• ต้มข้ามศตวรรษ – หัวโจก 5 – 6
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 3 “หัวโจก”

    ตอน 5

    คณะกรรมาธิการ 1919 the Senate Overman Committee ได้ลงความเห็นว่า Guaranty Trust มี บทบาทสูง และทำอย่างสม่ำเสมอ ในการสนับสนุนทางการเงินแก่เยอรมันในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 และเป็นการปฏิบัติตัวอย่างไม่เป็นกลาง ตามคำให้การของนาย Becker เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองของอเมริกา

    ที่สำคัญ การสนับสนุนทางการเงิน แก่เยอรมัน ไม่ใช่เพียงแค่เป็นการผิดกฏหมายเท่านั้น เพราะในขณะเดียวกันนั้น Guaranty Trust ก็ให้การสนับสนุนทางการเงิน กับฝ่ายสัมพันธมิตรในเวลานั้นด้วย มันเป็นเรื่องของการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการขาดจรรยาบรรณ อย่างร้ายแรงของ Guaranty Trust อีกด้วย

    แต่ฤทธิเดชความพลิกแพลงของนักการเงินวอลสตรีท ไม่ได้มีเพียงแค่นั้น ยังมีตัวละครสำคัญอีกหลายราย ที่ทำให้แผนการชั่วร้ายของกลุ่มการเงินวอลสตรีท ประสบความสำเร็จ

    Count Jacques Minotto เป็นตัวละครอีกรายหนึ่ง ที่โยงการปฏิวัติ Bolsheviks ในรัสเซียกับกลุ่มธนาคารเยอรมัน และการจารกรรมในอเมริกา ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 กับ Guaranty Trust Company ในนิวยอร์ค
    Jacques Minotto เกิดเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 1891 ที่เบอร์ลิน พ่อเป็นชาวออสเตรียนที่มีเชื้อเจ้า ส่วนแม่เป็นเยอรมัน Minotto เรียนหนังสือที่เบอร์ลิน เมื่อเรียนจบก็เข้าทำงานที่ Deutsche Bank ในเบอร์ลินเมื่อปี 1912 ทำงานที่นั่นไม่นานเท่าไหร่ เขาก็ถูกส่งตัวมาเป็นผู้ช่วยของ Hugo Schmidt ซึ่งเป็นกรรมการของธนาคาร และเป็นตัวแทนของ Deutsche Bank ที่นิวยอร์ค เรียกว่าเป็นเด็กเส้น อยู่นิวยอร์คได้ 1 ปี นาย Minotto เด็กเส้นก็ถูกส่งไปอยู่ Deutsche Bank ที่ลอนดอน ทำให้เขาได้วนเวียนอยู่ในสังคมชั้นสูง ของนักการเมืองและนักการฑูต

    เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่มก่อตัว Minotto กลับมาอยู่ที่อเมริกา และได้มีโอกาสพบกับ Count Von Bernstorff ฑูตเยอรมันประจำอเมริกา หลังจากนั้น Minotto ก็เลยเปลี่ยนที่ทำงาน ย้ายมาทำงานหน้าที่ Guaranty Trust Company ในนิวยอร์คแทน และอยู่ใต้บังคับบัญชาของนาย Max May ซึ่งเป็นกรรมการด้านนโยบายฝ่ายต่างประเทศของ Guaranty Trust เป็น Max May ที่ Olof Aschberg นายธนาคารของพวก Bolsheviks เดินตามต้อยๆ

    เดือนตุลาคม 1914 Guaranty Trust ส่ง Minotto ไปอเมริกาใต้ เพื่อไปทำการสำรวจ และวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมือง ธุรกิจการเงิน และการค้าในแถบนั้น และก็เหมือนชีวิตในลอนดอน และนิวยอร์ค Minotto พาตัวเองเข้าสู่สังคมชั้นสูง แท้จริงแล้ว ภาระกิจของ Minotto ในลาตินอเมริกาคือ หาทางให้ Guaranty Trust สามารถเป็นตัวกลาง ในการระดมเงินทุนให้เยอรมัน แทนตลาดลอนดอน ซึ่งขณะนั้นปฏิเสธที่จะทำ เนื่องจากอังกฤษกำลังทำสงครามอยู่กับเยอรมัน

    เอะ คราวนี้อังกฤษเกิดมีจรรยาบรรณ อย่าเพิ่งเข้าใจเป็นอย่างนั้น อังกฤษไม่เคยมีนิสัยอย่างนั้น และเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นอย่างนั้น มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเยอรมันมากกว่า อะไรที่จะเกิดประโยชน์กับเยอรมัน ไม่ว่าเรื่องอะไร ทางใด อังกฤษจะไม่มีวันยอมให้เกิดขึ้น เป็นอย่างนี้มากว่าร้อยปี เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอยู่ แต่เยอรมันจะรู้ตัวหรือไม่อีกเรื่องนึง

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 3 “หัวโจก”

    ตอน 6

    เมื่อ Minotto เดินทางกลับมานิวยอร์ค เขากลับมาคบค้ากับ Count Von Berntorff ต่อ และพยายาม สมัครเข้าไปอยู่ในหน่วยข่าวกรอง ของกองทัพเรืออเมริกัน แต่ไม่เป็นผล หลังจากนั้น เขาถูกจับ ข้อหาจัดกิจกรรมที่เป็นการส่งเสริมเยอรมัน ขณะถูกจับ Minotto ทำงานอยู่ที่โรงงานในชิคาโก ให้กับพ่อตาของเขา Louis Swift เจ้าของบริษัท Swift & Co ซึ่งทำอุตสาหกรรมส่งเนื้อสัตว์แช่แข็ง พ่อตาใช้พันธบัตร จำนวน 50,000 เหรียญ ประกัน Minotto ออกมา แต่ตอนหลังคุณพ่อตา ก็ถูกจับข้อหาโปรเยอรมันเช่นเดียวกัน

    เป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่าไม่ แน่ใจ แต่คุณพ่อตานี้ เป็นพี่ชาย ของ Major Harold H. Swift ที่ร่วมเดินทางไป Petrograd กับ William Boyce Thompson ในคณะภารกิจกาชาด Red Cross Mission เพื่อรัสเซีย ในปี 1917 ที่จะเล่าต่อไปด้วย

    นาย Josef Caillaux เป็นนักการเมืองชื่อดังของฝรั่งเศส เขารู้จักและเที่ยวเตร่กับ Minotto ที่ลาตินอเมริกา เมื่อตอนที่ Minotto ไปทำภาระกิจให้ Guaranty Trust

    ปี 1911 Caillaux ได้เป็นรัฐมนตรีคลัง และในปีเดียวกัน เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศส และมี John Louis Malvy เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาลของเขา หลังจากนั้นไม่กี่ปี คุณนาย Caillaux ก็ปฏิบัติการฆาตกรรม นาย Calmette บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ชื่อดังของฝรั่งเศส Figaro อัยการตั้งข้อหาว่า คุณนาย Caillaux ฆ่า Calmette เพื่อปิดปากไม่ให้ Calmette ตีพิมพ์เอกสารสำคัญฉบับหนึ่ง

    เหตุการณ์นี้ทำให้นาย Caillaux และคุณนายใจโหด หนีออกไปจากฝรั่งเศส และไปอยู่ที่แถบลาตินอเมริกา จน Minotto ได้ไปพบ และในที่สุด Minotto กับครอบครัว Caillaux ก็สนิทสนมกลมเกลียว ท่องเที่ยวด้วยกันไปทั่วอเมริกาใต้ เมื่อได้กลับมาฝรั่งเศสอีกครั้ง ครอบครัว Caillaux พักอยู่ที่ Biarrtiz ในฐานะแขกของ Paul Bolo-Pasha ซึ่งเป็นสายลับระดับหัวหน้าของเยอรมัน ที่ปฏิบัติภาระกิจอยู่ในฝรั่งเศส

    ในเดือนกรกฏาคม 1915 Minotto เดินทางจากอิตาลีมาฝรั่งเศสและพบกับครอบครัว Caillaux ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ครอบครัว Caillauxเป็นแขกรับเชิญของ Bolo-Pasha และพักที่ Biarrtiz อย่างเคย

    ภาระกิจของ Bolo-Pasha ที่ฝรั่งเศสคือ เพื่อทำการโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับเยอรมัน ผ่านหนังสือพิมพ์ชั้นนำของฝรั่งเศสคือ Le Temps และ Figaro หลังจากนั้น Bolo-Pasha ก็เดินทางไปนิวยอร์ค เพื่อพบกับ Von Pavenstedt สายลับระดับหัวหน้าของเยอรมัน ที่ปฏิบัติภาระกิจอยู่ในอเมริกา และเป็นผู้ที่มีสายสัมพันธุ์ระดับลึก กับ Amsinck & Co ของ Guaranty Trust ที่ กลุ่ม Morgan เป็นเจ้าของ

    มันเป็นเครือข่ายใยแมงมุม ของพวกโคตรแสบและชั่วจริงๆ
    Severance Johnson เขียนไว้ในหนังสือเรื่อง The Enemy Within เกี่ยวกับ Caillaux และ Malvy ซึ่งพยายามทำการปฏิวัติที่เรี ยกว่า French Bolsheviks ในฝรั่งเศสปี 1918 แต่ไม่สำเร็จว่า “ถ้าการปฏิวัติทำสำเร็จ Malvy ก็คงจะเป็น Trotsky แห่งฝรั่งเศส และ Caillaux ก็คงจะเป็น Lenin”

    Caillaux และ Malvy ได้ ร่วมกันตั้งพรรคสังคมนิยมหัวรุนแรงขึ้นในฝรั่งเศส โดยใช้เงินทุนของเยอรมัน และถูกจับตัวขึ้นศาล ในข้อหาพยายามล้มล้างรัฐบาล จากการไต่สวนของศาล เกี่ยวกับการกระทำเป็นสายลับในฝรั่งเศสในปี 1919 และมีการสืบพยานเกี่ยวกับธนาคารในนิวยอร์ค และสัมพันธ์ของพวกธนาคารกับพวก สายลับชาวเยอรมัน ซึ่งระบุว่า มีการเชื่อมโยงระหว่าง Count Minotto กับ Caillaux และ Guaranty Trust กับDeutsche Bank และการร่วมมือระหว่าง Hugo Schimdt ของ Deutsche Bank กับ Max May ของ Guaranty Trust

    ต่อมาในปลายปี 1922 Max May ได้เป็นกรรมการของธนาคาร Ruskombank และเป็นตัวแทนของกลุ่ม Guaranty Trust ซึ่งถือหุ้นอยู่ในธนาคารดังกล่าว

    สรุปว่า นาย Max May ของ Guaranty Trust เกี่ยวโยงกับการระดมเงินทุน อย่างไม่ถูกกฏหมายให้แก่เยอรมัน เพื่อทำการจารกรรมในอเมริกา ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 และ Max May ก็เกี่ยวโยง โดยทางอ้อมกับพวกปฏิวัติ Bolsheviks และเกี่ยวโดยตรงกับการตั้งธนาคาร Ruskombank ธนาคารระหว่างประเทศแห่งแรกในสหภาพโซเวียต

    อาจจะยังเร็วไป ที่จะสรุปว่า การกระทำ ที่ทั้งผิดกฏหมายและผิดจรรยาบรรณอย่างร้ายแรงเหล่านี้ มีคำอธิบายอย่างไร อาจมีผู้สรุปชั้นแรกตรงไปตรงมา ว่า น่าจะมาจากความต้องการทำกำไร ความงกในการทำธุรกิจ ของกลุ่มนักการเงิน แต่มันจะเป็นแค่นั้นแน่หรือ…

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    29 เม.ย. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – หัวโจก 5 – 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 3 “หัวโจก” ตอน 5 คณะกรรมาธิการ 1919 the Senate Overman Committee ได้ลงความเห็นว่า Guaranty Trust มี บทบาทสูง และทำอย่างสม่ำเสมอ ในการสนับสนุนทางการเงินแก่เยอรมันในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 และเป็นการปฏิบัติตัวอย่างไม่เป็นกลาง ตามคำให้การของนาย Becker เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวกรองของอเมริกา ที่สำคัญ การสนับสนุนทางการเงิน แก่เยอรมัน ไม่ใช่เพียงแค่เป็นการผิดกฏหมายเท่านั้น เพราะในขณะเดียวกันนั้น Guaranty Trust ก็ให้การสนับสนุนทางการเงิน กับฝ่ายสัมพันธมิตรในเวลานั้นด้วย มันเป็นเรื่องของการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการขาดจรรยาบรรณ อย่างร้ายแรงของ Guaranty Trust อีกด้วย แต่ฤทธิเดชความพลิกแพลงของนักการเงินวอลสตรีท ไม่ได้มีเพียงแค่นั้น ยังมีตัวละครสำคัญอีกหลายราย ที่ทำให้แผนการชั่วร้ายของกลุ่มการเงินวอลสตรีท ประสบความสำเร็จ Count Jacques Minotto เป็นตัวละครอีกรายหนึ่ง ที่โยงการปฏิวัติ Bolsheviks ในรัสเซียกับกลุ่มธนาคารเยอรมัน และการจารกรรมในอเมริกา ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 กับ Guaranty Trust Company ในนิวยอร์ค Jacques Minotto เกิดเมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 1891 ที่เบอร์ลิน พ่อเป็นชาวออสเตรียนที่มีเชื้อเจ้า ส่วนแม่เป็นเยอรมัน Minotto เรียนหนังสือที่เบอร์ลิน เมื่อเรียนจบก็เข้าทำงานที่ Deutsche Bank ในเบอร์ลินเมื่อปี 1912 ทำงานที่นั่นไม่นานเท่าไหร่ เขาก็ถูกส่งตัวมาเป็นผู้ช่วยของ Hugo Schmidt ซึ่งเป็นกรรมการของธนาคาร และเป็นตัวแทนของ Deutsche Bank ที่นิวยอร์ค เรียกว่าเป็นเด็กเส้น อยู่นิวยอร์คได้ 1 ปี นาย Minotto เด็กเส้นก็ถูกส่งไปอยู่ Deutsche Bank ที่ลอนดอน ทำให้เขาได้วนเวียนอยู่ในสังคมชั้นสูง ของนักการเมืองและนักการฑูต เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่มก่อตัว Minotto กลับมาอยู่ที่อเมริกา และได้มีโอกาสพบกับ Count Von Bernstorff ฑูตเยอรมันประจำอเมริกา หลังจากนั้น Minotto ก็เลยเปลี่ยนที่ทำงาน ย้ายมาทำงานหน้าที่ Guaranty Trust Company ในนิวยอร์คแทน และอยู่ใต้บังคับบัญชาของนาย Max May ซึ่งเป็นกรรมการด้านนโยบายฝ่ายต่างประเทศของ Guaranty Trust เป็น Max May ที่ Olof Aschberg นายธนาคารของพวก Bolsheviks เดินตามต้อยๆ เดือนตุลาคม 1914 Guaranty Trust ส่ง Minotto ไปอเมริกาใต้ เพื่อไปทำการสำรวจ และวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมือง ธุรกิจการเงิน และการค้าในแถบนั้น และก็เหมือนชีวิตในลอนดอน และนิวยอร์ค Minotto พาตัวเองเข้าสู่สังคมชั้นสูง แท้จริงแล้ว ภาระกิจของ Minotto ในลาตินอเมริกาคือ หาทางให้ Guaranty Trust สามารถเป็นตัวกลาง ในการระดมเงินทุนให้เยอรมัน แทนตลาดลอนดอน ซึ่งขณะนั้นปฏิเสธที่จะทำ เนื่องจากอังกฤษกำลังทำสงครามอยู่กับเยอรมัน เอะ คราวนี้อังกฤษเกิดมีจรรยาบรรณ อย่าเพิ่งเข้าใจเป็นอย่างนั้น อังกฤษไม่เคยมีนิสัยอย่างนั้น และเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นอย่างนั้น มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเยอรมันมากกว่า อะไรที่จะเกิดประโยชน์กับเยอรมัน ไม่ว่าเรื่องอะไร ทางใด อังกฤษจะไม่มีวันยอมให้เกิดขึ้น เป็นอย่างนี้มากว่าร้อยปี เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอยู่ แต่เยอรมันจะรู้ตัวหรือไม่อีกเรื่องนึง นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 3 “หัวโจก” ตอน 6 เมื่อ Minotto เดินทางกลับมานิวยอร์ค เขากลับมาคบค้ากับ Count Von Berntorff ต่อ และพยายาม สมัครเข้าไปอยู่ในหน่วยข่าวกรอง ของกองทัพเรืออเมริกัน แต่ไม่เป็นผล หลังจากนั้น เขาถูกจับ ข้อหาจัดกิจกรรมที่เป็นการส่งเสริมเยอรมัน ขณะถูกจับ Minotto ทำงานอยู่ที่โรงงานในชิคาโก ให้กับพ่อตาของเขา Louis Swift เจ้าของบริษัท Swift & Co ซึ่งทำอุตสาหกรรมส่งเนื้อสัตว์แช่แข็ง พ่อตาใช้พันธบัตร จำนวน 50,000 เหรียญ ประกัน Minotto ออกมา แต่ตอนหลังคุณพ่อตา ก็ถูกจับข้อหาโปรเยอรมันเช่นเดียวกัน เป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่าไม่ แน่ใจ แต่คุณพ่อตานี้ เป็นพี่ชาย ของ Major Harold H. Swift ที่ร่วมเดินทางไป Petrograd กับ William Boyce Thompson ในคณะภารกิจกาชาด Red Cross Mission เพื่อรัสเซีย ในปี 1917 ที่จะเล่าต่อไปด้วย นาย Josef Caillaux เป็นนักการเมืองชื่อดังของฝรั่งเศส เขารู้จักและเที่ยวเตร่กับ Minotto ที่ลาตินอเมริกา เมื่อตอนที่ Minotto ไปทำภาระกิจให้ Guaranty Trust ปี 1911 Caillaux ได้เป็นรัฐมนตรีคลัง และในปีเดียวกัน เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรีของฝรั่งเศส และมี John Louis Malvy เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศในรัฐบาลของเขา หลังจากนั้นไม่กี่ปี คุณนาย Caillaux ก็ปฏิบัติการฆาตกรรม นาย Calmette บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ชื่อดังของฝรั่งเศส Figaro อัยการตั้งข้อหาว่า คุณนาย Caillaux ฆ่า Calmette เพื่อปิดปากไม่ให้ Calmette ตีพิมพ์เอกสารสำคัญฉบับหนึ่ง เหตุการณ์นี้ทำให้นาย Caillaux และคุณนายใจโหด หนีออกไปจากฝรั่งเศส และไปอยู่ที่แถบลาตินอเมริกา จน Minotto ได้ไปพบ และในที่สุด Minotto กับครอบครัว Caillaux ก็สนิทสนมกลมเกลียว ท่องเที่ยวด้วยกันไปทั่วอเมริกาใต้ เมื่อได้กลับมาฝรั่งเศสอีกครั้ง ครอบครัว Caillaux พักอยู่ที่ Biarrtiz ในฐานะแขกของ Paul Bolo-Pasha ซึ่งเป็นสายลับระดับหัวหน้าของเยอรมัน ที่ปฏิบัติภาระกิจอยู่ในฝรั่งเศส ในเดือนกรกฏาคม 1915 Minotto เดินทางจากอิตาลีมาฝรั่งเศสและพบกับครอบครัว Caillaux ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ครอบครัว Caillauxเป็นแขกรับเชิญของ Bolo-Pasha และพักที่ Biarrtiz อย่างเคย ภาระกิจของ Bolo-Pasha ที่ฝรั่งเศสคือ เพื่อทำการโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับเยอรมัน ผ่านหนังสือพิมพ์ชั้นนำของฝรั่งเศสคือ Le Temps และ Figaro หลังจากนั้น Bolo-Pasha ก็เดินทางไปนิวยอร์ค เพื่อพบกับ Von Pavenstedt สายลับระดับหัวหน้าของเยอรมัน ที่ปฏิบัติภาระกิจอยู่ในอเมริกา และเป็นผู้ที่มีสายสัมพันธุ์ระดับลึก กับ Amsinck & Co ของ Guaranty Trust ที่ กลุ่ม Morgan เป็นเจ้าของ มันเป็นเครือข่ายใยแมงมุม ของพวกโคตรแสบและชั่วจริงๆ Severance Johnson เขียนไว้ในหนังสือเรื่อง The Enemy Within เกี่ยวกับ Caillaux และ Malvy ซึ่งพยายามทำการปฏิวัติที่เรี ยกว่า French Bolsheviks ในฝรั่งเศสปี 1918 แต่ไม่สำเร็จว่า “ถ้าการปฏิวัติทำสำเร็จ Malvy ก็คงจะเป็น Trotsky แห่งฝรั่งเศส และ Caillaux ก็คงจะเป็น Lenin” Caillaux และ Malvy ได้ ร่วมกันตั้งพรรคสังคมนิยมหัวรุนแรงขึ้นในฝรั่งเศส โดยใช้เงินทุนของเยอรมัน และถูกจับตัวขึ้นศาล ในข้อหาพยายามล้มล้างรัฐบาล จากการไต่สวนของศาล เกี่ยวกับการกระทำเป็นสายลับในฝรั่งเศสในปี 1919 และมีการสืบพยานเกี่ยวกับธนาคารในนิวยอร์ค และสัมพันธ์ของพวกธนาคารกับพวก สายลับชาวเยอรมัน ซึ่งระบุว่า มีการเชื่อมโยงระหว่าง Count Minotto กับ Caillaux และ Guaranty Trust กับDeutsche Bank และการร่วมมือระหว่าง Hugo Schimdt ของ Deutsche Bank กับ Max May ของ Guaranty Trust ต่อมาในปลายปี 1922 Max May ได้เป็นกรรมการของธนาคาร Ruskombank และเป็นตัวแทนของกลุ่ม Guaranty Trust ซึ่งถือหุ้นอยู่ในธนาคารดังกล่าว สรุปว่า นาย Max May ของ Guaranty Trust เกี่ยวโยงกับการระดมเงินทุน อย่างไม่ถูกกฏหมายให้แก่เยอรมัน เพื่อทำการจารกรรมในอเมริกา ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 และ Max May ก็เกี่ยวโยง โดยทางอ้อมกับพวกปฏิวัติ Bolsheviks และเกี่ยวโดยตรงกับการตั้งธนาคาร Ruskombank ธนาคารระหว่างประเทศแห่งแรกในสหภาพโซเวียต อาจจะยังเร็วไป ที่จะสรุปว่า การกระทำ ที่ทั้งผิดกฏหมายและผิดจรรยาบรรณอย่างร้ายแรงเหล่านี้ มีคำอธิบายอย่างไร อาจมีผู้สรุปชั้นแรกตรงไปตรงมา ว่า น่าจะมาจากความต้องการทำกำไร ความงกในการทำธุรกิจ ของกลุ่มนักการเงิน แต่มันจะเป็นแค่นั้นแน่หรือ… สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 29 เม.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 211 Views 0 Reviews
  • ต้มข้ามศตวรรษ – หัวโจก 1 – 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 3 “หัวโจก”

    ตอน 1

    ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 อาณาจักรของธุรกิจการเงิน การอุตสาหกรรมและการค้าของอเม ริกา ถูกครอบงำโดยยักษ์ใหญ่ 2 กลุ่มคือ Standard Oil- Rockefeller Enterprise กลุ่มหนึ่ง และ Morgan อีกกลุ่มหนึ่ง ยักษ์ใหญ่ 2 กลุ่ม น่าจะตีกัน แต่แปลก นอกจากไม่ตีกันแล้ว ยังจับมือร่วมกัน เพื่อครอบงำอาณาจักรธุรกิจของอเมริกาอีกด้วย โดยใช้วิธีการถือหุ้น และเป็นกรรมการบริษัท ไขว้กันไปมา มันเป็นการครอบงำ ที่แนบเนียน ยากที่คนภายนอกจะดูออก

    กลุ่ม Rockefeller เน้น การผูกขาดด้านอุตสาหกรรมน้ำมัน โดยเป็นเจ้าของบริษัทน้ำมันStandard Oil ที่ใหญ่คับอเมริกา และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกัน รวมทั้ง ลงทุนในการสร้างทางรถไฟ พร้อมถือหุ้นส่วนใหญ่ใน กองทุนทองแดง กองทุนถลุงแร่ กองทุนยาสูบ แค่นั้นคงใหญ่ไม่พอ กลุ่มนี้จึงไปถือหุ้นส่วนใหญ่ใน National City Bank ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่สุด และรวมไปถึง บริษัทเงินทุนใหญ่ของอเมริกาคือ United State Trust Company และ Hanover Nation Bank และบริษัทประกันชีวิตระดับใหญ่ต่างๆ อีกด้วย

    ส่วนกลุ่ม Morgan เน้นการผูกขาดด้านอุตสาหกรรมเหล็ก การขนส่งทางเรือ การสร้างทางรถไฟ อุตสาหกรรมด้านเครื่องไฟฟ้า รวมถึง General Electric ยางพารา และสถาบันการเงิน เช่น National Bank of Commerce, the Chase National Bank, New York Life Insurance และ Guaranty Trust Company ที่มีบทบาทสำคัญ
    J.P. Morgan และ Guaranty Trust ถูกพาดพิง ว่าพัวพันเกือบตลอดระยะเวลา และเกือบทุกเรื่องราว เกี่ยวกับการปฏิวัติรัสเซียนี้ มารู้จักประวัติของกลุ่มนี้กันหน่อย

    ตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 กลุ่ม Guaranty Trust ยังเป็นของพวกตระกูล Harriman แต่เมื่อพี่ใหญ่ Edward Henry Harriman ตายในปี ค.ศ.1909 Morgan และพวก จึงเข้าไปกวาดซื้อหุ้นทั้งหมดของ Harriman และกลายเป็นเจ้าของ Guaranty Trust รวมทั้งบริษัทประกันในเครือแทน ต่อมาในปีเดียวกัน Morgan ก็ไล่ซื้อหุ้นของบริษัทอื่นๆ เพิ่มอีก และเอาเข้ามาอยู่ในชื่อของ Guaranty Trust หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 Guaranty Trust และ Bankers Trust จึงเป็นบริษัททรัสต์ ที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่ง และอันดับสองของอเมริกา และทั้ง 2 กลุ่มบริษัท เป็นของกลุ่มทุน Morgan

    เห็นใยแมงมุมคร่าวๆ ของธุรกิจ ของยักษ์ ทั้ง 2 กลุ่ม ในช่วงแรกแล้วนะครับ

    ยักษ์ ทั้ง 2 กลุ่ม ต่างเข้าไปมีส่วน เกี่ยวพัน กับการสนับสนุนเงินทุนให้กับพวกปฏิวัติ Bolsheviks ตั้งแต่ก่อน ค.ศ.1917 แล้ว ไม่มากก็น้อย

    มีบันทึกแสดงว่า ค.ศ.1913 สำนักงานกฏหมาย Sullivan & Cromwell มีส่วนสนับสนุนการปฏิวัติของปานามา เรื่องนี้อยู่ในบันทึกการไต่สวนของรัฐสภาในปี 1913 ซึ่งชี้แจงโดยสมาชิกสภา Rainey

    “….การปฏิวัติที่เกี่ยวกับช่องแคบปานามา ถ้าไม่ใช่เพราะรัฐบาล(อเมริกา) นี้เข้าไปมีส่วนแล้ว การปฏิวัติก็คงทำไม่สำเร็จแน่ มันเป็นการกระทำของรัฐบาลนี้ ที่ผิดตามสนธิสัญญา ค.ศ.1846 มันเป็นการปฏิวัติ ที่ทำโดยนักปฏิวัติชาวปานามา 10 ถึง 12 คน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของบริษัท Panama Railroad & Steamship ซึ่งทำงานอยู่ในนิวยอร์ค และอยู่ในความดูแลของนาย William Nelson Cromwell และพวกเจ้าหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศในวอชิงตัน บุคคลเหล่านี้ รู้เรื่องการปฏิวัติที่กำลังจะ เกิดขึ้น อย่างดี วัตถุประสงค์ของการปฏิวัติ ก็เพื่อเข้าไปยึดโคลัมเบีย เพื่อจะครอบครอง คลองปานามา ด้วยการใช้เงิน 40 ล้านเหรียญ ”

    “ผมจะเสนอข้อพิสูจน์ เป็นเอกสาร ที่ประกาศอิสรภาพ ซึ่งประกาศในปานามา วันที่ 3 พฤศจิกายน 1903 เป็นเอกสารซึ่งจัดเตรียมขึ้นในนครนิวยอร์ค โดย สำนักงานของ Nelson Cromwell….”
    เอกสารตัวอย่างอีกรายการ ที่แสดงให้เห็น ถึงการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ ของพวก Wall Street ที่ ดำเนินการในนิวยอร์คคือ การปฏิวัติในจีน ปี ค.ศ.1912 ซึ่งนำโดยนายซุนยัดเซ็น (Sun Yat-sen) แม้ว่าสุดท้ายแล้ว การเข้าไปยุ่งกับการปฏิวัติของกลุ่มนักการเงินนี้ จะได้รับผลตอบแทนอย่างไร จะยังไม่เห็นชัด แต่เจตนาและบทบาทของนักการเงินนิวยอร์คเหล่านั้น ถูกบันทึกไว้อย่างละเอียด ถึงจำนวนเงิน ข้อมูลของสมาคมลับทางฝั่งจีนที่ให้ร่วมมือ รวมทั้งมีรายการส่งอาวุธ ที่ต้องการให้ซื้อและส่งให้ทางเรือด้วย

    กลุ่มนักการเงินนิวยอร์ค ที่ร่วมกันปฏิวัติกับซุนยัดเซ็น มีชื่อนาย Charles B. Hill ทนายจากสำนักงาน Hunt, Hill & Betts ซึ่งในปี ค.ศ.1912 สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 165 ถนนบรอดเวย์ นิวยอร์ค แต่ในปี 1917 ย้ายไปอยู่ที่ 120 บรอดเวย์

    นาย Charles B. Hill นี้ เป็นกรรมการของหลายบริษัทในเครือ Westinghouse, Bryant Electric, Perkins Electric Switch และ Westinghouse Lamp ทั้งหมดเป็นบริษัทในเครือของ Westinghouse Electric ที่มีสำนักงานในนิวยอร์คอยู่ที่ เลขที่ 120 Broadway และนาย Charles R. Crane ผู้ที่จัดตั้งบริษัทในเครือ Westinghouse ในรัสเซีย ก็เป็นที่รู้กันดีว่า เขามีบทบาทสำคัญ เกี่ยวกับการทำปฏิวัติของพวก Bolsheviks และเขาก็เดินทางไปรัสเซีย พร้อมกับกลุ่มของ Trotsky ในช่วงเดือนมีนาคม 1917

    การดำเนินงานของ Hill Syndicate ที่เมืองจีนในปี 1910 ถูกบันทึกไว้ในหลักฐาน เรียกว่า Laurence Boothe Papers ที่เก็บอยู่ใน Hoover Institute เอกสาร ชุดนี้มี 110 รายการ รวมทั้งจดหมาย ของซุนยัดเซ็น ที่ติดต่อกับชาวอเมริกันที่หนุนหลังเขา และเพื่อเป็นการตอบแทนที่พวกอเมริกันสนับสนุนทางการเงิน ซุนยัดเซ็น สัญญากับ Hill Syndicate ที่จะจัดการให้สัมปทานรถไฟ ธนาคาร และสัมปทานการค้าอีกหลายรายการ หลังจากการปฏิวัติที่จีนทำสำเร็จ
    อีกกรณีที่แสดงว่า เป็นการปฏิวัติ ที่มีการสนับสนุนโดยกลุ่มธุรกิจการ เงินในนิวยอร์ค คือ การปฏิวัติที่ Mexico ใน ปี 1915-1916 สายลับชาวเยอรมัน ซึ่งอาศัยอยู่ในอเมริกา ถูกกล่าวหาและถูกดำเนินคดีในนิวยอร์คเมื่อเดือนพฤษภาคม 1917 ว่าได้มีการพยายามโยงเอารัฐบาลอเมริกัน ไปเกี่ยวพันกับเม็กซิโก และญี่ปุ่น โดยพยายามขนย้ายอาวุธยุทธภันฑ์ ที่จัดส่งไปให้สัมพันธมิตรในยุโรป โดยมีการจ่ายเงิน ให้ส่งอาวุธนั้นไปให้นักปฏิวัติชาวเม็กซิกันคือ Pancho Villa แทน โดยการจ่ายเงินผ่าน Guaranty Trust เป็นจำนวนเงิน 380,000 เหรียญ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางปี 1915

    การเกี่ยวพันของกลุ่มวอลสตรีท กับการปฏิวัติของเม็กซิกันนี้ ได้ปรากฏอยู่ในจดหมายของนาย Linclon Steffens คอมมิวนิสต์อเมริกัน ที่มีไปถึง Colonel House ที่ปรึกษาสุดใหญ่ของประธานาธิบดี Wilson และได้มีการรายงานอยู่ใน นสพ. New York Times เรื่อง “Texas Revolution (การซ้อมใหญ่ก่อนการแสดงจริง ของการปฏิวัติพวก Bolsheviks)” ว่าเป็นการร่วมมือกัน ระหว่างพวกเยอรมันกับพวก Bolsheviks

    และจากการให้การของ John A Walls อัยการเขตประจำเมือง Brownsville Texas ต่อคณะกรรมาธิการ 1919 Fall Committee ซึ่งส่งมอบเอกสาร ที่มีหลักฐานแสดงว่า มีความเชื่อมโยงระหว่างผลประโยชน์ในอเมริกา, พวก Bolsheviks, กลุ่มนักเคลื่อนไหวชาวเยอรมัน และกองกำลังของ Carranza ในเม็กซิโก

    รัฐบาล Carranza นี้ ได้ชื่อว่า เป็นรัฐบาลแรกในโลก ที่มีการปกครองที่ใช้รัฐธรรมนูญแบบเดียวกับของโซเวียต (ซึ่งร่างตามแบบของ Trotsky) และได้รับการสนับสนุนโดยกลุ่มวอลสตรีทให้เป็นรัฐบาล

    การปฏิวัติ Carranza ไม่ มีทางสำเร็จได้ ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุน ด้านอาวุธยุทธภัณฑ์จากอเมริกา และไม่สามารถจะอยู่ในอำนาจได้นาน ถ้าไม่มีการช่วยเหลือจากอเมริกา

    การปฏิวัติรัสเซียของกลุ่ม Bolsheviks ก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่มี นายธนาคารชาวสวีเดน Olof Aschberg เป็นตัวกลางประสาน กลุ่มวอลสตรีท กับอีกหลายๆฝ่าย ก็คงไม่สำเร็จเหมือนกัน

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 3 “หัวโจก”

    ตอน 2

    ยุโรปเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 ในเดือนสิงหาคม 1914 ส่วนอเมริกายังไม่เข้าร่วมทำสงครามโลก และประกาศตัวเป็นกลาง ภายใต้กฏหมายระหว่างประเทศ ประเทศที่ประกาศตัวเป็นกลาง ไม่สามารถให้เงินกู้ กับประเทศที่กำลังทำสงครามได้ มันเป็นเรื่องของการขัดต่อกฏหมาย และขัดศีลธรรม แต่ดูเหมือนกลุ่มวอลสตรีท และอเมริกา จะไม่เห็นว่า 2 เรื่องนี้ เป็นปัญหาแต่อย่างใด

    และน้อยคนที่จะรู้ว่า เมื่ออังกฤษจะเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 นั้น อังกฤษเองก็กำลังถังแตก เงินคงคลังหมดเกลี้ยง รัฐบาลอังกฤษปิดปากแน่นสนิท ไม่ให้ประชาชนและสื่อรู้เรื่อง แต่อังกฤษก็ยังเดินหน้าตามแผนเข้าสู่สงครามโลก เนื่องจากมีเป้าหมายชัดเจนที่จะขจัดเยอรมัน ให้ออกไปจากเส้นทางตามแผนสู่การ เป็นมหาอำนาจใหญ่ หมายเลขหนึ่งของโลก ที่อังกฤษวางไว้ แค่เป็นจักรภพอังกฤษ มันใหญ๋ไม่พอ สำหรับชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อย ของเท้าซ้าย

    อังกฤษทำได้อย่างไร ทำสงครามทั้งๆที่ไม่มีเงิน อังกฤษทำได้เพราะมี กลุ่ม Morgan จัดการให้ Morgan ได้รับมอบหมายจากอังกฤษ ให้ทำหน้าที่ เป็นตัวแทนแต่ผู้เดียวของอังกฤษเพื่อระดมทุน โดยการออกพันธบัตรสงคราม ( War Bond) ในปี 1915 แถม และระดมทุนเผื่อฝรั่งเศสอีกด้วย อังกฤษ รวมทั้งฝรั่งเศส เข้าสู่สงครามโลกด้วยการกู้ยืมเงินจากอเมริกา ที่บอกว่าเป็นกลางและไม่ร่วมทำสงครามด้วย !

    J.P. Morgan ตะแบงว่าไม่ใช่เป็นเงินให้กู้เพื่อทำสงคราม แต่เป็นเพียงวิธีการจัดการ เพื่อให้เอาเงินไปใช้ ในด้านการค้าขายระหว่างประเทศเท่านั้น มีปัญหาไหม

    จะมีปัญหาได้อย่างไร เพราะผู้ที่ออกมาอธิบาย สนันสนุนการออกพันธบัตร War Bond ของ Morgan คือ ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ของอเมริกา

    ประธานาธิบดี Wilson ทำหน้าที่ เหมือนเป็นผู้รับประกันการขายพันธบัตร ( underwriter) เขาบอกว่า มันเป็นพันธบัตรที่ออกขายในอเมริกา เพื่อนำเงินที่ได้จากการขาย ไปให้รัฐบาลต่างชาติ ใช้เป็นเงินคงคลัง หรือเงินเก็บน่ะ เขาไม่ได้เอาไปใช้ในการสงคราม ในทางปฏิบัติ อังกฤษและฝรั่งเศส นำเงินที่ได้รับ ลงบัญชีเป็นเงินฝากในประเทศของตัว และใช้เป็นหลักประกันในการสั่งซื้อสินค้า และยุทธภัณฑ์ต่างๆ จากอเมริกา เพื่อใช้ในการทำสงคราม มันผิดกฏหมายเกี่ยวกับความเป็นกลางตรงไหน
    นี่มันเรื่อง 100 ปีมาแล้ว นักการเงินของเขา ยังคิดตะแบงได้ขนาดนี้ แล้วเดี๋ยวนี้เขาจะพลิกแพลงขนาดไหน แต่สมันน้อยอย่าเพิ่งขวัญอ่อนตกใจ มันก็ใช้สูตรเดิมๆ นั่นแหละ แค่เปลี่ยนชื่อเรียก เติมลูกเล่น สลับขั้นตอนเข้าไปอีกหน่อย แค่นั้นเราก็มึน คิดตามมันกันไม่ทันไปค่อนโลก แต่ถ้าเราไม่ว่าง่ายเชื่อมันไปหมด ในสิ่งที่มันสร้างมาหลอกเรา เราก็รู้ทันมันได้ ฝรั่งมันไม่ได้ฉลาดเก่งกว่าเรานักหรอกครับ

    แค่ออกพันธบัตร War Bond ให้อังกฤษกับฝรั่งเศส สงครามโลกคงไม่ได้เกิดขึ้นตามแผนที่วางไว้ ดังนั้น กลุ่มนักการเงินของอเมริกา จึงต้องสนับสนุนเงินกู้ให้รัสเซียด้วย ตั้งแต่สมัยซาร์นิโคลัส เพื่อให้มีเงินมาร่วมทำสงครามสู้กับฝ่ายเยอรมัน ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตร หรืออังกฤษต้องการ

    เจ้ามือให้เงินกู้ลูกค้ารอบวงแบบนี้ เจ้ามือคงปิดทางเจ๊งไว้เรียบร้อยแล้ว

    มีหลักฐานเป็นเอกสารของกระทรวง ต่างประเทศ ที่แสดงว่า National City Bank ซึ่งมีกลุ่ม Stillman และ Rockefeller เป็นเจ้าของ และ Guaranty Trust ซึ่งเป็นของกลุ่ม Morgan ได้ร่วมกันให้เงินกู้ก้อนใหญ่แก่รัสเซีย ก่อนที่อเมริกาจะเข้าสู่สงคราม และเป็นการให้กู้หลังจากที่กระทรวงต่างประเทศ ได้แจ้งกับกลุ่มผู้ให้กู้ว่า เป็นการผิดกฏหมายระหว่างประเทศ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 เม.ย. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – หัวโจก 1 – 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 3 “หัวโจก” ตอน 1 ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 อาณาจักรของธุรกิจการเงิน การอุตสาหกรรมและการค้าของอเม ริกา ถูกครอบงำโดยยักษ์ใหญ่ 2 กลุ่มคือ Standard Oil- Rockefeller Enterprise กลุ่มหนึ่ง และ Morgan อีกกลุ่มหนึ่ง ยักษ์ใหญ่ 2 กลุ่ม น่าจะตีกัน แต่แปลก นอกจากไม่ตีกันแล้ว ยังจับมือร่วมกัน เพื่อครอบงำอาณาจักรธุรกิจของอเมริกาอีกด้วย โดยใช้วิธีการถือหุ้น และเป็นกรรมการบริษัท ไขว้กันไปมา มันเป็นการครอบงำ ที่แนบเนียน ยากที่คนภายนอกจะดูออก กลุ่ม Rockefeller เน้น การผูกขาดด้านอุตสาหกรรมน้ำมัน โดยเป็นเจ้าของบริษัทน้ำมันStandard Oil ที่ใหญ่คับอเมริกา และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกัน รวมทั้ง ลงทุนในการสร้างทางรถไฟ พร้อมถือหุ้นส่วนใหญ่ใน กองทุนทองแดง กองทุนถลุงแร่ กองทุนยาสูบ แค่นั้นคงใหญ่ไม่พอ กลุ่มนี้จึงไปถือหุ้นส่วนใหญ่ใน National City Bank ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่สุด และรวมไปถึง บริษัทเงินทุนใหญ่ของอเมริกาคือ United State Trust Company และ Hanover Nation Bank และบริษัทประกันชีวิตระดับใหญ่ต่างๆ อีกด้วย ส่วนกลุ่ม Morgan เน้นการผูกขาดด้านอุตสาหกรรมเหล็ก การขนส่งทางเรือ การสร้างทางรถไฟ อุตสาหกรรมด้านเครื่องไฟฟ้า รวมถึง General Electric ยางพารา และสถาบันการเงิน เช่น National Bank of Commerce, the Chase National Bank, New York Life Insurance และ Guaranty Trust Company ที่มีบทบาทสำคัญ J.P. Morgan และ Guaranty Trust ถูกพาดพิง ว่าพัวพันเกือบตลอดระยะเวลา และเกือบทุกเรื่องราว เกี่ยวกับการปฏิวัติรัสเซียนี้ มารู้จักประวัติของกลุ่มนี้กันหน่อย ตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 กลุ่ม Guaranty Trust ยังเป็นของพวกตระกูล Harriman แต่เมื่อพี่ใหญ่ Edward Henry Harriman ตายในปี ค.ศ.1909 Morgan และพวก จึงเข้าไปกวาดซื้อหุ้นทั้งหมดของ Harriman และกลายเป็นเจ้าของ Guaranty Trust รวมทั้งบริษัทประกันในเครือแทน ต่อมาในปีเดียวกัน Morgan ก็ไล่ซื้อหุ้นของบริษัทอื่นๆ เพิ่มอีก และเอาเข้ามาอยู่ในชื่อของ Guaranty Trust หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 Guaranty Trust และ Bankers Trust จึงเป็นบริษัททรัสต์ ที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่ง และอันดับสองของอเมริกา และทั้ง 2 กลุ่มบริษัท เป็นของกลุ่มทุน Morgan เห็นใยแมงมุมคร่าวๆ ของธุรกิจ ของยักษ์ ทั้ง 2 กลุ่ม ในช่วงแรกแล้วนะครับ ยักษ์ ทั้ง 2 กลุ่ม ต่างเข้าไปมีส่วน เกี่ยวพัน กับการสนับสนุนเงินทุนให้กับพวกปฏิวัติ Bolsheviks ตั้งแต่ก่อน ค.ศ.1917 แล้ว ไม่มากก็น้อย มีบันทึกแสดงว่า ค.ศ.1913 สำนักงานกฏหมาย Sullivan & Cromwell มีส่วนสนับสนุนการปฏิวัติของปานามา เรื่องนี้อยู่ในบันทึกการไต่สวนของรัฐสภาในปี 1913 ซึ่งชี้แจงโดยสมาชิกสภา Rainey “….การปฏิวัติที่เกี่ยวกับช่องแคบปานามา ถ้าไม่ใช่เพราะรัฐบาล(อเมริกา) นี้เข้าไปมีส่วนแล้ว การปฏิวัติก็คงทำไม่สำเร็จแน่ มันเป็นการกระทำของรัฐบาลนี้ ที่ผิดตามสนธิสัญญา ค.ศ.1846 มันเป็นการปฏิวัติ ที่ทำโดยนักปฏิวัติชาวปานามา 10 ถึง 12 คน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของบริษัท Panama Railroad & Steamship ซึ่งทำงานอยู่ในนิวยอร์ค และอยู่ในความดูแลของนาย William Nelson Cromwell และพวกเจ้าหน้าที่ของกระทรวงต่างประเทศในวอชิงตัน บุคคลเหล่านี้ รู้เรื่องการปฏิวัติที่กำลังจะ เกิดขึ้น อย่างดี วัตถุประสงค์ของการปฏิวัติ ก็เพื่อเข้าไปยึดโคลัมเบีย เพื่อจะครอบครอง คลองปานามา ด้วยการใช้เงิน 40 ล้านเหรียญ ” “ผมจะเสนอข้อพิสูจน์ เป็นเอกสาร ที่ประกาศอิสรภาพ ซึ่งประกาศในปานามา วันที่ 3 พฤศจิกายน 1903 เป็นเอกสารซึ่งจัดเตรียมขึ้นในนครนิวยอร์ค โดย สำนักงานของ Nelson Cromwell….” เอกสารตัวอย่างอีกรายการ ที่แสดงให้เห็น ถึงการเข้าไปเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติ ของพวก Wall Street ที่ ดำเนินการในนิวยอร์คคือ การปฏิวัติในจีน ปี ค.ศ.1912 ซึ่งนำโดยนายซุนยัดเซ็น (Sun Yat-sen) แม้ว่าสุดท้ายแล้ว การเข้าไปยุ่งกับการปฏิวัติของกลุ่มนักการเงินนี้ จะได้รับผลตอบแทนอย่างไร จะยังไม่เห็นชัด แต่เจตนาและบทบาทของนักการเงินนิวยอร์คเหล่านั้น ถูกบันทึกไว้อย่างละเอียด ถึงจำนวนเงิน ข้อมูลของสมาคมลับทางฝั่งจีนที่ให้ร่วมมือ รวมทั้งมีรายการส่งอาวุธ ที่ต้องการให้ซื้อและส่งให้ทางเรือด้วย กลุ่มนักการเงินนิวยอร์ค ที่ร่วมกันปฏิวัติกับซุนยัดเซ็น มีชื่อนาย Charles B. Hill ทนายจากสำนักงาน Hunt, Hill & Betts ซึ่งในปี ค.ศ.1912 สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 165 ถนนบรอดเวย์ นิวยอร์ค แต่ในปี 1917 ย้ายไปอยู่ที่ 120 บรอดเวย์ นาย Charles B. Hill นี้ เป็นกรรมการของหลายบริษัทในเครือ Westinghouse, Bryant Electric, Perkins Electric Switch และ Westinghouse Lamp ทั้งหมดเป็นบริษัทในเครือของ Westinghouse Electric ที่มีสำนักงานในนิวยอร์คอยู่ที่ เลขที่ 120 Broadway และนาย Charles R. Crane ผู้ที่จัดตั้งบริษัทในเครือ Westinghouse ในรัสเซีย ก็เป็นที่รู้กันดีว่า เขามีบทบาทสำคัญ เกี่ยวกับการทำปฏิวัติของพวก Bolsheviks และเขาก็เดินทางไปรัสเซีย พร้อมกับกลุ่มของ Trotsky ในช่วงเดือนมีนาคม 1917 การดำเนินงานของ Hill Syndicate ที่เมืองจีนในปี 1910 ถูกบันทึกไว้ในหลักฐาน เรียกว่า Laurence Boothe Papers ที่เก็บอยู่ใน Hoover Institute เอกสาร ชุดนี้มี 110 รายการ รวมทั้งจดหมาย ของซุนยัดเซ็น ที่ติดต่อกับชาวอเมริกันที่หนุนหลังเขา และเพื่อเป็นการตอบแทนที่พวกอเมริกันสนับสนุนทางการเงิน ซุนยัดเซ็น สัญญากับ Hill Syndicate ที่จะจัดการให้สัมปทานรถไฟ ธนาคาร และสัมปทานการค้าอีกหลายรายการ หลังจากการปฏิวัติที่จีนทำสำเร็จ อีกกรณีที่แสดงว่า เป็นการปฏิวัติ ที่มีการสนับสนุนโดยกลุ่มธุรกิจการ เงินในนิวยอร์ค คือ การปฏิวัติที่ Mexico ใน ปี 1915-1916 สายลับชาวเยอรมัน ซึ่งอาศัยอยู่ในอเมริกา ถูกกล่าวหาและถูกดำเนินคดีในนิวยอร์คเมื่อเดือนพฤษภาคม 1917 ว่าได้มีการพยายามโยงเอารัฐบาลอเมริกัน ไปเกี่ยวพันกับเม็กซิโก และญี่ปุ่น โดยพยายามขนย้ายอาวุธยุทธภันฑ์ ที่จัดส่งไปให้สัมพันธมิตรในยุโรป โดยมีการจ่ายเงิน ให้ส่งอาวุธนั้นไปให้นักปฏิวัติชาวเม็กซิกันคือ Pancho Villa แทน โดยการจ่ายเงินผ่าน Guaranty Trust เป็นจำนวนเงิน 380,000 เหรียญ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางปี 1915 การเกี่ยวพันของกลุ่มวอลสตรีท กับการปฏิวัติของเม็กซิกันนี้ ได้ปรากฏอยู่ในจดหมายของนาย Linclon Steffens คอมมิวนิสต์อเมริกัน ที่มีไปถึง Colonel House ที่ปรึกษาสุดใหญ่ของประธานาธิบดี Wilson และได้มีการรายงานอยู่ใน นสพ. New York Times เรื่อง “Texas Revolution (การซ้อมใหญ่ก่อนการแสดงจริง ของการปฏิวัติพวก Bolsheviks)” ว่าเป็นการร่วมมือกัน ระหว่างพวกเยอรมันกับพวก Bolsheviks และจากการให้การของ John A Walls อัยการเขตประจำเมือง Brownsville Texas ต่อคณะกรรมาธิการ 1919 Fall Committee ซึ่งส่งมอบเอกสาร ที่มีหลักฐานแสดงว่า มีความเชื่อมโยงระหว่างผลประโยชน์ในอเมริกา, พวก Bolsheviks, กลุ่มนักเคลื่อนไหวชาวเยอรมัน และกองกำลังของ Carranza ในเม็กซิโก รัฐบาล Carranza นี้ ได้ชื่อว่า เป็นรัฐบาลแรกในโลก ที่มีการปกครองที่ใช้รัฐธรรมนูญแบบเดียวกับของโซเวียต (ซึ่งร่างตามแบบของ Trotsky) และได้รับการสนับสนุนโดยกลุ่มวอลสตรีทให้เป็นรัฐบาล การปฏิวัติ Carranza ไม่ มีทางสำเร็จได้ ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุน ด้านอาวุธยุทธภัณฑ์จากอเมริกา และไม่สามารถจะอยู่ในอำนาจได้นาน ถ้าไม่มีการช่วยเหลือจากอเมริกา การปฏิวัติรัสเซียของกลุ่ม Bolsheviks ก็เช่นเดียวกัน ถ้าไม่มี นายธนาคารชาวสวีเดน Olof Aschberg เป็นตัวกลางประสาน กลุ่มวอลสตรีท กับอีกหลายๆฝ่าย ก็คงไม่สำเร็จเหมือนกัน นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 3 “หัวโจก” ตอน 2 ยุโรปเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 ในเดือนสิงหาคม 1914 ส่วนอเมริกายังไม่เข้าร่วมทำสงครามโลก และประกาศตัวเป็นกลาง ภายใต้กฏหมายระหว่างประเทศ ประเทศที่ประกาศตัวเป็นกลาง ไม่สามารถให้เงินกู้ กับประเทศที่กำลังทำสงครามได้ มันเป็นเรื่องของการขัดต่อกฏหมาย และขัดศีลธรรม แต่ดูเหมือนกลุ่มวอลสตรีท และอเมริกา จะไม่เห็นว่า 2 เรื่องนี้ เป็นปัญหาแต่อย่างใด และน้อยคนที่จะรู้ว่า เมื่ออังกฤษจะเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 นั้น อังกฤษเองก็กำลังถังแตก เงินคงคลังหมดเกลี้ยง รัฐบาลอังกฤษปิดปากแน่นสนิท ไม่ให้ประชาชนและสื่อรู้เรื่อง แต่อังกฤษก็ยังเดินหน้าตามแผนเข้าสู่สงครามโลก เนื่องจากมีเป้าหมายชัดเจนที่จะขจัดเยอรมัน ให้ออกไปจากเส้นทางตามแผนสู่การ เป็นมหาอำนาจใหญ่ หมายเลขหนึ่งของโลก ที่อังกฤษวางไว้ แค่เป็นจักรภพอังกฤษ มันใหญ๋ไม่พอ สำหรับชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อย ของเท้าซ้าย อังกฤษทำได้อย่างไร ทำสงครามทั้งๆที่ไม่มีเงิน อังกฤษทำได้เพราะมี กลุ่ม Morgan จัดการให้ Morgan ได้รับมอบหมายจากอังกฤษ ให้ทำหน้าที่ เป็นตัวแทนแต่ผู้เดียวของอังกฤษเพื่อระดมทุน โดยการออกพันธบัตรสงคราม ( War Bond) ในปี 1915 แถม และระดมทุนเผื่อฝรั่งเศสอีกด้วย อังกฤษ รวมทั้งฝรั่งเศส เข้าสู่สงครามโลกด้วยการกู้ยืมเงินจากอเมริกา ที่บอกว่าเป็นกลางและไม่ร่วมทำสงครามด้วย ! J.P. Morgan ตะแบงว่าไม่ใช่เป็นเงินให้กู้เพื่อทำสงคราม แต่เป็นเพียงวิธีการจัดการ เพื่อให้เอาเงินไปใช้ ในด้านการค้าขายระหว่างประเทศเท่านั้น มีปัญหาไหม จะมีปัญหาได้อย่างไร เพราะผู้ที่ออกมาอธิบาย สนันสนุนการออกพันธบัตร War Bond ของ Morgan คือ ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ของอเมริกา ประธานาธิบดี Wilson ทำหน้าที่ เหมือนเป็นผู้รับประกันการขายพันธบัตร ( underwriter) เขาบอกว่า มันเป็นพันธบัตรที่ออกขายในอเมริกา เพื่อนำเงินที่ได้จากการขาย ไปให้รัฐบาลต่างชาติ ใช้เป็นเงินคงคลัง หรือเงินเก็บน่ะ เขาไม่ได้เอาไปใช้ในการสงคราม ในทางปฏิบัติ อังกฤษและฝรั่งเศส นำเงินที่ได้รับ ลงบัญชีเป็นเงินฝากในประเทศของตัว และใช้เป็นหลักประกันในการสั่งซื้อสินค้า และยุทธภัณฑ์ต่างๆ จากอเมริกา เพื่อใช้ในการทำสงคราม มันผิดกฏหมายเกี่ยวกับความเป็นกลางตรงไหน นี่มันเรื่อง 100 ปีมาแล้ว นักการเงินของเขา ยังคิดตะแบงได้ขนาดนี้ แล้วเดี๋ยวนี้เขาจะพลิกแพลงขนาดไหน แต่สมันน้อยอย่าเพิ่งขวัญอ่อนตกใจ มันก็ใช้สูตรเดิมๆ นั่นแหละ แค่เปลี่ยนชื่อเรียก เติมลูกเล่น สลับขั้นตอนเข้าไปอีกหน่อย แค่นั้นเราก็มึน คิดตามมันกันไม่ทันไปค่อนโลก แต่ถ้าเราไม่ว่าง่ายเชื่อมันไปหมด ในสิ่งที่มันสร้างมาหลอกเรา เราก็รู้ทันมันได้ ฝรั่งมันไม่ได้ฉลาดเก่งกว่าเรานักหรอกครับ แค่ออกพันธบัตร War Bond ให้อังกฤษกับฝรั่งเศส สงครามโลกคงไม่ได้เกิดขึ้นตามแผนที่วางไว้ ดังนั้น กลุ่มนักการเงินของอเมริกา จึงต้องสนับสนุนเงินกู้ให้รัสเซียด้วย ตั้งแต่สมัยซาร์นิโคลัส เพื่อให้มีเงินมาร่วมทำสงครามสู้กับฝ่ายเยอรมัน ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตร หรืออังกฤษต้องการ เจ้ามือให้เงินกู้ลูกค้ารอบวงแบบนี้ เจ้ามือคงปิดทางเจ๊งไว้เรียบร้อยแล้ว มีหลักฐานเป็นเอกสารของกระทรวง ต่างประเทศ ที่แสดงว่า National City Bank ซึ่งมีกลุ่ม Stillman และ Rockefeller เป็นเจ้าของ และ Guaranty Trust ซึ่งเป็นของกลุ่ม Morgan ได้ร่วมกันให้เงินกู้ก้อนใหญ่แก่รัสเซีย ก่อนที่อเมริกาจะเข้าสู่สงคราม และเป็นการให้กู้หลังจากที่กระทรวงต่างประเทศ ได้แจ้งกับกลุ่มผู้ให้กู้ว่า เป็นการผิดกฏหมายระหว่างประเทศ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 เม.ย. 2558
    0 Comments 0 Shares 232 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ล่าสุดสั่งรัฐมนตรียุติธรรรมสหรัฐฯ แพม บอนดี เร่งดำเนินคดีเอาผิดศัตรูทางการเมืองของตัวเองทั้ง อดีตผอ.FBI เจมส์ โคมีย์ อัยการรัฐนิวยอร์กที่เคยเล่นงานบริษัท Trump Organization ในคดีฉ้อโกงธนาคาร และสว.พรรคเดโมแครตที่เดินหน้าการไต่สวนถอดถอนจากตำแหน่งสมัยแรก กลายเป็นผู้นำสหรัฐฯที่ใช้กระทรวงยุติธรรมที่ต้องเป็นอิสระเป็นเครื่องมือเล่นงานฝ่ายตรงข้าม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000090830

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ล่าสุดสั่งรัฐมนตรียุติธรรรมสหรัฐฯ แพม บอนดี เร่งดำเนินคดีเอาผิดศัตรูทางการเมืองของตัวเองทั้ง อดีตผอ.FBI เจมส์ โคมีย์ อัยการรัฐนิวยอร์กที่เคยเล่นงานบริษัท Trump Organization ในคดีฉ้อโกงธนาคาร และสว.พรรคเดโมแครตที่เดินหน้าการไต่สวนถอดถอนจากตำแหน่งสมัยแรก กลายเป็นผู้นำสหรัฐฯที่ใช้กระทรวงยุติธรรมที่ต้องเป็นอิสระเป็นเครื่องมือเล่นงานฝ่ายตรงข้าม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000090830 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 623 Views 0 Reviews
  • “ศึกขายคีย์ Windows มือสองเดือด! Microsoft สู้คดีในศาลอังกฤษ อาจทำให้ตลาดคีย์ราคาถูกทั่วยุโรปพังทั้งระบบ”

    ถ้าคุณเคยซื้อคีย์ Windows หรือ Office ราคาถูกจากเว็บรีเซลเลอร์ในยุโรป — ตอนนี้สิ่งนั้นอาจกลายเป็นอดีต เพราะ Microsoft กำลังต่อสู้คดีครั้งสำคัญกับบริษัท ValueLicensing ในศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักร ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงกฎการขายซอฟต์แวร์มือสองทั้งทวีป

    คดีนี้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2021 เมื่อ ValueLicensing ฟ้อง Microsoft มูลค่า 270 ล้านปอนด์ โดยกล่าวหาว่า Microsoft ใช้กลยุทธ์ผูกขาด เช่น เสนอส่วนลดให้ลูกค้าองค์กรแลกกับการยกเลิกสิทธิ์ขายต่อของไลเซนส์แบบถาวร ทำให้ตลาดซอฟต์แวร์มือสองถูกบีบจนแทบหายไป

    แต่ในปี 2025 Microsoft เปลี่ยนแนวทางการป้องกันจาก “เราไม่ได้ทำ” เป็น “ตลาดนี้ไม่ควรมีตั้งแต่แรก” โดยอ้างว่ากฎหมายการขายต่อซอฟต์แวร์ในยุโรป (EU Software Directive) ใช้ได้เฉพาะกับ “โปรแกรม” เท่านั้น ไม่รวมส่วนที่ไม่ใช่โปรแกรม เช่น GUI หรือองค์ประกอบอื่นที่ยังอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ — ถ้าศาลเห็นด้วย ตลาดรีเซลคีย์ทั้งหมดอาจกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

    การพิจารณาคดีเบื้องต้นเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน และจะใช้เวลาสามวันเพื่อวินิจฉัยประเด็นลิขสิทธิ์ก่อนเข้าสู่การไต่สวนเต็มรูปแบบในปี 2026 ซึ่งจะเป็นการตัดสินว่าการขายคีย์มือสองในยุโรปนั้น “ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่”

    ผลกระทบอาจรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงที่ Windows 10 กำลังจะหมดการสนับสนุนในเดือนหน้า และผู้ใช้จำนวนมากต้องอัปเกรด — ถ้าคีย์ราคาถูกหายไป ราคาค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดอาจพุ่งขึ้นทันที

    ข้อมูลจากคดี Microsoft vs ValueLicensing
    คดีเริ่มต้นในปี 2021 ด้วยข้อกล่าวหาว่า Microsoft ผูกขาดตลาดซอฟต์แวร์มือสอง
    มูลค่าความเสียหายที่ ValueLicensing อ้างคือ 270 ล้านปอนด์
    Microsoft เสนอส่วนลดให้ลูกค้าองค์กรแลกกับการยกเลิกสิทธิ์ขายต่อ
    การพิจารณาคดีเบื้องต้นเริ่มวันที่ 9 กันยายน 2025

    ประเด็นทางกฎหมายที่ถกเถียง
    Microsoft อ้างว่ากฎหมาย EU Software Directive ใช้ได้เฉพาะ “โปรแกรม”
    ส่วนที่ไม่ใช่โปรแกรม เช่น GUI ยังอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์
    ถ้าศาลเห็นด้วย ตลาดรีเซลคีย์อาจกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
    การตีความนี้อาจส่งผลต่อการขายซอฟต์แวร์มือสองทั่วทั้งยุโรปและสหราชอาณาจักร

    ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน
    คีย์ราคาถูกเป็นที่นิยมในกลุ่ม DIY และผู้ประกอบคอมพิวเตอร์
    การอัปเกรดจาก Windows 10 อาจมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
    ผู้ใช้ที่ไม่ต้องการ Microsoft 365 อาจไม่มีทางเลือกอื่น
    ตลาดรีเซลอาจหายไปทั้งระบบ หากคำตัดสินเข้าข้าง Microsoft

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    คดีนี้อยู่ในศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักร
    ValueLicensing เคยกล่าวว่า “ถ้า Microsoft ชนะ ตลาดนี้ไม่ควรมีตั้งแต่แรก”
    Microsoft เคยใช้แนวทาง “เราไม่ได้ทำ” ก่อนเปลี่ยนเป็น “ตลาดนี้ผิดกฎหมาย”
    คดีเต็มรูปแบบจะเริ่มในปี 2026

    https://www.tomshardware.com/software/microsoft-resale-fight-heads-to-uk-court
    ⚖️ “ศึกขายคีย์ Windows มือสองเดือด! Microsoft สู้คดีในศาลอังกฤษ อาจทำให้ตลาดคีย์ราคาถูกทั่วยุโรปพังทั้งระบบ” ถ้าคุณเคยซื้อคีย์ Windows หรือ Office ราคาถูกจากเว็บรีเซลเลอร์ในยุโรป — ตอนนี้สิ่งนั้นอาจกลายเป็นอดีต เพราะ Microsoft กำลังต่อสู้คดีครั้งสำคัญกับบริษัท ValueLicensing ในศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักร ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงกฎการขายซอฟต์แวร์มือสองทั้งทวีป คดีนี้เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2021 เมื่อ ValueLicensing ฟ้อง Microsoft มูลค่า 270 ล้านปอนด์ โดยกล่าวหาว่า Microsoft ใช้กลยุทธ์ผูกขาด เช่น เสนอส่วนลดให้ลูกค้าองค์กรแลกกับการยกเลิกสิทธิ์ขายต่อของไลเซนส์แบบถาวร ทำให้ตลาดซอฟต์แวร์มือสองถูกบีบจนแทบหายไป แต่ในปี 2025 Microsoft เปลี่ยนแนวทางการป้องกันจาก “เราไม่ได้ทำ” เป็น “ตลาดนี้ไม่ควรมีตั้งแต่แรก” โดยอ้างว่ากฎหมายการขายต่อซอฟต์แวร์ในยุโรป (EU Software Directive) ใช้ได้เฉพาะกับ “โปรแกรม” เท่านั้น ไม่รวมส่วนที่ไม่ใช่โปรแกรม เช่น GUI หรือองค์ประกอบอื่นที่ยังอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ — ถ้าศาลเห็นด้วย ตลาดรีเซลคีย์ทั้งหมดอาจกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย การพิจารณาคดีเบื้องต้นเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน และจะใช้เวลาสามวันเพื่อวินิจฉัยประเด็นลิขสิทธิ์ก่อนเข้าสู่การไต่สวนเต็มรูปแบบในปี 2026 ซึ่งจะเป็นการตัดสินว่าการขายคีย์มือสองในยุโรปนั้น “ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่” ผลกระทบอาจรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงที่ Windows 10 กำลังจะหมดการสนับสนุนในเดือนหน้า และผู้ใช้จำนวนมากต้องอัปเกรด — ถ้าคีย์ราคาถูกหายไป ราคาค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดอาจพุ่งขึ้นทันที ✅ ข้อมูลจากคดี Microsoft vs ValueLicensing ➡️ คดีเริ่มต้นในปี 2021 ด้วยข้อกล่าวหาว่า Microsoft ผูกขาดตลาดซอฟต์แวร์มือสอง ➡️ มูลค่าความเสียหายที่ ValueLicensing อ้างคือ 270 ล้านปอนด์ ➡️ Microsoft เสนอส่วนลดให้ลูกค้าองค์กรแลกกับการยกเลิกสิทธิ์ขายต่อ ➡️ การพิจารณาคดีเบื้องต้นเริ่มวันที่ 9 กันยายน 2025 ✅ ประเด็นทางกฎหมายที่ถกเถียง ➡️ Microsoft อ้างว่ากฎหมาย EU Software Directive ใช้ได้เฉพาะ “โปรแกรม” ➡️ ส่วนที่ไม่ใช่โปรแกรม เช่น GUI ยังอยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ ➡️ ถ้าศาลเห็นด้วย ตลาดรีเซลคีย์อาจกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ➡️ การตีความนี้อาจส่งผลต่อการขายซอฟต์แวร์มือสองทั่วทั้งยุโรปและสหราชอาณาจักร ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้งาน ➡️ คีย์ราคาถูกเป็นที่นิยมในกลุ่ม DIY และผู้ประกอบคอมพิวเตอร์ ➡️ การอัปเกรดจาก Windows 10 อาจมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ➡️ ผู้ใช้ที่ไม่ต้องการ Microsoft 365 อาจไม่มีทางเลือกอื่น ➡️ ตลาดรีเซลอาจหายไปทั้งระบบ หากคำตัดสินเข้าข้าง Microsoft ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ คดีนี้อยู่ในศาล Competition Appeal Tribunal ของสหราชอาณาจักร ➡️ ValueLicensing เคยกล่าวว่า “ถ้า Microsoft ชนะ ตลาดนี้ไม่ควรมีตั้งแต่แรก” ➡️ Microsoft เคยใช้แนวทาง “เราไม่ได้ทำ” ก่อนเปลี่ยนเป็น “ตลาดนี้ผิดกฎหมาย” ➡️ คดีเต็มรูปแบบจะเริ่มในปี 2026 https://www.tomshardware.com/software/microsoft-resale-fight-heads-to-uk-court
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Microsoft key resale fight heads to court in the UK — case potentially puts cheap Windows keys at risk
    Tribunal weighs whether parts of Windows and Office fall outside Europe’s resale rules.
    0 Comments 0 Shares 315 Views 0 Reviews
  • สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งความตำรวจไซเบอร์ เอาผิดช่องยูทูบ "สถาบันทิศทางไทย" และเพจเฟซบุ๊ก "เดอะคริติกส์" เผยแพร่ข่าว "นั่งลงลูก" บิดเบือนข้อเท็จจริงในกระบวนการไต่สวนของศาล ในคดีคลิปเสียงแพทองธาร
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000082262

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งความตำรวจไซเบอร์ เอาผิดช่องยูทูบ "สถาบันทิศทางไทย" และเพจเฟซบุ๊ก "เดอะคริติกส์" เผยแพร่ข่าว "นั่งลงลูก" บิดเบือนข้อเท็จจริงในกระบวนการไต่สวนของศาล ในคดีคลิปเสียงแพทองธาร . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000082262 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 945 Views 0 Reviews
  • สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความตำรวจ ปอท.เอาผิด เพจเฟซบุ๊ก The Critics และ YouTube สถาบันทิศทางไทย เผยแพร่ข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริงกระบวนการไต่สวนของศาล รธน. ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ และละเมิดอำนาจศาล

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000082246

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความตำรวจ ปอท.เอาผิด เพจเฟซบุ๊ก The Critics และ YouTube สถาบันทิศทางไทย เผยแพร่ข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริงกระบวนการไต่สวนของศาล รธน. ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ และละเมิดอำนาจศาล อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000082246 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 552 Views 0 Reviews
  • ”คมสันต์“ โพสต์เล่าบรรยากาศ ศาลรธน.ไต่สวน “แพทองธาร” บอกมีสะอื้นเล็กน้อย เตรียมตัวดีในการชี้แจงคลิปและเหตุการณ์ แต่ไม่ได้เตรียมตัวข้อกฎหมาย มองการไต่สวนครั้งนี้ส่งผลต่อ อนาคตรัฐบาลชุดปัจจุบัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000079822

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ”คมสันต์“ โพสต์เล่าบรรยากาศ ศาลรธน.ไต่สวน “แพทองธาร” บอกมีสะอื้นเล็กน้อย เตรียมตัวดีในการชี้แจงคลิปและเหตุการณ์ แต่ไม่ได้เตรียมตัวข้อกฎหมาย มองการไต่สวนครั้งนี้ส่งผลต่อ อนาคตรัฐบาลชุดปัจจุบัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000079822 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 511 Views 0 Reviews
  • หนักกว่า 3 คดีนายก คลิปลุงผิดชัดหลายข้อ : [NEWS UPDATE]

    นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. เข้าฟังการไต่สวนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่นัดไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในคดีคลิปเสียงสนทนากับ นานฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เชื่อให้การตรงไปตรงมา คลิปนี้ทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างผู้นำ 2 ตระกูล นำไปสู่การเคลื่อนกำลังทหารปะทะกัน ประชาชนล้มตาย การเจรจาระหว่างผู้นำประเทศทั้งโลก จะมี Protocal บันทึกเทป ไม่โทรศัพท์ส่วนตัว คลิปเสียงชัดเจนว่าผิดจริยธรรมข้าราชการการเมืองหลายข้อ แนะนำวันเกิดขอให้ลาออก คดีนี้หนักมาก เชื่อว่าผลจะออกมาแบบคดีนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา ตั้งแต่คดีนายสมัคร สุนทรเวช น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ นายเศรษฐา ทวีสิน 3 คดีมัดรวมกันยังน้อยกว่าคดีน.ส.แพทองธาร เกินครึ่ง

    -ห้ามเผยแพร่คำไต่สวน

    -ทหารเขมรเหยียบระเบิดเอง

    -ปรับเกณฑ์สงครามภัยใหม่

    -สส.ทำงานหนักแทบไม่กินข้าว
    หนักกว่า 3 คดีนายก คลิปลุงผิดชัดหลายข้อ : [NEWS UPDATE] นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. เข้าฟังการไต่สวนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่นัดไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในคดีคลิปเสียงสนทนากับ นานฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เชื่อให้การตรงไปตรงมา คลิปนี้ทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างผู้นำ 2 ตระกูล นำไปสู่การเคลื่อนกำลังทหารปะทะกัน ประชาชนล้มตาย การเจรจาระหว่างผู้นำประเทศทั้งโลก จะมี Protocal บันทึกเทป ไม่โทรศัพท์ส่วนตัว คลิปเสียงชัดเจนว่าผิดจริยธรรมข้าราชการการเมืองหลายข้อ แนะนำวันเกิดขอให้ลาออก คดีนี้หนักมาก เชื่อว่าผลจะออกมาแบบคดีนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา ตั้งแต่คดีนายสมัคร สุนทรเวช น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ นายเศรษฐา ทวีสิน 3 คดีมัดรวมกันยังน้อยกว่าคดีน.ส.แพทองธาร เกินครึ่ง -ห้ามเผยแพร่คำไต่สวน -ทหารเขมรเหยียบระเบิดเอง -ปรับเกณฑ์สงครามภัยใหม่ -สส.ทำงานหนักแทบไม่กินข้าว
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 793 Views 0 0 Reviews
  • ศาล รธน.ใช้เวลา 2 ชม.กว่า ไต่สวน “นายกฯ อิ๊งค์ - เลขา สมช.” ปมคลิปเสียงฮุนเซน สั่งเลื่อนยื่นคำแถลงปิดคดีเร็วขึ้นเป็น 25 ส.ค. ย้ำ ห้ามเผยแพร่ข้อมูลการไต่สวน คงกำหนดนัดชี้ชะตา 29 ส.ค.

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000079685

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ศาล รธน.ใช้เวลา 2 ชม.กว่า ไต่สวน “นายกฯ อิ๊งค์ - เลขา สมช.” ปมคลิปเสียงฮุนเซน สั่งเลื่อนยื่นคำแถลงปิดคดีเร็วขึ้นเป็น 25 ส.ค. ย้ำ ห้ามเผยแพร่ข้อมูลการไต่สวน คงกำหนดนัดชี้ชะตา 29 ส.ค. อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000079685 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 573 Views 0 Reviews
  • การไต่สวนพยานบุคคลคดีคลิปเสียงระหว่างนายกฯ แพทองธาร กับฮุนเซน เสร็จสิ้นลงแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้นำข้อมูลไปเผยแพร่ พร้อมสั่งให้เลื่อนยื่นคำแถลงปิดคดีเร็วขึ้นเป็น 25 ส.ค. แต่กำหนดการลงมติและอ่านคำวินิจฉัยยังคงเดิม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000079702

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    การไต่สวนพยานบุคคลคดีคลิปเสียงระหว่างนายกฯ แพทองธาร กับฮุนเซน เสร็จสิ้นลงแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้นำข้อมูลไปเผยแพร่ พร้อมสั่งให้เลื่อนยื่นคำแถลงปิดคดีเร็วขึ้นเป็น 25 ส.ค. แต่กำหนดการลงมติและอ่านคำวินิจฉัยยังคงเดิม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000079702 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    Haha
    9
    0 Comments 1 Shares 874 Views 0 Reviews
  • นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. เดินทางเข้าฟังการไต่สวนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่นัดไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในคดีคลิปเสียงสนทนากับ นานฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เชื่อว่าทั้งผู้ถูกร้องและพยาน ให้การตรงไปตรงมา คลิปดังกล่าวทำให้เกิดข้อพิพาทโจมตีไปมาระหว่างผู้นำ 2 ตระกูล นำไปสู่การเคลื่อนกำลังทหารปะทะกัน ประชาชนล้มตาย โดยในการเจรจาระหว่างผู้นำประเทศทั้งโลก จะมี Protocal ชัดเจนว่าบันทึกเทป กลั่นกรองจากหน่วยงานความมั่นคง มีคนของรัฐนั่งอยู่ด้วย ไม่มีโทรศัพท์ส่วนตัว คลิปเสียงเกิดข้อผิดพลาด นำไปสู่การยื่นผิดจริยธรรมร้ายแรง ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ในประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมืองผิดหลายข้อ หากลาออกก่อนศาลจะจำหน่ายคดี ท่านก็จะปลอดภัย มีเวลาตัดสินใจอีก 7 วัน ก่อนถึง 29 ส.ค. นี้ เชื่อว่าผลจะออกมาแบบคดีนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา ตั้งแต่คดีนายสมัคร สุนทรเวช น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายเศรษฐา ทวีสิน 3 คดีมัดรวมกันยังน้อยกว่าคดีน.ส.แพทองธาร เกินครึ่ง คดีนี้หนักมาก แนะนำวันเกิดขอให้ลาออก
    นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. เดินทางเข้าฟังการไต่สวนของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่นัดไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในคดีคลิปเสียงสนทนากับ นานฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เชื่อว่าทั้งผู้ถูกร้องและพยาน ให้การตรงไปตรงมา คลิปดังกล่าวทำให้เกิดข้อพิพาทโจมตีไปมาระหว่างผู้นำ 2 ตระกูล นำไปสู่การเคลื่อนกำลังทหารปะทะกัน ประชาชนล้มตาย โดยในการเจรจาระหว่างผู้นำประเทศทั้งโลก จะมี Protocal ชัดเจนว่าบันทึกเทป กลั่นกรองจากหน่วยงานความมั่นคง มีคนของรัฐนั่งอยู่ด้วย ไม่มีโทรศัพท์ส่วนตัว คลิปเสียงเกิดข้อผิดพลาด นำไปสู่การยื่นผิดจริยธรรมร้ายแรง ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ในประมวลจริยธรรมข้าราชการการเมืองผิดหลายข้อ หากลาออกก่อนศาลจะจำหน่ายคดี ท่านก็จะปลอดภัย มีเวลาตัดสินใจอีก 7 วัน ก่อนถึง 29 ส.ค. นี้ เชื่อว่าผลจะออกมาแบบคดีนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา ตั้งแต่คดีนายสมัคร สุนทรเวช น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายเศรษฐา ทวีสิน 3 คดีมัดรวมกันยังน้อยกว่าคดีน.ส.แพทองธาร เกินครึ่ง คดีนี้หนักมาก แนะนำวันเกิดขอให้ลาออก
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 774 Views 0 0 Reviews
  • เริ่มแล้วศาล รธน.ไต่สวน "เลขา สมช." ปากแรก ปมนายกจ้อฮุนเซน ชี้เป็นเรื่องความมั่นคง สั่งห้ามทุกฝ่ายห้ามเปิดเผยรายละเอียดการไต่สวน- บิดเบือนข้อกฎหมายทำสังคมสับสน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000079611

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    เริ่มแล้วศาล รธน.ไต่สวน "เลขา สมช." ปากแรก ปมนายกจ้อฮุนเซน ชี้เป็นเรื่องความมั่นคง สั่งห้ามทุกฝ่ายห้ามเปิดเผยรายละเอียดการไต่สวน- บิดเบือนข้อกฎหมายทำสังคมสับสน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000079611 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 472 Views 0 Reviews
  • ♣ สว.สมชาย นำทีมยื่นขอ ศาล รธน. ถ่ายทอดสดการไต่สวนอุ๊งอิ๊ง คดีคลิปเสียงสนทนาฮุนเซน 21 สิงหาคมนี้ หลังมีข่าวลือ 5 ตุลาการได้ถุงขนมกันแล้ว
    #7ดอกจิก
    ♣ สว.สมชาย นำทีมยื่นขอ ศาล รธน. ถ่ายทอดสดการไต่สวนอุ๊งอิ๊ง คดีคลิปเสียงสนทนาฮุนเซน 21 สิงหาคมนี้ หลังมีข่าวลือ 5 ตุลาการได้ถุงขนมกันแล้ว #7ดอกจิก
    0 Comments 0 Shares 304 Views 0 Reviews
  • แพทองธารยันไม่ลาออก! สู้คดีศาล รธน. พร้อมเผชิญหน้าไต่สวนวันเกิด งบ 69 ผ่านฉลุยแบบปริ่มน้ำ เพื่อไทยมั่นใจเสียงเกินครึ่ง
    .
    ยิ่งใกล้ถึงวันชี้ชะตาของสองพ่อลูกตระกูลชินวัตร มีจุดสังเกตที่เห็นได้ว่าทั้ง 'ทักษิณ ชินวัตร' และ 'แพทองธาร ชินวัตร' นายกรัฐมนตรี ดูจะเงียบเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายของแพทองธารที่จะต้องเตรียมเข้ารับการไต่สวนจากศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 21 สิงหาคม ซึ่งตรงกับวันเกิดพอดี และรับฟังคำวินิจฉัยชี้ขาดในวันที่ 29 สิงหาคม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000078111

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    แพทองธารยันไม่ลาออก! สู้คดีศาล รธน. พร้อมเผชิญหน้าไต่สวนวันเกิด งบ 69 ผ่านฉลุยแบบปริ่มน้ำ เพื่อไทยมั่นใจเสียงเกินครึ่ง . ยิ่งใกล้ถึงวันชี้ชะตาของสองพ่อลูกตระกูลชินวัตร มีจุดสังเกตที่เห็นได้ว่าทั้ง 'ทักษิณ ชินวัตร' และ 'แพทองธาร ชินวัตร' นายกรัฐมนตรี ดูจะเงียบเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายของแพทองธารที่จะต้องเตรียมเข้ารับการไต่สวนจากศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 21 สิงหาคม ซึ่งตรงกับวันเกิดพอดี และรับฟังคำวินิจฉัยชี้ขาดในวันที่ 29 สิงหาคม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000078111 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    3
    2 Comments 0 Shares 858 Views 0 Reviews
  • 22 กรกฏาคม 2568- รายงานจากเพจ ThePublisher ระบุว่า 144-88” รหัสล้างบางนักการเมือง!คำนูณ ชี้โทษร้ายแรงอาจล้มทั้ง ครม.ถึงขั้นปลัดกระทรวงนั่งแทนนายกฯ22 กรกฎาคม 2568 — นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กวิเคราะห์เจาะลึกกรณีการร้องเรียนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ซึ่งขณะนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในทางการเมือง โดยเรียกคดีนี้ว่า “144-88 รหัสล้างบางนักการเมือง” พร้อมเตือนว่าโทษของความผิดร้ายแรงถึงขั้น “สิ้นสุดสมาชิกภาพ” ของ ส.ส. และ “พ้นตำแหน่งทั้งคณะ” สำหรับคณะรัฐมนตรี รวมถึงอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่ “ปลัดกระทรวง” ต้องมานั่งแทนนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 168 วรรคสอง ซึ่งไม่เคยถูกใช้มาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย—————จุดเริ่มต้น: ศาลรับเรื่องไต่สวนรองประธานสภานายคำนูณระบุว่า เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องที่กล่าวหารองประธานสภาผู้แทนราษฎรว่ากระทำผิดตามมาตรา 144 วรรคสอง (มีส่วนในการใช้งบประมาณรายจ่าย) โดยคำร้องดังกล่าวมาจาก ส.ส.พรรคประชาชนที่เข้าชื่อกันยื่นตรงต่อศาล ซึ่งต้องมีคำวินิจฉัยภายใน 15 วัน กระบวนการไต่สวนจึงเดินหน้าอย่างเร่งด่วน————-ตีความ “144” กับ “88” — จุดเปลี่ยนทางนิติรัฐนายคำนูณอธิบายว่ามาตรา 144 แห่งรัฐธรรมนูญปี 2560 มี 2 ฐานความผิดหลัก ได้แก่ 1. วรรคหนึ่ง – ห้าม ส.ส. แปรญัตติลดหรือตัดทอนรายจ่ายที่เป็นเงินส่งใช้ต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินที่กำหนดให้จ่ายตามกฎหมาย 2. วรรคสอง – ห้ามไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งในรัฐสภามีส่วนร่วมโดยตรงหรืออ้อมกับการใช้งบประมาณโดยมีช่องทางร้องเรียน 2 ทาง ได้แก่ • ส.ส. หรือ ส.ว. เข้าชื่อยื่นตรงต่อศาล (ยื่นได้เฉพาะวรรคสอง) • แจ้งผ่าน ป.ป.ช. ตามวรรคสี่ ซึ่งนายคำนูณย้ำว่า “ประชาชนทั่วไป” ก็สามารถกระทำได้ภายใต้บทบัญญัติมาตรา 88 ของ พ.ร.ป. ป.ป.ช. ปี 2561คีย์เวิร์ดสำคัญในมาตรา 88 คือ “เมื่อความปรากฏต่อ ป.ป.ช.” ซึ่งนายคำนูณชี้ว่า เปิดทางให้กรณีที่ประชาชนร้องเรียนใด ๆ หาก ป.ป.ช. รับรู้และเห็นว่ามีมูล ก็ถือว่าเข้าหลักเกณฑ์ทันทีโดยไม่ต้องผูกกับช่วงเวลาของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ————-โทษร้ายแรง—กระทบทั้งสภาและรัฐบาลขณะที่มาตรา 144 วรรคสาม ยังกำหนดเรียกเงินคืนบวกดอกเบี้ย กำหนดอายุความ 20 ปีด้วยสำหรับฐานความผิดมีโทษร้ายแรง : • สมาชิกภาพ ส.ส./ส.ว. สิ้นสุดทันที • เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง • ครม.พ้นตำแหน่งทั้งคณะ เว้นผู้ที่พิสูจน์ได้ว่าไม่อยู่ในที่ประชุม • ผู้กระทำผิดต้องใช้เงินคืนพร้อมดอกเบี้ย โดยมีอายุความ 20 ปี • และอาจมีความผิดทางอาญาตามมาอีกด้วย—————อาจได้เห็น ปลัดกระทรวงทำหน้าที่แทนนายกฯหากคณะรัฐมนตรีพ้นตำแหน่งเพราะคดีนี้ มาตรา 168 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญกำหนดว่า “จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปมิได้” ส่งผลให้เกิดสุญญากาศทางอำนาจ ซึ่งนายคำนูณชี้ว่าอาจนำไปสู่กรณีที่ “ปลัดกระทรวงแต่ละกระทรวงทำหน้าที่แทน รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง” และ “ประชุมคัดเลือกปลัดกระทรวงผู้หนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ” ตามกลไกในรัฐธรรมนูญ — ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน——————— ต้องจับตาศาลรัฐธรรมนูญนายคำนูณปิดท้ายว่า “จะมากจะน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ” พร้อมระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงเรื่องเฉพาะรายบุคคล แต่เป็น “รหัสล้างบางนักการเมือง” ที่อาจเปลี่ยนโฉมการเมืองไทยทั้งระบบ“บทเพลง 144 เริ่มบรรเลงแล้ว แม้นช่วงโหมโรงนี้ท่วงทำนองจะเริ่มต้นแบบเนิบ ๆ แต่ความความดุดันกระแทกกระทั้น และเหนือความคาดหมายยากคาดเดา กำลังจะตามมา…” — คำนูณ สิทธิสมาน#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #พิเชษฐ์เชื้อเมืองพาน
    22 กรกฏาคม 2568- รายงานจากเพจ ThePublisher ระบุว่า 144-88” รหัสล้างบางนักการเมือง!คำนูณ ชี้โทษร้ายแรงอาจล้มทั้ง ครม.ถึงขั้นปลัดกระทรวงนั่งแทนนายกฯ22 กรกฎาคม 2568 — นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กวิเคราะห์เจาะลึกกรณีการร้องเรียนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ซึ่งขณะนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในทางการเมือง โดยเรียกคดีนี้ว่า “144-88 รหัสล้างบางนักการเมือง” พร้อมเตือนว่าโทษของความผิดร้ายแรงถึงขั้น “สิ้นสุดสมาชิกภาพ” ของ ส.ส. และ “พ้นตำแหน่งทั้งคณะ” สำหรับคณะรัฐมนตรี รวมถึงอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่ “ปลัดกระทรวง” ต้องมานั่งแทนนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 168 วรรคสอง ซึ่งไม่เคยถูกใช้มาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย—————จุดเริ่มต้น: ศาลรับเรื่องไต่สวนรองประธานสภานายคำนูณระบุว่า เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องที่กล่าวหารองประธานสภาผู้แทนราษฎรว่ากระทำผิดตามมาตรา 144 วรรคสอง (มีส่วนในการใช้งบประมาณรายจ่าย) โดยคำร้องดังกล่าวมาจาก ส.ส.พรรคประชาชนที่เข้าชื่อกันยื่นตรงต่อศาล ซึ่งต้องมีคำวินิจฉัยภายใน 15 วัน กระบวนการไต่สวนจึงเดินหน้าอย่างเร่งด่วน————-ตีความ “144” กับ “88” — จุดเปลี่ยนทางนิติรัฐนายคำนูณอธิบายว่ามาตรา 144 แห่งรัฐธรรมนูญปี 2560 มี 2 ฐานความผิดหลัก ได้แก่ 1. วรรคหนึ่ง – ห้าม ส.ส. แปรญัตติลดหรือตัดทอนรายจ่ายที่เป็นเงินส่งใช้ต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินที่กำหนดให้จ่ายตามกฎหมาย 2. วรรคสอง – ห้ามไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งในรัฐสภามีส่วนร่วมโดยตรงหรืออ้อมกับการใช้งบประมาณโดยมีช่องทางร้องเรียน 2 ทาง ได้แก่ • ส.ส. หรือ ส.ว. เข้าชื่อยื่นตรงต่อศาล (ยื่นได้เฉพาะวรรคสอง) • แจ้งผ่าน ป.ป.ช. ตามวรรคสี่ ซึ่งนายคำนูณย้ำว่า “ประชาชนทั่วไป” ก็สามารถกระทำได้ภายใต้บทบัญญัติมาตรา 88 ของ พ.ร.ป. ป.ป.ช. ปี 2561คีย์เวิร์ดสำคัญในมาตรา 88 คือ “เมื่อความปรากฏต่อ ป.ป.ช.” ซึ่งนายคำนูณชี้ว่า เปิดทางให้กรณีที่ประชาชนร้องเรียนใด ๆ หาก ป.ป.ช. รับรู้และเห็นว่ามีมูล ก็ถือว่าเข้าหลักเกณฑ์ทันทีโดยไม่ต้องผูกกับช่วงเวลาของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ————-โทษร้ายแรง—กระทบทั้งสภาและรัฐบาลขณะที่มาตรา 144 วรรคสาม ยังกำหนดเรียกเงินคืนบวกดอกเบี้ย กำหนดอายุความ 20 ปีด้วยสำหรับฐานความผิดมีโทษร้ายแรง : • สมาชิกภาพ ส.ส./ส.ว. สิ้นสุดทันที • เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง • ครม.พ้นตำแหน่งทั้งคณะ เว้นผู้ที่พิสูจน์ได้ว่าไม่อยู่ในที่ประชุม • ผู้กระทำผิดต้องใช้เงินคืนพร้อมดอกเบี้ย โดยมีอายุความ 20 ปี • และอาจมีความผิดทางอาญาตามมาอีกด้วย—————อาจได้เห็น ปลัดกระทรวงทำหน้าที่แทนนายกฯหากคณะรัฐมนตรีพ้นตำแหน่งเพราะคดีนี้ มาตรา 168 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญกำหนดว่า “จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปมิได้” ส่งผลให้เกิดสุญญากาศทางอำนาจ ซึ่งนายคำนูณชี้ว่าอาจนำไปสู่กรณีที่ “ปลัดกระทรวงแต่ละกระทรวงทำหน้าที่แทน รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง” และ “ประชุมคัดเลือกปลัดกระทรวงผู้หนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ” ตามกลไกในรัฐธรรมนูญ — ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน——————— ต้องจับตาศาลรัฐธรรมนูญนายคำนูณปิดท้ายว่า “จะมากจะน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ” พร้อมระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงเรื่องเฉพาะรายบุคคล แต่เป็น “รหัสล้างบางนักการเมือง” ที่อาจเปลี่ยนโฉมการเมืองไทยทั้งระบบ“บทเพลง 144 เริ่มบรรเลงแล้ว แม้นช่วงโหมโรงนี้ท่วงทำนองจะเริ่มต้นแบบเนิบ ๆ แต่ความความดุดันกระแทกกระทั้น และเหนือความคาดหมายยากคาดเดา กำลังจะตามมา…” — คำนูณ สิทธิสมาน#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #พิเชษฐ์เชื้อเมืองพาน
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 578 Views 0 Reviews
  • 'หมอวรงค์' เผยข้อพิรุธคดีนักโทษชั้น 14 ข้อมูลขัดแย้งหลายประเด็น! บางคนให้การที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
    https://www.thai-tai.tv/news/20306/
    .
    #นักโทษชั้น14 #คดีพิเศษ #กรมราชทัณฑ์ #ข้อพิรุธ #การไต่สวน
    'หมอวรงค์' เผยข้อพิรุธคดีนักโทษชั้น 14 ข้อมูลขัดแย้งหลายประเด็น! บางคนให้การที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง https://www.thai-tai.tv/news/20306/ . #นักโทษชั้น14 #คดีพิเศษ #กรมราชทัณฑ์ #ข้อพิรุธ #การไต่สวน
    0 Comments 0 Shares 244 Views 0 Reviews
  • ศาลสงสัยแน่นหน้าอก ทำไมไม่ไปรพ.ราชทัณฑ์ : [THE MESSAGE]

    นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี และ นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไต่สวนคดีการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยนายชาญชัย เผย ศาลห้ามไม่ให้นำการเบิกความและการไต่สวน เผยแพร่ในลักษณะคำต่อคำ เพราะอาจมีการให้ความเห็น ทำให้เกิดความสับสนในสังคม ด้านนายแพทย์วรงค์ ตั้งข้อสังเกตระยะเวลาส่งตัวไป รพ.ตำรวจ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ทั้งที่มีอาการแน่นหน้าอก ทำไมไม่ส่งไป รพ.ราชทัณฑ์ก่อนเพราะอยู่ใกล้ และแม้แต่แพทย์เวรก็ไม่รู้เรื่องอะไร พยาบาลประสานงายทั้งหมด ขณะที่นายแพทย์ตุลย์ เผย หากตรวจแล้วไม่ฉุกเฉินสามารถรักษาผู้ป่วยนอกได้และส่งกลับเรือนจำ หากฉุกเฉินมีอาการหนักการอยู่ชั้น 14 ก็ไม่เหมาะสม

    https://www.youtube.com/watch?v=lEzwxDl4W40
    ศาลสงสัยแน่นหน้าอก ทำไมไม่ไปรพ.ราชทัณฑ์ : [THE MESSAGE] นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี และ นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไต่สวนคดีการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยนายชาญชัย เผย ศาลห้ามไม่ให้นำการเบิกความและการไต่สวน เผยแพร่ในลักษณะคำต่อคำ เพราะอาจมีการให้ความเห็น ทำให้เกิดความสับสนในสังคม ด้านนายแพทย์วรงค์ ตั้งข้อสังเกตระยะเวลาส่งตัวไป รพ.ตำรวจ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง ทั้งที่มีอาการแน่นหน้าอก ทำไมไม่ส่งไป รพ.ราชทัณฑ์ก่อนเพราะอยู่ใกล้ และแม้แต่แพทย์เวรก็ไม่รู้เรื่องอะไร พยาบาลประสานงายทั้งหมด ขณะที่นายแพทย์ตุลย์ เผย หากตรวจแล้วไม่ฉุกเฉินสามารถรักษาผู้ป่วยนอกได้และส่งกลับเรือนจำ หากฉุกเฉินมีอาการหนักการอยู่ชั้น 14 ก็ไม่เหมาะสม https://www.youtube.com/watch?v=lEzwxDl4W40
    Like
    7
    0 Comments 0 Shares 932 Views 0 Reviews
  • ป.ป.ช. มีมติตั้งกรรมการไต่สวน 'ทวี-ดีเอสไอ' จงใจกลั่นแกล้ง สอบคดีฮั้วเลือกสว.
    https://www.thai-tai.tv/news/19770/
    ป.ป.ช. มีมติตั้งกรรมการไต่สวน 'ทวี-ดีเอสไอ' จงใจกลั่นแกล้ง สอบคดีฮั้วเลือกสว. https://www.thai-tai.tv/news/19770/
    0 Comments 0 Shares 237 Views 0 Reviews
  • ..ข่าวอีกมุม.

    ..เมื่อวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2025 หน่วยปฏิบัติการพิเศษทางทหารภายใต้ชื่อรหัสปฏิบัติการสโตนไฟร์ได้ทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มดีพสเตตในเจนีวา เทลอาวีฟ และเทือกเขาร็อกกี้โคโลราโด

    ภายในพื้นที่สีแดงเหล่านี้ ได้แก่ ห้องโคลนนิ่งมนุษย์ ศูนย์ควบคุมจิตใจของอาร์พาเน็ต และบันทึกการค้ามนุษย์นอกโลก ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดอยู่ในมือของหน่วยข่าวกรองทางทหารของทรัมป์แล้ว

    ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมที่ถูกดักจับได้เผยให้เห็นการโจมตีด้วยอาวุธชีวภาพและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่วางแผนไว้สำหรับวันเสาร์ที่ 21 หรือวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน เป้าหมายคือ ดัลลาส แอตแลนตา ชิคาโก คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายระบบ QFS ปิดเมือง และทำให้การสื่อสารเป็นอัมพาต มีการเตรียมเชื้อโรคสังเคราะห์เพื่อใช้ประโยชน์จากระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลงด้วย mRNA

    ในวันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน กองทัพได้สกัดกั้นขบวนรถอาวุธชีวภาพสองขบวนใกล้กับเอลปาโซระหว่างทางไปยังไซต์ใต้ดินที่เชื่อมโยงกับโซรอสในออสติน เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกจากอิหร่านซึ่งปลอมตัวเป็นผู้รับจ้างถูกจับกุมตามพิธีสาร GITMO

    21 มิถุนายน 2025: ทรัมป์อนุมัติการโจมตีเต็มรูปแบบต่อสถานที่นิวเคลียร์ของอิหร่าน - ฟอร์โดว์ นาตันซ์ อิสฟาฮาน เรือดำน้ำและเครื่องบินทิ้งระเบิดสเตลท์ได้ประจำการอยู่แล้ว ในเวลาเดียวกัน ระบบป้องกัน Star Link ก็เปิดใช้งานเพื่อต่อต้านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและการโจมตีทางไซเบอร์

    Cyber ​​Command ปิดช่องโหว่เฟิร์มแวร์ที่เชื่อมโยงกับไฟฟ้าดับล่าสุดในฟีนิกซ์ ดีทรอยต์ และฟลอริดา - ซ้อมรบเพื่อไฟฟ้าดับทั่วประเทศ

    วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน: ทรัมป์รักษาสันติภาพระหว่างอิหร่านและอิสราเอล
    วันอังคารที่ 24 มิถุนายน: อิสราเอลละเมิดข้อตกลงหยุดยิงโดยทิ้งระเบิดที่เตหะราน อิหร่านตอบโต้ด้วยการโจมตีด้วยขีปนาวุธ แต่ระบอบการปกครองก็ล่มสลายไปแล้ว พลเรือนอิหร่านปฏิเสธสงคราม ผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองและเข้าร่วม GCR

    ทรัมป์รู้ดีว่าความโกลาหลดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อหยุดเตียงพยาบาล ทำลาย GESARA และปิดกั้นการออกอากาศฉุกเฉิน

    แต่กลับกระตุ้นให้เกิดการไต่สวนของ GITMO โหนด AI ที่เชื่อมโยงกับปฏิบัติการของวาติกันถูกทำลาย เครือข่ายต่อต้านถูกเปิดใช้งานทั่วโลก

    ความพยายามของเนทันยาฮูในการสร้างอิสราเอลที่ยิ่งใหญ่ขึ้น — สงครามกับจอร์แดน เลบานอน และปาเลสไตน์ — ถูกปฏิเสธโดยพันธมิตรในตะวันออกกลาง เพื่อเข้าร่วม Global Currency Reset สงครามไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป

    วันอังคารที่ 10 มิถุนายน การเปิดเผยต่อสาธารณะครั้งแรกที่ได้รับการยืนยันโดย QFS เริ่มต้นขึ้น ไม่มี CNN ไม่มี BBC มีเพียงหลักฐานดิบๆ เช่น การโคลนนิ่ง การค้ามนุษย์ การฟ้องร้องที่ปิดผนึก ทุกชื่อ ทุกอาชญากรรม

    ขณะนี้ทรัมป์ยืนเป็นผู้บัญชาการที่การประชุมสุดยอดนาโต ไม่ใช่หุ่นเชิด มีการจับกุมเกิดขึ้นทั่วประเทศ Five Eyes ได้แก่ ผู้บริหารระดับสูง พิธีกรสื่อ ผู้อำนวยการเอ็นจีโอ — ถูกตั้งข้อหาอาวุธชีวภาพ การทดลองกับมนุษย์ การโจรกรรมทางการเงิน

    เจ้าหน้าที่สหรัฐอย่างน้อย 14 คนและผู้บริหาร 5 คนถูกควบคุมตัวแล้ว
    EBS เตรียมพร้อมแล้ว: 87+ ประเทศพร้อมแล้ว การทดสอบครั้งสุดท้าย: 5 มิถุนายน

    การซ้อมดับไฟ 72 ชั่วโมงกำลังจะเริ่มขึ้นในเร็วๆ นี้
    ทรัมป์นำ ผู้รักชาติเตรียมพร้อม
    ..ข่าวอีกมุม. ..เมื่อวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2025 หน่วยปฏิบัติการพิเศษทางทหารภายใต้ชื่อรหัสปฏิบัติการสโตนไฟร์ได้ทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มดีพสเตตในเจนีวา เทลอาวีฟ และเทือกเขาร็อกกี้โคโลราโด ภายในพื้นที่สีแดงเหล่านี้ ได้แก่ ห้องโคลนนิ่งมนุษย์ ศูนย์ควบคุมจิตใจของอาร์พาเน็ต และบันทึกการค้ามนุษย์นอกโลก ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดอยู่ในมือของหน่วยข่าวกรองทางทหารของทรัมป์แล้ว ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมที่ถูกดักจับได้เผยให้เห็นการโจมตีด้วยอาวุธชีวภาพและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่วางแผนไว้สำหรับวันเสาร์ที่ 21 หรือวันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน เป้าหมายคือ ดัลลาส แอตแลนตา ชิคาโก คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามีจุดมุ่งหมายเพื่อทำลายระบบ QFS ปิดเมือง และทำให้การสื่อสารเป็นอัมพาต มีการเตรียมเชื้อโรคสังเคราะห์เพื่อใช้ประโยชน์จากระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลงด้วย mRNA ในวันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน กองทัพได้สกัดกั้นขบวนรถอาวุธชีวภาพสองขบวนใกล้กับเอลปาโซระหว่างทางไปยังไซต์ใต้ดินที่เชื่อมโยงกับโซรอสในออสติน เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกจากอิหร่านซึ่งปลอมตัวเป็นผู้รับจ้างถูกจับกุมตามพิธีสาร GITMO 21 มิถุนายน 2025: ทรัมป์อนุมัติการโจมตีเต็มรูปแบบต่อสถานที่นิวเคลียร์ของอิหร่าน - ฟอร์โดว์ นาตันซ์ อิสฟาฮาน เรือดำน้ำและเครื่องบินทิ้งระเบิดสเตลท์ได้ประจำการอยู่แล้ว ในเวลาเดียวกัน ระบบป้องกัน Star Link ก็เปิดใช้งานเพื่อต่อต้านคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและการโจมตีทางไซเบอร์ Cyber ​​Command ปิดช่องโหว่เฟิร์มแวร์ที่เชื่อมโยงกับไฟฟ้าดับล่าสุดในฟีนิกซ์ ดีทรอยต์ และฟลอริดา - ซ้อมรบเพื่อไฟฟ้าดับทั่วประเทศ วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน: ทรัมป์รักษาสันติภาพระหว่างอิหร่านและอิสราเอล วันอังคารที่ 24 มิถุนายน: อิสราเอลละเมิดข้อตกลงหยุดยิงโดยทิ้งระเบิดที่เตหะราน อิหร่านตอบโต้ด้วยการโจมตีด้วยขีปนาวุธ แต่ระบอบการปกครองก็ล่มสลายไปแล้ว พลเรือนอิหร่านปฏิเสธสงคราม ผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองและเข้าร่วม GCR ทรัมป์รู้ดีว่าความโกลาหลดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อหยุดเตียงพยาบาล ทำลาย GESARA และปิดกั้นการออกอากาศฉุกเฉิน แต่กลับกระตุ้นให้เกิดการไต่สวนของ GITMO โหนด AI ที่เชื่อมโยงกับปฏิบัติการของวาติกันถูกทำลาย เครือข่ายต่อต้านถูกเปิดใช้งานทั่วโลก ความพยายามของเนทันยาฮูในการสร้างอิสราเอลที่ยิ่งใหญ่ขึ้น — สงครามกับจอร์แดน เลบานอน และปาเลสไตน์ — ถูกปฏิเสธโดยพันธมิตรในตะวันออกกลาง เพื่อเข้าร่วม Global Currency Reset สงครามไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป วันอังคารที่ 10 มิถุนายน การเปิดเผยต่อสาธารณะครั้งแรกที่ได้รับการยืนยันโดย QFS เริ่มต้นขึ้น ไม่มี CNN ไม่มี BBC มีเพียงหลักฐานดิบๆ เช่น การโคลนนิ่ง การค้ามนุษย์ การฟ้องร้องที่ปิดผนึก ทุกชื่อ ทุกอาชญากรรม ขณะนี้ทรัมป์ยืนเป็นผู้บัญชาการที่การประชุมสุดยอดนาโต ไม่ใช่หุ่นเชิด มีการจับกุมเกิดขึ้นทั่วประเทศ Five Eyes ได้แก่ ผู้บริหารระดับสูง พิธีกรสื่อ ผู้อำนวยการเอ็นจีโอ — ถูกตั้งข้อหาอาวุธชีวภาพ การทดลองกับมนุษย์ การโจรกรรมทางการเงิน เจ้าหน้าที่สหรัฐอย่างน้อย 14 คนและผู้บริหาร 5 คนถูกควบคุมตัวแล้ว EBS เตรียมพร้อมแล้ว: 87+ ประเทศพร้อมแล้ว การทดสอบครั้งสุดท้าย: 5 มิถุนายน การซ้อมดับไฟ 72 ชั่วโมงกำลังจะเริ่มขึ้นในเร็วๆ นี้ ทรัมป์นำ ผู้รักชาติเตรียมพร้อม
    0 Comments 0 Shares 688 Views 0 Reviews
  • นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตผู้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการบังคับโทษตามกฎหมายหรือไม่ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา เข้ารับฟังการไต่สวนของศาล ย้ำ คดีนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นการสร้างบรรทัดฐานทางกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมให้ถูกต้อง โดยศาลจะพิจารณาว่า มีการจำคุกจริงตามคำพิพากษาหรือไม่ โดยจะพิจารณาจากหลักฐาน เช่น เวชระเบียน ใบเสร็จ หรือหลักฐานการรักษาพยาบาล เพื่อยืนยันความชอบด้วยกฎหมายของการส่งผู้ต้องขังไปรักษานอกเรือนจำ ส่วนมติแพทยสภาซึ่งลงโทษแพทย์ที่เกี่ยวข้อง ทุกองค์ประกอบสามารถเกี่ยวโยงได้ แต่สุดท้ายศาลจะวินิจฉัยจากข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงว่าการบังคับโทษที่ให้จำคุกหนึ่งปี มีการปฏิบัติจริงหรือไม่
    นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตผู้ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการบังคับโทษตามกฎหมายหรือไม่ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา เข้ารับฟังการไต่สวนของศาล ย้ำ คดีนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นการสร้างบรรทัดฐานทางกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมให้ถูกต้อง โดยศาลจะพิจารณาว่า มีการจำคุกจริงตามคำพิพากษาหรือไม่ โดยจะพิจารณาจากหลักฐาน เช่น เวชระเบียน ใบเสร็จ หรือหลักฐานการรักษาพยาบาล เพื่อยืนยันความชอบด้วยกฎหมายของการส่งผู้ต้องขังไปรักษานอกเรือนจำ ส่วนมติแพทยสภาซึ่งลงโทษแพทย์ที่เกี่ยวข้อง ทุกองค์ประกอบสามารถเกี่ยวโยงได้ แต่สุดท้ายศาลจะวินิจฉัยจากข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงว่าการบังคับโทษที่ให้จำคุกหนึ่งปี มีการปฏิบัติจริงหรือไม่
    Like
    Love
    4
    0 Comments 0 Shares 913 Views 12 0 Reviews
  • 'ทักษิณ' ไม่ไปศาลฎีกา ขอขยายเวลาส่งเอกสาร เมินนำมวลชนกดดัน
    .
    ในที่สุดก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าวันที่ 13 มิถุนายน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไม่เดินทางไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งจะมีการไต่สวนกรณีการติดคุกทิพย์ โดยในเรื่องนี้ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความและผู้รับมอบอำนาจนายทักษิณ ระบุว่า นายทักษิณจะไม่ได้เดินทางไปศาลด้วย เนื่องจากศาลฎีกา ยังไม่ได้มีหมายเรียกมา จะต้องใช้สิทธิชี้แจงต่อศาลตามกระบวนการ โดยก่อนหน้านได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอขยายเวลาส่งเอกสารไต่สวนไปอีก 30 วัน ซึ่งศาลฎีกาฯ อนุญาตจนถึงวันที่ 23 มิ.ย.นี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000055026

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    'ทักษิณ' ไม่ไปศาลฎีกา ขอขยายเวลาส่งเอกสาร เมินนำมวลชนกดดัน . ในที่สุดก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าวันที่ 13 มิถุนายน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไม่เดินทางไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งจะมีการไต่สวนกรณีการติดคุกทิพย์ โดยในเรื่องนี้ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความและผู้รับมอบอำนาจนายทักษิณ ระบุว่า นายทักษิณจะไม่ได้เดินทางไปศาลด้วย เนื่องจากศาลฎีกา ยังไม่ได้มีหมายเรียกมา จะต้องใช้สิทธิชี้แจงต่อศาลตามกระบวนการ โดยก่อนหน้านได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอขยายเวลาส่งเอกสารไต่สวนไปอีก 30 วัน ซึ่งศาลฎีกาฯ อนุญาตจนถึงวันที่ 23 มิ.ย.นี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000055026 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Angry
    Love
    7
    0 Comments 0 Shares 1380 Views 0 Reviews
  • EP.2 ถอดรหัสไทยเสียดินแดนครั้งที่ 16 ปราสาทเขาพระวิหาร

    ประวัติศาสตร์ในสถานศึกษาจะสอนเราว่าไทยเสียดินแดน 14 ครั้ง ทำไมแอดถึงบอกว่าเราเสียดินแดนถึง 16 ครั้ง

    เสียดินแดน 1 - 14 ทุกคนคงหาได้ในอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว แอดจะไม่กล่าวถึง

    แต่ครั้งที่ 15 คือวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ศาลโลกตัดสินให้กัมพูชามีอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหาร นั่นหมายถึง ตัวปราสาทพระวิหาร และดินแดนที่อยู่ใต้ตัวปราสาท

    ในวันที่ “เขาพระวิหาร” ตกเป็นของเขมร ทหารไทยเชิญ “เสาธงชาติไทย” จากเขาพระวิหาร โดย “ไม่มีการลดธง” แม้แต่นิดเดียว ]
    .
    พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชุมพลสมโภช กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ (องค์ต้นราชสกุล “ชุมพล”) ทรงค้นพบปราสาทแห่งนี้เมื่อปี ๒๔๔๒ แล้วทรงจารึกพระนาม และปีที่ค้นพบไว้ที่บริเวณชะง่อนผาเป้ยตาดีว่า “๑๑๘ สรรพสิทธิ” และ “ปราสาทพระวิหาร” เป็นปราสาทที่ได้ชื่อประทานจากพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ข้าหลวงต่างพระองค์สำเร็จราชการมณฑลลาวกาว พระองค์มีรับสั่งว่าปราสาทองค์นี้เหมือนปราสาทที่เทพสร้าง จึงเรียกว่า “ปราสาทเทพพระวิหาร” ซึ่งต่อมาเรียกกันทั่วไปว่า “ปราสาทพระวิหาร” คนกัมพูชาออกเสียงเป็น “เปรี๊ยะวิเฮียร์” เรียกตามคนไทยมาตลอด
    .
    เนื่องจากปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ตรงรอยต่อของไทยกับกัมพูชา ซึ่งผลัดกันยึดครองดินแดนแถบนี้จนหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ไทยได้ส่งทหารเข้ายึดครองพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหาร กษัตริย์สีหนุ จึงยื่นฟ้องต่อศาลโลกเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๐๒
    .
    การไต่สวนพิจารณาคดีเป็นไปอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง ๓ ปี มีการนัดพิจารณาสืบพยานทั้งหมด ๗๓ ครั้ง จนในที่สุด ศาลโลกก็ตัดสินให้กัมพูชาเป็นฝ่ายชนะคดีด้วยคะแนน ๙ ต่อ ๓ เสียง ยังผลให้ประเทศไทยต้องยินยอมทำตามข้อเรียกร้องทั้ง ๒ ข้อของกัมพูชา นับเป็นการเสียดินแดนครั้งล่าสุดของประเทศไทยในยุครัตนโกสินทร์ เสียพื้นที่ไปทั้งหมดประมาณ ๑๕๐ ไร่
    .
    ค่ำคืนวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๐๕ หลังศาลโลกตัดสินให้ ปราสาทพระวิหาร ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของกัมพูชา ได้ประมาณ ๒๐ วัน จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้กล่าวปราศรัยผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย แสดงความรู้สึกต่อการสูญเสียปราสาทพระวิหาร
    .
    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คือ พลโทประภาส จารุเสถียร (ยศในขณะนั้น) บอกว่า “...ถ้าเราไปชักธงชาติลง และพับธงเดินกลับมา จะเป็นการเสียเกียรติยศประเทศไทยซึ่งเคยปกครองเขาพระวิหารมาเป็นเวลานาน...”
    .
    จึงได้ให้ทหารและตำรวจตระเวนชายแดน เชิญเสาธงชาติไทยจากเขาพระวิหาร บนยอดผาเป้ยตาดี ยกเสาธงทั้งต้นลงมา โดยไม่มีการลดธงแม้แต่นิดเดียว ซึ่งทำให้กัมพูชาไม่พอใจอย่างมาก เหมือนกับว่าไทยประชดคำตัดสินของศาลโลก ซึ่งทางเราก็ตอบโต้ว่า “...เป็นสิทธิของเรา...”

    ครั้งที่ 16 คือ 11 พ.ย. 2556 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ได้พิพากษาให้กัมพูชาเป็นผู้มีอำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่รอบๆ ตัวปราสาทพระวิหาร อันตั้งอยู่ตรงชายแดนติดต่อกับประเทศไทย ในคำตัดสินครั้งสำคัญซึ่งมุ่งหมายยุติข้อพิพาทอันยืดเยื้อหลายสิบปี ทั้งนี้ ศาลสูงสุดของสหประชาชาติแห่งนี้ ยังได้สั่งให้รัฐบาลไทยถอนกำลังรักษาความมั่นคงของตนออกมาจากพื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย

    คำตัดสินคราวนี้ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเส้นพรมแดนของทั้งสองประเทศในบริเวณรอบๆ ปราสาทพระวิหารที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้วแห่งนี้ จึงเป็นการปฏิเสธข้ออ้างของฝ่ายกัมพูชาที่ว่า ตนเองเป็นมีอำนาจอธิปไตยเหนือภูเขาพนมตรวบ หรือภูมะเขือที่อยู่ใกล้ๆ กับปราสาท

    แต่เพราะ นายนพดล ปัทมะ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศได้เคยลงนามคำแถลงการณ์ร่วมกับฝ่ายกัมพูชา โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีนายสมัคร ยินยอมให้เขมรนำปราสาทพระวิหารขึ้นเป็นมรดกพร้อมแนบแผนที่บริเวรบริหารจัดการให้เขมรไปด้วยเกือบพันไร่ นั่นคือที่เราสูญเสียในครั้งที่ 16

    บทความบางตอนจากเพจโบราณนานมา และ มเหนทรบรรพต
    EP.2 ถอดรหัสไทยเสียดินแดนครั้งที่ 16 ปราสาทเขาพระวิหาร ประวัติศาสตร์ในสถานศึกษาจะสอนเราว่าไทยเสียดินแดน 14 ครั้ง ทำไมแอดถึงบอกว่าเราเสียดินแดนถึง 16 ครั้ง เสียดินแดน 1 - 14 ทุกคนคงหาได้ในอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว แอดจะไม่กล่าวถึง แต่ครั้งที่ 15 คือวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ศาลโลกตัดสินให้กัมพูชามีอธิปไตยเหนือปราสาทพระวิหาร นั่นหมายถึง ตัวปราสาทพระวิหาร และดินแดนที่อยู่ใต้ตัวปราสาท ในวันที่ “เขาพระวิหาร” ตกเป็นของเขมร ทหารไทยเชิญ “เสาธงชาติไทย” จากเขาพระวิหาร โดย “ไม่มีการลดธง” แม้แต่นิดเดียว ] . พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชุมพลสมโภช กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ (องค์ต้นราชสกุล “ชุมพล”) ทรงค้นพบปราสาทแห่งนี้เมื่อปี ๒๔๔๒ แล้วทรงจารึกพระนาม และปีที่ค้นพบไว้ที่บริเวณชะง่อนผาเป้ยตาดีว่า “๑๑๘ สรรพสิทธิ” และ “ปราสาทพระวิหาร” เป็นปราสาทที่ได้ชื่อประทานจากพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ข้าหลวงต่างพระองค์สำเร็จราชการมณฑลลาวกาว พระองค์มีรับสั่งว่าปราสาทองค์นี้เหมือนปราสาทที่เทพสร้าง จึงเรียกว่า “ปราสาทเทพพระวิหาร” ซึ่งต่อมาเรียกกันทั่วไปว่า “ปราสาทพระวิหาร” คนกัมพูชาออกเสียงเป็น “เปรี๊ยะวิเฮียร์” เรียกตามคนไทยมาตลอด . เนื่องจากปราสาทพระวิหารตั้งอยู่ตรงรอยต่อของไทยกับกัมพูชา ซึ่งผลัดกันยึดครองดินแดนแถบนี้จนหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ ไทยได้ส่งทหารเข้ายึดครองพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหาร กษัตริย์สีหนุ จึงยื่นฟ้องต่อศาลโลกเมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๐๒ . การไต่สวนพิจารณาคดีเป็นไปอย่างต่อเนื่องยาวนานถึง ๓ ปี มีการนัดพิจารณาสืบพยานทั้งหมด ๗๓ ครั้ง จนในที่สุด ศาลโลกก็ตัดสินให้กัมพูชาเป็นฝ่ายชนะคดีด้วยคะแนน ๙ ต่อ ๓ เสียง ยังผลให้ประเทศไทยต้องยินยอมทำตามข้อเรียกร้องทั้ง ๒ ข้อของกัมพูชา นับเป็นการเสียดินแดนครั้งล่าสุดของประเทศไทยในยุครัตนโกสินทร์ เสียพื้นที่ไปทั้งหมดประมาณ ๑๕๐ ไร่ . ค่ำคืนวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๐๕ หลังศาลโลกตัดสินให้ ปราสาทพระวิหาร ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของกัมพูชา ได้ประมาณ ๒๐ วัน จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้กล่าวปราศรัยผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย แสดงความรู้สึกต่อการสูญเสียปราสาทพระวิหาร . รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คือ พลโทประภาส จารุเสถียร (ยศในขณะนั้น) บอกว่า “...ถ้าเราไปชักธงชาติลง และพับธงเดินกลับมา จะเป็นการเสียเกียรติยศประเทศไทยซึ่งเคยปกครองเขาพระวิหารมาเป็นเวลานาน...” . จึงได้ให้ทหารและตำรวจตระเวนชายแดน เชิญเสาธงชาติไทยจากเขาพระวิหาร บนยอดผาเป้ยตาดี ยกเสาธงทั้งต้นลงมา โดยไม่มีการลดธงแม้แต่นิดเดียว ซึ่งทำให้กัมพูชาไม่พอใจอย่างมาก เหมือนกับว่าไทยประชดคำตัดสินของศาลโลก ซึ่งทางเราก็ตอบโต้ว่า “...เป็นสิทธิของเรา...” ครั้งที่ 16 คือ 11 พ.ย. 2556 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก ได้พิพากษาให้กัมพูชาเป็นผู้มีอำนาจอธิปไตยเหนือพื้นที่รอบๆ ตัวปราสาทพระวิหาร อันตั้งอยู่ตรงชายแดนติดต่อกับประเทศไทย ในคำตัดสินครั้งสำคัญซึ่งมุ่งหมายยุติข้อพิพาทอันยืดเยื้อหลายสิบปี ทั้งนี้ ศาลสูงสุดของสหประชาชาติแห่งนี้ ยังได้สั่งให้รัฐบาลไทยถอนกำลังรักษาความมั่นคงของตนออกมาจากพื้นที่ดังกล่าวอีกด้วย คำตัดสินคราวนี้ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเส้นพรมแดนของทั้งสองประเทศในบริเวณรอบๆ ปราสาทพระวิหารที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้วแห่งนี้ จึงเป็นการปฏิเสธข้ออ้างของฝ่ายกัมพูชาที่ว่า ตนเองเป็นมีอำนาจอธิปไตยเหนือภูเขาพนมตรวบ หรือภูมะเขือที่อยู่ใกล้ๆ กับปราสาท แต่เพราะ นายนพดล ปัทมะ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศได้เคยลงนามคำแถลงการณ์ร่วมกับฝ่ายกัมพูชา โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีนายสมัคร ยินยอมให้เขมรนำปราสาทพระวิหารขึ้นเป็นมรดกพร้อมแนบแผนที่บริเวรบริหารจัดการให้เขมรไปด้วยเกือบพันไร่ นั่นคือที่เราสูญเสียในครั้งที่ 16 บทความบางตอนจากเพจโบราณนานมา และ มเหนทรบรรพต
    0 Comments 0 Shares 676 Views 27 0 Reviews
  • เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ได้อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อท 77/2567 ระหว่างอัยการสูงสุด โดยพนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 1 เป็นโจทก์ ฟ้อง พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง อคส. จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 21 คน

    ข้อกล่าวหา
    โจทก์ฟ้องว่า ขณะเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 เป็นพนักงานองค์การคลังสินค้า ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง โดยมีจำเลยที่ 2 บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคล และจำเลยที่ 3 กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท ส่วนจำเลยที่ 4 ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า และจำเลยที่ 5 เป็นพนักงานองค์การคลังสินค้า ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนงานการตลาดดิจิทัล นอกจากนี้ยังมีจำเลยที่ 6 ถึงจำเลยที่ 17 และจำเลยที่ 19 ถึงจำเลยที่ 21 เป็นบุคคลธรรมดา และจำเลยที่ 18 บริษัท ไทย สไมล์ เทรด จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคล ทั้งหมดเป็นผู้เกี่ยวข้องในการซื้อหรือขายถุงมือยางกับองค์การคลังสินค้า
    จำเลยทั้ง 21 คน ได้ร่วมกันแบ่งหน้าที่และให้การช่วยเหลือสนับสนุนในการกระทำความผิด โดยจำเลยที่ 1, 4, และ 5 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าพนักงานของรัฐ และพนักงานในหน่วยงานของรัฐ ได้กระทำความผิดโดยอาศัยอำนาจหน้าที่ในการทุจริต ด้วยการร่วมกับจำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 6 ถึงจำเลยที่ 21 นำบริษัท ไทย สไมล์ เทรด จำกัด จำเลยที่ 18, GALORE MANAGEMENT, LLC และ KRENEK LAW OFFICES, PLLC ซึ่งเป็นบริษัทที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการค้าขายถุงมือยางเข้ามาเป็นผู้ซื้อถุงมือยางจากองค์การคลังสินค้า ทั้งที่ยังไม่ได้มีการวางหลักเกณฑ์หรือระเบียบในการจัดหาและจำหน่ายสินค้า

    อย่างไรก็ตาม อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีความเห็นแย้งไว้ด้วย สรุปความได้ว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากการไต่สวนชี้ว่าการกระทำของจำเลยทั้งแปดในโครงการจัดซื้อสินค้า เป็นการกระทำโดยทุจริตที่ร่วมกันจัดทำเอกสารปลอม และรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ เพื่อให้มีการอนุมัติและเบิกเงินสำหรับโครงการดังกล่าว โดยไม่มีการจัดซื้อสินค้าจริง หรือมีการจัดซื้อสินค้าแต่ไม่มีการส่งมอบสินค้าครบถ้วนตามสัญญา หรือมีการส่งมอบสินค้าที่มีราคาแพงเกินสมควร
    มีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน ตั้งแต่การจัดทำเอกสารเสนอโครงการ การอนุมัติโครงการ การเบิกจ่ายเงิน ไปจนถึงการรับเงิน โดยมีเจตนาทุจริตเพื่อแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ มีหลักฐานเอกสารที่แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติในการดำเนินโครงการ รวมถึงพยานหลักฐานที่ยืนยันว่าจำเลยได้กระทำการทุจริตตามที่กล่าวหา การกระทำของจำเลยทำให้รัฐได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
    ทั้งนี้ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีความเห็นแย้งว่า จำเลยทั้งหมดควรกระทำความผิดในข้อหาทุจริตและประพฤติมิชอบ เนื่องจากพฤติการณ์และพยานหลักฐานบ่งชี้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต และได้ร่วมกันกระทำความผิดจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐอย่างร้ายแรง


    ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/4729354/?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR71j_g9yAwXtqPHQb0uXo6NwSaRRxIEzCpwoZLU7KVD-bEJJHnW7X28KgvJdA_aem_LqzQfoRAPkMXzVFYHQtuOw#4jct57bmo4c6r484mbp5z8fwungr7xuqm
    เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2568 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ได้อ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อท 77/2567 ระหว่างอัยการสูงสุด โดยพนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 1 ภาค 1 เป็นโจทก์ ฟ้อง พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง อคส. จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 21 คน ข้อกล่าวหา โจทก์ฟ้องว่า ขณะเกิดเหตุ จำเลยที่ 1 เป็นพนักงานองค์การคลังสินค้า ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง โดยมีจำเลยที่ 2 บริษัท การ์เดียนโกลฟส์ จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคล และจำเลยที่ 3 กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท ส่วนจำเลยที่ 4 ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า และจำเลยที่ 5 เป็นพนักงานองค์การคลังสินค้า ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนงานการตลาดดิจิทัล นอกจากนี้ยังมีจำเลยที่ 6 ถึงจำเลยที่ 17 และจำเลยที่ 19 ถึงจำเลยที่ 21 เป็นบุคคลธรรมดา และจำเลยที่ 18 บริษัท ไทย สไมล์ เทรด จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคล ทั้งหมดเป็นผู้เกี่ยวข้องในการซื้อหรือขายถุงมือยางกับองค์การคลังสินค้า จำเลยทั้ง 21 คน ได้ร่วมกันแบ่งหน้าที่และให้การช่วยเหลือสนับสนุนในการกระทำความผิด โดยจำเลยที่ 1, 4, และ 5 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เจ้าพนักงานของรัฐ และพนักงานในหน่วยงานของรัฐ ได้กระทำความผิดโดยอาศัยอำนาจหน้าที่ในการทุจริต ด้วยการร่วมกับจำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 6 ถึงจำเลยที่ 21 นำบริษัท ไทย สไมล์ เทรด จำกัด จำเลยที่ 18, GALORE MANAGEMENT, LLC และ KRENEK LAW OFFICES, PLLC ซึ่งเป็นบริษัทที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการค้าขายถุงมือยางเข้ามาเป็นผู้ซื้อถุงมือยางจากองค์การคลังสินค้า ทั้งที่ยังไม่ได้มีการวางหลักเกณฑ์หรือระเบียบในการจัดหาและจำหน่ายสินค้า อย่างไรก็ตาม อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีความเห็นแย้งไว้ด้วย สรุปความได้ว่า ข้อเท็จจริงที่ปรากฏจากการไต่สวนชี้ว่าการกระทำของจำเลยทั้งแปดในโครงการจัดซื้อสินค้า เป็นการกระทำโดยทุจริตที่ร่วมกันจัดทำเอกสารปลอม และรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ เพื่อให้มีการอนุมัติและเบิกเงินสำหรับโครงการดังกล่าว โดยไม่มีการจัดซื้อสินค้าจริง หรือมีการจัดซื้อสินค้าแต่ไม่มีการส่งมอบสินค้าครบถ้วนตามสัญญา หรือมีการส่งมอบสินค้าที่มีราคาแพงเกินสมควร มีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน ตั้งแต่การจัดทำเอกสารเสนอโครงการ การอนุมัติโครงการ การเบิกจ่ายเงิน ไปจนถึงการรับเงิน โดยมีเจตนาทุจริตเพื่อแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ มีหลักฐานเอกสารที่แสดงให้เห็นถึงความผิดปกติในการดำเนินโครงการ รวมถึงพยานหลักฐานที่ยืนยันว่าจำเลยได้กระทำการทุจริตตามที่กล่าวหา การกระทำของจำเลยทำให้รัฐได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีความเห็นแย้งว่า จำเลยทั้งหมดควรกระทำความผิดในข้อหาทุจริตและประพฤติมิชอบ เนื่องจากพฤติการณ์และพยานหลักฐานบ่งชี้ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริต และได้ร่วมกันกระทำความผิดจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐอย่างร้ายแรง ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/4729354/?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR71j_g9yAwXtqPHQb0uXo6NwSaRRxIEzCpwoZLU7KVD-bEJJHnW7X28KgvJdA_aem_LqzQfoRAPkMXzVFYHQtuOw#4jct57bmo4c6r484mbp5z8fwungr7xuqm
    WWW.DAILYNEWS.CO.TH
    เห็นแย้ง! ศาลฯยกฟ้อง อดีต ผอ.อคส.-พวก จัดซื้อถุงมือยางมิชอบ2พันล้าน | เดลินิวส์
    ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 1 พิพากษายกฟ้องคดี รุ่งโรจน์ อดีต ผอ.อคส. กับพวก รวม 21 คน ฐานสมคบวางแผนจัดซื้อถุงมือยางมิชอบ เสียหายกว่า 2 พันล้านบาท แต่ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 จะมีความเห็นแย้ง
    0 Comments 0 Shares 436 Views 0 Reviews
  • THE ANWAR’S DISGUSTING ADVISOR

    เป็นที่เคลือบแคลงสงสัยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว สำหรับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แต่งตั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน ที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพในปี 2568 ทั้งที่นายทักษิณเพิ่งได้รับการพักโทษอย่างน่ากังขาจากคดีทุจริต 3 คดี โดยที่ไม่เคยติดคุกแม้แต่วันเดียว กลับอาศัยอยู่ที่ห้องพักสุดหรูบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจด้วยข้ออ้างอาการป่วยขั้นวิกฤต เป็นบุคคลน่ารังเกียจในสายตาชาวไทยที่ยึดถือความยุติธรรม และตลอดครึ่งปีที่ผ่านมาที่ปรึกษารายนี้ไม่มีผลงานใดเป็นรูปธรรม นอกจากใช้เป็นข้ออ้าง ขออนุญาตศาลอาญาเดินทางออกนอกประเทศ

    เมื่อวันที่ 14 พ.ค. เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ ชุมนุมหน้าอาคารโครนอส สาทร ทาวเวอร์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือผ่านสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ทบทวนการแต่งตั้งนายทักษิณเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน ทั้งที่ปัจจุบันนายทักษิณเป็นจำเลยในคดีอาญา มาตรา 112 รวมทั้งนายทักษิณเคยให้การรับสารภาพและถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก โดยคดีถึงที่สุดแล้ว ในคดีทุจริตคอร์รัปชันเมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถูกประชาชนคนไทยมีคำถามกับสิ่งที่นายทักษิณอ้างว่าป่วยวิกฤตและไม่เข้าเรือนจำแม้แต่วันเดียว

    คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และศาลฎีกาได้เริ่มกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงว่า การบังคับโทษนายทักษิณเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ ดังนั้น นายทักษิณที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียนที่นายอันวาร์แต่งตั้ง จึงเป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างถูกดำเนินการทางกฎหมายของประเทศไทย และถูกดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงจากศาลไทยซึ่งอาจจะนำมาสู่การลงโทษผู้กระทำความผิด หรือแม้แต่การลงโทษนายทักษิณอีกครั้งหนึ่ง

    "เกรงว่าด้วยตำแหน่งที่นายอันวาร์แต่งตั้งให้นายทักษิณเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน จะกลายเป็นเงื่อนไขใช้เป็นข้ออ้างในการเดินทางออกนอกประเทศของนายทักษิณ แล้วไม่กลับมาสู่การพิสูจน์ความจริงเหมือนที่นายทักษิณเคยกระทำมาแล้ว ซึ่งก็จะกลายเป็นการใช้ตำแหน่งที่ปรึกษาของนายอันวาร์ มาบดบังกระบวนการยุติธรรมของไทย อันเป็นการกระทำที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพื่อให้เกิดมิตรไมตรีของสองประเทศอันมีมาช้านาน จึงขอให้ทบทวนการแต่งตั้งนายทักษิณ เพื่อธํารงไว้ซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงทางการเมืองของประเทศอาเซียน และให้กระบวนการยุติธรรมไทยมีความศักดิ์สิทธิ์ เหมือนทุกประเทศมีกระบวนการยุติธรรมในประเทศของตนเอง"

    #Newskit
    THE ANWAR’S DISGUSTING ADVISOR เป็นที่เคลือบแคลงสงสัยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว สำหรับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แต่งตั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน ที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพในปี 2568 ทั้งที่นายทักษิณเพิ่งได้รับการพักโทษอย่างน่ากังขาจากคดีทุจริต 3 คดี โดยที่ไม่เคยติดคุกแม้แต่วันเดียว กลับอาศัยอยู่ที่ห้องพักสุดหรูบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจด้วยข้ออ้างอาการป่วยขั้นวิกฤต เป็นบุคคลน่ารังเกียจในสายตาชาวไทยที่ยึดถือความยุติธรรม และตลอดครึ่งปีที่ผ่านมาที่ปรึกษารายนี้ไม่มีผลงานใดเป็นรูปธรรม นอกจากใช้เป็นข้ออ้าง ขออนุญาตศาลอาญาเดินทางออกนอกประเทศ เมื่อวันที่ 14 พ.ค. เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ ชุมนุมหน้าอาคารโครนอส สาทร ทาวเวอร์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ เพื่อยื่นหนังสือผ่านสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ทบทวนการแต่งตั้งนายทักษิณเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน ทั้งที่ปัจจุบันนายทักษิณเป็นจำเลยในคดีอาญา มาตรา 112 รวมทั้งนายทักษิณเคยให้การรับสารภาพและถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก โดยคดีถึงที่สุดแล้ว ในคดีทุจริตคอร์รัปชันเมื่อครั้งเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถูกประชาชนคนไทยมีคำถามกับสิ่งที่นายทักษิณอ้างว่าป่วยวิกฤตและไม่เข้าเรือนจำแม้แต่วันเดียว คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และศาลฎีกาได้เริ่มกระบวนการไต่สวนข้อเท็จจริงว่า การบังคับโทษนายทักษิณเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ ดังนั้น นายทักษิณที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียนที่นายอันวาร์แต่งตั้ง จึงเป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างถูกดำเนินการทางกฎหมายของประเทศไทย และถูกดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงจากศาลไทยซึ่งอาจจะนำมาสู่การลงโทษผู้กระทำความผิด หรือแม้แต่การลงโทษนายทักษิณอีกครั้งหนึ่ง "เกรงว่าด้วยตำแหน่งที่นายอันวาร์แต่งตั้งให้นายทักษิณเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน จะกลายเป็นเงื่อนไขใช้เป็นข้ออ้างในการเดินทางออกนอกประเทศของนายทักษิณ แล้วไม่กลับมาสู่การพิสูจน์ความจริงเหมือนที่นายทักษิณเคยกระทำมาแล้ว ซึ่งก็จะกลายเป็นการใช้ตำแหน่งที่ปรึกษาของนายอันวาร์ มาบดบังกระบวนการยุติธรรมของไทย อันเป็นการกระทำที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพื่อให้เกิดมิตรไมตรีของสองประเทศอันมีมาช้านาน จึงขอให้ทบทวนการแต่งตั้งนายทักษิณ เพื่อธํารงไว้ซึ่งสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงทางการเมืองของประเทศอาเซียน และให้กระบวนการยุติธรรมไทยมีความศักดิ์สิทธิ์ เหมือนทุกประเทศมีกระบวนการยุติธรรมในประเทศของตนเอง" #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 918 Views 0 Reviews
  • ปมร้อนข่าวลึก : “เนวิน”สั่งลุย เอาคืน ดีเอสไอ -กกต.
    .
    หลังพักตั้งหลัก3-4 วันเพราะติดวันหยุดยาวราชการ พืชมงคล-เสาร์-อาทิตย์-ชดเชยวิสาขบูชา แต่เปิดทำการมาวันอังคาร ต้องจับตา แผนตั้งรับและโต้กลับของ”สว.สีน้ำเงิน”หลังโดน ดีเอสไอ -คณะอนุกรรมการไต่สวนกกต.รุกหนัก ถึงขั้นส่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ไปติดหมายเรียกหน้าบ้านสว. บางคน ให้ไปชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาทำผิดกฎหมายเลือกตั้งสว. เรียกว่า ทำให้อับอายทางการเมือง เพราะเล่นไปติดหมายหน้าบ้านแล้วถ่ายรูปส่งให้สื่อมวลชนเอาไปเสนอข่าว แบบไม่ไว้หน้า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000044175

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ปมร้อนข่าวลึก : “เนวิน”สั่งลุย เอาคืน ดีเอสไอ -กกต. . หลังพักตั้งหลัก3-4 วันเพราะติดวันหยุดยาวราชการ พืชมงคล-เสาร์-อาทิตย์-ชดเชยวิสาขบูชา แต่เปิดทำการมาวันอังคาร ต้องจับตา แผนตั้งรับและโต้กลับของ”สว.สีน้ำเงิน”หลังโดน ดีเอสไอ -คณะอนุกรรมการไต่สวนกกต.รุกหนัก ถึงขั้นส่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ไปติดหมายเรียกหน้าบ้านสว. บางคน ให้ไปชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาทำผิดกฎหมายเลือกตั้งสว. เรียกว่า ทำให้อับอายทางการเมือง เพราะเล่นไปติดหมายหน้าบ้านแล้วถ่ายรูปส่งให้สื่อมวลชนเอาไปเสนอข่าว แบบไม่ไว้หน้า อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000044175 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    6
    0 Comments 0 Shares 922 Views 0 Reviews
More Results