relations (CFR) ถังความคิดหมายเลขหนึ่ง ที่มีอิทธิพลต่อนโยบายและความคิดของไอ้นักล่าใบตองแห้ง ล่าสุด ผมอ่านเมื่อ 2 วันก่อน เป็นบทความลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2015 ชื่อเรื่อง “Goodbye, Putin” Why the President’s Days Are Numbered ยังไม่ทันอ่านเรื่องก็เดาออกแล้ว ว่า จะเร้าใจใส่สีแรงขนาดไหน คนเขียนบอกว่า ยิ่งสงครามที่ยูเครนยืดเยื้อนานไปเท่าไหร่ รัฐบาลของนายปูตินก็ล่มเร็วขึ้นเท่านั้นแหล่ะ นายปูตินปกครองรัสเซียมา 15 ปีแล้ว แม้ในตอนแรกๆ นโยบายเขาจะทำให้ได้คะแนนเสียง เช่น ตอนไล่พวกเช็คเชนออกไป หรือตอนอัดกลับพวกตะวันตก แต่หลังจากไปยึดไครเมีย และทำสงครามกับยูเครน ที่ทำให้ชาวรัสเซียตายเป็นเบือ และเศรษฐกิจของรัสเซียพุ่งลงเหว คะแนนเสียงของนายปูตินก็พุ่งหลาวตามลงไปด้วย ทุกสัญญาณแสดงว่า นายปูตินกำลังจะไปไม่รอด ระหว่างนี้พวกตะวันตกต้องดูแลยูเครนอย่างดีที่สุด แต่คงไม่นาน เพราะรัสเซียที่กำลังเน่าเฟะ กำลังจะร่วงหล่นอยู่แล้ว นอกเหนือจากนโยบายที่ผิดพลาดแล้ว นายปูตินยังมีปัญหาเรื่องภาพพจน์ ซึ่งนายปูตินก็รู้ตัว แม้ว่าจะบอกว่ามีเสน่ห์มีบารมี แต่เขารูปร่างขนาดเตี้ยแคระ… แม่เจ้าโว้ย นี่ เป็นถึงหนังสือ Foreign Affairs นะ ไม่ใช่หนังสือประเภทขายดารา มันคงไม่รู้จะด่าอะไรแล้ว ด่าตั้งกะนโยบายทำนายว่าจวนจะหล่น มันคงไม่หนำใจ เลยเล่นไปถึงเรื่องรูปโฉมกันเลย ไม่รู้หรือไง แถวบ้านสมันน้อยเขาปลื้มคุณพี่กัน ถึงขนาดมีสมาคมคนรักปูติน นี่มันแสดงว่า ไอ้นักล่ากำลังเริ่มตาเหลือกแล้วละสิ ถึงต้องเขียนข่าวแบบนี้ และสงสัยมันก็ได้ตาเหลือกจริงสมใจ ผมอ่านบทความเรื่องดาราจะลาโรงนี่ ยังไม่ทันจบดีเลย ดันม่อยหลับเพราะเหม็นน้ำเน่าของ เรื่อง อ้าวตื่นมาอีกที เห็นข่าวเมือง Donestsk ยูเครน ได้รับของขวัญ เป็นดอกเห็ดรุ่นใหม่ ดอกเล็กจิ๋ว แต่เขาว่าฤทธิ์ไม่แพ้ดอกใหญ่ คงมีใครทดลองส่งไปให้ดู ก่อนชุดจริง จะส่งข้ามทวีปไปให้ แบบนี้แสดงว่า ยูเครนคงจบยาก หรือจบไม่สวย อย่าลืมว่า เมื่อวันคุณป้าเข้มขัดเหล็ก จูงมือกับคุณลุงโอลองด์ ไปคุยกันให้รู้เรื่องกับคุณพี่ปูติน ที่รัสเซีย ข่าวไม่บอกว่าคุยได้เรื่องอะไรบ้าง แต่ผมดูสารรูปของคุณป้าตอนคุย เหมือนกำลังต้องการยาหอมแก้ลมใส่อย่างยิ่ง และขากลับ ดูเหมือนเข็มขัดเหล็ก จะกลายเป็นเข็มขัดหลุด ก็พอจะเดาผลการคุยได้ แถมคุณป้า ยังต้องทำหน้าที่กาคาบความไปบอกให้นายโอบามาถึงที่อีกด้วย เพราะข้อความบางอัน ผมเดาว่า คุณป้าคงไม่กล้าพูดผ่านใคร กลัวเขาไม่กล้าถ่ายทอด ป้าต้องถ่ายเอง ถึงจะได้อรรถรสครบถ้วน จากที่รับมาจากคุณพี่ปูติน ผลการคุยวันก่อนเป็นอย่างไร วันนี้ (10 กพ) ก็คงได้รู้กันแล้ว คุณป้าเข็มขัดเหล็ก หน้าตก บอกนายโอบามาว่า เขาไม่ยอมหรอก อย่าไปขู่เขาด้วยการคว่ำบาตรซ้ำเลย เพราะไม่ใช่เขาช้ำคนเดียว คนที่จะช้ำด้วยและหนักหนา คือพวกฉันที่อยู่ยุโรปนั่นแหละ แล้วถ้าเธอขนอาวุธ ขนกองทัพเข้าไปในยูเครน หยั่งที่ออกข่าวขู่ไปน่ะ เธอนึกว่าเขาจะถอยเหรอ มันเหมือนยิ่งยุเขา เขาไม่ได้มีมือเปล่านะ และไม่ได้มาคนเดียวด้วย เธอก็รู้ เธอนึกว่าเธอจะกล่อมอิหร่านได้เหรอ เซ่อจริง ตาโอ เขาจับมือตกลงกับทางโน้นเรียบร้อยไปตั้งนานแล้ว ไม่งั้นการเจรจาของเธอ มันจะเดินหน้าถอยหลังอย่างนี้เหรอ แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหนล่ะ โน่น เขาไปนั่งคุยอยู่ที่อียิปต์ ก็เพราะเธออีกนั่นแหละ เซ่อซ้ำซาก เดินหมากผิด ไปถีบมูบารักเขาทิ้งน่ะ เธอทำอย่างนี้มาตลอด แล้วใครจะไปเชื่อเธออีก อย่าลืมตุรกีด้วย ตอนนี้เขาเห็นหัวเธอไหม จะให้ฉันจาระไนให้เธอฟังไหม ตาโอ ว่าตอนนี้ เขาคุยอะไรกับใครบ้าง ที่สำคัญ เขายังมีอาเฮียช่วยเดินสาย เก็บเล็กเก็บใหญ่ให้อีก เธอรู้ใช่ไหมมันแปลว่าอะไร เขากำลังจับมือกัน เดินเรียงแถวดาหน้ามาใส่พวกเราไงล่ะ เธอนึกว่า จะให้พวกฉันแถวยุโรปรับกรรมบ้านช่องพัง แล้วเธอก็ลอยตัว เหมือนตอนสงครามโลกครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 อีกน่ะเหรอ นี่มันจะครั้งที่ 3 แล้วนะยะ จะให้พวกยุโรป โง่ซ้ำซาก โดนบอมบ์อยู่ข้างเดียวงั้นเหรอ เขาฝากมาบอกย่ะ ว่าคราวนี้ละ ตาโอ ตาแกบ้างซิ ป้ากลัวจนจะตดแตกอยู่แล้ว เขาฝากมาบอกว่า คราวนี้ลงบ้านแกแน่นอน เข้าใจมั้ย นี่ผมเดาเอาทั้งนั้นนะครับ ว่าคุณป้าแกคงใส่นายโอบามาเสียยับ แบบไม่ติดเบรคอย่างนั้น มันไม่น่าจะผิดไปจากนี้เท่าไหร่หรอก ถ้าเราฟังจากที่นายโอบามาพูด ตอนแถลงข่าวคู่กับคุณป้าเข็มขัดเหล็ก ที่ทำเนียบขาววันนี้ (10กพ) และดูสีหน้าของนายโอบามา ซึ่งเหมือนคนกินของแสลงเข้าไปเต็มท้อง ส่วนคุณป้า คราวนี้อย่าว่าแต่เข็มขัดเหล็กจะคาดไม่อยู่เลย ตัวแก ก็แทบจะยืนไม่อยู่ ถูกบีบจากทุกทาง จนหน้าตกเกือบถึงสะดือ ตอนนี้ดูเหมือนผู้เกี่ยวข้อง รู้สึกจะต่างเสียงกันเกี่ยวกับเรื่อง การติดอาวุธให้ยูเครน และการแซงชั่นรัสเซีย แม้ในกลุ่มพวกกันเอง แต่สำหรับคุณป้าเข็มขัดหลุด กับนักล่าใบตองแห้ง ต่างยืนเอามือยันโต๊ะ บอกว่า (ตอนนี้) เรายังร้องเพลงเดียวกันอยู่ แต่ไม่รู้อีกนานเท่าไหร่ การติดอาวุธให้ยูเครน หมายถึงโอกาสเกิดสงครามโลกคร้ังที่ 3 สูงอย่างรวดเร็วจนน่ากลัว สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 10 กพ 58
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ยอมรับกลาย ๆ ว่า GPU ของ Tensor G5 ยังต้องปรับจูน – เตรียมเพิ่มประสิทธิภาพก่อนเปิดตัว Pixel รุ่นใหม่

    Google กำลังพัฒนา Tensor G5 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตรุ่นใหม่ที่จะใช้ใน Pixel รุ่นถัดไป โดยมีรายงานว่า GPU ที่ใช้ใน Tensor G5 ยังไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และต้องการการปรับแต่งเพิ่มเติมก่อนจะพร้อมใช้งานจริง

    แม้ Google จะยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ข้อมูลจากเอกสารภายในและการเคลื่อนไหวของทีมพัฒนาเผยว่า GPU ที่ใช้ใน Tensor G5 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมจากบริษัท Imagination Technologies ยังต้องการการปรับจูนเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานบน Android และแอปต่าง ๆ ของ Google โดยเฉพาะด้านการประมวลผลกราฟิกและ AI

    Tensor G5 ถือเป็นชิปที่ Google พัฒนาขึ้นเองเต็มรูปแบบ โดยใช้โรงงาน TSMC ในการผลิตด้วยเทคโนโลยี 3nm ซึ่งต่างจาก Tensor รุ่นก่อนที่ร่วมพัฒนากับ Samsung การเปลี่ยนมาใช้ GPU จาก Imagination แทน ARM Mali ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ต้องใช้เวลาในการปรับแต่งให้เข้ากับ ecosystem ของ Google

    การพัฒนา Tensor G5 โดย Google
    เป็นชิปที่ Google พัฒนาขึ้นเองเต็มรูปแบบ
    ผลิตโดย TSMC ด้วยเทคโนโลยี 3nm
    ใช้ GPU จาก Imagination Technologies แทน ARM Mali

    ความท้าทายด้าน GPU
    GPU ยังไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
    ต้องการการปรับจูนเพื่อรองรับ Android และแอปของ Google
    ทีมพัฒนากำลังเร่งแก้ไขก่อนเปิดตัว Pixel รุ่นใหม่

    การเปลี่ยนแปลงจาก Tensor รุ่นก่อน
    Tensor G5 ไม่ร่วมพัฒนากับ Samsung เหมือนรุ่นก่อน
    เปลี่ยนสถาปัตยกรรม GPU เป็นครั้งแรก
    มุ่งเน้นการควบคุมคุณภาพและประสิทธิภาพโดย Google เอง

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    การเปลี่ยน GPU อาจทำให้เกิดปัญหาความเข้ากันได้กับแอปบางตัว
    หากปรับจูนไม่ทัน อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของ Pixel รุ่นใหม่
    การพัฒนา GPU ภายในต้องใช้ทรัพยากรและเวลามาก
    ความคาดหวังสูงจากผู้ใช้ Pixel อาจกดดันทีมพัฒนา

    https://wccftech.com/google-tacitly-admits-to-the-need-for-optimizing-the-tensor-g5s-gpu/
    📱 Google ยอมรับกลาย ๆ ว่า GPU ของ Tensor G5 ยังต้องปรับจูน – เตรียมเพิ่มประสิทธิภาพก่อนเปิดตัว Pixel รุ่นใหม่ Google กำลังพัฒนา Tensor G5 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตรุ่นใหม่ที่จะใช้ใน Pixel รุ่นถัดไป โดยมีรายงานว่า GPU ที่ใช้ใน Tensor G5 ยังไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และต้องการการปรับแต่งเพิ่มเติมก่อนจะพร้อมใช้งานจริง แม้ Google จะยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ข้อมูลจากเอกสารภายในและการเคลื่อนไหวของทีมพัฒนาเผยว่า GPU ที่ใช้ใน Tensor G5 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมจากบริษัท Imagination Technologies ยังต้องการการปรับจูนเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานบน Android และแอปต่าง ๆ ของ Google โดยเฉพาะด้านการประมวลผลกราฟิกและ AI Tensor G5 ถือเป็นชิปที่ Google พัฒนาขึ้นเองเต็มรูปแบบ โดยใช้โรงงาน TSMC ในการผลิตด้วยเทคโนโลยี 3nm ซึ่งต่างจาก Tensor รุ่นก่อนที่ร่วมพัฒนากับ Samsung การเปลี่ยนมาใช้ GPU จาก Imagination แทน ARM Mali ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ต้องใช้เวลาในการปรับแต่งให้เข้ากับ ecosystem ของ Google ✅ การพัฒนา Tensor G5 โดย Google ➡️ เป็นชิปที่ Google พัฒนาขึ้นเองเต็มรูปแบบ ➡️ ผลิตโดย TSMC ด้วยเทคโนโลยี 3nm ➡️ ใช้ GPU จาก Imagination Technologies แทน ARM Mali ✅ ความท้าทายด้าน GPU ➡️ GPU ยังไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ➡️ ต้องการการปรับจูนเพื่อรองรับ Android และแอปของ Google ➡️ ทีมพัฒนากำลังเร่งแก้ไขก่อนเปิดตัว Pixel รุ่นใหม่ ✅ การเปลี่ยนแปลงจาก Tensor รุ่นก่อน ➡️ Tensor G5 ไม่ร่วมพัฒนากับ Samsung เหมือนรุ่นก่อน ➡️ เปลี่ยนสถาปัตยกรรม GPU เป็นครั้งแรก ➡️ มุ่งเน้นการควบคุมคุณภาพและประสิทธิภาพโดย Google เอง ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด ⛔ การเปลี่ยน GPU อาจทำให้เกิดปัญหาความเข้ากันได้กับแอปบางตัว ⛔ หากปรับจูนไม่ทัน อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของ Pixel รุ่นใหม่ ⛔ การพัฒนา GPU ภายในต้องใช้ทรัพยากรและเวลามาก ⛔ ความคาดหวังสูงจากผู้ใช้ Pixel อาจกดดันทีมพัฒนา https://wccftech.com/google-tacitly-admits-to-the-need-for-optimizing-the-tensor-g5s-gpu/
    WCCFTECH.COM
    Google Tacitly Admits To The Need For Optimizing The Tensor G5's GPU
    While Google has worked with Imagination to develop the IMG DXT-48-1536 GPU for the Tensor G5, Imagination retains full proprietary control.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส.อ.ท. กล่อม BYD โรงงานผลิตรถยนต์สัญชาติจีน เพิ่มการใช้ชิ้นส่วนของไทย จากปัจจุบันที่ใช้อยู่ 529 รายการ(54%) วอนอย่ามองแค่เรื่องต้นทุน ควรมองถึงกำไรในเชิงพันธมิตรทางธุรกิจ เป็นโรลโมเดลให้บริษัทรถยนต์จีนรายอื่น เพิ่มสัดส่วนการผลิตในไทย กระตุ้นใช้ Local Content
    ส.อ.ท. กล่อม BYD โรงงานผลิตรถยนต์สัญชาติจีน เพิ่มการใช้ชิ้นส่วนของไทย จากปัจจุบันที่ใช้อยู่ 529 รายการ(54%) วอนอย่ามองแค่เรื่องต้นทุน ควรมองถึงกำไรในเชิงพันธมิตรทางธุรกิจ เป็นโรลโมเดลให้บริษัทรถยนต์จีนรายอื่น เพิ่มสัดส่วนการผลิตในไทย กระตุ้นใช้ Local Content
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • “แฮกเกอร์ต่างชาติเจาะโรงงานนิวเคลียร์สหรัฐฯ ผ่านช่องโหว่ SharePoint – เสี่ยงลามถึงระบบควบคุมการผลิต”

    มีรายงานจาก CSO Online ว่าแฮกเกอร์ต่างชาติสามารถเจาะเข้าไปใน Kansas City National Security Campus (KCNSC) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ โดยใช้ช่องโหว่ใน Microsoft SharePoint ที่ยังไม่ได้รับการอัปเดต

    โรงงานนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ National Nuclear Security Administration (NNSA) และผลิตชิ้นส่วนที่ไม่ใช่นิวเคลียร์ถึง 80% ของคลังอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดของสหรัฐฯ

    แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่สองรายการ ได้แก่ CVE-2025-53770 (spoofing) และ CVE-2025-49704 (remote code execution) ซึ่ง Microsoft เพิ่งออกแพตช์เมื่อเดือนกรกฎาคม 2025 แต่ KCNSC ยังไม่ได้อัปเดตทันเวลา ทำให้แฮกเกอร์สามารถเจาะเข้าระบบได้

    แม้จะยังไม่แน่ชัดว่าเป็นฝีมือของจีนหรือรัสเซีย แต่ Microsoft ระบุว่ามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มจีน เช่น Linen Typhoon และ Violet Typhoon ขณะที่แหล่งข่าวบางแห่งชี้ว่าอาจเป็นกลุ่มแฮกเกอร์รัสเซียที่ใช้ช่องโหว่นี้ซ้ำหลังจากมีการเปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิค

    สิ่งที่น่ากังวลคือ แม้การเจาะระบบจะเกิดขึ้นในฝั่ง IT แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หากไม่มีการแยกเครือข่ายอย่างเข้มงวด แฮกเกอร์อาจ “เคลื่อนย้ายแนวรบ” ไปยังระบบควบคุมการผลิต (OT) ได้ เช่น ระบบควบคุมหุ่นยนต์หรือระบบควบคุมคุณภาพ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของอาวุธนิวเคลียร์

    นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่ข้อมูลทางเทคนิค แม้จะไม่จัดเป็นความลับ แต่สามารถนำไปวิเคราะห์จุดอ่อนของระบบผลิตอาวุธได้ เช่น ความแม่นยำของชิ้นส่วน หรือความทนทานของระบบจุดระเบิด

    รายละเอียดของเหตุการณ์
    แฮกเกอร์เจาะเข้า KCNSC ผ่านช่องโหว่ SharePoint
    ใช้ช่องโหว่ CVE-2025-53770 และ CVE-2025-49704
    Microsoft ออกแพตช์แล้ว แต่โรงงานยังไม่ได้อัปเดต
    KCNSC ผลิตชิ้นส่วนไม่ใช่นิวเคลียร์ 80% ของคลังอาวุธสหรัฐฯ

    กลุ่มแฮกเกอร์ที่เกี่ยวข้อง
    Microsoft ระบุว่าเป็นกลุ่มจีน เช่น Linen Typhoon และ Violet Typhoon
    แหล่งข่าวบางแห่งชี้ว่าอาจเป็นกลุ่มรัสเซีย
    มีการใช้ช่องโหว่ซ้ำหลังจากมีการเปิดเผย PoC
    โครงสร้างการโจมตีคล้ายกับแคมเปญของกลุ่ม Storm-2603

    ความเสี่ยงต่อระบบควบคุม
    แม้จะเจาะฝั่ง IT แต่เสี่ยงต่อ lateral movement ไปยังระบบ OT
    OT ควบคุมหุ่นยนต์, ระบบประกอบ, ระบบควบคุมคุณภาพ
    หากถูกแทรกแซง อาจกระทบความปลอดภัยของอาวุธนิวเคลียร์
    ระบบ OT บางส่วนอาจยังไม่มีการใช้ zero-trust security

    ความสำคัญของข้อมูลที่ถูกขโมย
    แม้ไม่ใช่ข้อมูลลับ แต่มีมูลค่าทางยุทธศาสตร์
    เช่น ข้อมูลความแม่นยำของชิ้นส่วน, ความทนทาน, ซัพพลายเชน
    อาจถูกใช้วิเคราะห์จุดอ่อนของระบบอาวุธ
    เสี่ยงต่อการโจมตีแบบ supply chain หรือการปลอมแปลงชิ้นส่วน

    https://www.csoonline.com/article/4074962/foreign-hackers-breached-a-us-nuclear-weapons-plant-via-sharepoint-flaws.html
    ☢️ “แฮกเกอร์ต่างชาติเจาะโรงงานนิวเคลียร์สหรัฐฯ ผ่านช่องโหว่ SharePoint – เสี่ยงลามถึงระบบควบคุมการผลิต” มีรายงานจาก CSO Online ว่าแฮกเกอร์ต่างชาติสามารถเจาะเข้าไปใน Kansas City National Security Campus (KCNSC) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ โดยใช้ช่องโหว่ใน Microsoft SharePoint ที่ยังไม่ได้รับการอัปเดต โรงงานนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ National Nuclear Security Administration (NNSA) และผลิตชิ้นส่วนที่ไม่ใช่นิวเคลียร์ถึง 80% ของคลังอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมดของสหรัฐฯ แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่สองรายการ ได้แก่ CVE-2025-53770 (spoofing) และ CVE-2025-49704 (remote code execution) ซึ่ง Microsoft เพิ่งออกแพตช์เมื่อเดือนกรกฎาคม 2025 แต่ KCNSC ยังไม่ได้อัปเดตทันเวลา ทำให้แฮกเกอร์สามารถเจาะเข้าระบบได้ แม้จะยังไม่แน่ชัดว่าเป็นฝีมือของจีนหรือรัสเซีย แต่ Microsoft ระบุว่ามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มจีน เช่น Linen Typhoon และ Violet Typhoon ขณะที่แหล่งข่าวบางแห่งชี้ว่าอาจเป็นกลุ่มแฮกเกอร์รัสเซียที่ใช้ช่องโหว่นี้ซ้ำหลังจากมีการเปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิค สิ่งที่น่ากังวลคือ แม้การเจาะระบบจะเกิดขึ้นในฝั่ง IT แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หากไม่มีการแยกเครือข่ายอย่างเข้มงวด แฮกเกอร์อาจ “เคลื่อนย้ายแนวรบ” ไปยังระบบควบคุมการผลิต (OT) ได้ เช่น ระบบควบคุมหุ่นยนต์หรือระบบควบคุมคุณภาพ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของอาวุธนิวเคลียร์ นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงที่ข้อมูลทางเทคนิค แม้จะไม่จัดเป็นความลับ แต่สามารถนำไปวิเคราะห์จุดอ่อนของระบบผลิตอาวุธได้ เช่น ความแม่นยำของชิ้นส่วน หรือความทนทานของระบบจุดระเบิด ✅ รายละเอียดของเหตุการณ์ ➡️ แฮกเกอร์เจาะเข้า KCNSC ผ่านช่องโหว่ SharePoint ➡️ ใช้ช่องโหว่ CVE-2025-53770 และ CVE-2025-49704 ➡️ Microsoft ออกแพตช์แล้ว แต่โรงงานยังไม่ได้อัปเดต ➡️ KCNSC ผลิตชิ้นส่วนไม่ใช่นิวเคลียร์ 80% ของคลังอาวุธสหรัฐฯ ✅ กลุ่มแฮกเกอร์ที่เกี่ยวข้อง ➡️ Microsoft ระบุว่าเป็นกลุ่มจีน เช่น Linen Typhoon และ Violet Typhoon ➡️ แหล่งข่าวบางแห่งชี้ว่าอาจเป็นกลุ่มรัสเซีย ➡️ มีการใช้ช่องโหว่ซ้ำหลังจากมีการเปิดเผย PoC ➡️ โครงสร้างการโจมตีคล้ายกับแคมเปญของกลุ่ม Storm-2603 ✅ ความเสี่ยงต่อระบบควบคุม ➡️ แม้จะเจาะฝั่ง IT แต่เสี่ยงต่อ lateral movement ไปยังระบบ OT ➡️ OT ควบคุมหุ่นยนต์, ระบบประกอบ, ระบบควบคุมคุณภาพ ➡️ หากถูกแทรกแซง อาจกระทบความปลอดภัยของอาวุธนิวเคลียร์ ➡️ ระบบ OT บางส่วนอาจยังไม่มีการใช้ zero-trust security ✅ ความสำคัญของข้อมูลที่ถูกขโมย ➡️ แม้ไม่ใช่ข้อมูลลับ แต่มีมูลค่าทางยุทธศาสตร์ ➡️ เช่น ข้อมูลความแม่นยำของชิ้นส่วน, ความทนทาน, ซัพพลายเชน ➡️ อาจถูกใช้วิเคราะห์จุดอ่อนของระบบอาวุธ ➡️ เสี่ยงต่อการโจมตีแบบ supply chain หรือการปลอมแปลงชิ้นส่วน https://www.csoonline.com/article/4074962/foreign-hackers-breached-a-us-nuclear-weapons-plant-via-sharepoint-flaws.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Foreign hackers breached a US nuclear weapons plant via SharePoint flaws
    A foreign actor infiltrated the National Nuclear Security Administration’s Kansas City National Security Campus through vulnerabilities in Microsoft’s SharePoint browser-based app, raising questions about the need to solidify further federal IT/OT security protections.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปลี่ยนกองเศษโลหะให้เป็นเงิน! ด้วยพลังบด 20 แรงม้า!
    เครื่องเขมือบ (Two Shafts Shredder) สำหรับงานหนักโดยเฉพาะ!
    หมดปัญหาการจัดการ เศษทองเหลือง เศษเหล็ก และโลหะผสม ที่แข็งและหนาแน่น เครื่องของเราถูกออกแบบมาเพื่อ ฉีก! บด! ลดขนาด! ให้วัสดุพร้อมเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลทันที!

    สเปคเทพ จัดการโลหะได้สบาย:

    - แรงขับเคลื่อน มอเตอร์ 10 HP 2 ตัว (รวม 20 แรงม้า)
    - ความหนาใบมีด 10 mm (ทนทานต่อโลหะสูงสุด)
    ฟังก์ชันเด่น มีระบบ Reverse Function ป้องกันการติดขัดอัตโนมัติ

    คุณสมบัติพิเศษ: แรงบิดสูง ความเร็วรอบต่ำ เหมาะกับการบดวัสดุแข็ง เช่น ทองเหลือง แผ่นเหล็ก พลาสติกตัน และยาง

    👉🏻 ลงทุนครั้งเดียว สร้างกำไรจากการรีไซเคิลได้ตลอดไป! ลดต้นทุนการขนส่ง ลดพื้นที่จัดเก็บ เพิ่มราคาขายเศษโลหะ!

    สนใจดูสินค้าจริงและสอบถามเพิ่มเติม:
    ติดต่อ: ย.ย่งฮะเฮง (Yor Yong Hah Heng)
    • ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) กรุงเทพฯ 10330
    • เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ (8.30-17.00 น.), เสาร์ (9.00-16.00 น.)
    • โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    • แชท: m.me/yonghahheng
    • LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9
    • เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/FpRaCMMfVvazg7HW9

    #เครื่องบดโลหะ #TwoShaftsShredder #รีไซเคิลทองเหลือง #เศษโลหะผสม #เพิ่มมูลค่าเศษเหล็ก #เครื่องย่อย #ยิ่งฮะเฮง #เครื่องบดอุตสาหกรรม #เครื่องจักรโรงงาน #เครื่องบดย่อย #Shredder #BrassRecycling #MetalScrap #เครื่องโม่ #รีไซเคิล #โรงงานรีไซเคิล #เครื่องบดเศษเหล็ก #จัดการของเสีย #ลดขนาดวัสดุ #โลหะรีไซเคิล #ทองเหลือง #เศษทองแดง #อลูมิเนียม #RecyclingSolution #WasteManagement #เครื่องบดคุณภาพสูง #เครื่องจักรหนัก #ScrapMetal #อุตสาหกรรม #เครื่องจักรกล

    ✨ เปลี่ยนกองเศษโลหะให้เป็นเงิน! ด้วยพลังบด 20 แรงม้า! ✨ 🔥 เครื่องเขมือบ (Two Shafts Shredder) สำหรับงานหนักโดยเฉพาะ! 🔥 หมดปัญหาการจัดการ เศษทองเหลือง เศษเหล็ก และโลหะผสม ที่แข็งและหนาแน่น เครื่องของเราถูกออกแบบมาเพื่อ ฉีก! บด! ลดขนาด! ให้วัสดุพร้อมเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลทันที! ⚙️ สเปคเทพ จัดการโลหะได้สบาย: - แรงขับเคลื่อน มอเตอร์ 10 HP 2 ตัว (รวม 20 แรงม้า) 💥 - ความหนาใบมีด 10 mm (ทนทานต่อโลหะสูงสุด) 🛡️ ฟังก์ชันเด่น มีระบบ Reverse Function ป้องกันการติดขัดอัตโนมัติ ✅ คุณสมบัติพิเศษ: แรงบิดสูง ความเร็วรอบต่ำ เหมาะกับการบดวัสดุแข็ง เช่น ทองเหลือง แผ่นเหล็ก พลาสติกตัน และยาง 👉🏻 ลงทุนครั้งเดียว สร้างกำไรจากการรีไซเคิลได้ตลอดไป! ลดต้นทุนการขนส่ง ลดพื้นที่จัดเก็บ เพิ่มราคาขายเศษโลหะ! 📍 สนใจดูสินค้าจริงและสอบถามเพิ่มเติม: ติดต่อ: ย.ย่งฮะเฮง (Yor Yong Hah Heng) • ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) กรุงเทพฯ 10330 • เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ (8.30-17.00 น.), เสาร์ (9.00-16.00 น.) • โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 📞 • แชท: m.me/yonghahheng • LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9 • เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com แผนที่: https://maps.app.goo.gl/FpRaCMMfVvazg7HW9 #เครื่องบดโลหะ #TwoShaftsShredder #รีไซเคิลทองเหลือง #เศษโลหะผสม #เพิ่มมูลค่าเศษเหล็ก #เครื่องย่อย #ยิ่งฮะเฮง #เครื่องบดอุตสาหกรรม #เครื่องจักรโรงงาน #เครื่องบดย่อย #Shredder #BrassRecycling #MetalScrap #เครื่องโม่ #รีไซเคิล #โรงงานรีไซเคิล #เครื่องบดเศษเหล็ก #จัดการของเสีย #ลดขนาดวัสดุ #โลหะรีไซเคิล #ทองเหลือง #เศษทองแดง #อลูมิเนียม #RecyclingSolution #WasteManagement #เครื่องบดคุณภาพสูง #เครื่องจักรหนัก #ScrapMetal #อุตสาหกรรม #เครื่องจักรกล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เยอรมนีพบแหล่งลิเทียมมหาศาล – อาจเปลี่ยนอนาคตอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าทั้งยุโรป!”

    บริษัท Neptune Energy จากสหราชอาณาจักรประกาศการค้นพบแหล่งแร่ลิเทียมขนาดมหึมาในรัฐ Saxony-Anhalt ประเทศเยอรมนี โดยมีปริมาณลิเทียมคาร์บอเนตประมาณ 43 ล้านตัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแหล่งลิเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมากกว่าที่อินเดียเคยค้นพบถึง 7 เท่า

    แหล่งนี้เคยเป็นพื้นที่สกัดก๊าซธรรมชาติมาก่อน และตอนนี้กำลังถูกเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Direct Lithium Extraction (DLE) ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้บ่อระเหยน้ำเกลือขนาดใหญ่ และปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าการทำเหมืองแบบเดิม

    Neptune Energy ได้ทดลองใช้ DLE กับพันธมิตรชื่อ Lilac และกำลังทดสอบกระบวนการดูดซับลิเทียมจากน้ำเกลือ ซึ่งอาจช่วยให้เยอรมนีสามารถผลิตลิเทียมได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากจีนหรือประเทศใน “ลิเทียมไทรแองเกิล” (ชิลี, อาร์เจนตินา, โบลิเวีย)

    ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันต้องนำเข้าลิเทียมจากต่างประเทศ และยังต้องพึ่งพาการแปรรูปจากจีน ทำให้ต้นทุนแบตเตอรี่สูงกว่าคู่แข่งจากจีนถึง 2 เท่า หากเยอรมนีสามารถผลิตและแปรรูปลิเทียมเองได้ จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความมั่นคงทางอุตสาหกรรมอย่างมาก

    อย่างไรก็ตาม การลงทุนในเหมืองและโรงงานแปรรูปต้องใช้เงินมหาศาล และยังไม่แน่ชัดว่าเยอรมนีจะสามารถแข่งขันกับจีนในด้านต้นทุนแรงงานและการผลิตได้หรือไม่

    การค้นพบแหล่งลิเทียมในเยอรมนี
    พบในรัฐ Saxony-Anhalt โดย Neptune Energy
    ปริมาณลิเทียมคาร์บอเนตประมาณ 43 ล้านตัน
    ใหญ่กว่าที่อินเดียเคยค้นพบถึง 7 เท่า
    เคยเป็นพื้นที่สกัดก๊าซธรรมชาติมาก่อน

    เทคโนโลยีการสกัดลิเทียม
    ใช้ Direct Lithium Extraction (DLE) แทนการทำเหมืองหรือบ่อระเหย
    ปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าและใช้เวลาน้อยกว่า
    ทดลองร่วมกับบริษัท Lilac
    กำลังทดสอบกระบวนการดูดซับจากน้ำเกลือ

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม EV
    ผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันพึ่งพาลิเทียมจากจีนและลิเทียมไทรแองเกิล
    ต้นทุนแบตเตอรี่สูงกว่าคู่แข่งจากจีนถึง 2 เท่า
    หากผลิตเองได้จะลดต้นทุนและเพิ่มความมั่นคง
    อาจเปลี่ยนให้ยุโรปเป็นศูนย์กลางใหม่ของ supply chain EV

    https://www.slashgear.com/1998530/one-of-worlds-largest-lithium-deposits-found-could-reshape-ev-future/
    🔋 “เยอรมนีพบแหล่งลิเทียมมหาศาล – อาจเปลี่ยนอนาคตอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าทั้งยุโรป!” บริษัท Neptune Energy จากสหราชอาณาจักรประกาศการค้นพบแหล่งแร่ลิเทียมขนาดมหึมาในรัฐ Saxony-Anhalt ประเทศเยอรมนี โดยมีปริมาณลิเทียมคาร์บอเนตประมาณ 43 ล้านตัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแหล่งลิเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมากกว่าที่อินเดียเคยค้นพบถึง 7 เท่า แหล่งนี้เคยเป็นพื้นที่สกัดก๊าซธรรมชาติมาก่อน และตอนนี้กำลังถูกเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Direct Lithium Extraction (DLE) ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้บ่อระเหยน้ำเกลือขนาดใหญ่ และปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าการทำเหมืองแบบเดิม Neptune Energy ได้ทดลองใช้ DLE กับพันธมิตรชื่อ Lilac และกำลังทดสอบกระบวนการดูดซับลิเทียมจากน้ำเกลือ ซึ่งอาจช่วยให้เยอรมนีสามารถผลิตลิเทียมได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากจีนหรือประเทศใน “ลิเทียมไทรแองเกิล” (ชิลี, อาร์เจนตินา, โบลิเวีย) ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันต้องนำเข้าลิเทียมจากต่างประเทศ และยังต้องพึ่งพาการแปรรูปจากจีน ทำให้ต้นทุนแบตเตอรี่สูงกว่าคู่แข่งจากจีนถึง 2 เท่า หากเยอรมนีสามารถผลิตและแปรรูปลิเทียมเองได้ จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความมั่นคงทางอุตสาหกรรมอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การลงทุนในเหมืองและโรงงานแปรรูปต้องใช้เงินมหาศาล และยังไม่แน่ชัดว่าเยอรมนีจะสามารถแข่งขันกับจีนในด้านต้นทุนแรงงานและการผลิตได้หรือไม่ ✅ การค้นพบแหล่งลิเทียมในเยอรมนี ➡️ พบในรัฐ Saxony-Anhalt โดย Neptune Energy ➡️ ปริมาณลิเทียมคาร์บอเนตประมาณ 43 ล้านตัน ➡️ ใหญ่กว่าที่อินเดียเคยค้นพบถึง 7 เท่า ➡️ เคยเป็นพื้นที่สกัดก๊าซธรรมชาติมาก่อน ✅ เทคโนโลยีการสกัดลิเทียม ➡️ ใช้ Direct Lithium Extraction (DLE) แทนการทำเหมืองหรือบ่อระเหย ➡️ ปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าและใช้เวลาน้อยกว่า ➡️ ทดลองร่วมกับบริษัท Lilac ➡️ กำลังทดสอบกระบวนการดูดซับจากน้ำเกลือ ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม EV ➡️ ผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันพึ่งพาลิเทียมจากจีนและลิเทียมไทรแองเกิล ➡️ ต้นทุนแบตเตอรี่สูงกว่าคู่แข่งจากจีนถึง 2 เท่า ➡️ หากผลิตเองได้จะลดต้นทุนและเพิ่มความมั่นคง ➡️ อาจเปลี่ยนให้ยุโรปเป็นศูนย์กลางใหม่ของ supply chain EV https://www.slashgear.com/1998530/one-of-worlds-largest-lithium-deposits-found-could-reshape-ev-future/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    This Is One Of World's Largest Lithium Deposits, And It Could Reshape The Future Of EVs - SlashGear
    One of the world's largest lithium deposits was recently discovered outside of the triangle of South American countries that typically harbor the materials.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • “จีนโชว์นวัตกรรมชิปครั้งใหญ่ – เปิดตัวเครื่อง Lithography, EDA และวัสดุ EUV ฝีมือคนจีนล้วน!”

    ในงาน WeSemiBay Semiconductor Ecosystem Expo ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน บริษัทจีนหลายแห่งได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ด้านการผลิตชิปที่น่าทึ่งมาก โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันความสามารถในการผลิตชิปแบบพึ่งพาตนเองให้ได้เต็มรูปแบบ

    บริษัท Amies Technologies ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SMEE (Shanghai Micro Electronics Equipment) ได้เปิดตัวเครื่อง Lithography สำหรับสารกึ่งตัวนำแบบ compound เช่น GaAs, GaN และ InP รวมถึงระบบ laser annealing และเครื่องตรวจสอบ wafer ขั้นสูง โดย Amies เพิ่งก่อตั้งเมื่อต้นปี 2025 แต่สามารถส่งมอบเครื่อง Lithography ไปแล้วกว่า 500 เครื่อง

    อีกด้านหนึ่ง SiCarrier ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Huawei และรัฐบาลจีน ได้เปิดตัวซอฟต์แวร์ออกแบบชิป (EDA tools) ที่พัฒนาเองทั้งหมด โดยอ้างว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบได้ถึง 30% และลดเวลาในการพัฒนา hardware ลง 40% เมื่อเทียบกับเครื่องมือจาก Cadence, Synopsys และ Siemens

    ที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ Skyverse Technology ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SiCarrier ได้เปิดตัววัสดุ photoresist ที่สามารถใช้กับ EUV lithography ได้ แม้จีนจะยังไม่มีเครื่อง EUV จาก ASML ก็ตาม โดยวัสดุนี้ใช้เคมี tin-oxide metal-cluster และสามารถสร้างลวดลายระดับ 3nm–50nm ได้ ซึ่งใกล้เคียงกับวัสดุจาก JSR ที่ใช้ในระบบ EUV จริง

    นอกจากนี้ Long Sight ซึ่งเป็นอีกบริษัทลูกของ SiCarrier ก็เปิดตัวออสซิลโลสโคปแบบ real-time ที่ทำงานได้ถึง 90GHz ซึ่งสูงกว่ารุ่นก่อนหน้าของจีนถึง 5 เท่า และสามารถใช้วิเคราะห์สัญญาณในชิประดับ 3nm และ 5nm ได้

    นวัตกรรมจาก Amies Technologies
    เครื่อง Lithography สำหรับ GaAs, GaN, InP
    ระบบ laser annealing และ wafer inspection
    ส่งมอบเครื่องไปแล้วกว่า 500 เครื่องในปีแรก

    นวัตกรรมจาก SiCarrier
    ซอฟต์แวร์ EDA พัฒนาเองทั้งหมด
    เพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบ 30%
    ลดเวลา hardware development 40%
    มีวิศวกรใช้งานแล้วกว่า 20,000 คน
    ความสามารถด้าน EDA ยังต่ำกว่า 10% ของการพึ่งพาตนเอง

    วัสดุ EUV จาก Skyverse Technology
    photoresist ใช้เคมี tin-oxide metal-cluster
    สร้างลวดลายระดับ 3nm–50nm
    แม้ไม่มีเครื่อง EUV แต่วัสดุพร้อมแล้ว
    มีการจดสิทธิบัตรหลายฉบับ
    รายชื่อผู้คิดค้นส่วนใหญ่ไม่เปิดเผย

    อุปกรณ์วิเคราะห์จาก Long Sight
    ออสซิลโลสโคป real-time 90GHz
    ใช้กับชิประดับ 3nm และ 5nm ได้
    เหมาะกับโรงงาน SMIC และ Huawei ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chinese-companies-unveil-a-swathe-of-breakthrough-chipmaking-innovations-at-tradeshow-chipmaking-lithography-tools-software-design-tools-and-resists-all-on-display-as-the-nation-pursues-self-sufficiency
    🇨🇳 “จีนโชว์นวัตกรรมชิปครั้งใหญ่ – เปิดตัวเครื่อง Lithography, EDA และวัสดุ EUV ฝีมือคนจีนล้วน!” ในงาน WeSemiBay Semiconductor Ecosystem Expo ที่เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน บริษัทจีนหลายแห่งได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ด้านการผลิตชิปที่น่าทึ่งมาก โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันความสามารถในการผลิตชิปแบบพึ่งพาตนเองให้ได้เต็มรูปแบบ บริษัท Amies Technologies ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SMEE (Shanghai Micro Electronics Equipment) ได้เปิดตัวเครื่อง Lithography สำหรับสารกึ่งตัวนำแบบ compound เช่น GaAs, GaN และ InP รวมถึงระบบ laser annealing และเครื่องตรวจสอบ wafer ขั้นสูง โดย Amies เพิ่งก่อตั้งเมื่อต้นปี 2025 แต่สามารถส่งมอบเครื่อง Lithography ไปแล้วกว่า 500 เครื่อง อีกด้านหนึ่ง SiCarrier ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Huawei และรัฐบาลจีน ได้เปิดตัวซอฟต์แวร์ออกแบบชิป (EDA tools) ที่พัฒนาเองทั้งหมด โดยอ้างว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบได้ถึง 30% และลดเวลาในการพัฒนา hardware ลง 40% เมื่อเทียบกับเครื่องมือจาก Cadence, Synopsys และ Siemens ที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือ Skyverse Technology ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SiCarrier ได้เปิดตัววัสดุ photoresist ที่สามารถใช้กับ EUV lithography ได้ แม้จีนจะยังไม่มีเครื่อง EUV จาก ASML ก็ตาม โดยวัสดุนี้ใช้เคมี tin-oxide metal-cluster และสามารถสร้างลวดลายระดับ 3nm–50nm ได้ ซึ่งใกล้เคียงกับวัสดุจาก JSR ที่ใช้ในระบบ EUV จริง นอกจากนี้ Long Sight ซึ่งเป็นอีกบริษัทลูกของ SiCarrier ก็เปิดตัวออสซิลโลสโคปแบบ real-time ที่ทำงานได้ถึง 90GHz ซึ่งสูงกว่ารุ่นก่อนหน้าของจีนถึง 5 เท่า และสามารถใช้วิเคราะห์สัญญาณในชิประดับ 3nm และ 5nm ได้ ✅ นวัตกรรมจาก Amies Technologies ➡️ เครื่อง Lithography สำหรับ GaAs, GaN, InP ➡️ ระบบ laser annealing และ wafer inspection ➡️ ส่งมอบเครื่องไปแล้วกว่า 500 เครื่องในปีแรก ✅ นวัตกรรมจาก SiCarrier ➡️ ซอฟต์แวร์ EDA พัฒนาเองทั้งหมด ➡️ เพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบ 30% ➡️ ลดเวลา hardware development 40% ➡️ มีวิศวกรใช้งานแล้วกว่า 20,000 คน ➡️ ความสามารถด้าน EDA ยังต่ำกว่า 10% ของการพึ่งพาตนเอง ✅ วัสดุ EUV จาก Skyverse Technology ➡️ photoresist ใช้เคมี tin-oxide metal-cluster ➡️ สร้างลวดลายระดับ 3nm–50nm ➡️ แม้ไม่มีเครื่อง EUV แต่วัสดุพร้อมแล้ว ➡️ มีการจดสิทธิบัตรหลายฉบับ ➡️ รายชื่อผู้คิดค้นส่วนใหญ่ไม่เปิดเผย ✅ อุปกรณ์วิเคราะห์จาก Long Sight ➡️ ออสซิลโลสโคป real-time 90GHz ➡️ ใช้กับชิประดับ 3nm และ 5nm ได้ ➡️ เหมาะกับโรงงาน SMIC และ Huawei ในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chinese-companies-unveil-a-swathe-of-breakthrough-chipmaking-innovations-at-tradeshow-chipmaking-lithography-tools-software-design-tools-and-resists-all-on-display-as-the-nation-pursues-self-sufficiency
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • “TSMC เลือกใช้ Photomask Pellicles แทนเครื่อง High-NA EUV – เดินเกมประหยัดต้นทุนสำหรับชิป 1.4nm และ 1nm”

    TSMC บริษัทผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลก กำลังเตรียมเข้าสู่ยุคการผลิตระดับ 1.4nm และ 1nm ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดในปัจจุบัน โดยทั่วไปแล้ว การผลิตระดับนี้จะต้องใช้เครื่อง High-NA EUV จาก ASML ที่มีราคาสูงถึง $400 ล้านต่อเครื่อง แต่ TSMC กลับเลือกใช้วิธีที่ต่างออกไป นั่นคือการใช้ “Photomask Pellicles” แทน

    Pellicle คือแผ่นฟิล์มบาง ๆ ที่ติดอยู่บน photomask เพื่อป้องกันฝุ่นและสิ่งปนเปื้อนระหว่างการยิงแสง EUV ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากเมื่อเข้าสู่ระดับ sub-2nm เพราะการยิงแสงต้องแม่นยำสุด ๆ และ photomask จะถูกใช้งานบ่อยขึ้น ทำให้โอกาสเกิดความเสียหายสูงขึ้นตามไปด้วย

    TSMC มองว่าการใช้ pellicle แม้จะมีความซับซ้อนและต้องผ่านการทดลองหลายครั้ง แต่ก็เป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าการลงทุนซื้อเครื่อง High-NA EUV ที่แพงและผลิตได้จำกัด (ASML ผลิตได้แค่ 5–6 เครื่องต่อปี) โดย TSMC ได้เริ่มวิจัยและพัฒนา pellicle สำหรับ 1.4nm ที่โรงงาน Hsinchu และเตรียมใช้จริงในปี 2028

    แม้จะมีความเสี่ยงเรื่อง yield และความแม่นยำ แต่ TSMC เชื่อว่าการใช้ pellicle จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่นในการผลิตได้มากกว่าในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อความต้องการจากลูกค้าอย่าง Apple เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

    กลยุทธ์ของ TSMC สำหรับชิประดับ 1.4nm และ 1nm
    เลือกใช้ Photomask Pellicles แทนเครื่อง High-NA EUV
    ลดต้นทุนจากการไม่ต้องซื้อเครื่องราคา $400 ล้าน
    เริ่มวิจัย pellicle ที่โรงงาน Hsinchu
    เตรียมใช้จริงในปี 2028 สำหรับกระบวนการ A14 และ A10
    Pellicle ช่วยป้องกันฝุ่นและสิ่งปนเปื้อนระหว่างยิงแสง
    เพิ่มความยืดหยุ่นในการผลิตและลดความเสียหายของ photomask
    รองรับความต้องการจากลูกค้า เช่น Apple ที่ใช้ชิปขั้นสูง

    ข้อได้เปรียบเชิงธุรกิจ
    ASML ผลิตเครื่อง High-NA EUV ได้จำกัด (5–6 เครื่องต่อปี)
    TSMC ลงทุนกว่า NT$1.5 ล้านล้าน (~$49 พันล้าน) สำหรับการพัฒนา
    ใช้แนวทาง “trial and error” เพื่อปรับปรุง yield
    มีแผนใช้ EUV แบบมาตรฐานร่วมกับ pellicle เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

    https://wccftech.com/tsmc-to-use-photomask-pellicles-instead-of-high-na-euv-machines-for-1-4nm-and-1nm-processes/
    🔬 “TSMC เลือกใช้ Photomask Pellicles แทนเครื่อง High-NA EUV – เดินเกมประหยัดต้นทุนสำหรับชิป 1.4nm และ 1nm” TSMC บริษัทผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลก กำลังเตรียมเข้าสู่ยุคการผลิตระดับ 1.4nm และ 1nm ซึ่งถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดในปัจจุบัน โดยทั่วไปแล้ว การผลิตระดับนี้จะต้องใช้เครื่อง High-NA EUV จาก ASML ที่มีราคาสูงถึง $400 ล้านต่อเครื่อง แต่ TSMC กลับเลือกใช้วิธีที่ต่างออกไป นั่นคือการใช้ “Photomask Pellicles” แทน Pellicle คือแผ่นฟิล์มบาง ๆ ที่ติดอยู่บน photomask เพื่อป้องกันฝุ่นและสิ่งปนเปื้อนระหว่างการยิงแสง EUV ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากเมื่อเข้าสู่ระดับ sub-2nm เพราะการยิงแสงต้องแม่นยำสุด ๆ และ photomask จะถูกใช้งานบ่อยขึ้น ทำให้โอกาสเกิดความเสียหายสูงขึ้นตามไปด้วย TSMC มองว่าการใช้ pellicle แม้จะมีความซับซ้อนและต้องผ่านการทดลองหลายครั้ง แต่ก็เป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าการลงทุนซื้อเครื่อง High-NA EUV ที่แพงและผลิตได้จำกัด (ASML ผลิตได้แค่ 5–6 เครื่องต่อปี) โดย TSMC ได้เริ่มวิจัยและพัฒนา pellicle สำหรับ 1.4nm ที่โรงงาน Hsinchu และเตรียมใช้จริงในปี 2028 แม้จะมีความเสี่ยงเรื่อง yield และความแม่นยำ แต่ TSMC เชื่อว่าการใช้ pellicle จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่นในการผลิตได้มากกว่าในระยะยาว โดยเฉพาะเมื่อความต้องการจากลูกค้าอย่าง Apple เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ✅ กลยุทธ์ของ TSMC สำหรับชิประดับ 1.4nm และ 1nm ➡️ เลือกใช้ Photomask Pellicles แทนเครื่อง High-NA EUV ➡️ ลดต้นทุนจากการไม่ต้องซื้อเครื่องราคา $400 ล้าน ➡️ เริ่มวิจัย pellicle ที่โรงงาน Hsinchu ➡️ เตรียมใช้จริงในปี 2028 สำหรับกระบวนการ A14 และ A10 ➡️ Pellicle ช่วยป้องกันฝุ่นและสิ่งปนเปื้อนระหว่างยิงแสง ➡️ เพิ่มความยืดหยุ่นในการผลิตและลดความเสียหายของ photomask ➡️ รองรับความต้องการจากลูกค้า เช่น Apple ที่ใช้ชิปขั้นสูง ✅ ข้อได้เปรียบเชิงธุรกิจ ➡️ ASML ผลิตเครื่อง High-NA EUV ได้จำกัด (5–6 เครื่องต่อปี) ➡️ TSMC ลงทุนกว่า NT$1.5 ล้านล้าน (~$49 พันล้าน) สำหรับการพัฒนา ➡️ ใช้แนวทาง “trial and error” เพื่อปรับปรุง yield ➡️ มีแผนใช้ EUV แบบมาตรฐานร่วมกับ pellicle เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ https://wccftech.com/tsmc-to-use-photomask-pellicles-instead-of-high-na-euv-machines-for-1-4nm-and-1nm-processes/
    WCCFTECH.COM
    TSMC Resorting To ‘Photomask Pellicles’ Instead Of Transitioning To The Ludicrously Expensive High-NA EUV Machines For 1.4nm, 1nm Advanced Processes
    Not seeing the use of High-NA EUV machinery yet, TSMC is reportedly moving to photomask pellicles for its 1.4nm and 1nm processes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • “TSMC ยังเหนียวแน่น! Qualcomm และ MediaTek ไม่น่าจะเปลี่ยนไปใช้ Samsung สำหรับชิป 2nm – เหตุผลทั้งเทคนิคและเวลา”

    หลายคนอาจเคยได้ยินข่าวลือว่า Qualcomm กับ MediaTek อาจเปลี่ยนไปใช้ Samsung Foundry สำหรับการผลิตชิป 2nm แทน TSMC เพราะราคาที่ TSMC ตั้งไว้สูงถึง $30,000 ต่อแผ่นเวเฟอร์ ทำให้ดูเหมือนว่าทั้งสองบริษัทอาจหาทางเลือกใหม่เพื่อประหยัดต้นทุน

    แต่ล่าสุดมีรายงานจาก DigiTimes ที่อ้างแหล่งข่าวในสายการผลิตว่า “ไม่น่าเป็นไปได้” ที่ Qualcomm และ MediaTek จะเปลี่ยนไปใช้ Samsung ในเร็ว ๆ นี้ โดยมีเหตุผลหลักสองข้อคือ “เรื่องเวลา” และ “ความพร้อมของเทคโนโลยี”

    แม้ว่า MediaTek จะประกาศว่าได้ tape-out ชิป 2nm แล้วและจะเปิดตัวปลายปี 2026 แต่ไม่ได้ระบุว่าใช้โรงงานไหน ซึ่งทำให้เกิดการคาดเดาว่าอาจเป็น Samsung แต่แหล่งข่าวบอกว่า ถ้าจะใช้เทคโนโลยี GAA 2nm ของ Samsung จริง ๆ ก็ต้องรอถึงปี 2027 ถึงจะพร้อมใช้งานในเชิงพาณิชย์

    อีกประเด็นคือเรื่องของการตามให้ทัน Apple ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตชิป โดย Qualcomm และ MediaTek ไม่อยากปล่อยให้ Apple นำหน้าไปอีกหนึ่งเจเนอเรชัน จึงเลือกที่จะอยู่กับ TSMC แม้ราคาจะสูง แต่ก็ถือว่า “รับได้” เพื่อรักษาความเร็วและคุณภาพของผลิตภัณฑ์

    นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า Qualcomm เคยขอ sample ชิป 2nm จาก Samsung เพื่อทดสอบ ซึ่งอาจเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตมากกว่าการเปลี่ยนโรงงานในตอนนี้

    สถานการณ์การผลิตชิป 2nm
    TSMC ยังคงเป็นผู้ผลิตหลักของ Qualcomm และ MediaTek
    ราคาชิป 2nm จาก TSMC อยู่ที่ $30,000 ต่อเวเฟอร์
    MediaTek tape-out ชิป 2nm แล้ว เตรียมเปิดตัวปลายปี 2026
    Samsung ยังไม่พร้อมผลิตชิป 2nm GAA จนกว่าจะถึงปี 2027
    Qualcomm เคยขอ sample จาก Samsung เพื่อทดสอบ
    ทั้งสองบริษัทต้องการตามให้ทัน Apple ในด้านเทคโนโลยี
    การอยู่กับ TSMC ช่วยรักษาคุณภาพและความเร็วในการพัฒนา

    ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม
    Apple เคยใช้ TSMC N3B สำหรับ M3, M3 Pro และ M3 Max
    Tape-out ของ Apple มีต้นทุนสูงถึง $1 พันล้าน
    Snapdragon 8 Gen 3 และ Dimensity 9300 ใช้ TSMC 3nm รุ่นแรก
    Snapdragon 8 Elite Gen 5 และ Dimensity 9500 มีต้นทุนสูงขึ้น
    อาจมีการใช้ dual-sourcing ในอนาคตระหว่าง TSMC และ Samsung

    https://wccftech.com/qualcomm-and-mediatek-are-unlikely-to-switch-to-samsung-for-2nm-chip-orders/
    🔧 “TSMC ยังเหนียวแน่น! Qualcomm และ MediaTek ไม่น่าจะเปลี่ยนไปใช้ Samsung สำหรับชิป 2nm – เหตุผลทั้งเทคนิคและเวลา” หลายคนอาจเคยได้ยินข่าวลือว่า Qualcomm กับ MediaTek อาจเปลี่ยนไปใช้ Samsung Foundry สำหรับการผลิตชิป 2nm แทน TSMC เพราะราคาที่ TSMC ตั้งไว้สูงถึง $30,000 ต่อแผ่นเวเฟอร์ ทำให้ดูเหมือนว่าทั้งสองบริษัทอาจหาทางเลือกใหม่เพื่อประหยัดต้นทุน แต่ล่าสุดมีรายงานจาก DigiTimes ที่อ้างแหล่งข่าวในสายการผลิตว่า “ไม่น่าเป็นไปได้” ที่ Qualcomm และ MediaTek จะเปลี่ยนไปใช้ Samsung ในเร็ว ๆ นี้ โดยมีเหตุผลหลักสองข้อคือ “เรื่องเวลา” และ “ความพร้อมของเทคโนโลยี” แม้ว่า MediaTek จะประกาศว่าได้ tape-out ชิป 2nm แล้วและจะเปิดตัวปลายปี 2026 แต่ไม่ได้ระบุว่าใช้โรงงานไหน ซึ่งทำให้เกิดการคาดเดาว่าอาจเป็น Samsung แต่แหล่งข่าวบอกว่า ถ้าจะใช้เทคโนโลยี GAA 2nm ของ Samsung จริง ๆ ก็ต้องรอถึงปี 2027 ถึงจะพร้อมใช้งานในเชิงพาณิชย์ อีกประเด็นคือเรื่องของการตามให้ทัน Apple ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตชิป โดย Qualcomm และ MediaTek ไม่อยากปล่อยให้ Apple นำหน้าไปอีกหนึ่งเจเนอเรชัน จึงเลือกที่จะอยู่กับ TSMC แม้ราคาจะสูง แต่ก็ถือว่า “รับได้” เพื่อรักษาความเร็วและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า Qualcomm เคยขอ sample ชิป 2nm จาก Samsung เพื่อทดสอบ ซึ่งอาจเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตมากกว่าการเปลี่ยนโรงงานในตอนนี้ ✅ สถานการณ์การผลิตชิป 2nm ➡️ TSMC ยังคงเป็นผู้ผลิตหลักของ Qualcomm และ MediaTek ➡️ ราคาชิป 2nm จาก TSMC อยู่ที่ $30,000 ต่อเวเฟอร์ ➡️ MediaTek tape-out ชิป 2nm แล้ว เตรียมเปิดตัวปลายปี 2026 ➡️ Samsung ยังไม่พร้อมผลิตชิป 2nm GAA จนกว่าจะถึงปี 2027 ➡️ Qualcomm เคยขอ sample จาก Samsung เพื่อทดสอบ ➡️ ทั้งสองบริษัทต้องการตามให้ทัน Apple ในด้านเทคโนโลยี ➡️ การอยู่กับ TSMC ช่วยรักษาคุณภาพและความเร็วในการพัฒนา ✅ ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม ➡️ Apple เคยใช้ TSMC N3B สำหรับ M3, M3 Pro และ M3 Max ➡️ Tape-out ของ Apple มีต้นทุนสูงถึง $1 พันล้าน ➡️ Snapdragon 8 Gen 3 และ Dimensity 9300 ใช้ TSMC 3nm รุ่นแรก ➡️ Snapdragon 8 Elite Gen 5 และ Dimensity 9500 มีต้นทุนสูงขึ้น ➡️ อาจมีการใช้ dual-sourcing ในอนาคตระหว่าง TSMC และ Samsung https://wccftech.com/qualcomm-and-mediatek-are-unlikely-to-switch-to-samsung-for-2nm-chip-orders/
    WCCFTECH.COM
    Qualcomm, MediaTek Switching To Samsung Foundry For 2nm Chip Orders Seems Unlikely, Supply Chain Sources Believe That Timing Makes The Switch Impossible
    A new report says that supply chain sources are unconvinced that Qualcomm and MediaTek will begin placing 2nm chip orders with Samsung
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • สะเทือนใจสาวโรงงานเย็บผ้ากว่า 600 ชีวิต หลังเข้าทำงานตามปกติแต่ต้องช็อกเมื่อผู้บริหารประกาศเลิกจ้างทันที โดยนายจ้างแจกเช็กค่าชดเชยรวมกว่า 95 ล้านบาท หลังแบกภาระไม่ไหวเพราะพิษเศรษฐกิจและคำสั่งซื้อลดลงต่อเนื่อง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000101072

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    สะเทือนใจสาวโรงงานเย็บผ้ากว่า 600 ชีวิต หลังเข้าทำงานตามปกติแต่ต้องช็อกเมื่อผู้บริหารประกาศเลิกจ้างทันที โดยนายจ้างแจกเช็กค่าชดเชยรวมกว่า 95 ล้านบาท หลังแบกภาระไม่ไหวเพราะพิษเศรษฐกิจและคำสั่งซื้อลดลงต่อเนื่อง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000101072 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Nexperia โต้กลับอดีต CEO จีน — ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องไม่จ่ายเงินและการแยกตัวในจีน” — เมื่อสงครามเทคโนโลยีระหว่างยุโรป-จีนลุกลามถึงระดับผู้บริหาร

    บริษัทผลิตชิปสัญชาติเนเธอร์แลนด์ Nexperia ออกแถลงการณ์ตอบโต้ Zhang Xuezheng อดีต CEO ฝั่งจีนที่เพิ่งถูกปลด โดยระบุว่าข้อกล่าวหาที่ว่า “บริษัทไม่จ่ายเงินเดือนให้พนักงานในจีน” และ “หน่วยงานในจีนสามารถดำเนินงานอย่างอิสระ” เป็นข้อมูลเท็จและทำให้เข้าใจผิด

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์เข้าควบคุมกิจการของ Nexperia เพื่อป้องกันการส่งออกเทคโนโลยีสำคัญไปยังจีน โดยมีแรงกดดันจากสหรัฐฯ ที่กังวลว่า Zhang ใช้ทรัพยากรของ Nexperia สนับสนุนบริษัทผลิตชิปส่วนตัวของตนเอง

    หลังจากนั้น จีนได้สั่งห้ามโรงงานของ Nexperia ในจีนส่งออกสินค้า และ Zhang ก็ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน WeChat อ้างว่าหน่วยงานในจีนสามารถดำเนินงานได้เองโดยไม่ต้องพึ่งการจัดการจากเนเธอร์แลนด์

    Nexperia ยืนยันว่าโรงงานทุกแห่งยังดำเนินงานตามปกติ และข้อกล่าวหาเรื่องไม่จ่ายเงินเดือนนั้น “ไม่เป็นความจริง” โดยระบุว่าเป็นการบิดเบือนข้อมูลเพื่อสร้างความสับสน

    รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์ Vincent Karremans ซึ่งมีอำนาจอนุมัติการตัดสินใจของบริษัทในช่วงที่รัฐบาลเข้าควบคุม กำลังเตรียมพบกับเจ้าหน้าที่จีนและคณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อหาทางออก

    เขาให้สัมภาษณ์ว่า “หากไม่ดำเนินการใด ๆ ยุโรปจะต้องพึ่งพาต่างชาติ 100% ในด้านความรู้และกำลังการผลิตชิป” ซึ่งสะท้อนความกังวลด้านความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยี

    Nexperia ปฏิเสธข้อกล่าวหาจากอดีต CEO Zhang Xuezheng
    ระบุว่าเรื่องไม่จ่ายเงินเดือนและการแยกตัวในจีนเป็นข้อมูลเท็จ

    Zhang ถูกปลดหลังถูกกล่าวหาว่าใช้ทรัพยากรบริษัทสนับสนุนกิจการส่วนตัว
    เป็นหนึ่งในเหตุผลที่รัฐบาลเนเธอร์แลนด์เข้าควบคุมกิจการ

    จีนสั่งห้ามโรงงาน Nexperia ส่งออกสินค้า
    เป็นการตอบโต้การควบคุมจากฝั่งยุโรป

    ข้อกล่าวหาถูกเผยแพร่ผ่าน WeChat ของ Nexperia China
    อ้างว่าหน่วยงานจีนสามารถดำเนินงานได้เอง

    รัฐมนตรี Vincent Karremans เตรียมหารือกับจีนและ EU
    เพื่อหาทางออกจากความขัดแย้ง

    Nexperia เป็นผู้ผลิตชิปสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ และยานยนต์
    แม้ไม่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย แต่มีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทาน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/embattled-dutch-chipmaker-nexperia-blasts-ousted-ceo-over-false-accusations-claims-of-unpaid-salaries-and-independent-operation-in-china-are-falsehoods-say-company
    🇳🇱 “Nexperia โต้กลับอดีต CEO จีน — ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องไม่จ่ายเงินและการแยกตัวในจีน” — เมื่อสงครามเทคโนโลยีระหว่างยุโรป-จีนลุกลามถึงระดับผู้บริหาร บริษัทผลิตชิปสัญชาติเนเธอร์แลนด์ Nexperia ออกแถลงการณ์ตอบโต้ Zhang Xuezheng อดีต CEO ฝั่งจีนที่เพิ่งถูกปลด โดยระบุว่าข้อกล่าวหาที่ว่า “บริษัทไม่จ่ายเงินเดือนให้พนักงานในจีน” และ “หน่วยงานในจีนสามารถดำเนินงานอย่างอิสระ” เป็นข้อมูลเท็จและทำให้เข้าใจผิด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์เข้าควบคุมกิจการของ Nexperia เพื่อป้องกันการส่งออกเทคโนโลยีสำคัญไปยังจีน โดยมีแรงกดดันจากสหรัฐฯ ที่กังวลว่า Zhang ใช้ทรัพยากรของ Nexperia สนับสนุนบริษัทผลิตชิปส่วนตัวของตนเอง หลังจากนั้น จีนได้สั่งห้ามโรงงานของ Nexperia ในจีนส่งออกสินค้า และ Zhang ก็ออกมาโพสต์ข้อความผ่าน WeChat อ้างว่าหน่วยงานในจีนสามารถดำเนินงานได้เองโดยไม่ต้องพึ่งการจัดการจากเนเธอร์แลนด์ Nexperia ยืนยันว่าโรงงานทุกแห่งยังดำเนินงานตามปกติ และข้อกล่าวหาเรื่องไม่จ่ายเงินเดือนนั้น “ไม่เป็นความจริง” โดยระบุว่าเป็นการบิดเบือนข้อมูลเพื่อสร้างความสับสน รัฐมนตรีเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์ Vincent Karremans ซึ่งมีอำนาจอนุมัติการตัดสินใจของบริษัทในช่วงที่รัฐบาลเข้าควบคุม กำลังเตรียมพบกับเจ้าหน้าที่จีนและคณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อหาทางออก เขาให้สัมภาษณ์ว่า “หากไม่ดำเนินการใด ๆ ยุโรปจะต้องพึ่งพาต่างชาติ 100% ในด้านความรู้และกำลังการผลิตชิป” ซึ่งสะท้อนความกังวลด้านความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยี ✅ Nexperia ปฏิเสธข้อกล่าวหาจากอดีต CEO Zhang Xuezheng ➡️ ระบุว่าเรื่องไม่จ่ายเงินเดือนและการแยกตัวในจีนเป็นข้อมูลเท็จ ✅ Zhang ถูกปลดหลังถูกกล่าวหาว่าใช้ทรัพยากรบริษัทสนับสนุนกิจการส่วนตัว ➡️ เป็นหนึ่งในเหตุผลที่รัฐบาลเนเธอร์แลนด์เข้าควบคุมกิจการ ✅ จีนสั่งห้ามโรงงาน Nexperia ส่งออกสินค้า ➡️ เป็นการตอบโต้การควบคุมจากฝั่งยุโรป ✅ ข้อกล่าวหาถูกเผยแพร่ผ่าน WeChat ของ Nexperia China ➡️ อ้างว่าหน่วยงานจีนสามารถดำเนินงานได้เอง ✅ รัฐมนตรี Vincent Karremans เตรียมหารือกับจีนและ EU ➡️ เพื่อหาทางออกจากความขัดแย้ง ✅ Nexperia เป็นผู้ผลิตชิปสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ และยานยนต์ ➡️ แม้ไม่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย แต่มีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทาน https://www.tomshardware.com/tech-industry/embattled-dutch-chipmaker-nexperia-blasts-ousted-ceo-over-false-accusations-claims-of-unpaid-salaries-and-independent-operation-in-china-are-falsehoods-say-company
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ญี่ปุ่นเปิดโรงไฟฟ้าออสโมติกแห่งแรกในเอเชีย — ใช้พลังงานจากการพบกันของน้ำจืดและน้ำทะเล” — เมื่อธรรมชาติกลายเป็นแหล่งพลังงานที่เชื่อถือได้ทั้งกลางวันและกลางคืน

    เมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดตัวโรงไฟฟ้าออสโมติก (osmotic power plant) แห่งแรกในเอเชีย ซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ที่ใช้พลังงานจากการพบกันของน้ำจืดและน้ำทะเล — ไม่ใช่แค่การทดลอง แต่เป็นระบบที่ใช้งานจริง โดยสามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 880,000 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี เพียงพอสำหรับบ้านญี่ปุ่นประมาณ 220 หลัง

    หลักการทำงานของระบบนี้คือการใช้ “ออสโมซิส” ซึ่งเป็นกระบวนการธรรมชาติที่น้ำจืดจะซึมผ่านเยื่อบางไปยังฝั่งน้ำเค็มเพื่อปรับสมดุลความเข้มข้นของเกลือ ความดันที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่นี้จะถูกนำไปหมุนกังหันเพื่อผลิตไฟฟ้า — คล้ายกับการใช้พลังงานน้ำ แต่ไม่ต้องพึ่งพาสภาพอากาศ

    จุดเด่นของระบบนี้คือความต่อเนื่อง: แม่น้ำไม่หยุดไหลลงทะเล ทำให้โรงไฟฟ้าสามารถทำงานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยไม่ต้องรอแดดหรือลม

    โรงงานยังใช้ “น้ำเกลือเข้มข้น” ที่เหลือจากโรงกรองน้ำทะเล (desalination plant) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ — กลายเป็นวงจรพลังงานแบบหมุนเวียนที่ทั้งผลิตน้ำดื่มและไฟฟ้าไปพร้อมกัน

    แม้จะยังมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ เช่น การสูญเสียพลังงานจากแรงเสียดทานและการใช้พลังงานในการสูบน้ำ แต่เทคโนโลยีกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น การใช้เยื่อกรองที่ดีขึ้นและปั๊มที่ใช้พลังงานต่ำ

    ญี่ปุ่นเปิดโรงไฟฟ้าออสโมติกแห่งแรกในเอเชีย
    ตั้งอยู่ที่เมืองฟุกุโอกะ ใช้งานจริง ไม่ใช่แค่การทดลอง

    ใช้พลังงานจากการพบกันของน้ำจืดและน้ำทะเล
    อาศัยหลักการออสโมซิสเพื่อสร้างแรงดัน

    ผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 880,000 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี
    เพียงพอสำหรับบ้านประมาณ 220 หลัง

    ใช้น้ำเกลือเข้มข้นจากโรงกรองน้ำทะเลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
    สร้างระบบพลังงานแบบหมุนเวียน

    ระบบสามารถทำงานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน
    ไม่ต้องพึ่งพาแดดหรือลม

    มีการพัฒนาเยื่อกรองและปั๊มพลังงานต่ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
    ลดการสูญเสียพลังงานจากแรงเสียดทาน

    https://www.slashgear.com/1997354/japan-fukuoka-osmotic-power-plant-uses-seawater-tech-explained/
    🌊 “ญี่ปุ่นเปิดโรงไฟฟ้าออสโมติกแห่งแรกในเอเชีย — ใช้พลังงานจากการพบกันของน้ำจืดและน้ำทะเล” — เมื่อธรรมชาติกลายเป็นแหล่งพลังงานที่เชื่อถือได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดตัวโรงไฟฟ้าออสโมติก (osmotic power plant) แห่งแรกในเอเชีย ซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ที่ใช้พลังงานจากการพบกันของน้ำจืดและน้ำทะเล — ไม่ใช่แค่การทดลอง แต่เป็นระบบที่ใช้งานจริง โดยสามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 880,000 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี เพียงพอสำหรับบ้านญี่ปุ่นประมาณ 220 หลัง หลักการทำงานของระบบนี้คือการใช้ “ออสโมซิส” ซึ่งเป็นกระบวนการธรรมชาติที่น้ำจืดจะซึมผ่านเยื่อบางไปยังฝั่งน้ำเค็มเพื่อปรับสมดุลความเข้มข้นของเกลือ ความดันที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่นี้จะถูกนำไปหมุนกังหันเพื่อผลิตไฟฟ้า — คล้ายกับการใช้พลังงานน้ำ แต่ไม่ต้องพึ่งพาสภาพอากาศ จุดเด่นของระบบนี้คือความต่อเนื่อง: แม่น้ำไม่หยุดไหลลงทะเล ทำให้โรงไฟฟ้าสามารถทำงานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยไม่ต้องรอแดดหรือลม โรงงานยังใช้ “น้ำเกลือเข้มข้น” ที่เหลือจากโรงกรองน้ำทะเล (desalination plant) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ — กลายเป็นวงจรพลังงานแบบหมุนเวียนที่ทั้งผลิตน้ำดื่มและไฟฟ้าไปพร้อมกัน แม้จะยังมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ เช่น การสูญเสียพลังงานจากแรงเสียดทานและการใช้พลังงานในการสูบน้ำ แต่เทคโนโลยีกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น การใช้เยื่อกรองที่ดีขึ้นและปั๊มที่ใช้พลังงานต่ำ ✅ ญี่ปุ่นเปิดโรงไฟฟ้าออสโมติกแห่งแรกในเอเชีย ➡️ ตั้งอยู่ที่เมืองฟุกุโอกะ ใช้งานจริง ไม่ใช่แค่การทดลอง ✅ ใช้พลังงานจากการพบกันของน้ำจืดและน้ำทะเล ➡️ อาศัยหลักการออสโมซิสเพื่อสร้างแรงดัน ✅ ผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 880,000 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี ➡️ เพียงพอสำหรับบ้านประมาณ 220 หลัง ✅ ใช้น้ำเกลือเข้มข้นจากโรงกรองน้ำทะเลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ➡️ สร้างระบบพลังงานแบบหมุนเวียน ✅ ระบบสามารถทำงานได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ➡️ ไม่ต้องพึ่งพาแดดหรือลม ✅ มีการพัฒนาเยื่อกรองและปั๊มพลังงานต่ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ➡️ ลดการสูญเสียพลังงานจากแรงเสียดทาน https://www.slashgear.com/1997354/japan-fukuoka-osmotic-power-plant-uses-seawater-tech-explained/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Japan's Newest Power Plant Turns Seawater Into Electricity – Here's How It Works - SlashGear
    Fukuoaka's osmotic power plant is supplied by local desalination facilities and uses a natural process to generate modest amounts of power.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใหม่! เครื่องสับมะพร้าวอ่อน/มะพร้าวเนื้อหนา เป็นเส้นได้หลายแบบ! (MULTI-FUNCTIONAL VEGETABLE CUTTER)

    บอกลาความยุ่งยาก! หมดปัญหานั่งขูดมะพร้าวทีละลูก! ยกระดับงานครัวสำหรับธุรกิจอาหารของคุณด้วย เครื่องสับ/หั่นผักเอนกประสงค์ ที่แข็งแกร่งและทนทาน!

    เครื่องเดียวจบครบทุกการแปรรูป ทั้งผัก ผลไม้ และ เนื้อมะพร้าวอ่อน/มะพร้าวเนื้อหนา ให้เป็นเส้นสวยงาม สม่ำเสมอ ได้ตามต้องการ!

    สับมะพร้าวเป็นเส้นได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น:

    - แบบหั่นเส้นปกติ
    - แบบหั่นหยักฟันปลา
    - แบบหั่นท่อน/หั่นเต๋า (สำหรับทำมะพร้าวแก้ว หรือเมนูอื่นๆ)

    จุดเด่นที่ต้องมี!
    - มอเตอร์ทรงพลัง: 2 แรงม้า หั่นได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ติดขัด
    - วัสดุสแตนเลสคุณภาพสูง: แข็งแกร่ง ทนทาน และถูกสุขอนามัยสำหรับการแปรรูปวัตถุดิบ
    - กำลังการผลิตสูง: 130-660 กก./ชม. ประหยัดเวลา แรงงาน และเพิ่มผลผลิตได้จริง
    - ใบมีดเปลี่ยนได้: มีให้เลือกหลายแบบ เพื่อให้ได้ขนาดและรูปทรงที่หลากหลาย
    - ปรับความหนาบางได้: ปรับความหนาในการสไลด์ได้ตั้งแต่ 1-10 มม. และความกว้างซอย 1-20 มม.

    ตอบโจทย์ทุกธุรกิจอาหารที่ต้องการความรวดเร็วและคุณภาพ!

    ไม่ต้องเสียเวลาลงแรงงานคนอีกต่อไป! หั่น สับ ซอย สไลด์... วัตถุดิบได้คุณภาพสูง รวดเร็ว และปลอดภัย พร้อมใช้งานได้กับวัตถุดิบอื่น ๆ อีกมากมาย (มันฝรั่ง, แครอท, แตงกวา, ผักกาด...)

    สนใจดูสินค้าจริงและสอบถามเพิ่มเติม:

    ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
    เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ (8.00-17.00 น.), เสาร์ (8.00-16.00 น.)
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    แชท: m.me/yonghahheng
    LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9
    โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098

    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com

    อีเมล: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com

    #เครื่องสับมะพร้าว #เครื่องหั่นมะพร้าว #เครื่องสไลด์ผัก #เครื่องหั่นเอนกประสงค์ #มะพร้าวอ่อน #มะพร้าวแก้ว #อุปกรณ์เบเกอรี่ #yonghahheng #เครื่องครัวอุตสาหกรรม #เครื่องจักรอาหาร #ธุรกิจอาหาร #โรงงานอาหาร #ประหยัดเวลา #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต #เครื่องเตรียมวัตถุดิบ #สแตนเลส #เครื่องมือทำอาหาร #มะพร้าว #เนื้อมะพร้าว #กะทิ #เมี่ยงคำ #ลอดช่อง #ไอศครีมมะพร้าว #ร้านขนมไทย #ร้านน้ำปั่น #เครื่องบดผัก #เครื่องสไลด์ผลไม้ #เครื่องหั่นมันฝรั่ง #เครื่องหั่นแครอท #อุปกรณ์ร้านอาหาร #ครัวมืออาชีพ #วัตถุดิบคุณภาพ #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #ครัวขนาดใหญ่ #เครื่องหั่นผักอัตโนมัติ #เทคโนโลยีอาหาร
    🎉 🔥 ใหม่! เครื่องสับมะพร้าวอ่อน/มะพร้าวเนื้อหนา เป็นเส้นได้หลายแบบ! (MULTI-FUNCTIONAL VEGETABLE CUTTER) 🔥 บอกลาความยุ่งยาก! ✋ หมดปัญหานั่งขูดมะพร้าวทีละลูก! 🥥 ยกระดับงานครัวสำหรับธุรกิจอาหารของคุณด้วย เครื่องสับ/หั่นผักเอนกประสงค์ ที่แข็งแกร่งและทนทาน! 💪 เครื่องเดียวจบครบทุกการแปรรูป ทั้งผัก 🥕 ผลไม้ 🍎 และ เนื้อมะพร้าวอ่อน/มะพร้าวเนื้อหนา ให้เป็นเส้นสวยงาม สม่ำเสมอ ได้ตามต้องการ! ✨ 🌟 สับมะพร้าวเป็นเส้นได้หลากหลายรูปแบบ 🌟 ไม่ว่าจะเป็น: - แบบหั่นเส้นปกติ 🥔 - แบบหั่นหยักฟันปลา 🍟 - แบบหั่นท่อน/หั่นเต๋า 🧊 (สำหรับทำมะพร้าวแก้ว หรือเมนูอื่นๆ) 🎯 จุดเด่นที่ต้องมี! 🎯 - มอเตอร์ทรงพลัง: 2 แรงม้า หั่นได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ติดขัด 💨 - วัสดุสแตนเลสคุณภาพสูง: แข็งแกร่ง ทนทาน และถูกสุขอนามัยสำหรับการแปรรูปวัตถุดิบ 🛡️ - กำลังการผลิตสูง: 130-660 กก./ชม. ประหยัดเวลา แรงงาน และเพิ่มผลผลิตได้จริง 📈 - ใบมีดเปลี่ยนได้: มีให้เลือกหลายแบบ เพื่อให้ได้ขนาดและรูปทรงที่หลากหลาย 🔪 - ปรับความหนาบางได้: ปรับความหนาในการสไลด์ได้ตั้งแต่ 1-10 มม. และความกว้างซอย 1-20 มม.📏 🚀 ตอบโจทย์ทุกธุรกิจอาหารที่ต้องการความรวดเร็วและคุณภาพ! 💯 ไม่ต้องเสียเวลาลงแรงงานคนอีกต่อไป! หั่น สับ ซอย สไลด์... วัตถุดิบได้คุณภาพสูง รวดเร็ว และปลอดภัย พร้อมใช้งานได้กับวัตถุดิบอื่น ๆ อีกมากมาย (มันฝรั่ง, แครอท, แตงกวา, ผักกาด...) 🥒🥬 🛒 สนใจดูสินค้าจริงและสอบถามเพิ่มเติม: ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 📍 เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ (8.00-17.00 น.), เสาร์ (8.00-16.00 น.) ⏰ แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 🗺️ แชท: m.me/yonghahheng 💬 LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9 📱 โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 📞 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com 🌐 อีเมล: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com 📧 #เครื่องสับมะพร้าว #เครื่องหั่นมะพร้าว #เครื่องสไลด์ผัก #เครื่องหั่นเอนกประสงค์ #มะพร้าวอ่อน #มะพร้าวแก้ว #อุปกรณ์เบเกอรี่ #yonghahheng #เครื่องครัวอุตสาหกรรม #เครื่องจักรอาหาร #ธุรกิจอาหาร #โรงงานอาหาร #ประหยัดเวลา #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต #เครื่องเตรียมวัตถุดิบ #สแตนเลส #เครื่องมือทำอาหาร #มะพร้าว #เนื้อมะพร้าว #กะทิ #เมี่ยงคำ #ลอดช่อง #ไอศครีมมะพร้าว #ร้านขนมไทย #ร้านน้ำปั่น #เครื่องบดผัก #เครื่องสไลด์ผลไม้ #เครื่องหั่นมันฝรั่ง #เครื่องหั่นแครอท #อุปกรณ์ร้านอาหาร #ครัวมืออาชีพ #วัตถุดิบคุณภาพ #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #ครัวขนาดใหญ่ #เครื่องหั่นผักอัตโนมัติ #เทคโนโลยีอาหาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 229 มุมมอง 0 รีวิว
  • "TSMC เปิดโรงงานในสหรัฐฯ ให้ชมผ่านวิดีโอ: เทคโนโลยีล้ำยุคใน Fab 21 ที่แอริโซนา"

    TSMC ผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลกจากไต้หวัน ได้เผยแพร่วิดีโอหายากที่พาผู้ชมบินผ่านโรงงาน Fab 21 ในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา ซึ่งกำลังผลิตชิปด้วยเทคโนโลยีระดับ 4nm และ 5nm (N4/N5) สำหรับบริษัทชั้นนำอย่าง Apple, AMD และ Nvidia

    วิดีโอแสดงให้เห็นระบบ “Silver Highway” หรือระบบขนส่งวัสดุอัตโนมัติ (AMHS) ที่ใช้รางเหนือศีรษะในการเคลื่อนย้าย FOUPs (Front-Opening Unified Pods) ซึ่งบรรจุเวเฟอร์ขนาด 300 มม. ไปยังเครื่องมือผลิตต่าง ๆ อย่างแม่นยำและรวดเร็ว

    จุดเด่นของโรงงานคือเครื่อง EUV Lithography จาก ASML รุ่น Twinscan NXE ที่ใช้แสงความยาวคลื่น 13.5nm จากพลาสมาทินในการ “พิมพ์” ลวดลายบนเวเฟอร์ด้วยความละเอียดระดับ 13nm ซึ่งเป็นหัวใจของการผลิตชิปยุคใหม่

    ไฮไลต์จากวิดีโอโรงงาน Fab 21
    แสดงระบบ Silver Highway สำหรับขนส่ง FOUPs อัตโนมัติ
    ใช้แสงสีเหลืองในห้อง cleanroom เพื่อป้องกันการเปิดรับแสงของ photoresist
    เครื่อง EUV จาก ASML ใช้ plasma จากหยดทินในการสร้างลวดลายบนเวเฟอร์

    เทคโนโลยีการผลิต
    ใช้กระบวนการ N4 และ N5 (4nm และ 5nm-class)
    เครื่อง Twinscan NXE:3600D มีความแม่นยำระดับ 1.1nm
    ใช้ระบบเลเซอร์ผลิตพลาสมาและกระจกสะท้อนพิเศษแทนเลนส์ทั่วไป

    แผนการขยายโรงงาน
    Fab 21 phase 2 จะรองรับการผลิตชิประดับ N3 และ N2
    TSMC เตรียมซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อสร้าง Gigafab cluster ในแอริโซนา
    รองรับความต้องการด้าน AI, สมาร์ทโฟน และ HPC ที่เพิ่มขึ้น

    ความท้าทายของเทคโนโลยี EUV
    ต้องควบคุมความแม่นยำของการวางลวดลายในระดับนาโนเมตร
    มีผลกระทบจาก stochastic effects ที่อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาด
    ต้องใช้กระจกพิเศษแทนเลนส์ เพราะแสง EUV ถูกดูดกลืนโดยวัสดุทั่วไป

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก:
    ความหมายของ Gigafab
    โรงงานที่สามารถผลิตเวเฟอร์ได้มากกว่า 100,000 แผ่นต่อเดือน
    เป็นระดับสูงสุดของโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์

    ความสำคัญของ Fab 21 ต่อสหรัฐฯ
    เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ลดการพึ่งพาการผลิตจากเอเชีย
    สนับสนุนความมั่นคงด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจของประเทศ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-gives-an-ultra-rare-video-look-inside-its-fabs-silver-highway-and-fab-tools-revealed-in-flyby-video-of-companys-us-arizona-fab-21
    🏭 "TSMC เปิดโรงงานในสหรัฐฯ ให้ชมผ่านวิดีโอ: เทคโนโลยีล้ำยุคใน Fab 21 ที่แอริโซนา" TSMC ผู้ผลิตชิปอันดับหนึ่งของโลกจากไต้หวัน ได้เผยแพร่วิดีโอหายากที่พาผู้ชมบินผ่านโรงงาน Fab 21 ในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา ซึ่งกำลังผลิตชิปด้วยเทคโนโลยีระดับ 4nm และ 5nm (N4/N5) สำหรับบริษัทชั้นนำอย่าง Apple, AMD และ Nvidia วิดีโอแสดงให้เห็นระบบ “Silver Highway” หรือระบบขนส่งวัสดุอัตโนมัติ (AMHS) ที่ใช้รางเหนือศีรษะในการเคลื่อนย้าย FOUPs (Front-Opening Unified Pods) ซึ่งบรรจุเวเฟอร์ขนาด 300 มม. ไปยังเครื่องมือผลิตต่าง ๆ อย่างแม่นยำและรวดเร็ว จุดเด่นของโรงงานคือเครื่อง EUV Lithography จาก ASML รุ่น Twinscan NXE ที่ใช้แสงความยาวคลื่น 13.5nm จากพลาสมาทินในการ “พิมพ์” ลวดลายบนเวเฟอร์ด้วยความละเอียดระดับ 13nm ซึ่งเป็นหัวใจของการผลิตชิปยุคใหม่ ✅ ไฮไลต์จากวิดีโอโรงงาน Fab 21 ➡️ แสดงระบบ Silver Highway สำหรับขนส่ง FOUPs อัตโนมัติ ➡️ ใช้แสงสีเหลืองในห้อง cleanroom เพื่อป้องกันการเปิดรับแสงของ photoresist ➡️ เครื่อง EUV จาก ASML ใช้ plasma จากหยดทินในการสร้างลวดลายบนเวเฟอร์ ✅ เทคโนโลยีการผลิต ➡️ ใช้กระบวนการ N4 และ N5 (4nm และ 5nm-class) ➡️ เครื่อง Twinscan NXE:3600D มีความแม่นยำระดับ 1.1nm ➡️ ใช้ระบบเลเซอร์ผลิตพลาสมาและกระจกสะท้อนพิเศษแทนเลนส์ทั่วไป ✅ แผนการขยายโรงงาน ➡️ Fab 21 phase 2 จะรองรับการผลิตชิประดับ N3 และ N2 ➡️ TSMC เตรียมซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อสร้าง Gigafab cluster ในแอริโซนา ➡️ รองรับความต้องการด้าน AI, สมาร์ทโฟน และ HPC ที่เพิ่มขึ้น ‼️ ความท้าทายของเทคโนโลยี EUV ⛔ ต้องควบคุมความแม่นยำของการวางลวดลายในระดับนาโนเมตร ⛔ มีผลกระทบจาก stochastic effects ที่อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาด ⛔ ต้องใช้กระจกพิเศษแทนเลนส์ เพราะแสง EUV ถูกดูดกลืนโดยวัสดุทั่วไป 📎 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก: ✅ ความหมายของ Gigafab ➡️ โรงงานที่สามารถผลิตเวเฟอร์ได้มากกว่า 100,000 แผ่นต่อเดือน ➡️ เป็นระดับสูงสุดของโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ✅ ความสำคัญของ Fab 21 ต่อสหรัฐฯ ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ลดการพึ่งพาการผลิตจากเอเชีย ➡️ สนับสนุนความมั่นคงด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจของประเทศ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-gives-an-ultra-rare-video-look-inside-its-fabs-silver-highway-and-fab-tools-revealed-in-flyby-video-of-companys-us-arizona-fab-21
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Macrohard: โปรเจกต์ใหม่จาก Elon Musk ที่ผสานแนวคิด Apple + Microsoft” — เมื่อ xAI ตั้งเป้าสร้างแพลตฟอร์ม AI แบบครบวงจร โดยไม่ผลิตฮาร์ดแวร์เอง

    Elon Musk เปิดตัวโปรเจกต์ใหม่ชื่อ “Macrohard” ภายใต้บริษัท xAI โดยตั้งเป้าสร้างแพลตฟอร์ม AI ที่ “สามารถทำทุกอย่าง ยกเว้นผลิตฮาร์ดแวร์เอง” ซึ่งสะท้อนแนวคิดของ Apple ที่จ้างบริษัทอื่นผลิต iPhone และ Microsoft ที่เน้นการออกแบบซอฟต์แวร์และกำหนดมาตรฐาน

    Musk อธิบายว่า Macrohard จะเป็นการ “จำลองบริษัทซอฟต์แวร์ทั้งบริษัทด้วย AI agents” โดยไม่ต้องมีโรงงานผลิตของตัวเอง แต่จะกำหนดมาตรฐาน, ระบบปฏิบัติการ, และซอฟต์แวร์ให้บริษัทอื่นนำไปใช้ผลิตอุปกรณ์จริง

    แม้โมเดลนี้จะคล้ายกับ Microsoft ในแง่ของการออกใบอนุญาตซอฟต์แวร์ (licensing) แต่ก็มีความเป็น Apple ในแง่ของการควบคุมประสบการณ์ผู้ใช้และการออกแบบระบบแบบปิด

    โลโก้ Macrohard ถูกเพนต์ไว้บนหลังคาของคลัสเตอร์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Colossus II ของ xAI ที่เมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของโปรเจกต์นี้

    แม้ยังไม่มีรายละเอียดเชิงเทคนิคมากนัก แต่การที่ Musk ใช้คำว่า “profoundly impactful at an immense scale” ทำให้หลายฝ่ายคาดว่า Macrohard อาจเป็นก้าวสำคัญในการขยาย xAI จากโมเดล AI ไปสู่ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์มเต็มรูปแบบ

    Elon Musk เปิดตัวโปรเจกต์ “Macrohard” ภายใต้ xAI
    ตั้งเป้าสร้างแพลตฟอร์ม AI โดยไม่ผลิตฮาร์ดแวร์เอง

    แนวคิดคล้าย Apple + Microsoft
    ออกแบบซอฟต์แวร์และกำหนดมาตรฐานให้บริษัทอื่นผลิต

    เป้าหมายคือ “จำลองบริษัทซอฟต์แวร์ทั้งบริษัทด้วย AI agents”
    ใช้ AI เขียนและปรับปรุงซอฟต์แวร์ระดับ production

    ใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Colossus II เป็นโครงสร้างพื้นฐาน
    โลโก้ Macrohard ถูกเพนต์ไว้บนหลังคาคลัสเตอร์

    ยังไม่มีการเปิดรับสมัครงานภายนอกมากนัก
    คาดว่าส่วนใหญ่พัฒนาโดยทีมภายในและ AI agents

    https://www.techradar.com/pro/much-like-apple-elon-musks-macrohard-project-will-take-a-leaf-out-of-cupertinos-book-as-it-takes-on-microsoft-outsource-the-physical-produce-the-intangible
    🧠 “Macrohard: โปรเจกต์ใหม่จาก Elon Musk ที่ผสานแนวคิด Apple + Microsoft” — เมื่อ xAI ตั้งเป้าสร้างแพลตฟอร์ม AI แบบครบวงจร โดยไม่ผลิตฮาร์ดแวร์เอง Elon Musk เปิดตัวโปรเจกต์ใหม่ชื่อ “Macrohard” ภายใต้บริษัท xAI โดยตั้งเป้าสร้างแพลตฟอร์ม AI ที่ “สามารถทำทุกอย่าง ยกเว้นผลิตฮาร์ดแวร์เอง” ซึ่งสะท้อนแนวคิดของ Apple ที่จ้างบริษัทอื่นผลิต iPhone และ Microsoft ที่เน้นการออกแบบซอฟต์แวร์และกำหนดมาตรฐาน Musk อธิบายว่า Macrohard จะเป็นการ “จำลองบริษัทซอฟต์แวร์ทั้งบริษัทด้วย AI agents” โดยไม่ต้องมีโรงงานผลิตของตัวเอง แต่จะกำหนดมาตรฐาน, ระบบปฏิบัติการ, และซอฟต์แวร์ให้บริษัทอื่นนำไปใช้ผลิตอุปกรณ์จริง แม้โมเดลนี้จะคล้ายกับ Microsoft ในแง่ของการออกใบอนุญาตซอฟต์แวร์ (licensing) แต่ก็มีความเป็น Apple ในแง่ของการควบคุมประสบการณ์ผู้ใช้และการออกแบบระบบแบบปิด โลโก้ Macrohard ถูกเพนต์ไว้บนหลังคาของคลัสเตอร์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Colossus II ของ xAI ที่เมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของโปรเจกต์นี้ แม้ยังไม่มีรายละเอียดเชิงเทคนิคมากนัก แต่การที่ Musk ใช้คำว่า “profoundly impactful at an immense scale” ทำให้หลายฝ่ายคาดว่า Macrohard อาจเป็นก้าวสำคัญในการขยาย xAI จากโมเดล AI ไปสู่ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์มเต็มรูปแบบ ✅ Elon Musk เปิดตัวโปรเจกต์ “Macrohard” ภายใต้ xAI ➡️ ตั้งเป้าสร้างแพลตฟอร์ม AI โดยไม่ผลิตฮาร์ดแวร์เอง ✅ แนวคิดคล้าย Apple + Microsoft ➡️ ออกแบบซอฟต์แวร์และกำหนดมาตรฐานให้บริษัทอื่นผลิต ✅ เป้าหมายคือ “จำลองบริษัทซอฟต์แวร์ทั้งบริษัทด้วย AI agents” ➡️ ใช้ AI เขียนและปรับปรุงซอฟต์แวร์ระดับ production ✅ ใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Colossus II เป็นโครงสร้างพื้นฐาน ➡️ โลโก้ Macrohard ถูกเพนต์ไว้บนหลังคาคลัสเตอร์ ✅ ยังไม่มีการเปิดรับสมัครงานภายนอกมากนัก ➡️ คาดว่าส่วนใหญ่พัฒนาโดยทีมภายในและ AI agents https://www.techradar.com/pro/much-like-apple-elon-musks-macrohard-project-will-take-a-leaf-out-of-cupertinos-book-as-it-takes-on-microsoft-outsource-the-physical-produce-the-intangible
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • “NVIDIA และ TSMC ผลิตแผ่นเวเฟอร์ Blackwell ครั้งแรกในสหรัฐฯ — แต่ยังต้องส่งกลับไต้หวันเพื่อประกอบขั้นสุดท้าย”

    NVIDIA และ TSMC ประกาศความสำเร็จในการผลิตเวเฟอร์ Blackwell รุ่นแรกที่โรงงาน Fab 21 ในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา โดยใช้กระบวนการผลิตแบบ 4N ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับ 4 นาโนเมตรที่ปรับแต่งเฉพาะสำหรับ NVIDIA

    Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA กล่าวว่านี่คือ “ช่วงเวลาประวัติศาสตร์” เพราะเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่ชิปสำคัญระดับโลกถูกผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการนำอุตสาหกรรมกลับคืนสู่ประเทศผ่านนโยบาย reindustrialization และ CHIPS Act

    อย่างไรก็ตาม แม้เวเฟอร์จะผลิตในสหรัฐฯ แต่ขั้นตอนการประกอบขั้นสูง (advanced packaging) ยังต้องดำเนินการที่โรงงาน TSMC ในไต้หวัน โดยใช้เทคโนโลยี CoWoS-L เพื่อเชื่อมต่อกับหน่วยความจำ HBM3E ซึ่งทำให้ชิป Blackwell B300 ที่เสร็จสมบูรณ์ยังต้องพึ่งพาการผลิตนอกประเทศ

    การผลิตในสหรัฐฯ มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และอาจหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าหากมีการบังคับใช้ในอนาคต

    TSMC และ Amkor กำลังสร้างโรงงานประกอบขั้นสูงในสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเปิดใช้งานได้ภายในสิ้นทศวรรษนี้ เช่นเดียวกับ Micron และ SK hynix ที่กำลังลงทุนในการผลิต DRAM และ HBM packaging ในสหรัฐฯ เพื่อเสริมความมั่นคงของ supply chain

    NVIDIA และ TSMC ผลิตเวเฟอร์ Blackwell รุ่นแรกในสหรัฐฯ ที่โรงงาน Fab 21
    ใช้กระบวนการผลิต 4N ที่ปรับแต่งเฉพาะสำหรับ NVIDIA

    Jensen Huang ระบุว่าเป็น “ช่วงเวลาประวัติศาสตร์” สำหรับอุตสาหกรรมสหรัฐฯ
    สะท้อนนโยบาย reindustrialization และ CHIPS Act

    เวเฟอร์ต้องส่งกลับไต้หวันเพื่อประกอบขั้นสูงด้วย CoWoS-L และ HBM3E
    ทำให้ชิปที่เสร็จสมบูรณ์ยังต้องพึ่งพาการผลิตนอกประเทศ

    การผลิตในสหรัฐฯ ช่วยลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์
    และอาจหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าหากมีการบังคับใช้

    TSMC และ Amkor กำลังสร้างโรงงานประกอบขั้นสูงในสหรัฐฯ
    คาดว่าจะเปิดใช้งานได้ภายในสิ้นทศวรรษ

    Micron และ SK hynix ลงทุนใน DRAM และ HBM packaging ในสหรัฐฯ
    เสริมความมั่นคงของ supply chain ด้านหน่วยความจำ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/nvidia-and-tsmc-produce-the-first-blackwell-wafer-made-in-the-u-s-chips-still-need-to-be-shipped-back-to-taiwan-to-complete-the-final-product
    🇺🇸 “NVIDIA และ TSMC ผลิตแผ่นเวเฟอร์ Blackwell ครั้งแรกในสหรัฐฯ — แต่ยังต้องส่งกลับไต้หวันเพื่อประกอบขั้นสุดท้าย” NVIDIA และ TSMC ประกาศความสำเร็จในการผลิตเวเฟอร์ Blackwell รุ่นแรกที่โรงงาน Fab 21 ในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา โดยใช้กระบวนการผลิตแบบ 4N ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับ 4 นาโนเมตรที่ปรับแต่งเฉพาะสำหรับ NVIDIA Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA กล่าวว่านี่คือ “ช่วงเวลาประวัติศาสตร์” เพราะเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่ชิปสำคัญระดับโลกถูกผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการนำอุตสาหกรรมกลับคืนสู่ประเทศผ่านนโยบาย reindustrialization และ CHIPS Act อย่างไรก็ตาม แม้เวเฟอร์จะผลิตในสหรัฐฯ แต่ขั้นตอนการประกอบขั้นสูง (advanced packaging) ยังต้องดำเนินการที่โรงงาน TSMC ในไต้หวัน โดยใช้เทคโนโลยี CoWoS-L เพื่อเชื่อมต่อกับหน่วยความจำ HBM3E ซึ่งทำให้ชิป Blackwell B300 ที่เสร็จสมบูรณ์ยังต้องพึ่งพาการผลิตนอกประเทศ การผลิตในสหรัฐฯ มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และอาจหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าหากมีการบังคับใช้ในอนาคต TSMC และ Amkor กำลังสร้างโรงงานประกอบขั้นสูงในสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเปิดใช้งานได้ภายในสิ้นทศวรรษนี้ เช่นเดียวกับ Micron และ SK hynix ที่กำลังลงทุนในการผลิต DRAM และ HBM packaging ในสหรัฐฯ เพื่อเสริมความมั่นคงของ supply chain ✅ NVIDIA และ TSMC ผลิตเวเฟอร์ Blackwell รุ่นแรกในสหรัฐฯ ที่โรงงาน Fab 21 ➡️ ใช้กระบวนการผลิต 4N ที่ปรับแต่งเฉพาะสำหรับ NVIDIA ✅ Jensen Huang ระบุว่าเป็น “ช่วงเวลาประวัติศาสตร์” สำหรับอุตสาหกรรมสหรัฐฯ ➡️ สะท้อนนโยบาย reindustrialization และ CHIPS Act ✅ เวเฟอร์ต้องส่งกลับไต้หวันเพื่อประกอบขั้นสูงด้วย CoWoS-L และ HBM3E ➡️ ทำให้ชิปที่เสร็จสมบูรณ์ยังต้องพึ่งพาการผลิตนอกประเทศ ✅ การผลิตในสหรัฐฯ ช่วยลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ➡️ และอาจหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าหากมีการบังคับใช้ ✅ TSMC และ Amkor กำลังสร้างโรงงานประกอบขั้นสูงในสหรัฐฯ ➡️ คาดว่าจะเปิดใช้งานได้ภายในสิ้นทศวรรษ ✅ Micron และ SK hynix ลงทุนใน DRAM และ HBM packaging ในสหรัฐฯ ➡️ เสริมความมั่นคงของ supply chain ด้านหน่วยความจำ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/nvidia-and-tsmc-produce-the-first-blackwell-wafer-made-in-the-u-s-chips-still-need-to-be-shipped-back-to-taiwan-to-complete-the-final-product
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • 555,ติดตามเรื่องนี้มันบันเทิงจริงๆนะ,ที่แน่ๆมีฝั่งพูดเท็จแน่นอน,เอาเหรียญที่เป็นประเด็นไปเข้าเครื่อง1,600Xเลย,ใช้สายวิทย์ร่วมด้วย,ตำรวจพิสูจน์ศพยังใช้สายวิทย์เทคโนโลยีร่วมด้วย,ระงับการใช้กล้อง10Xส่อไว้ก่อนก็ได้,ใช้แชทAIร่วมด้วยวิเคราะห์อีกส่วนเสริม บทสรุปเบื้องต้นให้แก่คนติดตามยุคนี้ดีทั้งสองฝ่ายแน่นอน,ฝ่ายบอกว่าแท้ก็จะได้คำตอบสายวิทย์ ฝ่ายบอกพระเสริมพระแทรกพระทะเพิ่มพระปลอมพระเก๊ก็จะได้คำตอบสายวิทย์ร่วมด้วย คนติดตามได้ความรู้เพิ่มด้วย.โหนกระแสต้องเชิญไปหมดเลย เครื่องตรวจด้วย,โรงงานปั้มด้วย สายใต้ขึ้นมาเคลียร์ด้วย เอาทั้งห้องนั่งเคลียร์เลย อย่ากั๊กกัน ต้องเชิญมาออกหาข้อสรุปจบจริงๆ.

    https://youtube.com/watch?v=JneZpAs5cjU&si=OqzF5YDKKGx162y5
    555,ติดตามเรื่องนี้มันบันเทิงจริงๆนะ,ที่แน่ๆมีฝั่งพูดเท็จแน่นอน,เอาเหรียญที่เป็นประเด็นไปเข้าเครื่อง1,600Xเลย,ใช้สายวิทย์ร่วมด้วย,ตำรวจพิสูจน์ศพยังใช้สายวิทย์เทคโนโลยีร่วมด้วย,ระงับการใช้กล้อง10Xส่อไว้ก่อนก็ได้,ใช้แชทAIร่วมด้วยวิเคราะห์อีกส่วนเสริม บทสรุปเบื้องต้นให้แก่คนติดตามยุคนี้ดีทั้งสองฝ่ายแน่นอน,ฝ่ายบอกว่าแท้ก็จะได้คำตอบสายวิทย์ ฝ่ายบอกพระเสริมพระแทรกพระทะเพิ่มพระปลอมพระเก๊ก็จะได้คำตอบสายวิทย์ร่วมด้วย คนติดตามได้ความรู้เพิ่มด้วย.โหนกระแสต้องเชิญไปหมดเลย เครื่องตรวจด้วย,โรงงานปั้มด้วย สายใต้ขึ้นมาเคลียร์ด้วย เอาทั้งห้องนั่งเคลียร์เลย อย่ากั๊กกัน ต้องเชิญมาออกหาข้อสรุปจบจริงๆ. https://youtube.com/watch?v=JneZpAs5cjU&si=OqzF5YDKKGx162y5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว


  • มาตราฐานสากลของวงการพระเครื่องไทย ไม่มีประวัติที่ชัดเจนในพระดังๆ วัดไม่มีบันทึก คนสร้างโรงงานปั้มค้ำประกันไม่ได้ ไม่เป็นทางการ ทั้งที่พระดัง พระมีชื่อเสียง สร้างแต่ละครั้งมีวัตถุประสงค์มีบันทึกจัดสร้างจำนวนชัดเจน ทองคำ เงิน ทองแดง อาปาก้าหรือใดๆวัดและคนสร้างจะบันทึกชัดเจนแะใช้พิธีการจัดงานปลุกเสกเป็นตัวบอกเรื่องราวเหรียญพระนั้นอย่างเป็นทางการและถูกต้องเป็นหลักของพระดัง ผู้คนนับถือศรัทธา มิใช่พระบ้านพระไม่มีชื่อเสียงพระธรรมดา,นี้มาตราฐานสากลพระดังต้องลักษณะนี้เบื้องต้น,ตัวตัด ขอบตัดมันก๊อปกันได้จริง ,ไม่จบที่ตัวตัดหรอก,วงการพระเครื่องต้องสร้างมาตราฐานสากลของวงการพระเครื่องดังๆในไทยให้เป็นหลักวางไว้แก่การยอมรับเป็นแนวทางที่ดีแก่คนรุ่นต่อๆไปรุ่นลูกรุ่นหลานตน มิใช่จบที่รุ่นตนเอง ทำกาก ทำกระจอกไร้มาตราฐานสากลรองรับ เอาเหรียญเข้าเครื่องตรวจมวลสาร ตี%ทองคำ เทียบกับทองคำรุ่นผ่าปากยุคนั้นก็ได้ ขอบตัดก๊อปจากตัวจริงของขอบตัดอาปาก้าก็ได้อีก เซียนทำขอบตัดใช่ว่าไม่มีแบบเซียนส่องพระ,ถ้าไม่มีประวัติการสร้างจากทางวัดจากทางโรงงานปั้มจากทางตระกูลที่รับผิดชอบสร้างเหรียญในงานพิธีต้องตีเป็นเก๊เป็นปลอมเป็นเสริมเป็นแทรกเป็นรองเป็นเพิ่มเติมทีหลังก่อน,ส่วนประเด็นจะซื้อขายพระเสริมพระแทรกพระเพิ่มเติมพระเก๊พระปลอมทีหลังก็อีกเรื่องเป็นความเต็มใจในการซื้อขายพระเก๊พระปลอมกันเองทีหลัง,แต่มาตราฐานสากลในวงการพระเครื่องพระดังต้องวางไว้เป็นแบบอย่างให้คนรุ่นต่อไปพิจารณาทำตามว่าดีควรถูกต้องเหมาะควรมั้ย..

    https://youtube.com/watch?v=7M18B3MzvNU&si=wbJnbqF2DiFjd196
    มาตราฐานสากลของวงการพระเครื่องไทย ไม่มีประวัติที่ชัดเจนในพระดังๆ วัดไม่มีบันทึก คนสร้างโรงงานปั้มค้ำประกันไม่ได้ ไม่เป็นทางการ ทั้งที่พระดัง พระมีชื่อเสียง สร้างแต่ละครั้งมีวัตถุประสงค์มีบันทึกจัดสร้างจำนวนชัดเจน ทองคำ เงิน ทองแดง อาปาก้าหรือใดๆวัดและคนสร้างจะบันทึกชัดเจนแะใช้พิธีการจัดงานปลุกเสกเป็นตัวบอกเรื่องราวเหรียญพระนั้นอย่างเป็นทางการและถูกต้องเป็นหลักของพระดัง ผู้คนนับถือศรัทธา มิใช่พระบ้านพระไม่มีชื่อเสียงพระธรรมดา,นี้มาตราฐานสากลพระดังต้องลักษณะนี้เบื้องต้น,ตัวตัด ขอบตัดมันก๊อปกันได้จริง ,ไม่จบที่ตัวตัดหรอก,วงการพระเครื่องต้องสร้างมาตราฐานสากลของวงการพระเครื่องดังๆในไทยให้เป็นหลักวางไว้แก่การยอมรับเป็นแนวทางที่ดีแก่คนรุ่นต่อๆไปรุ่นลูกรุ่นหลานตน มิใช่จบที่รุ่นตนเอง ทำกาก ทำกระจอกไร้มาตราฐานสากลรองรับ เอาเหรียญเข้าเครื่องตรวจมวลสาร ตี%ทองคำ เทียบกับทองคำรุ่นผ่าปากยุคนั้นก็ได้ ขอบตัดก๊อปจากตัวจริงของขอบตัดอาปาก้าก็ได้อีก เซียนทำขอบตัดใช่ว่าไม่มีแบบเซียนส่องพระ,ถ้าไม่มีประวัติการสร้างจากทางวัดจากทางโรงงานปั้มจากทางตระกูลที่รับผิดชอบสร้างเหรียญในงานพิธีต้องตีเป็นเก๊เป็นปลอมเป็นเสริมเป็นแทรกเป็นรองเป็นเพิ่มเติมทีหลังก่อน,ส่วนประเด็นจะซื้อขายพระเสริมพระแทรกพระเพิ่มเติมพระเก๊พระปลอมทีหลังก็อีกเรื่องเป็นความเต็มใจในการซื้อขายพระเก๊พระปลอมกันเองทีหลัง,แต่มาตราฐานสากลในวงการพระเครื่องพระดังต้องวางไว้เป็นแบบอย่างให้คนรุ่นต่อไปพิจารณาทำตามว่าดีควรถูกต้องเหมาะควรมั้ย.. https://youtube.com/watch?v=7M18B3MzvNU&si=wbJnbqF2DiFjd196
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • “TSMC เร่งแผนผลิตชิป 2nm ในแอริโซนา พร้อมขยายโรงงานเกินงบ $165 พันล้าน” — เมื่อดีมานด์ AI ดันโรงงานสหรัฐฯ สู่ระดับ Gigafab

    TSMC ประกาศเร่งแผนการผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตร (2nm) ที่โรงงานในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา โดยอ้างอิงจากความต้องการชิป AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากลูกค้าในสหรัฐฯ เช่น Apple, Nvidia และ Broadcom

    เดิมที TSMC คาดว่าจะเริ่มผลิตชิป 2nm ในสหรัฐฯ ได้ภายในปี 2030 แต่ตอนนี้มีแนวโน้มว่าจะเลื่อนขึ้นมาเร็วขึ้นราว 1 ปี โดยยังไม่ระบุไทม์ไลน์ที่แน่นอน

    นอกจากนี้ C.C. Wei ซีอีโอของ TSMC ยังเผยว่าบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินเพิ่มเติมใกล้กับโรงงานเดิม เพื่อขยายเป็น “Gigafab cluster” ที่สามารถผลิตเวเฟอร์ 12 นิ้วได้ถึง 100,000 แผ่นต่อเดือน พร้อมมีระบบบรรจุภัณฑ์และทดสอบชิปในพื้นที่เดียวกัน

    TSMC ยังลงทุนในโครงการฝึกงานในแอริโซนาเพื่อสร้างบุคลากรในท้องถิ่น โดยเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมจาก 130 เป็น 200 คน และมองว่าแผนนี้จะช่วยสร้างระบบนิเวศด้านเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ ได้อย่างยั่งยืน

    TSMC เร่งแผนผลิตชิป 2nm ในโรงงานแอริโซนา
    เดิมคาดเริ่มผลิตปี 2030 แต่จะเลื่อนขึ้นราว 1 ปี

    ความต้องการชิป AI จากลูกค้าในสหรัฐฯ เป็นแรงผลักดันหลัก
    ลูกค้าหลักได้แก่ Apple, Nvidia, Broadcom

    กำลังเจรจาซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อขยายโรงงาน
    เป้าหมายคือสร้าง “Gigafab cluster” ที่ผลิตได้ 100,000 เวเฟอร์/เดือน

    จะมีระบบบรรจุภัณฑ์และทดสอบชิปในพื้นที่เดียวกัน
    ลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานต่างประเทศ

    โครงการฝึกงานในแอริโซนาเพิ่มจาก 130 เป็น 200 คน
    สร้างบุคลากรท้องถิ่นรองรับการขยายโรงงาน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/tsmc-moves-up-2nm-production-plans-in-arizona-ceo-also-hints-at-further-site-expansion-beyond-usd165-billion-commitment
    🏭 “TSMC เร่งแผนผลิตชิป 2nm ในแอริโซนา พร้อมขยายโรงงานเกินงบ $165 พันล้าน” — เมื่อดีมานด์ AI ดันโรงงานสหรัฐฯ สู่ระดับ Gigafab TSMC ประกาศเร่งแผนการผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตร (2nm) ที่โรงงานในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา โดยอ้างอิงจากความต้องการชิป AI ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากลูกค้าในสหรัฐฯ เช่น Apple, Nvidia และ Broadcom เดิมที TSMC คาดว่าจะเริ่มผลิตชิป 2nm ในสหรัฐฯ ได้ภายในปี 2030 แต่ตอนนี้มีแนวโน้มว่าจะเลื่อนขึ้นมาเร็วขึ้นราว 1 ปี โดยยังไม่ระบุไทม์ไลน์ที่แน่นอน นอกจากนี้ C.C. Wei ซีอีโอของ TSMC ยังเผยว่าบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินเพิ่มเติมใกล้กับโรงงานเดิม เพื่อขยายเป็น “Gigafab cluster” ที่สามารถผลิตเวเฟอร์ 12 นิ้วได้ถึง 100,000 แผ่นต่อเดือน พร้อมมีระบบบรรจุภัณฑ์และทดสอบชิปในพื้นที่เดียวกัน TSMC ยังลงทุนในโครงการฝึกงานในแอริโซนาเพื่อสร้างบุคลากรในท้องถิ่น โดยเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมจาก 130 เป็น 200 คน และมองว่าแผนนี้จะช่วยสร้างระบบนิเวศด้านเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ ได้อย่างยั่งยืน ✅ TSMC เร่งแผนผลิตชิป 2nm ในโรงงานแอริโซนา ➡️ เดิมคาดเริ่มผลิตปี 2030 แต่จะเลื่อนขึ้นราว 1 ปี ✅ ความต้องการชิป AI จากลูกค้าในสหรัฐฯ เป็นแรงผลักดันหลัก ➡️ ลูกค้าหลักได้แก่ Apple, Nvidia, Broadcom ✅ กำลังเจรจาซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อขยายโรงงาน ➡️ เป้าหมายคือสร้าง “Gigafab cluster” ที่ผลิตได้ 100,000 เวเฟอร์/เดือน ✅ จะมีระบบบรรจุภัณฑ์และทดสอบชิปในพื้นที่เดียวกัน ➡️ ลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานต่างประเทศ ✅ โครงการฝึกงานในแอริโซนาเพิ่มจาก 130 เป็น 200 คน ➡️ สร้างบุคลากรท้องถิ่นรองรับการขยายโรงงาน https://www.tomshardware.com/tech-industry/tsmc-moves-up-2nm-production-plans-in-arizona-ceo-also-hints-at-further-site-expansion-beyond-usd165-billion-commitment
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • “TSMC ทำสถิติรายได้สูงสุดไตรมาสล่าสุด” — แรงหนุนจาก AI และ HPC ดันรายได้ทะลุ $33.1 พันล้าน

    TSMC รายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดด้วยรายได้สูงถึง $33.1 พันล้าน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของบริษัท โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากความต้องการชิปสำหรับ AI และโครงสร้างพื้นฐาน HPC ที่คิดเป็นสองในสามของรายได้ทั้งหมด

    รายได้เพิ่มขึ้น 40.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ 10.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ $14.77 พันล้าน และอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 59.5% แม้จะมีต้นทุนจากการขยายโรงงานในญี่ปุ่นและสหรัฐฯ

    TSMC เริ่มรับรู้รายได้จากชิป Apple รุ่นใหม่ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี N3P เช่น A19 และ M5-series ซึ่งใช้ใน iPhone 17 และ Mac รุ่นล่าสุด โดยเทคโนโลยีระดับ 3nm คิดเป็น 23% ของรายได้ wafer ทั้งหมด

    กลุ่ม HPC ยังคงเป็นผู้นำด้านรายได้ที่ 57% ตามด้วยสมาร์ตโฟน 30%, ยานยนต์ 5% และ IoT 5% โดย TSMC คาดว่าความต้องการชิป AI จะยังคงแข็งแกร่งไปจนถึงปี 2025

    ข้อมูลในข่าว
    TSMC รายงานรายได้ไตรมาสล่าสุดที่ $33.1 พันล้าน
    เพิ่มขึ้น 40.8% จากปีก่อน และ 10.1% จากไตรมาสก่อน
    กำไรสุทธิอยู่ที่ $14.77 พันล้าน
    อัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 59.5%
    รายได้หลักมาจากชิป AI และ HPC คิดเป็นสองในสามของรายได้
    เริ่มรับรู้รายได้จากชิป Apple รุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี N3P
    เทคโนโลยีระดับ 3nm คิดเป็น 23% ของรายได้ wafer
    กลุ่ม HPC มีสัดส่วนรายได้ 57%, สมาร์ตโฟน 30%, ยานยนต์ 5%, IoT 5%
    TSMC คาดว่าความต้องการชิป AI จะยังคงแข็งแกร่งไปจนถึงปี 2025
    มีการขยายโรงงานในญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลต่อต้นทุน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-posts-record-quarter-results-as-skyrocketing-ai-and-hpc-demand-drives-two-thirds-of-revenue-company-pulls-in-usd33-1-billion
    📈 “TSMC ทำสถิติรายได้สูงสุดไตรมาสล่าสุด” — แรงหนุนจาก AI และ HPC ดันรายได้ทะลุ $33.1 พันล้าน TSMC รายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดด้วยรายได้สูงถึง $33.1 พันล้าน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของบริษัท โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากความต้องการชิปสำหรับ AI และโครงสร้างพื้นฐาน HPC ที่คิดเป็นสองในสามของรายได้ทั้งหมด รายได้เพิ่มขึ้น 40.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ 10.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ $14.77 พันล้าน และอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 59.5% แม้จะมีต้นทุนจากการขยายโรงงานในญี่ปุ่นและสหรัฐฯ TSMC เริ่มรับรู้รายได้จากชิป Apple รุ่นใหม่ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี N3P เช่น A19 และ M5-series ซึ่งใช้ใน iPhone 17 และ Mac รุ่นล่าสุด โดยเทคโนโลยีระดับ 3nm คิดเป็น 23% ของรายได้ wafer ทั้งหมด กลุ่ม HPC ยังคงเป็นผู้นำด้านรายได้ที่ 57% ตามด้วยสมาร์ตโฟน 30%, ยานยนต์ 5% และ IoT 5% โดย TSMC คาดว่าความต้องการชิป AI จะยังคงแข็งแกร่งไปจนถึงปี 2025 ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ TSMC รายงานรายได้ไตรมาสล่าสุดที่ $33.1 พันล้าน ➡️ เพิ่มขึ้น 40.8% จากปีก่อน และ 10.1% จากไตรมาสก่อน ➡️ กำไรสุทธิอยู่ที่ $14.77 พันล้าน ➡️ อัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 59.5% ➡️ รายได้หลักมาจากชิป AI และ HPC คิดเป็นสองในสามของรายได้ ➡️ เริ่มรับรู้รายได้จากชิป Apple รุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี N3P ➡️ เทคโนโลยีระดับ 3nm คิดเป็น 23% ของรายได้ wafer ➡️ กลุ่ม HPC มีสัดส่วนรายได้ 57%, สมาร์ตโฟน 30%, ยานยนต์ 5%, IoT 5% ➡️ TSMC คาดว่าความต้องการชิป AI จะยังคงแข็งแกร่งไปจนถึงปี 2025 ➡️ มีการขยายโรงงานในญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลต่อต้นทุน https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tsmc-posts-record-quarter-results-as-skyrocketing-ai-and-hpc-demand-drives-two-thirds-of-revenue-company-pulls-in-usd33-1-billion
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • “จีนหนุน Apple เต็มที่” — Tim Cook ได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลจีนให้เดินหน้าลงทุนและดำเนินธุรกิจต่อในประเทศ

    ในช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนตึงเครียด Apple ต้องเดินเกมอย่างระมัดระวังเพื่อรักษาสมดุลระหว่างการสนับสนุนการผลิตในอเมริกาและการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานในจีน ล่าสุด Tim Cook ซีอีโอของ Apple ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลจีนในการดำเนินธุรกิจต่อในประเทศ

    Cook เดินทางไปจีนเพื่อเจรจาเรื่องการเปิดตัว iPhone 17 Air ที่ใช้ eSIM เท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ติดปัญหาด้านกฎระเบียบ แต่หลังจากพบกับรัฐมนตรีอุตสาหกรรม Li Lecheng เขาได้รับการยืนยันว่า Apple จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนอย่างเต็มที่

    นอกจากนี้ Apple ยังประกาศเพิ่มการลงทุนในจีน และ COO Sabih Khan ได้เยี่ยมชมโรงงานของ Lens Precision ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์สำคัญของกล้อง iPhone 18 ที่กำลังสร้างแรงกระเพื่อมในห่วงโซ่อุปทานทั่วเอเชีย

    แม้ Apple จะพยายามลดการพึ่งพาจีนโดยย้ายการผลิตบางส่วนไปอินเดีย แต่ยังคงต้องส่ง iPhone จากจีนไปสหรัฐฯ กว่า 9 ล้านเครื่องในปี 2026 เพราะอินเดียยังไม่สามารถผลิตได้ทันความต้องการ

    ในฝั่งสหรัฐฯ Apple ถูกบังคับให้เพิ่มการลงทุนจาก 500 เป็น 600 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างห่วงโซ่ซิลิคอนในประเทศ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ขึ้นภาษีอินเดียด้วย ทำให้ Apple ต้องวางแผนผลิตอุปกรณ์ใหม่ เช่น HomePod และกล้องรักษาความปลอดภัยในเวียดนาม เพื่อกระจายความเสี่ยง

    ข้อมูลในข่าว
    Tim Cook ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนในการดำเนินธุรกิจต่อ
    พบกับรัฐมนตรีอุตสาหกรรม Li Lecheng เพื่อเจรจาเรื่อง iPhone 17 Air
    Apple เพิ่มการลงทุนในจีน และเยี่ยมชมโรงงาน Lens Precision
    iPhone 18 มีระบบกล้องใหม่ที่ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วเอเชีย
    Apple ยังต้องส่ง iPhone จากจีนไปสหรัฐฯ กว่า 9 ล้านเครื่องในปี 2026
    อินเดียยังไม่สามารถผลิตได้ทันความต้องการ
    Apple เพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ เป็น 600 พันล้านดอลลาร์
    ทรัมป์ขึ้นภาษีอินเดีย ทำให้ Apple ต้องปรับแผน
    Apple วางแผนผลิตอุปกรณ์ใหม่ในเวียดนาม เช่น HomePod และกล้อง AI
    ใช้โรงงานของ BYD ในเวียดนามเพื่อผลิตอุปกรณ์ใหม่
    Apple พยายามกระจายความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์

    https://wccftech.com/chinas-government-just-gave-apple-its-strong-support-for-continuing-operations-in-the-country/
    🍎 “จีนหนุน Apple เต็มที่” — Tim Cook ได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลจีนให้เดินหน้าลงทุนและดำเนินธุรกิจต่อในประเทศ ในช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนตึงเครียด Apple ต้องเดินเกมอย่างระมัดระวังเพื่อรักษาสมดุลระหว่างการสนับสนุนการผลิตในอเมริกาและการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานในจีน ล่าสุด Tim Cook ซีอีโอของ Apple ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลจีนในการดำเนินธุรกิจต่อในประเทศ Cook เดินทางไปจีนเพื่อเจรจาเรื่องการเปิดตัว iPhone 17 Air ที่ใช้ eSIM เท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ติดปัญหาด้านกฎระเบียบ แต่หลังจากพบกับรัฐมนตรีอุตสาหกรรม Li Lecheng เขาได้รับการยืนยันว่า Apple จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ Apple ยังประกาศเพิ่มการลงทุนในจีน และ COO Sabih Khan ได้เยี่ยมชมโรงงานของ Lens Precision ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์สำคัญของกล้อง iPhone 18 ที่กำลังสร้างแรงกระเพื่อมในห่วงโซ่อุปทานทั่วเอเชีย แม้ Apple จะพยายามลดการพึ่งพาจีนโดยย้ายการผลิตบางส่วนไปอินเดีย แต่ยังคงต้องส่ง iPhone จากจีนไปสหรัฐฯ กว่า 9 ล้านเครื่องในปี 2026 เพราะอินเดียยังไม่สามารถผลิตได้ทันความต้องการ ในฝั่งสหรัฐฯ Apple ถูกบังคับให้เพิ่มการลงทุนจาก 500 เป็น 600 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างห่วงโซ่ซิลิคอนในประเทศ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ขึ้นภาษีอินเดียด้วย ทำให้ Apple ต้องวางแผนผลิตอุปกรณ์ใหม่ เช่น HomePod และกล้องรักษาความปลอดภัยในเวียดนาม เพื่อกระจายความเสี่ยง ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Tim Cook ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนในการดำเนินธุรกิจต่อ ➡️ พบกับรัฐมนตรีอุตสาหกรรม Li Lecheng เพื่อเจรจาเรื่อง iPhone 17 Air ➡️ Apple เพิ่มการลงทุนในจีน และเยี่ยมชมโรงงาน Lens Precision ➡️ iPhone 18 มีระบบกล้องใหม่ที่ส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วเอเชีย ➡️ Apple ยังต้องส่ง iPhone จากจีนไปสหรัฐฯ กว่า 9 ล้านเครื่องในปี 2026 ➡️ อินเดียยังไม่สามารถผลิตได้ทันความต้องการ ➡️ Apple เพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ เป็น 600 พันล้านดอลลาร์ ➡️ ทรัมป์ขึ้นภาษีอินเดีย ทำให้ Apple ต้องปรับแผน ➡️ Apple วางแผนผลิตอุปกรณ์ใหม่ในเวียดนาม เช่น HomePod และกล้อง AI ➡️ ใช้โรงงานของ BYD ในเวียดนามเพื่อผลิตอุปกรณ์ใหม่ ➡️ Apple พยายามกระจายความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ https://wccftech.com/chinas-government-just-gave-apple-its-strong-support-for-continuing-operations-in-the-country/
    WCCFTECH.COM
    China's Government Just Gave Apple Its Strong Support For Continuing Operations In The Country
    According to Global Times' interpretation, China just gave a strong nod to Apple's domestic operations in the country.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Silicon Box ส่งมอบชิปครบ 100 ล้านชิ้น” — ยืนยันความพร้อมของเทคโนโลยี Panel-Level Packaging สำหรับยุค AI และ HPC

    Silicon Box บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการบรรจุภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบขั้นสูง ประกาศความสำเร็จในการผลิตและส่งมอบชิปครบ 100 ล้านชิ้นจากโรงงานหลักในสิงคโปร์ ซึ่งใช้เทคโนโลยี Panel-Level Packaging (PLP) ที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก

    PLP เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถรวมชิปหลายตัว (chiplets) เข้าด้วยกันบนแผงขนาดใหญ่ (panel) แทนที่จะใช้เวเฟอร์แบบดั้งเดิม ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และรองรับการผลิตในปริมาณมาก เหมาะอย่างยิ่งกับความต้องการของอุตสาหกรรม AI, การประมวลผลสมรรถนะสูง (HPC), ยานยนต์ และหุ่นยนต์

    โรงงานของ Silicon Box ในสิงคโปร์เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในปลายปี 2023 และสามารถทำลายสถิติเดิมของบริษัทในด้านอัตราผลิตสำเร็จ (yield) ที่เคยอยู่ที่ 99.7% ในระดับเวเฟอร์ โดยตอนนี้สามารถรักษาระดับ yield ที่สูงมากแม้ในระดับ panel ซึ่งใหญ่และซับซ้อนกว่า

    บริษัทกำลังขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนสร้างโรงงานแห่งที่สองในเมืองโนวารา ประเทศอิตาลี ซึ่งจะเริ่มผลิตในปี 2028 และมีขนาดใหญ่กว่าสิงคโปร์ พร้อมระบบทดสอบภายในประเทศยุโรป

    Silicon Box ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001, 14001 และ 45001 ซึ่งครอบคลุมคุณภาพ ความยั่งยืน และความปลอดภัยของพนักงาน

    ข้อมูลในข่าว
    Silicon Box ส่งมอบชิปครบ 100 ล้านชิ้นจากโรงงานในสิงคโปร์
    ใช้เทคโนโลยี Panel-Level Packaging (PLP) สำหรับการรวม chiplets
    PLP ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และรองรับการผลิตจำนวนมาก
    โรงงานในสิงคโปร์เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ปลายปี 2023
    อัตราผลิตสำเร็จ (yield) สูงกว่า 99.7% แม้ในระดับ panel
    ได้รับการรับรอง ISO 9001, 14001 และ 45001
    แผนสร้างโรงงานแห่งที่สองในอิตาลี เริ่มผลิตปี 2028
    โรงงานใหม่จะมีระบบทดสอบภายในยุโรป และรองรับอุตสาหกรรม AI, HPC, ยานยนต์, หุ่นยนต์
    เป็นบริษัทอิสระรายเดียวที่สามารถผลิต chiplet ที่ระดับ panel ได้ในปริมาณมาก

    https://www.techpowerup.com/341914/silicon-box-ships-100m-units-proves-advanced-panel-level-packaging-ready-for-ai-hpc-era
    📦 “Silicon Box ส่งมอบชิปครบ 100 ล้านชิ้น” — ยืนยันความพร้อมของเทคโนโลยี Panel-Level Packaging สำหรับยุค AI และ HPC Silicon Box บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการบรรจุภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบขั้นสูง ประกาศความสำเร็จในการผลิตและส่งมอบชิปครบ 100 ล้านชิ้นจากโรงงานหลักในสิงคโปร์ ซึ่งใช้เทคโนโลยี Panel-Level Packaging (PLP) ที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก PLP เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถรวมชิปหลายตัว (chiplets) เข้าด้วยกันบนแผงขนาดใหญ่ (panel) แทนที่จะใช้เวเฟอร์แบบดั้งเดิม ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และรองรับการผลิตในปริมาณมาก เหมาะอย่างยิ่งกับความต้องการของอุตสาหกรรม AI, การประมวลผลสมรรถนะสูง (HPC), ยานยนต์ และหุ่นยนต์ โรงงานของ Silicon Box ในสิงคโปร์เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในปลายปี 2023 และสามารถทำลายสถิติเดิมของบริษัทในด้านอัตราผลิตสำเร็จ (yield) ที่เคยอยู่ที่ 99.7% ในระดับเวเฟอร์ โดยตอนนี้สามารถรักษาระดับ yield ที่สูงมากแม้ในระดับ panel ซึ่งใหญ่และซับซ้อนกว่า บริษัทกำลังขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนสร้างโรงงานแห่งที่สองในเมืองโนวารา ประเทศอิตาลี ซึ่งจะเริ่มผลิตในปี 2028 และมีขนาดใหญ่กว่าสิงคโปร์ พร้อมระบบทดสอบภายในประเทศยุโรป Silicon Box ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001, 14001 และ 45001 ซึ่งครอบคลุมคุณภาพ ความยั่งยืน และความปลอดภัยของพนักงาน ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Silicon Box ส่งมอบชิปครบ 100 ล้านชิ้นจากโรงงานในสิงคโปร์ ➡️ ใช้เทคโนโลยี Panel-Level Packaging (PLP) สำหรับการรวม chiplets ➡️ PLP ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และรองรับการผลิตจำนวนมาก ➡️ โรงงานในสิงคโปร์เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ปลายปี 2023 ➡️ อัตราผลิตสำเร็จ (yield) สูงกว่า 99.7% แม้ในระดับ panel ➡️ ได้รับการรับรอง ISO 9001, 14001 และ 45001 ➡️ แผนสร้างโรงงานแห่งที่สองในอิตาลี เริ่มผลิตปี 2028 ➡️ โรงงานใหม่จะมีระบบทดสอบภายในยุโรป และรองรับอุตสาหกรรม AI, HPC, ยานยนต์, หุ่นยนต์ ➡️ เป็นบริษัทอิสระรายเดียวที่สามารถผลิต chiplet ที่ระดับ panel ได้ในปริมาณมาก https://www.techpowerup.com/341914/silicon-box-ships-100m-units-proves-advanced-panel-level-packaging-ready-for-ai-hpc-era
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Silicon Box Ships 100M Units, Proves Advanced Panel-Level Packaging Ready for AI, HPC era
    Silicon Box, a global leader in chiplet integration and advanced semiconductor packaging, announced it has shipped 100-million-units from its flagship factory in Singapore's Tampines Wafer Park. The state-of-the-art facility, which began mass production in late 2023, produces advanced panel-level pa...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI Agents: อัจฉริยะที่น่าทึ่ง หรือภัยเงียบที่ควบคุมไม่ได้?” — เมื่อผู้ช่วยดิจิทัลกลายเป็นผู้ตัดสินใจแทนมนุษย์

    บทความจาก The Star เปิดเผยว่า ปี 2026 กำลังจะกลายเป็น “ปีแห่ง AI Agents” — ระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถวางแผนหลายขั้นตอน เข้าถึงบริการดิจิทัล และตัดสินใจแทนผู้ใช้ได้โดยอัตโนมัติ ต่างจากแชตบอทหรือผู้ช่วยเสียงทั่วไปที่แค่ตอบคำถามหรือทำตามคำสั่ง

    ผู้พัฒนาเช่น Amazon, Microsoft, Google และ OpenAI ต่างเร่งสร้าง AI Agents ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้เกือบทุกอย่าง เช่น สั่งซื้อของออนไลน์ จัดการงาน HR และ IT หรือแม้แต่โทรหาลูกค้าเพื่อเปลี่ยนสินค้าให้โดยไม่ต้องมีมนุษย์เกี่ยวข้อง

    Marc Benioff จาก Salesforce เรียกสิ่งนี้ว่า “โมเดลแรงงานใหม่” และคาดว่าจะมีการสร้าง AI Agents กว่า 1 พันล้านตัวภายในปี 2026 ขณะที่ Jensen Huang จาก NVIDIA เชื่อว่าแผนก HR จะรวมเข้ากับ IT เพราะ AI จะจัดการทุกอย่างได้เอง

    แต่เสียงเตือนจากนักวิจัยด้านจริยธรรม AI ก็เริ่มดังขึ้น Meredith Whittaker จาก Signal เตือนว่า AI Agents ต้องการสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างมหาศาล เช่น ปฏิทิน บัตรเครดิต และบัญชีอีเมล โดยไม่ต้องขออนุญาตทุกครั้ง ซึ่งเป็นช่องโหว่ใหญ่ด้านความเป็นส่วนตัว

    Yoshua Bengio และ Margaret Mitchell นักวิจัย AI ชื่อดัง เตือนว่า หากปล่อยให้ AI Agents ทำงานโดยไม่มีการควบคุม อาจนำไปสู่การสูญเสียอำนาจของมนุษย์อย่างถาวร และเปิดช่องให้ผู้ไม่หวังดีใช้ระบบเหล่านี้โจมตีหรือสอดแนม

    ตัวอย่าง AI Agents ที่มีอยู่แล้ว:
    Google: “Project Mariner” ใช้ Gemini 2.0 ทำงานในเบราว์เซอร์แทนมนุษย์
    Salesforce: โทรหาลูกค้าอัตโนมัติเพื่อเปลี่ยนสินค้า
    DeepL: ใช้ในระบบจัดการบทความ
    Microsoft: “Factory Operations Agent” สำหรับปรับปรุงกระบวนการในโรงงาน
    Amazon: พัฒนา Alexa ให้รู้จักนิสัยและตารางชีวิตของผู้ใช้
    Parloa: AI โทรหาลูกค้าเพื่อเสนออัปเกรดเที่ยวบิน

    ข้อมูลในข่าว
    AI Agents สามารถวางแผนหลายขั้นตอนและตัดสินใจแทนผู้ใช้ได้
    ต่างจากแชตบอททั่วไปที่ทำงานแบบตอบโต้
    Amazon, Microsoft, Google, OpenAI และ Salesforce กำลังพัฒนา AI Agents
    Salesforce คาดว่าจะมี AI Agents กว่า 1 พันล้านตัวภายในปี 2026
    AI Agents สามารถจัดการงาน HR, IT และบริการลูกค้าได้
    Google ใช้ Gemini 2.0 ใน “Project Mariner” เพื่อทำงานในเบราว์เซอร์
    DeepL มี AI Agent ที่ทำงานในระบบจัดการบทความ
    Microsoft มี “Factory Operations Agent” สำหรับโรงงาน
    Amazon พัฒนา Alexa ให้รู้จักนิสัยและตารางชีวิตของผู้ใช้
    Parloa มี AI ที่โทรหาลูกค้าเพื่อเสนออัปเกรดเที่ยวบิน

    คำเตือนจากข้อมูลข่าว
    AI Agents ต้องการสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวจำนวนมาก
    อาจเข้าถึงบัตรเครดิต ปฏิทิน และอีเมลโดยไม่ขออนุญาตทุกครั้ง
    เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหรือสอดแนมจากผู้ไม่หวังดี
    หากไม่มีการควบคุม อาจนำไปสู่การสูญเสียอำนาจของมนุษย์
    การใช้ AI Agents โดยไม่เข้าใจความเสี่ยง อาจสร้างผลกระทบต่อความปลอดภัยสาธารณะ
    นักวิจัยเตือนว่า AI Agents อาจกลายเป็นภัยระดับ “catastrophic” หากปล่อยให้เติบโตโดยไม่มีกรอบ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/16/incredibly-dangerous-or-incredibly-useful-the-rise-of-ai-agents
    🤖 “AI Agents: อัจฉริยะที่น่าทึ่ง หรือภัยเงียบที่ควบคุมไม่ได้?” — เมื่อผู้ช่วยดิจิทัลกลายเป็นผู้ตัดสินใจแทนมนุษย์ บทความจาก The Star เปิดเผยว่า ปี 2026 กำลังจะกลายเป็น “ปีแห่ง AI Agents” — ระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถวางแผนหลายขั้นตอน เข้าถึงบริการดิจิทัล และตัดสินใจแทนผู้ใช้ได้โดยอัตโนมัติ ต่างจากแชตบอทหรือผู้ช่วยเสียงทั่วไปที่แค่ตอบคำถามหรือทำตามคำสั่ง ผู้พัฒนาเช่น Amazon, Microsoft, Google และ OpenAI ต่างเร่งสร้าง AI Agents ที่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้เกือบทุกอย่าง เช่น สั่งซื้อของออนไลน์ จัดการงาน HR และ IT หรือแม้แต่โทรหาลูกค้าเพื่อเปลี่ยนสินค้าให้โดยไม่ต้องมีมนุษย์เกี่ยวข้อง Marc Benioff จาก Salesforce เรียกสิ่งนี้ว่า “โมเดลแรงงานใหม่” และคาดว่าจะมีการสร้าง AI Agents กว่า 1 พันล้านตัวภายในปี 2026 ขณะที่ Jensen Huang จาก NVIDIA เชื่อว่าแผนก HR จะรวมเข้ากับ IT เพราะ AI จะจัดการทุกอย่างได้เอง แต่เสียงเตือนจากนักวิจัยด้านจริยธรรม AI ก็เริ่มดังขึ้น Meredith Whittaker จาก Signal เตือนว่า AI Agents ต้องการสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างมหาศาล เช่น ปฏิทิน บัตรเครดิต และบัญชีอีเมล โดยไม่ต้องขออนุญาตทุกครั้ง ซึ่งเป็นช่องโหว่ใหญ่ด้านความเป็นส่วนตัว Yoshua Bengio และ Margaret Mitchell นักวิจัย AI ชื่อดัง เตือนว่า หากปล่อยให้ AI Agents ทำงานโดยไม่มีการควบคุม อาจนำไปสู่การสูญเสียอำนาจของมนุษย์อย่างถาวร และเปิดช่องให้ผู้ไม่หวังดีใช้ระบบเหล่านี้โจมตีหรือสอดแนม ตัวอย่าง AI Agents ที่มีอยู่แล้ว: ⭐ Google: “Project Mariner” ใช้ Gemini 2.0 ทำงานในเบราว์เซอร์แทนมนุษย์ ⭐ Salesforce: โทรหาลูกค้าอัตโนมัติเพื่อเปลี่ยนสินค้า ⭐ DeepL: ใช้ในระบบจัดการบทความ ⭐ Microsoft: “Factory Operations Agent” สำหรับปรับปรุงกระบวนการในโรงงาน ⭐ Amazon: พัฒนา Alexa ให้รู้จักนิสัยและตารางชีวิตของผู้ใช้ ⭐ Parloa: AI โทรหาลูกค้าเพื่อเสนออัปเกรดเที่ยวบิน ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ AI Agents สามารถวางแผนหลายขั้นตอนและตัดสินใจแทนผู้ใช้ได้ ➡️ ต่างจากแชตบอททั่วไปที่ทำงานแบบตอบโต้ ➡️ Amazon, Microsoft, Google, OpenAI และ Salesforce กำลังพัฒนา AI Agents ➡️ Salesforce คาดว่าจะมี AI Agents กว่า 1 พันล้านตัวภายในปี 2026 ➡️ AI Agents สามารถจัดการงาน HR, IT และบริการลูกค้าได้ ➡️ Google ใช้ Gemini 2.0 ใน “Project Mariner” เพื่อทำงานในเบราว์เซอร์ ➡️ DeepL มี AI Agent ที่ทำงานในระบบจัดการบทความ ➡️ Microsoft มี “Factory Operations Agent” สำหรับโรงงาน ➡️ Amazon พัฒนา Alexa ให้รู้จักนิสัยและตารางชีวิตของผู้ใช้ ➡️ Parloa มี AI ที่โทรหาลูกค้าเพื่อเสนออัปเกรดเที่ยวบิน ‼️ คำเตือนจากข้อมูลข่าว ⛔ AI Agents ต้องการสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวจำนวนมาก ⛔ อาจเข้าถึงบัตรเครดิต ปฏิทิน และอีเมลโดยไม่ขออนุญาตทุกครั้ง ⛔ เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหรือสอดแนมจากผู้ไม่หวังดี ⛔ หากไม่มีการควบคุม อาจนำไปสู่การสูญเสียอำนาจของมนุษย์ ⛔ การใช้ AI Agents โดยไม่เข้าใจความเสี่ยง อาจสร้างผลกระทบต่อความปลอดภัยสาธารณะ ⛔ นักวิจัยเตือนว่า AI Agents อาจกลายเป็นภัยระดับ “catastrophic” หากปล่อยให้เติบโตโดยไม่มีกรอบ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/16/incredibly-dangerous-or-incredibly-useful-the-rise-of-ai-agents
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Incredibly dangerous or incredibly useful? The rise of AI agents
    Developers say they can do nearly any task a human can at a computer. Critics say they are incredibly dangerous.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Supermicro เปิดตัว DCBBS” — โซลูชันสร้างศูนย์ข้อมูลครบวงจรจากผู้ผลิตรายเดียว

    Supermicro บริษัทผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT สำหรับ AI, HPC, Cloud และ 5G ได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ในชื่อ Data Center Building Block Solutions (DCBBS) ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ในการออกแบบและสร้างศูนย์ข้อมูลแบบครบวงจรจากผู้ผลิตรายเดียว โดยมีเป้าหมายเพื่อลดเวลาในการออนไลน์ (Time-to-Online) และเพิ่มคุณภาพรวมถึงความสะดวกในการดูแลรักษา

    DCBBS ครอบคลุมทุกองค์ประกอบของศูนย์ข้อมูล ตั้งแต่เซิร์ฟเวอร์ ระบบจัดเก็บข้อมูล ซอฟต์แวร์บริหารจัดการ ระบบระบายความร้อนแบบของเหลว เครือข่าย และระบบไฟฟ้า โดยทุกชิ้นส่วนจะถูกทดสอบและประกอบในโรงงานของ Supermicro ก่อนส่งมอบ

    ระบบระบายความร้อนแบบของเหลวของ Supermicro สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนด้วยอากาศแบบเดิม และสามารถรองรับความร้อนจาก GPU และ CPU รุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    นอกจากนี้ยังมีโซลูชันเสริม เช่น ระบบจ่ายไฟ 33kW ต่อชั้นวาง, ระบบแบตเตอรี่สำรอง 48V DC, ระบบจัดการสายเคเบิลและเครือข่าย, รวมถึงซอฟต์แวร์บริหารจัดการศูนย์ข้อมูลแบบครบวงจร เช่น SuperCloud Composer และ Automation Center

    Supermicro ยังเปิดบริการระดับมืออาชีพสำหรับการออกแบบและติดตั้งศูนย์ข้อมูล พร้อมทีมงานที่สามารถให้การสนับสนุนในสถานที่ภายใน 4 ชั่วโมงสำหรับงานที่ต้องการความต่อเนื่องสูง

    ข้อมูลในข่าว
    Supermicro เปิดตัว Data Center Building Block Solutions (DCBBS) เป็นธุรกิจใหม่
    ครอบคลุมทุกองค์ประกอบของศูนย์ข้อมูลจากผู้ผลิตรายเดียว
    ระบบระบายความร้อนแบบของเหลวช่วยลดพลังงานได้ถึง 40%
    รองรับ GPU และ CPU รุ่นใหม่ด้วย cold plates ที่ลดความร้อนได้ถึง 98%
    มีระบบจ่ายไฟ 33kW ต่อชั้นวาง และแบตเตอรี่สำรอง 48V DC สำหรับงานสำคัญ
    ซอฟต์แวร์บริหารจัดการครบวงจร เช่น SuperCloud Composer และ SCAC
    บริการออกแบบและติดตั้งศูนย์ข้อมูล พร้อมทีมสนับสนุนในสถานที่

    คำเตือนจากข้อมูลข่าว
    การเปลี่ยนมาใช้ระบบระบายความร้อนแบบของเหลวต้องมีการปรับโครงสร้างพื้นฐาน
    หากไม่มีการจัดการพลังงานและความร้อนที่ดี อาจส่งผลต่อเสถียรภาพของศูนย์ข้อมูล
    การพึ่งพาผู้ผลิตรายเดียวอาจสร้างความเสี่ยงด้านการจัดหาและการซ่อมบำรุง
    การออกแบบศูนย์ข้อมูลใหม่ต้องใช้เวลาและงบประมาณสูงในการวางแผนและทดสอบ

    https://www.techpowerup.com/341891/supermicro-introduces-data-center-building-block-solutions
    🏗️ “Supermicro เปิดตัว DCBBS” — โซลูชันสร้างศูนย์ข้อมูลครบวงจรจากผู้ผลิตรายเดียว Supermicro บริษัทผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT สำหรับ AI, HPC, Cloud และ 5G ได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ในชื่อ Data Center Building Block Solutions (DCBBS) ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ในการออกแบบและสร้างศูนย์ข้อมูลแบบครบวงจรจากผู้ผลิตรายเดียว โดยมีเป้าหมายเพื่อลดเวลาในการออนไลน์ (Time-to-Online) และเพิ่มคุณภาพรวมถึงความสะดวกในการดูแลรักษา DCBBS ครอบคลุมทุกองค์ประกอบของศูนย์ข้อมูล ตั้งแต่เซิร์ฟเวอร์ ระบบจัดเก็บข้อมูล ซอฟต์แวร์บริหารจัดการ ระบบระบายความร้อนแบบของเหลว เครือข่าย และระบบไฟฟ้า โดยทุกชิ้นส่วนจะถูกทดสอบและประกอบในโรงงานของ Supermicro ก่อนส่งมอบ ระบบระบายความร้อนแบบของเหลวของ Supermicro สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนด้วยอากาศแบบเดิม และสามารถรองรับความร้อนจาก GPU และ CPU รุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีโซลูชันเสริม เช่น ระบบจ่ายไฟ 33kW ต่อชั้นวาง, ระบบแบตเตอรี่สำรอง 48V DC, ระบบจัดการสายเคเบิลและเครือข่าย, รวมถึงซอฟต์แวร์บริหารจัดการศูนย์ข้อมูลแบบครบวงจร เช่น SuperCloud Composer และ Automation Center Supermicro ยังเปิดบริการระดับมืออาชีพสำหรับการออกแบบและติดตั้งศูนย์ข้อมูล พร้อมทีมงานที่สามารถให้การสนับสนุนในสถานที่ภายใน 4 ชั่วโมงสำหรับงานที่ต้องการความต่อเนื่องสูง ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Supermicro เปิดตัว Data Center Building Block Solutions (DCBBS) เป็นธุรกิจใหม่ ➡️ ครอบคลุมทุกองค์ประกอบของศูนย์ข้อมูลจากผู้ผลิตรายเดียว ➡️ ระบบระบายความร้อนแบบของเหลวช่วยลดพลังงานได้ถึง 40% ➡️ รองรับ GPU และ CPU รุ่นใหม่ด้วย cold plates ที่ลดความร้อนได้ถึง 98% ➡️ มีระบบจ่ายไฟ 33kW ต่อชั้นวาง และแบตเตอรี่สำรอง 48V DC สำหรับงานสำคัญ ➡️ ซอฟต์แวร์บริหารจัดการครบวงจร เช่น SuperCloud Composer และ SCAC ➡️ บริการออกแบบและติดตั้งศูนย์ข้อมูล พร้อมทีมสนับสนุนในสถานที่ ‼️ คำเตือนจากข้อมูลข่าว ⛔ การเปลี่ยนมาใช้ระบบระบายความร้อนแบบของเหลวต้องมีการปรับโครงสร้างพื้นฐาน ⛔ หากไม่มีการจัดการพลังงานและความร้อนที่ดี อาจส่งผลต่อเสถียรภาพของศูนย์ข้อมูล ⛔ การพึ่งพาผู้ผลิตรายเดียวอาจสร้างความเสี่ยงด้านการจัดหาและการซ่อมบำรุง ⛔ การออกแบบศูนย์ข้อมูลใหม่ต้องใช้เวลาและงบประมาณสูงในการวางแผนและทดสอบ https://www.techpowerup.com/341891/supermicro-introduces-data-center-building-block-solutions
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Supermicro Introduces Data Center Building Block Solutions
    Super Micro Computer, Inc. (SMCI), a total IT solution provider for AI/ML, HPC, Cloud, Storage, and 5G/Edge, is announcing the availability of its Data Center Building Block Solutions (DCBBS). These solutions are considered a new business line for Supermicro and enable organizations to design, order...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts