• จินนี่ ตอนที่ 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่”
    ตอน 2
    จินนี่เป็นใคร ทำไมถึงได้สัมปทาน และทำไมเซียนระดับโลกทางด้านภูมิศาสตร์การเมืองถึงวิเคราะห์ว่า เรื่องจีนนี่ อาจเป็นตัวจุดระเบิดสงครามโลกครั้งที่ 3
    จีนนี่ Genie Energy เป็นบริษัทจดทะเบียนที่ Newark, New Jersey ในอเมริกา อยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ของบริษัท Strategic Advisory Board ที่มีรายชื่อน่าสนใจระดับโลก เช่น **** Cheney, James Woolsey, Bill Richardson, Jacob Lord Rothschild, Rupert Murdock, Larry Summmers และ Michael Steinhardt…
    **** Cheney เป็นเหยี่ยวกระหายเลือดตัวจริง ยังไม่ตาย และยังอยู่ดี เขาเป็นรองประธานาธิบดี ที่เป็นเสมือนประธานาธิบดีตัวจริง สมัยที่คาวบอยบุชเป็นประธานาธิบดี ก่อนหน้านั้น เขาเคยเป็นประธานผู้บริหารของบริษัทขายน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกบริษัทหนึ่งคือ Halliburton ซึ่งตระกูลบุช ดูเหมือนจะเป็นเจ้าของตัวจริง Halliburton ไม่ได้ค้าแต่น้ำมัน ช่วงสงครามอิรัค Halliburton ค้าอาวุธ ยุทธภัณท์ทุกอย่าง ที่จำเป็นสำหรับการทำสงคราม ให้แก่รัฐบาลอเมริกัน ที่ตอนนั้นมีคาวบอยบุช เป็นประธานาธิบดี เข้าใจเรื่องการค้าเสรี และการเป็นประชาธิปไตย ในความหมายของอเมริกาแล้วนะครับ
    James Woolsey เป็นอดีตผู้อำนวยการซีไอเอสมัยที่ บิล คลินตัน ผู้นิยมเด็กฝึกงานเป็นประธานาธิบดี เขาเป็นสายเหยี่ยวเช่นเดียวกัน ปัจจุบัน นั่งเป็นประธานถังความคิด ชื่อ Foundation for Defense of Democracies อ้อ… พวกอยู่หลังเขาเหมือนกัน นอกจากนี้ ยังเป็นสมาชิกผู้สนับสนุนโครงการเพื่อความเป็นหมายเลขหนึ่งของอเมริกาในศตวรรษใหม่ Project of the New American Century (PNAC) อันโด่งดัง ร่วมกับ Cheney และ Donald Rumsfeld สรุปว่า เป็นก๊วนเหยี่ยวกระหายเลือด ตะกระน้ำมันด้วยกัน
    Bill Richardson เป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของอเมริกา
    Rupert Murdoch เป็นเจ้าของสื่อใหญ่ ทั้งในอเมริกา อังกฤษ และออสเตรเลีย หรือเป็นเจ้าของโรงงานฟอกย้อมข่าวตัวสำคัญนั่นเอง ทั้งรวย ทั้งมีอิทธิพลสูงในวงการสื่อระดับโลก เขาเป็นเจ้าของสื่อตัวแสบ Wall Street Journal และเป็นนายทุนให้นิตยสารรายสัปดาห์ the Standard ที่เป็นสายเหยี่ยว และที่มีหัวหน้าคณะบรรณาธิการ เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง โครงการ PNAC
    Larry Summers เป็นอดีตรัฐมนตรีคลังของอเมริกา ที่มีบทบาทสำคัญในการเอาเงินภาษีชาวอเมริกัน มาอุ้มยักษ์ใหญ่ทางการเงิน ไม่ให้ล้มละลาย จากการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างตะกระ และไร้ความรับผิดชอบ ….อ้าว นึกว่าอเมริกาเคร่งเรื่องธรรมาภิบาล good governance เห็นสมุนชาวสยามคนสำคัญ ชอบเดินสายสั่งสอนชาวสยามให้มีธรรมาภิบาล งวดหน้า รบกวนท่านบินไปพูดแถวอเมริกาด้วยนะครับ ถ้ายังมีแรงเหลือ…
    Michael Steinhardt เป็นเจ้าของกองทุนเล่นหุ้น หรือนักปั่นหุ้นระดับโลก ที่ใกล้ชิดกับอิสราเอล (เป็นนักเล่นหุ้นชาวยิวน่ะครับ)
    ส่วน Jacob Lord Rothschild คงไม่ต้องแนะนำกันมาก แค่ขอเพิ่มข้อมูลให้ว่า เขาเป็นหุ้นส่วนกับนักธุรกิจน้ำมันตัวแสบชาวรัสเซีย Mikhail Khodorkovsky ซึ่งถูกคุณพี่ปูตินสั่งจับและดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง และเอาปูนหมายหน้าเอาไว้ เกี่ยวกับ Yukos Oil ที่มีความหมายกับรัสเซียมาก บางสื่อในรัสเซียเรียกเขาว่า เป็นคนขายชาติ ( อ่านเรื่องของเขาได้ ในนิทานเรื่อง หักหน้าหักหลัง และเรื่องแกะรอยสงครามโลกครั้ง ที่ 3) แต่นาย Kho ก็หนีออกจากรัสเซีย มาซุกอกใบตองแห้งได้ และเมื่อมีข่าวว่าจะถูกจับ นาย Kho โอนหุ้นที่ถือทั้งหมดใน Yukos Oil (กลับ !?) ไปให้ Jacob Rothschild ซึ่งปัจจุบัน เป็นผู้ถือหุ้นส่วนหนึ่งในจีนนี่ ที่ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลเนทันยาฮู ในปี ค.ศ.2013 เพื่อทำการสำรวจน้ำมัน และแก๊ส ในเนื้อที่จำนวน 153 ตารางไมล์ ที่อยู่ในที่ราบสูงโกลาน เป็นเวลา 3 ปี
    เห็นรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับ จีนนี่ แล้ว ก็พอจะเดาได้ว่า จีนนี่ น่าจะร้อนแรงน่าดู
    และก๊วนเหยี่ยวกระหายเลือด เหยี่ยวตะกระน้ำมันนี้แหละ ที่เป็นตัวริเริ่ม ยุให้อเมริกาบุกเข้าไปในตะวันออกกลางโดยเฉพาะที่อิรัค เพื่อไปปล้นน้ำมันอิรัค และก็ไอ้ก๊วนนี้อีกเช่นกัน ที่สนับสนุนให้อเมริกาส่งกำลังเข้าไปสนับสนุนพวกกบฏซีเรีย เพื่อไล่อัสสาดให้กระเด็นออกไปจากการปกครองซีเรีย
    คงพอเห็นภาพกันแล้วนะครับว่า ทำไม จึงมีคนถูตะเกียงเรียก จินนี่ ออกมาตอนนี้ และทำไมถึงมีเซียนวิเคราะห์ว่า จีนนี่ อาจจะทำให้เรื่องราวในตะวันออกกลาง บานปลาย กลายเป็นตัวจุดชนวนสงครามโลก ครั้งที่ 3 ก็ได้
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    4 พ.ย. 2558
    จินนี่ ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “จินนี่” ตอน 2 จินนี่เป็นใคร ทำไมถึงได้สัมปทาน และทำไมเซียนระดับโลกทางด้านภูมิศาสตร์การเมืองถึงวิเคราะห์ว่า เรื่องจีนนี่ อาจเป็นตัวจุดระเบิดสงครามโลกครั้งที่ 3 จีนนี่ Genie Energy เป็นบริษัทจดทะเบียนที่ Newark, New Jersey ในอเมริกา อยู่ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ของบริษัท Strategic Advisory Board ที่มีรายชื่อน่าสนใจระดับโลก เช่น Dick Cheney, James Woolsey, Bill Richardson, Jacob Lord Rothschild, Rupert Murdock, Larry Summmers และ Michael Steinhardt… Dick Cheney เป็นเหยี่ยวกระหายเลือดตัวจริง ยังไม่ตาย และยังอยู่ดี เขาเป็นรองประธานาธิบดี ที่เป็นเสมือนประธานาธิบดีตัวจริง สมัยที่คาวบอยบุชเป็นประธานาธิบดี ก่อนหน้านั้น เขาเคยเป็นประธานผู้บริหารของบริษัทขายน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกบริษัทหนึ่งคือ Halliburton ซึ่งตระกูลบุช ดูเหมือนจะเป็นเจ้าของตัวจริง Halliburton ไม่ได้ค้าแต่น้ำมัน ช่วงสงครามอิรัค Halliburton ค้าอาวุธ ยุทธภัณท์ทุกอย่าง ที่จำเป็นสำหรับการทำสงคราม ให้แก่รัฐบาลอเมริกัน ที่ตอนนั้นมีคาวบอยบุช เป็นประธานาธิบดี เข้าใจเรื่องการค้าเสรี และการเป็นประชาธิปไตย ในความหมายของอเมริกาแล้วนะครับ James Woolsey เป็นอดีตผู้อำนวยการซีไอเอสมัยที่ บิล คลินตัน ผู้นิยมเด็กฝึกงานเป็นประธานาธิบดี เขาเป็นสายเหยี่ยวเช่นเดียวกัน ปัจจุบัน นั่งเป็นประธานถังความคิด ชื่อ Foundation for Defense of Democracies อ้อ… พวกอยู่หลังเขาเหมือนกัน นอกจากนี้ ยังเป็นสมาชิกผู้สนับสนุนโครงการเพื่อความเป็นหมายเลขหนึ่งของอเมริกาในศตวรรษใหม่ Project of the New American Century (PNAC) อันโด่งดัง ร่วมกับ Cheney และ Donald Rumsfeld สรุปว่า เป็นก๊วนเหยี่ยวกระหายเลือด ตะกระน้ำมันด้วยกัน Bill Richardson เป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของอเมริกา Rupert Murdoch เป็นเจ้าของสื่อใหญ่ ทั้งในอเมริกา อังกฤษ และออสเตรเลีย หรือเป็นเจ้าของโรงงานฟอกย้อมข่าวตัวสำคัญนั่นเอง ทั้งรวย ทั้งมีอิทธิพลสูงในวงการสื่อระดับโลก เขาเป็นเจ้าของสื่อตัวแสบ Wall Street Journal และเป็นนายทุนให้นิตยสารรายสัปดาห์ the Standard ที่เป็นสายเหยี่ยว และที่มีหัวหน้าคณะบรรณาธิการ เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง โครงการ PNAC Larry Summers เป็นอดีตรัฐมนตรีคลังของอเมริกา ที่มีบทบาทสำคัญในการเอาเงินภาษีชาวอเมริกัน มาอุ้มยักษ์ใหญ่ทางการเงิน ไม่ให้ล้มละลาย จากการทำธุรกรรมทางการเงินอย่างตะกระ และไร้ความรับผิดชอบ ….อ้าว นึกว่าอเมริกาเคร่งเรื่องธรรมาภิบาล good governance เห็นสมุนชาวสยามคนสำคัญ ชอบเดินสายสั่งสอนชาวสยามให้มีธรรมาภิบาล งวดหน้า รบกวนท่านบินไปพูดแถวอเมริกาด้วยนะครับ ถ้ายังมีแรงเหลือ… Michael Steinhardt เป็นเจ้าของกองทุนเล่นหุ้น หรือนักปั่นหุ้นระดับโลก ที่ใกล้ชิดกับอิสราเอล (เป็นนักเล่นหุ้นชาวยิวน่ะครับ) ส่วน Jacob Lord Rothschild คงไม่ต้องแนะนำกันมาก แค่ขอเพิ่มข้อมูลให้ว่า เขาเป็นหุ้นส่วนกับนักธุรกิจน้ำมันตัวแสบชาวรัสเซีย Mikhail Khodorkovsky ซึ่งถูกคุณพี่ปูตินสั่งจับและดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกง และเอาปูนหมายหน้าเอาไว้ เกี่ยวกับ Yukos Oil ที่มีความหมายกับรัสเซียมาก บางสื่อในรัสเซียเรียกเขาว่า เป็นคนขายชาติ ( อ่านเรื่องของเขาได้ ในนิทานเรื่อง หักหน้าหักหลัง และเรื่องแกะรอยสงครามโลกครั้ง ที่ 3) แต่นาย Kho ก็หนีออกจากรัสเซีย มาซุกอกใบตองแห้งได้ และเมื่อมีข่าวว่าจะถูกจับ นาย Kho โอนหุ้นที่ถือทั้งหมดใน Yukos Oil (กลับ !?) ไปให้ Jacob Rothschild ซึ่งปัจจุบัน เป็นผู้ถือหุ้นส่วนหนึ่งในจีนนี่ ที่ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลเนทันยาฮู ในปี ค.ศ.2013 เพื่อทำการสำรวจน้ำมัน และแก๊ส ในเนื้อที่จำนวน 153 ตารางไมล์ ที่อยู่ในที่ราบสูงโกลาน เป็นเวลา 3 ปี เห็นรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับ จีนนี่ แล้ว ก็พอจะเดาได้ว่า จีนนี่ น่าจะร้อนแรงน่าดู และก๊วนเหยี่ยวกระหายเลือด เหยี่ยวตะกระน้ำมันนี้แหละ ที่เป็นตัวริเริ่ม ยุให้อเมริกาบุกเข้าไปในตะวันออกกลางโดยเฉพาะที่อิรัค เพื่อไปปล้นน้ำมันอิรัค และก็ไอ้ก๊วนนี้อีกเช่นกัน ที่สนับสนุนให้อเมริกาส่งกำลังเข้าไปสนับสนุนพวกกบฏซีเรีย เพื่อไล่อัสสาดให้กระเด็นออกไปจากการปกครองซีเรีย คงพอเห็นภาพกันแล้วนะครับว่า ทำไม จึงมีคนถูตะเกียงเรียก จินนี่ ออกมาตอนนี้ และทำไมถึงมีเซียนวิเคราะห์ว่า จีนนี่ อาจจะทำให้เรื่องราวในตะวันออกกลาง บานปลาย กลายเป็นตัวจุดชนวนสงครามโลก ครั้งที่ 3 ก็ได้ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 4 พ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • The Curious Name Origins of World-Famous Vacation Destinations

    As we enter the summer, you might be planning a big trip to have some fun during your summer vacation. If you want to gallivant across the globe, there’s no shortage of beautiful places full of interesting history to explore. And it’s worth noting. Many cities around the world have fascinating stories about where their names came from. Before you finalize summer travel plans, we’re passing along some of the cool stories about the origins of the names of cities around the world.

    London, England
    Historical sources trace London’s name back to when the Romans first founded it in 43 CE and named the new settlement Londinium. Beyond that, though, there is heated debate on where the Romans got this name from. One common theory says that the name comes from King Lud, a mythical pre-Roman British king. Another theory suggests that the Romans took the name from the Celtic word Plowonida, which means “from two roots.”

    Rio de Janeiro, Brazil
    Rio de Janeiro translates to “January River” in English despite the fact that the city is located next to a bay and not a river. The popular story goes that when Portuguese explorers found the Guanabara Bay in the early 1500s, they mistook it for a large river and named the new settlement there after the “river.”

    Cuzco, Peru
    The name of the city of Cuzco, or Cusco, comes from the Quechua language and is said to mean “navel.” The city of Cuzco was the central city and the capital of the Inca empire. Cuzco is still often referred to as “The Navel of the Earth” to highlight its historical importance.

    Mumbai, India
    For the Marathi speakers who live there, the city of Mumbai takes its name from Mumbadevi, the patron goddess of the city. When India was under the control of the British Empire, the city was known as Bombay. The name Bombay is said to be an anglicized version of the earlier Portuguese name Bom Bahia, which meant “good little bay.”

    Cairo, Egypt
    The official Arabic name of the city known in English as Cairo is Al-Qāhirah. This name translates to “The Victorious” or “The Conqueror.” This powerful name is said to refer to Caliph al-Muʿizz, who established the city as the capital of the Fatimid Caliphate that would control Egypt for centuries afterward.

    Istanbul, Turkey
    The city of Istanbul can trace its name back to the Ottoman Empire. Originally known as Constantinople (for Roman emperor Constantine the Great), the city belonged to the Eastern Roman Empire but was captured by Ottoman forces in 1453. Although the Ottomans didn’t officially rename Constantinople, citizens outside the city began to refer to it using the Turkish name Istanpolin, based on a Greek phrase eis tan polin meaning “into the city.” Going back even further, the city was known as Byzantium. It is thought that the city was originally named for Byzas, a legendary Greek king who is said to have founded the city.

    Phnom Penh, Cambodia
    According to legend, Phnom Penh was founded by a woman known as Lady Penh or Duan Penh. During her life, Lady Penh built a shrine on a hill. That shrine, referred to as Wat Phnom, is said to still be standing today. Cambodia’s capital Phnom Penh takes its name both from Wat Phnom and Lady Penh.

    Bangkok, Thailand
    In Thai, the city of Bangkok is officially known by a much longer name that is often shortened to Krung Thep, which translates to “city of angels.” The city’s official name, at 168 letters, actually holds the record for the longest place name in the world. The exact origin of the English Bangkok is disputed, but it may be based on native Thai words for “city” and an olive-like fruit (makok).

    Jerusalem, Israel
    The holy city of Jerusalem, known as Yerushalayim in Hebrew and Al-Quds in Arabic, has a long history of religious prominence and conflict. The origins of the ancient city are still being researched today, but evidence says that the Egyptians knew of the city as early as the 14th century BCE. They referred to the city as Urusalim, a Semitic name that seems to translate to “city of Shalim,” referring to the Canaanite god Shalim, also known as Shalem or Salim.

    Marrakesh, Morocco
    The origin of the name of Marrakesh or Marrakech is still disputed today. The most popular interpretation says that the name comes from the Berber language and means “city of God” from the Berber amur akush.

    Johannesburg, South Africa
    It is agreed that Johannesburg, the largest city of South Africa, was likely named after a person or multiple named Johan or Johannes. Who exactly this person or these people were is still a matter of debate. Some popular picks include Johann Rissik and Christiaan Johannes Joubert, two early surveyors of southern Africa, and Stephanus Johannes Paulus Kruger, a president of the South African Republic.

    Of course, these are just some of the name tales of the many great vacation destinations around the world. There are many other cities out there with fascinating stories on where their names came from. Personally, we might book our next trip to Wales and learn about the story behind Llanfair­pwllgwyngyll­gogery­chwyrn­drobwll­llan­tysilio­gogo­goch … after we spend the summer learning how to pronounce it first!

    สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    The Curious Name Origins of World-Famous Vacation Destinations As we enter the summer, you might be planning a big trip to have some fun during your summer vacation. If you want to gallivant across the globe, there’s no shortage of beautiful places full of interesting history to explore. And it’s worth noting. Many cities around the world have fascinating stories about where their names came from. Before you finalize summer travel plans, we’re passing along some of the cool stories about the origins of the names of cities around the world. London, England Historical sources trace London’s name back to when the Romans first founded it in 43 CE and named the new settlement Londinium. Beyond that, though, there is heated debate on where the Romans got this name from. One common theory says that the name comes from King Lud, a mythical pre-Roman British king. Another theory suggests that the Romans took the name from the Celtic word Plowonida, which means “from two roots.” Rio de Janeiro, Brazil Rio de Janeiro translates to “January River” in English despite the fact that the city is located next to a bay and not a river. The popular story goes that when Portuguese explorers found the Guanabara Bay in the early 1500s, they mistook it for a large river and named the new settlement there after the “river.” Cuzco, Peru The name of the city of Cuzco, or Cusco, comes from the Quechua language and is said to mean “navel.” The city of Cuzco was the central city and the capital of the Inca empire. Cuzco is still often referred to as “The Navel of the Earth” to highlight its historical importance. Mumbai, India For the Marathi speakers who live there, the city of Mumbai takes its name from Mumbadevi, the patron goddess of the city. When India was under the control of the British Empire, the city was known as Bombay. The name Bombay is said to be an anglicized version of the earlier Portuguese name Bom Bahia, which meant “good little bay.” Cairo, Egypt The official Arabic name of the city known in English as Cairo is Al-Qāhirah. This name translates to “The Victorious” or “The Conqueror.” This powerful name is said to refer to Caliph al-Muʿizz, who established the city as the capital of the Fatimid Caliphate that would control Egypt for centuries afterward. Istanbul, Turkey The city of Istanbul can trace its name back to the Ottoman Empire. Originally known as Constantinople (for Roman emperor Constantine the Great), the city belonged to the Eastern Roman Empire but was captured by Ottoman forces in 1453. Although the Ottomans didn’t officially rename Constantinople, citizens outside the city began to refer to it using the Turkish name Istanpolin, based on a Greek phrase eis tan polin meaning “into the city.” Going back even further, the city was known as Byzantium. It is thought that the city was originally named for Byzas, a legendary Greek king who is said to have founded the city. Phnom Penh, Cambodia According to legend, Phnom Penh was founded by a woman known as Lady Penh or Duan Penh. During her life, Lady Penh built a shrine on a hill. That shrine, referred to as Wat Phnom, is said to still be standing today. Cambodia’s capital Phnom Penh takes its name both from Wat Phnom and Lady Penh. Bangkok, Thailand In Thai, the city of Bangkok is officially known by a much longer name that is often shortened to Krung Thep, which translates to “city of angels.” The city’s official name, at 168 letters, actually holds the record for the longest place name in the world. The exact origin of the English Bangkok is disputed, but it may be based on native Thai words for “city” and an olive-like fruit (makok). Jerusalem, Israel The holy city of Jerusalem, known as Yerushalayim in Hebrew and Al-Quds in Arabic, has a long history of religious prominence and conflict. The origins of the ancient city are still being researched today, but evidence says that the Egyptians knew of the city as early as the 14th century BCE. They referred to the city as Urusalim, a Semitic name that seems to translate to “city of Shalim,” referring to the Canaanite god Shalim, also known as Shalem or Salim. Marrakesh, Morocco The origin of the name of Marrakesh or Marrakech is still disputed today. The most popular interpretation says that the name comes from the Berber language and means “city of God” from the Berber amur akush. Johannesburg, South Africa It is agreed that Johannesburg, the largest city of South Africa, was likely named after a person or multiple named Johan or Johannes. Who exactly this person or these people were is still a matter of debate. Some popular picks include Johann Rissik and Christiaan Johannes Joubert, two early surveyors of southern Africa, and Stephanus Johannes Paulus Kruger, a president of the South African Republic. Of course, these are just some of the name tales of the many great vacation destinations around the world. There are many other cities out there with fascinating stories on where their names came from. Personally, we might book our next trip to Wales and learn about the story behind Llanfair­pwllgwyngyll­gogery­chwyrn­drobwll­llan­tysilio­gogo­goch … after we spend the summer learning how to pronounce it first! สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 774 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้มข้ามศตวรรษ – สร้างฉากปฏิวัติ 1 – 3
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ”

    ตอน 1

    เดือนกันยายน ปี ค.ศ. 1916 ประมาณ 1 ปี ก่อนการปฏิวัติอันโด่งดังของรัสเซีย Russian Revolution หรือ Bolshevik Revolution นาย Leon Trotsky ซึ่งตามประวัติศาสตร์ระบุว่า เขาเป็นหนึ่งในหัวหน้าคณะปฏิวัติ กำลังถูกไล่ให้ออกจากประเทศฝรั่งเศส สาเหตุจากบทความที่เขาเขียนลงใน Nashe Slovo หนังสือพิมพ์ภาษารัสเซีย ที่ออกจำหน่ายในฝรั่งเศส มันคงเร้าใจมากขนาดฝรั่งเศส ซึ่งคุ้นเคยกับการปฏิวัติโหดมาแล้ว ยังรับไม่ไหว ตำรวจฝรั่งเศสจึงจัดการส่งตัวนาย Trotsky ออกนอกประเทศ ไปทางเขตแดนด้านประเทศสเปน

    ไม่กี่วัน นายTrotsky ก็มาถึงเมืองมาดริด และถูกตำรวจที่เมืองมาดริด จับใส่ห้องขัง มันเป็นห้องขังประเภทชั้นพิเศษ first class cell ซึ่งต้องมีการจ่ายเงินค่าความพิเศษ ไม่เหมือนห้องขังทั่วไป แต่เหมือนโรงแรมมากกว่า นาย Trotsky นี่น่าจะเป็นผู้ต้องขัง ชนิดมีปลอกคอ จากนั้นก็มีการส่งตัวเขาต่อมายังเมืองบาร์เซโลนา เพื่อมาลงเรือเดินสมุทรของ Spanish Transatlantic Company ชื่อ Monserrat

    Trosky และครอบครัวนั่งเรือ Monserrat ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก มาขึ้นบกที่เมืองนิวยอร์ค เมื่อ วันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1917

    จากหนังสือชีวประวัติ ที่ Trosky เขียนเอง ชื่อ My Life คนมีปลอกคอ เล่าว่า ” อาชีพเดียวที่ผมทำ ตอนอยู่ที่นิวยอร์คคือ เป็นนักปฏิวัติเพื่อสังคมนิยม นอกเหนือจากการเขียนบทความเป็นครั้งคราว ลงในหนังสือพิมพ์ Novy Mir ของพวกสังคมนิยม ”

    แต่ระหว่างที่อยู่นิวยอร์ค เมืองของนายทุน Trosky นักสังคมนิยมและครอบครัว พักอยู่ในอพาร์ตเมนท์ ที่มีตู้เย็นและโทรศัพท์ ซึ่งถือว่าเป็นของหรูหรา ฟุ่มเฟือยอย่างมากในสมัยเมื่อ 100 ปีก่อน นอกจากนั้นครอบครัว Trotsky ยังเดินทาง ไปมาในเมืองนิวยอร์ค ด้วยรถยนต์ ที่มีคนขับรถประจำ

    นี่ใช่เรื่องของ Leon Trostky ซึ่งมีชื่อปรากฎในประวัติศาสตร์ว่า เป็นนักปฏิวัติสังคมนิยมคนดัง ของรัสเซีย แน่หรือ

    Trotsky เขียนเล่าถึงชีวิตเขาที่นิวยอร์ค ในชีวประวัติของเขาต่อไปว่า ” ระหว่างอยู่นิวยอร์ค ช่วงปี 1916 ถึง 1917 ผมมีรายได้เพียง 310 เหรียญ ซึ่งผมได้แจกเงินดังกล่าวทั้งหมดให้แก่คนรัสเซีย 5 คน ที่อยู่นิวยอร์ค เพื่อเป็นค่าเดินทางกลับบ้าน”

    ขณะเดียวกัน อพาร์ตเมนท์ที่เขาอยู่ ก็มีการจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 3 เดือน เขาต้องเลี้ยงดูเมีย 1 และลูกอีก 2 เขามีรถยนต์ใช้และมีคนขับรถประจำ นี่คือวิถีชีวิตของนักปฏิวัติเพื่อสังคมนิยม ที่อ้างว่าดำรงชีพ ด้วยการเขียนบทความลงหนังหนังสือพิมพ์เป็นครั้งคราว

    เรื่องราวของเขา คงไม่ตรงไปตรงมา อย่างที่เราเคยเข้าใจกัน หรือว่าพวกนักปฏิวัติ นักปฏิรูป เขาเป็นกันอย่างนี้ทั้งนั้น

    นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเงินสดจำนวน 1 หมื่นเหรียญ ที่นาย Trotsky พกติดตัวและถูกเจ้าหน้าที่ค้นพบ ระหว่างที่เขาถูกเจ้าหน้าที่แคนาดาจับ ในเดือนเมษายน 1917 ที่เมือง Halifax เมื่อ 100 ปีก่อน เงิน 1 หมื่นเหรียญ นี่เป็นเงินจำนวนไม่เล็กน้อยนะครับ นักปฏิวัติเพื่อสังคมนิยม เอาเงินจำนวนนี้มาจากไหนกัน
    มีข่าวลือว่า เงิน 1 หมื่นเหรียญนั้น มาจากเยอรมัน ข่าวนี้มาจากฝ่ายข่าวกรองของอังกฤษ ซึ่งรายงานว่า นาย Gregory Weinstein ซึ่งต่อมา เป็นสมาชิกที่โด่งดังของ Soviet Bureau ประจำนครนิวยอร์ค เป็นคนรับเงินมา และนำมาส่งให้นาย Trotsky ที่นิวยอร์ค เงินจำนวนนี้มาจากเยอรมัน โดยการฟอกผ่าน Volks-zeitung น.ส.พ. รายวันของเยอรมัน ที่รัฐบาลเยอรมันสนับสนุนอยู่

    ขณะที่มีข่าวว่า Trotsky ได้รับเงินอุดหนุนจากเยอรมัน Trotsky กลับเคลี่อนไหวอยู่ในอเมริกา ก่อนที่เขาจะเดินทางออกจากนิวยอร์ค ไปรัสเซีย….เพื่อไปทำการปฏิวัติ !

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ”

    ตอน 2

    วันที่ 5 มีนาคม 1917 หนังสือพิมพ์อเมริกัน พากันพาดหัวข่าวตัวโต ถึงความเป็นไปได้ ที่อเมริกาจะเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร เพื่อทำสงครามกับเยอรมัน คืนวันนั้นเอง Trotsky ก็ไปร่วมการชุมนุมของกลุ่มชาวสังคมนิยมในนิวยอร์คด้วย เขาพูดปลุกระดมให้ชาวสังคมนิยมในอเมริกา จัดการให้มีการนัดหยุดงาน และต่อต้านการเกณท์ทหาร หากอเมริกาจะเข้าร่วมทำสงครามต่อสู้กับเยอรมัน (ท่านผู้อ่านนิทาน คงพอจำกันได้ว่า ขณะที่ฝ่ายสัมพันธมิตร ที่นำโดยอังกฤษ ประกาศสงครามกับฝ่ายเยอรมัน ในปี 1914 นั้น อเมริกายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมสงครามด้วย และมีสถานะเป็นประเทศเป็นกลางอยู่หลายปี)

    หลังจากนั้นประมาณสัปดาห์กว่า ในวันที่ 16 มีนาคม 1917 ก็เกิดเหตุการณ์ใหญ่ในรัสเซีย ซาร์นิโคลัส ที่ 2 ถูกปฏิวัติให้ลงจากบัลลังก์ โดยกลุ่มนักปฏิวัติ ที่นำโดยนาย Aleksandre Kerensky หนังสือพิมพ์ Novy Mir ได้มาขอสัมภาษณ์ Leon Trotsky ซึ่งให้ความเห็นไว้เหมือนคนรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าว่า

    “คณะผู้บริหาร ที่ตั้งขึ้นมาทำหน้าที่แทนพวกซาร์ ที่ถูกปฏิวัติไปนั้น ไม่ได้เป็นตัวแทนของกลุ่มผลประโยชน์ หรือทำตามวัตถุประสงค์ ของพวกที่ต้องการปฏิวัติ คณะผู้บริหารนี้คงอยู่ไม่นานหรอก อีกหน่อยก็คงลาออกไป เพื่อให้กลุ่มคนที่สามารถจะนำพารัสเซียไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย มาทำหน้าที่ต่อไป…”

    กลุ่มคนที่สามารถนำพารัสเซียไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย ในความหมายของ Trotsky คือ พวก Bolsheviks และ Menshevik ซึ่งกำลังลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ และกำลังรีบเร่งเดินทางกลับรัส เซีย ส่วนคณะผู้บริหารนั้น หมายถึง รัฐบาลเฉพาะกาล Provisional Government ของกลุ่มนาย Aleksandr Kerensky ที่ทำการปฏิวัติในวันที่ 16 มีนาคม คศ 1917
    แล้วนาย Trotsky ก็ออกเดินทางจากนครนิวยอร์ค เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 1917 ด้วยเรือเดินสมุทรชื่อ S S Kristainiafjord เขาผ่านด่านตรวจ ขึ้นเรือดังกล่าวด้วยพาสปอร์ตของอเมริกา เขาเดินทางพร้อมพรรคพวกอีกหลายคน เพื่อจะไปทำการปฏิวัติ นอกจากนี้ ยังมีนักการเงินจากวอลสตรีท คอมมิวนิสต์สัญชาติอเมริกัน และบุคคลน่าสนใจอีกหลายคน ร่วมเดินทางไปกับนาย Trotsky ด้วย

    นาย Trotsky เอาพาสปอร์ตของอเมริกามาจากไหน

    นาย Jennings C. Wise เขียนไว้ในหนังสือเรื่อง “Woodlow Wilson : Disciple Revolution” ว่า นักประวัติศาสตร์จะต้องไม่ลืมว่า ประธานาธิบดีของอเมริกา นาย Woodlow Wilson เป็นนางฟ้า ที่มาเศกให้นาย Leon Trotsky เดินทางเข้ารัสเซียได้สำเร็จ ด้วยพาสปอร์ตของอเมริกา แม้ว่าจะมีการพยายามขัดขวางโดยตำรวจอังกฤษก็ตาม”

    คงเกินกว่าที่เราจะคาดคิดว่า ประธานาธิบดี Wilson เป็นนางฟ้ามาเศกให้นาย Trotsky ได้ถือพาสปอร์ตที่ออกโดยอเมริกา เพื่อเดินทางกลับไปรัสเซีย และไปดำเนินการปฏิวัติต่อให้สำเร็จ (ตามเป้าหมาย!?) และเป็นพาสปอร์ตของอเมริกา ที่สามารถผ่านเข้าออกได้ทุกด่านของอเมริกา รวมทั้งมีวีซ่าอนุญาตให้เข้าประเทศอังกฤษอีกด้วย

    นางฟ้าทำได้ทุกอย่างจริงๆ ตั้งแต่สมัยนั้น จนถึงเดี๋ยวนี่ แต่ควรจะเรียกว่าเป็นนางฟ้า หรือไม่ อ่านนิทานต่อไปเรื่อยๆ คนอ่านนิทาน คงนึกออกว่าควรจะเรียกว่าอะไร

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ”

    ตอน 3

    ส่วนผสมของผู้โดยสาร ที่เดินทางไปในเรือ S S Kristainiafjord ได้ถูกบันทึกไว้โดยนาย Lincoln Steffens คอมมิวนิสต์ชาวอเมริกัน ดังนี้:

    “…รายชื่อผู้โดยสารยาวเหยียด และดูลึกลับน่าสนใจ แน่นอน Trotsky แสดงตัวเป็นหัวหน้ากลุ่มนักปฏิวัติ มีนักปฎิวัติชาวญี่ปุ่น นอนเคบินเดียวกับผม มีชาวดัชท์หลายคนที่รีบร้อนกลับเมืองชะวา พวกนี้ดูจะเป็นกลุ่มเดียวที่ไม่เกี่ยวโยงกับใคร ที่เหลือดูเหมือนจะเป็นผู้ที่เกี่ยวโยงกับสงครามโลกที่กำลังเกิดขึ้น นอกจากนี้ มีพวกนักการเงินวอลสตรีท 2 คน มุ่งหน้าไปเยอรมัน.. ”
    นาย Steffens เองนั้น โดยสารไปในเรือเดินสมุทร โดยคำเชิญของ นาย Charles R Crane เจ้าของกระเป๋าทุนใบใหญ่ที่สนับสนุน ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ในการสมัครเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี

    นาย Crane นั้น เป็นรองประธานบริษัท Crane Company ซึ่งภายหลัง เป็นคนไปตั้งบริษัท Westinghouse สาขารัสเซีย หลังการปฏิวัติของรัสเซียรอบที่กลุ่ม Bolsheviks เป็นผู้ปฎิบัติการสำเร็จเรียบร้อย นาย Crane ยังเป็นหนึ่งในกรรมาธิการ Root Mission ที่ประธานาธิบดี Wilson ส่งไปสำรวจรัสเซียทุกตารางนิ้ว หลังการปฏิวัติอีกด้วย

    นาย Crane เดินทางไปรัสเซียในระหว่างช่วงปี ค.ศ.1890 ถึง 1930 ประมาณ 23 ครั้ง ลูกชายของเขา Richard Crane เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างเทศ ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างมาก ของนาย Robert Lansing รัฐมนตรีต่างเทศของอเมริกาขณะนั้น

    นาย William Dodd อดีตทูตอเมริกันประจำเยอรมัน พูดถึงนาย Crane ว่า เป็นผู้มีส่วนอย่างมาก ที่ทำให้การปฏิวัติในรัสเซียเมื่อเดือนมีนาคม โดยกลุ่มของ Aleksandr Kerensky กลายเป็นการปฏิวัติชั่วคราว ที่นำร่อง เปิดทางให้กับการปฏิวัติของจริง ที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ในปีเดียวกัน

    นาย Steffens ได้บันทึกการสนทนา ที่เขาได้ยินระหว่างการเดินทางในเรือเดินสมุทรไว้ว่า “…. ดูเหมือนทุกคนจะเห็นพ้องกันว่า การปฏิวัติที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม (โดย Aleksandr Kerensky) เป็นเพียงขั้นตอนแรกเท่านั้นเอง มันจะต้องมีตอนต่อไป Crane และพวกรัสเซียหัวก้าวหน้าที่อยู่ในเรือ คิดว่าพวกที่กำลังเดินทางจะไปเมือง Petrograd (ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นเมือง St Petersberg ) เพื่อไปทำการปฏิวัติซ้ำ…”

    เมื่อนาย Crane กลับมาอเมริกาในเดือนธันวาคม 1917 หลังจากการปฏิวัติบอลเชวิก Bolsheviks Revolution (หรือการปฏิวัติซ้ำ นั่นแหละ) สำเร็จเรียบร้อยแล้ว นาย Crane ก็ได้รับโทรเลข ลงวันที่ 11 ธันวาคม 1917 จากกระทรวงต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าโดย นาย Maddin Summers กงสุลอเมริกันประจำกรุงมอสโคว์ พร้อมจดหมายปะหน้าจากนาย Summers ว่า

    ” กระผม ขออนุญาตนำเสนอรายงานที่แนบมา นี้ และสำเนาอีกหนึ่งฉบับ โดยขอให้กระทรวงฯ ได้โปรดนำส่งให้ นาย Charles Crane เพื่อทราบความคืบหน้าด้วย หวังว่าทางกระทรวงคงไม่ขัดข้อง ที่จะให้นาย Crane ได้เห็นรายงาน….”

    สำหรับท่านผู้อ่านนิทานเรื่องจริง เรื่องเหยื่อ คงพอจำชื่อนี้ได้ เขาคือ นาย Crane คนเดียวกันกับ เจ้าของรายงาน King Crane Report ที่ไปเดินสำรวจตะวันออกกลาง เพื่อทำประชามติว่า ชาวอาหรับต้องการจะอยู่ในความปกครอง ของใคร หลังจากถูกอังกฤษหลอก โดยให้สายลับ ที่เรารู้จักกันในนาม Lawrence of Arabia เป็นผู้นำชาวอาหรับ ไปรบกับตุรกี และยึดหลายเมืองในตะวันออกกลางได้
    และเป็นนาย Crane คนเดียวกัน ที่สามารถจับมือให้กษัตริย์ซาอุดิอารเบีย ตัดสินใจเปิดประตูเมืองครั้งแรก และให้สัมปทานน้ำมันแก่อเมริกา เริ่มศักราช Petro Dollar ร่วมกันรวย ช่วยกันปั่น มาจนถึงทุกวันนี้

    พอเห็นเค้าแล้วนะครับ ว่านิทานเรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    23 เม.ย. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – สร้างฉากปฏิวัติ 1 – 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ” ตอน 1 เดือนกันยายน ปี ค.ศ. 1916 ประมาณ 1 ปี ก่อนการปฏิวัติอันโด่งดังของรัสเซีย Russian Revolution หรือ Bolshevik Revolution นาย Leon Trotsky ซึ่งตามประวัติศาสตร์ระบุว่า เขาเป็นหนึ่งในหัวหน้าคณะปฏิวัติ กำลังถูกไล่ให้ออกจากประเทศฝรั่งเศส สาเหตุจากบทความที่เขาเขียนลงใน Nashe Slovo หนังสือพิมพ์ภาษารัสเซีย ที่ออกจำหน่ายในฝรั่งเศส มันคงเร้าใจมากขนาดฝรั่งเศส ซึ่งคุ้นเคยกับการปฏิวัติโหดมาแล้ว ยังรับไม่ไหว ตำรวจฝรั่งเศสจึงจัดการส่งตัวนาย Trotsky ออกนอกประเทศ ไปทางเขตแดนด้านประเทศสเปน ไม่กี่วัน นายTrotsky ก็มาถึงเมืองมาดริด และถูกตำรวจที่เมืองมาดริด จับใส่ห้องขัง มันเป็นห้องขังประเภทชั้นพิเศษ first class cell ซึ่งต้องมีการจ่ายเงินค่าความพิเศษ ไม่เหมือนห้องขังทั่วไป แต่เหมือนโรงแรมมากกว่า นาย Trotsky นี่น่าจะเป็นผู้ต้องขัง ชนิดมีปลอกคอ จากนั้นก็มีการส่งตัวเขาต่อมายังเมืองบาร์เซโลนา เพื่อมาลงเรือเดินสมุทรของ Spanish Transatlantic Company ชื่อ Monserrat Trosky และครอบครัวนั่งเรือ Monserrat ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก มาขึ้นบกที่เมืองนิวยอร์ค เมื่อ วันที่ 13 มกราคม ค.ศ. 1917 จากหนังสือชีวประวัติ ที่ Trosky เขียนเอง ชื่อ My Life คนมีปลอกคอ เล่าว่า ” อาชีพเดียวที่ผมทำ ตอนอยู่ที่นิวยอร์คคือ เป็นนักปฏิวัติเพื่อสังคมนิยม นอกเหนือจากการเขียนบทความเป็นครั้งคราว ลงในหนังสือพิมพ์ Novy Mir ของพวกสังคมนิยม ” แต่ระหว่างที่อยู่นิวยอร์ค เมืองของนายทุน Trosky นักสังคมนิยมและครอบครัว พักอยู่ในอพาร์ตเมนท์ ที่มีตู้เย็นและโทรศัพท์ ซึ่งถือว่าเป็นของหรูหรา ฟุ่มเฟือยอย่างมากในสมัยเมื่อ 100 ปีก่อน นอกจากนั้นครอบครัว Trotsky ยังเดินทาง ไปมาในเมืองนิวยอร์ค ด้วยรถยนต์ ที่มีคนขับรถประจำ นี่ใช่เรื่องของ Leon Trostky ซึ่งมีชื่อปรากฎในประวัติศาสตร์ว่า เป็นนักปฏิวัติสังคมนิยมคนดัง ของรัสเซีย แน่หรือ Trotsky เขียนเล่าถึงชีวิตเขาที่นิวยอร์ค ในชีวประวัติของเขาต่อไปว่า ” ระหว่างอยู่นิวยอร์ค ช่วงปี 1916 ถึง 1917 ผมมีรายได้เพียง 310 เหรียญ ซึ่งผมได้แจกเงินดังกล่าวทั้งหมดให้แก่คนรัสเซีย 5 คน ที่อยู่นิวยอร์ค เพื่อเป็นค่าเดินทางกลับบ้าน” ขณะเดียวกัน อพาร์ตเมนท์ที่เขาอยู่ ก็มีการจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า 3 เดือน เขาต้องเลี้ยงดูเมีย 1 และลูกอีก 2 เขามีรถยนต์ใช้และมีคนขับรถประจำ นี่คือวิถีชีวิตของนักปฏิวัติเพื่อสังคมนิยม ที่อ้างว่าดำรงชีพ ด้วยการเขียนบทความลงหนังหนังสือพิมพ์เป็นครั้งคราว เรื่องราวของเขา คงไม่ตรงไปตรงมา อย่างที่เราเคยเข้าใจกัน หรือว่าพวกนักปฏิวัติ นักปฏิรูป เขาเป็นกันอย่างนี้ทั้งนั้น นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเงินสดจำนวน 1 หมื่นเหรียญ ที่นาย Trotsky พกติดตัวและถูกเจ้าหน้าที่ค้นพบ ระหว่างที่เขาถูกเจ้าหน้าที่แคนาดาจับ ในเดือนเมษายน 1917 ที่เมือง Halifax เมื่อ 100 ปีก่อน เงิน 1 หมื่นเหรียญ นี่เป็นเงินจำนวนไม่เล็กน้อยนะครับ นักปฏิวัติเพื่อสังคมนิยม เอาเงินจำนวนนี้มาจากไหนกัน มีข่าวลือว่า เงิน 1 หมื่นเหรียญนั้น มาจากเยอรมัน ข่าวนี้มาจากฝ่ายข่าวกรองของอังกฤษ ซึ่งรายงานว่า นาย Gregory Weinstein ซึ่งต่อมา เป็นสมาชิกที่โด่งดังของ Soviet Bureau ประจำนครนิวยอร์ค เป็นคนรับเงินมา และนำมาส่งให้นาย Trotsky ที่นิวยอร์ค เงินจำนวนนี้มาจากเยอรมัน โดยการฟอกผ่าน Volks-zeitung น.ส.พ. รายวันของเยอรมัน ที่รัฐบาลเยอรมันสนับสนุนอยู่ ขณะที่มีข่าวว่า Trotsky ได้รับเงินอุดหนุนจากเยอรมัน Trotsky กลับเคลี่อนไหวอยู่ในอเมริกา ก่อนที่เขาจะเดินทางออกจากนิวยอร์ค ไปรัสเซีย….เพื่อไปทำการปฏิวัติ ! นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ” ตอน 2 วันที่ 5 มีนาคม 1917 หนังสือพิมพ์อเมริกัน พากันพาดหัวข่าวตัวโต ถึงความเป็นไปได้ ที่อเมริกาจะเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร เพื่อทำสงครามกับเยอรมัน คืนวันนั้นเอง Trotsky ก็ไปร่วมการชุมนุมของกลุ่มชาวสังคมนิยมในนิวยอร์คด้วย เขาพูดปลุกระดมให้ชาวสังคมนิยมในอเมริกา จัดการให้มีการนัดหยุดงาน และต่อต้านการเกณท์ทหาร หากอเมริกาจะเข้าร่วมทำสงครามต่อสู้กับเยอรมัน (ท่านผู้อ่านนิทาน คงพอจำกันได้ว่า ขณะที่ฝ่ายสัมพันธมิตร ที่นำโดยอังกฤษ ประกาศสงครามกับฝ่ายเยอรมัน ในปี 1914 นั้น อเมริกายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมสงครามด้วย และมีสถานะเป็นประเทศเป็นกลางอยู่หลายปี) หลังจากนั้นประมาณสัปดาห์กว่า ในวันที่ 16 มีนาคม 1917 ก็เกิดเหตุการณ์ใหญ่ในรัสเซีย ซาร์นิโคลัส ที่ 2 ถูกปฏิวัติให้ลงจากบัลลังก์ โดยกลุ่มนักปฏิวัติ ที่นำโดยนาย Aleksandre Kerensky หนังสือพิมพ์ Novy Mir ได้มาขอสัมภาษณ์ Leon Trotsky ซึ่งให้ความเห็นไว้เหมือนคนรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าว่า “คณะผู้บริหาร ที่ตั้งขึ้นมาทำหน้าที่แทนพวกซาร์ ที่ถูกปฏิวัติไปนั้น ไม่ได้เป็นตัวแทนของกลุ่มผลประโยชน์ หรือทำตามวัตถุประสงค์ ของพวกที่ต้องการปฏิวัติ คณะผู้บริหารนี้คงอยู่ไม่นานหรอก อีกหน่อยก็คงลาออกไป เพื่อให้กลุ่มคนที่สามารถจะนำพารัสเซียไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย มาทำหน้าที่ต่อไป…” กลุ่มคนที่สามารถนำพารัสเซียไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย ในความหมายของ Trotsky คือ พวก Bolsheviks และ Menshevik ซึ่งกำลังลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ และกำลังรีบเร่งเดินทางกลับรัส เซีย ส่วนคณะผู้บริหารนั้น หมายถึง รัฐบาลเฉพาะกาล Provisional Government ของกลุ่มนาย Aleksandr Kerensky ที่ทำการปฏิวัติในวันที่ 16 มีนาคม คศ 1917 แล้วนาย Trotsky ก็ออกเดินทางจากนครนิวยอร์ค เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 1917 ด้วยเรือเดินสมุทรชื่อ S S Kristainiafjord เขาผ่านด่านตรวจ ขึ้นเรือดังกล่าวด้วยพาสปอร์ตของอเมริกา เขาเดินทางพร้อมพรรคพวกอีกหลายคน เพื่อจะไปทำการปฏิวัติ นอกจากนี้ ยังมีนักการเงินจากวอลสตรีท คอมมิวนิสต์สัญชาติอเมริกัน และบุคคลน่าสนใจอีกหลายคน ร่วมเดินทางไปกับนาย Trotsky ด้วย นาย Trotsky เอาพาสปอร์ตของอเมริกามาจากไหน นาย Jennings C. Wise เขียนไว้ในหนังสือเรื่อง “Woodlow Wilson : Disciple Revolution” ว่า นักประวัติศาสตร์จะต้องไม่ลืมว่า ประธานาธิบดีของอเมริกา นาย Woodlow Wilson เป็นนางฟ้า ที่มาเศกให้นาย Leon Trotsky เดินทางเข้ารัสเซียได้สำเร็จ ด้วยพาสปอร์ตของอเมริกา แม้ว่าจะมีการพยายามขัดขวางโดยตำรวจอังกฤษก็ตาม” คงเกินกว่าที่เราจะคาดคิดว่า ประธานาธิบดี Wilson เป็นนางฟ้ามาเศกให้นาย Trotsky ได้ถือพาสปอร์ตที่ออกโดยอเมริกา เพื่อเดินทางกลับไปรัสเซีย และไปดำเนินการปฏิวัติต่อให้สำเร็จ (ตามเป้าหมาย!?) และเป็นพาสปอร์ตของอเมริกา ที่สามารถผ่านเข้าออกได้ทุกด่านของอเมริกา รวมทั้งมีวีซ่าอนุญาตให้เข้าประเทศอังกฤษอีกด้วย นางฟ้าทำได้ทุกอย่างจริงๆ ตั้งแต่สมัยนั้น จนถึงเดี๋ยวนี่ แต่ควรจะเรียกว่าเป็นนางฟ้า หรือไม่ อ่านนิทานต่อไปเรื่อยๆ คนอ่านนิทาน คงนึกออกว่าควรจะเรียกว่าอะไร นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 1 “สร้างฉากปฏิวัติ” ตอน 3 ส่วนผสมของผู้โดยสาร ที่เดินทางไปในเรือ S S Kristainiafjord ได้ถูกบันทึกไว้โดยนาย Lincoln Steffens คอมมิวนิสต์ชาวอเมริกัน ดังนี้: “…รายชื่อผู้โดยสารยาวเหยียด และดูลึกลับน่าสนใจ แน่นอน Trotsky แสดงตัวเป็นหัวหน้ากลุ่มนักปฏิวัติ มีนักปฎิวัติชาวญี่ปุ่น นอนเคบินเดียวกับผม มีชาวดัชท์หลายคนที่รีบร้อนกลับเมืองชะวา พวกนี้ดูจะเป็นกลุ่มเดียวที่ไม่เกี่ยวโยงกับใคร ที่เหลือดูเหมือนจะเป็นผู้ที่เกี่ยวโยงกับสงครามโลกที่กำลังเกิดขึ้น นอกจากนี้ มีพวกนักการเงินวอลสตรีท 2 คน มุ่งหน้าไปเยอรมัน.. ” นาย Steffens เองนั้น โดยสารไปในเรือเดินสมุทร โดยคำเชิญของ นาย Charles R Crane เจ้าของกระเป๋าทุนใบใหญ่ที่สนับสนุน ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ในการสมัครเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี นาย Crane นั้น เป็นรองประธานบริษัท Crane Company ซึ่งภายหลัง เป็นคนไปตั้งบริษัท Westinghouse สาขารัสเซีย หลังการปฏิวัติของรัสเซียรอบที่กลุ่ม Bolsheviks เป็นผู้ปฎิบัติการสำเร็จเรียบร้อย นาย Crane ยังเป็นหนึ่งในกรรมาธิการ Root Mission ที่ประธานาธิบดี Wilson ส่งไปสำรวจรัสเซียทุกตารางนิ้ว หลังการปฏิวัติอีกด้วย นาย Crane เดินทางไปรัสเซียในระหว่างช่วงปี ค.ศ.1890 ถึง 1930 ประมาณ 23 ครั้ง ลูกชายของเขา Richard Crane เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างเทศ ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างมาก ของนาย Robert Lansing รัฐมนตรีต่างเทศของอเมริกาขณะนั้น นาย William Dodd อดีตทูตอเมริกันประจำเยอรมัน พูดถึงนาย Crane ว่า เป็นผู้มีส่วนอย่างมาก ที่ทำให้การปฏิวัติในรัสเซียเมื่อเดือนมีนาคม โดยกลุ่มของ Aleksandr Kerensky กลายเป็นการปฏิวัติชั่วคราว ที่นำร่อง เปิดทางให้กับการปฏิวัติของจริง ที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ในปีเดียวกัน นาย Steffens ได้บันทึกการสนทนา ที่เขาได้ยินระหว่างการเดินทางในเรือเดินสมุทรไว้ว่า “…. ดูเหมือนทุกคนจะเห็นพ้องกันว่า การปฏิวัติที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม (โดย Aleksandr Kerensky) เป็นเพียงขั้นตอนแรกเท่านั้นเอง มันจะต้องมีตอนต่อไป Crane และพวกรัสเซียหัวก้าวหน้าที่อยู่ในเรือ คิดว่าพวกที่กำลังเดินทางจะไปเมือง Petrograd (ซึ่งต่อมาเปลี่ยนเป็นเมือง St Petersberg ) เพื่อไปทำการปฏิวัติซ้ำ…” เมื่อนาย Crane กลับมาอเมริกาในเดือนธันวาคม 1917 หลังจากการปฏิวัติบอลเชวิก Bolsheviks Revolution (หรือการปฏิวัติซ้ำ นั่นแหละ) สำเร็จเรียบร้อยแล้ว นาย Crane ก็ได้รับโทรเลข ลงวันที่ 11 ธันวาคม 1917 จากกระทรวงต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าโดย นาย Maddin Summers กงสุลอเมริกันประจำกรุงมอสโคว์ พร้อมจดหมายปะหน้าจากนาย Summers ว่า ” กระผม ขออนุญาตนำเสนอรายงานที่แนบมา นี้ และสำเนาอีกหนึ่งฉบับ โดยขอให้กระทรวงฯ ได้โปรดนำส่งให้ นาย Charles Crane เพื่อทราบความคืบหน้าด้วย หวังว่าทางกระทรวงคงไม่ขัดข้อง ที่จะให้นาย Crane ได้เห็นรายงาน….” สำหรับท่านผู้อ่านนิทานเรื่องจริง เรื่องเหยื่อ คงพอจำชื่อนี้ได้ เขาคือ นาย Crane คนเดียวกันกับ เจ้าของรายงาน King Crane Report ที่ไปเดินสำรวจตะวันออกกลาง เพื่อทำประชามติว่า ชาวอาหรับต้องการจะอยู่ในความปกครอง ของใคร หลังจากถูกอังกฤษหลอก โดยให้สายลับ ที่เรารู้จักกันในนาม Lawrence of Arabia เป็นผู้นำชาวอาหรับ ไปรบกับตุรกี และยึดหลายเมืองในตะวันออกกลางได้ และเป็นนาย Crane คนเดียวกัน ที่สามารถจับมือให้กษัตริย์ซาอุดิอารเบีย ตัดสินใจเปิดประตูเมืองครั้งแรก และให้สัมปทานน้ำมันแก่อเมริกา เริ่มศักราช Petro Dollar ร่วมกันรวย ช่วยกันปั่น มาจนถึงทุกวันนี้ พอเห็นเค้าแล้วนะครับ ว่านิทานเรื่องนี้ค่อนข้างซับซ้อน สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 23 เม.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1043 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แคลิฟอร์เนียผ่านฤดูร้อนปี 2025 โดยไม่ต้องออกคำเตือน Flex Alert – สัญญาณดีจากพลังงานสะอาดและระบบจัดการใหม่”

    ฤดูร้อนในแคลิฟอร์เนียมักเป็นช่วงเวลาที่ระบบไฟฟ้าต้องเผชิญกับความท้าทายจากอุณหภูมิสูงและการใช้พลังงานที่พุ่งขึ้น แต่ในปี 2025 รัฐสามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปได้โดยไม่ต้องออกคำเตือน “Flex Alert” เลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในการบริหารจัดการพลังงาน

    Flex Alert คือคำเตือนที่ออกโดย California ISO เพื่อขอให้ประชาชนลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาวิกฤต เช่น ปิดเครื่องปรับอากาศหรือเลื่อนการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อหลีกเลี่ยงการดับไฟแบบหมุนเวียน (rolling blackout)

    ปีนี้ แคลิฟอร์เนียสามารถหลีกเลี่ยง Flex Alert ได้ด้วยการลงทุนในระบบกักเก็บพลังงาน (battery storage) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น แสงอาทิตย์และลม ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้ตอบสนองความต้องการได้ดีขึ้น

    ความสำเร็จในการจัดการพลังงานปี 2025
    ไม่มีการออก Flex Alert ตลอดฤดูร้อน
    ระบบไฟฟ้ารับมือกับความต้องการสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ปัจจัยที่ช่วยให้หลีกเลี่ยงวิกฤต
    การลงทุนใน battery storage เพิ่มขึ้น
    การใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น solar และ wind
    การปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้มีความยืดหยุ่น

    ความหมายเชิงนโยบาย
    แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดสามารถทำได้จริง
    ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาพลังงานฟอสซิลในช่วงวิกฤต

    คำเตือนสำหรับอนาคต
    แม้ปีนี้จะไม่มี Flex Alert แต่สภาพอากาศสุดขั้วอาจกลับมาอีก
    ต้องลงทุนต่อเนื่องในระบบกักเก็บพลังงานและโครงข่ายไฟฟ้า
    การบริหารความต้องการพลังงานยังต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน

    https://www.latimes.com/environment/story/2025-10-17/california-made-it-through-another-summer-without-a-flex-alert
    📰 “แคลิฟอร์เนียผ่านฤดูร้อนปี 2025 โดยไม่ต้องออกคำเตือน Flex Alert – สัญญาณดีจากพลังงานสะอาดและระบบจัดการใหม่” ฤดูร้อนในแคลิฟอร์เนียมักเป็นช่วงเวลาที่ระบบไฟฟ้าต้องเผชิญกับความท้าทายจากอุณหภูมิสูงและการใช้พลังงานที่พุ่งขึ้น แต่ในปี 2025 รัฐสามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปได้โดยไม่ต้องออกคำเตือน “Flex Alert” เลยแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญในการบริหารจัดการพลังงาน Flex Alert คือคำเตือนที่ออกโดย California ISO เพื่อขอให้ประชาชนลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาวิกฤต เช่น ปิดเครื่องปรับอากาศหรือเลื่อนการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อหลีกเลี่ยงการดับไฟแบบหมุนเวียน (rolling blackout) ปีนี้ แคลิฟอร์เนียสามารถหลีกเลี่ยง Flex Alert ได้ด้วยการลงทุนในระบบกักเก็บพลังงาน (battery storage) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น แสงอาทิตย์และลม ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้ตอบสนองความต้องการได้ดีขึ้น ✅ ความสำเร็จในการจัดการพลังงานปี 2025 ➡️ ไม่มีการออก Flex Alert ตลอดฤดูร้อน ➡️ ระบบไฟฟ้ารับมือกับความต้องการสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ปัจจัยที่ช่วยให้หลีกเลี่ยงวิกฤต ➡️ การลงทุนใน battery storage เพิ่มขึ้น ➡️ การใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น solar และ wind ➡️ การปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าให้มีความยืดหยุ่น ✅ ความหมายเชิงนโยบาย ➡️ แสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดสามารถทำได้จริง ➡️ ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาพลังงานฟอสซิลในช่วงวิกฤต ‼️ คำเตือนสำหรับอนาคต ⛔ แม้ปีนี้จะไม่มี Flex Alert แต่สภาพอากาศสุดขั้วอาจกลับมาอีก ⛔ ต้องลงทุนต่อเนื่องในระบบกักเก็บพลังงานและโครงข่ายไฟฟ้า ⛔ การบริหารความต้องการพลังงานยังต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน https://www.latimes.com/environment/story/2025-10-17/california-made-it-through-another-summer-without-a-flex-alert
    WWW.LATIMES.COM
    California invests big in battery energy storage — and leaves rolling blackouts behind
    Batteries that pair with clean solar and wind energy or just bolster electrical grids in general have completely taken off and are making a big difference on the California grid.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
  • “22 ความเชื่อผิด ๆ ด้านไซเบอร์ที่องค์กรควรเลิกเชื่อ” — เมื่อแนวทางความปลอดภัยแบบเดิมกลายเป็นกับดักในยุค AI

    บทความจาก CSO Online ได้รวบรวม 22 ความเชื่อผิด ๆ ที่องค์กรจำนวนมากยังยึดติดอยู่ แม้โลกไซเบอร์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง AI และการโจมตีแบบซับซ้อนเข้ามาเปลี่ยนเกม

    ตัวอย่างเช่น ความเชื่อว่า “AI จะมาแทนที่มนุษย์ในงานด้านความปลอดภัย” นั้นไม่เป็นความจริง เพราะแม้ AI จะช่วยกรองข้อมูลและตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วขึ้น แต่มันยังขาดความเข้าใจบริบทและการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่มนุษย์ทำได้

    อีกหนึ่งความเชื่อที่อันตรายคือ “การยืนยันตัวตนแบบวิดีโอหรือเสียงสามารถป้องกันการปลอมแปลงได้” ซึ่งในยุค deepfake นั้นไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะแฮกเกอร์สามารถสร้างวิดีโอปลอมที่หลอกระบบได้ภายในเวลาไม่ถึงวัน

    นอกจากนี้ยังมีความเข้าใจผิดว่า “การซื้อเครื่องมือมากขึ้นจะทำให้ปลอดภัยขึ้น” ทั้งที่ความจริงแล้ว ปัญหาหลักมักอยู่ที่การขาดกลยุทธ์และการบูรณาการ ไม่ใช่จำนวนเครื่องมือ

    บทความยังเตือนว่า “การเปลี่ยนรหัสผ่านบ่อย ๆ” อาจทำให้ผู้ใช้สร้างรหัสผ่านที่คาดเดาง่ายขึ้น เช่น เปลี่ยนจาก Summer2025! เป็น Winter2025! ซึ่งไม่ได้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจริง

    รายการ 13 ความเชื่อผิด ๆ ด้านไซเบอร์
    AI จะมาแทนที่มนุษย์ในงานด้านความปลอดภัย
    แพลตฟอร์มเทคโนโลยีขนาดใหญ่มีระบบยืนยันตัวตนที่แข็งแรงพอจะป้องกันการปลอมแปลง
    การลงทุนในผู้ให้บริการยืนยันตัวตนจะป้องกันการโจมตีล่าสุดได้
    การซื้อเครื่องมือมากขึ้นจะทำให้ปลอดภัยขึ้น
    การจ้างคนเพิ่มจะช่วยแก้ปัญหาความปลอดภัยไซเบอร์ได้
    หากเราป้องกันการโจมตีล่าสุดได้ เราก็ปลอดภัยแล้ว
    การทดสอบและวิเคราะห์ระบบอย่างละเอียดจะครอบคลุมช่องโหว่ทั้งหมด
    ควรเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำเพื่อความปลอดภัย
    สามารถจัดการใบรับรองดิจิทัลทั้งหมดด้วยสเปรดชีตได้
    การปฏิบัติตามกฎระเบียบ (compliance) เท่ากับความปลอดภัย
    ภัยจากควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ไกล ไม่ต้องกังวลตอนนี้
    ควรอนุญาตให้หน่วยงานรัฐเข้าถึงการเข้ารหัสแบบ end-to-end เพื่อความปลอดภัย
    การปล่อยให้ AI เติบโตโดยไม่มีการควบคุมจะช่วยเร่งนวัตกรรม

    https://www.csoonline.com/article/571943/22-cybersecurity-myths-organizations-need-to-stop-believing-in-2022.html
    🛡️ “22 ความเชื่อผิด ๆ ด้านไซเบอร์ที่องค์กรควรเลิกเชื่อ” — เมื่อแนวทางความปลอดภัยแบบเดิมกลายเป็นกับดักในยุค AI บทความจาก CSO Online ได้รวบรวม 22 ความเชื่อผิด ๆ ที่องค์กรจำนวนมากยังยึดติดอยู่ แม้โลกไซเบอร์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง AI และการโจมตีแบบซับซ้อนเข้ามาเปลี่ยนเกม ตัวอย่างเช่น ความเชื่อว่า “AI จะมาแทนที่มนุษย์ในงานด้านความปลอดภัย” นั้นไม่เป็นความจริง เพราะแม้ AI จะช่วยกรองข้อมูลและตรวจจับภัยคุกคามได้เร็วขึ้น แต่มันยังขาดความเข้าใจบริบทและการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่มนุษย์ทำได้ อีกหนึ่งความเชื่อที่อันตรายคือ “การยืนยันตัวตนแบบวิดีโอหรือเสียงสามารถป้องกันการปลอมแปลงได้” ซึ่งในยุค deepfake นั้นไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะแฮกเกอร์สามารถสร้างวิดีโอปลอมที่หลอกระบบได้ภายในเวลาไม่ถึงวัน นอกจากนี้ยังมีความเข้าใจผิดว่า “การซื้อเครื่องมือมากขึ้นจะทำให้ปลอดภัยขึ้น” ทั้งที่ความจริงแล้ว ปัญหาหลักมักอยู่ที่การขาดกลยุทธ์และการบูรณาการ ไม่ใช่จำนวนเครื่องมือ บทความยังเตือนว่า “การเปลี่ยนรหัสผ่านบ่อย ๆ” อาจทำให้ผู้ใช้สร้างรหัสผ่านที่คาดเดาง่ายขึ้น เช่น เปลี่ยนจาก Summer2025! เป็น Winter2025! ซึ่งไม่ได้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจริง 🧠 รายการ 13 ความเชื่อผิด ๆ ด้านไซเบอร์ 🪙 AI จะมาแทนที่มนุษย์ในงานด้านความปลอดภัย 🪙 แพลตฟอร์มเทคโนโลยีขนาดใหญ่มีระบบยืนยันตัวตนที่แข็งแรงพอจะป้องกันการปลอมแปลง 🪙 การลงทุนในผู้ให้บริการยืนยันตัวตนจะป้องกันการโจมตีล่าสุดได้ 🪙 การซื้อเครื่องมือมากขึ้นจะทำให้ปลอดภัยขึ้น 🪙 การจ้างคนเพิ่มจะช่วยแก้ปัญหาความปลอดภัยไซเบอร์ได้ 🪙 หากเราป้องกันการโจมตีล่าสุดได้ เราก็ปลอดภัยแล้ว 🪙 การทดสอบและวิเคราะห์ระบบอย่างละเอียดจะครอบคลุมช่องโหว่ทั้งหมด 🪙 ควรเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำเพื่อความปลอดภัย 🪙 สามารถจัดการใบรับรองดิจิทัลทั้งหมดด้วยสเปรดชีตได้ 🪙 การปฏิบัติตามกฎระเบียบ (compliance) เท่ากับความปลอดภัย 🪙 ภัยจากควอนตัมคอมพิวติ้งยังอยู่ไกล ไม่ต้องกังวลตอนนี้ 🪙 ควรอนุญาตให้หน่วยงานรัฐเข้าถึงการเข้ารหัสแบบ end-to-end เพื่อความปลอดภัย 🪙 การปล่อยให้ AI เติบโตโดยไม่มีการควบคุมจะช่วยเร่งนวัตกรรม https://www.csoonline.com/article/571943/22-cybersecurity-myths-organizations-need-to-stop-believing-in-2022.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    13 cybersecurity myths organizations need to stop believing
    Security teams trying to defend their organizations need to adapt quickly to new challenges. Yesterday's best practices have become today's myths.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 13 นางเหยี่ยว F

    ปฎิบัติการสีส้มแน่นอน หยุดไม่ได้แล้ว แต่จะเดินต่ออย่างไร เดือนกันยายน ค.ศ. 2013 มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย Viktor Pinchuk ลุกขึ้นจัดการประชุมใหญ่เกี่ยวกับอนาคตของ Ukraine สื่อยักษ์ Economist บอกเป็นการจัดการสัมมนาของการฑูตระดับสูงและเข้มข้น

    ในจำนวนแขกที่มาเข้าร่วมสัมมนาคือ ระดับครีมของนักการเมืองหัวแถวของแทบทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่ นายและนาง Clinton, อดีตหัวหน้า CIA นายพล Petraeus, อดีต รมว.คลัง Lawrence Summers, อดีตผู้ว่าการธนาคารโลก Rober Zoellick, รัฐมนตรี ตปท. สวีเดน Carl Bildt, Shimon Peres, Tony Blair, Gerhard Schroder, Dominique, Strauss-Kahn, Mario Monti, ประธานาธิบดี Lithuanian รวมทั้งประธานาธิบดี Viktor Yanukovych (ซึ่งหลังจากนั้น 5 เดือนก็ถูกขับไล่กระเด็นออกจากตำแหน่ง) และนาย Petro Poroshenko (ผู้ที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็นประธานาธิบดีแทน !) ก็มา ขาดแต่ไอ้ปึ้งหัวเหม่งของเรา (ตอนนั้น) นึกว่าเป็นพวกครีม ฮา

    หัวข้อของการหารือคือ “Deep and Comprehensive Free Trade Agreement” (DCFTA) ระหว่าง Ukraine กับสหภาพยุโรป และการที่ Ukraine สนใจจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายตะวันตก สุ้มเสียง แนวทางการคุย เป็นการโยนหินถามทางในการที่ Ukraine จะตัดเชือกคล้องข้อมือกับรัสเซีย เพื่อไปซบโลกตะวันตก
    เป็นการจัดงานประชุมลับหลังรัส เซียหรือ คนจัดบอก ไม่ใช่ ไม่ใช่ เราไม่ใช่ พวก Bilderberg เราทำอะไรเปิดเผย เราเชิญรัสเซียมาด้วย และรัสเซียก็มา นู่น นั่งอยู่นู่น ไม่เห็นเหรอ

    คุณพี่ปูตินส่งมือขวาคือนาย Sergei Glazyev ที่ปรึกษาใหญ่ด้านการเมืองมานั่งฟังด้วย นาย Glazyev บอกว่า ความเห็นของตะวันตกกับของรัสเซียต่างกันสิ้นเชิง เราไม่ได้มองว่า Ukraine จะต้องอยู่หรือไม่อยู่กับตะวันตกหรือกับรัสเซีย แต่เรามองที่ความเป็นจริงของฐานะทางเศรษฐกิจของ Ukraine มากกว่า

    ซึ่งขณะนี้ Ukraine ขาดดุลย์การค้าต่างประเทศอยู่แยะ มีการกู้ยืมต่างประเทศสูง Ukraine คงไม่แคล้วตกเป็นผู้ผิดนัด กับเจ้าหนี้ต่างประเทศนั้น เว้นแต่จะมีใครมาช่วยซื้อหนี้ขนาดใหญ่นี้ออกไป (Sizable Bailout !)

    Forbes รายงานว่าสิ่งที่รัสเซียพูดใกล้ความเป็นจริง มากกว่าภาษานักการฑูตระดับสูงที่พูดกันอยู่ในที่ประชุมที่ Brussels และ Kiev

    สำหรับด้านการเมือง นสพ. Times ของ London รายงานว่า นาย Glazyev บอกว่าเป็นไปได้ว่า ชนส่วนน้อยใน Ukraine ตะวันออก ที่ยังพูดภาษารัสเซีย อาจจะมีการเคลื่อนไหว เพื่อแยกประเทศ เป็นการประท้วง ถ้ามีการตัดสัมพันธ์กับรัสเซีย และรัสเซียก็มีสิทธิตามกฎหมาย ที่จะสนับสนุนคนพวกนี้ อืม ! พูดสั้น ๆ แต่ความหมายแรง

    ตกลง Ukraine กำลังเล่นอะไร บรรดานักวิเคราะห์มองว่า Ukraine กำลังเหยียบเรือ 2 แคมบ้าง บ้างก็ว่า Yanukovych อ่อนแอ ตัดสินใจไม่ได้

    รัสเซียบอกไม่สนใจว่า Ukraine จะอยู่กับใคร รัสเซียต้องการให้ Ukraine เป็นสะพานเชื่อมระหว่างตะวันตกกับรัสเซียมากกว่า แล้วอเมริกาละ ยังอยากจะละเลงสีส้มต่อไปไหม?
    แน่นอนการจัดประชุมใหญ่ เมื่อเดือนกันยายนนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นลำพัง โดยเศรษฐีคนไหนฟิตจัดขึ้นมาหรอกน่า มันต้องมีลูกหนุน ลูกเชียร์ จากลูกพี่ด้วย คุณนาย Victoria Nuland มาแล้ว หล่อนคือผู้คุมเกมการละเลงสีส้ม ตัวจริง ! Nuland เป็นนางเหยี่ยว อดีตที่ปรึกษาของ **** Cheney เคยเป็นผช.ฑูตประจำ NATO และเป็นโฆษกของคุณนาย Clinton และเป็นคุณเมียของนาย Robert Kagan เหยี่ยวอีกตัวหนึ่ง และโดยคุณสมบัติเฉพาะตัว Nuland เป็นผู้ชำนาญการรุ่นเก๋ากึกด้านรัสเซีย ที่เหลืออยู่ไม่กี่คนในอเมริกา

    การที่ Nuland มากำกับการละเลงสีส้ม ชัดเจนว่านโยบายของ Bush คนลูกที่จะสร้างสงครามเย็นยุคใหม่ ปิดล้อมรัสเซียต่อไป ได้ส่งไม้ต่อให้กับ Obama ผู้ทำตัวเหมือนคนขายของรับ order ลูกค้ามากกว่าเป็นประธานาธิบดี (อันนี้ ยืนยันว่า คนเขียนนิทานไม่ได้พูดเอง แต่สื่อปากจัดของค่ายตะวันตกด่ากันเอง)

    Nuland พูดที่วอชิงตันว่า ตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลาย อเมริกาใช้เงินไปกว่า 5 พันล้านเหรียญ เพื่อให้มีอิทธิพลทางการเมืองใน Ukraine เราไม่ได้ลงทุนใน “น้ำมัน” โปรดเข้าใจ มันไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ (เรารวยนะ) แต่มันเป็นเรื่องภูมิศาสตร์การเมือง เรามองว่า Ukraine เป็นจุดอ่อนของรัสเซีย (Russia’s Achilles’ heel) เราสามารถใช้ Ukraine สร้างปัญหาให้กับรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ว้าว ! อย่าได้ประมาทหน้านางเหยี่ยวเชียว จิกได้ เจ็บจริง ๆ

    โลกหันขวับ มามองนางเหยี่ยวตัวใหม่ ไมค์ทุกตัวจ่อปากคุณนาย เมื่อ Nuland หลุดปากบอกว่า เราต้องเปลี่ยนเอาไอ้นาย Yanukovych ออกไปจากตำแหน่งด่วน แล้วใครมาแทนล่ะ มีคนตะโกนถาม เห็นว่า Angela Merkel และสหภาพยุโรป อยากจะเอาอดีตนักมวย ชื่อ Vitaly Klitschenko มาสวมแทนไม่ใช่หรือ
    คุณนายบอก “F… the Eu” พูดแบบนี้ไม่ดังแซงหน้าคุณนาย Clinton ได้ยังไง

    ไม่ใช่นักมวยเข้าใจใหม่ ฉันไม่เอานักมวย ไม่ใช่ “Klits” แต่เป็น “Yats” คุณนายเหยี่ยวหมายถึง Arseniy Yatsenyuk เด็กสร้างอีกคนของอเมริกาที่ถนัดเรื่องใช้ยาแรง ตามใบสั่งของ IMF
    แล้วนาย Yats ก็ได้งาน เขาทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี เข้าไปดูแล Ukraine ให้เป็นไปตามที่อเมริกาต้องการ ที่สำคัญคือต้องจัดการเลือกตั้งในวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 ปีนี้ให้ได้ แม้ว่าชาว Ukraine ฝั่งตะวันออกจะไม่ได้มาเลือกตั้ง เพราะถูกคุณพี่ปูตินฉก Crimea กลับเข้ามาอยู่ในกล้ามใหญ่ของตน

    แต่แผนการนางเหยี่ยวลึกซึ้ง ไม่เสียทีอยู่ร่วมกรงเหยี่ยวกับพวกไอ้เสือเอาวา แผนการนี้มันเป็น win-win สำหรับอเมริกาของจริง

    ถ้ารัสเซียไม่ย้ายกองเรือ ก็มีหวังถูกเขมือบ เรื่องถูกเขมือบกองเรือนี่ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย รัสเซียอาจถึงหายนะได้ ทางเลือกเกือบไม่มี ดังนั้นจึงยึด Crimea มาไว้ก่อน ยึดมาทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นไปตามแผนของอเมริกา ที่อยากให้รัสเซียทำ เป็นหมากการเมืองที่อเมริกากำลังอยากให้รัสเซียเล่นอย่างยิ่ง หาบทผู้ร้ายให้รัสเซีย หาโอกาสที่จะประกาศบอกโลกว่า เห็นมั้ย รัสเซียก็เหมือนเดิม กำลังขยายอำนาจ แบบนี้จะปล่อยไว้หรือ

    อเมริกากำลังต้องการหาผู้ร้ายใจ จะขาด เพื่อให้พวกขวัญอ่อนง้อ ให้ NATO คงอยู่ต่อไป และอเมริการจะได้ชักใยให้ NATO ทำภาระกิจ ของจริง ที่อเมริกา ไม่ได้บอกให้สมาชิก NATO รู้

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    1 กค. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 13 นางเหยี่ยว F ปฎิบัติการสีส้มแน่นอน หยุดไม่ได้แล้ว แต่จะเดินต่ออย่างไร เดือนกันยายน ค.ศ. 2013 มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย Viktor Pinchuk ลุกขึ้นจัดการประชุมใหญ่เกี่ยวกับอนาคตของ Ukraine สื่อยักษ์ Economist บอกเป็นการจัดการสัมมนาของการฑูตระดับสูงและเข้มข้น ในจำนวนแขกที่มาเข้าร่วมสัมมนาคือ ระดับครีมของนักการเมืองหัวแถวของแทบทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่ นายและนาง Clinton, อดีตหัวหน้า CIA นายพล Petraeus, อดีต รมว.คลัง Lawrence Summers, อดีตผู้ว่าการธนาคารโลก Rober Zoellick, รัฐมนตรี ตปท. สวีเดน Carl Bildt, Shimon Peres, Tony Blair, Gerhard Schroder, Dominique, Strauss-Kahn, Mario Monti, ประธานาธิบดี Lithuanian รวมทั้งประธานาธิบดี Viktor Yanukovych (ซึ่งหลังจากนั้น 5 เดือนก็ถูกขับไล่กระเด็นออกจากตำแหน่ง) และนาย Petro Poroshenko (ผู้ที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็นประธานาธิบดีแทน !) ก็มา ขาดแต่ไอ้ปึ้งหัวเหม่งของเรา (ตอนนั้น) นึกว่าเป็นพวกครีม ฮา หัวข้อของการหารือคือ “Deep and Comprehensive Free Trade Agreement” (DCFTA) ระหว่าง Ukraine กับสหภาพยุโรป และการที่ Ukraine สนใจจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายตะวันตก สุ้มเสียง แนวทางการคุย เป็นการโยนหินถามทางในการที่ Ukraine จะตัดเชือกคล้องข้อมือกับรัสเซีย เพื่อไปซบโลกตะวันตก เป็นการจัดงานประชุมลับหลังรัส เซียหรือ คนจัดบอก ไม่ใช่ ไม่ใช่ เราไม่ใช่ พวก Bilderberg เราทำอะไรเปิดเผย เราเชิญรัสเซียมาด้วย และรัสเซียก็มา นู่น นั่งอยู่นู่น ไม่เห็นเหรอ คุณพี่ปูตินส่งมือขวาคือนาย Sergei Glazyev ที่ปรึกษาใหญ่ด้านการเมืองมานั่งฟังด้วย นาย Glazyev บอกว่า ความเห็นของตะวันตกกับของรัสเซียต่างกันสิ้นเชิง เราไม่ได้มองว่า Ukraine จะต้องอยู่หรือไม่อยู่กับตะวันตกหรือกับรัสเซีย แต่เรามองที่ความเป็นจริงของฐานะทางเศรษฐกิจของ Ukraine มากกว่า ซึ่งขณะนี้ Ukraine ขาดดุลย์การค้าต่างประเทศอยู่แยะ มีการกู้ยืมต่างประเทศสูง Ukraine คงไม่แคล้วตกเป็นผู้ผิดนัด กับเจ้าหนี้ต่างประเทศนั้น เว้นแต่จะมีใครมาช่วยซื้อหนี้ขนาดใหญ่นี้ออกไป (Sizable Bailout !) Forbes รายงานว่าสิ่งที่รัสเซียพูดใกล้ความเป็นจริง มากกว่าภาษานักการฑูตระดับสูงที่พูดกันอยู่ในที่ประชุมที่ Brussels และ Kiev สำหรับด้านการเมือง นสพ. Times ของ London รายงานว่า นาย Glazyev บอกว่าเป็นไปได้ว่า ชนส่วนน้อยใน Ukraine ตะวันออก ที่ยังพูดภาษารัสเซีย อาจจะมีการเคลื่อนไหว เพื่อแยกประเทศ เป็นการประท้วง ถ้ามีการตัดสัมพันธ์กับรัสเซีย และรัสเซียก็มีสิทธิตามกฎหมาย ที่จะสนับสนุนคนพวกนี้ อืม ! พูดสั้น ๆ แต่ความหมายแรง ตกลง Ukraine กำลังเล่นอะไร บรรดานักวิเคราะห์มองว่า Ukraine กำลังเหยียบเรือ 2 แคมบ้าง บ้างก็ว่า Yanukovych อ่อนแอ ตัดสินใจไม่ได้ รัสเซียบอกไม่สนใจว่า Ukraine จะอยู่กับใคร รัสเซียต้องการให้ Ukraine เป็นสะพานเชื่อมระหว่างตะวันตกกับรัสเซียมากกว่า แล้วอเมริกาละ ยังอยากจะละเลงสีส้มต่อไปไหม? แน่นอนการจัดประชุมใหญ่ เมื่อเดือนกันยายนนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นลำพัง โดยเศรษฐีคนไหนฟิตจัดขึ้นมาหรอกน่า มันต้องมีลูกหนุน ลูกเชียร์ จากลูกพี่ด้วย คุณนาย Victoria Nuland มาแล้ว หล่อนคือผู้คุมเกมการละเลงสีส้ม ตัวจริง ! Nuland เป็นนางเหยี่ยว อดีตที่ปรึกษาของ Dick Cheney เคยเป็นผช.ฑูตประจำ NATO และเป็นโฆษกของคุณนาย Clinton และเป็นคุณเมียของนาย Robert Kagan เหยี่ยวอีกตัวหนึ่ง และโดยคุณสมบัติเฉพาะตัว Nuland เป็นผู้ชำนาญการรุ่นเก๋ากึกด้านรัสเซีย ที่เหลืออยู่ไม่กี่คนในอเมริกา การที่ Nuland มากำกับการละเลงสีส้ม ชัดเจนว่านโยบายของ Bush คนลูกที่จะสร้างสงครามเย็นยุคใหม่ ปิดล้อมรัสเซียต่อไป ได้ส่งไม้ต่อให้กับ Obama ผู้ทำตัวเหมือนคนขายของรับ order ลูกค้ามากกว่าเป็นประธานาธิบดี (อันนี้ ยืนยันว่า คนเขียนนิทานไม่ได้พูดเอง แต่สื่อปากจัดของค่ายตะวันตกด่ากันเอง) Nuland พูดที่วอชิงตันว่า ตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลาย อเมริกาใช้เงินไปกว่า 5 พันล้านเหรียญ เพื่อให้มีอิทธิพลทางการเมืองใน Ukraine เราไม่ได้ลงทุนใน “น้ำมัน” โปรดเข้าใจ มันไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ (เรารวยนะ) แต่มันเป็นเรื่องภูมิศาสตร์การเมือง เรามองว่า Ukraine เป็นจุดอ่อนของรัสเซีย (Russia’s Achilles’ heel) เราสามารถใช้ Ukraine สร้างปัญหาให้กับรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ว้าว ! อย่าได้ประมาทหน้านางเหยี่ยวเชียว จิกได้ เจ็บจริง ๆ โลกหันขวับ มามองนางเหยี่ยวตัวใหม่ ไมค์ทุกตัวจ่อปากคุณนาย เมื่อ Nuland หลุดปากบอกว่า เราต้องเปลี่ยนเอาไอ้นาย Yanukovych ออกไปจากตำแหน่งด่วน แล้วใครมาแทนล่ะ มีคนตะโกนถาม เห็นว่า Angela Merkel และสหภาพยุโรป อยากจะเอาอดีตนักมวย ชื่อ Vitaly Klitschenko มาสวมแทนไม่ใช่หรือ คุณนายบอก “F… the Eu” พูดแบบนี้ไม่ดังแซงหน้าคุณนาย Clinton ได้ยังไง ไม่ใช่นักมวยเข้าใจใหม่ ฉันไม่เอานักมวย ไม่ใช่ “Klits” แต่เป็น “Yats” คุณนายเหยี่ยวหมายถึง Arseniy Yatsenyuk เด็กสร้างอีกคนของอเมริกาที่ถนัดเรื่องใช้ยาแรง ตามใบสั่งของ IMF แล้วนาย Yats ก็ได้งาน เขาทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี เข้าไปดูแล Ukraine ให้เป็นไปตามที่อเมริกาต้องการ ที่สำคัญคือต้องจัดการเลือกตั้งในวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 ปีนี้ให้ได้ แม้ว่าชาว Ukraine ฝั่งตะวันออกจะไม่ได้มาเลือกตั้ง เพราะถูกคุณพี่ปูตินฉก Crimea กลับเข้ามาอยู่ในกล้ามใหญ่ของตน แต่แผนการนางเหยี่ยวลึกซึ้ง ไม่เสียทีอยู่ร่วมกรงเหยี่ยวกับพวกไอ้เสือเอาวา แผนการนี้มันเป็น win-win สำหรับอเมริกาของจริง ถ้ารัสเซียไม่ย้ายกองเรือ ก็มีหวังถูกเขมือบ เรื่องถูกเขมือบกองเรือนี่ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย รัสเซียอาจถึงหายนะได้ ทางเลือกเกือบไม่มี ดังนั้นจึงยึด Crimea มาไว้ก่อน ยึดมาทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นไปตามแผนของอเมริกา ที่อยากให้รัสเซียทำ เป็นหมากการเมืองที่อเมริกากำลังอยากให้รัสเซียเล่นอย่างยิ่ง หาบทผู้ร้ายให้รัสเซีย หาโอกาสที่จะประกาศบอกโลกว่า เห็นมั้ย รัสเซียก็เหมือนเดิม กำลังขยายอำนาจ แบบนี้จะปล่อยไว้หรือ อเมริกากำลังต้องการหาผู้ร้ายใจ จะขาด เพื่อให้พวกขวัญอ่อนง้อ ให้ NATO คงอยู่ต่อไป และอเมริการจะได้ชักใยให้ NATO ทำภาระกิจ ของจริง ที่อเมริกา ไม่ได้บอกให้สมาชิก NATO รู้ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 1 กค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 837 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าหน้าร้อน: มือถือร้อนเกินไป...ไม่ใช่แค่รำคาญ แต่เสี่ยงพังจริง!

    หน้าร้อนปีนี้ หลายประเทศทั่วโลกเจอกับคลื่นความร้อนที่รุนแรง โดยเฉพาะในยุโรปตอนใต้และสหรัฐฯ ซึ่งไม่ใช่แค่คนที่ต้องระวัง—มือถือของเราก็เสี่ยงเช่นกัน!

    มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ถูกออกแบบมาให้ทำงานในอุณหภูมิที่เหมาะสม เช่น iPhone และ iPad ควรใช้งานในช่วง 0–35°C ถ้าเกินกว่านี้ เครื่องอาจเริ่มทำงานผิดปกติ เช่น แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว หรือระบบปิดตัวเองเพื่อป้องกันความเสียหาย

    หลายคนอาจเคยเห็นข้อความเตือน “iPhone needs to cool down” หรือหน้าจอ Android ที่มืดลง ปิดแอป และหยุดชาร์จอัตโนมัติ—นั่นคือสัญญาณว่ามือถือกำลังร้อนเกินไป

    สิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดคือเอาเครื่องไปแช่ตู้เย็น เพราะความชื้นอาจทำให้วงจรเสียหายได้ และการใช้ฟีเจอร์หนัก ๆ เช่น GPS, เกมกราฟิกสูง หรือกล้องกลางแดดจัด ก็ยิ่งเพิ่มความร้อนเข้าไปอีก

    วิธีป้องกันง่าย ๆ คือ:
    - ปิดเครื่องชั่วคราว
    - ถอดเคสออก
    - วางไว้ในที่เย็น เช่น ห้องแอร์หรือหน้าพัดลม
    - หลีกเลี่ยงการชาร์จในที่ร้อนหรือใต้หมอน

    และถ้าอยากรู้ลึกกว่านี้—ความร้อนยังส่งผลต่อ CPU, GPU, แบตเตอรี่, RAM และหน้าจอโดยตรง เช่น ทำให้เครื่องช้า แบตเสื่อมเร็ว หรือจอเกิด burn-in ได้เลยทีเดียว

    คำเตือนเกี่ยวกับการจัดการความร้อนผิดวิธี
    ห้ามนำมือถือไปแช่ตู้เย็นหรือช่องฟรีซ เพราะอาจเกิดความชื้นและทำให้เครื่องเสีย
    ห้ามใช้ฟีเจอร์หนัก ๆ กลางแดดจัด เช่น GPS, เกมกราฟิกสูง หรือกล้อง

    ผลกระทบระยะยาวจากความร้อนต่อมือถือ
    CPU และ GPU จะลดความเร็วลง ทำให้เครื่องช้า
    แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว เก็บไฟได้น้อยลง และเสี่ยงต่อการบวมหรือระเบิด
    หน้าจออาจเกิด burn-in หรือภาพติดถาวร
    RAM ทำงานผิดปกติ ทำให้แอปค้างหรือปิดตัวเอง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/15/one-tech-tip-this-summer-don039t-let-your-phone-overheat
    📱เรื่องเล่าหน้าร้อน: มือถือร้อนเกินไป...ไม่ใช่แค่รำคาญ แต่เสี่ยงพังจริง! หน้าร้อนปีนี้ หลายประเทศทั่วโลกเจอกับคลื่นความร้อนที่รุนแรง โดยเฉพาะในยุโรปตอนใต้และสหรัฐฯ ซึ่งไม่ใช่แค่คนที่ต้องระวัง—มือถือของเราก็เสี่ยงเช่นกัน! มือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ถูกออกแบบมาให้ทำงานในอุณหภูมิที่เหมาะสม เช่น iPhone และ iPad ควรใช้งานในช่วง 0–35°C ถ้าเกินกว่านี้ เครื่องอาจเริ่มทำงานผิดปกติ เช่น แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว หรือระบบปิดตัวเองเพื่อป้องกันความเสียหาย หลายคนอาจเคยเห็นข้อความเตือน “iPhone needs to cool down” หรือหน้าจอ Android ที่มืดลง ปิดแอป และหยุดชาร์จอัตโนมัติ—นั่นคือสัญญาณว่ามือถือกำลังร้อนเกินไป สิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาดคือเอาเครื่องไปแช่ตู้เย็น เพราะความชื้นอาจทำให้วงจรเสียหายได้ และการใช้ฟีเจอร์หนัก ๆ เช่น GPS, เกมกราฟิกสูง หรือกล้องกลางแดดจัด ก็ยิ่งเพิ่มความร้อนเข้าไปอีก วิธีป้องกันง่าย ๆ คือ: - ปิดเครื่องชั่วคราว - ถอดเคสออก - วางไว้ในที่เย็น เช่น ห้องแอร์หรือหน้าพัดลม - หลีกเลี่ยงการชาร์จในที่ร้อนหรือใต้หมอน และถ้าอยากรู้ลึกกว่านี้—ความร้อนยังส่งผลต่อ CPU, GPU, แบตเตอรี่, RAM และหน้าจอโดยตรง เช่น ทำให้เครื่องช้า แบตเสื่อมเร็ว หรือจอเกิด burn-in ได้เลยทีเดียว ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับการจัดการความร้อนผิดวิธี ⛔ ห้ามนำมือถือไปแช่ตู้เย็นหรือช่องฟรีซ เพราะอาจเกิดความชื้นและทำให้เครื่องเสีย ⛔ ห้ามใช้ฟีเจอร์หนัก ๆ กลางแดดจัด เช่น GPS, เกมกราฟิกสูง หรือกล้อง ‼️ ผลกระทบระยะยาวจากความร้อนต่อมือถือ ⛔ CPU และ GPU จะลดความเร็วลง ทำให้เครื่องช้า ⛔ แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว เก็บไฟได้น้อยลง และเสี่ยงต่อการบวมหรือระเบิด ⛔ หน้าจออาจเกิด burn-in หรือภาพติดถาวร ⛔ RAM ทำงานผิดปกติ ทำให้แอปค้างหรือปิดตัวเอง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/15/one-tech-tip-this-summer-don039t-let-your-phone-overheat
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: ฤดูร้อน—ช่วงเวลาทองของแฮกเกอร์ และบทเรียนที่องค์กรต้องไม่ละเลย

    ฤดูร้อนมักเป็นช่วงที่คนทำงานหยุดพัก เดินทางไกล หรือทำงานจากสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เช่น บ้านพักตากอากาศ โรงแรม หรือสนามบิน ซึ่งมักใช้ Wi-Fi สาธารณะที่ไม่มีการเข้ารหัสหรือระบบป้องกันที่ดีพอ

    ในขณะเดียวกัน ทีม IT และฝ่ายรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ขององค์กรก็ลดกำลังลงจากการลาพักร้อน ทำให้การตรวจสอบภัยคุกคามลดลงอย่างเห็นได้ชัด

    ผลคือ แฮกเกอร์ใช้โอกาสนี้ในการโจมตีแบบ phishing, ransomware และการขโมยข้อมูลผ่านเครือข่ายปลอม โดยเฉพาะการปลอมอีเมลจากสายการบินหรือแพลตฟอร์มจองที่พัก ซึ่งดูเหมือนจริงจนผู้ใช้หลงเชื่อ

    ข้อมูลจากหลายแหล่งระบุว่า การโจมตีไซเบอร์ในฤดูร้อนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30% โดยเฉพาะในกลุ่มองค์กรที่มีการทำงานแบบ remote และไม่มีนโยบายรักษาความปลอดภัยที่ชัดเจน

    ฤดูร้อนเป็นช่วงที่การโจมตีไซเบอร์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
    การโจมตีเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30% ในช่วงเดือนมิถุนายน–สิงหาคม
    เกิดจากการลดกำลังของทีม IT และการใช้เครือข่ายที่ไม่ปลอดภัย

    ผู้ใช้มักเชื่อมต่อ Wi-Fi สาธารณะจากโรงแรม สนามบิน หรือบ้านพัก โดยไม่รู้ว่ามีความเสี่ยง
    เสี่ยงต่อการถูกดักข้อมูลหรือปลอมเครือข่าย
    อุปกรณ์ส่วนตัวมักไม่มีระบบป้องกันเท่ากับอุปกรณ์องค์กร

    แฮกเกอร์ใช้ phishing ที่เลียนแบบอีเมลจากสายการบินหรือแพลตฟอร์มจองที่พัก
    หลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิตหรือรหัสผ่าน
    ใช้เทคนิคที่เหมือนจริงมากขึ้นด้วย generative AI

    องค์กรมักเลื่อนการอัปเดตระบบและการตรวจสอบความปลอดภัยไปหลังช่วงพักร้อน
    ทำให้เกิดช่องโหว่ที่แฮกเกอร์สามารถเจาะเข้าได้ง่าย
    ไม่มีการสำรองข้อมูลหรือทดสอบระบบอย่างสม่ำเสมอ

    ภัยคุกคามที่พบบ่อยในฤดูร้อน ได้แก่ ransomware, credential theft และ shadow IT
    การใช้แอปที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือแชร์ไฟล์ผ่านช่องทางที่ไม่ปลอดภัย
    การขโมยข้อมูลบัญชีผ่านการดักจับการสื่อสาร

    การใช้อุปกรณ์ส่วนตัวที่ไม่มีระบบป้องกันเข้าถึงข้อมูลองค์กรเป็นช่องโหว่สำคัญ
    ไม่มีการเข้ารหัสหรือระบบป้องกันไวรัส
    เสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลหรือเข้าถึงระบบภายใน

    การลดกำลังทีม IT ในช่วงฤดูร้อนทำให้การตอบสนองต่อภัยคุกคามล่าช้า
    แฮกเกอร์สามารถแฝงตัวในระบบได้นานขึ้น
    อาจเกิดการโจมตีแบบ ransomware โดยไม่มีใครตรวจพบ

    การไม่มีแผนรับมือหรือผู้รับผิดชอบเมื่อเกิดเหตุการณ์ไซเบอร์อาจทำให้ความเสียหายขยายตัว
    ไม่มีการแจ้งเตือนหรือกู้คืนข้อมูลทันเวลา
    องค์กรอาจสูญเสียข้อมูลสำคัญหรือความน่าเชื่อถือ

    การใช้ Wi-Fi สาธารณะโดยไม่ใช้ VPN หรือระบบป้องกันเป็นพฤติกรรมเสี่ยงสูง
    ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลองค์กรอาจถูกดักจับ
    เสี่ยงต่อการถูกโจมตีแบบ man-in-the-middle

    https://www.csoonline.com/article/4030931/summer-why-cybersecurity-needs-to-be-further-strengthened.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: ฤดูร้อน—ช่วงเวลาทองของแฮกเกอร์ และบทเรียนที่องค์กรต้องไม่ละเลย ฤดูร้อนมักเป็นช่วงที่คนทำงานหยุดพัก เดินทางไกล หรือทำงานจากสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เช่น บ้านพักตากอากาศ โรงแรม หรือสนามบิน ซึ่งมักใช้ Wi-Fi สาธารณะที่ไม่มีการเข้ารหัสหรือระบบป้องกันที่ดีพอ ในขณะเดียวกัน ทีม IT และฝ่ายรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ขององค์กรก็ลดกำลังลงจากการลาพักร้อน ทำให้การตรวจสอบภัยคุกคามลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผลคือ แฮกเกอร์ใช้โอกาสนี้ในการโจมตีแบบ phishing, ransomware และการขโมยข้อมูลผ่านเครือข่ายปลอม โดยเฉพาะการปลอมอีเมลจากสายการบินหรือแพลตฟอร์มจองที่พัก ซึ่งดูเหมือนจริงจนผู้ใช้หลงเชื่อ ข้อมูลจากหลายแหล่งระบุว่า การโจมตีไซเบอร์ในฤดูร้อนเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30% โดยเฉพาะในกลุ่มองค์กรที่มีการทำงานแบบ remote และไม่มีนโยบายรักษาความปลอดภัยที่ชัดเจน ✅ ฤดูร้อนเป็นช่วงที่การโจมตีไซเบอร์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ➡️ การโจมตีเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30% ในช่วงเดือนมิถุนายน–สิงหาคม ➡️ เกิดจากการลดกำลังของทีม IT และการใช้เครือข่ายที่ไม่ปลอดภัย ✅ ผู้ใช้มักเชื่อมต่อ Wi-Fi สาธารณะจากโรงแรม สนามบิน หรือบ้านพัก โดยไม่รู้ว่ามีความเสี่ยง ➡️ เสี่ยงต่อการถูกดักข้อมูลหรือปลอมเครือข่าย ➡️ อุปกรณ์ส่วนตัวมักไม่มีระบบป้องกันเท่ากับอุปกรณ์องค์กร ✅ แฮกเกอร์ใช้ phishing ที่เลียนแบบอีเมลจากสายการบินหรือแพลตฟอร์มจองที่พัก ➡️ หลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิตหรือรหัสผ่าน ➡️ ใช้เทคนิคที่เหมือนจริงมากขึ้นด้วย generative AI ✅ องค์กรมักเลื่อนการอัปเดตระบบและการตรวจสอบความปลอดภัยไปหลังช่วงพักร้อน ➡️ ทำให้เกิดช่องโหว่ที่แฮกเกอร์สามารถเจาะเข้าได้ง่าย ➡️ ไม่มีการสำรองข้อมูลหรือทดสอบระบบอย่างสม่ำเสมอ ✅ ภัยคุกคามที่พบบ่อยในฤดูร้อน ได้แก่ ransomware, credential theft และ shadow IT ➡️ การใช้แอปที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือแชร์ไฟล์ผ่านช่องทางที่ไม่ปลอดภัย ➡️ การขโมยข้อมูลบัญชีผ่านการดักจับการสื่อสาร ‼️ การใช้อุปกรณ์ส่วนตัวที่ไม่มีระบบป้องกันเข้าถึงข้อมูลองค์กรเป็นช่องโหว่สำคัญ ⛔ ไม่มีการเข้ารหัสหรือระบบป้องกันไวรัส ⛔ เสี่ยงต่อการถูกขโมยข้อมูลหรือเข้าถึงระบบภายใน ‼️ การลดกำลังทีม IT ในช่วงฤดูร้อนทำให้การตอบสนองต่อภัยคุกคามล่าช้า ⛔ แฮกเกอร์สามารถแฝงตัวในระบบได้นานขึ้น ⛔ อาจเกิดการโจมตีแบบ ransomware โดยไม่มีใครตรวจพบ ‼️ การไม่มีแผนรับมือหรือผู้รับผิดชอบเมื่อเกิดเหตุการณ์ไซเบอร์อาจทำให้ความเสียหายขยายตัว ⛔ ไม่มีการแจ้งเตือนหรือกู้คืนข้อมูลทันเวลา ⛔ องค์กรอาจสูญเสียข้อมูลสำคัญหรือความน่าเชื่อถือ ‼️ การใช้ Wi-Fi สาธารณะโดยไม่ใช้ VPN หรือระบบป้องกันเป็นพฤติกรรมเสี่ยงสูง ⛔ ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลองค์กรอาจถูกดักจับ ⛔ เสี่ยงต่อการถูกโจมตีแบบ man-in-the-middle https://www.csoonline.com/article/4030931/summer-why-cybersecurity-needs-to-be-further-strengthened.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Summer: Why cybersecurity must be strengthened as vacations abound
    Letting your guard down is not the most reasonable thing to do at a time when cybersecurity risks are on the rise; cyber attackers are not resting. What's more, they are well aware of what happens at this time of year, hence they take advantage of the circumstance to launch more aggressive campaigns.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 410 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลก Linux: เมื่อ “Greenboot” เปลี่ยนภาษาเพื่อความปลอดภัยที่เหนือกว่า

    ลองจินตนาการว่าคุณอัปเดตระบบปฏิบัติการแล้วเครื่องบูตไม่ขึ้น—Greenboot คือเครื่องมือที่ช่วยตรวจสอบสุขภาพระบบทุกครั้งที่บูต เพื่อป้องกันเหตุการณ์แบบนั้น โดยเดิมทีเขียนด้วย Bash แต่ตอนนี้ Red Hat กำลังรีไรต์ใหม่ด้วยภาษา Rust ซึ่งปลอดภัยกว่าและมีประสิทธิภาพสูงกว่า

    Greenboot ทำงานร่วมกับ systemd โดยรันสคริปต์ตรวจสอบในโฟลเดอร์ต่างๆ เช่น required.d, red.d, และ green.d หากสคริปต์สำคัญล้มเหลว ระบบจะรีบูตและอาจย้อนกลับไปยังเวอร์ชันก่อนหน้าเพื่อความเสถียร

    การรีไรต์ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เปลี่ยนภาษา แต่เป็นการขยายการรองรับจาก rpm-ostree ไปยัง bootc ซึ่งเป็นระบบใหม่ที่เน้นความปลอดภัยและการอัปเดตแบบ atomic ใน Fedora IoT

    Greenboot ถูกรีไรต์จาก Bash เป็น Rust โดยทีมงาน Red Hat2
    โครงการเริ่มต้นในปี 2018 จาก Google Summer of Code
    เวอร์ชันใหม่ชื่อ “Greenboot-RS” จะรวมอยู่ใน Fedora 43

    Greenboot ทำหน้าที่ตรวจสอบสุขภาพระบบทุกครั้งที่บูต
    รันสคริปต์ใน /etc/greenboot/check/required.d/ หากล้มเหลวจะรีบูต
    หากล้มเหลวหลายครั้งจะรันสคริปต์ใน red.d และย้อนกลับไปยัง deployment ก่อนหน้า

    เมื่อระบบผ่านการตรวจสอบ จะรันสคริปต์ใน green.d และตั้ง GRUB ว่า boot สำเร็จ
    ใช้ GRUB environment variable เพื่อบันทึกสถานะการบูต
    แสดงข้อความ “Boot Status is GREEN – Health Check SUCCESS” ใน MOTD

    การเปลี่ยนมาใช้ Rust ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดช่องโหว่ด้านหน่วยความจำ
    Rust เป็นภาษา memory-safe ที่ช่วยลดบั๊กประเภท buffer overflow และ use-after-free
    เป็นแนวโน้มเดียวกับโครงการอื่น เช่น sudo-rs และ systemd-rs

    Greenboot-RS รองรับทั้ง rpm-ostree และ bootc systems
    bootc เป็นระบบใหม่ที่เน้นการอัปเดตแบบปลอดภัยและย้อนกลับได้
    ช่วยให้ Fedora IoT มีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น

    การอัปเกรดจาก Greenboot เดิมเป็น Greenboot-RS จะเป็นไปอย่างราบรื่น
    ผู้ใช้สามารถใช้คำสั่ง rpm-ostree upgrade หรือ bootc upgrade ได้ทันที
    ไม่มีผลกระทบต่อผู้ใช้เดิม

    การเปลี่ยนภาษาอาจทำให้เกิดบั๊กใหม่หรือปัญหาความเข้ากันได้
    แม้จะพยายามรักษาฟังก์ชันเดิม แต่การเขียนใหม่อาจมีพฤติกรรมต่างออกไป
    ต้องมีการทดสอบอย่างละเอียดก่อนใช้งานในระบบจริง

    ผู้ดูแลระบบต้องเข้าใจการทำงานของ Greenboot-RS เพื่อแก้ไขปัญหาได้ทันที
    หากสคริปต์ใน required.d ล้มเหลว ระบบจะรีบูตซ้ำ อาจทำให้เข้าใช้งานไม่ได้
    ต้องรู้วิธีตรวจสอบ MOTD และ GRUB variable เพื่อวิเคราะห์ปัญหา

    การใช้ bootc ยังเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติม
    ผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับ rpm-ostree อาจต้องปรับตัวกับแนวคิดของ bootc
    การจัดการ deployment และ rollback อาจซับซ้อนขึ้น

    https://www.neowin.net/news/another-linux-utility-is-being-rewritten-in-rust/
    🛠️ เรื่องเล่าจากโลก Linux: เมื่อ “Greenboot” เปลี่ยนภาษาเพื่อความปลอดภัยที่เหนือกว่า ลองจินตนาการว่าคุณอัปเดตระบบปฏิบัติการแล้วเครื่องบูตไม่ขึ้น—Greenboot คือเครื่องมือที่ช่วยตรวจสอบสุขภาพระบบทุกครั้งที่บูต เพื่อป้องกันเหตุการณ์แบบนั้น โดยเดิมทีเขียนด้วย Bash แต่ตอนนี้ Red Hat กำลังรีไรต์ใหม่ด้วยภาษา Rust ซึ่งปลอดภัยกว่าและมีประสิทธิภาพสูงกว่า Greenboot ทำงานร่วมกับ systemd โดยรันสคริปต์ตรวจสอบในโฟลเดอร์ต่างๆ เช่น required.d, red.d, และ green.d หากสคริปต์สำคัญล้มเหลว ระบบจะรีบูตและอาจย้อนกลับไปยังเวอร์ชันก่อนหน้าเพื่อความเสถียร การรีไรต์ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เปลี่ยนภาษา แต่เป็นการขยายการรองรับจาก rpm-ostree ไปยัง bootc ซึ่งเป็นระบบใหม่ที่เน้นความปลอดภัยและการอัปเดตแบบ atomic ใน Fedora IoT ✅ Greenboot ถูกรีไรต์จาก Bash เป็น Rust โดยทีมงาน Red Hat2 ➡️ โครงการเริ่มต้นในปี 2018 จาก Google Summer of Code ➡️ เวอร์ชันใหม่ชื่อ “Greenboot-RS” จะรวมอยู่ใน Fedora 43 ✅ Greenboot ทำหน้าที่ตรวจสอบสุขภาพระบบทุกครั้งที่บูต ➡️ รันสคริปต์ใน /etc/greenboot/check/required.d/ หากล้มเหลวจะรีบูต ➡️ หากล้มเหลวหลายครั้งจะรันสคริปต์ใน red.d และย้อนกลับไปยัง deployment ก่อนหน้า ✅ เมื่อระบบผ่านการตรวจสอบ จะรันสคริปต์ใน green.d และตั้ง GRUB ว่า boot สำเร็จ ➡️ ใช้ GRUB environment variable เพื่อบันทึกสถานะการบูต ➡️ แสดงข้อความ “Boot Status is GREEN – Health Check SUCCESS” ใน MOTD ✅ การเปลี่ยนมาใช้ Rust ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและลดช่องโหว่ด้านหน่วยความจำ ➡️ Rust เป็นภาษา memory-safe ที่ช่วยลดบั๊กประเภท buffer overflow และ use-after-free ➡️ เป็นแนวโน้มเดียวกับโครงการอื่น เช่น sudo-rs และ systemd-rs ✅ Greenboot-RS รองรับทั้ง rpm-ostree และ bootc systems ➡️ bootc เป็นระบบใหม่ที่เน้นการอัปเดตแบบปลอดภัยและย้อนกลับได้ ➡️ ช่วยให้ Fedora IoT มีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น ✅ การอัปเกรดจาก Greenboot เดิมเป็น Greenboot-RS จะเป็นไปอย่างราบรื่น ➡️ ผู้ใช้สามารถใช้คำสั่ง rpm-ostree upgrade หรือ bootc upgrade ได้ทันที ➡️ ไม่มีผลกระทบต่อผู้ใช้เดิม ‼️ การเปลี่ยนภาษาอาจทำให้เกิดบั๊กใหม่หรือปัญหาความเข้ากันได้ ⛔ แม้จะพยายามรักษาฟังก์ชันเดิม แต่การเขียนใหม่อาจมีพฤติกรรมต่างออกไป ⛔ ต้องมีการทดสอบอย่างละเอียดก่อนใช้งานในระบบจริง ‼️ ผู้ดูแลระบบต้องเข้าใจการทำงานของ Greenboot-RS เพื่อแก้ไขปัญหาได้ทันที ⛔ หากสคริปต์ใน required.d ล้มเหลว ระบบจะรีบูตซ้ำ อาจทำให้เข้าใช้งานไม่ได้ ⛔ ต้องรู้วิธีตรวจสอบ MOTD และ GRUB variable เพื่อวิเคราะห์ปัญหา ‼️ การใช้ bootc ยังเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติม ⛔ ผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับ rpm-ostree อาจต้องปรับตัวกับแนวคิดของ bootc ⛔ การจัดการ deployment และ rollback อาจซับซ้อนขึ้น https://www.neowin.net/news/another-linux-utility-is-being-rewritten-in-rust/
    WWW.NEOWIN.NET
    Another Linux utility is being rewritten in Rust
    Rust continues to shine in the Linux world, with yet another core utility now being rewritten in the language.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องนี้เริ่มจาก Dylan ที่ตอนอายุแค่ 10–11 ก็เล่นแฮกโค้ดเว็บเรียนออนไลน์ในโรงเรียน จนสามารถ “ปลดล็อกเกมบนคอมพิวเตอร์เรียน” ได้ — แม้จะโดนตักเตือน แต่ก็เป็นจุดเริ่มของความสนใจด้านการหาช่องโหว่

    พอช่วงโควิด Dylan เริ่ม “เลี่ยงข้อจำกัดบนเครือข่ายนักเรียน” และมาสู่จุดเปลี่ยนตอนเจอช่องโหว่ใน Microsoft Teams ที่สามารถ takeover กลุ่มใดก็ได้ → เขาเลือกไม่ใช้ประโยชน์เอง แต่แจ้งไปยัง MSRC แบบ responsible disclosure

    ผลคือ:
    - เขาได้เป็นนักวิจัย bug bounty อย่างเป็นทางการตอนอายุ 13
    - Microsoft ต้องปรับข้อกำหนดให้เปิดรับเด็กอายุ 13 ขึ้นไป
    - และเขายังติดโผ “MSRC Most Valuable Researcher” ในปี 2022 และ 2024 ด้วย!

    ช่วงซัมเมอร์ล่าสุด (2024) Dylan ส่งรายงานช่องโหว่ให้ Microsoft ถึง 20 ฉบับในเวลาไม่กี่เดือน (จากก่อนหน้าที่เคยส่งแค่ 6) → ยังคว้าอันดับ 3 ในงานแข่งขัน Zero Day Quest ที่ Microsoft จัดใน Redmond ได้อีกด้วย

    แม้วันนี้เขายังเป็นเด็กมัธยม แต่ก็เข้าใจหลักความรับผิดชอบของสาย white-hat อย่างเต็มตัว และยังมองว่า security เป็น “แค่กิจกรรมสนุก ๆ” ที่อยากทำควบคู่กับวิทยาศาสตร์และพลเมืองศึกษาด้วยซ้ำ

    Dylan เริ่มต้นศึกษาเขียนโค้ดตั้งแต่เด็กก่อนวัยรุ่น → ด้วย Scratch, HTML ฯลฯ

    พบช่องโหว่ takeover group บน Microsoft Teams และเลือก responsible disclosure

    กลายเป็นเหตุผลที่ Microsoft แก้เงื่อนไข Bug Bounty ให้เด็กอายุ 13 เข้าร่วมได้

    ได้รับรางวัล “Most Valuable Researcher” จาก Microsoft MSRC ปี 2022 และ 2024

    ส่งรายงานช่องโหว่ 20 ฉบับในฤดูร้อนเดียว (2024)

    คว้าอันดับ 3 ในการแข่งขัน Zero Day Quest จัดโดย Microsoft เดือนเมษายน 2025

    แม้จะยังเป็นนักเรียนมัธยม แต่ได้รับความเคารพในวงการและสร้างแรงบันดาลใจวงกว้าง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/microsofts-youngest-security-researcher-started-collaboration-with-the-company-at-just-13-high-school-junior-filed-20-vulnerability-reports-last-summer-named-msrc-most-valuable-researcher-twice
    เรื่องนี้เริ่มจาก Dylan ที่ตอนอายุแค่ 10–11 ก็เล่นแฮกโค้ดเว็บเรียนออนไลน์ในโรงเรียน จนสามารถ “ปลดล็อกเกมบนคอมพิวเตอร์เรียน” ได้ — แม้จะโดนตักเตือน แต่ก็เป็นจุดเริ่มของความสนใจด้านการหาช่องโหว่ พอช่วงโควิด Dylan เริ่ม “เลี่ยงข้อจำกัดบนเครือข่ายนักเรียน” และมาสู่จุดเปลี่ยนตอนเจอช่องโหว่ใน Microsoft Teams ที่สามารถ takeover กลุ่มใดก็ได้ → เขาเลือกไม่ใช้ประโยชน์เอง แต่แจ้งไปยัง MSRC แบบ responsible disclosure ผลคือ: - เขาได้เป็นนักวิจัย bug bounty อย่างเป็นทางการตอนอายุ 13 - Microsoft ต้องปรับข้อกำหนดให้เปิดรับเด็กอายุ 13 ขึ้นไป - และเขายังติดโผ “MSRC Most Valuable Researcher” ในปี 2022 และ 2024 ด้วย! ช่วงซัมเมอร์ล่าสุด (2024) Dylan ส่งรายงานช่องโหว่ให้ Microsoft ถึง 20 ฉบับในเวลาไม่กี่เดือน (จากก่อนหน้าที่เคยส่งแค่ 6) → ยังคว้าอันดับ 3 ในงานแข่งขัน Zero Day Quest ที่ Microsoft จัดใน Redmond ได้อีกด้วย แม้วันนี้เขายังเป็นเด็กมัธยม แต่ก็เข้าใจหลักความรับผิดชอบของสาย white-hat อย่างเต็มตัว และยังมองว่า security เป็น “แค่กิจกรรมสนุก ๆ” ที่อยากทำควบคู่กับวิทยาศาสตร์และพลเมืองศึกษาด้วยซ้ำ ✅ Dylan เริ่มต้นศึกษาเขียนโค้ดตั้งแต่เด็กก่อนวัยรุ่น → ด้วย Scratch, HTML ฯลฯ ✅ พบช่องโหว่ takeover group บน Microsoft Teams และเลือก responsible disclosure ✅ กลายเป็นเหตุผลที่ Microsoft แก้เงื่อนไข Bug Bounty ให้เด็กอายุ 13 เข้าร่วมได้ ✅ ได้รับรางวัล “Most Valuable Researcher” จาก Microsoft MSRC ปี 2022 และ 2024 ✅ ส่งรายงานช่องโหว่ 20 ฉบับในฤดูร้อนเดียว (2024) ✅ คว้าอันดับ 3 ในการแข่งขัน Zero Day Quest จัดโดย Microsoft เดือนเมษายน 2025 ✅ แม้จะยังเป็นนักเรียนมัธยม แต่ได้รับความเคารพในวงการและสร้างแรงบันดาลใจวงกว้าง https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/microsofts-youngest-security-researcher-started-collaboration-with-the-company-at-just-13-high-school-junior-filed-20-vulnerability-reports-last-summer-named-msrc-most-valuable-researcher-twice
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 637 มุมมอง 0 รีวิว
  • *Fantastic Iceland Summer*
    12 วัน 9 คืน สัมผัสธรรมชาติสุดอลังการแห่งไอซ์แลนด์
    เดินทางโดยสายการบินไทย
    8 - 19 สิงหาคม 2568 (วันแม่แห่งชาติ)
    ราคา 225,000.- *รวมค่าวีซ่าแล้ว*

    ไฮไลท์สุดปัง
    แช่ SKY LAGOON
    ภูเขาเคิร์กจูเฟล
    ล่องเรือชมวาฬ
    ทุ่งลาวา Dimmuborgir
    ฮเวรีร์ ดินเดือด พลังงานใต้พิภพ
    น้ำตกก็อดด้าฟอส + เดตติฟอส
    ชมนกพัฟฟิน @ Borgarfjordur
    ล่องเรือชมภูเขาน้ำแข็ง
    ซากเครื่องบินโซลเฮมาซานดูร์
    โกลเด้นเซอร์เคิล + เกย์ซีร์ + บลูลากูน

    ทริปเดียวครบ จบทุกรสไอซ์แลนด์
    ที่นั่งมีจำนวนจำกัด รีบจองก่อนเต็มน้าาา

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e73ca0

    ดูทัวร์ไอซ์แลนด์ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/190385

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์ไอซ์แลนด์ #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #IcelandSummer #เที่ยวไอซ์แลนด์ #วันแม่
    🌋🇮🇸 *Fantastic Iceland Summer* 🇮🇸🌋 12 วัน 9 คืน สัมผัสธรรมชาติสุดอลังการแห่งไอซ์แลนด์ ✈️ เดินทางโดยสายการบินไทย 📅 8 - 19 สิงหาคม 2568 (วันแม่แห่งชาติ) 💸 ราคา 225,000.- *รวมค่าวีซ่าแล้ว* 🧊 ไฮไลท์สุดปัง 🧊 🛁 แช่ SKY LAGOON ⛰️ ภูเขาเคิร์กจูเฟล 🐋 ล่องเรือชมวาฬ 🌋 ทุ่งลาวา Dimmuborgir 🔥 ฮเวรีร์ ดินเดือด พลังงานใต้พิภพ 💦 น้ำตกก็อดด้าฟอส + เดตติฟอส 🐧 ชมนกพัฟฟิน @ Borgarfjordur 🧊 ล่องเรือชมภูเขาน้ำแข็ง ✈️ ซากเครื่องบินโซลเฮมาซานดูร์ ♨️ โกลเด้นเซอร์เคิล + เกย์ซีร์ + บลูลากูน 📍ทริปเดียวครบ จบทุกรสไอซ์แลนด์ 📌 ที่นั่งมีจำนวนจำกัด รีบจองก่อนเต็มน้าาา ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e73ca0 ดูทัวร์ไอซ์แลนด์ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/190385 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ไอซ์แลนด์ #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #IcelandSummer #เที่ยวไอซ์แลนด์ #วันแม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 920 มุมมอง 0 รีวิว
  • KDE เตรียมเปิดตัว "Karton" ระบบจัดการเครื่องเสมือนแบบเนทีฟ

    KDE กำลังพัฒนา Karton ซึ่งเป็น Virtual Machine Manager (VMM) ที่ออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบภายใน Plasma Desktop โดยโครงการนี้เริ่มต้นจาก Aaron Rainbolt ที่พัฒนา QEMU frontend และต่อมาถูกพัฒนาโดย Harald Sitter ในโครงการ Google Summer of Code (GSoC) ปัจจุบัน Derek Lin นักศึกษาจาก University of Waterloo กำลังพัฒนา Karton ใน GSoC 2025

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Karton
    Karton ใช้ Qt Quick และ Kirigami เพื่อให้เข้ากับ KDE Plasma
    - ทำให้ UI มีความสวยงามและใช้งานง่าย

    ใช้ libvirt API ในการจัดการเครื่องเสมือน
    - รองรับ การตั้งค่า VM อย่างละเอียดและสามารถทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้

    พัฒนา SPICE viewer แบบกำหนดเองโดยใช้ Qt Quick
    - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถดูและโต้ตอบกับ VM ได้โดยไม่ต้องใช้ virt-viewer

    เพิ่มฟีเจอร์ snapshot เพื่อให้สามารถกู้คืนสถานะก่อนหน้าได้
    - ทำให้ การสำรองข้อมูลและการกู้คืน VM ทำได้ง่ายขึ้น

    รองรับการติดตั้ง OS ผ่าน libosinfo แทน virt-install CLI
    - ช่วยให้ สามารถตรวจจับ OS images และสร้าง libvirt XML ได้แม่นยำขึ้น

    มี UI ที่ออกแบบให้ใช้งานง่ายและรองรับอุปกรณ์พกพา
    - อ้างอิงดีไซน์จาก MacOS UTM และปรับปรุงตามข้อเสนอแนะของชุมชน KDE

    รองรับการเชื่อมต่อกับ QEMU hypervisor ทั้งแบบ session (user) และ system (root)
    - GNOME Boxes รองรับเฉพาะ session แต่ Karton จะเพิ่มการรองรับ system เพื่อให้ใช้งานกับ Hyper-V และ bhyve ได้

    https://www.neowin.net/news/kde-is-finally-getting-a-native-virtual-machine-manager-called-karton/
    KDE เตรียมเปิดตัว "Karton" ระบบจัดการเครื่องเสมือนแบบเนทีฟ KDE กำลังพัฒนา Karton ซึ่งเป็น Virtual Machine Manager (VMM) ที่ออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบภายใน Plasma Desktop โดยโครงการนี้เริ่มต้นจาก Aaron Rainbolt ที่พัฒนา QEMU frontend และต่อมาถูกพัฒนาโดย Harald Sitter ในโครงการ Google Summer of Code (GSoC) ปัจจุบัน Derek Lin นักศึกษาจาก University of Waterloo กำลังพัฒนา Karton ใน GSoC 2025 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Karton ✅ Karton ใช้ Qt Quick และ Kirigami เพื่อให้เข้ากับ KDE Plasma - ทำให้ UI มีความสวยงามและใช้งานง่าย ✅ ใช้ libvirt API ในการจัดการเครื่องเสมือน - รองรับ การตั้งค่า VM อย่างละเอียดและสามารถทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้ ✅ พัฒนา SPICE viewer แบบกำหนดเองโดยใช้ Qt Quick - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถดูและโต้ตอบกับ VM ได้โดยไม่ต้องใช้ virt-viewer ✅ เพิ่มฟีเจอร์ snapshot เพื่อให้สามารถกู้คืนสถานะก่อนหน้าได้ - ทำให้ การสำรองข้อมูลและการกู้คืน VM ทำได้ง่ายขึ้น ✅ รองรับการติดตั้ง OS ผ่าน libosinfo แทน virt-install CLI - ช่วยให้ สามารถตรวจจับ OS images และสร้าง libvirt XML ได้แม่นยำขึ้น ✅ มี UI ที่ออกแบบให้ใช้งานง่ายและรองรับอุปกรณ์พกพา - อ้างอิงดีไซน์จาก MacOS UTM และปรับปรุงตามข้อเสนอแนะของชุมชน KDE ✅ รองรับการเชื่อมต่อกับ QEMU hypervisor ทั้งแบบ session (user) และ system (root) - GNOME Boxes รองรับเฉพาะ session แต่ Karton จะเพิ่มการรองรับ system เพื่อให้ใช้งานกับ Hyper-V และ bhyve ได้ https://www.neowin.net/news/kde-is-finally-getting-a-native-virtual-machine-manager-called-karton/
    WWW.NEOWIN.NET
    KDE is finally getting a native virtual machine manager called "Karton"
    For years, KDE users had to use Virtual Machine Managers outside the KDE ecosystem, like GNOME Boxes. Now that's changing with a new native VMM in development for KDE.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 329 มุมมอง 0 รีวิว
  • FB : Midsummer Beach Saraburi
    FB : Midsummer Beach Saraburi
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 285 มุมมอง 0 รีวิว
  • 9 Skillful Ways To Answer: “What Are You Doing With Your Future?”

    “What do you plan to do with your life?” It’s one of those big, intimidating questions that people tend to ask all the time when they find out you’re graduating high school or college. One minute you’re eating a piece of graduation cake and enjoying the relief of having no homework, and then suddenly all of your relatives are staring at you, waiting for you to walk them point-by-point through a map of the next five years.

    When you’re in this situation, it might be tempting to scream and run away as soon as they ask the question. Unfortunately, that kind of behavior is generally frowned upon. But there are ways to answer the question that take some of the pressure off of you, make the situation less awkward, and help you navigate the conversation with ease. Here are nine different approaches you can take when someone asks what you’re doing with your future.

    1. Shorten the time frame.
    You may not have your long-term future mapped out (you aren’t alone!), but you might have plans coming up this summer or even just for the next semester. Talk about those more immediate plans instead. When people ask what you’re up to after graduation, they generally just want to know what the next step is. It’s totally okay to limit your answer to the next few months. Try an answer like:

    - I’m going camping with some friends this summer before I start my job search.
    - I’m finishing up my prerequisites at the community college while I decide on a university.

    2. Talk about your passions.
    You don’t have to focus solely on accomplishments, job offers, or acceptance letters when someone asks about the future. Instead, talk about what you’re passionate about and the kinds of work or study you’d like to do in the following years. Try a phrase like:

    - I’m really interested in [subject], so I’m considering options related to that.
    - I know someone who works in [career field], and I really want to learn more about it.

    3. Share the one thing you’re most excited about.
    If you got an exciting new job or acceptance into a dream school, that’s a great thing to share. If you’re still working towards your big goals, talk about something coming up on the horizon of your life that makes you really excited. Maybe it’s a trip you’re taking, a summer internship, tours of different schools, or even some interviews with various companies that you’re really interested in. Allow others to share in the excitement!

    4. Ask for advice.
    Graduation is the start of a new chapter in life, and everyone who’s gone through that transition had to make important decisions about the future. When someone asks about your future, try asking them how they handled some of those big decisions. People love to talk about their own lives and offer advice. They might even have good suggestions on different steps to take that you hadn’t thought about yet. Say:

    - I’m still deciding on my next step. What did you do when you were my age?
    - I have two options I’m really excited about. Which one would you pick?

    5. Use humor.
    Let’s be honest: this is a tricky question to answer, and it can make you feel like you’re being put on the spot. If it makes you more comfortable, lighten the mood by injecting some humor into the conversation. Humor can be a great way to deflect when you feel like someone is judging your responses, and it’s also an easy way to change the subject if you’d rather avoid the topic entirely. Try something like:

    - Well, my first commitment is catching up on all the TV shows I missed this semester. What about you?
    - You mean to tell me there’s more work after graduation?

    6. Focus on mental health.
    It’s normal to need some breathing room between big life changes, especially when a part of your academic life took place during a pandemic! If you’re taking some time off, using the next few months to relax and regroup, or just taking your time while you consider different options, it’s OK to say that. It can be as simple as:

    - Finishing school took a lot of work, so I’m taking some time to consider my next steps.
    - I’m taking some time off to reset, so I’m fresh for my next opportunities.

    7. Turn the question around.
    If being asked about your future feels like an interrogation, invite the other person to share their future plans as well. Making the question more conversational can help ease any tension you might feel or even change the subject if that’s what you’re aiming for. When there’s more of a back-and-forth happening, it won’t feel so much like you’re sitting in the hot seat. You could say:

    - I have a few trips lined up and then I’m thinking about doing [x]. What do you have coming up this year?
    - I’m thinking about [X], but haven’t decided. What have you been up to?

    8. Talk about the big picture.
    You may not know exactly what you want to do next, but you likely have some ideas about what you want your life to look like in the future. Go big! Talk about your overarching goals and what really makes you tick. You’re working towards something, even if you don’t know every single step along the path yet. You might say something like:

    - I’d like to work towards a career in publishing.
    - I want to open my own business one day, so I’m hoping to major in business management or economics.
    - I’m really focused on trying new things and honing in on the right career for myself.

    9. Challenge expectations.
    When people ask you about the future, they’re often expecting you to brag about a new job or school you’ll be attending, but jobs and school aren’t the only things you’re allowed to be proud of. Maybe you’re prioritizing volunteer opportunities, personal enrichment, time with family and friends, or even just the freedom of having finally graduated. You get to decide what to focus on when you answer this question, even if it doesn’t follow the typical script. Take advantage of that and steer the conversation towards what makes you tick.

    - School kept me so busy that I’m really looking forward to spending time with my friends and family over the next few months.
    - I’m planning on grad school later on, but in the meantime I’m spending a lot of time volunteering with [organization].
    - I haven’t made a final decision about work yet, but I’m really excited to figure out what’s next.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    9 Skillful Ways To Answer: “What Are You Doing With Your Future?” “What do you plan to do with your life?” It’s one of those big, intimidating questions that people tend to ask all the time when they find out you’re graduating high school or college. One minute you’re eating a piece of graduation cake and enjoying the relief of having no homework, and then suddenly all of your relatives are staring at you, waiting for you to walk them point-by-point through a map of the next five years. When you’re in this situation, it might be tempting to scream and run away as soon as they ask the question. Unfortunately, that kind of behavior is generally frowned upon. But there are ways to answer the question that take some of the pressure off of you, make the situation less awkward, and help you navigate the conversation with ease. Here are nine different approaches you can take when someone asks what you’re doing with your future. 1. Shorten the time frame. You may not have your long-term future mapped out (you aren’t alone!), but you might have plans coming up this summer or even just for the next semester. Talk about those more immediate plans instead. When people ask what you’re up to after graduation, they generally just want to know what the next step is. It’s totally okay to limit your answer to the next few months. Try an answer like: - I’m going camping with some friends this summer before I start my job search. - I’m finishing up my prerequisites at the community college while I decide on a university. 2. Talk about your passions. You don’t have to focus solely on accomplishments, job offers, or acceptance letters when someone asks about the future. Instead, talk about what you’re passionate about and the kinds of work or study you’d like to do in the following years. Try a phrase like: - I’m really interested in [subject], so I’m considering options related to that. - I know someone who works in [career field], and I really want to learn more about it. 3. Share the one thing you’re most excited about. If you got an exciting new job or acceptance into a dream school, that’s a great thing to share. If you’re still working towards your big goals, talk about something coming up on the horizon of your life that makes you really excited. Maybe it’s a trip you’re taking, a summer internship, tours of different schools, or even some interviews with various companies that you’re really interested in. Allow others to share in the excitement! 4. Ask for advice. Graduation is the start of a new chapter in life, and everyone who’s gone through that transition had to make important decisions about the future. When someone asks about your future, try asking them how they handled some of those big decisions. People love to talk about their own lives and offer advice. They might even have good suggestions on different steps to take that you hadn’t thought about yet. Say: - I’m still deciding on my next step. What did you do when you were my age? - I have two options I’m really excited about. Which one would you pick? 5. Use humor. Let’s be honest: this is a tricky question to answer, and it can make you feel like you’re being put on the spot. If it makes you more comfortable, lighten the mood by injecting some humor into the conversation. Humor can be a great way to deflect when you feel like someone is judging your responses, and it’s also an easy way to change the subject if you’d rather avoid the topic entirely. Try something like: - Well, my first commitment is catching up on all the TV shows I missed this semester. What about you? - You mean to tell me there’s more work after graduation? 6. Focus on mental health. It’s normal to need some breathing room between big life changes, especially when a part of your academic life took place during a pandemic! If you’re taking some time off, using the next few months to relax and regroup, or just taking your time while you consider different options, it’s OK to say that. It can be as simple as: - Finishing school took a lot of work, so I’m taking some time to consider my next steps. - I’m taking some time off to reset, so I’m fresh for my next opportunities. 7. Turn the question around. If being asked about your future feels like an interrogation, invite the other person to share their future plans as well. Making the question more conversational can help ease any tension you might feel or even change the subject if that’s what you’re aiming for. When there’s more of a back-and-forth happening, it won’t feel so much like you’re sitting in the hot seat. You could say: - I have a few trips lined up and then I’m thinking about doing [x]. What do you have coming up this year? - I’m thinking about [X], but haven’t decided. What have you been up to? 8. Talk about the big picture. You may not know exactly what you want to do next, but you likely have some ideas about what you want your life to look like in the future. Go big! Talk about your overarching goals and what really makes you tick. You’re working towards something, even if you don’t know every single step along the path yet. You might say something like: - I’d like to work towards a career in publishing. - I want to open my own business one day, so I’m hoping to major in business management or economics. - I’m really focused on trying new things and honing in on the right career for myself. 9. Challenge expectations. When people ask you about the future, they’re often expecting you to brag about a new job or school you’ll be attending, but jobs and school aren’t the only things you’re allowed to be proud of. Maybe you’re prioritizing volunteer opportunities, personal enrichment, time with family and friends, or even just the freedom of having finally graduated. You get to decide what to focus on when you answer this question, even if it doesn’t follow the typical script. Take advantage of that and steer the conversation towards what makes you tick. - School kept me so busy that I’m really looking forward to spending time with my friends and family over the next few months. - I’m planning on grad school later on, but in the meantime I’m spending a lot of time volunteering with [organization]. - I haven’t made a final decision about work yet, but I’m really excited to figure out what’s next. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1241 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเตือนว่า คลื่นความร้อนในฤดูร้อนอาจส่งผลกระทบต่อเราเตอร์ Wi-Fi โดยเฉพาะหากวางไว้ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม เช่น ในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรง หรือ ในตู้ปิดที่ไม่มีการระบายอากาศ

    Virgin Media ผู้ให้บริการบรอดแบนด์ในสหราชอาณาจักรแนะนำว่า ควรหลีกเลี่ยงการวางเราเตอร์ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง หรือในกรณีร้ายแรงอาจทำให้เราเตอร์หยุดทำงาน

    นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำเกี่ยวกับ ตำแหน่งที่เหมาะสมในการวางเราเตอร์ เช่น ควรอยู่ห่างจากโทรศัพท์ไร้สายและอุปกรณ์ที่อาจรบกวนสัญญาณ Wi-Fi อย่างน้อย 1 เมตร และ ควรวางในที่สูงและไม่มีสิ่งกีดขวาง เพื่อให้สัญญาณกระจายได้ดีขึ้น

    ตำแหน่งที่ควรหลีกเลี่ยง
    - ไม่ควรวางเราเตอร์ในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรง
    - ไม่ควรวางในตู้ปิดที่ไม่มีการระบายอากาศ

    ผลกระทบของอุณหภูมิสูงต่อเราเตอร์
    - อาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง
    - ในกรณีร้ายแรงอาจทำให้เราเตอร์หยุดทำงาน

    ตำแหน่งที่เหมาะสมในการวางเราเตอร์
    - ควรอยู่ห่างจากโทรศัพท์ไร้สายและอุปกรณ์ที่อาจรบกวนสัญญาณ Wi-Fi อย่างน้อย 1 เมตร
    - ควรวางในที่สูงและไม่มีสิ่งกีดขวาง

    วิธีปรับปรุงสัญญาณ Wi-Fi
    - ใช้ Wi-Fi extender หากต้องการเพิ่มระยะสัญญาณ
    - เปลี่ยน Wi-Fi channel เพื่อลดการรบกวนจากเครือข่ายอื่น

    https://www.techradar.com/computing/wi-fi-broadband/experts-warn-of-heatwave-danger-to-routers-so-act-now-before-summer-kicks-in-and-temperatures-could-really-soar-to-the-point-that-kills-your-wi-fi
    ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเตือนว่า คลื่นความร้อนในฤดูร้อนอาจส่งผลกระทบต่อเราเตอร์ Wi-Fi โดยเฉพาะหากวางไว้ในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม เช่น ในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรง หรือ ในตู้ปิดที่ไม่มีการระบายอากาศ Virgin Media ผู้ให้บริการบรอดแบนด์ในสหราชอาณาจักรแนะนำว่า ควรหลีกเลี่ยงการวางเราเตอร์ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง หรือในกรณีร้ายแรงอาจทำให้เราเตอร์หยุดทำงาน นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำเกี่ยวกับ ตำแหน่งที่เหมาะสมในการวางเราเตอร์ เช่น ควรอยู่ห่างจากโทรศัพท์ไร้สายและอุปกรณ์ที่อาจรบกวนสัญญาณ Wi-Fi อย่างน้อย 1 เมตร และ ควรวางในที่สูงและไม่มีสิ่งกีดขวาง เพื่อให้สัญญาณกระจายได้ดีขึ้น ✅ ตำแหน่งที่ควรหลีกเลี่ยง - ไม่ควรวางเราเตอร์ในที่ที่โดนแสงแดดโดยตรง - ไม่ควรวางในตู้ปิดที่ไม่มีการระบายอากาศ ✅ ผลกระทบของอุณหภูมิสูงต่อเราเตอร์ - อาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง - ในกรณีร้ายแรงอาจทำให้เราเตอร์หยุดทำงาน ✅ ตำแหน่งที่เหมาะสมในการวางเราเตอร์ - ควรอยู่ห่างจากโทรศัพท์ไร้สายและอุปกรณ์ที่อาจรบกวนสัญญาณ Wi-Fi อย่างน้อย 1 เมตร - ควรวางในที่สูงและไม่มีสิ่งกีดขวาง ✅ วิธีปรับปรุงสัญญาณ Wi-Fi - ใช้ Wi-Fi extender หากต้องการเพิ่มระยะสัญญาณ - เปลี่ยน Wi-Fi channel เพื่อลดการรบกวนจากเครือข่ายอื่น https://www.techradar.com/computing/wi-fi-broadband/experts-warn-of-heatwave-danger-to-routers-so-act-now-before-summer-kicks-in-and-temperatures-could-really-soar-to-the-point-that-kills-your-wi-fi
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 468 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยวโรมาเนีย-บัลแกเรีย กับเทศกาลกุหลาบสุดโรแมนติก
    #ROSEFestival 11 วัน 8 คืน

    โดยสายการบิน Qatar Airways (QR)
    เดินทาง 3-13 มิ.ย. 68
    ราคาเพียง 109,900.-

    เส้นทางไฮไลต์:
    ปราสาทเปเลส & ปราสาทบราน
    เที่ยวเมืองโบราณซิบิว บราซอฟ และโซเฟีย
    ชมอารามรีล่า มรดกโลกยูเนสโก
    ร่วมงานเทศกาลดอกกุหลาบที่คาซานลัค
    พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบัลแกเรีย

    ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และเทศกาลสุดพิเศษ!


    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e45146

    ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/7e5d16

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #บัลแกเรีย #โรมาเนีย #เทศกาลดอกกุหลาบ #RoseFestival2025 #เที่ยวกับเรา #QRสายการบินหรู #ทัวร์ยุโรปตะวันออก #เที่ยวหน้าร้อน #SummerTrip #รีล่าอาราม #PelesCastle #BranCastle
    🎉 เที่ยวโรมาเนีย-บัลแกเรีย กับเทศกาลกุหลาบสุดโรแมนติก 🌹 #ROSEFestival 11 วัน 8 คืน ✈️ โดยสายการบิน Qatar Airways (QR) 📅 เดินทาง 3-13 มิ.ย. 68 💸 ราคาเพียง 109,900.- 🌍 เส้นทางไฮไลต์: 🏰 ปราสาทเปเลส & ปราสาทบราน 🌆 เที่ยวเมืองโบราณซิบิว บราซอฟ และโซเฟีย 🕌 ชมอารามรีล่า มรดกโลกยูเนสโก 🌹 ร่วมงานเทศกาลดอกกุหลาบที่คาซานลัค 🏛️ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบัลแกเรีย 📌 ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และเทศกาลสุดพิเศษ! ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e45146 ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/7e5d16 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #บัลแกเรีย #โรมาเนีย #เทศกาลดอกกุหลาบ #RoseFestival2025 #เที่ยวกับเรา #QRสายการบินหรู #ทัวร์ยุโรปตะวันออก #เที่ยวหน้าร้อน #SummerTrip #รีล่าอาราม #PelesCastle #BranCastle 🌷
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1298 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยวโรมาเนีย-บัลแกเรีย กับเทศกาลกุหลาบสุดโรแมนติก
    #ROSEFestival 11 วัน 8 คืน

    โดยสายการบิน Qatar Airways (QR)
    เดินทาง 3-13 มิ.ย. 68
    ราคาเพียง 109,900.-

    เส้นทางไฮไลต์:
    ปราสาทเปเลส & ปราสาทบราน
    เที่ยวเมืองโบราณซิบิว บราซอฟ และโซเฟีย
    ชมอารามรีล่า มรดกโลกยูเนสโก
    ร่วมงานเทศกาลดอกกุหลาบที่คาซานลัค
    พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบัลแกเรีย

    ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และเทศกาลสุดพิเศษ!


    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e45146

    ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/7e5d16

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #บัลแกเรีย #โรมาเนีย #เทศกาลดอกกุหลาบ #RoseFestival2025 #เที่ยวกับเรา #QRสายการบินหรู #ทัวร์ยุโรปตะวันออก #เที่ยวหน้าร้อน #SummerTrip #รีล่าอาราม #PelesCastle #BranCastle
    🎉 เที่ยวโรมาเนีย-บัลแกเรีย กับเทศกาลกุหลาบสุดโรแมนติก 🌹 #ROSEFestival 11 วัน 8 คืน ✈️ โดยสายการบิน Qatar Airways (QR) 📅 เดินทาง 3-13 มิ.ย. 68 💸 ราคาเพียง 109,900.- 🌍 เส้นทางไฮไลต์: 🏰 ปราสาทเปเลส & ปราสาทบราน 🌆 เที่ยวเมืองโบราณซิบิว บราซอฟ และโซเฟีย 🕌 ชมอารามรีล่า มรดกโลกยูเนสโก 🌹 ร่วมงานเทศกาลดอกกุหลาบที่คาซานลัค 🏛️ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบัลแกเรีย 📌 ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และเทศกาลสุดพิเศษ! ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e45146 ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/7e5d16 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #บัลแกเรีย #โรมาเนีย #เทศกาลดอกกุหลาบ #RoseFestival2025 #เที่ยวกับเรา #QRสายการบินหรู #ทัวร์ยุโรปตะวันออก #เที่ยวหน้าร้อน #SummerTrip #รีล่าอาราม #PelesCastle #BranCastle 🌷
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1296 มุมมอง 0 รีวิว
  • THE MALL LIFESTORE SUMMER-CATION FOOD FEST 2025
    ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 68 – 30 เม.ย. 68 ที่ GRAND HALL ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช
    .
    พบกับสินค้าหัตกรรม และสินค้า OTOP จากชุมชน อาทิ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย เครื่องจักสาน เครื่องเงิน และสินค้าอหารแปรรูป จากร้าน ผ้าปูที่นอนกันไรฝุ่น , โหราศาสตร์ไทยประยุกต์ , SEECHA , HOMI HOME , ชิ้นปลาสนุก , เจ๊พริกกุยช่ายตลาดพลู , แซลม่อนย่าง กุ้งแช่น้ำปลา , หมึกเจี๊ยวจ๊าว , หวานพอดีสวีท คาเฟ่ , ริมปิง , กรอบแก้วโคราช , รุ่งเรืองการแว่น , COWAY , จิวแกลลอรี่ , ราชาเกี๊ยวต้ม , สามพี่น้องปากหม้อกุ่ยช่าย , หมูยอวชาลิสา , Ricco ลาซานญ่า , เจ้าสัวแต่เตี้ยม , ปลาแดดเดียว แม่สำรวย , KUNNOOK ORANGEJUICE , ข้าวเกรียบเฮเดย์ฟาร์ม , ไอติมปากช่อง , มีนาผ้าไทย , THE QUEEN ,ผ้าใยชากัญชง , ฮงเยาวราช , หยกมณี ก๋วยจั๊บญวน , อินากะซูชิ , MOCHI FACTORY , ครบเครื่องปูหลน , รุ่งลัดดา , DUCK DUCK , ขนมเบื้องป้าใหญ่ , ชามสุข , กุ๊กไก่ก๋วยเตี๋ยวเรือ เขาใหญ่ มาจัดรายการพิเศษ
    .
    ซัมเมอร์นี้ ชีเสิร์ฟเมนูอร่อยคลายร้อนมากมาย ที่รอทุกคนอยู่
    24 เม.ย. 68 – 30 เม.ย. 68
    GRAND HALL ชั้น 1 #เดอะมอลล์โคราช
    #TheMallKorat
    #TheMallGroup
    #TheMallThailand
    #Themallshoppingcenter
    THE MALL LIFESTORE SUMMER-CATION FOOD FEST 2025🌞 ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 68 – 30 เม.ย. 68 ที่ GRAND HALL ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช . 👉พบกับสินค้าหัตกรรม และสินค้า OTOP จากชุมชน อาทิ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย เครื่องจักสาน เครื่องเงิน และสินค้าอหารแปรรูป จากร้าน ผ้าปูที่นอนกันไรฝุ่น , โหราศาสตร์ไทยประยุกต์ , SEECHA , HOMI HOME , ชิ้นปลาสนุก , เจ๊พริกกุยช่ายตลาดพลู , แซลม่อนย่าง กุ้งแช่น้ำปลา , หมึกเจี๊ยวจ๊าว , หวานพอดีสวีท คาเฟ่ , ริมปิง , กรอบแก้วโคราช , รุ่งเรืองการแว่น , COWAY , จิวแกลลอรี่ , ราชาเกี๊ยวต้ม , สามพี่น้องปากหม้อกุ่ยช่าย , หมูยอวชาลิสา , Ricco ลาซานญ่า , เจ้าสัวแต่เตี้ยม , ปลาแดดเดียว แม่สำรวย , KUNNOOK ORANGEJUICE , ข้าวเกรียบเฮเดย์ฟาร์ม , ไอติมปากช่อง , มีนาผ้าไทย , THE QUEEN ,ผ้าใยชากัญชง , ฮงเยาวราช , หยกมณี ก๋วยจั๊บญวน , อินากะซูชิ , MOCHI FACTORY , ครบเครื่องปูหลน , รุ่งลัดดา , DUCK DUCK , ขนมเบื้องป้าใหญ่ , ชามสุข , กุ๊กไก่ก๋วยเตี๋ยวเรือ เขาใหญ่ มาจัดรายการพิเศษ . 🔥 ซัมเมอร์นี้ ชีเสิร์ฟเมนูอร่อยคลายร้อนมากมาย ที่รอทุกคนอยู่ 🗓️ 24 เม.ย. 68 – 30 เม.ย. 68 📍 GRAND HALL ชั้น 1 #เดอะมอลล์โคราช #TheMallKorat #TheMallGroup #TheMallThailand #Themallshoppingcenter
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1358 มุมมอง 0 รีวิว
  • 𝐄𝐧𝐣𝐨𝐲 𝐲𝐨𝐮𝐫 𝐬𝐮𝐦𝐦𝐞𝐫 𝐰𝐢𝐭𝐡 𝐮𝐬 - 𝐠𝐨𝐨𝐝 𝐯𝐢𝐛𝐞𝐬, 𝐠𝐫𝐞𝐚𝐭 𝐟𝐨𝐨𝐝, 𝐚𝐧𝐝 𝐭𝐡𝐞 𝐩𝐞𝐫𝐟𝐞𝐜𝐫 𝐯𝐢𝐞𝐰 𝐭𝐨 𝐮𝐧𝐰𝐢𝐧𝐝.
    -𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 𝐂𝐚𝐟𝐞' & 𝐄𝐚𝐭𝐞𝐫𝐲

    Thanks for sharing your moment with us: Tiktok 𝐊𝐨𝐡𝐚𝐫𝐮.𝐰𝐚𝐚𝐧

    ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น.
    • Call: 065-081-0581
    รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้
    ...................................
    #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover #sky
    𝐄𝐧𝐣𝐨𝐲 𝐲𝐨𝐮𝐫 𝐬𝐮𝐦𝐦𝐞𝐫 𝐰𝐢𝐭𝐡 𝐮𝐬 - 𝐠𝐨𝐨𝐝 𝐯𝐢𝐛𝐞𝐬, 𝐠𝐫𝐞𝐚𝐭 𝐟𝐨𝐨𝐝, 𝐚𝐧𝐝 𝐭𝐡𝐞 𝐩𝐞𝐫𝐟𝐞𝐜𝐫 𝐯𝐢𝐞𝐰 𝐭𝐨 𝐮𝐧𝐰𝐢𝐧𝐝. -𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 𝐂𝐚𝐟𝐞' & 𝐄𝐚𝐭𝐞𝐫𝐲 ⛱️ 🙏 Thanks for sharing your moment with us: Tiktok 𝐊𝐨𝐡𝐚𝐫𝐮.𝐰𝐚𝐚𝐧 📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น. • Call: 065-081-0581 🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้ ................................... #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover #sky
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1865 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • นาง 8 ขวบแล้วนะ ถึงว่า ขี้งอนเก่งขึ้นเรื่อยๆ .. ตัดขนรับ #summer

    #นมเย็นหมาที่เห่าได้น่ารำคาญที่สุด
    นาง 8 ขวบแล้วนะ ถึงว่า ขี้งอนเก่งขึ้นเรื่อยๆ .. ตัดขนรับ #summer #นมเย็นหมาที่เห่าได้น่ารำคาญที่สุด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้อนรับฤดูร้อนนี้ ด้วยการมาดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ทานอาหารอร่อย ๆ นั่งชมวิว กันที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 𝐂𝐚𝐟𝐞' & 𝐄𝐚𝐭𝐞𝐫𝐲

    𝐖𝐞𝐥𝐜𝐨𝐦𝐞 𝐬𝐮𝐦𝐦𝐞𝐫𝐭𝐢𝐦𝐞! 𝐋𝐞𝐭'𝐬 𝐞𝐧𝐣𝐨𝐲 𝐚 𝐜𝐨𝐨𝐥 𝐝𝐫𝐢𝐧𝐤 𝐚𝐧𝐝 𝐭𝐚𝐤𝐞 𝐢𝐧 𝐭𝐡𝐞 𝐯𝐢𝐞𝐰 𝐰𝐢𝐭𝐡 𝐮𝐬. - Ao Luek Ocean View 🌤

    เมนูแนะนำ:
    อเมริกาโน่มะพร้าว, คาราเมล มัคคิอาโต้, มัจฉะลาเต้
    บลูโอเชี่ยน สมูทตี้, คุกกี้แอนด์ครีมมิลค์เชค
    สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ
    ฮันนี่โทสต์ เค้กตามฤดูกาล

    ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น.
    • Call: 065-081-0581
    รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้
    ...................................
    #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover
    ต้อนรับฤดูร้อนนี้ ด้วยการมาดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ทานอาหารอร่อย ๆ นั่งชมวิว กันที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 𝐂𝐚𝐟𝐞' & 𝐄𝐚𝐭𝐞𝐫𝐲 ⛱️ 𝐖𝐞𝐥𝐜𝐨𝐦𝐞 𝐬𝐮𝐦𝐦𝐞𝐫𝐭𝐢𝐦𝐞! 𝐋𝐞𝐭'𝐬 𝐞𝐧𝐣𝐨𝐲 𝐚 𝐜𝐨𝐨𝐥 𝐝𝐫𝐢𝐧𝐤 𝐚𝐧𝐝 𝐭𝐚𝐤𝐞 𝐢𝐧 𝐭𝐡𝐞 𝐯𝐢𝐞𝐰 𝐰𝐢𝐭𝐡 𝐮𝐬. - Ao Luek Ocean View 🌤 เมนูแนะนำ: ☕ อเมริกาโน่มะพร้าว, คาราเมล มัคคิอาโต้, มัจฉะลาเต้ 🍹 บลูโอเชี่ยน สมูทตี้, คุกกี้แอนด์ครีมมิลค์เชค 🍝 สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ 🥞 ฮันนี่โทสต์ เค้กตามฤดูกาล 📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น. • Call: 065-081-0581 🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้ ................................... #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover
    Love
    Yay
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2306 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลิตภัณฑ์ใหม่รับหน้าร้อนครับ !!!

    เมื่อไม่นานมานี้ Shark ได้เปิดตัวพัดลมรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า TurboBlade ซึ่งมีดีไซน์และการทำงานที่ไม่เหมือนใคร ทำให้คุณรู้สึกเย็นสบายในหน้าร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    TurboBlade เป็นพัดลมไร้ใบพัดที่ประกอบด้วยแขนสองข้างที่สามารถส่งลมได้เข้มข้น แขนเหล่านี้สามารถปรับมุมขึ้นและลง และยังสามารถหมุนได้ ทำให้คุณสามารถกำหนดทิศทางลมได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแนวนอนหรือแนวตั้ง มีโหมดการทำงานถึง 10 รูปแบบ เช่น โหมดนอนหลับที่ทำให้เสียงเงียบและแสงหรี่ลง และโหมด AirBlanket ที่ส่งลมกว้างแนวนอนและทำงานอย่างเงียบ ๆ พัดลมสามารถหมุนได้ 180 องศาในโหมดทาวเวอร์ (Tower Mode) เพื่อขยายสนามการระบายความเย็นได้กว้างขึ้น

    TurboBlade สามารถปรับระดับความสูงได้ และสามารถปรับแขนทั้งสองข้างได้อย่างอิสระ เช่น ให้หนึ่งข้างส่งลมสูงและอีกข้างส่งลมต่ำ นอกจากนี้ พัดลมยังมีขนาดที่กะทัดรัดและสามารถปรับให้เป็นแนวตั้งเพื่อประหยัดพื้นที่เมื่อไม่ได้ใช้งาน

    พัดลมรุ่นนี้มาพร้อมกับโหมด Natural Breeze ที่จะสุ่มการไหลของลมให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บนภูเขาลมแรง ซึ่งเป็นการเพิ่มประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าสนใจสำหรับผู้ใช้งาน

    พัดลม Shark TurboBlade เป็นการออกแบบที่น่าทึ่งและน่าสนใจ มันช่วยให้คุณรู้สึกเย็นสบายในหน้าร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและความสะดวกสบาย หากคุณมองหาพัดลมที่ไม่เพียงแค่ให้ลมเย็น แต่ยังมีความสามารถในการปรับทิศทางลมได้อย่างหลากหลาย TurboBlade น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ

    https://www.techradar.com/home/air-quality/the-new-shark-fan-can-blast-blades-of-air-in-any-direction-and-its-set-to-make-summer-far-more-bearable
    ผลิตภัณฑ์ใหม่รับหน้าร้อนครับ !!! เมื่อไม่นานมานี้ Shark ได้เปิดตัวพัดลมรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า TurboBlade ซึ่งมีดีไซน์และการทำงานที่ไม่เหมือนใคร ทำให้คุณรู้สึกเย็นสบายในหน้าร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ TurboBlade เป็นพัดลมไร้ใบพัดที่ประกอบด้วยแขนสองข้างที่สามารถส่งลมได้เข้มข้น แขนเหล่านี้สามารถปรับมุมขึ้นและลง และยังสามารถหมุนได้ ทำให้คุณสามารถกำหนดทิศทางลมได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแนวนอนหรือแนวตั้ง มีโหมดการทำงานถึง 10 รูปแบบ เช่น โหมดนอนหลับที่ทำให้เสียงเงียบและแสงหรี่ลง และโหมด AirBlanket ที่ส่งลมกว้างแนวนอนและทำงานอย่างเงียบ ๆ พัดลมสามารถหมุนได้ 180 องศาในโหมดทาวเวอร์ (Tower Mode) เพื่อขยายสนามการระบายความเย็นได้กว้างขึ้น TurboBlade สามารถปรับระดับความสูงได้ และสามารถปรับแขนทั้งสองข้างได้อย่างอิสระ เช่น ให้หนึ่งข้างส่งลมสูงและอีกข้างส่งลมต่ำ นอกจากนี้ พัดลมยังมีขนาดที่กะทัดรัดและสามารถปรับให้เป็นแนวตั้งเพื่อประหยัดพื้นที่เมื่อไม่ได้ใช้งาน พัดลมรุ่นนี้มาพร้อมกับโหมด Natural Breeze ที่จะสุ่มการไหลของลมให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บนภูเขาลมแรง ซึ่งเป็นการเพิ่มประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าสนใจสำหรับผู้ใช้งาน พัดลม Shark TurboBlade เป็นการออกแบบที่น่าทึ่งและน่าสนใจ มันช่วยให้คุณรู้สึกเย็นสบายในหน้าร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและความสะดวกสบาย หากคุณมองหาพัดลมที่ไม่เพียงแค่ให้ลมเย็น แต่ยังมีความสามารถในการปรับทิศทางลมได้อย่างหลากหลาย TurboBlade น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ https://www.techradar.com/home/air-quality/the-new-shark-fan-can-blast-blades-of-air-in-any-direction-and-its-set-to-make-summer-far-more-bearable
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 506 มุมมอง 0 รีวิว
  • A stylist young couple enjoying summer.
    #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    A stylist young couple enjoying summer. #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • The diorama artwork pieces reference to the Summer Palace in Beijing, China.
    #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    The diorama artwork pieces reference to the Summer Palace in Beijing, China. #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 501 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ต้อนรับsummer

    บวกลบวันเวลา ได้เวลาปลดปล่อย ให้เบาๆ .. กะจะให้ครบ 4 ปีก่อนค่อยว่างกัน แต่หนักมา ยุ่งยากทุกด้าน คราวนี้ เลยปล่อยมาได้แค่ 3 ปีเอง

    ไม่ต้องใช้ความกล้าอะไร ขอแค่สบายๆ เบาๆ ไม่ทำให้ชีวิตลำบากก็พอ

    #บันทึกไว้ในความทรงจำ
    #ต้อนรับsummer บวกลบวันเวลา ได้เวลาปลดปล่อย ให้เบาๆ .. กะจะให้ครบ 4 ปีก่อนค่อยว่างกัน แต่หนักมา ยุ่งยากทุกด้าน คราวนี้ เลยปล่อยมาได้แค่ 3 ปีเอง ไม่ต้องใช้ความกล้าอะไร ขอแค่สบายๆ เบาๆ ไม่ทำให้ชีวิตลำบากก็พอ #บันทึกไว้ในความทรงจำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 403 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts