• หลวงปู่ดู่ เตือนเรื่อง "ปรามาสพระ"

    วันหนึ่งมีผู้มากราบนมัสการท่าน และเรียนถามปัญหาต่างๆ จากนั้นจึงกลับไป หลวงปู่ท่านได้ยกเป็นคติเตือนใจให้ผู้เขียนฟังว่า

    “คนที่มาเมื่อกี้ หากไปเจอพระดีล่ะก็ลงนรก ไม่ไปสวรรค์ นิพพานหรอก”

    ผู้เขียนจึงเรียนถามท่านว่า “เพราะเหตุไรครับ”

    ท่านตอบว่า “ก็จะไปปรามาสพระท่านน่ะซี ไม่ได้ไปเอาธรรมจากท่าน”

    หลวงปู่เคยเตือนพวกเราไว้ว่า

    “การไปอยู่กับพระอรหันต์ อย่าอยู่กับท่านนาน เพราะเมื่อเกิดความมักคุ้นแล้ว มักทำให้ลืมตัว เห็นท่านเป็นเพื่อนเล่น คุยเล่นหัวท่านบ้าง ให้ท่านเหาะให้ดูบ้าง ถึงกับออกปากใช้ท่านเลยก็มี การกระทำเช่นนี้ ถือเป็นการปรามาสพระ ลบหลู่ครูอาจารย์ และเป็นบาปมาก ปิดกั้นทางมรรคผลนิพพานได้ จึงขอให้พวกเราสำรวมระวังให้ดี”

    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
    #หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ
    #พระพรหมปัญโญ
    #สวดคาถามหาจักรพรรดิ
    #สวดมนต์ #บันทึกบุญ #โมทนาบุญ #ยินดีในบุญ
    #คาถามหาจักรพรรดิ108
    #ธรรมทานเหนือการให้ทั้งปวง
    #พุทธังอนันตังธัมมังจักรวาลังสังฆังนิพพานะปัจจะโยโหตุ
    #ขอให้ประสบแต่ความดีปราศจากความทุกข์"

    ว่ากันต่อต่อไปให้ได้บุญ
    หลวงปู่ดู่ เตือนเรื่อง "ปรามาสพระ" วันหนึ่งมีผู้มากราบนมัสการท่าน และเรียนถามปัญหาต่างๆ จากนั้นจึงกลับไป หลวงปู่ท่านได้ยกเป็นคติเตือนใจให้ผู้เขียนฟังว่า “คนที่มาเมื่อกี้ หากไปเจอพระดีล่ะก็ลงนรก ไม่ไปสวรรค์ นิพพานหรอก” ผู้เขียนจึงเรียนถามท่านว่า “เพราะเหตุไรครับ” ท่านตอบว่า “ก็จะไปปรามาสพระท่านน่ะซี ไม่ได้ไปเอาธรรมจากท่าน” หลวงปู่เคยเตือนพวกเราไว้ว่า “การไปอยู่กับพระอรหันต์ อย่าอยู่กับท่านนาน เพราะเมื่อเกิดความมักคุ้นแล้ว มักทำให้ลืมตัว เห็นท่านเป็นเพื่อนเล่น คุยเล่นหัวท่านบ้าง ให้ท่านเหาะให้ดูบ้าง ถึงกับออกปากใช้ท่านเลยก็มี การกระทำเช่นนี้ ถือเป็นการปรามาสพระ ลบหลู่ครูอาจารย์ และเป็นบาปมาก ปิดกั้นทางมรรคผลนิพพานได้ จึงขอให้พวกเราสำรวมระวังให้ดี” หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ #หลวงปู่ดู่พรหมปัญโญ #พระพรหมปัญโญ #สวดคาถามหาจักรพรรดิ #สวดมนต์ #บันทึกบุญ #โมทนาบุญ #ยินดีในบุญ #คาถามหาจักรพรรดิ108 #ธรรมทานเหนือการให้ทั้งปวง #พุทธังอนันตังธัมมังจักรวาลังสังฆังนิพพานะปัจจะโยโหตุ #ขอให้ประสบแต่ความดีปราศจากความทุกข์" ว่ากันต่อต่อไปให้ได้บุญ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • การอนุโมทนา คือ การยินดีในบุญที่ผู้อื่นทำ เป็นการสร้างบุญให้แก่ตนเองตั้งแต่จิตเริ่มคิดดี ความยินดีที่เกิดจากการเห็นผู้อื่นทำสิ่งดี หรือให้อภัยผู้อื่น ส่งผลให้เรารู้สึกเบาสบายในใจ และเป็นการ "ได้ส่วนบุญ" โดยที่เราไม่ได้ลงมือทำเอง แต่กลับรู้สึกเหมือนเป็นผู้มีส่วนร่วมในบุญนั้น

    การอนุโมทนาบุญเต็มรูปแบบเกิดขึ้นเมื่อเรายินดีจากใจ และแสดงออกทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ เช่น การพนมมือไหว้ การกล่าวคำอนุโมทนาให้ผู้อื่นรับรู้ นี่คือการทำบุญด้วยความตั้งใจจริงและแสดงออกอย่างชัดเจน การอนุโมทนาบุญในอินเทอร์เน็ตก็เช่นกัน หากเรายินดีด้วยความจริงใจ และอธิบายเหตุผลที่เรายินดี บุญนั้นก็เกิดขึ้นได้อย่างเต็มที่

    การอนุโมทนาแล้วจะได้บุญเท่าผู้ที่ทำบุญหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความอินของจิตใจ ถ้าคิดอยากทำตามหรือมีใจอยากร่วมบุญ บุญนั้นก็จะเกิดขึ้นในตัวเราได้เต็มที่ แต่หากเพียงรู้สึกดี แต่ไม่ได้อยากทำตามเท่าไร บุญก็อาจเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย

    ในกรณีที่เราไม่รู้สึกอนุโมทนา หรือเกิดความหมั่นไส้ สิ่งที่ควรทำคือไม่ต้องฝืนใจ แต่ควรเตือนตนเองว่า นั่นคืออกุศลจิต และอย่าให้จิตนั้นครอบงำจิตใจไปสู่การทำบาป เพราะการขัดขวางหรือไม่ยินดีกับบุญของผู้อื่นอาจสร้างบาปให้ตนเองได้

    ดังนั้น การอนุโมทนาบุญควรทำด้วยจิตที่บริสุทธิ์ เพื่อให้จิตใจได้รับความสว่างและเกิดบุญที่แท้จริงในตนเอง
    การอนุโมทนา คือ การยินดีในบุญที่ผู้อื่นทำ เป็นการสร้างบุญให้แก่ตนเองตั้งแต่จิตเริ่มคิดดี ความยินดีที่เกิดจากการเห็นผู้อื่นทำสิ่งดี หรือให้อภัยผู้อื่น ส่งผลให้เรารู้สึกเบาสบายในใจ และเป็นการ "ได้ส่วนบุญ" โดยที่เราไม่ได้ลงมือทำเอง แต่กลับรู้สึกเหมือนเป็นผู้มีส่วนร่วมในบุญนั้น การอนุโมทนาบุญเต็มรูปแบบเกิดขึ้นเมื่อเรายินดีจากใจ และแสดงออกทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ เช่น การพนมมือไหว้ การกล่าวคำอนุโมทนาให้ผู้อื่นรับรู้ นี่คือการทำบุญด้วยความตั้งใจจริงและแสดงออกอย่างชัดเจน การอนุโมทนาบุญในอินเทอร์เน็ตก็เช่นกัน หากเรายินดีด้วยความจริงใจ และอธิบายเหตุผลที่เรายินดี บุญนั้นก็เกิดขึ้นได้อย่างเต็มที่ การอนุโมทนาแล้วจะได้บุญเท่าผู้ที่ทำบุญหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความอินของจิตใจ ถ้าคิดอยากทำตามหรือมีใจอยากร่วมบุญ บุญนั้นก็จะเกิดขึ้นในตัวเราได้เต็มที่ แต่หากเพียงรู้สึกดี แต่ไม่ได้อยากทำตามเท่าไร บุญก็อาจเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย ในกรณีที่เราไม่รู้สึกอนุโมทนา หรือเกิดความหมั่นไส้ สิ่งที่ควรทำคือไม่ต้องฝืนใจ แต่ควรเตือนตนเองว่า นั่นคืออกุศลจิต และอย่าให้จิตนั้นครอบงำจิตใจไปสู่การทำบาป เพราะการขัดขวางหรือไม่ยินดีกับบุญของผู้อื่นอาจสร้างบาปให้ตนเองได้ ดังนั้น การอนุโมทนาบุญควรทำด้วยจิตที่บริสุทธิ์ เพื่อให้จิตใจได้รับความสว่างและเกิดบุญที่แท้จริงในตนเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว