• วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวโจมตีพลังงานลมระหว่างการปราศรัย โดยระบุว่ากังหันลม “ทำลายทุ่งหญ้าและหุบเขาในอเมริกา ฆ่านก และไร้ประโยชน์” พร้อมพาดพิงถึงจีนว่า “ตนไม่เคยเห็นฟาร์มกังหันลมในประเทศจีนเลยสักแห่ง”

    คำพูดดังกล่าวสร้างเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ โดยชาวเน็ตจีนจำนวนมากพากันโพสต์ภาพฟาร์มพลังงานลมของจีนจากทั่วประเทศลงในโซเชียลมีเดียเพื่อโต้กลับคำพูดของทรัมป์ พร้อมย้ำว่าจีนไม่เพียงมีฟาร์มพลังงานลม แต่ยังเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการพัฒนาและใช้พลังงานสะอาด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000063441

    #MGROnline #กังหันลม
    วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 "โดนัลด์ ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวโจมตีพลังงานลมระหว่างการปราศรัย โดยระบุว่ากังหันลม “ทำลายทุ่งหญ้าและหุบเขาในอเมริกา ฆ่านก และไร้ประโยชน์” พร้อมพาดพิงถึงจีนว่า “ตนไม่เคยเห็นฟาร์มกังหันลมในประเทศจีนเลยสักแห่ง” • คำพูดดังกล่าวสร้างเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ โดยชาวเน็ตจีนจำนวนมากพากันโพสต์ภาพฟาร์มพลังงานลมของจีนจากทั่วประเทศลงในโซเชียลมีเดียเพื่อโต้กลับคำพูดของทรัมป์ พร้อมย้ำว่าจีนไม่เพียงมีฟาร์มพลังงานลม แต่ยังเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการพัฒนาและใช้พลังงานสะอาด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000063441 • #MGROnline #กังหันลม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่า อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์
    สัทธรรมลำดับที่ : 305
    ชื่อบทธรรม : - อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=305
    เนื้อความทั้งหมด : -
    --อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์
    --ภิกษุ ท. ! การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ย่อมมีได้
    เพราะการประชุมพร้อมของสิ่ง ๓ อย่าง.
    ในสัตว์โลกนี้ แม้มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกัน แต่มารดายังไม่ผ่านการมีระดู
    และคันธัพพะ (สัตว์ที่จะเข้าไปปฏิสนธิในครรภ์นั้น)
    ก็ยังไม่เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะด้วย,
    การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ก็ยังมีขึ้นไม่ได้ก่อน.
    ในสัตว์โลกนี้ แม้มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกัน และมารดาก็ผ่านการมีระดู
    แต่คันธัพพะยังไม่เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะ,
    การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ก็ยังมีขึ้นไม่ได้นั่นเอง ;
    --ภิกษุ ท. ! แต่เมื่อใด
    มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกันด้วย,
    มารดาก็ผ่านการมีระดูด้วย,
    คันธัพพะก็เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะด้วย,
    การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ย่อมสำเร็จได้
    เพราะการประชุมพร้อมกัน ของสิ่ง ๓ อย่าง ด้วยอาการอย่างนี้.
    --ภิกษุ ท. ! มารดา ย่อมบริหารสัตว์ที่เกิดในครรภ์นั้น
    ด้วยความเป็นห่วงอย่างใหญ่หลวง เป็นภาระหนัก
    ตลอดเวลาเก้าเดือนบ้าง สิบเดือนบ้าง.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/487/?keywords=มาตา+นว+วา+ทส+วา

    --ภิกษุ ท. ! เมื่อล่วงไปเก้าเดือนหรือสิบเดือน,
    มารดา ย่อมคลอดบุตรนั้นด้วยความเป็นห่วงอย่างใหญ่หลวง เป็นภาระหนัก ;
    ได้เลี้ยงซึ่งบุตรอันเกิดแล้วนั้น ด้วยโลหิตของตนเอง.
    --ภิกษุ ท. ! ในวินัยของพระอริยเจ้า
    คำว่า “โลหิต” นี้ หมายถึง น้ำนมของมารดา.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/488/?keywords=โลหิเตน

    --ภิกษุ ท. ! ทารกนั้น เจริญวัยขึ้น มีอินทรีย์อันเจริญเต็มที่แล้วเล่นของเล่นสำหรับเด็ก
    เช่น เล่นไถน้อย ๆ เล่นหม้อข้าวหม้อแกง
    เล่นของเล่นชื่อโมกขจิกะ(เป็นของเล่นสำหรับเด็กชนิดหนึ่ง ที่ตอนบนหมุนได้)​
    เล่นกังหันลมน้อย ๆ เล่นตวงของด้วยเครื่องตวงที่ทำด้วยใบไม้
    เล่นรถน้อย ๆ เล่นธนูน้อย ๆ.
    --ภิกษุ ท. ! ทารกนั้น ครั้นเจริญวัยขึ้นแล้ว มีอินทรีย์อันเจริญเต็มที่แล้ว
    เป็นผู้เอิบอิ่มเพียบพร้อมด้วยกามคุณห้า ให้เขาบำเรออยู่
    : ทางตาด้วยรูป, ทางหูด้วยเสียง, ทางจมูกด้วยกลิ่น, ทางลิ้นด้วยรส,
    และทางกายด้วยโผฏฐัพพะ,
    +--ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ ที่ยวนตายวนใจให้รัก
    เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ
    และ #เป็นที่ตั้งแห่งความรัก.
    ทารกนั้น ครั้นเห็นรูปด้วยจักษุ เป็นต้นแล้ว
    ย่อมกำหนัดยินดี ในรูป เป็นต้น ที่ยั่วยวนให้เกิดความรัก,
    ย่อมขัดใจในรูป เป็นต้น ที่ไม่เป็นที่ตั้งแห่งความรัก ;
    ไม่เป็นผู้ตั้งไว้ซึ่งสติอันเป็น ไปในกาย มีใจเป็นอกุศล
    ไม่รู้ตามที่เป็นจริง ซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ
    อันเป็นที่ดับไม่เหลือแห่งธรรมอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย.
    กุมารน้อยนั้น เมื่อประกอบด้วย ความยินดีและความยินร้ายอยู่เช่นนี้แล้ว,
    เสวยเฉพาะซึ่งเวทนาใด ๆ เป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม,
    เขาย่อมเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งเวทนานั้น ๆ.
    เมื่อเป็นอยู่เช่นนั้น,
    +--#ความเพลิน (นันทิ) ย่อมบังเกิดขึ้น.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/489/?keywords=นนฺทิ

    ความเพลินใด ในเวทนาทั้งหลาย มีอยู่,
    ความเพลินอันนั้น เป็นอุปาทาน.
    เพราะอุปาทานของเขานั้นเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
    เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
    เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะทุกขะ โทมนัส
    และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
    #ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้นย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้
    http://etipitaka.com/read/pali/12/489/?keywords=ทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา+สมฺภวนฺติ
    แล.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/342-343/452-453
    http://etipitaka.com/read/thai/12/342/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%95%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๔๘๗-๔๘๙/๔๕๒-๔๕๓
    http://etipitaka.com/read/pali/12/487/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%95%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=305
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=20&id=305
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=20
    ลำดับสาธยายธรรม : 20 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_20.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่า อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 305 ชื่อบทธรรม : - อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=305 เนื้อความทั้งหมด : - --อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์ --ภิกษุ ท. ! การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ย่อมมีได้ เพราะการประชุมพร้อมของสิ่ง ๓ อย่าง. ในสัตว์โลกนี้ แม้มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกัน แต่มารดายังไม่ผ่านการมีระดู และคันธัพพะ (สัตว์ที่จะเข้าไปปฏิสนธิในครรภ์นั้น) ก็ยังไม่เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะด้วย, การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ก็ยังมีขึ้นไม่ได้ก่อน. ในสัตว์โลกนี้ แม้มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกัน และมารดาก็ผ่านการมีระดู แต่คันธัพพะยังไม่เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะ, การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ก็ยังมีขึ้นไม่ได้นั่นเอง ; --ภิกษุ ท. ! แต่เมื่อใด มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกันด้วย, มารดาก็ผ่านการมีระดูด้วย, คันธัพพะก็เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะด้วย, การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ย่อมสำเร็จได้ เพราะการประชุมพร้อมกัน ของสิ่ง ๓ อย่าง ด้วยอาการอย่างนี้. --ภิกษุ ท. ! มารดา ย่อมบริหารสัตว์ที่เกิดในครรภ์นั้น ด้วยความเป็นห่วงอย่างใหญ่หลวง เป็นภาระหนัก ตลอดเวลาเก้าเดือนบ้าง สิบเดือนบ้าง. http://etipitaka.com/read/pali/12/487/?keywords=มาตา+นว+วา+ทส+วา --ภิกษุ ท. ! เมื่อล่วงไปเก้าเดือนหรือสิบเดือน, มารดา ย่อมคลอดบุตรนั้นด้วยความเป็นห่วงอย่างใหญ่หลวง เป็นภาระหนัก ; ได้เลี้ยงซึ่งบุตรอันเกิดแล้วนั้น ด้วยโลหิตของตนเอง. --ภิกษุ ท. ! ในวินัยของพระอริยเจ้า คำว่า “โลหิต” นี้ หมายถึง น้ำนมของมารดา. http://etipitaka.com/read/pali/12/488/?keywords=โลหิเตน --ภิกษุ ท. ! ทารกนั้น เจริญวัยขึ้น มีอินทรีย์อันเจริญเต็มที่แล้วเล่นของเล่นสำหรับเด็ก เช่น เล่นไถน้อย ๆ เล่นหม้อข้าวหม้อแกง เล่นของเล่นชื่อโมกขจิกะ(เป็นของเล่นสำหรับเด็กชนิดหนึ่ง ที่ตอนบนหมุนได้)​ เล่นกังหันลมน้อย ๆ เล่นตวงของด้วยเครื่องตวงที่ทำด้วยใบไม้ เล่นรถน้อย ๆ เล่นธนูน้อย ๆ. --ภิกษุ ท. ! ทารกนั้น ครั้นเจริญวัยขึ้นแล้ว มีอินทรีย์อันเจริญเต็มที่แล้ว เป็นผู้เอิบอิ่มเพียบพร้อมด้วยกามคุณห้า ให้เขาบำเรออยู่ : ทางตาด้วยรูป, ทางหูด้วยเสียง, ทางจมูกด้วยกลิ่น, ทางลิ้นด้วยรส, และทางกายด้วยโผฏฐัพพะ, +--ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ ที่ยวนตายวนใจให้รัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ และ #เป็นที่ตั้งแห่งความรัก. ทารกนั้น ครั้นเห็นรูปด้วยจักษุ เป็นต้นแล้ว ย่อมกำหนัดยินดี ในรูป เป็นต้น ที่ยั่วยวนให้เกิดความรัก, ย่อมขัดใจในรูป เป็นต้น ที่ไม่เป็นที่ตั้งแห่งความรัก ; ไม่เป็นผู้ตั้งไว้ซึ่งสติอันเป็น ไปในกาย มีใจเป็นอกุศล ไม่รู้ตามที่เป็นจริง ซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันเป็นที่ดับไม่เหลือแห่งธรรมอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย. กุมารน้อยนั้น เมื่อประกอบด้วย ความยินดีและความยินร้ายอยู่เช่นนี้แล้ว, เสวยเฉพาะซึ่งเวทนาใด ๆ เป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม, เขาย่อมเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งเวทนานั้น ๆ. เมื่อเป็นอยู่เช่นนั้น, +--#ความเพลิน (นันทิ) ย่อมบังเกิดขึ้น. http://etipitaka.com/read/pali/12/489/?keywords=นนฺทิ ความเพลินใด ในเวทนาทั้งหลาย มีอยู่, ความเพลินอันนั้น เป็นอุปาทาน. เพราะอุปาทานของเขานั้นเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. #ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้นย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้ http://etipitaka.com/read/pali/12/489/?keywords=ทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา+สมฺภวนฺติ แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/342-343/452-453 http://etipitaka.com/read/thai/12/342/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%95%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๔๘๗-๔๘๙/๔๕๒-๔๕๓ http://etipitaka.com/read/pali/12/487/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%95%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=305 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=20&id=305 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=20 ลำดับสาธยายธรรม : 20 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_20.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - (ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า ตามพระบาลีนี้ อาสวะทำหน้าที่อย่างเดียวกับตัณหา คือสร้างภพใหม่ หรือเป็นเหตุให้เกิดทุกข์)
    -(ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า ตามพระบาลีนี้ อาสวะทำหน้าที่อย่างเดียวกับตัณหา คือสร้างภพใหม่ หรือเป็นเหตุให้เกิดทุกข์) อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์ ภิกษุ ท. ! การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ย่อมมีได้ เพราะการประชุมพร้อมของสิ่ง ๓ อย่าง. ในสัตว์โลกนี้ แม้มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกัน แต่มารดายังไม่ผ่านการมีระดู และคันธัพพะ (สัตว์ที่จะเข้าไปปฏิสนธิในครรภ์นั้น) ก็ยังไม่เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะด้วย, การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ก็ยังมีขึ้นไม่ได้ก่อน. ในสัตว์โลกนี้ แม้มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกัน และมารดาก็ผ่านการมีระดู แต่คันธัพพะยังไม่เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะ, การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ก็ยังมีขึ้นไม่ได้นั่นเอง ; ภิกษุ ท. ! แต่เมื่อใด มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกันด้วย, มารดาก็ผ่านการมีระดูด้วย คันธัพพะก็เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะด้วย, การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ย่อมสำเร็จได้ เพราะการประชุมพร้อมกัน ของสิ่ง ๓ อย่าง ด้วยอาการอย่างนี้. ภิกษุ ท. ! มารดา ย่อมบริหารสัตว์ที่เกิดในครรภ์นั้น ด้วยความเป็นห่วงอย่างใหญ่หลวง เป็นภาระหนัก ตลอดเวลาเก้าเดือนบ้าง สิบเดือนบ้าง. ภิกษุ ท. ! เมื่อล่วงไปเก้าเดือนหรือสิบเดือน, มารดา ย่อมคลอดบุตรนั้นด้วยความเป็นห่วงอย่างใหญ่หลวง เป็นภาระหนัก ; ได้เลี้ยงซึ่งบุตรอันเกิดแล้วนั้น ด้วยโลหิตของตนเอง. ภิกษุ ท. ! ในวินัยของพระอริยเจ้า คำว่า “โลหิต” นี้ หมายถึงน้ำนมของมารดา. ภิกษุ ท. ! ทารกนั้น เจริญวัยขึ้น มีอินทรีย์อันเจริญเต็มที่แล้วเล่นของเล่นสำหรับเด็ก เช่น เล่นไถน้อย ๆ เล่นหม้อข้าวหม้อแกง เล่นของเล่นชื่อโมกขจิกะ๑ เล่นกังหันลมน้อย ๆ เล่นตวงของด้วยเครื่องตวงที่ทำด้วยใบไม้ เล่นรถน้อย ๆ เล่นธนูน้อย ๆ. ภิกษุ ท. ! ทารกนั้น ครั้นเจริญวัยขึ้นแล้ว มีอินทรีย์อันเจริญเต็มที่แล้ว เป็นผู้เอิบอิ่มเพียบพร้อมด้วยกามคุณห้า ให้เขาบำเรออยู่ : ทางตาด้วยรูป, ทางหูด้วยเสียง, ทางจมูกด้วยกลิ่น, ทางลิ้นด้วยรส, และทางกายด้วยโผฏฐัพพะ, ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ ที่ยวนตายวนใจให้รัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ และเป็นที่ตั้งแห่งความรัก. ทารกนั้น ครั้นเห็นรูปด้วยจักษุ เป็นต้นแล้ว ย่อมกำหนัดยินดี ในรูป เป็นต้น ที่ยั่วยวนให้เกิดความรัก, ย่อมขัดใจในรูป เป็นต้น ที่ไม่เป็นที่ตั้งแห่งความรัก ; ไม่เป็นผู้ตั้งไว้ซึ่งสติอันเป็น ๑. โมกขจิกะ เป็นของเล่นสำหรับเด็กชนิดหนึ่ง ที่ตอนบนหมุนได้. ไปในกาย มีใจเป็นอกุศล ไม่รู้ตามที่เป็นจริง ซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันเป็นที่ดับไม่เหลือแห่งธรรมอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย. กุมารน้อยนั้น เมื่อประกอบด้วย ความยินดีและความยินร้ายอยู่เช่นนี้แล้ว, เสวยเฉพาะซึ่งเวทนาใด ๆ เป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม, เขาย่อมเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งเวทนานั้น ๆ. เมื่อเป็นอยู่เช่นนั้น, ความเพลิน (นันทิ) ย่อมบังเกิดขึ้น. ความเพลินใด ในเวทนาทั้งหลาย มีอยู่, ความเพลินอันนั้นเป็นอุปาทาน. เพราะอุปาทานของเขานั้นเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้ แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • พบอุปกรณ์สื่อสารซ่อนอยู่ในเทคโนโลยีพลังงานจากจีน: สหรัฐฯ เร่งประเมินความเสี่ยง

    เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กำลังตรวจสอบ อุปกรณ์สื่อสารที่ถูกซ่อนอยู่ในอินเวอร์เตอร์พลังงานแสงอาทิตย์จากจีน ซึ่งอาจมีศักยภาพในการ ก่อกวนโครงข่ายไฟฟ้า และสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน

    อินเวอร์เตอร์พลังงานแสงอาทิตย์จากจีนถูกพบว่ามีอุปกรณ์สื่อสารซ่อนอยู่
    - อุปกรณ์เหล่านี้ สามารถเปลี่ยนค่าการตั้งค่าและปิดระบบจากระยะไกล

    อินเวอร์เตอร์มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อแหล่งพลังงานหมุนเวียนกับโครงข่ายไฟฟ้า
    - ใช้ใน แผงโซลาร์เซลล์, กังหันลม, ปั๊มความร้อน, แบตเตอรี่ และเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

    พบอุปกรณ์สื่อสาร เช่น วิทยุเซลลูลาร์ในแบตเตอรี่ที่นำเข้าจากจีน
    - การค้นพบนี้ เกิดขึ้นในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา

    กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ กำลังประเมินความเสี่ยงของเทคโนโลยีจากจีน
    - มีความกังวลเกี่ยวกับ การเปิดเผยข้อมูลและฟังก์ชันที่ไม่ได้รับการรายงานจากผู้ผลิต

    Huawei เป็นผู้ผลิตอินเวอร์เตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก คิดเป็น 29% ของตลาดในปี 2022
    - อาจมีผลกระทบต่อ การตัดสินใจของสหรัฐฯ ในการลดการพึ่งพาการนำเข้าจากจีน

    https://www.techradar.com/pro/security/chinese-energy-tech-exports-found-to-contain-hidden-comms-and-radio-devices
    พบอุปกรณ์สื่อสารซ่อนอยู่ในเทคโนโลยีพลังงานจากจีน: สหรัฐฯ เร่งประเมินความเสี่ยง เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กำลังตรวจสอบ อุปกรณ์สื่อสารที่ถูกซ่อนอยู่ในอินเวอร์เตอร์พลังงานแสงอาทิตย์จากจีน ซึ่งอาจมีศักยภาพในการ ก่อกวนโครงข่ายไฟฟ้า และสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ✅ อินเวอร์เตอร์พลังงานแสงอาทิตย์จากจีนถูกพบว่ามีอุปกรณ์สื่อสารซ่อนอยู่ - อุปกรณ์เหล่านี้ สามารถเปลี่ยนค่าการตั้งค่าและปิดระบบจากระยะไกล ✅ อินเวอร์เตอร์มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อแหล่งพลังงานหมุนเวียนกับโครงข่ายไฟฟ้า - ใช้ใน แผงโซลาร์เซลล์, กังหันลม, ปั๊มความร้อน, แบตเตอรี่ และเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ✅ พบอุปกรณ์สื่อสาร เช่น วิทยุเซลลูลาร์ในแบตเตอรี่ที่นำเข้าจากจีน - การค้นพบนี้ เกิดขึ้นในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ✅ กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ กำลังประเมินความเสี่ยงของเทคโนโลยีจากจีน - มีความกังวลเกี่ยวกับ การเปิดเผยข้อมูลและฟังก์ชันที่ไม่ได้รับการรายงานจากผู้ผลิต ✅ Huawei เป็นผู้ผลิตอินเวอร์เตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลก คิดเป็น 29% ของตลาดในปี 2022 - อาจมีผลกระทบต่อ การตัดสินใจของสหรัฐฯ ในการลดการพึ่งพาการนำเข้าจากจีน https://www.techradar.com/pro/security/chinese-energy-tech-exports-found-to-contain-hidden-comms-and-radio-devices
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • NTT Japan ได้พัฒนา ระบบโดรนป้องกันฟ้าผ่า ซึ่งเป็นระบบแรกของโลกที่สามารถ กระตุ้นและนำทางฟ้าผ่า เพื่อปกป้องเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน โดยระบบนี้ใช้โดรนที่ติดตั้งในกรงป้องกันฟ้าผ่า และสามารถตรวจจับสภาพอากาศเพื่อส่งโดรนขึ้นไปสกัดฟ้าผ่าก่อนที่มันจะสร้างความเสียหาย

    NTT Japan พัฒนาระบบโดรนที่สามารถกระตุ้นและนำทางฟ้าผ่า
    - โดรนถูกออกแบบให้สามารถบินเข้าใกล้เมฆพายุและกระตุ้นฟ้าผ่า
    - ใช้กรงป้องกันฟ้าผ่าเพื่อให้โดรนสามารถบินต่อไปได้แม้ถูกฟ้าผ่า

    การทดลองครั้งแรกประสบความสำเร็จในการกระตุ้นฟ้าผ่า
    - ในการทดสอบเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2024 โดรนสามารถกระตุ้นฟ้าผ่าได้จริง
    - ระบบสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสนามไฟฟ้าและส่งโดรนขึ้นไปสกัดฟ้าผ่า

    ระบบนี้สามารถช่วยปกป้องเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน
    - ฟ้าผ่าทำให้เกิดความเสียหายกว่า 100-200 พันล้านเยนต่อปีในญี่ปุ่น
    - ระบบโดรนสามารถช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกังหันลมและอาคารสูง

    NTT กำลังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเก็บพลังงานจากฟ้าผ่า
    - มีแผนที่จะวิจัยวิธีการเก็บพลังงานจากฟ้าผ่าเพื่อใช้ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/worlds-first-drone-system-for-fighting-lightning-protects-cities-and-infrastructure
    NTT Japan ได้พัฒนา ระบบโดรนป้องกันฟ้าผ่า ซึ่งเป็นระบบแรกของโลกที่สามารถ กระตุ้นและนำทางฟ้าผ่า เพื่อปกป้องเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน โดยระบบนี้ใช้โดรนที่ติดตั้งในกรงป้องกันฟ้าผ่า และสามารถตรวจจับสภาพอากาศเพื่อส่งโดรนขึ้นไปสกัดฟ้าผ่าก่อนที่มันจะสร้างความเสียหาย ✅ NTT Japan พัฒนาระบบโดรนที่สามารถกระตุ้นและนำทางฟ้าผ่า - โดรนถูกออกแบบให้สามารถบินเข้าใกล้เมฆพายุและกระตุ้นฟ้าผ่า - ใช้กรงป้องกันฟ้าผ่าเพื่อให้โดรนสามารถบินต่อไปได้แม้ถูกฟ้าผ่า ✅ การทดลองครั้งแรกประสบความสำเร็จในการกระตุ้นฟ้าผ่า - ในการทดสอบเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2024 โดรนสามารถกระตุ้นฟ้าผ่าได้จริง - ระบบสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของสนามไฟฟ้าและส่งโดรนขึ้นไปสกัดฟ้าผ่า ✅ ระบบนี้สามารถช่วยปกป้องเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน - ฟ้าผ่าทำให้เกิดความเสียหายกว่า 100-200 พันล้านเยนต่อปีในญี่ปุ่น - ระบบโดรนสามารถช่วยป้องกันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกังหันลมและอาคารสูง ✅ NTT กำลังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเก็บพลังงานจากฟ้าผ่า - มีแผนที่จะวิจัยวิธีการเก็บพลังงานจากฟ้าผ่าเพื่อใช้ในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/worlds-first-drone-system-for-fighting-lightning-protects-cities-and-infrastructure
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    World's first drone system for fighting lightning protects cities and infrastructure
    NNT's drones flew in lightning-resistant cages and hope to, some day, tap and store the power of thunderclouds.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 308 มุมมอง 0 รีวิว

  • ตามรอยย้อนกลับ Supply Chain แร่หายากจากพม่ามหาศาลสู่จีน
    ______________________________
    23 ธันวาคม พ.ศ. 2564 บริษัท China Rare Earth Group Co., Ltd. ก่อตัวขึ้นอย่างเป็นทางการ จากการควบรวมของ 3 กิจการด้านอุตสาหกรรมแร่หายากในจีน China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. เป้าคือพัฒนาอุตสาหกรรมแร่หายาก วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี
    China Rare Earth Group อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของรัฐ-คณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์ที่เป็นเจ้าของของสภาแห่งรัฐ ถือหุ้นร้อยละ 31.21 China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. แต่ละบริษัทถือหุ้นร้อยละ 20.33; China Iron and Steel Research Technology Group Co., Ltd. และ Youyan Technology Group Co., Ltd. ถือหุ้นร้อยละ 3.90
    ปัจจุบันจีนมีปริมาณการผลิตแร่ธาตุ หายากสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกอยู่ที่ 132,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 63 ของปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 210,000 ตัน โดยประเทศอื่น ๆ ที่มีปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากในลำดับถัดมา ได้แก่ สหรัฐฯ (26,000 ตัน) เมียนมา (22,000 ตัน) ออสเตรเลีย (21,000 ตัน) อินเดีย (3,000 ตัน) รัสเซีย (2,700 ตัน) มาดากัสการ์ (2,000 ตัน) ไทย (1,800 ตัน) บราซิล (1,000 ตัน) เวียดนาม (900 ตัน) และบุรุนดี (600 ตัน)
    ______________________________
    ระฆังกำแพงภาษีลั่นขึ้นห้วงเมษายน 2568 โดยสหรัฐอเมริกา การตอบโต้กลับของจีนเปิดหน้าชก สวนกลับทุกเม็ด รวมถึงได้ขยายการใช้ "แร่หายาก" (rare earths) เป็นเครื่องมือตอบโต้ทางการค้า โดยประกาศจำกัดการส่งออกแร่หายาก 7 ชนิด ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญในอุดสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเป็นการตอบโต้ต่อมาดรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ
    สำหรับแร่หายาก 7 ชนิดได้แก่ ชามาเรียม (Samarium) แกโดลิเนียม (Gadolinium) เทอร์เมียม (Terbium) ดิสโพรเซียม (Dysprosium) ลูทีเซียม (Lutetium) สแกนเดียม (Scandium) และอิดเทรียม (Yttrium) สำหรับแร่หายากยอดนิยมอย่าง นี่โอไดเมียม (Neodymium) และ พราเชโอไดเมียม (Praseodymium) ซึ่งใช้ผลิตแม่เหล็กประสิทธิภาพสูง ยังไม่อยู่ในรายชื่อควบคุม
    หลังการรัฐประหารปี 2021 การส่งออกแร่ธาตุหายากจากพม่าไปจีนเพิ่มขึ้น 5 เท่า สูงถึง 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการการพึ่งพาจีน 90% ของการแปรรูปแร่หายากโลกอยู่ในจีน แบ่งเป็น แร่กลุ่มหายาก (Rare Earth Elements) มูลค่า: 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2025) ส่วนแบ่งการนำเข้า: กว่า 50% ของการนำเข้าแร่หายากทั้งหมดของจีน ชนิดแร่หลัก: เทอร์เบียม (Terbium) และดีสโพรเซียม (Dysprosium) ในกลุ่ม Heavy Rare Earth Elements (HREE) พื้นที่ทำเหมืองหลักที่คะฉิ่น ที่เหมือง Chipwi และ Momauk: มีบ่อแร่มากกว่า 2,700 บ่อ เมือง Panwa: แหล่งผลิตหลักภายใต้การควบคุมของ Kachin Independence Army (KIA) การขยายตัว: จำนวนไซต์ทำเหมืองเพิ่มขึ้น 40% นับตั้งแต่ปี 2021 โดยพื้นที่ KIA: เก็บภาษี 35,000 หยวน/ตัน (ประมาณ 4,800 ดอลลาร์สหรัฐ)
    บริษัทจีนผู้รับซื้อหลัก คือ China Rare Earths Group (REGCC) ควบคุมการประมูลแร่กว่า 80% China Northern Rare Earth Group ผู้ประมูลแร่รายใหญ่ของโลก และ JL Mag Rare-Earth: ผู้ผลิตแม่เหล็กถาวรรายใหญ่ ใช้แร่จากพม่าในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และยังมีบริษัท Rising Nonferrous บริษัทที่ได้รับอนุมัติให้นำเข้าแร่หายากจากเมียนมาโดยตรง
    นอกจากนั้นก็จะมี China Nonferrous Metal Mining Group (CNMC) รับซื้อ: ทองแดง, นิกเกิล พื้นที่รับซื้อคือเหมือง Monywa ในเขตสะกาย บริษัท China Minmetals Corporation: รับซื้อ: แร่หายาก, ดีบุก, ทังสเตน Aluminum Corporation of China (CHINALCO): รับซื้อ: แร่ที่เกี่ยวข้องกับอะลูมิเนียมและโลหะผสม Yunnan Tin Company: รับซื้อ: ดีบุก เพราะเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่ของจีน Pangang Group: รับซื้อ: ทังสเตน, พลวง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโลหะหนัก
    ______________________________
    การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนมีป้อนอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้จีน และแน่นอนต้องใช้ฐานของกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นตลาดหลักและบายพาสไปยังกลุ่มประเทศที่มีกำแพงภาษีสูงไม่ว่าจะเป็น
    • อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles)แร่ธาตุหายาก เช่น ดิสโพรเซียม (Dysprosium) และเทอร์เบียม (Terbium) ที่นำเข้าจากพม่าใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับมอเตอร์ในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจีนมีความต้องการสูงมากในช่วงหลังเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด EV
    • อุตสาหกรรมพลังงานลม (Wind Power)แม่เหล็กถาวรที่ผลิตจากแร่ธาตุหายากเหล่านี้ยังถูกใช้ในกังหันลมเพื่อผลิตพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายพลังงานทดแทนของจีน
    • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics)แร่ธาตุหายากจากพม่าถูกนำไปใช้ในชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่ต้องการแม่เหล็กและวัสดุพิเศษ
    • อุตสาหกรรมแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets) บริษัทจีนใหญ่ เช่น China Southern Rare Earth ใช้แร่ธาตุจากพม่าในการผลิตแม่เหล็กถาวรที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในหลายอุตสาหกรรม
    • อาวุธยุทโธปกรณ์ (Defence Industry) และอุตสาหกรรมอวกาศ และอากาศยาน (Aerospace Industry)
    สถานการณ์ความต้องการแร่ธาตุหายากงวดขึ้นเพราะนับวันแร่ธาตุเหล่านั้นย่อมลดลง ตามชื่อเพราะยิ่งหายากขึ้น โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 จีนเพิ่มการนำเข้าแร่หายากจากพม่าเกิน 9 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และคิดเป็นกว่า 70% ของแร่ธาตุหายากที่จีนใช้ทั้งหมด ซึ่งทำให้พม่าเป็นแหล่งผลิตแร่หายากที่ใหญ่ที่สุดของจีนในปัจจุบัน
    ______________________________
    ความต้องการสูงและความไม่แน่นอนของซัพพลายเชน โดยเฉพาะในช่วงที่มีความขัดข้องจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้จีนพึ่งพาแหล่งแร่จากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะพม่าเป็นสัดส่วนถึง 70% ของวัตถุดิบที่ใช้ เนื่องจากเหมืองในจีนผลิตไม่เพียงพอและมีข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมและนโยบาย
    ปัญหาจึงอยู่ที่แร่ธาตุหายากจากพม่าส่วนใหญ่ถูกขุดอย่างผิดกฎหมายและผ่านช่องทางที่ไม่โปร่งใส ทำให้บริษัทจีนที่แปรรูปแร่ไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ชัดเจน ส่งผลต่อความยั่งยืนและความน่าเชื่อถือของตลาด รวมถึงสร้างปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมต่อพม่าอย่างมหาศาล
    หากเจาะพื้นที่การทำเหมืองในรัฐต่าง ๆ การทำเหมืองในเมียนมามักอยู่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งหรือควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งมีผลต่อการส่งออกและการจัดการทรัพยากร ดังนี้:
    • รัฐคะฉิ่น (Kachin State): แร่หลัก: แร่หายาก (REEs), พลวง, ทองคำ, อิตเทรียม พื้นที่ป่าทางตอนเหนือ อุดมไปด้วยแร่หายาก แต่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างกองทัพเมียนมาและกองทัพปลดปล่อยคะฉิ่น (KIA) ส่วนใหญ่ทำลายสิ่งแวดล้อม น้ำกลายเป็นโคลน และสัตว์ป่าลดลง
    • รัฐฉาน (Shan State): แร่หลัก: ดีบุก, ตะกั่ว, สังกะสี, ทังสเตน,ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ เช่น เหมือง Man Maw การควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธที่เชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา ทำให้เงินจากเหมือง สนับสนุนกองทัพ สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมหาศาลเช่นกันและลุกลามไปยังประเทศเพื่อนบ้านคือประเทศไทย
    • เขตสะกาย (Sagaing Region): แร่หลัก: ทองแดง, นิกเกิล, ทองคำพื้นที่ที่มีการสู้รบหนักระหว่างกองทัพเมียนมาและกองกำลัง PDF
    • เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region): แร่หลัก: แร่หายาก, พลวง, อิตเทรียม, ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองขนาดเล็กกระจายอยู่
    • เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region): แร่หลัก: ดีบุก เป็นเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ใกล้ชายฝั่ง
    • รัฐมอญ (Mon State): แร่หลัก: ทองแดง เป็นเหมืองขนาดเล็กถึงปานกลาง
    • รัฐกะยา (Kayah State): แร่หลัก: ตะกั่ว พื้นที่ที่มีความขัดแย้งสูง
    ______________________________
    สอบทานต้นทาง-ย้อนกลับห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของแร่ธาตุจากเมียนมาไปจีนมีลักษณะดังนี้ เริ่มต้นสำรวจแหล่ง แน่นอนฐานข้อมูลมีอยู่แล้วในมือรัฐบาลทหารพม่า และในกำมือเทคโนโลยีจีน ก่อนจะให้บริษัทเอกชนในแต่ละความถนัดของจีน และของพม่าเอง ขุดและแปรรูปเบื้องต้น เหมืองส่วนใหญ่ในพม่าดำเนินการโดยบริษัทท้องถิ่นหรือบริษัทจีนร่วมทุน การแปรรูปขั้นต้น (เช่น การถลุงแร่ดีบุก) มักทำในเมียนมาก่อนส่งออก ส่วนใหญ่ในพื้นที่ขัดแย้งทำให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและการละเมิดสิทธิมนุษยชน
    การขนส่ง เส้นทางหลัก: จากเหมืองในรัฐคะฉิ่นและฉานไปยังชายแดนจีน (มณฑลยูนนาน) ผ่านทางรถไฟหรือถนน เช่น เส้นทางรถไฟเจ้าผิ่ว-มูเซ บางส่วนส่งออกผ่านท่าเรือในเขตตะนาวศรีและย่างกุ้ง
    การแปรรูปขั้นสูงในจีน ปลายทางคือโรงงานแปรรูปอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง, เจียงซู, และแถบเศรษฐกิจแยงซีเกียง โดยแร่หายากถูกกลั่นเป็นโลหะบริสุทธิ์หรือสารประกอบ เช่น นีโอดิเมียมสำหรับแม่เหล็ก หรืออิตเทรียมสำหรับ LED
    สายพานอุตสาหกรรมที่ใช้งานแบ่งตามแร่ธาตุอุตสาหกรรมเทคโนโลยี: แร่หายาก (REEs) และดีบุกใช้ในสมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์, เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า: แร่หายาก (นีโอดิเมียม, ดิสโพรเซียม) และนิกเกิลใช้ในมอเตอร์และแบตเตอรี่ พลังงานสะอาด: ทังสเตนและพลวงใช้ในกังหันลมและแผงโซลาร์ อุตสาหกรรมทหาร: แร่หายากและพลวงใช้ในขีปนาวุธ, เรดาร์, และเลเซอร์ การก่อสร้างและเครื่องจักร: ทองแดงและสังกะสีใช้ในสายไฟและโครงสร้าง
    ความท้าทายในระบบ Supply Chain ส่วนใหญ่คือความขัดแย้งในเมียนมาอาจขัดขวางการขนส่ง จากผลประโยชน์มหาศาลเพื่อนำมาเป็นอาวุธและจุนเจือเสบียงในการรบ ขณะที่นานาชาติได้เรียกร้องให้ตรวจสอบแร่จากพื้นที่ขัดแย้ง แต่จีนเป็นประเทศเดียวที่บังคับให้แยกแร่จากเมียนมาและจีน
    ______________________________
    ล่าสุด กองกำลังเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independent Organization, Kachin Independent Army- KIA) ซึ่งได้เป็นเจ้าของใหม่ของเหมืองแร่หายาก หรือแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน (ราว 160,000 บาท) พื้นที่แหล่งแร่หายากที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในเขตปางวาและชิพเว (Pang Wa, Chi Pwi) ในรัฐคะฉิ่น ซึ่งกลุ่ม KIA เข้ายึดครองในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 ได้รับอนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังจีนหลังจากควบคุมพื้นที่มาได้ 6 เดือน
    สำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 KIO/KIA ได้อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน อย่างไรก็ตาม รายละเอียดอื่น ๆ ในหนังสืออนุญาตของ KIO ยังไม่ได้รับการเปิดเผย เจ้าหน้าที่ KIA เขตปางวาให้ข้อมูลว่าKIO/KIA และรัฐบาลจีน ยังคงเจรจาเกี่ยวกับการใช้จุดผ่านแดนเดียวในการส่งออกแร่หายาก และจนถึงสัปดาห์ที่สองของเดือนเมษายน ยังไม่มีการส่งออกอย่างเป็นทางการ
    KIA สามารถควบคุมจุดผ่านแดนทางการค้าระหว่างจีน-พม่าในรัฐคะฉิ่นทั้งหมด ได้แก่ กานปายตี Kan Pai Ti, ล่วยเจ Loi Je และปางวา ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าจะใช้จุดผ่านแดนใดในการส่งออก หลังจากที่ KIA ควบคุมพื้นที่ปางวาและชิพเว รัฐบาลจีนได้มีคำสั่งปิดจุดผ่านแดนทั้งหมด ทำให้บริษัทเหมืองแร่ส่วนใหญ่หยุดดำเนินการ มีเพียงบางบริษัทที่ยังคงขุดแร่ต่อไป เนื่องจากยังมีวัตถุดิบหลงเหลืออยู่
    รายงานของ Global Witness ระบุว่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาเริ่มขึ้นในปี 2016 โดยนักธุรกิจชาวจีน ซึ่งส่งออกแร่ไปยังจีนเป็นหลัก ตามข้อมูลปัจจุบัน พม่าติดอันดับ 3 ของประเทศผู้ผลิตแร่แรร์เอิร์ท และคิดเป็น 50% ของการส่งออกแร่หายากทั่วโลก หลังจากการรัฐประหารของกองทัพพม่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาและชิพเวเพิ่มขึ้น 40% และจำนวนเหมืองแร่เพิ่มขึ้นกว่า 300 แห่ง ในปี 2566 เพียงปีเดียว มีการส่งออกแร่หายากไปยังจีนมากถึง 41,700 ตัน สร้างรายได้ถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
    ______________________________
    สรุปขมวดปม การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนช่วยเสริมความมั่นคงของซัพพลายเชนแร่หายากในจีน ลดภาวะขาดแคลนและสนับสนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้านความโปร่งใสและความยั่งยืนในตลาดแร่ธาตุของจีน แร่ธาตุหายากจากพม่ามีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของจีน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูงและพลังงานสะอาด ซึ่งจีนพึ่งพาการนำเข้าแร่จากพม่าเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของแร่หายากที่ใช้ในประเทศ เหมืองแร่หายากเหล่านี้ทั้งหมด รวมถึงแร่ทองคำ และอื่น ๆ ที่ปักหมุดขุดหลุมร่อนตระแกรง ทุกรัฐในเมียนมาก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ป่าเขา แม่น้ำ ลำธาร โดยคนงานบางรายถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างโหดร้าย หญิงคนงานถูกล่วงละเมิดทางเพศ และหลายคนได้รับอันตรายทางสุขภาพอย่างร้ายแรงจากสารเคมีที่ใช้ในเหมือง และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ที่กว้างขวางขึ้นรวมถึงประเทศไทย และลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน คำถามคือจีนมีส่วนสำคัญในการสร้างมลภาวะในพื้นที่ ควรจะร่วมรับผิดชอบหรือไม่ ไม่ใช่การสูบทรัพยากรในพื้นที่แต่ไม่ได้เหลียวแลผลกระทบที่จะตามมา อันจะกลายเป็นการสร้างปัญหาใหญ่ให้กับจีนในอนาคต
    อ้างอิง : https://www.facebook.com/GlobalWitness/ และสำนักข่าวชายขอบ
    https://shorturl.asia/6GnqX
    ประชาไท https://prachatai.com/journal/2025/01/111942
    ______________________________

    10 อันดับแร่ธาตุที่ส่งออกจากเมียนมาไปจีน (เรียงตามมูลค่าประเมิน)
    1. แร่ดีบุก (Tin)
    o มูลค่า: สูงสุด เนื่องจากเมียนมาเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และจีนนำเข้า 95% ของหัวแร่ดีบุกจากเมียนมาในปี 2563
    o การใช้งาน: ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (บัดกรีแผงวงจร), การผลิตโลหะผสม
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน (Shan State), เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region)
    2. แร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs)
    o มูลค่า: สูง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน
    o การใช้งาน: ผลิตแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets), แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า, อุปกรณ์เลเซอร์, เซมิคอนดักเตอร์
    o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น (Kachin State), เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region)
    3. ทองแดง (Copper)
    o มูลค่า: สูง เนื่องจากราคาทองแดงในตลาดโลกพุ่งสูงหลังรัฐประหาร
    o การใช้งาน: สายไฟ, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, การก่อสร้าง
    o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย (Sagaing Region), รัฐมอญ (Mon State)
    4. ตะกั่ว (Lead)
    o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ใช้ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่
    o การใช้งาน: แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด, อุตสาหกรรมยานยนต์
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐกะยา (Kayah State)
    5. สังกะสี (Zinc)
    o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมเคลือบโลหะ
    o การใช้งาน: การชุบกัลวาไนซ์, โลหะผสม
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, เขตย่างกุ้ง (Yangon Region)
    6. นิกเกิล (Nickel)
    o มูลค่า: ปานกลาง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่
    o การใช้งาน: แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน, สแตนเลส
    o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย, รัฐฉาน
    7. พลวง (Antimony)
    o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมทหารและพลังงาน
    o การใช้งาน: สารหน่วงไฟ, โลหะผสม, อุปกรณ์ทหาร
    o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์
    8. ทังสเตน (Tungsten)
    o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมที่มีความแข็งสูง
    o การใช้งาน: โลหะผสม, เครื่องมือตัด, อุปกรณ์ทหาร
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐคะฉิ่น
    9. ทองคำ (Gold)
    o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลก
    o การใช้งาน: อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องประดับ
    o พื้นที่เหมือง: เขตมัณฑะเลย์, รัฐคะฉิ่น, เขตสะกาย
    10. อิตเทรียม (Yttrium)
    o มูลค่า: ต่ำถึงปานกลาง แต่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมเฉพาะ
    o การใช้งาน: สารเรืองแสงใน LED, อุปกรณ์ MRI, เซรามิก
    o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์
    หมายเหตุ: มูลค่าที่ระบุเป็นการประเมินจากความสำคัญในห่วงโซ่อุปทานและปริมาณการส่งออก เนื่องจากไม่มีข้อมูลตัวเลขที่แน่นอนหลังรัฐประหาร
    ______________________________
    ตามรอยย้อนกลับ Supply Chain แร่หายากจากพม่ามหาศาลสู่จีน ______________________________ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2564 บริษัท China Rare Earth Group Co., Ltd. ก่อตัวขึ้นอย่างเป็นทางการ จากการควบรวมของ 3 กิจการด้านอุตสาหกรรมแร่หายากในจีน China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. เป้าคือพัฒนาอุตสาหกรรมแร่หายาก วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี China Rare Earth Group อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของรัฐ-คณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์ที่เป็นเจ้าของของสภาแห่งรัฐ ถือหุ้นร้อยละ 31.21 China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. แต่ละบริษัทถือหุ้นร้อยละ 20.33; China Iron and Steel Research Technology Group Co., Ltd. และ Youyan Technology Group Co., Ltd. ถือหุ้นร้อยละ 3.90 ปัจจุบันจีนมีปริมาณการผลิตแร่ธาตุ หายากสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกอยู่ที่ 132,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 63 ของปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 210,000 ตัน โดยประเทศอื่น ๆ ที่มีปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากในลำดับถัดมา ได้แก่ สหรัฐฯ (26,000 ตัน) เมียนมา (22,000 ตัน) ออสเตรเลีย (21,000 ตัน) อินเดีย (3,000 ตัน) รัสเซีย (2,700 ตัน) มาดากัสการ์ (2,000 ตัน) ไทย (1,800 ตัน) บราซิล (1,000 ตัน) เวียดนาม (900 ตัน) และบุรุนดี (600 ตัน) ______________________________ ระฆังกำแพงภาษีลั่นขึ้นห้วงเมษายน 2568 โดยสหรัฐอเมริกา การตอบโต้กลับของจีนเปิดหน้าชก สวนกลับทุกเม็ด รวมถึงได้ขยายการใช้ "แร่หายาก" (rare earths) เป็นเครื่องมือตอบโต้ทางการค้า โดยประกาศจำกัดการส่งออกแร่หายาก 7 ชนิด ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญในอุดสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเป็นการตอบโต้ต่อมาดรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ สำหรับแร่หายาก 7 ชนิดได้แก่ ชามาเรียม (Samarium) แกโดลิเนียม (Gadolinium) เทอร์เมียม (Terbium) ดิสโพรเซียม (Dysprosium) ลูทีเซียม (Lutetium) สแกนเดียม (Scandium) และอิดเทรียม (Yttrium) สำหรับแร่หายากยอดนิยมอย่าง นี่โอไดเมียม (Neodymium) และ พราเชโอไดเมียม (Praseodymium) ซึ่งใช้ผลิตแม่เหล็กประสิทธิภาพสูง ยังไม่อยู่ในรายชื่อควบคุม หลังการรัฐประหารปี 2021 การส่งออกแร่ธาตุหายากจากพม่าไปจีนเพิ่มขึ้น 5 เท่า สูงถึง 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการการพึ่งพาจีน 90% ของการแปรรูปแร่หายากโลกอยู่ในจีน แบ่งเป็น แร่กลุ่มหายาก (Rare Earth Elements) มูลค่า: 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2025) ส่วนแบ่งการนำเข้า: กว่า 50% ของการนำเข้าแร่หายากทั้งหมดของจีน ชนิดแร่หลัก: เทอร์เบียม (Terbium) และดีสโพรเซียม (Dysprosium) ในกลุ่ม Heavy Rare Earth Elements (HREE) พื้นที่ทำเหมืองหลักที่คะฉิ่น ที่เหมือง Chipwi และ Momauk: มีบ่อแร่มากกว่า 2,700 บ่อ เมือง Panwa: แหล่งผลิตหลักภายใต้การควบคุมของ Kachin Independence Army (KIA) การขยายตัว: จำนวนไซต์ทำเหมืองเพิ่มขึ้น 40% นับตั้งแต่ปี 2021 โดยพื้นที่ KIA: เก็บภาษี 35,000 หยวน/ตัน (ประมาณ 4,800 ดอลลาร์สหรัฐ) บริษัทจีนผู้รับซื้อหลัก คือ China Rare Earths Group (REGCC) ควบคุมการประมูลแร่กว่า 80% China Northern Rare Earth Group ผู้ประมูลแร่รายใหญ่ของโลก และ JL Mag Rare-Earth: ผู้ผลิตแม่เหล็กถาวรรายใหญ่ ใช้แร่จากพม่าในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และยังมีบริษัท Rising Nonferrous บริษัทที่ได้รับอนุมัติให้นำเข้าแร่หายากจากเมียนมาโดยตรง นอกจากนั้นก็จะมี China Nonferrous Metal Mining Group (CNMC) รับซื้อ: ทองแดง, นิกเกิล พื้นที่รับซื้อคือเหมือง Monywa ในเขตสะกาย บริษัท China Minmetals Corporation: รับซื้อ: แร่หายาก, ดีบุก, ทังสเตน Aluminum Corporation of China (CHINALCO): รับซื้อ: แร่ที่เกี่ยวข้องกับอะลูมิเนียมและโลหะผสม Yunnan Tin Company: รับซื้อ: ดีบุก เพราะเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่ของจีน Pangang Group: รับซื้อ: ทังสเตน, พลวง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโลหะหนัก ______________________________ การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนมีป้อนอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้จีน และแน่นอนต้องใช้ฐานของกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นตลาดหลักและบายพาสไปยังกลุ่มประเทศที่มีกำแพงภาษีสูงไม่ว่าจะเป็น • อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles)แร่ธาตุหายาก เช่น ดิสโพรเซียม (Dysprosium) และเทอร์เบียม (Terbium) ที่นำเข้าจากพม่าใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับมอเตอร์ในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจีนมีความต้องการสูงมากในช่วงหลังเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด EV • อุตสาหกรรมพลังงานลม (Wind Power)แม่เหล็กถาวรที่ผลิตจากแร่ธาตุหายากเหล่านี้ยังถูกใช้ในกังหันลมเพื่อผลิตพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายพลังงานทดแทนของจีน • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics)แร่ธาตุหายากจากพม่าถูกนำไปใช้ในชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่ต้องการแม่เหล็กและวัสดุพิเศษ • อุตสาหกรรมแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets) บริษัทจีนใหญ่ เช่น China Southern Rare Earth ใช้แร่ธาตุจากพม่าในการผลิตแม่เหล็กถาวรที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในหลายอุตสาหกรรม • อาวุธยุทโธปกรณ์ (Defence Industry) และอุตสาหกรรมอวกาศ และอากาศยาน (Aerospace Industry) สถานการณ์ความต้องการแร่ธาตุหายากงวดขึ้นเพราะนับวันแร่ธาตุเหล่านั้นย่อมลดลง ตามชื่อเพราะยิ่งหายากขึ้น โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 จีนเพิ่มการนำเข้าแร่หายากจากพม่าเกิน 9 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และคิดเป็นกว่า 70% ของแร่ธาตุหายากที่จีนใช้ทั้งหมด ซึ่งทำให้พม่าเป็นแหล่งผลิตแร่หายากที่ใหญ่ที่สุดของจีนในปัจจุบัน ______________________________ ความต้องการสูงและความไม่แน่นอนของซัพพลายเชน โดยเฉพาะในช่วงที่มีความขัดข้องจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้จีนพึ่งพาแหล่งแร่จากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะพม่าเป็นสัดส่วนถึง 70% ของวัตถุดิบที่ใช้ เนื่องจากเหมืองในจีนผลิตไม่เพียงพอและมีข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมและนโยบาย ปัญหาจึงอยู่ที่แร่ธาตุหายากจากพม่าส่วนใหญ่ถูกขุดอย่างผิดกฎหมายและผ่านช่องทางที่ไม่โปร่งใส ทำให้บริษัทจีนที่แปรรูปแร่ไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ชัดเจน ส่งผลต่อความยั่งยืนและความน่าเชื่อถือของตลาด รวมถึงสร้างปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมต่อพม่าอย่างมหาศาล หากเจาะพื้นที่การทำเหมืองในรัฐต่าง ๆ การทำเหมืองในเมียนมามักอยู่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งหรือควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งมีผลต่อการส่งออกและการจัดการทรัพยากร ดังนี้: • รัฐคะฉิ่น (Kachin State): แร่หลัก: แร่หายาก (REEs), พลวง, ทองคำ, อิตเทรียม พื้นที่ป่าทางตอนเหนือ อุดมไปด้วยแร่หายาก แต่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างกองทัพเมียนมาและกองทัพปลดปล่อยคะฉิ่น (KIA) ส่วนใหญ่ทำลายสิ่งแวดล้อม น้ำกลายเป็นโคลน และสัตว์ป่าลดลง • รัฐฉาน (Shan State): แร่หลัก: ดีบุก, ตะกั่ว, สังกะสี, ทังสเตน,ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ เช่น เหมือง Man Maw การควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธที่เชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา ทำให้เงินจากเหมือง สนับสนุนกองทัพ สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมหาศาลเช่นกันและลุกลามไปยังประเทศเพื่อนบ้านคือประเทศไทย • เขตสะกาย (Sagaing Region): แร่หลัก: ทองแดง, นิกเกิล, ทองคำพื้นที่ที่มีการสู้รบหนักระหว่างกองทัพเมียนมาและกองกำลัง PDF • เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region): แร่หลัก: แร่หายาก, พลวง, อิตเทรียม, ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองขนาดเล็กกระจายอยู่ • เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region): แร่หลัก: ดีบุก เป็นเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ใกล้ชายฝั่ง • รัฐมอญ (Mon State): แร่หลัก: ทองแดง เป็นเหมืองขนาดเล็กถึงปานกลาง • รัฐกะยา (Kayah State): แร่หลัก: ตะกั่ว พื้นที่ที่มีความขัดแย้งสูง ______________________________ สอบทานต้นทาง-ย้อนกลับห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของแร่ธาตุจากเมียนมาไปจีนมีลักษณะดังนี้ เริ่มต้นสำรวจแหล่ง แน่นอนฐานข้อมูลมีอยู่แล้วในมือรัฐบาลทหารพม่า และในกำมือเทคโนโลยีจีน ก่อนจะให้บริษัทเอกชนในแต่ละความถนัดของจีน และของพม่าเอง ขุดและแปรรูปเบื้องต้น เหมืองส่วนใหญ่ในพม่าดำเนินการโดยบริษัทท้องถิ่นหรือบริษัทจีนร่วมทุน การแปรรูปขั้นต้น (เช่น การถลุงแร่ดีบุก) มักทำในเมียนมาก่อนส่งออก ส่วนใหญ่ในพื้นที่ขัดแย้งทำให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและการละเมิดสิทธิมนุษยชน การขนส่ง เส้นทางหลัก: จากเหมืองในรัฐคะฉิ่นและฉานไปยังชายแดนจีน (มณฑลยูนนาน) ผ่านทางรถไฟหรือถนน เช่น เส้นทางรถไฟเจ้าผิ่ว-มูเซ บางส่วนส่งออกผ่านท่าเรือในเขตตะนาวศรีและย่างกุ้ง การแปรรูปขั้นสูงในจีน ปลายทางคือโรงงานแปรรูปอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง, เจียงซู, และแถบเศรษฐกิจแยงซีเกียง โดยแร่หายากถูกกลั่นเป็นโลหะบริสุทธิ์หรือสารประกอบ เช่น นีโอดิเมียมสำหรับแม่เหล็ก หรืออิตเทรียมสำหรับ LED สายพานอุตสาหกรรมที่ใช้งานแบ่งตามแร่ธาตุอุตสาหกรรมเทคโนโลยี: แร่หายาก (REEs) และดีบุกใช้ในสมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์, เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า: แร่หายาก (นีโอดิเมียม, ดิสโพรเซียม) และนิกเกิลใช้ในมอเตอร์และแบตเตอรี่ พลังงานสะอาด: ทังสเตนและพลวงใช้ในกังหันลมและแผงโซลาร์ อุตสาหกรรมทหาร: แร่หายากและพลวงใช้ในขีปนาวุธ, เรดาร์, และเลเซอร์ การก่อสร้างและเครื่องจักร: ทองแดงและสังกะสีใช้ในสายไฟและโครงสร้าง ความท้าทายในระบบ Supply Chain ส่วนใหญ่คือความขัดแย้งในเมียนมาอาจขัดขวางการขนส่ง จากผลประโยชน์มหาศาลเพื่อนำมาเป็นอาวุธและจุนเจือเสบียงในการรบ ขณะที่นานาชาติได้เรียกร้องให้ตรวจสอบแร่จากพื้นที่ขัดแย้ง แต่จีนเป็นประเทศเดียวที่บังคับให้แยกแร่จากเมียนมาและจีน ______________________________ ล่าสุด กองกำลังเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independent Organization, Kachin Independent Army- KIA) ซึ่งได้เป็นเจ้าของใหม่ของเหมืองแร่หายาก หรือแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน (ราว 160,000 บาท) พื้นที่แหล่งแร่หายากที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในเขตปางวาและชิพเว (Pang Wa, Chi Pwi) ในรัฐคะฉิ่น ซึ่งกลุ่ม KIA เข้ายึดครองในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 ได้รับอนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังจีนหลังจากควบคุมพื้นที่มาได้ 6 เดือน สำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 KIO/KIA ได้อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน อย่างไรก็ตาม รายละเอียดอื่น ๆ ในหนังสืออนุญาตของ KIO ยังไม่ได้รับการเปิดเผย เจ้าหน้าที่ KIA เขตปางวาให้ข้อมูลว่าKIO/KIA และรัฐบาลจีน ยังคงเจรจาเกี่ยวกับการใช้จุดผ่านแดนเดียวในการส่งออกแร่หายาก และจนถึงสัปดาห์ที่สองของเดือนเมษายน ยังไม่มีการส่งออกอย่างเป็นทางการ KIA สามารถควบคุมจุดผ่านแดนทางการค้าระหว่างจีน-พม่าในรัฐคะฉิ่นทั้งหมด ได้แก่ กานปายตี Kan Pai Ti, ล่วยเจ Loi Je และปางวา ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าจะใช้จุดผ่านแดนใดในการส่งออก หลังจากที่ KIA ควบคุมพื้นที่ปางวาและชิพเว รัฐบาลจีนได้มีคำสั่งปิดจุดผ่านแดนทั้งหมด ทำให้บริษัทเหมืองแร่ส่วนใหญ่หยุดดำเนินการ มีเพียงบางบริษัทที่ยังคงขุดแร่ต่อไป เนื่องจากยังมีวัตถุดิบหลงเหลืออยู่ รายงานของ Global Witness ระบุว่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาเริ่มขึ้นในปี 2016 โดยนักธุรกิจชาวจีน ซึ่งส่งออกแร่ไปยังจีนเป็นหลัก ตามข้อมูลปัจจุบัน พม่าติดอันดับ 3 ของประเทศผู้ผลิตแร่แรร์เอิร์ท และคิดเป็น 50% ของการส่งออกแร่หายากทั่วโลก หลังจากการรัฐประหารของกองทัพพม่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาและชิพเวเพิ่มขึ้น 40% และจำนวนเหมืองแร่เพิ่มขึ้นกว่า 300 แห่ง ในปี 2566 เพียงปีเดียว มีการส่งออกแร่หายากไปยังจีนมากถึง 41,700 ตัน สร้างรายได้ถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ______________________________ สรุปขมวดปม การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนช่วยเสริมความมั่นคงของซัพพลายเชนแร่หายากในจีน ลดภาวะขาดแคลนและสนับสนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้านความโปร่งใสและความยั่งยืนในตลาดแร่ธาตุของจีน แร่ธาตุหายากจากพม่ามีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของจีน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูงและพลังงานสะอาด ซึ่งจีนพึ่งพาการนำเข้าแร่จากพม่าเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของแร่หายากที่ใช้ในประเทศ เหมืองแร่หายากเหล่านี้ทั้งหมด รวมถึงแร่ทองคำ และอื่น ๆ ที่ปักหมุดขุดหลุมร่อนตระแกรง ทุกรัฐในเมียนมาก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ป่าเขา แม่น้ำ ลำธาร โดยคนงานบางรายถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างโหดร้าย หญิงคนงานถูกล่วงละเมิดทางเพศ และหลายคนได้รับอันตรายทางสุขภาพอย่างร้ายแรงจากสารเคมีที่ใช้ในเหมือง และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ที่กว้างขวางขึ้นรวมถึงประเทศไทย และลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน คำถามคือจีนมีส่วนสำคัญในการสร้างมลภาวะในพื้นที่ ควรจะร่วมรับผิดชอบหรือไม่ ไม่ใช่การสูบทรัพยากรในพื้นที่แต่ไม่ได้เหลียวแลผลกระทบที่จะตามมา อันจะกลายเป็นการสร้างปัญหาใหญ่ให้กับจีนในอนาคต อ้างอิง : https://www.facebook.com/GlobalWitness/ และสำนักข่าวชายขอบ https://shorturl.asia/6GnqX ประชาไท https://prachatai.com/journal/2025/01/111942 ______________________________ 10 อันดับแร่ธาตุที่ส่งออกจากเมียนมาไปจีน (เรียงตามมูลค่าประเมิน) 1. แร่ดีบุก (Tin) o มูลค่า: สูงสุด เนื่องจากเมียนมาเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และจีนนำเข้า 95% ของหัวแร่ดีบุกจากเมียนมาในปี 2563 o การใช้งาน: ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (บัดกรีแผงวงจร), การผลิตโลหะผสม o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน (Shan State), เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region) 2. แร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs) o มูลค่า: สูง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน o การใช้งาน: ผลิตแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets), แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า, อุปกรณ์เลเซอร์, เซมิคอนดักเตอร์ o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น (Kachin State), เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region) 3. ทองแดง (Copper) o มูลค่า: สูง เนื่องจากราคาทองแดงในตลาดโลกพุ่งสูงหลังรัฐประหาร o การใช้งาน: สายไฟ, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, การก่อสร้าง o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย (Sagaing Region), รัฐมอญ (Mon State) 4. ตะกั่ว (Lead) o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ใช้ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ o การใช้งาน: แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด, อุตสาหกรรมยานยนต์ o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐกะยา (Kayah State) 5. สังกะสี (Zinc) o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมเคลือบโลหะ o การใช้งาน: การชุบกัลวาไนซ์, โลหะผสม o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, เขตย่างกุ้ง (Yangon Region) 6. นิกเกิล (Nickel) o มูลค่า: ปานกลาง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ o การใช้งาน: แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน, สแตนเลส o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย, รัฐฉาน 7. พลวง (Antimony) o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมทหารและพลังงาน o การใช้งาน: สารหน่วงไฟ, โลหะผสม, อุปกรณ์ทหาร o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์ 8. ทังสเตน (Tungsten) o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมที่มีความแข็งสูง o การใช้งาน: โลหะผสม, เครื่องมือตัด, อุปกรณ์ทหาร o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐคะฉิ่น 9. ทองคำ (Gold) o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลก o การใช้งาน: อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องประดับ o พื้นที่เหมือง: เขตมัณฑะเลย์, รัฐคะฉิ่น, เขตสะกาย 10. อิตเทรียม (Yttrium) o มูลค่า: ต่ำถึงปานกลาง แต่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมเฉพาะ o การใช้งาน: สารเรืองแสงใน LED, อุปกรณ์ MRI, เซรามิก o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์ หมายเหตุ: มูลค่าที่ระบุเป็นการประเมินจากความสำคัญในห่วงโซ่อุปทานและปริมาณการส่งออก เนื่องจากไม่มีข้อมูลตัวเลขที่แน่นอนหลังรัฐประหาร ______________________________
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1360 มุมมอง 0 รีวิว
  • นอกจาก “แร่หายาก” 7 ชนิด ที่จีนใช้เป็นอาวุธในการตอบโต้ทรัมป์ จีนยังได้ประกาศยกเลิกการสั่งเนื้อวัวจากสหรัฐ และหันไปซื้อจากออสเตรเลียสูงถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

    แร่หายาก 7 ชนิด ซึ่งจีนผลิตได้ประมาณ 70% ของโลก ถือเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยแร่หายากทั้ง 7 ชนิด ได้แก่:

    Samarium (ซาแมเรียม) ใช้ในแม่เหล็ก (magnets), เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ (nuclear reactors), และการรักษามะเร็ง (cancer treatments)

    Gadolinium (แกโดลิเนียม) ใช้ในตัวแทนความคมชัดของ MRI (MRI contrast agents), การป้องกันรังสีนิวเคลียร์ (nuclear shielding), และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (electronics)

    Terbium (เทอร์เบียม) ใช้ในฟอสเฟอร์ในระบบแสงสว่าง (phosphors in lighting), จอแสดงผล (displays), และการผลิตแม่เหล็ก (magnet production)

    Dysprosium (ดิสโพรเซียม) ใช้ในแม่เหล็กประสิทธิภาพสูงสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (high-performance magnets for electric vehicles) และกังหันลม (wind turbines)

    Lutetium (ลูทีเซียม) ใช้ในการถ่ายภาพทางการแพทย์ (medical imaging), การรักษามะเร็ง (cancer therapy), และตัวเร่งปฏิกิริยา (catalysts)

    Scandium (สแกนเดียม) ใช้ในเพิ่มความแข็งแรงในโลหะผสมอะลูมิเนียมสำหรับการบินและอวกาศ (enhances strength in aluminum alloys for aerospace) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (electronics)

    Yttrium (อิตเทรียม) ใช้ในฟอสเฟอร์ในไฟ LED (phosphors in LEDs), เลเซอร์ (lasers), และตัวนำยิ่งยวด (superconductors)

    นอกจากนี้ จีนเพิ่งลงนามข้อตกลงกับออสเตรเลียในการนำเข้าเนื้อวัวมูลค่า 2,500 ล้านเหรียญ แต่ราคาเนื้อวัวของออสเตรเลียมีราคาแพงกว่าเนื้อวัวที่นำเข้าจากสหรัฐ คงต้องติดตามดูต่อไปว่าจีนจะสามารถรักษาราคาเนื้อวัวในประเทศให้อนู่ในระดับที่ไม่กระทบต่อประชาชนได้หรือไม่
    นอกจาก “แร่หายาก” 7 ชนิด ที่จีนใช้เป็นอาวุธในการตอบโต้ทรัมป์ จีนยังได้ประกาศยกเลิกการสั่งเนื้อวัวจากสหรัฐ และหันไปซื้อจากออสเตรเลียสูงถึง 2,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แร่หายาก 7 ชนิด ซึ่งจีนผลิตได้ประมาณ 70% ของโลก ถือเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยแร่หายากทั้ง 7 ชนิด ได้แก่: 👉Samarium (ซาแมเรียม) ใช้ในแม่เหล็ก (magnets), เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ (nuclear reactors), และการรักษามะเร็ง (cancer treatments) 👉Gadolinium (แกโดลิเนียม) ใช้ในตัวแทนความคมชัดของ MRI (MRI contrast agents), การป้องกันรังสีนิวเคลียร์ (nuclear shielding), และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (electronics) 👉Terbium (เทอร์เบียม) ใช้ในฟอสเฟอร์ในระบบแสงสว่าง (phosphors in lighting), จอแสดงผล (displays), และการผลิตแม่เหล็ก (magnet production) 👉Dysprosium (ดิสโพรเซียม) ใช้ในแม่เหล็กประสิทธิภาพสูงสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า (high-performance magnets for electric vehicles) และกังหันลม (wind turbines) 👉Lutetium (ลูทีเซียม) ใช้ในการถ่ายภาพทางการแพทย์ (medical imaging), การรักษามะเร็ง (cancer therapy), และตัวเร่งปฏิกิริยา (catalysts) 👉Scandium (สแกนเดียม) ใช้ในเพิ่มความแข็งแรงในโลหะผสมอะลูมิเนียมสำหรับการบินและอวกาศ (enhances strength in aluminum alloys for aerospace) และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (electronics) 👉Yttrium (อิตเทรียม) ใช้ในฟอสเฟอร์ในไฟ LED (phosphors in LEDs), เลเซอร์ (lasers), และตัวนำยิ่งยวด (superconductors) นอกจากนี้ จีนเพิ่งลงนามข้อตกลงกับออสเตรเลียในการนำเข้าเนื้อวัวมูลค่า 2,500 ล้านเหรียญ แต่ราคาเนื้อวัวของออสเตรเลียมีราคาแพงกว่าเนื้อวัวที่นำเข้าจากสหรัฐ คงต้องติดตามดูต่อไปว่าจีนจะสามารถรักษาราคาเนื้อวัวในประเทศให้อนู่ในระดับที่ไม่กระทบต่อประชาชนได้หรือไม่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 700 มุมมอง 0 รีวิว
  • Blood Gold เจาะขุมทรัพย์ใต้ภิภพเมียนมาร์ความมั่งคั่งที่มืดมนอนธการ
    .
    ใต้ภิภพเมียนมาร์ นับเป็นรัฐที่มีทรัพยากรมูลค่าสูงฝังอยู่มหาศาล ที่สามารถแปลงเป็นสินทรัพย์ในการพัฒนาประเทศได้อันดับต้น ๆ ของอาเซียน
    ทว่า รัฐสภาพแห่งนี้เหมือนถูกครอบงำ และตกอยู่ภายใต้ความลำบาก ความขัดแย้งไม่ลงรอย ในประวัติศาสตร์การเมืองที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศโดยตรง
    รอยเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) “ยักษ์หลับแห่งเมียนมา” ที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ตื่นขึ้น 28 มีนาคม 2568 ที่ ขนาด 8.2 แมกนิจูด ได้ส่งพลังพาดผ่านเมืองหลวงสำคัญของพม่า ตั้งแต่มัณฑะเลย์ เนปิดอว์ ย่างกุ้ง ดูเหมือนว่าเมืองแห่งอารยธรรมและศูนย์กลางอำนาจ ตั้งอยู่บนหลังมังกรที่หลับ ขยับทีก็ทำให้เมืองศูนย์กลางสำคัญได้ได้ผลกระทบสูงการฟื้นตัวครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนสถานการณ์เริ่มต้นใหม่หลายรอบ หมุนวน
    โครงสร้างทางธรณีวิทยาของเมียนมาร์ค่อนข้างซับซ้อน ภูมิสัณฐานและธรณีโครงสร้างได้เป็น 4 ส่วนใหญ่ๆ คือพื้นที่ราบสูงตะวันออก (Sino Burman Ranges) พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง (Inner Burman Tertiary Zone) ดินแดนเทือกเขาตะวันตก (Indo Burman Ranges) และ ที่ราบฝั่งยะไข่ - คะฉิ่น Rakhine (Arakan) Coastal Plain
    ชั้นหินที่มีอายุอ่อนที่สุดจะอยู่ใน พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง ไล่ถัดไปทางด้านตะวันตกของประเทศ จะเป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงที่ราบแถบยะไข่ ด้านตะวันออกของประเทศ ส่วนของ Sino Burman เป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ที่สุด มีรอยเลื่อนรัฐฉาน แนวรอยต่อเชื่อมรอยเลื่อนสะกาย
    อุตสาหกรรมเหมืองแร่ในเมียนมาร์ มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงหลังรัฐประหารปี 2021 ซึ่งมีการขยายตัวของการทำเหมืองแร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs) อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การเติบโตนี้มาพร้อมกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อน มีมูลค่าสูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023
    นับว่าแร่หายากกลุ่มหนัก heavy rare earth elements: HREE คิดเป็นสัดส่วนหลักของมูลค่าการส่งออกของเมียนมาร์ โดยส่วนใหญ่ส่งไปจีนเพื่อผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับรถไฟฟ้าและกังหันลมการส่งออก อัตราเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2021 จาก 19,500 ตัน เป็น 41,700 ตัน
    แน่นอนแร่หายากกลุ่ม China Rare Earths Group (REGCC) เป็นผู้ลงทุนหลัก ควบคุมทั้งเทคโนโลยี การประมวลผล และห่วงโซ่อุปทาน ภายใต้การดูแลพื้นที่ของกองทัพเมียนมาร์ (SAC) และมิลิเชียพันธมิตรควบคุมพื้นที่พิเศษ Kachin 1 และกองกำลัง Kachin Independence Army (KIA) ควบคุมพื้นที่ Momauk และแนวชายแดน
    แร่หายากเป็นแหล่งเงินสำคัญสำหรับทั้งรัฐบาลทหารและกลุ่มกบฎ แต่ 70% ของประชากรในพื้นที่ยังพึ่งพาการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ขณะที่ค่าแรงงานในเหมืองสูงถึง 600 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน (สูงกว่าเฉลี่ยประเทศ 2 เท่า) แต่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ โรคปอด ปัญหาหายใจลำบาก โรคผิวหนัง และไตวายจากสารเคมี เช่น แอมโมเนียมซัลเฟตและออกซาลิกแอซิด
    ไม่รวมถึงมลพิษน้ำ 96% ของครัวเรือนในเขต Chipwi ไม่มีน้ำดื่มสะอาดเนื่องจากสารเคมีปนเปื้อน ดวงตาสวรรค์ได้ส่องพื้นที่การขยายตัวของเหมืองกว่า 40% ใน Kachin Special Region 1 และ Momauk ระหว่างปี 2021-2023 ที่สลายระบบนิเวศในพื้นที่ยากจะทวงคืนสภาพเดิมกลับมาในอนาคต
    อีกแร่ธาตุหนึ่งคือเหล็กที่เมียนมาร์ เป็นเบอร์หนึ่งของโลก ที่แหล่ง Pong Pet ซึ่งอยู่ห่างจาก Taunggyi ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร ปรากฏเป็นแหล่งเฮมาไทต์ (Hematite) และยังพบแหล่งแร่เหล็ก 393 แหล่ง ปริมาณสารองทรัพยากรแร่ประมาณ 495 ล้านตัน และพบแหล่งแร่เหล็กที่มีศักยภาพ 14 แหล่ง ในรัฐ Kachin, Mandalay, Bago, Tanintharyi และรัฐShan ได้แก่ แหล่งแร่เหล็กสำคัญพบที่รัฐ Tanintharyi บริเวณตอนเหนือของรัฐ Shan
    โดยในรัฐคะฉิ่น คือศูนย์รวมแร่ธาตุความมั่งคั่งสมบูรณ์อุตสาหกรรมเหมืองแร่ นอกจากหยกแล้วยังมีแหล่งแร่เหล็กในรัฐ Kachin มีปริมาณสารองประมาณ 223 ล้านตันที่ 50.56%Fe องค์ประกอบหลักของแร่ คือ Goethite/Limonite 75%, Hematite 15% และ Magnetite 2%
    แน่นอนเมียนมาร์เป็นผู้ผลิตหยกรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในประเทศเดียวที่ผลิตหยกเจไดต์คุณภาพสูง อุตสาหกรรมหยกมีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของ GDP ของประเทศ โดยเมืองผะกัน (Hpakan) เป็นที่ตั้งของเหมืองหยกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองที่มีข่าวของเหมืองถล่ม ดินโคลนโถมทับหมู่บ้านถี่มากและต้นปี 2568 ก็ได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่ซ้ำซาก สูญเสียชีวิตของผู้คนไปอย่างมาก
    Global Witness ประเมินไว้ว่ารายได้จากหยกได้เข้าพกเข้าห่อของผู้นำของเมียนมาไปแล้วราว 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา
    หากประมวลประเทศที่มีบริษัทลงทุนในเหมืองแร่ในภาพรวมในเมียนมาร์ ได้แก่
    1.) จีน: เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเหมืองแร่เมียนมาร์ โดยเฉพาะในเหมืองทองแดง (เช่น โครงการ Letpadaung, S&K, Tagaung Taung) และแร่หายาก มีทั้งบริษัทขนาดใหญ่ของรัฐ เช่น China Nonferrous Metal Mining (CNMC), Wanbao Mining Co., Ltd. รวมถึงนักลงทุนรายย่อยจากมณฑลยูนนานและเสฉวน
    2.) ไทย: มีบริษัท Myanmar-Pongpipat Co., Ltd. ร่วมลงทุนในเหมืองดีบุกและโลหะอื่น
    3.) เวียดนาม: บริษัท Simco Songda มีการลงทุนในเหมืองแร่ร่วมกับเมียนมาร์
    4.) ออสเตรเลีย: บริษัท PanAust ได้รับอนุญาตให้ศึกษาความเป็นไปได้ในพื้นที่เหมือง Wuntho
    5.) ญี่ปุ่น: มีบริษัทญี่ปุ่นบางแห่งยื่นขออนุญาตลงทุนในเหมืองแร่เมียนมาร์
    6.) สิงคโปร์: แม้จะเน้นลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และพลังงาน แต่ก็มีการลงทุนในเหมืองแร่บางส่วน
    7.) มาเลเซีย, เกาหลีใต้, เนเธอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร: มีการลงทุนในเมียนมาร์ในหลายภาคส่วน รวมถึงเหมืองแร่ในบางโครงการ
    ในส่วนแร่ทองคำ Blood Gold บริบทไม่แตกต่างจากพื้นที่คะฉิ่น แต่รายงานจาก EarthRights International (2567) ระบุว่าในรัฐกะฉิ่นมีการขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีจุดขุดนับร้อยแห่ง ส่วนใหญ่เป็นการขุดขนาดเล็กและใช้เครื่องจักรหนัก
    ผู้สัมปทาน ก่อนการรัฐประหาร (2564): เหมืองทองคำขนาดใหญ่บางแห่ง เช่น ในเขตเบ็งเมาก์ (Bemauk), กานิ (Kani), และเคาก์ปาดอง (Kyaukpadaung) ดำเนินการโดยบริษัทร่วมทุนระหว่างกองทัพเมียนมาร์และบริษัทต่างชาติ เช่น บริษัทจากจีนและไทย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเฉพาะเจาะจงในปัจจุบันหายาก
    พื้นที่การขุดทองคำในรัฐกะฉิ่นส่วนใหญ่ควบคุมโดย Kachin Independence Army (KIA) และกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งเก็บค่าธรรมเนียมจากบริษัทหรือนักขุดท้องถิ่น บริษัทจีน มีรายงานว่าได้รับสัมปทานในพื้นที่ เช่น บริเวณแม่น้ำโขงและแม่น้ำกก โดยได้รับการอนุมัติจาก United Wa State Army (UWSA) บริษัทท้องถิ่นและกองทัพเมียนมาร์: Myanmar Economic Holdings Limited (MEHL) และ Myanmar Economic Corporation (MEC) ยังคงมีส่วนในเหมืองบางแห่ง
    ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ไม่มีการออกใบอนุญาตขุดอย่างเป็นทางการในหลายพื้นที่ เช่น Hpakant แต่การขุดยังดำเนินต่อไปโดยผิดกฎหมาย
    ปัจจุบันหลังจาก การรัฐประหารในปี 2564 ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจและกฎหมาย ส่งผลให้การขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีการควบคุม โดยเฉพาะในรัฐกะฉิ่นและสะกาย เพิ่มขึ้น 10 เท่าหลังการรัฐประหาร ซึ่งเป็นแหล่งทองคำสำคัญ เรียกว่าเกิดการขุดแบบทำลายล้าง ใช้เครื่องจักรกลหนักและการขุดในแม่น้ำในพื้นที่ และลุกลามขยายยังพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำกก และแม่น้ำสายใกล้ชายแดนไทย
    แน่นอนความระส่ำระสายในพื้นที่คือการกอบโกยความมั่งคั่งในพื้นที่ที่ไม่ได้มองไกลถึงอนาคตว่าผลกระทบของผู้คน ประชาชนจะเป็นอย่างไร ระยะเวลาการฟื้นตัวความอ่อนเปียกของรัฐชาติที่ถูกสูบทรัพยากรที่มีความมั่งคั่งออกไปอย่างไร้ข้อจำกัด โดยมีอำนาจภายในควบคุม กองทัพเมียนมาร์ ควบคุมเหมืองขนาดใหญ่บางแห่งเพื่อหารายได้ กลุ่มชาติพันธุ์ เช่น KIA เก็บส่วนแบ่งจากเหมืองในพื้นที่ของตน บริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน มีบทบาทในพื้นที่รัฐที่อุดมด้วยแร่ธาตุโดยเฉพาะฉาน และพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงที่สัญญาณได้ส่งผลแล้วกรณีที่แม่สาย ลุ่มแม่น้ำกก เชียงราย ที่ต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิด


    อ้างอิง :
    • โครงการ การส่งเสริมการจัดหาวัตถุดิบและการลงทุนด้านเหมืองแร่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
    https://www.bbc.com/thai/international-53264790
    • EarthRights International, Global Witness
    Blood Gold เจาะขุมทรัพย์ใต้ภิภพเมียนมาร์ความมั่งคั่งที่มืดมนอนธการ . ใต้ภิภพเมียนมาร์ นับเป็นรัฐที่มีทรัพยากรมูลค่าสูงฝังอยู่มหาศาล ที่สามารถแปลงเป็นสินทรัพย์ในการพัฒนาประเทศได้อันดับต้น ๆ ของอาเซียน ทว่า รัฐสภาพแห่งนี้เหมือนถูกครอบงำ และตกอยู่ภายใต้ความลำบาก ความขัดแย้งไม่ลงรอย ในประวัติศาสตร์การเมืองที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศโดยตรง รอยเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) “ยักษ์หลับแห่งเมียนมา” ที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ตื่นขึ้น 28 มีนาคม 2568 ที่ ขนาด 8.2 แมกนิจูด ได้ส่งพลังพาดผ่านเมืองหลวงสำคัญของพม่า ตั้งแต่มัณฑะเลย์ เนปิดอว์ ย่างกุ้ง ดูเหมือนว่าเมืองแห่งอารยธรรมและศูนย์กลางอำนาจ ตั้งอยู่บนหลังมังกรที่หลับ ขยับทีก็ทำให้เมืองศูนย์กลางสำคัญได้ได้ผลกระทบสูงการฟื้นตัวครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนสถานการณ์เริ่มต้นใหม่หลายรอบ หมุนวน โครงสร้างทางธรณีวิทยาของเมียนมาร์ค่อนข้างซับซ้อน ภูมิสัณฐานและธรณีโครงสร้างได้เป็น 4 ส่วนใหญ่ๆ คือพื้นที่ราบสูงตะวันออก (Sino Burman Ranges) พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง (Inner Burman Tertiary Zone) ดินแดนเทือกเขาตะวันตก (Indo Burman Ranges) และ ที่ราบฝั่งยะไข่ - คะฉิ่น Rakhine (Arakan) Coastal Plain ชั้นหินที่มีอายุอ่อนที่สุดจะอยู่ใน พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง ไล่ถัดไปทางด้านตะวันตกของประเทศ จะเป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงที่ราบแถบยะไข่ ด้านตะวันออกของประเทศ ส่วนของ Sino Burman เป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ที่สุด มีรอยเลื่อนรัฐฉาน แนวรอยต่อเชื่อมรอยเลื่อนสะกาย อุตสาหกรรมเหมืองแร่ในเมียนมาร์ มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงหลังรัฐประหารปี 2021 ซึ่งมีการขยายตัวของการทำเหมืองแร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs) อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การเติบโตนี้มาพร้อมกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อน มีมูลค่าสูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 นับว่าแร่หายากกลุ่มหนัก heavy rare earth elements: HREE คิดเป็นสัดส่วนหลักของมูลค่าการส่งออกของเมียนมาร์ โดยส่วนใหญ่ส่งไปจีนเพื่อผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับรถไฟฟ้าและกังหันลมการส่งออก อัตราเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2021 จาก 19,500 ตัน เป็น 41,700 ตัน แน่นอนแร่หายากกลุ่ม China Rare Earths Group (REGCC) เป็นผู้ลงทุนหลัก ควบคุมทั้งเทคโนโลยี การประมวลผล และห่วงโซ่อุปทาน ภายใต้การดูแลพื้นที่ของกองทัพเมียนมาร์ (SAC) และมิลิเชียพันธมิตรควบคุมพื้นที่พิเศษ Kachin 1 และกองกำลัง Kachin Independence Army (KIA) ควบคุมพื้นที่ Momauk และแนวชายแดน แร่หายากเป็นแหล่งเงินสำคัญสำหรับทั้งรัฐบาลทหารและกลุ่มกบฎ แต่ 70% ของประชากรในพื้นที่ยังพึ่งพาการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ขณะที่ค่าแรงงานในเหมืองสูงถึง 600 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน (สูงกว่าเฉลี่ยประเทศ 2 เท่า) แต่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ โรคปอด ปัญหาหายใจลำบาก โรคผิวหนัง และไตวายจากสารเคมี เช่น แอมโมเนียมซัลเฟตและออกซาลิกแอซิด ไม่รวมถึงมลพิษน้ำ 96% ของครัวเรือนในเขต Chipwi ไม่มีน้ำดื่มสะอาดเนื่องจากสารเคมีปนเปื้อน ดวงตาสวรรค์ได้ส่องพื้นที่การขยายตัวของเหมืองกว่า 40% ใน Kachin Special Region 1 และ Momauk ระหว่างปี 2021-2023 ที่สลายระบบนิเวศในพื้นที่ยากจะทวงคืนสภาพเดิมกลับมาในอนาคต อีกแร่ธาตุหนึ่งคือเหล็กที่เมียนมาร์ เป็นเบอร์หนึ่งของโลก ที่แหล่ง Pong Pet ซึ่งอยู่ห่างจาก Taunggyi ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร ปรากฏเป็นแหล่งเฮมาไทต์ (Hematite) และยังพบแหล่งแร่เหล็ก 393 แหล่ง ปริมาณสารองทรัพยากรแร่ประมาณ 495 ล้านตัน และพบแหล่งแร่เหล็กที่มีศักยภาพ 14 แหล่ง ในรัฐ Kachin, Mandalay, Bago, Tanintharyi และรัฐShan ได้แก่ แหล่งแร่เหล็กสำคัญพบที่รัฐ Tanintharyi บริเวณตอนเหนือของรัฐ Shan โดยในรัฐคะฉิ่น คือศูนย์รวมแร่ธาตุความมั่งคั่งสมบูรณ์อุตสาหกรรมเหมืองแร่ นอกจากหยกแล้วยังมีแหล่งแร่เหล็กในรัฐ Kachin มีปริมาณสารองประมาณ 223 ล้านตันที่ 50.56%Fe องค์ประกอบหลักของแร่ คือ Goethite/Limonite 75%, Hematite 15% และ Magnetite 2% แน่นอนเมียนมาร์เป็นผู้ผลิตหยกรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในประเทศเดียวที่ผลิตหยกเจไดต์คุณภาพสูง อุตสาหกรรมหยกมีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของ GDP ของประเทศ โดยเมืองผะกัน (Hpakan) เป็นที่ตั้งของเหมืองหยกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองที่มีข่าวของเหมืองถล่ม ดินโคลนโถมทับหมู่บ้านถี่มากและต้นปี 2568 ก็ได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่ซ้ำซาก สูญเสียชีวิตของผู้คนไปอย่างมาก Global Witness ประเมินไว้ว่ารายได้จากหยกได้เข้าพกเข้าห่อของผู้นำของเมียนมาไปแล้วราว 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา หากประมวลประเทศที่มีบริษัทลงทุนในเหมืองแร่ในภาพรวมในเมียนมาร์ ได้แก่ 1.) จีน: เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเหมืองแร่เมียนมาร์ โดยเฉพาะในเหมืองทองแดง (เช่น โครงการ Letpadaung, S&K, Tagaung Taung) และแร่หายาก มีทั้งบริษัทขนาดใหญ่ของรัฐ เช่น China Nonferrous Metal Mining (CNMC), Wanbao Mining Co., Ltd. รวมถึงนักลงทุนรายย่อยจากมณฑลยูนนานและเสฉวน 2.) ไทย: มีบริษัท Myanmar-Pongpipat Co., Ltd. ร่วมลงทุนในเหมืองดีบุกและโลหะอื่น 3.) เวียดนาม: บริษัท Simco Songda มีการลงทุนในเหมืองแร่ร่วมกับเมียนมาร์ 4.) ออสเตรเลีย: บริษัท PanAust ได้รับอนุญาตให้ศึกษาความเป็นไปได้ในพื้นที่เหมือง Wuntho 5.) ญี่ปุ่น: มีบริษัทญี่ปุ่นบางแห่งยื่นขออนุญาตลงทุนในเหมืองแร่เมียนมาร์ 6.) สิงคโปร์: แม้จะเน้นลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และพลังงาน แต่ก็มีการลงทุนในเหมืองแร่บางส่วน 7.) มาเลเซีย, เกาหลีใต้, เนเธอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร: มีการลงทุนในเมียนมาร์ในหลายภาคส่วน รวมถึงเหมืองแร่ในบางโครงการ ในส่วนแร่ทองคำ Blood Gold บริบทไม่แตกต่างจากพื้นที่คะฉิ่น แต่รายงานจาก EarthRights International (2567) ระบุว่าในรัฐกะฉิ่นมีการขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีจุดขุดนับร้อยแห่ง ส่วนใหญ่เป็นการขุดขนาดเล็กและใช้เครื่องจักรหนัก ผู้สัมปทาน ก่อนการรัฐประหาร (2564): เหมืองทองคำขนาดใหญ่บางแห่ง เช่น ในเขตเบ็งเมาก์ (Bemauk), กานิ (Kani), และเคาก์ปาดอง (Kyaukpadaung) ดำเนินการโดยบริษัทร่วมทุนระหว่างกองทัพเมียนมาร์และบริษัทต่างชาติ เช่น บริษัทจากจีนและไทย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเฉพาะเจาะจงในปัจจุบันหายาก พื้นที่การขุดทองคำในรัฐกะฉิ่นส่วนใหญ่ควบคุมโดย Kachin Independence Army (KIA) และกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งเก็บค่าธรรมเนียมจากบริษัทหรือนักขุดท้องถิ่น บริษัทจีน มีรายงานว่าได้รับสัมปทานในพื้นที่ เช่น บริเวณแม่น้ำโขงและแม่น้ำกก โดยได้รับการอนุมัติจาก United Wa State Army (UWSA) บริษัทท้องถิ่นและกองทัพเมียนมาร์: Myanmar Economic Holdings Limited (MEHL) และ Myanmar Economic Corporation (MEC) ยังคงมีส่วนในเหมืองบางแห่ง ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ไม่มีการออกใบอนุญาตขุดอย่างเป็นทางการในหลายพื้นที่ เช่น Hpakant แต่การขุดยังดำเนินต่อไปโดยผิดกฎหมาย ปัจจุบันหลังจาก การรัฐประหารในปี 2564 ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจและกฎหมาย ส่งผลให้การขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีการควบคุม โดยเฉพาะในรัฐกะฉิ่นและสะกาย เพิ่มขึ้น 10 เท่าหลังการรัฐประหาร ซึ่งเป็นแหล่งทองคำสำคัญ เรียกว่าเกิดการขุดแบบทำลายล้าง ใช้เครื่องจักรกลหนักและการขุดในแม่น้ำในพื้นที่ และลุกลามขยายยังพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำกก และแม่น้ำสายใกล้ชายแดนไทย แน่นอนความระส่ำระสายในพื้นที่คือการกอบโกยความมั่งคั่งในพื้นที่ที่ไม่ได้มองไกลถึงอนาคตว่าผลกระทบของผู้คน ประชาชนจะเป็นอย่างไร ระยะเวลาการฟื้นตัวความอ่อนเปียกของรัฐชาติที่ถูกสูบทรัพยากรที่มีความมั่งคั่งออกไปอย่างไร้ข้อจำกัด โดยมีอำนาจภายในควบคุม กองทัพเมียนมาร์ ควบคุมเหมืองขนาดใหญ่บางแห่งเพื่อหารายได้ กลุ่มชาติพันธุ์ เช่น KIA เก็บส่วนแบ่งจากเหมืองในพื้นที่ของตน บริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน มีบทบาทในพื้นที่รัฐที่อุดมด้วยแร่ธาตุโดยเฉพาะฉาน และพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงที่สัญญาณได้ส่งผลแล้วกรณีที่แม่สาย ลุ่มแม่น้ำกก เชียงราย ที่ต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิด อ้างอิง : • โครงการ การส่งเสริมการจัดหาวัตถุดิบและการลงทุนด้านเหมืองแร่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ • https://www.bbc.com/thai/international-53264790 • EarthRights International, Global Witness
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1326 มุมมอง 0 รีวิว
  • การรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความสนใจมากขึ้น มีการเปิดตัวโรงงานต้นแบบสำหรับการรีไซเคิลแบตเตอรี่ใน Trappes ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีเป้าหมายที่จะดึงโลหะมีค่าจากแบตเตอรี่ที่ใช้แล้ว เพื่อนำกลับมาใช้ในกระบวนการผลิตใหม่ งานวิจัยจาก IDTechEx ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับการใช้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในชีวิตที่สอง (Second-life) ตั้งแต่ปี 2025 ถึง 2035 โดยคาดว่าตลาดนี้อาจมีมูลค่าสูงถึง 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 18.66 พันล้านบาท) ภายในปี 2035

    แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้งานในรถยนต์ไฟฟ้าสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ในงานที่ต้องการพลังงานต่ำกว่า เช่น การเก็บพลังงานในสถานีไฟฟ้าหรือการใช้งานในรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าและจักรยานไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่และส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน แม้ว่าทางทฤษฎีนี้จะเป็นที่น่าสนใจ แต่ยังคงมีความท้าทายทั้งทางเทคนิคและเศรษฐกิจ

    ประเทศจีนเป็นผู้นำในด้านการนำแบตเตอรี่กลับมาใช้ใหม่ โดยเฉพาะในการใช้งานเป็นพลังงานสำรอง ขณะที่ยุโรปและสหรัฐอเมริกายังคงอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาระบบการเก็บพลังงาน การรีไซเคิลโลหะหายากเป็นเรื่องท้าทายที่มีมิติทั้งทางสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ โดยภายใน 10 ปีข้างหน้า ลิเธียมที่รีไซเคิลในยุโรปอาจช่วยผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้มากกว่า 2 ล้านคัน

    นักวิจัยจาก University of Edinburgh กำลังทำงานเพื่อใช้แบคทีเรียในการดึงโลหะจากแบตเตอรี่ที่ใช้แล้ว แนวคิดนี้คือการใช้แบคทีเรียเพื่อรีไซเคิลวัสดุเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและกังหันลม

    ในภาพรวม การรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นเรื่องสำคัญที่มีความท้าทายหลากหลาย แต่ก็มีศักยภาพในการลดการขุดโลหะหายากและลดขยะสะสม หวังว่าข้อมูลนี้จะทำให้คุณได้มองเห็นภาพรวมของการพัฒนาและนวัตกรรมในวงการรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้ชัดเจนขึ้นนะครับ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/05/finding-ways-to-better-recycle-electric-car-batteries-in-the-future
    การรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความสนใจมากขึ้น มีการเปิดตัวโรงงานต้นแบบสำหรับการรีไซเคิลแบตเตอรี่ใน Trappes ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีเป้าหมายที่จะดึงโลหะมีค่าจากแบตเตอรี่ที่ใช้แล้ว เพื่อนำกลับมาใช้ในกระบวนการผลิตใหม่ งานวิจัยจาก IDTechEx ได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับการใช้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในชีวิตที่สอง (Second-life) ตั้งแต่ปี 2025 ถึง 2035 โดยคาดว่าตลาดนี้อาจมีมูลค่าสูงถึง 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 18.66 พันล้านบาท) ภายในปี 2035 แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้งานในรถยนต์ไฟฟ้าสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ในงานที่ต้องการพลังงานต่ำกว่า เช่น การเก็บพลังงานในสถานีไฟฟ้าหรือการใช้งานในรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าและจักรยานไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่และส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน แม้ว่าทางทฤษฎีนี้จะเป็นที่น่าสนใจ แต่ยังคงมีความท้าทายทั้งทางเทคนิคและเศรษฐกิจ ประเทศจีนเป็นผู้นำในด้านการนำแบตเตอรี่กลับมาใช้ใหม่ โดยเฉพาะในการใช้งานเป็นพลังงานสำรอง ขณะที่ยุโรปและสหรัฐอเมริกายังคงอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาระบบการเก็บพลังงาน การรีไซเคิลโลหะหายากเป็นเรื่องท้าทายที่มีมิติทั้งทางสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ โดยภายใน 10 ปีข้างหน้า ลิเธียมที่รีไซเคิลในยุโรปอาจช่วยผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้มากกว่า 2 ล้านคัน นักวิจัยจาก University of Edinburgh กำลังทำงานเพื่อใช้แบคทีเรียในการดึงโลหะจากแบตเตอรี่ที่ใช้แล้ว แนวคิดนี้คือการใช้แบคทีเรียเพื่อรีไซเคิลวัสดุเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและกังหันลม ในภาพรวม การรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นเรื่องสำคัญที่มีความท้าทายหลากหลาย แต่ก็มีศักยภาพในการลดการขุดโลหะหายากและลดขยะสะสม หวังว่าข้อมูลนี้จะทำให้คุณได้มองเห็นภาพรวมของการพัฒนาและนวัตกรรมในวงการรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้ชัดเจนขึ้นนะครับ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/05/finding-ways-to-better-recycle-electric-car-batteries-in-the-future
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Finding ways to better recycle electric car batteries in the future
    The future recycling of electric car batteries raises a number of challenges, from the recovery of raw materials to their reuse. A study published by IDTechEx provides some answers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 368 มุมมอง 0 รีวิว
  • นาย Adrian Kingsley-Hughes จาก ZDNet ได้ทำการทดสอบเครื่องปั่นไฟฟ้าพลังงานลมขนาดพกพาที่เรียกว่า Shine Turbine ซึ่งเป็นกังหันลมขนาดเล็กที่สามารถใส่ในเป้สะพายหลังของคุณได้ อุปกรณ์นี้มีราคาอยู่ที่ประมาณ $399 และสามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงสุด 40 วัตต์ โดยมีแบตเตอรี่ภายในความจุ 12,000 มิลลิแอมป์-ชั่วโมง

    Kingsley-Hughes พบว่าการติดตั้ง Shine Turbine ครั้งแรกอาจใช้เวลานานกว่าที่คาดหวัง แต่เมื่อได้ทดลองใช้หลายครั้ง กระบวนการนี้จะง่ายขึ้น เขาแนะนำให้ผู้ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ภายในกังหันหรือใช้งานร่วมกับเพาเวอร์แบงค์ตามสถานการณ์การใช้งาน

    แม้ว่าประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าของ Shine Turbine จะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่น การผลิตไฟฟ้าสูงสุดเพียง 40 วัตต์ ซึ่งเหมาะสำหรับการชาร์จสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โดรน และกล้อง แต่ไม่สามารถใช้กับอุปกรณ์ที่ต้องการกำลังไฟมากขึ้นเช่นแล็ปท็อปได้ อย่างไรก็ตาม Kingsley-Hughes เห็นว่า Shine Turbine เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการเก็บเกี่ยวพลังงานจากธรรมชาติในกรณีที่ไม่มีแหล่งจ่ายไฟฟ้า

    ในด้านข้อเสียของ Shine Turbine การติดตั้งและการเก็บรวบรวมอุปกรณ์อาจใช้เวลานานกว่าการใช้งานแผงโซลาร์เซลล์ แต่หากคุณไม่สามารถพึ่งพาแสงแดดได้ Shine Turbine ก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ

    โดยรวมแล้ว Shine Turbine เป็นกังหันลมขนาดพกพาที่มีประสิทธิภาพ และเหมาะสำหรับการใช้งานในสถานการณ์ที่ต้องการพลังงานไฟฟ้าแบบพกพา หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณได้รู้จักและเข้าใจการทำงานของ Shine Turbine มากขึ้นนะครับ!

    https://www.zdnet.com/home-and-office/energy/are-wind-power-generators-actually-viable-at-home-heres-what-i-learned-from-testing-one/
    นาย Adrian Kingsley-Hughes จาก ZDNet ได้ทำการทดสอบเครื่องปั่นไฟฟ้าพลังงานลมขนาดพกพาที่เรียกว่า Shine Turbine ซึ่งเป็นกังหันลมขนาดเล็กที่สามารถใส่ในเป้สะพายหลังของคุณได้ อุปกรณ์นี้มีราคาอยู่ที่ประมาณ $399 และสามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงสุด 40 วัตต์ โดยมีแบตเตอรี่ภายในความจุ 12,000 มิลลิแอมป์-ชั่วโมง Kingsley-Hughes พบว่าการติดตั้ง Shine Turbine ครั้งแรกอาจใช้เวลานานกว่าที่คาดหวัง แต่เมื่อได้ทดลองใช้หลายครั้ง กระบวนการนี้จะง่ายขึ้น เขาแนะนำให้ผู้ใช้ชาร์จแบตเตอรี่ภายในกังหันหรือใช้งานร่วมกับเพาเวอร์แบงค์ตามสถานการณ์การใช้งาน แม้ว่าประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าของ Shine Turbine จะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่น การผลิตไฟฟ้าสูงสุดเพียง 40 วัตต์ ซึ่งเหมาะสำหรับการชาร์จสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โดรน และกล้อง แต่ไม่สามารถใช้กับอุปกรณ์ที่ต้องการกำลังไฟมากขึ้นเช่นแล็ปท็อปได้ อย่างไรก็ตาม Kingsley-Hughes เห็นว่า Shine Turbine เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการเก็บเกี่ยวพลังงานจากธรรมชาติในกรณีที่ไม่มีแหล่งจ่ายไฟฟ้า ในด้านข้อเสียของ Shine Turbine การติดตั้งและการเก็บรวบรวมอุปกรณ์อาจใช้เวลานานกว่าการใช้งานแผงโซลาร์เซลล์ แต่หากคุณไม่สามารถพึ่งพาแสงแดดได้ Shine Turbine ก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ โดยรวมแล้ว Shine Turbine เป็นกังหันลมขนาดพกพาที่มีประสิทธิภาพ และเหมาะสำหรับการใช้งานในสถานการณ์ที่ต้องการพลังงานไฟฟ้าแบบพกพา หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณได้รู้จักและเข้าใจการทำงานของ Shine Turbine มากขึ้นนะครับ! https://www.zdnet.com/home-and-office/energy/are-wind-power-generators-actually-viable-at-home-heres-what-i-learned-from-testing-one/
    WWW.ZDNET.COM
    Are wind power generators actually viable at home? Here's what I learned from testing one
    Solar generators are trending, but what happens when the sky turns gray? This device keeps your power running.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 642 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘นายกฯ’ มอบ ‘พีระพันธุ์’ นั่งหัวโต๊ะประชุม ‘บอร์ด กพช.’ ก่อนเคาะชะลอเซ็นสัญญาซื้อ ‘ไฟฟ้าสีเขียว’ 3.6 พันเมกะวัตต์ ขณะที่ ‘สภาผู้บริโภค-เครือข่าย’ ออกแถลงการณ์จี้ ‘กกพ.’ ยุติโครงการฯ ชี้ทำให้ค่าไฟฟ้าแพง 25 ปี

    ......................................

    เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. เวลา 14.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มอบหมายให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เป็นประธานการประชุม กพช. โดยมีวาระพิจารณาที่สนใจ คือ การพิจารณาแนวทางความเป็นไปได้ในการชะลอผลการคัดเลือกผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff ปี 2567-2573 (ไฟฟ้าสีเขียว) จำนวน 3,600 เมกะวัตต์ (MW)

    นายพีระพันธุ์ เปิดเผยหลังการประชุม กพช. ว่าตามที่ได้มีกระแสข่าว เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2567 ว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ได้ประกาศรายชื่อผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมที่ได้รับการคัดเลือกตามระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed – in-Tariff (FiT) ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 (เพิ่มเติม) พ.ศ. 2567 ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยกับประชาชนเรื่องความถูกต้องของกระบวนการ และวิธีการดำเนินงานรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนดังกล่าว และเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและราชการ นั้น

    ที่ประชุม กพช. จึงได้มีมติให้ชะลอการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม สำหรับกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงและขยะอุตสาหกรรม ตามแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด สำหรับปี 2565-2573 ปริมาณรวม 3,668.5 MW ที่ กพช. ได้ให้ความเห็นชอบไว้ เมื่อวันที่ 9 มี.ค.2566 โดยเป็นการชะลอการลงนามสัญญากับ 3 การไฟฟ้าไว้ก่อน เพื่อดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง

    รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในวันเดียวกัน (25 ธ.ค.) สภาองค์กรของผู้บริโภคและเครือข่ายด้านพลังงาน ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาล และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ยุติโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบใหม่ที่ใช้วิธีคัดเลือกแทนการประมูล เนื่องจากโครงการฯดังกล่าวจะสร้างภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนสูงถึง 65,000 ล้านบาท นาน 25 ปี ในขณะที่ต้นทุนเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์และลมลดลงอย่างรวดเร็ว

    สำหรับแถลงการณ์ฯดังกล่าว ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ดำเนินการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (รอบเพิ่มเติม) จำนวน 2 กลุ่ม แบ่งเป็น ก) พลังงานแสงอาทิตย์แบบตั้งพื้นบนดิน จำนวน 1,580 เมกะวัตต์ ที่จะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์หรือขายไฟฟ้าได้ในช่วงปี 2569-2573 และ ข) กังหันลมจำนวน 565.4 เมกะวัตต์ ที่จะสามารถขายไฟฟ้าได้ในช่วงปี 2571-2573 รวม 2,145.5 เมกะวัตต์ โดยไม่มีการประมูล

    แต่ใช้วิธีการคัดเลือก ซึ่งใช้ราคารับซื้อที่กำหนดโดยมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 คือ 2.17 บาทต่อหน่วย สำหรับไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ และราคา 3.10 บาทต่อหน่วยสำหรับไฟฟ้าจากพลังงานลม โดยที่ราคารับซื้อดังกล่าวจะคงที่ตลอดอายุสัญญา 25 ปี นั้น

    เป็นที่ทราบกันดีโดยทั่วไปว่า เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ได้มีความก้าวหน้าและราคาลดต่ำลง อย่างรวดเร็วมาก โดยลดลงเฉลี่ยประมาณร้อยละ 10 ต่อปี เช่นเดียวกับเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม แต่อัตราการลดลงของราคาจะช้ากว่าเล็กน้อย

    ดังนั้น การที่ กกพ. ใช้ราคาตามมติ กพช. ในปี 2565 ที่ไปกำหนดราคาที่ซื้อขายกันจริงของโซลาร์เซลล์ในปี 2569 หรืออีกประมาณ 4 ปีหลังจากนั้น จึงส่งผลให้ราคาสูงกว่ากว่าราคาที่ควรจะเป็นถึง 20-30% ส่วนกรณีของพลังงานลมซึ่งจะมีการซื้อขายกันจริงในปี 2571 จะช้ากว่าวันกำหนดราคาไว้ล่วงหน้า ถึง 6 ปี

    นอกจากการกำหนดราคาที่เรียกได้ว่าไม่มีประสิทธิภาพดังกล่าวข้างต้นแล้ว การไม่เปิดให้มีการแข่งขันโดยวิธีการประมูลราคาเพื่อหาราคาที่เหมาะที่สุด ก็จะเป็นภาระของผู้บริโภคที่จะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงไปนานถึง 25 ปี

    ผลการศึกษาขององค์กร IRENA (International Renewable Energy Agency) ซึ่งเป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ (เรื่อง Renewable Power Generation Costs in 2023) ชี้ให้เห็นว่า ราคาไฟฟ้าเฉลี่ยตลอด โครงการ (LCOE) (ซึ่งเป็นการศึกษาจากทั่วโลก) จะมีราคาค่าไฟฟ้าเฉลี่ยของโลกจากโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ในปี 2566 เท่ากับ 1.53 บาทต่อหน่วยเท่านั้น และหากมีการซื้อขายในปี 2569 ตามที่ กกพ. ประกาศ ราคาไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ก็จะน้อยกว่า 1.53 บาทต่อหน่วยอีก

    เพื่อเป็นการยืนยันว่าผลการศึกษาของ IRENA มีแนวโน้มที่ถูกต้องและเป็นไปได้จริง พบว่ารัฐบาลอินเดีย โดย SECI (Solar Energy Corporation of India) ได้ประกาศผลผู้ชนะการประมูลเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 เพื่อขายไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์พร้อมกับการเก็บไฟฟ้าลงแบตเตอรี่ (ที่สามารถขายไฟฟ้าได้ตลอดเวลาแม้ในเวลากลางคืน) ในราคา 1.44 บาทต่อหน่วย ในขณะที่โครงการของประเทศไทยที่กำลังดำเนินการนี้ไม่มีแบตเตอรี่

    เมื่อนำข้อมูลจากผลการศึกษาดังกล่าวมาคำนวณอย่างเป็นระบบ (ตามข้อมูลในภาพและตารางแนบท้าย) และสมมุติว่ามีการขายไฟฟ้าจริงในปี 2568 จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าจากโครงการนี้แพงกว่าที่ควรจะเป็นคิดเป็นมูลค่า ตลอดอายุสัญญา 25 ปี อย่างน้อยรวม 65,000 ล้านบาท (หกหมื่นห้าพันล้านบาท)

    สภาองค์กรของผู้บริโภคได้ยื่นอุทธรณ์ประกาศ กกพ. ในการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (รอบเพิ่มเติม) ไปเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 พร้อมขอให้ยกเลิกประกาศฉบับดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับจาก กกพ. แต่ประการใด ดังนั้น ในวันนี้สภาองค์กรของผู้บริโภคและภาคีเครือข่ายซึ่งได้ร่วมลงชื่อท้ายแถลงการณ์ฉบับนี้ จึงมีข้อเรียกร้องให้ กกพ. และรัฐบาลทบทวนโครงการดังกล่าวทั้งหมด เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผู้บริโภคทั้งรุ่นนี้และรุ่นต่อไป

    พร้อมกันนี้ ขอเรียกร้องให้กระทรวงพลังงานเร่งดำเนินการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP2024) ซึ่งได้ดำเนินการมานานกว่า 3 ปีแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ

    ทั้งนี้ ในการจัดทำแผน PDP2024 หรือ PDP2025 ต้องเน้น การพึ่งตนเองของชาติ ภายใต้เทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนที่มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และต้องเน้นให้ผู้บริโภค สามารถเป็นผู้ผลิตและผู้ขายไฟฟ้า (Prosumer) เพื่อสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับประชาชนตามคำแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาที่ว่า

    “รัฐบาลจะยึดมั่นในหลักนิธิธรรม ความโปร่งใส สร้างความชอบธรรมในการบริหาร ราชการแผ่นดินโดยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ...จะสนับสนุนให้ประชาชนผลิตไฟฟ้าระบบโซลาร์เซลล์ใช้ในครัวเรือนและมีรายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าที่ผลิตเกินกว่าความต้องการคืนให้รัฐ...จะเร่งออกมาตรการเพื่อลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค”
    ‘นายกฯ’ มอบ ‘พีระพันธุ์’ นั่งหัวโต๊ะประชุม ‘บอร์ด กพช.’ ก่อนเคาะชะลอเซ็นสัญญาซื้อ ‘ไฟฟ้าสีเขียว’ 3.6 พันเมกะวัตต์ ขณะที่ ‘สภาผู้บริโภค-เครือข่าย’ ออกแถลงการณ์จี้ ‘กกพ.’ ยุติโครงการฯ ชี้ทำให้ค่าไฟฟ้าแพง 25 ปี ...................................... เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. เวลา 14.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มอบหมายให้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เป็นประธานการประชุม กพช. โดยมีวาระพิจารณาที่สนใจ คือ การพิจารณาแนวทางความเป็นไปได้ในการชะลอผลการคัดเลือกผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff ปี 2567-2573 (ไฟฟ้าสีเขียว) จำนวน 3,600 เมกะวัตต์ (MW) นายพีระพันธุ์ เปิดเผยหลังการประชุม กพช. ว่าตามที่ได้มีกระแสข่าว เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2567 ว่าสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ได้ประกาศรายชื่อผู้ยื่นขอผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมที่ได้รับการคัดเลือกตามระเบียบคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed – in-Tariff (FiT) ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 (เพิ่มเติม) พ.ศ. 2567 ซึ่งทำให้เกิดข้อสงสัยกับประชาชนเรื่องความถูกต้องของกระบวนการ และวิธีการดำเนินงานรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนดังกล่าว และเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและราชการ นั้น ที่ประชุม กพช. จึงได้มีมติให้ชะลอการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติม สำหรับกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิงและขยะอุตสาหกรรม ตามแผนการเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด สำหรับปี 2565-2573 ปริมาณรวม 3,668.5 MW ที่ กพช. ได้ให้ความเห็นชอบไว้ เมื่อวันที่ 9 มี.ค.2566 โดยเป็นการชะลอการลงนามสัญญากับ 3 การไฟฟ้าไว้ก่อน เพื่อดำเนินการตรวจสอบความถูกต้อง รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในวันเดียวกัน (25 ธ.ค.) สภาองค์กรของผู้บริโภคและเครือข่ายด้านพลังงาน ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาล และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ยุติโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรอบใหม่ที่ใช้วิธีคัดเลือกแทนการประมูล เนื่องจากโครงการฯดังกล่าวจะสร้างภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนสูงถึง 65,000 ล้านบาท นาน 25 ปี ในขณะที่ต้นทุนเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์และลมลดลงอย่างรวดเร็ว สำหรับแถลงการณ์ฯดังกล่าว ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ดำเนินการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (รอบเพิ่มเติม) จำนวน 2 กลุ่ม แบ่งเป็น ก) พลังงานแสงอาทิตย์แบบตั้งพื้นบนดิน จำนวน 1,580 เมกะวัตต์ ที่จะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์หรือขายไฟฟ้าได้ในช่วงปี 2569-2573 และ ข) กังหันลมจำนวน 565.4 เมกะวัตต์ ที่จะสามารถขายไฟฟ้าได้ในช่วงปี 2571-2573 รวม 2,145.5 เมกะวัตต์ โดยไม่มีการประมูล แต่ใช้วิธีการคัดเลือก ซึ่งใช้ราคารับซื้อที่กำหนดโดยมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อเดือนพฤษภาคม 2565 คือ 2.17 บาทต่อหน่วย สำหรับไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ และราคา 3.10 บาทต่อหน่วยสำหรับไฟฟ้าจากพลังงานลม โดยที่ราคารับซื้อดังกล่าวจะคงที่ตลอดอายุสัญญา 25 ปี นั้น เป็นที่ทราบกันดีโดยทั่วไปว่า เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ได้มีความก้าวหน้าและราคาลดต่ำลง อย่างรวดเร็วมาก โดยลดลงเฉลี่ยประมาณร้อยละ 10 ต่อปี เช่นเดียวกับเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม แต่อัตราการลดลงของราคาจะช้ากว่าเล็กน้อย ดังนั้น การที่ กกพ. ใช้ราคาตามมติ กพช. ในปี 2565 ที่ไปกำหนดราคาที่ซื้อขายกันจริงของโซลาร์เซลล์ในปี 2569 หรืออีกประมาณ 4 ปีหลังจากนั้น จึงส่งผลให้ราคาสูงกว่ากว่าราคาที่ควรจะเป็นถึง 20-30% ส่วนกรณีของพลังงานลมซึ่งจะมีการซื้อขายกันจริงในปี 2571 จะช้ากว่าวันกำหนดราคาไว้ล่วงหน้า ถึง 6 ปี นอกจากการกำหนดราคาที่เรียกได้ว่าไม่มีประสิทธิภาพดังกล่าวข้างต้นแล้ว การไม่เปิดให้มีการแข่งขันโดยวิธีการประมูลราคาเพื่อหาราคาที่เหมาะที่สุด ก็จะเป็นภาระของผู้บริโภคที่จะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงไปนานถึง 25 ปี ผลการศึกษาขององค์กร IRENA (International Renewable Energy Agency) ซึ่งเป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ (เรื่อง Renewable Power Generation Costs in 2023) ชี้ให้เห็นว่า ราคาไฟฟ้าเฉลี่ยตลอด โครงการ (LCOE) (ซึ่งเป็นการศึกษาจากทั่วโลก) จะมีราคาค่าไฟฟ้าเฉลี่ยของโลกจากโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ในปี 2566 เท่ากับ 1.53 บาทต่อหน่วยเท่านั้น และหากมีการซื้อขายในปี 2569 ตามที่ กกพ. ประกาศ ราคาไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ก็จะน้อยกว่า 1.53 บาทต่อหน่วยอีก เพื่อเป็นการยืนยันว่าผลการศึกษาของ IRENA มีแนวโน้มที่ถูกต้องและเป็นไปได้จริง พบว่ารัฐบาลอินเดีย โดย SECI (Solar Energy Corporation of India) ได้ประกาศผลผู้ชนะการประมูลเมื่อเดือนสิงหาคม 2567 เพื่อขายไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์พร้อมกับการเก็บไฟฟ้าลงแบตเตอรี่ (ที่สามารถขายไฟฟ้าได้ตลอดเวลาแม้ในเวลากลางคืน) ในราคา 1.44 บาทต่อหน่วย ในขณะที่โครงการของประเทศไทยที่กำลังดำเนินการนี้ไม่มีแบตเตอรี่ เมื่อนำข้อมูลจากผลการศึกษาดังกล่าวมาคำนวณอย่างเป็นระบบ (ตามข้อมูลในภาพและตารางแนบท้าย) และสมมุติว่ามีการขายไฟฟ้าจริงในปี 2568 จะส่งผลให้ค่าไฟฟ้าจากโครงการนี้แพงกว่าที่ควรจะเป็นคิดเป็นมูลค่า ตลอดอายุสัญญา 25 ปี อย่างน้อยรวม 65,000 ล้านบาท (หกหมื่นห้าพันล้านบาท) สภาองค์กรของผู้บริโภคได้ยื่นอุทธรณ์ประกาศ กกพ. ในการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (รอบเพิ่มเติม) ไปเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 พร้อมขอให้ยกเลิกประกาศฉบับดังกล่าว แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับจาก กกพ. แต่ประการใด ดังนั้น ในวันนี้สภาองค์กรของผู้บริโภคและภาคีเครือข่ายซึ่งได้ร่วมลงชื่อท้ายแถลงการณ์ฉบับนี้ จึงมีข้อเรียกร้องให้ กกพ. และรัฐบาลทบทวนโครงการดังกล่าวทั้งหมด เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับผู้บริโภคทั้งรุ่นนี้และรุ่นต่อไป พร้อมกันนี้ ขอเรียกร้องให้กระทรวงพลังงานเร่งดำเนินการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP2024) ซึ่งได้ดำเนินการมานานกว่า 3 ปีแล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ทั้งนี้ ในการจัดทำแผน PDP2024 หรือ PDP2025 ต้องเน้น การพึ่งตนเองของชาติ ภายใต้เทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนที่มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว และต้องเน้นให้ผู้บริโภค สามารถเป็นผู้ผลิตและผู้ขายไฟฟ้า (Prosumer) เพื่อสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับประชาชนตามคำแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาที่ว่า “รัฐบาลจะยึดมั่นในหลักนิธิธรรม ความโปร่งใส สร้างความชอบธรรมในการบริหาร ราชการแผ่นดินโดยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพ...จะสนับสนุนให้ประชาชนผลิตไฟฟ้าระบบโซลาร์เซลล์ใช้ในครัวเรือนและมีรายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าที่ผลิตเกินกว่าความต้องการคืนให้รัฐ...จะเร่งออกมาตรการเพื่อลดราคาค่าพลังงานและสาธารณูปโภค”
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 677 มุมมอง 0 รีวิว
  • 03-11-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.7

    ฟ้าดินลงโทษ! ทั่วยุโรปร้องอย่างหมา! สึนามิก็มา พายุฝนก็มี เพิ่งเข้าหนาว ยังไม่ทันจะโดนรัสเซียถล่มคาตรีน สวรรค์ชิงลงมือก่อนซะงั้น ยุโรปใต้อ่วมอรทัย กระทบเป็นพื้นที่ยาว โดยเฉพาะในสเปน บาเลนเซียกลายเป็นเมืองร้าง รถยนต์ไปกองอยู่รวมกันเพราะคลื่นสึนามิ อีกังหันลม ฉลาดเป็นกรด เตรียมการป้องกันระดับน้ำมาโดยตลอด ความเป็นหนึ่งเดียวของยุโรปหายไปแล้ว ตัวใครตัวมัน ชาติใครรอด ก็ดิ้นกันเอง? ความแตกต่างของปชต.เหี้ยตอแหลจัญไร กับพ่อปกครองลูก มรึงเห็นยัง? ทางการสเปนไม่ยอมส่งกองทัพเข้าพื้นที่ไปช่วยเหลือชาวบ้านในเมืองบาเลนเซีย กล่าวว่าไม่ใช่หน้าที่ ต้องให้เพื่อนบ้านใกล้เคียง ต่างเมืองเข้ามาช่วยกันเองอย่างทุลักทุเล ผิดกับสยามประเทศ อุทกภัยมาปุ๊บ กองทัพถึงทันที ไม่ต้องร้องขอ ใครสั่งล่ะ? อย่าหวังนักการเมืองเลยดีออก? พ่ออยู่ ลูกหมดห่วง เหี้ยอยู่ มรึงไม่รอด อีโง่ยุโรป ยังคงโง่ดักดานเสมอต้นเสมอปลาย สมควรสิ้นชาติพันธุ์มั้ยล่ะ? เศรษฐกิจพัง หนี้บานตะไท แรงงานย้ายออก โรงงานปิดเพี๊ยบ คนตกงาน ไร้บ้าน ปล้นสะดมภ์กันทั่วแผ่นดิน นี่ไง ยุโรปที่ไอ้อีหัวคลั่งปชต.ใฝ่ฝันจะไปอยากอยู่เป็นประชากรชั้น 8 อีขี้ข้า? ต่ำตมสุดบรรยาย เป็นคนดีดีไม่ชอบอยากจะเป็นเดรัจฉานซะงั้น? แม้แต่อียุ่นปี่ ก็ไม่รอดเช่นกัน ฝนกระหน่ำห่าใหญ่ ท่วมเกาะจมบาดาล ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ และตอนกลาง จมน้ำทั่วเมืองชีวิตดี๊ดี หลังคบเหี้ยมานาน ถึงเวลาชดใช้โลกคืนแล้วสิน่ะ! ข้ามมาโลกอาหรับ มันส์ไม่แพ้กัน หลังคาเมเนอี เล่นแร่แปรวิญญาน จะถล่มอียิวตายคาตรีนหลังเลือกตั้งอเมริกา พูดแบบนี้ คือมรึงโดนก่อนชัวร์? หลายคนไม่รู้ อิหร่าน และพันธมิตรโลกอาหรับ โจมตีแต่ละครั้ง มีเป้าหมาย และอยู่ในแผนการรวมภาพใหญ่ทั้งสิ้น ไม่ได้โจมตีสะเปะสะปะแบบอียิว บั่นทอนแสนยานุภาพยิวจนหมดสิ้น จนไม่สามารถโต้ตอบกลับแรงได้อีก เท่ากับมรึงแพ้แล้วไงล่ะ? 3 ฮอ ซีเรีย อิรัก อิหร่าน เลบานอน เยเมน ทำลายคลังแสง ระบบป้องกันภัยทางอากาศยิวจนเกลี้ยงแล้ว จากนี้ ยิงเหี้ยอะไรก็เข้าเป้าหมด เพราะไม่เหลือเหี้ยอะไรมาสกัดได้อีก อีเหี้ยมะกันแถ ยื้อเวลาส่งมอบระบบป้องกันภัย เพราะหากส่งให้หมด มรึงเนี่ยแหละ จะกลายเป็นเป้าโจมตีหลักแทน หลังบ้านรั่ว จะเหลือเหี้ยอะไรไปสกัดไฮเปอร์โซนิคฝั่งตรงกันข้ามได้อีก? อีนกรู้ นี่ต่างหากคือเป้าหมายจริงของขั้วใหม่ ทั้งอีวอชิงตัน อีลอนดอน ไม่รอดส้นตรีนแน่นอน! อียิวแค่เหยื่อล่อขี้ข้ามาตายห่าเป็นหมู่คณะ ดูดกองกำลัง ทรัพย์สิน อาวุธ จนหมดตูด รัสเซียก็ชนะโดยไม่ต้องเปลืองกำลังพล จีนก็ไม่ต้องเหนื่อย เดินพาเหรดทหารเข้าปูพรมแดงยึดไต้หวันสบายตรีน ข้ามวิกแป๊บ ตบหน้า DSI คดีใหญ่ เม็ดเงินพันล้านเมื่อไหร่ กูขอเอี่ยวทันที จะแดร๊กเหรอจ๊ะ อยากแดร๊กมากขนาดนั้นเชียว? ระวังจะถูกสวนตูดเสียหมา ตายห่าทั้งองค์กรน่ะจ๊ะ? เค้าวางกับดักมรึงอยู่ ใครวางล่ะ? อีกรมตำหนวดไงล่ะ? ยังเปิดรับคำฟ้องทุกสถานี ที่เกี่ยวกับดิ ไอ(คอน)สัส เพราะ DSI ไม่มีคน ไม่มีสาขาทั่วประเทศแบบอีกรมกากีไงล่ะ โชคยังดี ผบ.ตร.คนล่าสุด ทหารเลือกเข้ามาคุมเอง ถึงได้กล้าเปิดหน้าชนนายทุนเหี้ยสามาย์ ตระกูลดังทั้งหลาย DSI เตรียมอุ้ม จ่าย 1000 ล้าน คือจบ กล้ามั้ย? รอดทุกไอ้อี แต่ช้าก่อน หากคุณโทรมาภายใน 30 นาทีนี้ เรามีโปรดี โปรไฟไหม้ หาแพะมารับตีเนียนทันที เงินถึงก็รอด เงินหนักก็ลอยตัว มีเหรอ? เบื้องบนจะไม่รู้ว่ามรึงจะทำอะไรต่อ กลียุค คือปล่อยให้เหี้ยไอ้อีทุกตัวออกลายให้หมด รื้อแม่งทั้งองค์กร อุ้มเลย อย่าช้า แบกเลย อย่างว่อง อย่างไว เดี๋ยวได้รู้ ใครคือเสนียดในองค์กร? คดีใหญ่ระดับชาติ DSI ก็ไม่ใหญ่พอจะคุ้มกะลาหัวใครได้ แค่ยื้อเวลา นี่คือเกมส์ เกมส์จริงมันเป็นยังไง? คืนหนี้สินให้หมด คืนทรัพย์สินทั้งหมด แล้วไสหัวไป พ่วงคดีความตลอดชีวิต ไม่ต้องกลับมาแผ่นดินทองอีกตลอดกาล กลับเมื่อไหร่ นอนคุกทันที! ทุกชะตากรรมเหี้ยจะเดินไปทิศทางเดียวกันหมด นี่คือทางรอด ที่ทหารเค้าเปิดไว้ให้ ต้องจ่ายให้ครบ ไปได้แต่ตัว แล้วอย่ากลับมาอีก นีคือวิธีเดียว ที่เหี้ยฝังรากลึกทั้งหลาย จะหายไปจากแผ่นดินโดยสมบูรณ์ รอเปลี่ยนรัฐธรรมนูญใหม่ก่อน ฉบับ "ฆ่าล้างโคตรเหี้ยหนักแผ่นดินทั้งหลาย" รับรองไม่ได้ผุดได้เกิด เลือกตั้งจะหาแดร๊กต่อไปอีกไม่ได้ ต้นตอคือซื้อเสียง กำจัดจุดนี้ ปชต.ก็หมดประโยชน์ ใครยังจะอยากมาเล่นการเมืองอีกล่ะ มีแต่ผู้เสียสละเท่านั้นถึงจะเข้ามาได้ ทั้งหมดใช้เวลา บ่มเพาะ เร่งรีบไม่ได้ เพราะความเสียหายจะน้อยที่สุด "กฎแห่งกรรม ยุติธรรมเสมอ" กฎเหล็กของจักรวาลมาร์เวล ภาพมายามรึงได้เห็นกันหมดแล้ว อะไรจริง อะไรปลอม จงเรียนรู้สั่งสอนลูกหลานให้ยึดตามรอยเท้าพ่อ แล้วจะเจริญ! หมูเด้ง ดาราฮอลีวู๊ดตัวจริง หลังขึ้นรับรางวัลแรกแห่งปี VIDEO OF THE YEAR ในงาน TIKTOK AWARDS 2024 เอาที่มรึงสบายใจ ยังขายได้อีกหลายปี อีเว้นต์ต่อเนื่อง ไม่มีตก เมื่อคนมันเหี้ย ก็ชูเอาสัดเดรัจฉานที่ยังทำประโยชน์ต่อชาติ แผ่นดิน ขึ้นแท่นดีกว่ามุย? กลียุคคือ คนกลายร่างเป็นสัด แล้วสัดกลายร่างเป็นคน ต่างกันที่ผลงาน และทำประโยชน์ คุณค่าต่อแผ่นดินเกิด อายหมูเด้งกันมั้ยล่ะ? โกงเข้าไป ขายแผ่นดินเข้าไป คอรัปชั่นเข้าไป สุดท้ายไม่พ้นคุกกับตายข้างถนน? คุณค่าที่มรึงทุกไอ้อีคู่ควร ธรรมไม่มี จะเอาเหี้ยอะไรไปต้านกรรมได้ล่ะ? ข้ามมาสู่โลกความเป็นจริงต่อ : อเมริกันโกลาหล อีทรัมปป์จะล่อผู้อพยพทันที กูไม่ต้องรีบ หัวขาวพันธุ์แท้เฮ แต่ต่างด้าวเตรียมเผ่น ใช่ อีทรัมปป์ มันเตรียมแผนแตกแผ่นดิน และแผ่นดินใหม่กู ต้องไม่มีเชื้อชั่วชั้นต่ำ แผ่นดินใหม่ต้องเลือดบริสุทธิ์ เอาให้เต็มที่ อเมริกามันขายไม่ออกแล้ว แรงงานต่างด้าวในอเมริกา เตรียมกลับบ้าน เพราะชาติบ้านเกิดกำลังจะเข้า BRICS นั่นคือสัญญานความเจริญที่จะตามมา ส่วนอเมริกาจะกลายเป็นขุมนรก หากสังเกตุ แผนดึงเอาแรงงาน ผู้อพยพเข้าแผ่นดินนับล้าน มาจากสูตรเหี้ย CIA ทั้งสิ้น เอามาเป็นหัวคะแนน เป็นกลุ่มก่อการร้าย เหมือนที่อีอุ้งอุ้ง จะทำตามใบสั่งวอชิงตันนั่นเอง ดอกนี้ ไม่ได้แดร๊กทหารไทยดอก เค้าล่อให้มรึงติดกับอยู่? ใครยังนึกไม่ออกว่าติดกับดักยังไง? ให้ไปดูกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตราคุณสมบัติพลเมืองชาวไทยซะ มันเข้าข่ายมุยล่ะ? ดอกนี้ ยกเลิกแสนง่าย โยงตัวการผู้อยู่เบื้องหลังง่ายดาย? หลักฐานมัดตราสังข์ ขายชาติ ขายแผ่นดิน ชักศึกเข้าบ้าน คนชงมีรอ คนตบพร้อม ศาลรอเชือด? ไม่มีอะไรง่ายดายอย่างที่มรึงคิดดอกน่ะ กะอีแค่นายกฯ คณะรมต. มันใหญ่กว่าตรีนทหารมั้ยล่ะ? ทหารไม่ต้องลงมือ แค่รอศาลฟัน ทุกอย่างเป็นไปตามกฎบ้าน กฎเมือง ทันที ใครก็แถไม่ออก? เดินสายเดียวกับปูติน สีจิ้นผิง ใช้วิธีการล้างเชื้อชั่วแบบเดียวกันเป๊ะเด๊ะ ไม่รู้ ใคร COPY ใคร?

    ปล.จองเวรไม่เลิก ปอท. ส่งฟ้องอีเหลี่ยมเหี้ยซ้ำ มอ112 พ่วง 116 ต่างกรรม ต่างวาระ ปากพาซวยเหมือนเดิม เพราะกมลสันดาน กร่าง ไม่ยอมใครอยู่แล้ว มัดตราสังข์ หลักฐานชัด ทูลเท็จ ออกงานสำราญตามบท หน้าชื่นอกตรม เพราะเกมส์ไม่ได้อยู่ในมือตัวเองแล้ว พลาดส่งอีลูกสาวร่านขึ้นแท่นเชือด หมากต่อรองไบ้แดร๊ก เซ็นต์ไปแล้ว ย้อนกลับไม่ได้ ตรายางประทับคือโดนลากไส้แฉกลางสภา และสื่อ นโยบายไม่มีจริง แค่ใบสั่งอีเหี้ยวอชิงตัน ยังจะเล่นต่อ ถึงขั้นสูญพันธุ์ทั้งตระกูล ล่าสุด คนไทยลงชื่อต้านพท. ครอบงำแบงค์ชาติ ดอกนี้ นกรู้ อ่านขาด ชงศาลรอใบเสร็จ นโยบายพรรคขัดรัฐธรรมนูญไทย มีผู้ชักใยนอกแผ่นดินควบคุมพรรค นโยบายทำลายเศรษฐกิจชาติชัดเจน ไม่ว่าดอกไหน ไปหมดทั้งพรรคและคน รอแค่ศาลชี้เป้า ทหารออกเดินทันที? ส่วนอีทนายหลอกแดร๊ก 18 มงกุฎ จะซวยหนัก คดีพลิก ไม่ใช่แค่ฉ้อโกง แต่เอี่ยวทุนสีเทา ยิ่งดิ้น ยิ่งโดน บ่อนทำลายเศรษฐกิจชาติ อาญาหนักแผ่นดินมาเต็มตรีน! ด้านปปช. จ่อแจ้งจับผู้บริหารรพ.ตำรวจ ปมคดีชั้น 14 โดนกันเป็นโดมิโน่ ยิ่งดิ้น หลักฐานเพิ่มยิ่งโผล่ ด้านปปง.ก็ใช่ย่อย ตามสืบ ตามยึด ทรัพย์สินโกงแผ่นดินเพี๊ยบ แสงทำงานขยันเกิน? ข้ามมาโลกอาหรับ : ด้านกลุ่มปลดปล่อยอิรัก เอาคืนสาสม ส่งโดรนโจมตีตอนใต้อิสราเอล และตอนกลาง รวมทั้งที่ราบสูงโกลาน ดอกเดียวล่อยิวเหี้ยตายคาที่ 15 ตัว สะสมแต้มต่อไป ผลัดกันถล่ม NON STOP ฮามาสยังเดินหน้าล่อเป้าอียิว ฐานทัพ กองสื่อสาร ไม่มีเหลือ เป้าโจมตีท่าเรือไฮฟา จุดสะสมกำลังเหี้ย ดึงเชงเอาไว้ อย่าเพิ่งรีบตายห่าหมด เดี๋ยวอีเหี้ยขี้ข้ามะกันไม่กล้ามาพอดี จะเสียแผนใหญ่? ล่อเหี้ยออกจากถ้ำไงล่ะ? หลังเพ่ไทยซัดทูตยิว ใครใช้ให้เอาแรงงานไทยไปล่อเป้า แผนเสี้ยม ดึงอาเซียนเข้าสงครามแห้วแดร๊ก อ่อนไปป่ะ? เค้าให้กลับ มรึงไม่กลับ ก็คือยอมตาย แต่อียิว เลือกให้ไปตายเป็นเหยื่อล่อเป้าฮามาส ปาหี่มา ปาหี่กลับ ไม่มีโกง? เรื่องนี้ เปลี่ยนแปลงผลลัพธ์บ่ได้ดอก? อาเซียนไม่เอายิวเหี้ย ชัดซะยิ่งกว่าชัด! อาเซียนมีชาติมุสลิมเท่าไหร่ล่ะ? ไม่ต้องถามว่าเผาผีอียิวมั้ย? ปมใหม่! สาวไทยใจฝรั่ง วัย 20 ถูกศาลอีสวิงกิ้งสั่งจำคุกตลอดชีวิตในชั้นอุทธรณ์ เพราะเสือกเข้าไปมีส่วน มีเอี่ยว ในความขัดแย้ง 2 แก๊งค์อันธพาล ข้อหายิงแสกหน้าวัยรุ่นวัย 17 เบื้องหลังไม่มีใครรู้ คนดีดี จะพกปืนไปยิงทำไม หากไม่ตั้งใจจะฆ่า? กลียุคตอนปลาย คือกวักมือเรียกขี้ข้าซาตานกลับขุมนรกให้หมด เพราะแสงกำลังจะมาแล้ว! มรึงไม่ต้องอินอะไรเยอะ แค่ปล่อยแสงทำงาน แค่ใจนิ่งพอ แค่รู้ผิด รู้ชอบ และมีสติ ที่เหลือเจ้าหน้าที่บ้านเมืองตัวจริง สรวงสวรรค์ เค้าจะชำระล้างบางเหี้ยให้เอง มรึงแค่ตั้งจิตให้มั่นก็พอ!

    ปล.2 ขอขอบพระคุณ น้ำผึ้งเลม่อนที่มิตรรักแฟนเพลงทำมาให้และได้มอบให้แอดมินนิดหน่อย แล้วได้ส่งมอบต่อให้หมีมา หมีไอมีเสมหะมาตลอด 2-3 วันนี้ เพราะติดกินน้ำแข็งมากเกินไป สันดานเดิม COKE+ICE เย็นเฉียบเท่านั้น คอหมีดีขึ้นเยอะ เสมหะลดลงไปมาก ฝากทุกคนดูแลสุขภาพด้วย อะไรน่ะ เลิกกินน้ำแข็งเหรอ? ไม่ได้ หมีขั้วโลก ไม่ให้กินน้ำแข็ง ได้กลายร่างเป็นหมีทะเลทรายแน่ รู้จักกูดี ความอร่อยไม่เคยปราณีใคร? 555+

    หมี CNN(ต้องตายห่าให้หมดโลก อียิวถึงจะพอใจ แต่ที่มันไม่ปลื้ม เพราะอียิวเสือกชิงตายห่าก่อนชาวโลกไงล่ะ ถูกไล่ล่าทุกวัน ถูกสาปแช่งทุกคืน ไซเรนดัง 24 ชั่วโมง จะเอาเวลาที่ไหนไปหลับ กลัวไม่ได้ตื่น ละครปาหี่การเมืองเหี้ยมะกันมาแน่ อีทรัมมป์จะถูกสกัดทุกวิถีทาง เพื่อล่อเป้านำไปสู่การรัฐประหาร ตามแผนเหี้ยอีตาเพน CIVIL WAR ฆ่ากันเพื่ออะไร? แผ่นดินของมรึงเหรอ มรึงไปปล้น ไปขโมยเค้ามาทั้งนั้น ยังหน้าด้านบอกแผ่นดินมาตุภูมิ เหมือนใครหว่า แถวเยรูซาเล็ม?)
    03 พฤศจิกายน 67
    15.55 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    03-11-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.7 ฟ้าดินลงโทษ! ทั่วยุโรปร้องอย่างหมา! สึนามิก็มา พายุฝนก็มี เพิ่งเข้าหนาว ยังไม่ทันจะโดนรัสเซียถล่มคาตรีน สวรรค์ชิงลงมือก่อนซะงั้น ยุโรปใต้อ่วมอรทัย กระทบเป็นพื้นที่ยาว โดยเฉพาะในสเปน บาเลนเซียกลายเป็นเมืองร้าง รถยนต์ไปกองอยู่รวมกันเพราะคลื่นสึนามิ อีกังหันลม ฉลาดเป็นกรด เตรียมการป้องกันระดับน้ำมาโดยตลอด ความเป็นหนึ่งเดียวของยุโรปหายไปแล้ว ตัวใครตัวมัน ชาติใครรอด ก็ดิ้นกันเอง? ความแตกต่างของปชต.เหี้ยตอแหลจัญไร กับพ่อปกครองลูก มรึงเห็นยัง? ทางการสเปนไม่ยอมส่งกองทัพเข้าพื้นที่ไปช่วยเหลือชาวบ้านในเมืองบาเลนเซีย กล่าวว่าไม่ใช่หน้าที่ ต้องให้เพื่อนบ้านใกล้เคียง ต่างเมืองเข้ามาช่วยกันเองอย่างทุลักทุเล ผิดกับสยามประเทศ อุทกภัยมาปุ๊บ กองทัพถึงทันที ไม่ต้องร้องขอ ใครสั่งล่ะ? อย่าหวังนักการเมืองเลยดีออก? พ่ออยู่ ลูกหมดห่วง เหี้ยอยู่ มรึงไม่รอด อีโง่ยุโรป ยังคงโง่ดักดานเสมอต้นเสมอปลาย สมควรสิ้นชาติพันธุ์มั้ยล่ะ? เศรษฐกิจพัง หนี้บานตะไท แรงงานย้ายออก โรงงานปิดเพี๊ยบ คนตกงาน ไร้บ้าน ปล้นสะดมภ์กันทั่วแผ่นดิน นี่ไง ยุโรปที่ไอ้อีหัวคลั่งปชต.ใฝ่ฝันจะไปอยากอยู่เป็นประชากรชั้น 8 อีขี้ข้า? ต่ำตมสุดบรรยาย เป็นคนดีดีไม่ชอบอยากจะเป็นเดรัจฉานซะงั้น? แม้แต่อียุ่นปี่ ก็ไม่รอดเช่นกัน ฝนกระหน่ำห่าใหญ่ ท่วมเกาะจมบาดาล ฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ และตอนกลาง จมน้ำทั่วเมืองชีวิตดี๊ดี หลังคบเหี้ยมานาน ถึงเวลาชดใช้โลกคืนแล้วสิน่ะ! ข้ามมาโลกอาหรับ มันส์ไม่แพ้กัน หลังคาเมเนอี เล่นแร่แปรวิญญาน จะถล่มอียิวตายคาตรีนหลังเลือกตั้งอเมริกา พูดแบบนี้ คือมรึงโดนก่อนชัวร์? หลายคนไม่รู้ อิหร่าน และพันธมิตรโลกอาหรับ โจมตีแต่ละครั้ง มีเป้าหมาย และอยู่ในแผนการรวมภาพใหญ่ทั้งสิ้น ไม่ได้โจมตีสะเปะสะปะแบบอียิว บั่นทอนแสนยานุภาพยิวจนหมดสิ้น จนไม่สามารถโต้ตอบกลับแรงได้อีก เท่ากับมรึงแพ้แล้วไงล่ะ? 3 ฮอ ซีเรีย อิรัก อิหร่าน เลบานอน เยเมน ทำลายคลังแสง ระบบป้องกันภัยทางอากาศยิวจนเกลี้ยงแล้ว จากนี้ ยิงเหี้ยอะไรก็เข้าเป้าหมด เพราะไม่เหลือเหี้ยอะไรมาสกัดได้อีก อีเหี้ยมะกันแถ ยื้อเวลาส่งมอบระบบป้องกันภัย เพราะหากส่งให้หมด มรึงเนี่ยแหละ จะกลายเป็นเป้าโจมตีหลักแทน หลังบ้านรั่ว จะเหลือเหี้ยอะไรไปสกัดไฮเปอร์โซนิคฝั่งตรงกันข้ามได้อีก? อีนกรู้ นี่ต่างหากคือเป้าหมายจริงของขั้วใหม่ ทั้งอีวอชิงตัน อีลอนดอน ไม่รอดส้นตรีนแน่นอน! อียิวแค่เหยื่อล่อขี้ข้ามาตายห่าเป็นหมู่คณะ ดูดกองกำลัง ทรัพย์สิน อาวุธ จนหมดตูด รัสเซียก็ชนะโดยไม่ต้องเปลืองกำลังพล จีนก็ไม่ต้องเหนื่อย เดินพาเหรดทหารเข้าปูพรมแดงยึดไต้หวันสบายตรีน ข้ามวิกแป๊บ ตบหน้า DSI คดีใหญ่ เม็ดเงินพันล้านเมื่อไหร่ กูขอเอี่ยวทันที จะแดร๊กเหรอจ๊ะ อยากแดร๊กมากขนาดนั้นเชียว? ระวังจะถูกสวนตูดเสียหมา ตายห่าทั้งองค์กรน่ะจ๊ะ? เค้าวางกับดักมรึงอยู่ ใครวางล่ะ? อีกรมตำหนวดไงล่ะ? ยังเปิดรับคำฟ้องทุกสถานี ที่เกี่ยวกับดิ ไอ(คอน)สัส เพราะ DSI ไม่มีคน ไม่มีสาขาทั่วประเทศแบบอีกรมกากีไงล่ะ โชคยังดี ผบ.ตร.คนล่าสุด ทหารเลือกเข้ามาคุมเอง ถึงได้กล้าเปิดหน้าชนนายทุนเหี้ยสามาย์ ตระกูลดังทั้งหลาย DSI เตรียมอุ้ม จ่าย 1000 ล้าน คือจบ กล้ามั้ย? รอดทุกไอ้อี แต่ช้าก่อน หากคุณโทรมาภายใน 30 นาทีนี้ เรามีโปรดี โปรไฟไหม้ หาแพะมารับตีเนียนทันที เงินถึงก็รอด เงินหนักก็ลอยตัว มีเหรอ? เบื้องบนจะไม่รู้ว่ามรึงจะทำอะไรต่อ กลียุค คือปล่อยให้เหี้ยไอ้อีทุกตัวออกลายให้หมด รื้อแม่งทั้งองค์กร อุ้มเลย อย่าช้า แบกเลย อย่างว่อง อย่างไว เดี๋ยวได้รู้ ใครคือเสนียดในองค์กร? คดีใหญ่ระดับชาติ DSI ก็ไม่ใหญ่พอจะคุ้มกะลาหัวใครได้ แค่ยื้อเวลา นี่คือเกมส์ เกมส์จริงมันเป็นยังไง? คืนหนี้สินให้หมด คืนทรัพย์สินทั้งหมด แล้วไสหัวไป พ่วงคดีความตลอดชีวิต ไม่ต้องกลับมาแผ่นดินทองอีกตลอดกาล กลับเมื่อไหร่ นอนคุกทันที! ทุกชะตากรรมเหี้ยจะเดินไปทิศทางเดียวกันหมด นี่คือทางรอด ที่ทหารเค้าเปิดไว้ให้ ต้องจ่ายให้ครบ ไปได้แต่ตัว แล้วอย่ากลับมาอีก นีคือวิธีเดียว ที่เหี้ยฝังรากลึกทั้งหลาย จะหายไปจากแผ่นดินโดยสมบูรณ์ รอเปลี่ยนรัฐธรรมนูญใหม่ก่อน ฉบับ "ฆ่าล้างโคตรเหี้ยหนักแผ่นดินทั้งหลาย" รับรองไม่ได้ผุดได้เกิด เลือกตั้งจะหาแดร๊กต่อไปอีกไม่ได้ ต้นตอคือซื้อเสียง กำจัดจุดนี้ ปชต.ก็หมดประโยชน์ ใครยังจะอยากมาเล่นการเมืองอีกล่ะ มีแต่ผู้เสียสละเท่านั้นถึงจะเข้ามาได้ ทั้งหมดใช้เวลา บ่มเพาะ เร่งรีบไม่ได้ เพราะความเสียหายจะน้อยที่สุด "กฎแห่งกรรม ยุติธรรมเสมอ" กฎเหล็กของจักรวาลมาร์เวล ภาพมายามรึงได้เห็นกันหมดแล้ว อะไรจริง อะไรปลอม จงเรียนรู้สั่งสอนลูกหลานให้ยึดตามรอยเท้าพ่อ แล้วจะเจริญ! หมูเด้ง ดาราฮอลีวู๊ดตัวจริง หลังขึ้นรับรางวัลแรกแห่งปี VIDEO OF THE YEAR ในงาน TIKTOK AWARDS 2024 เอาที่มรึงสบายใจ ยังขายได้อีกหลายปี อีเว้นต์ต่อเนื่อง ไม่มีตก เมื่อคนมันเหี้ย ก็ชูเอาสัดเดรัจฉานที่ยังทำประโยชน์ต่อชาติ แผ่นดิน ขึ้นแท่นดีกว่ามุย? กลียุคคือ คนกลายร่างเป็นสัด แล้วสัดกลายร่างเป็นคน ต่างกันที่ผลงาน และทำประโยชน์ คุณค่าต่อแผ่นดินเกิด อายหมูเด้งกันมั้ยล่ะ? โกงเข้าไป ขายแผ่นดินเข้าไป คอรัปชั่นเข้าไป สุดท้ายไม่พ้นคุกกับตายข้างถนน? คุณค่าที่มรึงทุกไอ้อีคู่ควร ธรรมไม่มี จะเอาเหี้ยอะไรไปต้านกรรมได้ล่ะ? ข้ามมาสู่โลกความเป็นจริงต่อ : อเมริกันโกลาหล อีทรัมปป์จะล่อผู้อพยพทันที กูไม่ต้องรีบ หัวขาวพันธุ์แท้เฮ แต่ต่างด้าวเตรียมเผ่น ใช่ อีทรัมปป์ มันเตรียมแผนแตกแผ่นดิน และแผ่นดินใหม่กู ต้องไม่มีเชื้อชั่วชั้นต่ำ แผ่นดินใหม่ต้องเลือดบริสุทธิ์ เอาให้เต็มที่ อเมริกามันขายไม่ออกแล้ว แรงงานต่างด้าวในอเมริกา เตรียมกลับบ้าน เพราะชาติบ้านเกิดกำลังจะเข้า BRICS นั่นคือสัญญานความเจริญที่จะตามมา ส่วนอเมริกาจะกลายเป็นขุมนรก หากสังเกตุ แผนดึงเอาแรงงาน ผู้อพยพเข้าแผ่นดินนับล้าน มาจากสูตรเหี้ย CIA ทั้งสิ้น เอามาเป็นหัวคะแนน เป็นกลุ่มก่อการร้าย เหมือนที่อีอุ้งอุ้ง จะทำตามใบสั่งวอชิงตันนั่นเอง ดอกนี้ ไม่ได้แดร๊กทหารไทยดอก เค้าล่อให้มรึงติดกับอยู่? ใครยังนึกไม่ออกว่าติดกับดักยังไง? ให้ไปดูกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตราคุณสมบัติพลเมืองชาวไทยซะ มันเข้าข่ายมุยล่ะ? ดอกนี้ ยกเลิกแสนง่าย โยงตัวการผู้อยู่เบื้องหลังง่ายดาย? หลักฐานมัดตราสังข์ ขายชาติ ขายแผ่นดิน ชักศึกเข้าบ้าน คนชงมีรอ คนตบพร้อม ศาลรอเชือด? ไม่มีอะไรง่ายดายอย่างที่มรึงคิดดอกน่ะ กะอีแค่นายกฯ คณะรมต. มันใหญ่กว่าตรีนทหารมั้ยล่ะ? ทหารไม่ต้องลงมือ แค่รอศาลฟัน ทุกอย่างเป็นไปตามกฎบ้าน กฎเมือง ทันที ใครก็แถไม่ออก? เดินสายเดียวกับปูติน สีจิ้นผิง ใช้วิธีการล้างเชื้อชั่วแบบเดียวกันเป๊ะเด๊ะ ไม่รู้ ใคร COPY ใคร? ปล.จองเวรไม่เลิก ปอท. ส่งฟ้องอีเหลี่ยมเหี้ยซ้ำ มอ112 พ่วง 116 ต่างกรรม ต่างวาระ ปากพาซวยเหมือนเดิม เพราะกมลสันดาน กร่าง ไม่ยอมใครอยู่แล้ว มัดตราสังข์ หลักฐานชัด ทูลเท็จ ออกงานสำราญตามบท หน้าชื่นอกตรม เพราะเกมส์ไม่ได้อยู่ในมือตัวเองแล้ว พลาดส่งอีลูกสาวร่านขึ้นแท่นเชือด หมากต่อรองไบ้แดร๊ก เซ็นต์ไปแล้ว ย้อนกลับไม่ได้ ตรายางประทับคือโดนลากไส้แฉกลางสภา และสื่อ นโยบายไม่มีจริง แค่ใบสั่งอีเหี้ยวอชิงตัน ยังจะเล่นต่อ ถึงขั้นสูญพันธุ์ทั้งตระกูล ล่าสุด คนไทยลงชื่อต้านพท. ครอบงำแบงค์ชาติ ดอกนี้ นกรู้ อ่านขาด ชงศาลรอใบเสร็จ นโยบายพรรคขัดรัฐธรรมนูญไทย มีผู้ชักใยนอกแผ่นดินควบคุมพรรค นโยบายทำลายเศรษฐกิจชาติชัดเจน ไม่ว่าดอกไหน ไปหมดทั้งพรรคและคน รอแค่ศาลชี้เป้า ทหารออกเดินทันที? ส่วนอีทนายหลอกแดร๊ก 18 มงกุฎ จะซวยหนัก คดีพลิก ไม่ใช่แค่ฉ้อโกง แต่เอี่ยวทุนสีเทา ยิ่งดิ้น ยิ่งโดน บ่อนทำลายเศรษฐกิจชาติ อาญาหนักแผ่นดินมาเต็มตรีน! ด้านปปช. จ่อแจ้งจับผู้บริหารรพ.ตำรวจ ปมคดีชั้น 14 โดนกันเป็นโดมิโน่ ยิ่งดิ้น หลักฐานเพิ่มยิ่งโผล่ ด้านปปง.ก็ใช่ย่อย ตามสืบ ตามยึด ทรัพย์สินโกงแผ่นดินเพี๊ยบ แสงทำงานขยันเกิน? ข้ามมาโลกอาหรับ : ด้านกลุ่มปลดปล่อยอิรัก เอาคืนสาสม ส่งโดรนโจมตีตอนใต้อิสราเอล และตอนกลาง รวมทั้งที่ราบสูงโกลาน ดอกเดียวล่อยิวเหี้ยตายคาที่ 15 ตัว สะสมแต้มต่อไป ผลัดกันถล่ม NON STOP ฮามาสยังเดินหน้าล่อเป้าอียิว ฐานทัพ กองสื่อสาร ไม่มีเหลือ เป้าโจมตีท่าเรือไฮฟา จุดสะสมกำลังเหี้ย ดึงเชงเอาไว้ อย่าเพิ่งรีบตายห่าหมด เดี๋ยวอีเหี้ยขี้ข้ามะกันไม่กล้ามาพอดี จะเสียแผนใหญ่? ล่อเหี้ยออกจากถ้ำไงล่ะ? หลังเพ่ไทยซัดทูตยิว ใครใช้ให้เอาแรงงานไทยไปล่อเป้า แผนเสี้ยม ดึงอาเซียนเข้าสงครามแห้วแดร๊ก อ่อนไปป่ะ? เค้าให้กลับ มรึงไม่กลับ ก็คือยอมตาย แต่อียิว เลือกให้ไปตายเป็นเหยื่อล่อเป้าฮามาส ปาหี่มา ปาหี่กลับ ไม่มีโกง? เรื่องนี้ เปลี่ยนแปลงผลลัพธ์บ่ได้ดอก? อาเซียนไม่เอายิวเหี้ย ชัดซะยิ่งกว่าชัด! อาเซียนมีชาติมุสลิมเท่าไหร่ล่ะ? ไม่ต้องถามว่าเผาผีอียิวมั้ย? ปมใหม่! สาวไทยใจฝรั่ง วัย 20 ถูกศาลอีสวิงกิ้งสั่งจำคุกตลอดชีวิตในชั้นอุทธรณ์ เพราะเสือกเข้าไปมีส่วน มีเอี่ยว ในความขัดแย้ง 2 แก๊งค์อันธพาล ข้อหายิงแสกหน้าวัยรุ่นวัย 17 เบื้องหลังไม่มีใครรู้ คนดีดี จะพกปืนไปยิงทำไม หากไม่ตั้งใจจะฆ่า? กลียุคตอนปลาย คือกวักมือเรียกขี้ข้าซาตานกลับขุมนรกให้หมด เพราะแสงกำลังจะมาแล้ว! มรึงไม่ต้องอินอะไรเยอะ แค่ปล่อยแสงทำงาน แค่ใจนิ่งพอ แค่รู้ผิด รู้ชอบ และมีสติ ที่เหลือเจ้าหน้าที่บ้านเมืองตัวจริง สรวงสวรรค์ เค้าจะชำระล้างบางเหี้ยให้เอง มรึงแค่ตั้งจิตให้มั่นก็พอ! ปล.2 ขอขอบพระคุณ น้ำผึ้งเลม่อนที่มิตรรักแฟนเพลงทำมาให้และได้มอบให้แอดมินนิดหน่อย แล้วได้ส่งมอบต่อให้หมีมา หมีไอมีเสมหะมาตลอด 2-3 วันนี้ เพราะติดกินน้ำแข็งมากเกินไป สันดานเดิม COKE+ICE เย็นเฉียบเท่านั้น คอหมีดีขึ้นเยอะ เสมหะลดลงไปมาก ฝากทุกคนดูแลสุขภาพด้วย อะไรน่ะ เลิกกินน้ำแข็งเหรอ? ไม่ได้ หมีขั้วโลก ไม่ให้กินน้ำแข็ง ได้กลายร่างเป็นหมีทะเลทรายแน่ รู้จักกูดี ความอร่อยไม่เคยปราณีใคร? 555+ หมี CNN(ต้องตายห่าให้หมดโลก อียิวถึงจะพอใจ แต่ที่มันไม่ปลื้ม เพราะอียิวเสือกชิงตายห่าก่อนชาวโลกไงล่ะ ถูกไล่ล่าทุกวัน ถูกสาปแช่งทุกคืน ไซเรนดัง 24 ชั่วโมง จะเอาเวลาที่ไหนไปหลับ กลัวไม่ได้ตื่น ละครปาหี่การเมืองเหี้ยมะกันมาแน่ อีทรัมมป์จะถูกสกัดทุกวิถีทาง เพื่อล่อเป้านำไปสู่การรัฐประหาร ตามแผนเหี้ยอีตาเพน CIVIL WAR ฆ่ากันเพื่ออะไร? แผ่นดินของมรึงเหรอ มรึงไปปล้น ไปขโมยเค้ามาทั้งนั้น ยังหน้าด้านบอกแผ่นดินมาตุภูมิ เหมือนใครหว่า แถวเยรูซาเล็ม?) 03 พฤศจิกายน 67 15.55 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1795 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุปกรณ์กังหันลมผลิตไฟฟ้าจากจีนผ่านไทยไปลาวใต้ จุดพักรถตรงข้ามเต่าสะเร็น บ้านละลมระไซร์ ทางหลวงหมายเลข24
    อุปกรณ์กังหันลมผลิตไฟฟ้าจากจีนผ่านไทยไปลาวใต้ จุดพักรถตรงข้ามเต่าสะเร็น บ้านละลมระไซร์ ทางหลวงหมายเลข24
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว