• เรื่องเล่าจาก BIOS หลุดที่ทำให้ GPU แรง: เมื่อ RTX 5090D ถูกปลดล็อกให้กินไฟเกิน 2,000 วัตต์

    BIOS XOC ตัวนี้ไม่ได้มาจาก ASUS โดยตรง แต่ถูกอัปโหลดเข้าสู่ฐานข้อมูล TechPowerUp GPU BIOS DB และได้รับการยืนยันว่าใช้งานได้จริง โดย:
    - ปลดล็อก TDP จาก 575 W เป็น 2,001 W (เพิ่มขึ้น 3.5 เท่า)
    - ต้องใช้สายไฟแบบ 12V-2×6 หลายเส้น หรือระบบจ่ายไฟแบบ custom
    - ต้องใช้ระบบระบายความร้อนระดับน้ำหรือ LN2 เท่านั้น
    - การติดตั้ง BIOS นี้จะทำให้หมดประกันทันที

    อย่างไรก็ตาม BIOS นี้ยังมีโหมดลด TDP ลงเหลือ 400 W สำหรับการทดลอง undervolt ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับสายประหยัดพลังงาน

    ผู้ใช้ในฟอรั่ม TechPowerUp แสดงความคิดเห็นว่า:
    - BIOS นี้ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้งานที่ 2,000 W จริง แต่เพื่อป้องกันการจำกัดพลังงานในช่วง spike
    - การใช้งานจริงอาจอยู่ที่ 1,000–1,300 W หากใช้ระบบระบายความร้อนแบบ sub-ambient

    https://www.techpowerup.com/339197/2-001-watt-xoc-bios-for-asus-rog-astral-rtx-5090d-appears
    🎙️ เรื่องเล่าจาก BIOS หลุดที่ทำให้ GPU แรง: เมื่อ RTX 5090D ถูกปลดล็อกให้กินไฟเกิน 2,000 วัตต์ BIOS XOC ตัวนี้ไม่ได้มาจาก ASUS โดยตรง แต่ถูกอัปโหลดเข้าสู่ฐานข้อมูล TechPowerUp GPU BIOS DB และได้รับการยืนยันว่าใช้งานได้จริง โดย: - ปลดล็อก TDP จาก 575 W เป็น 2,001 W (เพิ่มขึ้น 3.5 เท่า) - ต้องใช้สายไฟแบบ 12V-2×6 หลายเส้น หรือระบบจ่ายไฟแบบ custom - ต้องใช้ระบบระบายความร้อนระดับน้ำหรือ LN2 เท่านั้น - การติดตั้ง BIOS นี้จะทำให้หมดประกันทันที อย่างไรก็ตาม BIOS นี้ยังมีโหมดลด TDP ลงเหลือ 400 W สำหรับการทดลอง undervolt ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับสายประหยัดพลังงาน ผู้ใช้ในฟอรั่ม TechPowerUp แสดงความคิดเห็นว่า: - BIOS นี้ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้งานที่ 2,000 W จริง แต่เพื่อป้องกันการจำกัดพลังงานในช่วง spike - การใช้งานจริงอาจอยู่ที่ 1,000–1,300 W หากใช้ระบบระบายความร้อนแบบ sub-ambient https://www.techpowerup.com/339197/2-001-watt-xoc-bios-for-asus-rog-astral-rtx-5090d-appears
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    2,001 Watt XOC BIOS for ASUS ROG Astral RTX 5090D Appears
    An unverified 2,001-watt XOC BIOS for the China-exclusive ASUS ROG Astral RTX 5090D has surfaced on the TechPowerUp GPU BIOS DB, instantly tripling the card's stock 575 W limit. And just like last week's China-only GALAX HOF leak, it's opening kilowatt-class overclocking to enthusiasts who are willi...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบื่อไหมกับกองสายไฟ สายเคเบิลที่รกพื้นที่และกำจัดยาก?
    มาถึงจุดเปลี่ยนที่ธุรกิจของคุณต้องมี! ขอแนะนำ เครื่องบดย่อยวัสดุเหลือใช้ Two Shafts Shredder นวัตกรรมล้ำหน้าที่จะช่วยให้การจัดการขยะสายไฟกลายเป็นเรื่องง่าย และสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างไม่น่าเชื่อ!
    ทำไม Two Shafts Shredder ของเราถึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด?
    บดได้ทุกอย่าง... โดยเฉพาะสายไฟและสายเคเบิลทุกชนิด!
    ไม่ว่าจะเป็นสายทองแดง สายอลูมิเนียม สายเคเบิลใยแก้วนำแสง หรือสายโทรศัพท์ที่มีฉนวนหนาขนาดไหน เครื่องของเราก็เอาอยู่! ด้วยระบบใบมีดคู่ที่ทรงพลังและแม่นยำ ทำให้สายไฟและเคเบิลถูกบดย่อยเป็นชิ้นเล็กๆ อย่างสม่ำเสมอพร้อมสำหรับการแยกส่วนหรือรีไซเคิลต่อยอดทันที!
    สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจคุณ!
    การบดย่อยสายไฟอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณสามารถแยกทองแดง อลูมิเนียม หรือวัสดุมีค่าอื่นๆ ออกมาได้อย่างง่ายดาย เพิ่มโอกาสในการขายเศษวัสดุรีไซเคิล สร้างรายได้เสริมให้ธุรกิจของคุณได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ!
    ทนทาน แกร่งทุกงานหนัก!
    ด้วยการออกแบบวิศวกรรมที่แข็งแกร่ง ใบมีดผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ทนทานต่อการสึกหรอ และมอเตอร์คู่กำลังสูง 10 HP (380V x 2 Motors) ทำให้เครื่องของเราพร้อมลุยงานหนักได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ติดขัด!
    ปลอดภัย ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก!
    มีระบบ Emergency Switch เพื่อหยุดการทำงานฉุกเฉิน, Meter แสดงสถานะการทำงาน และฟังก์ชัน Reverse ที่ช่วยแก้ปัญหาวัสดุติดขัดได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การทำงานของคุณราบรื่นและปลอดภัยไร้กังวล!
    นี่คือโอกาสทองที่จะยกระดับธุรกิจของคุณให้เหนือกว่า!
    ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการจัดการขยะที่ไร้ประสิทธิภาพอีกต่อไป! ลงทุนกับ Two Shafts Shredder วันนี้ เพื่อประสิทธิภาพที่ยั่งยืนและผลกำไรที่เพิ่มขึ้น!
    ไม่อยากพลาดโอกาสดีๆ?
    แวะมาชมเครื่องจริงและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่ ย.ย่งฮะเฮง!
    เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 8.00-17.00 น. | เสาร์ 8.00-16.00 น.
    คลิกดูแผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    รีบติดต่อเราเพื่อรับข้อเสนอสุดพิเศษ ก่อนใคร!
    แชทกับเราได้เลย: m.me/yonghahheng หรือ LINE Business ID: @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) / https://lin.ee/5H812n9
    โทรสายด่วน: 02-215-3515-9 | 081-3189098
    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    อีเมล: sales@yoryonghahheng.com | yonghahheng@gmail.com
    #เครื่องบดสายไฟ #เครื่องบดเคเบิล #TwoShaftsShredder #เครื่องบดย่อย #จัดการสายไฟ #รีไซเคิลสายไฟ #เศษสายไฟ #ขยะอิเล็กทรอนิกส์ #eWaste #ยย่งฮะเฮง #เครื่องจักรอุตสาหกรรม #ลดต้นทุน #เพิ่มพื้นที่ #โซลูชั่นขยะ #ธุรกิจรีไซเคิล #โรงงาน #อุตสาหกรรมไฟฟ้า #สายไฟ #สายเคเบิล #บดละเอียด #เครื่องจักรคุณภาพสูง #สร้างรายได้ #สิ่งแวดล้อม #จัดการของเสียอย่างมืออาชีพ #นวัตกรรมเครื่องจักร
    💥 เบื่อไหมกับกองสายไฟ สายเคเบิลที่รกพื้นที่และกำจัดยาก? 💥 มาถึงจุดเปลี่ยนที่ธุรกิจของคุณต้องมี! ขอแนะนำ เครื่องบดย่อยวัสดุเหลือใช้ Two Shafts Shredder นวัตกรรมล้ำหน้าที่จะช่วยให้การจัดการขยะสายไฟกลายเป็นเรื่องง่าย และสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างไม่น่าเชื่อ! ✨ ทำไม Two Shafts Shredder ของเราถึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด? ✨ ✅ บดได้ทุกอย่าง... โดยเฉพาะสายไฟและสายเคเบิลทุกชนิด! ไม่ว่าจะเป็นสายทองแดง สายอลูมิเนียม สายเคเบิลใยแก้วนำแสง หรือสายโทรศัพท์ที่มีฉนวนหนาขนาดไหน เครื่องของเราก็เอาอยู่! ด้วยระบบใบมีดคู่ที่ทรงพลังและแม่นยำ ทำให้สายไฟและเคเบิลถูกบดย่อยเป็นชิ้นเล็กๆ อย่างสม่ำเสมอพร้อมสำหรับการแยกส่วนหรือรีไซเคิลต่อยอดทันที! ✅ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจคุณ! การบดย่อยสายไฟอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้คุณสามารถแยกทองแดง อลูมิเนียม หรือวัสดุมีค่าอื่นๆ ออกมาได้อย่างง่ายดาย เพิ่มโอกาสในการขายเศษวัสดุรีไซเคิล สร้างรายได้เสริมให้ธุรกิจของคุณได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ! ✅ ทนทาน แกร่งทุกงานหนัก! ด้วยการออกแบบวิศวกรรมที่แข็งแกร่ง ใบมีดผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ทนทานต่อการสึกหรอ และมอเตอร์คู่กำลังสูง 10 HP (380V x 2 Motors) ทำให้เครื่องของเราพร้อมลุยงานหนักได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ติดขัด! ✅ ปลอดภัย ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก! มีระบบ Emergency Switch เพื่อหยุดการทำงานฉุกเฉิน, Meter แสดงสถานะการทำงาน และฟังก์ชัน Reverse ที่ช่วยแก้ปัญหาวัสดุติดขัดได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การทำงานของคุณราบรื่นและปลอดภัยไร้กังวล! นี่คือโอกาสทองที่จะยกระดับธุรกิจของคุณให้เหนือกว่า! ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการจัดการขยะที่ไร้ประสิทธิภาพอีกต่อไป! ลงทุนกับ Two Shafts Shredder วันนี้ เพื่อประสิทธิภาพที่ยั่งยืนและผลกำไรที่เพิ่มขึ้น! 📍 ไม่อยากพลาดโอกาสดีๆ? แวะมาชมเครื่องจริงและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่ ย.ย่งฮะเฮง! เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 8.00-17.00 น. | เสาร์ 8.00-16.00 น. 🗺️ คลิกดูแผนที่ร้าน: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 รีบติดต่อเราเพื่อรับข้อเสนอสุดพิเศษ ก่อนใคร! 💬 แชทกับเราได้เลย: m.me/yonghahheng หรือ LINE Business ID: @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) / https://lin.ee/5H812n9 📞 โทรสายด่วน: 02-215-3515-9 | 081-3189098 🌐 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com 📧 อีเมล: sales@yoryonghahheng.com | yonghahheng@gmail.com #เครื่องบดสายไฟ #เครื่องบดเคเบิล #TwoShaftsShredder #เครื่องบดย่อย #จัดการสายไฟ #รีไซเคิลสายไฟ #เศษสายไฟ #ขยะอิเล็กทรอนิกส์ #eWaste #ยย่งฮะเฮง #เครื่องจักรอุตสาหกรรม #ลดต้นทุน #เพิ่มพื้นที่ #โซลูชั่นขยะ #ธุรกิจรีไซเคิล #โรงงาน #อุตสาหกรรมไฟฟ้า #สายไฟ #สายเคเบิล #บดละเอียด #เครื่องจักรคุณภาพสูง #สร้างรายได้ #สิ่งแวดล้อม #จัดการของเสียอย่างมืออาชีพ #นวัตกรรมเครื่องจักร
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากการวัดเวลา: เมื่อหนึ่งวินาทีอาจไม่ใช่สิ่งที่เราเคยรู้จัก

    นาฬิกาอะตอมแบบซีเซียม (cesium atomic clocks) ถูกใช้เป็นมาตรฐานสากลในการกำหนด “หนึ่งวินาที” มาตั้งแต่ปี 1967 โดยอิงจากการสั่นของอะตอมซีเซียมที่ระดับพลังงานเฉพาะ แต่เทคโนโลยีใหม่อย่าง optical clocks ซึ่งใช้เลเซอร์วัดการกระโดดของอะตอมระหว่างระดับพลังงาน — มีความแม่นยำสูงกว่ามาก

    - Optical clocks อาจคลาดเคลื่อนน้อยกว่า 1 วินาทีในช่วงเวลาหลายพันล้านปี
    - การเปรียบเทียบครั้งนี้ใช้การวัดแบบ frequency ratio 38 ครั้ง โดย 4 ครั้งไม่เคยทำมาก่อน
    - ใช้การเชื่อมต่อผ่าน GPS และสายไฟเบอร์ออปติกพิเศษระหว่างประเทศ เช่นฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี

    ผลลัพธ์ช่วยให้:
    - ตรวจสอบความสอดคล้องระหว่างนาฬิกาแต่ละเรือน
    - ลดความไม่แน่นอนในการวัด
    - เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนมาตรฐาน “หนึ่งวินาที” จากซีเซียมเป็น optical

    นักวิจัยยังชี้ว่าเครือข่ายนาฬิกาเหล่านี้สามารถใช้ในการวิจัยฟิสิกส์ขั้นสูง เช่น:
    - การค้นหา dark matter
    - การทดสอบทฤษฎีพื้นฐานของฟิสิกส์
    - การวัดการเปลี่ยนแปลงของแรงโน้มถ่วงในระดับนาโน

    นักวิจัยจาก 6 ประเทศในยุโรปเปรียบเทียบนาฬิกาแสง 10 เรือนพร้อมกัน
    เป็นการทดลองที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับการวัดเวลาแบบ optical

    Optical clocks ใช้เลเซอร์วัดการกระโดดของอะตอมระหว่างระดับพลังงาน
    มีความแม่นยำสูงกว่านาฬิกาอะตอมซีเซียมหลายเท่า

    การทดลองใช้การวัด frequency ratio 38 ครั้ง โดย 4 ครั้งไม่เคยทำมาก่อน
    ช่วยตรวจสอบความสอดคล้องและลดความไม่แน่นอน

    ใช้การเชื่อมต่อผ่าน GPS และสายไฟเบอร์ออปติกพิเศษระหว่างประเทศ
    สายไฟเบอร์ให้ความแม่นยำสูงกว่า GPS ถึง 100 เท่า แต่ครอบคลุมระยะสั้น

    ผลลัพธ์ตีพิมพ์ในวารสาร Optica และได้รับการยอมรับในวงการวิทยาศาสตร์
    เป็นก้าวสำคัญสู่การนิยามใหม่ของ “หนึ่งวินาที” ในอนาคต

    เครือข่ายนาฬิกาเหล่านี้สามารถใช้ในการวิจัยฟิสิกส์ขั้นสูง เช่น dark matter และแรงโน้มถ่วง
    ทำให้ระบบวัดเวลากลายเป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์ระดับลึก

    https://www.neowin.net/news/science-is-almost-ready-to-redefine-the-second-with-this-new-research/
    🎙️ เรื่องเล่าจากการวัดเวลา: เมื่อหนึ่งวินาทีอาจไม่ใช่สิ่งที่เราเคยรู้จัก นาฬิกาอะตอมแบบซีเซียม (cesium atomic clocks) ถูกใช้เป็นมาตรฐานสากลในการกำหนด “หนึ่งวินาที” มาตั้งแต่ปี 1967 โดยอิงจากการสั่นของอะตอมซีเซียมที่ระดับพลังงานเฉพาะ แต่เทคโนโลยีใหม่อย่าง optical clocks ซึ่งใช้เลเซอร์วัดการกระโดดของอะตอมระหว่างระดับพลังงาน — มีความแม่นยำสูงกว่ามาก - Optical clocks อาจคลาดเคลื่อนน้อยกว่า 1 วินาทีในช่วงเวลาหลายพันล้านปี - การเปรียบเทียบครั้งนี้ใช้การวัดแบบ frequency ratio 38 ครั้ง โดย 4 ครั้งไม่เคยทำมาก่อน - ใช้การเชื่อมต่อผ่าน GPS และสายไฟเบอร์ออปติกพิเศษระหว่างประเทศ เช่นฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ผลลัพธ์ช่วยให้: - ตรวจสอบความสอดคล้องระหว่างนาฬิกาแต่ละเรือน - ลดความไม่แน่นอนในการวัด - เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนมาตรฐาน “หนึ่งวินาที” จากซีเซียมเป็น optical นักวิจัยยังชี้ว่าเครือข่ายนาฬิกาเหล่านี้สามารถใช้ในการวิจัยฟิสิกส์ขั้นสูง เช่น: - การค้นหา dark matter - การทดสอบทฤษฎีพื้นฐานของฟิสิกส์ - การวัดการเปลี่ยนแปลงของแรงโน้มถ่วงในระดับนาโน ✅ นักวิจัยจาก 6 ประเทศในยุโรปเปรียบเทียบนาฬิกาแสง 10 เรือนพร้อมกัน ➡️ เป็นการทดลองที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับการวัดเวลาแบบ optical ✅ Optical clocks ใช้เลเซอร์วัดการกระโดดของอะตอมระหว่างระดับพลังงาน ➡️ มีความแม่นยำสูงกว่านาฬิกาอะตอมซีเซียมหลายเท่า ✅ การทดลองใช้การวัด frequency ratio 38 ครั้ง โดย 4 ครั้งไม่เคยทำมาก่อน ➡️ ช่วยตรวจสอบความสอดคล้องและลดความไม่แน่นอน ✅ ใช้การเชื่อมต่อผ่าน GPS และสายไฟเบอร์ออปติกพิเศษระหว่างประเทศ ➡️ สายไฟเบอร์ให้ความแม่นยำสูงกว่า GPS ถึง 100 เท่า แต่ครอบคลุมระยะสั้น ✅ ผลลัพธ์ตีพิมพ์ในวารสาร Optica และได้รับการยอมรับในวงการวิทยาศาสตร์ ➡️ เป็นก้าวสำคัญสู่การนิยามใหม่ของ “หนึ่งวินาที” ในอนาคต ✅ เครือข่ายนาฬิกาเหล่านี้สามารถใช้ในการวิจัยฟิสิกส์ขั้นสูง เช่น dark matter และแรงโน้มถ่วง ➡️ ทำให้ระบบวัดเวลากลายเป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์ระดับลึก https://www.neowin.net/news/science-is-almost-ready-to-redefine-the-second-with-this-new-research/
    WWW.NEOWIN.NET
    Science is almost ready to "redefine the second" with this new research
    Scientists have been researching how to measure time even more accurately and with this new study, they are getting ready to "redefine the seconds."
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อคืน งัด..(ผ่า)โคมไฟหน้ารถยนต์ TOYOTA AE-110 ออกได้อย่างไม่ยากนัก แล้วติดตั้ง โคมไฟโปรเจกเตอร์ Bi-LED ขนาดเลนส์ 3นิ้ว ซ้อนเข้าไปในโคมเดิมได้อย่างพอดี..เป๊ะ หมุนแนวเส้นคัทออฟให้อยู่ในแนวระนาบโคม ล๊อคโปรเจกเตอร์ แล้วประกอบพลาสติกฝาครอบโคมไฟเข้าที่่ ต่อสายไฟลองดูแล้ว สว่างสะใจ เส้นคัทออฟคมกริบ...ตามแนวของไฟโปรเจกเตอร์.

    คืนวันนี้..ติดตั้ง+ปรับไฟหน้า...ตามคลิปวิดิโอ นี้
    เมื่อคืน งัด..(ผ่า)โคมไฟหน้ารถยนต์ TOYOTA AE-110 ออกได้อย่างไม่ยากนัก แล้วติดตั้ง โคมไฟโปรเจกเตอร์ Bi-LED ขนาดเลนส์ 3นิ้ว ซ้อนเข้าไปในโคมเดิมได้อย่างพอดี..เป๊ะ หมุนแนวเส้นคัทออฟให้อยู่ในแนวระนาบโคม ล๊อคโปรเจกเตอร์ แล้วประกอบพลาสติกฝาครอบโคมไฟเข้าที่่ ต่อสายไฟลองดูแล้ว สว่างสะใจ เส้นคัทออฟคมกริบ...ตามแนวของไฟโปรเจกเตอร์. คืนวันนี้..ติดตั้ง+ปรับไฟหน้า...ตามคลิปวิดิโอ นี้
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 1 รีวิว
  • SilverStone Seta H2 – เคสยักษ์สำหรับคนรักข้อมูล

    ในยุคที่ข้อมูลคือทรัพย์สินล้ำค่า SilverStone เปิดตัวเคสรุ่น Seta H2 ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานระดับเวิร์กสเตชันหรือเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก จุดเด่นที่สุดคือความสามารถในการติดตั้งฮาร์ดดิสก์หรือ SSD ได้มากถึง 15 ลูก! ถ้าใช้ HDD ขนาด 24TB เต็มทุกช่อง ก็สามารถสร้างระบบที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่า 300TB ได้เลย

    Seta H2 รองรับเมนบอร์ดตั้งแต่ ATX ไปจนถึง SSI-EEB และสามารถติดตั้งการ์ดจอขนาดใหญ่ถึง 428.9 มม. (เมื่อใช้พัดลมหน้าแบบ 25 มม.) รองรับระบบระบายความร้อนทั้งแบบลมและน้ำ รวมถึงติดตั้งหม้อน้ำหลายจุดได้

    ตัวเคสทำจากเหล็ก มีขนาด 244.9 x 528.3 x 543.2 มม. และหนักถึง 15.2 กก. เมื่อยังไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ติดตั้ง—เรียกได้ว่าไม่เหมาะกับการพกไปงาน LAN party แน่นอน

    ดีไซน์ของเคสเน้นความเรียบง่ายแบบคลาสสิก ไม่มีไฟ RGB หรือหน้าต่างใสเหมือนเคสเกมมิ่งทั่วไป แต่มีพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน เช่น USB-C, USB 3.0 และช่องเสียงแบบ combo jack พร้อมแผงกรองฝุ่นและระบบจัดการสายไฟ

    ราคาจำหน่ายอยู่ที่ $209.99 บน Amazon และยังมีรุ่นเล็กชื่อ Seta H2M ที่รองรับ SSD ได้ 8 ลูก ราคาเพียง $119.99

    ข้อมูลจากข่าว
    - SilverStone เปิดตัวเคส Seta H2 รองรับฮาร์ดดิสก์/SSD ได้สูงสุด 15 ลูก
    - รองรับเมนบอร์ดตั้งแต่ ATX ถึง SSI-EEB และการ์ดจอยาวถึง 428.9 มม.
    - รองรับระบบระบายความร้อนทั้งแบบลมและน้ำ รวมถึงหม้อน้ำหลายจุด
    - ตัวเคสทำจากเหล็ก ขนาดใหญ่และหนักถึง 15.2 กก. (ยังไม่รวมอุปกรณ์)
    - ดีไซน์เรียบง่าย ไม่มีไฟ RGB หรือหน้าต่างใส
    - มีพอร์ต USB-C, USB 3.0 และช่องเสียงแบบ combo jack
    - ราคา $209.99 บน Amazon และมีรุ่นเล็ก Seta H2M ราคา $119.99

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - น้ำหนักของเคสเมื่อใส่อุปกรณ์ครบอาจเกิน 25–30 กก. ไม่เหมาะกับการเคลื่อนย้ายบ่อย
    - ไม่มีระบบระบายความร้อนแบบ active สำหรับฮาร์ดดิสก์จำนวนมาก อาจต้องติดตั้งเพิ่มเอง
    - ดีไซน์เรียบอาจไม่ถูกใจผู้ใช้ที่ชอบเคสสไตล์เกมมิ่งหรือโชว์อุปกรณ์ภายใน
    - การติดตั้งฮาร์ดดิสก์จำนวนมากต้องใช้พาวเวอร์ซัพพลายที่มีกำลังเพียงพอและระบบสายไฟที่ดี
    - ไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลระดับหลายร้อย TB

    https://www.techspot.com/news/108628-silverstone-seta-h2-monster-pc-case-room-15.html
    SilverStone Seta H2 – เคสยักษ์สำหรับคนรักข้อมูล ในยุคที่ข้อมูลคือทรัพย์สินล้ำค่า SilverStone เปิดตัวเคสรุ่น Seta H2 ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานระดับเวิร์กสเตชันหรือเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก จุดเด่นที่สุดคือความสามารถในการติดตั้งฮาร์ดดิสก์หรือ SSD ได้มากถึง 15 ลูก! ถ้าใช้ HDD ขนาด 24TB เต็มทุกช่อง ก็สามารถสร้างระบบที่มีพื้นที่เก็บข้อมูลมากกว่า 300TB ได้เลย Seta H2 รองรับเมนบอร์ดตั้งแต่ ATX ไปจนถึง SSI-EEB และสามารถติดตั้งการ์ดจอขนาดใหญ่ถึง 428.9 มม. (เมื่อใช้พัดลมหน้าแบบ 25 มม.) รองรับระบบระบายความร้อนทั้งแบบลมและน้ำ รวมถึงติดตั้งหม้อน้ำหลายจุดได้ ตัวเคสทำจากเหล็ก มีขนาด 244.9 x 528.3 x 543.2 มม. และหนักถึง 15.2 กก. เมื่อยังไม่มีอุปกรณ์ใด ๆ ติดตั้ง—เรียกได้ว่าไม่เหมาะกับการพกไปงาน LAN party แน่นอน 😅 ดีไซน์ของเคสเน้นความเรียบง่ายแบบคลาสสิก ไม่มีไฟ RGB หรือหน้าต่างใสเหมือนเคสเกมมิ่งทั่วไป แต่มีพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน เช่น USB-C, USB 3.0 และช่องเสียงแบบ combo jack พร้อมแผงกรองฝุ่นและระบบจัดการสายไฟ ราคาจำหน่ายอยู่ที่ $209.99 บน Amazon และยังมีรุ่นเล็กชื่อ Seta H2M ที่รองรับ SSD ได้ 8 ลูก ราคาเพียง $119.99 ✅ ข้อมูลจากข่าว - SilverStone เปิดตัวเคส Seta H2 รองรับฮาร์ดดิสก์/SSD ได้สูงสุด 15 ลูก - รองรับเมนบอร์ดตั้งแต่ ATX ถึง SSI-EEB และการ์ดจอยาวถึง 428.9 มม. - รองรับระบบระบายความร้อนทั้งแบบลมและน้ำ รวมถึงหม้อน้ำหลายจุด - ตัวเคสทำจากเหล็ก ขนาดใหญ่และหนักถึง 15.2 กก. (ยังไม่รวมอุปกรณ์) - ดีไซน์เรียบง่าย ไม่มีไฟ RGB หรือหน้าต่างใส - มีพอร์ต USB-C, USB 3.0 และช่องเสียงแบบ combo jack - ราคา $209.99 บน Amazon และมีรุ่นเล็ก Seta H2M ราคา $119.99 ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - น้ำหนักของเคสเมื่อใส่อุปกรณ์ครบอาจเกิน 25–30 กก. ไม่เหมาะกับการเคลื่อนย้ายบ่อย - ไม่มีระบบระบายความร้อนแบบ active สำหรับฮาร์ดดิสก์จำนวนมาก อาจต้องติดตั้งเพิ่มเอง - ดีไซน์เรียบอาจไม่ถูกใจผู้ใช้ที่ชอบเคสสไตล์เกมมิ่งหรือโชว์อุปกรณ์ภายใน - การติดตั้งฮาร์ดดิสก์จำนวนมากต้องใช้พาวเวอร์ซัพพลายที่มีกำลังเพียงพอและระบบสายไฟที่ดี - ไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้ต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลระดับหลายร้อย TB https://www.techspot.com/news/108628-silverstone-seta-h2-monster-pc-case-room-15.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    SilverStone's Seta H2 is a monster PC case with room for 15 drives
    The case accepts a standard ATX power supply measuring up to 220mm in length, but storage capacity is the major selling point here.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมาและเจอทางออกไปทีละสเต็ปๆ คือ ปลั๊กช็อตและเสีย จนไม่สามารถชาร์จมือถือได้ สุดท้ายก็ต้องหาทางซ่อมปลั๊กให้กลับมาใช้งานได้ให้ได้ แต่ก็ต้องหาช่วงเวลาว่างๆ ในการแกะซ่อมปลั๊ก หาฟิวส์ที่เสีย ไม่ก็ค้นหาวิธีจากสาเหตุปลั๊กพัง และลงมือซ่อมทันที ผมเดินสายไฟผมก็คิดว่าเดินได้ แต่การติดตั้งหลอดไฟติดฝ้า ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ต้องทำ เพราะอยากทำ IoT จริงๆจังๆไม่ใช่เหรอ บางทีก็รู้สึกว่างเปล่า แต่ก็พยายามไม่ให้ว่างเปล่า ว้าเหว่ และเกิดอาการลังเลจนทำอะไรได้เชื่องช้า
    วันนี้เกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมาและเจอทางออกไปทีละสเต็ปๆ คือ ปลั๊กช็อตและเสีย จนไม่สามารถชาร์จมือถือได้ สุดท้ายก็ต้องหาทางซ่อมปลั๊กให้กลับมาใช้งานได้ให้ได้ แต่ก็ต้องหาช่วงเวลาว่างๆ ในการแกะซ่อมปลั๊ก หาฟิวส์ที่เสีย ไม่ก็ค้นหาวิธีจากสาเหตุปลั๊กพัง และลงมือซ่อมทันที ผมเดินสายไฟผมก็คิดว่าเดินได้ แต่การติดตั้งหลอดไฟติดฝ้า ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ต้องทำ เพราะอยากทำ IoT จริงๆจังๆไม่ใช่เหรอ บางทีก็รู้สึกว่างเปล่า แต่ก็พยายามไม่ให้ว่างเปล่า ว้าเหว่ และเกิดอาการลังเลจนทำอะไรได้เชื่องช้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • พอเราพูดถึงพัดลม CPU ในคอม หลายคนอาจมองเป็นแค่ก้อนเหล็ก–พัดลมหมุน ๆ ที่เอาไว้ระบายความร้อนให้ชิปไม่ร้อนเกินไป แต่จริง ๆ แล้วทุกชิ้นที่เห็นในนั้นผ่านกระบวนการผลิตกว่า 15 ขั้นตอน ตั้งแต่การดัดท่อทองแดง, เชื่อมฐานสัมผัส, เคลือบป้องกันสนิม, ประกอบซี่ฟินอลูมิเนียม, จนถึงทดสอบแรงลมและแพ็กใส่กล่อง

    สิ่งที่เซอร์ไพรส์คือ “หลายขั้นตอนยังต้องใช้ฝีมือแรงงานมนุษย์อยู่มาก” เช่น การเชื่อมแผ่นฐาน vapor chamber กับ heatpipe ต้องทำด้วยมือ เพราะแค่พลาด 0.1 มม. ก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพได้

    YouTube ช่อง SatisFactory Process ที่พาไปถ่ายทำถึงโรงงานในปักกิ่งบอกว่า ดูเพลินอย่างกับสารคดี — เพราะมันแสดงให้เห็นว่าวงการคอมพิวเตอร์ยังไม่ใช่แค่ AI หรือ cloud อย่างเดียว แต่ "ชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์" ที่เราจับต้องได้ก็เต็มไปด้วยศิลปะการผลิตไม่แพ้กัน

    DeepCool เปิดโรงงานในปักกิ่งให้ชมการผลิตชุดระบายความร้อน CPU ตั้งแต่ต้นจนจบ  
    • วิดีโอยาว ~30 นาที จากช่อง SatisFactory Process  
    • เห็นตั้งแต่การสร้าง heatpipe → เชื่อมฐาน → ประกอบพัดลม → ทดสอบ

    กระบวนการผลิตมีมากกว่า 15 ขั้นตอน เช่น:  
    • ตัด-ขึ้นรูปทองแดง, เติมสารภายใน, ทำความสะอาด, ทดสอบ leak  
    • ประกอบ fin, เจาะรูติด heatpipe, ติดพัดลม  
    • แพ็กกิ้งพร้อมส่ง

    บางขั้นตอนต้องอาศัยแรงงานมนุษย์ เช่น:  
    • การติดแผ่นฐาน vapor chamber → ถ้าเยื้องนิดเดียวประสิทธิภาพลด  
    • การเดินสายไฟพัดลม, ตรวจ QC ก่อนบรรจุ

    เครื่องมือชั้นสูงผสมกับเทคนิคดั้งเดิม เช่น automated filling + soldering manual  
    • โรงงานใช้ทั้งระบบ automation และพนักงานตรวจสอบสภาพ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/air-cooling/heres-a-behind-the-scenes-look-at-how-a-cpu-air-cooler-is-made-deepcool-gives-a-start-to-finish-tour-of-its-main-production-facility
    พอเราพูดถึงพัดลม CPU ในคอม หลายคนอาจมองเป็นแค่ก้อนเหล็ก–พัดลมหมุน ๆ ที่เอาไว้ระบายความร้อนให้ชิปไม่ร้อนเกินไป แต่จริง ๆ แล้วทุกชิ้นที่เห็นในนั้นผ่านกระบวนการผลิตกว่า 15 ขั้นตอน ตั้งแต่การดัดท่อทองแดง, เชื่อมฐานสัมผัส, เคลือบป้องกันสนิม, ประกอบซี่ฟินอลูมิเนียม, จนถึงทดสอบแรงลมและแพ็กใส่กล่อง สิ่งที่เซอร์ไพรส์คือ “หลายขั้นตอนยังต้องใช้ฝีมือแรงงานมนุษย์อยู่มาก” เช่น การเชื่อมแผ่นฐาน vapor chamber กับ heatpipe ต้องทำด้วยมือ เพราะแค่พลาด 0.1 มม. ก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพได้ YouTube ช่อง SatisFactory Process ที่พาไปถ่ายทำถึงโรงงานในปักกิ่งบอกว่า ดูเพลินอย่างกับสารคดี — เพราะมันแสดงให้เห็นว่าวงการคอมพิวเตอร์ยังไม่ใช่แค่ AI หรือ cloud อย่างเดียว แต่ "ชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์" ที่เราจับต้องได้ก็เต็มไปด้วยศิลปะการผลิตไม่แพ้กัน ✅ DeepCool เปิดโรงงานในปักกิ่งให้ชมการผลิตชุดระบายความร้อน CPU ตั้งแต่ต้นจนจบ   • วิดีโอยาว ~30 นาที จากช่อง SatisFactory Process   • เห็นตั้งแต่การสร้าง heatpipe → เชื่อมฐาน → ประกอบพัดลม → ทดสอบ ✅ กระบวนการผลิตมีมากกว่า 15 ขั้นตอน เช่น:   • ตัด-ขึ้นรูปทองแดง, เติมสารภายใน, ทำความสะอาด, ทดสอบ leak   • ประกอบ fin, เจาะรูติด heatpipe, ติดพัดลม   • แพ็กกิ้งพร้อมส่ง ✅ บางขั้นตอนต้องอาศัยแรงงานมนุษย์ เช่น:   • การติดแผ่นฐาน vapor chamber → ถ้าเยื้องนิดเดียวประสิทธิภาพลด   • การเดินสายไฟพัดลม, ตรวจ QC ก่อนบรรจุ ✅ เครื่องมือชั้นสูงผสมกับเทคนิคดั้งเดิม เช่น automated filling + soldering manual   • โรงงานใช้ทั้งระบบ automation และพนักงานตรวจสอบสภาพ https://www.tomshardware.com/pc-components/air-cooling/heres-a-behind-the-scenes-look-at-how-a-cpu-air-cooler-is-made-deepcool-gives-a-start-to-finish-tour-of-its-main-production-facility
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคยไหมครับที่ติด Wi-Fi กลางแจ้งแล้วฝนตกทีไรกลัวมันพัง? TP-Link เขาเลยออก Access Point ตัวนี้มาแบบ “ติดตั้งแล้วลืมไปได้เลย” เพราะมันอึดระดับ “จุ่มน้ำลึก 1.5 เมตรก็ยังรอด” (ถึงแม้ Wi-Fi จะใช้ใต้น้ำไม่ได้ก็ตาม )

    เจ้านี่ใช้มาตรฐาน Wi-Fi 7 แบบ Tri-band แรงสูงสุดถึง 9.3 Gbps!
    - 6 GHz ได้สูงสุด 5.76 Gbps
    - 5 GHz ได้ 2.88 Gbps
    - 2.4 GHz ก็ยังมีที่ 688 Mbps

    พื้นที่ครอบคลุมอยู่ที่ประมาณ 300 ตารางเมตร ต่อจุดติดตั้ง และถ้าอยากเพิ่มระยะก็เอาหลายเครื่องมาเชื่อมกันเป็น Mesh Network ได้เลย แถมยังรองรับ Power over Ethernet (PoE) ทำให้ไม่ต้องเดินสายไฟเพิ่มอีกต่างหาก

    ตัวกล่องมาพร้อมอุปกรณ์ติดตั้งครบครัน ทั้งขายึด, ซีลยาง, และฝาครอบกันฝนสำหรับพอร์ต — คือออกแบบให้ทนแดดฝนจริงจัง ไม่ใช่แค่ลุคถึก ๆ เท่านั้น

    TP-Link เปิดตัว EAP772-Outdoor Access Point มาตรฐาน Wi-Fi 7  
    • ใช้เทคโนโลยี Tri-band รวมสปีดสูงสุด 9.3 Gbps  
    • ครอบคลุมพื้นที่กว่า 300 ตร.ม. ต่อเครื่อง

    ทนทานต่อสภาพอากาศด้วยมาตรฐาน IP68 (กันฝุ่น/จมน้ำลึกได้)  
    • วางกลางแจ้งได้โดยไม่ต้องกลัวฝนหรือหิมะ  
    • พอร์ตมีซีลกันน้ำเพิ่มความแน่นหนา

    รองรับ Power over Ethernet (PoE)  
    • ไม่ต้องเดินสายไฟแยก ติดตั้งง่ายขึ้นมาก  
    • มีขายึดสำหรับติดผนัง/เสาติดตั้งในกล่อง

    ทำงานร่วมกับระบบ Omada ของ TP-Link และบริหารจัดการผ่านคลาวด์ได้  
    • ขยายเป็น Mesh Network ได้ง่าย ๆ สำหรับพื้นที่กว้าง

    วางจำหน่ายแล้วในราคา $249.99 (ประมาณ 9,200 บาท)  
    • พร้อมใช้งานกับ Access Point ตัวอื่นในซีรีส์เดียวกัน เช่น EAP772 รุ่นเพดาน

    https://www.tomshardware.com/networking/routers/tp-link-releases-usd250-wi-fi-7-access-point-that-can-be-submerged-in-1-5-meters-of-water-without-issue-the-heavy-duty-wireless-router-boasts-an-ip68-rating-six-antennas-and-poe
    เคยไหมครับที่ติด Wi-Fi กลางแจ้งแล้วฝนตกทีไรกลัวมันพัง? TP-Link เขาเลยออก Access Point ตัวนี้มาแบบ “ติดตั้งแล้วลืมไปได้เลย” เพราะมันอึดระดับ “จุ่มน้ำลึก 1.5 เมตรก็ยังรอด” (ถึงแม้ Wi-Fi จะใช้ใต้น้ำไม่ได้ก็ตาม 😄) เจ้านี่ใช้มาตรฐาน Wi-Fi 7 แบบ Tri-band แรงสูงสุดถึง 9.3 Gbps! - 6 GHz ได้สูงสุด 5.76 Gbps - 5 GHz ได้ 2.88 Gbps - 2.4 GHz ก็ยังมีที่ 688 Mbps พื้นที่ครอบคลุมอยู่ที่ประมาณ 300 ตารางเมตร ต่อจุดติดตั้ง และถ้าอยากเพิ่มระยะก็เอาหลายเครื่องมาเชื่อมกันเป็น Mesh Network ได้เลย แถมยังรองรับ Power over Ethernet (PoE) ทำให้ไม่ต้องเดินสายไฟเพิ่มอีกต่างหาก ตัวกล่องมาพร้อมอุปกรณ์ติดตั้งครบครัน ทั้งขายึด, ซีลยาง, และฝาครอบกันฝนสำหรับพอร์ต — คือออกแบบให้ทนแดดฝนจริงจัง ไม่ใช่แค่ลุคถึก ๆ เท่านั้น ✅ TP-Link เปิดตัว EAP772-Outdoor Access Point มาตรฐาน Wi-Fi 7   • ใช้เทคโนโลยี Tri-band รวมสปีดสูงสุด 9.3 Gbps   • ครอบคลุมพื้นที่กว่า 300 ตร.ม. ต่อเครื่อง ✅ ทนทานต่อสภาพอากาศด้วยมาตรฐาน IP68 (กันฝุ่น/จมน้ำลึกได้)   • วางกลางแจ้งได้โดยไม่ต้องกลัวฝนหรือหิมะ   • พอร์ตมีซีลกันน้ำเพิ่มความแน่นหนา ✅ รองรับ Power over Ethernet (PoE)   • ไม่ต้องเดินสายไฟแยก ติดตั้งง่ายขึ้นมาก   • มีขายึดสำหรับติดผนัง/เสาติดตั้งในกล่อง ✅ ทำงานร่วมกับระบบ Omada ของ TP-Link และบริหารจัดการผ่านคลาวด์ได้   • ขยายเป็น Mesh Network ได้ง่าย ๆ สำหรับพื้นที่กว้าง ✅ วางจำหน่ายแล้วในราคา $249.99 (ประมาณ 9,200 บาท)   • พร้อมใช้งานกับ Access Point ตัวอื่นในซีรีส์เดียวกัน เช่น EAP772 รุ่นเพดาน https://www.tomshardware.com/networking/routers/tp-link-releases-usd250-wi-fi-7-access-point-that-can-be-submerged-in-1-5-meters-of-water-without-issue-the-heavy-duty-wireless-router-boasts-an-ip68-rating-six-antennas-and-poe
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก่อนหน้านี้การ์ด RTX 4090 เคยตกเป็นข่าวใหญ่เรื่องหัวต่อ 16-pin (12VHPWR) ละลาย — จนหลายค่ายต้องออกแบบสายไฟใหม่หรือทำวิธี DIY กันให้วุ่น และ NVIDIA ก็ได้เปิดตัวพอร์ตเวอร์ชันปรับปรุงที่ชื่อว่า 12V-2x6 ซึ่งหวังว่าจะลดปัญหานี้

    แต่ล่าสุด RTX 5090D ซึ่งเป็นรุ่นเฉพาะสำหรับจีน (ใช้ชิป Blackwell) ก็ยังเจอปัญหาเดิม! มีผู้ใช้ในฟอรั่ม Baidu รายงานว่า หัวต่อ 16-pin ละลายทั้งฝั่งการ์ดและ PSU ในขณะที่ใช้งานตามปกติ — บางคนใช้ PSU ยี่ห้อ Segotep รุ่น KL-1250G (80+ Gold, ATX 3.0) และอีกคนใช้ Asus ROG Loki ซึ่งเป็น PSU คุณภาพสูง ก็ยังเกิดเหตุการณ์เหมือนกัน

    ประเด็นนี้ทำให้คนเริ่มตั้งคำถามว่า จริง ๆ แล้ว ปัญหาอยู่ที่สายไฟหรือการ์ดจอเอง? นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่า สาเหตุอาจมาจากการที่ NVIDIA ปรับ PCB ของ Blackwell ให้ไม่มีระบบ load balancing เหมือน RTX 3090 Ti ซึ่งอาจทำให้โหลดไม่กระจายดีพอ และเกิดความร้อนเฉพาะจุดจนละลายได้ในที่สุด

    RTX 5090D รุ่นจีนเจอปัญหาหัวต่อ 16-pin (12V-2x6) ละลายซ้ำรอย RTX 4090  
    • ทั้งฝั่งสายและพอร์ต GPU มีร่องรอยไหม้  
    • บางรายใช้ PSU จากแบรนด์ดังอย่าง Asus ROG ก็ยังเกิดปัญหา

    ใช้ PSU ตามสเปก ATX 3.0 และสายไฟตรงจากผู้ผลิต (native cable)  
    • เช่น Segotep KL-1250G และ Asus ROG Loki

    ปัญหาไม่เกิดทันที แต่อาจแสดงหลังใช้งานไปหลายสัปดาห์–เดือน  
    • บางรายรายงานว่าใช้ได้ 2 เดือนก่อนจะมีปัญหา

    มีทฤษฎีว่า PCB ของซีรีส์ RTX 50 Blackwell ไม่มีระบบ load sensing เหมือน RTX 3090 Ti
    • อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดความร้อนสะสมที่จุดเชื่อมต่อ

    แม้จะมีการปรับปรุงหัวต่อใหม่ (12V-2x6) แต่ก็ยังไม่หมดปัญหาหัวละลาย  
    • ทำให้ผู้ใช้บางกลุ่มกลับไปใช้การ์ดรุ่นก่อน หรือยอมเปลี่ยนหัวเอง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-5090d-falls-victim-to-infamous-16-pin-melting-issue-saga-continues-with-china-specific-chip
    ก่อนหน้านี้การ์ด RTX 4090 เคยตกเป็นข่าวใหญ่เรื่องหัวต่อ 16-pin (12VHPWR) ละลาย — จนหลายค่ายต้องออกแบบสายไฟใหม่หรือทำวิธี DIY กันให้วุ่น และ NVIDIA ก็ได้เปิดตัวพอร์ตเวอร์ชันปรับปรุงที่ชื่อว่า 12V-2x6 ซึ่งหวังว่าจะลดปัญหานี้ แต่ล่าสุด RTX 5090D ซึ่งเป็นรุ่นเฉพาะสำหรับจีน (ใช้ชิป Blackwell) ก็ยังเจอปัญหาเดิม! มีผู้ใช้ในฟอรั่ม Baidu รายงานว่า หัวต่อ 16-pin ละลายทั้งฝั่งการ์ดและ PSU ในขณะที่ใช้งานตามปกติ — บางคนใช้ PSU ยี่ห้อ Segotep รุ่น KL-1250G (80+ Gold, ATX 3.0) และอีกคนใช้ Asus ROG Loki ซึ่งเป็น PSU คุณภาพสูง ก็ยังเกิดเหตุการณ์เหมือนกัน ประเด็นนี้ทำให้คนเริ่มตั้งคำถามว่า จริง ๆ แล้ว ปัญหาอยู่ที่สายไฟหรือการ์ดจอเอง? นักวิเคราะห์บางคนชี้ว่า สาเหตุอาจมาจากการที่ NVIDIA ปรับ PCB ของ Blackwell ให้ไม่มีระบบ load balancing เหมือน RTX 3090 Ti ซึ่งอาจทำให้โหลดไม่กระจายดีพอ และเกิดความร้อนเฉพาะจุดจนละลายได้ในที่สุด ✅ RTX 5090D รุ่นจีนเจอปัญหาหัวต่อ 16-pin (12V-2x6) ละลายซ้ำรอย RTX 4090   • ทั้งฝั่งสายและพอร์ต GPU มีร่องรอยไหม้   • บางรายใช้ PSU จากแบรนด์ดังอย่าง Asus ROG ก็ยังเกิดปัญหา ✅ ใช้ PSU ตามสเปก ATX 3.0 และสายไฟตรงจากผู้ผลิต (native cable)   • เช่น Segotep KL-1250G และ Asus ROG Loki ✅ ปัญหาไม่เกิดทันที แต่อาจแสดงหลังใช้งานไปหลายสัปดาห์–เดือน   • บางรายรายงานว่าใช้ได้ 2 เดือนก่อนจะมีปัญหา ✅ มีทฤษฎีว่า PCB ของซีรีส์ RTX 50 Blackwell ไม่มีระบบ load sensing เหมือน RTX 3090 Ti • อาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดความร้อนสะสมที่จุดเชื่อมต่อ ✅ แม้จะมีการปรับปรุงหัวต่อใหม่ (12V-2x6) แต่ก็ยังไม่หมดปัญหาหัวละลาย   • ทำให้ผู้ใช้บางกลุ่มกลับไปใช้การ์ดรุ่นก่อน หรือยอมเปลี่ยนหัวเอง https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-5090d-falls-victim-to-infamous-16-pin-melting-issue-saga-continues-with-china-specific-chip
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพราะโดนสหรัฐแบนชิปแรง ๆ อย่าง H100 ทำให้ Huawei ต้องหาทางอื่นที่จะสู้ในสนาม AI — เขาเลยเอากลยุทธ์ “ใช้เยอะเข้าไว้” หรือที่เรียกว่า Brute Force Scaling มาใช้ สร้างเป็นคลัสเตอร์ชื่อ CloudMatrix 384 (CM384)

    ไอ้เจ้าตัวนี้คือการรวมพลัง 384 ชิป Ascend 910C (ของ Huawei เอง) กับ CPU อีก 192 ตัว กระจายอยู่ใน 16 rack server แล้วเชื่อมต่อด้วยสายไฟเบอร์ออปติกหมดทุกตัว เพื่อทำให้ interconnect ภายในเร็วแบบสุด ๆ

    เมื่อรันโมเดล LLM อย่าง DeepSeek R1 (ขนาด 671B พารามิเตอร์) ที่เป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ทดสอบ NVIDIA GB200 NVL72 — ปรากฏว่า CM384 สร้าง token ได้มากกว่า ทั้งในตอน generate และ prefill และมีประสิทธิภาพระดับ 300 PFLOPs (BF16) เทียบกับ 180 PFLOPs ของ GB200

    แต่…มันแลกมาด้วยพลังงานระดับ “กินไฟพอๆ กับอาคารทั้งหลัง” — CM384 ใช้ไฟถึง 559 kW เทียบกับ NVIDIA GB200 NVL72 ที่ใช้ 145 kW เท่านั้น เรียกว่าแรงจริงแต่เปลืองไฟมากกว่า 4 เท่า

    Huawei เปิดตัวซูเปอร์คลัสเตอร์ CloudMatrix 384 ใช้ NPU Ascend 910C รวม 384 ตัว  
    • เชื่อมต่อด้วยสายออปติกทั้งหมด ลด latency ระหว่าง node  
    • ใช้ CPU เสริม 192 ตัวในโครงสร้าง 16 rack

    CM384 รันโมเดล DeepSeek R1 ได้เร็วกว่า NVIDIA H800 และ H100  
    • มี performance สูงถึง 300 PFLOPs (BF16)  
    • เมื่อเทียบกับ NVIDIA GB200 NVL72 ที่ให้ 180 PFLOPs

    ซอฟต์แวร์ CloudMatrix-Infer มีประสิทธิภาพสูงกว่า NVIDIA SGLang ในงาน LLM  
    • สร้าง token ได้เร็วขึ้น ทั้งตอน prefill และ generate  
    • เหมาะกับงาน AI inferencing ขนาดใหญ่มาก

    CM384 ออกแบบมาเพื่อสร้าง ecosystem ทางเลือกในจีน โดยไม่ต้องใช้ NVIDIA  
    • ได้รับการเผยแพร่ร่วมกับ AI startup จีนชื่อ SiliconFlow  
    • มีเป้าหมายเพื่อ “เพิ่มความมั่นใจให้ ecosystem ภายในประเทศจีน”

    พลังงานในจีนราคาต่ำลงเกือบ 40% ใน 3 ปี ทำให้การใช้พลังงานมากไม่ใช่จุดอ่อนใหญ่  
    • ทำให้จีนสามารถเลือก “สเกลแรงเข้าไว้” ได้โดยไม่กลัวค่าไฟพุ่ง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/huaweis-brute-force-ai-tactic-seems-to-be-working-cloudmatrix-384-claimed-to-outperform-nvidia-processors-running-deepseek-r1
    เพราะโดนสหรัฐแบนชิปแรง ๆ อย่าง H100 ทำให้ Huawei ต้องหาทางอื่นที่จะสู้ในสนาม AI — เขาเลยเอากลยุทธ์ “ใช้เยอะเข้าไว้” หรือที่เรียกว่า Brute Force Scaling มาใช้ สร้างเป็นคลัสเตอร์ชื่อ CloudMatrix 384 (CM384) ไอ้เจ้าตัวนี้คือการรวมพลัง 384 ชิป Ascend 910C (ของ Huawei เอง) กับ CPU อีก 192 ตัว กระจายอยู่ใน 16 rack server แล้วเชื่อมต่อด้วยสายไฟเบอร์ออปติกหมดทุกตัว เพื่อทำให้ interconnect ภายในเร็วแบบสุด ๆ เมื่อรันโมเดล LLM อย่าง DeepSeek R1 (ขนาด 671B พารามิเตอร์) ที่เป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้ทดสอบ NVIDIA GB200 NVL72 — ปรากฏว่า CM384 สร้าง token ได้มากกว่า ทั้งในตอน generate และ prefill และมีประสิทธิภาพระดับ 300 PFLOPs (BF16) เทียบกับ 180 PFLOPs ของ GB200 แต่…มันแลกมาด้วยพลังงานระดับ “กินไฟพอๆ กับอาคารทั้งหลัง” — CM384 ใช้ไฟถึง 559 kW เทียบกับ NVIDIA GB200 NVL72 ที่ใช้ 145 kW เท่านั้น เรียกว่าแรงจริงแต่เปลืองไฟมากกว่า 4 เท่า ✅ Huawei เปิดตัวซูเปอร์คลัสเตอร์ CloudMatrix 384 ใช้ NPU Ascend 910C รวม 384 ตัว   • เชื่อมต่อด้วยสายออปติกทั้งหมด ลด latency ระหว่าง node   • ใช้ CPU เสริม 192 ตัวในโครงสร้าง 16 rack ✅ CM384 รันโมเดล DeepSeek R1 ได้เร็วกว่า NVIDIA H800 และ H100   • มี performance สูงถึง 300 PFLOPs (BF16)   • เมื่อเทียบกับ NVIDIA GB200 NVL72 ที่ให้ 180 PFLOPs ✅ ซอฟต์แวร์ CloudMatrix-Infer มีประสิทธิภาพสูงกว่า NVIDIA SGLang ในงาน LLM   • สร้าง token ได้เร็วขึ้น ทั้งตอน prefill และ generate   • เหมาะกับงาน AI inferencing ขนาดใหญ่มาก ✅ CM384 ออกแบบมาเพื่อสร้าง ecosystem ทางเลือกในจีน โดยไม่ต้องใช้ NVIDIA   • ได้รับการเผยแพร่ร่วมกับ AI startup จีนชื่อ SiliconFlow   • มีเป้าหมายเพื่อ “เพิ่มความมั่นใจให้ ecosystem ภายในประเทศจีน” ✅ พลังงานในจีนราคาต่ำลงเกือบ 40% ใน 3 ปี ทำให้การใช้พลังงานมากไม่ใช่จุดอ่อนใหญ่   • ทำให้จีนสามารถเลือก “สเกลแรงเข้าไว้” ได้โดยไม่กลัวค่าไฟพุ่ง https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/huaweis-brute-force-ai-tactic-seems-to-be-working-cloudmatrix-384-claimed-to-outperform-nvidia-processors-running-deepseek-r1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายคนรู้ว่าโลกของ SSD แรงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถ้าจะใช้ SSD Gen5 แบบเต็มสปีดหลายตัวพร้อมกัน คุณอาจต้องใช้ RAID Card ตัวใหญ่ ยาวเต็มเคส แถมต้องต่อสายไฟเฉพาะ... ซึ่งมันไม่เหมาะกับ Workstation ขนาดเล็กเลย

    นี่แหละคือจุดเด่นของ HighPoint Rocket 7604A ตัวนี้ มัน เล็กกว่ารุ่นเดิมครึ่งหนึ่ง (เมื่อเทียบกับ Rocket 1608A), ติดตั้งใน ช่อง PCIe แบบครึ่งการ์ด (half-length) และที่สำคัญ... ไม่ต้องใช้สายไฟเพิ่มเลย! รับพลังงานจาก PCIe Slot ได้พอสำหรับ SSD Gen5 ถึง 4 ตัว

    TweakTown ทดสอบแล้วพบว่า ด้วย SSD Samsung 9100 Pro 4 ตัว มันทำความเร็วได้ 59.8 GB/s (CrystalDiskMark) และ 54 GB/s บน ATTO! เป็นการ์ดแบบ 4 ช่อง Gen5 x4 ใช้ RAID Controller จาก Broadcom รุ่น PEX89048A

    การ์ดรองรับ RAID 0, RAID 1 ผ่าน Windows และ RAID 10 ผ่านซอฟต์แวร์ของ HighPoint เอง

    HighPoint Rocket 7604A เป็นการ์ด RAID PCIe Gen5 แบบครึ่งการ์ด (half-length)  
    • ใช้ได้ใน Workstation เล็ก  
    • ไม่ต้องต่อสายไฟเพิ่ม (powered by PCIe slot เท่านั้น)

    ความเร็วทะลุ 59.8 GB/s เมื่อใช้ SSD Gen5 4 ตัว (Samsung 9100 Pro)  
    • ทดสอบผ่าน CrystalDiskMark / ATTO / Anvil  
    • เร็วกว่า Rocket 1608A ที่ใช้ SSD 8 ตัวเสียอีก

    รองรับทั้งแพลตฟอร์ม Intel และ AMD  
    • Intel ทำคะแนนดีกว่าใน Anvil / Blackmagic  
    • AMD ดีกว่าในงาน file transfer บางประเภท

    ใช้งานได้กับทั้ง SSD Gen5 และ Gen4 (แต่อัตราเร่งจะลดลงถ้าใช้ Gen4)  
    • มีช่อง M.2 แบบ x4 ทั้งหมด 4 ช่อง

    ราคา $999 (ลดจาก $1,999 เดิม)  
    • ถูกกว่า 1608A แต่ประสิทธิภาพพอ ๆ กัน

    รองรับ RAID 0 / 1 (ผ่าน Windows) และ RAID 10 ผ่าน HighPoint Utility  
    • เหมาะกับผู้ใช้งานมืออาชีพด้าน video, 3D, AI inferencing

    รองรับเฉพาะ SSD แบบ “Bare” เท่านั้น (ไม่มีฮีตซิงค์)  
    • ต้องระวังเรื่องความร้อน หรือหาวิธีเสริม cooling แบบเฉพาะทาง

    แม้ไม่ต้องใช้สายไฟ แต่ไฟจาก PCIe slot อาจไม่พอถ้า SSD ใช้ไฟสูงผิดปกติ  
    • ต้องเลือก SSD ที่กินไฟตามสเปกมาตรฐาน

    RAID นี้เป็น software RAID — ไม่ได้ทำ hardware RAID ในตัว  
    • ส่งผลให้มีภาระโหลด CPU บางส่วน

    ไม่รองรับ ECC หรือฟีเจอร์ระดับ enterprise  
    • ยังไม่เหมาะกับ mission-critical แบบ data center ที่ต้องการ RAS

    https://www.techradar.com/pro/a-masterpiece-of-engineering-highpoint-storage-aic-is-expensive-but-at-60gbps-sequential-throughput-it-will-quench-almost-anyones-thirst-for-speed
    หลายคนรู้ว่าโลกของ SSD แรงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถ้าจะใช้ SSD Gen5 แบบเต็มสปีดหลายตัวพร้อมกัน คุณอาจต้องใช้ RAID Card ตัวใหญ่ ยาวเต็มเคส แถมต้องต่อสายไฟเฉพาะ... ซึ่งมันไม่เหมาะกับ Workstation ขนาดเล็กเลย นี่แหละคือจุดเด่นของ HighPoint Rocket 7604A ตัวนี้ มัน เล็กกว่ารุ่นเดิมครึ่งหนึ่ง (เมื่อเทียบกับ Rocket 1608A), ติดตั้งใน ช่อง PCIe แบบครึ่งการ์ด (half-length) และที่สำคัญ... ไม่ต้องใช้สายไฟเพิ่มเลย! รับพลังงานจาก PCIe Slot ได้พอสำหรับ SSD Gen5 ถึง 4 ตัว TweakTown ทดสอบแล้วพบว่า ด้วย SSD Samsung 9100 Pro 4 ตัว มันทำความเร็วได้ 59.8 GB/s (CrystalDiskMark) และ 54 GB/s บน ATTO! เป็นการ์ดแบบ 4 ช่อง Gen5 x4 ใช้ RAID Controller จาก Broadcom รุ่น PEX89048A การ์ดรองรับ RAID 0, RAID 1 ผ่าน Windows และ RAID 10 ผ่านซอฟต์แวร์ของ HighPoint เอง ✅ HighPoint Rocket 7604A เป็นการ์ด RAID PCIe Gen5 แบบครึ่งการ์ด (half-length)   • ใช้ได้ใน Workstation เล็ก   • ไม่ต้องต่อสายไฟเพิ่ม (powered by PCIe slot เท่านั้น) ✅ ความเร็วทะลุ 59.8 GB/s เมื่อใช้ SSD Gen5 4 ตัว (Samsung 9100 Pro)   • ทดสอบผ่าน CrystalDiskMark / ATTO / Anvil   • เร็วกว่า Rocket 1608A ที่ใช้ SSD 8 ตัวเสียอีก ✅ รองรับทั้งแพลตฟอร์ม Intel และ AMD   • Intel ทำคะแนนดีกว่าใน Anvil / Blackmagic   • AMD ดีกว่าในงาน file transfer บางประเภท ✅ ใช้งานได้กับทั้ง SSD Gen5 และ Gen4 (แต่อัตราเร่งจะลดลงถ้าใช้ Gen4)   • มีช่อง M.2 แบบ x4 ทั้งหมด 4 ช่อง ✅ ราคา $999 (ลดจาก $1,999 เดิม)   • ถูกกว่า 1608A แต่ประสิทธิภาพพอ ๆ กัน ✅ รองรับ RAID 0 / 1 (ผ่าน Windows) และ RAID 10 ผ่าน HighPoint Utility   • เหมาะกับผู้ใช้งานมืออาชีพด้าน video, 3D, AI inferencing ‼️ รองรับเฉพาะ SSD แบบ “Bare” เท่านั้น (ไม่มีฮีตซิงค์)   • ต้องระวังเรื่องความร้อน หรือหาวิธีเสริม cooling แบบเฉพาะทาง ‼️ แม้ไม่ต้องใช้สายไฟ แต่ไฟจาก PCIe slot อาจไม่พอถ้า SSD ใช้ไฟสูงผิดปกติ   • ต้องเลือก SSD ที่กินไฟตามสเปกมาตรฐาน ‼️ RAID นี้เป็น software RAID — ไม่ได้ทำ hardware RAID ในตัว   • ส่งผลให้มีภาระโหลด CPU บางส่วน ‼️ ไม่รองรับ ECC หรือฟีเจอร์ระดับ enterprise   • ยังไม่เหมาะกับ mission-critical แบบ data center ที่ต้องการ RAS https://www.techradar.com/pro/a-masterpiece-of-engineering-highpoint-storage-aic-is-expensive-but-at-60gbps-sequential-throughput-it-will-quench-almost-anyones-thirst-for-speed
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • แพทย์ช่วย"ทักษิณ"ว้าวุ่น เล็งสอบจริยธรรมล็อต 2 : [NEWS UPDATE]

    ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณะกรรมการแพทยสภา เผยผลการประชุมแพทยสภา มากกว่า 2 ใน 3 มีมติ ยืนยันตามมติเดิมให้ลงโทษแพทย์ 3 คน ซึ่งก็ได้พิจารณาเอกสารของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา และใช้ดุลพินิจของตัวเองมีมติออกมา หลังจากนี้กำลังพิจารณาว่าจะพิจารณาจริยธรรมแห่งวิชาชีพของแพทย์เพิ่มเติมในกรณีเดียวกัน ไม่หวั่นถูกข่มขู่ อิทธิพลการเมือง เพราะทำในสิ่งที่ถูกต้อง รักษาจรรยาบรรณ

    -ไม่เป็นไรขอให้มีความสุข

    -ช็อตโจรขโมยสายไฟ

    -ค่าน้ำ-ไฟฟ้าสภาแพงลิ่ว

    -แบงก์ชาติทั่วโลกแห่ตุนทองคำ
    แพทย์ช่วย"ทักษิณ"ว้าวุ่น เล็งสอบจริยธรรมล็อต 2 : [NEWS UPDATE] ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณะกรรมการแพทยสภา เผยผลการประชุมแพทยสภา มากกว่า 2 ใน 3 มีมติ ยืนยันตามมติเดิมให้ลงโทษแพทย์ 3 คน ซึ่งก็ได้พิจารณาเอกสารของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา และใช้ดุลพินิจของตัวเองมีมติออกมา หลังจากนี้กำลังพิจารณาว่าจะพิจารณาจริยธรรมแห่งวิชาชีพของแพทย์เพิ่มเติมในกรณีเดียวกัน ไม่หวั่นถูกข่มขู่ อิทธิพลการเมือง เพราะทำในสิ่งที่ถูกต้อง รักษาจรรยาบรรณ -ไม่เป็นไรขอให้มีความสุข -ช็อตโจรขโมยสายไฟ -ค่าน้ำ-ไฟฟ้าสภาแพงลิ่ว -แบงก์ชาติทั่วโลกแห่ตุนทองคำ
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 516 มุมมอง 43 0 รีวิว
  • PCI-SIG เปิดตัวมาตรฐาน PCIe-over-Fiber สำหรับการเชื่อมต่อแบบออปติคอล
    PCI-SIG ได้ประกาศ มาตรฐาน PCIe-over-Fiber ซึ่งเป็น โซลูชันการเชื่อมต่อแบบออปติคอลที่ใช้ PCIe Retimer เพื่อช่วยให้ สามารถขยายระยะการเชื่อมต่อและลดข้อจำกัดของสายทองแดง

    มาตรฐานใหม่นี้ เพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อระหว่าง Switch, Root-Complex และ Endpoint โดยใช้ เทคโนโลยี Optical Aware Retimer

    ข้อมูลจากข่าว
    - PCI-SIG เปิดตัว Optical Aware Retimer ECN สำหรับ PCIe 6.4 และ PCIe 7.0
    - ช่วยให้สามารถใช้เทคโนโลยีออปติคอลร่วมกับ PCIe ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - ขยายระยะการเชื่อมต่อระหว่าง racks และ pods ในศูนย์ข้อมูล
    - รองรับการ multiplexing และ data mapping ระหว่างสัญญาณไฟฟ้าและออปติคอล
    - ช่วยให้สามารถออกแบบระบบที่กะทัดรัดกว่าการใช้สายทองแดง

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซิร์ฟเวอร์และ AI
    PCIe-over-Fiber จะช่วยให้ศูนย์ข้อมูลสามารถรองรับแอปพลิเคชันที่ต้องการแบนด์วิดท์สูง เช่น AI/ML และ Cloud Computing

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การเปลี่ยนไปใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคอลอาจต้องใช้ฮาร์ดแวร์ใหม่
    - ต้องติดตามว่า PCIe-over-Fiber จะสามารถเข้าสู่ตลาดเซิร์ฟเวอร์และ HPC ได้เร็วแค่ไหน
    - การบำรุงรักษาและติดตั้งสายไฟเบอร์ออปติกอาจมีต้นทุนสูงกว่าสายทองแดง
    - ต้องรอดูว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคทั่วไปหรือไม่

    อนาคตของ PCIe และการเชื่อมต่อแบบออปติคอล
    PCI-SIG กำลังผลักดันให้ PCIe-over-Fiber กลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับศูนย์ข้อมูล โดย อาจช่วยให้สามารถขยายแบนด์วิดท์และลดข้อจำกัดของสายทองแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.techpowerup.com/337962/pci-sig-announces-pcie-optical-interconnect-solution-pcie-over-fiber
    🔗 PCI-SIG เปิดตัวมาตรฐาน PCIe-over-Fiber สำหรับการเชื่อมต่อแบบออปติคอล PCI-SIG ได้ประกาศ มาตรฐาน PCIe-over-Fiber ซึ่งเป็น โซลูชันการเชื่อมต่อแบบออปติคอลที่ใช้ PCIe Retimer เพื่อช่วยให้ สามารถขยายระยะการเชื่อมต่อและลดข้อจำกัดของสายทองแดง มาตรฐานใหม่นี้ เพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อระหว่าง Switch, Root-Complex และ Endpoint โดยใช้ เทคโนโลยี Optical Aware Retimer ✅ ข้อมูลจากข่าว - PCI-SIG เปิดตัว Optical Aware Retimer ECN สำหรับ PCIe 6.4 และ PCIe 7.0 - ช่วยให้สามารถใช้เทคโนโลยีออปติคอลร่วมกับ PCIe ได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ขยายระยะการเชื่อมต่อระหว่าง racks และ pods ในศูนย์ข้อมูล - รองรับการ multiplexing และ data mapping ระหว่างสัญญาณไฟฟ้าและออปติคอล - ช่วยให้สามารถออกแบบระบบที่กะทัดรัดกว่าการใช้สายทองแดง 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซิร์ฟเวอร์และ AI PCIe-over-Fiber จะช่วยให้ศูนย์ข้อมูลสามารถรองรับแอปพลิเคชันที่ต้องการแบนด์วิดท์สูง เช่น AI/ML และ Cloud Computing ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การเปลี่ยนไปใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคอลอาจต้องใช้ฮาร์ดแวร์ใหม่ - ต้องติดตามว่า PCIe-over-Fiber จะสามารถเข้าสู่ตลาดเซิร์ฟเวอร์และ HPC ได้เร็วแค่ไหน - การบำรุงรักษาและติดตั้งสายไฟเบอร์ออปติกอาจมีต้นทุนสูงกว่าสายทองแดง - ต้องรอดูว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคทั่วไปหรือไม่ 🚀 อนาคตของ PCIe และการเชื่อมต่อแบบออปติคอล PCI-SIG กำลังผลักดันให้ PCIe-over-Fiber กลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับศูนย์ข้อมูล โดย อาจช่วยให้สามารถขยายแบนด์วิดท์และลดข้อจำกัดของสายทองแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ https://www.techpowerup.com/337962/pci-sig-announces-pcie-optical-interconnect-solution-pcie-over-fiber
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    PCI-SIG Announces PCIe Optical Interconnect Solution: PCIe-over-Fiber
    PCI-SIG today announced a new optical interconnect specification revision to enable higher PCI Express (PCIe) technology performance. The Optical Aware Retimer Engineering Change Notice (ECN) amends the PCIe 6.4 specification and the new PCIe 7.0 specification to include a PCIe retimer-based solutio...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • คอมพิวเตอร์ไร้สายเต็มรูปแบบ: เทคโนโลยีแห่งอนาคต
    ช่อง YouTube DIY Perks ได้สาธิต ระบบส่งพลังงานไร้สาย ที่สามารถ จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่าน "โดมพลังงานที่มองไม่เห็น" โดยไม่ต้องใช้สายไฟเลย

    ระบบนี้ใช้หลักการเดียวกับ แท่นชาร์จไร้สายของสมาร์ทโฟน ซึ่งสร้าง สนามแม่เหล็กที่เปลี่ยนขั้วหลายพันครั้งต่อวินาที เพื่อส่งพลังงานไปยังอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียง

    อย่างไรก็ตาม DIY Perks ได้พัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวไปอีกขั้น โดยทำให้ สนามแม่เหล็กสามารถเปลี่ยนขั้วได้เร็วขึ้นถึงล้านครั้งต่อวินาที ทำให้สามารถ ส่งพลังงานได้ไกลขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ระบบนี้ใช้ ลวดเส้นเดียวเป็นขอบเขตของพื้นที่ส่งพลังงาน และสามารถ จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ที่อยู่ห่างออกไปอย่างน้อยหนึ่งฟุต

    ข้อมูลจากข่าว
    - DIY Perks สาธิตระบบส่งพลังงานไร้สายที่สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านโดมพลังงานที่มองไม่เห็น
    - ใช้หลักการเดียวกับแท่นชาร์จไร้สาย แต่เปลี่ยนขั้วสนามแม่เหล็กเร็วขึ้นถึงล้านครั้งต่อวินาที
    - สามารถส่งพลังงานได้ไกลขึ้น โดยมีขอบเขตที่กำหนดด้วยลวดเส้นเดียว
    - ระบบนี้สามารถฝังเข้าไปในโต๊ะไม้ได้ เนื่องจากไม้ไม่รบกวนสนามแม่เหล็ก
    - DIY Perks ได้สร้างคอมพิวเตอร์ที่ฝังอยู่ในโต๊ะ พร้อมระบบจ่ายไฟไร้สายเต็มรูปแบบ

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - อุปกรณ์ที่ต้องรับพลังงานไร้สายต้องมีวงแหวนรับพลังงานที่ติดตั้งไว้
    - แม้ว่าระบบจะทำงานได้ดี แต่ยังต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน
    - ต้องติดตามว่าการส่งพลังงานไร้สายจะมีผลกระทบต่อสุขภาพหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ หรือไม่
    - เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงทดลอง และต้องรอดูว่าผู้ผลิตรายใหญ่จะนำไปใช้จริงหรือไม่

    หากเทคโนโลยีนี้ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม อาจช่วยให้เราสามารถใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ต้องใช้สายไฟเลย ซึ่งจะช่วยให้ โต๊ะทำงานและพื้นที่ใช้สอยมีความสะอาดและเป็นระเบียบมากขึ้น

    https://www.techspot.com/news/108190-truly-wireless-desktop-pc-build-blow-mind.html
    ⚡ คอมพิวเตอร์ไร้สายเต็มรูปแบบ: เทคโนโลยีแห่งอนาคต ช่อง YouTube DIY Perks ได้สาธิต ระบบส่งพลังงานไร้สาย ที่สามารถ จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่าน "โดมพลังงานที่มองไม่เห็น" โดยไม่ต้องใช้สายไฟเลย ระบบนี้ใช้หลักการเดียวกับ แท่นชาร์จไร้สายของสมาร์ทโฟน ซึ่งสร้าง สนามแม่เหล็กที่เปลี่ยนขั้วหลายพันครั้งต่อวินาที เพื่อส่งพลังงานไปยังอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม DIY Perks ได้พัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวไปอีกขั้น โดยทำให้ สนามแม่เหล็กสามารถเปลี่ยนขั้วได้เร็วขึ้นถึงล้านครั้งต่อวินาที ทำให้สามารถ ส่งพลังงานได้ไกลขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบบนี้ใช้ ลวดเส้นเดียวเป็นขอบเขตของพื้นที่ส่งพลังงาน และสามารถ จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ที่อยู่ห่างออกไปอย่างน้อยหนึ่งฟุต ✅ ข้อมูลจากข่าว - DIY Perks สาธิตระบบส่งพลังงานไร้สายที่สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านโดมพลังงานที่มองไม่เห็น - ใช้หลักการเดียวกับแท่นชาร์จไร้สาย แต่เปลี่ยนขั้วสนามแม่เหล็กเร็วขึ้นถึงล้านครั้งต่อวินาที - สามารถส่งพลังงานได้ไกลขึ้น โดยมีขอบเขตที่กำหนดด้วยลวดเส้นเดียว - ระบบนี้สามารถฝังเข้าไปในโต๊ะไม้ได้ เนื่องจากไม้ไม่รบกวนสนามแม่เหล็ก - DIY Perks ได้สร้างคอมพิวเตอร์ที่ฝังอยู่ในโต๊ะ พร้อมระบบจ่ายไฟไร้สายเต็มรูปแบบ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - อุปกรณ์ที่ต้องรับพลังงานไร้สายต้องมีวงแหวนรับพลังงานที่ติดตั้งไว้ - แม้ว่าระบบจะทำงานได้ดี แต่ยังต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวัน - ต้องติดตามว่าการส่งพลังงานไร้สายจะมีผลกระทบต่อสุขภาพหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ หรือไม่ - เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงทดลอง และต้องรอดูว่าผู้ผลิตรายใหญ่จะนำไปใช้จริงหรือไม่ หากเทคโนโลยีนี้ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม อาจช่วยให้เราสามารถใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ต้องใช้สายไฟเลย ซึ่งจะช่วยให้ โต๊ะทำงานและพื้นที่ใช้สอยมีความสะอาดและเป็นระเบียบมากขึ้น https://www.techspot.com/news/108190-truly-wireless-desktop-pc-build-blow-mind.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    This truly wireless desktop PC build will blow your mind
    To grasp the wizardry at play, it helps to have a general understanding of how wireless phone charging mats work. As the presenter explains, such chargers use...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • RTX 50-Series X3W Max: นวัตกรรมใหม่ของ AX Gaming
    AX Gaming ได้เปิดตัว X3W Max series ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดในตระกูล RTX 50-Series ที่มาพร้อมกับ ดีไซน์พิเศษซ่อนสายไฟ 16-pin หลังแผงแม่เหล็ก

    X3W Max ใช้ พอร์ตจ่ายไฟ 16-pin (12VHPWR) ที่ถูกออกแบบให้ ซ่อนอยู่หลังแผงแม่เหล็ก ทำให้สามารถ ติดตั้งและถอดสายไฟได้ง่ายขึ้น

    แม้ว่าจะมีการออกแบบที่คล้ายกับกราฟิกการ์ด Blackwell รุ่นอื่น ๆ แต่ AX Gaming ได้เพิ่มการโอเวอร์คล็อกเล็กน้อย ประมาณ 2-3% เหนือกว่ามาตรฐานของ Nvidia

    นอกจากนี้ X3W Max ยังมีระบบระบายความร้อนแบบสามพัดลม และมาใน สีขาวล้วน ซึ่งช่วยให้ดูโดดเด่นกว่ารุ่นอื่น ๆ

    ข้อมูลจากข่าว
    - AX Gaming เปิดตัว X3W Max series ในตระกูล RTX 50-Series
    - ใช้พอร์ตจ่ายไฟ 16-pin ที่ซ่อนอยู่หลังแผงแม่เหล็ก
    - มีการโอเวอร์คล็อกเพิ่มขึ้น 2-3% จากมาตรฐานของ Nvidia
    - ระบบระบายความร้อนแบบสามพัดลม และดีไซน์สีขาวล้วน
    - แนะนำให้ใช้ PSU ขนาด 850W สำหรับ RTX 5080 X3W Max และ 800W สำหรับ RTX 5070 Ti X3W Max

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับปลายสายไฟ 16-pin ว่าจะเป็นแบบ 16-pin หรือ 8-pin PCIe
    - AX Gaming ไม่ได้เปิดตัว RTX 5090D เนื่องจากถูกแบนในจีน
    - ต้องติดตามว่า Nvidia จะลดสเปคของ RTX 5090D เพื่อให้สามารถส่งออกไปยังจีนได้หรือไม่
    - AX Gaming ยังไม่ได้ประกาศราคาและวันวางจำหน่ายของ X3W Max series

    X3W Max เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ กราฟิกการ์ดที่มีดีไซน์เรียบหรูและระบบจัดการสายไฟที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการออกแบบนี้จะได้รับความนิยมในตลาดหรือไม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/this-rtx-50-series-gpu-design-hides-its-custom-l-shaped-16-pin-power-cable-behind-a-magnetic-shroud
    🎮 RTX 50-Series X3W Max: นวัตกรรมใหม่ของ AX Gaming AX Gaming ได้เปิดตัว X3W Max series ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดในตระกูล RTX 50-Series ที่มาพร้อมกับ ดีไซน์พิเศษซ่อนสายไฟ 16-pin หลังแผงแม่เหล็ก X3W Max ใช้ พอร์ตจ่ายไฟ 16-pin (12VHPWR) ที่ถูกออกแบบให้ ซ่อนอยู่หลังแผงแม่เหล็ก ทำให้สามารถ ติดตั้งและถอดสายไฟได้ง่ายขึ้น แม้ว่าจะมีการออกแบบที่คล้ายกับกราฟิกการ์ด Blackwell รุ่นอื่น ๆ แต่ AX Gaming ได้เพิ่มการโอเวอร์คล็อกเล็กน้อย ประมาณ 2-3% เหนือกว่ามาตรฐานของ Nvidia นอกจากนี้ X3W Max ยังมีระบบระบายความร้อนแบบสามพัดลม และมาใน สีขาวล้วน ซึ่งช่วยให้ดูโดดเด่นกว่ารุ่นอื่น ๆ ✅ ข้อมูลจากข่าว - AX Gaming เปิดตัว X3W Max series ในตระกูล RTX 50-Series - ใช้พอร์ตจ่ายไฟ 16-pin ที่ซ่อนอยู่หลังแผงแม่เหล็ก - มีการโอเวอร์คล็อกเพิ่มขึ้น 2-3% จากมาตรฐานของ Nvidia - ระบบระบายความร้อนแบบสามพัดลม และดีไซน์สีขาวล้วน - แนะนำให้ใช้ PSU ขนาด 850W สำหรับ RTX 5080 X3W Max และ 800W สำหรับ RTX 5070 Ti X3W Max ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับปลายสายไฟ 16-pin ว่าจะเป็นแบบ 16-pin หรือ 8-pin PCIe - AX Gaming ไม่ได้เปิดตัว RTX 5090D เนื่องจากถูกแบนในจีน - ต้องติดตามว่า Nvidia จะลดสเปคของ RTX 5090D เพื่อให้สามารถส่งออกไปยังจีนได้หรือไม่ - AX Gaming ยังไม่ได้ประกาศราคาและวันวางจำหน่ายของ X3W Max series X3W Max เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ กราฟิกการ์ดที่มีดีไซน์เรียบหรูและระบบจัดการสายไฟที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการออกแบบนี้จะได้รับความนิยมในตลาดหรือไม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/this-rtx-50-series-gpu-design-hides-its-custom-l-shaped-16-pin-power-cable-behind-a-magnetic-shroud
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • บันทึกความเร็วใหม่ของอินเทอร์เน็ต: 1.02 เพตะบิตต่อวินาที
    นักวิจัยจาก สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งชาติญี่ปุ่น (NICT) ร่วมกับ Sumitomo Electric Industries ได้สร้างสถิติใหม่ในการส่งข้อมูลผ่าน สายไฟเบอร์ออปติก ด้วยความเร็ว 1.02 เพตะบิตต่อวินาที ซึ่งมากพอที่จะดาวน์โหลด ภาพยนตร์ทั้งหมดบน Netflix ได้ถึง 30 รอบ

    สายไฟเบอร์ออปติกที่ใช้ในงานวิจัยนี้มี 19 คอร์ ซึ่งแต่ละคอร์ทำหน้าที่เป็นช่องทางส่งข้อมูลแยกกัน เปรียบเสมือน ทางหลวง 19 เลน ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกับสายไฟเบอร์แบบดั้งเดิม

    เทคโนโลยีนี้สามารถทำงานได้บน C และ L bands ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลก โดยมีการปรับปรุงโครงสร้างภายในเพื่อ ลดการสูญเสียสัญญาณลง 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

    ข้อมูลจากข่าว
    - NICT และ Sumitomo Electric Industries สร้างสถิติใหม่ในการส่งข้อมูลผ่านไฟเบอร์ออปติก
    - ความเร็วสูงสุดที่ทำได้คือ 1.02 เพตะบิตต่อวินาที
    - ใช้สายไฟเบอร์แบบ 19 คอร์ ซึ่งช่วยให้สามารถส่งข้อมูลได้มากขึ้นในพื้นที่เท่าเดิม
    - เทคโนโลยีนี้สามารถทำงานบน C และ L bands ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล
    - ลดการสูญเสียสัญญาณลง 40% เมื่อเทียบกับไฟเบอร์รุ่นก่อนหน้า

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมีความเร็วสูง แต่ยังต้องพัฒนาเทคโนโลยีการขยายสัญญาณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - การนำไปใช้ในระดับอุตสาหกรรมต้องมีการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้รองรับการผลิตจำนวนมาก
    - ต้องติดตามว่าผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้จริงเมื่อใด
    - การขยายเครือข่ายระดับเพตะบิตอาจต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานใหม่ในบางพื้นที่

    เทคโนโลยีนี้อาจช่วยให้ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับเพตะบิตกลายเป็นความจริง และอาจนำไปสู่ การพัฒนาเครือข่ายที่สามารถรองรับข้อมูลระดับศูนย์ข้อมูลทั้งแห่งได้ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง

    https://www.techspot.com/news/108133-ultra-fast-fiber-sets-global-speed-record-102.html
    🚀 บันทึกความเร็วใหม่ของอินเทอร์เน็ต: 1.02 เพตะบิตต่อวินาที นักวิจัยจาก สถาบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งชาติญี่ปุ่น (NICT) ร่วมกับ Sumitomo Electric Industries ได้สร้างสถิติใหม่ในการส่งข้อมูลผ่าน สายไฟเบอร์ออปติก ด้วยความเร็ว 1.02 เพตะบิตต่อวินาที ซึ่งมากพอที่จะดาวน์โหลด ภาพยนตร์ทั้งหมดบน Netflix ได้ถึง 30 รอบ สายไฟเบอร์ออปติกที่ใช้ในงานวิจัยนี้มี 19 คอร์ ซึ่งแต่ละคอร์ทำหน้าที่เป็นช่องทางส่งข้อมูลแยกกัน เปรียบเสมือน ทางหลวง 19 เลน ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกับสายไฟเบอร์แบบดั้งเดิม เทคโนโลยีนี้สามารถทำงานได้บน C และ L bands ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้กันทั่วโลก โดยมีการปรับปรุงโครงสร้างภายในเพื่อ ลดการสูญเสียสัญญาณลง 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ✅ ข้อมูลจากข่าว - NICT และ Sumitomo Electric Industries สร้างสถิติใหม่ในการส่งข้อมูลผ่านไฟเบอร์ออปติก - ความเร็วสูงสุดที่ทำได้คือ 1.02 เพตะบิตต่อวินาที - ใช้สายไฟเบอร์แบบ 19 คอร์ ซึ่งช่วยให้สามารถส่งข้อมูลได้มากขึ้นในพื้นที่เท่าเดิม - เทคโนโลยีนี้สามารถทำงานบน C และ L bands ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล - ลดการสูญเสียสัญญาณลง 40% เมื่อเทียบกับไฟเบอร์รุ่นก่อนหน้า ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมีความเร็วสูง แต่ยังต้องพัฒนาเทคโนโลยีการขยายสัญญาณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น - การนำไปใช้ในระดับอุตสาหกรรมต้องมีการปรับปรุงกระบวนการผลิตให้รองรับการผลิตจำนวนมาก - ต้องติดตามว่าผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้จริงเมื่อใด - การขยายเครือข่ายระดับเพตะบิตอาจต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานใหม่ในบางพื้นที่ เทคโนโลยีนี้อาจช่วยให้ อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับเพตะบิตกลายเป็นความจริง และอาจนำไปสู่ การพัฒนาเครือข่ายที่สามารถรองรับข้อมูลระดับศูนย์ข้อมูลทั้งแห่งได้ในเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง https://www.techspot.com/news/108133-ultra-fast-fiber-sets-global-speed-record-102.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Ultra-fast fiber sets global speed record: 1.02 petabits per second over continental distance
    At the heart of this breakthrough – driven by Japan's National Institute of Information and Communications Technology (NICT) and Sumitomo Electric Industries – is a 19-core optical...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท AMD ได้เข้าซื้อ Enosemi ซึ่งเป็นผู้พัฒนา photonic integrated circuits เพื่อขยายเทคโนโลยี co-packaged optics สำหรับระบบ AI โดยเทคโนโลยีนี้ใช้แสงเลเซอร์ส่งข้อมูลผ่านสายไฟเบอร์ออปติกระหว่างชิป ทำให้การเชื่อมต่อเร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากกว่าการใช้สายทองแดงแบบเดิม

    เทคโนโลยี co-packaged optics กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนใน Silicon Valley เนื่องจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ AI และศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ นอกจากนี้ AMD ยังเคยเข้าซื้อ ZT Systems ด้วยมูลค่า 4.9 พันล้านเหรียญ เพื่อขยายธุรกิจด้านชิป AI และแข่งขันกับ Nvidia

    สรุปข้อมูลหลักและคำเตือน
    ข้อมูลจากข่าว
    - AMD เข้าซื้อ Enosemi เพื่อขยายเทคโนโลยี co-packaged optics
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยให้การส่งข้อมูลเร็วขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง
    - AMD ไม่เปิดเผยรายละเอียดทางการเงินของดีลนี้
    - ก่อนหน้านี้ AMD ซื้อ ZT Systems ด้วยมูลค่า 4.9 พันล้านเหรียญ เพื่อเสริมธุรกิจชิป AI

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - เทคโนโลยี co-packaged optics ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น อาจต้องใช้เวลาพัฒนาให้พร้อมใช้งานในวงกว้าง
    - การแข่งขันในตลาดชิป AI รุนแรงมาก โดย Nvidia ครองตลาดหลักอยู่
    - นักลงทุนควรติดตามผลกระทบของดีลนี้ต่อราคาหุ้นของ AMD และแนวโน้มตลาด AI

    การเข้าซื้อ Enosemi เป็นก้าวสำคัญของ AMD ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้ระบบ AI มีประสิทธิภาพสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดนี้ยังคงดุเดือด และต้องจับตาดูว่าการลงทุนนี้จะช่วยให้ AMD แข่งขันกับ Nvidia ได้มากน้อยเพียงใด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/29/amd-buys-enosemi-to-boost-co-packaged-optics-offerings
    บริษัท AMD ได้เข้าซื้อ Enosemi ซึ่งเป็นผู้พัฒนา photonic integrated circuits เพื่อขยายเทคโนโลยี co-packaged optics สำหรับระบบ AI โดยเทคโนโลยีนี้ใช้แสงเลเซอร์ส่งข้อมูลผ่านสายไฟเบอร์ออปติกระหว่างชิป ทำให้การเชื่อมต่อเร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากกว่าการใช้สายทองแดงแบบเดิม เทคโนโลยี co-packaged optics กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนใน Silicon Valley เนื่องจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ AI และศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ นอกจากนี้ AMD ยังเคยเข้าซื้อ ZT Systems ด้วยมูลค่า 4.9 พันล้านเหรียญ เพื่อขยายธุรกิจด้านชิป AI และแข่งขันกับ Nvidia 📌 สรุปข้อมูลหลักและคำเตือน ✅ ข้อมูลจากข่าว - AMD เข้าซื้อ Enosemi เพื่อขยายเทคโนโลยี co-packaged optics - เทคโนโลยีนี้ช่วยให้การส่งข้อมูลเร็วขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง - AMD ไม่เปิดเผยรายละเอียดทางการเงินของดีลนี้ - ก่อนหน้านี้ AMD ซื้อ ZT Systems ด้วยมูลค่า 4.9 พันล้านเหรียญ เพื่อเสริมธุรกิจชิป AI ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - เทคโนโลยี co-packaged optics ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น อาจต้องใช้เวลาพัฒนาให้พร้อมใช้งานในวงกว้าง - การแข่งขันในตลาดชิป AI รุนแรงมาก โดย Nvidia ครองตลาดหลักอยู่ - นักลงทุนควรติดตามผลกระทบของดีลนี้ต่อราคาหุ้นของ AMD และแนวโน้มตลาด AI การเข้าซื้อ Enosemi เป็นก้าวสำคัญของ AMD ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้ระบบ AI มีประสิทธิภาพสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดนี้ยังคงดุเดือด และต้องจับตาดูว่าการลงทุนนี้จะช่วยให้ AMD แข่งขันกับ Nvidia ได้มากน้อยเพียงใด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/29/amd-buys-enosemi-to-boost-co-packaged-optics-offerings
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
  • InWin เปิดตัว IW-1650W – พาวเวอร์ซัพพลาย 1650W สำหรับ GPU โดยเฉพาะ

    InWin เปิดตัว IW-1650W ซึ่งเป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการ์ดจอโดยเฉพาะ โดยมี กำลังไฟ 1650W และรองรับการ์ดจอสูงสุด 4 ตัวผ่านขั้วต่อ 16-pin ซึ่งเป็นแนวคิดที่คล้ายกับระบบที่ใช้ใน เซิร์ฟเวอร์และเครื่องขุดคริปโต

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ IW-1650W
    IW-1650W เป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่ออกแบบมาเพื่อจ่ายไฟให้กับ GPU เท่านั้น
    - ไม่สามารถ ทำงานได้โดยลำพัง ต้องใช้ร่วมกับพาวเวอร์ซัพพลายหลัก

    รองรับมาตรฐาน PCIe 5.1 CEM และมีขั้วต่อ 12V-2x6 จำนวน 4 ช่อง
    - สามารถ รองรับการ์ดจอสูงสุด 4 ตัว เช่น RTX 5080

    มีพัดลมระบายความร้อนขนาด 13.5 ซม. และมี Active PFC ที่ 0.99
    - ช่วยให้ ประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงถึง 90%

    ออกแบบให้เป็นระบบโมดูลาร์ สามารถถอดสายไฟที่ไม่จำเป็นออกได้
    - ช่วยให้ การจัดสายภายในเคสเป็นระเบียบมากขึ้น

    InWin เปิดตัว IW-1650W ที่งาน Computex 2025 แต่ยังไม่ประกาศราคาและวันวางจำหน่าย
    - คาดว่า จะมีข้อมูลเพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้

    https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/inwin-preps-1650w-gpu-power-supply-with-four-16-pin-power-connectors
    InWin เปิดตัว IW-1650W – พาวเวอร์ซัพพลาย 1650W สำหรับ GPU โดยเฉพาะ InWin เปิดตัว IW-1650W ซึ่งเป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการ์ดจอโดยเฉพาะ โดยมี กำลังไฟ 1650W และรองรับการ์ดจอสูงสุด 4 ตัวผ่านขั้วต่อ 16-pin ซึ่งเป็นแนวคิดที่คล้ายกับระบบที่ใช้ใน เซิร์ฟเวอร์และเครื่องขุดคริปโต 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ IW-1650W ✅ IW-1650W เป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่ออกแบบมาเพื่อจ่ายไฟให้กับ GPU เท่านั้น - ไม่สามารถ ทำงานได้โดยลำพัง ต้องใช้ร่วมกับพาวเวอร์ซัพพลายหลัก ✅ รองรับมาตรฐาน PCIe 5.1 CEM และมีขั้วต่อ 12V-2x6 จำนวน 4 ช่อง - สามารถ รองรับการ์ดจอสูงสุด 4 ตัว เช่น RTX 5080 ✅ มีพัดลมระบายความร้อนขนาด 13.5 ซม. และมี Active PFC ที่ 0.99 - ช่วยให้ ประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงถึง 90% ✅ ออกแบบให้เป็นระบบโมดูลาร์ สามารถถอดสายไฟที่ไม่จำเป็นออกได้ - ช่วยให้ การจัดสายภายในเคสเป็นระเบียบมากขึ้น ✅ InWin เปิดตัว IW-1650W ที่งาน Computex 2025 แต่ยังไม่ประกาศราคาและวันวางจำหน่าย - คาดว่า จะมีข้อมูลเพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้ https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/inwin-preps-1650w-gpu-power-supply-with-four-16-pin-power-connectors
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    InWin preps 1650W GPU power supply with four 16-pin power connectors
    A secondary power supply designed for the latest AMD and Nvidia graphics cards
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • M.2 vs SSD: ความแตกต่างที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้งาน

    หลายคนอาจสับสนระหว่าง M.2 กับ SSD แต่จริง ๆ แล้ว M.2 เป็นเพียงรูปแบบของ SSD ไม่ใช่เทคโนโลยีที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดย M.2 SSD มีขนาดเล็กและเชื่อมต่อโดยตรงกับเมนบอร์ด ในขณะที่ SSD แบบ 2.5 นิ้วใช้สาย SATA ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน

    ข้อแตกต่างระหว่าง M.2 และ SSD แบบ 2.5 นิ้ว
    M.2 เป็นรูปแบบของ SSD ที่มีขนาดเล็กและติดตั้งโดยตรงบนเมนบอร์ด
    - ไม่ต้องใช้สาย SATA และสายไฟเพิ่มเติม

    M.2 SSD ที่ใช้ NVMe มีความเร็วสูงกว่ารุ่นที่ใช้ SATA
    - PCIe Gen5 NVMe SSD สามารถทำความเร็วได้สูงถึง 14,000 MB/s
    - SATA SSD มีความเร็วสูงสุดที่ 550 MB/s

    M.2 SSD เหมาะสำหรับคอมพิวเตอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น เกมมิ่งและงานตัดต่อวิดีโอ
    - ใช้พื้นที่น้อยและมีความเร็วสูง

    SSD แบบ 2.5 นิ้วยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดระบบเก่า
    - เหมาะสำหรับ คอมพิวเตอร์ที่ไม่มีช่อง M.2

    เมนบอร์ดรุ่นใหม่รองรับ M.2 มากขึ้น ทำให้ SATA SSD เริ่มลดความนิยมลง
    - ปัจจุบัน เมนบอร์ดส่วนใหญ่มีช่อง M.2 อย่างน้อย 2-4 ช่อง

    ข้อควรระวังและผลกระทบที่ต้องติดตาม
    M.2 NVMe SSD อาจมีความร้อนสูง โดยเฉพาะรุ่น Gen4 และ Gen5
    - ควร ใช้ฮีตซิงค์เพื่อช่วยระบายความร้อน

    SSD แบบ 2.5 นิ้วมีราคาต่อ GB ถูกกว่า M.2 NVMe SSD
    - เหมาะสำหรับ ผู้ใช้ที่ต้องการความจุสูงในราคาประหยัด

    https://computercity.com/hardware/storage/m-2-vs-ssd
    M.2 vs SSD: ความแตกต่างที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้งาน หลายคนอาจสับสนระหว่าง M.2 กับ SSD แต่จริง ๆ แล้ว M.2 เป็นเพียงรูปแบบของ SSD ไม่ใช่เทคโนโลยีที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดย M.2 SSD มีขนาดเล็กและเชื่อมต่อโดยตรงกับเมนบอร์ด ในขณะที่ SSD แบบ 2.5 นิ้วใช้สาย SATA ซึ่งมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน 🔍 ข้อแตกต่างระหว่าง M.2 และ SSD แบบ 2.5 นิ้ว ✅ M.2 เป็นรูปแบบของ SSD ที่มีขนาดเล็กและติดตั้งโดยตรงบนเมนบอร์ด - ไม่ต้องใช้สาย SATA และสายไฟเพิ่มเติม ✅ M.2 SSD ที่ใช้ NVMe มีความเร็วสูงกว่ารุ่นที่ใช้ SATA - PCIe Gen5 NVMe SSD สามารถทำความเร็วได้สูงถึง 14,000 MB/s - SATA SSD มีความเร็วสูงสุดที่ 550 MB/s ✅ M.2 SSD เหมาะสำหรับคอมพิวเตอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น เกมมิ่งและงานตัดต่อวิดีโอ - ใช้พื้นที่น้อยและมีความเร็วสูง ✅ SSD แบบ 2.5 นิ้วยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดระบบเก่า - เหมาะสำหรับ คอมพิวเตอร์ที่ไม่มีช่อง M.2 ✅ เมนบอร์ดรุ่นใหม่รองรับ M.2 มากขึ้น ทำให้ SATA SSD เริ่มลดความนิยมลง - ปัจจุบัน เมนบอร์ดส่วนใหญ่มีช่อง M.2 อย่างน้อย 2-4 ช่อง ⚠️ ข้อควรระวังและผลกระทบที่ต้องติดตาม ‼️ M.2 NVMe SSD อาจมีความร้อนสูง โดยเฉพาะรุ่น Gen4 และ Gen5 - ควร ใช้ฮีตซิงค์เพื่อช่วยระบายความร้อน ‼️ SSD แบบ 2.5 นิ้วมีราคาต่อ GB ถูกกว่า M.2 NVMe SSD - เหมาะสำหรับ ผู้ใช้ที่ต้องการความจุสูงในราคาประหยัด https://computercity.com/hardware/storage/m-2-vs-ssd
    COMPUTERCITY.COM
    M.2 vs SSD
    Confused about M.2 drives versus SSDs? Many computer users struggle with this terminology when upgrading storage. M.2 is actually a form factor (physical
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • กทม. เปิดยุทธการช็อตโจรขโมยสายไฟ เข้มใช้กฎหมายเล่นงานร้านรับซื้อของโจร ลุยด่วนซ่อมไฟดับ 21 เส้นทาง คาดแล้วเสร็จ มิ.ย. นี้
    https://www.thai-tai.tv/news/18947/
    กทม. เปิดยุทธการช็อตโจรขโมยสายไฟ เข้มใช้กฎหมายเล่นงานร้านรับซื้อของโจร ลุยด่วนซ่อมไฟดับ 21 เส้นทาง คาดแล้วเสร็จ มิ.ย. นี้ https://www.thai-tai.tv/news/18947/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • RTX 4090 ยังคงเผชิญปัญหาการละลายของขั้วต่อ 16-pin แม้มีมาตรการป้องกัน

    แม้ว่าปัญหาการละลายของขั้วต่อ 16-pin (12VHPWR) บน RTX 4090 จะลดลง แต่ยังคงเกิดขึ้นกับผู้ใช้บางราย ล่าสุด ผู้ใช้ Reddit ได้แชร์ประสบการณ์และแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับปัญหาขั้วต่อ 16-pin บน RTX 4090
    ผู้ใช้พบว่าขั้วต่อ 16-pin บน RTX 4090 ละลาย แม้จะติดตั้งอย่างถูกต้อง
    - ปัญหานี้ ยังคงเกิดขึ้น แม้ว่าจะมีคำแนะนำจาก Nvidia และผู้ผลิต PSU

    ผู้ใช้ Reddit พัฒนาแนวทางแก้ไข DIY เช่น การติดตั้งฟิวส์ขนาดเล็กในสายไฟ
    - ฟิวส์จะ ตัดกระแสไฟหากมีการใช้พลังงานมากเกินไป ลดโอกาสเกิดความเสียหาย

    บางคนเลือกที่จะถอดขั้วต่อออกและเชื่อมสายไฟเข้ากับการ์ดจอโดยตรง
    - วิธีนี้ ช่วยลดความเสี่ยงของการละลาย แต่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญด้านอิเล็กทรอนิกส์

    มีการเสนอให้ใช้ฟิวส์แบบรีเซ็ตอัตโนมัติแทนฟิวส์ธรรมดา
    - ฟิวส์ประเภทนี้ สามารถกลับมาใช้งานได้เองหลังจากเกิดปัญหา

    ผู้ใช้บางรายเปลี่ยนไปใช้ขั้วต่อ 8-pin PCIe แทน 16-pin
    - วิธีนี้ ใช้ได้กับบางรุ่น เช่น L40 ที่มีการออกแบบขั้วต่อแบบพิเศษ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/rtx-4090-16-pin-meltdown-victims-resort-to-diy-solutions-to-prevent-further-disaster
    RTX 4090 ยังคงเผชิญปัญหาการละลายของขั้วต่อ 16-pin แม้มีมาตรการป้องกัน แม้ว่าปัญหาการละลายของขั้วต่อ 16-pin (12VHPWR) บน RTX 4090 จะลดลง แต่ยังคงเกิดขึ้นกับผู้ใช้บางราย ล่าสุด ผู้ใช้ Reddit ได้แชร์ประสบการณ์และแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับปัญหาขั้วต่อ 16-pin บน RTX 4090 ✅ ผู้ใช้พบว่าขั้วต่อ 16-pin บน RTX 4090 ละลาย แม้จะติดตั้งอย่างถูกต้อง - ปัญหานี้ ยังคงเกิดขึ้น แม้ว่าจะมีคำแนะนำจาก Nvidia และผู้ผลิต PSU ✅ ผู้ใช้ Reddit พัฒนาแนวทางแก้ไข DIY เช่น การติดตั้งฟิวส์ขนาดเล็กในสายไฟ - ฟิวส์จะ ตัดกระแสไฟหากมีการใช้พลังงานมากเกินไป ลดโอกาสเกิดความเสียหาย ✅ บางคนเลือกที่จะถอดขั้วต่อออกและเชื่อมสายไฟเข้ากับการ์ดจอโดยตรง - วิธีนี้ ช่วยลดความเสี่ยงของการละลาย แต่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญด้านอิเล็กทรอนิกส์ ✅ มีการเสนอให้ใช้ฟิวส์แบบรีเซ็ตอัตโนมัติแทนฟิวส์ธรรมดา - ฟิวส์ประเภทนี้ สามารถกลับมาใช้งานได้เองหลังจากเกิดปัญหา ✅ ผู้ใช้บางรายเปลี่ยนไปใช้ขั้วต่อ 8-pin PCIe แทน 16-pin - วิธีนี้ ใช้ได้กับบางรุ่น เช่น L40 ที่มีการออกแบบขั้วต่อแบบพิเศษ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/rtx-4090-16-pin-meltdown-victims-resort-to-diy-solutions-to-prevent-further-disaster
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    RTX 4090 16-pin meltdown victims resort to DIY solutions to prevent further disaster
    RTX 4090 owners show off their homebrew workarounds for 16-pin meltdowns
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • Seasonic เปิดตัว PSU รุ่นใหม่ พร้อมระบบป้องกันการละลายของขั้วต่อไฟ

    Seasonic ประกาศเปิดตัว PSU รุ่นใหม่ในซีรีส์ Prime ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีป้องกันการละลายของขั้วต่อไฟ 12VHPWR และ 12V-2×6 โดยใช้ เซ็นเซอร์และไมโครคอนโทรลเลอร์ เพื่อช่วยตรวจจับความร้อนและกระแสไฟที่ผิดปกติ

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ PSU รุ่นใหม่ของ Seasonic
    ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิและกระแสไฟบนขั้วต่อ 12V-2×6
    - หากพบว่าค่าตัวแปรเกินขีดจำกัด PSU จะตัดระบบไฟเพื่อป้องกันความเสียหาย

    มีระบบแจ้งเตือนผู้ใช้ผ่านอุปกรณ์ภายนอก
    - สามารถ ตรวจสอบสถานะของขั้วต่อไฟได้แบบเรียลไทม์

    ช่วยลดปัญหาการละลายของสายไฟที่เกิดจากโหลดไฟฟ้าที่ไม่สมดุล
    - ป้องกัน ความเสียหายต่อกราฟิกการ์ดและอุปกรณ์อื่น ๆ

    คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาสแรกของปี 2026
    - ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับ ราคาจำหน่าย

    https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/seasonics-next-generation-prime-psus-to-will-try-to-stop-connectors-from-melting
    Seasonic เปิดตัว PSU รุ่นใหม่ พร้อมระบบป้องกันการละลายของขั้วต่อไฟ Seasonic ประกาศเปิดตัว PSU รุ่นใหม่ในซีรีส์ Prime ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีป้องกันการละลายของขั้วต่อไฟ 12VHPWR และ 12V-2×6 โดยใช้ เซ็นเซอร์และไมโครคอนโทรลเลอร์ เพื่อช่วยตรวจจับความร้อนและกระแสไฟที่ผิดปกติ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ PSU รุ่นใหม่ของ Seasonic ✅ ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิและกระแสไฟบนขั้วต่อ 12V-2×6 - หากพบว่าค่าตัวแปรเกินขีดจำกัด PSU จะตัดระบบไฟเพื่อป้องกันความเสียหาย ✅ มีระบบแจ้งเตือนผู้ใช้ผ่านอุปกรณ์ภายนอก - สามารถ ตรวจสอบสถานะของขั้วต่อไฟได้แบบเรียลไทม์ ✅ ช่วยลดปัญหาการละลายของสายไฟที่เกิดจากโหลดไฟฟ้าที่ไม่สมดุล - ป้องกัน ความเสียหายต่อกราฟิกการ์ดและอุปกรณ์อื่น ๆ ✅ คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาสแรกของปี 2026 - ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับ ราคาจำหน่าย https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/seasonics-next-generation-prime-psus-to-will-try-to-stop-connectors-from-melting
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • ASUS ROG พัฒนาแนวคิดฮาร์ดแวร์แบบโมดูลาร์ ลดสายเคเบิลในพีซี

    ASUS ROG เปิดตัวแนวคิดฮาร์ดแวร์ใหม่ที่ช่วยลดสายเคเบิลในพีซี โดยเน้นไปที่ พัดลมเคสและระบบระบายความร้อนแบบน้ำ (AIO Cooler) ซึ่งจะช่วยให้การจัดการสายไฟเป็นระเบียบมากขึ้น

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแนวคิดฮาร์ดแวร์แบบโมดูลาร์ของ ASUS ROG
    พัดลมเคสแบบไร้สายช่วยลดสายเคเบิลที่ยุ่งเหยิง
    - ใช้ ตัวควบคุมพัดลมแบบไร้สายที่ส่งสัญญาณไปยังเมนบอร์ดโดยตรง
    - รองรับ Aura Sync สำหรับการควบคุมไฟ RGB

    AIO Cooler แบบไร้สายช่วยลดสายไฟรอบปั๊มน้ำ
    - เชื่อมต่อกับเมนบอร์ดโดยตรง ผ่านระบบไร้สาย
    - รองรับ การควบคุมไฟ ARGB และหน้าจอ LCD บนปั๊มน้ำ

    แนวคิดนี้ยังคงรองรับการใช้งานกับฮาร์ดแวร์ทั่วไป
    - หากติดตั้งบนเมนบอร์ดปกติ สามารถใช้สายเคเบิลแบบเดิมได้

    ASUS ROG นำแนวคิดนี้ไปจัดแสดงในงาน Computex 2025
    - ผู้เข้าชมสามารถ ทดลองใช้งานต้นแบบของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้

    https://www.techpowerup.com/337084/asus-rog-teases-continued-refinement-of-modular-hardware-concepts
    ASUS ROG พัฒนาแนวคิดฮาร์ดแวร์แบบโมดูลาร์ ลดสายเคเบิลในพีซี ASUS ROG เปิดตัวแนวคิดฮาร์ดแวร์ใหม่ที่ช่วยลดสายเคเบิลในพีซี โดยเน้นไปที่ พัดลมเคสและระบบระบายความร้อนแบบน้ำ (AIO Cooler) ซึ่งจะช่วยให้การจัดการสายไฟเป็นระเบียบมากขึ้น 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแนวคิดฮาร์ดแวร์แบบโมดูลาร์ของ ASUS ROG ✅ พัดลมเคสแบบไร้สายช่วยลดสายเคเบิลที่ยุ่งเหยิง - ใช้ ตัวควบคุมพัดลมแบบไร้สายที่ส่งสัญญาณไปยังเมนบอร์ดโดยตรง - รองรับ Aura Sync สำหรับการควบคุมไฟ RGB ✅ AIO Cooler แบบไร้สายช่วยลดสายไฟรอบปั๊มน้ำ - เชื่อมต่อกับเมนบอร์ดโดยตรง ผ่านระบบไร้สาย - รองรับ การควบคุมไฟ ARGB และหน้าจอ LCD บนปั๊มน้ำ ✅ แนวคิดนี้ยังคงรองรับการใช้งานกับฮาร์ดแวร์ทั่วไป - หากติดตั้งบนเมนบอร์ดปกติ สามารถใช้สายเคเบิลแบบเดิมได้ ✅ ASUS ROG นำแนวคิดนี้ไปจัดแสดงในงาน Computex 2025 - ผู้เข้าชมสามารถ ทดลองใช้งานต้นแบบของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้ https://www.techpowerup.com/337084/asus-rog-teases-continued-refinement-of-modular-hardware-concepts
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    ASUS ROG Teases Continued Refinement of Modular Hardware Concepts
    Browse the list of bestselling PC cases on Amazon, and you'll see a pattern emerge very quickly. Today's PC builders aren't deciding whether they want a tempered glass side panel: they're deciding how many of these panels they want. Panoramic PC cases provide an undeniably gorgeous view of your inte...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • Cooler Master เปิดตัวเคส Elite 600: ดีไซน์กระจกโค้ง รองรับหม้อน้ำคู่ 360mm

    Cooler Master เปิดตัวเคส Elite 600 ในงาน Computex 2025 ซึ่งเป็นเคส Mid-Tower ATX ที่มีดีไซน์กระจกโค้งรอบด้าน และรองรับ ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำแบบคู่

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Cooler Master Elite 600
    กระจกเทมเปอร์โค้งรอบด้าน ช่วยให้มองเห็นฮาร์ดแวร์ภายในได้ชัดเจน
    - มีให้เลือก สองสี ได้แก่ สีดำและสีเงิน

    รองรับการติดตั้ง GPU ยาวสูงสุด 425mm และหม้อน้ำคู่ขนาด 360mm
    - เหมาะสำหรับ ผู้ใช้ที่ต้องการระบบระบายความร้อนด้วยน้ำที่มีประสิทธิภาพสูง

    รองรับ CPU Cooler สูงสุด 160mm สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ
    - ช่วยให้ สามารถเลือกใช้อุปกรณ์ระบายความร้อนได้หลากหลาย

    ดีไซน์แบบ Dual-Chamber ซ่อน PSU ไว้ด้านหลังเมนบอร์ด
    - ช่วยให้ จัดการสายไฟได้ง่ายขึ้นและเพิ่มความเป็นระเบียบ

    มีพอร์ต USB 3.2 Gen 2x2 Type-C และรองรับ HDD/SSD หลายขนาด
    - รองรับ HDD 3.5 นิ้ว 1 ตัว, SSD 2.5 นิ้ว 2 ตัว และอีก 1 ช่องสำหรับ HDD/SSD ขนาด 2.5 หรือ 3.5 นิ้ว

    https://www.techspot.com/news/107989-cooler-master-elite-600-features-wrap-around-tempered.html
    Cooler Master เปิดตัวเคส Elite 600: ดีไซน์กระจกโค้ง รองรับหม้อน้ำคู่ 360mm Cooler Master เปิดตัวเคส Elite 600 ในงาน Computex 2025 ซึ่งเป็นเคส Mid-Tower ATX ที่มีดีไซน์กระจกโค้งรอบด้าน และรองรับ ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำแบบคู่ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Cooler Master Elite 600 ✅ กระจกเทมเปอร์โค้งรอบด้าน ช่วยให้มองเห็นฮาร์ดแวร์ภายในได้ชัดเจน - มีให้เลือก สองสี ได้แก่ สีดำและสีเงิน ✅ รองรับการติดตั้ง GPU ยาวสูงสุด 425mm และหม้อน้ำคู่ขนาด 360mm - เหมาะสำหรับ ผู้ใช้ที่ต้องการระบบระบายความร้อนด้วยน้ำที่มีประสิทธิภาพสูง ✅ รองรับ CPU Cooler สูงสุด 160mm สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ - ช่วยให้ สามารถเลือกใช้อุปกรณ์ระบายความร้อนได้หลากหลาย ✅ ดีไซน์แบบ Dual-Chamber ซ่อน PSU ไว้ด้านหลังเมนบอร์ด - ช่วยให้ จัดการสายไฟได้ง่ายขึ้นและเพิ่มความเป็นระเบียบ ✅ มีพอร์ต USB 3.2 Gen 2x2 Type-C และรองรับ HDD/SSD หลายขนาด - รองรับ HDD 3.5 นิ้ว 1 ตัว, SSD 2.5 นิ้ว 2 ตัว และอีก 1 ช่องสำหรับ HDD/SSD ขนาด 2.5 หรือ 3.5 นิ้ว https://www.techspot.com/news/107989-cooler-master-elite-600-features-wrap-around-tempered.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Cooler Master's Elite 600 features a wrap-around tempered glass window, dual 360mm radiator support
    The Elite 600 features a curved tempered glass panel that wraps around the front of the case, delivering an unobstructed view of the hardware within. Offered in...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ 14 พ.ค. 2568 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมาย ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา สนง.ปภ จังหวัดนครราชสีมา , อำเภอเมืองนครราชสีมา , องค์การบริหารส่วนตำบลจอหอ เทศบาลตำบลตลาด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายสถานีรถไฟบ้านเกาะ และเจ้าหน้าที่นายตรวจทางรถไฟ ลงพื้นที่ตรวจสอบอุโมงค์ทางลอดรถไฟ บริเวณบ้านหนองกะดังงา ตำบลจอหอ อำเภอเมืองนครราชสีมา กรณีน้ำท่วมขังจากฝนที่ตกหนัก เนื่องจากถูกขโมยตัดสายไฟที่ต่อไปยังเครื่องสูบน้ำ
    จากการตรวจสอบ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการแก้ไขในระยะเร่งด่วน ดังนี้
    1. การรถไฟ ได้ต่อสายไฟเข้ากับเครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากอุโมงค์ คาดว่าในช่วงบ่ายจะสามารถระบายน้ำออกได้แล้วเสร็จ
    2. องค์การบริหารส่วนตำบลจอหอ และเทศบาลตำบลตลาด จะได้นำรถไถ และรถบรรทุกน้ำ เข้าล้างทำความสะอาดอุโมงค์
    3. การรถไฟ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ขโมยสายไฟ กับสถานีตำรวจภูธรจอหอ เพื่อสืบหาผู้กระทำความผิด
    4. อำเภอเมืองนครราชสีมา ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรจอหอ ออกตรวจร้านขายของเก่าในพื้นที่ และแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ออกตรวจพื้นที่ เพื่อป้องกันการลักขโมยสายไฟ
    ระยะยาว นายตรวจทางรถไฟ ได้ของบประมาณจากการรถไฟ เพื่อวางสายไฟใต้ดินเชื่อมกับเครื่องสูบน้ำ และติดตั้งกล้องวงจรปิด ในบริเวณดังกล่าว
    วันนี้ 14 พ.ค. 2568 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมาย ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา สนง.ปภ จังหวัดนครราชสีมา , อำเภอเมืองนครราชสีมา , องค์การบริหารส่วนตำบลจอหอ เทศบาลตำบลตลาด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายสถานีรถไฟบ้านเกาะ และเจ้าหน้าที่นายตรวจทางรถไฟ ลงพื้นที่ตรวจสอบอุโมงค์ทางลอดรถไฟ บริเวณบ้านหนองกะดังงา ตำบลจอหอ อำเภอเมืองนครราชสีมา กรณีน้ำท่วมขังจากฝนที่ตกหนัก เนื่องจากถูกขโมยตัดสายไฟที่ต่อไปยังเครื่องสูบน้ำ จากการตรวจสอบ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการแก้ไขในระยะเร่งด่วน ดังนี้ 1. การรถไฟ ได้ต่อสายไฟเข้ากับเครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากอุโมงค์ คาดว่าในช่วงบ่ายจะสามารถระบายน้ำออกได้แล้วเสร็จ 2. องค์การบริหารส่วนตำบลจอหอ และเทศบาลตำบลตลาด จะได้นำรถไถ และรถบรรทุกน้ำ เข้าล้างทำความสะอาดอุโมงค์ 3. การรถไฟ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ขโมยสายไฟ กับสถานีตำรวจภูธรจอหอ เพื่อสืบหาผู้กระทำความผิด 4. อำเภอเมืองนครราชสีมา ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรจอหอ ออกตรวจร้านขายของเก่าในพื้นที่ และแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ออกตรวจพื้นที่ เพื่อป้องกันการลักขโมยสายไฟ ระยะยาว นายตรวจทางรถไฟ ได้ของบประมาณจากการรถไฟ เพื่อวางสายไฟใต้ดินเชื่อมกับเครื่องสูบน้ำ และติดตั้งกล้องวงจรปิด ในบริเวณดังกล่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 430 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts