• การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง เริ่มจากภายในจิตใจของตัวเอง ไม่ใช่แค่การไปทำบุญภายนอก แต่คือการ "ฝึกใจ" ให้คิดดี ทำดี อดทน และไม่โต้ตอบความชั่วด้วยความชั่ว

    การฝึกใจแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มเนื้อหา:

    กลุ่มแรก: ฝึกใจเพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อของความร้าย

    กำจัดนิสัยเสียของตน สำคัญกว่าการทำบุญภายนอก

    แม้พบคนเลว ก็เลือกได้ว่าจะไม่เลวตาม

    คนไม่ดีทำให้คุณอยากคิดไม่ดี แต่คุณมีสิทธิ์เลือกจะคิดดี

    ถ้าไม่ระวัง เรื่องร้ายจะเปลี่ยนคุณให้ร้ายตาม

    เรื่องดีหรือร้ายรอบตัวไม่สำคัญเท่าคุณดีหรือร้ายในใจ

    กลุ่มที่สอง: ฝึกใจให้พร้อมทำบุญทุกวัน

    บุญเริ่มที่ "ใจ" ไม่ใช่แค่เงิน

    ใจที่ให้อภัย ใจที่อดทน ใจที่มีเมตตา คือการทำบุญตลอดวัน

    ชีวิตประจำวันคือบทฝึกใจ ให้กลับบ้านได้เหมือนไปวัดมา

    มีเงินแต่ไม่มีใจทำบุญก็ไร้ค่า

    ใจที่คิดให้ คือกุญแจสู่บุญตลอดเวลา

    ---

    ฝึกใจคือบุญที่แท้จริง: ไม่ต้องรอวันพระ ไม่ต้องรอเวลาว่าง แค่มีเจตนาดีก็เป็นบุญได้

    ไม่เอาความเลวมาเป็นข้ออ้าง: คนเลวกระตุ้นคุณไม่ได้ ถ้าใจคุณมั่นคงในความดี

    ขับเคลื่อนชีวิตด้วยใจสว่าง: ออกจากบ้านเพื่อฝึกใจ ไม่ใช่เพื่อหนีปัญหา

    "เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นวันละนิด คือบุญที่มั่นคงยิ่งกว่าการเดินสายทำบุญ และใจที่ไม่เลวตามโลก คือใจที่พร้อมจะมีบุญอยู่เสมอ"
    การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง เริ่มจากภายในจิตใจของตัวเอง ไม่ใช่แค่การไปทำบุญภายนอก แต่คือการ "ฝึกใจ" ให้คิดดี ทำดี อดทน และไม่โต้ตอบความชั่วด้วยความชั่ว การฝึกใจแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มเนื้อหา: กลุ่มแรก: ฝึกใจเพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อของความร้าย กำจัดนิสัยเสียของตน สำคัญกว่าการทำบุญภายนอก แม้พบคนเลว ก็เลือกได้ว่าจะไม่เลวตาม คนไม่ดีทำให้คุณอยากคิดไม่ดี แต่คุณมีสิทธิ์เลือกจะคิดดี ถ้าไม่ระวัง เรื่องร้ายจะเปลี่ยนคุณให้ร้ายตาม เรื่องดีหรือร้ายรอบตัวไม่สำคัญเท่าคุณดีหรือร้ายในใจ กลุ่มที่สอง: ฝึกใจให้พร้อมทำบุญทุกวัน บุญเริ่มที่ "ใจ" ไม่ใช่แค่เงิน ใจที่ให้อภัย ใจที่อดทน ใจที่มีเมตตา คือการทำบุญตลอดวัน ชีวิตประจำวันคือบทฝึกใจ ให้กลับบ้านได้เหมือนไปวัดมา มีเงินแต่ไม่มีใจทำบุญก็ไร้ค่า ใจที่คิดให้ คือกุญแจสู่บุญตลอดเวลา --- ฝึกใจคือบุญที่แท้จริง: ไม่ต้องรอวันพระ ไม่ต้องรอเวลาว่าง แค่มีเจตนาดีก็เป็นบุญได้ ไม่เอาความเลวมาเป็นข้ออ้าง: คนเลวกระตุ้นคุณไม่ได้ ถ้าใจคุณมั่นคงในความดี ขับเคลื่อนชีวิตด้วยใจสว่าง: ออกจากบ้านเพื่อฝึกใจ ไม่ใช่เพื่อหนีปัญหา "เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นวันละนิด คือบุญที่มั่นคงยิ่งกว่าการเดินสายทำบุญ และใจที่ไม่เลวตามโลก คือใจที่พร้อมจะมีบุญอยู่เสมอ"
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • ประเทศไทยติดอันดับ 5 ของโลกในจำนวนประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไป

    จากข้อมูลปี 2024 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไปถึง 42,845 คน ติดอันดับที่ 5 ของโลก แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างชัดเจน

    สาเหตุที่ทำให้คนไทยอายุยืน

    1. อาหารและโภชนาการ

    อาหารไทยอุดมไปด้วยสมุนไพร เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ

    การบริโภคผักและผลไม้สด รวมถึงอาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลาและข้าวกล้อง

    2. วัฒนธรรมและวิถีชีวิต

    สังคมไทยให้ความสำคัญกับครอบครัว ทำให้ผู้สูงอายุมีการดูแลและได้รับความรักจากลูกหลาน

    การทำบุญและปฏิบัติธรรมช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของอายุยืน

    3. การแพทย์และสาธารณสุข

    ระบบสาธารณสุขของไทยเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะโครงการ "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า" หรือ "บัตรทอง"

    มีแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบันที่ทำงานร่วมกัน ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง

    แนวโน้มของประเทศไทยในอนาคต

    ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งหมายความว่าประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ส่งผลให้ต้องมีการปรับตัวในหลายด้าน เช่น

    การพัฒนาระบบสาธารณสุขให้รองรับผู้สูงวัย

    การออกแบบเมืองให้เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ

    การสนับสนุนให้ผู้สูงวัยสามารถทำงานหรือมีกิจกรรมที่เสริมสร้างสุขภาพ

    จากสถิตินี้ทำให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนอายุยืนมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับอนาคตของประเทศ

    ที่มา: VGraps
    ประเทศไทยติดอันดับ 5 ของโลกในจำนวนประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไป จากข้อมูลปี 2024 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไปถึง 42,845 คน ติดอันดับที่ 5 ของโลก แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างชัดเจน สาเหตุที่ทำให้คนไทยอายุยืน 1. อาหารและโภชนาการ อาหารไทยอุดมไปด้วยสมุนไพร เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ การบริโภคผักและผลไม้สด รวมถึงอาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลาและข้าวกล้อง 2. วัฒนธรรมและวิถีชีวิต สังคมไทยให้ความสำคัญกับครอบครัว ทำให้ผู้สูงอายุมีการดูแลและได้รับความรักจากลูกหลาน การทำบุญและปฏิบัติธรรมช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของอายุยืน 3. การแพทย์และสาธารณสุข ระบบสาธารณสุขของไทยเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะโครงการ "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า" หรือ "บัตรทอง" มีแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบันที่ทำงานร่วมกัน ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง แนวโน้มของประเทศไทยในอนาคต ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งหมายความว่าประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ส่งผลให้ต้องมีการปรับตัวในหลายด้าน เช่น การพัฒนาระบบสาธารณสุขให้รองรับผู้สูงวัย การออกแบบเมืองให้เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ การสนับสนุนให้ผู้สูงวัยสามารถทำงานหรือมีกิจกรรมที่เสริมสร้างสุขภาพ จากสถิตินี้ทำให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนอายุยืนมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับอนาคตของประเทศ ที่มา: VGraps
    0 Comments 0 Shares 358 Views 0 Reviews
  • 🌿 ศาสนาพุทธ : เปลือกและแก่นของการทำบุญ 🌿


    ---

    🔵 1️⃣ เปลือกแรกของพุทธศาสนา: การทำบุญเพื่อให้ใจเป็นสุข

    ✅ เป้าหมาย → ทำบุญเพื่อให้ใจเบา สบาย และเป็นสุข
    ✅ วิธีการ

    ให้ทาน → สละออกเพื่อเกื้อกูลผู้อื่น

    รักษาศีล → ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น

    ฝึกสมาธิ → ทำให้ใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน
    ✅ ผลลัพธ์

    ใจที่สละออก = ใจที่เบาขึ้น

    ใจที่ห้ามความชั่ว = ใจที่สะอาดขึ้น
    📌 "การทำบุญเป็นเรื่องของจิต ไม่ใช่แค่พิธีกรรม"



    ---

    🟢 2️⃣ แก่นแท้ของพุทธศาสนา: การทำบุญเพื่อให้ใจพ้นทุกข์

    ✅ เป้าหมาย → สละความเห็นผิด สละความยึดมั่นในตัวตน
    ✅ วิธีการ

    สละ ‘ความยึดมั่นถือมั่น’ → เห็นว่าทุกสิ่งเป็น ‘อนัตตา’

    รู้ทันจิต → เห็นการเปลี่ยนแปลงของกายและใจอย่างเป็นกลาง

    ใช้ชีวิตด้วยสติ → ไม่เบียดเบียนใคร และอยู่กับธรรมชาติของชีวิต
    ✅ ผลลัพธ์

    จิตโปร่ง โล่ง เบา → ไม่ยึดติดความคิดว่า ‘เรา’ เป็นสิ่งใด

    ไม่มีตัวตนที่แท้จริง → ทุกสิ่งเป็นเพียง ‘การเปลี่ยนแปลง’ เท่านั้น
    📌 "พุทธศาสนาไม่ได้สอนให้แค่ ‘ดี’ แต่สอนให้ ‘พ้นทุกข์’"



    ---

    🔶 3️⃣ ทำไมบางคนเรียนธรรมะแต่ยังทุกข์?

    📌 ปัญหา

    รู้หลักธรรมะ แต่ ‘ยังมีอัตตา’ → คิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น

    รู้ว่า ‘กายใจเป็นอนัตตา’ แต่ ‘ยังยึดติดความรู้’

    เข้าใจทฤษฎี แต่ยัง ‘โลภ โกรธ หลง’ อยู่


    📌 แนวทางแก้ไข

    เจริญสติในปัจจุบัน → รู้ลมหายใจ รู้กาย รู้จิตของตัวเอง

    ไม่ยึดติดความเป็นผู้รู้ → ไม่หลงคิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น

    ใช้ชีวิตให้เป็นธรรมชาติ → ไม่ต้องฝืน ไม่ต้องกดดันตัวเอง


    📌 "การศึกษาธรรมะไม่ใช่การสะสมความรู้ แต่คือการลดอัตตา จนเหลือแต่จิตที่ว่างและเบาสบาย"


    ---

    🌅 4️⃣ การเจริญสติแบบพุทธ : ฝึก ‘รู้’ อย่างไรให้พ้นทุกข์

    ✅ ฝึกมองกายใจแบบแยกส่วน

    หายใจเข้า → รู้สึกโล่ง หรืออึดอัด?

    หายใจออก → รู้สึกสบาย หรือกดดัน?

    จิตฟุ้งซ่าน → แค่รู้ว่าฟุ้ง ไม่ต้องไปแก้

    จิตสงบ → แค่รู้ว่าสงบ ไม่ต้องไปยึด


    ✅ ฝึกเห็นว่า ‘ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลง’

    อารมณ์ดี → เดี๋ยวก็หายไป

    อารมณ์ร้าย → เดี๋ยวก็หายไป

    ความสุข ความทุกข์ → ไม่เที่ยงทั้งคู่


    📌 "เห็นทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นกลาง ใจก็เบาและพ้นทุกข์"


    ---

    🔄 5️⃣ สรุป : พุทธศาสนาสอนอะไร?

    ✅ เปลือกแรก → ทำบุญให้ใจเป็นสุข
    ✅ แก่นแท้ → สละตัวตนเพื่อให้ใจพ้นทุกข์
    ✅ ทางปฏิบัติ → เจริญสติ ฝึกเห็นกายใจเป็น ‘อนัตตา’
    ✅ เป้าหมายสูงสุด → จิตโปร่ง โล่ง เบา ไม่ยึดติดอะไร

    📌 "พระพุทธเจ้าไม่ได้ต้องการให้เรามีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ แต่ต้องการให้เราพ้นทุกข์อย่างแท้จริง" 🏔️

    🌿 ศาสนาพุทธ : เปลือกและแก่นของการทำบุญ 🌿 --- 🔵 1️⃣ เปลือกแรกของพุทธศาสนา: การทำบุญเพื่อให้ใจเป็นสุข ✅ เป้าหมาย → ทำบุญเพื่อให้ใจเบา สบาย และเป็นสุข ✅ วิธีการ ให้ทาน → สละออกเพื่อเกื้อกูลผู้อื่น รักษาศีล → ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ฝึกสมาธิ → ทำให้ใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน ✅ ผลลัพธ์ ใจที่สละออก = ใจที่เบาขึ้น ใจที่ห้ามความชั่ว = ใจที่สะอาดขึ้น 📌 "การทำบุญเป็นเรื่องของจิต ไม่ใช่แค่พิธีกรรม" --- 🟢 2️⃣ แก่นแท้ของพุทธศาสนา: การทำบุญเพื่อให้ใจพ้นทุกข์ ✅ เป้าหมาย → สละความเห็นผิด สละความยึดมั่นในตัวตน ✅ วิธีการ สละ ‘ความยึดมั่นถือมั่น’ → เห็นว่าทุกสิ่งเป็น ‘อนัตตา’ รู้ทันจิต → เห็นการเปลี่ยนแปลงของกายและใจอย่างเป็นกลาง ใช้ชีวิตด้วยสติ → ไม่เบียดเบียนใคร และอยู่กับธรรมชาติของชีวิต ✅ ผลลัพธ์ จิตโปร่ง โล่ง เบา → ไม่ยึดติดความคิดว่า ‘เรา’ เป็นสิ่งใด ไม่มีตัวตนที่แท้จริง → ทุกสิ่งเป็นเพียง ‘การเปลี่ยนแปลง’ เท่านั้น 📌 "พุทธศาสนาไม่ได้สอนให้แค่ ‘ดี’ แต่สอนให้ ‘พ้นทุกข์’" --- 🔶 3️⃣ ทำไมบางคนเรียนธรรมะแต่ยังทุกข์? 📌 ปัญหา รู้หลักธรรมะ แต่ ‘ยังมีอัตตา’ → คิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น รู้ว่า ‘กายใจเป็นอนัตตา’ แต่ ‘ยังยึดติดความรู้’ เข้าใจทฤษฎี แต่ยัง ‘โลภ โกรธ หลง’ อยู่ 📌 แนวทางแก้ไข เจริญสติในปัจจุบัน → รู้ลมหายใจ รู้กาย รู้จิตของตัวเอง ไม่ยึดติดความเป็นผู้รู้ → ไม่หลงคิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น ใช้ชีวิตให้เป็นธรรมชาติ → ไม่ต้องฝืน ไม่ต้องกดดันตัวเอง 📌 "การศึกษาธรรมะไม่ใช่การสะสมความรู้ แต่คือการลดอัตตา จนเหลือแต่จิตที่ว่างและเบาสบาย" --- 🌅 4️⃣ การเจริญสติแบบพุทธ : ฝึก ‘รู้’ อย่างไรให้พ้นทุกข์ ✅ ฝึกมองกายใจแบบแยกส่วน หายใจเข้า → รู้สึกโล่ง หรืออึดอัด? หายใจออก → รู้สึกสบาย หรือกดดัน? จิตฟุ้งซ่าน → แค่รู้ว่าฟุ้ง ไม่ต้องไปแก้ จิตสงบ → แค่รู้ว่าสงบ ไม่ต้องไปยึด ✅ ฝึกเห็นว่า ‘ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลง’ อารมณ์ดี → เดี๋ยวก็หายไป อารมณ์ร้าย → เดี๋ยวก็หายไป ความสุข ความทุกข์ → ไม่เที่ยงทั้งคู่ 📌 "เห็นทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นกลาง ใจก็เบาและพ้นทุกข์" --- 🔄 5️⃣ สรุป : พุทธศาสนาสอนอะไร? ✅ เปลือกแรก → ทำบุญให้ใจเป็นสุข ✅ แก่นแท้ → สละตัวตนเพื่อให้ใจพ้นทุกข์ ✅ ทางปฏิบัติ → เจริญสติ ฝึกเห็นกายใจเป็น ‘อนัตตา’ ✅ เป้าหมายสูงสุด → จิตโปร่ง โล่ง เบา ไม่ยึดติดอะไร 📌 "พระพุทธเจ้าไม่ได้ต้องการให้เรามีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ แต่ต้องการให้เราพ้นทุกข์อย่างแท้จริง" 🏔️
    0 Comments 0 Shares 362 Views 0 Reviews
  • 📣📣To Gen-Y ,Gen X เตรียมตัวรับมือแล้วหรือยัง❓️
    ✅️การป้องกัน ดีกว่า การแก้ไข
    ✅️ป้ายยา:: มีผลิตภัณฑ์บำรุง ดูแลร่างกาย หลายอย่าง เลือกช๊อป ตามสบายเลยค่ะ
    📌ประเทศไทยติดอันดับ 5 ของโลกในจำนวนประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไป

    จากข้อมูลปี 2024 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไปถึง 42,845 คน ติดอันดับที่ 5 ของโลก แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างชัดเจน

    สาเหตุที่ทำให้คนไทยอายุยืน

    1. อาหารและโภชนาการ

    อาหารไทยอุดมไปด้วยสมุนไพร เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ

    การบริโภคผักและผลไม้สด รวมถึงอาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลาและข้าวกล้อง

    2. วัฒนธรรมและวิถีชีวิต

    สังคมไทยให้ความสำคัญกับครอบครัว ทำให้ผู้สูงอายุมีการดูแลและได้รับความรักจากลูกหลาน

    การทำบุญและปฏิบัติธรรมช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของอายุยืน

    3. การแพทย์และสาธารณสุข

    ระบบสาธารณสุขของไทยเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะโครงการ "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า" หรือ "บัตรทอง"

    มีแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบันที่ทำงานร่วมกัน ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง

    แนวโน้มของประเทศไทยในอนาคต

    ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งหมายความว่าประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ส่งผลให้ต้องมีการปรับตัวในหลายด้าน เช่น

    การพัฒนาระบบสาธารณสุขให้รองรับผู้สูงวัย

    การออกแบบเมืองให้เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ

    การสนับสนุนให้ผู้สูงวัยสามารถทำงานหรือมีกิจกรรมที่เสริมสร้างสุขภาพ

    จากสถิตินี้ทำให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนอายุยืนมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับอนาคตของประเทศ

    ที่มา: VGraps

    Cr.FB: โต๊ะป้าศรี CH Table
    📣📣To Gen-Y ,Gen X เตรียมตัวรับมือแล้วหรือยัง❓️ ✅️การป้องกัน ดีกว่า การแก้ไข ✅️ป้ายยา:: มีผลิตภัณฑ์บำรุง ดูแลร่างกาย หลายอย่าง เลือกช๊อป ตามสบายเลยค่ะ 📌ประเทศไทยติดอันดับ 5 ของโลกในจำนวนประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไป จากข้อมูลปี 2024 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไปถึง 42,845 คน ติดอันดับที่ 5 ของโลก แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างชัดเจน สาเหตุที่ทำให้คนไทยอายุยืน 1. อาหารและโภชนาการ อาหารไทยอุดมไปด้วยสมุนไพร เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ การบริโภคผักและผลไม้สด รวมถึงอาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลาและข้าวกล้อง 2. วัฒนธรรมและวิถีชีวิต สังคมไทยให้ความสำคัญกับครอบครัว ทำให้ผู้สูงอายุมีการดูแลและได้รับความรักจากลูกหลาน การทำบุญและปฏิบัติธรรมช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของอายุยืน 3. การแพทย์และสาธารณสุข ระบบสาธารณสุขของไทยเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะโครงการ "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า" หรือ "บัตรทอง" มีแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบันที่ทำงานร่วมกัน ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง แนวโน้มของประเทศไทยในอนาคต ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งหมายความว่าประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ส่งผลให้ต้องมีการปรับตัวในหลายด้าน เช่น การพัฒนาระบบสาธารณสุขให้รองรับผู้สูงวัย การออกแบบเมืองให้เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ การสนับสนุนให้ผู้สูงวัยสามารถทำงานหรือมีกิจกรรมที่เสริมสร้างสุขภาพ จากสถิตินี้ทำให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนอายุยืนมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับอนาคตของประเทศ ที่มา: VGraps Cr.FB: โต๊ะป้าศรี CH Table
    0 Comments 0 Shares 387 Views 0 Reviews
  • 📣📣To Gen-Y ,Gen X เตรียมตัวรับมือแล้วหรือยัง❓️
    ✅️การป้องกัน ดีกว่า การแก้ไข
    ✅️ป้ายยา:: มีผลิตภัณฑ์บำรุง ดูแลร่างกาย หลายอย่าง เลือกช๊อป ตามสบายเลยค่ะ
    📌ประเทศไทยติดอันดับ 5 ของโลกในจำนวนประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไป

    จากข้อมูลปี 2024 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไปถึง 42,845 คน ติดอันดับที่ 5 ของโลก แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างชัดเจน

    สาเหตุที่ทำให้คนไทยอายุยืน

    1. อาหารและโภชนาการ

    อาหารไทยอุดมไปด้วยสมุนไพร เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ

    การบริโภคผักและผลไม้สด รวมถึงอาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลาและข้าวกล้อง

    2. วัฒนธรรมและวิถีชีวิต

    สังคมไทยให้ความสำคัญกับครอบครัว ทำให้ผู้สูงอายุมีการดูแลและได้รับความรักจากลูกหลาน

    การทำบุญและปฏิบัติธรรมช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของอายุยืน

    3. การแพทย์และสาธารณสุข

    ระบบสาธารณสุขของไทยเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะโครงการ "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า" หรือ "บัตรทอง"

    มีแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบันที่ทำงานร่วมกัน ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง

    แนวโน้มของประเทศไทยในอนาคต

    ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งหมายความว่าประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ส่งผลให้ต้องมีการปรับตัวในหลายด้าน เช่น

    การพัฒนาระบบสาธารณสุขให้รองรับผู้สูงวัย

    การออกแบบเมืองให้เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ

    การสนับสนุนให้ผู้สูงวัยสามารถทำงานหรือมีกิจกรรมที่เสริมสร้างสุขภาพ

    จากสถิตินี้ทำให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนอายุยืนมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับอนาคตของประเทศ

    ที่มา: VGraps

    Cr.FB: โต๊ะป้าศรี CH Table
    📣📣To Gen-Y ,Gen X เตรียมตัวรับมือแล้วหรือยัง❓️ ✅️การป้องกัน ดีกว่า การแก้ไข ✅️ป้ายยา:: มีผลิตภัณฑ์บำรุง ดูแลร่างกาย หลายอย่าง เลือกช๊อป ตามสบายเลยค่ะ 📌ประเทศไทยติดอันดับ 5 ของโลกในจำนวนประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไป จากข้อมูลปี 2024 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไปถึง 42,845 คน ติดอันดับที่ 5 ของโลก แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างชัดเจน สาเหตุที่ทำให้คนไทยอายุยืน 1. อาหารและโภชนาการ อาหารไทยอุดมไปด้วยสมุนไพร เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ การบริโภคผักและผลไม้สด รวมถึงอาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลาและข้าวกล้อง 2. วัฒนธรรมและวิถีชีวิต สังคมไทยให้ความสำคัญกับครอบครัว ทำให้ผู้สูงอายุมีการดูแลและได้รับความรักจากลูกหลาน การทำบุญและปฏิบัติธรรมช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของอายุยืน 3. การแพทย์และสาธารณสุข ระบบสาธารณสุขของไทยเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะโครงการ "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า" หรือ "บัตรทอง" มีแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบันที่ทำงานร่วมกัน ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง แนวโน้มของประเทศไทยในอนาคต ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งหมายความว่าประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ส่งผลให้ต้องมีการปรับตัวในหลายด้าน เช่น การพัฒนาระบบสาธารณสุขให้รองรับผู้สูงวัย การออกแบบเมืองให้เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ การสนับสนุนให้ผู้สูงวัยสามารถทำงานหรือมีกิจกรรมที่เสริมสร้างสุขภาพ จากสถิตินี้ทำให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนอายุยืนมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับอนาคตของประเทศ ที่มา: VGraps Cr.FB: โต๊ะป้าศรี CH Table
    0 Comments 0 Shares 393 Views 0 Reviews
  • 📌 โลกเต็มไปด้วยคนครึ่งดีครึ่งร้าย: เราควรรับมืออย่างไร?

    ---

    🔍 1️⃣ โลกนี้ไม่ได้มีแต่คนร้าย

    🌍 ไม่มีใครที่ร้ายล้วนๆ

    แม้แต่ ผู้ก่อการร้าย หรือ โจร ยังมีด้านดีให้กับลูกเมีย พวกพ้อง หรือบริวาร

    ⚠️ แต่มองโลกในแง่ร้ายตลอดเวลา

    ใจจะเริ่มยึดถือว่า

    > “ถ้าไม่เป็นเสือ ก็ต้องเป็นเหยื่อ”

    เมื่อเจอคนร้ายทำร้าย เราก็อยากทำร้ายกลับ

    และกลายเป็นวังวนของการตอบโต้

    ---

    🧘‍♂️ 2️⃣ แม้ทำดีแค่ไหน ก็ต้องเจอคนร้าย

    ☸ แม้พระพุทธเจ้าก็ยังมีศัตรู

    พระเทวทัต คิดปองร้าย

    นางจิญจมาณวิกา ใส่ร้าย

    องคุลิมาล ไล่ฆ่าพระองค์

    🛑 ดังนั้นการทำบุญหรือเข้าวัดเพียงอย่างเดียว
    🚫 ไม่ได้แปลว่าจะไม่เจอคนร้าย หรือจะไม่มีปัญหาชีวิต

    ---

    🔄 3️⃣ ทำไมเรายังต้องเจอเรื่องร้ายๆ?

    ☸ เพราะวิบากกรรมดำที่เราสร้างไว้ในอดีตให้ผล

    แม้เราจะดีแค่ไหนในชาตินี้

    แต่ในอดีตชาติ เราอาจเคยทำร้ายคนอื่น

    เมื่อถึงเวลาที่วิบากมืดสุกงอม เราต้องรับผล

    🌱 พระพุทธเจ้าเอง เคยทำผิดในอดีตชาติเช่นกัน

    ฆ่าน้องชายเพื่อแย่งสมบัติ

    ใส่ร้ายพระปัจเจกพุทธเจ้า

    เป็นนักมวยที่ทำร้ายคน

    💡 ดังนั้นเราเอง ก็ต้องมีกรรมเก่าตามมาให้ผลแน่นอน
    ✅ แต่เรามีทางออก คือการตั้งตนเป็นเขตปลอดภัย!

    ---

    🛡️ 4️⃣ วิธีรับมือ: ตั้งตนเป็น "เขตปลอดภัย"

    🔸 เริ่มจากการรักษาศีล
    ✅ จำกัดอันตรายจากตัวเราเอง
    ✅ ลดโอกาสที่เราจะเป็นภัยต่อผู้อื่น

    🔸 ต่อยอดด้วยการให้ทาน
    ✅ ลดความทุกข์ร้อนของคนอื่น
    ✅ ทำให้เขาไม่คิดชั่ว ไม่ต้องเป็นศัตรูกับเรา

    🔸 เจริญสติ และเข้าใจกรรม
    ✅ เราเข้าใจว่าทุกสิ่งที่เจอ เป็นผลของกรรมเก่า
    ✅ เราไม่ตอบโต้ ไม่ก่อกรรมใหม่ให้หนักขึ้น

    ---

    🎯 5️⃣ ผลลัพธ์ของการเป็น "เขตปลอดภัย"

    📌 เมื่อเรารักษาศีลและให้ทานเป็นนิตย์
    ✅ จิตใจเราจะใสกระจ่าง
    ✅ เราจะมองเห็นแต่เรื่องดีที่เกิดจากตัวเรา
    ✅ ไม่สนใจความชั่วที่คนอื่นก่อ

    🚫 ระวังตัว แต่ไม่ถึงขั้นระแวงภัย
    🚫 ไม่เผลอกลายเป็นภัยเสียเอง!

    ---

    🌿 6️⃣ สรุป: ทางออกของชีวิตในโลกที่ครึ่งดีครึ่งร้าย

    ✅ เข้าใจว่าโลกมีทั้งดีและร้ายเสมอ
    ✅ แม้ทำดี ก็ยังต้องเจอเรื่องร้าย เพราะเป็นผลกรรมเก่า
    ✅ อย่าตอบโต้คนร้ายด้วยความร้าย มิฉะนั้นจะวนลูปของเวรกรรม
    ✅ ตั้งตนเป็น "เขตปลอดภัย" โดยรักษาศีล ให้ทาน และเจริญสติ

    💡 สุดท้าย คนที่มีจิตใจสงบ คือคนที่ไม่ตกเป็นเหยื่อของวังวนแห่งกรรม!
    📌 โลกเต็มไปด้วยคนครึ่งดีครึ่งร้าย: เราควรรับมืออย่างไร? --- 🔍 1️⃣ โลกนี้ไม่ได้มีแต่คนร้าย 🌍 ไม่มีใครที่ร้ายล้วนๆ แม้แต่ ผู้ก่อการร้าย หรือ โจร ยังมีด้านดีให้กับลูกเมีย พวกพ้อง หรือบริวาร ⚠️ แต่มองโลกในแง่ร้ายตลอดเวลา ใจจะเริ่มยึดถือว่า > “ถ้าไม่เป็นเสือ ก็ต้องเป็นเหยื่อ” เมื่อเจอคนร้ายทำร้าย เราก็อยากทำร้ายกลับ และกลายเป็นวังวนของการตอบโต้ --- 🧘‍♂️ 2️⃣ แม้ทำดีแค่ไหน ก็ต้องเจอคนร้าย ☸ แม้พระพุทธเจ้าก็ยังมีศัตรู พระเทวทัต คิดปองร้าย นางจิญจมาณวิกา ใส่ร้าย องคุลิมาล ไล่ฆ่าพระองค์ 🛑 ดังนั้นการทำบุญหรือเข้าวัดเพียงอย่างเดียว 🚫 ไม่ได้แปลว่าจะไม่เจอคนร้าย หรือจะไม่มีปัญหาชีวิต --- 🔄 3️⃣ ทำไมเรายังต้องเจอเรื่องร้ายๆ? ☸ เพราะวิบากกรรมดำที่เราสร้างไว้ในอดีตให้ผล แม้เราจะดีแค่ไหนในชาตินี้ แต่ในอดีตชาติ เราอาจเคยทำร้ายคนอื่น เมื่อถึงเวลาที่วิบากมืดสุกงอม เราต้องรับผล 🌱 พระพุทธเจ้าเอง เคยทำผิดในอดีตชาติเช่นกัน ฆ่าน้องชายเพื่อแย่งสมบัติ ใส่ร้ายพระปัจเจกพุทธเจ้า เป็นนักมวยที่ทำร้ายคน 💡 ดังนั้นเราเอง ก็ต้องมีกรรมเก่าตามมาให้ผลแน่นอน ✅ แต่เรามีทางออก คือการตั้งตนเป็นเขตปลอดภัย! --- 🛡️ 4️⃣ วิธีรับมือ: ตั้งตนเป็น "เขตปลอดภัย" 🔸 เริ่มจากการรักษาศีล ✅ จำกัดอันตรายจากตัวเราเอง ✅ ลดโอกาสที่เราจะเป็นภัยต่อผู้อื่น 🔸 ต่อยอดด้วยการให้ทาน ✅ ลดความทุกข์ร้อนของคนอื่น ✅ ทำให้เขาไม่คิดชั่ว ไม่ต้องเป็นศัตรูกับเรา 🔸 เจริญสติ และเข้าใจกรรม ✅ เราเข้าใจว่าทุกสิ่งที่เจอ เป็นผลของกรรมเก่า ✅ เราไม่ตอบโต้ ไม่ก่อกรรมใหม่ให้หนักขึ้น --- 🎯 5️⃣ ผลลัพธ์ของการเป็น "เขตปลอดภัย" 📌 เมื่อเรารักษาศีลและให้ทานเป็นนิตย์ ✅ จิตใจเราจะใสกระจ่าง ✅ เราจะมองเห็นแต่เรื่องดีที่เกิดจากตัวเรา ✅ ไม่สนใจความชั่วที่คนอื่นก่อ 🚫 ระวังตัว แต่ไม่ถึงขั้นระแวงภัย 🚫 ไม่เผลอกลายเป็นภัยเสียเอง! --- 🌿 6️⃣ สรุป: ทางออกของชีวิตในโลกที่ครึ่งดีครึ่งร้าย ✅ เข้าใจว่าโลกมีทั้งดีและร้ายเสมอ ✅ แม้ทำดี ก็ยังต้องเจอเรื่องร้าย เพราะเป็นผลกรรมเก่า ✅ อย่าตอบโต้คนร้ายด้วยความร้าย มิฉะนั้นจะวนลูปของเวรกรรม ✅ ตั้งตนเป็น "เขตปลอดภัย" โดยรักษาศีล ให้ทาน และเจริญสติ 💡 สุดท้าย คนที่มีจิตใจสงบ คือคนที่ไม่ตกเป็นเหยื่อของวังวนแห่งกรรม!
    0 Comments 0 Shares 356 Views 0 Reviews
  • กรรมลิขิตมาอย่างไร เราก็ฝืนลิขิตด้วยการทำบุญกุศล สวดมนต์ไหว้พระ ภาวนา ..แผ่บุญกุศลไป
    กรรมลิขิตมาอย่างไร เราก็ฝืนลิขิตด้วยการทำบุญกุศล สวดมนต์ไหว้พระ ภาวนา ..แผ่บุญกุศลไป
    0 Comments 0 Shares 193 Views 0 Reviews
  • ไม่ต้องแข่งขันอะไร..การทำบุญ ทำดีให้ทำไปสม่ำเสมอ ทำด้วยความศรัทธา เพียร เท่านั้นแหละ
    ไม่ต้องแข่งขันอะไร..การทำบุญ ทำดีให้ทำไปสม่ำเสมอ ทำด้วยความศรัทธา เพียร เท่านั้นแหละ
    0 Comments 0 Shares 158 Views 0 Reviews
  • ญาติแต่บางก่อน ย้อยไปเราเกิดกี่ภพ ญาติแต่บางก่อนไม่เกิดก็มีรอรับบุญจากเรา ญาติปัจจุบันก็ตอนนี้ขณะนี้ การทำบุญไปให้มันจะไกลแค่ไหนผลบุญที่ส่งไปให้เขาได้รับหมด
    ญาติแต่บางก่อน ย้อยไปเราเกิดกี่ภพ ญาติแต่บางก่อนไม่เกิดก็มีรอรับบุญจากเรา ญาติปัจจุบันก็ตอนนี้ขณะนี้ การทำบุญไปให้มันจะไกลแค่ไหนผลบุญที่ส่งไปให้เขาได้รับหมด
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • คู่รัก: ตัวแปรสำคัญของใจและชีวิต

    1. การเลือกคู่รัก = การเลือกใจตัวเอง
    การใช้ชีวิตร่วมกันกับคนรัก ไม่ใช่เพียงการแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ แต่ยังเป็นการปรับเปลี่ยนตัวเองบางส่วนเพื่อความเข้ากันได้ เช่น

    ปรับวิธีพูดคุยและแก้ไขความขัดแย้งด้วยเหตุผล

    ปรับวิธีคิดเกี่ยวกับเป้าหมายชีวิต เช่น จะอยู่เพื่อครอบครัวเล็กหรือใหญ่

    ปรับการดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับการอยู่ร่วมกัน


    2. คนรัก: อิทธิพลสำคัญในชีวิต

    ด้านลบ: คนรักอาจเป็นตัวกระตุ้นให้นิสัยแย่ๆ ของคุณรุนแรงขึ้น เช่น

    ยุยงให้โกหก หรือปั่นหัวให้เกิดความทุกข์

    ทำให้คุณเจ้าอารมณ์หรือเกิดความเครียดจากนิสัยไม่ดีของเขา


    ด้านบวก: คนรักสามารถเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ เช่น

    สร้างนิสัยการช่วยเหลือ การทำบุญ หรือการเสียสละ

    เป็นแบบอย่างของการควบคุมอารมณ์และการคิดบวก



    3. คนรัก: ตัวแปรที่เปลี่ยนกรรม
    การใช้ชีวิตร่วมกับคนรักที่ดีสามารถเปลี่ยนกรรมของคุณได้:

    หากเขาแสดงออกถึงความมีเมตตา คุณอาจซึมซับนิสัยดีๆ นั้นมาโดยไม่รู้ตัว

    หากเขามีวิธีคิดที่ทำให้คุณเห็นคุณค่าของชีวิต คุณอาจพัฒนาตัวเองและกรรมของคุณไปในทางที่ดีขึ้น


    4. การเลือกคู่รักที่ดี

    มองลึกกว่าภายนอก: อย่าดูแค่ลักษณะภายนอก แต่ให้ดูพฤติกรรมและวิธีคิด

    มองหาคนที่พัฒนาไปด้วยกัน: เลือกคนที่ช่วยเสริมให้คุณดีขึ้น และพร้อมจะเติบโตไปด้วยกัน


    5. สรุป:
    การเลือกคู่รักที่ดีเท่ากับการเลือกใจของตัวเอง เพราะความสัมพันธ์ที่ดีจะช่วยส่งเสริมทั้งคุณและเขาให้เป็นคนที่ดีขึ้น เป็นแรงผลักดันให้คุณเติบโตในชีวิตและจิตใจ และเปลี่ยนกรรมที่ติดตัวมาให้กลายเป็นสิ่งดีงามในระยะยาว.

    คู่รัก: ตัวแปรสำคัญของใจและชีวิต 1. การเลือกคู่รัก = การเลือกใจตัวเอง การใช้ชีวิตร่วมกันกับคนรัก ไม่ใช่เพียงการแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ แต่ยังเป็นการปรับเปลี่ยนตัวเองบางส่วนเพื่อความเข้ากันได้ เช่น ปรับวิธีพูดคุยและแก้ไขความขัดแย้งด้วยเหตุผล ปรับวิธีคิดเกี่ยวกับเป้าหมายชีวิต เช่น จะอยู่เพื่อครอบครัวเล็กหรือใหญ่ ปรับการดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับการอยู่ร่วมกัน 2. คนรัก: อิทธิพลสำคัญในชีวิต ด้านลบ: คนรักอาจเป็นตัวกระตุ้นให้นิสัยแย่ๆ ของคุณรุนแรงขึ้น เช่น ยุยงให้โกหก หรือปั่นหัวให้เกิดความทุกข์ ทำให้คุณเจ้าอารมณ์หรือเกิดความเครียดจากนิสัยไม่ดีของเขา ด้านบวก: คนรักสามารถเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ เช่น สร้างนิสัยการช่วยเหลือ การทำบุญ หรือการเสียสละ เป็นแบบอย่างของการควบคุมอารมณ์และการคิดบวก 3. คนรัก: ตัวแปรที่เปลี่ยนกรรม การใช้ชีวิตร่วมกับคนรักที่ดีสามารถเปลี่ยนกรรมของคุณได้: หากเขาแสดงออกถึงความมีเมตตา คุณอาจซึมซับนิสัยดีๆ นั้นมาโดยไม่รู้ตัว หากเขามีวิธีคิดที่ทำให้คุณเห็นคุณค่าของชีวิต คุณอาจพัฒนาตัวเองและกรรมของคุณไปในทางที่ดีขึ้น 4. การเลือกคู่รักที่ดี มองลึกกว่าภายนอก: อย่าดูแค่ลักษณะภายนอก แต่ให้ดูพฤติกรรมและวิธีคิด มองหาคนที่พัฒนาไปด้วยกัน: เลือกคนที่ช่วยเสริมให้คุณดีขึ้น และพร้อมจะเติบโตไปด้วยกัน 5. สรุป: การเลือกคู่รักที่ดีเท่ากับการเลือกใจของตัวเอง เพราะความสัมพันธ์ที่ดีจะช่วยส่งเสริมทั้งคุณและเขาให้เป็นคนที่ดีขึ้น เป็นแรงผลักดันให้คุณเติบโตในชีวิตและจิตใจ และเปลี่ยนกรรมที่ติดตัวมาให้กลายเป็นสิ่งดีงามในระยะยาว.
    0 Comments 0 Shares 512 Views 0 Reviews
  • ฐานะทางการเงินและบารมีในชีวิต

    1. ทานและศีล: กำลังหนุนจากกรรมเก่า

    การทำทานและรักษาศีลในอดีตชาติ เป็น “หัวรถจักร” ที่ส่งผลต่อพื้นฐานของชีวิตในปัจจุบัน

    แต่ในปัจจุบัน ทานที่ทำใหม่มักมาในรูปแบบ “กำลังหนุน” ไม่ได้เปลี่ยนแปลงฐานะทันตาเห็น

    ดังนั้น การทำบุญในชาตินี้คือการสะสมบารมีเพื่ออนาคต ขณะเดียวกันต้องพึ่งพากรรมดีในอดีตและความพยายามในปัจจุบัน


    2. ความฉลาดในปัจจุบัน: ตัวพลิกสถานการณ์

    ผลของกรรมเก่าให้ “ความน่าจะเป็น” หรือโอกาส แต่การใช้โอกาสเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับการใช้ปัญญาและความพยายาม

    หากกรรมเก่าไม่สนับสนุน ต้องเริ่มสร้างหัวรถจักรใหม่ด้วยการฝึกฝนตนเองให้มีทักษะและมุมมองที่เหมาะสม



    ---

    การสร้างบารมีของเจ้านาย: ไม่ได้เกิดจากโชค แต่เกิดจากความเพียร

    3. คุณสมบัติของผู้ที่เตรียมตัวเป็นเจ้านาย

    “เต็มใจ” ทำงานหนัก: ไม่มองงานเป็นภาระ แต่มองเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพิสูจน์ตนเอง

    “มีหัวคิด” ก้าวหน้า: คิดหาทางปรับปรุงงานให้ดีขึ้น และมองเห็นโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็น

    “ไม่ยอมอยู่ที่เดิม”: มีแรงขับในตัวเองที่จะพัฒนาไปสู่บทบาทที่สูงขึ้น


    4. ความเป็นเจ้านายเกิดจากอะไร?

    ความเป็นเจ้านายไม่ได้มาจากการบังคับบัญชา แต่เกิดจากความสามารถในการนำและการเสียสละ

    ผู้ที่เคยเป็นลูกจ้างที่ดี ย่อมเข้าใจความลำบากของลูกจ้าง และใช้ความเข้าใจนี้สร้างบารมีในการเป็นผู้นำ



    ---

    5. การใช้ชีวิตในปัจจุบัน: กุญแจสำคัญในการสร้างฐานะ

    กรรมเก่า: เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการกำหนดโอกาส

    วิธีใช้ชีวิตในปัจจุบัน: เป็นตัวกำหนดว่าจะใช้โอกาสนั้นอย่างไรให้เกิดผลดี

    การขยันอดทน มีวินัย ใช้ทรัพยากรและโอกาสที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้


    6. สรุป: กรรมใหม่สร้างอนาคต

    ถ้าพื้นฐานชีวิตปัจจุบันยังไม่ดีพอ ให้เริ่มสร้างบารมีใหม่ด้วยความตั้งใจดี

    ไม่มีใครถูกกำหนดให้ติดอยู่ในฐานะเดิม หากลงมือเปลี่ยนแปลงด้วยความเพียรและปัญญา

    การเปลี่ยนฐานะและบารมี เริ่มต้นจากความคิดและการกระทำในวันนี้เอง.


    ฐานะทางการเงินและบารมีในชีวิต 1. ทานและศีล: กำลังหนุนจากกรรมเก่า การทำทานและรักษาศีลในอดีตชาติ เป็น “หัวรถจักร” ที่ส่งผลต่อพื้นฐานของชีวิตในปัจจุบัน แต่ในปัจจุบัน ทานที่ทำใหม่มักมาในรูปแบบ “กำลังหนุน” ไม่ได้เปลี่ยนแปลงฐานะทันตาเห็น ดังนั้น การทำบุญในชาตินี้คือการสะสมบารมีเพื่ออนาคต ขณะเดียวกันต้องพึ่งพากรรมดีในอดีตและความพยายามในปัจจุบัน 2. ความฉลาดในปัจจุบัน: ตัวพลิกสถานการณ์ ผลของกรรมเก่าให้ “ความน่าจะเป็น” หรือโอกาส แต่การใช้โอกาสเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับการใช้ปัญญาและความพยายาม หากกรรมเก่าไม่สนับสนุน ต้องเริ่มสร้างหัวรถจักรใหม่ด้วยการฝึกฝนตนเองให้มีทักษะและมุมมองที่เหมาะสม --- การสร้างบารมีของเจ้านาย: ไม่ได้เกิดจากโชค แต่เกิดจากความเพียร 3. คุณสมบัติของผู้ที่เตรียมตัวเป็นเจ้านาย “เต็มใจ” ทำงานหนัก: ไม่มองงานเป็นภาระ แต่มองเป็นโอกาสในการเรียนรู้และพิสูจน์ตนเอง “มีหัวคิด” ก้าวหน้า: คิดหาทางปรับปรุงงานให้ดีขึ้น และมองเห็นโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็น “ไม่ยอมอยู่ที่เดิม”: มีแรงขับในตัวเองที่จะพัฒนาไปสู่บทบาทที่สูงขึ้น 4. ความเป็นเจ้านายเกิดจากอะไร? ความเป็นเจ้านายไม่ได้มาจากการบังคับบัญชา แต่เกิดจากความสามารถในการนำและการเสียสละ ผู้ที่เคยเป็นลูกจ้างที่ดี ย่อมเข้าใจความลำบากของลูกจ้าง และใช้ความเข้าใจนี้สร้างบารมีในการเป็นผู้นำ --- 5. การใช้ชีวิตในปัจจุบัน: กุญแจสำคัญในการสร้างฐานะ กรรมเก่า: เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการกำหนดโอกาส วิธีใช้ชีวิตในปัจจุบัน: เป็นตัวกำหนดว่าจะใช้โอกาสนั้นอย่างไรให้เกิดผลดี การขยันอดทน มีวินัย ใช้ทรัพยากรและโอกาสที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ 6. สรุป: กรรมใหม่สร้างอนาคต ถ้าพื้นฐานชีวิตปัจจุบันยังไม่ดีพอ ให้เริ่มสร้างบารมีใหม่ด้วยความตั้งใจดี ไม่มีใครถูกกำหนดให้ติดอยู่ในฐานะเดิม หากลงมือเปลี่ยนแปลงด้วยความเพียรและปัญญา การเปลี่ยนฐานะและบารมี เริ่มต้นจากความคิดและการกระทำในวันนี้เอง.
    0 Comments 0 Shares 347 Views 0 Reviews
  • รวบรวม 61ความระยำของ ทักษิณ บันทึกไว้ให้ลูกหลานมันจำ" 🧐เครดิต:ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิทย์ แชร์ให้โลกรู้
    9 ธค.นี้ 10.00 น.หน้าทำเนียบรัฐบาลไทยทุกคน

    1. แก้ พรบ.สรรพสามิตโทรคมนาคม ให้เสียภาษีน้อยลง ได้ผลประโยชน์ 8,000 ล้าน
    2. ลดสัมปทาน itv ได้ผลประโยชน์ 20,000 ล้าน แถมได้สถานีโทรทัศน์ที่เคยมีอุดมการณ์เปลี่ยนมาทำลายวัฒนธรรม โดยการเอาหนังเกาหลีมาฉาย และปิดสื่อความไม่ดีสร้างภาพดีๆให้ตัวเอง (กลุ่มชินคอร์ป ถือหุ้น itv 53%)
    3. ตั้ง ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็น ผบ.ทบ. ก็ได้พี่ชายตนเองคุมทหาร
    4. ตั้ง เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ เป็น รอง ผบ.ตร. ก็ได้พี่เขยตนเองคุมตำรวจ
    5. ตั้ง วาสนา เพิ่มลาภ เป็น ประธาน กกต ก็ได้ตำรวจพวกพ้องตัวเองคุม กกต.
    6. ตั้ง สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เป็น ผอ.กองสลาก ก็ได้ตำรวจพวกพ้องตัวเองคุม กองสลาก
    7. ตั้ง คงศักดิ์ วันทนา เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สามีลูกน้ำเพื่อนรักที่ช่วยแลกเช็คให้สมัยยังจนอยู่ก็ได้เพื่อนคุณหญิงอ้อ…มาคุมทุกเหล่า
    8. กล่าวคําพูดท้าทายพวกก่อการร้ายในภาคใต้ว่าเป็นแค่โจรกระจอก อย่าไปใส่ใจ ทําให้เกิดความรุนแรงคนตายมากมายและหลุดปากด่าทหารว่า “สมควรตาย”
    9. ปล่อยเงินกู้ให้พม่า 4,000ล้าน เพื่อนำมาเช่าช่องสัญญาณ IP Star ของตัวเอง ถึงกำหนดแล้วพม่ายังไม่ใช้หนี้เลย
    10. เจรจาเซ็น FTA กับจีน ให้จีนนำเข้า หอม กระเทียม เข้ามาไม่เสียภาษี เกษตรกรที่ปลูกหอมปลูกกระเทียมทางเหนือก็ตายหมด ส่วนไทยได้ขายธุรกิจช่อง สัญญาณดาวเทียม IP Star
    11. เจรจาเซ็น FTA กับออสเตรเลีย ให้นำเข้า นม ไวน์ เข้ามาไม่เสียภาษี ทำลายเหล้าไวน์พื้นบ้าน OTOP ทำลายนมพระราชดำริ ส่วนไทยได้ขายธุรกิจช่องสัญญาณ IP Star
    12. ในเดือนพฤศจิกายน 2546 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีมติส่งเสริมการลงทุนโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์ของ ชินแซทเทิลไลท์ โดยให้การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉพาะรายได้ที่ได้รับจากต่างประเทศ ทั้ง ๆที่เป็นกิจการที่ลงทุนเดิมอยู่แล้วไม่รู้ไปยกเว้นภาษีทำไม บริษัทจึงได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้อีก 16,459 ล้านบาทต่อปี
    13. แปรรูปขายหุ้น ปตท วันแรกเปิดขายหุ้นหมดภายใน 1 นาที 17 วินาที ตระกูลใครละที่ได้ซื้อหุ้นไปหลังจากแปรรูป น้ำมันก็แพงขึ้นทุกวัน ให้กองทุนน้ำมันของคนไทยขาดทุนกว่า 70,000 ล้านบาท แต่ ปตท ได้กำไรปี 2548 จำนวน 160,000 ล้านบาท แล้วกำไรแทนที่จะเป็นของรัฐก็กลายเป็นกำไรของตระกูลพวกถือหุ้น
    14. ซุกหุ้นภาคแรกให้เมียตัวเองขึ้นศาลรับผิด ซุกหุ้นภาค 2 ให้ลูกชายตัวเองขึ้นศาลรับผิดไหนบอกว่ารักครอบครัวไง
    15. บริษัทของลูกท่านได้เงินกู้ 5,000 ล้าน จาก ICT ดอกเบี้ย0% ไม่กำหนดเวลาชำระคืนแถมได้รับการเว้นภาษีจาก บีโอไอ อีกทำสวนสนุกได้รับการเว้นภาษี
    16. ได้รับสัมปทานสื่อโฆษณาที่รถไฟใต้ดิน โดยที่ไม่ได้รับการเปิดประมูลเพื่อแข่งขันกับบริษัทอื่น
    17. ทักษิณ สั่ง รมต. กลางวง ครม. ลดค่าเช่าพื้นที่ย่านสยามสแควร์ เปิดทางลูก-หลานเปิด สตูดิโอ – ร้านกาแฟ อ้างค่าเช่าแพงเกินจริง
    18. ลดเงินค่ารถไฟฟ้า-ใต้ดิน พอดีกับงานสวนสนุกธุรกิจของลูกๆ สอดคล้องสนับสนุนกันพอดี บังเอิญจริงๆ
    19. ทักษิณพูดว่า”จังหวัดไหนเลือกไทยรักไทย จะให้ความดูแลก่อน” น้ำท่วมภาคใต้ 5 วันแล้ว แต่ทักษิณไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ไปกินก๋วยเตี๋ยวสร้างภาพ ไปเดินตลาดหาเสียง ทั้งๆที่มี สส อยู่เต็มสภาแล้วแต่ที่ต้องลงใต้ไปดูน้ำท่วมวันศุกร์เช้า เนื่องจากกลัวสนธิพูดตอนเย็นในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์
    20. การที่มีพวกพ้องตัวเองเป็น กกต. จึงเปลี่ยนรูปแบบการเลือกตั้งให้สามารถโกงการเลือกตั้งเพิ่มขึ้นได้อีก 2 วิธี
    20.1 ปั๊มตรายางอีกชุดรอเวลาเปลี่ยนกล่องบัตรได้ทุกเวลา
    20.2 หมึกมีแบบล่องหน และ แบบโผล่ขึ้นมาได้ (ในทางเคมีสามารถทำได้)
    21. ปิดข่าวเรื่องไข้หวัดนกทําให้ชาวบ้านที่ไม่ทราบต้องตายแล้วยังไปแสดงการกินไก่ไปหัวเราะไป เพื่อ ซีพี.นายทุนพรรคเท่านั้น
    22. ทําให้เกิดการฆ่าตัดตอนประชาชนผู้บริสุทธิ์กว่า 2000 คน จากการปราบยาบ้าสั่งฆ่าคนได้หน้าตาเฉย โหดร้ายทารุณ
    23. ซุกหุ้นปั่นหุ้น ซุกซ่อนทรัพย์สินไว้กับญาติพี่น้องเอาเงินไปฟอกต่างประเทศเอาเปรียบใน การทําธุรกิจผูกขาด
    ทั้งรับทั้งจ่ายใต้โต๊ะจนคนในวงการธุรกิจ เขารู้กันหมด ค้ากำไรเกินควร จนรํ่ารวยมหาศาล
    24. โกงที่ดินวัดของสนามกอล์ฟอัลไพน์มีคนโกงที่ดินธรณีสงฆ์เอามาทำสนามกอล์ฟ แล้วทักษิณไปซื้อต่อทั้ง ๆ รู้ว่าที่ดินนั้นได้มา ไม่ถูกต้องเพราะไม่กลัวบาปกรรม
    25. ประชาชนเสียรู้ทักษิณ เรียนฟรี 12 ปี นโยบายรัฐที่เปิดช่องให้โรงเรียนนำค่าใช้จ่ายอย่างอื่นมาเพิ่มแทนค่าเทอม นั่นแหละ สุดท้ายก็ไม่ได้เรียนฟรีอยู่ดี เป็นความล้มเหลวที่เห็นได้ชัดเจนของการปฎิรูปการศึกษาไทย ประชาชนจะถูกหลอกอีก 4 ปี เอาเข้าไป เป็นความจริงที่สุดเลย นี่คือการโกหกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในโลกนี้ซึ่งหาดูไม่ได้ที่ไหนนอกจากประเทศไทยที่กฎหมายบอกว่าเรียนฟรี แต่ความจริงมีใครบ้างที่เรียนฟรีถามผู้ปกครองทุกคนดูได้เลย
    26. ชั่วเวลาแค่ปีเศษ ๆ รัฐบาลชุดนี้ก็ทำให้สถานการณ์ภาคใต้ที่ร่มเย็นเป็นสุขมานานหลายสิบปี กลับร้อนระอุกลายเป็นแดนมิคสัญญี
    27. เช่าน่านฟ้า เช่าผืนแผ่นดินไทย ราคาเช่าช่างถูกจัง มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า ตนเองน่าจะรู้ดี ไหนบอกว่าแผ่นดินไทยจะไม่ให้หายแม้แต่ตารางนิ้วเดียวไงใช้อำนาจจนเลยเถิดไม่เห็นด้วย คิดไงท่านนายก ที่ให้เช่า 15 ปี แถมมีเปลียนสัญญาได้ทุกๆ 5 ปี เหมือนทำธรุกิจเลยขอเชิญชาวไทยเรียกร้องอธิปไตยชาติไทยกลับมาด้วยขอให้มี สส สว ที่ยังพอมีความเป็นไทยที่มิใช่มีความเป็น ทรท. ช่วยกันคัดค้าน ล่ารายชื่อด้วยครับผมว่ามันเกี่ยวกันหมดแหละครับ ตั้งแต่ AIS (มือถือ) ไทยคม1 ไทยคม 2 IPstar ชินคอร์ป ธนาคาร ธุรกิจ การเมือง อยู่ในมือสิงคโปร์ทั้งหมดแล้วครับ ชัดเจน มีผลประโยชน์ทับซ้อนแหง๋ ไม่งั้นไม่งุบงิบกันทำหรอก อย่านึกว่าประชาชนโง่นะคุณ ยุคทักษิณคือ ยุคของเงินเหนือรัฐ ยุคตำรวจรังแกประชาชน ยุคทหารฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ยุคความรุนแรงอยู่เหนือเหตุผล
    28. ฉลาด อย่างตัวจับยาก เอาเงินหลวงไปหว่านให้รากหญ้าแล้ว ผ่านกระเป๋ารากหญ้าแบบเคาะกะลาให้หมาดีใจ ผ่านธุรกิจมือถือเข้ากระเป๋ามันเอง
    29. ยุบสภาหนีความผิด เนื่องจากนายกองค์การนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ล่า 50,000 รายชื่อ เพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง
    30. ยุบสภาได้ยังไงไม่ได้มีปัญหาภายในสภาสักหน่อย อภิปรายไม่ไว้วางใจก็ไม่ได้ ฝ่ายค้านมีไม่พอ
    31. วันที่ประกาศยุบสภาประกาศพร้อมกันว่าให้ไปเลือกตั้งวันที่ 2 เมษา ได้ยังไง รู้ได้ยังไง ไหนว่า กกต. เป็นกลางไง
    32. คุณหญิงพจมาน อยากมีสมเด็จพระสังฆราชประจำตระกูลตัวเอง จึงให้นายวิษณุ เครืองา ลงนามแต่งตั้ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ เกี่ยว อุปเสโณ วัดสระเกศ ขึ้นปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2547 เสมอกับสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนา อ้างว่า สมเด็จญาณฯ ทรงประชวร ไม่สามารถประกอบศาสนกิจได้ ทั้งๆที่มี VDO วันที่ 13 มีนาคม 2547 สมเด็จพระสังฆราชพระราชทานรางวัลให้กับเด็กนักเรียนที่ได้รับทุนของมหามกุฏราชวิทยาลัยในการประกวดเรียงความเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช 90 พรรษา
    33. คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่า สตง. ตรวจเจอการทุจริตของรัฐบาลหลายเรื่อง ล่าสุดตรวจสอบเจอการทุจริต CTX ทางรัฐบาลจึงอ้างว่ากระบวนการสรรหา คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่าการ สตง.) มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ (ทั้งๆที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) คุณหญิงปิดห้องทำงานแล้ว ยังไปงัดห้องคุณหญิง คิดจะหาหลักฐานทุจริตที่ห้องคุณหญิง ต่อมาคนดีอย่างคุณหญิงก็ได้กลับมาทำงานเหมือนเดิม
    34. จัดซื้อเครื่องบินรบ ซู30 ตั้งงบประมาณไว้ 35,000 ล้าน ทั้งที่รัสเซียบอกว่าขายแค่ 20,000 ล้าน กะจะกินตั้ง 15,000 ล้าน เครื่องบินเป็นแบบบินระยะไกล เสียค่าซ่อมเยอะ (ไทยนี้รักสงบ) เราเป็นพวกบุกรุก หรือ ตั้งรับถ้าเราเป็นฝ่ายตั้งรับ แล้วจะซื้อเครื่องบินระยะไกลทำไม ให้ช่างทหารอากาศเลือกซื้อทำไมไม่ให้นักบินเป็นคนเลือก เพราะฝ่ายช่างอยู่ในความดูแลของ คงศักดิ์ วัณทนา สามีของเพื่อน คุณหญิงพจมาน…
    35. ก่อนขายหุ้นบอกว่าจะไปพักผ่อนที่สิงคโปร์ 4 วัน เดินเล่นที่สิงคโปร์ไปเดินครึ่งวัน อย่างมากก็วันเดียวก็ไม่รู้จะไปเดิน ที่ไหนแล้วนี่ไปถึง 4 วันเจรจาขายหุ้น แต่โกหกประชาชนคนไทยว่าจะไปพักผ่อน บอกตรงๆก็ได้
    36. จัดซื้อ CTX ราคา ระหว่าง บทม.และใบแจ้งราคาสินค้าของบริษัท อินวิชั่นฯ เป็นเงินประมาณ 283,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 11.30 ล้านบาทต่อเครื่อง หากคิดรวม 26 เครื่อง เป็นเงิน 7.36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 294.4 ล้านบาทซึ่ง “ส่วนต่าง”ราคานี้ถูกนำไปใช้บันทึกซ้ำซ้อน โดยอ้างว่าเป็นอุปกรณ์ที่ต้องการซื้อเพิ่มเติม ทั้งที่รวมอยู่ในราคา 35.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ1,432 ล้านบาทกะจะกิน1,432 ล้าน – 294.4 ล้าน = ?
    37. ร่วมทุนชินคอร์ปกับมาเลเซีย เปิดธุรกิจสายการบิน Low Cost แล้วสั่งยกเลิกเที่ยวบินการบินไทยที่ได้กำไร แล้วเอาสายการบินของตัวเองไปบินทับที่แทน ทำให้การบินไทยซึ่ง เป็นสายการบินของคนไทยขาดทุน แล้วทำหนังสือถึงหน่วยงานราชการว่านอกจากการบินไทยแล้ว สามารถใช้งบหลวงเบิกค่านั่งเครื่องบิน Low Cost ได้ด้วย แล้วยังขายหุ้น Low Cost ให้สิงคโปร์อีก ทำให้ Low Cost ที่มีเที่ยวบินที่กำไรดีที่สุด (แย่ง จากการบินไทย) เป็นเที่ยวบินของ มาเลเซีย+สิงคโปร์ (ขายชาติ)
    38. โทรศัพท์เครื่องที่ระบบ 1900 “ไทยโมบาย” ของ ทีโอที มันให้ ทีโอทีตั้งเสาเฉพาะใน กทม. ส่วนในต่างจังหวัด มันไม่ยอมให้ตั้งเสาทั้งๆที่ ทีโอทีมีที่ดินอยู่มากมายในต่างจังหวัด มันสั่งให้ ระบบ 1900 ของทีโอที ในต่างจังหวัดใช้เสาสัญญาณของAISโดยโทร 3 บาท ทีโอที ต้องจ่ายให้ AIS 2 บาท ทีโอที ได้ 1 บาท ..สุดยอดไหมละ
    39. ปี 2535 – วิ่งเต้นจนได้รับสัมปทานดาวเทียมไทยคมโดยการสนับสนุนอย่างดีจากรัฐบาลเผด็จ การ รสช. โดยอิงความสัมพันธ์ที่สนิทแนบแน่นกับ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ซึ่งก็ชดใช้บุญคุณมาจนถึงสนับสนุน 2 คนสนิทของท่านให้ได้ดีในยุคนี้คือ พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันท์ ได้เป็นรมว.กลาโหม และพล.อ.เรืองโรจน์ มหาสรานนท์ ได้เป็นผบ.สูงสุด
    40. การพูดจาบจ้วงดูหมิ่นพระบรมฯ
    40.1. สำนัก ราชเลขาฯ ขอให้รัฐบาลพิจารณาเครื่องบินราชพาหนะลำใหม่.. แทนลำเก่าที่ ชำรุดมากแล้ว …..ทักษิณ อ้างว่า ไม่มีงบประมาณ แต่สุดท้าย ซื้อเครื่องบินไทยคู่ฟ้าให้ตนเองและครอบครัวนั่งก่อน..จาก ข่าวที่น้องสาว ทักษิณใช้เครื่องบินไปฉลองวันเกิดที่เชียงใหม่……………
    40.2. ทักษิณ ชินวัตร ใช้อุโบสถวัดพระแก้วในการทำบุญประเทศ (แต่แต่งกายในชุดสบายๆ ไม่เป็นทางการ) ทั้งๆที่ประธานในการทำบุญระดับประเทศควรเป็นพระองค์ท่านมากกว่า…ที่ สำคัญอุโบสถวัดพระแก้วเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับประกอบ ศาสนพิธีของพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน.. ไม่มีการขอพระบรมราชานุญาต… .พอ มีคนรู้ทัน.. รีบขอพระบรมราชานุญาตย้อนหลัง… จนพระองค์ท่านออกมาตรัสใน วันที่ 4 ธันวาคมว่า นายกฯจะให้ท่านทำอะไรก็ทำให้หมด แต่ควรพิจารณาด้วยว่าสมควรหรือไม่
    40.3. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ถ้านายกฯไม่จงรักภักดี ”ผีที่ไหนจะจงรักภักดี….”
    คนระดับทักษิณ มีการศึกษาสูงพอ ผ่านงานพระราชพิธีมามากมาย..ย่อมควรรู้ดีว่าสมควรพูดเช่นนี้ หรือไม่….ถ้ามีปัญญาก็ควรพูดว่า ถ้านายกฯไม่จงรักภักดี ใครเล่าที่จะจงรักภักดี มากกว่า
    40.4. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ถ้าในหลวงมากระซิบข้างหู…(พูดว่าข้างหู) ว่าออกเถอะจะกราบบังคมลาทันที…คำหลังยังใช้ราชาศัพท์เป็น แต่คำหน้าไหงใช้คำว่ามากระซิบข้างหู… ทักษิณ ไม่ควรทำตัวเสมอพระองค์ท่าน
    40.5. แม่ยายของทักษิณ กล่าวจาบจ้วงว่า บางทีตนอาจขอม็อบพระราชทานบ้าง คำว่า สิ่งพระราชทาน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มงคล เป็นสิ่งที่ดีแต่คำว่า “ม็อบ” หมายถึง กลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องบางอย่าง พระองค์ท่านจะพระราชทานได้อย่าง ไร…ไม่สมควรพูด
    40.6. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ตนเป็นนายกฯพระราชทานอยู่แล้ว ถ้าได้กลับมาอีกครั้งพระองค์ท่านต้อง …ใช้คำว่า “ต้อง” เซ็นให้ตนเป็นนายกฯอยู่วันยังค่ำ
    40.7. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า โผทหารที่นายกฯเซ็นแล้ว ใครจะกล้าเปลี่…
    รวบรวม 61ความระยำของ ทักษิณ บันทึกไว้ให้ลูกหลานมันจำ" 🧐เครดิต:ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิทย์ แชร์ให้โลกรู้ 9 ธค.นี้ 10.00 น.หน้าทำเนียบรัฐบาลไทยทุกคน 1. แก้ พรบ.สรรพสามิตโทรคมนาคม ให้เสียภาษีน้อยลง ได้ผลประโยชน์ 8,000 ล้าน 2. ลดสัมปทาน itv ได้ผลประโยชน์ 20,000 ล้าน แถมได้สถานีโทรทัศน์ที่เคยมีอุดมการณ์เปลี่ยนมาทำลายวัฒนธรรม โดยการเอาหนังเกาหลีมาฉาย และปิดสื่อความไม่ดีสร้างภาพดีๆให้ตัวเอง (กลุ่มชินคอร์ป ถือหุ้น itv 53%) 3. ตั้ง ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็น ผบ.ทบ. ก็ได้พี่ชายตนเองคุมทหาร 4. ตั้ง เพรียวพันธ์ ดามาพงษ์ เป็น รอง ผบ.ตร. ก็ได้พี่เขยตนเองคุมตำรวจ 5. ตั้ง วาสนา เพิ่มลาภ เป็น ประธาน กกต ก็ได้ตำรวจพวกพ้องตัวเองคุม กกต. 6. ตั้ง สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เป็น ผอ.กองสลาก ก็ได้ตำรวจพวกพ้องตัวเองคุม กองสลาก 7. ตั้ง คงศักดิ์ วันทนา เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สามีลูกน้ำเพื่อนรักที่ช่วยแลกเช็คให้สมัยยังจนอยู่ก็ได้เพื่อนคุณหญิงอ้อ…มาคุมทุกเหล่า 8. กล่าวคําพูดท้าทายพวกก่อการร้ายในภาคใต้ว่าเป็นแค่โจรกระจอก อย่าไปใส่ใจ ทําให้เกิดความรุนแรงคนตายมากมายและหลุดปากด่าทหารว่า “สมควรตาย” 9. ปล่อยเงินกู้ให้พม่า 4,000ล้าน เพื่อนำมาเช่าช่องสัญญาณ IP Star ของตัวเอง ถึงกำหนดแล้วพม่ายังไม่ใช้หนี้เลย 10. เจรจาเซ็น FTA กับจีน ให้จีนนำเข้า หอม กระเทียม เข้ามาไม่เสียภาษี เกษตรกรที่ปลูกหอมปลูกกระเทียมทางเหนือก็ตายหมด ส่วนไทยได้ขายธุรกิจช่อง สัญญาณดาวเทียม IP Star 11. เจรจาเซ็น FTA กับออสเตรเลีย ให้นำเข้า นม ไวน์ เข้ามาไม่เสียภาษี ทำลายเหล้าไวน์พื้นบ้าน OTOP ทำลายนมพระราชดำริ ส่วนไทยได้ขายธุรกิจช่องสัญญาณ IP Star 12. ในเดือนพฤศจิกายน 2546 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มีมติส่งเสริมการลงทุนโครงการดาวเทียมไอพีสตาร์ของ ชินแซทเทิลไลท์ โดยให้การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเฉพาะรายได้ที่ได้รับจากต่างประเทศ ทั้ง ๆที่เป็นกิจการที่ลงทุนเดิมอยู่แล้วไม่รู้ไปยกเว้นภาษีทำไม บริษัทจึงได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้อีก 16,459 ล้านบาทต่อปี 13. แปรรูปขายหุ้น ปตท วันแรกเปิดขายหุ้นหมดภายใน 1 นาที 17 วินาที ตระกูลใครละที่ได้ซื้อหุ้นไปหลังจากแปรรูป น้ำมันก็แพงขึ้นทุกวัน ให้กองทุนน้ำมันของคนไทยขาดทุนกว่า 70,000 ล้านบาท แต่ ปตท ได้กำไรปี 2548 จำนวน 160,000 ล้านบาท แล้วกำไรแทนที่จะเป็นของรัฐก็กลายเป็นกำไรของตระกูลพวกถือหุ้น 14. ซุกหุ้นภาคแรกให้เมียตัวเองขึ้นศาลรับผิด ซุกหุ้นภาค 2 ให้ลูกชายตัวเองขึ้นศาลรับผิดไหนบอกว่ารักครอบครัวไง 15. บริษัทของลูกท่านได้เงินกู้ 5,000 ล้าน จาก ICT ดอกเบี้ย0% ไม่กำหนดเวลาชำระคืนแถมได้รับการเว้นภาษีจาก บีโอไอ อีกทำสวนสนุกได้รับการเว้นภาษี 16. ได้รับสัมปทานสื่อโฆษณาที่รถไฟใต้ดิน โดยที่ไม่ได้รับการเปิดประมูลเพื่อแข่งขันกับบริษัทอื่น 17. ทักษิณ สั่ง รมต. กลางวง ครม. ลดค่าเช่าพื้นที่ย่านสยามสแควร์ เปิดทางลูก-หลานเปิด สตูดิโอ – ร้านกาแฟ อ้างค่าเช่าแพงเกินจริง 18. ลดเงินค่ารถไฟฟ้า-ใต้ดิน พอดีกับงานสวนสนุกธุรกิจของลูกๆ สอดคล้องสนับสนุนกันพอดี บังเอิญจริงๆ 19. ทักษิณพูดว่า”จังหวัดไหนเลือกไทยรักไทย จะให้ความดูแลก่อน” น้ำท่วมภาคใต้ 5 วันแล้ว แต่ทักษิณไปช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ไปกินก๋วยเตี๋ยวสร้างภาพ ไปเดินตลาดหาเสียง ทั้งๆที่มี สส อยู่เต็มสภาแล้วแต่ที่ต้องลงใต้ไปดูน้ำท่วมวันศุกร์เช้า เนื่องจากกลัวสนธิพูดตอนเย็นในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ 20. การที่มีพวกพ้องตัวเองเป็น กกต. จึงเปลี่ยนรูปแบบการเลือกตั้งให้สามารถโกงการเลือกตั้งเพิ่มขึ้นได้อีก 2 วิธี 20.1 ปั๊มตรายางอีกชุดรอเวลาเปลี่ยนกล่องบัตรได้ทุกเวลา 20.2 หมึกมีแบบล่องหน และ แบบโผล่ขึ้นมาได้ (ในทางเคมีสามารถทำได้) 21. ปิดข่าวเรื่องไข้หวัดนกทําให้ชาวบ้านที่ไม่ทราบต้องตายแล้วยังไปแสดงการกินไก่ไปหัวเราะไป เพื่อ ซีพี.นายทุนพรรคเท่านั้น 22. ทําให้เกิดการฆ่าตัดตอนประชาชนผู้บริสุทธิ์กว่า 2000 คน จากการปราบยาบ้าสั่งฆ่าคนได้หน้าตาเฉย โหดร้ายทารุณ 23. ซุกหุ้นปั่นหุ้น ซุกซ่อนทรัพย์สินไว้กับญาติพี่น้องเอาเงินไปฟอกต่างประเทศเอาเปรียบใน การทําธุรกิจผูกขาด ทั้งรับทั้งจ่ายใต้โต๊ะจนคนในวงการธุรกิจ เขารู้กันหมด ค้ากำไรเกินควร จนรํ่ารวยมหาศาล 24. โกงที่ดินวัดของสนามกอล์ฟอัลไพน์มีคนโกงที่ดินธรณีสงฆ์เอามาทำสนามกอล์ฟ แล้วทักษิณไปซื้อต่อทั้ง ๆ รู้ว่าที่ดินนั้นได้มา ไม่ถูกต้องเพราะไม่กลัวบาปกรรม 25. ประชาชนเสียรู้ทักษิณ เรียนฟรี 12 ปี นโยบายรัฐที่เปิดช่องให้โรงเรียนนำค่าใช้จ่ายอย่างอื่นมาเพิ่มแทนค่าเทอม นั่นแหละ สุดท้ายก็ไม่ได้เรียนฟรีอยู่ดี เป็นความล้มเหลวที่เห็นได้ชัดเจนของการปฎิรูปการศึกษาไทย ประชาชนจะถูกหลอกอีก 4 ปี เอาเข้าไป เป็นความจริงที่สุดเลย นี่คือการโกหกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในโลกนี้ซึ่งหาดูไม่ได้ที่ไหนนอกจากประเทศไทยที่กฎหมายบอกว่าเรียนฟรี แต่ความจริงมีใครบ้างที่เรียนฟรีถามผู้ปกครองทุกคนดูได้เลย 26. ชั่วเวลาแค่ปีเศษ ๆ รัฐบาลชุดนี้ก็ทำให้สถานการณ์ภาคใต้ที่ร่มเย็นเป็นสุขมานานหลายสิบปี กลับร้อนระอุกลายเป็นแดนมิคสัญญี 27. เช่าน่านฟ้า เช่าผืนแผ่นดินไทย ราคาเช่าช่างถูกจัง มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า ตนเองน่าจะรู้ดี ไหนบอกว่าแผ่นดินไทยจะไม่ให้หายแม้แต่ตารางนิ้วเดียวไงใช้อำนาจจนเลยเถิดไม่เห็นด้วย คิดไงท่านนายก ที่ให้เช่า 15 ปี แถมมีเปลียนสัญญาได้ทุกๆ 5 ปี เหมือนทำธรุกิจเลยขอเชิญชาวไทยเรียกร้องอธิปไตยชาติไทยกลับมาด้วยขอให้มี สส สว ที่ยังพอมีความเป็นไทยที่มิใช่มีความเป็น ทรท. ช่วยกันคัดค้าน ล่ารายชื่อด้วยครับผมว่ามันเกี่ยวกันหมดแหละครับ ตั้งแต่ AIS (มือถือ) ไทยคม1 ไทยคม 2 IPstar ชินคอร์ป ธนาคาร ธุรกิจ การเมือง อยู่ในมือสิงคโปร์ทั้งหมดแล้วครับ ชัดเจน มีผลประโยชน์ทับซ้อนแหง๋ ไม่งั้นไม่งุบงิบกันทำหรอก อย่านึกว่าประชาชนโง่นะคุณ ยุคทักษิณคือ ยุคของเงินเหนือรัฐ ยุคตำรวจรังแกประชาชน ยุคทหารฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ยุคความรุนแรงอยู่เหนือเหตุผล 28. ฉลาด อย่างตัวจับยาก เอาเงินหลวงไปหว่านให้รากหญ้าแล้ว ผ่านกระเป๋ารากหญ้าแบบเคาะกะลาให้หมาดีใจ ผ่านธุรกิจมือถือเข้ากระเป๋ามันเอง 29. ยุบสภาหนีความผิด เนื่องจากนายกองค์การนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ล่า 50,000 รายชื่อ เพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรีออกจากตำแหน่ง 30. ยุบสภาได้ยังไงไม่ได้มีปัญหาภายในสภาสักหน่อย อภิปรายไม่ไว้วางใจก็ไม่ได้ ฝ่ายค้านมีไม่พอ 31. วันที่ประกาศยุบสภาประกาศพร้อมกันว่าให้ไปเลือกตั้งวันที่ 2 เมษา ได้ยังไง รู้ได้ยังไง ไหนว่า กกต. เป็นกลางไง 32. คุณหญิงพจมาน อยากมีสมเด็จพระสังฆราชประจำตระกูลตัวเอง จึงให้นายวิษณุ เครืองา ลงนามแต่งตั้ง สมเด็จพระพุฒาจารย์ เกี่ยว อุปเสโณ วัดสระเกศ ขึ้นปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2547 เสมอกับสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนา อ้างว่า สมเด็จญาณฯ ทรงประชวร ไม่สามารถประกอบศาสนกิจได้ ทั้งๆที่มี VDO วันที่ 13 มีนาคม 2547 สมเด็จพระสังฆราชพระราชทานรางวัลให้กับเด็กนักเรียนที่ได้รับทุนของมหามกุฏราชวิทยาลัยในการประกวดเรียงความเรื่อง สมเด็จพระสังฆราช 90 พรรษา 33. คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่า สตง. ตรวจเจอการทุจริตของรัฐบาลหลายเรื่อง ล่าสุดตรวจสอบเจอการทุจริต CTX ทางรัฐบาลจึงอ้างว่ากระบวนการสรรหา คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผู้ว่าการ สตง.) มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ (ทั้งๆที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) คุณหญิงปิดห้องทำงานแล้ว ยังไปงัดห้องคุณหญิง คิดจะหาหลักฐานทุจริตที่ห้องคุณหญิง ต่อมาคนดีอย่างคุณหญิงก็ได้กลับมาทำงานเหมือนเดิม 34. จัดซื้อเครื่องบินรบ ซู30 ตั้งงบประมาณไว้ 35,000 ล้าน ทั้งที่รัสเซียบอกว่าขายแค่ 20,000 ล้าน กะจะกินตั้ง 15,000 ล้าน เครื่องบินเป็นแบบบินระยะไกล เสียค่าซ่อมเยอะ (ไทยนี้รักสงบ) เราเป็นพวกบุกรุก หรือ ตั้งรับถ้าเราเป็นฝ่ายตั้งรับ แล้วจะซื้อเครื่องบินระยะไกลทำไม ให้ช่างทหารอากาศเลือกซื้อทำไมไม่ให้นักบินเป็นคนเลือก เพราะฝ่ายช่างอยู่ในความดูแลของ คงศักดิ์ วัณทนา สามีของเพื่อน คุณหญิงพจมาน… 35. ก่อนขายหุ้นบอกว่าจะไปพักผ่อนที่สิงคโปร์ 4 วัน เดินเล่นที่สิงคโปร์ไปเดินครึ่งวัน อย่างมากก็วันเดียวก็ไม่รู้จะไปเดิน ที่ไหนแล้วนี่ไปถึง 4 วันเจรจาขายหุ้น แต่โกหกประชาชนคนไทยว่าจะไปพักผ่อน บอกตรงๆก็ได้ 36. จัดซื้อ CTX ราคา ระหว่าง บทม.และใบแจ้งราคาสินค้าของบริษัท อินวิชั่นฯ เป็นเงินประมาณ 283,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 11.30 ล้านบาทต่อเครื่อง หากคิดรวม 26 เครื่อง เป็นเงิน 7.36 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 294.4 ล้านบาทซึ่ง “ส่วนต่าง”ราคานี้ถูกนำไปใช้บันทึกซ้ำซ้อน โดยอ้างว่าเป็นอุปกรณ์ที่ต้องการซื้อเพิ่มเติม ทั้งที่รวมอยู่ในราคา 35.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือประมาณ1,432 ล้านบาทกะจะกิน1,432 ล้าน – 294.4 ล้าน = ? 37. ร่วมทุนชินคอร์ปกับมาเลเซีย เปิดธุรกิจสายการบิน Low Cost แล้วสั่งยกเลิกเที่ยวบินการบินไทยที่ได้กำไร แล้วเอาสายการบินของตัวเองไปบินทับที่แทน ทำให้การบินไทยซึ่ง เป็นสายการบินของคนไทยขาดทุน แล้วทำหนังสือถึงหน่วยงานราชการว่านอกจากการบินไทยแล้ว สามารถใช้งบหลวงเบิกค่านั่งเครื่องบิน Low Cost ได้ด้วย แล้วยังขายหุ้น Low Cost ให้สิงคโปร์อีก ทำให้ Low Cost ที่มีเที่ยวบินที่กำไรดีที่สุด (แย่ง จากการบินไทย) เป็นเที่ยวบินของ มาเลเซีย+สิงคโปร์ (ขายชาติ) 38. โทรศัพท์เครื่องที่ระบบ 1900 “ไทยโมบาย” ของ ทีโอที มันให้ ทีโอทีตั้งเสาเฉพาะใน กทม. ส่วนในต่างจังหวัด มันไม่ยอมให้ตั้งเสาทั้งๆที่ ทีโอทีมีที่ดินอยู่มากมายในต่างจังหวัด มันสั่งให้ ระบบ 1900 ของทีโอที ในต่างจังหวัดใช้เสาสัญญาณของAISโดยโทร 3 บาท ทีโอที ต้องจ่ายให้ AIS 2 บาท ทีโอที ได้ 1 บาท ..สุดยอดไหมละ 39. ปี 2535 – วิ่งเต้นจนได้รับสัมปทานดาวเทียมไทยคมโดยการสนับสนุนอย่างดีจากรัฐบาลเผด็จ การ รสช. โดยอิงความสัมพันธ์ที่สนิทแนบแน่นกับ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ซึ่งก็ชดใช้บุญคุณมาจนถึงสนับสนุน 2 คนสนิทของท่านให้ได้ดีในยุคนี้คือ พล.อ.สัมพันธ์ บุญญานันท์ ได้เป็นรมว.กลาโหม และพล.อ.เรืองโรจน์ มหาสรานนท์ ได้เป็นผบ.สูงสุด 40. การพูดจาบจ้วงดูหมิ่นพระบรมฯ 40.1. สำนัก ราชเลขาฯ ขอให้รัฐบาลพิจารณาเครื่องบินราชพาหนะลำใหม่.. แทนลำเก่าที่ ชำรุดมากแล้ว …..ทักษิณ อ้างว่า ไม่มีงบประมาณ แต่สุดท้าย ซื้อเครื่องบินไทยคู่ฟ้าให้ตนเองและครอบครัวนั่งก่อน..จาก ข่าวที่น้องสาว ทักษิณใช้เครื่องบินไปฉลองวันเกิดที่เชียงใหม่…………… 40.2. ทักษิณ ชินวัตร ใช้อุโบสถวัดพระแก้วในการทำบุญประเทศ (แต่แต่งกายในชุดสบายๆ ไม่เป็นทางการ) ทั้งๆที่ประธานในการทำบุญระดับประเทศควรเป็นพระองค์ท่านมากกว่า…ที่ สำคัญอุโบสถวัดพระแก้วเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับประกอบ ศาสนพิธีของพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน.. ไม่มีการขอพระบรมราชานุญาต… .พอ มีคนรู้ทัน.. รีบขอพระบรมราชานุญาตย้อนหลัง… จนพระองค์ท่านออกมาตรัสใน วันที่ 4 ธันวาคมว่า นายกฯจะให้ท่านทำอะไรก็ทำให้หมด แต่ควรพิจารณาด้วยว่าสมควรหรือไม่ 40.3. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ถ้านายกฯไม่จงรักภักดี ”ผีที่ไหนจะจงรักภักดี….” คนระดับทักษิณ มีการศึกษาสูงพอ ผ่านงานพระราชพิธีมามากมาย..ย่อมควรรู้ดีว่าสมควรพูดเช่นนี้ หรือไม่….ถ้ามีปัญญาก็ควรพูดว่า ถ้านายกฯไม่จงรักภักดี ใครเล่าที่จะจงรักภักดี มากกว่า 40.4. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ถ้าในหลวงมากระซิบข้างหู…(พูดว่าข้างหู) ว่าออกเถอะจะกราบบังคมลาทันที…คำหลังยังใช้ราชาศัพท์เป็น แต่คำหน้าไหงใช้คำว่ามากระซิบข้างหู… ทักษิณ ไม่ควรทำตัวเสมอพระองค์ท่าน 40.5. แม่ยายของทักษิณ กล่าวจาบจ้วงว่า บางทีตนอาจขอม็อบพระราชทานบ้าง คำว่า สิ่งพระราชทาน ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มงคล เป็นสิ่งที่ดีแต่คำว่า “ม็อบ” หมายถึง กลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องบางอย่าง พระองค์ท่านจะพระราชทานได้อย่าง ไร…ไม่สมควรพูด 40.6. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ตนเป็นนายกฯพระราชทานอยู่แล้ว ถ้าได้กลับมาอีกครั้งพระองค์ท่านต้อง …ใช้คำว่า “ต้อง” เซ็นให้ตนเป็นนายกฯอยู่วันยังค่ำ 40.7. ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า โผทหารที่นายกฯเซ็นแล้ว ใครจะกล้าเปลี่…
    0 Comments 0 Shares 1949 Views 0 Reviews
  • จากเพจ เกร็ดประวัติศาสตร์ v 2

    พระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระสุบินถึงสมเด็จพระนเรศวร
    เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๑๕ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอฯ ได้เสด็จฯ ไปในงานพระราชพิธีสังเวยดวงวิญญาณอดีตมหาราช (สมเด็จพระนเรศวรมหาราช) ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงปฏิบัติเป็นประจำทุกปี สำหรับในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ นี้ ได้เสด็จฯ ไปที่ ต.งาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ อันเป็นสถานที่ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้เสด็จฯ มาตั้งค่ายพักแรม ณ ที่นี้ก่อนยกทัพเข้าไปตีเมือง ซึ่งยังปรากฏร่องรอยรั้วป้อมค่ายต่างๆ อยู่ และในปัจจุบันนี้ รัฐบาลได้สร้างอนุสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จนเรศวรมหาราชทรงช้างต้น และได้จำลองค่ายที่ประทับแรมจินตนาการ และร่องรอยที่ปรากฏอยู่ตามสภาพจริง
    หลังจากเสร็จพระราชพิธี เมื่อ ๒๕ มกราคม ๒๕๑๕ แล้วเสด็จฯ กลับประทับแรม ณ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ในคืนนั้น ก่อนรุ่งสว่าง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงสุบินนิมิตว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้เสด็จฯ มาปรากฏพระองค์ขึ้นที่หน้าพระแท่นบรรทม ในพระสุบินนิมิต สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้กราบถวายบังคมโดยที่ทรงทราบจากพระวรกายและฉลองพระองค์ทรงเครื่องออกศึกว่า คือ องค์พระนเรศวรมหาราช และได้มีกระแสพระดำรัสแก่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถว่า พระองค์ท่านปัจจุบันนี้ ดวงพระวิญญาณยังอยู่ในประเทศไทย เพราะทรงเป็นห่วงบ้านเมือง ประชาชนคนไทย ยังไม่ได้ไปประสูติใหม่ ณ ที่ใดเลย และที่มาปรากฏในสุบินนิมิตนี้ ก็เพื่อจะทรงเตือนว่า ในอนาคตต่อจากนี้ไป บ้านเมืองไทยจะประสบกับความวุ่นวายยุ่งยาก และความมืดมนยิ่งขึ้นอย่างน่ากลัวอันตรายเหมือนกับที่เกิดขึ้นในสมัยพระองค์ท่าน (อนาคตนั้นก็น่าจะเป็น สมัยนี้เอง -ผู้เรียบเรียง) ขอให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงเป็นกำลังพระทัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันเพื่อที่จะได้ทรงนำประชาชน และชาติไทยฝ่าฟันอุปสรรคทั้งปวงให้ผ่านพ้นไปได้ และพระองค์ทรงพิจารณาแล้วเห็นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันจักเป็นผู้นำให้ชาติไทยและประชาชนชาวไทยผ่านพ้นห้วงวิกฤตินี้อย่างแน่นอน และพระองค์ท่านจะเสด็จฯ ติดตามช่วยเหลืออยู่ตลอดไป และขอให้ทั้งสองพระองค์ได้ทรงให้กำลังใจแก่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ที่เขาเหล่านั้นไม่มีโอกาสเข้าใกล้ถวายงานโดยใกล้ชิด แต่เป็นประชาชนที่ยึดมั่นในพระองค์ท่าน โดยไม่เคยแสดงตัวออกมาให้ปรากฏเหมือนกับการทำบุญปิดทองหลังองค์พระปฏิมา และเขาเหล่านั้นพร้อมที่จะถวายชีวิตเพื่อพระองค์ท่านและชาติไทย จึงทรงขอให้รวบรวมชาวไทยผู้รักชาติเหล่านั้น และสนับสนุนให้เขาได้มีกำลังใจเพื่อรักษาชาติบ้านเมืองไว้
    ในพระสุบินนิมิตนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถว่า พระองค์ทรงสะดุ้งพระองค์ตื่นจากที่บรรทม และทรงประทับนั่งก็ยังทรงทอดพระเนตรเห็นองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชปรากฏอยู่ จึงทรงปลุกพระบรรทมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนเรศวรมหาราชปรากฏให้ทั้งสองพระองค์ทอดพระเนตรเห็นชั่วครู่ ก็เสด็จฯ ไปเมื่อทั้งสองพระองค์ได้ทรงถวายบังคมแล้ว
    จากพระสุบินนี้เอง ทั้งสองพระองค์จึงได้ทรงพระราชนิพนธ์ เพลงความฝันอันสูงสุดนี้ขึ้น และได้พิมพ์เพลงพระราชนิพนธ์นี้ พระราชทานแก่ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ป้องกันอธิปไตยของชาติโดยทั่วหน้า และได้โปรดเกล้าฯ ให้คุณทนงศักดิ์ ภักดีเทวา และคุณจินตนา สุขสถิตย์ ร้องเพลงนี้ สอนให้แก่ข้าราชการทหาร ตำรวจ และพลเรือน เป็นครั้งแรกที่ตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ก่อนที่จะแพร่หลายไปทั่วประเทศในเวลาต่อมา...

    เรียบเรียงบทความจาก เรื่องเล่าในข้าราชบริพาร โดยแอดมินเพจเกร็ดประวัติศาสตร์ v2
    จากเพจ เกร็ดประวัติศาสตร์ v 2 พระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระสุบินถึงสมเด็จพระนเรศวร เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๑๕ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอฯ ได้เสด็จฯ ไปในงานพระราชพิธีสังเวยดวงวิญญาณอดีตมหาราช (สมเด็จพระนเรศวรมหาราช) ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงปฏิบัติเป็นประจำทุกปี สำหรับในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ นี้ ได้เสด็จฯ ไปที่ ต.งาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ อันเป็นสถานที่ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้เสด็จฯ มาตั้งค่ายพักแรม ณ ที่นี้ก่อนยกทัพเข้าไปตีเมือง ซึ่งยังปรากฏร่องรอยรั้วป้อมค่ายต่างๆ อยู่ และในปัจจุบันนี้ รัฐบาลได้สร้างอนุสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จนเรศวรมหาราชทรงช้างต้น และได้จำลองค่ายที่ประทับแรมจินตนาการ และร่องรอยที่ปรากฏอยู่ตามสภาพจริง หลังจากเสร็จพระราชพิธี เมื่อ ๒๕ มกราคม ๒๕๑๕ แล้วเสด็จฯ กลับประทับแรม ณ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ในคืนนั้น ก่อนรุ่งสว่าง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงสุบินนิมิตว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้เสด็จฯ มาปรากฏพระองค์ขึ้นที่หน้าพระแท่นบรรทม ในพระสุบินนิมิต สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้กราบถวายบังคมโดยที่ทรงทราบจากพระวรกายและฉลองพระองค์ทรงเครื่องออกศึกว่า คือ องค์พระนเรศวรมหาราช และได้มีกระแสพระดำรัสแก่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถว่า พระองค์ท่านปัจจุบันนี้ ดวงพระวิญญาณยังอยู่ในประเทศไทย เพราะทรงเป็นห่วงบ้านเมือง ประชาชนคนไทย ยังไม่ได้ไปประสูติใหม่ ณ ที่ใดเลย และที่มาปรากฏในสุบินนิมิตนี้ ก็เพื่อจะทรงเตือนว่า ในอนาคตต่อจากนี้ไป บ้านเมืองไทยจะประสบกับความวุ่นวายยุ่งยาก และความมืดมนยิ่งขึ้นอย่างน่ากลัวอันตรายเหมือนกับที่เกิดขึ้นในสมัยพระองค์ท่าน (อนาคตนั้นก็น่าจะเป็น สมัยนี้เอง -ผู้เรียบเรียง) ขอให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงเป็นกำลังพระทัยถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันเพื่อที่จะได้ทรงนำประชาชน และชาติไทยฝ่าฟันอุปสรรคทั้งปวงให้ผ่านพ้นไปได้ และพระองค์ทรงพิจารณาแล้วเห็นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ปัจจุบันจักเป็นผู้นำให้ชาติไทยและประชาชนชาวไทยผ่านพ้นห้วงวิกฤตินี้อย่างแน่นอน และพระองค์ท่านจะเสด็จฯ ติดตามช่วยเหลืออยู่ตลอดไป และขอให้ทั้งสองพระองค์ได้ทรงให้กำลังใจแก่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ที่เขาเหล่านั้นไม่มีโอกาสเข้าใกล้ถวายงานโดยใกล้ชิด แต่เป็นประชาชนที่ยึดมั่นในพระองค์ท่าน โดยไม่เคยแสดงตัวออกมาให้ปรากฏเหมือนกับการทำบุญปิดทองหลังองค์พระปฏิมา และเขาเหล่านั้นพร้อมที่จะถวายชีวิตเพื่อพระองค์ท่านและชาติไทย จึงทรงขอให้รวบรวมชาวไทยผู้รักชาติเหล่านั้น และสนับสนุนให้เขาได้มีกำลังใจเพื่อรักษาชาติบ้านเมืองไว้ ในพระสุบินนิมิตนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถว่า พระองค์ทรงสะดุ้งพระองค์ตื่นจากที่บรรทม และทรงประทับนั่งก็ยังทรงทอดพระเนตรเห็นองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชปรากฏอยู่ จึงทรงปลุกพระบรรทมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนเรศวรมหาราชปรากฏให้ทั้งสองพระองค์ทอดพระเนตรเห็นชั่วครู่ ก็เสด็จฯ ไปเมื่อทั้งสองพระองค์ได้ทรงถวายบังคมแล้ว จากพระสุบินนี้เอง ทั้งสองพระองค์จึงได้ทรงพระราชนิพนธ์ เพลงความฝันอันสูงสุดนี้ขึ้น และได้พิมพ์เพลงพระราชนิพนธ์นี้ พระราชทานแก่ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ป้องกันอธิปไตยของชาติโดยทั่วหน้า และได้โปรดเกล้าฯ ให้คุณทนงศักดิ์ ภักดีเทวา และคุณจินตนา สุขสถิตย์ ร้องเพลงนี้ สอนให้แก่ข้าราชการทหาร ตำรวจ และพลเรือน เป็นครั้งแรกที่ตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ก่อนที่จะแพร่หลายไปทั่วประเทศในเวลาต่อมา... เรียบเรียงบทความจาก เรื่องเล่าในข้าราชบริพาร โดยแอดมินเพจเกร็ดประวัติศาสตร์ v2
    0 Comments 0 Shares 719 Views 0 Reviews
  • ทำบุญหวังผล จัดเป็นทานบารมีไหม?

    การทำบุญหวังผลนั้นสามารถจัดเป็น ทานบารมี ได้ แต่มีความแตกต่างใน ระดับของบารมี และ ความละเอียดของจิต ที่แฝงอยู่ในขณะทำทาน ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดังนี้:


    ---

    1. ทำบุญหวังผลในเชิงสัมมาทิฏฐิ

    ใจเลื่อมใสว่าทานมีผล: เชื่อว่าการทำความดี การให้ทานจะนำมาซึ่งผลดีในอนาคต เช่น ความสุข ความเจริญ หรือการเกิดในภพภูมิที่ดี

    จิตประกอบด้วยศรัทธาและเจตนาในทางกุศล: แม้มีความหวังผล แต่ยังคงเป็นความหวังในลักษณะสัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ)

    นับเป็นทานบารมีระดับต้นถึงกลาง: บุญที่เกิดขึ้นจะช่วยสร้างบารมีในระดับที่นำพาไปสู่ความดี ความสุข และความเจริญทางจิตใจและชีวิต แต่ยังไม่ถึงความละเอียดสูงสุด



    ---

    2. ทำบุญหวังผลแบบเจาะจง (จิตคับแคบ)

    ทำบุญโดยมุ่งเน้นผลตอบแทนเฉพาะเจาะจง เช่น "ฉันทำบุญนี้เพื่อให้ได้ลาภสักการะ หรือเพื่อได้สวรรค์ชั้นนั้น ชั้นนี้"

    จิตประกอบด้วยความละโมบแบบนักลงทุน: ขาดความประณีตและความเปิดกว้างในการให้ อานิสงส์ที่ได้รับจึงถูกจำกัดอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า เช่น สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งยังคงอยู่ในขอบเขตของความเป็นปุถุชน



    ---

    3. ทำบุญโดยไม่หวังผลตอบแทน

    จิตบริสุทธิ์ เบิกบาน ไม่เลือกหน้า: ให้ด้วยความเมตตา ปรารถนาเพียงความสุขของผู้รับ โดยไม่หวังผลตอบแทน

    เกิดปีติสุขจากการทำทันที: ไม่ต้องรอผลในอนาคต เพราะจิตได้สัมผัสถึงความสุขจากการให้ตั้งแต่ขณะนั้น

    นับเป็นทานบารมีระดับสูง: อานิสงส์ของทานเช่นนี้จะส่งผลให้เกิดความสุข ความผ่องใส ทั้งในชาตินี้และชาติต่อไป และอาจนำไปสู่การเข้าถึงความละเอียดของจิตที่สูงขึ้น เช่น สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หรือสูงกว่านั้น



    ---

    สรุป: ทำบุญหวังผลเป็นทานบารมีหรือไม่?

    หากหวังผลในเชิงสัมมาทิฏฐิและไม่ละโมบจนเกินไป การทำบุญหวังผลยังคงเป็น ทานบารมี แต่ผลที่ได้รับจะคับแคบตามความคาดหวังนั้น

    หากไม่หวังผลตอบแทน จิตใจเปิดกว้าง เบิกบาน การทำบุญนั้นจะเป็น ทานบารมีระดับสูงสุด ที่ก่อให้เกิดอานิสงส์ยิ่งใหญ่ทั้งในปัจจุบันและอนาคต.


    ทำบุญหวังผล จัดเป็นทานบารมีไหม? การทำบุญหวังผลนั้นสามารถจัดเป็น ทานบารมี ได้ แต่มีความแตกต่างใน ระดับของบารมี และ ความละเอียดของจิต ที่แฝงอยู่ในขณะทำทาน ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ดังนี้: --- 1. ทำบุญหวังผลในเชิงสัมมาทิฏฐิ ใจเลื่อมใสว่าทานมีผล: เชื่อว่าการทำความดี การให้ทานจะนำมาซึ่งผลดีในอนาคต เช่น ความสุข ความเจริญ หรือการเกิดในภพภูมิที่ดี จิตประกอบด้วยศรัทธาและเจตนาในทางกุศล: แม้มีความหวังผล แต่ยังคงเป็นความหวังในลักษณะสัมมาทิฏฐิ (ความเห็นชอบ) นับเป็นทานบารมีระดับต้นถึงกลาง: บุญที่เกิดขึ้นจะช่วยสร้างบารมีในระดับที่นำพาไปสู่ความดี ความสุข และความเจริญทางจิตใจและชีวิต แต่ยังไม่ถึงความละเอียดสูงสุด --- 2. ทำบุญหวังผลแบบเจาะจง (จิตคับแคบ) ทำบุญโดยมุ่งเน้นผลตอบแทนเฉพาะเจาะจง เช่น "ฉันทำบุญนี้เพื่อให้ได้ลาภสักการะ หรือเพื่อได้สวรรค์ชั้นนั้น ชั้นนี้" จิตประกอบด้วยความละโมบแบบนักลงทุน: ขาดความประณีตและความเปิดกว้างในการให้ อานิสงส์ที่ได้รับจึงถูกจำกัดอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า เช่น สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งยังคงอยู่ในขอบเขตของความเป็นปุถุชน --- 3. ทำบุญโดยไม่หวังผลตอบแทน จิตบริสุทธิ์ เบิกบาน ไม่เลือกหน้า: ให้ด้วยความเมตตา ปรารถนาเพียงความสุขของผู้รับ โดยไม่หวังผลตอบแทน เกิดปีติสุขจากการทำทันที: ไม่ต้องรอผลในอนาคต เพราะจิตได้สัมผัสถึงความสุขจากการให้ตั้งแต่ขณะนั้น นับเป็นทานบารมีระดับสูง: อานิสงส์ของทานเช่นนี้จะส่งผลให้เกิดความสุข ความผ่องใส ทั้งในชาตินี้และชาติต่อไป และอาจนำไปสู่การเข้าถึงความละเอียดของจิตที่สูงขึ้น เช่น สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หรือสูงกว่านั้น --- สรุป: ทำบุญหวังผลเป็นทานบารมีหรือไม่? หากหวังผลในเชิงสัมมาทิฏฐิและไม่ละโมบจนเกินไป การทำบุญหวังผลยังคงเป็น ทานบารมี แต่ผลที่ได้รับจะคับแคบตามความคาดหวังนั้น หากไม่หวังผลตอบแทน จิตใจเปิดกว้าง เบิกบาน การทำบุญนั้นจะเป็น ทานบารมีระดับสูงสุด ที่ก่อให้เกิดอานิสงส์ยิ่งใหญ่ทั้งในปัจจุบันและอนาคต.
    0 Comments 0 Shares 520 Views 0 Reviews
  • สังฆทานเวียนหรือการผาติกรรมสังฆทานมีอานิสงส์ไหม

    🔹️ผู้ถาม : “ทีนี้ก็มีคนสงสัยเรื่องสังฆทานครับ ถามว่า สังฆทานที่มาถวายหลวงพ่อ
    แล้วก็ ผาติกรรมไปแล้วก็กลับมาถวายหลวงพ่ออีกครั้งหนึ่ง อานิสงส์จะสมบูรณ์หรือไม่ อย่างไรครับ

    หลวงพ่อ : เท่ากันแหละ
    เขาเอาแบงค์มาถวายก็เป็นสังฆทาน ถ้าอยากจะมีของไปรับเอามาก็เท่ากัน”

    🔹️ผู้ถาม : “ซื้อมาเองกับผาติกรรม หน่ะครับ…?”

    หลวงพ่อ : “แต่อย่าลืมว่าสตางค์ของใคร นั่นเป็นสัญลักษณ์เป็นนิมิตออกมา มีของสักหน่อยใจมันก็สบายกว่าไม่มีของใช่ไหม ถ้าเจตนาให้เงินมันเป็นอะไรมันก็เป็นตามนั้น และก็ตั้งใจเฉยๆ เกรงว่าไม่เป็นไปตามนั้น

    ให้มันมีของตั้งอยู่ ถ้าต้องการจีวรต้องการพระพุทธรูป ก็เป็นนิมิตจับ..

    อย่า ! ลืมว่าอานิสงส์ของสังฆทาน อะไรๆก็ต้องไปดาวดึงส์เป็นอย่างน้อย

    🌟#สังฆทาน
    กับ 🌟#วิหารทาน
    จุดแรกต่ำสุด คือดาวดึงส์ หลังจากนั้นจะไปเลวกว่านั้นก็ตามใจ แต่อย่าลืมนะดาวดึงส์นี่เข้ายาก ไม่ใช่เข้าง่ายๆเลย

    นอกจากทำบุญขั้นสังฆทานและวิหารทานแล้ว ถ้าเป็นบุญเล็กน้อย ก็ต้องเป็นการทำบุญตัดชีวิต”

    ==============================

    📖 จากหนังสือ ​หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๒๘-๒๙


    เพจ วัดท่าซุง
    สังฆทานเวียนหรือการผาติกรรมสังฆทานมีอานิสงส์ไหม 🔹️ผู้ถาม : “ทีนี้ก็มีคนสงสัยเรื่องสังฆทานครับ ถามว่า สังฆทานที่มาถวายหลวงพ่อ แล้วก็ ผาติกรรมไปแล้วก็กลับมาถวายหลวงพ่ออีกครั้งหนึ่ง อานิสงส์จะสมบูรณ์หรือไม่ อย่างไรครับ หลวงพ่อ : เท่ากันแหละ เขาเอาแบงค์มาถวายก็เป็นสังฆทาน ถ้าอยากจะมีของไปรับเอามาก็เท่ากัน” 🔹️ผู้ถาม : “ซื้อมาเองกับผาติกรรม หน่ะครับ…?” หลวงพ่อ : “แต่อย่าลืมว่าสตางค์ของใคร นั่นเป็นสัญลักษณ์เป็นนิมิตออกมา มีของสักหน่อยใจมันก็สบายกว่าไม่มีของใช่ไหม ถ้าเจตนาให้เงินมันเป็นอะไรมันก็เป็นตามนั้น และก็ตั้งใจเฉยๆ เกรงว่าไม่เป็นไปตามนั้น ให้มันมีของตั้งอยู่ ถ้าต้องการจีวรต้องการพระพุทธรูป ก็เป็นนิมิตจับ.. อย่า ! ลืมว่าอานิสงส์ของสังฆทาน อะไรๆก็ต้องไปดาวดึงส์เป็นอย่างน้อย 🌟#สังฆทาน กับ 🌟#วิหารทาน จุดแรกต่ำสุด คือดาวดึงส์ หลังจากนั้นจะไปเลวกว่านั้นก็ตามใจ แต่อย่าลืมนะดาวดึงส์นี่เข้ายาก ไม่ใช่เข้าง่ายๆเลย นอกจากทำบุญขั้นสังฆทานและวิหารทานแล้ว ถ้าเป็นบุญเล็กน้อย ก็ต้องเป็นการทำบุญตัดชีวิต” ============================== 📖 จากหนังสือ ​หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๒๘-๒๙ เพจ วัดท่าซุง
    0 Comments 0 Shares 309 Views 0 Reviews
  • หน้าที่หลักของบุตรหลานที่พึงควรกระทำต่อบุพการีบุพการี หรือบิดามารดา เป็นผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่ต่อบุตรหลาน ทั้งในด้านการให้กำเนิด การเลี้ยงดู และการอบรมสั่งสอน เพื่อให้บุตรหลานเติบโตเป็นผู้ที่สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขและมีคุณค่า ดังนั้น หน้าที่หลักของบุตรหลานที่ควรกระทำต่อบุพการีมีดังนี้1. ความกตัญญูกตเวทีความกตัญญูคือการระลึกถึงพระคุณของบิดามารดา และความกตเวทีคือการตอบแทนพระคุณอย่างเหมาะสม บุตรหลานควรแสดงความเคารพ นอบน้อม และแสดงความรักต่อบุพการีในทุกโอกาส ไม่ว่าจะด้วยการพูดจา การกระทำ หรือการดูแลเอาใจใส่2. การดูแลในยามเจ็บป่วยหรือแก่ชราในยามที่บุพการีเจ็บป่วยหรือเข้าสู่วัยชรา บุตรหลานมีหน้าที่ดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น การพาไปพบแพทย์ การจัดหาสิ่งของที่จำเป็น การอยู่เป็นเพื่อนพูดคุย และให้ความอบอุ่นทางใจ3. การเชื่อฟังคำสอนการเชื่อฟังคำสอนของบุพการีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะคำสอนของบุพการีมักมาจากประสบการณ์และความปรารถนาดีที่มีต่อบุตรหลาน การเชื่อฟังนี้รวมถึงการปฏิบัติตนให้เป็นคนดี ไม่ทำให้บุพการีเสียใจหรือผิดหวัง4. การตอบแทนพระคุณการตอบแทนพระคุณอาจทำได้หลายรูปแบบ เช่น การช่วยเหลือทางการเงินเมื่อบุพการีต้องการ การสร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้กับครอบครัว หรือการดูแลบุพการีเมื่อท่านไม่สามารถดูแลตนเองได้5. การรักษามรดกทางจิตวิญญาณและวัฒนธรรมของครอบครัวบุตรหลานควรรักษาและสืบทอดคุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมที่ดีงามของครอบครัว เช่น การเคารพผู้ใหญ่ การทำบุญอุทิศให้บุพการีที่ล่วงลับ และการแสดงความภักดีต่อครอบครัวสรุปหน้าที่ของบุตรหลานที่มีต่อบุพการีไม่เพียงแต่เป็นความรับผิดชอบในทางสังคมเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงความรัก ความเคารพ และความกตัญญู ซึ่งเป็นคุณธรรมสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว และสร้างสังคมที่อบอุ่นและมั่นคงในที่สุด
    หน้าที่หลักของบุตรหลานที่พึงควรกระทำต่อบุพการีบุพการี หรือบิดามารดา เป็นผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่ต่อบุตรหลาน ทั้งในด้านการให้กำเนิด การเลี้ยงดู และการอบรมสั่งสอน เพื่อให้บุตรหลานเติบโตเป็นผู้ที่สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขและมีคุณค่า ดังนั้น หน้าที่หลักของบุตรหลานที่ควรกระทำต่อบุพการีมีดังนี้1. ความกตัญญูกตเวทีความกตัญญูคือการระลึกถึงพระคุณของบิดามารดา และความกตเวทีคือการตอบแทนพระคุณอย่างเหมาะสม บุตรหลานควรแสดงความเคารพ นอบน้อม และแสดงความรักต่อบุพการีในทุกโอกาส ไม่ว่าจะด้วยการพูดจา การกระทำ หรือการดูแลเอาใจใส่2. การดูแลในยามเจ็บป่วยหรือแก่ชราในยามที่บุพการีเจ็บป่วยหรือเข้าสู่วัยชรา บุตรหลานมีหน้าที่ดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ เช่น การพาไปพบแพทย์ การจัดหาสิ่งของที่จำเป็น การอยู่เป็นเพื่อนพูดคุย และให้ความอบอุ่นทางใจ3. การเชื่อฟังคำสอนการเชื่อฟังคำสอนของบุพการีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะคำสอนของบุพการีมักมาจากประสบการณ์และความปรารถนาดีที่มีต่อบุตรหลาน การเชื่อฟังนี้รวมถึงการปฏิบัติตนให้เป็นคนดี ไม่ทำให้บุพการีเสียใจหรือผิดหวัง4. การตอบแทนพระคุณการตอบแทนพระคุณอาจทำได้หลายรูปแบบ เช่น การช่วยเหลือทางการเงินเมื่อบุพการีต้องการ การสร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้กับครอบครัว หรือการดูแลบุพการีเมื่อท่านไม่สามารถดูแลตนเองได้5. การรักษามรดกทางจิตวิญญาณและวัฒนธรรมของครอบครัวบุตรหลานควรรักษาและสืบทอดคุณธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมที่ดีงามของครอบครัว เช่น การเคารพผู้ใหญ่ การทำบุญอุทิศให้บุพการีที่ล่วงลับ และการแสดงความภักดีต่อครอบครัวสรุปหน้าที่ของบุตรหลานที่มีต่อบุพการีไม่เพียงแต่เป็นความรับผิดชอบในทางสังคมเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงความรัก ความเคารพ และความกตัญญู ซึ่งเป็นคุณธรรมสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว และสร้างสังคมที่อบอุ่นและมั่นคงในที่สุด
    0 Comments 0 Shares 496 Views 0 Reviews
  • วันปีใหม่สะท้อนบทบาทต่อสังคมไทยได้อย่างไรวันปีใหม่ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญอย่างมาก โดยไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของเวลา แต่ยังแสดงถึงบทบาทที่ลึกซึ้งในด้านวัฒนธรรม สังคม และเศรษฐกิจของประเทศไทย วันปีใหม่จึงเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความหมายและกิจกรรมที่ช่วยเชื่อมโยงผู้คนในสังคมไทยอย่างหลากหลายแง่มุม1. การเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวและชุมชนวันปีใหม่เป็นโอกาสที่สมาชิกในครอบครัวกลับมารวมตัวกัน เพื่อเฉลิมฉลองและสร้างความอบอุ่นร่วมกัน กิจกรรมเช่นการไหว้ผู้ใหญ่ การรับพร หรือการเลี้ยงฉลองในครอบครัวสะท้อนถึงคุณค่าของความกตัญญูและความสามัคคี ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคมไทยในระดับชุมชน การจัดงานเฉลิมฉลอง เช่น การสวดมนต์ข้ามปี การจัดงานวัด หรืองานปีใหม่ของหมู่บ้าน ช่วยสร้างความสามัคคีระหว่างเพื่อนบ้าน เสริมสร้างความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งในสังคม2. การส่งเสริมวัฒนธรรมและประเพณีไทยแม้ว่าเทศกาลปีใหม่จะมีต้นกำเนิดจากวัฒนธรรมตะวันตก แต่คนไทยได้ปรับประยุกต์ให้เข้ากับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิม เช่น การทำบุญตักบาตรในช่วงเช้า หรือการสวดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความศรัทธาในพุทธศาสนา3. การกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวช่วงวันปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่มีการจับจ่ายใช้สอยสูงสุดแห่งปี ทั้งการซื้อของขวัญ การตกแต่งบ้าน หรือการเดินทางท่องเที่ยว การกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น เช่น ตลาดนัด สินค้า OTOP และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนและส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว4. การส่งเสริมความหวังและแรงบันดาลใจวันปีใหม่เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ๆ หลายคนตั้งเป้าหมายหรือปณิธานในชีวิต เช่น การทำงานให้ดีขึ้น การดูแลสุขภาพ หรือการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ กิจกรรมเหล่านี้ส่งผลให้เกิดทัศนคติในเชิงบวกที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมโดยรวม5. การสะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรมในประเทศไทย เราเฉลิมฉลองปีใหม่ทั้งแบบไทย (สงกรานต์) และปีใหม่สากล (1 มกราคม) สิ่งนี้สะท้อนถึงความหลากหลายและการเปิดกว้างในวัฒนธรรมไทยที่พร้อมยอมรับและเคารพความแตกต่างบทสรุปวันปีใหม่ไม่ใช่เพียงแค่วันหยุดเทศกาล แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อมโยงและการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในระดับครอบครัว ชุมชน และสังคมโดยรวม นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงคุณค่าของความกตัญญู ความสามัคคี และความหวัง ซึ่งล้วนเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาสังคมไทยในทุกมิติ
    วันปีใหม่สะท้อนบทบาทต่อสังคมไทยได้อย่างไรวันปีใหม่ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญอย่างมาก โดยไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงของเวลา แต่ยังแสดงถึงบทบาทที่ลึกซึ้งในด้านวัฒนธรรม สังคม และเศรษฐกิจของประเทศไทย วันปีใหม่จึงเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความหมายและกิจกรรมที่ช่วยเชื่อมโยงผู้คนในสังคมไทยอย่างหลากหลายแง่มุม1. การเสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัวและชุมชนวันปีใหม่เป็นโอกาสที่สมาชิกในครอบครัวกลับมารวมตัวกัน เพื่อเฉลิมฉลองและสร้างความอบอุ่นร่วมกัน กิจกรรมเช่นการไหว้ผู้ใหญ่ การรับพร หรือการเลี้ยงฉลองในครอบครัวสะท้อนถึงคุณค่าของความกตัญญูและความสามัคคี ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคมไทยในระดับชุมชน การจัดงานเฉลิมฉลอง เช่น การสวดมนต์ข้ามปี การจัดงานวัด หรืองานปีใหม่ของหมู่บ้าน ช่วยสร้างความสามัคคีระหว่างเพื่อนบ้าน เสริมสร้างความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งในสังคม2. การส่งเสริมวัฒนธรรมและประเพณีไทยแม้ว่าเทศกาลปีใหม่จะมีต้นกำเนิดจากวัฒนธรรมตะวันตก แต่คนไทยได้ปรับประยุกต์ให้เข้ากับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดั้งเดิม เช่น การทำบุญตักบาตรในช่วงเช้า หรือการสวดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความศรัทธาในพุทธศาสนา3. การกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวช่วงวันปีใหม่เป็นช่วงเวลาที่มีการจับจ่ายใช้สอยสูงสุดแห่งปี ทั้งการซื้อของขวัญ การตกแต่งบ้าน หรือการเดินทางท่องเที่ยว การกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น เช่น ตลาดนัด สินค้า OTOP และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชนและส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว4. การส่งเสริมความหวังและแรงบันดาลใจวันปีใหม่เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ๆ หลายคนตั้งเป้าหมายหรือปณิธานในชีวิต เช่น การทำงานให้ดีขึ้น การดูแลสุขภาพ หรือการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ กิจกรรมเหล่านี้ส่งผลให้เกิดทัศนคติในเชิงบวกที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมโดยรวม5. การสะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรมในประเทศไทย เราเฉลิมฉลองปีใหม่ทั้งแบบไทย (สงกรานต์) และปีใหม่สากล (1 มกราคม) สิ่งนี้สะท้อนถึงความหลากหลายและการเปิดกว้างในวัฒนธรรมไทยที่พร้อมยอมรับและเคารพความแตกต่างบทสรุปวันปีใหม่ไม่ใช่เพียงแค่วันหยุดเทศกาล แต่เป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อมโยงและการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในระดับครอบครัว ชุมชน และสังคมโดยรวม นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงคุณค่าของความกตัญญู ความสามัคคี และความหวัง ซึ่งล้วนเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาสังคมไทยในทุกมิติ
    0 Comments 0 Shares 953 Views 0 Reviews
  • บุญ” หรือ “ปุญญ” แปลว่า ชำระ มีความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานว่า “เครื่องชำระสันดาน ความดี คุณงามความดี กุศลความสุข ความประพฤติชอบทางกาย วาจาและใจ ความสะอาด ความผ่องแผ้วแห่งจิต”

    “บุญ” อาจกล่าวอธิบายได้ ๓ ประการ คือ

    ๑. กล่าวโดยเหตุ “บุญ” คือ การกระทำความดีตามหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา อันหมายถึงการทำกิจใด ๆ ที่เป็นการชำระหรือล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ ผ่องใส หมดจดจากมลทินเครื่องเศร้าหมอง อันได้แก่ โลภะ โทสะและโมหะ เพื่อให้ได้ความสุขกายสบายใจ

    ๒. กล่าวโดยผล “บุญ” คือ ความสุขอันเกิดขึ้นจากใจที่สงบ เมื่อเกิดขึ้นในจิตใจแล้ว ทำให้จิตใจใสสะอาดปราศจากความเศร้าหมองขุ่นมัว คิดพูดและทำสิ่งที่ดี ที่ถูก ที่ควร ที่เป็นประโยชน์

    ๓. กล่าวโดยสภาพ “บุญ” คือ จิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องใส อันเกิดจากการที่จิตใจได้รับการชำระล้างจากการทำบุญหรือการทำความดีนั่นเอง
    บุญ” หรือ “ปุญญ” แปลว่า ชำระ มีความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานว่า “เครื่องชำระสันดาน ความดี คุณงามความดี กุศลความสุข ความประพฤติชอบทางกาย วาจาและใจ ความสะอาด ความผ่องแผ้วแห่งจิต” “บุญ” อาจกล่าวอธิบายได้ ๓ ประการ คือ ๑. กล่าวโดยเหตุ “บุญ” คือ การกระทำความดีตามหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา อันหมายถึงการทำกิจใด ๆ ที่เป็นการชำระหรือล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ ผ่องใส หมดจดจากมลทินเครื่องเศร้าหมอง อันได้แก่ โลภะ โทสะและโมหะ เพื่อให้ได้ความสุขกายสบายใจ ๒. กล่าวโดยผล “บุญ” คือ ความสุขอันเกิดขึ้นจากใจที่สงบ เมื่อเกิดขึ้นในจิตใจแล้ว ทำให้จิตใจใสสะอาดปราศจากความเศร้าหมองขุ่นมัว คิดพูดและทำสิ่งที่ดี ที่ถูก ที่ควร ที่เป็นประโยชน์ ๓. กล่าวโดยสภาพ “บุญ” คือ จิตใจที่บริสุทธิ์ผ่องใส อันเกิดจากการที่จิตใจได้รับการชำระล้างจากการทำบุญหรือการทำความดีนั่นเอง
    0 Comments 0 Shares 228 Views 0 Reviews
  • https://www.youtube.com/watch?v=rRzhMOHBPHg
    บทสนทนาเที่ยวงานกาชาด
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเที่ยวงานกาชาด
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #งานกาชาด

    The conversations from the clip :

    Sarah: Wow, Emma, look at all the food stalls! This place smells amazing!
    Emma: I know! I can't decide where to start. Do you feel like trying something sweet or savory first?
    Sarah: Let's go savory. Those grilled sausages over there look so good.
    Emma: Great idea. I'll grab some, and we can share.
    Sarah: While you’re doing that, I’ll get us some drinks. What do you want?
    Emma: Lemonade, please. It’s perfect for this hot weather.
    Sarah: This sausage is delicious! I think it’s locally made.
    Emma: Totally! And this lemonade is so refreshing. What do you want to try next?
    Sarah: Let’s check out the dessert stall. I saw some colorful cotton candy earlier.
    Emma: Look at these cupcakes! They’re so pretty. Should we get one?
    Sarah: Definitely. I’ll also get some cotton candy. it’s a fair classic.
    Emma: Hey, did you see the Red Cross lottery booth? The prizes look amazing!
    Sarah: Yeah, I heard there’s a chance to win a new bike! Should we buy some tickets?
    Emma: Let’s do it! I’ll get two, and you can get two. Who knows? We might get lucky.
    Sarah: Agreed. Plus, it’s for a good cause. Fingers crossed we win something!

    ซาราห์: ว้าว เอ็มม่า ดูสิร้านอาหารเต็มไปหมดเลย! ที่นี่มีกลิ่นหอมมากเลยนะ!
    เอ็มม่า: ใช่เลย! ฉันเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี เธออยากลองของหวานหรือของคาวก่อน?
    ซาราห์: ลองของคาวก่อนดีกว่า ไส้กรอกย่างตรงนั้นดูน่าอร่อยมากเลย
    เอ็มม่า: ไอเดียดีเลย ฉันจะไปซื้อมาบ้าง แล้วเรามาแบ่งกันกิน
    ซาราห์: ระหว่างที่เธอไปซื้อ ฉันจะไปซื้อเครื่องดื่มมาให้เรา เธออยากได้อะไร?
    เอ็มม่า: น้ำมะนาวค่ะ เหมาะกับอากาศร้อนๆ แบบนี้เลย
    ซาราห์: ไส้กรอกนี้อร่อยมาก! ฉันว่ามันน่าจะทำจากท้องถิ่นนะ
    เอ็มม่า: จริงเลย! และน้ำมะนาวนี้ก็สดชื่นมาก เธออยากลองอะไรต่อไป?
    ซาราห์: ไปดูร้านขนมหวานกันเถอะ ฉันเห็นสายไหมหลากสีตรงนั้นด้วย
    เอ็มม่า: ดูพวกคัพเค้กนี่สิ! มันดูสวยมากเลย เราควรจะซื้อมาสักชิ้นดีไหม?
    ซาราห์: แน่นอนเลย แล้วฉันจะซื้อสายไหมด้วย—มันคือของคลาสสิคของงานแฟร์
    เอ็มม่า: เฮ้ เธอเห็นบูธลอตเตอรี่ของสภากาชาดหรือยัง? ของรางวัลดูดีมากเลย!
    ซาราห์: เห็นสิ ฉันได้ยินมาว่ามีโอกาสลุ้นจักรยานคันใหม่ด้วย! เราควรจะซื้อลอตเตอรี่กันดีไหม?
    เอ็มม่า: ซื้อลองดูสิ! ฉันจะซื้อสองใบ แล้วเธอก็ซื้อสองใบ ใครจะรู้ล่ะ? อาจจะโชคดีก็ได้
    ซาราห์: เห็นด้วยเลย แถมยังเป็นการทำบุญอีก หวังว่าเราจะถูกรางวัลอะไรบ้างนะ!

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    Stall (สตอล) n. แปลว่า แผงขายของ
    Savory (เซ-เวอ-รี) adj. แปลว่า รสชาติคาว
    Sausage (ซอ-ซิจ) n. แปลว่า ไส้กรอก
    Grilled (กริลด์) adj. แปลว่า ย่าง
    Lemonade (เลม-โอะ-เนด) n. แปลว่า น้ำมะนาว
    Refreshing (ริ-เฟรช-อิง) adj. แปลว่า สดชื่น
    Dessert (ดี-เซิร์ท) n. แปลว่า ของหวาน
    Cotton candy (คอท-เทิน แคน-ดี้) n. แปลว่า ขนมสายไหม
    Cupcake (คัพ-เค้ก) n. แปลว่า คัพเค้ก
    Lottery (ลอท-เทอรี) n. แปลว่า สลากกินแบ่ง
    Booth (บูธ) n. แปลว่า บูธ
    Prize (ไพรซ์) n. แปลว่า รางวัล
    Ticket (ทิ-เก็ต) n. แปลว่า ตั๋ว
    Cause (คอร์ส) n. แปลว่า วัตถุประสงค์, สาเหตุ
    Lucky (ลัค-คี) adj. แปลว่า โชคดี
    https://www.youtube.com/watch?v=rRzhMOHBPHg บทสนทนาเที่ยวงานกาชาด (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากบทสนทนาเที่ยวงานกาชาด มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #บทสนทนาภาษาอังกฤษ #ฝึกฟังภาษาอังกฤษ #งานกาชาด The conversations from the clip : Sarah: Wow, Emma, look at all the food stalls! This place smells amazing! Emma: I know! I can't decide where to start. Do you feel like trying something sweet or savory first? Sarah: Let's go savory. Those grilled sausages over there look so good. Emma: Great idea. I'll grab some, and we can share. Sarah: While you’re doing that, I’ll get us some drinks. What do you want? Emma: Lemonade, please. It’s perfect for this hot weather. Sarah: This sausage is delicious! I think it’s locally made. Emma: Totally! And this lemonade is so refreshing. What do you want to try next? Sarah: Let’s check out the dessert stall. I saw some colorful cotton candy earlier. Emma: Look at these cupcakes! They’re so pretty. Should we get one? Sarah: Definitely. I’ll also get some cotton candy. it’s a fair classic. Emma: Hey, did you see the Red Cross lottery booth? The prizes look amazing! Sarah: Yeah, I heard there’s a chance to win a new bike! Should we buy some tickets? Emma: Let’s do it! I’ll get two, and you can get two. Who knows? We might get lucky. Sarah: Agreed. Plus, it’s for a good cause. Fingers crossed we win something! ซาราห์: ว้าว เอ็มม่า ดูสิร้านอาหารเต็มไปหมดเลย! ที่นี่มีกลิ่นหอมมากเลยนะ! เอ็มม่า: ใช่เลย! ฉันเลือกไม่ถูกเลยว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี เธออยากลองของหวานหรือของคาวก่อน? ซาราห์: ลองของคาวก่อนดีกว่า ไส้กรอกย่างตรงนั้นดูน่าอร่อยมากเลย เอ็มม่า: ไอเดียดีเลย ฉันจะไปซื้อมาบ้าง แล้วเรามาแบ่งกันกิน ซาราห์: ระหว่างที่เธอไปซื้อ ฉันจะไปซื้อเครื่องดื่มมาให้เรา เธออยากได้อะไร? เอ็มม่า: น้ำมะนาวค่ะ เหมาะกับอากาศร้อนๆ แบบนี้เลย ซาราห์: ไส้กรอกนี้อร่อยมาก! ฉันว่ามันน่าจะทำจากท้องถิ่นนะ เอ็มม่า: จริงเลย! และน้ำมะนาวนี้ก็สดชื่นมาก เธออยากลองอะไรต่อไป? ซาราห์: ไปดูร้านขนมหวานกันเถอะ ฉันเห็นสายไหมหลากสีตรงนั้นด้วย เอ็มม่า: ดูพวกคัพเค้กนี่สิ! มันดูสวยมากเลย เราควรจะซื้อมาสักชิ้นดีไหม? ซาราห์: แน่นอนเลย แล้วฉันจะซื้อสายไหมด้วย—มันคือของคลาสสิคของงานแฟร์ เอ็มม่า: เฮ้ เธอเห็นบูธลอตเตอรี่ของสภากาชาดหรือยัง? ของรางวัลดูดีมากเลย! ซาราห์: เห็นสิ ฉันได้ยินมาว่ามีโอกาสลุ้นจักรยานคันใหม่ด้วย! เราควรจะซื้อลอตเตอรี่กันดีไหม? เอ็มม่า: ซื้อลองดูสิ! ฉันจะซื้อสองใบ แล้วเธอก็ซื้อสองใบ ใครจะรู้ล่ะ? อาจจะโชคดีก็ได้ ซาราห์: เห็นด้วยเลย แถมยังเป็นการทำบุญอีก หวังว่าเราจะถูกรางวัลอะไรบ้างนะ! Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) Stall (สตอล) n. แปลว่า แผงขายของ Savory (เซ-เวอ-รี) adj. แปลว่า รสชาติคาว Sausage (ซอ-ซิจ) n. แปลว่า ไส้กรอก Grilled (กริลด์) adj. แปลว่า ย่าง Lemonade (เลม-โอะ-เนด) n. แปลว่า น้ำมะนาว Refreshing (ริ-เฟรช-อิง) adj. แปลว่า สดชื่น Dessert (ดี-เซิร์ท) n. แปลว่า ของหวาน Cotton candy (คอท-เทิน แคน-ดี้) n. แปลว่า ขนมสายไหม Cupcake (คัพ-เค้ก) n. แปลว่า คัพเค้ก Lottery (ลอท-เทอรี) n. แปลว่า สลากกินแบ่ง Booth (บูธ) n. แปลว่า บูธ Prize (ไพรซ์) n. แปลว่า รางวัล Ticket (ทิ-เก็ต) n. แปลว่า ตั๋ว Cause (คอร์ส) n. แปลว่า วัตถุประสงค์, สาเหตุ Lucky (ลัค-คี) adj. แปลว่า โชคดี
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 1018 Views 0 Reviews
  • ตายแล้วไปไหน..? น่าสงสัย มนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ 1,500-2,500 ปี ถูกฝังอยู่ในดินนานแสนนาน มาวันหนึ่งมาเข้าฝันคนบอกว่าอยากไปเกิดแล้ว เขาจึงลองขุดตามที่บอก พบโครงกระดูกมนุษย์โบราณจริง เครื่องใช้ในยุคนั้น
    คนตายบางที่ก็ไม่ได้ไปไหนเฝ้าหลุมตัวเองอยู่ คงเพราะไม่มีบุญนำพาไป อย่างมนุษย์โบราณท่านไม่มีศาสนา ไม่มีการทำบุญกุศลใดๆ ต้องเป็นผีอยู่นาน
    ตายแล้วไปไหน..? น่าสงสัย มนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ 1,500-2,500 ปี ถูกฝังอยู่ในดินนานแสนนาน มาวันหนึ่งมาเข้าฝันคนบอกว่าอยากไปเกิดแล้ว เขาจึงลองขุดตามที่บอก พบโครงกระดูกมนุษย์โบราณจริง เครื่องใช้ในยุคนั้น คนตายบางที่ก็ไม่ได้ไปไหนเฝ้าหลุมตัวเองอยู่ คงเพราะไม่มีบุญนำพาไป อย่างมนุษย์โบราณท่านไม่มีศาสนา ไม่มีการทำบุญกุศลใดๆ ต้องเป็นผีอยู่นาน
    0 Comments 0 Shares 263 Views 0 Reviews
  • บุญ คือ ที่พึ่งของสัตว์โลก กล่าวคือ มนุษย์หรือสัตว์โลกทั้งหลายจะอยู่ดีมีสุขก็ด้วยบุญกุศล จะทุกข์ยากเดือดร้อนก็ด้วยบาปอกุศลที่ตนได้เคยกระทำไว้ บุญอันบุคคลได้บำเพ็ญและสั่งสมไว้ดีแล้ว ย่อมให้ผลเป็นความสำเร็จ เป็นความเจริญรุ่งเรืองและสันติสุขในชีวิต กิจที่ทำในการทำบุญนั้นต้องเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นโดยถูกทำนองคลอง
    บุญ คือ ที่พึ่งของสัตว์โลก กล่าวคือ มนุษย์หรือสัตว์โลกทั้งหลายจะอยู่ดีมีสุขก็ด้วยบุญกุศล จะทุกข์ยากเดือดร้อนก็ด้วยบาปอกุศลที่ตนได้เคยกระทำไว้ บุญอันบุคคลได้บำเพ็ญและสั่งสมไว้ดีแล้ว ย่อมให้ผลเป็นความสำเร็จ เป็นความเจริญรุ่งเรืองและสันติสุขในชีวิต กิจที่ทำในการทำบุญนั้นต้องเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นโดยถูกทำนองคลอง
    0 Comments 0 Shares 251 Views 0 Reviews
  • เรื่องราวนี้สะท้อนถึง ความแตกต่างในทัศนคติทางสังคมและการรับรู้ค่าของเงิน ที่เกิดขึ้นระหว่างคนที่มีฐานะกับคนที่มีความลำบากทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในเรื่องการซื้อขายและการต่อรองราคา ที่ผู้คนมักจะรู้สึกพึงพอใจเมื่อได้ต่อรองราคาจากพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของในราคาต่ำ แต่กลับไม่รู้สึกต้องการทำเช่นเดียวกันเมื่อซื้อสินค้าที่มีราคาสูงจากร้านค้าหรือร้านอาหารใหญ่ๆ ที่กำหนดราคามาแล้วสิ่งที่น่าสนใจในเรื่องนี้คือ: 1. การต่อรองราคากับคนจน: พฤติกรรมที่มักจะเกิดขึ้นคือการที่ผู้ซื้อรู้สึกว่าได้ “ชัยชนะ” เมื่อสามารถต่อรองราคาของสินค้าจากผู้ที่มีรายได้น้อยลงไปได้ แม้ว่าราคาที่ตนจ่ายนั้นอาจจะไม่ได้ทำให้ผู้ขายได้กำไรจริงๆ หรือไม่ได้ทำให้พวกเขามีรายได้มากขึ้นก็ตาม 2. การไม่ต่อรองในร้านค้าราคาแพง: ในทางกลับกัน ผู้คนมักจะยอมจ่ายราคาที่ตั้งไว้โดยร้านค้าหรือภัตตาคารใหญ่ โดยไม่ต่อรองหรือถามหาความเป็นไปได้ในการลดราคา ทั้งที่บางครั้งการ “ทิ้งทอน” หรือการไม่ขอส่วนลดที่ถูกต้องอาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป 3. การให้ราคาสูงกว่าเพื่อช่วยเหลือ: การที่ผู้เขียนเลือกที่จะให้ราคาสูงกว่าที่ต้องการเพื่อช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าที่มีความยากจน ถือเป็นการทำบุญที่มีความหมาย ทั้งในแง่ของการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ และการให้เกียรติในความพยายามของคนที่ทำงานหนักในแต่ละวันข้อคิดสิ่งที่เรื่องนี้ต้องการสะท้อนคือการใช้ “ความเมตตา” และ “การช่วยเหลือ” ในการให้เงินหรือให้สิ่งต่างๆ แก่คนที่มีฐานะยากจน หรือผู้ที่ทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงชีพ การไม่ทำให้พวกเขารู้สึกถูกเอาเปรียบ และการพยายามทำให้พวกเขามีศักดิ์ศรีมากขึ้นผ่านการให้ความเคารพในราคาและการซื้อขาย.
    เรื่องราวนี้สะท้อนถึง ความแตกต่างในทัศนคติทางสังคมและการรับรู้ค่าของเงิน ที่เกิดขึ้นระหว่างคนที่มีฐานะกับคนที่มีความลำบากทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในเรื่องการซื้อขายและการต่อรองราคา ที่ผู้คนมักจะรู้สึกพึงพอใจเมื่อได้ต่อรองราคาจากพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของในราคาต่ำ แต่กลับไม่รู้สึกต้องการทำเช่นเดียวกันเมื่อซื้อสินค้าที่มีราคาสูงจากร้านค้าหรือร้านอาหารใหญ่ๆ ที่กำหนดราคามาแล้วสิ่งที่น่าสนใจในเรื่องนี้คือ: 1. การต่อรองราคากับคนจน: พฤติกรรมที่มักจะเกิดขึ้นคือการที่ผู้ซื้อรู้สึกว่าได้ “ชัยชนะ” เมื่อสามารถต่อรองราคาของสินค้าจากผู้ที่มีรายได้น้อยลงไปได้ แม้ว่าราคาที่ตนจ่ายนั้นอาจจะไม่ได้ทำให้ผู้ขายได้กำไรจริงๆ หรือไม่ได้ทำให้พวกเขามีรายได้มากขึ้นก็ตาม 2. การไม่ต่อรองในร้านค้าราคาแพง: ในทางกลับกัน ผู้คนมักจะยอมจ่ายราคาที่ตั้งไว้โดยร้านค้าหรือภัตตาคารใหญ่ โดยไม่ต่อรองหรือถามหาความเป็นไปได้ในการลดราคา ทั้งที่บางครั้งการ “ทิ้งทอน” หรือการไม่ขอส่วนลดที่ถูกต้องอาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป 3. การให้ราคาสูงกว่าเพื่อช่วยเหลือ: การที่ผู้เขียนเลือกที่จะให้ราคาสูงกว่าที่ต้องการเพื่อช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าที่มีความยากจน ถือเป็นการทำบุญที่มีความหมาย ทั้งในแง่ของการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ และการให้เกียรติในความพยายามของคนที่ทำงานหนักในแต่ละวันข้อคิดสิ่งที่เรื่องนี้ต้องการสะท้อนคือการใช้ “ความเมตตา” และ “การช่วยเหลือ” ในการให้เงินหรือให้สิ่งต่างๆ แก่คนที่มีฐานะยากจน หรือผู้ที่ทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงชีพ การไม่ทำให้พวกเขารู้สึกถูกเอาเปรียบ และการพยายามทำให้พวกเขามีศักดิ์ศรีมากขึ้นผ่านการให้ความเคารพในราคาและการซื้อขาย.
    0 Comments 0 Shares 663 Views 0 Reviews
  • #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 1891 Views 0 Reviews
  • #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    0 Comments 0 Shares 1881 Views 0 Reviews
  • #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    #ดวงรายวัน 14 พฤศจิกายน 67#คนเกิดวันจันทร์...การงาน:จะมีเรื่องอึดอัดใจกับผู้ร่วมงาน หรือจะเจอคนที่ทำงานไม่ได้ดั่งใจ การเงิน: จะมีรายจ่ายจุกจิกจ่ายไม่รู้จักจบ จะหมดกับคนรัก หรือจะเสียเงินโดยเสน่หา เช่นช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือความสงสาร ความรัก: คนรักจะเปลี่ยนแปลงไปไม่ค่อยสนใจ คนโสด:จะไม่ค่อยมีเวลาออกไปเจอใครจะมุ่งแต่การทำงานธุรกิจ สุขภาพ: ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น อ่อนเพลียพักผ่อนน้อย การเดินทาง:ไม่ค่อยปลอดภัยให้หลีกเลี่ยงเดินทางกลางคืน#คนเกิดวันอังคาร...การงาน:มีโอกาสได้ออกงานเปลี่ยนงานไปทำธุรกิจใหม่ๆ การเงิน:จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับการทำบุญหรือได้นำเงินไปช่วยเหลือคนอื่น ความรัก:จะอยู่กันเหมือนเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน เพราะความสัมพันธ์จะไม่ได้ราบรื่น คนโสด: จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบแต่จะเจอแต่คนไม่จริงใจ สุขภาพ: โรคอ้วนไขมัน การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพุธ...การงาน: จะได้รับงานที่ยากแต่ผลตอบแทนดี การเงิน: มีโอกาสได้โชคได้เงินจากงาน หรือได้จากผู้อุปถัมภ์ความรัก:ระวังจะมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องคำพูดคำจาหรือทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนเข้ามาหวังเรื่อง 18+ืสุขภาพ: มีโอกาสเจ็บป่วยกะทันหัน หรือถ้าเป็นอะไรอยู่มีโอกาสอาการจะแย่ลง การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันพฤหัสบดี...การงาน: ราบเรียบ จะรู้สึกเบื่อๆและขี้เกียจ การเงิน: จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินโดยเสน่หา หรือช่วยเหลือคนอื่นเพราะความรักหรือสงสาร ความรัก:ระวังจะทะเลาะกันเพราะปัญหาการเงินหนี้สิน หรือทะเลาะกันเรื่องคนเก่าๆ เรื่องเก่าๆ คนโสด: จะมีคนทางออนไลน์เข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขา ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามตัว การเดินทาง:ให้ระวังของหายระหว่างการเดินทาง#คนเกิดวันศุกร์...การงาน: จะมีโชคจากงาน ใครที่ทำงานไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสมีโอกาสจะถูกตรวจสอบ การเงิน:จะมีรายจ่ายมากอาจได้เสียเงินก้อน หรือได้นำเงินไปลงทุน จะหมดกับอาหารเครื่องดื่มราคาแพงๆ ความรัก: อยู่กันแบบเป็นคู่เวรคู่กรรมต้องอดทน ระวังจะมีปัญหาเรื่องมือที่ 3 ปัญหาหึงหวงชิดมาก คนโสด: จะมีคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: ปวดขาข้อเข่า โรคกระดูก การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันเสาร์...การงาน:จะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับของกินของฝาก หรือหมดกับของที่ไม่ค่อยจำเป็น ความรัก: ระวังมีปัญหาหึงหวงคิดมาก คนโสด: จะมีความสุขกับการทำงานยังไม่มีเวลาออกไปเจอใคร สุขภาพ: เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ปอด หลอดลม โรคหวัด การเดินทาง:ปลอดภัยดี#คนเกิดวันอาทิตย์...การงาน: มีโอกาสรุ่งเรืองก้าวหน้าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่คอยช่วยเหลือ การเงิน: จะมีรายจ่ายเกี่ยวกับรถ ค่าปรับค่าซ่อม การเดินทาง ความรัก: ระวังจะทะเลาะกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง คนโสด: จะมีคนจากที่ทำงานคนใกล้ตัวใกล้ชิดเข้ามาชอบเข้ามาจีบ สุขภาพ: โรคในช่องท้องการเดินทาง:ปลอดภัยดี-----------#หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    0 Comments 0 Shares 1960 Views 0 Reviews
More Results