• 🛡️ McAfee เพิ่มฟีเจอร์ Scam Detector ในแผนป้องกันไวรัส
    McAfee ได้รวม Scam Detector ซึ่งเป็นเครื่องมือป้องกันการหลอกลวงเข้าไปในแผนป้องกันไวรัสทั้งหมด โดยฟีเจอร์นี้สามารถตรวจจับ ข้อความ, อีเมล และวิดีโอที่เป็นภัย ได้แบบเรียลไทม์

    Scam Detector อ้างว่ามี ความแม่นยำ 99% ในการตรวจจับภัยคุกคามจากข้อความ และสามารถตรวจจับ deepfake บน YouTube และ TikTok ได้ 96%

    อย่างไรก็ตาม McAfee Scam Detector ต้องสมัครสมาชิก เพื่อใช้งาน ซึ่งแตกต่างจากเครื่องมือฟรี เช่น Bitdefender Scamio ที่สามารถตรวจสอบลิงก์, ข้อความ และ QR codes ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

    Google ก็มีระบบตรวจจับการหลอกลวงด้วย AI แต่ยังอยู่ใน เวอร์ชันเบต้าสำหรับ Pixel phones เท่านั้น

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - McAfee รวม Scam Detector เข้าไปในแผนป้องกันไวรัสทั้งหมด
    - สามารถตรวจจับข้อความ, อีเมล และวิดีโอที่เป็นภัยได้แบบเรียลไทม์
    - มีความแม่นยำ 99% ในการตรวจจับภัยคุกคามจากข้อความ
    - สามารถตรวจจับ deepfake บน YouTube และ TikTok ได้ 96%
    - รองรับ WhatsApp, Messenger, Gmail และ Android SMS

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ต้องสมัครสมาชิก McAfee เพื่อใช้งาน Scam Detector
    - Bitdefender Scamio เป็นเครื่องมือฟรีที่สามารถตรวจสอบลิงก์และข้อความได้
    - Google มีระบบตรวจจับการหลอกลวงด้วย AI แต่ยังอยู่ในเวอร์ชันเบต้าสำหรับ Pixel phones
    - Norton Genie Scam Protection ก็ต้องสมัครสมาชิกเพื่อใช้งานเต็มรูปแบบ

    🔎 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์
    McAfee Scam Detector อาจช่วยให้ผู้ใช้มีเครื่องมือป้องกันภัยคุกคามที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่การที่ต้องสมัครสมาชิกอาจทำให้ผู้ใช้เลือกใช้ เครื่องมือฟรีที่มีฟีเจอร์ใกล้เคียงกัน แทน

    https://www.techradar.com/pro/mcafee-is-now-bundling-its-scam-detector-with-all-its-antivirus-plans-here-are-others-that-are-actually-totally-free
    🛡️ McAfee เพิ่มฟีเจอร์ Scam Detector ในแผนป้องกันไวรัส McAfee ได้รวม Scam Detector ซึ่งเป็นเครื่องมือป้องกันการหลอกลวงเข้าไปในแผนป้องกันไวรัสทั้งหมด โดยฟีเจอร์นี้สามารถตรวจจับ ข้อความ, อีเมล และวิดีโอที่เป็นภัย ได้แบบเรียลไทม์ Scam Detector อ้างว่ามี ความแม่นยำ 99% ในการตรวจจับภัยคุกคามจากข้อความ และสามารถตรวจจับ deepfake บน YouTube และ TikTok ได้ 96% อย่างไรก็ตาม McAfee Scam Detector ต้องสมัครสมาชิก เพื่อใช้งาน ซึ่งแตกต่างจากเครื่องมือฟรี เช่น Bitdefender Scamio ที่สามารถตรวจสอบลิงก์, ข้อความ และ QR codes ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย Google ก็มีระบบตรวจจับการหลอกลวงด้วย AI แต่ยังอยู่ใน เวอร์ชันเบต้าสำหรับ Pixel phones เท่านั้น ✅ ข้อมูลจากข่าว - McAfee รวม Scam Detector เข้าไปในแผนป้องกันไวรัสทั้งหมด - สามารถตรวจจับข้อความ, อีเมล และวิดีโอที่เป็นภัยได้แบบเรียลไทม์ - มีความแม่นยำ 99% ในการตรวจจับภัยคุกคามจากข้อความ - สามารถตรวจจับ deepfake บน YouTube และ TikTok ได้ 96% - รองรับ WhatsApp, Messenger, Gmail และ Android SMS ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ต้องสมัครสมาชิก McAfee เพื่อใช้งาน Scam Detector - Bitdefender Scamio เป็นเครื่องมือฟรีที่สามารถตรวจสอบลิงก์และข้อความได้ - Google มีระบบตรวจจับการหลอกลวงด้วย AI แต่ยังอยู่ในเวอร์ชันเบต้าสำหรับ Pixel phones - Norton Genie Scam Protection ก็ต้องสมัครสมาชิกเพื่อใช้งานเต็มรูปแบบ 🔎 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์ McAfee Scam Detector อาจช่วยให้ผู้ใช้มีเครื่องมือป้องกันภัยคุกคามที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่การที่ต้องสมัครสมาชิกอาจทำให้ผู้ใช้เลือกใช้ เครื่องมือฟรีที่มีฟีเจอร์ใกล้เคียงกัน แทน https://www.techradar.com/pro/mcafee-is-now-bundling-its-scam-detector-with-all-its-antivirus-plans-here-are-others-that-are-actually-totally-free
    WWW.TECHRADAR.COM
    Don’t get scammed! McAfee’s new AI tool sounds great, but you will need to pay for it
    McAfee Scam Detector tool is price-locked - here are some other options
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔧 ASRock ยืนยันปัญหา BIOS ทำให้ Ryzen 9000 เสียหาย
    ASRock ได้ออกมายอมรับว่า BIOS เวอร์ชันก่อนหน้ามีการตั้งค่าที่ผิดพลาด ซึ่งทำให้ Ryzen 9000 CPUs บางตัวเสียหาย โดยบริษัทได้ออก BIOS เวอร์ชัน 3.25 เพื่อแก้ไขปัญหานี้

    ปัญหานี้เกี่ยวข้องกับ Precision Boost Overdrive (PBO) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ CPU โดย ASRock ตั้งค่า Electric Design Current (EDC), Thermal Design Current (TDC) และ shadow voltages สูงเกินไปใน BIOS เวอร์ชันก่อนหน้า ทำให้ CPU บางตัวเสียหาย

    ASRock ยืนยันว่า AMD ไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหานี้ และบริษัทจะรับผิดชอบค่าขนส่งสำหรับการ RMA (Return Merchandise Authorization) ของเมนบอร์ดที่ได้รับผลกระทบ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - ASRock ยืนยันว่า BIOS เวอร์ชันก่อนหน้ามีการตั้งค่าที่ผิดพลาด ทำให้ Ryzen 9000 CPUs บางตัวเสียหาย
    - BIOS เวอร์ชัน 3.25 ได้รับการปรับปรุง เพื่อลดค่าของ EDC, TDC และ shadow voltages
    - AMD ไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหานี้ ASRock รับผิดชอบทั้งหมด
    - ASRock จะรับผิดชอบค่าขนส่งสำหรับการ RMA ของเมนบอร์ด
    - ผู้ใช้ควรตรวจสอบว่า BIOS เวอร์ชัน 3.25 ถูกติดตั้งบนเมนบอร์ดใหม่

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมี BIOS เวอร์ชันใหม่ แต่ยังมีรายงานว่า Ryzen 7 9800X3D บางตัวเสียหาย
    - ASRock เคยแก้ไขปัญหานี้มาก่อน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์
    - ผู้ใช้ควรตรวจสอบการตั้งค่า PBO ด้วยตนเอง เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม
    - ต้องจับตาดูว่า BIOS เวอร์ชัน 3.25 จะสามารถแก้ไขปัญหาได้จริงหรือไม่

    🔎 ผลกระทบต่อผู้ใช้และอุตสาหกรรม
    การตั้งค่า BIOS ที่ผิดพลาดของ ASRock ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ Ryzen 9000 และอาจทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับ ความน่าเชื่อถือของเมนบอร์ด ASRock ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทออกมายอมรับและเสนอการแก้ไขปัญหาแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค

    หากคุณใช้ AM5 ASRock motherboard ควรตรวจสอบว่า BIOS เวอร์ชันล่าสุดถูกติดตั้งแล้ว และหากพบปัญหา ควรติดต่อ ASRock เพื่อดำเนินการ RMA

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/asrock-confirms-its-bios-settings-are-killing-ryzen-cpus-is-fully-committed-to-fixing-any-damaged-motherboards
    🔧 ASRock ยืนยันปัญหา BIOS ทำให้ Ryzen 9000 เสียหาย ASRock ได้ออกมายอมรับว่า BIOS เวอร์ชันก่อนหน้ามีการตั้งค่าที่ผิดพลาด ซึ่งทำให้ Ryzen 9000 CPUs บางตัวเสียหาย โดยบริษัทได้ออก BIOS เวอร์ชัน 3.25 เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ปัญหานี้เกี่ยวข้องกับ Precision Boost Overdrive (PBO) ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ CPU โดย ASRock ตั้งค่า Electric Design Current (EDC), Thermal Design Current (TDC) และ shadow voltages สูงเกินไปใน BIOS เวอร์ชันก่อนหน้า ทำให้ CPU บางตัวเสียหาย ASRock ยืนยันว่า AMD ไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหานี้ และบริษัทจะรับผิดชอบค่าขนส่งสำหรับการ RMA (Return Merchandise Authorization) ของเมนบอร์ดที่ได้รับผลกระทบ ✅ ข้อมูลจากข่าว - ASRock ยืนยันว่า BIOS เวอร์ชันก่อนหน้ามีการตั้งค่าที่ผิดพลาด ทำให้ Ryzen 9000 CPUs บางตัวเสียหาย - BIOS เวอร์ชัน 3.25 ได้รับการปรับปรุง เพื่อลดค่าของ EDC, TDC และ shadow voltages - AMD ไม่ได้เป็นต้นเหตุของปัญหานี้ ASRock รับผิดชอบทั้งหมด - ASRock จะรับผิดชอบค่าขนส่งสำหรับการ RMA ของเมนบอร์ด - ผู้ใช้ควรตรวจสอบว่า BIOS เวอร์ชัน 3.25 ถูกติดตั้งบนเมนบอร์ดใหม่ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมี BIOS เวอร์ชันใหม่ แต่ยังมีรายงานว่า Ryzen 7 9800X3D บางตัวเสียหาย - ASRock เคยแก้ไขปัญหานี้มาก่อน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์ - ผู้ใช้ควรตรวจสอบการตั้งค่า PBO ด้วยตนเอง เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม - ต้องจับตาดูว่า BIOS เวอร์ชัน 3.25 จะสามารถแก้ไขปัญหาได้จริงหรือไม่ 🔎 ผลกระทบต่อผู้ใช้และอุตสาหกรรม การตั้งค่า BIOS ที่ผิดพลาดของ ASRock ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ Ryzen 9000 และอาจทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับ ความน่าเชื่อถือของเมนบอร์ด ASRock ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทออกมายอมรับและเสนอการแก้ไขปัญหาแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค หากคุณใช้ AM5 ASRock motherboard ควรตรวจสอบว่า BIOS เวอร์ชันล่าสุดถูกติดตั้งแล้ว และหากพบปัญหา ควรติดต่อ ASRock เพื่อดำเนินการ RMA https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/asrock-confirms-its-bios-settings-are-killing-ryzen-cpus-is-fully-committed-to-fixing-any-damaged-motherboards
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🎮 GPU รุ่นใหม่ของจีน: ก้าวสำคัญสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี
    Lisuan Technology บริษัทสตาร์ทอัพด้านกราฟิกการ์ดของจีน ประกาศว่า G100 GPU ซึ่งเป็น กราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในประเทศ ได้เปิดใช้งานสำเร็จ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ

    🔍 เรื่องน่าสนใจที่เสริมเพิ่มเติม
    Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley และได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Dongxin Semiconductor ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนา G100 ต่อไปได้แม้จะเผชิญกับปัญหาทางการเงิน

    G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่พัฒนาเอง แตกต่างจากบริษัทจีนอื่น ๆ ที่มักใช้ IP จาก Imagination Technologies นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060

    📌 สรุปข้อมูลหลักและคำเตือน
    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - G100 เป็นกราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในจีน
    - Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley
    - G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งพัฒนาเองโดยไม่ใช้ IP จากบริษัทอื่น
    - Dongxin Semiconductor สนับสนุนเงินทุน 27.7 ล้านเหรียญ เพื่อช่วยให้บริษัทดำเนินการต่อไป
    - G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - จีนไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี 6nm จาก Samsung หรือ TSMC เนื่องจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ
    - G100 อาจผลิตโดย SMIC ซึ่งมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี เมื่อเทียบกับโรงงานผลิตชิประดับโลก
    - ยังไม่มีข้อมูลทางเทคนิคที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ G100
    - การพัฒนาไดรเวอร์และซอฟต์แวร์เป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะกำหนดความสามารถของ G100 ในตลาด

    🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม GPU
    การเปิดตัว G100 แสดงให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านการผลิตและซอฟต์แวร์ ยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ต้องแก้ไขก่อนที่ G100 จะสามารถแข่งขันกับแบรนด์ระดับโลกได้

    จีนกำลังเดินหน้าสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี แต่ต้องจับตาดูว่า G100 จะสามารถสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม GPU ได้หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/chinas-first-6nm-domestic-gpu-with-purported-rtx-4060-like-performance-has-powered-on
    🎮 GPU รุ่นใหม่ของจีน: ก้าวสำคัญสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี Lisuan Technology บริษัทสตาร์ทอัพด้านกราฟิกการ์ดของจีน ประกาศว่า G100 GPU ซึ่งเป็น กราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในประเทศ ได้เปิดใช้งานสำเร็จ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ 🔍 เรื่องน่าสนใจที่เสริมเพิ่มเติม Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley และได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Dongxin Semiconductor ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนา G100 ต่อไปได้แม้จะเผชิญกับปัญหาทางการเงิน G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่พัฒนาเอง แตกต่างจากบริษัทจีนอื่น ๆ ที่มักใช้ IP จาก Imagination Technologies นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060 📌 สรุปข้อมูลหลักและคำเตือน ✅ ข้อมูลจากข่าว - G100 เป็นกราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในจีน - Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley - G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งพัฒนาเองโดยไม่ใช้ IP จากบริษัทอื่น - Dongxin Semiconductor สนับสนุนเงินทุน 27.7 ล้านเหรียญ เพื่อช่วยให้บริษัทดำเนินการต่อไป - G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - จีนไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี 6nm จาก Samsung หรือ TSMC เนื่องจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ - G100 อาจผลิตโดย SMIC ซึ่งมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี เมื่อเทียบกับโรงงานผลิตชิประดับโลก - ยังไม่มีข้อมูลทางเทคนิคที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ G100 - การพัฒนาไดรเวอร์และซอฟต์แวร์เป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะกำหนดความสามารถของ G100 ในตลาด 🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม GPU การเปิดตัว G100 แสดงให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านการผลิตและซอฟต์แวร์ ยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ต้องแก้ไขก่อนที่ G100 จะสามารถแข่งขันกับแบรนด์ระดับโลกได้ จีนกำลังเดินหน้าสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี แต่ต้องจับตาดูว่า G100 จะสามารถสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม GPU ได้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/chinas-first-6nm-domestic-gpu-with-purported-rtx-4060-like-performance-has-powered-on
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • ❄️ เทคโนโลยีระบายความร้อนใหม่สำหรับ SSD
    xMEMS ได้เปิดตัว µCooling fan-on-a-chip ซึ่งเป็นโซลูชันระบายความร้อนแบบแอคทีฟที่สามารถลดอุณหภูมิของ SSD ได้ถึง 20% โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดปัญหา thermal throttling และเพิ่มประสิทธิภาพของ SSD ให้ทำงานได้เร็วขึ้นเป็นระยะเวลานานขึ้น

    SSD เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีความเร็วสูง แต่เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น NAND flash และ controller ICs อาจเกิดการ thermal throttling ทำให้ความเร็วลดลง เทคโนโลยี µCooling ของ xMEMS จะช่วยแก้ปัญหานี้โดยติดตั้ง ระบบระบายความร้อนขนาดเล็ก ลงบน SSD โดยตรง

    นอกจากนี้ xMEMS ยังขยายการใช้งาน µCooling ไปยัง AI data servers และ optical transceivers ที่ต้องการการระบายความร้อนในพื้นที่จำกัด

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - xMEMS เปิดตัว µCooling fan-on-a-chip สำหรับ SSD
    - ลดอุณหภูมิ SSD ได้ถึง 20% และลด thermal resistance ลง 25-30%
    - ช่วยลดปัญหา thermal throttling ทำให้ SSD ทำงานได้เร็วขึ้นเป็นระยะเวลานานขึ้น
    - สามารถนำไปใช้กับ E3.S SSDs และ NVMe M.2 SSDs
    - ขยายการใช้งานไปยัง AI data servers และ optical transceivers

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา และต้องรอดูผลการใช้งานจริง
    - การติดตั้งระบบระบายความร้อนบน SSD อาจเพิ่มต้นทุนการผลิต
    - ต้องรอดูว่าผู้ผลิต SSD รายอื่นจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้หรือไม่
    - การระบายความร้อนแบบแอคทีฟอาจมีข้อจำกัดด้านพลังงานและความทนทาน

    🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม SSD
    หากเทคโนโลยี µCooling สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจช่วยให้ SSD ในศูนย์ข้อมูลและอุปกรณ์พกพามีประสิทธิภาพสูงขึ้น และลดปัญหาความร้อนที่ส่งผลต่อความเร็วในการทำงาน อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูว่าผู้ผลิตรายอื่นจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้หรือไม่ และผลกระทบต่อราคาของ SSD ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/air-cooling/xmems-fan-on-a-chip-cooling-can-reduce-ssd-temperatures-by-up-to-20-percent
    ❄️ เทคโนโลยีระบายความร้อนใหม่สำหรับ SSD xMEMS ได้เปิดตัว µCooling fan-on-a-chip ซึ่งเป็นโซลูชันระบายความร้อนแบบแอคทีฟที่สามารถลดอุณหภูมิของ SSD ได้ถึง 20% โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดปัญหา thermal throttling และเพิ่มประสิทธิภาพของ SSD ให้ทำงานได้เร็วขึ้นเป็นระยะเวลานานขึ้น SSD เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีความเร็วสูง แต่เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น NAND flash และ controller ICs อาจเกิดการ thermal throttling ทำให้ความเร็วลดลง เทคโนโลยี µCooling ของ xMEMS จะช่วยแก้ปัญหานี้โดยติดตั้ง ระบบระบายความร้อนขนาดเล็ก ลงบน SSD โดยตรง นอกจากนี้ xMEMS ยังขยายการใช้งาน µCooling ไปยัง AI data servers และ optical transceivers ที่ต้องการการระบายความร้อนในพื้นที่จำกัด ✅ ข้อมูลจากข่าว - xMEMS เปิดตัว µCooling fan-on-a-chip สำหรับ SSD - ลดอุณหภูมิ SSD ได้ถึง 20% และลด thermal resistance ลง 25-30% - ช่วยลดปัญหา thermal throttling ทำให้ SSD ทำงานได้เร็วขึ้นเป็นระยะเวลานานขึ้น - สามารถนำไปใช้กับ E3.S SSDs และ NVMe M.2 SSDs - ขยายการใช้งานไปยัง AI data servers และ optical transceivers ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา และต้องรอดูผลการใช้งานจริง - การติดตั้งระบบระบายความร้อนบน SSD อาจเพิ่มต้นทุนการผลิต - ต้องรอดูว่าผู้ผลิต SSD รายอื่นจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้หรือไม่ - การระบายความร้อนแบบแอคทีฟอาจมีข้อจำกัดด้านพลังงานและความทนทาน 🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม SSD หากเทคโนโลยี µCooling สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจช่วยให้ SSD ในศูนย์ข้อมูลและอุปกรณ์พกพามีประสิทธิภาพสูงขึ้น และลดปัญหาความร้อนที่ส่งผลต่อความเร็วในการทำงาน อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูว่าผู้ผลิตรายอื่นจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้หรือไม่ และผลกระทบต่อราคาของ SSD ในอนาคต https://www.tomshardware.com/pc-components/air-cooling/xmems-fan-on-a-chip-cooling-can-reduce-ssd-temperatures-by-up-to-20-percent
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    xMEMS' fan-on-a-chip cooling can reduce SSD temperatures by up to 20%
    This cooling solution will reduce the temperatures of your SSDs and make them run faster for longer.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • ☀️ ดวงอาทิตย์กับผลกระทบต่อดาวเทียม
    การปะทุของดวงอาทิตย์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้กำลังส่งผลให้ดาวเทียมกลับเข้าสู่โลกเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะในช่วง Solar Maximum ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของวัฏจักรพลังงานดวงอาทิตย์ที่เกิดขึ้นทุก 11 ปี

    เมื่อดวงอาทิตย์เกิด geomagnetic storms หรือพายุแม่เหล็กโลก จะทำให้ชั้นบรรยากาศของโลกขยายตัว ส่งผลให้แรงต้านอากาศเพิ่มขึ้นและทำให้ดาวเทียมที่อยู่ในวงโคจรต่ำ (Low Earth Orbit - LEO) มีอายุการใช้งานสั้นลง

    นักวิจัยจาก NASA Goddard Space Flight Center พบว่า Starlink satellites ที่อยู่ต่ำกว่า 300 กิโลเมตร อาจกลับเข้าสู่โลกภายใน 5 วัน แทนที่จะเป็น 15 วัน ภายใต้สภาวะปกติ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Solar Maximum ทำให้ดาวเทียมกลับเข้าสู่โลกเร็วกว่าปกติ
    - แรงต้านอากาศเพิ่มขึ้น เนื่องจากชั้นบรรยากาศขยายตัวจากพายุแม่เหล็กโลก
    - Starlink satellites ที่อยู่ต่ำกว่า 300 กิโลเมตร อาจกลับเข้าสู่โลกภายใน 5 วัน
    - 523 Starlink satellites ถูกติดตามการกลับเข้าสู่โลกระหว่างปี 2020-2024
    - SpaceX มีแผนปล่อยดาวเทียมเพิ่มอีกหลายหมื่นดวง

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ดาวเทียมที่กลับเข้าสู่โลกเร็วขึ้น อาจเพิ่มความเสี่ยงของเศษซากที่ตกลงสู่พื้นดิน
    - เศษซากจากดาวเทียมอาจไม่เผาไหม้หมดในชั้นบรรยากาศ ทำให้มีโอกาสตกลงสู่พื้นโลก
    - พื้นที่ที่มีดาวเทียมโคจรหนาแน่น เช่น แคนาดา อาจพบเศษซากมากขึ้น
    - การดำเนินงานของดาวเทียมในวงโคจรต่ำกว่า 400 กิโลเมตร อาจมีความท้าทายมากขึ้น

    🌍 ผลกระทบต่ออนาคตของอุตสาหกรรมอวกาศ
    การเพิ่มขึ้นของ mega-constellations เช่น Starlink ทำให้วงโคจรของโลกกลายเป็นพื้นที่ที่มีดาวเทียมจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของอวกาศและการจัดการเศษซากดาวเทียมในอนาคต

    https://www.techspot.com/news/108090-sun-unpredictable-outbursts-forcing-satellites-back-earth-sooner.html
    ☀️ ดวงอาทิตย์กับผลกระทบต่อดาวเทียม การปะทุของดวงอาทิตย์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้กำลังส่งผลให้ดาวเทียมกลับเข้าสู่โลกเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะในช่วง Solar Maximum ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของวัฏจักรพลังงานดวงอาทิตย์ที่เกิดขึ้นทุก 11 ปี เมื่อดวงอาทิตย์เกิด geomagnetic storms หรือพายุแม่เหล็กโลก จะทำให้ชั้นบรรยากาศของโลกขยายตัว ส่งผลให้แรงต้านอากาศเพิ่มขึ้นและทำให้ดาวเทียมที่อยู่ในวงโคจรต่ำ (Low Earth Orbit - LEO) มีอายุการใช้งานสั้นลง นักวิจัยจาก NASA Goddard Space Flight Center พบว่า Starlink satellites ที่อยู่ต่ำกว่า 300 กิโลเมตร อาจกลับเข้าสู่โลกภายใน 5 วัน แทนที่จะเป็น 15 วัน ภายใต้สภาวะปกติ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Solar Maximum ทำให้ดาวเทียมกลับเข้าสู่โลกเร็วกว่าปกติ - แรงต้านอากาศเพิ่มขึ้น เนื่องจากชั้นบรรยากาศขยายตัวจากพายุแม่เหล็กโลก - Starlink satellites ที่อยู่ต่ำกว่า 300 กิโลเมตร อาจกลับเข้าสู่โลกภายใน 5 วัน - 523 Starlink satellites ถูกติดตามการกลับเข้าสู่โลกระหว่างปี 2020-2024 - SpaceX มีแผนปล่อยดาวเทียมเพิ่มอีกหลายหมื่นดวง ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ดาวเทียมที่กลับเข้าสู่โลกเร็วขึ้น อาจเพิ่มความเสี่ยงของเศษซากที่ตกลงสู่พื้นดิน - เศษซากจากดาวเทียมอาจไม่เผาไหม้หมดในชั้นบรรยากาศ ทำให้มีโอกาสตกลงสู่พื้นโลก - พื้นที่ที่มีดาวเทียมโคจรหนาแน่น เช่น แคนาดา อาจพบเศษซากมากขึ้น - การดำเนินงานของดาวเทียมในวงโคจรต่ำกว่า 400 กิโลเมตร อาจมีความท้าทายมากขึ้น 🌍 ผลกระทบต่ออนาคตของอุตสาหกรรมอวกาศ การเพิ่มขึ้นของ mega-constellations เช่น Starlink ทำให้วงโคจรของโลกกลายเป็นพื้นที่ที่มีดาวเทียมจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของอวกาศและการจัดการเศษซากดาวเทียมในอนาคต https://www.techspot.com/news/108090-sun-unpredictable-outbursts-forcing-satellites-back-earth-sooner.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Sun's unpredictable outbursts are forcing satellites back to Earth sooner
    A 2.5-kilogram chunk of metal found on a Canadian farm in August 2024 has become a symbol of a growing dilemma in space exploration. The fragment –...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta ได้เปิดเผยว่า Meta AI ซึ่งเป็นผู้ช่วย AI เชิงสร้างสรรค์ของบริษัท มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน โดย AI นี้ถูกฝังอยู่ในแอปต่าง ๆ ของ Meta เช่น Facebook, Instagram และ WhatsApp ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องค้นหาแยกต่างหาก

    Meta กำลังแข่งขันกับ Google, Microsoft และ OpenAI ในตลาด AI โดยเฉพาะหลังจากที่ Google เปิดตัว AI Overviews ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ให้สรุปผลการค้นหาแบบอัตโนมัติ และมีผู้ใช้มากกว่า 1.5 พันล้านคน

    นอกจากนี้ Meta ยังเปิดตัว แอป Meta AI แบบ standalone เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2025 เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง AI ได้โดยตรง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Meta AI มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน
    - AI ถูกฝังอยู่ในแอปของ Meta เช่น Facebook, Instagram และ WhatsApp
    - Meta เปิดตัวแอป Meta AI แบบ standalone เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2025
    - Google เปิดตัว AI Overviews ซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 1.5 พันล้านคน
    - Google Gemini AI มีผู้ใช้มากกว่า 400 ล้านคนต่อเดือน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าผู้ใช้ Meta AI ใช้งานโดยตั้งใจหรือเป็นการใช้งานแบบอัตโนมัติ
    - การแข่งขันในตลาด AI กำลังรุนแรงขึ้น โดย Meta ต้องแข่งกับ Google, Microsoft และ OpenAI
    - AI ยังมีความท้าทายด้านการป้องกันข้อมูลผิดพลาดและโมเดลธุรกิจ
    - ต้องรอติดตามว่า Meta AI จะสามารถเป็นผู้นำในตลาด AI ส่วนบุคคลได้หรือไม่

    Meta กำลังผลักดัน Meta AI ให้เป็นผู้ช่วย AI ส่วนบุคคลที่มีผู้ใช้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดนี้ยังคงเข้มข้น และต้องจับตาดูว่า Meta จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำได้หรือไม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/29/zuckerberg-meta-ai-bot-used-a-billion-times-monthly
    Meta ได้เปิดเผยว่า Meta AI ซึ่งเป็นผู้ช่วย AI เชิงสร้างสรรค์ของบริษัท มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน โดย AI นี้ถูกฝังอยู่ในแอปต่าง ๆ ของ Meta เช่น Facebook, Instagram และ WhatsApp ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องค้นหาแยกต่างหาก Meta กำลังแข่งขันกับ Google, Microsoft และ OpenAI ในตลาด AI โดยเฉพาะหลังจากที่ Google เปิดตัว AI Overviews ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ให้สรุปผลการค้นหาแบบอัตโนมัติ และมีผู้ใช้มากกว่า 1.5 พันล้านคน นอกจากนี้ Meta ยังเปิดตัว แอป Meta AI แบบ standalone เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2025 เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง AI ได้โดยตรง ✅ ข้อมูลจากข่าว - Meta AI มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน - AI ถูกฝังอยู่ในแอปของ Meta เช่น Facebook, Instagram และ WhatsApp - Meta เปิดตัวแอป Meta AI แบบ standalone เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2025 - Google เปิดตัว AI Overviews ซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 1.5 พันล้านคน - Google Gemini AI มีผู้ใช้มากกว่า 400 ล้านคนต่อเดือน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าผู้ใช้ Meta AI ใช้งานโดยตั้งใจหรือเป็นการใช้งานแบบอัตโนมัติ - การแข่งขันในตลาด AI กำลังรุนแรงขึ้น โดย Meta ต้องแข่งกับ Google, Microsoft และ OpenAI - AI ยังมีความท้าทายด้านการป้องกันข้อมูลผิดพลาดและโมเดลธุรกิจ - ต้องรอติดตามว่า Meta AI จะสามารถเป็นผู้นำในตลาด AI ส่วนบุคคลได้หรือไม่ Meta กำลังผลักดัน Meta AI ให้เป็นผู้ช่วย AI ส่วนบุคคลที่มีผู้ใช้มากที่สุด อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในตลาดนี้ยังคงเข้มข้น และต้องจับตาดูว่า Meta จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำได้หรือไม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/29/zuckerberg-meta-ai-bot-used-a-billion-times-monthly
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Zuckerberg: Meta AI bot used a billion times monthly
    Meta chief Mark Zuckerberg touted the tech firm's generative artificial intelligence (Gen AI) assistant on May 28, telling shareholders it is used by a billion people each month across its platforms.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องเลื่อยกระดูก (BONE SAW) #ทดลองหั่นสับปะรด โดยใช้เครื่องเลื่อยตัดกระดูก รุ่นตั้งโต๊ะ ซึ่งผลลัพท์ที่ได้ คือถูกใจผู้มาทดลองเลยทีเดียว
    เครื่องนี้สามารถตัดสับปะรดได้ดี ปรับขนาดการตัดชิ้นงานได้ตามต้องการ
    เครื่องเลื่อยกระดูก นี้ สามารถใช้เลื่อย/ตัด/หั่น ซี่โครง หมู วัว ไก่ ปลา
    ที่ผ่านการแช่แข็ง ตัวนี้ทนทานมาก งานสวย งานดี ความปลอดภัยจัดเต็ม
    ไม่ผิดหวังแน่นอนถ้าเลือกเครื่องนี้

    รายละเอียดตัวเครื่อง
    - มอเตอร์ 1.5 แรงม้า
    - ใช้ใบเลื่อย ขนาด 1650 mm
    - ไฟ 220V
    - ปรับขนาดความหนาของการเลื่อยได้ 1-15 ซม.
    - ส่วนที่สัมผัสอาหารเป็นสแตนเลส
    - มีปุ่มหยุดฉุกเฉิน
    - มีถาดเลื่อนสไลด์วัตถุดิบ
    - รับประกันสินค้า 1 ปี

    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY !!!!
    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย
    สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน
    m.me/yonghahheng👈👈 แชทเลย
    LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า)
    หรือ https://lin.ee/5H812n9
    02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    www.yoryonghahheng.com
    E-mail : sales@yoryonghahheng.com
    yonghahheng@gmail.com

    #เครื่องเลื่อย #เลื่อยกระดูก #ตัดซี่โครง #ก้านไม้หอม #เครื่องเลื่อยกระดูกซี่โครง #เครื่องตัดสามชั้น #หั่นสับปะรด
    เครื่องเลื่อยกระดูก (BONE SAW) #ทดลองหั่นสับปะรด โดยใช้เครื่องเลื่อยตัดกระดูก รุ่นตั้งโต๊ะ ซึ่งผลลัพท์ที่ได้ คือถูกใจผู้มาทดลองเลยทีเดียว เครื่องนี้สามารถตัดสับปะรดได้ดี ปรับขนาดการตัดชิ้นงานได้ตามต้องการ เครื่องเลื่อยกระดูก นี้ สามารถใช้เลื่อย/ตัด/หั่น ซี่โครง หมู วัว ไก่ ปลา ที่ผ่านการแช่แข็ง ตัวนี้ทนทานมาก งานสวย งานดี ความปลอดภัยจัดเต็ม ไม่ผิดหวังแน่นอนถ้าเลือกเครื่องนี้ รายละเอียดตัวเครื่อง - มอเตอร์ 1.5 แรงม้า - ใช้ใบเลื่อย ขนาด 1650 mm - ไฟ 220V - ปรับขนาดความหนาของการเลื่อยได้ 1-15 ซม. - ส่วนที่สัมผัสอาหารเป็นสแตนเลส - มีปุ่มหยุดฉุกเฉิน - มีถาดเลื่อนสไลด์วัตถุดิบ - รับประกันสินค้า 1 ปี #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY !!!! ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน m.me/yonghahheng👈👈 แชทเลย LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/5H812n9 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 www.yoryonghahheng.com E-mail : sales@yoryonghahheng.com yonghahheng@gmail.com #เครื่องเลื่อย #เลื่อยกระดูก #ตัดซี่โครง #ก้านไม้หอม #เครื่องเลื่อยกระดูกซี่โครง #เครื่องตัดสามชั้น #หั่นสับปะรด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/UonevmfayWg?si=gdvEeBmGgXgqDswt
    https://youtube.com/shorts/UonevmfayWg?si=gdvEeBmGgXgqDswt
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple กำลังวางแผน เปลี่ยนรูปแบบการตั้งชื่อระบบปฏิบัติการ โดยแทนที่จะใช้เลขเวอร์ชันแบบเดิม เช่น iOS 19 บริษัทอาจเปลี่ยนไปใช้ iOS 26 เพื่อให้สอดคล้องกับปีที่เปิดตัว ซึ่งจะมีผลกับ iPadOS, macOS, watchOS, tvOS และ visionOS

    Apple ไม่ใช่บริษัทแรกที่เปลี่ยนรูปแบบการตั้งชื่อซอฟต์แวร์ Samsung เคยเปลี่ยนจาก Galaxy S10 เป็น Galaxy S20 และ Microsoft ก็เคยทดลองใช้แนวทางนี้ก่อนจะกลับไปใช้เลขเวอร์ชันแบบเดิม

    นอกจากนี้ Apple ยังเตรียมเปิดตัว ดีไซน์ใหม่ที่เรียกว่า "Solarium" ซึ่งจะส่งผลต่อทุกแพลตฟอร์มของบริษัท รวมถึงการปรับปรุง Apple Intelligence และอาจมีแอปเกมใหม่สำหรับ iPhone, iPad และ Mac

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Apple อาจเปลี่ยนรูปแบบการตั้งชื่อระบบปฏิบัติการเป็น iOS 26, macOS 26, iPadOS 26, watchOS 26, tvOS 26 และ visionOS 26
    - การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อ ลดความสับสนและสร้างความเป็นเอกภาพในแบรนด์
    - Apple เตรียมเปิดตัว ดีไซน์ใหม่ "Solarium" ที่จะส่งผลต่อทุกแพลตฟอร์ม
    - อาจมีการเปิดตัว แอปเกมใหม่ สำหรับ iPhone, iPad และ Mac
    - Apple Intelligence อาจถูกเลื่อนเปิดตัวไปปี 2026

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การเปลี่ยนรูปแบบการตั้งชื่อ อาจทำให้ผู้ใช้สับสนในช่วงแรก
    - Apple Intelligence อาจเปิดตัวล่าช้ากว่าที่คาด ซึ่งอาจส่งผลต่อการพัฒนา AI ของบริษัท
    - การเปลี่ยนแปลงดีไซน์ครั้งใหญ่ อาจทำให้บางฟีเจอร์ถูกปรับเปลี่ยนหรือถูกตัดออก
    - ต้องรอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมในงาน WWDC 2025 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9 มิถุนายน 2025

    Apple กำลังเตรียมปรับโฉมครั้งใหญ่ให้กับระบบปฏิบัติการของตน ซึ่งอาจส่งผลต่อการใช้งานและการรับรู้แบรนด์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ยังต้องรอดูว่าผู้ใช้จะตอบรับอย่างไร

    https://www.techradar.com/computing/software/apple-might-be-about-to-make-a-major-change-to-how-it-names-its-operating-systems
    Apple กำลังวางแผน เปลี่ยนรูปแบบการตั้งชื่อระบบปฏิบัติการ โดยแทนที่จะใช้เลขเวอร์ชันแบบเดิม เช่น iOS 19 บริษัทอาจเปลี่ยนไปใช้ iOS 26 เพื่อให้สอดคล้องกับปีที่เปิดตัว ซึ่งจะมีผลกับ iPadOS, macOS, watchOS, tvOS และ visionOS Apple ไม่ใช่บริษัทแรกที่เปลี่ยนรูปแบบการตั้งชื่อซอฟต์แวร์ Samsung เคยเปลี่ยนจาก Galaxy S10 เป็น Galaxy S20 และ Microsoft ก็เคยทดลองใช้แนวทางนี้ก่อนจะกลับไปใช้เลขเวอร์ชันแบบเดิม นอกจากนี้ Apple ยังเตรียมเปิดตัว ดีไซน์ใหม่ที่เรียกว่า "Solarium" ซึ่งจะส่งผลต่อทุกแพลตฟอร์มของบริษัท รวมถึงการปรับปรุง Apple Intelligence และอาจมีแอปเกมใหม่สำหรับ iPhone, iPad และ Mac ✅ ข้อมูลจากข่าว - Apple อาจเปลี่ยนรูปแบบการตั้งชื่อระบบปฏิบัติการเป็น iOS 26, macOS 26, iPadOS 26, watchOS 26, tvOS 26 และ visionOS 26 - การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อ ลดความสับสนและสร้างความเป็นเอกภาพในแบรนด์ - Apple เตรียมเปิดตัว ดีไซน์ใหม่ "Solarium" ที่จะส่งผลต่อทุกแพลตฟอร์ม - อาจมีการเปิดตัว แอปเกมใหม่ สำหรับ iPhone, iPad และ Mac - Apple Intelligence อาจถูกเลื่อนเปิดตัวไปปี 2026 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การเปลี่ยนรูปแบบการตั้งชื่อ อาจทำให้ผู้ใช้สับสนในช่วงแรก - Apple Intelligence อาจเปิดตัวล่าช้ากว่าที่คาด ซึ่งอาจส่งผลต่อการพัฒนา AI ของบริษัท - การเปลี่ยนแปลงดีไซน์ครั้งใหญ่ อาจทำให้บางฟีเจอร์ถูกปรับเปลี่ยนหรือถูกตัดออก - ต้องรอติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมในงาน WWDC 2025 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9 มิถุนายน 2025 Apple กำลังเตรียมปรับโฉมครั้งใหญ่ให้กับระบบปฏิบัติการของตน ซึ่งอาจส่งผลต่อการใช้งานและการรับรู้แบรนด์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ยังต้องรอดูว่าผู้ใช้จะตอบรับอย่างไร https://www.techradar.com/computing/software/apple-might-be-about-to-make-a-major-change-to-how-it-names-its-operating-systems
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการสร้าง Mac ที่เล็กที่สุดในโลก โดยบริษัท 1-bit Rainbow ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วที่มีหน้าจอเพียง 2 นิ้ว และใช้ Pico Zero Raspberry Pi เป็นหน่วยประมวลผล

    Pico-Mac-Nano ได้รับการออกแบบให้มีรูปลักษณ์คล้ายกับ Macintosh รุ่นคลาสสิก จากยุค 1980s โดยใช้ 3D printed chassis และรันระบบ MicroMac 128K emulator ซึ่งช่วยให้สามารถใช้งานระบบปฏิบัติการแบบวินเทจได้

    นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อเครื่องที่ประกอบเสร็จแล้วในราคา $59 หรือดาวน์โหลดไฟล์ 3D printing เพื่อพิมพ์ตัวเครื่องเองและติดตั้ง Raspberry Pi ด้วยตนเอง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Pico-Mac-Nano เป็น Mac ที่เล็กที่สุดในโลก
    - ใช้ Pico Zero Raspberry Pi เป็นหน่วยประมวลผล
    - มี หน้าจอ 2 นิ้ว ความละเอียด 480p
    - ใช้ MicroMac 128K emulator เพื่อรันระบบปฏิบัติการแบบวินเทจ
    - มี 512MB RAM, microSD card slot และแบตเตอรี่ CR2
    - ราคาเริ่มต้นที่ $59 และมีรุ่น Collectors Edition ที่มาพร้อมกล่องจำลองของ Macintosh รุ่นแรก

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - หน้าจอขนาดเล็กมาก อาจทำให้การใช้งานไม่สะดวก
    - ประสิทธิภาพของ Raspberry Pi Zero อาจไม่รองรับการใช้งานที่ซับซ้อน
    - ไม่สามารถรันแอปพลิเคชันสมัยใหม่ เช่น เกมหรือโปรแกรมที่ต้องใช้ทรัพยากรสูง
    - เป็นสินค้าสำหรับนักสะสม มากกว่าการใช้งานจริง

    Pico-Mac-Nano เป็นโปรเจกต์ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบคอมพิวเตอร์คลาสสิกและต้องการสะสมอุปกรณ์ที่มีเอกลักษณ์ อย่างไรก็ตาม การใช้งานจริงอาจมีข้อจำกัดเนื่องจากขนาดและประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์

    https://www.techradar.com/computing/someone-just-built-the-worlds-smallest-working-mac-and-at-this-price-i-desperately-want-one
    มีการสร้าง Mac ที่เล็กที่สุดในโลก โดยบริษัท 1-bit Rainbow ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋วที่มีหน้าจอเพียง 2 นิ้ว และใช้ Pico Zero Raspberry Pi เป็นหน่วยประมวลผล Pico-Mac-Nano ได้รับการออกแบบให้มีรูปลักษณ์คล้ายกับ Macintosh รุ่นคลาสสิก จากยุค 1980s โดยใช้ 3D printed chassis และรันระบบ MicroMac 128K emulator ซึ่งช่วยให้สามารถใช้งานระบบปฏิบัติการแบบวินเทจได้ นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อเครื่องที่ประกอบเสร็จแล้วในราคา $59 หรือดาวน์โหลดไฟล์ 3D printing เพื่อพิมพ์ตัวเครื่องเองและติดตั้ง Raspberry Pi ด้วยตนเอง ✅ ข้อมูลจากข่าว - Pico-Mac-Nano เป็น Mac ที่เล็กที่สุดในโลก - ใช้ Pico Zero Raspberry Pi เป็นหน่วยประมวลผล - มี หน้าจอ 2 นิ้ว ความละเอียด 480p - ใช้ MicroMac 128K emulator เพื่อรันระบบปฏิบัติการแบบวินเทจ - มี 512MB RAM, microSD card slot และแบตเตอรี่ CR2 - ราคาเริ่มต้นที่ $59 และมีรุ่น Collectors Edition ที่มาพร้อมกล่องจำลองของ Macintosh รุ่นแรก ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - หน้าจอขนาดเล็กมาก อาจทำให้การใช้งานไม่สะดวก - ประสิทธิภาพของ Raspberry Pi Zero อาจไม่รองรับการใช้งานที่ซับซ้อน - ไม่สามารถรันแอปพลิเคชันสมัยใหม่ เช่น เกมหรือโปรแกรมที่ต้องใช้ทรัพยากรสูง - เป็นสินค้าสำหรับนักสะสม มากกว่าการใช้งานจริง Pico-Mac-Nano เป็นโปรเจกต์ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบคอมพิวเตอร์คลาสสิกและต้องการสะสมอุปกรณ์ที่มีเอกลักษณ์ อย่างไรก็ตาม การใช้งานจริงอาจมีข้อจำกัดเนื่องจากขนาดและประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ https://www.techradar.com/computing/someone-just-built-the-worlds-smallest-working-mac-and-at-this-price-i-desperately-want-one
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่ามีการโจมตี Docker instances ที่ตั้งค่าผิดพลาด โดยแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ของ Docker API ที่เปิดให้เข้าถึงจากอินเทอร์เน็ตเพื่อสร้าง botnet สำหรับขุดเหรียญ Dero cryptocurrency

    Docker เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรันแอปพลิเคชันใน containers ซึ่งช่วยให้การจัดการซอฟต์แวร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากตั้งค่า API ผิดพลาด อาจทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงและควบคุมระบบได้

    Dero เป็น privacy-focused blockchain ที่คล้ายกับ Monero โดยเน้นการทำธุรกรรมที่ไม่สามารถติดตามได้ ซึ่งทำให้เป็นที่นิยมในหมู่แฮกเกอร์ที่ต้องการขุดเหรียญโดยไม่ถูกตรวจสอบ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Docker instances ที่ตั้งค่าผิดพลาด ถูกใช้เป็น botnet ขุดเหรียญ Dero
    - แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ของ Docker API ที่เปิดให้เข้าถึงจากอินเทอร์เน็ต
    - มัลแวร์ที่ใช้มีสองส่วน ได้แก่ ตัวแพร่กระจาย (nginx) และ ตัวขุดเหรียญ
    - มัลแวร์ถูกเขียนด้วย Golang ทำให้ตรวจจับได้ยาก
    - แคมเปญนี้ไม่ใช้ command & control (C2) server แต่แพร่กระจายแบบ worm

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ผู้ใช้ Docker ควรตรวจสอบการตั้งค่า API และปิดการเข้าถึงจากอินเทอร์เน็ต
    - ควรใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่ง และเปิดใช้งานการตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายขั้นตอน
    - ควรทำการตรวจสอบความปลอดภัยของระบบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยง
    - แฮกเกอร์อาจใช้เทคนิคใหม่ในการโจมตี ดังนั้นผู้ดูแลระบบควรติดตามข่าวสารด้านความปลอดภัย

    การโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการตั้งค่าความปลอดภัยใน Docker instances และการป้องกันช่องโหว่ที่อาจถูกใช้โดยแฮกเกอร์

    https://www.techradar.com/pro/security/misconfigured-docker-instances-are-being-hacked-to-mine-cryptocurrency
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่ามีการโจมตี Docker instances ที่ตั้งค่าผิดพลาด โดยแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ของ Docker API ที่เปิดให้เข้าถึงจากอินเทอร์เน็ตเพื่อสร้าง botnet สำหรับขุดเหรียญ Dero cryptocurrency Docker เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรันแอปพลิเคชันใน containers ซึ่งช่วยให้การจัดการซอฟต์แวร์มีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากตั้งค่า API ผิดพลาด อาจทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงและควบคุมระบบได้ Dero เป็น privacy-focused blockchain ที่คล้ายกับ Monero โดยเน้นการทำธุรกรรมที่ไม่สามารถติดตามได้ ซึ่งทำให้เป็นที่นิยมในหมู่แฮกเกอร์ที่ต้องการขุดเหรียญโดยไม่ถูกตรวจสอบ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Docker instances ที่ตั้งค่าผิดพลาด ถูกใช้เป็น botnet ขุดเหรียญ Dero - แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ของ Docker API ที่เปิดให้เข้าถึงจากอินเทอร์เน็ต - มัลแวร์ที่ใช้มีสองส่วน ได้แก่ ตัวแพร่กระจาย (nginx) และ ตัวขุดเหรียญ - มัลแวร์ถูกเขียนด้วย Golang ทำให้ตรวจจับได้ยาก - แคมเปญนี้ไม่ใช้ command & control (C2) server แต่แพร่กระจายแบบ worm ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ผู้ใช้ Docker ควรตรวจสอบการตั้งค่า API และปิดการเข้าถึงจากอินเทอร์เน็ต - ควรใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่ง และเปิดใช้งานการตรวจสอบสิทธิ์แบบหลายขั้นตอน - ควรทำการตรวจสอบความปลอดภัยของระบบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยง - แฮกเกอร์อาจใช้เทคนิคใหม่ในการโจมตี ดังนั้นผู้ดูแลระบบควรติดตามข่าวสารด้านความปลอดภัย การโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการตั้งค่าความปลอดภัยใน Docker instances และการป้องกันช่องโหว่ที่อาจถูกใช้โดยแฮกเกอร์ https://www.techradar.com/pro/security/misconfigured-docker-instances-are-being-hacked-to-mine-cryptocurrency
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • มุสลิมอินโดฯ ช็อก! ร้านไก่ทอดดังเพิ่งเผยเมนูไม่ฮาลาล

    ร้านไก่ทอดชื่อดังในอินโดนีเซีย กลายเป็นประเด็นร้อนบนโซเชียลฯ ในประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากกว่า 80% เมื่อร้านไก่ทอดชื่อดัง อะยัม โกเรง วิดูรัน (AYAM GORENG WIDURAN) ในเมืองซูราการ์ตา (โซโล) จังหวัดชวาเตงกะห์ กำลังถูกชาวมุสลิมแสดงความไม่พอใจ หลังบัญชีผู้ใช้เธรด (Thread) ที่ชื่อ @pedalranger สงสัยว่าเกล็ดกรุบกรอบ หรือเกรอเมอร์ส (Kremes) ที่โรยบนไก่ทอด ทอดด้วยไขมันหมู ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามปรุงอาหาร ทั้งที่นับตั้งแต่เปิดกิจการในปี 2516 หรือกว่า 50 ปีก่อน ไม่เคยบอกให้สาธารณชนรับรู้ ภายหลังทางร้านจึงใช้วิธีติดป้ายว่า "KREMES NON HALAL" แทน

    เรื่องนี้ทำให้ผู้บริโภคที่เป็นชาวมุสลิมรู้สึกว่าเหมือนถูกหลอก เพราะร้านอาหารไม่เคยแจ้งให้ทราบว่าเมนูภายในร้านไม่ใช่ฮาลาล นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตบางคนไปขุดภาพร้านใน Google Street View แล้วพบว่าเคยขึ้นเครื่องหมายฮาลาลบนป้ายแบนเนอร์ในอดีตอีกด้วย ร้อนถึงฝ่ายบริหารของร้านออกมาขอโทษผ่านอินสตาแกรม @ayamgorengwiduransolo เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 พ.ค.) ว่า ได้แจ้งข้อมูลที่ไม่ใช่ฮาลาลอย่างชัดเจนในร้านค้าและโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของร้านทุกแห่ง หวังว่าสาธารณชนจะให้พื้นที่แก่ทางร้านในการแก้ไขและปรับปรุงทุกอย่างด้วยความตั้งใจ ขณะที่พนักงานร้านยืนยันว่าเมนูที่มีปัญหามีเพียงไก่ทอดเกรอเมอร์สเท่านั้น เมนูอื่นใช้น้ำมันพืชปกติ

    ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองโซโล เรสปาตี อาร์ดี สั่งปิดร้านอาหารชั่วคราว ยอมรับว่าผิดหวังที่ร้านอาหารในตำนานแห่งนี้ไม่ได้ติดป้าย NON HALAL มานาน ทั้งที่มีผู้บริโภคชาวมุสลิมจำนวนมากซื้อไก่ทอดที่ร้านแห่งนี้ และย้ำว่าการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ส่วนแกนนำกลุ่มด้านสิทธิผู้บริโภคอินโดนีเซีย Forum Konsumen Berdaya Indonesia (FKBI) ตูลุส อาบาดี ระบุว่า คำขอโทษดังกล่าวไม่เพียงพอ เพราะสิ่งที่ทางร้านทำมานานเป็นสิบปี เป็นการกระทำโดยจงใจ ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย อีกทั้งทางร้านละเมิดกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา โดยเฉพาะกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายอาหาร และกฎหมายการรับประกันผลิตภัณฑ์ฮาลาล ซึ่งจัดอยู่ในประเภทการฉ้อโกง โดยเรียกร้องให้ดำเนินคดีและลงโทษทางปกครอง

    สำหรับเกรอเมอร์ส ภาษาอินโดนีเซีย ตรงกับคำว่า Crunch (ครันช์) เป็นเกล็ดที่ใช้โรยบนไก่ทอด ทำมาจากแป้งมันสำปะหลัง ผสมแป้งข้าวเจ้า ไข่แดง และซอสที่ใช้หมักไก่ทอดแบบอินโดนีเซีย เติมผงฟูลงไปเล็กน้อย แล้วค่อยใช้มือวักส่วนผสมโรยลงบนน้ำมันให้กลายเป็นเกล็ด ก่อนซับน้ำมันแล้วนำไปโรยหน้าบนจานไก่ทอด ข้าว และแตงกวาหั่น

    #Newskit
    มุสลิมอินโดฯ ช็อก! ร้านไก่ทอดดังเพิ่งเผยเมนูไม่ฮาลาล ร้านไก่ทอดชื่อดังในอินโดนีเซีย กลายเป็นประเด็นร้อนบนโซเชียลฯ ในประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากกว่า 80% เมื่อร้านไก่ทอดชื่อดัง อะยัม โกเรง วิดูรัน (AYAM GORENG WIDURAN) ในเมืองซูราการ์ตา (โซโล) จังหวัดชวาเตงกะห์ กำลังถูกชาวมุสลิมแสดงความไม่พอใจ หลังบัญชีผู้ใช้เธรด (Thread) ที่ชื่อ @pedalranger สงสัยว่าเกล็ดกรุบกรอบ หรือเกรอเมอร์ส (Kremes) ที่โรยบนไก่ทอด ทอดด้วยไขมันหมู ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามปรุงอาหาร ทั้งที่นับตั้งแต่เปิดกิจการในปี 2516 หรือกว่า 50 ปีก่อน ไม่เคยบอกให้สาธารณชนรับรู้ ภายหลังทางร้านจึงใช้วิธีติดป้ายว่า "KREMES NON HALAL" แทน เรื่องนี้ทำให้ผู้บริโภคที่เป็นชาวมุสลิมรู้สึกว่าเหมือนถูกหลอก เพราะร้านอาหารไม่เคยแจ้งให้ทราบว่าเมนูภายในร้านไม่ใช่ฮาลาล นอกจากนี้ ยังมีชาวเน็ตบางคนไปขุดภาพร้านใน Google Street View แล้วพบว่าเคยขึ้นเครื่องหมายฮาลาลบนป้ายแบนเนอร์ในอดีตอีกด้วย ร้อนถึงฝ่ายบริหารของร้านออกมาขอโทษผ่านอินสตาแกรม @ayamgorengwiduransolo เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (23 พ.ค.) ว่า ได้แจ้งข้อมูลที่ไม่ใช่ฮาลาลอย่างชัดเจนในร้านค้าและโซเชียลมีเดียอย่างเป็นทางการของร้านทุกแห่ง หวังว่าสาธารณชนจะให้พื้นที่แก่ทางร้านในการแก้ไขและปรับปรุงทุกอย่างด้วยความตั้งใจ ขณะที่พนักงานร้านยืนยันว่าเมนูที่มีปัญหามีเพียงไก่ทอดเกรอเมอร์สเท่านั้น เมนูอื่นใช้น้ำมันพืชปกติ ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองโซโล เรสปาตี อาร์ดี สั่งปิดร้านอาหารชั่วคราว ยอมรับว่าผิดหวังที่ร้านอาหารในตำนานแห่งนี้ไม่ได้ติดป้าย NON HALAL มานาน ทั้งที่มีผู้บริโภคชาวมุสลิมจำนวนมากซื้อไก่ทอดที่ร้านแห่งนี้ และย้ำว่าการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ส่วนแกนนำกลุ่มด้านสิทธิผู้บริโภคอินโดนีเซีย Forum Konsumen Berdaya Indonesia (FKBI) ตูลุส อาบาดี ระบุว่า คำขอโทษดังกล่าวไม่เพียงพอ เพราะสิ่งที่ทางร้านทำมานานเป็นสิบปี เป็นการกระทำโดยจงใจ ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย อีกทั้งทางร้านละเมิดกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา โดยเฉพาะกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค กฎหมายอาหาร และกฎหมายการรับประกันผลิตภัณฑ์ฮาลาล ซึ่งจัดอยู่ในประเภทการฉ้อโกง โดยเรียกร้องให้ดำเนินคดีและลงโทษทางปกครอง สำหรับเกรอเมอร์ส ภาษาอินโดนีเซีย ตรงกับคำว่า Crunch (ครันช์) เป็นเกล็ดที่ใช้โรยบนไก่ทอด ทำมาจากแป้งมันสำปะหลัง ผสมแป้งข้าวเจ้า ไข่แดง และซอสที่ใช้หมักไก่ทอดแบบอินโดนีเซีย เติมผงฟูลงไปเล็กน้อย แล้วค่อยใช้มือวักส่วนผสมโรยลงบนน้ำมันให้กลายเป็นเกล็ด ก่อนซับน้ำมันแล้วนำไปโรยหน้าบนจานไก่ทอด ข้าว และแตงกวาหั่น #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • Xiaomi เตรียมขยายการใช้ชิปเซ็ต XRING 01 ไปยังสมาร์ทโฟนระดับกลาง พร้อมพัฒนาโมเด็ม 5G ของตนเอง

    Xiaomi กำลังวางแผนขยายการใช้ชิปเซ็ต XRING 01 ไปยังสมาร์ทโฟนระดับกลาง หลังจากเปิดตัวใน Xiaomi 15S Pro และ Pad 7 Ultra ซึ่งเป็นอุปกรณ์ระดับเรือธง โดยบริษัท ต้องการเดินตามแนวทางของ Apple ในการพัฒนาโมเด็ม 5G ของตนเอง แต่ยังไม่มีกรอบเวลาที่แน่นอนสำหรับการเปิดตัว

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแผนของ Xiaomi
    ✅ XRING 01 เป็นชิปเซ็ต 3nm ตัวแรกที่ผลิตโดยบริษัทจีน
    - แสดงให้เห็นว่า Xiaomi กำลังแข่งขันกับ Qualcomm, MediaTek และ Apple

    ✅ ปัจจุบัน XRING 01 ถูกใช้ในอุปกรณ์ระดับเรือธงเท่านั้น
    - Xiaomi มีแผนขยายไปยังสมาร์ทโฟนระดับกลางในอนาคต

    ✅ Xiaomi ต้องการพัฒนาโมเด็ม 5G ของตนเอง เช่นเดียวกับ Apple C1
    - แต่ยังไม่มี กรอบเวลาที่แน่นอนสำหรับการเปิดตัว

    ✅ บริษัทให้เวลา 5-10 ปีในการสร้างโมเดลทางการเงินที่เหมาะสมสำหรับชิปเซ็ตของตนเอง
    - แสดงให้เห็นว่า Xiaomi มองการพัฒนาเทคโนโลยีนี้เป็นแผนระยะยาว

    ✅ Xiaomi อาจใช้เทคโนโลยี XRING 01 ในสมาร์ทโฟนระดับกลางเมื่อมีรุ่นใหม่ออกมา
    - อาจช่วยให้ สมาร์ทโฟนราคาประหยัดมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

    https://wccftech.com/xiaomi-to-bring-in-house-chipsets-to-non-flagship-phones-and-a-custom-5g-solution/
    Xiaomi เตรียมขยายการใช้ชิปเซ็ต XRING 01 ไปยังสมาร์ทโฟนระดับกลาง พร้อมพัฒนาโมเด็ม 5G ของตนเอง Xiaomi กำลังวางแผนขยายการใช้ชิปเซ็ต XRING 01 ไปยังสมาร์ทโฟนระดับกลาง หลังจากเปิดตัวใน Xiaomi 15S Pro และ Pad 7 Ultra ซึ่งเป็นอุปกรณ์ระดับเรือธง โดยบริษัท ต้องการเดินตามแนวทางของ Apple ในการพัฒนาโมเด็ม 5G ของตนเอง แต่ยังไม่มีกรอบเวลาที่แน่นอนสำหรับการเปิดตัว 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแผนของ Xiaomi ✅ XRING 01 เป็นชิปเซ็ต 3nm ตัวแรกที่ผลิตโดยบริษัทจีน - แสดงให้เห็นว่า Xiaomi กำลังแข่งขันกับ Qualcomm, MediaTek และ Apple ✅ ปัจจุบัน XRING 01 ถูกใช้ในอุปกรณ์ระดับเรือธงเท่านั้น - Xiaomi มีแผนขยายไปยังสมาร์ทโฟนระดับกลางในอนาคต ✅ Xiaomi ต้องการพัฒนาโมเด็ม 5G ของตนเอง เช่นเดียวกับ Apple C1 - แต่ยังไม่มี กรอบเวลาที่แน่นอนสำหรับการเปิดตัว ✅ บริษัทให้เวลา 5-10 ปีในการสร้างโมเดลทางการเงินที่เหมาะสมสำหรับชิปเซ็ตของตนเอง - แสดงให้เห็นว่า Xiaomi มองการพัฒนาเทคโนโลยีนี้เป็นแผนระยะยาว ✅ Xiaomi อาจใช้เทคโนโลยี XRING 01 ในสมาร์ทโฟนระดับกลางเมื่อมีรุ่นใหม่ออกมา - อาจช่วยให้ สมาร์ทโฟนราคาประหยัดมีประสิทธิภาพสูงขึ้น https://wccftech.com/xiaomi-to-bring-in-house-chipsets-to-non-flagship-phones-and-a-custom-5g-solution/
    WCCFTECH.COM
    Xiaomi Will Eventually Branch Out Its Custom Chipsets For Non-Flagship Smartphones, And Intends To Go Down Apple’s Path By Launching A 5G Solution
    The XRING 01 means that Xiaomi will introduce custom SoCs for mid-range smartphones, along with introducing a 5G silicon
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • InWin เปิดตัว IW-1650W – พาวเวอร์ซัพพลาย 1650W สำหรับ GPU โดยเฉพาะ

    InWin เปิดตัว IW-1650W ซึ่งเป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการ์ดจอโดยเฉพาะ โดยมี กำลังไฟ 1650W และรองรับการ์ดจอสูงสุด 4 ตัวผ่านขั้วต่อ 16-pin ซึ่งเป็นแนวคิดที่คล้ายกับระบบที่ใช้ใน เซิร์ฟเวอร์และเครื่องขุดคริปโต

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ IW-1650W
    ✅ IW-1650W เป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่ออกแบบมาเพื่อจ่ายไฟให้กับ GPU เท่านั้น
    - ไม่สามารถ ทำงานได้โดยลำพัง ต้องใช้ร่วมกับพาวเวอร์ซัพพลายหลัก

    ✅ รองรับมาตรฐาน PCIe 5.1 CEM และมีขั้วต่อ 12V-2x6 จำนวน 4 ช่อง
    - สามารถ รองรับการ์ดจอสูงสุด 4 ตัว เช่น RTX 5080

    ✅ มีพัดลมระบายความร้อนขนาด 13.5 ซม. และมี Active PFC ที่ 0.99
    - ช่วยให้ ประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงถึง 90%

    ✅ ออกแบบให้เป็นระบบโมดูลาร์ สามารถถอดสายไฟที่ไม่จำเป็นออกได้
    - ช่วยให้ การจัดสายภายในเคสเป็นระเบียบมากขึ้น

    ✅ InWin เปิดตัว IW-1650W ที่งาน Computex 2025 แต่ยังไม่ประกาศราคาและวันวางจำหน่าย
    - คาดว่า จะมีข้อมูลเพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้

    https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/inwin-preps-1650w-gpu-power-supply-with-four-16-pin-power-connectors
    InWin เปิดตัว IW-1650W – พาวเวอร์ซัพพลาย 1650W สำหรับ GPU โดยเฉพาะ InWin เปิดตัว IW-1650W ซึ่งเป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการ์ดจอโดยเฉพาะ โดยมี กำลังไฟ 1650W และรองรับการ์ดจอสูงสุด 4 ตัวผ่านขั้วต่อ 16-pin ซึ่งเป็นแนวคิดที่คล้ายกับระบบที่ใช้ใน เซิร์ฟเวอร์และเครื่องขุดคริปโต 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ IW-1650W ✅ IW-1650W เป็นพาวเวอร์ซัพพลายที่ออกแบบมาเพื่อจ่ายไฟให้กับ GPU เท่านั้น - ไม่สามารถ ทำงานได้โดยลำพัง ต้องใช้ร่วมกับพาวเวอร์ซัพพลายหลัก ✅ รองรับมาตรฐาน PCIe 5.1 CEM และมีขั้วต่อ 12V-2x6 จำนวน 4 ช่อง - สามารถ รองรับการ์ดจอสูงสุด 4 ตัว เช่น RTX 5080 ✅ มีพัดลมระบายความร้อนขนาด 13.5 ซม. และมี Active PFC ที่ 0.99 - ช่วยให้ ประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงถึง 90% ✅ ออกแบบให้เป็นระบบโมดูลาร์ สามารถถอดสายไฟที่ไม่จำเป็นออกได้ - ช่วยให้ การจัดสายภายในเคสเป็นระเบียบมากขึ้น ✅ InWin เปิดตัว IW-1650W ที่งาน Computex 2025 แต่ยังไม่ประกาศราคาและวันวางจำหน่าย - คาดว่า จะมีข้อมูลเพิ่มเติมเร็ว ๆ นี้ https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/inwin-preps-1650w-gpu-power-supply-with-four-16-pin-power-connectors
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    InWin preps 1650W GPU power supply with four 16-pin power connectors
    A secondary power supply designed for the latest AMD and Nvidia graphics cards
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพ PCB ของ AMD RX 9060 XT หลุดจากโรงงาน Gigabyte

    เว็บไซต์ HW Cooling เผยแพร่ภาพ PCB ของการ์ดจอ AMD Radeon RX 9060 XT จากโรงงาน Gigabyte ซึ่งแสดงให้เห็น การจัดวางชิ้นส่วน, หน่วยความจำ GDDR6 จาก SK Hynix และรายละเอียดอื่น ๆ โดยการ์ดจอรุ่นนี้ คาดว่าจะวางจำหน่ายในวันที่ 5 มิถุนายน

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ AMD RX 9060 XT
    ✅ ภาพ PCB แสดงให้เห็นชิป Navi 44 และหน่วยความจำ GDDR6 จาก SK Hynix
    - แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นรุ่น 8GB หรือ 16GB

    ✅ Gigabyte มีแผนเปิดตัว RX 9060 XT ทั้งหมด 4 รุ่น
    - ทุกโมเดล เป็นการ์ดจอแบบสองสล็อตและใช้พัดลมสามตัว

    ✅ การ์ดจอใช้พอร์ต PCIe 5.0 x16 และมีช่องเสียบไฟ 8-pin เพียงช่องเดียว
    - อาจช่วยให้ การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ AMD ตัดสินใจให้ RX 9060 XT มีเพียง 3 พอร์ตแสดงผล
    - ซึ่ง ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บางกลุ่ม

    ✅ ราคาของ RX 9060 XT รุ่น 8GB อยู่ที่ 299 ดอลลาร์ และรุ่น 16GB อยู่ที่ 349 ดอลลาร์
    - คาดว่า จะมีวางจำหน่ายอย่างแพร่หลายในวันที่ 5 มิถุนายน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/stray-amd-rx-9060-xt-pcb-photo-emerges-from-gigabyte-factory-tour
    ภาพ PCB ของ AMD RX 9060 XT หลุดจากโรงงาน Gigabyte เว็บไซต์ HW Cooling เผยแพร่ภาพ PCB ของการ์ดจอ AMD Radeon RX 9060 XT จากโรงงาน Gigabyte ซึ่งแสดงให้เห็น การจัดวางชิ้นส่วน, หน่วยความจำ GDDR6 จาก SK Hynix และรายละเอียดอื่น ๆ โดยการ์ดจอรุ่นนี้ คาดว่าจะวางจำหน่ายในวันที่ 5 มิถุนายน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ AMD RX 9060 XT ✅ ภาพ PCB แสดงให้เห็นชิป Navi 44 และหน่วยความจำ GDDR6 จาก SK Hynix - แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นรุ่น 8GB หรือ 16GB ✅ Gigabyte มีแผนเปิดตัว RX 9060 XT ทั้งหมด 4 รุ่น - ทุกโมเดล เป็นการ์ดจอแบบสองสล็อตและใช้พัดลมสามตัว ✅ การ์ดจอใช้พอร์ต PCIe 5.0 x16 และมีช่องเสียบไฟ 8-pin เพียงช่องเดียว - อาจช่วยให้ การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ AMD ตัดสินใจให้ RX 9060 XT มีเพียง 3 พอร์ตแสดงผล - ซึ่ง ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บางกลุ่ม ✅ ราคาของ RX 9060 XT รุ่น 8GB อยู่ที่ 299 ดอลลาร์ และรุ่น 16GB อยู่ที่ 349 ดอลลาร์ - คาดว่า จะมีวางจำหน่ายอย่างแพร่หลายในวันที่ 5 มิถุนายน https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/stray-amd-rx-9060-xt-pcb-photo-emerges-from-gigabyte-factory-tour
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Stray AMD RX 9060 XT PCB photo emerges from Gigabyte factory tour
    The photo clearly shows the board layout, SK Hynix GDDR6, and more.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนเตรียมยุติการผลิต DDR4 เพื่อมุ่งสู่เทคโนโลยี DDR5 และ HBM

    ChangXin Memory Technologies (CXMT) ผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ของจีน เตรียมยุติการผลิต DDR4 สำหรับเซิร์ฟเวอร์และพีซีภายในกลางปีหน้า ตามนโยบายของรัฐบาลจีนที่ต้องการให้ประเทศ เป็นผู้นำด้าน AI และโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ CXMT
    ✅ CXMT เพิ่งเริ่มผลิต DDR4 ในช่วงปลายปี 2024 แต่ต้องเปลี่ยนไปเน้น DDR5 และ HBM ตามนโยบายของรัฐบาล
    - แสดงให้เห็นว่า จีนต้องการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีหน่วยความจำให้ทันกับสหรัฐฯ

    ✅ บริษัทกำลังเร่งพัฒนา HBM3 และคาดว่าจะผ่านการทดสอบภายในสิ้นปีนี้
    - HBM เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับ AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่

    ✅ Micron, Samsung และ SK hynix เตรียมยุติการผลิต DDR3 และ DDR4 ภายในปี 2025
    - ตลาดหน่วยความจำ กำลังเปลี่ยนไปสู่ DDR5 และ LPDDR5 อย่างรวดเร็ว

    ✅ แม้ว่า CXMT จะประสบความสำเร็จในการผลิต DDR4 แต่ DDR5 ของบริษัทยังมีปัญหาด้านความเสถียร
    - พบว่า ชิป DDR5 ของ CXMT อาจไม่สามารถทำงานได้ดีในอุณหภูมิสูงกว่า 60°C

    ✅ Samsung และ SK hynix จะยังคงผลิต DDR4 สำหรับตลาดเฉพาะ เช่น GigaDevice
    - ใช้กระบวนการผลิต 1z-nm ที่ไม่ต้องใช้ EUV

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ddr4/top-chinese-memory-maker-expected-to-abandon-ddr4-manufacturing-at-the-behest-of-beijing
    จีนเตรียมยุติการผลิต DDR4 เพื่อมุ่งสู่เทคโนโลยี DDR5 และ HBM ChangXin Memory Technologies (CXMT) ผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ของจีน เตรียมยุติการผลิต DDR4 สำหรับเซิร์ฟเวอร์และพีซีภายในกลางปีหน้า ตามนโยบายของรัฐบาลจีนที่ต้องการให้ประเทศ เป็นผู้นำด้าน AI และโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ CXMT ✅ CXMT เพิ่งเริ่มผลิต DDR4 ในช่วงปลายปี 2024 แต่ต้องเปลี่ยนไปเน้น DDR5 และ HBM ตามนโยบายของรัฐบาล - แสดงให้เห็นว่า จีนต้องการเร่งพัฒนาเทคโนโลยีหน่วยความจำให้ทันกับสหรัฐฯ ✅ บริษัทกำลังเร่งพัฒนา HBM3 และคาดว่าจะผ่านการทดสอบภายในสิ้นปีนี้ - HBM เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับ AI และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ ✅ Micron, Samsung และ SK hynix เตรียมยุติการผลิต DDR3 และ DDR4 ภายในปี 2025 - ตลาดหน่วยความจำ กำลังเปลี่ยนไปสู่ DDR5 และ LPDDR5 อย่างรวดเร็ว ✅ แม้ว่า CXMT จะประสบความสำเร็จในการผลิต DDR4 แต่ DDR5 ของบริษัทยังมีปัญหาด้านความเสถียร - พบว่า ชิป DDR5 ของ CXMT อาจไม่สามารถทำงานได้ดีในอุณหภูมิสูงกว่า 60°C ✅ Samsung และ SK hynix จะยังคงผลิต DDR4 สำหรับตลาดเฉพาะ เช่น GigaDevice - ใช้กระบวนการผลิต 1z-nm ที่ไม่ต้องใช้ EUV https://www.tomshardware.com/pc-components/ddr4/top-chinese-memory-maker-expected-to-abandon-ddr4-manufacturing-at-the-behest-of-beijing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • ครั้งแรกที่ทดลองเขียนบทความโดยใช้ ChatGPT หาข้อมูล ช่วยตรวจ และทำภาพประกอบ แต่ยังคงสำนวนของเราเอง

    ลองแปลภาษาอังกฤษ อันนี้โคตรตื่นเต้น ใช้ ChatGPT แปล

    ChatGPT in the ASEAN Market

    Artificial intelligence (AI) is playing an increasingly significant role in everyday life—especially through platforms like ChatGPT, an interactive assistant capable of understanding and responding to human language in a wide variety of contexts. From planning and problem-solving to providing daily advice, ChatGPT has become a go-to tool for many. Currently, it boasts around 800 million users worldwide, with approximately 122 million daily active users. It operates in a competitive field alongside major technology platforms such as Google, Microsoft, and Meta, as well as rising competitors from Asia like DeepSeek, Baidu, Alibaba, and Tencent.

    In Thailand, while the core user base consists of coders, programmers, and those generating AI visuals, ChatGPT is gradually gaining broader recognition for its role in content creation and ideation. About 14% of Thailand's population of 65.89 million are estimated to be users.

    Looking across the ASEAN region, which has a combined population of roughly 600 million, Indonesia leads in user share with around 32% of its 283.48 million citizens using the platform. The Philippines follows with an estimated 28% of its population (roughly 119 million) engaging with ChatGPT. In Singapore, usage is widespread among high-income, well-educated groups, while Malaysia is seeing steady growth, particularly among tech-savvy users. However, the region still faces significant challenges, including disparities in access to high-speed internet, AI-compatible devices, and the relatively high cost of AI services for certain demographics.

    To address these barriers, OpenAI, the US-based AI company behind ChatGPT, has begun collaborating with telecom providers across Southeast Asia. For example, in Laos, ChatGPT is accessible via the Unitel network; in Malaysia, CelcomDigi is planning to introduce AI-powered add-on services; and in Singapore, Singtel has started bundling AI services into consumer packages. In the Philippines, usage remains limited, while Indonesia is piloting AI services with select customer groups.

    Although Thailand has not yet officially launched ChatGPT service packages, interest is high and discussions with major telecom providers are reportedly underway. Meanwhile, Vietnam, Cambodia, Myanmar, and Brunei remain in the early or pilot phases of deployment.

    Overall, ASEAN markets are showing increased interest and activity around AI services, even though adoption rates have yet to match those in Europe or the United States. Partnerships between OpenAI and regional telecom providers are expected to be key in expanding ChatGPT’s accessibility and integration across broader segments of the population.
    ครั้งแรกที่ทดลองเขียนบทความโดยใช้ ChatGPT หาข้อมูล ช่วยตรวจ และทำภาพประกอบ แต่ยังคงสำนวนของเราเอง ลองแปลภาษาอังกฤษ อันนี้โคตรตื่นเต้น ใช้ ChatGPT แปล ChatGPT in the ASEAN Market Artificial intelligence (AI) is playing an increasingly significant role in everyday life—especially through platforms like ChatGPT, an interactive assistant capable of understanding and responding to human language in a wide variety of contexts. From planning and problem-solving to providing daily advice, ChatGPT has become a go-to tool for many. Currently, it boasts around 800 million users worldwide, with approximately 122 million daily active users. It operates in a competitive field alongside major technology platforms such as Google, Microsoft, and Meta, as well as rising competitors from Asia like DeepSeek, Baidu, Alibaba, and Tencent. In Thailand, while the core user base consists of coders, programmers, and those generating AI visuals, ChatGPT is gradually gaining broader recognition for its role in content creation and ideation. About 14% of Thailand's population of 65.89 million are estimated to be users. Looking across the ASEAN region, which has a combined population of roughly 600 million, Indonesia leads in user share with around 32% of its 283.48 million citizens using the platform. The Philippines follows with an estimated 28% of its population (roughly 119 million) engaging with ChatGPT. In Singapore, usage is widespread among high-income, well-educated groups, while Malaysia is seeing steady growth, particularly among tech-savvy users. However, the region still faces significant challenges, including disparities in access to high-speed internet, AI-compatible devices, and the relatively high cost of AI services for certain demographics. To address these barriers, OpenAI, the US-based AI company behind ChatGPT, has begun collaborating with telecom providers across Southeast Asia. For example, in Laos, ChatGPT is accessible via the Unitel network; in Malaysia, CelcomDigi is planning to introduce AI-powered add-on services; and in Singapore, Singtel has started bundling AI services into consumer packages. In the Philippines, usage remains limited, while Indonesia is piloting AI services with select customer groups. Although Thailand has not yet officially launched ChatGPT service packages, interest is high and discussions with major telecom providers are reportedly underway. Meanwhile, Vietnam, Cambodia, Myanmar, and Brunei remain in the early or pilot phases of deployment. Overall, ASEAN markets are showing increased interest and activity around AI services, even though adoption rates have yet to match those in Europe or the United States. Partnerships between OpenAI and regional telecom providers are expected to be key in expanding ChatGPT’s accessibility and integration across broader segments of the population.
    ChatGPT ในตลาดอาเซียน

    เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะแพลตฟอร์ม ChatGPT ซึ่งเป็นผู้ช่วยโต้ตอบที่สามารถเข้าใจและตอบสนองภาษามนุษย์ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งในด้านการวางแผน แก้ปัญหา และให้คำแนะนำในชีวิตประจำวัน ปัจจุบันมีผู้ใช้งานทั่วโลกประมาณ 800 ล้านคน โดยมีผู้ใช้งานประจำวันราว 122 ล้านคน ท่ามกลางการแข่งขันกับแพลตฟอร์มจากค่ายเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Google, Microsoft, Meta ตลอดจนคู่แข่งจากฝั่งเอเชีย เช่น DeepSeek, Baidu, Alibaba และ Tencent

    สำหรับประเทศไทย แม้กลุ่มผู้ใช้งานหลักจะอยู่ในสายโค้ดดิ้ง โปรแกรมมิ่ง หรือการสร้างภาพ AI แต่ ChatGPT ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างด้านการใช้สร้างสรรค์เนื้อหาและแนวคิดใหม่ๆ โดยมีสัดส่วนผู้ใช้งานประมาณ 14% จากประชากร 65.89 ล้านคน

    หากพิจารณาภาพรวมของตลาดอาเซียน ซึ่งมีประชากรรวมราว 600 ล้านคน พบว่า อินโดนีเซียมีสัดส่วนผู้ใช้งานสูงที่สุด ประมาณ 32% ของประชากร 283.48 ล้านคน รองลงมาคือฟิลิปปินส์ ที่มีผู้ใช้งานประมาณ 28% จากประชากรราว 119 ล้านคน ส่วนสิงคโปร์มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในกลุ่มที่มีรายได้สูงและการศึกษาดี ขณะที่มาเลเซียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่มผู้สนใจเทคโนโลยีใหม่ อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญของภูมิภาคนี้ยังอยู่ที่ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง อุปกรณ์ที่รองรับ AI และต้นทุนบริการที่ยังถือว่าสูงสำหรับประชากรบางส่วน

    ที่ผ่านมา OpenAI ซึ่งเป็นบริษัทด้าน AI จากสหรัฐอเมริกา ได้เปิดตัวโครงการ “OpenAI for Countries” ซึ่งเป็นความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และการเข้าถึง ChatGPT ในระดับประเทศ ขณะที่สิงคโปร์ OpenAI ได้ประกาศความร่วมมือกับโครงการ AI Singapore ซึ่งเป็นโครงการร่วมระหว่างรัฐบาลและสถาบันการศึกษา เพื่อส่งเสริมการนำ AI มาใช้ในประเทศ ส่วนประเทศอื่นๆ สามารถเข้าถึงได้ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ และผ่านเว็บไซต์

    โดยรวมแล้ว ตลาดอาเซียนกำลังตื่นตัวต่อบริการ AI มากขึ้น แม้ยังไม่เทียบเท่าตลาดยุโรปหรือสหรัฐฯ ความร่วมมือระหว่าง OpenAI กับผู้ให้บริการโทรคมนาคมในภูมิภาค จึงเป็นกุญแจสำคัญในการขยายการเข้าถึง ChatGPT ให้ครอบคลุมประชากรในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

    #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรมโรงงานฯ ตรวจสุดซอย รวบบริษัททุนจีนผิดกฎหมายกลางเขต Free Zone ชลบุรี ผนึกกำลังตำรวจ บก.ปทส. และหน่วยงานภาคี สกัดขบวนการอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ
    https://www.thai-tai.tv/news/18981/
    กรมโรงงานฯ ตรวจสุดซอย รวบบริษัททุนจีนผิดกฎหมายกลางเขต Free Zone ชลบุรี ผนึกกำลังตำรวจ บก.ปทส. และหน่วยงานภาคี สกัดขบวนการอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ https://www.thai-tai.tv/news/18981/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google จับมือ TSMC ผลิตชิป Tensor G5 บนกระบวนการ 3nm

    Google กำลังเปลี่ยนพันธมิตรด้านการผลิตชิปจาก Samsung ไปเป็น TSMC โดยมีรายงานว่า ผู้บริหารของ Google ได้เดินทางไปไต้หวันเพื่อเจรจาข้อตกลงที่อาจมีระยะเวลานานถึง 5 ปี ซึ่งจะเริ่มต้นด้วย Tensor G5 ที่ผลิตบนกระบวนการ 3nm

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่าง Google และ TSMC
    ✅ Tensor G4 จะเป็นชิปสุดท้ายที่ผลิตโดย Samsung ก่อนที่ Google จะเปลี่ยนไปใช้ TSMC
    - คาดว่า Pixel 10 จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ Tensor G5

    ✅ TSMC มีความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีเหนือ Samsung โดยเฉพาะในกระบวนการผลิต 3nm
    - Samsung ยังคงมีปัญหาเรื่องอัตราผลผลิต (yield) ในกระบวนการ 3nm GAA

    ✅ Google อาจใช้ชิป Tensor ที่ผลิตโดย TSMC ไปจนถึง Pixel 14
    - ทำให้ สามารถแข่งขันกับ Apple, Qualcomm และ MediaTek ได้ดีขึ้น

    ✅ TSMC เริ่มรับคำสั่งผลิตเวเฟอร์ 2nm แล้ว ซึ่งทำให้บริษัทมีความได้เปรียบในตลาดเซมิคอนดักเตอร์
    - คาดว่า บริษัทต่าง ๆ จะเริ่มใช้กระบวนการ 2nm ในปี 2026

    ✅ แม้ว่า Tensor G5 จะใช้กระบวนการ 3nm รุ่นที่สอง แต่สามารถปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคู่แข่งที่ใช้ 3nm รุ่นที่สาม
    - ช่วยให้ Google สามารถแข่งขันด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงานได้ดีขึ้น

    https://wccftech.com/google-partnership-with-tsmc-for-making-pixel-smartphone-chips-lasting-5-years/
    Google จับมือ TSMC ผลิตชิป Tensor G5 บนกระบวนการ 3nm Google กำลังเปลี่ยนพันธมิตรด้านการผลิตชิปจาก Samsung ไปเป็น TSMC โดยมีรายงานว่า ผู้บริหารของ Google ได้เดินทางไปไต้หวันเพื่อเจรจาข้อตกลงที่อาจมีระยะเวลานานถึง 5 ปี ซึ่งจะเริ่มต้นด้วย Tensor G5 ที่ผลิตบนกระบวนการ 3nm 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่าง Google และ TSMC ✅ Tensor G4 จะเป็นชิปสุดท้ายที่ผลิตโดย Samsung ก่อนที่ Google จะเปลี่ยนไปใช้ TSMC - คาดว่า Pixel 10 จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ Tensor G5 ✅ TSMC มีความได้เปรียบด้านเทคโนโลยีเหนือ Samsung โดยเฉพาะในกระบวนการผลิต 3nm - Samsung ยังคงมีปัญหาเรื่องอัตราผลผลิต (yield) ในกระบวนการ 3nm GAA ✅ Google อาจใช้ชิป Tensor ที่ผลิตโดย TSMC ไปจนถึง Pixel 14 - ทำให้ สามารถแข่งขันกับ Apple, Qualcomm และ MediaTek ได้ดีขึ้น ✅ TSMC เริ่มรับคำสั่งผลิตเวเฟอร์ 2nm แล้ว ซึ่งทำให้บริษัทมีความได้เปรียบในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ - คาดว่า บริษัทต่าง ๆ จะเริ่มใช้กระบวนการ 2nm ในปี 2026 ✅ แม้ว่า Tensor G5 จะใช้กระบวนการ 3nm รุ่นที่สอง แต่สามารถปรับแต่งให้มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับคู่แข่งที่ใช้ 3nm รุ่นที่สาม - ช่วยให้ Google สามารถแข่งขันด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงานได้ดีขึ้น https://wccftech.com/google-partnership-with-tsmc-for-making-pixel-smartphone-chips-lasting-5-years/
    WCCFTECH.COM
    Google Executives Reportedly Visited TSMC To Secure A Chipset Deal For Pixel Smartphones; Partnership May Last An Estimated Five Years, With The Tensor G5 Being The Company’s First 3nm SoC
    A report claims that Google executives recently visited Taiwan to form a partnership for up to 5 years in making Pixel smartphone chipsets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia GTX 970 ได้รับการอัปเกรด VRAM เป็น 8GB เพิ่มประสิทธิภาพเกือบสองเท่า

    แม้ว่า Nvidia GTX 970 จะเปิดตัวเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่กลุ่มนักดัดแปลงฮาร์ดแวร์จากบราซิล สามารถเพิ่ม VRAM จาก 4GB เป็น 8GB ทำให้ประสิทธิภาพในการทดสอบบางเกมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการอัปเกรด GTX 970
    ✅ นักดัดแปลงฮาร์ดแวร์ Paulo Gomes และทีมงานสามารถเพิ่ม VRAM เป็น 8GB
    - โดย เปลี่ยนชิป GDDR5 ขนาด 512MB เป็น 1GB และเพิ่มตัวต้านทานเพื่อให้ GPU รับรู้หน่วยความจำที่สูงขึ้น

    ✅ ผลการทดสอบใน Unigine Superposition Benchmark พบว่าคะแนนเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า
    - แสดงให้เห็นว่า VRAM ที่เพิ่มขึ้นช่วยให้ GPU ทำงานได้ดีขึ้นในบางสถานการณ์

    ✅ การทดสอบเกมพบว่า Red Dead Redemption 2, GTA V Enhanced และ Plague Tale Requiem ไม่ได้รับประโยชน์จาก VRAM ที่เพิ่มขึ้น
    - แต่ Cyberpunk 2077 มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 5-15% ขึ้นอยู่กับการตั้งค่ากราฟิก

    ✅ เกมที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการอัปเกรด VRAM คือ The Last of Us Part II Remastered (+24%) และ Horizon Forbidden West (+40%)
    - แสดงให้เห็นว่า เกมที่ต้องใช้หน่วยความจำสูงสามารถได้รับประโยชน์จาก VRAM ที่เพิ่มขึ้น

    ✅ ทีมงานเคยอัปเกรด RTX 3070 จาก 8GB เป็น 12GB และพบว่าประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 66% ในบางเกม
    - เช่น Resident Evil 4 Remake (+66%), The Last of Us Part I (+25%) และ Hogwarts Legacy (+20%)

    ✅ แม้ว่า Nvidia และ AMD จะยังคงผลิต GPU ที่มี VRAM 8GB แต่การทดสอบจริงแสดงให้เห็นว่า VRAM ที่มากขึ้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในบางเกม
    - Nvidia เปิดตัว RTX 5060 และ 5060 Ti รุ่น 8GB
    - AMD ประกาศว่า RX 9060 XT จะมาพร้อมกับ VRAM 8GB เช่นกัน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-gtx-970-memory-mod-boosts-performance-with-8gb-vram-upgrade
    Nvidia GTX 970 ได้รับการอัปเกรด VRAM เป็น 8GB เพิ่มประสิทธิภาพเกือบสองเท่า แม้ว่า Nvidia GTX 970 จะเปิดตัวเมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่กลุ่มนักดัดแปลงฮาร์ดแวร์จากบราซิล สามารถเพิ่ม VRAM จาก 4GB เป็น 8GB ทำให้ประสิทธิภาพในการทดสอบบางเกมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการอัปเกรด GTX 970 ✅ นักดัดแปลงฮาร์ดแวร์ Paulo Gomes และทีมงานสามารถเพิ่ม VRAM เป็น 8GB - โดย เปลี่ยนชิป GDDR5 ขนาด 512MB เป็น 1GB และเพิ่มตัวต้านทานเพื่อให้ GPU รับรู้หน่วยความจำที่สูงขึ้น ✅ ผลการทดสอบใน Unigine Superposition Benchmark พบว่าคะแนนเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่า - แสดงให้เห็นว่า VRAM ที่เพิ่มขึ้นช่วยให้ GPU ทำงานได้ดีขึ้นในบางสถานการณ์ ✅ การทดสอบเกมพบว่า Red Dead Redemption 2, GTA V Enhanced และ Plague Tale Requiem ไม่ได้รับประโยชน์จาก VRAM ที่เพิ่มขึ้น - แต่ Cyberpunk 2077 มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 5-15% ขึ้นอยู่กับการตั้งค่ากราฟิก ✅ เกมที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการอัปเกรด VRAM คือ The Last of Us Part II Remastered (+24%) และ Horizon Forbidden West (+40%) - แสดงให้เห็นว่า เกมที่ต้องใช้หน่วยความจำสูงสามารถได้รับประโยชน์จาก VRAM ที่เพิ่มขึ้น ✅ ทีมงานเคยอัปเกรด RTX 3070 จาก 8GB เป็น 12GB และพบว่าประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 66% ในบางเกม - เช่น Resident Evil 4 Remake (+66%), The Last of Us Part I (+25%) และ Hogwarts Legacy (+20%) ✅ แม้ว่า Nvidia และ AMD จะยังคงผลิต GPU ที่มี VRAM 8GB แต่การทดสอบจริงแสดงให้เห็นว่า VRAM ที่มากขึ้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในบางเกม - Nvidia เปิดตัว RTX 5060 และ 5060 Ti รุ่น 8GB - AMD ประกาศว่า RX 9060 XT จะมาพร้อมกับ VRAM 8GB เช่นกัน https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-gtx-970-memory-mod-boosts-performance-with-8gb-vram-upgrade
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Nvidia GTX 970 memory mod boosts performance with 8GB VRAM upgrade
    10-year-old GPU nearly doubles its benchmark score after VRAM upgrade
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google เผยผลวิจัยใหม่ ชี้ให้เห็นว่า Quantum Computer อาจสามารถเจาะระบบเข้ารหัส RSA ได้เร็วกว่าที่คาด

    Google เปิดเผยผลการศึกษาล่าสุดเกี่ยวกับความสามารถของ Quantum Computer ในการถอดรหัส RSA โดยนักวิจัยพบว่า คอมพิวเตอร์ควอนตัมที่มีน้อยกว่าหนึ่งล้าน qubits อาจสามารถเจาะระบบเข้ารหัส 2,048-bit RSA ได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งเป็นการลดลงอย่างมากจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ต้องใช้ ประมาณ 20 ล้าน qubits

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับภัยคุกคามจาก Quantum Computing
    ✅ การศึกษานี้นำโดย Craig Gidney และเผยแพร่บน arXiv
    - แสดงให้เห็นว่า การพัฒนาอัลกอริธึมควอนตัมและเทคนิคการแก้ไขข้อผิดพลาดช่วยลดจำนวน qubits ที่ต้องใช้

    ✅ การใช้ Approximate Modular Exponentiation ช่วยลดจำนวน qubits ที่ต้องใช้ในการถอดรหัส
    - ทำให้ การโจมตี RSA มีความเป็นไปได้มากขึ้นในอนาคต

    ✅ เทคนิคใหม่ เช่น "Yoked Surface Codes" และ "Magic State Cultivation" ช่วยลดทรัพยากรที่ต้องใช้
    - ทำให้ Quantum Computer สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ แม้ว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่มีหนึ่งล้าน qubits ยังไม่มีอยู่จริง แต่การพัฒนาในอุตสาหกรรมกำลังเร่งตัวขึ้น
    - IBM ตั้งเป้าสร้าง Quantum Computer 100,000 qubits ภายในปี 2033
    - Quantinuum ตั้งเป้าสร้าง Quantum Computer ที่มีความทนทานต่อข้อผิดพลาดภายในปี 2029

    ✅ RSA เป็นระบบเข้ารหัสที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการสื่อสารออนไลน์ เช่น ธนาคารและลายเซ็นดิจิทัล
    - หากถูกเจาะได้ อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูลทั่วโลก

    ✅ สถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติสหรัฐฯ (NIST) ได้เผยแพร่อัลกอริธึม Post-Quantum Cryptography (PQC) แล้ว
    - แนะนำให้ เริ่มเปลี่ยนไปใช้ระบบเข้ารหัสที่ทนต่อ Quantum Computing ภายในปี 2030

    https://www.techspot.com/news/108052-google-research-brings-quantum-attack-rsa-encryption-closer.html
    Google เผยผลวิจัยใหม่ ชี้ให้เห็นว่า Quantum Computer อาจสามารถเจาะระบบเข้ารหัส RSA ได้เร็วกว่าที่คาด Google เปิดเผยผลการศึกษาล่าสุดเกี่ยวกับความสามารถของ Quantum Computer ในการถอดรหัส RSA โดยนักวิจัยพบว่า คอมพิวเตอร์ควอนตัมที่มีน้อยกว่าหนึ่งล้าน qubits อาจสามารถเจาะระบบเข้ารหัส 2,048-bit RSA ได้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งเป็นการลดลงอย่างมากจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ต้องใช้ ประมาณ 20 ล้าน qubits 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับภัยคุกคามจาก Quantum Computing ✅ การศึกษานี้นำโดย Craig Gidney และเผยแพร่บน arXiv - แสดงให้เห็นว่า การพัฒนาอัลกอริธึมควอนตัมและเทคนิคการแก้ไขข้อผิดพลาดช่วยลดจำนวน qubits ที่ต้องใช้ ✅ การใช้ Approximate Modular Exponentiation ช่วยลดจำนวน qubits ที่ต้องใช้ในการถอดรหัส - ทำให้ การโจมตี RSA มีความเป็นไปได้มากขึ้นในอนาคต ✅ เทคนิคใหม่ เช่น "Yoked Surface Codes" และ "Magic State Cultivation" ช่วยลดทรัพยากรที่ต้องใช้ - ทำให้ Quantum Computer สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ แม้ว่าคอมพิวเตอร์ควอนตัมที่มีหนึ่งล้าน qubits ยังไม่มีอยู่จริง แต่การพัฒนาในอุตสาหกรรมกำลังเร่งตัวขึ้น - IBM ตั้งเป้าสร้าง Quantum Computer 100,000 qubits ภายในปี 2033 - Quantinuum ตั้งเป้าสร้าง Quantum Computer ที่มีความทนทานต่อข้อผิดพลาดภายในปี 2029 ✅ RSA เป็นระบบเข้ารหัสที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการสื่อสารออนไลน์ เช่น ธนาคารและลายเซ็นดิจิทัล - หากถูกเจาะได้ อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูลทั่วโลก ✅ สถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติสหรัฐฯ (NIST) ได้เผยแพร่อัลกอริธึม Post-Quantum Cryptography (PQC) แล้ว - แนะนำให้ เริ่มเปลี่ยนไปใช้ระบบเข้ารหัสที่ทนต่อ Quantum Computing ภายในปี 2030 https://www.techspot.com/news/108052-google-research-brings-quantum-attack-rsa-encryption-closer.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google research shows quantum computers could break RSA encryption sooner than expected
    The finding is a dramatic reduction from earlier estimates that put the requirement at around 20 million qubits just a few years ago.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • KiCad PCB design for all in one
    - Schematic
    - PCB design with 3D
    Note : a lot library for schematic , PCB and 3D components
    - Gerber
    - Utility functions
    - PCB copy

    Note:
    Download : https://www.kicad.org/download/

    Sample training : https://www.youtube.com/watch?v=3FGNw28xBr0
    KiCad PCB design for all in one - Schematic - PCB design with 3D Note : a lot library for schematic , PCB and 3D components - Gerber - Utility functions - PCB copy Note: Download : https://www.kicad.org/download/ Sample training : https://www.youtube.com/watch?v=3FGNw28xBr0
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • Minisforum เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ใช้ชิป Ryzen แทน EPYC – การเปลี่ยนแปลงที่ AMD อาจไม่พอใจ

    Minisforum เปิดตัว MS-S1 Max ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ 2U rackmount ที่ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 แทนที่จะเป็น EPYC โดยบริษัทอ้างว่า ระบบนี้จะช่วยปฏิวัติการทำงานด้าน AI ในสภาพแวดล้อมคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้อาจส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์ของ AMD ในตลาดเซิร์ฟเวอร์

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MS-S1 Max และผลกระทบต่อ AMD
    ✅ MS-S1 Max ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 ซึ่งเป็นชิปสำหรับลูกค้า ไม่ใช่เซิร์ฟเวอร์
    - มี กราฟิก Radeon และ NPU สำหรับงาน AI

    ✅ Minisforum อ้างว่าเซิร์ฟเวอร์นี้เหมาะสำหรับมหาวิทยาลัย, ห้องทดลอง และสตาร์ทอัพด้าน AI
    - สามารถ รันโมเดลขนาดใหญ่ เช่น DeepSeek 70B ได้โดยไม่ต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิม

    ✅ MS-S1 Max มีขนาดเล็กเพียง 3.2 ลิตร และออกแบบให้เป็นระบบ all-in-one
    - ทำให้ มีประสิทธิภาพด้านพลังงานและต้นทุนต่ำกว่าระบบเซิร์ฟเวอร์ทั่วไป

    ✅ AMD อาจต้องตัดสินใจว่าจะยอมรับหรือจำกัดการใช้ Ryzen ในเซิร์ฟเวอร์
    - เนื่องจาก EPYC ได้รับการออกแบบมาเพื่อความน่าเชื่อถือและรองรับงานที่ต้องการความเสถียรสูง

    ✅ Ryzen ไม่มีการรองรับ ECC memory และฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์
    - อาจทำให้ ไม่เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเสถียรระยะยาว

    https://www.techradar.com/pro/amd-has-a-problem-chinese-vendor-goes-rogue-and-puts-ryzen-ai-cpus-in-server-racks-instead-of-epyc-processors
    Minisforum เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ใช้ชิป Ryzen แทน EPYC – การเปลี่ยนแปลงที่ AMD อาจไม่พอใจ Minisforum เปิดตัว MS-S1 Max ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ 2U rackmount ที่ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 แทนที่จะเป็น EPYC โดยบริษัทอ้างว่า ระบบนี้จะช่วยปฏิวัติการทำงานด้าน AI ในสภาพแวดล้อมคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม แนวทางนี้อาจส่งผลกระทบต่อกลยุทธ์ของ AMD ในตลาดเซิร์ฟเวอร์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MS-S1 Max และผลกระทบต่อ AMD ✅ MS-S1 Max ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 ซึ่งเป็นชิปสำหรับลูกค้า ไม่ใช่เซิร์ฟเวอร์ - มี กราฟิก Radeon และ NPU สำหรับงาน AI ✅ Minisforum อ้างว่าเซิร์ฟเวอร์นี้เหมาะสำหรับมหาวิทยาลัย, ห้องทดลอง และสตาร์ทอัพด้าน AI - สามารถ รันโมเดลขนาดใหญ่ เช่น DeepSeek 70B ได้โดยไม่ต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิม ✅ MS-S1 Max มีขนาดเล็กเพียง 3.2 ลิตร และออกแบบให้เป็นระบบ all-in-one - ทำให้ มีประสิทธิภาพด้านพลังงานและต้นทุนต่ำกว่าระบบเซิร์ฟเวอร์ทั่วไป ✅ AMD อาจต้องตัดสินใจว่าจะยอมรับหรือจำกัดการใช้ Ryzen ในเซิร์ฟเวอร์ - เนื่องจาก EPYC ได้รับการออกแบบมาเพื่อความน่าเชื่อถือและรองรับงานที่ต้องการความเสถียรสูง ✅ Ryzen ไม่มีการรองรับ ECC memory และฟีเจอร์ระดับเซิร์ฟเวอร์ - อาจทำให้ ไม่เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเสถียรระยะยาว https://www.techradar.com/pro/amd-has-a-problem-chinese-vendor-goes-rogue-and-puts-ryzen-ai-cpus-in-server-racks-instead-of-epyc-processors
    WWW.TECHRADAR.COM
    This weird little Ryzen rack server could ruin AMD’s carefully planned EPYC business empire
    MS-S1 Max is the AI rebel server AMD didn’t want, but might have to live with
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • Dell เปิดตัวแล็ปท็อป AI รุ่นใหม่ที่มาพร้อม NPU ระดับองค์กร

    Dell เปิดตัว Dell Pro Max Plus ซึ่งเป็นแล็ปท็อป AI รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ NPU ระดับองค์กร โดยใช้ Qualcomm AI 100 PC Inference Card ที่มี 32 AI-cores และหน่วยความจำ 64GB ซึ่งช่วยให้สามารถ ประมวลผลงาน AI ที่มีความเข้มข้นสูงได้แม้ในขณะเดินทาง

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Dell Pro Max Plus
    ✅ Dell Pro Max Plus เป็นแล็ปท็อปเครื่องแรกที่มี NPU ระดับองค์กร
    - ใช้ Qualcomm AI 100 PC Inference Card ที่มี 32 AI-cores และ 64GB RAM

    ✅ สามารถรองรับงาน AI ที่ต้องการพลังประมวลผลสูง เช่น การฝึกโมเดลขนาดใหญ่
    - เหมาะสำหรับ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลและวิศวกร AI

    ✅ มาพร้อมกับ Nvidia GB300 ที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดถึง 20 petaflops
    - สามารถ รันและฝึกโมเดลที่มีพารามิเตอร์ระดับล้านล้านได้

    ✅ Dell เน้นว่าแล็ปท็อป AI กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม
    - CEO Michael Dell ระบุว่า Windows 10 กำลังจะหมดอายุ และ AI PC จะเป็นอนาคตของการทำงาน

    ✅ มีหน่วยความจำสูงสุดถึง 800GB เพื่อรองรับงาน AI ที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก
    - ทำให้ สามารถจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.techradar.com/pro/dells-super-powered-new-mobile-workstation-has-one-crucial-feature-which-sets-it-apart-from-all-the-competition
    Dell เปิดตัวแล็ปท็อป AI รุ่นใหม่ที่มาพร้อม NPU ระดับองค์กร Dell เปิดตัว Dell Pro Max Plus ซึ่งเป็นแล็ปท็อป AI รุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับ NPU ระดับองค์กร โดยใช้ Qualcomm AI 100 PC Inference Card ที่มี 32 AI-cores และหน่วยความจำ 64GB ซึ่งช่วยให้สามารถ ประมวลผลงาน AI ที่มีความเข้มข้นสูงได้แม้ในขณะเดินทาง 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Dell Pro Max Plus ✅ Dell Pro Max Plus เป็นแล็ปท็อปเครื่องแรกที่มี NPU ระดับองค์กร - ใช้ Qualcomm AI 100 PC Inference Card ที่มี 32 AI-cores และ 64GB RAM ✅ สามารถรองรับงาน AI ที่ต้องการพลังประมวลผลสูง เช่น การฝึกโมเดลขนาดใหญ่ - เหมาะสำหรับ นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลและวิศวกร AI ✅ มาพร้อมกับ Nvidia GB300 ที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดถึง 20 petaflops - สามารถ รันและฝึกโมเดลที่มีพารามิเตอร์ระดับล้านล้านได้ ✅ Dell เน้นว่าแล็ปท็อป AI กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของอุตสาหกรรม - CEO Michael Dell ระบุว่า Windows 10 กำลังจะหมดอายุ และ AI PC จะเป็นอนาคตของการทำงาน ✅ มีหน่วยความจำสูงสุดถึง 800GB เพื่อรองรับงาน AI ที่ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก - ทำให้ สามารถจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ https://www.techradar.com/pro/dells-super-powered-new-mobile-workstation-has-one-crucial-feature-which-sets-it-apart-from-all-the-competition
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • Lidar อาจทำให้เซ็นเซอร์กล้องเสียหายถาวร

    แม้ว่า Lidar จะเป็นเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมสำหรับรถยนต์ แต่มีรายงานว่า สามารถทำให้เซ็นเซอร์กล้องเสียหายถาวรได้ โดยเฉพาะ สมาร์ทโฟนและกล้องดิจิทัลที่ไม่ได้ออกแบบมาให้ทนต่อแสงเลเซอร์ความเข้มสูง

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับผลกระทบของ Lidar ต่อกล้อง
    ✅ Lidar ใช้แสงเลเซอร์อินฟราเรดเพื่อตรวจจับสภาพแวดล้อม
    - พบใน รถยนต์, ระบบนำทาง และเวทีแสดงแสงสี

    ✅ ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งพบว่า iPhone 16 Pro Max ของเขาเสียหายหลังจากถ่ายวิดีโอ Volvo EX90
    - เซ็นเซอร์กล้อง เกิดจุดเสียหายถาวรเป็นสีแดง, ชมพู และม่วง

    ✅ Volvo ยืนยันว่า Lidar สามารถทำให้เซ็นเซอร์กล้องเสียหายได้
    - แนะนำให้ หลีกเลี่ยงการถ่ายภาพโดยตรงไปยังเซ็นเซอร์ Lidar

    ✅ Tesla เคยปฏิเสธการใช้ Lidar แต่กลับซื้ออุปกรณ์ Lidar มูลค่า 2.1 ล้านดอลลาร์จาก Luminar Technologies
    - แสดงให้เห็นว่า Lidar กำลังเป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมยานยนต์

    ✅ เลเซอร์ที่ใช้ในงานแสดงสามารถทำให้เซ็นเซอร์กล้องเสียหายได้เช่นกัน
    - ผู้ใช้ Samsung Galaxy S24 Ultra รายหนึ่งพบว่า กล้องของเขาเกิดเส้นแปลก ๆ หลังจากเข้าร่วมงานแสดงแสงเลเซอร์

    https://www.techspot.com/news/108045-lidar-great-cars-but-can-permanently-damage-cameras.html
    Lidar อาจทำให้เซ็นเซอร์กล้องเสียหายถาวร แม้ว่า Lidar จะเป็นเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมสำหรับรถยนต์ แต่มีรายงานว่า สามารถทำให้เซ็นเซอร์กล้องเสียหายถาวรได้ โดยเฉพาะ สมาร์ทโฟนและกล้องดิจิทัลที่ไม่ได้ออกแบบมาให้ทนต่อแสงเลเซอร์ความเข้มสูง 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับผลกระทบของ Lidar ต่อกล้อง ✅ Lidar ใช้แสงเลเซอร์อินฟราเรดเพื่อตรวจจับสภาพแวดล้อม - พบใน รถยนต์, ระบบนำทาง และเวทีแสดงแสงสี ✅ ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งพบว่า iPhone 16 Pro Max ของเขาเสียหายหลังจากถ่ายวิดีโอ Volvo EX90 - เซ็นเซอร์กล้อง เกิดจุดเสียหายถาวรเป็นสีแดง, ชมพู และม่วง ✅ Volvo ยืนยันว่า Lidar สามารถทำให้เซ็นเซอร์กล้องเสียหายได้ - แนะนำให้ หลีกเลี่ยงการถ่ายภาพโดยตรงไปยังเซ็นเซอร์ Lidar ✅ Tesla เคยปฏิเสธการใช้ Lidar แต่กลับซื้ออุปกรณ์ Lidar มูลค่า 2.1 ล้านดอลลาร์จาก Luminar Technologies - แสดงให้เห็นว่า Lidar กำลังเป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมยานยนต์ ✅ เลเซอร์ที่ใช้ในงานแสดงสามารถทำให้เซ็นเซอร์กล้องเสียหายได้เช่นกัน - ผู้ใช้ Samsung Galaxy S24 Ultra รายหนึ่งพบว่า กล้องของเขาเกิดเส้นแปลก ๆ หลังจากเข้าร่วมงานแสดงแสงเลเซอร์ https://www.techspot.com/news/108045-lidar-great-cars-but-can-permanently-damage-cameras.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Lidar is great for cars, but it can permanently damage cameras
    Modern smartphones can survive drops and even take a swim, but they may have met their match – and it's not what anyone expected. The lidar equipment...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts