• อธิบดีดีเอสไอ เผย รับคดีความผิดนอมินีเป็นคดีพิเศษก่อน พบมีมูลเชื่อว่าคนไทยถือหุ้นแทนต่างด้าว ส่วนความผิด "ฮั้วประมูล-วัสดุไร้คุณภาพ" ตามสอบสวนได้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031492
    อธิบดีดีเอสไอ เผย รับคดีความผิดนอมินีเป็นคดีพิเศษก่อน พบมีมูลเชื่อว่าคนไทยถือหุ้นแทนต่างด้าว ส่วนความผิด "ฮั้วประมูล-วัสดุไร้คุณภาพ" ตามสอบสวนได้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031492
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนมนุษย์ในซากตึก สตง.ถล่ม อยู่ระหว่างนำส่งไปนิติเวช รพ.ตำรวจ ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ รายงานล่าสุดประจำวัน มียอดผู้เสียชีวิต 15 ราย แบ่งป็นชาย 8 ราย หญิง 6 ราย และไม่ทราบเพศ 1 ราย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031434
    เจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนมนุษย์ในซากตึก สตง.ถล่ม อยู่ระหว่างนำส่งไปนิติเวช รพ.ตำรวจ ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ รายงานล่าสุดประจำวัน มียอดผู้เสียชีวิต 15 ราย แบ่งป็นชาย 8 ราย หญิง 6 ราย และไม่ทราบเพศ 1 ราย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031434
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ๊หน่อยเรียกสติรัฐบาล ชะลอผลักดัน 'กาสิโน' ถึงเวลาตั้งรับเกมรุกสหรัฐฯ
    .
    นักเศรษฐศาสตร์เตือน ไทยเสี่ยงเสียหายกว่า 100,000 ล้านบาท หลังสหรัฐฯ เตรียมขึ้นภาษีนำเข้า 10-20% กับ 15 ประเทศที่ได้ดุลการค้า โดยไทยติดอันดับ 10 ได้ดุลสูงถึง 46,000 ล้านดอลลาร์ ส่งผลกระทบต่อการส่งออกและความสามารถในการแข่งขัน ขณะที่รัฐบาลยังมุ่งผลักดันกฎหมาย Entertainment Complex ท่ามกลางเสียงคัดค้าน ด้านคุณหญิงสุดารัตน์เรียกร้องให้นายกฯ ให้ความสำคัญกับการรับมือวิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมเสนอให้ตั้งคณะทำงานพิเศษเจรจากับสหรัฐฯ ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายลง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031457
    เจ๊หน่อยเรียกสติรัฐบาล ชะลอผลักดัน 'กาสิโน' ถึงเวลาตั้งรับเกมรุกสหรัฐฯ . นักเศรษฐศาสตร์เตือน ไทยเสี่ยงเสียหายกว่า 100,000 ล้านบาท หลังสหรัฐฯ เตรียมขึ้นภาษีนำเข้า 10-20% กับ 15 ประเทศที่ได้ดุลการค้า โดยไทยติดอันดับ 10 ได้ดุลสูงถึง 46,000 ล้านดอลลาร์ ส่งผลกระทบต่อการส่งออกและความสามารถในการแข่งขัน ขณะที่รัฐบาลยังมุ่งผลักดันกฎหมาย Entertainment Complex ท่ามกลางเสียงคัดค้าน ด้านคุณหญิงสุดารัตน์เรียกร้องให้นายกฯ ให้ความสำคัญกับการรับมือวิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมเสนอให้ตั้งคณะทำงานพิเศษเจรจากับสหรัฐฯ ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายลง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031457
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตม.ร่วมกับสำนักงานจัดหางาน กทม.ลุยค้นบ้านพักย่านดินแดง หลังสืบทราบเป็นที่ตั้งล่าสุด ของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ พบไม่มีการจดทะเบียนเป็นบริษัท

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031367
    ตม.ร่วมกับสำนักงานจัดหางาน กทม.ลุยค้นบ้านพักย่านดินแดง หลังสืบทราบเป็นที่ตั้งล่าสุด ของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ พบไม่มีการจดทะเบียนเป็นบริษัท อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031367
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • อย่าทำงานแบบหุ่นยนต์ที่ป้อน prompt แต่ทำงานแบบมนุษย์ด้วยกัน .สรุป Session พัฒนาคนอย่างไร ในวันที่โลกไร้ทิศทาง HOW TO EMPOWER PEOPLE IN FRAGMENTED WORLD โดยคุณเอ๋-สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ (นิ้วกลม Roundfinger ) ในงาน PEOPLE PERFORMANCE CONFERENCE 2025.🔸 พัฒนาคนอย่างไร ในวันที่โลกไร้ทิศทาง? .“โลกไร้ทิศทาง” ยุคสมัยนี้ เป็นยุคสมัยที่อยู่ยากมากที่สุดยุคหนึ่ง ท้าทายคนทำงานในทุกอาชีพ.เราควรตระหนักว่าเราอยู่ในสภาพที่ไม่ง่าย เราทุกคนที่ยังสามารถทำงานใช้ชีวิตประคองตัวเองในโลกทุกวันนี้ได้เป็นคนที่ ”เก่ง” มาก .“ความรู้สึกในตอนนี้เป็นอย่างไร” คำถามนี้อาจเป็นคำถามที่หลายคนรู้สึกยากที่จะตอบ มันไม่ง่ายที่เราถูกจู่โจมด้วยทุกสิ่ง แม้กายเราอยู่ที่นี่ แต่ใจเราอาจอยู่ในข่าว อยู่ในหน้าจอโทรศัพท์ อยู่ในกรุ๊ปที่ถูกตามงาน เราอยู่ห่างจากตัวเองมาก ขนาดคำถามง่าย ๆ อย่างเรารู้สึกอย่างไรยังตอบยาก .ในการพัฒนาคน พัฒนาองค์กร คำถามนี้เป็นคำถามสำคัญ .โลกไร้ทิศทางจากการที่ทั้ง Tech การเมือง เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม คุณค่า เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อคุณค่าที่มนุษย์ให้กับตัวเอง การเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่ลดความเร็ว มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย.🔸 แล้วโลกไร้ทิศทางนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร?1️⃣ เรามีข้อมูลเยอะมาก แต่มีปัญญาน้อยลง : ปัญญาคือการ รู้จักตัวเอง รู้วิธีมีความสุข รู้ความหมายชีวิต รู้ถึงความจริงรู้ถึงสัจธรรม2️⃣ โลกไม่มีเป้าหมายร่วม : ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ละประเทศจำเป็นต้องฟื้นฟู สงครามเย็นทำให้เกิดการแบ่งขั้ว จากนั้นก็ยุคโลกาภิวัฒน์ที่โลกเชื่อมโยงเข้าหากัน แต่พอมาถึงยุคนี้ เราเข้าสู่คำถามใหม่ว่า ตกลงแล้วเป้าหมายแต่ละประเทศ แต่ละคนคืออะไร? เมื่อโลกไร้เป้าหมาย ปัจเจกก็สับสน .3️⃣ ไม่มี ‘เรื่องเล่าใหญ่’ อีกต่อไป : สังคมขาดความเชื่อร่วมกัน เช่น ศาสนา ชาติ พระเจ้า ฯลฯ ถ้าเราไม่มี เรื่องเล่าใหญ่ เมื่อเราทำงานหนัก ทำงานเหนื่อยเราก็ไม่รู้ว่าเราจะเหนื่อยไปเพื่ออะไร.4️⃣ พลังกำหนดอนาคตอยู่ในมือไม่กี่คน : ในโลกที่อยู่ในเงื้อมมือคนตัวใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น big tech, big finance, big state เราเป็นคนตัวเล็ก ๆ ที่ดูสิ้นเรี่ยวแรงจะทำอะไรได้บ้าง? บางทีเราเลยรู้สึก lost ในการมีชีวิตอยู่.5️⃣ Speed ปัจจุบันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อมนุษย์ : แต่ปฏิเสธไม่ได้นี่คือโลกที่พวกเราอยู่ .คนจึงเกิดความคิดที่ว่า “ฉันไม่เหมาะกับโลกใบนี้” ฉันช้า แก่ เหนื่อย อยู่ผิดที่ ยอมแพ้ นำไปสู่ความหมดไฟไม่อยากทำงาน นี่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนทำหน้าที่บริหารคน เรากำลังมุ่งหน้าไปข้างหน้าเหมือนรถที่วิ่งแบบจรวด แต่รถคันนั้นไม่ตอบคำถามว่า 'เรากำลังมุ่งหน้าไปทางไหน' พอเราล้า ก็จะรู้สึกว่าไม่อยากพัฒนาแล้ว.ดังนั้น “ทิศที่ถูก” จึงสำคัญกว่า “ความเร็ว” การตั้งต้นว่าเราจะไปทิศไหนจึงสำคัญกับการพัฒนาตน คน องค์กร.🔸จะพัฒนาคนยังไง?.การเรียนรู้ Design Thinking, Digital Mindset, Upskill, Reskill, Relearn ที่ศึกษากันอยู่นั้นพอไหม?.เราเรียนรู้ชุดความรู้หลายด้านมาก ไม่ว่าจะเป็นSkillset > learning ability Mindset > Growth Mindsetแต่เรามี Heartset หรือยัง? .🔸Heartset ชุดความรู้ที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ คือสิ่งที่คุณเอ๋ อยากชวนมาเจาะลึกลงไป .ปัญหาในตอนนี้ไม่ใช่คนเก่งไม่พอ ไม่ใช่คนไม่อยากเก่ง แต่พอเก่งมากแล้วต้องวิ่งไล่ทุกสิ่ง คำถามคือ ฉันจะเก่งไปเพื่ออะไรดี ดังนั้นเราต้องการเข็มทิศที่ดี จะได้รู้ว่าจะไปทางไหน คุณเอ๋เลยอยากชวนคิดชวนคุยมุมนี้ว่า “ทำไมเราถึงอยากเก่ง” “ทำไมเราถึงอยากพัฒนาคน”.🔸 โลกกำลังอยู่ในยุค AI และ IA (Inner Awareness).เราต้องการ IA อย่างมาก เพราะยิ่งมันเร็ว เรายิ่งต้องเข้าใจตัวเอง AI ทำให้เราทำงานดีขึ้น แต่ IA คือตอบว่าเราทำงานดีไปทำไม และเราต้องอย่าลืมมีจิตใจที่มั่นคงยืดหยุ่น ไม่เปราะบาง ไม่งั้นการพัฒนาองค์กร คือการใช้คนแล้วทิ้ง มีคนเจ็บป่วยทางสุขภาพจิตแล้วเมื่อเขาอยู่ในระบบนี้ไม่ได้ก็ถูกปัดออก การพัฒนาคน องค์กรที่ดี ต้องรักษาคนและหัวใจคนด้วย.🔸 ทำยังไงให้ทีมรู้จักตัวเอง?.พลังที่แท้จริงเกิดจากการเข้าใจข้างใน เป็นสิ่งที่ทีมผู้บริหารองค์กรช่วยได้มากและเราควบคุมได้ คำตอบข้างใน เช่น การรักตัวเองในแบบที่เป็น ได้สร้างประโยชน์ เป็นต้น เมื่อมันเกิดขึ้นเราก็จะเป็นคนที่ไม่เปรียบเทียบ ไม่เร่งรีบ ไม่ตัดสินตัวเอง เมื่อ IA เกิดก็จะเกิดพร้อม EQ / Resilience / Creativity.แต่คนทำงานองค์กรรู้อยู่เสมอว่ามีคนประเมิน performance / KPI เราเสมอ แต่ถ้าเรา blend สิ่งเหล่านี้เข้าไปก็จะทำให้องค์กรมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น.🔸เราจะสร้าง IA ได้อย่างไร?.1️⃣ ให้สังเกตตัวเองโดยไม่ตัดสิน2️⃣ รับรู้ความรู้สึก ไม่ผลักไส3️⃣ เห็นแพทเทิร์นความคิดตัวเอง 4️⃣ ฟังร่างกาย5️⃣ มีความหมายของตัวเองที่ไม่ใช่ที่คนอื่นวางให้ .🔸 วิธีฝึกการสร้าง IA 1️⃣ สังเกตลมหายใจ2️⃣ สังเกตร่างกาย3️⃣ สังเกตอารมณ์ ความคิด4️⃣ เขียนระบายใส่กระดาษ5️⃣ ถามกัน ตอนนี้รู้สึกยังไง .🔸 หัวหน้า 2 คน เรื่องเล่าจากคุณเอ๋ - นิ้วกลม.👉 หัวหน้าคนแรก คนที่เข้าไปคุยด้วยแล้วตัวลีบตัวสั่น👉 หัวหน้าคนที่สอง คนที่ป้วนเปี้ยนคุยงานไร้สาระได้ อธิบายไอเดียโง่ ๆ ได้ อย่างเช่นตอนเสนอไอเดีย พอหัวหน้าฟังแล้วช่วย develop งานได้ดีน้อยกว่าที่คุณเอ๋คิด คุณเอ๋เลยตระหนักได้ว่า เมื่อหัวหน้าโง่ได้ เราก็โง่กว่าหัวหน้าได้ วิธีการทำงานแบบนี้ทำให้ทีมคุณนิ้วกลมทำงานชนะได้หลายรางวัลมาก ตรงข้ามกับแบบแรกเพราะ ความโง่นั้นนำมาซึ่ง “ความคิดสร้างสรรค์” เพราะเรากล้าคิดมันออกมา.องค์กรสามารถสร้างความปลอดภัยต่อการเป็นมนุษย์ได้ ไม่ต้องเก๊กว่าตัวเองจะต้อง Perfect เผยความรู้ได้โดยไม่ต้องปิดบัง โลกที่หมุนไวผลักภาระมาให้มนุษย์จนเจ็บป่วย .ให้รางวัลคนที่รองรับความรู้สึกเพื่อนร่วมงาน การที่เขาหายไป ทีมอาจ collapse ได้ มองเห็นคนที่ชุบชูใจคนอื่น ไม่ใช่วัดแค่ประสิทธิภาพ แต่วัดสภาพจิตใจด้วย และนอกจาก performance ก็ต้องวัดความมั่นคงทางจิตใจด้วย เพราะถ้าทุกคนแกว่งหมดองค์กรก็อยู่ไม่ได้ รวมถึงผู้นำที่ก็ต้องกล้าแสดงความรู้สึกออกมา .ปลอดภัย ช้าบางจังหวะ ฟังลึก ตั้งคำถามสะท้อนกัน ผู้นำเปลือยใจ “ทำงานในบรรยากาศของมนุษย์”.🔸 เราเกิดมาทำไม?.มนุษย์เราทำแค่ 3 เรื่องนี้ What How Why คุณเอ๋อยากให้เรามาตอบ How ให้ได้ อย่างคุณเอ๋ก็พบว่า How ของตัวเองคือการสื่อสารด้วยตัวหนังสือ บางคนอาจมีความสามารถต่างไป เราแค่เป็นเรา ส่งเสริมให้คนในทีมเป็นเขา และเชิดชูใน How ของเขา .เราก็จะเริ่มรู้สึกว่าเราเกิดมาทำไม และรู้ว่าเราไม่จำเป็นต้องเก่งกว่าใคร .ในโลก AI เราต้องการ IA : Inner Awareness is the NEW RICH ความรวยปัญญา ทำงานเพื่อมีปัญญาเพิ่มขึ้น รู้จักตัวเอง ความหมายชีวิต และสัจธรรม ยอมรับความจริงข้อนี้แล้วคนจะอยากทำงานกับองค์กรที่ไม่ใช่ให้แค่เงินเดือน แต่ทำให้เขาได้รู้ตัวเองและรวยปัญญา รวยปัญญา = รวยความสุข..#Skooldio #PPC2025 #PEOPLEPERFORMANCEConference2025 #CREATIVETALK #QGEN #นิ้วกลม #AI #Selfawareness #selfdevelopment #พัฒนาตัวเอง #mentalhealth #books
    อย่าทำงานแบบหุ่นยนต์ที่ป้อน prompt แต่ทำงานแบบมนุษย์ด้วยกัน .สรุป Session พัฒนาคนอย่างไร ในวันที่โลกไร้ทิศทาง HOW TO EMPOWER PEOPLE IN FRAGMENTED WORLD โดยคุณเอ๋-สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ (นิ้วกลม Roundfinger ) ในงาน PEOPLE PERFORMANCE CONFERENCE 2025.🔸 พัฒนาคนอย่างไร ในวันที่โลกไร้ทิศทาง? .“โลกไร้ทิศทาง” ยุคสมัยนี้ เป็นยุคสมัยที่อยู่ยากมากที่สุดยุคหนึ่ง ท้าทายคนทำงานในทุกอาชีพ.เราควรตระหนักว่าเราอยู่ในสภาพที่ไม่ง่าย เราทุกคนที่ยังสามารถทำงานใช้ชีวิตประคองตัวเองในโลกทุกวันนี้ได้เป็นคนที่ ”เก่ง” มาก .“ความรู้สึกในตอนนี้เป็นอย่างไร” คำถามนี้อาจเป็นคำถามที่หลายคนรู้สึกยากที่จะตอบ มันไม่ง่ายที่เราถูกจู่โจมด้วยทุกสิ่ง แม้กายเราอยู่ที่นี่ แต่ใจเราอาจอยู่ในข่าว อยู่ในหน้าจอโทรศัพท์ อยู่ในกรุ๊ปที่ถูกตามงาน เราอยู่ห่างจากตัวเองมาก ขนาดคำถามง่าย ๆ อย่างเรารู้สึกอย่างไรยังตอบยาก .ในการพัฒนาคน พัฒนาองค์กร คำถามนี้เป็นคำถามสำคัญ .โลกไร้ทิศทางจากการที่ทั้ง Tech การเมือง เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม คุณค่า เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อคุณค่าที่มนุษย์ให้กับตัวเอง การเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่ลดความเร็ว มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นเรื่องที่ท้าทาย.🔸 แล้วโลกไร้ทิศทางนี้เกิดขึ้นเพราะอะไร?1️⃣ เรามีข้อมูลเยอะมาก แต่มีปัญญาน้อยลง : ปัญญาคือการ รู้จักตัวเอง รู้วิธีมีความสุข รู้ความหมายชีวิต รู้ถึงความจริงรู้ถึงสัจธรรม2️⃣ โลกไม่มีเป้าหมายร่วม : ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ละประเทศจำเป็นต้องฟื้นฟู สงครามเย็นทำให้เกิดการแบ่งขั้ว จากนั้นก็ยุคโลกาภิวัฒน์ที่โลกเชื่อมโยงเข้าหากัน แต่พอมาถึงยุคนี้ เราเข้าสู่คำถามใหม่ว่า ตกลงแล้วเป้าหมายแต่ละประเทศ แต่ละคนคืออะไร? เมื่อโลกไร้เป้าหมาย ปัจเจกก็สับสน .3️⃣ ไม่มี ‘เรื่องเล่าใหญ่’ อีกต่อไป : สังคมขาดความเชื่อร่วมกัน เช่น ศาสนา ชาติ พระเจ้า ฯลฯ ถ้าเราไม่มี เรื่องเล่าใหญ่ เมื่อเราทำงานหนัก ทำงานเหนื่อยเราก็ไม่รู้ว่าเราจะเหนื่อยไปเพื่ออะไร.4️⃣ พลังกำหนดอนาคตอยู่ในมือไม่กี่คน : ในโลกที่อยู่ในเงื้อมมือคนตัวใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น big tech, big finance, big state เราเป็นคนตัวเล็ก ๆ ที่ดูสิ้นเรี่ยวแรงจะทำอะไรได้บ้าง? บางทีเราเลยรู้สึก lost ในการมีชีวิตอยู่.5️⃣ Speed ปัจจุบันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อมนุษย์ : แต่ปฏิเสธไม่ได้นี่คือโลกที่พวกเราอยู่ .คนจึงเกิดความคิดที่ว่า “ฉันไม่เหมาะกับโลกใบนี้” ฉันช้า แก่ เหนื่อย อยู่ผิดที่ ยอมแพ้ นำไปสู่ความหมดไฟไม่อยากทำงาน นี่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนทำหน้าที่บริหารคน เรากำลังมุ่งหน้าไปข้างหน้าเหมือนรถที่วิ่งแบบจรวด แต่รถคันนั้นไม่ตอบคำถามว่า 'เรากำลังมุ่งหน้าไปทางไหน' พอเราล้า ก็จะรู้สึกว่าไม่อยากพัฒนาแล้ว.ดังนั้น “ทิศที่ถูก” จึงสำคัญกว่า “ความเร็ว” การตั้งต้นว่าเราจะไปทิศไหนจึงสำคัญกับการพัฒนาตน คน องค์กร.🔸จะพัฒนาคนยังไง?.การเรียนรู้ Design Thinking, Digital Mindset, Upskill, Reskill, Relearn ที่ศึกษากันอยู่นั้นพอไหม?.เราเรียนรู้ชุดความรู้หลายด้านมาก ไม่ว่าจะเป็นSkillset > learning ability Mindset > Growth Mindsetแต่เรามี Heartset หรือยัง? .🔸Heartset ชุดความรู้ที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ คือสิ่งที่คุณเอ๋ อยากชวนมาเจาะลึกลงไป .ปัญหาในตอนนี้ไม่ใช่คนเก่งไม่พอ ไม่ใช่คนไม่อยากเก่ง แต่พอเก่งมากแล้วต้องวิ่งไล่ทุกสิ่ง คำถามคือ ฉันจะเก่งไปเพื่ออะไรดี ดังนั้นเราต้องการเข็มทิศที่ดี จะได้รู้ว่าจะไปทางไหน คุณเอ๋เลยอยากชวนคิดชวนคุยมุมนี้ว่า “ทำไมเราถึงอยากเก่ง” “ทำไมเราถึงอยากพัฒนาคน”.🔸 โลกกำลังอยู่ในยุค AI และ IA (Inner Awareness).เราต้องการ IA อย่างมาก เพราะยิ่งมันเร็ว เรายิ่งต้องเข้าใจตัวเอง AI ทำให้เราทำงานดีขึ้น แต่ IA คือตอบว่าเราทำงานดีไปทำไม และเราต้องอย่าลืมมีจิตใจที่มั่นคงยืดหยุ่น ไม่เปราะบาง ไม่งั้นการพัฒนาองค์กร คือการใช้คนแล้วทิ้ง มีคนเจ็บป่วยทางสุขภาพจิตแล้วเมื่อเขาอยู่ในระบบนี้ไม่ได้ก็ถูกปัดออก การพัฒนาคน องค์กรที่ดี ต้องรักษาคนและหัวใจคนด้วย.🔸 ทำยังไงให้ทีมรู้จักตัวเอง?.พลังที่แท้จริงเกิดจากการเข้าใจข้างใน เป็นสิ่งที่ทีมผู้บริหารองค์กรช่วยได้มากและเราควบคุมได้ คำตอบข้างใน เช่น การรักตัวเองในแบบที่เป็น ได้สร้างประโยชน์ เป็นต้น เมื่อมันเกิดขึ้นเราก็จะเป็นคนที่ไม่เปรียบเทียบ ไม่เร่งรีบ ไม่ตัดสินตัวเอง เมื่อ IA เกิดก็จะเกิดพร้อม EQ / Resilience / Creativity.แต่คนทำงานองค์กรรู้อยู่เสมอว่ามีคนประเมิน performance / KPI เราเสมอ แต่ถ้าเรา blend สิ่งเหล่านี้เข้าไปก็จะทำให้องค์กรมีความเป็นมนุษย์มากขึ้น.🔸เราจะสร้าง IA ได้อย่างไร?.1️⃣ ให้สังเกตตัวเองโดยไม่ตัดสิน2️⃣ รับรู้ความรู้สึก ไม่ผลักไส3️⃣ เห็นแพทเทิร์นความคิดตัวเอง 4️⃣ ฟังร่างกาย5️⃣ มีความหมายของตัวเองที่ไม่ใช่ที่คนอื่นวางให้ .🔸 วิธีฝึกการสร้าง IA 1️⃣ สังเกตลมหายใจ2️⃣ สังเกตร่างกาย3️⃣ สังเกตอารมณ์ ความคิด4️⃣ เขียนระบายใส่กระดาษ5️⃣ ถามกัน ตอนนี้รู้สึกยังไง .🔸 หัวหน้า 2 คน เรื่องเล่าจากคุณเอ๋ - นิ้วกลม.👉 หัวหน้าคนแรก คนที่เข้าไปคุยด้วยแล้วตัวลีบตัวสั่น👉 หัวหน้าคนที่สอง คนที่ป้วนเปี้ยนคุยงานไร้สาระได้ อธิบายไอเดียโง่ ๆ ได้ อย่างเช่นตอนเสนอไอเดีย พอหัวหน้าฟังแล้วช่วย develop งานได้ดีน้อยกว่าที่คุณเอ๋คิด คุณเอ๋เลยตระหนักได้ว่า เมื่อหัวหน้าโง่ได้ เราก็โง่กว่าหัวหน้าได้ วิธีการทำงานแบบนี้ทำให้ทีมคุณนิ้วกลมทำงานชนะได้หลายรางวัลมาก ตรงข้ามกับแบบแรกเพราะ ความโง่นั้นนำมาซึ่ง “ความคิดสร้างสรรค์” เพราะเรากล้าคิดมันออกมา.องค์กรสามารถสร้างความปลอดภัยต่อการเป็นมนุษย์ได้ ไม่ต้องเก๊กว่าตัวเองจะต้อง Perfect เผยความรู้ได้โดยไม่ต้องปิดบัง โลกที่หมุนไวผลักภาระมาให้มนุษย์จนเจ็บป่วย .ให้รางวัลคนที่รองรับความรู้สึกเพื่อนร่วมงาน การที่เขาหายไป ทีมอาจ collapse ได้ มองเห็นคนที่ชุบชูใจคนอื่น ไม่ใช่วัดแค่ประสิทธิภาพ แต่วัดสภาพจิตใจด้วย และนอกจาก performance ก็ต้องวัดความมั่นคงทางจิตใจด้วย เพราะถ้าทุกคนแกว่งหมดองค์กรก็อยู่ไม่ได้ รวมถึงผู้นำที่ก็ต้องกล้าแสดงความรู้สึกออกมา .ปลอดภัย ช้าบางจังหวะ ฟังลึก ตั้งคำถามสะท้อนกัน ผู้นำเปลือยใจ “ทำงานในบรรยากาศของมนุษย์”.🔸 เราเกิดมาทำไม?.มนุษย์เราทำแค่ 3 เรื่องนี้ What How Why คุณเอ๋อยากให้เรามาตอบ How ให้ได้ อย่างคุณเอ๋ก็พบว่า How ของตัวเองคือการสื่อสารด้วยตัวหนังสือ บางคนอาจมีความสามารถต่างไป เราแค่เป็นเรา ส่งเสริมให้คนในทีมเป็นเขา และเชิดชูใน How ของเขา .เราก็จะเริ่มรู้สึกว่าเราเกิดมาทำไม และรู้ว่าเราไม่จำเป็นต้องเก่งกว่าใคร .ในโลก AI เราต้องการ IA : Inner Awareness is the NEW RICH ความรวยปัญญา ทำงานเพื่อมีปัญญาเพิ่มขึ้น รู้จักตัวเอง ความหมายชีวิต และสัจธรรม ยอมรับความจริงข้อนี้แล้วคนจะอยากทำงานกับองค์กรที่ไม่ใช่ให้แค่เงินเดือน แต่ทำให้เขาได้รู้ตัวเองและรวยปัญญา รวยปัญญา = รวยความสุข..#Skooldio #PPC2025 #PEOPLEPERFORMANCEConference2025 #CREATIVETALK #QGEN #นิ้วกลม #AI #Selfawareness #selfdevelopment #พัฒนาตัวเอง #mentalhealth #books
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีตวิศวกร Apple Kong Long และ Wang Huanyu ตัดสินใจกลับจีนเพื่อเข้าร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดย Kong ได้รับตำแหน่งเป็นนักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Fudan และ Wang ร่วมงานกับมหาวิทยาลัย Huazhong แนวโน้มนี้เกิดขึ้นขณะที่ จีนเร่งพัฒนาการผลิตชิปในประเทศ และสหรัฐฯ มีมาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีให้จีน

    ✅ ใครคือ Kong Long—อดีตวิศวกร Apple ที่กลับจีน?
    - Kong Long เคยทำงานด้าน ชิปไร้สาย (Wireless Semiconductor) ที่ Apple
    - ล่าสุดเข้าร่วมเป็น นักวิจัยและอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย Fudan ในด้าน การออกแบบวงจรรวม RF และคอมพิวเตอร์ดิจิตอล-อนาล็อกแบบไฮบริด

    ✅ แนวโน้มวิศวกรจีนกลับประเทศเพิ่มขึ้น
    - หลายปีที่ผ่านมา วิศวกรที่ทำงานในสหรัฐฯ เริ่มกลับจีน เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมชิปของประเทศ
    - นโยบาย ควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ทำให้จีนต้องเร่งพึ่งพาความสามารถภายในประเทศ

    ✅ การศึกษาของ Kong Long บ่งบอกถึงศักยภาพด้านเทคโนโลยี
    - จบการศึกษาด้าน Microelectronics จาก Shanghai Jiao Tong University
    - ได้ ปริญญาเอกด้านวิศวกรรมไฟฟ้าจาก University of California, Los Angeles (UCLA)
    - เคยทำงานที่ Oracle ในด้าน Mixed-Signal IC Design ก่อนเข้าสู่วงการเซมิคอนดักเตอร์ที่ Apple

    ✅ อดีตวิศวกร Apple อีกคนก็เพิ่งกลับจีนเพื่อเข้าร่วมการพัฒนาเทคโนโลยีชิป
    - Wang Huanyu ผู้พัฒนา ชิป Apple M3 และ M4 ลาออกจาก Apple เพื่อร่วมงานกับ School of Integrated Circuits ที่ Huazhong University of Science and Technology
    - การกลับมาของวิศวกรระดับสูงอาจเป็น สัญญาณว่าจีนกำลังเร่งขยายทีมงานภายในประเทศ

    ✅ ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนอาจมีผลต่อการตัดสินใจของวิศวกรเหล่านี้
    - นักวิเคราะห์มองว่า แรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้วิศวกรจีนที่ทำงานในบริษัทต่างชาติ ตัดสินใจลาออกและกลับประเทศ
    - อาจเป็นผลจากความตึงเครียดของ นโยบายป้องกันจีนจากการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง

    https://wccftech.com/ex-apple-engineer-returns-to-china-after-seven-years-to-fulfill-chipmaking-ambitions/
    อดีตวิศวกร Apple Kong Long และ Wang Huanyu ตัดสินใจกลับจีนเพื่อเข้าร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ โดย Kong ได้รับตำแหน่งเป็นนักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Fudan และ Wang ร่วมงานกับมหาวิทยาลัย Huazhong แนวโน้มนี้เกิดขึ้นขณะที่ จีนเร่งพัฒนาการผลิตชิปในประเทศ และสหรัฐฯ มีมาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีให้จีน ✅ ใครคือ Kong Long—อดีตวิศวกร Apple ที่กลับจีน? - Kong Long เคยทำงานด้าน ชิปไร้สาย (Wireless Semiconductor) ที่ Apple - ล่าสุดเข้าร่วมเป็น นักวิจัยและอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย Fudan ในด้าน การออกแบบวงจรรวม RF และคอมพิวเตอร์ดิจิตอล-อนาล็อกแบบไฮบริด ✅ แนวโน้มวิศวกรจีนกลับประเทศเพิ่มขึ้น - หลายปีที่ผ่านมา วิศวกรที่ทำงานในสหรัฐฯ เริ่มกลับจีน เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมชิปของประเทศ - นโยบาย ควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ ทำให้จีนต้องเร่งพึ่งพาความสามารถภายในประเทศ ✅ การศึกษาของ Kong Long บ่งบอกถึงศักยภาพด้านเทคโนโลยี - จบการศึกษาด้าน Microelectronics จาก Shanghai Jiao Tong University - ได้ ปริญญาเอกด้านวิศวกรรมไฟฟ้าจาก University of California, Los Angeles (UCLA) - เคยทำงานที่ Oracle ในด้าน Mixed-Signal IC Design ก่อนเข้าสู่วงการเซมิคอนดักเตอร์ที่ Apple ✅ อดีตวิศวกร Apple อีกคนก็เพิ่งกลับจีนเพื่อเข้าร่วมการพัฒนาเทคโนโลยีชิป - Wang Huanyu ผู้พัฒนา ชิป Apple M3 และ M4 ลาออกจาก Apple เพื่อร่วมงานกับ School of Integrated Circuits ที่ Huazhong University of Science and Technology - การกลับมาของวิศวกรระดับสูงอาจเป็น สัญญาณว่าจีนกำลังเร่งขยายทีมงานภายในประเทศ ✅ ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนอาจมีผลต่อการตัดสินใจของวิศวกรเหล่านี้ - นักวิเคราะห์มองว่า แรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้วิศวกรจีนที่ทำงานในบริษัทต่างชาติ ตัดสินใจลาออกและกลับประเทศ - อาจเป็นผลจากความตึงเครียดของ นโยบายป้องกันจีนจากการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง https://wccftech.com/ex-apple-engineer-returns-to-china-after-seven-years-to-fulfill-chipmaking-ambitions/
    WCCFTECH.COM
    Former Apple Chip Engineer Returns To China And Joins The Country’s Silicon-Manufacturing Ambitions After Seven Years Of Working With The Trillion-Dollar Firm
    After working with Apple for seven years, a chip engineer has departed back to China, where he works on fulfilling the country’s chipmaking goals
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • หน่วยงานความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐฯ CISA (Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับมัลแวร์ตัวใหม่ RESURGE ซึ่งกำลังโจมตีผลิตภัณฑ์ของ Ivanti หลายตัว โดยมัลแวร์นี้เป็น เวอร์ชันใหม่ของ SPAWNCHIMERA ที่เคยถูกใช้โจมตี Ivanti Connect Secure Appliances

    ✅ RESURGE ทำอะไรได้บ้าง?
    - สามารถ อยู่รอดหลังการรีบูตระบบ
    - สร้าง Web Shell เพื่อควบคุมอุปกรณ์ระยะไกล
    - เปลี่ยนแปลงระบบตรวจสอบความสมบูรณ์ไฟล์
    - ขโมยข้อมูลล็อกอิน สร้างบัญชีใหม่ รีเซ็ตรหัสผ่าน และเพิ่มสิทธิ์ผู้ใช้

    ✅ ช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตี—CVE-2025-0282
    - RESURGE อาศัยช่องโหว่ Stack-Based Buffer Overflow ใน Ivanti Connect Secure, Policy Secure และ Neurons for ZTA Gateways
    - ช่องโหว่นี้ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถ รันโค้ดระยะไกลโดยไม่ต้องล็อกอิน

    ✅ เวอร์ชันของ Ivanti ที่มีความเสี่ยงสูง
    - Connect Secure (ก่อนเวอร์ชัน 22.7R2.5)
    - Policy Secure (ก่อนเวอร์ชัน 22.7R1.2)
    - Neurons for ZTA Gateways (ก่อนเวอร์ชัน 22.7R2.3)

    ✅ CISA แนะนำแนวทางป้องกัน
    - Factory Reset อุปกรณ์ เพื่อกำจัดโค้ดที่แฝงตัว
    - เปลี่ยนรหัสผ่าน ของบัญชีที่มีสิทธิ์เข้าถึงทั้งหมด
    - ตรวจสอบสิทธิ์และการเข้าถึงระบบ เพื่อป้องกันการบุกรุกเพิ่มเติม
    - เฝ้าระวังบัญชีที่มีสิทธิ์ระดับสูง เช่น Admin Accounts

    https://www.techradar.com/pro/security/ivanti-products-targeted-by-dangerous-malware-yet-again
    หน่วยงานความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหรัฐฯ CISA (Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับมัลแวร์ตัวใหม่ RESURGE ซึ่งกำลังโจมตีผลิตภัณฑ์ของ Ivanti หลายตัว โดยมัลแวร์นี้เป็น เวอร์ชันใหม่ของ SPAWNCHIMERA ที่เคยถูกใช้โจมตี Ivanti Connect Secure Appliances ✅ RESURGE ทำอะไรได้บ้าง? - สามารถ อยู่รอดหลังการรีบูตระบบ - สร้าง Web Shell เพื่อควบคุมอุปกรณ์ระยะไกล - เปลี่ยนแปลงระบบตรวจสอบความสมบูรณ์ไฟล์ - ขโมยข้อมูลล็อกอิน สร้างบัญชีใหม่ รีเซ็ตรหัสผ่าน และเพิ่มสิทธิ์ผู้ใช้ ✅ ช่องโหว่ที่ถูกใช้โจมตี—CVE-2025-0282 - RESURGE อาศัยช่องโหว่ Stack-Based Buffer Overflow ใน Ivanti Connect Secure, Policy Secure และ Neurons for ZTA Gateways - ช่องโหว่นี้ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถ รันโค้ดระยะไกลโดยไม่ต้องล็อกอิน ✅ เวอร์ชันของ Ivanti ที่มีความเสี่ยงสูง - Connect Secure (ก่อนเวอร์ชัน 22.7R2.5) - Policy Secure (ก่อนเวอร์ชัน 22.7R1.2) - Neurons for ZTA Gateways (ก่อนเวอร์ชัน 22.7R2.3) ✅ CISA แนะนำแนวทางป้องกัน - Factory Reset อุปกรณ์ เพื่อกำจัดโค้ดที่แฝงตัว - เปลี่ยนรหัสผ่าน ของบัญชีที่มีสิทธิ์เข้าถึงทั้งหมด - ตรวจสอบสิทธิ์และการเข้าถึงระบบ เพื่อป้องกันการบุกรุกเพิ่มเติม - เฝ้าระวังบัญชีที่มีสิทธิ์ระดับสูง เช่น Admin Accounts https://www.techradar.com/pro/security/ivanti-products-targeted-by-dangerous-malware-yet-again
    WWW.TECHRADAR.COM
    Ivanti products targeted by dangerous malware yet again
    RESURGE is targeting Ivanti products, so make sure to stay safe
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVIDIA และ Quantum Machines เปิดตัว DGX Quantum Early Access Program ซึ่งช่วยผสานการคำนวณควอนตัมเข้ากับการประมวลผลแบบคลาสสิก DGX Quantum ใช้ OPX1000 และ Grace Hopper Superchips เพื่อลดเวลาการส่งข้อมูลให้ต่ำกว่า 4 ไมโครวินาที พร้อมรองรับ AI-driven calibration และ Quantum Error Correction นักวิจัยจาก MIT, IQCC, และสถาบันอื่น ๆ เข้าร่วมเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่นี้

    ✅ NVIDIA DGX Quantum คืออะไร?
    - เป็น สถาปัตยกรรมอ้างอิงที่พัฒนาโดย NVIDIA และ QM
    - เป็นระบบแรกที่ผสาน การประมวลผลควอนตัมและคลาสสิกเข้าด้วยกัน เพื่อรองรับการคำนวณที่ซับซ้อน

    ✅ ความท้าทายของควอนตัมคอมพิวติ้ง—จำเป็นต้องมีพลังการประมวลผลแบบคลาสสิกเสริม
    - ควอนตัมคอมพิวเตอร์ต้องใช้การประมวลผลแบบคลาสสิกเพื่อ แก้ไขข้อผิดพลาด (Quantum Error Correction - QEC) และปรับพารามิเตอร์
    - NVIDIA DGX Quantum ช่วยให้ ระบบมีพลังการประมวลผลมากขึ้น ลดความล่าช้าในการสื่อสารระหว่างโปรเซสเซอร์

    ✅ OPX1000 ช่วยเร่งความเร็วและลดความล่าช้าในการคำนวณ
    - DGX Quantum ใช้ OPX1000 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มควบคุมแบบโมดูลาร์ ที่สามารถทำงานร่วมกับ Grace Hopper Superchips ของ NVIDIA
    - ลดเวลา รอบการส่งข้อมูลระหว่างควอนตัมกับ AI ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ให้น้อยกว่า 4 ไมโครวินาที ซึ่งเร็วกว่าวิธีอื่น ๆ

    ✅ 6 กลุ่มนักวิจัยที่เข้าร่วมโปรแกรม Early Access
    - Engineering Quantum Systems ของ MIT
    - Israeli Quantum Computing Center (IQCC)
    - Diraq—บริษัทพัฒนาฮาร์ดแวร์ควอนตัม
    - Quantum Circuit Group ของ ENS Lyon
    - Fraunhofer IAF
    - สถาบันวิจัยทางควอนตัมอื่น ๆ

    ✅ DGX Quantum รองรับ AI-driven QPU calibration และการประมวลผลแบบไฮบริด
    - มีการผสาน การเรียนรู้เสริมแรง (Reinforcement Learning) เพื่อช่วยเพิ่มความแม่นยำในการคำนวณควอนตัม
    - สามารถปรับค่า drive และ readout fidelities อย่างแม่นยำเพื่อรองรับ QEC ที่มีประสิทธิภาพสูง

    https://www.techpowerup.com/334928/quantum-machines-announces-nvidia-dgx-quantum-early-access-program
    NVIDIA และ Quantum Machines เปิดตัว DGX Quantum Early Access Program ซึ่งช่วยผสานการคำนวณควอนตัมเข้ากับการประมวลผลแบบคลาสสิก DGX Quantum ใช้ OPX1000 และ Grace Hopper Superchips เพื่อลดเวลาการส่งข้อมูลให้ต่ำกว่า 4 ไมโครวินาที พร้อมรองรับ AI-driven calibration และ Quantum Error Correction นักวิจัยจาก MIT, IQCC, และสถาบันอื่น ๆ เข้าร่วมเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่นี้ ✅ NVIDIA DGX Quantum คืออะไร? - เป็น สถาปัตยกรรมอ้างอิงที่พัฒนาโดย NVIDIA และ QM - เป็นระบบแรกที่ผสาน การประมวลผลควอนตัมและคลาสสิกเข้าด้วยกัน เพื่อรองรับการคำนวณที่ซับซ้อน ✅ ความท้าทายของควอนตัมคอมพิวติ้ง—จำเป็นต้องมีพลังการประมวลผลแบบคลาสสิกเสริม - ควอนตัมคอมพิวเตอร์ต้องใช้การประมวลผลแบบคลาสสิกเพื่อ แก้ไขข้อผิดพลาด (Quantum Error Correction - QEC) และปรับพารามิเตอร์ - NVIDIA DGX Quantum ช่วยให้ ระบบมีพลังการประมวลผลมากขึ้น ลดความล่าช้าในการสื่อสารระหว่างโปรเซสเซอร์ ✅ OPX1000 ช่วยเร่งความเร็วและลดความล่าช้าในการคำนวณ - DGX Quantum ใช้ OPX1000 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มควบคุมแบบโมดูลาร์ ที่สามารถทำงานร่วมกับ Grace Hopper Superchips ของ NVIDIA - ลดเวลา รอบการส่งข้อมูลระหว่างควอนตัมกับ AI ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ให้น้อยกว่า 4 ไมโครวินาที ซึ่งเร็วกว่าวิธีอื่น ๆ ✅ 6 กลุ่มนักวิจัยที่เข้าร่วมโปรแกรม Early Access - Engineering Quantum Systems ของ MIT - Israeli Quantum Computing Center (IQCC) - Diraq—บริษัทพัฒนาฮาร์ดแวร์ควอนตัม - Quantum Circuit Group ของ ENS Lyon - Fraunhofer IAF - สถาบันวิจัยทางควอนตัมอื่น ๆ ✅ DGX Quantum รองรับ AI-driven QPU calibration และการประมวลผลแบบไฮบริด - มีการผสาน การเรียนรู้เสริมแรง (Reinforcement Learning) เพื่อช่วยเพิ่มความแม่นยำในการคำนวณควอนตัม - สามารถปรับค่า drive และ readout fidelities อย่างแม่นยำเพื่อรองรับ QEC ที่มีประสิทธิภาพสูง https://www.techpowerup.com/334928/quantum-machines-announces-nvidia-dgx-quantum-early-access-program
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Quantum Machines Announces NVIDIA DGX Quantum Early Access Program
    Quantum Machines (QM), the leading provider of advanced quantum control solutions, has recently announced the NVIDIA DGX Quantum Early Customer Program, with a cohort of six leading research groups and quantum computer builders. NVIDIA DGX Quantum, a reference architecture jointly developed by NVIDI...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ประกาศว่า ฟีเจอร์ AI Copilot+ ที่เคยเป็นเอกสิทธิ์สำหรับ Snapdragon X ตอนนี้จะเริ่มทยอยปล่อยให้ใช้งานบน AMD Ryzen AI 300 series และ Intel Core Ultra 200V PCs โดยฟีเจอร์ที่สำคัญ ได้แก่ Live Captions, Cocreator, Restyle Image และ Image Creator ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สร้างสรรค์คอนเทนต์และปรับแต่งรูปภาพได้ง่ายขึ้น

    ✅ Live Captions พร้อมแปลภาษาแบบเรียลไทม์
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแปลเสียงพูดจาก 27 ภาษาเป็นภาษาจีนแบบย่อ
    - เดิมทีใช้ได้เฉพาะบน Snapdragon X แต่ตอนนี้เตรียมเปิดตัวให้กับ AMD และ Intel PCs

    ✅ Cocreator—ช่วยสร้างงานศิลปะใน Paint
    - ผู้ใช้สามารถสร้างภาพจาก ข้อความ (text prompt) หรือให้ AI ปรับแต่งภาพที่วาดเอง
    - ปัจจุบันเปิดให้ใช้งานบน AMD และ Intel PCs ที่มี NPU

    ✅ Restyle Image และ Image Creator ในแอป Photos
    - Restyle Image เป็นฟีเจอร์ปรับแต่งภาพให้เป็นสไตล์ศิลปะ เช่น ภาพสเก็ตช์หรือสีน้ำมัน
    - Image Creator ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างภาพจากคำสั่งข้อความได้โดยตรง

    ✅ ต้องอัปเดต Windows 11 และเปิดใช้งานการอัปเดตล่าสุด
    - ผู้ใช้ต้องติดตั้ง March non-security preview update
    - ต้องเปิดตัวเลือก Get the latest updates as soon as they’re available ใน Settings

    ✅ ฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น Voice Access จะเปิดตัวภายในปีนี้
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ สั่งงาน Windows ผ่านเสียงได้ดีขึ้น
    - ปัจจุบันเปิดให้ใช้งานบน Snapdragon X และจะมาใน AMD และ Intel PCs ช่วงปลายปี

    https://www.tomshardware.com/software/windows/snapdragon-x-exclusive-copilot-features-begin-trickling-through-to-modern-x86-windows-11-pcs
    Microsoft ประกาศว่า ฟีเจอร์ AI Copilot+ ที่เคยเป็นเอกสิทธิ์สำหรับ Snapdragon X ตอนนี้จะเริ่มทยอยปล่อยให้ใช้งานบน AMD Ryzen AI 300 series และ Intel Core Ultra 200V PCs โดยฟีเจอร์ที่สำคัญ ได้แก่ Live Captions, Cocreator, Restyle Image และ Image Creator ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สร้างสรรค์คอนเทนต์และปรับแต่งรูปภาพได้ง่ายขึ้น ✅ Live Captions พร้อมแปลภาษาแบบเรียลไทม์ - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแปลเสียงพูดจาก 27 ภาษาเป็นภาษาจีนแบบย่อ - เดิมทีใช้ได้เฉพาะบน Snapdragon X แต่ตอนนี้เตรียมเปิดตัวให้กับ AMD และ Intel PCs ✅ Cocreator—ช่วยสร้างงานศิลปะใน Paint - ผู้ใช้สามารถสร้างภาพจาก ข้อความ (text prompt) หรือให้ AI ปรับแต่งภาพที่วาดเอง - ปัจจุบันเปิดให้ใช้งานบน AMD และ Intel PCs ที่มี NPU ✅ Restyle Image และ Image Creator ในแอป Photos - Restyle Image เป็นฟีเจอร์ปรับแต่งภาพให้เป็นสไตล์ศิลปะ เช่น ภาพสเก็ตช์หรือสีน้ำมัน - Image Creator ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างภาพจากคำสั่งข้อความได้โดยตรง ✅ ต้องอัปเดต Windows 11 และเปิดใช้งานการอัปเดตล่าสุด - ผู้ใช้ต้องติดตั้ง March non-security preview update - ต้องเปิดตัวเลือก Get the latest updates as soon as they’re available ใน Settings ✅ ฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น Voice Access จะเปิดตัวภายในปีนี้ - ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ สั่งงาน Windows ผ่านเสียงได้ดีขึ้น - ปัจจุบันเปิดให้ใช้งานบน Snapdragon X และจะมาใน AMD และ Intel PCs ช่วงปลายปี https://www.tomshardware.com/software/windows/snapdragon-x-exclusive-copilot-features-begin-trickling-through-to-modern-x86-windows-11-pcs
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Snapdragon X exclusive Copilot+ features begin trickling through to modern x86 Windows 11 PCs
    AMD Ryzen AI 300 series and Intel Core Ultra 200V PCs are getting Live Captions, Cocreator, Restyle Image, and Image Creator.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้เริ่มการผลิตชิป 18A ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุด โดยใช้ Gate-All-Around Transistors และ Backside Power Delivery Panther Lake จะเป็นชิปรุ่นแรกที่ใช้ 18A และอาจช่วยให้ Intel แข่งขันกับ TSMC ได้ดีกว่าเดิม ขณะที่ Nvidia และ Broadcom กำลังทดสอบเวเฟอร์ของ Intel และ TSMC กำลังเตรียมเปิดตัว N2 node ในปีนี้

    ✅ Risk Production คืออะไร?
    - Risk Production เป็นกระบวนการ ทดสอบการผลิตในปริมาณน้อย ก่อนเข้าสู่การผลิตเต็มรูปแบบ
    - Intel กำลังขยายกำลังการผลิตจาก หลักร้อยเป็นหลักพันแผ่นเวเฟอร์ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตเชิงพาณิชย์

    ✅ Panther Lake CPUs จะเป็นชิปรุ่นแรกที่ใช้ 18A
    - คาดว่า Panther Lake จะมี AI Performance ดีขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับ Core Ultra 200V
    - Intel ตั้งเป้าผลิตจำนวนมากก่อนสิ้นปีนี้

    ✅ เทคโนโลยี 18A ล้ำกว่าคู่แข่งอย่างไร?
    - Intel ใช้ Gate-All-Around (GAA) Transistors และ Backside Power Delivery
    - GAA ลดการรั่วไหลของพลังงาน ขณะที่ Backside Power Delivery ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์
    - TSMC จะนำ GAA มาใช้ใน N2 node ซึ่งกำลังเข้าสู่ช่วงผลิตเร็ว ๆ นี้

    ✅ อนาคตของ Intel กับ 28A และ Nova Lake
    - Intel จะเริ่มออกแบบ 28A node ในครึ่งแรกของปี 2025
    - ชิป Nova Lake และ Clearwater Forest จะตามมาในปี 2026
    - Nova Lake จะใช้ ซิลิคอนจาก TSMC ขณะที่ Clearwater Forest จะเป็นชิป 18A สำหรับตลาดเซิร์ฟเวอร์

    ✅ คู่แข่งที่กำลังจับตาดู 18A ของ Intel
    - Nvidia และ Broadcom กำลังทดสอบ เวเฟอร์ 18A แต่ยังไม่ชัดเจนว่าพวกเขาจะใช้ในการผลิตจริง
    - Apple เป็นลูกค้าหลักของ TSMC N2 และอาจใช้ใน iPhone 18 Pro ที่เปิดตัวปี 2026

    https://www.techspot.com/news/107380-intel-18a-node-enters-risk-production-paving-way.html
    Intel ได้เริ่มการผลิตชิป 18A ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยที่สุด โดยใช้ Gate-All-Around Transistors และ Backside Power Delivery Panther Lake จะเป็นชิปรุ่นแรกที่ใช้ 18A และอาจช่วยให้ Intel แข่งขันกับ TSMC ได้ดีกว่าเดิม ขณะที่ Nvidia และ Broadcom กำลังทดสอบเวเฟอร์ของ Intel และ TSMC กำลังเตรียมเปิดตัว N2 node ในปีนี้ ✅ Risk Production คืออะไร? - Risk Production เป็นกระบวนการ ทดสอบการผลิตในปริมาณน้อย ก่อนเข้าสู่การผลิตเต็มรูปแบบ - Intel กำลังขยายกำลังการผลิตจาก หลักร้อยเป็นหลักพันแผ่นเวเฟอร์ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตเชิงพาณิชย์ ✅ Panther Lake CPUs จะเป็นชิปรุ่นแรกที่ใช้ 18A - คาดว่า Panther Lake จะมี AI Performance ดีขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับ Core Ultra 200V - Intel ตั้งเป้าผลิตจำนวนมากก่อนสิ้นปีนี้ ✅ เทคโนโลยี 18A ล้ำกว่าคู่แข่งอย่างไร? - Intel ใช้ Gate-All-Around (GAA) Transistors และ Backside Power Delivery - GAA ลดการรั่วไหลของพลังงาน ขณะที่ Backside Power Delivery ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ - TSMC จะนำ GAA มาใช้ใน N2 node ซึ่งกำลังเข้าสู่ช่วงผลิตเร็ว ๆ นี้ ✅ อนาคตของ Intel กับ 28A และ Nova Lake - Intel จะเริ่มออกแบบ 28A node ในครึ่งแรกของปี 2025 - ชิป Nova Lake และ Clearwater Forest จะตามมาในปี 2026 - Nova Lake จะใช้ ซิลิคอนจาก TSMC ขณะที่ Clearwater Forest จะเป็นชิป 18A สำหรับตลาดเซิร์ฟเวอร์ ✅ คู่แข่งที่กำลังจับตาดู 18A ของ Intel - Nvidia และ Broadcom กำลังทดสอบ เวเฟอร์ 18A แต่ยังไม่ชัดเจนว่าพวกเขาจะใช้ในการผลิตจริง - Apple เป็นลูกค้าหลักของ TSMC N2 และอาจใช้ใน iPhone 18 Pro ที่เปิดตัวปี 2026 https://www.techspot.com/news/107380-intel-18a-node-enters-risk-production-paving-way.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Intel's 18A node enters risk production, paving the way for Panther Lake
    Kevin O'Buckley, senior vice president and general manager of Intel Foundry Services, confirmed that risk production has begun for the company's upcoming 18A semiconductor node. The announcement,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google กำลังผลักดันมาตรฐานความปลอดภัยใหม่สำหรับการเข้ารหัส HTTPS โดยมุ่งเน้นไปที่ TLS Certificates ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ต ล่าสุดได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ Multi-Perspective Issuance Corroboration (MPIC) และระบบตรวจสอบอัตโนมัติ Linting เพื่อป้องกัน การออกใบรับรองปลอมและจุดอ่อนในการเข้ารหัสข้อมูล

    ✅ MPIC: เพิ่มการตรวจสอบก่อนออกใบรับรอง
    - MPIC ช่วยให้ระบบตรวจสอบ ความถูกต้องของโดเมน ก่อนออก TLS Certificate
    - ลดความเสี่ยงที่แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ Domain Control Validation เพื่อขอใบรับรองปลอม

    ✅ Linting: ตรวจสอบความถูกต้องของใบรับรองก่อนใช้งาน
    - Linting ช่วยวิเคราะห์ X.509 Certificates เพื่อป้องกันปัญหาความเข้ากันไม่ได้
    - ตรวจจับ การเข้ารหัสที่ล้าสมัยและไม่ปลอดภัย เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์

    ✅ Google ได้รับการสนับสนุนจาก CA/Browser Forum
    - องค์กรที่กำหนดมาตรฐาน TLS Certificates ลงมติรับรอง MPIC และ Linting
    - Linting กลายเป็นมาตรฐานบังคับสำหรับใบรับรองที่ออกตั้งแต่ 15 มีนาคม 2025

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเว็บ
    - Certificate Authorities (CAs) ต้องปรับระบบให้รองรับ MPIC และ Linting
    - ระบบเข้ารหัสเว็บจะมีความ น่าเชื่อถือมากขึ้น และลดความเสี่ยงจากใบรับรองปลอม

    https://www.techspot.com/news/107378-google-promotes-new-security-requirements-https-encryption-providers.html
    Google กำลังผลักดันมาตรฐานความปลอดภัยใหม่สำหรับการเข้ารหัส HTTPS โดยมุ่งเน้นไปที่ TLS Certificates ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาความปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ต ล่าสุดได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ Multi-Perspective Issuance Corroboration (MPIC) และระบบตรวจสอบอัตโนมัติ Linting เพื่อป้องกัน การออกใบรับรองปลอมและจุดอ่อนในการเข้ารหัสข้อมูล ✅ MPIC: เพิ่มการตรวจสอบก่อนออกใบรับรอง - MPIC ช่วยให้ระบบตรวจสอบ ความถูกต้องของโดเมน ก่อนออก TLS Certificate - ลดความเสี่ยงที่แฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ Domain Control Validation เพื่อขอใบรับรองปลอม ✅ Linting: ตรวจสอบความถูกต้องของใบรับรองก่อนใช้งาน - Linting ช่วยวิเคราะห์ X.509 Certificates เพื่อป้องกันปัญหาความเข้ากันไม่ได้ - ตรวจจับ การเข้ารหัสที่ล้าสมัยและไม่ปลอดภัย เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ ✅ Google ได้รับการสนับสนุนจาก CA/Browser Forum - องค์กรที่กำหนดมาตรฐาน TLS Certificates ลงมติรับรอง MPIC และ Linting - Linting กลายเป็นมาตรฐานบังคับสำหรับใบรับรองที่ออกตั้งแต่ 15 มีนาคม 2025 ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเว็บ - Certificate Authorities (CAs) ต้องปรับระบบให้รองรับ MPIC และ Linting - ระบบเข้ารหัสเว็บจะมีความ น่าเชื่อถือมากขึ้น และลดความเสี่ยงจากใบรับรองปลอม https://www.techspot.com/news/107378-google-promotes-new-security-requirements-https-encryption-providers.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google promotes new security requirements for HTTPS encryption providers
    Google recently announced two major initiatives aimed at enhancing web security, with the ultimate goal of making encryption and certificate management more reliable and resilient against cybercrime....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • การใช้จ่ายด้าน AI จะพุ่งถึง $644 พันล้าน ในปี 2025 แม้ว่าหลายองค์กรยังไม่เข้าใจว่าการลงทุนใน Generative AI จะสร้างกำไรให้ธุรกิจอย่างไร Gartner เตือนว่า AI จะถูกตรวจสอบเข้มงวดขึ้นในปีนี้ ขณะที่ผู้ผลิตอุปกรณ์ผู้บริโภคกำลังทำให้ AI เป็นมาตรฐาน แม้ว่าผู้ใช้ทั่วไปจะไม่ได้เรียกร้องสิ่งนี้ก็ตาม

    ✅ ตลาด AI เติบโตอย่างรวดเร็ว แม้ว่าบางเทคโนโลยียังขาดประสิทธิภาพ
    - ผู้ให้บริการ โมเดล AI กำลังลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี
    - Gartner เตือนว่าโครงการ AI จะถูกตรวจสอบเข้มงวดขึ้นในปีนี้ เนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับความแม่นยำ

    ✅ องค์กรต้องเลือกระหว่างการพัฒนา AI เองหรือซื้อโซลูชันสำเร็จรูป
    - CIO หลายคน เลิกใช้โครงการ AI ภายใน และหันไปใช้ผลิตภัณฑ์ AI สำเร็จรูปแทน
    - แนวโน้มนี้จะทำให้ Proof-of-Concept AI ลดลง และโซลูชันแบบสำเร็จรูปเติบโตขึ้น

    ✅ AI จะถูกฝังในอุปกรณ์ผู้บริโภค โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนและพีซี
    - Gartner คาดว่า 80% ของการใช้จ่าย AI จะถูกดูดซับโดยฮาร์ดแวร์ เช่น เซิร์ฟเวอร์, สมาร์ทโฟน และพีซี
    - แม้ว่าผู้บริโภคจะไม่ได้ต้องการ AI ในทุกผลิตภัณฑ์ แต่ผู้ผลิตกำลังทำให้มันกลายเป็นมาตรฐาน

    ✅ อนาคตของตลาด AI: การเติบโตแบบ “บังคับให้เกิดขึ้น”
    - ผู้ผลิตกำลังทำให้ AI กลายเป็นมาตรฐานแม้ว่าผู้บริโภคจะไม่ได้ร้องขอ
    - นักวิเคราะห์เปรียบเทียบกับ ยุคของ Microsoft ที่เคยบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่

    https://www.techspot.com/news/107377-companies-spend-almost-644-billion-generative-ai-despite.html
    การใช้จ่ายด้าน AI จะพุ่งถึง $644 พันล้าน ในปี 2025 แม้ว่าหลายองค์กรยังไม่เข้าใจว่าการลงทุนใน Generative AI จะสร้างกำไรให้ธุรกิจอย่างไร Gartner เตือนว่า AI จะถูกตรวจสอบเข้มงวดขึ้นในปีนี้ ขณะที่ผู้ผลิตอุปกรณ์ผู้บริโภคกำลังทำให้ AI เป็นมาตรฐาน แม้ว่าผู้ใช้ทั่วไปจะไม่ได้เรียกร้องสิ่งนี้ก็ตาม ✅ ตลาด AI เติบโตอย่างรวดเร็ว แม้ว่าบางเทคโนโลยียังขาดประสิทธิภาพ - ผู้ให้บริการ โมเดล AI กำลังลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี - Gartner เตือนว่าโครงการ AI จะถูกตรวจสอบเข้มงวดขึ้นในปีนี้ เนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับความแม่นยำ ✅ องค์กรต้องเลือกระหว่างการพัฒนา AI เองหรือซื้อโซลูชันสำเร็จรูป - CIO หลายคน เลิกใช้โครงการ AI ภายใน และหันไปใช้ผลิตภัณฑ์ AI สำเร็จรูปแทน - แนวโน้มนี้จะทำให้ Proof-of-Concept AI ลดลง และโซลูชันแบบสำเร็จรูปเติบโตขึ้น ✅ AI จะถูกฝังในอุปกรณ์ผู้บริโภค โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนและพีซี - Gartner คาดว่า 80% ของการใช้จ่าย AI จะถูกดูดซับโดยฮาร์ดแวร์ เช่น เซิร์ฟเวอร์, สมาร์ทโฟน และพีซี - แม้ว่าผู้บริโภคจะไม่ได้ต้องการ AI ในทุกผลิตภัณฑ์ แต่ผู้ผลิตกำลังทำให้มันกลายเป็นมาตรฐาน ✅ อนาคตของตลาด AI: การเติบโตแบบ “บังคับให้เกิดขึ้น” - ผู้ผลิตกำลังทำให้ AI กลายเป็นมาตรฐานแม้ว่าผู้บริโภคจะไม่ได้ร้องขอ - นักวิเคราะห์เปรียบเทียบกับ ยุคของ Microsoft ที่เคยบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ https://www.techspot.com/news/107377-companies-spend-almost-644-billion-generative-ai-despite.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Gartner projects $644 billion in 2025 AI spending, but few understand GenAI's actual value
    A recent Gartner analysis reports that spending on generative AI (GenAI) will grow to unprecedented levels in 2025, even though very few organizations understand how this technology...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ประกาศให้ Lip-Bu Tan ขึ้นดำรงตำแหน่ง CEO คนใหม่ หลังจากที่ Pat Gelsinger ถูกบีบให้ลาออกเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องจากบอร์ดบริหารมองว่าแผนฟื้นฟูบริษัทดำเนินไป ช้ากว่าที่ตลาดต้องการ อย่างไรก็ตาม Tan ยังคงเดินหน้าตามแผนของ Gelsinger แต่จะปรับปรุงให้เร็วขึ้นเพื่อเรียกความมั่นใจจากอุตสาหกรรม

    ✅ Lip-Bu Tan มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีมายาวนาน
    - เขาเคยเป็น CEO ของ Cadence บริษัทออกแบบชิปชั้นนำ
    - ก่อตั้ง Walden International บริษัทด้านการลงทุนที่มุ่งเน้นเทคโนโลยี
    - เคยอยู่ในบอร์ดบริหารของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์หลายแห่ง

    ✅ Intel ยังคงเดินหน้าในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์และโรงงานผลิตชิป
    - Tan เชื่อว่า Intel ต้องเป็นทั้งผู้ผลิตและออกแบบชิป ไม่ใช่แค่ผลิตเพื่อใช้เอง แต่ต้องดึงลูกค้าใหญ่ เช่น Apple, Nvidia และ Qualcomm มาใช้บริการโรงงานของ Intel
    - กระแสข่าวลือว่า Intel อาจ แยกธุรกิจโรงงานออกเป็นบริษัทอิสระ แต่ยังไม่มีการยืนยัน

    ✅ ก้าวสำคัญ: เทคโนโลยี 18A และอนาคตของ Intel Foundry
    - Intel กำลังจะเปิดตัวเทคโนโลยี 18A ซึ่งมีฟีเจอร์ Backside Power Delivery และ RibbonFET Transistors
    - เทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยให้ชิปของ Intel เร็วกว่าชิป 2nm ของ TSMC
    - Tan ต้องโน้มน้าวบริษัทต่าง ๆ ให้มาใช้ Intel Foundry เพื่อสร้างฐานธุรกิจที่มั่นคง

    ✅ วิสัยทัศน์ของ CEO ใหม่—เร่งให้ Intel กลับมาเป็นผู้นำ
    - Tan ย้ำว่า Intel ต้อง ปรับวัฒนธรรมองค์กรให้รวดเร็วและคล่องตัวเหมือนสตาร์ทอัพ
    - ต้อง สร้างนวัตกรรมใหม่ด้าน AI และ Robotics ให้แข่งขันได้
    - เป้าหมายใหญ่คือ เรียกคืนความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรม และทำให้ Intel กลับมาเป็นศูนย์กลางของวงการเซมิคอนดักเตอร์

    https://www.techspot.com/news/107369-new-intel-ceo-lip-bu-tan-takes-reins.html
    Intel ประกาศให้ Lip-Bu Tan ขึ้นดำรงตำแหน่ง CEO คนใหม่ หลังจากที่ Pat Gelsinger ถูกบีบให้ลาออกเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องจากบอร์ดบริหารมองว่าแผนฟื้นฟูบริษัทดำเนินไป ช้ากว่าที่ตลาดต้องการ อย่างไรก็ตาม Tan ยังคงเดินหน้าตามแผนของ Gelsinger แต่จะปรับปรุงให้เร็วขึ้นเพื่อเรียกความมั่นใจจากอุตสาหกรรม ✅ Lip-Bu Tan มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีมายาวนาน - เขาเคยเป็น CEO ของ Cadence บริษัทออกแบบชิปชั้นนำ - ก่อตั้ง Walden International บริษัทด้านการลงทุนที่มุ่งเน้นเทคโนโลยี - เคยอยู่ในบอร์ดบริหารของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์หลายแห่ง ✅ Intel ยังคงเดินหน้าในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์และโรงงานผลิตชิป - Tan เชื่อว่า Intel ต้องเป็นทั้งผู้ผลิตและออกแบบชิป ไม่ใช่แค่ผลิตเพื่อใช้เอง แต่ต้องดึงลูกค้าใหญ่ เช่น Apple, Nvidia และ Qualcomm มาใช้บริการโรงงานของ Intel - กระแสข่าวลือว่า Intel อาจ แยกธุรกิจโรงงานออกเป็นบริษัทอิสระ แต่ยังไม่มีการยืนยัน ✅ ก้าวสำคัญ: เทคโนโลยี 18A และอนาคตของ Intel Foundry - Intel กำลังจะเปิดตัวเทคโนโลยี 18A ซึ่งมีฟีเจอร์ Backside Power Delivery และ RibbonFET Transistors - เทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยให้ชิปของ Intel เร็วกว่าชิป 2nm ของ TSMC - Tan ต้องโน้มน้าวบริษัทต่าง ๆ ให้มาใช้ Intel Foundry เพื่อสร้างฐานธุรกิจที่มั่นคง ✅ วิสัยทัศน์ของ CEO ใหม่—เร่งให้ Intel กลับมาเป็นผู้นำ - Tan ย้ำว่า Intel ต้อง ปรับวัฒนธรรมองค์กรให้รวดเร็วและคล่องตัวเหมือนสตาร์ทอัพ - ต้อง สร้างนวัตกรรมใหม่ด้าน AI และ Robotics ให้แข่งขันได้ - เป้าหมายใหญ่คือ เรียกคืนความเชื่อมั่นของอุตสาหกรรม และทำให้ Intel กลับมาเป็นศูนย์กลางของวงการเซมิคอนดักเตอร์ https://www.techspot.com/news/107369-new-intel-ceo-lip-bu-tan-takes-reins.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New Intel CEO Lip-Bu Tan takes the reins with a familiar but faster plan
    Taking a tech industry titan back to the heights from which it once reigned is no easy task for anyone. Just ask Pat Gelsinger, former CEO and...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft กำลังทดสอบ Quick Machine Recovery ซึ่งช่วยให้ IT ทีมสามารถกู้คืน Windows 11 ที่บูตไม่ได้จากระยะไกล ฟีเจอร์นี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันเหตุการณ์แบบ CrowdStrike ปีที่แล้ว ที่ทำให้เครื่องนับล้านพบ BSOD ฟีเจอร์จะทำให้เครื่องบูตเข้าสู่ Windows Recovery Environment เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และส่งข้อมูลไปยัง Microsoft เพื่อรับแพตช์แก้ไขโดยอัตโนมัติ

    ✅ ฟีเจอร์นี้ทำงานอย่างไร?
    - หากอุปกรณ์ บูตไม่ขึ้น ระบบจะเข้าสู่ Windows Recovery Environment (Windows RE) โดยอัตโนมัติ
    - อุปกรณ์จะเชื่อมต่อเครือข่ายผ่าน Wi-Fi หรือ Ethernet และส่งข้อมูลวิเคราะห์ความผิดพลาดไปยัง Microsoft
    - Microsoft ใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อระบุปัญหาที่เกิดขึ้น และพัฒนา แพตช์แก้ไข ซึ่งจะถูกส่งผ่าน Windows Update ไปยังอุปกรณ์ทั้งหมด

    ✅ เปรียบเทียบกับกรณี CrowdStrike ปีที่แล้ว
    - ใน กรกฎาคม 2024 อัปเดตจาก CrowdStrike ทำให้เครื่อง Windows จำนวนมากพบ Blue Screen of Death (BSOD)
    - IT ทีมต้องเดินทางไปยังแต่ละเครื่องเพื่อแก้ไขปัญหา
    - Quick Machine Recovery จะช่วยให้ การแก้ไขสามารถทำได้จากระยะไกล และลดภาระงานของ IT ทีม

    ✅ ใครสามารถใช้ฟีเจอร์นี้?
    - ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานโดย ค่าเริ่มต้น ใน Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 Insider Preview
    - ผู้ใช้ Windows Pro และ Enterprise สามารถ ปรับแต่งการตั้งค่า ผ่าน Command Prompt หรือ RemoteRemediation CSP
    - ผู้ดูแลระบบสามารถ ตั้งค่าเครือข่ายล่วงหน้า และกำหนดระยะเวลาการสแกน (แนะนำทุก 30 นาที) รวมถึงระยะเวลาการหมดเวลา (Timeout) (72 ชั่วโมง)

    ✅ อนาคตของระบบความปลอดภัยของ Windows
    - Microsoft วางแผน ยกเลิกการให้ Security Software เข้าถึง Kernel เพื่อป้องกันการโจมตีแบบลึก
    - Antivirus และ Security Tools จะต้อง ทำงานใน User Mode แทน

    https://www.techspot.com/news/107372-new-microsoft-feature-aims-prevent-crowdstrike-like-outages.html
    Microsoft กำลังทดสอบ Quick Machine Recovery ซึ่งช่วยให้ IT ทีมสามารถกู้คืน Windows 11 ที่บูตไม่ได้จากระยะไกล ฟีเจอร์นี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันเหตุการณ์แบบ CrowdStrike ปีที่แล้ว ที่ทำให้เครื่องนับล้านพบ BSOD ฟีเจอร์จะทำให้เครื่องบูตเข้าสู่ Windows Recovery Environment เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และส่งข้อมูลไปยัง Microsoft เพื่อรับแพตช์แก้ไขโดยอัตโนมัติ ✅ ฟีเจอร์นี้ทำงานอย่างไร? - หากอุปกรณ์ บูตไม่ขึ้น ระบบจะเข้าสู่ Windows Recovery Environment (Windows RE) โดยอัตโนมัติ - อุปกรณ์จะเชื่อมต่อเครือข่ายผ่าน Wi-Fi หรือ Ethernet และส่งข้อมูลวิเคราะห์ความผิดพลาดไปยัง Microsoft - Microsoft ใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อระบุปัญหาที่เกิดขึ้น และพัฒนา แพตช์แก้ไข ซึ่งจะถูกส่งผ่าน Windows Update ไปยังอุปกรณ์ทั้งหมด ✅ เปรียบเทียบกับกรณี CrowdStrike ปีที่แล้ว - ใน กรกฎาคม 2024 อัปเดตจาก CrowdStrike ทำให้เครื่อง Windows จำนวนมากพบ Blue Screen of Death (BSOD) - IT ทีมต้องเดินทางไปยังแต่ละเครื่องเพื่อแก้ไขปัญหา - Quick Machine Recovery จะช่วยให้ การแก้ไขสามารถทำได้จากระยะไกล และลดภาระงานของ IT ทีม ✅ ใครสามารถใช้ฟีเจอร์นี้? - ฟีเจอร์นี้เปิดใช้งานโดย ค่าเริ่มต้น ใน Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 Insider Preview - ผู้ใช้ Windows Pro และ Enterprise สามารถ ปรับแต่งการตั้งค่า ผ่าน Command Prompt หรือ RemoteRemediation CSP - ผู้ดูแลระบบสามารถ ตั้งค่าเครือข่ายล่วงหน้า และกำหนดระยะเวลาการสแกน (แนะนำทุก 30 นาที) รวมถึงระยะเวลาการหมดเวลา (Timeout) (72 ชั่วโมง) ✅ อนาคตของระบบความปลอดภัยของ Windows - Microsoft วางแผน ยกเลิกการให้ Security Software เข้าถึง Kernel เพื่อป้องกันการโจมตีแบบลึก - Antivirus และ Security Tools จะต้อง ทำงานใน User Mode แทน https://www.techspot.com/news/107372-new-microsoft-feature-aims-prevent-crowdstrike-like-outages.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New Microsoft Windows recovery feature aims to prevent CrowdStrike-like outages
    The feature, part of Microsoft's Windows Resiliency Initiative, was first announced last year. It's now being tested as part of the latest Windows Insider Preview build –...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • Generative AI ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือช่วยพิมพ์หรือวิเคราะห์ข้อมูลอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น "คู่คิด" ที่สามารถช่วยแนะนำไอเดียใหม่ ท้าทายความคิดเดิม และช่วยให้เราจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รายงานของ Capgemini พบว่ามีเพียง 15% ของผู้จัดการ 1,400 คน เท่านั้นที่ใช้ AI ในงานประจำวัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหลายคนยังไม่เข้าใจศักยภาพของ AI

    1) ช่วยจัดการตนเองให้ดีขึ้น
    - AI สามารถช่วยจัดการอีเมลและสรุปเอกสาร
    - ใช้ AI เพื่อประเมิน Feedback ที่ได้รับ และหาวิธีพัฒนาตนเอง
    - วิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อน เพื่อช่วยวางแผนการเติบโตในอาชีพ

    2) ช่วยเตรียมการสื่อสารและการนำเสนอ
    - AI สามารถช่วยสร้างเนื้อหาสำหรับงานนำเสนอ โดยคิดถึงผู้ฟัง และจัดโครงสร้างเนื้อหาให้เข้าใจง่าย
    - วิเคราะห์ Performance ของการพูดในอดีต และช่วยให้คำแนะนำเรื่อง โทนเสียงและภาษากาย
    - ช่วยเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์งาน โดยช่วยฝึกตอบคำถามที่อาจเกิดขึ้น

    3) ช่วยในการบริหารทีมและการประชุม
    - AI สามารถช่วยจัดตารางประชุมและบริหารองค์ประกอบของทีม
    - ใช้ AI เพื่อสร้าง Workshop Agenda ที่มีโครงสร้างชัดเจน
    - สร้างรายงานเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน ทรัพยากร และตารางเวลาของโครงการ

    4) ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ในทีม
    - AI สามารถช่วยคิดแนวทางใหม่ ๆ ในการแก้ปัญหา
    - วิเคราะห์ความต้องการของโครงการ และช่วยระบุว่า ทีมต้องมีทักษะอะไรบ้าง เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
    - สร้างไอเดียและมุมมองที่หลากหลาย เพื่อช่วยแก้ปัญหาความคิดสร้างสรรค์ที่ติดขัด

    https://www.zdnet.com/article/4-ways-you-can-start-using-gen-ai-to-its-full-potential/
    Generative AI ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือช่วยพิมพ์หรือวิเคราะห์ข้อมูลอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น "คู่คิด" ที่สามารถช่วยแนะนำไอเดียใหม่ ท้าทายความคิดเดิม และช่วยให้เราจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รายงานของ Capgemini พบว่ามีเพียง 15% ของผู้จัดการ 1,400 คน เท่านั้นที่ใช้ AI ในงานประจำวัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหลายคนยังไม่เข้าใจศักยภาพของ AI 1) ช่วยจัดการตนเองให้ดีขึ้น - AI สามารถช่วยจัดการอีเมลและสรุปเอกสาร - ใช้ AI เพื่อประเมิน Feedback ที่ได้รับ และหาวิธีพัฒนาตนเอง - วิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อน เพื่อช่วยวางแผนการเติบโตในอาชีพ 2) ช่วยเตรียมการสื่อสารและการนำเสนอ - AI สามารถช่วยสร้างเนื้อหาสำหรับงานนำเสนอ โดยคิดถึงผู้ฟัง และจัดโครงสร้างเนื้อหาให้เข้าใจง่าย - วิเคราะห์ Performance ของการพูดในอดีต และช่วยให้คำแนะนำเรื่อง โทนเสียงและภาษากาย - ช่วยเตรียมตัวสำหรับการสัมภาษณ์งาน โดยช่วยฝึกตอบคำถามที่อาจเกิดขึ้น 3) ช่วยในการบริหารทีมและการประชุม - AI สามารถช่วยจัดตารางประชุมและบริหารองค์ประกอบของทีม - ใช้ AI เพื่อสร้าง Workshop Agenda ที่มีโครงสร้างชัดเจน - สร้างรายงานเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน ทรัพยากร และตารางเวลาของโครงการ 4) ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ในทีม - AI สามารถช่วยคิดแนวทางใหม่ ๆ ในการแก้ปัญหา - วิเคราะห์ความต้องการของโครงการ และช่วยระบุว่า ทีมต้องมีทักษะอะไรบ้าง เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย - สร้างไอเดียและมุมมองที่หลากหลาย เพื่อช่วยแก้ปัญหาความคิดสร้างสรรค์ที่ติดขัด https://www.zdnet.com/article/4-ways-you-can-start-using-gen-ai-to-its-full-potential/
    WWW.ZDNET.COM
    4 ways you can start using gen AI to its full potential
    Used as a co-thinker, generative AI becomes a thought partner - engaging in conversation, suggesting new perspectives, and challenging assumptions or ideas.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • #สนธิเล่าเรื่อง 2 เม.ย. 2568
    https://www.youtube.com/live/k3czsjbPnKs
    #SondhiTalk #SondhiX
    #สนธิเล่าเรื่อง 2 เม.ย. 2568 https://www.youtube.com/live/k3czsjbPnKs #SondhiTalk #SondhiX
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/live/k3czsjbPnKs?si=Ueo7lGlpYPJCSEkT
    https://www.youtube.com/live/k3czsjbPnKs?si=Ueo7lGlpYPJCSEkT
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft Word ได้รับการอัปเดตใหม่ที่ช่วยให้สามารถสรุปเอกสารขนาดใหญ่ถึง 3,000 หน้า ผ่าน Copilot โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าต้องการสรุปแบบย่อ, สมดุล หรือแบบละเอียด ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การทำงานกับเอกสารยาว ๆ เช่น รายงานทางธุรกิจ และงานวิจัย มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ Microsoft กำลังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่จะช่วยให้การสรุปเอกสารเป็นไปอย่างชาญฉลาดมากขึ้นในอนาคต

    การใช้งาน Copilot ใน Word
    - ผู้ใช้สามารถเข้าถึงฟีเจอร์นี้ได้โดยเปิดเอกสารและคลิกปุ่ม Copilot ในแท็บ Home
    - เลือกขนาดสรุปที่ต้องการ: แบบย่อ (brief), สมดุล (balanced), หรือแบบละเอียด (detailed)

    การตอบโจทย์เอกสารขนาดใหญ่
    - Microsoft พบว่าผู้ใช้ต้องการ สรุปที่ละเอียดขึ้น เพื่อให้เข้าใจบริบทของเอกสารและสามารถสื่อสารกับทีมได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถทำงานกับ เอกสารทางกฎหมาย, รายงานทางธุรกิจ และงานวิจัย ได้ง่ายขึ้น

    อัปเดตนี้รองรับแพลตฟอร์มใดบ้าง?
    - ผู้ใช้ Microsoft 365 สามารถใช้ฟีเจอร์นี้บน Word for Windows (เวอร์ชัน 2503), Word for Mac (เวอร์ชัน 16.96) และ Word for the Web

    แนวโน้มของ Copilot ในอนาคต
    - Microsoft กำลังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น Copilot UI สำหรับเอกสารใหม่ และการสรุปเอกสารอัตโนมัติ
    - อนาคตของ Copilot อาจรวมถึงการ สร้างรายงานที่มีโครงสร้างชัดเจน โดยไม่ต้องแก้ไขเอง

    https://www.neowin.net/news/you-can-now-summarize-massive-documents-in-word/
    Microsoft Word ได้รับการอัปเดตใหม่ที่ช่วยให้สามารถสรุปเอกสารขนาดใหญ่ถึง 3,000 หน้า ผ่าน Copilot โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าต้องการสรุปแบบย่อ, สมดุล หรือแบบละเอียด ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การทำงานกับเอกสารยาว ๆ เช่น รายงานทางธุรกิจ และงานวิจัย มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ Microsoft กำลังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ที่จะช่วยให้การสรุปเอกสารเป็นไปอย่างชาญฉลาดมากขึ้นในอนาคต การใช้งาน Copilot ใน Word - ผู้ใช้สามารถเข้าถึงฟีเจอร์นี้ได้โดยเปิดเอกสารและคลิกปุ่ม Copilot ในแท็บ Home - เลือกขนาดสรุปที่ต้องการ: แบบย่อ (brief), สมดุล (balanced), หรือแบบละเอียด (detailed) การตอบโจทย์เอกสารขนาดใหญ่ - Microsoft พบว่าผู้ใช้ต้องการ สรุปที่ละเอียดขึ้น เพื่อให้เข้าใจบริบทของเอกสารและสามารถสื่อสารกับทีมได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น - นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถทำงานกับ เอกสารทางกฎหมาย, รายงานทางธุรกิจ และงานวิจัย ได้ง่ายขึ้น อัปเดตนี้รองรับแพลตฟอร์มใดบ้าง? - ผู้ใช้ Microsoft 365 สามารถใช้ฟีเจอร์นี้บน Word for Windows (เวอร์ชัน 2503), Word for Mac (เวอร์ชัน 16.96) และ Word for the Web แนวโน้มของ Copilot ในอนาคต - Microsoft กำลังพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น Copilot UI สำหรับเอกสารใหม่ และการสรุปเอกสารอัตโนมัติ - อนาคตของ Copilot อาจรวมถึงการ สร้างรายงานที่มีโครงสร้างชัดเจน โดยไม่ต้องแก้ไขเอง https://www.neowin.net/news/you-can-now-summarize-massive-documents-in-word/
    WWW.NEOWIN.NET
    You can now summarize massive documents in Word
    Microsoft has upgraded summarization capabilities in Word, and it can now generate seriously massive documents.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้ทำการแก้ไขปัญหาใน Linux Kernel หลังจากที่ Linus Torvalds ผู้พัฒนาหลักของ Linux แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโค้ดที่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการคอมไพล์ โดยปัญหานี้เกี่ยวข้องกับ Direct Rendering Manager (DRM) สำหรับ Intel Xe Graphics Driver ซึ่งมีการเพิ่มไฟล์ทดสอบที่สร้างปัญหาให้กับกระบวนการสร้างเคอร์เนล

    HDRTest Files สร้างปัญหาต่อกระบวนการคอมไพล์
    - Torvalds ชี้ให้เห็นว่าไฟล์ hdrtest ไม่ควรอยู่ในการคอมไพล์หลัก เพราะทำให้ระบบ ทำงานช้าลงและสร้างไฟล์ขยะในไดเรกทอรี
    - ไฟล์เหล่านี้ทำให้คำสั่ง git status แจ้งเตือนว่าไฟล์ไม่ได้ถูก ignore และส่งผลให้ผู้ใช้พบไฟล์ที่ไม่จำเป็นในระบบ

    ปฏิกิริยาจาก Intel
    - Jani Nikula วิศวกร Linux ของ Intel ตอบโต้ด้วยการบอกว่า จะ "ซ่อนไฟล์ขยะเหล่านี้" ไว้ในไดเรกทอรีย่อย และเพิ่มตัวเลือก Kconfig เพื่อควบคุมการตรวจสอบโค้ด
    - การแก้ไขนี้ช่วยให้โค้ดทำงานเร็วขึ้นและลดปัญหาการรบกวนของไฟล์ที่ไม่จำเป็น

    Torvalds ยืนยันว่าไฟล์ HDRTest ควรถูกกำจัดออกไป
    - แม้ว่า Intel จะเสนอทางออกในการซ่อนไฟล์เหล่านี้ Torvalds ยืนยันว่าควรลบออกไปเลย
    - เขาแนะนำให้ Intel แยกการทดสอบเหล่านี้เป็น make drm-hdrtest เพื่อให้สามารถรันได้แยกจากการคอมไพล์หลัก

    การปรับปรุงโค้ดสำหรับ Linux Kernel 6.15
    - การเปลี่ยนแปลงนี้จะถูกบรรจุใน Linux Kernel 6.15 ซึ่งจะช่วยให้การคอมไพล์ทำงานได้เร็วขึ้นและไม่มีไฟล์ขยะที่รบกวนระบบ

    https://www.neowin.net/news/intel-gives-linus-torvalds-funny-taste-of-his-own-language-to-hide-disgusting-broken-turds/
    Intel ได้ทำการแก้ไขปัญหาใน Linux Kernel หลังจากที่ Linus Torvalds ผู้พัฒนาหลักของ Linux แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโค้ดที่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการคอมไพล์ โดยปัญหานี้เกี่ยวข้องกับ Direct Rendering Manager (DRM) สำหรับ Intel Xe Graphics Driver ซึ่งมีการเพิ่มไฟล์ทดสอบที่สร้างปัญหาให้กับกระบวนการสร้างเคอร์เนล HDRTest Files สร้างปัญหาต่อกระบวนการคอมไพล์ - Torvalds ชี้ให้เห็นว่าไฟล์ hdrtest ไม่ควรอยู่ในการคอมไพล์หลัก เพราะทำให้ระบบ ทำงานช้าลงและสร้างไฟล์ขยะในไดเรกทอรี - ไฟล์เหล่านี้ทำให้คำสั่ง git status แจ้งเตือนว่าไฟล์ไม่ได้ถูก ignore และส่งผลให้ผู้ใช้พบไฟล์ที่ไม่จำเป็นในระบบ ปฏิกิริยาจาก Intel - Jani Nikula วิศวกร Linux ของ Intel ตอบโต้ด้วยการบอกว่า จะ "ซ่อนไฟล์ขยะเหล่านี้" ไว้ในไดเรกทอรีย่อย และเพิ่มตัวเลือก Kconfig เพื่อควบคุมการตรวจสอบโค้ด - การแก้ไขนี้ช่วยให้โค้ดทำงานเร็วขึ้นและลดปัญหาการรบกวนของไฟล์ที่ไม่จำเป็น Torvalds ยืนยันว่าไฟล์ HDRTest ควรถูกกำจัดออกไป - แม้ว่า Intel จะเสนอทางออกในการซ่อนไฟล์เหล่านี้ Torvalds ยืนยันว่าควรลบออกไปเลย - เขาแนะนำให้ Intel แยกการทดสอบเหล่านี้เป็น make drm-hdrtest เพื่อให้สามารถรันได้แยกจากการคอมไพล์หลัก การปรับปรุงโค้ดสำหรับ Linux Kernel 6.15 - การเปลี่ยนแปลงนี้จะถูกบรรจุใน Linux Kernel 6.15 ซึ่งจะช่วยให้การคอมไพล์ทำงานได้เร็วขึ้นและไม่มีไฟล์ขยะที่รบกวนระบบ https://www.neowin.net/news/intel-gives-linus-torvalds-funny-taste-of-his-own-language-to-hide-disgusting-broken-turds/
    WWW.NEOWIN.NET
    Intel gives Linus Torvalds funny taste of his own language to "hide disgusting broken turds"
    An Intel employee has given a funny response to Linus Torvalds as they clean up the "disgusted broken turd" pointed out by Torvalds.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3/
    เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียใช้โดรน Geran-2 หลายสิบลำโจมตีโรงงานอุตสาหกรรม Promsvyaz พร้อมๆกันในพื้นที่ภูมิภาคคาร์คิฟ(Kharkiv) จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก
    3/ เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียใช้โดรน Geran-2 หลายสิบลำโจมตีโรงงานอุตสาหกรรม Promsvyaz พร้อมๆกันในพื้นที่ภูมิภาคคาร์คิฟ(Kharkiv) จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • 2/
    เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียใช้โดรน Geran-2 หลายสิบลำโจมตีโรงงานอุตสาหกรรม Promsvyaz พร้อมๆกันในพื้นที่ภูมิภาคคาร์คิฟ(Kharkiv) จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก
    2/ เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียใช้โดรน Geran-2 หลายสิบลำโจมตีโรงงานอุตสาหกรรม Promsvyaz พร้อมๆกันในพื้นที่ภูมิภาคคาร์คิฟ(Kharkiv) จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • 1/
    เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียใช้โดรน Geran-2 หลายสิบลำโจมตีโรงงานอุตสาหกรรม Promsvyaz พร้อมๆกันในพื้นที่ภูมิภาคคาร์คิฟ(Kharkiv) จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก
    1/ เมื่อคืนที่ผ่านมา รัสเซียใช้โดรน Geran-2 หลายสิบลำโจมตีโรงงานอุตสาหกรรม Promsvyaz พร้อมๆกันในพื้นที่ภูมิภาคคาร์คิฟ(Kharkiv) จนได้รับความเสียหายอย่างหนัก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/mzyiV19ioyk?si=ez_iEAYYLZ3QA6GE
    https://youtu.be/mzyiV19ioyk?si=ez_iEAYYLZ3QA6GE
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานครยกเลิกประกาศฯ ฉบับวันที่ 31 มีนาคม 2568 และคงให้ประกาศฯ ฉบับวันที่ 28 มีนาคม 2568 มีผลบังคับใช้ต่อไป เพื่อสนับสนุนภารกิจค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเฉพาะกรณีอาคารทรุดตัวในเขตจตุจักร พร้อมเดินหน้าประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031153
    กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานครยกเลิกประกาศฯ ฉบับวันที่ 31 มีนาคม 2568 และคงให้ประกาศฯ ฉบับวันที่ 28 มีนาคม 2568 มีผลบังคับใช้ต่อไป เพื่อสนับสนุนภารกิจค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเฉพาะกรณีอาคารทรุดตัวในเขตจตุจักร พร้อมเดินหน้าประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031153
    Like
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/live/ByYPUflPS8s?si=y6R5t0k282HgtCWW
    https://www.youtube.com/live/ByYPUflPS8s?si=y6R5t0k282HgtCWW
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts