• เรื่องเล่าจาก Youtu-Agent ถึง Coze Studio: เมื่อจีนไม่รอใคร และกำลังสร้างระบบนิเวศของ AI agentic tools

    ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 จีนเริ่มเปิดตัวชุดเครื่องมือสร้าง AI agent แบบโอเพ่นซอร์สอย่างต่อเนื่อง โดยมี Tencent, ByteDance และ Alibaba เป็นหัวหอกหลักในการผลักดัน “agentic frameworks”—ซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างและจัดการ AI agents ที่ทำงานอัตโนมัติได้

    ล่าสุด Tencent เปิดตัว Youtu-Agent บน GitHub ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กที่พัฒนาโดย Youtu Labs และใช้โมเดล DeepSeek-V3.1 เป็นฐาน โดยสามารถทำคะแนนได้ถึง 71.47% บน WebWalkerQA ซึ่งเป็น benchmark สำหรับการเดินทางในเว็บแบบอัตโนมัติ

    ก่อนหน้านี้ ByteDance ได้เปิดตัว Coze Studio ในเดือนกรกฎาคม และ Alibaba เปิดตัว Qwen-Agent ในเดือนมีนาคม โดยทั้งสองเฟรมเวิร์กได้รับดาวบน GitHub มากกว่า 10,000 ดวงแล้ว ถือเป็นสัญญาณว่าเครื่องมือจากจีนเริ่มได้รับความนิยมในระดับโลก แม้จะยังตามหลัง LangChain ที่มีมากกว่า 115,000 ดาวอยู่มาก

    สิ่งที่ทำให้ Youtu-Agent น่าสนใจคือการใช้ YAML (Yet Another Markup Language) แทนการเขียนโค้ด เพื่อกำหนดพฤติกรรมของเอเจนต์ และมี “meta-agent” ที่สามารถพูดคุยกับผู้ใช้เพื่อสร้าง YAML ให้โดยอัตโนมัติ—ลดภาระของนักพัฒนา และเปิดโอกาสให้ผู้เริ่มต้นสามารถสร้างเอเจนต์ได้ง่ายขึ้น

    Tencent ยังเปิดตัวโมเดลแปลภาษาแบบโอเพ่นซอร์สที่ชนะการแข่งขันระดับโลก และปล่อยเวอร์ชันย่อยของโมเดล Hunyuan ที่สามารถรันบน GPU ระดับ consumer ได้ ซึ่งสะท้อนถึงแนวทาง “ประชาธิปไตยของ AI” ที่จีนกำลังผลักดัน

    การเปิดตัว agentic frameworks จากจีน
    Tencent เปิดตัว Youtu-Agent บน GitHub โดยใช้ DeepSeek-V3.1
    ByteDance เปิดตัว Coze Studio ในเดือนกรกฎาคม
    Alibaba เปิดตัว Qwen-Agent ในเดือนมีนาคม

    ความสามารถของ Youtu-Agent
    ทำคะแนน 71.47% บน WebWalkerQA benchmark
    ใช้ YAML ในการกำหนดพฤติกรรมของเอเจนต์
    มี meta-agent ที่ช่วยสร้าง YAML โดยอัตโนมัติ

    ความนิยมและการเปรียบเทียบ
    Coze Studio และ Qwen-Agent มีดาวบน GitHub มากกว่า 10,000 ดวง
    LangChain จากสหรัฐฯ มีมากกว่า 115,000 ดาว
    IBM จัดอันดับว่าเฟรมเวิร์กยอดนิยมยังเป็นของฝั่งสหรัฐฯ เช่น AutoGen, CrewAI

    การขยาย ecosystem ของ Tencent
    เปิดตัวโมเดลแปลภาษาที่ชนะการแข่งขันระดับโลก
    ปล่อยเวอร์ชันย่อยของ Hunyuan ที่รันบน GPU ระดับ consumer
    เปิดตัวเอเจนต์เฉพาะทางสำหรับงาน coding และ marketing ในงาน WAIC

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/05/china-advances-in-ai-agentic-tools-as-tencent-bytedance-weigh-in
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Youtu-Agent ถึง Coze Studio: เมื่อจีนไม่รอใคร และกำลังสร้างระบบนิเวศของ AI agentic tools ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 จีนเริ่มเปิดตัวชุดเครื่องมือสร้าง AI agent แบบโอเพ่นซอร์สอย่างต่อเนื่อง โดยมี Tencent, ByteDance และ Alibaba เป็นหัวหอกหลักในการผลักดัน “agentic frameworks”—ซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างและจัดการ AI agents ที่ทำงานอัตโนมัติได้ ล่าสุด Tencent เปิดตัว Youtu-Agent บน GitHub ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กที่พัฒนาโดย Youtu Labs และใช้โมเดล DeepSeek-V3.1 เป็นฐาน โดยสามารถทำคะแนนได้ถึง 71.47% บน WebWalkerQA ซึ่งเป็น benchmark สำหรับการเดินทางในเว็บแบบอัตโนมัติ ก่อนหน้านี้ ByteDance ได้เปิดตัว Coze Studio ในเดือนกรกฎาคม และ Alibaba เปิดตัว Qwen-Agent ในเดือนมีนาคม โดยทั้งสองเฟรมเวิร์กได้รับดาวบน GitHub มากกว่า 10,000 ดวงแล้ว ถือเป็นสัญญาณว่าเครื่องมือจากจีนเริ่มได้รับความนิยมในระดับโลก แม้จะยังตามหลัง LangChain ที่มีมากกว่า 115,000 ดาวอยู่มาก สิ่งที่ทำให้ Youtu-Agent น่าสนใจคือการใช้ YAML (Yet Another Markup Language) แทนการเขียนโค้ด เพื่อกำหนดพฤติกรรมของเอเจนต์ และมี “meta-agent” ที่สามารถพูดคุยกับผู้ใช้เพื่อสร้าง YAML ให้โดยอัตโนมัติ—ลดภาระของนักพัฒนา และเปิดโอกาสให้ผู้เริ่มต้นสามารถสร้างเอเจนต์ได้ง่ายขึ้น Tencent ยังเปิดตัวโมเดลแปลภาษาแบบโอเพ่นซอร์สที่ชนะการแข่งขันระดับโลก และปล่อยเวอร์ชันย่อยของโมเดล Hunyuan ที่สามารถรันบน GPU ระดับ consumer ได้ ซึ่งสะท้อนถึงแนวทาง “ประชาธิปไตยของ AI” ที่จีนกำลังผลักดัน ✅ การเปิดตัว agentic frameworks จากจีน ➡️ Tencent เปิดตัว Youtu-Agent บน GitHub โดยใช้ DeepSeek-V3.1 ➡️ ByteDance เปิดตัว Coze Studio ในเดือนกรกฎาคม ➡️ Alibaba เปิดตัว Qwen-Agent ในเดือนมีนาคม ✅ ความสามารถของ Youtu-Agent ➡️ ทำคะแนน 71.47% บน WebWalkerQA benchmark ➡️ ใช้ YAML ในการกำหนดพฤติกรรมของเอเจนต์ ➡️ มี meta-agent ที่ช่วยสร้าง YAML โดยอัตโนมัติ ✅ ความนิยมและการเปรียบเทียบ ➡️ Coze Studio และ Qwen-Agent มีดาวบน GitHub มากกว่า 10,000 ดวง ➡️ LangChain จากสหรัฐฯ มีมากกว่า 115,000 ดาว ➡️ IBM จัดอันดับว่าเฟรมเวิร์กยอดนิยมยังเป็นของฝั่งสหรัฐฯ เช่น AutoGen, CrewAI ✅ การขยาย ecosystem ของ Tencent ➡️ เปิดตัวโมเดลแปลภาษาที่ชนะการแข่งขันระดับโลก ➡️ ปล่อยเวอร์ชันย่อยของ Hunyuan ที่รันบน GPU ระดับ consumer ➡️ เปิดตัวเอเจนต์เฉพาะทางสำหรับงาน coding และ marketing ในงาน WAIC https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/05/china-advances-in-ai-agentic-tools-as-tencent-bytedance-weigh-in
    WWW.THESTAR.COM.MY
    China advances in AI agentic tools as Tencent, ByteDance weigh in
    Tencent is the latest to join the fray after the Shenzhen-based company open-sourced its new Youtu-Agent agentic framework on Tuesday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก B30A: เมื่อชิปที่ถูกลดสเปกกลายเป็นของหายากที่จีนยอมจ่ายแพงขึ้น 2 เท่า

    Nvidia กำลังเตรียมส่งมอบ B30A ซึ่งเป็นชิป AI รุ่นใหม่ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดจีน โดยมีราคาสูงถึง $20,000–$25,000 ต่อชิ้น—มากกว่ารุ่นก่อนหน้า H20 ที่ขายอยู่ที่ $10,000–$12,000 ถึงเท่าตัว2 แม้จะเป็นเวอร์ชันที่ถูกลดสเปกจาก B300 ตัวเต็ม แต่บริษัทจีนอย่าง ByteDance และ Alibaba กลับมองว่า “คุ้มค่า” เพราะ B30A ยังให้ประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นเดิมถึง 6 เท่า และยังคงรองรับซอฟต์แวร์ของ Nvidia ได้ดี

    B30A ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell แบบ single-die ซึ่งเป็นการลดขนาดจาก B300 ที่ใช้ dual-die เพื่อให้ผ่านข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ โดยมีประสิทธิภาพครึ่งหนึ่งของ B300 ในทุกระดับ precision ตั้งแต่ FP4 ไปจนถึง TF32

    แม้รัฐบาลจีนจะพยายามผลักดันให้บริษัทในประเทศใช้ชิปภายในประเทศมากขึ้น และมีคำแนะนำให้หยุดซื้อ H20 แต่ความต้องการยังคงสูงมาก จนเกิดการลักลอบนำเข้าชิป Nvidia มูลค่ากว่า $1 พันล้านในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และทำให้เกิด backlog การอนุมัติใบอนุญาตส่งออกที่หนักที่สุดในรอบ 30 ปีที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ

    ขณะเดียวกัน Nvidia ก็เริ่มลดการผลิต H20 และรอการอนุมัติส่งออก B30A อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะกลายเป็นตัวแทนหลักของบริษัทในตลาดจีน หากได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลสหรัฐฯ

    การเปิดตัวและคุณสมบัติของ B30A
    เป็นชิป AI รุ่นใหม่ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดจีน
    ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell แบบ single-die ลดสเปกจาก B300
    ประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่น H20 ถึง 6 เท่า แม้จะถูกลดสเปก

    ราคาของ B30A และความต้องการในจีน
    ราคาสูงถึง $20,000–$25,000 ต่อชิ้น เท่าตัวของ H20
    บริษัทจีนอย่าง ByteDance และ Alibaba ยอมจ่ายเพราะยังคุ้มค่า
    ความต้องการสูงแม้จะมีคำแนะนำจากรัฐบาลให้หยุดซื้อ

    สถานการณ์การส่งออกและการอนุมัติ
    Nvidia รอการอนุมัติส่งออก B30A จากรัฐบาลสหรัฐฯ
    เกิด backlog การอนุมัติใบอนุญาตที่หนักที่สุดในรอบ 30 ปี
    Nvidia เริ่มลดการผลิต H20 และเตรียมเปลี่ยนไปใช้ B30A

    บริบททางภูมิรัฐศาสตร์และอุตสาหกรรม
    การลักลอบนำเข้าชิป Nvidia มูลค่ากว่า $1 พันล้านใน 3 เดือน
    รัฐบาลจีนผลักดันให้ใช้ชิปในประเทศ แต่ยังไม่สามารถแทนที่ได้ทันที
    Nvidia ยังเป็นผู้เล่นหลักในตลาด AI ของจีนในระยะสั้นถึงกลาง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidias-next-gen-ai-chip-could-double-the-price-of-h20-if-china-export-is-approved-chinese-firms-still-consider-nvidias-b30a-a-good-deal
    🎙️ เรื่องเล่าจาก B30A: เมื่อชิปที่ถูกลดสเปกกลายเป็นของหายากที่จีนยอมจ่ายแพงขึ้น 2 เท่า Nvidia กำลังเตรียมส่งมอบ B30A ซึ่งเป็นชิป AI รุ่นใหม่ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดจีน โดยมีราคาสูงถึง $20,000–$25,000 ต่อชิ้น—มากกว่ารุ่นก่อนหน้า H20 ที่ขายอยู่ที่ $10,000–$12,000 ถึงเท่าตัว2 แม้จะเป็นเวอร์ชันที่ถูกลดสเปกจาก B300 ตัวเต็ม แต่บริษัทจีนอย่าง ByteDance และ Alibaba กลับมองว่า “คุ้มค่า” เพราะ B30A ยังให้ประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นเดิมถึง 6 เท่า และยังคงรองรับซอฟต์แวร์ของ Nvidia ได้ดี B30A ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell แบบ single-die ซึ่งเป็นการลดขนาดจาก B300 ที่ใช้ dual-die เพื่อให้ผ่านข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ โดยมีประสิทธิภาพครึ่งหนึ่งของ B300 ในทุกระดับ precision ตั้งแต่ FP4 ไปจนถึง TF32 แม้รัฐบาลจีนจะพยายามผลักดันให้บริษัทในประเทศใช้ชิปภายในประเทศมากขึ้น และมีคำแนะนำให้หยุดซื้อ H20 แต่ความต้องการยังคงสูงมาก จนเกิดการลักลอบนำเข้าชิป Nvidia มูลค่ากว่า $1 พันล้านในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา และทำให้เกิด backlog การอนุมัติใบอนุญาตส่งออกที่หนักที่สุดในรอบ 30 ปีที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ขณะเดียวกัน Nvidia ก็เริ่มลดการผลิต H20 และรอการอนุมัติส่งออก B30A อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะกลายเป็นตัวแทนหลักของบริษัทในตลาดจีน หากได้รับไฟเขียวจากรัฐบาลสหรัฐฯ ✅ การเปิดตัวและคุณสมบัติของ B30A ➡️ เป็นชิป AI รุ่นใหม่ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดจีน ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell แบบ single-die ลดสเปกจาก B300 ➡️ ประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่น H20 ถึง 6 เท่า แม้จะถูกลดสเปก ✅ ราคาของ B30A และความต้องการในจีน ➡️ ราคาสูงถึง $20,000–$25,000 ต่อชิ้น เท่าตัวของ H20 ➡️ บริษัทจีนอย่าง ByteDance และ Alibaba ยอมจ่ายเพราะยังคุ้มค่า ➡️ ความต้องการสูงแม้จะมีคำแนะนำจากรัฐบาลให้หยุดซื้อ ✅ สถานการณ์การส่งออกและการอนุมัติ ➡️ Nvidia รอการอนุมัติส่งออก B30A จากรัฐบาลสหรัฐฯ ➡️ เกิด backlog การอนุมัติใบอนุญาตที่หนักที่สุดในรอบ 30 ปี ➡️ Nvidia เริ่มลดการผลิต H20 และเตรียมเปลี่ยนไปใช้ B30A ✅ บริบททางภูมิรัฐศาสตร์และอุตสาหกรรม ➡️ การลักลอบนำเข้าชิป Nvidia มูลค่ากว่า $1 พันล้านใน 3 เดือน ➡️ รัฐบาลจีนผลักดันให้ใช้ชิปในประเทศ แต่ยังไม่สามารถแทนที่ได้ทันที ➡️ Nvidia ยังเป็นผู้เล่นหลักในตลาด AI ของจีนในระยะสั้นถึงกลาง https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidias-next-gen-ai-chip-could-double-the-price-of-h20-if-china-export-is-approved-chinese-firms-still-consider-nvidias-b30a-a-good-deal
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากบัตรเครดิตที่พูดได้: เมื่อ Alibaba เปลี่ยนเครื่องบันทึกเสียงให้กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะ

    ในงานครบรอบ 10 ปีของ DingTalk เมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2025 Alibaba เปิดตัว DingTalk A1 ซึ่งเป็นเครื่องบันทึกเสียงขนาดเท่าบัตรเครดิตที่อัดแน่นด้วยความสามารถด้าน AI โดยใช้โมเดลจาก Tongyi AI Lab ที่เทรนด้วยเสียงกว่า 100 ล้านชั่วโมง ทำให้สามารถเข้าใจได้มากกว่า 100 ภาษาและ 30 สำเนียงจีน รวมถึงศัพท์เฉพาะจากกว่า 200 อุตสาหกรรม

    A1 ไม่ได้แค่บันทึกเสียง แต่สามารถสรุปประชุม, แปลภาษาแบบเรียลไทม์, วิเคราะห์เนื้อหา และสร้างเอกสารในรูปแบบต่าง ๆ เช่น minutes, to-do list หรือแม้แต่ mindmap โดยไม่ต้องพึ่งมนุษย์เลยแม้แต่นิดเดียว

    เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Plaud Note Pro (US$179) และ Mobvoi TicNote (US$159.99) แล้ว DingTalk A1 มีราคาถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัดที่ 499–799 หยวน (US$69.98–111.8) และยังมีฟีเจอร์ที่โดดเด่น เช่น OLED สี, USB-C, การเชื่อมต่อกับแอป DingTalk โดยตรง และการรองรับโมเดล AI ชั้นนำจากจีน เช่น Qwen3-235B, DeepSeek-V3

    ตลาด AI hardware ในจีนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 1.1 ล้านล้านหยวนในปีนี้ และเพิ่มเป็น 2.5 ล้านล้านภายในปี 2030 ซึ่งเป็นผลจากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล, การพึ่งพาเทคโนโลยีภายในประเทศ และการนำ AI ไปใช้ในอุตสาหกรรมแบบกว้างขวาง

    การเปิดตัว DingTalk A1
    เปิดตัวในงานครบรอบ 10 ปีของ DingTalk
    ขนาดเท่าบัตรเครดิต หนาเพียง 3.8 มม. น้ำหนัก ~40 กรัม
    มี OLED สี, USB-C, รองรับการสรุป, แปล, วิเคราะห์, สร้าง mindmap

    ความสามารถด้าน AI
    เทรนด้วยเสียงกว่า 100 ล้านชั่วโมงจาก Tongyi AI Lab
    รองรับมากกว่า 100 ภาษา, 30 สำเนียงจีน, และศัพท์เฉพาะจาก 200 อุตสาหกรรม
    ใช้โมเดล AI ชั้นนำ เช่น Qwen, DeepSeek, QwQ-plus

    การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง
    Plaud Note Pro ราคา US$179, ใช้ GPT-4.1, Claude 4, Gemini 2.5
    TicNote ราคา US$159.99, ใช้ DeepSeek-V3, Kimi-k2, รองรับ mindmap และ insight
    DingTalk A1 ถูกกว่า, เชื่อมกับแอป DingTalk โดยตรง, ไม่ต้องติดตั้งแยก

    แนวโน้มตลาด AI hardware ในจีน
    มูลค่าตลาดปี 2025 อยู่ที่ 1.1 ล้านล้านหยวน
    คาดว่าจะเพิ่มเป็น 2.5 ล้านล้านหยวนภายในปี 2030
    การเติบโตมาจากนโยบายรัฐ, การพึ่งพาเทคโนโลยีในประเทศ, และการนำ AI ไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/04/chinas-latest-ai-gadget-is-a-credit-card-sized-recorder-from-alibabas-dingtalk
    🎙️ เรื่องเล่าจากบัตรเครดิตที่พูดได้: เมื่อ Alibaba เปลี่ยนเครื่องบันทึกเสียงให้กลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะ ในงานครบรอบ 10 ปีของ DingTalk เมื่อปลายเดือนสิงหาคม 2025 Alibaba เปิดตัว DingTalk A1 ซึ่งเป็นเครื่องบันทึกเสียงขนาดเท่าบัตรเครดิตที่อัดแน่นด้วยความสามารถด้าน AI โดยใช้โมเดลจาก Tongyi AI Lab ที่เทรนด้วยเสียงกว่า 100 ล้านชั่วโมง ทำให้สามารถเข้าใจได้มากกว่า 100 ภาษาและ 30 สำเนียงจีน รวมถึงศัพท์เฉพาะจากกว่า 200 อุตสาหกรรม A1 ไม่ได้แค่บันทึกเสียง แต่สามารถสรุปประชุม, แปลภาษาแบบเรียลไทม์, วิเคราะห์เนื้อหา และสร้างเอกสารในรูปแบบต่าง ๆ เช่น minutes, to-do list หรือแม้แต่ mindmap โดยไม่ต้องพึ่งมนุษย์เลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Plaud Note Pro (US$179) และ Mobvoi TicNote (US$159.99) แล้ว DingTalk A1 มีราคาถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัดที่ 499–799 หยวน (US$69.98–111.8) และยังมีฟีเจอร์ที่โดดเด่น เช่น OLED สี, USB-C, การเชื่อมต่อกับแอป DingTalk โดยตรง และการรองรับโมเดล AI ชั้นนำจากจีน เช่น Qwen3-235B, DeepSeek-V3 ตลาด AI hardware ในจีนกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 1.1 ล้านล้านหยวนในปีนี้ และเพิ่มเป็น 2.5 ล้านล้านภายในปี 2030 ซึ่งเป็นผลจากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล, การพึ่งพาเทคโนโลยีภายในประเทศ และการนำ AI ไปใช้ในอุตสาหกรรมแบบกว้างขวาง ✅ การเปิดตัว DingTalk A1 ➡️ เปิดตัวในงานครบรอบ 10 ปีของ DingTalk ➡️ ขนาดเท่าบัตรเครดิต หนาเพียง 3.8 มม. น้ำหนัก ~40 กรัม ➡️ มี OLED สี, USB-C, รองรับการสรุป, แปล, วิเคราะห์, สร้าง mindmap ✅ ความสามารถด้าน AI ➡️ เทรนด้วยเสียงกว่า 100 ล้านชั่วโมงจาก Tongyi AI Lab ➡️ รองรับมากกว่า 100 ภาษา, 30 สำเนียงจีน, และศัพท์เฉพาะจาก 200 อุตสาหกรรม ➡️ ใช้โมเดล AI ชั้นนำ เช่น Qwen, DeepSeek, QwQ-plus ✅ การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง ➡️ Plaud Note Pro ราคา US$179, ใช้ GPT-4.1, Claude 4, Gemini 2.5 ➡️ TicNote ราคา US$159.99, ใช้ DeepSeek-V3, Kimi-k2, รองรับ mindmap และ insight ➡️ DingTalk A1 ถูกกว่า, เชื่อมกับแอป DingTalk โดยตรง, ไม่ต้องติดตั้งแยก ✅ แนวโน้มตลาด AI hardware ในจีน ➡️ มูลค่าตลาดปี 2025 อยู่ที่ 1.1 ล้านล้านหยวน ➡️ คาดว่าจะเพิ่มเป็น 2.5 ล้านล้านหยวนภายในปี 2030 ➡️ การเติบโตมาจากนโยบายรัฐ, การพึ่งพาเทคโนโลยีในประเทศ, และการนำ AI ไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/04/chinas-latest-ai-gadget-is-a-credit-card-sized-recorder-from-alibabas-dingtalk
    WWW.THESTAR.COM.MY
    China’s latest AI gadget is a credit card-sized recorder from Alibaba’s DingTalk
    Transcription capability developed with Alibaba's Tongyi AI lab, using over 100 million hours of audio content for training.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • เฉิงตู สี่ดรุณี 6,888

    🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน
    ✈ VZ-ไทยเวียดเจ็ท แอร์
    พักโรงแรม

    ภูเขาสี่ดรุณี
    หุบเขาซวงเฉียวโกว (รวมรถประจำทางในอุทยาน)
    สะพานหนานเฉียว
    แพนด้าเซลฟี่
    ถนนคนเดินชุนซีลู่
    แพนด้ายักษ์ปีนตึก IFS
    ถนนคนเดินไท่กู่หลี่

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์จีน #เฉิงตู #china #chengdu #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เฉิงตู สี่ดรุณี 🍁🍀 6,888 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน ✈ VZ-ไทยเวียดเจ็ท แอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐⭐ 📍 ภูเขาสี่ดรุณี 📍 หุบเขาซวงเฉียวโกว (รวมรถประจำทางในอุทยาน) 📍 สะพานหนานเฉียว 📍 แพนด้าเซลฟี่ 📍 ถนนคนเดินชุนซีลู่ 📍 แพนด้ายักษ์ปีนตึก IFS 📍 ถนนคนเดินไท่กู่หลี่ รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จีน #เฉิงตู #china #chengdu #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากเหมืองมูลค่า 175,000 ล้านดอลลาร์: เมื่อมาเลเซียกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของมหาอำนาจด้านแร่หายาก

    ในปี 2025 มาเลเซียค้นพบแหล่งแร่หายากขนาดมหึมา มูลค่าประเมินกว่า 175,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์, พลังงานสะอาด, และเทคโนโลยีทางทหาร โดยเฉพาะในยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ AI และ EV

    จีนซึ่งครองตลาดแร่หายากมากกว่า 90% ของการแปรรูปทั่วโลก เสนอให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคแก่มาเลเซียในการพัฒนาโรงงานแปรรูป แต่มีเงื่อนไขสำคัญ: ต้องร่วมมือเฉพาะกับรัฐวิสาหกิจของมาเลเซียเท่านั้น เพื่อป้องกันการรั่วไหลของเทคโนโลยีไปยังตะวันตก

    ข้อเสนอของจีนเกิดขึ้นหลังจากที่ปิดกั้นสหรัฐฯ จากการเข้าถึงแร่หายาก และเริ่มใช้มาตรการควบคุมการส่งออกแม่เหล็กถาวรและแร่บางชนิด ทำให้มาเลเซียกลายเป็น “ตัวกลาง” ที่ทั้งจีนและสหรัฐฯ ต้องการดึงเข้าฝั่ง

    แม้จะยังไม่มีการลงนามข้อตกลงอย่างเป็นทางการ แต่รัฐบาลมาเลเซียยืนยันว่าจะพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเน้นความเป็นกลางและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศ เช่น การสร้างโรงงานแปรรูป, การจ้างงานกว่า 4,000 ตำแหน่ง, และการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

    ขณะเดียวกัน มาเลเซียก็ยังเจรจากับสหรัฐฯ โดยเสนอว่าจะใช้มาตรฐานเดียวกันกับทุกฝ่าย และใช้ทรัพยากรที่ค้นพบเป็น “แต้มต่อ” ในการต่อรองเรื่องภาษีนำเข้าและการซื้อเทคโนโลยีจากอเมริกา

    ข้อเสนอจากจีน
    เสนอความช่วยเหลือทางเทคนิคในการแปรรูปแร่หายาก
    จำกัดความร่วมมือเฉพาะกับรัฐวิสาหกิจของมาเลเซีย
    หวังป้องกันการรั่วไหลของเทคโนโลยีไปยังตะวันตก

    สถานะของแร่หายากในมาเลเซีย
    พบแหล่งแร่หายากมูลค่ากว่า 175,000 ล้านดอลลาร์
    คาดว่าจะสร้างงานกว่า 4,000 ตำแหน่ง
    มีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการแปรรูปนอกประเทศจีน

    การเจรจากับสหรัฐฯ
    มาเลเซียเสนอความเป็นกลางและมาตรฐานเดียวกับทุกฝ่าย
    ใช้ทรัพยากรเป็นแต้มต่อในการต่อรองเรื่องภาษีนำเข้า
    สหรัฐฯ กำลังหาทางลดการพึ่งพาจีนใน supply chain

    โครงสร้างอุตสาหกรรมในประเทศ
    Lynas Malaysia เป็นโรงงานแปรรูปแร่หายากที่ใหญ่ที่สุดนอกจีน
    มีแผนสร้างโรงงานใหม่และดึงดูดนักลงทุนจากเกาหลีใต้และออสเตรเลีย
    รัฐบาลวางแผนพัฒนาโรงงานแปรรูปในหลายรัฐ เช่น เประและกลันตัน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/after-locking-out-the-u-s-china-offers-rare-earth-development-assistance-to-malaysia-insists-on-partnering-with-state-owned-companies-only
    🎙️ เรื่องเล่าจากเหมืองมูลค่า 175,000 ล้านดอลลาร์: เมื่อมาเลเซียกลายเป็นเป้าหมายใหม่ของมหาอำนาจด้านแร่หายาก ในปี 2025 มาเลเซียค้นพบแหล่งแร่หายากขนาดมหึมา มูลค่าประเมินกว่า 175,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์, พลังงานสะอาด, และเทคโนโลยีทางทหาร โดยเฉพาะในยุคที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านสู่ AI และ EV จีนซึ่งครองตลาดแร่หายากมากกว่า 90% ของการแปรรูปทั่วโลก เสนอให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคแก่มาเลเซียในการพัฒนาโรงงานแปรรูป แต่มีเงื่อนไขสำคัญ: ต้องร่วมมือเฉพาะกับรัฐวิสาหกิจของมาเลเซียเท่านั้น เพื่อป้องกันการรั่วไหลของเทคโนโลยีไปยังตะวันตก ข้อเสนอของจีนเกิดขึ้นหลังจากที่ปิดกั้นสหรัฐฯ จากการเข้าถึงแร่หายาก และเริ่มใช้มาตรการควบคุมการส่งออกแม่เหล็กถาวรและแร่บางชนิด ทำให้มาเลเซียกลายเป็น “ตัวกลาง” ที่ทั้งจีนและสหรัฐฯ ต้องการดึงเข้าฝั่ง แม้จะยังไม่มีการลงนามข้อตกลงอย่างเป็นทางการ แต่รัฐบาลมาเลเซียยืนยันว่าจะพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเน้นความเป็นกลางและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศ เช่น การสร้างโรงงานแปรรูป, การจ้างงานกว่า 4,000 ตำแหน่ง, และการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ขณะเดียวกัน มาเลเซียก็ยังเจรจากับสหรัฐฯ โดยเสนอว่าจะใช้มาตรฐานเดียวกันกับทุกฝ่าย และใช้ทรัพยากรที่ค้นพบเป็น “แต้มต่อ” ในการต่อรองเรื่องภาษีนำเข้าและการซื้อเทคโนโลยีจากอเมริกา ✅ ข้อเสนอจากจีน ➡️ เสนอความช่วยเหลือทางเทคนิคในการแปรรูปแร่หายาก ➡️ จำกัดความร่วมมือเฉพาะกับรัฐวิสาหกิจของมาเลเซีย ➡️ หวังป้องกันการรั่วไหลของเทคโนโลยีไปยังตะวันตก ✅ สถานะของแร่หายากในมาเลเซีย ➡️ พบแหล่งแร่หายากมูลค่ากว่า 175,000 ล้านดอลลาร์ ➡️ คาดว่าจะสร้างงานกว่า 4,000 ตำแหน่ง ➡️ มีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการแปรรูปนอกประเทศจีน ✅ การเจรจากับสหรัฐฯ ➡️ มาเลเซียเสนอความเป็นกลางและมาตรฐานเดียวกับทุกฝ่าย ➡️ ใช้ทรัพยากรเป็นแต้มต่อในการต่อรองเรื่องภาษีนำเข้า ➡️ สหรัฐฯ กำลังหาทางลดการพึ่งพาจีนใน supply chain ✅ โครงสร้างอุตสาหกรรมในประเทศ ➡️ Lynas Malaysia เป็นโรงงานแปรรูปแร่หายากที่ใหญ่ที่สุดนอกจีน ➡️ มีแผนสร้างโรงงานใหม่และดึงดูดนักลงทุนจากเกาหลีใต้และออสเตรเลีย ➡️ รัฐบาลวางแผนพัฒนาโรงงานแปรรูปในหลายรัฐ เช่น เประและกลันตัน https://www.tomshardware.com/tech-industry/after-locking-out-the-u-s-china-offers-rare-earth-development-assistance-to-malaysia-insists-on-partnering-with-state-owned-companies-only
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากคูปองพลังประมวลผล: เมื่อรัฐบาลจีนแจกเครดิตให้บริษัทเล็ก ๆ ใช้ GPU ระดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์

    ในปี 2025 รัฐบาลจีนเริ่มขยายโครงการ “คูปองพลังประมวลผล” ไปยังหลายเมืองทั่วประเทศ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู เซินเจิ้น หนิงโป และซานตง โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) เข้าถึงการฝึกโมเดล AI ได้ในราคาที่ถูกลงอย่างมาก

    ตัวอย่างเช่น เซี่ยงไฮ้จัดสรรงบประมาณกว่า 600 ล้านหยวน (~84 ล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนค่าเช่า GPU สูงสุดถึง 80% สำหรับการฝึกโมเดล AI และยังมีอีก 100 ล้านหยวนสำหรับการฝึก LLM โดยเฉพาะ ส่วนเฉิงตูซึ่งเป็นเมืองนำร่องตั้งแต่ปี 2023 ก็ขยายโครงการไปยังสถาบันวิจัยด้วยงบอีก 100 ล้านหยวน

    คูปองเหล่านี้สามารถนำไปใช้กับศูนย์ข้อมูลระดับชาติหรือท้องถิ่นที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตะวันตกของจีนตามยุทธศาสตร์ “Eastern Data, Western Computing” ที่ใช้ไฟฟ้าราคาถูกในตะวันตกเพื่อรองรับความต้องการจากเมืองชายฝั่ง

    โครงการนี้เกิดจากนโยบาย “Implementation Opinions on Promoting the High-Quality Development of the Data Labeling Industry” ที่ประกาศในเดือนธันวาคม 2024 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุน R&D ของบริษัทเล็ก และเพิ่มการใช้ประโยชน์จากศูนย์ข้อมูลที่ยังว่างอยู่มากถึง 70–80%

    โครงการคูปองพลังประมวลผลของจีน
    แจกคูปองให้ SMEs ใช้ GPU สำหรับฝึกโมเดล AI ในราคาถูก
    ครอบคลุมเมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู เซินเจิ้น หนิงโป ซานตง
    เซี่ยงไฮ้ให้ส่วนลดสูงสุด 80% และมีงบเฉพาะสำหรับ LLM training

    เป้าหมายของโครงการ
    ลดต้นทุน R&D สำหรับบริษัทขนาดเล็ก
    เพิ่มการใช้ประโยชน์จากศูนย์ข้อมูลที่ยังว่างอยู่
    สนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรม AI ภายในประเทศ

    โครงสร้างพื้นฐานที่รองรับ
    ใช้ศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ตะวันตกของจีนตามยุทธศาสตร์ “Eastern Data, Western Computing”
    ศูนย์ข้อมูลบางแห่งมีการใช้งานเพียง 20–30% ก่อนโครงการนี้
    มีแผนสร้างเครือข่าย unified compute ระดับประเทศเพื่อกระจายโหลด

    การขยายตัวของโครงการ
    เฉิงตูขยายคูปองไปยังสถาบันวิจัยด้วยงบ 100 ล้านหยวน
    ซานตงจัดสรรงบเบื้องต้น 30 ล้านหยวน และเตรียมเพิ่มอีก 1 พันล้านหยวน
    ปักกิ่งเริ่มเปิดรับสมัครผู้ขอรับคูปองแล้ว

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/china-subsidizes-ai-computing-for-small-domestic-companies-computing-power-vouchers-spread-across-multiple-chinese-cities
    🎙️ เรื่องเล่าจากคูปองพลังประมวลผล: เมื่อรัฐบาลจีนแจกเครดิตให้บริษัทเล็ก ๆ ใช้ GPU ระดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ในปี 2025 รัฐบาลจีนเริ่มขยายโครงการ “คูปองพลังประมวลผล” ไปยังหลายเมืองทั่วประเทศ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู เซินเจิ้น หนิงโป และซานตง โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) เข้าถึงการฝึกโมเดล AI ได้ในราคาที่ถูกลงอย่างมาก ตัวอย่างเช่น เซี่ยงไฮ้จัดสรรงบประมาณกว่า 600 ล้านหยวน (~84 ล้านดอลลาร์) เพื่อสนับสนุนค่าเช่า GPU สูงสุดถึง 80% สำหรับการฝึกโมเดล AI และยังมีอีก 100 ล้านหยวนสำหรับการฝึก LLM โดยเฉพาะ ส่วนเฉิงตูซึ่งเป็นเมืองนำร่องตั้งแต่ปี 2023 ก็ขยายโครงการไปยังสถาบันวิจัยด้วยงบอีก 100 ล้านหยวน คูปองเหล่านี้สามารถนำไปใช้กับศูนย์ข้อมูลระดับชาติหรือท้องถิ่นที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตะวันตกของจีนตามยุทธศาสตร์ “Eastern Data, Western Computing” ที่ใช้ไฟฟ้าราคาถูกในตะวันตกเพื่อรองรับความต้องการจากเมืองชายฝั่ง โครงการนี้เกิดจากนโยบาย “Implementation Opinions on Promoting the High-Quality Development of the Data Labeling Industry” ที่ประกาศในเดือนธันวาคม 2024 โดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุน R&D ของบริษัทเล็ก และเพิ่มการใช้ประโยชน์จากศูนย์ข้อมูลที่ยังว่างอยู่มากถึง 70–80% ✅ โครงการคูปองพลังประมวลผลของจีน ➡️ แจกคูปองให้ SMEs ใช้ GPU สำหรับฝึกโมเดล AI ในราคาถูก ➡️ ครอบคลุมเมืองใหญ่ เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ เฉิงตู เซินเจิ้น หนิงโป ซานตง ➡️ เซี่ยงไฮ้ให้ส่วนลดสูงสุด 80% และมีงบเฉพาะสำหรับ LLM training ✅ เป้าหมายของโครงการ ➡️ ลดต้นทุน R&D สำหรับบริษัทขนาดเล็ก ➡️ เพิ่มการใช้ประโยชน์จากศูนย์ข้อมูลที่ยังว่างอยู่ ➡️ สนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรม AI ภายในประเทศ ✅ โครงสร้างพื้นฐานที่รองรับ ➡️ ใช้ศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ตะวันตกของจีนตามยุทธศาสตร์ “Eastern Data, Western Computing” ➡️ ศูนย์ข้อมูลบางแห่งมีการใช้งานเพียง 20–30% ก่อนโครงการนี้ ➡️ มีแผนสร้างเครือข่าย unified compute ระดับประเทศเพื่อกระจายโหลด ✅ การขยายตัวของโครงการ ➡️ เฉิงตูขยายคูปองไปยังสถาบันวิจัยด้วยงบ 100 ล้านหยวน ➡️ ซานตงจัดสรรงบเบื้องต้น 30 ล้านหยวน และเตรียมเพิ่มอีก 1 พันล้านหยวน ➡️ ปักกิ่งเริ่มเปิดรับสมัครผู้ขอรับคูปองแล้ว https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/china-subsidizes-ai-computing-for-small-domestic-companies-computing-power-vouchers-spread-across-multiple-chinese-cities
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก YMTC x CXMT: เมื่อ NAND และ DRAM รวมพลังเพื่อสร้าง HBM รุ่นถัดไป

    ในปี 2025 จีนกำลังเร่งเครื่องเข้าสู่ยุค self-reliance ทางเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะในด้านหน่วยความจำที่มีความสำคัญต่อ AI, HPC และระบบคลาวด์ ล่าสุด YMTC (Yangtze Memory Technologies) ซึ่งเป็นผู้ผลิต NAND ชั้นนำของจีน ได้ประกาศจับมือกับ CXMT (ChangXin Memory Technologies) ซึ่งเป็นผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ที่สุดของประเทศ เพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยี HBM3 และ HBM รุ่นถัดไป

    CXMT เคยผลิต HBM2 ได้แล้ว และกำลังเร่งเข้าสู่ HBM3 ด้วยเทคนิค hybrid bonding ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่าง die มีความหนาแน่นและประสิทธิภาพสูงขึ้น ขณะที่ YMTC ซึ่งเคยร่วมมือกับ Samsung มาก่อน มีความเชี่ยวชาญด้าน NAND และ packaging ที่สามารถนำมาใช้ใน HBM ได้โดยตรง

    การร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแบ่งปันเทคโนโลยี แต่เป็นการสร้าง supply chain ภายในประเทศที่สามารถผลิต HBM ได้ครบวงจร ตั้งแต่ DRAM wafer ไปจนถึงการประกอบแบบ 3D stacking ซึ่งเป็นหัวใจของชิป AI เช่น Nvidia H100 หรือ AMD MI300

    นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า YMTC ได้เริ่มสั่งซื้ออุปกรณ์ R&D สำหรับ DRAM แล้ว และมีแผนจะลงทุนในสายการผลิต DRAM โดยตรง ซึ่งจะทำให้จีนมีผู้ผลิตหน่วยความจำแบบครบทุกประเภท—NAND, DRAM, และ HBM—ภายในประเทศ

    https://wccftech.com/china-ymtc-set-to-enter-the-dram-segment-by-partnering-with-cxmt/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก YMTC x CXMT: เมื่อ NAND และ DRAM รวมพลังเพื่อสร้าง HBM รุ่นถัดไป ในปี 2025 จีนกำลังเร่งเครื่องเข้าสู่ยุค self-reliance ทางเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะในด้านหน่วยความจำที่มีความสำคัญต่อ AI, HPC และระบบคลาวด์ ล่าสุด YMTC (Yangtze Memory Technologies) ซึ่งเป็นผู้ผลิต NAND ชั้นนำของจีน ได้ประกาศจับมือกับ CXMT (ChangXin Memory Technologies) ซึ่งเป็นผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ที่สุดของประเทศ เพื่อร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยี HBM3 และ HBM รุ่นถัดไป CXMT เคยผลิต HBM2 ได้แล้ว และกำลังเร่งเข้าสู่ HBM3 ด้วยเทคนิค hybrid bonding ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่าง die มีความหนาแน่นและประสิทธิภาพสูงขึ้น ขณะที่ YMTC ซึ่งเคยร่วมมือกับ Samsung มาก่อน มีความเชี่ยวชาญด้าน NAND และ packaging ที่สามารถนำมาใช้ใน HBM ได้โดยตรง การร่วมมือครั้งนี้ไม่ใช่แค่การแบ่งปันเทคโนโลยี แต่เป็นการสร้าง supply chain ภายในประเทศที่สามารถผลิต HBM ได้ครบวงจร ตั้งแต่ DRAM wafer ไปจนถึงการประกอบแบบ 3D stacking ซึ่งเป็นหัวใจของชิป AI เช่น Nvidia H100 หรือ AMD MI300 นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า YMTC ได้เริ่มสั่งซื้ออุปกรณ์ R&D สำหรับ DRAM แล้ว และมีแผนจะลงทุนในสายการผลิต DRAM โดยตรง ซึ่งจะทำให้จีนมีผู้ผลิตหน่วยความจำแบบครบทุกประเภท—NAND, DRAM, และ HBM—ภายในประเทศ https://wccftech.com/china-ymtc-set-to-enter-the-dram-segment-by-partnering-with-cxmt/
    WCCFTECH.COM
    China's YMTC Reportedly Set to Enter the DRAM Segment by Partnering with Domestic Expert CXMT, Collaborating on HBM Technologies
    Chinese memory manufacturers are teaming up for HBM production, as the prominent NAND firm YMTC partners up with CXMT in a push towards HBM3.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Nanjing: เมื่อ TSMC ต้องขออนุญาตทุกครั้งเพื่อส่งเครื่องมือไปยังโรงงานของตัวเอง

    ในช่วงปลายปี 2025 รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกสิทธิ์ Validated End User (VEU) ของ TSMC สำหรับโรงงาน Fab 16 ที่เมืองหนานจิง ประเทศจีน ซึ่งเดิมทีอนุญาตให้ TSMC สามารถนำเข้าเครื่องมือผลิตชิปจากบริษัทอเมริกัน เช่น Applied Materials, KLA และ Lam Research ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตรายครั้ง

    เมื่อ VEU ถูกยกเลิกตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2025 เป็นต้นไป ทุกการส่งออกเครื่องมือ, อะไหล่, หรือสารเคมีไปยัง Fab 16 จะต้องผ่านการตรวจสอบแบบรายรายการจากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมี “แนวโน้มปฏิเสธ” เป็นค่าเริ่มต้น ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในการดำเนินงานของโรงงานนี้

    แม้ TSMC จะยืนยันว่าจะพยายามดำเนินงานต่อไปโดยไม่สะดุด แต่การเปลี่ยนแปลงนี้อาจบีบให้บริษัทต้องหันไปใช้เครื่องมือจากผู้ผลิตจีน เช่น AMEC, Naura, Kingsemi หรือ Piotech ซึ่งแม้จะมีความก้าวหน้าในบางด้าน แต่ยังไม่สามารถทดแทนเครื่องมือระดับ 16nm ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะในส่วนของ lithography ที่ยังไม่มีผู้ผลิตจีนรายใดสามารถทำได้ในระดับที่ TSMC ต้องการ

    ผลกระทบต่อ TSMC อาจไม่รุนแรงเท่ากับ Samsung หรือ SK hynix ที่มี footprint ในจีนมากกว่า แต่การลดกำลังผลิตของ Fab 16 จะส่งผลดีต่อผู้ผลิตจีนอย่าง SMIC และ HuaHong ที่อาจได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น และช่วยผลักดันนโยบาย self-sufficiency ของรัฐบาลจีนให้เดินหน้าเร็วขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/u-s-govt-revokes-tsmcs-authorization-to-ship-tools-to-its-fabs-in-china-special-export-license-to-be-pulled-by-end-of-2025
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Nanjing: เมื่อ TSMC ต้องขออนุญาตทุกครั้งเพื่อส่งเครื่องมือไปยังโรงงานของตัวเอง ในช่วงปลายปี 2025 รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกสิทธิ์ Validated End User (VEU) ของ TSMC สำหรับโรงงาน Fab 16 ที่เมืองหนานจิง ประเทศจีน ซึ่งเดิมทีอนุญาตให้ TSMC สามารถนำเข้าเครื่องมือผลิตชิปจากบริษัทอเมริกัน เช่น Applied Materials, KLA และ Lam Research ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตรายครั้ง เมื่อ VEU ถูกยกเลิกตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2025 เป็นต้นไป ทุกการส่งออกเครื่องมือ, อะไหล่, หรือสารเคมีไปยัง Fab 16 จะต้องผ่านการตรวจสอบแบบรายรายการจากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมี “แนวโน้มปฏิเสธ” เป็นค่าเริ่มต้น ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในการดำเนินงานของโรงงานนี้ แม้ TSMC จะยืนยันว่าจะพยายามดำเนินงานต่อไปโดยไม่สะดุด แต่การเปลี่ยนแปลงนี้อาจบีบให้บริษัทต้องหันไปใช้เครื่องมือจากผู้ผลิตจีน เช่น AMEC, Naura, Kingsemi หรือ Piotech ซึ่งแม้จะมีความก้าวหน้าในบางด้าน แต่ยังไม่สามารถทดแทนเครื่องมือระดับ 16nm ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะในส่วนของ lithography ที่ยังไม่มีผู้ผลิตจีนรายใดสามารถทำได้ในระดับที่ TSMC ต้องการ ผลกระทบต่อ TSMC อาจไม่รุนแรงเท่ากับ Samsung หรือ SK hynix ที่มี footprint ในจีนมากกว่า แต่การลดกำลังผลิตของ Fab 16 จะส่งผลดีต่อผู้ผลิตจีนอย่าง SMIC และ HuaHong ที่อาจได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น และช่วยผลักดันนโยบาย self-sufficiency ของรัฐบาลจีนให้เดินหน้าเร็วขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/u-s-govt-revokes-tsmcs-authorization-to-ship-tools-to-its-fabs-in-china-special-export-license-to-be-pulled-by-end-of-2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก WeChat ถึง Douyin: เมื่อโพสต์ทุกชิ้นต้องบอกว่า “มนุษย์หรือ AI”

    ในเดือนกันยายน 2025 จีนได้บังคับใช้กฎหมายใหม่ที่กำหนดให้ทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต้องติดป้ายกำกับเนื้อหาที่สร้างโดย AI อย่างชัดเจน ทั้งในรูปแบบที่ผู้ใช้มองเห็นได้ (explicit labels) และฝังไว้ใน metadata สำหรับระบบอัตโนมัติ (implicit identifiers) โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ, deepfake, และการชักจูงทางความคิดผ่านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

    แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ของจีน เช่น WeChat, Douyin (TikTok เวอร์ชันจีน), Weibo และ RedNote ต่างออกประกาศให้ผู้ใช้ต้อง “ประกาศด้วยตัวเอง” หากโพสต์นั้นสร้างด้วย AI และห้ามลบหรือแก้ไขป้ายกำกับที่ระบบติดไว้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืน อาจถูกลบโพสต์หรือถูกลงโทษตามที่ Cyberspace Administration of China (CAC) กำหนดไว้

    นอกจากนี้ CAC ยังเปิดช่องให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถ “รายงาน” เนื้อหาที่ไม่ได้ติดป้าย AI ได้ด้วยตนเอง และมีการตั้งระบบตรวจสอบ metadata เพื่อช่วยตรวจจับเนื้อหาที่หลุดรอดจากการติดป้าย

    แม้จีนจะเป็นประเทศแรกที่ออกกฎหมายลักษณะนี้อย่างเป็นทางการ แต่แนวคิดนี้กำลังแพร่ไปทั่วโลก เช่น Internet Engineering Task Force เสนอให้มี “AI header field” สำหรับเว็บไซต์ และ Google ก็เริ่มฝัง C2PA credentials ในภาพถ่ายจาก Pixel 10 เพื่อบอกว่า “ภาพนี้ผ่าน AI หรือไม่”


    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chinese-social-media-firms-comply-with-strict-ai-labelling-law-making-it-clear-to-users-and-bots-whats-real-and-whats-not
    🎙️ เรื่องเล่าจาก WeChat ถึง Douyin: เมื่อโพสต์ทุกชิ้นต้องบอกว่า “มนุษย์หรือ AI” ในเดือนกันยายน 2025 จีนได้บังคับใช้กฎหมายใหม่ที่กำหนดให้ทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต้องติดป้ายกำกับเนื้อหาที่สร้างโดย AI อย่างชัดเจน ทั้งในรูปแบบที่ผู้ใช้มองเห็นได้ (explicit labels) และฝังไว้ใน metadata สำหรับระบบอัตโนมัติ (implicit identifiers) โดยมีเป้าหมายเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของข้อมูลเท็จ, deepfake, และการชักจูงทางความคิดผ่านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ของจีน เช่น WeChat, Douyin (TikTok เวอร์ชันจีน), Weibo และ RedNote ต่างออกประกาศให้ผู้ใช้ต้อง “ประกาศด้วยตัวเอง” หากโพสต์นั้นสร้างด้วย AI และห้ามลบหรือแก้ไขป้ายกำกับที่ระบบติดไว้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืน อาจถูกลบโพสต์หรือถูกลงโทษตามที่ Cyberspace Administration of China (CAC) กำหนดไว้ นอกจากนี้ CAC ยังเปิดช่องให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถ “รายงาน” เนื้อหาที่ไม่ได้ติดป้าย AI ได้ด้วยตนเอง และมีการตั้งระบบตรวจสอบ metadata เพื่อช่วยตรวจจับเนื้อหาที่หลุดรอดจากการติดป้าย แม้จีนจะเป็นประเทศแรกที่ออกกฎหมายลักษณะนี้อย่างเป็นทางการ แต่แนวคิดนี้กำลังแพร่ไปทั่วโลก เช่น Internet Engineering Task Force เสนอให้มี “AI header field” สำหรับเว็บไซต์ และ Google ก็เริ่มฝัง C2PA credentials ในภาพถ่ายจาก Pixel 10 เพื่อบอกว่า “ภาพนี้ผ่าน AI หรือไม่” https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chinese-social-media-firms-comply-with-strict-ai-labelling-law-making-it-clear-to-users-and-bots-whats-real-and-whats-not
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Chinese social media firms comply with strict AI labelling law, making it clear to users and bots what's real and what's not
    It's part of a broader push by the Cyberspace Administration of China to have greater oversight over the AI industry and the content it produces.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากสมองถึงซิลิคอน: เมื่อจีนเปิดศึก BCI ด้วยแผน 17 ข้อจาก 7 กระทรวง

    ในเดือนสิงหาคม 2025 รัฐบาลจีนได้เผยแพร่เอกสารนโยบายขนาดใหญ่ชื่อ “Implementation Plan for Promoting Innovation and Development of the Brain-Computer Interface (BCI) Industry” ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติที่มีเป้าหมายชัดเจน: สร้างอุตสาหกรรม BCI ที่แข่งขันได้ในระดับโลกภายใน 5 ปี และผลักดันให้เทคโนโลยีนี้เข้าสู่การใช้งานจริงภายในปี 2027

    แผนนี้ไม่ใช่แค่การวิจัย แต่เป็นการบูรณาการระหว่าง 7 กระทรวงที่รวมการวางแผนอุตสาหกรรม, การกำกับดูแลทางการแพทย์, และการควบคุมการวิจัยไว้ใน playbook เดียว เพื่อเร่งการอนุมัติและลดเวลาจากห้องแล็บสู่ตลาดให้เหลือเพียงไม่กี่ปี—ต่างจากสหรัฐฯ ที่ต้องผ่านด่าน FDA หลายชั้น

    ในแผนมี 17 ข้อที่ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนา chip ฝังสมองที่ใช้พลังงานต่ำ, การออกแบบอิเล็กโทรดที่ลดการเกิดแผล, การสร้างอัลกอริธึมถอดรหัสความคิดแบบ real-time ไปจนถึงการผลิตอุปกรณ์แบบ non-invasive สำหรับตลาดผู้บริโภค เช่น อุปกรณ์ตรวจความตื่นตัวของคนขับรถ หรือหมวกนิรภัยที่ตรวจจับอันตรายในเหมือง

    ที่สำคัญคือ จีนได้เริ่มทดลองจริงแล้ว—ผู้ป่วยที่ได้รับการฝังอิเล็กโทรดสามารถเล่นหมากรุกและใช้งานแอปมือถือด้วยความคิดล้วน ๆ โดยใช้อิเล็กโทรด 128 ช่องที่ออกแบบให้เสถียรและลดการอักเสบในระยะยาว

    แผนยุทธศาสตร์ BCI ของจีน
    มีชื่อว่า “Implementation Plan for Promoting Innovation and Development of the BCI Industry”
    ร่วมกันจัดทำโดย 7 กระทรวงของรัฐบาลจีน
    ตั้งเป้าให้มีการใช้งานจริงในคลินิกภายในปี 2027 และมีบริษัทชั้นนำภายในปี 2030

    รายละเอียดของแผน 17 ข้อ
    พัฒนา chip ฝังสมองที่ใช้พลังงานต่ำ
    ออกแบบอิเล็กโทรดที่ลดการเกิดแผลและอยู่ในสมองได้นาน
    สร้างอัลกอริธึมถอดรหัสความคิดแบบ real-time
    ขยายสายการผลิตอุปกรณ์ non-invasive สำหรับผู้บริโภค

    ความคืบหน้าทางเทคนิค
    ทีมวิจัยจีนพัฒนาอิเล็กโทรด 128 ช่องที่เสถียรและลดการอักเสบ
    ผู้ป่วยสามารถเล่นหมากรุกและใช้งานแอปมือถือด้วยความคิด
    มีการทดลองในสัตว์, ลิง, และมนุษย์แล้ว

    การขยายสู่ตลาดผู้บริโภค
    สนับสนุนอุปกรณ์ non-invasive เช่น หมวกนิรภัยอัจฉริยะและเซนเซอร์ตรวจความตื่นตัว
    วางตำแหน่ง BCI เป็นทั้งเทคโนโลยีการแพทย์และแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค
    คาดว่าจะมีผู้ป่วย 1–2 ล้านคนที่ได้รับประโยชน์จาก BCI ภายในไม่กี่ปี

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-bci-blueprint
    🎙️ เรื่องเล่าจากสมองถึงซิลิคอน: เมื่อจีนเปิดศึก BCI ด้วยแผน 17 ข้อจาก 7 กระทรวง ในเดือนสิงหาคม 2025 รัฐบาลจีนได้เผยแพร่เอกสารนโยบายขนาดใหญ่ชื่อ “Implementation Plan for Promoting Innovation and Development of the Brain-Computer Interface (BCI) Industry” ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติที่มีเป้าหมายชัดเจน: สร้างอุตสาหกรรม BCI ที่แข่งขันได้ในระดับโลกภายใน 5 ปี และผลักดันให้เทคโนโลยีนี้เข้าสู่การใช้งานจริงภายในปี 2027 แผนนี้ไม่ใช่แค่การวิจัย แต่เป็นการบูรณาการระหว่าง 7 กระทรวงที่รวมการวางแผนอุตสาหกรรม, การกำกับดูแลทางการแพทย์, และการควบคุมการวิจัยไว้ใน playbook เดียว เพื่อเร่งการอนุมัติและลดเวลาจากห้องแล็บสู่ตลาดให้เหลือเพียงไม่กี่ปี—ต่างจากสหรัฐฯ ที่ต้องผ่านด่าน FDA หลายชั้น ในแผนมี 17 ข้อที่ครอบคลุมตั้งแต่การพัฒนา chip ฝังสมองที่ใช้พลังงานต่ำ, การออกแบบอิเล็กโทรดที่ลดการเกิดแผล, การสร้างอัลกอริธึมถอดรหัสความคิดแบบ real-time ไปจนถึงการผลิตอุปกรณ์แบบ non-invasive สำหรับตลาดผู้บริโภค เช่น อุปกรณ์ตรวจความตื่นตัวของคนขับรถ หรือหมวกนิรภัยที่ตรวจจับอันตรายในเหมือง ที่สำคัญคือ จีนได้เริ่มทดลองจริงแล้ว—ผู้ป่วยที่ได้รับการฝังอิเล็กโทรดสามารถเล่นหมากรุกและใช้งานแอปมือถือด้วยความคิดล้วน ๆ โดยใช้อิเล็กโทรด 128 ช่องที่ออกแบบให้เสถียรและลดการอักเสบในระยะยาว ✅ แผนยุทธศาสตร์ BCI ของจีน ➡️ มีชื่อว่า “Implementation Plan for Promoting Innovation and Development of the BCI Industry” ➡️ ร่วมกันจัดทำโดย 7 กระทรวงของรัฐบาลจีน ➡️ ตั้งเป้าให้มีการใช้งานจริงในคลินิกภายในปี 2027 และมีบริษัทชั้นนำภายในปี 2030 ✅ รายละเอียดของแผน 17 ข้อ ➡️ พัฒนา chip ฝังสมองที่ใช้พลังงานต่ำ ➡️ ออกแบบอิเล็กโทรดที่ลดการเกิดแผลและอยู่ในสมองได้นาน ➡️ สร้างอัลกอริธึมถอดรหัสความคิดแบบ real-time ➡️ ขยายสายการผลิตอุปกรณ์ non-invasive สำหรับผู้บริโภค ✅ ความคืบหน้าทางเทคนิค ➡️ ทีมวิจัยจีนพัฒนาอิเล็กโทรด 128 ช่องที่เสถียรและลดการอักเสบ ➡️ ผู้ป่วยสามารถเล่นหมากรุกและใช้งานแอปมือถือด้วยความคิด ➡️ มีการทดลองในสัตว์, ลิง, และมนุษย์แล้ว ✅ การขยายสู่ตลาดผู้บริโภค ➡️ สนับสนุนอุปกรณ์ non-invasive เช่น หมวกนิรภัยอัจฉริยะและเซนเซอร์ตรวจความตื่นตัว ➡️ วางตำแหน่ง BCI เป็นทั้งเทคโนโลยีการแพทย์และแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค ➡️ คาดว่าจะมีผู้ป่วย 1–2 ล้านคนที่ได้รับประโยชน์จาก BCI ภายในไม่กี่ปี https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-bci-blueprint
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    China plans to outpace Neuralink with a state-backed brain chip blitz — seven ministries, a 17-point roadmap, and clinical trials where patients play chess
    Plan aims to streamline approval by bringing regulators in at the beginning, potentially shaving years off the lab-to-market timeline.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยวฮาร์บิน เทศกาลหิมะและน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ❄☃ 25,555

    🗓 จำนวนวัน 7วัน 5คืน
    ✈ XJ-แอร์เอเชียเอ็กซ์
    พักโรงแรม

    หมู่บ้านหิมะ (Snow Town)
    ถนนแส่ยุ่นเจีย
    บ้านเห็ดหิมะ Dream Home
    เทศกาลน้ำแข็งฮาร์บิน
    รูปปั้นตุ๊กตาหิมะยักษ์
    โบสถ์เซนต์โซเฟีย
    อนุสาวรีย์ฝั่งหง
    ถนนจงหยาง

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์จีน #ฮาร์บิน #china #harbin #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยวฮาร์บิน เทศกาลหิมะและน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ❄☃ 25,555 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 7วัน 5คืน ✈ XJ-แอร์เอเชียเอ็กซ์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 หมู่บ้านหิมะ (Snow Town) 📍 ถนนแส่ยุ่นเจีย 📍 บ้านเห็ดหิมะ Dream Home 📍 เทศกาลน้ำแข็งฮาร์บิน 📍 รูปปั้นตุ๊กตาหิมะยักษ์ 📍 โบสถ์เซนต์โซเฟีย 📍 อนุสาวรีย์ฝั่งหง 📍 ถนนจงหยาง รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จีน #ฮาร์บิน #china #harbin #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เฉิงตู สี่ดรุณี 6,888

    🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน
    ✈ VZ-ไทยเวียดเจ็ท แอร์
    พักโรงแรม

    ภูเขาสี่ดรุณี
    หุบเขาซวงเฉียวโกว (รวมรถประจำทางในอุทยาน)
    สะพานหนานเฉียว
    แพนด้าเซลฟี่
    ถนนคนเดินชุนซีลู่
    แพนด้ายักษ์ปีนตึก IFS
    ถนนคนเดินไท่กู่หลี่

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์จีน #เฉิงตู #china #chengdu #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เฉิงตู สี่ดรุณี 🍁🍀 6,888 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน ✈ VZ-ไทยเวียดเจ็ท แอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐⭐ 📍 ภูเขาสี่ดรุณี 📍 หุบเขาซวงเฉียวโกว (รวมรถประจำทางในอุทยาน) 📍 สะพานหนานเฉียว 📍 แพนด้าเซลฟี่ 📍 ถนนคนเดินชุนซีลู่ 📍 แพนด้ายักษ์ปีนตึก IFS 📍 ถนนคนเดินไท่กู่หลี่ รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จีน #เฉิงตู #china #chengdu #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เฉิงตู สี่ดรุณี 10,999

    🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน
    ✈ VZ-ไทยเวียดเจ็ท แอร์
    พักโรงแรม

    ภูเขาสี่ดรุณี
    หุบเขาซวงเฉียวโกว (รวมรถประจำทางในอุทยาน)
    สะพานหนานเฉียว
    แพนด้าเซลฟี่
    ถนนคนเดินชุนซีลู่
    แพนด้ายักษ์ปีนตึก IFS
    ถนนคนเดินไท่กู่หลี่

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์จีน #เฉิงตู #china #chengdu #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เฉิงตู สี่ดรุณี 🍁🍀 10,999 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน ✈ VZ-ไทยเวียดเจ็ท แอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐⭐ 📍 ภูเขาสี่ดรุณี 📍 หุบเขาซวงเฉียวโกว (รวมรถประจำทางในอุทยาน) 📍 สะพานหนานเฉียว 📍 แพนด้าเซลฟี่ 📍 ถนนคนเดินชุนซีลู่ 📍 แพนด้ายักษ์ปีนตึก IFS 📍 ถนนคนเดินไท่กู่หลี่ รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จีน #เฉิงตู #china #chengdu #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Lisuan G100 – การ์ดจอเกมจากจีนที่กลายเป็นเครื่องมือ AI อย่างไม่คาดคิด

    ในอดีต GPU จากจีนมักถูกมองว่าเป็นของเล่นที่ยังไม่พร้อมแข่งกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง NVIDIA หรือ AMD แต่วันนี้ Lisuan G100 ได้เปลี่ยนภาพนั้นไปอย่างสิ้นเชิง

    Lisuan G100 เป็น GPU ขนาด 6nm ที่พัฒนาโดยบริษัทจีน Lisuan Technology โดยใช้สถาปัตยกรรมที่เรียกว่า “TrueGPU Tiantu” ซึ่งเป็นการออกแบบภายในทั้งหมด ไม่พึ่งพา IP จากต่างประเทศ และมีซอฟต์แวร์ของตัวเองที่รองรับ DirectX 12, Vulkan 1.3 และ OpenCL 3.0

    ในด้านเกม G100 ทำคะแนน Geekbench OpenCL ได้ถึง 111,290 คะแนน ซึ่งใกล้เคียงกับ RTX 4060 และเหนือกว่า RX 9060 XT และ Intel Arc A770 โดยมี 48 Compute Units, VRAM 12GB และความเร็วสัญญาณนาฬิกา 2000 MHz

    แต่สิ่งที่ทำให้ G100 น่าสนใจยิ่งกว่าคือการรองรับ INT8 operations ซึ่งเป็นฟีเจอร์สำคัญสำหรับงาน AI โดยเฉพาะการ inferencing และ edge computing ทำให้ G100 ไม่ใช่แค่การ์ดจอเกม แต่เป็นเครื่องมือสำหรับงาน AI ระดับผู้ใช้ทั่วไป

    Lisuan ยังมีแผนพัฒนาอัลกอริธึม upscaling ของตัวเองชื่อ NRSS เพื่อแข่งกับ DLSS และ FSR ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในตลาดเกมยุคใหม่ และมีแนวโน้มจะเข้าสู่ตลาด accelerator สำหรับงาน AI หากการเปิดตัว G100 ประสบความสำเร็จ

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Lisuan G100 เป็น GPU ขนาด 6nm ที่พัฒนาโดยบริษัทจีน Lisuan Technology
    ใช้สถาปัตยกรรม TrueGPU Tiantu และซอฟต์แวร์ของตัวเอง
    รองรับ DirectX 12, Vulkan 1.3, OpenGL 4.6 และ OpenCL 3.0
    ทำคะแนน Geekbench OpenCL ได้ 111,290 ใกล้เคียง RTX 4060
    มี 48 Compute Units, VRAM 12GB และความเร็ว 2000 MHz
    รองรับ INT8 operations สำหรับงาน AI inferencing และ edge computing
    เป็น GPU จีนรุ่นแรกที่รองรับ INT8 อย่างเป็นทางการ
    มีแผนพัฒนาอัลกอริธึม upscaling ชื่อ NRSS เพื่อแข่งกับ DLSS และ FSR
    อาจเข้าสู่ตลาด accelerator หาก G100 เปิดตัวได้สำเร็จ
    การผลิตจำนวนมากเริ่มแล้ว และคาดว่าจะวางขายปลายปี 2025

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    INT8 เป็นรูปแบบการคำนวณที่ใช้ในงาน AI inferencing เพื่อประหยัดพลังงานและเพิ่มความเร็ว
    GPU ที่รองรับ INT8 มักใช้ใน edge devices เช่นกล้องอัจฉริยะหรือหุ่นยนต์
    การพัฒนา GPU ภายในประเทศช่วยลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ
    สถาปัตยกรรม TrueGPU อาจเป็นก้าวแรกของจีนในการสร้าง GPU แบบ fully independent
    การรองรับ OpenCL 3.0 ช่วยให้สามารถใช้งานกับซอฟต์แวร์ AI ได้หลากหลาย
    การแข่งขันกับ RTX 4060 แสดงถึงความก้าวหน้าของอุตสาหกรรม GPU ในจีน

    https://wccftech.com/chinas-most-capable-gaming-gpu-the-lisuan-g100-becomes-the-first-domestic-offering-to-support-fp8-operations/
    🎙️ Lisuan G100 – การ์ดจอเกมจากจีนที่กลายเป็นเครื่องมือ AI อย่างไม่คาดคิด ในอดีต GPU จากจีนมักถูกมองว่าเป็นของเล่นที่ยังไม่พร้อมแข่งกับแบรนด์ระดับโลกอย่าง NVIDIA หรือ AMD แต่วันนี้ Lisuan G100 ได้เปลี่ยนภาพนั้นไปอย่างสิ้นเชิง Lisuan G100 เป็น GPU ขนาด 6nm ที่พัฒนาโดยบริษัทจีน Lisuan Technology โดยใช้สถาปัตยกรรมที่เรียกว่า “TrueGPU Tiantu” ซึ่งเป็นการออกแบบภายในทั้งหมด ไม่พึ่งพา IP จากต่างประเทศ และมีซอฟต์แวร์ของตัวเองที่รองรับ DirectX 12, Vulkan 1.3 และ OpenCL 3.0 ในด้านเกม G100 ทำคะแนน Geekbench OpenCL ได้ถึง 111,290 คะแนน ซึ่งใกล้เคียงกับ RTX 4060 และเหนือกว่า RX 9060 XT และ Intel Arc A770 โดยมี 48 Compute Units, VRAM 12GB และความเร็วสัญญาณนาฬิกา 2000 MHz แต่สิ่งที่ทำให้ G100 น่าสนใจยิ่งกว่าคือการรองรับ INT8 operations ซึ่งเป็นฟีเจอร์สำคัญสำหรับงาน AI โดยเฉพาะการ inferencing และ edge computing ทำให้ G100 ไม่ใช่แค่การ์ดจอเกม แต่เป็นเครื่องมือสำหรับงาน AI ระดับผู้ใช้ทั่วไป Lisuan ยังมีแผนพัฒนาอัลกอริธึม upscaling ของตัวเองชื่อ NRSS เพื่อแข่งกับ DLSS และ FSR ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในตลาดเกมยุคใหม่ และมีแนวโน้มจะเข้าสู่ตลาด accelerator สำหรับงาน AI หากการเปิดตัว G100 ประสบความสำเร็จ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Lisuan G100 เป็น GPU ขนาด 6nm ที่พัฒนาโดยบริษัทจีน Lisuan Technology ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม TrueGPU Tiantu และซอฟต์แวร์ของตัวเอง ➡️ รองรับ DirectX 12, Vulkan 1.3, OpenGL 4.6 และ OpenCL 3.0 ➡️ ทำคะแนน Geekbench OpenCL ได้ 111,290 ใกล้เคียง RTX 4060 ➡️ มี 48 Compute Units, VRAM 12GB และความเร็ว 2000 MHz ➡️ รองรับ INT8 operations สำหรับงาน AI inferencing และ edge computing ➡️ เป็น GPU จีนรุ่นแรกที่รองรับ INT8 อย่างเป็นทางการ ➡️ มีแผนพัฒนาอัลกอริธึม upscaling ชื่อ NRSS เพื่อแข่งกับ DLSS และ FSR ➡️ อาจเข้าสู่ตลาด accelerator หาก G100 เปิดตัวได้สำเร็จ ➡️ การผลิตจำนวนมากเริ่มแล้ว และคาดว่าจะวางขายปลายปี 2025 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ INT8 เป็นรูปแบบการคำนวณที่ใช้ในงาน AI inferencing เพื่อประหยัดพลังงานและเพิ่มความเร็ว ➡️ GPU ที่รองรับ INT8 มักใช้ใน edge devices เช่นกล้องอัจฉริยะหรือหุ่นยนต์ ➡️ การพัฒนา GPU ภายในประเทศช่วยลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ ➡️ สถาปัตยกรรม TrueGPU อาจเป็นก้าวแรกของจีนในการสร้าง GPU แบบ fully independent ➡️ การรองรับ OpenCL 3.0 ช่วยให้สามารถใช้งานกับซอฟต์แวร์ AI ได้หลากหลาย ➡️ การแข่งขันกับ RTX 4060 แสดงถึงความก้าวหน้าของอุตสาหกรรม GPU ในจีน https://wccftech.com/chinas-most-capable-gaming-gpu-the-lisuan-g100-becomes-the-first-domestic-offering-to-support-fp8-operations/
    WCCFTECH.COM
    China's Most Capable Gaming GPU, the Lisuan G100, Now Also Supports INT8 Operations, Becoming Ideal For AI Workloads
    The Chinese GPU Lisuan G100, which recently made headlines for its competitive performance, is now claimed to support INT8 operations.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากมือถือสู่มอเตอร์ – Xiaomi กับภารกิจเปลี่ยนโลกยานยนต์

    ถ้าคุณรู้จัก Xiaomi จากมือถือราคาดีฟีเจอร์ครบ คุณอาจไม่ทันรู้ว่าแบรนด์นี้กำลังกลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และไม่ใช่แค่ “ลองทำดู” แต่เป็นการลงทุนเต็มตัวกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์

    Xiaomi เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก SU7 ในเดือนธันวาคม 2023 และตามด้วย YU7 SUV ในกลางปี 2025 ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ยอดจองกว่า 240,000 คันภายใน 18 ชั่วโมง ด้วยดีไซน์ที่หลายคนเปรียบเทียบว่า “เหมือน Porsche แต่ราคาพอ ๆ กับ Toyota Camry”

    ยอดขายพุ่งทะลุ 157,000 คันในครึ่งปีแรกของ 2025 และรายได้จากธุรกิจ EV ก็แตะ 20.6 พันล้านหยวนในไตรมาสเดียว แม้จะยังขาดทุนอยู่ แต่ก็ใกล้จุดคุ้มทุนแล้ว

    Xiaomi ไม่หยุดแค่ในจีน พวกเขาวางแผนบุกตลาดยุโรปในปี 2027 โดยเริ่มจากการทดสอบ SU7 Ultra บนสนาม Nürburgring ที่เยอรมนี ซึ่งทำสถิติเร็วที่สุดในกลุ่มรถ EV ผลิตจำนวนมาก

    แต่เส้นทางนี้ไม่ง่ายนัก เพราะในสหรัฐฯ Xiaomi ถูกกีดกันด้วยภาษีนำเข้า 100% จากนโยบายสงครามการค้าของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้ตลาดใหญ่นี้ยังเข้าไม่ถึง

    แม้จะมีอุปสรรค แต่ Xiaomi ก็ได้รับคำชมจากนักวิเคราะห์ว่า “แซงหน้า Tesla ในหลายด้าน” โดยเฉพาะเรื่องดีไซน์และราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Xiaomi เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น SU7 ในเดือนธันวาคม 2023
    ตามด้วยรุ่น YU7 SUV ในเดือนมิถุนายน 2025 ยอดจอง 240,000 คันใน 18 ชั่วโมง
    ราคาของ YU7 อยู่ที่ประมาณ 253,500 หยวน (US$35,360)
    Xiaomi วางแผนเข้าสู่ตลาดยุโรปในปี 2027
    SU7 Ultra ทำสถิติเร็วที่สุดในสนาม Nürburgring สำหรับรถ EV ผลิตจำนวนมาก
    Xiaomi ส่งมอบรถ EV ได้กว่า 157,000 คันในครึ่งปีแรกของ 2025
    รายได้จากธุรกิจ EV ในไตรมาส 2 อยู่ที่ 20.6 พันล้านหยวน
    บริษัทตั้งเป้าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ 5 อันดับแรกของโลก
    Xiaomi ยังไม่สามารถเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ เพราะภาษีนำเข้า 100%
    นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ระบุว่า Xiaomi แซง Tesla ในหลายด้าน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    SU7 ได้รับคำชมว่า “เหมือน Porsche Taycan” แต่ราคาถูกกว่าหลายเท่า
    Xiaomi ใช้ประสบการณ์จากธุรกิจมือถือและ IoT มาปรับใช้ในรถยนต์
    การออกแบบรถเน้น software-defined vehicle (SDV) ที่คล้ายสมาร์ตโฟนมากกว่ารถยนต์ดั้งเดิม
    Xiaomi มีแผนเปิดโรงงาน EV แห่งที่สองเพื่อเพิ่มกำลังผลิต
    ตลาดยุโรปมีภาษีนำเข้าต่ำกว่าสหรัฐฯ และเปิดรับแบรนด์จีนมากขึ้น


    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/22/chinas-xiaomi-is-betting-big-on-electric-cars
    🎙️ จากมือถือสู่มอเตอร์ – Xiaomi กับภารกิจเปลี่ยนโลกยานยนต์ ถ้าคุณรู้จัก Xiaomi จากมือถือราคาดีฟีเจอร์ครบ คุณอาจไม่ทันรู้ว่าแบรนด์นี้กำลังกลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และไม่ใช่แค่ “ลองทำดู” แต่เป็นการลงทุนเต็มตัวกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ Xiaomi เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก SU7 ในเดือนธันวาคม 2023 และตามด้วย YU7 SUV ในกลางปี 2025 ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ยอดจองกว่า 240,000 คันภายใน 18 ชั่วโมง ด้วยดีไซน์ที่หลายคนเปรียบเทียบว่า “เหมือน Porsche แต่ราคาพอ ๆ กับ Toyota Camry” ยอดขายพุ่งทะลุ 157,000 คันในครึ่งปีแรกของ 2025 และรายได้จากธุรกิจ EV ก็แตะ 20.6 พันล้านหยวนในไตรมาสเดียว แม้จะยังขาดทุนอยู่ แต่ก็ใกล้จุดคุ้มทุนแล้ว Xiaomi ไม่หยุดแค่ในจีน พวกเขาวางแผนบุกตลาดยุโรปในปี 2027 โดยเริ่มจากการทดสอบ SU7 Ultra บนสนาม Nürburgring ที่เยอรมนี ซึ่งทำสถิติเร็วที่สุดในกลุ่มรถ EV ผลิตจำนวนมาก แต่เส้นทางนี้ไม่ง่ายนัก เพราะในสหรัฐฯ Xiaomi ถูกกีดกันด้วยภาษีนำเข้า 100% จากนโยบายสงครามการค้าของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้ตลาดใหญ่นี้ยังเข้าไม่ถึง แม้จะมีอุปสรรค แต่ Xiaomi ก็ได้รับคำชมจากนักวิเคราะห์ว่า “แซงหน้า Tesla ในหลายด้าน” โดยเฉพาะเรื่องดีไซน์และราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Xiaomi เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น SU7 ในเดือนธันวาคม 2023 ➡️ ตามด้วยรุ่น YU7 SUV ในเดือนมิถุนายน 2025 ยอดจอง 240,000 คันใน 18 ชั่วโมง ➡️ ราคาของ YU7 อยู่ที่ประมาณ 253,500 หยวน (US$35,360) ➡️ Xiaomi วางแผนเข้าสู่ตลาดยุโรปในปี 2027 ➡️ SU7 Ultra ทำสถิติเร็วที่สุดในสนาม Nürburgring สำหรับรถ EV ผลิตจำนวนมาก ➡️ Xiaomi ส่งมอบรถ EV ได้กว่า 157,000 คันในครึ่งปีแรกของ 2025 ➡️ รายได้จากธุรกิจ EV ในไตรมาส 2 อยู่ที่ 20.6 พันล้านหยวน ➡️ บริษัทตั้งเป้าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ 5 อันดับแรกของโลก ➡️ Xiaomi ยังไม่สามารถเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ เพราะภาษีนำเข้า 100% ➡️ นักวิเคราะห์จาก Morgan Stanley ระบุว่า Xiaomi แซง Tesla ในหลายด้าน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ SU7 ได้รับคำชมว่า “เหมือน Porsche Taycan” แต่ราคาถูกกว่าหลายเท่า ➡️ Xiaomi ใช้ประสบการณ์จากธุรกิจมือถือและ IoT มาปรับใช้ในรถยนต์ ➡️ การออกแบบรถเน้น software-defined vehicle (SDV) ที่คล้ายสมาร์ตโฟนมากกว่ารถยนต์ดั้งเดิม ➡️ Xiaomi มีแผนเปิดโรงงาน EV แห่งที่สองเพื่อเพิ่มกำลังผลิต ➡️ ตลาดยุโรปมีภาษีนำเข้าต่ำกว่าสหรัฐฯ และเปิดรับแบรนด์จีนมากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/22/chinas-xiaomi-is-betting-big-on-electric-cars
    WWW.THESTAR.COM.MY
    China's Xiaomi is betting big on electric cars
    Xiaomi may not be a household name in the US, but in China its products are everywhere. Already one of the world's top mobile phone manufacturers, the technology company also makes everything from toothbrushes to watches – even mattresses. Now it's betting big on electric vehicles, having already succeeded where even Apple failed.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อ Tesla ต้องปรับตัวเพื่ออยู่รอดในตลาดจีน ด้วย AI ที่พูดภาษาท้องถิ่น

    Tesla กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีน ซึ่งเต็มไปด้วยแบรนด์ท้องถิ่นที่ใส่เทคโนโลยีล้ำหน้าเข้าไปในรถอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ Tesla จึงตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านซอฟต์แวร์ โดยนำโมเดล AI สัญชาติจีนอย่าง DeepSeek และ Doubao มาใช้ในระบบผู้ช่วยเสียงภายในรถยนต์

    Doubao ซึ่งพัฒนาโดย ByteDance จะรับหน้าที่ประมวลผลคำสั่งเสียง เช่น การนำทาง การควบคุมอุณหภูมิ และการเล่นเพลง ส่วน DeepSeek จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยสนทนาอัจฉริยะที่สามารถตอบคำถามหลายขั้นตอนและเข้าใจบริบทได้ลึกขึ้น ทั้งสองโมเดลจะทำงานผ่านคลาวด์ของ Volcano Engine ซึ่งเป็นบริการของ ByteDance เช่นกัน

    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเพราะข้อจำกัดด้านกฎหมายของจีนที่ไม่อนุญาตให้ส่งข้อมูลผู้ใช้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศ ทำให้ Tesla ไม่สามารถใช้ Grok ซึ่งเป็นโมเดลของ xAI ที่ใช้ในสหรัฐฯ ได้

    นอกจากนี้ Tesla ยังเปิดตัว Model Y L รุ่นใหม่แบบ 6 ที่นั่งในจีน ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่รองรับผู้ช่วยเสียงแบบ “Hey, Tesla” โดยไม่ต้องกดปุ่มบนพวงมาลัยเหมือนรุ่นก่อน ๆ

    การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ Tesla ต้องปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมเทคโนโลยีของจีน ซึ่งผู้ใช้คุ้นเคยกับระบบผู้ช่วยเสียงที่ตอบสนองได้รวดเร็วและเชื่อมโยงกับบริการท้องถิ่น เช่น แผนที่จีน แอปส่งอาหาร และระบบชำระเงิน

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Tesla เตรียมใช้ AI สัญชาติจีน DeepSeek และ Doubao ในรถยนต์ที่จำหน่ายในจีน
    Doubao รับหน้าที่ประมวลผลคำสั่งเสียง เช่น นำทาง เพลง อุณหภูมิ
    DeepSeek ทำหน้าที่สนทนาอัจฉริยะ ตอบคำถามหลายขั้นตอน
    ทั้งสองโมเดลทำงานผ่านคลาวด์ Volcano Engine ของ ByteDance
    Tesla ไม่สามารถใช้ Grok ในจีนเพราะข้อจำกัดด้านกฎหมายและการจัดการข้อมูล
    ผู้ใช้สามารถเรียกผู้ช่วยเสียงด้วยคำว่า “Hey, Tesla” หรือกำหนดเองได้
    Tesla เปิดตัว Model Y L รุ่นใหม่แบบ 6 ที่นั่งในจีน รองรับระบบ AI เต็มรูปแบบ
    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากการแข่งขันกับแบรนด์จีน เช่น BYD และ Geely
    BMW ก็ใช้โมเดล Qwen จาก Alibaba ในรถรุ่นใหม่ที่จำหน่ายในจีน
    ยังไม่มีการยืนยันว่า AI ทั้งสองถูกติดตั้งในรถทุกคันแล้ว

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    DeepSeek ได้รับความนิยมในจีนหลังเปิดตัวรุ่น R1 และ V3.1 ที่มีความสามารถด้าน reasoning สูง
    ระบบผู้ช่วยเสียงในรถยนต์จีนสามารถเชื่อมต่อกับบริการท้องถิ่น เช่น Alipay, Meituan, Gaode Maps
    LLMs เช่น ChatGPT, Qwen, และ DeepSeek ถูกนำมาใช้ในรถยนต์มากขึ้นทั่วโลก
    การใช้ AI ในรถยนต์ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการขับขี่
    การใช้โมเดลท้องถิ่นช่วยให้ตอบสนองต่อภาษาถิ่นและพฤติกรรมผู้ใช้ได้แม่นยำกว่าโมเดลสากล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/22/tesla-to-integrate-deepseek-doubao-ai-voice-controls-in-china
    🎙️ เมื่อ Tesla ต้องปรับตัวเพื่ออยู่รอดในตลาดจีน ด้วย AI ที่พูดภาษาท้องถิ่น Tesla กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีน ซึ่งเต็มไปด้วยแบรนด์ท้องถิ่นที่ใส่เทคโนโลยีล้ำหน้าเข้าไปในรถอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ Tesla จึงตัดสินใจเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านซอฟต์แวร์ โดยนำโมเดล AI สัญชาติจีนอย่าง DeepSeek และ Doubao มาใช้ในระบบผู้ช่วยเสียงภายในรถยนต์ Doubao ซึ่งพัฒนาโดย ByteDance จะรับหน้าที่ประมวลผลคำสั่งเสียง เช่น การนำทาง การควบคุมอุณหภูมิ และการเล่นเพลง ส่วน DeepSeek จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยสนทนาอัจฉริยะที่สามารถตอบคำถามหลายขั้นตอนและเข้าใจบริบทได้ลึกขึ้น ทั้งสองโมเดลจะทำงานผ่านคลาวด์ของ Volcano Engine ซึ่งเป็นบริการของ ByteDance เช่นกัน การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเพราะข้อจำกัดด้านกฎหมายของจีนที่ไม่อนุญาตให้ส่งข้อมูลผู้ใช้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศ ทำให้ Tesla ไม่สามารถใช้ Grok ซึ่งเป็นโมเดลของ xAI ที่ใช้ในสหรัฐฯ ได้ นอกจากนี้ Tesla ยังเปิดตัว Model Y L รุ่นใหม่แบบ 6 ที่นั่งในจีน ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่รองรับผู้ช่วยเสียงแบบ “Hey, Tesla” โดยไม่ต้องกดปุ่มบนพวงมาลัยเหมือนรุ่นก่อน ๆ การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ Tesla ต้องปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมเทคโนโลยีของจีน ซึ่งผู้ใช้คุ้นเคยกับระบบผู้ช่วยเสียงที่ตอบสนองได้รวดเร็วและเชื่อมโยงกับบริการท้องถิ่น เช่น แผนที่จีน แอปส่งอาหาร และระบบชำระเงิน 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Tesla เตรียมใช้ AI สัญชาติจีน DeepSeek และ Doubao ในรถยนต์ที่จำหน่ายในจีน ➡️ Doubao รับหน้าที่ประมวลผลคำสั่งเสียง เช่น นำทาง เพลง อุณหภูมิ ➡️ DeepSeek ทำหน้าที่สนทนาอัจฉริยะ ตอบคำถามหลายขั้นตอน ➡️ ทั้งสองโมเดลทำงานผ่านคลาวด์ Volcano Engine ของ ByteDance ➡️ Tesla ไม่สามารถใช้ Grok ในจีนเพราะข้อจำกัดด้านกฎหมายและการจัดการข้อมูล ➡️ ผู้ใช้สามารถเรียกผู้ช่วยเสียงด้วยคำว่า “Hey, Tesla” หรือกำหนดเองได้ ➡️ Tesla เปิดตัว Model Y L รุ่นใหม่แบบ 6 ที่นั่งในจีน รองรับระบบ AI เต็มรูปแบบ ➡️ การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากการแข่งขันกับแบรนด์จีน เช่น BYD และ Geely ➡️ BMW ก็ใช้โมเดล Qwen จาก Alibaba ในรถรุ่นใหม่ที่จำหน่ายในจีน ➡️ ยังไม่มีการยืนยันว่า AI ทั้งสองถูกติดตั้งในรถทุกคันแล้ว ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ DeepSeek ได้รับความนิยมในจีนหลังเปิดตัวรุ่น R1 และ V3.1 ที่มีความสามารถด้าน reasoning สูง ➡️ ระบบผู้ช่วยเสียงในรถยนต์จีนสามารถเชื่อมต่อกับบริการท้องถิ่น เช่น Alipay, Meituan, Gaode Maps ➡️ LLMs เช่น ChatGPT, Qwen, และ DeepSeek ถูกนำมาใช้ในรถยนต์มากขึ้นทั่วโลก ➡️ การใช้ AI ในรถยนต์ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการขับขี่ ➡️ การใช้โมเดลท้องถิ่นช่วยให้ตอบสนองต่อภาษาถิ่นและพฤติกรรมผู้ใช้ได้แม่นยำกว่าโมเดลสากล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/22/tesla-to-integrate-deepseek-doubao-ai-voice-controls-in-china
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Tesla to integrate Deepseek, Doubao AI voice controls in China
    Tesla Inc plans to introduce in-car voice assistant functions powered by Deepseek and Bytedance Ltd's Doubao artificial intelligence as it aims to catch local rivals who offer similar features.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVIDIA กับเกมการเมืองระหว่างประเทศ – เมื่อชิป H20 กลายเป็นตัวประกันทางเทคโนโลยี

    ในปี 2025 NVIDIA ต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลจากทั้งสหรัฐฯ และจีนเกี่ยวกับชิป H20 ซึ่งถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับตลาดจีน หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์อนุญาตให้ NVIDIA กลับมาขายชิป H20 ได้อีกครั้ง โดยมีเงื่อนไขว่าต้องแบ่งรายได้ 15% จากยอดขายในจีนให้รัฐบาลสหรัฐฯ

    แต่ความหวังของ NVIDIA กลับถูกดับลงอย่างรวดเร็ว เมื่อรัฐบาลจีนเริ่มแสดงความไม่พอใจต่อชิป H20 โดยกล่าวหาว่าชิปอาจมี “backdoor” หรือช่องโหว่ที่สามารถใช้สอดแนมข้อมูลได้ และอาจมี “kill switch” ที่สามารถปิดการทำงานจากระยะไกลได้

    หน่วยงานจีน เช่น Cyberspace Administration of China (CAC) และกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ออกคำแนะนำให้บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง ByteDance, Alibaba และ Tencent หยุดสั่งซื้อชิป H20 ทันที โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ

    NVIDIA จึงต้องสั่งหยุดการผลิตชิป H20 กับซัพพลายเออร์หลัก เช่น Samsung, Amkor และ Foxconn พร้อมเร่งพัฒนาชิปรุ่นใหม่ชื่อ B30A ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า H20 แต่ยังอยู่ภายใต้ข้อจำกัดด้านการส่งออกของสหรัฐฯ

    สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความเปราะบางของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ที่แม้จะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล แต่ก็ถูกควบคุมด้วยเกมการเมืองระหว่างประเทศอย่างเข้มข้น

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    NVIDIA หยุดการผลิตชิป H20 หลังจีนแสดงความไม่พอใจ
    รัฐบาลจีนกังวลเรื่อง backdoor และ spyware ในชิป H20
    บริษัทจีนใหญ่ ๆ ถูกสั่งให้หยุดสั่งซื้อชิป H20
    รัฐบาลสหรัฐฯ อนุญาตให้ขาย H20 ได้อีกครั้ง โดยต้องแบ่งรายได้ 15%
    NVIDIA สั่งหยุดการผลิตกับซัพพลายเออร์ เช่น Samsung, Amkor และ Foxconn
    NVIDIA กำลังพัฒนาชิปใหม่ชื่อ B30A สำหรับตลาดจีน
    B30A มีประสิทธิภาพสูงกว่า H20 แต่ต่ำกว่า B300 ซึ่งถูกห้ามส่งออก
    NVIDIA ยืนยันว่า H20 ไม่มี backdoor และไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทางทหาร
    ความขัดแย้งนี้เกิดขึ้นหลังคำพูดของรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ที่ดูถูกจีน
    จีนพยายามลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ ตามนโยบาย Made in China 2025

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Cyberspace Administration of China เคยเรียก NVIDIA มาสอบถามรายละเอียดทางเทคนิคของ H20
    NVIDIA สูญเสียรายได้กว่า $5.5 พันล้านจากการแบนในไตรมาสก่อน
    จีนบริโภคเซมิคอนดักเตอร์ 60% ของโลก แต่ผลิตได้เพียง 13%
    การแบ่งรายได้ 15% เป็นโมเดลใหม่ในการจัดการความขัดแย้งด้านเทคโนโลยี
    ความไม่แน่นอนทางการเมืองทำให้โมเดลนี้ล้มเหลวในเวลาไม่กี่สัปดาห์

    https://wccftech.com/nvidia-reportedly-halts-h20-gpu-production-after-the-chinese-politburo-becomes-hostile-to-the-chip/
    🎙️ NVIDIA กับเกมการเมืองระหว่างประเทศ – เมื่อชิป H20 กลายเป็นตัวประกันทางเทคโนโลยี ในปี 2025 NVIDIA ต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลจากทั้งสหรัฐฯ และจีนเกี่ยวกับชิป H20 ซึ่งถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับตลาดจีน หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์อนุญาตให้ NVIDIA กลับมาขายชิป H20 ได้อีกครั้ง โดยมีเงื่อนไขว่าต้องแบ่งรายได้ 15% จากยอดขายในจีนให้รัฐบาลสหรัฐฯ แต่ความหวังของ NVIDIA กลับถูกดับลงอย่างรวดเร็ว เมื่อรัฐบาลจีนเริ่มแสดงความไม่พอใจต่อชิป H20 โดยกล่าวหาว่าชิปอาจมี “backdoor” หรือช่องโหว่ที่สามารถใช้สอดแนมข้อมูลได้ และอาจมี “kill switch” ที่สามารถปิดการทำงานจากระยะไกลได้ หน่วยงานจีน เช่น Cyberspace Administration of China (CAC) และกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ออกคำแนะนำให้บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง ByteDance, Alibaba และ Tencent หยุดสั่งซื้อชิป H20 ทันที โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ NVIDIA จึงต้องสั่งหยุดการผลิตชิป H20 กับซัพพลายเออร์หลัก เช่น Samsung, Amkor และ Foxconn พร้อมเร่งพัฒนาชิปรุ่นใหม่ชื่อ B30A ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า H20 แต่ยังอยู่ภายใต้ข้อจำกัดด้านการส่งออกของสหรัฐฯ สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความเปราะบางของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ที่แม้จะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล แต่ก็ถูกควบคุมด้วยเกมการเมืองระหว่างประเทศอย่างเข้มข้น 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ NVIDIA หยุดการผลิตชิป H20 หลังจีนแสดงความไม่พอใจ ➡️ รัฐบาลจีนกังวลเรื่อง backdoor และ spyware ในชิป H20 ➡️ บริษัทจีนใหญ่ ๆ ถูกสั่งให้หยุดสั่งซื้อชิป H20 ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ อนุญาตให้ขาย H20 ได้อีกครั้ง โดยต้องแบ่งรายได้ 15% ➡️ NVIDIA สั่งหยุดการผลิตกับซัพพลายเออร์ เช่น Samsung, Amkor และ Foxconn ➡️ NVIDIA กำลังพัฒนาชิปใหม่ชื่อ B30A สำหรับตลาดจีน ➡️ B30A มีประสิทธิภาพสูงกว่า H20 แต่ต่ำกว่า B300 ซึ่งถูกห้ามส่งออก ➡️ NVIDIA ยืนยันว่า H20 ไม่มี backdoor และไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทางทหาร ➡️ ความขัดแย้งนี้เกิดขึ้นหลังคำพูดของรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ ที่ดูถูกจีน ➡️ จีนพยายามลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ ตามนโยบาย Made in China 2025 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Cyberspace Administration of China เคยเรียก NVIDIA มาสอบถามรายละเอียดทางเทคนิคของ H20 ➡️ NVIDIA สูญเสียรายได้กว่า $5.5 พันล้านจากการแบนในไตรมาสก่อน ➡️ จีนบริโภคเซมิคอนดักเตอร์ 60% ของโลก แต่ผลิตได้เพียง 13% ➡️ การแบ่งรายได้ 15% เป็นโมเดลใหม่ในการจัดการความขัดแย้งด้านเทคโนโลยี ➡️ ความไม่แน่นอนทางการเมืองทำให้โมเดลนี้ล้มเหลวในเวลาไม่กี่สัปดาห์ https://wccftech.com/nvidia-reportedly-halts-h20-gpu-production-after-the-chinese-politburo-becomes-hostile-to-the-chip/
    WCCFTECH.COM
    NVIDIA Reportedly Halts H20 GPU Production After The Chinese Politburo Becomes Hostile To The Chip
    NVIDIA is reportedly throwing in the proverbial towel on its China-specific H20 GPU as a number of potent headwinds coalesce.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อจีน “ปิดประตู” สู่โลกภายนอก – และ HTTPS ก็ถูกตัดขาดโดยไม่มีคำอธิบาย

    ในช่วงเวลา 00:34 ถึง 01:48 ตามเวลาปักกิ่งของวันที่ 20 สิงหาคม 2025 จีนได้ตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับโลกภายนอกอย่างเงียบ ๆ โดยบล็อกการใช้งาน TCP port 443 ซึ่งเป็นพอร์ตมาตรฐานสำหรับ HTTPS ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์และบริการต่างประเทศได้ รวมถึงบริการสำคัญอย่าง Apple และ Tesla ที่ใช้พอร์ตนี้ในการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ภายนอก

    กลุ่มนักวิจัยจาก Great Firewall Report ตรวจพบว่าอุปกรณ์ในระบบ Great Firewall ได้ “ฉีดแพ็กเก็ตปลอม” (forged TCP RST+ACK) เพื่อขัดขวางการเชื่อมต่อทุกกรณีที่ใช้ port 443 โดยไม่แตะต้องพอร์ตอื่น เช่น 22, 80 หรือ 8443 ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่แตกต่างจากการบล็อกแบบกว้างในปี 2020 ที่เคยบล็อก HTTPS ทุกพอร์ต

    สิ่งที่น่าสนใจคือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการบล็อกครั้งนี้ไม่ตรงกับลายนิ้วมือของอุปกรณ์ที่เคยใช้ในระบบ Great Firewall มาก่อน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเป็นอุปกรณ์ใหม่ หรืออุปกรณ์เดิมที่ถูกตั้งค่าผิด หรืออาจเป็นการทดสอบระบบใหม่โดยรัฐบาลจีน

    แม้จะเป็นเหตุการณ์สั้น ๆ แต่ผลกระทบกลับกว้างขวาง เพราะ port 443 เป็นหัวใจของการเชื่อมต่อแบบปลอดภัยทั่วโลก และการบล็อกเพียงพอร์ตเดียวก็สามารถทำให้จีน “ตัดขาด” จากโลกภายนอกได้ทันที

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    จีนบล็อก TCP port 443 เป็นเวลา 74 นาทีในวันที่ 20 สิงหาคม 2025
    การบล็อกทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ต่างประเทศได้
    บริการสำคัญอย่าง Apple และ Tesla ที่ใช้ port 443 ก็ได้รับผลกระทบ
    ระบบ Great Firewall ฉีดแพ็กเก็ตปลอม (RST+ACK) เพื่อขัดขวางการเชื่อมต่อ
    การบล็อกจำกัดเฉพาะ port 443 ไม่แตะต้องพอร์ตอื่น เช่น 22, 80, 8443
    อุปกรณ์ที่ใช้ในการบล็อกไม่ตรงกับลายนิ้วมือของอุปกรณ์เดิมในระบบ GFW
    นักวิจัยตั้งข้อสงสัยว่าเป็นอุปกรณ์ใหม่ หรือการตั้งค่าที่ผิดพลาด
    ไม่มีเหตุการณ์ทางการเมืองหรือวิกฤตที่ชัดเจนในช่วงเวลานั้น
    เหตุการณ์นี้ถูกตรวจพบโดยนักวิจัยจากหลายประเทศและองค์กรอิสระ
    การบล็อกครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของจีนในการควบคุมการเชื่อมต่อระดับโลก

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    เหตุการณ์คล้ายกันเคยเกิดในปี 2020 เมื่อจีนบล็อก HTTPS ทุกพอร์ตพร้อมกัน
    NetBlocks รายงานว่าปากีสถานมีการลดลงของทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตก่อนเหตุการณ์ในจีน
    จีนเคยแบ่งปันเทคโนโลยี Great Firewall กับประเทศอื่น เช่น ปากีสถานและอิหร่าน
    การฉีดแพ็กเก็ตปลอมเป็นเทคนิคที่ใช้ในการบล็อกแบบลึก (deep packet interference)
    นักวิชาการเปรียบเทียบระบบ Great Firewall ว่าเป็น “การประนีประนอมระหว่างการเปิดและปิดอินเทอร์เน็ต”

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/chinas-great-firewall-blocked-all-traffic-to-a-common-https-port-for-over-an-hour-with-no-hint-as-to-its-intention
    🎙️ เมื่อจีน “ปิดประตู” สู่โลกภายนอก – และ HTTPS ก็ถูกตัดขาดโดยไม่มีคำอธิบาย ในช่วงเวลา 00:34 ถึง 01:48 ตามเวลาปักกิ่งของวันที่ 20 สิงหาคม 2025 จีนได้ตัดการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับโลกภายนอกอย่างเงียบ ๆ โดยบล็อกการใช้งาน TCP port 443 ซึ่งเป็นพอร์ตมาตรฐานสำหรับ HTTPS ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์และบริการต่างประเทศได้ รวมถึงบริการสำคัญอย่าง Apple และ Tesla ที่ใช้พอร์ตนี้ในการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ภายนอก กลุ่มนักวิจัยจาก Great Firewall Report ตรวจพบว่าอุปกรณ์ในระบบ Great Firewall ได้ “ฉีดแพ็กเก็ตปลอม” (forged TCP RST+ACK) เพื่อขัดขวางการเชื่อมต่อทุกกรณีที่ใช้ port 443 โดยไม่แตะต้องพอร์ตอื่น เช่น 22, 80 หรือ 8443 ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่แตกต่างจากการบล็อกแบบกว้างในปี 2020 ที่เคยบล็อก HTTPS ทุกพอร์ต สิ่งที่น่าสนใจคือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการบล็อกครั้งนี้ไม่ตรงกับลายนิ้วมือของอุปกรณ์ที่เคยใช้ในระบบ Great Firewall มาก่อน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเป็นอุปกรณ์ใหม่ หรืออุปกรณ์เดิมที่ถูกตั้งค่าผิด หรืออาจเป็นการทดสอบระบบใหม่โดยรัฐบาลจีน แม้จะเป็นเหตุการณ์สั้น ๆ แต่ผลกระทบกลับกว้างขวาง เพราะ port 443 เป็นหัวใจของการเชื่อมต่อแบบปลอดภัยทั่วโลก และการบล็อกเพียงพอร์ตเดียวก็สามารถทำให้จีน “ตัดขาด” จากโลกภายนอกได้ทันที 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ จีนบล็อก TCP port 443 เป็นเวลา 74 นาทีในวันที่ 20 สิงหาคม 2025 ➡️ การบล็อกทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในจีนไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์ต่างประเทศได้ ➡️ บริการสำคัญอย่าง Apple และ Tesla ที่ใช้ port 443 ก็ได้รับผลกระทบ ➡️ ระบบ Great Firewall ฉีดแพ็กเก็ตปลอม (RST+ACK) เพื่อขัดขวางการเชื่อมต่อ ➡️ การบล็อกจำกัดเฉพาะ port 443 ไม่แตะต้องพอร์ตอื่น เช่น 22, 80, 8443 ➡️ อุปกรณ์ที่ใช้ในการบล็อกไม่ตรงกับลายนิ้วมือของอุปกรณ์เดิมในระบบ GFW ➡️ นักวิจัยตั้งข้อสงสัยว่าเป็นอุปกรณ์ใหม่ หรือการตั้งค่าที่ผิดพลาด ➡️ ไม่มีเหตุการณ์ทางการเมืองหรือวิกฤตที่ชัดเจนในช่วงเวลานั้น ➡️ เหตุการณ์นี้ถูกตรวจพบโดยนักวิจัยจากหลายประเทศและองค์กรอิสระ ➡️ การบล็อกครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของจีนในการควบคุมการเชื่อมต่อระดับโลก ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ เหตุการณ์คล้ายกันเคยเกิดในปี 2020 เมื่อจีนบล็อก HTTPS ทุกพอร์ตพร้อมกัน ➡️ NetBlocks รายงานว่าปากีสถานมีการลดลงของทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตก่อนเหตุการณ์ในจีน ➡️ จีนเคยแบ่งปันเทคโนโลยี Great Firewall กับประเทศอื่น เช่น ปากีสถานและอิหร่าน ➡️ การฉีดแพ็กเก็ตปลอมเป็นเทคนิคที่ใช้ในการบล็อกแบบลึก (deep packet interference) ➡️ นักวิชาการเปรียบเทียบระบบ Great Firewall ว่าเป็น “การประนีประนอมระหว่างการเปิดและปิดอินเทอร์เน็ต” https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/chinas-great-firewall-blocked-all-traffic-to-a-common-https-port-for-over-an-hour-with-no-hint-as-to-its-intention
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • Kirin 9020 – ชิปที่ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือสัญลักษณ์ของการยืนหยัด

    Huawei กลับมาอย่างสง่างามในเวทีสมาร์ตโฟนระดับไฮเอนด์ ด้วยการเปิดตัว Kirin 9020 ซึ่งเป็นชิป SoC ที่รวมโมเด็ม 5G และโมดูล RF front-end ที่ผลิตในประเทศจีนทั้งหมด ถือเป็นครั้งแรกที่ Huawei สามารถรวมเทคโนโลยี 5G แบบครบวงจรไว้ในชิปเดียวได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตก

    Kirin 9020 ถูกใช้ในสมาร์ตโฟนรุ่น Mate 70 และ Pura 80 โดยมีการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Huawei หลังจากเก็บงำข้อมูลชิปมานานกว่า 5 ปี การเปิดเผยครั้งนี้ไม่ใช่แค่การโชว์เทคโนโลยี แต่เป็นการประกาศความมั่นใจในความสามารถด้านการออกแบบและผลิตชิปของจีน

    ชิปนี้ผลิตโดย SMIC ด้วยเทคโนโลยีระดับ 7 นาโนเมตร แม้จะไม่มีเครื่องมือลิทโธกราฟีขั้นสูงจากตะวันตก แต่ก็สามารถผลิตชิปที่มีความซับซ้อนสูงได้สำเร็จ โดยเฉพาะการรวมโมเด็ม 5G ซึ่งต้องรองรับคลื่นความถี่หลากหลาย, การจัดการสัญญาณแบบ beamforming และการเข้ารหัสขั้นสูง

    นอกจากโมเด็มแล้ว Huawei ยังสามารถผลิต RF front-end module ได้เอง ซึ่งรวมถึง power amplifier, low-noise amplifier, antenna switch และ filter ที่เคยถูกครอบครองโดยบริษัทอเมริกันอย่าง Broadcom และ Qorvo

    ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการสร้างระบบนิเวศเซมิคอนดักเตอร์ที่พึ่งพาตนเอง และ Kirin 9020 ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของการยืนหยัดท่ามกลางการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Huawei เปิดตัว Kirin 9020 ซึ่งรวมโมเด็ม 5G และ RF front-end module ที่ผลิตในจีน
    ใช้ในสมาร์ตโฟน Mate 70 และ Pura 80 พร้อมการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Huawei
    ผลิตโดย SMIC ด้วยเทคโนโลยี 7nm-class แม้ไม่มีเครื่องมือลิทโธกราฟีขั้นสูง
    โมเด็ม 5G รองรับคลื่น sub-6 GHz และ mmWave พร้อมเทคนิค OFDM, MU-MIMO, beamforming
    RF front-end module รวม power amplifier, low-noise amplifier, antenna switch และ filter
    Huawei เคยปิดบังข้อมูลชิปมานานกว่า 5 ปี ก่อนจะเปิดเผยอย่างมั่นใจในปี 2025
    Kirin 9020 เป็นการพัฒนาแบบ incremental จาก Kirin 9010 ไม่ใช่การออกแบบใหม่ทั้งหมด
    การรวมโมเด็ม 5G เข้ากับ SoC เป็นสิ่งที่แม้แต่ Apple ยังไม่สามารถทำได้
    ชิปนี้แสดงถึงความสามารถของจีนในการผลิตชิป RF-intensive โดยไม่พึ่งพาตะวันตก
    Kirin 9020 กลายเป็นสัญลักษณ์ของการยืนหยัดต่อการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Huawei ยืนยันชื่อชิปผ่านภาพหน้าจอหลังอัปเดตระบบของผู้ใช้ Pura 80
    SMIC เคยผลิตชิป 7nm ให้ Huawei ตั้งแต่ Kirin 980 โดยใช้เทคโนโลยีของ TSMC
    การเปิดเผยข้อมูลชิปครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์จาก “ความลับ” สู่ “ความมั่นใจ”
    จีนมีแผนสร้างระบบนิเวศเซมิคอนดักเตอร์ที่พึ่งพาตนเองเต็มรูปแบบ
    การผลิต RF front-end module เป็นสิ่งที่ยากที่สุดในอุปกรณ์ 5G เพราะต้องใช้วัสดุเฉพาะและเทคนิคขั้นสูง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/huaweis-kirin-9020-integrates-5g-modem-china-made-5g-fem-chip-symbolizes-resilience-to-u-s-sanctions
    🎙️ Kirin 9020 – ชิปที่ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือสัญลักษณ์ของการยืนหยัด Huawei กลับมาอย่างสง่างามในเวทีสมาร์ตโฟนระดับไฮเอนด์ ด้วยการเปิดตัว Kirin 9020 ซึ่งเป็นชิป SoC ที่รวมโมเด็ม 5G และโมดูล RF front-end ที่ผลิตในประเทศจีนทั้งหมด ถือเป็นครั้งแรกที่ Huawei สามารถรวมเทคโนโลยี 5G แบบครบวงจรไว้ในชิปเดียวได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตก Kirin 9020 ถูกใช้ในสมาร์ตโฟนรุ่น Mate 70 และ Pura 80 โดยมีการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Huawei หลังจากเก็บงำข้อมูลชิปมานานกว่า 5 ปี การเปิดเผยครั้งนี้ไม่ใช่แค่การโชว์เทคโนโลยี แต่เป็นการประกาศความมั่นใจในความสามารถด้านการออกแบบและผลิตชิปของจีน ชิปนี้ผลิตโดย SMIC ด้วยเทคโนโลยีระดับ 7 นาโนเมตร แม้จะไม่มีเครื่องมือลิทโธกราฟีขั้นสูงจากตะวันตก แต่ก็สามารถผลิตชิปที่มีความซับซ้อนสูงได้สำเร็จ โดยเฉพาะการรวมโมเด็ม 5G ซึ่งต้องรองรับคลื่นความถี่หลากหลาย, การจัดการสัญญาณแบบ beamforming และการเข้ารหัสขั้นสูง นอกจากโมเด็มแล้ว Huawei ยังสามารถผลิต RF front-end module ได้เอง ซึ่งรวมถึง power amplifier, low-noise amplifier, antenna switch และ filter ที่เคยถูกครอบครองโดยบริษัทอเมริกันอย่าง Broadcom และ Qorvo ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการสร้างระบบนิเวศเซมิคอนดักเตอร์ที่พึ่งพาตนเอง และ Kirin 9020 ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของการยืนหยัดท่ามกลางการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Huawei เปิดตัว Kirin 9020 ซึ่งรวมโมเด็ม 5G และ RF front-end module ที่ผลิตในจีน ➡️ ใช้ในสมาร์ตโฟน Mate 70 และ Pura 80 พร้อมการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Huawei ➡️ ผลิตโดย SMIC ด้วยเทคโนโลยี 7nm-class แม้ไม่มีเครื่องมือลิทโธกราฟีขั้นสูง ➡️ โมเด็ม 5G รองรับคลื่น sub-6 GHz และ mmWave พร้อมเทคนิค OFDM, MU-MIMO, beamforming ➡️ RF front-end module รวม power amplifier, low-noise amplifier, antenna switch และ filter ➡️ Huawei เคยปิดบังข้อมูลชิปมานานกว่า 5 ปี ก่อนจะเปิดเผยอย่างมั่นใจในปี 2025 ➡️ Kirin 9020 เป็นการพัฒนาแบบ incremental จาก Kirin 9010 ไม่ใช่การออกแบบใหม่ทั้งหมด ➡️ การรวมโมเด็ม 5G เข้ากับ SoC เป็นสิ่งที่แม้แต่ Apple ยังไม่สามารถทำได้ ➡️ ชิปนี้แสดงถึงความสามารถของจีนในการผลิตชิป RF-intensive โดยไม่พึ่งพาตะวันตก ➡️ Kirin 9020 กลายเป็นสัญลักษณ์ของการยืนหยัดต่อการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Huawei ยืนยันชื่อชิปผ่านภาพหน้าจอหลังอัปเดตระบบของผู้ใช้ Pura 80 ➡️ SMIC เคยผลิตชิป 7nm ให้ Huawei ตั้งแต่ Kirin 980 โดยใช้เทคโนโลยีของ TSMC ➡️ การเปิดเผยข้อมูลชิปครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์จาก “ความลับ” สู่ “ความมั่นใจ” ➡️ จีนมีแผนสร้างระบบนิเวศเซมิคอนดักเตอร์ที่พึ่งพาตนเองเต็มรูปแบบ ➡️ การผลิต RF front-end module เป็นสิ่งที่ยากที่สุดในอุปกรณ์ 5G เพราะต้องใช้วัสดุเฉพาะและเทคนิคขั้นสูง https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/huaweis-kirin-9020-integrates-5g-modem-china-made-5g-fem-chip-symbolizes-resilience-to-u-s-sanctions
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🛳 จุดแวะล่องเรือที่ครบทั้งวิว ตำนาน และวัฒนธรรม … San Francisco Cruise Port จุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่แลนด์มาร์กระดับโลกที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าและประวัติศาสตร์

    Golden Gate Bridge ⭐️ สะพานโกลเดนเกต
    หนึ่งในสะพานแขวนที่โด่งดังที่สุดในโลก เปิดใช้งานเมื่อปี 1937 ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี เชื่อมระหว่างเมืองซานฟรานซิสโกกับ Marin County มีความยาว 2.7 กิโลเมตร สีแดงส้มอันเป็นเอกลักษณ์

    Alcatraz Island ⭐️ เกาะอัลคาทราซ
    เคยเป็นเรือนจำที่มีชื่อเสียงที่สุดในอเมริกา ระหว่างปี 1934-1963 คุมขังอาชญากรชื่อดัง เป็นเรือนจำที่ไม่มีใครสามารถหลบหนีได้ เพราะมีน้ำเย็นจัดและกระแสน้ำแรงล้อมรอบ แต่ในปี 1962 นักโทษ Frank Morris และพี่น้อง Anglin ได้พยายามหนีออกไปอย่างลึกลับ

    Lombard Street ⭐️ ถนนลอมบาร์ด
    ถนนลอมบาร์ดเป็น ถนนที่คดเคี้ยวที่สุดในโลก มี 8 โค้งหักศอกในระยะทางเพียง 180 เมตร ถูกสร้างขึ้นในปี 1922 เพื่อช่วยลดความลาดชันของถนนที่สูงชันกว่า 27 องศา ปัจจุบันเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญของซานฟรานซิสโก

    Chinatown San Francisco ⭐️ ไชน่าทาวน์ซานฟรานซิสโก
    ไชน่าทาวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกา ก่อตั้งในปี 1848 โดยผู้อพยพชาวจีนในช่วงยุค California Gold Rush ที่นี่เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมจีนในอเมริกา มีร้านอาหารจีนแบบดั้งเดิม

    สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที!
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #SanFranciscoCruisePort #USA #GoldenGateBridge #AlcatrazIsland #LombardStreet #ChinatownSanFrancisco #AggsteinCastleRuins #port #cruisedomain #thaitimes #News1 #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    🛳 จุดแวะล่องเรือที่ครบทั้งวิว ตำนาน และวัฒนธรรม … San Francisco Cruise Port จุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่แลนด์มาร์กระดับโลกที่เต็มไปด้วยเรื่องเล่าและประวัติศาสตร์ ✨🏰 ✅ Golden Gate Bridge ⭐️ สะพานโกลเดนเกต หนึ่งในสะพานแขวนที่โด่งดังที่สุดในโลก เปิดใช้งานเมื่อปี 1937 ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี เชื่อมระหว่างเมืองซานฟรานซิสโกกับ Marin County มีความยาว 2.7 กิโลเมตร สีแดงส้มอันเป็นเอกลักษณ์ ✅ Alcatraz Island ⭐️ เกาะอัลคาทราซ เคยเป็นเรือนจำที่มีชื่อเสียงที่สุดในอเมริกา ระหว่างปี 1934-1963 คุมขังอาชญากรชื่อดัง เป็นเรือนจำที่ไม่มีใครสามารถหลบหนีได้ เพราะมีน้ำเย็นจัดและกระแสน้ำแรงล้อมรอบ แต่ในปี 1962 นักโทษ Frank Morris และพี่น้อง Anglin ได้พยายามหนีออกไปอย่างลึกลับ ✅ Lombard Street ⭐️ ถนนลอมบาร์ด ถนนลอมบาร์ดเป็น ถนนที่คดเคี้ยวที่สุดในโลก มี 8 โค้งหักศอกในระยะทางเพียง 180 เมตร ถูกสร้างขึ้นในปี 1922 เพื่อช่วยลดความลาดชันของถนนที่สูงชันกว่า 27 องศา ปัจจุบันเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวสำคัญของซานฟรานซิสโก ✅ Chinatown San Francisco ⭐️ ไชน่าทาวน์ซานฟรานซิสโก ไชน่าทาวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกา ก่อตั้งในปี 1848 โดยผู้อพยพชาวจีนในช่วงยุค California Gold Rush ที่นี่เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมจีนในอเมริกา มีร้านอาหารจีนแบบดั้งเดิม 📩 สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที! https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #SanFranciscoCruisePort #USA #GoldenGateBridge #AlcatrazIsland #LombardStreet #ChinatownSanFrancisco #AggsteinCastleRuins #port #cruisedomain #thaitimes #News1 #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลดแรง 1,000.- หมดเขต 24 ส.ค.68 เท่านั้น!
    เหลือเริ่มต้น 15,988.-

    SHANGHAI - HANGZHOU
    Amazing Studio เที่ยวเต็มวัน 6 วัน 4 คืน
    บินตรง ไทยไลอ้อนแอร์ พักสบาย ช็อปกระจาย
    เดินทาง ต.ค.68

    ไฮไลท์
    หางโจว – เหิงเตี้ยน ฮอลลีวู้ดสตูดิโอจีน
    ย่านการค้าฉิงหลิงซานเหอถู
    พระราชวังฉินซีฮ่องเต้ + เช่าชุดจีนโบราณ
    เมืองจำลองราชวงศ์ซ่ง + โชว์สุดอลังการ
    ล่องเรือหรู The Loius Shanghai
    Starbucks Reserve – หาดไว่ทานเดอะบันด์
    ถนนนานจิง + Pop Mart
    วัดพระหยก – ตลาดเฉินหวังเมี่ยว – ถนนอู่คัง – Outlet สุดคุ้ม

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/ecad2a

    ดูทัวร์จีนทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/30a85f

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ShanghaiTrip #Hangzhou #HollywoodStudioChina #เที่ยวจีน #ล่องเรือหรู #แอร์เอเชีย #ทัวร์ราคาดี #ช็อปปิ้งจีน
    ✨ ลดแรง 1,000.- หมดเขต 24 ส.ค.68 เท่านั้น! เหลือเริ่มต้น 15,988.- 🎉 SHANGHAI - HANGZHOU 🇨🇳 Amazing Studio เที่ยวเต็มวัน 6 วัน 4 คืน ✈️ บินตรง ไทยไลอ้อนแอร์ พักสบาย ช็อปกระจาย 🛍️ เดินทาง ต.ค.68 🌟 ไฮไลท์ ✔️ หางโจว – เหิงเตี้ยน ฮอลลีวู้ดสตูดิโอจีน 🎬 ✔️ ย่านการค้าฉิงหลิงซานเหอถู 🏮 ✔️ พระราชวังฉินซีฮ่องเต้ + เช่าชุดจีนโบราณ 👘 ✔️ เมืองจำลองราชวงศ์ซ่ง + โชว์สุดอลังการ 🎭 ✔️ ล่องเรือหรู The Loius Shanghai 🚢 ✔️ Starbucks Reserve – หาดไว่ทานเดอะบันด์ 🌆 ✔️ ถนนนานจิง + Pop Mart 🛒 ✔️ วัดพระหยก – ตลาดเฉินหวังเมี่ยว – ถนนอู่คัง – Outlet สุดคุ้ม 🛍️ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/ecad2a ดูทัวร์จีนทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/30a85f LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์จีน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ShanghaiTrip #Hangzhou #HollywoodStudioChina #เที่ยวจีน #ล่องเรือหรู #แอร์เอเชีย #ทัวร์ราคาดี #ช็อปปิ้งจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Xizhi”: เครื่องลิโธกราฟีลำแสงอิเล็กตรอนของจีนที่แม่นยำระดับนาโน แต่ยังไม่พร้อมผลิตจริง

    จีนได้เปิดตัวเครื่องลิโธกราฟีแบบลำแสงอิเล็กตรอนเชิงพาณิชย์เครื่องแรกของประเทศ ชื่อว่า “Xizhi” ซึ่งพัฒนาโดยสถาบันวิจัยควอนตัมของมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงในเมืองหางโจว เครื่องนี้สามารถ “เขียน” วงจรบนเวเฟอร์ซิลิกอนได้ด้วยลำแสงอิเล็กตรอนที่มีความแม่นยำสูงถึง 0.6 นาโนเมตร และสามารถสร้างเส้นวงจรขนาดเล็กเพียง 8 นาโนเมตรได้

    แม้ความแม่นยำจะใกล้เคียงกับเครื่อง High-NA EUV ของ ASML แต่ Xizhi ยังไม่สามารถผลิตชิปในระดับอุตสาหกรรมได้ เพราะใช้วิธีเขียนแบบจุดต่อจุด ซึ่งใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อเวเฟอร์หนึ่งแผ่น จึงเหมาะกับการวิจัยและพัฒนาเท่านั้น โดยเฉพาะในด้านชิปควอนตัมและเซมิคอนดักเตอร์รุ่นใหม่

    การพัฒนาเครื่องนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยเฉพาะหลังจากที่สหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์จำกัดการส่งออกเครื่อง EUV ให้กับจีน ทำให้มหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยในประเทศไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ล้ำสมัยได้

    Xizhi ยังมีจุดเด่นคือสามารถปรับเปลี่ยนการออกแบบได้โดยไม่ต้องใช้ photomask ซึ่งช่วยให้การทดลองและแก้ไขวงจรในขั้นต้นทำได้ง่ายขึ้น เหมือนใช้ “พู่กันนาโน” วาดวงจรลงบนชิปโดยตรง

    ข้อมูลจากข่าวหลัก
    จีนเปิดตัวเครื่องลิโธกราฟีลำแสงอิเล็กตรอนเชิงพาณิชย์เครื่องแรกชื่อ “Xizhi”
    พัฒนาโดยสถาบันควอนตัมของมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงในเมืองหางโจว
    ความแม่นยำสูงถึง 0.6 นาโนเมตร และสามารถสร้างเส้นวงจรขนาด 8 นาโนเมตร
    ใช้ลำแสงอิเล็กตรอนในการ “เขียน” วงจรบนเวเฟอร์แบบจุดต่อจุด
    เหมาะกับการวิจัยและพัฒนา ไม่เหมาะกับการผลิตชิปในระดับอุตสาหกรรม
    ไม่ต้องใช้ photomask ทำให้ปรับเปลี่ยนการออกแบบได้ง่าย
    ช่วยเติมเต็มช่องว่างที่เกิดจากการจำกัดการส่งออกเครื่อง EUV จากตะวันตก
    มีการหารือกับหลายสถาบันวิจัยเพื่อใช้งานในด้านชิปควอนตัมและเซมิคอนดักเตอร์รุ่นใหม่

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    เครื่องลิโธกราฟีแบบ EBL เหมาะกับการสร้างต้นแบบและการออกแบบที่ต้องการความยืดหยุ่น
    ASML เป็นผู้ผลิตเครื่อง EUV รายเดียวในโลก และถูกควบคุมการส่งออกโดยรัฐบาลเนเธอร์แลนด์
    Xizhi ได้รับแรงบันดาลใจจากหวังซีจือ นักเขียนพู่กันจีนโบราณ สื่อถึงความละเอียดของการ “วาด” วงจร
    การพัฒนาเครื่องนี้ช่วยสร้างห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศสำหรับการวิจัยชิปขั้นสูง
    จีนตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านการผลิตชิปภายในปี 2030 โดยเน้นการพัฒนาอุปกรณ์ภายในประเทศ
    เครื่อง EBL ยังใช้ในงานด้านนาโนเทคโนโลยีและการออกแบบโครงสร้างระดับอะตอม

    https://wccftech.com/china-reportedly-develops-lithography-machine-with-precision-rivalling-asml-high-na-euv/
    🧠 “Xizhi”: เครื่องลิโธกราฟีลำแสงอิเล็กตรอนของจีนที่แม่นยำระดับนาโน แต่ยังไม่พร้อมผลิตจริง จีนได้เปิดตัวเครื่องลิโธกราฟีแบบลำแสงอิเล็กตรอนเชิงพาณิชย์เครื่องแรกของประเทศ ชื่อว่า “Xizhi” ซึ่งพัฒนาโดยสถาบันวิจัยควอนตัมของมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงในเมืองหางโจว เครื่องนี้สามารถ “เขียน” วงจรบนเวเฟอร์ซิลิกอนได้ด้วยลำแสงอิเล็กตรอนที่มีความแม่นยำสูงถึง 0.6 นาโนเมตร และสามารถสร้างเส้นวงจรขนาดเล็กเพียง 8 นาโนเมตรได้ แม้ความแม่นยำจะใกล้เคียงกับเครื่อง High-NA EUV ของ ASML แต่ Xizhi ยังไม่สามารถผลิตชิปในระดับอุตสาหกรรมได้ เพราะใช้วิธีเขียนแบบจุดต่อจุด ซึ่งใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อเวเฟอร์หนึ่งแผ่น จึงเหมาะกับการวิจัยและพัฒนาเท่านั้น โดยเฉพาะในด้านชิปควอนตัมและเซมิคอนดักเตอร์รุ่นใหม่ การพัฒนาเครื่องนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยเฉพาะหลังจากที่สหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์จำกัดการส่งออกเครื่อง EUV ให้กับจีน ทำให้มหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยในประเทศไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ล้ำสมัยได้ Xizhi ยังมีจุดเด่นคือสามารถปรับเปลี่ยนการออกแบบได้โดยไม่ต้องใช้ photomask ซึ่งช่วยให้การทดลองและแก้ไขวงจรในขั้นต้นทำได้ง่ายขึ้น เหมือนใช้ “พู่กันนาโน” วาดวงจรลงบนชิปโดยตรง ✅ ข้อมูลจากข่าวหลัก ➡️ จีนเปิดตัวเครื่องลิโธกราฟีลำแสงอิเล็กตรอนเชิงพาณิชย์เครื่องแรกชื่อ “Xizhi” ➡️ พัฒนาโดยสถาบันควอนตัมของมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงในเมืองหางโจว ➡️ ความแม่นยำสูงถึง 0.6 นาโนเมตร และสามารถสร้างเส้นวงจรขนาด 8 นาโนเมตร ➡️ ใช้ลำแสงอิเล็กตรอนในการ “เขียน” วงจรบนเวเฟอร์แบบจุดต่อจุด ➡️ เหมาะกับการวิจัยและพัฒนา ไม่เหมาะกับการผลิตชิปในระดับอุตสาหกรรม ➡️ ไม่ต้องใช้ photomask ทำให้ปรับเปลี่ยนการออกแบบได้ง่าย ➡️ ช่วยเติมเต็มช่องว่างที่เกิดจากการจำกัดการส่งออกเครื่อง EUV จากตะวันตก ➡️ มีการหารือกับหลายสถาบันวิจัยเพื่อใช้งานในด้านชิปควอนตัมและเซมิคอนดักเตอร์รุ่นใหม่ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ เครื่องลิโธกราฟีแบบ EBL เหมาะกับการสร้างต้นแบบและการออกแบบที่ต้องการความยืดหยุ่น ➡️ ASML เป็นผู้ผลิตเครื่อง EUV รายเดียวในโลก และถูกควบคุมการส่งออกโดยรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ➡️ Xizhi ได้รับแรงบันดาลใจจากหวังซีจือ นักเขียนพู่กันจีนโบราณ สื่อถึงความละเอียดของการ “วาด” วงจร ➡️ การพัฒนาเครื่องนี้ช่วยสร้างห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศสำหรับการวิจัยชิปขั้นสูง ➡️ จีนตั้งเป้าเป็นผู้นำด้านการผลิตชิปภายในปี 2030 โดยเน้นการพัฒนาอุปกรณ์ภายในประเทศ ➡️ เครื่อง EBL ยังใช้ในงานด้านนาโนเทคโนโลยีและการออกแบบโครงสร้างระดับอะตอม https://wccftech.com/china-reportedly-develops-lithography-machine-with-precision-rivalling-asml-high-na-euv/
    WCCFTECH.COM
    China Reportedly Develops Lithography Machine With Precision Rivalling ASML's High-NA EUV, But Limited to Research Applications, Not Mass Production
    Well, it seems that China's chipmaking capabilities are advancing, as a domestic firm has developed the first e-beam lithography tool.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนไทยพูดจีน โต้เขมรรัวๆ ให้คนพันล้านได้รู้ [18/8/68]
    Thai speaks Chinese fluently to counter Cambodia — letting a billion people know the truth!

    #TruthFromThailand
    #scambodia
    #ThaiVsCambodia
    #ChinaKnows
    #ExposeScam
    #ThaiTimes
    #news1
    #shorts
    คนไทยพูดจีน โต้เขมรรัวๆ ให้คนพันล้านได้รู้ [18/8/68] Thai speaks Chinese fluently to counter Cambodia — letting a billion people know the truth! #TruthFromThailand #scambodia #ThaiVsCambodia #ChinaKnows #ExposeScam #ThaiTimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เจ้าหญิงกำมะลอ เจอกระแสจีนตีกลับ แทบมุดดินหนี!!! [18/8/68]
    Fake Princess Hit by Chinese Backlash, Wants to Vanish.

    #TruthFromThailand
    #scambodia
    #FakePrincess
    #ChinaBacklash
    #ExposeScam
    #ThaiTimes
    #news1
    #shorts
    เจ้าหญิงกำมะลอ เจอกระแสจีนตีกลับ แทบมุดดินหนี!!! [18/8/68] Fake Princess Hit by Chinese Backlash, Wants to Vanish. #TruthFromThailand #scambodia #FakePrincess #ChinaBacklash #ExposeScam #ThaiTimes #news1 #shorts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เมื่อการควบคุมชิปกลายเป็นดาบสองคม: Nvidia โต้กลับว่านโยบายสหรัฐฯ ทำร้ายตัวเองมากกว่าจีน

    Nvidia ออกมาแสดงจุดยืนชัดเจนผ่านโพสต์บน X ว่าการควบคุมการส่งออกชิป H20 ไปยังจีน ไม่ได้หยุดยั้งความก้าวหน้า AI ของจีนเลยแม้แต่น้อย แต่กลับทำให้สหรัฐฯ สูญเสียความเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี

    Aaron Ginn ผู้ร่วมก่อตั้ง Hydra Host เขียนบทความใน Wall Street Journal ว่าการห้ามส่งออกชิปนั้น “ล้มเหลวในโลกจริง” เพราะจีนยังคงพัฒนา AI ต่อเนื่อง และมีการลักลอบนำเข้าชิป Nvidia มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา

    แม้ชิป H20 จะถูกออกแบบให้สอดคล้องกับข้อจำกัดของสหรัฐฯ แต่จีนกลับมองว่าไม่ปลอดภัย และเริ่มหันไปใช้ชิปจากผู้ผลิตในประเทศ เช่น Huawei และ Hygon ซึ่งทำให้ Nvidia สูญเสียส่วนแบ่งตลาดในจีนอย่างต่อเนื่อง

    Nvidia ยืนยันว่าแพลตฟอร์ม CUDA ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือพัฒนา AI ยังเป็นจุดแข็งที่จีนไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ง่าย และเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกระดับยุทธศาสตร์ใหม่ แทนที่จะใช้การควบคุมแบบเดิม

    ข้อมูลเสริมจากวงการ AI
    แพลตฟอร์ม CUDA เป็นหัวใจของการพัฒนาโมเดล AI ระดับสูง
    ชิป AI เป็นทรัพยากรยุทธศาสตร์ที่มีผลต่อความมั่นคงของชาติ
    การควบคุมการส่งออกอาจกระทบต่อการเติบโตของนวัตกรรมในสหรัฐฯ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-says-h20-export-controls-didnt-stop-chinas-ai-progress-claims-they-only-stifled-u-s-economic-and-technology-leadership
    🧠 เมื่อการควบคุมชิปกลายเป็นดาบสองคม: Nvidia โต้กลับว่านโยบายสหรัฐฯ ทำร้ายตัวเองมากกว่าจีน Nvidia ออกมาแสดงจุดยืนชัดเจนผ่านโพสต์บน X ว่าการควบคุมการส่งออกชิป H20 ไปยังจีน ไม่ได้หยุดยั้งความก้าวหน้า AI ของจีนเลยแม้แต่น้อย แต่กลับทำให้สหรัฐฯ สูญเสียความเป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี Aaron Ginn ผู้ร่วมก่อตั้ง Hydra Host เขียนบทความใน Wall Street Journal ว่าการห้ามส่งออกชิปนั้น “ล้มเหลวในโลกจริง” เพราะจีนยังคงพัฒนา AI ต่อเนื่อง และมีการลักลอบนำเข้าชิป Nvidia มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แม้ชิป H20 จะถูกออกแบบให้สอดคล้องกับข้อจำกัดของสหรัฐฯ แต่จีนกลับมองว่าไม่ปลอดภัย และเริ่มหันไปใช้ชิปจากผู้ผลิตในประเทศ เช่น Huawei และ Hygon ซึ่งทำให้ Nvidia สูญเสียส่วนแบ่งตลาดในจีนอย่างต่อเนื่อง Nvidia ยืนยันว่าแพลตฟอร์ม CUDA ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือพัฒนา AI ยังเป็นจุดแข็งที่จีนไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ง่าย และเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยกระดับยุทธศาสตร์ใหม่ แทนที่จะใช้การควบคุมแบบเดิม ✅ ข้อมูลเสริมจากวงการ AI ➡️ แพลตฟอร์ม CUDA เป็นหัวใจของการพัฒนาโมเดล AI ระดับสูง ➡️ ชิป AI เป็นทรัพยากรยุทธศาสตร์ที่มีผลต่อความมั่นคงของชาติ ➡️ การควบคุมการส่งออกอาจกระทบต่อการเติบโตของนวัตกรรมในสหรัฐฯ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-says-h20-export-controls-didnt-stop-chinas-ai-progress-claims-they-only-stifled-u-s-economic-and-technology-leadership
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts