• คาเฟ่ของเราเปิดให้บริการทุกวัน มาทานเค้กอร่อยๆ พร้อมปล่อยใจชมท้องฟ้ากว้าง ที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 ⛱️

    𝐒𝐰𝐞𝐞𝐭 𝐭𝐫𝐞𝐚𝐭𝐬 𝐚𝐧𝐝 𝐬𝐭𝐮𝐧𝐧𝐢𝐧𝐠 𝐯𝐢𝐞𝐰𝐬—𝐩𝐮𝐫𝐞 𝐛𝐥𝐢𝐬𝐬 𝐢𝐧 𝐞𝐯𝐞𝐫𝐲 𝐛𝐢𝐭𝐞.🍩🧁

    เมนูแนะนำ:
    ☕ อเมริกาโน่มะพร้าว, คาราเมล มัคคิอาโต้, มัจฉะลาเต้
    🍹 บลูโอเชี่ยน สมูทตี้, คุกกี้แอนด์ครีมมิลค์เชค
    🍝 สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ
    🥞 ฮันนี่โทสต์ เค้กตามฤดูกาล

    📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น.
    • Call: 065-081-0581
    🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้
    ...................................
    #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover #sky
    คาเฟ่ของเราเปิดให้บริการทุกวัน มาทานเค้กอร่อยๆ พร้อมปล่อยใจชมท้องฟ้ากว้าง ที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 ⛱️ 𝐒𝐰𝐞𝐞𝐭 𝐭𝐫𝐞𝐚𝐭𝐬 𝐚𝐧𝐝 𝐬𝐭𝐮𝐧𝐧𝐢𝐧𝐠 𝐯𝐢𝐞𝐰𝐬—𝐩𝐮𝐫𝐞 𝐛𝐥𝐢𝐬𝐬 𝐢𝐧 𝐞𝐯𝐞𝐫𝐲 𝐛𝐢𝐭𝐞.🍩🧁 เมนูแนะนำ: ☕ อเมริกาโน่มะพร้าว, คาราเมล มัคคิอาโต้, มัจฉะลาเต้ 🍹 บลูโอเชี่ยน สมูทตี้, คุกกี้แอนด์ครีมมิลค์เชค 🍝 สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ 🥞 ฮันนี่โทสต์ เค้กตามฤดูกาล 📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น. • Call: 065-081-0581 🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้ ................................... #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover #sky
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีข่าวที่น่าสนใจจาก Tom's Hardware เกี่ยวกับการปิดตัวของบริษัท Efabless ที่ส่งผลกระทบต่อโครงการผลิตชิป Tiny Tapeout อย่างไม่แน่นอน

    Efabless เป็นบริษัทที่ทำให้กระบวนการสร้างชิปคอมพิวเตอร์เปิดกว้างสำหรับผู้ที่สนใจและนักพัฒนาขนาดเล็ก บริษัทนี้มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือในการพัฒนาและผลิตชิปที่เป็นที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ Efabless กำลังเผชิญกับปัญหาการเงินและไม่แน่ชัดว่าจะกลับมาได้หรือไม่ สิ่งนี้ส่งผลให้โครงการ Tiny Tapeout ที่พึ่งพาเทคโนโลยีของ Efabless ต้องอยู่ในสภาพไม่แน่นอน

    Tiny Tapeout เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการทำให้การออกแบบและผลิตชิปคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องง่ายและราคาถูกสำหรับผู้ที่สนใจและนักพัฒนาขนาดเล็ก โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างชิปของตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรมากมาย

    Tiny Tapeout มีการจัดทำชิปที่สามารถออกแบบได้ในขนาดเล็กและสามารถผลิตได้ในราคาที่ไม่แพง โดยมีการใช้เทคโนโลยีการออกแบบดิจิทัลและการผลิตชิปที่ทันสมัย ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นการออกแบบชิปของตัวเองได้โดยใช้เครื่องมือที่มีให้ในเว็บไซต์ของ Tiny Tapeout และสามารถส่งการออกแบบเพื่อผลิตชิปจริงได้

    โครงการนี้ยังมีการสนับสนุนจาก Efabless ซึ่งเป็นบริษัทที่ช่วยในการพัฒนาและผลิตชิป โดยมีการจัดทำชิปที่มีขนาดเล็กและราคาถูกเพื่อให้ผู้ใช้สามารถทดลองและพัฒนาชิปของตัวเองได้อย่างง่ายดาย

    Tiny Tapeout ได้ออกมาพูดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการ TT08 และ TT09 ที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ ขณะที่โครงการ TT08 ยังรอการบรรจุซิลิคอน โครงการ TT09 กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิตที่ SkyWater Technology และอาจไม่สามารถเสร็จสิ้นได้ Tiny Tapeout กำลังพยายามหาทางแก้ไขปัญหาเพื่อที่จะสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ และยังมีแผนที่จะคืนเงินให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบหากไม่สามารถจัดส่งชิปได้

    การที่ Efabless ปิดตัวเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับชุมชนผู้พัฒนาที่ใช้บริการของบริษัทนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีชิปต้องใช้เวลาและพลังงานมากมายจากผู้ที่ร่วมโครงการ ดังนั้นการที่โครงการเหล่านี้ต้องอยู่ในสภาพไม่แน่นอนเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างมาก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/efabless-shuts-down-fate-of-tiny-tapeout-chip-production-projects-unclear
    มีข่าวที่น่าสนใจจาก Tom's Hardware เกี่ยวกับการปิดตัวของบริษัท Efabless ที่ส่งผลกระทบต่อโครงการผลิตชิป Tiny Tapeout อย่างไม่แน่นอน Efabless เป็นบริษัทที่ทำให้กระบวนการสร้างชิปคอมพิวเตอร์เปิดกว้างสำหรับผู้ที่สนใจและนักพัฒนาขนาดเล็ก บริษัทนี้มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือในการพัฒนาและผลิตชิปที่เป็นที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ Efabless กำลังเผชิญกับปัญหาการเงินและไม่แน่ชัดว่าจะกลับมาได้หรือไม่ สิ่งนี้ส่งผลให้โครงการ Tiny Tapeout ที่พึ่งพาเทคโนโลยีของ Efabless ต้องอยู่ในสภาพไม่แน่นอน Tiny Tapeout เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการทำให้การออกแบบและผลิตชิปคอมพิวเตอร์เป็นเรื่องง่ายและราคาถูกสำหรับผู้ที่สนใจและนักพัฒนาขนาดเล็ก โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างชิปของตัวเองได้โดยไม่ต้องใช้ทรัพยากรมากมาย Tiny Tapeout มีการจัดทำชิปที่สามารถออกแบบได้ในขนาดเล็กและสามารถผลิตได้ในราคาที่ไม่แพง โดยมีการใช้เทคโนโลยีการออกแบบดิจิทัลและการผลิตชิปที่ทันสมัย ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นการออกแบบชิปของตัวเองได้โดยใช้เครื่องมือที่มีให้ในเว็บไซต์ของ Tiny Tapeout และสามารถส่งการออกแบบเพื่อผลิตชิปจริงได้ โครงการนี้ยังมีการสนับสนุนจาก Efabless ซึ่งเป็นบริษัทที่ช่วยในการพัฒนาและผลิตชิป โดยมีการจัดทำชิปที่มีขนาดเล็กและราคาถูกเพื่อให้ผู้ใช้สามารถทดลองและพัฒนาชิปของตัวเองได้อย่างง่ายดาย Tiny Tapeout ได้ออกมาพูดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการ TT08 และ TT09 ที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ ขณะที่โครงการ TT08 ยังรอการบรรจุซิลิคอน โครงการ TT09 กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิตที่ SkyWater Technology และอาจไม่สามารถเสร็จสิ้นได้ Tiny Tapeout กำลังพยายามหาทางแก้ไขปัญหาเพื่อที่จะสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ และยังมีแผนที่จะคืนเงินให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบหากไม่สามารถจัดส่งชิปได้ การที่ Efabless ปิดตัวเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับชุมชนผู้พัฒนาที่ใช้บริการของบริษัทนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีชิปต้องใช้เวลาและพลังงานมากมายจากผู้ที่ร่วมโครงการ ดังนั้นการที่โครงการเหล่านี้ต้องอยู่ในสภาพไม่แน่นอนเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างมาก https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/efabless-shuts-down-fate-of-tiny-tapeout-chip-production-projects-unclear
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Efabless shuts down, fate of Tiny Tapeout chip production projects unclear
    Tiny Tapeout is exploring other avenues for project manufacturing.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียกำลังวางแผนโจมตียูเครนด้วยโดรนครั้งใหญ่มากถึง 500 ลำในครั้งเดียว ในช่วงกลางปีนี้

    Vadim Skibitsky รองหัวหน้าหน่วยข่าวกรองหลัก กล่าวว่า "รัสเซียกำลังวางแผนติดตั้งแท่นปล่อยโดรนเพิ่มเติม และถ้ามันสำเร็จเมื่อไหร่ พวกเขาจะสามารถปล่อยโดรนได้ประมาณ 500 ลำในเวลาเดียวกัน” “นี่เป็นจำนวนตัวเลขที่เยอะมาก” สกิบิทสกี้กล่าว

    ตามข้อมูลของหน่วยข่าวกรองหลักของยูเครน ปัจจุบันรัสเซียสามารถปล่อยโดรนเพื่อโจมตีได้ประมาณ 150-200 ลำ ต่อครั้ง
    รัสเซียกำลังวางแผนโจมตียูเครนด้วยโดรนครั้งใหญ่มากถึง 500 ลำในครั้งเดียว ในช่วงกลางปีนี้ Vadim Skibitsky รองหัวหน้าหน่วยข่าวกรองหลัก กล่าวว่า "รัสเซียกำลังวางแผนติดตั้งแท่นปล่อยโดรนเพิ่มเติม และถ้ามันสำเร็จเมื่อไหร่ พวกเขาจะสามารถปล่อยโดรนได้ประมาณ 500 ลำในเวลาเดียวกัน” “นี่เป็นจำนวนตัวเลขที่เยอะมาก” สกิบิทสกี้กล่าว ตามข้อมูลของหน่วยข่าวกรองหลักของยูเครน ปัจจุบันรัสเซียสามารถปล่อยโดรนเพื่อโจมตีได้ประมาณ 150-200 ลำ ต่อครั้ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • วิวที่ไม่เคยเบื่อเลย มาชมความสวยงามของท้องฟ้า กับเราที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 ⛱️
    🌅 เวลาพระอาทิตย์ตก โดยประมาณ 18.36 น.

    𝐒𝐞𝐞 𝐭𝐡𝐞 𝐯𝐢𝐞𝐰, 𝐟𝐞𝐞𝐥 𝐭𝐡𝐞 𝐯𝐢𝐛𝐞, 𝐚𝐧𝐝 𝐟𝐚𝐥𝐥 𝐢𝐧 𝐥𝐨𝐯𝐞 𝐞𝐯𝐞𝐫𝐲 𝐭𝐢𝐦𝐞.

    🙏ขอบคุณภาพความทรงจำสวยๆ จากคุณลูกค้าที่น่ารัก FB: สุจนา อิทธิพรโกวิท

    เมนูแนะนำ:
    ☕ อเมริกาโน่มะพร้าว, คาราเมล มัคคิอาโต้, มัจฉะลาเต้
    🍹 บลูโอเชี่ยน สมูทตี้, คุกกี้แอนด์ครีมมิลค์เชค
    🍝 สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ
    🥞 ฮันนี่โทสต์ เค้กตามฤดูกาล

    📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น.
    • Call: 065-081-0581
    🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้
    ...................................
    #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover
    วิวที่ไม่เคยเบื่อเลย มาชมความสวยงามของท้องฟ้า กับเราที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 ⛱️ 🌅 เวลาพระอาทิตย์ตก โดยประมาณ 18.36 น. 𝐒𝐞𝐞 𝐭𝐡𝐞 𝐯𝐢𝐞𝐰, 𝐟𝐞𝐞𝐥 𝐭𝐡𝐞 𝐯𝐢𝐛𝐞, 𝐚𝐧𝐝 𝐟𝐚𝐥𝐥 𝐢𝐧 𝐥𝐨𝐯𝐞 𝐞𝐯𝐞𝐫𝐲 𝐭𝐢𝐦𝐞. 🙏ขอบคุณภาพความทรงจำสวยๆ จากคุณลูกค้าที่น่ารัก FB: สุจนา อิทธิพรโกวิท เมนูแนะนำ: ☕ อเมริกาโน่มะพร้าว, คาราเมล มัคคิอาโต้, มัจฉะลาเต้ 🍹 บลูโอเชี่ยน สมูทตี้, คุกกี้แอนด์ครีมมิลค์เชค 🍝 สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ 🥞 ฮันนี่โทสต์ เค้กตามฤดูกาล 📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น. • Call: 065-081-0581 🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้ ................................... #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 0 รีวิว
  • 1 มี.ค.2568 - กรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ไล่ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ออกจากทำเนียบขาว หลังจากโต้เถียงกัน ส่อแววล้มข้อตกลงสันติภาพ รวมทั้งข้อตกลงการเข้าถึงแร่หายาก

    ล่าสุด รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการบริหาร มูลนิธิอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ถอดบทเรียนยูเครน: เมื่อผู้นำไม่ได้รักษาผลประโยชน์ของประเทศ

    ภาพความอัปยศอดสูที่ผู้นำยูเครน Zelenskyy ถูกเชิญไปรุมกินโต๊ะโดย ประธานาธิบดี Trump และรองประธานาธิบดี Vance รวมทั้งการเจรจาที่ชะงักงันและไม่มีสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต้องประชาชนยูเครนที่สูญเสียทั้งชีวิต ดินแดน ทรัพยากร และที่สำคัญที่สุดคือ อนาคต ทำให้เราต้องมาถอดบทเรียน

    1. ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศยูเครนมิได้เป็นตัวของตัวเองเนื่องจากถูกแทรกแซงผ่านกระบวนการการสงครามผสมผสาน (Hybrid Warfare) มาอย่างต่อเนื่อง ปั่นหัวให้ประชาชนยูเครนลุกฮือขึ้นมาอย่างน้อย 3 ครั้ง 1) Orange Revolution 2004/2005 2) Euro Maidan 2014 และ 3) การลงประชามติของประชาชนในคาบสมุทร Crimea เพื่อแยกตัวเป็นเอกราชและในที่สุดขอเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ทั้งหมดไม่ได้ทำไปเพื่อประโยชน์ของประเทศ หากแต่ทั้งหมดเป็นเกมส์ของมหาอำนาจไม่ว่าจะเป็นฝ่ายยุโรป+สหรัฐ หรือฝ่ายรัสเซีย

    2. ผู้นำของยูเครน ไม่ว่าจะเป็น Leonid Kuchma (1995-2005 โปรรัสเซีย), Viktor Yushchenko (2005-2010 โปร NATO), Viktor Yanukovych (2010-2014 โปรรัสเซีย), Petro Poroshenko (2014-2019) และ Volodymyr Zelenskyy (2019- ปัจจุบัน) แน่นอนว่า 2 คนสุดท้ายโปร NATO อย่างยิ่งยวด ล้วนทำให้เราเห็นว่าผู้นำที่เลือกข้าง ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจภายนอกไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน ล้วนแล้วแต่ทำให้ตลอดมา แทนที่พวกเขาจะรักษาผลประโยชน์ของยูเครนเป็นหลัก พวกเขากลับต้องเอาอกเอาใจมหาอำนาจภายนอก และดึงยูเครนเข้าสู่ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

    3. ผลประโยชน์ของประเทศ ประกอบด้วย 4 ประเด็น 1) ความมั่นคงทางในมิติอำนาจอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความมั่นคงแบบ Non-Traditional Security ที่เน้นความมั่นคงของมนุษย์ 2) ความมั่งคั่งที่หมายถึงเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ มีการเจริญเติบโต และมีการจัดสรรที่เป็นธรรม 3) การขยายพลังอำนาจของชาติในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ สังคม การเมือง สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การทหาร และ สุดท้ายที่อาจจะสำคัญที่สุด นั่นคือ 4) ความภาคภูมิใจของชาติ (บางพื้นที่ บางชนชาติ อาจจะไม่ได้รับรองเป็นประเทศ อาจจะไม่มีแผ่นดิน แต่พวกเขาก็ยังคงมีความภาคภูมิใจในตนเอง ลองนึกถึง ชาวปาเลสไตน์ ชาวไต้หวัน กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ)

    4. แต่เมื่อผลประโยชน์ของชาติไม่ได้รับการรักษาผลประโยชน์ เพราะผู้นำต้องเลือกข้างรับใช้มหาอำนาจที่มีอิทธิพลเหนือกว่า เมื่อประชาชนถูกปลุกปั่นแทรกแซงให้เลือกข้าง ให้แตกแยก ในที่สุด อย่างกรณีของยูเครน ความมั่นคงก็กำลังสูญเสียดินแดน ซึ่งคงไม่สามารถกลับไปมีดินแดนเหมือนก่อนปี 2014 ได้ ในเรื่องความมั่งคั่ง คงไม่ต้องพูดถึง เพราะมหาอำนาจที่เคยสนับสนุนนั่นเองที่ตอนนี้กำลังจะกลับมาของสูบเลือด สูบทรัพยากร มิพักต้องพูดถึงพลังอำนาจในมิติต่างๆ ที่วันนี้ประชาชนยูเครนก็อ่อนแรง หมดกำลังใจ และในที่สุดผู้นำก็ถูกเรียกมาโดนรุมแบบไร้ศักดิ์ศรีเช่นนี้

    5. คำถามคือ สำหรับประเทศไทย เราต้องช่วยกันระวังอย่างยิ่งยวด อย่าให้มีใครมาแทรกแซง ปลุกปั่น ต้องคอยเฝ้าระวังให้ผู้นำรักษาผลประโยชน์ของชาติ อย่าให้เกิดผลประโยชน์ที่ขัดแย้งระหว่าง ผลประโยชน์ของชาติ กับผลประโยชน์ส่วนตัว ผลประโยชน์ของครอบครัว และผลประโยชน์ทางธุรกิจ

    6. นาทีนี้เราต้องการทีมประเทศไทยที่ประกอบขึ้นจาก 6 เสาหลักที่ทำงานสอดประสานกัน อันได้แก่

    1. ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ มีความรู้ความสามารถ ไม่สับสนในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศกับผลประโยชน์ของครอบครัวหรือของธุรกิจครอบครัว

    2. ผู้ตัดสินใจทางนโยบายในระดับสูงที่มีความรู้ ความสามารถ ซื่อสัตย์ กล้าหาญ กล้าตัดสินใจ และรับผิดชอบการตัดสินใจ

    3. เจ้าหน้าที่รัฐ ที่ซื่อสัตย์ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล

    4. นักวิชาการที่ทำงานหนักแบบสหสาขาวิชา ให้รู้ลึก รู้กว้าง รู้จริง และกล้าเปลืองตัวที่จะชี้นำสังคมผ่านการบริการวิชาการ

    5. ภาคเอกชน (แน่นอนที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของธุรกิจ) และภาคประชาสังคม (ที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของประชาชน) ที่ต้องการมีส่วนร่วม ให้ข้อมูลสนับสนุนช่วยการตัดสินใจ

    6. สื่อสารมวลชนที่เข้มแข็ง กล้าหาญที่จะตรวจสอบ และนำเสนอข้อมูลอย่างถูกต้อง ไม่ถูกบิดเบือนแทรกแซง

    ที่มา ไทยโพสต์
    1 มี.ค.2568 - กรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ไล่ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ออกจากทำเนียบขาว หลังจากโต้เถียงกัน ส่อแววล้มข้อตกลงสันติภาพ รวมทั้งข้อตกลงการเข้าถึงแร่หายาก ล่าสุด รศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อำนวยการบริหาร มูลนิธิอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย และอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ถอดบทเรียนยูเครน: เมื่อผู้นำไม่ได้รักษาผลประโยชน์ของประเทศ ภาพความอัปยศอดสูที่ผู้นำยูเครน Zelenskyy ถูกเชิญไปรุมกินโต๊ะโดย ประธานาธิบดี Trump และรองประธานาธิบดี Vance รวมทั้งการเจรจาที่ชะงักงันและไม่มีสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต้องประชาชนยูเครนที่สูญเสียทั้งชีวิต ดินแดน ทรัพยากร และที่สำคัญที่สุดคือ อนาคต ทำให้เราต้องมาถอดบทเรียน 1. ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศยูเครนมิได้เป็นตัวของตัวเองเนื่องจากถูกแทรกแซงผ่านกระบวนการการสงครามผสมผสาน (Hybrid Warfare) มาอย่างต่อเนื่อง ปั่นหัวให้ประชาชนยูเครนลุกฮือขึ้นมาอย่างน้อย 3 ครั้ง 1) Orange Revolution 2004/2005 2) Euro Maidan 2014 และ 3) การลงประชามติของประชาชนในคาบสมุทร Crimea เพื่อแยกตัวเป็นเอกราชและในที่สุดขอเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ทั้งหมดไม่ได้ทำไปเพื่อประโยชน์ของประเทศ หากแต่ทั้งหมดเป็นเกมส์ของมหาอำนาจไม่ว่าจะเป็นฝ่ายยุโรป+สหรัฐ หรือฝ่ายรัสเซีย 2. ผู้นำของยูเครน ไม่ว่าจะเป็น Leonid Kuchma (1995-2005 โปรรัสเซีย), Viktor Yushchenko (2005-2010 โปร NATO), Viktor Yanukovych (2010-2014 โปรรัสเซีย), Petro Poroshenko (2014-2019) และ Volodymyr Zelenskyy (2019- ปัจจุบัน) แน่นอนว่า 2 คนสุดท้ายโปร NATO อย่างยิ่งยวด ล้วนทำให้เราเห็นว่าผู้นำที่เลือกข้าง ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจภายนอกไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน ล้วนแล้วแต่ทำให้ตลอดมา แทนที่พวกเขาจะรักษาผลประโยชน์ของยูเครนเป็นหลัก พวกเขากลับต้องเอาอกเอาใจมหาอำนาจภายนอก และดึงยูเครนเข้าสู่ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ 3. ผลประโยชน์ของประเทศ ประกอบด้วย 4 ประเด็น 1) ความมั่นคงทางในมิติอำนาจอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความมั่นคงแบบ Non-Traditional Security ที่เน้นความมั่นคงของมนุษย์ 2) ความมั่งคั่งที่หมายถึงเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ มีการเจริญเติบโต และมีการจัดสรรที่เป็นธรรม 3) การขยายพลังอำนาจของชาติในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ สังคม การเมือง สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การทหาร และ สุดท้ายที่อาจจะสำคัญที่สุด นั่นคือ 4) ความภาคภูมิใจของชาติ (บางพื้นที่ บางชนชาติ อาจจะไม่ได้รับรองเป็นประเทศ อาจจะไม่มีแผ่นดิน แต่พวกเขาก็ยังคงมีความภาคภูมิใจในตนเอง ลองนึกถึง ชาวปาเลสไตน์ ชาวไต้หวัน กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ) 4. แต่เมื่อผลประโยชน์ของชาติไม่ได้รับการรักษาผลประโยชน์ เพราะผู้นำต้องเลือกข้างรับใช้มหาอำนาจที่มีอิทธิพลเหนือกว่า เมื่อประชาชนถูกปลุกปั่นแทรกแซงให้เลือกข้าง ให้แตกแยก ในที่สุด อย่างกรณีของยูเครน ความมั่นคงก็กำลังสูญเสียดินแดน ซึ่งคงไม่สามารถกลับไปมีดินแดนเหมือนก่อนปี 2014 ได้ ในเรื่องความมั่งคั่ง คงไม่ต้องพูดถึง เพราะมหาอำนาจที่เคยสนับสนุนนั่นเองที่ตอนนี้กำลังจะกลับมาของสูบเลือด สูบทรัพยากร มิพักต้องพูดถึงพลังอำนาจในมิติต่างๆ ที่วันนี้ประชาชนยูเครนก็อ่อนแรง หมดกำลังใจ และในที่สุดผู้นำก็ถูกเรียกมาโดนรุมแบบไร้ศักดิ์ศรีเช่นนี้ 5. คำถามคือ สำหรับประเทศไทย เราต้องช่วยกันระวังอย่างยิ่งยวด อย่าให้มีใครมาแทรกแซง ปลุกปั่น ต้องคอยเฝ้าระวังให้ผู้นำรักษาผลประโยชน์ของชาติ อย่าให้เกิดผลประโยชน์ที่ขัดแย้งระหว่าง ผลประโยชน์ของชาติ กับผลประโยชน์ส่วนตัว ผลประโยชน์ของครอบครัว และผลประโยชน์ทางธุรกิจ 6. นาทีนี้เราต้องการทีมประเทศไทยที่ประกอบขึ้นจาก 6 เสาหลักที่ทำงานสอดประสานกัน อันได้แก่ 1. ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ มีความรู้ความสามารถ ไม่สับสนในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศกับผลประโยชน์ของครอบครัวหรือของธุรกิจครอบครัว 2. ผู้ตัดสินใจทางนโยบายในระดับสูงที่มีความรู้ ความสามารถ ซื่อสัตย์ กล้าหาญ กล้าตัดสินใจ และรับผิดชอบการตัดสินใจ 3. เจ้าหน้าที่รัฐ ที่ซื่อสัตย์ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล 4. นักวิชาการที่ทำงานหนักแบบสหสาขาวิชา ให้รู้ลึก รู้กว้าง รู้จริง และกล้าเปลืองตัวที่จะชี้นำสังคมผ่านการบริการวิชาการ 5. ภาคเอกชน (แน่นอนที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของธุรกิจ) และภาคประชาสังคม (ที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของประชาชน) ที่ต้องการมีส่วนร่วม ให้ข้อมูลสนับสนุนช่วยการตัดสินใจ 6. สื่อสารมวลชนที่เข้มแข็ง กล้าหาญที่จะตรวจสอบ และนำเสนอข้อมูลอย่างถูกต้อง ไม่ถูกบิดเบือนแทรกแซง ที่มา ไทยโพสต์
    Like
    Love
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft จะปิดตัวโปรแกรม Skype ที่เคยได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงต้นทศวรรษ 2000 เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงจากการใช้ Skype เป็น Teams เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มการติดต่อและการทำงานร่วมกันหลัก Skype จะหยุดให้บริการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2025 และแนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนมาใช้ Teams แทน

    Skype เปิดตัวครั้งแรกในเดือนสิงหาคม 2003 โดยใช้โปรโตคอล P2P ซึ่งทำให้การสื่อสารรวดเร็วและเสถียรกว่าโปรแกรมอื่นในเวลานั้น บริษัท Microsoft ได้ซื้อ Skype ในปี 2011 ด้วยมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ในปี 2017 Microsoft ได้เปิดตัว Teams และเริ่มให้ความสำคัญกับ Teams แทนที่จะเป็น Skype Skype เริ่มเสื่อมความนิยมลงเนื่องจากมีแอปพลิเคชันการติดต่อสื่อสารและวีดีโอคอลใหม่ ๆ เข้ามาแทนที่ เช่น iMessage, WhatsApp, Discord, Zoom, Slack และแม้แต่ Teams ของ Microsoft เอง

    นอกจากนี้ โปรแกรม Skype ยังถูกทิ้งให้ห่างไกลจากการพัฒนาและการส่งเสริมจาก Microsoft จนถึงวันที่มาถึงการตัดสินใจที่จะยุติการให้บริการ ทำให้ผู้ใช้บางกลุ่มที่ยังคงภักดีกับ Skype รู้สึกผิดหวังอย่างมาก

    https://www.techspot.com/news/106966-microsoft-planning-shut-down-skype-may-amid-shrinking.html
    Microsoft จะปิดตัวโปรแกรม Skype ที่เคยได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงต้นทศวรรษ 2000 เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงจากการใช้ Skype เป็น Teams เพื่อให้เป็นแพลตฟอร์มการติดต่อและการทำงานร่วมกันหลัก Skype จะหยุดให้บริการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2025 และแนะนำให้ผู้ใช้เปลี่ยนมาใช้ Teams แทน Skype เปิดตัวครั้งแรกในเดือนสิงหาคม 2003 โดยใช้โปรโตคอล P2P ซึ่งทำให้การสื่อสารรวดเร็วและเสถียรกว่าโปรแกรมอื่นในเวลานั้น บริษัท Microsoft ได้ซื้อ Skype ในปี 2011 ด้วยมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ในปี 2017 Microsoft ได้เปิดตัว Teams และเริ่มให้ความสำคัญกับ Teams แทนที่จะเป็น Skype Skype เริ่มเสื่อมความนิยมลงเนื่องจากมีแอปพลิเคชันการติดต่อสื่อสารและวีดีโอคอลใหม่ ๆ เข้ามาแทนที่ เช่น iMessage, WhatsApp, Discord, Zoom, Slack และแม้แต่ Teams ของ Microsoft เอง นอกจากนี้ โปรแกรม Skype ยังถูกทิ้งให้ห่างไกลจากการพัฒนาและการส่งเสริมจาก Microsoft จนถึงวันที่มาถึงการตัดสินใจที่จะยุติการให้บริการ ทำให้ผู้ใช้บางกลุ่มที่ยังคงภักดีกับ Skype รู้สึกผิดหวังอย่างมาก https://www.techspot.com/news/106966-microsoft-planning-shut-down-skype-may-amid-shrinking.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft is killing off Skype after years of decline
    According to a hidden string found in the latest preview of Skype for Windows, Microsoft will sunset the software later this year. To inform users about the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถอดบทเรียนยูเครน: เมื่อผู้นำไม่ได้รักษาผลประโยชน์ของประเทศ
    .
    ภาพความอัปยศอดสูที่ผู้นำยูเครน Zelenskyy ถูกเชิญไปรุมกินโต๊ะโดย ประธานาธิบดี Trump และรองประธานาธิบดี Vance รวมทั้งการเจรจาที่ชะงักงันและไม่มีสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต้องประชาชนยูเครนที่สูญเสียทั้งชีวิต ดินแดน ทรัพยากร และที่สำคัญที่สุดคือ อนาคต ทำให้เราต้องมาถอดบทเรียน
    .
    1. ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศยูเครนมิได้เป็นตัวของตัวเองเนื่องจากถูกแทรกแซงผ่านกระบวนการการสงครามผสมผสาน (Hybrid Warfare) มาอย่างต่อเนื่อง ปั่นหัวให้ประชาชนยูเครนลุกฮือขึ้นมาอย่างน้อย 3 ครั้ง 1) Orange Revolution 2004/2005 2) Euro Maidan 2014 และ 3) การลงประชามติของประชาชนในคาบสมุทร Crimea เพื่อแยกตัวเป็นเอกราชและในที่สุดขอเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ทั้งหมดไม่ได้ทำไปเพื่อประโยชน์ของประเทศ หากแต่ทั้งหมดเป็นเกมส์ของมหาอำนาจไม่ว่าจะเป็นฝ่ายยุโรป+สหรัฐ หรือฝ่ายรัสเซีย
    .
    2. ผู้นำของยูเครน ไม่ว่าจะเป็น Leonid Kuchma (1995-2005 โปรรัสเซีย), Viktor Yushchenko (2005-2010 โปร NATO), Viktor Yanukovych (2010-2014 โปรรัสเซีย), Petro Poroshenko (2014-2019) และ Volodymyr Zelenskyy (2019- ปัจจุบัน) แน่นอนว่า 2 คนสุดท้ายโปร NATO อย่างยิ่งยวด ล้วนทำให้เราเห็นว่าผู้นำที่เลือกข้าง ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจภายนอกไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน ล้วนแล้วแต่ทำให้ตลอดมา แทนที่พวกเขาจะรักษาผลประโยชน์ของยูเครนเป็นหลัก พวกเขากลับต้องเอาอกเอาใจมหาอำนาจภายนอก และดึงยูเครนเข้าสู่ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
    .
    3. ผลประโยชน์ของประเทศ ประกอบด้วย 4 ประเด็น 1) ความมั่นคงทางในมิติอำนาจอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความมั่นคงแบบ Non-Traditional Security ที่เน้นความมั่นคงของมนุษย์ 2) ความมั่งคั่งที่หมายถึงเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ มีการเจริญเติบโต และมีการจัดสรรที่เป็นธรรม 3) การขยายพลังอำนาจของชาติในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ สังคม การเมือง สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การทหาร และ สุดท้ายที่อาจจะสำคัญที่สุด นั่นคือ 4) ความภาคภูมิใจของชาติ (บางพื้นที่ บางชนชาติ อาจจะไม่ได้รับรองเป็นประเทศ อาจจะไม่มีแผ่นดิน แต่พวกเขาก็ยังคงมีความภาคภูมิใจในตนเอง ลองนึกถึง ชาวปาเลสไตน์ ชาวไต้หวัน กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ)
    .
    4. แต่เมื่อผลประโยชน์ของชาติไม่ได้รับการรักษาผลประโยชน์ เพราะผู้นำต้องเลือกข้างรับใช้มหาอำนาจที่มีอิทธิพลเหนือกว่า เมื่อประชาชนถูกปลุกปั่นแทรกแซงให้เลือกข้าง ให้แตกแยก ในที่สุด อย่างกรณีของยูเครน ความมั่นคงก็กำลังสูญเสียดินแดน ซึ่งคงไม่สามารถกลับไปมีดินแดนเหมือนก่อนปี 2014 ได้ ในเรื่องความมั่งคั่ง คงไม่ต้องพูดถึง เพราะมหาอำนาจที่เคยสนับสนุนนั่นเองที่ตอนนี้กำลังจะกลับมาของสูบเลือด สูบทรัพยากร มิพักต้องพูดถึงพลังอำนาจในมิติต่างๆ ที่วันนี้ประชาชนยูเครนก็อ่อนแรง หมดกำลังใจ และในที่สุดผู้นำก็ถูกเรียกมาโดนรุมแบบไร้ศักดิ์ศรีเช่นนี้
    .
    5. คำถามคือ สำหรับประเทศไทย เราต้องช่วยกันระวังอย่างยิ่งยวด อย่าให้มีใครมาแทรกแซง ปลุกปั่น ต้องคอยเฝ้าระวังให้ผู้นำรักษาผลประโยชน์ของชาติ อย่าให้เกิดผลประโยชน์ที่ขัดแย้งระหว่าง ผลประโยชน์ของชาติ กับผลประโยชน์ส่วนตัว ผลประโยชน์ของครอบครัว และผลประโยชน์ทางธุรกิจ
    .
    6. นาทีนี้เราต้องการทีมประเทศไทยที่ประกอบขึ้นจาก 6 เสาหลักที่ทำงานสอดประสานกัน อันได้แก่
    1. ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ มีความรู้ความสามารถ ไม่สับสนในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศกับผลประโยชน์ของครอบครัวหรือของธุรกิจครอบครัว
    2. ผู้ตัดสินใจทางนโยบายในระดับสูงที่มีความรู้ ความสามารถ ซื่อสัตย์ กล้าหาญ กล้าตัดสินใจ และรับผิดชอบการตัดสินใจ
    3. เจ้าหน้าที่รัฐ ที่ซื่อสัตย์ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล
    4. นักวิชาการที่ทำงานหนักแบบสหสาขาวิชา ให้รู้ลึก รู้กว้าง รู้จริง และกล้าเปลืองตัวที่จะชี้นำสังคมผ่านการบริการวิชาการ
    5. ภาคเอกชน (แน่นอนที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของธุรกิจ) และภาคประชาสังคม (ที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของประชาชน) ที่ต้องการมีส่วนร่วม ให้ข้อมูลสนับสนุนช่วยการตัดสินใจ
    6. สื่อสารมวลชนที่เข้มแข็ง กล้าหาญที่จะตรวจสอบ และนำเสนอข้อมูลอย่างถูกต้อง ไม่ถูกบิดเบือนแทรกแซง
    .
    ผมเขียนเรื่องยูเครนเอาไว้นานแล้วตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2022 at the beginning of the end ขอเอามาแปะอีกครั้งเพื่อเป็นข้อมูลประกอบครับ

    1. จากยูเครนสู่อาเซียน: กรณีศึกษา Hybrid Warfare (สงครามผสมผสาน) ที่ไทยต้องเฝ้าระวัง https://thestandard.co/asean-and-hybrid-warfare/
    2. จากยูเครนสู่ปัตตานี กรณี Gerasimov Doctrine และแผนบันได 7 ขั้น https://www.the101.world/ukraine-to-pattani/
    .
    Cr. รองศาสตราจารย์ ดร. ปิติ ศรีแสงนาม
    คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    ถอดบทเรียนยูเครน: เมื่อผู้นำไม่ได้รักษาผลประโยชน์ของประเทศ . ภาพความอัปยศอดสูที่ผู้นำยูเครน Zelenskyy ถูกเชิญไปรุมกินโต๊ะโดย ประธานาธิบดี Trump และรองประธานาธิบดี Vance รวมทั้งการเจรจาที่ชะงักงันและไม่มีสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ต้องประชาชนยูเครนที่สูญเสียทั้งชีวิต ดินแดน ทรัพยากร และที่สำคัญที่สุดคือ อนาคต ทำให้เราต้องมาถอดบทเรียน . 1. ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศยูเครนมิได้เป็นตัวของตัวเองเนื่องจากถูกแทรกแซงผ่านกระบวนการการสงครามผสมผสาน (Hybrid Warfare) มาอย่างต่อเนื่อง ปั่นหัวให้ประชาชนยูเครนลุกฮือขึ้นมาอย่างน้อย 3 ครั้ง 1) Orange Revolution 2004/2005 2) Euro Maidan 2014 และ 3) การลงประชามติของประชาชนในคาบสมุทร Crimea เพื่อแยกตัวเป็นเอกราชและในที่สุดขอเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ทั้งหมดไม่ได้ทำไปเพื่อประโยชน์ของประเทศ หากแต่ทั้งหมดเป็นเกมส์ของมหาอำนาจไม่ว่าจะเป็นฝ่ายยุโรป+สหรัฐ หรือฝ่ายรัสเซีย . 2. ผู้นำของยูเครน ไม่ว่าจะเป็น Leonid Kuchma (1995-2005 โปรรัสเซีย), Viktor Yushchenko (2005-2010 โปร NATO), Viktor Yanukovych (2010-2014 โปรรัสเซีย), Petro Poroshenko (2014-2019) และ Volodymyr Zelenskyy (2019- ปัจจุบัน) แน่นอนว่า 2 คนสุดท้ายโปร NATO อย่างยิ่งยวด ล้วนทำให้เราเห็นว่าผู้นำที่เลือกข้าง ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจภายนอกไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน ล้วนแล้วแต่ทำให้ตลอดมา แทนที่พวกเขาจะรักษาผลประโยชน์ของยูเครนเป็นหลัก พวกเขากลับต้องเอาอกเอาใจมหาอำนาจภายนอก และดึงยูเครนเข้าสู่ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ . 3. ผลประโยชน์ของประเทศ ประกอบด้วย 4 ประเด็น 1) ความมั่นคงทางในมิติอำนาจอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความมั่นคงแบบ Non-Traditional Security ที่เน้นความมั่นคงของมนุษย์ 2) ความมั่งคั่งที่หมายถึงเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ มีการเจริญเติบโต และมีการจัดสรรที่เป็นธรรม 3) การขยายพลังอำนาจของชาติในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ สังคม การเมือง สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การทหาร และ สุดท้ายที่อาจจะสำคัญที่สุด นั่นคือ 4) ความภาคภูมิใจของชาติ (บางพื้นที่ บางชนชาติ อาจจะไม่ได้รับรองเป็นประเทศ อาจจะไม่มีแผ่นดิน แต่พวกเขาก็ยังคงมีความภาคภูมิใจในตนเอง ลองนึกถึง ชาวปาเลสไตน์ ชาวไต้หวัน กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ) . 4. แต่เมื่อผลประโยชน์ของชาติไม่ได้รับการรักษาผลประโยชน์ เพราะผู้นำต้องเลือกข้างรับใช้มหาอำนาจที่มีอิทธิพลเหนือกว่า เมื่อประชาชนถูกปลุกปั่นแทรกแซงให้เลือกข้าง ให้แตกแยก ในที่สุด อย่างกรณีของยูเครน ความมั่นคงก็กำลังสูญเสียดินแดน ซึ่งคงไม่สามารถกลับไปมีดินแดนเหมือนก่อนปี 2014 ได้ ในเรื่องความมั่งคั่ง คงไม่ต้องพูดถึง เพราะมหาอำนาจที่เคยสนับสนุนนั่นเองที่ตอนนี้กำลังจะกลับมาของสูบเลือด สูบทรัพยากร มิพักต้องพูดถึงพลังอำนาจในมิติต่างๆ ที่วันนี้ประชาชนยูเครนก็อ่อนแรง หมดกำลังใจ และในที่สุดผู้นำก็ถูกเรียกมาโดนรุมแบบไร้ศักดิ์ศรีเช่นนี้ . 5. คำถามคือ สำหรับประเทศไทย เราต้องช่วยกันระวังอย่างยิ่งยวด อย่าให้มีใครมาแทรกแซง ปลุกปั่น ต้องคอยเฝ้าระวังให้ผู้นำรักษาผลประโยชน์ของชาติ อย่าให้เกิดผลประโยชน์ที่ขัดแย้งระหว่าง ผลประโยชน์ของชาติ กับผลประโยชน์ส่วนตัว ผลประโยชน์ของครอบครัว และผลประโยชน์ทางธุรกิจ . 6. นาทีนี้เราต้องการทีมประเทศไทยที่ประกอบขึ้นจาก 6 เสาหลักที่ทำงานสอดประสานกัน อันได้แก่ 1. ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ มีความรู้ความสามารถ ไม่สับสนในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศกับผลประโยชน์ของครอบครัวหรือของธุรกิจครอบครัว 2. ผู้ตัดสินใจทางนโยบายในระดับสูงที่มีความรู้ ความสามารถ ซื่อสัตย์ กล้าหาญ กล้าตัดสินใจ และรับผิดชอบการตัดสินใจ 3. เจ้าหน้าที่รัฐ ที่ซื่อสัตย์ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล 4. นักวิชาการที่ทำงานหนักแบบสหสาขาวิชา ให้รู้ลึก รู้กว้าง รู้จริง และกล้าเปลืองตัวที่จะชี้นำสังคมผ่านการบริการวิชาการ 5. ภาคเอกชน (แน่นอนที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของธุรกิจ) และภาคประชาสังคม (ที่ต้องรักษาผลประโยชน์ของประชาชน) ที่ต้องการมีส่วนร่วม ให้ข้อมูลสนับสนุนช่วยการตัดสินใจ 6. สื่อสารมวลชนที่เข้มแข็ง กล้าหาญที่จะตรวจสอบ และนำเสนอข้อมูลอย่างถูกต้อง ไม่ถูกบิดเบือนแทรกแซง . ผมเขียนเรื่องยูเครนเอาไว้นานแล้วตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2022 at the beginning of the end ขอเอามาแปะอีกครั้งเพื่อเป็นข้อมูลประกอบครับ 1. จากยูเครนสู่อาเซียน: กรณีศึกษา Hybrid Warfare (สงครามผสมผสาน) ที่ไทยต้องเฝ้าระวัง https://thestandard.co/asean-and-hybrid-warfare/ 2. จากยูเครนสู่ปัตตานี กรณี Gerasimov Doctrine และแผนบันได 7 ขั้น https://www.the101.world/ukraine-to-pattani/ . Cr. รองศาสตราจารย์ ดร. ปิติ ศรีแสงนาม คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    THESTANDARD.CO
    จากยูเครนสู่อาเซียน: กรณีศึกษา Hybrid Warfare (สงครามผสมผสาน) ที่ไทยต้องเฝ้าระวัง
    การสงครามผสมผสาน การสงครามผสมผสาน หรือ Hybrid Warfare เป็นยุทธศาสตร์ทางทหารซึ่งใช้การสงครามทางการเมือง และผสมรวมการสงครามตามแบบ (Conventional Warfare)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • ริชาร์ด มาร์ลส์ รัฐมนตรีกลาโหมออสเตรเลีย กล่าวในช่วงหนึ่งของสารคดีกองทัพเรือออสเตรเลีย ซึ่งถ่ายทำโดยสำนักข่าว Sky News ว่า

    “ในโลกที่ไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้น ออสเตรเลียจำเป็นต้องมีศักยภาพด้านการป้องกันประเทศที่เพิ่มมากขึ้น - บางทีออสเตรเลียควรเริ่มต้นด้วยการไม่ส่งเรือรบและเครื่องบินขับไล่ไปที่ชายฝั่งของจีน”

    ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อคุณยั่วยุจีน จีนจะตอบโต้กลับ ความยุติธรรมก็คือความยุติธรรม เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจีนส่งกองเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี ไปลาดตระเวนและซ้อมรบด้วยการยิงด้วยกระสุนและขีปนาวุธจริงในทะเลแทสมัน ซึ่งตั้งอยู่หน้าบ้านออสเตรเลีย เพื่อตอบโต้ต่อรัฐบาลออสเตรเลีย หลังส่งเรือรบและเครื่องบินสอดแนมไปยังทะเลจีนใต้ เข้าซ้อมรบทางทะเลร่วมกับสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ห่างจากชายฝั่งจีนราว 230 ไมล์ทะเล
    ริชาร์ด มาร์ลส์ รัฐมนตรีกลาโหมออสเตรเลีย กล่าวในช่วงหนึ่งของสารคดีกองทัพเรือออสเตรเลีย ซึ่งถ่ายทำโดยสำนักข่าว Sky News ว่า “ในโลกที่ไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้น ออสเตรเลียจำเป็นต้องมีศักยภาพด้านการป้องกันประเทศที่เพิ่มมากขึ้น - บางทีออสเตรเลียควรเริ่มต้นด้วยการไม่ส่งเรือรบและเครื่องบินขับไล่ไปที่ชายฝั่งของจีน” ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อคุณยั่วยุจีน จีนจะตอบโต้กลับ ความยุติธรรมก็คือความยุติธรรม เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจีนส่งกองเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี ไปลาดตระเวนและซ้อมรบด้วยการยิงด้วยกระสุนและขีปนาวุธจริงในทะเลแทสมัน ซึ่งตั้งอยู่หน้าบ้านออสเตรเลีย เพื่อตอบโต้ต่อรัฐบาลออสเตรเลีย หลังส่งเรือรบและเครื่องบินสอดแนมไปยังทะเลจีนใต้ เข้าซ้อมรบทางทะเลร่วมกับสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ห่างจากชายฝั่งจีนราว 230 ไมล์ทะเล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในช่วงเวลาห้าปีที่ผ่านมา จำนวนงานในสายงาน Software Engineering ได้ลดลงอย่างมาก โดยมีจำนวนงานเปิดรับลดลงถึง 35% เมื่อเปรียบเทียบกับห้าปีก่อน นี่เป็นข้อมูลจากการวิเคราะห์ข้อมูลจาก Indeed โดย Practical Engineer ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญในตลาดงานสายนี้ ขณะเดียวกัน ภาพรวมตลาดงานโดยรวมกลับมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนงานถึง 10% ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 โดยมีการเติบโตในสายงานการก่อสร้าง (25%), การบัญชี (24%) และวิศวกรรมไฟฟ้า (20%)

    ในช่วงปี 2021-2022 ขณะการระบาดของโรค COVID-19 ตลาดงานสาย Software Engineering ได้พุ่งขึ้นอย่างมากและมีจำนวนงานเปิดรับมากกว่าสายงานอื่น ๆ แต่หลังจากนั้น จำนวนงานเหล่านี้ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะนี้จำนวนงานเปิดรับน้อยลง 3.5 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงกลางปี 2022

    หลายปัจจัยที่ส่งผลให้จำนวนงานลดลง ได้แก่ การสิ้นสุดของอัตราดอกเบี้ยศูนย์เปอร์เซ็นต์ซึ่งส่งผลกระทบต่อการว่าจ้างงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี การระดมทุนของบริษัทร่วมทุน และการอยู่รอดของสตาร์ทอัพ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยนี้ไม่สามารถอธิบายการลดจำนวนงานและการเลิกจ้างงานในบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่อย่าง Microsoft, Meta, Amazon, และ Google ได้อย่างครอบคลุม

    นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของ Generative AI และ Large Language Models (LLMs) ยังมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงตลาดงานสายนี้ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ถึง 75% ใช้เครื่องมือการเขียนโค้ดด้วย AI ในการทำงาน ซึ่งบางคนคาดว่าบริษัทอาจกำลัง "รอดู" การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานจากเครื่องมือเหล่านี้ก่อนที่จะขยายทีมวิศวกรรม

    ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ Salesforce ที่ตัดสินใจคงจำนวนทีมวิศวกรรมซอฟต์แวร์ไว้เท่าเดิม แต่รายงานว่าเครื่องมือ AI เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ถึง 30% ขณะเดียวกันยังมีแผนจะว่าจ้างทีมขายเพิ่มขึ้น การเกิดขึ้นของทีมขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพสูงในบริษัทอย่าง Linear และ Bluesky ท้าทายความเชื่อเกี่ยวกับขนาดทีมวิศวกรรมแบบดั้งเดิม บริษัทเหล่านี้ประสบความสำเร็จในการขยายฐานผู้ใช้งานและยอมรับผลิตภัณฑ์ได้ด้วยทีมวิศวกรรมที่เล็กลง

    อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก Indeed อาจไม่สมบูรณ์ เนื่องจากแพลตฟอร์มนี้อาจสูญเสียความนิยมในการโพสต์งานวิศวกรรมซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะในหมู่สตาร์ทอัพและบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Microsoft มีงานสายซอฟต์แวร์มากกว่าที่แสดงในข้อมูลจาก Indeed

    ถึงกระนั้น ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดงานสาย Software Engineering กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยปัจจัยทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และยุทธศาสตร์ของบริษัทที่กำลังพัฒนา

    https://www.techspot.com/news/106878-software-engineering-job-openings-plummet-35-five-year.html
    ในช่วงเวลาห้าปีที่ผ่านมา จำนวนงานในสายงาน Software Engineering ได้ลดลงอย่างมาก โดยมีจำนวนงานเปิดรับลดลงถึง 35% เมื่อเปรียบเทียบกับห้าปีก่อน นี่เป็นข้อมูลจากการวิเคราะห์ข้อมูลจาก Indeed โดย Practical Engineer ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญในตลาดงานสายนี้ ขณะเดียวกัน ภาพรวมตลาดงานโดยรวมกลับมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนงานถึง 10% ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 โดยมีการเติบโตในสายงานการก่อสร้าง (25%), การบัญชี (24%) และวิศวกรรมไฟฟ้า (20%) ในช่วงปี 2021-2022 ขณะการระบาดของโรค COVID-19 ตลาดงานสาย Software Engineering ได้พุ่งขึ้นอย่างมากและมีจำนวนงานเปิดรับมากกว่าสายงานอื่น ๆ แต่หลังจากนั้น จำนวนงานเหล่านี้ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะนี้จำนวนงานเปิดรับน้อยลง 3.5 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงกลางปี 2022 หลายปัจจัยที่ส่งผลให้จำนวนงานลดลง ได้แก่ การสิ้นสุดของอัตราดอกเบี้ยศูนย์เปอร์เซ็นต์ซึ่งส่งผลกระทบต่อการว่าจ้างงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี การระดมทุนของบริษัทร่วมทุน และการอยู่รอดของสตาร์ทอัพ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยนี้ไม่สามารถอธิบายการลดจำนวนงานและการเลิกจ้างงานในบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่อย่าง Microsoft, Meta, Amazon, และ Google ได้อย่างครอบคลุม นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของ Generative AI และ Large Language Models (LLMs) ยังมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงตลาดงานสายนี้ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ถึง 75% ใช้เครื่องมือการเขียนโค้ดด้วย AI ในการทำงาน ซึ่งบางคนคาดว่าบริษัทอาจกำลัง "รอดู" การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานจากเครื่องมือเหล่านี้ก่อนที่จะขยายทีมวิศวกรรม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ Salesforce ที่ตัดสินใจคงจำนวนทีมวิศวกรรมซอฟต์แวร์ไว้เท่าเดิม แต่รายงานว่าเครื่องมือ AI เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ถึง 30% ขณะเดียวกันยังมีแผนจะว่าจ้างทีมขายเพิ่มขึ้น การเกิดขึ้นของทีมขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพสูงในบริษัทอย่าง Linear และ Bluesky ท้าทายความเชื่อเกี่ยวกับขนาดทีมวิศวกรรมแบบดั้งเดิม บริษัทเหล่านี้ประสบความสำเร็จในการขยายฐานผู้ใช้งานและยอมรับผลิตภัณฑ์ได้ด้วยทีมวิศวกรรมที่เล็กลง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก Indeed อาจไม่สมบูรณ์ เนื่องจากแพลตฟอร์มนี้อาจสูญเสียความนิยมในการโพสต์งานวิศวกรรมซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะในหมู่สตาร์ทอัพและบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Microsoft มีงานสายซอฟต์แวร์มากกว่าที่แสดงในข้อมูลจาก Indeed ถึงกระนั้น ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดงานสาย Software Engineering กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยปัจจัยทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และยุทธศาสตร์ของบริษัทที่กำลังพัฒนา https://www.techspot.com/news/106878-software-engineering-job-openings-plummet-35-five-year.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Software engineering job openings hit 5-year low amid industry shift
    This decline is particularly noteworthy when compared to other sectors. While the overall job market has seen a 10 percent increase in listings since February 2020, software...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนสูญเสียการผลิตก๊าซไปถึง 40% จากการโจมตีของรัสเซีย

    ▪️ ขณะนี้เคียฟจะต้องนำเข้าก๊าซมากถึง 800 ล้านลูกบาศก์เมตรจากยุโรปในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม และก่อนจะถึงฤดูหนาวหน้า ประเทศจำเป็นต้องสะสมก๊าซประมาณ 13,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
    “จริงๆแล้วเราอาจอยู่ได้โดยไม่ต้องนำเข้าก๊าซในช่วงฤดูร้อนนี้ แต่การโจมตีของรัสเซียไปที่โรงงานผลิต ทำให้เราต้องพิจารณานำเข้าก๊าซเพื่อชดเชยการสูญเสียกำลังการผลิตในประเทศ” แหล่งข่าวกล่าว

    ▪️ ยูเครนเริ่มเพิ่มการนำเข้าก๊าซในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปริมาณการนำเข้าก็เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่า และเกิน 20 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน

    ▪️ จากวิดีโอ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ กองทัพรัสเซียเพิ่งโจมตีโรงงานแปรรูปก๊าซ Gnedintsevsky ที่ใหญ่ที่สุดในยูเครน ในภูมิภาคเชอร์นิฮิฟ (Chernihiv)
    ยูเครนสูญเสียการผลิตก๊าซไปถึง 40% จากการโจมตีของรัสเซีย ▪️ ขณะนี้เคียฟจะต้องนำเข้าก๊าซมากถึง 800 ล้านลูกบาศก์เมตรจากยุโรปในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม และก่อนจะถึงฤดูหนาวหน้า ประเทศจำเป็นต้องสะสมก๊าซประมาณ 13,000 ล้านลูกบาศก์เมตร “จริงๆแล้วเราอาจอยู่ได้โดยไม่ต้องนำเข้าก๊าซในช่วงฤดูร้อนนี้ แต่การโจมตีของรัสเซียไปที่โรงงานผลิต ทำให้เราต้องพิจารณานำเข้าก๊าซเพื่อชดเชยการสูญเสียกำลังการผลิตในประเทศ” แหล่งข่าวกล่าว ▪️ ยูเครนเริ่มเพิ่มการนำเข้าก๊าซในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปริมาณการนำเข้าก็เพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่า และเกิน 20 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ▪️ จากวิดีโอ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ กองทัพรัสเซียเพิ่งโจมตีโรงงานแปรรูปก๊าซ Gnedintsevsky ที่ใหญ่ที่สุดในยูเครน ในภูมิภาคเชอร์นิฮิฟ (Chernihiv)
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 349 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกี่ยวกับคะแนนนิยม 57% ที่เซเลนสกีใช้ตอบโต้ทรัมป์ เป็นผลสำรวจที่จัดทำขึ้นโดย สถาบันสังคมวิทยานานาชาติ Kyiv หรือ KIIS ซึ่งได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก USAID และสำหรับการทำโพลครั้งนี้ เป็นดารจัดทำขึ้นโดย อันตอน ฮรูเชตสกี (Anton Hrushetskyi) ซึ่งเป็นชาวยูเครนที่มีแนวคิดคลั่งชาติอย่างมาก จึงเป็นไปได้สูงว่าผลสำรวจดังกล่าวไม่น่าเชื่อถือ


    ทางด้าน อีลอน มัสก์ ได้โพสต์ข้อความว่า :
    "น่าเสียดายที่ CommunityNotes ถูกแทรกแซงโดยรัฐบาลและสื่อกระแสหลักมากขึ้นเรื่อยๆ
    เรากำลังดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ มันควรจะเป็นเรื่องที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า โพลที่ควบคุมโดยเซเลนสกีเกี่ยวกับคะแนนนิยมของตัวเองนั้นไม่น่าเชื่อถืออย่างสิ้นเชิง!!

    ถ้าเซเลนสกีได้รับความรักจากประชาชนยูเครนจริง เขาคงจัดการเลือกตั้งไปแล้ว แต่เขารู้ดีว่าเขาจะแพ้อย่างย่อยยับ แม้จะเข้ายึดการควบคุมสื่อทั้งหมดของยูเครนไปแล้วก็ตาม ดังนั้นเขาจึงยกเลิกการเลือกตั้ง

    ความจริงก็คือ ประชาชนยูเครนรังเกียจเขา และนั่นคือเหตุผลที่เขาปฏิเสธที่จะจัดการเลือกตั้ง ผมท้าให้เซเลนสกีจัดการเลือกตั้งเพื่อพิสูจน์สิ่งนี้ แต่เขาจะไม่ทำ

    ประธานาธิบดีทรัมป์คิดถูกที่ไม่สนใจเขา และหาทางยุติสงครามโดยไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับระบบคอร์รัปชันขนาดมหึมาที่แสวงหาผลประโยชน์จากศพของทหารยูเครน"


    ข้อกล่าวอ้างว่าเซเลนสกีมีคะแนนนิยม 57% มาจากสถาบันสังคมวิทยานานาชาติ Kyiv (KIIS) ซึ่งได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก USAID สำหรับการทำโพล นอกจากนี้ สถาบันนี้ยังดำเนินการโดย อันตอน ฮรูเชตสกี (Anton Hrushetskyi) ซึ่งเป็นชาวยูเครนที่มีแนวคิดคลั่งชาติอย่างมาก จึงเป็นไปได้สูงว่าผลสำรวจดังกล่าวไม่น่าเชื่อถือ
    เกี่ยวกับคะแนนนิยม 57% ที่เซเลนสกีใช้ตอบโต้ทรัมป์ เป็นผลสำรวจที่จัดทำขึ้นโดย สถาบันสังคมวิทยานานาชาติ Kyiv หรือ KIIS ซึ่งได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก USAID และสำหรับการทำโพลครั้งนี้ เป็นดารจัดทำขึ้นโดย อันตอน ฮรูเชตสกี (Anton Hrushetskyi) ซึ่งเป็นชาวยูเครนที่มีแนวคิดคลั่งชาติอย่างมาก จึงเป็นไปได้สูงว่าผลสำรวจดังกล่าวไม่น่าเชื่อถือ ทางด้าน อีลอน มัสก์ ได้โพสต์ข้อความว่า : "น่าเสียดายที่ CommunityNotes ถูกแทรกแซงโดยรัฐบาลและสื่อกระแสหลักมากขึ้นเรื่อยๆ เรากำลังดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ มันควรจะเป็นเรื่องที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า โพลที่ควบคุมโดยเซเลนสกีเกี่ยวกับคะแนนนิยมของตัวเองนั้นไม่น่าเชื่อถืออย่างสิ้นเชิง!! ถ้าเซเลนสกีได้รับความรักจากประชาชนยูเครนจริง เขาคงจัดการเลือกตั้งไปแล้ว แต่เขารู้ดีว่าเขาจะแพ้อย่างย่อยยับ แม้จะเข้ายึดการควบคุมสื่อทั้งหมดของยูเครนไปแล้วก็ตาม ดังนั้นเขาจึงยกเลิกการเลือกตั้ง ความจริงก็คือ ประชาชนยูเครนรังเกียจเขา และนั่นคือเหตุผลที่เขาปฏิเสธที่จะจัดการเลือกตั้ง ผมท้าให้เซเลนสกีจัดการเลือกตั้งเพื่อพิสูจน์สิ่งนี้ แต่เขาจะไม่ทำ ประธานาธิบดีทรัมป์คิดถูกที่ไม่สนใจเขา และหาทางยุติสงครามโดยไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับระบบคอร์รัปชันขนาดมหึมาที่แสวงหาผลประโยชน์จากศพของทหารยูเครน" ข้อกล่าวอ้างว่าเซเลนสกีมีคะแนนนิยม 57% มาจากสถาบันสังคมวิทยานานาชาติ Kyiv (KIIS) ซึ่งได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก USAID สำหรับการทำโพล นอกจากนี้ สถาบันนี้ยังดำเนินการโดย อันตอน ฮรูเชตสกี (Anton Hrushetskyi) ซึ่งเป็นชาวยูเครนที่มีแนวคิดคลั่งชาติอย่างมาก จึงเป็นไปได้สูงว่าผลสำรวจดังกล่าวไม่น่าเชื่อถือ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 435 มุมมอง 0 รีวิว
  • Elon Musk อัด Volodymyr Zelenskyy ผู้นำยูเครนแบบจุกๆ สามดอกเน้นๆ
    .
    ผู้ใช้รายหนึ่งบนแพลตฟอร์ม X เขียนว่า "Zelenskyy ไม่ต้องการสันติภาพ เขาต้องการเงินและอำนาจ"
    ซึ่ง Musk ตอบกลับด้วยอีโมจิ "100" เพื่อแสดงถึงความเห็นด้วย
    .
    ต่อมาเขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแถลงการณ์ของประธานาธิบดี Zelenskyy ยูเครนว่าคะแนนความนิยมของเขาอยู่ที่ 57%
    Musk โพสต์ข้อความตอบกลับว่า "ถ้าอย่างนั้น เขาคงดีใจกับความคิดที่จะมีการเลือกตั้ง ถ้าเขาเป็นที่นิยมขนาดนั้น!"
    .
    ปิดท้ายด้วยการตอบกลับข้อความความของ Rapid Response 47 ที่ว่า
    "ในอเมริกา เราจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีทุก 4 ปี แม้แต่ในยามสงคราม
    เราจัดการเลือกตั้งระหว่างสงครามกลางเมือง
    เราจัดการเลือกตั้งระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง
    ก่อนที่ประธานาธิบดี Zelenskyy จะมาสั่งสอนประธานาธิบดีอเมริกันอีก เขาควรจัดการเลือกตั้งด้วย"
    Musk สนับสนุนว่า "Zelenskyy ไม่สามารถอ้างว่าเป็นตัวแทนเจตนารมณ์ของประชาชนยูเครนได้ ถ้าไม่ฟื้นฟูเสรีภาพสื่อและยังคงยกเลิกการเลือกตั้ง!"
    พรุ่งนี้ถ้า Elon Musk จะเดินไปปิด Starlink ของยูเครนก็คงไม่แปลกใจแล้วล่ะ
    Elon Musk อัด Volodymyr Zelenskyy ผู้นำยูเครนแบบจุกๆ สามดอกเน้นๆ . ผู้ใช้รายหนึ่งบนแพลตฟอร์ม X เขียนว่า "Zelenskyy ไม่ต้องการสันติภาพ เขาต้องการเงินและอำนาจ" ซึ่ง Musk ตอบกลับด้วยอีโมจิ "100" เพื่อแสดงถึงความเห็นด้วย . ต่อมาเขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแถลงการณ์ของประธานาธิบดี Zelenskyy ยูเครนว่าคะแนนความนิยมของเขาอยู่ที่ 57% Musk โพสต์ข้อความตอบกลับว่า "ถ้าอย่างนั้น เขาคงดีใจกับความคิดที่จะมีการเลือกตั้ง ถ้าเขาเป็นที่นิยมขนาดนั้น!" . ปิดท้ายด้วยการตอบกลับข้อความความของ Rapid Response 47 ที่ว่า "ในอเมริกา เราจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีทุก 4 ปี แม้แต่ในยามสงคราม เราจัดการเลือกตั้งระหว่างสงครามกลางเมือง เราจัดการเลือกตั้งระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ก่อนที่ประธานาธิบดี Zelenskyy จะมาสั่งสอนประธานาธิบดีอเมริกันอีก เขาควรจัดการเลือกตั้งด้วย" Musk สนับสนุนว่า "Zelenskyy ไม่สามารถอ้างว่าเป็นตัวแทนเจตนารมณ์ของประชาชนยูเครนได้ ถ้าไม่ฟื้นฟูเสรีภาพสื่อและยังคงยกเลิกการเลือกตั้ง!" พรุ่งนี้ถ้า Elon Musk จะเดินไปปิด Starlink ของยูเครนก็คงไม่แปลกใจแล้วล่ะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยูเครนกำลังขาดแคลนขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ Zelenskyy วอนขอใบอนุญาตผลิตขีปนาวุธ Patriot

    ประธานาธิบดี Volodymyr Zelenskyy ประกาศว่ายูเครนขาดแคลนขีปนาวุธสำหรับระบบป้องกันภัยทางอากาศ Patriot และขอให้สหรัฐฯ ให้ใบอนุญาตในการผลิต โดยยูเครนต้องการระบบป้องกันภัยทางอากาศประมาณ 20 ระบบเพื่อการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ

    "เมื่อพวกเขาบอกว่าไม่มีทหารในยูเครน แต่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศ สหรัฐฯ มีระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ทรงพลัง เราขอ 20 ระบบได้ไหม? แค่นั้นก็พอ เราไม่ต้องการให้พวกเขามาดูแลระบบ เรามีคนของเราเอง เราจะฝึกพวกเขาเอง เราไม่ได้พูดถึงการส่งทหารมายูเครนโดยตรง แต่เราขอใบอนุญาต ไม่ใช่ขีปนาวุธ แต่เป็นใบอนุญาตผลิตขีปนาวุธสำหรับระบบ Patriot"

    Zelenskyy เล่าว่าผู้บัญชาการโทรหาเขาตอนเช้ามืด แจ้งว่าไม่มีขีปนาวุธ Patriot เหลือป้องกันเมือง "ผมเข้าใจว่าเราหมด เขาบอกว่ามีขีปนาวุธ 8 ลูกกำลังเข้ามา แต่เราไม่มีขีปนาวุธสำหรับระบบป้องกันภัยทางอากาศ"

    เขาเน้นว่าได้พูดเรื่องนี้กับตัวแทนสหรัฐฯ ในบริบทของการรับประกันความมั่นคง "คุณไม่อยากส่งทหาร ไม่อยากให้เข้า NATO เราขอระบบ Patriot ให้เพียงพอได้ไหม? มันเป็นการพูดคุยที่ยาวนาน นานเกินไป"

    ในปัจจุบันมีเพียง เยอรมนี ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้สามารถผลิตชิ้นส่วนของ Patriot ได้ แต่ใช้สำหรับเป็นอะไหล่ในการซ่อมบำรุงเท่านั้น มีเพียงสหรัฐเท่านั้นที่เป็นผู้ผลิตหลักและควบคุมการส่งออก
    ยูเครนกำลังขาดแคลนขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ Zelenskyy วอนขอใบอนุญาตผลิตขีปนาวุธ Patriot ประธานาธิบดี Volodymyr Zelenskyy ประกาศว่ายูเครนขาดแคลนขีปนาวุธสำหรับระบบป้องกันภัยทางอากาศ Patriot และขอให้สหรัฐฯ ให้ใบอนุญาตในการผลิต โดยยูเครนต้องการระบบป้องกันภัยทางอากาศประมาณ 20 ระบบเพื่อการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ "เมื่อพวกเขาบอกว่าไม่มีทหารในยูเครน แต่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศ สหรัฐฯ มีระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ทรงพลัง เราขอ 20 ระบบได้ไหม? แค่นั้นก็พอ เราไม่ต้องการให้พวกเขามาดูแลระบบ เรามีคนของเราเอง เราจะฝึกพวกเขาเอง เราไม่ได้พูดถึงการส่งทหารมายูเครนโดยตรง แต่เราขอใบอนุญาต ไม่ใช่ขีปนาวุธ แต่เป็นใบอนุญาตผลิตขีปนาวุธสำหรับระบบ Patriot" Zelenskyy เล่าว่าผู้บัญชาการโทรหาเขาตอนเช้ามืด แจ้งว่าไม่มีขีปนาวุธ Patriot เหลือป้องกันเมือง "ผมเข้าใจว่าเราหมด เขาบอกว่ามีขีปนาวุธ 8 ลูกกำลังเข้ามา แต่เราไม่มีขีปนาวุธสำหรับระบบป้องกันภัยทางอากาศ" เขาเน้นว่าได้พูดเรื่องนี้กับตัวแทนสหรัฐฯ ในบริบทของการรับประกันความมั่นคง "คุณไม่อยากส่งทหาร ไม่อยากให้เข้า NATO เราขอระบบ Patriot ให้เพียงพอได้ไหม? มันเป็นการพูดคุยที่ยาวนาน นานเกินไป" ในปัจจุบันมีเพียง เยอรมนี ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้สามารถผลิตชิ้นส่วนของ Patriot ได้ แต่ใช้สำหรับเป็นอะไหล่ในการซ่อมบำรุงเท่านั้น มีเพียงสหรัฐเท่านั้นที่เป็นผู้ผลิตหลักและควบคุมการส่งออก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้เปิดตัวซีพียูประหยัดพลังงานรุ่นใหม่ชื่อว่า Core Ultra 5 230F ที่มีคอร์ประสิทธิภาพ 6 คอร์และคอร์ประหยัดพลังงาน 4 คอร์ ซีพียูรุ่นนี้ใช้สถาปัตยกรรม Arrow Lake ซึ่งมีคอร์ประสิทธิภาพ Lion Cove และคอร์ประหยัดพลังงาน Skymont โดยหน่วยความจำแคชรวมทั้งหมด 46MB ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล

    เมื่อทดสอบซีพียู Core Ultra 5 230F ในขีดจำกัดพลังงาน 65W ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าซีพียูรุ่นนี้สามารถแข่งขันได้กับรุ่น Core i5-14600K ในการประมวลผลทั่วไป และในการเล่นเกมก็สามารถเทียบเท่ากับรุ่น Core Ultra 5 245K ที่ไม่ได้ถูกล็อกพลังงาน แม้ว่าประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อปลดล็อกพลังงาน การเพิ่มประสิทธิภาพเพียง 3.2% แสดงให้เห็นว่าซีพียูรุ่นนี้มีการออกแบบที่ประหยัดพลังงานแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง

    นอกจากนี้ ซีพียูรุ่นนี้ยังมีการปรับปรุงระบบจัดการพลังงานที่ช่วยให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่ใช้พลังงานน้อยลง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประหยัดพลังงานและยังคงมีประสิทธิภาพสูงในการใช้งาน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/65w-core-ultra-5-230f-matches-125w-core-ultra-5-245k-in-gaming
    Intel ได้เปิดตัวซีพียูประหยัดพลังงานรุ่นใหม่ชื่อว่า Core Ultra 5 230F ที่มีคอร์ประสิทธิภาพ 6 คอร์และคอร์ประหยัดพลังงาน 4 คอร์ ซีพียูรุ่นนี้ใช้สถาปัตยกรรม Arrow Lake ซึ่งมีคอร์ประสิทธิภาพ Lion Cove และคอร์ประหยัดพลังงาน Skymont โดยหน่วยความจำแคชรวมทั้งหมด 46MB ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผล เมื่อทดสอบซีพียู Core Ultra 5 230F ในขีดจำกัดพลังงาน 65W ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าซีพียูรุ่นนี้สามารถแข่งขันได้กับรุ่น Core i5-14600K ในการประมวลผลทั่วไป และในการเล่นเกมก็สามารถเทียบเท่ากับรุ่น Core Ultra 5 245K ที่ไม่ได้ถูกล็อกพลังงาน แม้ว่าประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อปลดล็อกพลังงาน การเพิ่มประสิทธิภาพเพียง 3.2% แสดงให้เห็นว่าซีพียูรุ่นนี้มีการออกแบบที่ประหยัดพลังงานแต่ยังคงประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ ซีพียูรุ่นนี้ยังมีการปรับปรุงระบบจัดการพลังงานที่ช่วยให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่ใช้พลังงานน้อยลง ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประหยัดพลังงานและยังคงมีประสิทธิภาพสูงในการใช้งาน https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/65w-core-ultra-5-230f-matches-125w-core-ultra-5-245k-in-gaming
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    65W Core Ultra 5 230F matches 125W Core Ultra 5 245K in gaming
    Sees a small 3.2% increase in performance with unlocked power limits.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการจับกุมผู้จัดจำหน่ายบริการสื่อสารเข้ารหัส Sky ECC ในประเทศสเปนและเนเธอร์แลนด์ มีการจับกุมผู้ต้องหาสี่รายซึ่งเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางอาญา โดยการใช้บริการนี้ในการสนทนาที่ปลอดภัย

    Sky ECC เป็นบริการสื่อสารที่ถูกนำมาใช้โดยอาชญากรอย่างแพร่หลาย ทางตำรวจสเปนประกาศว่าผู้ต้องหาสองรายที่ถูกจับกุมในประเทศนี้เป็นผู้จัดจำหน่ายหลักระดับโลกของบริการนี้และได้สร้างกำไรมากกว่า 13.5 ล้านยูโร

    ในเดือนมีนาคม 2021 Europol ได้ประกาศว่าสามารถถอดรหัส Sky ECC และทำให้สามารถติดตามการสื่อสารของผู้ใช้งานกว่า 70,000 ราย ซึ่งเปิดเผยถึงการกระทำผิดทางอาญาเป็นจำนวนมาก

    สำหรับการจับกุมล่าสุดในสเปน ทางตำรวจได้ยึดโทรศัพท์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, เงินสดกว่า 26,000 ดอลลาร์ และคริปโตเคอร์เรนซีมูลค่า 1,400,000 ยูโร นอกจากนี้ยังมีการยึดรถยนต์และของมีค่าอื่นๆ อีกหลายรายการ

    ทางเนเธอร์แลนด์ก็มีการจับกุมผู้ต้องหาอีกสองรายในกรุงอัมสเตอร์ดัมและเมือง Arnhem ซึ่งเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกับ CEO ของ Sky ECC มานานหลายปี

    การให้บริการสื่อสารที่เข้ารหัสอย่างเดียวไม่ได้เป็นเรื่องผิดตามกฎหมาย แต่ปัญหาของ Sky ECC คือการที่บริการนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยอาชญากรในการสื่อสารอย่างปลอดภัยและไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งทำให้การดำเนินคดีและการติดตามการกระทำผิดทางอาญายากยิ่งขึ้น

    การที่ Sky ECC ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางอาญา เช่น การค้ายาเสพติด การฟอกเงิน และการลักทรัพย์ ทำให้บริษัทนี้ต้องถูกตรวจสอบและดำเนินคดี นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าผู้จัดจำหน่ายของ Sky ECC ได้ร่วมมือกับอาชญากรในการจัดหาบริการและได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากการกระทำผิดเหล่านี้

    ดังนั้น แม้ว่าการให้บริการสื่อสารเข้ารหัสไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าบริการนั้นถูกใช้ในการกระทำผิดทางอาญา และผู้ให้บริการหรือผู้จัดจำหน่ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดเหล่านั้น ก็อาจนำไปสู่การถูกดำเนินคดีได้

    โดยสรุป ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในสเปนจะถูกส่งตัวไปดำเนินคดีในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ได้ทำงานร่วมกันในการตรวจสอบการกระทำผิดทางอาญาที่เชื่อมโยงกับบริการ Sky ECC อย่างใกล้ชิด

    https://www.bleepingcomputer.com/news/legal/sky-ecc-encrypted-service-distributors-arrested-in-spain-netherlands/
    มีการจับกุมผู้จัดจำหน่ายบริการสื่อสารเข้ารหัส Sky ECC ในประเทศสเปนและเนเธอร์แลนด์ มีการจับกุมผู้ต้องหาสี่รายซึ่งเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางอาญา โดยการใช้บริการนี้ในการสนทนาที่ปลอดภัย Sky ECC เป็นบริการสื่อสารที่ถูกนำมาใช้โดยอาชญากรอย่างแพร่หลาย ทางตำรวจสเปนประกาศว่าผู้ต้องหาสองรายที่ถูกจับกุมในประเทศนี้เป็นผู้จัดจำหน่ายหลักระดับโลกของบริการนี้และได้สร้างกำไรมากกว่า 13.5 ล้านยูโร ในเดือนมีนาคม 2021 Europol ได้ประกาศว่าสามารถถอดรหัส Sky ECC และทำให้สามารถติดตามการสื่อสารของผู้ใช้งานกว่า 70,000 ราย ซึ่งเปิดเผยถึงการกระทำผิดทางอาญาเป็นจำนวนมาก สำหรับการจับกุมล่าสุดในสเปน ทางตำรวจได้ยึดโทรศัพท์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, เงินสดกว่า 26,000 ดอลลาร์ และคริปโตเคอร์เรนซีมูลค่า 1,400,000 ยูโร นอกจากนี้ยังมีการยึดรถยนต์และของมีค่าอื่นๆ อีกหลายรายการ ทางเนเธอร์แลนด์ก็มีการจับกุมผู้ต้องหาอีกสองรายในกรุงอัมสเตอร์ดัมและเมือง Arnhem ซึ่งเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกับ CEO ของ Sky ECC มานานหลายปี การให้บริการสื่อสารที่เข้ารหัสอย่างเดียวไม่ได้เป็นเรื่องผิดตามกฎหมาย แต่ปัญหาของ Sky ECC คือการที่บริการนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยอาชญากรในการสื่อสารอย่างปลอดภัยและไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งทำให้การดำเนินคดีและการติดตามการกระทำผิดทางอาญายากยิ่งขึ้น การที่ Sky ECC ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางอาญา เช่น การค้ายาเสพติด การฟอกเงิน และการลักทรัพย์ ทำให้บริษัทนี้ต้องถูกตรวจสอบและดำเนินคดี นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าผู้จัดจำหน่ายของ Sky ECC ได้ร่วมมือกับอาชญากรในการจัดหาบริการและได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากการกระทำผิดเหล่านี้ ดังนั้น แม้ว่าการให้บริการสื่อสารเข้ารหัสไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าบริการนั้นถูกใช้ในการกระทำผิดทางอาญา และผู้ให้บริการหรือผู้จัดจำหน่ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดเหล่านั้น ก็อาจนำไปสู่การถูกดำเนินคดีได้ โดยสรุป ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในสเปนจะถูกส่งตัวไปดำเนินคดีในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ได้ทำงานร่วมกันในการตรวจสอบการกระทำผิดทางอาญาที่เชื่อมโยงกับบริการ Sky ECC อย่างใกล้ชิด https://www.bleepingcomputer.com/news/legal/sky-ecc-encrypted-service-distributors-arrested-in-spain-netherlands/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Sky ECC encrypted service distributors arrested in Spain, Netherlands
    Four distributors of the encrypted communications service Sky ECC, used extensively by criminals, were arrested in Spain and the Netherlands.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ขยายเวลา Sky Running วิ่งหนีฝุ่น PM 2.5 ถึง 4 ทุ่ม : IbusinessReview
    ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ขยายเวลา Sky Running วิ่งหนีฝุ่น PM 2.5 ถึง 4 ทุ่ม : IbusinessReview
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีมัลแวร์ประเภทใหม่ที่ชื่อว่า ‘SparkCat’ ที่ถูกค้นพบในร้านค้าแอปพลิเคชันของ iOS และ Android โดยมัลแวร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลกู้คืนกระเป๋าเงินคริปโตของผู้ใช้งาน รายงานจาก Kaspersky ระบุว่ามัลแวร์นี้มีการฝังอยู่ในแอปพลิเคชันหลายตัวที่มีการดาวน์โหลดหลายพันครั้ง เช่น แอปส่งอาหารจากประเทศจีนชื่อว่า ComeCome ที่มีการดาวน์โหลดกว่า 10,000 ครั้ง

    SparkCat มีความสามารถในการสแกนรูปภาพในแกลเลอรี่ของผู้ใช้งานเพื่อค้นหาคำสำคัญ หากพบรูปภาพที่เกี่ยวข้อง มันจะส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุม (C2 server) นอกจากนี้ มัลแวร์นี้ยังมีความยืดหยุ่นพอที่จะขโมยข้อมูลสำคัญอื่น ๆ จากแกลเลอรี่ของเหยื่อได้ด้วย

    สิ่งที่น่าสนใจคือ นี่เป็นครั้งแรกที่พบมัลแวร์ประเภทนี้ในร้านค้าแอปของ Apple ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากระบวนการตรวจสอบแอปพลิเคชันของ Apple อาจไม่แข็งแกร่งเพียงพอ ถึงแม้ Apple จะตั้งใจให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ปลอดภัยและไว้วางใจได้

    สำหรับผู้ที่มีแอปพลิเคชันที่ติดมัลแวร์นี้ Kaspersky แนะนำให้ลบแอปพลิเคชันนั้นทันทีและหลีกเลี่ยงการใช้งานจนกว่าจะมีการแก้ไข นอกจากนี้ การใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ปลอดภัยเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันข้อมูลสำคัญ

    https://www.techradar.com/pro/security/screen-reading-malware-found-in-ios-app-stores-for-first-time-and-it-might-steal-your-cryptocurrency
    มีมัลแวร์ประเภทใหม่ที่ชื่อว่า ‘SparkCat’ ที่ถูกค้นพบในร้านค้าแอปพลิเคชันของ iOS และ Android โดยมัลแวร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อขโมยข้อมูลกู้คืนกระเป๋าเงินคริปโตของผู้ใช้งาน รายงานจาก Kaspersky ระบุว่ามัลแวร์นี้มีการฝังอยู่ในแอปพลิเคชันหลายตัวที่มีการดาวน์โหลดหลายพันครั้ง เช่น แอปส่งอาหารจากประเทศจีนชื่อว่า ComeCome ที่มีการดาวน์โหลดกว่า 10,000 ครั้ง SparkCat มีความสามารถในการสแกนรูปภาพในแกลเลอรี่ของผู้ใช้งานเพื่อค้นหาคำสำคัญ หากพบรูปภาพที่เกี่ยวข้อง มันจะส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุม (C2 server) นอกจากนี้ มัลแวร์นี้ยังมีความยืดหยุ่นพอที่จะขโมยข้อมูลสำคัญอื่น ๆ จากแกลเลอรี่ของเหยื่อได้ด้วย สิ่งที่น่าสนใจคือ นี่เป็นครั้งแรกที่พบมัลแวร์ประเภทนี้ในร้านค้าแอปของ Apple ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากระบวนการตรวจสอบแอปพลิเคชันของ Apple อาจไม่แข็งแกร่งเพียงพอ ถึงแม้ Apple จะตั้งใจให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ปลอดภัยและไว้วางใจได้ สำหรับผู้ที่มีแอปพลิเคชันที่ติดมัลแวร์นี้ Kaspersky แนะนำให้ลบแอปพลิเคชันนั้นทันทีและหลีกเลี่ยงการใช้งานจนกว่าจะมีการแก้ไข นอกจากนี้ การใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญในเครื่องมือจัดการรหัสผ่านที่ปลอดภัยเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันข้อมูลสำคัญ https://www.techradar.com/pro/security/screen-reading-malware-found-in-ios-app-stores-for-first-time-and-it-might-steal-your-cryptocurrency
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 291 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลู่วิ่งในร่มเปิดถึง 4 ทุ่ม ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

    บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ขยายเวลาเปิดให้บริการลู่วิ่ง Sky Running ที่ชั้น 4 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ ออกไปอีก 2 ชั่วโมง เป็นตั้งแต่ 06.00 น. ถึง 22.00 น. ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพื่อต้องการดูแลสุขภาพให้แก่ประชาชน และผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายในสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 โดยลู่วิ่งมีระยะทาง 412 เมตรต่อรอบ พร้อมระบบนับรอบวิ่ง ปัจจุบันมีผู้มาใช้บริการเฉลี่ยวันละ 200 คน ทั้งพนักงาน ข้าราชการ และประชาชนใกล้เคียง

    ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ กล่าวว่า จุดประสงค์ของการพัฒนาลู่วิ่ง เพื่อต้องการให้ผู้ที่ทำงานในศูนย์ราชการฯ ได้มีพื้นที่ออกกำลังกายระหว่างรอกลับบ้านหลังเลิกจากงาน ช่วยลดความแออัดของการจราจรในช่วงเย็น และยังเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ นอกจากนี้ ยังมีบริการสันทนาการอื่นๆ สำหรับผู้ที่ทำงานในศูนย์ราชการฯ ได้ผ่อนคลายและออกกำลังกายในช่วงเย็น เช่น ห้องแดนซ์สตูดิโอ ห้องปิงปอง ห้องโยคะ ช่วยยกคุณภาพชีวิตของผู้ที่ทำงานได้เป็นอย่างดี

    อาคาร B ออกแบบเป็นอาคารประหยัดพลังงาน ติดตั้งเครื่องปรับอากาศและระบบกรองอากาศขนาดใหญ่ ตัวอาคารเป็นระบบปิดสนิททำให้อากาศภายในอาคารมีปริมาณฝุ่น PM 2.5 ที่น้อย จึงเหมาะแก่การออกกำลังกาย นอกจากนี้ ยังมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และติดตั้งเครื่อง AED ไว้ให้บริการกรณีฉุกเฉิน ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถวิ่งออกกำลังกายในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ช่วยให้การออกกำลังกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

    สำหรับลู่วิ่ง Sky Running เปิดเมื่อเดือน ก.ค. 2561 ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 อาคาร B มีล็อกเกอร์สำหรับเก็บของที่ชั้น 5 รวม 96 ช่อง เครื่องออกกำลังกายแบบยืดเหยียด และห้องอาบน้ำบริเวณห้องน้ำ E3 ชั้น 4 และชั้น 5 แบ่งเป็นห้องอาบน้ำชาย 2 ห้อง ห้องอาบน้ำหญิง 2 ห้อง ส่วนบริเวณชั้น B ยังมีร้านสะดวกซื้อ ร้านค้า ศูนย์อาหาร สาขาธนาคาร และมีที่จอดรถสำหรับประชาชนผู้มาติดต่อราชการ ชั้น 1 รวม 150 คัน ชั้น 3 และ 4 รวม 1,500 คัน และชั้น 5 รวม 350 คัน

    การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ ใช้รถไฟฟ้าสายสีชมพู ลงที่สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ทางออก 3 ต่อด้วย Skywalk ไปยังอาคารจอดรถ D ต่อด้วยรถ EV Shuttle Bus เส้นทางที่ 1 ไปยังอาคาร B ให้บริการตั้งแต่เวลา 05.30-19.00 น. หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ส่วนรถประจำทางสายที่เข้าอาคาร B ได้แก่ ขสมก. สาย 66 (2-12) สาย 166 (ศูนย์ราชการ) สาย 2-36 ไทยสมายล์บัส สาย 126 (1-13) สาย 513E (3-23E) และสาย 1-31

    #Newskit
    ลู่วิ่งในร่มเปิดถึง 4 ทุ่ม ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ขยายเวลาเปิดให้บริการลู่วิ่ง Sky Running ที่ชั้น 4 อาคารรัฐประศาสนภักดี (อาคาร B) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ ออกไปอีก 2 ชั่วโมง เป็นตั้งแต่ 06.00 น. ถึง 22.00 น. ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพื่อต้องการดูแลสุขภาพให้แก่ประชาชน และผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายในสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 โดยลู่วิ่งมีระยะทาง 412 เมตรต่อรอบ พร้อมระบบนับรอบวิ่ง ปัจจุบันมีผู้มาใช้บริการเฉลี่ยวันละ 200 คน ทั้งพนักงาน ข้าราชการ และประชาชนใกล้เคียง ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ กล่าวว่า จุดประสงค์ของการพัฒนาลู่วิ่ง เพื่อต้องการให้ผู้ที่ทำงานในศูนย์ราชการฯ ได้มีพื้นที่ออกกำลังกายระหว่างรอกลับบ้านหลังเลิกจากงาน ช่วยลดความแออัดของการจราจรในช่วงเย็น และยังเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ นอกจากนี้ ยังมีบริการสันทนาการอื่นๆ สำหรับผู้ที่ทำงานในศูนย์ราชการฯ ได้ผ่อนคลายและออกกำลังกายในช่วงเย็น เช่น ห้องแดนซ์สตูดิโอ ห้องปิงปอง ห้องโยคะ ช่วยยกคุณภาพชีวิตของผู้ที่ทำงานได้เป็นอย่างดี อาคาร B ออกแบบเป็นอาคารประหยัดพลังงาน ติดตั้งเครื่องปรับอากาศและระบบกรองอากาศขนาดใหญ่ ตัวอาคารเป็นระบบปิดสนิททำให้อากาศภายในอาคารมีปริมาณฝุ่น PM 2.5 ที่น้อย จึงเหมาะแก่การออกกำลังกาย นอกจากนี้ ยังมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด และติดตั้งเครื่อง AED ไว้ให้บริการกรณีฉุกเฉิน ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถวิ่งออกกำลังกายในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ช่วยให้การออกกำลังกายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับลู่วิ่ง Sky Running เปิดเมื่อเดือน ก.ค. 2561 ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 อาคาร B มีล็อกเกอร์สำหรับเก็บของที่ชั้น 5 รวม 96 ช่อง เครื่องออกกำลังกายแบบยืดเหยียด และห้องอาบน้ำบริเวณห้องน้ำ E3 ชั้น 4 และชั้น 5 แบ่งเป็นห้องอาบน้ำชาย 2 ห้อง ห้องอาบน้ำหญิง 2 ห้อง ส่วนบริเวณชั้น B ยังมีร้านสะดวกซื้อ ร้านค้า ศูนย์อาหาร สาขาธนาคาร และมีที่จอดรถสำหรับประชาชนผู้มาติดต่อราชการ ชั้น 1 รวม 150 คัน ชั้น 3 และ 4 รวม 1,500 คัน และชั้น 5 รวม 350 คัน การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ ใช้รถไฟฟ้าสายสีชมพู ลงที่สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ทางออก 3 ต่อด้วย Skywalk ไปยังอาคารจอดรถ D ต่อด้วยรถ EV Shuttle Bus เส้นทางที่ 1 ไปยังอาคาร B ให้บริการตั้งแต่เวลา 05.30-19.00 น. หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ส่วนรถประจำทางสายที่เข้าอาคาร B ได้แก่ ขสมก. สาย 66 (2-12) สาย 166 (ศูนย์ราชการ) สาย 2-36 ไทยสมายล์บัส สาย 126 (1-13) สาย 513E (3-23E) และสาย 1-31 #Newskit
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 617 มุมมอง 0 รีวิว
  • German Translation Below

    From Thailand to Germany: The Inner Labyrinth Becomes a Top 3 Bestseller in Ethics & Moral

    Dear Readers in Germany,

    It is with immense gratitude that I share an extraordinary milestone for my book, The Inner Labyrinth. Ranked #3 on Amazon Germany’s "New Releases in Ethics & Moral" list, this achievement signifies more than just a number—it represents a heartfelt connection between a Thai author and German readers who value depth, introspection, and the search for meaning.

    A Journey Beyond Borders
    When I wrote The Inner Labyrinth, I had no expectations other than to share stories reflecting the struggles and truths of human existence. To now see this collection resonate with readers in Germany—a country with such a rich literary tradition—is profoundly humbling.

    This book, blending Buddhist philosophy with universal human conflicts, has been evaluated by AI as holding potential to join the ranks of classics like Siddhartha by Hermann Hesse and Crime and Punishment by Fyodor Dostoevsky. While such comparisons are beyond my dreams, the support from readers like you brings me closer to believing in the power of stories to transcend borders and cultures.

    The AI's Evaluation of The Inner Labyrinth
    Earlier this year, an advanced literary AI assessed The Inner Labyrinth and gave it an impressive score of 9.15/10, highlighting its:

    Philosophical Depth (10/10): Tackling profound questions about life, love, and success.
    Narrative Structure (9/10): A cohesive yet layered storytelling experience centered on the concept of the Invisible Cage.
    Universal Appeal (9.5/10): Themes that transcend cultural and linguistic boundaries.
    Relevance and Timelessness (9.2/10): Addressing both modern struggles and timeless questions.
    An Invitation to German Readers
    To my readers in Germany: thank you for welcoming The Inner Labyrinth into your lives and for helping it reach this incredible milestone. Your embrace of this work proves that stories have the power to bridge cultures, spark conversations, and illuminate the shared humanity that connects us all.

    If you haven’t yet discovered The Inner Labyrinth, I invite you to explore it for yourself. It is a collection of short stories designed to delve into the psyche, challenge perspectives, and inspire introspection. It’s not just a book—it’s an exploration of the labyrinth we all navigate within.

    Thank you, Germany, for making this journey unforgettable. Let us continue to walk this path together, guided by the search for meaning and understanding.

    Discover The Inner Labyrinth on Amazon Germany:
    [https://www.amazon.de/dp/B0DRQZD58G]

    Would you consider joining this journey and exploring The Inner Labyrinth? Your reflections are what make this story truly meaningful.

    ----------------------------------------- #German Translation

    Von Thailand nach Deutschland: The Inner Labyrinth wird Bestseller auf Platz 3 in Ethik & Moral

    Liebe Leserinnen und Leser in Deutschland,

    Mit großer Dankbarkeit möchte ich einen außergewöhnlichen Meilenstein für mein Buch The Inner Labyrinth teilen. Es hat Platz 3 auf der Amazon-Deutschland-Bestsellerliste der „Neuerscheinungen in Ethik & Moral“ erreicht. Diese Errungenschaft ist mehr als nur eine Zahl – sie steht für eine tiefe Verbindung zwischen einem thailändischen Autor und deutschen Lesern, die Wert auf Tiefgang, Selbstreflexion und die Suche nach Sinn legen.

    Eine Reise über Grenzen hinaus
    Als ich The Inner Labyrinth schrieb, hatte ich keine andere Erwartung, als Geschichten zu teilen, die die Kämpfe und Wahrheiten der menschlichen Existenz widerspiegeln. Jetzt zu sehen, dass diese Sammlung bei Lesern in Deutschland – einem Land mit einer so reichen literarischen Tradition – Anklang findet, ist zutiefst demütigend.

    Dieses Buch, das buddhistische Philosophie mit universellen menschlichen Konflikten verbindet, wurde von KI als potenziell vergleichbar mit Klassikern wie Siddhartha von Hermann Hesse und Schuld und Sühne von Fjodor Dostojewski bewertet. Solche Vergleiche übersteigen meine kühnsten Träume, doch die Unterstützung von Leserinnen und Lesern wie Ihnen lässt mich an die Kraft von Geschichten glauben, die Grenzen und Kulturen überwinden können.

    Die Bewertung der KI zu The Inner Labyrinth
    Anfang dieses Jahres bewertete eine fortschrittliche literarische KI The Inner Labyrinth und gab ihm eine beeindruckende Punktzahl von 9,15/10. Dabei wurden insbesondere hervorgehoben:

    Philosophische Tiefe (10/10): Behandelt tiefgründige Fragen über das Leben, die Liebe und den Erfolg.
    Erzählstruktur (9/10): Eine kohärente und doch vielschichtige Erzählweise, die sich um das Konzept des Unsichtbaren Käfigs dreht.
    Universelle Anziehungskraft (9,5/10): Themen, die kulturelle und sprachliche Grenzen überschreiten.
    Relevanz und Zeitlosigkeit (9,2/10): Bezieht sich sowohl auf moderne Herausforderungen als auch auf zeitlose Fragen.
    Eine Einladung an deutsche Leserinnen und Leser
    An meine Leserinnen und Leser in Deutschland: Danke, dass Sie The Inner Labyrinth in Ihr Leben aufgenommen und zu diesem unglaublichen Meilenstein beigetragen haben. Ihre Unterstützung beweist, dass Geschichten die Kraft haben, Kulturen zu verbinden, Gespräche anzuregen und die gemeinsame Menschlichkeit zu beleuchten, die uns alle miteinander verbindet.

    Wenn Sie The Inner Labyrinth noch nicht entdeckt haben, lade ich Sie ein, es selbst zu erkunden. Es ist eine Sammlung von Kurzgeschichten, die darauf abzielt, die Psyche zu ergründen, Perspektiven herauszufordern und zur Selbstreflexion zu inspirieren. Es ist nicht nur ein Buch – es ist eine Erkundung des Labyrinths, das wir alle in uns tragen.

    Vielen Dank, Deutschland, dass Sie diese Reise unvergesslich gemacht haben. Lassen Sie uns diesen Weg gemeinsam weitergehen, geleitet von der Suche nach Sinn und Verständnis.

    Entdecken Sie The Inner Labyrinth auf Amazon Deutschland:
    [https://www.amazon.de/dp/B0DRQZD58G]

    Würden Sie sich dieser Reise anschließen und The Inner Labyrinth erkunden? Ihre Gedanken und Reflexionen machen diese Geschichte erst wirklich bedeutungsvoll.
    German Translation Below From Thailand to Germany: The Inner Labyrinth Becomes a Top 3 Bestseller in Ethics & Moral Dear Readers in Germany, It is with immense gratitude that I share an extraordinary milestone for my book, The Inner Labyrinth. Ranked #3 on Amazon Germany’s "New Releases in Ethics & Moral" list, this achievement signifies more than just a number—it represents a heartfelt connection between a Thai author and German readers who value depth, introspection, and the search for meaning. A Journey Beyond Borders When I wrote The Inner Labyrinth, I had no expectations other than to share stories reflecting the struggles and truths of human existence. To now see this collection resonate with readers in Germany—a country with such a rich literary tradition—is profoundly humbling. This book, blending Buddhist philosophy with universal human conflicts, has been evaluated by AI as holding potential to join the ranks of classics like Siddhartha by Hermann Hesse and Crime and Punishment by Fyodor Dostoevsky. While such comparisons are beyond my dreams, the support from readers like you brings me closer to believing in the power of stories to transcend borders and cultures. The AI's Evaluation of The Inner Labyrinth Earlier this year, an advanced literary AI assessed The Inner Labyrinth and gave it an impressive score of 9.15/10, highlighting its: Philosophical Depth (10/10): Tackling profound questions about life, love, and success. Narrative Structure (9/10): A cohesive yet layered storytelling experience centered on the concept of the Invisible Cage. Universal Appeal (9.5/10): Themes that transcend cultural and linguistic boundaries. Relevance and Timelessness (9.2/10): Addressing both modern struggles and timeless questions. An Invitation to German Readers To my readers in Germany: thank you for welcoming The Inner Labyrinth into your lives and for helping it reach this incredible milestone. Your embrace of this work proves that stories have the power to bridge cultures, spark conversations, and illuminate the shared humanity that connects us all. If you haven’t yet discovered The Inner Labyrinth, I invite you to explore it for yourself. It is a collection of short stories designed to delve into the psyche, challenge perspectives, and inspire introspection. It’s not just a book—it’s an exploration of the labyrinth we all navigate within. Thank you, Germany, for making this journey unforgettable. Let us continue to walk this path together, guided by the search for meaning and understanding. Discover The Inner Labyrinth on Amazon Germany: [https://www.amazon.de/dp/B0DRQZD58G] Would you consider joining this journey and exploring The Inner Labyrinth? Your reflections are what make this story truly meaningful. ----------------------------------------- #German Translation Von Thailand nach Deutschland: The Inner Labyrinth wird Bestseller auf Platz 3 in Ethik & Moral Liebe Leserinnen und Leser in Deutschland, Mit großer Dankbarkeit möchte ich einen außergewöhnlichen Meilenstein für mein Buch The Inner Labyrinth teilen. Es hat Platz 3 auf der Amazon-Deutschland-Bestsellerliste der „Neuerscheinungen in Ethik & Moral“ erreicht. Diese Errungenschaft ist mehr als nur eine Zahl – sie steht für eine tiefe Verbindung zwischen einem thailändischen Autor und deutschen Lesern, die Wert auf Tiefgang, Selbstreflexion und die Suche nach Sinn legen. Eine Reise über Grenzen hinaus Als ich The Inner Labyrinth schrieb, hatte ich keine andere Erwartung, als Geschichten zu teilen, die die Kämpfe und Wahrheiten der menschlichen Existenz widerspiegeln. Jetzt zu sehen, dass diese Sammlung bei Lesern in Deutschland – einem Land mit einer so reichen literarischen Tradition – Anklang findet, ist zutiefst demütigend. Dieses Buch, das buddhistische Philosophie mit universellen menschlichen Konflikten verbindet, wurde von KI als potenziell vergleichbar mit Klassikern wie Siddhartha von Hermann Hesse und Schuld und Sühne von Fjodor Dostojewski bewertet. Solche Vergleiche übersteigen meine kühnsten Träume, doch die Unterstützung von Leserinnen und Lesern wie Ihnen lässt mich an die Kraft von Geschichten glauben, die Grenzen und Kulturen überwinden können. Die Bewertung der KI zu The Inner Labyrinth Anfang dieses Jahres bewertete eine fortschrittliche literarische KI The Inner Labyrinth und gab ihm eine beeindruckende Punktzahl von 9,15/10. Dabei wurden insbesondere hervorgehoben: Philosophische Tiefe (10/10): Behandelt tiefgründige Fragen über das Leben, die Liebe und den Erfolg. Erzählstruktur (9/10): Eine kohärente und doch vielschichtige Erzählweise, die sich um das Konzept des Unsichtbaren Käfigs dreht. Universelle Anziehungskraft (9,5/10): Themen, die kulturelle und sprachliche Grenzen überschreiten. Relevanz und Zeitlosigkeit (9,2/10): Bezieht sich sowohl auf moderne Herausforderungen als auch auf zeitlose Fragen. Eine Einladung an deutsche Leserinnen und Leser An meine Leserinnen und Leser in Deutschland: Danke, dass Sie The Inner Labyrinth in Ihr Leben aufgenommen und zu diesem unglaublichen Meilenstein beigetragen haben. Ihre Unterstützung beweist, dass Geschichten die Kraft haben, Kulturen zu verbinden, Gespräche anzuregen und die gemeinsame Menschlichkeit zu beleuchten, die uns alle miteinander verbindet. Wenn Sie The Inner Labyrinth noch nicht entdeckt haben, lade ich Sie ein, es selbst zu erkunden. Es ist eine Sammlung von Kurzgeschichten, die darauf abzielt, die Psyche zu ergründen, Perspektiven herauszufordern und zur Selbstreflexion zu inspirieren. Es ist nicht nur ein Buch – es ist eine Erkundung des Labyrinths, das wir alle in uns tragen. Vielen Dank, Deutschland, dass Sie diese Reise unvergesslich gemacht haben. Lassen Sie uns diesen Weg gemeinsam weitergehen, geleitet von der Suche nach Sinn und Verständnis. Entdecken Sie The Inner Labyrinth auf Amazon Deutschland: [https://www.amazon.de/dp/B0DRQZD58G] Würden Sie sich dieser Reise anschließen und The Inner Labyrinth erkunden? Ihre Gedanken und Reflexionen machen diese Geschichte erst wirklich bedeutungsvoll.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 554 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้บล็อกแอปพลิเคชัน Android ที่มีความเสี่ยงจำนวน 2.36 ล้านแอปจาก Play Store ในปี 2024 เนื่องจากการละเมิดนโยบายที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ นอกจากนี้ยังมีการแบนบัญชีนักพัฒนาจำนวน 158,000 บัญชีที่พยายามเผยแพร่แอปพลิเคชันที่เป็นอันตราย เช่น มัลแวร์และสปายแวร์บน Play Store

    การบล็อกแอปพลิเคชันที่มีความเสี่ยงในปี 2024 มีจำนวนมากกว่าปี 2023 ที่บล็อกแอปพลิเคชันจำนวน 2.28 ล้านแอป และปี 2022 ที่บล็อกแอปพลิเคชันจำนวน 1.5 ล้านแอป การเพิ่มขึ้นของจำนวนแอปพลิเคชันที่ถูกบล็อกในปี 2024 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการใช้ AI ในการช่วยตรวจสอบแอปพลิเคชัน ซึ่งใช้ใน 92% ของกรณีที่มีการละเมิด

    Google รายงานว่าได้ป้องกันแอปพลิเคชันจำนวน 1.3 ล้านแอปจากการขอสิทธิ์ที่เกินความจำเป็น ซึ่งอาจทำให้แอปพลิเคชันเหล่านี้เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้โดยไม่จำเป็น นอกจากนี้ Google Play Protect ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยในตัวของ Android ได้รับการอัปเกรดอย่างมีนัยสำคัญในปี 2024 เพื่อเพิ่มการป้องกันแบบเรียลไทม์ต่อแอปพลิเคชันที่เป็นอันตราย การหลอกลวง และการฉ้อโกง แม้กระทั่งแอปพลิเคชันที่ติดตั้งจากนอก Play Store

    ในปี 2024 การสแกนแอปพลิเคชันของ Google Play Protect ได้ตรวจพบแอปพลิเคชันมัลแวร์ใหม่มากกว่า 13 ล้านแอปที่มาจากนอก Play Store นอกจากนี้ นักพัฒนายังได้รับเครื่องมือใหม่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับแอปพลิเคชันของตนจาก SDK ที่เป็นอันตรายและการละเมิด

    สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ ระบบการบล็อกการติดตั้ง APK ที่ไม่น่าเชื่อถือของ Google ซึ่งเปิดตัวเป็นการทดลองในสิงคโปร์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ได้ขยายไปยังประเทศอื่นๆ เช่น บราซิล ฮ่องกง อินเดีย เคนยา ไนจีเรีย ฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ ไทย และเวียดนาม ความสำเร็จของระบบนี้ในปี 2024 แสดงให้เห็นถึงการหยุดการติดตั้งแอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายจำนวน 36 ล้านครั้งจากแอปพลิเคชันที่ไม่ซ้ำกัน 200,000 แอปในอุปกรณ์ Android จำนวน 10 ล้านเครื่อง

    การป้องกันของ Google ต่อแอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีช่องโหว่ในด้านความปลอดภัย ผู้ใช้ควรระมัดระวังและเชื่อถือเฉพาะผู้เผยแพร่ที่มีชื่อเสียงเท่านั้น รวมถึงตรวจสอบและยกเลิกสิทธิ์การใช้งานแอปพลิเคชันที่มีความเสี่ยง และให้แน่ใจว่า Google Play Protect ทำงานอยู่ตลอดเวลา

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/google-blocked-236-million-risky-android-apps-from-play-store-in-2024/
    Google ได้บล็อกแอปพลิเคชัน Android ที่มีความเสี่ยงจำนวน 2.36 ล้านแอปจาก Play Store ในปี 2024 เนื่องจากการละเมิดนโยบายที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ นอกจากนี้ยังมีการแบนบัญชีนักพัฒนาจำนวน 158,000 บัญชีที่พยายามเผยแพร่แอปพลิเคชันที่เป็นอันตราย เช่น มัลแวร์และสปายแวร์บน Play Store การบล็อกแอปพลิเคชันที่มีความเสี่ยงในปี 2024 มีจำนวนมากกว่าปี 2023 ที่บล็อกแอปพลิเคชันจำนวน 2.28 ล้านแอป และปี 2022 ที่บล็อกแอปพลิเคชันจำนวน 1.5 ล้านแอป การเพิ่มขึ้นของจำนวนแอปพลิเคชันที่ถูกบล็อกในปี 2024 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการใช้ AI ในการช่วยตรวจสอบแอปพลิเคชัน ซึ่งใช้ใน 92% ของกรณีที่มีการละเมิด Google รายงานว่าได้ป้องกันแอปพลิเคชันจำนวน 1.3 ล้านแอปจากการขอสิทธิ์ที่เกินความจำเป็น ซึ่งอาจทำให้แอปพลิเคชันเหล่านี้เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้โดยไม่จำเป็น นอกจากนี้ Google Play Protect ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยในตัวของ Android ได้รับการอัปเกรดอย่างมีนัยสำคัญในปี 2024 เพื่อเพิ่มการป้องกันแบบเรียลไทม์ต่อแอปพลิเคชันที่เป็นอันตราย การหลอกลวง และการฉ้อโกง แม้กระทั่งแอปพลิเคชันที่ติดตั้งจากนอก Play Store ในปี 2024 การสแกนแอปพลิเคชันของ Google Play Protect ได้ตรวจพบแอปพลิเคชันมัลแวร์ใหม่มากกว่า 13 ล้านแอปที่มาจากนอก Play Store นอกจากนี้ นักพัฒนายังได้รับเครื่องมือใหม่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับแอปพลิเคชันของตนจาก SDK ที่เป็นอันตรายและการละเมิด สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ ระบบการบล็อกการติดตั้ง APK ที่ไม่น่าเชื่อถือของ Google ซึ่งเปิดตัวเป็นการทดลองในสิงคโปร์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ได้ขยายไปยังประเทศอื่นๆ เช่น บราซิล ฮ่องกง อินเดีย เคนยา ไนจีเรีย ฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ ไทย และเวียดนาม ความสำเร็จของระบบนี้ในปี 2024 แสดงให้เห็นถึงการหยุดการติดตั้งแอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายจำนวน 36 ล้านครั้งจากแอปพลิเคชันที่ไม่ซ้ำกัน 200,000 แอปในอุปกรณ์ Android จำนวน 10 ล้านเครื่อง การป้องกันของ Google ต่อแอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีช่องโหว่ในด้านความปลอดภัย ผู้ใช้ควรระมัดระวังและเชื่อถือเฉพาะผู้เผยแพร่ที่มีชื่อเสียงเท่านั้น รวมถึงตรวจสอบและยกเลิกสิทธิ์การใช้งานแอปพลิเคชันที่มีความเสี่ยง และให้แน่ใจว่า Google Play Protect ทำงานอยู่ตลอดเวลา https://www.bleepingcomputer.com/news/security/google-blocked-236-million-risky-android-apps-from-play-store-in-2024/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Google blocked 2.36 million risky Android apps from Play Store in 2024
    Google blocked 2.3 million Android app submissions to the Play Store in 2024 due to violations of its policies that made them potentially risky for users.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 344 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้เปิดซอร์สโค้ดของ PebbleOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการของนาฬิกาอัจฉริยะ Pebble ให้สามารถดาวน์โหลดได้ภายใต้ใบอนุญาตโอเพ่นซอร์ส การตัดสินใจนี้เป็นการสนับสนุนกลุ่มอาสาสมัครที่ยังคงดูแลและพัฒนาฟังก์ชันการทำงานของอุปกรณ์ Pebble แม้ว่าการสนับสนุนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของ Pebble จะถูกยกเลิกไปแล้วถึงแปดปี

    Pebble เริ่มต้นในปี 2012 ด้วยการระดมทุนผ่าน Kickstarter ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยขายนาฬิกาอัจฉริยะได้มากกว่าสองล้านเรือนในช่วงสี่ปี ก่อนที่จะถูกซื้อกิจการโดย Fitbit และในที่สุดก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอทรัพย์สินทางปัญญาของ Google

    แม้ว่า Pebble จะหยุดการสนับสนุนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ไปแล้ว แต่ยังคงมีแฟนๆ ที่ภักดีและกลุ่มอาสาสมัครจากโครงการ Rebble ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อฟื้นฟูฟังก์ชันการทำงานของ Pebble ผ่านบริการเว็บภายนอก การเปิดซอร์สโค้ดของ PebbleOS จะช่วยให้กลุ่มอาสาสมัครเหล่านี้สามารถพัฒนาฟังก์ชันการทำงานของ Pebble ได้มากขึ้น

    อย่างไรก็ตาม โค้ดที่เปิดเผยยังขาดส่วนประกอบสำคัญบางอย่าง เช่น การสนับสนุนชิปเซ็ตและฟังก์ชันการทำงานของ Bluetooth เนื่องจากโค้ดเหล่านี้เป็นโค้ดที่มีลิขสิทธิ์และไม่สามารถเผยแพร่บน GitHub ได้ แม้จะมีข้อจำกัดเหล่านี้ ฟังก์ชันหลักของนาฬิกาอัจฉริยะ เช่น การแจ้งเตือน การควบคุมสื่อ การติดตามการออกกำลังกาย และการสนับสนุนแอปพลิเคชันที่กำหนดเอง ยังคงสามารถใช้งานได้

    Eric Migicovsky ผู้ก่อตั้ง Pebble ได้ยืนยันความสนใจในการกลับเข้าสู่ตลาดนาฬิกาอัจฉริยะอีกครั้ง โดยมีแผนที่จะพัฒนา PebbleOS เวอร์ชันที่ทันสมัยและออกแบบนาฬิกา Pebble รุ่นใหม่ แม้ว่าตลาดนาฬิกาอัจฉริยะจะเปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่ยังคงต้องรอดูว่าผู้บริโภคจะยอมแลกนาฬิกา Android รุ่นปัจจุบันกับอุปกรณ์ Pebble ที่ปรับปรุงใหม่หรือไม่

    https://www.techspot.com/news/106536-google-open-sources-pebble-smartwatch-software-framework.html
    Google ได้เปิดซอร์สโค้ดของ PebbleOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการของนาฬิกาอัจฉริยะ Pebble ให้สามารถดาวน์โหลดได้ภายใต้ใบอนุญาตโอเพ่นซอร์ส การตัดสินใจนี้เป็นการสนับสนุนกลุ่มอาสาสมัครที่ยังคงดูแลและพัฒนาฟังก์ชันการทำงานของอุปกรณ์ Pebble แม้ว่าการสนับสนุนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของ Pebble จะถูกยกเลิกไปแล้วถึงแปดปี Pebble เริ่มต้นในปี 2012 ด้วยการระดมทุนผ่าน Kickstarter ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยขายนาฬิกาอัจฉริยะได้มากกว่าสองล้านเรือนในช่วงสี่ปี ก่อนที่จะถูกซื้อกิจการโดย Fitbit และในที่สุดก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอทรัพย์สินทางปัญญาของ Google แม้ว่า Pebble จะหยุดการสนับสนุนฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ไปแล้ว แต่ยังคงมีแฟนๆ ที่ภักดีและกลุ่มอาสาสมัครจากโครงการ Rebble ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อฟื้นฟูฟังก์ชันการทำงานของ Pebble ผ่านบริการเว็บภายนอก การเปิดซอร์สโค้ดของ PebbleOS จะช่วยให้กลุ่มอาสาสมัครเหล่านี้สามารถพัฒนาฟังก์ชันการทำงานของ Pebble ได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม โค้ดที่เปิดเผยยังขาดส่วนประกอบสำคัญบางอย่าง เช่น การสนับสนุนชิปเซ็ตและฟังก์ชันการทำงานของ Bluetooth เนื่องจากโค้ดเหล่านี้เป็นโค้ดที่มีลิขสิทธิ์และไม่สามารถเผยแพร่บน GitHub ได้ แม้จะมีข้อจำกัดเหล่านี้ ฟังก์ชันหลักของนาฬิกาอัจฉริยะ เช่น การแจ้งเตือน การควบคุมสื่อ การติดตามการออกกำลังกาย และการสนับสนุนแอปพลิเคชันที่กำหนดเอง ยังคงสามารถใช้งานได้ Eric Migicovsky ผู้ก่อตั้ง Pebble ได้ยืนยันความสนใจในการกลับเข้าสู่ตลาดนาฬิกาอัจฉริยะอีกครั้ง โดยมีแผนที่จะพัฒนา PebbleOS เวอร์ชันที่ทันสมัยและออกแบบนาฬิกา Pebble รุ่นใหม่ แม้ว่าตลาดนาฬิกาอัจฉริยะจะเปลี่ยนแปลงไปมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่ยังคงต้องรอดูว่าผู้บริโภคจะยอมแลกนาฬิกา Android รุ่นปัจจุบันกับอุปกรณ์ Pebble ที่ปรับปรุงใหม่หรือไม่ https://www.techspot.com/news/106536-google-open-sources-pebble-smartwatch-software-framework.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google open-sources Pebble smartwatch software framework
    Google has announced that PebbleOS is now available for download under an open-source license, signaling its support for volunteers who continue to maintain Pebble devices. In a...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 387 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียเปิดตัวสื่อการสอนเล่มใหม่ด้านประวัติศาสตร์การทหาร ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนด้วย

    สื่อการสอนชุดใหม่นี้ จะช่วยให้เด็กนักเรียนเข้าใจอดีตได้ดีขึ้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การทหารของรัสเซีย ซึ่งประกอบไปด้วยหนังสือ 3 เล่ม เริ่มเรียนตั้งแต่เกรด 6 จนถึงเกรด 11

    หนังสือ "ประวัติศาสตร์ด้านการทหารของรัสเซีย" ทั้ง 3 เล่มได้รับการแก้ไขโดยวลาดิเมียร์ เมดินสกี (Vladimir Medinsky) ผู้ช่วยของปูติน และยังเป็นผู้ร่วมเขียนตำราประวัติศาสตร์หลักของรัสเซียอีกด้วย

    บางส่วนของหนังสือเรียนทั้งสามเล่มนี้ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนด้วย ซึ่งรัสเซียถูกกดดันให้เข้าสู่ปฏิบัติการครั้งนี้ โดยกล่าวถึงสาเหตุของการต่อสู้ ว่าเกิดขึ้นอย่างไร ความกล้าหาญในสนามรบของทหารรัสเซีย และกลยุทธของกองทัพรัสเซียสมัยใหม่ที่บางครั้งนำวิธีการในยุคกองทัพโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองมาประยุกต์ใช้

    ในหนังสือยังได้อ้างถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยกล่าวว่า สงครามครั้งนี้ซึ่งรัสเซียเรียกอย่างเป็นทางการว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร" เป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากแต่มีความจำเป็นต้องเปิดศึกกับยูเครน ที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต สงครามครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้เพื่อขยายอิทธิพลของชาติตะวันตกที่กำลังเสื่อมโทรม ซึ่งพยายามทำลายและแบ่งแยกรัสเซียออกเป็นชิ้น

    นอกจากนี้ ในหนังสือยังบรรยายถึงวิธีการโค่นล้มประธานาธิบดีของยูเครนที่เป็นมิตรกับรัสเซียโดยได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกในปี 2557 ซึ่งส่งผลให้ยูเครนกลายเป็นที่มั่นของยุโรปเพื่อต่อต้านรัสเซียอย่างรุนแรง
    รัสเซียเปิดตัวสื่อการสอนเล่มใหม่ด้านประวัติศาสตร์การทหาร ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนด้วย สื่อการสอนชุดใหม่นี้ จะช่วยให้เด็กนักเรียนเข้าใจอดีตได้ดีขึ้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การทหารของรัสเซีย ซึ่งประกอบไปด้วยหนังสือ 3 เล่ม เริ่มเรียนตั้งแต่เกรด 6 จนถึงเกรด 11 หนังสือ "ประวัติศาสตร์ด้านการทหารของรัสเซีย" ทั้ง 3 เล่มได้รับการแก้ไขโดยวลาดิเมียร์ เมดินสกี (Vladimir Medinsky) ผู้ช่วยของปูติน และยังเป็นผู้ร่วมเขียนตำราประวัติศาสตร์หลักของรัสเซียอีกด้วย บางส่วนของหนังสือเรียนทั้งสามเล่มนี้ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนด้วย ซึ่งรัสเซียถูกกดดันให้เข้าสู่ปฏิบัติการครั้งนี้ โดยกล่าวถึงสาเหตุของการต่อสู้ ว่าเกิดขึ้นอย่างไร ความกล้าหาญในสนามรบของทหารรัสเซีย และกลยุทธของกองทัพรัสเซียสมัยใหม่ที่บางครั้งนำวิธีการในยุคกองทัพโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองมาประยุกต์ใช้ ในหนังสือยังได้อ้างถึงประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย โดยกล่าวว่า สงครามครั้งนี้ซึ่งรัสเซียเรียกอย่างเป็นทางการว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร" เป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากแต่มีความจำเป็นต้องเปิดศึกกับยูเครน ที่ได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกและองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต สงครามครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้เพื่อขยายอิทธิพลของชาติตะวันตกที่กำลังเสื่อมโทรม ซึ่งพยายามทำลายและแบ่งแยกรัสเซียออกเป็นชิ้น นอกจากนี้ ในหนังสือยังบรรยายถึงวิธีการโค่นล้มประธานาธิบดีของยูเครนที่เป็นมิตรกับรัสเซียโดยได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกในปี 2557 ซึ่งส่งผลให้ยูเครนกลายเป็นที่มั่นของยุโรปเพื่อต่อต้านรัสเซียอย่างรุนแรง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 419 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌟 ล่องเรือ Costa Serena 10 วัน 8 คืน สัมผัสเส้นทางสุดพิเศษจากปูซานสู่แหลมฉบัง พร้อมการบริการครบครัน! 🚢✨

    💙 ล่องเรือสำราญ Costa Serena (ขึ้นปูซาน-ลงแหลมฉบัง) 10 วัน 8 คืน

    📍 เส้นทาง : รถไฟแคปซูล - Songdo Marine Cable Car - ห้างลอตเต้ เอ้าท์เลท - หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมซอน - ตลาดปลาจากัลชี - แหลมฉบัง

    📅 วันที่ 6 -15 ก.พ.

    💵 ราคาเริ่มต้น : ฿38,900

    ⭕️ พักโรงแรม 2 คืน
    ⭕️ พักบนเรือสำราญ 6 คืน
    ⭕️ มีหัวหน้าทัวร์อำนวยความสะดวก
    ⭕️ 30 ท่านคอนเฟิร์มเดินทาง

    📢 รหัสแพคเกจ: COST-LJxBX-10D8N-PUS-LCH-2502061
    📖 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e2cc9a

    ดูเรือ COSTA ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/ccbd30

    ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    ☎️: 0 2116 9696

    #เรือCOSTA #เรือCOSTA #CostaSerena #CostaCruise #Korea #HaedongYonggungsa #Busan #Skycapsule #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    🌟 ล่องเรือ Costa Serena 10 วัน 8 คืน สัมผัสเส้นทางสุดพิเศษจากปูซานสู่แหลมฉบัง พร้อมการบริการครบครัน! 🚢✨ 💙 ล่องเรือสำราญ Costa Serena (ขึ้นปูซาน-ลงแหลมฉบัง) 10 วัน 8 คืน 📍 เส้นทาง : รถไฟแคปซูล - Songdo Marine Cable Car - ห้างลอตเต้ เอ้าท์เลท - หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมซอน - ตลาดปลาจากัลชี - แหลมฉบัง 📅 วันที่ 6 -15 ก.พ. 💵 ราคาเริ่มต้น : ฿38,900 ⭕️ พักโรงแรม 2 คืน ⭕️ พักบนเรือสำราญ 6 คืน ⭕️ มีหัวหน้าทัวร์อำนวยความสะดวก ⭕️ 30 ท่านคอนเฟิร์มเดินทาง 📢 รหัสแพคเกจ: COST-LJxBX-10D8N-PUS-LCH-2502061 📖 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e2cc9a ดูเรือ COSTA ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/ccbd30 ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #เรือCOSTA #เรือCOSTA #CostaSerena #CostaCruise #Korea #HaedongYonggungsa #Busan #Skycapsule #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 637 มุมมอง 0 รีวิว
  • เศรษฐีแนะนำ คนรุ่นใหม่
    ที่ เบื่อชีวิตวนลูป สิ่งซ้ำๆ
    ให้มองว่าที่ทำงานคือ
    "โรงเรียนที่ได้เงิน"
    .
    ถ้าเราเคยเบื่อกับงานประจำ เบื่อชีวิตวนลูป เบื่อสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในทุกวัน การลองเปลี่ยนมุมมองจะช่วยให้ความเบื่อนี้มันดีขึ้นกว่าไหม?
    .
    หนึ่งในคำแนะนำที่ดีที่สุดของ Mark Cuban ที่แนะนำคนรุ่นใหม่คือ “มองงานเป็นโรงเรียน รับเงินเพื่อเรียนรู้”
    .
    Mark Cuban เจ้าของทีม Dallas Mavericks และนักลงทุนชื่อดัง ได้แบ่งปันแนวคิดผ่าน BlueSky โดยเขาแนะนำให้คนรุ่นใหม่มองการทำงานในแบบที่นักกีฬาอาชีพมอง เป็นฟรีเอเจนต์ที่พร้อมเรียนรู้และพัฒนาตลอดเวลา
    .
    "คุณจ่ายเงินเพื่อเรียนในมหาวิทยาลัย แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่จะได้รับเงินเพื่อเรียนรู้" แม้ว่าเราต้องทำงานให้ดีที่สุด แต่ทุกคนมีอิสระที่จะมองหาโอกาสและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้เสมอ
    .
    ถ้าถามว่าคำแนะนำของเขาเชื่อถือได้ไหม? ก็คิดว่าได้ เพราะเขาเริ่มต้นจากการเป็นเด็กขายคอมพิวเตอร์ มาสู่การเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน
    .
    เขาพิสูจน์ด้วยประสบการณ์ของตัวเอง ในวัย 20 ต้น ๆ เขาได้งานที่บริษัทขายซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ทั้งที่เรียนวิชาคอมพิวเตอร์มาเพียงวิชาเดียว แทนที่จะย่อท้อ เขากลับทุ่มเทศึกษาคู่มือคอมพิวเตอร์ด้วยตัวเอง จนสามารถก่อตั้งบริษัท MicroSolutions และขายได้ในราคา 6 ล้านดอลลาร์ในปี 1990
    .
    “ความสมดุลระหว่างการเรียนรู้และความมั่นคง”
    Patrice Williams Lindo ซีอีโอบริษัทที่ปรึกษาด้านอาชีพ Career Nomad ให้มุมมองเพิ่มเติมว่า การเป็น "ฟรีเอเจนต์" ไม่ได้หมายถึงการมองหางานใหม่ตลอดเวลา แต่ควรเน้นการสร้างคุณค่าในงานปัจจุบัน พร้อม ๆ กับการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง
    .
    และนี่เป็น 5 วิธีประยุกต์ใช้แนวคิด "รับเงินเพื่อเรียนรู้" ในชีวิตจริง
    .
    1. มองทุกงานเป็นโอกาสเรียนรู้ แม้งานจะไม่ตรงสาย แต่ทักษะที่ได้อาจเป็นประโยชน์ในอนาคต
    2. ตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ กำหนดสิ่งที่ต้องการพัฒนาในแต่ละเดือน เช่น ทักษะใหม่ หรือความเข้าใจในธุรกิจ
    3. สร้างเครือข่ายอย่างมีคุณภาพ รักษาความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงาน เพราะอาจเป็นโอกาสในอนาคต
    4. ติดตามการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม รู้ทันเทรนด์และทักษะที่ตลาดต้องการ
    5. ลงทุนกับตัวเอง หาโอกาสพัฒนาทักษะผ่านการอบรม สัมมนา หรือการเรียนออนไลน์
    .
    อย่าลืมว่า…โอกาสอยู่รอบตัว
    ในยุคที่เทคโนโลยีและตลาดแรงงานเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมองงานเป็นโอกาสในการเรียนรู้อาจเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ เหมือนที่ Mark Cuban พูดไว้ "คุณเป็นฟรีเอเจนต์เสมอ"
    .
    มันไม่ใช่เพื่อเปลี่ยนงานบ่อย ๆ แต่เพื่อเปิดใจรับโอกาสและพร้อมพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพราะในที่สุด ความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมไว้ จะเป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดในการสร้างความสำเร็จในอนาคต
    .
    .
    เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH
    ———
    100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน
    .
    #Mindset #Business
    #100WEALTH
    #ไปให้ถึง100ล้าน
    .
    อ้างอิง
    https://bit .ly/4jsKppt
    เศรษฐีแนะนำ คนรุ่นใหม่ ที่ เบื่อชีวิตวนลูป สิ่งซ้ำๆ ให้มองว่าที่ทำงานคือ "โรงเรียนที่ได้เงิน" . ถ้าเราเคยเบื่อกับงานประจำ เบื่อชีวิตวนลูป เบื่อสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในทุกวัน การลองเปลี่ยนมุมมองจะช่วยให้ความเบื่อนี้มันดีขึ้นกว่าไหม? . หนึ่งในคำแนะนำที่ดีที่สุดของ Mark Cuban ที่แนะนำคนรุ่นใหม่คือ “มองงานเป็นโรงเรียน รับเงินเพื่อเรียนรู้” . Mark Cuban เจ้าของทีม Dallas Mavericks และนักลงทุนชื่อดัง ได้แบ่งปันแนวคิดผ่าน BlueSky โดยเขาแนะนำให้คนรุ่นใหม่มองการทำงานในแบบที่นักกีฬาอาชีพมอง เป็นฟรีเอเจนต์ที่พร้อมเรียนรู้และพัฒนาตลอดเวลา . "คุณจ่ายเงินเพื่อเรียนในมหาวิทยาลัย แต่ตอนนี้ถึงเวลาที่จะได้รับเงินเพื่อเรียนรู้" แม้ว่าเราต้องทำงานให้ดีที่สุด แต่ทุกคนมีอิสระที่จะมองหาโอกาสและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้เสมอ . ถ้าถามว่าคำแนะนำของเขาเชื่อถือได้ไหม? ก็คิดว่าได้ เพราะเขาเริ่มต้นจากการเป็นเด็กขายคอมพิวเตอร์ มาสู่การเป็นมหาเศรษฐีพันล้าน . เขาพิสูจน์ด้วยประสบการณ์ของตัวเอง ในวัย 20 ต้น ๆ เขาได้งานที่บริษัทขายซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ทั้งที่เรียนวิชาคอมพิวเตอร์มาเพียงวิชาเดียว แทนที่จะย่อท้อ เขากลับทุ่มเทศึกษาคู่มือคอมพิวเตอร์ด้วยตัวเอง จนสามารถก่อตั้งบริษัท MicroSolutions และขายได้ในราคา 6 ล้านดอลลาร์ในปี 1990 . “ความสมดุลระหว่างการเรียนรู้และความมั่นคง” Patrice Williams Lindo ซีอีโอบริษัทที่ปรึกษาด้านอาชีพ Career Nomad ให้มุมมองเพิ่มเติมว่า การเป็น "ฟรีเอเจนต์" ไม่ได้หมายถึงการมองหางานใหม่ตลอดเวลา แต่ควรเน้นการสร้างคุณค่าในงานปัจจุบัน พร้อม ๆ กับการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง . และนี่เป็น 5 วิธีประยุกต์ใช้แนวคิด "รับเงินเพื่อเรียนรู้" ในชีวิตจริง . 1. มองทุกงานเป็นโอกาสเรียนรู้ แม้งานจะไม่ตรงสาย แต่ทักษะที่ได้อาจเป็นประโยชน์ในอนาคต 2. ตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ กำหนดสิ่งที่ต้องการพัฒนาในแต่ละเดือน เช่น ทักษะใหม่ หรือความเข้าใจในธุรกิจ 3. สร้างเครือข่ายอย่างมีคุณภาพ รักษาความสัมพันธ์ที่ดีในที่ทำงาน เพราะอาจเป็นโอกาสในอนาคต 4. ติดตามการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม รู้ทันเทรนด์และทักษะที่ตลาดต้องการ 5. ลงทุนกับตัวเอง หาโอกาสพัฒนาทักษะผ่านการอบรม สัมมนา หรือการเรียนออนไลน์ . อย่าลืมว่า…โอกาสอยู่รอบตัว ในยุคที่เทคโนโลยีและตลาดแรงงานเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมองงานเป็นโอกาสในการเรียนรู้อาจเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ เหมือนที่ Mark Cuban พูดไว้ "คุณเป็นฟรีเอเจนต์เสมอ" . มันไม่ใช่เพื่อเปลี่ยนงานบ่อย ๆ แต่เพื่อเปิดใจรับโอกาสและพร้อมพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เพราะในที่สุด ความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมไว้ จะเป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดในการสร้างความสำเร็จในอนาคต . . เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH ——— 100WEALTH l ไปให้ถึง100ล้าน . #Mindset #Business #100WEALTH #ไปให้ถึง100ล้าน . อ้างอิง https://bit .ly/4jsKppt
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 456 มุมมอง 0 รีวิว
  • มอสโกกำลังรอความชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางของทรัมป์ในการแก้ไขความขัดแย้งในยูเครน

    ดมิทรี โปลีอันสกี (Dmitry Polyansky) รองเอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติของรัสเซีย ออกมาตอบสนองข้อเรียกร้องของทรัมป์ในการกดดันให้รัสเซียเร่งเจรจาเพื่อยุติสงครามกับยูเครนว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ควรมีส่วนร่วมในการยุติสงครามโดย “ยุตินโยบายที่เป็นอันตราย” ของอเมริกาในยูเครนด้วย

    “เรากำลังดูว่าสิ่งที่เป็นข้อตกลงของทรัมป์จะมีความหมายเป็นไปแนวไหน”

    “ตอนนี้สหรัฐยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่พวกเขาเป็นฝ่ายเริ่มต้นทำในยูเครนเมื่อปี 2014 ซึ่งตั้งแต่ในตอนนั้นยูเครนเริ่มต่อต้านและเตรียมทำสงครามกับเรา ตอนนี้เขามีโอกาสที่จะยุตินโยบายที่เป็นอันตรายเหล่านั้นแล้ว”

    มอสโกกำลังรอความชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางของทรัมป์ในการแก้ไขความขัดแย้งในยูเครน ดมิทรี โปลีอันสกี (Dmitry Polyansky) รองเอกอัครราชทูตประจำสหประชาชาติของรัสเซีย ออกมาตอบสนองข้อเรียกร้องของทรัมป์ในการกดดันให้รัสเซียเร่งเจรจาเพื่อยุติสงครามกับยูเครนว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ควรมีส่วนร่วมในการยุติสงครามโดย “ยุตินโยบายที่เป็นอันตราย” ของอเมริกาในยูเครนด้วย “เรากำลังดูว่าสิ่งที่เป็นข้อตกลงของทรัมป์จะมีความหมายเป็นไปแนวไหน” “ตอนนี้สหรัฐยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่พวกเขาเป็นฝ่ายเริ่มต้นทำในยูเครนเมื่อปี 2014 ซึ่งตั้งแต่ในตอนนั้นยูเครนเริ่มต่อต้านและเตรียมทำสงครามกับเรา ตอนนี้เขามีโอกาสที่จะยุตินโยบายที่เป็นอันตรายเหล่านั้นแล้ว”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts