• ☆เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
    ผาดอกเสี้ยว
    》》เป็นหนึ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
    ■ระยะทาง 3 ก.ม.
    ■ใช้เวลาเดิน 2 ช.ม. ครึ่ง
    ☆เดินลงซะส่วนใหญ่ ไม่เหนื่อย ป่าเขียว เย็นสบาย น้ำตกสวยยยยยย
    ■■■■■■■■■■■
    ☆ค่ารถตู้ไป + กลับ=200×2=400 บาท
    ☆เวลาไป 07:00 น.
    ☆เวลากลับ 14:00 น.
    (จองก่อนล่วงหน้า)
    ■ค่าไกด์ 220 บาท
    ■ค่าเข้าอุทยานฯ 60 บาท
    ●รวมค่าใช้จ่าย 680 บาท
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    》》คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ 《《

    ☆รถตู้ดอยอินทนนท์
    084-222-3478
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/kaSDUCvuGJpGmisC/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    ■ชมวีดีโอ
    >>>
    https://youtu.be/tlEaDDtIQFQ?si=LjJ4aHv1RGvDGgWo
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●

    #คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ #มะนาวก้าวเดิน #ทริปเชียงใหม่ #คนเดียวก็เที่ยวได้ #รถไฟ #รถตู้ดอยอินทนนท์ #รถตู้แม่กําปองน้ําพุร้อนสันกําแพง #กิ่วแม่ปาน #เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว #ดอยอินทนนท์ #น้ำตกผาดอกเสี้ยว
    #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    ☆เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผาดอกเสี้ยว 》》เป็นหนึ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ■ระยะทาง 3 ก.ม. ■ใช้เวลาเดิน 2 ช.ม. ครึ่ง ☆เดินลงซะส่วนใหญ่ ไม่เหนื่อย ป่าเขียว เย็นสบาย น้ำตกสวยยยยยย ■■■■■■■■■■■ ☆ค่ารถตู้ไป + กลับ=200×2=400 บาท ☆เวลาไป 07:00 น. ☆เวลากลับ 14:00 น. (จองก่อนล่วงหน้า) ■ค่าไกด์ 220 บาท ■ค่าเข้าอุทยานฯ 60 บาท ●รวมค่าใช้จ่าย 680 บาท ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● 》》คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ 《《 ☆รถตู้ดอยอินทนนท์ 084-222-3478 ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/kaSDUCvuGJpGmisC/?mibextid=qi2Omg 《《 ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● ■ชมวีดีโอ >>> https://youtu.be/tlEaDDtIQFQ?si=LjJ4aHv1RGvDGgWo ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● #คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ #มะนาวก้าวเดิน #ทริปเชียงใหม่ #คนเดียวก็เที่ยวได้ #รถไฟ #รถตู้ดอยอินทนนท์ #รถตู้แม่กําปองน้ําพุร้อนสันกําแพง #กิ่วแม่ปาน #เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว #ดอยอินทนนท์ #น้ำตกผาดอกเสี้ยว #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 148 0 รีวิว
  • ☆เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
    ผาดอกเสี้ยว
    》》เป็นหนึ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
    ■ระยะทาง 3 ก.ม.
    ■ใช้เวลาเดิน 2 ช.ม. ครึ่ง
    ☆เดินลงซะส่วนใหญ่ ไม่เหนื่อย ป่าเขียว เย็นสบาย น้ำตกสวยยยยยย
    ■■■■■■■■■■■
    ☆ค่ารถตู้ไป + กลับ=200×2=400 บาท
    ☆เวลาไป 07:00 น.
    ☆เวลากลับ 14:00 น.
    (จองก่อนล่วงหน้า)
    ■ค่าไกด์ 220 บาท
    ■ค่าเข้าอุทยานฯ 60 บาท
    ●รวมค่าใช้จ่าย 680 บาท
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    》》คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ 《《

    ☆รถตู้ดอยอินทนนท์
    084-222-3478
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/kaSDUCvuGJpGmisC/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    ■ชมวีดีโอ
    >>>
    https://youtu.be/tlEaDDtIQFQ?si=LjJ4aHv1RGvDGgWo
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●

    #คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ #มะนาวก้าวเดิน #ทริปเชียงใหม่ #คนเดียวก็เที่ยวได้ #รถไฟ #รถตู้ดอยอินทนนท์ #รถตู้แม่กําปองน้ําพุร้อนสันกําแพง #กิ่วแม่ปาน #เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว #ดอยอินทนนท์ #น้ำตกผาดอกเสี้ยว
    #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    ☆เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผาดอกเสี้ยว 》》เป็นหนึ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ■ระยะทาง 3 ก.ม. ■ใช้เวลาเดิน 2 ช.ม. ครึ่ง ☆เดินลงซะส่วนใหญ่ ไม่เหนื่อย ป่าเขียว เย็นสบาย น้ำตกสวยยยยยย ■■■■■■■■■■■ ☆ค่ารถตู้ไป + กลับ=200×2=400 บาท ☆เวลาไป 07:00 น. ☆เวลากลับ 14:00 น. (จองก่อนล่วงหน้า) ■ค่าไกด์ 220 บาท ■ค่าเข้าอุทยานฯ 60 บาท ●รวมค่าใช้จ่าย 680 บาท ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● 》》คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ 《《 ☆รถตู้ดอยอินทนนท์ 084-222-3478 ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/kaSDUCvuGJpGmisC/?mibextid=qi2Omg 《《 ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● ■ชมวีดีโอ >>> https://youtu.be/tlEaDDtIQFQ?si=LjJ4aHv1RGvDGgWo ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● #คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ #มะนาวก้าวเดิน #ทริปเชียงใหม่ #คนเดียวก็เที่ยวได้ #รถไฟ #รถตู้ดอยอินทนนท์ #รถตู้แม่กําปองน้ําพุร้อนสันกําแพง #กิ่วแม่ปาน #เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว #ดอยอินทนนท์ #น้ำตกผาดอกเสี้ยว #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 149 0 รีวิว
  • เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
    ผาดอกเสี้ยว
    เป็นหนึ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
    ■ระยะทาง 3 ก.ม.
    ■ใช้เวลาเดิน 2 ช.ม. ครึ่ง
    ☆เดินลงซะส่วนใหญ่ ไม่เหนื่อย ป่าเขียว เย็นสบาย น้ำตกสวยยยยยย

    ☆ค่ารถตู้ไป + กลับ=200×2=400 บาท
    ☆เวลาไป 07:00 น.
    ☆เวลากลับ 14:00 น.
    (จองก่อนล่วงหน้า)
    ■ค่าไกด์ 220 บาท
    ■ค่าเข้าอุทยานฯ 60 บาท
    ●รวมค่าใช้จ่าย 680 บาท
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    》》คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ 《《

    ☆รถตู้ดอยอินทนนท์
    084-222-3478
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/kaSDUCvuGJpGmisC/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    ■ชมวีดีโอ
    >>>
    https://youtu.be/tlEaDDtIQFQ?si=LjJ4aHv1RGvDGgWo
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●

    #คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ #มะนาวก้าวเดิน #ทริปเชียงใหม่ #คนเดียวก็เที่ยวได้ #รถไฟ #รถตู้ดอยอินทนนท์ #รถตู้แม่กําปองน้ําพุร้อนสันกําแพง #กิ่วแม่ปาน #เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว #ดอยอินทนนท์ #น้ำตกผาดอกเสี้ยว
    #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผาดอกเสี้ยว เป็นหนึ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ■ระยะทาง 3 ก.ม. ■ใช้เวลาเดิน 2 ช.ม. ครึ่ง ☆เดินลงซะส่วนใหญ่ ไม่เหนื่อย ป่าเขียว เย็นสบาย น้ำตกสวยยยยยย ☆ค่ารถตู้ไป + กลับ=200×2=400 บาท ☆เวลาไป 07:00 น. ☆เวลากลับ 14:00 น. (จองก่อนล่วงหน้า) ■ค่าไกด์ 220 บาท ■ค่าเข้าอุทยานฯ 60 บาท ●รวมค่าใช้จ่าย 680 บาท ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● 》》คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ 《《 ☆รถตู้ดอยอินทนนท์ 084-222-3478 ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/kaSDUCvuGJpGmisC/?mibextid=qi2Omg 《《 ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● ■ชมวีดีโอ >>> https://youtu.be/tlEaDDtIQFQ?si=LjJ4aHv1RGvDGgWo ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● #คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ #มะนาวก้าวเดิน #ทริปเชียงใหม่ #คนเดียวก็เที่ยวได้ #รถไฟ #รถตู้ดอยอินทนนท์ #รถตู้แม่กําปองน้ําพุร้อนสันกําแพง #กิ่วแม่ปาน #เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว #ดอยอินทนนท์ #น้ำตกผาดอกเสี้ยว #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิทยุสื่อสาร Walker-Talkie ระเบิดสังหารที่มีแบรนด์บริษัทญี่ปุ่นIcom ซึ่งปฏิเสธเพราะไม่ได้ผลิตอุปกรณ์และแบตเตอรี่รุ่นนี้มา 10 ปีแล้ว และ Icomเคยได้รับสัญญาจัดหาเครื่องรับส่งสัญญาณให้กับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษ 1990

    19 กันยายน 2567-รายงานข่าวจากTIMEระบุว่า บริษัท Icom.Inc ผู้ผลิตและส่งออกวิทยุสื่อสารที่มีสำนักงานใหญ่ที่โอซากา ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีนี้ว่า Walkie-Talkie รุ่น IC-V82 ที่ปรากฏเป็นข่าวนั้นเคยผลิตและส่งออกไปยังภูมิภาคต่างๆ รวมถึงตะวันออกกลาง จนถึงเดือนตุลาคม 2014 ได้หยุดผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ บริษัทยังยุติการผลิตแบตเตอรี่ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของตัวเครื่องหลักอีกด้วย โดยก่อนหน้านี้ บริษัทได้เตือนลูกค้าว่าวิทยุสื่อสารรุ่น IC-V82 เกือบทั้งหมดในตลาดเป็นของปลอม

    เหตุระเบิดสังหารจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายพันเครื่อง รวมถึงเพจเจอร์และวอล์กี้ทอล์กกี้ ระเบิดขึ้นในช่วงสองวันที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 ราย และบาดเจ็บกว่า 3,000 ราย และกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์กล่าวหารัฐบาลอิสราเอลว่าอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีครั้งนี้ ส่งผลให้ความตึงเครียดในภูมิภาคทวีความรุนแรงมากขึ้น ขณะที่อิสราเอลปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น

    คำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบคือมีการฝังวัตถุระเบิดในอุปกรณ์เหล่านี้อย่างไร ? หากวิทยุสื่อสารของ Icom เป็นของแท้และผลิตขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เป็นไปได้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้ได้รับการดัดแปลงหลังจากขายให้กับลูกค้าเดิมไปแล้ว บริษัทไม่สามารถระบุได้ว่าวิทยุสื่อสารเหล่านี้เป็นของบริษัทหรือไม่ แต่ระบุว่าอุปกรณ์ที่ระเบิดดูเหมือนจะไม่มีฉลากโฮโลแกรมที่ติดอยู่กับผลิตภัณฑ์

    บริษัทกล่าวว่าวิทยุสื่อสารทั้งหมดของบริษัทผลิตขึ้นที่โรงงานในจังหวัดวากายามะทางตะวันตกของญี่ปุ่น บริษัทปฏิบัติตามขั้นตอนความปลอดภัยที่กำหนดโดยกฎระเบียบของรัฐบาล และไม่ได้ว่าจ้างให้บริษัทภายนอกผลิตในต่างประเทศ

    โยชิกิ เอโนโมโตะ กรรมการของ Icom กล่าวในรายงานของ Kyodo ว่าแบตเตอรี่อาจได้รับการดัดแปลงด้วยวัตถุระเบิด เนื่องจากภาพถ่ายของอุปกรณ์แสดงให้เห็นความเสียหายร้ายแรงบริเวณช่องใส่แบตเตอรี่ ขณะที่หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น 2.6% ท่ามกลางการพุ่งสูงขึ้นของหุ้นญี่ปุ่น

    การระเบิดสังหารที่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในชีวิตประจำวันอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการก่อการร้ายรูปแบบใหม่ ตามที่มิตสึรุ ฟูกูดะ ศาสตราจารย์ด้านการจัดการความเสี่ยงที่มหาวิทยาลัยนิฮอนกล่าว “สิ่งนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้บริษัทต่างๆ ขยายขอบเขตการกำกับดูแลความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทานของตน” ให้ครอบคลุมถึงการจัดจำหน่ายและการจัดส่ง เขากล่าว

    รัฐบาลญี่ปุ่นยังคงกำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกล่าวว่า Icom ได้รับสัญญาจัดหาเครื่องรับส่งสัญญาณให้กับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษ 1990

    https://time.com/7022598/lebanon-walkie-talkies-explosion-japan-icom/

    #Thaitimes
    วิทยุสื่อสาร Walker-Talkie ระเบิดสังหารที่มีแบรนด์บริษัทญี่ปุ่นIcom ซึ่งปฏิเสธเพราะไม่ได้ผลิตอุปกรณ์และแบตเตอรี่รุ่นนี้มา 10 ปีแล้ว และ Icomเคยได้รับสัญญาจัดหาเครื่องรับส่งสัญญาณให้กับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษ 1990 19 กันยายน 2567-รายงานข่าวจากTIMEระบุว่า บริษัท Icom.Inc ผู้ผลิตและส่งออกวิทยุสื่อสารที่มีสำนักงานใหญ่ที่โอซากา ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีนี้ว่า Walkie-Talkie รุ่น IC-V82 ที่ปรากฏเป็นข่าวนั้นเคยผลิตและส่งออกไปยังภูมิภาคต่างๆ รวมถึงตะวันออกกลาง จนถึงเดือนตุลาคม 2014 ได้หยุดผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ บริษัทยังยุติการผลิตแบตเตอรี่ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของตัวเครื่องหลักอีกด้วย โดยก่อนหน้านี้ บริษัทได้เตือนลูกค้าว่าวิทยุสื่อสารรุ่น IC-V82 เกือบทั้งหมดในตลาดเป็นของปลอม เหตุระเบิดสังหารจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายพันเครื่อง รวมถึงเพจเจอร์และวอล์กี้ทอล์กกี้ ระเบิดขึ้นในช่วงสองวันที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 ราย และบาดเจ็บกว่า 3,000 ราย และกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์กล่าวหารัฐบาลอิสราเอลว่าอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีครั้งนี้ ส่งผลให้ความตึงเครียดในภูมิภาคทวีความรุนแรงมากขึ้น ขณะที่อิสราเอลปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น คำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบคือมีการฝังวัตถุระเบิดในอุปกรณ์เหล่านี้อย่างไร ? หากวิทยุสื่อสารของ Icom เป็นของแท้และผลิตขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เป็นไปได้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้ได้รับการดัดแปลงหลังจากขายให้กับลูกค้าเดิมไปแล้ว บริษัทไม่สามารถระบุได้ว่าวิทยุสื่อสารเหล่านี้เป็นของบริษัทหรือไม่ แต่ระบุว่าอุปกรณ์ที่ระเบิดดูเหมือนจะไม่มีฉลากโฮโลแกรมที่ติดอยู่กับผลิตภัณฑ์ บริษัทกล่าวว่าวิทยุสื่อสารทั้งหมดของบริษัทผลิตขึ้นที่โรงงานในจังหวัดวากายามะทางตะวันตกของญี่ปุ่น บริษัทปฏิบัติตามขั้นตอนความปลอดภัยที่กำหนดโดยกฎระเบียบของรัฐบาล และไม่ได้ว่าจ้างให้บริษัทภายนอกผลิตในต่างประเทศ โยชิกิ เอโนโมโตะ กรรมการของ Icom กล่าวในรายงานของ Kyodo ว่าแบตเตอรี่อาจได้รับการดัดแปลงด้วยวัตถุระเบิด เนื่องจากภาพถ่ายของอุปกรณ์แสดงให้เห็นความเสียหายร้ายแรงบริเวณช่องใส่แบตเตอรี่ ขณะที่หุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น 2.6% ท่ามกลางการพุ่งสูงขึ้นของหุ้นญี่ปุ่น การระเบิดสังหารที่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในชีวิตประจำวันอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการก่อการร้ายรูปแบบใหม่ ตามที่มิตสึรุ ฟูกูดะ ศาสตราจารย์ด้านการจัดการความเสี่ยงที่มหาวิทยาลัยนิฮอนกล่าว “สิ่งนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้บริษัทต่างๆ ขยายขอบเขตการกำกับดูแลความเสี่ยงของห่วงโซ่อุปทานของตน” ให้ครอบคลุมถึงการจัดจำหน่ายและการจัดส่ง เขากล่าว รัฐบาลญี่ปุ่นยังคงกำลังรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกล่าวว่า Icom ได้รับสัญญาจัดหาเครื่องรับส่งสัญญาณให้กับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษ 1990 https://time.com/7022598/lebanon-walkie-talkies-explosion-japan-icom/ #Thaitimes
    TIME.COM
    Japanese Company Investigates Exploding Walkie-Talkies in Lebanon
    Icom Inc., whose brand appears on devices that exploded in Lebanon, said it halted production a decade ago of the model allegedly used in the attacks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • สุดยอด ปรบมือ Soft Power ต้องมา
    น้องหมูเด้ง (ฮิปโปแคระ) ขวัญใจมหาชนทั้งไทย และต่างประเทศ
    สามารถเพิ่มยอดจำนวนนักท่องเที่ยว
    ให้กับสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #หมูเด้ง #thaitimes
    🦛 สุดยอด ปรบมือ Soft Power ต้องมา น้องหมูเด้ง (ฮิปโปแคระ) ขวัญใจมหาชนทั้งไทย และต่างประเทศ สามารถเพิ่มยอดจำนวนนักท่องเที่ยว ให้กับสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว #หุ้นติดดอย #การลงทุน #หมูเด้ง #thaitimes
    Like
    Love
    Wow
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/b3oCQnHaruU?si=OcB_KHifoGnqC_09

    #Thaitimes
    https://youtu.be/b3oCQnHaruU?si=OcB_KHifoGnqC_09 #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • ราชตฤณมัยสมาคมฯเดินหน้าสร้างสนามม้าแห่งใหม่บนพื้นที่ 3,000 ไร่ ในเขตหนองจอก ก่อนขยายเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 2แสนล้าน ภายใต้ชื่อโครงการ "The Royal Siam Haven" หลังจากร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร มีผลบังคับใช้

    19 กันยายน 2567-รายงานข่าวไทยพีบีเอสระบุว่าราชตฤณมัยสมาคมฯ โดยบริษัท รอยัล สปอร์ต คอมเพล็กซ์ จำกัด แถลงข่าวระบุว่า จะเดินหน้าก่อสร้างสนามม้าแห่งใหม่บนพื้นที่ 3,000 ไร่ ในเขตหนองจอก ก่อนขยายเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หลังจากร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร มีผลบังคับใช้

    ในการแถลงข่าวยังมีการลงนามร่วมกับกลุ่มแคปปิตัลทรัสต์ รับมอบสิทธิในบัญชีพร็อพเทรด 100 ล้านสิทธิ โดยระบุเป้าหมายเพื่อให้คนไทยเรียนรู้ด้านการลงทุน

    ก่อนหน้านี้ ราชตฤณมัยสมาคมฯ ลงนามเดินหน้าโครงการร่วมกับ บริษัท พาวเวอร์ออลเน็ตเวิร์ค บริษัทลูกของกลุ่ม Foxconn จากฮ่องกง และมีแผนลงนามกับผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬาม้าแข่งจากประเทศเกาหลีใต้

    พ.อ.พันธุ์ธัช แสงโชติ ว่าที่เลขาธิการราชตฤณมัยสมาคมฯ เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 ก.ย.นี้ จะมีการลงนามกับกลุ่มทุนรายใหญ่ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการจัดการแข่งขันม้า และสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ตั้งเป้าหมายสร้างที่หนองจอก

    “เราจะไม่รอให้ พ.ร.บ.ผ่านก่อน แต่เราจะสร้างก่อน ตั้งเป้าหมายสร้างที่หนองจอกเพราะดูแล้วคลองเตยน่าจะใช้เวลานาน”

    ขณะที่ นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินกรุงเทพฯ กล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อมสาธารณูปโภค ถนน ระบบน้ำและระบบไฟ เพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาเช่าพื้นที่ประกอบธุรกิจต่าง ๆ ทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า ส่วนประกอบของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ทั้งการแสดงโชว์ สเตเดียม ร้านค้า ร้านอาหาร

    เมื่อมาดูร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ขณะนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.ขึ้นมาใหม่ และผ่านขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นไปเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา จากนี้กระทรวงการคลังจะส่งกลับไปให้ ครม.พิจารณาแก้ไขเป็นรายมาตราต่อไป
    ประเด็นนี้เป็นที่จับตาของภาคประชาชน เพราะมีหลายจุดที่ถูกตัดตอนและแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปจากร่างเดิมของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรฯ หลายจุด เริ่มตั้งแต่การเพิ่มอำนาจคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร หรือที่เรียกว่า ซุปเปอร์บอร์ด ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ให้กำหนดจำนวนใบอนุญาต, เสนอแนะอัตราภาษีที่เกี่ยวข้องกับกาสิโน, กำหนดสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโน และหากมีกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการ ก็ยังเสนอให้ ครม.แก้กฎหมายได้และอายุใบอนุญาตเพิ่มจาก 20 ปี เป็น 30 ปี

    นอกจากนี้ ยังเปิดช่องให้ผู้ประกอบการให้สินเชื่อกับผู้เล่นพนันในสถานประกอบการกาสิโนได้

    ส่วนประเด็นสำคัญที่ถูกตัดออกจากร่างเดิมของ กมธ. คือ การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร ประเด็นนี้ไม่มีในร่างของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

    นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดการพนัน กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ในระยะเวลานาน เชื่อว่าในระยะถัดไป การบังคับใช้กฎหมายอาจไม่เข้มงวดเท่าช่วงแรก ซึ่งในอนาคตอาจมีภาพทั้งกาสิโนขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ หรือเมืองท่องเที่ยวสำคัญ รวมทั้งกาสิโนขนาดกลางและขนาดเล็กในท้องถิ่นต่าง ๆ ก็เป็นที่น่ากังวลว่ากฎหมายเปิดช่องขนาดนี้ เรียกว่าเป็นกฎหมาย "บ่อนบนดิน

    #Thaitimes
    ราชตฤณมัยสมาคมฯเดินหน้าสร้างสนามม้าแห่งใหม่บนพื้นที่ 3,000 ไร่ ในเขตหนองจอก ก่อนขยายเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 2แสนล้าน ภายใต้ชื่อโครงการ "The Royal Siam Haven" หลังจากร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร มีผลบังคับใช้ 19 กันยายน 2567-รายงานข่าวไทยพีบีเอสระบุว่าราชตฤณมัยสมาคมฯ โดยบริษัท รอยัล สปอร์ต คอมเพล็กซ์ จำกัด แถลงข่าวระบุว่า จะเดินหน้าก่อสร้างสนามม้าแห่งใหม่บนพื้นที่ 3,000 ไร่ ในเขตหนองจอก ก่อนขยายเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หลังจากร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร มีผลบังคับใช้ ในการแถลงข่าวยังมีการลงนามร่วมกับกลุ่มแคปปิตัลทรัสต์ รับมอบสิทธิในบัญชีพร็อพเทรด 100 ล้านสิทธิ โดยระบุเป้าหมายเพื่อให้คนไทยเรียนรู้ด้านการลงทุน ก่อนหน้านี้ ราชตฤณมัยสมาคมฯ ลงนามเดินหน้าโครงการร่วมกับ บริษัท พาวเวอร์ออลเน็ตเวิร์ค บริษัทลูกของกลุ่ม Foxconn จากฮ่องกง และมีแผนลงนามกับผู้เชี่ยวชาญด้านกีฬาม้าแข่งจากประเทศเกาหลีใต้ พ.อ.พันธุ์ธัช แสงโชติ ว่าที่เลขาธิการราชตฤณมัยสมาคมฯ เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 ก.ย.นี้ จะมีการลงนามกับกลุ่มทุนรายใหญ่ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการจัดการแข่งขันม้า และสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ตั้งเป้าหมายสร้างที่หนองจอก “เราจะไม่รอให้ พ.ร.บ.ผ่านก่อน แต่เราจะสร้างก่อน ตั้งเป้าหมายสร้างที่หนองจอกเพราะดูแล้วคลองเตยน่าจะใช้เวลานาน” ขณะที่ นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินกรุงเทพฯ กล่าวว่า ได้เตรียมความพร้อมสาธารณูปโภค ถนน ระบบน้ำและระบบไฟ เพื่อให้ผู้สนใจเข้ามาเช่าพื้นที่ประกอบธุรกิจต่าง ๆ ทั้งโรงแรม ศูนย์การค้า ส่วนประกอบของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ทั้งการแสดงโชว์ สเตเดียม ร้านค้า ร้านอาหาร เมื่อมาดูร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ขณะนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.ขึ้นมาใหม่ และผ่านขั้นตอนการรับฟังความคิดเห็นไปเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา จากนี้กระทรวงการคลังจะส่งกลับไปให้ ครม.พิจารณาแก้ไขเป็นรายมาตราต่อไป ประเด็นนี้เป็นที่จับตาของภาคประชาชน เพราะมีหลายจุดที่ถูกตัดตอนและแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปจากร่างเดิมของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรฯ หลายจุด เริ่มตั้งแต่การเพิ่มอำนาจคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร หรือที่เรียกว่า ซุปเปอร์บอร์ด ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ให้กำหนดจำนวนใบอนุญาต, เสนอแนะอัตราภาษีที่เกี่ยวข้องกับกาสิโน, กำหนดสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโน และหากมีกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการ ก็ยังเสนอให้ ครม.แก้กฎหมายได้และอายุใบอนุญาตเพิ่มจาก 20 ปี เป็น 30 ปี นอกจากนี้ ยังเปิดช่องให้ผู้ประกอบการให้สินเชื่อกับผู้เล่นพนันในสถานประกอบการกาสิโนได้ ส่วนประเด็นสำคัญที่ถูกตัดออกจากร่างเดิมของ กมธ. คือ การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงกับพื้นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร ประเด็นนี้ไม่มีในร่างของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดการพนัน กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ในระยะเวลานาน เชื่อว่าในระยะถัดไป การบังคับใช้กฎหมายอาจไม่เข้มงวดเท่าช่วงแรก ซึ่งในอนาคตอาจมีภาพทั้งกาสิโนขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ หรือเมืองท่องเที่ยวสำคัญ รวมทั้งกาสิโนขนาดกลางและขนาดเล็กในท้องถิ่นต่าง ๆ ก็เป็นที่น่ากังวลว่ากฎหมายเปิดช่องขนาดนี้ เรียกว่าเป็นกฎหมาย "บ่อนบนดิน #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • เก่งสุดๆ“ วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์” ฟอร์มสดชนะ ไบรอัน หยาง มืออันดับ 24 ของโลกจากแคนาดา เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย พรุ่งนี้ไปเจอ กินติ้ง นักแบดอินโดนีเวีย ในศึกการแข่งขัน China Open 2024

    ที่มา : https://youtu.be/_qW4IUqL1wY?si=O3Nne2xUh6Y2sK1T

    #Thaitimes
    เก่งสุดๆ“ วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์” ฟอร์มสดชนะ ไบรอัน หยาง มืออันดับ 24 ของโลกจากแคนาดา เข้ารอบ 8 คนสุดท้าย พรุ่งนี้ไปเจอ กินติ้ง นักแบดอินโดนีเวีย ในศึกการแข่งขัน China Open 2024 ที่มา : https://youtu.be/_qW4IUqL1wY?si=O3Nne2xUh6Y2sK1T #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • FED ธนาคารกลางสหรัฐ มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายลงมากถึง 0.5% นับเป็นการลดครั้งแรกในรอบ 4 ปี เพื่อให้เงินเฟ้อขยับลงอย่างยั่งยืนและเศรษฐกิจสหรัฐsoft landing

    19 กันยายน 2567-คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งประชุมกันเมื่อวันที่ 17-18 กันยายนที่ผ่านมา มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายลงมากถึง 0.5% นับเป็นการลดครั้งแรกในรอบ 4 ปี ทำให้อัตราดอกเบี้ยลงไปอยู่ในระดับ 4.75-5% อย่างไรก็ตาม มติครั้งนี้ไม่เป็นเอกฉันท์ เนื่องจากมีกรรมการ 1 คนคัดค้าน โดยเห็นว่าควรลดเพียง 0.25%

    เหตุผลของกรรมการส่วนใหญ่ที่เห็นว่าควรลด 0.5% ก็เพราะมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อลดลงอย่างยั่งยืนและเคลื่อนไหวในทิศทางที่เชื่อว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 2% ขณะเดียวกัน ก็เพื่อรักษาอัตราการจ้างงานไปด้วย โดยสภาวการณ์ในขณะนี้ค่อนข้างมีความสมดุลที่จะเอื้อให้บรรลุเป้าหมายทั้งด้านเงินเฟ้อและอัตราการจ้างงาน

    การลดดอกเบี้ย 0.5% ถูกมองว่าเป็นการลดแบบ “จัมโบ้” หรือค่อนข้างมาก แต่ก็เป็นไปตามที่ตลาดคาดหมาย หลังจากในระยะหลังนักลงทุนเปลี่ยนความคิด จากเดิมที่เชื่อว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยครั้งแรกเพียง 0.25% มาเป็น 0.5% เพื่อป้องกันเศรษฐกิจถดถอย

    ขณะเดียวกัน เมื่อดูจากคาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยของกรรมการรายบุคคล หรือ “Dot Plot” บ่งชี้ว่า จะมีการลดดอกเบี้ยอีก 0.5% ภายในสิ้นปี 2024 นี้ ซึ่งจะมีการประชุมเหลืออยู่ 2 ครั้ง คือ เดือนพฤศจิกายน และธันวาคม จากนั้นปี 2025 จะลดอีก 1% และปีถัดไป 2026 ลดอีก 0.5%

    “เจอโรม พาวเวลล์” ประธานเฟด ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า การลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการ “ปรับปรุง” นโยบายการเงินให้เหมาะสมเพื่อรักษาความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน และขณะเดียวกัน ก็สามารถทำให้เงินเฟ้อมีเสถียรภาพ เป้าหมายของเฟดคือรักษาอัตราเงินเฟ้อให้มีเสถียรภาพ ขณะเดียวกัน ก็ต้องแน่ใจว่าอัตราว่างงานจะไม่สูงขึ้น เป็นการรักษาเสถียรภาพราคาไปพร้อม ๆ กับรักษาการจ้างงานเอาไว้

    ดังนั้น นักลงทุนควรมองว่าการลด 0.5% เป็นการแสดงความ “แน่วแน่” ของเฟดที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ขณะนี้กล่าวได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะที่ดี เติบโตแข็งแกร่ง ตลาดแรงงานยังเข้มแข็ง เงินเฟ้อลดต่ำลง

    พาวเวลล์ย้ำว่า ไม่ต้องการให้นักลงทุนหรือตลาดสันนิษฐานเอาเองว่าการลด 0.5% ในครั้งนี้ จะหมายถึงว่าในอนาคตเฟดจะลดในอัตรานี้ไปเรื่อย ๆ อย่าคิดว่านี่คืออัตราใหม่สำหรับเฟด เพราะเฟดจะไม่เร่งรีบในการผ่อนคลายด้านการเงิน เฟดจะยังทำเหมือนเดิมคือพิจารณาอย่างระมัดระวังในการประชุมแต่ละครั้งก่อนตัดสินใจ

    “ที่ผ่านมาจะเห็นว่าความอดทนรอของเราให้ผลตอบแทนที่ดีกลับมา เห็นได้จากเงินเฟ้อค่อย ๆ ลดลงอย่างยั่งยืน จนกระทั่งทำให้เราสามารถลดดอกเบี้ยได้มากในวันนี้” พาวเวลล์ระบุ

    ถึงแม้การลด 0.5% จะเป็นที่ชอบใจของนักลงทุนส่วนใหญ่ แต่บางคนก็มีมุมมองต่างออกไป เช่น สก๊อต เฮลฟ์สไตน์ หัวหน้ากลยุทธ์การลงทุนของโกลบอล เอ็กซ์ ระบุว่า การลด 0.5% อาจมากเกินไป เพราะตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ในระยะหลังนี้ไม่ได้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโตน้อยลง ไม่จำเป็นต้องลดมากขนาดนั้น ซึ่งอัตรานี้จะสนับสนุนให้มีการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น

    แนนซี เทนเกลอร์ ประธานบริหารของลาฟเฟอร์ เทนเกลอร์ อินเวสต์เมนต์ เห็นว่า เฟดเคลื่อนไหวเร็วเกินไป เพราะถึงแม้เศรษฐกิจจะชะลอลง แต่ยังคงแข็งแกร่ง ถึงแม้การว่างงานจะเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ยังไม่มีการเลิกจ้าง อีกทั้งการเปิดรับตำแหน่งงานใหม่ในสหรัฐยังคงมีจำนวนมากกว่าช่วงก่อนเกิดโควิดด้วยซ้ำ “คำวิพากษ์วิจารณ์ของฉันที่มีต่อเฟดก็คือเน้นการมองในระยะสั้น โดยมุ่งเน้นดูข้อมูลย้อนหลัง แค่ข้อมูลจ้างงานที่อ่อนแอเพียงสัปดาห์เดียว ก็ทำให้ลดดอกเบี้ยมากขนาดนี้”

    ฟิลิป สแตรล ประธานเจ้าหน้าที่ลงทุน ของมอร์นิ่งสตาร์ เวลธ์ ชี้ว่า การลดดอกเบี้ยถึง 0.5% เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้น้อยในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน อย่างเช่น วิกฤตการเงินครั้งร้ายแรงในปี 2008 และโควิด-19 ระบาดในปี 2020 สำหรับในครั้งนี้ถือว่าลดมากเกินไปและเร็วเกินไป ทั้งที่ข้อมูลเศรษฐกิจค่อนข้างแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับการผ่อนคลายทางการเงินช่วงอื่น ๆ ภายใต้การว่างงานที่ 4.2% นอกจากนี้จีดีพีไตรมาส 2 ก็ขยายตัวถึง 3%

    “การลดมากขนาดนี้เป็นตัวชี้ว่าเฟดมีความสบายใจที่เงินเฟ้อขยับลงอย่างยั่งยืน และตอนนี้ก็ปรับเปลี่ยนทิศทางไปมุ่งเน้นการทำให้เศรษฐกิจชะลอลงอย่างSoft Landing “

    ที่มา : https://youtu.be/EgW_pSJqQEc?si=uk4HLrZSsqAVl2AL

    #Thaitimes
    FED ธนาคารกลางสหรัฐ มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายลงมากถึง 0.5% นับเป็นการลดครั้งแรกในรอบ 4 ปี เพื่อให้เงินเฟ้อขยับลงอย่างยั่งยืนและเศรษฐกิจสหรัฐsoft landing 19 กันยายน 2567-คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งประชุมกันเมื่อวันที่ 17-18 กันยายนที่ผ่านมา มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายลงมากถึง 0.5% นับเป็นการลดครั้งแรกในรอบ 4 ปี ทำให้อัตราดอกเบี้ยลงไปอยู่ในระดับ 4.75-5% อย่างไรก็ตาม มติครั้งนี้ไม่เป็นเอกฉันท์ เนื่องจากมีกรรมการ 1 คนคัดค้าน โดยเห็นว่าควรลดเพียง 0.25% เหตุผลของกรรมการส่วนใหญ่ที่เห็นว่าควรลด 0.5% ก็เพราะมั่นใจมากขึ้นว่าเงินเฟ้อลดลงอย่างยั่งยืนและเคลื่อนไหวในทิศทางที่เชื่อว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ 2% ขณะเดียวกัน ก็เพื่อรักษาอัตราการจ้างงานไปด้วย โดยสภาวการณ์ในขณะนี้ค่อนข้างมีความสมดุลที่จะเอื้อให้บรรลุเป้าหมายทั้งด้านเงินเฟ้อและอัตราการจ้างงาน การลดดอกเบี้ย 0.5% ถูกมองว่าเป็นการลดแบบ “จัมโบ้” หรือค่อนข้างมาก แต่ก็เป็นไปตามที่ตลาดคาดหมาย หลังจากในระยะหลังนักลงทุนเปลี่ยนความคิด จากเดิมที่เชื่อว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยครั้งแรกเพียง 0.25% มาเป็น 0.5% เพื่อป้องกันเศรษฐกิจถดถอย ขณะเดียวกัน เมื่อดูจากคาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยของกรรมการรายบุคคล หรือ “Dot Plot” บ่งชี้ว่า จะมีการลดดอกเบี้ยอีก 0.5% ภายในสิ้นปี 2024 นี้ ซึ่งจะมีการประชุมเหลืออยู่ 2 ครั้ง คือ เดือนพฤศจิกายน และธันวาคม จากนั้นปี 2025 จะลดอีก 1% และปีถัดไป 2026 ลดอีก 0.5% “เจอโรม พาวเวลล์” ประธานเฟด ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า การลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการ “ปรับปรุง” นโยบายการเงินให้เหมาะสมเพื่อรักษาความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน และขณะเดียวกัน ก็สามารถทำให้เงินเฟ้อมีเสถียรภาพ เป้าหมายของเฟดคือรักษาอัตราเงินเฟ้อให้มีเสถียรภาพ ขณะเดียวกัน ก็ต้องแน่ใจว่าอัตราว่างงานจะไม่สูงขึ้น เป็นการรักษาเสถียรภาพราคาไปพร้อม ๆ กับรักษาการจ้างงานเอาไว้ ดังนั้น นักลงทุนควรมองว่าการลด 0.5% เป็นการแสดงความ “แน่วแน่” ของเฟดที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ขณะนี้กล่าวได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะที่ดี เติบโตแข็งแกร่ง ตลาดแรงงานยังเข้มแข็ง เงินเฟ้อลดต่ำลง พาวเวลล์ย้ำว่า ไม่ต้องการให้นักลงทุนหรือตลาดสันนิษฐานเอาเองว่าการลด 0.5% ในครั้งนี้ จะหมายถึงว่าในอนาคตเฟดจะลดในอัตรานี้ไปเรื่อย ๆ อย่าคิดว่านี่คืออัตราใหม่สำหรับเฟด เพราะเฟดจะไม่เร่งรีบในการผ่อนคลายด้านการเงิน เฟดจะยังทำเหมือนเดิมคือพิจารณาอย่างระมัดระวังในการประชุมแต่ละครั้งก่อนตัดสินใจ “ที่ผ่านมาจะเห็นว่าความอดทนรอของเราให้ผลตอบแทนที่ดีกลับมา เห็นได้จากเงินเฟ้อค่อย ๆ ลดลงอย่างยั่งยืน จนกระทั่งทำให้เราสามารถลดดอกเบี้ยได้มากในวันนี้” พาวเวลล์ระบุ ถึงแม้การลด 0.5% จะเป็นที่ชอบใจของนักลงทุนส่วนใหญ่ แต่บางคนก็มีมุมมองต่างออกไป เช่น สก๊อต เฮลฟ์สไตน์ หัวหน้ากลยุทธ์การลงทุนของโกลบอล เอ็กซ์ ระบุว่า การลด 0.5% อาจมากเกินไป เพราะตัวเลขเศรษฐกิจส่วนใหญ่ในระยะหลังนี้ไม่ได้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังเติบโตน้อยลง ไม่จำเป็นต้องลดมากขนาดนั้น ซึ่งอัตรานี้จะสนับสนุนให้มีการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น แนนซี เทนเกลอร์ ประธานบริหารของลาฟเฟอร์ เทนเกลอร์ อินเวสต์เมนต์ เห็นว่า เฟดเคลื่อนไหวเร็วเกินไป เพราะถึงแม้เศรษฐกิจจะชะลอลง แต่ยังคงแข็งแกร่ง ถึงแม้การว่างงานจะเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ยังไม่มีการเลิกจ้าง อีกทั้งการเปิดรับตำแหน่งงานใหม่ในสหรัฐยังคงมีจำนวนมากกว่าช่วงก่อนเกิดโควิดด้วยซ้ำ “คำวิพากษ์วิจารณ์ของฉันที่มีต่อเฟดก็คือเน้นการมองในระยะสั้น โดยมุ่งเน้นดูข้อมูลย้อนหลัง แค่ข้อมูลจ้างงานที่อ่อนแอเพียงสัปดาห์เดียว ก็ทำให้ลดดอกเบี้ยมากขนาดนี้” ฟิลิป สแตรล ประธานเจ้าหน้าที่ลงทุน ของมอร์นิ่งสตาร์ เวลธ์ ชี้ว่า การลดดอกเบี้ยถึง 0.5% เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้น้อยในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน อย่างเช่น วิกฤตการเงินครั้งร้ายแรงในปี 2008 และโควิด-19 ระบาดในปี 2020 สำหรับในครั้งนี้ถือว่าลดมากเกินไปและเร็วเกินไป ทั้งที่ข้อมูลเศรษฐกิจค่อนข้างแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับการผ่อนคลายทางการเงินช่วงอื่น ๆ ภายใต้การว่างงานที่ 4.2% นอกจากนี้จีดีพีไตรมาส 2 ก็ขยายตัวถึง 3% “การลดมากขนาดนี้เป็นตัวชี้ว่าเฟดมีความสบายใจที่เงินเฟ้อขยับลงอย่างยั่งยืน และตอนนี้ก็ปรับเปลี่ยนทิศทางไปมุ่งเน้นการทำให้เศรษฐกิจชะลอลงอย่างSoft Landing “ ที่มา : https://youtu.be/EgW_pSJqQEc?si=uk4HLrZSsqAVl2AL #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 288 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาจากความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆครับ
    แอดมิน ขอเล่าภาพ SET ณ ปัจจุบัน (19/09/2567)
    ล่าสุดดัชนีอยู่ที่ 1440.35 จุด วันนี้บวกไป 19 จุด
    หรือ เพิ่มขึ้น 1.33%

    ถ้าเรามองแนวโน้ม หรือ เทรนด์ของ SET ในปัจจุบัน
    (ในระยะสั้น) จะเห็นเทรนด์หรือแนวโน้มเป็นเทรนด์ขาขึ้น
    ส่วนในระยะยาว (ที่จะวัดผลกันจริงๆ) ต้องติดตามต่อไป
    ้เป็นระยะ

    ทีนี้มาดูในแง่ของราคาหุ้น ในแต่ละตัว ที่นักลงทุนเข้าซื้อ
    ก็จะแปรผันไปตาม เป้าหมายของนักลงทุนแต่ละท่าน
    หรือ แต่ละกลุ่มที่เข้าซื้อว่ามีจุดประสงค์อะไร
    เช่น เพื่อปันผล หรือ เพื่อกินส่วนต่างของราคา

    ถ้ามองจากกราฟ สายปันผลที่ต้องการเก็บของที่ราคาต่ำ
    และต้นทุนไม่สูง ราคาเหมาะสม จะเริ่มเก็บทะยอยหุ้นมา
    ตั้งแต่ช่วง SET อยู่ที่ราวๆ 1274-1300 จุด คงไม่มาไล่ราคา
    หรือก็บหุ้นช่วงนี้ เพราะมีเป้าหมายถือยาว

    ภาพที่จะเห็นช่วงนี้ คือ ฝั่งเก็งกำไร ซึ่งจะเปลี่ยนมือ
    ซื้อขายหุ้น กันไปมา ไปเรื่อยๆ

    ดังนั้น นักลงทุนที่มักติดดอยสูงๆ โดยส่วนใหญ่ มักเป็นฝั่ง
    นักลงทุนรายย่อย ที่เข้าซื้อแบบไล่ราคา และเก็งกำไร
    ตามกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศ โบรก และ กองทุน
    ที่มักช่วงชิงจังหวะ ที่ได้เปรียบ ในการเทขายทำกำไร
    ออกมาได้ก่อนเสมอ

    สรุปแล้ว นักลงทุนรายย่อย ก็ขอให้ระวังกันด้วยครับ
    โดยเฉพาะการซื้อแบบเก็งกำไร และ ไล่ราคา
    เพราะมีโอกาสติดดอยได้สูง ถ้าในช่วงจังหวะ
    โดนเทขายทำกำไร และไม่ยอมคัต ตัดขาดทุน
    ออกมา

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET
    #thaitimes
    💥💥มาจากความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆครับ แอดมิน ขอเล่าภาพ SET ณ ปัจจุบัน (19/09/2567) ล่าสุดดัชนีอยู่ที่ 1440.35 จุด วันนี้บวกไป 19 จุด หรือ เพิ่มขึ้น 1.33% 🚩ถ้าเรามองแนวโน้ม หรือ เทรนด์ของ SET ในปัจจุบัน (ในระยะสั้น) จะเห็นเทรนด์หรือแนวโน้มเป็นเทรนด์ขาขึ้น ส่วนในระยะยาว (ที่จะวัดผลกันจริงๆ) ต้องติดตามต่อไป ้เป็นระยะ 🚩ทีนี้มาดูในแง่ของราคาหุ้น ในแต่ละตัว ที่นักลงทุนเข้าซื้อ ก็จะแปรผันไปตาม เป้าหมายของนักลงทุนแต่ละท่าน หรือ แต่ละกลุ่มที่เข้าซื้อว่ามีจุดประสงค์อะไร เช่น เพื่อปันผล หรือ เพื่อกินส่วนต่างของราคา 🚩ถ้ามองจากกราฟ สายปันผลที่ต้องการเก็บของที่ราคาต่ำ และต้นทุนไม่สูง ราคาเหมาะสม จะเริ่มเก็บทะยอยหุ้นมา ตั้งแต่ช่วง SET อยู่ที่ราวๆ 1274-1300 จุด คงไม่มาไล่ราคา หรือก็บหุ้นช่วงนี้ เพราะมีเป้าหมายถือยาว 🚩ภาพที่จะเห็นช่วงนี้ คือ ฝั่งเก็งกำไร ซึ่งจะเปลี่ยนมือ ซื้อขายหุ้น กันไปมา ไปเรื่อยๆ 🚩ดังนั้น นักลงทุนที่มักติดดอยสูงๆ โดยส่วนใหญ่ มักเป็นฝั่ง นักลงทุนรายย่อย ที่เข้าซื้อแบบไล่ราคา และเก็งกำไร ตามกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศ โบรก และ กองทุน ที่มักช่วงชิงจังหวะ ที่ได้เปรียบ ในการเทขายทำกำไร ออกมาได้ก่อนเสมอ 🚩สรุปแล้ว นักลงทุนรายย่อย ก็ขอให้ระวังกันด้วยครับ โดยเฉพาะการซื้อแบบเก็งกำไร และ ไล่ราคา เพราะมีโอกาสติดดอยได้สูง ถ้าในช่วงจังหวะ โดนเทขายทำกำไร และไม่ยอมคัต ตัดขาดทุน ออกมา #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • การ์ตูนการเมือง : บัญชา/คามิน
    ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์

    #Thaitimes
    การ์ตูนการเมือง : บัญชา/คามิน ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ #Thaitimes
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • Kenji Fukaya นักคณิตศาสตร์ชาวญี่ปุ่นเจ้าของรางวัล ได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยStony Brookอันดับหนึ่งของนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เพื่อไปร่วมงานกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ Tsinghua ของจีนในตำแหน่งศาสตราจารย์ประจำ

    19 กันยายน2567-รายงานข่าว SMCP ระบุว่า Kenji Fukaya นักคณิตศาสตร์ชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและเจ้าของรางวัล Fujihara Awardในปี 2012 ล่าสุดได้ลาออกจากมหาวิทยาลัย Stony Brook( SBU)ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยรัอัดฐอัน 1 ของนิวยอร์ก เพื่อไปร่วมงานกับมหาวิทยาลัย Tsinghua ของจีนในตำแหน่งศาสตราจารย์ประจำของมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน

    Fukaya เคยเป็นสมาชิกถาวรของ Simons Centre for Geometry and Physics ที่ Stony Brook เป็นที่รู้จักจากผลงานด้านเรขาคณิตซิมเพล็กติกและ เรขาคณิตรีมันเนียน ผลงานพื้นฐานมากมายของเขาต่อคณิตศาสตร์รวมถึงการค้นพบหมวดหมู่ฟูกายะตามชื่อของเขา

    ล่าสุดศาสตราจารย์Fukaya ได้ไปบรรยายครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยจีน Tsinghua เมื่อวันที่ 11 กันยายน ตามข้อมูลจาก Yau Mathematical Sciences Centre ของมหาวิทยาลัย

    หลักสูตรเปิดเกี่ยวกับเรขาคณิตซิมเพล็กติกของเขา ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับพื้นที่ที่วัตถุ เช่น ดาวเคราะห์และอนุภาคเคลื่อนที่และโต้ตอบกัน ดึงดูดนักศึกษาและครูจำนวนมาก โดยศูนย์ดังกล่าวได้รายงานเรื่องนี้ในบัญชี WeChat อย่างเป็นทางการ

    ในวิดีโอที่ศูนย์Yau Mathematical Science แชร์เผยแพร่ ฟูกายะกล่าวว่านักเรียนจีนทำให้เขานึกถึงนักเรียนญี่ปุ่นสมัยยังเด็ก ที่มีความมุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างมากในการเรียนคณิตศาสตร์

    เขาแสดงความหวังว่าเมื่อมีนักวิจัยที่เกิดในจีนกลับมาสอนที่นั่นมากขึ้น ชุมชนนักคณิตศาสตร์ที่มีทักษะสูงและได้รับการศึกษาในประเทศก็จะเติบโตต่อไป

    ทั้งนี้นโยบายและวิสัยทัศน์ของจีนที่ ตั้งเป้าดึงดูดคนเก่งด้าน STEM (Science-Technology-Engineering-Mathematic) ให้มากขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายในการพึ่งพาตนเองด้านวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีสู่ความเป็นเลิศ

    ที่มา https://www.scmp.com/news/china/science/article/3279101/respected-mathematician-kenji-fukaya-leaves-us-teach-chinas-tsinghua-university

    #Thaitimes
    Kenji Fukaya นักคณิตศาสตร์ชาวญี่ปุ่นเจ้าของรางวัล ได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยStony Brookอันดับหนึ่งของนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เพื่อไปร่วมงานกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ Tsinghua ของจีนในตำแหน่งศาสตราจารย์ประจำ 19 กันยายน2567-รายงานข่าว SMCP ระบุว่า Kenji Fukaya นักคณิตศาสตร์ชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและเจ้าของรางวัล Fujihara Awardในปี 2012 ล่าสุดได้ลาออกจากมหาวิทยาลัย Stony Brook( SBU)ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยรัอัดฐอัน 1 ของนิวยอร์ก เพื่อไปร่วมงานกับมหาวิทยาลัย Tsinghua ของจีนในตำแหน่งศาสตราจารย์ประจำของมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน Fukaya เคยเป็นสมาชิกถาวรของ Simons Centre for Geometry and Physics ที่ Stony Brook เป็นที่รู้จักจากผลงานด้านเรขาคณิตซิมเพล็กติกและ เรขาคณิตรีมันเนียน ผลงานพื้นฐานมากมายของเขาต่อคณิตศาสตร์รวมถึงการค้นพบหมวดหมู่ฟูกายะตามชื่อของเขา ล่าสุดศาสตราจารย์Fukaya ได้ไปบรรยายครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยจีน Tsinghua เมื่อวันที่ 11 กันยายน ตามข้อมูลจาก Yau Mathematical Sciences Centre ของมหาวิทยาลัย หลักสูตรเปิดเกี่ยวกับเรขาคณิตซิมเพล็กติกของเขา ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับพื้นที่ที่วัตถุ เช่น ดาวเคราะห์และอนุภาคเคลื่อนที่และโต้ตอบกัน ดึงดูดนักศึกษาและครูจำนวนมาก โดยศูนย์ดังกล่าวได้รายงานเรื่องนี้ในบัญชี WeChat อย่างเป็นทางการ ในวิดีโอที่ศูนย์Yau Mathematical Science แชร์เผยแพร่ ฟูกายะกล่าวว่านักเรียนจีนทำให้เขานึกถึงนักเรียนญี่ปุ่นสมัยยังเด็ก ที่มีความมุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างมากในการเรียนคณิตศาสตร์ เขาแสดงความหวังว่าเมื่อมีนักวิจัยที่เกิดในจีนกลับมาสอนที่นั่นมากขึ้น ชุมชนนักคณิตศาสตร์ที่มีทักษะสูงและได้รับการศึกษาในประเทศก็จะเติบโตต่อไป ทั้งนี้นโยบายและวิสัยทัศน์ของจีนที่ ตั้งเป้าดึงดูดคนเก่งด้าน STEM (Science-Technology-Engineering-Mathematic) ให้มากขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายในการพึ่งพาตนเองด้านวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีสู่ความเป็นเลิศ ที่มา https://www.scmp.com/news/china/science/article/3279101/respected-mathematician-kenji-fukaya-leaves-us-teach-chinas-tsinghua-university #Thaitimes
    WWW.SCMP.COM
    Respected mathematician Kenji Fukaya leaves US for China’s Tsinghua University
    In a video, Fukaya said Chinese students reminded him of Japanese students’ strong focus and dedication to studying mathematics.
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว
  • 19/09/2567 วันนี้น่าสนใจตรงที่
    นักลงทุนรายย่อย เอาคืน จัดหุ้นยัดใส่มือ
    ต่างประเทศ โบรก และ กองทุน แบบอิ่มๆ จุกๆ
    แถมฝากตบท้าย ช่วยดึงราคาขึ้นไปเยอะๆ สูงๆ
    พวกผมรอปล่อยของอยู่จะได้หลุดดอย :)

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย
    #SET #thaitimes
    🔥🔥19/09/2567 วันนี้น่าสนใจตรงที่ นักลงทุนรายย่อย เอาคืน จัดหุ้นยัดใส่มือ ต่างประเทศ โบรก และ กองทุน แบบอิ่มๆ จุกๆ แถมฝากตบท้าย ช่วยดึงราคาขึ้นไปเยอะๆ สูงๆ พวกผมรอปล่อยของอยู่จะได้หลุดดอย :) #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ตลาดหุ้นไทย #SET #thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่แหละอเมริกา! Angel Reese นักบาสหญิงผิวสีดาวเด่นของสหรัฐประกาศทิ้งอเมริกาอย่างถาวรเพราะ“ ที่นี่ไม่มีความเคารพให้เกียรติตัวเธอ(“No Respect Here”)

    19 กันยายน 2567 -รายงานข่าวสื่อออนไลน์ระบุว่าแองเจิล รีส หนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในวงการบาสเกตบอลหญิง ได้ประกาศการตัดสินใจออกจากสหรัฐอเมริกาอย่างถาวร ประเทศประชาธิปไตย ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างกระแสฮือฮาไปทั่วโลกกีฬา รีสซึ่งครองความยิ่งใหญ่ทั้งในสนามและนอกสนามจนทำให้แฟนๆ ต่างชื่นชอบเธอ ได้อ้างถึงสาเหตุหลักที่ทำให้เธอออกจากทีมเนื่องจากขาดความเคารพและชื่นชมในความสามารถและความพยายามของเธอ

    ประวัติ แองเจิล รีสเกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2002 เป็นนักบาสเก็ตบอลมืออาชีพชาวอเมริกันของทีม Chicago Skyในสมาคมบาสเก็ตบอลหญิงแห่งชาติ (WNBA) มีชื่อเล่นว่า " Bayou-Barbie " และ " Chi-Barbie "

    เส้นทางสู่การเป็นดาราของรีสนั้นน่าทึ่งมาก ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เธอครองความสำเร็จในสนามบาสเกตบอลระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ไปจนถึงผลงานอันโดดเด่นของเธอที่มหาวิทยาลัยแมริแลนด์ เธอได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างต่อเนื่องว่าเธอมีความสามารถที่โดดเด่น การผสมผสานระหว่างขนาด ทักษะ และความแข็งแกร่งของเธอทำให้เธอเป็นกำลังสำคัญที่ต้องจับตามองในสนาม และเธอก็กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นบาสเกตบอลหญิงระดับวิทยาลัยที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลาอันรวดเร็ว

    การเปลี่ยนแปลงของรีสสู่ระดับมืออาชีพนั้นราบรื่นมาก เธอถูกดราฟต์เข้าสู่ สมาคมบาสเก็ตบอลหญิงแห่งชาติ WNBA และสร้างผลงานในทันที โดยแสดงความสามารถของเธอและได้รับคำชื่นชมจากแฟนๆ และนักวิเคราะห์ แม้จะประสบความสำเร็จในสนาม แต่รีสก็มักจะพูดถึงความท้าทายที่เธอต้องเผชิญนอกสนามอยู่เสมอ รวมถึงการไม่ได้รับการยอมรับและความเคารพที่เธอรู้สึกว่าเธอสมควรได้รับ

    ในขณะที่แองเจิล รีสเตรียมตัวเริ่มต้นบทต่อไปในชีวิตและอาชีพการงาน เธอทิ้งมรดกแห่งความเป็นเลิศและความยืดหยุ่นเอาไว้ การตัดสินใจออกจากสหรัฐอเมริกาของเธอเป็นการแสดงออกที่ทรงพลังเกี่ยวกับความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงและความสำคัญของการสร้างสภาพแวดล้อมที่นักกีฬาทุกคนรู้สึกได้รับการเคารพและมีคุณค่า รีสยังไม่ได้ประกาศว่าเธอวางแผนที่จะดำเนินอาชีพต่อไปที่ใด แต่ไม่มีข้อสงสัยว่าเธอจะยังคงประสบความสำเร็จต่อไปไม่ว่าจะไปที่ใด

    การตัดสินใจของแองเจิล รีสที่จะออกจากสหรัฐอเมริกาอย่างถาวรเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในโลกกีฬา ซึ่งเน้นย้ำถึงความท้าทายที่นักกีฬา โดยเฉพาะผู้หญิงผิวสีต้องเผชิญในการได้รับความเคารพและการยอมรับที่สมควรได้รับ การจากไปของเธอเป็นการสูญเสียสำหรับชุมชนบาสเก็ตบอล แต่ยังเป็นการแสดงออกที่ทรงพลังเกี่ยวกับความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงอีกด้วย ในขณะที่รีสก้าวไปข้างหน้าในอาชีพการงานของเธอ เรื่องราวของเธอจะยังคงเป็นแรงบันดาลใจและท้าทายผู้ที่ยังอยู่ในสหรัฐอเมริกาต่อไป เป็นการเตือนใจว่าความสามารถและความทุ่มเทสมควรได้รับการเคารพและการชื่นชม และการทำงานเพื่อสร้างวัฒนธรรมกีฬาที่ครอบคลุมและเท่าเทียมกันมากขึ้นยังคงดำเนินต่อไป

    #Thaitimes
    นี่แหละอเมริกา! Angel Reese นักบาสหญิงผิวสีดาวเด่นของสหรัฐประกาศทิ้งอเมริกาอย่างถาวรเพราะ“ ที่นี่ไม่มีความเคารพให้เกียรติตัวเธอ(“No Respect Here”) 19 กันยายน 2567 -รายงานข่าวสื่อออนไลน์ระบุว่าแองเจิล รีส หนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดในวงการบาสเกตบอลหญิง ได้ประกาศการตัดสินใจออกจากสหรัฐอเมริกาอย่างถาวร ประเทศประชาธิปไตย ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่สร้างกระแสฮือฮาไปทั่วโลกกีฬา รีสซึ่งครองความยิ่งใหญ่ทั้งในสนามและนอกสนามจนทำให้แฟนๆ ต่างชื่นชอบเธอ ได้อ้างถึงสาเหตุหลักที่ทำให้เธอออกจากทีมเนื่องจากขาดความเคารพและชื่นชมในความสามารถและความพยายามของเธอ ประวัติ แองเจิล รีสเกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2002 เป็นนักบาสเก็ตบอลมืออาชีพชาวอเมริกันของทีม Chicago Skyในสมาคมบาสเก็ตบอลหญิงแห่งชาติ (WNBA) มีชื่อเล่นว่า " Bayou-Barbie " และ " Chi-Barbie " เส้นทางสู่การเป็นดาราของรีสนั้นน่าทึ่งมาก ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เธอครองความสำเร็จในสนามบาสเกตบอลระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ไปจนถึงผลงานอันโดดเด่นของเธอที่มหาวิทยาลัยแมริแลนด์ เธอได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างต่อเนื่องว่าเธอมีความสามารถที่โดดเด่น การผสมผสานระหว่างขนาด ทักษะ และความแข็งแกร่งของเธอทำให้เธอเป็นกำลังสำคัญที่ต้องจับตามองในสนาม และเธอก็กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นบาสเกตบอลหญิงระดับวิทยาลัยที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลาอันรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงของรีสสู่ระดับมืออาชีพนั้นราบรื่นมาก เธอถูกดราฟต์เข้าสู่ สมาคมบาสเก็ตบอลหญิงแห่งชาติ WNBA และสร้างผลงานในทันที โดยแสดงความสามารถของเธอและได้รับคำชื่นชมจากแฟนๆ และนักวิเคราะห์ แม้จะประสบความสำเร็จในสนาม แต่รีสก็มักจะพูดถึงความท้าทายที่เธอต้องเผชิญนอกสนามอยู่เสมอ รวมถึงการไม่ได้รับการยอมรับและความเคารพที่เธอรู้สึกว่าเธอสมควรได้รับ ในขณะที่แองเจิล รีสเตรียมตัวเริ่มต้นบทต่อไปในชีวิตและอาชีพการงาน เธอทิ้งมรดกแห่งความเป็นเลิศและความยืดหยุ่นเอาไว้ การตัดสินใจออกจากสหรัฐอเมริกาของเธอเป็นการแสดงออกที่ทรงพลังเกี่ยวกับความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงและความสำคัญของการสร้างสภาพแวดล้อมที่นักกีฬาทุกคนรู้สึกได้รับการเคารพและมีคุณค่า รีสยังไม่ได้ประกาศว่าเธอวางแผนที่จะดำเนินอาชีพต่อไปที่ใด แต่ไม่มีข้อสงสัยว่าเธอจะยังคงประสบความสำเร็จต่อไปไม่ว่าจะไปที่ใด การตัดสินใจของแองเจิล รีสที่จะออกจากสหรัฐอเมริกาอย่างถาวรเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในโลกกีฬา ซึ่งเน้นย้ำถึงความท้าทายที่นักกีฬา โดยเฉพาะผู้หญิงผิวสีต้องเผชิญในการได้รับความเคารพและการยอมรับที่สมควรได้รับ การจากไปของเธอเป็นการสูญเสียสำหรับชุมชนบาสเก็ตบอล แต่ยังเป็นการแสดงออกที่ทรงพลังเกี่ยวกับความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงอีกด้วย ในขณะที่รีสก้าวไปข้างหน้าในอาชีพการงานของเธอ เรื่องราวของเธอจะยังคงเป็นแรงบันดาลใจและท้าทายผู้ที่ยังอยู่ในสหรัฐอเมริกาต่อไป เป็นการเตือนใจว่าความสามารถและความทุ่มเทสมควรได้รับการเคารพและการชื่นชม และการทำงานเพื่อสร้างวัฒนธรรมกีฬาที่ครอบคลุมและเท่าเทียมกันมากขึ้นยังคงดำเนินต่อไป #Thaitimes
    Like
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • "การหาเงินอาจจะง่ายกว่า"
    -การรักษาเงินไว้-
    ให้อยู่กับเรานานๆ

    เพราะ "การรักษาเงิน"
    -ต้องการการวางแผน-
    ...และวินัยที่ดี
    .
    .
    จากหนังสือ | the psychology of money

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #thepsychologyofmoney #จิตวิทยาว่าด้วยการเงิน
    #Thaitimes #การออมเงิน #การบริหารการเงิน
    "การหาเงินอาจจะง่ายกว่า" -การรักษาเงินไว้- ให้อยู่กับเรานานๆ เพราะ "การรักษาเงิน" -ต้องการการวางแผน- ...และวินัยที่ดี . . จากหนังสือ | the psychology of money #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #thepsychologyofmoney #จิตวิทยาว่าด้วยการเงิน #Thaitimes #การออมเงิน #การบริหารการเงิน
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เก็บเงินไว้"
    ไม่จำเป็นต้องมี เหตุผลพิเศษในการเก็บเงิน
    "การออมเงินเป็นเรื่องสำคัญ"
    และควรทำเสมอ ***โดยไม่ต้องรอให้มีเหตุผลชัดเจน
    .
    .
    จากหนังสือ | the psychology of money

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #the psychology of money #จิตวิทยาว่าด้วยการเงิน
    #Thaitimes #การออมเงิน #การบริหารการเงิน
    "เก็บเงินไว้" ไม่จำเป็นต้องมี เหตุผลพิเศษในการเก็บเงิน "การออมเงินเป็นเรื่องสำคัญ" และควรทำเสมอ ***โดยไม่ต้องรอให้มีเหตุผลชัดเจน . . จากหนังสือ | the psychology of money #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #the psychology of money #จิตวิทยาว่าด้วยการเงิน #Thaitimes #การออมเงิน #การบริหารการเงิน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 285 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อมูลล่าสุดจากเครดิตบูโรเผย
    สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทย ยังวิกฤต
    พบปัจจุบันหนี้ครัวเรือนไทย ทะลุ 13.6 ล้านล้านบาท
    โดยมีหนี้เสียที่มียอดคงค้างเกิน 3 เดือน หรือ NPL
    พุ่งกว่า 1.19 ล้านล้านบาท คิดเป็น 8.7% ของหนี้ทั้งหมด
    ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างไม่เกิน 90 วัน หรือ SM
    ยอดกระโดดเพิ่มขึ้นกว่า 33% ใน 1 เดือน

    เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นความเปราะบางของครัวเรือนไทย
    ในเรื่องภาระหนี้สินในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลไปถึงภาพใหญ่
    คือกำลังซื้อ รวมทั้ง การบริโภคภายในประเทศที่ลดลง

    ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #หนี้ครัวเรือนไทย #thaitimes
    💥💥ข้อมูลล่าสุดจากเครดิตบูโรเผย สถานการณ์หนี้ครัวเรือนไทย ยังวิกฤต พบปัจจุบันหนี้ครัวเรือนไทย ทะลุ 13.6 ล้านล้านบาท โดยมีหนี้เสียที่มียอดคงค้างเกิน 3 เดือน หรือ NPL พุ่งกว่า 1.19 ล้านล้านบาท คิดเป็น 8.7% ของหนี้ทั้งหมด ขณะที่ยอดสินเชื่อคงค้างไม่เกิน 90 วัน หรือ SM ยอดกระโดดเพิ่มขึ้นกว่า 33% ใน 1 เดือน 🚩เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นความเปราะบางของครัวเรือนไทย ในเรื่องภาระหนี้สินในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลไปถึงภาพใหญ่ คือกำลังซื้อ รวมทั้ง การบริโภคภายในประเทศที่ลดลง ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #หนี้ครัวเรือนไทย #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส่งใจและสิ่งของไปกับแคมเปญ "ไปรษณีย์ไทย เชื่อมโยงน้ำใจ ส่งต่อผู้ประสบภัยน้ำท่วม" ส่งฟรี!! ของบริจาคช่วยน้ำท่วมที่ไปรษณีย์ไทยได้ฟรี โดยระบุจ่าหน้าไปยังจังหวัดที่มีผู้ประสบภัยน้ำท่วม ส่งได้ไม่เกิน 20 กิโลกรัม ขอแนะนำว่าควรซักเสื้อผ้าใช้แล้วให้สะอาดก่อนบริจาค

    ข้อมูลที่อยู่ศาลากลาง จังหวัดที่มีน้ำท่วมรับสิ่งของ

    ศาลากลางจังหวัดเชียงราย
    ถ.แม่ฟ้าหลวง ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย 57100

    ศาลากลางจังหวัดพะเยา (หลังใหม่)
    ถ.พหลโยธิน ต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา 56000

    ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่
    ถ.โชตนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50000

    ศาลากลางจังหวัดน่าน
    ถ.สุริยพงษ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.น่าน 55000

    ศาลากลางจังหวัดแพร่
    ถ.ไชยบูรณ์ ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ 54000

    ศาลากลางจังหวัดสตูล
    ถ.สตูลธานี ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล 91000

    ศาลากลางจังหวัดชุมพร
    ถ.ไตรรัตน์ ต.นาชะอัง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร 86000

    ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
    9/99 ถ.เจ้าฟ้า ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต 83000

    ศาลากลางจังหวัดหนองคาย
    ถ.มิตรภาพหนองคาย - อุดรธานี ต. หนองกอมเกาะ อ. เมือง จ.หนองคาย 43000

    ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่)
    ถ.อภิบาลบัญชา ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม 48000
    ใช้รหัสรับฝาก 4440

    ที่มา : รายชื่อที่อยู่ศาลากลางสำหรับส่งสิ่งของบริจาค : https://drive.google.com/drive/folders/12hvhl5Zc1cY1HUBqHYU8r6NXvlWl-yQ0

    รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.thailandpost.co.th/un/article_detail/article/11/32595

    #Thaitimes
    ส่งใจและสิ่งของไปกับแคมเปญ "ไปรษณีย์ไทย เชื่อมโยงน้ำใจ ส่งต่อผู้ประสบภัยน้ำท่วม" ส่งฟรี!! ของบริจาคช่วยน้ำท่วมที่ไปรษณีย์ไทยได้ฟรี โดยระบุจ่าหน้าไปยังจังหวัดที่มีผู้ประสบภัยน้ำท่วม ส่งได้ไม่เกิน 20 กิโลกรัม ขอแนะนำว่าควรซักเสื้อผ้าใช้แล้วให้สะอาดก่อนบริจาค ข้อมูลที่อยู่ศาลากลาง จังหวัดที่มีน้ำท่วมรับสิ่งของ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ถ.แม่ฟ้าหลวง ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย 57100 ศาลากลางจังหวัดพะเยา (หลังใหม่) ถ.พหลโยธิน ต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา 56000 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ถ.โชตนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 50000 ศาลากลางจังหวัดน่าน ถ.สุริยพงษ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.น่าน 55000 ศาลากลางจังหวัดแพร่ ถ.ไชยบูรณ์ ต.ในเวียง อ.เมือง จ.แพร่ 54000 ศาลากลางจังหวัดสตูล ถ.สตูลธานี ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล 91000 ศาลากลางจังหวัดชุมพร ถ.ไตรรัตน์ ต.นาชะอัง อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร 86000 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต 9/99 ถ.เจ้าฟ้า ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต 83000 ศาลากลางจังหวัดหนองคาย ถ.มิตรภาพหนองคาย - อุดรธานี ต. หนองกอมเกาะ อ. เมือง จ.หนองคาย 43000 ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังใหม่) ถ.อภิบาลบัญชา ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม 48000 ใช้รหัสรับฝาก 4440 ที่มา : รายชื่อที่อยู่ศาลากลางสำหรับส่งสิ่งของบริจาค : https://drive.google.com/drive/folders/12hvhl5Zc1cY1HUBqHYU8r6NXvlWl-yQ0 รายละเอียดเพิ่มเติม : https://www.thailandpost.co.th/un/article_detail/article/11/32595 #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 365 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับตาประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง 20 ก.ย.นี้ การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศยากที่จะเป็นจริง คนในวงการอุตสาหกรรมแฉขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ‘นายจ้างเจ๊ง-เจ้าสัวรวย-แรงงานต่างชาติ’ ได้ประโยชน์ เสนอรัฐทำ ‘Pay by Skills-ลดค่าครองชีพ’ นายจ้างอยู่ได้ แรงงานได้ประโยชน์ แนะสังคมย้อนฟังคลิป ‘ทักษิณ-นายกฯ อิ๊ง’ ไม่พูดถึงค่าแรง ทั้งที่เพื่อไทยหาเสียงไว้ที่ 600 บาท

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000087586

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    จับตาประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง 20 ก.ย.นี้ การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศยากที่จะเป็นจริง คนในวงการอุตสาหกรรมแฉขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ‘นายจ้างเจ๊ง-เจ้าสัวรวย-แรงงานต่างชาติ’ ได้ประโยชน์ เสนอรัฐทำ ‘Pay by Skills-ลดค่าครองชีพ’ นายจ้างอยู่ได้ แรงงานได้ประโยชน์ แนะสังคมย้อนฟังคลิป ‘ทักษิณ-นายกฯ อิ๊ง’ ไม่พูดถึงค่าแรง ทั้งที่เพื่อไทยหาเสียงไว้ที่ 600 บาท อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000087586 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    Yay
    Sad
    21
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 717 มุมมอง 0 รีวิว
  • #sondhiX #thaitimes https://youtu.be/3Vio29uf8rA?si=bo1ttLpqpXEpIrel
    #sondhiX #thaitimes https://youtu.be/3Vio29uf8rA?si=bo1ttLpqpXEpIrel
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 372 มุมมอง 0 รีวิว
  • 1st time at thaitimes
    1st time at thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทัปเปอร์แวร์ (Tupperware)
    บริษัทผู้ผลิตภาชนะพลาสติกเก็บอาหาร บรรจุอาหาร
    เจ้าใหญ่ของโลก ได้ยื่นล้มละลาย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
    เนื่องจากประสบปัญหาการขาดทุนเพิ่มขึ้น
    อันเนื่องมาจากความต้องการภาชนะเก็บอาหาร
    และบรรจุอาหารลดลง

    ทรัปเปอร์แวร์ ได้เผชิญกับหนี้สินมากกว่ามูลค่าทรัพย์สิน
    ของบริษัท

    โดยบริษัทมีหนี้สินอยู่ราวๆ 1,000-10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
    หรือ ประมาณ 33,200 - 332,000 ล้านบาท และมีเจ้าหนี้
    จำนวน 50,000 - 100,000 ราย

    ส่วนมูลค่าทรัพย์สินที่ประเมินในปัจจุบันของบริษัท มีอยู่ราวๆ
    500-1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ
    16,600 - 33,200 ล้านบาท

    ที่มา : Reuters
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ทัปเปอร์แวร์ #thaitimes
    🔥ทัปเปอร์แวร์ (Tupperware) บริษัทผู้ผลิตภาชนะพลาสติกเก็บอาหาร บรรจุอาหาร เจ้าใหญ่ของโลก ได้ยื่นล้มละลาย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เนื่องจากประสบปัญหาการขาดทุนเพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากความต้องการภาชนะเก็บอาหาร และบรรจุอาหารลดลง 🚩ทรัปเปอร์แวร์ ได้เผชิญกับหนี้สินมากกว่ามูลค่าทรัพย์สิน ของบริษัท 🚩โดยบริษัทมีหนี้สินอยู่ราวๆ 1,000-10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 33,200 - 332,000 ล้านบาท และมีเจ้าหนี้ จำนวน 50,000 - 100,000 ราย 🚩ส่วนมูลค่าทรัพย์สินที่ประเมินในปัจจุบันของบริษัท มีอยู่ราวๆ 500-1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 16,600 - 33,200 ล้านบาท ที่มา : Reuters #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ทัปเปอร์แวร์ #thaitimes
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 366 มุมมอง 0 รีวิว
  • First for #thaitimes
    First for #thaitimes
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 370 มุมมอง 252 0 รีวิว
  • #ท่องเที่ยว #GlutaStory #THAILAND #thaitimes https://youtu.be/iAkzYi_Czq0?si=05IFJaJMfodjnqlg
    👍👍 #ท่องเที่ยว #GlutaStory #THAILAND #thaitimes https://youtu.be/iAkzYi_Czq0?si=05IFJaJMfodjnqlg
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว

  • เขื่อนแห่งแรกในประเทศไทย

    มีหนังสือเล่มหนึ่งที่ชอบและอยากแนะนำให้มีคนรู้จักมากขึ้น เนื่องจากผู้เขียนไม่ใช่นักเขียนที่ชื่อคุ้นหูผู้อ่านนิยายทั่วไปที่เป็นแนวมีพระเอกนางเอกนัก คงจะมีคนได้อ่านผลงานเขียนชิ้นนี้ไม่มาก ซึ่งน่าเสียดายอย่างยิ่ง

    เล่มที่พูดถึงนี้มีชื่อว่า "คนเหนือน้ำ" เป็นนวนิยายเขียนโดย คุณเฉลิมศักดิ์ แหงมงาม ซึ่งเป็นคนจังหวัดตาก และรับราชการมาทั้งชีวิต ครั้งหนึ่งได้เคยเป็นนายอำเภอสามเงา จ.ตาก ได้สัมผัสสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประชาชนคนพื้นถิ่น รับรู้เรื่องราว ปัญหา การดำเนินชีวิตของชาวชุมชนที่นั่น จึงได้เก็บข้อมูลนำมาเขียนเป็นนิยายเรื่องนี้

    ซึ่งบอกเล่าเกี่ยวกับตำนานประวัติของพระนางจามเทวี ผูกโยงกับหลักคิดทางพระพุทธศาสนา และการใช้ชีวิตอย่างสมถะของชาวเหนือเขื่อน รุ่นปู่ย่าตายาย กับแหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่แห่งแรกของประเทศไทย คือเขื่อนภูมิพล จากข้อมูลที่ผู้เขียนศึกษาเพิ่มเติม และประสบการณ์ในชีวิตทำงาน คำบอกเล่าของผู้คนในพื้นที่ ตำนานเรื่องเล่า ประวัติศาตร์เมืองตาก ได้ถูกผสมผสานอย่างกลมกลืน แล้วผนวกรวมเป็นเรื่องราวแนวจินตนิยาย ที่แฝงหลักคิดการดำเนินชีวิตอันล้ำค่าน่าสนใจ

    ภาษาที่ใช้เป็นภาษาง่าย ๆ แต่มีความสละสลวย อ่านแล้วมองเห็นภาพตามชัดเจน โดยเฉพาะบรรยากาศที่งดงาม หากลูกอีสาน คือ นวนิยายที่แสดงถึงภาพชีวิตของคนภาคอีสานได้อย่างดีที่สุดเรื่องหนึ่งแล้ว ผมอยากจะกล่าวว่า "คนเหนือน้ำ" ก็สมควรเป็นตัวแทนของนวนิยายที่แสดงถึงภาพชีวิตของคนในเขตภาคตะวันตกติดเทือกเขาถนนธงชัยได้อย่างเต็มภาคภูมิ

    หนังสือ หนาถึง 412 หน้า จำนวน 36 บท
    พิมพ์ครั้งแรกปี พ.ศ. 2563 เดือน มกราคม
    จัดจำหน่ายโดย บ.เคล็ดไทย

    🔹️🔹️ในราคา 200 บาท 🔹️🔹️

    พิมพ์ขาวดำตลอดเล่ม ซึ่งถือว่าราคาไม่แพงเลยสำหรับหนังสือที่มีความหนาของจำนวนหน้าขนาดนี้ ที่สำคัญอักษรตัวใหญ่อ่านง่าย สำหรับผู้ที่เริ่มมีอายุและปัญหาทางสายตา

    มีภาพประกอบบ้างในบางบท พอช่วยเสริมจินตนาการ

    อ่านแล้วเชื่อว่าทุกคนจะรักเมืองตากมากยิ่งกว่าเก่า

    ป.ล. หนังสือ อาจหายากหน่อย หากสนใจสามารถสั่งเข้ามาได้ครับ มีเหลืออยู่ไม่มาก ทุกเล่มเป็นมือหนึ่งสภาพใหม่จากโรงพิมพ์

    จัดส่งฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย รายได้เข้าบัญชีมูลนิธิเพื่อนช่วยเพื่อน แจ้งมาได้ทางข้อความหรือใต้โพสต์นี้ครับ

    #thaitimes
    #แนะนำหนังสือ
    #หนังสือน่าอ่าน
    #นิยาย
    #เล่าเรื่องเมืองตาก
    #เขื่อนภูมิพล
    #พระนางจามเทวี
    #คนเหนือน้ำ
    เขื่อนแห่งแรกในประเทศไทย มีหนังสือเล่มหนึ่งที่ชอบและอยากแนะนำให้มีคนรู้จักมากขึ้น เนื่องจากผู้เขียนไม่ใช่นักเขียนที่ชื่อคุ้นหูผู้อ่านนิยายทั่วไปที่เป็นแนวมีพระเอกนางเอกนัก คงจะมีคนได้อ่านผลงานเขียนชิ้นนี้ไม่มาก ซึ่งน่าเสียดายอย่างยิ่ง เล่มที่พูดถึงนี้มีชื่อว่า "คนเหนือน้ำ" เป็นนวนิยายเขียนโดย คุณเฉลิมศักดิ์ แหงมงาม ซึ่งเป็นคนจังหวัดตาก และรับราชการมาทั้งชีวิต ครั้งหนึ่งได้เคยเป็นนายอำเภอสามเงา จ.ตาก ได้สัมผัสสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประชาชนคนพื้นถิ่น รับรู้เรื่องราว ปัญหา การดำเนินชีวิตของชาวชุมชนที่นั่น จึงได้เก็บข้อมูลนำมาเขียนเป็นนิยายเรื่องนี้ ซึ่งบอกเล่าเกี่ยวกับตำนานประวัติของพระนางจามเทวี ผูกโยงกับหลักคิดทางพระพุทธศาสนา และการใช้ชีวิตอย่างสมถะของชาวเหนือเขื่อน รุ่นปู่ย่าตายาย กับแหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่แห่งแรกของประเทศไทย คือเขื่อนภูมิพล จากข้อมูลที่ผู้เขียนศึกษาเพิ่มเติม และประสบการณ์ในชีวิตทำงาน คำบอกเล่าของผู้คนในพื้นที่ ตำนานเรื่องเล่า ประวัติศาตร์เมืองตาก ได้ถูกผสมผสานอย่างกลมกลืน แล้วผนวกรวมเป็นเรื่องราวแนวจินตนิยาย ที่แฝงหลักคิดการดำเนินชีวิตอันล้ำค่าน่าสนใจ ภาษาที่ใช้เป็นภาษาง่าย ๆ แต่มีความสละสลวย อ่านแล้วมองเห็นภาพตามชัดเจน โดยเฉพาะบรรยากาศที่งดงาม หากลูกอีสาน คือ นวนิยายที่แสดงถึงภาพชีวิตของคนภาคอีสานได้อย่างดีที่สุดเรื่องหนึ่งแล้ว ผมอยากจะกล่าวว่า "คนเหนือน้ำ" ก็สมควรเป็นตัวแทนของนวนิยายที่แสดงถึงภาพชีวิตของคนในเขตภาคตะวันตกติดเทือกเขาถนนธงชัยได้อย่างเต็มภาคภูมิ หนังสือ หนาถึง 412 หน้า จำนวน 36 บท พิมพ์ครั้งแรกปี พ.ศ. 2563 เดือน มกราคม จัดจำหน่ายโดย บ.เคล็ดไทย 🔹️🔹️ในราคา 200 บาท 🔹️🔹️ พิมพ์ขาวดำตลอดเล่ม ซึ่งถือว่าราคาไม่แพงเลยสำหรับหนังสือที่มีความหนาของจำนวนหน้าขนาดนี้ ที่สำคัญอักษรตัวใหญ่อ่านง่าย สำหรับผู้ที่เริ่มมีอายุและปัญหาทางสายตา มีภาพประกอบบ้างในบางบท พอช่วยเสริมจินตนาการ อ่านแล้วเชื่อว่าทุกคนจะรักเมืองตากมากยิ่งกว่าเก่า ป.ล. หนังสือ อาจหายากหน่อย หากสนใจสามารถสั่งเข้ามาได้ครับ มีเหลืออยู่ไม่มาก ทุกเล่มเป็นมือหนึ่งสภาพใหม่จากโรงพิมพ์ จัดส่งฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย รายได้เข้าบัญชีมูลนิธิเพื่อนช่วยเพื่อน แจ้งมาได้ทางข้อความหรือใต้โพสต์นี้ครับ #thaitimes #แนะนำหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #นิยาย #เล่าเรื่องเมืองตาก #เขื่อนภูมิพล #พระนางจามเทวี #คนเหนือน้ำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 477 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้กระทำผิด 5 ราย ได้แก่
    (1) บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK)
    และอดีตกรรมการและ/หรืออดีตผู้บริหารของ STARK
    ได้แก่ (2) นายชนินทร์ เย็นสุดใจ (3) นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ
    (4) นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ และ (5) นายประกรณ์ เมฆจำเริญ
    ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)

    กรณีเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความอันอาจก่อให้เกิด
    ความสำคัญผิด ในสาระสำคัญเกี่ยวกับฐานะทางการเงิน
    และผลการดำเนินงานของ STARK และรายงานการดำเนินการ
    ต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
    ที่มา : ก.ล.ต.
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #STARK #thaitimes
    🔥🔥 ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้กระทำผิด 5 ราย ได้แก่ (1) บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) และอดีตกรรมการและ/หรืออดีตผู้บริหารของ STARK ได้แก่ (2) นายชนินทร์ เย็นสุดใจ (3) นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ (4) นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ และ (5) นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) 🚩กรณีเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความอันอาจก่อให้เกิด ความสำคัญผิด ในสาระสำคัญเกี่ยวกับฐานะทางการเงิน และผลการดำเนินงานของ STARK และรายงานการดำเนินการ ต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่มา : ก.ล.ต. #หุ้นติดดอย #การลงทุน #STARK #thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 451 มุมมอง 0 รีวิว
  • รอคอยเจ้าบิน #เป็นทาสก็ยอม #thaitimes
    รอคอยเจ้าบิน💪💪 #เป็นทาสก็ยอม #thaitimes
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 405 มุมมอง 0 รีวิว
  • พะแนงไก่ #กินดื่มง่ายๆ #Thaifoods #thaitimes
    พะแนงไก่ #กินดื่มง่ายๆ #Thaifoods #thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 426 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอนนี้ธนาคารกลางของหลายๆประเทศ
    เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ตามธนาคารกลาง
    สหรัฐ หรือ เฟด เช่น อินโดนีเซีย, ฮ่องกง
    หลายๆประเทศในตะวันออกกลาง
    จุดประสงค์หลัก คือ เพื่อพยุงเศรษฐกิจในประเทศ

    แอดมินเชื่อว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย
    ก็คงกำลังพิจารณาที่จะลดอัตราดอกเบี้ย
    นโยบายลงเช่นเดียวกัน

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #อัตราดอกเบี้ยนโยบาย
    #thaitimes
    💥ตอนนี้ธนาคารกลางของหลายๆประเทศ เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ตามธนาคารกลาง สหรัฐ หรือ เฟด เช่น อินโดนีเซีย, ฮ่องกง หลายๆประเทศในตะวันออกกลาง จุดประสงค์หลัก คือ เพื่อพยุงเศรษฐกิจในประเทศ 🚩แอดมินเชื่อว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย ก็คงกำลังพิจารณาที่จะลดอัตราดอกเบี้ย นโยบายลงเช่นเดียวกัน #หุ้นติดดอย #การลงทุน #อัตราดอกเบี้ยนโยบาย #thaitimes
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 485 มุมมอง 0 รีวิว
  • วัดใหญ่ชัยมงคล
    ถือว่าเป็นวัดมีความสำคัญทางประวัติศาตร์มากที่สุดและเป็นวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมมามากที่สุดวัดหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงเป็นธรรมดาที่จะพบเห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมายังวัดแห่งนี้ จุดสนใจของวัดใหญ่ชัยมงคลนี้ คือเรื่องราวทางประวัติศาตร์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา รวมไปถึงสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ชมเจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยา ด้านหลังวัดมีตำหนักสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ให้ผู้นับถือศรัทธาเข้ามากราบไหว้ นอกจากนี้ บริเวณ รอบๆ ยังมีมีสวนหย่อมที่สวยงามให้พักผ่อนอีกด้วยนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเที่ยวอยุธยาจึงไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
    》ชาวไทยเข้าชมฟรี
    》ชาวต่างชาติเสียค่าบริการ 20 บาท

    #วัดใหญ่ชัยมงคล #อยุธยา #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesmanowjourney
    วัดใหญ่ชัยมงคล ถือว่าเป็นวัดมีความสำคัญทางประวัติศาตร์มากที่สุดและเป็นวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมมามากที่สุดวัดหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงเป็นธรรมดาที่จะพบเห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมายังวัดแห่งนี้ จุดสนใจของวัดใหญ่ชัยมงคลนี้ คือเรื่องราวทางประวัติศาตร์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา รวมไปถึงสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ชมเจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยา ด้านหลังวัดมีตำหนักสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ให้ผู้นับถือศรัทธาเข้ามากราบไหว้ นอกจากนี้ บริเวณ รอบๆ ยังมีมีสวนหย่อมที่สวยงามให้พักผ่อนอีกด้วยนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเที่ยวอยุธยาจึงไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง 》ชาวไทยเข้าชมฟรี 》ชาวต่างชาติเสียค่าบริการ 20 บาท #วัดใหญ่ชัยมงคล #อยุธยา #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesmanowjourney
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 542 มุมมอง 342 0 รีวิว
  • มุมมองของเด็กศิลปะรุ่นใหม่ #เด็กเพาะช่าง

    งาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 15” งานแสดงและจำหน่ายงานหัตถศิลป์ไทยชั้นบรมครูแห่งปี ภายใต้แนวคิด “สืบสานตำนานหัตถศิลป์ไทย (The Legend of Thai Craft)” เพื่อสืบสาน รักษา ต่อยอดงานศิลปหัตถกรรมไทย และเพิ่มช่องทางการส่งออก การจัดจำหน่ายให้กับผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทย นำจุดแข็งด้านภูมิปัญญาและทักษะเชิงช่างให้เป็นที่รู้จักในเวทีระดับสากล

    อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 15
    ระหว่างวันที่ 18-22 กันยายน 2567
    เวลา 10.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

    จัดโดย สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ สศท.

    #อัตลักษณ์แห่งสยาม #สืบสานตำนานหัตถศิลป์ไทย
    #Identityofsiam #Thelegendofthaicraft
    #หัตถกรรม #ศิลปหัตถกรรม #ทำมือ
    #SACIT #สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย
    #moc #กระทรวงพาณิชย์
    #สยามโสภา #thaitimesคนรุ่นใหม่
    มุมมองของเด็กศิลปะรุ่นใหม่ #เด็กเพาะช่าง งาน “อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 15” งานแสดงและจำหน่ายงานหัตถศิลป์ไทยชั้นบรมครูแห่งปี ภายใต้แนวคิด “สืบสานตำนานหัตถศิลป์ไทย (The Legend of Thai Craft)” เพื่อสืบสาน รักษา ต่อยอดงานศิลปหัตถกรรมไทย และเพิ่มช่องทางการส่งออก การจัดจำหน่ายให้กับผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทย นำจุดแข็งด้านภูมิปัญญาและทักษะเชิงช่างให้เป็นที่รู้จักในเวทีระดับสากล อัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 15 ระหว่างวันที่ 18-22 กันยายน 2567 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จัดโดย สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ สศท. #อัตลักษณ์แห่งสยาม #สืบสานตำนานหัตถศิลป์ไทย #Identityofsiam #Thelegendofthaicraft #หัตถกรรม #ศิลปหัตถกรรม #ทำมือ #SACIT #สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย #moc #กระทรวงพาณิชย์ #สยามโสภา #thaitimesคนรุ่นใหม่
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 546 มุมมอง 331 0 รีวิว
  • 》》น้ำตกโกรกอีดกชั้น2《《
    ■น้ำตกโกรกอีดก ตั้งอยู่ที่ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
    ■น้ำตกโกรกอีดก ที่เที่ยวสระบุรี ชวนไปเที่ยวเดินป่า ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ตามล่าหาเห็ดแชมเปญสีส้ม ชมความงามของน้ำตกโกรกอีดก ใครเป็นสายแอดเวนเจอร์ต้องไม่พลาด
    ■เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก จะเป็นเส้นทางเดินเท้าเข้าไปกลางป่าลึก ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เป็นระยะทางไป 4 กิโลเมตร และกลับอีก 4 กิโลเมตร
    ■ไม่มีเส้นทางที่ชัดเจน ดังนั้นใครที่ต้องการเข้าไปเที่ยวชมน้ำตก จึงต้องติดต่อและจองล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่
    》》
    ☆วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม
    ☆เบอร์ติดต่อ 065-706-2959
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/HVejY83ZBrSQpsFC/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ■โดยจะมีค่าลงทะเบียนจองคนละ 300 บาท (ต่างชาติ 600 บาท) เป็นค่าเข้าอุทยาน ไกด์นำทาง บริการรถรับ-ส่ง และประกันอุบัติเหตุ
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    ■รถตู้รับส่งจากหมอชิต -รังสิต - จุดลงทะเบียนขึ้นน้ำตกโกรกอีดก ไป-กลับ
    คนละ 600 บาท
    (ไม่รวมค่าลงทะเบียนขึ้นน้ำตก 300 บาท)
    วันละ 24 คน เท่านั้น!!
    》เช็ควันว่าง เบอร์ติดต่อรถตู้ 092-429-1532
    ไอดีไลน์ : 0899332762p
    ●●●●●●●●●●●●
    น้ำตกโกรกอีดก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง มีทั้งหมด 7 ชั้น โดยมีความสูงอยู่ที่ 350 เมตร มีน้ำตลอดทั้งปี และช่วงเวลาที่เหมาะจะมาท่องเที่ยวที่นี่คือ ช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกันยายน เนื่องจากในฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำเยอะไหลเต็มหน้าผา เป็นภาพที่ดูงดงามตระการตาหาชมได้ยาก

    #มะนาวก้าวเดิน #น้ำตกโกรกอีดก #เดินป่าขึ้นเขาเล่นน้ำตกโกรกอีดก #ที่เที่ยวสระบุรี #วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม #เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesmanowjourney
    》》น้ำตกโกรกอีดกชั้น2《《 ■น้ำตกโกรกอีดก ตั้งอยู่ที่ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ■น้ำตกโกรกอีดก ที่เที่ยวสระบุรี ชวนไปเที่ยวเดินป่า ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ตามล่าหาเห็ดแชมเปญสีส้ม ชมความงามของน้ำตกโกรกอีดก ใครเป็นสายแอดเวนเจอร์ต้องไม่พลาด ■เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก จะเป็นเส้นทางเดินเท้าเข้าไปกลางป่าลึก ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร เป็นระยะทางไป 4 กิโลเมตร และกลับอีก 4 กิโลเมตร ■ไม่มีเส้นทางที่ชัดเจน ดังนั้นใครที่ต้องการเข้าไปเที่ยวชมน้ำตก จึงต้องติดต่อและจองล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่ 》》 ☆วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม ☆เบอร์ติดต่อ 065-706-2959 ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/HVejY83ZBrSQpsFC/?mibextid=qi2Omg 《《 ■โดยจะมีค่าลงทะเบียนจองคนละ 300 บาท (ต่างชาติ 600 บาท) เป็นค่าเข้าอุทยาน ไกด์นำทาง บริการรถรับ-ส่ง และประกันอุบัติเหตุ ●●●●●●●●●●●●●●●●●● ■รถตู้รับส่งจากหมอชิต -รังสิต - จุดลงทะเบียนขึ้นน้ำตกโกรกอีดก ไป-กลับ คนละ 600 บาท (ไม่รวมค่าลงทะเบียนขึ้นน้ำตก 300 บาท) วันละ 24 คน เท่านั้น!! 》เช็ควันว่าง 📞เบอร์ติดต่อรถตู้ 092-429-1532 ไอดีไลน์ : 0899332762p ●●●●●●●●●●●● น้ำตกโกรกอีดก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง มีทั้งหมด 7 ชั้น โดยมีความสูงอยู่ที่ 350 เมตร มีน้ำตลอดทั้งปี และช่วงเวลาที่เหมาะจะมาท่องเที่ยวที่นี่คือ ช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงเดือนกันยายน เนื่องจากในฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำเยอะไหลเต็มหน้าผา เป็นภาพที่ดูงดงามตระการตาหาชมได้ยาก #มะนาวก้าวเดิน #น้ำตกโกรกอีดก #เดินป่าขึ้นเขาเล่นน้ำตกโกรกอีดก #ที่เที่ยวสระบุรี #วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกษตรเชิงอนุรักษ์ชะอม #เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกโกรกอีดก #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesmanowjourney
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 587 มุมมอง 282 0 รีวิว
  • ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด
    ได้ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรก
    ในรอบกว่า 4 ปี เพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐ
    โดยลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไป 50 จุดพื้นฐาน
    จากเดิม 5.50-5.25% ลดเหลือ 5.00-4.75%
    ที่มา : Reuters

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    💥💥ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ได้ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรก ในรอบกว่า 4 ปี เพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐ โดยลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายไป 50 จุดพื้นฐาน จากเดิม 5.50-5.25% ลดเหลือ 5.00-4.75% ที่มา : Reuters #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 548 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในแอป Thaitimes เป็นที่ที่คุณสามารถเขียนและแชร์เนื้อหาต่าง ๆ กับเพื่อนหรือผู้ติดตามของคุณได้ง่าย ๆ โดยคุณสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้:

    1. เขียนข้อความ: แบ่งปันความคิด ความรู้สึก หรืออัปเดตสถานะของคุณ
    2. เพิ่ม Hashtags (#): ใช้แฮชแท็กเพื่อให้โพสต์ของคุณเข้าถึงผู้คนที่สนใจในหัวข้อเดียวกัน
    3. Mention เพื่อน (@): แท็กเพื่อนเพื่อกล่าวถึงพวกเขาในโพสต์
    4. วางลิงก์ (Link): แชร์ลิงก์ไปยังเนื้อหาภายนอก เช่น บทความ วิดีโอ หรือเว็บไซต์ที่คุณอยากแบ่งปัน

    ### ฟีเจอร์เพิ่มเติมสำหรับการโพสต์:
    - Upload Photos: อัปโหลดรูปภาพเพื่อเพิ่มสีสันให้กับโพสต์ของคุณ
    - Create Album: สร้างอัลบั้มเพื่อแชร์รูปหลายรูปในโพสต์เดียว
    - Colored Posts: เลือกสีพื้นหลังให้โพสต์ของคุณโดดเด่น
    - Feelings/Activity: แสดงอารมณ์หรือกิจกรรมที่คุณกำลังทำอยู่

    ### การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว:
    ก่อนโพสต์ อย่าลืมเลือกว่าต้องการให้โพสต์ของคุณเป็นสาธารณะ (Public) หรือให้เฉพาะเพื่อน (Friends) เห็นเท่านั้น จากนั้นกดปุ่ม "Post" เพื่อแชร์เนื้อหาของคุณ

    ### ข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้ภาพและวิดีโอ:
    - เมื่อคุณอัปโหลด ภาพ หรือ วิดีโอ ลงในโพสต์ ควรระมัดระวังเรื่อง ลิขสิทธิ์ และการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เช่น หลีกเลี่ยงการใช้รูปภาพหรือเพลงที่มีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต
    - การใช้เนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์อาจส่งผลให้คุณถูกฟ้องร้อง หรือโดนดำเนินคดีตาม กฎหมายคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีบทลงโทษที่เข้มงวด
    - ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อหาที่คุณแชร์นั้นถูกต้องตามกฎหมายและได้รับอนุญาตในการเผยแพร่

    สรุป: ช่องนี้เป็นพื้นที่สำหรับการเขียนและแชร์เรื่องราว ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ หรือแม้แต่ลิงก์ได้ง่าย ๆ พร้อมกับตัวเลือกเพิ่มเติมที่ช่วยให้โพสต์ของคุณน่าสนใจมากขึ้น อย่าลืมคำนึงถึง กฎหมายลิขสิทธิ์ และ กฎหมายคอมพิวเตอร์ ในการแชร์เนื้อหาต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายในอนาคต
    ในแอป Thaitimes เป็นที่ที่คุณสามารถเขียนและแชร์เนื้อหาต่าง ๆ กับเพื่อนหรือผู้ติดตามของคุณได้ง่าย ๆ โดยคุณสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้: 1. เขียนข้อความ: แบ่งปันความคิด ความรู้สึก หรืออัปเดตสถานะของคุณ 2. เพิ่ม Hashtags (#): ใช้แฮชแท็กเพื่อให้โพสต์ของคุณเข้าถึงผู้คนที่สนใจในหัวข้อเดียวกัน 3. Mention เพื่อน (@): แท็กเพื่อนเพื่อกล่าวถึงพวกเขาในโพสต์ 4. วางลิงก์ (Link): แชร์ลิงก์ไปยังเนื้อหาภายนอก เช่น บทความ วิดีโอ หรือเว็บไซต์ที่คุณอยากแบ่งปัน ### ฟีเจอร์เพิ่มเติมสำหรับการโพสต์: - Upload Photos: อัปโหลดรูปภาพเพื่อเพิ่มสีสันให้กับโพสต์ของคุณ - Create Album: สร้างอัลบั้มเพื่อแชร์รูปหลายรูปในโพสต์เดียว - Colored Posts: เลือกสีพื้นหลังให้โพสต์ของคุณโดดเด่น - Feelings/Activity: แสดงอารมณ์หรือกิจกรรมที่คุณกำลังทำอยู่ ### การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว: ก่อนโพสต์ อย่าลืมเลือกว่าต้องการให้โพสต์ของคุณเป็นสาธารณะ (Public) หรือให้เฉพาะเพื่อน (Friends) เห็นเท่านั้น จากนั้นกดปุ่ม "Post" เพื่อแชร์เนื้อหาของคุณ ### ข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้ภาพและวิดีโอ: - เมื่อคุณอัปโหลด ภาพ หรือ วิดีโอ ลงในโพสต์ ควรระมัดระวังเรื่อง ลิขสิทธิ์ และการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เช่น หลีกเลี่ยงการใช้รูปภาพหรือเพลงที่มีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต - การใช้เนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์อาจส่งผลให้คุณถูกฟ้องร้อง หรือโดนดำเนินคดีตาม กฎหมายคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีบทลงโทษที่เข้มงวด - ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อหาที่คุณแชร์นั้นถูกต้องตามกฎหมายและได้รับอนุญาตในการเผยแพร่ สรุป: ช่องนี้เป็นพื้นที่สำหรับการเขียนและแชร์เรื่องราว ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ หรือแม้แต่ลิงก์ได้ง่าย ๆ พร้อมกับตัวเลือกเพิ่มเติมที่ช่วยให้โพสต์ของคุณน่าสนใจมากขึ้น อย่าลืมคำนึงถึง กฎหมายลิขสิทธิ์ และ กฎหมายคอมพิวเตอร์ ในการแชร์เนื้อหาต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายในอนาคต
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 4 การแบ่งปัน 598 มุมมอง 0 รีวิว
  • การใช้งานเมนูนำทางในแอป Thaitimes

    ในแอป Thaitimes การเข้าถึงเนื้อหาต่าง ๆ สามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านเมนูนำทางที่อยู่ทางมุมซ้ายบนของหน้าจอ ซึ่งเป็น ไอคอนขีดสามขีด (Hamburger Menu) เมื่อกดที่ไอคอนนี้ เมนูจะขยายออกมาให้คุณสามารถเลือกสำรวจเนื้อหาหรือฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ทันที

    - News Feed (ฟีดข่าว): คุณสามารถดูโพสต์ล่าสุดจากเพื่อนหรือเพจที่คุณติดตาม
    รวมถึงโพสต์ยอดนิยมผ่านตัวเลือกเหล่านี้:
    - Recent Updates: แสดงโพสต์ที่อัปเดตล่าสุด
    - Popular Posts: โพสต์ที่ได้รับความนิยมและการตอบรับสูง
    - Discover Posts: ค้นหาและสำรวจโพสต์ใหม่ ๆ จากผู้ใช้ที่คุณอาจไม่เคยติดตามมาก่อน

    - Saved Posts (โพสต์ที่บันทึกไว้): ตรวจสอบโพสต์ที่คุณเคยบันทึกไว้เพื่อกลับมาดูภายหลัง

    - Memories (ความทรงจำ): ดูโพสต์เก่าหรือเนื้อหาที่คุณเคยโพสต์ในช่วงวันเดียวกันในอดีต

    - Explore (สำรวจเนื้อหา): คุณสามารถสำรวจและเข้าถึงเนื้อหาต่าง ๆ ผ่านฟังก์ชันต่อไปนี้:
    - People: ค้นหาผู้ใช้คนอื่นในแอป
    - Pages: ดูเพจต่าง ๆ ที่คุณสนใจและเลือกติดตามเพจ
    - Groups: เข้าร่วมกลุ่มที่สนใจเพื่อสนทนาและแชร์เนื้อหา
    - Events: ตรวจสอบกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น
    - Watch: ดูวิดีโอที่ถูกโพสต์ในแพลตฟอร์ม

    เมนูเหล่านี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย และช่วยให้ทุกท่านเข้าถึงเนื้อหาในแอป Thaitimes ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
    การใช้งานเมนูนำทางในแอป Thaitimes ในแอป Thaitimes การเข้าถึงเนื้อหาต่าง ๆ สามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านเมนูนำทางที่อยู่ทางมุมซ้ายบนของหน้าจอ ซึ่งเป็น ไอคอนขีดสามขีด (Hamburger Menu) เมื่อกดที่ไอคอนนี้ เมนูจะขยายออกมาให้คุณสามารถเลือกสำรวจเนื้อหาหรือฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ทันที - News Feed (ฟีดข่าว): คุณสามารถดูโพสต์ล่าสุดจากเพื่อนหรือเพจที่คุณติดตาม รวมถึงโพสต์ยอดนิยมผ่านตัวเลือกเหล่านี้: - Recent Updates: แสดงโพสต์ที่อัปเดตล่าสุด - Popular Posts: โพสต์ที่ได้รับความนิยมและการตอบรับสูง - Discover Posts: ค้นหาและสำรวจโพสต์ใหม่ ๆ จากผู้ใช้ที่คุณอาจไม่เคยติดตามมาก่อน - Saved Posts (โพสต์ที่บันทึกไว้): ตรวจสอบโพสต์ที่คุณเคยบันทึกไว้เพื่อกลับมาดูภายหลัง - Memories (ความทรงจำ): ดูโพสต์เก่าหรือเนื้อหาที่คุณเคยโพสต์ในช่วงวันเดียวกันในอดีต - Explore (สำรวจเนื้อหา): คุณสามารถสำรวจและเข้าถึงเนื้อหาต่าง ๆ ผ่านฟังก์ชันต่อไปนี้: - People: ค้นหาผู้ใช้คนอื่นในแอป - Pages: ดูเพจต่าง ๆ ที่คุณสนใจและเลือกติดตามเพจ - Groups: เข้าร่วมกลุ่มที่สนใจเพื่อสนทนาและแชร์เนื้อหา - Events: ตรวจสอบกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น - Watch: ดูวิดีโอที่ถูกโพสต์ในแพลตฟอร์ม เมนูเหล่านี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย และช่วยให้ทุกท่านเข้าถึงเนื้อหาในแอป Thaitimes ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
    Like
    Love
    6
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 599 มุมมอง 1 รีวิว
  • ☣ถอดรหัสชีวิต คิดผิดนิดเดียวก็หาทางเลี้ยวกลับไม่เจอ

    จำกันได้ไหมกับเหตุการณ์ความรุนแรงอันน่าสะเทือนใจเมื่อหลายปีก่อน กับชายคนหนึ่งถืออาวุธร้ายแรงเดินไล่ยิ่งประชาชนทั่วไปที่พบเจอในห้างใหญ่แห่งหนึ่ง ท่านได้อะไรจากเหตุการณ์ที่โคราช ที่จะมาเป็นข้อสังวรในการดำเนินชีวิตของตนในสังคมบ้าง

    ต่อไปนี้คือสิ่งที่ข้าพเจ้ารู้สึก

    ตั้งแต่แรกที่ได้ยินข่าวเมื่อช่วงเย็นย่ำใกล้ค่ำ สิ่งที่ผุดขึ้นในใจ คือสงสารคนก่อเหตุ จริงๆไม่ดัดจริต และคุณไม่ได้อ่านผิด ข้าพเจ้าก็ไม่ได้พิมพ์ผิด มีสติสัมปชัญญะดี

    หลายคนคงนึกด่า ไม่ก็เกิดคำถามในใจ สำหรับใครที่นึกด่า หรือด่าแล้ว ไม่เป็นไรหรอกครับ ข้าพเจ้าไม่ถือสาเลยและเข้าใจด้วย ส่วนคนที่เกิดคำถามขึ้น

    คงสงสัยว่าทำไมต้องไปสงสารคนอย่างนั้น คือคนที่ฆ่าคนตายมากมาย แล้วยังไม่หยุด ตั้งหน้าตั้งตาไล่ฆ่าคนรายต่อไปเรื่อยๆ แล้วคนที่ถูกยิงโดยไม่เกี่ยวข้องล่ะ ญาติของคนที่โดนยิงล่ะ ไม่สงสารหรือ

    สงสารครับ แต่ระดับความลึกมันต่างกัน

    แน่นอน ประชาชนเหล่านั้น ไม่ควรต้องมาประสบชะตากรรม เขาคือเหยื่อของคนร้าย

    แต่ข้าพเจ้ากลับนึกสงสารเห็นใจในตัวคนร้ายยิ่งกว่า เพราะอะไร?

    นายคนที่ก่อเหตุนั้น เขาเองก็เป็นเหยื่อเช่นกัน และเขาคือตัวแปรสำคัญ เหตุการณ์จะไม่เป็นไปเช่นนี้ ถ้าเขาเองไม่ได้เป็นฝ่ายถูกกระทำ

    ถามว่าถูกกระทำจากใคร ?

    ตอบแบบกำปั้นทุบดินคือ เขาถูกกระทำจากน้ำมือของตัวเอง ไม่มีใครเอาปืนจ่อหัวบังคับให้เขาไปไล่ยิงคน ทุกการ กระทำเขาคิดและตัดสินใจแล้วลงมือเองทั้งหมดคนเดียว

    แต่ ...

    แท้จริงเขาก็เหมือนหุ่นเชิด ที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง ถูกอำนาจที่มองไม่เห็นเล่นงาน บงการให้เป็นไปดังที่ปรากฏ อำนาจที่ว่ามาจากไหน ภูติผีปีศาจหรือ ถูกคาถามนต์ดำหรือ ไม่ใช่เลย อำนาจมืดที่มีอิทธิพลต่อจิตใจของเขาคือ โทสะและโมหะ แน่นอนว่าทุกคนล้วนเคยถูกอำนาจนี้เล่นงานมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่ที่ยังไม่เป็นอะไร ไม่ถูกบงการให้ทำอะไรร้ายแรงลงไป ก็เพราะยังมีสติเป็นตัวคอยดึงรั้งไว้

    เราจะรู้ได้อย่างไรว่า วันหนึ่ง เราจะกลายเป็นแบบเขา ที่ควบคุมตนเองไม่ได้ แล้วไล่ฆ่าคนด้วยความไม่สนใจอะไรอื่นแล้วในชีวิตนี้หรือไม่

    เพราะสังคมที่เราใช้ชีวิตอยู่ทุกวันนี้ เต็มไปด้วยคนอย่างเราท่านทั้งหลาย ที่เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายใดๆขึ้นแต่ละหน ก็จะ

    เชียร์ให้ฆ่า เอาให้ตาย อย่าปล่อยมันไว้ ยิงตายง่ายไป ต้องอย่างนั้น ต้องอย่างนี้ น่าจะให้ไปยิงคนนั้นก่อน ไปยิงคนนี้ก่อน ไปจัดการญาติหรือคนในครอบครัวเขา ด่าชนิดที่คิดว่าไม่น่าเป็นคำที่ออกมาจากปากมนุษย์ ทั้งหญิงชายไม่ดีไปกว่ากัน

    กับอีกกลุ่มที่จะสะใจ ยกคนร้ายกลายเป็นผู้กล้า ชื่นชม เชียร์ ให้ไปต่อให้สุดทาง ทำอย่างนั้นสิ ทำอย่างนี้สิ ตั้งตนเองเป็นสาวกแล้วเชิดชูคนทำผิดเป็นปูชนียบุรุษไปซะอย่างนั้น

    ในขณะที่สื่อสารมวลชนก็เมามันกับการปลุกปล้ำ สร้างกระแส ให้ข่าวโหมกระพือไม่มีหยุด ไฟที่กำลังไหม้แทนที่จะช่วยกันดับ กลับไปช่วยพัดโบก ใส่ฟืน เติมออกซิเจน ให้ลุกแรงลุกนาน จนสะเก็ดลูกไฟกระเด็น ปลิวไปตกบริเวณที่ยังไม่ไหม้ แล้วกระจายแผ่วงกว้างออกไปจนเจ้าหน้าที่ดับได้ยาก ใครเข้าใกล้ก็บาดเจ็บถูกลวกเป็นแผลผุพอง เสี่ยงตายมากกว่าเก่า

    เราอยู่กับสังคมที่คนรอบข้าง เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน คนรัก คนในครอบครัว ญาติพี่น้อง ลูกศิษย์ครูอาจารย์ ผู้ใหญ่ที่เคารพ ลูกจ้างนายจ้าง ลูกน้องเจ้านาย ผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา แม้แต่คนไม่รู้จัก ล้วนบ้าคลั่งอยู่ในกระแสลมพายุที่ถล่มเข้าใส่ไม่หยุดทุกคืนวัน ผ่านโลกเทียมที่ร่วมกันสร้างขึ้น นามว่า สังคมอินเตอร์เน็ต

    เราอยู่ท่ามกลางพายุที่หมุนรุนแรงมาก แต่เราก็ไม่สำนึกตัวมัวแต่ไปก่นด่าโทษว่าอย่างอื่น สิ่งอื่น คนอื่น หาว่าคือต้นเหตุที่ทำให้ชีวิตของตนยุ่งเหยิง แท้จริงไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งเพียงเท่านั้น แต่เราทุกคนที่อยู่ในสังคมอินเตอร์เน็ต มีส่วนในการสร้างพายุขึ้นมาทั้งสิ้น แล้วเราเองก็ยินดียอมรับที่จะกระโจนเข้ามาในพายุลูกนี้เอง จะมีใครบังคับก็หาไม่

    เราไม่เคยสนใจ ไม่เคยสำรวจตัวเอง ในแต่ละวัน แต่ละชั่วโมงที่ผ่านไป เราเอาแต่สำรวจที่อื่นไปทั่ว เที่ยวถือตะเกียงไปส่องหาว่าที่ไหนบ้างเกิดพายุ แล้วก็เอาตะเกียงในมือตนที่คิดว่าสว่างหนักหนา ไปยื่นส่องหน้าใครต่อใคร ที่ไม่เคยแม้กระทั่งเห็นหน้าพูดจากันสักครั้งเดียว แล้วก็ชี้นิ้วสั่งสอนเขาเหล่านั้นว่าเขาไม่ดี อย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งที่ตนเองไม่รู้อะไรเลย

    ยิ่งมีคนที่เดินถือตะเกียงส่องตามหลังมา แล้วชอบอกชอบใจไปกับเราด้วย กลายเป็นทำให้เรายิ่งหลงลำพอง นึกว่าสิ่งที่ตนพูดนั้นถูกต้อง คนจำนวนมากอยู่ข้างเรา ดังนั้นสมควรจะไล่ต้อนหาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้ ให้หายแค้นที่มันบังอาจก่อพายุขึ้นมาทำร้ายคนอื่น

    แล้วก็รวมพลังกัน มือหนึ่งถือตะเกียงแห่งแสงของผู้ปลดปล่อย อีกมือถือศาตราวุธคู่กายของผู้กล้า เพื่อใช้ฟาดฟันทำลายต่อกรมารร้ายทั่วโลก จะสำนึกสักนิดว่าตนเองนั้นใกล้กลายร่างเป็นปีศาจเสียเองอยู่รอมร่อก็หาไม่

    คนประเภทนี้จึงน่าสงสารที่สุด ดังนั้นโปรดระมัดระวังใจของเราให้ดีเถิด ดราม่าครั้งถัดไปไม่ว่าเรื่องอะไร จะเป็นใคร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ทำไมก็แล้วแต่ ขออย่าได้ตกหลุมพรางของอำนาจความชั่ว จนพาตัวโดดเข้าสู่ใจกลางของวงพายุ ไปเป็นลูกข่างหมุนอยู่มิรู้แล้ว

    อย่าบ้าไปตามคนอื่นที่มันบ้าอยู่ก่อน ใครมันจะบ้าก็ปล่อยให้มันบ้าไป ขอให้เราไม่บ้าไปกับเขาสักคน

    พยายามเข้านะ..

    #ข้อคิด
    #แง่คิด
    #ข่าวดราม่า
    #สื่อเสี้ยม
    #ส่อสันดาน
    #คนไทย
    #สิ่งเสพติด
    #ความรุนแรง
    #บทความ
    #thaitimes
    #โคราช

    ☣ถอดรหัสชีวิต คิดผิดนิดเดียวก็หาทางเลี้ยวกลับไม่เจอ จำกันได้ไหมกับเหตุการณ์ความรุนแรงอันน่าสะเทือนใจเมื่อหลายปีก่อน กับชายคนหนึ่งถืออาวุธร้ายแรงเดินไล่ยิ่งประชาชนทั่วไปที่พบเจอในห้างใหญ่แห่งหนึ่ง ท่านได้อะไรจากเหตุการณ์ที่โคราช ที่จะมาเป็นข้อสังวรในการดำเนินชีวิตของตนในสังคมบ้าง ต่อไปนี้คือสิ่งที่ข้าพเจ้ารู้สึก ตั้งแต่แรกที่ได้ยินข่าวเมื่อช่วงเย็นย่ำใกล้ค่ำ สิ่งที่ผุดขึ้นในใจ คือสงสารคนก่อเหตุ จริงๆไม่ดัดจริต และคุณไม่ได้อ่านผิด ข้าพเจ้าก็ไม่ได้พิมพ์ผิด มีสติสัมปชัญญะดี หลายคนคงนึกด่า ไม่ก็เกิดคำถามในใจ สำหรับใครที่นึกด่า หรือด่าแล้ว ไม่เป็นไรหรอกครับ ข้าพเจ้าไม่ถือสาเลยและเข้าใจด้วย ส่วนคนที่เกิดคำถามขึ้น คงสงสัยว่าทำไมต้องไปสงสารคนอย่างนั้น คือคนที่ฆ่าคนตายมากมาย แล้วยังไม่หยุด ตั้งหน้าตั้งตาไล่ฆ่าคนรายต่อไปเรื่อยๆ แล้วคนที่ถูกยิงโดยไม่เกี่ยวข้องล่ะ ญาติของคนที่โดนยิงล่ะ ไม่สงสารหรือ สงสารครับ แต่ระดับความลึกมันต่างกัน แน่นอน ประชาชนเหล่านั้น ไม่ควรต้องมาประสบชะตากรรม เขาคือเหยื่อของคนร้าย แต่ข้าพเจ้ากลับนึกสงสารเห็นใจในตัวคนร้ายยิ่งกว่า เพราะอะไร? นายคนที่ก่อเหตุนั้น เขาเองก็เป็นเหยื่อเช่นกัน และเขาคือตัวแปรสำคัญ เหตุการณ์จะไม่เป็นไปเช่นนี้ ถ้าเขาเองไม่ได้เป็นฝ่ายถูกกระทำ ถามว่าถูกกระทำจากใคร ? ตอบแบบกำปั้นทุบดินคือ เขาถูกกระทำจากน้ำมือของตัวเอง ไม่มีใครเอาปืนจ่อหัวบังคับให้เขาไปไล่ยิงคน ทุกการ กระทำเขาคิดและตัดสินใจแล้วลงมือเองทั้งหมดคนเดียว แต่ ... แท้จริงเขาก็เหมือนหุ่นเชิด ที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง ถูกอำนาจที่มองไม่เห็นเล่นงาน บงการให้เป็นไปดังที่ปรากฏ อำนาจที่ว่ามาจากไหน ภูติผีปีศาจหรือ ถูกคาถามนต์ดำหรือ ไม่ใช่เลย อำนาจมืดที่มีอิทธิพลต่อจิตใจของเขาคือ โทสะและโมหะ แน่นอนว่าทุกคนล้วนเคยถูกอำนาจนี้เล่นงานมาบ้างไม่มากก็น้อย แต่ที่ยังไม่เป็นอะไร ไม่ถูกบงการให้ทำอะไรร้ายแรงลงไป ก็เพราะยังมีสติเป็นตัวคอยดึงรั้งไว้ เราจะรู้ได้อย่างไรว่า วันหนึ่ง เราจะกลายเป็นแบบเขา ที่ควบคุมตนเองไม่ได้ แล้วไล่ฆ่าคนด้วยความไม่สนใจอะไรอื่นแล้วในชีวิตนี้หรือไม่ เพราะสังคมที่เราใช้ชีวิตอยู่ทุกวันนี้ เต็มไปด้วยคนอย่างเราท่านทั้งหลาย ที่เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายใดๆขึ้นแต่ละหน ก็จะ เชียร์ให้ฆ่า เอาให้ตาย อย่าปล่อยมันไว้ ยิงตายง่ายไป ต้องอย่างนั้น ต้องอย่างนี้ น่าจะให้ไปยิงคนนั้นก่อน ไปยิงคนนี้ก่อน ไปจัดการญาติหรือคนในครอบครัวเขา ด่าชนิดที่คิดว่าไม่น่าเป็นคำที่ออกมาจากปากมนุษย์ ทั้งหญิงชายไม่ดีไปกว่ากัน กับอีกกลุ่มที่จะสะใจ ยกคนร้ายกลายเป็นผู้กล้า ชื่นชม เชียร์ ให้ไปต่อให้สุดทาง ทำอย่างนั้นสิ ทำอย่างนี้สิ ตั้งตนเองเป็นสาวกแล้วเชิดชูคนทำผิดเป็นปูชนียบุรุษไปซะอย่างนั้น ในขณะที่สื่อสารมวลชนก็เมามันกับการปลุกปล้ำ สร้างกระแส ให้ข่าวโหมกระพือไม่มีหยุด ไฟที่กำลังไหม้แทนที่จะช่วยกันดับ กลับไปช่วยพัดโบก ใส่ฟืน เติมออกซิเจน ให้ลุกแรงลุกนาน จนสะเก็ดลูกไฟกระเด็น ปลิวไปตกบริเวณที่ยังไม่ไหม้ แล้วกระจายแผ่วงกว้างออกไปจนเจ้าหน้าที่ดับได้ยาก ใครเข้าใกล้ก็บาดเจ็บถูกลวกเป็นแผลผุพอง เสี่ยงตายมากกว่าเก่า เราอยู่กับสังคมที่คนรอบข้าง เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน คนรัก คนในครอบครัว ญาติพี่น้อง ลูกศิษย์ครูอาจารย์ ผู้ใหญ่ที่เคารพ ลูกจ้างนายจ้าง ลูกน้องเจ้านาย ผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา แม้แต่คนไม่รู้จัก ล้วนบ้าคลั่งอยู่ในกระแสลมพายุที่ถล่มเข้าใส่ไม่หยุดทุกคืนวัน ผ่านโลกเทียมที่ร่วมกันสร้างขึ้น นามว่า สังคมอินเตอร์เน็ต เราอยู่ท่ามกลางพายุที่หมุนรุนแรงมาก แต่เราก็ไม่สำนึกตัวมัวแต่ไปก่นด่าโทษว่าอย่างอื่น สิ่งอื่น คนอื่น หาว่าคือต้นเหตุที่ทำให้ชีวิตของตนยุ่งเหยิง แท้จริงไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งเพียงเท่านั้น แต่เราทุกคนที่อยู่ในสังคมอินเตอร์เน็ต มีส่วนในการสร้างพายุขึ้นมาทั้งสิ้น แล้วเราเองก็ยินดียอมรับที่จะกระโจนเข้ามาในพายุลูกนี้เอง จะมีใครบังคับก็หาไม่ เราไม่เคยสนใจ ไม่เคยสำรวจตัวเอง ในแต่ละวัน แต่ละชั่วโมงที่ผ่านไป เราเอาแต่สำรวจที่อื่นไปทั่ว เที่ยวถือตะเกียงไปส่องหาว่าที่ไหนบ้างเกิดพายุ แล้วก็เอาตะเกียงในมือตนที่คิดว่าสว่างหนักหนา ไปยื่นส่องหน้าใครต่อใคร ที่ไม่เคยแม้กระทั่งเห็นหน้าพูดจากันสักครั้งเดียว แล้วก็ชี้นิ้วสั่งสอนเขาเหล่านั้นว่าเขาไม่ดี อย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งที่ตนเองไม่รู้อะไรเลย ยิ่งมีคนที่เดินถือตะเกียงส่องตามหลังมา แล้วชอบอกชอบใจไปกับเราด้วย กลายเป็นทำให้เรายิ่งหลงลำพอง นึกว่าสิ่งที่ตนพูดนั้นถูกต้อง คนจำนวนมากอยู่ข้างเรา ดังนั้นสมควรจะไล่ต้อนหาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้ ให้หายแค้นที่มันบังอาจก่อพายุขึ้นมาทำร้ายคนอื่น แล้วก็รวมพลังกัน มือหนึ่งถือตะเกียงแห่งแสงของผู้ปลดปล่อย อีกมือถือศาตราวุธคู่กายของผู้กล้า เพื่อใช้ฟาดฟันทำลายต่อกรมารร้ายทั่วโลก จะสำนึกสักนิดว่าตนเองนั้นใกล้กลายร่างเป็นปีศาจเสียเองอยู่รอมร่อก็หาไม่ คนประเภทนี้จึงน่าสงสารที่สุด ดังนั้นโปรดระมัดระวังใจของเราให้ดีเถิด ดราม่าครั้งถัดไปไม่ว่าเรื่องอะไร จะเป็นใคร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ทำไมก็แล้วแต่ ขออย่าได้ตกหลุมพรางของอำนาจความชั่ว จนพาตัวโดดเข้าสู่ใจกลางของวงพายุ ไปเป็นลูกข่างหมุนอยู่มิรู้แล้ว อย่าบ้าไปตามคนอื่นที่มันบ้าอยู่ก่อน ใครมันจะบ้าก็ปล่อยให้มันบ้าไป ขอให้เราไม่บ้าไปกับเขาสักคน พยายามเข้านะ.. #ข้อคิด #แง่คิด #ข่าวดราม่า #สื่อเสี้ยม #ส่อสันดาน #คนไทย #สิ่งเสพติด #ความรุนแรง #บทความ #thaitimes #โคราช
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 656 มุมมอง 0 รีวิว
  • Ray Dalio ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ผู้ทรงอิทธิพลของโลก หวั่นเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเสี่ยงเจอวิกฤตหนัก 5 ประการ ปัญหาหนี้ที่เพิ่มขึ้นรุมเร้าและการเมืองภายในแตกแยก ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนทวีความรุนแรงเป็นสงครามการค้าตั้งกำแพงภาษี ท่ามกลางภัยธรรมชาติรุนแรงสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินยิ่งกว่าสงคราม

    ในการประชุมสุดยอดเอเชียของ Milken Institute ที่สิงคโปร์ เรย์ ดาลิโอ ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ระดับมหาเศรษฐี ได้ระบุถึงแรงขับเคลื่อนสำคัญ 5 ประการที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน โดยระบุถึงลักษณะเป็นวัฏจักรและเชื่อมโยงกัน ตามรายงานของลี อิง ชาน นักข่าว CNBC

    ในการพูดก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ทุกคนรอคอยมานาน ดาลิโอได้เน้นย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับวิธีการที่สหรัฐฯ จะจัดการหนี้ที่เพิ่มขึ้น โดยที่อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ทศวรรษ ปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐฯ ใช้จ่ายเงิน 1.049 ล้านล้านดอลลาร์ในการชำระหนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบเป็นรายปี ดาลิโอตั้งคำถามว่าหนี้ที่เพิ่มขึ้นนี้จะส่งผลกระทบต่อมูลค่าทรัพย์สินของสหรัฐฯ และบทบาทของสินทรัพย์ของสหรัฐฯ ในฐานะแหล่งเก็บความมั่งคั่งที่เชื่อถือได้อย่างไร

    ตามรายงานของ CNBC ดาลิโอยังได้ดึงความสนใจไปที่สิ่งที่เขาเรียกว่า "ความไม่สงบภายใน" ในสหรัฐฯ โดยเฉพาะความแตกแยกทางการเมืองที่ขยายตัวก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 เขาเตือนว่าความแตกต่างที่ไม่อาจปรองดองได้ระหว่างฝ่ายขวาและฝ่ายซ้ายทางการเมือง ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากความไม่เท่าเทียมกันของความมั่งคั่ง อาจขัดขวางการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ แม้ว่ารองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสจะถูกมองว่าเป็นผู้นำ แต่ดาลิโอแนะนำว่าความไม่มั่นคงทางการเมืองอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของประเทศมากกว่านโยบายของผู้สมัครคนใด ๆ

    บนเวทีระหว่างประเทศ ดาลิโออ้างถึงความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีนว่าเป็นแหล่งความกังวลที่สำคัญ ดาลิโอกล่าวว่าปัญหาเช่นสถานะทางการเมืองของไต้หวันและภาษีศุลกากรทางเศรษฐกิจได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจทั้งสองตึงเครียด ในขณะที่ดาลิโอตั้งข้อสังเกตว่าความกลัวต่อการทำลายล้างซึ่งกันและกันอาจป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งโดยตรง เขากล่าวว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความวุ่นวายทั่วโลก

    ดาลิโอเน้นย้ำถึงผลกระทบที่เพิ่มมากขึ้นของปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยระบุว่า "ภัยธรรมชาติ" เช่น ภัยแล้ง น้ำท่วม และโรคระบาด มักก่อให้เกิดการหยุดชะงักทางสังคมมากกว่าสงคราม CNBC เน้นย้ำถึงคำเตือนของเขาว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจสร้างต้นทุนทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าในไม่ช้านี้ โดยคาดว่า GDP ทั่วโลกจะหดตัวลง 12% ต่ออุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียส

    สุดท้าย Dalio เน้นย้ำถึงพลังการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เขาแนะนำว่าผู้ที่สามารถใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพจะได้รับประโยชน์อย่างมาก ในขณะเดียวกันก็เตือนด้วยว่าเทคโนโลยีอาจทำให้ความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจรุนแรงขึ้น การประเมินโดยรวมของ Dalio นั้นระมัดระวัง โดยคำพูดสุดท้ายของเขาบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกเผชิญกับความเสี่ยงด้านลบมากกว่าโอกาสด้านบวก

    ที่มา : https://www.cryptoglobe.com/latest/2024/09/billionaire-ray-dalio-warns-of-soaring-u-s-debt-geopolitical-tensions-and-tech-wars-between-nations/

    #Thaitimes
    Ray Dalio ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ผู้ทรงอิทธิพลของโลก หวั่นเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเสี่ยงเจอวิกฤตหนัก 5 ประการ ปัญหาหนี้ที่เพิ่มขึ้นรุมเร้าและการเมืองภายในแตกแยก ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับจีนทวีความรุนแรงเป็นสงครามการค้าตั้งกำแพงภาษี ท่ามกลางภัยธรรมชาติรุนแรงสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินยิ่งกว่าสงคราม ในการประชุมสุดยอดเอเชียของ Milken Institute ที่สิงคโปร์ เรย์ ดาลิโอ ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ระดับมหาเศรษฐี ได้ระบุถึงแรงขับเคลื่อนสำคัญ 5 ประการที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน โดยระบุถึงลักษณะเป็นวัฏจักรและเชื่อมโยงกัน ตามรายงานของลี อิง ชาน นักข่าว CNBC ในการพูดก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ทุกคนรอคอยมานาน ดาลิโอได้เน้นย้ำถึงความกังวลเกี่ยวกับวิธีการที่สหรัฐฯ จะจัดการหนี้ที่เพิ่มขึ้น โดยที่อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ทศวรรษ ปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐฯ ใช้จ่ายเงิน 1.049 ล้านล้านดอลลาร์ในการชำระหนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบเป็นรายปี ดาลิโอตั้งคำถามว่าหนี้ที่เพิ่มขึ้นนี้จะส่งผลกระทบต่อมูลค่าทรัพย์สินของสหรัฐฯ และบทบาทของสินทรัพย์ของสหรัฐฯ ในฐานะแหล่งเก็บความมั่งคั่งที่เชื่อถือได้อย่างไร ตามรายงานของ CNBC ดาลิโอยังได้ดึงความสนใจไปที่สิ่งที่เขาเรียกว่า "ความไม่สงบภายใน" ในสหรัฐฯ โดยเฉพาะความแตกแยกทางการเมืองที่ขยายตัวก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 เขาเตือนว่าความแตกต่างที่ไม่อาจปรองดองได้ระหว่างฝ่ายขวาและฝ่ายซ้ายทางการเมือง ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากความไม่เท่าเทียมกันของความมั่งคั่ง อาจขัดขวางการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ แม้ว่ารองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสจะถูกมองว่าเป็นผู้นำ แต่ดาลิโอแนะนำว่าความไม่มั่นคงทางการเมืองอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจของประเทศมากกว่านโยบายของผู้สมัครคนใด ๆ บนเวทีระหว่างประเทศ ดาลิโออ้างถึงความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีนว่าเป็นแหล่งความกังวลที่สำคัญ ดาลิโอกล่าวว่าปัญหาเช่นสถานะทางการเมืองของไต้หวันและภาษีศุลกากรทางเศรษฐกิจได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจทั้งสองตึงเครียด ในขณะที่ดาลิโอตั้งข้อสังเกตว่าความกลัวต่อการทำลายล้างซึ่งกันและกันอาจป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งโดยตรง เขากล่าวว่าความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความวุ่นวายทั่วโลก ดาลิโอเน้นย้ำถึงผลกระทบที่เพิ่มมากขึ้นของปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยระบุว่า "ภัยธรรมชาติ" เช่น ภัยแล้ง น้ำท่วม และโรคระบาด มักก่อให้เกิดการหยุดชะงักทางสังคมมากกว่าสงคราม CNBC เน้นย้ำถึงคำเตือนของเขาว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจสร้างต้นทุนทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าในไม่ช้านี้ โดยคาดว่า GDP ทั่วโลกจะหดตัวลง 12% ต่ออุณหภูมิที่เพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียส สุดท้าย Dalio เน้นย้ำถึงพลังการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เขาแนะนำว่าผู้ที่สามารถใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพจะได้รับประโยชน์อย่างมาก ในขณะเดียวกันก็เตือนด้วยว่าเทคโนโลยีอาจทำให้ความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจรุนแรงขึ้น การประเมินโดยรวมของ Dalio นั้นระมัดระวัง โดยคำพูดสุดท้ายของเขาบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกเผชิญกับความเสี่ยงด้านลบมากกว่าโอกาสด้านบวก ที่มา : https://www.cryptoglobe.com/latest/2024/09/billionaire-ray-dalio-warns-of-soaring-u-s-debt-geopolitical-tensions-and-tech-wars-between-nations/ #Thaitimes
    WWW.CRYPTOGLOBE.COM
    Ray Dalio Reveals the Top Five Forces Influencing the Global Economy
    Ray Dalio foresees a dangerous convergence of forces that could reshape the global order.
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 718 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงการคลังจีน จะระงับการยกเว้นภาษีสินค้าเกษตร 34 รายการที่นำเข้าจากไต้หวัน รวมถึงผลไม้สด ผัก และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนเป็นต้นไป

    18 กันยายน 2567-รายงานข่าวรอยเตอร์ระบุว่า กระทรวงการคลังของจีนแถลงเมื่อวันพุธนี้ว่า จีนจะระงับการยกเว้นภาษีสินค้าเกษตร 34 รายการที่นำเข้าจากไต้หวัน รวมถึงผลไม้สด ผัก และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนเป็นต้นไป

    กระทรวงการคลังจีนกล่าวว่าภาษีสินค้าเหล่านี้จะถูกนำไปปฏิบัติตามกฎข้อบังคับที่มีอยู่

    “การที่ไต้หวันใช้มาตรการเลือกปฏิบัติ เช่น การห้ามและจำกัดการส่งออกผลิตภัณฑ์จากแผ่นดินใหญ่โดยฝ่ายเดียว ได้ขัดขวางความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างช่องแคบไต้หวันอย่างร้ายแรง” แถลงการณ์ระบุ

    ก่อนหน้านี้ไต้หวันก็ได้ใช้มาตรการจำกัดทางการค้าฝ่ายเดียวกับสินค้าส่งออกของจีนมากกว่า 2,500 รายการ ซึ่งถือว่าผิดเจตนารมณ์ของ ECFA ที่มุ่งลดหรือยกเลิกการเก็บภาษีระหว่างกัน

    ขณะที่จีนพยายามกดดันรัฐบาล ไล่ ชิงเต๋อ ด้วยการยกเลิกสิทธิพิเศษบางส่วนภายใต้เงื่อนไข ECFA โดยใช้มาตรการระงับยกเว้นภาษีสินค้าไต้หวันแต่วันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมาโดยครอบคลุมสินค้า 134 ชนิดที่นำเข้าจากเกาะไต้หวัน รวมถึงน้ำมันพื้นฐาน (base oils) ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าอื่นๆ เช่น น้ำมันหล่อลื่น (lubricants) เป็นต้น

    ทั้งนี้ ECFA เป็นกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีน-ไต้หวัน (Economic Cooperation Framework Agreement) เป็นข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างรัฐบาลของสาธารณรัฐประชาชนจีน (จีนแผ่นดินใหญ่) และสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) สนธิสัญญาดังกล่าวได้มีการลงนามเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ณ เมืองฉงชิ่ง เพื่อเปิดการค้าระหว่างประเทศ

    ตามข้อมูลจากศูนย์บริการ ECFA ของไต้หวัน ณ สิ้นปี 2023 ไต้หวันได้รับการลดภาษีจากแผ่นดินใหญ่ภายใต้ ECFA มูลค่า 10,100 ล้านดอลลาร์ในช่วง 13 ปี ในขณะที่จีนแผ่นดินใหญ่ได้รับการลดภาษีจากเกาะไต้หวันเพียง 1,080 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน

    #Thaitimes
    กระทรวงการคลังจีน จะระงับการยกเว้นภาษีสินค้าเกษตร 34 รายการที่นำเข้าจากไต้หวัน รวมถึงผลไม้สด ผัก และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนเป็นต้นไป 18 กันยายน 2567-รายงานข่าวรอยเตอร์ระบุว่า กระทรวงการคลังของจีนแถลงเมื่อวันพุธนี้ว่า จีนจะระงับการยกเว้นภาษีสินค้าเกษตร 34 รายการที่นำเข้าจากไต้หวัน รวมถึงผลไม้สด ผัก และผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนเป็นต้นไป กระทรวงการคลังจีนกล่าวว่าภาษีสินค้าเหล่านี้จะถูกนำไปปฏิบัติตามกฎข้อบังคับที่มีอยู่ “การที่ไต้หวันใช้มาตรการเลือกปฏิบัติ เช่น การห้ามและจำกัดการส่งออกผลิตภัณฑ์จากแผ่นดินใหญ่โดยฝ่ายเดียว ได้ขัดขวางความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างช่องแคบไต้หวันอย่างร้ายแรง” แถลงการณ์ระบุ ก่อนหน้านี้ไต้หวันก็ได้ใช้มาตรการจำกัดทางการค้าฝ่ายเดียวกับสินค้าส่งออกของจีนมากกว่า 2,500 รายการ ซึ่งถือว่าผิดเจตนารมณ์ของ ECFA ที่มุ่งลดหรือยกเลิกการเก็บภาษีระหว่างกัน ขณะที่จีนพยายามกดดันรัฐบาล ไล่ ชิงเต๋อ ด้วยการยกเลิกสิทธิพิเศษบางส่วนภายใต้เงื่อนไข ECFA โดยใช้มาตรการระงับยกเว้นภาษีสินค้าไต้หวันแต่วันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมาโดยครอบคลุมสินค้า 134 ชนิดที่นำเข้าจากเกาะไต้หวัน รวมถึงน้ำมันพื้นฐาน (base oils) ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าอื่นๆ เช่น น้ำมันหล่อลื่น (lubricants) เป็นต้น ทั้งนี้ ECFA เป็นกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีน-ไต้หวัน (Economic Cooperation Framework Agreement) เป็นข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างรัฐบาลของสาธารณรัฐประชาชนจีน (จีนแผ่นดินใหญ่) และสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) สนธิสัญญาดังกล่าวได้มีการลงนามเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ณ เมืองฉงชิ่ง เพื่อเปิดการค้าระหว่างประเทศ ตามข้อมูลจากศูนย์บริการ ECFA ของไต้หวัน ณ สิ้นปี 2023 ไต้หวันได้รับการลดภาษีจากแผ่นดินใหญ่ภายใต้ ECFA มูลค่า 10,100 ล้านดอลลาร์ในช่วง 13 ปี ในขณะที่จีนแผ่นดินใหญ่ได้รับการลดภาษีจากเกาะไต้หวันเพียง 1,080 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 826 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาทำบุญให้แม่ค่ะ #พ่อลูกเดินสายทำบุญให้แม่สุดที่รัก #คิดถึงแม่ #loveyouforever #ammsarosha #แอ้มสโรชา #thaitimes
    มาทำบุญให้แม่ค่ะ #พ่อลูกเดินสายทำบุญให้แม่สุดที่รัก #คิดถึงแม่ #loveyouforever #ammsarosha #แอ้มสโรชา #thaitimes 😊
    Love
    Like
    Yay
    19
    5 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 667 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชีวิตคือสมมุติ #ซีรีส์ #เหรินเจียหลุน #หลี่หลานตี๋ #WeTV #LOVEOFNIRVANA #thaitimes
    ชีวิตคือสมมุติ #ซีรีส์ #เหรินเจียหลุน #หลี่หลานตี๋ #WeTV #LOVEOFNIRVANA #thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 683 มุมมอง 447 0 รีวิว
  • อเมริกาบังคับใช้กฏหมาย Real ID กลางปีหน้า ตรวจเข้มผู้โดยสารสายการบิน

    18 กันยายน 2567-รายงานข่าวสยามทาวน์ยูเอสระบุว่าคณะกรรมการควบคุมความปลอดภัยด้านการคมนาคม หรือ TSA (Transportation Security Administration) สังกัดกระทรวงความมั่นคงภายใน ได้ออกหนังสือเวียนถึงหน่วยงานของรัฐบาลกลาง เกี่ยวกับหลักปฏิบัติในการบังคับใช้ REAL ID โดยระบุว่าจะเริ่มบังคับใช้ เรียลไอดี ตามกำหนดที่แถลงเอาไว้ นั่นคือวันที่ 7 พฤษภาคม 2025 แต่เสนอให้มีช่วงเวลาในการปรับเปลี่ยน หรือ transition period สองปี ก่อนจะมีการบังคับใช้เต็มรูปแบบ

    TSA แถลงยืนยันจะเริ่มตรวจ “Real ID” ผู้โดยสารเครื่องบินฯ ตามกำหนดเดิม คือ 7 พฤษภาคม 2025 แต่สำหรับหน่วยงานของรัฐบาลกลางอื่นๆ นั้น เสนอให้ “ค่อยเป็นค่อยไป” ก่อนจะบังคับใช้เต็มรูปแบบหลังจากนั้นสองปี

    ทีเอสเอ ย้ำว่าการตรวจ เรียลไอดี จะไม่มีการยืดหยุ่นที่สนามบินทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม เป็นต้นไป ซึ่งแน่นอนว่าความไม่พร้อมของผู้โดยสารบางส่วน จะทำให้เกิดความล่าช้าของกระบวนการตรวจเช็คของ ทีเอสเอ อย่างแน่นอน ดังนั้นในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้โดยสารจึงควรเผื่อเวลาสำหรับความล่าช้าจากสาเหตุนี้ด้วย

    ปัจจุบันมีใบขับขี่ และบัตรประชาชนเพียง 56 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ได้รับการยอมรับตามกฎหมาย เรียลไอดี

    ทั้งนี้ เรียลไอดี ซึ่งเป็นบัตรประจำตัวประชาชนแบบใหม่นี้ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะปรับปรุงระบบการออกบัตรประชาชนและใบขับขี่ (ที่แต่ละรัฐเคยมีอิสระในการออกให้ประชากรของตัวเอง) ให้เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วประเทศ ภายใต้การควบคุมดูแลของกระทรวงโฮมแลนด์ซีเคียวริตี้ เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายชื่อ the Real ID Act ที่ถูกเขียนขึ้นตามคำแนะนำของคณะกรรมาธิการ 9/11 และผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสมาตั้งแต่ปี 2005 ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ และป้องกันการทำบัตรประชาชนปลอม ที่ถือว่าเป็นอันตรายร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ

    #Thaitimes
    อเมริกาบังคับใช้กฏหมาย Real ID กลางปีหน้า ตรวจเข้มผู้โดยสารสายการบิน 18 กันยายน 2567-รายงานข่าวสยามทาวน์ยูเอสระบุว่าคณะกรรมการควบคุมความปลอดภัยด้านการคมนาคม หรือ TSA (Transportation Security Administration) สังกัดกระทรวงความมั่นคงภายใน ได้ออกหนังสือเวียนถึงหน่วยงานของรัฐบาลกลาง เกี่ยวกับหลักปฏิบัติในการบังคับใช้ REAL ID โดยระบุว่าจะเริ่มบังคับใช้ เรียลไอดี ตามกำหนดที่แถลงเอาไว้ นั่นคือวันที่ 7 พฤษภาคม 2025 แต่เสนอให้มีช่วงเวลาในการปรับเปลี่ยน หรือ transition period สองปี ก่อนจะมีการบังคับใช้เต็มรูปแบบ TSA แถลงยืนยันจะเริ่มตรวจ “Real ID” ผู้โดยสารเครื่องบินฯ ตามกำหนดเดิม คือ 7 พฤษภาคม 2025 แต่สำหรับหน่วยงานของรัฐบาลกลางอื่นๆ นั้น เสนอให้ “ค่อยเป็นค่อยไป” ก่อนจะบังคับใช้เต็มรูปแบบหลังจากนั้นสองปี ทีเอสเอ ย้ำว่าการตรวจ เรียลไอดี จะไม่มีการยืดหยุ่นที่สนามบินทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม เป็นต้นไป ซึ่งแน่นอนว่าความไม่พร้อมของผู้โดยสารบางส่วน จะทำให้เกิดความล่าช้าของกระบวนการตรวจเช็คของ ทีเอสเอ อย่างแน่นอน ดังนั้นในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้โดยสารจึงควรเผื่อเวลาสำหรับความล่าช้าจากสาเหตุนี้ด้วย ปัจจุบันมีใบขับขี่ และบัตรประชาชนเพียง 56 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่ได้รับการยอมรับตามกฎหมาย เรียลไอดี ทั้งนี้ เรียลไอดี ซึ่งเป็นบัตรประจำตัวประชาชนแบบใหม่นี้ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะปรับปรุงระบบการออกบัตรประชาชนและใบขับขี่ (ที่แต่ละรัฐเคยมีอิสระในการออกให้ประชากรของตัวเอง) ให้เป็นหนึ่งเดียวกันทั่วประเทศ ภายใต้การควบคุมดูแลของกระทรวงโฮมแลนด์ซีเคียวริตี้ เป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายชื่อ the Real ID Act ที่ถูกเขียนขึ้นตามคำแนะนำของคณะกรรมาธิการ 9/11 และผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสมาตั้งแต่ปี 2005 ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ และป้องกันการทำบัตรประชาชนปลอม ที่ถือว่าเป็นอันตรายร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ #Thaitimes
    Like
    Yay
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 699 มุมมอง 0 รีวิว
  • #วิมานลอย

    วันนี้ขออนุญาตแนะนำหนังสือที่เคยอ่าน เป็นวรรณกรรมคลาสสิกฝั่งอเมริกา และคิดว่าอย่างน้อยผู้ที่สามารถอ่านหนังสือได้ และมีโอกาส ควรหามาอ่านให้ได้สักครั้งในชีวิต แม้ส่วนตัวจะตอบได้ไม่เต็มปากนักว่าชื่นชอบเล่มนี้ แต่ยืนยันได้ว่าคือหนังสือดีมีค่าที่คู่ควรกับการสละเวลาจริง

    เชื่อว่าคุ้นหูทุกคนอยู่แล้ว แต่ไม่ทุกคนที่จะได้อ่าน เพราะด้วยความยาวของแถวอักษรยาวเหยียด ความหนาของจำนวนหน้า พาให้รู้สึกท้อต่อการที่จะหยิบมาอ่านอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเล่มที่ผมอ่านนั้น เป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 7 ในไทย ของ สนพ.แพรว ปี พ.ศ. 2550 หนา 1,184 หน้า แปลโดย รอย โรจนานนท์ ซึ่งทำสวยงามเลอค่าน่าสะสมมาก ปกแข็งมีปกนอกหุ้ม เย็บกี่ ซึ่งเรื่องนี้ยืมจากห้องสมุดประชาชนมาอ่าน เพราะต้องใช้วิธีนี้เท่านั้น จึงจะกระตุ้นตัวเองให้มีความเพียรพอที่จะตั้งใจอ่านจนจบเรื่องได้ ไม่อย่างนั้นคงซื้อมาแล้วก็วางไว้ก่อน แต่ต้องใช้เวลาในการอ่านและยืมต่ออยู่หลายครั้ง ถ้าจำไม่ผิดก็ 3-4 หนต่อเนื่อง

    และขอยืนยันว่าฉบับพิมพ์นี้ไม่เหมาะกับการถืออ่านขณะนอนหงาย เพราะอาจหน้าแหก ดั้งยุบ หรือสลบเหมือดคาที่ได้ ขนาดนั่งอ่านยังต้องวางหนังสือกับโต๊ะ ยกอ่านได้ไม่นานเกิดอาการล้ามาก

    เรื่องที่กล่าวถึงนี้คือ Gone With The Wind หรือชื่อไทย วิมานลอย โดยผู้เขียนนาม มาร์กาเร็ต มิตเชลล์ รู้สึกชอบชื่อเรื่องมากทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่ให้ความหมายชัดเจนดีมาก ยิ่งอ่านจบแล้วยิ่งย้ำยืนยันว่าเป็นชื่อเรื่องที่เหมาะสมที่สุด ความจริงได้ยินเสียงล่ำลือถึงเรื่องนี้มานานมากตั้งแต่เด็ก แต่ได้สัมผัสครั้งแรกจากภาพยนตร์ก่อน เมื่อช่วงเรียนจบใหม่ๆ พอได้ชมแล้วชอบจึงเริ่มอยากอ่านฉบับหนังสือว่าจะแตกต่างอย่างไรบ้าง นั่นคือจุดเริ่มต้น

    เนื้อหาของเรื่องนี้ ถูกวางฉากหลังไว้ในช่วงสงครามกลางเมืองของอเมริกา ในยุคที่มีการใช้แรงงานทาสผิวดำ การทำกสิกรรมปลูกไร่ฝ้าย ไปจนถึงความขัดแย้งของคนชาติเดียวกัน แต่ต่างที่มา ซึ่งแบ่งเป็นฝ่ายเหนือกับฝ่ายใต้ ต่อเนื่องยาวไปจนถึงเริ่มสงคราม และสงครามสิ้นสุด รวมถึงพิษภัยจากไฟสงครามที่ลามเลียต่อเนื่อง ผลกระทบทางการเมือง สังคม เศรษฐกิจ ของฝ่ายผู้ชนะที่กระทำต่อผู้แพ้ ที่แม้คือชาติเดียวกันอย่างโหดร้าย แล้งน้ำใจ การเลิกทาส ความชุลมุน จราจลทั่วทุกหย่อมหญ้า ผ่านความคิด มุมมองและการเลือกกระทำของตัวเอกที่เป็นตัวดำเนินเรื่องหลักอย่างนางเอก คือ สการ์เลตต์ โอฮารา และตัวเดินเรื่องเสริมคือพระเอก หรือ เรตต์ บัตเลอร์

    ความจริงผมไม่ชอบสการ์เลตต์ และยิ่งไม่ชอบเรตต์ บัตเลอร์เลยจากใจจริง ออกจะเหม็นเบื่อ หมั่นไส้ และรู้สึกทุเรศทุรังกับอุปนิสัยของตัวละครทั้งสอง โดยเฉพาะช่วงแรกเริ่มได้ทำความรู้จักกันผ่านหน้าหนังสือ ด้วยเหตุที่นางเอกนั้น ช่วงต้นเป็นหญิงที่ใช้ชีวิตอย่างลูกคุณหนู สมองกลวงไปวันๆ ไม่คิดทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน คำนึงถึงแต่เรื่องผู้ชาย การได้แต่งงานกับลูกชายบ้านโน้นบ้านนี้ การแวดล้อมไปด้วยเพื่อนสาวที่มีค่านิยม แนวคิด ฝักใฝ่ความหรูหรา ติดสบาย ต้องมีคนคอยรับใช้ เกียรติยศ ความหลงใหลยึดติดกับศักดินา ข้าทาส บริวาร ชื่อเสียงตระกูล ความฟุ่มเฟือย สารพัดที่ผู้หญิงใฝ่สุขนิยมมักเป็นกัน

    ส่วนฝ่ายชายนั้นเล่าก็แบดบอย ยโสโอหัง กวนบาทา พูดจายียวน ชอบยั่วโมโห หน้าเลือด นิสัยพ่อค้าที่ทำอย่างไรตนจึงจะมีเงินไหลเข้ากระเป๋าได้เยอะสุดในภาวะสงคราม ที่คนจำนวนมากเดือดร้อนอดอยาก อายุมากกว่านางเอกหลายปี อยู่ในวัยหนุ่มใหญ่ผู้มีสายตาและประสบการณ์ที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชน

    เริ่มต้นนางเอกนั้นเกลียดขี้หน้าพระเอก และก็รู้สึกอย่างนั้นในแทบทุกครั้งที่ได้พบเจอ แต่ก็แปลกที่ในยามวิกฤตกลับนึกถึงเขา เพราะใจลึกๆนั้นรู้ดีว่าชายคนนี้เชื่อถือได้ว่าสามารถนำพาเธอให้พ้นจากสถานการณ์ร้ายต่างๆอย่างแน่นอน

    ส่วนใหญ่เวลาเจอหน้ากัน มักจะเป็นการสนทนาวิวาทะ ประคารมอย่างถึงพริกถึงขิง แม้นภายในใจจะรู้สึกต่างชอบกันอยู่บ้าง แต่โชคชะตานำพาให้พลาดกันไปพลาดกันมา กว่าจะได้มาเป็นคู่ชีวิตกัน นางเอกต้องผ่านการแต่งงานมาแล้วถึง 2ครั้ง

    ผู้อ่านจะได้เห็นถึงความเติบโตของสการ์เลตต์ผ่านประสบการณ์ชีวิตซึ่ง การศึกสงครามจากด่านหน้าที่สู้รบกันของฝ่ายสมาพันธรัฐชาวใต้ที่หยิ่งผยองในเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และต้องการความเป็นอิสระในการถือครองทาส กับฝ่ายเหนือที่เป็นสหภาพซี่งยึดรัฐธรรมนูญเหนืออื่นใด ได้ส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อแนวหลังที่รอคอยด้วยใจกระวนกระวายอยู่กับบ้าน ผลการแพ้ชนะแต่ละครั้ง ได้สร้างรอยแผลไว้ในใจอย่างฝังลึกยากถอดถอน

    จนถึงวันที่รู้ว่าฝ่ายของตน ดินแดนอันเป็นที่รัก เชิดชูและศรัทธา ได้แพ้พ่ายอย่างราบคาบ คนรักและรู้จัก พลเมืองจำนวนมากต่างตายไปในสงคราม ที่เหลือรอดกลับมาก็สภาพน่าอเนจอนาถ รวมถึงผลพวงหลังจากรัฐบาลกลางเข้ามากุมอำนาจ มีบทบาทตั้งกฎระเบียบต่างๆ ที่เป็นการขูดรีด เอาเปรียบ เหยียบย่ำ ฉีกทึ้ง เกียรติยศ ศักดิ์ศรีความเป็นคน การฉ้อฉลคดโกง ใช้อำนาจโดยมิชอบ รีดนาทาเล้น ปล้นฆ่า โกงสมบัติชาติเป็นของตน ของผู้มีอำนาจที่ได้รับเลือกจากรัฐบาลกลางมาปกครองดูแลชาวใต้ สมาพันธรัฐล่มสลาย ประชาชนเดือดร้อน อดอยาก แร้นแค้น เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยส่งเสริม และเปลี่ยนแปลงให้นางเอกต้องกลายสภาพจากคุณหนูผู้ไร้เดียงสา ไปเป็นผู้ทำทุกทางเพื่อจะอยู่รอดให้ได้ในยามวิกฤต เพื่อประคับประคองข้าทาสผิวดำที่ซื่อสัตย์ เพื่อรักษาบ้านและที่ดินของพ่อเอาไว้ เพราะเธอต้องขึ้นมาเป็นหัวหน้าครอบครัวแทนหลังสูญเสียพ่อไป

    ยอมกระทั่งให้คนใต้ด้วยกันหยามเหยียด รังเกียจเดียดฉันท์ เพราะเธอตัดสินใจเลือกคบค้าสมาคม ทำธุรกิจกับพวกพ่อค้า ผู้มีอำนาจ ที่มาปกครองบ้านเมืองของตน ซึ่งครั้งหนึ่งเธอรังเกียจและเจ็บแค้น เพื่อจะดำรงสถานะของครอบครัวให้ไปต่อได้

    การเติบโตทางอารมณ์ และความเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องชั่งใจเลือก ในสิ่งซึ่งขัดแย้งกับอุดมการณ์ ความศรัทธา ภาคภูมิที่ตนเชื่อมั่นมาตลอด กับความจริงตรงหน้าที่บีบคั้นให้กระทำสวนทางก็ตาม

    สการ์เลตต์ โอฮารา รวมถึง เรตต์ บัตเลอร์ จึงเป็นตัวละครที่มีความเรียลริสติก มีบุคลิกที่ใกล้เคียงความเป็นมนุษย์ปุถุชน ที่มีทั้งดีชั่วปะปน และดิ้นรนเพื่อหาทางเอาชีวิตรอดไปตามสถานการณ์ ไม่ใช่ตัวละครที่พาฝัน ภาพลักษณ์สวยงาม เป็นคนดีพร้อม ทั้งรูปสมบัติและคุณสมบัติ ที่มักพบได้ในตัวพระนางทั่วไป หากกล่าวอย่างตรงๆแล้ว ทั้งสองออกจะมีด้านที่เป็นสีเทาดำ มากกว่าสีขาวด้วยซ้ำ แต่นี่อาจเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เรื่องนี้ยังคงอยู่ในใจของนักอ่านทั่วโลกมาอย่างยาวนานจนปัจจุบัน ถึงกับได้รับการยกย่องมากมายจากหลายสถาบัน ให้เป็นหนึ่งในวรรณกรรมคลาสสิกชิ้นเยี่ยม

    ทว่าสำหรับส่วนตัวแล้ว ไม่ได้สนใจในเรื่องนั้นเลย ยังคงยืนยันเช่นเดิมว่าไม่ชอบนางเอก และพระเอก รวมถึงไม่อาจบอกได้ว่านี่คือเรื่องที่รักชอบหลังอ่านจบ แต่สิ่งหนึ่งที่กล้ายืนยันอย่างมั่นใจอีกครั้งคือ

    นี่คือหนังสือที่ดี มีค่าเพียงพอต่อเวลาที่ต้องสละไปในการอ่าน

    ใครอ่านเรื่องนี้จบเกินกว่า 1 รอบ ขอยอมรับนับถือเลย
    สุดท้ายที่จะบอกคือ นี่เป็นหนังสือที่ดูดพลังอย่างมาก เหนื่อยที่สุดในชีวิตการเป็นนักอ่าน แม้นอ่านนิยายไทยยาวๆอย่างเพชรพระอุมา หรือนิยายจีนกำลังภายในที่ยาว 20-30 เล่ม ก็ยังไม่เคยเหนื่อยเท่า

    ป.ล. เนื่องจากไม่มีหนังสือเป็นของตน จึงขอใช้ภาพจากอินเตอร์เน็ตมาประกอบครับ

    #นิยายแปล
    #วรรณกรรมคลาสสิก
    #วิมานลอย
    #gonewiththewind
    #หนังสือน่าอ่าน
    #สงครามกลางเมือง
    #สหรัฐอเมริกา
    #ชนชั้น
    #แรงงาน
    #บริวาร
    #ทาส
    #คนผิวดำ
    #thaitimes
    #นิยาย
    #หนังสือ
    #วิมานลอย วันนี้ขออนุญาตแนะนำหนังสือที่เคยอ่าน เป็นวรรณกรรมคลาสสิกฝั่งอเมริกา และคิดว่าอย่างน้อยผู้ที่สามารถอ่านหนังสือได้ และมีโอกาส ควรหามาอ่านให้ได้สักครั้งในชีวิต แม้ส่วนตัวจะตอบได้ไม่เต็มปากนักว่าชื่นชอบเล่มนี้ แต่ยืนยันได้ว่าคือหนังสือดีมีค่าที่คู่ควรกับการสละเวลาจริง เชื่อว่าคุ้นหูทุกคนอยู่แล้ว แต่ไม่ทุกคนที่จะได้อ่าน เพราะด้วยความยาวของแถวอักษรยาวเหยียด ความหนาของจำนวนหน้า พาให้รู้สึกท้อต่อการที่จะหยิบมาอ่านอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเล่มที่ผมอ่านนั้น เป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 7 ในไทย ของ สนพ.แพรว ปี พ.ศ. 2550 หนา 1,184 หน้า แปลโดย รอย โรจนานนท์ ซึ่งทำสวยงามเลอค่าน่าสะสมมาก ปกแข็งมีปกนอกหุ้ม เย็บกี่ ซึ่งเรื่องนี้ยืมจากห้องสมุดประชาชนมาอ่าน เพราะต้องใช้วิธีนี้เท่านั้น จึงจะกระตุ้นตัวเองให้มีความเพียรพอที่จะตั้งใจอ่านจนจบเรื่องได้ ไม่อย่างนั้นคงซื้อมาแล้วก็วางไว้ก่อน แต่ต้องใช้เวลาในการอ่านและยืมต่ออยู่หลายครั้ง ถ้าจำไม่ผิดก็ 3-4 หนต่อเนื่อง และขอยืนยันว่าฉบับพิมพ์นี้ไม่เหมาะกับการถืออ่านขณะนอนหงาย เพราะอาจหน้าแหก ดั้งยุบ หรือสลบเหมือดคาที่ได้ ขนาดนั่งอ่านยังต้องวางหนังสือกับโต๊ะ ยกอ่านได้ไม่นานเกิดอาการล้ามาก เรื่องที่กล่าวถึงนี้คือ Gone With The Wind หรือชื่อไทย วิมานลอย โดยผู้เขียนนาม มาร์กาเร็ต มิตเชลล์ รู้สึกชอบชื่อเรื่องมากทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาไทย ที่ให้ความหมายชัดเจนดีมาก ยิ่งอ่านจบแล้วยิ่งย้ำยืนยันว่าเป็นชื่อเรื่องที่เหมาะสมที่สุด ความจริงได้ยินเสียงล่ำลือถึงเรื่องนี้มานานมากตั้งแต่เด็ก แต่ได้สัมผัสครั้งแรกจากภาพยนตร์ก่อน เมื่อช่วงเรียนจบใหม่ๆ พอได้ชมแล้วชอบจึงเริ่มอยากอ่านฉบับหนังสือว่าจะแตกต่างอย่างไรบ้าง นั่นคือจุดเริ่มต้น เนื้อหาของเรื่องนี้ ถูกวางฉากหลังไว้ในช่วงสงครามกลางเมืองของอเมริกา ในยุคที่มีการใช้แรงงานทาสผิวดำ การทำกสิกรรมปลูกไร่ฝ้าย ไปจนถึงความขัดแย้งของคนชาติเดียวกัน แต่ต่างที่มา ซึ่งแบ่งเป็นฝ่ายเหนือกับฝ่ายใต้ ต่อเนื่องยาวไปจนถึงเริ่มสงคราม และสงครามสิ้นสุด รวมถึงพิษภัยจากไฟสงครามที่ลามเลียต่อเนื่อง ผลกระทบทางการเมือง สังคม เศรษฐกิจ ของฝ่ายผู้ชนะที่กระทำต่อผู้แพ้ ที่แม้คือชาติเดียวกันอย่างโหดร้าย แล้งน้ำใจ การเลิกทาส ความชุลมุน จราจลทั่วทุกหย่อมหญ้า ผ่านความคิด มุมมองและการเลือกกระทำของตัวเอกที่เป็นตัวดำเนินเรื่องหลักอย่างนางเอก คือ สการ์เลตต์ โอฮารา และตัวเดินเรื่องเสริมคือพระเอก หรือ เรตต์ บัตเลอร์ ความจริงผมไม่ชอบสการ์เลตต์ และยิ่งไม่ชอบเรตต์ บัตเลอร์เลยจากใจจริง ออกจะเหม็นเบื่อ หมั่นไส้ และรู้สึกทุเรศทุรังกับอุปนิสัยของตัวละครทั้งสอง โดยเฉพาะช่วงแรกเริ่มได้ทำความรู้จักกันผ่านหน้าหนังสือ ด้วยเหตุที่นางเอกนั้น ช่วงต้นเป็นหญิงที่ใช้ชีวิตอย่างลูกคุณหนู สมองกลวงไปวันๆ ไม่คิดทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน คำนึงถึงแต่เรื่องผู้ชาย การได้แต่งงานกับลูกชายบ้านโน้นบ้านนี้ การแวดล้อมไปด้วยเพื่อนสาวที่มีค่านิยม แนวคิด ฝักใฝ่ความหรูหรา ติดสบาย ต้องมีคนคอยรับใช้ เกียรติยศ ความหลงใหลยึดติดกับศักดินา ข้าทาส บริวาร ชื่อเสียงตระกูล ความฟุ่มเฟือย สารพัดที่ผู้หญิงใฝ่สุขนิยมมักเป็นกัน ส่วนฝ่ายชายนั้นเล่าก็แบดบอย ยโสโอหัง กวนบาทา พูดจายียวน ชอบยั่วโมโห หน้าเลือด นิสัยพ่อค้าที่ทำอย่างไรตนจึงจะมีเงินไหลเข้ากระเป๋าได้เยอะสุดในภาวะสงคราม ที่คนจำนวนมากเดือดร้อนอดอยาก อายุมากกว่านางเอกหลายปี อยู่ในวัยหนุ่มใหญ่ผู้มีสายตาและประสบการณ์ที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชน เริ่มต้นนางเอกนั้นเกลียดขี้หน้าพระเอก และก็รู้สึกอย่างนั้นในแทบทุกครั้งที่ได้พบเจอ แต่ก็แปลกที่ในยามวิกฤตกลับนึกถึงเขา เพราะใจลึกๆนั้นรู้ดีว่าชายคนนี้เชื่อถือได้ว่าสามารถนำพาเธอให้พ้นจากสถานการณ์ร้ายต่างๆอย่างแน่นอน ส่วนใหญ่เวลาเจอหน้ากัน มักจะเป็นการสนทนาวิวาทะ ประคารมอย่างถึงพริกถึงขิง แม้นภายในใจจะรู้สึกต่างชอบกันอยู่บ้าง แต่โชคชะตานำพาให้พลาดกันไปพลาดกันมา กว่าจะได้มาเป็นคู่ชีวิตกัน นางเอกต้องผ่านการแต่งงานมาแล้วถึง 2ครั้ง ผู้อ่านจะได้เห็นถึงความเติบโตของสการ์เลตต์ผ่านประสบการณ์ชีวิตซึ่ง การศึกสงครามจากด่านหน้าที่สู้รบกันของฝ่ายสมาพันธรัฐชาวใต้ที่หยิ่งผยองในเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และต้องการความเป็นอิสระในการถือครองทาส กับฝ่ายเหนือที่เป็นสหภาพซี่งยึดรัฐธรรมนูญเหนืออื่นใด ได้ส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อแนวหลังที่รอคอยด้วยใจกระวนกระวายอยู่กับบ้าน ผลการแพ้ชนะแต่ละครั้ง ได้สร้างรอยแผลไว้ในใจอย่างฝังลึกยากถอดถอน จนถึงวันที่รู้ว่าฝ่ายของตน ดินแดนอันเป็นที่รัก เชิดชูและศรัทธา ได้แพ้พ่ายอย่างราบคาบ คนรักและรู้จัก พลเมืองจำนวนมากต่างตายไปในสงคราม ที่เหลือรอดกลับมาก็สภาพน่าอเนจอนาถ รวมถึงผลพวงหลังจากรัฐบาลกลางเข้ามากุมอำนาจ มีบทบาทตั้งกฎระเบียบต่างๆ ที่เป็นการขูดรีด เอาเปรียบ เหยียบย่ำ ฉีกทึ้ง เกียรติยศ ศักดิ์ศรีความเป็นคน การฉ้อฉลคดโกง ใช้อำนาจโดยมิชอบ รีดนาทาเล้น ปล้นฆ่า โกงสมบัติชาติเป็นของตน ของผู้มีอำนาจที่ได้รับเลือกจากรัฐบาลกลางมาปกครองดูแลชาวใต้ สมาพันธรัฐล่มสลาย ประชาชนเดือดร้อน อดอยาก แร้นแค้น เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยส่งเสริม และเปลี่ยนแปลงให้นางเอกต้องกลายสภาพจากคุณหนูผู้ไร้เดียงสา ไปเป็นผู้ทำทุกทางเพื่อจะอยู่รอดให้ได้ในยามวิกฤต เพื่อประคับประคองข้าทาสผิวดำที่ซื่อสัตย์ เพื่อรักษาบ้านและที่ดินของพ่อเอาไว้ เพราะเธอต้องขึ้นมาเป็นหัวหน้าครอบครัวแทนหลังสูญเสียพ่อไป ยอมกระทั่งให้คนใต้ด้วยกันหยามเหยียด รังเกียจเดียดฉันท์ เพราะเธอตัดสินใจเลือกคบค้าสมาคม ทำธุรกิจกับพวกพ่อค้า ผู้มีอำนาจ ที่มาปกครองบ้านเมืองของตน ซึ่งครั้งหนึ่งเธอรังเกียจและเจ็บแค้น เพื่อจะดำรงสถานะของครอบครัวให้ไปต่อได้ การเติบโตทางอารมณ์ และความเป็นผู้ใหญ่ที่ต้องชั่งใจเลือก ในสิ่งซึ่งขัดแย้งกับอุดมการณ์ ความศรัทธา ภาคภูมิที่ตนเชื่อมั่นมาตลอด กับความจริงตรงหน้าที่บีบคั้นให้กระทำสวนทางก็ตาม สการ์เลตต์ โอฮารา รวมถึง เรตต์ บัตเลอร์ จึงเป็นตัวละครที่มีความเรียลริสติก มีบุคลิกที่ใกล้เคียงความเป็นมนุษย์ปุถุชน ที่มีทั้งดีชั่วปะปน และดิ้นรนเพื่อหาทางเอาชีวิตรอดไปตามสถานการณ์ ไม่ใช่ตัวละครที่พาฝัน ภาพลักษณ์สวยงาม เป็นคนดีพร้อม ทั้งรูปสมบัติและคุณสมบัติ ที่มักพบได้ในตัวพระนางทั่วไป หากกล่าวอย่างตรงๆแล้ว ทั้งสองออกจะมีด้านที่เป็นสีเทาดำ มากกว่าสีขาวด้วยซ้ำ แต่นี่อาจเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เรื่องนี้ยังคงอยู่ในใจของนักอ่านทั่วโลกมาอย่างยาวนานจนปัจจุบัน ถึงกับได้รับการยกย่องมากมายจากหลายสถาบัน ให้เป็นหนึ่งในวรรณกรรมคลาสสิกชิ้นเยี่ยม ทว่าสำหรับส่วนตัวแล้ว ไม่ได้สนใจในเรื่องนั้นเลย ยังคงยืนยันเช่นเดิมว่าไม่ชอบนางเอก และพระเอก รวมถึงไม่อาจบอกได้ว่านี่คือเรื่องที่รักชอบหลังอ่านจบ แต่สิ่งหนึ่งที่กล้ายืนยันอย่างมั่นใจอีกครั้งคือ นี่คือหนังสือที่ดี มีค่าเพียงพอต่อเวลาที่ต้องสละไปในการอ่าน ใครอ่านเรื่องนี้จบเกินกว่า 1 รอบ ขอยอมรับนับถือเลย สุดท้ายที่จะบอกคือ นี่เป็นหนังสือที่ดูดพลังอย่างมาก เหนื่อยที่สุดในชีวิตการเป็นนักอ่าน แม้นอ่านนิยายไทยยาวๆอย่างเพชรพระอุมา หรือนิยายจีนกำลังภายในที่ยาว 20-30 เล่ม ก็ยังไม่เคยเหนื่อยเท่า ป.ล. เนื่องจากไม่มีหนังสือเป็นของตน จึงขอใช้ภาพจากอินเตอร์เน็ตมาประกอบครับ #นิยายแปล #วรรณกรรมคลาสสิก #วิมานลอย #gonewiththewind #หนังสือน่าอ่าน #สงครามกลางเมือง #สหรัฐอเมริกา #ชนชั้น #แรงงาน #บริวาร #ทาส #คนผิวดำ #thaitimes #นิยาย #หนังสือ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 832 มุมมอง 0 รีวิว
  • ก.ล.ต. กล่าวโทษ "วนรัตน์-ชนินทร์" และพวกรวม5ราย เผยแพร่ข้อมูลเท็จ STARK เกี่ยวกับการใช้เงินเพิ่มทุน PP จำนวน 5,580 ล้านบาทและจัดทำโครงการซื้อหุ้นคืน ทั้งที่ในความเป็นจริงเงินเพิ่มทุนถูกใช้ไปหมดแล้ว และบริษัทไม่มีสถานะทางการเงินที่เพียงพอสำหรับโครงการซื้อหุ้นคืน

    18 กันยายน 2567-รายงานข่าวจากสำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้กระทำผิด 5 ราย ได้แก่ (1) บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) และอดีตกรรมการและ/หรืออดีตผู้บริหารของ STARK ได้แก่ (2) นายชนินทร์ เย็นสุดใจ (3) นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ (4) นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ และ (5) นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความอันอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของ STARK และรายงานการดำเนินการต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)

    ทั้งนี้ ในขณะเกิดเหตุ นายชนินทร์ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท นายศรัทธาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน เลขานุการ และกรรมการบริษัท นายวนรัตน์ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท และนายประกรณ์ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัท อีกทั้ง ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษบุคคลทั้ง 4 ราย กรณีมีส่วนร่วมหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดกรณีตกแต่งงบการเงินปี 2565 ของ STARK* บุคคลดังกล่าวจึงอยู่ในฐานะที่ทราบได้ว่า STARK มิได้มีกำไรสะสมและสภาพคล่องเพียงพอในการจัดทำโครงการซื้อหุ้นคืน นอกจากนี้ นายชนินทร์และนายศรัทธายังทราบข้อเท็จจริงว่า เงินเพิ่มทุน PP จำนวน 5,580 ล้านบาท ได้ถูกนำออกไปใช้จ่ายจนหมดแล้ว โดยบุคคลทั้ง 4 รายมีส่วนร่วมในการดำเนินการเกี่ยวกับการเปิดเผยสารสนเทศของ STARK ดังกล่าว โดยกรณีนี้ เกี่ยวข้องกับการตกแต่งงบการเงินในปี 2565

    การกระทำของ STARK เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 240 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน

    ที่มา : https://www.sec.or.th/TH/Pages/News_Detail.aspx?SECID=11154

    #Thaitimes
    ก.ล.ต. กล่าวโทษ "วนรัตน์-ชนินทร์" และพวกรวม5ราย เผยแพร่ข้อมูลเท็จ STARK เกี่ยวกับการใช้เงินเพิ่มทุน PP จำนวน 5,580 ล้านบาทและจัดทำโครงการซื้อหุ้นคืน ทั้งที่ในความเป็นจริงเงินเพิ่มทุนถูกใช้ไปหมดแล้ว และบริษัทไม่มีสถานะทางการเงินที่เพียงพอสำหรับโครงการซื้อหุ้นคืน 18 กันยายน 2567-รายงานข่าวจากสำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวโทษผู้กระทำผิด 5 ราย ได้แก่ (1) บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) และอดีตกรรมการและ/หรืออดีตผู้บริหารของ STARK ได้แก่ (2) นายชนินทร์ เย็นสุดใจ (3) นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ (4) นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ และ (5) นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรณีเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความอันอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของ STARK และรายงานการดำเนินการต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ทั้งนี้ ในขณะเกิดเหตุ นายชนินทร์ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท นายศรัทธาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน เลขานุการ และกรรมการบริษัท นายวนรัตน์ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท และนายประกรณ์ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการบริษัท อีกทั้ง ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษบุคคลทั้ง 4 ราย กรณีมีส่วนร่วมหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดกรณีตกแต่งงบการเงินปี 2565 ของ STARK* บุคคลดังกล่าวจึงอยู่ในฐานะที่ทราบได้ว่า STARK มิได้มีกำไรสะสมและสภาพคล่องเพียงพอในการจัดทำโครงการซื้อหุ้นคืน นอกจากนี้ นายชนินทร์และนายศรัทธายังทราบข้อเท็จจริงว่า เงินเพิ่มทุน PP จำนวน 5,580 ล้านบาท ได้ถูกนำออกไปใช้จ่ายจนหมดแล้ว โดยบุคคลทั้ง 4 รายมีส่วนร่วมในการดำเนินการเกี่ยวกับการเปิดเผยสารสนเทศของ STARK ดังกล่าว โดยกรณีนี้ เกี่ยวข้องกับการตกแต่งงบการเงินในปี 2565 การกระทำของ STARK เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 240 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน ที่มา : https://www.sec.or.th/TH/Pages/News_Detail.aspx?SECID=11154 #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 726 มุมมอง 0 รีวิว
  • Tatyana Bakalchuk สตรีที่รวยที่สุดของรัสเซีย กล่าวหาอดีตสามีที่แยกกันอยู่ว่า พยายามใช้กำลังยึดสำนักงานใหญ่ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งเธอเป็นเจ้าของ

    18 กันยายน 2567-รายงานข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า Tatyana Bakalchuk สตรีที่รวยที่สุดของรัสเซีย กล่าวหานาย วลาดิสลาฟ บากัลชุก (Vladislav Bakalchuk )อดีตสามีที่แยกกันอยู่ว่าพยายามยึดสำนักงานใหญ่ในมอสโกของ Wildberries แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซียซึ่งเธอเป็นเจ้าของ

    รายงานระบุว่าการทะเลาะวิวาทเริ่มขึ้นเมื่อกลุ่มชายกลุ่มหนึ่งซึ่งนำโดยวลาดิสลาฟ บากัลชุก พยายามจะเข้าไปในอาคาร วิดีโอที่เผยแพร่โดยสถานีข่าว Mash ซึ่งเป็นสถานีข่าวเทเลแกรมที่สนับสนุนเครมลิน แสดงให้เห็นการทะเลาะวิวาทนอกสำนักงาน ตามมาด้วยเสียงปืนและเสียงตะโกน

    ปรากฏว่า รปภ.เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต 1 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และมีผู้ถูกจับกุม 30 ราย

    ความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างทาเทียนาและวลาดิสลาฟ บากัลชุกทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากการหย่าร้างของพวกเขาในเดือนกรกฎาคม วลาดิสลาฟได้ขอความช่วยเหลือจากรามซาน คาดีรอฟ ผู้นำเชเชนอย่างเปิดเผย โดยอ้างว่าเขากำลังเผชิญกับการเข้าซื้อกิจการบริษัทอย่างไม่เป็นมิตร

    กรณีที่ Wildberriesได้ประกาศควบรวมกิจการกับ Russ Group เมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา โดยก่อตั้งแพลตฟอร์มซื้อขายดิจิทัลใหม่ที่ชื่อ RWB ภายใต้การควบรวมกิจการนี้ Robert Mirzoyan แห่ง Russ Group จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการผู้จัดการของ RWB โดยมี Tatiana Bakalchuk ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการทั่วไป

    สื่อธุรกิจชี้ข้อตกลงดังกล่าวเป็น "เรื่องแปลกมาก" เนื่องจากเป็นการควบรวมกิจการระหว่างWildberries ที่มีขนาดใหญ่กว่า Russ Group ถึง 20 เท่า โดยมีรายได้ 538,700 ล้านรูเบิล (2,700 ล้านดอลลาร์) เมื่อปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับ Russ Group ที่มีรายได้ 27,900 ล้านรูเบิล (300 ล้านดอลลาร์)และ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน สนับสนุนข้อตกลงควบรวมระหว่าง Russ Group และ Wildberries

    #Thaitimes
    Tatyana Bakalchuk สตรีที่รวยที่สุดของรัสเซีย กล่าวหาอดีตสามีที่แยกกันอยู่ว่า พยายามใช้กำลังยึดสำนักงานใหญ่ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งเธอเป็นเจ้าของ 18 กันยายน 2567-รายงานข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า Tatyana Bakalchuk สตรีที่รวยที่สุดของรัสเซีย กล่าวหานาย วลาดิสลาฟ บากัลชุก (Vladislav Bakalchuk )อดีตสามีที่แยกกันอยู่ว่าพยายามยึดสำนักงานใหญ่ในมอสโกของ Wildberries แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในประเทศรัสเซียซึ่งเธอเป็นเจ้าของ รายงานระบุว่าการทะเลาะวิวาทเริ่มขึ้นเมื่อกลุ่มชายกลุ่มหนึ่งซึ่งนำโดยวลาดิสลาฟ บากัลชุก พยายามจะเข้าไปในอาคาร วิดีโอที่เผยแพร่โดยสถานีข่าว Mash ซึ่งเป็นสถานีข่าวเทเลแกรมที่สนับสนุนเครมลิน แสดงให้เห็นการทะเลาะวิวาทนอกสำนักงาน ตามมาด้วยเสียงปืนและเสียงตะโกน ปรากฏว่า รปภ.เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต 1 ราย และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และมีผู้ถูกจับกุม 30 ราย ความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างทาเทียนาและวลาดิสลาฟ บากัลชุกทวีความรุนแรงขึ้นหลังจากการหย่าร้างของพวกเขาในเดือนกรกฎาคม วลาดิสลาฟได้ขอความช่วยเหลือจากรามซาน คาดีรอฟ ผู้นำเชเชนอย่างเปิดเผย โดยอ้างว่าเขากำลังเผชิญกับการเข้าซื้อกิจการบริษัทอย่างไม่เป็นมิตร กรณีที่ Wildberriesได้ประกาศควบรวมกิจการกับ Russ Group เมื่อช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา โดยก่อตั้งแพลตฟอร์มซื้อขายดิจิทัลใหม่ที่ชื่อ RWB ภายใต้การควบรวมกิจการนี้ Robert Mirzoyan แห่ง Russ Group จะเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการผู้จัดการของ RWB โดยมี Tatiana Bakalchuk ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการทั่วไป สื่อธุรกิจชี้ข้อตกลงดังกล่าวเป็น "เรื่องแปลกมาก" เนื่องจากเป็นการควบรวมกิจการระหว่างWildberries ที่มีขนาดใหญ่กว่า Russ Group ถึง 20 เท่า โดยมีรายได้ 538,700 ล้านรูเบิล (2,700 ล้านดอลลาร์) เมื่อปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับ Russ Group ที่มีรายได้ 27,900 ล้านรูเบิล (300 ล้านดอลลาร์)และ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน สนับสนุนข้อตกลงควบรวมระหว่าง Russ Group และ Wildberries #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 752 มุมมอง 0 รีวิว
  • #THAILAND #thaitimes
    #THAILAND 💛🇹🇭 #thaitimes
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 659 มุมมอง 0 รีวิว
  • การ์ตูนการเมือง : บัญชา/คามิน
    ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์
    #Thaitimes
    การ์ตูนการเมือง : บัญชา/คามิน ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ #Thaitimes
    Haha
    Like
    13
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 733 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามเทคโนโลยี(Tech War)ล่าสุดที่ใช้เครื่องเพจเจอร์สังหารคนเลบานอนและซีเรีย เป็นสัญญาณเตือนให้โลกทราบว่าห่วงโซ่อุปทานใดๆที่สหรัฐฯและอิสราเอลเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ถือว่าไม่ปลอดภัยเป็นอันตรายถึงตาย นี่คือสาเหตุที่อเมริกาและชาติตะวันตกกลัวบริษัทจีนอย่าง Huawei เนื่องจากHuaweiอยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกเขา

    #Thaitimes
    สงครามเทคโนโลยี(Tech War)ล่าสุดที่ใช้เครื่องเพจเจอร์สังหารคนเลบานอนและซีเรีย เป็นสัญญาณเตือนให้โลกทราบว่าห่วงโซ่อุปทานใดๆที่สหรัฐฯและอิสราเอลเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ถือว่าไม่ปลอดภัยเป็นอันตรายถึงตาย นี่คือสาเหตุที่อเมริกาและชาติตะวันตกกลัวบริษัทจีนอย่าง Huawei เนื่องจากHuaweiอยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกเขา #Thaitimes
    Like
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 781 มุมมอง 0 รีวิว
  • 18/09/67
    วันนี้ดอลลาร์สหรัฐร่วง ตลาดหุ้นทรงตัว
    นักลงทุนเตรียมรับมือธนาคารกลางสหรัฐ
    หรือ เฟด ผ่อนปรนอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง

    ดอลลาร์อ่อนค่าลงในวันพุธนี้ ในขณะที่
    อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐขยับสูงขึ้น
    และหุ้นทั่วโลก รวมทั้งตลาดหุ้นไทย ทรงตัว
    เนื่องจากผู้ซื้อขายพิจารณา
    ความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
    จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในจำนวนมาก
    ในช่วงบ่ายของวัน (ตามเวลาสหรัฐ)

    ที่มา : Reuters

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ธนาคารกลางสหรัฐ
    #FED #thaitimes
    🔥🔥18/09/67 วันนี้ดอลลาร์สหรัฐร่วง ตลาดหุ้นทรงตัว นักลงทุนเตรียมรับมือธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ผ่อนปรนอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 🚩ดอลลาร์อ่อนค่าลงในวันพุธนี้ ในขณะที่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐขยับสูงขึ้น และหุ้นทั่วโลก รวมทั้งตลาดหุ้นไทย ทรงตัว เนื่องจากผู้ซื้อขายพิจารณา ความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในจำนวนมาก ในช่วงบ่ายของวัน (ตามเวลาสหรัฐ) ที่มา : Reuters #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ธนาคารกลางสหรัฐ #FED #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 822 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพจ “ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน” โพสต์แฉ ผอ.กศน.รายหนึ่งใน จ.สุรินทร์ ที่ไม่เข้าทำงาน นอนกินเงินเดือนอยู่บ้าน แถมใช้ลูกน้องหอบแฟ้มเอกสารไปให้เซ็นถึงบ้านพัก ชาวเน็ตวิจารณ์สนั่น คนแบบนี้เป็นภาระต่อองค์กร
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000087431

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เพจ “ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน” โพสต์แฉ ผอ.กศน.รายหนึ่งใน จ.สุรินทร์ ที่ไม่เข้าทำงาน นอนกินเงินเดือนอยู่บ้าน แถมใช้ลูกน้องหอบแฟ้มเอกสารไปให้เซ็นถึงบ้านพัก ชาวเน็ตวิจารณ์สนั่น คนแบบนี้เป็นภาระต่อองค์กร อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000087431 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    Sad
    Love
    Haha
    44
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1469 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ เรียกผู้ว่าฯ ททท. หารือแผนกระตุ้นท่องเที่ยวปี 68 ย้ำเม็ดเงินต้องกระจายลงทุกพื้นที่ ด้านผู้ว่าฯ ททท. เตรียมเสนอแผนท่องเที่ยว 1-2 สัปดาห์นี้ให้นายกฯ รับทราบ หนุนหาก “สรวงศ์” รื้อโครงการเราเที่ยวด้วยกัน-คนละครึ่ง หากส่งเสริมท่องเที่ยวได้อย่างดี แต่ยังไม่มีการหารือมาตรการอื่นๆ
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000087439

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    นายกฯ เรียกผู้ว่าฯ ททท. หารือแผนกระตุ้นท่องเที่ยวปี 68 ย้ำเม็ดเงินต้องกระจายลงทุกพื้นที่ ด้านผู้ว่าฯ ททท. เตรียมเสนอแผนท่องเที่ยว 1-2 สัปดาห์นี้ให้นายกฯ รับทราบ หนุนหาก “สรวงศ์” รื้อโครงการเราเที่ยวด้วยกัน-คนละครึ่ง หากส่งเสริมท่องเที่ยวได้อย่างดี แต่ยังไม่มีการหารือมาตรการอื่นๆ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000087439 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Yay
    22
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1481 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts