• ตำรวจกัมพูชาแจงคดีฆาตกรรม นศ.เกาหลีใต้ ยืนยันไม่มีคำขอทางการจากครอบครัว-สถานทูตก่อนพบศพ
    https://www.thai-tai.tv/news/21901/
    .
    #ไทยไท #ตำรวจกัมพูชา #นักศึกษาเกาหลีใต้ #ถูกสังหาร #SCMP #คดีฆาตกรรม #อาชญากรรมกัมพูชา
    ตำรวจกัมพูชาแจงคดีฆาตกรรม นศ.เกาหลีใต้ ยืนยันไม่มีคำขอทางการจากครอบครัว-สถานทูตก่อนพบศพ https://www.thai-tai.tv/news/21901/ . #ไทยไท #ตำรวจกัมพูชา #นักศึกษาเกาหลีใต้ #ถูกสังหาร #SCMP #คดีฆาตกรรม #อาชญากรรมกัมพูชา
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • คำพูดตลกของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม และ “ภรรยาคนที่สอง” ทำให้คนในประเทศเกิดปฏิกิริยาที่หลากหลาย โดยทำให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรู้สึกขบขัน แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนอื่นๆรู้สึกไม่พอใจเพราะยังคงไว้อาลัยเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ หลังจากที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เครื่องบินตกเมื่อปี 2014 ระหว่างที่อันวาร์เยือนกรุงมอสโก

    อันวาร์อยู่ระหว่างการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ 4 วันตามคำเชิญของปูติน โดยทั้งสองฝ่ายต่างยกย่องความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในภาคส่วนต่างๆ เช่น อวกาศ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีดิจิทัล

    แต่คำพูดที่หลุดจากปากของปูตินเองต่างหากที่ดึงดูดความสนใจ

    ในการแถลงข่าวร่วมกันที่กรุงมอสโกเมื่อวันพุธที่14 พ.ค. ผู้นำรัสเซียเล่าว่าพาอันวาร์ชมห้องโถงเซนต์แอนดรูว์อันโอ่อ่าในเครมลิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบัลลังก์พิธีการ 3 บัลลังก์ที่ราชวงศ์รัสเซียเคยใช้ ผู้นำรัสเซียอธิบายว่าบัลลังก์หนึ่งเป็นของซาร์ และอีกบัลลังก์หนึ่งเป็นของภรรยา จากนั้นจึงถามผู้นำมาเลเซียว่าบัลลังก์ที่สามเป็นของใคร

    “นายกรัฐมนตรีอันวาร์กล่าวโดยไม่คิดอะไรเลยว่า ‘เพื่อภรรยาคนที่สอง’” ปูตินกล่าว ทำให้ผู้ฟังหัวเราะ “ฉันหวังว่าเขาจะไม่โกรธฉันที่พูดแบบนั้น แต่นี่คือคำตอบของมุสลิมแท้ ตัวแทนที่แท้จริงของวัฒนธรรมอิสลาม”

    อันวาร์ซึ่งหัวเราะขณะที่ปูตินเล่าเรื่องนี้ตอบกลับว่า “ผมมีภรรยาคนเดียวเท่านั้น ท่านประธานาธิบดี” และเสริมว่าภายหลังเขาเพิ่งตระหนักว่าบัลลังก์ที่สามนั้นเป็นของพระมารดาของซาร์

    ชาวมาเลเซียรีบล้อเลียนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนี้บนโซเชียลมีเดีย โดยบางคนเสนอว่าควรมีเพลง “Russia Sayang” เป็นเพลงประกอบการเยือนของอันวาร์ ซึ่งเป็นการเล่นคำกับเพลง “Rasa Sayang” ซึ่งเป็นเพลงพื้นบ้านยอดนิยมของชาวมาเลย์ที่แปลว่า “ความรู้สึกรัก”

    “จากรัสเซียด้วยความรัก” ผู้ใช้รายหนึ่งชื่ออัซลัน อับดุลลาห์ เขียน พร้อมเพิ่มอีโมจิหัวเราะในความคิดเห็นบนเฟซบุ๊กของเขา

    อย่างไรก็ตาม ชาวมาเลเซียบางคนก็ไม่ได้รู้สึกขบขัน นักวิจารณ์โต้แย้งว่าความตลกโปกฮานี้ขาดความจริงจัง เนื่องจากรัสเซียมีบทบาทในเหตุโศกนาฏกรรม MH17 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 298 ราย รวมถึงชาวมาเลเซีย 43 ราย เมื่อเครื่องบินถูกขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ Buk ที่ผลิตโดยรัสเซียโจมตีเหนือยูเครนตะวันออกในเดือนกรกฎาคม 2557 ระหว่างการสู้รบระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนมอสโกวและกองกำลังยูเครน

    ผู้ใช้รายหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า “เขาคิดว่าเขาไปมอสโกวเพื่อเรียกร้องคำตอบเกี่ยวกับ MH17 แต่กลับกลายเป็นว่าเขากำลังเล่าเรื่องตลกเกี่ยวกับภรรยาคนที่สองกับปูตินแทน” ผู้ใช้อีกรายเขียนว่า “หัวเราะและเล่าเรื่องตลกในขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจาก MH17 ร้องไห้” ในโพสต์ที่แชร์คลิปการแถลงข่าวที่กลายเป็นไวรัล

    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ตัดสินว่ารัสเซียต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์เครื่องบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ถูกยิงตก

    คำตัดสินดังกล่าวระบุว่ารัสเซียละเมิดอนุสัญญาชิคาโก ซึ่งห้ามใช้อาวุธโจมตีเครื่องบินพลเรือนขณะบิน และเปิดโอกาสให้รัฐที่ได้รับผลกระทบเรียกร้องค่าชดเชยแทนครอบครัวของผู้เสียชีวิตผ่านกลไกทางกฎหมายระหว่างประเทศ

    เครมลินปฏิเสธคำตัดสินดังกล่าวโดยระบุว่า “ลำเอียง” โดยให้เหตุผลว่ามอสโกไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวน

    ในการแถลงข่าวแยกกับสื่อมาเลเซียในกรุงมอสโก อันวาร์กล่าวว่าปูตินบอกกับเขาว่ารัสเซียเปิดกว้างที่จะให้ความร่วมมือในคดีนี้ แต่เฉพาะกับหน่วยงานสอบสวนที่ถือว่าเป็นกลางเท่านั้น

    “สิ่งที่ฉันยืนยันได้คือเขากล่าวว่าไม่เป็นความจริงที่จะบอกว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ แต่พวกเขาไม่สามารถให้ความร่วมมือกับใครก็ตามที่รัสเซียถือว่าไม่เป็นอิสระ” เขากล่าว

    มาเลเซียซึ่งสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียในช่วงยุคโซเวียตในทศวรรษ 1960 นำเข้าธัญพืช น้ำมันกลั่น และอาวุธจากรัสเซีย และล่าสุดหันไปหามอสโกเพื่อขอการสนับสนุนในการพยายามเข้าร่วมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่บริกส์

    ที่มา Putin’s ‘second wife’ joke about Anwar draws laughs and backlash in Malaysia
    https://www.scmp.com/week-asia/politics/article/3310606/putins-second-wife-joke-about-malaysias-anwar-draws-laughs-and-anger-amid-mh17-ruling?share=mYixsqD3Gx74oC2WLCVGDbUSw3YQ5trX%2FyBWyU9E0%2F%2FQDIcV%2Ba96vAUpBw3v%2BoxVR4RAImnq9JxgzHKpT4WMZjU%2BOyv%2BvSxYeWul0pVvbj0%3D&utm_campaign=social_share
    คำพูดตลกของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม และ “ภรรยาคนที่สอง” ทำให้คนในประเทศเกิดปฏิกิริยาที่หลากหลาย โดยทำให้ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรู้สึกขบขัน แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนอื่นๆรู้สึกไม่พอใจเพราะยังคงไว้อาลัยเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ หลังจากที่รัสเซียถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เครื่องบินตกเมื่อปี 2014 ระหว่างที่อันวาร์เยือนกรุงมอสโก อันวาร์อยู่ระหว่างการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ 4 วันตามคำเชิญของปูติน โดยทั้งสองฝ่ายต่างยกย่องความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในภาคส่วนต่างๆ เช่น อวกาศ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีดิจิทัล แต่คำพูดที่หลุดจากปากของปูตินเองต่างหากที่ดึงดูดความสนใจ ในการแถลงข่าวร่วมกันที่กรุงมอสโกเมื่อวันพุธที่14 พ.ค. ผู้นำรัสเซียเล่าว่าพาอันวาร์ชมห้องโถงเซนต์แอนดรูว์อันโอ่อ่าในเครมลิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของบัลลังก์พิธีการ 3 บัลลังก์ที่ราชวงศ์รัสเซียเคยใช้ ผู้นำรัสเซียอธิบายว่าบัลลังก์หนึ่งเป็นของซาร์ และอีกบัลลังก์หนึ่งเป็นของภรรยา จากนั้นจึงถามผู้นำมาเลเซียว่าบัลลังก์ที่สามเป็นของใคร “นายกรัฐมนตรีอันวาร์กล่าวโดยไม่คิดอะไรเลยว่า ‘เพื่อภรรยาคนที่สอง’” ปูตินกล่าว ทำให้ผู้ฟังหัวเราะ “ฉันหวังว่าเขาจะไม่โกรธฉันที่พูดแบบนั้น แต่นี่คือคำตอบของมุสลิมแท้ ตัวแทนที่แท้จริงของวัฒนธรรมอิสลาม” อันวาร์ซึ่งหัวเราะขณะที่ปูตินเล่าเรื่องนี้ตอบกลับว่า “ผมมีภรรยาคนเดียวเท่านั้น ท่านประธานาธิบดี” และเสริมว่าภายหลังเขาเพิ่งตระหนักว่าบัลลังก์ที่สามนั้นเป็นของพระมารดาของซาร์ ชาวมาเลเซียรีบล้อเลียนการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนี้บนโซเชียลมีเดีย โดยบางคนเสนอว่าควรมีเพลง “Russia Sayang” เป็นเพลงประกอบการเยือนของอันวาร์ ซึ่งเป็นการเล่นคำกับเพลง “Rasa Sayang” ซึ่งเป็นเพลงพื้นบ้านยอดนิยมของชาวมาเลย์ที่แปลว่า “ความรู้สึกรัก” “จากรัสเซียด้วยความรัก” ผู้ใช้รายหนึ่งชื่ออัซลัน อับดุลลาห์ เขียน พร้อมเพิ่มอีโมจิหัวเราะในความคิดเห็นบนเฟซบุ๊กของเขา อย่างไรก็ตาม ชาวมาเลเซียบางคนก็ไม่ได้รู้สึกขบขัน นักวิจารณ์โต้แย้งว่าความตลกโปกฮานี้ขาดความจริงจัง เนื่องจากรัสเซียมีบทบาทในเหตุโศกนาฏกรรม MH17 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 298 ราย รวมถึงชาวมาเลเซีย 43 ราย เมื่อเครื่องบินถูกขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ Buk ที่ผลิตโดยรัสเซียโจมตีเหนือยูเครนตะวันออกในเดือนกรกฎาคม 2557 ระหว่างการสู้รบระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนมอสโกวและกองกำลังยูเครน ผู้ใช้รายหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่า “เขาคิดว่าเขาไปมอสโกวเพื่อเรียกร้องคำตอบเกี่ยวกับ MH17 แต่กลับกลายเป็นว่าเขากำลังเล่าเรื่องตลกเกี่ยวกับภรรยาคนที่สองกับปูตินแทน” ผู้ใช้อีกรายเขียนว่า “หัวเราะและเล่าเรื่องตลกในขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจาก MH17 ร้องไห้” ในโพสต์ที่แชร์คลิปการแถลงข่าวที่กลายเป็นไวรัล เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ตัดสินว่ารัสเซียต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์เครื่องบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ถูกยิงตก คำตัดสินดังกล่าวระบุว่ารัสเซียละเมิดอนุสัญญาชิคาโก ซึ่งห้ามใช้อาวุธโจมตีเครื่องบินพลเรือนขณะบิน และเปิดโอกาสให้รัฐที่ได้รับผลกระทบเรียกร้องค่าชดเชยแทนครอบครัวของผู้เสียชีวิตผ่านกลไกทางกฎหมายระหว่างประเทศ เครมลินปฏิเสธคำตัดสินดังกล่าวโดยระบุว่า “ลำเอียง” โดยให้เหตุผลว่ามอสโกไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสอบสวน ในการแถลงข่าวแยกกับสื่อมาเลเซียในกรุงมอสโก อันวาร์กล่าวว่าปูตินบอกกับเขาว่ารัสเซียเปิดกว้างที่จะให้ความร่วมมือในคดีนี้ แต่เฉพาะกับหน่วยงานสอบสวนที่ถือว่าเป็นกลางเท่านั้น “สิ่งที่ฉันยืนยันได้คือเขากล่าวว่าไม่เป็นความจริงที่จะบอกว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ แต่พวกเขาไม่สามารถให้ความร่วมมือกับใครก็ตามที่รัสเซียถือว่าไม่เป็นอิสระ” เขากล่าว มาเลเซียซึ่งสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัสเซียในช่วงยุคโซเวียตในทศวรรษ 1960 นำเข้าธัญพืช น้ำมันกลั่น และอาวุธจากรัสเซีย และล่าสุดหันไปหามอสโกเพื่อขอการสนับสนุนในการพยายามเข้าร่วมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่บริกส์ ที่มา Putin’s ‘second wife’ joke about Anwar draws laughs and backlash in Malaysia https://www.scmp.com/week-asia/politics/article/3310606/putins-second-wife-joke-about-malaysias-anwar-draws-laughs-and-anger-amid-mh17-ruling?share=mYixsqD3Gx74oC2WLCVGDbUSw3YQ5trX%2FyBWyU9E0%2F%2FQDIcV%2Ba96vAUpBw3v%2BoxVR4RAImnq9JxgzHKpT4WMZjU%2BOyv%2BvSxYeWul0pVvbj0%3D&utm_campaign=social_share
    WWW.SCMP.COM
    Putin’s ‘second wife’ joke about Anwar draws laughs and backlash in Malaysia
    While some social media users were amused by the leaders’ moment of levity, others felt it was inappropriate in light of the MH17 tragedy.
    0 Comments 0 Shares 775 Views 0 Reviews
  • เผยค่านิยม YOLO ทำผู้ติดเชื้อ HIV เพิ่ม

    กลายเป็นที่วิจารณ์บนโซเชียลฯ ในมาเลเซีย เมื่อนายลูกานิสมัน อะวัง เซานี่ (Lukanisman Awang Sauni) รมช.สาธารณสุขมาเลเซีย กล่าวในการประชุมวุฒิสภา (Dewan Negara) เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ระบุว่าทัศนคติที่เรียกว่า YOLO (โยโล่) หรือ You Only Live Once (เกิดหนเดียวตายหนเดียว) อาจส่งผลต่ออัตราการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ในกลุ่มเพศชาย อายุ 20-39 ปี ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งกลายปัญหาที่น่ากังวลอย่างยิ่ง

    ค่านิยม YOLO ช่วยกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่กล้าลองทำอะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากกระแสโลก นับเป็นปัญหาของคนรุ่นต่อรุ่น ความปรารถนาที่จะทดลองอะไรใหม่ๆ รวมถึงการดูแลตัวเอง ผลักดันให้คนรุ่นใหม่ทำกิจกรรมที่นอกเหนือไปจากการมีเพศสัมพันธ์แบบชายกับหญิง โดยมักจะไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา นอกจากนี้ บทบาทของโซเชียลมีเดียที่ติดต่อกันระหว่างบุคคลมีความเสี่ยงสูง เพราะไม่มีกลไกที่มีประสิทธิภาพในการควบคุม

    จากข้อมูลการเฝ้าระวังของสำนักทะเบียนผู้ติดเชื้อเอดส์แห่งชาติ (NAR) พบว่าในปี 2567 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวี 90% อยู่ในกลุ่มเพศชาย โดย 75% อยู่ในกลุ่มที่มีอายุ 20-39 ปี แม้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงจากปี 2545 พบผู้ติดเชื้อ 28.5 รายต่อประชากร 100,000 ราย เหลือ 3,185 รายในปี 2567 หรือ 9.4 รายต่อประชากร 100,000 ราย ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียมีโครงการจัดซื้อยาป้องกันเชื้อเอชไอวีก่อนการสัมผัสโรค หรือเพร็ป (PrEP) แต่ต้องเผชิญกับการต่อต้านจากคนบางกลุ่ม

    สำนักข่าวเซาต์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ (SCMP) รายงานว่า ทฤษฎี YOLO ของ รมช.สาธารณสุขมาเลเซียถูกมองว่าแปลกประหลาด รังเกียจกลุ่ม LGBTQ ไม่ติดตามข่าวสาร และเป็นเรื่องไร้สาระที่กล่าวหาว่าเยาวชนลองมีเพศสัมพันธ์แบบเพศเดียวกันจากค่านิยม YOLO เพราะการรักร่วมเพศเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและไม่ใช่เรื่องสนุก ไม่เหมือนยาเสพติดหรือแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ยังมองว่า รัฐบาลกำลังร่วมปลุกปั่นความกลัวและหาแพะรับบาปให้กับชุมชน LGBTQ โดยชาวเน็ตเรียกร้องให้นำเสนอข้อมูลเพื่อสนับสนุนคำกล่าวอ้างของตน

    สำหรับประเทศมาเลเซีย มีกฎหมายอาญาและกฎหมายชารีอะห์ ห้ามมีเพศสัมพันธ์ที่ผิดธรรมชาติทั้งชายและหญิง เช่น มีเซ็กซ์กับเพศเดียวกัน มีโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี หรือลงโทษด้วยการโบย นอกจากนี้ ยังมีการควบคุมสิ่งที่บ่งบอกว่าเป็น LGBTQ ได้แก่ หนังสือที่มีธีม LGBTQ เคยห้ามนำเข้านาฬิกา Swatch ที่มีสีรุ้งและข้อความสนับสนุน LGBTQ และตำรวจเคยห้ามจัดการแสดง Thai Hot Guys ในงานเปิดตัวไนต์คลับที่ย่านตุนราซัก กรุงกัวลาลัมเปอร์อีกด้วย

    #Newskit
    เผยค่านิยม YOLO ทำผู้ติดเชื้อ HIV เพิ่ม กลายเป็นที่วิจารณ์บนโซเชียลฯ ในมาเลเซีย เมื่อนายลูกานิสมัน อะวัง เซานี่ (Lukanisman Awang Sauni) รมช.สาธารณสุขมาเลเซีย กล่าวในการประชุมวุฒิสภา (Dewan Negara) เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ระบุว่าทัศนคติที่เรียกว่า YOLO (โยโล่) หรือ You Only Live Once (เกิดหนเดียวตายหนเดียว) อาจส่งผลต่ออัตราการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ในกลุ่มเพศชาย อายุ 20-39 ปี ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งกลายปัญหาที่น่ากังวลอย่างยิ่ง ค่านิยม YOLO ช่วยกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่กล้าลองทำอะไรใหม่ๆ โดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ซึ่งได้รับอิทธิพลจากกระแสโลก นับเป็นปัญหาของคนรุ่นต่อรุ่น ความปรารถนาที่จะทดลองอะไรใหม่ๆ รวมถึงการดูแลตัวเอง ผลักดันให้คนรุ่นใหม่ทำกิจกรรมที่นอกเหนือไปจากการมีเพศสัมพันธ์แบบชายกับหญิง โดยมักจะไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา นอกจากนี้ บทบาทของโซเชียลมีเดียที่ติดต่อกันระหว่างบุคคลมีความเสี่ยงสูง เพราะไม่มีกลไกที่มีประสิทธิภาพในการควบคุม จากข้อมูลการเฝ้าระวังของสำนักทะเบียนผู้ติดเชื้อเอดส์แห่งชาติ (NAR) พบว่าในปี 2567 มีผู้ติดเชื้อเอชไอวี 90% อยู่ในกลุ่มเพศชาย โดย 75% อยู่ในกลุ่มที่มีอายุ 20-39 ปี แม้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงจากปี 2545 พบผู้ติดเชื้อ 28.5 รายต่อประชากร 100,000 ราย เหลือ 3,185 รายในปี 2567 หรือ 9.4 รายต่อประชากร 100,000 ราย ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียมีโครงการจัดซื้อยาป้องกันเชื้อเอชไอวีก่อนการสัมผัสโรค หรือเพร็ป (PrEP) แต่ต้องเผชิญกับการต่อต้านจากคนบางกลุ่ม สำนักข่าวเซาต์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ (SCMP) รายงานว่า ทฤษฎี YOLO ของ รมช.สาธารณสุขมาเลเซียถูกมองว่าแปลกประหลาด รังเกียจกลุ่ม LGBTQ ไม่ติดตามข่าวสาร และเป็นเรื่องไร้สาระที่กล่าวหาว่าเยาวชนลองมีเพศสัมพันธ์แบบเพศเดียวกันจากค่านิยม YOLO เพราะการรักร่วมเพศเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและไม่ใช่เรื่องสนุก ไม่เหมือนยาเสพติดหรือแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ยังมองว่า รัฐบาลกำลังร่วมปลุกปั่นความกลัวและหาแพะรับบาปให้กับชุมชน LGBTQ โดยชาวเน็ตเรียกร้องให้นำเสนอข้อมูลเพื่อสนับสนุนคำกล่าวอ้างของตน สำหรับประเทศมาเลเซีย มีกฎหมายอาญาและกฎหมายชารีอะห์ ห้ามมีเพศสัมพันธ์ที่ผิดธรรมชาติทั้งชายและหญิง เช่น มีเซ็กซ์กับเพศเดียวกัน มีโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี หรือลงโทษด้วยการโบย นอกจากนี้ ยังมีการควบคุมสิ่งที่บ่งบอกว่าเป็น LGBTQ ได้แก่ หนังสือที่มีธีม LGBTQ เคยห้ามนำเข้านาฬิกา Swatch ที่มีสีรุ้งและข้อความสนับสนุน LGBTQ และตำรวจเคยห้ามจัดการแสดง Thai Hot Guys ในงานเปิดตัวไนต์คลับที่ย่านตุนราซัก กรุงกัวลาลัมเปอร์อีกด้วย #Newskit
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 935 Views 0 Reviews
  • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือพิมพ์ South China Morning Post (SCMP) รายงานว่า ทางการจีนตรวจพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโควิด-19 ในค้างคาว โดยไวรัสดังกล่าวจัดอยู่ในสายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ HKU5 ซึ่งถูกระบุในฮ่องกงในค้างคาวสายพันธุ์ Japanese pigistrelle โดยนักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า ผลการวิจัยเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ไวรัสเมอร์เบโคในค้างคาวมีความเสี่ยงสูงที่จะแพร่กระจายสู่มนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นผ่านการถ่ายทอดโดยตรงหรือผ่านโฮสต์ตัวกลาง อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้ไวรัสยังไม่ถือว่ากำลังแพร่ระบาด แต่นักวิจัยได้ย้ำถึงความจำเป็นในการวิจัยอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น

    -ชาวนาขอประกัน 1.2 หมื่น
    -ภาระสูงหยุดจับแก๊งคอล
    -นี่หรือเมืองพุทธ
    -ค้านทรัมป์ยึดฉนวนกาซา
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือพิมพ์ South China Morning Post (SCMP) รายงานว่า ทางการจีนตรวจพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโควิด-19 ในค้างคาว โดยไวรัสดังกล่าวจัดอยู่ในสายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ HKU5 ซึ่งถูกระบุในฮ่องกงในค้างคาวสายพันธุ์ Japanese pigistrelle โดยนักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า ผลการวิจัยเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ไวรัสเมอร์เบโคในค้างคาวมีความเสี่ยงสูงที่จะแพร่กระจายสู่มนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นผ่านการถ่ายทอดโดยตรงหรือผ่านโฮสต์ตัวกลาง อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้ไวรัสยังไม่ถือว่ากำลังแพร่ระบาด แต่นักวิจัยได้ย้ำถึงความจำเป็นในการวิจัยอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น -ชาวนาขอประกัน 1.2 หมื่น -ภาระสูงหยุดจับแก๊งคอล -นี่หรือเมืองพุทธ -ค้านทรัมป์ยึดฉนวนกาซา
    Like
    Sad
    9
    0 Comments 0 Shares 1537 Views 78 0 Reviews
  • สำนักข่าว CCTV ของรัฐรายงานเมื่อวันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ว่าจาง หงลี่ อดีตรองประธานธนาคารอุตสาหกรรมและการพาณิชย์แห่งประเทศจีน ถูกศาลพิพากษาให้รับโทษประหารชีวิตแต่รอลงอาญา 2 ปี ฐานความผิดร้ายแรงรับสินบนมูลค่ากว่า 177 ล้านหยวน (24.3 ล้านเหรียญสหรัฐ)โดยจางถูกสอบสวนโดยคณะกรรมการตรวจสอบวินัยกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลการต่อต้านการทุจริตชั้นนำของจีน เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 ต่อมาศาลประชาชนระดับกลางแห่งหางโจวในมณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกพบว่าตั้งแต่ปี 2554 ถึง 2565 จางได้ “ใช้” ตำแหน่งของเขาที่ ICBC ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์รวม เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่หน่วยงานและบุคคลในการระดมทุนเงินกู้และรักษาตำแหน่งงาน และเขาเองก็ยอมรับสินบนเป็นการตอบแทน ศาลพิพากษาว่าอาชญากรรมร้ายแรงของจางสมควรได้รับโทษประหารชีวิต โดยอ้างถึง “จำนวนเงินสินบนที่มากเป็นพิเศษ สถานการณ์อาชญากรรมร้ายแรง และผลกระทบทางสังคมที่เลวร้าย” ซึ่งก่อให้เกิด “ความสูญเสียครั้งใหญ่” ต่อประเทศและผลประโยชน์ของประชาชนแต่จางได้รับการรอลงอาญาสองปีเนื่องจากเขาให้ความร่วมมือกับทางการ รวมถึงสารภาพความผิดและให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีสินบนที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน นอกจากนี้จางยังคืนเงินสินบนที่ผิดกฎหมายจำนวนมากอีกด้วย ตามคำกล่าวของศาลทั้งนี้เขาได้ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตและถูกยึดทรัพย์สินทั้งหมดhttps://www.scmp.com/news/china/politics/article/3299436/former-icbc-executive-gets-death-sentence-reprieve-taking-us24-million-bribes
    สำนักข่าว CCTV ของรัฐรายงานเมื่อวันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ว่าจาง หงลี่ อดีตรองประธานธนาคารอุตสาหกรรมและการพาณิชย์แห่งประเทศจีน ถูกศาลพิพากษาให้รับโทษประหารชีวิตแต่รอลงอาญา 2 ปี ฐานความผิดร้ายแรงรับสินบนมูลค่ากว่า 177 ล้านหยวน (24.3 ล้านเหรียญสหรัฐ)โดยจางถูกสอบสวนโดยคณะกรรมการตรวจสอบวินัยกลาง ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลการต่อต้านการทุจริตชั้นนำของจีน เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 ต่อมาศาลประชาชนระดับกลางแห่งหางโจวในมณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกพบว่าตั้งแต่ปี 2554 ถึง 2565 จางได้ “ใช้” ตำแหน่งของเขาที่ ICBC ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์รวม เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่หน่วยงานและบุคคลในการระดมทุนเงินกู้และรักษาตำแหน่งงาน และเขาเองก็ยอมรับสินบนเป็นการตอบแทน ศาลพิพากษาว่าอาชญากรรมร้ายแรงของจางสมควรได้รับโทษประหารชีวิต โดยอ้างถึง “จำนวนเงินสินบนที่มากเป็นพิเศษ สถานการณ์อาชญากรรมร้ายแรง และผลกระทบทางสังคมที่เลวร้าย” ซึ่งก่อให้เกิด “ความสูญเสียครั้งใหญ่” ต่อประเทศและผลประโยชน์ของประชาชนแต่จางได้รับการรอลงอาญาสองปีเนื่องจากเขาให้ความร่วมมือกับทางการ รวมถึงสารภาพความผิดและให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีสินบนที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน นอกจากนี้จางยังคืนเงินสินบนที่ผิดกฎหมายจำนวนมากอีกด้วย ตามคำกล่าวของศาลทั้งนี้เขาได้ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตและถูกยึดทรัพย์สินทั้งหมดhttps://www.scmp.com/news/china/politics/article/3299436/former-icbc-executive-gets-death-sentence-reprieve-taking-us24-million-bribes
    WWW.SCMP.COM
    Former ICBC executive gets death sentence with reprieve for taking bribes
    Zhang Hongli, who was vice-president of the state-owned bank, accepted bribes in exchange for help with loan financing and securing jobs.
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 762 Views 0 Reviews
  • พันธุ์เดียวกัน แต่ไม่เหมือนกัน!
    "ทุเรียนจีน" แพ้ "ทุเรียนไทย" กระจุย
    นักวิทย์จีนอึ้ง สารอาหารต่างกันลิบลับ
    .
    วันนี้ (22 ธ.ค.) สื่อเซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ ของฮ่องกงรายงานว่าจากผลการตรวจสอบสารอาหารของทุเรียนที่เพาะปลูกบนเกาะไหหลำ (มณฑลไห่หนาน) ของจีนนั้น พบว่ามีคุณค่าทางอาหารต่ำกว่าทุเรียนพันธุ์เดียวกันที่นำเข้าจากประเทศไทย รวมถึงประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างมาก
    .
    สำหรับการศึกษานี้เป็นการศึกษาครั้งแรก ๆ ในเรื่องนี้ นักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตรไหหลำยกตัวอย่างว่า "ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง" ที่ปลูกในประเทศจีนนั้นไม่มีสารเคอร์ซิติน (Quercetin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระเลย ในขณะที่ทุเรียนหมอนทองที่ปลูกในไทยอุดมด้วยสารเคอร์ซิตินจำนวนมาก
    .
    นอกจากนี้ ทุเรียนที่ปลูกบนเกาะไหหลำพันธุ์เดียวที่มีสารเคอร์ซิตินอยู่บ้างคือ "ทุเรียนพันธุ์ก้านยาว" แต่สารเคอร์ซิตินที่มีนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าทุเรียนก้านยานที่ปลูกประะเทศไทยถึง 520 เท่า และต่ำกว่าพันธุ์หมอนทองของไทยถึง 540,000 เท่า !
    .
    ในส่วนของกรดแกลลิก (Gallic Acid) ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และต้านมะเร็ง นักวิจัยของจีนพบว่า ไม่พบสารดังกล่าวในพันธุ์ก้านยาวที่ปลูกในจีน ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาก่อนหน้านี้ แต่ระดับของกรดแกลลิกในพันธุ์หมอนทองนั้น “ต่ำกว่าระดับที่รายงานไว้ก่อนหน้านี้มาก”
    .
    ในขณะเดียวกัน ผลการศึกษาคุณค่าทางอาหารของ "ทุเรียนไทย" ในปี 2551 พบว่าโดยเฉลี่ยแล้ว "ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง" มีกรดแกลลิกราว 2,072 ไมโครกรัมต่อทุเรียน 100 กรัม ซึ่งสูงกว่าทุเรียนที่ปลูกในจีนซึ่งมีกรดแกลลิกเพียงแค่ 22.85 นาโนกรัม ถึง 906 เท่า
    .
    จาง จิง หัวหน้าคณะนักวิจัยจากสถาบันวิจัยซานย่าหนานฝานแห่งวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การเกษตรไหหลำ (海南大学南繁学院) ให้เหตุผลว่า “ความแตกต่างของสภาพอากาศและปริมาณแร่ธาตุและสารอาหารในดินอาจส่งผลต่อการสะสมสารอาหารในระหว่างกระบวนการเจริญเติบโตของทุเรียน โดยอาจส่งผลให้มีสารบางชนิดในปริมาณที่สูงขึ้น ในขณะที่บางชนิดอาจไม่มีเลย” เธอกล่าว
    .
    ในรายงานที่ตีพิมพ์ลงวารสารภาษาจีน Food and Fermentation Industries (食品与发酵工业) เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา นักวิจัยระบุว่าสารต้านอนุมูลอิสระหลักที่พบในทุเรียน 3 ชนิดที่ศึกษา ได้แก่ พันธุ์หมอนทอง ก้านยาว และมูซังคิง ได้แก่ โพรไซยานิดิน บี 1, คาเทชิน และเคอร์ซิติน

    “ผลการศึกษาบ่งชี้ว่าก้านยาวมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในหลอดทดลองที่แข็งแกร่งที่สุด (จากทั้งสามชนิด)” นักวิจัยจีนระบุ
    .
    ปัจจุบันจีนถือเป็นประเทศผู้นำเข้าทุเรียนมากที่สุดในโลก โดยจีนนำเข้าทุเรียนมากถึง 95% ของทั่วโลก โดยต่อมาในปี 2561 จีนได้ดำเนินการเริ่มปลูกทุเรียนเชิงพาณิชย์ที่เกาะไหหลำ ซึ่งเป็พื้นที่เพียงแห่งเดียวที่มีสภาพอากาศเหมาะสมต่อการปลูกผลไม้เขตร้อนชนิดนี้
    .
    จริง ๆ แล้ว จีนเริ่มมีการเพาะพันธุ์ทุเรียนอย่างจริงจังที่มณฑลไห่หนาน หรือ เกาะไหหลำเมื่อประมาณ 60 กว่าปีที่แล้ว คือในปี 2501 โดยมีการนำต้นกล้าทุเรียนจากประเทศมาเลเซียเข้ามาปลูกบนเกาะ แต่เนื่องจากเทคโนโลยีการปลูก และการคัดเลือกสายพันธุ์ทุเรียนในสมัยนั้นยังมีข้อจำกัด จึงมีต้นทุเรียนเพียงต้นเดียวเท่านั้นที่รอดมาได้ จนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้หลังจากใช้ความพยายามมานานกว่า 60 ปี นักวิทยาศาสตร์และเกษตรกรของจีนได้ทำการผสมเกสรเทียม ปรับปรุงพันธุ์ และใช้เทคโนโลยีการเกษตรในการปลูกทุเรียนจนประสบความสำเร็จ ทุกวันนี้ เกาะไหหลำมีพื้นที่ปลูกทุเรียนมากกว่า 10,000 ไร่ ให้ผลผลิตทุเรียนมากถึง 40,000 ตันต่อปี แต่ว่าก็ยังถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับการนำเข้าทุเรียนของจีนที่คิดเป็นปริมาณมากกว่า 1 ล้าน 4 แสนตันต่อปี
    .
    คลิกฟัง Podcast บูรพาไม่แพ้ Ep.96 : ไหวไหม? ทุเรียน Made in China ท้าแข่งทุเรียนไทย
    >> https://www.youtube.com/watch?v=6khyvzCT5H0
    .
    .
    อ้างอิง :
    • Scientists find key nutrient missing in China-grown durian
    https://www.scmp.com/news/china/science/article/3291480/scientists-find-key-nutrient-missing-china-grown-durian
    • ภาพประกอบจากwww.xinhuathai.com
    พันธุ์เดียวกัน แต่ไม่เหมือนกัน! "ทุเรียนจีน" แพ้ "ทุเรียนไทย" กระจุย นักวิทย์จีนอึ้ง สารอาหารต่างกันลิบลับ . วันนี้ (22 ธ.ค.) สื่อเซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ ของฮ่องกงรายงานว่าจากผลการตรวจสอบสารอาหารของทุเรียนที่เพาะปลูกบนเกาะไหหลำ (มณฑลไห่หนาน) ของจีนนั้น พบว่ามีคุณค่าทางอาหารต่ำกว่าทุเรียนพันธุ์เดียวกันที่นำเข้าจากประเทศไทย รวมถึงประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างมาก . สำหรับการศึกษานี้เป็นการศึกษาครั้งแรก ๆ ในเรื่องนี้ นักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์การเกษตรไหหลำยกตัวอย่างว่า "ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง" ที่ปลูกในประเทศจีนนั้นไม่มีสารเคอร์ซิติน (Quercetin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระเลย ในขณะที่ทุเรียนหมอนทองที่ปลูกในไทยอุดมด้วยสารเคอร์ซิตินจำนวนมาก . นอกจากนี้ ทุเรียนที่ปลูกบนเกาะไหหลำพันธุ์เดียวที่มีสารเคอร์ซิตินอยู่บ้างคือ "ทุเรียนพันธุ์ก้านยาว" แต่สารเคอร์ซิตินที่มีนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าทุเรียนก้านยานที่ปลูกประะเทศไทยถึง 520 เท่า และต่ำกว่าพันธุ์หมอนทองของไทยถึง 540,000 เท่า ! . ในส่วนของกรดแกลลิก (Gallic Acid) ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ และต้านมะเร็ง นักวิจัยของจีนพบว่า ไม่พบสารดังกล่าวในพันธุ์ก้านยาวที่ปลูกในจีน ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาก่อนหน้านี้ แต่ระดับของกรดแกลลิกในพันธุ์หมอนทองนั้น “ต่ำกว่าระดับที่รายงานไว้ก่อนหน้านี้มาก” . ในขณะเดียวกัน ผลการศึกษาคุณค่าทางอาหารของ "ทุเรียนไทย" ในปี 2551 พบว่าโดยเฉลี่ยแล้ว "ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง" มีกรดแกลลิกราว 2,072 ไมโครกรัมต่อทุเรียน 100 กรัม ซึ่งสูงกว่าทุเรียนที่ปลูกในจีนซึ่งมีกรดแกลลิกเพียงแค่ 22.85 นาโนกรัม ถึง 906 เท่า . จาง จิง หัวหน้าคณะนักวิจัยจากสถาบันวิจัยซานย่าหนานฝานแห่งวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การเกษตรไหหลำ (海南大学南繁学院) ให้เหตุผลว่า “ความแตกต่างของสภาพอากาศและปริมาณแร่ธาตุและสารอาหารในดินอาจส่งผลต่อการสะสมสารอาหารในระหว่างกระบวนการเจริญเติบโตของทุเรียน โดยอาจส่งผลให้มีสารบางชนิดในปริมาณที่สูงขึ้น ในขณะที่บางชนิดอาจไม่มีเลย” เธอกล่าว . ในรายงานที่ตีพิมพ์ลงวารสารภาษาจีน Food and Fermentation Industries (食品与发酵工业) เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา นักวิจัยระบุว่าสารต้านอนุมูลอิสระหลักที่พบในทุเรียน 3 ชนิดที่ศึกษา ได้แก่ พันธุ์หมอนทอง ก้านยาว และมูซังคิง ได้แก่ โพรไซยานิดิน บี 1, คาเทชิน และเคอร์ซิติน “ผลการศึกษาบ่งชี้ว่าก้านยาวมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระในหลอดทดลองที่แข็งแกร่งที่สุด (จากทั้งสามชนิด)” นักวิจัยจีนระบุ . ปัจจุบันจีนถือเป็นประเทศผู้นำเข้าทุเรียนมากที่สุดในโลก โดยจีนนำเข้าทุเรียนมากถึง 95% ของทั่วโลก โดยต่อมาในปี 2561 จีนได้ดำเนินการเริ่มปลูกทุเรียนเชิงพาณิชย์ที่เกาะไหหลำ ซึ่งเป็พื้นที่เพียงแห่งเดียวที่มีสภาพอากาศเหมาะสมต่อการปลูกผลไม้เขตร้อนชนิดนี้ . จริง ๆ แล้ว จีนเริ่มมีการเพาะพันธุ์ทุเรียนอย่างจริงจังที่มณฑลไห่หนาน หรือ เกาะไหหลำเมื่อประมาณ 60 กว่าปีที่แล้ว คือในปี 2501 โดยมีการนำต้นกล้าทุเรียนจากประเทศมาเลเซียเข้ามาปลูกบนเกาะ แต่เนื่องจากเทคโนโลยีการปลูก และการคัดเลือกสายพันธุ์ทุเรียนในสมัยนั้นยังมีข้อจำกัด จึงมีต้นทุเรียนเพียงต้นเดียวเท่านั้นที่รอดมาได้ จนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้หลังจากใช้ความพยายามมานานกว่า 60 ปี นักวิทยาศาสตร์และเกษตรกรของจีนได้ทำการผสมเกสรเทียม ปรับปรุงพันธุ์ และใช้เทคโนโลยีการเกษตรในการปลูกทุเรียนจนประสบความสำเร็จ ทุกวันนี้ เกาะไหหลำมีพื้นที่ปลูกทุเรียนมากกว่า 10,000 ไร่ ให้ผลผลิตทุเรียนมากถึง 40,000 ตันต่อปี แต่ว่าก็ยังถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับการนำเข้าทุเรียนของจีนที่คิดเป็นปริมาณมากกว่า 1 ล้าน 4 แสนตันต่อปี . คลิกฟัง Podcast บูรพาไม่แพ้ Ep.96 : ไหวไหม? ทุเรียน Made in China ท้าแข่งทุเรียนไทย >> https://www.youtube.com/watch?v=6khyvzCT5H0 . . อ้างอิง : • Scientists find key nutrient missing in China-grown durian https://www.scmp.com/news/china/science/article/3291480/scientists-find-key-nutrient-missing-china-grown-durian • ภาพประกอบจากwww.xinhuathai.com
    Like
    Love
    5
    0 Comments 1 Shares 1156 Views 0 Reviews
  • สงครามในโลกไซ-ไฟ กลายเป็นจริง!
    นักวิจัยจีนหาวิธี ยิงเลเซอร์จากโดรน
    "ลำแสงทรงพลัง" ตัดผ่านเหล็กได้
    .
    วันนี้ (15 ธ.ค.) เว็บไซต์ South China Morning Post สื่อฮ่องกงรายงานว่า เมื่อเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ทีมวิจัยซึ่งนำโดย หลี่ เซียว (李霄) ผู้ช่วยนักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมออปโตอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีการป้องกันประเทศแห่งชาติ (国防科技大学) กองทัพปลดแอกประชาชนจีน ได้เผยแพร่งานวิจัยที่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Acta Armamentarii ว่า
    .
    "ลำแสงเลเซอร์ที่ปล่อยออกมาจากโดรน เลเซอร์อินฟราเรดใกล้ (Near-infrared laser) ที่มีความยาวคลื่น 1,080 นาโนเมตร สามารถทำให้ตาบอดได้เมื่อใช้พลังงานเพียง 5 ไมโครวัตต์ ความเข้มของลำแสงที่เข้าตาทหารเหล่านี้มีมากกว่า 200 ล้านเท่า ซึ่งสูงถึง 1 กิโลวัตต์ต่อตารางเซนติเมตร หากผิวหนังที่ถูกยิงโดน ไขมันใต้ผิวหนังจะระเหยไปในทันที โดยเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นดังกล่าวมีศักยภาพเพียงพอที่จะ 'ตัดผ่านโลหะได้' "
    .
    อีเมลของ หลี่ เซียว ที่ใช้ชื่อขึ้นต้นว่า "crazy.li" แสดงให้เห็นถึงความคิดที่แหวกแนวของเขา โดยก่อนหน้านี้สิ่งที่เขาจินตนาการเอาไว้นั้นถูกมองว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะการสร้างลำแสงเลเซอร์ที่มีความสามารถในการล่าสังหารจากระยะไกล โดยปกติแล้วต้องใช้อุปกรณ์ในการผลิตลำแสงขนาดใหญ่ราว ๆ รถบรรทุก ซึ่งจักรกลขนาดเล็กอย่างโดรนนั้นไม่สามารถบรรทุกอาวุธเลเซอร์ที่มีพลังสูง และอุปกรณ์จ่ายพลังงานที่เกี่ยวข้องได้
    .
    โดยหลี่ และทีมงานของเขา ได้ประดิษฐ์คิดค้นอุปกรณ์เปลี่ยนทิศทางขนาดเล็ก และมีน้ำหนักเบาที่ช่วยให้โดรนที่ติดตั้งอุปกรณ์นี้สามารถรับลำแสงที่มีพลังสูงจากพื้นดินและสะท้อนไปยังเป้าหมายของศัตรูได้ โดยวิธีนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มพลังเลเซอร์ที่โดรนปล่อยออกมาเป็น 30 กิโลวัตต์หรือสูงกว่านั้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ลำแสงโค้งงอในท้องฟ้าได้ โดยหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง เช่น อาคาร และโจมตีเป้าหมายในจุดที่เปราะบางที่สุดได้อีกด้วย
    .
    “ในอนาคต โดรนหลายลำสามารถติดตั้งอุปกรณ์นี้เพื่อตรวจจับเป้าหมาย แล้วร้องขอลำแสงจากภาคพื้น (ตามภาพประกอบ) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วในการตอบสนองได้มากขึ้น” ทีมงานระบุในงานวิจัย
    .
    สำหรับ ส่วนประกอบหลักของอุปกรณ์เปลี่ยนทิศทางนั้นเป็น ท่อคล้ายกล้องโทรทรรศน์สองท่อ โดย "ท่อรับ" จะหันไปทางเครื่องส่งเลเซอร์ฝ่ายเดียวกันที่อยู่บนพื้น และ "ท่อสะท้อนแสง" ซึ่งจะชี้ตรงไปยังเป้าหมาย ซึ่งเป็นฝั่งศัตรู
    .
    การเคลื่อนไหวของท่อควบคุมด้วยกลไกเซอร์โวปรับระดับความสูงที่มีความแม่นยำสูงเป็นพิเศษ และแท่นหมุนแนวราบ และเส้นทางแสงระหว่างท่อทั้งสองเชื่อมต่อกันด้วยกระจกสะท้อนแสงประสิทธิภาพสูง
    .
    ปัญหาหลักอีกประการของวิธีการนี้ คือ แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นระหว่างการบินของโดรน ซึ่งอาจทำให้ลำแสงเลเซอร์กระจัดกระจาย และลดความรุนแรงของลำแสงลงได้ ดังนั้น อุปกรณ์จะต้องมีเทคโนโลยีป้องกันการสั่นสะเทือนที่ดีเยี่ยม ทีมงานของหลี่ระบุ
    .
    นอกจากนี้ การล็อกเส้นทางแสงระหว่างโดรน และตัวปล่อยภาคพื้นดินอย่างแน่นหนายังต้องใช้เทคโนโลยีบีคอนออปติกชั้นยอด (first-rate optical beacon) อีกด้วย โดยปัญหาทางเทคนิคเหล่านี้ส่วนใหญ่ นักวิจัยชาวจีนได้หาทางแก้ไขได้แล้ว
    .
    อนึ่ง จีนเคยส่งดาวเทียมควอนตัมดวงแรกของโลกขึ้นสู่อวกาศในปี 2559 โดยเปลี่ยนเทคโนโลยีการเล็งด้วยเลเซอร์ระยะไกลเป็นพิเศษ (ultra-long-distance laser aiming technology) จากนวนิยายวิทยาศาสตร์ให้กลายเป็นความจริงได้ โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ชาวจีนยังประสบความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีการซิงโครไนซ์เวลาที่มีความแม่นยำสูงเป็นพิเศษบนอุปกรณ์พกพา ซึ่งช่วยปรับปรุงความแม่นยำในการประสานงานระหว่างแพลตฟอร์มอาวุธอัจฉริยะได้อย่างมาก
    .
    สิ่งนี้ทำให้เกิดความก้าวหน้าอย่างใหญ่หลวงของเทคโนโลยีที่ครั้งหนึ่ง เคยถูกมองว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน เช่น การรวมคลื่นไมโครเวฟ หรือ เลเซอร์ที่ปล่อยออกมาจากแพลตฟอร์มต่างๆ ให้กลายเป็นลำแสงพลังงานสูงบนท้องฟ้า เป็นต้น
    .
    .
    .
    เรียบเรียงจาก >> https://www.scmp.com/news/china/science/article/3290461/chinese-laser-scientist-crazy-li-arms-small-drones-metal-cutting-beam
    สงครามในโลกไซ-ไฟ กลายเป็นจริง! นักวิจัยจีนหาวิธี ยิงเลเซอร์จากโดรน "ลำแสงทรงพลัง" ตัดผ่านเหล็กได้ . วันนี้ (15 ธ.ค.) เว็บไซต์ South China Morning Post สื่อฮ่องกงรายงานว่า เมื่อเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ทีมวิจัยซึ่งนำโดย หลี่ เซียว (李霄) ผู้ช่วยนักวิจัยจากคณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมออปโตอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีการป้องกันประเทศแห่งชาติ (国防科技大学) กองทัพปลดแอกประชาชนจีน ได้เผยแพร่งานวิจัยที่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Acta Armamentarii ว่า . "ลำแสงเลเซอร์ที่ปล่อยออกมาจากโดรน เลเซอร์อินฟราเรดใกล้ (Near-infrared laser) ที่มีความยาวคลื่น 1,080 นาโนเมตร สามารถทำให้ตาบอดได้เมื่อใช้พลังงานเพียง 5 ไมโครวัตต์ ความเข้มของลำแสงที่เข้าตาทหารเหล่านี้มีมากกว่า 200 ล้านเท่า ซึ่งสูงถึง 1 กิโลวัตต์ต่อตารางเซนติเมตร หากผิวหนังที่ถูกยิงโดน ไขมันใต้ผิวหนังจะระเหยไปในทันที โดยเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นดังกล่าวมีศักยภาพเพียงพอที่จะ 'ตัดผ่านโลหะได้' " . อีเมลของ หลี่ เซียว ที่ใช้ชื่อขึ้นต้นว่า "crazy.li" แสดงให้เห็นถึงความคิดที่แหวกแนวของเขา โดยก่อนหน้านี้สิ่งที่เขาจินตนาการเอาไว้นั้นถูกมองว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะการสร้างลำแสงเลเซอร์ที่มีความสามารถในการล่าสังหารจากระยะไกล โดยปกติแล้วต้องใช้อุปกรณ์ในการผลิตลำแสงขนาดใหญ่ราว ๆ รถบรรทุก ซึ่งจักรกลขนาดเล็กอย่างโดรนนั้นไม่สามารถบรรทุกอาวุธเลเซอร์ที่มีพลังสูง และอุปกรณ์จ่ายพลังงานที่เกี่ยวข้องได้ . โดยหลี่ และทีมงานของเขา ได้ประดิษฐ์คิดค้นอุปกรณ์เปลี่ยนทิศทางขนาดเล็ก และมีน้ำหนักเบาที่ช่วยให้โดรนที่ติดตั้งอุปกรณ์นี้สามารถรับลำแสงที่มีพลังสูงจากพื้นดินและสะท้อนไปยังเป้าหมายของศัตรูได้ โดยวิธีนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มพลังเลเซอร์ที่โดรนปล่อยออกมาเป็น 30 กิโลวัตต์หรือสูงกว่านั้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ลำแสงโค้งงอในท้องฟ้าได้ โดยหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง เช่น อาคาร และโจมตีเป้าหมายในจุดที่เปราะบางที่สุดได้อีกด้วย . “ในอนาคต โดรนหลายลำสามารถติดตั้งอุปกรณ์นี้เพื่อตรวจจับเป้าหมาย แล้วร้องขอลำแสงจากภาคพื้น (ตามภาพประกอบ) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วในการตอบสนองได้มากขึ้น” ทีมงานระบุในงานวิจัย . สำหรับ ส่วนประกอบหลักของอุปกรณ์เปลี่ยนทิศทางนั้นเป็น ท่อคล้ายกล้องโทรทรรศน์สองท่อ โดย "ท่อรับ" จะหันไปทางเครื่องส่งเลเซอร์ฝ่ายเดียวกันที่อยู่บนพื้น และ "ท่อสะท้อนแสง" ซึ่งจะชี้ตรงไปยังเป้าหมาย ซึ่งเป็นฝั่งศัตรู . การเคลื่อนไหวของท่อควบคุมด้วยกลไกเซอร์โวปรับระดับความสูงที่มีความแม่นยำสูงเป็นพิเศษ และแท่นหมุนแนวราบ และเส้นทางแสงระหว่างท่อทั้งสองเชื่อมต่อกันด้วยกระจกสะท้อนแสงประสิทธิภาพสูง . ปัญหาหลักอีกประการของวิธีการนี้ คือ แรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นระหว่างการบินของโดรน ซึ่งอาจทำให้ลำแสงเลเซอร์กระจัดกระจาย และลดความรุนแรงของลำแสงลงได้ ดังนั้น อุปกรณ์จะต้องมีเทคโนโลยีป้องกันการสั่นสะเทือนที่ดีเยี่ยม ทีมงานของหลี่ระบุ . นอกจากนี้ การล็อกเส้นทางแสงระหว่างโดรน และตัวปล่อยภาคพื้นดินอย่างแน่นหนายังต้องใช้เทคโนโลยีบีคอนออปติกชั้นยอด (first-rate optical beacon) อีกด้วย โดยปัญหาทางเทคนิคเหล่านี้ส่วนใหญ่ นักวิจัยชาวจีนได้หาทางแก้ไขได้แล้ว . อนึ่ง จีนเคยส่งดาวเทียมควอนตัมดวงแรกของโลกขึ้นสู่อวกาศในปี 2559 โดยเปลี่ยนเทคโนโลยีการเล็งด้วยเลเซอร์ระยะไกลเป็นพิเศษ (ultra-long-distance laser aiming technology) จากนวนิยายวิทยาศาสตร์ให้กลายเป็นความจริงได้ โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ชาวจีนยังประสบความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีการซิงโครไนซ์เวลาที่มีความแม่นยำสูงเป็นพิเศษบนอุปกรณ์พกพา ซึ่งช่วยปรับปรุงความแม่นยำในการประสานงานระหว่างแพลตฟอร์มอาวุธอัจฉริยะได้อย่างมาก . สิ่งนี้ทำให้เกิดความก้าวหน้าอย่างใหญ่หลวงของเทคโนโลยีที่ครั้งหนึ่ง เคยถูกมองว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน เช่น การรวมคลื่นไมโครเวฟ หรือ เลเซอร์ที่ปล่อยออกมาจากแพลตฟอร์มต่างๆ ให้กลายเป็นลำแสงพลังงานสูงบนท้องฟ้า เป็นต้น . . . เรียบเรียงจาก >> https://www.scmp.com/news/china/science/article/3290461/chinese-laser-scientist-crazy-li-arms-small-drones-metal-cutting-beam
    Like
    Wow
    9
    1 Comments 1 Shares 792 Views 0 Reviews
  • หลักฐานใหม่จากการวิจัยในประเทศจีนเผยให้เห็นว่า โลกอาจเผชิญกับการระบาดใหญ่ครั้งใหม่, เนื่องจากมีรายงานพบโรคไข้หวัดนกในบางภูมิภาคทั้งในสัตว์ปีก, วัว, และมนุษย์
    .
    New evidence has emerged from research in China that the world could be on the brink of another pandemic, as cases of bird flu surface across some regions in poultry, cattle and humans
    .
    7:00 PM · Dec 5, 2024 · 8,467 Views
    https://x.com/SCMPNews/status/1864640879476035803
    หลักฐานใหม่จากการวิจัยในประเทศจีนเผยให้เห็นว่า โลกอาจเผชิญกับการระบาดใหญ่ครั้งใหม่, เนื่องจากมีรายงานพบโรคไข้หวัดนกในบางภูมิภาคทั้งในสัตว์ปีก, วัว, และมนุษย์ . New evidence has emerged from research in China that the world could be on the brink of another pandemic, as cases of bird flu surface across some regions in poultry, cattle and humans . 7:00 PM · Dec 5, 2024 · 8,467 Views https://x.com/SCMPNews/status/1864640879476035803
    Wow
    1
    0 Comments 0 Shares 749 Views 4 0 Reviews
  • คุณสามารถเดินทางจากปักกิ่งไปนิวยอร์กในเวลาเพียงสองชั่วโมงได้หรือไม่?

    อ่านเพิ่มเติม: เครื่องบินจีนที่ออกแบบมาให้บินได้เร็วกว่าคอนคอร์ดสองเท่า เสร็จสิ้นการทดสอบเที่ยวบิน

    หลังจากการทดสอบต้นแบบ, Space Transportation กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าที่จะผลิตเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียงขนาดเท่าจริงเพื่อการบินครั้งแรกในปี ๒๐๒๗
    .
    Could you travel from Beijing to New York in just two hours?

    Read more: Chinese plane designed to travel twice as fast as Concorde completes test flight

    After testing prototype, Space Transportation says it aims to have a full-sized supersonic passenger jet ready for its maiden flight in 2027

    https://www.scmp.com/news/china/science/article/3284206/chinese-plane-designed-travel-twice-fast-concorde-completes-test-flight
    .
    5:45 PM · Oct 30, 2024 · 6,883 Views
    https://x.com/SCMPNews/status/1851576028201627822
    คุณสามารถเดินทางจากปักกิ่งไปนิวยอร์กในเวลาเพียงสองชั่วโมงได้หรือไม่? อ่านเพิ่มเติม: เครื่องบินจีนที่ออกแบบมาให้บินได้เร็วกว่าคอนคอร์ดสองเท่า เสร็จสิ้นการทดสอบเที่ยวบิน หลังจากการทดสอบต้นแบบ, Space Transportation กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าที่จะผลิตเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียงขนาดเท่าจริงเพื่อการบินครั้งแรกในปี ๒๐๒๗ . Could you travel from Beijing to New York in just two hours? Read more: Chinese plane designed to travel twice as fast as Concorde completes test flight After testing prototype, Space Transportation says it aims to have a full-sized supersonic passenger jet ready for its maiden flight in 2027 https://www.scmp.com/news/china/science/article/3284206/chinese-plane-designed-travel-twice-fast-concorde-completes-test-flight . 5:45 PM · Oct 30, 2024 · 6,883 Views https://x.com/SCMPNews/status/1851576028201627822
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 363 Views 114 0 Reviews
  • Kenji Fukaya นักคณิตศาสตร์ชาวญี่ปุ่นเจ้าของรางวัล ได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยStony Brookอันดับหนึ่งของนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เพื่อไปร่วมงานกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ Tsinghua ของจีนในตำแหน่งศาสตราจารย์ประจำ

    19 กันยายน2567-รายงานข่าว SMCP ระบุว่า Kenji Fukaya นักคณิตศาสตร์ชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและเจ้าของรางวัล Fujihara Awardในปี 2012 ล่าสุดได้ลาออกจากมหาวิทยาลัย Stony Brook( SBU)ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยรัอัดฐอัน 1 ของนิวยอร์ก เพื่อไปร่วมงานกับมหาวิทยาลัย Tsinghua ของจีนในตำแหน่งศาสตราจารย์ประจำของมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน

    Fukaya เคยเป็นสมาชิกถาวรของ Simons Centre for Geometry and Physics ที่ Stony Brook เป็นที่รู้จักจากผลงานด้านเรขาคณิตซิมเพล็กติกและ เรขาคณิตรีมันเนียน ผลงานพื้นฐานมากมายของเขาต่อคณิตศาสตร์รวมถึงการค้นพบหมวดหมู่ฟูกายะตามชื่อของเขา

    ล่าสุดศาสตราจารย์Fukaya ได้ไปบรรยายครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยจีน Tsinghua เมื่อวันที่ 11 กันยายน ตามข้อมูลจาก Yau Mathematical Sciences Centre ของมหาวิทยาลัย

    หลักสูตรเปิดเกี่ยวกับเรขาคณิตซิมเพล็กติกของเขา ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับพื้นที่ที่วัตถุ เช่น ดาวเคราะห์และอนุภาคเคลื่อนที่และโต้ตอบกัน ดึงดูดนักศึกษาและครูจำนวนมาก โดยศูนย์ดังกล่าวได้รายงานเรื่องนี้ในบัญชี WeChat อย่างเป็นทางการ

    ในวิดีโอที่ศูนย์Yau Mathematical Science แชร์เผยแพร่ ฟูกายะกล่าวว่านักเรียนจีนทำให้เขานึกถึงนักเรียนญี่ปุ่นสมัยยังเด็ก ที่มีความมุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างมากในการเรียนคณิตศาสตร์

    เขาแสดงความหวังว่าเมื่อมีนักวิจัยที่เกิดในจีนกลับมาสอนที่นั่นมากขึ้น ชุมชนนักคณิตศาสตร์ที่มีทักษะสูงและได้รับการศึกษาในประเทศก็จะเติบโตต่อไป

    ทั้งนี้นโยบายและวิสัยทัศน์ของจีนที่ ตั้งเป้าดึงดูดคนเก่งด้าน STEM (Science-Technology-Engineering-Mathematic) ให้มากขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายในการพึ่งพาตนเองด้านวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีสู่ความเป็นเลิศ

    ที่มา https://www.scmp.com/news/china/science/article/3279101/respected-mathematician-kenji-fukaya-leaves-us-teach-chinas-tsinghua-university

    #Thaitimes
    Kenji Fukaya นักคณิตศาสตร์ชาวญี่ปุ่นเจ้าของรางวัล ได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยStony Brookอันดับหนึ่งของนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เพื่อไปร่วมงานกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ Tsinghua ของจีนในตำแหน่งศาสตราจารย์ประจำ 19 กันยายน2567-รายงานข่าว SMCP ระบุว่า Kenji Fukaya นักคณิตศาสตร์ชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและเจ้าของรางวัล Fujihara Awardในปี 2012 ล่าสุดได้ลาออกจากมหาวิทยาลัย Stony Brook( SBU)ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยรัอัดฐอัน 1 ของนิวยอร์ก เพื่อไปร่วมงานกับมหาวิทยาลัย Tsinghua ของจีนในตำแหน่งศาสตราจารย์ประจำของมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน Fukaya เคยเป็นสมาชิกถาวรของ Simons Centre for Geometry and Physics ที่ Stony Brook เป็นที่รู้จักจากผลงานด้านเรขาคณิตซิมเพล็กติกและ เรขาคณิตรีมันเนียน ผลงานพื้นฐานมากมายของเขาต่อคณิตศาสตร์รวมถึงการค้นพบหมวดหมู่ฟูกายะตามชื่อของเขา ล่าสุดศาสตราจารย์Fukaya ได้ไปบรรยายครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยจีน Tsinghua เมื่อวันที่ 11 กันยายน ตามข้อมูลจาก Yau Mathematical Sciences Centre ของมหาวิทยาลัย หลักสูตรเปิดเกี่ยวกับเรขาคณิตซิมเพล็กติกของเขา ซึ่งศึกษาเกี่ยวกับพื้นที่ที่วัตถุ เช่น ดาวเคราะห์และอนุภาคเคลื่อนที่และโต้ตอบกัน ดึงดูดนักศึกษาและครูจำนวนมาก โดยศูนย์ดังกล่าวได้รายงานเรื่องนี้ในบัญชี WeChat อย่างเป็นทางการ ในวิดีโอที่ศูนย์Yau Mathematical Science แชร์เผยแพร่ ฟูกายะกล่าวว่านักเรียนจีนทำให้เขานึกถึงนักเรียนญี่ปุ่นสมัยยังเด็ก ที่มีความมุ่งมั่นและทุ่มเทอย่างมากในการเรียนคณิตศาสตร์ เขาแสดงความหวังว่าเมื่อมีนักวิจัยที่เกิดในจีนกลับมาสอนที่นั่นมากขึ้น ชุมชนนักคณิตศาสตร์ที่มีทักษะสูงและได้รับการศึกษาในประเทศก็จะเติบโตต่อไป ทั้งนี้นโยบายและวิสัยทัศน์ของจีนที่ ตั้งเป้าดึงดูดคนเก่งด้าน STEM (Science-Technology-Engineering-Mathematic) ให้มากขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายในการพึ่งพาตนเองด้านวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีสู่ความเป็นเลิศ ที่มา https://www.scmp.com/news/china/science/article/3279101/respected-mathematician-kenji-fukaya-leaves-us-teach-chinas-tsinghua-university #Thaitimes
    WWW.SCMP.COM
    Respected mathematician Kenji Fukaya leaves US for China’s Tsinghua University
    In a video, Fukaya said Chinese students reminded him of Japanese students’ strong focus and dedication to studying mathematics.
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 1850 Views 0 Reviews
  • เกมจบแล้วสำหรับสหรัฐอเมริกา!

    ตอนนี้จีนมีเครื่องพิมพ์หิน DUV ของตัวเอง; และมีการยื่นจดสิทธิบัตรสำหรับ EUV แล้ว

    ตอนนี้, มีเพียงบริษัทเดียวเท่านั้นที่สามารถผลิต EUV ได้ นั่นก็คือ — บริษัท ASML ของเนเธอร์แลนด์

    ในไม่ช้านี้, จีนจะผลิตชิปทุกตัวที่สหรัฐอเมริกาผลิตได้

    Nvidia, Apple, Qualcomm… ข้อได้เปรียบด้านชิปทั้งหมดของพวกเขาจะหายไป รวมถึงราคาหุ้นของพวกเขาด้วย!
    .
    น่าตกใจทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์

    นโยบายควบคุมจีนของอเมริกาล้มเหลวอย่างยับเยิน

    ในปี ๒๐๑๙, ทรัมป์ป้องกันไม่ให้ ASML ขายเครื่อง EUV ให้กับจีน

    ตั้งแต่นั้นมา, บริษัทผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ของจีนทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
    .
    ตอนนี้, จีนจะทำกับชิปแบบเดียวกับที่ทำกับสมาร์ทโฟนและรถยนต์ไฟฟ้า

    เป็นสิ่งที่ดีสำหรับโลก, แต่เป็นข่าวร้ายสำหรับสหรัฐฯ
    .
    It’s game over for USA!

    China now has its own DUV lithography machines; and a patent has been filed for EUV.

    Right now, there’s only ONE company that can make EUV — Dutch firm ASML.

    Soon, China will make every chip that the US can.

    Nvidia, Apple, Qualcomm… all their chip advantages will vanish. Also with their share prices!
    .
    Economic and geopolitical shocker.

    America’s China containment policy failed miserably.

    In 2019, Trump prevented ASML from selling an EUV machine to China.

    Since then, all the Chinese semiconductor chip firms have been under US sanctions.
    .
    Now, China will do to chips what it did to smartphones and EV.

    It’s good for the world, but terrible news for the US.
    .
    Source: Chinese chip making shows progress with new EUV patent from domestic lithography champion

    The patent from Shanghai Micro Electronics Equipment is still under review, but producing EUV tools in China would break a monopoly held by ASML

    https://www.scmp.com/tech/big-tech/article/3278235/chinese-chip-making-shows-progress-new-euv-patent-domestic-lithography-champion
    .
    4:03 AM · Sep 17, 2024 · 380.3K Views
    https://x.com/Kanthan2030/status/1835786533921788137
    เกมจบแล้วสำหรับสหรัฐอเมริกา! ตอนนี้จีนมีเครื่องพิมพ์หิน DUV ของตัวเอง; และมีการยื่นจดสิทธิบัตรสำหรับ EUV แล้ว ตอนนี้, มีเพียงบริษัทเดียวเท่านั้นที่สามารถผลิต EUV ได้ นั่นก็คือ — บริษัท ASML ของเนเธอร์แลนด์ ในไม่ช้านี้, จีนจะผลิตชิปทุกตัวที่สหรัฐอเมริกาผลิตได้ Nvidia, Apple, Qualcomm… ข้อได้เปรียบด้านชิปทั้งหมดของพวกเขาจะหายไป รวมถึงราคาหุ้นของพวกเขาด้วย! . น่าตกใจทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ 🤣นโยบายควบคุมจีนของอเมริกาล้มเหลวอย่างยับเยิน🤣 ในปี ๒๐๑๙, ทรัมป์ป้องกันไม่ให้ ASML ขายเครื่อง EUV ให้กับจีน ตั้งแต่นั้นมา, บริษัทผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ของจีนทั้งหมดก็อยู่ภายใต้การคว่ำบาตรของสหรัฐฯ . ตอนนี้, จีนจะทำกับชิปแบบเดียวกับที่ทำกับสมาร์ทโฟนและรถยนต์ไฟฟ้า 📌เป็นสิ่งที่ดีสำหรับโลก, แต่เป็นข่าวร้ายสำหรับสหรัฐฯ📌 . It’s game over for USA! China now has its own DUV lithography machines; and a patent has been filed for EUV. Right now, there’s only ONE company that can make EUV — Dutch firm ASML. Soon, China will make every chip that the US can. Nvidia, Apple, Qualcomm… all their chip advantages will vanish. Also with their share prices! . Economic and geopolitical shocker. America’s China containment policy failed miserably. In 2019, Trump prevented ASML from selling an EUV machine to China. Since then, all the Chinese semiconductor chip firms have been under US sanctions. . Now, China will do to chips what it did to smartphones and EV. It’s good for the world, but terrible news for the US. . Source: Chinese chip making shows progress with new EUV patent from domestic lithography champion The patent from Shanghai Micro Electronics Equipment is still under review, but producing EUV tools in China would break a monopoly held by ASML https://www.scmp.com/tech/big-tech/article/3278235/chinese-chip-making-shows-progress-new-euv-patent-domestic-lithography-champion . 4:03 AM · Sep 17, 2024 · 380.3K Views https://x.com/Kanthan2030/status/1835786533921788137
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 834 Views 0 Reviews
  • Cathay Pacific Airways สายการบินแห่งชาติของฮ่องกง ต้องยกเลิกเที่ยวบิน 48 เที่ยวบินหลังจากตรวจพบว่าชิ้นส่วนเครื่องยนต์ของเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A350 ขัดข้อง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เกิดกรณีเช่นนี้กับเครื่องบินรุ่นดังกล่าวทั่วโลก ส่งผลให้ราคาหุ้น Rolls-Royce ผู้ผลิตเครื่องยนต์สัญชาติอังกฤษร่วงลงอย่างรวดเร็ว

    2 กันยายน 2567-รายงานข่าวSouth China Morning Post ระบุว่า เมื่อเช้าวันนี้ สายการบินคาเธ่ย์แถลงว่าได้ตรวจพบปัญหาชิ้นส่วนเครื่องยนต์ในเครื่องบินรุ่น A350 หลังจากที่เครื่องบินคาเธ่ย์แปซิฟิค CX383 ถูกบังคับให้บินกลับฮ่องกงระหว่างเดินทางไปเมืองซูริกในช่วงเช้าของวันเดียวกัน

    สายการบินCathay ไม่ได้อธิบายชิ้นส่วนเครื่องยนต์อย่างละเอียด แต่ระบุว่าเป็นเครื่องบินประเภทเดียวกันลำแรกที่ประสบปัญหาขัดข้องเช่นนี้ในเครื่องบิน A350 ทั่วโลก

    “จนถึงขณะนี้ เราพบชิ้นส่วนเครื่องยนต์เดียวกันหลายชิ้นที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแล้ว เราได้จัดหาชิ้นส่วนอะไหล่แล้ว และงานซ่อมแซมกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ” Cathay กล่าว

    ตามข้อมูลของ Flightradar24 เครื่องบินที่เปลี่ยนเส้นทางคือ A350-1000 ซึ่งเป็นเครื่องบินรุ่นใหญ่กว่าจากสองรุ่นของ A350 สองเครื่องยนต์ โดยเครื่องบินเหล่านี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เจ็ท XWB-97 ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เจ็ทที่ใหญ่ที่สุดของ Rolls

    ตามข้อมูลเดียวกันระบุว่าเครื่องบินลำดังกล่าวได้รับการส่งมอบในเดือนมกราคม 2019

    ยังไม่ชัดเจนในทันทีว่าเครื่องยนต์ Rolls-Royce XWB-97 ที่ได้รับผลกระทบถูกติดตั้งบนเครื่องบินลำดังกล่าวเมื่อใด ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าสายการบินและผู้ผลิตเครื่องยนต์มักจะสลับเครื่องยนต์กันเพื่อให้ตรงกับตารางการซ่อมบำรุง

    สายการบินดังกล่าวกล่าวว่ากำลังประสานงานกับกรมการบินพลเรือนฮ่องกงและผู้ผลิตเครื่องบินเจ็ทและเครื่องยนต์

    Cathay ให้บริการเครื่องบินแบบผสมระหว่าง Boeing (BA.N) และ Airbus (AIR.PA) และมีเครื่องบินที่สั่งซื้ออยู่ประมาณ 100 ลำในปัจจุบัน รวมถึงเครื่องบินขนส่งสินค้า เครื่องบินลำตัวแคบ และเครื่องบินลำตัวกว้าง โดยมีสิทธิ์ในการซื้ออีก 80 ลำ

    โฆษกของแอร์บัสได้ส่งคำถามไปยังสายการบินและบริษัทผลิตเครื่องยนต์ Rolls-Royce (RR.L) ซึ่งยังไม่ได้คำตอบหรือแสดงความคิดเห็นในทันที

    สำหรับหุ้นของบริษัทโรลรอยซ์ในอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้จัดหาเครื่องยนต์รายเดียวให้กับเครื่องบินเจ็ตระยะไกล A350 ร่วงลงมากถึง 8.8% หลังจากที่ Cathay รายงานว่าชิ้นส่วนเครื่องยนต์ขัดข้อง

    ที่มา :
    https://www.scmp.com/news/hong-kong/transport/article/3276914/hong-kongs-cathay-axes-48-flights-after-engine-component-failure-a350-aircraft?share=KSrpe0%2BwhkX%2FkLzmGSDqLCjs9%2B5Myrw7GDrN8zbywoq5tv%2FU2nx9XF7eCV0mOfb79ou9qXLTnxOebaa%2FihAStP0r5VUXu%2FwXzBSthYHvBeI%3D&utm_campaign=social_share

    #Thaitimes
    Cathay Pacific Airways สายการบินแห่งชาติของฮ่องกง ต้องยกเลิกเที่ยวบิน 48 เที่ยวบินหลังจากตรวจพบว่าชิ้นส่วนเครื่องยนต์ของเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A350 ขัดข้อง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เกิดกรณีเช่นนี้กับเครื่องบินรุ่นดังกล่าวทั่วโลก ส่งผลให้ราคาหุ้น Rolls-Royce ผู้ผลิตเครื่องยนต์สัญชาติอังกฤษร่วงลงอย่างรวดเร็ว 2 กันยายน 2567-รายงานข่าวSouth China Morning Post ระบุว่า เมื่อเช้าวันนี้ สายการบินคาเธ่ย์แถลงว่าได้ตรวจพบปัญหาชิ้นส่วนเครื่องยนต์ในเครื่องบินรุ่น A350 หลังจากที่เครื่องบินคาเธ่ย์แปซิฟิค CX383 ถูกบังคับให้บินกลับฮ่องกงระหว่างเดินทางไปเมืองซูริกในช่วงเช้าของวันเดียวกัน สายการบินCathay ไม่ได้อธิบายชิ้นส่วนเครื่องยนต์อย่างละเอียด แต่ระบุว่าเป็นเครื่องบินประเภทเดียวกันลำแรกที่ประสบปัญหาขัดข้องเช่นนี้ในเครื่องบิน A350 ทั่วโลก “จนถึงขณะนี้ เราพบชิ้นส่วนเครื่องยนต์เดียวกันหลายชิ้นที่จำเป็นต้องเปลี่ยนแล้ว เราได้จัดหาชิ้นส่วนอะไหล่แล้ว และงานซ่อมแซมกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ” Cathay กล่าว ตามข้อมูลของ Flightradar24 เครื่องบินที่เปลี่ยนเส้นทางคือ A350-1000 ซึ่งเป็นเครื่องบินรุ่นใหญ่กว่าจากสองรุ่นของ A350 สองเครื่องยนต์ โดยเครื่องบินเหล่านี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เจ็ท XWB-97 ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เจ็ทที่ใหญ่ที่สุดของ Rolls ตามข้อมูลเดียวกันระบุว่าเครื่องบินลำดังกล่าวได้รับการส่งมอบในเดือนมกราคม 2019 ยังไม่ชัดเจนในทันทีว่าเครื่องยนต์ Rolls-Royce XWB-97 ที่ได้รับผลกระทบถูกติดตั้งบนเครื่องบินลำดังกล่าวเมื่อใด ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าสายการบินและผู้ผลิตเครื่องยนต์มักจะสลับเครื่องยนต์กันเพื่อให้ตรงกับตารางการซ่อมบำรุง สายการบินดังกล่าวกล่าวว่ากำลังประสานงานกับกรมการบินพลเรือนฮ่องกงและผู้ผลิตเครื่องบินเจ็ทและเครื่องยนต์ Cathay ให้บริการเครื่องบินแบบผสมระหว่าง Boeing (BA.N) และ Airbus (AIR.PA) และมีเครื่องบินที่สั่งซื้ออยู่ประมาณ 100 ลำในปัจจุบัน รวมถึงเครื่องบินขนส่งสินค้า เครื่องบินลำตัวแคบ และเครื่องบินลำตัวกว้าง โดยมีสิทธิ์ในการซื้ออีก 80 ลำ โฆษกของแอร์บัสได้ส่งคำถามไปยังสายการบินและบริษัทผลิตเครื่องยนต์ Rolls-Royce (RR.L) ซึ่งยังไม่ได้คำตอบหรือแสดงความคิดเห็นในทันที สำหรับหุ้นของบริษัทโรลรอยซ์ในอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้จัดหาเครื่องยนต์รายเดียวให้กับเครื่องบินเจ็ตระยะไกล A350 ร่วงลงมากถึง 8.8% หลังจากที่ Cathay รายงานว่าชิ้นส่วนเครื่องยนต์ขัดข้อง ที่มา : https://www.scmp.com/news/hong-kong/transport/article/3276914/hong-kongs-cathay-axes-48-flights-after-engine-component-failure-a350-aircraft?share=KSrpe0%2BwhkX%2FkLzmGSDqLCjs9%2B5Myrw7GDrN8zbywoq5tv%2FU2nx9XF7eCV0mOfb79ou9qXLTnxOebaa%2FihAStP0r5VUXu%2FwXzBSthYHvBeI%3D&utm_campaign=social_share #Thaitimes
    WWW.SCMP.COM
    Hong Kong’s Cathay axes 48 flights, grounds A350 fleet due to engine problem
    ‘This component was the first of its type to suffer such failure on any A350 aircraft worldwide,’ it says.
    Like
    Wow
    3
    0 Comments 0 Shares 567 Views 0 Reviews
  • เทคนิคการผลิตดาบอายุกว่า 2,500 ปีช่วยให้จีนสร้างเครื่องเจาะอุโมงค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้

    วิศวกรชาวจีนสามารถสร้างเครื่องเจาะอุโมงค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้สำเร็จ โดยเอาชนะความท้าทายที่สำคัญในการสร้างเหล็กที่แข็งแกร่งเพียงพอสำหรับอุปกรณ์ขนาดใหญ่

    ระหว่างที่จีนพยายามสร้างอุปกรณ์ก่อสร้างอุโมงค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรในโครงการต้องเอาชนะอุปสรรคสำคัญประการหนึ่ง นั่นก็คือ ยังไม่มีประเทศใดสามารถผลิตเหล็กที่แข็งแกร่งพอสำหรับเครื่องจักรขนาดมหึมานี้ได้

    เครื่องเจาะอุโมงค์ (TBM) มีตลับลูกปืนหลักที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 8.61 เมตร (28 ฟุต) ซึ่งสูงเท่ากับอาคารสามชั้น ตลับลูกปืนนี้ขับเคลื่อนเครื่องจักรขนาดยักษ์ที่มีน้ำหนักมากกว่า 10,000 ตัน ซึ่งหนักเกือบเท่ากับหอไอเฟล

    ภาระทั้งหมดนี้จะถูกรับโดยชั้นผิวของตลับลูกปืนที่มีความหนาน้อยกว่า 1 ซม. (0.4 นิ้ว)

    ปัญหาหลักในการผลิตตลับลูกปืนขนาดนั้นก็คือ อุณหภูมิของพื้นที่ต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปด้วยความเร็วที่ต่างกันในระหว่างกระบวนการ และความไม่สม่ำเสมอนี้อาจทำให้เหล็กอ่อนลงได้

    ความก้าวหน้าดังกล่าวเกิดขึ้นจากการใช้เทคนิคการตีดาบโบราณที่ใช้กันเมื่อ 2,500 ปีก่อนในการตี 'ดาบโกวเจี้ยน' ซึ่งเป็นอาวุธในตำนานของกษัตริย์จีน

    เทคนิคนี้เกี่ยวข้องกับการเคลือบโลหะด้วยดินเหนียวในระหว่างกระบวนการชุบแข็งเพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิสม่ำเสมอ และป้องกันจุดอ่อนของเหล็ก

    ความสำเร็จของจีนในการพัฒนาเครื่องจักรขั้นสูงนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการแสวงหาความสามารถในการพึ่งพาตนเองในอุปกรณ์การผลิตอัจฉริยะระดับไฮเอนด์

    ที่มา : https://archive.ph/2024.08.31-123911/https://www.scmp.com/news/china/science/article/3276498/2500-year-old-blacksmith-technique-brings-chinas-mammoth-machine-life-engineers

    #Thaitimes
    เทคนิคการผลิตดาบอายุกว่า 2,500 ปีช่วยให้จีนสร้างเครื่องเจาะอุโมงค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ วิศวกรชาวจีนสามารถสร้างเครื่องเจาะอุโมงค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้สำเร็จ โดยเอาชนะความท้าทายที่สำคัญในการสร้างเหล็กที่แข็งแกร่งเพียงพอสำหรับอุปกรณ์ขนาดใหญ่ ระหว่างที่จีนพยายามสร้างอุปกรณ์ก่อสร้างอุโมงค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรในโครงการต้องเอาชนะอุปสรรคสำคัญประการหนึ่ง นั่นก็คือ ยังไม่มีประเทศใดสามารถผลิตเหล็กที่แข็งแกร่งพอสำหรับเครื่องจักรขนาดมหึมานี้ได้ เครื่องเจาะอุโมงค์ (TBM) มีตลับลูกปืนหลักที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 8.61 เมตร (28 ฟุต) ซึ่งสูงเท่ากับอาคารสามชั้น ตลับลูกปืนนี้ขับเคลื่อนเครื่องจักรขนาดยักษ์ที่มีน้ำหนักมากกว่า 10,000 ตัน ซึ่งหนักเกือบเท่ากับหอไอเฟล ภาระทั้งหมดนี้จะถูกรับโดยชั้นผิวของตลับลูกปืนที่มีความหนาน้อยกว่า 1 ซม. (0.4 นิ้ว) ปัญหาหลักในการผลิตตลับลูกปืนขนาดนั้นก็คือ อุณหภูมิของพื้นที่ต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปด้วยความเร็วที่ต่างกันในระหว่างกระบวนการ และความไม่สม่ำเสมอนี้อาจทำให้เหล็กอ่อนลงได้ ความก้าวหน้าดังกล่าวเกิดขึ้นจากการใช้เทคนิคการตีดาบโบราณที่ใช้กันเมื่อ 2,500 ปีก่อนในการตี 'ดาบโกวเจี้ยน' ซึ่งเป็นอาวุธในตำนานของกษัตริย์จีน เทคนิคนี้เกี่ยวข้องกับการเคลือบโลหะด้วยดินเหนียวในระหว่างกระบวนการชุบแข็งเพื่อให้แน่ใจว่าการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิสม่ำเสมอ และป้องกันจุดอ่อนของเหล็ก ความสำเร็จของจีนในการพัฒนาเครื่องจักรขั้นสูงนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการแสวงหาความสามารถในการพึ่งพาตนเองในอุปกรณ์การผลิตอัจฉริยะระดับไฮเอนด์ ที่มา : https://archive.ph/2024.08.31-123911/https://www.scmp.com/news/china/science/article/3276498/2500-year-old-blacksmith-technique-brings-chinas-mammoth-machine-life-engineers #Thaitimes
    Like
    Yay
    3
    0 Comments 0 Shares 657 Views 0 Reviews
  • ฮอตพอต ซินีมา กินสุกี้ไปดูหนังไป

    ในขณะที่ประเทศไทยกำลังดรามาเรื่อง 9 จังหวัดในประเทศไทยที่ไม่มีโรงภาพยนตร์ อันเนื่องมาจากภาพยนตร์ดรามาแนว LGBTQ เรื่อง วิมาณหนาม ของค่าย GDH ว่าด้วยความรักของชายสองคนที่ถูกแย่งชิงสวนทุเรียน ซึ่งเนื้อเรื่องระบุชื่อ "สวนแม่ฮ่องสอนหมอนทองคำเสก" และใช้จังหวัดตราดสถานที่ถ่ายทำ แต่ก็โยงไปว่าทั้งสองจังหวัดไม่มีโรงภาพยนตร์แม้แต่โรงเดียว

    ที่ประเทศมาเลเซีย มีไวรัลที่โรงภาพยนตร์ดาดี้ ซินีมา (Dadi Cinema) ชั้น 5 ศูนย์การค้าพาวิเลียน เคแอล (Pavilion KL) ย่านบูกิต บินตัง (Bukit Bintang) ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มีการโพสต์ภาพเมื่อวันที่ 24 ส.ค. เป็นการเนรมิตโรงภาพยนตร์ผสมผสานกับเมนูอาหารสุกียากี้ ภายใต้ชื่อ "ฮอตพอต ซินีมา" (Hotpot Cinema) เป็นแห่งแรก ซึ่งจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้

    รูปแบบการให้บริการจะมีการเสิร์ฟสุกียากี้ที่ปรุงด้วยน้ำซุปพร้อมกับเนื้อสัตว์และผักต่างๆ ขณะชมภาพยนตร์เรื่องโปรด ซึ่งในภาพจะเป็นโรงภาพยนตร์ชั้นสตาร์พลัส แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ได้โพสต์ภาพดังกล่าวลงบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของทางโรงภาพยนตร์ ทำให้บรรดาผู้ชมภาพยนตร์ต่างตั้งตารอที่จะใช้บริการ

    อย่างไรก็ตาม ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าจะปรุงและรับประทานสุกียากี้อย่างไรภายในโรงภาพยนตร์ที่มืด อีกความเห็นหนึ่งระบุว่า ดูไม่สะดวกสบาย ถ้าในโรงภาพยนตร์มีหม้อไฟเสิร์ฟ จะทำให้มีสมาธิในการดูภาพยนตร์น้อยลง เพราะจะโฟกัสไปที่การกินมากเกินไป

    สำหรับโรงภาพยนตร์ดาดี้ ซินีมา เป็นธุรกิจในเครือดาดี้ มีเดีย กลุ่มอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศจีน ก่อตั้งขึ้นในปี 2543 มีโรงภาพยนตร์ 2,936 โรง ใน 191 แห่งทั่วประเทศจีน ก่อนที่จะขยายกิจการมายังมาเลเซียเป็นประเทศแรกเมื่อปี 2564 ปัจจุบันมี 2 สาขา ได้แก่ ศูนย์การค้าพาวิเลียน เคแอล กรุงกัวลาลัมเปอร์ และศูนย์การค้าดาเมน มอลล์ เมืองสุบังจายา รัฐสลังงอร์

    บริการ "ฮอตพอต ซินีมา" ปรากฎครั้งแรกที่โรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งในเมืองฝัวชาน มณฑลกวางตุ้งของจีน สำนักข่าวเซาต์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ (SCMP) รายงานเมื่อเดือน ก.พ. 2567 ว่า ลูกค้าจะต้องจ่ายค่าบัตรชมภาพยนตร์แยกต่างหาก สนนราคาชุด 2 คน 188 หยวน (ประมาณ 900 บาท) ประกอบด้วยอาหารทะเลสด เนื้อวัว และผัก

    แต่ละโต๊ะจะมีเตาแม่เหล็กไฟฟ้า และโคมไฟให้ผู้ชมมองเห็นอาหารและวัตถุดิบ มีหม้อขนาดเล็ก และน้ำซุปที่ใช้มีกลิ่นไม่แรง เพื่อลดผลกระทบต่อประสบการณ์การชมภาพยนตร์ อีกทั้งในโรงภาพยนตร์ยังมีจุดระบายอากาศหลายจุดเพื่อปรับคุณภาพอากาศ และมีระบบป้องกันอัคคีภัยเช่นเดียวกับภัตตาคารทั่วไป จึงไม่มีข้อกังวลด้านความปลอดภัย

    ฮอตพอต ซินีมา กลายเป็นไวรัลในจีน และกำลังจะเปิดตัวขึ้นในมาเลเซีย ส่วนประเทศไทย ปัจจุบันธุรกิจโรงภาพยนตร์ผูกขาดอยู่สองรายหลัก ได้แก่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) และ เอสเอฟ คอร์ปอเรชั่น (SF) ขึ้นอยู่กับว่าจะสนใจไอเดียนี้หรือไม่ จากที่ผ่านมาได้ทดลองโมเดลธุรกิจหลายรูปแบบ เช่น โรงภาพยนตร์สำหรับเด็ก โรงภาพยนตร์สำหรับสัตว์เลี้ยง เป็นต้น

    #Newskit #HotpotCinema #DadiCinema
    ฮอตพอต ซินีมา กินสุกี้ไปดูหนังไป ในขณะที่ประเทศไทยกำลังดรามาเรื่อง 9 จังหวัดในประเทศไทยที่ไม่มีโรงภาพยนตร์ อันเนื่องมาจากภาพยนตร์ดรามาแนว LGBTQ เรื่อง วิมาณหนาม ของค่าย GDH ว่าด้วยความรักของชายสองคนที่ถูกแย่งชิงสวนทุเรียน ซึ่งเนื้อเรื่องระบุชื่อ "สวนแม่ฮ่องสอนหมอนทองคำเสก" และใช้จังหวัดตราดสถานที่ถ่ายทำ แต่ก็โยงไปว่าทั้งสองจังหวัดไม่มีโรงภาพยนตร์แม้แต่โรงเดียว ที่ประเทศมาเลเซีย มีไวรัลที่โรงภาพยนตร์ดาดี้ ซินีมา (Dadi Cinema) ชั้น 5 ศูนย์การค้าพาวิเลียน เคแอล (Pavilion KL) ย่านบูกิต บินตัง (Bukit Bintang) ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มีการโพสต์ภาพเมื่อวันที่ 24 ส.ค. เป็นการเนรมิตโรงภาพยนตร์ผสมผสานกับเมนูอาหารสุกียากี้ ภายใต้ชื่อ "ฮอตพอต ซินีมา" (Hotpot Cinema) เป็นแห่งแรก ซึ่งจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ รูปแบบการให้บริการจะมีการเสิร์ฟสุกียากี้ที่ปรุงด้วยน้ำซุปพร้อมกับเนื้อสัตว์และผักต่างๆ ขณะชมภาพยนตร์เรื่องโปรด ซึ่งในภาพจะเป็นโรงภาพยนตร์ชั้นสตาร์พลัส แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ได้โพสต์ภาพดังกล่าวลงบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของทางโรงภาพยนตร์ ทำให้บรรดาผู้ชมภาพยนตร์ต่างตั้งตารอที่จะใช้บริการ อย่างไรก็ตาม ก็มีเสียงวิจารณ์ว่าจะปรุงและรับประทานสุกียากี้อย่างไรภายในโรงภาพยนตร์ที่มืด อีกความเห็นหนึ่งระบุว่า ดูไม่สะดวกสบาย ถ้าในโรงภาพยนตร์มีหม้อไฟเสิร์ฟ จะทำให้มีสมาธิในการดูภาพยนตร์น้อยลง เพราะจะโฟกัสไปที่การกินมากเกินไป สำหรับโรงภาพยนตร์ดาดี้ ซินีมา เป็นธุรกิจในเครือดาดี้ มีเดีย กลุ่มอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศจีน ก่อตั้งขึ้นในปี 2543 มีโรงภาพยนตร์ 2,936 โรง ใน 191 แห่งทั่วประเทศจีน ก่อนที่จะขยายกิจการมายังมาเลเซียเป็นประเทศแรกเมื่อปี 2564 ปัจจุบันมี 2 สาขา ได้แก่ ศูนย์การค้าพาวิเลียน เคแอล กรุงกัวลาลัมเปอร์ และศูนย์การค้าดาเมน มอลล์ เมืองสุบังจายา รัฐสลังงอร์ บริการ "ฮอตพอต ซินีมา" ปรากฎครั้งแรกที่โรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งในเมืองฝัวชาน มณฑลกวางตุ้งของจีน สำนักข่าวเซาต์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ (SCMP) รายงานเมื่อเดือน ก.พ. 2567 ว่า ลูกค้าจะต้องจ่ายค่าบัตรชมภาพยนตร์แยกต่างหาก สนนราคาชุด 2 คน 188 หยวน (ประมาณ 900 บาท) ประกอบด้วยอาหารทะเลสด เนื้อวัว และผัก แต่ละโต๊ะจะมีเตาแม่เหล็กไฟฟ้า และโคมไฟให้ผู้ชมมองเห็นอาหารและวัตถุดิบ มีหม้อขนาดเล็ก และน้ำซุปที่ใช้มีกลิ่นไม่แรง เพื่อลดผลกระทบต่อประสบการณ์การชมภาพยนตร์ อีกทั้งในโรงภาพยนตร์ยังมีจุดระบายอากาศหลายจุดเพื่อปรับคุณภาพอากาศ และมีระบบป้องกันอัคคีภัยเช่นเดียวกับภัตตาคารทั่วไป จึงไม่มีข้อกังวลด้านความปลอดภัย ฮอตพอต ซินีมา กลายเป็นไวรัลในจีน และกำลังจะเปิดตัวขึ้นในมาเลเซีย ส่วนประเทศไทย ปัจจุบันธุรกิจโรงภาพยนตร์ผูกขาดอยู่สองรายหลัก ได้แก่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) และ เอสเอฟ คอร์ปอเรชั่น (SF) ขึ้นอยู่กับว่าจะสนใจไอเดียนี้หรือไม่ จากที่ผ่านมาได้ทดลองโมเดลธุรกิจหลายรูปแบบ เช่น โรงภาพยนตร์สำหรับเด็ก โรงภาพยนตร์สำหรับสัตว์เลี้ยง เป็นต้น #Newskit #HotpotCinema #DadiCinema
    Like
    4
    2 Comments 0 Shares 1286 Views 0 Reviews
  • การล่มของระบบ Microsoft Windows จีนไม่เดือดร้อนเพราะมีระบบคอมพิวเตอร์ตัวเองที่ "ปลอดภัยและควบคุมเอง" ทำให้โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ ตั้งแต่สายการบินไปจนถึงธนาคาร ส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบ

    20 กรกฏาคม 2567-รายงานจากสื่อเซ้าท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 19 กรกฏาคม ไม่มีรายงานความล้มเหลวของโครงสร้างพื้นฐานในจีนแผ่นดินใหญ่หลังจากโลกปั่นป่วนจากการล่มของไมโครซอฟต์ ขณะที่สนามบินหลายแห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่ฮ่องกงไปจนถึงออสเตรเลีย ต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่สนามบินนานาชาติในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้เปิดให้บริการตามปกติ

    อย่างไรก็ตาม แต่พนักงานบริษัทต่างประเทศในเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยกับเซ้าท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ว่า สำนักงานของเธอเริ่มประสบกับปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ขัดข้องเมื่อบ่ายวันศุกร์ และเกือบทุกคนได้รับผลกระทบ หน้าจอแล็ปท็อปของพนักงานค้างอยู่บนหน้าจอสีฟ้าพร้อมข้อความ "กำลังกู้คืน" ดูเหมือนว่า Windows จะโหลดไม่ถูกต้อง”

    จากนั้นฝ่ายสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทก็สั่งให้ทุกคนปิดคอมพิวเตอร์ รอคำแนะนำเพิ่มเติม และใช้แอปมือถือสำหรับการส่งข้อความโต้ตอบแบบทันที งานบัญชีของพนักงานก็ล่าช้าเนื่องจากการหยุดทำงาน “รายงาน [ทางการเงิน] ของเดือนนี้จะล่าช้า” เจ้าหน้าที่กล่าว

    พนักงานจากบริษัทต่างประเทศอีกแห่งหนึ่งรายงานว่าประสบปัญหาหน้าจอสีฟ้าเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. แม้ว่าพนักงานบางคนสามารถรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ได้ในภายหลัง แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัทได้ ซึ่งแสดงข้อผิดพลาด “502 Bad Gateway” บริษัทบอกกับพนักงานว่า “การสนับสนุนด้านไอทีทั่วโลกได้เปิดใช้งานการตอบสนองในระดับสูงสุดเพื่อแก้ไขปัญหา” ตามที่พนักงานรายดังกล่าวระบุ

    บน Xiaohongshu ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีนที่มีลักษณะคล้ายอินสตาแกรม ผู้ใช้หลายคนบ่นเกี่ยวกับความยากลำบากในการเช็คอินในเชนโรงแรมระดับนานาชาติ เช่น Sheraton, Marriott และ Hyatt ในเมืองต่างๆ ของจีน

    ขณะที่บริการสาธารณะของจีนส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบ เว็บไซต์ของจีนและช่องทางโซเชียลมีเดียของ Microsoft จึงไม่ออกประกาศฉุกเฉินใดๆ Microsoft ไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นทันทีเมื่อวันศุกร์

    การที่ภูมิคุ้มกันของจีนต่อการล่มของไมโครซอฟต์ขัดข้อง แสดงให้เห็นว่าจีนลดการพึ่งพาผู้ให้บริการจากต่างประเทศ เช่น Microsoft และบริษัทแอนตี้ไวรัส CrowdStrike ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้ออกแคมเปญทั่วทั้งหน่วยงานรัฐบาลและผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานหลักเพื่อแทนที่ฮาร์ดแวร์และระบบจากต่างประเทศด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ภายในประเทศจีน

    การล่มของไมโครซอฟต์มีสาเหตุมาจากการอัปเดตซอฟต์แวร์จาก CrowdStrike ยักษ์ใหญ่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบที่ใช้ Windows ทั่วโลก George Kurtz ซีอีโอของ CrowdStrike ยืนยันเมื่อเช้าวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ว่าบริษัทของเขากำลังเร่งแก้ไขปัญหา

    แต่ในจีนมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากการล่มของ Microsoft ในประเทศจีน ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศนี้มีความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายของระบบคอมพิวเตอร์ที่ "ปลอดภัยและควบคุมได้" ตามที่พนักงานรัฐบาลจีนคนหนึ่งกล่าว

    ใน Weibo ชาวเน็ตชาวจีนแซวว่า Microsoft “ให้วันหยุดครึ่งวันแก่พวกเขา” ผู้แสดงความคิดเห็นคนหนึ่งกล่าวว่า “บริษัทของเราเพิ่งเปลี่ยนมาใช้คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ที่มีระบบ HarmonyOS ดังนั้นเราจึงไม่สามารถเข้าร่วมสนุกกับไมโครซอฟต์ของคุณได้”

    ที่มา :https://www.scmp.com/tech/big-tech/article/3271171/microsoft-outage-leaves-china-largely-untouched-tech-self-sufficiency-campaign-pays
    การล่มของระบบ Microsoft Windows จีนไม่เดือดร้อนเพราะมีระบบคอมพิวเตอร์ตัวเองที่ "ปลอดภัยและควบคุมเอง" ทำให้โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศ ตั้งแต่สายการบินไปจนถึงธนาคาร ส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบ 20 กรกฏาคม 2567-รายงานจากสื่อเซ้าท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 19 กรกฏาคม ไม่มีรายงานความล้มเหลวของโครงสร้างพื้นฐานในจีนแผ่นดินใหญ่หลังจากโลกปั่นป่วนจากการล่มของไมโครซอฟต์ ขณะที่สนามบินหลายแห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตั้งแต่ฮ่องกงไปจนถึงออสเตรเลีย ต่างได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่สนามบินนานาชาติในกรุงปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้เปิดให้บริการตามปกติ อย่างไรก็ตาม แต่พนักงานบริษัทต่างประเทศในเซี่ยงไฮ้ เปิดเผยกับเซ้าท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ว่า สำนักงานของเธอเริ่มประสบกับปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ขัดข้องเมื่อบ่ายวันศุกร์ และเกือบทุกคนได้รับผลกระทบ หน้าจอแล็ปท็อปของพนักงานค้างอยู่บนหน้าจอสีฟ้าพร้อมข้อความ "กำลังกู้คืน" ดูเหมือนว่า Windows จะโหลดไม่ถูกต้อง” จากนั้นฝ่ายสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทก็สั่งให้ทุกคนปิดคอมพิวเตอร์ รอคำแนะนำเพิ่มเติม และใช้แอปมือถือสำหรับการส่งข้อความโต้ตอบแบบทันที งานบัญชีของพนักงานก็ล่าช้าเนื่องจากการหยุดทำงาน “รายงาน [ทางการเงิน] ของเดือนนี้จะล่าช้า” เจ้าหน้าที่กล่าว พนักงานจากบริษัทต่างประเทศอีกแห่งหนึ่งรายงานว่าประสบปัญหาหน้าจอสีฟ้าเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. แม้ว่าพนักงานบางคนสามารถรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ได้ในภายหลัง แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัทได้ ซึ่งแสดงข้อผิดพลาด “502 Bad Gateway” บริษัทบอกกับพนักงานว่า “การสนับสนุนด้านไอทีทั่วโลกได้เปิดใช้งานการตอบสนองในระดับสูงสุดเพื่อแก้ไขปัญหา” ตามที่พนักงานรายดังกล่าวระบุ บน Xiaohongshu ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของจีนที่มีลักษณะคล้ายอินสตาแกรม ผู้ใช้หลายคนบ่นเกี่ยวกับความยากลำบากในการเช็คอินในเชนโรงแรมระดับนานาชาติ เช่น Sheraton, Marriott และ Hyatt ในเมืองต่างๆ ของจีน ขณะที่บริการสาธารณะของจีนส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบ เว็บไซต์ของจีนและช่องทางโซเชียลมีเดียของ Microsoft จึงไม่ออกประกาศฉุกเฉินใดๆ Microsoft ไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นทันทีเมื่อวันศุกร์ การที่ภูมิคุ้มกันของจีนต่อการล่มของไมโครซอฟต์ขัดข้อง แสดงให้เห็นว่าจีนลดการพึ่งพาผู้ให้บริการจากต่างประเทศ เช่น Microsoft และบริษัทแอนตี้ไวรัส CrowdStrike ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้ออกแคมเปญทั่วทั้งหน่วยงานรัฐบาลและผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานหลักเพื่อแทนที่ฮาร์ดแวร์และระบบจากต่างประเทศด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ภายในประเทศจีน การล่มของไมโครซอฟต์มีสาเหตุมาจากการอัปเดตซอฟต์แวร์จาก CrowdStrike ยักษ์ใหญ่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบที่ใช้ Windows ทั่วโลก George Kurtz ซีอีโอของ CrowdStrike ยืนยันเมื่อเช้าวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ว่าบริษัทของเขากำลังเร่งแก้ไขปัญหา แต่ในจีนมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากการล่มของ Microsoft ในประเทศจีน ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศนี้มีความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายของระบบคอมพิวเตอร์ที่ "ปลอดภัยและควบคุมได้" ตามที่พนักงานรัฐบาลจีนคนหนึ่งกล่าว ใน Weibo ชาวเน็ตชาวจีนแซวว่า Microsoft “ให้วันหยุดครึ่งวันแก่พวกเขา” ผู้แสดงความคิดเห็นคนหนึ่งกล่าวว่า “บริษัทของเราเพิ่งเปลี่ยนมาใช้คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ที่มีระบบ HarmonyOS ดังนั้นเราจึงไม่สามารถเข้าร่วมสนุกกับไมโครซอฟต์ของคุณได้” ที่มา :https://www.scmp.com/tech/big-tech/article/3271171/microsoft-outage-leaves-china-largely-untouched-tech-self-sufficiency-campaign-pays
    WWW.SCMP.COM
    China escapes Microsoft outage, thanks to Beijing’s tech self-sufficiency drive
    The Microsoft Windows outage that affected foreign businesses and luxury hotels in China on Friday left the country’s key infrastructure unaffected.
    0 Comments 0 Shares 801 Views 0 Reviews